พิมพ์หน้านี้ - ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: rinyriny ที่ 09-01-2017 21:44:15

หัวข้อ: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 09-01-2017 21:44:15
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*************************************




เรื่อง
[/color]

ขอผมได้รัก..


รู้ไว้ซะว่าเคยร้ายได้แต่ก็รักได้เหมือนกัน...

.
.
.

บทนำ


       ความคิดของคนที่เรียนจบระดับปริญญาตรี คือ การเก็บเกี่ยวช่วงเวลาความสุข สนุกเหล่านี้โดยใช้ชีวิตให้เต็มที่ ทิ้งทวนความสนุกในวัยนักศึกษา เริ่มต้นเข้าสู่วัฏจักรแห่งการทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน

       ท็อปจึงชักชวนเพื่อนๆในกลุ่มของเขาที่มีกันอยู่สามคนไปเที่ยวทะเลภาคใต้กัน จากนั้นก็ไม่พลาดที่จะไปดื่มกันที่บาร์และเมาปลิ้นเสียเต็มที่

      แต่ใครเลยจะรู้ว่าโทษของความเมา จะทำให้เราทำอะไรลงไปโดยไม่รู้ตัวแล้วที่สำคัญ มักบ้าบิ่นและกล้าหาญกว่าที่คิด เช่นตอนนี้ ที่ท็อปมารู้ผลลัพธ์เอาเมื่อสาย...

"เฮ้ย! เหี้ยไรวะ"

    ชายหนุ่มผิวขาวอย่างผู้ดี รูปร่างไม่ผอมแห้งจนเกินไป กำลังสำรวจตัวเองที่ในตอนนี้ นอนอยู่ในสภาพเปลือยมีเพียงอันเดอร์แวร์ตัวเดียวเท่านั้น
 
    ท็อปกวาดสายตามองรอบห้อง จนกระทั่งสายตามาหยุดอยู่ตรงข้างกายนั่นจึงทำให้เขาตกใจกว่าเดิม


" มึงเป็นใครวะ โอ้ย!ปวดหัว" ท็อปกุมขมับตัวเองทันที คล้ายอาการแฮงค์จะเข้ามาแวะเวียนให้อยากอาเจียนอย่างบอกไม่ถูก

 
"ตื่นแล้วหรือ" ชายหนุ่มแปลกหน้าลืมตาขึ้นมามองคนที่นั่งตัวงอ โดยไร้เสื้อผ้า อาภรณ์ใดๆ


"ที่นี่ที่ไหน กูมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"


"ห้องพี่เอง"

 

       คนปริศนาพูดจบก็ลุกจากเตียงโดยไม่รอให้ถามต่อ ยิ่งทำให้ท็อปตาโต เมื่อเห็นชัดเจนว่าคนที่ลุกไปใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว

 
        ท็อปเข้าใจได้ดีว่าการที่ผู้ชายสองคนนอนถอดเสื้ออยู่บนเตียงด้วยกัน มันคงจะไม่มีอะไรในกอไผ่ ถ้านั่นคือเพื่อนสนิทที่ท็อปไว้ใจ แต่สถานการณ์นี้ ท็อปอยู่กับคนแปลกหน้า สภาพร่างกายเขายังปลอดภัยอยู่ไหม?


ปังๆๆๆ!!


     ทันใดที่สมองประมวลผลได้ ท็อปรีบทุบประตู ด้วยความอยากรู้เหตุผล


"มึงทำอะไรกู"


     ร่างสูงที่อยู่ด้านในห้องน้ำจำใจเอื้อมมือไปเปิดประตู เพราะทนเสียงดังอันน่าหนวกหูนี้ไม่ไหว


"เราต่างหากที่ทำอะไรพี่"


"เอาดีๆ มึงอย่ามาเล่นลิ้น"
ท็อปขึ้นเสียงใส่อย่างไม่พอใจ สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีเหตุอันใดชวนให้ขำสักนิด


"ก็......." ชายหนุ่มใช้สายตาเจ้าเล่ห์ไล่มองสำรวจร่างกายอีกฝ่าย ตั้งแต่หัวจรดเท้า


"แค่ต่างฝ่ายต่างช่วยกันและกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น"
 

"ช่วยหรอ? มึงอย่าบอกนะว่า.....เหี้ยเอ้ย!"
ท็อปทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นทันที ปวดหัวก็ปวดนะ แต่เจอประโยคนั้นเข้าไป ท็อปก็ไม่โง่ แต่แค่จุกจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว


       นี่ท็อปต้องสูญเสียความเป็นชาย เพราะมันช่วยให้จริงๆหรอวะ? ท็อปต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากเพื่อนๆรู้ เขาคงต้องอายจนแทรกแผ่นดินหนีแน่ๆ


       เมื่อตั้งสติได้ ท็อปไม่สนเรื่องอาการปวดหัวของตัวเอง แต่ลุกขึ้นเหวี่ยงหมัดเข้าใส่อีกฝ่าย จนร่างสูงถึงกับเซถลา เพราะไม่ทันตั้งตัว

 
       ท็อปรีบสวมกางเกงผ้าขาสั้น พร้อมคว้าเสื้อ โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ ออกจากห้องนี้ไปทันที
 

"ไอ้กราฟ ตอนนี้มึงอยู่ไหน มึงมารับกูทีดิ"


       ขณะที่เดินออกจากห้องได้ ท็อปก็โทรบอกให้เพื่อนมารับกลับห้อง โดยวันนั้นทั้งวัน ท็อปไม่ได้ทำอะไร นอกจากหลับเป็นตาย และต้องการเลี่ยงการตอบคำถามจากเพื่อนๆในเรื่องเมื่อคืนว่าท็อปหายไปไหน...




      วันถัดมาที่ทุกคนเตรียมเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร


      ตลอดทางการนั่งรถกลับมาบ้าน กราฟและพลพูดถึงวีรกรรมความมันส์หยดของคืนนั้นกันอย่างเมามันส์ เนื่องจาก ทั้งสองได้ผู้หญิงมานอนด้วย แต่คนที่ดูจะนิ่งเงียบ ไม่หือ ไม่อืออะไร ทำได้แค่รับฟัง คงหนีไม่พ้นท็อป เพราะไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรไปพูดโม้ โอ้อวดบ้าง เพราะเขาไม่ได้ผู้หญิงร่างบางมานอนกกเหมือนเพื่อน แต่กลับกลายได้ผู้ชายมานอนด้วยแทน แล้วอย่างนี้ ใครจะกล้าเล่า ต่อให้หัวเด็ด ตีนขาดอย่างไร เรื่องนี้จะไม่มีวันแพร่งพรายออกไปเด็ดขาด...

 

      ผ่านไปแล้ว สองอาทิตย์ ก้าวเข้าสู่เดือนใหม่แห่งการเริ่มทำงานของทั้งสาม

 
      กราฟ พล และท็อป ได้เริ่มงานในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งแต่ละคนก็ทำงานคนละบริษัท แต่เพราะทั้งสามเรียนจนด้านการออกแบบโฆษณามาก็เลยได้อาชีพที่ไม่แตกต่างกันมากเท่าไหร่นัก  โดยท็อปได้งานที่เป็นบริษัทเอเจนซี่ที่งานหลากลหาย แต่แผนกของท็อปนั้น เน้นด้านสิ่งพิมพ์ อาทิพวก นิตยสารแจกฟรี รวมถึงงานสื่ออย่างดิจิตอล มีเดีย คือการสร้างคอนเทนต์ลงเว็บไซต์ออนไลน์ ซึ่งท็อปทำหน้าที่ในส่วนของกราฟิก ดีไซน์เฉพาะสิ่งพิมพ์เท่านั้น

 
     วันนี้เป็นวันแรกของท็อปจึงมาทำงานเช้ากว่าปกติ แม้เขาจะมาเช้าแล้วแต่ก็ยังมีคนมาเช้ากว่า นั่นคือ หัวหน้าแผนก เขาจึงไปแนะนำตัวเองเพื่อไม่ให้เสียมารยาท


"มาเช้าดีนี่ เดี๋ยวรอให้คนอื่นๆมาก่อนนะ พี่จะไปแนะนำให้รู้จัก"

 

"ได้ครับพี่ดล" ท็อปจำชื่อพี่ดลได้ตั้งแต่ที่เขาเคยสัมภาษณ์ท็อปเมื่อคราวก่อน


"อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องเกร็งอะไรนะ เราอยู่กันแบบพี่น้อง มีอะไรไม่เข้าใจ สงสัยถามพี่ได้ หรือจะเป็นหัวหน้าของท็อปเอง พี่เขาก็ใจดีอยู่ที่เพราะพี่เขาจะดูในส่วนของงานสิ่งพิมพ์ แต่พี่จะดูโดยรวมทั้งหมด"

 

"ครับ" ท็อปตอบรับอย่างว่าง่าย


"นั่นไงมาแล้ว หัวหน้าท็อป ฆีน มาแนะนำตัวหน่อยสิ"


      ขณะที่ท็อปนั่งหันหน้าไปคุยกับพี่ดลอยู่นั้น ด้วยสัญชาติญาณที่มีคนเรียกบุคคลที่มาใหม่ ทำให้ท็อปหันหลังไปตามเสียงเรียก


"เฮ้ย!" ท็อปอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ


       ฟากฆีนชะงักไปเล็กน้อย เขาไม่คิดว่าเด็กใหม่ที่มาอยู่ในความปกครองของเขาจะเป็นคนเดียวกับที่ต่อยเขาครั้งที่ไปทะเลคราวนั้น
 

"อุทานเสียพี่ตกใจหมด รู้จักกันหรือ?" ดลถาม

 
"ไม่ครับ" ท็อปรีบเอ่ยออกมาโดยไม่ต้องคิดใดๆ ด้วยความกลัวว่าเรื่องครั้งนั้นจะหลุดมาได้


       ส่วนฆีน ก็ได้แต่ยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ เหมือนคนคิดอะไรอยู่


"ฆีนพาน้องไปนั่งที่โต๊ะหน่อยสิ"
 

      ฆีนพยักหน้ารับและพาไปนั่งโต๊ะที่เยื้องกันกับเขา แม้จะหันหลังให้แต่ก็ดี เขาจะได้เป็นฝ่ายแอบมองได้อย่างสบายใจ เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เด็กคนนี้ถูกใจฆีนไม่น้อย แม้ว่าจะดื้อรั้น บ้าบิ่น ห่าม แต่ก็น่ารักได้ในเวลาเดียวกัน


"ยินดีที่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการนะครับ พี่ดีใจนะที่ได้เจอเราอีก" ฆีนจงใจแกล้งพูดกระซิบใกล้หู จนทำให้ท็อปหันขวับ! แต่คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ เพราะที่นี่คือบริษัทที่เขาเพิ่งเริ่มทำงานวันแรก...




....................................



อ่านแล้วถูกใจไม่ถูกใจบอกกันได้นะคะ

เพิ่งเขียนแนวนี้เป็นเรื่องแรกค่ะ

ขอบคุณค่า






หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{บทนำ} [9-1-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Lay Kin ที่ 09-01-2017 21:49:47
เปิดฉากมาก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันเลย ดีครับ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.1} [10-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 10-01-2017 22:27:22
 

ตอนที่ 1 เกลียดขี้หน้า


 

 

"กูจะลาออก"

 
"เฮ้ย!” กราฟและพลอุทานพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย


       ตอนนี้ทั้งสามอยู่ที่ร้านอาหารปิ้งย่างเกาหลีย่านใจกลางเมือง สาเหตุที่มารวมตัวกันก็เพื่อถามไถ่สารทุกข์ สุขดิบว่าแต่ละคนทำงานเป็นอย่างไรกันบ้าง

 
“มึงมันบ้าไอท็อป" เป็นกราฟที่เสริมขึ้นมาต่อ หลังจากที่คีบกระบังลมหมูเข้าปากเสร็จสรรพ

“กูขอเหตุผล" พลถามขณะที่เคี้ยวตุ้ยๆ
 
     ท็อปยังคงเงียบอยู่นานไม่ยอมตอบ แถมเวลานี้เขากินอะไรไม่ลงจริงๆ จะโกหกเพื่อนว่าลาออกเพราะอะไรดี ขืนไปบอกความจริงว่า อ๋อ! กูเจอคนที่มันเคยรูดน้องชายกูตอนไปทะเลอยู่ที่ทำงานเดียวกัน ก็ดูเหตุผลจะย่ำแย่และน่าอายไปอีก
 
“เฮ้อ!”


“ตั้งแต่นั่งมา กระผมเห็นคุณท็อป ถอนหายใจนับสิบครั้งได้กระมัง บอกสักทีสิขอรับ พวกกระผมจะได้ช่วยหาทางแก้ไข”
กราฟพูดจายียวน กวนประสาทเพื่อน ก็ตั้งแต่เข้ามาในร้าน ท็อปไม่พูดอะไรเลย ล่าสุดก็คือคำว่าลาออกคำเดียวนั่นแหละ และนับแต่นั้นมา ท็อปก็นั่งเงียบ เอาแต่ถอนหายใจจนเพื่อนๆทุกคนอยากรู้จะเป็นบ้าอยู่แล้ว
 
“กูไม่ชอบหัวหน้าว่ะ กูทำงานของกูอยู่ดีๆ ก็หาเรื่องแกล้งกู คงหมั่นไส้มั้ง ทั้งพูดจาแขวะ ถากถางทุกอย่าง ใช้งานหนัก โอ้ยสารพัดว่ะ”


 
      คำตอบนี้ คงเป็นเหตุผลที่น่าจะดีที่สุดแล้ว การโดนเจ้านายกลั่นแกล้ง เป็นสิ่งที่ทรมานหัวใจในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง เพื่อนๆเขาคงเข้าใจดี

 
      ท็อปว่าจบ กราฟหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด ก่อนถาม


“ไอ้ท็อปแน่ใจนะว่าเรื่องนี้ มึงเพิ่งเริ่มงานได้อาทิตย์เดียว เจ้านายมึงโขกสับได้ขนาดนั้นเลย?”
“เออ”


“แต่ถึงเป็นอย่างนั้นจริงๆเราก็ควรอดทนไม่ใช่หรอวะ การทำงานมันไม่ใช่สมัยเราเรียนมหาวิทยาลัยนี่หว่า ทนๆเอาหน่อยเถอะ เขาจะได้ไม่ว่ามึงทีหลังได้ ว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ”


"ไม่รู้แหละ กูจะลาออก” ท็อปยืนกรานเสียงหนัก

“ตามใจ แล้วนี่มึงได้งานใหม่หรือยัง?” กราฟถาม

“ยัง”


“อ้าว ยังไม่ได้งานใหม่ แล้วห้าวจะออก กูว่ามึงควรอดทนและรอให้ได้งานใหม่ก่อนคงดีกว่า สมัยนี้งานหายากจะตาย”
พลบอกเพื่อน

“กูเห็นด้วยกับพล”


 
      ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเพื่อนจะไม่มีใครเข้าข้างท็อปสักคนสำหรับเรื่องการลาออก หรือเขาควรบอกความจริงไปเลยดี

     โอ้ย! อึดอัดจนอกจะระเบิด ท็อปนั่งคิดและเครียดอยู่ในใจ ถ้าไม่ติดว่าอาย ท็อปก็อยากบอกความจริงให้เพื่อนรู้จะแย่อยู่แล้ว สุดท้าย การลาออกของท็อปก็ดูจะไม่ใช่เหตุผลที่ดีเท่าไหร่ เมื่อเพื่อนทุกคนไม่มีใครเห็นด้วย แต่ท็อปไม่สนใจ  อย่างไรเขาก็จะลาออกให้ได้



………..

 


      ผ่านมาแล้วหลายวัน ที่ท็อปทำงานอย่างมุ่งมั่น โดยพยายามไม่สนใจใครบางคน  โชคดีที่ท็อปได้อาร์ต ไดเร็กเตอร์ คือพี่กั๊กเป็นพี่เลี้ยงช่วยสอนและให้คำปรึกษาด้านงานออกแบบอีกคน ท็อปจึงไม่ต้องเข้าหาหัวหน้าอย่างไอ้พี่ฆีนให้มากนัก แต่ช่วงนี้ดีหน่อย ที่พี่ฆีนเว้นระยะห่างให้ท็อปโดยไม่ก้าวก่ายหรือเข้ามายุ่ง วุ่นวายให้ท็อปลำบากใจสักเท่าไหร่

      ในขณะที่ใกล้เวลาเลิกงาน ท็อปนัดแนะกับกลุ่มเพื่อนไปนั่งดื่มคลายเครียดกันสักหน่อย ซึ่งทุกคนตอบตกลงเนื่องจากไม่มีทำธุระที่ไหนกันพอดี

       จนกระทั่งได้เวลานัดหมาย ผองเพื่อนก็มาในเวลาที่ไม่ห่างกันมาก ทั้งสามจัดแจงสั่งเครื่องดื่มและกับแกล้มเสร็จสรรพ ก็ตั้งวงสนทนาคุยกันไปเรื่อยๆ
 
        โดยส่วนใหญ่จะเป็นกราฟที่เล่าเรื่องของตัวเองเสียมากกว่า ก็เพราะเริ่มงานได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีผู้หญิงมาติดพัน กราฟยืดอกภูมิใจ วางมาดเสมือนว่าตัวเองฮอตและหล่อมากเสียจนเพื่อนๆหมั่นไส้

 
        หลังจากที่คุยสลับกับนั่งดื่มกันไปพอสมควร ท็อปขอตัวเพื่อนๆไปเข้าห้องน้ำ ขณะที่ทำธุระเสร็จเรียบร้อย ได้มีเสียงข้อความไลน์ดังขึ้น ทำให้ท็อปล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์มือถืออกมาเช็คดูว่าเป็นใครกันที่ส่งข้อความมาหา
 
       และคงเป็นเพราะเขามัวแต่ก้มหน้าดูโทรศัพท์จึงไม่ชนเข้ากับใครบางคนอย่างจัง


"เหี้ย!..เอ้ย...ขอโทษครับ"
ท็อปปากไวไม่รู้ตัว เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะหาว่าด่าจึงรีบเอ่ยปากขอโทษต่อจากนั้น

"ไม่เป็นไรครับ" เสียงทุ้มดังขึ้น ท็อปเงยหน้ามามองก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็นใคร

 
         เพิ่งเข้าใจจริงๆ ว่าคนที่ชอบพูดว่า ‘โลกกลม’ มันเป็นอย่างไร ก็ตอนนี้นี่เอง

         ท็อปมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่สบอารมณ์ นอกจากจะเจอกันที่ทำงานแล้ว ท็อปยังต้องมาเจอสถานที่อโคจรแบบนี้อีกหรือ? นี่...เขาจะหนีมันไม่พ้นจริงๆใช่ไหม?


"ร้านก็ตั้งเยอะแยะ ทำไมกูยังต้องมาเจอมึงอีกวะ"


"พอไม่ใช่เวลางาน ก็ลืมเรียกพี่กันเลยหรือครับ?"
พี่ฆีนถามพลางล้วงกระเป๋าจ้องท็อปนิ่ง

"ถอย จะออกไป" ท็อปไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนั้น เขาเบี่ยงตัวก่อนจะเดินออกไปข้างนอก

"ปากดีแบบนี้ พี่ควรต้องสั่งสอนให้หลาบจำหรือเปล่า?"



       พี่ฆีนโน้มกระซิบข้างหู จนท็อปผงะก้าวถอยหลัง

 
"ลองสิ กูก็มีมือ มีตีนนะ คิดว่ากลัวรึไง"


"หึหึ!! ทำไมผิดกับวันนั้นเลยนะ วันนั้นเอาแต่ร้องขอพี่"


 
         ฆีนว่าจบ ท็อปตาโตที่เห็นอีกฝ่ายเอาเรื่องอดีตมาตอกย้ำให้เขารู้สึกหวาดๆ คนที่มีความหลังฝังใจ จะทำอะไรก็ย่อมมีพิรุธ ท็อปผลักอกฆีน แต่คราวนี้ ฆีนจับข้อมือท็อปแน่น
 

“พี่ไม่ปล่อยให้ท็อปทำร้ายพี่ครั้งที่สองหรอกนะ”
ฆีนยังจำครั้งที่ท็อปต่อยเขาได้ขึ้นใจ

"มึงก็ปล่อยแขนกูสิ กูไม่ใช่เกย์ อย่ามายุ่งกับกู"


"ท็อปไม่รู้ใจตัวเองหรือเปล่า?"


            ในระหว่างนั้นเอง...
 
"เฮ้ย! ไอท็อป ทำไมนานจังวะ...  อูย!! ขอโทษครับ ไม่รู้ว่าคุยธุระกันอยู่"
พลที่เดินมาตามเพื่อนถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นท็อปยืนอยู่กับใครอีกคน และทำหน้ากระอักกระอ่วนอย่างบอกไม่ถูก

"ไม่เป็นไรครับ พี่คุยธุระเสร็จพอดี ขอตัวครับ"
ฆีนปล่อยมือท็อปและเดินออกจากห้องน้ำไปก่อน ทิ้งให้ท็อปยืนตาเขียว จนพลสงสัย

"ใครวะท็อป รุ่นพี่มึงหรอ? เท่ดีว่ะ"


"มึงอย่าพูดแบบนี้ให้กูได้ยินอีกนะ กูโกรธมึงจริงๆด้วย"


"อ้าว กูผิดอะไรวะ...." พลยืนเกาหัวตัวเอง

“ก็คนที่มึงเห็นนั่นน่ะ หัวหน้ากู”

"ห้ะ!"
จะไม่ให้พลตกใจได้อย่างไร ตอนที่ท็อปบอกมาว่าเจ้านายโหดอย่างนั้นอย่างนี้ ใช้งานหนักก็นึกว่าจะเป็นหัวหน้าที่บุคลิกเนี๊ยบๆเนิร์ดๆ บ้างาน ใส่แว่นหนาเตอะ แต่งตัวเชยๆ แล้วนี่คืออะไร? บุคลิกดูเท่ คมเข้ม สมาร์ท แต่งตัวดี แถมดูแล้วหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้ น่าจะเป็นคนเอาใจเก่งเสียด้วย
 
"เฮ้ยยยย!! เท่ว่ะ"


"ไอ้พล เมื้อกี้ กูบอกว่าอะไร"
ท็อปเสียงเข้มใส่เพื่อน ก่อนจะเดินฮึดฮัดหัวเสียออกไป ปล่อยให้พลยืนงุนงงก่อนจะไปทำธุระส่วนตัวต่อ
 

     ท็อปที่เดินออกมาจากห้องน้ำก่อนเพื่อน พอทิ้งตัวลงนั่งถึงเห็นว่าพี่ฆีนนั่งโต๊ะที่ไม่ไกลจากกันเท่าไหร่ ทำไมตอนแรกท็อปไม่เห็น หรือเป็นเพราะพอเวลาไม่สนใจก็เลยไม่เห็น แต่พออยู่ในสายตาเท่านั้นแหละเห็นชัดเจนเต็มสองตาเลย


     คงเป็นจังหวะที่ท็อปมองนานไปหน่อยจนพี่ฆีนกวาดสายตามองมาจนสายตาประสานกัน ท็อปรีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น

      ไม่นานนักที่พลเดินออกมาจากห้องน้ำก็ดูตื่นเต้นที่จะได้เล่าเรื่องหัวหน้าของท็อปให้กราฟได้ฟัง และยังย้ำกับกราฟว่าพี่ฆีนดูไม่เหมือนที่ท็อปเคยกล่าวไว้สักนิด

 
        ท็อปได้แต่ลอบถอนหายใจ เพราะขี้เกียจอธิบาย แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ท็อปไม่คาดคิด เพราะอยู่ดีๆ พี่ฆีนเดินเข้ามาหาที่โต๊ะ

 
        พี่ฆีนเดินถือแก้วเพื่อมาชนกับท็อปและเพื่อนๆโดยเฉพาะ อีกทั้งยังแนะนำตัวเองเสร็จสรรพว่าเป็นหัวหน้าของท็อปด้วย

 
         เพื่อนๆทุกคนดูนอบน้อมพี่ฆีนเป็นพิเศษ จนท็อปหมั่นไส้  เพราะตัวท็อปเอง หากไม่มีเรื่องงานมาเกี่ยวข้อง ท็อปไม่เคยมองว่ามันเป็นหัวหน้า และไม่คิดจะมีสัมมาคารวะกับคนแบบนี้ ถึงกล้าขึ้น ‘มึง-กู’ อย่างไม่เกรงกลัวหรือสนใจเลยว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร

         ท็อปมองคนตีเนียนที่มานั่งอย่างไม่รู้สึก รู้สาอะไรเลย อันที่จริง เขาสมควรลุกจากโต๊ะไปได้แล้ว แม้ท็อปจะอยากเอ่ยปากไล่แค่ไหนก็คงไม่เป็นผล เมื่อตอนนี้ ทั้งกราฟและพลดูจะติดใจชวนพี่ฆีนคุยอย่างออกรส จนกระทั่ง เพื่อนๆของเขาหมดคำถาม  พี่ฆีนจึงหาเรื่องชวนคุยต่อ โดยสิ่งที่เขาพูดนั้นมันเหมือนหาเรื่องให้ท็อปเสียแล้ว เมื่อเขาเกริ่นขึ้นมาว่า...

 
“อืม แล้วท็อปได้บอกเพื่อนหรือเปล่าว่าก่อนที่ท็อปจะมาทำงานที่นี่ เราเคยเจอกันมาก่อน”






****1.1****



หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{บทนำ} [9-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-01-2017 22:42:18
น่าติดตามนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.1} [10-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 11-01-2017 00:49:26
รออ่านตอนต่อไปคับ ลุ้นใครจะรุกใครจะรับ 555
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.2} UPDATE [12-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 12-01-2017 22:50:36
ตอนที่ 1 เกลียดขี้หน้า (2)



ท็อปหันขวับไปหาคู่กรณีทันที นี่มันจงใจหาเรื่องกันใช่ไหม? ท็อปพยายามรักษาอาการให้เป็นปกติที่สุด ก่อนตอบ
 

“มันไม่สำคัญที่จะต้องบอก”

“ไอ้ท็อปไม่บอก พี่ฆีนบอกพวกผมก็ได้พี่ว่าเจอกันที่ไหนมาก่อน?” พลถามขึ้นด้วยสีหน้าที่สนใจเป็นพิเศษ เพราะตอนนี้พลแอบเริ่มสงสัยในตัวเพื่อน ที่ตอนแรกท็อปเอาแต่บ่นเรื่องหัวหน้าให้ฟังอย่างนั้นอย่างนี้ แต่กลับไม่ยักกะยอมเล่าว่าเคยเจอหน้ากันมาก่อน

       ฟากคนอายุน้อยจ้องหัวหน้าเหมือนขู่ แต่ดูเหมือนฆีนจะไม่สนใจในสายตาที่ส่งมาหาเท่าไหร่นัก เขายกยิ้มมุมปากและหันไปหาคนถาม

“พี่เจอท็อปตอนไปทะเลที่กระบี่ครับ”

“มึง...” ท็อปอุทานขึ้นมา

“เฮ้ย!...ไอ้ท็อปใช้ทริปเดียวกันหรือเปล่าวะ? คืนที่มึงเมาแล้วไม่ยอมกลับห้องน่ะ” กราฟดูเหมือนไม่ได้ยินที่ท็อปอุทาน แต่กลับถามในสิ่งที่นึกขึ้นได้  ฟากท็อปออกอาการอึกๆอักๆ

“พี่ว่าน่าจะใช่นะเพราะคืนนั้นท็อปมานอนค้างห้องพี่เอง” ไม่ใช่ท็อปที่ตอบ แต่กลับเป็นฆีนที่เสนอหน้าตอบให้

"มึง!!"

      จากที่เก็บอาการมานาน ทำตัวให้นิ่งเงียบ แต่พอสิ้นเสียงนั้น ท็อปโถมตัวข้ามฟากไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย จนเพื่อนๆทั้งสองยกมือปัดป่ายห้ามทัพครั้งนี้

“ไอ้ท็อปใจเย็น มึงเป็นอะไรวะ กูไม่เห็นมีประโยคไหนที่ทำให้มึงต้องอารมณ์ขึ้นขนาดนี้เลย ทำตัวเหมือนคนมีความผิดไปได้”

      เหมือนคนเป็นโรควิตกจริตไปแล้ว ท็อปกลัวจับจิตจึงคิดเป็นตุเป็นตะว่ามันกำลังจะพูดบางอย่างไป ทำให้ท็อปเผลอสติหลุด สาดอารมณ์ใส่ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงเพื่อนตวาดขึ้นมา

      ท็อปทิ้งตัวลงนั่งอย่างแรง ส่วนฆีนก็จับปกคอทั้งดึงเสื้อเชิ้ตให้กลับมาในสภาพปกติอย่างใจเย็น

“ผมขอโทษแทนไอ้ท็อปมันด้วยนะพี่”

“ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจอารมณ์เด็กๆน่ะ ตอนนอนค้างที่ห้องพี่ก็เมาแล้วฉุนเฉียวแบบนี้แหละ แต่ไม่นานก็เงียบและหลับไปเอง”
ฆีนบอกมาแค่นั้น ทำให้ท็อปรู้สึกโล่งอกไปหน่อย ที่มันไม่เอาเรื่องนั้นมาพูด

       เออ! ใช่ ท็อปเพิ่งนึกได้ว่า เรื่องราวที่ไอ้พี่ฆีนเคยพูดมาคราวก่อนนั้นอาจไม่เป็นความจริงก็ได้ มันคงพูดป่วนประสาทเฉยๆ  ทั้งหมดทั้งมวล เขาอาจคิดมากและตื่นตูมไปเอง


       เมื่อคิดไป คิดมาในเวลานี้ ท็อปชักปวดหัว เขาขอสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งออกไปก่อน เและกลับไปใคร่ครวญเพียงลำพังที่บ้านคงดีกว่า ท็อปจึงเอ่ยลาเพื่อน

"วันนี้กูไม่มีอารมณ์แดกต่อละ กลับบ้านก่อนนะ"


      ท็อปลุกขึ้นพร้อมยื่นเงินให้เพื่อน ฝั่งกราฟยืนตามแล้วกดไหล่เพื่อนให้นั่งลงเหมือนเดิม แต่เพื่อนยังดื้อดึงดัน ไม่ยอมนั่งเสียอย่างนั้น

“วันนี้มึงเป็นอะไรวะ ดูท่าทางมึงแปลกๆตั้งแต่เจอพี่ฆีน กูถามจริงๆมึงมีปัญหาอะไรกับพี่ฆีนวะ” กราฟกระซิบข้างหูเพื่อนเหมือนอยากรู้เรื่องที่ทำให้คาใจอยู่ตอนนี้ ฟากท็อปไม่ตอบคำถาม กลับสะบัดมือเพื่อนที่เกาะไหล่เขาอยู่แล้วเบี่ยงประเด็นพูดเรื่องอื่นแทน

“กูกลับละ พวกมึงอยู่คุยกับหัวหน้ากูไปเถอะ”

     ฆีนถอนหายใจที่เห็นท็อปเอาแต่ฟาดงวงฟาดงาใส่ เขาอาจรุกท็อปมากเกินไป คราวนี้ ฆีนยอมถอยให้ก่อนแล้วกัน

“พี่ว่าไม่กวนแล้วดีกว่า พี่ขอโทษทุกคนที่ทำให้หมดสนุก เพราะพี่คนเดียวแท้ๆ พี่กลับโต๊ะก่อนนะครับ”
 
     กราฟและพลมองหน้ากันเลิกลั่กๆด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่ที่ต้องมาขอโทษเด็ก แต่สุดท้าย ทั้งกราฟและพลทำได้แค่ยกมือไหว้ลา และรีบจับท็อปที่ยืนนิ่งค้างให้นั่งลงเพื่อเคลียร์กัน


"ไอ้ท็อปกูว่ามันไม่ใช่แค่ปัญหาหัวหน้ากับลูกน้องแล้วว่ะ พวกกูเป็นเพื่อนมึงหรือเปล่า? มึงบอกมาสิวะ ว่าที่จริงมันคือเรื่องอะไร?” กราฟก็พอจะจับอาการบางอย่างได้ แต่แค่อยากได้ความจริงจากปากเพื่อนเพื่อความชัวร์มากกว่า

       ส่วนคนที่นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ ได้แต่นั่งนิ่งเงียบ เพราะความเป็นกระต่ายตื่นตูมของท็อปแท้ๆ ถึงทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนเพื่อนๆคาดคั้นเอาคำตอบ ทำเขาเหมือนเป็นนักโทษที่กำลังโดนตำรวจสอบสวนอย่างไรอย่างนั้น

      ท็อปใช้เวลาครุ่นคิดสักพักกว่าจะตอบกลับ

“เออ ขอให้กูใจเย็นกว่านี้ก่อน กูบอกพวกมึงสองคนแน่”


        ท็อปว่าจบ เขาเลือกหนีปัญหาด้วยการยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างเดียว โดยไม่พูดไม่จากับใคร

        กราฟและพลส่ายหน้าระอาที่เห็นเพื่อนงี่เง่าเอาแต่ใจมากที่สุดก็คราวนี้

        ไม่น่าเชื่อว่าผลพวงจากการประชดผสมความน้อยใจที่เพื่อนๆเข้าข้างไอ้พี่ฆีนมากกว่าตัวเอง ท็อปดื่มอย่างหนักจนลืมนึกถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ทำให้ตอนนี้ ท็อปเมามายไม่ได้สติ จนพลและกราฟบ่นอุบกับความเอาแต่ใจของเพื่อน

         อีกฟากโต๊ะหนึ่ง มีชายหนุ่มที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดได้แต่ลอบถอนหายใจ และนี่คือสาเหตุที่ฆีนยังไม่ยอมกลับบ้าน เพราะมันเป็นอย่างที่ฆีนคาดคิดไว้จริงๆ  ท็อปเมาไม่รู้เรื่องอีกแล้ว ฆีนบอกลาเพื่อนๆในกลุ่ม ก่อนจะเร่งฝีเท้าไปหาพลและกราฟที่ประคองท็อปให้ยืนตรงๆอยู่

"น้องๆไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ไปส่งท็อปเอง" ฆีนเข้าเรื่องโดยไม่จำเป็นต้องพูดอ้อมค้อมให้เสียเวลา

"อะ...เอ่อ...จะดีหรอพี่  ผมกลัวไอ้ท็อปมันจะอาละวาดใส่พี่อีกสิครับ" พลที่มีอาการมึนเมาน้อยสุด ได้แต่พูดอ้อมแอ้มอย่างกลัวใจว่าเพื่อนตัวเองจะไปทำนิสัยเสียใส่ผู้ใหญ่อีกหน

"ไม่เป็นไรหรอก พี่คิดว่าพี่เอาอยู่"

"เอ่อ แล้วพี่รู้จักบ้านมันหรอ?"


"พลก็บอกพี่มาสิครับ พี่จะได้ไปส่งถูกไงครับ"



     พลยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนบอกพิกัดแก่คนอายุมากกว่า จากนั้น พลได้พูดทิ้งท้ายตอนร่างเพื่อนถูกใครอีกคนประคองไว้แล้ว

"ผมฝากเพื่อนด้วยนะครับ พี่ฆีน"


       ฆีนพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถ เพื่อขับรถไปยังที่หมายซึ่งไม่ใช่บ้านของท็อปแต่เป็นคอนโดของเขาเอง


        กินเวลามากพอสมควร กว่าฆีนจะพาท็อปมาถึงคอนโดของตัวเอง นาทีนี้ ร่างหนุ่มน้อยถูกปล่อยลงบนเตียงนอนกว้าง ฆีนพ่นลมออกจากปาก ยกมือ บิดตัว ยืดเส้นยืดเส้น ยืดสาย เพราะการแบกร่างคนเมามาทำเขาปวดบ่า เมื่อยไหล่ไม่น้อย


        แม้จะเหนื่อยสักแค่ไหน แต่ฆีนไม่หยุดพัก เขาคว้าผ้าขนหนู พร้อมตักน้ำใส่กะละมัง เตรียมเช็ดตัวให้ท็อปต่อ จนกระทั่งเขาทำความสะอาดพร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ท็อปเสร็จสิ้น ฆีนจัดท่าทางท็อปให้นอนได้อย่างสบาย ก่อนจะนั่งมองใบหน้าได้รูปนั้นอย่างพินิจพิจารณา

       พอเวลาสิ้นฤทธิ์ ในสายตาของเขา ท็อปเป็นผู้ชายน่ารักและมีเสน่ห์ไม่เบาเลย


       ฆีนใช้ปลายนิ้วลูบไล้เหนือคิ้วเข้มนั้นไล่ไล้ช่วงโครงหน้าลงมาจบที่ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่ายและหยุดชะงักค้างอยู่อย่างนั้น


       เมื่อตัวเลขอายุได้ก้าวผ่านจากเลขสองสู่เลขสาม ไม่น่าเชื่อว่าความคิด ความอ่านก็จะเปลี่ยนไปตามลำดับ อาจไม่ใช่แค่เรื่องของชีวิตประจำวัน หรือหน้าที่การทำงานเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงชีวิตรักของฆีนด้วย


      โดยปกติ ฆีนก็ไม่ใช่คนเจ้าชู้ รักง่ายหน่ายเร็วอยู่แล้ว การจะเปลี่ยนคู่ควงให้ง่ายเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า เขายิ่งไม่ถนัดเท่าไหร่ นั่นแหละยิ่งทำให้ฆีนลำบากใจเวลาที่เขาถูกชะตากับใคร ก็ยากที่จะถอนตัวกลับได้ เหมือนเรื่องของท็อปที่เป็นอยู่ตอนนี้ 


       ฆีนยังจำครั้งแรกที่เจอท็อปได้ ท็อปยิ้มหวานแถมหน้าแดงๆเพราะเมาเดินตามเขากลับห้อง ด้วยสาเหตุที่บอกว่าเพื่อนหนีกลับกันหมดแล้ว ฆีนจึงพามาที่ห้องด้วยกัน ท็อปในวันนั้น เป็นเด็กกวนประสาทแถมคุยสนุกกว่าที่คาดไว้


      และใครจะคิดล่ะว่า หนุ่มน้อยช่างเจรจา เฮฮาแบบนั้น จะเปลี่ยนไปเมื่อฆีนปิดประตูห้องลง ท็อปผลักฆีนแล้วประกบจูบทันที แม้ฆีนจะสนใจในตัวท็อปจริง แต่จังหวะนั้น ฆีนผลักออก เพราะเขาอยากให้ท็อปจูบเขาด้วยความเต็มใจมากกว่าการจูบแบบเมาไม่ได้สติแบบนี้ นั่นจึงทำให้ท็อปไม่สบอารมณ์ เลยเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งมาที่น้องชายเขาแทน

     หลังจากนั้น ความปรารถนาของทั้งคู่ก็พลุ่งพล่านจนต่างฝ่าย ต่างช่วยกันสร้างความสุขสมให้ถึงฝั่ง เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งก็เท่านั้น

       เพราะสิ่งที่ท็อปทำมาทั้งหมด ฆีนจึงคิดว่าน้องเขามีใจ ตื่นเช้ามาฆีนจึงตั้งใจจะขอเบอร์ติดต่อเพื่อไว้ทำความรู้จักกันต่อ แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่า ท็อปกลับจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ แถมเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือจนฆีนไม่อยากจะเชื่อ


      การจากกันด้วยไม่ดี แถมไม่มีเบอร์หรือตัวช่วยในการสานสัมพันธ์กัน ก็ทำให้ฆีนถอดใจแล้วว่าคงไม่ได้เจอท็อปอีก แม้ใจจะพยายามลืมมาตลอด แต่ลึกๆก็ภาวนาขอให้ได้มีโอกาสเจอท็อปอีกสักครั้ง ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า สิ่งที่ฆีนอธิษฐานในใจจะเป็นจริง เมื่อตอนที่เห็นท็อปอยู่ในที่ทำงาน นั่นจึงเป็นชนวนสำคัญที่ฆีนรวมรวบความกล้า รุกเดินหน้าตามจีบเฉกเช่นตอนนี้


      เขาปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับเรื่องของท็อปนานเท่าไหร่แล้ว ขืนท็อปตื่นมาตอนนี้ มีหวังได้ด่าฆีนหูชาอีกแน่

     ฆีนละมือออกจากใบหน้าได้รูปนั้น


“ถ้าพี่ไม่ชอบก็คงไม่ยอมขนาดนี้”

      สิ้นเสียงนั้น รอยยิ้มจางๆที่มาพร้อมความเหนื่อยล้าก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้า ฆีนคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำหวังจะไปอาบน้ำให้สบายตัวบ้าง

 

 

 

.....................

 



          เช้าวันรุ่งขึ้น


"ไอกราฟ อยู่ไหนว่ะ"


        เสียงที่เปล่งออกมาแผ่วเบา ในขณะที่ยังนอนแผ่หราอยู่บนเตียงกว้าง


        ท็อปเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ด้วยอาการสะลึมสะลืออยู่ พอสติเริ่มเข้าที่ เขาก้มมองตัวเองที่ไม่ได้สวมเสื้อ มีเพียงกางเกงนอนขายาว...ท็อปลุกจากเตียงด้วยสีหน้าประหลาดใจ

         นี่มันไม่ใช่บ้านกราฟหรอกหรือ? แล้วนี่ท็อปอยู่ที่ไหนกัน?

        สองตากวาดมองรอบห้องอย่างงุนงง ท็อปรีบเดินไปเปิดประตู ก็ได้กลิ่นอาหารหอมฟุ้งที่ลอยมาเตะจมูก
 

"เหี้ย!! มึงอีกแล้ว" ท็อปตะโกนดังลั่น ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งนิดๆก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าที่แต้มรอยยิ้ม


"ตื่นแล้วหรือ?"


       ท็อปก้าวท้าวยาวๆ ไปผลักอกรุ่นพี่อย่างแรง จนกระทะที่ฆีนถืออยู่เกือบหลุดมือ

"มึงมันเลว มึงทำอะไรกูอีก บอกมาดิ้"

 
"พี่ไม่ทำคนที่นอนนิ่งๆ ไม่รู้สึกตัวหรอกนะ เมื่อคืนเราเมามาก พี่ก็ให้เรามาพักที่ห้องพี่ก่อน พี่ไม่รู้จักบ้านท็อปนี่ ใจเย็นสิ"


      ท็อปหรี่ตามองคนตรงหน้าที่พูดได้อย่างไหลลื่น ไม่มีพิรุธ

"แต่กูมากับเพื่อนกู ทำไม่กูถึงกลับมากับมึงได้"


"กราฟกับพลก็มึนๆเหมือนกัน เรื่องมันผ่านมาแล้ว ช่างมันได้ไหม พี่กำลังทำกับข้าวอยู่ ใกล้เสร็จแล้ว ไปอาบน้ำเถอะท็อป จะได้ออกมากินด้วยกัน” แม้จะโดนหาเรื่อง วีนเหวี่ยงใส่แค่ไหน ฆีนยังคงใจเย็นได้อย่างน่าประหลาด

        ท็อปยังมีคำด่าอีกมากมายอยู่ในหัวสมอง แต่พอคนตรงหน้าส่งยิ้มแถมทำเสียงนุ่มเหมือนปกติ ท็อปก็อ้าปากต่อว่าไม่ออก เขาไม่เสียเวลาไปเถียงอะไรอีก ขออาบน้ำให้สบายตัวสักหน่อยเสร็จแล้วจะได้รีบกลับบ้าน

        ใช้เวลาไม่นานที่ท็อปแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาคว้าของสำคัญติดตัวไปอย่างครบถ้วน ท็อปเหลือบมองคนอายุมากกว่านั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร แต่เขาไม่สนใจ กลับเดินดิ่งไปยังประตู พร้อมสวมรองเท้าเตรียมออกจากห้อง


“เดี๋ยว พี่รอกินข้าวอยู่นะ” ฆีนกะอยู่แล้วว่าท็อปต้องเล่นแง่ เขาถึงนั่งหันหน้าไปทางประตูห้องนอน

“กูไม่หิว”

“ท็อปเกลียดอะไรพี่นักหนา ไม่ลองให้โอกาสทำความรู้จักกันเพิ่มหน่อยหรือ? ไหนๆเราก็ทำงานที่เดียวกันด้วย”


"หึๆ อยู่ด้วยกันอีกไม่นานหรอก เดือนหน้ากูจะลาออก รู้ไว้เลย"


       ฆีนชะงักไปครู่หนึ่ง คำพูดที่ดูธรรมดาในสายตาคนอื่น แต่ถ้าเป็นคนที่เราชอบ มันทำให้ใจวูบโหวงไม่น้อยเลย แต่ดูเหมือนฆีนจะไม่ลดละความพยายาม เขายังคงแสดงความจริงใจออกไปให้อีกฝ่ายรับรู้อยู่เสมอ

"พี่ชอบท็อปนะ"

"มะมึง..เป็นบ้าหรือไง"

"พี่พูดจริง"


"กูเป็นผู้ชาย ไม่ใช่เกย์" ท็อปยืนกรานเสียงหนัก

"แต่พี่เป็น"

     ท็อปก็เดาไม่ผิดอยู่แล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะกล้าเผยเพศสภาพตัวเองชัดเจนขนาดนี้

"แต่กูไม่ได้ชอบมึง"

"ตอนนี้อาจจะยัง แต่อนาคตก็ไม่แน่ อย่างที่บอกในตอนแรก พี่ขอแค่โอกาส" ฆีนยังคงยืนยันว่าต้องเอาชนะใจท็อปให้ได้ เพราะเขายังจำตอนที่เจอกันครั้งแรก ถ้าท็อปไม่ชอบผู้ชายแล้วทำไมเขาถึงไม่รังเกียจที่ต้องทำแบบนั้น

"ถ้าอย่างนั้นกูขอถามอะไรหน่อย คืนนั้นมึงไม่ได้ทำอะไรกูใช่ไหม? มึงแค่พูดเล่นให้กูตกใจใช่ไหม?”


       ฆีนเห็นสีหน้าท็อปที่ดูเหมือนคาดหวังว่าสิ่งที่เขาต้องตอบออกไปจะเป็นสิ่งเดียวกับที่ท็อปต้องการ
 

       เพราะบางครั้ง ความจริงอันโหดร้ายอาจทำให้ใครบางคนเสียความรู้สึก ดังนั้น เรื่องบางเรื่อง การโกหกคงดีกว่า


       ในเมื่อท็อปยังรับความจริงไม่ได้ ฆีนคงต้องปล่อยให้ท็อปเข้าใจแบบนั้นไปก่อน

"พี่พูดเล่น พี่ตั้งใจจะแกล้งเราเฉยๆ"


      ฟากท็อปถอนหายใจคล้ายโล่งอก  ถึงแม้จะได้คำตอบอันน่าชื่นใจว่ามันไม่ได้ทำอะไรท็อปจริงๆ แต่ท็อปก็ยังมีเรื่องเครียดใหม่เพิ่ม เมื่อมันมาบอกว่าชอบ ยิ่งทำให้ความเกลียดขี้หน้านั้นไม่ลดลงเลย

        เพราะท็อปไม่ชอบผู้ชาย และคิดว่าไม่มีวันจะชอบผู้ชายด้วย

"แล้วเรื่องนั้น....สรุปท็อปจะลองให้โอกาสพี่ไหม?"


"เรื่องของมึงแล้วกัน มึงเตรียมใจอกหักได้เลย!"


       น่าแปลกที่ประโยคทิ้งท้ายช่างดูไร้เยื่อใย แต่ฆีนกลับผุดรอยยิ้มบางเบาขึ้นมา

       ดูเหมือนว่าฆีนจะได้งานยากสักหน่อย เพราะดันเผลอใจไปชอบคนฤทธิ์มากก็ทำใจลำบากล่ะงานนี้ แต่เพราะฆีนรู้ตัวเองดีว่าเขาก็ไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆซะด้วยสิ....

 

 
***************************

ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์นะคะ
 แล้วเจอกันกับตอนต่อไปจ้า
[/color]
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่1.2} UPDATE [12-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 12-01-2017 23:15:10
เอาล่ะสิ,,,

เปิดโอกาสขนาดนั่น

ฆีนเดินหน้าเลย,,,
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 2.1} UPDATE [14-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 14-01-2017 18:21:38

ตอนที่ 2 เป็นห่วง





       สองสัปดาห์แล้วที่ท็อปเต็มที่กับการทำงานโดยเรื่องลาออกก็ยังไม่ได้ปริปากบอกแต่อย่างใด ยังคงเก็บเอาไว้อยู่ในใจ ด้วยเหตุผลที่พร่ำบอกกับตัวเองว่า ถ้าลาออกไปตอนนี้ เขาจะสูญเสียมิตรภาพจากเพื่อนร่วมงานรวมถึงสังคมดีๆที่ท็อปไม่รู้ว่าถ้าไปที่ใหม่จะได้เจอแบบนี้หรือเปล่า?

     เมื่อเห็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย ท็อปก็จะพยายามลืมเรื่องที่เขารู้ดีแก่ใจนั้นทิ้งไป 

     ใกล้ช่วงเวลาที่ต้องเตรียมนำส่งไฟล์งานเข้าโรงพิมพ์ในส่วนของงานสิ่งพิมพ์ ทุกคนจึงทำงานของตัวเองกันอย่างบ้าคลั่ง เช่นเดียวกับวันนี้ที่ทุกคนจัดการทำหน้าที่ของตัวเองกันจนเวลาล่วงเลยมาถึงสองทุ่ม ก็ยังไม่มีใครกลับบ้าน

"พี่จะลงไปซื้อน้ำสักหน่อย ใครสนใจเอาอะไรไหม?" ฆีนเห็นว่ามันดึกเกินเวลางาน แต่ทุกคนยังคงทำงานกันอย่างไม่มีใครคิดจะลงไปหาอะไรรองท้อง ด้วยความเป็นห่วงน้องๆจึงเอ่ยถาม

“พี่ฆีนเลี้ยงหรือคะ?”  น้องแพรฝ่ายประสานงาน เอ่ยแซวเสียงหวาน จนฆีนขำพลางส่ายหน้า

“ถ้ายังไม่รีบบอกกันตอนนี้ ก็จะให้จ่ายกันเองแล้วล่ะ"


      สิ้นเสียงนั้น แพรตะโกนโหวกเหวกวายวายถามคนในแผนกให้รีบตัดสินใจกันด่วนๆเพราะเดี๋ยวเจ้ามือจะเปลี่ยนใจไปเสียก่อน

      เสียงแย่งกันพูดผุดขึ้นมาจนฟังไม่ได้ศัพท์ ทำฆีนยกมือกุมขมับกับรายชื่อขนม นมเนย ที่ทุกคนพูดออกมายาวเป็นหางว่าว

"ถ้าจะเยอะขนาดนั้น พี่ว่าแพรจดเถอะ..."
ฆีนตัดบทด้วยการยื่นกระดาษให้แพรทำหน้าที่เป็นคนสรุปมา

      ขณะที่ทุกคนเอ่ยบอกถึงความต้องการของตนเอง พี่กั๊กเห็นท็อปยังไม่พูดอะไร จึงหวังดีถามอีกฝ่าย

"ไอ้ท็อป ไม่หิวหรอ? ไม่เห็นสั่งอะไรเลย"
พี่กั๊กทักท็อป จนเขาสะดุ้งนิดๆ

"ตอนนี้ ยังไม่หิวอะพี่ เดี๋ยวผมค่อยลงไปกินทีหลังก็ได้"
ท็อปรักษาอาการให้เป็นปกติ โดยไม่คิดจะมองคนที่ยืนรอลูกน้องจดรายการสินค้าอยู่ไม่ไกลนัก

"ท็อปถ้าจะลงอยู่แล้วก็ไปพร้อมพี่ฆีนเลยสิ จะได้ไปช่วยพี่เขาถือด้วย ที่สั่งๆ ดูไป ดูมาเยอะเลยล่ะ พี่ฆีนคงถือไม่ไหวแน่ๆ"
พี่แพรพูดขึ้นมาหลังจากได้ยินท็อปบอกอย่างนั้นกับพี่กั๊ก ทำให้ท็อปออกอาการไม่ค่อยพอใจว่าทำไมต้องไปช่วย จึงปากไวไปหน่อย

"อยากอาสาซื้อให้คนอื่น ก็ต้องถือให้ได้สิ"


"ท็อปว่าอะไรนะ!!"
พี่กั๊กถามทำหน้าประหลาดใจเหมือนได้ยินไม่ถนัดนัก

      ฟากท็อปทำหน้าไม่ถูก เป็นจังหวะที่เบือนหน้าหันไปสบสายตากับพี่ฆีนพอดี ก็เห็นอีกฝ่ายส่ายหน้าน้อยๆเหมือนส่งสัญญาณว่าไม่ควรพูดแบบนั้น ก่อนจะเป็นคนแก้สถานการณ์ให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ด้วยการแสร้งหัวเราะขึ้นมาก่อน

"แพรเห็นพี่เป็นคนอ่อนแอหรือไง ถือของแค่นี้สบายมาก"


      ท็อปเห็นพี่กั๊กยังคงมองมา ส่วนพี่แพรก็ดูจะฝืนหัวเราะตามน้ำ ท็อปไม่อยากให้ทุกคนเอะใจในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขาและพี่ฆีน รวมถึงไม่อยากให้คนอื่นมองท็อปไม่ดีจึงตัดสินใจตอบตกลงไป

"เดี๋ยวผมไปด้วยครับพี่ฆีน"


"แน่ใจหรือ?"
ฆีนถามอีกครั้ง เพราะไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน


"เอ่อ...ครับ"
ท็อปตอบไม่เต็มเสียง


       ฟากฆีนไม่อยากเซ้าซี้อีกฝ่ายให้เป็นกังวล ทำได้แค่รับกระดาษขนาดเท่าฝ่ามือมาจากน้องแพรยัดใส่กระเป๋าเสื้อ ก่อนจะเดินผลักประตูออกไป โดยมีท็อปเดินตามหลังไม่ห่าง


       ภายในลิฟต์ พื้นที่สี่เหลี่ยมแคบๆที่นอกจากจะชวนให้อึดอัดแล้ว การยืนอยู่ด้วยกันสองคนแล้วไม่พูดอะไร ชวนให้อึดอัดยิ่งกว่า ฆีนหันไปมองรุ่นน้อง ก็เห็นอีกฝ่ายทำเป็นเล่นโทรศัพท์เหมือนจงใจให้รู้ว่าไม่อยากเสวนาด้วย


      ฆีนตัดสินใจทำลายความเงียบด้วยการพูดขึ้นมา แม้รู้ดีว่าไม่ถึงนาที ลิฟต์ก็คงเคลื่อนถึงชั้นที่หมาย


"พี่ชอบทุกครั้งนะ เวลาท็อปเรียกว่า พี่ฆีน"
เหมือนจะเป็นประโยคที่พูดลอยๆ แต่อันที่จริงก็อยากให้ใครบางคนได้ยินและรับรู้

"หึๆ"

"จริงๆก็ควรเรียกพี่ให้ตลอดนะเพราะพี่ว่าใครๆก็คงดูออกว่าอายุเราห่างกัน ถ้าคนอื่นได้ยินเข้าจะมองว่าเราเป็นเด็กไม่มีมารยาท ไม่เคารพผู้ใหญ่"


"มึงว่ากูหรอ?" ท็อปยังคงสติหลุดได้อย่างง่ายดาย เขาเผลออารมณ์ร้อนจนเดินไปกระชากคอเสื้ออีกฝ่าย

"พี่เตือนเพราะพี่หวังดีกับเรานะ ท็อป"


     รุ่นพี่เอ่ยเสียงเรียบอย่างใจเย็น โดยไม่หงุดหงิดหรือโมโหไปตามอารมณ์ของอีกฝ่ายเลย

     ท็อปหงุดหงิดใจที่แม้จะต่อว่า ด่าทอแรงๆแค่ไหน อีกฝ่ายก็ดูเหมือนไม่ถือสาอะไร จนท็อปเผลอผลักอกพี่ฆีนด้วยความหมั่นไส้ แต่เป็นจังหวะที่ลิฟต์เปิดอ้าออกพอดี


ตึ้ง!


"คุณฆีน เกิดอะไรขึ้นคะ!"
  เสียงแหลมสูงดังขึ้นเหมือนตกใจที่เห็นการกระทำของท็อปเมื่อครู่

"เอ่อ..สวัสดีครับ คุณไอริน"

      ฆีนดึงชายเสื้อให้ตึง ก่อนก้าวออกจากลิฟต์ พร้อมส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้สาวสวยหัวหน้าฝ่ายการตลาดที่เจอฆีนที่ไหน ก็ทักทายอยู่เสมอ

      ฟากท็อปไม่รู้จักผู้หญิงตรงหน้า เพราะอยู่คนละส่วนงาน จึงไม่ได้ยกมือไหว้และหวังจะเดินนำไปก่อน เพื่อให้ทั้งสองยืนคุยกันเป็นส่วนตัว แต่ทว่า เขากลับถูกรั้งแขนไว้


"น้องชื่ออะไรคะ"

      พี่ฆีนมองหน้าท็อป เหมือนดูท่าทีอีกฝ่ายจะตอบแบบไหน

"ท็อปครับ"


“เป็นลูกน้องฆีนใช่ไหม?”
ไอริณหันไปเอาคำตอบจากฆีน ฟากฆีนพยักหน้า
 
"ทำไมผลักอกฆีนแบบนั้น ไม่รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่หรือไง ฆีนต้องบอกเจ้านายนะคะ"
คำพูดเสียงท้าย ไอริณหันไปหาคุณที่โดนกระทำ


"ไม่ต้องหรอกครับ เมื่อกี้ผมเผลอแซวเรื่องส่วนตัวน้องเขาเลยไม่พอใจ ผมผิดเอง"
ฆีนพูดปกป้องเชิงบอกไอริณกรายๆว่ามันเป็นเรื่องเล็กที่ไม่ถึงกับคอขาดบาดตายอะไร

 "ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรทำ...ฆีนยังคิดเข้าข้างเด็กนี่อีกหรือคะ ให้ท้ายกันแบบนี้ แล้วลูกน้องที่ไหนจะเชื่อฟัง"
ไอริณมองหน้าท็อปอย่างไม่พอใจ เพราะเห็นท็อปชักสีหน้าใส่ก็ดูรู้ว่าไร้มารยาท


"ผมขอโทษครับที่ทำตัวแย่ๆ จนพี่สาวต้องเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นเสียได้”
ท็อปบอกมิวายส่งยิ้มยั่วโมโหอีกฝ่าย

"น้องคะ!!" ผู้หญิงตวาดใส่เพราะรู้ว่าเด็กหนุ่มจงใจว่าสาระแนทำนองนั้น

"เอ่อ..คุณไอรินครับ ผมขอโทษแทนเด็กผมด้วย เขาอาจจะยังวางตัวไม่ถูกเพราะน้องเพิ่งทำงานที่นี่ที่แรก เอาเป็นว่าผมจะไปคุยกับพี่ดลเพื่อพิจารณาตอนประเมินการทำงานแล้วกัน อย่าให้ถึงเจ้านาย จนกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับ"


"ก็ได้ค่ะ ไอริน ทำเพื่อตัวคุณฆีนนะคะ เพราะไอริน ก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว ดูแลเด็กในปกครองให้ดีแล้วกัน ระวังต่อไปจะเล่นหัวจนไม่รู้ตัว"


     พี่ฆีนได้แต่ส่งยิ้มให้ แต่ในมือกำแน่นเพราะรู้สึกเหมือนโดนฉีกหน้า

      สาวแสนสวยเดินลับตาไปแล้ว ฆีนได้แต่ถอนหายใจยาวที่คิดอยู่แล้วว่า เพราะความอารมณ์ร้อนของท็อปจะนำมาซึ่งปัญหาแล้วมันก็เป็นเรื่องจริง

      ฆีนนึกอยากโกรธตัวเองเหมือนกัน ที่ปล่อยให้เด็กดื้ออย่างท็อปเข้ามามีอิทธิพลต่อหัวใจเขาได้ถึงเพียงนี้ ถ้ามันเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นง่ายๆก็คงดี

      หรือความจริง ที่ฆีนยอมทุกอย่างคงเพราะความชัดเจนของท็อปล่ะมั้งที่รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมาอย่างนั้น จึงทำให้ฆีนรู้ว่าอย่างน้อยก็ยังดีที่ไม่ทำตัวเสแสร้งเหมือนคนอื่นๆที่ฆีนได้พบเจอมา

     หรืออีกนัยหนึ่งแล้ว ฆีนอยากเห็นรอยยิ้มของท็อปอีกครั้ง หลังจากที่เคยเห็นเมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรกก็เป็นได้เช่นกัน

 
     ส่วนท็อปละล้าละลัง ทำตัวไม่ถูก ปล่อยให้ตัวเองยืนชะงักอยู่ที่เดิม โดยใครอีกคนเดินล่วงหน้านำไปก่อนแล้ว ท็อปมองแผ่นหลังนั้นอยู่นานจนเหลือเพียงจุดเล็กที่ค่อยๆหายไปกับตา


      ท็อปไม่เข้าใจว่าไอ้พี่ฆีนทำไมถึงยังปกป้องคนผิดอย่างเขา

      แต่อีกความคิดของท็อปก็แล่นเข้ามาบอกว่า ช่างเถอะ! จะไปสนใจทำไม ถ้าไอ้พี่ฆีนอยากปกป้องและทำตัวเหมือนเป็นพระเอกก็ทำให้ได้ตลอดแล้วกัน

      กว่าท็อปจะเดินมาถึงร้านสะดวกซื้อ ก็เห็นพี่ฆีนหยิบของใส่ในตะกร้าได้จำนวนหนึ่ง ท็อปเก้ๆกังๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มบทสนทนาแบบไหนดี เมื่อรู้ว่าตัวเองก็ทิฐิสูงเสียด้วย

      ท็อปโยนกาแฟกระป๋องลงไปในตะกร้า ฆีนเงยหน้ามามองท็อปก่อนจะก้มลงไปดูรายการในกระดาษ
 

“ไม่มีที่เขียนไว้”

“ของกูเอง”
ท็อปตอบแผ่วๆแต่ทำกิริยาเชิดหน้า วางมาดเคร่งขรึม จนฆีนอดอมยิ้มไม่ได้ เขาจ้องมองรุ่นน้อง

“กินตอนนี้ แล้วดึกๆจะนอนหลับหรือ?”

"เรื่องของกู"



       ฟากท็อปไหวไหล่ไม่สนใจ แต่ฆีนก็ยังหุบยิ้มไม่ลงอยู่ดี เพราะนึกขำกับการกระทำของคนตรงหน้า

       สำหรับฆีนทำไมถึงดูว่าท็อปน่ารักไปได้นะ...


        เมื่อได้ของครบถ้วนทุกรายการ  ฆีนจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองเดินกลับเข้าออฟฟิสด้วยกัน ในระหว่างนั้น ท็อปยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องพี่ฆีนและปัญหาก่อนหน้า

       ท็อปรู้ดีว่าการแสดงออกของตัวเองในสายตาคนอื่น อาจดูเป็นเด็กไม่มีสัมมาคารวะ ท็อปหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เพียงเห็นพี่ฆีน ท็อปก็เกิดอาการขัดใจ ไม่อยากคุยขึ้นมาดื้อๆ

      ที่ผ่านมา ท็อปคิดดีแล้วว่าเขาเป็นแบบนี้กับพี่ฆีน แค่คนเดียวจริงๆ...


       ท็อปจิ๊ปากในลำคอด้วยความไม่พอใจตัวเองที่ยังคิดวนเวียนถึงเรื่องนี้อยู่ได้....ถึงกับต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาอะไรทำแก้ฟุ้งซ่าน  ก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไป โดยไร้บทสนทนาของทั้งคู่ ปล่อยให้ความเงียบเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง...


****1.1****



 

 
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 14-01-2017 19:08:51
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-01-2017 14:18:33
รออ่านน่ะ
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 15-01-2017 23:46:07
น่าอ่านนะครับ

รีบๆมาต่อนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.1} UPDATE [14-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 16-01-2017 07:46:26
ท๊อป ไม่น่ารักเลย ส่วนพี่ฆีน ก็ แย่ เขาบอกแล้วไม่ชอบผช ไม่ใช่เกย์ พีายังจะยัดเยียดความเป็นเกย์ให้เขาอีก ไม่ดีคะ พอ ๆ แยกย้าย จบ

ท๊อปยิ่งกว่าคำว่าไม่มีมารยาท บ่งบอกไปถึงการอบรมเลี้ยงดู เอาตามตรง คุณเมาของคุณเอง แทบจะสมยอม แต่เสือกจำไม่ได้ แย่ ๆ ไม่ปลื้มเลยซะจริง

  อีกอย่าง ยังไงก็ในเวลางาน ที่ทำงาน ทำแบบนี้ จะเป็นแบบไอริณว่า เด็กมันจะถอนหงอก เอาเรื่องส่วนตัวปนกับงานชัด ๆ แย่เข้าไปอีก

   สุดท้ายแค่อยากบอก ชอบคะ อิน 555 อย่านอยด์กับเม้นเรานะ แปลว่าคุณคนเขียนเขียนดีไง เราอินตามเลยเห็นเปล่า


      แต่มาคิดอีกตลบ เกย์ อะ ผชเดินตาม จับจูบ ลูบไล้ มันก็คิดไกลปะวะ ว่าสนใจ เข้าข้างพี่ฆีนเรื่องนี้พี่ฆีนไม่ผิด แต่พี่ควรเปลี่ยนใจ แล้วสั่งสอนไอ้เด็กปากดีแบบท๊อปเถอะคะ ก่อนพี่จะเสียคน
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.2} UPDATE [16-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 16-01-2017 19:52:21

ตอนที่ 2 เป็นห่วง (2)





         เวลาผ่านไปถึงตีสองกว่า พนักงานที่ยังนั่งทำงานจนถึงตอนนี้ เหลือเพียง ฆีน ท็อป และกั๊ก เท่านั้น แม้พนักงานที่กลับบ้านกันก่อนหน้าจะบอกกล่าวแก่พี่ฆีนว่า อันที่จริงพี่ฆีนไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ดึกถึงขนาดนี้ก็ได้ เพราะงานในส่วนที่เขาต้องดูความเรียบร้อยนั้น มันยังไม่มาถึง แต่ฆีนก็สามารถหาข้ออ้างที่ทุกคนไม่ได้สนใจที่จะถามต่อได้


       เมื่อเห็นว่างานคืบหน้าไปได้ไกลพอสมควร ฆีนจึงบอกน้องๆว่าให้กลับบ้านไปพักผ่อนแล้วมาลุยงานต่อในวันพรุ่งนี้ดีกว่า กั๊กทำตามคำสั่งของหัวหน้า ก่อนจะออกไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าล้างตาสักหน่อย

       ฆีนมองว่ากั๊กเดินออกไปแล้ว เขาสาวเท้ายาวๆไปหาท็อปใกล้ๆ มือหนาแตะช่วงไหล่อีกฝ่ายเบาๆ แต่ท็อปกลับสะดุ้งเหมือนไม่คุ้นชิน


"ดึกขนาดนี้ กลับบ้านยังไง"

"แท็กซี่"

"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่ไปส่ง"


"ไม่ต้อง"


"อย่าทำให้พี่เป็นห่วง”
ฆีนยังคงรักษาความใจเย็นไว้ได้อย่างเดิม

"มึงคงลืมว่ากูเป็นผู้ชาย ไม่ได้อ่อนแอและดูแลตัวเองได้"

"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ"
ฆีนยังคงตื้ออีกฝ่าย แต่ในจังหวะที่ท็อปอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรต่อก็เงียบกริบเมื่อเห็นพี่กั๊กก็เดินเข้ามา โดยฆีนแค่ปรายตามองแล้วทำสีหน้าเป็นปกติ ก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองเหมือนเช่นเคย


       เวลานี้ ทุกคนพร้อมใจปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน ในระหว่างที่เดินลงมา พี่กั๊กถามไถ่ว่า บ้านท็อปอยู่ไหน จะอาสาไปส่ง แต่พอท็อปบอก พิกัดไปเท่านั้นแหละ ดูเหมือนพี่กั๊กคงจำเส้นทางไปบ้านพี่ฆีนได้จึงโพล่งออกมากึ่งมัดมือชกว่าให้ท็อปกลับบ้านกับพี่ฆีนเลยแล้วกัน


       มันก็ดีอยู่หรอกที่พี่ๆทุกคน ห่วงใยรุ่นน้องคนหนึ่ง แต่ท็อปก็อยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาเป็นผู้ชาย รูปร่างก็ไม่ได้อ้อนแอ้น อรชรเหมือนร่างหญิงสาวที่บอบบางจนเป็นจุดล่อสายตาให้มิจฉาชีพ แต่เพราะไม่อยากต่อความยาว สาวความยืด เขาจึงเงียบและเดินตามพี่ๆทั้งสอง โดยหวังว่าถ้าแยกกับพี่กั๊กได้เมื่อไหร่ เขาจะวิ่งหนีหายไปขึ้นแท็กซี่ให้ได้


        แต่ใครจะคิดล่ะว่าทั้งสองจอดรถใกล้กันจนท็อปหาทางเลี่ยงลำบาก ท็อปร่ำลาพี่กั๊กก่อนจำใจไปขึ้นรถพี่ฆีนอย่างปฏิเสธไม่ได้


       สุดท้าย ท็อปถึงมานั่งจุมปุ๊กอยู่ในรถพี่ฆีนแบบนี้ เมื่อเห็นรถเตรียมเคลื่อนตัวออกเดินทาง ท็อปรีบบอกเส้นทางไปบ้านของตนเองคร่าวๆ ก่อนจะชิงหลับแบบไม่สนใจใยดี...

       ฆีนไม่อยากเซ้าซี้อีกฝ่ายให้รำคาญ ระยะเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันแม้จะยังไร้ความรู้สึกผูกพัน มีแต่ความเกลียดขี้หน้า สำหรับฆีนมองว่าก็ยังดี ดีกว่าที่ไม่มีโอกาสใกล้ชิดอะไรเลย

"เวลาเรานิ่งแบบนี้ก็น่ารักดีนะ" ฆีนตั้งใจพูดขึ้นเผื่อว่าอีกฝ่ายที่แกล้งหลับจะได้ยิน แต่ดูเหมือนทางนั้นคงหลับจริง ถึงไม่มีเสียงดังโวยวายให้น่าหนวกหู


        ภายในรถยนต์มีเสียงเพลงสากลคลอเคล้าเพื่อเพิ่มสุนทรียภาพแก่คนขับรถ และดูท่าจะทำให้ชายหนุ่มใจเย็นผู้นี้มีความสุขได้ดีทีเดียว เขาเคาะนิ้วลงบนพวงมาลัยพลางฮัมเพลงเบาๆอย่างอารมณ์ดี ทั้งๆที่ไม่ใช่ช่วงเวลาน่ารื่นรมย์เท่าไหร่ ยามตีสามกว่าๆ ตอนนี้ เขาควรจะนอบหลับพริ้มอยู่บนเตียงได้แล้ว แต่จากการยกยิ้มไป ฮัมเพลงไป คงเป็นเพราะคนข้างกายที่นอนอยู่ล่ะมั้ง ทำให้ฆีนหายเหนื่อยจากงานเป็นปลิดทิ้ง

      เด็กดื้อ เด็กร้าย เด็กปากดี ที่ไม่รู้ไปแอบเล่นคุณไสยมาหรืออย่างไร แผลงฤทธิ์ขนาดนี้ เขาก็ยังไม่คิดจะหนีไปไหนเลย

      ลึกๆแล้ว คงเป็นเพราะฆีนเห็นความหวังจากเหตุการณ์ครั้งแรกที่เจอกัน มันไม่เคยหายไปจากหัวสมอง ทุกครั้งที่ได้เจอหรือคุยกับท็อป ภาพเหล่านั้นจะผุดซ้อนขึ้นมาให้หวนนึกถึงได้ตลอด

    ใช้เวลาไม่ถึงสามสิบนาที เส้นทางที่ท็อปบอกกับฆีนก็ดูเหมือนจะลางเลือนเริ่มจำไม่ได้ เขาหักเลี้ยวเข้าข้างทางเพื่อตั้งใจจะปลุกคนข้างๆเพื่อสอบถามเส้นทางสักหน่อย

"ท็อป"

"อื้อ"
ท็อปส่งเสียงครางคล้ายหงุดหงิดที่มีคนมากวนใจในช่วงนิทราและเปลี่ยนท่าทางจากตะแคงหน้าไปฝั่งกระจก ก็ตะแคงมาทางฝั่งคนขับแทน


       สงสัยจะเป็นเด็กขี้เซา เรียกแล้วก็ไม่ยอมตื่น ฆีนโน้มตัวหวังจะแกล้งเด็กหนุ่มด้วยการตะโกนใกล้หู แต่ดูเหมือนจะแกล้งหัวใจตัวเองเสียมากกว่า เพราะเพียงเข้าใกล้ท็อปนั้น ฆีนกลับชะงัก

       ไม่รู้ว่าความรู้สึกตัวเองมันอัดอั้นขนาดนั้นเชียวหรือ? ถึงเผลอมือไวไปแตะแก้มของอีกฝ่ายจนสัมผัสได้ถึงความเย็นเฉียบบนผิวหน้า...

       ฆีนนั่งมองหน้าเด็กปากดีนอนหลับตาพริ้มจนอดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาไล้มือพร้อมไล่สายตามองผมสีดำขลับที่ปรกหน้าลงมา คิ้วเข้มที่ไม่หนาจนเกินไปรับกับจมูกโด่งเป็นสันกำลังดี ไหนจะใบหน้าขาวเนียนตัดกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อที่เผยอออกชวนให้มากกว่ามอง เพราะอยากลองลิ้มรสริมฝีปากนั้น


       ยิ่งจ้องมองริมฝีปากนั้น ก็ยิ่งเพิ่มความท้าทายว่าจะทำอย่างไร  ฆีนจะได้เห็นท็อปยิ้มอีกครั้ง


      สิ่งใดที่ได้มายากๆ ล้วนมีคุณค่าเห็นจะจริง...เรื่องแค่นี้เอง ทำไมฆีนจะทำไม่ได้ล่ะ

 
      ขณะที่ปล่อยสมองคิดเรื่องท็อปไปไกล เป็นจังหวะที่ท็อปขยุกขยิกตัว ฆีนรีบชักมือกลับก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าตอนแรก


"ท็อปตื่นก่อน พี่ว่าน่าจะใกล้ถึงบ้านท็อปแล้ว แต่ไม่รู้ต้องเลี้ยวหรือตรงไป”


       ท็อปขยี้ตาตัวเอง ก่อนจะกวาดตามองรอบๆ

"ตรงไป เจอแยกไฟแดงข้างหน้าค่อยเลี้ยวซ้าย...”

"ครับ"
ฆีนตอบรับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


     จะว่าไป ฆีนก็โรคจิตอยู่เหมือนกัน เพราะบางครั้ง เขาอยากสัมผัสตัวท็อปต่อหน้า อยากเห็นอากัปกิริยาว่าจะมีอาการอย่างไร จะต่อว่า ฮึดฮัดใส่ หรือเขินจนหน้าแดงลามไปถึงหูกันแน่?

     คิดเรื่องเหล่านี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้


"เป็นบ้าหรอวะ ยิ้มคนเดียว"

      แม้เสียงที่เอ่ยออกมานั้นไม่ได้น่าชวนพิศมัยสักเท่าไหร่ แต่ทำไมฆีนถึงกับยิ้มกว้างกว่าเดิม


      ฆีนละสายตาจากท้องถนนตรงหน้า หันไปถามคนข้างๆ

"แอบมองพี่หรือ? ถึงรู้ว่ายิ้มคนเดียว"


     ท็อปไม่ตอบ แต่กลับชูนิ้วกลางขึ้นใส่คนตรงหน้า ฟากฆีนส่ายหน้าน้อยๆ กับความร้ายของเด็กนี่ สงสัยต้องหาทางกำหลาบบ้างแล้วล่ะ ขืนเป็นอย่างนี่ ถ้าท็อปไปเจอคนอารมณ์ร้อนรุนแรง คงไม่มีชีวิตรอดให้เขาได้เห็นหน้าอีกแล้วแน่ๆ

      ไม่นานนัก ก็มาถึงหน้าหมู่บ้านของท็อป บริเวณหน้าป้อมยาม โดยเด็กหนุ่มยืนยันว่าจะลงตรงนี้และเดินเข้าไปเอง ฆีนเข้าใจว่าท็อปคงไม่อยากให้รู้จักบ้านจึงไม่อยากเซ้าซี้และปล่อยให้ท็อปลงรถไป

      ขณะที่ฆีนเคลื่อนรถจนพ้นตาไปแล้วนั้น ท็อปยังยืนอยู่กับที่และพูดด้วยน้ำเสียงแสนแผ่วเบาจนแทบจางหาย


"ขอบใจ"

 



……………………

 



      เก้าโมงเช้าที่ท็อปมาถึงเป็นคนแรก แน่นอนล่ะ ว่าเพราะอยู่ในช่วงการทดลองงาน ท็อปก็ต้องทำตัวดีสักหน่อย แม้ในแผนกจะรู้กฎระเบียบกันอยู่ข้อหนึ่งที่ยืดหยุ่นกันได้ว่าหากทำงานเกินเที่ยงคืนเป็นต้นไป วันรุ่งขึ้นสามารถมาทำงานสายได้ไม่เกินเที่ยงวัน แต่ท็อปยังเป็นเด็กใหม่จึงไม่อยากทำตัวแบบนั้น

       เมื่อเห็นว่าไม่มีใครมา ท็อปขอฟุบหลับหน่อยแล้วกัน

       ไม่รู้หรอกว่านานเท่าไหร่ แต่ขณะที่กำลังเคลิ้มหลับอย่างสบายใจก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อรู้สึกถึงความเย็นเฉียบบริเวณท้ายทอย

"อ้ะ!!"
ท็อปผงกหัวขึ้นมาจากโต๊ะทำงาน

"พี่ซื้อกาแฟมาฝาก"
ฆีนยื่นกาแฟให้ท็อป

"กูไม่กิน"


"ไม่ชอบกาแฟ หรือไม่อยากกินเพราะพี่ซื้อ"

"ทั้งสอง"

"ชัดเจนดี แต่อย่าคิดว่าพี่ยอมแพ้ล่ะ"


         ท็อปมองแผ่นหลังร่างสูงเดินกลับไปโต๊ะของตัวเอง เสียดายไหมก็เสียดาย เพราะกาแฟที่ถือมาก็แบรนด์ดังใช่ว่าราคาจะถูกๆ แถมง่วงแบบนี้ กินกาแฟก็น่าจะเป็นตัวช่วยได้ดีเลยล่ะ แต่ท็อปยังไม่ทันอ้าปากว่ากูเอาก็ได้ แก้วกาแฟนั้นก็ตกลงไปในถังขยะใบน้อยของไอ้พี่ฆีนแล้ว


"ใจเด็ดเหมือนกันนี่หว่า" ท็อปพึมพำเบาๆ แต่เขานึกว่าไอ้พี่ฆีนจะเสียความรู้สึก เจ็บปวดรวดร้าวไปแล้ว แต่เปล่าเลย ไอ้พี่ฆีนเดินมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแล้วก้มลงมาจนหน้าห่างกันราวหนึ่งฟุต

"บอกหน่อยสิ ไม่กินกาแฟแล้วกินอะไร”

"ทำไมกูต้องบอก" ท็อปตอบแต่ไม่มองหน้าอีกฝ่าย สายตากลับจ้องมองคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งจะเปิดเข้าโปรแกรมตกแต่งภาพ

"ไม่บอกไม่เป็นไร พี่ชอบเกมทายใจซะด้วยสิ” จบประโยค พี่ฆีนแกล้งเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ท็อปมากกว่าเดิม จนปลายจมูกหัวหน้าเฉียดแก้มท็อปไปนิดเดียว


       เด็กหนุ่มสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่แตะโดนแก้มเมื่อสักครู่รวมถึงความอุ่นของลมหายใจที่เป่ารดไม่ห่าง ยิ่งเพิ่มความโมโหพุ่งพล่าน จนท็อปหันขวับ แต่คงลืมตัวว่าใบหน้าทั้งสองยังชิดใกล้ ทำให้ริมฝีปากทั้งสองแตะกันจนสัมผัสได้อย่างตราตรึง

      แต่ในวินาทีนั้นเอง มีเสียงผลักประตูดังขึ้น ทำให้ฆีนยืดตัวตรงเดินเข้ามาและคิดว่าคงไม่น่ามีใครเห็นเหตุการณ์นั้นทัน ฆีนทำตัวปกติก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเองตามเดิม

       ท็อปหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติและสวัสดีพี่แพร ที่มาถึงออฟฟิศเป็นคนที่สาม


       ขณะที่ท็อปแสร้งตีหน้าเครียดเปิดไฟล์งาน เตรียมลงมือทำนั้น ก็เห็นมือหนาวางกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองที่ถูกพับไว้และเลื่อนมันมาตรงคีย์บอร์ด

      ท็อปไม่ได้เงยหน้ามองคนข้างกาย เพราะหางตาเห็นหลังไวๆว่าเขาคงเดินกลับโต๊ะตัวเองไปแล้ว ท็อปค่อยๆคลี่กระดาษนั้นแล้วอ่าน


'เมื่อกี้มันเป็นอุบัติเหตุ พี่ไม่ได้ตั้งใจ แต่จะว่าไป ปากท็อปนุ่มดีนะ'

        ท็อปไม่รู้หรอกว่าที่ตัวเองออกอาการหน้าร้อนและใจเต้นแรงมันเพราะความโกรธหรือความเขิน แต่สิ่งที่ท็อปรู้อยู่อย่างเดียว ไอ้พี่ฆีน แม่งไม่ใช่คนนิ่งๆเงียบๆอย่างที่เห็นแน่ๆ...



****************************

เขาจะรักกันได้ไหม ก็ต้องคอยเอาใจช่วยกันล่ะนะ..

ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่าน และทุกคอมเมนท์นะคะ จะบอกไว้แค่ว่า

....ทุกการกระทำมันมีที่มาค่ะ....
^_________^
[/color]





 
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.2} UPDATE [16-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 16-01-2017 20:58:45
ติดตามต่อไปว่าจะรักกันเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่2.2} UPDATE [16-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-01-2017 19:44:18
ลุ้นต่อน่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 3.1} UPDATE [26-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 26-01-2017 23:41:46
ตอนที่ 3 ตื้อ (1)




          อีกสัปดาห์เดียวก็จะผ่านพ้นการทำงานอันหนักหน่วงไปได้  เพราะหลายวันมานี้ ท็อปกลับบ้านดึกจนเกือบสว่าง บางวัน เป็นจังหวะที่พระเดินออกมาบิณฑบาตเลยด้วยซ้ำ

         ท็อปเพิ่งรู้ซึ้งแล้วว่าการทำงานอย่างเต็มรูปแบบนั้น มันหนักจริงๆ...


          วันนี้ มีพี่คนอื่นๆที่สะสางงานเสร็จได้กลับบ้านตามเวลาปกติ แต่ท็อปทำในส่วนของงานออกแบบซึ่งยังคงค้างอีกพอสมควรจึงกลับดึกเช่นเคย


         เมื่อใช้สมองเยอะ เครียดจัด อยู่ดีๆความอยากอาหารของท็อปก็มีเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งๆที่เพิ่งลงไปกินข้าวเมื่อตอนหกโมงเย็น ตอนนี้ เวลาสองทุ่มครึ่ง ท็อปก็หิวอีกครั้ง

        ท็อปยกมือบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองพี่กั๊ก พี่ดล และพี่ฆีน ที่ยังนั่งทำงานอยู่เช่นเดียวกัน 

       เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท ท็อปจึงเดินไปถามพี่กั๊กและพี่ดลว่าต้องการฝากซื้ออะไรหรือเปล่า?  ซึ่งทั้งสองคนนั้นตอบ ปฏิเสธ ส่วนพี่ฆีน ท็อปเลือกถามเป็นคนสุดท้าย แม้ลึกๆแล้วไม่ค่อยอยากถามสักเท่าไหร่ แต่เพราะมีคนอื่นอยู่ในห้องด้วย เขาจึงจำใจถามอย่างเลี่ยงไม่ได้

        ท็อปไม่คิดหรอกว่าอีกฝ่ายดันให้คำตอบมาว่าจะลงไปด้วย ทำให้ท็อปกลืนไม่เข้า คายไม่ออก ท็อปไม่อยากทำตัวมีพิรุธจึงพยักหน้าและก้าวเดินออกจากห้องนำไปก่อน


        เมื่อทั้งสองเข้าลิฟต์ได้แล้วนั้น

"เมื่อวานกลับบ้านดึกไหม?"

 

        ฆีนถามเพราะเมื่อวาน เขาไม่ได้เข้าบริษัทเลย เนื่องจากมีงานสัมมนาข้างนอก

“ตีสาม”

 
"วันนี้พี่รอ เดี๋ยวไปส่งที่บ้าน"

 
"ไม่ต้อง"

 
"พี่ก็เคยไปส่งเราแล้ว หรือท็อปกลัวพี่จะทำอะไรรึไง?"

 
"กลัวทำไม กูมีมือ มีตีน สู้มึงได้แล้วกัน"

 
"หึๆ พี่รู้ว่าเรามี แต่ทำไมคราวนั้น มือท็อปที่ว่ามันไม่ยักกะต่อสู้หรือทำร้ายพี่น่ะสิ แต่มันทำรักจนพี่เคลิ้มเลย"


       สำหรับฆีนแล้ว โรคนี้คงแก้ไม่หายแน่นอน โรคยั่วโมโหโดยเฉพาะคนที่ฆีนแอบชอบอยู่ตอนนี้  ถ้ายั่วให้อีกฝ่ายโกรธจนควันออกหูได้เมื่อไหร่ ฆีนมักสนุกและอารมณ์ดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    ฟากท็อปหน้าดำ หน้าแดงด้วยความโกรธ เขากำลังง้างหมัดจะต่อย
 
"ไอ้...."


“ชู่ววววว์ ระวังเจอคุณไอริณอีกหรอก” ฆีนร้องห้ามก่อนจะใช้นิ้วชี้ไปแตะริมฝีปากอีกฝ่ายที่กำลังจะอ้าปากด่า ท็อปหุบปากฉับ เพราะกลับรู้สึกร้อนหน้าเมื่อสัมผัสได้ถึงปลายนิ้วอุ่นนั้น


         ท็อปจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด งุ่นง่านที่พออยู่ในบริษัทก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ เลยรีบเดินดุ่มๆไปร้านอาหารที่อยากกิน โดยไม่ถามคนอายุมากกว่าเลยว่าอยากนั่งร้านไหน

         ท็อปทิ้งตัวลงนั่งร้านอาหารตามสั่ง ก้มหน้าดูเมนูอยู่สักพักก็ได้อาหารจานโปรด จึงเดินไปสั่งแล้วกลับมานั่งตรงที่เดิม ส่วนฆีนก็เดินไปสั่งของตนเองบ้างเช่นกัน

         ในระหว่างที่รออาหารมา ท็อปไม่พูดอะไร เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ ฆีนจึงใช้โอกาสนี้ แอบมองหน้าอีกฝ่าย

         แค่ได้มอง ได้อยู่ใกล้ชิดกันในช่วงเวลาสั้นๆ ก็สุขใจ…

 

         ไม่นานอาหารก็มา ทั้งสองก็เริ่มจัดการอาหารตรงหน้าอย่างไม่รีรอ

"แล้วเป็นอย่างไรบ้าง ปรับตัวกับการทำงานได้หรือยัง?
" ฆีนถาม

“ก็ปรับตัวได้”


"ดีแล้ว ท็อปเรียนรู้ให้เยอะแล้วกัน เผื่อถ้าวันหนึ่งต้องลาออกจากที่นี่ไปจริงๆ จะได้ไม่ลำบาก" ฆีนพูดจบ ท็อปเงยหน้ามองอีกฝ่าย ก็เห็นวูบหนึ่งที่สายตาคนตรงข้ามฉายแววหม่นๆ


          ท็อปเคี้ยวข้าวเสร็จก็นิ่งไปนิด ก่อนถามพี่ฆีนอีกครั้งเพื่อความชัดเจน

“นึกไง มาชอบกู”



         ฆีนชะงัก เพราะคงคิดไม่คิดว่าท็อปจะถามถึงเรื่องนี้ ฆีนยกยิ้มก่อนเอ่ย

"เอาจริงๆนะพี่ก็ไม่รู้จะบอกอย่างไรเหมือนกัน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายยาก พี่รู้แค่ว่าตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกัน..และตอนที่เรา...เอ่อ...ช่างมันเถอะ...นั่นแหละ มันทำให้พี่รู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดอยากเข้าหาท็อป สนใจจนนึกถึงท็อปตลอดเวลา พี่ว่า....เอ่อ...เล่าแค่นี้ดีกว่า”


       ท็อปไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหม? ที่เห็นว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังเขิน? แล้วไม่ใช่ผู้ชายร่างเล็ก บอบบาง เหมือนผู้หญิงด้วยนะ แต่เป็นผู้ชายบุคลิกร่างสูงใหญ่ ที่หล่อเข้มมากกว่าจะดูว่าน่ารัก ทำให้ท็อปยิ่งดูแล้วขัดหู ขัดตาอย่างบอกไม่ถูก

      แต่ในความอคตินั้น ลึกๆแล้ว ท็อปเผลอคิดไปว่าอิจฉาความหล่อของพี่ฆีนเหมือนกัน จนถึงกับก้มมองดูสารรูปตัวเองที่หุ่นผอมกว่าอีกฝ่าย ส่วนหน้าตาก็ไม่ได้คมเข้มเหมือนพี่ฆีน ตรงกันข้าม ท็อปมีผิวขาวยิ่งทำให้ภาพรวมของเขาดูจืดชืดเกินไป ซึ่งเขาไม่ชอบตัวเองเท่าไหร่  แต่ส่วนใหญ่ เพื่อนผู้หญิง บอกเขานี่แหละ สเป็กผู้หญิงหลายคนเลย...

       เขาสลัดความคิดเหล่านั้นทิ้งไปก่อน และกลับมานั่งมองคนหน้าแดงที่ลามไปถึงหูแถมมือไม้ดูกลายเป็นส่วนเกิน พี่ฆีนเหมือนทำอะไรไม่ถูกเอาแต่เขี่ยข้าวและอมยิ้ม


     เด็กปากดี ได้แต่กระพริบตาปริบๆ ก่อนตอบ     

“จนถึงตอนนี้ กูก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร มึงควรหยุดก่อนจะเสียใจไปมากกว่านี้”


        ฆีนก็ยอมรับแหละว่าการกระทำของท็อปที่เห็นทุกอย่างในวันนี้มันชัดเจนทีเดียวว่าไม่สนใจกัน แต่ฆีนยังลังเลสงสัยจึงอยากขอเวลาเจาะลึกลงไปในใจของท็อปอีกสักหน่อย เผื่อมีเสี้ยวหนึ่งที่ท็อปอาจสนใจ แต่กำลังกดความรู้สึกตัวเองข้างในเอาไว้ก็เป็นได้  เพราะวันแรกที่เจอกัน ฆีนจำได้แม่นยำว่าครั้งนั้น ท็อปทำทุกอย่างให้เขาดีเสียจนแปลกใจว่าทำไมปัจจุบันท็อปเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

         ฆีนคิดว่าไม่เป็นไร...เพราะเขาถือคติ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน เรื่องแค่นี้ ฆีนไม่ท้อง่ายๆหรอก

 
“ถ้าอย่างนั้นพี่ขอโอกาสอีกสักเดือน ถ้าพี่เห็นว่าไม่มีวี่แวว พี่จะถอยเอง”



“ตื้อดีเนอะ"


“เคยได้ยินไหม? ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก”
ฆีนพูดอย่างยิ้มๆ ฟากท็อปมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะหลุบสายตาลงต่ำแล้วจัดการอาหารตรงหน้าจนไม่เหลือ


    ไม่นานทั้งสองก็เดินขึ้นห้องไปทำงาน และสุดท้าย ตอนกลับก็เป็นฆีนที่เป็นสารถีไปส่งท็อปที่บ้านอีกจนได้




.....................

 

     วันถัดมา...
 
     ท็อปยังคงทำงานหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น ซึ่งวันนี้พี่ฆีนไปงานแถลงข่าวเปิดโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์แห่งใหม่ตั้งแต่เช้า เขาจึงไม่ได้เข้าบริษัท

 
      ท็อปไม่ได้สนใจอะไรว่าพี่ฆีนจะมาหรือไม่มา เขาขอแค่เร่งทำงานให้ได้มากที่สุด เผื่อว่าวันนี้ จะได้กลับบ้านเร็วๆอย่างคนอื่นเขาบ้าง

 
      ราวๆสองทุ่มครึ่ง ท็อปลงมากินข้าวคนเดียว เพราะพี่ๆคนอื่นกินกันไปตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว


      ชายหนุ่มสั่งอาหารเสร็จสรรพ จนกระทั่งอาหารมา ขณะที่กำลังตักคำแรกเข้าปาก ก็มีเสียงโทรศัพท์แทรกขึ้น
 

"อยู่ไหนครับ"
 
“ใคร?”
ท็อปถามเพราะเห็นว่าเบอร์ที่ปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ มันไม่คุ้นเคย
 
“พี่ฆีนเอง”

 
        ท็อปไม่ถามต่อหรอกว่ารู้เบอร์โทรศัพท์ได้อย่างไร การทำงานที่เดียวกันจะมีเบอร์ไว้ติดต่อหากันก็คงไม่แปลก

"ร้านข้าวข้างบริษัท"
 
"งั้นหรือ? พี่กำลังจอดรถน่ะ เดี๋ยวพี่ไปหานะ กินข้าวอยู่คนเดียวรึเปล่า?"


         การกินข้าวด้วยกัน เป็นโอกาสเดียวที่ฆีนจะได้ใช้เวลาอย่กับท็อปสองต่อสอง มีหรือ? ที่ฆีนจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปง่ายๆ
 
"มึงยังเข้าบริษัทอีกหรอ?"

 
"ครับ แวะเอาของมาทิ้งไว้สักหน่อยน่ะ"


         มันก็เป็นข้ออ้างของคนแก่ที่อยากเจอเด็กปากดีก็เท่านั้นเอง...


         ฟากท็อปตอบเออออกลับไป ฆีนวางสายและรีบเร่งฝีเท้าให้ไวเพื่ออยากเจอหน้าคนที่เขาไม่ได้เจอมาทั้งวัน

 
        ไม่นานเท่าไหร่นัก พี่ฆีนเดินมาหาพร้อมหิ้วถุงมากมาย
 
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะวะ"  ท็อปถามจังหวะที่พี่ฆีนทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม
 
"ซื้อมาฝากพวกน้องๆน่ะ"

 
        มีน้ำใจเหมือนกันนี่หว่า... ท็อปคิดในใจ
 

"แต่พี่มีของฝากเราเป็นพิเศษด้วยนะ"


        ท็อปเลิกคิ้วขึ้นสูง ของพิเศษอย่างนั้นหรือ? พูดจบ พี่ฆีนยื่นถุงมาวางบนโต๊ะ ท็อปมองโลโก้ที่ประดับอยู่หน้าถุงเป็นแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังเสียด้วย
 
"พี่เห็นว่าเราเป็นคนชอบแต่งตัวน่าจะชอบ"
 
       ท็อปมองหน้าพี่ฆีนนิ่ง จนอีกฝ่ายต้องรีบโบกมือส่ายไปมาแล้วยิ้ม
 
"ไม่ต้องกลัว พี่ซื้อเสื้อยืดลวดลายก็ปกติทั่วไปนั่นแหละ แต่พี่คิดว่าท็อปน่าจะชอบนะ"


"แล้วมึงรู้ไซส์กูหรอ? กูชอบใส่เสื้อพอดีตัว ไซส์ใหญ่เกินไป กูไม่ใส่หรอกนะ"


"เอ่อะ ...เท่าที่เคยสัมผัสมา พี่น่าจะเดาถูก"


        ฆีนยกมือลูบต้นคอเหมือนเขินๆ ส่วนท็อปหน้าร้อนฉ่า คิดว่าจากนี้คงกินไม่ลงแล้วแน่ๆ เขาลุกขึ้นไปจ่ายเงินทันที
 
"ท็อป ไม่รอพี่หน่อยหรือ?"


"กูกินคนเดียวได้ มึงก็กินคนเดียวได้มั้ง"


        ในระหว่างที่ทั้งสองจ้องตากัน เหมือนจะพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงหญิงสาวดังแทรกขึ้นมา

"คุณฆีนคะ"
 
         ฆีนละสายตาจากท็อปหันไปมองหน้าคนที่เพิ่งเดินมาใหม่

"สวัสดีครับคุณไอริณ"

 
"คุณฆีนกินข้าวอยู่หรอคะ ไอริณขอนั่งรอน้องตรงนี้ด้วยคนได้ไหมคะ พอดีน้องแวะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ ไอริณขี้เกียจเดินไปด้วยน่ะค่ะ"

 
"ได้สิครับ"  ฆีนยิ้มละมุนใส่อีกฝ่าย จนท็อปเผลอเบ้ปาก

         
         ท็อปเห็นคุณไอริณมองมาจึงยกมือไหว้ แต่หล่อนพยักหน้าตอบรับแบบขอไปที…ทำให้ท็อปรู้สึกหมั่นไส้อย่างบอกไม่ถูก ในเมื่อจะประกาศความเป็นศัตรูอย่างนี้ ท็อปก็เลยไม่ลุกไปไหนแล้ว เขาทิ้งตัวลงนั่งต่อซะเลย อยู่ให้อีกฝ่ายชิงชังเล่นดีกว่า...
 

"น้องคนนี้ ดูสนิทกับฆีนจังนะคะ เห็นมาด้วยกันบ่อยละ" ไอริณพูดพลางปรายตามองท็อปอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้ฆีน
 
"พอดีน้องเขามาใหม่ครับ อาจไม่ค่อยรู้อะไรมาก ก็เลยต้องคุมเป็นพิเศษน่ะครับ"

"อ่อค่ะ เป็นหัวหน้าที่รักลูกน้องดีจังเลยค่ะ ไอริณอิจฉาเลย"
ไอริณพูดยิ้มๆ

         ท็อปชะงักจากการดูดน้ำ เมื่อเหลือบเห็นสายตาที่พี่ฆีนมองมาช่างพราวระยับ วาววับเหลือเกิน ใบหน้าหล่อยังคงจ้องมองท็อป แล้วตอบไป
 
“ใช่ครับ ผมรักเขา...” ฆีนเห็นท็อปทำหน้าเหวอ อ้าปากค้าง จนฆีนตั้งสติได้ว่า เขาตอบอะไรออกไป
 
“เอ่อะ...ผมหมายถึงว่า...ถ้าเรารู้จักมอบความจริงใจและความรักให้ลูกน้องก่อน ลูกน้องก็จะตอบแทนด้วยการจงรักภักดีและรักเรากลับเช่นกันนะครับ...แผนกนี้ เราอยู่กันแบบพี่ น้อง ที่มีอะไรก็ปรึกษากันได้ คุยเล่นได้ทุกเรื่อง เวลาทำงานจะได้ไม่อึดอัดน่ะครับ"


"เป็นความคิดที่ดีค่ะ ไม่น่าล่ะ เพราะคุณฆีนเป็นคนอย่างนี้ ถึงมีแต่คนหลงรัก"

 
"ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ คุณไอริณไม่ต้องอวยผมมากก็ได้"

"ไอริณพูดจริงๆไม่ได้อวยนะคะ ก็ไอริณนี่แหละ ยังช...อ..."


         ไอริณยังพูดไม่จบประโยครุ่นน้องของเธอก็เดินมาเรียก ทำให้ไอริณเงียบเสียงไปครู่ ก่อนจะขอตัวไปทำงานต่อ

         พอผู้หญิงคนนั้นเดินลับตาไปท็อปได้แต่หัวเราะหึในลำคอ
 
"เราไม่ไปแล้วหรือ?" พี่ฆีนถามขณะที่เห็นว่าท็อปยังนั่งอยู่
 
"ก็มึงบอกให้รอ"
 

          เด็กปากดีว่าจบ ฆีนอมยิ้ม และชวนคุยเรื่องอื่นแทน

"แล้วไม่แกะดูของที่พี่ซื้อให้หน่อยหรือ?"
 
"กูกลับไปแกะที่บ้าน เออ... ลืมขอบใจ..."

 
"ไม่เป็นไรครับ ใส่มาให้พี่ดูด้วยนะ แต่ถ้าไม่อยากให้ใครเห็น จะใส่ให้เห็นกันสองคนพี่ก็ไม่ว่านะครับ"
 
"พูดมากว่ะ รีบๆกินซะ กูจะขึ้นไปทำงานต่อ"

       แม้คำพูดนั้น ดูเหมือนปัดรำคาญ แต่ฆีนไม่อยากเข้าข้างตัวเองเลยว่าท็อปเขินคำที่เขาพูด ก็ดูสิ หูแดง หน้าแดงลามไปทั่วเลย
 
       น่ารักดีแฮะ...
 
        ว่าจบ ฆีนรีบกิน รีบไป เพราะไม่อยากให้ท็อปรอนาน...

        แต่ในขณะที่ตักข้าวเข้าปาก ทุกคำนั้นเจือไปด้วยรอยยิ้ม เพราะฆีนกำลังนั่งคิดถึงเรื่องท็อป...


         แม้ความเกลียดชังของท็อปยังดูเสมอต้น เสมอปลาย แต่ฆีนเชื่อว่าอย่างน้อยที่เห็นได้ชัด คือ ความห่างเหินระหว่างทั้งคู่ที่เคยมีมันถูกย่นระยะจนเข้ามาใกล้กันเรื่อยๆ
 
        ฆีนรู้สึกเช่นนั้น....
 


****1.1****
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่3.1} UPDATE [26-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 30-01-2017 11:02:26
อีกไม่นานหรอก,,,

จีบติดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่3.2} UPDATE [30-1-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 30-01-2017 22:40:08
ตอนที่ 3 ตื้อ (2)



       เมื่องานในส่วนของท็อปเสร็จสิ้น ชายหนุ่มก็ดูจะโล่งไปอีกเปราะ เพราะหลายวันที่ผ่านมา ท็อปทำงานหนักและหักโหมจนลืมดูแลตัวเอง รู้ตัวอีกทีก็มาถึงบริษัทโดยที่ร่างกายจวนจะยืนไม่ไหว

 
       ในขณะเดียวกัน ด้านนอกของห้องทำงานมีร่างสูงใหญ่ก้าวเท้าไวๆเพื่อนำโกโก้เย็นมาฝากเด็กปากดีเช่นทุกครั้ง


        ฆีนก็แค่อยากรู้ว่า ท็อปจะใจแข็งไปอีกนานแค่ไหนกันเชียว...

 
        ฆีนใช้ไหล่ดันประตูเข้ามา ซึ่งภายในห้องที่ฆีนกวาดสายตามองมีเพียงท็อปที่นอนฟุบลงกับโต๊ะ…

 
       ร่างสูงใหญ่เร่งฝีเท้าเข้าไปหาด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ และเอื้อมมือไปแตะแขนท็อปเพื่อปลุก แต่ทันใดนั้น ฆีนหุบยิ้มเมื่อรู้สึกถึงความร้อนผ่าวแผ่ซ่านมาจากร่างกายคนตรงหน้า


“ท็อปๆ”



       ฆีนไล่แตะตามลำคอและพวงแก้ม ท็อปตัวร้อนเหมือนมีไข้

 
       ฆีนดึงไหล่สองข้างอีกฝ่ายให้พิงพนัก เพื่อจะได้เห็นหน้าท็อปด้วย ในจังหวะนั้น ท็อปปรือตาขึ้นมามองก็ทำท่าจะปัดมือออก


“ท็อปไม่สบายหรือเปล่า? ไหวไหม?”


“วันนี้กูขอลาได้ไหม?  ปวดหัว ถ้าได้นอนคงดีขึ้น”
เสียงแหบแห้งพูดออกมาช้าๆ  ทางฝั่งฆีนพยักหน้า
 

“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง”


“ไม่ต้อง”
ท็อปยังจะตะเบงเสียงและดันตัวลุกขึ้นมาแต่ก็เกือบล้มเพราะรู้สึกมึนหัวและวูบๆ

 
      อาการตอนนี้ มันปวดหัวรุนแรงเหมือนคนนำคีมเหล็กขนาดยักษ์มาบีบขมับจนลามมายังมายังรอบกระบอกตา แถมท็อปรู้สึกอยากจะอาเจียนร่วมด้วย


“ท็อปนั่งก่อนนะ”

 
       ฆีนกดไหล่ให้อีกฝ่ายนั่ง ก่อนจะจัดการปิดคอมพิวเตอร์แล้วคว้ากระเป๋าสะพายของท็อป พร้อมพยุงร่างบางให้ลุกขึ้น

        แม้ท็อปอยากจะขัดขืนแต่ยอมรับว่าเขาสู้ไม่ไหวในสภาพอ่อนแอแบบนี้ ท็อปจึงจำใจทำตามที่พี่ฆีนสั่งอย่างว่าง่าย


        และแล้ว ฆีนก็ลากท็อปมาถึงรถจนได้ และโทรบอกพี่ดลเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้ ทั้งฆีนและท็อปลาหยุด ซึ่งพี่ดลไม่ได้ว่าอะไร


       กว่าจะถึงห้องของฆีนได้ เล่นใช้เวลาพอสมควร เพราะเรื่องของเรื่อง ฆีนพาท็อปไปถึงโรงพยาบาล แต่ท็อปดึงดันไม่ยอมลง เพราะบอกไม่ชอบกลิ่นที่โรงพยาบาลจนฆีนยกมือกุมขมับ ฆีนใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน กว่าท็อปจะยอมไปพบคุณหมอได้ 


      ในตอนแรกที่ฆีนขับรถมุ่งตรงมายังห้องของเขานั้น ท็อปบ่นนิดหน่อย แต่เพราะฆีนบอกท็อปว่าไม่สบายเพราะเกิดจากการทำงาน เขาเป็นหัวหน้า ดังนั้น เขาต้องมีส่วนดูแลและรับผิดชอบ


        เวลานี้ ฆีนจัดแจงให้ท็อปนอนบนเตียงดีๆ พร้อมนำผ้าที่ชุบน้ำจนเปียกมาเช็ดตัวให้

 
        ตลอดเวลาที่ฆีนเช็ดตัวให้นั้น ท็อปเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่กล้าสบตา


        ฆีนอมยิ้มที่ไม่รู้ว่าผิวที่ขึ้นสีระเรื่อนั้น มาจากการป่วยไข้หรือขัดเขิน  ฟากท็อปยังคงนิ่งเงียบไม่พูดอะไร บางทีการป่วยก็ทำให้เด็กหนุ่มดูสงบปาก สงบคำมากขึ้น

 
       ไม่นานมากนัก ฆีนเช็ดตัว ป้อนข้าว ป้อนยาให้ท็อปเสร็จสรรพ

"พี่จะรอให้เราหลับก่อน แล้วค่อยออกไปข้างนอก"


       ท็อปพยักหน้าช้าๆเป็นคำตอบ
 

       ตอนนี้ ฆีนแค่นั่งมองท็อปโดยไม่ได้สัมผัสร่างกายอีกฝ่าย เพราะกลัวท็อปคิดว่าเขาจะใช้โอกาสนี้ลวนลามอีก

        จากที่กึ่งนั่งกึ่งนอน ท็อปก็ไถลตัวลงนอน แม้เปลือกตาจะปิดลง แต่สมองดันครุ่นคิดไปถึงการกระทำที่พี่ฆีนทำให้ในวันนี้ เขาไม่รู้ว่าใช้เวลาคิดไปเนิ่นนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ภาพตัดเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งนิทราไปแล้ว

 
         กว่าห้าชั่วโมงที่เด็กหนุ่มหลับใหล จนบัดนี้เวลาปาไปทุ่มเศษ


        ท็อปที่พอพักผ่อนเต็มที่ อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ ไข้ลดลงแถมอาการปวดหัวก็มลายหายไป


         เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องนอนเห็นพี่ฆีนนอนตะแคงอยู่บนโซฟา เขารีบสาวเท้ายาวๆไปหาพลางทิ้งตัวลงนั่งยองๆจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ ดูท่าแล้วพี่ฆีนก็คงจะเพลียอยู่เหมือนกันถึงหลับสนิทขนาดนี้ เด็กหนุ่มนั่งอย่างนั้นอยู่นาน ก่อนจะลุกขึ้นไปหาน้ำในตู้เย็นมาดื่ม

 
       แหละอะไรไม่รู้ดลใจให้ท็อปอยากก่อกวนคนหลับ เขาทิ้งตัวลงนั่งทับบนเท้าพี่ฆีนที่นอนเหยียดอยู่บนโซฟา

 
        ฆีนรู้สึกตัวทันทีจึงปรือตาขึ้นมามอง กระพริบตาปริบๆอยู่สองสามที ก่อนจะเห็นเด็กหนุ่มมานั่งบนโซฟาด้วยกัน เขารีบยันกายขึ้นนั่ง

 

“ท็อปดีขึ้นแล้วหรือ?”



“อืม”

 
       ท็อปตอบและดื่มน้ำไปอีกหลายอึก วินาทีนั้น เจ้าท้องดันทรยศเกิดส่งเสียงร้องดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบเมื่อสักครู่


        ฆีนหลุดหัวเราะ ก่อนจะเอ่ยออกมา


“หิวหรือ? เดี๋ยวพี่ทำอะไรให้กินนะ เอาอะไรดี”


"มึงทำมาเถอะ แต่กูกินเสร็จกูกลับบ้านนะ”
ท็อปตอบแต่หันหน้าหนีไปทางอื่น เพราะรู้สึกขัดเขินที่ตัวเองเสียฟอร์ม

 
       ฆีนพยักหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะลุกไปทำอาหารให้เด็กปากดีได้กินสักหน่อย

 
       ใช้เวลาไม่นาน อาหารที่ฆีนทำก็เสร็จเรียบร้อย เขาถือมาสองจานทั้งของตัวเองและของเด็กหนุ่มวางบนโต๊ะอาหารและเดินไปเรียกท็อปที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่โซฟา


       เมื่อท็อปทิ้งตัวลงนั่งมองอาหารตรงหน้า ใช้เวลาไม่นานเลย ท็อปรีบตักกินด้วยความหิว ไม่กี่คำที่ได้กินไปเขาสัมผัสได้ถึงความอร่อย แม้จะเป็นเมนูง่ายๆอย่างข้าวผัดกระเพราไก่กับเมนูไข่น้ำ แต่ท็อปไม่อยากบอกเลยว่าติดใจ


"อร่อยไหม?"

"ก็แดกได้"



       แม้ฆีนจะเห็นความเก๊กขรึมเต็มใบหน้าน่ามอง แต่เขาก็ยังรู้สึกดีได้ เพราะแววตาครู่หนึ่งมันเบิกตาโตเหมือนรู้สึกดีกับรสอาหารอันโอชะ


       ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังจัดการอาหารตรงหน้า ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้น ฆีนชะงักและเดินออกไปดูที่หน้าประตูด้วยความสงสัยว่าใครกันมาเวลานี้

 
"ไฮ พี่ฆีน"



"ฆิต มาได้ไง"
ฆีนมองหน้าน้องชายด้วยความสงสัย เพราะปกติ ฆิตจะไม่ค่อยมาหาเขาสักเท่าไหร่หรือถ้ามาจริงๆ ฆิตจะโทรมาบอกก่อน


"ให้เพื่อนมาส่งน่ะ รู้สึกเบื่อๆเซ็งๆเลยขี้เกียจกลับห้อง ขอมานั่งเล่นสักหน่อย โห...ทำอะไรกินหอมว่ะพี่"

 

      ฆีนยังไม่ทันเอ่ยปากบอกว่ามีแขกคนสำคัญ ฆิตก็เดินนำหน้าไปยังโต้ะอาหารแล้ว

 
"อ้าว พี่มีแขกหรอกเหรอ?"

 
"อืม"


       ฆีนตอบและเดินไปตักข้าวให้น้องชายบ้างที่บ่นว่าหิว โชคดีที่ฆีนทำไว้เป็นจำนวนมาก เพราะตั้งใจอยากให้ท็อปได้กินอิ่มๆ


"สวัสดีครับ ชื่ออะไร"
ฆิตนั่งลงตรงหัวโต๊ะ ยกยิ้มมองผู้ชายหน้าหยิ่งๆ ฆิตฉลาดพอที่รู้ว่าคนที่จะมาห้องพี่ฆีนได้ก็ต้องคนสำคัญเท่านั้น

 
"ท็อปครับ" ท็อปตอบน้ำเสียงราบเรียบ นั่งมองคนมาใหม่ที่ดูนิสัยน่าจะเป็นมิตรและเข้ากับคนง่าย ที่สำคัญ ดูน่าจะเป็นคนกวนประสาทใช้ได้เลย

 
"ชื่อฆิต นายอายุเท่าไหร่น่ะ"

 
"ยี่สิบสาม"



      จังหวะนั้น ฆีนยกจานข้าวมาวางให้น้องชายพอดี

"อ้าว...อ่อนกว่าสามปีนี่หว่า พี่อายุยี่สิบหก เป็นน้องชายพี่ฆีนที่อายุสามสิบสาม"

 

"นายไม่ต้องบอกอายุฉันก็ได้นะ" ฆีนเผลอถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่ง

       ท็อปหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง อันที่จริงเขาไม่เคยถามอายุพี่ฆีนเลย รู้แค่ว่าแก่กว่าแต่ไม่นึกว่าพี่ฆีนจะห่างกว่ากันถึงสิบปี เขาดูจากใบหน้า นึกคร่าวๆว่าพี่ฆีนจะอายุยี่สิปแปดย่างยี่สิบเก้าเสียอีก

 
       ท็อปเริ่มรู้สึกผิดในใจที่อีกฝ่ายแก่กว่าเขามากโขแต่ไม่เคยเรียกพี่ ก็ทำอย่างไรได้ ทั้งสองเริ่มความสัมพันธ์แบบไม่ดีมาก่อน เขาเลยไม่ชอบใจที่ต้องเรียกคู่กรณีว่าพี่


        เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรพี่ฆิตอีก ได้แต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวของตัวเอง

 
        ฆิตจ้องหน้าท็อปอยู่นานแล้ว อมยิ้มคนเดียว จนท็อปเงยหน้ามามองและปะทะเข้ากับสายตาพี่ฆิตพอดี

 
"พี่มีอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?" ท็อปถาม


        ฆิตยิ้มและรีบยกสองมือส่ายไปมา
 

"เฮ้ย! อย่าหาเรื่องกันสิ พี่แค่มองว่า..."
ฆิตยิ้มมุมปากแล้วเหลือบมองพี่ชายตัวเอง

 
"นายน่าจะโคตรดื้อเลยรึเปล่าวะ?"


        ท็อปชะงัก


"เอาน่า พี่เป็นคนปากหมาเสมอต้น เสมอปลาย อย่าถือสาพี่แล้วกัน"

"กินได้แล้วฆิต พูดมาก"
เป็นฆีนที่ตัดบทเสียก่อน


"โธ่ พี่ฆีน ผมรู้..."

"ถ้านายคิดอะไรอยู่ล่ะก็เงียบไปซะ"
ฆีนรีบพูดแทรกอย่างกลัวว่าฆิตจะพูดอะไรที่เข้าตัวเขาอีก

"อะไรวะ" ฆิตเกาหัวแกร็กๆ


       จากนั้น ฆิตชวนท็อปคุยอีกรอบ

"ท็อป ปกติชอบถ่ายรูปรึเปล่า?"


"ก็ชอบนะครับพี่ แต่ผมไม่เก่งหรอก"

 

"นี่...พี่เปิดสตูดิโอหุ้นกับเพื่อนๆ ว่างๆไปดูพวกพี่ถ่ายงานหรือไปนั่งเล่นได้นะ"

 
"จริงหรือครับพี่?"

 
"จริงสิ...และเวลาพวกพี่ถ่ายงานเสร็จ ได้จบที่วงเหล้าทุกที ถ้ามีเพื่อนใหม่ๆก็คงน่าสนุกดี เอาเพื่อนนายไปด้วยก็ได้"

 
"น่าสนใจดีนะพี่"


"ถ้าอย่างนั้น เราแลกเบอร์กัน"



"อะแฮ่ม!" ฆีนกระแอมไอ จนทั้งสองหันมามองพร้อมกัน


"อะไรติดคอหรือครับพี่ฆีน" ฆิตถามพี่ชายอย่างยียวน

"ก้างขวางคอน่ะ" ฆีนตอบเสียงแข็งแถมถลึงตาใส่ จนน้องชายเข้าใจได้ดี


"ฮ่าๆ ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง โอเคท็อปไว้เดี๋ยวพี่ขอเบอร์นายจากพี่ฆีนทีหลังก็ได้"


"ครับ"

 

      ภาพที่ปรากฎขึ้นตรงหน้า ทั้งน้องชายและท็อปที่คุยกันถูกคอ ยิ่งอยากให้ท็อปชอบเขาและตกลงคบกัน มันคงดีมีความสุขไม่น้อย ที่คนรักได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

      พอพูดถึงครอบครัว ก็ทำให้ฆีนนึกถึงความโชคดีของตัวเองที่พ่อและแม่ไม่ปิดกั้นความคิดและใช้ชีวิตได้อย่างอิสระเสรี   


       ฆีนรู้ตัวตั้งแต่มัธยมต้นแล้วว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้หญิง  ฆีนไม่โทษฟ้าหรือโชคชะตาหรอก ที่ทำให้เขาเป็นเพศทางเลือก เขากลับมีความสุขมากๆเลยด้วย


        ในเวลาต่อมา ฆีนรวบรวมความกล้าบอกแม่ ก่อนบอกพ่อ เพราะคิดว่าผู้หญิงน่าจะเข้าใจความรู้สึกและใจอ่อนกว่า น่าแปลกที่ท่านทั้งสองกลับไม่ว่าอะไรเลย ปล่อยให้ฆีนกลัวหัวหดอยู่ได้ตั้งนาน แถมแม่ยังบอกว่า ฆิตชิงตัดหน้ามาบอกฆีนก่อนแล้วด้วยว่าตัวเองเป็นอะไร ทำให้ฆีนหลุดหัวเราะออกมา


       ฆีนไม่คิดว่าเรื่องนี้ เป็นปมด้อย เพราะที่ผ่านมาครอบครัวเขายังรักกันดี และรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แม้พ่อและแม่จะฝากฝังให้มีลูกสืบเชื้อสายต่อไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อคนเราเกิดมาก็ต้องตาย จะเครียดมากไปทำไม

 
       ฆีนโชคดีที่ครอบครัวปล่อยให้เขาได้ทำตามหัวใจ แต่เขากลับอาภัพอับโชคด้านรักไปสักหน่อย เมื่อแฟนที่ฆีนคบมาแต่ละคน ไม่เคยมีใครจริงจังกับเขา ไม่หลอกเงิน ก็มองเป็นของเล่นแก้เหงาที่ฆีนก็ไม่เคยเข้าใจ ว่าทำไมทั้งๆที่เขาจริงใจกับอีกฝ่ายมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือการลวงหลอกแทบทุกครั้ง


      คิดเป็นตุเป็นตะเรื่องครอบครัวและตัวเองไปเสียนาน ทำให้เขาดึงสติกลับมามอง เด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ยังคุยกันไม่หยุด 


       ถ้าท็อปรู้ความจริงว่าฆิตก็เป็นเกย์ เขาจะรู้สึกเกลียดขี้หน้าน้องชายเหมือนที่เกลียดฆีนไหม?

 
       บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร ตอนนี้ มีแต่เสียงของท็อปและฆิตหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน กลายเป็นฆีนที่ดูเหมือนส่วนเกินอย่างบอกไม่ถูก


"พี่ฆีน ผมกลับแล้วพี่ไว้ว่างๆจะมาใหม่"

"อืม"

       นี่คืออะไร...แค่มาหาข้าวกินรองท้องแล้วกลับเลยอย่างนั้นหรือ ไอ้น้องชาย? ฆีนคิดอยู่ในใจ
 

"ไว้ว่างๆจะโทรชวนกินเหล้า" ฆิตบอกท็อป


"ได้ครับพี่" ท็อปตอบแล้วยกมือไหว้สวัสดีพี่ชายคนใหม่

 
       ฟากฆีนเดินออกมาส่งน้องที่หน้าประตู จู่ๆฆิตก็ยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วโน้มตัวมาพูดกระซิบ
 
"อย่ามองผมแบบนั้นสิ หึงเหรอ?"

 
"นายนี่มันกวนประสาทตลอดเลยนะฆิต"

 
      ฆิตที่มีความสูงไล่เลี่ยกับพี่ชาย แต่หน้าตาดูร้ายกว่าถึงกับหัวเราะร่าและตบบ่าพี่ชายสองสามที

"นี่ผมช่วยพี่อยู่นะ ดูก็รู้ว่ายังจีบท็อปไม่ติดใช่ไหมล่ะ?"

"พูดมาก รีบออกไปได้แล้ว"
ฆีนตอบบ่ายเบี่ยง

 
"ถ้ายังจีบไม่ติดแบบนี้ น้องขโมยไปจีบเองอย่าว่าแล้วกัน"


"ฆิต!!"


"ฮ่าๆ ใจเย็นๆพี่ ผมล้อเล่นน่า พี่ก็รู้ผมชอบแบบนี้ที่ไหนกัน ของผมต้องตัวเล็กๆปากแดงๆนู่น ไปละๆ มีอะไรให้ผมช่วยก็บอก"


        ฆีนถอนหายใจพลางส่ายหน้าระอากับการกระทำน้องชาย


        แม้ฆิตจะเข้ามาวุ่นวาย กวนประสาท แต่ฆีนต้องขอบใจน้องชายจริงๆ เพราะตั้งแต่ฆิตมาก็ดูสีหน้าของท็อปเต็มไปด้วยรอยยิ้มและไม่ตึงเครียดเหมือนทุกที...


 

**********************



มีตัวละครโผล่มาใหม่แล้วค่ะ เขามีคู่ด้วยนะ ^^
[/color]
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 04-02-2017 19:41:42
 


ตอนที่ 4 ไม่แน่ใจ





      หลายวันถัดมาหลังจากที่ท็อปป่วยคราวนั้นเขาก็ไม่ค่อยเจอหน้าพี่ฆีน เพราะเป็นจังหวะที่พี่ฆีนออกไปงานข้างนอกกับพี่ดลตลอด และวันนี้ ท็อปมาทำงานตามปกติ แต่สิ่งที่แปลกไป คือ จังหวะที่เดินเข้ามาเห็นพี่ดลคุยกับพี่ฆีนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ท็อปสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันอึมครึม ในขณะที่พี่ทั้งสองหันมาเห็นท็อป จึงถูกเรียกพบด้วยเช่นกัน

 
"สวัสดีครับ พี่ดล" ท็อปทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามและยกมือไหว้สวัสดี


      ดลพยักหน้าและเอ่ยถาม

 
"ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง"

 
"ก็ดีครับ"

 
"อยู่พร้อมกันก็ดี พี่ได้ข่าวมาว่าท็อปผลักอกฆีน จริงหรือเปล่า?"

 
     และแล้ว เหตุการณ์ที่เคยผ่านไปนานก็ถูกพูดถึงอีกครั้ง สาเหตุที่พี่ดลรู้คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้หญิงคนที่ฆีนและท็อปก็รู้กันอยู่แก่ใจ

 
"ผมขอเป็นคนอธิบายครับ"  ท็อปยังไม่ทันอ้าปากตอบ ฆีนก็โพล่งขึ้นมาจนดลโคลงศรีษะมองอย่างไม่เข้าใจ

 
"ผมไม่ได้ใส่ใจแล้ว เพราะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร อีกอย่างผมกับท็อปเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วครับ" ฆีนตอบ

 
"พี่รู้นะฆีนว่าเรากำลังปกป้องเด็กใหม่อยู่ พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องมันร้ายแรงขนาดต้องใช้กำลังแบบนั้นเลยหรือเปล่า? แต่นี้คือที่ทำงาน ให้มองอย่างไรก็ดูไม่ดี พี่เป็นห่วงเรานะฆีน พี่ไม่อยากให้ภาพลักษณ์เราเสีย เข้าใจใช่ไหม?"

 
"ครับ" ฆีนก้มหน้าตอบ

"แล้วเราล่ะท็อป คิดว่ามีคำอธิบายเรื่องนี้ยังไง"


      ขณะที่ท็อปมองหน้าพี่ฆีนอยู่ พอโดนโยนคำถามเข้าใส่ เขาละสายตาจากคนข้างกายหันไปมองหน้าพี่ดลแทน
 
"ผมขอโทษครับ ผมผิดเองที่ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  พี่ดลจะให้ผมทำอะไรชดใช้ความผิดนั้นก็บอกมานะครับ"

 
"พี่ไม่รู้ว่าท็อปไม่ชอบขี้หน้าหรือไม่พอใจฆีนรื่องไหน แต่พอทำงานเราต้องข่มอารมณ์เก็บไว้ เพราะถ้าอย่างเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ พี่ไม่รู้ว่าเราจะผ่านการทดลองงานหรือเปล่านะ”

 
“ผมทราบครับ” ท็อปตอบ


      จากนั้นพี่ดลก็บอกว่าพรุ่งนี้มีงานแถลงข่าวจัดโครงการประกวดออกแบบห้องนั่งเล่นของแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ชื่อดัง ให้ท็อปไปกับพี่ฆีนเพื่อจะได้พูดคุยกันให้มากขึ้น การออกไปข้างนอกอาจทำให้ไม่เครียดเท่าที่อยู่ในห้องทำงานสี่เหลี่ยมเล็กๆ

       ท็อปตอบตกลง ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง





 



................

 

        วันถัดมาที่ทั้งสองมาร่วมงานแถลงข่าวการประกวดออกแบบห้องนั่งเล่น ที่เปิดรับสมัครเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น โดยภายในงานก็พูดถึงรายละเอียดและวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการ ตลอดจนเรื่องของค่าตอบแทนที่เป็นเงินรางวัลมูลค่ารวมถึงหนึ่งล้านบาท
 
       ใช้เวลาไม่นาน งานแถลงข่าวก็เสร็จสิ้น ซึ่งฆีนเห็นว่ามันเป็นช่วงบ่ายโมงพอดี เขาจึงชวนท็อปไปกินข้าว

 
        เมื่อทั้งสองถึงร้านอาหาร ต่างฝ่าย ต่างก็จัดแจงสั่งอาหารกันไป ในระหว่างที่รออาหาร
 
"ฆีน”
 

        ฆีนละสายตาจากโทรศัพท์มือถือ เงยหน้ามองท็อปที่เรียกสรรพนามเขาต่างจากแต่ก่อน

"ขอโทษสำหรับเรื่องเมื่อวาน" ท็อปเอ่ย เพราะเมื่อวานไม่มีโอกาสได้พูด เนื่องจากต่างฝ่ายต่างทำงาน

"ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ อย่าเอามาเครียดข้ามวันเลย" ฆีนตอบอย่างยิ้มๆ เขาไม่ได้ฝันไปใช่ไหม? ที่ท็อปขอโทษเขาก่อนและสายตานั้นเจือไปด้วยความรู้สึกผิดจริงๆ

      ท็อปพยักหน้าแกนๆกลับไป ตั้งแต่มีพี่ฆีนเข้ามาวุ่นวายในชีวิต ท็อปมีความรู้สึกสับสนปนเปจนหาคำมาอธิบายไม่ถูก ความเกลียดก็ยังมีอยู่แต่น้อยลงกว่าเมื่อก่อน

“ฆีนชอบกูจริงเหรอ?"
 
"เฮ้อ!...จะให้พี่พูดอีกกี่รอบ คิดว่าพี่เจ้าชู้ ชอบใครไปทั่วหรือไง"
ฆีนเป็นคนจริงจังกับความรัก เขาจึงไม่ค่อยชอบเวลาโดนใครเซ้าซี้ มันเหมือนโดนดูถูกหรือไม่มั่นใจในความรู้สึกที่มอบให้

      ท็อปมองพี่ฆีนที่สบตามองอย่างเคร่งขรึม ทำให้เขาเลือกจะไม่พูดอะไรอีก ก่อนจะก้มหน้า ก้มตากินข้าวต่อไป จนกระทั่งจัดการอาหารเสร็จ พี่ฆีนอาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงอาหารมื้อนี้ 

       ในขณะที่ทั้งสองออกจากร้านได้ไม่ไกล ฆีนแย้งขึ้น
 
“ท็อปดูหนังกันไหม?”


      ท็อปมองมือพี่ฆีนที่จับแขนเขาอยู่ ก่อนจะชำเลืองมองหน้าอีกฝ่าย จนฆีนปล่อยมือออก

“อืม...ดูก็ดู”

      ฆีนยิ้มกว้าง เพราะไม่คิดว่าท็อปจะตอบรับอย่างว่าง่าย
 

      ทั้งสองเลือกหนังแนวฆาตรกรโรคจิตที่เข้าฉายช่วงนี้ ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋วภาพยนตร์แล้วมานั่งรอบริเวณด้านหน้าเพราะหนังที่เลือกมีรอบใกล้เวลาที่ทั้งสองไปซื้อพอดี

      ท็อปนั่งมองคนข้างๆที่เล่นโทรศัพท์ไม่สนใจกัน แม้ท็อปจะเงียบใส่ แต่ฆีนกลับดีใจที่ได้อยู่ใกล้ๆและท็อปดูอ่อนลงและไม่ค่อยเถียงเหมือนทุกที

      จากภายนอกของคนที่มองมา คงดูเหมือนพี่น้องมาเที่ยวกันตามประสาทั่วไป...แต่ใครจะรู้ว่าลึกๆแล้วฆีนตั้งใจแสดงความเป็นเจ้าของมากแค่ไหน? เขาพยายามเข้าใกล้และมองท็อปตลอดเวลา...ทุกการกระทำที่ท็อปจะทำอะไร เดิน ยิ้ม พูดคุยอยู่ในสายตาเขาหมด

 
      เมื่อได้เวลาของการชมภาพยนตร์ ทั้งสองก็เข้ามานั่งด้านในตามเลขที่นั่งระบุไว้

      จนกระทั่ง หนังดำเนินเรื่องไปได้สักพัก ฆีนลอบมองคนข้างๆที่ดูจะตั้งอก ตั้งใจกับการดูหนังเป็นพิเศษจนผุดรอยยิ้มขึ้นมา


      ท็อปที่รู้สึกตัวมาได้สักพักว่าคนข้างกายแอบมองอยู่ จึงหันไปถาม
 
"มองอะไรนักหนา ไม่ดูหนังแล้ว?"


"พี่มีความสุข"
 
"???"
 
"ที่ได้อยู่กับท็อป”
 
!!!!!
 
     จากนั้นท็อปก็ไม่พูดอะไร ได้แต่ยกแขนขึ้นวางพนักจนไปโดนแขนอีกฝ่ายโดยไม่ตั้งใจ

     ฆีนใช้หลังมือแตะไปที่แขนท็อปก็เห็นว่าเย็นเฉียบ
 
"หนาวเหรอ?"
 
"เปล่า"

 
      ฆีนเอียงคอมอง ก่อนจะถือวิสาสะเข้าไปกุมมืออีกฝ่ายเพื่อเช็ค จนท็อปกระตุกมือด้วยความตกใจ

"มือเย็นขนาดนี้แล้วยังบอกไม่หนาวหรือ?"

      ท็อปเงียบไม่ตอบ แต่อยู่ดีๆหัวใจกลับเต้นไม่เป็นส่ำ

      ฆีนเห็นท็อปนิ่งเกร็ง เขาจึงชักมือออก ส่วนท็อปดึงมือตัวเองกลับไปกอดอกแทน

      เผลอมือไวไปเสียได้ โชคดีแค่ไหน...ที่ครั้งนี้ท็อปไม่ด่าหรือวีนเหวี่ยงใส่ แต่อย่างน้อยๆก็ได้รู้ว่าท็อปมือนิ่มกว่าที่คิดไว้

      ฆีนละสายตาจากคนข้างกาย แล้วไปชมภาพยนตร์ที่กำลังดำเนินเรื่องราวไปอย่างเข้มข้น
 
      สองชั่วโมงผ่านไป ทั้งสองก็เดินออกมาจากโรงภาพยนตร์
 
 
"อยากไปไหนต่อไหม?"


"ไม่"

"ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

 
"ฆีนอย่าทำเหมือนกูเป็นเด็ก"
 
"อย่าเถียงสิ ยังไงเราก็เด็กในสายตาพี่อยู่ดี จริงไหม?"


    ตอนที่ฆีนว่ามาอย่างนั้น เขาเคลื่อนหน้าไปใกล้ จนท็อปชะงัก

    ในจังหวะนั้นเอง...
 
“อ้าว...ไอ้ท็อป”

     กราฟเดินเข้ามาหาเพื่อน แต่เพิ่งสังเกตเห็นคนข้างๆและจำได้คลับคลาย คลับคลาว่านี่คือใคร
 
“อ้าวพี่ฆีน สวัสดีครับ”


      พี่ฆีนส่งยิ้มพลางพยักหน้า ฟากท็อปหน้าซีดไปนิดเพราะไม่คิดว่าจะเจอเพื่อน เขากระเถิบตัวออกห่างจากพี่ฆีนทันที
 
“มาดูหนังกันหรอ?”
 
“อะ เออ มึงมาทำอะไร”
 
"กูเพิ่งเดินเอาของมาให้เพื่อนน่ะ กูว่าจะโทรชวนมึงกินเหล้าพอดี"
กราฟตอบ
 
“ดีเลย กูอยากอยู่เหมือนกัน กูกลับกับกราฟนะ” ท็อปบอกฆีนเพียงแค่นั้น ก็กอดคอเพื่อนเดินจากไปทันที
 
       
 
****1.1****

 :katai2-1:

หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-02-2017 21:33:05
คนหนึ่งตื้อ อีกคนเอาแต่หนี
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 04-02-2017 22:28:11
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4} UPDATE [4-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 05-02-2017 23:23:10
ได้ไง ชิ่งหนีเลยนะท๊อป,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 08-02-2017 20:56:05
ตอนที่ 4 ไม่แน่ใจ (2)

 

       ไม่นานนัก ท็อปและกราฟถึงร้าน โดยมีพลนั่งอยู่ก่อนและสั่งเครื่องดื่มทุกอย่างมาไว้อย่างเพียบพร้อม


       เมื่อทั้งสามนั่งดื่มได้ประมาณสิบห้านาที กราฟที่นิ่งเงียบมานานจากการลอบสังเกตอาการของเพื่อน ก็พูดโพล่งขึ้น

"ไหนบอกไม่ชอบขี้หน้ากัน ทำไมไปดูหนังด้วยกันได้"


“ใครวะ” พลที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวก่อนหน้านี้ จึงถามบ้าง

“ไอ้ท็อปไปดูหนังกับพี่ฆีน”

 
     ท็อปก็พอคิดอยู่แล้วว่าเพื่อนต้องวกถามเรื่องนี้ ในเมื่อท็อปหนีความจริงต่อไปอย่างนี้ไม่ได้ ถึงเวลาที่เขาควรเลิกปิดบังและหันหน้ายอมรับกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นสักที

“เขาชอบกู”

 
“ห้ะ! ว่าอะไรนะ”


      กราฟและพลเบิกตากว้างอย่างตกใจ

“ตามที่กูบอก” ท็อปว่าเสียงเรียบ

“พี่ฆีนเป็นเกย์” พลถามเสียงดัง ฟากท็อปพยักหน้า

“เสียดายความหล่อของพี่แกฉิบหายเลย ถ้าเป็นกูนะคงได้ผู้หญิงมานอนไม่เว้นวัน” พลบอก

“แล้วมึงชอบพี่ฆีนหรือเปล่าวะ?” กราฟไม่สนเรื่องที่พี่ฆีนเป็นเกย์ เพราะเขามีสิ่งที่อยากรู้มากกว่านั้น นั่นคือ ความรู้สึกของเพื่อน เนื่องจากกราฟเอะใจตั้งแต่ช่วงแรกๆที่ท็อปเอาแต่นั่งว่าพี่ฆีนแล้ว กราฟจึงพุ่งประเด็นถามอย่างรอคำตอบ

“ไม่ มึงลืมไปหรือเปล่า? ว่ากูเป็นผู้ชายและกูชอบผู้หญิง”


"ไม่เกี่ยวว่ะ กูว่าสมัยนี้ โลกเราเปิดกว้างจะตาย คนเรารักกันมันเกิดจากความรู้สึกที่อยากทำดีเพื่อกันและกัน อยากใช้ชีวิตร่วมกัน มันไม่เกี่ยวกับเพศหรอกเพื่อน" พลพูดตามที่เห็นในยุคสมัยนี้

“ถ้าไม่ชอบพี่ฆีน มึงไปดูหนังกับเขาทำไม?” กราฟเค้นถาม เพราะสถานการณ์มันดูย้อนแย้งในตัว ไม่ชอบแต่ก็ไป? มันต้องมีอะไรซับซ้อนกว่านั้นแน่ๆ แล้วคนอย่างกราฟเรียกง่ายๆว่าชอบสอดรู้ สอดเห็นเรื่องเพื่อนเสียด้วยสิ

“มีคนเลี้ยง ทำไมกูต้องปฏิเสธ”

 
“เดี๋ยวนะ กูขอทำความเข้าใจในตัวมึงสักหน่อย ก่อนหน้า มึงบอกไม่ชอบพี่เขาด้วยเหตุผลมากมายที่มึงเคยพูดมา แต่ตอนนี้ มึงเสือกไปดูหนังกับพี่เขา สรุปมึงยังไม่ชอบขี้หน้าพี่เขาอยู่หรือเปล่าวะ?”

 
"ก็ไม่ชอบ”

 
“ห่าไรของมึงวะ  แล้วไม่ชอบเพราะอะไร?” กราฟถามเพื่อน เหมือนต้องการต้อนให้จนมุม

 
    ท็อปชะงักกึก พอเจอคำถามเพื่อนเข้าไปก็หาสาเหตุไม่ได้จริงๆ จะว่าเป็นเรื่องที่ท็อปและพี่ฆีนเคยสัมผัสกันก็ไม่น่าใช่ ในเมื่อท็อปก็ได้คำตอบจากอีกฝ่ายแล้วว่าไม่ได้ทำอะไร ท็อปกลั้นหายใจอยู่ชั่วครู่ก่อนพ่นลมหายใจออกมา พร้อมกับกระดกสุราจนหมดแก้ว

“กูไม่รู้”


"อ้าว...แล้วที่มึงหงุดหงิด ตีโพยตีพาย ด่าเขาก่อนหน้านั้น เพราะมึงไม่ชอบขี้หน้าทั้งๆที่ไม่รู้เหตุผลเนี่ยนะ" เป็นพลที่ถามและเกาหัวแกรกๆ เริ่นงุนงงในตรรกะทางความคิดของเพื่อนเหลือเกิน

“มึงสับสนอะไรในชีวิตหรือเปล่าวะไอ้ท็อป? กูว่าตั้งแต่พี่แทนตายไป มึงดูเขวๆไปนะ เหมือนคนไม่มีหลักยึดเหนี่ยว แถมทำอะไรก็กลายเป็นเด็กเอาแต่ใจยังไงไม่รู้"


      เพียงกราฟพูดชื่อพี่แทนขึ้นมา ความเจ็บจี๊ดๆและปวดหน่วงหนึบก็จู่โจมหัวใจอย่างน่าประหลาด จนท็อปต้องยกมือบีบอกข้างซ้าย ก่อนจะคลายมือออกและคว้าแก้วขึ้นดื่มอีกครั้ง

“กูมาแดกเหล้า ไม่ได้มานั่งเป็นนักโทษให้พวกมึงสอบสวน แล้วคำพูดของมึงนะไอ้กราฟ ดูจะเข้าข้างไอ้ฆีนเหลือเกินนะ”

 
       ท็อปรำคาญที่เพื่อนนั่งคาดคั้นหาคำตอบ จึงพูดตอบกลับอย่างไม่พอใจ

"เออ...ไอ้เหี้ยกูไม่ถามก็ได้วะ  กูเห็นว่ามึงเหมือนคนกำลังไม่แน่ใจอะไรในตัวเอง กูเลยเป็นห่วงความรู้สึกมึง  แต่มึงจำเอาไว้นะไอ้ท็อป ถ้ามึงไม่ชอบเขาก็ปฏิเสธไปดีๆ ไม่ใช่เอาแต่ด่าไล่ ทำเหมือนเขาเป็นขี้ คนเราถ้าโดนอีกฝ่ายแสดงท่าทีรังเกียจหรือไม่ชอบใจบ่อยๆ โดยเฉพาะเป็นคนที่ชอบด้วยแล้ว แม่งเจ็บ เชื่อกูเถอะ..."

 

!!!

       ท็อปนั่งนิ่ง เขาเบี่ยงหน้าหนีตลอดเวลาที่เพื่อนระบายอารมณ์มา

       พลเริ่มหน้าเสียที่ดูเหมือนประเด็นของบุคคลที่สาม กำลังทำให้เพื่อนทั้งสองคนบึ้งตึงใส่กัน พลจึงชวนคุยเรื่องไร้สาระ ช่วยสานความสัมพันธ์ไม่ให้เกิดความบาดหมางขึ้น

       แต่คุยได้ไม่นาน เครื่องมือสื่อสารของท็อปก็แผดเสียงร้องขึ้น...

      ท็อปหยิบขึ้นมามองหน้าจอโทรศัพท์ตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนรับสาย

"สวัสดีครับ"

[ท็อปอยู่ไหน?]
"นั่นใครครับ?"

[พี่ฆิตเอง ขอเบอร์มาจากพี่ฆีนน่ะ]
"อ้อ ว่าไงครับ"

[อยู่ไหน?]
"อยู่ร้านเหล้าครับพี่"

[ไปหาได้ไหมวะ]
"สักครู่นะครับ"

 
    ท็อปดึงโทรศัพท์ออกห่าง และถามเพื่อน

"มีพี่ที่กูรู้จักเขาจะมาหาได้รึเปล่า?"

 
"เรื่องของมึงสิ" พลเป็นฝ่ายตอบ ท็อปจึงบอกพิกัดร้านแก่ปลายสายทันที


     เวลานี้ ทั้งสามเริ่มมึน แต่คนที่เมามากกว่าใครเห็นจะเป็นท็อป เพราะตั้งแต่ เพื่อนพูดจาไม่เข้าหูเรื่องพี่ฆีน ท็อปก็ประชดด้วยการยกดื่ม ยกดื่มอยู่อย่างนั้น

     ไม่นานเท่าไหร่นัก พี่ฆิตก็มาถึงพอดี ท็อปจึงแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก

      ฆิตทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและเป็นฝ่ายชวนคุยก่อนอย่างเป็นกันเอง

     ต้องยอมรับว่าฆิตเป็นคนที่เข้ากับผู้อื่นได้ง่ายเหลือเกิน เผลอแป๊ปเดียว  พลและกราฟก็คุยกับพี่ฆิตอย่างออกรสและสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาแต่ชาติปางก่อน

"เฮ้ย พวกมึงกวนตีนดีว่ะ ว่างๆไปนั่งเล่นที่สตูฯกัน ที่นั่นเหล้าเพียบ" ฆิตเอ่ย

"ได้พี่ ฟรีใช่รึเปล่า?" กราฟแซว เพราะรู้สึกว่าพี่ฆิตดูเป็นคนที่หยอกเล่นด้วยได้

"ท็อปเพื่อนมึงขี้งกเนอะ" ฆิตแกล้งหันไปหาท็อป เหมือนหาพวกเข้าข้าง ฟากท็อปหัวเราะ

"โห! พี่ฆิต เปิดสตูถ่ายภาพก็รวยหรือเปล่าวะ พวกผมยังเป็นมนุษย์เงินเดือนต๊อกต๋อยอยู่เลย"
กราฟว่า ทำหน้าหงอย จนฆิตต้องดีดหน้าผากอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้ โดยที่กราฟก็ไม่นึกโกรธอะไร ได้แต่ยกมือลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ

"มึงไม่ต้องให้กูเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นเลย เออๆ กูเลี้ยงก็ได้"

 
"ขอบคุณนะครับพี่ที่เลี้ยงมื้อนี้ด้วย"

"เนียนดีเนอะ ไอ้กราฟ ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูขอเงินป๋าฆีนเอง"

 
     เพียงแค่ชื่อนี้หลุดออกมาจากปากของฆิต ท็อปชะงักเพราะไม่ได้บอกเพื่อนว่าพี่ฆิตเป็นน้องชายของพี่ฆีน ส่วนพลและกราฟมองหน้าพี่ฆิตอย่างเหวอๆ ก่อนที่กราฟจะหันไปถามท็อป

“พี่ฆีน คนเดียวกับที่มึงรู้จักหรือเปล่าวะท็อป?”

 
“อืม” ท็อปทำหน้าหน่ายๆ

“อ้าว พี่ขอโทษที นึกว่าท็อปบอกกับเพื่อนก่อนแล้วว่าพี่เป็น....”
เรื่องนี้ ฆิตไม่รู้จริงๆ เขาถึงเผลอพูดชื่อพี่ชาย

“ไม่เป็นไรพี่ ไม่ใช่เรื่องใหญ่” ท็อปเห็นพี่ฆิตหน้าเสีย จึงไม่อยากให้พาเสียบรรยากาศ

    เมื่อฆิตเห็นว่าท็อปไม่ได้ขุ่นเคืองอะไรแล้วจึงเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการถามเรื่องอื่น

"เออ แล้วปกติกินเหล้ากันบ่อยๆแบบนี้ แฟนไม่ว่าบ้างหรือวะ?"

 
"พวกผมยังไม่มีแฟนกันเลย ชอบใช้ชีวิตโสดน่ะ" พลบอก

"งั้นเหรอ? แต่พี่ว่ามีแฟนก็ดีนะ จะได้มีความทรงจำร่วมกัน มีคนคอยห่วง คอยใส่ใจ"

 
"แหนะ พูดแบบนี้พี่มีแล้วดิ" กราฟถามอย่างรอคำตอบ

"ยังว่ะ แต่อยากมี"

 
"โธ่! ที่แท้ก็เป็นผู้ชายขี้เหงานี่เอง" กราฟแซวอีก จนพี่ฆิตชะงักกึกอย่างเห็นได้ชัด

"เฮ้ยๆ เปลี่ยนเรื่องเถอะว่ะ คุยเรื่องรักแล้วเศร้า แดกเหล้าดีกว่า" ฆิตเปลี่ยนเรื่อง และทำท่ายกแก้วขึ้นเพื่อชนทุกคนจึงทำตาม

     ใช้เวลานั่งดื่มพร้อมแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิตจนเต็มเปี่ยม ทุกคนก็ลงความเห็นว่ากลับบ้านกันดีกว่า


      แต่ในระหว่างที่กำลังแยกย้ายกัน คนที่ดูเหมือนยังติดใจในอรรถรสของการสนทนาและรสสุรา เห็นจะเป็นฆิต เพราะเขาเดินเข้ามากอดคอท็อป และยื่นหน้าไปมองพวกพลและกราฟที่เดินอยู่ข้างๆเด็กหนุ่ม


"เฮ้ย!..คุยกับพวกมึงแล้วสนุกดีว่ะ ไปห้องกูต่อไหม? เดี๋ยวเป็นเจ้าภาพเอง"

"ไปพี่”
กราฟตอบโดยไม่คิดจะถงจะถามเพื่อนสักคำว่ายังอยากไปต่อหรือเปล่า?

 
     พลหน้านิ่ง ก่อนจะตบปากรับคำ ส่วนท็อปไม่อยากไปต่อ เพราะรู้สึกว่าเมามากแล้วถ้าได้ดื่มอีก มีหวังพรุ่งนี้ อาจตื่นขึ้นมาแล้วปวดหัวก็เป็นได้ แต่ไม่ทันได้พูดอะไร เพื่อนๆก็ลากคอท็อปขึ้นรถพี่ฆิตเรียบร้อยแล้ว

     ในระหว่างที่เดินทางไปยังคอนโดแห่งการสังสรรค์ ฆิตบอกพวกน้องๆว่า พี่ฆีนจะแวะมาเอาของนิดหน่อย ซึ่งทุกคนไม่ติดใจอะไร รวมไปถึงท็อปเองที่ไม่หือไม่อือ ได้แต่เอนหลังพิงเบาะและหลับตาลงในขณะที่สมองยังครุ่นคิดอยู่

     เด็กหนุ่มไม่ได้สนใจ การมาของพี่ฆีน แต่สนใจตัวเองมากกว่าเพราะเวลาที่ท็อปเมา เขามักควบคุมตัวเองไม่ได้อีกเช่นเคย...


.......................

 :ruready สับสนมึนเบลอในชีวิตก็อย่างนี้แหละหนา...ไหวไหมท็อป???
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 08-02-2017 22:34:34
พี่ฆิตดูจะเริ่มมีหวังนะ
 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-02-2017 00:02:52
เอาล่ะสิ งานนี้. สนุกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 09-02-2017 02:42:10
สนุกละสิงานนี้ จะเกิดอะไรขื่นติดตามอ่านนะค่ะ มาเร็วๆวนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 4.2} UPDATE [8-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-02-2017 08:40:23
ท็อปเมาแล้วน่ะพี่ฆีน มารับน้องด่วน ตอนนี้แระจัดเลย ฮ่าๆๆๆๆ

พี่ฆิตจะคู่ใครเนี่ยออกมายังน่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 12-02-2017 21:29:40
ตอนที่ 5 เมา





"ห้องพี่เท่วะ"



      กราฟพูดขึ้นคนแรกตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าห้องรุ่นพี่ เขาพลางกวาดสายตามองรอบๆอย่างพินิจพิจารณา อาจเป็นเพราะตัวกราฟเองก็ชื่นชอบการตกแต่งห้องแนวดิบ เท่อย่างสไตล์อินดัสเทรียล ลอฟท์เหมือนกัน กราฟจึงสนใจเป็นพิเศษและเดินดุ่มๆไปมุมทำงานที่ออกแแบบเป็นโต๊ะไม้ยาวเชื่อมต่อกับส่วนของผนังสามารถนั่งหันหน้าออกไปมองวิวรอบนอกได้อย่างสบายตาทีเดียว


"เบื่อก็มานั่งเล่นได้ มีแต่ห้องนอนที่กูหวง ห้ามเข้า" ฆิตว่าพลางวางกุญแจและกระเป๋าสตางค์ไว้ที่โต๊ะกลาง ก่อนจะเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาให้พวกน้องๆ

"ซ่อนหนังโป๊ไว้ใช่หรือเปล่า?" กราฟพูดอย่างยิ้มๆก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา

"ทะลึ่งแล้วมึง หน้าอย่างกูไม่ต้องพึ่งของพวกนี้หรอก กูมีที่ระบายว่ะ"


"วู้วว! หล่อเลือกได้" กราฟแซว ฆิตถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย รู้สึกว่ายิ่งคุยกับกราฟ ฆิตยิ่งเหนื่อยต่อกรกับคำยียวนของเด็กคนนี้เหลือเกิน

"พี่เป็นคนตลกดีนะครับ"
พลบอก

"กูก็อย่างนี้แหละ"

"คารมดีแบบนี้ หญิงเพียบแน่ๆ"
กราฟถามอีก แต่คราวนี้ฆิตไม่ตอบแต่ไหวไหล่ท่าทางยียวน จนท็อปที่เงียบมานานถึงกับพูดแทรก เพราะรู้สึกว่าฤทธิ์สุรากำลังทำให้กราฟพูดมากกว่าเดิม

“เงียบแล้วแดกซะ”
กราฟหันขวับไปหาท็อปที่ยื่นกระป๋องเบียร์มาให้ก่อนจะรับมาเปิดและยกขึ้นดื่มอย่างหงุดหงิดหัวใจ

“ขอบใจท็อปมากที่พูดแทนความในใจของพี่”
ฆิตยิ้มให้ท็อป ส่วนกราฟเห็นแล้วหมั่นไส้จึงเถียงอีก

“โหอะไรวะ คุยกับท็อปแทนตัวเองว่าพี่ คุยกับพวกผมแทนตัวเองว่ากู”

 
“มึงงอน?” ฆิตถามพลางเลิกคิ้ว

       กราฟชะงักกึกไม่ยอมตอบ ก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมากระดกอีกครั้ง


       ฆิตนั่งจ้องหน้ากราฟอย่างกดดัน แต่มีเสียงกริ่งหน้าประตูดังแทรกขึ้นเสียก่อน  ฆิตยกยิ้มมุมปากและลุกไปเปิดประตูให้คนที่ฆิตก็รู้ว่าใคร?

 
      ในยามวิกาล ดึกดื่นเช่นนี้ ฆีนสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ โดยไม่มีความจำเป็นต้องบึ่งรถออกมาข้างนอกด้วยซ้ำ แต่เพียงแค่น้องชายบอกว่าท็อปมานั่งดื่มที่ห้องเท่านั้น ทำให้ฆีนมาโดยไม่ลังเล แม้อันที่จริง ฆีนเพิ่งเจอท็อปเมื่อช่วงบ่ายไปแล้วก็ตาม

      ทั้งสองเดินเข้ามา ฆิตจัดแจงให้พี่ชายนั่งลงตรงโซฟาเดี่ยวที่อยู่ข้างกัน ส่วนฆิตนั่งโซฟายาวสามที่นั่งที่มีท็อปและกราฟนั่งอยู่ด้วย

 
       กราฟและพลยกมือไหว้ มีเพียงท็อปที่เอาแต่นั่งมองอีกฝ่ายนิ่ง จนฆีนที่หันมาเจอสายตาอีกฝ่ายถึงกับโคลงศรีษะพลางเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

 
      ฆีนมองเด็กหนุ่มที่หน้าแดง ตาแดงก่ำ คงดื่มแอลกอฮอลล์มากไปสินะ ฆีนคิดในใจ ท็อปจะรู้ตัวไหมว่าเวลาท็อปเมา ท็อปมีใบหน้าเย้ายวน รัญจวนใจแค่ไหน?


      และเป็นฆิตเองที่ขัดจังหวะด้วยการยื่นกระป๋องเบียร์มาให้ ทำให้ท็อปเป็นฝ่ายละสายตาก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนแทน


      คงเป็นเพราะฆีนไม่ได้แวะไปเมาที่ไหนมาก่อน จึงมีสติมากกว่าใคร  เขาถึงเห็นกิริยาและอาการของคนอื่นๆ ที่เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เข้าไปก็ทำให้คนเราเปลี่ยนเป็นคนละคนได้ ตอนนี้ ฆีนมองแต่ละคนที่กล้าพูด กล้าแสดงออกและดูเฮฮากันอย่างสนุกสนานเกินเหตุ 


      ไม่นานนัก ที่ฆีนกระซิบบอกน้องชายขอตัวไปรับลมที่ระเบียงสักหน่อย

 
      ฆีนถอนหายใจยาว จะไม่ให้ออกมาก็คงอึดอัดตายแน่ๆ เพราะตั้งแต่ที่ฆีนนั่ง เขาเห็นท็อปหัวเราะกับเพื่อนเหมือนปกติ แต่สายตากลับเหลือบมองมาเป็นระยะๆ นั่นทำให้เขาใจสั่น หวั่นไหว


      เพราะเวลาเมา ท็อปทำเหมือนว่าชอบกัน


      ฆีนจำได้ดี เวลาท็อปเมาจะแตกต่างจากตอนปกติ ท็อปกล้ามอง กล้าสบตา จนกลายเป็นฆีนเกือบทุกครั้ง ที่ประหม่าและหลบตาไปก่อน


      ฆีนเท้าสองแขนพาดลงขอบระเบียง ทอดสายตามองไปไกลอย่างไร้จุดหมาย  ในขณะที่ยืนเหม่อและครุ่นคิดอยู่ เสียงประตูกระจกเลื่อนดังขึ้น เขาเอี้ยวตัวมองก็เห็นว่าเป็นท็อปที่เดินคีบบุหรี่ออกมา

"เมาหรือยัง?" ฆีนกลับมายืดตัวตรงหันไปถามคนที่ยืนพิงผนัง มองมาทางเขาเช่นกัน

"คิดว่าไง"

"เมา"


"คงอย่างนั้น" ว่าจบ ท็อปจุดบุหรี่ขึ้นสูบ

 
       แสงจากด้านนอกสาดลงมากระทบเสี้ยวหน้าของเด็กหนุ่ม ทำให้ท็อปดูมีมิติและมีเสน่ห์ได้อย่างน่าประหลาด
 
       อาจเป็นเพราะมองหน้าท็อปหรือหลงอยู่ในห้วงของความคิดตัวเองก็ชักไม่แน่ใจ ฆีนถึงไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายเดินมายืนใกล้กันพร้อมกับบุหรี่ที่ยกมาจะติดริมฝีปากเขาแล้ว


"สูบไหม?"

 
"พี่ไม่สูบบุหรี่" เสียงนุ่มเอื้อนเอ่ย

"หึๆ อย่างนี้คงไม่ชอบกลิ่น"

 
"เฉยๆมากกว่า" ฆีนว่าจบ ท็อปหันไปมองวิวเมืองกรุง และสูบบุหรี่เพิ่มปริมาณนิโคตินเข้าสู่ปอดอยู่หลายครั้ง


      ท็อปยกยิ้มร้าย ก่อนจะหันไปพ่นควันใส่หน้าอีกฝ่าย จนฆีนยกมือปัดป่ายไปมา ทั้งยังเบี่ยงหน้าหนี

"นี่แกล้งพี่หรือ?" ฆีนแกล้งขู่ทั้งยังเคลื่อนใบหน้าคมคร้ามเข้าใกล้จนห่างกันไม่ถึงคืบ ถ้าเป็นปกติ เด็กหนุ่มคงต่อว่า ทว่า คราวนี้ท็อปกลับยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์และไม่หลบหน้าเหมือนทุกที


       ทันใดนั้นเอง.....

 
       ท็อปใช้มือที่ว่างรั้งต้นคอพี่ฆีนลงต่ำแล้วกัดเข้าที่ซอกคอ ก่อนจะขบเม้มดูดหนักๆจนขึ้นเป็นรอย ฆีนจับไหล่ทั้งสองข้างดันออกห่าง

 
"ท็อปทำแบบนี้ทำไม" ฆีนถามเสียงเข้ม เพราะการกระทำนั้น ทำให้หัวใจเขาเต้นโครมครามอย่างหนักและดันกระตุ้นอารมณ์เสียวซ่านได้ดีทีเดียว

      เด็กปากดีไม่สนใจในคำถามก่อนหน้า เขาปัดมือพี่ฆีนที่จับไหล่ และขบเม้มริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนผละออก


"กูเมาว่ะ"

 

       ว่าจบ ท็อปกดบุหรี่ใส่ลงที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่ตรงขอบระเบียง ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้ฆีนยืนมองท็อปด้วยความไม่เข้าใจ เขาลูบต้นคอตัวเองที่โดนอีกฝ่ายทิ้งร่องรอยไว้

 
       ฆีนระบายลมหายใจออกมา ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าฆีนจะเดินกลับเข้ามานั่งในห้องทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 
       และในขณะที่ฆีนดื่มเบียร์อยู่นั้น เหมือนมีคนจับสังเกตบางอย่างได้

 
"พี่ฆีน โดนอะไรมา" ฆิตที่นั่งข้างพี่ชายสามารถเห็นรอยตรงต้นคอซ้ายได้ชัดกว่าใครก็เอ่ยทัก เพราะก่อนหน้านี้ฆิตไม่ยักเห็น


          ฆีนชะงัก และเป็นจังหวะที่ท็อปคงได้ยินน้องชายถามถึงหันมามองฆีน
 

"สงสัยยุงกัดน่ะ ข้างนอกยุงชุม" ฆีนพูดแค่นั้น


         ฆิตยังไม่ทันได้ถามต่อ ท็อปพูดแทรกและลุกขึ้น


"พี่ฆิต ผมขอผ้าเช็ดตัวหน่อยได้ไหมครับ? ผมอยากอาบน้ำนอนแล้ว"

 
      ฆิตละสายตาจากพี่ชายตัวเอง ก่อนจะแซวท็อปอย่างไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

"อ่อนว่ะ วัยรุ่นอย่างเรา ต้องไม่นอนดิ กินยันเช้าเลย"

 

      ท็อปหัวเราะ

"ไม่ไหวว่ะพี่ ผมเมามากกว่านี้แล้วจะเป็นคนละคน พี่คงไม่อยากเจอผมในสภาพแบบนั้นหรอก"



     ฆีนได้แต่นั่งคิดในใจกับคำพูดท็อปว่านี่ยังไม่เมามากอีกหรือ? สำหรับฆีน ถือว่าเมามากเลยนะนั่น...

“เออ....เดี๋ยวไปเอาให้”


      ไม่นานนัก ฆิตเอาผ้าเช็ดตัวไปให้ท็อปที่ยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ และเร่งฝีเท้ากลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนพนักแขนโซฟาที่พี่ชายนั่งพลางกระซิบถาม

"ท็อปทำหรือ?"

 
        ฆิตถามและใช้นิ้วจิ้มไปที่หลักฐาน

        ในบรรดาคนที่ไปสังสรรค์กันมาที่ร้านก่อนหน้า ตอนนี้ ฆิตคงสติได้ดีที่สุด เพราะเขาค่อนข้างคอแข็ง หรือเรียกง่ายๆว่าไม่ใช่คอแข็งเพียงอย่างเดียว แต่ที่ยังอยู่ได้ท่ามกลางวงเหล้านานๆ เพราะเขาชอบยุให้คนอื่นดื่มเยอะๆแต่ตัวเองแค่จิบๆเลยทำให้เมาช้ากว่าชาวบ้าน

        ฆีนเบี่ยงยกแก้วขึ้นดื่ม ไม่ตอบน้อง จนฆิตเขย่าไหล่พี่ชาย

"พี่ไม่บอก ผมถามไอ้ท็อปเองนะ"


"จะอยากรู้ไปทำไม?"

 
"ก็ดูน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีนี่หว่า ทำขนาดนี้"

 
"สนใจเรื่องตัวเองเถอะ"

 
"โห! อะไรวะ คนจะช่วย"

 
"พูดกับพี่ดีๆ"

"ขอโทษที เอ้...หรือผมจะยอมสละห้องให้ไอ้ท็อปกับพี่นอนด้วยกันดีนะ"

 

     ขณะที่ฆีนจะอ้าปากบอกน้องว่าเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน ก็มีเสียงกราฟแทรกขึ้น

"เออ....พี่ฆีนชอบ....อื้ออ"

 
      ฆีนหันไปหาคนถาม เพราะได้ยินไม่ค่อยถนัด และพอเขาจะถามต่อก็เห็นพลยกมือปิดปากเพื่อนและบอกว่าไม่มีอะไร ฆีนจึงไม่ถามต่อ และเลือกจะยกเบียร์ขึ้นดื่มแทน


     ขณะที่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไหลลงคออยู่ ฆีบแทบสำลักเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องน้ำ

"พี่ฆิตครับ ผมขอยืมเสื้อใส่หน่อย เสื้อหล่นพื้น เปียกหมดเลย"

 

      ฆีนวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะ เมื่อตอนนี้ ท็อปเปลือยช่วงบน จนฆีนอยากลุกไปบังร่างกายเด็กหนุ่มไม่ให้ใครเห็น แต่เพราะเขาไม่ใช่เจ้าของและไม่ได้เป็นอะไรกับท็อป ถึงทำแบบนั้นไม่ได้

"ฆิต!" ฆีนถองสีข้างพลางเรียกน้องชายราวกับเรียกสติที่แม่งไม่กระพริบตาสักวินาทีเดียวเลยให้ตายเถอะ...

"เอ่อะ เดี๋ยวไปหยิบให้นะ" ฆิตตอบเสียงเบาหวิว


      ผิวที่เคยขาวสว่างตอนนี้แดงจัด ไหนจะดวงตาที่ฉ่ำปรือมองมาเหมือนต้องการท้าทายอะไรบางอย่าง องค์ประกอบโดยรวมของเด็กหนุ่มตรงหน้า กำลังทำให้ฆีนหมดความอดทน

        ทั้งสองจ้องมองกันอย่างไม่มีใครละสายตา ท็อปยังยืนรอฆิตอยู่ด้วยรอยยิ้มที่มองมาทางพี่ฆีน ไม่นานนัก ฆิตนำเสื้อไปให้ท็อปก่อนเด็กหนุ่มจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

       ฆีนนั่งถอนหายใจ เพราะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ท็อปทำอยู่นี้ ต้องการอะไรกันแน่...


        และขณะที่นั่งคิดถึงการกระทำท็อป น้องชายก็พูดคำที่ไม่ค่อยรื่นหูสักเท่าไหร่


"ท็อปแม่งโคตรขาวเลยว่ะพี่...และหุ่นแม่งแบบ..."

"อยากตายใช่ไหม?"
ฆีนหันขวับมองฆิตที่ดูไม่สะทกสะท้านในคำขู่ กลับหัวเราะเริงร่าอย่างน่าเขกกระโหลก

"หวง...เว้ย...หวง"

 
    ฆีนขี้เกียจเถียงน้องชาย เพราะเขามีเรื่องให้คิดมากกว่านั้น นั่นคือ เรื่องการเมาของเด็กหนุ่ม เพราะเขาได้แต่กลัวและไม่อยากให้ท็อปเมาโดยไม่มีฆีนอยู่ด้วยอีกแล้ว


****1.1****


คำเตือน :

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สติสัมปชัญญะลดลง

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ... :hao6: :hao6:

ท็อปหนอท็อป

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 12-02-2017 23:16:52
จะรอดมั้ย คืนนี้
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 13-02-2017 11:06:35
ท็อป  ยังไงกันเนี่ย  เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 13-02-2017 15:03:58
ยัยท็อป เยอะนะเยอะ เปิดใจไปเถอะ ป้ารอ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 13-02-2017 19:23:52
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5} UPDATE [12-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-02-2017 20:13:11
ท็อปยั่วแบบนี้ พี่ฆินจัดเลยดีมะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5.2} UPDATE [14-2-60]
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 14-02-2017 22:24:07
  ตอนที่ 5 เมา (2)

 

        ท็อปเข้าห้องได้ไม่นาน ฆิตสะกิดแขนพี่ชายยิกๆเหมือนส่งสัญญาณ เพราะตอนนี้ กราฟและพลเมามายอยู่ในสภาพนั่งโงนเงนจนจะหลับมิหลับแหล่ คงไม่สนใจเรื่องพี่ฆีนแน่ๆ

“พี่ฆีน กลัวอะไรวะ โอกาสมาขนาดนี้ จะไม่คว้าไว้หรือ? เดี๋ยวผมดูไอ้พล ไอ้กราฟให้เอง” ฆิตพูดเบาๆ

      ฆีนมองหน้าน้องชายนิ่ง มันก็เป็นจริงอย่างที่ฆิตพูดทุกอย่าง

      ในระหว่างนั้นเอง ร่างสูงผุดลุกขึ้น ก่อนเดินเข้าห้องนอน เขาแวะเอาน้ำดื่มในตู้เย็นให้ท็อปสักหน่อย

      มือหนาเปิดประตูก็พบแต่ความมืดมิด เขาสาวเท้ายาวๆไปหย่อนกายนั่งลงริมเตียง และวางขวดน้ำดื่มไว้ที่โต๊ะเล็ก เผื่อท็อปตื่นขึ้นมาจะได้มีน้ำดื่มแก้กระหายกลางดึก

      แม้ความมืดมิดจะปกคลุมทั่วห้องจนไม่สามารถมองเห็นคนตรงหน้าได้ชัดเท่าไหร่นัก แต่ฆีนแค่รู้ว่ามีท็อปอยู่ใกล้ๆแค่นี้ก็ดีมากแล้ว

      จู่ๆรอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม ฆีนยื่นมือลูบไล้ใบหน้าเด็กหนุ่มช้าๆ ก่อนจะไล่ลงมาชะงักค้างยังมุมปากนั้น

 
       คิดจนสมองจะระเบิด ฆีนก็หาคำตอบไม่ได้สักทีว่าเด็กเอาแต่ใจคนนี้มีดีอะไร ถึงทำให้ฆีนเผลอใจรักครั้งแล้ว ครั้งเล่า

       เมื่อไหร่กัน? ที่ท็อปจะยอมรับฆีนให้ก้าวเข้าไปยืนอยู่ในหัวใจดวงนั้นได้สักที...

“แต๊ะอั๋งกูเหรอ?”


!!!

        เสียงแหบพร่าทำลายความเงียบและทำฆีนชะงักกึก เพราะไม่คิดว่าท็อปจะยังไม่หลับ เขาดึงมือกลับไป

“ยังไม่หลับหรือ?”

“กำลังจะหลับได้ยินเสียงเปิดประตูพอดี”

“ถ้าอย่างนั้น ลุกขึ้นดื่มน้ำสักหน่อยไหม? พรุ่งนี้จะได้ไม่เมาค้าง”

 
      ฆีนว่าจบ เขาเอื้อมมือควานหาสวิตซ์ไฟตรงหัวเตียง เมื่อแสงสว่างวาบขึ้นมา เขาเห็นเด็กหนุ่มค่อยๆยันกายขึ้นนั่ง และยกยิ้มมุมปาก

“ป้อนกูหน่อย”

“หืม...”

“ไม่ได้ยินรึไง?”
ท็อปว่าจบ ปรายตามองที่ขวดน้ำ ฟากฆีนพยักหน้า ก่อนจะยกขวดน้ำไปจ่อปากของเด็กหนุ่มเพื่อป้อน

         เด็กหนุ่มดื่มน้ำอยู่หลายอึกและบอกพอ ฆีนจึงวางขวดน้ำไว้ที่โต๊ะเล็กแล้วหันมาหาท็อป

“ทำไมเมาแล้วทำตัวอ้อน ฮึ!" ฆีนพูดอย่างยิ้มๆ เขาคิดในใจอย่างนึกเสียดายที่ท็อปน่าจะเป็นคนๆเดียวกันทั้งตอนเมาและตอนปกติ เขาคงมีความสุขน่าดู

"กูไม่รู้"


"เฮ้อ! ท็อปนี่นะ"

        ฆีนระบายลมหายใจออกมา ก่อนว่าต่อ

"นอนเถอะ พี่ไม่กวนแล้วครับ ฝันดีนะ”


         ขืนอยู่นานกว่านี้ ฆีนได้เผลอทำอะไรท็อปแน่ๆ คนอายุมากกว่ารีบร่ำลา ทิ้งท้ายด้วยการขยี้ผมเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู แต่วินาทีนั้น ท็อปกลับวางมือทาบทับลงบนมือของฆีน จนใบหน้าคมเข้มถึงกับขมวดคิ้วมุ่น

“ฆีนเลิกกับแฟนนานหรือยัง?”


         ฆีนนิ่งไป เขาไม่คิดว่าท็อปจะถามเรื่องนี้

“ถามทำไม?”

“กูอยากรู้”


“ปีกว่า”

“เลิกกันเพราะอะไร”

“เขาไม่ได้รักพี่”

 
     เพราะเหตุการณ์อกหัก ช้ำรักครั้งที่ผ่านมา ทำให้ฆีนไม่ค่อยเชื่อคำหวานหูจากใครอีกเขาถึงรู้สึกเฉยๆหากท็อปจะพูดจาไม่ดีใส่  ซึ่งอดีตคนรักของฆีนที่เลิกรากันไป มีอายุน้อยกว่าเขาห้าปี มีนิสัยขี้อ้อน พูดจาหวาน เอาใจเก่ง

      ช่วงเวลานั้นฆีนทั้งรัก ทั้งหลง เขาอยากได้อะไรฆีนหามาประเคนให้ทุกอย่าง ทั้งค่าใช้จ่ายซื้อเครื่องแต่งกาย กระเป๋า รองเท้า ดาวน์รถให้ รวมไปถึงเช่าคอนโด ด้วยเหตุผลที่น้องเขาอยากมีที่พักอาศัยใกล้ที่ทำงาน 

       ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาสิบเดือน ดูเหมือนจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ฆีนเพิ่งรู้ทีหลังว่า ตัวเองเป็นไอ้โง่มาตลอด ด้วยสาเหตุที่ทำให้ตาสว่าง คือ วันหนึ่ง ฆีนตั้งใจไปเซอร์ไพร์สเด็กหนุ่มที่ห้อง แต่กลับเห็นแฟนของตัวเองนัวเนียกับผู้ชายถึงพริกถึงขิง และได้ล่วงรู้ความจริงว่า ผู้ชายที่แฟนตัวเองนัวเนียอยู่นั้น คบกันมาก่อนหน้าฆีนราวสามเดือน

       ใครจะคิดเล่าว่า ตัวเองกลายเป็นชู้ของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว...ฆีนไม่รู้มาก่อนว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว

        และการจับได้ไม่เจ็บเท่าเหตุผลแสนเจ็บปวดที่อดีตคนรักพูดว่า ช่วยไม่ได้ ฆีนโง่เอง...


        นับตั้งแต่นั้นมา ฆีนหยุดเรื่องรัก เพื่อพักหัวใจก่อน จนกระทั่งมาเจอท็อป กลับทำให้ฆีนลืมความกลัวเจ็บจากรัก เพราะรู้สึกว่าท็อปมีความพิเศษอะไรบางอย่าง เขาถึงรุกหนัก ตามจีบท็อปและตื้อมาจนถึงปัจจุบันนี้

         และเมื่อฆีนตอบคำไปกลับทำให้ความเงียบก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง  แล้วจู่ๆ ท็อปคว้ามือพี่ฆีนที่ยังอยู่บนศรีษะดึงมาวางไว้บนตัก

        ฆีนเอียงคอมองคนตรงหน้าอย่างเดาทางไม่ถูกเลยว่า ท็อปจะมาไม้ไหน? ทันใดนั้น ท็อปโน้มตัวไปหาพี่ฆีนแล้วซบหน้าลงตำแหน่งที่เคยฝากร่องรอยไว้ ก่อนจะกดจมูกลงที่ซอกคอของอีกฝ่าย


"แต๊ะอั๋งพี่หรือ?” คราวนี้ เป็นฆีนที่ยอกย้อนเชิงแซว ส่วนท็อปได้แต่หลุดหัวเราะและเงียบไปอึดใจ ก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง

“ฆีน...กู...อยาก...” เสียงเด็กหนุ่มเอื้อนเอ่ยใกล้หูพร้อมลมหายใจอุ่นๆเป่ารดต้นคอ ทำฆีนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

“ท็อปพูดอะไรออกมา เมามากแล้วเป็นอย่างนี้ทุกทีเลย รู้ตัวไหม?”


      ฆีนไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก ฆีนฝืนใจดันไหล่ทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มออกห่าง และลุกขึ้นจากเตียง แต่ท็อปรั้งแขนฆีนไว้

ฆีนจูบกูหน่อย”

“ท็อปพี่เคยบอกแล้วไง ว่าพี่ไม่จูบมั่ว พี่จะจูบกับแ...ฟ...น...”


      ท็อปไม่ฟังคำพูดของคนที่เปลี่ยนมาจริงจังอย่างเห็นได้ชัด เด็กเอาแต่ใจกลับกระชากคอเสื้อพี่ฆีนมาประกบริมฝีปากบดจูบอย่างหนักหน่วงและร้อนแรง ในขณะที่ท็อปกำลังสอดลิ้นเพื่อรุกล้ำเข้าสู่ภายในโพรงปากของอีกฝ่าย


      จังหวะนั้นเอง...มีเสียงโวยวายสลับกับเสียงเคาะประตูที่ดังถี่และเป็นฆิตที่เปิดประตูเข้ามา

“เอ่อะ พี่ฆีน พวกไอ้พลจะมาเข้ามานอนแล้วนะ” ฆิตพูดและรีบเดินออกไป

      ทั้งสองผละออกจากกันแทบไม่ทัน ตอนนี้ ฆีนจ้องหน้าอีกฝ่ายที่ขึ้นสีระเรื่อ เขาไม่เข้าใจว่าท็อปต้องการอะไร

“ท็อปพี่จริงจังกับคำพูด ถ้าเราทำแบบนี้ พี่จะถือว่าเราตกลงเป็นแฟนกับพี่แล้วนะ”


     ท็อปมองหน้าพี่ฆีนและไถลตัวลงนอน

"ฆีนค่อยคุยได้ไหม กูง่วงแล้ว ฝันดี"

 
     ฆีนมองท็อปที่ดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดใบหน้า ฆีนพ่นลมหายใจพลางส่ายหน้าน้อยๆ สงสัยพรุ่งนี้ ฆีนคงต้องคุยกับท็อปให้รู้เรื่อง

       เมื่อสองเท้าชายหนุ่มก้าวพ้นห้องนอน ฆีนเห็นน้องชายยืนส่งสายตาล้อเลียน

 “ขอโทษทีว่ะพี่ที่ขัดจังหวะ พวกนั้นมันโวยวายจะเข้าห้อง ผมเลยรีบเดินมาตามก่อน"

 
       ฆีนพยักหน้าน้อยๆกลับไป ยอมรับว่ารู้สึกเขินๆที่ต้องมาทำอะไรโดยที่น้องชายก็เห็นและรับรู้ทุกอย่าง เขาขอตัวน้องชายไปที่นอกระเบียงเพราะอยากอยู่คนเดียวสักพัก

       ฆีนยืนลูบไล้ริมฝีปากตัวเอง ร่องรอยแห่งการจูบและสัมผัสอุ่นนั้นยังติดอยู่จางๆ

      ฆีนสับสนกับการกระทำของเด็กหนุ่มจริงๆ เพราะการที่ท็อปมาจูบเขาแบบนี้ คนที่แย่ก็คือฆีนนี่แหละที่จะยิ่งถลำลึกตกหลุมรักท็อปมากกว่าเดิม






.................

 

 
     วันรุ่งขึ้น

 

     ฆิตแปะโพส์อิทไว้ตรงหัวเตียงว่าจะออกไปหาซื้อของมาให้กิน ทำให้ฆีนที่ว่าจะกลับบ้านก่อน จึงอยู่รอน้องชาย

     ร่างสูงอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จก็ออกมานั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงลำพัง ส่วนเด็กๆก็ยังหลับใหลกันอยู่

     ในขณะที่ฆีนปล่อยให้สมองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เขาเห็นท็อปเดินผ่านหน้าไปทางห้องครัว

“ปวดหัวไหม?”

 
     ฆีนถามขณะที่ท็อปเดินมาทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม ท็อปส่ายหน้า

“จำได้ไหม? เมื่อคืนทำอะไรลงไปบ้าง”

 
“กูเมา จำไม่ได้”

 
“แม้แต่ที่ท็อปจูบพี่นะหรือ?”


     ท็อปเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มแสยะ

“หึๆ เห็นว่ากูเมาก็อ้างไปเรื่อยหรือเปล่า?”

      ฆีนถอนหายใจ

"แล้วคิดว่าพี่จะทำรอยตัวเองที่คอได้ไหม?" ฆีนเอียงคอให้ท็อปดูหลักฐาน จนอีกฝ่ายชะงักไปนิด

"สงสัยตอนกูทำคงนึกถึงผู้หญิงอยู่ละมั้ง อย่าถือสาคนเมาเลย"
ท็อปพูดออกมาเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร

       สีหน้าที่เคยดูผ่อนคลายของฆีน ตอนนี้กลับมาตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

"ท็อปรู้ไหม? พี่ทำตัวไม่ถูกแล้ว ปากก็เอาแต่พร่ำบอกว่าไม่สนใจพี่ แต่พอเมา การกระทำท็อปแสดงออกเหมือนชอบกัน มันทำให้พี่มีความหวัง แต่พอท็อปหายเมาก็บอกว่าจำอะไรไม่ได้ ท็อปช่วยตอบให้พี่หายข้องใจได้ไหม? ว่าพี่ต้องทำไงกับสถานการณ์ครึ่งๆกลางๆแบบนี้" ฆีนระบายความรู้สึกออกไปทั้งหมด

“จะคาดคั้นเอาอะไรจากกูวะ...ฆีน...กูก็เป็นคนอย่างนี้แหละ ถ้ารับในสิ่งที่กูเป็นไม่ได้ ก็เลิกชอบกูซะ”

 
      ฆีนนั่งมองเด็กหนุ่มเดินหนีเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง สองมือหนากุมขมับอย่างครุ่นคิด ฆีนไม่เคยเจอใครที่เข้าถึงยากและทำตัวได้แปลกประหลาดอย่างท็อปมาก่อน

       ถึงเวลาที่ฆีนต้องจัดการและหาหลักฐานเองว่าท็อปรู้สึกอย่างไร คงดีกว่าที่จะถามจากปากเด็กหนุ่มคนนี้แล้ว   



......................................

แฮร่ ! เพราะรักจึงยอมทุกอย่างงงงง พี่ฆีนได้กล่าวไว้ ฮ่าๆๆๆ

บอกก่อนไว้เลยว่าท็อปเป็นนายเอกที่เอาแต่ใจ นิสัยไม่ดีนะคะ  แต่ไม่ถึงขั้นเลวชั่วช้านะเออ...

ใครไม่ชอบหรือขัดใจต้องขออภัย

แต่เชื่อเถอะ เมื่อ เรารักใครสักคน เขาก็คงยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อปรับเข้าหากันและกันแหละน่า เนอะ!

อันที่จริงๆ น้องนางมีความน่าสงสารอยู่นะ...ดูไปเรื่อยๆเนอะ....

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 5.2} UPDATE [14-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 16-02-2017 00:10:50
คงต้องอัดคลิปแบล็คเมล ละมั้งเนี๊ยะ???
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 6} UPDATE [18-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 18-02-2017 20:13:19
ตอนที่ 6 ใกล้





"เหี้ยเอ้ย!...วันซวยอะไรของกูวะเนี่ย"

 
     กราฟสบถขึ้นพร้อมคลำกางเกงเพื่อหากระเป๋าสตางค์ หลังจากแยกกับพี่ที่ออฟฟิศที่แวะมาส่งและนาทีนี้ กราฟเพิ่งรู้ว่าตัวเองคงลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ออฟฟิศแน่ๆ


     เม็ดเหงื่อเริ่มผุดซึมบนใบหน้า กราฟเดินไป เดินมาอย่างร้อนลน เขาจะกลับบ้านอย่างไรดี ในเมื่อจะกลับแท็กซี่ไปเอาเงินที่บ้านก็ไม่ได้ เพราะวันนี้ ครอบครัวเขาไม่มีใครอยู่ที่บ้านด้วย

"ไอ้ท็อปมึงอยู่ไหน?" กราฟตัดสินใจโทรหาเพื่อนสนิทเผื่อจะช่วยเหลือเขาได้

[อยู่ออฟฟิศมีอะไรวะ เสียงตื่นมาเชียว]

"ซวยว่ะ...กูลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ออฟฟิศน่ะสิ  กูโทรหาไอ้พลก็ปิดเครื่อง วันนี้พ่อแม่กูก็ไปต่างจังหวัดกันอีก กูไม่มีเงินกลับบ้าน"

[ใจเย็น...ไอ้กราฟ ตอนนี้ มึงอยู่ไหน?]

"บีทีเอสสถานีอโศก"

 
[อ้าวเหรอ? โชคดีของมึงนะเนี่ย โทรหาพี่ฆิตเลย เมื่อกี้ พี่เขาโทรมาชวนกูกินเหล้าอยู่ แกบอกเดินเล่นอยู่ที่ห้างเทอร์มินัล]

     ท็อปคุยกับกราฟไม่ทันเสร็จดี ก็บอกเพื่อนว่าหัวหน้าเรียกคุยงานจึงต้องรีบวางสาย ทิ้งท้ายด้วยการส่งเบอร์พี่ฆิตผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์มาให้กราฟดูต่างหน้า

      ชายหนุ่มยืนกลืนน้ำลายลงคอสลับกับมองเบอร์โทรศัพท์ที่เพื่อนส่งให้มาด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน นี่มันจะเป็นโชคดีอย่างที่ท็อปบอกหรือ? โชคร้ายของกราฟเสียมากกว่าที่ต้องพึ่งพาคนกวนประสาทอย่างพี่ฆิต

      กราฟกำโทรศัพท์อย่างลังเลใจที่จะโทรหา เพราะอายที่ต้องโทรไปยืมเงินอีกฝ่าย ทั้งๆที่ก่อนหน้ากัดกันแทบตาย

       แต่สุดท้าย เวลานี้ เด็กหนุ่มต้องเอาตัวรอดไปก่อน กราฟตัดสินใจโทรหาพี่ฆิตและบอกสาเหตุของการขอยืมเงิน

       เด็กหนุ่มเบะปาก กลอกตาไปมาเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นโทรศัพท์ออกมา

      และนั่นคือสิ่งที่กราฟไม่อยากขอความช่วยเหลือ เพราะเป็นอย่างที่กราฟคิดว่าไม่มีผิด พี่ฆิตได้ทีขี่แพะไล่ เขาส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยอย่างเริงร่าจนน่าปาโทรศัพท์ใส่หน้าให้เสียโฉม


     กราฟถอนหายใจ ก่อนจะเดินคอตกไปหาคนพี่ตามที่นัดหมาย และเมื่อพอเจอหน้ากัน กราฟหน้าเจื่อนแกมหมั่นไสที่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสถานะที่เหนือกว่า พี่ฆิตยืนกอดอกรอด้วยรอยยิ้มยั่วประสาท
 

     กราฟเดินปรี่ไปหาอีกฝ่าย

"ว่าไงครับ น้องกราฟของพี่ฆิต" กราฟชะงักกึก ไม่ใช่แค่สรรพนามที่เรียกเท่านั้น แต่พี่ฆิตล็อคคอแล้วโน้มตัวลงต่ำจนใบหน้าทั้งสองห่างกันแค่คืบ


     มันใกล้เกินไป จนทำให้กราฟเผลอกลั้นหายใจไปครู่หนึ่ง

"ปล่อยคอก่อนสิวะ พี่ฆิต คนแม่งเยอะนะเว้ย"
                                                 
      กราฟหันซ้าย แลขวาทำท่าเลิ่กลั่ก เมื่อเห็นคนที่เดินผ่านไป ผ่านมาชำเลืองมอง

      ยิ่งเวลาเลิกงาน ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เป็นจุดที่คนแวะเวียนมาเป็นจำนวนมากอย่างไม่ต้องพูดถึง

"ผู้ชายกอดคอกัน มึงจะอายอะไรวะ"

 
"เออๆ นั่นแหละ ปล่อยเหอะ..." กราฟแกะมืออกจากการเกาะกุม แล้วถอยออกห่าง ส่วนฆิตได้แต่หัวเราะ และถามขึ้น
 
"จะเอาเงินเท่าไหร่ว่ามาไอ้น้อง พี่มีให้ไม่อั้น"

 
"โห!...ทำมาพูดดี ผมขอหมื่นนึงเลยแล้วกัน"

 
    กราฟพูด ฟากฆิตหยิบกระเป๋าสตางค์วางใส่มือกราฟที่แบมือรออยู่

"เอาไปเลย" ฆิตยิ้มยียวน

     ทางกราฟเองก็ไม่คิดเกรงใจอีกฝ่าย ถือวิสาสะเปิดกระเป๋าสตางค์แต่แล้วต้องตาโตเมื่อเห็นแบงค์พันเป็นฟ่อน
 

"โห! แล้วบอกไม่รวย พกเงินสดเต็มกระเป๋าขนาดนี้"

 
"ฮ่าๆ กูเอามาจ่ายหนี้ว่ะ"

 
"โธ่!"

 
"สรุปจะเอากี่บาท"

"ผมขอยืมแค่ห้าร้อยก็พอ"


     ฆิตควักแบงค์พันให้สองใบ

"อะไรของพี่วะ ผมขอแค่ห้าร้อย"

"ค่าจ้าง"

"ค้าจ้างอะไรวะ?"

"กินข้าวกับกูหน่อย"


"พี่ฆิต ถ้าเรื่องกินไม่ต้องจ้างหรอก ผมเต็มใจ"

 
"ฮ่าๆ งั้นดีเลย มึงเก็บเงินซะแล้วไปกินข้าวกัน" ฆิตดันมือกราฟที่ถือเงินกลับไป แล้วกอดคอเด็กกวนประสาทเหมือนเดิม แต่กราฟกลับหยุดชะงักเท้าและขืนตัวไม่ยอมเดินตาม

"พี่ปล่อยคอผมก่อนได้ไหมวะ จะเดินอย่างนี้เลยหรือไง?"

"กูชินน่ะ"

"ชิน?"


"กูชอบเดินกอดคอ"

      กราฟมองหน้าคนที่สูงกว่าเขาไม่เท่าไหร่ มองใกล้ๆแบบนี้ ยอมรับว่าพี่ฆิตหน้าตาดีพอสมควร เขาไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อสมบูรณ์แบบจนไร้ที่ติ แต่พี่ฆิตดูเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเอง และที่สำคัญ พี่ฆิตเป็นคนมีเสน่ห์มาก โดยเฉพาะเวลายิ้ม ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไหร่ที่ผู้ชายคนนี้พูดจายียวนหรือปากหวานใส่ เสน่ห์มันก็ไม่รู้มาจากไหน ยิ่งทำให้ลุคเขาดูน่าคุย น่าเข้าไปทำความรู้จักมากขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล

      แต่เดี๋ยวก่อน...ทำไมอยู่ดีๆ กราฟถึงมาคิดชื่นชมคนข้างกายได้ เขาหยุดความคิดเหล่านั้น ก่อนจะดันไหล่ให้อีกฝ่ายเดินนำไป

     จนกระทั่ง ทั้งสองได้ร้านที่ถูกใจ เขาเดินเข้าไปนั่งในร้านไก่ทอดกรอบชื่อดังและเลือกสั่งเมนูที่ชอบเสร็จสรรพ


     ไม่นาน รายการอาหารที่ทั้งคู่สั่งก็ได้ครบถ้วน เวลานี้ ฆิตและกราฟคุยไป กินไปอย่างเอร็ดอร่อย

 
      กราฟยอมรับว่า พี่ฆิตเหมือนเพื่อนและสนิทสนมเร็วที่สุดทั้งๆที่รู้จักกันไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าพี่ฆิตจะอายุเยอะกว่าแต่เขาก็ไม่เคยถือตัวและปฏิบัติต่อกราฟอย่างเป็นกันเอง ในขณะเดียวกัน พี่ฆิตก็มีมุมผู้ใหญ่ให้กราฟได้เคารพเหมือนกัน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่พี่ฆิตเป็นอยู่นั้น ทำให้กราฟอยู่ด้วยแล้วสบายใจ


     ในระหว่างนั้น ฆิตได้ทีถามขึ้น

"เออ! กูถามหน่อย มึงรู้เรื่องพี่ฆีนใช่ไหม?"

"เรื่อง?"
กราฟถามกลับ

"อย่าทำเป็นไขสือหน่อยเลย"

"ที่พี่ฆีนชอบไอ้ท็อปน่ะเหรอ?"

"อืม...กูอยากรู้ว่าเพื่อนมึงชอบพี่ฆีนบ้างไหม?"


"ผมไม่รู้จริงๆว่ะพี่ ดูไม่ออกและแม่งไม่ยอมบอกอะไรเลย"

"มึงเข้าใจใช่ไหมว่าพี่ฆีนเป็นพี่ชายกู และก็ไม่อยากเห็นพี่กูเจ็บ"

"เข้าใจดิแต่เรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องของคนสองคน ผมจะไปพูดบังคับขู่เข็ญให้มันต้องชอบพี่ฆีน มันก็ไม่ใช่เรื่องหรือเปล่า?"

"มึงไม่ได้ด่ากูว่าเสือกอยู่ใช่ไหมวะ"

"ฮ่าๆ ไม่ๆ พี่ฆิต ผมแค่พูดตามจริง"
กราฟว่าจบก็แทะไก่ต่ออย่างเมามันส์

"เฮ้อ! กูแค่อยากให้พี่กูสมหวังเท่านั้นเอง ดูๆแล้ว พี่กูจริงจังกับท็อปมาก"
ฆิตพูดเสียงเครียด

"พี่คงรักพี่ฆีนมากน่าดู"

"แน่นอนสิวะ กูมีพี่ชายแค่คนเดียว พี่ฆีนดูแลกูดีทุกอย่าง กูไม่อยากจะพูดเรื่องในอดีตเลย มึงรู้ไหม? สมัยเด็กกูมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนจนเข้าห้องปกครอง พี่ฆีนช่วยแก้ตัวแทนกู แต่พ่อกูโกรธอยู่ไงเขาไม่ฟัง พี่กูเลยตัดสินใจยอมโดนพ่อตีแทนกูเพื่อจบปัญหา และยิ่งช่วงวัยรุ่น กูสร้างเรื่องบ่อย พ่อกูเล่นบทโหด ตัดเงินค่าขนมจนกูไม่พอใช้ พี่ฆีนรู้เรื่องเขาก็แบ่งเงินของตัวเองให้กู ตอนอายุแค่นั้น กูคิดไม่ได้หรอกเลยไม่ได้ใส่ใจ แต่พอมานั่งนึกย้อนเหตุการณ์ตัวเองหลายๆอย่างในอดีต กูคิดว่าตัวกูเองเหี้ยมากเหมือนกัน เลยอยากตอบแทนและช่วยเหลือพี่กูบ้าง"


"อืม...เหี้ยจริงว่ะ"

"เดี๋ยวเถอะ ...ไอ้กราฟ กูด่าตัวเองได้ แต่มึงห้ามด่า" ฆิตไม่ได้ว่าอย่างเดียว แต่เอานิ้วที่เลอะไก่ทอด จิ้มไปที่หน้าผากอีกฝ่าย

"เฮ้ย! พี่ฆิตมันสกปรกนะเว้ย"

"ช่วยไม่ได้ มึงด่ากู"

"ก็พี่ยอมรับตัวเองนี่หว่า ผมเลยช่วยทับถมไง"


"มึงนี่เลี้ยงเสียข้าวสุกว่ะ กูไม่น่าให้เงินเลย น่าจะให้นั่งขอทานอยู่แถวสะพานลอย" ฆิตว่าอย่างหน่ายๆ

"โห! อะไรวะพี่? แซวนิดแซวหน่อยทำเป็นจริงจังไปได้"

       กราฟหน้างอ คอหัก แต่แล้วคนอายุน้อยกว่าก็เปลี่ยนเรื่องคุย     

"แล้วสรุปตอนนี้พี่ไม่มีแฟนจริงๆเหรอ?" กราฟถามย้ำเพื่อความมั่นใจจากที่เคยถามครั้งก่อน

"ไม่"

"ไม่มี?"

"ไม่เสือกสักเรื่องได้ไหมวะมึง"


      กราฟเบะปากใส่ แล้วบ่นอุบอิบเบาๆ

"กวนตีน"

"กูได้ยินนะไอ้กราฟ" ฆิตจ้องหน้ากราฟ ทำให้เด็กหนุ่มเอ่ยปากขอโทษ จนฆิตต้องด่ากลับให้เด็กมันสำนึกบ้าง

"กูล่ะอยากให้มึงเห็นหน้าตัวเองตอนมึงไม่มีเงินกลับบ้านกับตอนนี้จริงๆ แม่งต่างกันลิบลับเลย"

"หึๆ"


      กราฟหัวเราะในลำคอ ก่อนจะก้มหน้า ก้มตากินไก่ต่อ แต่ในขณะนั้นเอง ฆิตก็พูดโพล่งขึ้นมา

"กูไม่มีแฟน และคิดว่าคงไม่น่าจะมีเร็วๆนี้"

"ทำไมวะพี่?"

"มึงนี่เสือกเต็มขั้นจริงๆ เออ... มึงกล้าถามกูก็กล้าตอบ แฟนเก่ากูมันหักหลังไปคบกับเพื่อนกู"


      กราฟเงยหน้ามองพลางกระพริบตาปริบๆ

"เอ่อ...ผมขอโทษนะพี่ที่ละลาบละล้วง คือ...แค่อยากรู้ว่าเลิกกันทำไม แต่ไม่คิดว่าเหตุผลมันจะ...เอ่อ..."

"ช่างมันเถอะ กูก็ทำใจได้แล้วล่ะ แต่แค่ยังเข็ดๆกับความรักว่ะ"

"ไม่เป็นไรนะพี่ มันต้องมีสักวันที่เป็นวันของเรา ไม่นาน พี่จะต้องเจอผู้หญิงที่ดี"


       ฆิตชะงักกึกกับคำปลอบใจแต่ก็ทำเป็นลื่นไหลไปกับบทสนทนา
 
       เมื่อทั้งคู่จัดการอาหารตรงหน้าจนเสร็จสิ้น ฆิตเรียกเก็บเงินและเป็นฝ่ายเลี้ยงมื้อนี้

       สุดท้าย ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าฆิตก็ขับรถมาส่งกราฟถึงที่บ้านจนได้

 
       จนกระทั่ง รถยนต์ได้จอดเทียบหน้าบ้าน ก่อนลงกราฟยื่นเงินให้พี่ฆิต...

"อะไร?"

"พี่มาส่งถึงบ้าน ผมไม่ต้องใช้เงินเแล้วเอาคืนไปเถอะ"


"กูให้แล้ว ไม่เอาคืน"

"อะไรของพี่วะ พี่ฆิต"

"กูอยากให้มึงเป็นหนี้บุญคุณกู"


       กราฟเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าอย่างเข้าใจในคำบอกกล่าว

"เลวว่ะ เอาคืนไปเลย"
กราฟแกล้งด่าอย่างไม่จริงจังนัก เขายัดเงินใส่ในมือพี่ฆิต จู่ๆ พี่ฆิตก็โน้มตัวมาทางกราฟ ร่างสูงพาดช่วงกลางลำตัวของเด็กหนุ่มเพื่อเอื้อมไปเปิดประตูฝั่งคนนั่ง

"ลงรถได้แล้ว เบื่อขี้หน้ามึง"

       พี่ฆิตเงยหน้าขึ้นมามอง ในขณะที่ทั้งสองสบประสานสายตากันพอดี และเป็นกราฟที่เบี่ยงหน้าหนี แล้วรีบลงรถ

"เอ่อะ...ขอบคุณพี่ฆิตที่มาส่งและเลี้ยงข้าวผมนะครับ"

"พูดเพราะได้ด้วย?"

"พี่ฆิตแม่ง!"

"ไปได้แล้ว"



         จนกระทั่งกราฟเดินผลุบหายเข้าไปในบ้าน ฟากฆิตยิ้มกว้างและหัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้า ก่อนจะเคลื่อนรถออกไปจากที่แห่งนี้


****1.1****
[/b]

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 6} UPDATE [18-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 18-02-2017 22:41:32
น้องท็อปนี่ยังไง แต่ละคำพูด โอ้ยยย สงสารพี่ฆีนเลย....  :hao5:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 6} UPDATE [18-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-02-2017 08:39:53
คู่ท็อปพี่ฆีนต้องตามเชียร์แบบหืดขึ้นคอแน่ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วเอาให้หวานกว่าคู่อื่นน่ะ อิอิ

พี่ฆิตกราฟคู่กันชัวร์คู่นี้ต้องแนวกัดแล้วฟัดบนเตียงเยอะๆๆใช่มะ ฮ่าๆๆๆๆ

รอน่ะอับบ่อยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 6} UPDATE [18-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 20-02-2017 12:57:46
ท็อป นายต้องการอะไรแบบไหนกันแน่
สับสนแทนพีฆีนเลยนะนี่ แต่เชียร์อยู่นะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 6.2} UPDATE [21-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 21-02-2017 20:42:06
ตอนที่ 6 ใกล้ (2)



      เวลายังคงผ่านไปเรื่อยๆ จนบัดนี้ก็เป็นวันเสาร์ที่ท็อปนอนเปื่อยเฉยๆอยู่ที่บ้าน แค่ได้พักร่างจากการทำงานดึกดื่นมาห้าวันติด มันก็มีความสุขที่สุดแล้ว

     สิบโมงเช้า ที่ท็อปอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย อะไรไม่รู้ดลใจให้เด็กหนุ่มคว้าเสื้อที่พี่ฆีนซื้อให้มาทาบและมองอยู่ตรงหน้ากระจก จากนั้นก็สวมใส่มันและยืนบิดซ้าย บิดขวาเพื่อพินิจพิจารณา ท็อปยอมรับว่า ถูกใจ เพราะมันดูดีและเหมาะกับรูปร่างเขาไม่น้อยเลย

      ก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง ท็อปมองโทรศัพท์ตัวเองที่อยู่ในมือเหมือนรออะไรบางอย่าง ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ที่ไปนั่งดื่มที่คอนโดของพี่ฆิตคราวนั้น ทั้งฆีนและท็อปไม่ได้มานั่งพูดคุยหรือฟื้นฝอยหาตะเข็บแต่อย่างใด อีกทั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นช่วงที่พี่ฆีนมีงานข้างนอกเกือบทุกวัน ทำให้เรื่องนี้ถูกเลือนหายในไม่ช้า 

     แล้วทำไมท็อปต้องมานั่งคิดด้วย...เด็กหนุ่มส่ายหน้าซ้ายขวาน้อยๆเหมือนต้องการสลัดความคิดออกจากหัวสมอง พร้อมก้าวเท้ายาวๆลงไปหาอะไรกินที่ห้องครัว


    จนกระทั่ง ท็อปกินข้าวเสร็จเรียบร้อย เขาเดินไปหาแม่ที่นั่งถักโครเชต์อยู่ที่สวนหน้าบ้าน


"พี่ธัญไปไหนล่ะ แม่"

"เห็นว่าออกไปช่วยเพื่อนดูของชำร่วยงานแต่งน่ะ"

"อ่อ...ถ้างั้น ท็อปขอไปนอนต่อนะ"

 
"ขี้เกียจจังเลย ท็อป"


"โห...แม่ ท็อปเพลียสะสมน่ะ" ท็อปไม่สนคำดุด่าของแม่ เขาเดินเข้าไปในบ้านและขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตัวเอง

      เด็กหนุ่มนอนแผ่หราบนเตียงกว้างพร้อมเปิดเพลงฟังคลอเคล้าในระหว่างที่เช็คข่าวคราวผ่านทางโซเชียล มีเดียไปด้วย

      เมื่อเห็นว่าข่าวทางโลกออนไลน์ไม่มีอะไรให้น่าติดตาม ท็อปจึงเดินไปหาแผ่นหนังเก่าๆมาเปิดดู เขาเลือกหนังสงครามเรื่อง Fury เพราะเป็นเรื่องโปรดของพี่แทนที่ดูซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนท็อปเคยแซวว่าถ้าคลั่งไคล้ขนาดนี้ ไปเป็นทหารซะเลยดีไหม? แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือคำด่าและการกัดที่หลังต้นคอทุกครั้งที่ท็อปแซวถึงเรื่องนี้

        เพียงแค่นึกถึงการกระทำของพี่แทน ท็อปเผลอลูบหลังต้นคอเบาๆด้วยหัวใจที่วาบหวิว


        เขาถอนหายใจ ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊คแล้วใส่แผ่นซีดีลงไป ท็อปนอนดูหนังอย่างไม่ได้ตั้งใจนัก เพราะเขาดูจนจำได้ทุกฉากว่าเนื้อเรื่องหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และแล้วความง่วงก็เริ่มเข้าครอบงำทำให้เด็กหนุ่มที่ดูหนังไปเรื่อยๆนั้น ผล็อยหลับไปในที่สุด



        จนกระทั่ง เวลาห้าโมงเย็น เด็กหนุ่มล้างหน้า ล้างตา เดินลงมาข้างล่างพร้อมกับได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูกขณะที่ก้าวเท้าลงมาถึงตีนบันได 

        ท็อปก้าวเท้ายาวๆไปหาแม่ที่มุ่งมั่นกับการทำกับข้าวอย่างจริงจัง ท็อปมองอาหารบางส่วนที่เสร็จแล้ววางอยู่บนโต๊ะอาหาร วันนี้ ดูเยอะเป็นพิเศษ จึงเอ่ยถามแม่และได้เรื่องว่า มีแขกของพี่ธัญจะมากินข้าวมื้อนี้ด้วย

       ท็อปร้องอ๋ออย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินไปนั่งรอแม่ที่ส่วนรับแขก ในขณะที่ท็อปนั่งพิมพ์ข้อความโต้ตอบกับกราฟผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์อยู่นั้น ก็มีเสียงตะโกนอยู่หน้าบ้าน ท็อปวางโทรศัพท์และรีบวิ่งไปดูที่ประตูก็เห็นพี่สาวเขานั่นเองที่ยืนปาดเหงื่ออยู่ตรงรั้วหน้าบ้าน

      ท็อปเพิ่งสังเกตเห็นว่าพี่สาวไม่ได้เอารถไปถึงยืนโวยวายแบกของหนักอยู่หน้าบ้าน
 
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะ" ท็อปเปิดประตูรั้วถาม

"ก็เพื่อนฉันน่ะสิฝากของที่ซื้อมาไว้กับฉันก่อน เพื่อทิ้งฉันไปเคลียร์กับแฟน เพราะดันทะเลาะอะไรกันไม่รู้ โคตรบ้าเลย...นี่ดีนะที่ฉันมีคนมาช่วยพอดี"

 
      ท็อปพยักหน้าเออออตามน้ำและก้มหยิบถุงใบใหญ่เพื่อช่วยพี่สาวถือ ในขณะที่เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาถึงกับชะงัก เมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่หลังพี่สาวเป็นใคร?

"ฆีน"

"ท...ท็อป อยู่ที่นี่หรือ?"
ฆีนถามอย่างตกใจ เพราะคราวก่อนๆที่มาส่งเด็กหนุ่มก็ส่งแค่เพียงหน้าหมู่บ้านเท่านั้น ซึ่งตอนที่เลี้ยวเข้ามาส่งธัญ ฆีนยังคิดเลยว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่ผู้หญิงคนนี้อยู่หมู่บ้านเดียวกับท็อป แต่ไม่คิดว่าคนที่ฆีนช่วยจะเป็นพี่สาวของเด็กหนุ่มเลยด้วยซ้ำ

“รู้จักกันด้วยหรอคะ?” ธัญหันไปถามพี่ฆีนอย่างสงสัยสลับกับมองหน้าน้องชายที่ตอนนี้ยืนช็อค หน้าซีดเผือกเหมือนปลาที่โดนน็อกด้วยการแช่น้ำแข็งหรือโดนความเย็นจัดในฉับพลันอย่างไร อย่างนั้น

“ครับ” เป็นฆีนที่ตอบคำถามนั้น และเหลือบมองหน้าท็อปที่ยังอยู่ในอาการเหวอสุดขีด

"ถ้างั้นเข้าไปคุยในบ้านกันต่อดีกว่าค่ะ" ธัญบอก ฟากฆีนพยักหน้า

      บางครั้ง เรามักเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ประหลาดใจได้อยู่เสมอ ในตอนแรกหลังจากมีเรื่องที่ท็อปเมาวันนั้น ฆีนบอกตัวเองอย่างหนักแน่นว่า เขาจะยังไม่คุยและไม่ติดต่อกับท็อปเพื่อทิ้งระยะห่าง วางตัวเป็นเพียงคนรู้จักกันอย่างไม่มีอะไรลึกซึ้ง ไม่ถึงกับเชิงทำใจหรือเลิกชอบ เขาแค่ต้องการให้เวลาเด็กหนุ่มได้คิดและตอบตัวเองว่าลึกๆแล้วเด็กหนุ่มต้องการอะไรกับเรื่องรักของฆีนกันแน่

      ตลอดระยะการทำงาน ฆีนทำได้อย่างที่คิดไว้ แต่ใครจะคิดล่ะว่า จะเจอสถานการณ์ที่ทำให้ความเข้มแข็งของฆีนแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนไหวได้อย่างน่าประหลาด เพียงแค่ได้มายืนอยู่หน้าบ้านของคนที่ชอบแถมยังใส่เสื้อที่ฆีนเคยซื้อให้อยู่ด้วยตอนนี้

      เรื่องที่คนอื่นอาจมองว่าเล็กน้อย แต่สำหรับฆีนได้เท่านี้ก็ดีใจ...

      ไม่นาน รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อจัดก็ค่อยๆปรากฎขึ้น ฆีนยืนอมยิ้มอยู่คนเดียวหลังจากเจ้าของบ้านทั้งสองคนเดินนำหน้าไปแล้ว

      เมื่อเดินเข้ามาในตัวบ้าน ธัญพาแขกไปยังโต๊ะอาหารอันเต็มไปด้วยกับข้าว กับปลา

       ทุกเมนูสดๆร้อนๆถูกจัดวางตรงหน้าอย่างละลานตา ทุกคนเดินไปนั่งที่ของตัวเอง มารดาของท็อปเป็นฝ่ายจัดแจงให้ผู้ชายนั่งฝั่งเดียวกัน ทำให้พี่ฆีนต้องมานั่งข้างท็อปอย่างเลี่ยงไม่ได้

 
       พี่ธัญพยายามพูดคุยเพื่อไม่ให้ผู้มาใหม่เกร็งเกินไป และเป็นคนตักอาหารให้พี่ฆีนอยู่บ้าง

       เด็กหนุ่มมองพี่สาวเงียบๆ ในใจลึกๆ ก็อยากถามว่าเจอพี่ฆีนได้อย่างไร แต่เหมือนมีคนใจตรงกับเด็กหนุ่ม เพราะแม่ของเขาถามออกไปพอดี ซึ่งพี่ธัญเล่าว่า ตอนนั้นพี่ธัญแยกกับเพื่อน ด้วยความที่หญิงสาวเดินถือของพะรุงพะรังจึงไม่ได้ระวังตัวว่าจะมีมิจฉาชีพมาขโมยของ ซึ่งประจวบเหมาะกับพี่ฆีนที่เห็นว่าโจรกำลังจะกรีดกระเป๋าพี่ธัญ พี่ฆีนเดินมาห้ามไว้ได้ทันก่อนที่มันจะทำสำเร็จ แต่เพราะโจรกลัวพี่ฆีนจะจับส่งตำรวจ มันจึงป้องกันตัวด้วยการถีบเข้าที่หน้าท้องของพี่ฆีน และวิ่งหนีด้วยความเร็วแสง


       พี่ธัญเห็นพี่ฆีนโดนทำร้าย จึงถามว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า? ฟากพี่ฆีนส่ายหน้า พี่ธัญจึงขอบคุณซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าและในขณะที่พี่ฆีนกำลังขอตัวเดินหนีไป พี่ธัญรั้งไว้เพราะเห็นว่าเขาทำความดีจึงอยากตอบแทนด้วยการเลี้ยงข้าว นั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่ ฆีนมาอยู่ที่นี่ตอนนี้...

       ฟากท็อปที่เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ มองพี่สาวตัวเองที่ชื่นชมพี่ฆีนอย่างออกนอกหน้าและหันไปส่งยิ้มให้กัน มันทำให้ท็อปรู้สึกว่าความรักที่แท้จริง ก็คือ การที่ผู้หญิงกับผู้ชายต้องคู่กันแบบนี้มันเหมาะสมที่สุดแล้ว ไม่ใช่หรือ?...


       เด็กหนุ่มยังคงครุ่นคิดและวนเวียนเรื่องนี้อยู่ในหัวสมอง จังหวะนั้น พี่ธัญหันมาถามท็อปว่ารู้จักกับพี่ฆีนได้อย่างไร เด็กหนุ่มหลุดออกจากภวังค์และหันไปตอบตามจริงว่าพี่ฆีนคือหัวหน้าของเขานั่นเอง

"พี่ฆีนดูไม่เหมือนหัวหน้าท็อปเลย เหมือนเป็นรุ่นพี่ที่มหาฯลัยมากกว่า" ธัญว่า

"อย่างนั้นหรือครับ"
ฆีนหัวเราะก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง

"เวลาทำงานผมก็ทำตัวเหมือนรุ่นพี่มากกว่าหัวหน้าแหละครับ เพราะผมมองท๊อปเหมือนน้องที่ผมรักมากคนหนึ่ง"

"แค่กๆ!" ท็อปที่กินข้าวอยู่ถึงกับสำลัก

      ใครถามแบบนี้ทีไร พี่ฆีนก็ตอบทำนองนี้ทุกที แต่ท็อปไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เพราะคำพูดเหล่านั้นมันแฝงความหมายมากกว่าที่พูดอย่างไรไม่รู้

"เอ้า!...ตะกละตะกรามจริงแก" พี่ธัญว่า แต่ขณะที่ดวงตาท็อปหันไปจ้องคนต้นเรื่อง

"พี่ฆีนอิ่มรึยัง...จะได้กลับบ้านไปสักที" ท็อปพูด

เพี้ยะ!!

"โอ้ย!! แม่ตีท็อปทำไม"

"ตายๆ แม่จะเอาหน้าไปไว้ไหนดีนี่ ถ้ามีคนถามว่าเลี้ยงลูกยังไงถึงไม่มีมารยาท เฮ้อ...ท็อปไม่ควรไล่แขกแบบนั้นนะ..."


"ขอโทษด้วยนะคะพี่ฆีน" เป็นธัญที่เอ่ยเสียงแผ่ว

"ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือสาหรอกครับ" ฆีนยิ้มจางๆ และนั่นเองที่ทำให้ท็อปโดนทั้งแม่และพี่สาวสวดยาวจนทำให้เด็กหนุ่มไม่พูดอะไรอีก

"แล้วอยู่ที่ทำงานท็อปขี้เกียจมากไหมคะ?" ธัญถามถึงความประพฤติน้องชาย

"ท็อปตอนทำงานก็ขยันมากนะครับ รู้จักเรียนรู้เพิ่มเติม เป็นคนตั้งใจและมีความรับผิดชอบ ถ้าทำจนมีประสบการณ์มากพอ ผมว่าเขาอนาคตไกลทีเดียว"

"จริงหรอคะพี่ฆีน ธัญไม่อยากจะเชื่อ เวลาอยู่บ้านมันนั่งๆนอนๆทั้งวัน"

 
"พี่ธัญ หยุดพูดเลยว่ะ"

"ท็อป เดี๋ยวแม่ตีเลย เถียงพี่ธัญอีกแล้วนะ"


        ฆีนมองหน้าเด็กหนุ่มที่ซึมหลังจากโดนมารดาดุด่าอยู่หลายรอบ จากนั้น ทุกคนก็ชวนคุยเรื่องอื่นแทน และจู่ๆ ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่คล้ายหลงฤดู ทำให้แม่ท็อปบอกฆีนให้นอนที่บ้านนี้ไปโดยปริยาย ซึ่งท็อปรู้ดีว่าฝนตกไม่ใช่ประเด็นในการรั้งคนมาใหม่ให้อยู่ต่อ แต่อาจเป็นเพราะแม่คงคุยถูกคอและถูกชะตามากกว่าถึงไม่อยากให้พี่ฆีนกลับบ้าน

        ส่วนตัวฆีนเองก็ยิ้มกว้างโดยไม่ขัดอะไร โอกาสมาถึงที่มีหรือ? จะปล่อยให้หลุดลอยไป


        ไม่รู้ว่านี่คือโชคชะตาหรือไม่ ถึงมีเหตุการณ์ให้ฆีนได้เข้าใกล้ตัวตนของท็อปมากขึ้น แถมได้รู้ในมุมที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน สิ่งสำคัญที่ฆีนเพิ่งรู้จากปากมารดาของคนที่เขาชอบ คือ ท็อปมีพี่ชายที่รักและสนิทมาก แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุอันน่าสลดใจเมื่อพี่ชายและบิดาไปดูที่ของครอบครัวที่ต่างจังหวัดแต่กลับเจอเรื่องร้ายเมื่อรถบรรทุกสิบล้อเสียหลักพุ่งข้ามเลนมาชนประสานงากับรถของพี่ชายทำให้พ่อและพี่แทนเสียชีวิตคาที่

       การตายของพ่อและพี่ชาย นำมาซึ่งความโศกเศร้าให้ครอบครัว  แต่คนที่น่าจะอาการหนักที่สุดเห็นจะเป็นท็อปที่เขาสูญเสียความเป็นตัวเอง กลายเป็นเด็กนิสัยเสียและเอาแต่ใจตั้งแต่นั้นมา ไม่มีใครหาสาเหตุได้ว่า ทำไมท็อปถึงเปลี่ยนไป

       เมื่อไหร่ก็ตามที่มีชื่อพี่ชายสอดแทรกเข้ามาในเรื่องราวของการสนทนา ฆีนเห็นดวงตาคู่นั้นสั่นไหวและแดงก่ำ

      แม่ท็อปเห็นว่าบรรยากาศบนโต๊ะอาหารกำลังเศร้า จึงเปลี่ยนเรื่องคุย และไม่นานนัก ทุกคนก็จัดการอาหารจนเสร็จสิ้น ท็อปถูกพี่ธัญใช้ให้พาพี่ฆีนมาที่ห้องนอนของพี่แทน

       จนกระทั่ง ท็อปมาส่งพี่ฆีนที่หน้าห้องพี่ชายของตัวเอง


"นอนอย่างเดียว ห้ามแตะของพี่แทนทุกชิ้น เพราะกูหวงและรักมาก"

"ครับ"
ฆีนรับคำอย่างว่าง่าย จังหวะที่ท็อปหมุนตัวกลับไป

"เสื้อที่ใส่อยู่มันเข้ากับท็อปมากๆเลย พี่ว่าน่ารักดี"


       ท็อปหยุดชะงักเท้า เขาลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้เขาใส่เสื้อที่พี่ฆีนให้อยู่นี่หว่า

       เพราะไม่อยากเสียฟอร์ม ท็อปหมุนตัวกลับไป แล้วผลักท้องอีกฝ่ายอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้ แต่ทันใดนั้น เสียงสบถดังขึ้นมา

"สำออยว่ะ"

"อะไรกันคะ"
พี่ธัญที่เดินขึ้นมาได้ยินเสียงร้องพอดี เธอเดินชนน้องชายเข้าไปหาพี่ฆีนที่ยืนกุมท้อง และเพิ่งนึกได้ว่าอีกฝ่ายเพิ่งโดนทำร้ายมา ธัญจึงขออนุญาตเปิดเสื้อดูก็เห็นว่า...

"แกทำอะไร ห้ะ...ท็อป"

        ท็อปตาโตเมื่อเห็นรอยช้ำสีแดงม่วง ปรากฎเป็นวงกว้างที่ช่วงหน้าท้อง เด็กหนุ่มยืนอ้ำๆอึ้งๆพูดไม่ออก จนฆีนรีบแก้ต่างให้

"อย่าว่าท็อปเลยครับ น้องไม่ได้ทำอะไรหรอกครับ...ธัญ"


"ยืนบื้อทำไมล่ะ!! ลงไปเอาน้ำแข็ง หรือลองถามแม่ซิว่ามีที่ประคบเย็นไหม?"


     พี่ธัญว่าจบ เด็กหนุ่มวิ่งลงไปถามแม่จนได้ของทุกอย่างครบถ้วน ท็อปขึ้นมาก็โดนพี่สาวต่อว่าอีกครั้งและบอกให้ท็อปดูแลพี่ฆีนด้วย

     ท็อปเอ่ยขอโทษพี่ฆีนที่ทำแบบนั้น ฟากฆีนไม่ติดใจอะไรแต่กลับบอกท็อปว่าจะขออาบน้ำก่อน ทำให้ท็อปแยกไปอาบน้ำยังห้องนอนของตัวเองด้วย

      เด็กหนุ่มทำธุระของตัวเองเสร็จเดินเข้ามาในห้องนอนของพี่แทน ก็เห็นพี่ฆีนนั่งรออยู่ปลายเตียงด้วยผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่

      สองเท้าหยุดชะงักอยู่ที่หน้าประตู เมื่อเห็นร่างแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆทั้งช่วงหน้าท้อง กล้ามอก กล้ามไหล่ และแขนที่ไม่ได้กำยำหรือล่ำสันจนน่ากลัว แต่กลับดูฟิตและเฟิร์มอย่างคนสุขภาพดีเสียมากกว่า

       ท็อปเผลอไล่สายตามองร่างของคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะมองส่วนใดก็ดูดีไปทุกสัดส่วนจนน่าอิจฉา

"มองนานขนาดนี้ พี่คิดค่ามองนะครับ" ฆีนแกล้งหยอกเอินอีกฝ่าย แต่อันที่จริงแล้ว เขาเองต่างหากที่พูดเพื่อกลบเกลื่อนความเก้อเขินของตัวเองเมื่อเห็นสายตาคนที่ชอบมองตาไม่กระพริบ

"อ...เอ่อ!..ก็แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าวะ" ท็อปละล่ำละลักบอกด้วยเสียงอ่อยๆ เขาไม่โวยวายอย่างทุกที เพราะหนนี้ ท็อปทำผิดกับอีกฝ่ายมากเหมือนกัน

"พี่เห็นว่าท็อปต้องประคบแผลให้พี่ก็เลยค่อยใส่ทีเดียว"


"ใส่ก่อนเถอะ ไม่งั้นกูไม่ทำแผลให้นะ...ฆีน"

"ก็ได้"


         ฆีนว่าจบลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้าที่ท็อปเตรียมให้ก่อนหน้า ตอนแรกท็อปก็นึกว่าพี่ฆีนจะไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ แต่เปล่าเลย พี่ฆีนกลับสวมใส่ทุกอย่างมันซึ่งๆหน้า ทำให้ท็อปเบือนหน้าหนีไปอีกทาง เพื่อรอให้อีกฝ่ายแต่งตัวเสร็จก่อน แต่ไม่ถึงสิบวินาทีเลยที่เด็กหนุ่มอดเบนสายตากลับมามองไม่ได้

         เป็นครั้งแรกที่ท็อปไม่เมาและอยู่ในห้องกับพี่ฆีนในสภาพที่อีกฝ่ายกึ่งเปลือยเปล่า จู่ๆ ท็อปรู้สึกปั่นป่วนในอก  จังหวะของหัวใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม แถมหน้าร้อนผะผ่าวอย่างไม่มีเหตุผล

         ท็อปรีบหลุบสายตาลงต่ำ รอจนกระทั่งพี่ฆีนหย่อนกายนั่งลงที่ปลายเตียง เขาถึงเงยหน้าขึ้นมาและเริ่มประคบแผลให้

         ฆีนลอบมองท็อปที่ดูเก้ๆกังๆในการปรนนิบัติแต่สิ่งหนึ่งที่แฝงไว้จนฆีนสัมผัสได้ นั่นคือความตั้งใจ

        ไม่นานนัก ฆีนก็เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ

"น่ารักจัง ขอบคุณนะครับที่ทำแผลให้"

 
"กูเป็นผู้ชาย เลิกชมกูน่ารักได้รึเปล่าวะ ฆีน" ท็อปว่าเสียงแผ่ว แต่สองตายังคงมองรอยช้ำอีกฝ่าย ไม่ใช่ใบหน้าหล่อนั้น

"ก็ท็อปน่ารักในสายตาพี่นี่ครับ"   

       ฆีนพูดเสียงนุ่มพลางมองเด็กหนุ่มที่ระยะห่างกันแค่คืบ ยิ่งใกล้ขนาดนี้ บอกเลยว่า ฆีนสามารถเห็นใบหน้าอีกฝ่ายที่ขึ้นสีระเรื่อจนลามไปถึงใบหูได้อย่างชัดเจน

       ฆีนเห็นเด็กหนุ่มไม่เถียงกลับแถมยังเม้มปากแน่นเหมือนกำลังเก็บงำอะไรบางอย่างไว้  ใบหน้าคมเข้มแต้มด้วยรอยยิ้ม จากนั้น ฆีนถือวิสาสะกุมมือท็อปที่กำลังประคบแผลตรงช่วงท้อง  ทำให้ท็อปชะงักและเงยหน้าขึ้นมาสบประสานสายตากันพอดี

"ท็อปลองเปิดใจคบกับพี่ไหม? พี่จะเป็นทั้งแฟนและพี่ชาย คอยดูแลและอยู่ข้างๆกันทั้งยามสุข ยามทุกข์"


       สิ้นเสียงนั้น ฆีนกระชับมือท็อปแน่นกว่าเดิมให้อีกฝ่ายเห็นถึงความจริงจังและจริงใจ แต่เสี้ยววินาทีนั้น คนพี่แอบเห็นดวงตาเด็กหนุ่มไหวระริกวูบหนึ่ง ก่อนจะกลับมานิ่งขรึมตามเดิม

       ฟากท็อปเมื่อดึงสติกลับมาได้ เขาชักมือกลับและลุกขึ้นยืนทันที

"ทำต่อเองได้ใช่ไหมฆีน กูจะไปนอนแล้ว"

       ท็อปว่าจบเขาโยนผ้าขนหนูผืนเล็กลงบนตัก ทิ้งให้ฆีนนั่งงุนงงกับการกระทำของเด็กหนุ่ม เพราะเชื่อเถอะ! ว่าเจอแบบนี้เข้าไป ฆีนก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

        ท็อปไม่ปฏิเสธแต่ก็ไม่ตอบรับในคำขอ...

        ฆีนยังคงมึนเบลอและหาคำตอบให้เรื่องนี้ไม่ได้ เพราะเขาไม่รู้เลยจริงๆว่าสิ่งที่ท็อปเป็นอยู่มันเข้าข่ายโรคไบโพลาร์หรือเด็กหนุ่มกำลังสับสนในหัวใจกันแน่!..
 

 
......................................


เจอคนแบบนี้เข้าไป ก็คงเหวอ เอ๋อตามๆกัน มีอะไรในใจก็บอกมาเลย ท็อป.. ^^

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 6.2} UPDATE [21-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 21-02-2017 23:28:06
ความบังเอิญจริงๆ,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 7} UPDATE [24-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 24-02-2017 18:24:09


ตอนที่ 7 เปลี่ยน



"มึงควรกินปลาหรือพวกวิตามินบำรุงสมองบ้างนะ กราฟ" ฆิตกอดคอกราฟทันทีที่เจอ

     เพราะความขี้ลืมทำให้กราฟเจอเหตุการณ์เดิม คือ ลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่ออฟฟิศ ต่างกันเพียงแค่วัน เวลา กราฟเลยตัดสินใจลองโทรหาพี่ฆิตเผื่อฟลุ๊คว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ห้างสรรพสินค้านี้ ซึ่งโชคดีที่พี่ฆิตอยู่ที่นี่จริงๆและเพิ่งมาถึงหมาดๆ เนื่องจากพี่ฆิตนัดเจอเพื่อนที่นี่เช่นเดียวกัน

"โธ่ พี่ฆิต...ผมเพิ่งลืมสองครั้งเองเถอะ" กราฟตอบพลางกลอกตาและเบ้ปากเล็กน้อย


“ฮ่าๆ เออ...กราฟ...วันนี้ วันเกิดเพื่อนกู ไปด้วยกันดิ"

 
"ไม่ดีกว่าพี่ ผมแค่จะมาขอยืมเงิน เดี๋ยวกลับบ้านเลยดีกว่า"

 
"ไปเหอะน่า กลัวอะไรวะ" ฆิตยิ้มกว้างและยักคิ้วหนึ่งข้างเสริมด้วยการกระแซะไหล่รุ่นน้อง

"ผมไม่รู้จักเพื่อนพี่นี่หว่า"

"เดี๋ยวก็รู้จักเองนั่นแหละ"


        สุดท้าย กราฟขี้เกียจหาเรื่องมาอ้างจึงตอบตกลง

        ฆิตและกราฟก้าวเท้ายาวๆเดินขึ้นบันไดเลื่อนหวังจะเดินดูอะไรเรื่อยเปื่อยเพื่อฆ่าเวลา

"ถ้าไม่อยากเดินเล่น จะหาอะไรกินรองท้องหน่อยไหม?"

"ได้นะ แต่คราวนี้ ผมขอเลี้ยงคืนบ้างนะ เกรงใจ"

"มึงมีเงินหรือ?"


"ก็ยืมเงินพี่เพื่อมาเลี้ยงพี่ก่อนไง"
"ฮ่าๆ น่าสงสารจังเลยน้องกราฟ ถ้างั้นไม่ต้องหรอก กูเลี้ยงเอง"
ฆิตหัวเราะร่า ก่อนจะส่ายหน้าขำ สอดส่องสายตามองหาร้านที่อยากกินไปด้วย
"โอ้โห...ใจป๋าขนาดนี้ ไม่น่าโดนหักอกนะ พี่ฆิต"

 
!!!

     เด็กหนุ่มกำลังเข้าใจผิดคิดว่าคำแซวทำให้อีกฝ่ายขุ่นเคือง กราฟหน้าเจื่อน เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคนที่เคยกวนประสาทหายไป พี่ฆิตเงียบและตีสีหน้ามาเคร่งขรึมภายในไม่กี่วินาที

     กราฟกำลังจะเอ่ยขอโทษที่พูดแรงเกินไป แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นเสียก่อน

"พี่ฆิต!"

 
     เสียงนั้น ทำให้กราฟละสายตาจากคนข้างกาย หันไปมองเด็กหนุ่มสวมชุดนักศึกษาผูกเนกไทอันเป็นระเบียบเรียบร้อย หน้าตาละอ่อนแถมมีรูปร่างตัวเล็กกว่ากราฟและพี่ฆิตอยู่พอสมควร

     กราฟมองสองคนที่ยืนประจันหน้ากัน เด็กคนนี้คงมีความสำคัญถึงทำให้พี่ฆิตเปลี่ยนเป็นคนละคน พี่ฆิตยืนเงียบขรึม ส่งสายตาเย็นชาให้อีกฝ่าย โดยที่กราฟไม่เคยเห็นมุมนี้มาก่อน

"พีทมีอะไรหรือเปล่า?"

     กราฟยืนมองเด็กหนุ่มที่ก้มมองมือตัวเองที่ประสานกันแน่นจนบิดเบี้ยว กราฟรู้สึกไม่ดีเพราะเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินของสถานการณ์นี้

"พี่ฆิตคุยธุระก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอ"


     กราฟหมุนตัวต้องการเดินให้พ้นบรรยากาศอันน่าอึดอัด ทันใดนั้น ฆิตจับข้อแขนกราฟไว้แน่น จนกราฟสะดุ้งตกใจ

"อยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวเราก็จะไปกันแล้ว"

"พีทอยากคุยกับพี่ฆิตสองคนสักครู่หนึ่งก็ไม่ได้หรอครับ"

"พี่ควรฟังอะไรอีกหรือ? เรื่องจริงหรือเรื่องโกหกดีล่ะพีท"

"พี่...ฆิต...พ...พีทขอโอกาสแก้ตัวได้ไหมครับ"

      หนุ่มน้อย ปากแดงเดินหน้ามาอีกก้าวเพื่อจะได้ใกล้พี่ฆิตและจับมืออีกฝ่ายได้อย่างถนัดถนี่

      ฆิตมองมือตัวเองที่โดนกุมไว้ เขาเงยหน้าและเบือนสายตาหนีไปอีกทาง

"พอเถอะพีท พี่เบื่อแล้วกับคำแก้ตัวให้พี่ไปมีคนที่ดีกว่านี้เถอะว่ะ พี่ไปก่อนนะ"


     ฆิตตอบเสียงแข็งก่อนจะสะบัดมือพีทออก และดันแขนกราฟให้เดินออกจากที่ตรงนี้

"ไปกันกราฟ"

    กราฟไม่ได้เหวอ! ที่พี่ฆิตไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูดต่อ แต่สิ่งที่กราฟเหวอคือพี่ฆิตจับมือและสอดประสานนิ้วแนบแน่นเดินออกมา
 
    กราฟคิดว่า ต่อให้เป็นเพื่อนสนิทกันแค่ไหน ผู้ชายด้วยกันคงไม่มีโมเมนต์เดินจับมือกลางที่สาธารณะอย่างนี้หรือเปล่า?

     พี่ฆิตทำให้กราฟสับสนในความรู้สึก แต่สิ่งที่น่าแปลกกว่านั้น คือ กราฟไม่รังเกียจหรืออยากปล่อยมือแต่อย่างใด

     แม้จะเดินออกมาได้หลายก้าว แต่กราฟมิวายหันหลังไปมองเด็กหนุ่มที่ยืนน้ำตาคลอเบ้า

 
     หลังจากที่ทั้งสองปล่อยมือออกจากกัน กราฟเดินเงียบมาตลอดทาง

     จนกระทั่ง พี่ฆิตมาหยุดที่หน้าร้านสเต็ก

"กินร้านนี้ได้ไหม?"

"ได้ แต่ถ้าเรากินกันอยู่ แล้วเพื่อนพี่มาถึงล่ะ"

"ไม่เห็นจะยาก ให้มันมากินด้วยกันแค่นี้ก็จบ"

“ก็ได้ครับ"


      เมื่อเดินเข้ามาในร้านและทั้งสองทิ้งตัวลงนั่งได้แล้ว ต่างฝ่ายต่างก็สั่งอาหารกันอย่างรู้หน้าที่

      คราวนี้ กราฟไม่พูดเล่นหรือแซวอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะพี่ฆิตมีอาการเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

     และความเงียบก่อตัวขึ้นอยู่นาน จนกระทั่ง อาหารมาเสิร์ฟถึงโต๊ะ...ฆิตเป็นฝ่ายทำลายความเงียบนั้น

"คนนั้นแหละ แฟนเก่ากู"

 
     กราฟพอจะคาดเดาจากสิ่งที่เห็นได้บ้าง เพียงแค่ไม่แน่ใจเลยอยากได้ความมั่นใจโดยรอให้อีกฝ่ายพูดขึ้นเองคงดีกว่า

"พี่เป็นเกย์เหรอ?" กราฟถามย้ำอีกครั้ง เพื่อต้องการความชัดเจน

"มึงรังเกียจ?"


     กราฟส่ายหน้ารัว เขาไม่รู้สึกแบบนั้นเลย และไม่เคยตะขิดตะขวงใจว่าพี่ฆิตเป็นเกย์ด้วยซ้ำ เพียงแต่การที่พี่ฆิตบอกมาว่าไม่ใช่ชายแท้ มันกลับตอกย้ำความรู้สึกลึกๆที่กราฟกำลังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่

"ผม...เอ่อ...ช่างมันเถอะครับ พี่โอเคใช่ไหม?"

"ก็คงอย่างนั้นมั้ง"
น้ำเสียงชาเฉยพร้อมสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกทอดสายตามองออกไปยังนอกร้านอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาจัดการสเต็กพอร์ค ช็อปเนื้อฉ่ำตรงหน้า

"พี่ฆิต"


    ฆิตเงยหน้ามองกราฟ

"ผมชอบพี่ฆิตคนเดิมมากกว่า กลับมายิ้มและกวนประสาทผมอีกนะ...สู้ๆนะพี่"

 

     ฆิตเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ก่อนจะคลี่ยิ้มอย่างบางเบา

"ขอบใจนะมึง"

 
      ใช้เวลานั่งรับประทานอาหารกันได้สักพักใหญ่ๆ เพื่อนพี่ฆิตก็ส่งข้อความมาบอกว่า เดินทางถึงสตูดิโอแล้ว ไม่ต้องรอ ทำให้พี่ฆิตบ่นอุบอิบนิดหน่อย ก่อนจะรีบจัดการอาหารที่เหลือและบึ่งไปยังสตูดิโอที่อยู่ไม่ไกลจากห้างเท่าไหร่นัก

      เมื่อรถยนต์เคลื่อนถึงที่หมาย ทั้งสองลงรถและเดินผ่านรั้วสีขาว เข้ามายังพื้นที่ตั้งสตูดิโอสีดำ ด้านข้างตกแต่งสวนหย่อมขนาดย่อมพร้อมม้านั่งยาวที่ตอนนี้มีเพื่อนๆพี่ฆิตนั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ 

"โว้ว..!ไอ้ฆิตพาเด็กมาเปิดตัวเว้ยย!" เพื่อนฆิตหนึ่งในหกคนเห็นคนมาใหม่จึงเอ่ยแซวขึ้น ทำให้เพื่อนๆที่เหลือหันมามองเป็นสายตาเดียวตามด้วยเสียงโห่ฮิ้วประหนึ่งว่ามีขบวนแห่นาค

"พวกมึงหยุดกวนตีนสักสองนาทีได้ไหมวะ? มันเป็นน้องกูชื่อกราฟและไม่ใช่แฟนหรือกิ๊กห่าเหวอะไรทั้งนั้น"
ฆิตตอบเสียงขุ่น ส่วนกราฟหน้าเจื่อน ยิ้มแห้ง ได้แค่ยกมือไหว้สวัสดีรอบกลุ่ม

"อูยย...วันนี้ ไอ้ฆิตมาโหมดโหดวะ"


     ฆิตถอนหายใจและดึงไหล่กราฟให้นั่งลงข้างกัน โดยกราฟเหลือที่ว่างเพียงนิดเดียว จึงต้องนั่งเบียดพี่ฆิตอย่างเลี่ยงไม่ได้

     กราฟนั่งตัวลีบและเงียบเพราะไม่รู้จักใคร แต่ยอมรับว่า ความรู้สึกเกร็งได้แปรเปลี่ยนเป็นความผ่อนคลายเมื่อเพื่อนๆพี่ฆิตชวนคุยแบบกันเองพร้อมเล่าเรื่องกันอย่างตลกขบขัน กราฟนั่งมองเพื่อนพี่ฆิตแต่ละคนอย่างนึกขำ หรือเป็นเพราะสายพันธุ์เดียวกันหรือเปล่าไม่แน่ใจ ถึงอยู่ด้วยกันได้

     แม้เพื่อนพี่ฆิตแต่ละคนจะมีสไตล์เป็นของตัวเอง แต่ทุกคนล้วนแฝงด้วยความกวนประสาท ปากคอเลาะร้าย แว้งกัดคนไปทั่วเหมือนๆกัน กราฟจึงเชื่อแล้วว่าการได้เจอพี่ฆิตนี้เล็กน้อยไปเลย...

     ในขณะที่กราฟนั่งขำกับมุกเพื่อนพี่ฆิต เขาเหลือบเห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไรเลย เอาแต่นั่งยกดื่มๆ กราฟจึงเอื้อมมือไปแตะไหล่

"พี่ฆิต...เพลาๆหน่อย พี่เมาแล้วนะ" กราฟเตือนอย่างเป็นห่วง เพราะการอยู่ในวงเหล้าครั้งนี้ กราฟแทบไม่แตะหรือดื่มน้อยกว่าทุกที เนื่องจากเขาเป็นสมาชิกใหม่ยังไม่อยากออกอาการเมาเรื้อนสักเท่าไหร่นัก

      ฆิตหันไปจ้องหน้ากราฟโดยไม่ตอบคำ จังหวะนั้น เขาลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากตรงนี้ ทิ้งให้กราฟนั่งงุนงงว่าพี่ฆิตเป็นอะไร

"ตามไปดูฆิตสิ" เพื่อนพี่ฆิตที่ชื่อเขตหันมาคุยกับกราฟ ทำให้กราฟชี้นิ้วเข้าหาตัวเองอย่างงงๆว่าทำไมต้องเป็นเขา แต่พอเห็นสายตากดดัน สุดท้ายกราฟก็ลุกตามไปหาพี่ฆิต

      ตอนแรกที่พี่เขตบอก กราฟนึกว่า ให้กราฟมาคนเดียว แต่ที่ไหนได้ พี่เขตเดินตามมาด้วย

"มันเจอแฟนเก่าก่อนมาที่นี่ใช่ไหม?" เขตถามทันทีที่เริ่มเดินห่างไกลจากวงเหล้า

      กราฟหันขวับมองอย่างประหลาดใจว่าพี่เขตมีจิตสัมผัสหรือเป็นหมอดูนั่งทางในหรือเปล่าถึงรู้ว่าก่อนหน้านี้พี่ฆิตเจอใครมา จู่ๆกราฟก็รู้สึกขนลุกขนชันทั่วร่าง

"พี่รู้ได้ยังไงครับ”

      เขตหรี่ตามองอีกฝ่ายที่ทำสีหน้าตกใจจนดูออกจึงรีบแก้ตัว

"อย่าคิดว่าพี่เป็นพวกจิตสัมผัสล่ะ แค่รู้ใจเพื่อนเฉยๆ มันเมามากขนาดนี้ มีอยู่ไม่กี่เรื่อง"

"อ่อ...."


      กราฟสบายใจที่พี่เขตไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องราวเร้นลับ

"ไอ้ฆิตมันเป็นคนดีนะ"

"ครับ"

"น้องคงรู้"

"ครับ"


"ไอ้ฆิตมันเป็นคนขี้เหงา เห็นมันยิ้ม หัวเราะ กวนประสาทชาวบ้านเขาไปทั่วน่ะ รู้ไหม? อันที่จริง มันกำลังเอาความร่าเริงกลบเกลื่อนความเหงา ความโดดเดี่ยวที่ติดอยู่ในใจมันนั่นแหละ"

       กราฟมองคนที่ยืนอยู่ข้างกันแท้ๆ แต่สายตากลับไม่ได้มองกราฟสักนิด เอาแต่มองเหม่อไปไหนก็ไม่รู้

"เอ่อ...แล้วพี่มาบอกผมทำไมครับ"


      ทันใดนั้น ดวงตาที่ไม่ได้มองเด็กหนุ่ม กลับหันมาจดจ้องราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนผุดรอยยิ้มเย็น จนกราฟรู้สึกหวาดกลัวพิลึก

"บอกไว้ เผื่อน้องจะช่วยมันได้ พี่ขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อน"

       และแล้วพี่เขตเดินหายไปในความมืด ทิ้งให้กราฟยืนรอพี่ฆิตเพียงลำพังอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ


 
****1.1****

 :katai2-1: :katai2-1:







       
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 7} UPDATE [24-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 24-02-2017 21:49:06
เอาอีกๆๆๆคู่พี่ฆิตน้องกราฟ มันได้ใจอ่ะ

เชียร์พี่ฆีนพิชิตใจท็อปต่อ อิอิ

หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 7} UPDATE [24-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 26-02-2017 16:18:11
กราฟคงต้องช่วยแล้วแหละครับ,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 7.2} UPDATE [27-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 27-02-2017 00:16:02
ตอนที่ 7 เปลี่ยน (2)



      รอไม่นาน เด็กหนุ่มก็เห็นคนพี่เปิดประตูห้องน้ำเดินออกมาด้วยสภาพที่มีหยาดน้ำพราวเกาะทั่วใบหน้าพร้อมดวงตาที่แดงก่ำ

 

"ไหวไหม? พี่ฆิต"

"อืม...มึงมารอกูหรือ?"

"อะ...เอ่อ...ครับ ผมเห็นพี่ดูเมาแล้ว กลัวจะตายคาส้วมน่ะ เลยต้องมาดูสักหน่อย"

 

       กราฟแซวอย่างยิ้มๆโดยยังไม่ก้าวไปไหน เพราะยืนมองคนที่เหมือนผ่านการร้องไห้มา เขาไม่กล้าถามไถ่อะไรอีก แต่ในจังหวะนั้นเอง...

"กราฟ ยืมไหล่หน่อยดิ"


"ห้ะ!!"

         กราฟถามซ้ำเพื่อต้องการความแน่ใจ แต่ไม่ทันได้คำตอบคนพูดก้าวเท้ายาวๆมาซุกหน้าลงบนลาดไหล่และทิ้งน้ำหนักตัวไปหาอีกฝ่ายคล้ายต้องการที่พักพิงทั้งทางร่างกายและหัวใจนั้นทันที


       ไม่มีเสียงสะอื้นและคำพูดออกมาจากปากคนพี่ มีแต่น้ำตาที่ซึมผ่านเสื้อยืดของกราฟจนรู้สึกเป็นห่วง


        เด็กหนุ่มทำได้แต่ยืนนิ่งแข็งเป็นหิน ไม่กระดิกตัวไปไหน เขาไม่รู้จะพูดปลอบใจอย่างไรให้อีกฝ่ายสบายใจ ดังนั้น การได้ยืนเป็นเสาหลักให้พี่ฆิตพักพิงก็คงเพียงพอแล้ว     

"พ...พี่ฆิต"

"อย่าเพิ่งพูดอะไร ขอกูอยู่แบบนี้ก่อนได้ไหม?"

"เอ่อ...ค...ครับ....พี่"

     สักพักใหญ่ๆที่ฆิตผละออกห่างด้วยรอยยิ้มที่ต่อให้มองอย่างไรก็ดูรู้ว่ากำลังฝืน

"ขอบใจนะ"
     
"ไม่เป็นไรครับพี่ เรื่องแค่นี้เอง สบายมาก"

 
     กราฟยิ้มกว้างคล้ายให้กำลังใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นพี่ฆิตเศร้าเท่านี้มาก่อน...
 
"เออ...พี่ฆิต นี่ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวผมขอกลับบ้านก่อนได้ไหม?"
 
"ได้สิ กูไปส่ง"
 
"ไม่เอาๆ ผมกลับเองได้ วันนี้วันเกิดเพื่อนพี่นะเว้ย...พี่อยู่ต่อเถอะ"

     พี่ฆิตประชิดตัวแล้วล็อคคอจนกราฟได้กลิ่นกายชายหนุ่มผสมกลิ่นแอลกอฮอลล์คละคลุ้งทั่วร่าง

"อย่าเถียง กูพามึงมากูต้องรับผิดชอบ" เสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นใกล้ๆซอกคอเด็กหนุ่ม


   กราฟหยุดชะงักเหมือนมีอาการหัวใจเต้นสะดุดกับสิ่งที่พี่ฆิตทำ เขารีบผละออกห่างและก้าวเดินนำพี่ฆิตไปก่อนโดยไม่พูดอะไร
 
    ตอนนี้ ฆิตและกราฟเดินกลับมานั่งลงตรงที่เดิม โดยเพื่อนๆก็ไม่มีใครถามไถ่ เพราะเขตกำชับไว้อย่างดิบดีว่าห้ามทุกคนถามอะไร ให้คุยกันเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    กราฟมองซ้าย แลขวา และพบว่าตอนนี้พี่เขตที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมีสติที่สุดในกลุ่ม จึงลุกไปขอความช่วยเหลือ
 
"พี่เขต ผมรบกวนหน่อยครับ ผมจะกลับบ้านแล้ว แต่พี่ฆิตดื้อจะไปส่ง พี่ช่วยพูดให้หน่อยได้ไหมครับว่าอย่าไป คือ พี่ฆิตเมาแล้ว ผมเป็นห่วงเขา" กราฟกระซิบบอก
 
"เป็นห่วงงั้นเหรอ?"
 
 "ครับ"
กราฟตอบจริงจัง

        ทันใดนั้นเอง...
 
"ไอ้ฆิต น้องมันจะกลับบ้านแล้ว มึงรออะไรวะ ไปส่งกราฟสิ"
 
"อ้าว...เหี้ย!"
กราฟไม่ได้พูดโพล่งออกไป ทำได้แค่อุทานในใจ

        แม่ง...โคตรกวนตีนเลย...ให้ตายเถอะ!
 
        พี่เขตไม่คิดห่วงเพื่อนเลยรึไง เมาขนาดนี้ พี่ฆิตจะขับรถไปส่งกราฟได้อย่างไร...และกราฟยังไม่ทันจะได้อธิบายต่อเลย เสียงเข้มก็ดังขึ้น

"ทำไมไม่บอกกู ไปบอกไอ้เขตทำไม"
กราฟหันไปหาก็เห็นพี่ฆิตจ้องเขม็ง จนเด็กหนุ่มต้องเดินกลับมานั่งข้างๆพี่ฆิตอย่างเดิมด้วยความกลัวดวงตาวาวโรจน์คู่นั้น
 
"อะ...เอ่อ ผ...ผม..." กราฟละล่ำละลักตอบแต่สายตาก็วกกลับไปมองพี่เขตที่เห็นอีกฝ่ายยกยิ้มเจ้าเล่ห์
 
       ยังไม่ทันพูดจบประโยคดี ไม่คิดว่าคนเมาจะมีเรี่ยวแรงมากถึงขนาดกระชากกราฟให้ลุกขึ้นจนเกือบเสียหลัก แล้วบอกเพื่อนทุกคนว่าจะส่งรุ่นน้องไม่กลับมาแล้ว
 
       ทั้งกลุ่มไม่มีใครรั้งอะไร กลับร่ำลาให้พี่ฆิตโชคดี แล้วปล่อยให้กราฟพูดกับพี่ฆิตจนปากจะฉีกถึงรูหูแล้วว่าจะกลับบ้านเอง แต่พี่ฆิตไม่ฟังสักนิด เขาจับข้อแขนกราฟแน่นจนขึ้นรอยแดง จนเด็กหนุ่มทนไม่ไหวร้องโวยวายว่าเจ็บเพียงเท่านั้น พี่ฆิตถึงปล่อยมือ

       กราฟพ่นลมหายใจ ใครจะคิดว่า พี่ฆิตเมาแล้วดื้อด้านขนาดนี้

       พี่ฆิตเดินเมาเซเหมือนปูเสฉวนไปยังรถของตัวเอง กราฟเห็นท่าไม่ดี ตัดสินใจบอกพี่ฆิตขอเป็นฝ่ายขับเอง ขืนให้พี่ฆิตเป็นสารถีขับไปส่งที่บ้าน มีหวังไม่ถึงสวรรค์ก็นรกก่อนแน่ๆ
 
       นับว่าเป็นรอบที่ยี่สิบกว่าๆแล้วที่กราฟถอนหายใจ ตั้งแต่ขับรถมาถึงบ้านของตัวเอง....ก็เพราะกราฟห่วงคนข้างกายพอสมควร พี่ฆิตเมาขนาดนี้จะขับรถกลับคอนโดได้อย่างไรกัน
 
      และเพียงก้าวลงจากรถ ไม่รู้พี่ฆิตสะดุดเท้าตัวเองหรืออย่างไร เขาถึงล้มจนเข่ากระแทกพื้น
 
"เฮ้ย...พี่ฆิต ไหวไหมวะ?"

       กราฟทรุดตัวลงนั่งยองๆเพื่อไปประคองอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น
 
"ขอเข้าบ้านมึงไปล้างหน้าล้างตาหน่อยนะ"

"เฮ้อ...คงไม่ต้องล้างหน้าหรอกพี่ นอนนี่เลยแล้วกัน เมาขนาดนี้"

       กราฟถอนหายใจพลางส่ายหน้า รีบพาพี่ฆิตเข้าบ้าน โชคดีที่บ้านกราฟวันนี้ ไม่มีใครอยู่ ไม่งั้นกราฟโดนด่ายับแน่ๆ
 
       ลากสังขารคนเมามาจนถึงห้องนอนกราฟได้ เด็กหนุ่มรีบเปิดแอร์ไล่ความร้อนพร้อมนอนแผ่หราลงไปกับเตียงอย่างเหนื่อยล้า กราฟไม่ได้ไปส่งคนพี่แค่บอกทางไปห้องน้ำแก่พี่ฆิตเท่านั้น

      กว่าสิบห้านาทีที่กราฟนอนรอพี่ฆิต จนเริ่มเอะใจว่าพี่ฆิตไม่น่าจะอาบน้ำนานขนาดนี้หรือเปล่า? กราฟชักใจคอไม่ดี เด้งตัว ลุกพรวดขึ้นจากเตียง เร่งฝีเท้าไปยังห้องน้ำ

       มือหนาบิดลูกบิดประตูก็พบว่าไม่ได้ล็อค กราฟเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพี่ฆิตนั่งหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่พื้นในขณะที่ฝักบัวถูกเปิดทิ้งไว้จนน้ำไหลออกมาดั่งสายฝน กราฟรีบเดินไปปิดก๊อกน้ำ แล้วทรุดตัวลงนั่งยองๆ
 
      เด็กหนุ่มนั่งไล่สายตามองเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงผ้าสีแดงมารูนของพี่ฆิตเปียกชุ่มจนกราฟได้แต่เก้ๆกังๆทำตัวไม่ถูก เขารีบปลุกให้พี่ฆิตตื่นเพราะกลัวอีกฝ่ายจะเป็นไข้ได้

"พี่ฆิตอย่าหลับทั้งอย่างนี้ดิ ตื่นก่อน"
 
      กราฟมองคนพี่ที่ไม่รู้สึกอะไรในการเขย่าร่างหนานั้นเลยสักนิด กราฟสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะระบายลมหายใจออกมาช้าๆ

"ไม่เป็นไรหรอกไอ้กราฟ ของไอ้พล ไอ้ท็อปก็ยังเคยเห็นมาแล้วเลย"

      กราฟพูดปลอบใจตัวเอง เพราะสิ่งที่ทำให้กราฟต้องลงมือทำคือการถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกจากร่างกายของผู้ชายตรงหน้า
 
      แค่จะถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำให้อีกฝ่าย ทำไมกราฟต้องใจสั่น มือสั่นแบบนี้

      เมื่อเสื้อเชิ้ตถูกถอดออกไปเป็นลำดับแรก กำลังตามด้วยกางเกงขายาว ท็อปรู้สึกปั่นป่วนในอกขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

"ผู้ชายด้วยกัน กลัวห่าอะไรวะ ก็มีเหมือนๆกัน ทำตัวแต๋วแตกไปได้...ไอ้กราฟ"

       กราฟตบแก้มตัวเองเบาๆราวเรียกสติ จากนั้น ก็จัดการปลดกระดุม รูดซิบ พร้อมดึงกางเกงอีกฝ่ายให้ร่นลงด้วยความทุลักทุเล

        เมื่อสองตาเด็กหนุ่มเห็นอันเดอร์แวร์สีขาวของคนตรงหน้า กราฟก็หน้าร้อนวูบวาบ

        สุดท้ายกราฟก็ทำใจไม่ได้ เขาไม่ถอดอันเดอร์แวร์ เพราะต้องการปกปิดของสงวนพี่ฆิตไว้สักหน่อยแล้วกัน

"ไม่ต้องสะอาดมากแล้วกันนะพี่"

       กราฟบอกทำเหมือนกับว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องอย่างไร อย่างนั้น กราฟรีบกดสบู่เหลวเพื่อมาลูบไล้ทั่วร่างกายชายหนุ่ม

       ในขณะที่กราฟทำความสะอาดและถูแผ่นหลังของอีกฝ่าย ทำให้ใบหน้าของพี่ฆิตซุกลงตรงซอกคอเด็กหนุ่มอย่างพอเหมาะพอเจาะ

        สายน้ำที่เย็นฉ่ำยังโปรยปรายลงมาทำให้ทั้งกราฟและพี่ฆิตอยู่ในสภาพเปียกปอนทั้งคู่ คราบสบู่ที่กราฟยังถูตัวให้พี่ฆิตทำให้ผิวกายคนตรงหน้าลื่นไหลภายใต้สายน้ำจากฝักบัว เมื่อเนื้อตัวเปียกมาพร้อมลมหายใจอุ่นๆและริมฝีปากที่กดลงตรงซอกคอทำเด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าวและรู้สึกไม่ดีต่อหัวใจ กราฟดันร่างพี่ฆิตให้นั่งพิงผนังแล้วลุกขึ้นไปมองตัวเองที่หน้ากระจกทันที

"ทำไมกูหน้าแดงขนาดนี้"
กราฟหันซ้าย หันขวาน้อยๆ มองหน้าตัวเองที่แดงจัด ไม่เพียงแค่นั้น เด็กหนุ่มกดสายตาลงต่ำมองช่วงล่างที่เกิดปฏิกิริยาตื่นตัวจากการได้สัมผัส แตะต้องตัวของกันและกันเมื่อครู่

        สองมือหนาจับขอบอ่างล้างหน้าพร้อมส่ายหัวไปมาคล้ายไล่ความคิดที่กำลังเข้าสู่โหมดแห่งเพศสัมพันธ์


"เหี้ย!แล้วไง...สงบสติ เดี๋ยวนี้นะ ไอ้กราฟ" กราฟยืนข่มอารมณ์ตัวเองอยู่หน้ากระจกเงา

         ทำไม? การนอนกับเพื่อนผู้ชาย เคยแกล้งจับอวัยวะเพศเล่นกันอย่างขำขัน รวมถึงเคยอาบน้ำด้วยกัน มันไม่เห็นทำให้กราฟรู้สึกวูบหวิว หวามไหว เท่ากับการได้สัมผัสผิวกายของพี่ฆิตตอนนี้

        กราฟยืนชั่งใจอยู่นาน แต่เพราะเขาคิดว่าการอยู่สองต่อสองในห้องน้ำแบบนี้นี่แหละที่จะแย่กว่าเดิม

        สุดท้ายเด็กหนุ่มก็รีบทำความสะอาดร่างกายคนพี่ให้จบๆ เพื่อจะได้พ้นความรู้สึกที่ปั่นป่วนจนแทบบ้านี่เสียที
       

       ใช้เวลานานกว่ากราฟจะอาบน้ำและแต่งตัวให้พี่ฆิตเสร็จสรรพ เมื่อกราฟพาพี่ฆิตเข้าสู่นิทราได้แล้ว ถึงเวลาที่กราฟต้องจัดการธุระของตัวเองบ้าง

        ผ่านไปสักพัก กราฟชำระร่างกายและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาปีนขึ้นไปนอนบนเตียงกว้าง โดยกราฟทิ้งระยะห่างระหว่างเขากับพี่ฆิตไว้ เพราะภาพที่กราฟลูบไล้เรือนร่างพี่ฆิตและการที่อีกฝ่ายซุกลงซอกคอแบบนั้นมันยังติดตาและทำให้เด็กหนุ่มไม่กล้าเข้าใกล้

       แม้จะปิดไฟทุกดวง และตัวเองอยู่ในสภาพพร้อมนอน แต่จู่ๆ กราฟกลับไม่ง่วง เขายกมือก่ายหน้าผากอย่างเคร่งเครียดพร้อมกับตั้งคำถามในใจ
 
       ผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรือวะ? จะตื่นเต้นและใจสั่นทำไม?
 
       เด็กหนุ่มคิดไม่ตก ในขณะที่กราฟพลิกตัวตะแคงไปทางฝั่งผนัง จู่ๆ แขนแข็งแกร่งของพี่ฆิตก็พาดมากอดจากด้านหลัง
 
"เฮ้ย...พี่ฆิต ปล่อย"
 
     กราฟโวยวายและพยายามแกะมือพี่ฆิตออก แต่กราฟได้ยินเพียงเสียงฮึ่มฮั่มคล้ายรำคาญอยู่ในลำคอ แถมพี่ฆิตกลับดึงร่างกราฟไปกอดกระชับแน่นจนแผ่นหลังของกราฟแนบชิดเข้ากับแผ่นอกกว้าง แถมใบหน้าคนพี่ยังซุกซบอยู่ตรงช่วงบ่าจนรู้สึกได้ถึงไออุ่น ส่งผลให้ร่างกายเด็กหนุ่มร้อนวูบวาบทั่วร่าง หัวใจก็เต้นแรงและเร็วจนกลัวอีกฝ่ายจะจับได้

     ตลอดทั้งวัน กราฟใจแกว่งกับการกระทำทุกอย่างของพี่ฆิตและดันเป็นกับผู้ชายคนนี้คนเดียวเสียด้วย
 
     กราฟเริ่มไม่แน่ใจตัวเอง เพราะที่ผ่านมา กราฟชอบและคบแต่ผู้หญิง แต่ตอนนี้ พี่ฆิตทำให้กราฟรู้ว่าตัวเองกำลังเปลี่ยนไป

     และในขณะที่อีกคนหลับใหลไม่รู้เรื่องรู้ราว หารู้ไม่ว่า...มีใครอีกคนนอนตาค้างเพราะเกิดความรู้สึกในใจไม่เหมือนเดิม....
 


.......................................


พี่ฆิต!! กำลังเปลี่ยนใจคนแล้วนะนี่ รู้ตัวไหม? ^__^ ฮ่าๆ

ขอบคุณที่แวะเวียนเข้ามาอ่านและคอมเมนท์จ้า
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 7.2} UPDATE [27-2-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 27-02-2017 23:08:57
oh!! กราฟกำลังจะเปลี่ยนไป,,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 8} UPDATE [2-มีค.-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 02-03-2017 19:56:13
ตอนที่ 8 เจ็บ


 
 
         ตั้งแต่คืนนั้นก็เป็นเวลาสิบวันแล้วที่ฆิตและกราฟไม่ได้เจอหน้ากัน  ส่งผลให้กราฟได้มีเวลาอยู่กับตัวเองและครุ่นคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา
 
         แม้ว่ากราฟจะพยายามไม่นึกถึงคนกวนประสาท แต่มันก็ไม่เป็นไปดั่งใจสักเท่าไหร่ เพราะภาพวันที่พี่ฆิตเมาและท็อปอาบน้ำให้ในวันนั้นยังตามมาหลอกหลอน  กราฟจึงคิดว่าถึงเวลาที่ควรทดสอบหัวใจตัวเองว่า เขารู้สึกอย่างไรกับพี่ฆิตกันแน่...
 
         กราฟตัดสินใจมานั่งดื่มที่คอนโดของพี่ฆิตในวันนี้ เพราะมันเป็นวันเกิดของกราฟ แต่เจ้าของห้องยังไม่รู้
 
 
         ท็อป พล และกราฟมาถึงตั้งแต่หัวค่ำ เมื่อการสังสรรค์ใกล้เริ่มขึ้น กราฟเดินไปห้องครัวเพื่อเทน้ำแข็งใส่กระติก วันนี้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ให้เลือกตามใจชอบหลายประเภททั้ง วอดก้า เบียร์ และเหล้าจากต่างประเทศ แน่นอนว่าวันเกิดกราฟทั้งทีต้องดื่มให้เมากันไปข้าง
 
"ทำไมไม่บอกกูว่าวันนี้ วันเกิดมึงห้ะ...ไอ้กราฟ?"

 
      กราฟสะดุ้ง เมื่ออยู่ดีๆพี่ฆิตเดินมากอดคอถาม กราฟคิดว่าพี่ฆิตคงรู้จากปากเพื่อนของเขาแน่ๆ
 

"บอกแล้วได้อะไร ผมไม่ซีเรียสหรอกก็แค่วันเกิด"

"ไม่อยากได้ของขวัญจากกูหรือไง?"

         ใบหน้าหล่อร้ายขยับเข้าใกล้เด็กหนุ่มจนห่างกันไม่ถึงคืบ ฟากกราฟชะงักเพราะดันใจสั่นกว่าเดิม และยิ่งหวนไปคิดถึงคืนที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันภายในห้องน้ำ โดยมีแต่กราฟคนเดียวที่รู้ เพราะพี่ฆิตเมาและจำไม่ได้ ยิ่งทำให้กราฟหน้าร้อนผ่าว
 
"ไม่เป็นไรหรอก ผมรู้พี่ขี้งก เก็บเงินพี่ไว้เถอะ”
กราฟพยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น
 
"โห...ไอ้กราฟด่ากูหรือ? เออ...ไม่เอาก็เรื่องของมึง ถ้าอย่างนั้นกูไปนั่งรอข้างนอกนะ"
ฆิตหมุนตัวเดินออกไป แต่กราฟรั้งชายเสื้อพี่ฆิตไว้ได้ทัน
 
"เดี๋ยวก่อน แล้ววันนี้ พี่ฆีนจะมาไหม?"
 
"แน่สิวะ มีโอกาสแล้วกูจะให้พี่กูพลาดได้ยังไง"
 
"ดีๆ…เอ่อ...พี่ฆิต”

“ว่าไง”
 
        เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นและยืนเงียบอยู่นาน จนสุดท้ายก็ตัดสินใจถาม
 
 
“สภาพจิตใจพี่ตอนนี้...ดีขึ้นหรือยัง?”

 
       นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่กราฟยังห่วงความรู้สึกของอีกฝ่าย
 
 
       ฆิตเลิกคิ้วขึ้นสูงมองเด็กหนุ่มที่ไม่ยอมสบตาถาม เขายิ้มกว้างทันที
 
“เป็นห่วงกู?”
 
"อ...อืม"

 
“ตอนนี้ จิตใจกูดีขึ้นมาก อยากรู้ไหม? เพราะอะไร”
 
“เพราะอะไรวะ พี่?”
กราฟเงยหน้าพลางเอียงคอถามอย่างอยากรู้
 
“เพราะมึงไง ขอบใจนะที่เป็นห่วงกู”

 
     ฆิตยิ้มและบีบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ ก่อนจะก้าวเดินออกจากโซนห้องครัว ทิ้งให้กราฟยืนนิ่งงัน
 
 
     ยิ่งพี่ฆิตพูดแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้หัวใจกราฟทั้งสั่นและหวั่นไหวกว่าเดิม
 
     กราฟสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะพ่นลมออกมา เด็กหนุ่มประสานมือตัวเองแน่น ทั้งยังเดินไป เดินมาในห้องครัวด้วยความรู้สึกประหม่า สับสนและกังวลตีกันมั่วไปหมด เพราะตอนนี้ กราฟหาคำตอบให้ตัวเองได้แล้ว
 
     เด็กหนุ่มยืนสงบสติอารมณ์ เพื่อพยายามรักษาอาการไม่ให้มีพิรุธต่อหน้าเพื่อนๆ จากนั้น กราฟก็เดินไปนั่งร่วมวงกับพลและท็อป แต่สายตามิวายมองหาคนพี่จนทั่ว สุดท้าย กราฟตัดสินใจถามเพื่อนว่าพี่ฆิตไปไหนก็ได้คำตอบว่าพี่ฆิตลงไปหยิบของที่รถ ทำให้กราฟเลิกสนใจและประเดิมด้วยการดื่มเบียร์กระป๋องแรก
 
     เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทั้งสามนั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พร้อมเปิดเพลงในโทรศัพท์มือถือคลอเคล้าเพิ่มความบันเทิงเริงใจไปด้วย
 
    สี่สิบห้านาทีที่ฆิตหายไป จนกราฟเริ่มเอะใจว่าพี่ฆิตทำไมหายไปนาน ไม่ทันความคิดจะสิ้นสุด จู่ๆไฟในห้องก็ดับลง ทำให้ทั้งสามคนถึงกับอุทานร้องเสียงหลง
 
 
    แต่เสี้ยววินาทีนั้นเองก็มีเสียงเพลงสุขสันต์วันเกิดดังขึ้น
 
 
“แฮปปี้ เบิร์ทเดย์ ทู ยู….  แฮปปี้ เบิร์ทเดย์ ทู ยู….  แฮปปี้ เบิร์ทเดย์...แฮป....ปี้ เบิร์ท....เดย์ ทู ยู”

   
     จนกระทั่ง แสงไฟกลับมาสว่างทั่วห้องอีกครั้ง เด็กหนุ่มทั้งสามคนก็เห็นพี่ฆิตเดินถือเค้กตามมาด้วยพี่ฆีนที่ช่วยกันประสานเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิด
 
"สุขสันต์วันเกิดนะ กราฟ"
 
"มึงสมรู้ร่วมคิดด้วยรึเปล่าวะ?"
กราฟถามเพื่อน

 

    ท็อปและพลส่ายหน้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย เพราะทั้งสองไม่รู้เรื่องที่พี่ฆิตนำเค้กวันเกิดมาเซอร์ไพร์สจริงๆ

     จนกระทั่ง พี่ฆิตยื่นเค้กมาตรงหน้า เด็กหนุ่มจึงหลับตาและอธิษฐาน จากนั้นก็เป่าเทียนวันเกิด

"ขอบคุณนะ พี่"

"ดีนะ ที่พี่ฆีนอยู่ละแวกห้างพอดี ถึงแวะซื้อเค้กมาให้ได้"

"ขอบคุณนะครับพี่ฆีน"

 
"ไม่เป็นไรครับ" ฆีนยิ้มเอ็นดู ก่อนจะเหลือบมองท็อปที่อีกฝ่ายนั่งยิ้มอยู่เช่นกัน แต่พอท็อปเห็นพี่ฆีนหันมาทางนี้ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยในทันที


"ของขวัญ"
ฆิตยื่นถุงพลาสติกใบใหญ่ให้กราฟ มันไม่ใช่กล่องของขวัญที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษลวดลายสวยหรู เป็นเพียงถุงพลาสติกสกรีนโลโก้ร้านสะดวกซื้อชื่อดัง

 
     เมื่อกราฟแหวกถุงดูก็พบกล่องถุงยางคละแบบเป็นจำนวนมาก หากนับคร่าวๆก็ประมาณห้าสิบกล่อง

"เหี้ย!...พี่ฆิต เลวว่ะ"

"อะไรวะ?"
ท็อปชะโงกหน้าดูด้วยความอยากรู้ว่ามันคืออะไร ถึงทำให้กราฟหลุดร้องเสียงหลงขนาดนั้น แต่พอท็อปเห็นเท่านั้นแหละ เขายิ้มขำกับความกวนของพี่ฆิตจริงๆ

"มึงควรขอบคุณกูนะที่ต้องบากหน้าไปซื้อ คิดดู กูต้องใช้ความหน้าด้านแค่ไหนเพื่อยืนรอจนกว่าพนักงานจะคิดเงินเสร็จน่ะ" พี่ฆิตว่าอย่างกวนประสาท

"พี่ฆิต แม่ง!"


      พอทุกคนรู้ว่าของขวัญกราฟเป็นอะไรก็ขำกันยกใหญ่ จนกราฟหน้างอเพราะทุกคนกำลังล้อกันอย่างสนุกสนาน

"โอ๋ๆ น้องกราฟอย่างอนดิ พี่ฆิตขอโทษ"

 

!!!


        กราฟไม่เคยเขิน เวลาพี่ฆิตเรียกว่าน้อง ตอนอยู่ด้วยกันสองคน แต่พอมีคนอื่นอยู่ด้วยมันกลับทำให้กราฟรู้สึกอายเหมือน หญิงสาวโดนหนุ่มจีบในวัยแรกแย้มอย่างไรไม่รู้
 
       กราฟหน้าร้อนเห่อกับคำพูดที่มาพร้อมรอยยิ้มเจือด้วยความอบอุ่น ไหนจะมีมือหนามาวางบนศรีษะกราฟและโยกไปมาอย่างเอ็นดู ทำให้กราฟรีบปัดมือพี่ฆิตออกก่อนที่ทุกคนในห้องจะจับพิรุธได้

      ฟากท็อปที่เห็นทุกการกระทำเต็มสองตาถึงกับเลิกคิ้วขึ้นสูงมองสองคนอย่างสงสัยว่าทำไมกราฟและพี่ฆิตดูใกล้ชิดและสนิทสนมกันเร็วเหลือเกิน


"พี่ไม่รู้ว่าวันนี้วันเกิดกราฟ พี่ขอโทษนะครับที่ไม่มีของขวัญให้" ฆีนบอกกราฟ

"ไม่เป็นไรครับพี่ แต่พี่ตามใจผมสักอย่างได้ไหมครับ?"


    กราฟยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เหลือบมองพี่ฆิตที่ฝั่งนั้นดูเหมือนจะรู้

"บอกก่อนสิถ้ายากก็กลัวจะทำไม่ได้"


"แค่ดื่มวอดก้าห้าช็อตต่อกันเอง พี่ฆีน"

    ฆิตยิ้มทันที

"เอาเลยๆ เห็นด้วยๆ"

"พี่ว่า...”
ฆีนลังเล

"ตามใจมันหน่อยดิพี่ฆีน เจ้าของวันเกิดเอ่ยปากขอเชียวนะ" พลเสริม

"ถ้าพี่ไม่ไหว ผมโยนให้ไอ้ท็อปนะ” กราฟแกล้งพูด เพราะเขารู้ว่าพี่ฆีนไม่มีทางยอมทำอย่างนั้น

"เกี่ยวอะไรกับกูวะ" ท็อปว่าเสียงแข็ง

"ไม่รู้แหละวันเกิดกู กูใหญ่ กูจะทำอะไรก็ได้เว้ย”
กราฟบอกพร้อมยักคิ้ว

"พี่ดื่มหมดก็ได้ครับ"

 

     เมื่อฆีนรีบรับปาก ทุกคนเฮลั่น พอเป็นเรื่องแกล้งคน ดูเหมือนว่าฆิตและกราฟจะสนุกกันใหญ่ เพราะรีบรินวอดก้าใส่แก้วช็อตจัดเตรียมให้ฆีนทันที

      ฆีนเป่าปาก ก่อนจะรับแก้วแรกไปดื่ม เขากระดกจนหมดแก้วและรีบบีบมะนาวตาม จากนั้นก็ต่อแก้วที่สอง สามจนครบ


      ไม่ถึงนาที ร่างกายภายในของฆีนร้อนวูบวาบคงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์พลุ่งพล่าน พร้อมทำงานเต็มที่  แม้ตอนนี้ ฆีนยังเป็นปกติ แต่การดื่มติดกันแบบนั้น ฆีนรู้เลยว่าอีกไม่นาน ความเมาคงคืบคลานมาในไม่ช้า

      ผ่านไปสักพัก พลเป็นคนต้นเรื่องที่เริ่มขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตเพื่อนมาเผากันอย่างเมามันส์ จนต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมแพ้ รีบหาเรื่องน่าอายมาเล่ากันยกใหญ่

     ในจังหวะที่พี่ฆีนลุกไปล้างหน้า ล้างตาและทิ้งตัวนั่งลง กราฟยกยิ้มและกระซิบบอกท็อป


"ไอ้ท็อปดูพี่ฆีนดิ พอเมาแล้ว แม่งโคตรแบดเลยว่ะ" กราฟพูดบิ้วท์เพื่อนและบรรยายลักษณะพี่ฆีนซะอย่างละเอียด จนท็อปหันขวับมองพี่ฆีนที่หน้าแดงจัดจนลามไปถึงคอ

 
      ในขณะที่ท็อปจ้องมองพี่ฆีนที่คุยกับพี่ฆิตอย่างออกรส พี่ฆีนพยักหน้าเออออ ก่อนจะยักคิ้วข้างเดียว และหลุดหัวเราะออกมา เพียงการกระทำแค่นั้น ทำไมท็อปถึงมองว่าเท่ได้

 
      ท็อปส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะละสายตาจากพี่ฆิตหันมาให้ความสนใจกับเบียร์ที่อยู่ตรงหน้าแทน

 
     จังหวะนั้น พี่ฆีนลุกออกไปรับโทรศัพท์ ประจวบเหมาะกับเจ้าของวันเกิดนึกอยากดื่มน้ำอัดลมและกับแกล้ม แต่เพราะไม่มีใครอยากลงด้วยความขี้เกียจ กราฟจึงเล่นเกมส์โดยการใช้ช้อนหมุนวนว่าถ้าปลายช้อนหันไปทางใคร คนนั้นต้องเป็นฝ่ายลงไปซื้อ


     เกมส์จบลง คนที่รอดก็หัวเราะอย่างดีใจ ส่วนคนที่นั่งหน้าเซ็งเพราะต้องลงไปคือท็อปนั่นเอง
 

      เด็กหนุ่มถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องพี่ฆิตไป

      จนกระทั่ง ท็อปเดินลงมาถึงทางเดินด้านล่างของคอนโด และกำลังทะลุผ่านไปยังอีกตึก ก็มีเสียงรองเท้ากระทบกับพื้นปูนดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนเด็กหนุ่มรีบหันหลังไปดู ก็เห็นว่าเป็นพี่ฆีน

 
"ได้ข่าวว่าเล่นเกมส์ แล้วโชคไม่เข้าข้างหรือ?” ฆีนแซวเด็กหนุ่ม

"เออดิ...โคตรซวย"

"สำหรับกราฟอาจคิดว่าซวย แต่สำหรับพี่เรียกว่าโชคดีที่ได้อยู่กับกราฟสองคนแบบนี้"

"ฆีนแดกของหวานเยอะเหรอ? พูดอะไรออกมา กูอยากอ้วก..."



     แวบหนึ่ง ฆีนเห็นท็อปหลุดยิ้ม นั่นจึงทำให้ฆีนได้แต่เดินอมยิ้มไปอย่างเงียบๆ

     เดินได้หลายก้าว ท็อปก็เป็นฝ่ายถามขึ้นอีกครั้ง
 
"รู้ตัวไหม? ว่าหน้าโคตรแดง เมามากล่ะสิ"

 
      อาจเป็นเพราะวันนี้ท็อปยังไม่เมาหรือไม่ก็เป็นเพราะที่พี่ฆีนเมาก่อนเขาถึงสังเกตเห็นรายละเอียดของอีกฝ่ายได้ชัดเจน

"ไม่หรอก ถ้าเมามากพี่จะลงมาเดินกับท็อปไหวได้ยังไง ป่านนี้ คงหาทางกลับห้องไม่ได้แล้วมั้ง"

 
“กวนตีนกูหรอ? ฆีน”

"ฮ่าๆ พี่ไม่กล้าหรอกครับ พี่เกรงใจท็อปจะตาย"   


      จู่ๆ ท็อปใจกระตุกเมื่อเห็นพี่ฆีนพูดจบก็ชะโงกหน้าเข้าใกล้มากจนท็อปผงะ ผละออกห่าง

      และแล้วความเงียบเกิดขึ้น ท็อปเม้มปากแน่นสนิท อยู่ดีๆ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

       ระยะใบหน้าที่ใกล้กันเมื่อครู่ ทำให้ท็อปเห็นใบหน้าหล่อคมคายนั้นชัดเจน เพราะนอกจากตัวจะแดงแล้ว พี่ฆีนเริ่มมีเม็ดเหงื่อผุดซึมบนใบหน้า

       หรือจะเป็นสารฟีโรโมนของอีกฝ่ายหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจที่ดันกระตุ้นประสาททำให้ท็อปกลายเป็นคนโรคจิตมองสภาพคนตรงหน้าที่ดูแล้วโคตรร้อนแรงและน่าหลงใหล ด้วยเสื้อยืดสีขาวเนื้อบางแนบลำตัวตัดกับผิวที่ตอนนี้แดงจัดจนทั่วร่าง โดยเฉพาะพี่ฆีนเหงื่อออก ราวกับคนที่ออกกำลังกายมาอย่างหนัก ยิ่งเห็นก็ยิ่งมีเสน่ห์และเหมือนมีอะไรบางอย่างดึงดูดจนอยากเข้าใกล้
 

       เด็กหนุ่มสบถในลำคออย่างหงุดหงิด เพราะไม่ชอบใจกับความคิดตัวเองตอนนี้ที่ดันไม่รักดีคิดชื่นชมอีกฝ่ายหลายต่อหลายครั้งแล้ว

"ร้อนหรือไงวะ? เหงื่อออกเต็มหน้า"

"คงน่าจะใช่ หรือไม่ก็ฤทธิ์แอลกอฮอลล์เริ่มออกแน่เลยท็อป พี่ชักร้อนกว่าเดิมแล้วสิ"


      สิ้นเสียงแหบพร่า ชายหนุ่มใช้หลังมือปาดเหงื่อทันที

     ในขณะที่ทั้งสองเดินผ่านมุมอับ ปลอดคน อะไรไม่รู้ดลใจให้ท็อปชะลอความเร็วของฝีเท้าแล้วหยุด ก่อนจะหันไปหาพี่ฆีนและจับไหล่อีกฝ่ายให้หันหน้ามา

     ด้วยความสูงที่ไม่ต่างกันมาก ท็อปจึงไม่ต้องเขย่ง เขาดึงคอเสื้อตัวเองไปซับเหงื่อบนหน้าผากอีกฝ่ายที่กำลังไหลเข้าตา จนฆีนชะงักกับสิ่งที่ท็อปทำให้

 
     เมื่อเห็นสายตาพราวระยับมองมาอย่างมีความนัย ท็อปชักมือกลับก่อนแก้ตัว

"กูเห็นแล้วสมเพช เดินเหงื่อตกขนาดนี้ ขึ้นห้องไปเถอะ...ฆีน"

 
     เด็กหนุ่มอ้างอย่างนั้นและเดินนำหน้าไป ปล่อยให้ฆีนเดินตามหลังด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม



****1.1****
:hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

แล้วเจอกันจ้า
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 8} UPDATE [2-มีค.-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 03-03-2017 00:45:14
คืบหน้าไปไกลละนะ,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 8} UPDATE [2-มีค.-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 03-03-2017 21:50:11
ชอบกราฟ ดูมีความคิดดี

ส่วนท๊อป ถามจริง สับสนในตัวเอง พ่อแม่ไม่รัก มีปมทางบ้าน หรือ ว่าเป็นเด็กมีปัญหาอะไรหรอ คือ สันดานแต่ละอย่างแลดูประสาท แล้วเราก็สงสัยว่า พี่ฆีนจะทนได้อีกนานแค่ไหน รักมาก ถูกใจมากหรือแค่อยากเอาชนะ คือ เข้าใจอารมณ์ถูกใจ เป็นเราก็ถูกใจวะ เจอแบบท๊อป แถมยั่วอีกต่างหาก แต่ แต่ละคำพูด การกระทำ ประสาทสิ้นดี ถ้าต้องรอให้เสียไปก่อนแล้วค่อยมาเปลี่ยนหรือง้อหรอ

คือสารภาพตอนท๊อปนี่อ่านไปด่าไป กราฟซะอีก ที่มีความคิด ท๊อปนี่เหมือนพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ ไม่มีมารยาท ไม่มีอะไรดีเลย นิสัยก็เด็ก ไม่พอใจอยากลาออกจากงาน พอโดนเพื่อนขัดใจ ก็โมโห ส่วนฆีนนี่ ตลก เอาจริงนะ ไปตื้อเขาขนาดนั้นไม่โดนเขาต่อยก็บุญ แต่ ท๊อป มันก็อ่อยเขาไง ย้อนแย้ง รำคาญ นี่ก็รอคุณคนเขียนเฉลย ว่าท๊อปทำไมไร้มารยาทได้ขนาดนี้

กราฟ ฆิตน่ารัก เปลี่ยนอารมณ์อยากด่าท๊อปได้ดีมาก

อีกรอบรำคาญท๊อปโคตร
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 8.2} UPDATE [5-มีค.-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 05-03-2017 22:48:28

ตอนที่ 8 เจ็บ (2)





    เมื่อทั้งสองกำลังข้ามถนนไปร้านสะดวกซื้อที่ตั้งอยู่คนละตึกกับพี่ฆิต


    แม้จะไม่มีรถ แต่ด้วยความเคยชิน ฆีนเผลอคว้ามือเด็กหนุ่มมากุมไว้ ฟากท็อปกดสายตาลงต่ำมองมือตัวเอง ก่อนจะเหลือบมองพี่ฆีนพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย


"ฆีน"

"เอ่อะ...พี่ขอโทษ ปกติเวลาข้ามถนนกับใครมือมันจะไปโดยอัตโนมัติน่ะ"
ฆีนเห็นหน้าท็อปก็เข้าใจได้ดี เขาปล่อยมือเรียวนั้น

"หึๆ" ท็อปหัวเราะในลำคอ


      เมื่อทั้งสองเข้ามาในร้านเดินดูสินค้าจนทั่วก็ได้ของที่ต้องการ จนกระทั่ง  ฆีนจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย ท็อปและฆีนก็เดินออกมาในจังหวะที่กำลังข้ามถนนกลับไปยังทางเดิม ฆีนเอ่ยขึ้น

“พี่ช่วยถือ”

“ไม่ต้อง มันไม่ได้หนัก”
ท็อปหันมาตอบพี่ฆีน


      ขณะที่ทั้งสองยื้อแย่งถุงอยู่นั้น มีรถมอเตอร์ไซค์แล่นมาแต่ไม่เปิดไฟหน้ารถ รีบบีบแตรไล่

      เสียงนั้นดึงสติฆีน เงยหน้ามองและรีบกระชากท็อปดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนร่างเด็กหนุ่มปะทะเข้ากับอกแกร่ง

      สภาพทั้งสองที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือ ฆีนโอบเอวท็อปอยู่กลางที่สาธารณะ

     และเพราะความสูงไล่เลี่ยกัน ทำให้ใบหน้าท็อปอยู่ในระดับเดียวกับคนพี่ที่ตอนนี้ใบหน้าห่างกันเพียงลมหายใจกั้น ฆีนค่อยๆเคลื่อนใบหน้าเข้าไป

    แต่ในจังหวะนั้น...
 
"ว้าย...แกดูพวกผิดเพศสิ โรคจิต วิตถาร กอดกันไม่อายฟ้า อายดินเลยน่ะ อี๋..." หนึ่งในผู้หญิงสี่คนที่เดินมาจากทางไหนไม่รู้พูดโพล่งเสียงดัง มองฆีนและท็อปราวกับเห็นสัตว์ประหลาดและแสดงท่าทางขยะแขยง


    เรื่องมันคงไม่เกิดขึ้น หากเราไม่ใส่ใจหรือให้ความสำคัญกับคำพูดของคนอื่นที่ไร้ราคา เอาแต่สนุกปากมากเกินไป


     แต่สำหรับท็อปมันไม่ใช่ เขารับไม่ได้กับคำด่าและรู้สึกเสียหน้าที่มีคนว่ากลางที่สาธารณะแบบนี้  ความโมโหและอารมณ์โกรธเดือดดาลราวกับน้ำที่ต้มอยู่ในอุณหภูมิพุ่งสูงถึงจุดเดือด

    เสี้ยววินาทีนั้นเอง ท็อปเหวี่ยงหมัดเข้าซีกแก้มพี่ฆีนอย่างจัง

"เพราะมึง...คนถึงมองกูผิดเพศ จากนี้ ไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก"

 
     ท็อปตะคอกใส่พี่ฆีน และเดินหนีไป โดยไม่สนใจคนที่กุมแก้มตัวเองด้วยความเจ็บปวด

     ใช้เวลาไม่นาน เด็กหนุ่มเดินเข้ามาในห้องของพี่ฆิตด้วยอารมณ์คุกรุ่นที่คงคั่งค้างอยู่ ท็อปเดินไปหยิบกระเป๋าสะพาย เพราะรู้ว่าขืนอยู่ต่อไปจะพาลทำให้บรรยากาศแย่ลงกว่าเดิม

     ท็อปเอ่ยปากขอโทษทุกคนที่ไม่ได้ซื้อพวกเครื่องดื่มน้ำอัดลมมาให้ โดยอ้างว่ามีเรื่องนิดหน่อย จากนั้น ท็อปขอตัวทุกๆคนกลับบ้านก่อน

      ฟากกราฟวิ่งไปรั้งท็อปไว้ตรงหน้าประตู ด้วยความอยากรู้สาเหตุว่าทำไมถึงรีบกลับ แต่กราฟยังไม่ทันได้คำตอบก็เห็นพี่ฆีนก้าวเท้าเข้ามาในห้องพอดี

"ท็อป"


       ฆีนก้าวเท้ายาวๆมาจับข้อมือ ฟากท็อปสะบัดมือสุดแรง

"ไม่ต้องพูดอะไรอีก"



       ตอนนี้ ทุกคนวิ่งมาออกันอยู่หน้าประตูห้อง มองทั้งสองบึ้งตึงใส่กัน จากนั้น ท็อปก็สาวเท้าเดินออกจากห้อง ทิ้งให้ฆีนยืนนิ่งด้วยความเครียด ก่อนจะเร่งฝีเท้าเข้าห้องนอนน้องชาย โดยที่ฆิตก็รีบตามพี่ชายไปทันที

      ฆิตยืนเงียบอยู่นาน ลังเลอยู่ว่าจะเริ่มคำถามอะไรก่อนดี เพราะเขาเห็นร่องรอยฟกช้ำบนใบหน้าพี่ชายด้วย

"เกิดอะไรขึ้น พี่ฆีน"


      ฆีนยกสองมือกุมขมับก้มหน้าเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก

"พี่ทำพังเอง ขอบใจนะฆิตที่คอยช่วย พี่หมดหวังแล้วล่ะ พี่ทำให้ท็อปชอบพี่ไม่ได้"

 
       การโดนต่อยหน้า ไม่รู้สึกเจ็บเท่าคนที่เรารักทำร้าย

        นาทีนี้ ฆีนไม่อายน้องชายกับภาพลักษณ์ที่กลายเป็นผู้ชายอ่อนแอ

        ฆีนถอนหายใจยาวอย่างรู้ตัวเองดีแล้วว่าถึงเวลาที่ต้องทำใจ เพราะต่อให้ทำดีเท่าไหร่หรือไม่ว่าพยายามแค่ไหน... ฆีนไม่เคยชนะใจเด็กหนุ่มได้เลย เพราะท็อปไม่คิดเปิดใจรับฆีนเข้าไปในพื้นที่แห่งนั้นตั้งแต่แรก...






...................




      หลังจากวันเกิดของกราฟผ่านพ้นไป ถัดมาอีกสองสัปดาห์ก็เป็นวันเกิดของน้องสาวที่เกิดเดือนเดียวกันต่างกันแค่คนละปี
 
     น้องสาวของกราฟเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่ห้า และเพราะกราฟเป็นผู้ชายที่ไม่ค่อยสันทัดในการสรรหาของขวัญให้ผู้หญิงเท่าไหร่ ที่ผ่านมาของขวัญที่กราฟซื้อให้จึงไม่เคยถูกใจน้องสาวเลย แถมยังงอแงต่อว่าพี่ชายว่าไม่เคยใส่ใจรายละเอียดพวกนี้

     ปีนี้ กราฟอยากซื้อของขวัญให้ถูกใจน้องสาวบ้างจึงรบกวนเพื่อนที่ทำงานที่เป็นผู้หญิงมาช่วยดู...
 
"กราฟไม่มีแฟนรึไง ไม่ให้มาช่วยดูล่ะ" แก้วถาม ฟากกราฟยิ้ม
 
"เราโสดน่ะแก้ว คือก่อนหน้าก็เคยมีคุยๆกันบ้าง แต่ตอนนี้เราเลิกติดต่อหมดแล้วล่ะ"
กราฟว่าจบก็หวนไปนึกถึงคนที่ทำให้เขาเลือกหยุดสานสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เคยคุยมาทั้งหมด
 
"งั้นเหรอ?" แก้วถามเหมือนไม่เชื่อ
 
"แล้วแก้วล่ะ มากับเราแบบนี้ ต้องขออนุญาตแฟนก่อนไหม?" กราฟถามกลับ เพราะถ้าแก้วมีแฟนและบังเอิญเจอกัน ก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาภายหลัง
 
"ฮ่าๆ เราก็โสดเหมือนกัน"
 
    กราฟยิ้มและพยักหน้า ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับของกิ๊ฟท์ช็อบต่างๆ
 
    เมื่อแก้วช่วยเลือกพร้อมให้คำแนะนำ ทำให้กราฟตัดสินใจซื้อกระเป๋าสะพายข้างสีพาสเทลให้น้องสาวพร้อมพวงกุญแจที่เป็นตัวอัษรย่อตัว จี ที่มาจากชื่อน้องสาวที่ชื่อ 'กิ้ฟท์'
 
"ขอบคุณนะแก้ว ที่มาเป็นเพื่อน" กราฟเอ่ยขอบคุณจากใจหลังจากที่เขาได้ของขวัญให้น้องสาวแล้ว

"เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม กราฟ?"
แก้วถามอย่างหยั่งเชิง
 
"หือ!...งั้นเดี๋ยวเราเลี้ยงข้าวตอบแทนละกัน"
กราฟรีบเอ่ยและบอกให้แก้วเป็นคนเลือกร้านเลย ฟากแก้วหน้าเจื่อนเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าเออออและเดินตามกราฟไป

     เมื่อทั้งสองเดินมาเรื่อยๆ แก้วหยุดอยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นและบอกว่าอยากกินร้านนี้ กราฟพยักหน้าและตอบตกลง...
 
     ในขณะที่กราฟและแก้วเลือกเมนูโปรดกันได้ก็สั่งกับพนักงาน จากนั้น ก็รออาหารมา

     ไม่นานที่รายการอาหารมาจนครบถ้วน ทั้งสองเริ่มลงมือกินอย่างไม่รีรอ โดยแก้วก็เป็นฝ่ายชวนกราฟคุยไปด้วย ทั้งสองสนทนากันอย่างไม่รีบร้อนอะไร มีเสียงหัวเราะสลับกับรอยยิ้มบ้างบางครั้งคราว

     จนกระทั่ง ทั้งสองรับผิดชอบอาหารของตนเองเรียบร้อย กราฟก็เป็นคนจ่ายค่าอาหารมื้อนี้
 
"ขอบคุณนะกราฟที่เลี้ยงน่ะ จริงๆเราไม่สบายใจเลย เราไม่ได้หวังจะให้กราฟเลี้ยงสักหน่อย" แก้วบอก ขณะที่เดินออกมาพ้นร้าน
 
"เราเต็มใจน่ะ" กราฟยิ้ม
 
"ตายละ พูดแบบนี้ ขอยืมควงเป็นแฟนวันหนึ่งเลยแล้วกัน”

     แก้วว่าจบก็ทำท่าควงแขนกราฟพร้อมซบลงบนไหล่เสร็จสรรพ จนกราฟยิ้มเจื่อนๆ
 
"แก้ว เดี๋ยวเรตติ้งตกนะ ดี...ไม่ดี ผู้ชายแถวนี้อาจกำลังเดินเข้ามาขอเบอร์แก้วก็ได้นะ ปล่อยเถอะ"

    แก้วยิ้มแหย ก่อนจะยอมปล่อยแขนกราฟไป
 
    ทันใดนั้นเอง...

     กราฟละสายตาจากแก้วเดินมองทางก็ต้องชะงักกึก เมื่อเห็นพี่ฆิตกำลังเดินมาทางนี้
 
"พ...พี่ฆิต มาทำอะไร?"

    ฆิตยิ้มกว้าง ก่อนจะดันถุงขนาดกลางที่ถือมาหลบไปไว้ข้างหลัง
 
"เอ่อะ!...ก...กูมาซื้อของขวัญให้เพื่อนน่ะ"

"อ้าวหรอ? เหมือนกันเลยว่ะพี่ ผมก็มาซื้อให้น้องสาว" กราฟยิ้มอย่างดีใจที่ได้เจอพี่ฆิต เพราะตั้งแต่วันเกิดกราฟ เขาก็ไม่ได้เจอพี่ฆิตเลย และไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรให้ได้เจอพี่ฆิตอีก
 
"อืม"
 
"แล้วนี่พี่จะไปไหนต่อ?" กราฟถามพี่ฆิต โดยลืมแนะนำคนข้างกายไปเสียสนิท
 
"หิว ก็เลยจะมาหาอะไรกินคนเดียวว่ะ"
 
"ให้ผมกินเป็นเพื่อนไหม?"
กราฟเดินก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แม้กราฟจะกินมาแล้ว แต่เพราะเป็นพี่ฆิต เขาเต็มใจและยินดีที่จะกินเพิ่มอีกมื้อ
 
"ฮ่าๆ...กูโตแล้ว กูกินคนเดียวได้น่ะ มึงไปกับ...แฟน...มึงเถอะ กูไปก่อนนะ"

   ฆิตสรุปจากที่ตาเห็นการกระทำของทั้งสองเมื่อสักครู่จึงทึกทักเอาเองว่าผู้หญิงข้างกายเด็กหนุ่มคงเป็นแฟนแน่ๆ โดยฆิตก็ไม่คิดจะถามกราฟเพิ่มเติมอยู่แล้ว
 
"เราสองคนเหมือนแฟนกันขนาดนั้นเลยหรือเนี่ย!" แก้วถามกราฟ หลังจากที่พี่ฆิตเดินจากไปไม่ไกลนัก
 
"ก็คนส่วนใหญ่เวลาเห็นผู้หญิงกับผู้ชายสองคนเดินด้วยกันก็คงคิดว่าเป็นแฟนกันทั้งนั้นแหละ กลับกันเถอะ"

     กราฟว่าเสียงเรียบแต่สีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะติดปัญหาตรงที่แก้วอยู่ด้วย เขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินไปกับแก้วทั้งๆที่ยังไม่ได้อธิบายให้พี่ฆิตเข้าใจเลย
 
     ในขณะที่อีกคนกำลังเซ็งที่ไม่ได้บอกความจริง ยังมีอีกคนที่เศร้าไม่ต่างกัน

     จากใบหน้าแต้มยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่เจือด้วยความเสียใจ ฆิตเดินไปได้ไม่ถึงสองก้าวก็หันหลังมามองเด็กหนุ่มที่เดินเคียงข้างผู้หญิง โดยเจ้าตัวไม่รู้เลยว่า มือที่ถือถุงอยู่นั้นกำลังไร้เรี่ยวแรงจนถุงแทบหล่นพื้น...
 

.....................................

รอดูกันไปเรื่อยๆนะคะ ตอนต่อๆไปคงจะพอเห็นเฉลยของตัวละครที่ค่อยๆออกมาบ้าง (รึเปล่า?) แฮร่ๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ด้วยน้า

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาพื้นที่เล็กๆแห่งนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 8.2} UPDATE [5-มีค.-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 07-03-2017 00:21:25
สงสารฆีน,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 8.2} UPDATE [5-มีค.-60] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-03-2017 19:55:50
แบบว่า เอาคู่พี่ฆีตกับกราฟมาก่อนเลยได้มะ
ค้างอย่างแรงงงงงงงงงงง
 
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 9} UPDATE [ 8-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 08-03-2017 19:23:03
 

ตอนที่ 9 อึดอัด





      ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์ ที่ความสัมพันธ์ของฆีนและท็อปไม่เหมือนเดิม

      ฆีนวางตัวเฉกเช่นหัวหน้ากับลูกน้อง คุยแต่เฉพาะเรื่องงานอย่างเป็นทางการไม่มีคุยแซวหยอกล้อเหมือนแต่ก่อน


      เมื่อนำตัวเองออกมาจากปัญหาและค่อยๆใช้สติมองดู ทำให้ฆีนรู้ดีว่าที่ผ่านมา เขาเป็นฝ่ายที่วิ่งเข้าหาอยู่ฝ่ายเดียว

      ตามตื้อคนที่เอาแต่หันหลังใส่

      ฆีนคิดว่าควรพอแล้วกับสิ่งที่เคยทุ่มเทตลอดมา

      แม้ได้เจอคนที่ใช่ แต่ถ้าเขาไม่เคยเปิดใจ จะยกภูเขาหรือคว้าดาวและเดือนมาให้ มันก็ไร้ความหมายอยู่ดี...


      ช่วงเวลาระยะเวลาเจ็ดวัน ช่างเป็นช่วงที่ฆีนทำใจได้ยากลำบากเหลือเกิน เพราะทำงานที่เดียวกัน ฆีนถึงเจอท็อปวนเวียนรอบกายอยู่ตลอด

      ตอนนี้ ฆีนยังปวดหน่วงหนึบและเจ็บลึกๆในใจ แต่เพราะฆีนพูดย้ำๆซ้ำๆใส่หัวสมองตัวเองว่าเจ็บทีเดียวดีกว่าเจ็บเรื้อรังไปแสนนาน

      ฆีนเข้าใจสัจธรรมของความจริง ไม่ว่าเจอเรื่องใดมักมีสองสิ่งคู่กันเสมอ นั่นคือ สุขและทุกข์...ถึงเวลาที่ฆีนควรรับกับสิ่งที่เกิดและรีบตัดใจให้ขาดสักที...




       เวลาล่วงเลยมาจนเที่ยงกว่าๆ ฆีนบอกพี่ดลจะไปดูงานนิทรรศการอาจไม่กลับเข้ามาอีก ซึ่งพี่ดลก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ในขณะที่ฆีนก้าวออกจากห้อง เป็นจังหวะที่น้องๆที่แผนกกำลังเดินลงไปรับประทานอาหารกลางวันจึงชวนพี่ฆีนให้ไปด้วยกัน


      ฆีนไม่อยากให้คนอื่นผิดสังเกตเรื่องระหว่างเขากับท็อปจึงตอบตกลง

      เมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวสู่ชั้นล่าง ทุกคนกำลังเดินออกมา ในจังหวะนั้น ฆีนเห็นคุณไอริณยืนอยู่หน้าลิฟต์พอดี

      ไอริณหยุดทักทาย ฆีนจึงบอกน้องๆให้เดินล่วงหน้าไปกันก่อน และชั่วขณะหนึ่ง ฆีนเผลอสบตาเด็กหนุ่มก็เห็นเหมือนอีกฝ่ายชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่ว่าท็อปจะรู้สึกอย่างไร เขาก็ควรเลิกใส่ใจได้แล้ว

      เมื่อเด็กๆทุกคนเดินลับตาไป คุณไอริณเอ่ยปากชวนกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ฆีนไม่อยากขัดใจจึงโทรไปยกเลิกกินข้าวกับพวกน้องๆและไปกับคุณไอริณแทน


     ในการทำงาน การผูกสัมพันธ์ไมตรีกับผู้อื่นอย่างเป็นมิตร คือ สิ่งสำคัญที่ควรกระทำ

      เพราะมีคนรักย่อมดีกว่ามีคนเกลียด

      เวลานี้ ทั้งสองเดินทางมารับประทานอาหารกันที่ห้างสรรพสินค้า ฆีนให้สุภาพสตรีเป็นฝ่ายเลือกร้านอาหาร ไอริณนึกขึ้นได้ว่าที่นี่มีร้านโปรดจึงชวนปราบดิ่งไปร้านอาหารเวียดนามทันที

     เมื่อได้ที่นั่ง สั่งอาหารจนครบ ในระหว่างที่รอ ไอริณพููดขึ้นอย่างไม่อยากให้เสียเวลาและรู้ว่าถ้าคราวนี้ไม่พูดก็คงไม่รู้เมื่อไหร่จะได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไป

 
"คุณฆีนคะ"

"ครับ"


"ไอริณคิดว่าเราก็รู้จักกันมานานแล้ว ถ้าจะพัฒนาความสัมพันธ์มากกว่าเพื่อนร่วมงาน ไอริณพอจะมีโอกาสไหมคะ"


     ฆีนมองหน้าไอริณที่พูดตรงจนเขาเกรงใจจะตอบ เพราะฆีนรู้ใจตัวเองดีว่า มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะชอบผู้หญิง แต่ถ้าจะปฏิเสธหรือตัดสัมพันธ์อีกฝ่ายอย่างไร้เยื่อใยก็คงใจร้ายเกินไป

    ฆีนพยายามพูดอย่างประนีประนอมที่สุด

"คุณไอริณรู้ไหมครับว่าคุณไอริณทั้งสวยและเก่ง ผมคิดว่าคุณไอริณน่าจะหาได้ดีกว่าผมอีกหลายเท่าเลยนะ"

"คุณฆีนอย่าถ่อมตัวแบบนั้นสิคะ ในสายตาไอริณ คุณฆีนนี่เป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงหลายๆคนเลย ทั้งหล่อ รวย ทำงานก็เก่ง ทำไมคุณฆีนไม่ลองเปิดใจล่ะคะ"

"เอ่อะ...คือ...ผมยังไม่พร้อมมีใครในตอนนี้น่ะครับ ผมเพิ่งอกหักมา"

"จริงหรือคะ? ใครกันคะเนี่ยตาบอดจริงเชียว"

 

        ฆีนหลุดหัวเราะเยาะกึ่งสมเพชตัวเอง เมื่อนึกถึงคนที่ทำให้เขาเสียใจ


"หึๆ ความรักก็อย่างนี้แหละครับ มีผิดหวังบ้าง สมหวังบ้าง ผมชินแล้วล่ะครับ คิดซะว่า มันเป็นประสบการณ์สอนให้เราได้เรียนรู้"

      ปราบเงียบไปอึดใจ แต่เขาไม่อยากเปิดทางให้คุณไอริณวกเข้ามาคุยเรื่องนี้อีก จึงพูดต่อ

"ผมขอบคุณและดีใจนะครับที่คุณไอริณรู้สึกดีกับผม แต่ผมว่า เราเหมาะจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า เชื่อผมเถอะครับ...สำหรับคุณไอริณแล้ว ผมเป็นเพื่อนที่ดีได้ แต่ถ้าเป็นแฟน ผมคงดูแลไม่ดีจนกลายเป็นแฟนที่แย่แน่ๆครับ"

 

"แหม...คุณฆีนก็....ไอริณไม่เร่งรัดก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไอริณเบื่อหรือเหงา คุณฆีนไปเที่ยวเป็นเพื่อนไอริณบ้างได้ไหมคะ?"

"ยินดีครับ"
 


     ฆีนตอบพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ฟากไอริณก็ยิ้มกว้าง จากนั้นอาหารก็มาจนเต็มโต๊ะ

     สักพักใหญ่ๆที่ทั้งสองจัดการอาหารกันเสร็จเรียบร้อย คุณไอริณก็ขอตัวกลับไปยังที่ทำงาน ส่วนฆีนมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่ตั้งไว้ในตอนแรก

 

     แม้จะเดินดูงานเพียงลำพัง แต่หัวสมองก็ยังไม่หยุดคิดถึงคนใจร้าย
 

     ไม่ดีแน่ๆ ถ้ายังอยู่คนเดียวในสภาพจิตใจบอบช้ำแบบนี้ ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์กดโทรหาน้องชายทันที



      ตอนนี้ ฆีนนั่งรอตรงจุดรับรองลูกค้าภายในสตูดิโอของน้องชาย ไม่นานฆิตก็เดินออกมาหา

"ไหวไหมพี่ฆีน?" ฆิตรู้ทันทีว่าพี่ชายมาหาเพราะอะไร แค่เห็นสภาพและสีหน้าที่อิดโรยก็นึกสงสารอยู่เหมือนกัน

"ไม่ไหวก็ต้องไหว ก่อนหน้านี่พี่ก็อกหักมาตลอดอยู่แล้วนี่"

"โธ่...พี่อย่าตัดพ้อชีวิตดิ"

"วันนี้ นอนที่ไหน? กลับคอนโดหรือบ้าน"
ฆีนเปลี่ยนเรื่องคุย

"พูดอย่างนี้ อยากให้ผมกลับบ้านใช่ไหม?"

"อืม"


"ระวังแม่ล้ออีกล่ะ" ฆิตรู้ดีว่าแม่ตัวเองเป็นอย่างไร 

     เพราะสถาบันครอบครัว คือ สิ่งที่ดีที่สุด พ่อและแม่ของทั้งสองก็รับรู้ในเพศสภาพลูกชายตัวเองเป็นอย่างดี ดังนั้น เมื่อถึงเวลาทุกข์ใจ พ่อและแม่ไม่เคยทอดทิ้งลูกๆไว้กลางทาง มีแต่จะคอยยื่นมือไปประคองให้ลูกลุกขึ้นยามล้ม และพร้อมส่งกำลังใจให้อยู่เสมอ
 
"งั้นพี่ฆีนรอก่อน เดี๋ยวผมถ่ายอีกสองช็อตก็เสร็จแล้ว"

"อืม..."

     ในขณะที่ฆิตกำลังก้าวกลับไปยังทางที่มา ฆีนรีบถามน้องชายถึงสิ่งที่สงสัย

"ฆิต"

"อะไรพี่ฆีน?"


"ตอนนี้ มีคนที่ชอบแล้วใช่ไหม?"

     ฆิตชะงัก แต่เพราะเป็นพี่ชายที่รู้ไส้ รู้พุงกันอยู่แล้วจึงไม่ต้องวางฟอร์มหรือโกหกอะไร

"..อืม"

"ใช่คนที่พี่คิดไว้หรือเปล่า?"
ทำไมฆิตจะดูไม่ออกว่าพี่ฆีนหมายถึงใคร?

"เก่งเหมือนเดิมนะพี่ฆีน คนนั้นแหละ"

"พี่ว่าเรามีหวังกว่าพี่นะ น้องดูน่าจะมีใจอยู่บ้าง"


"หึๆ ไม่หรอกว่ะ มันมีแฟนแล้วพี่"

     ฆีนเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย แต่ไม่พูดอะไรต่อ ประเดี๋ยวจะเป็นเรื่องบานปลาย กลายเป็นสร้างประเด็นให้น้องชายคิดมากไปอีก


     เมื่อได้เวลาที่ฆิตทำงานเสร็จ ทั้งสองเดินทางกลับบ้านไปหาครอบครัว แต่เพราะนานหลายเดือนแล้วที่ฆิตและฆีนไม่ได้กลับไป เพียงแค่แม่เห็นหน้าก็ทักขึ้นมา

"มีเรื่องทุกข์ใจมาอีกแล้วล่ะสิ สงสัยอกหักแน่ๆ คราวนี้ ฆีนหริอฆิต"


      เพราะความเป็นแม่ที่รู้ใจลูกดีเสียยิ่งกว่าอะไรราวกับว่าอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่

      ฟากฆิตหลุดหัวเราะออกมาที่แม่ทายถูกเผง ส่วนฆีนก้มหน้ายอมรับชะตากรรมแต่โดยดี

"ฆีนเองครับแม่"

"เฮ้อ...เจ้าฆีน แม่ว่า แม่กับพ่อก็ตั้งใจทำลูกออกมานะ ดูสิ ทั้งหล่อและนิสัยดี แต่ทำไมโดนทิ้งตลอด....ว่างๆก็ไปทำบุญบ้างนะลูก ชีวิตลูกจะอาภัพรักเกินไปแล้ว..."


     จากที่ฆีนเครียดๆก็มาผ่อนคลายตรงคำแซวของแม่นี่แหละ...


    สิ่งหนึ่งที่สองพี่น้อง รู้ดีว่าเวลาทุกข์ใจ ทำไมต้องมา เพราะคุณอรอนงค์เป็นคนตลก


"แม่ครับ ฆีนหิวข้าว" ฆีนรีบเปลี่ยนเรื่อง เดี๋ยวโดนแม่แซวอีก

"ช่วยไม่ได้ อยากมาไม่ยอมบอกก่อน แม่ก็ทำอาหารแค่พอกินกับพ่อ ไม่ได้สั่งป้านอมให้ทำเผื่อ ถ้าหิว ตอนนี้ได้อย่างมากก็ข้าวสวยกับไข่เจียว"

"ได้แม่ ฆิตเอาไข่เจียวสามฟองขอทอดแบบฟูกรอบนะครับ"

     น้องชายบอกความต้องการของตัวเองเสร็จก็เดินไปหอมแก้มแม่และยิ้มกว้าง

     ต่อให้อาหารการกินมีเพียงไข่ต้มกับข้าวเปล่าก็อร่อยได้ ขอเพียงอยู่กับคนที่รักก็เติมเต็มความอิ่มท้อง และอิ่มอก อิ่มใจได้เป็นอย่างดี

"ฆีนกินแบบไหนก็ได้ครับ แม่"

"ได้ เดี๋ยวแม่เดินไปบอกป้านอมให้ แต่โชคดีนะที่มาวันนี้มีขนมของโปรดลูกด้วยนะ"
คุณอรอนงค์บอกลูกชายคนโต

"ลูกตาลลอยแก้ว" ฆิตตอบ เพราะรู้ของโปรดพี่ชายดี

“ใช่ ไปนั่งรอกันเลย แม่ไปตามพ่อลงมาก่อน จะได้บอกพ่อด้วยว่า ลูกชายเราอกหักอีกแล้ว”


“แม่ครับ อย่าบอกพ่อนะครับ ฆีนขอ...”


"ไม่ได้หรอก โทษฐานไม่ยอมกลับบ้านมาหากัน...รู้อย่างนี้...ไม่น่าบอกพ่อให้ซื้อคอนโดเลย หายต๋อมกันไปทั้งคู่”

    ทั้งสองยืนฟังกันอย่างเงียบๆ จนกระทั่ง แม่บ่นจนพอใจ ก็ไปตามพ่อมารับประทานอาหารมื้อเย็นด้วยกัน


   

 

****1.1*****
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 9} UPDATE [ 8-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 08-03-2017 23:13:02
ดูครอบครัวอบอุ่นดีนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 9.2} UPDATE [ 11-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 11-03-2017 19:31:58
ตอนที่ 9 อึดอัด (2)



       เป็นปกติที่เราจะได้พบเจอความผิดหวัง สมหวัง หัวเราะ ร้องไห้ ที่เข้ามาวนเวียนในชีวิตให้เรียนรู้และยอมรับกับความจริงของสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอๆ


       หลังจากที่ฆีนโดนพ่อและแม่ซักไซ้ไล่เลียง ไต่ถามความเป็นมาว่าทำไมถึงอกหัก ฆีนพูดความจริงออกไปแค่บางส่วน แม้เป็นฝ่ายเจ็บปวดแต่เขายังคงไม่วายปกป้องท็อปเหมือนเดิม และโทษตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เป็นความผิดของฆีนเอง
 
      ด้านพ่อและแม่ของฆีนที่ได้รับฟังก็มีบ่นและตักเตือนบ้างเล็กน้อย แต่เหนืออื่นใดก็คือความเป็นห่วงลูกชาย เพราะตบท้ายทั้งคู่ก็เอ่ยให้กำลังใจ และกว่าจะพูดคุยปัญหาหัวใจจบก็กินเวลาร่วมสองชั่วโมง ฆีนถึงเพิ่งจะได้ขึ้นมายังบนห้องได้
 
      ยังไม่ทันจะก้าวขาถึงเตียงนอนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ชายหนุ่มหมุนตัวกลับไปเปิดประตูก็พบหน้าคุณอรอนงค์ยืนยิ้มเจือความห่วงใยอยู่
 
"มีอะไรหรือครับแม่?"
ฆีนถามเพราะนึกว่าแม่จะเคลียร์กันจบตั้งแต่ที่นั่งกันที่โต๊ะรับประทานอาหารแล้ว
 
     จู่ๆ แม่ฆีนก็เอื้อมมือมาจับใบหน้าลูกชายก่อนจะเคลื่อนไปลูบกลุ่มผมนั้นช้าๆ
 

"ไม่ว่าฆีนจะโตแค่ไหน? ฆีนก็ยังเป็นเด็กในสายตาของแม่นะ จะทุกข์หรือเหนื่อยใจก็แวะมาบ้านนี้นะลูก"


     ฆีนรู้สึกผิดจับใจ ที่พอสุขกลับหายหน้า แต่เมื่อมีเวลาทุกข์ใจทีไรก็กลับมาตายรังที่บ้านหลังนี้ทุกทีไป


      ฆีนดีใจที่ได้เกิดมาอยู่ในครอบครัวที่ดีและอบอุ่นเหลือเกิน

"ได้ยินแบบนี้ ผมรู้สึกแย่จังเลย ขอโทษนะครับแม่"
 
"ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร แม่ก็รักลูกอยู่ดี แม่ภาวนาให้ลูกได้เจอคนที่ดีนะ ถ้ามีรักครั้งใหม่เมื่อไหร่มาบอกแม่นะลูก"


"ครับแม่" ฆีนส่งยิ้มให้มารดาที่พูดจาด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม
 
     คุณอรอนงค์โอบกอดลูกชายพลางลูบหลังลูบไหล่คล้ายให้กำลังใจ ก่อนจะเดินพ้นสายตาออกจากห้องไป 

     ตอนนี้ ฆีนมีสภาพจิตใจดีขึ้นกว่าแต่ก่อน สิ่งที่ทำให้ฆีนกลับมาเข้มแข็งได้ หลักๆคงมาจากคนในครอบครัวที่คอยเติมกำลังใจให้เขาได้อย่างไม่มีวันขาด...
 
 

 
.........................
 
 
      สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลกระทบกับฆีนเพียงคนเดียว แต่ยังส่งผลไปยังคนต้นเรื่องอย่างท็อปด้วย เพราะตั้งแต่ที่มีเรื่องจนบัดนี้ก็ผ่านมาแล้วสามสัปดาห์ที่ท็อปอึดอัดใจเหลือเกินที่เห็นอีกฝ่ายนิ่งเฉยใส่
 
      อันที่จริง ท็อปควรดีใจไม่ใช่หรือ? ที่บทสรุปมันเป็นแบบนี้ เพราะท็อปก็เป็นฝ่ายผลักไสฆีนเองแท้ๆ แต่ทำไมเหตุการณ์กลับตาลปัตร ทำให้ท็อปนั่งหน้าเครียดอยู่ตอนนี้
 
     ท็อปตระหนักแล้วว่ายี่สิบเอ็ดวันที่ไม่มีการพูดคุยกัน มันเริ่มไม่ดีต่อหัวใจท็อปเลยจริงๆ

      แม้จะมีเรื่องเครียดแค่ไหน? แต่ท็อปก็ต้องฝืนทำงานให้เสร็จ เพราะสัปดาห์แห่งการกลับบ้านเกือบเช้าก็เวียนมาบรรจบอีกครั้ง

      เที่ยงคืนกว่า ที่ท็อปและพี่กั๊กยังคงนั่งทำงานกันสองคน และกำลังจะมีสมาชิกอย่างพี่ฆีนมาเพิ่ม เนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยที่พี่ฆีนต้องเข้าออฟฟิศมาเซ็นอนุมัติภาพหน้าปกหนังสือแทนพี่ดลซึ่งติดไปดูงานที่ต่างจังหวัด เพราะถ้าไม่มีคนที่ตำแหน่งสูงมายืนยันก็ไม่สามารถส่งงานต่อให้โรงพิมพ์ได้ นั่นจึงเป็นประเด็นที่ต้องรบกวนให้พี่ฆีนมา ทั้งๆที่ชายหนุ่มลางานในวันนี้


      สักพักใหญ่ๆ ที่ร่างสูงก็เดินเข้ามาในห้องถามหางานสำคัญเพื่อรีบทำให้จบ ในระหว่างนั้น กั๊กก็แทรกขึ้น

"ขอโทษนะครับพี่ฆีน มันเป็นความผิดผมเอง"

"ไม่เป็นไรหรอก"

"นี่ไปแฮงก์เอาท์มาหรือครับ กลิ่นเหล้าหึ่งเลย"

"อืม พี่ไปงานวันเกิดเพื่อนมาน่ะ"
ฆีนตอบอย่างยิ้มๆ

 
      ในขณะที่พี่กั๊กคุยกับพี่ฆีน ท็อปเหลือบมองอีกฝ่ายที่หน้าแดงจัดสงสัยคงน่าจะเมาพอสมควร ซึ่งท็อปเองก็ตั้งใจมองให้อีกฝ่ายรู้ตัว แต่พี่ฆีนก็ไม่คิดทักหรือมองมาทางท็อปเลยสักนิดเดียว


      เมื่อจบบทสนทนากับพี่กั๊ก พี่ฆีนก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ท็อปเห็นจังหวะดี เพราะยามดึกแบบนี้ ไม่มีใครเหลืออยู่แล้ว ท็อปจึงลุกขึ้นตามไปทันที
 
      ถัดมา ภายในห้องน้ำ ฟากฆีนที่จัดการธุระเสร็จ เขาเดินมาตรงอ่างล้างหน้าถึงกับชะงักเมื่อเห็นใครอีกคน


"กูขอคุยด้วยหน่อย"
 
     ฆีนล้างมือพลางซับกระดาษทิชชูเสร็จ ก็หันไปหาเด็กหนุ่ม

"พูดมาสิ" ฆีนถามพลางยืนกอดอกพิงอ่างล้างหน้าเพื่อรอฟัง
 
"เป็นอะไร ทำไมต้องทำเหมือนไม่รู้จักกันด้วย"

    ฆีนเอียงคอมองอย่างสงสัย ก่อนจะหัวเราะในลำคอ
 
"หึๆ พี่ก็ทำใจเลิกชอบท็อปอยู่ไงครับ"
 
"แต่เราจะคุยกันบ้างไม่ได้หรือวะ"
 
"ท็อปรู้อะไรไหม? พี่รู้จักคนมาก็มากมาย แต่ท็อปเป็นคนแรกที่พี่รู้สึกว่าแปลกประหลาดที่สุดเลย"

 
     ฆีนเปลี่ยนอิริยาบทมายืนยืดตัวตรง สาวเท้าไปหาเด็กหนุ่มด้วยสีหน้าขึงขังพร้อมพูดต่อ
 
"ท็อปจะเอายังไงกับพี่ ตอนแรกที่พี่ตื้อเพราะพี่มีเซนส์บางอย่างที่รู้สึกได้ว่าท็อปอาจเป็น....ไม่ใช่สิ....อาจรู้สึกดีต่อกัน แต่พอนานไปพี่รู้แล้วว่าพี่เข้าใจผิดไปเอง..เพราะท็อปไม่ชอบพี่ พี่ก็เลยทำใจ แต่มาถึงตอนนี้ ท็อปกลับทำตัวเหมือนสนใจพี่อีก พี่สับสนนะท็อป"

      สิ้นเสียงนั้น ทำไมท็อปรู้สึกไม่ดีไม่รู้ ท็อปพูดสวนไปในเรื่องที่ไม่ได้ปะติดปะต่อกับสิ่งที่ฆีนพูดก่อนหน้า
 
"เมาขนาดนี้ จะขับรถกลับบ้านยังไง ถ้าเจอด่านตรวจล่ะ ให้กูขับรถให้ไหม?"
 

"ไม่ต้องพูดเหมือนห่วงพี่ได้ไหมครับ ท็อปเลิกทำให้พี่เขวสักที"


"อ๋อ...จะบอกว่าพอจีบไม่ติดก็คุยกันไม่ได้แล้วใช่ไหมวะ?" ท็อปเริ่มพาลใส่

"ถ้าท็อปทำได้ก็ค่อยมาบอกพี่แล้วกัน แต่สำหรับตัวพี่ พี่ทำไม่ได้จริงๆ  ท็อปเข้าใจคำว่าเสียใจรึเปล่า? พอเถอะท็อป...พี่เบื่อเรื่องนี้แล้ว เข้าใจนะ"
  ฆีนว่าจบก็เดินออกจากห้องน้ำ ผ่านท็อปไปโดยไม่แล หรือแม้กระทั่งปรายตามอง ทำให้ท็อปยืนนิ่งงันด้วยความชาวาบทั่วร่างกาย

      ตอนนี้ เด็กหนุ่มยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า สองมือจับขอบอ่างแน่น ก่อนจะเปิดก๊อกให้สายน้ำไหลผ่านและเอามือวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าราวกับต้องการเรียกสติ

      ท็อปยืนมองตัวเองอยู่ตรงหน้ากระจกเงาด้วยสภาพที่ท่อนบนเปียกชุ่ม

      นาทีนี้  ความสับสนในหัวใจและความเครียดเข้ามาถาโถมอย่างหนักจนใบหน้าหล่อคิ้วขมวดกันเป็นปม
 
       สองมือเด็กหนุ่มขยุ้ม ขยี้ผมตัวเองจนฟูฟ่องและยุ่งเหยิง ก่อนจะรำพึงออกมา
 

"พี่แทนไม่น่าทิ้งผมไปเลย ผมอยากให้พี่อยู่กับผมตอนนี้"

 
       สิ้นเสียงนั้น เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นสนิทพร้อมปิดเปลือกตาลง โดยไม่รู้เลยว่าน้ำตาค่อยๆไหลมาเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง...
 
 
 

.........................
 

 

       ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับสัปดาห์แห่งการกลับบ้านดึก เพราะงานสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี และวันนี้เป็นคืนศุกร์หรรษา ท็อปจึงมานั่งดื่มเพื่อคลายเครียดสักหน่อย

 
       ปลายนิ้ววนไล้ขอบแก้วพลางทอดสายตาไปอย่างไร้จุดหมาย ท็อปนั่งดื่มอยู่คนเดียวและมองเหม่ออย่างนี้มาร่วมชั่วโมงแล้ว

 
      สักพักใหญ่ๆ ที่มีคนมาร่วมโต๊ะและทำให้เด็กหนุ่มหลุดออกจากภวังค์ได้บ้าง


"ว่าไงท็อปเรียกพี่มา มีอะไรหรือ?"

 
       ตั้งแต่ที่มาถึงร้าน ท็อปโทรชวนพี่ฆิตให้ออกมานั่งด้วยกันทันที อันที่จริง ก็มีสาเหตุหลักๆ เพราะท็อปอยากรู้เรื่องพี่ฆีน เนื่องจากอยู่ที่ทำงาน พี่ฆีนไม่เปิดโอกาสให้ท็อปได้คุยเรื่องส่วนตัวได้เลย


      แต่ท็อปก็ไม่คิดหรอกว่า พี่ฆิตจะพาใครก็ไม่รู้มาด้วย

 
"เอ่อ...นี่ชื่อ เน เรียนอยู่มหาฯลัยปีสาม เป็น..." ฆิตเห็นท็อปจ้องคนข้างกายเขม็ง ฆิตจึงรีบแนะนำไม่ให้เสียมารยาท แต่พูดยังไม่จบ เนก็พูดโพล่งขึ้นมา


"สวัสดีครับ ผมกับพี่ฆิตคบกันอยู่ครับ"

 

     ท็อปอึ้งไปนิดเพราะเขาเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าพี่ฆิตมีรสนิยมชอบผู้ชายเหมือนพี่ฆีนด้วย แต่ท็อปไม่อยากออกอาการตกใจจึงคงไว้ซึ่งรอยยิ้มการค้า

"ไอ้เน อย่าขี้ตู่ เงียบไปเลยไม่อย่างนั้นกูส่งมึงกลับบ้านแน่ นี่กูเห็นแก่ไอ้เขตมันหรอกนะถึงพาออกมา"


     ฟากฆิตถอนใจทันที เขาไม่น่าหลงกลไอ้เขตเลย ทำไมฆิตจะไม่รู้ว่า เขตพยายามจับเนใส่พานถวายให้

      เพราะ เน คือ น้องชายต่างแม่ของเขต ซึ่งแต่ก่อน ฆิตชอบไปนอนบ้านเขตอยู่บ่อยๆ ทำให้เนเจอฆิตและชอบรุ่นพี่คนนี้ตั้งแต่แรกเจอ หลังจากนั้น เนจึงพยายามตามตื้อและเข้าหาฆิตมาโดยตลอด


      การที่เขตดึงเนเข้ามาเอี่ยว เพราะเขตรู้ดีว่าตอนนี้เพื่อนโสด เขตจึงชอบบอกฆิตว่า ถ้าฆิตมีคนชอบแล้วเมื่อไหร่? เขตจะเลิกยุ่งเรื่องของเพื่อนและจะไม่ยัดเยียดเนให้อีกต่อไป แต่เพราะฆิตยังไม่มีใคร เขตจึงโยนน้องมาให้โดยไม่ถามความรู้สึกเพื่อนสักคำ


      ส่วนสาเหตุที่เนมากับฆิตได้ เพราะฆิตไปหาเขตที่บ้านเพื่อชวนออกมาดื่มด้วยกัน แต่เพื่อนสุดแสบดันอ้างว่าท้องเสียให้ชวนเนไปแทน ฆิตจึงต้องลากเจ้าเด็กนี่มาอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่โชคยังเข้าข้างอยู่บ้างที่ท็อปโทรมาพอดี ทำให้อย่างน้อยฆิตก็มีท็อปเป็นเพื่อนนั่งดื่มด้วย


"พี่ก็โสดนี่ครับรับรักผมเถอะนะ"



    เนทำหน้าสลดและซบไหล่พี่ฆิต ฟากคนพี่กลอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ


    ฆิตแกะแขนเนออกแล้วก้มลงกระซิบริมหูคนข้างๆ


"โอเค วันนี้กูยอมให้มึงเป็นแฟนหนึ่งวันแล้วนั่งเงียบๆซะ ห้ามพูดมาก เพราะกูจะคุยกับน้องกู ท็อปมันเครียด เข้าใจไหม? ไอ้เน..."
ฆิตบอกแบบปัดรำคาญ

 
      เนพยักหน้าหงึกหงักพลางยิ้มกว้างอย่างดีใจ ที่พี่ฆิตอนุมัติให้เป็นแฟนตั้งหนึ่งวัน ฟากฆิตทำหน้าสงสัยว่าเนจะดีใจอะไรขนาดนั้น นี่ก็สองทุ่มแล้วอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ขึ้นวันใหม่ เนกับเขาก็ไม่ใช่แฟนกันแล้ว จะเริงร่าอะไรนักหนา...


      ฆิตไม่สนใจคนข้างกาย เขาหันไปถามท็อปที่ตอนนี้มีสีหน้าที่ตึงเครียด

 
"มีเรื่องอะไรรึเปล่า ท็อป"

"ก็...."
ท็อปเงียบ


"ท็อป ถ้ามันอึดอัดมากก็ระบายมาเถอะ เก็บทุกอย่างไว้คนเดียวมันจะเครียดนะ พี่รับฟังได้"


       ท็อปอ้ำๆอึ้งๆ อึกอักๆอยู่นาน จนสุดท้ายเขาตัดสินใจถามไป

 
"พ...พี่ฆีน....ส...สบายดีไหมครับ?"

 

       ฟากฆิตมองหน้าท็อปอย่างไม่เข้าใจ ก็อยู่ออฟฟิศเดียวกันทำไมไม่ถามกันเอง แต่ฆิตไม่อยากถามกลับกลัวจะหาว่ากวนประสาท


"ก็...ถ้าทางกายก็ปกติดี แต่ถ้าใจพี่ว่าคงไม่โอเคมั้ง"

 

       ท็อปนั่งนิ่ง


"พี่ฆิตคงรู้เรื่องผมแล้วใช่ไหม?"

 
"ก็รู้" ฆิตว่าอย่างนั้น ก็ไล่เนให้ไปเข้าห้องน้ำก่อน เพราะฆิตคิดว่าหลังจากนี้เรื่องที่คุยกันค่อนข้างส่วนตัวพอสมควร

"ขอโทษนะครับพี่ที่ผมทำอย่างนั้น"

 
"ไม่เป็นไรหรอก พี่เข้าใจ เรื่องแบบนี้ จะบีบคอหรือเอาปืนมาจี้ให้รักกัน ถ้าทำได้ก็คงได้แค่ตัวแต่คงไม่ได้หัวใจ แต่พี่ขอถามหน่อยเหอะ... ที่ผ่านมาท็อปไม่มีใจให้พี่ฆีนบ้างเลยหรือวะ?"

 
      คำตอบนั้น ทำท็อปนิ่งเงียบไปอยู่นาน แต่ในจังหวะนั้น กราฟโทรแทรกเข้ามายังเครื่องมือสื่อสารของท็อปพอดี ท็อปจึงขอตัวพี่ฆิตออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกก่อน


      เมื่อท็อปคุยธุระเสร็จ เขาเดินกลับมานั่งที่เดิมและบอกพี่ฆิตทันที

 
"พี่ฆิต เดี๋ยวกราฟมาด้วยนะครับ"

"ห้ะ....ห...เหรอ?"

 

       ได้ยินดังนั้น ฆิตรู้สึกดีใจ แต่อีกใจหนึ่งก็วูบโหวงไม่น้อย เพราะฆิตยังไม่พร้อมจะเจอหน้ากราฟในสภาพจิตใจไม่คงที่

 
       ราวครึ่งชั่วโมงที่ฆิตพยายามคาดคั้นเอาคำตอบจากปากท็อปที่เอาแต่นั่งนิ่ง แต่สีหน้ายังเต็มไปด้วยความเครียด ในระหว่างนั้นเอง กราฟก็เดินเข้ามาหาถึงโต๊ะ แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นพี่ฆิตนั่งอยู่ด้วย เพราะท็อปไม่ได้บอกในตอนแรก

"อ้าว....พี่ฆิตมาด้วยหรอวะ"

"อ...อืม"
ฆิตสะดุ้งนิดๆ แต่ก็หันไปฝืนยิ้มให้ เพราะแค่เห็นกราฟก็ดันไปนึกถึงผู้หญิงข้างๆกราฟที่ห้างในวันนั้น


       หลังจากที่กราฟหาที่นั่งพร้อมแก้วเครื่องดื่มของตัวเองมาเป็นที่เรียบร้อย กราฟชวนพี่ฆิตคุยถึงช่วงที่ไม่ได้เจอกันว่าไปทำอะไรมาบ้าง จากนั้น กราฟหาจังหวะอธิบายเรื่องที่คาใจ เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสในการที่จะได้แก้ตัวไปแน่ๆ


"เออ...พี่ฆิต เห็นหน้าพี่แล้วผมก็นึกขึ้นได้ พี่จำวันที่เราเจอกันที่ห้างได้ไหม? เพื่อนผมบอกพี่หล่อด้วยว่ะ ผมนี่หมั่นไส้มากเลย"

 
      กราฟพูดติดตลก เขาทำเป็นเหมือนคุยเรื่องทั่วไป แต่สาระสำคัญในเนื้อความต้องการแทรกให้พี่ฆิตรู้ว่า กราฟยังโสด แต่ถ้ากราฟพูดโต้งๆไปเลยว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนจะดูเหมือนคนร้อนตัวไปสักหน่อย และคงดูไร้เหตุผลว่าทำไมต้องมานั่งบอกกล่าวกัน เขาจึงใช้มุกนี้บอกพี่ฆิตให้รู้ความนัย

"เอ่อะ...ผู้หญิงคนนั้น ไม่ใช่แฟนกราฟหรอกหรือ?"

"เฮ้ย! ไม่ใช่พี่ ก็ผมเคยบอกแล้วไงว่าโสด ทำเป็นจำไม่ได้รึไง นี่แก้วยังย้ำว่าถ้าเจอพี่ฆิต ให้ผมมาขอเบอร์ด้วย ผมเลยมาบอกพี่ก่อน"



      กราฟยิ้มด้วยใจที่โล่งอย่างบอกไม่ถูก เพราะอย่างน้อยก็ได้บอกความจริงแล้ว และการเล่นมุกนี้เขารู้ว่าพี่ฆิตก็ไม่ให้เบอร์หรอก เพราะพี่ฆิตไม่ชอบผู้หญิง


"เอ่อ...กูคงไม่ให้ว่ะ ฝากบอกเพื่อนมึงด้วย กูมีคนที่ชอบแล้ว"


        เหมือนยกภูเขาออกจากอก ฆิตยิ้มกว้างอย่างเบิกบานใจที่ได้รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนกราฟ

 
"อะไรกันครับพี่ฆิต  คุยธุระเสร็จทำไมไม่บอก เนรอตั้งนานนะ"
เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนั่ง ทั้งยังคล้องแขนพี่ฆิตทันที
 

"เฮ้ย! ไอ้เน กูไม่ตลก ปล่อยแขนกูเลย"
ฆิตพยายามแกะมือเนออก เพราะกลัวกราฟจะเข้าใจผิด

    ฟากกราฟมองหน้าพี่ฆิตสลับกับเด็กที่เพิ่งมาใหม่ด้วยความฉงนใจ

"พี่ฆิตบอกเนเองว่าเป็นแฟน ทำไมจะควงแขนไม่ได้"

   
     ฉิบหายแล้วไง!...ทำไมฆิตถึงได้ซวยขนาดนี้ เขาหันขวับไปหากราฟทันที



...................................


ควรเอาใจช่วยคู่ไหนดี อิอิ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 9.2} UPDATE [ 11-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-03-2017 20:59:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 9.2} UPDATE [ 11-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-03-2017 14:20:52
งานเข้าแล้วไงพี่ฆิต  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ กราฟเพิ่งจะย้ำว่าโสดน่ะ อิอิ

เนนี่คงจะเป็นตัวเร่งได้นะ หรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 9.2} UPDATE [ 11-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-03-2017 00:12:30
เอาล่ะสิ. วุ่นวายน่าดู,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 9.2} UPDATE [ 11-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-03-2017 02:23:01
 :z1: :z1: :z1: :z1:   สมน้ำหน้าท๊อปอะ สงสารพี่ฆีนมากๆเลย :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10} UPDATE [ 14-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 14-03-2017 19:25:51
ตอนที่ 10 แฟน



"อ้าว...แฟนพี่ฆิตหรอกเหรอ?" กราฟถามพลางอมยิ้ม ฟากฆิตก็พอดูออกว่าใต้รอยยิ้มนั้นมันมีอีกความรู้สึกซ่อนอยู่

"ม..มะใช่...นะ...กราฟ"

"พี่ฆิต วันนี้สัญญากับเนว่าอะไรครับ"
เนแทรกขึ้นเสียงดังแถมสายตายังบ่งบอกว่าเอาเรื่อง

"พี่ฆิต ผมว่าพี่ออกไปเคลียร์กับแฟนพี่ข้างนอกไหมวะ ผมชักรำคาญเสียงแหลมๆนั้นแล้ว" กราฟว่าเสียงแข็ง อยู่ดีๆก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

      ฆิตหน้าเจื่อนทันที เขารู้สึกว่าทำพลาดไปอย่างมหันต์ที่พาเนมา ฆิตดึงไหล่เด็กหนุ่มให้ออกไปนอกร้านแต่เนไม่ขยับเขยื้อนกลับนั่งนิ่งไม่ยอมลุกไปไหน

"ทำไมผมต้องไปด้วยครับพี่มาใหม่"

"ไม่ได้ชื่อมาใหม่ กูชื่อกราฟ"

"ก็นั่นแหละ"
เนเบะปากใส่


"ไม่ไปใช่ไหม? กูกลับก่อนนะท็อป" กราฟขี้เกียจต่อความยาว เขาลุกขึ้นยืนและหันไปบอกลาเพื่อน แต่ท็อปยังนั่งหน้ามึนกึ่งงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า เพราะไม่เข้าใจว่าทั้งสามกำลังทะเลาะด้วยประเด็นอะไรกันแน่...

    ไวกว่าความคิดก็มือฆิตที่รั้งต้นแขนกราฟไว้

"กราฟอยู่นี่แหละ เดี๋ยวกูพาเนออกไปเอง"
 

     ได้ยินดังนั้น เนฮึดฮัด แต่ฆิตก็คว้าแขนและลากถูลู่ถูกังเนออกไปจนได้

     เมื่อทั้งสองเดินพ้นโต๊ะนี้ไปไกล กราฟถอนหายใจด้วยสีหน้าเซื่องซึม เขาไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่อุตส่าห์เคลียร์เรื่องตัวเองได้ แต่กลับมาเจอเรื่องของอีกคนที่ทำร้ายใจยิ่งกว่า

 
      กราฟเก็บเรื่องของตัวเองไว้ในใจ ก่อนที่จะฝืนยิ้มพร้อมหันไปถามไถ่เรื่องเพื่อนเหมือนเป็นปกติ

"เป็นไงบ้างวะ สรุปมึงไม่ได้คุยกับพี่ฆีนจริงๆแล้วใช่ไหม?" กราฟถามย้ำ เพราะตั้งแต่วันนั้น ท็อปไม่ยอมปริปากพูดเรื่องนี้อีก

"อืม..."

"ใจเด็ดว่ะ...จริงๆแล้วกูก็สงสารพี่ฆีนนะ แต่เอาเถอะ มันเรื่องของมึงที่กูไม่ควรยุ่ง แต่บอกตรงๆนะ ตอนแรกกูก็นึกว่ามึงจะมีใจให้พี่ฆีนบ้างซะอีก"



      กราฟพูดจบ ท็อปชะงักและก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ทำให้กราฟส่ายหน้าน้อยๆพลางถอนหายใจที่ดูรู้ว่าเพื่อนคงอึดอัดใจไม่แพ้กัน

     
      ในขณะที่ทั้งสองนั่งจมทุกข์ได้สักพักใหญ่ๆ พี่ฆิตเดินกลับเข้ามาในร้านและทิ้งตัวลงนั่งข้างกราฟเหลือบมองเด็กหนุ่ม

      ฟากท็อปเงยหน้าขึ้นมาพลันเหลือบเห็นตรงแก้มพี่ฆิตมีรอยแดงปรากฎขึ้นจึงเอ่ยถาม


"พี่ฆิตครับ ไม่ได้มีเรื่องกันมาใช่ไหมครับ?" ท็อปถามเพราะไม่เห็นน้องคนนั้นเดินกลับมาด้วย

      สิ้นเสียงเพื่อน กราฟมองใบหน้าคนพี่ทันทีแต่ไม่คิดว่าพี่ฆิตกำลังจ้องมองกราฟอยู่ เด็กหนุ่มจึงเบนสายตาหนีไปอีกทาง แต่เสี้ยววินาทีนั้น กราฟเห็นแก้มข้างขวาพี่ฆิตแดงเป็นปื้นจริงอย่างที่ท็อปว่า

"มีเรื่องอะไร...ไม่มี...กูแค่เดินไปส่งเนกลับบ้านเท่านั้นเอง" ฆิตยิ้มกว้างกลบเกลื่อน ก่อนจะกระดกเหล้าที่เพิ่งเติมใหม่จนหมดแก้ว

"น่าเกลียดว่ะ ทิ้งแฟนให้กลับบ้านเอง" กราฟพูดลอยๆขึ้นมา

"เอ๊ะ...ไอ้กราฟ กูบอกว่าไม่ใช่"

"ถ้าไม่ใช่แล้วน้องเขาจะพูดแบบนั้นมาได้ไงวะ" กราฟเผลอขึ้นเสียงใส่พี่ฆิต

"กราฟ!"

"ผมว่าเรามาชนแก้วกันหน่อยดีไหมครับ?"


      ท็อปสงบศึกด้วยการยื่นแก้วมากลางวงเพราะเริ่มเห็นเค้าลางแห่งการไม่ลงรอยของทั้งสองฝ่าย แม้ในใจลึกๆท็อปจะสงสัยใคร่รู้ว่าสิ่งที่พี่ฆิตกับกราฟปฏิบัติต่อกัน ช่างดูเหมือนคนงอนกันอย่างไรอย่างนั้น แต่ท็อปเชื่อได้ว่าถ้ามันตรงกับสิ่งที่ท็อปคิดไม่นานกราฟคงบอกเอง


      หลังจากที่ทั้งสามชนแก้วกัน ความเงียบก็ปกคลุมทั่วทั้งโต๊ะ ทางกราฟก็เอาแต่นั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ส่วนพี่ฆิตก็นั่งจ้องหน้ากราฟไม่ยอมพูดอะไร ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ ท็อปเลยว่าจะชวนกราฟไปห้องน้ำเพื่อหาจังหวะคุยด้วยสักหน่อย แต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก อยู่ดีๆ กราฟก็ลุกขึ้นพรวด แต่คงลุกเร็วไปทำให้เสียการทรงตัวและเซ จนฆิตคว้าแขนเด็กหนุ่มไว้ได้ทัน พอกราฟตั้งสติได้กลับสะบัดมือพี่ฆิตออกอย่างแรง


"ไม่ต้องมายุ่ง!!"

 "เฮ้ย!...ไอ้กราฟ"
ท็อปปรามเพื่อน เพราะไม่เคยเห็นกราฟตวาดและทำกิริยาแบบนี้ใส่พี่ฆิต

"มึงคงอารมณ์ไม่ดีอยู่ กูจะทำหรือจะพูดอะไรก็ดูผิดไปซะทุกอย่าง ถ้างั้นกูกลับบ้านก่อนก็ได้"


"โชคดีพี่" กราฟก็ไม่รั้งพี่ฆิตไว้


      วูบหนึ่ง ฆิตแอบเสียความรู้สึกเล็กน้อย เขาหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์ยื่นให้ท็อป แต่ท็อปไม่เอาเพราะพี่ฆิตแทบไม่ได้ดื่มเลยด้วยซ้ำ แต่พี่ฆิตยืนยันจะให้

      ก่อนไป ฆิตยืนมองกราฟก็เห็นว่าอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เขาเลยร่ำลาแต่ท็อปเพียงคนเดียวและเดินออกจากร้านไป


      กราฟรู้ตัวดีว่า นาทีนี้เขางี่เง่าพอสมควร แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หลังจากที่เห็นพี่ฆิตอยู่กับเด็กคนนั้น เขาก็ควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ


      สุดท้าย ทั้งสองนั่งกันต่ออีกไม่นานก็กลับบ้าน โดยกราฟขอมานอนค้างกับท็อปในคืนนี้



       ตั้งแต่ที่นั่งรถแท็กซี่มาด้วยกัน กราฟเงียบมาตลอดทาง ท็อปก็ไม่ไต่ถามกลับกลายเป็นว่าทั้งรถถูกความเงียบเข้าครอบงำ จนกระทั่ง ถึงบ้านท็อป ทั้งสองต่างก็อาบน้ำ พอแต่งตัวเสร็จก็ไม่มีใครพูดคุยอะไรกัน ได้แต่เตรียมนอนพร้อมเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา


      เป็นระยะเวลาหนึ่งที่ท็อปนอนมองหน้าเพื่อนที่หลับใหล จนได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ

 "บางทีกูก็อิจฉาชีวิตมึงนะ กราฟ"

      ท็อปพึมพำเบาๆ จากนั้นก็หลับตาลงตามเพื่อนและผล็อยหลับไปในไม่ช้า...
 




.........................
 

      ผ่านพ้นไปหนึ่งอาทิตย์ที่กราฟหงอยและซึมลงอย่างเห็นได้ชัด เพียงได้รู้ว่าพี่ฆิตพาแฟนมาด้วยในวันนั้น และสิ่งสำคัญที่ทำให้ใจห่อเหี่ยวเพิ่มขึ้นไปอีกก็คือพี่ฆิตไม่โทรหาหรือส่งข้อความมาคุยกับกราฟอีกเลย
 
      กราฟเริ่มไม่มีสติ เขาเหม่อลอยบ่อยๆจนพี่ๆที่ทำงานก็ทักเพราะเห็นถึงความเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จนกราฟต้องแสร้งทำตัวกระตืนรือร้น ยิ้มแย้มตลอดเวลา ทั้งๆที่ในใจไม่เป็นเช่นนั้นเลย


      กราฟไม่คิดว่าพี่ฆิตจะทำให้เขาอาการหนักขนาดนี้ เพียงแค่นึกถึงผู้ชายกวนประสาท กราฟรู้สึกคันยุบยิบเหมือนโดนหมามุ่ยใส่

     ความประทับใจของกราฟที่มีต่อพี่ฆิตมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? สงสัยมันคงค่อยๆซึมลึกมาเรื่อยๆจากการได้ใกล้ชิดผู้ชายที่จริงใจ เฟรนด์ลี่และสนุกสนาน คนที่อยู่ด้วยแล้วทำให้กราฟมีความสุข
 

      หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่กราฟต้องการคนพึ่งพาหรือมีปัญหาก็จะได้พี่ฆิตคอยช่วยเหลือตลอด แม้จะเป็นคนปากร้ายแต่พี่ฆิตใจดีสุดๆ เพราะกราฟสัมผัสได้ว่า เบื้องหน้าจะด่าจะว่าแค่ไหน แต่เบื้องหลังนั้นมักแฝงด้วยความห่วงใย ใส่ใจซ่อนอยู่เสมอ และทั้งหมดที่กล่าวมามันคือสิ่งที่ทำให้กราฟชอบผู้ชายคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น

"เฮ้อ!"

     เด็กหนุ่มระบายลมหายใจออกมา

     มีอย่างที่ไหน...อกหัก ตั้งแต่ยังไม่ทันได้จีบ

      และแล้วความอึดอัดมันก็เกิดขึ้น เมื่อเรื่องนี้กราฟเก็บงำไว้เพียงคนเดียว จนกราฟทนไม่ไหวอยากระบายให้ใครสักคนรับฟัง เขาจึงส่งข้อความไปหาท็อปและพลเพื่อนัดกินข้าวในมื้อค่ำนี้

 
      กราฟตั้งใจจะบอกความรู้สึกนี้ให้เพื่อนสนิทอย่างท็อปและพลได้รับรู้

      เมื่อถึงที่หมายคือร้านอาหารเกาหลีปิ้งย่าง ทุกคนมาถึงก็สั่งอาหารเสร็จสรรพรอเสิร์ฟ

       ในระหว่างที่อาหารมาครบถ้วน ทุกคนก็ปิ้งไปกินไปอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อสบโอกาส ท็อปก็พูดโพล่งขึ้น

"พวกมึง กูมีอะไรจะบอก"

"อะไร?"
ท็อปถาม

"กูชอบพี่ฆิตว่ะ"

      พลแทบสำลักหนังหมู ส่วนท็อปที่กำลังคีบเนื้อหมูเข้าปากถึงกับชะงัก แต่อันที่จริงก็ไม่ผิดจากที่ท็อปคาดเดาไว้สักเท่าไหร่

"ที่ผ่านมา มึงมีแฟนเป็นผู้หญิงนะ" พลถามย้ำ

"มันก็ใช่ แต่เพราะพี่ฆิตเป็นผู้ชายคนแรกที่กูชอบ กูถึงตัดสินใจและคิดว่าควรบอกพวกมึงให้รู้"

"แค่อารมณ์ชั่ววูบรึเปล่าวะ?" พลถามย้ำไปอีก

"ตอนแรกกูก็คิดแบบนั้น อารมณ์ประมาณรักกันแบบพี่น้อง แต่จากหลายๆเหตุการณ์ที่กูได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่ฆิตมันทำให้กูรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งตอนที่กู อ...า...บ" กราฟเงียบไปอึดใจหวนไปนึกถึงตอนที่อาบน้ำให้พี่ฆิต แต่ก็อายที่จะพูดออกไปจึงเบี่ยงประเด็น

"เอ่อะ...ตอนที่กูรู้ว่าพี่ฆิตมีแฟนแล้ว กูเจ็บและรู้สึกเหมือนคนอกหักว่ะมึง"

"เฮ้ย! จิงหรือวะเนี่ย กูไม่อยากจะเชื่อ"
พลบอกตาโต

"เชื่อเถอะ แม่งเป็นไปแล้ว" กราฟว่าด้วยแววตาเศร้า

"แล้วถ้ามองอีกมุม สมมติว่าพี่ฆิตก็ชอบมึงเหมือนกัน มึงคบกันไป ไม่กลัวสายตาคนมองมาบ้างเหรอวะ?" ท็อปถามอย่างหยั่งเชิง เพราะกราฟไม่เคยคบผู้ชายด้วยกันมาก่อน กราฟจะตอบอย่างไร ท็อปก็อยากรู้

"กูไม่กลัว ทำไมวะ...ถ้าคนสองคนรักกันและมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราต้องแคร์สายตาใครอีกวะ...ไอ้ท็อปกูจะบอกอะไรให้นะ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าจะตายวันไหน ตอนที่กูคุยกับพวกมึงอยู่ กูอาจจะเผลอเคี้ยวเนื้อหมูติดคอตายเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ กูว่าชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะมานั่งสนใจคนอื่นจนเสียความเป็นตัวเองว่ะ ทำในสิ่งที่ใช่ ที่รัก ที่ดีต่อจิตใจ ไม่ส่งผลร้ายต่อสังคม กูว่าแม่งเจ๋งที่สุดแล้ว"

      ท็อปเงียบและครุ่นคิด พินิจพิเคราะห์ตามเพื่อน...

      บางครั้งบางครา หากใส่ใจคำพูดของคนรอบตัวสักหน่อย เชื่อได้ว่าต้องมีสักประโยคดีๆที่ทำให้ฉุกคิดได้บ้างไม่มากก็น้อย

      ตอนนี้ ท็อปคิดตามมันก็จริงอย่างที่เพื่อนว่า เพราะพอกราฟพูดถึงเรื่องชีวิตมันสั้น มันทำให้ท็อปหวนนึกถึงพี่ชายที่ท็อปรักมากที่สุดก็ยังจากโลกนี้ไปไวกว่าที่คิดเลย

      พี่แทนเสียชีวิตทั้งๆที่อายุไม่ถึงสามสิบเลยด้วยซ้ำ


"แล้วพี่ฆิตรู้รึยังว่ามึงชอบ?" พลถามอย่างอยากรู้

"ยังและกูคงไม่คิดจะบอก เพราะพี่เขามีแฟนแล้ว"

"มึงมาบอกพวกกูแบบนี้ ไม่กลัวพวกกูรังเกียจหรือวะ?"
ท็อปถามบ้าง

"ถ้ามึงจะรังเกียจเพียงเพราะกูชอบผู้ชาย กูก็ห้ามความคิดมึงไม่ได้อยู่ดี แต่มันทำให้กูรู้อย่างหนึ่งว่ามึงแม่งมีทัศนะคติเป็นแบบไหน? อีกอย่าง กูไม่ได้เลวขนาดไปปล้นธนาคารหรือรุมโทรม ข่มขืนใครสักหน่อยที่มึงถึงขั้นจะเลิกคบกูใช่ไหมล่ะ หรือมึงรังเกียจกูวะท็อป ถึงถามแบบนี้"

"ไม่ใช่ๆ นะกราฟ กูไม่เคยรังเกียจมึงเลย กูแค่ถามเฉยๆน่ะ..." อยู่ดีๆ ท็อปรู้สึกตื้นตัน กระอักกระอ่วน ผสมปนไปอย่างแยกไม่ออกจนน้ำตาคลอเบ้า เขาสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ก่อนที่จะพูดกับเพื่อนอีกครั้ง

"ไอ้ท็อป ไอ้พล...กูขอพูดตรงๆได้ไหม? กูดีใจจริงๆว่ะที่มีพวกมึงเป็นเพื่อน"


     ท็อปยิ้มกว้างด้วยความปลื้มใจ เพราะตั้งแต่ที่เขาคบเพื่อนมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถม มัธยม ตลอดจนมหาวิทยาลัย มีแค่พลกับท็อปเท่านั้นที่ท็อปสัมผัสได้ถึงความเป็นเพื่อนแท้และเป็นเพื่อนที่ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องฝืนสวมหน้ากากแสร้งเป็นใคร และทั้งสองไม่เคยทำให้ท็อปลำบากใจเลยจริงๆ


"มึงอย่ามาซึ้งไอ้ท็อป กูขนลุกซู่เลยเห็นไหมเนี่ย?"
พลแซวและแกล้งชูแขนตัวเองไปตรงหน้าท็อป ก่อนจะลูบแขนตัวเองไปมา
 

      ฝั่งท็อปเองก็หลุดหัวเราะและรู้สึกดี เหมือนว่าตัวเองค่อยๆก้าวเท้าออกมาจากมุมมืดในจิตใจได้ทีละเล็กละน้อย

      การได้ระบายความรู้สึกหรือปรับทุกข์ บางทีก็ทำให้เราได้เห็นมุมมองของแต่ละคนที่แตกต่างกันไปและสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตของตัวเองได้ดีอยู่เหมือนกัน


      เฉกเช่น ท็อปเองที่ได้ข้อคิดหลายอย่างจากบทสนทนาระหว่างมื้ออาหาร และท็อปก็หาคำตอบได้แล้วว่าคืนนี้ เขาควรไปสะสางปัญหากับคู่กรณีสักหน่อยแล้ว


      ในขณะที่เพื่อนๆยังคงปรึกษาปัญหาหัวใจ ประหนึ่งสลับร่างเป็นศิราณีให้แก่กันและกัน ทันใดนั้นเอง ได้มีคนเดินมาสะกิดไหล่กราฟ ทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้ามองก็อึ้งไปนิด

"พ...พี่เขต สวัสดีครับ มากินร้านนี้เหมือนกันหรือครับ?" กราฟทักทาย ก่อนที่จะแนะนำเพื่อนๆให้รู้จักว่าเป็นใคร


"ใช่กินร้านนี้ แต่มานานจนกินอิ่มแล้วล่ะ เพราะพี่นั่งอยู่ข้างหลังท็อปนี่ไง สงสัยคงไม่ทันสังเกต"


!!!

      กราฟเบิกตากว้างอย่างตกใจ ถ้าอย่างนั้น พี่เขตจะได้ยินเรื่องที่กราฟพูดถึงพี่ฆิตหรือเปล่าวะ? เฮ้ย!..คงไม่หรอกมั้ง? กราฟก็ไม่ได้พูดเสียงดังสักหน่อย...

       แต่ในจังหวะนั้น เขตโน้มตัวลงต่ำมาใกล้หูเด็กหนุ่ม

"ไม่ต้องเดาว่าพี่จะได้ยินอะไรไหม? ความจริงก็คือพี่ได้ยินหมดแล้วล่ะครับ อยากให้พี่ช่วยเรื่องฆิตไหมล่ะ กราฟ?"


      เหมือนความร้อนกำลังพุ่งมาสู่ใบหน้าตรงจุดเดียว จู่ๆกราฟรู้สึกถึงเหงื่อที่ผุดซึมตามไรผม ใจก็เต้นแรงขึ้นภายในไม่กี่วินาทีที่ได้ยินประโยคนั้น

       กราฟยอมรับเลยว่าอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ทำไมต้องเป็นพี่เขตที่ได้ยินและแม่งเป็นคนที่เดาอาการคนอื่นเก่งอย่างกับมีจิตสัมผัส


"พ...พี่...เขต ไม่ต้องช่วยผมหรอกครับ พี่ฆิตมีแฟนแล้ว" กราฟพูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้

"หืม...แน่ใจหรือ? พี่ว่ากราฟออกไปคุยข้างนอกกับพี่สักครู่สิ" เขตบอก กราฟพยักหน้า ก่อนจะขอตัวเพื่อนๆลุกตามคนตัวโตที่เดินนำหน้าไป

"แฟนฆิตคือใคร? ไปเอามาจากไหนครับ?" เขตถามทันทีที่เห็นว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย

"ผมเคยเจอที่ร้านเหล้า ได้ยินพี่ฆิตเรียกชื่อว่าเน อะไรนั่นล่ะครับ"

      เขตพยักหน้าเออออแต่สายตาคงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์ก่อนจะหลุดหัวเราะ

"พี่ว่าช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ แต่พี่อยากมั่นใจอีกครั้งว่าได้ยินไม่ผิด กราฟชอบฆิตใช่ไหม?"

"ค...ครับ...ผ...ผมชอบพี่ฆิต" กราฟตอบอย่างไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

"เฮ้อ! สงสารเนจัง"

"พี่เขตรู้จักด้วยหรือครับ?"
กราฟยืนเอียงคอมองพี่เขตอย่างสงสัย

"รู้จักสิ ก็เน น้องชายพี่ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฆิตไม่ได้คบกับเนหรอก มันบอกน้องพี่ว่ามีคนชอบแล้วนี่สิ พี่ล่ะเซ็งเลย...พี่ยังเพิ่งคิดเล่นๆว่า ถ้าตอนนี้ไอ้ฆิตยังไม่มีคนชอบ พี่จะบอกให้เนไปขืนใจไอ้ฆิตอยู่" เขตหัวเราะทำเหมือนกับว่าเรื่องที่คุยนั้นตลกนักหนา ซึ่งตรงข้ามกับความรู้สึกกราฟในตอนนี้ ที่ใจห่อเหี่ยวสุดๆ

     ไม่นานเลยที่ใบหน้าคมคายก็ผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยกมือมาบีบไหล่กราฟ

"กราฟรู้ไหม? ตอนแรกพี่อยากจะซัดหน้าไอ้ฆิตนะ โทษฐานที่มันทำน้องพี่อกหักและร้องไห้ แต่พอเนมาบอกชื่อคนที่ไอ้ฆิตชอบเท่านั้นแหละ พี่ต่อยมันไม่ลงจริงๆว่ะ เพราะว่าต่างฝ่ายต่างก็ชอบกันด้วยนี่สิ...เฮ้อ!...อิจฉามันจริงๆ...อืม หมดเรื่องแล้ว พี่ขอตัวก่อนนะ"

"ด...เดี๋ยวครับพี่เขต...พ...พี่ฆิตชอบใครหรือครับ?


       กราฟถามเพื่อต้องการความแน่ใจ แต่พี่เขตเอาแต่มองหน้ากราฟยิ้มๆอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเดินหนีห่างออกไป ปล่อยให้กราฟยืนงงพร้อมคำถามที่มีอยู่ในหัวจนแทบสมองจะระเบิด

       พี่ฆิตชอบใครวะ? ขอเข้าข้างว่าเป็นตัวเองได้ไหม?

       เมื่อไม่ได้คำตอบ กราฟเดินเข้ามาเหมือนคนไม่อยู่กับร่องกับรอย จนเพื่อนๆสังเกตเห็นจึงถามว่าเป็นอะไร ถึงทำให้กราฟดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ก่อนจะส่ายหน้ารัวแทนคำตอบและก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้าโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก

      ใช้เวลาพอสมควรที่ทุกคนอิ่มหมีพีมัน จากนั้น ทั้งสามก็แยกย้ายกันกลับบ้าน



      จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้เวลาเข้านอน ฟากกราฟที่ปิดไฟในห้องทุกดวงพร้อมหลับเต็มที่ แต่สมองไม่รักดี ดันเผลอไปคิดถึงเรื่องที่พี่เขตพูดอยู่ได้

       กราฟพยายามข่มตาหลับ แต่ในระหว่างนั้น ดันมีเสียงข้อความจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น


       กราฟคว้าโทรศัพท์มาดูเห็นชื่อพี่ฆิตปรากฎบนหน้าจอ เขาแปลกใจ แต่ก็กดเข้าไปอ่านดู ทันใดนั้นเอง กราฟตาสว่างในบัดดล เมื่อเห็นข้อความ...


Read

22.45

>> ชอบกูทำไมไม่บอก



!!!


      กราฟอึ้งและรู้ได้ในทันทีว่าใครบอก? ก็คนขี้แกล้งอย่างพี่เขตไงล่ะ...เพราะหลังจากข้อความนั้น พี่ฆิตเขียนต่อมาว่า พี่เขตส่งข้อความเสียงที่คุยกับกราฟมาเป็นหลักฐานยืนยัน นั่นแสดงว่าที่กราฟคุยกับพี่เขตทั้งหมดนั้น แม่งแอบอัดเสียงไว้แน่นอน

     เด็กหนุ่มสบถเสียงดังลั่น ทั้งยังนอนดิ้นพล่านอยู่บนเตียง แล้วทีนี้ กราฟจะกล้าเจอหน้าพี่ฆิตได้อย่างไร แต่ก่อนจะเจอหน้าเอาตอนนี้ก่อนดีกว่าไหม? ว่าจะหาถ้อยคำมาตอบอย่างไร ในเมื่อพี่ฆิตรู้เรื่องที่กราฟชอบแบบไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัวและเตรียมใจเลยสักนิดเดียว...




****1.1****



ตอนหน้า part พี่ฆีนล้วนๆ

มาเอาใจช่วยกันดีกว่าว่าถ้าเจอกันครั้งนี้

ท็อปจะง้อ? จะอาละวาด? หรือจะทำอะไร? ต้องคอยติดตามจ้า แฮร่ๆๆ...


ขอบคุณคนอ่านและคนที่มาคอมเมนท์ด้วยนะคะ เราว่าการได้แสดงออกทางความคิด มันเป็นสิ่งที่ดีและอิสระสุดๆ อีกอย่างมันทำให้เราได้เห็นมุมมองของแต่ละคนแตกต่างกันไป จะติชมยังไง อ่านแล้วก็สนุกดีและโคตรชอบเลยด้วย ^^

ยิ้มอ่อน

ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านค่า
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10} UPDATE [ 14-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-03-2017 21:29:57
พี่ฆินมาแล้ว 55555
ส่วนพี่ฆีนเอาไงต่อเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10} UPDATE [ 14-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2017 22:29:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10} UPDATE [ 14-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 14-03-2017 23:02:05
ร้ายกาจมาก พี่เขต,,,
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10} UPDATE [ 14-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-03-2017 17:44:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10} UPDATE [ 14-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-03-2017 19:21:04
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10} UPDATE [ 14-มีค.-60 ] >> P.2
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-03-2017 19:41:07
ใจตรงกันแล้ว รอพี่ฆิตกราฟ คุยพร้อมกัน แบบว่าช่วงนี้ต้องคู่นี้เท่านั้น อิอิ
พี่ฆีนท็อป ลุ้นต่อไป ฮ่าๆๆๆ
แบบว่าไหนๆๆก็ขอให้พี่เขตคู่กับพลได้มะ ดูพี่เขตเศร้าๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10.2} UPDATE [ 17-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 17-03-2017 19:28:54
ตอนที่ 10 แฟน (2)



         หลังจากที่ท็อปแยกย้ายกับเพื่อนที่ร้านอาหารปิ้งย่างแล้ว เขามานั่งดื่มย้อมใจที่บาร์คนเดียวและในหัวสมองตอนนี้ มีแต่เรื่องพี่ฆีนล้วนๆ


        นั่งคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จนกระทั่งอาการกรึ่มได้ที่ ท็อปตัดสินใจแล้วว่าจะไปคุยกับพี่ฆีนให้รู้เรื่อง เด็กหนุ่มจัดการเช็คบิล และมุ่งหน้าไปยังคอนโดของพี่ฆีนทันที


      ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่นัก ที่เด็กหนุ่มพาร่างตัวเองเดินทางมาถึงคอนโดที่ท็อปมานับครั้งได้

       เด็กหนุ่มก้าวเท้าไวๆไปยังส่วนล็อบบี้ จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งพร้อมคว้าโทรศัพท์กดโทรหาคนที่ทำให้ท็อปต้องมาหา


[สวัสดีครับ]


"อยู่ไหน?"



[ห้องครับ ท็อปมีอะไร]

"กูอยู่ข้างล่าง ฆีนลงมารับหน่อย"



       ฆีนที่นอนดูหนังอย่างเพลิดเพลินอารมณ์ถึงกับชะงัก เขาเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาด้วยความฉงนใจว่าท็อปต้องการอะไร? และมาหาเขาทำไม?


       ฆีนเงียบไปนานเพราะกำลังนั่งตัดสินใจว่าจะลงไปหรือไม่ลงไปดี จนกระทั่งเสียงเด็กหนุ่มดังแทรกขึ้นมาอีกครั้ง


"ถ้าไม่ลงมา กูนอนข้างล่างก็ได้"


       ฟากฆีนเม้มปากแน่น เพราะเขารู้ว่าการเจอท็อปภายใต้สถานการณ์ส่วนตัวแบบนี้ ไม่ดีแน่ๆ เพราะฆีนนั้นแหละที่จะแย่และทำใจไม่ได้สักที


      แต่เพราะความกังวลและเป็นห่วงเด็กหนุ่มที่มีมากกว่า สุดท้าย ฆีนก็พ่ายแพ้ใจตัวเอง


[เดี๋ยวพี่ลงไปรับ]


      ฆีนวางสายและรีบสวมรองเท้าแตะออกจากห้องตรงดิ่งไปยังลิฟต์ทันที
 

     เมื่อฆีนออกจากลิฟต์ เขาเดินจ้ำไปหาเด็กหนุ่มที่นอนฟุบหน้าลงกับพนักโซฟา ฆีนแตะไหล่คล้ายปลุก ฟากท็อปก็ลืมตาขึ้นมา

"เมามาใช่ไหม?"


       ท็อปพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะลุกขึ้นยืน เดินตามหลังพี่ฆีนไป


        จนกระทั่ง เข้ามาในห้องของพี่ฆีนได้ ท็อปก็พูดขึ้น

"ขอบคุณนะ ฆีน"


       แม้รู้ดีว่า ก่อนหน้านี้ตัวเองเป็นฝ่ายโดนปฏิเสธมา แต่หัวใจก็ยังไม่รักดี เอาแต่ใจสั่นหวั่นไหวที่ได้มองและอยู่ใกล้ท็อปแบบสองต่อสอง


        ฆีนสาวเท้าไปเอาเสื้อผ้า ข้าวของทุกอย่างที่ท็อปต้องใช้ในห้องของตัวเอง ก่อนจะเดินนำมันออกมาวางลงบนโซฟาและชี้นิ้วไปยังประตูห้องอีกบาน ให้ท็อปรู้ว่า คืนนี้ เด็กหนุ่มต้องนอนที่ไหน


       หมดธุระแล้ว ฆีนรีบเดินกลับเข้าห้องของตัวเอง ปิดไฟทุกดวงพร้อมเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการนอน


       ยี่สิบนาทีผ่านไป ฆีนได้ยินเสียงเคาะประตู ซึ่งเขาเองก็ยังนอนไม่หลับ จึงลุกขึ้นไปเปิดประตู


       ฆีนมองคนตรงหน้าที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคร่ง ช่วงล่างกลับไม่ได้ใส่กางเกงขาสั้นที่ฆีนเตรียมไว้ ทำให้เห็นช่วงต้นขาขาวสว่างของเด็กหนุ่มที่ฆีนไม่เคยเห็นมาก่อน


      ชั่วแวบหนึ่งที่ฆีนรู้สึกปั่นป่วนและวูบวาบขึ้นมา เขาเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเมื่อรู้ว่าอะไรคือสาเหตุ
 

"มีอะไร?"     

"นอนด้วยคน"

"ห้องท็อปไปทางนั้น"



"กูกลัวผี" ท็อปอ้างไปเรื่อย ก่อนจะเดินกระแทกไหล่ฆีนปีนไปขึ้นเตียงหน้าตาเฉย ฟากฆีนหันขวับไปมองด้วยแววตาขึงขัง

"ท็อป...พี่ไม่ตลก พี่เห็นท็อปเมาก็เลยให้อาศัยห้องไว้นอนพัก และตอนเช้าจะไปส่ง แต่ไม่ใช่ให้มาทำอะไรโดยพลการแบบนี้" ฆีนดุเด็กหนุ่มพร้อมสาวเท้ามายืนชิดปลายเตียง เพราะถ้าไม่ยอมพูดจาเด็ดขาด ฆีนนั่นแหละที่จะใจอ่อนยวบยาบอีกแน่ๆ



      ฟากท็อปที่นอนแผ่หราบนเตียงเห็นพี่ฆีนทำเสียงเข้มใส่ ก็หน้าหงอยครู่หนึ่ง ก่อนจะยันกายลุกขึ้นไปดึงมือพี่ฆีนให้มานอนด้วยกัน ฟากฆีนขืนตัว ท็อปจึงส่งยิ้มหวานฉ่ำที่เคล้าด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และกระชับมือพี่ฆีนแน่น


"อย่าดุสิ กูกลัวนะ"

"ท็อปพี่ไม่เล่น"

"ก็ไม่ได้เล่นสักหน่อย กูจะนอนจริงๆ ขอนอนด้วยคนนะ...ฆีน"



       ฆีนสูดลมหายใจเข้าลึกๆจนเต็มปอดแล้วผ่อนมันออกมาช้าๆราวกับข่มใจ เพราะอีกไม่กี่นาที ฆีนกำลังจะใจอ่อน


       ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย...ในขณะที่ฆีนทำใจให้เข้มแข็งได้แล้ว ท็อปก็กลับมาและปฏิบัติตัวทำเหมือนว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น


       เขาตามอารมณ์ขึ้นๆลงๆ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเด็กหนุ่มไม่ได้สักที...


       ถ้าท็อปไม่ไป ฆีนตัดสินใจเป็นฝ่ายเดินออกจากห้องเอง แต่ทันใดนั้น...ท็อปกระชากฆีนเข้ามาหา แต่เพราะฆีนไม่ทันตั้งตัว ทั้งสองจึงล้มลงบนเตียงพร้อมกัน ท็อปอมยิ้ม มองหน้าฆีน ก่อนจะค่อยๆใช้ปลายนิ้ววนลูบไล้ริมฝีปากอีกฝ่ายช้าๆ


"ท็อป ต้องการอะไรกันแน่...ห้ะ..."
ฆีนขึ้นเสียงและกระเถิบตัวออกห่างจากเด็กหนุ่ม


     เขารีบยันกายลุกขึ้นนั่งและพยายามตั้งสติ เพราะเมื่อกี้ เขาดันเผลอรู้สึกดีตอนที่เด็กหนุ่มเล่นกับริมฝีปากเขา


      ฟากท็อปลุกขึ้นตามไปประชิดตัวคนพี่ไม่ห่าง


"จูบกูหน่อยสิ"

"ไม่...พี่เคยบอกไปว่าอะไร"
ฆีนย้ำเสียงหนักแน่น แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะและขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

"จูบกับคนที่เป็นแฟนเท่านั้นสินะ"
 

"ใช่"

"ถ้างั้นจูบกูสิ"

"ท็อป!!"


       ท็อปขี้เกียจรออีกฝ่ายจึงรั้งคอพี่ฆีนมาประกบจูบลงบนริมฝีปากอย่างแนบแน่น


       ในตอนแรก ฆีนคิดผลักอกอีกฝ่ายออกไปเพราะไม่อยากเป็นคนที่รองรับอารมณ์ของคนเอาแต่ใจอีก หากแต่รสจูบร้อนแรงที่ดำเนินไปอย่างเร่าร้อนทำให้มือที่ตั้งใจจะผลักกลับเป็นฝ่ายดึงรั้งต้นคออีกฝ่ายเข้ามาชิดและแลกจูบกันจนเสียงดังจ๊วบจ๊าบก้องไปทั่วทั้งห้อง

       หมดแล้วความเข้มแข็งและความอดทนที่ฆีนสะสมมาโดยตลอดพังทลาย สลายลงในชั่วพริบตา


       ฟากท็อปผละริมฝีปากออกและยกยิ้มมุมปาก
 

"ฆีน คนเป็นแฟนกันนอกจากจูบแล้วต้องทำอะไรอีกบ้าง"


       คำถามที่ดูกวนประสาทราวกับต้องการกระตุ้นต่อมยั่วอารมณ์ของฆีนอย่างไรไม่รู้


       ฆีนพยายามกลืนน้ำลายลงคอ ในขณะที่ทั้งสองสบประสานสายตากันอยู่ จู่ๆ เด็กหนุ่มๆเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้และโฟกัสไปที่การขบเม้มใบหูพี่ฆีนเล่นอย่างหยอกเย้า ทำฆีนใจเต้นเร็วแรงและขนลุกซู่ เขาขบกรามแน่นคล้ายข่มใจ


"นี่ท็อปตั้งใจจะยั่วพี่?"

"แล้วยั่วขึ้นไหม?"
ท็อปเอียงคอถามทำสีหน้าท่าทางเหมือนเด็กไร้เดียงสา



        แม้ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ ท็อปจะตื่นมาจำได้ไหม? แต่ถ้าเจอคนที่ชอบมานอนยั่วกันแบบนี้ ฆีนก็ทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน


       ใบหน้าคมเข้มผุดรอยยิ้มร้าย ก่อนจะคว้ามือเด็กหนุ่มให้มาจับแก่นกายของตัวเองที่ตอนนี้ทั้งแข็งตัวและขยายขนาดจนใหญ่โตเต็มที่


"คิดว่าขึ้นไหมล่ะครับ?" ฆีนเลิกคิ้วถาม ฟากท็อปส่งยิ้มและมองคนตรงหน้าด้วยสายตายั่วยวน ก่อนจะขบเม้มริมฝีปากล่างพี่ฆีนเบาๆ และเอ่ยเสียงแหบพร่า


"หึๆ แล้วรออะไรล่ะ"



.....................................

คืออะไร?...ทำไมท็อปขี้อ่อยจังลูก? ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10.2} UPDATE [ 17-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-03-2017 22:29:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10.2} UPDATE [ 17-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 17-03-2017 23:37:01
อ่านไปด่าไปอะ พี่ฆีน จะรู้ได้ไงว่าถ้าตื่นมามันจะไม่ด่าพี่อีก มันเป็นเด็กมีปัญหาพ่อแม่ไม่รักหรอ

ทำไมชั่วแบบนี้อะท๊อป เลวอะ เล่นกับหัวใจคนอื่นนี่สนุกไหม กี่ครั้งและ เกลียดท๊อปมาก โคตรเกลียดอะ
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10.2} UPDATE [ 17-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-03-2017 13:38:57
ค้างอย่างแรงงงงงงงงงงง
เขาทำอะไรกันหรอ ต่อด่วน อิอิ

ท็อปได้คำตอบแล้วนิคุยกับพี่ฆีนเลยน่ะตื่นมาอ่ะ
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10.2} UPDATE [ 17-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 18-03-2017 18:58:42
ย่ิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า ท็อปนิสัยแย่มากก ฆีนอายุเยอะกว่ามาก เป็นหัวหน้าด้วย แต่ใช้คำพูด กิริยาท่าทางก้าวร้าว ถึงขนาดด่าอีกตะหาก การที่ฆีนชอบท็อปไม่ได้หมายความว่าท็อปจะทำแบบนี้ได้นะ พอฆีนตัดใจ ก็เข้ามาอ่อยอีก ถ้าคราวนี้ตื่นมา แล้วจำไม่ได้หรือนิสัยเหมือนเดิม ก็ขอให้โดนฆีนเทจริง ๆ ให้มีคนดี ๆ มาชอบฆีนด้วย
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 10.2} UPDATE [ 17-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 20-03-2017 19:51:38
คือ ท็อป ขี้อ่อยมาก!!
หัวข้อ: Re: ..ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11} UPDATE [ 21-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 21-03-2017 18:57:54
ตอนที่ 11 ข่าวดี





"หึๆ แล้วรออะไรล่ะ"


        ราวกับความฝัน ฆีนไม่อยากเชื่อหูตัวเอง นี่...เขาหูฝาดไปหรือเปล่า? คนที่เอาแต่วิ่งหนีเขาในอดีต กำลังพูดจาเร่งเร้ากันอยู่ตอนนี้


        มันค่อนข้างอธิบายได้ยากกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างกระทันหัน แต่เอาเถอะ...เวลานี้ ฆีนไม่พูดพร่ำทำเพลง ผลักร่างเด็กหนุ่มให้นอนราบไปบนเตียงกว้าง


       ช่วงเวลาที่ผ่านมา ฆีนยอมรับว่าตั้งแต่มีเรื่องเครียดก็ไม่ได้ปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมาเลย นาทีนี้ เขาจึงยากที่จะปฏิเสธว่าท็อปได้เติมเชื้อไฟแห่งกามารมณ์ให้ลุกโชน


       เหมือนได้เจออาหารโปรดวางอยู่ตรงหน้า เพราะสีหน้าท่าทางของฆีนดูตื่นตัวและต้องการเป็นพิเศษจนสมองครุ่นคิดไปด้วยว่าจะเลือกชิมส่วนไหนก่อนดี


       สุดท้าย ฆีนตัดสินใจหยุดความคิดฟุ้งซ่าน ประทับริมฝีปากอุ่นบรรจงจูบซับบนหน้าผาก ปลายจมูก พวงแก้ม แล้วเลื่อนต่ำลงมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปากเด็กหนุ่ม เขาใช้ปลายลิ้นเลียทั่วริมฝีปากอีกฝ่ายให้เปิดปาก จากนั้น ก็สอดลิ้นกวาดหาความหวานในโพรงปากจนทั่ว ก่อนจะเริ่มรุกราน ไล่ เล่นลิ้นอีกฝ่ายอย่างหยอกเย้า


       เมื่อเห็นอีกฝ่ายพยายามใช้สองมือดันอก ฆีนจึงละจากปากนั้น หันไปขบเม้ม ลากไล้ ซุกไซ้ซอกคอเด็กหนุ่มแทน มือที่ว่างของคนพี่เลิกชายเสื้อท็อปขึ้น ก่อนจะใช้ปลายนิ้วกระตุ้นอารมณ์ด้วยการเขี่ยเม็ดตุ่มสีสวยเล่นสลับกับบีบขยี้บี้เป็นครั้งคราว เมื่อได้จังหวะ ฆีนใช้ปลายลิ้นอุ่นโลมเลียวนรอบเนินผิวขาว ก่อนจะดูดดึงยอดอกจนแข็งเป็นไต



       ฆีนยกยิ้ม เมื่อเห็นใบหน้า ใบหูเด็กหนุ่มแดงก่ำ ท่าทีที่กัดปากและบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่าน ช่างทำให้ฆีนพึงพอใจเหลือเกิน


       ชายหนุ่มกระเถิบตัวเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหาของสำคัญพร้อมดำเนินการ ฆีนจับสองขาท็อปแยกออกจากกัน นาทีนั้น ท็อปรู้สึกได้ถึงความลื่น ฉ่ำแฉะจากช่องทางด้านหลัง และสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วร่างสูงกดสอดเข้ามาภายใน จากหนึ่งนิ้วก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นและขยับหมุนวนภายในราวกับควานหาบางอย่าง 


       ทันทีที่เห็นใบหน้าเหยเกของเด็กหนุ่ม ก็อดที่จะปลอบขวัญด้วยการโน้มตัวลงต่ำจูบซับบนเปลือกตาทั้งสองข้างไม่ได้ ฆีนเคลื่อนริมฝีปากไปกระซิบริมหูท็อปบอกให้ผ่อนคลายด้วย


       เมื่อช่องทางด้านหลังที่ตอดรัดนิ้วฆีนอยู่ค่อยๆคลายลง นิ้วมือเรียวก็ถูกดึงออกแทนที่ด้วยแก่นกายร้อนผ่าวสอดเข้าไปช้าๆ

       วินาทีนี้ ท็อปรู้สึกหลากหลายอารมณ์ทั้งเจ็บ จุก เสียวแปลบๆ แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก เพราะไม่เคยร่วมรักกับผู้ชายมาก่อน


      ท็อปจึงไม่คุ้นชินกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น ครู่หนึ่ง ท็อปดันอกพี่ฆีนออกเพื่อจะบอกพี่ฆีนว่า หยุดก่อนได้ไหม?


       แต่เมื่อมองใบหน้าคมเข้มชื้นเหงื่อที่มีสายตามุ่งมั่นแต่ติดเป็นกังวลเหมือนกลัวว่าท็อปจะไม่มีความสุข ทำให้ท็อปตัดสินใจไม่พูดแต่กลับเลือกรั้งเอวอีกฝ่ายเข้าหาจนแก่นกายของพี่ฆีนสอดลึกมามากกว่าเดิม

       สาเหตุที่ท็อปทำแบบนั้น เพราะมองออกว่า พี่ฆีนไม่ได้ทำเพียงเพื่อระบายความใคร่...แต่สิ่งที่ท็อปสัมผัสได้ นั่นคือ...ความรัก...


       เด็กหนุ่มกัดปากแน่นด้วยความเจ็บ จนเผลอฝังเล็บจิกลงที่หัวไหล่อีกฝ่าย ท็อปเบนความสนใจด้วยการรั้งคอพี่ฆีนให้ลงมาประกบจูบอีกครั้ง


      ทั้งสองจูบกันดูดดื่ม ในขณะที่ช่วงล่างยังคงเชื่อมต่อ ขยับเคลื่อนเข้าหากันอย่างเนิบนาบ มือหนาลูบไล้ทั่วผิวกายขาวจัดสลับกับบีบเค้นเบาๆ

   
       เสี้ยววินาทีที่ท็อปโดนแท่งร้อนกระแทกเข้ามาจนสุด ท็อปกระชับกอดพี่ฆีนแน่น มิวาย ฝังฟันคมกัดลงที่ลาดไหล่ชายหนุ่มอย่างแรงเพื่อระบายความเจ็บปวด

     
      ฆีนสัมผัสถึงอาการอีกฝ่ายจึงเอ่ยทัก
 

"อ้ะ...เจ็บหรือ? ท็อป...อาห์.."


      เจ็บสิ... แต่ทว่า เด็กหนุ่มกลับส่ายหน้าสวนทางกับความรู้สึกที่เป็นอยู่
 

      เพราะท็อปยอมรับว่า นาทีนี้ ความรู้สึกที่สอดแทรกมากับความเจ็บปวด มีทั้งความเสียวกระสัน ซาบซ่าน และร้อนรุ่มจนทำให้ปฏิกิริยาในร่างกายเขามีความสุขและตื่นตัวได้มากเหลือเกิน 


     มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ท็อปไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน

      บัดนี้ เหมือนน้ำมันราดลงบนกองไฟ ความเนิบช้ากำลังแปรเปลี่ยนเป็นความรุนแรงทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ


      พายุแห่งแรงปรารถนาที่โหมกระหน่ำได้สร้างความเร่าร้อนให้อุณหภูมิในร่างกายพุ่งสูง...จนความเย็นที่ได้จากเครื่องปรับอากาศแทบไม่มีผลในตอนนี้


       ฉากรักที่ดำเนินไปอย่างไม่มีหยุดพักเพิ่มความโรแมนติกด้วยเสียงครางกระเส่าผสานเสียงหอบหายใจดังถี่กระชั้นสลับกับเสียงผิวเนื้อปลือยเปล่าของทั้งสองที่กระทบกันดังพั่บๆอยู่ในห้อง


      ยิ่งฆีนเคลื่อนกายกระแทกกระทั้นรุนแรงมากเท่าไหร่ บนเตียงนอนยิ่งสั่นและส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดตามจังหวะที่ขยับตัวโยกมากเท่านั้น


“ท็อป...อาห์...ซีดส์ มัน...ดี...มาก...อูวว์” เสียงแหบพร่าพูดๆหยุดๆด้วยความเสียวซ่านกับการได้เข้าไปสำรวจภายในร่างเด็กหนุ่มที่มันตอดรัดจนอยากทำรักมากกว่านี้
 

      ฆีนรู้สึกดีมากจนบรรยายเป็นภาษาไม่ถูก ได้แต่แสดงออกทางภาษากายด้วยการพรมจูบเด็กหนุ่มทั่วใบหน้าและลามไล้ไล่มายังต้นคอด้วย

“ฆ...ฆีน....อ้ะ...อาห์...” เพียงแค่เด็กหนุ่มเรียกชื่อฆีนพร้อมมองมาด้วยดวงตาที่หวานฉ่ำ เขาก็แทบจะปลดปล่อยมาเดี๋ยวนั้น ไม่น่าเชื่อ ว่าเสียงและอากัปกิริยาของเด็กหนุ่มจะเป็นตัวกระตุ้นได้อย่างดีเยี่ยม

"อาห์...ท็อปเป็นแฟนพี่...แล้วนะ " เสียงทุ้มต่ำย้ำถึงการเปลี่ยนสถานะอีกครั้งให้มั่นใจ

"อะ...อื้มมม"

      ได้ยินดังนั้น ฆีนยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ก่อนจะกดส่วนใหญ่โตสอดลึกเข้าไปจนสุดและเคลื่อนกายรุนแรง เร่งเร้า จังหวะให้เร็วขึ้น จนท็อปไม่คิดว่าพี่ฆีนจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลถึงเพียงนี้

       ในขณะเดียวกัน คนพี่เห็นเด็กหนุ่มรูดคลึงแก่นกายของตัวเองอยู่ เขาดึงมือออกก่อนจะเป็นคนจัดการกำแท่งร้อน ช่วยรูดรั้ง เร็วไวให้เด็กหนุ่มไปด้วย


       ไม่นานนักที่ต่างฝ่ายต่างครางจนเสียงร้องดังประสานกันไปทั่วทั้งห้อง ยามที่ทั้งสองสุขสมอารมณ์หมายจนร่างกระตุกเกร็ง จากนั้นก็ปลดปล่อยความต้องการออกจากตัวอย่างหมดสิ้น   

     
       ชายหนุ่มค่อยๆถอนแก่นกายออกมา แล้วทิ้งตัวลงนอนแผ่ข้างๆเด็กหนุ่ม โดยที่ความสุขสมยังไม่จางหาย

     ไม่น่าเชื่อว่า การพบกันรอบนี้ จะได้สร้างสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมากกว่าทุกครั้ง

     เมื่อทั้งสองหายหอบเหนื่อย ฆีนพาเด็กหนุ่มไปจัดการทำความสะอาดร่างกายในห้องน้ำเรียบร้อย ก่อนจะกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพร้อมกันอย่างอ่อนแรง ใบหน้าหล่อจัดผุดรอยยิ้มจางๆเมื่อได้นอนมองหน้าท็อปใกล้ๆ


      แม้พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรช่างมัน ฆีนขอมีความสุขกับปัจจุบันที่ได้นอนเคียงข้างท็อปแบบนี้ก่อน...


"ฝันดีนะครับ...ท็อป"

"อื้ม...เหมือนกัน"


       ฆีนจูบปลายจมูกเด็กหนุ่มทิ้งท้าย แต่ไม่คิดว่า ท็อปจะทำตัวน่ารักด้วยการวาดแขนมาโอบเอวและเขยิบตัวเบียดเข้ามาซุกใบหน้าลงตรงอกกว้าง

       ฆีนกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่ เขาได้แต่กอดตอบจนทั้งสองนอนกอดก่ายกันแนบแน่นจนไร้ช่องวาง 

       ใครเล่าจะคิดว่า การตัดใจของฆีนจะส่งผลไปกระตุ้นให้ใครบางคนได้รู้ใจตัวเองสักที...





.......................


       วันรุ่งขึ้น


        ราวสิบโมงที่ฆีนค่อยๆปรือตาขึ้นมา อันดับแรกที่เขาเลือกมองหา คือ หันไปข้างกายตัวเองทันทีว่ายังมีร่างเด็กหนุ่มนอนอยู่บนเตียงนี้หรือไม่?


        และแล้วความแปลกใจก็เกิดขึ้นมาในฉับพลัน เพราะเวลานี้ ไม่มีคำด่า สบถหรือแม้แต่เสียงโวยวายใดๆ มีเพียงแค่เด็กหนุ่มนอนนิ่งแถมมองมาตาแป๋ว


       ฆีนยิ้มพลางพลิกตัวตะแคงไปหา

"แอบนอนมองพี่นานรึยังครับเนี่ย...ฮึ..." พูดจบ ฆีนยกมือเกลี่ยเส้นผมที่บดบังใบหน้าชวนมองออก

"ก็นานอยู่" ท็อปตอบ ฆีนอมยิ้มก่อนถามเรื่องสำคัญ

"เรื่องเมื่อคืน...ท็อป...จำได้ใช่ไหม? ว่าเรา...มี..."

      ท็อปรีบแทรกก่อนที่พี่ฆีนจะพูดเรื่องที่ทำให้เขินอาย

"จำได้น่า ไม่ต้องถามอีกได้ไหม?"

"ต้องถามสิ ก็เวลาท็อปเมา ท็อปชอบบอกพี่ว่าจำไม่ได้นี่"


"ก็เมื่อคืนไม่ได้เมามาก"

"นั่นหมายความว่าครั้งนี้ ท็อปเป็นแฟนกับพี่จริงๆแล้วใช่ไหม?"


"อื้ม"

"แล้วพี่จะมั่นใจได้ไง ในเมื่อก่อนหน้านี้ ท็อปยังด่าพี่อยู่เลย"


"กูขอโทษสำหรับที่ผ่านมา ฆีนยกโทษให้ได้ไหม?"


      ฆีนงงเป็นไก่ตาแตกเพราะการเจอกันรอบนี้ท็อปอ่อนลงอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เขากำลังนอนกับฝาแฝดท็อปหรือเปล่า? ท็อปคนเดิมหายไปไหนแล้ว?


"ได้สิ"

"แต่ขออย่างเดียว ตอนนี้ที่เราคบกันอย่าเพิ่งบอกใครได้ไหม?"


"ถ้าที่ทำงานพี่ตั้งใจไม่บอกใครอยู่แล้ว แต่ฆิตหรือเพื่อนสนิทของท็อปเองก็จะไม่ยอมบอกด้วย อย่างนั้นหรือ?"

"อะ...อืม..."

"ท็อปคงอายที่ต้องคบกับพี่สินะ"


     เพียงเห็นใบหน้าหล่อสลดลง ท็อปตาโต รีบละล่ำละลักบอก

"ม...ไม่ใช่ๆนะ...ฆ...ฆีน...อ...อย่าเข้าใจผิดนะ เอ่อะ...คือ...กูยังไม่พร้อม" ท็อปเว้นวรรคครู่หนึ่ง ก่อนพูดขึ้นอีกครั้งเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายใจเสียไปซะก่อน

"เพราะตั้งแต่เกิดมา ฆีน...เป็นผู้ชายคนแรกที่กูคบ" ท็อปตอบเสียงแผ่ว ทั้งยังหลุบสายตาลงต่ำอย่างคนเหนียมอาย

      ฆีนนิ่งไปนิดก่อนจะยกยิ้มกว้างด้วยความดีใจที่ได้ยินประโยคดังกล่าว แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ การได้เห็นท็อปเขิน ทั้งใบหน้าที่แดงจัด หูที่แดงแจ๋ มองอย่างไรก็ดูน่าแซวชะมัด

"สงสัยพี่คงต้องทำบุญยกใหญ่ นานๆทีจะเห็นท็อปเขิน เอ้ะ...คงไม่ใช่เรื่องเขินอย่างเดียว เรื่องที่กว่าจะได้ท็อปมาเป็นแฟน...ไม่ใช่สิ...พูดผิด...เป็นเมียพี่แล้วนี่นา..."

"ฆีน...อย่าแซวได้ไหมเล่า"
ท็อปชกอกพี่ฆีนเบาๆ แต่สายตายังคงไม่เงยขึ้นมามองคนตรงหน้าสักนิด     

"ฮ่าๆ...โอ้ย...แฟนใคร เขินใหญ่เลยทีนี้...โอเคๆ พี่ไม่แซวก็ได้ครับ ท็อปนอนต่อเถอะ พี่จะลุกไปทำอะไรให้กินก่อน อยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?"

"ข้าวผัดไข่ ไม่ใส่ผัก"

"หืม...กินเมนูเด็กจัง ได้ๆ เดี๋ยวพี่ทำให้นะครับ"



       สิ้นเสียงคนพี่ ท็อปพยักหน้ารัวๆ ฟากฆีนโน้มตัวไปจุมพิตที่ริมฝีปากท็อปเบาๆ ก่อนจะยีผมอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู และลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำ อาบท่า เตรียมทำอาหารให้แฟนหมาดๆได้กินสักหน่อย...



****1.1****


ตอนนี้ยาวกว่าปกติ ไม่อยากตัดค่ะ (มาบอกทำไม? 555+)

ตอนนี้สอนให้รู้ว่า

...มีผู้ฯดี เป็นศรีแก่ตัว... :mew1: :mew1:

55555+
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11} UPDATE [ 21-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 21-03-2017 22:10:06
เขาได้กันแล้ว ดีใจอ่ะ พี่ฆีนท็อป ขอให้หวานเยอะๆ รีบๆไปทำข้าวผัดให้เมียใหญ่เลยพี่ฆีน เอาใจหรือต่อไปจะกลัวเมีย ฮ่าๆๆๆ
ตอนนี้คู่นี้กลับมานำล่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11} UPDATE [ 21-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 21-03-2017 22:58:30
รู้ใจตัวเองซะทีนะท็อป,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11} UPDATE [ 21-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-03-2017 18:17:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11.2} UPDATE [ 24-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 24-03-2017 20:27:52
 
ตอนที่ 11 ข่าวดี(2)



      ยังไม่ทันที่ฆีนจะได้ทำอาหารให้ท็อปกิน ก็มีสาเหตุให้ต้องจัดการเด็กหนุ่มก่อน เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนทำกิจกรรมแห่งรักเมื่อคืน เขาเพลิดเพลินในอารมณ์จนไม่สนใจสิ่งอื่นใด แต่พอตอนที่ฆีนอาบน้ำถูสบู่ เขารู้สึกเจ็บและแสบช่วงไหล่ทั้งสองข้าง พอเดินไปดูตรงหน้ากระจกถึงเห็นต้นเหตุของความเจ็บเต็มสองตา
 

       จนกระทั่ง ฆีนอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เขาปีนขึ้นไปบนเตียงหาเด็กหนุ่มที่นอนคุดคู้หันหลัง ฆีนเลื่อนริมฝีปากอุ่นไปขบเม้มซอกคอเด็กหนุ่มเบาๆ


"ฆีนทำอะไร"
ท็อปว่าพลางพลิกตัวตะแคงหันมาหาคนที่แกล้งท็อปให้ตื่น


        ฆีนกดสายตาพร้อมใช้นิ้วชี้ไปยังลาดไหล่ที่มีแต่รอยกัดของท็อปจนขึ้นเป็นรอยฟันเด่นชัด


"เป็นคนซาดิสม์หรือไง? ดูกัดพี่สิครับ เป็นรอยช้ำเลย"


       ท็อปใจกระตุกเมื่อเห็นร่องรอยเหล่านั้น ยอมรับว่าเมื่อคืนตอนที่กัด มันรู้สึกดีเหมือนได้ระบายความรู้สึกลึกๆบางอย่างในใจออกไป แต่ท็อปไม่คิดว่า ที่ทำไปทั้งหมดนั้นจะส่งผลจนเป็นร่องรอยช้ำอาการหนักอยู่


       เด็กหนุ่มทำหน้ารู้สึกผิด เขาแตะรอยช้ำพวกนั้นอย่างเบามือ

"ขอโทษ เจ็บไหม?"

 
       ฆีนนั่งมองเด็กหนุ่มที่แววตาหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เขาเขยิบหน้าเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มจนปลายจมูกชนกัน
 

"เจ็บ..." ลมหายใจอุ่นๆเป่ารดปากของกันและกัน ทำให้ท็อปรู้สึกใจเต้นแรง เขารีบก้มหน้างุดหลบสายตาคนตรงหน้า ฟากฆีนยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะก้มลงตามไปดูดดึงริมฝีปากล่างเด็กหนุ่มอย่างมันเขี้ยว

"แต่ชอบ..."

 
"โรคจิต เป็นคนชอบความเจ็บปวดรึไง" ท็อปว่าพี่ฆีนไม่เต็มเสียงนัก
 

"สงสัยมั้งครับ เพราะตั้งแต่พี่ตามจีบท็อปมา ทั้งโดนต่อว่า ด่าสาดเสียเทเสีย แถมต่อยหน้าพี่อีก พี่ยังทนมาได้ขนาดนี้ พี่คิดว่าพี่คงเสพติดความเจ็บปวดจนรู้สึกชินชาแล้วล่ะ"

"กูขอโทษ อย่าตอกย้ำได้ไหมเล่า"

"โอเคๆ พี่ไม่พูดเรื่องอดีตแล้วก็ได้ ถ้างั้นพี่ไปทำข้าวผัดให้ท็อปก่อนนะ"
ฆีนอมยิ้มที่เห็นเด็กหนุ่มหน้าหงอยเมื่อโดนดุ


      จนกระทั่ง ฆีนออกจากห้องไปแล้ว เด็กหนุ่มที่ว่าจะนอนต่ออีกสักหน่อยก็เปลี่ยนเป็นขยับตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำแทน


      ถัดมา ยังส่วนของห้องครัว กำลังมีคนฮัมเพลงด้วยอารมณ์สุนทรีย์ เหตุผลหลักๆคงเพราะฆีนสมหวังในความรักแล้วยังไงล่ะ ถึงทำให้เขามีความสุข ยิ้มแย้มตลอดการทำอาหารได้ขนาดนี้


      นับว่าเป็นข่าวดีที่สุดในรอบเดือนของฆีนเลยก็ว่าได้


      แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่พลิกผันและรวดเร็วจนฆีนตั้งตัวไม่ติด แต่ไหนๆ ผลลัพธ์ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพราะถึงอย่างไร มันเป็นสิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว ฆีนเลยไม่นำมันมากังวลใจอีก   


      ด้านเด็กหนุ่มที่จัดการธุระตัวเองเสร็จเรียบร้อย เขาก้าวเท้ายาวๆมายังพื้นที่ทำอาหาร ก็เห็นผู้เป็นพี่ยืนทำอาหารอย่างอารมณ์ดี


      ท็อปอมยิ้ม ก่อนจะวางคางเกยไหล่ชายต่างวัย  ฟากฆีนหยุดฮัมเพลงและเหลียวหน้าไปถาม


"ทำแบบนี้ จะอ้อนเอาอะไรครับ?"

"เปล่า แค่ไม่อยากนอนในห้องคนเดียว ก็เลยเดินมาหาอยากอยู่ด้วย"


"หืม...ปากหวานนะเราอะ...ว่าแต่...ฟื้นตัวไวดีนี่"

"ก็ไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่แค่กำลังคิดอยู่ว่าจะนั่งได้ไหม?"

"หึๆ รู้อย่างนี้ น่าจะต่ออีกสักรอบให้เดินไม่ไหว"



"พอก่อนไหม? เก็บแรงไว้ทำอย่างอื่นบ้าง"

 
"นั่นสิ เป็นเมียพี่แล้ว จะทำเมื่อไหร่ก็ได้"

"ไม่คิดว่ากูจะหวงตัวบ้างหรือไง?"
ท็อปถอยหลังกลับมายืนยืดตัวตรง กอดอก เชิดหน้าทำปากงอน จนฆีนส่ายหน้าพลางหัวเราะหึๆ

"ไม่คิดนะ เพราะท็อปอ่อยพี่แทบทุกเวลาขนาดนี้ พี่มองข้ามคำว่าหวงตัวไปนานแล้วล่ะ"

"ฆีน!!...ว่ากูเหรอ?"


"ฮ่าๆ...พี่ไม่กล้าว่าคนที่พี่รักหรอก พี่ขี้เกียจเถียงกับท็อปแล้ว ไปนั่งรอพี่ก่อนนะ อาหารใกล้เสร็จแล้วนะครับ"

      ฆีนพูดตัดบท ก่อนจะหันไปโยกศรีษะเด็กหนุ่มด้วยความเอ็นดู ฟากท็อปก็ยอมทำตามคนออกคำสั่งอย่างว่าง่าย ฆีนยืนมองแผ่นหลังเด็กหนุ่มที่ค่อยๆลับตาไปด้วยความสงสัยระคนแปลกใจถึงสาเหตุที่ทำให้ท็อปยอมอ่อนข้อให้ฆีนได้อย่างไม่น่าเชื่อ...


      แต่เขาก็ยัดความรู้สึกเหล่านั้นเก็บไว้ในใจต่อไป แล้วกลับมามุ่งมั่นทำอาหารเหมือนเดิม


     ผ่านไปสักพัก ฆีนเดินถือถาดอาหารมาพร้อมกลิ่นหอมฟุ้งกระจายจนลอยไปเตะจมูกเด็กหนุ่มที่นั่งเล่นรอที่โซฟาลุกขึ้นเดินตามไปที่โต๊ะอาหาร


       ฆีนวางเมนูโปรดของเด็กหนุ่มไว้ตรงหน้า ส่วนของฆีนเป็นเมนูข้าวผัดไข่เค็มที่เมื่อท็อปเห็นสีสันและหน้าตาถึงกับชะเง้อมอง


"ทำไมของฆีน น่ากินจัง" ท็อปเห็นจานข้าวของพี่ฆีนชวนน้ำลายสอมากๆ เพราะของพี่ฆีนมีทั้งถั่วลันเตา ข้าวโพด แครอท เป็นส่วนผสมที่ทำให้ภาพลักษณ์ดูน่ากินมากโข แต่พอก้มมามองจานตัวเอง เป็นเพียงข้าวผัดไข่ที่สีสันสุดแสนจะจืดชืด

"ฮ่าๆ ก็ท็อปบอกไม่ใส่ผัก พี่ก็เลยไม่รู้ว่าจะเพิ่มอะไรให้แทน ท็อปจะลองชิมของพี่ไหม? จริงๆอะไรเหลืออยู่ในตู้เย็นพี่ก็เอามาผัดรวมๆกันนั่นแหละ"
ฆีนพูดพลางกลั้วหัวเราะ


      จังหวะที่ท็อปเอื้อมมือไปตักข้าวในจานพี่ฆีน กลับโดนฆีนดึงจานเข้าหาตัว และพูดขึ้น

"ทำอาหารมาเหนื่อยจัง อยากได้กำลังใจเพิ่ม"


      ท็อปเงยหน้ามอง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพี่ฆีนต้องการสื่อถึงอะไร

"หื่น"

"ให้พี่หน่อยไม่ได้หรือ?"

"จะเอาอะไร"

"พี่อยากจูบท็อปแบบตอนไม่เมาบ้างน่ะ"



      ท็อปเม้มปากแน่น ก่อนจะพยักหน้ากลับไป


      เมื่อได้รับคำตอบ ฆีนลุกพรวดไปฝั่งเด็กหนุ่ม ก้มตัวลงประทับริมฝีปากเบาๆบนปากท็อป ก่อนจะใช้ปลายลิ้นดันเพื่อส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายอ้าปาก จากนั้น ปลายลิ้นอุ่นก็ล่วงล้ำเข้าสู่ภายในโพรงปาก ทั้งยังรุก ไล่ เล่นกับปลายลิ้นอีกฝ่ายตวัดเกี่ยวเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมแพ้

      นานอยู่เหมือนกัน กว่าทั้งสองจะจบการจูบแสนดูดดื่ม โดยฆีนเป็นฝ่ายผละออกก่อน เพราะถ้าไม่ยอมละจากกันตอนนี้ มีหวังอาหารตรงหน้าจะกลายเป็นหมัน เพราะฆีนคงหันไปกินอย่างอื่นแทนแน่ๆ


     ฆีนยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะใช้ปลายลิ้นค่อยๆเลียน้ำหวานที่ไหลออกมาเปรอะเปื้อนริมฝีปากเด็กหนุ่มราวกับทำความสะอาด แล้วเดินกลับไปหย่อนกายลงที่ประจำพร้อมรับประทานอาหาร


      ฟากท็อปยกมือจับมุมปาก และก้มหน้ายิ้มเขินอยู่คนเดียว เพราะไม่คิดหรอกว่าคนที่เขาชอบจะหื่นจัดขนาดนี้


      จากนั้น ทั้งสองก็เริ่มจัดการอาหารตรงหน้า บ้างก็แลกกันชิมของกันและกันอย่างเอร็ดอร่อย

      ในระหว่างนั้น ฆีนก็พูดแทรกขึ้น


"พี่ดีใจมากเลยรู้ไหมที่ท็อปตกลงคบกัน...คิดดูสิ ว่าก่อนหน้านี้ ท็อปทำพี่เจ็บแสบขนาดไหน?"

"กูแย่มากเลยสินะ"
ท็อปเห็นพี่ฆีนเอาแต่พูดเรื่องนี้ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า จนเขาอดสวนกลับไม่ได้

"พูดตามจริงก็แย่นะ แต่พี่รับได้"

"กูขอโทษ แต่จากที่พูดมาถ้ากูแย่ขนาดนั้น ไม่ต้องเป็นแฟนกับกูก็ได้นะ ฆีน"


"ดูพูดเข้าสิ น้อยใจหรือไง?"


       เพียงเห็นใบหน้าเด็กหนุ่มงอง้ำและเงียบเสียงลง ฆีนอดเห็นใจไม่ได้ สุดท้าย ฆีนชะโงกตัวข้ามโต๊ะที่กั้นกลางไปจูบกลางกระหม่อมดุจปลอบประโลม ก่อนถอยกลับมานั่งที่เดิม


"คนเราย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียกันทั้งนั้น แต่พี่รับข้อเสียของท็อปได้ไงครับ พี่คงจะโรคจิตอย่างที่ท็อปว่านั่นแหละ เพราะไม่ว่า ท็อปจะก้าวร้าวแค่ไหน พี่ก็ยังรัก"

      ฆีนเห็นท็อปไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เอาแต่นั่งหน้าเศร้า เขาเลยพูดขึ้นอีกครั้ง

"เอาอย่างนี้แล้วกัน ท็อปสัญญากับพี่ได้ไหม? ว่าท็อปจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น"


      ท็อปพยักหน้ารัวแทนคำตอบ

"แต่ท็อปจำไว้อย่างหนึ่งนะครับ โอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ"

"ได้" 

"รับปากแล้วทำด้วยนะ ถ้างั้นก็กินข้าวกันเถอะ"

       

       จากนั้น ต่างฝ่าย ต่างก้มหน้าจัดการอาหารตัวเอง ครู่หนึ่ง ฆีนเงยหน้ามองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเห็นท็อปนั่งตัวสั่น จนเขาต้องเพ่งถึงสังเกตเห็นว่ามีหยาดน้ำตาร่วงลงสู่จานข้าว

       ฆีนลุกพรวดเดินอ้อมไปหาเด็กหนุ่มทันที

"ท็อปเป็นอะไร ร้องไห้เรื่องที่พี่ว่าหรือ?"



       ดั่งเด็กน้อยโดนแม่ต่อว่าเมื่อทำผิด เพราะตอนนี้ ท็อปเผลอน้ำตาไหล แม้จะไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนผู้หญิง แต่ท็อปคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น


      ท็อปอุตส่าห์ทำตัวให้เข้มแข็งมาโดยตลอด แต่จนแล้วจนรอดก็หลุดแสดงความอ่อนแอให้พี่ฆีนเห็นจนได้


       ฆีนโน้มตัวลงต่ำ ลูบหลังลูบไหล่ท็อปปลอบประโลมให้เด็กหนุ่มหยุดร้องไห้ สองมือหนาขยุ้มเสื้อพี่ฆีนจนยับยู่ยี่ ท็อปซบลงมายังหน้าท้องพี่ฆีนส่ายหน้าเช็ดน้ำตาให้เหือดหาย


       เด็กหนุ่มไม่เข้าใจตัวเอง เพียงแค่เขายอมเปิดใจ จู่ๆ ความรู้สึกที่ตามมาก็เกิดกลัวว่าจะเสียพี่ฆีนไปซะอย่างนั้น


"กูขอโทษที่นิสัยเสีย แต่ฆีนจะไม่ทิ้งกูใช่ไหม?"

       สองมือท็อปยังคงขยุ้มชายเสื้อฆีนแน่น มิหนำซ้ำ สายตาที่สื่อออกไปยังฉายชัดถึงความหวาดหวั่นจนฆีนสัมผัสได้ เขายืนจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยความรู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก


       ฆีนไม่รู้ว่าไปเผลอพูดจี้จุดส่วนใดของท็อปรึเปล่า แต่จากนี้ ฆีนจะพยายามไม่พูดอะไรที่ทำให้เด็กหนุ่มเครียดอีก แต่จะใช้วิธีค่อยๆเรียนรู้และศึกษาตัวตนของท็อปให้มากขึ้น แล้วค่อยคุยด้วยเหตุผลในภายหลัง


     ปลายนิ้วชายหนุ่มค่อยๆไล้ใต้ตาท็อปทั้งสองข้าง ก่อนจะพูดขึ้น


"ไม่ครับ ถ้าท็อปไม่ทำตัวก้าวร้าวอีก"


"โอเค แต่ฆีนสัญญาก่อนว่าจะไม่ทิ้งกัน" ท็อปชูนิ้วก้อยยื่นไปหาพี่ฆีน ฟากชายหนุ่มอมยิ้มก่อนจะเกี่ยวก้อยให้คำสัญญา


"สัญญาครับ ท็อปจำไว้นะ คนเราน่ะ เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ไม่ต้องกังวลนะครับ พี่จะรอเด็กก้าวร้าวคนนี้ ปรับปรุงนิสัยให้ดีขึ้น"


     ได้ยินดังนั้น ฟากท็อปพยักหน้ารัว


      ฆีนส่งยิ้มอบอุ่นไปให้ และโยกศรีษะท็อปทิ้งท้าย ก่อนจะกลับไปนั่งจัดการอาหารที่เหลืออยู่จนเกลี้ยง โดยพวกจานที่กินเสร็จนั้น ท็อปอาสาเป็นคนล้างให้ จนกระทั่งเด็กหนุ่มทำความสะอาดเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็เดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาและพิงศรีษะบนไหล่กว้างอย่างออดอ้อน


      ทุกการกระทำของท็อปในวันนี้ ถึงกับทำให้ฆีนย้ำกับตัวเองในใจเป็นรอบที่ร้อยว่า ฆีนไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?

      ฆีนก้มลงมองเด็กหนุ่มที่เงยหน้าขึ้นจนประสานสายตากันพอดี


"ฆีน ขอนอนอีกคืนนะ"

      ฆีนเลิกคิ้วขึ้นสูง เมื่อเห็นคนพูดทำน้ำเสียงจั้กจี้หูอย่างไรพิกล
 

"สาเหตุที่ไม่กลับบ้านนี่เพราะติดใจลีลาพี่หรือครับ"

"หลงตัวเองน่า...มะ...ไม่ใช่เรื่องนั้นสักหน่อย..."
  ท็อปหลุบตาลงต่ำ

"ก็ถ้ามีคนยังปากแข็งอยู่ พี่ยอมรับก็ได้ว่าหลงตัวเอง แต่รู้ใช่ไหมถ้าค้างที่นี่คืนนี้ไม่ได้นอนอย่างเดียวนะ" ฆีนแกล้งยียวน อีกทั้งยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์ ฟากท็อปก็ดูไม่สะทกสะท้านในคำขู่สักเท่าไหร่กลับอมยิ้มและกระเถิบตัวขึ้นกระซิบริมหู

"ไม่มีปัญหา"

"ยั่วนะเรา"
ฆีนยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปจูบขมับเด็กหนุ่มอย่างแผ่วเบา



.................................
:impress2: :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11.2} UPDATE [ 24-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 24-03-2017 21:28:13
สนุกจ้า  พี่ฆีนสมหวังแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11.2} UPDATE [ 24-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-03-2017 22:02:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11.2} UPDATE [ 24-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 24-03-2017 23:45:51
ท็อปแค่กลัวการสูญเสีย. เลยไม่ยอมเปิดใจ,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 11.2} UPDATE [ 24-มีค.-60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 25-03-2017 08:39:01
พี่ฆีนขี้หื่น ท๊อปขี้อ่อย ฮ่าๆๆๆๆ
สมหวังแล้ว ดีใจอ่ะ
เรียนรู้น้องไปน่ะพี่ฆีน ท็อปแค่กลัวการลาจากอ่ะ
คืนนี้เขาจะทำอะไรกันหรอ สงสัย อิอิ

แอบรออีกคู่น่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12} UPDATE [ 26 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 26-03-2017 22:51:17
ตอนที่ 12 มีความสุข



     ในเวลายามเย็น บนท้องถนนตอนนี้ หนาแน่นไปด้วยรถยนต์ที่จอดแน่นขนัดเต็มพื้นที่ ไม่มีช่องว่างให้ซอกแซกหรือแซงไปไหนได้เลย ดูเหมือนว่า เมืองกรุงกับการจราจรที่ติดขัดแบบนี้ดูจะคู่กันจนเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว


      จึงไม่แปลกหากใครบางคนจะเกิดความหงุดหงิดใจกับเรื่องรถติดที่ไม่ขยับเขยื้อนมานานกว่าสิบห้านาที แต่คงไม่เท่ากับความอึดอัดที่ตอนนี้ ภายในรถมีแต่ความเงียบกริบทั่วห้องโดยสารจนคนขับทนไม่ไหว ถึงกับต้องพูดโพล่งออกมา


"มึงจะเกร็งทำไม ไอ้กราฟ ทำตัวเหมือนตอนเรารู้จักกันแรกๆสิวะ กูอึดอัดนะเว้ย"


       เหตุผลที่ฆิตตัดสินใจพูดเพราะกราฟนั่งตัวแข็งแถมไม่พูดจามาได้สักพักแล้ว ถ้าให้เดาก็คงหนีไม่พ้นเรื่องที่ทั้งสองตกลงปลงใจคบกัน และเพราะวันนี้เป็นวันแรกที่ได้เจอหน้ากันของการขยับสถานะจากพี่-น้องเป็นแฟน เลยทำให้กราฟทำตัวแปลกๆ เอาแต่ก้มหน้า บ้างก็ทอดสายตามองนอกหน้าต่างแต่ไม่ยักกะหันมาคุยกับฆิตแต่อย่างใด


"กะ...ก็ผมไม่คุ้นนี่หว่า เคยคบแต่ผู้หญิง พอต้องมาคบผู้ชาย ผมกะ....ก็ไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวแบบไหน จะต้องดูแลพี่ยังไง พี่แม่งก็ตัวใหญ่พอๆกับผม ไม่ได้บอบบางน่าทะนุถนอมเลยสักนิด ผมก็เลยทำตัวไม่ถูกยังไงล่ะ"


"มึงเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละไม่ต้องฝืน  มึงอยากทำอะไรที่คิดว่ารู้สึกดีก็ทำไปเถอะ อย่างเช่น ถ้ามึงอยากจูบกูก็จูบ อยากกอดก็กอด กูไม่ห้าม"


"ฉลาดเลือกยกตัวอย่างนะครับ พี่ฆิต"

"ฮ่าๆ มึงทำตัวตามสบายนะ คิดซะว่าการที่เราคบกัน ก็เหมือนมีคนรู้ใจมาช่วยรับฟังปัญหาหรือปรับทุกข์ คอยดูแลกันยามท้อแท้ หมดหวัง รวมถึงต้องการกำลังใจนั่นแหละมึง"


      พอกราฟฟังจากที่พี่ฆิตเล่ามาทำให้รู้ว่าเขาคงกังวลและคิดมากไปเอง กราฟเลยพยายามผ่อนคลายลงบ้าง   

"โอเคครับ แต่ผมบอกไว้ก่อนนะพี่ว่าผมไม่ใช่คนโรแมนติก"

"กูก็เหมือนกัน...อ้อ...ไอ้กราฟ กูเพิ่งนึกขึ้นได้ มึงหันไปหยิบของหลังรถทีซิ"
ฆิตกลัวลืมบอกกราฟเลยพูดตัดบทมันไปดื้อๆซะอย่างนั้น


       กราฟปลดเข็มขัดนิรภัยเอื้อมตัวไปหยิบถุงรองเท้ากีฬาแบรนด์ดังมาให้พี่ฆิต แต่ผู้เป็นพี่กลับอมยิ้มแล้วส่งสายตาพยักเพยิดไปทางถุงที่กราฟถือ


"ของขวัญวันเกิดมึง" ฆิตตอบอย่างยิ้ม

"ต...แต่พี่ให้ผมแล้วไม่ใช่หรอ เอิ่ม...พวกถุงยางนั่นนะ"

"ก็กูเพิ่งรู้วันเกิดมึงกระทันหัน เลยซื้อพวกถุงยางแกล้งมึงไปก่อน ส่วนอันนี้ของขวัญวันเกิดมึงจริงๆ"

"อ่อ...ขอบคุณนะครับพี่ฆิต"



      กราฟรู้สึกดีที่พี่ฆิตยังมีแก่ใจซื้อของขวัญมาให้เป็นพิเศษอีกรอบ เขาใจเต้นตึกตัก เพราะอยากรู้ว่า ของขวัญ คืออะไร เพียงแค่เปิดกล่องมา เขาตกใจเมื่อรองเท้าที่สองตาเพ่งมองอยู่นั้น เป็นรุ่นเดียวกับที่กราฟตั้งใจจะเก็บเงินซื้อพอดี


"เฮ้ย...พี่ฆิต ผมอยากได้คู่นี้พอดีเลย ขอบคุณนะพี่ แต่ที่ผมดูราคามันเกือบเจ็ดพันเลยนะ"

"อืม...แล้วทำไม"
ฆิตถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

 
"มันไม่แพงไปหน่อยเหรอที่พี่จะซื้อมาเป็นของขวัญให้ผมน่ะ"

"แล้วมึงชอบไหมล่ะ?"

"ผมชอบครับ"

"ขอแค่มึงชอบเท่านั้นก็พอ และไม่ต้องถามอะไรอีก"



     จู่ๆ กราฟก็หน้าร้อนฉ่า เมื่อพี่ฆิตพูดมาแบบนั้น 'ขอแค่มึงชอบเท่านั้นก็พอ' อย่างนั้นน่ะเหรอ?

      ช่างเป็นประโยคสุดแสนธรรมดา แต่ทำไมพอเอ่ยออกมาจากปากคนที่กราฟชอบถึงทำให้หัวใจกราฟฟูฟ่องพองโตได้มากขนาดนี้


     กราฟกลั้นยิ้มและรีบเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่บรรยากาศจะกลายเป็นทุ่งลาเวนเดอร์
 

"แล้วผมจะใส่ได้ไหม? พี่รู้ขนาดเท้าผมเหรอ?"


"มึงจำครั้งที่มึงมาดื่มเหล้าห้องกูได้ไหม? กูได้ยินพวกมึงคุยกันเรื่องรองเท้า และมึงก็สาธยายบอกเพื่อนมึงว่าชอบรุ่นไหน ไซส์อะไร กูก็เลยจำไว้ จากนั้น กูทั้งถามเพื่อน ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตด้วยว่า รองเท้ารุ่นที่มึงอยากได้มีวางขายที่สาขาไหนบ้าง กูก็เลยตามหามาให้มึงจนได้"


 
"โห...ขอบคุณมากๆนะพี่" กราฟยิ้มแก้มปริและรู้สึกซาบซึ้งมากๆที่ได้เห็นความพยายามของพี่ฆิต
 

"อืม..."

"เอ้ะ...ไหนว่าเป็นคนไม่โรแมนติก ทั้งจดจำรายละเอียดและแอบไปหาซื้อรองเท้าที่ผมอยากได้มาเซอร์ไพร์ส สำหรับผมเขาเรียกว่าโรแมนติกนะ"


"อะ...อ้าวเหรอ? เอ่อะ...ไม่รู้สิ....กูเห็นว่ามึงอยากได้ ก็เลยซื้อให้  มันโรแมนติกตรงไหนวะ" ฆิตตอบหน้าตาย

"โอเคๆ ไม่โรแมนติกก็ไม่โรแมนติกครับ" 



      กราฟเออออและไม่อยากต่อความ แค่นี้ หัวใจกราฟก็รับความสุขไม่หวาด ไม่ไหวแล้ว


      ฟากฆิตเห็นกราฟยิ้มไม่หุบ สายตาเด็กหนุ่มก็เอาแต่พินิจมองรองเท้าคู่ใหม่ บ้างก็หยิบมันขึ้นมาลูบคลำ ทำให้ฆิตอดยิ้มกับท่าทางเหล่านั้นไม่ได้


      ถึงแม้ว่าทั้งสองจะคบกันแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่ากราฟและฆิตเองก็ไม่ได้มีการกระทำที่หวานใส่กันสักเท่าไหร่ ฆิตจึงอยากย้ำความสัมพันธ์ให้กราฟรู้ว่า เขาจริงจังแค่ไหน...


"กราฟกูจะบอกอะไรให้รู้ไว้อย่าง สำหรับกู 'แฟน' คือสถานะที่ไว้เรียกและบ่งบอกว่าคนๆนั้นสำคัญ ฉะนั้น มึงคงรู้ใช่ไหม? ว่ามึงสำคัญกับกูมากขนาดไหน?"


       เด็กหนุ่มยกมือปิดปากกลั้นยิ้มไว้ เพราะตั้งแต่นั่งมาในรถด้วยกันวันนี้ ทั้งการกระทำและคำพูดจริงใจของพี่ฆิตทำให้กราฟปลื้มใจและซาบซึ้งหลายระลอกจนกราฟมีความสุขมากเกินจนล้นทะลักออกมาแล้ว


     เขาไม่คิดเลยว่าพี่ฆิตจะเป็นผู้ชายที่นิสัยน่ารักขนาดนี้ กราฟดีใจที่ได้พี่ฆิตมาเป็นแฟน แต่เพราะกราฟไม่อยากให้พี่ฆิตได้ใจไปใหญ่ กราฟจึงพูดยียวน เพื่อปกปิดความอายของตัวเอง


"ง่อวว์...พูดจาโคตรหล่ออะ ผมต้องซึ้งและร้องไห้ด้วยไหมวะพี่"



        กราฟแสร้งทำทีหัวเราะอย่างเนียนๆ พร้อมหลบสายตาละมุนของพี่ฆิตที่จ้องมองมา กราฟบอกได้เลยว่า ถ้าใครได้มาเห็นและนั่งใกล้ชิดกันแบบนี้ ต้องมีเขินตัวแตกแน่ๆ


       ถ้าไม่ติดว่า กราฟวางฟอร์มอยู่จะเข้าไปโผกอดแถมจูบคนข้างกายให้เป็นรางวัลสักหน่อยแล้ว


"เฮ้อ! หมดกันความซึ้งของกู"
ฆิตทำหน้าเซ็ง เขาอยากจะเอาหัวโขกกับพวงมาลัยรถสักหลายรอบ อุตส่าห์รวบรวมความกล้าพูดจาจริงจังถึงเรื่องรัก แต่ดันเจอแฟนกวนประสาทกลับเสียอย่างนั้น


"ไอ้กราฟ กูถอนคำพูดทันไหมวะ"

"ถอนคำพูดเรื่องอะไรวะพี่"
กราฟย้อนถามอย่างสงสัย
 

"เรื่องที่กูเลือกมึงมาเป็นแฟนน่ะ"

"ไม่ได้!! พี่ฆิตพูดแล้วห้ามคืนคำ เราต้องอยู่กวนตีนกันแบบนี้ ห้ามทิ้งกันไปไหน"



"โอ้ย!..พี่เข้าใจแล้วครับ แต่มึงจะตะโกนทำไมเนี่ย...ไอ้กราฟ หูกูดับแล้วมั้ง"
 

       ฆิตขยี้หูตัวเองทันที ก่อนจะยิ้มขำเมื่อนึกถึงอนาคตของทั้งคู่ มันก็ดีที่ทั้งสองสมหวังในความรัก แต่ดูจากรูปการณ์แล้ว คงน่าจะทั้งรัก ทั้งกัดกันตลอดการคบหาดูใจกันแน่ๆ...


      และกว่าจะถึงร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ ซีฟู้ดส์ ที่กราฟนัดกับเพื่อนไว้ ก็ใช้เวลานานจนพวกท็อปและพลกินนำหน้าไปสักพักแล้ว 


      พลและท็อปที่เหลือบเห็นคนทั้งสองจึงโบกไม้โบกมือเรียก แต่สายตามิวายจ้องมองกราฟตาไม่กระพริบ


     แม้ฆิตและกราฟจะไม่ได้เดินจับมือกระหนุง กระหนิงกันเข้ามา แต่การเดินเคียงบ่าเคียงไหล่และส่งสายตาหวานฉ่ำมองกัน แสงออร่าของคนมีความรักก็พุ่งพล่านลอยออกมาจนคนที่นั่งมองจับสังเกตได้และแอบอิจฉาไม่น้อย


     เมื่อพี่ฆิตและกราฟทิ้งตัวลงนั่งได้ไม่นาน ฟากท็อปและพลมองหน้ากันยิ้มๆ ก่อนจะกระซิบกระซาบกันเสร็จ ก็หันกลับมาจดจ้องคนตรงข้าม


"พวกมึงยิ้มอะไรกันวะ" กราฟรู้สึกแก้มร้อนๆเมื่อเห็นรอยยิ้มล้อเลียนของเพื่อน และกราฟมั่นใจได้ว่า มันชักไม่ชอบมาพากลซะแล้ว
 

"มึงไม่คิดจะแนะนำคนข้างๆให้พวกกูรู้จักหน่อยเหรอวะ?" พลเป็นฝ่ายเปิดประเด็นขึ้นมาทันที



 

****1.1****


ขอบคุณคนอ่านและคนคอมเมนท์จ้า


:hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12} UPDATE [ 26 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 27-03-2017 19:38:35
โรแมนติกเลยแระ พี่ฆิตหวานอะไรขนาดนี้ กราฟตลกกลบเกลื่อน อิอิ เปิดตัวแล้วพี่ฆิตกับกราฟ รออีกคู่เปิดตัวอย่างทางการ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12} UPDATE [ 26 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-03-2017 22:18:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12.2} UPDATE [ 30 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 30-03-2017 21:56:58
ตอนที่ 12 มีความสุข (2)




"นะ...แนะนำอะไรวะ พะ...พวกมึงก็รู้จักพี่ฆิตกันอยู่แล้ว"
กราฟตอบอึกอัก แต่ในใจนี่เต้นตึกตักจนกลัวทะลุออกมาจากอก


"กราฟอย่าเสียมารยาทสิครับ แนะนำพี่ให้เพื่อนๆรู้จักหน่อยสิ" ฆิตแอบเห็นสายตาของท็อปและพลก็รู้ความหมาย เขาไหลตามน้ำทันที


"ได้ครับ ผมขอแนะนำว่าผู้ชายข้างผมคนนี้ชื่อพี่ฆิต พอใจพวกท่านทั้งหลายรึยังครับ?" กราฟตอบยียวนกึ่งประชด


"ไม่พอใจ เพราะยังไม่ได้แนะนำสถานะเลยครับ" ท็อปบอก

"รุ่นพี่ไงครับ คุณท็อป"



       อันที่จริง เรื่องการคบกันของทั้งคู่ กราฟไม่ได้ต้องการเก็บเป็นความลับอะไร เพียงแต่ยังไม่พร้อมจะบอกเพื่อนตอนนี้ เพราะรู้ดีว่าเพื่อนเขาเป็นอย่างไร
 

"จริงเหรอครับ?" ท็อปถามย้ำเพื่อความมั่นใจ พลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ฆิตแล้วพูดขึ้น


"ถ้างั้นก็ดี เอ่อะ...พี่ฆิตครับ พอดีผมเห็นกลุ่มเด็กมหาฯลัยข้างหลังพี่ฆิต เขาจ้องมองพี่ตั้งแต่เดินเข้าร้านมาแล้ว ดูท่าแล้วคงสนใจพี่พอสมควร พี่ฆิตจะลองบริหารเสน่ห์ดูไหมครับ?"


      แค่มองตาก็รู้ใจเพื่อน  ท็อปนึกสนุกจึงอยากแกล้งคนปากแข็งดูสักหน่อย ประจวบเหมาะกับแก็งค์เด็กมหาฯลัยมองพี่ฆิตจริงๆ จึงเข้าทางพอดี


"จริงด้วยว่ะ ไอ้ท็อป" พลเสริม


      พี่ฆิตไม่รู้ว่าท็อปพูดจริงหรือพูดเล่นจึงหันไปดู ด้านกราฟก็มองตามด้วยความอยากรู้


       เป็นจริงตามที่ท็อปว่า ซึ่งเด็กกลุ่มนั้นมองพี่ฆิตตาวาวเลย...กราฟเพิ่งรู้ว่าพี่ฆิตเสน่ห์แรงกับพวกเด็กอายุน้อยจริงๆเลย ให้ตายเถอะ...


"จะดีหรือท็อป?" ฆิตเหลือบมองกราฟและยิ้มกรุ้มกริ่ม

"พี่ฆิตเดินไป ผมว่าได้เบอร์กลับมาแน่นอน"
พลพูดทำหน้าจริงจัง


"ก็น่าสนนะ" ฆิตพูดจบก็ลุกพรวด ฟากกราฟใจกระตุกวูบหนึ่ง และด้วยความโมโหคนที่เพิ่งตกลงคบกันก็เริ่มออกลาย


      ทันใดนั้นเอง...กราฟดึงชายเสื้อพี่ฆิตอย่างแรง จนเขาต้องนั่งลงตามเดิม
 

"พี่ฆิตจะไปขอเบอร์เด็กนั่นหรือวะ ผมเป็นแฟนพี่แล้วนะเว้ย ทำอย่างนี้ได้ไงวะ"


!!!


       สิ้นเสียงกราฟ ทั้งท็อปและพลก็ประสานเสียงโห่ร้องแซวซะยกใหญ่
 

"โว้ววว...ฮู้ววววว์"

"เอ้ะ...กูได้ยินไม่ค่อยถนัดเลย เป็นอะไรกันนะ"
ท็อปกวนเพื่อน


"นั่นสิ กูได้ยินอะไรแว่วๆว่าแฟนใช่ไหมนะ เอ้ะ! หรือกูฟังผิดวะท็อป"


"ไม่แน่ใจว่ะ ต้องถามเจ้าตัว ว่าเมื่อกี้หลุดพูดอะไรออกมา"


       กราฟนั่งมองหน้าเพื่อนสองคนที่รวมหัวทำงานกันเป็นทีม ฟากฆิตกลั้นขำจนปวดกรามแทบแย่ ก่อนจะสะกิดไหล่กราฟยิกๆ
 
"เพื่อนถามอยู่นะกราฟ ไม่ตอบหน่อยหรือ?"



      กราฟถลึงตาใส่พี่ฆิตอย่างขัดใจ เป็นแฟนกันแท้ๆ แต่ไม่คิดปกป้อง กลับรวมหัวแกล้งกราฟจนอายม้วนต้วน หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศไปแล้ว


"เออ...พวกมึงแกล้งกูสนุกนักใช่ไหม? กูไม่น่าเสียรู้พวกมึงเลย กูเป็นแฟนกับพี่ฆิต ได้คำตอบแล้วพอใจรึยัง?"

"ฮ่าๆ พอใจแล้ว กูรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้แกล้งมึงเลยว่ะ เมื่อกี้ หน้ามึงเหวอแดกมากอะ ไอ้กราฟ ตอนที่พี่ฆิตลุกขึ้นน่ะ" พลว่า ก่อนจะหัวเราะจนท้องแข็ง

      นี่แหละ คือ สาเหตุที่กราฟไม่อยากบอก กราฟนั่งหน้ามุ่ย พอหันไปทางพี่ฆิตก็เห็นยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวอย่างน่าหมั่นไส้

"ยิ้มอะไรวะพี่ฆิต"


      ฆิตกระเถิบตัวเข้าไปใกล้กราฟมากขึ้น ก่อนจะพูดไม่เต็มเสียงนัก

"อยากรู้จริงๆหรือ? คือ ตอนแรกกูคิดว่าเอามึงมาเป็นแฟนคงปวดหัวน่าดู แต่กูเพิ่งรู้ว่าคิดผิดไป"

 

      ฆิตเงียบก่อนกอดคอคนข้างกายและกระซิบริมหู

"เพราะตอนนี้ กูโคตรมีความสุขเลย ขอบคุณที่คบกันนะ น้องกราฟ"

      กราฟกำลังจะด่ากลบความอาย แต่พี่ฆิตใช้ปลายนิ้วแตะริมฝีปากราวกับให้หยุดพูด

"อ้อ...กูขอบอกก่อนที่มึงจะเก็บเอาไปคิดมาก ที่กูลุกน่ะ ไม่ได้จะไปหาใครทั้งนั้น มันเป็นจังหวะที่กูจะลุกไปตักของซีฟู้ดส์มาให้มึง แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นของดีเสียก่อน โอ้ย...ดีใจจัง มีคนหวงด้วย"

     ได้ยินคำตอบ กราฟเม้มปากแน่นเงียบสนิท เพราะเวลานี้ กราฟโดนรุม ทั้งท็อปและพลก็แซวกราฟไม่หยุด จนกราฟไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหนแล้ว กราฟชี้หน้าคาดโทษเพื่อนสนิททั้งสอง


     เด็กหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ฝากไว้ก่อนเถอะ...ไอ้พวกเพื่อนกวนตีน...รอกราฟอัพเลเวลความฉลาดได้เมื่อไหร่? ทั้งไอ้พลและไอ้ท็อปโดนเล่นกลับแน่ๆ...



     ช่างเป็นวันที่คุ้มค่าจริงๆ เพราะหลังจากที่ทุกคนอิ่มหมีพีมันจากอาหารทะเลกันจนพุงกางแล้ว พี่ฆิตก็หาข้ออ้างสังสรรค์ด้วยการชวนเพื่อนๆกราฟฉลองการคบกันของทั้งคู่

      ตอนนี้ ทุกคนจึงมาเพลินกันต่อที่ห้องของฆิตอีกเช่นเคย...


      ท็อปและพลจัดแจงที่นั่งดื่มให้เรียบร้อย ส่วนกราฟเตรียมน้ำแข็งในห้องครัว ขณะที่กราฟเทน้ำแข็งใส่ถังเซรามิกอยู่ จู่ๆ มีมือหนาวางทาบลงบนมือเด็กหนุ่ม ทำให้ทั้งสองปะทะสายตากันพอดี กราฟชักมือกลับและหลุบสายตาลงต่ำ
 

"เขินที่กูแอบจับมือหรือ?"

"ผะ...ผมไม่ได้เขินที่พี่จับมือ แต่ผมเขินเพราะสายตาพี่ต่างหาก"
กราฟตอบตรงๆ เพราะเขารู้สึกอย่างไรก็พูดไปอย่างนั้น

"หึๆ สายตาของคนเป็นแฟนมองกันน่ะหรือ?" ฆิตไม่พูดอย่างเดียว แต่กลับเลื่อนใบหน้าไปหากราฟใกล้ๆ

"สายตาของคนหื่นน่ะสิไม่ว่า"

"ฮ่าๆ หื่นที่ไหนกัน กูออกจะเป็นคนเจี๋ยมเจี้ยม"


"หึๆ แน่ใจ"


     ไม่ทันให้ฆิตได้เตรียมตัว กราฟเคลื่อนใบหน้าเข้าไปจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดใส่ ฟากฆิตขยับมาใกล้และหลับตาลงด้วยความหวังว่าแฟนคงอยากแสดงความรัก

      แต่ผิดคาดเพราะ...


"พี่หลับตาทำไมวะ"

      ฆิตลืมตามองกราฟที่กลั้นหัวเราะอยู่


"เอ่อะ..เอ่อ...มึงไม่ได้จะ...จูบ...กูหรือ?"

"เปล่านี่ ผมแค่อยากมองหน้าแฟนใกล้ๆเท่านั้นเอง ไหนใครบอกว่าไม่หื่น คิดเรื่องอะไรเนี่ย...ทะลึ่งว่ะพี่ ผมไปหาเพื่อนก่อนนะ"
ว่าจบกราฟหัวเราะอย่างสะใจที่อย่างน้อยก็ได้เอาคืนพี่ฆิต หลังจากที่ไม่ยอมปกป้องแฟนช่วงอาหารมื้อเย็นที่ผ่านมา

      ด้านฆิตหัวเราะเยาะตัวเอง ก่อนพึมพำ

"แฟนกูใช้ได้นะเนี่ย"


       ผ่านไปชั่วโมงเศษๆ ที่ทุกคนเฮฮากันอย่างอารมณ์ดี จู่ๆก็มีคนมากดกริ่งหน้าประตู ทุกคนดูหน้าตาเหรอหราพอสมควร เพราะไม่รู้ว่าใครมายามดึกดื่นแบบนี้

       ฆิตเป็นฝ่ายลุกไปเปิดประตู แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

"พ..พี่ฆีน"

"อ้าว มีแขกหรือ?"
ฆีนถามสีหน้าเรียบเฉย
 

"ไม่ใช่แขกที่ไหนหรอก ก็พวกกราฟนั่นล่ะ พี่จะมานั่งรวมวงด้วยไหม? เอ่อ...แต่มีท็อปด้วยนะ" ฆิตบอกอย่างกลัวๆว่า ถ้าทั้งสองเจอหน้ากันแล้วจะทะเลาะกันอีก เพราะฆิตไม่รู้เรื่องที่ทั้งสองคบกันแล้ว


..................................
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12.2} UPDATE [ 30 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-03-2017 23:14:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12.2} UPDATE [ 30 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-03-2017 01:33:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12.2} UPDATE [ 30 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 31-03-2017 19:35:19
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12.2} UPDATE [ 30 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-03-2017 21:03:27
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12.2} UPDATE [ 30 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 01-04-2017 10:10:52
พี่ฆิตไม่ต้องห่วงไป พี่ฆีนนำพี่ไปหลายขุมแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วเมื่อไรพี่ฆิตจะตามทันล่ะ อิอิ น้องกราฟคืนนี้เสร็จแน่ คิกๆๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 12.2} UPDATE [ 30 มีค.60 ] >> P.3
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 01-04-2017 23:17:17
เอาล่ะสิ. สงสัยฝั่งท้อปจะต้องแนะนำต่อละ 555
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 02-04-2017 17:41:58

ตอนที่ 13 หลงเด็ก



 

"ได้สิ"

 

      ฆิตมองหน้าพี่ชายด้วยความสงสัย ก่อนถาม

 

"พี่ทำใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วหรือ?"

"อะ...อืม...ไม่ต้องถามมากน่ะ ฆิต เข้าไปข้างในเถอะ..."
ฆีนตัดบทด้วยการเดินเข้ามาด้านในก็เห็นสมาชิกครบถ้วน


       จากเสียงหัวเราะดังสนั่น จู่ๆก็ลดระดับเสียงลงโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นผู้มาใหม่
 

"พี่ขอนั่งด้วยคนนะครับ"

       ทุกคนส่งยิ้มเจื่อนๆ แต่ก็ยกมือไหว้สวัสดี ไม่เว้นแม้กระทั่ง ท็อป ยิ่งทำให้ทุกคนแปลกใจว่าทำไมเพื่อนเขาดูแตกต่างจากทุกที แต่กราฟและพลยังคงกลัวเพื่อนตัวแสบจะไปหาเรื่องอีก กราฟจึงรีบกระซิบริมหูท็อป

"มึงอย่าหาเรื่องพี่ฆีนนะเว้ย วันนี้กูขอ"

"เออกูรู้น่า"
ท็อปตอบปัดๆไป เพราะเรื่องการคบกับพี่ฆีน ท็อปยังไม่คิดจะบอกใครเหมือนกัน


        ในตอนแรก ทุกคนนั่งเกร็ง เพราะไม่รู้ทั้งสองจะปะทะคารมใส่กันหรือเปล่า? แต่พอเห็นว่าท็อปและพี่ฆีนดูเฉยๆ ฆิตจึงเป็นฝ่ายหาเรื่องคุยจนสามารถสร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานขึ้นมาอีกครั้ง...


        เวลาล่วงเลยได้สักพัก ท็อปลุกออกจากวงสนทนาไปสูบบุหรี่ที่ระเบียง ฟากฆีนที่ไปเข้าห้องน้ำเดินกลับมา ก็เห็นท็อปไม่อยู่ที่เดิม จึงเปลี่ยนเป้าหมาย ตั้งใจออกไปหาเด็กหนุ่ม แต่ฆิตรีบลุกพรวดดึงแขนพี่ฆีนแน่น
 

"พี่จะไปไหน?"

"ออกไประเบียง ฆิตมีอะไรหรือ?"

"คือ ท็อปก็อยู่ด้านนอก"
ฆิตทำสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่

"แล้วไง ไม่เห็นเป็นอะไรเลย"



         ฆีนบอกอย่างง่ายๆ ยิ่งทำให้ฆิตฉงนใจไม่น้อย ว่าทำไมพี่ฆีนทำตัวปกติเหมือนว่าในอดีตไม่เคยมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอย่างไร อย่างนั้น...


        ฆิตปล่อยแขนพี่ชายให้เดินออกไป แล้วทรุดตัวนั่งลงที่เดิม


        ถัดมาด้านนอก คนที่กำลังจุดบุหรี่ ต้องชะงัก เมื่อได้ยินเสียงประตูกระจกบานเลื่อนดังขึ้น เขาเอี้ยวตัวมองก็เห็นพี่ฆีนสาวเท้าเดินมา ไม่ทันได้พูดอะไร เด็กหนุ่มก็โดนสวมกอดจากด้านหลังและสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นที่พรมจูบทั่วหลังต้นคอ

"ไม่ได้สัมผัสท็อปนานเลย คิดถึงจะแย่"
ฆีนเอ่ยเสียงเบาหวิว



        รอยยิ้มเขินผุดขึ้นบนใบหน้าคนอายุน้อยกว่า เพราะสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่ฆีนมีงานต่างจังหวัดเลยทำให้ทั้งสองไม่ได้เจอหน้ากันหลายวันเลยทีเดียว

        เมื่อความคิดถึงถาโถมเข้ามาในจิตใจ ฆีนจึงโหยหาสัมผัสของกันและกันแบบนี้



"จริงๆพี่จะต้องไปหาเพื่อน แต่พอท็อปส่งข้อความบอกให้พี่มาหาก็รีบมาเลย เห็นไหม? ว่าพี่ให้ความสำคัญกับท็อปขนาดไหน"

"ขอบคุณนะ ฆีน"


"ครับ" ฆีนผละออกจากอ้อมกอดแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างให้หันมามองกัน ท่ามกลางแสงสว่างรำไรที่ได้จากแสงไฟของท้องถนน และตึกตรงข้าม ช่างเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ฆีนยิ่งอยากสัมผัสท็อปเหลือเกิน

"ท็อป พี่อยากจูบ"


       ไม่ใช่แค่คำพูดที่ทำให้เด็กหนุ่มใจสั่น แต่แววตาที่ฉายถึงความเอาจริงแทรกด้วยความหวาน ถึงกับท็อปให้ท็อปเบนสายตาหนีไปทางอื่น

"แต่นี่มันระเบียงนะ เดี๋ยวมีคนมาเห็น"

"มืดแล้วไม่มีใครเห็นหรอกครับ นะ...ท็อป"

"กะ...ก็ได้"


 
      สิ้นเสียงนั้น ฆีนสอดมือเข้าไปยังท้ายทอย แทรกนิ้วตามเส้นผมสีดำขลับ ส่วนมืออีกข้างก็ประคองใบหน้าเด็กหนุ่ม ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากลงบนปากเด็กหนุ่มอย่างอดใจไม่ไหว จากนั้น ทั้งสองก็จูบกันดูดดื่ม ลิ้นอุ่นของฆีนหยอกล้อกับปลายลิ้นอีกฝ่ายและเคลื่อนไหวไล่ตามกันอย่างอิสระ แต่ ทว่า ฆีนตักตวงความหวานจากการจูบครั้งนี้ยังไม่พอเลย ก็ได้ยินเสียงประตูดังขัดขึ้นเสียก่อน ทั้งสองผละออกจากกันทันที

 
"มีอะไรหรือฆิต?"

"เอ่อะ...จะถามว่าพี่จะเอาอะไรหรือเปล่า? พลจะลงไปซื้อของ"
 
"ไม่เอา ขอบใจมาก"

"แล้วท็อปล่ะ"
ฆิตหันไปถามเด็กหนุ่ม

"ไม่ครับ ขอบคุณครับ"



      ฆิตมองทั้งสองด้วยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนจะพยักหน้าเอออและปิดประตูกระจกบานนั้น


      ท็อปพ่นลมออกจากปาก เพราะเขายังตื่นเต้นไม่หายเลย เนื่องจากไม่คิดว่าจะมีคนออกมาตาม เด็กหนุ่มจึงเอ่ยขอตัวพี่ฆีนเข้าห้อง เพราะกลัวเพื่อนๆจะสงสัย แต่ในระหว่างนั้น ฆีนจับมือท็อปและพูดขึ้น

 
"ท็อป"

"ว่าไง"

"คืนนี้ นอนค้างที่ห้องพี่ไหม?"



       ท็อปยิ้มมุมปากเมื่อรู้ความหมายที่พี่ฆีนจะสื่อ เขาจ้องมองจุดดึงดูดของอีกฝ่าย ที่ท็อปเห็นทีไรก็แพ้ทุกที  สุดท้าย ท็อปทนไม่ไหว งับริมฝีปากล่างพี่ฆีนอย่างหยอกเย้า

 
"ไม่ได้นอนอย่างเดียวใช่ไหม?"


       ฟากฆีนหลุดหัวเราะทันที ก่อนจะกดจูบลงบนปลายจมูกเด็กหนุ่ม

"เพิ่งรู้ว่าได้แฟนขี้ยั่ว"

"ไม่ชอบ?"

"จริงๆก็ไม่ชอบเท่าไหร่ แต่ที่ผ่านมาโดนเด็กมันยั่วก่อนน่ะ พี่เลยหลวมตัวไปหน่อย"ฆีนอมยิ้ม

      ท็อปหัวเราะในลำคอหึๆ ก่อนจะหมุนตัวเตรียมเข้าห้อง

 
"ดี...ถ้างั้น คืนนี้อด ไม่ไปแล้ว"

"หาา...ไม่เอาๆนะท็อป พี่ขอโทษ แค่แซวเล่นเฉยๆ อย่าโกรธสิ อันที่จริง พี่ชอบมากๆเลย ได้เมียขี้ยั่วแบบนี้"


"ไม่ทันแล้ว ดูแลตัวเองไปก่อนแล้วกันนะ"

 

        ท็อปกดสายตาลงต่ำมองของสงวนพี่ฆีนและหัวเราะเยาะเย้ยทิ้งท้าย ก่อนจะผลุบหายเข้าห้องไป ฆีนได้แต่ยืนก้มมองน้องชายตัวเองที่เกิดตื่นตัว มาคิดๆดูแล้ว เขาไม่น่าปากดีเลย ครั้นจะตามไปง้อข้างในห้องก็มีคนอื่นอยู่เพียบ


          ฆีนส่ายหน้าพลางถอนใจ เห็นที... คืนนี้ ฆีนคงต้องทำตามที่เด็กหนุ่มพูดก่อนแน่ๆ...
 



.......................

 

         ว่ากันว่า เมื่อคนเรามีความรัก มักมองโลกเป็นสีชมพู และหน้าตาดูเปล่งประกายออร่าแห่งความสุขจนปิดไว้ไม่มิด


         เพราะยามนี้ ท็อปมาทำงานตามปกติ แต่คงมีบางสิ่งที่ผิดปกติ จนพี่กั๊กร้องทัก 


"เอ่อกูจะถามหลายวันแล้ว ทำไมช่วงนี้ มึงดูหน้าตาสดชื่นแถมดูอารมณ์ดี ยิ้มแย้มตลอดเวลาเลย ทำอย่างกับคนมีความรัก"

"หรอครับ ผมไม่รู้ตัวเลย"


"สรุปว่ามึงมีแฟนแล้วเหรอวะ?" กั๊กถามจริงจัง เพราะก่อนหน้านั้น รุ่นพี่เคยถาม แต่ท็อปบอกว่าโสดมานานแล้ว

"ครับ"

"เฮ้ย...จริงดิ ว่างๆพามาหน่อยดิ กูอยากเห็น ขาว สวย หมวย อึ๋มรึเปล่า?"
พี่กั๊กถามด้วยสีหน้าหื่น จนท็อปหลุดขำ

"ผมไม่ชอบสเป็คแบบนั้นหรอกครับ" ท็อปตอบอย่างยิ้มๆ เพราะสิ่งที่เขาได้มาช่างตรงกันข้ามกับสิ่งที่พี่กั๊กพูดอย่างสิ้นเชิง
 
"อืมๆ สงสัยต้องพาไปฉลอง อย่าลืมพามานะเว้ย"


"ครับ"


        นั่งทำงานกัน จนถึงเวลาพักกลางวัน ท็อปลงมากินข้าวกับพวกพี่ๆที่แผนก แต่ในระหว่างนั้น เด็กหนุ่มไม่วายส่งข้อความหาคนที่ไปดูงานข้างนอก เพื่อถามว่า มาทันกินข้าวเที่ยงด้วยกันไหม?


        แต่ยังไม่ทันได้รับคำตอบจากปลายทาง ท็อปเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นพี่ฆีนเดินเคียงข้างมากับคุณไอริณในระยะไกล น่าแปลก แม้จะไกลแค่ไหน...แต่สายตาคู่นี้กลับเห็นทุกอิริยาบถของทั้งสองอย่างชัดเจน


        ท็อปชะงักไปนิด แม้ในใจจะขุ่นเคืองแต่แสดงออกมากไม่ได้ จึงได้แต่จ้องรอพี่ฆีนหันมาสบตา ซึ่งเป็นจังหวะที่พี่ฆีนเห็นพอดี เขาจึงปลีกตัวออกมาจากหญิงสาวผู้นั้น


        เมื่อเดินสาวเท้ามาถึงกลุ่มพนักงานในแผนก ฆีนก็ถามทันที


"ไปกินข้าวกันหรือ?"

"ค่ะ พี่ฆีนไปด้วยกันไหมคะ?"
แพรพูดขึ้น

       แวบหนึ่ง ฆีนเหลือบมองท็อป ก่อนตอบ


"ไปสิ"


        เมื่อทุกคนเดินถึงร้านข้าวหน้าเป็ดก็สั่งอาหารเสร็จ ในขณะที่รอมาเสิร์ฟ ฟากฆีนลอบมองท็อปตลอด เพราะตั้งแต่เข้ามานั่งในร้าน ท็อปไม่คุยเล่นกับใครเอาแต่เงียบและทำหน้าครุ่นคิดตลอดเวลา ฟากฆีนไม่สบายใจที่เห็นคนรักเป็นแบบนี้


       จนกระทั่ง ทุกคนจัดการอาหารของตัวเองเรียบร้อยก็เดินแยกย้ายกันไปซื้อของตามความต้องการของตัวเอง ส่วนฆีนและท็อปขึ้นมาก่อน  เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน ไม่นาน ฆีนส่งสัญญาณบอกท็อปไปเจอที่ห้องน้ำ

 
      เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฆีนเปิดประตูและดึงร่างเด็กหนุ่มเข้ามาทันที
 

"รู้นะ...ว่าคิดเรื่องพี่กับคุณไอริณใช่ไหม?"
แม้จะดูลาดเลามาแล้ว ว่าไม่มีใครใช้งานตอนนี้ แต่ฆีนก็พูดเสียงเบาอย่างระมัดระวัง และเข้าเรื่องทันที

"แล้วฆีนดูไม่ออกหรอ? ว่าผู้หญิงคนนั้นชอบ"



       โดยปกติ ท็อปเป็นคนขี้หึงแต่จะไม่แสดงอาการอาละวาดหรือไม่พอใจ ถ้ามันไม่ถึงที่สุดจริงๆ และเด็กหนุ่มยอมรับว่า เขาไม่ชอบขี้หน้าคุณไอริณเลย และเป็นเรื่องเดียวที่ท็อปยอมรับว่ามันสร้างความไม่สบายใจให้เด็กหนุ่มพอสมควร เพราะช่วงที่พี่ฆีนไปงานต่างจังหวัดนั้นก็ไปกับคุณไอริณนั่นแหละ จึงยิ่งทำให้ท็อปขัดอก ขัดใจอย่างบอกไม่ถูก

"สัญญากับพี่ว่าอะไร"


      แต่ก่อนจะอธิบายเรื่องของบุคคลที่สาม ฆีนพูดเสียงเข้มและทำตาดุใส่ จนท็อปกลัวเพราะปกติ พี่ฆีนใจดี มีไม่บ่อยครั้งนักที่พี่ฆีนจะโกรธหรือไม่พอใจอะไรขนาดนี้

      เด็กหนุ่มก้มหน้ายอมรับผิดแต่โดยดี และเอ่ยด้วยน้ำเสียงสลด

 
"สัญญาว่าจะเรียกพี่ครับ อย่าดุได้ไหมเล่า ก็กูชินน่ะ"



      ฆีนก็ไม่อยากโหดใส่คนรักหรอก แต่เพราะก่อนหน้านี้ ฆีนโอนอ่อนมามากแล้ว ดังนั้น สิ่งแรกที่ท็อปต้องทำให้ฆีนเห็นว่าเขาเปลี่ยนได้จริงๆ คือ เรื่องของการเรียก พี่ ให้ติดปากทุกครั้ง


      เพราะไม่อย่างนั้น ท็อปจะติดเป็นความเคยชิน จากนิสัยจะส่งผลกลายเป็นสันดาน ซึ่งมันไม่ดีแน่ๆ ฆีนจึงคิดว่า ถ้าจะคบกันจริงจังและยาวนาน ก็ควรให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะเป็นอีกข้อที่สำคัญในการใช้ชีวิตคู่มากเลยทีเดียว

 

"เราต้องฝึกไว้นะ ถ้าดื้อ ไม่ยอมทำตามที่ตกลงไว้  ท็อปรู้ใชไหม? ว่าจะเจออะไร ส่วนเรื่องคุณไอริณ ไม่ต้องกังวล พี่เคยบอกคุณไอริณอ้อมๆไปแล้วเหมือนกันว่าไม่สนใจ แต่ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานกันอีกพี่จะย้ำเธอไปอีกทีนะครับ"


"ก็ดี กูไม่ค่อยชอบเห็นเดินด้วยกันเท่าไหร่?"
ท็อปบอกตรงๆ

"หึงพี่หรือ?"

         ท็อปอมยิ้มและเล่นหู เล่นตาก่อนตอบ

"คิดว่าไงล่ะ"


"หืม...ถ้าไม่ติดว่าเป็นเวลางานจับปล้ำแล้วนะ ดูทำหน้าสิ โคตรยั่วเลย"

       

       ท็อปก็ไม่รู้หรอกว่าเขาทำหน้าแบบไหน? พี่ฆีนถึงได้ส่งสายตาหื่นกระหายขนาดนั้น

"เดี๋ยวขอออกไปดูกระจกก่อนได้ไหม? อยากเห็นว่าตอนนี้ หน้าตัวเองเป็นแบบไหน ต่อไปจะได้ทำหน้าถูก"


"ร้ายนะ"

"ร้ายแล้วรักไหม?"
ว่าจบ ท็อปยกยิ้มแล้วกระเถิบตัวไปใกล้ เพื่องับริมฝีปากพี่ฆีนได้อย่างถนัดถนี่  นี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ท็อปชอบมากกับการได้ซุกซน เล่นวนอยู่กับริมฝีปากอีกฝ่ายทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน เพราะพี่ฆีนเป็นผู้ชายปากนุ่มน่าจูบมาก แถมริมฝีปากก็สีแดงอย่างคนสุขภาพดี ยิ่งเห็น ยิ่งอยากกัดให้ปากแตกชะมัด


"หึๆ รักมากเลยครับ"

 
      ฆีนตอบ ท็อปหัวเราะ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเพื่อออกไปทำงานต่อ แต่กระนั้น ก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาในห้องน้ำพอดี ทำให้ฆีนและท็อปต้องติดอยู่ในห้องน้ำ ไม่สามารถออกไปในเวลานี้ได้


       เมื่อเห็นว่าต้องรอให้คนออกจากห้องน้ำก่อน ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่ ฆีนจึงใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการซุกไซ้ซอกคอชายหนุ่ม ทั้งๆที่ใจอยากจูบท็อปแทบแย่ แต่ก็กลัวว่าเสียงดังจ๊วบจ๊าบจะเล็ดรอดออกไป


       ท็อปรีบผลักพี่ฆีนออก เพราะเขาก็กลัวเผลอหลุดร้องครางจนคนข้างนอกได้ยิน เพราะสิ่งที่พี่ฆีนทำอยู่นั้น ส่งผลต่อหัวใจและร่างกายท็อปเกิดอาการวูบหวิว และเสียววาบช่วงท้องน้อยเป็นอย่างมาก


      ฟากฆีนทำหน้าเสียดายที่โดนบอกให้หยุดกระทำผ่านทางสายตา ฆีนได้แต่ยืนกอดอกมองหน้าคนรักและรอเวลาให้คนเหล่านั้นออกไปอย่างเซ็งๆ

       ในขณะที่ยังมองใบหน้าน่ามองอยู่นั้น มันก็หวนไปนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ฆีนไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกัน เมื่อรู้สึกตัวว่าตอนนี้ เขาเกิดอาการหลงหัวปัก หัวปำ หรือพูดอีกอย่างก็คือ หลงรักเด็กหนุ่มจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว


       จู่ๆ ฆีนก็หัวเราะขึ้นมา จนท็อปโคลงศรีษะมองหน้าอย่างสงสัย...


       ใบหน้าหล่อเข้มยกยิ้มมุมปาก ฆีนเต็มใจที่จะหลงเด็กคนนี้ เพราะข้อดีของการมีเมียเด็ก อย่างน้อยเขาคงไม่ตายง่ายๆ เพราะว่ากันว่า กินเด็ก เป็นอมตะ...

 



 ****1.1****
:katai3: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
ขอบคุณจ้า



หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 02-04-2017 23:21:01
แหมๆๆ พอยอมรับแล้ว แลดูทีความสุขมากๆนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 02-04-2017 23:52:03
สนุกจ้า
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-04-2017 21:47:40
มีเมียเด็กมันดีอย่างนี้นี่เอง อิอิ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 04-04-2017 22:03:00
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-04-2017 22:15:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 05-04-2017 00:29:43
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13} UPDATE [ 2 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ 05-04-2017 17:23:37
โง้ยยย เขินจัง  :-[
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13.2} UPDATE [ 5 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 05-04-2017 20:08:49
ตอนที่ 13 หลงเด็ก(2)




       หลังจากที่ทั้งสองกัดกัน...ไม่ใช่สิ!...รู้สึกดีต่อกัน...จนตกลงคบเป็นแฟน



       ฆิตชวนกราฟมานั่งดื่มร่วมวงกับกลุ่มเพื่อนฆิตอีกครั้ง แต่หนนี้จะต่างไปจากทุกที เพราะฆิตมาเพื่อเปิดตัวแฟนกับเพื่อนเป็นครั้งแรก...


       ฆิตกอดคอกราฟเดินเข้ามาตามปกติ ในขณะที่กราฟกวาดสายตามองก็ต้องชะงัก

"พี่ฆิต ทำไมไอ้เด็กที่เคยเจอที่ร้านเหล้าคราวนั้นมาด้วยล่ะ"


      ฆิตมองตามก็อึ้งไปนิดเหมือนกัน

"กูไม่รู้เรื่องนะกราฟ สงสัยเขตคงพามา มึงไม่ต้องสนใจแล้วกัน นั่งอยู่กับกูนี่แหละ"

       กราฟตอบรับ จนกระทั่งถึงม้านั่งยาว ที่ทุกคนจับของที่นั่งกันครบถ้วน กราฟยกมือไหว้พวกเพื่อนๆพี่ฆิตทุกคน และหย่อนกายลงนั่งตามแฟนตัวเอง


       หลังจากที่ฆิตและกราฟได้รับแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาถือไว้ในมือ ฆิตก็เข้าเรื่องแนะนำเด็กหนุ่มอย่างเป็นทางการ


        เพื่อนๆของฆิตได้ยินดังนั้น ก็โห่ร้อง แซวกันเกรียวกราว กราฟยอมรับเลยจริงๆว่าเพื่อนพี่ฆิตนี่แซวไม่ไว้หน้าเลย บ้างก็มีเหน็บแนมว่าตอนแรกมายังเป็นน้องอยู่เลย เผลอแป๊ปเดียวเป็นผัว เมียกันซะแล้ว บ้างก็ถามตรงๆว่า มีเซ็กส์กันรึยัง? และอีกหลายคนที่ยิงคำถามทะลึ่งตึงตังไม่มีหยุด จนกราฟหน้าร้อนฉ่า ผิดกับพี่ฆิตที่เฮฮาตามน้ำและตอบเพื่อนอย่างไม่มีเขินอายเลยสักนิด

        มือไม้เด็กหนุ่มเริ่มดูเกะกะไปทันที กราฟจึงเปลี่ยนมาวางสองมือลงบนหน้าขาบีบแน่นอย่างคนทำตัวไม่ถูก แต่จู่ๆ ฆิตหันมายิ้มและดึงมือกราฟไปวางบนตักของตัวเอง แต่เพราะโต๊ะบังอยู่จึงไม่มีใครเห็น...


        ผู้เป็นพี่บีบกระชับมือสองสามครั้งและโน้มตัวมากระซิบ

"ทนหน่อยนะ พวกเพื่อนกูมันปากหมาไปอย่างนั้น จริงๆไม่มีอะไรหรอก"

        กราฟพยักหน้าและส่งยิ้มให้ ในขณะนั้น หางตาเหลือบเห็นน้องพี่เขตจ้องกราฟเขม็ง

        พอกราฟจ้องกลับก็นึกว่าเด็กหนุ่มจะหลบตา แต่เปล่าเลย เนกลับจ้องมองมาด้วยสายตาเหมือนคนเง้างอน กราฟเห็นแล้วขัดใจจนอยากตบกระโหลกชะมัด


       เป็นอย่างนี้ได้สักพักที่เนเอาแต่นั่งมอง จนกราฟเริ่มหงุดหงิด ขอตัวพี่ฆิตไปเข้าห้องน้ำหลบสายตาคนที่ทำให้อารมณ์บูดสักหน่อย

       เมื่อจัดการธุระของตัวเองเสร็จ กราฟยืนล้างมืออยู่ดีๆ เด็กหนุ่มก็เดินเข้ามาไม่พูดพร่ำทำเพลงทุบต้นแขนกราฟหลายที จนกราฟโมโหหันไปผลักจนเนล้มก้นจ้ำเบ้า


"เป็นบ้าอะไรวะ"

"ฮึกฮือๆๆ"



      กราฟเหวอ เมื่อคนที่นั่งกองกับพื้นร้องไห้ออกมา หรือเป็นเพราะกราฟใช้การกระทำรุนแรงไป เพราะเนก็ตัวเล็กกว่ากราฟมากโข

"เอ่อะ! กูขอโทษที่ผลักมึงแรงไปหน่อย"


     กราฟสาวเท้าไปหาเนและทรุดตัวลงนั่งยองๆ อยู่ดีๆ เนก็โผกอดกราฟเสียอย่างนั้น


"เฮ้ย! ทำอะไร ไอ้เด็กบ้า ปล่อยนะ"

"ฮึกฮือ! ตอนแรกผมอิจฉาพี่ที่ได้พี่ฆิตไป ทั้งๆที่ผมตามจีบพี่ฆิตมาตั้งนาน แต่เขาไม่เคยคิดจะชอบผมเลย แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า จริงๆผมควรยอมรับตัวเองว่าผมไม่มีอะไรดี พี่กับพี่ฆิตเหมาะกันมากกว่าผม..."


      นอกจากกราฟจะต้องนั่งปล่อยให้เด็กหนุ่มกอดอย่างงงๆแล้ว เขาต้องตั้งสติตามอารมณ์เด็กหนุ่มให้ทันว่า สุดท้ายแล้ว เด็กบ้านี่มันต้องการอะไรกันแน่ และสรุปว่ามันเกลียดเขาที่ได้พี่ฆิตไปรึเปล่าวะ?


"พี่รู้ไหม? ผมชอบใครก็ไม่มีใครชอบผมกลับเลยสักคน ผมแค่คนธรรมดาที่ต้องการความรัก ทำไมผมไม่เคยได้รับมันเลยล่ะ แม้แต่พี่ชายอย่างพี่เขตก็ไม่เคยสนใจผมเลย ทุกวันที่เจอกัน เขาก็ถามคำตอบคำ ทำเหมือนว่า พี่ชายมันคือหน้าที่เท่านั้น"

       กราฟกลายเป็นว่าต้องมานั่งลูบหลัง ลูบไหล่ ปลอบประโลมเป็นที่พักพิงใจให้เด็กหนุ่มไปซะอย่างนั้น


        ก็ใครจะคิดล่ะ ว่าเด็กบ้าจะเกิดดราม่าเรื่องชีวิตและครอบครัวของตัวเองขึ้นมา


       ไม่น่าเชื่อว่าความรักทำให้คนเราสติแตกได้ขนาดนี้

"เอ่อะ...มีอะไรก็ระบายมาอีกแล้วกัน กูฟังได้"



       กราฟพยายามปรับตัวตามเด็กหนุ่ม และจากความไม่ชอบขี้หน้า แปรเปลี่ยนเป็นสงสารไปซะเฉยๆ

       เนผละหน้าออกจากอ้อมกอดนั้น เงยมองรุ่นพี่


"ผมถูกชะตากับพี่ ผมขอเป็นน้องชายพี่ได้ไหม?"


        กราฟเอียงคอมองเด็กหนุ่ม นี่เกิดอะไรขึ้นกับสมองเด็กบ้านี่หรือเปล่าวะ? อยู่ดีๆ ก็มาขอเป็นน้องชาย ทั้งๆที่เจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง กราฟเม้มปากนั่งนิ่ง แต่ยังไม่ทันให้คำตอบ ก็มีบุคคลที่สามมากระชากแขนเนให้ลุกขึ้นอย่างแรง

"นี่มันแฟนไอ้ฆิตนะ อย่าแรดไปทั่ว"


       กราฟสะดุ้ง ตกใจกับเสียงตวาดดังลั่นของพี่เขต อาจเป็นเพราะไม่เคยเห็นมุมโหดของพี่เขตก็เป็นได้


"มันไม่เกี่ยวอะไรกับพี่เขต อย่ามายุ่ง"


      กราฟลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองสองคนขึ้นเสียงใส่กัน เขากำลังคิดว่าควรห้ามปราม หรือเดินออกไปจากห้องน้ำดี แต่จู่ๆก็มีมือหนามาแตะเอวจนกราฟสะดุ้งเฮือก

"ไอ้เขตมันบอกให้ลองเดินมาดูเห็นหายไปนาน มีอะไรวะ เสียงดังเลย กราฟ " ฆิตที่เดินตามมาทีหลังถึงกับงง เมื่อเห็นสองพี่น้องต่างแม่ยืนทำหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
 

"เดี๋ยวผมค่อยเล่าให้ฟังนะ" กราฟบอก

"ผมไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย ผมแค่อยากได้พี่กราฟเป็นพี่ชาย ผมผิดเหรอพี่เขต" เนตัดพ้อทั้งน้ำตานองหน้า


"อะไรของมึงวะ เน ไอ้เขตก็พี่มึง"
ฆิตได้ยินเลยพูดโพล่งขึ้น

"คำว่าพี่ชายของพี่เขตคืออะไร ลองถามเขาสิครับพี่ฆิต พี่เขตไม่เคยสนใจหรอกว่าน้องจะเป็นตาย ร้ายดียังไง"

     เขตเงียบเพราะกำลังระงับอารมณ์โมโห ก่อนจะถอนหายใจ

"มึงพาไอ้กราฟกลับไปที่โต๊ะเถอะ กูขอจัดการเนก่อน เดี๋ยวกูตามไป"


     สักพักเขตก็ลากเนเข้าไปในส่วนของสตูดิโอ โดยที่เด็กหนุ่มยังคงร้องโวยวายจะไม่ไปให้ได้


     เมื่อเสียงและร่างของทั้งสองลับตาไป กราฟก็พูดขึ้น

"พี่ฆิต ผมกลัวเนว่ะ"

"ฮ่าๆ ทำไมวะ"

"พี่ฆิต ผมไม่ตลกนะ น้องมันเป็นบ้าแน่ๆ พี่ต้องบอกพี่เขตให้พาเนไปหาหมอจิตเวชนะ"
กราฟว่าเสียงจริงจัง แต่ทำไมฆิตกลับขำอย่างห้ามไม่อยู่

"ฮ่าๆ จริงดิ"

"เออสิ...ยังจะขำอีก พี่มาไม่ทันช็อตเด็ด อยู่ดีๆ ก็มาทุบแขนผมใหญ่เลย สักพักก็ร้องไห้ แล้วมาดราม่าเล่าประวัติชีวิตตัวเองซะรันทดเชียว แถมมาขอผมเป็นน้องชายอีก ผมนี่โคตรงงเลย"


"มันไม่ได้บ้าหรอกน่า ก็แค่เด็กขาดความอบอุ่นมั้ง มึงก็อย่าไปสนใจมันเลย กูว่าปล่อยให้ไอ้เขตจัดการน้องมันเถอะ...แต่สักสิบนาทีเราเข้าไปดูไอ้เขตในสตูฯด้วยนะ ดีไม่ดี แม่งไม่ใช่ตายจมกองเลือดไปแล้วล่ะ"

"นั่นสิ พี่ฆิต"
 

      ทั้งสองหัวเราะในลำคอ จนกระทั่งเดินกลับมาถึงโต๊ะ 


      ไม่นาน พี่เขตก็จูงมือเนที่ร้องไห้ตาบวมตุ่ยมาที่โต๊ะแล้วบอกทุกคนว่าขอตัวกลับบ้านก่อน และในจังหวะนั้น เนทำท่าจะเดินมาหากราฟ แต่โดนพี่เขตดึงมือให้เดินตามไป เด็กหนุ่มมิวายหันหลังกลับมาส่งสายตาเศร้าสร้อยจนกราฟก็นึกสงสาร


       ประเทศไทยมีประชากรตั้งหลายสิบล้านคน จะเจอคนแปลกประหลาดหลงมาสักคน ก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมั้ง กราฟคิดเช่นนั้น


      ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงดี ทุกคนส่งสัญญาณเตรียมตัวกลับ ไม่นาน ก็ร่ำลาและแยกย้ายกันกลับฐานที่มั่นของตัวเอง ส่วนฆิตขับรถมาส่งแฟนตัวเองที่บ้าน


      พอถึงที่หมาย กราฟร่ำลากำลังจะลง ด้านฆิตจับมือกราฟไว้ ก่อนพูด

"เอ่อะ...กราฟกูกับมึงก็เป็นแฟนกันแล้ว มึงคิดว่าไง ถ้ากูจะจูบมึง"


       ฆิตถามตรงๆ เพราะเขายอมรับว่า การได้ใกล้ชิดกราฟบ่อยๆก็มีบ้างที่ตัวเขาเผลอมีอารมณ์

        ฟากกราฟเงียบไปนิด จะว่าที่พี่ฆิตถามเพราะเมา...รึก็เปล่า อันที่จริง ทั้งสองก็ไม่ได้เมามากขนาดนั้น เพราะรอบนี้ ติดจะคุยเล่น เฮฮากันมากกว่า

      กราฟนั่งนิ่ง รอตัดสินใจ เพราะเข้าใจดีว่าเรื่องนี้ก็เป็นส่วนเติมเต็มความรักได้เหมือนกัน ทันใดนั้น กราฟไม่ตอบคำแต่โน้มตัวไปจูบปากอีกฝ่ายเบาๆ แล้วถอยออก


       ด้านฆิตนิ่งไปนิด ก่อนจะยกยิ้มจางๆแล้วเอ่ยขึ้น

 

"ดะ...เดี๋ยวนะ เมื่อกี้ มึงจูบกูหรือวะ? กูไม่ทันตั้งตัวเลย นึกว่าหมาเลียปาก"


"ไอ้พี่ฆิต ดูถูกผมเหรอวะ?"


       ทันใดนั้น ศักดิ์ศรีและอัตตาเกิดขึ้นมาในฉับพลัน...ลูกผู้ชายฆ่าได้ หยามไม่ได้เสียด้วยสิ...


       วินาทีนั้น กราฟรั้งต้นคอพี่ฆิตดึงเข้ามารับจูบกัน ด้วยอารมณ์อยากเอาชนะ บวกราคะ และความรัก ผสมผสานจนตอนนี้ภายในห้องโดยสารช่างเร้าร้อนเหลือเกิน ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ได้ดี ไม่มีบกพร่อง


      ทั้งสองลิ้มรสหวานผสานรสขมปร่าของแอลกอฮอล์กันอย่างไม่มีหยุด ปลายลิ้นอุ่นของฆิตเกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นอีกฝ่าย นัวเนียกันเมามันส์ ห้ำหั่นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร


       มือไม้ฆิตเริ่มซุกซนลูบผ่านผ้าเนื้อบางตั้งแต่ช่วงอกกว้างไล่ลงมายังหน้าท้องของเด็กหนุ่ม ก่อนจะสอดมือเข้าไปข้างในเสื้อ ลูบไล้ทั่วแผ่นหลัง ลากวนไล่ตามแนวกระดูกสันหลังซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น


       วินาทีนั้นเอง กราฟตกใจ เมื่อพี่ฆิตเลิกเสื้อเขาขึ้นไปจนถึงคอ เด็กหนุ่มรีบดันอกรุ่นพี่ออกห่าง


"พี่ฆิต คือ ผมยังไม่พร้อมว่ะ"

"กูขอโทษ กูยอมรับว่า...กูมีอารมณ์ตอนจูบมึง คือ...เอ่อ...จูบกับมึงแม่งมันส์ว่ะ กูชอบนะ"
ฆิตเลียปาก ทั้งจ้องมองกราฟด้วยแววตาหื่นกระหาย

      ต้องยอมรับข้อหนึ่งว่า ฆิตและกราฟ มีนิสัยที่เหมือนกันอยู่อย่าง คือ เป็นคนพูดจาตรงไปตรงมา ดังนั้น ทั้งสองจึงไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกัน เพราะถ้ารู้สึกอะไรก็พูดออกไปเลย มีน้อยครั้งที่จะเก็บงำไว้...

"หึๆ รับรองตอนผมกดพี่ก็มันส์ไม่แพ้กัน"


"เดี๋ยวๆ มึงว่าอะไรนะ ไอ้กราฟ ใครกดใคร"
ฆิตเสียงเข้มขึ้นมาทันที

"ก็ผมไง"

"มึงสิจะโดนกูกด มึงสมควรเป็นเมียและมานอนครางใต้ร่างกูมากกว่า"

"เฮ้ย! พี่ฆิต ถามผมสักคำหรือยัง? อย่าคิดโยนสถานะนั้นโดยไม่ถามผมก่อนสิวะ" กราฟแย้งกลับ


"มึงเป็นรุ่นน้อง"

"ตรรกะอะไรของพี่วะ อายุน้อยต้องเป็นเมีย...ตลกแล้ว..."
กราฟโต้เถียงอีกรอบ


"กูไม่มีวันเป็นเมียมึงแน่ๆ...เฮ้ย...เดี๋ยวคุยกันให้รู้เรื่องก่อนไอ้กราฟ"


     ไม่ทันให้ฆิตได้พูดต่อ กราฟกระโดดลงจากรถไม่รอเคลียร์ปัญหาให้รู้เรื่องก่อนเลย


     ฆิตอยากจะบ้า ตั้งแต่มีแฟน กราฟเป็นคนแรกที่คิดแบบนั้น สงสัย ถ้ามีเหตุต้องนอนร่วมเตียงกัน ฆิตคงต้องตั้งท่าให้ดี ถ้าเผลอเพลี่ยงพล้ำไปนี่แย่แน่...

     เมื่อจบความคิด ฆิตอมยิ้มส่ายหน้าอยู่สองสามที แล้วเคลื่อนรถออกไป

     ไม่เป็นไร ถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆ ค่อยว่ากันอีกทีก็ได้...




...............................
ตายแล้วววววววว...พี่ฆิต!!

.
.
.
ชอบไม่ชอบติชมได้นะ
ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13.2} UPDATE [ 5 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-04-2017 20:26:17
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13.2} UPDATE [ 5 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 05-04-2017 20:49:26
รอ  ได้อ่านแล้ว  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13.2} UPDATE [ 5 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 05-04-2017 23:04:13
เอาล่ะสิ. ใครจะผัว ใครจะเมีย
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13.2} UPDATE [ 5 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-04-2017 23:31:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 13.2} UPDATE [ 5 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-04-2017 11:23:22
เชียร์พี่ฆิตกดกราฟ หรือสลับกันไปเลย ฮ่าๆๆๆๆ
อยากรู้ไวไวๆๆๆอ่ะ อิอิ บนเตึยง คิกๆๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14} UPDATE [ 7 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 07-04-2017 21:00:03

ตอนที่ 14 คนเดียวจริงๆ




"พาพี่มาเปิดตัวหรือครับ?"

     ฆีนพูดทีเล่น ทีจริง เพราะเวลานี้ ฆีนจอดรถอยู่หน้าบ้านของท็อป หลังจากเมื่อคืนเด็กหนุ่มไปนอนค้างที่ห้อง และในระหว่างที่มาส่ง ท็อปก็รบเร้าให้ฆีนเข้าบ้านด้วย

"ก็อยากอยู่เหมือนกัน ถ้ามีโอกาสกูจะลองหาทางบอกนะ"
 
       ฆีนไม่คิดว่าจะได้รับคำตอบที่ดีต่อใจขนาดนี้ เพราะฆีนยอมรับว่า ตามข้อตกลง ทั้งสองแอบคบกันลับๆโดยไม่บอกใคร แต่การที่ท็อปเริ่มเปิดใจคิดบอกคนอื่นก็ทำให้ฆีนมั่นใจตัวท็อปมากขึ้น

      ฆีนดึงร่างท็อปมากอดแน่นแล้วจูบกลางขมับ ก่อนถอยออก

"น่ารักจังเมียใครนี่ แต่พี่พูดเล่นนะครับ พี่รู้ดีว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อน เราไม่ใช่คู่รักที่สังคมเปิดกว้างเท่าไหร่  พี่เข้าใจนะว่าครอบครัวท็อปคงไม่เหมือนครอบครัวพี่ ถ้าบอกไปท่านอาจจะยอมรับไม่ได้ก็ได้ ฉะนั้น รอดูจังหวะดีกว่า ถึงยังไง พี่ก็อยู่กับท็อปอีกนาน พี่ไม่เร่งรัดหรอก พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกครอบครัวก็ได้นะครับ"

 "พี่ฆีนรอกูก่อน อย่าทิ้งกูไปไหนนะ"
ท็อปถามด้วยดวงตาเป็นประกาย

"ครับผม"

       ท็อปยิ้มกว้าง ก่อนที่ทั้งสองจะลงรถเพื่อเข้าสู่ตัวบ้านของเด็กหนุ่ม

       ตั้งแต่ท็อปคบกับพี่ฆีน เขายอมรับว่าพี่ฆีนทำให้ท็อปกล้าที่จะลองรักใครสักคนอีกครั้งและกล้าเปิดเผยตัวตนมากกว่าเดิม แม้ว่าในขณะเดียวกัน ท็อปก็ยังต้องต่อสู้กับความกลัวในจิตใจไปด้วย


       ท็อปดีใจที่มีผู้ชายรักเขาอย่างจริงใจเพิ่มมาอีกหนึ่งคน ดังนั้น เขาจะไม่ยอมเสียพี่ฆีนไปแน่ เด็กหนุ่มถึงตัดสินใจคิดหาทางบอกครอบครัวเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และถ้าพี่สาวกับแม่รับได้เมื่อไหร่ เขาถึงจะบอกเพื่อนๆในภายหลัง


       ส่วนสาเหตุที่พาพี่ฆีนมาโดยพี่ฆีนไม่รู้ นั่นก็เพราะตั้งแต่วันที่พี่ฆีนมาบ้านครั้งนั้น มารดาของท็อปก็บ่นถึงพี่ฆีนว่าอยากเจออีก เพราะพี่ฆีนทำให้นึกถึงพี่แทนที่ตายไปแล้ว ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าท็อปก็รู้สึกเช่นเดียวกับแม่


      แม้หน้าตาจะแตกต่างกันลิบลับ แต่ด้วยอายุที่เท่ากัน รวมถึงการพูดการจา ยิ่งทำให้ทั้งคู่นึกถึงบุคคลที่เสียชีวิตขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
 

      เมื่อพี่ฆีนเจอแม่ ก็ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม และทักทายพี่ธัญตามหลัง

 
      แม่ยิ้มแย้มทันทีที่เจอ และเอ่ยบอกแขกคนพิเศษให้นั่งรอที่ห้องนั่งเล่นก่อน แต่พี่พี่ฆีนไม่ทำตาม กลับทำคะแนนแม่ท็อปด้วยการเข้าครัว เป็นลูกมือทำกับข้าวและคุยกันเรื่องอาหารอย่างถูกคอ


      ส่วนหนึ่งคงเพราะพี่ฆีนชื่นชอบการทำอาหารจึงสนุกกับการถามไถ่มากมาย ต่างจากลูกบ้านนี้ ทั้งพี่ธัญ และท็อปถนัดกินอย่างเดียว จึงไม่แปลกที่แม่ท็อปจะหลงใหลได้ปลื้ม เอ่ยปากชมใหญ่ มิวายเหน็บแนมลูกบ้านนี้ว่าเอาแต่กิน ไม่สนใจคิดทำอาหารดูบ้างเลย


      ในขณะที่แม่คุยกับพี่ฆีนติดพันอยู่นั้น ท็อปเดินเข้ามาในครัวช่วยนำกับข้าวบางส่วนที่เสร็จแล้วไปวางที่โต๊ะอาหาร แต่เป็นจังหวะที่ท็อปเดินเข้ามาได้ยินแม่พูดว่าถ้าพี่ฆีนมีแฟน คนนั้นคงโชคดี ไม่อดตายแน่ๆ เพราะได้สามีทำอาหารเป็น...


      ได้ยินดังนั้น ท็อปเผลอหลุดยิ้มออกมา ก็มันจริงดั่งที่แม่ว่านี่นา เมื่อครั้งหนึ่งตอนที่ท็อปนอนค้างห้องพี่ฆีน วันนั้น ทั้งวัน พี่ฆีนทำเมนูโปรดเอาอก เอาใจท็อปตลอด ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกโชคดีจริงๆ 


       และเพียงแค่หวนไปนึกถึงผู้ชายร่างสูงที่ชอบฮัมเพลงเวลาทำอาหาร ท็อปก็ยิ้มหน้าบาน เป็นจานดาวเทียม


"ฆีนดูสิ ลูกแม่ท่าจะบ้า ยืนยิ้มคนเดียว ไม่ยอมยกอาหารไปสักที"



      พี่ฆีนหันไปมองตามคำแซวของแม่ ก่อนจะแต้มยิ้มบางๆ


"สงสัย ท็อปกำลังจินตนาการว่า ถ้ามีแฟนทำอาหารให้คงดีมั้งครับ"


       ก็รู้อยู่แก่ใจว่าแฟนท็อปคือใคร? มาแซวแบบนี้...ตั้งใจจะชมตัวเองล่ะสิ? ไม่ว่า

      ท็อปมองหน้าพี่ฆีนแล้วแกล้งเบะปากอย่างหมั่นไส้


"อย่ามาทำเป็นรู้ดีน่ะ พี่ฆีน...ท็อปยกไปที่โต๊ะแล้วนะแม่"


 
      เด็กหนุ่มตัดบท ไม่สนใจชาย-หญิงต่างวัยที่คุยจนเข้าขากัน เขาเดินดุ่มๆยกอาหารไปวางไว้ที่โต๊ะอาหารทันที

      จนกระทั่ง กับข้าวเสร็จสิ้นครบถ้วน สมาชิกทุกคนมารวมตัวกันที่โต๊ะ เพื่อรับประทานอาหานมื้อเย็นนี้

     เริ่มมื้ออาหาร พี่ฆีนก็เป็นฝ่ายชวนแม่คุยอย่างลื่นไหล ส่วนพี่ธัญก็เสริมในบทสนทนาเป็นระยะๆ มีแต่ท็อปที่นิ่งเอาแต่อมยิ้มกับบรรยากาศอบอุ่นเช่นนี้


     เวลาผ่านไปเรื่อยๆที่บนโต๊ะอาหารมีเสียงพูดคุยเคล้าเสียงหัวเราะ ทุกคนดูจะมีความสุขกันมากทีเดียว ในขณะนั้นเอง ท็อปลอบมองคนที่เอาแต่นั่งเล่าเรื่องราวต่างๆให้แม่และพี่ธัญฟังแล้วก็แอบยิ้มตาม

    ถ้าในวันนั้น ท็อปไม่เลือกทำตามหัวใจ ป่านนี้ ท็อปคงเสียผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตไปแล้ว

     นานพอสมควรกว่าทุกคนจะจัดการอาหารของตัวเองเสร็จ แม่ถึงกับขั้นพูดหว่านล้อมให้พี่ฆีนนอนค้างที่บ้านคืนนี้ แถมพูดติดตลกว่าจะขนเสื้อผ้ามาทิ้งไว้ แล้วมานอนเมื่อไหร่ก็ได้


     ท็อปไม่ค่อยเห็นแม่ชวนใครสุ่มสี่ สุ่มห้า ถ้าไม่ถูกชะตาจริงๆ ท็อปคิดว่า แม่คงอยากมีเพื่อนคุย หรือไม่ก็คงคิดถึงพ่อและพี่แทนอยู่ไม่มากก็น้อย การมีพี่ฆีนที่ดูโตและเป็นผู้ใหญ่ ก็คงเหมือนมีเสาหลักของบ้านที่ทำให้แม่อุ่นใจมากขึ้น


     พี่ฆีนตบปากรับคำ แต่ก็มีเล่นละครทำท่าเกรงใจ จนท็อปแอบหมั่นไส้แฟนตัวเอง
 

     ท็อปนึกว่า การสนทนาบนโต๊ะอาหารจะจบลงแล้ว แต่เปล่าเลย...ตอนนี้ แม่และพี่ฆีนแยกมานั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นต่อ ถึงเรื่องการใช้ชีวิต การตั้งเป้าหมายในอนาคตข้างหน้า การสร้างครอบครัว และอีกหลายๆอย่างที่ยิ่งฟัง ท็อปยิ่งง่วงจึงขอตัวขึ้นห้องก่อน ส่วนพี่ธัญพอกินเสร็จก็หนีขึ้นห้องตัวเองไปคุยโทรศัพท์ตั้งนานแล้ว


     ในขณะที่ท็อปรอพี่ฆีน เด็กหนุ่มก็คุยเล่นกับกราฟถามไถ่เรื่องชีวิตรักของเพื่อน แต่ไม่นาน ท็อปได้ยินเสียงประตูดังขึ้น แต่ไม่คิดหรอกว่าคนแก่จะทำตัวเป็นเด็ก เล่นทิ้งน้ำหนักตัวที่มีทั้งหมดนอนทับบนร่างเขา

"พี่ฆีนมานอนบนตัวทำไม ลุกเลย กูหนักนะ"

      คนอายุมากกว่าไม่ตอบคำกลับอยู่ไม่สุก ริมฝีปากเริ่มซุกซนจูบหลังต้นคอ ใบหูและเลื่อนมายังแก้มขาวพรมจูบจนทั่ว เมื่อฟัดจนหายอยากถึงกลิ้งลงไปนอนข้างกายเด็กหนุ่มแทน

"คุยกับแม่ท็อปแล้วดีจัง ท่านเป็นคนมีหลักการใช้ชีวิตที่ดีมากเลยนะ สอนให้พี่รู้จักปล่อยวาง ให้รู้จักอยู่กับปัจจุบัน และอีกเยอะเลย พี่เข้าใจนะ อาจเป็นเพราะท่านผ่านการสูญเสียคนรักมาแล้วถึงเข้าใจสัจธรรมของชีวิต ว่างๆท็อปก็คุยกับแม่บ้างสิ จะได้นำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตบ้าง รู้ไหม?"

"ครับ คุณพ่อ ลูกจะทำตามครับ" ท็อปแกล้งประชด

"เดี๋ยวเถอะ...พี่ยังไม่แก่ขนาดนั้นนะ แล้วที่พูดนี่พี่หวังดีกับเรานะ ท็อป" ฆีนเขกหัวคนรักไม่แรงนัก

"ฮ่าๆ กลัวแก่กับเขาด้วยหรอ?...ไม่ทันแล้วมั้งครับ จะสี่สิบแล้วนี่"

"หืม? เดี๋ยวก็ลงโทษ จัดหนักให้ลุกไม่ขึ้นเลยดีไหม? พี่ยังไม่ถึงสามสิบห้าเลย แต่ไม่เป็นไรหรอก ว่าพี่แก่ไปเถอะ ถ้าจะแก่แล้วยังปึ๋งปั๋งแถมทำให้คนชอบใจจนร้องดังได้ขนาดนั้น พี่ว่าพี่ก็เด็ดอยู่นะ"

"ทะ...ทะลึ่งนะ...พี่ฆีน" จากที่แซวเขา พอเจอสวนกลับมา กลายเป็นท็อปหน้าแดงและเขินจนก้มหน้างุด จนฆีนกลั้วหัวเราะ

      จู่ๆ สถานการณ์กันเอง ก็แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในฉับพลัน

"ท็อป วันหลังไปบ้านพี่บ้างนะ จะพาไปเปิดตัว พร้อมหรือเปล่า?"

      ท็อปเงยหน้ามองพี่ฆีน ก่อนจะซุกหน้าลงบนอกแกร่ง แล้วกอดเอวพี่ฆีนแน่น

"ไม่พร้อม กูกลัว"


 
"กลัวอะไรครับ...หืม? อย่าลืมสิว่าบ้านพี่รับเรื่องนี้ได้ พี่ก็เคยบอกไปแล้วนี่" ฆีนว่าจบก็ลูบเรือนผมท็อปอย่างเอ็นดู
 
"ไม่ได้กลัวเรื่องที่ผู้ชายสองคนคบกัน แต่กลัวพ่อแม่พี่ฆีนไม่ชอบกู"

 
"อย่าคิดอย่างนั้นสิ เราทุกคนมีดีในตัว ท็อปเองก็มี ลองถามตัวเองว่าเรามีอะไรบ้างที่จะพอพิชิตใจพ่อแม่สามีได้"
 
"พี่ฆีน อย่าพูดแบบนั้นดิ ฟังแล้วกูดูเหมือนผู้หญิงที่ต้องเอาใจแม่ผัวยังไงไม่รู้"
 
"ฮ่าๆ...ก็พี่พูดความจริงนี่ครับ ก็พี่เป็นสามีท็อปไง"
 
"หยุดพูดเถอะ ขอร้อง"
 
"ฮ่าๆ...อายหรือ?...ฮึ!"



     ท็อปหน้าแดงไม่ยอมตอบ แต่เงยหน้ามองใบหน้าหล่อเข้ม ก่อนที่จะกระเถิบตัวขึ้นไปตะครุบต้นคอคนรักฝังฟันคมกัดลงไปยังที่ประจำ จนพี่ฆีนร้องเสียงหลง

"ท็อปรู้ไหม? ที่ท็อปกัดพี่ มันเจ็บจนไม่เจ็บไปแล้วนะ"
พี่ฆีนแกล้งดุเมื่อนึกเรื่องนี้ขึ้นได้ ก่อนจะยันกายขึ้น ด้านท็อปรีบลุกตามแล้วดึงคอเสื้อพี่ฆีนลง จนท็อปพบรอยช้ำจางๆเต็มลาดไหล่

      ท็อปยอมรับว่าทุกครั้้งที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง เขาห้ามไม่ได้จริงๆที่ต้องกัดพี่ฆีนทุกครั้ง

 
"ขอโทษนะพี่ฆีน แต่กูห้ามไม่ได้จริงๆ"
 
"ไม่เป็นไรหรอก อย่างที่บอกพี่ชอบแล้วล่ะ"

 
      ฆีนว่าจบก็เคลื่อนริมฝีปากไปแตะปากท็อปเบาๆ ก่อนผละออก
 

"ที่กูชอบกัดเพราะกูเป็นแวมไพร์น่ะ"


      ฆีนกลั้นขำ เพิ่งเคยเห็นคนรักเล่นมุกได้ปัญญาอ่อนมาก
 
"แน่ใจ? แวมไพร์หรือหมาครับ?"

"พี่ฆีน!"

"ฮ่าๆ...นั่นไงทำหน้าหมาหงอยอีก"


"กูไม่คุยด้วยแล้ว" ท็อปว่าจบ จะลุกขึ้นจากเตียง แต่พี่ฆีนรั้งเอวเด็กหนุ่มจนหงายหลังล้มลงบนเตียง ฟากฆีนนอนทาบลงบนร่างท็อปทันที


"โอ๋...พี่ขอโทษ ไม่ต้องห่วงนะครับ ถึงท็อปจะเป็นหมา เป็นแวมไพร์ เป็นอะไรก็เป็นไปเถอะ...เพราะถึงยังไง พี่ก็รักที่ท็อปเป็นท็อปอยู่ดี รู้ไหม? เด็กดีของพี่"


"เสี่ยวนะ พี่ฆีน" ท็อปตอบอมยิ้ม
 

"หือ...อะไรนะครับ เสียว?...อยากก็บอกสิท็อป..."

       ทันใดนั้น พี่ฆีนพรมจูบทั่วใบหน้าท็อป จนเด็กหนุ่มดันอกออกห่าง
 
"พี่ฆีน อย่ามาเนียน กูบอกว่า 'เสี่ยว' ไม่ใช่ 'เสียว' ช่วยกรุณาเติมไม้เอกในคำที่กูพูดด้วย"
 
"หืม...ท็อปไม่ต้องอายหรอกน่า เดี๋ยวพี่จัดให้ตามคำขอนะครับ" ว่าจบ พี่ฆีนมุดหน้า กดจมูกซุกไซ้ซอกคอเด็กหนุ่มทันที

"พี่ฆีน เลิกแกล้งได้แล้ว เดี๋ยวแม่กับพี่ธัญได้ยิน"
 
"ก็ได้ๆ แต่พี่เริ่มสัมผัสได้ว่าลูกชายท็อปมันตื่นแล้วนะ ให้พี่ช่วยไหม?"


 
      ท็อปเด้งตัวลุกขึ้น เสยผมขึ้นลวกๆ แล้วต่อยพี่ฆีนที่ต้นแขนเบาๆ
 

"ก็พี่ฆีนนั่นแหละ แกล้งกูทำไมเล่า ช่างมันเถอะ...เดี๋ยวมันก็หลับลงไปเอง เบื่อคนขี้หื่นว่ะ"


"พี่ว่าก็เข้ากันดีออก เมียขี้ยั่วกับผัวขี้หื่น"



"บ้า...กูไม่ใช่คนขี้ยั่วสักหน่อย แต่ที่ผ่านมากูต้องยั่วเพราะกลัวพี่ฆีนไม่รักต่างหาก" ท็อปหลุดพูดจนรีบยกสองมือตะครุบปากตัวเองแน่น

"หืม...? หมาย...ความ...ว่า...ที่ผ่านมา...."
ฆีนหรี่ตามองคนรักอย่างจับผิด นี่เขาไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?

      แต่ก็คงไม่ผิดหรอก เพราะตอนนี้ ท็อปทำท่าเลิ่กลั่ก อีกทั้งยังหน้าแดงเป็นลูกตำลึง ขนาดนี้ ยิ่งยืนยันสิ่งที่พูดได้แน่ชัดแล้ว...


"กะ...กูไม่อยากอยู่ใกล้คนหื่นแล้ว ขอแวะไปหาพี่ธัญก่อนนะ"

       ท็อปเด้งตัวลุกพรวดจากเตียงวิ่งฉิวไปที่ประตู ปล่อยให้ฆีนนั่งหัวเราะและยิ้มกว้างอย่างคนอารมณ์ดีสุดขีด


"จะทำให้พี่รักไปถึงไหนครับนี่...ท็อปเอ๊ย..."




****1.1****

ฮ่าๆๆๆ

คู่นี้ เคมีเข้ากั๊นนน เข้ากัน...เนอะ...

เจอกัน
ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14} UPDATE [ 7 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-04-2017 21:14:47
ขี้หื่นขี้ยั่วลงตัวสุดๆๆ คู่พี่ฆีนท็อปออกแนวน่ารักหวานๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14} UPDATE [ 7 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-04-2017 21:52:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14} UPDATE [ 7 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 07-04-2017 22:03:59
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14} UPDATE [ 7 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-04-2017 00:24:49
พอรับได้ก็หวานเชียวววว
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14.2} UPDATE [ 10 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 10-04-2017 19:40:05
ตอนที่ 14 คนเดียวจริงๆ (2)

 

 
"พี่ธัญ ทำอะไรอยู่น่ะ"
 

        ท็อปถามทันทีหลังจากที่เดินเข้ามาหาพี่สาวตัวเองที่นั่งเล่นแท็บเล็ตบนเตียง


"ตายละ...ฝนจะตกหรือเปล่า? ร้อยวันพันปีแกไม่ค่อยเข้ามาห้องฉัน"
ธัญประชดน้องชายตัวเอง เพราะโดยปกติ ท็อปไม่ค่อยมาหาธัญหรอก อย่างมากก็ขลุกตัวอยู่แต่ในห้อง ยิ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนพี่แทนยังไม่เสียชีวิตก็จะเห็นท็อปตัวติดกับพี่ชายคนโตเสมอๆ
 
"โธ่...อย่าประชดดิ  ตอนนี้ พี่ธัญ ว่างหรือเปล่า?..."
 
"ก็พอว่าง"

 
"มีอะไรจะบอก" ท็อปยิ้มอายๆ ก่อนพูดขึ้นอีกครั้ง

"ท็อปมีแฟนแล้วนะ"
 
"หา...จริงหรือเปล่า? ก่อนหน้านี้ ฉันยังเคยคิดอยู่เลยว่าแกสมควรไปบวชพระไหม? เพราะฉันไม่เคยได้ยินแกพูดถึงแฟนมาก่อน แล้วนี่คิดยังไงทำไมถึงมาบอกฉันล่ะ"
 
"คนนี้จริงจัง กะว่าจะบอกแม่ด้วยแต่มาบอกพี่ธัญก่อน"


       ท็อปยิ้มตาหยี เขาตื่นเต้นที่จะบอกพี่สาวตัวเอง เพราะอย่างน้อย พี่ธัญก็อายุไม่ห่างจากท็อปมาก ถ้าพี่ธัญรับเรื่องผู้ชายสองคนคบกันแบบคนรักได้ ท็อปจะให้พี่สาวช่วยพูดกับแม่ด้วย
 
"แล้วใครล่ะ ชื่ออะไร...เฮ้ย!...ท็อปรอก่อน ฉันรับโทรศัพท์แป๊ป"

 
        ท็อปยังไม่ทันได้บอก พี่ธัญก็รับโทรศัพท์เสียก่อน


        ในระหว่างที่น้องชายรอพี่สาวคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่นั้น เขาเริ่มเห็นสีหน้าพี่ธัญดูครุ่นคิด คิ้วขมวดกันเป็นปม เด็กหนุ่มเดาว่าเรื่องเล่าของปลายสายคงดูไม่น่ารื่นรมย์เท่าไหร่ พี่สาวท็อปถึงทำหน้าเครียดและตอบแต่คำว่า อืม...อืม...แล้วก็อืมแค่นั้น
 
        แต่ไม่ถึงหนึ่งนาที ก็มีสิ่งที่ทำให้ท็อปนั่งตัวแข็งทื่อ

     
"ฉันเข้าใจแกนะ...โบว์ ถ้าการที่แกร้องไห้แล้วสบายใจก็ร้องไห้ออกมาเลย อย่างน้อยแกยังโชคดีที่ตอนนี้แกรู้แล้วว่าแฟนแกเป็นเกย์ดีกว่าสายไป ช่างมันนะโบว์ ปล่อยพวกเกย์ชั่วๆพรรค์นั้นให้มันไปอยู่กับคนชั่วๆเถอะ...ก็แค่พวกขยะสังคม...อย่าไปถือสาเลย...ชาตินี้ ฉันขออย่าได้เจอพวกเกย์อีกเลย ขยะแขยงว่ะ อืมๆ...เดี๋ยวคืนนี้เจอกันนะ ฉันจะออกไปอยู่เป็นเพื่อน จ้า...ไม่เป็นไรจ้า โบว์ อย่าเครียดนะ..."
 
 
        เหมือนโดนตบหน้ากลางสี่แยกไฟแดง ท็อปหน้าชา ตัวชาทำตัวไม่ถูก ทั้งๆที่เรื่องราวที่พี่ธัญพูดมาไม่ใช่เรื่องของท็อปเลยสักนิด

         เขานั่งมองพี่สาวที่ยังดูอารมณ์ค้างเติ่งกับเรื่องช้ำรักของเพื่อน
 
         หยาดน้ำใสกำลังปริ่มดวงตา ท็อปสูดลมหายใจลึกๆ...สองมือกุมกันไว้แน่น ทั้งยังบิดไปมาจนปวดข้อกระดูก

 
"ขอโทษทีนะ ท็อป ฉันสงสารเพื่อนน่ะ เลยอินไปหน่อย อืม...เล่าเรื่องแกต่อสิ แล้วแฟนแกชื่ออะไร สวยไหม?"
 
         ใบหน้าซีดเผือกค่อยๆผุดรอยยิ้มจางๆ

 
"เอ่อะ...เอ่อ...เมื่อกี้ได้ยิน พี่ธัญจะไปหาเพื่อน ไปเถอะ...เดี๋ยวไว้ท็อปพามาบ้านให้พี่ธัญรู้จักพร้อมแม่ทีเดียวเลยก็ได้"
 

"อ้าว...เออๆ...ขอโทษจริงๆนะ งานเข้าซะก่อน อดฟังเรื่องแกเลย อย่าลืมพามานะท็อป"
 
"อื้ม ท็อปกลับห้องก่อนนะ"
 

        พี่สาวพยักหน้าเออออส่งท้าย ส่วนท็อปเดินกลับห้องไปด้วยหัวใจเจ็บจี๊ดๆ
 
       ฟากฆีนเด้งตัวขึ้นจากเตียง เมื่อเห็นคนรักเดินเหมือนร่างไร้วิญญาณกลับเข้ามา ผู้เป็นพี่โคลงศรีษะมองท็อปด้วยความแปลกใจที่เห็นสีหน้าคนรักเปลี่ยนไปจากก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด
 

"ท็อปเป็นอะไรหรือเปล่า?"
 
"เปล่าน่ะ พี่ฆีนครับ คือ...กลับไปก่อนได้ไหม?"
 
"หือ...อะ...อะไรน่ะ ท็อป ทำไมล่ะ"
ฆีนงงเป็นไก่ตาแตก ที่อยู่ดีๆ ก็โดนคนรักไล่กลับกระทันหัน


"คือตอนนี้ กูมึนหัวน่ะ อยากอยู่คนเดียว"
 
"ท็อปมีอะไรรึเปล่า? บอกพี่สิ"



    ท็อปหน้าเครียด

 
"กลับไปก่อนนะ"
 
"ก็ได้ แต่บอกพี่ได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น"
 
"แค่กูปวดหัวและไม่อยากหงุดหงิดใส่พี่ฆีนเข้าใจไหม?"

 
     คราวนี้ ฆีนดึงร่างเด็กหนุ่มเข้ามากอดแนบแน่น
 

"เราเป็นแฟนกันแล้ว พี่ไม่อยากเห็นแก่ตัวที่คบท็อปเพียงเพื่อต้องการความสุข ความทุกข์พี่ก็อยากรับฟัง ทำไม พี่จะดูไม่ออก เราทะเลาะกับพี่สาวมาหรือ?"
 


"พี่ฆีน อย่าเพิ่งถามได้ไหม? กลับไปก่อนนะ กูขอร้อง"
 


      ฆีนไม่เข้าใจในสิ่งที่ท็อปทำ แต่เพื่อความสบายใจ ฆีนพยักหน้า ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากห้องเด็กหนุ่มไป ฟากท็อป เมื่อส่งพี่ฆีนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบวิ่งขึ้นมายังห้องนอนของตัวเอง
 
     นี่เขาจะหนีไม่พ้นกับสิ่งที่ตามมาหลอกหลอนจริงๆใช่ไหม?
 
     สุดท้าย ท็อปก็ทนไม่ไหวร้องไห้คนเดียวอีกตามเคย...


 


 
......................
 
 
 
       เวลาผ่านไปไวปานสายฟ้าฟาด เผลอแป๊ปเดียว ท็อปก็ผ่านการทดลองงานแล้ว ฆีนจึงถือโอกาสอันดีพาเด็กหนุ่มมาฉลองกันสองคนไกลถึงจังหวัดภูเก็ต
 

      ใช้ระยะเวลาชั่วโมงกว่าๆ ทั้งสองก็ถึงสนามบินนานาชาติ ภูเก็ตเป็นที่เรียบร้อย ไม่นาน รถของทางโรงแรมก็มารับ

 
       เมื่อทั้งสองทำการเช็คอินเสร็จ ฆีนและท็อปก็เดินตามพนักงานมายังห้องที่ฆีนจับจองไว้
 

        ท็อปตาโต สองมือทิ้งกระเป๋าเดินทางทันที เด็กหนุ่มวิ่งไปเกาะประตูกระจกใส เมื่อได้เห็นห้องพักงดงามไร้ที่ติ ห้องพักประเภทพูลวิลลาที่ตกแต่งแบบร่วมสมัย เน้นโทนสีขาวและวัสดุไม้เป็นหลักให้อิงกับความเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่เพียงเปิดประตูกระจกใสก็ลงไปแหวกว่ายน้ำสีเทอร์คอยซ์ได้ทันที


        พิเศษไปกว่านั้น ตัวห้องยังหันหน้าออกสู่ทะเล สามารถชื่นชมทัศนียภาพของธรรมชาติแบบพาโนรามา

        นี่มันสวรรค์บนดินชัดๆ...

 
        แม้จะเดินทางจากสนามบินนานาชาติ ภูเก็ตถึงที่พักไกลกว่าสี่สิบกิโลเมตร แต่เจอภาพตรงหน้า ท็อปยอมรับว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
 
        ท็อปหันหลังไปกระโจนกอดพี่ฆีนทันที ดีที่ฆีนเกร็งเท้าไว้ไม่อย่างนั้นได้หงายหลังกันทั้งคู่

         จู่ๆ ท็อปรั้งคอพี่ฆีนเพื่อมาประกบจูบกัน ไม่นาน ท็อปผละออก
 

"สำหรับคำขอบคุณนะพี่ฆีน กูชอบมากๆเลย"
 
"ดีใจที่ชอบ"

"แต่ห้องวิวแบบนี้มันต้องแพงมากแน่ๆ แค่ห้องพักธรรมดากูก็ดีใจจะแย่แล้ว"



"ไม่ต้องสนที่ราคา สนแค่ว่า ท็อปมีความสุขก็พอแล้ว..."

 

        ท็อปพยักหน้าหงึกหงักและโอบกอดพี่ฆีนแนบแน่นอีกครั้ง

"พี่ฆีน เรามาที่นี่กันอีกนะ"

"เดี๋ยวนะ เพิ่งมาถึงได้ไม่เท่าไหร่ นี่...คิดไปถึงอนาคตแล้วหรือ?"


"ก็มันสวยมากๆจนอยากมาอีกนี่นา ไม่เป็นไร รอบต่อไปกูเลี้ยงพี่ฆีนเอง"

"ฮ่าๆ แน่ใจ? ค่าห้องคืนเดียว ก็เงินเดือนท็อปทั้งเดือนแล้วนะ"

"ห้ะ...จริงหรอ คิดว่าแพงแต่ไม่คิดว่ามันจะแพงเท่ากับเงินเดือนกูนี่ พี่ฆีนน่ะ ทำให้กูรู้สึกผิดนะ ทีหลังเลือกห้องพักแบบถูกๆเถอะนะ"


       ฆีนหัวเราะกับสีหน้าท่าทางของเด็กหนุ่มที่ดูเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะฟัดแก้มขาวอย่างมันเขี้ยวอยู่หลายที

 
      และเพราะการเดินทางมาถึงวันแรกก็ล่อไปสี่โมงกว่าแล้ว ทั้งสองเลยตัดสินใจค่อยเล่นน้ำทะเลพรุ่งนี้ ส่วนวันนี้ ก็รับประทานอาหารมื้อเย็นและลงเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำส่วนตัวก็พอ

   
      ดูเหมือนว่า ท็อปยังชื่นชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ได้ไม่เท่าไหร่ คนพี่ก็เล่นจัดความหวานกับกิจกรรมแห่งรักไปหนึ่งรอบ จากนั้น ทั้งสองถึงอาบน้ำเพื่อลงไปรับประทานอาหารเย็นกัน


       จนกระทั่ง จัดการอาหารเสร็จ ทั้งสองเข้ามาในห้อง ฆีนก็ลงไปเล่นน้ำก่อน เพราะท็อปนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บอกเดี๋ยวตามลงไป

        ไม่นาน ท็อปเดินต้านแรงเสียดทานของน้ำไปหาพี่ฆีน แล้วจุ๊บริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะวางใบหน้าซบลงบนบ่าคนพี่
 
"พี่ฆีนกอดกูหน่อยสิ"

 
       ฆีนหัวเราะเบาๆ แต่ก็โอบกอดกระชับนั้นแน่น

       ฟากท็อปกอดตอบเช่นกัน ตอนนี้ ท็อปติดความอบอุ่นจากพี่ฆีนไปแล้ว
 

"แปลกจัง วันนี้ทั้งวัน ทำตัวอ้อนพี่ตลอดเลย มีอะไรหรือเปล่า?"


 
       ท็อปส่ายหน้ารัว ไม่ตอบคำ
 
      จากนั้นความเงียบก็เกิดขึ้นมา ฆีนเลยยืนเป็นเสาให้ท็อปได้ยืนพิงกายอยู่อย่างนั้น
 

       จู่ๆ หยาดน้ำใสก็ไหลออกจากตาอย่างห้ามไม่ได้ เด็กหนุ่มรีบถอยกายออกแล้ววักน้ำขึ้นมาสาดใส่หน้าของตัวเองอย่างกลัวพี่ฆีนจะจับได้

      เมื่อใบหน้าเปียกชุ่มด้วยน้ำ ท็อปก็ดึงพี่ฆีนไปยืนริมสระว่ายน้ำด้วยกัน


"พี่ฆีนอึดอัดไหม? ที่เราต้องคบกันแบบลับๆ"

 
"ก็ไม่นะ ถ้าต่างฝ่ายต่างมีความสุขก็พอแล้ว"
 


"พี่ฆีนรู้ไหม? พี่เป็นผู้ชายคนแรกที่เป็นแฟนกูและจะเป็นคนสุดท้าย"
 
"พูดอะไร คิดให้ดีก่อน เกิดผิดคำพูดขึ้นมา แย่นะ"
 
"กูพูดจริง กูไม่เคยเจอใครดีเหมือนพี่เลย ทั้งๆที่กูแย่ กูเลว ใจร้ายแค่ไหน พี่ฆีนไม่เคยโกรธกันและยังดีมาตลอด กูโชคดีจริงๆนะที่มีคนอย่างพี่ฆีนมารัก"
 

      จากที่พร่ำบอกกับตัวเองว่าอย่าหวั่นไหวอะไรง่ายๆ และอย่าร้องไห้ แต่เหมือนจะไม่ช่วยอะไร เพราะท็อปเกิดบ่อน้ำตาแตกจนได้ เพียงเอื้อนเอ่ยความรู้สึกในจิตใจ

 
"ท็อปร้องไห้ทำไม"

       ท็อปไม่ตอบคำถามพี่ฆีน แต่กลับระบายความรู้สึกต่อ

 
"พี่ฆีนรู้ไหม? ชีวิตกูคงแย่กว่านี้และคงไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ถ้าไม่มาเจอพี่" ท็อปเงยหน้าสบตาพี่ฆีนและจุ๊บริมฝีปากพี่ฆีนแผ่วเบา แล้วว่าต่อ

 
"ไม่เคยมีใครรักกูเท่านี้มาก่อน มีพี่ฆีนคนเดียว...'คนเดียวจริงๆ'...ที่คอยห่วงใยและอยู่ดูแลกันแบบนี้ ขอบคุณนะพี่ฆีน ที่อดทนเพื่อกูมาโดยตลอด"

 
      ฆีนกระชับกอดแน่นกว่าเดิม ทำไม อยู่ดีๆ ท็อปก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ? แถมทำหน้าจริงจัง ไหนจะยังร้องไห้อีก...

     ฆีนไม่อยากให้เด็กหนุ่มดราม่าไปกันใหญ่ เขาจูบข้างขมับท็อป ก่อนถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

 
"นึกยังไงมาพูดซึ้ง ฮึ?"
 
"ก็ที่ผ่านมา รู้ตัวเองว่าไม่ดีไงเลยอยากบอกความรู้สึกในใจให้พี่ฆีนได้รู้สึกดีบ้าง"

 
"ขอบคุณนะท็อป พี่ดีใจนะที่ท็อปมองเห็นสิ่งที่พี่ทำลงไปบ้าง"
 
"ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่พี่ฆีนเลือกรักกู และตามที่พี่ฆีนให้สัญญา ห้ามทิ้งกันไปไหนนะ"



        ฆีนหลุดหัวเราะ จากนั้น ท็อปไม่รีรอแกล้งสาดน้ำใส่พี่ฆีน จนเกิดสงครามขนาดย่อม ทั้งสองเล่นน้ำกันอีกสักพัก ก่อนจะเข้าห้องมาอาบน้ำ อาบท่า

        ฟากฆีนที่อาบน้ำเสร็จทีหลัง เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นท็อปนอนเล่นโทรศัพท์แล้วอมยิ้ม

 
"ดึกแล้ว คุยกับใครน่ะท็อป เพื่อนหรือ?" ท็อปสะดุ้งเฮือก ก่อนจะยัดโทรศัพท์ไว้ใต้หมอน หันไปมองพี่ฆีนที่ปีนขึ้นเตียง ทิ้งตัวลงนอนข้างๆกัน
 

"พี่ฆีนมาไม่ให้สุ้มให้เสียง ตกใจหมดเลย...อะ...อืม...เพื่อนครับ"

"อ้าว...แล้วคุยเสร็จแล้วหรือ?"
 
"อื้ม..."


 
       จู่ๆ ท็อปก็เลื่อนใบหน้ามาคลอเคลียที่ซอกคอของฆีน จนคนพี่แอบยีผมเด็กหนุ่มด้วยความหมั่นไส้ที่ชอบยั่วให้ของขึ้นตลอด


"พี่ฆีน ง่วงรึยัง?"
 
"ก็นิดๆนะ ทำไมจะชวนดูหนังหรือครับ"


 
       ฆีนมองหน้าเด็กหนุ่มที่ห่างกันไม่ถึงคืบ แถมส่งสายตาออดอ้อน
 
"เปล่า จะชวนทำอย่างอื่น"
 
"หืม? ไหวหรือเรา? ตอนเย็นก็รอบหนึ่งแล้วนะ"

 
"ไหวสิ ก็พี่ฆีนบอกกูเองนี่ ว่าเราเหมาะกัน..."
 
"ฮ่าๆ ก็ได้ๆ...อันที่จริง พี่ก็ไม่ค่อยอยากทำนะ แต่เห็นท็อปขอร้องหรอก"


"หึๆ...ไม่ค่อยอยากเลยนะครับ พี่ฆีน"
 

       ดูคนว่าไม่อยากสิ...พูดยังไม่ทันขาดคำ พี่ฆีนก็มือเป็นปลาหมึก อยู่ไม่สุข แถมริมฝีปากได้รูปก็จูบ ไซ้ ไล่ เล้าโลม เลียไปทั่ว จนท็อปเก็บคำด่าไว้ในใจแล้วปล่อยเลยตามเลย...วินาทีนี้...
 



.....................................


ตอนนี้ยาวมากอะ จะตัดก็ไม่ได้ เพราะชื่อเรื่องดันอยู่ช่วงสุดท้ายอีก โธ่!! ฮ่าๆๆ
.
.
.
เพิ่งรู้ก็ตอนมาเขียนบทที่สิบกว่า ว่ามีคนไม่ชอบนายเอกเยอะมาก
ฮือๆๆ ...ปาดน้ำตาแพพ
(**ความรู้สึกช้าไปไหมคะ คุ๊ณนนนนน** 555)
เอาจริงๆนะ รู้สึกไม่กล้าเขียนต่อเลยง่า....TT

น้องเขาน่าสงสารนะคะ
ในยุคก่อนที่สังคมไม่ได้เปิดกว้างเหมือนสมัยนี้
คนมีเบื้องหลังเลวร้ายทางจิตใจที่ต้องพบเจอในอายุที่ด้อยประสบการณ์
 มันก็เลยส่งผลต่อการกระทำที่ดูไม่เข้าท่าไปสักหน่อย
ถ้าตอนเด็กท็อปฉลาดกว่านี้ ก็คงแสดงออกอีกอย่างแหละ

ไม่เป็นไรค่ะ คนอ่านมีสิทธิ์จะเกลียดได้
แต่ก็ขอพื้นที่นิดหน่อยให้ความรักท็อปด้วยนะคะ Jub Jub...
แต่ใครที่ยังไม่เกลียดท็อป เราต้องขอบคุณจริงๆที่ให้โอกาสกัน
และให้น้องได้มีพื้นที่ยืนในสังคม
 5555555
 ^_^
 
***และจากใจ ขอบคุณทุกคนอ่านและทุกคนเมนท์ที่เป็นขาประจำมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง และเพิ่งมาใหม่ มันคือกำลังใจของคนเขียนจริงๆนะ (จุ๊บหนึ่งที) ***

เจอกัน
ขอบคุณจ้า...


หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14.2} UPDATE [ 10 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-04-2017 20:21:17
ท็อปอย่าคิดมากเรื่องพี่ธัญ บอกพีาฆีนเลยจะได้เดินข้ามได้ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14.2} UPDATE [ 10 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 10-04-2017 21:31:55
จะเริ่มดราม่า  แล้วรึป่าวเนี่ย   รู้สึกกังวลเล็กๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14.2} UPDATE [ 10 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-04-2017 23:29:05
เหมือนจะดราม่าเลยนะครับ,,,,
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14.2} UPDATE [ 10 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-04-2017 01:38:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 14.2} UPDATE [ 10 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-04-2017 16:04:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 15} UPDATE [ 12 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 12-04-2017 21:49:34
ตอนที่ 15 แฟนเก่า

 

        เวลาหัวค่ำ ภายในห้องนอนของฆิตกำลังทวีความร้อนระอุพุงสู่งขึ้นเรื่อยๆ
 
 
         ตอนนี้ ฆิตและกราฟกำลังนัวเนียและจูบกันดูดดื่ม  สาเหตุที่ทั้งสองมาจูบกันได้ ก็เพราะเรื่องของเรื่อง คือ ฆิตตั้งใจไปรับคนรักที่ออฟฟิศมากินข้าวเย็นด้วยกัน แต่กราฟบอกว่ารออยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ฆิตจึงไปหา แต่ใครจะเชื่อล่ะว่า เขาจะต้องมาเห็นภาพบาดตา คือ ผู้หญิงที่เคยเจอเดินกับกราฟที่ห้างสรรพสินค้ากำลังลูบหน้า ลูบตากราฟอยู่
 
 
          จากที่ต้องการไปด้วยความเป็นมิตร ฆิตพุ่งกระชากแขนกราฟให้แยกออกจากกับผู้หญิงคนนั้น ปล่อยให้กราฟเดินตามไปที่รถอย่างงงๆ จนกระทั่ง ทั้งสองสอดตัวเข้ามาในรถได้ ฆิตไม่พูดอะไรสักคำ ทำให้กราฟพอจะรู้แล้วว่าพี่ฆิตเป็นอะไร กราฟจึงบอกพี่ฆิตว่า ให้หาซื้ออะไรง่ายๆไปกินที่ห้องพี่ฆิตแทน

 
         และเมื่อถึงที่หมาย คนพี่ได้แต่พูดลอยๆว่าจะเข้าไปพักในห้องนอน กราฟรู้ดีว่าพี่ฆิตคงยังไม่หายงอนแน่ๆ เด็กหนุ่มรีบวางของที่ซื้อมาไว้ที่โต๊ะกลาง และเดินเข้าไปถามแฟนตัวเองว่าเป็นอะไร  สุดท้าย ฆิตยอมตอบออกมาตรงๆว่าไม่พอใจที่เห็นผู้หญิงถึงเนื้อถึงตัวกับกราฟแบบนั้น

        กราฟยิ้มมุมปาก และตัดสินใจเคลื่อนริมฝีปากของตนเองไปประกบจูบเพื่อง้อและเอาใจ

       แต่กราฟก็ไม่คิดหรอกนะว่าพอจูบปุ๊ป คนที่งอนอยู่จะหายปั๊ป และตอบรับจูบทันควันแบบนั้น

        ทั้งสองยังคงแลกจูบกันอย่างเร่าร้อน เด็กหนุ่มถอนริมฝีปากออกก่อน เพราะเขาอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง กราฟกลัวว่า ถ้าอารมณ์พาไปแบบนี้ พี่ฆิตคงต้องเตลิดมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแน่ๆ และกราฟยังไม่รู้เลยว่าตัวเองควรอยู่ในสถานะไหน เด็กหนุ่มจึงรีบยื่นข้อเสนอ


"พี่ฆิต วันนี้ ผมขอช่วยพี่นะ"
 
        ฆิตชะงัก
 
"มึงไม่พร้อม?"

        นั่นไง...กราฟว่าแล้วไม่มีผิด พี่ฆิตคิดจะทำมากกว่านั้นจริงๆด้วย
 
"ครับ"
 
       ฆิตหน้านิ่งจนน่ากลัว กราฟคิดว่าพี่ฆิตคงต้องโกรธแน่ๆ แต่ไม่น่าเชื่อ...

"อืม ไม่เป็นไร"

 
       กราฟยิ้มอย่างรู้สึกดีที่พี่คิดให้ความสำคัญต่อความรู้สึกของกันและกัน จากนั้น กราฟรั้งคอพี่ฆิตมาจูบต่อ และเป็นกราฟเองที่ใช้มือว่างจัดการปลดกระดุม รูดซิปกางเกงยีนส์อีกฝ่าย ถอดร่นลงไปกองกับพื้น

       มือเด็กหนุ่มลูบไล้แก่นกายพี่ฆิตตามแนวยาว ก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกี่ยวอันเดอร์แวร์สีขาวที่ปกปิดของสำคัญอยู่ดึงออกให้พ้นตา

       ฆิตหลุดเสียงครางต่ำในลำคอ เมื่อมือแฟนตัวเองคว้าหมับยังแก่นกายของเขาที่ขยายขนาดใหญ่โต กราฟกำลูกชายของฆิตจนรอบ ขยับมือขึ้นลงช้าๆ ปลุกเร้าอย่างเนิบนาบ หากแต่เร้าอารมณ์อยู่ไม่น้อย   
 
        กราฟดันให้พี่ฆิตนั่งลงบนเตียง ก่อนที่ตัวเองจะถอยตัวลงไปนั่งข้างล่างที่ปลายเตียง ดวงตากราฟจ้องนิ่งที่ลูกชายของพี่ฆิตคล้ายลังเลใจอะไรบางอย่าง
 
        ทันใดนั้นเอง...
 
"เฮ้ย!...กราฟ" ฆิตตกใจเพราะไม่คิดว่ากราฟจะยอมใช้ปากให้
 
         วินาทีนั้น กราฟส่งปลายลิ้นโลมเลียที่ส่วนปลายเบาๆ ทำให้คนมองแทบดิ้นพล่าน

         ฆิตวางแขนเท้าศอกบนเตียงในสภาพกึ่งนั่ง กึ่งนอนมองคนที่ใช้ปลายลิ้นเลียขึ้นลงบนแท่งร้อนอย่างเงอะๆงะๆ แต่ก็ดูไม่ได้รังเกียจกับสิ่งที่ปฏิบัติอยู่แต่อย่างใด
 
         ความไม่เป็นงานของกราฟนี่แหละที่ทำให้เขากลับรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมาเสียได้


“อืม...อาห์...” ฆิตขบกรามแน่น เมื่อปากของเด็กหนุ่มยังคงทำหน้าที่ดูดดึงแก่นกายดั่งกินไอศกรีมแสนอร่อย มือที่ว่างก็กำลังหมุนคลึงก้อนกลมมหัศจรรย์ไปด้วย 
 
         ฆิตไม่ละสายตากับการได้นั่งมองริมฝีปากอุ่นของเด็กหนุ่มที่ครอบแก่นกายใหญ่ ขยับขึ้นลงช้าๆ มีบางจังหวะที่ปลายลิ้นไล่เลียส่วนอ่อนไหว มิวายช้อนตามองคนพี่จนฆิตเผลอสูดปากเป็นระยะๆ

         กราฟจะรู้ไหมว่าสายตาและท่าทางเหล่านั้นโคตรยั่วกันชัดๆ
 
         ฆิตไม่ไหวแล้วจนต้องหลุดร้องเสียงกระเส่า...เมื่อเด็กหนุ่มดูจะสนุกกับของใหม่และเรียนรู้งานได้อย่างรวดเร็ว เมื่อรู้ว่าจุดไหนที่ยิ่งขยี้ เขายิ่งเสียวกระสัน กราฟจะทำอยู่อย่างนั้น

          เด็กหนุ่มเร่งความเร็วขึ้น จนฆิตเผลอใช้มือจับท้ายทอยกราฟกดให้เข้ามาลึกขึ้นและเด้งสะโพกสอบดันแก่นกายให้เข้าไปในโพรงปากเด็กหนุ่มจนสุด จนน้ำลายไหลเลอะเปรอะปลายคางของเด็กหนุ่ม คนที่อยู่ในมุมที่เห็นทุกอย่างถึงกับสูดลมหายใจลึกๆ หอบหายใจหนักๆ

        กราฟแม่งโคตรน่าฟัดเลย...ให้ตายเถอะ!

       และเพราะเพียงเห็นแฟนตัวเองทำหน้าทำตาสุดแสนยวนเย้า ไหนจะความรู้สึกที่ใกล้ถึงฝั่งฝัน ฆิตขยับสะโพกรัว ไม่นานเลยที่จะ...

 
“แค่กๆๆ...ไอ้พี่ฆิต! ใกล้จะเสร็จ ทำไมไม่บอกกันก่อนวะ”

 
       ฆิตมองหน้ากราฟที่ใช้หลังมือเช็ดน้ำคาวขุ่นที่ขอบปาก ฆิตรู้สึกผิดเล็กน้อย ก็จังหวะที่เขากดศรีษะเด็กหนุ่มเข้ามายอมรับว่ามันเสียวซ่าน จนกลั้นไม่ไหว
 
        ฆิตโน้มตัวลงและดึงคอคนที่บ่นโวยวายให้ก้มลงมาประกบปากกัน ฆิตจัดการกวาดต้อนน้ำรักตัวเองที่เหลืออยู่ในโพรงปากของเด็กหนุ่ม ตามด้วยปลายลิ้นร้อนผ่าวที่ตวัดเกี่ยวเข้าหากันเพื่อหยุดเสียงด่าทอไว้

      ไม่นาน ฆิตผละออกแล้วใช้นิ้วโป้งลูบวนเช็ดขอบปากกราฟอีกครั้ง


"พี่ฆิตขอโทษนะ"


        และดูเข้าสิ คนเป็นพี่ทำมาส่งสายตาออดอ้อน แถมทำเสียงเล็ก เสียงน้อย อย่างนี้ ใครจะกล้าโกรธลงได้

       กราฟเลยพยักหน้าเออออกลับไป
 
       พอกราฟจะลุกไปห้องน้ำ ก็โดนคนพี่รั้งร่างจนล้มบนเตียง เพราะคราวนี้ก็ถึงตาของฆิตที่จะสร้างความสุขให้กราฟบ้าง เพียงแค่เห็นพี่ฆิตทำท่า ทำทางเหมือนจะใช้ปากให้ กราฟรีบปฏิเสธทันที
 
      แต่ฆิตเห็นว่ากราฟยังทำให้เขาได้เลย ทำไมฆิตจะทำให้ไม่ได้ ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะใช้ปากและทำให้กราฟขึ้นสวรรค์ได้ในเวลาไม่นาน
 
     จากความไม่พอใจถูกแทนที่ด้วยความรักที่ทั้งสองมอบให้กันและกัน เมื่อพี่ฆิตหายเคืองเรื่องตอนเย็นแล้ว กราฟก็ชวนพี่ฆิตไปนั่งกินข้าวที่ซื้อมาอย่างอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม
 





.................
 
 
      วันรุ่งขึ้น

       หลังจากที่เคลียร์ปัญหากันได้ เมื่อคืนกราฟจึงนอนค้างห้องพี่ฆิตไปเลย เพราะวันนี้ พี่ฆิตมีถ่ายงาน เขาจึงอยากมาดูแฟนตัวเองทำงานบ้าง 

       จนกระทั่ง ฆิตและกราฟมาถึง เด็กหนุ่มเดินตามเข้าไปในห้องสีขาวขนาดกลางที่เต็มไปด้วยเครื่องมือจัดฉาก และอุปกรณ์เกี่ยวกับถ่ายภาพมากมาย

       ในขณะที่ทั้งสองนั่งรอลูกค้า ฆิตบอกในส่วนของงานวันนี้ที่รู้มาคร่าวๆว่าเป็นการถ่ายภาพเครื่องดื่มผลไม้สูตรสกัดเย็น ระหว่างนั้น กราฟก็ถามถึงเทคนิคถ่ายภาพอย่างสนใจด้วย ไม่นาน ลูกค้าที่นำสินค้ามาถ่ายภาพก็เดินทางมาถึง

      แต่ฆิตไม่รู้เลยว่าหนึ่งในคนที่มากับลูกค้าจะเป็นคนใกล้ตัวแบบนี้

       ฆิตยืนอึ้งเหมือนรูปปั้นก่อนจะก้าวไปหา
 
"พีท"
 
"พี่ฆิต สวัสดีครับ"
  พีททักทายฆิตทันที ก่อนจะแนะนำว่าคนที่เป็นเจ้าของสินค้า เป็นพี่ของรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยที่พีทแนะนำมา ซึ่งพีทนั้นจะมาเป็นแบบถ่ายให้ด้วย
 
      จากนั้น เจ้าของสินค้าก็มาบอกคอนเซปท์กับฆิตว่า ต้องการแบบไหนบ้าง ซึ่งมีทั้งหมดสี่ช็อตด้วยกัน คือ ถ่ายภาพนิ่งสินค้ารวมทุกรายการ ถ่ายแยกแต่ละประเภท ถ่ายคู่กับนายแบบ และช็อตสุดท้าย ถ่ายตอนนายแบบเปิดขวดยกดื่ม

       เมื่อทั้งสองมีความเข้าใจตรงกันแล้ว ฆิตเริ่มถ่ายประเภทน้ำผลไม้อย่างเดียวก่อน

       ฆิตเดินไปกำชับบอกผู้ช่วยทั้งสองคน ถึงทิศทางในการจัดแสงไฟต่างๆ เมื่อเรียบร้อย ฆิตไปหาแฟนที่นั่งพิงผนังอย่างเงียบๆ
 
"กูขอโทษนะ กูไม่รู้จริงๆว่ะ ว่างานนี้จะเจอพีท"
 
"ไม่เป็นไรครับพี่ ถ้าพี่ฆิตได้เงินผมไม่ซีเรียสหรอก"


        ฆิตยิ้มกว้าง ยกสองมือขยี้ผมเด็กหนุ่มอย่างเอ็นดู


"อยากกินอะไรบอก เดี๋ยววันนี้พาไปเลี้ยงเต็มที่เลย"

"พี่ฆิต ผมไม่ได้เห็นแก่กินนะเว้ย แต่ได้ทุกอย่างเลยหรือเปล่า?"


"ฮ่าๆ ได้ทุกอย่างจริงๆ แต่รอกูแปปนึงนะ กราฟ"
 
"ได้ครับพี่"
กราฟยิ้มหวานใส่


        ใช้เวลาจัดแสง ดูมุมและองค์ประกอบภาพถ่ายครบถ้วนแล้ว ฆิตก็เริ่มถ่าย โดยมีเจ้าของสินค้ายืนคุมงานอยู่ข้างๆ ส่วนพีทที่ยังไม่มีอะไรให้ทำ กลับเดินก้าวท้าวยาวๆมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆกราฟ


"สวัสดีครับ"

       กราฟพยักหน้า


"พี่เป็นเพื่อนพี่ฆิตหรือครับ? พีทเห็นวันนั้นหนหนึ่งแล้ว" พีทถามเพื่อความแน่ใจ ฟากกราฟจ้องหน้าพีทก่อนยิ้มกลับไป


"ก็เป็นทุกอย่างนะ ทั้งเพื่อน น้องและก็เป็นคนรัก"

       พีทชะงักงันทันที สีหน้าไม่พอใจในตอนแรกถูกกลบด้วยรอยยิ้มการค้า


"อย่างนี้ พี่ก็คงรู้ล่ะสิครับ ว่าพีทเป็นแฟนเก่าพี่ฆิต"

"อืม! ก็รู้นะ ทำไมเหรอ?"
กราฟหันไปมองนิ่ง

"เปล่าน่ะครับ แค่ไม่ยักกะรู้ว่า พี่ฆิตเปลี่ยนแนวแล้ว"

"พูดแบบนี้ ต้องการอะไรเหรอ?"
กราฟถามเสียงเข้ม และไม่แน่ใจว่า การเป็นแฟนเก่าที่ดีเขาไม่ควรมาก้าวก่ายแฟนใหม่แบบนี้หรือเปล่า?


       ฟากพีทจ้องหน้ากลับด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก แต่จู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ของพีทแทรกขึ้น

"พีทขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ!"


      กราฟพ่นลมหายใจออกมา ทำไม ถึงต้องมีเรื่องให้กราฟไม่สบายใจด้วยวะ
 
      สองชั่วโมงผ่านไป ที่กราฟเห็นว่าพี่ฆิตเพิ่งถ่ายเสร็จไปสองช็อต และเป็นจังหวะที่พี่ฆิตแยกตัวออกจากลูกค้าพอดี กราฟจึงลุกขึ้นไปหา


"พี่ฆิต หิวหรือเปล่า? ให้ผมไปซื้ออะไรให้ไหมพี่"
 
"ไม่ต้องหรอก กูทนได้"


"พี่ควรกินอะไรรองท้องสักหน่อยก็ดีนะ ที่เราขับรถผ่านกันมา ร้านสะดวกซื้อมันก็ไม่ไกลนัก"
 
"ดีใจว่ะ"


"ดีใจอะไรวะพี่"
กราฟเอียงคอถามอย่างงงๆ

"ได้แฟนดี"
ฆิตตอบ ฟากกราฟยิ้มเขิน
 
"พูดโอเวอร์ว่ะ ถ้างั้นผมออกไปซื้อแล้วกัน จะได้ซื้อเผื่อคนอื่นด้วย" กราฟบอก


        จู่ๆ ฆิตกอดคอกราฟและยื่นหน้าไปใกล้ๆอีกฝ่าย

"นอกจากกูได้แฟนดี กูยังได้แฟนเป็นพ่อพระอีก...โอ้ย!..อย่างนี้ กูจะหนีไปไหนได้วะ..." ได้ยินดังนั้น กราฟหัวเราะร่วน ก่อนจะแกะแขนพี่ฆิตที่เกาะเขาออก


        ในขณะที่ทั้งสองหวานใส่กัน หารู้ไม่ว่า มีอีกคนกำลังยืนมองตาร้อนเป็นไฟ


        หลังจากที่กราฟหายไปซื้อของ เจ้าของสินค้าก็มีงานด่วนกระทันหัน แต่เพราะได้ดูฆิตถ่ายสินค้าโดยรวมแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ จึงไว้ใจฆิตให้ลุยงานต่อ พร้อมยื่นแฟ้มที่มีตัวอย่างรูปภาพที่ต้องการไว้ด้วย


        เมื่อเจ้าของสินค้าร่ำลาไปแล้ว ตอนนี้ ภายในห้องสตูดิโอ จึงเหลือเพียงแค่ผู้ช่วยสองคน ฆิตและก็พีท


        ผ่านไปสักพัก เป็นจังหวะที่ผู้ช่วยสองคนขอตัวออกไปสูบบุหรี่ ฆิตตั้งใจจะออกไปด้วย เพราะไม่อยากอยู่กับพีทสองต่อสอง

        ทันใดนั้นเอง

"เฮ้ย!"


       ฆิตหันตามเสียงอุทานก็เห็นน้ำผลไม้หกใส่เสื้อพีทกินบริเวณเป็นวงกว้าง

"พีท ทำอะไรน่ะ"

"พีทจะลองชิมน้ำผลไม้นะครับ แต่ไม่คิดว่าจะหกน่ะสิ พี่ฆิตห้องน้ำไปทางไหนครับ"



       ฆิตชี้นิ้วบอกทางเสร็จสรรพ พอเขาถอยห่างออกไป ด้านพีทรั้งชายเสื้อฆิตไว้


"พี่ฆิต พาพีทไปหน่อยได้ไหมครับ?"


      ฆิตถอนหายใจยาว แต่ก็ยอมพาไปด้วยความเกรงใจ


      เมื่อถึงห้องน้ำ ฆิตยืนมองพีทล้างเสื้ออยู่ห่างๆ จนกระทั่ง พีททำความสะอาดเรียบร้อย ฆิตกำลังจะอ้าปากบอกว่าไปก่อน แต่ไม่ทันที่เด็กหนุ่มเดินเข้ามาสวมกอดฆิตทันที


"คิดถึงพี่ฆิตจัง"
 
"พีท ปล่อย! พี่ไม่ชอบ"
 
"ไม่คิดถึงอ้อมกอดนี้แล้วหรอ?"
พีทถามในขณะที่ยังกอดพี่ฆิตแน่น
 

"เวลานี้ คนที่พีทควรพูดถึง คือ ไอ้โบ๊ตไม่ใช่พี่"
 

     ชื่อที่ฆิตพูดถึงก็คือ เพื่อนสนิทที่ตอนนี้ ตัดขาดกันแล้ว


     พีทสะอึก ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มและว่าต่อ
 
"พีทเลิกกับพี่โบ๊ตนานแล้วครับ พีทอยากกลับไปคบกับพี่ฆิตจัง พีทคิดถึงวันก่อนๆ"

"หยุดพูด แล้วปล่อยพี่สักที"


      ตอนนี้ พีทผละออกจากอ้อมกอดพี่ฆิตเปลี่ยนมายืนมองหน้าอดีตคนรักและว่าต่อ


"คนที่มาด้วยเป็นแฟนพี่ฆิตหรอ? น่าแปลกนะครับ พี่ฆิตไม่เคยชอบสเปกแบบนี้นี่นา แต่ก่อน ตอนคบกับพีท ชอบย้ำนัก ย้ำหนาว่าดีใจได้เจอพีท เพราะตรงสเปก ตัวเล็ก ปากแดง เอ้ะ!..หรือว่าคนนี้ไม่ใช่ตัวจริง แค่คบเล่นๆไม่นานก็เลิกใช่ไหมครับ"



       ฆิตกระชากคอเสื้อพีท จ้องมองด้วยดวงตาวาวโรจน์  ทั้งยังขึ้น มึงขึ้นกูด้วยความโมโหสุดๆ

"ไอ้พีท! มึงไม่ควรพาดพิงถึงกราฟแบบนั้น และกูไม่มีวันเ..ลิ.."



      แต่ในขณะนั้นเอง
 
"อาหารมาแล้วนะครับ พี่ฆิต"


       กราฟที่เข้ามาสตูดิโอไม่เจอใคร จึงลองเดินตามหาพี่ฆิตเพื่อบอกว่าอาหารมาแล้วเนื่องจากอาหารที่อุ่นมายังร้อนอยู่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะได้ยินและได้เห็นภาพบาดตาทุกอย่าง

       ฆิตหันขวับ
 
"กะ...กราฟ"


       ฆิตภาวนาให้กราฟไม่ได้ยิน แต่ไม่น่าจะเป็นดั่งหวัง เพราะสายตาหม่นลงของกราฟมันทำให้ฆิตรู้ว่าแฟนเขาคงได้ยินหมดแล้ว

 
"อย่ามายุ่งกับกูอีก นะพีท" ฆิตชี้หน้าพีท แล้วเดินออกไปตามกราฟอย่างหัวเสีย


"พีทไม่รับปากนะครับ" พีทตะโกนทิ้งท้าย


      เมื่อถึงภายในห้องสตูดิโอ กราฟที่เดินแจกจ่ายของที่ซื้อมากับพวกผู้ช่วยอยู่นั้น ฆิต ดึงแขนกราฟให้ออกมาคุยกันก่อน เพราะเวลานี้ ฆิตเป็นห่วงความรู้สึกแฟนตัวเองสุดๆ

   
"กราฟ มึงไม่คิดมากใช่ไหม? กับคำพูดของพี..."
 
"พี่ฆิตทำงานเถอะ เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว เดี๋ยวเราค่อยคุยตอนกลับบ้านก็ได้"

 
"แต่กูไม่สบายใจว่ะ กูคงไม่มีอารมณ์ทำงานแน่ๆ ถ้าเห็นมึงเป็นแบบนี้"


     กราฟยิ้ม และดึงสองมือพี่ฆิตมากุมไว้


"ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆพี่ฆิต ถ้าพี่หายเครียด ตอนอยู่บนเตียงผมจะยอมให้พี่กดผมก็ได้"  กราฟแกล้งแซวหวังให้คนพี่มีสีหน้าที่ดีขึ้น และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ พี่ฆิตกลั้วหัวเราะเริงร่า

      ในขณะนั้น ฆิตเหลือบเห็นพีทที่เพิ่งเดินเข้ามามองมาทางนี้พอดี เขายกมือเกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าและลูบผมกราฟแสดงความรักอย่างตั้งใจให้พีทรู้ว่าถ้าคิดจะมาแทรกกลางระหว่างเขาและกราฟ บอกเลยว่าไม่มีทาง!
 

"ขอบคุณนะ กราฟ"


     จากนั้น ฆิตรีบกลับไปตั้งใจทำงานเป็นพิเศษ เพื่อจะได้เสร็จเร็วๆ ส่วนช็อตที่ต้องมีพีทเป็นนายแบบถือสินค้า ฆิตเลือกที่จะใช้ผู้ช่วยกำกับท่าทางให้แทน เพราะเขาพยายามทิ้งระยะห่างจากพีทไว้จะดีที่สุด

 
     ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆก็เป็นอันเสร็จสิ้นครบถ้วนกระบวนการ พวกผู้ช่วยช่างภาพเก็บอุปกรณ์เสร็จก็ขอตัวกลับ ในขณะที่พีทเองก็ร่ำลากลับบ้าน ซึ่งกราฟเห็นพี่ฆิตยืนมองพีทตาขวางจึงไล่ให้พี่ฆิตไปส่ง เพราะไม่อยากให้พี่ฆิตเสียมารยาท


     หลังจากที่ฆิตส่งพีทที่รถเสร็จ เขาไม่อยู่ให้เสียเวลา รีบกลับมาหากราฟทันที ทั้งๆที่รู้ว่าพีทกำลังจะพูดอะไรต่อ


     ในระหว่างที่เดินไปยังรถของฆิตนั้น เขาลอบมองแฟนตัวเองที่เดินเงียบๆมาตลอดทาง เมื่อกราฟกำลังยืนรอเพื่อเปิดประตูรถ ฆิตเข้าไปสวมกอดจากด้านหลังทันที

 
"กูแคร์ความรู้สึกมึงมากนะกราฟ ที่มึงเห็นน่ะมันมีเหตุจำเป็นที่กูต้องอยู่กับพีท กูไม่มีวันนอกใจมึงเด็ดขาด"


"ผมเชื่อ แต่ผมขอถามจริงๆนะ ผมไม่ใช่สเปกพี่ แล้วทำไมพี่ฆิตถึงคบกับผม"

 

"แต่ก่อนก็ไม่ได้คิดอะไร แค่มีสเปกไว้กำหนดลักษณะคนที่เราวาดฝันไว้ว่าอยากได้แบบไหน แต่พอมีประสบการณ์เรื่องรักมากขึ้น กูไม่ได้สนใจพวกนั้นแล้ว กูขอแค่อยู่ด้วยแล้วสบายใจก็พอ"
 

       ฆิตผละออกแล้วดึงไหล่กราฟให้หันมาหากัน

"กราฟกูจะบอกให้นะว่ามึงอาจไม่ใช่สเปกกู แต่มึงคือ ความสุขของกูนะ"
 

"ว่าจะงอนสักหน่อย พูดจาดีแบบนี้ ผมหายงอนแล้วครับ"


 
"มึงต้องเชื่อมั่นในตัวกูนะ กราฟ"
 
"ครับ ผมเชื่อมั่นในตัวพี่"



      จู่ๆ ฆิตโผกอดกราฟอีกครั้ง

"มึงรู้ไหม? กูจำสายตามึงตอนที่เห็นกูอยู่กับพีท กูบอกตรงๆนะ อยู่ดีๆ กูก็รู้สึกกลัวว่ามึงจะเลิกกับกูขึ้นมายังไงไม่รู้"

"ผมไม่เลิกหรอกครับ"



      กราฟตอบหนักแน่น ฟากฆิตกระชับกอดแน่นกว่าเดิม ก่อนจะคลายอ้อมกอดและแยกย้ายกันขึ้นรถ


     แน่นอนว่า...ชื่อมันก็ให้ความหมายตรงตัวอยู่แล้ว

     'แฟนเก่า' ก็คือ 'ของเก่า' นั่นก็หมายความว่า สิ่งๆนั้นได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว


     ในเมื่อการกระทำของพี่ฆิตก็บ่งบอกชัดเจนว่ากราฟสำคัญกว่า ดังนั้น กราฟจะไม่เอามาใส่ใจให้รกสมอง เพราะที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ กราฟโคตรมีความสุขเลย...


****1.1****

  :hao3: :hao3:

ขอบคุณจ้า

หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 15} UPDATE [ 12 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-04-2017 21:52:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 15} UPDATE [ 12 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 13-04-2017 01:13:56
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 15} UPDATE [ 12 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 13-04-2017 12:04:08
กราฟคิดถูกแล้ว พี่ฆิตชัดเจนมาก ถูกใจอ่ะ อิอิ เมื่อไรเขาจะ......คิกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 15} UPDATE [ 12 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-04-2017 13:30:49
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...ขอผมได้รัก...{ตอนที่ 15} UPDATE [ 12 เมย.60 ] >> P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 16-04-2017 01:09:04
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 15.2} UPDATE [15 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 16-04-2017 02:25:17
ติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 15.2} UPDATE [15 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 16-04-2017 03:33:20
ตอนที่ 15 แฟนเก่า (2)




"เดี๋ยวนี้ ท็อปดูติดโทรศัพท์มากขึ้นนะ"

"พี่ฆีนสังเกตด้วยเหรอ?"
ท็อปถาม ก่อนจะรีบยัดโทรศัพท์เก็บเข้ากระเป๋า
 

"ไม่เชิงสังเกตหรอก แต่พี่แค่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าแต่ก่อน"
 
"กูคุยแชทธรรมดานั่นแหละ ขอโทษนะ กูไม่เล่นโทรศัพท์แล้วก็ได้"

 

"พี่แค่ถามดูเฉยๆน่ะ ท็อปคุยกับพวกกราฟหรือ?"
 
"อะ...อื้ม แต่ไม่คุยแล้ว กูอยู่กับพี่ฆีนดีกว่า"

 

     ทั้งหมดนี้ คือบทสนทนาที่ท็อปและฆีนคุยกันอยู่บนรถที่กำลังมุ่งหน้าไปร้านคาเฟ่แอนด์เบเกอรีที่อยู่ใจกลางเมือง สาเหตุที่มาเพราะฆีนเป็นเจ้าของร้านนี้และอยากให้ท็อปรู้จักมุมอื่นๆของฆีนมากขึ้น


      สิบโมงครึ่งที่ฆีนมาถึงร้านกาแฟที่ออกแบบร้านล้อไปกับธรรมชาติที่ประดับไว้ด้วยพืชไม้นานาพันธ์ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จากวัสดุไม้และงานโครงเหล็กเป็นส่วนใหญ่


      เวลานี้ ภายในร้านยังไม่มีลูกค้าเข้ามา มีเพียงหญิงสาวที่ง่วนกับการเตรียมของ ฆีนอมยิ้มก่อนจะเปล่งเสียงเรียกชื่อหญิงสาว จนเธอเงยหน้าขึ้นมาเห็นก็วิ่งแจ้นเข้ามาสวมกอดฆีนทันที
 

"หายไปเลยนะ ฆีน"
 

     ท็อปยืนอึ้งเมื่อเห็นสองคนยืนกอดกัน ไม่ใช่สิ! ผู้หญิงฝ่ายเดียวต่างหากที่กอดพี่ฆีนแนบแน่น จนเด็กหนุ่มใจกระตุก

 
"แคท ปล่อยก่อน"
 

     แคทผละออกแล้วยังต่อว่าฆีนอีกไม่หยุด   
 

"ก็เราคิดถึงฆีนนี่ จริงๆแล้วฆีนควรมาหากันบ้าง ไม่ใช่แค่โทรหาอย่างเดียว แคทน้อยใจนะ"
 
"ขอโทษนะแคท อย่าโกรธเราสิ ที่ผ่านมางานยุ่งนิดหน่อยน่ะ"



      ฆีนมัวแต่หาเหตุผลบอกหญิงสาว จนเผลอลืมคนข้างๆไปเสียสนิท ฆีนจึงรีบแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน

 
      จู่ๆ ท็อปรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจแปลกๆ เมื่อพอพี่ฆีนบอกสถานะไปแบบนั้น แต่มันก็ถูกต้องไม่ใช่หรือ? ในเมื่อท็อปเป็นฝ่ายต้องการให้คบกันแบบลับๆเอง...

 
"น้องท็อปนั่งเลยนะ รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ พี่จะทำให้"
 
"ผมขอช็อคโกแลตร้อนครับ"
 
"ได้จ้ะ อืม...ฆีนไปช่วยแคทหน่อยสิ"
 
"ท็อปนั่งคนเดียวแปปนึงนะครับ"
ฆีนบอกคนรักก่อนไป
 
"ครับ"
 

      ในระหว่างที่ท็อปนั่งรออยู่ เขาไม่มีอะไรทำจึงกวาดสายตามองรอบร้านด้วยความตื่นตา เพราะร้านนี้ดูสวยและบรรยากาศสงบ ร่มรื่นใช้ได้เลย แต่แล้วสายตาไปปะทะบริเวณเคาน์เตอร์ซึ่งมีพี่ฆีนยืนยิ้มและหัวเราะอารมณ์ดีกับพี่แคท ที่สำคัญทั้งสองยืนใกล้ชิดกัน จนท็อปหวิวๆหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
 

      รู้ดีว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน แต่การกระทำที่ดูเกินเพื่อนนั้น ท็อปทนเห็นไม่ได้จริงๆ


      เพราะท็อปบอกกับตัวเองแล้วว่าอยากเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อพี่ฆีน เขาจึงไม่อยากงี่เง่าใส่คนรัก จังหวะนั้นเอง ท็อปลุกขึ้นยืนและเดินออกไปข้างนอกเพื่อข่มใจ โดยไม่บอกกล่าวพี่ฆีนแต่อย่างใด แต่ในขณะเดียวกัน หางตาของฆีนเห็นร่างไหวๆ จึงเหลือบไปมองก็พบว่าแฟนไม่อยู่ที่โต๊ะแล้ว
 

      ฆีนวางมือจากการช่วยแคททำเครื่องดื่ม ขอตัว
ไปดูว่าท็อปเป็นอะไรหรือเปล่า?

 
      ผู้เป็นพี่เดินมาหยุดอยู่ตรงที่ม้านั่งไม้ด้านนอก ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ


"ทำไมออกมานั่งข้างนอกล่ะ ท็อป"
 


       ท็อปมองหน้าพี่ฆีนด้วยแววตาตัดพ้อ ก่อนตัดสินใจพูดความรู้สึกที่คอยกวนใจอยู่ตลอด ตั้งแต่ที่อยู่ร้านนี้

 
"พี่ฆีนดูสนิทกับพี่แคทจังเลยนะครับ"
 
"ท็อปหึงพี่หรือ?"
 
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่กูไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เอาซะเลย"
 
"ความรู้สึกที่ท็อปว่า มันคืออะไร"
 


"ความรู้สึกเหมือนกลัวจะเสียพี่ฆีนไป"
 

"พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมเราถึงกลัวล่ะ"
 
"ไม่รู้ แค่เห็นพี่ฆีนอยู่กับคนที่ดูจะพิเศษ กูเกิดกลัวขึ้นมา"
 


      ใบหน้าหล่อเข้มค่อยๆผุดรอยยิ้มละมุน ก่อนจะสางเส้นผมเด็กหนุ่มช้าๆ และเลื่อนมือลงต่ำมาลูบไล้ใบหน้าเด็กหนุ่ม
 

"ท็อปไม่ต้องกลัว พี่รักท็อปนะ ส่วนพี่กับแคทเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ"
 

        ท็อปก็ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่กับความกลัวที่พุ่งเข้ามาในจิตใจซ้ำแล้าซ้ำเล่า บางทีเขาก็เหนื่อยที่จะรับมือมันเหมือนกัน
 

"พี่ฆีนเข้าร้านไปก่อนเถอะ กูขอนั่งสูดอากาศข้างนอกสักหน่อย"
 



       ฆีนมองซ้าย แลขวา เมื่อเห็นว่าไร้ผู้คนเดินผ่าน ฆีนรีบโน้มตัวไปจุ๊บปากเด็กหนุ่มเบาๆ
 

"อย่าคิดมากนะ พี่ไม่เคยคิดจะปล่อยมือเราหรอก  ท็อปก็รู้ว่ากว่าพี่จะได้มาเหนื่อยแทบตาย"
 

        ท็อปพยักหน้าและส่งยิ้มให้กับคำตอบที่ได้รับ ฆีนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินผลุบหายเข้าร้านไป ปล่อยให้ท็อปได้นั่งคิดอะไรไปเพียงลำพัง
 

        เด็กหนุ่มนั่งจับเจ่าอยู่สักพัก ก่อนจะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปและเดินเข้าร้านไปพลางถอนหายใจไปด้วย


        ตลอดการนั่งคุยกัน ท็อปเป็นฝ่ายนั่งฟังพี่แคทและพี่ฆีนคุยกันมากกว่า ทั้งสองมีเรื่องให้คุยกันได้ไม่มีหยุด และเด็กหนุ่มก็ไม่ค่อยรู้เรื่องกับสิ่งพี่ฆีนและพี่แคทคุยกันสักเท่าไหร่ เพราะทั้งคู่คุยแต่เรื่องอดีตที่รับรู้และเข้าใจกันได้เองมากกว่า


       ไม่นาน พี่แคทลุกไปรับลูกค้า ด้านพี่ฆีนก็ไปช่วยรับออเดอร์เหมือนกัน


       ท็อปนั่งมองพี่ฆีน ซึ่งให้บริการลูกค้าอยู่ด้วยความคิดมากว่าที่ผ่านมา ท็อปดูเหมือนเป็นส่วนเกินมากกว่าเป็นส่วนสำคัญในชีวิตพี่ฆีนเสียอีก
 
       สองชั่วโมงที่ท็อปและฆีนอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งนี้ จนฆีนขอตัวกลับก่อน เพราะเริ่มเห็นว่าท็อปไม่สนุกและไม่มีอารมณ์ร่วมกับบทสนทนาของพวกเขาทั้งสอง


       เมื่อขึ้นรถมาได้ ทั้งสองก็เงียบอยู่นาน จนท็อปเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน


"ทำไมร้านนี้ถึงเป็นพี่ฆีนที่ลงทุนด้วยเงินตัวเองคนเดียวล่ะครับ"


"พี่กับแคททำข้อตกลงระหว่างกันว่าพี่ทำงานประจำ พี่ไม่มีเวลาทำงานนะ ซึ่งแคทเองก็รับปากว่า ในเมื่อแคทไม่มีเงินทุน เธอขอลงแรง โดยกำไรที่ได้มา แคทยินดีที่จะแบ่งสัดส่วนให้ตัวเองเป็นสี่สิบ-หกสิบ เมื่อเข้าใจตรงกันมันก็เกิดร้านนี้ขึ้นมา ไม่รู้สิท็อป พี่ว่าแคทน่าสงสารนะ โดนแฟนทิ้งทันทีตั้งแต่รู้ว่าแคทท้องน่ะ ยังดีที่พอแคทคลอดมา แม่ของแคทก็เต็มใจที่จะเลี้ยงลูกคนนี้"
 


"พี่ฆีน ดีจังเลยนะครับ ดูแลและช่วยเหลือเพื่อนคนนี้เป็นพิเศษเลย"
 
"ทำไมคำพูดท็อป ดูเหมือนประชดพี่เลยนะ"
ฆีนละสายตาจากท้องถนนตรงหน้าหันไปมองคนรักอย่างมีคำถาม
 
"ขอโทษ"
 
"เฮ้อ! ช่างมันเถอะพี่เองก็มีส่วนผิดที่ทำให้ท็อปต้องคิดมากด้วย ไม่ว่าอะไรก็ตาม พี่บริสุทธิ์ใจ พี่ไม่อยากทะเลาะกันด้วยเรื่องของคนอื่น โอเคไหม? ท็อป"



      ท็อปพยักหน้ารับ จากนั้น เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้คิดมากกว่าเดิม
 

"นอกจากทำงานประจำและเปิดร้านกาแฟ พี่ฆีนมีทำอะไรเพิ่มอีกไหม?"
 
"มีซื้อคอนโดไว้สองห้อง เพื่อปล่อยเช่าน่ะ"

"พี่ฆีนทำไม ทำธุรกิจเยอะจัง"

"ท็อปรู้ไหม? จะทำอะไรก็ตาม เราต้องรู้จักสร้างทางเลือกให้ตัวเองเยอะๆ อย่างการสร้างรายได้ ก็ต้องทำให้เข้ามาหลายช่องทาง อย่าประมาท เพราะทุกอย่างไม่แน่นอน ถ้าสมมติอยู่ดีๆ พี่โดนไล่ออกขึ้นมา พี่จะได้มีเงินช่องทางอื่นมาเลี้้ยงตัวเองในวันที่พี่ตกงานด้วย"
 
"โห...พี่ฆีนเก่งจัง กูดีใจที่ได้เจอพี่ ว่างๆกูขอปรึกษาเกี่ยวกับงานหน่อยนะ"

 
"ได้สิ ถ้าท็อปอยากรู้ อยากถามอะไร พี่ยินดีบอกหมดเลย รวมถึงเรื่องส่วนตัวของพี่เองก็เต็มใจบอกนะครับ เพื่อที่ท็อปจะได้รู้ว่าพี่ไม่มีความลับ"
 


"ตั้งแต่เราคบกันมา เรื่องแฟนก็รู้แล้ว ครอบครัว การงาน นิสัยขี้หื่นก็รู้แล้ว พี่ฆีนก็บอกกูหมดแล้วนะ" ท็อปไล่เลียงจนหมด
 
"งั้นหรือ? งั้นท็อปบอกพี่บ้างสิ พี่รู้เรื่องท็อปน้อยมากเลย พอถามก็บ่ายเบี่ยงตลอด"
 

      ท็อปชะงักไปทันที ก่อนหันไปตอบด้วยเสียงเศร้าสร้อย

 
"พี่ฆีนอย่ารู้เลย ชีวิตกูแต่ก่อน มันน่าสมเพช"
 


"ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ จะดีหรือแย่พี่ก็เต็มใจรับฟังนะ เพราะอดีตก็คืออดีต มันมีไว้เพื่อเป็นบทเรียนสอนเรา อย่าเอามาเครียดสิ ท็อป"
 


"ขอบคุณนะ แต่พี่ฆีนไม่ต้องรู้เรื่องกูหรอก รู้แค่ตอนนี้ กูมีความสุขมากก็พอแล้ว"


       ฆีนพยักหน้า แต่ในใจก็คิดว่า ทำไมท็อปถึงต้องปิดบังอดีตขนาดนั้นกันนะ
 

       ในขณะที่ฆีนกำลังเป็นห่วงความรู้สึกคนรัก ท็อปก็พูดโพล่งขึ้นจนฆีนตกใจ
 

"พี่ฆีนอย่าเพิ่งกลับห้องนะ ลืมไปเลยว่าหนังเรื่อง Hacksaw Ridge เข้าแล้ว ไปดูกันเถอะ" ท็อปที่นั่งเข้าเว็บไซต์ของโรงภาพยนตร์ในโทรศัพท์มือถือหวังจะเช็ครอบหนังเล่นๆ ก็เห็นภาพโปสเตอร์หนังสุดโปรดโชว์หรา


       ฆีนประหลาดใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่ท็อปชวนฆีนดูหนังก่อน โดยปกติจะเป็นฆีนมากกว่าที่เอ่ยปากชวน ซึ่งโชคดีที่ทั้งคู่มีรสนิยมชอบการดูภาพยนตร์เหมือนกันจึงไม่อิดออดอะไรอยู่แล้ว


"ได้สิ"
     

     ทั้งสองถึงที่หมายก็รีบเดินดุ่มๆไปยังเคาน์เตอร์จองตั๋วชมภาพยนตร์ ท็อปเลือกรอบที่เริ่มฉายตัวอย่างภาพยนตร์แล้ว เพราะรอบต่อไปต้องรออีกนาน


     เมื่อฆีนและท็อปเข้ามานั่งตามหมายเลยที่ระบุหน้าตั๋ว เด็กหนุ่มก็เห็นความผิดปกติบางอย่าง

 
      จนกระทั่ง หนังเริ่มได้ไม่นาน ท็อปสอดประสานนิ้วมือเข้ากับมือพี่ฆีนอย่างแนบแน่น ซึ่งทำให้ฆีนถึงกับหันขวับมองคนรักสลับกับมองมือตัวเอง


       วันนี้ ท็อปทำให้ฆีนแปลกใจถึงสองหน อย่างเช่นการจับมือหนนี้ เพราะโดยปกติ ท็อปวางตัวเหมือนพี่น้อง ไม่ค่อยแสดงออกแบบคนรักต่อหน้าสาธารณชนเท่าไหร่

 
"ปกติ ท็อปจะไม่จับมือพี่เวลาอยู่ข้างนอก?"
 
"ก็มีคนแอบมองพี่ฆีนอยู่ ลองหันไปมองฝั่งซ้ายพี่สิ สงสัยคงคิดว่ากูเป็นน้อง ไม่ใช่แฟนพี่ฆีนล่ะมั้ง"

 

       ฆีนมองตามที่คนรักบอก ก็เห็นอีกฝ่ายมองและรีบหลบสายตา แต่ฆีนคิดว่าเขาคงไม่น่าจะชอบฆีนอย่างที่ท็อปคิดหรอก คนรักเขาคงคิดมากไป ฆีนหันไปสบตาคนข้างๆกาย ก่อนจะยิ้มแก้มปริ


"รู้สึกดีจัง ที่ท็อปทั้งหึง ทั้งหวงพี่แบบนี้"

 
"ก็บอกแล้วว่ากลัวเสียพี่ฆีนไป หยุดยิ้มได้แล้ว กูจะดูหนัง"

 
 
      ฆีนหลุดขำและยกมือเด็กหนุ่มที่จับกระชับอยู่ขึ้นมาจูบซับที่หลังมืออย่างอ่อนโยน ก่อนจะเริ่มดูหนังสงครามที่อบอวลไปด้วยความรักสุดหวานเต็มโรงภาพยนตร์
 
 

...............................


เตรียมตุนความหวานกันเอาไว้ให้เต็มอิ่มเนอะ...

ขอบคุณทุกคอมเมนท์นะคะ

หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 15.2} UPDATE [15 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 16-04-2017 08:58:37
เอ๊ะ มาม่าจะมาหรอ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 15.2} UPDATE [15 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-04-2017 22:34:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 15.2} UPDATE [15 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-04-2017 02:42:23
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 15.2} UPDATE [15 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 17-04-2017 22:58:54
หวานมาก,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16} UPDATE [18 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 18-04-2017 19:23:58
ตอนที่ 16 หวาน



      เมื่อทำงานหนัก พอมีเวลาว่าง ก็อยากพักผ่อนกายและใจกันบ้าง ฆิตที่เป็นตัวตั้งตัวตีของการวางแผนเที่ยวต่างจังหวัดเลยชวนพี่ฆีน และพวกเพื่อนกราฟครบเซ็ต โดยทุกคนไม่มีใครปฏิเสธ จึงเกิดทริปเที่ยวทะเลในวันหยุดนักขัตฤกษ์ขึ้นมา


     ตอนนี้ ฆีนและฆิตกำลังขับรถมุ่งหน้าไปยังทะเลตราด โดยในรถของฆิตมีกราฟ และท็อป ส่วนพลไปนั่งกับพี่ฆีนเพื่อจะได้มีเพื่อนคุยระหว่างทาง
 

     เดินทางมาได้สักพัก กราฟเอี้ยวตัวไปมองด้านหลังเห็นท็อปหลับอยู่ จึงขยับตัวไปใกล้ๆที่นั่งฝั่งคนขับแล้วพูดไม่เต็มเสียงนัก
 

"คิดถึงพี่ว่ะ"

 
     กราฟบอกจากใจ เพราะช่วงที่ผ่านมา ฆิตและกราฟไม่ได้เจอกันเลย เนื่องจากฆิตติดงานที่ต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ขึ้นเหนือไปถ่ายภาพนิ่งของโรงแรมเปิดใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จบงานก็ล่องใต้ถ่ายงานพรีเวดดิ้งที่จังหวัดภูเก็ตอีก


"เหมือนกัน กูถึงพามึงมาเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวทะเลซะเลย"


 
      กราฟยิ้มกว้าง และแอบเหลียวมองท็อปอีกครั้งว่ายังหลับอยู่หรือไม่ เมื่อเห็นว่าท็อปยังไม่ลืมตา กราฟสะกิดแขนพี่ฆิต จนอีกฝ่ายมองพลางเลิกคิ้ว
 

"ผมอยากจูบพี่ว่ะ" กราฟว่าเสียงเบา
 

     ฆิตเห็นว่ารถยังติดไม่ขยับ จึงตอบตกลง จากนั้น ทั้งสองจูบกันดูดดื่มจนเผลอหลุดเสียงจ๊วบจ๊าบดังขึ้น กราฟรีบผละออก หันไปมองเพื่อนก็เห็นท็อปตื่นแล้ว
 
 
"กูเห็นนะ ไอ้กราฟ" ท็อปยิ้มล้อเลียนแถมตั้งใจพูดออกมาเสียงดัง จนฆิตหัวเราะลั่น

 
     ได้ยินเพื่อนบอกดังนั้น กราฟหน้าแดงเหลือบมองพี่ฆิตที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างอารมณ์ดี


     ก็คนมันคิดถึงนี่หว่า มันก็มีบ้างแหละที่โหยหาอยากสัมผัสทุกอย่างของแฟนตัวเอง
 

"มะ...มึงอิจฉากูล่ะสิ ไอ้ท็อป" กราฟตอบกลบเกลื่อน

 
"ทำไมกูต้องอิจฉา กูก็มีและดีด้วย"  ท็อปตอบพลางอมยิ้มเมื่อนึกถึงหน้าพี่ฆีน


"มึงว่าอะไรนะ ไอ้ท็อป"
 
"ปะ...เปล่า...ว่าแต่พี่ฆิตดูไม่เขินเลยนะครับ"
ท็อปเบี่ยงประเด็นและกระเถิบตัวพลางชะโงกหน้าถามพี่ฆิตที่ยังยิ้มไม่หุบ ทั้งยังดูไม่สะทกสะท้านเรื่องที่ท็อปเห็นทั้งคู่จูบกันแสนหวาน

 
"ฮ่าๆ พี่หน้าด้านน่ะท็อป ปล่อยให้หน้าที่เขินเป็นแฟนพี่ดีกว่า"

"ผมชอบจัง เวลาพี่ฆิตเรียกกราฟว่า...แฟน...เสียงนุ่มละมุนเชียวนะครับ"
ท็อปพูดพลางชำเลืองมองเพื่อนรักที่เขินจนหน้าแดงแจ๋
 
"จริงๆอยากเรียก 'เมีย' มากกว่า แต่กราฟมันไม่ยอมให้พี่สักที"


"ไอ้พี่ฆิต หยุดพูดเลยว่ะ..."



       ท็อปนั่งขำที่ตอนนี้ พี่ฆิตและกราฟทะเลาะกันจนได้ แต่มองอย่างไร ท็อปว่าก็ดูน่ารักดี จนท็อปอยากมีโมเมนต์เปิดเผยความรักแบบนี้บ้าง ถ้าไม่ติดว่าความกลัวยังตามมาหลอกหลอนอยู่
 

       หลายชั่วโมงผ่านไป ที่ทุกคนเดินทางนั่งเรือข้ามฟากจนมาถึงฝั่งเกาะช้างเป็นที่เรียบร้อย และขับรถต่อไปยังรีสอร์ทที่จองไว้อีกไม่ไกลเท่าไหร่ จนกระทั่งถึงที่หมาย ทุกคนเช็คอินกันครบทั้งหมดสามห้อง โดยฆิตนอนกับกราฟ ท็อปนอนกับพล ส่วนพี่ฆีนนอนคนเดียว

 
       พักกันจนหายเหนื่อย ประมานสี่โมงเย็น ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าลงเล่นน้ำทะเลกันอย่างสนุกสนาน กระทั่งเล่นทะเลกันจนอิ่มหนำสำราญใจก็กลับไปอาบน้ำอาบท่า เพื่อหาอะไรลงท้อง


       ดูเหมือนว่าทุกคนจะมีความสุขกันเหลือเกิน สังเกตุได้จากใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม


       ตลอดมื้ออาหารทะเลนั้น ต่างฝ่ายต่างแซว หยอกล้อกันไม่มีหยุดพัก บ้างก็ขุดคุ้ยเรื่องหน้าอายมาเผากันยกใหญ่ ฟากฆีนที่ทุกคนเคารพและเกรงใจ ก็มิวายโดนแซวเช่นเดียวกัน


        หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็มาอิ่มใจด้วยการเดินออกมานั่งรับลมเย็นริมชายหาด ฟังเสียงคลื่นซัดสาดราวกับเป็นดนตรีประกอบฉาก ในระหว่างที่เดินมามีแสงไฟสีส้มจากโคมไฟฝังพื้นให้ความสว่างตามทางเดินจนถึงบริเวณที่นั่ง บรรยากาศโดยรวมนั้น ถ้ามากันสองคน บอกได้เลยว่าให้ความรู้สึกโรแมนติกไม่น้อย



      จัดแจงหาที่นั่งกันได้ ก็เริ่มตั้งวงดื่มสังสรรค์ ผ่านไปสักพัก กราฟวางกระป๋องเบียร์ และยกมือขึ้นพูด


"เฮ้ย...กูมีเกมส์มาให้เล่น"
 
"เกมส์อะไรวะ"
พลถาม
 

       จากนั้น กราฟเริ่มอธิบายเกมส์เป็นขั้น เป็นตอนว่าให้ทุกคนเขียนคำถามที่อยากถามคนในวง เมื่อทุกคนเขียนเสร็จให้ใส่ลงไปในแก้ว  และจะใช้ช้อนหมุนหาคนเริ่มเกมส์เป็นคนแรกเพื่อตอบ เมื่อได้คนแรก คนนั้นจะเป็นฝ่ายเลือกใครก็ได้เพื่อสุ่มหยิบกระดาษคำถาม จนกระทั่งคนแรกตอบคำถามเสร็จแล้ว คนที่หยิบกระดาษก็เลือกคนต่อไป ทำวนแบบนี้ไปจนครบ

 
       ทุกคนรับฟังอย่างสนใจ จากนั้น ก็เขียนคำถามกัน และเกมส์ก็เริ่มขึ้น ซึ่งคนที่โดนคนแรกเป็นพล โดยพลเลือกพี่ฆีนเป็นผู้หยิบคำถาม
 
       ฆีนคลี่กระดาษคำถามก่อนอมยิ้ม
 

"คำถาม คือ คุณเคยมีอะไรกับผู้ชายไหม?"
 


       ทุกคนโห่แซวแล้วขำ
 
 
"คำถามนี้ มึงคิดใช่ไหม? ไอ้กราฟ"
 


       กราฟกลั้นขำพลางส่ายหน้ารัว ฟากพี่ฆิตยกมือขึ้นทันที
 

"กูเอง"
 
"โห่! พี่ฆิตคิดไงเนี่ยตั้งคำถาม ผมยังไม่เคยหรอก ที่ผ่านมานี่มีประสบการณ์กับผู้หญิงล้วนๆ"

 
"สนใจเปลี่ยนเส้นทางไหม?" ฆิตถามอย่างยิ้มๆ
 
"ไม่ดีกว่า เปลี่ยนเส้นทางไป กลัวว่าจะฮอตอะ" พลตอบปุ๊ป กราฟและท็อปทำหน้าชวนอ้วกอย่างหมั่นไส้
 

       เมื่อพลตอบคำถามแล้ว ต่อไปก็ถึงตาของฆีน โดยฆีนเลือกคนจับกระดาษคำถามเป็นฆิต
 

"ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับแฟน คุณชอบให้แฟนทำอะไรมากที่สุด?"



       แวบหนึ่ง ฆีนชำเลืองมองท็อป ก่อนตอบ

 
"กัด"
 
"ห้ะ"
ทุกคน ยกเว้นท็อปประสานเสียงกันโดยมิได้นัดหมาย

 
"ที่พี่พูดมา นี่แฟนหรือหมาวะ?...พี่ฆีน" ฆิตถาม
 

"แค่กๆๆ" ท็อปที่ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม ถึงกับสำลัก
 
"อ้าว...ไอ้ท็อปเป็นอะไรวะ" กราฟลูบหลังลูบไหล่เพื่อน เมื่อเห็นว่าท็อปสำลักเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซะจนหน้าดำ หน้าแดง

 
         ฟากท็อปยกมือโบกไล่ไปมา ทำนองว่าไม่เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง


"แหม...พี่ฆีนครับ เห็นนิ่งๆอย่างนี้ โรคจิตนะพี่ชอบให้แฟนกัด ถ้าเป็นผมนะ แค่กัดทีเดียว ผมกระโดดถีบแล้ว"
พลบอก


"จ้า...พ่อพลคนโหด...พ่อคนนักเลง เก๋าจริงๆเลยเพื่อนกูเนี่ย" กราฟประชดเพื่อนจนพลปาน้ำแข็งใส่หน้า ฟากคนอื่นก็นั่งขำกัน

 
        จังหวะนั้น ฆีนแทรกขึ้น


"สงสัยพี่คงจะเป็นอย่างที่พลว่าแล้วล่ะ คือ พี่รู้สึกดีทุกครั้งเลยที่แฟนกัด" ฆีนตอบอย่างไม่อายที่เผยรสนิยมของตัวเอง
 
"หืม! พูดซะอยากเห็นแฟนพี่เลยว่ะว่าหน้าตาจะเป็นไง โรคจิตไหม?"  กราฟถาม ส่วนทุกคนเออออ มีเพียงฆีนและท็อปที่มองหน้ากัน เพราะทั้งสองต่างรู้ดีแก่ใจ


     แต่แซวกันได้ไม่นาน พลพูดตัดบท เพราะอยากรู้แล้วว่าคนอื่นจะโดนคำถามอะไรกันบ้าง
 

     จากนั้น ก็ถึงรอบของฆิต โดยเขาเลือกคนสุ่มหยิบกระดาษคำถามเป็นกราฟ

     กราฟจ้องมองกระดาษใบนั้นอยู่นาน ก่อนถาม
 

"เซ็กส์ล่าสุดของคุณ คือ ที่ไหน?"

 
      ฆิตยิ้มเจ้าเล่ห์
 
"ทะเล"


 
      ฟากกราฟใจกระตุก เมื่อได้ยินคำตอบและรอยยิ้มกว้างของพี่ฆิตจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ ก็พี่ฆิตยังไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกราฟเลยสักครั้ง ถ้าการที่พี่ฆิตพูดถึงนั้น คงหนีไม่พ้น มีเซ็กส์กับพีทน่ะสิ จู่ๆ กราฟก็รู้สึกเจ็บหน่วงหัวใจขึ้นมา ก่อนจะเผลอขยำกระดาษจนยับยู่ยี่


      ตอนนี้ คนที่ตอบไปก่อนหน้าก็นั่งสบายใจกันหมดแล้ว เหลือเพียงท็อปและกราฟเท่านั้น โดยกราฟต้องเป็นฝ่ายตอบก่อน


      ท็อปคลี่กระดาษคำถามออกมา จ้องมองหน้าเพื่อนสลับกับมองหน้าพี่ฆิต


"หากคุณมีแฟน สิ่งใดที่คุณจะไม่มีวันทำกับแฟนเด็ดขาด?"
 
"การนอกใจ"
กราฟตอบเสียงหนักแน่น ก่อนจะหันไปหาพี่ฆิตที่ยิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจเมื่อได้ยิน

 
"หู้ววววว์ อิจฉาๆ เขาหวานใส่กันด้วยว่ะไอ้ท็อป มึงดูสิมองกันตาวาวเลย...เราควรกลับห้องและปล่อยให้เขาอยู่กันสองคนไหมวะ" พลแซว ฟากท็อปยิ้มกว้างก่อนเสริมคำพูดเพื่อนเป็นลูกคู่
 
"นั่นสิ พวกเราเหมือนเป็นส่วนเกินยังไงก็ไม่รู้ว่ะ"



     ฆิตเกาคอเก้อเขิน เมื่อโดนแซวจริงจัง ด้านกราฟเองก็อายไม่แพ้กัน

 
"หยุดแซวกูกันได้ไหมวะ...มึงด้วยไอ้ท็อป รีบตอบเหอะ คำถามมึงคือ คุณชอบส่วนไหนของแฟนมากที่สุด ตอบมาเลย ด่วนๆ"
 
"ปาก เห็นแล้วอยากจูบ" ท็อปตอบอย่างไม่อาย แต่สายตามิวายเผลอมองพี่ฆีน เพราะเห็นทีไร ท็อปก็โหยหา อยากจูบปากพี่ฆีนทุกครั้ง


     คนอะไร ปากโคตรน่าจูบเลย...


     ต่อให้จูบเป็นร้อย เป็นพันครั้ง ท็อปก็ไม่มีวันเบื่อ นี่ขนาดท็อปแค่มองปากพี่ฆีนนะ เขายังวาบหวามหัวใจขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด


      ฟากฆิตแอบสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่าง


"ทำไมท็อปตอบแล้วต้องมองปากพี่ฆีนล่ะ..."



      จบคำถามนั้น ทุกคนมองท็อปเป็นสายตาเดียว ฟากเด็กหนุ่มรู้สึกร้อนหน้าวูบวาบ
 

"ห้ะ....พี่ฆิตว่าอะไรนะครับ"  ท็อปอึกๆอักๆ ทำเป็นไม่ได้ยิน


      ฟากฆีนที่นั่งมองท็อปอยู่ก็เห็นท็อปมองมาจริงๆแถมส่งสายตาหวานฉ่ำ หากใครเห็นก็ดูออก แม้ฆีนจะดีใจจนอยากกระโดดโลดเต้นกับการกระทำและคำตอบ แต่เวลานี้ เขาคงต้องช่วยคนรักให้เอาตัวรอดไปได้ก่อน


"ฆิตแซวน้องทำไม...นายคงตาฝาดแล้วล่ะ"



       ทุกคนละสายตาจากท็อปและหันไปมองหน้าพี่ฆีนที่เบี่ยงเบนความสนใจด้วยการชูกระป๋องเบียร์ขึ้นสูงเพื่อให้มาชนกัน จากนั้น ทุกคนก็กลับมาสนทนาเคล้าด้วยเสียงหัวเราะและเฮฮากันอีกครั้ง
 

       นานพอสมควรที่ทุกคนนั่งดื่มกัน จนกราฟเปรยขึ้นมาว่าได้เวลาสมควรไปพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ มีกิจกรรมออกทริปดำน้ำแต่เช้า ทุกคนเห็นด้วยจึงแยกย้ายกัน แต่ในระหว่างนั้น ฆิตเดินรั้งท้ายก่อนจะจับไหล่พี่ฆีนให้หยุดเท้าเพื่อคุยเรื่องสำคัญ


      ฟากฆีนยืนมองหน้าน้องชายด้วยความสงสัยว่าเรียกให้หยุดทำไม
 

"พี่ฆีน ผมถามจริงๆ และผมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร พี่กับท็อปแอบคบกันใช่ไหมวะ"
 
      ฆีนชะงักครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า


"พี่ฆีนอย่าโกหกผมเลยว่ะ ผมสังเกตมาสักพักแล้ว ผมขอแค่คำยืนยันจากพี่เท่านั้น"


     สุดท้าย ฆีนก็ตัดสินใจยอมรับแต่โดยดี
 

"อืม...พี่คบกับท็อปอยู่จริงๆ แต่นายห้ามบอกใครนะ ท็อปอยากคบกันแบบนี้ไปก่อน"


"นานรึยัง พี่ฆีน"
 
"ก็หลายเดือนแล้ว"

 
"ว่าแล้วเชียว...ผมรู้สึกว่าหลังๆมานี้ ท็อปดูเป็นเด็กดีและน่ารักขึ้น ยิ้มแย้มง่าย ไม่โมโหร้ายและบึ้งตึงเหมือนแต่ก่อน พี่ฆีนก็เก่งนะเนี่ย...เปลี่ยนคนดื้อ ก้าวร้าวให้ดูอ่อนโยนได้"


"ไม่ใช่พี่หรอกฆิตที่เปลี่ยนท็อป พี่ว่าความรักต่างหาก...ที่ทำให้ท็อปเปลี่ยน"


"โอ้โห...ตั้งแต่มีแฟน พี่ชายผมดูพูดจาหวานเลี่ยนซะไม่มี"
ฆิตแซว พลางกระแซะไหล่พี่ชายตัวเองที่ไม่บ่อยครั้งนักจะเห็นพี่ฆีนหน้าแดงเพราะเขิน


"ทำอย่างกับนายไม่เป็นน่ะ...ฆิต"



"ฮ่าๆ...ก็มีบ้างแหละน่า เติมความหวานให้ชีวิตสักหน่อย เดี๋ยวชีวิตจะกร่อย ไร้สีสัน"

 
      ทั้งสองมองหน้ากันและหัวเราะ ก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องพักไป ตอนนี้ ฆิตดีใจจริงๆที่พี่ฆีนมีความสุข สมหวังสักที และฆิตก็หวังว่า ท็อปจะจริงจังและไม่นอกใจพี่ฆีนเหมือนแฟนเก่าของพี่ชายที่ผ่านมาด้วยความหวังที่ว่าอยากเห็นพี่ฆีนมีคู่ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า



       ฆิตเดินเข้ามาในห้องก็ยังยิ้มไม่หุบที่รู้ข่าวดีของพี่ชาย ตรงกันข้ามกับคนในห้อง เพียงเห็นพี่ฆิตเดินอมยิ้มมาก็แอบคิดเองเออเองว่า คงนึกถึงแฟนเก่าอยู่...


       จู่ๆกราฟก็เกิดหมั่นไส้แฟนตัวเองขึ้นมา จึงรีบอาบน้ำและเตรียมเข้านอนโดยไม่รอ


       ฟากฆิตที่อาบน้ำเสร็จทีหลัง ก็เดินออกมาจากห้องน้ำอย่างงงๆ ว่าทำไม กราฟเล่นปิดไฟจนมืดตื้บ ไม่รอฆิตให้จัดการธุระเสร็จก่อนเลย


       ฆิตเหมือนมีเซนส์บอกว่ากราฟกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง ฆิตปีนขึ้นเตียงทิ้งตัวลงนอนพลางสวมกอดกราฟจากด้านหลัง และเริ่มเล้าโลมแฟนตัวเองด้วยความปรารถนา


 
"พี่ฆิต ผมจะนอนแล้ว" กราฟว่าเสียงแข็ง ทั้งยังกระเถิบตัวให้ห่างจากร่างของพี่ฆิตที่นอนซ้อนหลัง
 

"ไหนบอกว่าคิดถึงกูไง วันนี้ เราจูบกันหนเดียวเองนะ มึงเป็นอะไร? กราฟ"
 
"เปล่า"



"ปากบอกว่าเปล่าแต่กูว่ามีชัวร์ มึงตอบมาเร็วๆเลยกราฟ กูไม่ชอบให้ปัญหาค้างคาแบบนี้"

 
"เฮ้อ!...บอกก็ได้ ผมแค่เสียใจนิดหน่อยตอนที่พี่ตอบเรื่องเซ็กส์ล่าสุด ดูพี่ยิ้มแบบมีความสุข พี่คงคิดถึงพีทใช่ไหมครับ?"

 
"อะไรของมึงวะ"
คราวนี้ ฆิตที่นอนอยู่ถึงกับเด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง เพราะชักงงกับคำถามและอาการที่กราฟเป็นอยู่

 
"ก็คำถามที่วงเหล้าไง"
 

   เฮ้อ! ฆิตอยากจะเอาหัวโขกกำแพงกับความมโนของแฟนตัวเอง ในบางครั้ง แฟนเขาก็ฉลาดเป็นกรด แต่ครั้นจะซื่อก็บื้อจนน่าตกใจ
 

"ถามจริง? มึงไม่เอะใจเลย?"
 

"เอะใจอะไรวะ พี่ฆิต"


 
"โอ้ย! กูอยากจะบ้า ตอนนี้เราอยู่กันที่ไหน?"


"ทะเลไง"
กราฟตอบ เหลือบมองหน้าคนที่นั่งหน้างอ กอดอก


"และคำถามที่ว่า มีเซ็กส์ครั้งล่าสุดที่ไหน กูตอบว่าทะเล มึงยังไม่เข้าใจอีกหรือ? กูหมายถึง มึงไงครับ กราฟ..."

 
"มะ...หมายความว่าอะไร ก็ผมยังไม่ได้ให้พี่เลยนะ...อ๋อ...พี่วางแผนตั้งใจจะเอาผมอยู่แล้วใช่ไหม?"




     แม้ความรู้สึกจะช้าไปสักหน่อย แต่พอกราฟปะติดปะต่อเรื่องราวได้แล้ว กราฟใจเต้นแรงและร้อนหน้าวูบวาบ



"อืม...กูตั้งใจจะมาขอมึงที่นี่น่ะ...คือ พูดตรงๆนะกราฟ ที่ผ่านมาเวลาอยู่กับมึงสองคนทีไร กูต้องหักห้ามใจอย่างหนักเพื่อไม่ทำอะไรมึง แต่ตอนนี้กูมารู้ว่ากูทนไม่ไหวแล้วว่ะ"

     
"พี่ฆิต แม่งเจ้าเล่ห์ว่ะ"

"นี่กูหน้าด้านขอมึงเลยนะเนี่ย"




       ฆิตตอบ ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มเด็กหนุ่มทั้งสองข้าง และผละออก



       เมื่อใช้ไม่แข็งไม่ได้ ก็ต้องใช้ไม้อ่อนล่ะทีนี้...



"ปกติเรื่องแบบนี้ กูไม่เคยต้องขอใครก่อน มีมึงคนแรก..."


 
       กราฟนอนมองพี่ฆิตที่เอื้อนเอ่ยเสียงละมุนออกมา ก่อนจะจับสองมือของกราฟไปวางทาบบนแก้มของเขา...และเคลื่อนใบหน้าลงต่ำจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆเป่ารดกัน ฆิตพูดขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาที่แฝงด้วยความเว้าวอนจนน่าใจอ่อน


"พี่ฆิตขอได้ไหมกราฟ...นะครับ...นะ"





****1.1****


คือความหื่นนี้เขาติดต่อกันทางสายเลือดรึเปล่า พี่ชาย-น้องชายหื่นพอกัน ฮ่าๆๆ
เสพความหวานกันเข้าไปเยอะๆนะจ้ะ สองพี่น้อง...

***ใครที่ไม่ชอบท็อปและไม่อ่านต่อเราเข้าใจนะ แต่คนที่ไม่ชอบท็อปแล้วยังอ่านต่อ เราขอบคุณและนับถือใจคุณจริงๆ มันเหมือนว่าลึกๆแล้วในจิตใจของคุณพร้อมที่จะให้โอกาสกับเขา...***


**ตอนคิดเรื่องนี้วางเรื่องไว้แค่ 13 ตอนจบ**
เขียนไปเขียนมาใกล้จะทะลุ 20 ตอนแล้ว ฮ่าๆ...มันส์มือไปหน่อย หุหุ
อย่าเพิ่งเบื่อเค้าน้า เดี๋ยวจะรีบจบให้ไวเลยค่ะ จะได้ไปมโนเรื่องใหม่ต่อ..
เขียนช-ช..ชักติดใจ...แฮร่ๆ...

ชอบไม่ชอบเมนท์บอกความรู้สึกกันบ้างน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16} UPDATE [18 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-04-2017 19:43:01
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16} UPDATE [18 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 18-04-2017 22:14:49
เสร็จแน่กราฟ พี่ฆิตขอแล้วน่ะ ว่าไงๆๆ อิอิ
แอบสงสารพี่ฆีนอย่างแรง นอนคนเดียว ฮ่าๆๆๆ ท็อปปีนเข้าห้องพี่ฆีนเลย อิอิ
หาคู่ให้พลเตอะ อยากให้เข้าสู่วงการเดียวกัน อิอิ

พี่น้องคู่นี้หื่นจริงๆๆ แต่พี่ฆีนน่าจะหื่นกว่า แค่ท็อปมองปากพีาฆีนก็ออกอาการล่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16} UPDATE [18 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 19-04-2017 10:54:03
หวานกันทั้ง 2 คู่นะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16} UPDATE [18 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-04-2017 15:05:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16.2} UPDATE [22 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 22-04-2017 16:43:44
ตอนที่ 16 หวาน(2)





       กราฟถอนหายใจอยู่สองสามที ก่อนจะพยักหน้ารับด้วยความใจอ่อน

 
       ถ้าไม่รักพี่ฆิต ก็คงไม่ยอมลงให้ขนาดนี้...
 


       ไม่ทันได้หายใจหายคอ กราฟโดนพี่ฆิตจู่โจม ตะโบมจูบด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
 

        คนพี่ที่พันผ้าขนหนูไว้ในตอนแรกถูกสะบัดออกจากร่างอย่างง่ายดาย ก่อนจะพลิกตัวกราฟให้นอนคว่ำ ยกสะโพกขึ้นสูง และรั้งกางเกงนอนของกราฟลงอย่างรวดเร็ว
 

        ฆิตบรรจงรุก ปลุกปั้นอารมณ์วาบหวามให้กราฟหวั่นไหว อวัยวะของฆิตเกือบทุกส่วนถูกใช้ให้เป็นประโยชน์ ทั้งริมฝีปาก ฝ่ามือ ปลายนิ้วก็เล้าโลมอย่างชำนาญ ตลอดจน แก่นกายที่แข็งดั่งแท่งเหล็กกำลังดุนดัน ถูไถอยู่ทางเข้าด้านหลังของกราฟจนเสียวกระสัน และเพียงแค่สัมผัสนั้น ลูกชายของกราฟก็เกิดอาการตื่นตัวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
 

       ไม่กี่นาทีต่อมา กราฟหลุดสบถในลำคอ เมื่อจู่ๆ มีนิ้วสอดเข้ามายังช่องทางคับแคบ ความรู้สึกเสียวปนหน่วงหนึบก็พุ่งวาบทั่วร่างกาย

      แค่นิ้วพี่ฆิต กราฟยังรู้สึกถึงเพียงนี้ ถ้าเจอของจริงเข้าไปจะขนาดไหน? เพราะเท่าที่จำได้ ลูกชายของพี่ฆิตนี่มีขนาดใหญ่ใช้ได้เลย...
 

      ทันใดนั้น กราฟสัมผัสได้ถึงความฉ่ำแฉะจากเจลหล่อลื่นที่ถูกทาชะโลมทั่วประตูหลัง
 

        ฆิตดันเด็กหนุ่มให้โน้มตัวไปข้างหน้า ไม่นานนัก นิ้วถูกดึงออกแทนที่ด้วยแท่งร้อนของฆิตที่จ่อตรงประตูหลังของคนรัก ก่อนจะกดส่วนหัวแก่นกายให้ค่อยๆรุกคืบเข้าไปช้าๆ


      เพียงแค่ช่องทางรักของแฟนตัวเองบีบรัดตัว ฆิตขบกรามแน่น จากความนุ่มนวล เนิบช้า เริ่มเร่งจังหวะกระทุ้งแก่นกายดันเข้า ดันออกด้วยความโหยหาถึงขีดสุด
 

      ความโหยหาที่มาจากรักมากกว่าตัณหา...
 
 
      นาทีนี้ ความเจ็บเสียดพุ่งวาบเข้ามาให้กราฟฟุบหน้าลงกับหมอนหนุน สองมือดึงทึ้งผ้าปูที่เคยเรียบตึงจนยับยู่ยี่ กราฟอยากเคลื่อนสะโพกหนีแทบขาดใจ แต่ก็โดนคนพี่จับล็อคสะโพกไว้ไม่ไปไหน
 

      จุ๊บ...
 

       เมื่อเห็นกราฟออกอาการเหมือนต่อต้านกรายๆ ริมฝีปากร้อนจัดก็ประทับลงมาที่หัวไหล่ทั้งสองข้างเบาๆ เพื่อเล้าโลมและเร้าอารมณ์ให้วาบหวามกว่าเดิม เพิ่มเติมด้วยการพรมจูบสลับขบเม้มและเลียไล่ตามแนวกระดูกสันหลัง ก่อนที่ฆิตจะโน้มตัวจนแผ่นอกแกร่งแนบชิดกับแผ่นหลังเด็กหนุ่มจนไร้ช่องว่าง


       มือหนาจับปลายคางกราฟให้หันมารับจูบแสนหวาน สานบทรักกันนานพอสมควรที่ทั้งสองถอนริมฝีปากออก ฆิตหอมแก้มเด็กหนุ่ม ก่อนจะใช้ปลายลิ้นโลมเลียและงับที่ใบหูอย่างหยอกเย้า  จากนั้น ฆิตเอื้อนเอ่ยเสียงสุภาพสุดแสนนุ่มนวลในแบบที่กราฟไม่เคยได้ยินมาก่อน



"พี่เข้าใจนะ ว่ามันเป็นครั้งแรก แต่กราฟต้องผ่อนคลาย รู้ไหม? ไม่ต้องห่วง....พี่ฆิตจะทำให้กราฟมีความสุขเองนะครับ..."
ฆิตบอกด้วยความหวังดี ถ้าช่องทางรักยังคงเกร็ง กล้ามเนื้อบีบแน่น ไม่คลายตัวแบบนี้ คนที่เจ็บจะเป็นกราฟมากกว่าเขา

 
      ให้ตายเถอะ...เจอะถ้อยคำเหล่านี้เข้าไป เข่าและแขนทั้งสองข้างที่ยันร่างกราฟเอาไว้อ่วนยวบลงทันตา ฆิตที่เห็นท่าทางรีบสอดมือคว้าเอวกราฟและประคองสะโพกนั้นไว้


       กราฟกัดปากแน่น พร้อมกับปล่อยร่างกายให้ผ่อนคลายลงกว่าเดิม ฟากฆิตกดลูกชายสอดใส่เข้าไปในช่องทางรักอีกครั้ง ก่อนจะขยับสะโพกโยกตัวไปตามจังหวะ
 
                                                                                           
       สัมผัสที่กราฟรู้สึกได้ จากความเจ็บ อึดอัดแปรเปลี่ยนเป็นความเสียดเสียวขึ้นมาโดยอัตโนมัติ


"อาห์ กราฟ...ซีดส์  อาห์...แน่นดี พี่ชอบ..."


       ขณะที่ร่างกายยังคงกระแทกไม่หยุดยั้ง มือที่ว่างของฆิตเอื้อมไปรูดรั้งลูกชายกราฟรัวเร็วจนเด็กหนุ่มบิดเบ้หน้าด้วยความเสียวกระสัน

 
       เพียงแค่ฝ่ามือของพี่ฆิตสัมผัสโดนจุดอ่อนไหว แถมปฏิบัติอย่างคล่องแคล่วและขยับเร็วไว กราฟเผลอหลุดร้องครางเสียงต่ำและเผลอแอ่นสะโพกรับส่วนใหญ่โตจนน่าอาย


       เหงื่อเริ่มผุดซึมทั่วใบหน้าและผิวกาย เวลานี้ ร่างของทั้งสองเสียดสี บดเบียดเข้าหากัน ความเร่าร้อน รุนแรงทำให้เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องไปทั่ว ชนิดที่กราฟก็หัวสั่นหัวคลอน เตียงก็ส่งเสียงดังและโยกไหวไปตามแรงสั่นสะท้าน
 

       ท่วงท่าแห่งรักของพี่ฆิตช่างเชี่ยวชาญชำนาญการจนคนที่อยู่ใต้ร่างซาบซ่านหัวใจและรู้สึกกลัวหัวใจวายอย่างบอกไม่ถูก
 
 
       มันดีมาก จนกราฟบอกได้เลยว่า...ติดใจ...


      เวลาผ่านไป กายยังคงกระแทกกระทั้นเข้าไปในช่องทางคับแคบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับต้องการตอกย้ำลงไปในหัวใจของคนทั้งคู่ว่า นี่จะเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองไม่มีวันลืมและจะตราตรึงลงไปในห้วงของความรู้สึกที่ควรค่าแก่การจดจำ
 

      เมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน เสียงครางของทั้งคู่ก็ดังระงม ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองปลดปล่อยความต้องการออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันด้วยความสุขสม อารมณ์หมาย   

 
       เสร็จสิ้นภารกิจแห่งรัก ต่างฝ่ายต่างทิ้งตัวลงพร้อมกันอย่างหมดแรง ฆิตโน้มตัวไปจูบหนักๆยังปากคนรักส่งท้าย จากนั้นก็เอื้อนเอ่ยเสียงนุ่มละมุน ทว่า หนักแน่นดั่งหินผา
 
 
"กราฟเป็นของพี่แล้วนะ"
 
 
       ว่าจบ ฆิตมองกราฟด้วยดวงตาเปี่ยมรัก หวังจะโรแมนติกสักหน่อย แต่ไม่ทันได้รู้สึกหวานเลย กราฟแย้งขึ้นด้วยถ้อยคำที่ฆิตไม่อยากได้ยินเท่าไหร่
 
 
"ผมเป็นของพี่แล้ว แล้วเมื่อไหร่พี่ฆิตจะเป็นของผมครับ" กราฟเลิกคิ้วอย่างยียวน จนฆิตกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ทัน กราฟกลั้นขำ ก่อนจะว่าต่อให้คนที่มองมาหน้าเหวอและผวากันอีกรอบ
 

"คราวหน้าตาผมนะ...พี่"

 
 
        กราฟลุกขึ้นไปล้างเนื้อ ล้างตัว ด้วยรอยยิ้มขบขันที่เห็นแฟนตัวเอง ไม่พูดอะไรสักคำ สงสัยคงช็อกตาค้างไปแล้ว


       แต่จะว่าไป การเป็นฝ่ายรับก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด...
   
 



 
..................

 
        เช้าวันรุ่งขึ้น
 
         ทุกคนลงมายังส่วนห้องอาหารเพื่อมากินอะไรรองท้อง ก่อนออกเดินทางไปดำน้ำ ตอนนี้ ทุกคนถึงที่โต๊ะอาหารกันหมด ยกเว้น กราฟที่ยังอาบน้ำอยู่ และสาเหตุที่ฆิตไม่รอคนรัก เพราะเจ้าตัวไล่ตะเพิดให้ออกมารับหน้า แถมฆิตยังโดนด่าจนหูชา เพราะเมื่อคืน ฆิตเอาคืนคนที่คิดขู่จะรุกล้ำเขา ด้วยการเล้าโลมจนกราฟโอนอ่อน ยอมร่วมรักไปอีกสองรอบ


        ฆิตรู้จุดอ่อนของกราฟดี คือ การเป็นคนขี้ใจอ่อน ดังนั้น แค่ฆิตอ้อนกราฟ พูดจาหวานหู ทำหน้าน่าสงสารนิดหน่อย กราฟก็พ่ายแพ้ ยอมผ่อนปรนให้ทุกครั้ง...


       นี่ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ฆิตไม่มีวันจะหนีไปไหน

       มีคนน่ารักและใจดีแบบนี้อยู่ใกล้ๆ...ไปก็โง่แล้ว...
 


"ไอ้กราฟยังไม่ออกจากห้องแถมพี่ฆิตอารมณ์ดีแบบนี้ ผมรู้เลยว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น" พลแซวยิ้มๆ

 
"ยุ่งนะมึง" ฆิตนั่งลงไม่ทันไร รีบคว้าส้อมไปเคาะศรีษะพลหนึ่งที จนเด็กหนุ่มหน้างอ


        ดูเหมือนว่าเวลานี้ ทุกคนยิ้มและล้อฆิตผ่านทางสายตากันน่าดู  ฟากฆิตไหวไหล่ไม่สนใจ ก่อนจะก้มหน้าจัดการกินออมเล็ตอย่างเอร็ด อร่อย


"พี่ฆิตดูหน้าตาสดชื่นมากเลยนะครับ"
ท็อปพูดขึ้น


"หน้าพี่มันดูออกขนาดนั้นเลยหรือ?" ฆิตถามท็อปแต่กลายเป็นพลที่แทรกตอบ


"ใช่พี่ เห็นแล้วอิจฉา...โอ้ย...เทวดาเจ้าเอ๋ย...โปรดส่งใครมารักไอ้พลทีเถอะครับ..."
พลว่าพลางยกสองมือพนมขึ้นเหนือหัว


"เดี๋ยวก็มี แต่กูขออวยพรให้มึงได้ผู้ชายนะ พล"

"พี่ฆิต ผมขอเป็นผู้หญิงนมโตดีกว่า ผมชอบ"


"หึๆ" ฆิตหัวเราะในลำคออย่างมีเลสนัย ทิ้งให้พลงับไส้กรอกเข้าปากอย่างเซ็งๆ ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้

 
"เออ...ไอ้ท็อป กูว่าจะถามมึงอยู่ เมื่อคืน มึงไปไหนมาวะ" พลถามพลางเคี้ยวไส้กรอกตุ้ยๆ
 

"มึงพูดอะไร กูก็นอนข้างๆมึง ตอนเช้าก่อนออกจากห้อง มึงก็ยังเห็นกูอยู่เลยไม่ใช่หรอ?" ท็อปตอบหน้าตาย

 
"มันก็ใช่ แต่ช่วงตีสองกว่าๆ กูลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ กูไม่เห็นมึงจริงๆนะเว้ย"
 
"ผีหลอกมึงแล้วล่ะ" ท็อปยังคงยืนยันหนักแน่น
 
 
       ด้านฆิตที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของพี่ชายบวกกับแอบสังเกตเห็นพิรุธบางอย่างจึงอมยิ้ม และช่วยแก้ตัวให้



"น่าสงสารมึงจังพล สงสัยคงโสดจนหลอนคิดว่าเพื่อนทิ้งแน่ๆ มึงรีบหาแฟนได้แล้ว เดี๋ยวกูติดต่อเพื่อนให้เอาไหม?"



"เอาครับ สวยไหม? ผมขอดูรูปหน่อย"
พลละความสนใจจากการคาดคั้นเอาตอบเพื่อน ไปตอบพี่ฆิตอย่างไม่รีรอ แถมทำตาวาว ทั้งยังแบมือขอดูรูปยิกๆ


"สวยไหมไม่รู้ แต่สำหรับกูแม่งโคตรหล่อเลย" ฆิตชักสนุกที่ได้แกล้งพล เพราะสีหน้าเด็กหนุ่มดูสลดลงอย่างเห็นได้ชัด


"โถ่ พี่ฆิต...ชอบแกล้งผมว่ะ คอยดูนะ ผมจะไปเป่าหูไอ้กราฟให้ลงโทษพี่ด้วยการอดเรื่องนั้นไปเลยสองเดือน"


"อย่าแม้แต่จะคิด...ไอ้พล ไม่งั้น มึงได้เปลี่ยนเส้นทางของจริงแน่"


 
      และดูเหมือนศึกนี้จะไม่มีใครยอมใคร ต่างฝ่ายยังคงถกเถียงกัน แม้เสียงทะเลาะจะชวนปวดหัว แต่ท็อปกลับนั่งขำ ก่อนจะชำเลืองมองหน้าพี่ฆีนและเอื้อมมือไปแตะหลังมือพี่ฆีนใต้โต๊ะด้วยรัก


      ยามนี้ บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรักของมิตรภาพและคนรักช่างอิ่มเอมใจเหลือเกิน


       ท็อปคงต้องขอบคุณพี่ฆิตที่เป็นตัวต้นเรื่องในการเดินทางมาทะเลครั้งนี้ เพราะมันช่างเป็นทริปท่องเที่ยวที่อบอุ่นและเปี่ยมสุขจริงๆ...



.........................................


น่ารักจัง
ส่วนพลเขาควรมีคู่เป็น ญ หรือ ช ดีเนี่ย? 555+


ชอบไม่ชอบเมนท์บอกความรู้สึกกันบ้างน้า
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16.2} UPDATE [22 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 22-04-2017 18:12:46
ยังน่ารักอยู่  อย่าเพิ่งดราม่านะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16.2} UPDATE [22 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-04-2017 18:48:50
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16.2} UPDATE [22 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-04-2017 19:09:43
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16.2} UPDATE [22 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 23-04-2017 15:51:36
กราฟโดนกินทั้งตัวแล้ว อิอ พี่ฆิตระวังน่ะ กราฟจ้องอยู่ ฮ่าๆๆๆ ในที่สุดเขาก็ได้กัน

สงสัยอ่ะท๊อปหายไหนตอนตี 2 พี่ฆีนรู้ไหมน่ะ คิกๆๆ

พลต้องมีคู่เป็นผู้ชายเท่านั้นนนนนน เพื่อนพี่ฆิตคนนั้นเลย ชื่ออะไรน่ะ อิอิ จัดเลย

หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16.2} UPDATE [22 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 23-04-2017 22:42:17
แอบย่องหนีตอนกลางคืน

555
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 16.2} UPDATE [22 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-04-2017 23:23:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17} UPDATE [24 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 24-04-2017 19:16:59
ตอนที่ 17 เชื่อใจ


   
      ผ่านมาแล้วสองอาทิตย์ที่กลับมาจากทะเลและตั้งแต่วันที่กราฟยอมปล่อยกายและหัวใจให้เป็นของอีกฝ่ายโดยสมบูรณ์ก็ดูเหมือนพี่ฆิตจะทำตัวติดแจ ไม่ว่าจะเป็น การโทรหาเป็นประจำ เลิกงานก็มารับทุกวัน
 

       และการมารับกราฟเลิกงานนั้น ใช่ว่าจะขับรถไปส่งที่บ้าน แต่เปล่าเลย...พี่ฆิตมัดมือชกให้กราฟมานอนที่ห้องของพี่ฆิตต่างหาก แม้บางครั้ง ทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรเกินเลย แต่ปฏิเสธไม่ได้ที่พี่ฆิตต้องปล่อยให้มือมาซุกซน จับนู้น ลูบนี่ หอมนั่นไม่มีขาด
 

       เช่นเดียวกับวันนี้ที่เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ซึ่งกราฟควรนอนตีพุงอยู่บ้าน พี่ฆิตก็ฉลาดแกมโกงด้วยการขับรถมารอกราฟอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้านแล้ว


       เมื่อฆิตรู้จุดอ่อนว่ากราฟเป็นคนขี้ใจอ่อน ทำแบบนี้ กราฟต้องยอมไปนอนค้างกับฆิตอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะสุดท้าย กราฟหอบร่างตัวเองออกมาหาคนรักทั้งๆที่นอนสบายอยู่บ้านตัวเองแท้ๆ
 

       ณ คอนโดของฆิต ที่เวลาล่วงเลยผ่านไปจนถึงเวลาโพล้เพล้ กราฟนั่งรอพี่ฆิตที่ติดคุยโทรศัพท์เรื่องสำคัญอยู่ เพราะทั้งสองตกลงแล้วว่าเสร็จจากคุยงานจะไปหาร้านอาหารอีสานนั่งกินกัน เพราะกราฟรู้สึกอยากอาหารรสจัดสุดแซ่บ


       เวลานี้ กราฟนั่งดูโทรทัศน์ไปพลางๆระหว่างรอพี่ฆิต แต่ไม่นานนัก มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฆิตที่ติดสายอยู่จึงส่งสายตาพยักเพยิดไปทางประตู กราฟจึงเป็นฝ่ายลุกไปเปิด ซึ่งฆิตรู้แล้วว่าคนที่มาเป็นใคร เพียงแต่กราฟยังไม่รู้...
 

       เมื่อกราฟเปิดประตูก็ต้องตาโต ตกใจ เมื่อเห็นเด็กตัวเล็กสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ยืนร้องไห้สะอื้น...

 
"เฮ้ย! มึงมาได้ไง แล้วเป็นอะไรวะเนี่ย" กราฟถาม เพราะสภาพที่เห็นอยู่ตอนนี้ เนตาแดงและบวมตุ่ย แถมเสื้อผ้าที่ใส่อยู่นี่ดูเหมือนหยิบอะไรก็สวมออกมาเลยอย่างไรอย่างนั้น

 
"ฮือๆ ผมโทรบอกพี่ฆิตแล้วครับ ฮือๆ"  เนว่าจบ กราฟเหลียวหลังไปมองแฟนตัวเอง ที่เพิ่งเดินมายืนซ้อนหลังพลางยกมือแตะไหล่

 
"ขอโทษที่กูลืมบอกมึง พอวางสายจากเน ก็ติดคุยเรื่องงานพอดี" ฆิตอธิบายให้กราฟเข้าใจ ฟากกราฟพยักหน้าน้อยๆ

 
"พี่กราฟอย่าโกรธพี่ฆิตเลยนะครับ เนไม่ได้ตั้งใจมาทำให้พี่ทะเลาะกันนะ แค่หาคนที่ไว้ใจที่สุดได้ในตอนนี้ ฮือๆ"


      เนบอกพลางใช้หลังมือปาดน้ำตาลวกๆ ฟากฆิตที่เคยไปบ้านเขตบ่อยๆ ก็มีโอกาสได้คุ้นเคยกับเน จึงแอบแปลกใจ เพราะไม่ค่อยเห็นเด็กคนนี้ร้องไห้สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะดื้อแพ่งและเถียงอยู่เสมอ นี่ยิ่งทำให้ฆิตแปลกใจกับสิ่งที่เนเป็นอยู่ตอนนี้ไม่น้อย
 

"เป็นอะไรวะเน เกิดอะไรขึ้น มึงทะเลาะกับเขตมาหรือ?"


       ฆิตถาม ฟากเนพยักหน้าแทนคำตอบ
 

"ผมว่าพาเนไปนั่งก่อนเถอะ"


        กราฟบอก ฆิตพยักหน้าเออออ ก่อนจะดึงร่างเล็กไปนั่งที่โซฟา และรอเวลาให้เนพร้อมเล่าเรื่องราวที่เป็นสาเหตุให้เด็กหนุ่มร้องไห้หนักขนาดนี้


       เนที่นั่งคั่นกลางระหว่างฆิตและกราฟยังคงร้องไห้ไม่พูดไม่จาสักคำ จังหวะนั้น ทั้งสองเบิกตาโพลงเมื่อเผลอกดสายตาเห็นรอยจ้ำสีแดงทั่วคอของเด็กหนุ่ม ฆิตและกราฟเงยหน้าสบตากันโดยมิได้นัดหมาย


       ฆิตนั่งถอนหายใจ มองเนด้วยสายตาที่เป็นกังวล แต่ก็ไม่อยากซักไซร้ ทำได้แค่ตบไหล่ปุๆให้กำลังใจและปล่อยให้เนนั่งร้องไห้ให้พอ
 

"พี่ฆิต เนขอหลบมากบดานที่นี่สักพักได้ไหม?"
ตั้งแต่ที่นั่งมา เนเพิ่งพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
 
"อืม...กูยังไงก็ได้ ถามกราฟแล้วกัน" ฆิตตอบด้วยความเกรงใจกราฟ

 
"ก็มาอยู่สิ" กราฟบอก
 

"พี่กราฟไม่ต้องหึงเนนะครับ ถ้าพี่ไม่ไว้ใจเน พี่มานอนด้วยก็ได้นะ" เนบอกด้วยความคิดมาก เพราะก่อนหน้าที่ทั้งสองเคยเจอกันนั้น เนก็พูดจาไม่ดีใส่พี่กราฟไว้เยอะ
 

"เอาเถอะ กูไม่หึง มึงนอนค้างกับพี่ฆิตเถอะ" กราฟตอบตามจริง แม้จะไม่ชอบขี้หน้าเนในตอนแรก แต่พอได้พูดคุยทำให้ได้รู้ว่าเนไม่มีพิษ มีภัย ก็แค่เด็กขาดความอบอุ่น

 
"เฮ้อ! เนเอ้ย ท่าจะหนักนะปัญหามึงน่ะ"


     ทั้งสองนั่งปลอบใจเด็กหนุ่มที่ยกมือปิดหน้า ปิดตาตัวเอง และวินาทีนั้นก็มีเสียงเคาะประตูอีกรอบ
 

      ในเวลาไล่เลี่ยกันขนาดนี้ ฆิตรู้เลยว่าเป็นใคร?...
 

"กูว่าไอ้เขตแน่นอน กราฟพาเนไปหลบก่อน"
 

   

        กราฟพยักหน้าแทนคำตอบ และจูงมือเนไปหลบที่ห้องน้ำ
 

        เจ้าของห้องเร่งฝีเท้าไปเปิดประตูก็พบร่างสูงยืนหน้าถมึงทึง


"กูจะเข้าไปหาเน"
เขตตอบอย่างมั่นใจ เพราะเขตขับรถไล่ตามแท็กซี่ที่เนขึ้นได้ทัน
 

"เนไม่ได้อยู่ที่นี่ มึงมีอะไรวะ ไอ้เขต"  ฆิตว่าจบ เขตตวัดสายตาดุๆจ้องมองเพื่อน
 

"มึงอย่าโกหก"



       เขตไม่รอให้เจ้าของห้องอนุญาติ เขาเดินชนไหล่ฆิตเข้าห้องไปตามหาเน เขตเดินจนทั่ว จนมาหยุดเท้าที่หน้าประตูห้องน้ำ มือหนาบิดลูกบิดประตูก็พบว่ามันล็อคอยู่

 
"เปิดประตูนะเน"
 
"ไม่ใช่เน แต่เป็นกราฟ"
ฆิตตอบ
 

"กูไม่เชื่อ!" เขตตวาดเสียงดังลั่น ทำให้ฆิตไม่พอใจและชักโมโหคนพาลที่มาอารมณ์เสียใส่คนอื่น
 

"มึงเป็นบ้าอะไรวะ...สงบสติอารมณ์หน่อยเห้ย...กูบอกไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ...ไอ้สัด"

 
     เขตเริ่มระงับอารมณ์ไม่อยู่ ความโกรธพุ่งพล่านจนเขตรู้สึกร้อนรุ่มทั่วร่างกาย เขตกระชากคอเสื้อเพื่อนรักจนคอฆิตขึ้นเป็นรอยแดง


"...เมียมึงก็ไม่ใช่ จะคิดปกป้องไอ้เนทำไม หรือว่ามึงแอบเอามันมาแล้วล่ะไอ้ฆิต...ห้ะ!"

     
      และแล้ว ความอดทนฆิตก็ขาดสะบั้น ฆิตปัดมือเขตออกและเหวี่ยงหมัดหนักๆพุ่งเข้าที่ซีกแก้มซ้ายเขตจนหน้าหัน
 

"มึงพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไงวะ นั่นมันน้องมึงนะ...ไอ้เหี้ย..."

 
       เขตดุนลิ้นที่กระพุงแก้มและสัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก เขตหันขวับมามองเพื่อนด้วยสายตาแข็งกร้าว ก่อนจะผลักฆิตอย่างแรงจนฆิตล้มลง เขตตามไปคร่อมร่างและต่อยหน้าฆิตกลับไปเช่นกัน


       ฟากเนรีบเปิดประตูห้องน้ำออกมา เพราะได้ยินเสียงทะเลาะกันดังลั่นและเนไม่อยากให้พี่ฆิตต้องมาเดือดร้อนเพราะเรื่องของตัวเองด้วย
 

"พี่เขตหยุดนะ"


       เสียงเนทำเขตชะงักมือที่ง้างจะต่อยอีกหมัด เขาเอี้ยวตัวไปมองต้นเสียงก่อนจะลุกขึ้นยืนปรี่ไปกระชากแขนเนทันที
 

       ฟากกราฟเห็นคนรักกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่ที่พื้น รีบไปประคองตัวให้ลุกขึ้น
 

"กลับบ้าน..." เขตว่าเสียงแข็ง
 

"ไม่! พี่เขตไม่ใช่พี่ชายเนอีกต่อไปและพี่ไม่มีสิทธ์บังคับเนอีก"
 

"ทำไม กูจะไม่มีสิทธิ์ ห้ะ...." 
เขตขึ้นเสียงใส่เนจนเด็กหนุ่มสะดุ้งโหยงและน้ำตาไหลพรากเลยทีนี้


       กราฟกลัวว่าเรื่องราวจะแย่กว่าเดิม เพราะคนที่คุมสถานการณ์ได้ในเวลานี้ น่าจะเหลือกราฟเพียงคนเดียว


"พูดจาดีๆก็ได้จะตะคอกทำเหี้ยอะไร ไอ้เนเป็นน้องมึงนะ" ฆิตยังคงอารมณ์เดือดดาลอยู่จึงด่าด้วยความโกรธสุดขีด


"ไม่ใช่เรื่องของมึง อย่าเสือก"



      ได้ยินดังนั้น ฆิตปรี่เข้าไปอย่างไม่พอใจ แต่โดนคนรักดันอกห้ามไว้ ก่อนจะลูบไหล่คนพี่เพื่อปรามให้ใจเย็นลง
 

      ถ้าเอาแต่สาดอารมณ์ใส่กัน ห้องเละกันพอดี


      กราฟบอกพี่ฆิตด้วยเสียงนุ่มว่าจะขอเป็นคนช่วยพูดประนีประนอมเอง ฟากฆิตออกอาการฮึดฮัดใส่ แต่ก็ยอมตามใจกราฟ
 

      กราฟสาวเท้าไปยืนใกล้พี่เขต เอื้อมมือตัวเองไปแตะหลังมือพี่เขตเหมือนบอกให้สงบสติอารมณ์ก่อน
 

"พี่เขตครับ ถ้าจะมารับเนกลับบ้าน ผมว่าค่อยๆพูดกันดีกว่านะครับ"
เขตหันมามองตาขวาง แต่กราฟไม่กลัว กลับส่งรอยยิ้มเป็นมิตรไปให้


"เนไม่กลับนะพี่กราฟ" เนวิ่งมายืนข้างๆกราฟทันที
 

"กลับบ้านกับพี่ อย่าให้พูดซ้ำ" เขตจ้องเนเขม็ง
 

"ไม่"
 
"เนพูดกับพี่เขตดีๆ"
กราฟปรามเสียงดุ ก่อนจะหันไปบอกพี่เขตด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
 

"พี่เขตครับ ผมไม่รู้ว่าพี่มีปัญหาอะไรกับน้อง แต่ถ้าเนกลับไปตอนที่พี่ยังอารมณ์ไม่ดีแบบนี้ คงไม่ได้ปรับความเข้าใจกันแน่ๆ เดี๋ยวผมช่วยดูเนให้สักวันสองวันก่อนนะครับ"
 


      กราฟยังคงยิ้มสู้ และพอเห็นพี่เขตนิ่งงันเหมือนยืนคิดและมีแนวโน้มเอนเอียงมาตามคำร้องขอของกราฟ


"เชื่อผมนะครับ พี่เขต รอให้ใจเย็นลงก่อนนะครับ"


      ทันใดนั้น สองมือของกราฟพุ่งไปกุมมือพี่เขตแน่น ราวกับช่วยลดอารมณ์โกรธ และดึงสติพี่เขตให้กลับมา

       แต่....
 
       ฆิตที่เห็นเต็มสองตา รีบเดินรุดเข้ามาปัดมือกราฟออกอย่างไม่พอใจ
 

"แค่บอกมัน ไม่ต้องแตะเนื้อต้องตัวก็ได้มั้ง กราฟ"


 
       กราฟหันขวับไปมองแฟนทันทีที่กำลังทำเสียแผน


       สถานการณ์หน้าสิ่ว หน้าขวานขนาดนี้ พี่ฆิตนี่ก็หึงไม่เข้าเรื่องเลยจริงๆ...ให้ตาย!


       ฟากเขตที่อารมณ์โมโหเบาบางลงบ้างแล้วก็หัวเราะเสียงต่ำกึ่งสมเพช
 

"หาแฟนใหม่เหอะ...กราฟ"
 
"ไอ้เหี้ย เขต!"
 
"พี่ฆิตครับ ผมผิดเอง ผมขอโทษ"
กราฟรีบแทรกกลางระหว่างเพื่อนรักทั้งสองทันที


       นี่กราฟอุตส่าห์แก้ปัญหา ช่วยพูดให้พี่เขตใจเย็นลงแล้ว คนรักดันจะมาเดือดดาลอะไรตอนนี้เนี่ย...
 

       ด้านฆิตมองหน้าแฟนที่ทำหน้าตาอ้อนวอน เขาก้าวถอยหลังออกมา ก่อนจะถอนหายใจสองสามที


"กูเห็นแก่แฟนกูนะ ไอ้เขต"


"ก็ดี"
 
"เดี๋ยวผมไปส่งพี่เขตเลยแล้วกันนะครับ"
กราฟยิ้มกว้างและรีบพูดมัดมือชก ดันหลังพี่เขตให้ไปพ้นจากที่ตรงนี้


      ก่อนก้าวเท้าออกไป วูบหนึ่ง เขตเหลียวหลังมองเนด้วยแววตาที่กราฟแอบเห็นและสัมผัสได้


     แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกด้านลบ มีทั้ง ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ ขอโทษปะปนกันอย่างบอกไม่ถูก


     จนกระทั่ง เดินมาถึงประตูห้อง เขตหันหลังมาบอกกราฟ


"ขอโทษนะกราฟที่พี่โมโหเกินไป"
 

"คนที่พี่เขตควรขอโทษคือเนกับพี่ฆิต ไม่ใช่ผม แต่ผมเข้าใจนะ พี่คงเจอเรื่องร้ายแรงที่ส่งผลต่อจิตใจพอสมควรถึงสติหลุดขนาดนี้ ถ้าคิดได้แล้ว ก็พูดจากันดีๆนะครับพี่ ผมเป็นห่วงทั้งเนและพี่เขตแหละ"
กราฟพูด มิวายฉีกยิ้ม เพื่อไม่ให้พี่เขตอารมณ์เสียอีก
 

"ไอ้ฆิตนี่มันโชคดีนะ" เขตบอกกราฟ แต่สายตามองข้ามไหล่รุ่นน้องเห็นเพื่อนรักยืนกอดอกจ้องถมึงทึงอยู่ไม่ไกลนัก
 

"ใครว่ากันเล่า ผมต่างหากที่โชคดี พี่เขตจำไม่ได้หรือครับว่าผมชอบพี่ฆิตก่อน ถ้าพี่ฆิตไม่รับรัก ผมก็คงอกหักด้วยซ้ำ"


      เขตส่ายหน้าหัวเราะที่เห็นกราฟพูดจาเหมือนถ่อมตัว


      เวลานี้ เขตยังมีศักดิ์ศรีค้ำคอจึงไม่พร้อมขอโทษเพื่อน เขาขอกลับไปนั่งสงบสติอารมณ์ก่อน


      เขตเอ่ยปากร่ำลา กราฟเห็นว่าพี่เขตอารมณ์เย็นลงมากกว่าเดิมจึงตะล่อมถาม


"พี่เขต ผมขอถามอะไรหน่อย พี่ได้ล่วงเกินเนหรือเปล่าครับ?"
 

      เขตยืนนิ่ง และไม่ยอมตอบคำถามนั้น แต่กลับเอ่ยถ้อยคำเสมือนว่ามันเป็นการร่ำลาสุดท้าย


"พี่ฝากบอกเนด้วยว่าให้กลับบ้าน เดี๋ยวพ่อเป็นห่วง ถ้าเนบอกว่าไม่อยากเจอพี่ บอกเลยว่าจากนี้จะไม่เห็นหน้าพี่อีก เพราะพี่คงไม่กลับไปอยู่ที่บ้านหลังนั้นอีกแล้ว"




      เขตยิ้มฝืนๆ และเดินออกจากห้องไปทิ้งให้กราฟที่เป็นคนกลางยืนหน้าเครียด เพราะคำที่พี่เขตพูดมามันเจือน้ำตาอยู่ในนั้น...



****1.1****
:m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17} UPDATE [24 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-04-2017 19:49:27
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17} UPDATE [24 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-04-2017 19:51:51
อะไรยังไง
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17} UPDATE [24 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 24-04-2017 21:03:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17} UPDATE [24 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 24-04-2017 22:56:32
เกิดอะไรขึ้น อธิบายมาเดี๋ยวนี้,,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17} UPDATE [24 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 25-04-2017 20:30:21
ยังไงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17.2} UPDATE [26 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 26-04-2017 20:10:34
ตอนที่ 17 เชื่อใจ (2)






        ยามสายของวันรุ่งขึ้น...

        หลังจากที่เมื่อคืนกว่ากราฟจะนอนก็ปาไปตีสองกว่าๆ เพราะต้องใช้เวลาตามง้อพี่ฆิตอยู่นานถึงจะหลับตาลงได้อย่างสบายใจ สาเหตุอันเนื่องมาจากพี่ฆิตไม่พอใจจริงจังเรื่องที่กราฟไปสัมผัสตัวพี่เขต ซึ่งกราฟให้เหตุผลถึงการสัมผัสว่ามันสามารถส่งผ่านความรัก ความเมตตาให้แก่กันและช่วยพี่เขตให้ใจเย็นลงได้ ซึ่งกราฟคิดว่ามันได้ผลถึงทำแบบนั้น


        แต่ขนาดกราฟอธิบายขนาดนี้ พี่ฆิตยังไม่ยอมหายงอน กลับฉลาดในทางผิดๆ ด้วยการคิดบอกกราฟว่าวิธีเดียวที่ช่วยได้ คือ เรื่องบนเตียง ซึ่งกราฟไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกันตรงไหนล่ะเนี่ย...


       กราฟถึงกับกลอกตาไปมาที่คนรักหาข้ออ้างทำกิจกรรมรัก แต่มีหรือที่กราฟจะไม่ยอม เพราะกราฟก็แพ้ทางคนขี้อ้อนเหมือนกัน...


       สุดท้ายก็ใจอ่อนอีกตามเคย...


      พี่ฆิต...นี่มันพี่ฆิต...จริงๆ...ให้ตายเถอะ!


      ตัดภาพมายังบนเตียงกว้างสีขาวล้วน มีร่างผู้ชายสองคนนอนเปลือยช่วงบน โดยคนพี่นอนตะแคงข้าง ยกมือเท้าศรีษะมองกราฟด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม


      ฆิตมีความสุขจริงๆ สุขจนถึงขั้นคิดมากและกลัวว่าจะเสียกราฟไปอย่างไม่มีเหตุผล...
 

      จนกระทั่ง ไม่นาน กราฟลืมตาขึ้นมาก็เห็นพี่ฆิตนอนมองหน้าอยู่ กราฟหน้าแดงเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าพี่ฆิตแอบจ้องเขานอนมานานเท่าไหร่แล้ว


      กราฟกำลังจะอ้าปากถามว่ามองทำไม ก็โดนพี่ฆิตขโมยจูบไปหนึ่งทีและถอนริมฝีปากออก


      ตอนนี้ รอยฟกช้ำของการโดนต่อยจากเมื่อวานเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงเข้มกว่าเดิมแล้ว


      กราฟมีแววตาหม่นลง ก่อนใช้ปลายนิ้วแตะไปที่รอยช้ำตรงช่วงโหนกแก้มคนรักเบาๆ


"ยังเจ็บอยู่ไหม พี่ฆิต?"
 
"เจ็บดิ...มึงอยู่ดูแลกูก่อน อย่าเพิ่งกลับบ้านได้ไหม?"
ฆิตถามเสียงอ่อย เพราะวันนี้ คนรัก บอกตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าต้องกลับบ้าน


     จู่ๆกราฟก็นึกขึ้นได้เรื่องที่เคยคุยกับพี่เขตเมื่อนานมาแล้ว ที่พี่เขตเคยบอกว่าพี่ฆิตเริงร่าเพื่อกลบเกลื่อนความเหงา


"ผมลืมไปว่าได้แฟนขี้เหงา"
 
"รู้อย่างนี้ แล้วยังคิดจะกลับบ้านอีกหรือ?"




      นั่นไงมาแล้ว...สายตาเศร้าสลดมาพร้อมน้ำเสียงหงอยๆ จนกราฟถอนหายใจ
 

      กราฟเบนสายตาหนีไปทางอื่น ถ้าขืนจ้องหน้าพี่ฆิตอีกมีหวังได้ใจอ่อนอีกรอบแน่ๆ



"ช่วงนี้ พี่บังคับผมให้มานอนกับพี่หลายวันแล้ว ผมขอกลับบ้านบ้างเถอะ..."
 

"กูอยากอยู่กับมึง กูผิดหรือ? กราฟ...เฮ้อ...ต้องให้กูพูดความจริงใช่ไหม? พอมึงเป็นของกู กูเริ่มหวงมึงมาก จนไม่อยากให้มึงอยู่ไกลตากูเลยว่ะ"


"พี่ฆิต ตั้งแต่ที่ผมให้พี่คราวนั้น พี่เล่นไม่ให้ผมกลับบ้านเลยนะ อ้างว่าจะไปส่งผมที่บ้าน พี่ก็แวะกลับห้องทุกทีเลย"



      กราฟเผลอพูดใส่อารมณ์นิดหน่อย แต่ใจจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่กับพี่ฆิต เพียงแต่อยากกลับบานบ้างก็เท่านั้น



"อืม กูคงขอมึงมากไป"
 

"โถ่...พี่ฆิตอย่างอนสิวะ เข้าใจผมหน่อย ผมต้องกลับบ้านจริงๆ เดี๋ยวแม่ว่า"


"อืมก็ได้"



      และดูทำหน้าเข้าสิ หงอยเหมือนหมาโดนเจ้าของทิ้งไว้ข้างทางอย่างไรอย่างนั้น

      กราฟจึงโน้มตัวไปหอมแก้มพี่ฆิตทั้งสองข้างอย่างไว


"เฮ้อ...ผมพูดตรงๆนะ ผมแค่ไม่ชอบเวลาที่พี่มัดมือชกเท่าไหร่ แต่ถ้าพี่ฆิตอยากให้ผมมาอยู่กับพี่ยาวๆ ผมจะกลับไปคุยกับแม่ให้เป็นทางการแล้วกัน โอเคไหม?"


"มึงพูดจริงหรือ?"

"อืม...เดี๋ยวขนเสื้อผ้ามาอยู่กับพี่เลย พอใจรึยัง?"


"พอใจครับ น้องกราฟ...ปะ..ไปอาบน้ำกัน"

"ห้ามทำอะไรแล้วนะพี่ ผมเหนื่อย"


"ครับผม พี่ฆิตสัญญา"



       พอมาคบกันจริงๆจัง กราฟเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้นี่เองว่าพี่ฆิตเป็นคนขี้เหงาจริงๆและติดแฟนมากเลยทีเดียว


       สุดท้ายทั้งสองก็อาบน้ำด้วยกัน โดยปราศจากการล่วงเกินตามคำสัญญา


       เมื่อทั้งสองอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ฆิตและกราฟออกจากห้องนอนก็เห็นเนยืนก้มๆเงยๆอยู่ตรงตู้เย็น


"ทำอะไรน่ะเน"
เนสะดุ้ง


"เนกำลังดูว่าในตู้เย็นมีอะไรบ้าง ว่าจะลองทำให้พวกพี่กินน่ะ แต่จริงๆแล้ว เนทำไมเป็นหรอกนะ"



       กราฟหลุดหัวเราะทันที กับความคิดของเน


"ไม่ต้อง เดี๋ยวออกไปหาอะไรกิน อาบน้ำแล้วใช่ไหม?"


       เนพยักหน้าและแอบมองตามมือพี่ฆิตที่เกาะเอวพี่กราฟไว้หลวมๆด้วยความอิจฉาสายตาและการกระทำของพี่ฆิตนั้นดูออกเลยว่ารักพี่กราฟมากน่าดู


       แม้จะแอบมีความคิดที่นึกเสียดายพี่ฆิต ที่ไม่เคยคิดเปิดใจให้เน แต่ก็ดีแล้ว เพราะพี่กราฟเหมาะกว่าเนจริงๆ...


      ทำไม ชีวิตเนถึงไม่มีคนดีๆแบบนี้มารักบ้าง...

 
     กราฟเห็นเนทำหน้าสลด จึงเดินไปยีผมเด็กตัวเล็ก
 

"เลิกทำหน้าเศร้าได้แล้ว ไปหาอะไรกินกัน พี่ฆิตเลี้ยงใช่ไหม?...พี่"
กราฟพูดแหย่คนรัก
 

"อะไร กูเลี้ยงแค่เมียกูเว้ย มึงก็ออกเงินเองสิวะ ไอ้เน"
 
"อ้าว...พี่ฆิต ไม่สงสารเนมันเลยรึไง น้องมันไม่ได้อยู่บ้านแล้วนะ"

 

"เนมีเงินนะ พี่กราฟ ไม่ต้องห่วง" เนรีบบอก


"ไปๆไม่ต้องคิดมาก มึงต้องออกมาอยู่ข้างนอกอีกนาน กูเลี้ยงเองก็ได้ ปล่อยคนขี้งกไปเถอะ"
กราฟว่าพลางเบ้ปากใส่
 
     เนหลุดขำ ที่เห็นพี่กราฟพูดจาแขวะแฟนตัวเอง
 

"แฟนกูนี่มันเทวดากลับชาติมาเกิดหรือไงวะ ใจดีกับทุกคนจังเลยนะ"

 
"พี่ฆิตเลิกปากหมาเลยว่ะ แม่ง..."



      กราฟถลึงตาใส่ ก่อนจะกอดคอเนเดินออกไปนอกห้อง โดยไม่รอเจ้าของห้องสักนิด
 

     เมื่อทั้งสามมาถึงร้านอาหารสุกี้ในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก็เลือกที่นั่งติดกระจก ซึ่งส่วนใหญ่กราฟและเนเป็นคนจัดการสั่งกันมากกว่า เพราะฆิตตามใจทั้งสอง


     ในระหว่างที่รออาหารมา กราฟมองหน้าเนที่ดูผ่อนคลายกว่าเมื่อวาน จึงหาจังหวะถาม


 
"เนที่ไม่ยอมกลับบ้านเพราะไม่อยากเจอพี่เขตหรอ?"
 
"ก็ประมาณนั้นครับ"
 
"กูขอรู้เหตุผล?"
กราฟถามอีกครั้ง



       เนเม้มปากเงียบไปสักพัก ก่อนเงยหน้าตอบมาด้วยตาแดงๆ


"พี่เขตเขาว่าผมร่านครับ"
 

"แค่นั้น?"
กราฟไม่เชื่อว่าปัญหามันจะมีเพียงแค่คำพูดจาแรงๆ แต่เนกลับนั่งนิ่งไปเลย


      จนกระทั่ง อาหารมา


"เย้ๆ...อาหารมาแล้ว เนหิวจัง ขอกินเลยนะ พี่ฆิต พี่กราฟ"



      กราฟมองหน้าพี่ฆิต ฟากคนรักก็ส่ายหน้าทำนองว่าไม่ต้องถามหรอก ปากแข็งอย่างนี้ ไล่บี้ถามให้ตายก็คงไม่ยอมปริปากบอกแน่ๆ


       กินมาได้สักพัก กราฟตัดสินใจบอกเนเกี่ยวกับเรื่องสำคัญ


"เน เมื่อวานน่ะ พี่เขตฝากบอกกูว่าเขาจะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วนะ ถ้าเนกลับบ้านไปคงไม่เจอพี่เขาแล้ว"


       เนใจกระตุกวูบหนึ่ง เด็กหนุ่มก้มหน้า กัดปากแน่น ก่อนจะยกมือขึ้นเหมือนซับน้ำตาช้าๆ
 

"ขอบคุณครับพี่กราฟที่บอก"


       จากนั้น เนกินไปอย่างเงียบๆ ทิ้งให้กราฟและฆิตมองหน้ากันเองด้วยเหตุผลที่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี


      เพราะตอนนี้ สายตาของฆิตและกราฟที่มองกันเอง มันบ่งบอกว่าทั้งสองคิดตรงกัน...และคาดว่ามันไม่น่าผิดเสียด้วย


 
      สักพักโทรศัพท์ ฆิตดังแทรกขึ้นมา คุยไม่นานนัก ฆิตวางสายและหันมาถามคนรัก


"กราฟ เพื่อนกูชวนไปคอนเสิร์ต EDM ว่ะ ไปด้วยกันนะ เดี๋ยวกูออกค่าบัตรให้"


 
"ไม่ใช่ทางของผมว่ะ พี่ไปเถอะ"

 
"ไปกันเยอะๆสนุกดีนะ มึงไม่ไปจริงๆหรือ? กราฟ"
 

"ไม่ว่ะพี่"


 
"เนอยากไป พี่ฆิต"
 
"ไม่เอา กูไม่อยากทะเลาะกับไอ้เขตแล้วนะ เรื่องเมื่อวานยังไม่เคลียร์เลยเหอะ"


 
"แหนะ...ไม่อยากให้ผมไป เพราะจะได้ทางสะดวก จีบใครก็ได้ล่ะสิ ใช่ไหม?"



      วูบหนึ่ง กราฟที่กำลังคีบเกี๊ยวกุ้งเข้าปากถึงกับชะงัก


"ไอ้เน มึงจะพูดให้กราฟคิดมากทำไมวะ ปากรั่วรึไงมึง"


"พี่กราฟขอโทษครับ เนปากเปราะเอง"
เนที่คิดจะแซวพี่ฆิตเล่นเฉยๆถึงกับรีบขอโทษ ขอโพยเมื่อเห็นพี่กราฟมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป


       ด้านกราฟที่นิ่งเพราะไม่ได้กลัวพี่ฆิตจะจีบคนอื่น แต่กลัวเรื่องแฟนเก่ามากกว่า เพราะดันมีเรื่องเชื่อมโยงกันพอดี


     เรื่องของเรื่อง คือ มีวันหนึ่ง ตอนที่พี่ฆิตอาบน้ำ บังเอิญว่ากราฟแอบเห็นโทรศัพท์ของพี่ฆิตมีแอพพลิเคชั่นไลน์เด้งขึ้น และชื่อคนที่ส่งปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอว่าเป็นพีท


       กราฟรู้ดีว่า มันน่าเกลียดที่เข้าไปค้นโทรศัพท์ แต่เพราะกราฟไม่ไว้ใจพีทสักเท่าไหร่ จึงกดเข้าไปดูข้อความที่พีทส่งมาหาเป็นการชวนพี่ฆิตไปดูงานคอนเสิร์ตนี้เช่นเดียวกัน โดยกราฟเก็บเงียบ เพราะไว้ใจพี่ฆิตไม่อยากโวยวายให้เป็นเรื่องใหญ่


"กูไม่ไปก็ได้นะ กราฟ" ฆิตหันมาจับมือกราฟแน่น เขาไม่อยากให้กราฟคิดมาก


"ไปเถอะ ผมเชื่อใจว่าพี่จะไม่นอกใจผม ใช่ไหม?"
 



     ฆิตพยักหน้าและโน้มตัวไปใกล้กราฟ


"กูคงโชคดีอย่างที่ไอ้เขตว่าไว้จริงๆ มึงนี่มันน่านัก ถ้าไม่ติดว่าอยู่ข้างนอก กูจัดแล้วนะเนี่ย"
 

"ถามจริง? สมองคิดเรื่องอื่นเป็นบ้างไหมวะ? พี่"
 

"ก็คิดเรื่องนี้แค่กับมึงคนเดียวนั่นแหละ..."
ฆิตว่าพลางยิ้มมุมปากและเคลื่อนใบหน้าไปใกล้ๆจนริมฝีปากแตะโดนใบหูอีกฝ่าย
 

"อะแฮ่มๆ เราอยู่กันข้างนอกนะครับไม่ใช่ที่ห้อง" เนแซว ทำให้ฆิตผละออกห่างจากกราฟและชี้หน้าคาดโทษ


"ปากหมาอีก มึงนอนหน้าห้องกูเลยนะ ไอ้เน"



 
      คราวนี้ เนหุบปากฉับไม่พูดอะไรอีกเลย
 

       และแล้ว ทุกคนก็จัดการอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ฟากฆิตแวะไปส่งเนที่คอนโดก่อนจะขับรถไปส่งกราฟที่บ้าน
 

       แต่เมื่อเดินทางบนท้องถนนมาได้สักพัก กราฟมองว่ามันชักไม่เส้นทางที่กราฟคุ้นเคยเท่าไหร่ เขาจึงเอ่ยถาม...


"พี่ฆิตจะพาผมไปไหน? มันไม่ใช่เส้นทางที่ไปบ้านผมนี่หว่า"
 
"เดี๋ยวก็รู้"





...............................

มาาาาาแล้วจ้า...ตั้งแต่ตอนหน้าเป็นต้นไปก็พีคแล้วจ้า
พีคแล้ว พีคอีก พีควนไปค่ะ
เตรียมพบกับความหฤหรรษ์กันเลยจ้าาาาา

5555555....
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17.2} UPDATE [26 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 26-04-2017 22:10:07
พาไปไหนเอ่ย???
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17.2} UPDATE [26 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 26-04-2017 22:16:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17.2} UPDATE [26 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2017 00:19:52
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17.2} UPDATE [26 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-04-2017 14:53:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 17.2} UPDATE [26 เมย.60 ] >> P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 28-04-2017 21:10:22
พี่ฆิตจะเซอร์ไพร์ไรป่ะเนี่ย รอลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18} UPDATE [30 เมย.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 30-04-2017 19:32:05
ตอนที่ 18 กลัว



        จนกระทั่งเวลาผ่านไป ฆิตขับรถมาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่โต ก่อนจะกดรีโมทประตูรั้วเพื่อเปิดกว้างและขับรถเข้าบ้านไปที่โรงจอด ฟากกราฟพอจะเริ่มเห็นเค้าลางอะไรบางอย่าง จึงถามไปไม่รีรอ


"พี่พาผมมาบ้านพี่หรอวะ?"
 
"อืม...พามาเปิดตัวไง"

 

"เรื่องสำคัญแบบนี้  ทำไมพี่ไม่บอกผมก่อนวะ ผมยังไม่ได้เตรียมตัวเลยนะเว้ย ล...แล้ว ผมจะทำหน้ายังไง พ่อแม่พี่จะเกลียดผมไหม? ผมผู้ชายนะพี่...แล้ว...ก็...อื้ออ..."


      ทันใดนั้น ฆิตโถมตัวไปจูบกราฟเพื่อปิดปาก กลบถ้อยคำที่จะทำให้กราฟกังวลใจ จากนั้น ทั้งสองผละริมฝีปากออกจากกัน
 

"ใจเย็นๆนะมึง ครอบครัวกูรับเรื่องนี้ได้ กูจริงจังกับมึงนะ กูถึงพามา"

 
"วันหลังได้ไหมพี่"
 
"ไม่ได้!! มึงจะถอยกลับได้ไง นี่ถึงบ้านกูแล้วนะ"
 

"ก็ผมไม่พร้อม"

 

"มึงอยู่กับกู ไม่ต้องกลัว"


      ฟากฆิตว่าจบ ก็ลงรถมา แต่เขายังเห็นกราฟไม่ยอมออกมาจากรถ จึงเดินอ้อมไปฝั่งคนนั่ง และเปิดประตูดึงร่างเด็กหนุ่มออกมาจนได้
 

      กราฟยืนเก้ๆกังๆ ละล้าละลังว่าจะเข้าบ้านหรือไม่เข้าบ้านดี ด้านฆิตเองที่เห็นอาการกราฟจึงจับมือเพื่อสร้างความมั่นใจให้กราฟและพาเดินเข้าบ้าน


      กราฟกลัวว่าแม่พี่ฆิตเห็นแล้วจะไม่ชอบจึงรีบบิดมือออกจากการเกาะกุม แต่พี่ฆิตกลับกระชับมือแนบแน่นกว่าเดิม


"อย่ากลัวสิ กราฟ"



       พอเข้ามาถึงตัวบ้านด้านใน กราฟสวนกับพี่ฆีนพอดี ฟากฆีนอมยิ้มเพราะรู้ทันทีว่าน้องชายคงพามาแนะนำตัวกับแม่ของตัวเอง


"ไม่ต้องกลัวนะกราฟ แม่พี่ใจดี" ฆีนตบไหล่กราฟเบาๆ ก่อนจะขอตัวออกไปทำธุระข้างนอก
 

       ฆิตที่เจอป้านอมก่อนจึงถามว่าพ่อและแม่อยู่ไหน เมื่อได้คำตอบ ฆิตจึงรู้ว่า ตอนนี้ อยู่เพียงแค่แม่คนเดียวเท่านั้น


       ฆิตจูงมือกราฟไปหาคุณอรอนงค์ซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขก  หางตาของแม่ฆิตเห็นร่างไหวๆเดินผ่านจึงชำเลืองมามองด้วยสายตาดุๆ


"ใครน่ะ ฆิต"
 

       กราฟหน้าซีดเมื่อได้ยินเสียงและแววตาดูขึงขังจนน่ากลัว


       แม้มารดาของพี่ฆิตจะดูสง่างาม ลุคเหมือนผู้หญิงจิตใจดี แต่สีหน้าเวลานี้ กราฟถึงกับไปไม่เป็น


       ไหนพี่ฆีนบอกว่าแม่ใจดีไง? ใจดีตรงไหนเนี่ย! จ้องมองถมึงทึงเสียขนาดนั้น


"แฟนฆิตเองแม่"
ฆิตแนะนำกราฟเสร็จสรรพ จากนั้นทั้งสองก็ทิ้งตัวลงนั่งโซฟาฝั่งตรงข้าม

 
"แฟนลูกควรเป็นผู้หญิงไม่ใช่หรือ?"


!!!

       กราฟชะงักกึก อึ้งทันที เมื่อเห็นสีหน้าแม่ของพี่ฆิตคงไว้ซึ่งความเรียบเฉย ตอนนี้มือของกราฟชุ่มไปด้วยเหงื่อ จนฆิตสัมผัสได้ เขาคลายมือออกจากการกุมมือ แล้วดึงมือของกราฟมาวางไว้บนตักของฆิตแทน


"แม่ครับ เลิกแกล้งเถอะ...น้องมันกลัว"
ฆิตบอกแม่ด้วยหน้าจริงจัง
 

"อะไรกัน...ห้ะ!!...ฆิต...นี่กล้าเถียงแทนกันด้วยหรือไง? เราชื่ออะไรแนะนำตัวซิ"


"ผมชื่อกราฟครับ"
กราฟตอบซะแทบเสียงหายไปในลำคอ


"ดูไม่น่าจะคบกันยืดนะ เราคิดว่าจะเลิกกันเมื่อไหร่ล่ะ?"


 
"แม่ครับ ฆิตว่า..."
 

"ฆิตเงียบ แม่ถามกราฟ"



       แม้จะยังกลัวแม่พี่ฆิต แต่กราฟนั่งนิ่งอยู่ชั่วขณะหนึ่งก่อนตอบ เพื่อรวบรวมสติและไล่ความกลัวออกไป เพราะต้องการให้แม่พี่ฆิตเห็นถึงความมุ่งมั่น จริงใจในความรักของกราฟ

 
"อนาคตผมไม่รู้ว่าเราต้องมีเหตุให้เลิกกันไหม แต่ถ้าถามถึงตอนนี้ เดี๋ยวนี้...ผม 'รัก' พี่ฆิตและไม่คิดเลิกแน่นอนครับ"


      ฆิตเบิกตาโพลง หันไปมองกราฟด้วยหัวใจฟูฟ่อง พองโตและรู้สึกดีใจมากเสียจนยิ้มกว้างโชว์ฟันสวย


      เพราะแม้ว่าจะเป็นแฟนกันแล้วก็จริง แต่กราฟไม่เคยพูดกับฆิตเลยสักคำว่า...รัก...
 

"ไม่อายคนมองหรือไงกัน?" แม่ฆิตถามอีกครั้ง
 

"ไม่อายครับ ถ้าเรามีความสุขและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ผมก็ไม่สนสายตาคนอื่นหรอกครับ"



      แม่ฆิตทำหน้านิ่ว คิ้วขมวดครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มกว้างและตบเบาะข้างๆ ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง


"กราฟมานั่งใกล้ๆแม่ซิ เกร็งเลยล่ะสิ ฮึ?"
แม่ถามพลางยิ้มหน้าชื่น ตาบาน ด้านฆิตถอนหายใจยาว เพราะกว่าแม่จะเผยตัวตนที่แท้จริงออกมาได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ แฟนเขาเป็นลมไปรึยัง?


      ฟากกราฟทำหน้างุนงง เมื่อเห็นแม่พี่ฆิตสีหน้าเปลี่ยนไปแถมเอ่ยเชื้อเชิญให้ไปนั่งด้วยกันอีก ฆิตเห็นกราฟยังคงนิ่ง เขาจึงดันไหล่กราฟเรียกสติ ให้ลุกขึ้นไปนั่งกับแม่ ซึ่งกราฟก็ทำตามโดยดี   
 

"แม่ขอโทษนะที่ต้องเล่นบทโหด แม่แค่อยากรู้ว่ากราฟจะจริงจังกับฆิตแค่ไหน? ตั้งแต่เกิดจนโตมา แม่เห็นฆิตพาแฟนมาบ้านแค่สองคนเอง แม่เชื่อว่า การที่ลูกแม่เลือกพาใครเข้าบ้าน เป็นเพราะเขาให้ความสำคัญ กราฟไม่ต้องกังวลนะจ้ะ แม่เห็นอย่างนี้ แม่รู้เลยว่าฆิตไม่เลิกกับกราฟง่ายๆแน่ ถ้ามีปัญหาเรื่องชีวิตคู่ก็มาคุยกับแม่ได้ แม่ยินดีรับฟังนะ"


"ขอบคุณนะครับ คุณน้า" กราฟไม่รู้จะใช้สรรพนามแบบไหนดี จึงเรียกแบบนั้นไปก่อน


"เรียกแม่เถอะ กราฟ"


"ครับ แม่"
กราฟยิ้มเขินๆ


"วันนี้กราฟสะดวกไหม? อยู่รอกินมื้อเย็นด้วยกันสิ พ่อกับฆีนก็ไม่อยู่ด้วย แม่เหงาน่ะ"

 
"ก็ได้ครับ"

 

      จากนั้น แม่ยิ้มพลางวางมือบนไหล่กราฟ ลูบเบาๆ ก่อนจะขอตัวลุกไปบอกป้านอมเรื่องการทำอาหาร ส่วนฆิตและกราฟยังนั่งกันอยู่ที่เดิม


      ฆิตยิ้มกว้างอย่างโล่งใจที่อย่างน้อยก็ได้ทำตามที่ตั้งใจไว้ ผิดกับอีกคนที่กลับนั่งนิ่งเหมือนคนมีอะไรในใจ


      กราฟตัดสินใจถามออกไป


"พี่ฆิต อีกคนที่พี่พามาบ้าน คือ พีทใช่ไหม?"



     นั่นไง ฆิตว่าแล้วเชียวว่ากราฟต้องถาม ฆิตถอนหายใจ แต่เพราะไม่อยากโกหกจึงตอบตามจริง
 

"อืม...ใช่"




     ใบหน้าเด็กหนุ่ม ผุดรอยยิ้มฝืนๆขึ้นมาอย่างเบาบาง จู่ๆ กราฟก็เกิดน้อยใจขึ้นมาจนได้


     'แฟนเก่า' ที่ตรงสเปกพี่ฆิตทุกอย่าง คนที่ยังส่งข้อความไลน์หาพี่ฆิตเป็นปกติ ทำเหมือนไม่ได้เลิกกัน


      แม้พี่ฆิตจะไม่มีปฏิกิริยาสนใจพีทสักเท่าไหร่ แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ หากพีทยังคงเข้ามารบเร้า พยายามแทรกกลางตลอดเวลา จนกราฟรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


     กลัวว่าถ่านไฟเก่า จะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง...




****1.1****

เตรียมรอคอยกับ
พาร์ทที่เหลือนะคะ ย้ำ!! พาร์ทที่เหลือ...หึๆ
นี่เราโรคจิตปะวะ เนี่ย!!
ชอบการโดนด่ารึไงกัน ป้าดดโถ่!...ฮ่าๆๆๆๆๆฮาาาาาา
 
 
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18} UPDATE [30 เมย.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-04-2017 21:31:10
 :pig2: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18} UPDATE [30 เมย.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-04-2017 21:35:24
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18} UPDATE [30 เมย.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-04-2017 21:55:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18} UPDATE [30 เมย.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 30-04-2017 22:50:22
รออ่านพาร์ทหน้า  เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18} UPDATE [30 เมย.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 01-05-2017 19:46:17
กราฟก็จัดการไฟเก่าเลย
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18} UPDATE [30 เมย.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 01-05-2017 23:32:12
ต้องเคลียร์. ต้องจัดการแล้ว,,,
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18.2} UPDATE [2 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 02-05-2017 20:11:26
ตอนที่ 18 กลัว (2)





      แน่นอนว่า เป็นส่วนใหญ่เมื่อถึงวันเกิดของใครก็ตาม มักต้องหาเหตุผลในการสังสรรค์ ปาร์ตี้เต็มที่ด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้อยู่เสมอ


      เฉกเช่นวันนี้ ที่เป็นวันเกิดพี่กั๊กและแกเอ่ยปากชวนคนที่แผนกล่วงหน้าได้สองสามวันแล้ว ซึ่งทุกคนตบปากรับคำ มีแค่พี่ดลที่ติดงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนและพี่ฆีนที่ต้องไปทำธุระที่ต่างจังหวัดกับครอบครัว


      ได้เวลานัดหมาย พี่แพร พี่กั๊ก พี่ส้ม และท็อปออกจากบริษัทเพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านบาร์ แอนด์ เรสเตอรองค์ ที่ห่างจากตัวบริษัทไม่ไกลเท่าไหร่นัก


       เมื่อถึงร้านแล้วนั้น พวกพี่ๆเดินขึ้นไปชั้นสอง เลือกที่นั่งตรงโซนเอาท์ดอร์ริมระเบียงเพื่อรับลมชมบรรยากาศภายนอก ได้ที่นั่งเรียบร้อยก็สั่งกับแกล้มเคียงคู่เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ชุดใหญ่


      ผ่านไปสักพัก ทุกอย่างที่สั่ง เริ่มทะยอยมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ


"ท็อป ไหนว่าวันนี้จะพาแฟนมึงมาเปิดตัว อยู่ไหนล่ะ?" พี่กั๊กแกล้งทวงถาม เพราะท็อปเคยสัญญาว่าจะพามาให้เห็น
 

"กำลังเดินทางมาครับ" ท็อปตอบยิ้มๆ ฟากกั๊กพยักหน้าเออออ พลางยกแก้วขึ้นดื่ม


 
      ในระหว่างนี้ พวกพี่ๆก็หาเรื่องคุยไปเรื่อย ทั้งมีสาระบ้าง เฮฮาบ้างปะปนกันไป


       จนกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปได้ประมาณยี่สิบนาที เครื่องมือสื่อสารของท็อปแผดเสียงร้องดังขึ้น เขาจึงขอตัวพวกพี่ๆที่นั่งอยู่ไปรับโทรศัพท์หน้าร้าน

 
      ไม่นานนัก ท็อปเดินกลับเข้ามาพร้อมใครอีกคน พวกพี่ๆที่นั่งกันอยู่เหลือบเห็นคนเดินเคียงข้างท็อปมาถึงกับตาโต เพราะแฟนท็อปช่างน่ารักเหลือเกิน เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ผิวขาว ผมสีดำขลับความยาวเลยบ่านิดหน่อย หน้าตาเค้าโครงคล้ายสาวญี่ปุ่น เพียงแค่ยิ้ม เขี้ยวก็โดดเด่นมาแต่ไกล...
 

      ท็อปเลื่อนเก้าอี้ออกเล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวได้นั่งอย่างสะดวก...ทุกคนมองท็อปที่บริการและดูแลมิ้มเป็นอย่างดี


      จากนั้น ท็อปแนะนำมิ้มให้พี่ๆทุกคนได้รู้จัก


"โห...แฟนมึงน่ารักว่ะ น้องครับมีเพื่อนแนะนำไหม?" กั๊กถาม แถมส่งสายตาเจ้าชู้ใส่หญิงสาวอย่างไม่ปกปิด



      ด้านมิ้มยิ้มเอียงอาย ฟากท็อปแกล้งแซวรุ่นพี่คนสนิท


"ได้ข่าวว่าพี่กั๊กมีลูกแล้วไม่ใช่หรอครับ?"



"แหม!...ไอ้ท็อปไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ"


"ฮ่าๆ"




      เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบโต๊ะ จากนั้น พวกพี่แพรก็เป็นฝ่ายเริ่มชวนมิ้มคุย ตั้งแต่เจอท็อปที่ไหน? รู้จักกันได้อย่างไร? เวลาท็อปทำหน้าที่แฟนโรแมนติกไหม? และอีกหลากหลายคำถามที่พวกพี่ๆผู้หญิงถามมิ้มด้วยความอยากรู้


       ขณะนี้ พวกพี่ๆยังถามมิ้มไม่หยุด ส่วนมิ้มก็ดูจะเข้ากับพวกรุ่นพี่ผู้หญิงได้ดีเหลือเกิน สังเกตได้จากการคุยกันอย่างออกรสชาติ


      ท็อปมองหน้าพวกพี่ๆแต่ละคนและยิ้มโล่งใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี



      นั่งดื่มพลางสนทนากันไปได้นานพอสมควร ฟากมิ้มเอนตัวซบไหล่ท็อปและกอดแขนแน่น จนท็อปเลิกคิ้วมองใบหน้าน่ารักอย่างแปลกใจ จึงเอ่ยถาม


"เมาแล้วหรอ? มิ้ม"


"มิ้มมึนแล้วค่ะ พี่ท็อป"


"กลับบ้านไหม? เดี๋ยวพี่ท็อปไปส่ง"


"ไม่ค่ะ พี่ท็อป มิ้มอยู่ก่อนได้"
มิ้มตอบพลางยิ้มหวานฉ่ำ สองมือรัดแขนท็อปแน่นกว่าเดิม


"ถ้ามิ้มไม่ไหวแล้วจริงๆ ต้องบอกพี่ท็อปนะ อย่าดื้อ"



     จังหวะที่ท็อปบอกมิ้ม เขาเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆ แต่เป็นจังหวะที่มิ้มหันมา เลยทำให้พี่ๆทุกคนโห่แซวกันเกรียวกราว เมื่อภาพตรงหน้านั้นเสมือนว่าท็อปจูบมิ้ม


"แหม...ท็อปหวานน้อยๆหน่อย รู้งี้กูไม่น่าบอกให้มึงพามาเลย อิจฉาเว้ยย!"


"ไม่หรอกพี่กั๊ก ที่เห็นนี่ ถือว่าปกติครับ"
ท็อปตอบยิ้มๆ กลบเกลื่อนความหน้าร้อนของตัวเอง


      ด้านกั๊กแอบเบะปากใส่รุ่นน้องอย่างหมั่นไส้ เมื่อเห็นท็อปทำสายตายียวน จากนั้น ทุกคนก็ชนแก้วกันอีกครั้ง และอีกครั้ง วนเวียนไปอยู่อย่างนั้น





      ในเวลาเดียวกัน ถัดมายังนอกร้าน มีใครคนหนึ่งวิ่งตะลีตะลานให้ถึงร้านเร็วๆ เพียงเพราะเป็นห่วงและรู้ดีว่าเวลาท็อปเมาเป็นแบบไหน...


      ฆีนเร่งฝีเท้าพลางหยิบโทรศัพท์กดโทรหากั๊กเพื่อถามว่านั่งส่วนใด ฆีนเดินเข้ามาตามพิกัดที่กั๊กบอก ฟากกั๊กก็ยืนชะเง้อมองพี่ฆีน จนกระทั่งเห็นชายหนุ่มรูปหล่อเดินมาไกลๆ กั๊กยกไม้ ยกมือโบก-ไปมาให้พี่ฆีนได้เห็น


"เฮ้...พี่ฆีน ทางนี้ครับพี่"


     ท็อปที่ยกแก้วขึ้นดื่มถึงกับชะงักค้างและรีบเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงที่พี่กั๊กตะโกนเรียกชื่อคนคุ้นเคย วินาทีนั้น แก้วเหล้าที่ท็อปถืออยู่หลุดมือจนร่วงหล่นพื้นแตกกระจาย


"พะ...พี่ฆีน" ท็อปอุทานเบาๆ


"อ้าว...ท็อปเป็นอะไรมือไม้อ่อนเลย" พี่แพรแซว


"ปะ...เปล่าครับ"



      ด้านพี่แพรส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะกวักมือเรียกบริกรให้ช่วยมาเก็บกวาดเศษแก้วที่อยู่ตรงพื้น


      เมื่อบริกรจัดการเก็บเศษแก้วเรียบร้อยแล้ว ท็อปนั่งหน้าซีด ไม่กล้าสบตาผู้ที่เพิ่งมาใหม่ ท็อปไม่คิดว่าพี่ฆีนจะมางานวันเกิดพี่กั๊ก เขารีบแกะมือมิ้มที่เกาะอยู่ออกทันที
 
 
     พี่ฆีนฉีกยิ้มให้ท็อปก่อนจะหันไปชำเลืองมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆคนรัก


      ฆีนหย่อนกายลงนั่งข้างกั๊ก ซึ่งตรงข้ามกับที่ท็อปนั่งพอดี


"พี่ฆีน ดูดิไอ้ท็อปมันพาแฟนมาอวดด้วย" กั๊กฟ้องพี่ฆีนทันทีที่มา แต่กั๊กไม่รู้ว่าการเมาท์รุ่นน้องอย่างสนุกปากนั้น กำลังทำให้ใครบางคนเจ็บ...

 
"พี่เห็นแล้วล่ะ" ปากตอบกั๊ก แต่ดวงตาจ้องท็อปเขม็ง

 
"ไหนพี่ฆีนว่าไปต่างจังหวัดกลับพรุ่งนี้ไงครับ"  ท็อปถามเสียงขาดห้วง เพราะตอนนี้ ใจเด็กหนุ่มหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
 

"พ่อพี่มีงานด่วน เลยต้องกลับวันนี้ ท็อปยังไม่แนะนำแฟนพี่ให้รู้จักเลย"
 
"ชะ...ชื่อมิ้มครับ"



      ทั้งสองสบประสานสายตากัน โดยไม่พูดอะไรต่อ


      ใครจะคิดล่ะว่า การรีบบึ่งรถมาหาคนรักเพราะความเป็นห่วง กลับกลายเป็นได้ความเสียใจตอบแทนกลับมาเมื่อต้องเห็นภาพที่ทำให้เจ็บปวดใจอย่างไม่ทันตั้วตัวขนาดนี้


      ฆีนรับแก้วจากกั๊กที่บริการชงให้เป็นพิเศษ ก่อนจะยกดื่มจนหมดแก้ว


      ฆีนเก็บอารมณ์พอสมควร เขาอธิบายความรู้สึกเวลานี้ได้ยากลำบากเหลือเกิน หัวใจมันเหมือนหน่วงๆ เจ็บจี๊ดและหายใจไม่ค่อยออก ราวกับมีมือมัจจุราชมาบีบหัวใจให้แน่นขึ้น แน่นขึ้นอีกและพร้อมจะฉีกกระชากหัวใจได้ทุกเมื่อ


      มือฆีนที่ถือแก้วก็ดูอ่อนแรงทุกครั้งที่ยกขึ้นดื่ม


      ฆีนไม่คิดเลยว่า คนรักเขาจะทำเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ได้...


      มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองเรา ตลอดระยะเวลาที่คบกัน ท็อปเอาเวลาไหนไปคบใครอีกคน?


      ฆีนไม่เคยจะรู้...ไม่เลยสักนิดเดียว...


      ในขณะที่คนอื่นๆบนโต๊ะยังคงคุยกันเป็นปกติอย่างไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ลึกลับของทั้งสอง ฟากฆีนยังคงนั่งหน้าชา และนิ่งงันเพราะวนเวียนกับความคิดตัวเองในหัวสมอง จู่ๆ ฆีนก็แค่นยิ้มให้ตัวเองถึงชีวิตรักอันน่าสมเพช


       เพราะสุดท้าย ความรักของฆีนก็จบลงแบบเดิม


       คนที่ฆีนรักและวาดฝันไว้ว่าจะเป็นคนสุดท้ายกลับมาหลอกลวงให้เจ็บแสบเหมือนเช่นที่ผ่านมา


      ราวสามสิบนาที ที่ฆีนฝืนทนและยิ้มทำเหมือนไม่มีอะไร แต่บอกเลยข้างในหัวใจมันทรมาน...เพราะหนึ่งนาทีของฆีนเวลานี้ เสมือนยาวนานเป็นหนึ่งชั่วโมง...


     มันเจ็บมากจริงๆที่ต้องมาเห็นภาพบาดตาที่คนรักตัวเองนั่งกับคนที่กล้าบอกคนอื่นได้เต็มปาก เต็มคำว่านี่..แฟน..


     แล้วฆีนล่ะ...อยู่ในสถานะอะไร?


     สุดท้าย ฆีนทนจำใจนั่งอยู่ต่อไปไม่ได้จริงๆ เขายื่นเงินให้กั๊กและบอกว่าขอเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงวันเกิดครั้งนี้ ก่อนจะร่ำลาทุกคนและลุกขึ้นยืนเพื่อกลับบ้าน


 
      ท็อปมองตามหลังพี่ฆีนที่เดินไปจนพ้นตา วินาทีนั้น ท็อปไม่สนสายตาใคร เขาลุกพรวดออกจากโต๊ะวิ่งไปหาพี่ฆีน โดยไม่พูดอะไร ทิ้งให้ทุกคนที่นั่งอยู่ถึงกับงุนงงเมื่อเห็นอาการ


      จนกระทั่ง ท็อปวิ่งลงมาถึงหน้าร้าน ท็อปมองซ้าย แลขวา จนเห็นร่างไหวๆของพี่ฆีนเดินไปทางซ้ายไม่ไกล เด็กหนุ่มวิ่งหอบตามพี่ฆีนไปยังรถยนต์ที่จอดริมถนนเป็นทางยาว และท็อปคว้าไหล่พี่ฆีนไว้ได้ทัน


"พี่ฆีนฟังผมอธิบายก่อนนะ" ท็อปพูดไปหอบไป เด็กหนุ่มเปลี่ยนสรรพนามตัวเองโดยอัตโนมัติ เพราะรู้ดีว่าเรื่องนี้ร้ายแรง การพูดจาดีๆคงทำให้พี่ฆีนเห็นใจได้บ้าง


"ท็อปออกมาทำไม"
ฆีนถามโดยไม่มองหน้า
 

"ผมอยากคุยกับพี่ฆีน ผมขอโทษ ผมแค่ยังไม่พร้อมให้ใครรู้ว่าผมชอบ...ผู้ชาย..."



      คำสุดท้ายที่เป็นคำสำคัญกลับถูกกลบลบด้วยเสียงของฆีน


"พอเถอะ พี่ยังไม่พร้อมจะฟังเวลานี้"



"พี่ฆีนฟังผมก่อน ผมจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง รวมถึงเรื่องอดีตที่พี่อยากรู้ด้วยนะครับ พี่ฆีน"


"พี่ไม่มีอารมณ์มาฟังอะไรตอนนี้ พี่เดินทางมาเหนื่อยนะท็อป"



       ฆีนพูดความจริง ทั้งที่เขาเพิ่งเดินทางกลับถึงบ้านเมื่อช่วงหัวค่ำแท้ๆ แต่ฆีนไม่พัก เพราะตั้งใจรีบมาหาคนรัก แต่ไม่คิดว่าทุกอย่างจะแย่กว่าที่คิด
   

"ผู้หญิงคนนั้น ผมไม่ได้จริงจังด้วย พี่ฆีนรอผมก่อนได้ไหม? เดี๋ยวคืนนี้ผมไปนอนกับพี่ฆีนนะครับ ขอกลับไปเอากระเป๋าก่อนนะ "


   
       ท็อปตอบเสียงหนักแน่น เพราะเขารู้ดีว่าใครสำคัญ ถ้าให้เลือกตอนนี้ ท็อปก็ตอบโดยไม่ลังเลเลยว่าเขาเลือกพี่ฆีนแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์

 

"ทำไมเราเป็นคนแบบนี้นะท็อป กลับไปหาผู้หญิงคนนั้นซะ"
 

"ไม่! ผมจะไปกับพี่ฆีน"



"ก็บอกให้กลับไปไง!!" ฆีนหันหลังกลับมาตะคอกเสียงดังลั่นทั่วบริเวณ จนท็อปสะดุ้งเฮือก


        ฆีนเงียบไปครู่และสูดลมหายใจเข้าลึกๆอยู่สองสามที ก่อนจะพูดเสียงเข้มขึงขังอีกครั้ง



"และไม่ต้องคิดแก้ตัว พี่ไม่อยากฟัง!"




       ฆีนไม่รีรอให้ท็อปได้อ้าปาก เขาหมุนตัวไปเปิดประตูรถและสตาร์ทเครื่องยนต์ ออกจากที่แห่งนี้ไปทันที
 

       ท็อปยืนตัวแข็งทื่อ ก้าวขาไม่ออก ทั้งๆที่ในใจ ตัวเขาพุ่งไปหาคนรักด้านในรถแล้ว นาทีนี้ ท็อปทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนน้ำตาคลอเบ้า มองรถยนต์สีดำที่เคลื่อนออกไปไกลจนลับตา
 

      และแล้ว 'ความกลัวในอดีต' ที่ฝังลงไปในจิตใจของท็อปกำลังทำให้ชีวิตท็อปพังยับเยิน


     จะโทษใครได้เล่า...ในเมื่อท็อปทำพังเองกับมือ


     และดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ มีแนวโน้มสูงที่ท็อปจะสูญเสียผู้ชายที่รักมากไปอีกเป็นคนที่สอง...
   


   ...............................

ไม่นานเกินรอ เราจะพาไปหวนรำลึกกับอดีตของท็อปด้วยกันค่ะ
.
.
รีบมาต่อให้เลยนะคะเนี่ย!!
...
 
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18.2} UPDATE [2 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 02-05-2017 22:36:52
เหอๆๆ  เริ่มเศร้าแล้ว  เหตุการณ์ในอดีตท็อป  ก็คงเศร้าอีกแล้วใช่ไหม  ถึงทำให้ท็อปในปัจจุบันเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18.2} UPDATE [2 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-05-2017 23:03:03
เฮ้ออออ ต่อให้อดีตเป็นยังไงก็ไม่ควรทำแบบนี้กับพี่ฆีนไหม ท๊อปแม่งเลววะ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18.2} UPDATE [2 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 04-05-2017 00:19:18
อยากรู้อดีตแล้วววว
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 18.2} UPDATE [2 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 04-05-2017 19:06:44
พี่ฆีนไม่ใจร้ายหรอกท๊อป แต่ท๊อปเองก็ต้องเข้าใจสิ่งที่ตัวเองทำไปน่ะ รออดีตท๊อป ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19} UPDATE [4 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 04-05-2017 21:54:27

 ตอนที่ 19 เลิกกัน







        ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราทุกคนล้วนเคยปล่อยให้ความเห็นแก่ตัวเข้ามาครอบงำบ่อยครั้ง จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล แต่สำหรับท็อปแล้วความเห็นแก่ตัวของเขาคงมีมากเกินจนส่งผลร้ายต่อความรักครั้งนี้


      ความเห็นแก่ตัว...ที่มาจากความหวาดกลัวเข้ามาเกาะกินในหัวใจ

     
       'กลัว' ไม่เป็นที่ 'รัก'


        ต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งว่า ทุกคนย่อมต้องการเป็นที่รัก เป็นที่สนใจ คงไม่มีใครอยากถูกรังเกียจ โดนมองเหยียดราวกับเป็นกองขี้เหม็นๆข้างถนนหรอกจริงไหม?


       ท็อปก็เช่นกัน เขาอยากเป็นที่รักของทุกคน จึงแคร์สายตาคนรอบข้าง ผนวกกับอดีตอันเลวร้ายได้หล่อหลอมให้ท็อปต้องโกหกคนอื่นเพื่อปิดบังรสนิยมที่แท้จริง


       ท็อปกลัวไปหมดทุกสิ่งอย่าง จนลามไปถึง กลัวการไม่เป็นที่ยอมรับจากสังคม...เขาจึงเลือกแก้ปัญหาผิดๆโดยการคบผู้หญิงบังหน้า


       ด้วยเหตุผลที่ไม่ยอมรับหัวใจตัวเองว่า...ท็อปชอบผู้ชาย...มานานแล้ว


       นั่นหมายความว่า ที่ผ่านมาท็อปโกหกคนอื่นมาตลอด แต่ลึกๆแล้วนั้น ท็อปไม่สามารถโกหกหัวใจตัวเองได้เลยสักครั้งเดียว...




....................





      นับจากวันที่มีเรื่องคราวนั้นจนถึงวันนี้...ก็เป็นเวลาห้าวันแล้ว...


     ท็อปมาทำงานด้วยความเครียด เพราะพี่ฆีนไม่เปิดโอกาสให้ท็อปได้เคลียร์ปัญหาเลย ท็อปโดนกันทุกช่องทาง ทั้งบล็อกข้อความแชท ตัดสายทิ้งทุกครั้งที่โทรหา เจอหน้าก็เดินผ่านราวกับท็อปเป็นอากาศธาตุ จนเด็กหนุ่มอึดอัดใจต้องแอบไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำเกือบทุกวัน


      ระยะเวลาห้าวันอาจดูไม่นานสำหรับคนอื่น แต่สำหรับคนที่รักกันและมีปัญหากันอยู่นั้น ช่างทรมานเสียจริงๆ...


       ยามนี้ ท็อปนั่งนิ่งด้วยใจเจ็บปวด เพราะพี่ฆีนยิ้มและเฮฮากับคนอื่นแต่เลือกที่จะชาเฉยใส่ท็อป เลี่ยงการพูดคุยกับท็อปอย่างมีชั้นเชิงโดยที่คนอื่นไม่ทันสังเกตเห็น ยิ่งทำให้ท็อปเสียใจเหลือเกิน


     
       แม้ปัญหาของพี่ฆีนจะยังไม่ถูกสะสาง แต่ปัญหาของมิ้ม ท็อปไม่รีรอที่จะจบความสัมพันธ์ จากเหตุการณ์ครั้งนั้น วันรุ่งขึ้น ท็อปโทรบอกเลิกมิ้มทันทีและพูดความจริงว่ามีคนอื่น สิ่งที่ได้รับกลับมาแน่นอน คือ คำด่าทอต่างๆนานา แถมยังมีการตั้งกลุ่มแชทข้อความไลน์ที่มีเพื่อนๆของมิ้มรวมหัวมารุมด่าท็อปกันอย่างไม่ปราณี ซึ่งท็อปก็น้อมรับความผิดนั้นโดยดี และต้องขอบคุณมิ้มด้วยซ้ำที่ทำให้ท็อปชัดเจนในตัวเองได้สักที
 

       ขณะนี้ ท็อปนั่งทำงานพลางคิดหาจังหวะที่จะอธิบายเรื่องนั้นให้พี่ฆีนฟัง



      ต้องขอบคุณสวรรค์จริงๆ ที่จู่ๆ พี่ดลก็เดินมาป่าวประกาศกับน้องๆทุกคนว่าได้เซอร์ไพร์สสั่งพิซซ่ามากินกันที่บริษัท เพราะเป็นวันเกิดของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ พิซซ่ามาถึงแล้ว ทุกคนโห่ร้องดีใจ และเป็นพี่ฆีนที่อาสาลงไปให้ เพราะกำลังจะลงไปซื้อของข้างล่างพอดี



      ท็อปสบโอกาส จึงรอให้พี่ฆีนออกจากห้องก่อนและรีบลุกขึ้นตามไปทันที


      ในระหว่างที่ประตูลิฟต์กำลังปิด ท็อปแทรกตัวเข้าช่องแคบนั้นได้ทัน ฟากฆีนตกใจครู่หนึ่งที่เห็นท็อปเข้ามา แต่ก็ก้มหน้านิ่งเงียบเหมือนเดิม


"พี่ฆีน ผมขอโอกาสอธิบายเรื่องนั้นได้ไหมครับ?"



       ฆีนไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ นั่นหมายความว่า ท็อปพอมีโอกาส ท็อปปรี่ไปประชิดตัวคนรัก และรีบพูดก่อนจะสาย


"พี่ฆีน ผมขอโทษนะครับที่เห็นแก่ตัว พี่จะด่าจะว่าอะไรผมก็ได้ แต่ผมไม่ได้รักมิ้ม ผมเลวที่คบมิ้มบังหน้า เพียงเพราะความขี้ขลาดของตัวเองที่ยังไม่กล้าพอจะให้ใครรู้ว่าผมชอบผู้ชายด้วยกัน"
ท็อปเผยความจริงจนหมดเปลือก


       ฟากฆีนเมื่อได้ยินเหตุผลกลับไม่ชอบใจเท่าไหร่ เพราะไม่คิดว่าท็อปจะอายในสิ่งที่ตัวเองเป็นถึงเพียงนี้
 

      ในเมื่อ เราไม่คิดภูมิใจหรือรักตัวเอง แล้วจะอ้อนวอนขอให้ใครมารักกันเล่า...
 



"พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ!" 


      การบอกเลิกว่าเจ็บแล้ว สิ่งที่ทำให้ท็อปเจ็บยิ่งกว่า คือ เขาเห็นพี่ฆีนยืนน้ำตาคลอเบ้า
 

      หลอกกันเล่นหรือเปล่า? ไม่จริงใช่ไหม? ที่พี่ฆีนจะมาตัดสัมพันธ์กันแบบนี้


      ท็อปยืนหน้าชา ตัวชา ปากสั่นเหมือนนกน้อยไร้รังเป็นที่พึ่ง



"ไม่เอานะ พี่ฆีน ผมขอโทษ ยกโทษให้ผมทีนะครับ"
   


"พี่ว่าพอแค่นี้ดีกว่า ที่ผ่านมาพี่โง่เอง สุดท้ายท็อปก็ไม่ได้รักพี่จริงๆหรอก เลิกกันน่ะดีแล้ว"


 
       ท็อปเอื้อมมือไปกุมมือพี่ฆีนแน่น
 

"ผมไม่เลิก...ไหนพี่ฆีนบอกว่าเราจะไม่เลิกกันไง พี่ฆีนสัญญากับผมแล้วนะ"



       ฆีนมองหน้าท็อป ก่อนจะแค่นยิ้มเยาะ


"ก่อนจะทวงคำสัญญา ลองถามตัวเองดูไหมว่าทำตัวให้คู่ควรแล้วหรือยัง?"

 
!!!


       ท็อปสะอึก ชะงักกึกที่โดนพี่ฆีนพูดจาแทงใจดำจนปวดหน่วงหนึบที่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้าย


       ฆีนมองหน้าท็อปด้วยแววตาผิดหวัง ก่อนพูดประโยคทิ้งท้าย


"มันสายไปแล้วท็อป แค่นี้พี่ก็ดูออกแล้วว่า ท็อปไม่คิดพยายามเพื่อรักครั้งนี้เลย มีแต่พี่ที่ทุ่มเท ทำทุกอย่างอยู่ฝ่ายเดียว"

 

       ท็อปปล่อยโฮทันที  เด็กหนุ่มน้ำตาไหลราวเขื่อนแตก เขาไม่สนแล้วว่าผู้ชายร้องไห้มันช่างน่าอายขนาดไหน...


"พี่ฆีน...ฮึกฮือๆ...ผมขอโทษ แต่เราอย่าเลิกกันได้ไหม? ตอนนี้ให้ผมทำอะไรก็ได้ครับ ผมยอมหมดแล้วจริงๆ ขอร้องอย่าเลิกกันเลยนะครับ พี่ฆีน...ฮือออ"
ท็อปยืนวิงวอน ร้องขอทั้งน้ำตา


 
"ก่อนจะยอมทำอะไรเพื่อคนอื่น ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นให้ได้ก่อนเถอะ...ท็อป" 

 

      ถ้อยคำที่พี่ฆีนพูดมาดุจดั่งหอกแหลมทิ่มแทงหัวใจจนเจ็บปวดเจียนตาย...


      ท็อปไม่มีสิทธิ์เถียง เพราะพี่ฆีนพูดถูกทุกอย่าง...เพียงแต่ตอนนี้ ท็อปรู้ตัวและยอมรับในตัวเองได้แล้ว


      ช่างน่าสงสาร ที่ท็อปรู้ตัวช้าไป


      ความเจ็บปวดรวดร้าว ดั่งคนใกล้ตาย เป็นอย่างไร ท็อปเพิ่งเข้าใจวันนี้...นี่เอง...


      ท็อปร้องห่ม ร้องไห้อย่างไม่เหลือมาด ตอนนี้ ท็อปกลัวจับใจว่าพี่ฆีนจะทำจริงอย่างที่พูด


"พี่ฆีน ผมขอร้อง อย่าทิ้งผมไปนะครับ ฮึกฮือออ..." ท็อปสะอื้นตัวโยนพลางโผกอดพี่ฆีนแน่น


      ฆีนยืนนิ่งยอมปล่อยให้ท็อปกอด เพราะฆีนก็ไม่อยากเอาเวลาที่เหลืออีกไม่กี่นาทีนี้ มาโกรธท็อปอีกแล้ว


      ความเปียกชื้นบนบ่าที่ฆีนรับรู้ได้ถึงน้ำตาคนรักซึมทะลุผ่านผิวกายทำให้ฆีนเจ็บแปลบปลาบ


      ระยะเวลาที่ผ่านมา ฆีนได้ทบทวนเรื่องราวและคิดอย่างถี่ถ้วนแล้วว่า ถึงเวลาที่ควรปล่อยมือท็อปไปเสียที


      ร่างสูงสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและพยายามสะกดอารมณ์ไม่ให้ตัวเองเผลอน้ำตาไหลตามคนรักที่กำลังจะกลายเป็นอดีต


      ริมฝีปากอุ่นๆของฆีนประทับลงข้างขมับท็อปด้วยอาลัยรัก...


      แสนเสียดายที่ฆีนจะไม่ได้สัมผัสและแตะต้องตัวเด็กคนนี้อีกแล้ว


      ไม่กี่วินาทีต่อมา ฆีนเอื้อนเอ่ยคำสำคัญด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวราวขนนก



"พี่รักท็อปนะ แต่ปล่อยให้พี่ได้ไปใช้ชีวิตของตัวเองบ้างเถอะ..."

 

       ทำไมได้ยินประโยคนั้น แล้วท็อปเจ็บหัวใจจี๊ดๆ แถมรู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก


       ท็อปกักเก็บน้ำตาและความรู้สึกไว้ไม่ได้อีกแล้ว เขาแสดงความอ่อนแอให้พี่ฆีนรู้ว่า ท็อปขาดพี่ฆีนไม่ได้จริงๆ สองมือเด็กหนุ่มโอบกอดพี่ฆีนแน่นจนร่างฆีนแทบลีบตามแรงรัด


"พะ...พี่ฆีนครับ ฮึกฮือออ...ผมไม่เอาแบบนี้  พี่ฆีนอย่าทิ้งผม...อย่าไปนะ อย่าไป...ฮือๆ...."

 
 
     แต่ทันใดนั้นเอง...
 

"คุณฆีน นี่มันอะไรกันคะ!!'

 

       ทั้งสองผละออกจากกันแทบไม่ทัน เพราะไม่คิดว่าประตูลิฟต์เปิดออกแล้ว จังหวะนั้น ฆีนและท็อปเห็นคุณไอริณยืนกอดอกจ้องเขม็ง
 

       เชื่อได้ว่า เรื่องการกอดกันครั้งนี้ คงไปถึงหูของพี่ดลหรือไม่ก็ผู้บริหารระดับสูงในไม่ช้า...




 
****1.1****


* พี่ฆีนพูดแต่ละคำ จุกค่ะ...TT

** รอดูอดีตท็อปกันนะคะ...เศร้าไหมไม่รู้ แต่ดูแล้วน่าสงสารค่ะ 

*** ตอนนี้ก็คงพอเฉลยเรื่องสมัยที่ท็อปเจอพี่ฆีนแรกๆได้บ้างเนอะ


ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19} UPDATE [4 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 04-05-2017 22:17:59
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19} UPDATE [4 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 04-05-2017 23:18:05
มาอีกๆๆ. อยากรู้,,,
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19} UPDATE [4 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-05-2017 00:05:37
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19} UPDATE [4 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lovejinjunno ที่ 05-05-2017 04:51:10
เข้าใจท็อปนะ เข้าใจมากด้วย
ดังนั้นจึงไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดท็อปเลย
สงสารและเห็นใจด้วยซ้ำ
เพราะเราก็เป็นเหมือนกัน กลัวขี้ขลาดไปเกือบทุกอย่าง ยิ่งกลัวก็ยิ่งเก็บซ่อน ยิ่งเก็บไว้เท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความกลัวไปได้อยู่ดี เหมือนหลงอยู่ในเขาวงกต เดินไปทางไหนก็ไม่เจอทางออก ไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้หรอก คนที่ไม่เคยเป็น อย่ามองว่าเขาอ่อนแอเลย
ถ้าเราเป็นท็อป แล้วโดนพี่ฆีนขอเลิกด้วยคำพูดต่างๆเหล่านี้ คงไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคน ไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกแล้วอ่ะ พูดแบบนี้เหมือนไล่ทางอ้อมให้ไปตายเลย
คนที่จิตใจปกติ ได้รับคำพูดพวกนี้ยังจุกขนาดนี้เลย แต่กับคนที่จิตใจเปราะบางอย่างท็อป จะทนได้แค่ไหนกันเชียว สงสารท็อปมากที่สุดเลย

ส่วนเรื่องของอิพี่เขตกับเน คู่นี้ก็เชียร์มาตั้งแต่รู้ว่าเป็นพี่น้องคนละแม่ แล้วก็ชอบทะเลาะกันบ่อยๆแล้ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องมันบานปลายขนาดนี้ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นห่วงเนเหมือนกัน
แต่นาทีนี้ เป็นห่วงท็อปมากกว่า..จริงๆ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19} UPDATE [4 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 05-05-2017 13:04:27
เข้าใจท็อปนะ เข้าใจมากด้วย
ดังนั้นจึงไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียดท็อปเลย
สงสารและเห็นใจด้วยซ้ำ
เพราะเราก็เป็นเหมือนกัน กลัวขี้ขลาดไปเกือบทุกอย่าง ยิ่งกลัวก็ยิ่งเก็บซ่อน ยิ่งเก็บไว้เท่าไหร่ มันก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากความกลัวไปได้อยู่ดี เหมือนหลงอยู่ในเขาวงกต เดินไปทางไหนก็ไม่เจอทางออก ไม่มีใครอยากเป็นแบบนี้หรอก คนที่ไม่เคยเป็น อย่ามองว่าเขาอ่อนแอเลย
ถ้าเราเป็นท็อป แล้วโดนพี่ฆีนขอเลิกด้วยคำพูดต่างๆเหล่านี้ คงไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคน ไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมารับรู้อะไรอีกแล้วอ่ะ พูดแบบนี้เหมือนไล่ทางอ้อมให้ไปตายเลย
คนที่จิตใจปกติ ได้รับคำพูดพวกนี้ยังจุกขนาดนี้เลย แต่กับคนที่จิตใจเปราะบางอย่างท็อป จะทนได้แค่ไหนกันเชียว สงสารท็อปมากที่สุดเลย

ส่วนเรื่องของอิพี่เขตกับเน คู่นี้ก็เชียร์มาตั้งแต่รู้ว่าเป็นพี่น้องคนละแม่ แล้วก็ชอบทะเลาะกันบ่อยๆแล้ว แต่ไม่คิดว่าเรื่องมันบานปลายขนาดนี้ อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นห่วงเนเหมือนกัน
แต่นาทีนี้ เป็นห่วงท็อปมากกว่า..จริงๆ


ถึงกับต้อง Log in มาตอบ และหาวิธีตอบกลับว่าทำยังไง 55555555,,, มึน!!

คุณเขียนข้อความมายาวมาก...แต่ขอบคุณมากนะคะที่เข้าใจสิ่งที่เรานำเสนอไป เราดีใจจัง นั่งคิดแทบตายว่าคนอ่านจะเข้าใจที่เราสื่อไหม? (มีหนึ่งคนก็ยังดีกว่าไม่มีเลย)...ฮ่าๆๆๆๆ


คันปากอยากอธิบาย ฮ่าๆๆๆ

1. เรื่องนี้เราพยายามให้เห็นการใช้ชีวิตของคนอะค่ะว่าถ้าคุณเดินทางโดยใช้ชีวิตยึดติดกับอดีตแล้วผลจะเป็นเช่นไร
 บางคนไม่ยึดติดอดีตก็ดีไป แต่บางคนยึดจนไปต่อไม่ได้ นั่นก็คือท็อปไง เขาเลยทำชีวิตพังโดยไม่รู้ตัว...เอาจริงสงสารท็อปนะ อย่าซ้ำเติมน้องเลย 55+

2.เรื่องการแคร์สายตาคนอื่น หรือแคร์สังคมมากเกินไป
เรื่องนี้เราจึงสร้างตัวละครมาที่มีความคิดแตกต่างกันชัดเจน อย่างกราฟที่ไม่สนใจอะไร ถ้าไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เขารักก็รักเต็มที่แม้ว่าคนนั้นจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน กราฟไม่แคร์ขี้ปากชาวบ้าน ถ้าคนพวกนั้นไม่ใช่คนที่กราฟรัก ไปให้คุณค่าทำไม?

ผิดกับท็อปนี่ไม่ได้ แคร์ทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า
เพียงเพราะสาเหตุที่รู้ๆกันอยู่ นั่น คือ ยึดติดอดีต อีกตามเคย...


**มาอ่านตอนนี้ซ้ำอีกรอบ เออว่ะ!! แต่ละประโยคของพี่ฆีน  ...จัดว่าจุกแทบกระอักเลือดเลย...
แต่พี่ฆีนหวังดี จึงต้องพูดแรงๆเพื่อเตือนสติท็อปนะคะ ไม่งั้นท็อปจะไม่เปลี่ยนตัวเองสักที!!

3. ตายแล้ววววว!! ไม่คิดว่าจะมีคนชอบคู่เขต - เน ดีใจค่ะ เพราะตัวละครของเขตแทบไม่มีอะไรโดดเด่น แถมออกมานับครั้งได้ แต่ขนาดเราเขียนเองเราก็ชอบเขตนะ ไม่รู้เพราะอะไร งงเหมือนกัน? 55555+


4. สุดท้าย ขอบคุณอีกครั้งที่เข้าใจท็อปค่ะ น้องมีอดีตไม่ดีในวัยที่บริสุทธิ์เลยฝังใจจนเจ็บค่ะ

*** และขอให้คุณคนอ่าน ก้าวข้ามความกลัวในชีวิตให้ได้นะคะ...

สิ่งที่น่ากลัวกว่าความกลัว ก็คือ ความคิดของเราเอง

สู้ๆนะคะ ^^ ***


รักคนอ่าน

หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19} UPDATE [4 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-05-2017 13:20:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19.2} UPDATE [7 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 07-05-2017 22:30:23
ตอนที่ 19 เลิกกัน(2)


 


      หลังจากที่คุณไอริณเห็นท็อปและพี่ฆีนกอดกันวันนั้น ไม่นานเรื่องก็ถึงหูผู้บริหารระดับสูงและพี่ดลถูกเรียกพบทันที แน่นอนล่ะว่าปัญหาก็ตามมาอย่างที่คาดคิดไว้ไม่มีผิดเพี้ยน


      ฟากพี่ดล พอรู้เรื่องนี้ถึงกับกุมขมับ เรียกท็อปและพี่ฆีนเข้าห้องประชุมด่วน เพื่อสอบถามรายละเอียดชัดๆจากปากจนได้คำตอบทุกอย่างว่าเรื่องที่พี่ดลได้ยินก่อนหน้านั้นเป็นความจริง พี่ดลเครียดไม่น้อย เพราะเรื่องนี้ เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้บริหารพอสมควร เขาเสียดายความเป็นคนเก่งและมีความสามารถของพี่ฆีน จึงคิดหาทางช่วยเจรจากับทางผู้บริหารให้อีกหน แต่ดูเหมือนไม่เป็นผล เพราะผู้บริหารไม่สบอารมณ์กับกรณีที่ผู้ชายคบกันเสียด้วย



       ต้องยอมรับว่าในสังคมวงกว้าง ยังมีคนรับไม่ได้อีกเป็นจำนวนมาก ทางผู้บริหารกลัวเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงให้ข้อสรุปเรื่องนี้ คือ พี่ฆีนและท็อปโดนเลิกจ้าง โดยมีการจ่ายค่าชดเชยให้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งมีผลอนุมัติในการให้ออกจากบริษัทภายในระยะเวลาสิบห้าวัน



      ทั้งสองก้มหน้ายอมรับชะตากรรมกับผลลัพธ์ที่มันออกมา และไม่คิดโทษใครทั้งสิ้น เพราะฆีนและท็อปดันเอาปัญหามาสะสางในที่ทำงาน มันก็สมควรแล้วที่ต้องโดนเช่นนี้


     ส่วนคนต้นเรื่องที่คาบข่าวไปบอกอย่างคุณไอริณ พอรู้ว่าพี่ฆีนเป็นเกย์ก็ช็อคพอสมควร...



      จากคนที่เคยหลงใหลได้ปลื้มพอรู้เรื่องรสนิยม เวลาพบหน้าพี่ฆีนโดยบังเอิญ คุณไอริณก็ทำท่าทางรังเกียจพี่ฆีนอย่างเห็นได้ชัด ฟากฆีนไม่ได้สนใจ เพราะเขายอมรับตัวเองได้ ในเมื่อเขาไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ทำไมต้องมานั่งสนใจสายตาคนที่รับไม่ได้ในสิ่งที่เขาเป็นด้วยล่ะ...จริงไหม?


       และดูเหมือนว่า เหตุการณ์นี้จะไม่จบลงง่ายๆ เพราะจากเรื่องที่ควรจะเงียบหาย กลับกลายเป็นทอล์ค ออฟ เดอะทาวน์ของบริษัท ที่ไม่รู้ว่าเรื่องหลุดรอดไปได้อย่างไร ทั้งที่ความจริงมีเพียงผู้บริหารเท่านั้นที่รู้ ซึ่งพนักงานแผนกอื่นพอเห็นพี่ฆีนก็มองแล้วซุบซิบนินทากันใหญ่ ฆีนก็เดินผ่านนิ่งๆตามปกติอย่างไม่สนใจ เพราะมันเป็นความจริงที่ฆีนไม่คิดหนีอยู่แล้ว


       ส่วนคนในแผนกเอง พอได้รู้ข่าว ก็ไม่ได้นึกรังเกียจ แต่ตกใจมากกว่าที่รู้ว่าพี่ฆีนเป็นเกย์ เพราะพี่ฆีนดูไม่มีลักษณะไปทางนั้นเลย แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจเพิ่มขึ้นไปอีก คือเรื่องที่รู้ว่าพี่ฆีนและท็อปคบกัน เพราะก่อนหน้านั้นไม่นาน ท็อปเพิ่งพาแฟนที่เป็นผู้หญิงมาเปิดตัวอยู่เลย แต่เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทุกคนจึงไม่กล้าถามอะไร...ได้แค่ปลอบใจและมุ่งมั่นกับการทำงานต่อไปอย่างเช่นทุกวัน




......................



       ผ่านพ้นไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่ผลการเลิกจ้างถูกระบุมา เหลือเวลาอีกแค่แปดวันเท่านั้น ที่ทั้งสองต้องพ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้



     เวลาที่ล่วงเลยมา ดูเหมือนว่าพี่ฆีนตั้งใจหลบหน้า เพราะไม่เข้ามาที่บริษัทเลย ซึ่งท็อปมักรู้ข่าวจากพี่กั๊กที่บอกว่า พี่ฆีนออกไปทำงานข้างนอก ยังดีที่ตั้งแต่มีเรื่องมีราว พี่ๆที่แผนกก็ไม่มีใครถามอะไรเพิ่มเติม เนื่องจากคงเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่กลับเลือกที่จะให้ความสนใจด้วยการปฏิบัติต่อท็อปอย่างเอ็นดูและดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ



     ในตอนแรก ท็อปยอมรับว่าอายและกลัวเมื่อเรื่องถูกแพร่กระจายไป แต่พอเห็นพี่ๆทุกคนทำตัวเหมือนเดิม ท็อปก็ดีใจและค่อยๆคลายความกลัวลง แต่สิ่งที่กลัวในตอนนี้ คือ ท็อปกลัวไม่ได้เจอพี่ฆีนอีก เพราะเขาเหลือเวลาอีกไม่มากที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดพี่ฆีน ดังนั้น ท็อปต้องหาวิธีง้อพี่ฆีนอีกครั้ง เผื่อจะได้กลับมารักกันเหมือนเดิม



     วันนี้ ซึ่งตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ท็อปไม่ลุกไปไหน เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้องนอน ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน ซึ่งเรื่องอกหักช้ำรัก ทางครอบครัวของท็อปยังไม่มีใครรู้ แม้กระทั่งเพื่อนสนิทอย่างพลและกราฟ ท็อปก็ปิดปากเงียบเช่นกัน



      ระยะเวลาที่เลิกรากันนั้น ท็อปร้องไห้ทุกครั้งที่นึกถึงพี่ฆีนและรู้สึกอยากตายตลอดเวลา แต่เพราะใจไม่กล้าพอและคิดว่าขอต่อเวลาตัวเองด้วยการหาทางง้อพี่ฆีนอีกครั้ง


       
      บนเตียงนอนที่มีร่างเด็กหนุ่มนอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ใบหน้ายังมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่ ท็อปยังคงร้องไห้ไม่หยุดเพราะนึกถึงวันเวลาเก่าๆที่มีแต่สองเรา เวลานี้ ยิ่งเปิดเพลงเศร้าคลอเคล้าด้วยแล้ว ในใจของท็อปยิ่งดำดิ่งลงสู่ความอ้างว้าง โหวงเหวง และโดดเดี่ยวเหลือเกิน เพราะตั้งแต่ที่พี่ฆีนไม่อยู่เคียงข้าง ชีวิตท็อปช่างดูว่างเปล่าและเหมือนไม่เหลืออะไรแล้ว

 
      คนที่เคยใกล้ คอยดูแล ห่วงใยอย่างรู้ใจ วันนี้ ไกลห่าง...


      คนที่เคยรักกันมาก ต้องมาจากกันไป


      คนๆนั้นที่ว่ามา... ท็อปได้ทำหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย 


      ความรักของท็อปที่เคยมีอยู่จริงได้สูญหาย เหลือไว้แต่ความทรงจำที่บรรจุอยู่ในหัวสมองและหัวใจท็อปเท่านั้น

     
      ในระหว่างที่ท็อปนอนน้ำตาไหลหวนคิดถึงอดีต เสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดความคิดที่ผุดขึ้นในหัวสมอง ท็อปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของกราฟ ท็อปรับสายทั้งๆที่เสียงอู้อี้จนกราฟจับอาการได้ว่าท็อปแปลกไปจึงคาดคั้นเอาคำตอบ สุดท้าย ท็อปคิดว่าการได้ระบายให้ใครได้ฟังคงดีเหมือนกัน



      ท็อปยังไม่บอกเรื่องสำคัญผ่านทางปลายสาย เขาตัดสินใจนัดกราฟและฝากบอกให้ชวนพลมาด้วย

 
      จนกระทั่ง ทั้งสามมาถึงร้านกาแฟชื่อดังในห้างสรรพสินค้า เพื่อนๆตกใจเมื่อเห็นสภาพท็อปดูโทรมอย่างไม่น่าเชื่อ


      ทุกคนไม่เซ้าซี้ เพียงแต่นั่งนิ่งรอให้ท็อปเปิดปากพูดเอง ท็อปเงียบอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวความรัก ว่าเขาแอบคบกับพี่ฆีน และเล่าถึงสาเหตุที่มีปัญหาจนต้องเลิกกันด้วย ซึ่งท็อปก็ขอโทษเพื่อนๆซ้ำๆที่เรื่องนี้ ไม่ยอมบอกกล่าวกันก่อน


      ฟากพลและกราฟได้แต่บอกว่าไม่เป็นไร เพราะเข้าใจอารมณ์ท็อปตอนนี้ แม้จะสงสัยในตอนแรกที่ท็อปปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ชอบผู้ชาย แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงมาคบกับพี่ฆีนได้ แต่เพราะเห็นสีหน้าของท็อปแล้วไม่มีใครอยากถามหรือซ้ำเติมเท่าไหร่


      ตลอดการนั่งฟังที่ท็อปเล่ามา กราฟคิดว่า ปล่อยท็อปไว้คนเดียวน่าจะอันตราย เพราะกลัวท็อปคิดสั้น ฆ่าตัวตาย กราฟจึงเอ่ยขึ้น


"ช่วงนี้ มึงอย่าเพิ่งอยู่คนเดียวเลย มึงควรมีเพื่อน กูจะพามึงไปอยู่ห้องพี่ฆิต  เดี๋ยวกูนอนด้วย"
กราฟบอก เพราะบางที การให้ท็อปไปนอนห้องพี่ฆิต กราฟอาจจะขอความร่วมมือให้คนรักช่วยเรื่องพี่ฆีนด้วย


"ไม่เป็นไร กูเกรงใจพี่ฆิต" ท็อปบอก


"มึงเห็นพวกกูเป็นเพื่อนหรือเปล่าวะ? เพื่อนมีไว้ทำไม? มันต้องอยู่ได้ทั้งสุขและทุกข์ดิวะ ส่วนเรื่องพี่ฆิตมึงไม่ต้องเกรงใจ พี่ฆิตแฟนกู กูขอร้องแค่นี้ เขาทำให้กูได้อยู่แล้ว"
กราฟบอกอย่างมั่นใจ


       ท็อปยกมือเช็ดน้ำตาตัวเอง ก่อนตอบ


"ขอบใจนะ เห็นไหม กูถึงชอบบอกพวกมึงบ่อยๆว่ากูดีใจที่มีพวกมึงเป็นเพื่อนไง กูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ"



     ตั้งแต่ท็อปเกิดมา มีพลและกราฟที่ทำให้ท็อปรู้ว่าเพื่อนรักที่แท้จริงเป็นอย่างไร ทั้งสองยิ้มกว้างและตบบ่าท็อปให้กำลังใจ พร้อมบอกว่า ท็อปก็เป็นเพื่อนที่ดีเช่นเดียวกัน


      ระบายความในใจมาได้ระดับหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่กราฟและพลพาท็อปนั่งรถแท็กซี่กลับไปบ้านเพื่อช่วยกันเก็บเสื้อผ้าพาท็อปไปนอนที่คอนโดของพี่ฆิต


      จัดการเรื่องเสื้อผ้าของท็อปเรียบร้อย ทั้งสามก็มุ่งหน้าไปยังคอนโดของพี่ฆิตทันที


      ดูเหมือนว่า นอกจากห้องของฆิตจะกลายเป็นแหล่งสังสรรค์แล้ว ห้องของเขายังกลายเป็นแหล่งปรับทุกข์อีก เพราะตั้งแต่เนกลับบ้านไปเพราะพ่อโทรตาม ท็อปก็เข้ามาแทนที่ในเวลาไล่เลี่ยกัน


      แต่ก่อนจะเดินทางไปถึงที่หมาย กราฟส่งข้อความไปบอกพี่ฆิตให้รู้เรื่องท็อปคร่าวๆจะได้ไม่ตื่นตกใจ


      ใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งสาม ถึงคอนโดพี่ฆิตเป็นที่เรียบร้อย ฆิตเดินมาเปิดประตูต้อนรับก็แอบตกใจ เมื่อเห็นท็อปดูผิดไปกว่าที่เคย เด็กหนุ่มที่มีผิวพรรณขาว สดใสกลับโทรมและหมองคล้ำ ไร้สง่า ราศี ร่างกายก็ผ่ายผอมจนฆิตเห็นแล้วสงสาร


"ผมรบกวนมานอนห้องพี่ฆิตหน่อยนะครับ" ท็อปว่าเสียงแผ่ว
 

"ไม่รบกวนเลยท็อป ดีซะอีก พี่จะได้ไม่เหงา" ฆิตยิ้มอบอุ่น ฟากท็อปยกมือไหว้ขอบคุณ



      หลังจากที่ท็อปเดินเข้าไปเก็บสัมภาระในห้องนอนเล็กของพี่ฆิตเรียบร้อยแล้ว เขาเดินมาหาเพื่อนๆที่นั่งรอกันอยู่ที่โซฟาด้วยแววตาที่มองมาอย่างเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา


      ท็อปกอดเข่าอยู่บนโซฟาอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก ดวงตาก็เหม่อลอย ทอดสายตาอย่างไม่มีจุดหมาย ด้านพลและกราฟต่างลูบหลัง ลูบไหล่ แต่ไม่พูดอะไร ปล่อยให้เวลาพาความรู้สึกที่ท็อปพร้อมเมื่อไหร่ก็คงอยากบอก อยากเล่าออกมาเอง

     
     ความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียคนรักได้ทำให้ท็อปร้องไห้อีกครั้ง เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด จากนั้น ท็อปก็เปรยขึ้นมา


"พวกมึงอยากรู้ไหมว่า ทำไมกูต้องปิดบังเรื่องที่กูชอบผู้ชาย"



       พลและกราฟพยักหน้าแทนคำตอบ


"ต้นเหตุมาจากอดีตอันน่าสมเพชของกูเอง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง..."



       และอดีตอันเลวร้ายของท็อปที่เก็บเป็นความลับมานานกำลังจะถูกเปิดเผย เพราะท็อปไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนในชีวิต


       นี่จะเป็นครั้งแรกที่ท็อปจะบอกคนอื่นให้รู้อย่างไม่เหลืออะไรให้อายอีกแล้ว...


 


.........................................

ห้ามพลาดดดด!!!!

กับตอนต่อไปของเด็กชายทินภัทร์ อัตถขจร น้องท็อปในวัยเพียง 13 ปี

พื้นที่ขอสปอยล์ในตอนหน้า 'อดีตฝังใจ' จ้าาาาาาา


******

"ท็อปชอบพี่ใช่ไหม?" โฟล์ทย้ำหนักแน่น ฟากท็อปเบิกตากว้างอย่างตกใจและอายเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่รู้ความในใจ

      เด็กน้อยนั่งคิดในใจว่าจะทำอย่างไรดีนะ ถ้ายอมรับออกไป ท็อปจะผิดหวังหรือเปล่า?

"พี่โฟล์ทดูออกด้วยหรอครับ?"

"ตอนแรกก็ดูไม่ออกหรอก แต่พี่มาสังเกตว่า คนเราจะเดินหน้าแดงได้ตลอดเวลาเลยหรือ? มันไม่น่าจะใช่นะ ก็เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าท็อปน่าจะชอบพี่ใช่ไหมล่ะ ฮึ?" พี่โฟล์ทว่าพลางกลั้วเสียงหัวเราะ



******

"พี่อยากลองจูบท็อป ได้ไหม?"

   ไม่จริงใช่ไหม? คนที่ท็อปแอบชอบขอจูบกันโต้งๆ เด็กน้อยนั่งกระพริบตาปริบๆและเงียบเพื่อตัดสินใจ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19.2} UPDATE [7 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 07-05-2017 22:37:35
ติดตามจ้า  ดราม่ามากเลยนะ  โดนเลิกจ้างทั้งคู่เลย  เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19.2} UPDATE [7 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 08-05-2017 00:16:20
มุมมองแคบไปนั สำหรับบริษัทนี้,,,
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 19.2} UPDATE [7 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-05-2017 00:31:26
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20} UPDATE [9 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 09-05-2017 23:28:49

ตอนที่ 20 อดีตที่ฝังใจ





     คนส่วนใหญ่ย่อมเคยมีอดีตฝังใจจนกลายเป็นปมด้อยลึกๆอยู่ในจิตใต้สำนึก และบางครั้งก็เผลอซ้ำเติมตัวเองด้วยการแสดงออกไปในทางที่แย่โดยไม่รู้ตัว



      ย้อนกลับไปในอดีตอันเลวร้ายที่กลายเป็นตราบาปอย่างไม่มีวันลบออกไปจากใจ ของเด็กชายทินภัทร์ อัตถขจร น้องท็อปในวัยเพียง 13 ปี


      เด็กหนุ่มใส ซื่อตามวัย มีผิวพรรณเนียนขาวสะอาดสะอ้าน หน้าตาน่ารักมากกว่าจะดูหล่อในสมัยนั้น


      ครั้งวัยเยาว์ ท็อปเป็นเด็กที่โลกสดใสคนหนึ่ง เขาเป็นคนว่านอนสอนง่าย และขี้อ้อนมาก แต่กับแค่แม่และพี่ชายของตัวเองเท่านั้น


      จุดเปลี่ยนของท็อปเริ่มขึ้นในครั้งที่เรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง ท็อปเป็นเด็กหัวปานกลาง ไม่เก่ง แต่ก็ไม่ทำตัวเกเรให้พ่อแม่เดือดร้อน ช่วงนั้น ท็อปมีเพื่อนสนิทสามคน ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด


      ทุกอย่างดูเหมือนจะปกติดี ถ้าหัวใจของเด็กชายทินภัทร์ไม่เผลอมอบความรักให้ใครคนหนึ่ง


      ในตอนนั้น เด็กชายทินภัทร์ไม่รู้จักคำว่าเกย์ว่ามันหมายความว่าอย่างไร เขารู้เพียงแค่ว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น มีความแตกต่างจากสิ่งที่ควรจะเป็น เพราะรู้ตัวเองดีว่าชอบผู้ชายและหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นคนที่ชอบ ช่างเหมือนสาวแรกแย้มไม่มีผิด


      และผู้ชายคนแรกที่ท็อปชอบจนกลายเป็นจุดหักเหของชีวิต นั่นคือ...



      พี่ 'โฟล์ท' รุ่นพี่มัธยมศึกษาชั้นปีที่สี่ สำหรับเด็กมัธยมแล้ว พี่โฟล์ทถือว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาหล่อเหลาเอาการ คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ตัวสูง ลุคดูแบดบอยมากในยุคนั้น ที่สำคัญ เป็นรุ่นพี่ที่ดังที่สุดในระดับชั้นมอปลาย จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครต่างพากันรู้จักชื่อเสียงเรียงนามพี่โฟล์ทกันอย่างกว้างขวาง



       ต้นเหตุของการแอบชอบเริ่มมาจาก วันหนึ่ง ท็อปมีเรียนวิชาพละแล้วต้องเดินผ่านสนามฟุตบอล ซึ่งเป็นจังหวะที่พี่โฟล์ทเล่นบอลกับเพื่อนๆ



     คงเพราะออร่าแผ่กระจายทำให้พี่โฟล์ทดูโดดเด่นกว่าใคร โดยเฉพาะเวลาเล่นบอลที่ต้องวิ่งไล่ลูกบอลกลางแดด จนเหงื่อไหลราวกับสายน้ำ ทำให้เสื้อนักเรียนของพี่โฟล์ทเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อจนเสื้อแนบลำตัว ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้น่าหลงใหลได้อย่างไม่น่าเชื่อ





     ตั้งแต่วันนั้น ท็อปพยายามสืบเสาะหาข้อมูลของพี่โฟล์ท จนได้ตารางเรียนมาและช่วงไหนที่พี่โฟล์ทรวมตัวเตะบอลกับเพื่อนๆ ท็อปยืนด้อมๆมองๆและพยายามเดินเลียบๆเคียงๆไปทางสนาม

 

     จนกระทั่งวันหนึ่ง ท็อปทำเช่นนี้เหมือนเดิม เขาเดินเลาะสนามไปแต่ดันเป็นจังหวะซวยที่เพื่อนพี่โฟล์ทเตะบอลออกนอกสนามมาลงตรงศรีษะท็อปพอดี

 

     แต่ท็อปก็ไม่คิดหรอก ว่าความซวยจะกลายเป็นความโชคดี เมื่อพี่โฟล์ทเป็นคนที่วิ่งมาเก็บลูกบอลแล้วพูดกับท็อปด้วยเสียงนุ่ม

 

"เจ็บไหม? น้อง"

 

"ไม่ครับ"
ท็อปตอบพลางหลุบสายตาลงต่ำ เพราะใจสั่นและเขินจัดที่คนที่ชอบมาอยู่ใกล้แค่เอื้อม




      พี่โฟล์ทตะโกนบอกเพื่อนอะไรสักอย่าง ซึ่งท็อปมึนเบลอเกินกว่าจะสนใจคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเอง พี่โฟล์ทกอดคอท็อปพาไปนั่งที่แสตนด์ข้างสนามฟุตบอล



"พี่ขอดูหน่อยสิ เมื่อกี้ลูกบอลโดนตรงไหน?"


 
      ท็อปยังคงก้มหน้า แต่ยกมือชี้บริเวณที่โดน ฟากพี่โฟล์ทคลำศรีษะของท็อปจนสัมผัสได้ถึงเนื้อที่ปูดโน



"หัวโนเลยนี่หว่า พี่ขอโทษแทนเพื่อนด้วยนะ"



     ท็อปหน้าร้อนและคงแดงจัดแล้ว เขาก้มหน้างุดไม่กล้ามองคนที่พูดจาช่างเป็นสุภาพบุรุษ

 

"ร้อนหรือ? ทำไมหน้าแดง หูแดงขนาดนั้น น้องชื่ออะไรล่ะ ฮึ?"

 
"ทะ...ท็อปครับ"
ทุกบทสนทนา ท็อปไม่ได้เงยหน้าเลยสักนิดเดียว

 

"พี่ชื่อโฟล์ทนะ อยู่มอสี่ เราอยู่มออะไร"


"ม...มอหนึ่งครับ"




"หืม...เด็กจัง แต่ก็น่ารักดี"

 



     และนั่นคือจุดที่ทำให้ท็อปและพี่โฟล์ทได้สานสัมพันธ์คุยกันต่อหลังจากนั้น...



     การพบเจอกันทำให้มีการแลกเบอร์โทรศัพท์และทั้งสองคุยกันมาเรื่อยๆ... มีบ้างที่เลิกเรียนแล้วพี่โฟล์ทชวนท็อปไปนั่งกินไอศกรีม หรือไม่ก็ดูหนังกันที่ห้างสรรพสินค้า



     จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองเดือนกว่าๆ


     วันหนึ่ง ช่วงเลิกเรียน พี่โฟล์ทนัดท็อปมานั่งที่ลานม้าหินอ่อนแถวหลังโรงเรียน ซึ่งตอนนั้น เด็กนักเรียนเริ่มบางตาลงบ้างแล้ว



      นั่งกันได้ไม่นาน โฟล์ทกุมมือท็อปแล้วเอ่ยขึ้น


"ท็อปชอบพี่ใช่ไหม?" ฟากท็อปเบิกตากว้างอย่างตกใจและอายเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่รู้ความในใจ



"ห้ะหา... พี่โฟล์ทว่าอะไรนะครับ"
ท็อปหน้าแดงทันที นี่เขาก็ไม่ค่อยแสดงออกเลยนี่นา ทำไมพี่โฟล์ทถึงรู้ได้

 

"ท็อปชอบพี่ใช่ไหม?"
โฟล์ทย้ำถามประโยคเดิมอีกครั้ง



      เด็กน้อยนั่งคิดในใจว่าจะทำอย่างไรดีนะ ถ้ายอมรับออกไป ท็อปจะผิดหวังหรือเปล่า?


"พี่โฟล์ทดูออกด้วยหรอครับ?"


"ตอนแรกก็ดูไม่ออกหรอก แต่พี่มาสังเกตว่า คนเราจะเดินหน้าแดงได้ตลอดเวลาเลยหรือ? มันไม่น่าจะใช่นะ ก็เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าท็อปน่าจะชอบพี่ใช่ไหมล่ะ ฮึ?"
พี่โฟล์ทว่าพลางกลั้วเสียงหัวเราะ



    ฟากท็อปเงยหน้ามองพี่โฟล์ทครู่หนึ่งก็เห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มจนใจละลาย ท็อปรีบหลุบสายตาลงต่ำ เขาใจเต้นแรงจนกลัวหัวใจวาย



     เพราะแววตาและรอยยิ้มพี่โฟล์ทแสดงออกมาช่างดูเหมือนว่าพี่เขามีใจให้ท็อปเลย...



     ในระหว่างที่ท็อปนิ่งงันนั้น อยู่ดีๆ พี่โฟล์ทดันคางท็อปให้เงยขึ้นมาประสานสายตากันและพูดในสิ่งที่ท็อปอึ้ง


"พี่อยากลองจูบท็อปได้ไหม?"



     ไม่จริงใช่ไหม? คนที่ท็อปแอบชอบขอจูบกันโต้งๆ เด็กน้อยกระพริบตาปริบๆและนั่งเงียบเพื่อตัดสินใจ

 
"น้องท็อปอย่าทำเป็นไม่ได้ยินน่า ให้พี่ลองจูบนะครับ"

 

     ท็อปนั่งคิดกัดปากแน่น เขาอยู่แค่มอหนึ่งเองนะ ยังอ่อนต่อโลก และไม่ประสี ประสาเรื่องรักสักเท่าไหร่ อีกทั้ง ความรู้เรื่องเพศค่อนข้างต่ำและไม่ค่อยเข้าใจด้วย


      แล้วการจูบนี่ คือต้องทำอย่างไร เพราะเด็กชายทินภัทร์ไม่เคยจูบใครมาก่อน กลัวจะทำตัวเปิ่น เด๋อด๋าใส่พี่โฟล์ทจังเลย


     ในระหว่างที่ท็อปยังหาคำตอบให้พี่โฟล์ทไม่ได้...ขณะนั้น โฟล์ทถือวิสาสะโน้มตัวไปจูบท็อป รุ่นพี่ขบเม้มริมฝีปากบนและล่างอย่างหยอกเย้า


       ท็อปเหวอและตกใจที่พี่โฟล์ทจูบโดยไม่ขอก่อน ท็อปยอมรับว่าเกร็งมาก เพราะทำไม่เป็น แต่จากความเงอะๆงะๆก็ผ่อนคลายและพยายามเรียนรู้ตามคนที่รุกก่อน


       เพิ่งรู้ว่าการได้จูบกับคนที่แอบรัก มันดีอย่างนี้นี่เอง...


 
       สัมผัสอันอบอุ่น นุ่มหยุ่น ทำท็อปใจเต้นตึกตักและรู้สึกเหมือนได้ขึ้นรถไฟเหาะ มันดีมากจริงๆ...


       เพราะโอกาสไม่ได้มีมาบ่อยๆ การได้จูบคนที่เราชอบทำให้ท็อปลืมไปเลยว่าตอนนี้เขายังอยู่ในสถานศึกษา


       ท็อปเคลิบเคลิ้มกับจูบพี่โฟล์ทที่ตอนแรกเริ่มด้วยความนิ่มนวล ไม่กี่นาทีต่อมา ก็ร้อนแรงจนวาบหวามหัวใจ


       เด็กชายทินภัทร์ดึงสติกลับมาเมื่อมือหนาของอีกฝ่ายรูดซิปกางเกงท็อปลง ก่อนจะล้วงเข้าไปในกางเกงนักเรียนของเด็กหนุ่ม ลูบคลำ เค้นคลึงไปมา


      แม้ใจอยากผลักออก แต่มือกลับไม่รักดี ดึงพี่โฟล์ทเข้าหาและขยุ้มแขนเสื้อพี่โฟล์ทจนยับยู่ยี่



     ท็อปไม่รู้ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เขาเรียกว่ามีอารมณ์ทางเพศหรือเปล่า?


     ทำไมน้องชายของท็อปถึงมีปฏิกิริยาตื่นตัวและแข็งขึ้น ทั้งๆที่ตอนแรกยังอ่อนยวบอยู่เลย
 

      ท็อปไม่เข้าใจจริงๆถึงสิ่งที่โดนกระทำอยู่ แต่ท็อปรู้ได้อย่างเดียวว่าเขามีความสุขที่คนที่แอบรักทำแบบนี้ มันดีต่อใจจนท็อปปล่อยกาย ปล่อยใจไปตามผู้คุมเกมส์อย่างพี่โฟล์ท แต่ทันใดนั้นเอง...


"ไอ้เหี้ยโฟล์ท ทำอะไรวะ"

 

     ทั้งสองผละออกจากกันรวดเร็ว และเป็นโฟล์ทที่ลุกขึ้น ก่อนจะใช้สองมือผลักอกท็อปอย่างแรงจนเด็กหนุ่มตัวกระเปี๊ยกปลิวตกลงจากม้านั่งหินอ่อน หลุดร้องสบถเสียงดังลั่น


     โฟล์ทลุกขึ้นเดินไปหาเพื่อนสามคนที่ทำหน้าเหมือนผิดหวังในตัวของโฟล์ท



"มึงเป็นตุ๊ดหรือวะ ไอ้โฟลท์"


     โฟล์ทรีบละล่ำละลักบอก


"ปะ...เปล่านะเว้ย!! ขอบคุณว่ะที่มึงเรียกสติกู กูเพิ่งรู้ว่าน้องแม่งชอบกูและมาขอจูบ กูเผลอเหม่อแปปเดียว แม่งดึงกูไปจูบเฉยเลย...เหี้ยเอ้ย!...พากูไปห้องน้ำ ล้างปากหน่อยดิวะ โคตรแขยงปากเลยว่ะ..."
โฟล์ทใช้หลังมือปาดปากไปมา ก่อนจะถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างรังเกียจเดียดฉันท์


       เพื่อนโฟล์ทได้ยินดังนั้น ก็เกิดอาการไม่พอใจ ในวัยติดเพื่อน ความรักเพื่อนพุ่งพล่านจนไม่ได้คิดไตร่ตรองก่อนเลย หนึ่งในแก็งค์เพื่อนพี่โฟล์ททำท่าจะเข้ามาเตะท็อป ที่ยังนั่งอยู่ที่พื้น แต่โฟล์ทยกมือดันอกเพื่อนห้ามไว้ก่อน และหนึ่งในแก็งค์นั้นพูดขึ้น


"ไอ้เหี้ย!...หน้าด้านจริงๆเลยนะมึง ขนเพิ่งขึ้นไม่ทันไรก็คิดจะอ่อยแล้วหรอวะ...มึงจำไว้นะ....อีตุ๊ด เพื่อนกูดีเกินกว่าจะเอาตุ๊ดอย่างมึงทำเมียว่ะ หึๆ"



       ท็อปน้ำตารื้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดถากถางที่มาพร้อมเสียงหัวเราะเยาะเย้ยทับถมไปอีก ท็อปอึ้งเพราะไม่ทันตั้งตัวและได้อธิบายอะไรเลย


      มันไม่ใช่ความจริงสักหน่อย...ทำไมพี่โฟล์ทพูดอย่างนั้นล่ะ ก็เขาเป็นฝ่ายขอท็อปจูบก่อนแท้ๆ



      นี่หมายความว่าอย่างไร?  หรือแท้จริงแล้ว พี่โฟล์ทไม่ได้ชอบท็อปเลย?

 
      ทำไม อยู่ดีๆ ท็อปก็รู้สึกเจ็บปวด หน่วงในอกเหลือเกินกับคำด่าเหล่านั้น...


      นั่งประมวลเหตุการณ์ จนตอนนี้ ท็อปฉลาดขึ้นในบัดดล เมื่อรู้ว่าท็อปโดนหักอกแล้ว


      ความเจ็บจากการโดนผลักจนก้นกระแทกพื้นมันยังน้อยกว่าคำด่าและอาการเมินของพี่โฟล์ทที่ทำแบบนั้น...


      พี่โฟล์ทมาให้ความหวังท็อปทำไมกันครับ....


     เมื่อก๊วนของพี่โฟล์ทเดินจากไป เหลือเพียงความโดดเดี่ยว จู่ๆ ท็อปเจ็บหัวใจจี๊ดๆจนทรมาน เด็กชายทินภัทร์ยังนั่งอยู่ที่พื้น ร้องไห้สะอื้นจนต้องยกมือปิดหน้าปิดตาด้วยความอายพร้อมคำถามที่มีอยู่ในใจว่า...

     ทำไมล่ะครับ?


     การที่ท็อปชอบผู้ชายมันผิดมากเลยหรือแม่...ฮึกฮือออ...

 


 


****1.1****



ขอบคุณที่อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20} UPDATE [9 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-05-2017 00:11:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20} UPDATE [9 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-05-2017 01:11:52
แมสมัยเด็กของท้อปน่าสงสาร,,,
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20} UPDATE [9 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-05-2017 16:19:18
น่าสงสารท๊อปอ่ะ พี่ฆีนจะรู้ไหมน่ะ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20.2} UPDATE [12 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 12-05-2017 21:50:28
ตอนที่ 20 อดีตที่ฝังใจ(2)





      หลังจากมีเรื่องวันนั้น พี่โฟล์ทเงียบและไม่ติดต่อท็อปอีกเลย เด็กชายทินภัทร์ทำใจแล้วว่าคงอกหักแน่นอนและพร่ำบอกกับตัวเองให้มันเป็นบทเรียนสอนใจแทนแล้วกัน



      ท็อปคิดว่าเรื่องระหว่างท็อปกับพี่โฟล์ทมันควรจะจบลงด้วยดี แต่ไม่กี่วันถัดมา เรื่องราวที่สมควรถูกลืมเลือนปลิวหายไปกับสายลม กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเรื่องนี้ ถูกเล่าขานกันปากต่อปาก อันเนื่องมาจากเพื่อนรุ่นพี่ที่เห็นวันนั้นไปกระจายข่าวเพิ่มเติม ผนวกกับแก็งค์พี่โฟล์ทดันเป็นกลุ่มใหญ่ประจำโรงเรียน เรื่องที่ท็อปชอบพี่โฟล์ทกลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่เด็กนักเรียนต่างฮือฮา แถมข่าวลือหนาหูนั้นกลับใส่สีตีไข่เพิ่มจนแทบไม่เหลือเค้าโครงความจริง ข่าวพูดกันว่า ท็อปอยากได้พี่โฟล์ทจนตัวสั่นเลยขอจูบพี่โฟล์ทก่อน และหลังจากนั้น ท็อปตามไปบ้านพี่โฟล์ทเพื่อยอมนอนอ้าขา พลีกายให้พี่โฟล์ทมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งเรียบร้อยแล้ว

 

     นี่แหละหนา...ปากของคนเรา คิดอยากจะพูดเสริมเติมแต่งอะไรก็พูดไป ขอแค่ความสนุกปาก คึกคะนอง โดยไม่คำนึงหรือสนใจว่ามันอาจสร้างปัญหาบานปลายจนส่งผลกระทบต่อคนที่จิตใจอ่อนไหวง่ายให้เขาคิดอยากฆ่าตัวตายก็เป็นได้...



     ช่างน่าอดสูยิ่งนัก ที่คนเรามักสนุกเพราะได้เห็นความอับอายขายขี้หน้าของคนอื่น จนมันกลายเป็นสินค้าของสังคม



     ไม่เพียงเท่านี้ ความเจ็บปวดไม่หยุดแค่ข่าวลือ เพราะหลายครั้งในช่วงเวลาเปลี่ยนคาบเรียน ที่ท็อปบังเอิญเจอกลุ่มพี่โฟล์ท  ท็อปจะโดนพวกกลุ่มรุ่นพี่ตะโกนแซวเสียงดังลั่น ไม่ว่าจะเป็น 'ตุ๊ดน้อย!' 'ตุ๊ดหัวโปก' 'น้องตูดบาน' และเสียงหัวเราะไล่ตามหลัง จนคนที่เดินผ่านไป ผ่านมา มองท็อปเป็นสายตาเดียว



     เด็กชายทินภัทร์ฝืนเดินผ่านและไม่พูดอะไร ทั้งๆที่อายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี การแซวแบบนั้นส่งผลร้ายแรงให้กับชีวิตของเด็กชายทินภัทร์ในเวลาต่อมา เมื่อเพื่อนๆท็อปที่เคยสนิทสนมก็เริ่มเหินห่างเพราะอายที่จะมีเพื่อนเป็นตัวตลกของกลุ่มดังระดับโรงเรียน





       ท็อปยังไม่มีโอกาสได้บอกความจริง เพื่อนๆก็ตีตัวออกห่างและเด็กชายทินภัทร์ก็กลายเป็นคนไม่มีเพื่อนนับตั้งแต่บัดนั้นมา

 

       เมื่อไม่มีใครคบ ท็อปต้องไหว้วานแม่ให้ทำกับข้าวมื้อเที่ยงไปกินที่โรงเรียนทุกวัน ส่วนเวลามีรายงานกลุ่ม ท็อปก็โดนบังคับให้ทำรายงานเพียงคนเดียวเพื่อแลกกับการมีรายชื่อของตัวเองอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ...





       ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ทำให้ท็อปเสียความรู้สึกก็มาจากคนใกล้ตัวอย่างเพื่อนในห้องเริ่มแกล้งท็อปเสียเอง หนักสุดก็เห็นจะเป็นการแปะโพสต์อิทไว้ที่หลังเสื้อนักเรียนของเด็กชายทินภัทร์โดยไม่รู้ตัว ซึ่งข้อความเขียนว่า

 

    'เป็นตุ๊ดครับ เชิญเอาตูดได้'

   



       ตั้งแต่มีเรื่อง ไม่มีวันไหนที่ท็อปไม่ร้องไห้เลย เขากลับมาจากโรงเรียนด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจว่า แค่เขาชอบผู้ชาย มันผิดขนาดนั้นเลยหรือ?



        เป็นอย่างนี้มาปีกว่าที่ทุกอย่างไม่ดีขึ้นจนเด็กชายทินภัทร์เครียดจนไม่อยากไปโรงเรียน ทำให้หลังๆมา ท็อปเริ่มโดดเรียน เพราะไม่อยากไปพบเจอหน้าใครอีก

 

        แต่แล้วความซวยก็ยังมาพาลพบ เมื่อวันหนึ่ง ท็อปเดินห้างสรรพสินค้า ดันเจอสารวัตรนักเรียนจับได้ เรื่องถึงฝ่ายปกครอง แต่ยังดีคนที่มาเจรจา เป็นพี่แทนเลยทำให้เรื่องไม่ใหญ่โตกว่าเดิม เพราะถ้าเป็นพ่อ ท็อปรู้เลยว่า คงโดนทำร้ายร่างกายไปแล้ว

 

       ถ้าเป็นอยู่อย่างนี้ ท็อปแย่แน่ๆ เขาทนไม่ไหว ตัดสินใจบอกแม่ขอย้ายโรงเรียนเพราะมีปัญหากับเพื่อน แม่ตบปากรับคำว่าจะช่วยพูดกับพ่อให้  เด็กชายทินภัทร์กลัวพ่อมาก เพราะพ่อเป็นทหาร ค่อนข้างดุและเคร่งครัดในระเบียบวินัย มีความขึงขัง แข็งแกร่งดั่งชายชาติทหาร และที่สำคัญกว่านั้น พ่อท็อปเกลียดเกย์เข้าไส้ ท็อปเคยได้ยินพ่อพูดบ่อยๆ ถึงรู้เหตุผล

 

      นั่นจึงเป็นจุดที่ท็อปต้องยิ่งกดความชอบไม่ให้ใครรู้และจับได้เรื่องรสนิยมที่ชอบผู้ชาย รวมถึงบุคลิกภาพภายนอกท็อปก็ต้องฝืนตัวเองแสดงออกด้วยความเป็นชายแท้โดยสมบูรณ์

 

      มันทรมานมากแค่ไหนกับสิ่งที่รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่แสดงออกไม่ได้ ท็อปเก็บกดมาโดยตลอด จนหัวสมองมีแต่เรื่องของการคิดฆ่าตัวตาย



     และแล้วก็มีโอกาส เมื่อวันหนึ่ง พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน พี่ธัญไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนพี่แทนไปทำธุระยังไม่กลับ เด็กชายในวัยมอสองคว้าเชือกไนล่อน มาผูกยึดกับราวแขวนเสื้อในตู้เสื้อผ้า เพื่อหวังจะปลิดชีพตัวเองให้จบปัญหานี้เสียที



     เด็กชายทินภัทร์มัดปมเงื่อนเสร็จเรียบร้อย พร้อมสวมเข้าคอตัวเอง แต่เสี้ยววินาทีนั้น พี่แทนที่ตั้งใจซื้อขนมมาฝากน้องชาย เปิดประตูเข้าห้องมาเห็นภาพตรงหน้า ถึงกับช็อคและวิ่งถลามาดึงเชือกออกและกอดท็อปแน่นจนท็อปตกใจ



     อ้อมกอดอบอุ่นที่เจือด้วยความรักแผ่ซ่านไปถึงหัวใจของเด็กชายทินภัทร์ และเสียงสะอื้นร้องไห้ของพี่แทนพร้อมคำพูดย้ำๆว่ารักทำให้ท็อปดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันและไม่คิดวู่วามอีก เพราะท็อปรู้เลยว่า เขายังมีครอบครัวเป็นที่พึ่งสุดท้าย



     คำว่ารักและอ้อมกอดของพี่แทนนั้น เป็นเหมือนสายน้ำชะโลมหัวใจให้เด็กหนุ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง และจุดพีคที่ทำให้ท็อปใจสั่น เมื่อพี่แทนจูบซับที่เปลือกตาของเด็กหนุ่มพร้อมบอกว่าจากนี้จะคอยอยู่เคียงข้างท็อปตลอดไป นั่นจึงเปลี่ยนความคิดของท็อปไม่คิดฆ่าตัวตาย รวมไปถึงความรักที่ท็อปมีให้พี่แทนก็ไม่ใช่แบบพี่ชายอีกต่อไป...



     และพี่แทน คือ ผู้ชายที่ท็อปรัก เป็นคนที่สอง...

 

      พี่แทน เป็นลูกชายคนโตและเป็นที่ปลาบปลื้มของพ่อพอสมควร เพราะเขาสามารถทำตามคำสั่งของพ่อได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง



      พี่แทน คือ ส่วนผสมผสานของความเป็นพ่อและแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขามีทั้งความเข็มแข็ง เด็ดเดี่ยวเป็นผู้นำ แต่ในทางกลับกัน เขาก็อ่อนโยน นุ่มนวลได้อย่างไม่น่าเชื่อ พี่แทนไม่เคยใช้บทโหดกับท็อปมีแต่เอ็นดูและปกป้องท็อปเสมอ





      และตั้งแต่วันที่ท็อปฆ่าตัวตาย พี่แทนไม่แพร่งพรายบอกใคร แถมดูแลและเป็นห่วงเป็นใยไม่ยอมให้ท็อปคลาดสายตาสักวินาทีเดียว



       ที่สำคัญ พี่แทนกลัวน้องชายคิดสั้นอีก จึงบังคับให้ท็อปมานอนที่ห้องด้วยกัน และทุกเช้าที่ตื่นมา ท็อปมักเห็นตัวเองอยู่ในอ้อมกอดพี่แทน เด็กหนุ่มเคยถามก็ได้คำตอบว่า ท็อปนอนผวาตลอด พี่แทนเลยต้องกอดให้คลายกังวล



      พี่แทนเข้ามาเติมเต็มความรักในวันที่ท็อปขาดหายและไม่เคยได้รับจากใคร นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ท็อปรักพี่แทนมากขึ้นกว่าเดิม



      จากนั้นไม่นาน ช่วงเวลาที่เหมือนตกนรกทั้งเป็นของท็อปได้ผ่านพ้นไป เมื่อแม่ขอพ่อเรื่องย้ายโรงเรียนให้ท็อปได้สำเร็จ

   

     เด็กชายทินภัทร์ได้เข้าสถานศึกษาแห่งใหม่ ในขณะที่กำลังขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม

 

     ท็อปพร่ำบอกกับตัวเองว่า จากนี้เขาจะเข็มแข็ง ทำตัวแกร่งไม่ยอมให้ใครมาวางอำนาจบาตรใหญ่ใส่อีกต่อไป     



     เด็กชายทินภัทร์รู้สาเหตุแล้วว่าการชอบผู้ชายเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ท็อปไม่เป็นที่รักและยอมรับในสังคม ท็อปจึงกดข่มความรู้สึกชอบผู้ชายฝังลึกลงไปในจิตใจ ไม่ยอมแสดงออกให้ใครรับรู้ เพียงเพราะอยากมีพื้นที่ยืนในสังคมเท่านั้นเอง



      เมื่อท็อปย่างกรายมา ณ สถาบันการศึกษาแห่งใหม่ ชีวิตเขาก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ อาจเป็นเพราะท็อปเป็นคนผิวขาว หน้าตาดีเป็นทุนเดิม พอเข้าโรงเรียนใหม่ ท็อปกลายเป็นคนฮอตประจำโรงเรียน มีผู้หญิงเข้ามาจีบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องหรือแม้กระทั่งรุ่นเดียวกัน จนท็อปไม่คิดว่าเขาจะได้ชีวิตที่ดีกลับคืนมาอีกครั้ง



       เมื่อรู้ว่าทำแบบนี้แล้วดี ท็อปจึงหันหลังให้กับสิ่งที่ตัวเองเป็น



      ไม่น่าเชื่อว่า จากคนที่โดนล้อจนเคยคิดฆ่าตัวตาย เวลานี้ ชีวิตในรั้วโรงเรียนแห่งใหม่กลับดำเนินไปได้อย่างสวยงาม




       ท็อปได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไปโรงเรียนก็ไม่ต้องเครียดอะไร แถมกลับมาบ้านก็ยังเจอคนที่เขารักได้ทุกวัน



      เวลาถึงวันหยุด ท็อปชอบใช้เวลาอยู่กับพี่แทนเป็นส่วนใหญ่ไปขลุกอยู่ในห้องพี่แทนและดูหนังด้วยกัน ซึ่งหนังส่วนใหญ่ที่ดูก็ไม่พ้นความชื่นชอบของพี่ชาย คือ หนังแนวสงคราม ทหาร และประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้ท็อปชอบตามไปด้วย

 

      Black hawk down และ We Were Soldiers  คือหนังโปรดของพี่แทน และล่าสุด คือ Fury



     ทุกครั้งที่ดูหนัง ท็อปชอบนอนซบบนอกพี่แทน แต่เพราะท็อปเป็นคนขี้อ้อนอยู่แล้ว พี่แทนจึงชอบมองว่าท็อปเป็นเด็กเลยไม่เอะใจอะไร





     ท็อปมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้คนที่รัก และไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับพี่แทนด้วย เวลาผ่านไปจนกระทั่ง ท็อปเรียนจบมอหก เขารู้สึกมีบางอย่างเปลี่ยนไป ท็อปเริ่มอยากสัมผัสและแตะต้องตัวพี่แทนมากกว่าแค่อยู่ใกล้กัน



      ทุกคืนเวลาที่พี่แทนหลับสนิทแล้ว ท็อปมักจะแอบจูบปากพี่ชายก่อนกลับห้องตัวเอง และเมื่อท็อปสังเกตว่าพี่แทนยังทำตัวปกติ ไม่มีทีท่าแปลกประหลาดหรือสงสัยอะไรในตัวน้องชาย ท็อปจึงทำแบบนี้มาเป็นปีๆ



      จนกระทั่ง คืนหนึ่ง ท็อปแอบจูบพี่แทนเช่นเคย ทว่า พี่ชายดันลืมตาขึ้นมา

 

      ท็อปอึ้ง เพราะไม่คิดว่าคนที่แอบรักจะตื่นลืมตา เขารีบดันตัวออกและรีบคิดหาข้อแก้ตัว แต่พี่แทนกลับยิ้มหัวเราะและพูดขึ้น



"ซ้อมจูบสาวหรอ? ฮึ!"


 

"อะ...อื้ม รู้ได้ไง พี่แทน" ท็อปรีบไหลตามน้ำ

 

"จูบอีกสิ"




"พ...พี่แทนว่าอะไรนะ"
ท็อปอึกๆอักๆพลางมองหน้าพี่แทนอย่างไม่เข้าใจ



       แม้พี่แทนจะเปิดทางให้ แต่ท็อปไม่กล้าเพราะกลัวว่าถ้าจูบกันหนนี้ พี่แทนจะจับได้ว่าท็อปคิดเกินเลยไปมากกว่าพี่ชาย แต่ทันใดนั้น พี่แทนกลับดึงคอท็อปโน้มลงมารับจูบกัน แต่มันไม่ใช่แค่ปากแตะปากกลับมีเรื่องของการใช้ลิ้นมาเกี่ยวข้อง

 

     ในวัยนั้น มันแปลกใหม่สำหรับท็อปมาก เพราะเขาไม่เคยจูบใครล้ำลึกเช่นนี้มาก่อน

 

    นานพอสมควรที่ทั้งสองจูบกันดูดดื่ม และเป็นพี่แทนที่ถอนริมฝีปากออก ก่อนจะใช้มือลูบผมท็อปอย่างอ่อนโยน จนเขาใจเต้นแรงจนกลัวจะทะลุออกจากอก



"จูบบ่อยๆเดี๋ยวก็ชินเอง...อ้อ!...ถ้าจะออกเดทกับสาว อย่าลืมพกถุงยางด้วยล่ะ อะไรก็เกิดขึ้นได้นะ รู้ไหม?"


 

"พ....พี่แทน ไม่รังเกียจที่จูบกับผู้ช...า...."
ท็อปไม่สนคำเตือน สิ่งที่เขาสนคือพี่แทนจูบท็อปด้วยความรู้สึกที่ดูจริงใจ ท็อปจึงรีบถามอย่างอยากรู้

 

"อย่าถามมากได้ไหม? นอนได้แล้ว...คืนนี้ไม่ต้องกลับห้อง นอนกับพี่นี่แหละ"


 

    พี่แทนว่าจบก็รวบตัวท็อปไปกอดแน่นเหมือนท็อปเป็นหมอนข้าง จนท็อปสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น แต่แล้วจู่ๆ พี่แทนก็ดูดเม้มที่หลังคอ จนท็อปหน้าร้อนฉ่าเพราะอายที่รู้ว่าลูกชายตื่นตัวกับสิ่งที่พี่แทนทำ ท็อปรีบนอนหนีบขาตัวเองทันที



"ฝันดีนะ เด็กน้อยของพี่"



"อะ..อ่า...อื้มม....ฝันดีเหมือนกันนะ พี่แทน"


 

      ท็อปนอนยิ้มทั้งคืน เพราะสัมผัสได้ถึงความรักเต็มอ้อมกอด



       แต่ใครจะรู้ว่าคืนนั้น จะเป็นคืนสุดท้ายที่ได้นอนด้วยกัน เพราะหลังจากนั้น วันรุ่งขึ้น พี่แทนที่เดินทางไปทำธุระกับพ่อก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิต





      ราวกับฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจ คนที่เป็นเสมือนครึ่งหนึ่งของชีวิตท็อปได้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา

   

     ร่องรอยแห่งการจูบของพี่แทนยังตราตรึงในหัวใจท็อป



     ไม่คิดว่านั่นคือจูบสุดท้าย

 

     การตายของบิดาและพี่ชายทำให้ครอบครัวสูญเสียเสาหลัก และท็อปเสียใจแทบบ้า คนที่รัก ดูแลและปกป้องท็อปเวลาเจอเรื่องไม่ดี บัดนี้ ไม่มีอีกแล้ว....



      กว่าท็อปจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้เหมือนเดิมก็เล่นใช้เวลาอยู่หลายเดือน และตั้งแต่ที่พี่แทนตายไป ท็อปไม่คิดรักใครอีกเลย



      จนเวลาผ่านไปสองปีกว่าๆ ที่ทำให้ท็อปได้พบรักอีกครั้ง...



      เป็นครั้งที่สาม ครั้งที่ทำให้ได้เจอกับพี่ฆีน


 

     ตั้งแต่ท็อปเลือกเส้นทางเดินให้ตัวเองต้องชอบผู้หญิงก็ไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนมาจีบ จนมาเจอพี่ฆีนที่กล้าเข้ามา และความย้อนแย้งในหัวใจท็อปก็เกิดขึ้น ทั้งชอบ ทั้งกลัว ปะปนกันจนปั่นป่วนในอก เมื่อพี่ฆีนมากระตุ้นความรู้สึกลึกๆในหัวใจ



      มันทรมานแค่ไหน ที่ท็อปต้องทำสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจ เพื่อไม่ให้ใครมาว่าและเป็นตัวตลกของสังคมอีก

 

      แม้ใจจะชอบพี่ฆีน แต่เพราะรู้ดีว่าอดีตที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ท็อปจึงกลบเกลื่อนด้วยการแสดงออกว่าเกลียดพี่ฆีนสุดฤทธิ์ เขาก้าวร้าว เพื่อให้พี่ฆีนไปจากกัน แต่ไม่คิดว่าพี่ฆีนจะมุ่งมั่นจีบท็อป จนท็อปนับถือหัวใจของเขาจริงๆ



       ท็อปไม่เคยเจอใครตื้อหนักเท่าพี่ฆีนมาก่อน ผู้ชายที่ไม่เคยลดละความพยายาม กลับยิ่งเพิ่มพูนความรักมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไล่แล้วไม่ไป ท็อปก็คิดเสียว่าใช้โอกาสนี้ให้คุ้ม



        พออยู่กับพี่ฆีน ก็มักเป็นเหตุการณ์ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มามีส่วนเกี่ยวข้อง ท็อปเลยใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างในการได้จูบ ได้สัมผัสกับคนที่ท็อปชอบเหมือนกัน เพื่อเวลาถ้าโดนจับได้ ท็อปจะได้มีสิทธ์ โยนความผิดและโทษได้ว่าเป็นเพราะความเมา ไม่ใช่ตัวท็อปแต่อย่างใด ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ท็อปจำได้แทบทุกรายละเอียด

 

      ตอนแรกท็อปตั้งใจจะฉวยโอกาสเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่คิดว่า ตัวเองจะเผลอรักพี่ฆีนไปจนหมดหัวใจ สุดท้าย ท็อปจึงตัดสินใจมอบกายให้พี่ฆีนเป็นครั้งแรกเพื่อการคบกันเป็นแฟน แต่เพราะการกลัวอดีตยังตามมาหลอกหลอน ท็อปจึงมีข้อต่อรองว่าขอคบแบบไม่ให้ใครรู้

 

      การใช้ชีวิตด้วยการยึดติดอดีต ย่อมไม่ส่งผลดีกับใคร



       รักพี่ฆีนแต่ยังกลัวสังคมตราหน้าทำให้ท็อปไม่กล้าเปิดเผยและทำอะไรไม่ชัดเจน แถมยังเลือกวิธีผิดๆ ด้วยการคบผู้หญิงบังหน้าไปพร้อมๆกัน



      และแล้ว กรรมก็ตามสนอง เมื่อความจริงถูกเปิดเผย จนท็อปได้สูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดไปอย่างน่าเสียดาย



      มันก็ถูกต้องแล้ว ที่ท็อปได้รับบทเรียนจากผลของการกระทำที่ท็อปได้ทำลงไป...

     

       ช่วงระยะเวลาที่พี่ฆีนหายไป ทำให้ท็อปตระหนักอย่างถี่ถ้วนต่อสิ่งที่เลือกเดินแล้วว่า นาทีนี้ ท็อปไม่แคร์สังคมแล้ว ใครจะมองอย่างไรก็ช่าง จะด่าว่า เลว สวะ ขยะสังคม ตุ๊ด แต๋ว ตูดบาน หรืออะไรก็ตาม ท็อปไม่สนใจกับคำพูดเหล่านั้นอีกต่อไป

 

      สิ่งเดียวที่มีคุณค่ามากเกินกว่าคำพูดไร้ราค่าของคนเหล่านั้น คือ...พี่ฆีน...คนที่ท็อปรักสุดหัวใจ

   

      ผู้ชายที่ยอมทำเพื่อท็อปมาโดยตลอด ถึงเวลาที่ท็อปต้องตอบแทนสิ่งเหล่านั้น ด้วยการแก้ไขเป็นคนที่ดีขึ้นและพาพี่ฆีนกลับมาเป็นคนรักของท็อปให้ได้อีกครั้ง...






...........................................




คือ เราอยากบอกจากใจจริงๆอะค่ะ ขอซึ้งหน่อยนะ ฮ่าๆๆ

อยากขอบคุณจากใจ สำหรับคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนท์ เรารู้สึกดีจริงนะๆเพราะตั้งแต่เราเขียนนิยายตัวเองแล้วลองอ่านทบทวน มันค่อนข้างเครียดและดราม่าพอสมควร แต่พวกคุณก็ยังเลือกจะอ่านนิยายที่ไม่ค่อยผ่อนคลายและไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่
แถมมีแต่เหตุการณ์ชวนให้ด่าทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ

ชอบไม่ชอบตอนนี้บอกได้นะคะ เพราะเราจะนำไปพัฒนาเรื่องต่อไป

น้อมรับทุกคอมเมนท์
ขอบคุณค่าาาาา
rinyriny.
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20.2} UPDATE [12 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-05-2017 22:04:44
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20.2} UPDATE [12 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-05-2017 22:12:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20.2} UPDATE [12 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 12-05-2017 22:41:10
เป็นกำลังใจให้นะคะ  ติดตามจ้า 
สงสารท็อปนะ  แต่พี่ฆีนน่าสงสารกว่า
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20.2} UPDATE [12 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 12-05-2017 23:49:22
 :z3: :z3: :z3:

เบื้องหลังมันเป็นอย่างนี้นี่เอง :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 20.2} UPDATE [12 พค.60 ] >> P.6
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 14-05-2017 00:48:11
น่าสงสารมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21} UPDATE [15 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 15-05-2017 20:49:03
ตอนที่ 21 ขอผมได้รัก 








        ครบระยะเวลาตามกำหนดที่ทั้งสองพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานบริษัทโดยสมบูรณ์  วันสุดท้ายของการทำงาน พวกพี่ดลรวมถึงพนักงานที่แผนกต่างก็พาฆีนและท็อปไปเลี้ยงส่งอำลากันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

 

        และแล้ว คืนแห่งการอำลาก็ผ่านไปได้ด้วยดี แต่สิ่งที่ท็อปโกรธตัวเอง คือ พี่ฆีนยังดีกับท็อปแม้นาทีสุดท้าย พี่ฆีนได้มอบของขวัญให้ท็อปก่อนจากกัน เมื่อท็อปกลับบ้านมาเปิดดู สิ่งที่เขาพบนั่นคือ นาฬิกาข้อมือแนวสปอร์ตมาพร้อมกระดาษที่เขียนข้อความสั้นๆว่า

 

     'เหตุการณ์นี้คงทำให้ท็อปได้ข้อคิดหลายอย่าง จากนี้จะทำอะไรก็ตาม พี่ขอให้ท็อปดำเนินชีวิตด้วยสติ และมีชีวิตที่ดีขึ้นนะครับ...พี่ฆีน...'



       ท็อปร้องไห้ทันทีที่ได้เห็น เพราะความรู้สึกที่ท็อปอยากบอกว่าชอบกับสิ่งของที่พี่ฆีนให้นั้น ท็อปยังไม่มีโอกาสได้พูดเลย



       ส่วนการโดนเลิกจ้าง ครอบครัวของท็อปรู้เรื่องแล้วรวมถึงเหตุผลที่ท็อปชอบผู้ชายด้วย เด็กหนุ่มยอมสารภาพให้แม่และพี่ธัญฟังหมดทุกอย่าง แม่และพี่ธัญดูตกใจไม่น้อย แต่ไม่ได้ดุด่าว่ากล่าวอะไร อาจเป็นเพราะโดยส่วนตัว แม่ชื่นชอบนิสัยพี่ฆีนบวกกับเป็นคนที่มีความคิดความอ่านฉลาดจากการที่ได้เจอกันคราวก่อน เลยไม่รู้สึกเกลียด หากลูกจะชอบผู้ชายคนนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าเพราะลูกชายตัวดีอีกนั่นแหละที่ดันทำเรื่องไม่ดี แก้ปัญหาผิดๆจนฆีนต้องจากไปซะได้



       แม่จึงปลอบใจลูกชายว่ายินดีช่วยเหลือทุกอย่าง หากลูกต้องการ เพราะในชีวิตของคนเป็นแม่ก็เหลือเพียงแค่ลูกสองคนนี้เท่านั้น



       บทเรียนครั้งนี้ ได้สอนให้ท็อปโตขึ้น และรู้ว่า ความกลัวไม่ช่วยอะไรเลย มีแต่ส่งผลแย่ เพราะในบางครั้งท็อปก็กลัวไปเอง เช่นเหตุการณ์ที่บอกครอบครัว ท็อปก็กลัวไปก่อนว่าจะไม่มีใครเข้าใจ แต่ผลสุดท้ายแล้วปรากฎว่า ทุกคนกลับยิ้มและให้กำลังใจ อีกทั้งยังพร้อมช่วยเหลือเต็มที่จนท็อปรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม



      ท็อปได้กำลังใจเต็มเปี่ยมจากคนรอบข้างอย่างนี้ ยิ่งเพิ่มแรงกายและแรงใจไม่คิดท้อที่จะขอคืนดีพี่ฆีนอีกครั้ง....







      ผ่านไปสามวันที่ท็อปว่างงาน และจากที่กลับบ้านไปไม่กี่วัน ตอนนี้ ท็อปกลับมาพักอาศัยที่ห้องพี่ฆิตอีกหน โดยทุกคนยังอยู่กันครบถ้วน

 

"ทั้งวันแล้วนะที่มึงเอาแต่นั่งมองนาฬิกาเรือนนี้อยู่ได้" กราฟบอกเพื่อนขณะที่ท็อปยังนั่งอยู่ที่โซฟาตัวประจำ



"ก็มันเป็นสิ่งที่พี่ฆีนให้กูตอนจากกัน ทำไงดีกราฟ พี่ฆีนปิดโอกาสทุกทาง กูลองไปหาที่คอนโดก็ไม่เจอ กูนึกไม่ออกเลยว่าจะเจอเขาได้ทางไหน"

 

"เอาอย่างนี้ไหม? กูจะลองให้พี่ฆิตพาพี่ฆีนมาเจอมึงที่นี่ แต่มึงต้องรอหน่อยนะ พี่ฆิตบอกพี่ฆีนไปเชียงใหม่ กูว่าพี่ฆีนก็คงไปทำใจเรื่องมึงเหมือนกันแหละ กูคิดว่านะ"




"มึงต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งนะท็อป ว่ามึงเป็นฝ่ายผิดที่ทำเรื่องแบบนั้นกับพี่ฆีน แต่ถ้ามึงคิดได้แล้วว่า มึงจะทำตัวดีขึ้น มึงก็ต้องหนักแน่นกับการเดินหน้าง้อพี่ฆีน" พลพูดพร้อมตบไหล่หนักๆให้เพื่อนคิดได้ ฟากท็อปเม้มปากแน่นและเงียบ



       ทำไม? เขาถึงเป็นคนนิสัยแย่แบบนี้นะ แย่ตรงที่ทำร้ายจิตใจพี่ฆีนได้ขนาดนั้น...



       ตอนนี้ ท็อปปลดพันธนาการแห่งอดีตที่ฝังอยู่ในจิตใจท็อปได้แล้ว เขาจะไม่เอาความขี้ขลาดมาทำให้ความรักดีๆต้องหลุดลอยไปอีก ท็อปมองหน้าเพื่อนๆทั้งสองก่อนเอ่ย

 

"ขอบใจพวกมึงมากนะที่อยู่เป็นเพื่อนกัน กูรู้ตัวแล้วว่ากูเหี้ยเอง แต่กูพร้อมจะเป็นคนใหม่เพื่อพี่ฆีนแล้วจริงๆ คนดีๆอยู่ใกล้ตัวแท้ๆ กูดันละเลยจนทำให้พลาดไป"

 

"รู้ตัวแล้วก็ดี โอกาสมาเมื่อไหร่รีบคว้าไว้เลยนะมึง ไอ้ท็อป"
พลบอก





........................







     เจ็ดวันต่อมา...


     หลังจากที่ฆีนกลับมาจากเชียงใหม่ เขาพักผ่อนได้ไม่กี่วัน ฆิตก็โทรหาโดยอ้างว่ามีปัญหากับกราฟอยากปรึกษา ฆีนจึงต้องเดินทางมาหาฆิตที่ในเวลาต่อมา


    ไม่นานนัก ที่ฆีนเดินทางมาถึง เขาเคาะประตูส่งเสียงเรียก สักพัก ประตูเปิดออกกว้าง ฆีนยืนอึ้ง เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของฆีนตอนนี้ เป็นอดีตคนรัก โดยมีด้านหลังเป็นพล กราฟและฆิตยืนมองมาอย่างมีความหวัง
 
    ฆีนตกใจและไม่ทันตั้งตัว ที่จู่ๆท็อปก็วิ่งเข้ามาโผกอดเขาแน่น
 
 
"ผมคิดถึงพี่ฆีนจังเลยครับ พี่ฆีนสบายดีไหม?"



      กี่ครั้ง กี่หนที่ได้กอด ท็อปก็ยังได้รับไออุ่นจากพี่ฆีนเสมอ คราวนี้ก็เช่นกัน อ้อมกอดที่ทำให้ท็อปรู้สึกถึงความรักได้เป็นอย่างดี


      ฟากฆีนยืนนิ่งอย่างไม่รู้จะพูดคำไหนออกไปก่อนดี เพราะเวลาที่ผ่านมา ฆีนอุตส่าห์ทิ้งระยะห่างและหลบหน้าเพื่อทำใจให้ลืมเด็กหนุ่ม แต่พอท็อปมากอดแบบนี้ ฆีนยอมรับว่าเขากลับต้องการมันเหมือนกัน 

      แต่เพราะฆีนตระหนักดีว่า เขาเองก็มีหัวใจ มีเลือดเนื้อ เจ็บได้และร้องไห้เป็น ดังนั้น เขาควรหยุดความรู้สึกนี้ และมองตามความเป็นจริงก่อน

      ฆีนเหลือบมองน้องชายที่ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังซึ่งไม่ไกลจากท็อปเท่าไหร่นัก
 
   
"นี่มันอะไรกัน ฆิต รวมหัวกันหลอกพี่หรือ?"


     ท็อปไม่อยากให้ใครต้องมาโดนด่าเพราะเขาอีกแล้ว
 

"ไม่มีใครรวมหัวหรอกครับ เรื่องทั้งหมดคือแผนของผมเอง ถ้าพี่ฆีนจะด่า ด่าผมเลยครับ"

 
"โอเค พี่เข้าใจแล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พี่ขอตัวกลับบ้านก่อนนะท็อป"  ฆีนตัดบทพร้อมดันร่างเด็กหนุ่มออกห่างจากกัน เพื่อก้าวถอยหลังออกจากห้อง
 

     ฟากท็อปรั้งมือพี่ฆีนไว้ก่อน
 

"เดี๋ยวครับ พี่ฆีน ผมขอโอกาสแก้ตัวได้ไหม?"

 
     ฆีนหันขวับมามอง และตอบออกไปอย่างไม่ลังเลว่า...
 
"ไ...ม่..."


       เสี้ยววินาทีนั้น ท็อปทรุดฮวบลงไปนั่งที่พื้น ก้มหน้าเกาะขาพี่ฆีนแน่น
   

ฟึ่บ!!

 
"...ขอผมได้รัก...พี่ฆีนอีกครั้งนะครับ"



      ท็อปยอมหมดแล้ว แม้กระทั่ง ยอมทิ้งศักดิ์ศรีลูกผู้ชายและสละอัตตาของตัวเอง  ขอเพียงแค่ผู้ชายคนนี้ อย่าเดินหนีเขาไปไหนอีก...
 

       ฆีนชะงักและใจวูบโหวงเพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าท็อปจะทำเช่นนี้


      ส่วนคนอื่นๆต่างก็ยืนเบิกตาโพลง เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าที่ปรากฎแก่สายตา เป็นผู้ชายที่ยอมก้มหัวลงเพื่อผู้ชายอีกคน กราฟ พลและฆิตถึงกับเบือนหน้าหนีเพราะรับสิ่งที่เห็นไม่ได้
 

      ทุกคนยืนกลืนก้อนน้ำตาเอาไว้ ด้วยความหวังว่าไม่อยากให้บรรยากาศในห้องเศร้าไปมากกว่านี้
 

       ฟากฆีนย่อตัวลงนั่งยองๆ พร้อมแกะมือท็อปที่เกาะขาเขาออก
 

"พอดีกว่านะท็อป อย่าทำให้พี่รู้สึกไม่ดีอีกเลย"


      ท็อปกระโจนกอดพี่ฆีนแนบแน่นพลางเงยหน้ามองคนรักด้วยน้ำตานองหน้า


"ฮึกฮือๆ... ผมรักพี่ฆีนจริงๆนะ ได้โปรดเถอะครับ...พี่ฆีน ขอโอกาสอีกสักครั้งให้ผมได้แก้ไขเป็นคนที่ดีขึ้นเพื่อพี่ฆีนนะ"


 
       ฆีนใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาบนแก้มเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยนและค่อยๆลูบผมสีเข้ม


        ฆีนจ้องมองเข้าไปยังแววตาคนที่เขารักก่อนจะผุดรอยยิ้มมุมปากพร้อมเอ่ยเสียงจริงจังว่า...


"พี่เคยบอกท็อปแล้วใช่ไหม? ว่าพี่เป็นคนจริงจังกับความรัก ถ้าพี่เลือกแล้วว่าจะคบใครสักคน พี่ต้องการคนที่คิดถึงอนาคตร่วมกัน มากกว่าคิดถึงแต่ตัวเอง...เรื่องของเรามันจบไปน่ะดีแล้ว ไม่นาน ท็อปต้องได้เจอคนที่เหมาะกว่าพี่นะ...พี่คงไม่เหมาะกับท็อปหรอก พี่ขอโทษนะครับ ไม่เอา ไม่ร้องไห้แล้วนะ เด็กดีของพี่..."



      ....เอ่ยปากไล่ให้เขาไปเจอคนที่คู่ควรกว่า แต่ทำไมหัวใจกลับรู้สึกเจ็บปวด....



       ทำไม? ท็อปต้องมามีอิทธิพลต่อหัวใจของฆีนได้ถึงเพียงนี้ด้วย


       ขืนอยู่นานกว่านี้ คงไม่ดีต่อหัวใจของฆีนเอง ทันใดนั้น ฆีนตัดสินใจดันตัวท็อปออก ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วไม่รีรอออกจากห้องของฆิต ด้านท็อปยังคงไม่หยุดตื้อ วิ่งตามไปสวมกอดฆีนจากด้านหลัง และพูดขึ้น

 
"พี่ฆีน ฮึกฮือออ...ท็อปไม่คิดมีใครแล้ว ท็อปต้องการแค่พี่ฆีนคนเดียว ที่ผ่านมาท็อปรู้ซึ้งแล้วครับว่าท็อปโง่เองที่คิดอะไรตื้นๆ ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อน ท็อปรู้ว่าพี่ฆีนก็เจ็บไม่ต่างกัน ท็อปขอโทษ ขอโทษจริงๆ ท็อปรักพี่ฆีนนะ ท็อปขอโอกาสอีกครั้งนะครับพี่ฆีน...ได้โปรด"



       ฆีนยืนฟังอีกคนระบายความรู้สึกออกมาเสียยืดยาว โดยที่เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ เขาทำแค่แกะมือเด็กหนุ่มออกจากการสวมกอด แล้วเดินมุ่งตรงไปยังลิฟต์ ทิ้งให้ท็อปทรุดตัวลงนั่งฟุบหน้ากับพื้นตรงโถงทางเดินอยู่เพียงลำพัง


      ถัดมาด้านในห้อง ทุกคนยืนมองหน้ากันไปมาอย่างเงียบๆ เพราะยังรู้สึกเศร้ากับภาพก่อนหน้าที่ยังติดตา ต่างฝ่าย ต่างก็สงสารและเห็นใจในความรักของทั้งคู่ แต่แล้วกราฟก็นึกอะไรขึ้นได้ เขาบอกพลให้ลากท็อปเข้ามาในห้องก่อนและเฝ้าดูเพื่อนไว้ จากนั้น กราฟจูงมือคนรักวิ่งตามพี่ฆีนไป


       จนกระทั่ง ถึงส่วนล็อบบี้ กราฟรีบวิ่งไปจับแขนพี่ฆีนไว้ทัน

 
"พี่ฆีนผมขอเวลาสักครู่หนึ่งเพื่อคุยเรื่องท็อปได้ไหมครับ?"


"เรื่องอะไรอีกหรือ? กราฟ" ฆีนหันมองมาหน้าอย่างมีคำถาม
 
"ผมอยากให้พี่ฆีนได้ฟังเรื่องในอดีตของท็อปหน่อยน่ะครับ"



       ฆีนถอนหายใจ แต่เพราะอดีตของคนรักก็เป็นสิ่งที่ฆีนอยากรู้เหมือนกัน ฆีนจึงให้โอกาสแก่กราฟได้เล่าอดีตท็อปให้ฟัง จากนั้น ทั้งสามเดินไปนั่งตรงที่รับรอง และกราฟเริ่มเล่าอดีตของท็อปตั้งแต่ต้นจนจบ


       ฟากฆีนฟังจบยอมรับว่าอึ้งไปพอสมควร เพราะไม่เคยจนคนใกล้ตัวมีเรื่องราวรันทดขนาดนี้มาก่อน ฆีนสงสารท็อปไม่น้อย แต่เวลานี้ เขาก็ควรสงสารตัวเองเหมือนกัน


      กราฟที่เห็นพี่ฆีนเงียบอยู่ เขาเอื้อมมือไปแตะแขนพี่ฆีนและเอ่ยขึ้นอีกครั้ง


"พี่ฆีน ผมมีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟังครับ เผื่อช่วยประกอบการตัดสินใจของพี่ ผมเคยได้ยินจากท่านผู้รู้หลายคนเล่าขานต่อกันมาถึงเรื่องของพระพุทธเจ้าในสมัยพุทธกาลเกี่ยวกับการให้อภัย
       มีชาติหนึ่งที่พระเทวทัตเป็นพ่อค้าแต่มีจิตใจคดโกง ในขณะที่พระพุทธองค์ก็เป็นพ่อค้าเหมือนกันแต่มีจิตใจสุจริตและดีงามกว่า
      วันหนึ่ง มีหญิงชราเป็นผู้ดีตกยากต้องการขายถาดของต้นตระกูล พระเทวทัตผ่านมาเห็นและตรวจดูพอทราบว่าถาดนี้มีราคาสูง แต่เพราะจิตใจละโมบ คิดคดโกงจึงโกหกว่าเป็นถาดที่มีราคาเพียงเล็กน้อย ในเวลานั้นหญิงชราจึงไม่ยอมขายให้ เมื่อด้านพระพุทธองค์ซึ่งเสวยพระชาติเป็นพ่อค้าใจดีผ่านมา นางจึงนำไปขายอีกครั้งหนึ่ง พ่อค้าใจดีพิจารณาดูถาดนี้และสนใจจึงให้ราคาตามความเป็นจริงและเท่าที่พอมีอยู่ในตอนนั้น หญิงชราจึงยอมตกลงขายให้
ด้วยเหตุนี้ จึงสร้างความโกรธแค้นให้แก่พระเทวทัต เพราะถ้าไม่มีพ่อค้าอีกคนมาซื้อถาดทองคำใบนั้น ในไม่ช้าหญิงชราก็ต้องนำถาดทองคำมาขายแก่ตนเพราะทนต่อความยากจนไม่ได้อยู่ดี พระเทวทัตจึงผูกอาฆาต พยาบาทขอเป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อพระพุทธองค์ด้วยการกอบเม็ดทรายขึ้นมา 1 กำมือหว่านลงกับพื้นดินแล้วประกาศว่า จะขอจองล้างจองผลาญท่านทุกชาติๆไป

นี่จึงคือต้นกำเนิดของการผูกใจเจ็บตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะกี่ชาติที่พระเทวทัตได้พบเจอกับพระพุทธองค์ ก็จะมีเหตุให้ต้องคอยตามติดเพื่อจองเวร ชิงชังกับพระพุทธองค์มาโดยตลอด

เหตุการณ์ร้ายสุด เห็นจะเป็น ในชาติสุดท้ายที่พระพุทธองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า  พระเทวทัตคิดชั่ว หวังปองร้าย พยายามลอบปลงพระชนม์พระพุทธเจ้าหลายครั้ง แต่ถึงกระนั้น พระพุทธองค์ก็ไม่คิดโกรธแค้น กลับเลือกเอาชนะด้วยการให้อภัย และมีเมตตามาโดยตลอด ทั้งๆที่โดนถึงขั้นจะเอาชีวิตก็ตาม...แต่แน่นอนว่า เพราะการกระทำที่ประสงค์ มุ่งร้ายต่อผู้มีบารมีสูงส่ง สุดท้าย พระเทวทัตก็สำนึกผิดช้าไปเพราะกรรมตามสนองด้วยการโดนธรณีสูบไปเสียก่อน...นี่ก็คือเรื่องเล่าที่ผมพอจะจำได้เลยเอามาบอกพี่ฆีนครับ ผมขอพูดในแง่มุมของการให้อภัย ยังไม่รวมถึงแง่ของการเป็นเจ้ากรรมนายเวรที่แตกประเด็นไปได้อีก"



"คิดว่าจะบวชสักกี่พรรษาดีล่ะ กราฟ"
ฆีนอมยิ้มถาม ฟากกราฟยิ้มแห้งๆพลางถูจมูกแก้เก้อ ส่วนฆิตก็แอบขำเพราะไม่ค่อยเห็นคนรักมาแนวนี้


         กราฟดีใจที่เห็นพี่ฆีนดูหยอกล้อและมีสีหน้าที่ผ่อนคลายขึ้น ในตอนแรก กราฟนึกว่าจะโดนด่าเสียอีก


"หือ....พี่ฆีนเป็นคนตลกเหมือนกันนะครับเนี่ย เอ่อ...ก็ผมเป็นเด็ก ผมพูดอะไรพี่อาจไม่เชื่อก็ได้ เลยต้องพึ่งเรื่องราวของพระพุทธองค์มากล่าวอ้างสักหน่อย เผื่อพี่ฆีนจะใจอ่อนดูบ้างครับ ผมขอโทษหากทำให้พี่ฆีนรู้สึกไม่ดี"


"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่รู้สึกดีนะ กราฟจะบอกให้พี่ให้อภัยท็อปใช่ไหม?"


"ใช่ครับ ผมรู้ว่าเพื่อนผมเลวอย่างไม่น่าให้อภัย แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้คือท็อปรักพี่ฆีน และตอนนี้ ท็อปสำนึกผิดแล้ว ซึ่งผมเองก็รู้ว่าพี่ฆีนเป็นคนดี ผมขอแค่ว่า ถ้าพี่ฆีนยังรักท็อปอยู่ ได้โปรดให้โอกาสเพื่อนผมสักครั้ง แต่ถ้าพี่ฆีนไม่รักท็อปแล้ว จากนี้ ผมจะไม่รั้งและไม่พูดบังคับขู่เข็ญอะไรพี่ฆีนอีกเลยครับ"



"ขอบใจนะกราฟ พี่ขอเวลาคิดอีกหน่อยแล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พี่ขอตัวก่อนนะ" ฆีนร่ำลาเพื่อนของคนรักเก่าและลุกขึ้นเดินห่างไป

 
     ส่วนฆิตตัดสินใจวิ่งตามไปดึงไหล่พี่ชายให้หยุดก่อน พอฆีนหันกลับมาหาน้องชายก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างงงๆว่า ฆิตเรียกให้เขาหยุดทำไม



"พี่ฆีน ขอผมกอดพี่หน่อยดิ"




"หืม...นึกยังไงอยากมากอด"




"เหอะน่า..." ฆิตไม่รีรอกอดพี่ฆีนทันที ไม่นาน ฆิตก็พูดขึ้น



"ผมไม่เคยบอกคำนี้กับพี่เลย ผมรักพี่ว่ะ พี่ฆีนเป็นพี่ชายที่ดีและทำเพื่อผมมาตลอด แต่ผมเนี่ยสิ ไม่เคยทำอะไรเพื่อพี่ได้เลย" ฆิตบอกขณะที่กอดพี่ชายอยู่



"ดูแลตัวเองได้ พี่ก็ดีใจแล้ว ปล่อยได้แล้วน่า ฆิต" ฆีนยืนตัวแข็งทื่อด้วยความรู้สึกแปลกๆเพราะไม่ค่อยเห็นน้องชายจะมีโมเมนต์นี้สักเท่าไหร่



"พี่เขินนี่หว่า?" ฆิตถามตอนผละออก



"เปล่า แค่อยากเก็บกอดไว้ให้คนที่พี่รักต่างหาก"



"ท็อปใช่ไหม?" ฆิตแซว แต่ฆีนยืนนิ่งไม่พูดอะไร จากนั้นฆิตก็พูดขึ้นเป็นประโยคทิ้งท้ายหลังจากที่จะแยกย้ายกันไป



"พี่ฆีน...ถ้าอยากให้โจรกลับใจ ลองให้โอกาสดีๆเขาดูสักครั้งนะ"
ฆีนมองหน้าน้องชายพลางส่ายหน้าขำและเดินออกไปตามทางอย่างไม่มีจุดหมาย






     ในค่ำคืนของวันเดียวกัน ฆีนออกมาหาที่นั่งดื่มเพียงลำพังเพราะอยากครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่กราฟบอกเล่ามาด้วย
 

     เวลาผ่านพ้นไปไม่นาน ฆีนนั่งดื่มจนมีอาการกรึ่มเล็กน้อย ในจังหวะนั้นเอง...


"อุ้ย...ขอโทษครับ"


     ฆีนก้มมองแขนตัวเองที่เปียกเป็นทางยาว ฟากคนต้นเรื่องที่ถือแก้วมาชนจนน้ำหกใส่นั้น รีบคว้ากระดาษทิชชูมาซับให้จนสะอาดเรียบร้อย


"ไม่เป็นไรครับ"


"เดี๋ยวผมขอชดใช้ด้วยการเลี้ยงเครื่องดื่มสักแก้วนะครับ"
 
"ไม่เป็นไรครับ"
ฆีนย้ำอีกครั้ง

 
"นะครับ ไม่อย่างนั้น ผมคงรู้สึกไม่ดีจนนอนไม่หลับแน่ๆ"
 

      จู่ๆ ผู้ชายคนนั้น ก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างฆีนทันที  ฆีนมองผู้มาใหม่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่เขาก็ไม่อยากเสียมารยาทจึงตอบตกลงไป
 
     
      ความเงียบก่อตัวอยู่นาน จนชายหนุ่มผู้นั้นพูดขึ้น
 

"ผมชื่อจีน คุณชื่ออะไรครับ"


"ฆีนครับ"
 
"นั่งคนเดียวแบบนี้ อกหักมาเหรอครับ?"



     ฆีนหันไปมองนัยน์ตาเฉี่ยวคู่นั้นที่ฉายชัดถึงความสนใจฆีนแบบที่ไม่ได้คิดไปเอง ฆีนยิ้มสุภาพ


"ไม่คิดว่าการมานั่งดื่มคนเดียว จะเป็นเหตุผลที่ผมเครียดจากงานแล้วอยากพักผ่อนบ้างหรือครับ" ฆีนย้อนถามจนอีกฝ่ายหัวเราะ
 

"ก็ผมแอบมองคุณตลอด แววตาคุณมันดูเหมือนคนผิดหวังมาน่ะสิครับ"


      ฆีนหัวเราะในลำคอและไม่ได้ไขความกระจ่างให้อีกฝ่ายคลายข้อสงสัย ฆีนกลับเงียบแล้วยกแก้วขึ้นดื่มต่อ
 

      จนกระทั่ง ห้าแก้วผ่านไป ที่ทั้งสองยังนั่งอยู่ด้วยกัน แต่กลับคุยนับคำได้ จีนรู้แค่ว่าทั้งสองอายุเท่ากันแค่นั้น เมื่อได้จังหวะที่จีนเห็นว่าฆีนดูผ่อนคลายขึ้น เขาถามต่อ
 

"ฆีนรู้ไหมครับ? แค่คุณนั่งเฉยๆผมยังรู้สึกว่าคุณมีเสน่ห์มาก"



"คำชมของคุณกำลังทำให้ผมเขินอยู่นะ" ฆีนตอบอย่างยิ้มๆ ฟากจีนถึงกับชะงักไปนิด รอยยิ้มมุมปากและแววตาที่ดูลุ่มลึก มุ่งมั่น จริงจังของคนตรงหน้าทำให้จีนรู้สึกหลงใหลอย่างบอกไม่ถูก จีนยิ้มก่อนตอบ

 
"ก็เขินไปสิครับ ใครว่าล่ะ"

 
 
     ฆีนหลุดหัวเราะเบาๆออกมากับคำพูดซื่อๆ ในจังหวะนั้นเอง จีนวางมือทาบบนหลังมือของฆีนแล้วเอ่ยขึ้น

 
"ผมสนใจฆีนมากนะ"

 
        ฆีนมองมือของจีนที่วางบนมือของเขาก่อนจะเงยหน้ามองจีนที่ดูจริงจังกว่าตอนแรก


"ขอโทษด้วย ผมไม่ได้อยากมีใครตอนนี้"

 
"ใครว่ากันเล่า ผมสนใจฆีน แต่ไม่ได้จะจีบเป็นแฟน ผมสนใจอย่างอื่นต่างหาก"


"คุณหมายความว่าอย่างไร"



      ฆีนมองอีกฝ่ายที่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จีนกระเถิบตัวไปใกล้ฆีนจนใบหน้าทั้งสองห่างกันไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด พร้อมเอ่ยเสียงยั่วเย้าอย่างเบาหวิว

 
"ก็....สนุกกันคืนเดียวแบบไม่ผูกมัด เสร็จภารกิจก็แยกทางกัน ผมว่าข้อเสนอนี้ น่าสนใจดีออกนะครับ ว่าไหม?"
จีนท้าวคางพลางจ้องมองฆีนอย่างรอคำตอบ



 
****1.1****



สำหรับสไตล์เราถ้าชื่อตอนโผล่นั่นหมายความว่าอีกไม่นานก็จะถึงปลายทางแล้วค่ะ

อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะ

ขอบคุณที่อ่านจ้า

หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21} UPDATE [15 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 15-05-2017 21:40:51
ขอบคุณค่ะ 
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21} UPDATE [15 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-05-2017 21:51:21
พี่ฆีนการให้อภัยท็อปเตอะ รักน้องนิ
จะจบแล้วหรอเนี่ย ลุ้นต่อ
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21} UPDATE [15 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-05-2017 22:29:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21} UPDATE [15 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-05-2017 23:05:30
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21} UPDATE [15 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-05-2017 23:34:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21} UPDATE [15 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 16-05-2017 00:54:00
เอาจริงหรอฆีน??
หัวข้อ: Re: ....*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21.2} UPDATE [19 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 19-05-2017 20:04:05
ตอนที่ 21 ขอผมได้รัก (2)


 
 
 
        ตอนนี้ ทั้งสองนัวเนียอยู่ภายในห้องนอนที่เร่าร้อนด้วยไฟราคะ ร่างเปลือยเปล่าของฆีนและจีนบดเบียดเข้าหากัน ฆีนซุกไซ้ซอกคออีกฝ่ายด้วยแรงปรารถนาล้วนๆ เขาลากริมฝีปากมายังส่วนไหปลาร้าลามลงมายังตุ่มอ่อนไหวสีสวยที่แข็งเป็นไต ฆีนใช้ปลายลิ้นโลมเลียวนลานนมของอีกฝ่ายอย่างเชี่ยวชาญ มือหนาก็รูดรั้งของตัวเองให้ตื่นขึ้นพร้อมใช้งาน
 

       เมื่อลูกชายของฆีนแข็งขืนขึ้น จีนกัดปากเสียวเมื่อสัมผัสได้ว่ามีของแข็งถูไถที่ช่องทางด้านหลัง จีนยกสองมือโอบรอบคอของฆีน พร้อมแยกขาออกจากกันอย่างรู้งาน ฟากฆีนจับแก่นกายของตัวเองจ่อประตูหลัง เขาค่อยๆกดส่วนหัวลูกชายเข้าสู่ช่องทางแห่งกามารมณ์


     ราวกับหุ่นยนต์ที่โดนปิดสวิตซ์กระทันหัน จู่ๆ ฆีนดันกายตัวเองออกและลุกขึ้นยืน พร้อมเอ่ยบอกจีนขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
 

        จีนที่หลับตาเคลิ้มรอฆีนร่วมรักอยู่บนเตียง ลืมตาขึ้นมามองร่างสูงที่คว้าผ้าเช็ดตัวเดินผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำอย่างงงๆ


        จีนสบถหัวเสีย นี่มันอะไรกัน...สถานการณ์เข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ ฆีนเป็นบ้าอะไร?
 

        ถัดมาด้านในห้องน้ำ สองมือหนาจับขอบอ่างล้างหน้าแน่น ฆีนมองหน้าตัวเองที่สะท้อนผ่านกระจกเงาด้วยความไม่เข้าใจ ว่าเพราะเหตุใดๆทั้งที่ฆีนเลิกกับท็อปแล้ว แต่ทำไมในหัวสมองของฆีนตอนคิดจะมีเซ็กส์กับคนอื่นถึงมีแต่ภาพท็อปลอยเต็มหัวไปหมด


        นอกจากภาพที่ผ่านเข้ามา ความรู้สึกผิดก็แล่นปะทะเข้ามาให้ฆีนรู้สึกไม่ดีเช่นกัน ทั้งๆที่ฆีนไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรแบบนั้น ก็เลิกกันแล้วนี่!!...
 
 
"โธ่เว้ย!!"
 
 
       ฆีนสบถเสียงดังลั่นห้องน้ำ ทั้งยังขยี้ผมตัวเองจนยุ่งเหยิง ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่พื้นกระเบื้องด้วยความเครียด
 
 
        ...คนเรานี้ คิดให้ดีก็น่าขำ...
 
        อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ


     
        ยิ่งฆีนพยายามลืมท็อปให้ได้มากเท่าไหร่ เรื่องราวของท็อปกลับยิ่งชัดเจนในสมองมากขึ้นเท่านั้น


        ภาพของเด็กหนุ่มที่ชอบส่งยิ้มยั่ว มาอ้อน มาอ่อย มาคลอเคลียที่ริมฝีปาก การกระทำที่ท็อปชอบกัดไหล่เวลาทำรักกัน ภาพที่นอนดูหนังอย่างมีความสุข และอีกมากมายมันผุดขึ้นมาจนฆีนสลัดให้หลุดออกไปไม่ได้สักที


         ใช้เวลาไม่นาน ฆีนเดินออกมาด้วยความรู้สึกไม่ดีที่ยังคงอยู่ เขาดึงผ้าขนหนูออกจากร่างกาย คว้ากางเกงยีนส์ขึ้นมาสวมใส่หวังจะกลับบ้าน จีนเห็นดังนั้น ก็ลุกพรวดขึ้นมากอดเอวฆีนรั้งไว้
 

"ฆีนโอเคไหมครับ?"
 
"ผมขอโทษนะจีน"

"ไม่เป็นไรครับ เรามาเริ่มกันใหม่ไหม?"


"ผมไม่มีอารมณ์"
 
"ทำไมล่ะครับ? หรือฆีนคิดถึงคนเก่า?"
จีนถามด้วยความอยากรู้ เพราะยอมรับว่าเสียดายมากที่ไม่ได้มีเซ็กส์กับผู้ชายตรงหน้า


       ตั้งแต่ที่จีนรักสนุกมา ฆีนเป็นผู้ชายคนแรกที่จีนอยากได้พอสมควร ทั้งหุ่นที่งดงาม ไร้ที่ติ ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามทั้งวงแขน หน้าท้อง ทุกอย่างดูดีไปหมด ไหนจะการที่ฆีนปรนเปรอ เล้าโลมให้จีนแสนจะถูกใจ จนจีนสัมผัสได้ว่าฆีนเป็นคนที่ใส่ใจและละเอียดอ่อนในการทำรักมากพอสมควร
 
 
!!!
 
"ผมกลับบ้านก่อนนะจีน" ฆีนเลือกที่จะไม่ตอบคำถามนั้น


"ก็ได้ๆครับ จีนไม่ตื้อแล้ว แต่ฆีนอยู่ด้วยกันก่อนสิ จีนอยากรู้จักฆีนมากกว่านี้"

 
"รู้จักอะไรครับ ก่อนหน้านี้ เราก็ตกลงกันแล้วว่าจะมีแค่เซ็กส์อย่างเดียว ในเมื่อตอนนี้ไม่มี ผมก็จะขอตัว"

 

"จีนรู้สึกว่าฆีนพิเศษกว่าคนอื่น จีนอยากเป็นเพื่อนฆีนนะ"




       ฆีนมองหน้าจีน ก่อนจะถอนหายใจแล้วทิ้งตัวลงนั่งปลายเตียง ทั้งสองนั่งกันเงียบๆ จนจีนโพล่งขึ้น



"จริงๆ จีนก็มีแฟนแล้ว แต่พักหลังๆมานี้ แฟนจีนเขาตอบสนองเรื่องนั้นน้อยลงทุกที เดือนละครั้งเห็นจะได้"
 

"ทำไมจีนไม่บอกผมตั้งแต่แรกว่าคุณมีแฟน ผมไม่ชอบยุ่งของคนอื่น"
ฆีนลุกพรวดด้วยความไม่พอใจ เขานึกว่าจีนโสดและแค่รักสนุกไปวันๆ


"ฆีนใจเย็นก่อนสิ คือ แฟนจีนเขาเปิดกว้างเรื่องนี้"
จีนลุกตามแล้วจับมือฆีนแน่น


"แน่ใจหรือว่าเขาเปิดกว้าง? ถ้าจีนต้องการเซ็กส์มากขนาดนั้น ทำไมจีนไม่เลิกกับเขาแล้วหาคนใหม่ไปซะเลยล่ะ" แม้จะไม่ใช่เรื่องของฆีน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ฆีนถึงดูโมโหและอารมณ์ขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
 

"เพราะเราทั้งคู่ยังรักกัน จีนแค่หาของนอกกายกินแก้อยากเท่านั้น"

 
"คำพูดที่จีนพูดมา บางทีผมก็ไม่เข้าใจว่านั่นมันเหตุผลหรือข้ออ้าง" ฆีนยิ้มเยาะ

 
      ถ้าไม่ติดว่ารู้สึกดีกับฆีน จีนจะด่าออกไปเดี๋ยวนี้เลย...


"ทำไมฆีนพูดแบบนั้นล่ะครับ"


"จีนพูดเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่กลัวตัวเองเจ็บไง เลยต้องเลือกเก็บไว้ทุกทางเพียงเพื่อสนองความต้องการให้ตัวเองมีความสุขอยู่คนเดียว"
ฆีนเผลอใส่อารมณ์

 
"ฆีนพูดแบบนี้ เพราะโดนอยู่ล่ะสิ"


!!!

"ผมกลับบ้านดีกว่าจีน"
ฆีนตัดบทและเร่งฝีเท้า เดินก้าวถึงประตูห้องนอน มือหนาจับก้านจับประตูพร้อมเปิด คราวนี้ จีนไม่ลดละคว้าไหล่ดึงฆีนไปกอดอีกหน

 
"โอเค...จีนขอโทษครับ เฮ้อ!...ทำไมผมต้องมาหลงคนอย่างคุณด้วยนะ" ประโยคหลังจีนเหมือนบ่นตัวเอง


"แล้วผมขอร้องหรือ?" ฆีนสวนกลับจนจีนชะงักกึก



      ผู้ชายอะไรเสน่ห์เหลือร้าย...โดนยอกย้อนจีนก็ไม่นึกโกรธ แต่กลับหลงจนไม่อยากปล่อยฆีนไป จีนหมั่นไส้คนตรงหน้า เขายิ้มมุมปากโน้มตัวไปชิดตัวอีกฝ่าย ก้มลงขบเม้มที่ซอกคอของฆีน ใช้ลิ้นเลียวนจนทั่ว มือของจีนก็ลูบพลางขยำน้องชายของฆีนผ่านกางเกงยีนส์ ฆีนคว้าหมับเข้ามือนั้น


"จีน! ผมไม่เล่น..." ฆีนผละออก


"ไม่เล่นก็ไม่เล่น แต่อยู่ก่อนนะฆีน จีนเหงาและจีนอยากฟังเรื่องของฆีนด้วย จีนรู้ว่าฆีนอึดอัดเผื่อจีนจะเป็นที่ปรึกษาให้ฆีนได้ไงครับ"


        ฆีนมองจีนอย่างเงียบๆ บางทีการมีคนมาอยู่เป็นเพื่อน ณ ตอนนี้คงดีกว่าอยู่คนเดียว


"ผมขอออกไปนอกระเบียงหน่อยแล้วกัน" ฆีนตัดสินใจอยู่ต่อ และเดินไปสูดอากาศด้านนอกสักหน่อย

 
        สักพักจีนก็เดินตามออกมาด้วยบุหรี่หนึ่งมวน จีนจุดบุหรี่ขึ้นสูบและยืนมองฆีน ก่อนเอ่ย...


"สูบไหม?"

"ผมไม่สูบบุหรี่"


 

        จีนเลิกคิ้วเอียงคอมอง ก่อนจะยกยิ้มยั่ว เขาเดินไปประชิดตัวพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าอีกฝ่าย ฟากฆีนปัดมือจีนสุดแรงจนก้นบุหรี่ที่จีนถือร่วงหล่นจากที่สูงลงสู่พื้นด้านล่าง
 

"แค่เล่นทำไมต้องไม่พอใจ"


       ยิ่งเห็นที่จีนทำ ฆีนก็ยิ่งเจ็บหัวใจ...


"จีนกำลังทำเหมือนที่คนรักเก่าของผมทำ พอใจรึยัง?"

 
       จีนอึ้งไม่ใช่เพราะคำพูดของฆีน แต่เพราะเขาเห็นฆีนน้ำตาคลอ จีนวางมือลงบนบ่าของฆีนเบาๆ
 

"จีนขอโทษ ฆีนอยากระบายอะไรไหม? จีนยินดีรับฟังนะ"



       สุดท้าย ฆีนก็ตัดสินใจพูด


"ตอนแรก ผมตั้งใจจะมีอะไรกับจีนเพื่อลืมท็อป แต่เปล่าเลย...มันกลับยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดและแย่กว่าเดิมจนผมทำไม่ได้"


"ฆีนเลิกกับเขาแล้วไม่ใช่หรือ?"


      ฆีนพยักหน้า
 
"ถ้าอย่างนั้น ฆีนไม่ผิด เพราะฆีนก็มีสิทธิ์"

"ผมไม่รู้เหมือนกันนะจีน จู่ๆผมก็รู้สึกผิดและไม่กล้า"

"ฆีนอยากเล่าเรื่องของฆีนไหมครับ? เผื่อจีนจะช่วยได้"



     สุดท้าย ฆีนยอมเล่าเรื่องให้จีนฟังคร่าวๆ จีนได้ฟังก็รู้สึกอิจฉาแฟนเก่าของฆีนไม่น้อย แต่อย่างที่บอก แม้จีนจะถูกชะตากับฆีนมากแค่ไหน แต่จีนรู้ตัวว่าคงไว้แค่มิตรภาพที่ดีต่อกันจะดีกว่า เพราะถึงอย่างไร จีนก็มีแฟนอยู่แล้ว...


"จากที่จีนฟังมา ฆีนไม่ได้อยากเลิกหรอก เหมือนฆีนแค่โกรธมากกว่า เพราะความจริง จีนดูออกนะว่าฆีนยังรักน้องเหมือนเดิมและไม่เคยคิดจะตัดใจจากเขาเลยด้วยซ้ำ"


       ฟากฆีนยืนเงียบ ไม่พูดอะไรสักคำ ส่วนจีนที่ลอบมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่นั้นเหลือบเห็นหยดน้ำตาร่วงหล่นกระทบหลังมือที่ฆีนจับขอบระเบียง จีนตกใจรีบโอบไหล่ฆีนพลางซบลงที่ซอกคอของอีกฝ่าย พร้อมพูดปลอบประโลมด้วยความเห็นใจ


"จีนว่าฆีนพักผ่อนก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งคิดมากนะครับ เดี๋ยวจีนช่วยหาทางออกนะ"



       จีนไม่รู้ว่าเขาเผลอพูดอะไรที่มันไปกระทบจิตใจของฆีนหรือเปล่า แต่หลังจากนั้น ฆีนก็ร้องไห้ไม่หยุด....

 
 


................................


จากใจ
ขอบคุณคนอ่านที่น่ารักทุกท่าน
 

ขอบคุณจริงๆ
rinyriny.
[/color]
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21.2} UPDATE [19 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-05-2017 20:17:14
สู้ๆนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับคนแต่ง :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21.2} UPDATE [19 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 19-05-2017 21:02:22
จ้า  เป็นกำลังใจให้ค่ะ  พร้อมเมื่อไหร่  มาเขียนให้อ่านนะคะ
เคารพการตัดสินใจจ้า 
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21.2} UPDATE [19 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 19-05-2017 22:38:39
สู้ๆๆๆน่ะ รอจ้า
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21.2} UPDATE [19 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-05-2017 00:10:20
สู้ๆนะ จะรอ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 21.2} UPDATE [19 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 20-05-2017 16:15:57
รอครับ. เป็นกำลังใจให้นะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22} UPDATE [25 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 25-05-2017 18:50:50
ตอนที่ 22 ความจริง





................


      ในช่วงสายของวันถัดมา...


 
       บนเตียงกว้างมีผู้ชายสองคนนอนด้วยกัน ฆีนตื่นขึ้นมามองคนข้างกายที่นอนตะแคงพาดแขนมาวางบนอกแกร่ง ฆีนค่อยๆยกมือจีนออกแล้วยันกายขึ้น ลุกไปชำระร่างกายให้สะอาด เสร็จสรรพก็แต่งตัวพร้อมเดินทางกลับบ้าน



       เมื่อเดินมาถึงประตูห้องนอน ฆีนหยุดเท้าหันหลังกลับมามองจีนที่นอนหลับไหลไม่ตื่น เขาไม่คิดรอร่ำลา เพราะคิดว่าทั้งสองควรให้มิตรภาพจบลงตรงนี้ดีกว่า


       ถึงแม้ว่า จีนจะเป็นคนดีที่น่าคบหา คนหนึ่งก็ตาม


       จังหวะที่มือหนาเปิดประตู เดินพ้นห้องนอนได้ไม่กี่ก้าวต้องหยุดชะงัก เมื่อฆีนเห็นคนแปลกหน้ารูปร่างท้วม ดูมีสง่า ราศีและน่าจะมีอายุมากกว่าฆีนนั่งยิ้มเย็นอยู่ที่โซฟา ด้านหลังนั้น มีผู้ชายร่างใหญ่คล้ายการ์ดยืนคุมอยู่สองคน


       การที่เข้ามาในห้องจีนและนั่งใจเย็นได้แบบนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นคนสำคัญมากพอสมควร


       ฆีนใจตุ้มๆต่อมๆจากการเห็นคนตรงหน้าด้วยความกลัวว่าจะโดนอุ้มเผานั่งยางหรือเปล่า? ที่แอบมานอนกับแฟนของเขาแบบนี้ แต่เพราะฆีนยังไม่แน่ใจในความคิดตัวเอง จึงตัดสินใจถาม


"คุณคือแฟนของจีนใช่ไหมครับ?"
 
"ครับ นั่งก่อนสิ"
ใบหน้าเย็นชาเผยรอยยิ้มขึ้นมาน้อยๆ พร้อมผายมือไปข้างๆ
 


       เมื่อหย่อนกายลง ฆีนเกร็งจนชายคนนั้นผุดรอยยิ้มอ่อนโยนทั้งยังประทับมือลงบนบ่าของฆีน
 

"คุณไม่ต้องกังวลหรอก จีนเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว"
 
"ครับ?"


 
"เมื่อคืน จีนส่งข้อความมาหาฉัน รายงานทุกอย่างและขออนุญาติคบคุณเป็นเพื่อนต่อ เพราะเขาไม่อยากมีปัญหากับฉันภายหลัง โดยปกติจีนสนุกกับใครจะจบลงคืนนั้น แต่เพราะจีนบอกว่าคุณไม่เหมือนคนอื่น"


"อย่างนั้นหรือครับ?"


"ใช่ ได้ข่าวว่าไม่ได้มีเซ็กส์กัน"


"อะ....เอ่อ...ครับ"
ฆีนรู้สึกกระดาก กระเดื่องที่ต้องตอบคำถามกับผู้ที่เพิ่งบอกว่าเป็นแฟนกับคนที่ฆีนคิดจะมีเซ็กส์ด้วย

 
   
       ในขณะที่ทั้งสองเงียบเสียงลง เป็นจังหวะที่จีนเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอน และทิ้งตัวลงนั่งข้างชายผู้นั้นพลางซบไหล่



"ขี้เซาเหมือนเดิมนะ จีน"
 

"คุณทศจะมาทำไมไม่โทรมาบอกก่อน จีนจะได้ตื่นมาทำอาหารเช้ารอ"
 

"ก็เพราะข้อความจีนไง ฉันถึงต้องรีบมาดูให้เห็นกับตา จีนรู้ไหม? คนที่อยากแนะนำฉันน่ะ เขาจะหนีกลับบ้านแล้ว"

 
       จีนชะโงกหน้ามองฆีนที่นั่งอีกฝั่ง ก่อนจะซบลงบนบ่าของแฟนอีกครั้ง


"ผมบอกแล้วนะฆีน ว่าอยากคบคุณเป็นเพื่อน ทำไมถึงคิดจะหนีกันง่ายๆอย่างนี้ล่ะ"


      ฆีนนั่งเงียบเพราะอึ้งที่ไม่เคยเจอใครแปลกประหลาดเท่านี้มาก่อน ให้ตายสิ...



"อ่อ! จีนลืมแนะนำ ฆีนนี่คุณทศนะ - คุณทศครับนี่ชื่อฆีน"


        ต่างฝ่ายต่างทักทายกันอย่างเป็นทางการอีกครั้ง


"ฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะคุณฆีน ถึงต่อให้เมื่อคืนคุณมีเซ็กส์กับจีน ฉันก็ไม่โกรธหรอก เพราะฉันเป็นคนบอกให้จีนทำแบบนี้เอง"
  คุณทศพูดเข้าประเด็น เนื่องจากเห็นอาการของฆีนยังคงนั่งเกร็งตลอด


"เพราะอะไรครับ? ทำไมคุณถึงไม่โกรธ"
ฆีนคลายความเกร็งลงได้บ้างก็เอ่ยถามอย่างสงสัย สำหรับฆีนแค่แฟนนอกใจไปมีคนอื่น เขาก็ทำใจยอมรับได้ยากแล้ว


"ฉันรู้ตัวดีว่า ฉันมอบความสุขด้านนี้ให้จีนไม่ได้" 
คุณทศเผยความจริง พร้อมหันไปมองหน้าแฟนตัวเอง ก่อนจะหันมาถามฆีนต่อ

"จีนได้บอกคุณไหมว่าเราคบกันมากี่ปี"

 

          ฆีนส่ายหน้า


"สิบเอ็ดปี พูดกันตรงๆ พอฉันอายุเยอะขึ้น ก็มีบ้างที่เริ่มชินชากับเรื่องอย่างว่า แต่เพราะฉันเข้าใจดีว่าผู้ชายส่วนใหญ่ย่อมต้องการเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมดา ฉันจึงตัดสินใจให้จีนไปหาความสุขทางกายบ้างคงดีกว่า"



"นานหรือยังครับ?" ฆีนถาม


"เกือบปีเห็นจะได้"



        บนโลกใบนี้ ช่างมีเรื่องราวให้น่าประหลาดใจอยู่เสมอ...


        จะมีสักกี่คนที่ยอมให้แฟนตัวเองไปเริงรื่นมีเซ็กส์กับคนอื่นโดยไม่รู้สึกรู้สาอะไร
 

        ฆีนไม่เข้าใจและไม่อยากจะเข้าใจในตรรกะที่คุณทศยอมให้จีนไปร่วมรักกับชายอื่นได้อย่างไม่ซ้ำหน้าเลยจริงๆ


       ฆีนนั่งมองทั้งสองด้วยความสงสัยระคนแปลกใจว่ายอมรับเรื่องนี้โดยไม่โกรธได้อย่างไร เพราะเรื่องนี้ สำหรับฆีนถือว่าร้ายแรงพอสมควร


      ยิ่งเห็นภาพตรงหน้าก็ไม่อยากเชื่อสายตา ว่าฉากหน้าที่ทั้งคู่ดูรักกันอย่างเต็มเปี่ยมนั้น เบื้องหลังมีใครอีกคนสนุกกับเซ็กส์ฉาบฉวยจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว...
 

      ตัวอย่างความใจกว้างดั่งแม่น้ำของคุณทศนี่เอง ที่ทำให้ฆีนฉุกคิดเรื่องท็อปเหมือนกัน


      หรือว่า ฆีนควรให้โอกาสท็อปดูอีกสักครั้ง...
   
 
 
"นิ่งอย่างนี้ คิดเรื่องน้องเขาอยู่ใช่ไหม?"
จีนถาม


"มีอะไรกันหรือ?" ทศถามแฟนตัวเอง แต่จีนเงียบเพื่อยกหน้าที่ให้ฆีนเป็นฝ่ายตอบคำถาม  ฆีนจึงตอบกลับไปคร่าวๆ


     ในระหว่างที่ฆีนเล่าใกล้จบ จีนนึกอะไรออกจึงแทรกขึ้นถึงแผนการกลับไปคบกันครั้งนี้ ต้องไม่ง่ายอย่างที่ควรจะเป็น


       เมื่อฆีนได้ยินวิธีของจีนเขาก็เอ่ยขึ้น

 
"ผมไม่ค่อยชอบวิธีที่จีนเสนอมาเท่าไหร่"
ฆีนพูดขึ้น

 
"แต่กับบางคนก็สมควรไม่ใช่หรือ? ให้น้องมันเจ็บบ้างสิ เผื่อจะสำนึกได้ว่าไม่ควรคิดอะไรตื้นๆอีก ฆีนให้จีนช่วยแก้เผ็ดเถอะนะ"
 

       ฆีนมีสีหน้าไม่สู้ดี เพราะเขารู้ว่าจีนพูดจริง ทำจริง แม้จะรู้จักกันเพียงวันเดียว แต่ฆีนรู้สึกเหมือนรู้จักมาเป็นเดือน จีนมีนิสัยตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดออกไปแบบนั้น แต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ เพราะไม่มีพิษ มีภัยอะไร


      ในขณะที่ฆีนยังคงครุ่นคิด ฟากจีนเงยหน้าถามแฟนเสียงอ้อน


"คุณทศครับ จีนขอเข้าไปช่วยฆีนเรื่องแฟนเขาหน่อยนะ"

 
       ทศมองหน้าแฟนตัวเองก่อนจะส่ายหน้าด้วยความละเหี่ยใจ
 

"ตลอดเลยนะจีน นิสัยรักสนุก ชอบทำตัวเป็นเด็กของคุณทำฉันปวดหัวหลายรอบแล้ว จะเล่นอะไรให้มีขอบเขตแล้วกัน อย่าไปสร้างเรื่องให้คุณฆีนจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ล่ะ แต่มาขอฉันแบบนี้ เจ้าตัวเขาอนุญาติแล้วหรือยังเถอะ?"


      จีนผละจากคุณทศ หันไปจ้องฆีนและถามเสียงจริงจัง


"ฆีนตกลงไหม?"



       ฆีนมองหน้าคุณทศสลับกับมองหน้าของจีนอย่างลังเลใจ เพราะเขาไม่รู้ว่าควรจะเสี่ยงกับวิธีที่จีนเสนอมาดีหรือเปล่า?....











......................





        ผ่านไปสามวันที่เนกลับมาอยู่บ้าน หลังจากที่เนหนีไปได้ไม่ถึงอาทิตย์ดี ก็โดนพ่อโทรตามกลับบ้านด่วน เพื่อสอบถามว่า เขตหายไปไหน? แต่ทุกครั้งเนเลือกหนีปัญหาโดยให้ความเงียบเป็นคำตอบ


"เน บอกพ่อมานะทะเลาอะไรกับเขต" พ่อของเนไม่เคยหยุดตื้อในสิ่งที่สงสัย หลายรอบแล้วที่พ่อถามแต่เนก็ไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมา         



"ไม่มีอะไรครับ" เนตอบและนั่งเขี่ยข้าวเล่นในจานอย่างเหงาหงอย อาจเป็นเพราะท่ามกลางบนโต๊ะอาหารไม่มีพี่เขตที่ชวนสร้างเสียงหัวเราะเหมือนเคย

 

"พ่อไม่เชื่อ พ่อโทรหาเขตให้กลับมาบ้าน แต่เขตก็อ้างว่า มีงานสำคัญเลยขอนอนบ้านเพื่อนก่อน แต่ฟังจากน้ำเสียง พ่อรู้ว่าเขตโกหก และมันแปลกตรงที่ทุกครั้ง เขตต้องถามหาเนตลอด เนบอกพ่อมาซิ ว่าเกิดอะไรขึ้น"



        เนชะงักและใจหวิว ตอนที่พ่อบอกพี่เขตถามถึงตน

 

"เนก็ไม่รู้ครับ" เนตอบปัดๆไปด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงต้องมาคาดคั้นเอาคำตอบกับเขา พ่อแลดูจะเป็นห่วงเป็นใยพี่เขตมากเกินควร ต่างจากเน ที่ตั้งแต่เนไปอยู่กับพี่ฆิต พ่อไม่เคยถามเนสักคำว่าเป็นอะไรหรือเปล่า? ถึงต้องหนีออกจากบ้านไปแบบนั้น

 



"เน อย่ากวนประสาทพ่อนะ!"




       และแล้ว ความน้อยใจ ความอึดอัดใจก็พวยพุ่งให้ความอดทนพังทลายลง

 

"ทำไมพ่อถึงดูเป็นห่วง เป็นใยพี่เขตจังครับ เนจะเป็นตายร้ายดีอะไร พ่อไม่เคยคิดจะถามจะสนใจสักคำ ถามจริงเถอะ เนเป็นลูกพ่อรึเปล่า?"




      สิ้นเสียงลูกชาย ผู้เป็นพ่อตบโต๊ะเสียงดังลั่น จนแม่และเนต่างสะดุ้งตกใจ แม่ของเนต้องปลอบสามีลูบหลัง ลูบไหล่ให้ใจเย็นลง

 

"ก็เพราะว่าเนเป็นลูกแท้ๆไง พ่อถึงต้องให้ความสำคัญเขตมากกว่าเน"



"เนไม่เห็นจะเข้าใจเลยครับ"



 
       พ่อที่ดูเหมือนหลุดพูดอะไรบางอย่างออกมาด้วยความโมโห ถึงกับเงียบเสียงเมื่อตั้งสติได้ ฟากแม่ของเนส่ายหน้าพลางลอบถอนหายใจ



"เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว คุณพูดเถอะค่ะ"

"มีอะไรกันครับแม่ บอกเนนะ"



"เขตไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อกับแม่หรอกเน"

"มะ...หมายความว่าไงครับ!" เนเผลอพูดเสียงดังและเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ


 "คุณเล่าแทนผมที" พ่อของเนยกมือนวดขมับพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ แม่มองหน้าเน ก่อนจะเล่าเรื่องนี้ให้เนฟัง



"เรื่องก็คือ พ่อของลูกน่ะมีน้องสาว และเธอมีแฟนอยู่ รักกันดี แต่พ่อเห็นว่าฝ่ายชายมีฐานะการเงิน การงานไม่มั่นคง จึงบังคับให้น้องสาวของตัวเองคบกับคนที่พ่อแนะนำให้เพราะดูมีอนาคตกว่า  คบกันไม่นาน คนที่พ่อยัดเยียดให้น้องสาวกลับนอกใจ น้องสาวพ่อบอกเลิกและเพิ่งรู้ภายหลังว่าตั้งครรภ์กับเขาแล้ว พอบอกไป ผู้ชายคนนั้นกลับปัดความรับผิดชอบ พ่อจึงบอกน้องสาวว่าจะช่วยเลี้ยงดู และเมื่อถึงกำหนดคลอด เด็กคนนั้นลืมตาดูโลกมาก็คือ เขตนั่นเอง

      หลังจากที่น้องสาวของพ่อคลอดเขตมาได้ไม่ถึงสัปดาห์ เธอก็ฆ่าตัวตายพร้อมทิ้งจดหมายลาตายไว้ พ่อลูกรู้สึกผิดมากจึงดูแลและรักเขตเสมือนลูกแท้ๆคนหนึ่ง เพราะไม่อยากให้เขตรู้สึกว่าตัวเองขาดความอบอุ่น"



 

       เนรู้สึกจุกอย่างบอกไม่ถูก เมื่อได้ล่วงรู้ความจริงจากปากของแม่ เนไม่นึกโกรธที่พ่อโกหกมาเนิ่นนาน แต่สิ่งที่เนรู้สึกตอนนี้ คือสงสารพี่เขตมากกว่า


        จู่ๆ เนก็น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว


"ละ...แล้วทำไมพ่อต้องโกหกผมสองคนมาตลอดว่าเป็นลูกคนละแม่ และทำไมไม่ยอมบอกความจริงกับพี่เขตไปครับ"


"พ่อไม่กล้าพอที่จะบอกความจริง เพราะพ่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แม่ของเขตตาย ส่วนที่ต้องบอกว่าเป็นลูกคนละแม่ ก็จะได้ไม่ต้องโดนคำถามภายหลังว่าทำไมพี่น้อง ถึงมีเค้าโครงหน้าตาที่ไม่คล้ายกันเลย"



       ได้ยินดังนั้น เนรู้สึกผิดที่เผลอคิดน้อยใจ จากนี้ เนจะไม่งี่เง่าและเอาแต่ใจกับพี่เขตอีก เนต้องทำให้คนที่ไม่มีโอกาสได้เจอหน้าพ่อ-แม่ที่แท้จริงมาตั้งแต่เกิดได้มีความสุขอย่างเต็มที่


         เมื่อความจริงถูกเปิดเผย จากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรอีก บนโต๊ะอาหารดูเศร้าลงไปถนัดตา


         ในขณะเดียวกัน เนแปลกใจตัวเอง ที่พอรู้ว่า พี่เขตไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้อง เนกลับรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด


          เนเงยหน้ามองหน้าพ่อทั้งๆที่น้ำตาอาบแก้ม ก่อนจะเอ่ยอย่างเสียงดังฟังชัด



"เนสัญญาว่าจะพาพี่เขตกลับมาบ้านหลังนี้ให้ได้ครับ"

 




 ****60%****


ต้องขอบคุณตัวประกอบอย่างคุณทศนะคะที่ทำให้พี่ฆีนฉุกคิดและใจอ่อน

แน่นอนว่า ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ
บอกท็อปหรือบอกตัวเองคะ? คุ๊ณนนนน  5555555+

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านจ้า....


หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22} UPDATE [25 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-05-2017 20:33:29
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22} UPDATE [25 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 25-05-2017 21:07:07
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22} UPDATE [25 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 25-05-2017 21:45:37
ฟ้าหลังฝน ย่อมสดชื่น
สู้ๆๆๆน่ะนักเขียน^^
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22} UPDATE [25 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 25-05-2017 21:52:14
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22} UPDATE [25 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 25-05-2017 23:53:14
รออ่านต่อนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22.2} UPDATE [29 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 29-05-2017 00:13:57
ตอนที่ 22 ความจริง(2)



       ตั้งแต่วันที่ทะเลาะกับเนอย่างรุนแรง เขตเก็บข้าวของออกจากบ้านแห่งนั้น และตระเวนหาบ้านเช่าเพื่อพักอาศัย และได้หลังที่ถูกใจเมื่อไม่กี่วันมานี้

   
       หลายชั่วโมงที่เขตทำความสะอาดบ้านของตัวเองจนสะอาดเรียบร้อย เขานั่งเอนกายพักเหนื่อยที่โซฟาตัวกว้าง มองรอบบ้านที่ยังว่างเปล่า เนื่องจากยังขาดเฟอร์นิเจอร์อีกหลายอย่างที่จะมาเติมเต็มให้สมบูรณ์



      ในขณะที่พัก หัวสมองยังมิวายนึกถึงเรื่องราวเลวร้ายที่ยากเกินให้อภัย เรื่องที่เขตปล้ำน้องชายของตัวเอง

 

      บ้าแค่ไหน? รักใครไม่รัก... เผลอรักน้องชายสายเลือดเดียวกัน...


       เขตแอบรักเนมาตั้งแต่น้องชายเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น จุดเปลี่ยนคงมาจากการที่เนเคยโดนพ่อตีอย่างหนักเมื่อโดนจับได้ว่าโดดเรียนไปเที่ยวทะเล เขตต้องทำแผล ทายาให้ที่ท่อนขา



        ดูแลน้องชายเสร็จสรรพ ผลลัพธ์ของการตอบแทนไม่ใช่คำขอบคุณ แต่เป็นการหอมแก้มซึ่งทำให้เขตอึ้งไม่น้อย แม้จะรู้ดีว่าเนมีรสนิยมที่ชอบผู้ชาย แต่ไม่คิดว่าเนจะทำแบบนี้


        พอรู้ว่าใจเต้นแรงกับสิ่งที่เนทำ เขตคุยกับตัวเองจนได้ข้อสรุปว่าเขาเผลอชอบน้องชายเข้าให้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เวลาช่วงหน้าฝน เนขอมานอนที่ห้องของเขตและชอบทำตัวออดอ้อน ด้วยการเอาหน้ามาซุกซอกคอเขตคลอเคลียไปมาทำให้เขาต้องทนข่มใจมาหลายหน   

       

        แต่เขตรู้ตัวดีว่า ไม่มีทางสมหวังเพราะมันผิดตั้งแต่คิดที่จะคบกับน้องชายตัวเองแล้ว
 

        ที่ผ่านมา เขตจึงพยายามหักห้ามใจ แต่พอยิ่งใกล้ชิดเขตก็ยิ่งรักจนทำใจไม่ได้สักที
 

        ผ่านไปหลายปีที่เขตยังรักเนไม่เปลี่ยนแปลง จนเนเรียนระดับมหาวิทยาลัย เมื่อเนโตขึ้น หลายๆอย่างก็ทำให้เขตต้องควบคุมตัวเองอย่างหนัก เพราะหลังๆมา เนไม่ได้แแค่มานอนช่วงหน้าฝนเท่านั้น แต่มานอนกับเขตทุกวัน เขตไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เนโตแล้ว ควรจะมีโลกส่วนตัว อยากอยู่คนเดียว ทำไมถึงหอบผ้าหอบผ่อนมานอนกับเขตแบบนี้


        พอมานอนด้วยกัน บ่อยครั้ง เวลาที่เนอาบน้ำเสร็จ ต้องมายืนแก้ผ้า แต่งตัวตรงโต๊ะเครื่องแป้ง เขตถึงกับสะกดอารมณ์อย่างหนัก จนต้องเดินออกจากห้องทุกครั้ง 


       เขตทนทรมานแบบนี้ต่อไปไม่ไหว


       การแอบรักข้างเดียวว่าเจ็บแล้ว แต่การรู้ว่ารักนี้ไม่มีวันเป็นไปได้นั่นเจ็บยิ่งกว่า


        จนกระทั่งได้โอกาสดี เขตเห็นฆิตอกหัก และรู้ว่าเพื่อนสนิทคนนี้มีสเปกที่ชอบคนตัวเล็ก ซึ่งเนตรงตามคุณสมบัติของฆิตทุกอย่าง เขตจึงยุยง ยัดเยียดเนให้ฆิต ทำทุกอย่างให้ทั้งสองชอบกัน อย่างน้อย ถ้าเพื่อนรักของเขตชอบเนก็จะได้หมดห่วง เพราะฆิตดูแลเนได้อย่างแน่นอน อีกอย่างเนจะได้อยู่ในสายตาของเขตตลอดเวลาด้วย


       แต่ใครจะคิดล่ะว่าทำถึงขนาดนี้ ฆิตกลับไม่ชอบเนแถมรำคาญเสียอีก


       หลังจากที่ฆิตปฏิเสธไม่ชอบน้องชายของเขต จากนั้น เนทำตัวเหลวแหลก และชอบพูดกับเขตบ่อยๆว่าจะประชดชีวิตตัวเองด้วยการมั่วกับคนอื่น
 

        และแล้วเรื่องที่เนเคยพูดเปรยไว้ก็เป็นจริง เมื่อวันหนึ่ง เนกลับบ้านดึกแล้วเดินเข้ามาหาเขตในห้องนอนด้วยสภาพกลิ่นเหล้าหึ่งคละคลุ้งทั่วกาย เขตลืมตาขึ้นมามองน้องชายที่ทิ้งศรีษะลงนอนบนอกเขาพร้อมร่องรอยที่เขตเห็น คือ รอยจ้ำแดงทั่วคอ

 
        เขตตาสว่างและกัดฟันกรอด ฝืนถามเนว่าไปมีอะไรกับใครมา เนบอกแค่จูบแล้วก็นัวเนียกันทั่วไป ไม่ถึงกับขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่อย่างใด


        เขตเบือนหน้าหนีไม่อยากเห็นร่องรอยเหล่านั้น เพราะยิ่งเห็นก็ยิ่งเจ็บปวด เขตรู้สึกว่าเนชักเหลวไหลเกินไป จึงตั้งใจด่าแรงๆให้เนได้รู้สึก


"คิดว่าร่านแล้วดีหรือไง? ห้ะ..."



      แต่เขตก็ไม่รู้ว่าเนจะสวนกลับด้วยถ้อยคำแรงไม่ต่างกัน



'พี่เขตไม่ใช่พ่อ อย่าสะเออะมายุ่ง'

 

        เพียงเท่านั้น...เขตสติขาดผึง!


       เขตขึ้นคร่อมร่างเล็ก จัดการสานสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างป่าเถื่อน..


       และนั่นจงเป็นเหตุที่เนหลบพักที่ห้องของฆิตนั้นเอง


        คิดเรื่องอดีตระหว่างเขากับเนจนผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นฆิตที่โทรมาบอกว่าอยู่หน้าบ้านแล้ว


        เขตเด้งตัวลุกไปหาเพื่อนหน้าบ้านก็เห็นฆิตกับกราฟยืนยิ้มอยู่นอกรั้ว


"ว่าไงมึง"


"มีอะไรให้ช่วยไหมวะ?"
ฆิตถาม และยื่นถุงขนมนมเนยให้เขตไว้กินระหว่างวัน


"ไม่มีว่ะ ขอบใจมาก กูบอกไว้ก่อนว่าบ้านโล่งหน่อยนะ ยังขาดเฟอร์นิเจอร์บางส่วนน่ะ" เขตว่า พลางเปิดประตูรั้วบ้านต้อบรับให้ทั้งสองเดินเข้ามา  ขณะที่เขตหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน อยู่ดีๆก็มีร่างมากระแทกจนเขตเซถลาไปข้างหน้านิดหนึ่ง จากนั้น ท่อนแขนสองข้างโอบรัดเขตไว้จากด้านหลัง
     

"พี่เขตครับ เนขอโทษ"


!!!


       เขตหยุดเท้า ยืนตัวชาวาบ เพราะไม่คิดว่าเนจะมาด้วย เขาทำตัวไม่ถูกจริงๆและไม่รู้ว่าต้องทักทายน้องชายด้วยประโยคไหนก่อนดี


      เขตดึงมือเนที่กอดออกและหมุนตัวหันกลับมาหา เขตแอบเห็นสายตาของฆิตและกราฟที่มองมาเหมือนลุ้นอะไรบางอย่าง

 

"ไม่ต้องขอโทษหรอกเน พี่ผิดเอง"

"เนสิผิด ผิดที่รักพี่เขต แต่หนีหัวใจตัวเองมาตลอด" เนเผยความรู้สึกตัวเองอย่างไม่กลัวแล้วว่ามันจะผิดศีลธรรมมากแค่ไหน?



!!!

 

       คำว่ารักที่สัมผัสได้ว่ามากกว่าพี่น้อง ทำให้คนนอกอย่างกราฟและฆิตอึ้งไม่ต่างกัน เพราะตอนแรกที่ทั้งสองมาส่ง เนื่องจากเห็นว่าทะเลาะเลยอยากให้เคลียร์กัน แต่ไม่คิดว่าเรื่องที่ทะเลาะจะเป็นเรื่องหัวใจไปซะได้


       กราฟสะกิดส่งสัญญาณให้พี่ฆิตรับรู้ ก่อนจะเอ่ยขอตัว
 

"เอ่อ...ผมว่าผมกับพี่ฆิตกลับบ้านก่อนนะครับ"


"อยู่ก่อนสิ" เขตบอก


"เดี๋ยวกูค่อยแวะมาใหม่ดีกว่า ไอ้เขต มึงคุยกับน้องมึงเถอะ"

"ขอบคุณนะครับพี่กราฟ พี่ฆิต"

 

        เมื่อกราฟและฆิต ลับตาไป เนคล้องแขนพี่เขตเดินเข้าไปในบ้าน นั่งลงที่โซฟาเพื่อปรับความเข้าใจกัน ซึ่งเนยังไม่บอกความจริงเรื่องพ่อ-แม่ของพี่เขต เขาอยากให้คลี่คลายทีละเรื่องก่อน



        เนเปิดใจว่า เขาชอบพี่เขตมาตั้งแต่ช่วงเรียนใกล้จบมอปลาย แต่ไม่กล้าบอก เพราะตอนนั้น กลัวพี่เขตจะไม่รับรักเนื่องจากต่างฝ่าย ต่างรู้ดีว่าเป็นพี่น้องกัน



        เนยังคงปิดบังความรู้สึกมาตลอด เพราะคิดว่าแอบรักแบบนี้ก็มีความสุขดี



      จนกระทั่ง มาถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เนเจ็บและน้อยใจ คือ พี่เขตผลักไสให้ไปชอบพี่ฆิต เนเสียความรู้สึกจึงประชดด้วยการทำตามที่พี่เขตสั่ง และสนิทชิดเชื้อพี่ฆิตเพื่อให้พี่เขตหวง แต่เปล่าเลย พี่เขตทำทีนิ่งเฉยไม่คิดสนใจอะไรเลย

 

       พอรู้ว่าพี่ฆิตไม่ชอบ ก็ยิ่งทำให้เนเสียหน้าและประชดหนักกว่าเดิมด้วยการทำตัวเหลวแหลกเพื่อให้พี่เขตสนใจ แล้วมันก็ได้ผล



       แต่เนไม่คิดว่าพี่เขตจะโมโหจนลงท้ายด้วยการมีเซ็กส์ เนไม่โกรธเพราะยอมรับว่าเต็มใจ แต่แค่เสียใจว่าทำไมครั้งแรกกับคนที่เนรักถึงมาจากความโกรธและป่าเถื่อนแบบนั้น



       และสิ่งที่ทำให้เนแน่ชัดในหัวใจตัวเองจนถึงขั้นกระวน กระวายใจ คือการที่พี่เขตหนีหายไป ผนวกกับพอรู้ว่าเนและพี่เขตไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ เป็นเพียงลูกพี่ลูกน้อง เนรู้สึกโล่งใจและคิดว่าถึงเวลาที่เนต้องบอกความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้เสียที



      นี่จึงเป็นที่มาให้เนตัดสินใจระบายความในใจให้พี่เขตรู้ว่าเนคิดอย่างไร...เพราะเนเชื่อว่า พี่เขตคงคิดไม่ต่างกัน


       ว่าจบ เขตรวบร่างบางมากอดแนบแน่นเพราะไม่คิดว่าคนที่เขตแอบรักจะรักตอบ เขตจึงบอกความรู้สึกของตัวเองให้เนรู้ แล้วเอ่ยต่อ



"ทีหลังอย่าทำตัวประชดแบบนี้อีกนะ"
 

"ก็พี่เขตไม่สนเนเลยนี่นา"

 

"ถ้าพี่รู้ว่าเนชอบพี่ เนคงเป็นเมียพี่ตั้งแต่อายุสิบห้าแล้ว"

 

"ทะลึ่ง จะให้เนบริสุทธ์ ผุดผ่องนานกว่านั้นไม่ได้หรือไงเล่า?"



"หึๆ...เนรู้ไหมครับ พี่ต้องข่มใจแค่ไหน เวลาที่เนชอบมานอนกอดพี่น่ะ...ฮึ?"


"เขินนะพี่เขต"  เนหัวเราะคิกคัก จากนั้น เนก็เอ่ยต่อ


"เนอย่าทำแบบนี้ มันน่ารักเกินไป" เขตบอกความจริงก็ดูเนทำหน้าเข้าสิ ปากบอกเขิน แต่หน้านี่ยั่วชะมัด

"เย้ๆ เนมีความสุขและดีใจจังครับที่เรารักกัน เรื่องของเราไม่ต้องบอกใครก็ได้เนอะ"

"ครับผม"



          เพราะทั้งสองรู้ดีว่า การเป็นพี่-น้องกันจะรักแบบคู่รัก แน่นอนว่าหลายคนคงไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่เพราะต่างฝ่าย ต่างใจตรงกัน ก็คงไม่อาจปิดกั้นหัวใจของทั้งคู่ได้อีกต่อไป


       ถ้าทั้งคู่ต่างมีความสุขเหมือนกัน ไม่ต้องประกาศให้โลกรู้ แค่รักแบบรู้สองคนก็ได้ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย...


"เนครับ พี่ขอโทษนะที่ครั้งแรกมันเริ่มต้นแบบไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ ถ้างั้นพี่ขอแก้มือใหม่ได้ไหม?"



"เนไม่ให้ จนกว่าพี่เขตจะกลับบ้านไปหาพ่อ"
 

"อยากให้กลับ?"

"อยากสิ พี่เขตจะได้อยู่เคียงข้างเนแบบนี้ไปตลอด"


"ได้ครับ พี่จะกลับไปนะ แต่พี่มัดจำเงินของบ้านหลังนี้ไว้แล้วคงต้องอยู่ไปก่อน เสียดายเงินน่ะ"


"งั้นพี่เขตไม่ต้องกลับบ้านก็ได้ แต่เนจะหอบเสื้อผ้ามาอยู่ที่นี่ด้วย"


"แรดนะ...หนีตามผู้ชาย" เขตแซวอย่างยิ้มๆ


"ถ้าคนนั้นเป็นผู้ชายที่เนรัก เนยอมให้พี่เขตด่าครับ"

 

      พอเห็นเนพูดจาหวานหู เขตยกมือลูบคอแก้เขิน ก่อนจะกลบเกลื่อน


"รู้แล้วนี่ว่าพี่พักอยู่ที่ไหน? กลับบ้านก่อนเถอะ เดี๋ยวพ่อเป็นห่วง"
 

"ถ้าพ่อรู้ว่าเนอยู่กับพี่เขต เขาไม่ห่วงหรอก อีกอย่าง เนจะกลับทำไม ในเมื่อคนรักของเนอยู่ที่นี่"


      เขตไม่คุ้นชินที่น้องชายใช้คำว่าคนรักกับเขา เขตผุดลุกขึ้นเพื่อเบี่ยงความสนใจไปทำอย่างอื่น แต่โดนเนกระตุกมือ และลุกขึ้นตามมากระโจนกอดเขตไว้


      เขตหน้าร้อนฉ่า เมื่อสัมผัสได้ว่ามีริมฝีปากมาโดนซีกแก้ม จากนั้น เนบอกรักเขตด้วยเสียงหนักแน่น


      เขตมองใบหน้าน่ารักด้วยความดีใจเพราะไม่คิดว่าชีวิตนี้ เขตจะสมหวังเรื่องความรักกับเขาเหมือนกัน


      วินาทีนั้น เนไม่รีรอเคลื่อนริมฝีปากมาบรรจงจูบพี่เขตอย่างถวิลหา และเอ่ยขอเริ่มมีความสัมพันธ์กับพี่เขต เพราะเนอยากให้ครั้งนี้ มาจากความรักที่ทั้งสองฝ่ายมีให้กันและทำมันให้ดีที่สุด...




..................................


สมหวังกันไปอีกคู่ คู่ที่เหลือ เชิญกดบัตรคิวรอก่อนน้า 5555+
ตอนต่อไป ขอสปอยล์ชื่อตอน

  'จุดจบของการไว้ใจ'

อ่าาาาาาหืมมมมมม....

หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22.2} UPDATE [29 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-05-2017 00:32:44
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22.2} UPDATE [29 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 29-05-2017 01:59:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22.2} UPDATE [29 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 30-05-2017 08:54:11
ดีใจกับพี่เขตเนสมหวังกันแล้ว
รอต่อ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22.2} UPDATE [29 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 30-05-2017 23:00:16
ไม่ชอบจีนที่ยุให้ฆีนแก้เผ็ดท็อป  บอกว่าอยากให้ท็อปสำนึก  (เดาว่าน่าจะให้จีนเป็นแฟนใหม่เพื่อให้ท็อปเจ็บมั้ง) ถ้าฆีนทำตามก็ใช้ไม่ได้ ฆีนน่าจะเห็นว่าท็อปเสียใจแค่ไหน น้องสำนึกและเจ็บมากแล้ว ถ้ายังทำอะไรน้องอีก มันเกินไป

ถ้าฆีนทำจริง เราอยากให้ท็อปทำใจและตัดใจได้ (ตอนนี้อยากแก้เผ็ดฆีนแทนที่เชื่อจีนจนทำร้ายท็อป) หวังว่าจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดนะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 22.2} UPDATE [29 พค.60 ] >> P.7
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 01-06-2017 00:13:22
ผ่านไปอีกคู่,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23} UPDATE [5 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 05-06-2017 22:29:17
ตอนที่ 23 จุดจบของการไว้ใจ







 

"ขอบคุณนะครับที่มาเจอกัน"


       บ่ายสองโมงวันเสาร์ พีทและกราฟนัดคุยกันที่ร้านกาแฟแบรนด์ดัง ณ ห้างสรรพสินค้า ซึ่งกราฟไม่คิดหาเหตุผลว่าพีทหาเบอร์กราฟมาได้อย่างไร รู้แค่ว่า ถ้ากล้าโทรมาหาเพื่อขอพบเจอ กราฟก็อยากรู้เหมือนกันว่าพีทต้องการคุยเรื่องอะไร...


"มีอะไรเหรอพีท?"


     พอทั้งสองหน้าพบกัน สั่งเครื่องดื่มได้ไม่นาน กราฟไม่รีรอจะถามความต้องการอีกฝ่าย เพราะบอกตามตรงว่าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ที่ต้องมานั่งรวมโต๊ะกับแฟนเก่าของแฟนตัวเอง
 

"ผมไม่ชอบอ้อมค้อม ผมจะกลับไปคบกับพี่ฆิต" เมื่อเห็นสีหน้าของกราฟที่ดูเคร่งเครียด พีทก็ไม่อยากเสียเวลาหาเหตุผลมาอธิบาย เข้าเรื่องให้มันจบๆไปก็ดีเหมือนกัน
 

"ชัดเจนดี แล้วทำไมพีทไม่ถามพี่ฆิตล่ะ มาถามพี่ทำไม"

 
"เพราะผมเชื่อว่า ถ้าผมขอคืนดีกับพี่ฆิต เขาคงเอออออยู่แล้ว เลยอยากขอพี่กราฟให้ความร่วมมือด้วยการเลิกกับพี่ฆิตได้ไหมครับ"
 

"แน่ใจนะว่าที่มาขอพี่ก่อน ไม่ใช่เพราะกลัวว่าพี่ฆิตจะปฏิเสธ?"
 

"ผมสงสารพี่ต่างหากครับ สงสัยผมคงต้องให้พี่ได้ดูอะไรสักหน่อย ก่อนจะถูกหลอกไปมากกว่านี้"
 



      พีทยิ้มเย็นพร้อมเลื่อนโทรศัพท์มาวางตรงหน้าของกราฟ


      หน้าจอมือถือ ปรากฎวีดีโอที่ถูกหยุดค้างไว้  กราฟกดเล่นต่อจนเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวที่อยู่ในงานคอนเสิร์ตงานหนึ่ง ผู้คนมากมายยืนเต้นกันอย่างเบียดเสียด โยกย้าย ส่ายหัวไปตามทำนองแสงสีที่เร้าอารมณ์ กระตุ้นต่อมความสนุกไปกับเสียงเพลงได้เป็นอย่างดี


     ผ่านไปเพียงสิบวินาที ผู้คนมากมายเหล่านั้น กลับไม่เด่นชัดเท่าผู้ชายสองคนที่ดูสะดุดตาเนื่องจากยืนหันหน้าเข้าหากันและใกล้เกินไป กราฟเบิกตาโพลง หัวใจเต้นแรงจนหายใจถี่ตามเมื่อได้เห็นฉากสะเทือนอารมณ์

     
     เป็นภาพที่พี่ฆิตดึงพีทไปจูบแบบลึกซึ้ง มือของพีทก็ไม่วายลูบไล้ร่างกายพี่ฆิตที่ท่อนบนเปลือยเปล่าใส่แต่กางเกงขาสั้นสีกรมท่า จากนั้น เสียงโห่แซวก็ดังลอดเข้ามา จนกราฟรีบกดปิด และตั้งสติ


"อย่างนี้ พี่ควรจะปล่อยพี่ฆิตได้รึยังครับ" เมื่อเห็นกราฟสีหน้าเปลี่ยนไป พีทพูดเสริม โน้มน้าวให้อีกฝ่ายคล้อยตาม
 

"อยากได้พี่ฆิตคืนใช่ไหม?"
 

"ครับ"
 

"ได้จะคืนให้ พี่ไปได้รึยัง?"
กราฟยื่นโทรศัพท์คืนไปให้เจ้าของ พร้อมมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความระอา
 

"ขอบคุณนะครับ พี่กราฟ" พีทยิ้มกว้าง เพราะไม่นึกว่าจะง่ายกว่าที่คิด



       กราฟวาบหวิวหัวใจและโหวงๆอย่างบอกไม่ถูก เขาต้องรีบออกมาจากที่ตรงนั้น เพราะกราฟเผลอน้ำตาคลอเมื่อเห็นแฟนตัวเองนัวเนียกับคนอื่น

       และแล้วสิ่งที่กราฟกลัวมาตลอดก็เป็นจริง...





        ช่วงหัวค่ำของวันเดียวกัน...ภายในห้องของฆิต เขาเพิ่งทำไฟล์ภาพของลูกค้าเสร็จได้ไม่กี่นาทีนี้ หลังจากที่นั่งจัดทำ ตกแต่งรูปมาเกือบครึ่งค่อนวัน 


        ฆิตเอนกายพิงพนักเก้าอี้ กางแขน เพื่อยืดเส้น ยืดสาย เงยหน้ามองเพดาน ไม่นานนัก ฆิตได้ยินเสียงดังจากหน้าประตูห้อง


       ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวๆไปตามเสียงเคาะเรียก ก้มส่องตาแมวที่บานประตู เขาแอบดีใจปนประหลาดใจ แต่ริมฝีปากคงไปตามความรู้สึกลึกๆข้างใน เพราะจู่ๆฆิตก็ยกยิ้มออกมาเอง เมื่อเห็นว่านอกบานประตูนั้นเป็นใคร?
 

"ดีใจว่ะ มึงมาหา โดยที่กูไม่ต้องร้องขอ กูคิดถึงมึงอยู่พอดีเลย" ฆิตเปิดประตูรับแฟน และกำลังเดินเข้าไปกอดคอก็โดนกราฟผลักออก พร้อมเหวี่ยงหมัดซัดเข้าที่ใบหน้าจนฆิตเซถอยหลังเพราะไม่ทันตั้งตัว
 

ผั่วะ


       ใบหน้าเปื้อนยิ้มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงในฉับพลัน ฆิตโมโห ที่อยู่ดีๆ กราฟก็มาต่อยแบบไม่พูดพร่ำทำเพลงแบบนี้
 

"มึงเป็นเหี้ยอะไรวะ ไอ้กราฟ"


"คนที่เหี้ยไม่ใช่ผม แต่เป็นพี่!!"
 

     กราฟยืนชี้หน้าด้วยความโกรธระคนเจ็บปวดใจ

 
"พี่จูบกับพีททำไม...ไหนว่าเลิกกันแล้วไงวะ"
 
 
!!!
 

       เมื่อได้ยินประโยคอันเป็นต้นเหตุ ฆิตยืนอึ้ง หน้าถอดสี เพราะไม่คิดว่าคนรักจะรู้เรื่องนี้ด้วย
 

"มะ...มึงรู้ได้ไง"
 
"ผมรู้จากไหนไม่สำคัญ มันสำคัญที่ว่าแม่งเรื่องจริง"


"กูว่าเราต้องคุยกันยาว เข้ามาก่อนนะกราฟ"
 
"ไม่! พี่ฆิตหลอกผมทำไม"
น้ำเสียงผิดหวังเอ่ยออกมาอย่างแสนเศร้า จนฆิตจะเข้าไปกอดแต่กราฟผลักอกให้ห่างออก
 

"ค...คือ มึงกำลังเข้าใจกูผิดนะ กราฟ"
 
"ผิดอะไรวะ  คลิปวีดิโอที่พีทเอามาให้ดู มันเป็นงานคอนเสิร์ตที่พี่เคยขอผมไป พี่ทำกับผมแบบนี้ได้ไงวะ พี่ฆิต"



      ความเสียใจที่แบกรับและทนฝืนมาได้นาน ตั้งแต่ที่แยกกับพีท มาจนถึงตอนนี้ กราฟแบกมันไม่ไหวแล้ว กราฟพูดพร้อมน้ำตาที่หลั่งไหลมาเป็นสาย


     ฆิตใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม เมื่อเห็นกราฟร้องไห้เป็นครั้งแรก
 

     น้ำตาของคนรัก ทำฆิตรู้สึกผิดจับใจ ฆิตรีบโผกอดกราฟอย่างไม่กลัวว่าจะโดนผลักไสมาอีกหรือไม่? แม้ในใจ จะมีคำถามว่ากราฟและพีทไปนัดเจอกันตอนไหน แต่คงไม่สำคัญเท่าความรู้สึกของคนตรงหน้า


"กูขอโทษ"


     กราฟยืนน้ำตาไหลในอ้อมกอดของผู้ชายอีกคน เขาเงียบเมื่อได้รับสัมผัสจากพี่ฆิตที่ไล้ริมฝีปากพรมจูบทั่วใบหน้าอย่างอ่อนโยน แต่แล้วกราฟก็ระบายความรู้สึกที่เก็บมานาน
 


"พี่ฆิตเห็นแล้วรึยัง? ว่าทำไม ผมต้องย้ำตลอดว่าผมไว้ใจพี่ เพราะให้พี่สำนึกและมีสติ ผมกลัวว่าสักวันหนึ่งพี่จะใจอ่อน ถ้าได้เจอพีทอีกครั้ง แล้วเป็นไงล่ะ! สิ่งที่ผมกลัวมาตลอดก็เป็นจริงจนได้"


      ฆิตกอดกราฟแน่นกว่าเดิม ด้วยความรู้สึกผิดมหันต์


"กราฟฟังก่อนนะ กูจูบพีทเพราะมึง"
 
!!!
 
     มีใครบนโลก ยอมเชื่อกับประโยคที่ดูไร้สาระสิ้นดี!

     จูบแฟนเก่าเพราะแฟนใหม่? เหตุผลโคตรไม่เข้าท่าเลยให้ตาย!




****1.1****

หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23} UPDATE [5 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 05-06-2017 22:53:34
เศร้าที่สุด  สงสารกราฟ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23} UPDATE [5 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 05-06-2017 23:51:10
สงสารกราฟ,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23} UPDATE [5 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-06-2017 00:01:35
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23} UPDATE [5 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 06-06-2017 00:14:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23} UPDATE [5 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-06-2017 11:22:10
สงสารน้องกราฟสุดใจเลย T^T
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23} UPDATE [5 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-06-2017 09:55:16
เศร้าเลย ค้างงงงงง
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 11-06-2017 21:11:51

ตอนที่ 23 จุดจบของการไว้ใจ (2)



 


       ฆิตจูงมือกึ่งบังคับกราฟให้เข้ามานั่งคุยในห้องก่อน ซึ่งกราฟตามมาอย่างว่าง่ายเพราะอยากรู้เหมือนกันว่าเหตุผลแก้ตัวของพี่ฆิตนั้นจะฟังขึ้นหรือเปล่า?


      เมื่อทั้งสองนั่งโซฟาเรียบร้อย ฆิตจับมือกราฟไม่ปล่อยแล้วค่อยๆอธิบายอย่างใจเย็น
 


"ก่อนเกิดเรื่องนี้ พีทขู่ว่าจะทำร้ายมึง มันรู้ข้อมูลของมึงเกือบทุกอย่าง รู้ว่ามึงทำงานที่ไหน? แผนกอะไร เลิกงานกี่โมง รู้แม้กระทั่ง ชื่อหมู่บ้านที่มึงอยู่ จนกูเริ่มกลัวว่ามันจะทำอะไรมึงจริงๆ พีทเลยยื่นข้อเสนอว่าถ้าไม่อยากให้พีททำร้ายมึง ขอแค่จูบกูแล้วมันจะเลิกตอแยอีก กูเห็นว่าไม่ยากอะไรเลยยอมเพราะกูอยากจบปัญหา แต่กูไม่คิดว่าพีทจะวางแผนให้เพื่อนแอบถ่ายกูจูบกับมัน"


"พี่เชื่อคำพูดพีทด้วยหรอ? ถ้าพีทบอกให้ตายแทนผมพี่จะทำไหม? เหตุผลโคตรโง่เลยว่ะ"
 

"มึงจะมองว่าโง่ก็ได้ แต่เพราะกูรักมึงนะกราฟ กูไม่อยากให้มึงเป็นอะไร เพราะกูเชื่อพีทว่าเอาจริง"


      กราฟนั่งก้มหน้า ก่อนจะเงยหน้ามาประสานสายตากับคนตรงข้าม


"ผมเข้าใจหมดแล้วล่ะ เอาให้มั่นใจว่าพี่ตัดแฟนเก่าได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วค่อยว่ากันดีกว่า จากนี้เราอย่าเพิ่งเจอกันเลย" กราฟผุดลุกขึ้นด้วยความเสียใจ ฟังอย่างไรเหตุผลนั้นก็ไม่ได้ทำให้กราฟรู้สึกดีขึ้นเลย
 

"ไม่นะอย่าทำแบบนี้ กูขอโทษ กูยอมแล้วจริงๆ ยอมแม้กระทั่งให้มึงเป็นฝ่ายทำกูก็ได้"


      กราฟหันขวับกับแววตาและคำพูดที่เต็มไปด้วยความวิงวอน ร้องขอ
 

"มั่นใจ?"
 

      ฆิตพยักหน้ารัวๆ ฝั่งกราฟยืนจ้องหน้าอีกฝ่ายก่อนจะแสยะยิ้ม
 

"ผมเสียดายนะ แต่พอได้ยินเรื่องพี่กับแฟนเก่า ผมเอาไม่ลงจริงๆว่ะ"


"กราฟ กูพูดความจริงหมดแล้ว ยกโทษให้กูเถอะนะ...ขอร้อง"


      ฆิตลุกพรวดสวมกอดกราฟทันทีที่เห็นกราฟจะเดินหนีไป สองแขนแข็งแกร่งโอบรัดเอวแน่นจนกราฟรู้สึกได้ถึงความอึดอัดและรำคาญใจ
 

"ปล่อย"
 

"พี่ฆิตรักน้องกราฟจริงๆนะ ให้อภัยเถอะครับ"
  ฆิตตอบด้วยเสียงอ่อยจนน่าสงสาร แต่เวลานี้ กราฟควรสงสารหัวใจตัวเองก่อนดีกว่า



      ไม่น่าเชื่อว่า ผลของการเชื่อใจ จะกลายเป็นจุดจบของการไว้ใจไปเสียได้



 
"พี่ฆิตฟังนะ คนที่โดนนอกใจ ยังไงก็เจ็บ ปล่อยผมเถอะ ตอนนี้ ผมอยากอยู่คนเดียว"
 

      กราฟแงะมืออีกฝ่ายที่เกาะแน่นอย่างกับปลิง แล้วรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ออกจากห้องไป

      คำที่กราฟพูดออกมา ทำให้ฆิตไม่กล้าตื้อต่อ เขาปล่อยกราฟไปก่อน และคงต้องหาทางแก้ไขในภายหลัง


      ฆิตทรุดตัวลงกับพื้นอย่างคนหมดแรง


       รู้ตัวเองว่าผิดเต็มประตู แต่ฆิตจะไม่ยอมแพ้ แม้กราฟจะไม่หายโกรธง่ายๆ ฆิตจะหน้าด้าน ทำทุกวิถีทางให้กราฟยอมยกโทษให้ได้..








...............



"พี่ฆีนให้โอกาสท็อปแล้วใช่ไหมครับ?"


       ทันทีที่ฆีนเปิดประตู ท็อปฉีกยิ้มพร้อมพูดความในใจ


       สาเหตุที่ท็อปมายืนอยู่หน้าห้องของฆีนได้ เรื่องของเรื่องก็คือ หลังจากวันที่ท็อปง้อพี่ฆีนที่ห้องเมื่อคราวก่อน พี่ฆีนเงียบหายไป


       จนกระทั่ง วันนี้ ขณะที่ท็อปคุยข้อความแชทกับกราฟเพื่อปรึกษาปัญหาที่เกิดขึ้น ระหว่างนั้นพี่ฆีนโทรเข้ามา ท็อปรีบรับสาย จนได้ใจความสำคัญว่า พี่ฆีนมีเรื่องสำคัญจะคุยให้เด็กหนุ่มไปหาที่ห้อง


       ท็อปตอบรับทันควัน คว้าของสำคัญได้ก็พุ่งออกจากบ้านไปหาพี่ฆีนทันที


       และเวลานี้ ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน หลังจากไม่ได้เจอมาราวหนึ่งสัปดาห์


"เข้ามาก่อนสิ"


      ฆีนเบี่ยงตัวให้ท็อปเดินเข้ามาในห้อง ท็อปยิ้มร่า ทั้งยังใจเต้นแรงเกินเหตุเพราะตื่นเต้นและดีใจที่พี่ฆีนให้โอกาสท็อปได้เข้ามาห้องนี้อีกครั้ง


       ทั้งสองนั่งลงที่โซฟาพร้อมกัน ท็อปเขยิบตัวหวังจะไปกอดพี่ฆีนด้วยความคิดถึง แต่อีกฝ่ายยกสองมือห้ามและกระเถิบตัวถอยหลัง


      ใบหน้าเด็กหนุ่มหงอยลงเมื่อเห็นสิ่งที่อีกฝ่ายทำเหมือนรังเกียจ แต่ก็เข้าใจได้ดี ท็อปทำพี่ฆีนเจ็บช้ำขนาดนั้น ก็ไม่แปลกที่คนพี่จะทิ้งระยะห่างไว้


 "ช่วงนี้เราได้งานหรือยัง?"

       ท็อปส่ายหน้า


"พี่จะจ้างท็อปมาช่วยดูแลห้องพี่ได้ไหม? เพราะพี่ตั้งใจจะเปิดร้านกาแฟอีกแห่ง คงจะยุ่งมาก"


"ได้ครับ" แม้จะทำงานบ้านไม่เป็น แต่โอกาสทองที่จะได้ใกล้พี่ฆีนแบบนี้ ก็หาไม่ได้ง่ายๆ


"ท็อปต้องมาอยู่ที่นี่ ไม่ได้กลับบ้านนะ"


       เป็นงานที่ท็อปน้อมรับด้วยความเต็มใจ การได้อยู่ใกล้ๆกับคนรัก งานหนักแค่ไหน ท็อปก็ไม่บ่น ท็อปดีใจที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับพี่ฆีนสองต่อสองและคงมีโอกาสง้อพี่ฆีนมากขึ้น


"ท็อปไม่เอาเงินหรอกครับพี่ฆีน ท็อปขอแค่พี่ฆีนกลับมาคบกับท็อปเหมือนเดิมนะครับ"



       ท็อปพูดพลางเขยิบตัวไปใกล้พี่ฆีนและกุมมือชายต่างวัย ฟากฆีนใจสั่นหวั่นไหว แต่ทำได้แค่เก็บอาการไว้ และยังไม่ทันอ้าปากตอบ


       ทันใดนั้นเอง...


"ไหนว่าจะคุยแป๊ปเดียวไงฆีน จีนรอในห้องนอนนานแล้วนะ"


      จีนสาวเท้ายาวๆมานั่งลงตรงพนักแขนโซฟาทางฝั่งของฆีน จีนวางมือบนไหล่ชายหนุ่มโน้มตัวไปใกล้ ท็อปนั่งมองกิริยาของผู้ที่เพิ่งมาใหม่ด้วยความสงสัยว่าทำไมดูแนบชิดสนิทสนมเป็นพิเศษ


"ใครครับ พี่ฆีน"


"จีน เป็นเพื่อนพี่น่ะ"


"นายเป็นใคร?"
จีนกอดอกถาม


"แฟนพี่ฆีนครับ" ท็อปตั้งใจตอบแบบนั้น เพราะจู่ๆก็เกิดอาการหึงหวงพี่ฆีนขึ้นมาดื้อๆ


"หือ...จริงหรือ? ไม่เห็นฆีนเคยบอกว่ามีแฟนเลยนี่นา"
จีนก้มหน้าถามฆีน แต่มันใกล้เกินจนริมฝีปากคนถามจะแตะแก้มฆีนอยู่แล้ว ท็อปที่มองอยู่รู้สึกใจโหวงๆ จนเด็กหนุ่มต้องเบนสายตาหนีไปทางอื่น


"เคยมีแต่เลิกแล้วน่ะ"


     ท็อปเสียใจที่ได้ยินแบบนั้น แต่จะโกรธก็ไม่ได้ เพราะท็อปไม่มีสิทธิ์ในตัวพี่ฆีนอีกต่อไปแล้ว

"หึๆ ที่แท้ก็แค่มโน" จีนพูดลอยๆด้วยรอยยิ้มขบขัน แต่แล้วจีนทำหน้าเหยเก เมื่อโดนฆีนบีบหน้าขาอย่างแรงและมองตาขวาง


       ฆีนคิดว่าจีนพูดแรงไป เขาเหลือบเห็นท็อปดูหงอยลงจึงรีบเข้าเรื่อง


"ท็อปเริ่มงานได้เมื่อไหร่?"

"พรุ่งนี้ครับ"


"เก็บเสื้อผ้าให้เรียบร้อยนะ พี่จะไปรับช่วงบ่าย"


"อ้อ! ที่ฆีนเคยบอกจีนว่าจะจ้างเด็กมาทำงานบ้าน คนนี้เองหรอกหรือ? จ้างเขาแล้วยังต้องไปรับอีก เป็นคนดีจังเลยนะฆีน"



"จีน!" ฆีนปรามจีนเสียงดัง


        ฟากจีนหน้ามุ่ยแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
 
        ท็อปฝืนยิ้มแล้วพูดต่อ


"ก็จริงอย่างที่พี่เขาบอกแหละครับ ท็อปนั่งแท็กซี่มาเองก็ได้ แต่ถ้าจะให้นอนค้างที่นี่เลย ของคงเยอะ ท็อปน่าจะแบกขึ้นห้องพี่ฆีนไม่ไหว รบกวนพี่ฆีนมารอท็อปที่ล็อบบี้ได้ไหมครับ"

"อืมตามใจแล้วกัน ส่วนวันนี้ ท็อปกลับบ้านไปก่อน พี่มีธุระต้องคุยกับจีนต่อ"



"ครับ พี่ฆีน" ท็อปตอบรับ ใบหน้าเศร้านั้นค่อยๆคลี่ยิ้มอย่างบางเบา


        ได้แค่นี้ ก็ดีมากแล้วล่ะ...


        ก่อนไป ท็อปแอบมองสองคนแล้วรู้สึกใจกระตุก


        มันทรมานเหลือเกินที่เห็นพี่ฆีนใกล้ชิดกับคนอื่น แต่จะทำอย่างไรได้ เพราะตอนนี้ สถานะของท็อปก็เป็นได้แค่คนรักในอดีต


      แต่ไม่เป็นไรหรอก ท็อปต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเองมากๆ เพื่อเริ่มต้นใหม่ กลับตัวกลับใจเป็นคนดี


     ท็อปหวังว่าสักวัน พี่ฆีนคงมองเห็นในสิ่งที่ท็อปทำลงไปบ้าง


      แม้การมาวันนี้ พี่ฆีนไม่ได้พูดเรื่องการคืนดีของเราสอง แต่ถ้าได้อยู่ใกล้กันทุกวัน ท็อปจะหาวิธีทำให้พี่ฆีนใจอ่อนและกลับมาเป็นแฟนกันเหมือนเดิมให้ได้...





.........................

สู้ๆนะลูก น้องท็อป น้องกราฟ TT
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 11-06-2017 21:32:28
เฮ้อ  สั้นจังนะ  อยากอ่านต่อ 
กราฟ  อย่าเพิ่งใจอ่อนนะ  เป็นกำลังใจให้จ้า
ท็อป  แกต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม  พี่ฆีนอย่าเพิ่งใจอ่อนนะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 11-06-2017 23:03:10
สงสารท็อปน้องมันสำนึกผิดแล้วจะอะไรกันนักหนา. ฆีนที่แสนดีไม่น่าเชื่อที่จีนยุเลย. ถ้าจะให้บทเรียนด้วยการทำร้ายใจมากๆ. ก็อยากให้ท็อปตัดใจไปเหอะ. ผู้ชายดีๆที่รักเราไม่ได้มีคนเดียวหรอก
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 11-06-2017 23:33:35
สู้ๆนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-06-2017 02:04:21
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 12-06-2017 03:02:36
เรื่องนี้สนุก..อ่านสนุกทุกตอน
ดราม่าโดนใจ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 12-06-2017 20:10:24
จะดัดกันยังไงก็ขอ ให้เข้าใจกันน่ะ
ลุ้นๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 23.2} UPDATE [11 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-06-2017 00:22:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24} UPDATE [18 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 18-06-2017 21:15:20
ตอนที่ 24  ชดใช้กรรม



 


"พี่จีนอยู่ด้วยหรอครับ?"


      ท็อปถามก่อนจะวกมาคุยเรื่องงาน เพราะตั้งแต่ที่ท็อปย่างเท้าเข้ามาในห้อง เขาเห็นพี่จีนยังอยู่ ซึ่งท็อปนึกว่าจะกลับไปแล้ว 


"อืม ท็อปมีอะไรหรือเปล่า?" ฆีนถาม


"ท็อปนึกว่าจะได้อยู่กับพี่ฆีนสองคนนี่ครับ" ท็อปทำหน้าสลด ฆีนรีบเบือนหน้าหนีสายตาเศร้าสร้อย และตัดบท


"อย่าไปสนใจคนอื่นเลย พี่ให้เรามาทำงาน เราก็ทำหน้าที่ให้ดีแล้วกัน"


"ก็ได้ครับ"


“อะ นี่ของเรา”



   ฆีนยื่นซองจดหมายสีขาวให้ ท็อปมองซองที่ชายหนุ่มถือสลับกับมองหน้าพี่ฆีน


"อะไรครับ?"


"ค่าจ้าง ไม่เอาหรือไง?"



"ท็อปบอกพี่ฆีนแล้วไงครับ ว่าท็อปไม่เอา ขอแค่พี่ฆีนกลับมาคบกับท็อปก็พอ ท็อปไม่ได้ล้อเล่นนะ”


"ไม่ได้ รับไปซะ ท็อปยังไม่มีงาน จะเอาเงินจากไหนล่ะ ทุกวันนี้ ท็อปยังต้องกินต้องใช้อยู่นะ"



"แต่ท็อป..."


"เล่นตัวจัง ถ้าไม่เอา จีนเอาเอง"
จีนที่ไม่รู้เดินมาจากไหน แย่งซองสีขาวนั้นไปต่อหน้าต่อตา ฟากฆีนหันขวับไปหาจีน


"จีนคืนท็อปไป"


"ฆีนคงลืมสินะว่าเราทำสัญญาอะไรกันอยู่"
จีนยิ้มเหมือนเป็นต่อ เขาเดินไปประชิดตัวแล้วขโมยจูบฆีนทั้งๆที่ท็อปยังยืนอยู่


"น...ไหนพี่ฆีนบอกว่าเพื่อนไงครับ? ทำไมเพื่อนถึงจูบกันล่ะ"


      ฆีนเงียบเพราะไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาตอบ แต่จีนกลับยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดขึ้น


"เด็กน้อย แบบนั้นเขาเรียกจูบที่ไหนกัน แตะกันยังไม่ถึงห้าวินาทีด้วยซ้ำ ถ้าจูบมันต้องแบบนี้" ทันใดนั้น จีนล็อคปลายคางฆีนจะประกบจูบ ท็อปรีบผลักพี่จีนออกห่างอย่างแรงจนอีกฝ่ายเซถึงกับต้องใช้มือยันกำแพงไว้


"เด็กบ้าเอ้ย!"



      ฆีนกลัวปัญหาจะบานปลาย เขาคว้าข้อมือท็อปให้พ้นจากที่ตรงนี้แล้วพาไปยังห้องนอนเล็ก


"วันนี้ยังไม่มีอะไรให้ทำ ท็อปนอนพักก่อนเถอะ" ฆีนคงเคร่งขรึม


"ท็อปขอนอนห้องพี่ฆีนไม่ได้หรอครับ"


"ไม่ได้"


"แล้วพี่จีนที่บอกว่าเป็นแค่เพื่อนทำไมนอนได้ครับ? ท็อปเคยเป็นแฟนพี่นะ"
ท็อปตัดพ้ออย่างน้อยใจ บางทีท็อปก็อยากมีโอกาสได้เข้าใกล้พี่ฆีนมากกว่านี้


 "นอนพักเถอะ เดี๋ยวพี่ออกไปทำธุระข้างนอกกับจีนสักพัก มื้อเย็นจะซื้อข้าวเข้ามาให้"


"ท็อปไปด้วยนะ"


"ท็อปอย่าเซ้าซี้"


"ก็ได้ครับ"
ท็อปจำใจตอบ เพราะถ้าตื้อกว่านี้ ก็กลัวพี่ฆีนรำคาญ


     จบการพูดคุย ฆีนก็ลุกจากเตียงและเดินออกจากห้องไป


     ท็อปนั่งนิ่งบนเตียง เขาจะทนสภาพกับการอยู่ร่วมกันสามคนในห้องแบบนี้ได้นานแค่ไหนกันเชียว....







.....................



     ผ่านไปแค่สี่วัน ท็อปทรมานแทบขาดใจ ที่ต้องเห็นพี่จีนอี๋อ๋อกับพี่ฆีนอย่างออกนอกหน้า แม้ทั้งสองจะออกไปข้างนอกเป็นส่วนใหญ่ แต่เวลากลับมา พี่จีนก็ดูตั้งใจอยู่ใกล้ไม่ห่างพี่ฆีนเลย


      ท็อปสงสัยว่า เพื่อนที่ทั้งสองใช้เรียกแทนกัน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ?


      ถ้าท็อปไม่รับงานนี้ ก็ไม่รู้จะหาโอกาสได้ชิดใกล้พี่ฆีนจากไหนอีก เด็กหนุ่มถึงจำใจทำไปก่อน แม้จะเจ็บอยู่บ้างก็ตามที


     กลับมายังปัจจุบัน ในเวลาสายๆ ท็อปได้รับคำสั่งจากพี่ฆีนให้ทำอาหารเที่ยง ท็อปจึงเลือกเมนูง่ายๆอย่างไข่เจียว แกงจืดเต้าหู้หมูสับ



     ในระหว่างที่ท็อปเตรียมวัตถุดิบเสร็จสรรพ กำลังหั่นแครอทอย่างเงอะๆงะๆ ท็อปโดนมีดบาดจนหลุดสบถเสียงดัง เลือดสีแดงสดค่อยๆรินไหลออกจากปลายนิ้ว ท็อปดุ่มๆไปล้างมือที่อ้างล่างจาน



      ฆีนที่หลบมุมแอบมองท็อปทำอาหารในห้องครัวถึงกับใจกระตุก แค่เท้าขยับไปก้าวเดียวก็โดนจีนรั้งข้อมือไว้



"ใจอ่อนง่ายจังนะ แค่แฟนมีดบาดแค่นี้"


"จีน ผมไม่เอาด้วยแล้ว ผมสงสารท็อป"
ฆีนพูดเสียงลอดไรฟันเบาๆ


"อีกหน่อยน่า" จีนบีบข้อมือฆีนแน่น



     ในระหว่างที่ทั้งสองยืนถกเถียงก็ได้ยินเสียงเหล็กกระทบกับอ่างล้างจานดังเคร้ง ฆีนและจีนหันไปพร้อมกัน เห็นท็อปทรุดตัวลงนั่งกับพื้น


"ไอ้ท็อป ต้องสู้ดิวะ พี่ฆีนเขาให้โอกาสแล้วนะ"



      ท็อปบอกกับตัวเอง แม้ลึกๆแล้วเขาจะไม่รู้จริงๆว่าสิ่งที่เขาทำอยู่นั้น ผลลัพธ์ที่ได้กลับมามันจะดีรึเปล่า?


     เด็กหนุ่มเงยหน้ามองเพดาน ก่อนจะลุกพรวดยืนนิ่งนานราวกับคิดอะไรอยู่ ไม่นานท็อปคว้ากระดาษทิชชูมาพันปิดปากแผลไปก่อน และกลับมามุ่งมั่นทำอาหารอีกครั้ง


      ราวสองชั่วโมง เมนูอาหารที่ท็อปตั้งใจทำก็เสร็จครบถ้วนและถูกจัดวางอยู่บนโต๊ะพร้อมรับประทาน จีนมองหน้าฆีนที่กำลังตักอาหารเข้าปาก


"อร่อยไหมครับ? พี่ฆีน"
ท็อปนั่งลุ้นจนตัวโก่ง


       ฆีนยังไม่ทันจะตอบ


"หืม...รสชาติห่วยแตก เราไปหาอะไรกินข้างนอกเถอะ ฆีน" จีนที่ลองชิมถึงกับโพล่งออกมาพร้อมส่งสายตากดดันไปหาฆีน


"ขอบคุณสำหรับอาหารนะท็อป พี่นึกได้ว่ามีธุระ เดี๋ยวคงออกไปหาอะไรรองท้องข้างนอกเลย"
 

 
      ท็อปน้ำตาคลอด้วยความเสียใจ แล้วช่วงเวลาที่เขาตั้งใจทำอาหารสุดฝีมือนี่ละ พี่ฆีนไม่เห็นถึงความทุ่มเทของท็อปบ้างเลยหรือ? ท็อปมองหน้าพี่ฆีนด้วยแววตาเศร้าสร้อยอย่างปิดไว้ไม่มิด


"ก็ได้ครับ แล้วส่วนตอนเย็น..." ท็อปเสียงอ่อย


"ไม่ต้องทำแล้ว ส่วนตัวท็อปหากินเองเลยนะ"


"ครับ"



     เมื่อพี่ฆีนและพี่จีนลุกหนีจนลับตาไป ท็อปฟุบหน้าลงกับโต๊ะทันที


      ท็อปไม่โกรธพี่ฆีนเลยที่ทำแบบนี้ เพราะสิ่งที่ท็อปทำเรื่องบัดซบในอดีต พี่ฆีนคงเจ็บปวดไม่ต่างกัน ท็อปเข้าใจเหตุการณ์ที่เขาเจอตอนนี้ว่า เหมือนกำลังชดใช้กรรมอยู่ แต่ท็อปก็พร้อมยอมรับและยินดีชดใช้ผลกรรมเหล่านั้น


       กระทั่งเวลาผ่านไปช่วงหัวค่ำ ท็อปทำงานบ้านเสร็จครบทุกอย่าง เป็นจังหวะที่พี่จีนและพี่ฆีนกลับมากันพอดี ทั้งสองนั่งพักเหนื่อยกันที่โซฟา ในระหว่างที่ท็อปขอตัวเดินเข้าห้องนอน เขาได้ยินพี่จีนพูดขึ้นมา


"จีนอยากซื้อเสื้อผ้าใหม่ พรุ่งนี้ ฆีนพาไปซื้อหน่อยนะ"

"อืม เอาสิ"



"ทำไมน่ารักจัง อยากเป็นแฟนฆีนเลย ขอบคุณนะครับ"


     ได้ยินประโยคนั้น ก็ทำให้ท็อปไม่อยากอยู่ต่อแล้ว มันเจ็บปวดหัวใจจริงๆ เด็กหนุ่มรีบเร่งฝีเท้าและปิดประตูลง


      ท็อปนั่งกอดเข่าบนเตียงอย่างไม่รู้ว่าจะต้องใช้ไม้เด็ดอะไรถึงพิชิตใจพี่ฆีนได้


     ในระหว่างที่เด็กหนุ่มนั่งคิดหาทาง มีใครคนหนึ่งผลักประตูเข้ามาโดยไม่เคาะหรือขออนุญาติก่อน


"นี่ห้องผม พี่เข้ามาทำไม?"



      จีนแค่นยิ้ม กอดอกพิงบานประตู


"เฮอะ...ไหนว่ารักฆีนไง? ฉันไม่เห็นนายจะทำอะไรเลย เอาแต่นั่งหน้าหงอยมันก็ไม่ช่วยหรอกนะ ฉลาดหน่อยสิ คิดดูดีๆ ฆีนให้นายมาช่วยงานบ้าน ไม่ใช่เพราะฆีนอยากอยู่ใกล้อยากเห็นนายอยู่ในสายตาหรอกหรือ?…ได้โอกาสแล้วก็ลองคิดสิว่าจะทำอะไรให้ฆีนใจอ่อนบ้าง" จีนนึกว่าการเข้ามาป่วนประสาท จะกระตุ้นความรู้สึกให้ท็อปคิดกล้าหาญได้บ้าง แต่ตรงกันข้าม เด็กหนุ่มกลับไม่คิดทำอะไรให้ฆีนรู้สึกดีกว่าเดิมเลย จีนจึงต้องมาพูดตรงๆแบบนี้


"พี่ต้องการอะไร มาบอกผมทำไม"


      จีนไม่ตอบแต่กลับสาวเท้ามาจนชิดริมเตียง เขาปีนขึ้นเตียงแล้วผลักท็อปลงนอน ก่อนจะคร่อมร่างขาว ท็อปตกใจ ดิ้นพล่านจนอีกฝ่ายเสียหลักล้มตัวลงไปข้างๆ


"พี่ทำบ้าอะไรวะ"


"ฮ่าๆ ตัวนายนี่นุ่มนิ่มจัง เฮ้อ!...ฉันอิจฉานายนะ ไม่รู้ฆีนไปรักคนโง่แบบนี้ได้ไง"


"นี่พี่" ท็อปเปลี่ยนอารมณ์ตามคนตรงหน้าไม่ถูกจริงๆ


"ชู่วว์...อย่าเถียง ฉันหวังดีกับนายถึงทำแบบนี้ และฉันก็ไม่ได้เป็นแฟนฆีน หมดห่วงได้เลย เด็กบ้า...อีกอย่าง ฉันมีอะไรจะบอก สิ่งที่นายต้องทำก็คือ...."



     ท็อปหันไปมองหน้าคนที่อ้างว่าหวังดี ที่ไม่รู้จะมาไม้ไหน ฟากจีนท้าวศรีษะมองหน้าท็อปก่อนจะยกยิ้ม


"นายกลัวอะไรก็จงกล้าในสิ่งนั้น"


"ผมไม่เข้าใจ"



"เฮ้อ! ควรช่วยดีไหมเนี่ย? ฆีนได้แฟนโง่จริงๆด้วย"


"เฮ้ย! พี่"
ท็อปขึ้นเสียง


"ถ้าคิดด่าฉันแม้แต่คำเดียว ไม่บอกนะ"

"ขอโทษ"

"นายเคยกลัวอะไร ก็จงฝืนทำสิ่งนั้น กลัวที่ต้องแสดงความรักแบบผู้ชายด้วยกันต่อหน้าคนอื่นก็ลองทำดูสิ อย่าลืมว่าฆีนก็มีหัวใจ ถ้าจะคบแบบหลบๆซ่อนๆหรือไม่แสดงความรักออกมาบ้าง ใครจะชอบล่ะจริงไหม? ฆีนรักนายมากเลยนะ"



     ราวกับว่า ท็อปได้ปลดล็อกความรู้สึกบางอย่างที่ค้างคาอยู่ในใจ คำพูดของพี่จีนในวันนี้ ทำให้ท็อปคิดได้และมีกำลังใจในการฮึดสู้อีกครั้ง


     ถึงแม้จะไม่ชอบขี้หน้าพี่จีนในตอนแรก แต่คำพูดที่เจือด้วยความเป็นห่วงก็ทำให้ท็อปสัมผัสได้ว่าพี่จีนหวังดีจริงๆ เด็กหนุ่มยิ้มอย่างบางเบาและตอบออกไป


"ขอบคุณนะครับพี่จีน"


"เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นฆีนแทนได้ไหม?"
จีนหยอกเอิน


       ท็อปส่ายหน้ารัว


"ผมไม่ยอมหรอกครับ คนนี้ใครคิดแย่ง ข้ามศพผมไปก่อนเถอะ"


      คราวนี้ ท็อปจะไม่ปล่อยให้คนอื่นมามีอิทธิพลกับชีวิตเขาอีกต่อไป เพราะคนเดียวที่มีอิทธิพลสำหรับท็อปในเวลานี้ มีเพียงพี่ฆีนเท่านั้น...




****1.1****

หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24} UPDATE [18 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 18-06-2017 23:01:51
เอาล่ะสิ. สู้แล้วล่ะสิ!!
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24} UPDATE [18 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-06-2017 23:14:59
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24} UPDATE [18 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 18-06-2017 23:29:33
คิดจะสู้เพื่อพี่ฆีนบ้าง
ถึงเวลาแล้วท๊อป

คนอ่านอย่างเราจะได้อ่าน 18+
บทรักของฆีนกับท๊อป
เร็วๆเลย อิอิ
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24} UPDATE [18 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: เจเจจัง ที่ 19-06-2017 21:51:52
บอกว่าให้แสดงความรักแบบไม่อาย. แล้วเป็นไรกัน. แฟนก็ไม่ใช่. แค่ลูกจ้าง. ฆีนก็เหมือนกันบอกว่ารักมากแต่กลับเชื่อจีนทำให้คนที่บอกว่ารักมากก็เจ็บ อยากเทฆีนจริงๆ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24} UPDATE [18 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-06-2017 23:42:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24} UPDATE [18 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 20-06-2017 23:42:52
สงสารกราฟมากกกกก :o12:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 24-06-2017 20:10:30
 

 ตอนที่ 24  ชดใช้กรรม(2)




       เรื่องราวที่กราฟจับได้นั้น ฆิตยอมรับว่ามีส่วนผิดที่ทำให้กราฟไม่ไว้ใจ แต่ต้นเหตุที่ทำให้เรื่องบานปลายและยังส่งผลให้ฆิตไม่มีอารมณ์จะทำอะไร อีกทั้งยังพาลหงุดหงิดทุกอย่างที่ขวางหน้ามาตลอดติดกันสามวันนั้นก็คือ...





"ไปกินข้าวกันพีท"



       ฆิตมายืนดักรออยู่ทางเข้าของตึกคณะได้สักพัก ซึ่งฆิตโทรบอกพีทก่อนหน้าแล้วว่าจะแวะมาหา


"ได้ครับ พีทหิวพอดีเลยพี่ฆิต"



       พีทยิ้มกว้างพลางคล้องแขนพี่ฆิตอย่างอารมณ์ดี พีทไม่คิดว่าสิ่งที่ทำลงไป จะได้ผลลัพธ์ที่ดีขนาดนี้


      เมื่อทั้งสองขึ้นรถยนต์สีดำ และเคลื่อนตัวออกจากมหาวิทยาลัย ผ่านไปสักพัก เส้นทางที่ฆิตขับไปไม่ใช่เส้นหลักที่จะพาไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้แถวนี้ พีทเริ่มระแวงจึงถาม



"พี่ฆิต ไม่ได้พาพีทไปกินข้าวที่ห้างหรอครับ"



     ฆิตไม่ตอบ ฟากพีทเริ่มเห็นเค้าลางไม่ดีเมื่อรอยยิ้มมุมปากของอีกฝ่ายมันแฝงไว้ด้วยความน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก


      พีทนั่งนิ่ง เขาไม่กล้าถามพี่ฆิตอีกเพราะระดับความเร็วรถก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พีทรับรู้ได้ว่าพี่ฆิตน่าจะเหยียบไปถึงร้อยสี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว



      หน้าเด็กหนุ่มเริ่มซีดเผือด เมื่อพี่ฆิตพาเข้ามายังหมู่บ้านทาวน์โฮม ทว่า ไม่ใช่ศูนย์การค้าแต่อย่างใด


"พี่ฆิตพาพีทมาที่นี่ทำไม"


"เดี๋ยวก็รู้"


       เมื่อรถยนต์จอดสนิท ฆิตหันมาหาพีทด้วยแววตาดุดัน


"มึงลงสิ"


      ฆิตพูดจบ ก้าวลงจากรถพร้อมปิดประตูเสียงดังจนพีทสะดุ้งเฮือก พอพีทเปิดประตูเท้ายังไม่ทันถึงพื้นก็โดนกระชากคอเสื้อนักศึกษาให้ออกมา


"ชักช้านะมึง"


"โอ้ย...พี่ฆิต พีทเจ็บนะ"



"เจ็บหรือวะ? คนที่เจ็บคือกูกับกราฟไม่ใช่มึง"  ฆิตเหวี่ยงร่างเล็กอย่างแรงจนเด็กหนุ่มไม่ได้ตั้งตัวล้มลงตรงหน้าประตูทางเข้าบ้าน


       ฟากพีทหน้าเหวอที่ได้ยิน เพราะนั้นหมายความว่า พี่ฆิตคงรู้เรื่องที่พีทเอาข่าวไปบอกพี่กราฟแล้ว




"มึงร้ายมากนะไอ้พีท มึงต้องการอะไรจากกูวะ ห้ะ!...สนุกนักหรอ? ที่สร้างความแตกแยกให้คนอื่นน่ะ ห้ะ!..."  ฆิตไม่พูดเปล่า เขากระชากผมพีท เพื่อบังคับให้เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืน วินาทีนั้น ฆิตชกหน้าพีทซ้ำๆอยู่หลายที จนพีบเจ็บและร้องไห้ออกมา  ด้านในบ้าน ที่เขตและเนรออยู่ได้ยินเสียงฆิตโวยวายดังลั่น เขตกลัวบ้านอื่นจะมาได้ยินพร้อมเห็นเหตุการณ์และโทรไปแจ้งตำรวจจึงรีบเดินไปปรามเพื่อน และลากทั้งคู่เข้ามาในตัวบ้านก่อน




       เวลานี้ ใบหน้าที่เคยน่ารัก น่ามอง ตอนนี้ บวมปูด และเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดหลั่งไหลออกมาเป็นสาย พร้อมถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ยออกมาได้อย่างยากลำบาก



"พ..พีท...รักพี่ฆิตนี่ครับ"


"เฮอะ!.. คนรักกันเขาทำแบบนี้หรือวะ มึงไม่ได้รักกูมึงแค่อยากเอาชนะ ไอ้เหี้ย!"



"ของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกนะ"
พีทสวนกลับ สองมือกุมแก้มตัวเองที่โดนต่อยจากคนที่พีทเพิ่งบอกไปว่ารัก



"มึงอย่ามาพูด กูหลงไว้ใจคนเหี้ยๆอย่างมึงได้ไงวะ หลอกให้กูจูบมึงและอ้างว่าจะจบ แต่ สุดท้ายมึงก็แบล็คเมล์ เอาไปบอกกราฟ มึงจำใส่กระโหลกไว้เลยนะ ต่อให้มึงนอนถ่างขา อ้อนวอนขอร้องให้กูเอา กูก็ไม่มีวันแยแสคนจิตใจแย่ๆอย่างมึงหรอก เพราะ...."


 

       ฆิตทิ้งตัวลงนั่งยองๆ จ้องมองหน้า คนที่ฆิตเริ่มเกลียดเข้าไส้



"ตอนนี้ กูรักกราฟมาก"

 
       ฆิตพูดเน้นหนักทีละคำ เพื่อให้ใครบางคนจดจำว่าจากนี้ ฆิตจะไม่โง่และหลงกลเชื่อคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมอีกแล้ว


      การทำร้ายพีทครั้งนี้ ฆิตยอมให้ใครต่อใครด่าว่าเลวด้วยความยินดี เพราะสิ่งที่พีททำ ฆิตทำตัวเป็นคนดีและใจเย็นไม่ไหวจริงๆ


     คนพี่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยกยิ้มร้ายกาจก่อนจะยกเท้ากระทืบไปที่หน้าแข้งของพีทซ้ำๆ จนเด็กหนุ่มร้องโอดโอย เขตสงสารพีทรีบมาห้ามเพื่อนรัก


"พอเหอะ ไอ้ฆิต"


"นี่ยังน้อยไป น่าจะเอาให้หนักกว่านี้ มาทำให้พี่กราฟเสียใจ"
เนบอกและเบะปาก

"เน เงียบ!"
เขตหันไปดุแฟนตัวเองอย่างซีเรียส ฟากเนหน้างอ ทำปากขมุบขมิบ เพราะบางครั้งก็เบื่อความเป็นพระเอกของพี่เขตเสียจริงๆ


      ฆิตมองหน้าเขต ก่อนจะยอมทำตามเพื่อน เขาคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะสั่งสอนพอแล้ว เมื่อการทำร้ายร่างกายพีทสิ้นสุด ฆิตเดินไปกระซิบเน จากนั้น ฆิตเดินไปนั่งที่เก้าอี้มองพีทที่ยังร้องไห้และมองฆิตด้วยสายตาตัดพ้อ


      ฟากเนยิ้มเยาะพลางเดินไปหาพีท


"ได้เวลาชดใช้กรรมของนายแล้วล่ะ"  ว่าจบ เนเดินขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ไม่นานนัก ก็มีคนเดินลงตามมาเกือบสิบคน


     พีทเบิกตาโพลงกวาดสายตามองผู้ชายที่สวมใส่ชุดนักศึกษามายืนล้อมหน้าล้อมหลัง


"อะไรกันครับ พี่ฆิต"

"ดูมึงน่าจะคัน เลยคัดมาให้"
ฆิตพูดขู่ให้พีทกลัว
 

"พะ....พี่ฆิตทำกับพีทได้ไง" พีทมองหน้าพี่ฆิตด้วยแววตาเสียใจ จะลุกหนีก็ลำบากเพราะยังเจ็บหน้าแข้งไม่หาย


"ทีมึงยังทำกราฟได้ ทั้งๆที่กราฟไม่เกี่ยวอะไรด้วย มึงไปยุ่งกับเขาทำไม ห้ะ!"
 

       ฆิตตะคอกจนทุกคนในบ้านเงียบกริบ ยิ่งฆิตนึกถึงกราฟที่ร้องไห้วันนั้น ฆิตก็รู้สึกผิดและยิ่งอารมณ์ขึ้นเมื่อเห็นคนต้นเหตุอยู่ตรงหน้า


     พีทร้องไห้จนปากสั่น เขาก็แค่อยากได้พี่ฆิตกลับมา ทำไมพี่ฆิตต้องใจร้ายขนาดนี้


      ฆิตบอกให้กลุ่มผู้ชายที่เพิ่งมาใหม่ปิดตา มัดมือมัดเท้าและรุมถอดเสื้อผ้าของพีทออกให้หมด พีทดิ้นสู้แรงผู้ชายสิบคนไม่ไหว ไม่นาน ร่างกายของคนตัวเล็กก็เปลือยล่อนจ้อน




      ความกลัวทวีคูณเพิ่มขึ้น หลังจากที่พีทมองไม่เห็นอะไรในเวลานี้ เด็กหนุ่มขนลุกและขยะแขยงเมื่อไม่รู้มือใคร ต่อมือใครมาลูบไล้สลับบีบเค้นหนักๆทั่วร่างกาย


      เสียงร้องไห้สะอื้นปะปนไปกับเสียงอ้อนวอน ร้องขอ แต่ฆิตก็ไม่สนใจ


      พีทรู้สึกอับอาย เมื่อร่างกายที่เปลือยเปล่ามีคนแปลกหน้ามาสัมผัสตัวพร้อมเสียงหัวเราะขบขันดังขึ้นเป็นระยะๆ


      พีทกลัวจนตัวสั่น เพราะไม่รู้ว่าหลังจากนี้ เขาจะโดนอะไรอีกบ้าง


      ฆิตต้องการสั่งสอนพีทให้หลาบจำว่า เลิกกันแล้วก็อย่ามาระรานกันอีก จุดประสงค์ ฆิตแค่ขู่ให้พีทกลัว ไม่คิดจะให้พวกน้องผู้ชายทำอะไรเกินเลย เมื่อเห็นว่าสมควรพอ ฆิตจึงบอกพวกนั้นให้หยุดและแจกจ่ายค่าจ้าง พร้อมปล่อยกลับบ้าน ตอนนี้ มีเพียง เขต เน และฆิตที่ยืนมองพีทถูกมัดมือ มัดเท้า ปิดตาในขณะที่ร่างกายยังคงเปลือยเปล่าด้วยความสังเวชใจ



      ฆิตขอความช่วยเหลือจากเขตที่อาจรบกวนบ้านเขตอีกสักคืน โดยปล่อยให้พีทนอนไร้เสื้อผ้าข้ามคืนไปก่อน และพรุ่งนี้ ฆิตค่อยขับรถไปส่งพีทที่บ้าน



      บทเรียนครั้งนี้ คงน่าจะพอให้พีทเข็ดหลาบได้บ้างไม่มากก็น้อย



      ชำระแค้นส่วนตัวเสร็จสิ้น ก็ถึงเวลาที่ฆิตต้องสะสางปัญหากับคนรักด้วยการเดินหน้าง้อกราฟให้หายโกรธให้จงได้



 









 

......................

 





        ฆิตเคยมาส่งกราฟที่บ้านสักครั้ง สองครั้ง จึงพอรู้ว่าบ้านคนรักหลังไหน วันนี้ ฆิตรีบมาดักกราฟตั้งแต่ช่วงบ่ายแต่ยังไม่เห็นกราฟโผล่ออกมาจวบจนกระทั่งหัวค่ำที่ฆิตเห็นเด็กสาวสวมชุดมัธยมปลายหน้าตาน่ารักกำลังเดินต๊อกแต๊กเข้าบ้าน ฆิตรีบเปิดประตูลงจากรถวิ่งไปหา


"น้องครับ น้อง"


      กิ๊ฟหันตามเสียงเรียก


"เรียกหนูหรอคะ"


"ใช่ครับ กราฟอยู่ไหมครับ"





     กิ๊ฟมองหน้าคนตรงข้ามด้วยความฉงน ว่าทำไมถึงรู้จักพี่กราฟด้วย



"พี่กราฟไม่อยู่ไปดูงานที่ต่างจังหวัดค่ะ ว่าแต่พี่เป็นใครคะ "

 

"อย่างนั้นหรือ? เอ่อ...น้องคือน้องสาวกราฟใช่รึเปล่า?" ฆิตยังไม่บอกว่าเขาเป็นใครเพราะอยากดูท่าทีของคนตรงหน้าก่อน


"ใช่ค่ะ"

"พี่ขอเวลาสักนิดนึงสิ พี่อยากคุยกับน้อง เดี๋ยวเลี้ยงไอศกรีมด้วย"



"หนูไม่ใช่คนเห็นแก่กินนะ แล้วหนูจะไว้ใจได้ไงว่าพี่ไม่ใช่พวกสิบแปดมงกุฎ"


 
       น้องสาวกราฟไม่ผิดหรอกที่จะไม่ไว้ใจ เพราะเธอก็ไม่เคยเห็นฆิตมาก่อน


"พี่ชื่อฆิตครับ เป็นแฟนกราฟ
"

 
"ห้ะ แฟนพี่กราฟ"


 
"ชู่วววว์....อย่าเสียงดังสิครับน้อง"



"กิ๊ฟไม่เชื่อ พี่กราฟไม่เห็นเคยบอกว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย พี่อย่ามาขี้ตู่นะ" กิ๊ฟเริ่มโวยวาย


"พี่ไม่ใช่พวกสิบแปดมงกุฏ ไม่เชื่อ น้องลองโทรไปถามกราฟสิ"


      แม้อีกคนจะตอบหนักแน่นแค่ไหน กิ๊ฟก็ไม่ยอมเชื่อง่ายๆ เธอตัดสินใจโทรหาพี่ชายเพื่อความชัดเจน



[ว่าไง กิ๊ฟ]



"พี่กราฟ ว่างคุยไหม?"



[ก็พอได้ มีอะไร]


"กิ๊ฟถามอะไรหน่อยสิคะ พี่กราฟมีแฟนชื่อพี่ฆิตใช่หรือเปล่า?"


[กะ...กิ๊ฟ...รู้ได้ไง]


     เพียงแค่นั้น ก็เป็นคำตอบที่ไขความกระจ่าง กิ้ฟยืนอึ้งไปครู่ ก่อนจะกดตัดสาย เธอเงยหน้ามองผู้ชายที่ส่งยิ้มละมุนมาให้


"ทีนี้ เชื่อพี่หรือยังครับ?"



  ..............................

ขอบคุณที่อ่านจ้า :mew3:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 24-06-2017 20:54:50
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 24-06-2017 21:04:39
จะง้อได้ไหมน่ะ ลุ้นต่อ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: MorethanMore ที่ 24-06-2017 21:36:40
อ่านมาจนถึงตอนนี้ขอถามว่าคู่ฆีนกับท๊อปนี่ เป็นคู่อะไรหรอคะ เรารู้สึกว่า เขาไม่ได้รักกันเลย เหมือนต้องการเอาคืนแก้แค้นกันไปมา เจ้บบ้างเจ็บด้วย เหตุผลแต่ละอย่างก็ดูปัญญาอ่อนตอนแรกเราเข้าใจฆีนเจอตอนล่าสุด คิดได้แค่นี้หรอ ตลกสิ้นดี

ฆิตกราฟนี่เข้าใจได้ คือ ไม่คิดไง แบบพวกคิดสั้นไม่มีสมองเลยทำไรโ่ ๆ สงสารแต่กราฟ คนดีแบบกราฟไม่ควรเจอคนแบบฆิตเสียดายชิบหาย
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-06-2017 23:38:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-06-2017 00:02:04
พี่ฆิตโหดมากๆ อิอิ อีพีทโดนเล่นซะกลัวไปเลย สมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 28-06-2017 00:13:29
สะใจจริงๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 24.2} UPDATE [24 มิย.60 ] >> P.8
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 28-06-2017 10:06:53
โดนเอาคืนหนักขนาดนี้
คงจะเข็ดจนตาย

จำไว้..อย่าไปสร้างความร้าวฉาน
ไม่ว่าจะเป็นคู่รักไหนอีก

บรื๊ยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25} UPDATE [28 มิย.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 28-06-2017 21:14:18
ตอนที่ 25  ง้อ









       เวลานี้ กิ๊ฟและฆิตนั่งอยู่ร้านเบเกอรีที่คอมมูนิตี้ มอลล์เล็กๆ ไม่ไกลจากหมู่บ้านเธอมากนัก พอรู้ว่าคนตรงหน้าเป็นแฟนพี่ชายและใจป๋า บอกอยากเลี้ยง กิ๊ฟไม่เกรงใจ จัดเต็มที่ เธอสั่งทั้งเครื่องดื่มและขนมเค้กมากมายเกินสองคนจะกินหมดได้ในเวลาอันสั้น



       ขนมทุกอย่างทยอยมาวางจนละลานตา หญิงสาวน่าหน้าตาน่ารักนั่งตักขนมเค้กเข้าปากไม่กี่คำ พลันเหลือบมองแฟนพี่ชายที่ดูสุภาพเรียบร้อยผิดปกติ



"เป็นตัวเองเถอะค่ะ หนูรู้นะ ว่าพี่ไม่ใช่คนแบบนี้"
กิ๊ฟพูดตรง จนฆิตหลุดหัวเราะ


"พูดแรงดี พี่ชอบ"     


"ก่อนที่พี่จะคุยเรื่องของตัวเอง พี่บอกมาก่อนว่าเจอพี่กราฟได้ไง คบมานานหรือยัง? แล้ว...เอ่อ...ใคร...เป็น รุ...ก"
กิ๊ฟหน้าแดงตอนที่ต้องถามเรื่องเชิงลึก เพราะโดยส่วนตัว กิ๊ฟไม่ได้รังเกียจเรื่องผู้ชายคบกัน เพียงแค่นึกภาพไม่ออก หากพี่ชายตัวเองจะเป็นฝ่ายรับก็เท่านั้น


      ฟากฆิตไม่มีอะไร ต้องปิดบังอีกต่อไป เขาเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งรวมไปถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนเกือบจะเลิกกันด้วย



      เมื่อกิ๊ฟได้ยินประโยคสุดท้าย เธอลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะกลับบ้าน





"น้องกิ๊ฟฟังพี่ก่อน พี่ยอมรับว่าตัวเองผิด แต่มันก็ผ่านมาแล้ว สงสารพี่เถอะนะครับ พี่รักกราฟจริงๆ พี่ถึงขอร้องให้น้องช่วย"


"หนูไม่ช่วย พี่ทำให้พี่ชายหนูเสียใจ ไม่น่าล่ะ วันนั้นหนูเห็นพี่กราฟตาบวมตุ่ย ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมตอบ ที่แท้เรื่องมันมาจากพี่นี่เอง"



"พี่ขอโทษ แต่ตอนนี้พี่ขอโอกาส ช่วยพี่เถอะนะครับ หรือไม่ก็ช่วยหาทางให้พี่ได้คุยกับพ่อแม่น้องก็ได้ พี่ยินดีแสดงความบริสุทธิ์ใจ"
ฆิตส่งสายตาอ้อนวอน



      กิ๊ฟอยากใจแข็ง แต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าน้ำตาคลอเบ้า ก็ชักสงสาร ผู้ชายส่วนใหญ่คงไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตาง่ายๆหรอก



"เฮ้อ!...พี่ลองเข้าบ้านไปคุยกับแม่หนูแล้วกัน วันนี้ พ่อไม่อยู่พอดี"


       ใบหน้าหล่อร้ายยิ้มกว้างและเอ่ยขอบคุณรัวๆ การเข้าทางแม่กราฟเพื่อกรุยทางไปก่อนก็น่าจะพอช่วยได้บ้าง



       หลังจากที่ตกลงกันได้ กิ๊ฟพาแฟนพี่ชายเข้าบ้านในเวลาสองทุ่มกว่าๆ แม่ที่กำลังเดินขึ้นห้องถึงกับทำหน้าฉงนที่เห็นลูกสาวพาผู้ชายมาดึกๆดื่นๆ


       แม่ของกิ๊ฟทิ้งตัวลงนั่งดังเดิมและยิ้มรับผู้มาเยือน ลูกสาวรีบแนะนำผู้มาใหม่บอกสถานะว่าพี่ฆิตเป็นใคร มารดาถึงกับตาโตตกใจ ใบหน้าเจือยิ้มแปรเปลี่ยนเป็นขึงขังทันควัน



       ฆิตเงียบอยู่นาน กว่าจะเอ่ยปากอธิบายความจริงเหมือนที่เล่าให้กิ๊ฟฟังก่อนหน้าทุกอย่าง เขายอมรับผิดกับแม่ของแฟนตัวเอง



      จนกระทั่งฆิตเล่าจบ หญิงวัยกลางคนยังนั่งหน้าเครียดถึงความสัมพันธ์ลูกชาย เพราะกราฟไม่เคยบอกถึงเรื่องรสนิยมชมชอบ



      ที่เครียดไม่ใช่ว่ารับไม่ได้ในสถานะลูกชาย แต่ถ้าเกิดพ่อรู้ว่ากราฟมีแฟนเป็นผู้ชายคงบ้านแตกแน่ๆ



      จังหวะนั้น ฆิตกระเถิบตัวจากที่นั่งโซฟา ไถลตัวลงมานั่งที่พื้นและยกมือไหว้หญิงวัยกลางคนบนตักเพื่อขอโทษกับสิ่งที่ฆิตทำผิดพลาดไปทั้งหมด



"ลุกขึ้นมานั่งดีๆเถอะฆิต" แม่กราฟเอ่ยอย่างใจดี



"ผมขอโทษนะครับ แต่จากนี้ ผมจะดูแลกราฟให้ดีที่สุด" คำพูดชัดถ้อย ชัดคำออกมาจากปากของฆิตที่พร้อมพิสูจน์และยืนยันในการกระทำให้แม่ของกราฟเห็นในภายหลัง



"ถ้าพูดกันตามตรง แม่ตกใจนะกับเรื่องนี้ แต่ฟังจากที่ฆิตเล่า กราฟเองก็คงรักฆิตมากเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้น...แม่ว่า..."





      ในระหว่างนั้น...



"ทำไมวันนี้ แม่นอนดึกจังครับ" กราฟทักแม่พร้อมหิ้วของฝากมากมาย โดยมองข้ามคนที่นั่งอยู่ที่พื้นไปโดยไม่เอะใจ เพราะมีโต๊ะกลางบังไว้อยู่



       ฆิตสะดุ้งกับเสียงคุ้นเคย



"อ้าวไหนลูกบอกกลับพรุ่งนี้ไงจ๊ะ"


"งานไม่.....พี่ฆิตมาได้ไง"
กราฟกำลังให้เหตุผลกับแม่ แต่พอสาวเท้ามาใกล้มารดาที่นั่ง กราฟเพิ่งเห็นพี่ฆิตชัดเจนเต็มสองตา



"ที่กิ๊ฟโทรหาพี่ก่อนหน้านี้ คือ..." กราฟถามน้องสาวที่นั่งเม้มปากแน่น เขากวาดสายตามองทุกคนอย่างไม่เข้าใจว่า พี่ฆิตมาอยู่บ้านเขาได้อย่างไร

 

"อย่าถามหาเหตุผลเลยลูก มานั่งก่อน"



     กราฟยืนนิ่งอย่างชั่งใจ เพราะเขาไม่รู้ว่าพี่ฆิตบอกอะไรกับแม่บ้าง



"ฆิตบอกแม่หมดแล้วล่ะ ทั้งเรื่องการคบหากันและเรื่องที่มีปัญหาด้วย" แม่บอกย้ำทันที เพราะเห็นสีหน้าลูกชายกลืนไม่เข้าคายไม่ออกก็คงพอเดาได้


"แม่ครับ กะ...กราฟขอโทษเรื่องที่กราฟชอบเพศเดียวกัน" กราฟเสียงแผ่วอย่างขลาดกลัว เขารีบถลาไปพนมมือไหว้ขอโทษมารดา ที่กราฟไม่สามารถมีทายาทสืบสกุลให้พ่อแม่ดูก่อนสิ้นชีวิตได้


"อย่าคิดมาก แม่ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น แต่แม่ขอถามหน่อย..."


"ครับ?"


"เรื่องที่ฆิตทำให้ลูกเสียใจ ลูกให้อภัยไหม? ถ้ากราฟบอกว่าไม่ แม่จะไล่ฆิตไปเดี๋ยวนี้"


      สิ้นเสียงมารดา กราฟมองหน้าพี่ฆิตด้วยความรู้สึกปะปนกันทั้งดีใจที่พี่ฆิตกล้ามาบอกแม่ถึงความผิดที่ทำลงไป แต่ลึกๆก็ยังแอบเสียใจอยู่พอสมควร


     กราฟก้มหน้ามองพื้นอย่างหาคำตอบไม่ได้


"กะ...กราฟไม่รู้ครับแม่"



"ไม่เป็นไรแม่เข้าใจ เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาไตร่ตรอง ฆิตกลับบ้านไปก่อนเถอะ"



     จังหวะนั้นเอง...



"กราฟ พี่ขอโทษ พี่ให้สัญญาต่อหน้ากราฟและคุณแม่เลยครับว่าผมจะไม่ทำผิดอีกแล้ว ผมรักกราฟมากจริงๆ"


      ว่าจบ ฆิตดึงกราฟมากอดทั้งๆที่แม่และกิ๊ฟยังคงนั่งอยู่ ทุกคนต่างตกใจ ไม่เว้นแม้แต่ตัวกราฟเอง เพราะต่อหน้าผู้ใหญ่ กราฟไม่คิดว่าพี่ฆิตจะกล้า


      เพื่อเป็นหลักประกันว่าฆิตหนักแน่นในความรักรวมถึงตั้งใจนำมาง้อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ฆิตผละและควักกล่องกำมะหยี่สีดำ เปิดฝากล่องด้านใน คือ แหวนทองคำขาวเกลี้ยง พร้อมลั่นวาจาถึงการให้แหวน แทนคำมั่นสัญญาว่าเขาจะดูแลกราฟตลอดไป โดยให้แม่เป็นสักขีพยานถึงสัจจะครั้งนี้

 

       กราฟตะลึงเมื่อได้ยินที่พี่ฆิตเอ่ย
 


       แม่ของกราฟไม่พูดอะไร ฟากกราฟเงียบ กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลเพราะใจดันหวั่นไหวกับสัมผัสอุ่นของอีกฝ่ายที่วางทาบบนมือของเขา


      กราฟนั่งนิ่ง ก่อนจะตัดสินใจได้แล้วว่าจะยกโทษให้กับความผิดพลาดเพียงหนึ่งครั้ง


     เพราะถ้าคนเราฉลาดขึ้นกว่าเดิม เขาจะรู้ว่าไม่ควรทำผิดซ้ำสอง

 

"แม่จะโกรธกราฟไหมครับ? ถ้ากราฟขอคบกับพี่ฆิตต่อ"


       แม่ยิ้มบางเบา


"ถ้าลูกสบายใจ แม่ก็ไม่ว่าจ้ะ"



      ชายหนุ่มสองคนก้มลงกราบเท้ามารดาพร้อมกันด้วยความดีใจ


     แม่ของกราฟสัญญาว่าจะช่วยปิดเรื่องนี้ไม่ให้พ่อของกราฟรู้ เพราะถ้าเรื่องนี้ไปถึงหู ทั้งสองคงไม่ได้คบกันอีกแน่ๆ


      คุยกันอีกไม่กี่คำ ฆิตขอลามารดาคนรักกลับบ้าน ส่วนกราฟก็เดินตามพี่ฆิตไปส่งที่รถ


"พี่มาบ้านผมทำไม?" กราฟถามคนที่มีสีหน้าที่ดีขึ้นกว่าตอนแรก


"มาพิสูจน์ว่ากูรักมึงจริงๆ และรู้สึกผิดที่ทำให้มึงเสียใจ"



"คิดได้ก็ดี ว่าแต่พี่มั่นใจได้ไงว่าพีทจะไม่ยุ่งเรื่องของเราอีก"


"กูสั่งสอนมันแล้ว มันคงไม่กล้าอีก"
  กราฟไม่มั่นใจว่าที่พี่ฆิตพูดนั้นสั่งสอนด้วยอะไร

"พี่ฆิตทำอะไร"


"ก็แค่ต่อยมันเอง"


 "แล้วอะไรอีกบอกผมให้หมดนะ"



    พอฆิตเล่าจบ เขาโดนกราฟผลักจนแผ่นหลังกระแทกรถ



"กราฟ ผลักกูทำไม"


"พี่ทำแบบนั้น มันก็ไม่ต่างกับที่ท็อปเคยโดนมา พี่ไปสร้างปมให้พีทฝังใจทำไม พี่ต้องไปขอโทษพีท"


"กราฟ กับคนบางคน มึงไม่ต้องเป็นคนดีก็ได้ พีทมันทำร้ายจิตใจมึงขนาดนั้น มึงยังดีกับมันอีกหรือ?"



"ผมก็ไม่อยากดีด้วยหรอก แต่ผมไม่ชอบวิธีของพี่ มันมีวิธีตั้งเยอะแยะที่จะทำให้พีทไม่มายุ่ง พี่ต้องไปขอโทษ ไม่อย่างนั้น ผมจะไม่คบกับพี่เด็ดขาด!!"




      ฆิตมองหน้าคนที่โกรธเป็น ฟืนเป็นไฟ คนอะไรโดนยุยงให้เลิกกับแฟน จนตัวเองเสียใจ ร้องไห้ ก็ยังดีกับคนที่เลวใส่


       ยิ่งเห็น ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่เกือบเสียคนดีๆไป


      ฆิตสวมกอดกราฟพร้อมกระซิบเสียงนุ่มข้างหู



"ก็ได้ครับ พี่จะไปขอโทษ แต่คราวนี้ พี่พากราฟไปด้วยนะ"   เพื่อยุติปัญหา ฆิตตามใจกราฟทุกอย่าง


     บทเรียนครั้งนี้ ส่งผลให้ฆิตจดจำจนตายและจะไม่ปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะความผิดพลาดที่ผ่านมา มันเป็นประสบการณ์สอนใจ ฆิตได้ดีพอสมควร







****1.1****

หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25} UPDATE [28 มิย.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-06-2017 22:21:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25} UPDATE [28 มิย.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 28-06-2017 23:15:51
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25} UPDATE [28 มิย.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 28-06-2017 23:35:32
เอาละสิ คู่รองผ่านไป. แล้วคู่เอกล่ะ???
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25} UPDATE [28 มิย.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 29-06-2017 22:32:07
จริงจังอย่างจริงใจ
ฆิตพิสูจน์ซิ

กราฟยอมใจให้ไปเลย

น่ารักมากคู่นี้
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25} UPDATE [28 มิย.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-06-2017 12:27:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 01-07-2017 22:30:42
ตอนที่ 25  ง้อ (2)




      จากวันที่จีนเข้ามาเตือนสติก็ผ่านไปสามวันแล้ว ท็อปนำคำแนะนำของพี่จีนมาทบทวนจนมีกำลังใจในการตามง้อและฮึดสู้อีกครั้ง



     

     ท็อปตัดสินใจโทรถามพี่ฆิตว่าพี่ฆีนชอบกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า? เพราะท็อปอยากทำเมนูโปรดง้อพี่ฆีนหวังให้เขาประทับใจ





      ได้คำตอบตามต้องการ ท็อปรู้สึกผิดนิดหน่อยที่คบกันมาก็นาน ท็อปไม่เคยรู้หรือใส่ใจรายละเอียดพวกนี้เลย เมื่อท็อปได้รู้จากปากพี่ฆิต เขาไปตลาดตามหาซื้อของตามรายการที่จดไว้ ฝึกทำอาหารให้รสชาติถูกปากพี่ฆีนมากที่สุด ทุกขั้นตอน ท็อปตั้งใจทำอย่างพิถีพิถัน





       ท็อปแอบได้ยินพี่จีนและพี่ฆีนคุยกันก่อนออกไปข้างนอกว่าวันนี้ไม่มีธุระสำคัญอะไร วันนี้พี่ฆีนคงมีเวลาว่างกว่าทุกวัน ท็อปจึงถือฤกษ์งามยามดีทำเมนูโปรดให้พี่ฆีนได้ลองชิมฝีมือดูสักหน่อยแล้วกัน

 



      ราวทุ่มเศษๆ พี่ฆีนและพี่จีนเดินทางกลับถึงห้อง ท็อปรีบเดินไปรับหน้าประตู ฆีนมองอย่างสงสัยว่าทำไมท็อปดูเอาอก เอาใจเป็นพิเศษ ทั้งการช่วยถือกระเป๋า ถึงโซฟาก็นำน้ำผลไม้มาเสิร์ฟซึ่งแตกต่างจากทุกทีที่เป็นน้ำเปล่าธรรมดา ไหนจะคำพูด คำจาที่ดูห่วงใยผิดปกติ




"เป็นไงบ้างครับพี่ฆีน เหนื่อยไหม?"




"ไม่ถามฉันบ้างหรือ?"
จีนนั่งกอดอกอมยิ้มอยู่ข้างๆฆีน


"ทำไมต้องถามพี่ครับ พี่ไม่ใช่แฟนผมสักหน่อย"



"รู้จักต่อปากต่อคำดีนี่" จีนบอก ท็อปยิ้มและไม่โกรธ ออกจะเฉยๆไปซะแล้วกับคนที่ปากร้ายแบบนี้



"จีน"  ฆีนปรามด้วยสายตา ส่วนจีนมองค้อนกลับ



       ท็อปแอบดีใจที่พี่ฆีนไม่ว่าเรื่องที่ท็อปโมเมพูดว่าพี่ฆีนเป็นแฟน


       จังหวะนั้น ท็อปใช้เวลาที่พี่จีนและพี่ฆีนเล่นสงครามประสาทใส่กัน ลุกขึ้นไปตักของหวานที่เสร็จสมบูรณ์ แต่กว่าจะอร่อย ก็ล่อเป็นหม้อที่สามแล้ว

     

        ในขณะที่จีนและฆีนนั่งถกเถียงกันหน้าเครียด ท็อปถือถ้วยขนมมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ


"พี่ฆีนครับ ท็อปทำขนมมาให้น่ะ ลองชิมหน่อยนะครับ"




        ดวงตาคู่คมชำเลืองมองถ้วยลูกตาลลอยแก้วที่ท็อปเลื่อนมันมาวางไว้ตรงหน้า



       ชายหนุ่มชะงักไปนิดกับสิ่งที่เห็น ว่ามันเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ? ที่ท็อปเลือกทำขนมหวานเมนูนี้


       แม้ใจอยากรู้ แต่ไม่อยากถาม...



       ในจังหวะนั้น...


"ท็อปรู้นะ ว่าพี่ฆีนชอบกินลูกตาลลอยแก้ว ท็อปลองตั้งหลายครั้งแหนะ กว่าจะได้เสียไปตั้งหลายหม้อ แต่ก็สนุกดีครับ ได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน"


       ฆีนมองหน้าท็อปที่เล่าสิ่งที่ตัวเองทำอย่างภาคภูมิใจ เขาหลุบสายตาลงต่ำ เพราะใจเต้นไม่เป็นส่ำที่เห็นสายตาเด็กหนุ่มฉายชัดถึงความรักและความพยายามในการได้ทำบางอย่างให้ใครคนหนึ่งด้วยความจริงใจเต็มที่



       จากอดีต คนเคยเกเร ไม่สนความรู้สึกคนอื่น เอาแต่ใจ ดื้อด้านกลับเปลี่ยนเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น จนฆีนเองยังไม่อยากจะเชื่อว่าท็อปจะพัฒนาและปรับปรุงตัวไปในทางที่ดีขึ้นได้



        เขายกถ้วยขึ้นมา ตักชิมลูกตาลลอยแก้วเย็นๆ




       คำแรกที่เข้าปาก เนื้อลูกตาลที่ไม่แข็งเกินไปซึมด้วยน้ำเชื่อมที่ให้ความหวานพอดิบพอดี เจือกลิ่นหอมอ่อนๆของใบเตย ฆีนยอมรับว่าถูกใจรสชาติของลูกตาลถ้วยนี้ไม่น้อย



      ไม่รู้ว่าความอร่อยที่ได้กินนั้นมาจากวัตถุดิบหรือความใส่ใจของท็อป ฆีนก็ชักไม่แน่ใจเหมือนกัน



"พี่ฆีนพูดตามจริงได้เลยนะครับ" ใบหน้าเด็กหนุ่มติดกังวลเพราะเห็นพี่ฆีนนั่งกินอย่างเงียบๆ


"ก็ดี ไม่หวานเกินไป"




     ท็อปยิ้มกว้าง ทันใดนั้นเอง...


      เด็กหนุ่มประทับริมฝีปากลงบนปากของฆีน ก่อนจะขบเม้มดึงดูดเบาๆแล้วรีบผละมามองคนพี่ด้วยรอยยิ้ม



"แล้วจูบนี้ หวานเกินไปไหมครับ?"



       ท็อปยื่นหน้าไปถามใกล้ๆ จนฆีนที่นั่งหน้านิ่งถึงกับหลุดมาดขรึมไปครู่หนึ่ง ใบหน้าหล่อแดงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฆีนไม่คิดว่าท็อปจะจูบแถมมาพร้อมคำพูดที่ดูหวานเลี่ยน ยิ่งไปกว่านั้น ฆีนอายเพราะมีคนอื่นนั่งเป็นสักขีพยานเสียด้วย



      จีนยกมือปิดบังรอยยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อเห็นใบหน้าหล่อจัดกำลังเขิน



"อะแฮ่มๆ เกรงใจฉันหน่อยก็ดีนะนาย" จีนเหน็บแนม



"ถ้าทนดูไม่ได้พี่ก็กลับบ้านไปสิครับ"



"ไอ้เด็กบ้า"


"จีนเลิกว่าท็อปได้แล้ว ก็จีนไปแหย่ท็อปเองก่อนนะ"



"แหม...ฆีน เจอไปจูบเดียว ถึงกับไม่เข้าข้างจีนเลยหรือ?"



"จีน..."


      พอพี่ฆีนพูดปกป้อง ท็อปยิ้มแฉ่ง แสดงว่าสิ่งที่ท็อปทำได้ผลเกินคาด


      ท็อปรู้ว่าพี่ฆีนคงไม่กล้ากินต่อ หากท็อปยังนั่งคุมอยู่



"พี่ฆีนคุยงานกับพี่จีนต่อเถอะครับ ท็อปไม่กวนแล้ว ฝันดีนะ"


ฟอด...



      ก่อนจะลุกขึ้น ท็อปไม่วายพุ่งไปหอมแก้มพี่ฆีนทิ้งท้าย และเดินหนีหายจนพ้นตา ทิ้งให้ฆีนนั่งหน้าแดงและเป็นจีนที่กลั้วหัวเราะออกมา


"เพิ่งเคยเห็นฆีนเขิน...รู้ตัวไหมว่าหน้าแดงมาก"



"ท็อปไม่เคยทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น" เสียงเรียบเอ่ยออกมาบนใบหน้าชาเฉย ทว่า สวนทางกับความรู้สึกในใจที่ลิงโลด



"แล้วฆีนชอบไหมล่ะ"



"เฉยๆ" ฆีนตอบหน้าตาย



"ปากแข็งนะคนเรา"


     จีนต่อว่าพลางหัวเราะเบาๆ แต่เมื่อสายตาจีนเผลอเห็นอะไรบางอย่าง เขาโน้มตัวใกล้ฆีน แล้วคว้าหมับที่แก่นกายของอีกฝ่าย


"ปากบอกว่าเฉยๆ แต่ของฆีน ทำไมตื่นล่ะ แพ้สัมผัสเด็กหรือจ๊ะ?"



"จีน อย่าแซวได้ไหม?"


      ฆีนยอมรับว่า ตอนที่ท็อปจูบและหอมแก้มนั้น เขารู้สึกดีมากจนอยากกระชากท็อปมาจูบต่อ แต่ฆีนอยากเห็นท็อปแสดงออกว่ารักมากกว่านี้ เพราะยังหวาดระแวงและกลัวว่าท็อปจะทำร้ายจิตใจกันอีก



"ถ้าอยากระบาย จีนเป็นที่รองรับได้นะ"



"จีน!"

"ฮ่าๆ ทำเป็นดุกลบเกลื่อนนะฆีน จีนไปอาบน้ำดีกว่า"




      หลังจากที่ไม่เหลือใครอยู่ตรงนี้ รอยยิ้มก็ค่อยๆผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อจัด ตั้งแต่เลิกกันมา ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ฆีนยิ้มได้อย่างสบายใจที่สุด...





...................





 



      ยามสาย ท็อปทำงานบ้านทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เขาเห็นพี่จีนเดินออกมาบอกว่าพี่ฆีนตื่นแล้ว ท็อปจึงใช้เวลาที่เหลือทำกาแฟรอพี่ฆีนเดินออกมาจากห้องนอน ไม่นานนัก ชายหนุ่มเดินออกมาหวังจะมาชงกาแฟดื่มเอง แต่จังหวะนั้น ฆีนได้กลิ่นกาแฟหอมอ่อนๆ ลอยมาจากทางห้องครัว ฆีนเดินไปหยุดยืนพิงกรอบประตูมองแผ่นหลังที่ขยุกขยิกกับการรินกาแฟลงแก้วเซรามิก



     จังหวะที่ท็อปหมุนตัวมา เห็นชายต่างวัยยืนมองมานิ่งๆ ท็อปสะดุ้งที่ไม่รู้ว่าพี่ฆีนมาตั้งแต่เมื่อไหร่


"ท็อปทำให้" ขายาวสาวเท้าไปสองสามก้าวก็ยื่นแก้วกาแฟไปตรงหน้า


"ขอบคุณครับ"

   

      ชายหนุ่มรับแก้วกาแฟมาจิบทีละนิด เมื่อเขายกแก้วออกห่างจากปาก ท็อปโน้มตัวไปจุ๊บริมฝีปากคนพี่



"เก้าโมงครึ่งนี่เรียกว่ามอร์นิ่งคิสได้ไหมครับ?"




      ไม่รู้ว่าท็อปคิดได้หรือไปฟังอะไรมาจากใครถึงทำให้สองวันมานี้ ท็อปดูผิดหูผิดตาไปมาก ทั้งการใช้คำพูดที่หวานหูจนฆีนเองแอบแปลกใจ เพราะเขาจำภาพในอดีตได้ว่าเด็กคนนี้ พูดจาแบบไหน พอเจอแบบนี้เข้า ฆีนถึงกับไปไม่เป็น


"พี่ไปตามจีนก่อน"


      ได้ผล เพราะท็อปเห็นพี่ฆีนหน้าแดง ท็อปรีบเดินไปกุมมือพี่ฆีนที่กำลังเดินหนี



"พี่ฆีนวันนี้มีธุระไปไหนไหม? พอดี หนังที่ท็อปอยากดูเข้าฉายแล้ว ไปดูกับท็อปนะ"




     ฆีนไม่กล้าสบตาเด็กหนุ่ม เขาหลุบสายตาลงต่ำมองมือขาวที่บีบกระชับมือเขาซ้ำๆ



"พี่...คิดว่า"


"นะครับ พี่ฆีน คิดว่าเป็นรางวัลให้ลูกจ้างคนหนึ่งก็ได้"


       สิ้นเสียงนั้น ฆีนรีบเงยหน้ามองท็อป เพราะไม่ชอบคำที่ท็อปดูกดตัวเองลงต่ำแบบนั้น ที่สำคัญการที่ฆีนจ้างท็อปมา เขาไม่เคยมองท็อปด้อยค่าแต่อย่างใด


"ท็อปอย่าพูดแบบนี้อีกนะ พี่ไปก็ได้"


"ขอบคุณนะครับ พี่ฆีน"



"ไปไหนกัน จีนไปด้วยสิ" บุคคลที่สามเอ่ยเสียงใส ทำให้ฆีนและท็อปหันไปมองพร้อมกันโดยอัตโนมัติ แต่เพราะทุกคนยังยืนนิ่งไม่มีใครตอบปฏิเสธ จีนจึงมัดมือชกว่านั่นคือคำตอบรับให้ไปด้วยได้


     เมื่อทุกคนเดินทางมาถึงห้างสรรพสินค้า จัดการซื้อตั๋วหนังเรียบร้อย ทั้งสามเดินฆ่าเวลารอหนังฉาย จีนยื่นข้อเสนอหาของรองท้องเบาๆกินระหว่างรอ ทุกคนเห็นด้วยจึงพร้อมใจไปร้านที่คุยกันไว้



     ในระหว่างที่เดิน จู่ๆ ท็อปคว้ามือพี่ฆีนมาจับไว้มั่น ฟากฆีนตาโตและแปลกใจ จนต้องเอ่ยถาม



"นี่มันกลางห้างนะ ท็อปไม่อายหรือ?"


"ไม่อายครับ ท็อปไม่แคร์คนอื่นแล้วพี่ฆีน" ท็อปยิ้มกว้าง



      ฆีนหยุดชะงัก มองท็อปอย่างอึ้งๆ ที่ตอบชัดถ้อย ชัดคำพร้อมสีหน้าที่แสดงถึงความมุ่งมั่นว่าท็อปก้าวข้ามความกลัวในอดีตได้แล้วจริงๆ



      ฟากจีนเห็นท็อปรุกฆีนหนักก็รู้สึกดี และไม่เสียแรงที่แนะนำไปคราวก่อน จีนอมยิ้มพลันปรายตามองฆีนที่ดูออกว่าพยายามเก็บอาการดีใจไว้ข้างใน



"แหม...ฆีนจะดีใจก็ดีใจออกมาเถอะน่า น้องอุตส่าห์หน้าด้านขึ้นแล้วนะ อุ้บส์"


       ท็อปถลึงตาใส่คนที่หวังดีแค่ไหนก็ชอบแขวะท็อปตลอด ฟากฆีนเงียบไม่พูดอะไร เพียงออกแรงเดินให้รู้ว่าไปต่อ ฆีนยังคงปล่อยให้ท็อปจับมือไปอย่างนั้น



        เด็กหนุ่มเดินยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี เพราะยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่ก็คงเป็นการที่ท็อปเอาชนะหัวใจพี่ฆีนได้แล้ว


       วันนี้ ทั้งวัน ท็อปมีความสุขเหลือเกิน เพราะตลอดเวลาที่ได้นั่งกินน้ำแข็งใสไปจนถึงการดูหนัง ท็อปเจอแต่เรื่องดีๆ แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆน้อย แต่สำหรับท็อปมันยิ่งใหญ่มากๆโดยเฉพาะตอนดูหนัง พี่ฆีนแอบเป็นห่วง ดึงมือท็อปไปวางไว้ตรงหน้าท้อง เพียงแค่ได้ยินท็อปบ่นว่าหนาว



        เด็กหนุ่มดีใจ เพราะสิ่งที่ทำมาวันนี้มันเห็นผลเป็นรูปธรรมแล้ว



      จนกระทั่ง ภาพยนตร์ดำเนินเรื่องมาจนถึงฉากจบ จีน ท็อปและฆีนก็เดินออกมาจากโรงภาพยนตร์พร้อมกัน ท็อปฉีกตัวไปเข้าห้องน้ำ ในระหว่างที่ทั้งสองยืนรอ จีนโพล่งขึ้นมา



"เฮ้อ!...สมหวังกันแล้ว อย่างนี้ก็แกล้งไม่สนุกแล้วสิ ถ้างั้นจีนกลับบ้านดีกว่า"


"ขอบคุณนะจีน"



"ด้วยความยินดี ฆีนก็เลิกนิ่งได้แล้ว แสดงความรู้สึกออกมาบ้าง เดี๋ยวน้องจะน้อยใจเอา"



"อืม.." ใบหน้าคมคายระบายรอยยิ้มออกมา



        ตั้งแต่ที่ท็อปมาอาศัยอยู่กับฆีน เขาได้เห็นการกระทำทุกอย่างที่แสดงออกถึงความตั้งใจอย่างแรงกล้า สิ่งเหล่านั้นทำให้ฆีนได้คำตอบที่ชัดเจน และคิดว่า คืนนี้ คงหาทางบอกท็อปเหมือนกันว่าเขาพร้อมมอบโอกาสกลับไปคบกับเด็กหนุ่มอีกครั้ง...





...............................

ฝากเรื่องใหม่หน่อยน้าาา กับ
: ||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*|| ค่า

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0#msg3664500  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0#msg3664500)



ส่วน **ขอผมได้รัก** ตอนหน้าจบแล้วนะ มาๆอยู่เป็นเพื่อนกัน ^_^

 ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-07-2017 22:48:17
จะบอกว่าเรื่องนี้สนุกมาก
ก็จะจบเรื่องพอดี

ขอบคุณฮับ
แอบเสียดายน่าจะแต่งต่อ..ชอบมาก
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-07-2017 23:12:13
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-07-2017 23:18:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 02-07-2017 06:20:31
ขอบคุณค่ะ  จบไวจังนะ  อยากอ่านอีกกก
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 02-07-2017 07:30:30
อย่าเพิ่งจบได้มั้ย???  555
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 04-07-2017 01:06:29
อ่านมาเรื่องก้อน่ารักดีนะ.  แต่ไม่ชอบวิธีการแก้แค้นของฆิตเลยนะ

การลงโทษแบบนั้นมันทำร้ายจิตใจเกินไป ความผิดที่พีททำก้อยังไม่สมควรต้องโดนแรงขนาดนี้

เรื่องเดินแบบใสๆ. รักและเข้าใจ รักและยอมรับในตัวตน รักบริสุทธิ์ที่มีสายใยบางๆกั้นอยู่

มาโดนฉากแก้แค้นแบบรุมละเมิด ดูไม่ดีอ่ะ

 :ling3:   :ling3:   :ling3:   :ling3:   :ling1:

...
หัวข้อ: Re: ...*ขอผมได้รัก*...{ตอนที่ 25.2} UPDATE [1 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-07-2017 08:25:52
ดีขึ้นทุกอย่างแล้ว

มานั่งรอ
หัวข้อ: Re:..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}.|ตอนจบ| UP [8 ก.ค.60 ] >>P9
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 08-07-2017 19:33:52
ตอนที่ 26 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด










         เสร็จจากกิจกรรมยามว่าง ทั้งสามกลับมาถึงคอนโด ส่วนจีนตั้งใจเข้ามาเก็บเสื้อผ้า เพื่อกลับไปยังที่ของตนเอง ก็แน่ล่ะ สนุกมาพอแล้ว ก็ถึงเวลากลับรังรักของตนเองที่มีพี่ทศรออยู่





        ในขณะที่จีนจัดการเก็บเสื้อผ้าตัวเองเสร็จสิ้นเรียบร้อย ฆีนและท็อปเดินมาส่ง



"จีนคงเหงา ว่างๆจีนขอมาหาฆีนอีกนะ"




       ฆีนมองจีนที่ไม่รู้ตั้งใจแกล้งพูดให้ท็อปหึงหรือเปล่า? เพราะความเป็นจริง เขาต้องมีโอกาสเจอจีนจนเบื่อขี้หน้าแน่ๆ เพราะมีอีกเรื่องที่ท็อปไม่รู้ คือ จีนและคุณทศกำลังวางโปรเจกท์คิดทำธุรกิจร่วมกันกับฆีนด้วย



      ฆีนพยักหน้าน้อยๆ แต่แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อจีนโน้มตัวมาหอมแก้มและถอยกลับไปยืนตัวตรงเหมือนเดิม



"เฮ้อ อยากได้ก็ไม่ได้ เซ็ง!"


"พี่จีน! ไหนบอก...."





      ท็อปก้าวไปข้างหน้าหวังจะผลักอกอย่างไม่พอใจที่พี่จีนมาล้อเล่นแบบนี้ แต่ยังไม่ทันใส่อารมณ์ ร่างของเด็กหนุ่มก็โดนดึงเข้าไปกอดทันที



"โอ๋ๆ พี่ขอโทษนะน้องชาย ก็แค่ชอบเห็นเวลานายโมโห หน้านายดูตลกดี"



     จะว่าไป จีนคงคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตอยู่หน่อยๆ ที่ชอบให้คนอื่นด่า เพราะเขารู้สึกมีความสุข


     พอท็อปรู้ว่าโดนพี่จีนแกล้ง ก็พยายามดันออก แต่จีนกลับกอดรัดแน่น แล้วเคลื่อนปากไปยังใบหูของท็อป ลดเสียงลงเพื่อบอกความลับบางอย่าง


   

      เมื่อเสียงเงียบหาย ท็อปหน้าแดง และกัดปากแน่น



"ที่ฉันบอกไปก็ลองหาวิธีแก้ไขดูแล้วกัน จีนไปก่อนนะฆีน" บอกเด็กหนุ่มเสร็จ ก็หันไปลาผู้ชายที่จีนบอกเลยว่าทุกวันนี้ยังเสียดายที่ไม่ได้ลองรสเซ็กซ์ของคนตรงหน้า



       บอกลาบุคคลที่สามเรียบร้อย ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน ท็อปไม่พูด ไม่จา จนฆีนสงสัย ประจวบเหมาะกับฆีนคุยธุระสำคัญกับคนที่บ้านทางโทรศัพท์พอดี จึงไม่ได้เอ่ยถาม


       ในขณะที่พี่ฆีนเข้าห้องนอนจนลับสายตา ท็อปนั่งคนเดียวก็หน้าแดงพลันยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เพราะประโยคที่พี่จีนบอกยังก้องอยู่ในหัว


'นายลองเอาตัวเข้าแลกสิ รับรองฆีนหายโกรธเป็นปลิดทิ้ง  นายไม่รู้อะไร ของฆีนแข็งตอนจูบกับนายหนก่อนด้วย'



      ประโยคที่ได้ฟังแล้วโคตรดีใจ อย่างน้อย แสดงว่าท็อปก็มีเสน่ห์มัดใจพี่ฆีนจนมีอารมณ์และกระตุ้นความรู้สึกได้อยู่เหมือนกัน

 

     อีกนิดเดียวก็จะง้อสำเร็จแล้ว ท็อปเชื่อพี่จีนและคิดทำตาม ยั่วอีกนิด อ่อยอีกสักหน่อย ร้อยทั้งร้อยพี่ฆีนใจอ่อนแน่ๆ



     ท็อปเดินไปมาอยู่หน้าประตู ก่อนจะแนบหูฟังเสียงภายใน เมื่อไม่ได้ยินอะไร เขาค่อยๆแง้มประตูด้อมๆมองๆ สอดส่อง ก็ไม่เห็นพี่ฆีน สงสัยคงอยู่ในห้องน้ำ





      สองเท้าพาตัวเองมาอยู่ในห้องนอนได้ ท็อปถอดเสื้อผ้าจนหมดพร้อมคว้าชุดคลุมอาบน้ำพี่ฆีนมาสวมใส่ อยู่ดีๆก็นึกป๊อดขึ้นมา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ยั่วพี่ฆีนออกจะบ่อยๆ แต่พอต้องอ่อยแบบตั้งใจ ท็อปทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน


       ท็อปสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะตัดสินใจย่องเข้าไปหาพี่ฆีนในห้องน้ำ



       เสียงสายน้ำจากฝักบัวดังพอจะกลบเสียงประตูที่เด็กหนุ่มเปิดเข้าไป แหย่เท้าเข้าไปในส่วนห้องน้ำแค่ก้าว ก็ยื่นหน้ากวาดตามองพี่ฆีนว่าอยู่ตรงไหน


       ดวงตาเรียวเหลือบเห็นร่างเปลือยเปล่ายืนพิงผนังหลับตาและแหงนหน้าขึ้น มือหนากำลูกชายที่ขยายขนาด รูดรั้งช้าๆ ท็อปเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคงอย่างอยากลำบาก



"พะ...พี่ฆีน"
เท้าก้าวถอยหลังหวังจะไม่ให้เจ้าตัวรู้ แต่ปากดันสวนทางโพล่งขึ้นเสียงดังจนฆีนลืมตาหันขวับมามอง



      ฆีนหน้าแดงทันที เมื่อเห็นว่าท็อปอยู่ในห้องน้ำ



"ท...ท็อปออกไปข้างนอกก่อนดีกว่า"



      ทันใดนั้นเอง


หมับ



       ยอมรับว่าอาย ที่เด็กหนุ่มมาเห็นเขากำลังช่วยตัวเอง แต่ถ้าจะเห็นขนาดนี้ ก็คงไม่มีอะไรจะเสีย มือหนากระชากต้นแขนท็อปเข้ามาหาตัว



"เห็นแล้ว ก็รับผิดชอบพี่ด้วย"


      ท็อปอ้าปากจะพูด แต่โดนอีกฝ่ายรั้งต้นคอมาประกบจูบ ก่อนจะใช้ปลายลิ้นสอดเข้าไปภายในโพรงปาก




      ฆีนจูบปิดปากและหลังจากนั้นก็คงไม่ต้องเดาให้เสียเวลา เพราะผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้ หนีไม่พ้น การมีสัมพันธ์อันลึกซึ้งเพื่อเติมเต็มความรักและความปรารถนาหลังจากห่างหายมานานแสนนาน



       บัดนี้ สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิดสนิทกัน บดเบียดไปมาพร้อมกับจังหวะรักที่กระแทกกระทั้นไม่มีหยุด ภายใต้บรรยากาศในห้องน้ำที่อบอวลไปด้วยความรักและความโหยหาที่หัวใจเรียกร้องว่าต้องการกันและกันอยู่เสมอ


     
      โยนทิ้งไปหมดแล้วสำหรับทิฏฐิ ไม่มีการวางฟอร์มใส่กันอีกต่อไป ทุกอย่างที่ผ่านมาท็อปได้พิสูจน์ให้เห็นจนฆีนยอมใจ ท็อปยอมเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวเองก็ถึงเวลาที่ฆีนจะให้โอกาสและการเริ่มต้นในชีวิตรักครั้งใหม่กับท็อปตามที่ให้สัญญาไว้จริงๆ





     







...................





"ต้องการอะไรจากผมอีก"
พีทมองฆิตอย่างหวาดผวา เพราะไม่รู้ว่าพี่ฆิตจะมาหากันอีกทำไม



      แม้ว่าวันนั้น พีทจะไม่ได้โดนผู้ชายเหล่านั้นทำอะไร แต่ก็ยังรู้สึกกลัวติดอยู่ในใจ


      ฟากฆิตมาดักรอตรงทางเข้าบ้านของพีทและฉุดมาคุยตรงสนามเด็กเล่นของหมู่บ้าน เพื่อเคลียร์ปัญหา ผลปรากฎว่า พีทเอาแต่นั่งก้มหน้าจนคางแทบติดคอ


"กูมาขอโทษ"      



        สิ้นคำขอโทษ พีทไม่พูดไม่จา เงยหน้ายกมือขวาฟาดเข้าที่ซีกแก้มจนฆิตหน้าหันเล็กน้อย ฆิตไม่สู้กลับ และไม่พูดอะไร เขายอมให้พีททำร้ายให้สาแก่ใจ



       ฟากกราฟที่แอบยืนมองอยู่ไกลๆ ได้เห็นแบบนั้นก็ไม่สบายใจเพราะกราฟเป็นต้นคิดให้พี่ฆิตมาขอโทษ เขาใจกระตุกเมื่อเห็นแฟนโดนทำร้ายก็ชักใจคอไม่ดี  สองเท้าจึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปช่วยเคลียร์ปัญหานี้เองน่าจะดีกว่า




"พีท พี่ขอโทษแทนพี่ฆิตที่วันนั้นเล่นแรงไปหน่อย"




      เสียงจากคนที่เพิ่งก้าวเข้ามา ทำให้พีทหันไปพอรู้ว่าเป็นพี่กราฟก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่กราฟจะมาพูดจาดี และไม่มีทีท่าโกรธกับสิ่งที่พีทเคยพูดจาแรงๆในอดีต



      ไม่ต้องสงสัยคนเป็นแฟนกันก็คงไม่มีความลับต่อกัน พี่กราฟถึงรู้เรื่องที่พี่ฆิตทำร้ายพีทด้วย  พีทเม้มปากแน่น มองพี่กราฟอย่างรู้สึกผิด ส่วนกราฟพอเห็นร่างเล็กยืนตัวสั่น เขาเดินไปจับมือพีท บีบกระชับเบาๆ

"พี่ขอร้องให้อภัยพี่ฆิตได้ไหมครับ?"



       ความรู้สึกสับสน ปะปนเข้ามาจนไม่รูว่าควรตอบแบบไหน พีทไม่กล้าสบตา ทั้งๆที่พีทตั้งใจร้ายใส่ คิดค้นทุกทางให้ทั้งสองเลิกกัน แต่คนตรงหน้ากลับไม่มีวี่แววแห่งการอาฆาต จู่ๆ พีทดึงมืออกและทรุดตัวลงนั่งที่พื้นปิดหน้า ปิดตาร้องไห้



      กราฟย่อตัวลงตาม



"พีท เป็นอะไรหรือเปล่า? บอกพี่ได้นะ" เสียงอ่อนโยนดังขึ้น ยิ่งทำให้พีทร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน กราฟค่อยๆลูบไหล่ ช้อนตามองพี่ฆิตที่ยังยืนค้ำหัว

 
     ฟากฆิตหย่อนกายนั่งลงข้างๆตาม



"พีท ให้กูทำอะไรก็ได้ แต่ยกโทษให้กูเถอะนะ ตอนนั้นกูขาดสติ เพราะกูรักกราฟมาก เป็นใครก็คงไม่ชอบเห็นคนที่เรารักโดนรังแกหรอก มึงว่าไหม?"



      สิ้นเสียงนั้น หัวใจกราฟพองโต และหน้าร้อนฉ่า คำพูดธรรมดาๆ ไม่ได้ประดิษฐ์ให้ดูสวยหรู ช่างทำให้กราฟรู้สึกดีเหลือเกิน





"ทำไมพี่กราฟยังดีกับพีท ฮึก...ฮือ" พีทถามสิ่งที่ตัวอยากรู้ ว่าทำไม? ทำไม กราฟยังดีกับเขา จนพีทรู้สึกละอายใจ


"ช่างมันเถอะ...พีท พี่ไม่สนใจอะไรแล้วครับ สิ่งที่พี่อยากรู้ คือ พีทพอจะยกโทษให้ได้ไหม?" กราฟถามย้ำพร้อมลูบกลุ่มผมสีดำราวกับเติมความอบอุ่น เอ็นดูให้พีทรู้สึกผ่อนคลายขึ้น


      พีทพยักหน้า



"ครับ พีทไม่โกรธแล้วครับ"


"พี่ขอบใจจริงๆนะ พีท ถ้าอย่างนั้น พี่พาพีทไปเลี้ยงข้าวดีกว่า ลุกขึ้นเถอะ" กราฟเอ่ยอย่างใจดี

   

      ในการแก้ปัญหา สิ่งหนึ่งที่กราฟทำจนติดเป็นนิสัย คือ เวลาใครมีปัญหาทุกข์ใจ กราฟมักให้การสัมผัส กอด ลูบหัว จับมือเป็นการแสดงออกแทนทุกครั้ง


"ไม่เป็นไรหรอกครับ"



     กราฟยิ้มเห็นใจ

 

"แน่นะ"



     พีทพยักหน้า


"พี่ขอกอดหน่อยได้ไหม?" กราฟบอกพีท ฟากพีทยังดูกล้าๆกลัวๆ กราฟเลยดึงร่างเล็กเข้ามาประชิดตัว สองมือรัดร่างเล็กอย่างแนบแน่น


"ลืมอดีตแล้วเริ่มต้นใหม่นะพีท พี่เอาใจช่วย ถ้าอยากปรึกษาหรือให้พี่ทำอะไรบอก พี่ยินดีช่วยเต็มที่" กราฟกระซิบบอกน้อง ฟากพีทที่โดนโอบกอดอยู่จึงสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความจริงใจซ่อนอยู่ในนั้น สองมือเล็กค่อยๆเลื่อนไปกอดกลับกระชับจนกราฟรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคงโหยหาความรัก



"ขอบคุณครับพี่กราฟ"


"เชื่อพี่นะ ไม่นานหรอกที่พีทจะได้เจอคนที่คู่ควร"




       กราฟเชื่อเสมอว่า การแก้แค้นที่ดีที่สุด ไม่ใช่ร้ายมา ร้ายกลับ ทว่า ร้ายมาแล้วให้อภัยกลับมากกว่า เพราะกราฟรู้สึกว่า หลังจากนั้น เขาจะรู้สึกสุขและเย็นใจกว่าเดิม





****1.1****

ใจหายนิดหน่อยที่รู้ว่าเรื่องที่เขียนเดินทางมาจะจบแล้ว อดใจรอกับอีกครึ่งที่เหลือนะคะ

ขอแนะนำเรื่องใหม่เผื่อจะถูกใจใครบ้างไม่มากก็น้อย

กับ
: ||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*|| ค่า

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0#msg3664500   (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=60981.0#msg3664500)

ขอบคุณทุกคนน้า เลิฟๆ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-07-2017 20:00:37
จะจบซะแล้ว รอต่อน่ะ
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-07-2017 20:59:04
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-07-2017 21:20:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 08-07-2017 23:35:07
รออ่านต่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-07-2017 03:51:50
จะจบแล้ว?  ยังไม่อยากให้จบเลย,,,
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-07-2017 23:00:58
งานดีทั้งพี่ทั้งน้อง
อยากได้ทั้งฆิตและฆีน น่านนนนล่ะ
อิอิ

มีความเสียดายเหมือนกับจีนเลย
เกือบแระ..เกือบได้กิน
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 09-07-2017 23:21:35
#ฆิตกราฟ. การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี.  กราฟเนี่ยนางเอกสุดๆไปเลย.

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงามนะ. ไม่ผิดที่จะรัก แต่ต้องรักในทางที่ควรนะน้องพีท

มา มากอดกันเนอะ

 :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:

....

...
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 10-07-2017 16:58:14
กว่าจะแฮปปี้ ใจแกว่งไปม๊ด
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอนที่ 26.1ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [8 ก.ค.60 ] >> P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-07-2017 18:12:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re:..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.2 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [11ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 11-07-2017 19:18:29
ตอนที่ 26 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด(2)






         

ปัง!


     เสียงปิดประตูดังขึ้นไม่ทันไร ทั้งสองก็ประกบจูบกันดูดดื่มในห้องนอนของกราฟ ท่ามกลางความรัก ความโหยหาที่ไม่ได้สัมผัสกันมานาน พอดีกันได้ ต่างฝ่ายต่างตักตวงเติมความหวานกันอย่างไม่มีหยุดพัก



     ห่างหายมาแสนนาน พอแตะเนื้อต้องตัวพลางลูบไล้เรือนร่างมากเท่าไหร่ ไฟปรารถนาก็ลุกโชนมากขึ้นเท่านั้น


       
      กราฟเลือกเปิดไฟแสงวอร์มไวท์ โทนแสงอบอุ่น นวลตา ผสานไปกับเสียงประกอบฉาก อย่างเสียงคราง เสียงจูบจ๊วบจ๊าบดังเป็นระยะๆ ยิ่งชวนให้บรรยากาศภายในห้องโรแมนติกยิ่งขึ้น


       ไวปานจรวด เพราะเวลานี้ ช่วงล่างของฆิตและกราฟถูกถอดจนเปลือยเปล่า มีเพียงเนื้อแนบเนื้อ บดเบียด ถูไถเข้าหากัน ส่งผลให้แก่นกายของทั้งคู่แข็งขืนตื่นตัวเต็มที่ กราฟผลักร่างคนพี่ให้นอนราบไปกับเตียง คว้าเจลหล่อลื่นที่เพิ่งซื้อมาสดๆร้อนๆ บีบใส่มือป้ายลงตรงช่องทางแห่งรัก


     

      เมื่อรู้สึกถึงของเหลวไหลเยิ้มและเย็นวาบ ฆิตรีบยกสองมือดันอกกราฟก่อน


       จากคำสัญญาที่เคยให้ไว้ในตอนแรก แต่พอวันนี้มาถึง ฆิตเกิดใจปลาซิวขึ้นมา



"กราฟ ก...กูไม่เคย กูว่า...กู เอ่อ..."



       สีหน้าลังเลใจ ทำให้กราฟหยุดชะงัก แล้วสวนกลับ


"ตอนที่ผมยอมให้พี่ทำ ผมก็ไม่เคยมาก่อนเหมือนกัน"



"เอ่อ...น้องกราฟครับ คือ..." เกิดอาการเสียงสั่นและหวั่นใจ เมื่อเจอของจริงทิ่มประตูหลังอยู่ตอนนี้


"พี่ฆิตอย่าผิดคำพูดสิครับ!"



       แววตาร้องขอมองมาอย่างมีความหวัง และกำลังจะสื่อว่าต้องการมันอย่างหนักอย่าเพิ่งขัดอะไรตอนนี้



      ฆิตกัดปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าเออออ ปล่อยให้คนรักทำตามใจ  ถ้าไม่รักกราฟ ฆิตก็คงไม่ยอมลงให้จริงๆ
 



ตึกๆ ตักๆ


     
        เพราะไม่เคยลองอะไรแบบนี้มาก่อน จึงไม่แปลก หากฆิตจะกลัวและตื่นเต้นจนเหงื่อแตก เขาใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก เมื่อลูกชายตัวโตของกราฟกำลังบุกช่องทางรักของเขาแล้ว



       ฆิตหลับตาปรี๋ อย่างประหม่าสุดขีด



       ในวินาทีนั้นเอง เสียงประตูรั้วบ้านตามมาด้วยเสียงรถยนต์ดังใกล้เข้ามาทุกที จนกราฟชะงักไปนิด


      แม่กลับมาแล้วหรือวะ? ไหนว่า กลับวันมะรืนไง..


      ช่างมันก่อน กราฟไม่สนกับคำถามที่ตีกันในหัว เจ้าตัวไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากคนตรงหน้าเพราะความต้องการมันพุ่งทะยานสูง จนฉุดไม่อยู่



      อยากได้มากแค่ไหน ก็ต้องข่มใจไม่ทำรุนแรง เพราะกราฟกลัวพี่ฆิตเจ็บ เขาจึงถนอม บรรจงสอดใส่แท่งร้อนช้าๆ นำพาเข้าสู่ประตูหลังของอีกฝ่าย




        ดันแท่งร้อนไปได้แค่ครึ่ง กราฟหลุดเสียงครางเพราะช่องทางรักของพี่ฆิตตอดรัดจนนิ่วหน้า เจ็บ หน่วงหนึบ ทว่า เสียวกระสัน ซาบซ่านในเวลาเดียวกัน



      จังหวะที่เข้าด้ายเข้าเข็ม เสียงประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น



ก๊อก ก๊อก ก๊อก



"พี่กราฟๆๆ น้องกลับมาแล้ว มาเปิดประตูหน่อย"



      เสียงหญิงสาวดังขัดอารมณ์ทางเพศ ชายหนุ่มต่างวัยหยุดชะงักและสบตากันนิ่ง กราฟหลุดสบถเบาๆเมื่อลูกชายที่แข็งแกร่งพร้อมสู้ศึกในตอนแรกก็อ่อนยวบลงทันที



     กราฟรีบสวมกางเกงอย่างไว เพื่อไปเปิดประตู ฟากฆิตถอนหายใจอย่างโล่งอก



"ว่าไง กิ๊ฟ" กราฟแง้มประตู ยื่นหน้า มองน้องสาว


"ของฝาก" กิ๊ฟยิ้มกว้างพร้อมยื่นถุงขนมมาให้


"ขอบใจ" กราฟรับถุงมาและรีบปิดประตู แต่กิ๊ฟยกมือดันประตูค้างไว้



"วันนี้ กิ๊ฟนอนกับพี่นะ"


"ไม่เอา วันนี้พี่มีงานด่วนต้องเร่งทำ"
รีบละล่ำละลักบอกจนกิ๊ฟหรี่ตามองพี่ชาย




     คิดโกหกน้องสาวใช่ไหม? ทำไมกิ๊ฟจะไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงไม่ยอมให้นอน ก็เพราะพี่ฆิตมายังไงล่ะ เธอเห็นรถของพี่ฆิตจอดข้างบ้างหรอกนะ...คุณพี่ชายตัวดี

 
      หญิงสาวเขย่งพลางชะเง้อมองเข้าไปด้านใน ก่อนจะใช้ไหล่ดันร่างหนา กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในห้อง


      ฟากกราฟยังไม่ได้พูดอะไร น้องสาวก็เห็นพี่ฆิตเสียแล้ว



"พี่ฆิตสวัสดีค่ะ"


     
      ฆิตหน้าเหวอ เมื่อเห็นกิ๊ฟยืนพนมมือไหว้เขาตรงหน้า โชคดีที่ฆิตสวมกางเกงเสร็จเรียบร้อย




"ค..ครับ"

 
"กิ๊ฟรู้นะพี่ฆิตจะมานอนสวีทกับพี่ชายกิ๊ฟใช่ไหมล่ะ? เสียใจด้วย พี่คงน้องค้างไม่ได้ เพราะวันนี้พ่อกลับมากับกิ๊ฟด้วยแถมอารมณ์ไม่ดีอีกต่างหาก"
แม้จะไม่คุ้นชินกับการที่พี่กราฟมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่กิ๊ฟหวังดีจึงเตือนพี่ฆิตก่อน เพราะตอนนั่งบนรถระหว่างทางกลับบ้าน เธอนั่งฟังพ่อทะเลาะกับคนที่ทำงานทางโทรศัพท์จนนั่งเกร็งไปหมดแล้ว

 

       เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งหนึ่งที่บิดาของสองพี่น้องไม่ชอบใจเท่าไหร่ คือ การให้คนไม่คุ้นเคยมานอนค้าง อ้างแรมที่นี่



"ครับ"


 
       รับคำอย่างปฏิเสธไม่ได้ ชายหนุ่มต่างวัยมองหน้ากันอย่างแสนเสียดาย แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อ โชคชะตาไม่เป็นใจ ค่อยเริ่มต้นใหม่วันหลังก็ได้



        ปล่อยให้น้องสาวออกจากห้องไป ทั้งสองก็ทิ้งท้ายด้วยการจูบและนัวเนียกันอีกสักพัก ก่อนจะลงไปแนะนำตัวกับผู้ใหญ่ เนื่องจากพ่อของกราฟ ฆิตก็ยังไม่เคยเจอมาก่อน



 
        คุยได้สักพักใหญ่ๆ ฆิตขอลากลับ และแล้วก็ผ่านไปได้ด้วยดี แม้ฆิตจะดูออกว่าพ่อของกราฟยังมีอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างที่น้องสาวพูดเกริ่นไว้ แต่เพราะเป็นผู้ใหญ่จึงควบคุมอารมณ์ได้ดีพอสมควร



       ตอนเดินออกมา ฆิตถอนหายใจพรืดอย่างโล่งใจ เพราะพ่อของกราฟนั้น น่ากลัวอย่างที่แม่ของคนรักเคยว่าไว้จริงๆ



       เดินมาหยุดยืนมองหน้ากันข้างรถ ฆิตมองคนที่ดูเซ็งอย่างเห็นได้ชัด จนอดแซวไม่ได้



"หึๆ สงสัย น้องกราฟจะไม่มีดวงแล้วล่ะ"



      กราฟเหลือบมองคนกระหยิ่ม ยิ้มย่องชอบใจที่รู้ว่าตัวเองรอดพ้นการสูญเสียเอกราชมาได้


      หรือจะไม่มีดวงจริงๆ กราฟยืนเงียบ ทำให้อีกฝ่ายต้องแซวต่อ



"นอนใต้ร่างพี่ฆิตเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว ฮ่าๆ"


 

       เมื่อเห็นแฟนยังไม่มีทีท่าจะรับมุกหรือเล่นด้วย ฆิตจึงเอาใจ เคลื่อนริมฝีปากกดปลายจมูกอีกฝ่ายเร็วไว ก่อนที่ใครจะมาเห็น



"โอ๋ๆ อย่าหน้าบึ้งสิครับ โคตรรักขนาดนี้ พี่ให้ได้อยู่แล้วล่ะ สัญญา"


   
        สิ้นคำสัญญา กราฟเงยหน้ามองคนรัก เลิกคิ้วขึ้นนิดๆอย่างไม่แน่ใจ ก็กว่าจะมีโอกาสเหมาะสมที่พี่ฆิตใจอ่อนยอมแบบวันนี้ได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย



"จริงนะ พี่"


"อื้ม จริงครับ ที่รัก"




       พ่นคำหวานหูแต่จริงใจออกไป เพราะไม่อยากให้คนรักเครียด ฆิตดูออกว่ากราฟก็จริงจังเรื่องนี้เหมือนกัน อะไรที่พอจะผ่อนปรนได้ ฆิตก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายมานั่งไม่สบายใจ



        ไม่เห็นจะยากเลย...ไอ้ฆิต ถ้าถึงวันนั้นจริงๆ ก็พยายามคิดบวก มองโลกในแง่ดีและคิดซะว่า เปิดโลกทัศน์ ได้ลองทำอะไรแปลกใหม่ก็แล้วกัน...





****1.2****


เป็นตอนจบก็เลยยัดไว้ทีเดียว มันก็จะยาวนิดหน่อย

ไม่กี่วันจะรีบมาต่อส่วนสุดท้าย แบบน่ารักๆๆของพี่ฆีนและน้องท็อป

อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า...

ขายของๆ มีนิยายเรื่องใหม่:
||*...สวัสดี▪นายพล▪ คนธรรมดา...*|| 

ด้วยนะคะ  (ไม่ค่อยเลยอะ 555555+)


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.2 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [11ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 11-07-2017 19:23:39
จ้า  รอฆีน ท็อป  นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.2 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [11ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-07-2017 21:20:20
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.2 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [11ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 11-07-2017 23:04:38
รอตอนหน้านะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.2 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|ตอนจบ|..UP [11ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-07-2017 23:16:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re:..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: rinyriny ที่ 12-07-2017 23:03:44

ตอนที่ 26 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด(3)(ตอนจบ)











"รับเงินพี่ไปนะ ท็อป"



       ฟังคนบ่นกระปอดกระแปด จนต้องแกล้งทำท่าแคะขี้หู ก็ดูสิ พี่ฆีนบ่นเป็นคนแก่ไปได้


      ตั้งแต่เดินทางมาถึงภูเก็ต พี่ฆีนยังไม่หยุดบ่น ส่วนสาเหตุก็คือ ไม่พอใจที่ท็อปพามาพักที่ราคาแพงแบบนี้ ก็ที่ที่พี่ฆีนเคยพามายังไงล่ะ


      เพราะความชื่นชอบส่วนตัว รวมถึงคำสัญญาที่ท็อปเคยเอ่ยปากกับพี่ฆีนว่าอยากมาอีกครั้ง พอปรับความเข้าใจกันได้ ท็อปจึงชวนพี่ฆีนมานอนพักห้องพูลวิลล่าที่ได้นั่งทอดสายตามองท้องทะเลอันดามันพร้อมวิวธรรมชาติแบบพาโนราม่าอย่างที่เคยมาคราวก่อน


       และที่บ่นก็เพราะว่าพอฆีนจะช่วยออกค่าใช้จ่าย ท็อปก็บ่ายเบี่ยงปฏิเสธตลอด



"ท็อปบอกพี่ฆีนแล้วไง ว่าไม่เป็นไร"




      ฆีนถอนหายใจเสียงดังอย่างตั้งใจให้อีกฝ่ายรู้ตัว ก็ดูสิ คนดื้อก็ดื้อจริงๆ ให้ตายสิ พับผ่า!




"เรายังไม่ได้งาน ทำไมใช้จ่ายสิ้นเปลืองแบบนี้ พี่ไม่โอเคเอามากๆ" 



        กลอกตาไปมากับคำดุด่าแถมทำหน้าทำตาถมึงทึงก็อดจะงอนกลับไม่ได้ อะไรกัน! หนีแม่บ่น มิวายมาเจอพี่ฆีนอีก



        เฮ้อ!...ให้มันได้อย่างนี้สิ นายทินภัทร์
 
 
   
       เด็กหนุ่มถอนหายใจยาว ก่อนหันไปออดอ้อนเอาใจ



"ไม่เป็นไรครับ นานๆท็อปจะพาแฟนมาสวีท  อย่าบ่นนะครับ..พี่ฆีนสุดหล่อ"



       เดี๋ยวนี้ เป็นงาน เป็นการ มีทำมาพูดเอาอกเอาใจ จะว่าไป ตั้งแต่คืนดีกันหนนี้ ท็อปเปลี่ยนไปมากจริงๆ



      ในตอนแรก ฆีนแอบกังวลเหมือนกัน คนที่เคยทำผิดครั้งใหญ่หลวง จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้จริงๆหรือ? จะยังรักแบบสนิทใจได้อยู่หรือ?



      แต่วันนี้ ท็อปพิสูจน์ให้เห็น จนฆีนไม่รู้สึกคลางแคลงใจอะไรอีกต่อไป



      บ่นเรื่องห้องพักไม่ทันไร ก็ยังหันมาบ่นเรื่องเสื้อผ้าที่ก่อนมาต่างจังหวัด คนรักกำชับฆีนให้ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและกางกางผ้าขายาวสีกรมท่าเหมือนกันอีก



"แล้วทำไมต้องบังคับให้พี่แต่งตัวเหมือนกันด้วยครับ"



      หรือเขาจะแก่จริงๆ วันนี้ ทั้งวัน เจ้าตัวบ่นไม่หยุด



      แต่ต่อให้พูดพร่ำแค่ไหน เด็กหนุ่มก็ไม่สะทกสะท้าน มิหนำซ้ำ กลับยิ้มกว้างจนตาหยีเดินมาเกาะแขนฆีนพลางซุกหน้าคลอเคลียต้นแขนอย่างออดอ้อนไปอีก



"ท็อปว่าคนเป็นแฟนกัน เวลาแต่งตัวเหมือนกันและถ่ายรูปคู่มันดูน่ารักดีครับ"



      โอ้ย! ดูทำหน้าเข้าสิ ยั่วจนอยากฟัดให้หายอยากชะมัด




"รู้จักคิดนะเรา" ว่าจบก็โยกหัวท็อปเบาๆ



"เอ้! จะว่าไปตั้งแต่เราคบกัน ยังไม่มีรูปคู่เลย ถ้างั้นมาถ่ายรูปคู่กันเถอะ"





    สิ้นเสียง เด็กหนุ่มควักโทรศัพท์ สไลค์หน้าจอเลื่อนเข้าสู่โหมดถ่ายภาพ



    กดถ่ายอยู่หลายที จนได้ภาพที่พอใจ ท็อปลดมือลง นั่งมองรูปถ่ายด้วยอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่



      คัดรูปภาพที่ชอบ ก่อนจะตัดสินใจโพสต์ภาพลงอินสตาแกรมส่วนตัว



     แรกๆก็ทำเป็นไม่สนใจ แต่เพราะความอยากรู้ จึงแอบลอบมองคนที่ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ จึงเหลือบเห็นท็อปกำลังอัพโหลดภาพที่เพิ่งถ่ายเมื่อครู่



"ท็อปจะลงภาพนั้นจริงๆหรือ?"



"พี่ฆีนอายหรือครับ?"



      ถามเขา แต่กลับชะงักกึกเสียเอง เมื่อโดนย้อนคำถามที่ฆีนเคยถามท็อปมาก่อน



"เปล่า แต่..."



"ท็อปบอกแล้วไง ว่าท็อปไม่อายแล้ว ที่ผ่านมา ท็อปเหนื่อยมากกับการไม่เป็นตัวเอง ตอนนี้ ท็อปอยากทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างครับ" ระบายความรู้สึกภายในใจออกมา



     ทุกอย่างที่พูด คือ เรื่องจริงว่าที่ผ่านมา ท็อปเหนื่อยเหลือเกินกับการขอความรักจากคนอื่น จากนี้ ใครจะรักหรือไม่รัก ท็อปไม่สนใจแล้ว เพราะท็อปขอโฟกัสแค่คนที่รักเขา อย่าง คนในครอบครัว เพื่อนหรือแม้กระทั่งคนรัก คนนี้



"พี่ดีใจนะที่ท็อปคิดได้"



"ครับ พอท็อปคิดได้ ก็โคตรสบายใจเลย"




      ว่าจบ ท็อปจุ๊บริมฝีปากพี่ฆีนเบาๆ ก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากมาขบเม้ม ดูดดึงผิวเนื้อบริเวณซอกคอของฆีนจนขึ้นสีเรื่อๆ มิหนำซ้ำยังใช้ปลายลิ้นเลียวนร่องรอยช้ำที่เพิ่งเกิดขึ้น


   
      ฆีนไปไหนไม่รอดแล้ว นอกจากจะขี้ยั่วเป็นที่หนึ่ง ยังขี้อ้อนอีกด้วย





"ท็อป รู้ใช่ไหมครับ? ว่าช่วงนี้ เราไม่ค่อยได้มีเซ็กซ์กันเท่าไหร่"



       มองคนที่หน้าแดง คอแดง แล้วอดขำไม่ได้ สีหน้าแบบนี้ไม่ใช่อายหรอก ความต้องการทางเพศล้วนๆ



"ฮ่าๆ"



      กลั้นไม่ไหวถึงกับหลุดกลั้วหัวเราะเสียงดังลั่น เมื่อเจอคำพูดตรงๆ นี่แหละหนา เอกลักษณ์ของพี่ฆีน เรื่องความหื่นไม่เข้าใครออกใครจริงๆ


 
      จุดอ่อนของฆีนคือแพ้สัมผัสท็อปทุกที เวลาโดนตัวนิด โดนตัวหน่อย เป็นต้องได้ของขึ้นไปทุกทีสิน่า



      มีความอยากได้พี่ฆีนเหมือนกัน แต่ท็อปต้องรีบตัดบท เพราะเดี๋ยวจะเลยกำหนดการที่เจ้าตัวตั้งใจไว้




"ท็อปว่าเราไปหาอะไรกินดีกว่าครับ นี่มันสี่โมงเย็นแล้ว"



"ท็อปหิวแล้วหรือ?"





"ใช่ครับ ไปเถอะนะ"



จุ๊บ!



       ส่งจูบมาอ้อนเอาใจ แล้วจะไม่ให้ฆีนหลงได้อย่างไร มองหน้าคนขี้ยั่วอย่างแสนเสียดายที่อดทำรักในตอนนี้



      รับคำเสร็จ ทั้งสองก็เดินลงมาถึงส่วนรับประทานอาหาร โดยท็อปพาพี่ฆีนมานั่งโซนเอาท์ดอร์ริมทะเล

 

      สายลมเย็นเอื่อยๆพัดมากระทบผิวกายผสานกับวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติ ช่างให้ความรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายและใจได้ดีจริงๆ



       นั่งสักพักก็รับเมนูเล่มหนามาจากพนักงาน พลิกทีละหน้า ดูเมนูโปรดจนพอใจ ก็เรียกพนักงานมารับออเดอร์



      สั่งเสร็จสรรพ ในระหว่างที่นั่งคุยกัน มีมือหนามาวางบนไหล่ของฆีนจากด้านหลัง จนทำให้ฆีนต้องเอี้ยวตัวมอง



"อ้าว...ฆิตมาได้ไง" ฆีนสะดุ้งตกใจ เพราะการเจอน้องชายที่ต่างจังหวัดและสถานที่เดียวกันแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ



    ด้านหลังของฆิตยังมีกราฟ และพลที่ยืนยิ้มพนมมือไหว้อยู่



"มาเป็นก้างขวางคอไง" ฆิตหัวเราะก่อนจะเรียกพนักงาน เพื่อเสริมโต๊ะนั่ง



     ฆีนหรี่ตามองคนตรงข้ามที่ยิ้มกว้างและอารมณ์ดีผิดปกติ



"ท็อปรู้เรื่องนี้ใช่ไหม?" ถามอย่างต้องการคำตอบ แต่คนรักกลับทำหน้าไม่รู้ ไม่ชี้  เห็นอย่างนี้แล้วอยากกระชากคอมาจูบชะมัด



     กราฟไม่อยากให้พี่ฆีนจับไต๋ได้ จึงทำทีชวนคุยเรื่องครอบครัวของพี่ฆีน เพราะตอนนี้ กราฟเองก็เริ่มเข้าออกบ้านพี่ฆิตจนเป็นแขกประจำไปเสียแล้ว



     ละสายตาจากท็อปก็หันไปตอบแฟนน้องชาย



     คุยกันได้สักพัก อาหารก็เริ่มทะยอยมาเสิร์ฟ ยังไม่มีใครตักอาหาร เพราะท็อปบอกว่าให้รอก่อนและลุกหายเข้าไปส่วนอาคาร



      ฆีนขมวดคิ้วมุ่น เขาชักมีลางสังหรณ์แปลกๆแล้วสิ 



     ไม่นานนัก ท็อปเดินมาพร้อมพ่อแม่ของฆีน รวมถึงแม่ของท็อปด้วย



"ฆิต มีอะไรไม่บอกพี่" หันขวับดุน้องชายทันที สงสัยรวมหัวกันวางแผนแน่นอน ฟากฆิตนั่งยิ้มแหยๆ



     ไม่ทันได้ว่าต่อ ผู้ใหญ่ทั้งสามท่านก็ทิ้งตัวลงนั่งด้วยรอยยิ้มกว้าง



"ว่าไงเจ้าฆีน อึ้งล่ะสิ" มารดาคนเดิม เพิ่มเติมเป็นคนตลกก็เอ่ยแซวลูกชายคนโต จนคนอื่นๆกลั้นขำ



      ฆีนนั่งนิ่ง ชำเลืองมองคนรักที่ยิ้มกว้างจนตาหยี


      มันน่าจับตีก้นนัก ที่คนรักมาแกล้งกันแบบนี้



"ท็อปน่ารักนะเนี่ย พาแม่มาเปลี่ยนบรรยากาศชมวิวทะเล ลูกชายแม่น่ะเหรอ ไม่มีซะหรอกที่จะพามาที่แบบนี้"



      แขวะลูกชาย จนฆีนสังเกตได้ถึงความผิดแปลกไป


     แม่เอ่ยปากชมท็อปอย่างสนิทสนม นั่นหมายความว่า ท็อปต้องแอบวางแผน เข้าบ้านของฆีนไปหาแม่โดยไม่บอกกล่าวก่อนแน่ๆ เพราะการที่แม่จะคุยเล่นหรือหยอกล้อ คุ้นเคยแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะเจอท็อปเพียงแค่ครั้งเดียว ท็อปต้องแอบไปเจอแม่มากกว่าห้าครั้งแน่นอน ฆีนรู้นิสัยแม่ดี



      ไม่อยากคิดปะติดปะต่อเหตุการณ์อะไรให้ปวดหัวอีก เขาควรจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ในเมื่อบรรยากาศตอนนี้ช่างเต็มไปด้วยความอบอุ่น จนฆีนอดยิ้มออกมาไม่ได้



       กว่าสองชั่วโมงผ่านไปที่ทุกคนร่วมรับประทานอาหารกันอย่างอิ่มเอิบ หลังจากจัดการของคาวเสร็จสิ้น ก็ตบท้ายของหวาน ท่ามกลางความสุขที่มาพร้อมเสียงหัวเราะ ทำให้ทุกคนดูผ่อนคลายมากกว่าเดิม ฟากผู้ใหญ่สนทนาเรื่องมีสาระกันไป ส่วนพวกเด็กๆหน่อยก็หันมาจับกลุ่มคุยเรื่องบ้าบอ เฮฮากันตามประสา


 
       ครู่หนึ่ง ท็อปแอบมองหน้าทุกคนที่เจือความสุขก็แอบดีใจลึกๆ มันเป็นความรู้สึกที่เขาโหยหามานาน



       ความรู้สึกของการได้อยู่ท่ามกลางความรัก ความอบอุ่นที่ท็อปอยากได้มาตลอดมันได้เกิดขึ้นแล้วในวันนี้



       หยุดเชียวนะ ไอ้ท็อป จะร้องไห้ให้คนอื่นเห็นไม่ได้นะ



        เพราะความตื้นตันใจจะพาให้ท็อปน้ำตาซึม เด็กหนุ่มรีบขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ด้วยสาเหตุไม่อยากให้บรรยากาศเสีย
 
 
 
       เด็กหนุ่มหยุดยืนตรงหน้ากระจก เปิดก็อกน้ำ วักน้ำล้างหน้า จังหวะที่เงยขึ้นมามองกระจก ก็ตกใจเมื่อเหลือบเห็นคนข้างหลังเป็นพี่ฆีนที่มายืนตอนไหนก็ไม่รู้



"วางแผนหรือ?"



      ทุกอย่างเป็นใจขนาดนี้ จะบอกว่าไม่ใช่ก็คงดูออกว่าโกหก



" ท็อปอยากทำอะไรให้พี่ฆีนบ้าง เซอร์ไพรส์ไหมครับ?"
ท็อปยิ้มกว้าง ก้าวไปกุมมือพี่ฆีนที่ยืนเงียบ ก่อนที่เจ้าตัวจะเอ่ยเสียงสดใสขึ้นอีกครั้ง





"ท็อปขอร้องให้ทุกคนมาวันนี้ เพราะท็อปตั้งใจอยากให้เป็นเหมือนวันรวมญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายให้มาพร้อมหน้า พร้อมตากัน เป็นพยานว่าเรารักกันจริงๆ แต่ไอ้ครั้นจะให้บอกผู้ใหญ่ว่าท็อปจะจัดงานแต่งของสองเรา มาร่วมงานกันนะครับ พวกผู้ใหญ่ก็คงมองพิลึกน่าดู มันไม่มีทางเป็นไปได้

ที่สำคัญ พี่ฆีนก็มีหน้ามีตาในสังคม เฮ้อ! ถ้าถามใจท็อปนะ เอาจริงๆ ท็อปอยากชวนพี่ฆีนบินไปต่างประเทศด้วยซ้ำ ไปแต่งงานและจดทะเบียนกันที่นั่น ท็อปอยากได้ความรู้สึกที่มีคนมากมายส่งยิ้มและมองเราเดินจับมือกัน สวมแหวนให้กัน ท็อปว่ามันคงโร....แมน....ติก"




       น้ำเสียงมุ่งมั่นจริงใจ อธิบายมาเป็นฉากๆจนฆีนน้ำตาคลอ
 


       จะไม่ให้น้ำตาซึมได้อย่างไร คนที่เอาแต่หลบซ่อน ปิดบังตัวตนในอดีต ขลาดกลัวไปเสียทุกอย่าง ในวันนี้ คนๆเดียวกันนั้นกลับเป็นฝ่ายอยากเปิดเผยตัวเองอย่างไม่แคร์ใครหน้าไหน



       มันไม่ใช่การแต่งงานแบบผู้หญิง-ผู้ชาย แต่มันคือการแต่งงานแบบเพศเดียวกัน ซึ่ง นั่นมันหมายถึง ท็อปกล้าที่จะยอมรับตัวเองและเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับรู้
 
   

       ไม่ฟังให้จบ ฆีนดึงท็อปมากอดกระชับแน่น



"ท..ท็อป ไม่ต้องพูดแล้ว สำหรับพี่แค่นี้ก็มากพอแล้ว มันพอแล้วจริงๆครับ"




กึก!



     ที่ชะงัก ไม่ใช่ถ้อยคำจริงใจ แต่เพราะท็อปสัมผัสได้ถึงเสียงสั่นเครือและความเปียกชื้นบนบ่า



"พ...พี่ฆีน...ร้องไห้หรือครับ?"




      ท็อปพูดจบก็พยายามดันตัวเองออกเพราะอยากมองหน้าพี่ฆีน แต่ก็โดนอีกฝ่ายโอบรัดเอวแน่นไปอีก


   

"พี่ดีใจนะดีใจจริงๆ พี่รักท็อปนะครับ"



"ครับๆ ท็อปก็รักพี่ฆีน"



      สองคนกอดกันกลม แต่เพราะไม่ใช่เวลาหวานแหววใส่กัน เนื่องจากยังมีผู้ใหญ่ด้านนอกนั่งรับประทานอาหารอยู่ จึงตัดบทแล้วเดินออกไป



    เหมือนฝัน แต่มันเป็นจริง ฆีนเดินมองมือท็อปที่คว้ามือเขาไปจับไว้



      เนิ่นนานพอสมควรที่ทุกคนอิ่มอก อิ่มใจ ตลอดเวลาที่นั่งรับประทานและพูดคุยกันมา ไม่มีใครแสดงท่าทางรังเกียจที่ทั้งสองคบกันเลย ส่วนใหญ่จะกลายเป็นแซวถึงความรักทั้งคู่เสียมากกว่า



       ยอมเดินทางตามคำขอร้องอ้อนวอนของเด็กหนุ่ม ก็แอบเหนื่อยกันนิดหน่อย พวกผู้ใหญ่จึงขอตัวเข้าห้องพักผ่อน




       เมื่อทุกคนแยกย้ายเข้าห้องพัก จึงเหลือเพียงสองพี่น้อง ก่อนไป ฆิตแอบย่องมาบอกความลับพี่ชาย



"พี่ฆีน ผมมีอะไรจะเล่า แต่ห้ามไปบอกท็อปนะ วันนั้นผมอยู่ในเหตุการณ์พอดี ตอนท็อปมาขอร้องพ่อแม่เราน่ะ พี่รู้ไหม? ผมขนลุกเลย ตอนที่ท็อปนั่งแผ่กระดาษ แจงรายละเอียดที่น้องมันเขียนขึ้นมาอธิบายทุกอย่าง ที่สำคัญ น้องโคตรน่าสงสาร ตอนยกมือไหว้อ้อนวอน กราบเท้าแม่และพ่อให้ช่วยมางานหน่อย บอกตั้งใจเซอร์ไพร์สพี่ อยากเห็นพี่มีความสุข แต่ติดตรงที่ว่า น้องมีเงินจ่ายแค่ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ไม่มีเงินจ่ายค่าห้องพักเลยจะรบกวนพ่อแม่แค่มาร่วมงานแล้วให้กลับคืนนั้นเลย เพราะพี่ก็รู้นี่ว่าห้องพักที่มีวิวดีแบบนี้ หลายห้องรวมๆกันราคาก็เหยียบแสน แม่เราก็เห็นความพยายามมุ่งมั่นและตั้งใจจริงของท็อปก็เลยใจอ่อนมา โดยอาสาที่จะออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ตอนแรกน้องมันค้านหัวชนฝาเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะเกรงใจ แต่แม่เราก็ขี้แกล้งอยู่แล้วไงเลยแซวท็อปไปว่า เป็นค่าทำขวัญที่พี่ฆีนทำน้องเสียหาย ท็อปนั่งเหวอไปเลย ผมล่ะขำแม่จริงๆ"



       เหลือบเห็นใบหน้าพี่ชายที่ดูนิ่งอึ้งไปพอสมควร ฆิตตบไหล่พี่ชายปุๆ แล้วย้ำประโยคสุดท้ายที่ฆิตใช้มุมมองจากคนนอก



"พี่ฆีน ผมไม่รู้อดีตหรอกนะ แต่จากที่ผมดูตอนนี้ ท็อปมันรักพี่มากจริงๆว่ะ"




      ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งเห็นถึงความพยายามของคนรัก ดั่งสายน้ำชะโลมจิตใจให้ชุ่มฉ่ำ ชายหนุ่มหัวใจฟูฟ่องพองโตอย่างมีความสุขขึ้นมาทันที



"ขอบใจนะฆิต"

   
 
 
     สองพี่น้องส่งยิ้มให้กันก่อนลา จากนั้น ฆีนรีบเร่งฝีเท้าไปหาคนที่ตั้งใจทำวันนี้ให้เป็นวันดีของเราสอง เขาไม่คิดเลยว่าท็อปจะทุ่มทุนแรงกาย แรงใจขนาดนี้



      เข้าห้องได้รีบปิดประตู กวาดตามองหาคนรัก จนสายตามาหยุดอยู่ที่สระว่ายน้ำส่วนตัวที่มีเด็กหนุ่มนอนแช่น้ำชมวิวทะเลมุมสูงอย่างเพลิดเพลินใจ ฆีนยืนพิงกรอบประตูมองอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเดินลงน้ำ ก้าวไปหาเด็กหนุ่ม



"ขอบคุณนะครับ พี่มีความสุขมากจริงๆ" ประชิดตัวเด็กหนุ่มพร้อมจูบขมับเอาใจคนรัก



       ท็อปเอี้ยวตัวมองพลางยิ้มหวาน



"พี่ฆีนมีความสุข ท็อปก็ดีใจ ท็อปรักพี่ฆีนนะ รักท็อปมากๆด้วยล่ะ"



       ส่งสายตาออดอ้อนเสร็จก็หันหน้ามาซุกซอกคอ มิวายลากจมูกคลอเคลียจนฆีนขนลุกทั่วร่าง



       เขาต้องจับไหล่สองข้างของเด็กหนุ่มให้หยุดก่อน เพราะถ้าขืนท็อปทำต่อ ฆีนจะไม่ได้พูดความรู้สึกในใจออกไป จะกลายเป็นจับท็อปมาฟัดนัวเนียกลางสระว่ายน้ำเพราะทนไม่ไหวนี่แหละ



"ท็อปครับ อนาคตเป็นอย่างไรพี่ไม่รู้ แต่พี่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะรักและมีความสุขกับท็อปให้มากที่สุดนะครับ คนดีของพี่"



"น่ารัก"




"หืมม! คำว่าน่ารักต้องใช้กับท็อป ไม่ใช่ใช้กับพี่"
ดุไปที ใช้คำว่าน่ารักกับฆีน เจ้าตัวถึงกับทำหน้าแหยง



    จังหวะนั้นเอง...



   ตึ่ง ตึ้ง



      เสียงโทรศัพท์ดังขัดขึ้น ทำให้ท็อปรีบหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่วางริมสระมาเช็ดไม้ เช็ดมือ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู



"พี่ฆีน ดูนี่สิ พี่ดล พี่กั๊กมาเขียนแซวรูปคู่ที่ท็อปลงด้วย"



 
      ฆีนเดินไปหาคนรักพลางกดสายตาลงต่ำมองหน้าจอโทรศัพท์ กับข้อความแซวที่พี่ๆน้องๆที่ทำงานเก่าเข้ามาแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นหวานจนมดขึ้นบ้างล่ะ อิจฉาบ้างล่ะ คิดถึงทั้งสองให้มานัดรวมตัวสังสรรค์กันบ้างล่ะ



     ข้อความเหล่านั้น ทำให้ทั้งคู่ตื้นตันใจที่อย่างน้อยก็ยังมีคนใจกว้างกับเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน



      ลอบมองคนยิ้มแก้มปริ ก็สวมกอดท็อปจากด้านหลังพลางจูบซับหลังต้นคอเบาๆ ก่อนจะวางหน้าซบลงบนบ่าของคนรัก



      กว่าจะผ่านอุปสรรคมามากมายได้จนถึงตอนนี้ ฆีนบอกเลยว่ามันคุ้มค่ามากๆ



      ใบหน้าหล่อ จุดรอยยิ้มกว้างอย่างเก็บไว้ไม่อยู่




       ฆีนไม่รู้จะอธิบายเป็นรูปธรรมได้อย่างไรถึงความรู้สึกที่เป็นอยู่ รู้แค่ว่ามันมีความสุขจนล้นอกอย่างบอกไม่ถูก


 
       หรือความรู้สึกแบบนี้ใช่ไหม? ที่เขาเรียกว่า
...แฮปปี้ เอนดิ้ง...
   





.........Happy Ending........




จบแล้วววว ...คงคิดถึงตัวละครของเรื่องนี้น่าดู และคงคิดถึงคนอ่านขาประจำและขาจร คิดถึงคนคอมเมนท์ที่มาแสดงความคิดเห็นกันไม่เคยขาด  คุณรู้ไหมว่าพวกคุณคือกำลังใจของคนเขียนตัวเล็กๆคนนี้มากๆเลยล่ะ


กว่าจะเขียนเรื่องนี้จบ ชีวิตจริงก็อย่างกับในนิยายเลย สมหวังผิดหวัง มาจนท้อและนอยบ้างตามกาลเวลา 5555555


ขอบคุณมากๆค่ะ ที่อยู่ด้วยกันมาจนจบ เราจะพัฒนาการเขียนให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ชอบไม่ชอบก็บอกกันได้นะ
หวังใจว่า จะมีนักอ่านประจำที่ชื่นชอบสไตล์การเขียนของเรานะคะ



ขอบคุณจริงๆ
riny riny
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 12-07-2017 23:18:46
สนุกมากเลยครับ มีทั้งรอยยิ้ม มีทั้งคราบน้ำตา. ขอบคุณคนแต่งมากนะครับ.

เป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปครับ,,,
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 13-07-2017 00:04:30
 

 :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:  :pig4:

 .......

.....
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 13-07-2017 00:11:19
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-07-2017 00:30:54
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-07-2017 12:06:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-07-2017 22:07:31
จบแล้ว
แฮปปี้จริงๆๆๆ
ครบทุกรส คิดถึงน่าดูเลย ว่างๆๆๆส่งตอนพิเศษมาบ้างน่ะ
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 17-07-2017 23:01:17
เป็นอีกเรื่องที่สนุกมากๆๆ
ช่วงแรกไม่ชอบท๊อปเลย หยาบคาย ก้าวร้าว
แต่ก็อยากรู้ว่าพี่ฆีนจะทนถึงจุดไหน
แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งสนุกขึ้นเรื่อยๆ
ช่วงท๊อปทำพี่ฆีนเสียใจ เราก็อินมาก

ขอบคุณคนเขียนมากครับ
เรื่องนี้สนุกมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 23-07-2017 01:38:17
อยากอ่านตอนพิเศษจังเลยค่าาา

ลงให้อ่านจั๊กน่อยแน้ ~
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 30-10-2017 12:57:05
มันมากลุ้นท็อปสุดๆ แต่ลุ้นกว่าคือฆิตกราฟว่ะ. ประตูหลังพี่ฆิต เกือบแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 26-11-2017 09:08:33
ขอบคุณมากๆสำหรับเรื่องดีๆแต่อยากรู้บทสรุปของพ่อฆิตว่าจะยอมรับได้ไหมและฆิตจะโดนกราฟกดไหม แล้วก็คู่ของพีทในอนาคต คือมีความโลภมาก เพราะสนุกมาก ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะคนเขียน
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 29-11-2017 02:28:17
ชอบและสงสารท็อปมากเลยค่ะ พี่แทนมีบทนิดเดียวแต่เรากลับรู้สึกชอบพี่แทนจัง
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 11-04-2018 10:13:40
เขียนได้สนุกมาก เรื่องสนุกดี แต่แอบเบะปากให้กับชื่อพระเอกและพระรองนิดหน่อย คีนก็คีน คิดก็คิด จะฆีนจะฆีดอย่างงี้ทำไมกัน

 :katai5: :katai5: :katai5:

หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 18-07-2018 07:28:21
อ่านจยแย้ววว ขอบคุณค่า  :bye2: o13
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 19-07-2018 13:08:30
 สนุกดีค่ะ  มีกลิ่นอายเหมือนเรื่องเล่าสมัยสิบกว่าปีก่อน
ชอบฆีน ฆิต กราฟ ส่วนท็อปตอนแรกไม่ค่อยชอบ ตอนหลังค่อยเข้าใจว่ามีปม

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ^^
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 19-07-2018 15:14:51
 o22 มันก็จะอึนๆ หน่วงๆ หน่อย
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: TuEyyy ที่ 03-01-2019 21:32:12
แฮปปี้ ดีใจด้วยนะคะ ขอบคุณน๊าาา  :mew1: :katai5: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 07-01-2019 07:09:25
 :mew2: :mew1:
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 10-01-2019 01:30:21
จบแบบแฮปปี้ อบอุ่น
แต่บอกตามตรงไม่ชอบนิสัยเลย
ไม่ชอบเอามากๆ ไม่ไหว
แต่เราชอบกราฟมาก
หัวข้อ: Re: ..*ขอผมได้รัก*..{ตอน 26.3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด}..|จบแล้ว|.. [12ก.ค.60 ] > P.9
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 17-05-2021 20:34:45
หลากหลายรสชาติมากครับ  แต่มีความสุขดี ชอบบครับบ