การพบกันครั้งที่ 18
บูรพาฝ่าไฟแดง
วันหยุดและเวลาที่ลำปางของผมหมดไปอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้ต้องกลับม.แล้ว ไอ้เหนือค้านหัวชนฝาตอนที่ผมชวนมันกลับรถไฟ แต่มันไม่เอาด้วยแล้ว ก็เลยตกลงกันว่าจะกลับรถทัวร์เพราะไวกว่าและสะดวกกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าแต่มันยังนอนรูดมือถือเล่นไม่เลิก
"เฮ้ย..." มันส่งเสียงออกมาเบาๆ แล้วทำคิ้วขมวดตอนที่มองไปยังหน้าจอมือถือ
"อะไรวะ"
"มึงดูดิ!" ไอ้เหนือเขยิบเข้ามาใกล้แล้วยื่นหน้าจอมือถือให้ผมดูก่อนจะเห็นว่าเป็นรูปแพทกับลูกไม้นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน และเป็นเตียงหอในที่ขนาดแค่สามฟุตครึ่งสองคนนั้นจึงนอนตัวติดกันใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน น่าจะเป็นรูมเมทอีกคนถ่ายมาโพสท์และแคปชั่นที่ทำให้คนข้างๆ ผมหน้ายุ่ง
Saii sarika : เป็นรูมเมทไม่พอ เลื่อนขั้นเป็นเบดเมทค่ะ #ทีมแพทลูกไม้
"เบดเมทห่าอะไร!" ไอ้เหนือพูดอย่างโมโหแล้วจิ้มลงไปบนหน้าจอสองสามที
"มึงจะเมนท์อย่างนั้นไม่ได้นะเว้ย"
ดูเหมือนจะไม่ทันแล้ว ผมดึงมือถือมาจากมือไอ้เหนือแต่มันกดโพสท์คอมเมนท์ใต้ภาพนั้นไปแล้ว
เหนือ องศาเหนือ : แพทแฟนกู เลิกเล่นได้แล้วไม่ขำ
"โพสท์งี้ไม่เป็นไรเหรอวะ"
"จะเป็นอะไรวะ ก็แพทแฟนกูอะ"
ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วส่งมือถือคืนให้มัน
"มึงสงสัยอะไรก็ไปถามแพทมันตรงๆ ดีกว่า จะได้ไม่เข้าใจผิดกัน"
มันถอนหายใจแรงๆ แล้ววางมือถือไว้ที่โต๊ะใกล้ๆ หัวเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง จิตใจคงกำลังฟุ้งซ่าน ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดกับมันว่าไง ก็เลยลุกไปปิดไฟแล้วกลับมานอน
เรื่องของมันกับแพท ผมเสือกไม่ได้อยู่แล้ว...
...
"ตื้ด...ตื้ด..."
ผมลืมตาขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกข้างๆ กำลังจะยกมือไปกดปิดแต่ก็ต้องชะงักกึก เมื่อหันไปเห็นไอ้เหนือมันนอนทับแขนของผมอยู่
กูว่าล่ะ ฝันว่าแบกหินทั้งคืน
ผมใช้มืออีกข้างเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาปลุกแล้วหันกลับมามองไอ้เหนือที่นอนซุกอยู่ข้างๆ ผมค่อยๆ ยกหัวมันออกจากแขน แล้วดึงแขนออกมา
โอ๊ย...เหน็บแดก
ผมยกไหล่ขึ้นเบาๆ ให้หายเมื่อยก่อนจะพลิกตัวกลับไปมองไอ้เหนือที่ยังหลับอยู่ หำน้อยนี่มันขี้เซาจริงๆ ผมยกมือแตะริมฝีปากชมพูๆ ของมันเบาๆ อยากจูบมันแบบที่ไอ้ไกด์ทำแต่ชั่วไม่พอเท่าไอ้นั่นเลยไม่กล้า
"บูรพา เหนือ ตื่นได้แล้วนะ เดี๋ยวไม่ทันรถเน้อ!"
เสียงอาลิปดาที่ดังมาจากข้างนอกทำให้คนข้างๆ ผมขยับตัว ใกล้จนผมลุกหนีไปไหนไม่ทันก็เลยแกล้งหลับตาลงไป ได้ยินเสียงงู่งี่เบาๆ ของคนข้างๆ ที่ลุกขึ้นไปนั่ง
"ป้อเสียงดังอะหยังแต่เจ๊า แล้วแว่นต๋าฮาอยู่ไหนเนี่ย " [พ่อเสียงดังอะไรแต่เช้า แล้วแว่นกูอยู่ไหนเนี่ย]
"บูรพา ตื่นได้แล้วเว้ย"
มึงก็ลุกไปสิ ลุกไป
"บูรพา"
ผมกัดฟันแน่นตอนที่เสียงมันเหมือนดังอยู่ใกล้ๆ หน้า
"เป็นเห็บหมาแล้วยังขี้เซาอีก"
ไอ้บ้าเอ๊ย...ละเมอถีบเลยดีมั้ย
ผมยิ่งตัวแข็งทื่อตอนที่ไอ้เหนือจิ้มเข้ามาที่ข้างแก้ม มันเลื่อนมือขึ้นไปที่ปลายจมูกของผม แล้วลูบเบาๆ ที่ริมฝีปากอย่างที่ผมทำกับมันเมื่อกี้ อย่าทำแบบนี้ไอ้หำ อย่าทำแบบนี้!
"เพี๊ยะ!"
"โอ๊ย!" ผมเบิกตาขึ้นมาตอนที่ถูกมันตบเข้าที่หน้าผาก
"ตัวเหี้ย ตื่นได้แล้ว ไก่ขันแล้ว เดี๋ยวไปแดกไก่ไม่ทัน"
"เชี่ย..."
ผมพลิกตัวหนีมันมาอีกทาง แล้วกัดริมฝีปากแน่น
โอ้โห...ใจแทบระเบิด
...
อาลิปดามาส่งเราที่บขส.เพื่อนั่งรถกลับม. ล่ำลากันเสร็จก็ได้เวลารถออกพอดี ผมต้องบอกลาลำปางอีกครั้ง แต่คิดว่าคงได้กลับมาที่นี่อีก รถทัวร์ใช้เวลาน้อยกว่ารถไฟ นั่งมาไม่นานเราก็มาถึงบขส. แต่ขามาเสือกจอดรถไว้ที่สถานีรถไฟไง ก็เลยต้องต่อรถไปสถานีรถไฟ ไอ้เหนือนั่งเงียบมาตลอดทางเพราะก่อนหน้านี้เพิ่งโทรทะเลาะกับแพท เหมือนแพทไม่พอใจที่มันไปคอมเมนท์หยาบๆ ใต้ภาพเมื่อคืน ก็เลยทะเลาะกันไปยกหนึ่ง จากนั้นมันก็กลายเป็นผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทันที
"หิวเปล่า หาอะไรกินก่อนมั้ย"
"ไม่อะ กูอยากกลับหอเลย"
ผมพยักหน้าหน่อยๆ ก่อนจะตรงกลับหอเลย พอถึงหอมันก็รีบเข้าห้องไป ผมเองก็เดินเข้าห้องตัวเอง เพราะทำอะไรไม่ได้ เทเสื้อผ้าออกมาจากเป้ ตั้งใจจะเอาลงไปซักใต้หอแต่ขี้เกียจก็เลยทิ้งตัวลงที่นอน หยิบแลปท็อปมาเปิดแล้วเสียบยูเอสบีจากกล้องเข้าไปเพื่อโหลดไฟล์ภาพจากกล้องใส่แล็ปท็อปไว้ ผมกดดูรูปที่ถ่ายมาผ่านๆ แล้วเลือกเฉพาะรูปของไอ้เหนือใส่โฟลเดอร์ที่ซ่อนเอาไว้
องศาเหนือ
จัดการลากรูปของมันทั้งหมดเข้าไปในโฟลเดอร์นั้นแล้วเลื่อนดูรูปพวกนั้นวนไปวนมา
เหตุผลที่ทำให้ผมต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปมันบ่อยๆ เพราะมันน่าจะเป็นวิธีเดียว…ที่ทำให้มันหันมายิ้มให้ผม
...
เกือบอาทิตย์ผ่านไปอย่างไวอีกแล้ว กิจกรรมห้องเชียร์ใกล้จะจบแล้ว อาทิตย์หน้าก็จะถึงงานพาวเวอร์เชียร์แล้ว เพื่อนๆ ทุกคนภาวนาให้ห้องเชียร์วันสุดท้ายมาถึงเร็วๆ สักที แต่ผมรู้สึกเฉยๆ มานั่งห้องเชียร์เหมือนมาเป็นก้อนหินนั่งให้ไอ้เหนือพิงตอนพัก แล้วก็บ่นเรื่องนั้นเรื่องนี้ให้ฟังมากกว่า อย่างตอนนี้ก็เหมือนกัน บทลงโทษที่ผมต้องตกเป็นทาสของมันหมดเวลาไปนานแล้ว แต่มันยังทำเหมือนผมเป็นทาสมันอยู่เลย ต้องมานั่งเอาป้ายชื่อโบกๆ พัดๆ ให้มันเพราะงอแงว่าร้อนอยู่นั่นแหละ ส่วนมันก็บ่นเรื่องแพทให้ฟังไม่หยุด
"แพทแม่งด่ากูงี่เง่า กูแค่แสดงความเป็นเจ้าของมันงี่เง่าตรงไหนวะ มึงคิดดูดิ คบกันมาสี่ปี แต่ถ้าคนที่ไม่ใช่เพื่อนกันจริงๆ นี่ไม่มีใครรู้เลยนะ ตั้งความสัมพันธ์ในเฟซบุ๊คก็ไม่ได้ โพสท์รูปคู่ก็ไม่เคย กูไปโพสท์อะไรหน้าวอลแม่งก็ตั้งไพรเวทไม่มีใครมองเห็นอะ คนอื่นเขาทำแบบนี้ป่ะวะ"
"ไม่รู้ดิ"
"หึงกูก็ไม่เคยหึง คุยกันก็เหมือนเพื่อนอะ ไม่มีอะไรพิเศษเลย"
"ก็มึงเป็นเพื่อนกันมาก่อนไง"
"ก็ใช่ แต่ตอนนี้มันเป็นแฟนกูไง ถ้ามึงเป็นแฟนกูมึงจะทำงี้มั้ย?"
"ถ้ากูเป็นแฟนมึง?"
"เออ มึงจะทำไงวะ"
"คงต้องเอามึงก่อน"
"ไอ้บูรพา ไอ้บ้า!"
ผมหัวเราะเบาๆ ในใจไม่ขำหรอก กูคิดงั้นแหละ...
"หรือว่าแพทไม่รักกูแล้ววะ"
"คิดมาก"
ได้ยินแค่เสียงถอนหายใจเบาๆ ของมันก่อนจะหมดเวลาพัก กิจกรรมห้องเชียร์ดำเนินต่อไปจนจบ ไอ้เหนือก็แยกตัวกลับหอไปก่อน ส่วนผมไปกินข้าวต่อกับพวกเพื่อนๆ แก๊งผู้ชายในเอกที่มีน้อยนิดเลยต้องเกาะๆ กลุ่มกันเข้าไว้
"ไอ้บูรพา เพื่อนกูอยากได้ไอดีไลน์มึงอะ"
"เอาไปทำอะไร"
"มึงมีไลน์ไว้ทำอะไรล่ะเพื่อน นี่ เพื่อนกูชื่อแอ๋ม เป็นหลีดคณะสังคมฯ " ไอ้บอมบ์ว่าแล้วเลื่อนรูปในเฟสบุ๊คของผู้หญิงคนนั้นให้ดู
"อย่างสวยครับ" ไอ้ภัทรว่าขณะชะโงกหน้าเข้ามามองด้วย
"ให้ไปเลยไอ้บูรพา" ไอ้อิฐเสริมเข้ามาอีกคน
"ไม่เอา กูไม่ชอบคุยไลน์กับใคร"
"งั้นกูบอกให้มันมาคุยกับมึงตัวเป็นๆ ล่ะกัน"
"วี้วๆๆ" ไอ้พวกนี้แหกปากแซวจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง ผมได้แต่ส่ายหัวเบาๆ แล้วตักข้าวใส่ปาก
"ติ๊ง!"
ผมควักมือถือในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดดูไลน์ที่ดังขึ้น ก่อนจะเห็นว่าเป็นไอ้เหนือจึงกดเข้าไปอ่าน
องศาเหนือ : มึง ไม่อยู่ห้องเหรอ
บูรพา : กินข้าวอยู่
องศาเหนือ : กินเสร็จยัง
บูรพา : ยัง มาเปล่า
องศาเหนือ : งั้นกูฝากซื้อได้ป่ะ
บูรพา : เอาอะไร
องศาเหนือ : อะไรก็ได้
ผมกดส่งสติกเกอร์กลับไปตัวหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเห็นไอ้สามตัวนี้ชะโงกหน้าเข้ามารุมอ่านไลน์ผม จึงรีบกดปิดหน้าจอ
"อะไรของพวกมึง"
"ไหนบอกไม่ชอบคุยไลน์กับคนอื่นไงครับคุณบูรพา"
"พิมพ์ให้ยิกๆ เลยนะ"
"ไอ้เหนือไง มันฝากซื้อข้าว" ผมพูดปัดๆ แล้วตักข้าวใส่ปากอีกที
"เมียมึงอะนะ"
"แค่ก!" สำลักข้าวเลยไอ้บ้า
"ใจเย็นๆ" ไอ้ภัทรว่าแล้วยกแก้วน้ำให้
"ก็กูเห็นไอ้พวกสาววายมันหวีดกัน บูรพากับองศาเหนืองี้"
"ไม่มีอะไร กูรู้จักกับมันมาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว"
"ตอนแรกๆ เห็นบอกไม่ถูกกันนี่หว่า"
"ดีกันแล้ว"
"มึงชอบมันเหรอ?"
ผมเงียบไปตอนที่ไอ้บอมบ์พูดแบบนั้น ไอ้พวกที่เหลือก็มองหน้าอย่างลุ้นเอาคำตอบ
"พูดมาเหอะ เพื่อนกัน"
"เออ รับได้"
ผมได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
"มันมีแฟนแล้วไง"
"..."
"แฟนมันก็เป็นเพื่อนกูด้วย"
เพื่อนชอบแฟนเพื่อนเนี่ย...มันโคตรเหี้ยเลยใช่เปล่า?
...
วันนี้วันศุกร์ มีเรียนแค่ถึงเที่ยง หลังเลิกเรียน พวกเพื่อนๆ แก๊งชะนีของไอ้เหนือ ชวนผมมาเดินเล่นที่เซนทรัล ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะมากับพวกมันด้วยแต่พวกมันส่งไอ้เหนือมาอ้อน แถมเอาไก่มาล่อผมก็เลยต้องยอมขับรถมาให้พวกมัน หลังจากออกมาจากเคเอฟซีพวกผู้หญิงรวมถึงไอ้หนุ่มก็แยกออกไปเดินดูเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าตามแบบฉบับผู้หญิง ส่วนผมกับไอ้เหนือแยกกันมาเดินอีกทาง ผมพยายามลากมันให้ห่างๆ จากแผนกของเล่น เลยมาเดินวนกันอยู่ที่ร้านหนังสือ ผมมาอยู่ที่ชั้นหนังสือหมวดท่องเที่ยว เพราะเป็นคนชอบเที่ยว หาที่สวยๆ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ มันเริ่มจากตอนที่ผมไปแลกเปลี่ยนที่แคนาดา ไลฟ์สไตล์ผมไม่ตรงกับเพื่อนฝรั่งสักคนที่นั่น วันหยุดของผมจึงไม่เคยออกไปจอยที่ไหนกับเพื่อน แต่ออกเดินทางไปเรื่อยๆ หาที่ถ่ายรูป จากนั้นก็กลายเป็นคนชอบเที่ยวไปเลย ตอนกลับมาไทยก็แบกกระเป๋าเที่ยวกับไอ้อาคเนย์ น้องชายไปด้วยกัน แต่พอผมมาเรียนที่นี่ก็ไม่ค่อยมีเวลา มันเก็บแต้มทั่วประเทศแซงผมไปแล้ว แถมยังถ่ายรูปมาอวดบ่อยๆ ให้อิจฉาเล่นอีก ผมหยิบหนังสือท่องเที่ยวที่อยากได้สองสามเล่ม แล้วเดินไปหาไอ้เหนือที่กำลังยืนอ่านอยู่
"มึงอ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอวะ" ผมมองไปยังหนังสือในมือมัน เป็นหนังสือบทความสร้างแรงบันดาลใจอะไรทำนองนั้น
"ทำไม? หน้าอย่างกูอ่านพระไตรปิฎกสิมึงค่อยตกใจ"
กวนตีนจริงๆ
"มึงก็น่าจะลองอ่านบ้างนะ กูแนะนำสองเล่มนี้" มันว่าแล้วดึงหนังสือออกมาจากชั้นให้ผมสองเล่ม เป็นหนังสือที่มาจากคนเขียนคนเดียวกัน
หนึ่งวันธรรมดา : Sundaynight01
สุดท้ายมันก็กลายเป็นอดีต : Sundaynight01
"ที่มึงเคยเอาในไอจีให้กูดูอะนะ"
"เออใช่ คนนี้แหละเจ้าของไอจีนั้น ถ้ามึงลองอ่านแล้วจะชอบ"
"แต่กูว่ามึงเหมาะจะอ่านเล่มนั้นมากกว่า"
ผมเดินไปหยิบหนังสือที่มองไปเห็นพอดี ก่อนจะเอากลับมาส่งให้มัน
"108 วิธี ทำอย่างไรให้ฉลาดขึ้น"
"ไอ้บูรพา ไอ้สารเลว!" มันคว้าหนังสือเล่มนั้นแล้วใช้สันหนังสือฟาดเข้ามาใส่หัวผม
"โอ๊ย ไอ้เหนือ เจ็บ!"
"สมน้ำหน้า กูจะฟาดให้หน้าแหกเลย!"
"เบาๆ ไอ้เหนือ อายเขา!" ผมดึงหนังสือในมือมันไปเก็บที่เดิม ก่อนจะลากมันออกมาจากร้านท่ามกลางสายตาคนอื่นที่มองมา แต่ไอ้เหนือก็ยังด่าผมไม่เลิก
"ไอ้บูรพา ไอ้เห็บหมา! มึงนี่มันตัวเหี้ยจริงๆ! มึงมัน..."
อะ...ด่าวนไปให้ถึงหอเลย
...
ผมออกมายืนอยู่ที่ระเบียง มองดูอากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหลังจากเพิ่งตากผ้าเสร็จ ขอบคุณมาก น่ารักจริงๆ ผมกลับเข้ามาในห้องแล้วเห็นแชทจากเฟซบุ๊กเด้งขึ้นมาที่หน้าจอแลปท็อป
แพท?
แพท : บูรพา ทำไรอยู่วะ ว่างเปล่า?
บูรพา : ว่างอยู่
แพท : คอลไปนะ
จบประโยคนั้นแพทก็โทรผ่านแชทมาหาผม แปลกใจนิดหน่อยว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับผม
"ว่าไงแพท"
(ไม่ได้อยู่กับใช่เหนือป่ะ)
"เปล่า มีอะไรเหรอ"
(เครียดๆ เรื่องมันแหละ ไม่รู้จะคุยกับใคร)
"อ่อ ยังไม่ดีกันอีกเหรอ"
(เหนือมันงี่เง่าว่ะ พูดไปก็ชวนทะเลาะ นี่ไม่ได้คุยกันมาหลายวันแล้วเนี่ย)
แพทระบายเรื่องไอ้เหนือออกมาให้ผมฟังไปเรื่อยๆ ผมทำได้แค่เป็นผู้ฟังที่เออๆ ออๆ ตามไป
(เฮ้อ บ่นมากไปแล้ว รำคาญป่ะเนี่ย)
"เฮ้ย ไม่"
(แกนี่เหมือนตอนม.ต้นไม่เปลี่ยนเลยนะ ใครมีอะไรก็มาบ่นกับแก)
"เออ แพท ถามอะไรหน่อยดิ"
(ว่า)
"แกกับลูกไม้อะ ไม่มีอะไรจริงๆ ใช่ป่ะวะ"
อีกฝ่ายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมา
(ไม่มีอะไร ก็เหมือนบูรพากับองศาเหนือนั่นแหละ)
ถ้าเหมือนกูนี่...กูมีอะไรนะครับ
"อ่อ งั้นก็ไปคุยกันดีๆ ดิ"
(อือ เดี๋ยวหาโอกาสคุยกันอีกที งั้นแค่นี้ก่อนนะบูรพา ขอบใจมาก)
ผมกดวางสายจากแพท แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
ไปคุยกันเองสิ...ต้องมาฟังทั้งสองฝ่ายระบายใส่ผ่านกูเนี่ย...
เห็นใจกูบ้าง....
...
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงด้วยใจว้าวุ่นขุ่นมัว ออกไปสูบบุหรี่ที่ริมระเบียง สูดดมอมควันอยู่สักพักอารมณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น โว้ย! หงุดหงิดเว้ย! ผมลุกพรวดแล้วคว้ารถบังคับออกไปที่หน้าห้อง ยืนรวบสติอยู่หน้าห้องไอ้เหนืออยู่หนึ่งอึดใจก่อนจะเคาะประตูห้องมัน สองสามครั้งมันก็ออกมาเปิด
ไอ้เหนือใส่แว่น...
ไอ้เหนือใส่แว่นว่ะ...
น่ารักเชี่ย...โอ๊ย ใจเหลวหมดเลยกู
"มีไรมึง"
ลืมเลยว่ากูจะพูดอะไร
"กูหงุดหงิดว่ะ ไปหาที่ซิ่งรถกันป่ะ?"
มันเหลือบตามามองที่รถบังคับในมือผม
"เออ เอาดิ อารมณ์ไม่ดีอยู่เหมือนกัน"
ผมกับไอ้เหนือมาอยู่ที่ลานพลังงานทดแทนพร้อมรถซิ่งคนละคัน ถนนเส้นนี้ที่ปกติไม่ค่อยมีรถอยู่แล้ว พอเป็นวันศุกร์ยิ่งโล่งเข้าไปใหญ่ บริเวณสนามในลานที่ปกติจะมีนิสิตมานั่งเล่นกันก็ไม่มีใครเลย คงอากาศที่ดูเหมือนฝนจะตกจึงไม่มีใครออกมา เว้นผมกับไอ้เหนือที่กำลังเล่นรถบังคับในถนนกว้างๆ ที่กลายเป็นลานแข่งเรซซิ่งคาร์ของเราสองคน จากที่ต่างคนต่างเล่นกันอยู่ พอหำน้อยมันหันมาเห็นผมดริฟท์รถบังคับหลายๆ ท่ามันก็เริ่มหันมาให้ความสนใจ
"มึงทำงั้นได้ไงอะ"
"กูเก่ง"
"สอนมั่งดิ"
เหนือมันเป็นคนที่มักจะสนใจสิ่งแปลกๆ ที่มันไม่เคยทำ ขอให้สอนทำนั่นทำนี่อยู่เรื่อยๆ ชอบเวลามันกระตือรือร้นที่จะอยากทำ ก็เลยต้องสอนให้มัน
"เอาของกูนี่"
ผมแลกรีโมทบังคับของผมให้มัน
"โห ของมึงอย่างไวอะ! เฮ้ย บังคับยาก!"
"แต่ดริฟท์ง่ายกว่าไง มึงใช้ความเร็วพอดีๆ ไม่ต้องเร็วมาก แล้วมึงก็บังคับเลี้ยวข้างที่มึงถนัดอะ"
"อ่า"
"นั่นแหละ ไปเรื่อยๆ เลย"
"ยางมึงลื่นดีว่ะ"
"กูหารุ่นนี้ให้มึงแล้วแต่ไม่มี เดี๋ยวเจอซื้อมาให้"
"เย่ ขอบใจมาก เออ แต่ของมึงดริฟท์ง่ายจริงๆ ด้วยว่ะ"
"เล่นไป"
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงมันยังสนุกอยู่กับการดริฟท์รถเล่น ส่วนผมมายืนดูมันเล่นอยู่อีกทาง ไม่ได้เอากล้องมาด้วยเลยได้แต่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปมันที่เล่นสนุกเป็นเด็ก โคตรชอบตอนมันใส่แว่น ยิ่งมองยิ่งเขิน
"ไอ้บูรพา"
"ฮะ?"
"มึงเป็นบ้าอะไร ยืนแกะเปลือกต้นไม้?"
หือ?
"อ้อ กู...อยากรู้ว่ามันคือต้นอะไร"
"แล้วมันมีชื่อแปะอยู่ในเปลือกต้นไม้หรือไงไอ้บ้า"
ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ
"ไม่เล่นต่อล่ะไง?"
"เมื่อยแล้วอะ"
"บรื้น!!"
ทั้งผมและไอ้เหนือหันไปมองเสียงรถยนต์ที่ขับมาอย่างเร็ว
"เฮ้ย รถมึง!" ไอ้เหนือร้องลั่นแล้ววิ่งไปที่ถนนเพราะรถบังคับของผมยังอยู่ตรงนั้น ผมรีบคว้าตัวมันเอาไว้ และใช้อีกมือคว้ารถบังคับที่จอดอยู่ มาได้ทันก่อนที่รถยนต์นั้นจะเหยียบ
"ไอ้สัด จะรีบไปไหนวะ!" มันหันไปด่าไล่หลังไอ้รถที่ขับออกไป
ผมนี่ใจแทบจะหลุดออกจากอก
"ดีนะไม่เหยียบรถมึงอะ ไอ้บ้าเอ๊ย!"
"มึงนั่นแหละบ้า!"
ไอ้เหนือเงยหน้าขึ้นมามองแล้วกระพริบตาถี่ๆ อย่างงงที่ผมเสียงดังใส่
"วิ่งพรวดออกมาแบบนั้นเกิดโดนรถชนขึ้นมาว่าไง"
"แต่กูเป็นห่วงรถมึง"
"รถมันตายได้มั้ยไอ้ควาย!"
"เออๆ กูขอโทษ กูโง่เอง ควายมากๆ เลยกูเนี่ย"
"ไอ้ห่าเอ๊ย" ผมสบถอย่างหงุดหงิดแล้วผลักหัวมันทีหนึ่ง ได้ยินเสียงมันบ่นงุ้งงิ้งตอนที่เดินตามหลังมา
"จะต้องโมโหอะไรเบอร์นี้..."
ผมกับไอ้เหนือมานั่งอยู่ที่ริมบ่อน้ำกลางสนาม เมฆฝนก็ครึ้มขึ้นทุกทีๆ จะตกก็ไม่ตก ไอ้เหนือหยิบมือถือขึ้นมารูดๆ อยู่พักหนึ่งแล้วเก็บยัดใส่เข้าไปที่เดิม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
"มึงอารมณ์ไม่ดีเรื่องอะไรวะ" ผมหันไปถาม
"ก็เรื่องแพทแหละ"
"ก็ทักไปดิ แพทมันรอให้มึงง้ออยู่มั้ง"
"ไม่เอาอะ เดี๋ยวอยากคุยก็คงทักกูมาเองแหละ"
"คิดแบบนี้ทั้งคู่เดี๋ยวก็ไม่ได้คุยกันหรอก"
"เฮ้ย มึงอย่าพูดงี้ดิ กูหวั่นเลยเนี่ย"
"ก็ทักไปดิ ไปคุยกันดีๆ"
มันพยักหน้าหน่อยๆ แล้วหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าไลน์ เดาว่ามันคงทักไปหาแพท เสร็จแล้วก็วางมือถือลงข้างๆ แล้วหันมาผม
"แล้วมึงอะ หงุดหงิดเรื่องอะไร"
"หงุดหงิดตัวเองอะดิ"
"เป็นอะไรอะ เป็นมะเร็งเหรอ"
"พ่อง!"
"เล่นพ่อกูอีก แล้วมึงเป็นอะไร"
ผมเงียบไปพักหนึ่ง หันมองหน้ามันจนมันเลิกคิ้วอย่างสงสัย
"ว่าไง เป็นอะไร"
"เป็นคนเหี้ยๆ"
"อ้าว ก็ธรรมชาติของมึงถูกแล้ว"
"ไอ้บ้า! ถีบตกน้ำเลยดีมั้ย!" ผมแกล้งผลักมันเกือบจะหล่นน้ำก่อนจะดึงตัวมันกลับมา
"เฮ้ยๆ ล้อเล่นๆ! อะๆ แล้วตกลงเป็นอะไร"
"ที่มึงเคยบอกว่า เพื่อนชอบแฟนเพื่อนนี่มันโคตรเหี้ยเลยใช่มั้ย"
"ใช่ดิ"
"กูกำลังชอบแฟนเพื่อนอยู่ว่ะ เหี้ยมากเปล่าวะ"
"เหี้ยดิ! ไม่ได้นะเว้ย เรื่องนี้ชีวิตมึงติดไฟแดง มึงต้องเหยียบเบรก"
"กูก็อยากจะหยุด แต่ใจกูมันสั่งให้เหยียบมิดไมล์เลย"
"ไม่ได้นะมึง ห้ามใจไม่เป็นหรือไงวะ"
"กูพยายามแล้ว แต่มันไม่ได้ไง"
"แล้วนี่มึง...แอบชอบแฟนใครวะ"
"แฟนแพท"
ไอ้เหนือนิ่งไปตอนที่ได้ยินแบบนั้น มันหลบสายตาลงไปนิดหนึ่ง ถอนหายใจเบาๆ แล้วเงยขึ้นมา ผมไม่ได้คิดว่าจะบอกกับมันในวันนี้ อยากเก็บเอาไว้เป็นความรู้สึกของตัวเองแค่คนเดียว แต่มันยากเกินไป ไม่อยากทนแล้ว...
"บูรพา มึงต้องเคารพกฎจราจร"
"แล้วถ้ากูอยากฝ่าไฟแดงล่ะ"
"มึงก็ถูกรถชนตายสิ"
"งั้นกูยอมฆ่าตัวตาย"
โอเค...กูไม่ทน
ผมดึงหน้าไอ้เหนือเข้ามาใกล้แล้วกดริมฝีปากเข้าไปอย่างห้ามไม่ได้ คนถูกจูบตัวแข็งทื่อคงช็อกไปแล้ว เดาว่าหากปล่อยปากออกคงโวยวายลั่นที่ผมบังอาจไปข่มขืนปากมัน ไอ้เหนือไม่โต้ตอบจูบของผม ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไร สติหลุดไป ไม่รู้วิธีจูบ หรือแท้จริงแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไร
เห็นแก่ตัวมากพอผมจึงถอนริมฝีปากตัวเองออกมา ไอ้เหนือกระพริบตาถี่ๆ แล้วเอ่ยบางคำออกมาเบาๆ
"มึงทำอะไรวะ"
.
.
.
"กูจูบมึงไง"
to be continued.