บันทึกรัก…ไร่แสงจันทร์
Writer : Tan-Yung0209
File : ซ่อนรัก 06
[เหม Part]
‘เราเลิกกันเถอะ’
ผมพิมพ์ข้อความส่งไปยังเบอร์โทรศัพท์มือถือของพลอย อาจจะดูเลวร้ายที่ผมทำแบบนี้กับพลอยแต่ผมไม่อาจหลอกตัวเองได้อีกต่อไป มันถึงเวลาที่ผมจะต้องตามใจตัวเองอีกครั้ง ผมวางโทรศัพท์มือถือของผมไว้บนโต๊ะ แล้วล้มลงนอนกอดร่างเล็กที่นอนสลบหลังจากที่ผมจัดการฝังรอยรักรอบที่สามในห้องน้ำ
พอได้สัมผัสได้กอดมันทำให้ผมอดคิดถึงเรื่องราวของผมกับไผ่เมื่อหลายปีก่อน มันเป็นความรักที่เกิดจากความผูกพันธ์ที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นภายในใจของผม
ย้อนเวลาไปคืนก่อนที่ผมจะย้ายจากไร่แสงจันทร์ ฝนที่ตกหนักตั้งแต่ตอนเย็นส่งผลให้อากาศในตอนกลางคืนหนาวเหน็บ ผมที่กำลังจัดกระเป๋าก็ต้องวางมือเมื่อสิบทิศวิ่งมาหาผมที่บ้านพักสีหน้าไม่สู้ดีพร้อมประโยคที่ทำวิ่งออกจากบ้านไปในทันที
‘เหม…น้องไผ่หายตัวไป’
ผมวิ่งหน้าตาตื่นมองหาเด็กน้อยวัยเจ็ดขวบท่ามกลางสายฝนที่พร่ำตกลงมาไม่ขาดสาย ผู้คนในไร่ต่างถือไฟฉายส่องหาน้องไผ่ ไม่เว้นแต่คุณน้านักรบที่ออกมาจากบ้านใหญ่เพื่อตามหาลูกด้วยตัวเอง
“น้องไผ่!!!...น้องไผ่!!!” ทุกคนในไร่รวมถึงผมต่างก็ร้องเรียกชื่อคนที่หายไป จะว่าไปวีนนี้ผมไม่เห็นน้องไผ่มาหาผมเลย ซึ่งปกติวันหยุดน้องไผ่จะมาอยู่กับผมทั้งวัน ไม่สิ…ตั้งแต่วันที่ผมและครอบครัวไปบอกลาคุณน้านักรบ น้องไผ่ก็พยายามหลบหน้าไม่ยอมพูดคุย บางวันผมเข้าไปหาสิบทิศในบ้านน้องไผ่ก็พยายามหลบหน้าผมด้วยการออกไปเล่นที่อื่นทั้งที่ปกติจะวิ่งมากอดผม หอมแก้มผมด้วยซ้ำ
“หาไม่เจอว่ะ…เหมแกหาเจอไหม?” ผมกับสิบทิศที่วิ่งวนจนทั่วไร่ก็มาเจอกันอีกครั้ง
“ไม่เจอเลย ช่วงนี้น้องไผ่ชอบไปที่ไหนหรือเปล่า?”
“ก็คงจะเล่นในไร่เรานี่แหละ เวลากลับบ้านเสื้อผ้าจะมอมแมมเปื้อนโคลนกับมีดอกหญ้าตลอดแต่บางวันคุณแม่บอกว่าได้กลิ่นดอกกุหลาบติดมาด้วย”
เปื้อนโคลนกับเศษฟางอย่างนั้นเหรอ? ในไร่แสงจันทร์การจะเปื้อนสองสิ่งนี้ก็ถือว่าปกติแต่มันมีสถานที่เดียวที่มีดอกกุหลาบนั่นก็คือกระท่อมร้างท้ายไร่
“สิบทิศ เราแยกกันตามหาอีกรอบเถอะ”
“ได้เลย”
ผมปลีกตัวไปท้ายไร่ รีบวิ่งฝ่าฝนไปที่นั่น ทำไมผมโง่อย่างนี้ในเมื่อกระท่อมท้ายไร่เป็นที่ที่ผมชอบพาน้องไผ่มาเล่น มานอนกล่อมเลยขนพวกเครื่องนอนเก่าๆแต่สภาพดีอยู่จากที่บ้านมาไว้ที่กระท่อมรวมถึงปลูกกุหลาบไว้รอบๆจนที่นั่นกลายเป็นฐานทัพของเด็กน้อยไปแล้ว
“น้องไผ่!!!!”
ผมผลักประตูไม้พร้อมกับเรียกชื่ออีกคน ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ที่ได้พบน้องไผ่ที่นั่งร้องไห้จนตาบวมตรงมุมห้อง
“น้องไผ่…ร้องไห้ทำไม? บอกพี่เหมสิครับ” ผมเดินเข้าไปนั่งใกล้ๆน้องไผ่ที่ช้อนตามองผมก่อนจะรีบก้มหน้า
“ฮึก…พี่เหม..พี่เหมทิ้งน้องไผ่”
“พี่ไม่ได้ทิ้งนะ” ผมสวมกอดน้องไผ่ที่ร้องไห้จนตาบวม
“พี่เหมตัวเปียก ปล่อยน้องไผ่เลยนะฮะ” น้องไผ่ขืนตัว ผมเลยนึกออกว่าตอนนี้ตนเองเปียกโชกไปด้วยฝน ผมจึงผละตัวออกจากน้องไผ่แล้วถอดเสื้อและกางเกงออกเหลือไว้เพียงบ็อกเซอร์
“โป๊…” น้องไผ่รีบปิดตา ผมหัวเราะในลำคอถึงความใสซื้อของคนตัวเล็กที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิด พูดจริงๆคือผมเกาะขอบเปลน้องไผ่ เลี้ยงน้องไผ่ตั้งแต่เล็ก นึกๆดูแล้วจะเรียกว่าผมเลี้ยงต้อยก็คงไม่ผิด
“ก็เสื้อผ้าพี่เปียกแต่ตอนนี้พี่ไม่เปียกแล้ว” ผมกอดน้องไผ่อีกครั้ง คราวนี้ก็อุ้มเจ้าตัวเล็กมานั่งคร่อมตักแล้วหยิบผ้าห่มผืนบางมาคลุมตัวน้องผมและน้องไผ่เอาไว้
“น้องไผ่ไม่ให้กอด…พี่เหมทิ้งน้องไผ่”
“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทิ้ง…น้องไผ่จอมดื้อ” ผมยีผมนิ่มเบาๆ จนน้องไผ่ทำหน้าบึ้งใส่
“น้องไผ่ไม่ได้ดื้อนะฮะ” น้องไผ่เถียง
“ดื้อสิ หายตัวออกจากบ้านจนคนออกตากหากันทั้งไร่”
“น้องไผ่ไม่ได้หายตัว น้องไผ่แค่เล่นมที่กระท่อมแล้วฝนตก น้องไผ่กลัวฟ้าร้องนี่ฮะ น้องไผ่ไม่กล้าออกไป” น้องไผ่รีบอธิบายคำตอบ
“ถ้าอย่างนั้น พี่จะพาส่งกระท่อมนะ”
“ฮะ” น้องไผ่ตอบตกลง ผมอุ้มน้องไผ่สภาพใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวกลับไปยังบ้านใหญ่ ที่นั่นคุณน้าแสงจันทร์และคุณน้านักรบ พ่อแม่ของน้องไผ่กับลังยืนอยู่ด้วยท่าทีกระวนกระวายใจ
“น้องไผ่!!!!” คุณน้าแสงจันทร์รีบวิ่งเข้ามาอุ้มน้องไผ่เอาไว้แล้วกอดเอาไว้แนบอก
“เหมไปเจอน้องที่ไหนเหรอ?” คุณน้านักรบถาม
“น้องไผ่ติดฝนที่กระท่อมท้ายไร่ผมเลยพามาส่ง” ผมตอบกลับไป
“ขอบใจมากนะเหม พรุ่งนี้ต้องเดินทางแล้วยังลำบากหาน้องให้อีก” คุณน้าแสงจันทร์กล่าวขอบคุณ มือก็ลูบผมน้องไผ่ด้วยความเอ็นดู
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ผมบอกลา เตรียมตัววิ่งกลับบ้านพัก
“พี่เหมนอนกับน้องไผ่นะฮะ” เสียงเล็กเอ่ย ทำให้ผมหยุดชะงัก
“น้องไผ่อย่าไปกวนพี่เหมสิลูก” คุณน้านักรบพูดปรามน้องไผ่
“น้องไผ่อยากนอนกับพี่เหม พรุ่งนี้พี่เหมต้องไปอยู่ที่อื่นแล้ว..ฮือ..อ…น้องไผ่อยากอยู่กับพี่เหม” ไผ่เริ่มงอแง ผมเห็นน้ำตาของน้องไผ่ก็รู้สึกไม่ดีเอามากๆ
“เหม น้ารบกวนนอนกับน้องได้ไหม?” คุณน้าแสงจันทร์เอ่ยขอ
“ได้ครับ” ผมตอบออกไปอย่างไม่ลังเล
“เดี๋ยวขึ้นไปพร้อมกับน้องส่วนเสื้อผ้าก็ใส่ของสิบทิศไปก่อน” คุณน้าแสงจันทร์พูดต่อ น้องไผ่ก็ยิ้มหวาน จากนั้นคุณน้านักรบก็ให้คนไปประกาศบอกคนงานที่ตามหารวมถึงสิบทิศให้รับรู้ว่าเจอตัวน้องไผ่แล้ว
ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใช้เวลาสั้นๆ จากนั้นก็มานั่งรอน้องไผ่อยู่บนเตียงนุ่ม ไม่นานน้องไผ่ที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จก็เข้ามาในห้องโดยมีแม่มาส่ง แก้มทั้งสองก็ขาวนวลเพราะโดนปะแป้งหอมทั้งสองข้าง
“พี่เหม~” น้องไผ่วิ่งมากอดผมที่นั่ง ผมก็จับอุ้มให้ขึ้นมานอนบนเตียง
“ดูสิ รักพี่เหมจนพี่สิบทิศน้อยใจแน่เลย” คุณน้าแสงจันทร์พูดแซวลูกชายคนเล็ก
“น้องไผ่ก็รักพี่สิบทิศนะฮะ”
“ค่ะ คุณแม่เชื่อว่าน้องไผ่รักพี่สิบทิศแล้วก็พี่เหม” คุณแสงจันทร์ยิ้มออกมาเมื่อเห็นน้องไผ่มีความสุข
“เหม น้าฝากน้องด้วยนะ”
“ครับ คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วง”
“ฝันดีนะน้องไผ่ เหมก็ด้วย” คุณน้าแสงจันทร์เอ่ยแล้วปิดประตูห้องนอน ผมก็เดินไปปิดไฟห้องนอน เปิดเพียงโคมไฟให้พอมีแสงสลัวเท่านั้น น้องไผ่ที่นอนชิดกำแพงก็มองผมตาแป๋ว
“ไม่ง่วงเหรอ?” ผมถาม น้องไผ่ก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ ปมอมยิ้มและล้มตัวนอนกอดย้องไป่โดยสอดแขนให้เด็กน้อยได้นอนหนุน
“พี่เหมฮะ พี่เหมอยู่ที่นี่กับน้องไผ่ไม่ได้เหรอฮะ?” น้องไผ่ถามผมเสียงอ่อน ผมก้มมองดูก็พบว่าน้องไผ่กำลังจะร้องไห้
“ไม่ได้ พี่ต้องไปกับครอบครัวพี่” ผมตอบพร้อมกระชับกอดแน่น น้องไผ่ก็สะอื้นไห้ออกมา เฮ้อ…ถ้าเลือกได้ผมก็อยากอยู่กับน้องไผ่ไม่ไปไหน
“แต่พี่จะกลับมาหาน้องไผ่แน่นอน” ผมพูดต่อ
“แล้วจะอยู่กับน้องไผ่ใช่ไหมฮะ?” น้องไผ่คลายสะอื้นแล้วถามผมกลับ
“ใช่ พี่จะกลับมาอยู่กับน้องไผ่” ผมให้คำตอบ
“ฮะ…น้องไผ่จะรอ พี่เหมต้องกลับมาอยู่กลับน้องไผ่นะฮะ”
“พี่ให้สัญญา”
และนั่นก็คือความทรงจำสีจางระหว่างผทมกับน้องไผ่ก่อนจะจากกัน หลังจากนั้นผมก็ยังติดต่อกับน้องไผ่อยู่บ้างแต่ก็หยุดการติดต่อเพราะผมเรียนแพทย์ ซึ้งเรียนหนักจนไม่มีเวลาติดต่อใครแม้แต่คนในครอบครัวเอง ถึงอย่างนั้นผมกลับคิดถึงใบหน้าเปื้อนยิ้มของน้องไผ่ทุกวัน จนผมมั่นใจว่าผมหลงรักน้องไผ่ เด็กชายที่ผมเลี้ยงมากับมือ
[เหม End]
เช้าวันใหม่ที่เคยสดใสสำหรับไผ่ บัดนี้มันดูหม่นหมองไม่ต่างอะไรกับจิตใจของไผ่ เปลือกตาค่อยๆเปิดออกมองดูสิ่งต่างๆรอบห้อง ไผ่สำรวจตัวเองที่ใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เหมคงจะเปลี่ยนให้ตอนหลับ ไผ่คิดในใจ
‘พี่เหม’
ไผ่ไม่เห็นเหมข้างกายก็นึกน้อยเนื้อต่ำใจรวมถึงเหตุการณ์ที่แสนเลวร้ายเมื่อคืนนี้ ไผ่คิดว่าเหมคงจะลงโทษให้ตนเจ็บปวดจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับเหมอีก แค่คิดน้ำตามันก็พาลไหล
‘Rt….Rt…’
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ไม่คุ้นหู ทำให้ไผ่มองหาจุดกำเนิดเสียงก็พบว่ามือถือของเหมดังขึ้นพร้อมชื่อคนที่โทรมานั่นก็คือ…พลอย
‘แกร็ก’
ประตูห้องเปิดออก ไป่ทำทีเป็นนอนหลับต่อ เหมที่ลงไปสั่งแม่บ้านให้ทำข้าวต้มให้ไผ่ก็เข้ามาได้จังหวะพอดีจึงรับโทรศัพท์
“อืม…ได้สิพลอย…ได้….เจอกัน..เดี๋ยวจะออกไปหาเลย” เหมวางสายแล้วมองไปที่ไผ่ที่กำลังนอนแกล้งหลับอยู่บนเตียง
‘ฟอด’
เหมหอมแก้มนิ่มของไผ่ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่รู้ว่าทุกบทสนทนาที่คุยกับพลอยและการกระทำเมื่อครู่ ไผ่รับรู้ทุกอย่าง…
“พี่เหมไปหาคนที่รักแล้ว…น้องไผ่ต้องยอมรับความเจ็บปวดให้ได้นะ”
................................
มาถึงครึ่งทางแล้วสำหรับเรื่องนี้ อิพี่เหมของเราก็ระบายความในใจให้เราฟังแต่ไม่ให้น้องฟัง
น้องไผ่เลยเข้าใจผิดไปตามระเบียบ อิอิอิ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาตามมาเม้นนะคะ