{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -  (อ่าน 265254 ครั้ง)

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
อ้าว คดีพลิก 55555555555555
เอาแล้วไง

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
อ่าว สรุป 2คนนี้จริงๆหรอออ
แล้วทำไมรัญจำสัมผัสของราเชนทร์ไม่ได้อะ

ออฟไลน์ natty.poko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่ใช่แค่รัญนะที่แปลกใจ นักอ่านเองก็ตกใจ  :ruready

เฮ้ยยยย พลิกล็อกสุดๆ รอตอนต่อไปอย่างค้างๆ  :katai1:


ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
อ่าว สรุป 2คนนี้จริงๆหรอออ
แล้วทำไมรัญจำสัมผัสของราเชนทร์ไม่ได้อะ

เอ่อ......คนอ่านก็งง ไปด้วยนะรัญ
ราเชนทร์ วัวเคยขา ม้าเคยขี่
จะมีบทรัก ที่แตกต่าง เปลี่ยนจากเดิม
ประทับใจรัญ จนรัญ จำไม่ได้เลยเหรอ
ดูจากท่าทางคีรี ที่หึง โกรธ จนบีบแก้วแตก
แล้วคีรี เคยเจอรัญ มาก่อนใช่ไหม
แสดงว่า ราเชนทร์ คีรี จับตามองรัญ ตลอดสินะ
ควีน จะมีบมบาทบ้างไหมเนี่ย อยากเจออ่ะ คิดถึง :mew1: :mew1: :mew1:
ขนาดพี่แว่น บิชอป ยังมีบทเลย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ที่จำไม่ได้เพราะคาดไม่ถึงค่ะ ตอนคบกันราเชนทร์นำตลอด สมฉายาเชื้อรา เอ๊ย ราเชนทร์ = ราชาเอาแต่ใจ พอมาเจอในปริ้นส์รูม หนูรัญได้ขย่ม ซึ่งปกติไม่มีทางได้ทำเเน่ ก็เลยคิดว่าไม่ใช่แน่นอน ตัดชื่อราเชนทร์ออกไปทันทีค่ะ ส่วนคืนสองความจริงก็ไม่มั่นใจ เพราะราเชนทร์ไม่เล่นท่ายากค่ะ ไม่คุ้นเคยแรง 5555

ส่วนน้องนิลกับพี่คิงมามีแจมแน่ค่ะ แต่ตอนท้ายเรื่องเลย ^ ^

ออฟไลน์ shannara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
แอร้ย จะมีลากกันไปทรีซัมมั้ยเนี่ยยยยยยยย
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ EndAceNs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รู้สึกวกวนสับสนงงงวย ยิ่งกว่าเคมีที่จะสอบพรุ่งนี้อีกค่ะ  :really2:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
ลุ้นกันต่อไปอีก ว่าจริงๆรู้จักหรือไม่รู้จัก

ออฟไลน์ shiroinu

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
เพิ่งมาติดตาม  :o8:  :-[ โอ้ยยย สนุกมากกกกก จริงๆเราก็ไม่ค่อยชอบแนวนายเอกเคยมาแล้ว หรือ แบบมีเซ็กส์กับใครก็ได้อ่ะ( เพราะว่า ตามความคิดของเราคิดว่าอยากให้มีเซ็กส์กับคนที่คบอยู่ กับคนที่จริงจังด้วยมากกว่า - -   :hao4: ) แต่เรื่องนี้บรรยายดี ทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยตะขิดตะขวงใจกับแฟนคนก่อนๆหน้านี้ อาจเพราะ ไม่ได้ลงลึกเรื่องแฟนเก่า ส่วนเรื่องเซ็กส์ที่ปริ้นรูม เพราะเป็นพระเอกทั้งคู่ก็เลยไม่รู้สึกไม่ชอบเหมือนกันมั้ง5555 (อันนี้แนะนำส่วนตั้วส่วนตัวของเรานะ555 ไม่ต้องคิดมาก แค่แนะนำเผื่อจะได้นักอ่านแนวที่เราอ่านมาติดตามเยอะขึ้น  :katai2-1: )  ยังไงก็ตาม จะติดตามต่อยาวๆค่ะ  :ruready  #ทีมคีรีขัน นะ เพราะนางร้อนแรง  :katai3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
ขำชื่อทีม5555เลือกไม่ถูกเลยจริงๆ

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
#อะไรดี 55เลือกไม่ถูกค่ะ คีรีขันก็เร้าใจแอบโฉดดี ส่วนเชื้อราก็น่ารักดูโง่ๆ :laugh:

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
 :hao7:
รอ
ทีมคีรี

ออฟไลน์ MOMAMi_96

  • เรื่อยๆ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
คุณคีรีน่ารักมากๆเลยอ่ะโอ้ยยยยนนน :katai2-1:

ออฟไลน์ vipsky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หูยยยยยย เดาผิด!!! TwT

สองคนนั้นมันยังไง เล่นเกมอะไรกันอยู่ ไม่อยากเดาแล้ว เดี๋ยวเดาผิดอีก ฮือ 5555555

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
อ๊อยยยยย.....น่ากลัวอ่ะ ผู้แต่ละคนของรัญ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
คือเริ่มซัมซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆละ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ซวยแล้วน้องรัญญ์   :ling3:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ตอนแรกก็งงอะว่าตกลงใครเป็นใครพอมาอ่านอีกรอบ อ้อออ เป็นแบบนี้นี่เอง ดูท่าว่ารัญจะงานเข้าแบบชิ้นใหญ่ๆสองชิ้นเลยแหละ ก็แต่ละคนใช่ย่อยซะที่ไหนเพราะงั้นยังไม่เลือกทีมก่อนดีกว่าขอดูไปสักพักนะ ฮ่าๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ VarainDark

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รัญสุดยอดมาก คิดวิธีนี้ได้ไง

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนแรกเชียร์คีรีนะ แต่พอเห็นชื้อทีม....ย้ายมาทีมเชื้อราดีกว่า แลเกรียนดี 555  :hao7:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :mc4: :mc4:เจอดีแน่ๆคีรีไม่ได้มาเล่นๆนะคงจริงมาดเงียบๆเรื่องบนเตียงคือดีเลิศ#ทีมคีรี

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
เห็นมีคนอ่านตอนที่แล้วงงๆ เลยขออธิบายเพิ่มก่อนเข้าตอนต่อไปกันค่ะ
รัญไปปริ้นส์รูมสองครั้ง นอนกับผู้ชายสองคน
ครั้งแรก -> หนังยางอันเก่าที่ใช้มาอย่างยาวนาน -> รัญคิดว่าเป็นคีรี เพราะราเชนทร์เป็นประเภทเอาแต่ใจ หัวสูง ตอบคบกันเชื้อราไม่เคยให้รัญนำมาก่อน ครั้งนี้หนูรัญได้ขย่ม ก็เลยตัดออกทันที เพราะมั่นใจว่าไงๆ เชื้อราที่ยังไม่เปลี่ยนตัวเองก็ไม่ใช่แน่นอน ไม่มีทางเป็นไปได้!
ครั้งสอง -> หนังยางเส้นใหม่ที่ภาวินให้มา -> คิดว่าเป็นราเชนทร์ แต่ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันเพราะเชื้อราไม่ได้เล่นท่ายาก แต่ในเมื่อเชื้อราแสดงตัวว่าเป็นหนึ่งในสอง รัญตัดทิ้งครั้งแรกไม่คิดจะโยงด้วยเลย ก็เลยมาลงที่ครั้งสองแทน
พอคีรีคืนหนังยางมา หนูรัญเลยแทบไม่ดูเลยว่าเป็นเส้นใหม่เส้นเก่า จนภาวินทักว่าเป็นเส้นใหม่ ทฤษฎีเลยพลิก!
เท่ากับว่า ครั้งแรก -> ราเชนทร์ / ครั้งสอง -> คีรี
แต่เพราะยังไม่มั่นใจ รัญเลยพิสูจน์จากรอยกัดในคืนแรกที่ฝากไว้จมเขี้ยว
และก็โป๊ะเชะค่ะ!
----จบทีเซอร์ อ่านตอนต่อไปได้เลยค่ะ ----------


ตอนที่ 7 : พบและจาก

ความโชคดีของผมคือหลังเกิดเรื่องคีรีก็ขอตัวกลับไปก่อน

แต่ความโชคร้ายอยู่ที่พอเลิกงานเสร็จท่านประธานก็กระชากแขนผมพาขึ้นรถ ไอ้แมนยังไม่ทันห้าม ผมยังไม่ทันปฏิเสธ รถบีเอ็มสีขาวก็พุ่งทะยานออกไปทันที

เห็นเงาราเชนทร์ยืนมองอยู่ลิบๆ ตรงกระจกหลัง รู้สึกคลับคล้ายกับมีเงาอาฆาตตามติด แต่มันน่าแปลก ความจริงทุกอย่างก็แปลกไปทั้งหมดนั่นแหละ เพราะราเชนทร์ไม่ได้ขับรถตาม หรือแสดงความหึงหวงอะไรนอกจากมองนิ่งๆ จนลับตา

สรุปแล้วระหว่างพวกเขาสองคนคืออะไรกันแน่

เพื่อน? ศัตรู?

เอ่อ...คงไม่ใช่คนรักเก่าหรอกนะ

คิดแล้วก็ขนลุกซู่ ราเชนทร์กับคีรีตัวพอๆ กัน ถ้าจะให้คิดว่าราเชนทร์โดนกด...ผมก็ทำใจไม่ได้เพราะอย่างน้อยผมก็โดนเขากด แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคีรีโดนจับกด สุดท้ายท้ายสุด ก็ได้ผลสรุปเดิมเพราะผมเองก็เสร็จท่านประธานไปแล้วเหมือนกัน

ผลลัพธ์เลยออกมาสยดสยองมาก

พอนึกแบบนี้แล้วการโดนกระชากขึ้นรถกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย ผมค่อยๆ ระงับความคิดไม่ให้เตลิด แล้วตัดสินใจรัดเข็มขัดเพื่อความปลอดภัย

“คุณจะพาผมไปไหน”

“...”

“คุณคีรี”

มองเสี้ยวหน้าที่ตั้งอกตั้งใจขับรถแฝงด้วยรังสีมาคุแปลกๆ ทำเอาต้องปิดปากเงียบ ดูสิดู ขนาดบีบแก้วแตกคามือ คีรียังมีแค่รอยข่วนไม่ต้องพันแผล อะไรจะหนังหนาขนาดนี้...

แต่พอนึกถึงรอยฟันตรงคอของราเชนทร์ ผมก็กุมขมับ

ไม่รู้จะเอายังไงต่อแล้ว

“ทำไมพวกคุณถึงต้องมายุ่งกับผมด้วย” ผมถามด้วยความสับสน “เรื่องที่ปริ้นส์รูมทั้งสองวันนั้น สรุปแล้วเป็นยังไงกันแน่ ทำไมราเชนทร์ถึงอยู่ที่นั่น แล้วทำไม...คุณถึงมาหาผมในวันที่สอง”

ผมมองหน้าคีรีอย่างอึกอัก

“เราเพิ่งรู้จักไม่ใช่หรือครับ”

“ฉันรู้จักเธอมาก่อนหน้านี้แล้ว”

“ราเชนทร์ด้วยใช่มั้ย พวกคุณสองคนรู้จักกันมานานแล้ว”

คีรีไม่ตอบ แต่ความเงียบบางครั้งก็เป็นทั้งการตอบรับ ไม่ก็พยายามหลีกเลี่ยงคำถาม

“พวกคุณคงไม่ใช่...” ผมเหลือบมองข้างทางอย่างลังเล “คนรักกันหรอกนะ”

วินาทีนั้นผมแทบอุทานออกมาเพราะรถบีเอ็มสีขาวเลี้ยวปาดหน้าเข้าจอดข้างทางกะทันหันจนหัวเกือบกระแทกโครมกับหน้าต่าง โชคดีเป็นบ้าที่รัดเข็มขัดแล้ว แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้น...อย่าบอกนะว่าผมเดาถูก?

งั้นลองตั้งทฤษฎีใหม่กันดีกว่า

ราเชนทร์ถูกผมหักอกจนเจ็บช้ำ ระหว่างนั้นก็เจอกับคีรีช่วยดามใจ พวกเขาสองคนร่วมมือกันแกล้งผมที่เป็นแฟนเก่า โดยให้ราเชนทร์ทำตัวเหมือนเดิมโดยแสร้งจีบผม จากนั้นคีรีก็ตามเข้ามาสมทบ หลอกให้ผมตายใจหลงรักทั้งคู่ จากนั้นก็สลัดทิ้งแล้วเฉลยตอนหลังว่าความจริงแล้วพวกเขาคบกันอยู่

เป็นการเอาคืนที่เจ็บปวดมาก

...แล้วทำไมมันถึงได้เข้าเค้าที่สุดเท่าที่เคยสันนิษฐานล่ะวะเนี่ย!

“ถ้าพวกคุณคบกันจริง ผมก็ไม่ยุ่งด้วยหรอก ปล่อยผมไปตามทางของผมเถอะ ส่วนพวกคุณก็ขอให้โชคดีแล้วกัน” ผมที่ยังตื้อกับทฤษฎีรีบปลดเข็มขัดแล้วเตรียมลงจากรถ แต่โดนคีรีกระชากแขนด้วยเรี่ยวแรงไม่ธรรมดาจนตัวถลาแทบไปเกยกับตักของเขา

“คุณหรัญญ์”

ผมเงยหน้าตามเสียงเรียก ยังคงบ้าใบ้เด๋อด๋า แต่แล้วก็ต้องเรียกสติกลับมาแทบไม่ทันเมื่อคีรีโน้มตัวจูบผมอย่างรุนแรง ปลายลิ้นสอดแทรกเข้ามาพันเกี่ยวอย่างดุเดือดจนผงะหนี แต่เพราะโดนรั้งตัวเอาไว้เลยทำได้แต่ครางประท้วงและเงื้อมืออีกข้างตบหัวเรียบเปล้นั้นอย่างจัง

คีรีหยุดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะจับแขนผมอีกข้างแล้วรุกรานต่อโดยไม่ยอมให้ขัดขืน คราวนี้ผมเชื่อแน่นอนแล้วว่าเขาคือเจ้าของเซ็กซ์ในคืนที่สองจริงๆ นี่มันเป็นปฏิกิริยาเดียวกับตอนผมเหยียบเท้าเลยไม่ใช่รึไง

คราวนี้ผมตัดสินใจกัดลิ้นอีกฝ่าย ใส่เต็มแรงไม่มียั้งเพราะไม่คิดจะเมตตาคนที่กระทำการจาบจ้วง กลิ่นเลือดคาวเต็มปาก ส่วนคีรีนั้นไม่ต้องพูดถึง ผลักตัวผมออกแล้วกุมปากที่เต็มไปด้วยเลือดสดๆ ทะลักออกมา

ดวงตาใต้กรอบแว่นจ้องถลึงอย่างเกรี้ยวกราด

ส่วนผม...ผมแลบเลียคราบเลือดที่เปรอะบนริมฝีปากแล้วกลืนลงคอ รสชาติขมฝาดไม่อร่อยสักนิด

“พูดได้รึเปล่าคุณคีรี คุณยังไม่ตอบผมเลยนะ”

ผมแตะนิ้วบนปลายลิ้น พอเห็นของเหลวสีแดงที่ยังเหลืออยู่ก็ยื่นหน้าไปใกล้ แลบลิ้นออกมา

“ดูหน่อยสิว่าในปากผมยังมีเลือดของคุณอีกรึเปล่า”

ดวงตาของคีรีจ้องผมเร่าร้อนจนแทบมอดไหม้

ผมอมยิ้มก่อนผละตัวออกมา ถึงจะยั่วก็ต้องให้มีลิมิต อย่างน้อยเมื่อครู่ก็ทำให้เห็นว่านอกจากความโกรธจนแทบจะบดขยี้ผมแล้วยังมีความรู้สึกอย่างอื่นแฝงอยู่ด้วย

เท่ากับว่าทฤษฎีที่เขากับราเชนทร์คบกันตกไป

เรื่องจูบยังพอกล้อมแกล้มทำเนียนได้ แต่คงไม่มีคนปกติที่ไหนมองแฟนเก่าคนอื่นด้วยสายตาอย่างนี้ได้หรอก จะให้แสร้งทำก็ยิ่งยาก เพราะเวลาเดือดจัดขึ้นมา ใครจะประคองสติปั้นหน้าเล่นละครได้อีก

ถ้าจะดูกันที่ความจริงใจ ก็ต้องวัดเอาตอนโมโหจัดๆ นี่ล่ะ

น่าเสียดายที่ผมไม่เคยทำให้ราเชนทร์โกรธสุดๆ ได้สักที

“ขอบคุณสำหรับคำตอบ ผมไปล่ะ” คราวนี้ผมเดินลงจากรถโดยสะดวกเพราะคีรียังต้องพยายามห้ามเลือดก่อนจะจุกคอตาย ก็ผมเล่นไม่ยั้งแรงเลยนี่นา เฮอะ ผมเองก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง จะไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวเลยได้ยังไง

แต่พอเดินบนถนนผมก็เริ่มเครียด เพราะแทบไม่มีรถสวนไปมาเลย แท็กซี่ไม่ต้องพูดถึง นี่อาจจะเป็นทางลัดในซอยเปลี่ยวสักอย่าง เพราะขนาดพยายามมองหาแผ่นป้ายว่าอยู่ตรงไหนในประเทศไทย ผมยังหาไม่เจอ

แล้วอีแบบนี้จะกลับยังไงเนี่ย

ผมเดินไปได้สามก้าว ก็ตัดสินใจถอยหลังกลับไปเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งอีกครั้ง ไม่ลืมแสดงน้ำใจโดยการส่งผ้าเช็ดหน้าให้คีรีที่ยังหาของห้ามเลือดไม่ได้

ท่านประธานมองผมอย่างประหลาดใจ ดูจะผ่อนอารมณ์บ้างแล้วเลยยอมรับผ้าไปอุดแผลในปาก

“สลับที่กันมั้ยครับ” ผมเสนอ “ผมจะขับรถไปส่งคุณที่โรงพยาบาลเอง”

แน่นอนว่าคนอย่างหรัญญ์คงไม่จู่ๆ ก็มีน้ำใจขึ้นมาได้หรอก แต่ผมคิดว่าอย่างน้อยติดรถคีรีไปที่โรงพยาบาล น่าจะมีโอกาสเรียกรถกลับหอได้ดีกว่ามายืนรอความหวังในทางเปลี่ยว

คีรีไม่มีทางเลือก จำใจสละที่นั่งให้ด้วยสีหน้าซีดเผือดหมดอารมณ์จะทำอนาจารโดยสิ้นเชิง

แหม ได้ขับรถบีเอ็มราคาหลักล้านถือเป็นบุญมือบุญเท้าจริงๆ

ผมนั่งแทนที่คีรีแล้วขับทางตรงไปเรื่อยๆ เพื่อให้หลุดจากซอยเปลี่ยวนี้ พอออกถนนใหญ่มองดูป้ายบอกทางก็แวะจอดเพื่อเสิร์ชหาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดผ่านอินเตอร์เน็ต แล้วค่อยเปิดจีพีเอสขับพาเจ้าของรถไปถึงที่หมาย

พอรถจอดสนิทตามต้องการผมก็เตรียมเผ่น ไม่คิดจะหันมาบอกลาคีรีเพราะหมดธุระกับเขาแล้ว แต่ท่านประธานยังไม่หายซ่า มายืนดักหน้าผมเฉย

“ผมง่วงแล้วนะครับ”

คีรีเหมือนปูนปั้นที่ไม่ขยับ

เอาไงดีล่ะเนี่ย กระโดดถีบยอดอกเลยดีมั้ย แต่ดูจากหนังหนาๆ แล้วให้ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายเกรงว่าจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัวมากกว่า แต่จะให้เล่นจุดอ่อนเข้าไปกัดลิ้นจิ้มลูกตาก็ออกจะเกินไปหน่อย

ระหว่างยืนดูเชิงกันอยู่นั้นคีรีก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความแล้วหันหน้าจอให้ผมอ่าน

‘ชอบราเชนทร์ขนาดนั้นเลยเหรอ’

...แล้วมันไปโยงกับราเชนทร์ได้ยังไงล่ะเอ้อ

พอเห็นผมนิ่ง คีรีก็ก้มหน้าก้มตาพิมพ์อีกครั้ง อยากบอกว่าสภาพท่านประธานที่เลือดท่วมเปรอะเต็มคอเสื้อและคาบผ้าเช็ดหน้าห้ามเลือดอยู่กลางลานจอดรถที่โรงพยาบาลถ้าถ่ายเอาลงในบอร์ดเรื่องเล่าสยองขวัญคงเป็นที่ฮือฮาน่าดู

‘ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ใช่มั้ย’

ผมไม่ตอบ ส่วนคีรีก็ไม่ละความพยายาม

‘ถ้าชอบมากขนาดนั้น ทำไมถึงไม่คบกันต่อล่ะ’

คราวนี้ผมหลุดหัวเราะออกมา แต่เป็นเสียงหัวเราะฝืดเคืองที่ออกจะเย้ยหยันมากกว่า

“ถ้าความรักความชอบทำให้อยู่ด้วยกันยืด ใครจะอยากเลิกกันล่ะครับคุณคีรี” ผมถามกลับเสียงเรียบ พอนึกย้อนแล้วก็อดเจ็บในอกไม่ได้ ใช่ ตอนนี้ผมก็ยังรู้สึกดีกับราเชนทร์ พวกเราคบกันแค่สามวันเองนะ! สามวันที่ควรจะรักกันหวานชื่น แต่ต้องเลิกกะทันหันเพราะผมไม่ใช่คนที่จะมายอมทนยอมรอ 

ช่วงเวลาแค่นั้นก็ต้องเป็นอะไรที่ยังฝังลึกอยู่แล้ว ไม่จางหายไปง่ายๆ หรอก

‘ทำไมถึงเลิก’

คำถามนี้ทำให้ผมนึกฉงน ถ้าเป็นเพื่อนกันจริง...ทำไมคีรีถึงไม่รู้ล่ะว่าผมเลิกกับราเชนทร์เพราะอะไร

หรือว่าเจ้าตัวปัญหานั่นไม่กล้าเล่าถึงข้อเสียตัวเองกันแน่นะ

“ผมก็แค่เบื่อ” ผมตอบพลางควานหาบุหรี่ ก่อนจะนึกได้ว่าเพราะเมื่อวานยืนสูบจนโดนโจรกระจอกปล้นเลยเอาออกจากกางเกงไปแล้ว “เบื่อที่จะต้องทะเลาะ เบื่อที่จะต้องปรับความเข้าใจ”

พอไม่มีของช่วยระบายความประหม่า ผมจึงเผลอยกมือเสยผมกึ่งลนลาน

“ราเชนทร์กับผมต่างกันเกินไป ถ้าแค่เจอหน้าคงไม่รู้หรอก แต่พออยู่ด้วยกันก็ยิ่งเห็นข้อแตกต่างชัด”

แล้วทำไมถึงได้พล่ามมากขนาดนี้

ราวกับว่าผมกำลังระบายความในใจที่ค้างคาอยู่ในอกมากกว่าตอบคำถามของคีรีซะอีก

‘แล้วฉันล่ะ’

“ผมกับคุณก็ต่างกันเกินไป” ผมตอบโดยไม่ต้องคิด ตอนนี้ทฤษฎีทั้งหลายในหัวเริ่มผสมปนเปกันจนจับจุดไม่ถูก

ทำไมถึงถามอย่างนี้ ทำไมถึงมองอย่างมีหวัง แล้วสายตานั้น...สรุปแล้วไม่ใช่แค่ความพิศวาสชั่วคราว ติดใจรสเซ็กซ์ แต่คีรีคิดกับผมจริงจังงั้นเหรอ?

“คุณชอบผมตรงไหน”

‘ฉันไม่รู้’

ช่างเป็นคำตอบที่ปัดความรับผิดชอบสิ้นดี แล้วอย่างนี้ผมจะเดายังไงต่อกันล่ะ!

“ไม่ใช่ว่าคุณแค่อยากเอาชนะราเชนทร์หรอกนะ”

“ไม่ใช่!”

ผมสะดุ้งเมื่อจู่ๆ คีรีก็ตะโกนออกมา แม้จะออกเสียงไม่ค่อยชัดเพราะเจ็บลิ้นและมีผ้าซับเลือดอยู่ในปากก็ตาม

เป็นการพิสูจน์อย่างดีว่าคำพูดของเขาเชื่อถือได้

แต่จะมีความนัยอะไรซ่อนเร้นอยู่รึเปล่านี่สิ

“...ถ้าคุณชอบผมจริงก็ควรจะปล่อยผมไป ก่อนที่ผมจะเกลียดคุณ” ผมลองเดิมพัน แม้จะแลกกับที่อาจจะสูญเสียลูกค้ามือเติบไปก็ตาม แต่ยังไงซะ สภาพของผมและเขาในตอนนี้ก็แทบจะเข้าหน้ากันต่อไม่ติดแล้ว

คีรีที่จู่ๆ ก็รุกเข้าหาอย่างจาบจ้วง และผมที่กัดลิ้นเขาจนแทบขาด

ผมน่ะยังพอปั้นหน้าทักทายในคลับได้อยู่หรอก แต่คีรีเนี่ยสิ...

การที่เขาถามผมมากมายขนาดนี้ รั้งตัวผมไว้ตรงนี้ ไม่ใช่ว่าตั้งใจให้ถึงบทสรุปหรือไง

ก็ดีเหมือนกัน

ในเมื่อเขารู้ว่าเรื่องระหว่างเราเป็นไปไม่ได้ เหมือนกับที่ผมกับราเชนทร์คบกันไม่รอด จะได้จบๆ กันสักที

แต่คีรีก็ทำให้ผมตกตะลึงครั้งยิ่งใหญ่

เขาไม่เพียงดึงผ้าชุ่มเลือดออกจากปาก ยังเดินเข้าหาผมและเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกลัวลิ้นได้รับการกระทบกระเทือน

“คบกันฉันเถอะ”

“อะไรนะครับ”

ผมคิดว่าตัวเองคงหูฝาด

“คบกันฉันเถอะ หรัญญ์”

เป็นครั้งแรกที่เขาไม่เรียกผมนำหน้าด้วย ‘คุณ’ และไม่เอ่ยตะกุกตะกักเวลาเอ่ยเรื่องความรัก

นี่เขาเจ็บจนเพี้ยนรึไง ไม่สิ นี่เขาจำไม่ได้รึไงว่าเพิ่งโดนผมกัดจนลิ้นเกือบขาดน่ะ!

ไม่สิ พอมาดูใกล้ๆ เห็นปากแดงๆ ของเขาแล้วก็ทำให้ผมสำนึกว่าลิ้นเขาคงจะหนาเหมือนเนื้อหนัง ถ้าเป็นคนปกติจะยังพูดยังทนได้ขนาดนี้เหรอ บางทีแผลเขาอาจไม่สาหัสมาก ก็แค่เลือดไหลจนดูน่ากลัวหน่อยเท่านั้นเอง...

เท่า-นั้น-เอง-เนี่ย-นะ?

ขนาดผมคิดเองเออเองยังไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ำ!

“ผมไม่ใช่คนที่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบหรอกนะ ถ้าคุณทำอะไรแผลงๆ ขึ้นมา ผมไม่อยู่เฉยแน่ๆ”

“ฉันรู้” พูดจบคีรีก็นิ่วหน้าเล็กน้อยและก้มหน้ากุมปาก แสดงว่าเส้นประสาทด้านความเจ็บปวดยังปกติดี

“แล้ว...?”

“ฉันขอโทษ ฉันผิดเองที่ฝืนใจเธอ”

เว้ยเฮ้ย เล่นกันง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอ!?

ผมนิ่งไปแล้ว นิ่งไปด้วยความอึ้งเพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้รับคำขอโทษจากเขา เพราะถ้าเป็นราเชนทร์ล่ะก็อย่าหวังเลยว่าจะยอมรับผิด แต่...ผมไม่ควรจะเปรียบเทียบคีรีกับคนอื่น แม้ว่าพวกเขาสองคนจะรู้จักกันก็ตาม

“คบกับฉันเถอะ”

ความพยายามจะฝืนพูดของคีรีทุลักทุเลจนผมแทบจำการใช้กำลังของเขาไม่ได้

คีรีที่จริงจังกับทุกอย่าง ขี้อายและซื่อตรง

คีรีคนที่ผมเคยคิดและตอนนี้ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า...น่ารัก

เป็นผมเองรึเปล่านะที่ฟั่นเฟือน หรือว่าภาพท่านประธานที่ดูอ่อนแรงราวกับผู้ถูกกระทำตรงหน้านี้ทำให้ผมรู้สึกว่า...อย่างน้อยผมก็คุมเขาได้ และคีรีไม่ใช่ราเชนทร์ คนที่ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ดันทุรังให้ทุกสิ่งแย่ลงคนนั้น

ถึงจะน่ากลัวอยู่บ้าง แต่เขาก็แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา

ไม่ได้หมกเม็ดลับหลังอย่างราเชนทร์

ให้ตายเถอะ สุดท้ายผมก็เอาพวกเขาสองคนมาเทียบกันแทบทุกอย่าง และนั่นทำให้ผมเพิ่มคะแนนคีรีนำขึ้นมาอีกหลายแต้ม

“ตอบผมมาคำถามเดียว แล้วผมจะให้คำตอบคุณ”

คีรีพยักหน้ารับ ตอนนี้เขาเจ็บจนหน้าเขียวไปหมดแล้ว

“ที่คุณกับราเชนทร์ตามจีบผม คงไม่ใช่ว่ากำลังเล่นเกมปั่นหัวอะไรเทือกนี้อยู่หรอกนะ ถ้าเกิดคบกันขึ้นมา คงไม่ได้วางแผนสลัดทิ้งทันทีเป็นการเอาคืนหรอกใช่มั้ย”

ออกจะสิ้นคิดไปหน่อยที่ถามออกไปทื่อๆ เพราะถ้าเป็นจริงขึ้นมาใครล่ะจะตอบว่าใช่ แต่ไม่รู้ทำไม ผมกลับเชื่อว่าคีรีจะไม่โกหก

ท่านประธานที่คล้ายจะเป็นซอมบี้ขึ้นทุกทีส่ายศีรษะทันที

“ไม่ใช่แน่นอน”

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีข้ออ้างอะไรให้ผมปฏิเสธ

คำถามที่คีรีเกริ่นไว้ก่อนหน้านี้...ผมตัดสินใจได้แล้ว

“ตกลง”







กฎข้อที่ว่าผมจะไม่คบกับลูกค้านั้นยังส่งผล เพราะหลังจากพาคีรีไปหาหมอ ผมก็กำชับเขาไม่ให้มาหาในที่ทำงานอีก มันทำตัวไม่ถูกน่ะครับ และผมก็ไม่อยากให้แมนหรือภาวินรู้ด้วย

คีรีตอบตกลงอย่างว่าง่าย สารภาพว่าการที่ต้องเจียดเวลาไปนั่งเฝ้านั้นทำให้เสียสุขภาพ ข้อห้ามของผมถือว่าช่วยเพิ่มเวลาพักผ่อนอย่างที่เขาต้องการพอดี

ช่างประจวบเหมาะและง่ายดายกว่าตอนคบกับราเชนทร์เป็นไหนๆ

ถึงจะแอบปวดใจอยู่บ้างที่เสียลูกค้าหลักไป แต่การเริ่มต้นใหม่ด้านความรักก็ถือว่าไปได้สวย

...ละมั้งนะ

แน่นอนว่าผมไม่ได้ชอบคีรีมากมายอย่างที่เขาชอบผม แต่การตกลงคบกันก็ใช่ว่าจะต้องรักหัวปักหัวปำนี่นา จะว่าเป็นนิสัยเสียของผมก็ได้ เหมือนกับตอนติดใจปริ้นส์รูมนั่นแหละ เวลาผมรู้สึกสนใจอะไรขึ้นมา ก็มักจะมีความโอนเอียงสูงกว่าปกติ

แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้นานแค่ไหน

อันที่จริงผมค่อนข้างหวั่นกับเซ็กซ์ของคีรี แต่เพราะเขาโดนเย็บลิ้นไปหลายเข็ม ทำให้กินยา กินข้าวได้น้อย แถมยังไข้ขึ้นสูงจากอาการอักเสบ นับตั้งแต่เริ่มคบพวกเราจึงยังไม่มีอะไรกันเลย ขนาดจูบยังทำได้แค่แตะริมฝีปากเบาๆ

ค่อนข้างดีกับผมนะว่ามั้ย

แต่หลังจากคบกันได้หนึ่งวัน...แค่หนึ่งวันเท่านั้นเอง ผมก็เห็นปัญหา

‘เวลา’

ครับ คีรีเป็นประธานบริษัท แถมยังมีสาขาย่อยอีกมากมายไม่นับพวกหุ้นส่วนที่เขามักถือมาบริหาร ทำให้ต้องทำงานแทบทุกวัน บวกกับเขาเป็นประเภทบ้างาน ขยันขันแข็ง ขนาดป่วยก็ยังลากสังขารไป

ประเด็นก็คือ...ตอนเขาออกไปข้างนอก ผมกลับมาพอดี

แต่พอเขากลับเข้ามา พวกเรากินข้าวกันแค่มื้อเดียว ผมก็ต้องไปทำงาน

ตอนตีสามเขาลงทุนมารับผมก็จริง แต่พอถึงบ้านนัวเนียกันได้ไม่เท่าไหร่ พวกเราก็เข้านอน

จากนั้นก็วนลูปเดิม

ถ้าเป็นคนอื่น อาจจะพยายามประคับประคองความสัมพันธ์ มองว่าไม่เป็นไรหรอก แค่ใจเราสื่อถึงกัน ดูแลกันเท่าที่ทำได้ก็พอแล้ว แต่สำหรับผม ถ้าเห็นปัญหา ผมจะไม่มองเมินทำเหมือนว่าเป็นประเด็นเล็กน้อย

เพราะนี่น่ะคือเรื่องสำคัญเลยล่ะ!

ลองนึกดูสิ หนึ่งวันไม่เท่าไหร่ หนึ่งเดือนยังทนได้ แต่ถ้าเป็นหนึ่งปี สองปี สามปี คีรีจะยังคงความรู้สึกได้มั้ย ถ้าเจอคนใหม่ที่มีเงื่อนไขเวลาที่ดีกว่าผม เขาจะไม่หวั่นไหวเลยหรือไง

หรือจะยกตัวอย่างที่ผมเองก็ได้ ทำงานกลางคืน เจอลูกค้าติดพัน เหนื่อยแสนเหนื่อยไม่ว่า ยังต้องพยายามหาเวลาให้กับคนรักอีก ผมจะทนคบได้นานแค่ไหนกันล่ะ

ถ้าคิดว่ายังไงก็ไปกันไม่รอด ผมจะไม่ฝืน

ด่าว่าผมขี้ขลาดก็ได้ แต่ผมแค่ไม่อยากให้ความสัมพันธ์มันลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผมน่ะถึงขนาดวางแผนเก็บเงินเพื่อชีวิตโสดยามบั้นปลายเชียวนะ เตรียมใจอยู่แล้วว่ายังไงก็คบกับใครไม่ได้นาน เพราะเมื่อใช้ชีวิตด้วยกันมากกว่าหนึ่ง ย่อมเกิดปัญหา และปัญหาเหล่านั้นมักแก้ไขไม่ได้ด้วยตัวคนเดียว

ให้คีรีเลิกทำงานงั้นเหรอ ยากซะยิ่งกว่ายาก

ให้ผมนอนเฉยๆ งั้นเหรอ

โทษเถอะ ชีวิตผมยังไม่น่าเบื่อพอหรือไง ถึงผมจะไม่ชอบความวุ่นวายที่คลับ แต่ก็ควรให้ผมมีสินทรัพย์ส่วนตัวบ้างสิ

หลังจากคิดตกและตัดสินใจแน่วแน่ ในวันที่สาม เวลาเดียวกับที่ผมบอกเลิกราเชนทร์ ผมก็บอกเลิกคีรี

“ฉันรู้อยู่แล้ว...” และนั่นคือคำตอบของเขา ด้วยสภาพลิ้นที่ยังไม่ทันหายดีด้วยซ้ำไป

“ไม่ใช่ว่าผมจู่ๆ ก็อยากเลิกหรอกนะครับ แต่ผมคิดมาดีแล้ว”

“ฉันรู้...”

ท่าทางของคีรีสงบกว่าที่ผมคิด คนอารมณ์รุนแรงอย่างเขาน่าจะอาละวาดเขวี้ยงปาข้าวของสิ แต่ว่า...ช่างแตกต่างเหลือเกิน เพราะตอนผมบอกเลิกราเชนทร์ คนที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอกลับโวยวายจนบ้านแทบแตก

“ผมขอโทษ”

คีรีนิ่งเกินไปจนผมต้องเป็นฝ่ายพูดพล่าม เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกผิดจนต้องขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทำไมถึงไม่ถามสักคำ ทำไมถึงยอมรับง่ายขนาดนี้

“ผมขอโทษ...”

แย่ชะมัด ผมคงไม่ได้ชอบคีรีจริงๆ หรอกใช่มั้ย แต่อย่างน้อยในเวลาสามวันที่ผ่านมา เขาก็ดูแลผมดีเหลือเกิน ไม่เคยฉุนเฉียวอย่างที่เป็นกังวล กลับกัน เขาทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยซะด้วยซ้ำ

“ผมขอโทษ แต่ผมทนไม่ได้...ถ้าเกิดคบกันนานไปกว่านี้แล้วต้องเลิกกัน ผมคง...ทนไม่ได้”

“ไม่เป็นไร หรัญญ์ ไม่เป็นไร”

คีรีดึงผมเข้าไปกอด อ้อมกอดอบอุ่นที่แฝงความเจ็บปวดจากร่างกายที่สั่นสะท้านน้อยๆ ใบหน้าที่ซุกกับบ่าของผม...มันมีรอยเปียกชื้นของน้ำตา

คราวนี้ผมถึงกับกลั้นไม่อยู่

พวกเรากอดกันและร้องไห้ให้กัน ปกติเวลาบอกเลิกคนรัก ผมมักจะโดนต่อว่าหรือตามตื้อจนต้องแอบไปร้องไห้คนเดียว ไม่เคยมีใครพยายามเข้าใจถึงเหตุผล ไม่เคยมีใครเข้าใจว่าความจริงแล้วผมเองก็มีความรู้สึก ใช่ว่าจะใจร้ายใจดำพูดออกมาโดยไม่ไตร่ตรอง แต่เพราะคิดแล้วคิดอีก คิดจนหัวแทบแตกต่างหากถึงได้บอกเลิก

ผมกลัวความรักที่ล้มเหลว

มันเป็นอะไรที่แสนเปราะบางจนไม่อยากจะเผชิญซ้ำอีกแม้เพียงครั้งเดียว...ในชีวิตนี้ผมเคยทำผิดพลาดครั้งหนึ่ง และนั่นก็เป็นครั้งที่ร้ายแรงที่สุด ผมเลือกที่ทิ้งครอบครัวเพื่อหนีตามคนรัก ทิ้งอนาคต ทิ้งเพื่อน ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งทิ้งความเป็นตัวเอง

เพื่อมาพบกับผลลัพธ์ว่าตัวเอง ‘ถูกทิ้ง’

ผมโง่มากใช่มั้ย

เพราะอย่างนั้นผมถึงกลัวแสนกลัวเหลือเกิน

หากสุดท้ายแล้วก็หนีบทสรุปที่คาดไว้ไม่พ้น ถ้าอย่างนั้น...

ถ้าอย่างนั้นสู้ให้ผมเป็นฝ่ายทิ้งความรักไปยังดีกว่า

“ฉันรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้...”

นั่นคือคำพูดสุดท้ายของคีรีก่อนที่เราจะกลับสถานะมาเป็นลูกค้าและบาร์เทนเดอร์

เหมือนเราไม่เคยคบกัน เหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้น

ก็แค่...กลับเป็นอย่างเดิม


----------


อ่านตอนนี้จบคิดว่าหลายคนน่าจะพอจับทางเรื่องได้แล้วว่าจะไปโยงกันยังไง

ความจริงปัญหาเรื่องเวลาพี่เอกกับนายเองก็เจอ แต่เพราะพี่เอกเป็นฝ่ายยอมอ่อน และนายเองก็แก่เกินกว่าจะหาคนใหม่ (ฮา) จึงช่วยกันประคองโดยไม่มีความคิดเลิกรา แต่สำหรับรัญ ในหัวของเขามีแต่ผลลัพธ์สองอย่างนั่นคือการเป็นฝ่ายทิ้งหรือถูกทิ้ง จึงพยายามมองหาสัญญาณการเลิกราอยู่ตลอด จะบอกว่าเป็นพวกมองในแง่ร้ายก็คงได้ เล่นเตรียมแผนชีวิตตอนแก่ไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะรัญรู้ดีว่าสุดท้ายก็ไม่มีคนรักที่จะเคียงข้างไปได้ตลอดหรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าจะเจอ ถึงได้ตกลงคบค่อนข้างง่าย แต่พอเจอปัญหา ก็ถอยอีก

เป็นปัญหาที่แก้ไม่ตก และถึงรู้ก็โทษรัญไม่ได้

ได้แต่กลุ้มใจแล้วอุทานว่า #หรัญญ์เอ๊ย

เพจนักเขียนที่รอดูการแท็กทีมของคีรีขันและเชื้อรา จิต้องมีความชื้นและคันคะเยอหัวใจอย่างแน่นอน!

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รัญเอ๊ย......อุตส่าห์เจอคนที่เคมีต้องกัน
คบกันแล้ว กลัวถูกทิ้ง เลยชิงขอเลิกก่อน
อีกคนก็เป็นเชื้อรา
แต่ดูแล้ว สองคนเขาจะยอมแพ้รึ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:   เราเข้าใจนะ ทั้งสามคนมีความต่างค่อนข้างมากทั้งอาชีพ นิสัย และเวลา. แอบน้ำตาซึมเลยอ่า
การที่น้องรัญให้โอกาสทั้งสองคนพอๆกัน ลองคบดูทีละคน มันเป็นเรื่องที่ดีและสมเหตุสมผลนะ
เราชอบที่คนเขียนปูทางมาแบบนี้และเราเชื่อว่าทั้งสองทีมจะต้องแทคมือกันแล้วนะจ๊ะถ้าไม่อยากปล่อยน้องรัญไป
โอ๋ๆนะลูกไม่ต้องเตรียมแก่ตัวไปคนเดียวแล้วลูก
ต่อไปนี้จะมีเพื่อนอีกสองคน. เอ้าแตะมือสิคะจะรออะไร  :L1:   

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
สามวันจากชาตรีเป็นอื่น 555555555555555555555
ถ้าคบทีละคนไม่รอด สนใจมาคบทั้งสองคนเลยมั้ย -///-

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
คือแบบมันไม่ใช่นะ รัญ เลิกกันเร็วไปแล้วววว วู้วววว 3p มาเร็วกว่านี้ได้ม้อยยยย5555

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สงสารจังเลยลูก ไม่เป็นไรนะ พอถึงเวลา หนูก็ได้มาถึงสอง 55555555555555

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด