เธอมีชู้
บทที่ 8
“อ้ะ...พี่แมท” เสียงครางหวิวดังออกมาเมื่อผิวเนื้ออ่อนส่วนคอโดนกัดเพียงแผ่วเบา
“ครางอีกสิครับดิว” ผมกระซิบบอกใกล้ใบหูขาวที่ตอนนี้อมชมพูเพราะเลือดในกายเล็กกำลังเดือดพล่าน
“อ๊า พี่แมทครับ....พี่......” แรงขย้ำตรงความอ่อนไหวกลางกายทำให้ดิวปล่อยเสียงครางหวานหูออกมา
“อื้ม ดี...พี่ชอบเราครางจังเลยครับ” ผมขบเม้มลำคอขาวคอ ไล่ระดับจากบนลงล่างทีละช้าๆ ค่อยๆ ทำไปไม่รีบร้อน เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีที่สุด
แผ่นอกเล็กกระเพื่อมขึ้นลงเพราะแรงหายใจที่หนักหน่วง ผมมองมันด้วยสายตาวาววามก่อนจะค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียตุ่มไตเด่นหราทั้งสองฝั่งซ้ายขวา ดิวผวาเฮือก สองมือเคลื่อนขย้ำเส้นผมสีดำขลับลื่นมือเอาไว้พลางแอ่นอกเข้าหาความรุ่มร้อนตามสัญชาตญาณ ปฏิกิริยานี้ทำให้ผมเพลิดเพลินกับการละเลงเรียวลิ้นลงไป ยิ่งหยิกล้อ ก็ยิ่งมัวเมา ท่อนขาของดิวเสียดสีสีข้างผมไปมา ความรัญจวนช่วงบนมันเป็นแค่สิ่งที่เห็น แต่ภายใต้กายใหญ่ของผมนั้นมีมือกำลังกำรอบท่อนเนื้อนุ่มอันชูชันเอาไว้ พลางบีบนวด เคล้าคลึงสร้างอารมณ์ให้กับอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ
“พะพี่...ผมเสียว ผมไม่ไหวแล้ว เร่งอึก...เร่งมือให้ผมหน่อย” ในเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากร้องขอ ผมก็ไม่ปฏิเสธคำขอนั้น ขยับข้อมือของตัวเองเร็วขึ้นทีละน้อย
“พี่ทำให้แล้ว ครางให้พี่ฟังดังๆ นะครับน้องดิว” จ้องตากับคนใต้ร่าง บอกเสียงกระเส่าให้เขาทำตาม ดิวพยายามจ้องตอบ แต่ความซาบซ่านนี้ทำให้เขาไม่อาจเปิดเปลือกตาได้นานนัก
“อ้ะ อ้ะพี่แมท...พี่เร็วอีก อื้ออ้ะ อ้ะ อ๊า....” น้ำจากแก่นกายอุ่นรินรดฝ่ามือของผม ไม่ต้องมองก็รู้ว่าสีของมันเป็นสีอะไร และมากมายแค่ไหน
“ได้เวลาทำให้พี่บ้างแล้วนะครับ” จูบไปที่กลีบปากสีสวยก่อนจะขยับพลิกสลับตำแหน่ง
ดิวลงมือปฏิบัติหน้าที่ในทันที เขาโน้มลงมาจูบปากผมด้วยความเร่าร้อนก่อนจะใช้สิ่งเดียวกันนี้พรมไปตามลำคอของผม ดิวรู้ดีว่าห้ามทำรอยเด็ดขาด เขาจึงจูบอย่างนุ่มนวล ฝ่ามือของเขาสำรวจร่างกายของผม ลูบไล้และหยุดลงตรงความแข็งขืนที่ร้อนฉ่า ดิวรวบมันเอาไว้ด้วยสองมือ ค่อยๆ ขยับให้สอดคล้องกับจังหวะของริมฝีปาก แต่ผมอดรนทนไม่ไหว เชยคางเขาขึ้น มองสบตา อ้อนเขาด้วยดวงตาคู่คม
“พี่อยากได้ปากน้องดิว...”
“ขอกันอย่างนี้ ผมก็ปฏิเสธไม่ลงสิครับ” ดิวยิ้มรับอายๆ เขาเคลื่อนใบหน้าลงไปด้านล่างทันที
“สอดนิ้วเข้าไปในตัวเองด้วย พี่อยากดู อื้ม...” ดิวไม่ขัดสิ่งที่ผมต้องการให้เขาทำ เมื่อริมฝีปากครอบลงมันยอดชาย เขาก็ค่อยๆ สอดนิ้วของตัวเองเข้าไปในช่องทางสีคล้ำ ขยับขยายเส้นทางของเขาเอง
ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความคึก ปากกำลังขยับขึ้นลง เห็นลำกายพลุบเข้าพลุบออกแบบนั้นแล้วความเสียวซ่านก็ทวีรุนแรง หากมองเลยไปอีกหน่อยก็จะพบเห็นมือของดิวที่ขยับกระแทกกระทั้นเข้าสู่ช่องทาง มันไม่ได้รุนแรงนัก แต่ก็เร็วพอที่จะทำให้เกิดความวูบวาบในช่องท้องน้อย
“อ่าห์...สุดยอดเลยน้องดิว พี่เสียวมาก” ผมขยับสะโพกดันส่งให้ส่วนสำคัญเข้าไปในโพรงปากอุ่น
“อื้อ อื้อ อื้อ” ดิวครางรับกับจังหวะที่ในเข้าออก รวมทั้งมือของเขาที่เคลื่อนไหวสอดประสาน
“อ้ะ...น้องดิวดูดแรงๆ เลยครับ” ผมกดหัวของดิวให้จมไปกับท่อนเนื้อ กลืนกินมันเข้าไปจนหมดไม่เห็น รู้สึกเลยว่าเข้าไปจนถึงคอ ดิวส่งเสียงอ่อกแอ่กออกมา แต่ก็ยังพยายามดูดแรงๆ ตามที่บอก
“ซี๊ดด...อื้ม!” น้ำคาวพุ่งทะลักเข้าสู่ลำคอเล็ก ดิวรีบดึงหน้าตัวเองออกแล้วไอออกมา
“แค่กๆ”
“เป็นอะไรไหมครับ...” ดิวส่ายหน้า
“ไม่ครับ แค่สำลักนิดหน่อยเท่านั้นเอง” คนตัวเล็กยิ้มให้ ผมจึงระบายยิ้มตอบ ช้อนคอด้านหลังของเขาให้เข้าหาตัวเองก่อนบรรจงจูบให้รู้สึกวาบวาม
“อื้ม” ดิวระบายเสียงครางออกมา ผมจับตัวเขาให้ขึ้นมาคร่อมสะโพก นั่งทับส่วนอ่อนไหวที่ไม่อ่อนแรงลง
เราจูบกันดุเดือดในขณะที่ช่วล่างเหมือนจะตามหากันและกัน ดิวส่ายสะโพกไปมา ผมเองก็จับส่วนนั้นให้จ่อเข้ากับช่องทาง เมื่อเจอกันแล้วก็สอดประสานเป็นคนเดียวกัน ดิวทิ้งน้ำหนักลงมาอย่างช้าๆ เพราะขนาดของผมและนิ้วของเขามันต่างกันเกินไป ขืนทำเร็วอย่างในนึก คงมีเลือดซึมกันได้
เพียงครู่เดียว ดิวก็นั่งลงมาทั้งตัว เขาถอนริมฝีปากออก หอบหายใจหนักหน่วงเพราะต้องกลั้นมันเอาไว้ในตอนที่ค่อยๆ กดลงมา ผมลูบไล้ความเป็นชายด้านหน้าให้เพื่อให้เขาได้รู้สึกสยิวและหลงลืมความปวดหนึบนี้ไป ใบหน้าหวานปานหญิงสาวเงยขึ้นสบตา เขายิ้มอ่อนและผมยิ้มตอบ
“เจ็บมากไหม” ถามอย่างเป็นห่วง
“เจ็บสิครับ ใครเขาพี่ใหญ่ขนาดนี้ละ...” ดิวว่าผมทั้งที่หน้าแดงก่ำ
“แล้วดิวไม่ชอบหรอครับ ของใหญ่ๆ” กระซิบเย้าคนตัวเล็กพลางกระดกเจ้างูหลามในตัวของดิว
“อึ้ก พะพี่...ผมชอบหมดหมดแหละ ถ้าเป็นของพี่แมท จะเล็กหรือใหญ่ ไม่เห็นเกี่ยวเลย”
“ปากหวานจังครับ...” พูดจบผมก็ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากของดิวเบาๆ พร้อมกับจับก้นนุ่มนิ่มยกขึ้นเพื่อจะปล่อยลงมาใหม่ให้เกิดความเสียวซ่าน ดิวเกาะไหล่ของผมเอาไว้แน่น เม้มปาก ปรือตามอง เป็นที่โคตรยั่ว และผมมักนแรงยั่วได้ไม่นานนัก
“ฮ่า...อื้อ อื้ออ้ะ อ้ะ อ้ะ สะเสียวครับพี่” เพราะเราต่างก็นั่ง ทำให้แกนกานร้อนเสียดสีหน้าท้องของผม ยิ่งส่วนปลายฉ่ำยลน้ำถูไปกับรอนกล้ามท้อง ช่องทางนถ่มนั้นก็จะยิ่ฝตอดรัดลำกายของผมเอาไว้แนบแน่น
“พี่ก็เสียวมากเลยครับ น้องดิวรัดพี่แน่นมาก อื้ม...แน่นสุดๆ เลยครับ” จังหวะเริ่มเร็วขึ้นแล้ว ดิวต้องกอดคอของผมเอาไว้ ไม่งั้นเขาจะทรงตัวไม่อยู่
เสียงครางของดิวดังก้องลั่นห้องนอนของเขา ดีที่ไม่มีใครอยู่บ้านหลังนี้อีกเช่นเคย เราถึงได้ทำกันโดยไม่สนเสียงจะดังจะเบา ผมสวนสะโพกเข้าหาอีกฝ่าย เสริมแรงจนดิวหัวสั่นหัวคลอนรุนแรง ความเสียวซ่านทำให้ดิวบีบรัดผมแน่น จนผมแทบจะทนความยั่วเย้าของกามารมณ์ไม่ไหว อยากจะพลิกคร่อมแล้วเป็นฝ่ายควบคุมทุกอย่างเอไว้ด้วยตัวเอง แต่ดิวในตอนนี้ยังเร่าร้อนเขิญชวนอยู่ ผมจึงข่มอารมณ์แล้วมองสีหน้าที่สุขสม
“พะพี่แมทครับ...ดิวอยากถึง” เจ้าตัวน้อยร้องบอกเสียงกระเส่า ผมจึงกอบกุมส่วนอ่อนไหวเขาไว้แล้วกำมันเบาๆ ให้การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นตัวทำให้มันขยับไปเอง
ดิวเร่งสะโพกตัวเองอย่างเร็ว เพื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งมันใช้เวลาไม่มาก ครู่เดียวเท่านั้น ร่างกายของผมกับเขาก็เฉอะแฉะไปดัวยน้ำคาวสีขาวขุ่น ดิวซบไหล่หอบตัวโยนด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ผมไม่ให้เขาพัก จับเขานอนลงแล้วเริ่มกระแทกต่อในทันที ข่องทางนุ่มๆ ยังเต้นตุ้นอยู่เลย ช่วงเวลาแบบนี้แหละนี่ผมชอบ บีบรัดผมเอาไว้เยอะๆ ให้เหมือนกับว่าจะทำให้มันขาดไปเสียให้ได้
“อ๊า พี่ครับ...” ร่างเล็กร้องเสียงหลง เขากอดคอของผมเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เหมือนให้เป็นหลักกับร่างที่โดนแรงส่งจนตัวไถลขึ้งลงระรัว
“อ่าห์ดี รัดพี่แน่นๆ นั่นแหละดี” ถึงจะเค้นคำพูดออกมายากเสียหน่อย แต่ก็พูดออกไปเพื่อให้อีกคนรู้สึกดี
เสียงเนื้อกระทบที่เบาลงไปจากการถึงของร่างเล็กเมื่อครู่นี้ดังสนั่นขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะแบบนี้ผมรุนแรงได้เพราะช่องทางร้อนๆ นี้อ่อนนุ่มมากพอที่จะรองรับความกระสันแบบหนักหนวง ผมจ้วงเข้าสุดออกเกือบสุดเพื่อรีดเสียงครางของเด็กน้อยใต้ร่าง จนเขาร้องเหมือนเสียงสะอื้น หายใจฝืดฝาด แทบจะโกยอากาศเข้าแทบไม่ทัน และเมื่อผมใกล้ถึง ผมก็ยืดตัวเต็ม จับข้อเท้าทั้งสองข้างให้ชู้ขึ้นสูงแล้วกระหน่ำแทงลงไปให้ยับ
“อ๊า อ๊า อ๊า อ๊า...,” เสียงน้องของเลดิวแทบกลบเสียงเตียงที่ดังเอี๊ยดอ๊าด สองมือของเขาจิกผ้าปูที่นอนจนแทบขาดออกจากกัน ร่างกายเล็กบิดเกร็งอย่างรุนแรง และเฮือกต่อมาเขาก็บีบรัดผมอย่างบ้าคลเงพร้อมกับน้ำขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากส่วนอ่อนไหว
“น้องดิว น้องดิว...” ผมครางชื่ออีกฝ่ายซ้ำๆ แรงรัดหนักแน่นทำให้ผมแตกพล่านออกมา แต่ผมยังไม่ยอมหยุด อยากสุขแบบสุดๆ จนทนแทบไม่ได้ จึงขยับสะโพกระรัวตาอไปจนร่างกายเลมันเกร็งไปหมด
“อื้อ พี่แมท...พี่ครับพี่” ดิวร้องเหมือนจะขาดใจตาย ผมเองก็คล้ายกัน กัดฟันกรอดจนปวดกราม ทนไม่ไหวอีกแล้ว จำต้องชลอทุกอย่างลงอย่างช้าๆ และหยุดไปในที่สุด
“แฮ่กๆ...”
“เสียวจัง...” ผมทิ้งตัวลงไปกอดอีกร่างเอาไว้แนบแน่น เหนื่อยมากๆ ช่างเป็นการออกกำลังกายที่สุขสม
ผมคิดนะ ว่าพระเจ้าช่างดีเหลือเกิน ที่สร้างให้มนุษย์อย่างเรารู่จักมีความสุขโดยไม่ต้องมีอะไรมากมาย เพียงแค่สอดใส่เข้าไปในร่างของอีกคนแรงๆ ก็สร้างความเมามันได้มากมายขนาดนี้ ผมชื่นชอบเซ็กส์จริงๆ จะกับใครก็ตาม ผมว่ามันวิเศษสุดๆ
ลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ เรามองหน้ากัน สบตาซึ่งกันและกันก่อนจะระบายรอยยิ้มแห่งความสุข ผมก้มลงไปจูบกลีบปากของดิว เม้มดึงมันด้วยความใคร่ระคนเอ็นดู วันนี้ดิวทำให้ผมมีความสุขมาก และผมเชื่อว่าดิวเองก็มีความสุขเช่นกัน
“อยากให้พี่แมทค้างกับผมจังเลยครับ” ร่างเล็กส่งเสียงอ้อน มือไม้กอดเกี่ยวไม่ยอมคลาย
“พ่อแม่น้องดิวจะยอมหรอครับ” ปัดปรอยผมให้คนตัวเล็ก ยิ้มอ่อนโยนให้กับเขาอย่างที่ทำเป็นประจำ
“ยอมสิครับ ท่านไม่ดุหรอก บอกเป็นรุ่นพี่ผมแค่นี้ก็ได้แล้ว” เขายิ้มหวานกลับมาให้
“งั้นเอาไว้คราวหน้าดีไหมครับ พี่กับบอมเพิ่งจะคุยกันได้เอง ยังไม่อยากให้มีปัญหาในตอนนี้อีก” ดิวพยักหน้าเข้าใจ
“นั่นสิครับ ผมลืมไปเลย แต่ว่า...แค่ค้างบ้านแฟนแค่นี้ พี่บอมเขาต้องโกรธเลยหรอครับ”
“บอมไม่โกรธพี่หรอกครับ แต่พี่ยังอยากให้เข้าใจในตัวพี่มากกว่านี้ก่อน ตอนนี้ถึงเราจะหันมาคุยกันบ้าง แต่บอมก็ยังโกรธพี่อยู่ พี่เองก็อยากจะให้เขาเข้าใจว่าสิ่งที่พี่ทำลงไปมันเพื่อเขาทั้งนั้น บอมเป็นคนดื้อครับ เขาหัวรั้น ยิ่งพี่ไม่อยู่ เขายิ่งทำตามอำเภอใจ” อธิบายให้เขาฟังด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับลูบหัวดิวไปด้วย
“อ่อ ผมเข้าใจแล้วครับ แต่ถ้าดีกันเมื่อไหร่ มาค้าง...กับผมนะ” ผมรู้ว่าดิวอายที่จะพูด ผมจึงจูบเขาเป็นรางวัล
“ครับ ดีกันเมื่อไหร่ ไม่พลาดที่จะมาฟัดดิวทั้งคืน เอ้ย...นอนกอดดิวทั้งคืนแน่ครับ” ดิวตีผมเบาๆ หนึ่งที ข้อหาทำให้เขิน
คุยกันพักหนึ่ง ผมก็ขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า นี่เย็นมากแล้ว ไม่รู้บอมจะกลับมาบ้านหรือยัง ผมปล่อยให้เขาได้ไปเรียนมาสามวันแล้วละ ดูตารางเรียนเขาตลอด เวลานี้บอมก็คงกลับห้องของเรา แต่ผมยังไว่ใจเขาครับ ยังไม่เชื่อว่าบอมจะเป็นเด็กดีได้
“พี่แมท พี่บอมโทรมาครับ” พอออกมาจากห้องน้ำ ดิวก็บอก ยกมือถือให้ดู ดีที่เขาไม่รับสายให้ ไม่งั้นคงแก้ตัวกันอีกยาว
“ขอบคุณครับ ฮัลโหล” ผมขอบคุณดิวก่อนจะรับสาย นั่งลงข้างกับเขาบนเตียง ดิวกอดพร้อมเอาคางเกยไหล่ผม
(กูถึงห้องแล้วนะ มึงอยู่ไหน)
“กูกำลังกลับ” กรอกเสียงราบเรียบลงไป เหมือนจะเห็นดิวมองผมแปลกๆ ไม่เคยได้ยินผมพูดน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้มั้ง
(อื้อ กูกินอะไรก็ได้ ซื้อมาให้กูกินหมดแหละ)
“อืม” คราวรับแล้วเตรียมจะวางสาย
(แมท...) แต่อีกฝ่ายกลับเรียกเอาไว้ก่อน จึงต้องฟัง
(กูรอนะ...) เสียงพูดที่ออดอ้อนน้อยๆ นั้นทำให้ผมรู้สึกใจสั่น ผมวางสาย มองหน้าจอพลางนึกถึงคนอีกฝั่ง อยากรีบกลับไปหามันเลย
ผมไม่รีรอเล่นตัว แกะแขนดิวออก จูบหน้าผากมลนั้นแผ่วเบาแล้วลุกไปแต่งตัว ดิวจะได้ยินเสียงของบอมไหมผมก็ไม่รู้ ผมสนใจแค่การหาของกินและกลับห้องไปเจอไอ้เสือเขี้ยวหัก พอมันเป็นเด็กดีแบบนี้ ผมละอยากรักมันหนักๆ สักที แต่ต้องวางมาดเอาไว้...คิดไว้เสมอว่าผมยังโกรธมัน
บิดมอเตอร์ไซค์จากบ้านดิวมาที่ห้องของผมนั้นใช้เวลาไม่นานนัก ราวครึ่งชั่วโมง แต่รถดันติดมากเลยกินเวลาไปเกือบชั่วโมง ยังไม่รวมตอนแวะซื้อบะหมี่เกี๊ยวเจ้าดังแบบพิเศษอีกสองห่อ นั่นน่ะนานจริงๆ รอจนเมื่อย แต่ในที่สุดผมก็มาถึงห้องของตัวเองเสียที เปิดประตูมาก็ไม่เห็นบอม มือถือวางอยู่ตรงโต๊ะหน้าโซฟา ผมตรงดิ่งเข้าไปหยิบมันขึ้นเพื่อจะดู เป็นจังหวะเดียวกับที่บอมเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูบนหัว เสื้อผ้าชุดใหม่ที่ใส่ยังมีน้ำติดประปราย
“กลับมาแล้วหรอ กูอาบน้ำแล้วนา...หอมด้วยละลองดมไหม” ผมมองใบหน้าที่ยิ้มทะเล้น น่ารักน่าฟัด แต่จำน้องเมินเพราะไม่อยากให้มันคิดว่าผมกลับไปเป็นแบบเดิม เดี๋ยวเสียนิสัย
“ไม่ละ” ผมตอบเรียบๆ
“อ่า...จะดูโทรศัพท์กูหรอ รหัสเข้าเป็นตองแปดนะ” บอมบอกอย่างไม่อิดออด ผมเงยหน้าแสยะยิ้มให้มันแล้วกดรหัสเข้าไป
บอมเดินมานั่งข้างผมบนพื้น ในขณะที่ผมนั่งตรงโซฟา เจ้าตัวยิ้มพลางมองว่าผมกดเข้าอะไรบ้าง ดูอะไรบ้าง ไม่มีคำพูดขัดหรือว่าอะไรสักแอะ กลายเป็นเสือเขื้องๆ ที่ยอมทำทุกอย่างให้ผมสบายใจ ผมรู้ดีว่านี่เป็นสิ่งที่มันให้ได้เพื่อยื้อความสัมพันธ์ของเราเอาไว้ และผมชอบมัน เพราะมันทำให้เห็นว่าบอมเองก็รักผมมากแค่ไหน
“ใคร” ผมถามเมื่อเจอผู้หญิงคนหนึ่งสางข้อความเข้ามาพอดี
“ไหน อ่อ...ไม่รู้วะ” มันยิ้มตาหยี
“กูไม่เชื่อ”
“กูไม่รู้จักจริงๆ นะ ไม่เคยคุย ไม่ได้เป็นเพื่อนกู ไม่เชื่อมึงดูรายชื่อเพื่อนสิ” บอมตาโต ท่าทีรนรานเหมือนกลัวผมโกรธ มันรีบจัดแจงจิ้มเข้าดูเพื่อนในเฟซบุ๊คทันที ผมมองตามตลอด ดูว่ามันจะตุกติกแอบลบไหม แต่ก็ไม่
“งั้นกูจะพิมพ์อะไรก็ได้ใช่มะ” ผมกดเอาคีย์บอร์ดขึ้นมา
“ได้ดิ ตามใจมึงเลย” พอได้ฟังผมถึงยิ้มให้ แต่ไม่ใช้รอยยิ้มหวานหรอกนะ แค่มุมปากเหมือนสะใจ
“ขอโทษครับ ผมมีผัวแล้ว” ขณะพิมพ์ก็ออกเสียงไปด้วย กดส่งเสร็จมองหน้าบอมที่ค่อนข้างซีด
“เสร็จแล้วใช่ป่ะ ไปกินข้าวกันนะ กูหิวแล้ว” ผมคิดว่าบอมจะต่อว่ากับข้อความที่ผมส่ง แต่ไม่เลย มันยังยิ้มได้
“เอาดิ” จบคำ เขาก็หยิบเอาถุงบะหมี่เดินเข้าครัวไปใส่จาน
ลับหลังบอมผมสอดส่องทุกอย่าง มันอาจจะมีอะไรซุกซ่อนเอาไว้ก็ได้ จะให้เชื่อใจคนเจ้าชู้ประตูดินแบบมันน่ะมันง่ายเกินไป เพราะถ้าผมไม่บังเอิญพาดิวเข้าโรงแรมนั้นเหมือนมัน ผมคงโง่ไปอีกนานเลย แต่ไม่ว่าจะส่องทุกอย่างยังไงก็ไม่พบสิ่งที่น่าสงสัย ไม่แน่ มันอาจจะเนียนเหมือนผมก็ได้
อย่างผม ผมจะไม่เก็บข้อความของใครเอาไว้เลย คุยเสร็จลบทิ้งทันที ถึงไม่เคยมีข้อความแชตของดิวตอนที่บอมมันเห็นคราวนั้น แหวนที่ดิวซื้อให้ผมก็ไม่ใส่ กลัวจะลืมถอด ไม่โพสต์ข้อความว่าไปไหน ทำอะไร อยู่เงียบๆ เหมือนเรียนกนหัก
ตอนนี้บอมก็ดูเงียบ สงบเสงี่ยมเรียบร้อยจนน่าใจหาย แต่ในมือถือของมันไม่มีอะไรให้ผมตรวยดูได้แล้ว ผมดูยันสายเข้าออก แต่นอกจากเบอร์เต้กับกล้าก็ไม่มีของใคร เบอร์แปลกๆ ไม่ขึ้นชื่อก็ไม่มี ถ้าบอมมันเนียนจริงๆ นี่ก็ขั้นเทพ
“ไม่ใช่ว่ามึงแอบลบหลักฐานทิ้งหรอกนะ” บอมถือถาดที่ใส่เกี๊ยวบะหมี่ชามโตพร้อมน้ำซุปมาวางตรงโต๊ะหน้าโซฟา
“เปล่านะ กูไม่มีใครจริงๆ” มันยืนยัน แววตาไม่สู้ดีนัก กลบเกลื่อนอะไรหรือเปล่าวะ
“กูจะแน่ใจได้ไง มึงเคยหลอกกู” บอมทิ้งตัวนั่งลงบนพื้น หันหน้ามาทางผม
“กูไม่มีใครแล้วจริงๆ นะ”
“เขื่อได้แค่ไหนวะ” ผมจี้มัน คนเราน่ะถ้าโดนเค้นมากๆ มันคงจะหลุดออกมาเอง ถึงบอมจะเป็นผู้ร้ายที่ปากแข็งขนาดไหน แต่มันคงทนความอึดอัดได้ไม่นานนักหรอก
“ทำไมมึงพูดแบบนี้ละ กูก็ให้มึงเช็คมือถือแล้วไง ตารางเรียนกูมึงก็รู้” ตารางเรียนก็รู้หรอ เหอะ โดดเรียนไปคั่วหญิงก็ได้ไม่ใช่หรือไงละ อย่าคิดว่าแค่นี้จะหยุดความเจ้าชู้ได้
“แล้วไง อีนั่นอาจเรียนคลาสเกียวกับมึงก็ได้” ผมใช้สายตาดุจับจ้องมัน สีหน้ามันแย่ลงไปเรื่อยๆ มีพิรุทแน่ๆ แบบนี้
“โทรไปเช็คกับเต้ไหม” มันเสนอ เป็นทางออกโง่ๆ ผมไม่เชื่อหรอก
“เพื่อนกัน จะเชื่อได้หรอวะ”
“แมท...” เสียงของบอมเริ่มแกว่ง มันขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ ขาผม
“อะไร จะตอแหลไรใส่กูอีก” ผมทิ้งตัวเอนพิงพนัก ไม่มองหน้าของมัน
“...แล้วทำยังไงมึงถึงจะเชื่อกู” คราวนี้เสียงบอมสั่นกว่าเดิม จะเข้าโหมดราม่าเพื่อกลบเกลื่อนละสิ
“ไม่รู้ แล้วไม่ต้องมาบีบน้ำตา...” ผมลุกขึ้น มองหน้าบอมที่ตาแดงก่ำ ผมละสายตาหนี ไม่อยากใจอ่อนให้กับมันหรอก เจอซักไซร้เข้าหน่อยก็มีพิรุทให้เห็น อย่างนี้ไม่เท่ากับว่ามันกำลังโกหกผมอยู่หรือไง ทั้งที่ผมกลับมาเพราะอยากเจอมันมากแท้ๆ อารมณ์เสียจริงๆ!
มีต่อจ้า