เธอมีชู้
บทที่ 11
ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา น้ำตาก็ไหลรินเป็นสายอาบแก้มที่เริ่มบวมจากกำปั้นของแมท ผมยกแขนขึ้นบดบังดวงตาช้ำๆ ของตนเองเอาไว้ ภาพพวกนั้นยังหลอกหลอนผมอยู่อย่างหนักหน่วง ผมควรทำใจกับเรื่องนี้ยังไงดี ผมไม่ได้อยากให้มันกลายเป็นอย่างนี้เลย แล้วทำไมละ...ทำไมมันถึงกลายเป็นอย่างนี้ได้ เราสองคนรักกันไม่ใช่หรอ แต่ทำไมต้องจบกันแบบนี้ด้วย
“ไอบอม...”
“เต้ กล้า กู...ฮื่อๆ” ผมยันตัวคว้าไอ้กล้าที่ใกล้สุดเข้ามากอด กล้ากอดตอบ เต้ลูบหลังผมเบาๆ เป็นการปลอบแม้จะยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ตาม
“เล่าให้พวกกูฟังไหวไหมวะ” เสียงเต้ถาม
“กูตั้งใจจะกลับไปเซอร์ไพรส์แมท ฮึก...กูคิดว่ามันต้องดีใจมากแน่ๆ ที่กูกลับมาก่อนเวลา ตลอดการเข้าค่ายสองวันมึงก็รู้ว่าไม่ได้ติดต่อกับมันเลย กู...คิดว่ามันต้องติดถึงกูมากๆ เหมือนที่กูรู้สึก แต่ไม่เลยมึง ฮื่อ...ไม่เป็นอย่างนั้นเลย ฮึก มัน...มันพาคนอื่นมานอนที่ห้อง ตะตอนที่ฮึกกูกลับไป กูเจอมันสองคนเอากัน!” ผมเล่าไปร้องไห้ไป ทุกอย่างในวันนี้หนักหน่วงเหลือเกิน
“เอ่อ...” เต้ถึงกับพูดไม่ออก เรื่องของผมเพิ่งผ่านไปเอง
“กูไม่อยากจะเชื่อ...” กล้ากอดผมแน่นขึ้น
“กูก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกัน...” แล้วผมก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนักหน่วง
เหมือนใจจะขาดจริงๆ ยิงร้องไห้ก็ยิ่งทรมาน ราวกับน้ำตาร้อนดั่งน้ำเดือดที่รินรดอาบดวงตาและแก้มเนียน ผมสะอึกสะอื้นจนเหมือนจะขาดใจตาย มันเจ็บไปหมดเลย แค่หายวจมันก็ยังเจ๋บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
“ทั้งที่มันดูออกจะรักมึงมากขนาดนี้ แล้วทำไมมันถึงทำแบบนี้ได้วะ” กล้าพูดอย่างหัวเสีย
“เพราะมึงนอกใจมันก่อนเปล่า”
“ถ้ารักไอบอมจริงก็ต้องไม่เอาคืนด้วยวิธีนี้ดิวะ ก่อนหน้านี้ที่จับได้ว่าไอ้บอมนอนกับผู้หญิงคนอื่นมันก็ทำร้ายจิตใจบอมไปเยอะเหมือนกันนะเว้ย แค่นั้นก็น่าจะพอ แบบนี้กูว่าไม่ใช่ละวะ มันน่าจะเป็นสันดานของมันมากกว่า ดีไม่ดีมันอาจคบซ้อนตั้งนานแล้ว แล้วที่มาทำเป็นหวงไอบอมก็เพราะกลบเกลื่อนไม่ให้บอมสงสัยที่มันมีคนอื่น” กล้าร่ายความคิดของตัวเองออกมายาวเหยียด ผมก็เห็นด้วยกับสิ่งที่มันบอก มันต้องมีอะไรมามากกว่านั้นไม่งั้นมันไม่ออกโรงปกป้องดิวขนาดนั้นหรอก
“แล้วมันไม่ง้อมึงเลยหรอวะ” ผมส่ายหัวให้กับถามเต้
“มันปกป้องไอ้เหี้ยนั่น...ทั้งที่กูยืนร้องไห้ใจจะขาดอยู่ตรงหน้ามัน มันยังกอดไอ้เหี้ยนั่นอยู่เลย!” นึกถึงภาพนั้นแล้วเหมือนใจจะขาด ภาพที่พวกเขาสองคนกอดกันด้วยควารัก
กูละ...มึงเอากูไปไว้ที่ไหน ในหัวใจของมึงเคยมีกูอยู่ในนั้นไหมหรือว่าไม่เคยมีกูอยู่มาตั้งแต่แรก คบกูเพราะอะไรกันแน่ ความพยายามที่จะชนะใจกูเมื่อครั้งอดีคิอภาพลวงตาที่มึงสร้างมาให้กูเชื่ออย่างนั้นสินะ มึงก็แค่ต้องการร่างกายกู ไม่ได้รักกูในแบบที่กูเป็นเลยสักนิด
“กูจะไปคุยกับเอง”
“ไม่เต้...ไม่ต้อง ให้มันจบกันไปทั้งแบบนี้แหละ” ผมพยายามปาดน้ำตาออกจากหน้า เสื้อของกล้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำจนแทบชุ่ม
“มึงจะยอมง่ายๆ แค่นี้หรอ มันไม่สมเป็นมึงเลยนะบอม” กล้าบอก
“กูก็เคยคิดว่ากูจะไม่มีทางยอม แต่ถ้ามึงได้เห็นสายตาห่วงใยที่มันมีให้กับเด็กนั่นมึงจะเข้าใจว่ากูรู้สึกยังไง มันไม่ได้รักกูเลย...ไม่มีรักให้กูสักนิดแล้วกูจะกลับเข้าไปยื้อมันเอาไว้ทำไม ฮึก...มันไม่ยอมบอกว่ารักเด็กนั่นไหม แต่ก็ไม่ปฏิเสธอะไรเลย มันเหมือนต้องการเก็บเด็กนั่นไว้ทั้งที่กูคือแฟนมัน กูเจ็บ...กูโคตรเจ็บเลยมึง” น้ำตาพาลไหลออกมาอีกจนได้ ทั้งที่พยายามจะกลั้นเอาไว้ พยายามจะไม่ร้องไห้อีก แต่มันทำไม่ได้เลย
“อืม...” กล้าเข้ามากอดผมเอาไว้อีก เต้ก็ลูบหลัง แค่นี้ที่พวกมันทำให้ผมได้ในตอนนี้
ไม่มีใครสามารถบรรเทาความเจ็บปวดทางใจให้กับผมได้เลย ต่อให้แมทมันจะกลับมาหา กลับมาอธิบายคำโกหกเหี้ยๆ ให้ผมฟัง มันก็ไม่อาจลบเลือนภาพที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้ ผมไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ เคยได้ยินแต่คนอื่นเขาพูดถึงกัน ผมฟัง ผมอ่านผ่านไม่สนใจ ไม่เคยเข้าหัวจนกระทั่งได้เจอกับตัวเองจริงๆ ผมถึงรู้ว่ามันทรมานแค่ไหน
คนพวกนั้นผ่านมันมาได้ยังไงกันนะ...
ผลการร้องไห้เป็นเวลานานมักส่งผลเสียต่อร่างกาย ผมปวดหัวอย่างรุนแรง แถมยังมองภาพอะไรไม่ชัดอีกเลย หัวมันหมุนติ้วไปหมด คลื่นไส้ อยากจะอ้วก แต่ก็ยังคงร้องไห้ต่อไป ไม่ว่าเต้กับกล้าจะพยายามพูดให้ผมหยุดร้อง แต่ผมก็ทำไมได้นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ผมร้องไห้หนักมากมายขนาดนี้
แมท...มึงจะภูมิใจที่ทำให้กูเป็นได้ขนาดนี้
แมท...มึงจะสะใจหรือเปล่าที่กูเจ็บเจียนตายขนาดนี้เพราะมึง
ไม่สิ...มันคงไม่รู้สึกอะไรเลยมากกว่า ก็มันรักคนนั้น มันจะมาสนใจใยดีผมทำไม ผมจะเป็นจะตายมีค่าอะไรกับมันละจริงไหม คนที่น่าเป็นห่วงคือดิวเท่านั้นแหละสำหรับมัน ดีไม่ดีมันอาจจะโกรธเกลียดผมไปแล้วก็ได้ที่ทำให้คนรักของมันต้องเจ็บช้ำขนาดนั้น
หึ! คิดแล้วก็แค้น ผมน่าจะฆ่ามันให้ตายๆ ไปเลย ในเมื่อทำผมเจ็บผมก็อยากให้มันเจ็บปวดแบบที่ผมได้รับเช่นกัน และถ้ามันไม่กอดดิวเอาไว้ ไม่มอบสายตาห่วงหาอาทรให้กันขนาดนั้นผมก็คงกระทืบดิวจนตายไปจริงๆ อย่างที่ใจต้องการแล้ว แต่การการะทำของแมทมันเหมือนอาวุทที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุดที่ทำให้ผมทรุด พ่ายแพ้ย่อยยับจนยากจะกลับมายืนหยัดได้อีก
“เต้...”
“ว่าไงมึง”
“กูอยากกินเหล้า” เต้กับกล้ามองหน้ากัน เป็นกล้าที่พยักหน้าให้ก่อนเต้จะระบายยิ้มให้กับผม
“ได้ดิ แต่มึงต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ ไม่เข้าใจว่าไปทำอะไรมา ทำไมมอมขนาดนี้”
“กูตกบันไดน่ะ” เต้กับกล้าตาโต
“มึงตกบันได! มันผลักมึงหรอ หรือว่าไง!” กล้าขึ้นเสียงซักไซร้
“เปล่า กูวิ่งลงมาแล้วขามันอ่อน...” สีหน้าของเพื่อนทั้งสองอ่อนลง
“เจ็บมากไหมมึง” เต้ถาม
“ไม่เท่ากับใจกูหรอก” พูดจบน้ำตาก็ร่วงหล่นลงมาอีกครั้งทั้งที่มันหยุดไปแล้วเมื่อกี้นี้
“หยุดร้องแล้วไปอาบน้ำซะ จะได้ไปแดกเหล้ากันนะมึง” กล้าเปลี่ยนเรื่อง ผมพยักหน้าให้มันสองคนแล้วลุกไปทางห้องน้ำ
เต้เอาชุดของมันมาให้ใช้ก่อน ซึ่งผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆ ดีที่มีเพื่อนดีๆ แบบนี้ไว้ข้างกาย ไม่งั้นผมคงไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปที่ไหน ไปขอความช่วยเหลือจากใครดี นอกจากแมทและเพื่อนทีไม่ค่อยสนิทที่คณะ ผมก็มีแค่พวกผู้หญิงที่คบไม่จริงจัง จะไปขอร้องใครก็คงไม่ดีทั้งนั้น กล้าอยู่ในห้องรอผมอาบน้ำ ส่วนเต้ออกไปซื้อของมาสำหรับกิน นั่นน่าจะมีทั้งเหล้าและกับแกล้ม
RrrrRrrr!
ผมมองกล้าที่ถือโทรศัพท์ของผม มันหันหน้าจอมาให้ดูก็พบรูปของแมทยิ้มหวานน่ารักมาให้ รูปนี้ผมเป็นคนถ่ายเองกับมือ เป็นตอนที่เราเอ็นติดแล้ว มันมาขอให้ผมไปอยู่กับมันที่คอนโดและผมก็ตกลงเพราะอยากอยู่กับมันเหมือนกัน แม้จะขาดอิสระไปบ้างแต่การได้ใช้ชีวิตกับคนที่เรารักนั้นเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ต้องการทั้งนั้น แมทยิ้มกว้างและมันบอกว่าดีใจที่สุดเลย ผมเลยถ่ายรูปใบหน้านั้น เก็บไว้เป็นทีระลึกถึงความสุขที่เราสองคนจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน
แต่มัน...เป็นอดีตไปแล้วละ
“อย่ารับนะกล้า” น้ำตารื้นขึ้นมาอีก ผมอุตส่าห์รีบอาบน้ำเพราะจะได้ไม่ดราม่าอยู่ในนั้นนาน เห็นกล้ารออยู่ด้วย ผมเองก็ไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองคนของผมต้องเป็นห่วงผมมากนัก ผมเข้าใจดีว่าการที่ที่เรารักนั้นกำลังเศร้าน่ะมันมอบความรู้สึกอย่างไรให้
“ไม่คิดจะคิดจะคุยเลยใช่ไหม” มันถาม
“กูควรคุยอะไร ฟังคำขอโทษจากมันหรอ...ให้มันเอาคำโกหกตอแหลมาใช้กับกูหลังจากที่มันปลอบโยนไอ้เด็กนั่นจนเขื่องไปแล้วใช่ไหม กูไม่เอาหอก กูกลัว...กูไม่อยากเจ็บแบบนี้ซ้ำสองอีกแล้ว แค่ตอนนี้กูยังเอาตัวเองไม่รอดเลย อยากจะตายๆ ไปด้วยซ้ำถ้าหากมันทำกับกูอีก กูคงไม่ลังเลที่จะปาดคอตัวเอง” ผมพยายามยิ้มที่น้ำตาไหลอาบหน้า อยากให้คำพูดฟังดูเหมือนเรื่องตลก ไม่ใช่มอบความเศร้าสร้อยให้กับเพื่อนอย่างนี้
กล้าวางมือถือผมไว้บนเตียงไอเต้แล้วเดินเข้ามารวบผมเข้าไปกอด มืออุ่นๆ ลูบไล้แผ่นหลัง ผมกอดตอบและบอกขอบคุณจากใจ กล้าแค่ยิ้มให้แล้วพาผมออกไปนั่งเที่ห้องนั่งเล่นรอเต้โดยที่ยังถือมือถือผมออกมาด้วย ไม่รู้หรอกว่ามันจะเอามาทำอะไร แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อน จึงปล่อยไปทั้งอย่างนั้น
ผมกับกล้านั่งเวียบรอเต้กลับมา มันหอบของพะรุงพะรังเข้ามาในห้อง กล้ารีบเข้าไปข่วยถือและจัดแจงเตรียมของให้พร้อม ในขณะที่ผมทำได้แค่นั่งเหม่อมองอย่าวไรจุดหมาย สายตาไม่ได้โฟกัสสิ่งใดเลยนอกจากภาพในความทรงจำอันเลวร้าย บอกตัวเองให้เลิกทำแบบนี้แต่สุดท้ายผมก็ยังคงวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์นี้อยู่ดี ผมถึงคิดอิจฉาคนที่ผ่านเรื่องนี้ไปได้ พวกเขาทำยังไง แนะนำผมบ้าง...ช่วยผมที
ผมทรมานเหลือเกิน...
“แมทโทรมาหรอวะ” เต้ถาม
“เออ โทรมาตั้งแต่มึงลงไปได้สักพักอะแหละ แต่บอมไม่ให้รับ” กล้าอธิบาย
“แต่กูอยากรับสาย” เต้ยอก ผมเหม่อแต่ผมได้ยิน ผมหันไปมองเต้ช้าๆ ยิ้มให้มันบางๆ
“เต้...”
“ว่า?”
“กูขออยู่กับมึงได้ไหมวะ แค่ขั่วคราว เดี๋ยวกูหาห้องใหม่ได้เมื่อไหร่กูจะย้ายออกทันทีเลย” ผมดึงเต้เปบี่ยนเรื่อง อยากให้มันเมินสายเรียกเข้าที่ทำเอาเครื่องร้อนนั้นซะ
“ได้ดิ จะอยู่กับกูตลอดไปยังได้เลย ยังไงซะมึงก็เพื่อนกู ไม่ต้องเกรงใจหรอก ดีซะอีก กูจะได้มีเพื่อนนอนด้วย” เต้ยิ้มก่อนส่งแก้วเหล้าที่ชงเรียบร้อยมาให้ผม
“ขอบใจมากนะมึง ไม่ได้พวกมึงกูคงแย่”
“คิดมาก ถึงพวกกูจะปากหมาแต่พวกกูไม่ทิ้งเพื่อนหรอก มึงอะต้องสู้นะ ระดับท่านบอมแล้ว เรื่องแค่นี้สะเทือนไม่นานหรอก สาวๆ รอดามใจมึงเพียบ คิดง่ายๆ ก็ได้ว่าจะได้กลับไปทำตามบรรขาพระเจ้าไงมึง หน้าที่สืบพันธุ์ของมึงอะ” คำพูดของกล้าจุดรอยยิ้มให้กับผม สมเป็นมัน กวนตีนจริงๆ
“แหม่ พูดซะกูอยากทำเดี๋ยวนี้เลย” กล้ากับเต้หัวเราะเบาๆ แล้วเราก็ชนแก้วกัน
ผมหัวเราะกับเพื่อนได้ไม่นานเท่าไหร่ รวามเงียบมันโรยตัวลามาจากไหนไม่รู้ ปกคลุมตัวผมเต็มไปหมด ตอนนี้ผมไม่เห็นใครอยู่ในสายตาสักคน นอกจากภาพที่แมทกอดดิวเอาไว้ในอ้อมแขน สายตาห่วงหาอาทร นั้นเป็นเหมือนมีดทิ่มแทงใจ ทั้งที่ผมไม่เหลืออะไรแล้วแต่ก็ยังเจ็บบปวดอยู่ดี
คนเราจะแบกรับความเจ็บปวดได้มากน้อยขนาดไหนกันนะ...
ผมสงสัย ถ้าผมยังสลัดเรื่องของแมทออกไปไม่ได้ ผมจะเป็นยังไงต่อไป ต้องเจ็บอย่างนี้ไปเรื่อยๆมเลยหรือเปล่า แล้วมันจะหายไหม หรือทำยังไงให้มันหายไป หัวใจคนเรามันสามารถยับเยินได้กี่หน หากภาพพวกนั้นนั้นมันทำร้ายซ้ำๆ อยู่แบบนี้ ผมจะทนได้ไหม... เท่าที่รู้อยู่ในตอนนี้คือผมไม่สามารถทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้และรู้สึกเจ็บจนอยากจะตายๆ ไปให้พ้น
ผมดูยึดติดกับความรัก แต่อย่างที่รู้...ผมมีคนอื่นจริงผมไม่ปฏิเสธในความผิดข้อนี้ของตัวเอง แต่คนที่ผมรักมากที่สุดก็คือแมท ผมอาจผิดที่ริดว่ามันจะไม่มีทางทำแบบนี้กับผมได้ลงคอ ยังเชื่อด้วยว่ามันจะเข้าใจเรื่องผู้หญิงของผมดี มันอาจโกรธ แต่คงไม่ถึงขั้นเลิกรา เพราะมั่นใจแบบนั้นไง ผมถึงเป็นแบบนี้เรื่อยมา แล้วไง...สุดท้ายความคิดของผมมันก็เป็นเพียงเรื่องโง่ๆ
RrrrrRrrr!
เมื่อความเงียบเข้าครอบงำพวกเรา เสียงมือถือที่เคยถูกเมินไปก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นมา ผมไม่สน ไม่หันไปมอง แต่ก็ไม่เห็นว่าเต้ได้หยิบมันขึ้นมามองเสียแล้ว มันทำในสิ่งที่ผมไม่อยากให้ทำ นั่นคือรับสายแมท...
“โหล” ผมเงยหน้าช้าๆ มองเต้ที่ถือมือถือไว้ตรงกลางวง
(เสียงใครวะ บอมอยู่ไหน!) คนในปลายสายตะคอกถาม
“กูเต้” เต้ตอบแค่นั้น
(ไอบอมอยู่กับมึงใช่ไหม ให้มัมารับสายกูที) มันสองคนหันมาจ้องผมเป็นตาเดียวทันที สิ่งที่มันพบก็มีแต่น้ำตาเท่านั้น...ผมอ่อนแอเกินไป ส่ายหน้าสะบัดไม่ยอมจะคุยอะไรกับแมท
“มึงจะคุยอะไรวะ คุยกับกูก็ได้...” เสียงของเต้ราบเรียบ สีหน้าบึ้งตึง กล้ายกแก้วเหล้าตัวเองมานั่งข้างผม กอดไหล่ผมเอาไว้ ผมเลยหันไปซบบ่าบอบบางนั้น
(ไม่ กูจะคุยกับบอม เรียกมันมาคุยกับกู) แมทไม่ยอม มันขึ้นเสียงใส่เต้
“แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่ให้คุยละ ไอ้สัส...ทำมาเป็นขึ้นเสียงใส่กู ทำเหี้ยไรกับเพื่อนกูไว้ก็หัดสำนึกบ้างนะ!!!” พออีกฝ่ายร้อนใส่ เต้ก็ขึ้นทันที ผมหันไปมอง สีหน้าเต้ดูโกรธเกรี้ยว มือกำแก้วจนน่ากลัวว่ามันจะแตกคามือแกร่ง
(ก็กูจะเคลียกัยมันอยู่นี่ไง ให้มันมาเคลียกับกู) แมทไม่ยอม
“ไม่มีเหี้ยไรต้องเคลียทั้งนั้นแหละไอ้สัส”
(มีดิ! ถ้ามันจะเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวตัดสิน กูก็อยากให้มันคิดถึงตอนที่มันทำกับกูบ้าง!) เหี้ย เอาเรื่องนี้มาย้อนกู...
ผมแทบกระอักน้ำตาออกมา ต้องปิดปากเอาไว้กลั้นเสียงสะอื้นที่อาจจะเล็ดลอดออกไปให้อีกคนมันได้ยิน ใช่ผมมันคนมีประวัติ ผมมันทำเลวใส่แมทมาก่อน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องแบบนี้กับผมนี่ ผมสำนึกผิดแล้ว มันเองก็ดูให้อภัยผมแล้วไม่ใช่หรอ
“อ่อ เอาเรื่องนี้ขึ้นมาซ้ำเติมมันเชียวหรอ มึงมันหน้าด้านแมท บอมมันเหี้ยกูรู้ แต่มันก็ไม่เคยปกป้องคนอื่น มันรักมึง มันยอมมึง มึงน่าจะรู้ดีที่สุด อย่าให้คนนอกอย่างกูต้องมาสั่งสอนหน่อยเลย” เต้เดือดจนถึงขั้นวางแก้วกระแทกโต๊ะดังสนั่น
(งั้นคนนอกอย่างมึงก็หุบปากไปสัส!) แมทเริ่มหัวเสียหนักพอกัน มันไม่ค่อยพูดจาหยาบคาย แต่ตอนนี้มันคงเดือดไม่น้อย
“ได้...บอมพูดกับมันสิ” เต้ยื่นมือถือมาตรงหน้าผม
แต่...ผมกดตัดสายทิ้งด้วยเรียวนิ้วสั่นๆ ของตัวเอง เพียงแป็บเดียวที่มันตัด แมทก็โทรเข้ามาอีกครั้งด้วยความไว ผมก็กดตัดสายไปอยู่ดี เต้ดึงมือถือไปปิดเครื่องให้ เอาไปวางที่อื่นปล่อยให้ผมได้ร้องไห้
ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกเลย ทุกอย่างมันเงียบจนได้ยินเสียงน้ำตาตกกระทบพื้น ผมก้มหน้าก้มตาร้องอย่างกับคนบ้า เกิดมาในชีวิตไม่เคยเป็นขนาดนี้เลย นี่ครั้งแรก และผมให้มันเป็นครั้งเดียว
ไม่อยากคิดเรื่องจะมีรอบสองหรอก เพราะครั้งนี้ผมจะผ่านมันไปได้ไหมผมก็ไม่รู้ ยังไม่เห็นหนทางที่จะทำใจจากเรื่องที่เกิดขึ้นได้เลย ทรมานหัวใจจนอยากควักมันออกมาแล้วปาทิ้งใส่ถังขยะ ความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในอกนี้จะได้ปลิวหายไปพร้อมกับเศษซากของก้อนเนื้อนั้น ถ้าทำให้ผมความสุข
“กูผิดอะไร...” คำถามในหัวหลุดออกมาทางปากที่สั่นระริก น่ำตามากมายทะลักเข้ามาให้รับรู้รสชาติแห่งความเจ็บปวด
“กูผิดอะไรวะ...” มันไม่มีทาวได้รับคำตอบ เต้กับกล้าไม่อาจตอบคำถามข้อนี้ของผมได้ เหมือนกับที่ผมเองก็ไม่สามารถตอบคำถามนี้เช่นกัน
ผมเจ้าขู้...ผมยอมรับ แล้วต้องทำขนาดนี้กับผมเชียวหรือ เอามีดมาแทงกันง่ายกว่าไหมถ้าต้องการทำร้ายกันจริงๆ ทำแบบนี้ทำไม ทำกับผมขนาดนี้ได้ยังไง เชมันจะรู้ไหมว่าผมทรมานขนาดไหน ผมร้องไห้จะเป็นจะตายต่อหน้ามันมันยังไม่แคร์ผมเลยสักนิดเดียว แต่กลับไปสนใจไอ้เหี้ยนั่น สนใจแต่มัน ทำกันต่อนห้าต่อตาผมเมหือนต้องการฆ่ากันให้ตายไปเลย ถ้าผมหมดลมหายใจตรงนั้นมันคงจะดีใจมากเลยสินะ
“ฮื่อๆ กูผิดอะไรละ....ฮื่อๆ ทำกับกูฮึ้กแบบนี้ได้ยังไงละแมท” สองมือกุมใบหน้าของตัวเอง แต่ความเสียใจสั่งการให้นิ้วงอเข้าหาผิวหน้าที่อ่อนนุ่ม กดจิกมันเข้าไปราวกับจะทึ้งมันออกมา มันเจ็บนะ...แต่ไม่อะไรเจ็บเท่ากับภาพในหัวผมอีกแล้ว
มีต่อจ้า