IT is เต็มสิบ (จบ)
วันแรกของการทำงานหลังผ่านวันหยุดยาวมา ทุกคนมีสีหน้าอ่อนล้าและดูเหมือนยังไม่พร้อมสำหรับการเริ่มต้นทำงานในวันเปิดงานวันแรก แต่ก็นับเป็นเหตุการณ์ปกติเพราะทุกครั้งที่วันหยุดยาวหมดไป พนักงานทุกคนจะกลับมาด้วยท่าทางแบบนี้และจะค่อย ๆ กระตือรือร้นมากขึ้นในวันทำงานวันถัดมา
ฝ่ายไอทียังคงทำงานอยู่ในห้องควบคุมระบบเหมือนทุกวัน ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิมแต่มีสิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้นมาและทำให้เต็มสิบยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ก็ผมไม่เข้าใจไงว่าฝ่ายไอทีทำงานกันยังไง ผมถึงได้ถามอยู่นี่ว่าตกลงจะให้ทำยังไงกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ดี”
เต็มสิบเอียงคอหนีบหูโทรศัพท์เอาไว้ รับฟังปัญหาที่ธีรพลบอกแล้วก็ใช้ปลายนิ้วขูดเล่นที่โต๊ะไปมา ยิ้มได้ทุกครั้งเวลานึกถึงสีหน้าและแววตาของธีรพลไปด้วยตอนที่เริ่มพูด เคยคิดว่าธีรพลน่ารำคาญมาตลอด น่าแปลกที่วันนี้รู้สึกว่าน้ำเสียงของธีรพลช่างดูออดอ้อนและน่ารัก ตอนนี้เต็มสิบรู้สึกอยากให้ธีรพลโทรมาบ่อย ๆ
“สงสัยคอมคุณมันโดนผมวางยามั้ง”
แกล้งพูดให้คนที่อยู่ปลายสายโมโห และธีรพลก็ทำเสียงหงุดหงิดไม่พอใจอย่างที่เต็มสิบต้องการ แต่แทนที่จะนึกรำคาญหรือไม่พอใจเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้เต็มสิบกำลังยิ้มกริ่มและเตรียมจะไปแก้ปัญหาให้กับธีรพลในทันที
“ผมกำลังไป อีก 1 นาที”
บอกเพียงแค่นั้นและเต็มสิบก็วางสาย ลุกขึ้นยืนและฮัมเพลงเสียงดังงุ้งงิ้ง อารมณ์ดีมีความสุข จนฐาปัตย์ต้องเอ่ยปากแซวรุ่นพี่
“น่าอิจฉาอะไรขนาดนี้”
แน่ล่ะ ต้องน่าอิจฉาอยู่แล้ว คนมีความรักก็น่าอิจฉาแบบนี้แหละ
“แน่นอนอยู่แล้ว ได้ข่าวว่ามึงก็น่าอิจฉาไม่เบาเหมือนกันนี่”
เต็มสิบแซวกลับรุ่นน้องแบบยิ้ม ๆ และลุกขึ้นยืนเพื่อไปแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ทันที และฐาปัตย์ก็ได้แต่มองตามและยิ้มอย่างมีความสุขไปด้วยกับเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นกับรุ่นพี่ ส่วนเรื่องของตัวเองจะว่าสุขก็ยังสุขได้ไม่เต็มที่ ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีกหลายเรื่อง และฐาปัตย์หวังจะให้เรื่องราวทั้งหมดผ่านไปได้ด้วยดีเช่นกัน
+++
เต็มสิบกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการรื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ของธีรพลออกมา สิ่งที่เต็มสิบทำเป็นงานใหญ่ที่พนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์หลายคนต้องหยุดยืนดู และธีรพลก็มองมาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ ใช้เวลาอยู่สองชั่วโมงเต็มสิบก็เริ่มประกอบคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันจนกลับสู่สภาพเดิม
“ตกลงมันเสียที่ตรงไหนเหรอคุณเต็มสิบ”
“จะให้ผมบอกจริง ๆ เหรอ”
ดูจากสิ่งที่เต็มสิบทำแล้วคงเป็นปัญหาใหญ่แน่ ๆ
“คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ยังจะใช้งานได้อีกมั้ย”
“จะให้ผมบอกจริง ๆ เหรอ”
คราวนี้สีหน้าของเต็มสิบดูอึดอัดใจและลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเมื่อถูกถามย้ำอีกครั้ง
“พอจะกู้ข้อมูลอะไรกลับมาได้บ้างหรือเปล่า ผมต้องทำยังไงบ้าง”
“จะให้ผมบอกจริง ๆ เหรอ”
เต็มสิบยังคงพูดประโยคเดิม ๆ และธีรพลก็ถอนหายใจยาว ลงมานั่งอยู่ข้าง ๆ เต็มสิบแล้ว มีข้อมูลที่สำคัญไม่มาก แต่ก็ไม่อยากทำขึ้นมาใหม่และเต็มสิบก็ถอนหายใจยาว นิ่งมองใบหน้าของธีรพลนิ่ง ๆ
“กู้ข้อมูลคืนได้หรือไม่ได้ คุณก็พูดมาเลย ผมจะได้รู้ว่าจะทำยังไงต่อ”
“งั้นคุณเข้ามาใกล้ ๆ ผมหน่อย ผมไม่อยากพูดเสียงดัง”
ธีรพลยอมขยับเข้ามาใกล้ ๆ เต็มสิบอีกนิด และเต็มสิบก็กระซิบกระซาบบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับธีรพลเสียงเบา
“คืออย่างนี้นะ คอมพิวเตอร์ไม่ได้เป็นอะไรหรอก พอดีปลั๊กมันหลวมแค่นั้นเอง ขยับนิดหน่อยก็ใช้ได้แล้ว”
“..........”
ธีรพลเริ่มรู้สึกว่าความโมโหของตัวเองกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ มองหน้าของเต็มสิบที่หัวเราะออกมาอย่างมีความสุขแล้วก็เริ่มอยากลุกขึ้นมาบีบคอเต็มสิบตอนนี้
“คุณเต็มสิบ นี่คุณคงว่างมากใช่มั้ย”
ไม่ได้ว่างมาก แต่อยากใช้เวลาอยู่กับประชาสัมพันธ์ที่หน้าตาดีที่สุดของบริษัทให้นาน ๆ แค่นั้น
เต็มสิบลุกขึ้นยืน แบมือขึ้นสองข้างและยักไหล่ ดูแล้วกวนประสาทเป็นที่สุด
“ก็นี่ไงผมก็เช็กให้อย่างละเอียดแล้ว ชอบหาว่าฝ่ายไอทีไม่ใส่ใจในการทำงานไม่ใช่เหรอ ผมก็เลยรื้อเครื่องให้เลยจัดให้อย่างเต็มที่ เช็กให้ทุกซอกทุกมุมแล้ว โอเคมั้ยล่ะแบบนี้”
เต็มสิบเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีที่น่าโมโหและกวนประสาทมากที่สุดและ ธีรพลไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ตกลงปลงใจคบหากับคนที่กวนประสาทขนาดนี้ลงไปได้
“คุณเต็มสิบ”
“ครับคุณธีรพล”
การประทะคารมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีอย่างเต็มสิบและประชาสัมพันธ์ที่หน้าตาดีที่สุดของบริษัทอย่างธีรพล ถือเป็นไฮไลท์ประจำวันตั้งแต่วันแรกของการทำงาน หลายคนชิน หลายคนรู้สึกเฉย ๆ และพนักงานที่เข้ามาทำงานใหม่บางคนรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เห็นแต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
ธีรพลและเต็มสิบยังมีเรื่องให้ไม่ถูกใจกันในระหว่างทำงานอยู่เกือบทุกวัน แต่ไม่ใช่การทะเลาะกันอย่างจริงจังเหมือนอย่างที่เคย สิ่งที่ทำก็เพราะตกลงกันแล้ว ว่าไม่อยากให้ความสัมพันธ์ในที่ทำงานทำให้พนักงานคนอื่น ๆ ให้ความสนใจ ก็เลยยังทำเหมือนเดิมเหมือนที่เคยทำ
เต็มสิบเดินกลับไปที่ห้องควบคุมระบบอย่างสบายใจ และไม่ลืมที่จะส่งข้อความหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่หน้าตาดีที่สุดในบริษัทอย่างธีรพล
“เต็มทำข้าวกล่องของมื้อกลางวันให้ธีไปกินข้างนอกให้แล้วอยู่ในรถ มีชาออแกนิกส์ด้วย แล้วเจอกันที่บ้านนะ”
ธีรพลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและพยายามบังคับสีหน้าให้ดูเป็นปกติมากที่สุดและพยายามจะไม่ยิ้มตอนที่ส่งสติ๊กเกอร์ตอบกลับไป
มีรูปกระต่ายยิ้มกว้างและแบกข้อความคำว่า OK ปรากฎขึ้นที่หน้าจอโทรศัพท์และเต็มสิบก็มองข้อความของธีรพลและยิ้มกว้าง หย่อนโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋าเสื้อและทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังคงตั้งใจทำงาน ตรวจเช็คระบบอย่างถี่ถ้วนเหมือนอย่างทุกวัน มีที่ต่างไปจากทุกวันเล็กน้อยก็ตรงที่ ตอนนี้เต็มสิบมีแฟนแล้ว และแฟนของเต็มสิบก็คือเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่หน้าตาดีที่สุดในบริษัทชื่อว่า ธีรพล นั่นเอง
(จบภาคเต็มสิบ ธีรพล)
ติดตามต่อได้ในภาค ฐาปัตย์
- IT is ฐาปัตย์.