::Clive Save Me:: คนร้ายกับชายข้างบ้าน... [ตอนที่ 18] *Update 18/01/60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ::Clive Save Me:: คนร้ายกับชายข้างบ้าน... [ตอนที่ 18] *Update 18/01/60  (อ่าน 23519 ครั้ง)

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ไคล์ฟต้องมองเป็นเด็กน้อยอยู่แล้ว ก็เล่นถามตลอดเวลาอยากรู้ไปซะทุกเรื่องเลย 555+

ออฟไลน์ La_Pomme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ตอนที่ 14



‘ภาพวงจรปิดของซุปเปอร์มาร์เก็ตในจังหวัดชุมพรจับภาพของนายไคลฟ์ ไมเนอร์ หลังจากเข้าไปซื้อของรวมสิบนาที เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางเดินรถพบว่าคนร้ายพานายติณณุกูลเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตำรวจรีบรุดเข้าไปหาเบาะแสและวางแผนตามรอยต่อไป โดยให้ความมั่นใจว่าจะสามารถจับคนร้ายได้เร็วๆ นี้’

ไค บัฟฟอร์จ และผม ยืนดูข่าวเช้าทางหน้าจอคอมในห้องทำงานพร้อมกัน จากเนื้อข่าวที่ได้ยิน มันช่างเป็นการต้อนรับวันใหม่ที่ไม่ประทับใจเอาซะเลย

“อีกไม่กี่วันตำรวจต้องตามมาถึงลังกาวีชัวร์” บัฟฟอร์จเอ่ย ก่อนจะหันไปประจันหน้ากับไคตรงๆ “ไม่รู้ว่าตำรวจไทยเก่ง หรือคุณไปทิ้งเบาะอะไรไว้กันแน่” เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าไม่พูดอะไรกลับ เอาแต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

“จะเอายังไงต่อดีครับ” ผมถามอย่างร้อนรน

“ฉันต้องได้ข้อมูลของพวกมันภายในวันนี้” ไคยื่นคำขาด และดูเหมือนเขาจะกังวลเรื่องนี้ไม่น้อย

“ตอนแรกก็คิดว่างานนี้จะหมู...ที่ไหนได้...”

“ผมจะช่วยอะไรได้บ้างครับ” ไม่รอให้บัฟฟอร์จพูดจบ ผมรีบเสนอตัวเองทันที

ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียด ผมรอคำตอบจากพวกเขาพักสัก มือใหญ่ของบัฟฟอร์จก็ดึงมือผมเข้ามาใกล้ และจัดการกระตุกแขนให้ผมนั่งลงบนเก้าอี้หน้าคอมข้างๆ เขา

หลังจากนั้น...ผู้เป็นเจ้าของบ้านก็เผยรอยยิ้มเล็กๆ ให้ผมเห็น

“นั่งเป็นกำลังใจให้ฉันก็พอ”

หา? เมื่อเช้าเขากินยาเขย่าขวดหรือเปล่าวะเนี่ย

“ติณณ์”

“ครับ” ผมรีบขานรับเสียงเรียกของไค

“ออกไป” คำพูดสั้นๆ จากปากเขาทำไมถึงทรงพลังขนาดนี้ก็ไม่รู้ ผมแทบกระเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้เดี๋ยวนั้น แต่ดันโดนบัฟฟอร์จกดไหล่เอาไว้ซะก่อน

“ถึงเจ้าเด็กนี่จะนั่งมองจอคอมผมทั้งวันก็ไม่เข้าใจระบบของผมหรอกน่า และอีกอย่าง ผมก็ไม่ได้เป็นคนหวงห้องทำงานขนาดต้องระแวงเด็กใสซื่ออย่างเจ้านี่ด้วย” บัฟฟอร์จแสยะยิ้ม “ว่าแต่คุณเถอะ...หวงอะไรเหรอ~”

“ติณณ์...” น้ำเสียงแข็งกร้าวขึ้นจนผมขนลุกซู่

“ครับ!”

“วันนี้ฉันจะทำเมนูกุ้งให้กิน”

เอ๋? อารมณ์ไหนวะ บอกผมแบบนี้ต้องการจะสื่ออะไร

“อ้า...อยากให้ผมออกไปจ่ายตลาดให้ใช่มั้ยครับ”

“ไม่ต้อง” ว่าแล้วก็หันไปมองตู้ปลาที่อยู่ตรงมุมห้อง “แค่สองตัวในตู้นั่นก็พอ”

ผมมองตามที่ไคบอก เห็นกุ้งเครฟิชที่บัฟฟอร์จเลี้ยงไว้ คนอย่างไคไม่น่าพูดเล่น ไม่อย่างนั้นบัฟฟอร์จคงไม่ทำหน้าซีดขนาดนี้หรอก ชีวิตของกุ้งสองตัวนี้กำลังจะจบลงแล้วเหรอเนี่ย

“ติณณ์” บัฟฟอร์จสะกิดไหล่ผม “ออกไปเถอะ”

“อ่าว ไหนคุณบอกว่า...”     

“ฉันไม่มีอะไรให้นายช่วยแล้ว ออกไปนั่งสูดอากาศที่สวนเถอะ...รีบไปสิ! เดี๋ยวนี้เลย!!”

เอ้า อะไรวะ! เป็นคนบอกให้ผมนั่งเป็นกำลังใจแท้ๆ ตอนนี้กลับลากตัวผมออกไปนอกห้องอย่างไม่ใยดี อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ไม่ไหวนะ ผมทำตัวไม่ถูก...ไคอีกคน อยู่ๆ ก็จะเอากุ้งที่เขาเลี้ยงไว้มากินซะงั้น พวกเขาหาข้อมูลคนร้ายกันหนักจนอารมณ์แปรปรวนแล้วหรือไง

 









ผมเดินไปตรงสวนตามที่บัฟฟอร์จเสนอ ไม่อยากเชื่อว่านักแฮกเกอร์ที่เอาแต่สิงตัวอยู่ในห้องคอมจะมีอารมณ์สุนทรีย์ ปลูกดอกไม้พุ่มเล็กๆ ไว้เต็มพื้นที่ สนามหญ้าวางได้สวยแถมยังมีเดินทางที่ทำด้วยหินกรวดหลากสี ผมเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ชิงช้าประดับสวนที่ทำจากไม้ ปล่อยความคิดไปตามสายลมเบาๆ ความจริงมันผ่อนคลายอารมณ์ได้เยอะเลยนะ แต่ทันทีที่เรื่องของไคผุดขึ้นมาในใจ แม้บรรยากาศจะสร้างความร่มรื่นแค่ไหน ใจของผมก็ยังคงร้อนรุ่มอยู่ดี

‘ถือว่านายโชคดีที่ได้เขาช่วยเอาไว้นะ เพราะฉันรู้สึกได้ว่าคนร้ายพวกนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่’

คำพูดของบัฟฟอร์จทำให้ผมแทบข่มตานอนไม่ได้ ตอนนี้ความกังวลของผมไม่ใช่แค่เรื่องที่ไคอาจโดนตำรวจจับ แต่รวมไปถึงเรื่องที่เขาอาจต้องเสี่ยงอันตรายจากคนร้ายที่ไม่ธรรมดาพวกนั้นด้วย

ผมนั่งคิดอะไรฟุ้งซ่านเป็นชั่วโมง คนวัยเดียวกับผมคงคิดเรื่องเรียน อ่านหนังสือยังไงให้ทำข้อสอบได้ ถ้าติดศูนย์จะทำยังไง เมื่อไหร่อาจารย์จะเลิกสั่งงานโหด หรือเรื่องรักอย่างการจีบรุ่นน้องแล้วอกหัก ชอบเพื่อนแต่เสือกรักไม่ได้ เชื่อมั้ยว่าผมอยากเผชิญหน้าช่วงเวลาเลวร้ายเหล่านั้นมากกว่าที่ต้องมาโดนตามล่าแบบนี้ซะอีก

 ระหว่างคิดอะไรอยู่นั้น ผมได้ยินเสียงย่ำพื้นหญ้าจากฝีเท้าใครบางคน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นไค ผมจึงตามไถ่ถึงความคืบหน้าเรื่องคนร้ายทันที

“เป็นยังไงบ้างครับ”

“กำลังเร่งมืออยู่” ไคตอบสั้นๆ ก่อนจะลงมานั่งข้างๆ ผม

“คุณบัฟฟอร์จบอกว่าคนร้ายพวกนั้นไม่ธรรมดา เหมือนอย่างที่คุณเคยบอกเลย”

“ใช่ ไม่อย่างนั้นเขาคงหาตัวเจอนานแล้ว” ไคพูดเรื่องนี้ด้วยสีหน้าอันเฉยชาได้ยังไง เขาไม่รู้สึกกังวลบ้างเลยเหรอ ยิ่งเห็นเขาไม่พูดหรือระบายสิ่งที่คิด ผมก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงมากขึ้น

“มันคงไม่ง่ายที่เราจะจับพวกมันเข้าคุกได้ใช่มั้ยครับ”

“ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง นายไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น” ไคพูดกับผมพร้อมแววตาที่แสนจริงจัง

“เพราะแบบนี้ไงผมถึงกังวล คุณคนเดียวไม่ไหวหรอก”

“นายไม่รู้ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง” ไคสวนผมกลับอย่างรวดเร็ว

“ผมไม่อยากรู้หรอกครับ เพราะผมไม่อยากให้คุณเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับครอบครัวผมแต่แรก ฉะนั้นคนที่ควรจัดการไม่ควรจะเป็นคุณ”

“แล้วจะฉันถูกตราหน้าว่าเป็นคนร้ายลักพาตัวนายไปอย่างนี้น่ะเหรอ” ผมกำลังจะอ้าปากค้าน แต่กลับถูกเขาชี้หน้าใส่ “หยุดเลย! ถ้าจะพูดว่าคำให้การของนายอาจมีประโยชน์ต่อฉันก็หุบปากไปซะ เพราะต่อให้นายไปนั่งบอกศาลว่าฉันไม่ใช่คนร้ายก็ไม่ได้ช่วยให้รูปคดีเปลี่ยนแปลง ไม่รู้เหรอว่าต่อให้นายเป็นอิสระจากฉัน คำพูดของนายก็ใช้เป็นหลักฐานไม่ได้อยู่ดี เพราะมันมีสารพัดเหตุผลที่คนพวกนั้นจะใส่ความฉัน เช่นนายอาจถูกฉันบังคับเพื่อให้การเท็จอะไรเทือกนั้น”

“แต่ถ้าคุณเป็นอะไรไป...”

ผมพูดไม่ออก ไปต่อไม่ได้ เสียงของผมจุกอยู่ตรงลำคอในเวลาเดียวกับน้ำใสๆ ที่เอออยู่ตรงเบ้าตา ผมเป็นห่วงเขามากจนตัวเองยังแปลกใจ ไม่คิดเลยว่าผมจะอาการหนักจนเกือบจะร้องไห้ออกมาขนาดนี้

จังหวะที่ผมพยายามก้มหน้าหลบตาไปอีกทาง ไคก็ยกมือขึ้นมาจับต้นคอผมแล้วบีบแน่น กระตุ้นให้ผมเงยหน้ามองเขาราวกับเป็นการบังคับ ก่อนจะเปล่งเสียงอันนุ่มนวลในขณะที่ใบหน้าเราใกล้กันเพียงคืบ

“ติณณ์...นายไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดต่อฉัน คิดแค่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของนายคนเดียวก็พอ คืนนั้นฉันเป็นคนเปิดประตูให้นาย ฉะนั้นทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องชีวิตนายฉันมีส่วนรับผิดชอบ เพราะฉันไม่ใช่คนหนีปัญหา ไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ จำไม่ได้เหรอว่าฉันเคยสัญญาอะไรกับนายเอาไว้”

อ้า~ คำสัญญานั่นน่ะเหรอ

“คุณจะไม่ทิ้งผม” ไคพยักหน้าคล้อยตาม

“จนกว่าจะจับพวกมันเข้าคุก ฉันหวังว่านายจะไม่ตัดพ้ออะไรแบบนี้ให้ได้ยินอีก”

“ครับ”

เขายังไม่ปล่อยมือจากต้นคอผม ซ้ำยังรั้งใบหน้าผมให้ขยับเข้าไปใกล้จนจมูกแทบจะชนกัน ถ้านับตอนที่เขาขึ้นคร่อมผมบนเตียง นี่คงเป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมได้เห็นใบหน้าเขาใกล้ขนาดนี้

“เป็นห่วงฉันมากเหรอ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“คะ...ครับ”

ลมหายใจอุ่นๆ พ่นลงมาบนปลายจมูก ทำให้ผมรู้สึกวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก หัวใจผมเต้นแรง เนื้อตัวเกร็งไปทุกส่วน นี่ผมเป็นอะไรไป ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ แบบนี้

และนั่น! ไคกำลังยิ้ม? มุมปากขยับเล็กๆ แปลว่าเขายิ้มใช่หรือเปล่า นี่ผมไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย

“ขอบใจ”

โอ้โห~ สมองโล่งเลย ผมไม่รู้จะอธิบายความละมุนละไมในลักษณะนี้ว่ายังไงดี

“คะ...คือ ผมต่างหากที่ต้องเป็นคนพูดคำนั้น” พูดจบ ไคก็ปล่อยมือจากต้นคอผม หันไปนั่งพิงกับเก้าอี้อย่างชิวๆ โดยมีผมนั่งมองโดยไม่ละสายตา

ความรู้สึกเมื่อกี้...มันยังไงกันวะ?

“วีล!”

ผมสะดุ้งเพราะเสียงตะโกนของบัฟฟอร์จ

“ว่าไง” ไคร้องถาม



“รู้ตัวคนร้ายแล้ว”

 










*************************
ต่อจากนี้จะพยายามอัพแบบไม่ห่างไปนานนะจ๊ะ เพราะมันเริ่มเข้มข้นแล้วเลยกลัวว่าจะขาดอารมณ์ ยังไงก็ขอกำลังใจด้วยน๊า ขอบคุณล่วงหน้าจ้า  :mew2: :mew2:




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-01-2017 22:30:18 โดย La_Pomme »

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
แหม ไคนี่หลอกล่อเก่งนะ อย่าหลอกเด็กละสงสาร
 :ruready

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ fon270640

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตื่นเต้นอ่ะ. จะไงต่อ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไค โหดอะ แต่โหดกับบัฟฟอร์ด
แล้วไคก็แอบหวาน อ่อนโยนกับติณณ์  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ฮาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ผูกพันกับขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องราวก็เข้มข้นขึ้น ๆ ตื่นเต้น
❤️❤️❤️

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ๋อยยย เขาฟรุ้งฟริ้งกันจังอ่ะ เขินนนน :-[ :impress2: //เรื่องคนร้ายช่างมันก่อน

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Margarita

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
มดเกาะจอคอมเลย.. :o8:

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
โอ้โหหหหหห สนุกมาก!

สำนวนดีสุดจะบรรยาย บรรยากาศ Ncis อ่านแล้วติดหนึบ ลุ้นทุกตอน รู้สึกสังหรณ์ใจตั้งแต่เห็นชื่อเรื่องแล้ว สัมผัสได้ว่าเรื่องนี้ต้องมีของ กดเข้ามาอ่านแล้วยิ่งต้องขอบคุณตัวเองที่ทำให้ไม่พลาดนิยายน้ำดี

เป็นกำลังใจให้นักเขียนสร้างสรรค์ผลงานออกมาช่วยชโลมใจนักอ่านอย่างเราๆนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ
 :pig4:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ฉันเขิน
ไรท์แต่งได้ดี ภาษาสวย อ่านแล้วลื่นน่าติดตาม แฝงความหวานของพี่ไคให้หวีด

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
พระเอกแม่งขี้อ่อยอ่ะแต่ชอบน่ะว่าแต่ใครคือคนร้ายอ่ะ

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่อยแบบเนียนๆ อยากรู้ตัวคนร้านแล้ว

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
รู้ตัวคนร้ายแล้ว!

แล้วไงอ่ะ
โถ่ถถถถถถ

มาต่อได๋แล้วววแย็ววว

ออฟไลน์ mirage

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-1
มีแอบหวานนะเนี่ย
ว่าแต่ใครเป็นคนร้ายกันนะ

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ละมุน แบบ แข็งๆ ไม่ไช่มันไม่ดีนะ มันดีต่อใจสุดๆๆ ละมุน แบบ แข็งๆ แบบนิสัยของไคฟ์อะ ฮ่าาา

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
เรื่องนี้สนุกมากๆ
รอตอนต่อไปอยุ่่นะคะ :katai4:

ออฟไลน์ La_Pomme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ตอนที่ 15



ผมกับไครีบเดินเข้าไปในห้องทำงานของบัฟฟอร์จ เห็นภาพถ่ายจากกล้องในรถของไคถูกประมวลผลเป็นข้อมูลที่ถูกเจาะได้ แปลงเป็นภาพใบหน้าของชายที่ละม้ายคล้ายคนที่เคยบุกเข้าบ้านผม อันที่จริงผมก็เห็นหน้าตาเขาไม่ชัดหรอก แต่ดูจากรูปร่างแล้วพอเป็นไปได้อยู่

น่าแปลกอย่างหนึ่งตรงที่เขาใส่สูทผูกไทด์ เพราะมันให้อารมณ์เหมือนคนมีภูมิฐานมากกว่าโจรผู้ร้ายซะอีก

“ผมแฮกหาข้อมูลของหมอนี่ได้คนเดียว เพราะภาพที่ได้มาใบหน้าเขาชัดสุด” บัฟฟอร์จพิมพ์อะไรสักพักก็ใช้เม้าส์คลิกเพื่อป้อนสั่งปริ้นเ ก่อนจะเดินไปยังเครื่องปริ้นเพื่อยืนรอเอกสาร “แหล่งข้อมูลที่เจาะได้เป็นแฟ้มข้าราชการในหน่วยงานทหารที่มีประวัติไม่ค่อยดีเท่าไหร่”

พูดจบเขาก็ยื่นเอกสารที่ปริ้นออกมาให้ไคอ่าน ซึ่งประกอบไปด้วยภาพถ่ายและประวัติเท่าที่พอเจาะข้อมูลได้ ผมชำเหลืองดูด้วยความอยากรู้ โดยมีบัฟฟอร์จคอยอธิบายประกอบ

“เขาชื่อนายณรงค์ เคยรับราชการทหารมา 15 ปี ก่อนจะถูกปลดเพราะกระทำความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลลับทางการทหาร แต่เขากลับไม่ยอมเข้ามอบตัว หลบหนีไปหลายปีกว่าจะมาเจอข้อมูลอีกว่าปลายปีก่อน เขาถูกดึงตัวไปทำงานให้กับเจ้าของบริษัททราน เทอร์มินัลอย่างนายศักดา ธวัชพิชัย” ว่าแล้วก็ยื่นเอกสารอีกชุดให้ “ไอ้แก่นี่ครอบครองสัมปทานการขนสินค้าในท่าเรือสัตหีบ เปิดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริษัทเงินกู้ด้วย เรียกว่ารวยระดับมหาเศรษฐี ผมเจาะข้อมูลทางคดีพบว่าเขาเคยถูกสงสัยว่ามีการขนส่งอาวุธ แต่ก็รอดตัวไปเพราะหลักฐานไม่มีน้ำหนัก หึ...คนมีเงินทำได้ทุกอย่าง ทุกวันนี้ผมถึงต้องหาเงินเพื่อเอาไว้จ้างทนาย ซื้ออัยการ ตำรวจ และจ่ายใต้โต๊ะให้นักการเมืองอะไรแบบเนี้ย”

“อดีตทหารอย่างเขาจะต้องการอะไร ถึงได้เข้าไปรื้อค้นในบ้านของนาย” ฟังเหมือนไคกำลังพูดกับผม “แถมยัง...ทำงานให้นายศักดาด้วย?”

“อาจเป็นของสำคัญก็ได้” บัฟฟอร์จเอ่ย ก่อนที่ไคจะหันมาผมแล้วเอารูปชายสองคนในเอกสารมาให้ผมดู

“นายเคยเห็นหน้าผู้ชายสองคนนี้หรือเปล่า”

“ไม่ครับ” ผมตอบ ไคจึงหันไปถามไถ่บัฟฟอร์จอีกครั้ง

“นายแน่ใจนะว่านายณรงค์ทำงานให้นายศักดาแค่คนเดียว” ไคคงสงสัยว่านายณรงค์อาจรับจ้างทำงานนี้ให้กับคนอื่นนอกจากนายศักดา

“เรื่องนั้นผมตอบไม่ได้หรอก แต่ถ้าจะหาว่านายศักดาเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ติณณ์ยังไง มันยังพอมีวี่แววอยู่” เขากล่าวอย่างมั่นใจ ลงไปนั่งบนแท่นประจำและละเลงนิ้วมือบนคีย์บอร์ดด้วยความไวแสง “ผมสืบความเคลื่อนไหวของนายศักดาย้อนไปหนึ่งเดือน มันมีอะไรแปลกๆ แบบบอกไม่ถูก ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเอาเงินหลายล้านไปอุปถัมภ์ทุนวิจัยของศูนย์ค้นคว้าและทดลองยาเพื่อสถาบันโรคหัวใจ”

ได้ยินดังนั้น ผมถึงกับผงะ!

“แล้วมันเกี่ยวกับพ่อแม่ของเจ้าเด็กนี่ตรงไหน”

“เออคือ...” ผมอ้ำอึ้ง “พ่อกับแม่ผมเคยทำงานที่นั่นครับ”

ไคมองผมอย่างแปลกใจ ก่อนที่บัฟฟอร์จจะพูดขึ้น

“พ่อของนายเป็นหัวหน้างานวิจัยของศูนย์มาเกือบยี่สิบปี แต่จากที่นายพูดเมื่อกี้ แสดงว่าพวกเขาลาออกจากที่นั่นแล้วใช่มั้ย”

“ใช่ครับ” ผมพยักหน้าประกอบ “พ่อกับแม่ผมเพิ่งลาออกเมื่อสามอาทิตย์ก่อน หลังจากนั้นพวกท่านก็ย้ายบ้านเพราะบริษัทเวชภัณฑ์ที่พ่อเพิ่งได้งานมาอยู่ไกลจากบ้านเก่า”

คำอธิบายของผมทำให้บัฟฟอร์จขมวดคิ้วมุ่น

“มันชักยังไงๆ อยู่นะ นายศักดาเพิ่งให้ทุนวิจัยไปเดือนที่แล้ว แต่พ่อกับแม่นายดันลาออกแบบกะทันหัน และที่สำคัญ พ่อนายเป็นถึงหัวหน้างานวิจัย การลาออกไปดื้อๆ มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ”

“เขาสองคนลาออกเพราะอะไร เคยบอกเหตุผลให้นายรู้หรือเปล่า” ระหว่างที่ผมกำลังคิดตามคำพูดของบัฟฟอร์จ ไคก็ถามผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที

“พ่อบอกแค่ว่างานที่นั่นเหนื่อย และท่านเองก็แก่แล้วเลยอยากหางานอะไรที่สบายกว่า”

หลังจากได้ยินพวกท่านพูดอย่างนั้นแล้วผมยิ่งสนับสนุนด้วยซ้ำ เพราะงานที่ศูนย์วิจัยมันหนักจริงๆ อย่างในหนึ่งอาทิตย์ผมเห็นพ่อกลับมานอนบ้านแค่สองวัน ส่วนแม่ก็ทำงานอยู่ในแผนกปฏิบัติการ ต้องกลับบ้านดึกแทบทุกวัน เมื่อพวกท่านลาออกมาแล้วผมจึงรู้หมดห่วงมากกว่าสงสัยว่าทำไมถึงออก ก็เลยไม่ได้ถามอะไรมากมาย

ไคยืนเงียบไปสักพัก ก่อนจะถามบางอย่างกับบัฟฟอร์จ

“นายหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับงานวิจัยนั่นได้มั้ย ฉันอยากรู้ว่านายศักดาต้องการอะไรและทำไมพ่อแม่ติณณ์ถึงตัดสินใจลาออกจากที่นั่น” ดูจากสีหน้าแล้วก็พอรู้ว่าในหัวเขาเต็มไปด้วยความกังวลใจ “ไม่แน่ว่าสิ่งที่พวกมันต้องการ อาจเกี่ยวข้องกับงานวิจัยนั้นก็ได้”

“ไอ้ได้น่ะได้ แต่มันต้องใช้เวลานานกว่าจะเจาะผ่านระบบความปลอดภัยได้ พวกสถาบันวิจัยหรือสถานพยาบาลมีข้อมูลผู้ป่วยอยู่ ฉะนั้นระบบการป้องกันระดับสิบดาวแน่นอน ถ้าอยากได้ข้อมูลเร็วกว่านี้ ผมว่าคุณไปถามจากปากพ่อแม่ของติณณ์เลยดีกว่า” บัฟฟอร์จเสนอหนทางที่เป็นไปได้ในเวลานี้

“ทำไมนายศักดาต้องสนับสนุนงานทดลองเกี่ยวกับโรคหัวใจด้วย ฉันคิดยังไงก็ไม่เห็นทางว่าเขาจะได้ประโยชน์ตรงไหน” พูดจบไคก็ขยับเก้าอี้แล้วนั่งลง ในหัวของทุกคนมีแต่ข้อสงสัย พยายามหาคำตอบอย่างมีสติ แต่ผมนี่สิที่ทำไม่ได้ ความคิดของผมมันสุดโต่งกว่านั้น และมันโคตรจะบั่นทอนกำลังใจของผมเลย

“ไม่แน่ว่าสิ่งที่ทำให้คนกลุ่มนั้นบุกเข้าบ้านในคืนนั้น อาจเกี่ยวเนื่องกับสาเหตุที่พ่อแม่ของติณณ์ลาออกก็ได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันน่าแปลก เพราะคนร้ายไม่ลงมือทันทีที่พวกเขาลาออก...จำเป็นต้องรอให้ผ่านมาถึงสามอาทิตย์ด้วยเหรอ และที่โคตรจะสงสัยอีกข้อก็คือ...พวกเขารู้หรือเปล่าว่ามีคนร้ายเข้ามาค้นบ้านเพื่อหาอะไรบางอย่าง หรือตอนนี้กำลังนั่งไม่ติดกับที่เพราะลูกชายถูกลักพาตัวแค่นั้น” คำพูดของบัฟฟอร์จทำให้ผมนึกถึงคำพูดของแม่ขึ้นมาทันที

‘ตอนนี้ลูกยังกลับมาไม่ได้ เพราะที่บ้านเราไม่ปลอดภัยสำหรับลูกแล้ว’

มันยังมีเหตุผลอื่นที่พ่อกับแม่ต้องลาออกอีกหรือเปล่า คนมีอิทธิพลขนาดนั้นจะต้องการอะไรจากพวกท่านกันแน่ ที่บอกไม่ได้กลับบ้านเพราะมันไม่ปลอดภัยสำหรับผม แสดงว่าพ่อกับต้องตระหนักถึงภัยคุกคามบางอย่าง

แบบนี้ก็แสดงว่าพวกเขารู้ตัวดีว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย!

“พ่อกับแม่ผมกำลังโดนตามล่าหรือเปล่าครับ ถ้าพวกมันไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ไม่แน่ว่าพ่อแม่ผมอาจจะ...”

“ถ้าเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นจริงมันก็คงเกิดไปนานแล้ว นายอย่าเพิ่งวิตกเลย” บัฟฟอร์จรู้ว่าผมจะพูดอะไร จึงรีบตัดบทเพื่อให้ผมตั้งสติและใจเย็นกว่านี้

“พ่อแม่นายยังปลอดภัยก็แสดงว่าพวกมันยังไม่ได้สิ่งที่ต้องการ และอีกอย่าง ช่วงนี้ก็กำลังมีข่าวลักพาตัวนายอยู่ ถ้าพลีพล่ามทำอะไรพ่อแม่นายเข้าคดีอาจจะพลิกได้ ฉะนั้นการทำให้ฉันเป็นแพะรับบาปคงไร้ประโยชน์ และพวกมันอาจถูกเพ่งเล็งซะเอง” ผมรู้ว่าไคพยายามอธิบายสถานการณ์เพื่อไม่ให้ผมคิดมาก ซึ่งแน่นอนว่าผมเข้าใจเป็นอย่างดี ถ้าไม่ติดว่าวันนั้นผมจำได้ดีว่าน้ำเสียงอันตื่นตระหนกของแม่มันชัดเจนแค่ไหน

“แม่บอกว่าที่บ้านไม่ปลอดภัยสำหรับผม ถึงได้บอกให้ผมหนีไปกับคุณ แสดงว่าพ่อกับแม่รู้อยู่แก่ใจว่าคนพวกนั้นเข้ามาบุกถึงบ้านเพื่ออะไรใช่มั้ยครับ...”

“ว่าไงนะ” ไคเลิกคิ้วขึ้นสูง “นายได้คุยกับแม่ตอนไหน”

วิญญาณผมแทบออกจากร่างทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น

ให้ตายเถอะ! นี่ผมเพิ่งหลุดปากเรื่องแอบโทรหาแม่ไปงั้นเหรอ 

“เออ...ผมใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาท่านตอนนั่งรถสองเข้าหาดใหญ่ครับ” สุดท้ายก็ต้องสารภาพไปตามตรง

“มิน่า ตำรวจถึงรู้ความเคลื่อนไหวเร็วนัก” บัฟฟอร์จเอ่ยผสมโรง “ฉันว่าพวกคนร้ายต้องแอบดักฟังโทรศัพท์แล้วคาบข้อมูลไปบอกตำรวจในฐานะผู้หวังดีแน่ๆ”

อ้า~ เพราะแบบนี้เอง ไคถึงห้ามนักห้ามหนาว่าอย่าเพิ่งโทรหาพ่อกับแม่

“ผมขอโทษที่ขัดคำสั่งคุณ” ก้มหน้า รู้สึกผิดขึ้นมาทันควัน

ทว่าในขณะที่กำลังเงยหน้าขึ้นมา ไคก็เดินออกจากห้องโดยไม่เหลียวหลัง เขาทิ้งให้ผมยืนเหวอ ทำอะไรไม่ถูก จะมีก็แต่บัฟฟอร์จที่เดินมายืนข้างๆ แล้วยกมือกอดคอผมอย่างหนักหน่วง

“ฉันเห็นเขาทำหน้าแบบนั้นครั้งสุดท้ายตอนกระทืบสายลับจากรัสเซียจนบาดเจ็บสาหัส”

บัฟฟอร์จกำลังขู่ผมถูกมะ

 







ผมเห็นไคเดินไปตรงระเบียง ก็เลยตั้งใจว่าจะตามไปขอโทษเขาอีกครั้ง แค่เห็นแผ่นหลังผมก็รู้สึกกล้าๆ กลัวๆ เพราะความผิดพลาดครั้งนี้มันไม่ได้สร้างปัญหาให้เขาอย่างเดียว แต่มันอาจเป็นอุปสรรคต่อการหลบหนีเพื่อหาทางจับคนร้ายตัวจริงด้วย

“ไค...” ผมเริ่มด้วยการเรียกเขา พร้อมขยับเท้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ “ผมขอโทษจริงๆ”

“...” ยังเงียบอยู่ ขนาดผมเดินไปจนจะทาบหลังแล้วเขายังไม่ยอมหันมาเลย

“ผมผิดไปแล้ว อย่าโกรธผมเลยนะครับ”

พูดจบไปไม่นาน ไคก็ค่อยๆ หันหลังกลับมา

“นายไม่เชื่อใจฉัน”

“เอ๊ะ?”

“นายกลับมา เพราะคำพูดของแม่” นัยน์ตาสีฟ้าจดจ้องผมไม่วางตา

กระทั่งประโยคสุดท้ายถูกเปล่งออกมาให้อารมณ์ที่แสนหดหู่ใจ...



“แต่นาย...ไม่ได้เชื่อใจฉันจริงๆ”
















ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:  ewwwwwwww  จบได้โหดร้ายมากกกกกก :mew5: :mew5:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คือ คิดถึงหลักความจริงแล้วมันก็ไม่แปลกนะ ไคล์ฟกับน้องเพิ่งเคยเจอกัน จะเอาความเชื่อใจมาจากไหนได้ ขนาดตอนแรกเรายังระแวงเลยว่าไคล์ฟเป็นพวกเดียวกับคนร้ายหรือเปล่า

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ไคน้อยใจแล้ว

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง
ติณณ์ อ่อนต่อโลกตามสภาพความเป็นจริง
เป็นแค่นักศึกษา เฮฮาไปตามปกติวิสัย
ติณณ์ ก็ย่อมอยากติดต่อพ่อแม่เมื่อเกิดเรื่อง
เพราะความไม่รู้สถานการณ์
แม้ไคจะห้ามติดต่อกลับบ้านก็จริง
พอติณณ์ได้ข่าวลวงว่าไคเป็นผู้ร้าย
ใครก็ย่อมอยากปลีกตัวหนีไปทั้งนั้น
ไค ก็เสียใจที่ติณณ์ไม่เชื่อฟัง ไม่เชื่อใจ
แม้ได้ห้ามติณณ์แล้วว่า จะเป็นผลร้ายทั้งต่อติณณ์และไค
เมื่ออีกฝ่ายดักฟังโทรศัพท์ได้
ก็เข้าใจทั้งสองฝ่าย
ไคที่พาติณณ์หนีย่อมต้องเจอติณณ์ที่เป็นแบบนี้
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
เห็นใจไค ง้อพี่ไคเดี๋ยวนี้น้า

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ง้อเร็ว ๆเลย อย่าปล่อยให้งอนนาน
เดี๋ยวน้อยใจมากไปกว่านี้นะ
 :m15:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 o18


งอนนนนนนชัวร์ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด