Fire Me to the Moon • EP.25 Love you to the moon (ENDING) | 19/08/2017 (หน้า 7)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Fire Me to the Moon • EP.25 Love you to the moon (ENDING) | 19/08/2017 (หน้า 7)  (อ่าน 108100 ครั้ง)

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
น้องปั๊มสู้ๆนะ

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
รำคาญมิ้นท์มาก บ้านไม่มีตังค์ถึงขนาดต้องมานอนกับผู้เลยเหรอ แอ๊บหรือเปล่าอ่ะ
ขอตอนปั๊มแหกหน้ากัปตันบ้างเถอะ พี่หมั่นไส้มานานละ ไหนจะเรื่องบริษัทอีก ปัญหารอบด้านจริงๆนะปั๊ม

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
อ้าว ตอนนั้นเรียกพี่ธีร์ พอโกรธ หงุดหงิด หึง กลับมาเรียกกัปตันอีกล้ะ

กลับไปบริษัทมีเรื่องเครียดอีกแน่ๆ

ออฟไลน์ Missmu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ปั๊มสู้ๆน้า  กัปตันดูแลน้องดีๆด้วย  เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ไงน้า เพิ่งมาเจอ ติดตามค่ะ สนุกมากกกกก

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #126 เมื่อ12-03-2017 20:29:01 »

Part III
Burn

16
เริ่ม



   ผมแทบสะดุ้งเมื่อไอ้เพชรโยนกองกระดาษมาไว้หน้าผมอย่างจัง ไอ้ห่า ทำอย่างนี้มึงไม่ฟาดใส่หัวกูไปเลยล่ะ

   “ดูสิ” ไอ้เพชรชี้มายังของหน้านั้น

   มันคือกระทู้ในอินเตอร์เน็ตที่ปริ้นออกมาหลายใบ เนื้อหาในนั้นเกี่ยวกับเรื่องการนินทาว่าร้ายลูกชายซีอีโอผู้เสียชีวิตไปจากอุบัติเหตุรถยนต์ และกำลังอยู่ในขั้นตอนการโปรโมทเป็นซีอีโอคนต่อไป แต่…อาจมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนักบินของสายการบินตัวเอง พร้อมมีรูปตอนที่ผมกอดคอกัปตันหลังจากที่รู้ว่าเขานำเครื่องลงจอดอย่างปลอดภัยแม้เครื่องเรดาร์จะไม่ทำงานแนบมาด้วย…

   เนี่ย บันเทิงหลังปีใหม่ของแท้เลยกู

   “ดีนะที่เราสั่งเก็บข่าวพวกนี้ไปก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้”

   “แล้ว…” ผมนั่งกอดอกมองมันด้วยสายตาฉงน เออ ยังไงต่ออะ?

   “ปั๊มไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”

   “มันก็เรื่องส่วนตัวปะเพชร?” ผมเลื่อนกระดาษพวกนั้นออกไป

   “ปั๊มไม่คิดว่ามันทำให้พวกเราลำบากขึ้นเหรอ?”

   “ลำบากเรื่อง?”

   “ก็ที่เราบอกว่าหุ้นส่วนดูไม่ค่อยพอใจไง”

   “หุ้นส่วนคงจะความอดทนต่ำเกินไป”

   “แค่อยากให้ปั๊มคิดเรื่องนี้เยอะๆ” เพชรก้มหน้าลงมามอง

   “เชื่อเถอะว่ากว่าจะมาถึงตรงนี้ได้ก็ไม่ได้ง่ายเลย” ผมยักไหล่ “ขอโทษนะ เราตัดสินใจไปแล้ว”

   “โห” เพชรทำหน้าเหมือนผิดหวังมากๆ แล้วจากนั้นมันก็ยิ้มมุมปากเหมือนกำลังหมดศรัทธากับอะไรสักอย่างขึ้นมา “ไม่คิดเลยว่าปั๊มจะทำตัวถูกแบบนี้”

   เพล้ง!

   และนั่นคือเสียงความอดกลั้นที่กำลังขาดสะบั้นครับ

   “มึงว่าไงนะ” ผมเงยหน้ามองมันอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง แถมก็โมโหแบบควบคุมไม่ได้ ไม่เคยมีใครพูดกับผมแบบนี้มาก่อน

   “เรานึกว่าปั๊มจะดีกว่านี้ซะอีก”

   ผมสามารถรั้งมือตัวเองไว้ให้ไม่ไปชกหน้ามันได้ยังไงนะ

   แต่ ถึงไม่มีการเอาคืน ผมก็ไม่ยอมให้ตัวเองโดนอยู่ฝ่ายเดียวแน่

   “แล้วมึงคิดว่าตัวเองดีขนาดนั้นเลยเหรอ”

   “…”

   “เอาเวลาไปเรียนต่อให้จบดีกว่ามั้ย”

   “…”

   “ไม่อายเหรอที่จบแค่ม.ปลายแล้วมาเป็นผู้บริหารเลย”

   “…”

   “ขนาดกูเรียนยังไม่จบมหาลัย กูยังอายตัวเองเลยนะ”

   “ปั๊ม…”

   “แล้วก็ถ้ากูทำให้ผิดหวังก็ขอโทษด้วย แต่…มึงเกี่ยวไรด้วยอะ” ผมยิ้มทิ้งท้ายก่อนจะลุกขึ้นยืน

   “เราหวังดีนะ” เพชรมองหน้าผม

   “รู้” ผมขยับเสื้อให้กระชับขึ้น “ดีจนกูขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย”

   “…”

   “ส่วนเรื่องหุ้นส่วน เดี๋ยวจะนัดมาคุยเอง ไม่ต้องห่วงนะ เงินเดือนมึงไม่น้อยลงแน่นอน” ผมเดินออกมาจากห้องประชุมทันทีด้วยความหงุดหงิดที่อยู่ในใจ ชะงักเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูมาแล้วเห็นตรองยืนรออยู่ก่อนแล้ว

   นี่ก็อีกคน

   “ทีหลังถ้าจะโกหกกันแบบนี้ก็ขอให้คิดใหม่นะ” ผมกอดอก เท้าความไปถึงเรื่องที่เลขาตัวเองกุเรื่องว่ามีการประชุมบอร์ดบริหาร เอาเข้าจริงเป็นไงล่ะครับ มีแต่ไอ้เพชรคนเดียวที่ยืนหน้าสลอน

   “ขอโทษครับ คุณเพชรเขาบังคับผมจริงๆ”

   “ทีหลังก็ไปเป็นเลขาไอ้เพชรสิ”

   “ขอโทษจริงๆ ครับ” ตรองทำท่าจะยกมือไหว้ ผมรีบปัดมือออกทันที ไม่อยากจะหงุดหงิดไปมากกว่าเดิม บอกกี่ทีแล้วเนี่ยยยย

   “ไม่ต้องไหว้! ทีหลังอย่าทำแล้วกัน รู้ไม่ใช่เหรอว่าปั๊มไม่ชอบคนโกหก ขอแค่อย่างเดียวเลยจริงๆ”

   “ครับผม” ตรองพยักหน้าด้วยความรู้สึกผิดที่มากขึ้นกว่าเดิม “ผมจะไม่ทำอีกแล้ว”

   “ช่างมันเหอะ ไปหาอะไรกินกัน” ผมดันหลังเลขาที่ตัวเล็กกว่าผมนิดหน่อยให้เดินนำออกไป แต่ก็ต้องชะงักอีกรอบเมื่อเจอใครบางคนเดินสวนมา…

   มิ้น!

   เชี่ยเอ้ย วันนี้คงเป็นอีกวันที่ก้าวขาผิดออกมาจากบ้านแน่นอน!

   “สวัสดีครับคุณปั๊ม พี่ตรอง” มิ้นยกมือไหว้ขึ้นมาอย่างลนลาน ผมสังเกตเห็นในมือนั้นมีแฟ้มและเอกสารมากมาย

   “ที่นี่ไม่มีห้องให้นอนหรอกนะ” ผมยิ้มมุมปาก

   “เอ่อ…”

   “พูดกับเลขาของเราดีๆ หน่อยดิ” เพชรที่คงจะเพิ่งเดินออกมาจากห้องประชุมพูดแซว ผมนี่หันขวับไปทันทีเลยครับ

   “เลขา?”

   “ใช่แล้ว” ไอ้เพชรพยักหน้า “ช่วงนี้งานมันหนัก มีคนมาช่วยก็คงดี”

   “อ๋อเหรอครับ” ผมบุ้ยปากแสร้งทำว่านั้นเป็นประโยคที่มีค่าและควรรู้มากกว่าการทำฝอยทอง “ก็ดี เก็บเงินดีๆ นะ จะได้มีที่อยู่เป็นของตัวเองสักที”

   “ครับ…” มิ้นก้มหน้า ดูซึมไปถนัดตา

   “ทำไมพูดแบบนั้น” เพชรเดินเข้ามาข้างๆ ผมนี่หัวเราะเหอะๆ กับคำถามมันเลยครับ

   “มาว่ากูทำตัวถูก เลขามึงยิ่งกว่าของลดราคาอีก” ผมกระซิบ

   “…”

   “กูไม่พูดอะไรแล้ว หิว!” ผมกระแทกเสียงก่อนจะขยับเท้าเดินออกไปโดยทำทีไม่สนใจ เมื่อผ่านเลขาของไอ้เพชร ตอนนั้นอยากพูดว่าเซ็ทซูชิพรีเมี่ยมที่จะไปกินแพงพอๆ กับเงินเดือนเอ็งทั้งเดือนด้วยซ้ำ

   แต่ไม่ดีกว่า พอเทียบแล้วก็รู้สึกเสียดายตังค์ เดี๋ยวจะไปกินปิ้งย่างแทน



   “ฮัลโหล” ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมารับสายเมื่อเห็นว่ากัปตันโทรมา

   [อยู่ตรงไหน]

   อ้าว กัปตันรู้ได้ไงวะว่าอยู่ข้างนอก?

   พอพูดจบนี่ถึงกับเหร่มองเลขาที่เดินข้างๆ เลยครับ ซึ่งดูเหมือนว่าตรองจะรู้ทันเลยก้มลงกดโทรศัพท์ยุกยิกๆ แทน แถมผมแอบเห็นว่ามันกำลังคุยไลน์อยู่กับไอ้ไวน์ซะด้วย เอ๊า ไปสนิทกันถึงขั้นมีลงมีไลน์เลยเหรอ

   “เพิ่งเดินออกมาจากบีทูเอส มาสิ”

   [อ๋อ เจอแล้ว]

   หมับ!

   ยังไม่ทันได้วางสายดี กัปตันก็เอามือมาจับเอวจากข้างหลังจนผมเกือบร้องออกมาลั่น ฮ่วยยย

   “เล่นบ้าไรเนี่ย!”

   “ก็เล่นปกติ” เขาพยายามพูดเสียงยานๆ เหมือนตอน… เอ่อ อยู่ด้วยกันสองคน แต่คงลืมไปว่าตอนนี้มีอีกคนอยู่ด้วย กัปตันยิ้มแหยๆ ผงกหัวทักทายตรองแบบเก้ๆ กังๆ “ว่าไงตรอง”

   “หวัดดีครับพี่” ตรองหน้าแดงจนเฉไฉไปทางอื่น “เอ่อ ผมว่าผมกลับดีกว่านะครับ”

   “อ้าวไม่กินบิงซูเหรอ เห็นบ่นว่าอยากกิน” ผมถาม

   “ไม่ดีกว่าครับเกรงใจ”

   “เกรงใจอะไร!? อย่ามาพูดกันแบบนี้นะ”

   “ถ้างั้นไว้คราวหน้านะครับ พอดีจะกลับไปทำธุระนิดหน่อย”

   “เอ๊า ตามใจ” ผมโบกมือลา มองขาเล็กๆ นั้นก้าวฉับๆ เดินออกไปทางหน้าห้าง

   เอาล่ะ คราวนี้ก็เหลือแต่ผมกับกัปตันสุดหล่อสองคน

   “มองอะไร” ผมเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องอยู่ก่อนแล้ว

   “คิดถึง” เขายิ้มแป้น

   “ทะลึ่งและ คิดถงคิดถึงอะไร ไม่เจอกันแค่วันเดียว”

   “แต่ก่อนหน้านั้นเจอกันทุกวัน”

   “หยุดพูดเลย” ผมเดินหนี “ชอบเต๊าะไปเรื่อย”

   “ไม่มีคนเต๊าะแล้วจะคิดถึงกันไม่รู้ด้วยนะ”

   “วันนี้เป็นอะไรเนี่ยฮะ” ผมหลุดขำออกมาเพราะตลกกับสิ่งที่กัปตันกำลังทำ ซึ่งเขาก็คงทุเรศตัวเองเหมือนกันเลยหัวเราะตามผมไป

   “หึๆ ไม่รู้ ตลกเนอะ”

   “เออ ตลก” ผมพยักหน้าพลางเดินต่อ

   “ซื้ออะไรเยอะแยะ” จู่ๆ กัปตันก็ลากถุงรองเท้ากับเสื้อที่ผมหิ้วมาไปถือเองซะอย่างนั้น เขายกพวกมันไปพักไว้บนหัวไหล่

   “วันนี้เครียดนิดหน่อย” ผมพูดขณะเดินดูตุ๊กตาไข่ขี้เกียจไปด้วย

   “เป็นอะไรอีกล่ะ”

   “พูดแล้วเดี๋ยวก็หงุดหงิด”

   “พูดมาเหอะ ฉันเป็นที่ระบายอารมณ์ของเธออยู่แล้วนี่”

   โหยยยย พูดอย่างกะตัวเองเป็นหมาที่โดนเจ้าของโยนกระแทกกำแพงบ่อยๆ ไปได้ ฮ่าๆๆๆ

   “วันนี้ไอ้เพชรมันเอาพวกข่าวในอินเตอร์เน็ตมาให้ดูเลยหงุดหงิด”

   “ข่าวอะไร”

   “ก็รูปที่เรากอดกัน”

   กัปตันชะงัก ผมเลยต้องรีบอธิบาย

   “ไม่มีอะไร ผมไม่คิดมากเรื่องพวกนี้หรอก”

   “อ่อ…”

   แหนะ เสียงอ่อย กังวลละสิ

   “แล้วอีกเรื่อง อันนี้หงุดหงิดกว่าอีก” ผมถอนหายใจ “เจอมิ้นในตึก”

   “อ่า…” สีหน้ากัปตันเริ่มเสียนิดๆ

   “มาเป็นเลขาใหม่ของไอ้เพชร”

   “อืม… ไม่ได้คุยกันเลย”

   อ๋อเหรอ ก็ลองคุยดูเด่ะ

   “อืม”

   “แค่นี้เหรอ?”

   “ฮะ?” ผมขมวดคิ้ว

   “ไม่ตีฉัน ไม่โวยวายอะไรหน่อยเลยเหรอ” กัปตันเอียงคอถาม “งอแงอะไรก็ได้”

   “ไม่อะ ผมจะทำแบบนั้นทำไม” เอ๊ะ หรือแต่ก่อนผมทำครับ

   “ฟู่ว! รอดตัว”

   “บ้าบอ” ผมชี้นิ้ว

   “ฮ่าๆ จะกลับบ้านหรือยัง?”

   “อือ กลับเลยก็ได้” ผมชักอยากนอนเหมือนกัน วันนี้ใช้พลังงานเยอะจริงๆ ครับ

   เออ แต่ต้องทำอะไรก่อนสักอย่างนึง

   “แวะไปโรงแรมที่คุณอยู่ก่อน”

   กัปตันขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไม?”

   “ไปเอาเสื้อผ้ามา วันนี้ไปนอนด้วยกัน”

   “เฮ้ย” เขาตกใจเล็กน้อย “จะดีเหรอ”

   “อ้าว” ผมก้มหน้างุด “ไหนบอกคิดถึง”

   “งั้นเธอไปนอนห้องฉันเถอะ”

   “ฮะ!?”

   “เพราะถ้าแวะไปคงไม่ได้กลับง่ายๆ”

   “เฮ้ย เดี๋ยวๆ”

   “แผนนี้แหละดีสุดแล้ว ไปกันเหอะ”

   โอ๊ยยยย คิดเองเออเอง แค่ไม่อยากให้เสียเงินค่าห้องทุกวันเฉยๆ โว้ยยยยย


   “ปั๊ม”

   ผมเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก คนที่เคาะประตูห้องทำงานของผมได้โดยที่ไม่ผ่านเลขาก็มีไม่กี่คนเท่านั้นแหละ แต่ที่จริงผมอาจจะมองในแง่ร้ายไป วันนี้ไม่มีใครอยู่หน้าห้องตะหาก ตรองขอลาไปทำธุระตั้งแต่บ่ายแล้ว

   “มีอะไรเพชร เราจะกลับบ้านแล้ว” ผมไม่พูดเปล่าแต่ลุกขึ้นเก็บกระเป๋าไปด้วย

   “เรามาขอโทษเรื่องเมื่อวาน”

   “อย่าทำให้หงุดหงิดกว่าเดิมได้มั้ยเนี่ย” ผมเดินหนีมันไปที่ลิฟต์ ซึ่งแน่นอนครับมันตามมาติดๆ

   “เราพาไปกินข้าวมั้ย”

   “ไปกินเองได้ ไปหาอะไรทำแก้ฟุ้งซ่านเหอะ”

   แต่ถึงจะปฏิเสธยังไงไอ้เพชรก็ยังตามตื้อมาจนถึงหน้าตึก รถติดฟิล์มดำสนิทจอดรออยู่ คนขับรถนั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงม้านั่งใกล้ๆ กัน

   “เลิกตามสักทีได้มั้ยเนี่ย!” ผมหันไปว่า มันทำหยุดแต่ก็มอบแววตารู้สึกผิดมาให้อยู่

   “เรามาขอโทษจริงๆ”

   “รู้แล้วว่ามาขอโทษ แต่เรื่องแรงๆ แบบนี้มันไม่ใช่ว่าวันสองวันมันจะหาย ขอโทษทีเดียวแล้วรอได้มั้ย เดี๋ยวจะหายเอง”

   “งั้นก็ได้ แต่รีบหายเร็วๆ ได้มั้ย เดี๋ยวทำงานด้วยกันลำบาก”

   “ก็เลิกพูดมากสักที มันมีแต่ทำให้รำคาญ”

   “โอเค งั้นเราจะไม่พูดแล้ว”  เพชรยกมือเหมือนยอมแพ้

   “ดี เจอกันวันจันทร์” ผมหันหลังหนีเดินขึ้นไปนั่งบนรถ เพื่อความปลอดภัยผมจึงกดล็อคประตูด้วย

   ผมหันไปดูคนขับรถ ดูเหมือนว่าเขายังไม่รู้ว่าผมขึ้นมาแล้ว ไม่เป็นไร บุหรี่หมดตัวเขาคงเดินเข้ามาเอง

   ปื๊นนนน!

   แต่จู่ๆ เสียแตรรถก็ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่ว หลังจากสะดุ้งตัว ผมก็เหลือบไปเห็นรถหกล้อกำลังขับส่ายไปส่ายมา และมีทีท่าว่า…
   มันกำลังจะพุ่งมาตรงนี้!
   “เฮ้ย!” ผมร้องลั่นเมื่อเห็นว่าคนขับรถหกล้อนั่นกระโดดออกจากที่นั่งฝั่งคนขับ กลิ้งๆ หลุนๆ ก่อนสุดท้ายจะวิ่งหนีไป
   ชัดเลย! จงใจ!! เหี้ย!!
   ปักๆๆๆๆๆๆๆๆ

   ผมตกใจอีกรอบเมื่อไอ้เพชรเข้ามาเคาะกระจกอยู่ด้านนอก สีหน้ามันเหวอแดกไม่ต่างจากผม มันมองหน้าผมสลับกับรถหกล้อคนนั้นที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ

   แต่บอกตรงๆ ครับ ผมกำลังช็อค! ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ!!!!

   “ปั๊ม ออกมา!!!” เสียงไอ้เพชรดังทะลุเข้ามา

   ผมเริ่มได้สติ รีบลนลานปลดล็อคประตูออก ไอ้เพชรเป็นฝ่ายกระชากประตูออกเสียเอง

   “เร็ว!!” เสียงมันดังลั่นแข่งกับเครื่องยนต์ของรถหกล้อ

   และจากนั้น!

   โครม!!

   รถที่ใหญ่กว่าพุ่งชนเข้ากับรถที่ผมวิ่งออกมาแบบนาทีต่อนาที ผมไม่ได้หันไปดูแต่พนันได้เลยว่าสภาพต้องเละเทะแน่ แต่ที่สำคัญ! โชดดีฉิบเป๋งผมรอดมาได้!!!

   ผมกับเพชรล้มคะมำลงเพราะแรงวิ่งที่ไม่มีทิศทาง เรากองอยู่กับพุ่มไม้ที่ตกแต่งอย่างดีด้านหน้าตึกออฟฟิศเรา

   ผู้คนเริ่มมุงดูรถของผมที่พังยับเยิน ทุกคนพยายามตรวจสอบคนในรถ แต่จากนั้นไม่นานทุกคนก็กรูกันเข้ามาทางนี้ พร้อมสีหน้าที่โล่งใจเมื่อรู้ว่าผมกำลังนั่งงุนงงเหมือนคนไม่ได้สติอยู่ใกล้ๆ พุ่มไม้ตรงนี้กับไอ้เพชรที่ช่วย…

   เฮ้ย!!

   “ปั๊มเป็นอะไรเปล่า” มันพยุงตัวขึ้นมาถาม

   “ไม่ต้องสนใจกู!!” ผมล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมา “หัวมึงแตก! ซับไว้!!”

   “ตรงไหน”

   “ตรงนี้” ผมชี้ “กูไม่ซับให้นะ กูกลัวเลือด”

   ว่าแล้วก็สำรวจตัวเองหน่อย ดูซิว่ามีแผลอะไรมั้ย

    อ่า…รอดวุ้ย

   “โอเคๆ” มันรับผ้าเช็ดหน้าผมไปซับแผลที่ใกล้ๆ ขมับด้านขวา จังหวะนั้นเองที่คนขับรถของผมวิ่งลนลานเข้ามาหา

   “คุณปั๊มโอเคมั้ยครับ” สีหน้าของเขาซีดเผือก พนันได้เลยว่าเขาคงคิดว่าตัวเองต้องซวยแล้ว

   ผมแค่พยักหน้าก่อนจะสั่งต่อ “พาคุณเพชรไปโรงพยาบาลที เรียกแท็กซี่เลย”

   ว่าแล้วคนขับรถก็พยุงตัวไอ้เพชรออกจากวงล้อมไป ตอนนั้นเองที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตั้งใจจะโทรหาใครสักคน

   แต่… พอมองไอ้เพชรที่เดินไร้เรี่ยวแรงกับคนขับรถแล้วรู้สึกผิดฉิบหาย

   นิ้วผมค้างไว้ที่ชื่อกัปตัน …ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะกดโทรออกอยู่แล้วแต่ผมกลับปิดหน้าจอและเดินตามคนขับรถที่พาไอ้เพชรออกไป

   โอเค ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้เลย

   คงแบบนี้สินะ ความรู้สึกเหมือนเป็นหนี้อะไรสักอย่าง

   ไม่ค่อยสบายใจเลยจริงๆ

จบตอน


 :z3:  :z3: :z3: :z3: :z3:

หายตัวไปกับประเทศสิงคโปร์มา 1 อาทิตย์
จิตใจโลเล ไม่เป็นตัวเอง ไขว้เขวนิดๆ หน่อยๆ...

แต่ตอนนี้กลับมาแล้วฮะ เย้!
กลับมาโควต้าอาทิตย์ละ 1-2 ตอนเหมือนเดิมครับผม ขอโทษด้วยนะฮะ

ขอบคุณสำหรับ 10k ด้วยน้า
ตอนนี้อาจจะไม่ได้มีอะไรจิ้นมาก แต่มันเปนชนวนสำคัญในตอนต่อๆ ไป
โค้งสุดท้ายแล้วฮะ รู้สึกใจหายเหมือนกัน เย่เย่

ปล.มีแผนอยากเปิดเรื่องใหม่มากเลย แต่ขอเวลาคิดแปบ
แล้วเจอกันตอนนหน้าฮะ คุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic/
และ #firemetothemoon เหมือนเดิม

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #127 เมื่อ12-03-2017 20:43:17 »

 :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #128 เมื่อ12-03-2017 21:15:25 »

 :fire: มันคือผู้ใดที่คิดการณ์ใหญ่อยู่

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #129 เมื่อ13-03-2017 00:54:01 »

อะไรยังไงกัน งงมากตอนนี้
สั้นไปป่าวอะ?
รออ่านตอนต่อไป

 :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
« ตอบ #129 เมื่อ: 13-03-2017 00:54:01 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #130 เมื่อ13-03-2017 01:03:28 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #131 เมื่อ14-03-2017 19:32:37 »

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #132 เมื่อ14-03-2017 19:56:51 »

เพชรเหมือนจะดี และก็เหมือนจะไม่ดี

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #133 เมื่อ15-03-2017 08:53:59 »

โอ้ยยยย ใครเป็นคนทำล่ะเนี่ย  :katai1:

ออฟไลน์ plugie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #134 เมื่อ17-03-2017 12:33:17 »

เพชรนี้ดีหรือไม่ดี :katai5:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: Fire Me to the Moon • EP16 เริ่ม | 12/03/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #135 เมื่อ16-04-2017 13:34:57 »

คิดถึง อยากอ่านต่อแล้วววววว :ling1:

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
Fire Me to the Moon • EP17 ที่พึ่ง | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #136 เมื่อ23-04-2017 17:21:06 »

17
กอด



ปล. ชอบรูปนี้มาก อารมณ์ประมาณ i got u!


   แอ๊ดดดด

   ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยที่ตอนนี้ไอ้เพชรถูกนำตัวมาพักฟื้นเรียบร้อย ถึงดูๆ แล้วอาการจะไม่น่ามีอะไรมากแต่หมอก็ตัดสินใจขอดูอาการก่อน ผมเห็นด้วยเลย เช็คให้แน่ใจทีเดียว ถ้าเป็นอะไรรุนแรงขึ้นมาจะได้รู้สึกผิดได้ถูก

   “ไงมึง” ผมทัก อีกฝ่ายลืมตาสะลึมสะลือพร้อมกับยกตัวขึ้นมามอง

   “ไม่ตายก็ดีแล้ว” มันยิ้ม ไอ้ห่ายังจะมาตลกอีก

   “กูขอโทษจริงๆ นะมึงที่ต้องมาเจ็บตัวแบบนี้”

   “ไม่ต้องคิดมากไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย ถ้าไม่เข้าไปช่วยสิไม่รู้ว่าจะแย่กว่านี้มั้ย”

   อ๋อ มึงหมายถึงถ้ากูตายขึ้นมาสินะ

   “อืม” ผมพยักหน้า “กูให้ตรองไปแจ้งความแล้ว”

   เพชรสีหน้าเปลี่ยนไปทัน แต่ผมสังเกตว่ามันดูกังวลแปลกๆ …ไม่หรอกมั้ง กูนี่คิดมากจัง

   “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเรื่องใหญ่ทำให้บริษัทดังเปล่าๆ”

   “แล้วมึงไม่อยากรู้เหรอว่าใครทำ? ดูก็รู้ว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุนะเว้ย”

   ผมกับเพชรมองหน้ากัน อีกฝ่ายเลิกคิ้วเหมือนจะพูดอะไรแต่พูดไม่ออก เราทิ้งเดธแอร์ไปสักพักก่อนจะเป็นมันที่พยักหน้าเบาๆ พร้อมกับหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างเอง

   อะไรของมัน?

   Rrrrrrr.

   โทรศัพท์ผมสั่นพอดีเลยไม่ได้สนใจอีกฝ่ายต่อ พอเห็นว่าใครโทรมาเลยปลีกตัวออกมานั่งตรงโซฟาแทน

   “ไงตรอง”

   [คุณปั๊มปลอดภัยมั้ยครับ!?] น้ำเสียงกระวนกระวายแต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วงนั้นทำให้ผมถอนหายใจออกมา เออวะ ก็มีคนสนใจกูเหมือนกันแฮะ

   “โอเคแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรเลย” ผมว่า เหลือบตามองไปยังคนบนเตียงเห็นว่าเพชรหลับไปแล้วเลยตัดสินใจว่าออกไปคุยนอกห้องดีกว่า

   ผมบอกให้ตรองถือสายรอสักครู่ขณะที่เดินไปยังสุดทางเดินที่เป็นกระจกบานใหญ่ที่มองทะลุไปเห็นการจราจรบนถนนด้านนอก

   [เรากำลังติดต่อฝ่ายกฎหมาย พวกเขากำลังจัดการเรื่องนี้ให้ครับ]

   ฝ่ายกฎหมายงั้นเหรอ?

   “ไม่ต้องหรอก”

   [ครับ?]

   “ไม่เป็นไร บอกพวกเขาว่าปั๊มไม่เป็นอะไร …ไม่มีใครเป็นอะไร ตรองช่วยเรื่องเก็บกวาดกับจำกัดวงพวกนักข่าวหน่อยแล้วกัน”

   [แต่ว่า…] อีกฝ่ายเหมือนสับสนปนไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่พูดต่อ [ครับ จะจัดให้ครับ]

   “ขอบใจมาก กลับบ้านเถอะ ฉันว่าก็จะกลับบ้านเหมือนกัน”

   [ผมเป็นห่วงคุณปั๊มนะครับ]

   แหมะ พูดซะกูเขิน

   “เออ ฉันรักแกเหมือนแกเป็นพี่ชายฉันเลย”

   [ได้ครับน้อง]

   “อะไรนะ?”

   [ล้อเล่นครับ แค่นี้ก่อนนะครับคุณปั๊ม]

   “โอเค”

   [อีกอย่างครับ] เสียงของตรองดังขึ้นมาขณะที่ผมเกือบจะกดตัดสายอยู่แล้ว

   “หืม?”

   [ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมรู้สึกแปลกๆ แบบนี้] เสียงนั้นดูวิตกกังวล [แต่คุณปั๊มระวังตัวด้วยนะครับ]

   “ไม่ใช่แกคนเดียวหรอก” ผมถอนหายใจพลางเท้ากระจกบานใหญ่ตรงหน้า “ฉันก็เหมือนกัน”

   มันกำลังมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลแน่ๆ ผมรู้สึกได้

   “ตรอง ที่ถามฉันเรื่องฝ่ายกฏหมายน่ะ”

   […]

   “หมายถึงยังไม่ให้ทำอะไรตอนนี้ รอก่อน…เข้าใจที่พูดใช่มั้ย”

   ตอนนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าตัวเองกับเลขากำลังเชื่อมถึงกัน ต่างฝ่ายต่างเข้าใจสิ่งที่กำลังจะสื่อ

   [เข้าใจแล้วครับ]

   “แค่นี้แหละ กลับบ้านดีๆ”

   ผมตัดสายไปแล้วแต่เลือกที่จะพิงกระจกอยู่ที่เดิมต่อ ผมรู้ดีว่ากำลังยืนอยู่ในจุดที่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป ต่อจากนี้คงต้องมีอะไรตามมาอีกมากมายแน่ แต่ผมจะแกล้งโง่ต่อไปเพื่อที่จะได้รู้เองว่าเกิดอะไรขึ้น ผมเชื่อมาตลอดว่าถ้าเราอยู่เฉยๆ สิ่งเลวร้ายที่เรากังวลมันจะปรากฏตัวขึ้นมาเอง

   แอด!

   ประตูห้องผู้ป่วยของเพชรถูกเปิดออก ผมชะงักเท้าทันทีเพื่อดูว่าใครจะมา บางทีอาจจะเป็นหมอหรือพยาบาลและนั่นจะทำให้ผมตัดสินใจกลับบ้านได้สักทีเพื่อที่จะได้ไม่ไปรบกวนการทำงานของพวกเขา

   แต่นั่นไม่ใช่หมอ

   กัปตันธีร์เดินออกมาด้วยชุดฟอร์มแต่ไม่เต็มยศ สีหน้าดูหงุดหงิดเหมือนกับมีอะไรในใจ ทันทีที่ประตูปิดลงสายตาของเขาก็สังเกตได้ว่าผมยืนอยู่ตรงนี้ แววตาที่ไม่สบอารมณ์ในตอนแรกบัดนี้ได้เปลี่ยนไปในทันที เขากำลังมองผมเหมือนทุกครั้ง …ดูใจอ่อน และ…เทิดทูน

   “ไง” เขาทักทายพร้อมกับสำรวจผมด้วยสายตา และดูโล่งใจที่เห็นว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก

   “คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัปตัน”

   “เมื่อกี้นี้เอง” เขาเดินเข้ามาใกล้ “แต่เข้าไปเห็นแต่คุณเพชรนอนอยู่ เลยว่าจะออกมาโทรหา”

   “มานี่หน่อย” ผมกวักมือเรียกเขา ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำอย่างว่าง่าย

   ไม่ต้องรอให้เขาอนุญาตหรืออะไร ผมเขย่งตัวตวัดวงแขนรัดรอบคออีกฝ่ายไว้แน่น ไม่รู้ว่าทำไม แต่อยู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา ผมพยายามเบียดอีกฝ่ายให้แน่นที่สุดเพื่อหวังจะใช้ความแข่งแกร่งของเขาเป็นพลังช่วยพยุงใจที่กำลังอ่อนแอ เขาจะรู้มั้ยว่านอกจากเตียงที่บ้าน การทำแบบนี้กับเขาทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยและไร้กังวล เหมือนผมกำลังอยู่ถูกที่ถูกทางแล้ว

   “ช็อคเหรอ” กัปตันถาม ผมได้แค่พยักหน้าตอบอยู่ตรงไหล่

   เหมือนเขารู้ว่าผมไม่อยากจะพูดอะไรเลยกระชับผมเข้าไปในอ้อมกอดจนแน่นกว่าเดิม แต่มันทำให้ผมรู้สึกดีมาก ผมเจอบ้านแล้ว

   “กลับบ้านมั้ย” คนตัวโตกว่าถาม “ฉันโทรไปบอกลุงเอกแล้วว่าจะพาเธอกลับบ้านเอง”

   “ที่ไหนก็ได้” ผมว่า “แต่คุณไปด้วยนะ”

   “ฉันไปกับเธอทุกที่อยู่แล้ว”


โชคดีที่เป็นคืนวันศุกร์ ผมจะได้ไม่ต้องไปเจออะไรให้ปวดหัวอีกสองวันเต็มๆ เมื่อตอนเย็นสงสัยจะดราม่ามากไปหน่อย ผมเลยหมดพลังหลับปุ๋ยตั้งแต่ขึ้นรถของกัปตัน มารู้ตัวอีกทีก็ถึงบ้านแล้วเรียบร้อย

   จริงอยู่ที่ผมเคยบอกให้เขามาอยู่ด้วยที่นี่ แต่เขาเลือกจะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านผมกับโรงแรมที่พักอยู่ ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นเพราะมันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ตอนนี้อะไรก็แย่ทั้งนั้นแหละ โชคเข้าข้างที่วันนี้เขาเชื่อผม กัปตันจะอยู่ที่นี่จนกว่าจะบินไฟล์ทถัดไปในเช้าวันจันทร์ แปลว่าวันหยุดสุดสัปดาห์นี้บ้านเรามีคนมาอยู่เพิ่มตั้งหนึ่งคนแหนะ

   แต่…ตามกฎของลุงเอก เราต้องแยกห้องนอนกันครับ เซ็งตรงเนี้ย

   หลังจากทานข้าวเย็นก็ถึงเวลานอน แต่ปัญหาคือนอนไม่หลับนี่สิครับ ผมกลิ้งไปมาบนเตียงพร้อมกับเล่น ROV ไปด้วย ว่าจะปลดปล่อยความเครียด แต่เหมือนจะเครียดกว่าเดิมอีก คือป้อมจะแตกแล้วไง โว้ยยยยยยยยย ช่วยกันหน่อยสิวะไอ้พวกห่านี่

   ก๊อก ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูทำให้สมาธิหลุดจากหน้าจอโทรศัพท์มาชั่วขณะ ผมนอนนิ่งชั่งใจกับตัวเองสักครู่เพื่อคิดว่าเป็นใคร คงหนีไม่พ้นลุงเอกแน่นอน

   แต่ทันทีที่ผมเปิดประตูทำให้รู้ว่าผมคิดผิด ไม่ใช่ลุงเอกครับ

   กลับเป็นกัปตันที่ยืนยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจอยู่ เขาอยู่ในชุดนอนเต็มยศ วินาทีที่ผมเห็นเขาใจมันหวิวแปลกๆ ชอบกล เกือบจะทำมือถือตกแล้วเชียว โอเค ตอนนี้ขอไม่สนใจเกมแม่งแล้ว คนนี้สำคัญกว่า

   “เข้ามาเร็วเดี๋ยวลุงเอกเห็นนนนน”

   ฮ่าๆๆๆ ผมจะตื่นเต้นอะไรวะเนี่ย

   เหมือนอีกฝ่ายจะบ้าจี้พอๆ กัน กัปตันรีบวิ่งเข้ามาในห้องแล้วกระโดดขึ้นบนเตียงเอาผ้าห่มคลุมโปงเหมือนกับจะซ่อนตัวเองทันที

   “นี่ย่องมาให้เงียบที่สุดแล้วนะเนี่ย” กัปตันโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม

   ผมเข้าไปนั่งขัดสมาธิข้างๆ เขา

   “ทำงานเหนื่อยมั้ย?”

   กัปตันเลิกคิ้วเหมือนงงกับสิ่งที่ผมถาม ทำอย่างกับตัวเองหูฝาด

   “ถ้าตอบว่าเหนื่อยล่ะ”

   “ก็จะรู้ว่า อ๋อ เหนื่อย”

   หึๆ ยังกวนตีนเป็นอยู่นะครับขอบอก

   “นึกว่าจะมีรางวัลปลอบใจให้หายเหนื่อย”

   “อะไร อย่ามาทะลึ่งนะ”

   “คิดไปเองอยู่เรื่อยว่าฉันทะลึ่ง” กัปตันตวัดผ้าห่มออกและคว้าตัวผมกดติดกับหมอน โดยเขากระโดนขึ้นมาจ้องอยู่ด้านบนอย่างเจ้าเล่ห์

   “เดี๋ยวนะ กำลังเนียนใช่มั้ย” ผมทำหน้าอย่างคุณรู้ทัน จนอีกฝ่ายเผลอหัวเราะออกมา

   “กอดหน่อย”

   “ไม่!” ผมพยายามดิ้นให้หลุด แต่แน่นอนครับ ไม่เคยหลุดแม่งสักครั้ง โว้ยยยยยยย

   “ก็นี่ไงชอบยัดเยียดให้ทะลึ่ง ก็จะทะลึ่ง!” เขาใช้นิ้วจี้เอวจนผมเกือบจะระเบิดหัวเราะลั่น ดีนะที่กัดกระพุ้งแก้มตัวเองทัน “ถอดเสื้อเร็ว!”

   “ไม่!” ผมใช้แขนสองข้างผลักเขาออก

   “อ๋อ จะให้ถอดให้ใช่มั้ย!?”

   “ไม่ใช่! โอ๊ยยยยยย ฮ่าๆๆๆ กัปตันอย่าจี้ดิ!” ผมตัวงอเป็นกุ้งหมดแล้วเนี่ย

   “ได้ จะถอดให้แล้วนะ”

   “อย่า!”

   “ฉันทะลึ่งมั้ย!?”

   “ทะลึ่ง!”

   “เหรอ…”

   “โอ้ยยยยย อย่าจับนมมมมมมมมม”

   “ทะลึ่งมั้ย!?”

   “ไม่ๆๆๆ ไม่ทะลึ่งเลย” ผมยอมแพ้แล้วครับ อ๋อยยยย จะตายเอา

   แล้วกัปตันก็ยิ้มมุมปาก เอามือออกจากเสื้อผมแล้วก็ทิ้งตัวนอนลงข้างๆ อย่างดื้อๆ อ้าว จบแล้วเหรอวะ? ว้าาาาาา (อะไรของกู)

   “มานี่มา” กัปตันกางแขนเรียกผมเข้าไปนอนหนุน “แค่จะกอดแบบนี้”

   “อ๋อ” ผมเข้าใจแล้วครับคุณพ่อ แหม่ สาบานสิว่าตอนแรกไม่ได้คิดอีกแบบนึง

   “ไม่เจ็บอะไรแน่นะ” สายตาคนข้างๆ สำรวจผมด้วยความเป็นห่วง

   “ไม่เลยจริงๆ” ผมหันหน้าหนีตอนที่นิ้วของอีกฝ่ายคลำไปทั่วเพื่อตรวจสอบ

   “แล้ววันนี้ร้องไห้ทำไม”

   “ก็กลัว”

   “กลัว?”

   “อืม กลัวตายอะ” ผมมองหน้าเขา พูดถึงความตายแล้วแม่งเศร้า “ไม่อยากเสียคุณไปด้วย”

   “…”

   “อย่าทำหน้าเหมือนเหม็นน้ำเน่าแบบนั้นนะ เดี๋ยวผมเสียเซลฟ์”

   “โอเค” กัปตันพยายามเกร็งหน้า “งั้นพูดต่อเลย”

   ผมมองอีกฝ่ายตาเขียวแต่ก็ยอมพูดต่อ “แล้วก็กังวลเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปด้วย”

   “มีเรื่องฉันมั้ย”

   “ไม่มีหรอก…”

   มั้ง? เรื่องเจอมิ้นมาเป็นเลขาไอ้เพชรนี่นับมั้ยวะ

   ช่างแม่ง ไม่นับแล้วกัน

   “งั้นเอางี้ เดี๋ยวจะทำตัวดีให้หมดเรื่องเครียดไปเรื่องนึง โอเคมั้ย?”

   “ทำได้เหรอ?” ผมเลิกคิ้ว

   “อืม ก็จะพยายามไง”

   หรออออ เชื่อดีมั้ยวะเนี่ยยยยยยย

   “จะรอดู” ผมหัวเราะก่อนจะรู้สึกตัวว่ากัปตันกำลังเบียดเข้ามาหา และนั่นก็ทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้…

   ผมได้รับ EMAIL จากมหาลัยเมื่อวันก่อน เรื่องที่ไม่อยากให้เกิดอีกเรื่องกำลังจะมาแล้ว

   “ผมมีอะไรจะบอก”

   “อะไรเหรอ”

   “อีกไม่ถึงสองเดือนผมต้องกลับไปเรียนแล้ว”

   สิ้นเสียง กัปตันเหมือนชะงักไปชั่วครู่ ผมรู้แหละว่าเขาตกใจ คงเป็นเรื่องที่เขาไม่ทันคิด แต่ถึงอย่างนั้นเขากับเลือกที่จะแสดงออกมาเป็นรอยยิ้มแทน

   “ก็ดีแล้ว มันคือหน้าที่ของเธอ”

   “ไม่นอยด์ใช่มั้ย”

   “นอยด์”

   “อ้าว?”

   “แต่ฉันจะทำอะไรได้ ห้ามไม่ให้ไปงั้นเหรอ?” มองหน้ากัปตันตอนนี้ก็รู้ได้ทันทีเลยว่าเขากำลังเซ็ง

   “แต่ผมจะกลับไปเรียนได้ยังไง เรื่องที่นี่ยังสะสางไม่เสร็จเลย”

   “เดี๋ยวทุกอย่างมันจะดีเอง” กัปตันกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น “วันนี้มีเรื่องเยอะจัง”

   “นั่นสิ” ใช่ บางทีวันนี้ก็เหี้ยเกินไป

   ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ กัปตันก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมอยู่เหนือผมอีกจนได้ แววตาของของเขาไม่ได้แสดงออกอารมณ์ทางใดทางหนึ่งอย่างชัดเจน เรามองหน้ากันนิ่งๆ เหมือนกำลังพูดคุยกันผ่านสายตา ก่อนจะเป็นคนด้านบนเองที่ก้มลงมาประทับริมฝีปากที่หน้าผากของผม

   “กอดกันเถอะ” อยู่ๆ เขาก็กระซิบ “กอดแบบนั้น”

   “ไหนบอกว่าไม่ทะลึ่ง” ผมชี้นิ้วขู่

   กัปตันมองนิ้วเรียวยาวของผมอย่างพินิจก่อนคว้ามันเข้าไปกัด ผมไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย อย่างกับว่าเขาไม่ได้ต้องการจะทำร้ายผม แค่อยากแสดงความเป็นเจ้าของเท่านั้น

   “เรารักกันแล้วใช่มั้ย” ผมถาม เสียงที่แหบจนเหมือนกระซิบนั้นกำลังบอกผมว่าสติสตางค์ของตัวเองกำลังจะหลุดลอยออกไป

   “ฉันรักเธอ” เขาบอก “เธอล่ะรักฉันมั้ย”

   “นั่นสิ” ผมเอื้อมมือไปจบแก้มของอีกฝ่าย “แต่ไม่ว่ามีเรื่องอะไร ผมนึกถึงคุณเป็นคนแรกเลย”

   “เหมือนกัน” เขาซุกหน้าลงบนอกผม และไม่ได้ห้ามเมื่อผมลูบหัวเขาเล่นแต่อย่างใด “พรุ่งนี้ไปเดทกันเถอะ เหมือนเมื่อก่อน”

   “ทำอย่างกับนี่จะเป็นครั้งสุดท้าย”

   “ไม่มีทางหรอก” เขาจูบที่คอผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า “กับเธอมันเหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นครั้งแรกเสมอ”

   เราเกินเลยกว่าที่จะขยันลุกขึ้นมาปิดไฟ กลายเป็นว่าท่ามกลางการพูดคุยต่อจากนั้น เรามองหน้ากันอย่างชัดเจนตลอดเวลา สัมผัสได้ถึงความนึกคิดทุกสิ่งทุกอย่างของกันและกัน ผมไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะสังเกตได้หรือไม่ว่าในใจผมเต็มไปด้วยอะไร แต่สำหรับผมคนที่กำลังเห็นใครอีกคนกำลังขยับอยู่ตรงหน้า ผมรู้ได้ว่ากัปตันคือผู้ชายที่ไม่อยากเสียของรักไป ผมรู้ว่าลึกๆ เขาเศร้าที่วันนี้ผมเกือบตายและแถมต้องมารู้กะทันหันว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็ต้องจากเขาไป แต่เขากลับเลือกที่จะแสดงด้านความสุขที่มีอยู่น้อยนิดให้ผมเห็นแม้จะเป็นการฝืนก็ตาม นั่นอาจจะเป็นเพราะผมไม่ได้แสดงออกว่าเจ็บหรือเสียใจมากนัก เขาจึงเลือกที่จะทำแบบเดียวกันเพื่อไม่ให้ผมกังวล แต่แค่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกขอบคุณสวรรค์เหลือเกินที่ทำให้ได้รู้จักผู้ชายคนนี้

   ทุกสายตา ทุกการกระทำ มันไม่เหมือนกับครั้งไหนๆ เราเรียนรู้และมองเห็นกันมากขึ้น สำหรับผม วันนี้ทำให้รู้ว่าเขามีแผลเป็นที่นูนขึ้นมาใต้ซี่โครงด้านขวาชิ้นล่างสุด ที่อาจจะมองไม่เห็นด้วยตา แต่ผมรับรู้ถึงการมีตัวตนของมันผ่านการสัมผัสอีกฝ่ายด้วยความตั้งใจ

   และเมื่อการสนทนาของเราจบลง เขาก้มตัวลงมากอดผมไว้ ผมจึงถามเขาด้วยอารมณ์ที่ยังไม่คงที่

   “คุณรักผมจริงๆ ใช่มั้ย”

   กัปตันกัดริมฝีปากเหมือนกำลังอดกลั้นความในใจ เหมือนเด็กที่กำลังพยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ ก่อนจะตอบด้วยเสียงสั่นเครือ

   “แน่นอน”

จบตอน



 :mc4: :mc4:  :mc4: :mc4:

ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น เขิลจัง อิอิ
ตอนนี้ผมอยู่ในช่วยกำลังเปลี่ยนแปลง เลยเครียดมาก ขอโทษด้วยนะฮะ
แต่กลับมาต่อแล้วอย่างแน่นอน เพื่อที่จะได้มอบตอนจบที่สมบูรณ์แบบ

เย่เย่ ถ้ารักหนูปั๊มหรือโกรธน้องปั๊มฝากคอมเม้นท์ติชมกันมาได้นะครับ
และถ้ารักมากๆ อย่าลืมแชร์เรื่องนี้ให้คนอื่นมาลองอ่านกันด้วยน้า จุ๊ฟ

แวะเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ https://www.facebook.com/thene0classic/
และ #firemetothemoon เหมือนเดิมนะฮะ

ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นหนึ่งใน 12k ที่อ่านเรื่องนี้ ไม่มีวันจะขอบคุณหมดเลย

ติดตามกันต่อไปด้วยนะครับ รักซาเหม๋อน้า<3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2017 17:55:32 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #137 เมื่อ23-04-2017 21:11:25 »

เครียดเลย อย่าให้มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นเลย เพชรนี่ยิ่งไม่น่าไว้ใจเข้าไปกันใหญ่   :katai1: :katai1: :katai1:

ปล. สู้ๆนะคะ ให้ทุกเรื่องผ่านไปด้วยดี   :3123: :3123: :กอด1: :กอด1: :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #138 เมื่อ29-04-2017 10:39:08 »

เพชรมีพิรุธอ่ะ เป็นห่วงปั๊มจัง

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #139 เมื่อ29-04-2017 16:56:39 »

แลเครียด เป็นเพราะข่าวด้วยใช่ไหมกัปตัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
« ตอบ #139 เมื่อ: 29-04-2017 16:56:39 »





ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #140 เมื่อ18-05-2017 13:51:14 »

คิดถึงปั๊มกับกัปตันจะแย่แล้วววววว :ling3:

ออฟไลน์ Hamzholic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-2
Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #141 เมื่อ21-05-2017 21:47:18 »

คิดถึงกัปตัน คิดถึงน้องปั๊มด้วย
หายไปนานเกินไปแล้วววววววววววววววววววววววววว

บทล่าสุดนี่คือโรแมนติคมาก นี่คนเขียนมีความรักปะเนี่ย?

 :hao5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-05-2017 22:20:43 โดย Hamzholic »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #142 เมื่อ21-05-2017 21:58:01 »

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
Re: Fire Me to the Moon • EP17 กอด | 23/04/2017 (หน้า 5)
«ตอบ #143 เมื่อ22-05-2017 00:40:21 »

สู้ๆนะ ไม่ซีเรียสว่าจะมาต่อช้าหรือเร็ว ขอแค่แต่งให้จบไม่ทิ้งไปไหนก็พอ
#เลาเองเลาไง #ใครวะ 5555

ออฟไลน์ theneoclassic

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +217/-3
18
อยู่ที่ไหน



   “คุณปั๊มครับ” เสียงตรองทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์ ท่าทางที่ดูลนๆ ของมันนั้นทำให้ผมเริ่มสนใจทันที

   “มีอะไรเหรอ”

   “ผมอยากให้คุณปั๊มไปกับผมหน่อยครับ”

   “หือ? ที่ไหนอะ?”

   ตรองไม่ตอบ เพียงแค่พยักเพยิดหน้าเท่านั้น เหมือนว่ากูบอกให้ไปก็ไปเซ่ะ แต่มันเป็นเลขาไง คงไม่กล้าพูดแบบนั้นออกมาหรอก

   ผมก็เลยตามเลย เดินตามมันออกไปจากห้อง ลัดเลาะมาเรื่อยๆ จนมาถึงห้องประชุมของชั้นเราที่ไม่ค่อยมีใครได้ใช้

   ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งเคาะนิ้วอยู่พร้อมกับหันออกไปนอกหน้าต่าง เมื่อประตูปิดลงเขาก็ลุกขึ้นและหันหน้ามาทางเรา

   เชี่ยยยยย เล่นเอาสตั๊นไปสิบวิ

   ผมสาบานได้ ไม่เคยเห็นใครที่เท่ขนาดนี้มาก่อน เสื้อเชิ้ตพอดีตัวนั้นเหมาะกับร่างที่สมส่วนได้รูปซึ่งเกิดจากการดูแลอย่างดี แขนเขาใหญ่กว่ากัปตันธีร์ซะอีกมั้ง ผมเผ้าจัดทรงเนี๊ยบไร้ที่ติ ใบหน้ามีเคราซึ่งเกิดจากการตั้งใจดูแลไม่ใช่ชุ่ยจนลืมโกน เขาเป็นผู้ชายที่ขายาวมาก เล่นซะผมอายขาสั้นๆ ของตัวเองขึ้นมาเลยทีเดียว จมูกกับปากก็ไม่ต้องพูดถึง ไร้ที่ติเลยล่ะจะบอกให้

   “สวัสดีครับคุณปั๊ม” เขามอบรอยยิ้มอบอุ่นมาให้ “ผมเรียกว่าคุณปั๊มได้ใช่มั้ย”

   “เอ่อ…ครับๆ ได้ครับ” เชี่ยยย ตะกุกตะกักสัด เสียฟอร์มชิบเป๋ง

   “ใครวะ” ผมกระซิบข้างหูเลขา

   แต่ดูท่าอีกฝ่ายแม่งจะได้ยินไง…

   “ผมชื่อเกรียง” เขายิ้มมุมปาก “เคยทำงานกับพ่อคุณมาแล้ว ท่านเคยใช้งานผมนิดๆ หน่อยๆ จะเรียกผมว่าที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายก็ได้นะครับ”

   “เกรียงไกรเหรอครับ?”

   “ไม่ใช่ครับ” เขาส่ายหัว “เกรียงพยางค์เดียวเลย พ่อผมเป็นช่าง ตั้งใจจะให้ออกเสียงเหมือนเกียงที่เอาไว้เกลี่ยปูนนั่นแหละ”

   “อ่อ…” ผมพยักหน้า แหม่ พ่อคุณมีภูมิหลัง “คุณเป็นตำรวจเหรอครับ”

   “ไม่ใช่ครับ แต่เคยเป็น ตอนนี้ผมทำงานที่สนุกกว่านั้น” คนที่พูดยิ้มยียวน

   “แล้วมีเรื่องอะไรกันเหรอ” ผมมองหน้าคุณเกรียงกับเลขาสลับกัน

   “ก็เรื่องอาทิตย์ที่แล้วแหละครับ ผมให้คุณเกรียงจัดการมาให้นิดหน่อย”

   อ๋อ เรื่องที่คนจะขับชนผมเกือบตายสินะ

   “ใช่ครับ ผมรู้ว่าคุณปั๊มขอให้รอก่อน แต่ผมอยากคุยกับคุณปั๊มจริงๆ เลยให้ตรองนัดให้ครับ”

   “อ่อ ครับ” ผมพยักหน้า สีหน้าจริงจังแบบนี้กูจะปฏิเสธยังไงได้วะ

   “เราเริ่มกันเลยนะครับ” คุณเกรียงผายมือเชิญผมให้นั่ง

   เขาหยิบกระดาษสองสามใบออกมาจากแฟ้ม มันคือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่

“ขอถามคุณปั๊มก่อนเลยนะครับ ก่อนหน้าที่เกิดเหตุการณ์นี้ คุณปั๊มเคยมีเรื่องกับใครมาก่อนหรือเปล่า”

“ผมไม่เคยต่อยกับใครนะครับ”

สีหน้าเฮียเกรียงขำปนเอ็นดูเหมือนเห็นหมาอ้วน

“ผมหมายถึงมีเรื่องแบบ ผิดใจกัน หรืออะไรแบบนี้ครับ ไม่ใช่การลงไม้ลงมือ”

“อ๋อ” ผมพยักหน้า “ไม่เคยนะครับ”

“คุณปั๊มมีคนหมั่นไส้เยอะครับ” ตรองโพล่งขึ้นมาเอง ผมนี่หันขวับทันที

แต่ตรองก็พูดต่อ

“ทั้งคนในตึก คนนอกตึก เขาเกลียดกันจะตาย”

“เดี๋ยวๆ ไปเอามาจากไหน รู้ดีกว่ากูอีก”

“ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้นแหละครับ” ตรองยักไหล่เหมือนไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับมัน เอ๊า! นี่กลายเป็นว่าผมเอ๋ออยู่คนเดียวใช่มั้ยเนี่ย

“ผมก็คิดว่าอย่างนั้นนะครับคุณปั๊ม” คุณเกรียงพูดเสริม “ถึงผมไม่ได้คลุกคลีกับคนที่นี่มาก แต่ผมสัมผัสได้เลยว่ามันเป็นอย่างที่ตรองบอกจริงๆ”

“แต่ไม่ได้หมายความทุกคนนะครับ” ตรองชี้แจง “แต่ถ้าวัดเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยรวมเขาเกลียดครับ”

ขอบคุณทุกคนมา ณ โอกาสนี้ ลาก่อนครับ

ฮึ่ยยยย หงุดหงิด

“และจากภาพที่ผมได้มาจากกล้องวงจรปิดนี้... คุณปั๊มลองสังเกตดูดีๆ สิครับ”

คุณเกรียงชี้ไปที่ภาพตรงหน้า มีวงกลมสีแดงที่วงไว้บนตัวผู้ต้องสงสัย รูปแรกขณะขับรถ รูปสองกระโดดลงจากรถ รูปสามวิ่งหนีไป รูปสุดท้ายเป็นเงาลางๆ ก่อนจะหายไปกับมุมตึก

“ครับ เขาหนีไป...” ผมพูดตามที่เห็น

“ถูกต้องครับ แถมไม่มีทีท่าตื่นตระหนกใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนทุกอย่างเตรียมไว้แล้ว”

“แปลว่าอะไรครับ...”

“น่าจะเป็นการจ้างวานครับผม”

สิ้นเสียงคุณเกรียงนั้น ผมขนลุกซู่เหมือนเจอผียังไงยังงั้นเลย

แล้วผมจะพูดอะไรออกละครับ?

“ผมถึงถามว่าคุณปั๊มมีเรื่องกับใครหรือเปล่าไงล่ะครับ” คุณเกรียงผ่อนเสียง “เพราะดูจากท่าทางแล้ว มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย”

“แต่ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าใครจะอยากฆ่าผม” ผมพูดความจริง พร้อมกับหันไปขอความคิดเห็นจากเลขาด้วย

“ผมก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ครับ” ดูท่าเลขาก็กำลังช็อคไม่แพ้กัน


“สรุปคุณปั๊มจัดการเรื่องกลับไปเรียนต่อหรือยังครับ?” ตรองถามขณะที่เราเดินอยู่กันในโรงอาหาร คงอยากจะให้ผมออกไปจากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยล่ะสิ เอ๊ะ หรือไล่กูจริงๆ วะ

แถมวันนี้ผมนึกคึกอะไรไม่รู้ ชวนเลขาตัวเองมากินข้าวด้วยกัน อาจจะฟุ้งซ่านด้วยมั้ง โอ๊ยยยยยยยย

   “ไม่รู้สิ ลุงเอกจัดการให้” ผมบอก ลุงเอกบอกว่ากำลังจัดการเรื่องตารางเรียนต่อ ผมว่าก็ดี แค่คิดว่าต้องกลับไปเรียนก็เครียดแล้ว มันว้าวุ่นใจเหลือเกิน

   “แล้วพี่ธีร์ว่ายังไงบ้างครับ”

   “เขาก็ดูเศร้าๆ แต่ก็บอกว่ามันดีแล้ว”

   “บางทีคุณปั๊มอาจจะมีแฟนแก่เกินไป คนรักอายุห่างกันมันก็เงี้ยแหละครับ”

   “ขอบใจที่ช่วยปลอบกูนะ” อีห่า

   “ผมพูดจริงๆ นะครับ”

   “รู้ แต่ไม่ได้ช่วยให้กูดีขึ้นมาเลยไง” ผมกลอกตา ฉับพลันกันนั้นที่แม่ค้าร้านน้ำพูดโพล่งขึ้นมา

   “ชอบแบบไหนค้า ชาร้อนชาเย็น ชาหวาน สั่งได้เลย”

   เออหรือว่ากินชาดีวะ

   “สั่งเลยค่ะคุณปั๊ม ชอบแบบไหนบอกได้เลย”

   ...

   “ชอบแบบอะไรสบายๆ ครับ”

   “คะ?” คุณป้าทำหน้าอึ้ง

   “แบบเทคแคร์กัน เข้าใจกัน อยู่ด้วยกันไปตลอด อย่าดุกันมากเพราะผมอึดอัด อยากให้อยู่กันเป็นเพื่อนมากกว่า อย่าสั่งนั่นนี่บ่อยๆ ด้วยเพราะผมไม่ใช่ลูกน้อง ผมเป็นบอสเสมอ”

   “เอ่อ...คุณปั๊มครับ” ตรองสะกิดยิกๆ พร้อมกับทำท่าทางเหมือนขายหน้า

   “อะไร ก็ป้าเขาถามว่าชอบแบบไหน”

“...”

“เออ รู้แล้วน่า แค่แกล้งเขาเฉยๆ... ผมขอโทษนะครับป้า” ผมยกมือไหว้ และสั่งชาเขียวเย็นเพื่อเป็นการปลอบใจ (กูนี่เลวจริงๆ)

“คุณปั๊มรู้เรื่อง Outting ประจำปีหรือยังครับ?”

“เอ๋...ไปเที่ยวเหรอ? ทำไมไม่รู้เรื่องนี้”

ไม่มีเอกสารอะไรให้เซ็นเลยแฮะ

“ผมก็เพิ่งได้รับอีเมลเมื่อเช้าครับ เห็นว่าจะเลื่อนมาเร็วหน่อย ตอนแรกที่วางแผนไว้ประมานสิ้นปี” ตรองอธิบาย “แต่ถ้าคุณปั๊มจะไม่ไปก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมว่าจริงๆ แล้วมันก็เป็นเป็นเรื่องดี เพราะหลังจากเกิดเรื่องผมคิดว่ามันไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่”

สีหน้าของเลขาผมเป็นประกาย สัมผัสได้ถึงความห่วงใยอันลึกซึ้ง โถ...ลูกพ่อ

“มันก็ต้องไปปะวะ งานแบบนี้ผู้บริหารไม่ไปแม่งก็แย่หรือเปล่า ไม่เป็นไรหรอก คงไม่มีอะไรมากน่า” ผมบอกปัด “แต่ถ้ากูตายขึ้นมาจับคนฆ่าให้กูด้วยแล้วกัน ฝังไว้ข้างๆ ป๊ากับม๊าด้วยนะ”

“คุณปั๊ม อย่าพูดแบบนี้นะครับ” เสียงตรองหงอยไป สีหน้าเหมือนไม่คิดว่าผมจะพูดออกไปแบบนั้น

“ตรอง คนอย่างกูไม่ตายง่ายๆ หรอก” ผมตบบ่าเลขาเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

“จริงๆ ผมก็คิดแบบนั้นแหละครับ”

ผมหุบยิ้มทันที ไอ้ตรองพูดแบบหน้านิ่งๆ ประหนึ่งเป็นการเชือดเงียบๆ พร้อมกับเดินนำออกไป เอ้าไอ้นี่ ตกลงมึงยังไงกับกูครับ


ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ว่าไงครับคุณปั๊ม” ตรองเดินมาเคาะประตูหลังจากที่ผมตะโกนเรียก

“ติดต่อกัปตันธีร์ไม่ได้ เขาบอกว่าแลนดิ้งแล้วจะโทรหา นี่ผ่านมาสองชั่วโมงแล้วหายเงียบไปเลย”

“กัปตันอาจจะลืมเปิดโทรศัพท์หรือเปล่าครับ” ตรองว่า “เดี๋ยวผมเช็คให้”

แล้วตรองก็หยิบโทรศัพท์ออกมากดยุกยิก

โอ๊ยยยยยย มีเรื่องปวดหัวมาเพิ่มให้อีกหนึ่ง กัปตันบอกว่าวันนี้จะแวะมาหาและจะพาไปกินข้าวกัน แต่ตอนนี้เลยเวลาที่นัดแนะกันแล้วผมก็ยังติดต่อเขาไม่ได้ ไม่รู้ว่าไปทำบ้าอะไรอยู่ ไม่ชอบแบบนี้เลย มีคนห่วงแบบนี้มันจะรู้มั้ยวะเนี่ย โว้ยยยยยย

“คุณปั๊มครับ คนที่สนามบินบอกว่าไฟล์ของพี่ธีร์มาถึงสักพักแล้วครับ”

“แล้วไปไหนของเขาวะเนี่ยยยยย” ผมแทบจะทึ้งหัวตัวเอง โอ๊ยยยย

“อย่าคิดมากนะครับ เดี๋ยวผมจะตามเรื่องให้เอง” ตรองพยายามทำให้ผมอารมณ์ดีด้วยการอ่อนโยนใส่ อารมณ์มันสวนทางกับผมโดยสิ้นเชิง

   โอ๊ยยย หงุดหงิดแท้

   RRRRRRR.

   ผมสะดุ้งตัวด้วยความดีใจ เพราะแวบแรกนึกว่ากัปตันโทรมา แต่ทว่าชื่อที่โชว์หราอยู่หน้าจอไม่ใช่คนที่ผมรอครับ แต่ก็เป็นคนที่ผมคิดถึงอยู่เหมือนกัน

   “ไงมึงไอ้ไวน์ โทรมาทำเหี้ยอะไรเนี่ย” ผมกรอกเสียงผ่านสาย

   [มึงพูดกับเพื่อนรักที่หายไปนานได้เย็นชามากเลยนะไอ้ห่า] มันว่า [กูโทรมาหาด่ามึงเนี่ย เพราะความวุ่นวายของมึงทำให้กูไม่ได้คุยกับกิ๊กเลย]

   ผมชะเง้อมองไปที่เลขาหน้าห้องซึ่งกำลังวุ่นๆ อยู่

   อ่อ...เข้าใจละ

   “มึงนี่เองที่ทำให้กูเสียงาน มิน่าเลขากูไม่ค่อยได้เรื่องเลย” ผมกลอกตาใส่อากาศ

   [เอาจริงดิ?] เสียงมันเปลี่ยนมาเป็นกังวล [ไอ้เหี้ยกูขอโทษ ตรองทำงานแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ]

   “กูล้อเล่น กูอยากดูท่าทีของมึงต่างหาก ขอบคุณนะที่ทำให้ไม่ต้องเค้น” อิอิ หัวเราะท่ามกลางความอึดอัดใจ โอ๊ยย ไบโพล่าจะแดก

   [อ้าวไอ้ควาย มึงนี่นะ]

   “สรุปมีห่าอะไรนอกจากจะอวดเมียมั้ย กูจะได้กลับไปกังวลกับไอ้กัปตันต่อ”

   [ติดต่อกัปตันไม่ได้เหรอ]

   “เออดิ” พูดแล้วแม่งหงุดหงิด

[มึงอะใจเย็นๆ ก่อน เดี๋ยวไปวอแวเขาก็ดุมึงอีกหรอก]

“กุก็ไม่อยากงอแงเปล่าวะ แต่แบบ...”

ก็มันคิดถึงนี่หว่า...

[เออไม่ต้องเครียด วันนี้กูว่าง เดี๋ยวไปรับมึงทั้งสองคนไปกินข้าวกัน]

“เออ จะมาก็มาเหอะ แต่จะมีอารมณ์ไปแดกหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ”

[เออ อย่าคิดมาก เดี๋ยวเจอกัน]

วันนี้แม่งแปลกจริงๆ ด้วย คนที่รักหาย แต่เสือกได้เพื่อนรักที่สาปสูญกลับมาแทน ขอบคุณเทวดาบนสวรรค์ ผมรักพวกคุณทุกคน


กัปตันธีร์

   “มันมีเหตุผลมั้ยครับที่กระเป๋าผมถึงยังไม่ออกมาจากสายพาน” ผมเดินเข้าไปคุยกับพนักงานภาคพื้นหลังจากที่ทนนั่งรอไม่ไหว ทั้งๆ ที่แจ้งเรื่องนี้ไปเกือบสองชั่วโมงที่แล้ว

   “ผมประสานไปแล้วนะครับกัปตัน เดี๋ยวตามให้อีกที ขอโทษด้วยจริงๆ นะครับ”

   “รีบหน่อยก็ดีนะครับพอดีลืมสายชาร์จไว้ในกระเป๋า ผมต้องคุยกับแฟนด้วย”

   “จะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยครับกัปตัน” พนักงานคนนั้นโค้งหัวให้อีกครั้งก่อนจะเดินออกไป

   แล้วผมก็ทิ้งตัวนั่งที่เดิมอย่างหัวเสีย พนันได้เลยว่าปั๊มคงจะด่าผมตายแน่ วันนี้เรามีนัดกันแต่โทรศัพท์ผมแบตหมดติดต่อใครไม่ได้ ได้แต่จับมันหมุนๆ อยู่ในมือไม่ต่างจากก้อนหินไร้ค่า

   ผมเงยหน้ามองพวกแอร์ที่ส่งเสียงทักทายและผมแค่ตอบกลับด้วยการยิ้มพร้อมพยักหน้าให้เท่านั้น แล้วผมก็ขำกับตัวเอง... โคตรแปลก แต่ก่อนผมมักจะหยอกล้อ ถามไถ่พวกเธอว่าไปไหน และสุดท้ายจะลงเอยด้วยการไปปาร์ตี้และนอนกับใครสักคนที่ให้ง่ายๆ แต่ตอนนี้ สิ่งที่ผมกังวลอยู่ในสมองมากที่สุด กลับเป็นเด็กบื้อลูกชายท่านประธานที่โคตรเอาแต่ใจ อารมณ์รุนแรง ผมยอมให้เขาตะโกนใส่หน้า ชก ตี หรือทำร้ายร่างกายในรูปแบบใดก็ได้อย่างยินดี ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว กับความรักผมไม่เจอมันมานานมาก แปลกดีที่ครั้งนี้มันเป็นคนนี้ ผมยินดีจะทำทุกอย่างให้ปั๊มด้วยความเต็มใจ

   ขอแค่มีปั๊มนอนหนุนแขนอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกดีแล้ว

   แต่ความรักแม่งก็ทำให้เจ็บใจในคราวเดียวกัน

   ผมโคตรโมโหเลยที่ปั๊มเกือบจะตายเมื่อครั้งก่อน ตอนรู้ข่าวผมอธิบายความรู้สึกไม่ได้ชัดเจน เหมือนภาพที่เห็นตรงหน้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีซีเปียจนเริ่มกลายเป็นขาวดำ แต่พอเห็นปั๊มโอเคเท่านั้นแหละ ทุกอย่างก็กลับมาปกติขึ้นทันตา

   ไหนเรื่องที่เขาจะกลับไปเรียนต่ออีก ในความเป็นผู้ใหญ่ ผมยินดีที่จะให้เด็กคนนึงไปเรียนหนังสือให้จบและชื่นชมเขาในวันรับปริญญา แต่ไม่มีใครต้องการจะออกห่างจากหัวใจตัวเองแน่นอน มันเป็นความรู้สึกที่โคตรเห็นแก่ตัวและยอมรับว่าเหี้ย ผมจะยอมปล่อยให้ของรักออกจากมือไปต่อหน้าต่อตำได้ยังไง ถึงมันเป็นเรื่องที่ดีและสมควรก็เถอะ

   “กัปตันคะ” ผมเงยหน้าขึ้นมอง พนักงานของสายการบินเรายื่นโทรศัพท์มือถือมาให้

   ผมทำสายตาประมานว่าของผมเหรอ? เธอเพียงก็พยักหน้าผมจึงคว้ามันไว้

   “ครับ?” ผมกรอกเสียงลงไป

   [ระหว่างที่มึงกำลังรอกระเป๋า กูมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย...]

   ผมนั่งตัวตรงทันที ขนลุกซู่เมื่อรู้ว่าเสียงใครพร้อมกับมองซ้ายมองขวาสำรวจรอบตัว

   [ไม่ต้องกังวัลหรอก กูไม่ได้อยู่แถวนั้น มึงก็รู้นี่]

   “...”

   [สิ่งที่กูจะพูดต่อไปนี้เป็นความลับ ขอมึงแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยิน] เสียงนั้นเย็นชา และเป็นคำสั่ง

   “ครับ...”

   [...ดี]

   และเขาก็มอบบทสนทนายาวเหยียดที่ผมได้แต่ตั้งใจฟัง มันเต็มไปด้วยเรื่องราวอันดำมืดที่ผมไม่สามารถให้ใครรู้ ผมส่งเสียงตอบไปแค่สองสามที และเมื่อการคุยของเราจบลง เขาก็พูดทิ้งท้ายว่า

   [หวังว่ามึงจะรู้นะ ว่าตัวเองเป็นคนของใคร]

   “ครับ...”

   [ดี]

   แล้วเขาก็วางสายไป...

   ผมทิ้งตัวนั่งลงที่เดิมอีกรอบพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังจากที่ยื่นโทรศัพท์คืนไป จังหวะนั้นเองกระเป๋าที่หายไปถูกเข็นมาตรงหน้า สิ่งแรกที่ทำคือการควานหาสายชาร์จโทรศัพท์ และหลังจากที่เสียบสายคาไว้จนหน้าจอกลับมาส่องแสงอีกครั้ง ผมใช้นิ้วไล่ไปยังรายชื่อเพื่อจะโทรหาคนที่ต้องการทันที

   แต่ตอนนี้...ไม่ใช่ปั๊ม

   ‘ตรอง’

   และตอนนี้ก็ไม่ใช่ตรอง ผมเสี่ยงไม่ได้

   ผมเลื่อนมายังรายชื่อที่สาม และกดโทรออกทันที

   [กัปตัน?] น้ำเสียงแปลกใจของอีกฝ่ายคือสิ่งที่ผิดคิดไว้แต่แรกแล้ว

   “ใช่พี่เอง” ผมเดินลากกระเป๋าไปด้วยระหว่างพูด “พี่มีเรื่องให้ไวน์ช่วย”

   [เอ่อ... ได้ครับ]

   “รับปากพี่นะว่ามันจะเป็นเรื่องระหว่างเราสองคน”

   [มีอะไรกันแน่พี่?]

   “รับปาก”

   [...ครับพี่ ผมรับปาก]

   “เอาละ ฟังพี่ให้ดี...”

   แล้วผมก็เดินลากกระเป๋าไปจนสุดทางเดิน

จบตอน



 :mc4: :mc4:  :mc4: :mc4:


-----------------------------------------------------------------

เย่เย่ กลับมาอัพแล้วครับ
ตอนนี้ผมได้ลาออกจากงานเดิมแล้ว ปัจจุบันเป็นครีเอฟทีฟรายการหนังที่ช่องหนึ่งย่านอโศก อิอิ (อ้าวตึกเดิมหนิ U_U)
แต่ด้วยความยืดหยุ่นของเวลา มันทำให้แฮปปี้ แล้วเขียนงานออกมาได้เย่เย่

ตอนนี้หักเลี้ยวเข้าสู่โค้งสุดท้ายเต็มตัว เรื่องราวคงจะเข้มข้นแน่นอน

แต่อยากรู้ความลับของกัปตันหรอ...ผมไม่บอกหรอก!  :hao7: :hao7: :hao7:

ใครสนุกสนาน อย่าลืมแชร์ หรือ คอมเม้นท์ติชม ด่ากราด ฝากซื้อของอะไรก็ได้นะครับ 555
และที่สำคัญ ติด #firemetothemoon ให้ด้วยน้า อยากเข้าไปส่องเหลือเกิน

รักทุกคนและขอบคุณที่ไม่ทิ้งกันครับ .<3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-06-2017 23:54:02 โดย theneoclassic »

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
กำลังตามอ่านอยู่

สนุกมากๆ

ยังอ่านไม่ทัน

ปล. มาให้กำลังใจจ้า


ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อยากจะรู้จังว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด เหมือนมันจะใช้ให้กัปตันเข้าหาปั๊มด้วยรึป่าว?

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ยังอ่านไม่ทัน

สู้ๆคนแต่ง


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด