<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 15 [5/1/2560] ---END---  (อ่าน 73158 ครั้ง)

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #60 เมื่อ28-12-2016 07:50:12 »

หึหึ เลวเจอร้าย ร้ายเจอเลว เข้ากันเข้ากั๊น

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #61 เมื่อ28-12-2016 10:07:23 »

เผื่อจะลืมอะไร นายไม่มีสิทธิ์นะแมท ดูตัวเองด้วย
ยังไปเอากับน้องดิวต่ออีกเหรอ จิตใจทำด้วยอะไร
ปล.ตอนที่7หายไปหนายยย
ปลล.รักบอม พ่อเสือตะไบเล็บของพี่
ปลลล.รอนะค้า กิ้วๆ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #62 เมื่อ28-12-2016 10:59:23 »

เผื่อจะลืมอะไร นายไม่มีสิทธิ์นะแมท ดูตัวเองด้วย
ยังไปเอากับน้องดิวต่ออีกเหรอ จิตใจทำด้วยอะไร
ปล.ตอนที่7หายไปหนายยย
ปลล.รักบอม พ่อเสือตะไบเล็บของพี่
ปลลล.รอนะค้า กิ้วๆ

ว๊าย อัพข้ามตอน :hao5:
เดี๋ยวคนเขียนลบตอนที่แปดแล้วลงใหม่น้าาา

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 6 [27/12/59]
«ตอบ #63 เมื่อ28-12-2016 11:02:34 »

เธอมีชู้

บทที่ 7

ผมลากบอมตรงไปยังห้องนอนของเรา เหวี่ยงมันลงกับพื้นด้วยความรุนแรง ไม่ว่าเราจะทะเลาะกันขนาดไหน ผมจะโกรธ จะเคืองมันเท่าไหร่ ผมไม่เคยใช้ความรุนแรงกับมันเลยสักครั้ง เพราะผมรักมันไง...มันเป็นคนเดียวที่ขึ้นชื่อว่าแฟนผม ในขณะที่คนอื่นผมให้ได้แค่คำว่าคู่นอน แต่ครั้งนี้มันเกินจะทนไหว ผมห้ามไม่ให้ตัวเองใช้กำลังทำให้มันเจ็บไม่ได้ สายตาของคนบนพื้นปวดร้าวไม่ต่างจากผม น้ำตาของบอมไหลอาบหน้า เวลาอื่นมันคงทำให้ผมใจอ่อนได้เป็นอย่างดี เพราะถึงบอมจะเป็นผู้ชายเจ้าสำอาง แต่มันก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง

“มีอะไรจะแก้ตัวไหม...” ผมถาม ความโกรธยังคงกรุ่นในอารมณ์ แต่ผมพยายามสะกดกลั้นมันเอาไว้

“...กูขอโทษ” นั่นไม่ใช่คำที่ผมอยากได้ยินจากปากของมัน ผมอยากได้ยินมันอธิบาย แก้ตัวอะไรก็ได้ว่าสิ่งที่ผมเห็นมันไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่คำขอโทษ...คำที่ไม่ต่างจากการยอมรับในความผิดของตัวเอง

“มึงจะไม่แก้ตัวหน่อยหรอ โกหกกูก็ได้ ว่าสิ่งที่กูเห็นมันไม่ใช่อย่างที่กูคิด...” ความอ่อนล้าทางใจทำให้ร่างเซไปพิงกำแพงห้อง ผมต้องใช้ตัวช่วยในการพยุงตัวเองเอาไว้ เพราะขาทั้งสองมันสั่นไปหมดแล้ว

“...” บอมเงียบ เขาไม่ตอบอะไร ไม่มีคำอธิบาย หรือคำโกหก

“มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไงอะบอม จิตใจของมึงมันทำด้วยอะไร ถึงทำร้ายกูได้ขนาดนี้ ที่กูให้มึง ที่กูรักมึง มันยังไม่พอใช่ไหมวะ” เอ่ยอย่างอ่อนแรง

“ไม่ใช่...” ใบหน้าที่ผมรักเงยขึ้นมามองเพื่ออ้อนวอนขอโทษ ผมต้องหลับตาลงแล้วหันไปทางอื่น ความรักที่มีให้มันจะทำให้ผมใจอ่อน

“แล้วทำไมถึงทำแบบนี้กับกูละ... ทำไมถึงทำร้ายกูได้ขนาดนี้” เสียงสั่นเทาเอ่ยถามอย่างตัดพ้อ

“กูขอโทษ...”

“กูไม่ได้อยากได้คำขอโทษ! กูไม่อยากได้เลย สิ่งที่กูอยากได้คือเหตุผลว่าทำไมมึงถึงได้ทำกับกูแบบนี้ แต่มึงก็ให้กูไม่ได้ มึงจะทำร้ายหัวใจกูไปถึงไหนวะ แต่ก็ดี...กูจะได้รู้ว่าตอนนี้กูอาศัยอยู่กับงูที่แม่งแว้งกัดกูได้ทุกเมื่อ ถ้าอิสระทำให้มึงหันมาฉกกู งั้นก็อย่าหวังว่ากูจะให้อิสระมึงอีก...” สองมือผลักกำแพงด้านหลังเพื่อเป็นแรงส่งให้ผมยืนเต็มเท้า ก่อนจะก้าวเข้าหาบอมช้าๆ หยุดตรงหน้า ย่อตัวลงเพื่อเอามือถือของมัน

บอมมองตามการกระทำของผมด้วยสายตาที่ฉ่ำน้ำ เขาไม่ห้ามเมื่อผมเอาของส่วนตัวที่บอมหวงหนักหวงหนาไป เขาทำแค่นั่งมองเงียบๆ เก็บเสียงสะอื้นและคำโต้แย้งลงคอ ผมตรงไปยังแล็บท๊อป คว้ามันถือคู่กับโทรศัพท์เครื่องหรูแล้วเดินออกจากห้องไป ผมวางของไว้บนโต๊ะ ขวานหากุญแจคล้องลูกบิด ล๊อคมันเอาไว้ คนด้านในมันจะได้ออกมาไม่ได้

การกักขังบอมเอาไว้และตัดการสื่อสารทั้งหมดมันเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดได้ในตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นมันสะเทือนความสัมพันธ์ของเรามากจนไม่ยากเลยที่จะเอ่ยคำว่าเลิกออกไป แต่เพราะผมรักมัน ผมไม่ได้อยากเลิกกับมัน เลยจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้ ผมเองก็รู้ดีว่าบอมไม่ได้ต้องการจบเรื่องของเรา สายตาที่เจ็บปวดนั้นบอกกับผมว่ามันสำนึกผิดในสิ่งที่มันทำ มันถึงยินยอมแต่โดยดีไม่ว่าผมจะทำอะไรก็ตาม

ผมเดินออกมานั่งที่โซฟากลางห้อง เอนกายเอามือก่ายหน้าผากเอาไว้ จุกที่หัวใจไปหมด...แค่หลีหญิงไปวันๆ อย่างที่มันเคยทำผมก็เครียดมากพอแล้ว ดันมาจับได้อีกว่ามันนอกใจผมถึงขั้นพาผู้หญิงเข้าโรงแรม ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว กลิ่นน้ำหอมที่ผมเจอจากตัวบอมมันบ่อยมากๆ นั่นหมายความว่ามันนอกใจผมมามากจนยากจะนับครั้ง รวดร้าวไปทั้งใจเลย

อยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ ระบายความอัดอั้นและเจ็บปวดภายในใจ  แต่มันน่าอายเกินไปที่จะทำแบบนั้น ถึงไม่มีใครอยู่ผมก็อับอายตัวเอง ผมนั่งทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ทบทวนการกระทำของตัวเอง...

จริงที่ผมไม่มีเวลาให้มันมากนักเพราะช่วงปีแรกของมหาลัยมักจะวุ่นวาย แต่เมื่อใดก็ตามที่ว่างผมจะทำทุกอย่างตามใจมัน มันต้องการอะไรผมให้มันได้ตลอด พาไปเที่ยว พาไปกิน ซื้อของนู้นนี่นั่นปรนเปรอให้มัน ถ้าว่ามันไปหาผู้ชายอื่นผมอาจคิดได้ว่าเรื่องบนเตียงผมบกพร่อง แต่นี่ไม่ใช่ บอมยังไม่เลิกความต้องการผู้หญิง เขายังไขว่คว้าหาหญิงสาวไม่ต่างจากสมัยมัธยม

บอมมีแค่ผมมันไม่พอสินะ...

ผมคงให้ทุกอย่างที่มันต้องการไม่ได้จริงๆ มันถึงทำแบบนี้กับผม ถึงมันไม่พูดอะไรแต่การที่มันนอกใจไปหาคนอื่นแบบนี้มันก็มากพอที่จะคาดเดาสิ่งที่มันต้องการ ผมเข้าใจนะ ว่าผู้ชายยังไงก็ยังมีความต้องการผู้หญิงตามสัญชาตญาณที่มีมาแต่กำเนิด แต่ทำไมไม่พูดล่ะ ไม่บอกละ ตอนที่เรามีปัญหากันเรื่องผู้หญิง ถ้ามันเด็ดขาดยืนยันว่ายังไงๆ มันก็ยังอยากมีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่ ผมจะไม่รั้งมันเอาไว้แบบนี้เลย ผมนะปล่อยมันไป ให้มันทำสิ่งที่มันต้องการ ไม่ใช่บอกกับผมว่าจะไม่ทำอีก มันรักผมงั้นงี้

นี่หรอ...สิ่งทีคนรักกันทำให้กันน่ะ!

มันไม่ใช่แล้ว แบบนี้เขาไม่เรียกว่ารักหรอก มันอาจจะรักเงินของผมมากกว่าตัวตนของผมก็ได้ เพราะผมให้มันได้ทุกอย่าง ไม่ว่ามันจะต้องการอะไร อยากมีอยากได้อะไรเหมือนคนอื่นเขา แม่ง...คิดแล้วเจ็บจี๊ดยันขั้วหัวใจเลย

เลิกไปดีกว่าไหม...

ไม่ได้อีก ถึงคิดว่าควรจะเลิกกับมันที่ทำตัวแบบนี้ แต่ผมก็รักมันเข้าแล้ว รักจริงๆ แบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน ผมผิดเองที่เปิดใจให้มันเข้ามามากขนาดนี้ จนในที่สุดก็ถอนตัวถอนใจจากมันไม่ได้ ผมคิดไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีบอมคอยนอนเลอยู่เคียงข้าง มันจะรู้สึกแย่ขนาดไหน ผมจะอยู่ต่อไปยังไง ถ้าขาดมันไป ถึงผมจะมีคนอื่น หาเศษหาเลย แต่สุดท้ายคนที่เป็นที่หนึ่งในใจของผมก็มีแค่มันคนเดียว ไม่มีใครแทนที่บอมได้ทั้งนั้นจริงๆ

ผมมองไปที่ประตูห้อง นึกถึงคนที่อยู่บ้างใน บอมจะรู้สึกยังไงผมเดาไม่ออก มันจะเสียใจมากขนาดไหนที่ทำให้ผมร้องไห้ออกมา มันจะสำนึกมากน้อยแค่ไหนที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราต้องมีรอยร้าว ห้วงความคิดที่บอกว่าบอมรักผมเพราะเงินอาจจะสะเทือนอารมณ์ แต่ลึกๆ ภายในผมยังเชื่อว่ามันรักผมจริงๆ ไม่งั้นมันคงไม่ยอมเงียบขนาดนี้

โอ้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ยิ่งเสียใจก็ยิ่งอยากร้องไห้ ผมไม่ชอบเลยที่ต้องมารู้สึกแบบนี้ ออกแนวเกลียดไปเลยด้วยซ้ำ เพราะอย่างนี้ไงผมถึงไม่จริงจังกับใครสักคน ผมหาแค่วันไนท์สแตนมาตลอด ไม่น่ามาคิดหยุดทุกอย่างและรักคนเจ้าชู้ประตูดินอย่างมันเลย

ผมหยิบมือถือขึ้นมา มองดูมือที่ยังสั่นเทาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมเลื่อนหาเบอร์ใครบางคน ใคร...ที่สามารถช่วยเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของผมในตอนนี้ได้ ซึ่งคนๆ นั้นคือคนที่ผมสั่งให้กลับบ้านไปก่อน

“ดิว...” ผมกรอกเสียงอ่อนแรงลงไปในสาย

(พี่แมท พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเสียงสั่นแบบนั้นละครับ เกิดอะไรขึ้น...) ดิวถามกลับมาอย่างร้อนรน

“พี่อยากกอดดิว พี่ไปหาดิวได้ไหมครับ” ผมถามไปทั้งที่เหม่อลอย

(ได้สิครับ พ่อกับแม่ดิวออกไปข้างนอกเมื่อครู่ มาหาดิวที่บ้านก็ได้) ระบายยิ้มอย่างยินดี

“ครับ พี่ไปเดี๋ยวนี้” ว่าจบก็กดวางสาย

ผมมองไปที่ประตูห้องนอนอีกครั้ง นึกถึงคนที่อยู่ข้างในนั้นแล้วเดินไปลูบบานประตู บอมอยู่ในนั้น นั่งเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เพียงลำพัง ผมรักเขา...ผมหวังให้เขาก็รักผมแบบที่ผมรัก หวังให้เขาสำนึกผิดจริงๆ และยอมปรับตัวเองเพื่อผม

“บอม...กูรักมึงนะ” ผมบอก หน้าแนบบานประตู เสียงสะอื้นดังรอดออกมาเบาๆ

“กูขอโทษ...กูขอโทษแมท” คำขอโทษกรีดแทงลงมาในใจ ผมเจ็บ ผมเดินจากไป

ถนนเมืองไทยไม่ใช่ถนนที่โล่งอะไรนัก แต่ผมกลับบิดมอเตอร์ไซค์คันเก่งเกือบสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง นับว่าเป็นการเสี่ยงมาก แต่อารมณ์ในตอนนี้มันสุดจะยับยั้งจริงๆ ผมต้องการระบายออก อยากให้ตัวเองสบายใจเพื่อจะได้ทำใจเรื่องบอมได้ ผมคิดว่ายังไงซะผมก็ไม่เลิกกับเขาแน่ๆ แต่ต้องดูกันอีกที ถ้าบอมอยากจะไป ผมก็คงรั้งเอาไว้ไม่ไหว ผมกลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้มันจะเกิดขึ้นอีกในวันข้างหน้า ผมคงทำใจไม่ได้แน่ๆ หากต้องเห็นเหตุการณ์อันเลวร้ายซ้ำแล้วซ่ำเล่า

เพียงเวลายี่สิบนาทีผมก็จอดเจ้าคันโตหน้าบ้านของดิว บีบแตรเรียกคนตัวเล็ก แป็ยเดียวดิวที่ยังอยู่ในชุดเดิมก็เดินออกมาด้วยท่าทางรีบร้อน เขาเปิดประตูให้ผมได้เข้าไปจอดรถข้างใน แล้วเดินนำไปยังห้องนอนของเขาเอง

ผมไม่พูดอะไรมากนัก ปิดประตูได้ก็สวมกอดร่างบอบบางจากข้างหลังในทันที ดิวสะดุ้ง เขาคงตกใจกับการทำอะไรกระทันหันโดยไม่ให้เขาได้ตั้งตัว แต่เขาก็ลูบแขนผมเพื่อปลอบโยน ดิวไม่ได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม

“ระบายให้ผมฟังได้นะครับ” ร่างเล็กบอก ผมกระชับกอดแน่น ฝังใบหน้าลงกับลาดไหล่เล็ก

“พี่ทะเลาะกับบอมหนักเลยละครับดิว...” ดิวง้างแขนผมออก แล้วดึงให้เดินไปนั่งด้วยกันบนเตียง เขาจับมือขอบผมไว้ มองจ้องลึกเข้าในดวงตาที่เจ็บช้ำ

“ไม่เป็นไรนะครับ พี่น้องทะเลาะกันมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เดี๋ยวพี่กับบอมก็ค่อยๆ ปรับความเจ้าใจกัน ของอย่างนี้มันต้องใจเย็นๆ นะครับพี่แมท” เขาเอ่ยด้วยสุ่มเสียงนุ่มละมุน ผมไม่มองหน้าดิว แต่ดึงดิวเข้ามากอดแนบชิดจนร่างดิวเกยมาบนตัก

“แต่เรื่องนี้มันหนักหนาสาหัสเกินไป พี่ไม่รู้ว่าบอมจะยังอยากอยู่กับพี่ไหม เขาทำกับพี่ขนาดนั้น...เขาทำมันลงได้ยังไง” ถึงจะพูดออกไป แต่คิดว่าเขาไม่น่าจะเข้าใจความหมาย ดิวกระชับกอดแนบแน่น มือหนึ่งลูบหัวผมเบาๆ

“พี่แมทอย่าเพิ่งคิดมาไปเลยนะ เดี๋ยวอารมณ์เย็นลงแล้วก็คงดีขึ้น ตอนนี้ทั้งพี่และเขาต่างก็ร้อนด้วยกันทั้งคู่...” ผมพยักหน้าเบาๆ

คำพูดของดิวไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น มันก็แค่คำพูดที่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เรื่องของผม คนอื่นจะมาเข้าใจได้ดีไปกว่าผมได้ยังไงละ ต่อให้ระบายให้ดิวฟัง ดิวก็ทำได้แค่รับฟัง เขาช่วยอะไรผมมากกว่านั้นไม่ได้ นอกจากจะทำให้ผมอารมร์ดีขึ้นชั่วคราว พอกลับห้อง กลับไปเผชิญหน้ากับบอม ระหว่างเรามันก็ยังคงไม่เปลี่ยนไป อะไรที่เกิดขึ้นแล้วมันแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก

ดิวยื้อตัวเองออกจากอ้อมกอด สองมือน้อยๆ ประครองใบหน้าของผมเอาไว้อย่างทะนุถนอมก่อนจะเคลื่อนริมฝีปากเข้ามาประทับที่ปากของผม แผ่วเบา นุ่มนวล ราวกับปลอบปละโลมผมที่กำลังย่ำแย่ ผมมองตามการกระทำ ยอมเป็นผู้ตามทั้งที่ปกติดิวจะเป็นฝ่ายตามผม เขากดจูบลงมาหนักขึ้น เรียวลิ้นส่งกลิ่นหอมจากลูกอมที่เจ้าตัวชื่นชอบเกลี่ยริมฝีปากบนและล่างก่อนจะสอดแทรกเข้ามา

เรือนกายบอบบางขยับขึ้นคร่อมตักแกร่ง ในขณะที่ริมฝีปากกำลังพัวพัน เขาก็เคลื่อนไหวสะโพกไปมา เสียดสีก้นกลมกับส่วนสำคัญกลางกาย ความยั่วยวนของดิวทำให้ผมสลัดเรื่องบอมทิ้งไว้ แล้วหันมาสนใจเขาแทน ฝ่ามืออุ่นชื้นของผมคว้าหมับเข้าที่ก้อนเนื้อกลมกลึงทั้งสอง ขย้ำมันและเริ่มตอบโต้เรียวลิ้นในโพรงปาก ดิวครางผะแผ่ว เขาตอบสนองผมได้ดี สร้างความพึงพอใจให้กับผม

ใบหน้าของเราเคลื่อนออกจากกันช้าๆ  มองสบตา มือถอดเสื้อของอีกฝ่ายออก เชื่องช้าแต่เร่าร้อนในความรู้สึก ปาเสื้อทิ้งไปที่ใดสักที่ก่อนจะลูบไล้แผ่นอกของกันและกัน ดิวเลื่อนมือไปปลดกางเกงของผม ส่วนผมก็ก้มลงไปฉกชิมหัวนมสีอ่อน ร่างกายเล็กกว่าบนตักผวาเฮือก แต่มือยังไม่หลุดออกไปจากเป้ากางเกง ผมรุกจุกอ่อนไหวตรงอกพร้อมกับปลดเปลื้องชิ้นล่างของเขา เราต่างก็ช่วยกันเปลือยกายเพื่อจะได้เป็นของกันและกัน

ผมและดิวหยุดการเล้าโลมชั่วครู่ ยืนขึ้นและถอดกางเกงทิ้งไป เมื่อไร้อาภรณ์ในกาย ผมก็โผเข้าหาเข้า มอบจูบเร่าร้อนดุเดือดให้กับริมฝีปากเล็ก กลิ่นหอมอ่อนๆ จากลูกอมที่เจ้าตัวชอบทำให้ผมมัวเมา ร่างของดิวถูกยกขึ้นไปวางบนเตียงนอนสีเข้ม ผมทาบทับและรุกช่องทางเล็กกลางหว่างขา ดิวขยับเรียวขาให้กว้างออกเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผม

“อื้อ..พี่แมท บะเบาหน่อยก็ได้ครับ” เขาครางเสียงแตกพร่า

“ดิวเจ็บหรอ...” ผมชะงักนิ้วที่กำลังสอดเข้าไปในตัว
“อืม ดิวเจ็บแล้วก็กลัวด้วย” ผมระบายยิ้มอ่อน

“พี่ขอโทษ...พี่จะเบานะ” ปากพูดแบบนั้น แต่การกระทำยังคงรุกหนักไม่เปลี่ยนแปลง ผมสอดนิ้วเข้าไปในช่องทางทั้งที่ยังเล้าโลมเจ้าตัวไปเพียงน้อยนิด การกระแทกกายเข้าออกในร่างใครสักคนตอนนี้คงทำให้หัวผมเย็นลงได้ และคนที่จะสนองต่อผมได้ในตอนนี้ก็มีแค่ดิว

จะว่าผมใช้ดิวเป็นเครื่องมือบำบัดอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองมันก็ไม่ผิดอะไร ในหัวของมีแต่เรื่องของบอมและเหตุการณ์ในวันนี้ ความโกรธ ความเสียใจอบอวลรอบตัวผมไปหมด ดิวอาจจะจับกระแสอารมณ์ของผมไม่ได้ เพราะในตอนนี้ผมดูเร่าร้อนและรุกเร้าเขาอย่างที่สุด แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่ผมทำอยู่ในตอนนี้เป็นเพียงแค่การระบายอารมณ์เท่านั้นเอง เชื่อเถอะว่าเขารู้ เขาคงไม่ยอมให้ผมได้ทำแบบนี้กับเขาแน่นอน

ริมฝีปากเคลื่อนทางแก้มเนียนลงมาที่ซอกคอ ขบเม้มมันด้วยความรุนแรง อยากจะกัดมันเสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าความรุนแรงอันเกินเหตุจะทำให้อีกฝ่ายหมดอารมณ์ร่วม ผมในตอนนี้ต้องการเซ็กมาก ผมจึงไม่อยากให้อะไรก็ตามมาขัดขวางการปู้ยี่ปู้ยำร่างกายขาวบางนี้ได้

“พี่...ผมเจ็บครับ” เสียงครางของดิวร้องบอก แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมล้มเลิกการขบเม้มผิวเนื้ออ่อนตรงซอกคอไปได้

“พี่แมท...อย่าทำรอยนะครับ พี่ อย่า” เขายังคงโอดครวญให้ผมหยุด

ผมปล่อยอารมณ์คุโชนให้ควบคุมตัวเองอยู่นาน เสียงครางห้ามและการผลักไสเริ่มนะรุนแรงขึ้น ผมถึงได้มีสติ หยุดชะงักทุกอย่าง ลูบหน้าตัวเองแล้วมองอีกฝ่ายด้วยสายตาสำนึกผิด โดยซ่อนความไม่พอใจเอาไว้อย่างแนบเนียน

“พี่ขอโทษ...”

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจว่าพี่กำลังเครียด แต่ว่าช่วยใจเย็นๆ หน่อยนะครับ นะ...” ดิวส่งสายตามาอ้อนวอน

“ครับ” ผมรับคำ แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยความนุ่มนวล

โคตรขัดกับใจของตัวเองเลย แต่ให้ทำไง ในเมื่อหากทำรุนแรงอย่างเมื่อครู่ทุกอย่างตรงนี้อาจจบลงแบบไม่บรรลุเป้าหมาย ผมถอนหายใจเฮ้อกใหญ่ด้วยความแผ่วเบา แล้วโน้มใบหน้าเข้าจูบกลีบปากอิ่มของคนตัวเล็กใต้ร่าง ค่อยเม้มมันเบาๆ พลางสอดลิ้นเข้าควานหาชิ้นเนื้อเล็กภายใน กวัดเกี่ยวมันเอาไว้ขณะที่มือกำลังรุกล้ำช่องทางด้านล่างให้อ่อนนุ่ม

ผมไม่สนใจจะทำตามขั้นตอนอย่างที่ควรจะเป็น เมินการใช้ปากสัมผัสร่างกายบอบบางใต้ร่าง เพียงแค่มอบจูบอันเร่าร้อนให้เท่านั้น เมื่อช่องทางอ่อนนุ่มดีแล้ว ผมก็ยันตัวเองขึ้น จัดท่าจัดทางให้พร้อมก่อนกดท่อนเนื้อลงไปช้าๆ สายตาจับจ้องการเคลื่อนไหวของส่วนที่เชื่อมต่อกัน เพราะมันยั่วยวนกว่าใบหน้าของดิวในยามนี้ ยามที่ผมคิดถึงแต่เรื่องของบอมเต็หัวไปหมด ถึงคิดจะวางเรื่องบอมเอาไว้ก่อน แต่พอเอาเข้าจริง ผมก็ทำแบบนั้นไม่ได้ ผมสลัดเรื่องของเขาออกไปไม่ได้เลย

“โอ้ย พี่..ผมเจ็บ” เพราะลืมตัว คิดถึงแต่คนที่ทำให้เจ็บจนเผลอสอดใส่เข้าไปอย่างแรง ผมเงยหน้ามองดิว น้ำตาสีใสกำลังเอ่อคลอ ดูน่าสงสาร แต่ไม่ใช่ในความรู้สึกผม

“พี่ขอโทษครับ เผลอไปหน่อย” ยิ้มอ่อนให้กับอีกคน แล้วจูบปากเขาเพื่อให้เขาหลงลืมความเจ็บปวดจากการสอดใส่

ขณะที่เพลินไปกับราจูบอันเร่งเร้า สะโพกสอบก็ค่อยๆ เคลื่อนออกและกดย้ำลงมาใหม่ เป็นช่วงสั้นๆ แต่ลึกล้ำจนอีกฝ่ายครางแผ่วออกมาจากลำคอ ดูเหมือนว่าดิวจะพร้อมแล้ว ผมละริมฝีปากออก ยันตัวขึ้นตั้งตรง สองมือจับข้อเท้าของเขาเอาไว้ กดมันลงไปจนเข่าชิดแผ่นอก ถ้าเปลี่ยนใบหน้าดิวเป็นบอม...มันโคตรเร้าอารมณ์ผมเลยจริงๆ

คิดได้ดังนั้นผมก็เริ่มสาวสะโพกเข้าออก ค่อยๆ ให้มันเร็วรัวขึ้น ดิวจะได้ไม่ตกใจกับการกระทำของผม สีหน้าคนตัวเล็กเหยเกไปเล็กน้อย ด้วยอะไรๆ ยังไม่เข้าที่มากมายนัก แต่เพียงไม่นานเสียงครางแห่งความสุดก็ลอยออกมาจากริมฝีปากช่ำชื้น ในเมื่อดิวได้ที่แล้วผมก็ไม่รีรอที่จะสาดโทสะของตัวเองลงไปในการกระแทกกระทั้น ความหนักหน่วงทำให้อีกฝ่ายจุกพอสมควร แต่ผมไม่หยุด จับเขาพลิกร่างด้วยความรุนแรง คว้าข้อมือเล็กทั้งสองข้างมาดีงยึดไว้คล้ายบังเหียนม้า จากนั้นก็กระแทกร่างกายเข้าใส่อีกฝ่ายแบบไม่ยั้งแรง

ผมไม่เคยทำกับดิวรุนแรงขนาดนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก และไม่แน่ใจว่าจะมีครั้งต่อไปไหม หัวของผมยังมีแต่ภาพของบอมและเหตุการณ์ในวันนี้วนซ้ำไม่จางหาย และดูเหมือนสิ่งเหล่านั้นจะเป็นตัวทำให้การควบคุสติสัมปชัญญะของผมพัง เพราะผมแทบควบคุมแรงอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เลย เสียงครางร้อขอให้เบาลงดังออกมาจากร่างที่เคลื่อนไหวอีกร่าง แต่เหมือนผมจะได้ยินมันเป็นคำตรงข้าม ถึงได้ยิ่งกระหน่ำน้วงแทงลงไป ไม่สนอีกคนเลยว่าจะรู้สึกเจ็บ หรือจุกขนาดไหน

ดูเหมือนความโกรธจะทำให้การหลั่งล้าช้า ไม่ว่าจะระรัวเอวเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทางเสียที แต่มันดีตรงที่ความเหนื่อยอ่อนกำลังบุกเข้ามาตามกล้ามเนื้อ เหงื่อผุดขึ้นจนกลายเป็นหยดน้ำหยดลงบนเลแผ่นหลังขาวเนียน ผมก้มลงไปใช้ปากและฟันขบผิวสวยๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว ปล่อยมือทั้งสองของเขาให้เป็นอิสระ ดิวตั้งท่าจะค้ำที่นอนให้ทรงร่างกายในท่านี้ แต่แขนของเขาก็อ่อนแรงจนทั้งร่างล้มครืนไปบนที่นอน หากสะโพกกลมกลึงยังคงอยู่จุดเดิมให้ผมได้สอดใส่เข้าไป

ผมจับดิวให้นอนตะแคง กอดขาข้างหนึ่งไว้ในขณะที่อีกข้างถูกคร่อมทับ ดิวงอตัวเป็นกุ้ง ครางเหมือนสะอื้น คาดว่ามันควหวิวไปทั่วช่องท้องของเขา ผมเร่มบรรเลงต่อจากท่าเมื่อครู่ทันที คราวนี้ผมเริ่มรับรู้ถึงจุดหมายปลายทางของตัวเองแล้ว

“ฮึก...พี่แมทพี่แมทเบาหน่อยครับ” เสียงนั้นสั่งให้เบา แต่ผมกลับแรงขึ้น

“ผมไม่ไหวแล้วพี่...พี่ครับ” ผมยังคงไม่สนใจเสียงนั้น

ร่างกายของดิวสั่นกระตุกติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง แต่แต่ทำกันมา ร่างเล็กปล่อยความร้องการหลายหน เสียแต่ผมไม่ได้สนใจจะสังเกตหรือจดจำมันเอาไว้เลย ผมโน้มกายลงไป ใช้มือว่างกดริมฝีปากสีอ่อนที่ครางเสียงดัง เขาปลดปล่อยออกมาเลอะเทอะ ปนไปกับของก่อนหน้านี้เต็มไปหมด แต่ในเมื่อผมไม่สน ก็คือผมไม่สนนั่นแหละ ผมต้องการให้เขาเงียบเสียง ดิ้นทุรนทุรายในขณะที่ผมกำลังปลดปล่อยความต้องการของตัวเองเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม

“อ่าห์....” เกือบครางเรียกบอมเสียแล้ว ดีที่ยั้งปากตัวเองเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นผมคงมีปัญหากับดิวแย่

“ฮึก พี่แมท..วันนี้มันรุนแรงไปนะครับ” ดิวร้องไห้สะอื้นออกมาเบาๆ ผมถอนกายออก ขยับไปนอนข้างเขาก่อนดึงร่างเล็กๆ เข้ามากอด
“พี่ขอโทษครับ พี่เครียดกับเรื่องวันนี้มากไป” ทำเสียงเศร้า เรียกร้องความเห็นใจจากอีกฝ่าย
“ผมเข้าใจ ผมไม่โกรธพี่หรอกครับ แล้วเป็นยังไงบ้างละครับ พี่แมทดีขึ้นหรือยัง” ดิวช้อนมองผมด้วยความห่วงใย ผมยื่นปากจูบหน้าผากเขาพร้อมยิ้มอ่อนโยน
“พี่ดีขึ้นมากเลยครับ ขอบคุณดิวมากเลยนะ ที่เข้าใจพี่มากขนาดนี้ ถ้าพี่ไม่มีดิว พี่ไม่รู้เลยว่าจะเป็นยังไง” คำพูดแม่งโคตรน้ำเน่า แต่ทำไงได้ มันเป็นประโยคที่เอาไว้มีดใจคู่ควงนี่นา

ผมนอนกอดดิวต่อไปทั้งแบบนั้น ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะผมไม่อยากจะคุย อยากอยู่เงียบๆ แต่เพราะเงียบมากไปเราถึงพากันหลับทั้งที่ร่างกายเหนอะหนะไปด้วยน้ำอะไรมากมาย กว่าจะรู้ตัวตื่นขึ้นมาก็ปาไปมืดแล้ว ดีที่พ่อกับแม่ของดิวยังไม่กลับมา ผมเลยอาบน้ำอาบท่าขอตัวกลับบ้านไป โดยอ้างว่าดึก ทั้งที่ความจริงก็แค่...ขี้เกียจอยู่ต่อ


มีต่อจ้า :katai5:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #64 เมื่อ28-12-2016 11:06:20 »

 :katai5: ต่อ

ปึก

เสียงชีทงานกระแทกโต๊ะที่ผมเอาเพิ่งเอาเข้ามาไว้ในห้องเมื่อหลายวันก่อนดังเรียกเจ้าตัวที่นั่งเหม่อ บอมมองผมด้วยดวงตาช้ำๆ แทบเป็นครั้งแรกหลังจากคบกันมาหลายปีที่บอมปล่อยให้ตัวเองโทรมได้ขนาดนี้ เขาไม่ดูแลตัวเอง ไม่ทาครีมที่ซื้อมามากมายบนโต๊ะ เพราะมันไม่จำเป็นอีกแล้ว ผมขังบอมเอาไว้ในห้องมาหกวัน ใกล้ครบอาทิตย์หนึ่ง โดยคุยเรื่องนี้กับเต้แล้ว การขาดเรียนของมหาลัยจัดเป็นเรื่องใหญ่ แต่เต้และกล้าหาทางช่วยให้แล้ว พวกเขาเข้าใจดีว่าเรื่องที่เกิดนั้นร้ายแรงแค่ไหนสำหรับคนรักกัน

ทุกวันนี้เต้จะเอางานมาให้ ถึงบอมขาดเรียนแต่ยังมีงานส่ง อาจารย์ก็จะอนุโลมให้ ด้วยเหตุผลที่ว่าแม่ของบอมป่วยหนัก ตอนนี้บอมต้องดูแลแม่อยู่ที่โรงพยาบาล มันเป็นคำโกหกที่เอาตัวรอดได้ ตอนเย็นของทุกวันผมเลยไปหาเต้ คอยเอางานมาให้บอมทำ ชีทงานที่วางตรงหน้าบอมนั้นก็เป็นงานของวันนี้ทั้งหมด

“มึงจะไม่ยอมคุยกับกูจริงๆ หรอวะแมท” มันถาม ผมมองหน้าแล้วเดินออกมา ไม่ได้ล๊อคห้องเพราะผมยังอยู่

หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมไม่คุยกับบอมอีกเลย ไม่พูดด้วยสักคำ ถึงมันจะว่าผมใจร้าย แต่มันสมควรแล้วที่บอมจะต้องเผชิญกับสิ่งนี้ มันเองไม่ใช่หรอที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ร้าวฉาน

“กูยอมทุกอย่างแมท จะทำอะไรกับกูก็ได้ แต่ขอร้อง...ช่วยเลิกเย็นชาใส่กูที” ร่างเพรียวเดินออกมาสวมกอดจากทางด้านหลัง มันซบหน้ากับแผ่นหลังของผมเอาไว้ บางอย่างจากดวงตาทำให้เสื้อของผมเกิดความเปียกชื้น

ผมสงสารมัน...แต่ผมกลัวมันจะทำแบบเดิมอีก หากเกิดเรื่องแบบคราวนี้อีกครั้ง หัวใจของผมคงแหละสลายไม่มีชิ้นดี ถึงตอนนี้บอมจะทำตัวเป็นเด็กดี เขาไม่ขอร้องให้ผมปล่อยเขา ไม่เรียกร้องหาความอิสระ แต่ขอให้ผมเลิกเย็นชาใส่เท่านั้น ผมฟังคำขอร้องของมันทุกวัน ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน ถามว่าใจอ่อนไหม...ก็ยอมรับว่าใจอ่อนแหละ แต่ก็ยังเงียบใส่มันอยู่ดี

“กูจะลบเบอร์ของผู้หญิงทุกคนออกให้หมดเลย ลบเฟซด้วย โพสต์เฟซด้วยดีไหมว่าคบกับมึงแล้ว นะแมท...กูสัญญา กูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว กูรักมึงนะ ให้อภัยกูเถอะนะแมท...กูน่ะ ปวดใจจะตายอยู่แล้ว” เสียงสะอื้นรอดออกมาเบาๆ ให้ได้ยิน ตัวบอมสั่นไปหมด ผมอยากกอด อยากปลอบ แต่ก็เลือกจะแกะมือมันออกแล้วเดินเข้าไปในครัว

บอมยืนมองตามแผ่นหลังของผมทั้งน้ำตา ครั้งนี้บอมเสียน้ำตามากกว่าครั้งไหน เหมือนกับที่ผมเจ็บกับมันมากกว่าครั้งไหนเช่นกัน เราต่างก็ทรมานกับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่เพราะมันทำตัวเองทั้งนั้น มันเป็นคนทำให้เรื่องราวออกมาในรูปแบบนี้ เพราะงั้นมันนั่นแหละที่ควรจะเจ็บปวดที่สุด ต่อให้ผมรักมันมากแค่ไหน ผมก็ไม่ยอมให้เหตุการณ์ในครั้งนี้จบลงง่ายๆ ด้วยความสุขของเราทั้งคู่หรอก เพราะผมเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึง มันต้องเจ็บปวดไปกับผมด้วยเช่นกัน

ผมเอาอาหารเย็นที่ซื้อมาจากข้างนอกเทใส่จาน ก่อนจะเทข้าวลงจานสองใบคือของผมกับบอม เรียบร้อยจึงยกออกมาวางไว้ที่โต๊ะกินข้าว บอมยังยืนอยู่ตำแหน่งเดิม มันพยายามกลั้นสะอื้น ปาดน้ำตาแล้วยิ้มให้กับผมที่หันไปมอง มันไม่ได้ผลหรอกบอม กูไม่เห็นใจเพียงเพราะมึงน่าสงสารหรอก ผมหันหน้าหนี นั่งลงแล้วเริ่มลงมือตักกับข้าวใส่จานตัวเอง

“จะไม่เรียกกูบ้างหรอ” บอมถามเสียงน้อยใจ คงเจ็บมากละสิ...ดี เจ็บมันให้ตายนั่นแหละ

“...” ผมเงียบ ไม่มองหน้า กินแต่ข้าวไม่สนใจใยดีคนอีกฝั่ง

“กูรู้นะว่ากูผิด กูสำนึกแล้วจริงๆ นะแมท” มันก้มหน้าก้มตาพูด น้ำใสๆ หยดลงในจานข้าวที่มันพยายามจะใช้มือสั่นๆ ตักกิน

“...” แต่ผมก็ยังคงเงียบใส่

“ให้โอกาสกูได้แก้ตัวเถอะนะ...ที่ผ่านมากูเหี้ยเอง กูขอโทษ ทั้งที่กูรู้ดีว่ามึงรักกูมากขนาดไหน กูยังไปทำตัวแบบนั้นอีก แต่ที่กูทำ มันไม่ได้หมายความว่ากูไม่รักมึงนะ กูแค่เล่น แค่สนุก...” บอมพยายามอธิบายเหมือนทุกวันที่ผานมา คำพูดของมันก็คล้ายๆ เดิมแบบที่เคยพูดนั่นแหละ ผมขี้เกียจฟัง แต่ผมก็รู้ดีว่ามันพูดเรื่องจริง สิ่งที่บอมกำลังอธิบายคือความจริงขากใจของมันเอง

“...”

“ถึงมันจะแค่สนุก แต่ก็ทำให้มึงเจ็บ...กูรู้ ก็นะ ทั้งๆ ที่รู้แต่กูก็ยังจะทำ กูมัน...”

“พอเหอะ รำคาญ” นี่เป็นประโยคแรกในรอบหกวันที่ผ่านมา ผมมองบอมตาขวาง วางช้อนแล้วลุกเดินออกมา ทั้งที่ยังกินข้าวไปได้แค่ไม่กี่คำ

ไม่ใช่เพราะเกลียดมันหรอกที่ทำแบบนี้ แต่เพราะรักมันมากต่างหาก ถึงเจ็บกับทุกวิ่งทุกอย่างที่มันกำลังอธิบาย ผมเบื่อที่จะฟัง เบื่อที่จะต้องรับรู้ถึงความจริงที่ว่ามันมีชู้ มันมีคนอื่น มันรักผม แต่มันกลับไม่เคยพอเลย

“แมท...” บอมรีบเดินเข้ามาขวาง ดวงตาซุกซนคู่สวยที่ผมเคยหลงรักบวมแดงอย่างน่ากลัว บางที ก็อยากเข้าไปเช็ดน้ำตา ดึงมันมากอด แล้วบอกว่ากูให้อภัย

แต่ความกลัว...มันค้ำคอ

“ ห้โอกาสกูได้แก้ตัวทีเถอะนะ...จะขังกูต่อก็ได้ แต่ช่วยกลับมาเป็นแมทคนเดิมของกูที ถึงกูคนนี้จะมีคนอื่น แต่กูก็ยังรักมึงเหมือนเดิม ยังเป็นบอมคนเดิมของมึงไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักครั้งนะแมท กูรู้ครั้งนี้กูผิดมากๆ กูผิดไปแล้ว...ฮึก..กูขอโทษ กูขอโทษ...” บอมตรงเข้ามากอดผม อ้อมแขนบีบรัดผมเอาไว้อย่างแน่นหนา ราวกับกลัวอย่างสุดหัวใจว่าผมคนนี้จะทิ้งมันไป

“มึงรู้ใช่ไหม...ว่ากูรักมึง” หัวใจที่ยังคงเจ็บปวดโอนอ่อน แต่ไม่หรอก แค่ผมพูดด้วย แค่ผมจะลองให้โอกาส นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะให้อภัยมันง่ายๆ ความผิดครั้งนี้มันจะต้องจำไปจนตาย หรือจำไปตลอดเวลาที่เรายังคบกัน

“กูรู้...มึงรักกูแค่ไหนกูรู้ดี กูถึงไม่เคยคิดจะให้ผู้ชายคนไหนมากอดกูนอกจากมึง แต่เรื่องผู้หญิง กูขอโทษ กูเลวเอง...กูแค่สนุก แค่สนุกไปงั้นจริงๆ” ผมควรจะรู้สึกดีกับคำพูดมันไหม ไม่เคยคิดให้ผู้ชายคนไหนมากอดนอกจากผม แต่แม่งเสือกไปกอดผู้หญิงคนอื่น

“มึงคิดแบบนี้...ถามจริง รักกูบ้างไหม” ผมถามกลับอย่างเจ็บปวด
“รักสิ กูรักมึง...กูรักมึงแมท ฮื่อ...เพราะกูรักไง กูถึงทรมานขนาดนี้ ได้โปรด กูเจ็บแล้ว กูไม่ทำอีกแล้ว....”

สั่มเสียงที่ปวดร้าวของบอมสั่นคลอนหัวใจที่บอบช้ำ ผมหลับตาลง สองมือโอบอ้อมร่างกายของบอมเอาไว้ สมองกำลังบอกให้ตัวเองใจแข็งเข้าไว้ บอกให้อดทน อย่าไปสนน้ำตาและคำอ้อนวอนต่างๆ นาๆ แต่พอนึกถึงใบหน้าที่บวมช้ำ นัยน์ตาแดงก่ำของคนร้องไห้ติดกันมากหลายวัน ความสงสารก็ผุดขึ้นมาอย่างมากมาย บอมทำผมเจ็บ...แต่ผมก็ยังรักมัน

บอมกอดผมแน่นขึ้นเมื่อรับรู้ถึงวงแขนแข็งแรง มันสะอื้นหนักกว่าเก่า ร้องไห้หนักกว่าเดิม ผมไม่ลุบหลังเพื่อปลอบมันหรอก แต่ก็ยืนกอดมันเอาไว้อย่างนั้นไม่ยอมคลายออก นี่ก็นับว่าใจอ่อนลงไปมากแล้ว

“มึงให้อภัยกูแล้วใช่ไหม” มันถามเสียงอู้อี้

“ไม่...” บอมเงยหน้ามองผมในทันที

“จะให้กูตายก่อนไหมถึงให้อภัยกู” นัยน์ตาที่เคยซุกซนเศร้าหมอง

“...” ผมไม่ตอบคำถาม หยาดน้ำจึงรื้นล้นออกมาจากตาของมัน

“แมท อย่าใจร้ายกับกูขนาดนี้เลย กูจะตายอยู่แล้ว...” ผมเช็ดน้ำตาให้กับมันก่อนจะดันหัวมันซบลงที่อก

“กูไม่ให้อภัยมึงง่ายๆ หรอกบอม ถ้าครั้งนี้มันทำเราทั้งคู่เจ็บ...ก็เจ็บจนตายแม่งไปด้วยกันนี่แหละ” บอมปล่อยโฮออกมาหนักกว่าเดิม

ผมปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปโดยไม่ทำอะไรอีก แค่โอบกอดมันที่ร้องไห้หนักเอาไว้ รับรู้ถึงกระแสอารมณ์อันย่ำแย่ เราทั้งคู่ต่างเหนื่อย ต่างเจ็บปวดเหมือนๆ กัน ไม่มีใครเลยที่จะแบกรับความรู้สึกน้อยกว่าใคร สิ่งที่บอมแสดงออกมาให้เห็นนั้นก็ชัดพอแล้ว ผมลูบแผ่นหลังที่บางกว่าตัวเองด้วยความนุ่มนวล ถึงครั้งนี้เราจะทำร้ายกันและกัน แต่เราก็ยังคงรักกันไม่ได้เปลี่ยนไป

ผมไม่รู้ว่าถ้าใจอ่อน อ่อนข้อให้แล้วมันจะยังเป็นแบบนั้นอีกไหม แต่ยอมรับจากใจว่าทรมานมันต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะการเห็นมันร้องไห้ ผมเองก็ทรมาน ทุกคืนเรานอนห้องเดียวกัน บอมต้องนอนข้างล่างเพราะผมไล่มันไป มันแทบไม่หลับ ผมเองก็เหมือนกัน นอนมองมันทั้งคืน กลางวันผมก็ขังมันเอาไว้ มีอาหารให้แต่ไม่ให้มันออกมาจากห้องนอน ไม่ให้ใช้มือถือหรือคอมถ้าไม่จำเป็น บอมยอมผม ยอมเพื่อที่จะให้ผมรับรู้ว่า..มันรักผม

อืม...ผมรู้ว่ามันรักผม ไม่งั้น มันคงจากผมไปแล้ว ไม่อยู่ให้ตัวเองทรมานขนาดนี้หรอก

“มึงรู้นะ ต้องทำไง...” หลังจากบอมสงบสติอารมณ์ได้ ผมก็พามันมานั่งที่โซฟา ยื่นมือถือให้กับมัน บอมรับไว้แล้วยิ้มให้ผม

“ครับ..” มันขานรับ ขยับมานั่งตักให้ผมเห็นหน้าจอได้ง่ายๆ ทันทีที่มันเปิดเครื่องหลังจากผมปิดมันเอาไว้ตลอด ก็มีแจ้งเตือนไม่ได้รับสายร่วมร้อยสายจากพู่กัน และอีกสิบกว่าสายของคนที่ชื่อบัว หึ...มารู้เอาตอนนี้เองละว่าบัวน่ะก็เป็นกิ๊กของไอ้บอม มันเมินแจ้งเตือน จากนั้นก็ลบเบอร์ของผู้หญิงทุกคน ลบแชต บล๊อคเฟซ บล๊อคไลน์หลังบอกเลิกกับสาวๆ พวกนั้น บอมมันร้าย อยากจะโกรธอีกรอบจริงๆ เมื่อเห็นรายชื่อจำนวนมากในเครื่อง ที่ไม่ให้ผมยุ่งกับมือถือก็เพราะแบบนี้สินะ
แต่เอาเถอะ...ครั้งนี้ทรมานมันพอแล้ว แต่ถ้ามีอีกเมื่อไหร่ ผมจะล่ามโซ่มันไว้ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย คอยดู!

“เสร็จแล้วก็ไปล้างหน้า กูหิว” ผมดันหลังบอมออกจากตัว ทั้งที่ความจริงชอบมากที่มันนั่งตักแบบนี้ บอมหน้าสลดลง แล้วลุกไปแต่โดยดี

เรากลับมานั่งกินข้าวกันอีกครั้ง หลังทิ้งให้กับข้าวบนโต๊ะเย็นชืดไปหมด มันไม่อร่อยแล้วละ แต่ด้วยความที่บรรยายกาศระหว่างผมกับบอมดีขึ้น ทำให้อาหารอันจืดชืดมีรสชาติขึ้นมาได้ บอมคอยตักของที่ผมชอบมาใส่จานให้ แล้วยังเปลี่ยนน้ำในแก้วให้เย็นฉ่ำ เอาใจผมอีกน่างหาก ผมลอบยิ้มในตอนที่บอมไม่เห็น มันที่คอยเอาใจ เป็นเด็กดีแบบนี้ผมชอบมาก แต่ผมไม่ยอมให้เจ้าตัวรู้หรอก ไม่งั้นจะยิ่งได้ใจ ให้คิดว่าผมยังโคตรโกรธอยู่น่ะดีที่สุดแล้วระหว่างเราในตอนนี้

ผมน่ะยังต้องคอยจับตาดูพฤติกรรมของบอมอีก ไม่ใช่ใจอ่อน อ่อนข้อให้แล้วจะปล่อยปละละเลยเสียเมื่อไหร่ หวังว่าเหตุการณ์คราวนี้จะทำให้บอมเข็ดไปได้บ้าง ถ้าแค่หลีสาวผมพอให้อภัย แต่ถ้ามีแบบนี้อีกเมื่อไหร่เราคงเห็นดีกัน ผมเชื่อว่าเขาจะไม่กล้า ดูจากที่ผ่านมาแล้ว เขาเองก็ทรมานมากกับสิ่งที่ผมปฏิบัติตัวต่อเขา ผมเองก็ใช่ว่าจะชอบเสียเมื่อไหร่ละ เราอยู่กับแฟน เราก็อยากมีความสุข ไม่ใช่อยู่ด้วยกันแล้วมานั่งทุกข์อย่างที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้จะจบหรอก แต่มันเบาลง ให้ผมได้คลายความอึดอัดใจ และบอมได้ผ่อนคลายจากความทรมานใจ

หลังจากนี้สิ...น่าเครียด
“มึงจะให้กูกลับไปเรียนไหม” บอมถามเสียงกล้าๆ กลัวๆ
“อืม” ผมตอบประหยัดคำ บอมหน้าเจื่อน อย่าคิดว่าอ่อนข้อให้แล้วจะกลับไปเป็นแบบเดิมได้เลยทันทีสิ ดีไม่ดี ถ้าบอ ทำตัวแย่ เรื่องนี้อาจไม่วันจบเลย จนกว่าใครคนใดคนหนึ่งทนไม่ไหวนั่นแหละ
“เดี๋ยวกูเอาตารางเรียนมาให้มึงนะ...” บอมพูดยิ้มๆ ส่วนผมอึ้งไปนิดหน่อย
บอมเนี่ยนะให้ผมยอมดูตารางเรียน!

ดูท่าการดัดนิสัยคราวนี้จะพอได้ผลดีบ้างละนะ ปกติมันหวงจะตาย ไอ้ตารางเรียนกับมือถือเนี่ย ของสำคัญที่จะทำให้มันมีช่องว่างไปไหนมาไหนได้ ผมก็เคยคิดจะขอดูของพวกนี้แต่มันยอมที่ไหน ถ้ามันยอม ผมคงไม่ต้องระแวงมันมากขนาดนี้หรอก เพราะผมจะรู้ได้ทันทีถ้ามันตุกติก ผมแอบลอบยิ้มในใจ รู้สึกดีที่มันทำตัวดีแบบนี้
“อืม” ถึงชอบแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ บอมพยายามยิ้ม แม้ตาจะยังคงความเศร้าเอาไว้

มันไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก เงียบ กินข้าวจนเสร็จเรียบร้อย บอมอาสาเก็บจานล้างจานเอง จากนั้นทำความสะอาดโต๊ะ ผมนั่งมองมันจากโซฟา ดูห่างๆ พลางคุยแชตไลน์กับดิวไปด้วย พอบอมทำทุกอย่างเรียบร้อย มันก็เดินเข้าห้องไปเอากองชีทออกมานั่งอ่านนั่งจนตรงหน้าผม
“ขอแล็บท๊อปได้ไหม...” มันหันมาถาม ผมพยักหน้า บอมยิ้มหวานแล้วเอาคอมฯมานั่งทำงาน มันอยู่ในสายตาผมตลอด ให้ผมได้เห็นว่ามันกำลังทำอะไร คงเพื่อสร้างความเชื่อใจให้กลับมาอีกครั้ง แต่ขอโทษ...ความเชื่อใจไม่ใช่สิ่งที่สร้างกันได้ง่ายๆ หลังจากสูญเสียมันไปแล้ว

ผมมองบอมสลับกับกดตอบแบตไลน์ของดิว ต้องคอยจ้องเผื่อว่ามันจะแอบเข้าเฟซไปหาหญิงสาว ทั้งที่ผมเห็นมันบล๊อคพวกเธอไปแล้ว แต่มันระแวง  ทำไงได้ละ บอมทำให้ผมเป็นคนแบบนี้ จะโทษ ก็ต้องโทษตัวเองละนะ..
“คุยกับใครหรอ...” บอมเงยหน้าจากจอมาถาม ผมกดล๊อคจอนิ่งๆ จ้องหน้ามันด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“เพื่อน” บอมพยักหน้า ยิ้มบางแล้วทำงานต่อ โดยหันมามองผมบ้างเป็นพักๆ แต่เมื่อเห็นสายตาของผม มันก็จะหันกลับไปทำงานของตัวเองด้วยสีหน้าที่ซ่อนความหม่นหมองเอาไว้ ผมเข้าใจความรู้สึกของมันดี...แต่นี่เป็นบทลงโทษของมัน เพราะงั้น มันก็ต้องแบกรับความรู้สึกแย่ๆ ต่อไป

************จบบทที่ 7************

 :hao3: :hao3: :hao3: แมทนี่ขี้โกหกจริงๆเลยน้า :ling1:

ออฟไลน์ Pamaipraewa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #65 เมื่อ28-12-2016 12:13:19 »

โอ๊ยยยยย ไม่รู้จะเชียร์ใคร ขอเชียร์ดิวละกัน555 หาคู่ดีๆให้น้องด้วยนะค้า อีแมทมันหลอกน้องงงงง

บอมกับแมทก็...คบกันยืดๆแล้วกันนะ 5555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #66 เมื่อ28-12-2016 13:08:30 »

แมท ว่าแต่บอม ตัวเองก็ทำเหมือนบอม
เพียงแต่กิ๊กบอม เป็นหญิงหลายคน
แต่กิ๊กแมท เป็นชายคนเดียว
ที่จริงมันก็ตรงกับใจชอบของคนทั้งคู่
บอมยังชอบหญิง แมทชอบแต่ชาย
ตรงสเป็คของทั้งคู่อีก แอร๊ยยยยยยย
ก็เจ็บกันทั้งแมท ทั้งบอม  :z6: :z6: :z6:
ทั้งคู่ต่างนอกกายกัน ไม่นอกใจกัน
คอยดูว่า ใครจะเลิกนอกกายได้จริง  :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #67 เมื่อ28-12-2016 13:13:19 »

แมทเอาแต่โทษบอม ไม่ยอมรับว่าตัวเองก็ทำเหมือนกัน
ยังคุยแชทกับดิวได้หน้าตาเฉย ไม่ได้มีความสำนึกผิดเลย
ในใจก็เอาแต่โทษบอมบลาๆๆ
เฮ้อ แมทเอ้ย ขอให้บอมรู้บ้างเหอะ เอาคืนแมทหนักๆเลย ให้กระอักเลือดไปข้าง :fire:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #68 เมื่อ28-12-2016 13:35:56 »

แมทแกเลวกว่าอีก  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #69 เมื่อ28-12-2016 21:22:29 »

  อ่านตอนนี้สงสารบอมจริงๆ แต่ก็คิดว่าดีแล้วที่แมทกับบอมเป็นคู่กัน เป็นคู่ที่เหมาะสมกันเพราะนิสัยจริงๆ
   สักวันบอมจะจับได้ บอมเอะใจแมทแล้วแต่ชะล่าใจเอง รออ่านต่อคับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
« ตอบ #69 เมื่อ: 28-12-2016 21:22:29 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #70 เมื่อ28-12-2016 22:24:40 »

เรื่องนี้คงจบไม่สวย

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 7 [28/12/59]
«ตอบ #71 เมื่อ29-12-2016 00:29:29 »

เสือตัวผู้ ดูกระสัน มั่นใจมาก
เสาะแสวง แฝงรูดาก จากสมัน
เสือตัวเมีย ที่เสียรู้ ยังอยู่กัน
ร้องรำพัน เสือที่รัก หักกลับมา

ดูต่างกัน ตรงที่ว่า หากินเหยื่อ
บอมเป็นเสือ กินไม่เลือก แล้วแต่หา
แต่เสือแมท ปักใจกิน ทุกเวลา
ชี้ชัดว่า ให้ราคา มากกว่ากัน

เรื่องนี้อาจจะอธิบายให้เห็นถึง
นอกกาย กับ นอกใจ
ว่ามันต่างกันแค่..เจตนา

จริงไปไหม
เสือแมท
หุหุ

+1 ให้เรื่องนี้
นานๆทีถึงจะมีนิยายที่อ่านแล้วโดนใจแบบนี้
มาต่อบ่อยๆนะ เพราะตอนนี้ติดงอมแงมไปแล้ว

มารออ่านเธอมีชู้
ทุกคืนเลย
อิอิ

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #72 เมื่อ29-12-2016 08:53:04 »

เธอมีชู้

บทที่ 8

“อ้ะ...พี่แมท” เสียงครางหวิวดังออกมาเมื่อผิวเนื้ออ่อนส่วนคอโดนกัดเพียงแผ่วเบา

“ครางอีกสิครับดิว” ผมกระซิบบอกใกล้ใบหูขาวที่ตอนนี้อมชมพูเพราะเลือดในกายเล็กกำลังเดือดพล่าน

“อ๊า พี่แมทครับ....พี่......” แรงขย้ำตรงความอ่อนไหวกลางกายทำให้ดิวปล่อยเสียงครางหวานหูออกมา

“อื้ม ดี...พี่ชอบเราครางจังเลยครับ” ผมขบเม้มลำคอขาวคอ ไล่ระดับจากบนลงล่างทีละช้าๆ ค่อยๆ ทำไปไม่รีบร้อน เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีที่สุด

แผ่นอกเล็กกระเพื่อมขึ้นลงเพราะแรงหายใจที่หนักหน่วง ผมมองมันด้วยสายตาวาววามก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียตุ่มไตเด่นหราทั้งสองฝั่งซ้ายขวา ดิวผวาเฮือก สองมือเคลื่อนขย้ำเส้นผมสีดำขลับลื่นมือเอาไว้พลางแอ่นอกเข้าหาความรุ่มร้อนตามสัญชาตญาณ ปฏิกิริยานี้ทำให้ผมเพลิดเพลินกับการละเลงเรียวลิ้นลงไป ยิ่งหยิกล้อ ก็ยิ่งมัวเมา ท่อนขาของดิวเสียดสีสีข้างผมไปมา ความรัญจวนช่วงบนมันเป็นแค่สิ่งที่เห็น แต่ภายใต้กายใหญ่ของผมนั้นมีมือกำลังกำรอบท่อนเนื้อนุ่มอันชูชันเอาไว้ พลางบีบนวด เคล้าคลึงสร้างอารมณ์ให้กับอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ

“พะพี่...ผมเสียว ผมไม่ไหวแล้ว เร่งอึก...เร่งมือให้ผมหน่อย” ในเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากร้องขอ ผมก็ไม่ปฏิเสธคำขอนั้น ขยับข้อมือของตัวเองเร็วขึ้นทีละน้อย

“พี่ทำให้แล้ว ครางให้พี่ฟังดังๆ นะครับน้องดิว” จ้องตากับคนใต้ร่าง บอกเสียงกระเส่าให้เขาทำตาม ดิวพยายามจ้องตอบ แต่ความซาบซ่านนี้ทำให้เขาไม่อาจเปิดเปลือกตาได้นานนัก

“อ้ะ อ้ะพี่แมท...พี่เร็วอีก อื้ออ้ะ อ้ะ อ๊า....” น้ำจากแก่นกายอุ่นรินรดฝ่ามือของผม ไม่ต้องมองก็รู้ว่าสีของมันเป็นสีอะไร และมากมายแค่ไหน

“ได้เวลาทำให้พี่บ้างแล้วนะครับ” จูบไปที่กลีบปากสีสวยก่อนจะขยับพลิกสลับตำแหน่ง

ดิวลงมือปฏิบัติหน้าที่ในทันที เขาโน้มลงมาจูบปากผมด้วยความเร่าร้อนก่อนจะใช้สิ่งเดียวกันนี้พรมไปตามลำคอของผม ดิวรู้ดีว่าห้ามทำรอยเด็ดขาด เขาจึงจูบอย่างนุ่มนวล ฝ่ามือของเขาสำรวจร่างกายของผม ลูบไล้และหยุดลงตรงความแข็งขืนที่ร้อนฉ่า ดิวรวบมันเอาไว้ด้วยสองมือ ค่อยๆ ขยับให้สอดคล้องกับจังหวะของริมฝีปาก แต่ผมอดรนทนไม่ไหว เชยคางเขาขึ้น มองสบตา อ้อนเขาด้วยดวงตาคู่คม

“พี่อยากได้ปากน้องดิว...”

“ขอกันอย่างนี้ ผมก็ปฏิเสธไม่ลงสิครับ” ดิวยิ้มรับอายๆ เขาเคลื่อนใบหน้าลงไปด้านล่างทันที

“สอดนิ้วเข้าไปในตัวเองด้วย พี่อยากดู อื้ม...” ดิวไม่ขัดสิ่งที่ผมต้องการให้เขาทำ เมื่อริมฝีปากครอบลงมันยอดชาย เขาก็ค่อยๆ สอดนิ้วของตัวเองเข้าไปในช่องทางสีคล้ำ ขยับขยายเส้นทางของเขาเอง

ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความคึก ปากกำลังขยับขึ้นลง เห็นลำกายพลุบเข้าพลุบออกแบบนั้นแล้วความเสียวซ่านก็ทวีรุนแรง หากมองเลยไปอีกหน่อยก็จะพบเห็นมือของดิวที่ขยับกระแทกกระทั้นเข้าสู่ช่องทาง มันไม่ได้รุนแรงนัก แต่ก็เร็วพอที่จะทำให้เกิดความวูบวาบในช่องท้องน้อย

“อ่าห์...สุดยอดเลยน้องดิว พี่เสียวมาก” ผมขยับสะโพกดันส่งให้ส่วนสำคัญเข้าไปในโพรงปากอุ่น

“อื้อ อื้อ อื้อ” ดิวครางรับกับจังหวะที่ในเข้าออก รวมทั้งมือของเขาที่เคลื่อนไหวสอดประสาน

“อ้ะ...น้องดิวดูดแรงๆ เลยครับ” ผมกดหัวของดิวให้จมไปกับท่อนเนื้อ กลืนกินมันเข้าไปจนหมดไม่เห็น รู้สึกเลยว่าเข้าไปจนถึงคอ ดิวส่งเสียงอ่อกแอ่กออกมา แต่ก็ยังพยายามดูดแรงๆ ตามที่บอก

“ซี๊ดด...อื้ม!” น้ำคาวพุ่งทะลักเข้าสู่ลำคอเล็ก ดิวรีบดึงหน้าตัวเองออกแล้วไอออกมา

“แค่กๆ”

“เป็นอะไรไหมครับ...” ดิวส่ายหน้า

“ไม่ครับ แค่สำลักนิดหน่อยเท่านั้นเอง” คนตัวเล็กยิ้มให้ ผมจึงระบายยิ้มตอบ ช้อนคอด้านหลังของเขาให้เข้าหาตัวเองก่อนบรรจงจูบให้รู้สึกวาบวาม

“อื้ม” ดิวระบายเสียงครางออกมา ผมจับตัวเขาให้ขึ้นมาคร่อมสะโพก นั่งทับส่วนอ่อนไหวที่ไม่อ่อนแรงลง

เราจูบกันดุเดือดในขณะที่ช่วล่างเหมือนจะตามหากันและกัน ดิวส่ายสะโพกไปมา ผมเองก็จับส่วนนั้นให้จ่อเข้ากับช่องทาง เมื่อเจอกันแล้วก็สอดประสานเป็นคนเดียวกัน ดิวทิ้งน้ำหนักลงมาอย่างช้าๆ เพราะขนาดของผมและนิ้วของเขามันต่างกันเกินไป ขืนทำเร็วอย่างในนึก คงมีเลือดซึมกันได้

เพียงครู่เดียว ดิวก็นั่งลงมาทั้งตัว เขาถอนริมฝีปากออก หอบหายใจหนักหน่วงเพราะต้องกลั้นมันเอาไว้ในตอนที่ค่อยๆ กดลงมา ผมลูบไล้ความเป็นชายด้านหน้าให้เพื่อให้เขาได้รู้สึกสยิวและหลงลืมความปวดหนึบนี้ไป ใบหน้าหวานปานหญิงสาวเงยขึ้นสบตา เขายิ้มอ่อนและผมยิ้มตอบ

“เจ็บมากไหม” ถามอย่างเป็นห่วง

“เจ็บสิครับ ใครเขาพี่ใหญ่ขนาดนี้ละ...” ดิวว่าผมทั้งที่หน้าแดงก่ำ

“แล้วดิวไม่ชอบหรอครับ ของใหญ่ๆ” กระซิบเย้าคนตัวเล็กพลางกระดกเจ้างูหลามในตัวของดิว

“อึ้ก พะพี่...ผมชอบหมดหมดแหละ ถ้าเป็นของพี่แมท จะเล็กหรือใหญ่ ไม่เห็นเกี่ยวเลย”
“ปากหวานจังครับ...” พูดจบผมก็ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของดิวเบาๆ พร้อมกับจับก้นนุ่มนิ่มยกขึ้นเพื่อจะปล่อยลงมาใหม่ให้เกิดความเสียวซ่าน ดิวเกาะไหล่ของผมเอาไว้แน่น เม้มปาก ปรือตามอง เป็นที่โคตรยั่ว และผมมักนแรงยั่วได้ไม่นานนัก

“ฮ่า...อื้อ อื้ออ้ะ อ้ะ อ้ะ สะเสียวครับพี่” เพราะเราต่างก็นั่ง ทำให้แกนกานร้อนเสียดสีหน้าท้องของผม ยิ่งส่วนปลายฉ่ำยลน้ำถูไปกับรอนกล้ามท้อง ช่องทางนถ่มนั้นก็จะยิ่ฝตอดรัดลำกายของผมเอาไว้แนบแน่น

“พี่ก็เสียวมากเลยครับ น้องดิวรัดพี่แน่นมาก อื้ม...แน่นสุดๆ เลยครับ” จังหวะเริ่มเร็วขึ้นแล้ว ดิวต้องกอดคอของผมเอาไว้ ไม่งั้นเขาจะทรงตัวไม่อยู่

เสียงครางของดิวดังก้องลั่นห้องนอนของเขา ดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้อีกเช่นเคย เราถึงได้ทำกันโดยไม่สนเสียงจะดังจะเบา ผมสวนสะโพกเข้าหาอีกฝ่าย เสริมแรงจนดิวหัวสั่นหัวคลอนรุนแรง ความเสียวซ่านทำให้ดิวบีบรัดผมแน่น จนผมแทบจะทนความยั่วเย้าของกามารมณ์ไม่ไหว อยากจะพลิกคร่อมแล้วเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่างเอไว้ด้วยตัวเอง แต่ดิวในตอนนี้ยังเร่าร้อนเขิญชวนอยู่ ผมจึงข่มอารมณ์แล้วมองสีหน้าที่สุขสม

“พะพี่แมทครับ...ดิวอยากถึง” เจ้าตัวน้อยร้องบอกเสียงกระเส่า ผมจึงกอบกุมส่วนอ่อนไหวเขาไว้แล้วกำมันเบาๆ ให้การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นตัวทำให้มันขยับไปเอง

ดิวเร่งสะโพกตัวเองอย่างเร็ว เพื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งมันใช้เวลาไม่มาก ครู่เดียวเท่านั้น ร่างกายของผมกับเขาก็เฉอะแฉะไปดัวยน้ำคาวสีขาวขุ่น ดิวซบไหล่หอบตัวโยนด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ผมไม่ให้เขาพัก จับเขานอนลงแล้วเริ่มกระแทกต่อในทันที ข่องทางนุ่มๆ ยังเต้นตุ้นอยู่เลย ช่วงเวลาแบบนี้แหละนี่ผมชอบ บีบรัดผมเอาไว้เยอะๆ ให้เหมือนกับว่าจะทำให้มันขาดไปเสียให้ได้

“อ๊า พี่ครับ...” ร่างเล็กร้องเสียงหลง เขากอดคอของผมเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เหมือนให้เป็นหลักกับร่างที่โดนแรงส่งจนตัวไถลขึ้งลงระรัว

“อ่าห์ดี รัดพี่แน่นๆ นั่นแหละดี” ถึงจะเค้นคำพูดออกมายากเสียหน่อย แต่ก็พูดออกไปเพื่อให้อีกคนรู้สึกดี

เสียงเนื้อกระทบที่เบาลงไปจากการถึงของร่างเล็กเมื่อครู่นี้ดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะแบบนี้ผมรุนแรงได้เพราะช่องทางร้อนๆ นี้อ่อนนุ่มมากพอที่จะรองรับความกระสันแบบหนักหนวง ผมจ้วงเข้าสุดออกเกือบสุดเพื่อรีดเสียงครางของเด็กน้อยใต้ร่าง จนเขาร้องเหมือนเสียงสะอื้น หายใจฝืดฝาด แทบจะโกยอากาศเข้าแทบไม่ทัน และเมื่อผมใกล้ถึง ผมก็ยืดตัวเต็ม จับข้อเท้าทั้งสองข้างให้ชู้ขึ้นสูงแล้วกระหน่ำแทงลงไปให้ยับ

“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า...,” เสียงน้องของเลดิวแทบกลบเสียงเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าด สองมือของเขาจิกผ้าปูที่นอนจนแทบขาดออกจากกัน ร่างกายเล็กบิดเกร็งอย่างรุนแรง และเฮือกต่อมาเขาก็บีบรัดผมอย่างบ้าคลเงพร้อมกับน้ำขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากส่วนอ่อนไหว

“น้องดิว น้องดิว...” ผมครางชื่ออีกฝ่ายซ้ำๆ แรงรัดหนักแน่นทำให้ผมแตกพล่านออกมา แต่ผมยังไม่ยอมหยุด อยากสุขแบบสุดๆ จนทนแทบไม่ได้ จึงขยับสะโพกระรัวตาอไปจนร่างกายเลมันเกร็งไปหมด

“อื้อ พี่แมท...พี่ครับพี่” ดิวร้องเหมือนจะขาดใจตาย ผมเองก็คล้ายกัน กัดฟันกรอดจนปวดกราม ทนไม่ไหวอีกแล้ว จำต้องชลอทุกอย่างลงอย่างช้าๆ และหยุดไปในที่สุด

“แฮ่กๆ...”

“เสียวจัง...” ผมทิ้งตัวลงไปกอดอีกร่างเอาไว้แนบแน่น เหนื่อยมากๆ ช่างเป็นการออกกำลังกายที่สุขสม

ผมคิดนะ ว่าพระเจ้าช่างดีเหลือเกิน ที่สร้างให้มนุษย์อย่างเรารู่จักมีความสุขโดยไม่ต้องมีอะไรมากมาย เพียงแค่สอดใส่เข้าไปในร่างของอีกคนแรงๆ ก็สร้างความเมามันได้มากมายขนาดนี้ ผมชื่นชอบเซ็กส์จริงๆ จะกับใครก็ตาม ผมว่ามันวิเศษสุดๆ

ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ เรามองหน้ากัน สบตาซึ่งกันและกันก่อนจะระบายรอยยิ้มแห่งความสุข ผมก้มลงไปจูบกลีบปากของดิว เม้มดึงมันด้วยความใคร่ระคนเอ็นดู วันนี้ดิวทำให้ผมมีความสุขมาก และผมเชื่อว่าดิวเองก็มีความสุขเช่นกัน

“อยากให้พี่แมทค้างกับผมจังเลยครับ” ร่างเล็กส่งเสียงอ้อน มือไม้กอดเกี่ยวไม่ยอมคลาย

“พ่อแม่น้องดิวจะยอมหรอครับ” ปัดปรอยผมให้คนตัวเล็ก ยิ้มอ่อนโยนให้กับเขาอย่างที่ทำเป็นประจำ

“ยอมสิครับ ท่านไม่ดุหรอก บอกเป็นรุ่นพี่ผมแค่นี้ก็ได้แล้ว” เขายิ้มหวานกลับมาให้

“งั้นเอาไว้คราวหน้าดีไหมครับ พี่กับบอมเพิ่งจะคุยกันได้เอง ยังไม่อยากให้มีปัญหาในตอนนี้อีก” ดิวพยักหน้าเข้าใจ

“นั่นสิครับ ผมลืมไปเลย แต่ว่า...แค่ค้างบ้านแฟนแค่นี้ พี่บอมเขาต้องโกรธเลยหรอครับ”

“บอมไม่โกรธพี่หรอกครับ แต่พี่ยังอยากให้เข้าใจในตัวพี่มากกว่านี้ก่อน ตอนนี้ถึงเราจะหันมาคุยกันบ้าง แต่บอมก็ยังโกรธพี่อยู่ พี่เองก็อยากจะให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่พี่ทำลงไปมันเพื่อเขาทั้งนั้น บอมเป็นคนดื้อครับ เขาหัวรั้น ยิ่งพี่ไม่อยู่ เขายิ่งทำตามอำเภอใจ” อธิบายให้เขาฟังด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับลูบหัวดิวไปด้วย

“อ่อ ผมเข้าใจแล้วครับ แต่ถ้าดีกันเมื่อไหร่ มาค้าง...กับผมนะ” ผมรู้ว่าดิวอายที่จะพูด ผมจึงจูบเขาเป็นรางวัล
“ครับ ดีกันเมื่อไหร่ ไม่พลาดที่จะมาฟัดดิวทั้งคืน เอ้ย...นอนกอดดิวทั้งคืนแน่ครับ” ดิวตีผมเบาๆ หนึ่งที ข้อหาทำให้เขิน

คุยกันพักหนึ่ง ผมก็ขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า นี่เย็นมากแล้ว ไม่รู้บอมจะกลับมาบ้านหรือยัง ผมปล่อยให้เขาได้ไปเรียนมาสามวันแล้วละ ดูตารางเรียนเขาตลอด เวลานี้บอมก็คงกลับห้องของเรา แต่ผมยังไว่ใจเขาครับ ยังไม่เชื่อว่าบอมจะเป็นเด็กดีได้
“พี่แมท พี่บอมโทรมาครับ” พอออกมาจากห้องน้ำ ดิวก็บอก ยกมือถือให้ดู ดีที่เขาไม่รับสายให้ ไม่งั้นคงแก้ตัวกันอีกยาว
“ขอบคุณครับ ฮัลโหล” ผมขอบคุณดิวก่อนจะรับสาย นั่งลงข้างกับเขาบนเตียง ดิวกอดพร้อมเอาคางเกยไหล่ผม
(กูถึงห้องแล้วนะ มึงอยู่ไหน)
“กูกำลังกลับ” กรอกเสียงราบเรียบลงไป เหมือนจะเห็นดิวมองผมแปลกๆ ไม่เคยได้ยินผมพูดน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้มั้ง
(อื้อ กูกินอะไรก็ได้ ซื้อมาให้กูกินหมดแหละ)
“อืม” คราวรับแล้วเตรียมจะวางสาย
(แมท...) แต่อีกฝ่ายกลับเรียกเอาไว้ก่อน จึงต้องฟัง
(กูรอนะ...) เสียงพูดที่ออดอ้อนน้อยๆ นั้นทำให้ผมรู้สึกใจสั่น ผมวางสาย มองหน้าจอพลางนึกถึงคนอีกฝั่ง อยากรีบกลับไปหามันเลย
ผมไม่รีรอเล่นตัว แกะแขนดิวออก จูบหน้าผากมลนั้นแผ่วเบาแล้วลุกไปแต่งตัว ดิวจะได้ยินเสียงของบอมไหมผมก็ไม่รู้ ผมสนใจแค่การหาของกินและกลับห้องไปเจอไอ้เสือเขี้ยวหัก พอมันเป็นเด็กดีแบบนี้ ผมละอยากรักมันหนักๆ สักที แต่ต้องวางมาดเอาไว้...คิดไว้เสมอว่าผมยังโกรธมัน

บิดมอเตอร์ไซค์จากบ้านดิวมาที่ห้องของผมนั้นใช้เวลาไม่นานนัก ราวครึ่งชั่วโมง แต่รถดันติดมากเลยกินเวลาไปเกือบชั่วโมง ยังไม่รวมตอนแวะซื้อบะหมี่เกี๊ยวเจ้าดังแบบพิเศษอีกสองห่อ นั่นน่ะนานจริงๆ รอจนเมื่อย แต่ในที่สุดผมก็มาถึงห้องของตัวเองเสียที เปิดประตูมาก็ไม่เห็นบอม มือถือวางอยู่ตรงโต๊ะหน้าโซฟา ผมตรงดิ่งเข้าไปหยิบมันขึ้นเพื่อจะดู เป็นจังหวะเดียวกับที่บอมเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูบนหัว  เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ใส่ยังมีน้ำติดประปราย

“กลับมาแล้วหรอ กูอาบน้ำแล้วนา...หอมด้วยละลองดมไหม” ผมมองใบหน้าที่ยิ้มทะเล้น น่ารักน่าฟัด แต่จำน้องเมินเพราะไม่อยากให้มันคิดว่าผมกลับไปเป็นแบบเดิม เดี๋ยวเสียนิสัย

“ไม่ละ” ผมตอบเรียบๆ

“อ่า...จะดูโทรศัพท์กูหรอ รหัสเข้าเป็นตองแปดนะ” บอมบอกอย่างไม่อิดออด ผมเงยหน้าแสยะยิ้มให้มันแล้วกดรหัสเข้าไป

บอมเดินมานั่งข้างผมบนพื้น ในขณะที่ผมนั่งตรงโซฟา เจ้าตัวยิ้มพลางมองว่าผมกดเข้าอะไรบ้าง ดูอะไรบ้าง ไม่มีคำพูดขัดหรือว่าอะไรสักแอะ กลายเป็นเสือเขื้องๆ ที่ยอมทำทุกอย่างให้ผมสบายใจ ผมรู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่มันให้ได้เพื่อยื้อความสัมพันธ์ของเราเอาไว้ และผมชอบมัน เพราะมันทำให้เห็นว่าบอมเองก็รักผมมากแค่ไหน

“ใคร” ผมถามเมื่อเจอผู้หญิงคนหนึ่งสางข้อความเข้ามาพอดี

“ไหน อ่อ...ไม่รู้วะ” มันยิ้มตาหยี

“กูไม่เชื่อ”

“กูไม่รู้จักจริงๆ นะ ไม่เคยคุย ไม่ได้เป็นเพื่อนกู ไม่เชื่อมึงดูรายชื่อเพื่อนสิ” บอมตาโต ท่าทีรนรานเหมือนกลัวผมโกรธ มันรีบจัดแจงจิ้มเข้าดูเพื่อนในเฟซบุ๊คทันที ผมมองตามตลอด ดูว่ามันจะตุกติกแอบลบไหม แต่ก็ไม่

“งั้นกูจะพิมพ์อะไรก็ได้ใช่มะ” ผมกดเอาคีย์บอร์ดขึ้นมา

“ได้ดิ ตามใจมึงเลย” พอได้ฟังผมถึงยิ้มให้ แต่ไม่ใช้รอยยิ้มหวานหรอกนะ แค่มุมปากเหมือนสะใจ

“ขอโทษครับ ผมมีผัวแล้ว” ขณะพิมพ์ก็ออกเสียงไปด้วย กดส่งเสร็จมองหน้าบอมที่ค่อนข้างซีด

“เสร็จแล้วใช่ป่ะ ไปกินข้าวกันนะ กูหิวแล้ว” ผมคิดว่าบอมจะต่อว่ากับข้อความที่ผมส่ง แต่ไม่เลย มันยังยิ้มได้

“เอาดิ” จบคำ เขาก็หยิบเอาถุงบะหมี่เดินเข้าครัวไปใส่จาน

ลับหลังบอมผมสอดส่องทุกอย่าง มันอาจจะมีอะไรซุกซ่อนเอาไว้ก็ได้ จะให้เชื่อใจคนเจ้าชู้ประตูดินแบบมันน่ะมันง่ายเกินไป เพราะถ้าผมไม่บังเอิญพาดิวเข้าโรงแรมนั้นเหมือนมัน ผมคงโง่ไปอีกนานเลย แต่ไม่ว่าจะส่องทุกอย่างยังไงก็ไม่พบสิ่งที่น่าสงสัย ไม่แน่ มันอาจจะเนียนเหมือนผมก็ได้

อย่างผม ผมจะไม่เก็บข้อความของใครเอาไว้เลย คุยเสร็จลบทิ้งทันที ถึงไม่เคยมีข้อความแชตของดิวตอนที่บอมมันเห็นคราวนั้น แหวนที่ดิวซื้อให้ผมก็ไม่ใส่ กลัวจะลืมถอด ไม่โพสต์ข้อความว่าไปไหน ทำอะไร อยู่เงียบๆ เหมือนเรียนกนหัก

ตอนนี้บอมก็ดูเงียบ สงบเสงี่ยมเรียบร้อยจนน่าใจหาย แต่ในมือถือของมันไม่มีอะไรให้ผมตรวยดูได้แล้ว ผมดูยันสายเข้าออก แต่นอกจากเบอร์เต้กับกล้าก็ไม่มีของใคร เบอร์แปลกๆ ไม่ขึ้นชื่อก็ไม่มี ถ้าบอมมันเนียนจริงๆ นี่ก็ขั้นเทพ

“ไม่ใช่ว่ามึงแอบลบหลักฐานทิ้งหรอกนะ” บอมถือถาดที่ใส่เกี๊ยวบะหมี่ชามโตพร้อมน้ำซุปมาวางตรงโต๊ะหน้าโซฟา

“เปล่านะ กูไม่มีใครจริงๆ” มันยืนยัน แววตาไม่สู้ดีนัก กลบเกลื่อนอะไรหรือเปล่าวะ

“กูจะแน่ใจได้ไง มึงเคยหลอกกู” บอมทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น หันหน้ามาทางผม

“กูไม่มีใครแล้วจริงๆ นะ”

“เขื่อได้แค่ไหนวะ” ผมจี้มัน คนเราน่ะถ้าโดนเค้นมากๆ มันคงจะหลุดออกมาเอง ถึงบอมจะเป็นผู้ร้ายที่ปากแข็งขนาดไหน แต่มันคงทนความอึดอัดได้ไม่นานนักหรอก

“ทำไมมึงพูดแบบนี้ละ กูก็ให้มึงเช็คมือถือแล้วไง ตารางเรียนกูมึงก็รู้” ตารางเรียนก็รู้หรอ เหอะ โดดเรียนไปคั่วหญิงก็ได้ไม่ใช่หรือไงละ อย่าคิดว่าแค่นี้จะหยุดความเจ้าชู้ได้

“แล้วไง อีนั่นอาจเรียนคลาสเกียวกับมึงก็ได้” ผมใช้สายตาดุจับจ้องมัน สีหน้ามันแย่ลงไปเรื่อยๆ มีพิรุทแน่ๆ แบบนี้

“โทรไปเช็คกับเต้ไหม” มันเสนอ เป็นทางออกโง่ๆ ผมไม่เชื่อหรอก

“เพื่อนกัน จะเชื่อได้หรอวะ”

“แมท...” เสียงของบอมเริ่มแกว่ง มันขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ ขาผม

“อะไร จะตอแหลไรใส่กูอีก” ผมทิ้งตัวเอนพิงพนัก ไม่มองหน้าของมัน

“...แล้วทำยังไงมึงถึงจะเชื่อกู” คราวนี้เสียงบอมสั่นกว่าเดิม จะเข้าโหมดราม่าเพื่อกลบเกลื่อนละสิ

“ไม่รู้ แล้วไม่ต้องมาบีบน้ำตา...” ผมลุกขึ้น มองหน้าบอมที่ตาแดงก่ำ ผมละสายตาหนี ไม่อยากใจอ่อนให้กับมันหรอก เจอซักไซร้เข้าหน่อยก็มีพิรุทให้เห็น อย่างนี้ไม่เท่ากับว่ามันกำลังโกหกผมอยู่หรือไง ทั้งที่ผมกลับมาเพราะอยากเจอมันมากแท้ๆ อารมณ์เสียจริงๆ!


มีต่อจ้า :katai5:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #73 เมื่อ29-12-2016 09:07:23 »

 :katai5: ต่อจ้่า

ผมเดินหนีเข้าห้อง จัดการกับตัวเอง  อาบน้ำอาบท่าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งเขียนรายงานเล็กๆ น้อยๆ แต่สมองยังคงครุ่นคิดเรื่องของบอมอยู่ตลอดเวลา พยายามหาทางดูว่าตรงไหนที่มันจะปกปิดผมได้ เท่าที่ซักไซร้ไปเมือกี้นี้ก็เห็นแล้วว่ามันมีช่องโหว่อยู่ นึกย้อนมาที่ตัวเอง จะเห็นได้ว่าผมสามารถเอาเวลาไปหาดิวได้ บางครั้งอาจารย์ไม่เข้าสอน บางครั้งโดดวิชาที่ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน ทีนี้ถึงมีตารางสอนโชว์หราอยู่ตรงหน้า ก็สามารถหลบหลีกไปหาบรรดากิ๊กได้สบายมาก แล้วอย่างมือถือ มันลบได้หมดแหละถ้าไม่อยากให้เราเห็นสิ่งที่เจ้าตัวปกปิดน่ะ

คิดแล้วเครียดชิบ!

ผมเอามือถือมากดเข้าโปรแกรมแลตไลน์คุยกับดิวแก้เซ็งต่อ อย่างน้อยดิวก็ทำให้ผมเพลิดเพลินจนลืมเรื่องของบอมไปได้บ้าง ป่านนี้เน้าตัวคงนั่งกินบะหมี่สบายใจเฉิบ ถึงจะเครียดไปบ้างเพราะผมจับไต๋ได้ แต่คงไม่มากเท่าไหร่มั้ง

บอมก็เป็นแบบนี้นั่นแหละ ไม่สำนักผิดในสิ่งที่ตัวเองทำหรอก ไม่งั้นเขาจะทำกับผมแบบนั้นได้ยังไงละจริงไหม คนเราถ้ารักกันจริงก็ต้องซื่อสัตย์ต่อกันสิ นี่มีอย่างทีไหน คิดแต่จะฟันดะผู้หญิงไปทั่ว แล้วไอครีมเคริมพวกนั้นก็คงหนีไปพ้นการทำให้สาวๆ หลงใหลนั่นแหละ ยิ่งดูแลตัวเอง ก็ยิ่งดูดี เพื่อดึงดูดใครต่อให้เข้ามา ไม่ได้ทำเพื่อผมเลยสักนิด คิดแล้วอยากจะเอาครีมบนโต๊ะเครื่องแป้งปาทิ้งแม่งซะให้หมด

นั่งคุยแชตไปสักพักก็ชักอยากเห็นไอกะล่อนขึ้นมา เลยลุกเดินออกจากห้อง ทันทีที่เปิดประตูก็พบบอมกำลังนั่งก้มหน้ากินบะหมี่อยู่คนเดียวเงียบๆ ตรงหน้าเขามีมือถือเปิดจอเอาไว้ ผมมองจากตรงนี้ไม่เห็นหรอกว่าเขาทำอะไร แต่สายตานั้นเลื่อนลอยและหม่นหมอง คราบน้ำตาอาบแก้มขาวเป็นทาง

หัวใจมันกระตุกวูบแรงๆ...ผมทำเกินไปเปล่าวะ

RrrrRrrrr

“โหล” ผมกำลังจะก้าวเท้าเข้าไปหามัน แต่เสียงมือถือของบอมดังขึ้นซะก่อน ผมเลยหยุดเท้าไว้ ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนี้จะได้ยินไหม คิดว่าคงพอได้ยินที่บอมพูด

(มึงโอเคป่ะวะ) เสียงผู้ชายดังแว่วเข้ามาในสาย บอมยังวางมือถือไว้จุดเดิม

“กูไม่โอเควะเต้...กูไม่โอเคเลย” บอมบอก เสียงสั่นๆ ของมันทำให้ผมรู้สึกใจหายเหมือนกัน

(เล่าให้กูฟัง...) บางทีก็น่าคิดนะ ว่าเต้อาจจะคิดกับบอมเกินเพื่อน ผมได้ยินอะไรไม่ชัดนักเลยแอบเดินไปด้านหลังของบอม มันนั่งก้มหน้าจนแทบจมลงไปในชามบะหมี่ ทำให้มาสังเกตเห็นผม ที่ตอนนี้มานั่งอยู่หลังโซฟา

“มันหาว่ากูโกหกมัน มันด่ากูว่ากูตอแหล...” มันกำลังคุยเรื่องผมอยู่สินะ ผมนิ่ง นั่งเหมือนไร้ตัวตน

(แล้วมึงให้มันเข็คเท่าที่มันต้องการหรือยัง มือถือละ ให้มันดูไหม ตารางเรียนด้วย) น้ำเสียงของเต้ห่วงใยบอมมาก นอกจาผู้หญิงคนอื่น ผมอาจต้องระวังเต้ไว้อีกคน

“กูให้มันดูหมดแล้วเต้ ฮึก...แต่มันไม่เชื่อกูเลย” บอมเริ่มสะอื้นเบาๆ

(เฮ้ย มึงร้องไห้หรอ...อย่าร้องดิวะ เดี๋ยวตาช้ำหมดหล่อนะมึง)

“หล่อไปแล้วมีความหมายเหี้ยไรกับกูในตอนนี้ละ”

(ไม่เอาหน่า...คราวนี้มึงผิดจริงๆ แมทมันจะโกรธก็ถูกแล้ว มึงน่ะต้องเข้าใจมันนะ สิ่งที่มึงทำคราวนี้ไม่ใช่แค่คุยกิ๊กกั๊กกับใคร แต่เป็นการพาเขาเข้าโรงแรมเลยนะเว้ย) เต้พูดอย่างอ่อนโยน แม้คำพูดนั้นจะเป็นการย้ำถึงความผิดของบอม

“กูรู้...กูถึงต้องเจ็บอยู่นี่ไงมึง กูง้อมันทุกอย่าง เปิดเผยทุกอย่างให้มันได้รู้ กูพร้อมจะเปลี่ยนตัวเองเพื่อมัน มันก็น่าจะรับรู้ได้ แต่มันกลับพูดจากับกูได้ร้ายกาจมากๆ มันทำกับกู เหมือนกูไม่มีหัวใจเลย” บอมเริ่มร้องไห้หนักขึ้น

(ใจเย็นๆ อย่าร้องดิ...เสืออย่างบอมไม่ขี้แยสิวะ) เต้พยายามปลอบ

“กูไม่ใช่เสือหรอก กูอะ...เป็นแค่หมาเท่านั้นแหละ” รู้สึกจุกกับคำพูดเหล่านั้น คำพูดที่ถากถางตัวเอง

ก็นะ...รู้ดีไม่ใช่ไม่รู้ว่าบอมกำลังเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แต่เพราะมันมีประวัติ มันเลยทำให้ผมกลัวว่ามันยังแอบทำเรื่องพรรค์นั้นอยู่ การที่ผมซักไซร้บอมในวันนี้ไม่ใช่ไม่เขื่อใจถึงขนาดนั่นหรอก แต่เพราะผมไม่อยากให้มันสงสัยในสิ่วที่ผมทำ ผมเลยชิงรุกมันก่อนที่มันจะถามอะไรผม สุดท้ายพอมันส่อพิรุท ก็กลายเป็นผมเองที่เครียดโคตรๆ จะว่าผมคนเดียวมันก็ไม่ถูก บอมทำให้ผมไม่ไว้ใจเอง มันหลอกผมมาตลอด ไม่รู้ด้วยว่าตั้งแต่ตอนไหน ยิ่งคิดเองของมัน ผมก็ยิ่งข้ำใจ

(กูน่าจะต่อสายกล้าด้วย) เค้บอก

“ให้มันมาเหยียบกูซ้ำให้ตายใบ่มะ”

(มึงก็พูดไป กล้ามันห่วงมึงนะ ถึงมันจะปากเสีย นี่ถ้าไม่ติดว่ากล้ามันออกไปกินข้าวกับแม่ กูคงต่อสายมันมาตั้งแต่ทีแรก บอม...การที่พวกกูคอยด่าคอยว่ามึงก็เพราะไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับมึงไงวะ แมทรักมึงมากขนาดไหน พวกกูเองก็รู้ดี ยิ่งเรื่องแบบนี้มึงยิ่งต้องอดทน เพราะมึงทำมันเจ็บ)

“แล้วถ้ากูทนไม่ไหวละ...” ผมแอบชะโงกหน้าไปมองบอม เห็นจากด้านหลัง มันกำลังขยี้ตา ไม่สิ น่าจะปาดน้ำตาอยู่

(มึงจะเลิกหรือไง...) คำถามของเต่ทำให้ผมลุ้นกับคำตอบจนตัวโก่ง
“กูเลิกไม่ได้หรอก...กูรักมัน” เหมือนกระแสไฟฟ้าแรงสูงช๊อตเข้าขั้วหัวใจของผมอย่างรุนแรง

พอเดาได้แหละว่าที่มันยอม มันไม่หนีไปเพราะว่ามันรักผม แต่พอได้ฟังจากปากของมันเองแล้ว ผมก็รู้วึกว่าสิ่วทีผมทำข่างเป็นการกระทำที่เบวร้ายซะเหลือเกิน บอมน่ะมันควรได้รับความเจ็บปวดจากการกระทำในครั้งนี้ แต่นี่อาจเกินไปหรือเปล่า...ผมก็ไม่เชรู้เหมือนกัน แค่อยากให้มันจดจำสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ให้แม่นๆ มันจะได้ไม่ทำแบบนี้กับผมอีก และทั้งหมด ทั้งหมวลนี้ก็เพราะว่าผมน่ะ...รักมันนั่นแหละ

“ที่กูยอมอยู่ตอนนี้ก็เพราะรักนั่นแหละ...” เสียงเศร้าๆ เอ่ยบอกกับปลายสาย

(ถ้างั้นอดทนหน่อยนะ เข้าใจแมทมันหน่อย...)

“อืม กูจะทน” ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องระบายยิ้มบางๆ ออกมาหลังจากได้ฟัง มันอาจเป็นแค่คำโกหกก็ได้ แต่ถึงจะโกหก...ผมก็ยังดีใจ

(แล้วมึงทำอะไรอยู่ กินข้าวยังวะ วันนี้กูไม่เห็นมึงกินอะไรเลย)

“กูกำลังกินบะหมี่เจ้าดัง อร่อยมาก...” ปากบอกอร่อย แต่น้ำตากลับไหลอาบแก้ม

(โบราญเขาห้ามกินข้าวกับน้ำตานะมึง)

“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ก็คนที่กูอยากกินด้วยเขาไม่อยากกินกับกู ก็ต้องกินกับน้ำตาของตัวเองไปน่ะแหละถูกแล้ว”

(สัส ลั้นลาก็ลั้นลาเกินหน้าเกินตา พอดราม่าก็ดราม่าชิบหาย ความพอดีอยู่ไหนวะ ออกมากินเหล้ากับกูไหมเผื่อความเศร้าจะหายไป)

“ไม่ละ มึงก็รู้เพราะอะไร...” เพราะผมไงละ เพราะผม...บอมถึงไม่ไป

ผมเดินออกมาจากหลังโซฟา บอมเห็นผมก็รีบเช็ดน้ำตาเงยหน้ามายิ้มให้ ปวดใจอยู่ลึกๆ ที่เห็นแฟนตัวเองเป็นแบบนี้ อยากจะกลับไปดีกันก็กลัวมันจะไม่จดจำ ทำต่อไปก็เป็นห่วงมันว่ามันจะทรัดเอาสักวัน หากยังเศร้าใจหนักแบบนี้อยู่ ผมนั่งลงตรงข้ามมัน มีชมบะหมี่ของผมวางอยู่ มันเย็นชืดไปหมดแล้วละครับ ไม่เหลือความอุ่นอยู่เลย

“คุยกับใคร” ผมถาม คนในสายเงียบไปแล้ว

“คุยกับเต้อะ มึงจะกินหรอ มันเย็นหมดแล้ว กูอุ่นให้ไหม” บอมพูดพลางกดตัดสายทิ้ง

“แล้วทำไมต้องตัดสายทิ้ง แอบคุยอะไรกันไม่อยากให้กูรู้ละสิ” คำพูดทำให้บอมมีสีหน้าที่ย่ำแย่ลง

“เปล่า มันก็โทรมาถามเป็นไงมั้ง กินข้าวยังแค่นั้นเอง อ่อใข่ มันชวนไปกินเหล้าด้วย” บอมหยิบชามบะหมี่ของผมขณะพูดอธิบาย เจ้าตัวเดินเข้าครัว นำอาหารใส่เวฟเพื่ออุ่น

“ไม่ไปละ สาวๆ เยอะเลย” ผมประชด

“ไม่ละ เดี๋ยวมึงโกรธ”

“กูไม่โกรธหรอก ไปเหอะ”

“อย่าพูดจาเหมือนไล่กูได้ไหมแมท....” จากที่บอมหยุดร้องไปแล้ว ก็เริ่มเสียงสั่นอีกรอบ ผมรู้แหละว่าตอนนี้กำลังทำเกินไป ผมมองมันที่ยืนเข็ดน้ำตาของตัวเอง หยิบชามบะหมี่ออกจากเครื่องไมโครเวฟ ปั้นยิ้มฝืน วางชามแล้วนั่งลง

ผมรู้สึกจุก ผมพูดไม่ออก...เจ็บกับเรื่องของบอมไหมมันก็เจ็บ แต่ตอนนี้บอมมีสภาพที่ย่ำแย่ลง เขาน่าสงสาร  พยายามทำทุกอย่างให้ผมรู้สึกว่าเขาปกติ ทั้งที่ตามันแดงอยู่แทบตลอด สถานการณ์ตอนนี้ของเรามันแย่มั้ง ติดลบสุดโต่งไปเลย แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดดีกับมันยังไงดีเหมือนกัน เห็นผมดูเป็นมิตรกับคนอื่น แต่ลักษณะนิสัยผมจริงๆ มันใช่แบบนั้นที่ไหนกัน บอมก็รู้ดี...ไอ้มุมดีๆ น่ะมันก็แค่การสร้างภาพ แต่กับบอผมไม่ได้สร้างภาพใส่มันมานานแล้ว เป็นตัวของตัวเอง มันเลยยากเหมือนกันที่จะพูดดีกับอีกฝ่าย

“ทำไมกูไล่มึงไม่ได้” จ้องหน้ามัน มองตาแดงๆ ที่บวมเป่ง เป็นเมื่อก่อนไม่มีทางยอมให้ตัวเองเป็นแบบนี้แน่ๆ

“มันเจ็บ...” บอมก้มหน้า ไม่มองตอบ แต่คำพูดสั้นๆ นั้นทำใจผมอ่อนยวบไปเลย

“เจ็บเยอะๆ อะดี จะได้จำ เพราะกูเองก็เจ็บไม่น้อยไปกว่ามึงหรอก” เจ้าตัวพยักหน้า

“กูรู้”

“รู้ก็ดีแล้ว กินข้าวจะได้ไปนอนเล่นกัน...” บอมค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองผม นัยน์ตาซุกซนนั้นมีหยาดน้ำคลอๆ แต่มันกำลังระบายยิ้มกว้างๆ ออกมา

ดีใจละสิที่ผมพูดไปแบบนั้น ก็ทุกวันนี้ถึงนอนเตียงเดียวกัน แต่ผมไม่ยอมแตะเนื้อต้องตัวบอมเลย ไม่ถึงขั้นทำกับมันเหมือนไร้ตัวตน แต่ก็ไม่ได้ดีแบบเมื่อก่อน ผมยื่นมือไปขยี้หัวอีกฝ่ายเบาๆ ระบายยิ้มจางบนใบหน้า

“อย่าทำกับกูแบบนี้อีกนะ...”

“อื้อ กูไม่ทำแล้ว ไม่ทำแล้วจริงๆ” เข้าใจอารมณ์คนดีใจก็ร้องไห้ ผมขยับไปหามัน ดึงไอ้กะล่อนตัวพ่อมานั่งตักแล้วกอดมันเอาไว้
“กูรักมึงนะบอม”
“ฮึก...กูก็รักมึงนะ” คงได้เวลาเลิกบีบมันหนักๆ แบบนี้แล้วมั้ง ใจอ่อนจนไม่เหลืออะไรเลยแบบนี้

ผมดึงมันออกจากอ้อมกอด เข็ดน้ำตาให้แล้วจูบปากสีสวยนั้นเบาๆ เจ้าตัวยิ้มทั้งน้ำตา แก้มนี้บานจนน่าหมั่นไส้ แต่ยอมรับจากใจ...เห็นมันที่เป็นแบบนี้แล้วรู้สึกดีกว่าตอนมันเศร้าเป็นไหนๆ ผมอยากโกรธบอมให้นานกว่านี้ ทรมานมันให้นานกว่านี้ หรือให้มันร้องไห้ให้มากกว่านี้ แต่รู้ดีว่านี่น่ะมันก็สุดๆ แล้วสำหรับคนๆ หนึ่ง ผมเองก็เจ็บ บอมเองก็เจ็บ และเป็นผมเสียเองที่ทนต่อความทุกข์นี้ไม่ไหว จนต้องเป็นฝ่ายอ่อนข้อให้ ผิดจากความตั้งใจเดิมไปเยอะเลยเชียว แต่ก็คิดว่านี่น่าจะทำให้มันจำได้ไปจนตายแล้วเหมือนกัน
“ถ้ามีอีก...กูจะล่ามโซ่มึงไว้ จะขังมึงไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกเลย” เอ่ยเสียงเรียบใส่คนในอ้อมแขน
“ไม่ทำแล้ว...ไม่เอาแล้ว”
“กูจะรอดู”

***********จบบทที่ 8*************

 :hao7: :hao7: ตกลงคนที่นิสัยไม่ดีคือแมทหรือบอมกันนะ :z3:

ออฟไลน์ Pamaipraewa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #74 เมื่อ29-12-2016 10:00:06 »

โอ๊ยยยยยยยยยนังแมททททททท หมั่นไส้ น้องดิวของฉัน :z3: เลิกยุ่งไปหาคนอื่นเลยป๊ายยยยยย

สงสารบอมนะ เสียใจก็เสียใจ แถมยังไม่รู้อีกว่านังแมทก็มีชู้ (ที่ดูนิสัยดีกว่าแกสองคน555) ตอนนี้แอบเห็นใจบอมเบาๆ

นังแมท :z10: กร๊าซซซซ เพราะแกเป็นรุกรึเปล่าถึงได้น่าหมั่นไส้ขนาดเน้ เหมือนแกได้ประโยชน์อยู่คนเดียว555

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #75 เมื่อ29-12-2016 11:17:04 »

ไม่รู้ว่าคนแต่งตั้งใจหรือเปล่านะครับ แต่พออ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เห็นภาพเลยว่าคนเลวๆ ในสังคมที่หลอกลวงคนอื่นได้หน้าตาเฉยในหัวเขาคิดอะไรอยู่ ความรู้สึกของคนอื่นไม่ใช่เรื่องที่คนพวกนี้จะนึกถึง อะไรที่เป็นความสุขความต้องการของตัวเท่านั้นที่พวกมันจะสนใจโดยไม่คำนึงว่าใครจะเป็นทุกข์เจ็บช้ำแค่ไหน พอเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้างก็จะเคียดแค้นจะเป็นจะตาย

สงสารน้องดิวนะครับ ถูกใช้เป็นที่ระบายอารมณ์ด้วยคำหลอกลวง

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #76 เมื่อ29-12-2016 12:50:59 »

 :o8: :o8:

ออฟไลน์ Violasheep

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 194
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #77 เมื่อ29-12-2016 13:40:05 »

แมทมันเป็นพระเอกสินะ :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #78 เมื่อ29-12-2016 14:48:39 »

แมท วางตัวเขื่อง ใหญ่โต
เพราะคิดว่าตัวเองรักบอม มาก
จนมีสิทธิ์ทำทุกอย่างประชดให้บอมเจ็บใจ
แล้วทีตัวเองก็มีดิว ไม่คิดบ้าง
จะคอยดูตอนบอมรู้ว่าแมทมีดิว :katai1: :katai1: :katai1:
เสือแมท จะเป็นอย่างไร
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2016 08:40:48 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #79 เมื่อ29-12-2016 16:33:48 »

ขอให้บอมรู้เร็วๆ ขอให้แมทเจ็บหนักๆ สาปแช่ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
« ตอบ #79 เมื่อ: 29-12-2016 16:33:48 »





ออฟไลน์ Banarot

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #80 เมื่อ29-12-2016 17:29:22 »

รู้ๆกันไปเลย

ออฟไลน์ jejiiee

  • cannot open this page
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #81 เมื่อ29-12-2016 19:27:01 »

โอ้ยยยย ทำไมเราเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้!! นี่คือรสชาติที่เราตามหามานาน ศีลเสมอกันแบบนี้แหละ เราว่าละว่าบอมจะต้องโดนเปิดเผยก่อน รอฝ่ายแมท เราแอบมั่นใจว่าเผ็ชกว่าตอนนี่และเจ็บปวดกว่านี้แน่นอน ลุ้นนนน รออออ :hao7:

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #82 เมื่อ29-12-2016 20:35:01 »

 เห็นใจบอมนะแต่ก็ทนเพราะบอมทำตัวเองให้จับได้เอง แมท เขายังเนียนกว่า
สงสารน้องดิวด้วยคนเพราะไม่รู้เลยว่าแมทเป็นผัวบอม    รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #83 เมื่อ29-12-2016 23:16:44 »

พายุซัด กระหน่ำซ้ำ จะคว่ำฟ้า
พสุธา ถลาเลื่อน เหมือนเคลื่อนหิน
ท้องทะเล ปั่นป่วน จวนพังภินท์
สาดกระสุน หมดสิ้น แดดิ้นตาย

ปากบอกรัก ชักนำ เชื่อคำพูด
ลิ้นกระดก ฉกรูด กระฉูดหาย
รักคนหนึ่ง เอาคนหนึ่ง ดูกลับกลาย
รักเดี๋ยวร้าย รักเดี๋ยวดี ผียังกลัว

โดนคนกันเองหลอก
มันยิ่งกว่าถูกผีหลอกอีกนะ

แมทน่ากลัวเกื๊นนนนนน
หยะยื๋ยยยยยยยย

ขอให้ลงเรื่องนี้ให้อ่านทุกวันนะ
จะได้นอนหลับทุกคืน
อิอิ

ออฟไลน์ Atroce

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #84 เมื่อ30-12-2016 00:02:33 »

แมทก็ร้ายบอมก็ร้าย  สงสารไม่ถูกเลย

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
<<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
«ตอบ #85 เมื่อ30-12-2016 00:20:52 »

เธอมีชู้

บทที่ 9
[/b]

หลังจากใจอ่อนยอมบอมไปในคราวนั้น เราก็กลับมารักกันเหมือนก่อนจะมีเรื่องนั้นเกิดขึ้น แต่ที่แตกต่างออกไปคือผมมักจะเช็คมือถือบอมตลอด เขาเองก็ยอมเพื่อความสบายใจของผม โคตรถูกใจผมเลย เมื่อก่อนนี้ยุ่งอะไรยุ่งได้ แต่โทรศัพท์ห้ามยุ่งเด็ดขาด นับเป็นของส่วนตัวที่บุคคลภายนอกไม่ได้รับอนุญาตให้ดู แต่เดี๋ยวนี้มันวางทิ้งไว้ ไม่ใส่รหัวบ๊อคจอแล้ว ผมจะหยิบ จะเปิดดูเมื่อไหร่ก็ได้

ส่วนตารางเรียน มันก็เรียนตามตารางจริงๆ กลับบ้านค่อนข้างตรงเวลา ไม่มีเถลไถล เลิกเรียนแล้วจะโทรบอกผมตลอด ถ้าผมไม่รับสายเพราะริดธุระก็นะไลน์มาบอกว่ากลับบ้านแล้วหรือแวะกินข้าวอยู่กับเพื่อนนะ ซึ่งถ้าแวะกินข้าวจะต้องถ่ายรูปให้ผมดูด้วย เป็นเงื่อนไขที่น่ารำคาญ แต่บอมยอมทำเพื่อให้เรากลับมารักกันดีเหมือนเดิม

“วันนี้พี่แมทก็ไม่ใส่แหวนอีกแล้ว” ร่างบางที่นอนเปลือยอยู่ข้างกายไล้เรียวนิ้วบนนิ้วนางว่างเปล่าของผม ผมพลิกตัวเองกอดเขาเอาไว้

“พี่ลืมน่ะครับน้องดิว ตอนเช้าว่าจะใส่มาแล้วเชียว” เมื่อคราวก่อนนั้นบอกผมไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองใส่แหวนก็ได้ แต่พอเอาเข้าจริง ดิวก็รอดูผมใส่แหวนอยู่ดีสินะ ผมไม่ชอบก็คือไม่ชอบ หาทางเลี่ยงตลอดนั่นแหละครับ

“ดูท่าพี่แมทจะไม่ชอบแหวนจริงๆ ผมควรเสียใจไหม...” เขาเงยหน้าช้อนสายตาน้อยอกน้อยใจขึ้นมามอง

“ไม่ควรเลยครับ เพราะว่าถึงพี่จะไม่ชอบใส่แหวน แต่พี่ก็ชอบคนให้แหวนคนนี้มากๆ เลยนะครับ” ยิ้มละไปให้อีกฝ่าย ดิวหน้าแดง ขยับซบอกผมเพื่อซ่อนความเขินอายนั้น

“ปากหวานแบบนี้ ดิวยอมแพ้เลยครับ” ผมขำเบาๆ กับน้ำเสียงงุ๊งงิ๊งของเขา

ผมดันให้ดิวนอนหงาย เชยคายให้เชิ่ดสูงก่อนจะก้มลงไปมอบจูบอันเร่าร้อนให้กับเขา ร่างบางส่วแขนมาโอบก่ายกอดผมทันที ร่างกายเล็กก็พลอยบดเบียดเข้ามาด้วย แม้เรานะเพิ่งเสร็จเรื่องอย่างว่าไปเมื่อไม่ถึงยี่สินาทีที่ผ่านมา แต่ดูท่าว่าเรี่ยวแรงและพละกำลังกลับมาแล้ว อาจไม่ครบเต็มร้อยแต่เพียงพอต่อการเหย่อกันอย่างแน่นอน

จัดรอบสองเสร็จ อิ่มหนำสำราญแลเวผมก็ขอตัวกลับเช่นเคย โดยบอกว่าวันนี้ผมนัดเพื่อนทำรายงานสองวิชาที่มหาลัย ดิวยิ้มรับและเดินออกมาส่งจนผมขับรถลับสายตาของเขาไป จริงๆ แล้วการโกหกดิวเรื่องตารางเรียนเป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะพันเพื่อนผมเรียนคณะเดียวกัน ดิวจะพอรู้ว่าผมมีเรียนอะไรบ้าง เวลาไหนบ้าง โดยเจ้าพันก็ยินดีบอกข้อมูลนี้ให้ดิวเสียเหลือเกิน อยากจะตบให้กะหลโหลกร้าวแต่ติดที่ว่าบุคคลิกของผมไม่สมควรทำเช่นนั้น ผมจึงต้องโกหกไปเป็นวิชาเลือก วิชาเสริมอะไรก็ว่าไป

แต่ในความจริงแล้วนั้น...ผมมารอรับบอมที่มหาลัยนั่นเอง

“แมท รอกูนานเปล่า” บอมตรงดิ่งเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม เต้และกล้าตามมาด้านหลัง มันสองคนโบกมือให้เป็นการทักทาย

“สวัสดีครับเต้ กล้า” ผมเอ่ยอย่างสุภาพ

“วันนี้ไปกินเหล้ากับเต้กัน มันเลี้ยง” บอมเนียนกุมมือผม เป็นการอ้อนกลายๆ

“เนื่องในโอกาสอะไรหรอ” ผมถาม

“เนื่องในโอกาสไอ้บอมโดนจับได้ ฮ่าๆ!” แต่คนตอบกลับเป็นคนชื่อกล้า เขาหัวเราะลั่นราวกับสะใจที่เพื่อนตัวเองโดนจับได้เรื่องนอกใจ

มันเป็นเรื่องแปลกของกลุ่มนี้เหมือนกัน พวกเขาไม่ช่วยกันปกปิดความผิดของกันและกันเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ถึงกับประกาศปาวๆ ว่าไอ้นั่นทำอย่างงี้ ไอ้นี่ทำอย่างั้น ตอนที่ผมดีกับบอมแล้วลองถามพวกเขาดูว่ารู้มานานแค่ไหนแล้วที่บอมมีคนอื่น พวกเขาบอกว่ารู้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันนั่นแหละ รับน้องวันแรกเจ้าบอมมันก็ตกเหยื่อได้ตั้งหลายคน พอมารู้ตอนหลังว่าผมเป็นแฟนบอม พวกเขาก็อึ้ง แต่ก็ทำไรไม่ได้มากนอกจากคอยด่า คอยเตือนบอมให้เลิกทำ ทั้งที่บอกผมก็ได้ แต่เต้ให้เหตุผลว่า ถ้าบอกเรื่องนี้กับผมนั่นก็เท่ากับเขาหักหลังเพื่อนตัวเอง ถึงไม่อยากให้บอมทำตัวแบบนี้ แต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์มากมายอะไรนักที่จะไปชี้นิ้วบงการบอมให้ทำงั้นทำงี้ หรือทำให้บอมกับผมร้าวฉานเพื่อเป็นการดัดนิสัยบอม ของอย่างนี้บอมน่ะต้องเจอด้วยตัวเอง ผมนี่ซึ้งเลย เต้เป็นคนดีจริงๆ

ดีจนน่ากลัว... บางครั้งก็น่าสงสัยว่าเต้อาจชอบบอมหรือเปล่า ผมคอยสังเกตดูพวกมันสองคน พยายามหาพิรุทหรือสิ่งผิดปกติ แต่มันก็ไม่มี กลับกัน ดูเต้จะอะไรๆ กับกล้ามากกว่าบอมด้ยซ้ำ

“เป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลยครับ” ผมส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับกล้า

“ใช่ม้า...บอกแล้วว่าโอกาสแบบนี้น่ะเหมาะเจาะที่สุด”

“อยากฆ่ามึงจริงๆ เลยไอกล้า พอกูโดนจับได้เข้าก็ร่าเริงอย่างกับมึงเป็นผัวกูเลยนะ” บอมว่าเข้าให้ แต่อีกฝ่ายก็แค่ยิ้มแยกเคี้ยวส่งมา ไม่ได้เดือดร้อนใจอะไรกับท่าทีของบอม

“ก็กูสะใจอะ ทำไมวะ...การได้เห็นปลาไหลชุบน้ำมันอย่างมึงโดนจับขึ้นเขียงนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก สมควรเป็นทอร์ดออฟเดอะทาวไปเลย” กล้าเล่นใหญ่มาก ผมขำเล็กๆ กับการทำตัวเหมือนเด็กของกล้า

“แหม่ คำพูดมึงนี่นะ” บอมชี้หน้ากล้าคาดโทษ แต่ผมกับเต่แค่มองยิ้มๆ ก่อนจะขำกับกางทำสงครามของเขาทั้งสองคน

“เอาพอก่อนเถอะ สรุปเอาไง จะไปด้วยกันไหมนาย” เต้ห้ามทั้งสองคนที่จะกัดกัน แล้วหันมาถามผม

“อื้อ เอาสิ” พยักหน้าพร้อมยิ้มตอบอย่างเป็นมิตร

“แล้วไปกินกันที่ไหนหรอ” ผมถามต่อ

“ร้านแถวคอนโดเราอ่ะ เป็นร้านนั่งชิวริมถนน คนไม่พลุกพล่านดี ใกล้ที่นอนด้วย” เต้ตอบ
“อ่อ โอเค...”

เราทั้งสี่แยกกันเป็นสองกลุ่ม คือผมกับบอมจะไปรอที่ร้านก่อนเพราะมีมอเตอร์ไซค์และบอมก็รู้ทาง ส่วนเต้กับกล้าจะนั่งรถแท็คซี่ไป คงนานกว่าเราหน่อย ช่วงเย็นๆ แบบนี้รถติดจะตาย ดีไม่ดี ผมกับบอมอาจไปนั่งรอจนรากงอกก็เป็นไปได้ แต่ที่ยอมไปดื่มด้วยทั้งที่อยากกลับบ้านก็เพราะว่าบอมไม่เคยขอไปไหนเลยหลังจากเหตุการณ์วันนั้น จนมานี่แหละ ถึงได้ขอไปดื่มกับเพื่อน นานๆ ทีแถมผมก็อยู่ เลยตามใจมันไปสักครั้ง

ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงในการขับรถซิกแซกฝ่าดงรถติดจนมาถึงร้านอาหารที่ว่า มองจากพายนอก บรรยายกาศดีมาก หน้าร้านอยู่ติดริมถนน แต่ไม่ใช่ถนนใหญ่หรอกครับ ตรงนี้มันเป็นซอยเล็กๆ เข้ามารถราไม่ค่อยมี ผมกับบอมนั่งเล่นรอทั้งสองคนอื่นร่วมชั่วโมง คือนานมากจนบอมหิวไม่ไหวต้องเข้ามาสั่งอาหารกินก่อน ถือเป็นการจองโต๊ะไปในตัวด้วย

“กูรอกันรากวอกอะ” บอมบอกพลางกระดกน้ำอัดลมสีเข้มเข้าปาก เราสั่งมาแค่ขวดเดียวเพราะเดี๋ยวจะดื่มเหล้า

“แหม่ พวกกูแท็คซี่นี่หว่า ไม่ใช่มอไซค์แบบมึงจะได้มาถึงเร็วอย่างกับวาบมา” กล้าสวดบอมยาว

“งั้นคราวหลังก็ออกมอเตอร์ไซค์กันสักคันดิวะ เวลาไปไหนมาไหนจะได้สะดวก” บอมเสนอ ส่วนผมกับเต้ช่วยกันสั่งอาหารและเครื่องดื่ม

“สะดวกเหี้ยไร ไอ้เต้แม่งเมาทุกคืน ขืนให้มันขับมอเตอร์ไซค์ไปกินเหล้า เราคงได้ไปงานศพมันตั้งแต่วันแรกที่ออกรถอะ ส่วนกูนะ กูไปไหนกับเขาที่ไหน รถเมล์ต่อเดียวก็ถึงบ้านกูละ” ก็จริงอย่างที่กล้าเขาว่ามา ผมก็ได้ข่าวมาเหมือนกันว่าเต้น่ะนักดื่มตัวยง เขาดื่มทุกวันจริงๆ ครับ เหมือนคนติดเหล้า แต่ผมยังไม่เคยเจอเต้เมานะ ส่วนกล้านี่เคยแล้ว ตอนไปง้อบอมคราวนู้น

“จริงของมึงวะ มึงก็ติดเกม ไอ้นี่ก็ติดเหล้า กลับรถประจำทางกันต่อไปน่ะดีละ” บอมส่ายหัวเบาๆ

“เออ ไหนๆ ก็ไหนๆ บอกแมทไปด้วยละ” เต้พูดขึ้นหลังจากสั่งอาหารทั้งหดเสร็จเรียบร้อย เขาสั่งค่อนข้างเยอะสำหรับสี่คน

“อะไรหรอ” ผมถามเสียงนุ่ม จ้องหน้าบอมที่ยิ้มแย้มให้

“พวกกูต้องไปเข้าค่ายสามวันที่สัตหีบอะ” ทำไมคำว่าเข้าค่ายทำให้นึกถึงช่องว่างที่มันจะไปเจ๊าะแจ๊ะหญิงวะ ผมจ้องบอมตาดุ ให้เห็นกันแค่สองคนและให้เข้าใจกันแค่สองคนเท่านั้นด้วย

“เข้าค่ายอะไร ไปวันไหน ไปยังไง ใครไปบ้าง” น้ำเสียงอาจไม่คุกคามจนคนอื่นสัมผัสได้ แต่รู้ว่าบอมน่ะเข้าใจดีที่สุด

“อย่าคิดติดลบสิวะ กูไปเข้าค่ายของคณะ เกี่ยวกับการวิจัยโครงงาน ไปกับทางคณะนี่แหละ กล้ากับเต้ก็ไปด้วยนะ”

“บอกไม่หมด...ต้องบอกว่ามีผู้หญิงไปอีกหลายสิบคน!” กล้าเสริม ทำให้ผมจ้องบอมตาแทบถลน

“เอ้าไอ้เวร อย่าชงให้กูทะเลาะกันสิ กูแค่ไปเข้าค่ายเฉยๆ นะมึง ไม่ได้ไปหลีหญิงอะไรเลย อาจารย์เขาบังคับด้วย ไม่ไปไม่ได้...” ถ้าเผ็นที่บ้าน บอมคงเข้ามาออเซาะผมแล้ว แต่นี่ที่สาธารณะ มันเลยทำแค่จับมือผมกุมเอาไว้ใต้โต๊ะ บีบเบาๆ เป็นอ้อนวอน

“ใช่ อาจารย์เสือกบังคับ...เหล้าห้ามแดกอีก” เสียงเต้บ่นออกมาแทรกกลางระหว่างบรรยากาศของผม

“ไอ้นี่อะไรๆ ก็เหล้า เมื่อไหร่จะเลิกวะห้ะ” กล้าแหวใส่เต้ แต่ผมไม่ได้สนใจนัก เพราะผมกับบอมกำลังนั่งจ้องตากันอยู่ สายตาซุกซนตอนนี้กำลังออดอ้อนอย่างเห็นได้ชัด จ้องเข้านานๆ ใจระทวยหมด ทั้งที่บอมไม่ใช่ผู้ชายที่มีมาดน่ารักขนาดดิว แต่ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็มีผลต่อใจไปหมด โดยเฉพาะไอ้โหมดแบ๊วๆ ของมันเนี่ย ยอมเลย

“มีเมียเมื่อไหร่เดี๋ยวเลิก อะชน~” ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ตรงหน้าเรามีแก้วเหล้าวางไว้ให้ แต่เมื่อเต้สั่งชน ผมกับบอมก็ยกแก้วขึ้นชนกับมันทันที กล้าก็ไม่มีพลาด แม้ปากจะบ่นไปเรื่อยเปื่อย

“เมีย...พูดแบบนี่แสดงว่าจะกินเหล้าจนตายอะสิ”

“มึงกำลังจะด่าว่าไอ้เต้ไม่มีปัญญาหาเมียใช่ไหมกล้า” บอมต่อประโยคของกล้าให้สมบูรณ์พลางขำ

ผมมองว่าเต้มีปัญญาหาผู้หญิงสวยมากควงนะ แต่เขาเหมือนไม่สนใจอะไรมากกว่า ในสายตาของเต้ถ้าไม่เลื่อนลอยมองแก้วเหล้าก็มักจะเบนไปทางกล้าบ่อยๆ ผมคิดว่าผมพอเข้าใจเหตุผลของคนโสดคนนี้แล้วละ

“ปากดีนะบอม ตอนโดนแมทโกรธไม่ยักจะปากดีแบบนี้เลย” เต้ยิ้มมุมปาก คำพูดของเขาทำให้ผมขำ บอมนี่หันขวับมามองค้อนอย่างไวเลยเชียว

“พอเลย อย่าวกมาเรื่องกู”

“ทำไมวะ” กล้าสวน

“กูเถียงไม่ได้ไง! ห่าน แดกไป” ด่ากล้าจบก็ยกเหล้าเข้าปาก สีหน้างอนๆ ของบอมในตอนนี้น่ารักดีครับ ผมนั่งมองเพลินไปเลย

เราไม่ได้ออกมานั่งดื่มชิวๆ อะไรอย่างนี้นานมากๆ อยู่บ้านก็ทำรายงาน การบ้าน บลาๆ เสร็จก็นั่งเล่นนอนเล่นแล้วก็นอน เป็นช่วงชีวิตที่ยุ่งๆ แค่ปันเวลาไปให้ดิวได้แทบทุกวันนี้ก็เก่งสุดๆ แล้ว เพราะงั้นเรื่องหาโอกาศมานั่งกินแบบนี้แทบไม่มีเลย

ผมลืมไปแล้วว่าบอมน่ะก็มีมุมเหล่านี้...มุมที่กวนตีนกับเพื่อนๆ เจอเขาทุกวันก็ตอนกลับบ้านหรือไปรับ ไม่ได้คลุกคลีด้วยเท่าไหร่ เห็นรอยยิ้มสดใสกับสายตาดุแบบเล่นๆ ที่มองกล้า ทำเอาผมนึกถึงสมัยเมื่อจีบมันใหม่ๆ ไม่สิ...ต้องย้อนไปถึงสมัยที่ยังแอบเล็งมันอยู่ ผมมักจะคอยเฝ้ามองบอมมาตลอด จากที่ไกลๆ บ้าง หรือระยะใกล้ชิดบ้าง ภาพที่เห็นส่วนใหญ่ก็คือเขาเล่นซนกับเพื่อน เฮ้วๆ กันไปตามประสาเด็กวัยรุ่น บรรยากาศรอบตัวที่เป็นกันเอง สนุกสนานคือเสน่ห์อย่างหนึ่งของบอมเลย

ผมเอามือโอบเอวที่เบ็กกว่าของตัวเองเอาไว้ บอมหันมามอง ยิ้มกว้างน่ารักส่งมาให้ อยู่กับผมมันก็น่ารัก แต่ก็ไม่เหมือนกับเวลาเขาอยู่กับเพื่อน มันมีความแตกต่างกันอยู่นิดหน่อย แล้วยิ่งช่วงนี้เราทะเลาะกัน เรามีปัญหากัน ผมยิ่งแทบไม่เห็นรอยยิ้มซนๆ ของบอมเลย นอกจากจะร้องไห้ ฝืนยิ้ม หรือยิ้มดีใจ ซึ่งมันก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไป

“หลงรักกูอีกรอบเลยอะสิ” บอมกระซิบให้ได้ยินเพียงสองคน
“รู้ใจกูจริงนะมึง” ผมยิ้มให้บอมก่อนจะหอมศรีษะทุยเบาๆ ด้วยความเอ็นดู บอมขำคิกคัก เอนพิงไหล่แป็บหนึ่งแล้วนั่งเล่นนั่งดื่มต่อไป ผมเองก็เฝ้ามองบอมยิ้มๆ พลางคุยกับคนอื่นบ้างหลังจากนั่งฟังเขากัดกันมาพักใหญ่ ไม่ต้องห่วงกลัวผมจะเข้ากับใครไม่ได้ แป็บเดียวเท่านั้น เต้กับกล้าก็เป็นพวกผมแล้ว
นี่เป็นอีกกลยุธ ป้องกันไม่ให้บอมไปคั่วสาวที่ไหนอีก เพราะต่อไปเต้กับกล้าจะบอกผมทันที ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้ว...เพื่อนกัน ไม่ปิดบังกันไงครับ

เรากลับมาจากร้านค่อนข้างดึกมาก เกือบทุกคนเมามายแทบไม่ได้สติ ยกเว้นเต้กับผม ผมนั้นไม่ค่อยดื่มเพราะต้องขับรถ แต่เต้เป็นพวกคอแข็ง เขาหอบหิ้วกล้าที่ไม่ได้สติแล้วขึ้นคอนโดของเขาซึ่งอยู่ไม่ห่างจากร้านที่เรานั่งดื่มกันเท่าไหร่ ภาพภายนอกเต้กับกล้าดูเป็นคู่กัดที่น่าจะสนิทกันสุดๆ ถึงเต้จะเถียงกล้าไม่ได้เลยก็ตามที แต่ในแววตาคมของคนตัวใหญ่กว่าอย่างเต้นั้นกลับมีประกายบางอย่างยามมองไปที่กล้า  บางทีนะ...คืนนี้อาจเกิดอะไรขึ้นก็ได้

ผมมองส่วคนทั้งคู่ก่อนจะพายอมกลับ ผมต้องขับรถช้าๆ เพราะเจ้าไอกะล่อนของผมมันหลับคอพับคออ่อน เดือดร้อนต้องหิ้วขึ้นคอนโดให้เหนื่อยกายอีก แต่ไม่ว่าอะไรมันหรอก ผมยินดีทำให้อยู่แล้วเพราะผมน่ะรักมันจะตาย

ขึ้นห้องได้ก็จัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวของบอมให้สะอาด แล้วค่อยไปอายน้ำอาบท่าบ้าง ทั้งที่อาบมาจากบ้านของดิวแล้ว แต่พอไปนั่งดื่มนั่งเล่นจนดึกมันก็เหนียวตัวขึ้นมาอีกอยู่ดี เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัว เช็ดผมเผ้าให้แห้งแล้วมายืนชั่งใจว่าผมควรจะทำรายงานสักหน่อยดีไหม นี่ดึกมากแล้วด้วย เจ้าตัวกลมบนเตียงก็นอนอุตุได้เอ็นดูซะเหลือเกิน ดีที่วันนี้ปลดปล่อยไปเลยไม่ทำให้หิวกระหายเท่าไหร่ สภาพมันเมาขนาดนี้ทำอะไรไปก็ไม่ค่อยได้อารมณ์นัก มันต้องแค่กรึ่มๆ เมากำลังดนั่นแหละถึงจะมัน สุดท้ายหลังจากคิดอยู่นานผมก็เลือกจะนอน ไว้เดี๋ยวค่อยทำก็ได้รายงานน่ะ

ชีวิตประจำของผมกับบอมไม่มีอะไรมาก ไม่ได้หวือหวาแต่ก็ไม่ขาดความอบอุ่น ช่วงนี้เขาเป็นเด็กดีอยู่ในโอวาทจนน่าใจหาย บางครั้งผมก็คิดว่าผมกำลังได้แฟนคนใหม่หรือยังไงกันนะ บ่อยครั้งบอมทำให้ผมเผลอยิ้ม อย่างการทำอาหารให้ เตรียมมื้อเย็นไว้รอผมที่กลับบ้านดึก เก็บจัดบ้านทั้งที่ปกติผมจะเป็นคนทำเองทั้งหมด ค่ำๆ ก็กกกอดกัน นัวเนียอย่างเมามันบนเตียงบ้าง โซฟาบ้างแล้วแต่สถานกาณณ์ตอนนั้นจะเป็นใจ ถึงบางครั้งผมจะเหนื่อยเพราะกลับมาจากหาดิวที่บ้านเจ้าตัว แต่พอได้ยินคำเชิญชวนของบอมเข้ามันก็อดไม่ได้อีก แทบโทรมไปเหมือนกัน...

“ลืมอะไรหรือเปล่า” ผมถามขณะมองดูของ วันนี้บอมจะไปเข้าค่ายที่สัตหีบสามวัน ตอนนี้เราเลยช่วยกันเตรียมของสำหรับไปเข้าค่าย ซึ่งบอมมีของกระจุกกระจิกเยอะเลยกลัวจะลืมอะไรไป

“เดี๋ยวนะ มีเดย์ครีม ไนท์ครีม อันนี้ครีมทาตัว โฟมล้างหน้า บีบีครีม โทรเนอร์ อืม...อ่อ” สนใจแต่เครื่องประทินผิวทั้งนั้น เจ้าตัวลุกไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง มองกลุ่มลิปสติก ทำหน้าคิดหนักจนผมอดสงสารไม่ได้

อะไรมันจะขนาดนั้นนะ...

“หาอะไร” เดินเข้าไปใกล้ ยืนช้อนหลังพลางโอบเอวคอด

“ก็กำลังคิดว่ากูจะเอาลิปอันไหนไปดีอ่ะ กลิ่นพีชกูชอบ แต่เชอร์รี่มันก็หอมดีอ่ะ” ผมมองเจ้าสองแท่งที่บอมลังเล แล้วเลือกเอากลิ่นพีชให้มัน

“กูชอบอันนี้ เอาอันนี้ไป”

“เชอร์รี่กูละ” บอมเอี้ยวตัวมามองหน้า ผมเลยหอมแก้มที่กลิ่นหอมฟุ้ง

“ค่อยมาทาที่ห้องให้กูจูบ...” เจ้าตัวยิ้มหน้าบานก่อนจะขยับเข้ามาจูบปากผมเน้นๆ หนึ่งที

“พูดซะกูหวิวเลย” บอมกำแท่งลิป ถอนตัวออกแล้วเอาของใส่กระเป๋าสัมภาระ

“ขาดอะไรอีกไหม”

“อยากเอาแผ่นมาร์คหน้าไปวะ แต่คิดว่าคงไม่สะดวกแน่ๆ” คิ้วเข้มขมวดมุ่น

“งั้นก็ไม่ต้องเอาไป เอาแต่ของสำคัญๆ จำเป็นก็พอแล้ว” ผมไม่อยากว่ามันเรื่องเยอะกับเครื่องสำอางบ้าบอ เพราะมันเป็นของมันแบบนี้มานานแล้ว ผมเองก็ค่อนข้างชินที่บอมเป็นผู้ชายดูแลตัวเองมากจนเกินพอดี เกือบจะเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ดีที่มันไม่มีอาการตุ้งติ้งออกสาว ไม่งั้นผมคงหนักว่าจะเอายังไงกับมันดี

“งัเนคงต้องเอามึงไปด้วย” บอมมองมาหน้าเครียด

“หืม...”

“ก็มึงสำคัญสำหรับกูไง...” แก้มแทบปริเมื่อเจ้าตัวเฉลยออกมา เล่นมุกเสี่ยวๆ อย่างนี้กับผมก็เป็นหรอ

“เดี๋ยวฟัดซะหรอก” เดินเข้าไปหยิกแก้มนุ่มเบาๆ แล้วกอดมันเอาไว้แนบอก

เรายืนกอดกันสักพักใหญ่ เกือบจะต่อบนเตียงแล้วแต่เต้โทรมาตามให้รีบไปได้แล้ว นี่มันจะสายแล้ว ทางเขาเริ่มนับคนที่จะไปค่ายครั้งนี้ ผมกับบอมเลยต้องตรวจของกันอีกครั้ง ดูของสำคัญจริงๆ ให้เรียบร้อยแล้วบี่งมอเตอร์ไซค์ไปมหาลัยทันที

หน้าคณะบอมวันนี้คนเยอะ เจี๊ยวจ๊าวไปหมด เพราะทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการได้ไปเข้าค่ายนอกสถานที่ ไม่ว่าช่วงอายุเราจะเท่าไหร่ เรื่องนี้ก็ยังเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเสมอ ผมเดินไปส่งบอมให้กับเพื่อนๆ ของเขา วันนี้เจ้าตัวใส่เสื้อยืดคอกลมสีครีม มีลายหมีเจร๊อคด้านหน้า กางเกงขาเดฟและรองเท้าคอนเวิส บอมดูดีมากครับ โดดเด่นด้วยผิวขาวๆ และใบหน้ายิ้มแย้มน่ารัก ถึงชุดที่ใส่จะดูธรรมดา แต่ตัวบอมนั้นกลับทำให้มันดึงดูดสายตาคนได้

“ไงแมท มาส่งเพื่อความชัวร์หรอ” กล้าแซว

“ใช่ ไม่ได้เลย เดี๋ยวลากสาวเข้าโรงแรมอีก” ว่าพลางเอื้อมไปกอดคอ

“อย่าจี้กูเรื่องนี้ดิ กูรู้สึกแย่” มันรู้สึกแย่เพราะการกระทำของผมนั่นแหละครับ ผมทำร้ายจิตใจมันจนฝังใจ
“อย่ามาสำออย หน้ามึงหนากว่านั้นบอม” กล้าเป็นคนปากร้ายจริงๆ
ก่อนที่เราจะพูดคุยเฮฮามากไปกว่านั้น รุ่นพี่ก็เข้ามาเรียกให้น้องๆ เตรียมตัว เขาจะเช็คชื่อให้ขึ้นรถกันแล้ว ผมกับบอมจับมือกัน บีบเบาๆ ให้กำลังใจมันที่ต้องไปเข้าค่าย บอมยิ้มหวานตาหยี เดินไปทางรุ่นพี่พร้อมโบกมือให้กับผม
“เดี๋ยวดูให้นะ...” เต้เดินไปหลังสุด มันกระซิบกับผม ผมยิ้มตอบแล้วขยับปากบอกขอบคุณ เพราะรู้ดีถึงความหมายของประโยค ก็นะ...มันจะไปพ้นเรื่องบอมนอกใจผมที่ไหนละ มีเรื่องเดียวเท่านั้นแหละที่ต้องคอยให้คนอื่นช่วยดู

ต่อข้างล่างเลยจ้า :katai5:

ออฟไลน์ GukakST

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +187/-5
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 8 [29/12/59]
«ตอบ #86 เมื่อ30-12-2016 00:26:00 »

 :katai5: มาต่อจ้า

รถบัสห้าหกคันค่อยๆ เคลื่อนตัวออกจารั้วมหาลัยช้าๆ ปล่อยให้คนที่มาส่งยืนมองจนรถพวกนั้นหายลับไปจากสายตา ผมกวาดตามองรอบด้านที่คนเริ่มจะเดินทางกลับกัน ก่อนจะไปนั่งใต้ต้นไม้หน้าคณะ นี่ขนาดไปเข้าค่ายกันเยอะแล้วยังมีผู้คนพลุกพล่านอยู่ที่คณะอยู่เลย มหาลัยนี่จะมีวันที่สงบเงียบบ้างหรือเปล่านะ

“ฮัลโหล...” ผมกรอกเสียงใสลงในสายหลังรออีกฝ่ายรับอยู่ครู่ใหญ่

(พี่แมท ว่าไงครับ) เสียงร่าเริงของดิวตอบกลับมา

“เรื่องที่พี่ชวนเรามาค้างน่ะ...เราตัดสินใจได้หรือยังครับ”

(ได้แล้วครับ ผมเก็บกระเป๋ารอตั้งนานแล้วด้วยละ ฮ่าๆ) ผมยิ้มกว้างเพราะเสียงหัวเราะสดใสของเจ้าตัว

“เดี๋ยวพี่ไปรับนะครับดิว”

(ครับ ผมจะรอนะ)

หลังจากรู้ว่าบอมจะไปเข้าค่าย นอกจากผมจะกังวลใจมากแล้วผมยังชวนดิวมาค้าง บอกกับเขาว่าน้องชายไม่อยู่ ไปเข้าค่ายกับทางมหาลัย สนใจมานอนเล่นที่ห้องของพี่ไหม ดิวเขินๆ เขาขอเวลาคิด แต่ผมรู้ดีอยู่แล้วว่ายังไงซะดิวก็ไม่มีทางปฏิเสธคำชวนของผมแน่นอน ช่วงเวลาหลังจากนี้ ผมจะไม่ให้ดิวออกจากห้องนอนเลยละครับ เปลือยกายอยู่มันแต่ในห้องนั่นแหละ

ผมคิดเอาไว้ว่าจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตุนเอาไว้ที่ห้อง และก็ยาปลุกสำหรับผู้ชาย ถามจากเพื่อนๆ ในคณะเราก็พอจะให้หามาได้อยู่ ผมอยากลองมันแบบสุดเหวี่ยงดูบ้าง เคยริดจะทำแบบนี้กับบอมเหมือนกันนะ แต่ยังไม่มีโอกาส ไว้รอตอนปิดเทอมเอา ส่วนครั้งนี้กับดิวเรียกว่าครั้งทดลอง มอมยากันเองและปล้ำกันเอง แค่คิดก็เร้าใจแล้ว

ผมลองโทรไปหาเพื่อนเพื่อถามหาตัวยาที่เคยบอกให้มันเอามาให้ คำตอบที่ได้รับน่ายินดีมาก แต่ผมต้องไปเอาเองที่ห้องของมัน นั่นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม ผมคร่อมมอเตอร์ไซค์บิดไปแป๊บเดียวก็ถึง เคระประตูรอไม่นานเจ้าเพื่อนตัวดีก็ออกมารับด้วยสภาพที่ดูไม่ค่อยได้ เห็นเตียงนอนแว้บๆ มีหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่บนนั้น  ผมแค่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ส่งเงินและรับยาจากนั้นก็บึ่งกลับห้อง

อยากตรวจดูอีกทีว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม คอนโดผมมีมันห้องนอนสองห้อง แต่อีกห้องทำเป็นห้องสำหรับออกกำลังกายไปแล้ว ผมบอกดิวไปแล้วว่าผมนอนกับบอม เพราะงั้นพวกข้าวของของบอมที่อยู่ในห้องจึงไม่ใช่เรื่องชวนน่าสงสัยอะไร ผมแค่อยากให้มันชัวร์ว่าจะไม่มีคราบน้ำอะไรบนที่นอน เมื่อคืนผมกับบอมก็ฟัดกันหนักหน่วงอยู่ จนเมื่อเช้าตรู่ผมต้องเอาผ้าปูไปซัก แล้วเอาอันใหม่มาเปลี่ยน มองดูความเรียบร้อย ความสะอาดสะอ้านจนมั่นใจว่าจะไม่มีส่วนไหนในห้องนอนชวนน่าสงสัย

เตรียมห้องพร้อมก็ลงมาข้างล่าง สั่งซื้อเบียร์จำนวนหนึ่งลัง อุ้มเอากลับมาแช่ไว้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะพอไหม แต่เอาเท่านี้ไปก่อนนั่นแหละ ผมดื่มน้อยๆ ก็ได้ มอมเด็กอย่างเดียวพอแล้ว เออ แต่คิดไปคิดมาผมก็ยังไม่เคยเห็นดิวเมาเลยสักครั้งนะเนี่ย ไม่เป็นไร ยังไงซะวันนี้ดิวไม่รอดแน่ๆ

“ดิว พี่กำลังเข้าไปนะครับ” เมือทุกอย่างพร้อม ผมก็พร้อมจะรับเด็กมาฟันมรธอนที่ห้องแล้วละครับ

(ครับพี่แมท) เจ้าตัวขานรับเสียงใส ผมเลยบิดมอเตอร์ไซค์ออกไปด้วยความไวว่อง

วันนี้ดิวใส่กางเกงทรงนักเรียนขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน เสื้อยืดสีครีมเหมือนกับบอม และใส่รองเท้าผ้าใบทันสมัยสีขาว เขาดูสะอาดสะอ้านน่ารักสมวัย ข้างหลังมีเป้ใบโต ผมให้เขาขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์โดยไม่ได้ลงจากรถ เดี๋ยวต้องไปหาอะไรไปกินที่ห้องอีก กะว่าอาหารฟรีตจำนวนมากน่าจะพออยู่สำหรับสามวัน

“โห พี่แมทซื้อเยอะจังเลยครับ” ดิวมองอาหารแข่แข็งในตระกร้า

“ก็พี่กะจะฟัดเราสามวันเต็มเลยน่ะสิครับ” ผมก้มลงไปกระซิบ

“บ้าหรอ พี่แมทไม่มีเรียนหรือไงเล่า...” เออวะ ผมมัวแต่สนเรื่องของดิวจนลืมไปเลยว่าตารางเรียนของตัวเองยังมีอยู่ ช่างเหอะ เรียนบ้างโดดบ้างแค่สามวันคงไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวกลับไปดูที่ห้องว่ามีวิชาไหนที่สำคัญห้ามโดดบ้าง

“มีสิ แต่พี่ไม่เรียน พี่จะกินดิว กินๆ จนตัวเปื่อยเลยคอยดู” พอโดนเย้าเจ้าตัวก็หน้าแดงซ่าน

“บ้าจริงๆ พี่แมทเนี่ย ดิวเขินเป็นนะเอ้อ” เจ้าตัวเล็กเดินนำแซงหน้าผมขึ้นไปหมาจะหนี แต่ไม่ยอมหรอก รีบตามไปประกบเขาทันที

ดิวพองแก้มใส่ผมที่ปั่นหน้ายิ้มหวาน เขาน่าเอ็นดูจริงๆ ครับ เป็นเด็กน้อยที่น่าเบี้ยงเอาไว้มากๆ เราเดินซื้อของได้ไม่นานนัก ด้วยรถของผมเป็นรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ทำให้ไม่มีส่วนไปนสามารถแขวนถุงของได้เลย ดิวจำเป็นต้องถือทั้งหมดเอง และถ้าซื้อของตามใจตัวมากดิวคงแย่แน่ๆ เพราะมันหนักพอสมควร ผมต้อขับรถข้าๆ ขับเร็วมากของจะปลิว ดิวก็จะปลิว ลำบากทุลักทุเลนิดหน่อย แต่ก็มาถึงห้องโดยสวัสดิภาพ

“ห้องพี่แมทกว้างเหมือนกันนะเนี่ย” ดิวมองรอบห้องของผมด้วยสายตาสนอกสนใจ ผมตรงดิ่งเข้าไปแย่งของไปเก็บใส่ตู้เย็นและครัว

“อยู่สองคนกับบอมนี่ครับ เลยต้องมีพื้นที่ใช้สอยนิดหนึ่ง”
“ทั้งๆ ที่พื้นที่ใช้สอยเยอะ แต่ทำไมห้องนอนมีแค่ห้องเดียวละครับพี่” ผมเดินกลับออกมาพร้อมน้ำผลไม้เย็นๆ ส่งให้ดิว
“จริงๆ ก็มีห้องนอนสองห้องละครับ แต่อีกห้องหนึ่งพี่กับบอมเราเอมาทำเป็นห้องสำหรับออกกำลังกาย เต้าตัวเขารักหุ่นมา ต้องหิต ต้องเฟิร์มตบอดเวลา พี่เองก็พลอยทำตามไอน้องชายไปด้วยนั่นแหละครับ”
“โห งี้นี่เอง” ผมรอดิวดื่มน้ำผลไม้จนเสร็จเรียบร้อยเอาแก้วไปเก็บ กลับมารวมเจ้าตัวเล็กกอดแล้วทุ่มลงบนโซฟาตัวยาว
“รู้ไหม พี่คิดยังไงกับการไปสามวันนี้ของบอม” จ้องลึกไปในดวงตากลมโต
“ยังไงอะครับ” เขาถามซื่อๆ ดูรู้เลยว่าตามเกมไม่ทันเสียแล้ว
“พี่ก็คิดว่าพี่จะไม่ให้เรามีโอกาสได้ใส่เสื้อผ้าเลยน่ะสิ รู้จักคำว่าฟ้าเหลืองไหม” ดิวส่ายหน้า “พี่รู้จักแต่พี่ไม่เคยเห็น คราวนี้พี่จะต้องเห็นได้”
“ผมจะไม่ได้ตายใช่ไหมเนี่ย...” เจ้าตัวเล็กมองด้วสายตาอึ้งนิดๆ
“ไม่ตายหรอกครับ แต่อาจจะเดินไม่ไหว...ว่าแล้วก็ประเดิมยกแรกเลยนะ มามะ ให้พี่กอดนะครับ” ยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ ดิวมองสบตาเชื่อมๆ ของผมได้ไม่นาน เขาเสหน้าหลบแล้วครางอื้อตอบ เป็นการอนุญาตให้ผมชำแหละร่างกายน้อยๆ นี้ได้ด้วยมือของผมเอง และนอกจากมือที่ชำนิชำนาญ ผมยังมีปากและเรียวลิ้นคอยช่วยอีกฝ่ายคล้ายมอฟีนระงับความเจ็บปวด รับรองเลยว่างานนี้ดิวจะกลายเป็นคนไข้ที่มีความสุขที่สุด

ผมประครองร่างของดิวให้นั่งลงตรงโต๊ะไม้สไตล์โมเดิลหน้าโซฟา ค่อยๆ ผลักให้ร่างผอมบางเอนนอนราบไปทั้งที่เท้ายังวางอยู่บนพื้นห้อง ตอนนี้ดิวไม่ต่างจากอาหารมื้อโอชะสำหรับผม ยิ่งมองมือตัวเองที่กำลังเคลื่อนจากหัวเข่าขาวเนียนไปยังชายเสื้อยืดสีอ่อน คลืบคลานพลางเปิดชายเสื้อขึ้นอย่างช้าๆ ให้เห็นผิวกายของดิวทีละนิด เป็นภาพที่ทำให้ผมอดกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ หน้าท้องเบนราบกำลังขยับขึ้นลงถี่ๆ ตามการหายใจของเจ้าตัว ดิวกำลังสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น นี่ผมไม่อยากจะคิดเลยนะว่าถ้าใส่ยาลงไปในน้ำผลไม้เมื่อครู่ ดิในตอนนี้จะมีสภาพเป็นยังไง

“ดิวน่ากินมากเลย...” เอ่ยบอกกับอีกฝ่ายเสียงแตกพล่า ผมเลียปากตัวเล็กน้อยก่อนจะโน้มลงไปใช้เรียวลิ้นสัมผัสกับผิวหน้าท้อง
“ฮึก...” มือเล็กๆ กำขอบโต๊ะเอาไว้ ยิ่งผมแหวกขาสองข้างให้ถ่างออกากกันเพื่อแทรกตัวเองเข้าไป ดิวก็ยิ่งเกร็งร่างกายราวกับหวาดกลั
“ไม่ต้องกลัวนะ พี่จะค่อยๆ กินเราอย่างทะนุถนอมเอง” ฟันขาวขบลงบนเนื้อสีข้างด้านขวา ทำให้เขากระตุกด้วยความเสียวซ่านในทันที
“อ้ะ!” กัดแล้วก็เลียบาดแผลน้อยๆ ให้ด้วยความนุ่มนวล แต่ไม่ใช่ตะหยุดลิ้นไว้แค่รอยแดงของฟันเท่านั้น แต่กลับลากไล้ขึ้นไปสูงเรื่อยๆ พร้อมกับปลดเสื้อของดิวออกทางหัว ได้ความร่วมมือจากเจ้าตัว จึงไม่ยากที่พรากเอาชิ้นส่วนปกปิดกายน่ากินนี้ออกไป

“ตัวดิวหวานจังเลยครับ” ริมฝีปากเกลี่ยยอดอกเล็กเบาๆ เอ็นดูมันด้วยความใครอยาก
“จริงหรอครับ ถะถ้าหวาน...ถูกปากก็ทานเยอะๆ เลยนะครับพี่แมท” คำพูดคำจาที่น่ารักทำให้ผมฟังใบคมเขี้ยวลงไปที่ตุ่มไตชูชัน ร่างกายด้านใน้กระตุกตอบสนอง รู้สึกดีเป็นบ้าเลยละครับ
“อื้ม อร่อย...อร่อยมากๆ อ่าห์...” ขบเม้มไปก็ครางเสียงพล่าให้อีกคนฟังไปพร้อมๆ กัน
“อื้อ เสียวจังครับ...”
“มากไหมครับ”
“มาก ฮ่า...ฮ่า...มากๆ เลยครับ” เป็นเด็กดีปากหวานแบบนี้ก็ต้องตบรางวัลให้ ผมเลื่อนมือไปยังจุดอ่อนไหวกลางลำตัว กอบกุมมันเบาๆ ก่อนจะค่อยขย้ำ เพิ่มน้ำหนักมือ

แต่ดูเหมือนว่ากางเกงด้านนอกจะน่ารำคาญ แถมยังเกะกะขวางทางความสุข ผมจึงไม่ลังเลที่จะถอดมันออกไปพร้อมกับอันเดอร์แวขาวสะอาด ปามันไปตรงไหนสักที่เดี๋ยวค่อยเก็บ โดยไม่ยอมละทิ้งหน้าที่เอ็นดูยอดอกสีชาให้ว้าเหว่ ส่วนมือก็ลูบไล้โคนขาที่ทั้งเนียนทั้งลื่นมือ ร่างกายเล็กๆ ที่ตรงสเป็กนี้ทำให้เพลิดเพลินไปหมดไม่ว่าจะทำอะไร ลูบไล้ส่วนไหนของเขาอยู่ตาม

ผมเล็มชิมกินร่างกายของดิวจนแทบทุกตารางนิ้ว มอบความซ่านสยิวให้กับเขาจนร่างกายที่บอบบางนั้นทนรับเอาไว้ไหวและปลดปล่อยมาในที่สุด ผมมองเขาตาเขื่อม เลียริมฝีปากเหมือนกับหิวกระหายเขาเหลือเกิน ดิวหน้าแดงก่ำแต่มองตอบไม่ลดละ มีดวงตาที่ต้องการในร่างกายกำยำอย่างผม และผมก็ต้องตอบสนองเขาด้วยการเปลื้องผ้าออกทั้งหมดจนไม่เหลืออะไรไว้ติดกาย ทีนี้กายกับกายจะได้เสียสีกันเสียที

เรียวนิ้วขาวกวาดหยาดน้ำขุ่นตรงหน้าท้องไปทาช่องทางคับแคบ ค่อยๆ แหวกรอยจีบสีเดียวกับยอดอกจนนิ้วผลับหายเข้าไปในนั้น มันเป็นสถานที่มหัศจรรย์ซึ่งรอยมอบความวิเศษสุดทาวอารมรณ์ให้กับยอดชายของผม ผมค่อยๆ ควานนิ้วไปด้านใน ถูกไถผนังร้อนร้องจนดิวเปล่งเสียงครางคล้ายสะอื้นออกมาเบาๆ ดวงตากลบหลับพริ้ม ริมฝีปากเผยออ้าหายใจรุนแรงจนแผ่นอกกระเพื่อมถี่ เห็นแล้วก็อดลูบไล้ฝ่ามือไปมาไม่ได้ ความเนียนนุ่มของดิวนั้นเป็นสิ่งที่น่าหลงใหลไม่ใช่น้อย
“ผมอยากโดนกินแล้วครับ...กินผมสักทีได้ไหมพี่แมท” ดูเหมือนแรงอารมณ์ของคนตัวเบ็กจะดุเดือดกว่าผมที่เป้ฯคนปรนเปรอ เพราะเขาปล่อยไปแล้วหนึ่งรอบน่ะสิ ไฟมันเลยติดแล้วและท่าจะมอดยากมาก เพราะถ้าไม่ยอมหยุด เขาก็จะไม่ได้หนุดเข่นกัน
“ได้เลยครับ พี่จะกินดิว ‘แรงๆ’ เลย” ขยับเข้าประจำที่ จับขาทั้งสองข้างของดิวให้เหยียบขอบโต๊ะเอาไว้อ้าออกกว้างๆ เป็นมุมที่ดีที่จะชมหวิวและกระแทกกระทั้นในเวลาเดียวกัน
“อื้ม...พี่แมท” เพียงส่วนปลายแตะลงไปบนรอยจีบ เจ้าตัวน้อยก็ครางเสียงหวานออกมาอย่างกระเส่า

ผมมุ่งหน้าดันตัวตนของตัวเองเข้าไปเลื่อยๆ ไม่ได้เร่งร้อนเพราะวันนี้ยังอีกยาวไกล ไม่ต้องรีบให้เหนื่อยหนัก ยังไงซะอะไรที่ผมต้องการผมต้องได้อย่างแน่นอน ผมเชิ่ดหน้าขึ้นนิดๆ เมื่อรับรู้ถึงแรงตอดรักลดที่ถาโถมใส่สิ่งแปลกปลอมอย่างผม เดี๋ยวเถอะ...อีกเดี๋ยวมันจะโดนโจมตีด้วยการะแทกหนักๆ รับรองว่าจะตอดลำกายของผมแทบไม่ทัน
“อ่าห์...” ผนังร้อนรัดรึงสิ่งแปลกใหม่อย่างบ้าคลั่ง สร้างความสุขให้กับผมจนต้องพ่นหายใจแสนกระเส่าออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ดิวเองก็ผ่อนลมหายใจ ดวงตากลมคู่โตปรือมองผม มองด้วยความรักความเสน่หา
“เรียกร้อวพี่อีกสิครับ บอกพี่สิ...เราต้องการอะไร” โน้มกายชงไปกระซิบชิดริมฝีปาก เจ้าตัวจูบปากผมเบาๆ ก่อนมองหน้าด้วยสายตาต้องการแต่ก็ขัดเขินในเวลาเดียวกัน
“กระแทกผมสิครับ...”
“แบบนี้...ใช่ไหมครับ” ผมทำเป็นขัยเบาๆ
“อื้อ มะไม่ใช่...ไม่พอ แบบนั้นไม่พอครับ” ดิวประท้วง ดวงตากลมโตมองงอน
“แล้วต้องแบบไหนครับ...” ผมเย้าแหย่อีก
“ก็แบบ...แรงๆ” คำตอบจุดรอยยิ้มกว้างให้กับผม ผมจูบปากดิวอีกครั้งอย่าดูดดื่ม ในขณะท่สะโพกเริ่มเพิ่มความเร็วและแรงในการสอดใส่

ร่างของดิวไถลขึ้นลงบนโต๊ะไม่เนื้อดี เล่นเอาเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดของโต๊ะเสียดสีกับพื้นห้อง ผมไม่สนใจนัก เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ช่องทางที่โอบรัดและเสียงครางกระเส่าของดิวน่าใจกว่าเป็นไหนๆ เขาตรึงสายตาและสะโพกของผมเอาไว้ที่เขาเพียงคนเดียว แล้วไอ้ช่องทางมหัศจรรย์นี่ก็เหบือเกิน ยิ่งเข้าออกหนักหน่วงเท่าไหร่ก็ยิ่งอยากทำรุนแรงขึ้นจนยากจะห้ามตัวเอง ในเมื่อมันไม่มีทางสิ่นสุดลงในวันนนี้อย่างแน่นอน ผมเลยไม่ชั่งใจจะทำเบาๆ อีกแล้ว แต่เร่งสปีดจนเสียงเนื้อกระทบกันดังก้องห้องพอๆ กับเสียงครางอันหวานหูของดิว

“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า” เสียงครางดังรับกับจังหวะของการสอดใส่ ดิวเริ่มจับแก่นกายของตัวเองเอาไว้ มันตั้งชันและแข็งขืน ราวกับสิ่งที่อย๋ในนั้นเตรียมพลั่งพลูออกมาอย่างมากมายมหาศาล ผมได้เห็นแบบนั้นก็ยิ่งคึกคะนอง เร่งสะโพกตัวเองแม้เหงื่อจะหยดบงบนหน้าท้องดิวเสียอทบชุ่มไปหมด
“ซี๊ด..รัดพี่แรงๆ เลยครับดิว อ่า แรงอีก” ใช่เขาคนเดียมี่จะไปถึงที่หายเสียเมื่อไหร่ ผมเองก็ไม่ไหจะทนเหมือนกันนั่นแหละ ถ้าเป็นช่วงปกติผมจะเสียดายที่มาถึงเร็วขนาดนี้ แต่นั่นไม่ใบ่ในตอนนี้ ตอนที่เรามีเวลาอีกมากมายที่นะทำเรื่องอย่างว่ากัน

“อ้ะ พี่แมท...ผม ผมไม่ไหว...พี่ครับ....ผมจะอึ้ก....” ดิวเปร็งร่างอย่างแรงทั้งที่ยังพูดไม่จบประโยค ผิดที่ผมเองที่กระแทกเขาซะเมามันเกินไป ทำเอาเขาถึงจุดหมายปลายทางเสียรุนแรง
“อ่าดิว ดิว ...ซี๊ดดดดดอ่าห์...” และไอ้ความรุนแรงจากการเกร็งร่างกายของเขานั่นแหละ ถึงทำให้ผมปลดปล่อยหยาดน้ำเข้าสู่ช่องทางอันนุ่มนวลนั้น

เรามองหน้ากันก่อนจะเปลี่ยนเป็นจูบอันเร่าร้อน ตามตัวเหนอะหนะสุดๆ เพราะมันมีทั้งเหงื่อทั้งน้ำคาวสีขาว แต่ดูเหมือนเรานะไม่ได้สนใจมันเท่าไหร่นัก มัวแต่บอบจูบแสนดุดเดือดให้กันและกันอย่างเร่าร้อน

ทว่า...นี่เป็นแค่ยกแรกของเราสองคน หลังจากนี้ไปอีกสามวันที่บอมไม่อยู่ มันจะเมามันขนาดที่เราทั้งคู่จะไม่มีทางลืม และดิวจะไม่มีทางได้สนุกแบบนี้กับชายใดที่ไหน ผมจะสร้างความประทับใจชนิดที่ว่าดิวจะไม่มีทางสลัดมันทิ้งได้อีกเลย

*************จบบทที่ 9***************

 :-[ :-[ :-[ แมทนิสัยไม่ดีต่อกันหลายตอนแล้วน้าาา  :z3: :z13:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2016 08:49:10 โดย GukakST »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
«ตอบ #87 เมื่อ30-12-2016 05:34:27 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ autopilot

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
«ตอบ #88 เมื่อ30-12-2016 06:12:23 »

กรอกตามองบนใส่แมท

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: <<เธอมีชู้>> By GukakST บทที่ 9 [30/12/59]
«ตอบ #89 เมื่อ30-12-2016 09:21:51 »

เอาจริงๆ นะ ไม่ได้รอการเอาคืนของบอมเท่าไหร่
ตั้งตารอการเอาคืนของดิวซะมากกว่า หวังว่าคนแต่งจะช่วยจัดให้นะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด