《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]  (อ่าน 221403 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++50%++[16/11/60]
«ตอบ #840 เมื่อ17-11-2017 20:41:47 »

งอนง้อ กันน่ารักมากกกกก
นั่งตัก กอดกัน จุ๊บกัน
เพื่อนทศ กลายเป็นอากาศธาตุไปเลย

แผนเรียกรันต์มา
ทศ หายอึมครึม
ดีกัน ประสบความสำเร็จ
ทศ รันต์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++50%++[16/11/60]
«ตอบ #841 เมื่อ18-11-2017 07:37:00 »

ชอบเวลาที่รันแทนตัวว่าน้อง น่ารักมาก

ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++50%++[16/11/60]
«ตอบ #842 เมื่อ18-11-2017 08:24:45 »

โลกหมุนรอบตัวเรา น้องกับพี่นี้มีกันสองคน เนอะ.   

 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:

....

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++50%++[16/11/60]
«ตอบ #843 เมื่อ18-11-2017 11:03:50 »

เพื่อนๆต้องทำหน้าเอือมระอากันขนาดไหนนอพ
สวีทกันไม่เกรงใจใครเลยจ้าาา

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++50%++[16/11/60]
«ตอบ #844 เมื่อ18-11-2017 16:25:21 »

ลืมเพื่อนๆไปแล้วสินะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++50%++[16/11/60]
«ตอบ #845 เมื่อ19-11-2017 17:43:36 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #846 เมื่อ19-11-2017 19:41:10 »

ใจยักษ์ 36.2

“เอ่อคือ...กูว่าเรากลับกันเลยดีไหม” สิ้นเสียงพี่เซนท์ผมก็รีบผลักอกหนาทศกัณฐ์ออกห่าง แล้วผละจูบออกทันที

ฉิบ!...ลืมไปเลยว่าพี่ๆก็อยู่ด้วย  ผมดันตัวจะลุกจากตักแกร่งแต่เขากลับกอดเอวผมแน่นจนขยับตัวแทบไม่ได้ ตาคมเขียวซีดตวัดมองดุๆไปที่ด้านหลังผม

“อย่ามองกูแบบนั้น กูไม่ได้อยากขัด แต่ไอ้สมิธมันบอกให้กูทำอ่า มันว่ามันขัดบ่อยแล้วเดี๋ยวกรรมตามสนองมัน”พี่เซนท์รีบเอ่ยแก้ตัวทันที ก็สายตาทศกัณฐ์คาดโทษซะขนาดนั้น

“อ้าวไอ้เชี่ยเซนท์ โยนขี้มาให้กูเฉยเลย”

แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้ยินเสียงรุ่นพี่สองคนทะเลาะกันงุ้งงิ้งมาจากทางด้านหลัง

“ยักษ์ กลับห้องนะ น้องง่วงแล้ว” ตาผมเริ่มปรือแล้วจริงๆครับ ยิ่งดื่มเบียร์เย็นๆไปแก้วใหญ่แบบนี้ คืนนี้หลับสบายเลยล่ะผม ทศกัณฐ์ขยี้หัวผมเบาๆแล้วหอมแก้มผมไปอีกฟอดใหญ่

“ครับ...กูกลับแล้วนะ วันนี้ลงบิลกูไว้” ทศกัณฐ์ตอบรับแล้วบอกเพื่อนที่ยังคงเถียงกันไม่เสร็จ เขายกผมออกจากตักแล้วยืนขึ้น จับมือจูงผมออกจากห้องโดยไม่เว้นจังหวะให้ผมไหว้ลาพวกพี่เขาเลย ผมทำได้แค่หันไปก้มหน้าให้พวกเขาอย่างขอบคุณ  ได้ยินเสียงพี่สมิธบ่นตามหลัง ว่าเมียมาแล้วลืมเพื่อน

“เอากุญแจรถมา” ทศกัณฐ์เอ่ยปากขอกุญแจรถแล้วแบมือมาตรงหน้าผมเมื่อเราเดินมาถึงลานจอดรถกันแล้ว ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบกุญแจรถส่งให้เขา

“เอาคันนี้มาหรอ?” ทศกัณฐ์ถามเสียงเข้ม ใบหน้าหล่อขรึมลงทันตา

“อือ ก็น้องรีบนี่นึกว่าพี่เป็นอะไรมาก ก็เลยหยิบมาไม่ได้ดู มารู้ตอนอยู่ที่ลานจอดรถแล้วอ่ะก็เลยขี่มาเลย” ผมพูดเสียงหงอยๆ ก็รถคันที่ผมขี่มาคือดูคาติของเขาน่ะครับ ซึ่งทศกัณฐ์สั่งห้ามผมขี่เด็ดขาด เพราะเครื่องมันแรงและหนักเขากลัวผมเกิดอุบัติเหตุ ทั้งกลัวผมขี่ไปชนเขาแล้วก็กลัวคนอื่นขี่มาชนผม

ห่วงสารพัดที่จะห่วงเลยยักษ์คนนี้

“อย่าทำอีกนะ...พี่ขอ” สายตาเว้าวอนที่มองตอบมาโคตรทำให้ผมรู้สึกผิดเลยว่ะ

หมับ! ผมยื่นมือไปโอบกอดร่างใหญ่ของคนรักไว้แน่น เขากอดตอบผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ร่างกายเกร็งเครียดค่อยๆผ่อนคลายขึ้น

“น้องขอโทษครับ...อย่าคิดมากเลยนะ น้องอยู่ตรงนี้แล้วไง”

“รู้ไหมว่าพี่รักน้องน้องมาตลอดเป็นสิบปี แปลกที่ความรู้สึกรักและห่วงใยมันรุนแรงขึ้นทุกวัน พี่เคยได้ยินว่ายิ่งนานวันไปความรู้สึกจะค่อยจางลง แต่สำหรับพี่มันไม่ใช่...”

“ยักษ์ น้องก็ไม่รู้หรอกนะว่าความรักสำหรับคนอื่นเขาใช้อะไรวัดกัน แต่พี่อย่าลืมว่าทุกคนไม่เหมือนกัน เราไม่สามารถเอาความรู้สึกของแต่ละคนมาเปรียบกันได้หรอก รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลให้วุ่นวาย”

“น้อง...จะเลิกรักพี่ไหม” เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าทศกัณฐ์ขาดความมั่นที่จะเอ่ยถาม

“น้องไม่รู้ มันเป็นเรื่องของอนาคต” อ้อมแขนทศกัณฐ์ที่กอดผมอยู่สั่นขึ้นมา “...แต่ว่าตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้ น้องก็ยังรักพี่อยู่ และน้องก็ไม่เคยคิดที่จะเลิกรัก ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นไหม”

“ขอบคุณ...ขอบคุณที่รอพี่ ที่ให้โอกาสผู้ชายคนนี้ พี่เป็นคนไม่ดี ไม่สมควรมีชีวิตอยู่ ต่อให้คนทั้งโลกเกลียดพี่ก็ไม่เป็นไร แค่น้องรักพี่ อยากให้พี่อยู่ต่อแค่นั้นก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นดูแลตัวเองให้ดี ถ้าน้องเป็นอะไรไป พี่อยู่ไม่ได้จริงๆรันต์” ผมยืนร้องไห้เงียบๆ ผมคิดว่าความรักที่ผมมีให้เขาก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขา ผมรักเขามากไม่แพ้ใคร แต่ผมก็ยังรักตัวเอง ถ้าทศกัณฐ์ตายแน่ล่ะว่าผมต้องเสียใจมากและรักใครไม่ได้อีก แต่ผมไม่คิดจะตายตามเขา

แต่ถ้าผมตาย ผมเชื่อว่าเขาทำแน่

“อย่าตายนะ ห้ามตายตามน้อง พี่ต้องอยู่!” อย่ารักผมมากกว่าชีวิตตัวเอง ผมร้องไห้อย่างหนัก ในความโชคร้ายของชีวิต อย่างน้อยทศกัณฐ์ก็คือโชคดีที่ผมได้รับมา

“พี่จะอยู่ ถ้าน้องอยู่ อย่าร้องเลยนะครับ”

“อื้ม” ผมพยักหน้าแล้วเช็ดน้ำตากับแขนเสื้อ พยายามบังคับสะอื้นให้หยุดลงในที่สุด ทั้งๆที่บอกริวว่าเกลียดคนเจ้าน้ำตา แต่ผมนี่แหละที่งอแงยิ่งกว่าน้องอีก

“นี่พวกมึงมายืนซึ้งกอดอะไรกันอยู่ตรงนี้ กูคิดว่ากลับไปนานแล้วนะเนี่ย” เสียงพี่สมิธแว่วๆมาจากด้านหลังผม เราผละกอดออกจากกัน เป็นทศกัณฐ์โอบไหล่ผมไว้แทน ผมยิ้มบางให้พี่ๆ

“น้องรันต์ร้องไห้หรอ! ทะเลาะอะไรกันอีกอ่ะ” พี่เซนท์ร้องถามด้วยความตกใจเมื่อเห็นใบหน้าผมชัดๆ

“เปล่าทะเลาะนะครับ เราคุยอะไรกันนิดหน่อย ผมบ่อน้ำตาตื้นเอง” ผมรีบไขความเข้าใจผิดพี่ๆ

“จริงหรอวะ” พี่ดีเหลือบมองผมแล้วหันไปถามทศกัณฐ์ คนข้างๆผมเขาก็พยักหน้าแทนคำตอบ

“เออๆ ไม่มีอะไรก็ดีละ พอดีเลยไอ้ทศกูกลับกลับมึงนะ ไอ้ดีจะได้ไม่ต้องอ้อมไปส่ง”

“ไม่ได้ รันต์ขี่มอไซต์มา”

“อ้าว งั้นมึงไปส่งกูไอ้ดี” พี่สมิธหันไปฉีกยิ้มให้พี่ดีแทน

“กูคนขับรถมึงหรอสัส”

“ทีไอ้เซนท์มึงยังอ้อมโลกไปส่งได้ อย่ามาสองมาตรฐาน แสรดดด”

เอี๊ยด! เสียงเบรกเบาๆดังขึ้นเรียกความสนใจจากพวกเรา เมอร์เซเดส เบนซ์ คันสวยสีดำจอดเทียบอยู่หน้าทางเข้าลานจอดรถพร้อมๆกับเสียงโทรศัพท์จากใครบางคนดังขึ้น

“เชี่ยสมิธ รับดิโทรศัพท์มึงดังอ่ะ” พี่เซนท์ทักพี่สมิธ ผมก็หันไปมองบ้าง พี่สมิธหน้าซีดแปลก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ไม่ยอมรับสาย เหลือบมองโทรศัพท์ในมือสลับกับรถเบนซ์คันที่จอดติดเครื่องอยู่คันนั้น

“มึงรับสักทีดิ ไม่รับเดี๋ยวกูรับให้เอง มา!” พี่เซนท์ทำท่าจะฉวยโทรศัพท์จากมือพี่สมิธจะรับให้แทนเพราะมันดังและดับไปรอบที่สองแล้ว แต่พี่สมิธก็เบี่ยงหลบทัน

“ไม่ต้อง!! กูรับเอง ติ๊ด”

“…”

“อืม รู้แล้ว จิ๊!” พี่สมิธพูดไม่กี่คำก่อนจะวางสาย เขาสบถแล้วถอนหายใจหนัก

“กูกลับล่ะ”

“ไม่ให้กูไปส่งแล้วหรอ”

“ไม่อ่ะ มีคนมารับกูแล้ว ไปล่ะ” พี่สมิธลาเพื่อน หันมายิ้มให้ผมนิดนึงแล้วเดินไปทางเข้าลานจอดรถ แต่เดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็หยุดชะงักแล้วหันมาบอกเพื่อน “อ่อ ถ้าพรุ่งนี้ไม่เห็นกูไปเรียน อย่าลืมเซ็นชื่อให้กูด้วยนะ” แล้วเขาก็เดินลิ่วไปขึ้นรถเบนซ์คันนั้น คนที่ยืนอยู่ก็ได้แต่พากันมองตามตาปริบๆ

“พรุ่งนี้มันจะไปไหนอ่ะดี แล้วใครมารับมันอ่ะ” พี่เซนท์หันไปเอียงคอถามพี่ดีด้วยความสงสัย

“ไม่รู้ ค่อยรอถามมันเอง กูกลับล่ะ” พี่ดียักไหล่ตอบพี่เซนท์เหมือนไม่ค่อยจะสนใจเท่าไหร่ ก่อนจะหันมาบอกทศกัณฐ์ ยิ้มลาให้ผม แล้วล็อคคอพี่เซนท์เดินไปขึ้นรถ

“แม่ง! แม่งถามอะไรก็ไม่มีใครตอบกูหรอก...พี่กลับแล้วนะน้องรันต์” พี่เซนท์บ่นหงุงหงิงแล้วตะโกนบอกลาผม

“ยักษ พี่สมิธ...” เมื่อเหลือเราเพียงสองคน ผมจึงจะเอ่ยถามเรื่องพี่สมิธ


“ค่อยคุยกันที่ห้อง” ทศกัณฐ์เอ่ยขึ้นแล้วจูงมือผมพาเดินไปที่รถ เขาหยิบหมวกกันน็อคขึ้นสวมให้ผม

“พี่ขับ ทำไมไม่ใส่” ผมหยิบหมวกมาแค่ใบเดียว

“น้องใส่นั่นแหละดีแล้ว” ทศกัณฐ์ยิ้ม แล้วขึ้นคร่อมสตาร์ทรถ ผมจึงขึ้นไปซ้อน สอดแขนไปกอดเอวสอบเขาไว้แน่น

“น้องกอดแน่นไปไหม” ผมถามกระเซ้า

“หึ แน่นกว่านี้อีกสิครับ”

+++++++++++++++++++++++++

Smith’s part

“จะไม่พูดอะไรเลยใช่ไหม?” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบกันอยู่นานตั้งแต่ผมขึ้นรถจนเข้ามาในลิฟท์

“...”

“สมิธ” ระดับเสียงเย็นขึ้นทันที บรรยากาศภายในลิฟท์อึดอัดขึ้นทันตา การ์ดที่ยืนอยู่ตรงหน้าสองคนก้มหัวตัวเกร็งขึ้นโดยอัตโนมัติ

“จะให้กูพูดอะไร มึงเห็นยังไงก็อย่างนั้นแหละ” ผมเหยียดริมฝีปากเยาะๆ คิดว่ามันคงเห็นเพราะลิฟท์เป็นกระจกเงาทั้งตัว

“คำพูดพี่ ไม่มีความหมายเลยใช่ไหม”

“เหอะ! มึงคิดว่ามึงเป็นใคร อย่ามาสำคัญตัวผะ...อึ่ก!” ผมถูกมือเรียวบีบเข้าที่คอดันติดกับผนังลิฟท์อย่างแรงจนพูดไม่ออก ผมใช้สองมือแกะมือมันมือเดียวไม่ออก ยิ่งทำมันก็ยิ่งเพิ่มแรงบีบ มันบีบแรงชนิดที่ว่าลมหายใจผมขาดเป็นช่วงๆ

“อย่า-ปาก-ดี” แววตาสีเขียวเข้มต่างจากน้องวาวโรจน์

“...” ผมไม่ตอบอะไร แม้จะรู้สึกทรมานแทบตาย แต่สายตาก็มองตอบมันอย่างไม่ยอมแพ้ จนกระทั่งสายตาผมเริ่มพร่ามัวแทบบังคับสติตัวเองไว้ไม่ไหว เพราะสมองได้รับออกซิเจนน้อยเกินไป แรงบีบรักที่คอจึงคลายออก ผมหมดแรงทรุดฮวบลงกับพื้นทันที

ติ๊ง! ประตูลิฟท์เปิดออกพอดี

“ลากมันไป” พูดจบมันก็ก้าวเดินนำออกจากลิฟท์ การ์ดสองคนรีบเข้ามาหิ้วปีกแขนทั้งสองข้างให้ตามออกไปทันที ผมถูกพาตัวมาไว้ห้องที่ใช้นอนประจำ ไม่ได้ขัดขืนดิ้นรนแต่อย่างใด แม่งรู้สึกไม่ค่อยมีแรง ถึงผมจะไม่เมาแต่ก็กรึ่มๆไปนั่งดื่มเป็นเพื่อนเชี่ยทศตั้งแต่หัวค่ำ ไอ้ดีไอ้เซนท์น่ะตามมาทีหลัง

“ถอดเสื้อผ้ามันออก” ผมหันควับไปมองต้นเสียงด้วยความตกใจ โยและการ์ดอีกคนหันไปมองมันอย่างไม่เชื่อหูทันที  ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ คือผมไม่ได้หลงตัวเองนะแต่มันไม่ชอบให้คนอื่นแตะต้องตัวผมโดยไม่จำเป็น อย่าว่าแต่ถอดเสื้อผ้าเลย แค่มีคนเห็นผมเปลือยท่อนบนโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นผมไม่เห็นหน้าคนนั้นอีกเลย

“นายหมายถึง ถอดแค่เสื้อใช่ไหมครับ”โยเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ

“ถอดทั้งหมด ทุกชิ้น” โยคร่อมหัวรับคำสั่ง แล้วเดินมาหาผมที่เตียง

“ไม่ต้อง! ผมถอดเอง!” กับอีแค่ถอดเสื้อผ้า ผู้ชายด้วยกันไม่เห็นจะเป็นไร แม้ตามตัวผมจะพร่างไปด้วยรอยสีกุหลาบจากไอ้ระยำนั่นก็ตาม ผมกระดากเล็กน้อยจากสายตาทั้งสามคู่เมื่อเปลือยไปทั้งตัว แล้วมาดูกันว่าใครจะทนไม่ได้ก่อน โยและลูกน้องรีบก้มหน้าไม่มองทันที

“พวกนายเงยหน้าขึ้นแล้วดู...อ้าขาด้วยสิ อ้าออกกว้างๆ” มันสั่งลูน้องก่อนหันมาสั่งผมเสียงเข้ม

“ไอ้เหี้ยเอ้ย!” ผมสบถแต่ก็ยอมอ้าขาออก ผมยอมเสียศักดิ์ศรีดีกว่าก้มหัวให้มัน

“สอดนิ้วเข้าไป แล้วช่วยตัวเอง”

“ไอ้ระยำ!!!” เกิดมาผมยังไม่เคยทำเรื่องน่าขยะแขยะแบบนี้มาก่อน  ผมไม่เคยช่วยตัวเองจากด้านหลังและไม่คิดจะทำเลยสักนิด

“หรือจะให้โยทำ” มันฉีกยิ้มอย่างไม่ยี่ระ

“มึงมันวิปริต สารเลว นรกส่งมาเกิด!” ผมตะคอกอย่างโมโหสุดจะกลั้น กะไว้ว่ายังไงจะไม่เต้นไปตามเกมส์มันแต่สุดท้ายมั้นก็ทำความอดทนผมขาดได้อยู่ดี

“ก็ไอ้วิปริตสารเลวคนนี้ไงล่ะ ที่ปล่อยน้ำในตัวนายไปเป็นร้อยๆรอบ” มันแสยะยิ้มกอดอก

ผมเกลียดมัน...โมโหจนตัวสั่น แต่ผมก็เลือกที่จะสอดนิ้วกลางเข้าไปที่ช่องทางบวมช้ำ มันเข้าง่ายแต่เจ็บแปลบไปหมด ก็มันพึ่งจะผ่านสมรภูมิมานี่ มืออีกข้างผมสาวแก่นกายตัวเองใช้เวลาอยู่นานกว่ามันจะสู้มือเพราะเมื่อวานผมปล่อยไปเป็นสิบน้ำ  นิ้วกลางสอดเข้าออกเป็นจังหวะกับมือที่รูดแก่นกายขึ้นลง

อาการเจ็บแปลบๆในตอนแรกถูกแปรเปลี่ยนเป็นเจ็บแปลบปนเสียวซ่าน ผมกัดปากกลั้นเสียง แต่คิดไปคิดมาผมควรจะทำอย่างที่ ‘เขา’ แนะนำมาดีกว่า

“อ๊ะ...อื้อออ แฮ่ก อ๊ะ อ๊า” กูเกลียดเสียงตัวเองจริงๆ ทำไมมันดูกระเส่าอารมณ์ขนาดนี้วะ แต่ช่างแม่งเถอะ

“อึก!” ไม่รู้ผมคิดไปเองไหม แต่ผมเหมือนได้ยินเสียงกลืนน้ำลาย เอาเถอะจะใครก็ช่างแต่ผมจะปล่อยท่าไม้ตายแล้วล่ะ

“อ๊า...ลุค อื้อ ลุค มะ...ไม่ไหวแล้ว อ๊ะ” ผมช้อนสายตามองคนที่ผมเรียกชื่อ ส่งสายตาเยิ้มๆให้มันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน มันมองผมอึ้ง ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงอย่างเห็นได้ชัด

“ออกไปให้หมด! ปิดประตู แล้วลืมภาพเมื่อกี้ซะ ใครหน้าไหนกล้าจำ ผมจะไม่ให้มีตาไว้มองอีก” ลูกน้องมันก้มหน้ารับคำเสียงเข้มแล้วรีบกุลีกุจอออกจากห้องทันที ผมดึงนิ้วตัวเองออกและหยุดมือช่วยตัวเอง

หึๆ ผมชนะ...มันคิดว่าทำให้ผมอับอายเสียศักดิ์ศรีจะทำให้ผมยอมร้องไห้อ้อนวอนอย่างนั้นหรอ

รอไปอีกสิบชาติตอนดึกๆเถอะ

“หึ กล้าไม่เบา ไปหัดทำแบบนี้มาจากใคร” มันก้าวขึ้นเตียง สายตาวาวโรจน์ดูน่ากลัว

“จะกับใครแล้วไง สนใจหรอ ใครจะดูก็ได้นี่” ผมแสยะยิ้มเหมือนไม่แคร์ ทั้งๆที่ในใจผมโคตรแย่ โคตรเสียศักดิ์ศรี

พรวด! อึ่ก! ไอ้เหี้ยลุคอาศัยจังหวะที่ผมเผลอ อ้าขาผมออกแล้วใช้เข่ากดไว้ แล้วสอดนิ้วยาวเข้ามาพร้อมกันสองนิ้ว

“จะบอกดีๆไหม” มันยิ้มเหี้ยม งอนิ้วแล้วครูดกับผนังนุ่มข้างในเข้าออกแรงๆจนผมเจ็บจนดิ้นพล่าน

“อ๊ะ เจ็บบบบ ปล่อยกู!!” ผมปัดป่ายมือไปมาจนมันจับไว้ได้ด้วยมือข้างเดียว

“ก็ตอบมาสิ” มันเร่งความเร็วและแรงขึ้น ผมเจ็บจนน้ำตาแทบไหล

“ไม่มี! ไม่เคยทำกับใคร พอใจรึยัง!!!”

“บอกพี่ดีๆตั้งแต่แรกก็จะไม่เจ็บตัวแล้วแท้ๆ มิทตี้” มันโน้มหน้ามาจูบปากผมเบาเหมือนให้รางวัล ผมเบี่ยงหน้าหนีไปอีกด้าน กัดกรามจนเจ็บไปหมด ได้ยินเสียงมันหัวเราะในลำคอเบาๆ

“มา พี่ช่วยให้เสร็จดีกว่า” มันปล่อยมือที่จับผมไว้แล้วไปจัดการกับน้องชายผมที่หดตัวจากความเจ็บไปแล้วแทน ไม่ถึงนาทีมันก็ตั้งขึ้นสู้มือไอ้สารนี่จนผมอยากจะมุดดินหนีไปซะให้แม่งรู้แล้วรู้รอด

“ไม่ต้องงงง อ๊า...” แม่งเอ้ย กูเกลียดมึงไอ้ลูคัส

และเกลียดไอ้ร่างกายไม่รักดีนี่ด้วย

+++++++++++++++++++++++

พี่น้องตระกูลฮาล์นนี่เขาเหมือนกันเนอะ หวงเมียยิ่งชีพ ฮ่าๆๆ
  :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2017 22:55:07 โดย YINGPREM »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #847 เมื่อ19-11-2017 20:44:55 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #848 เมื่อ19-11-2017 22:37:15 »

หวงเมีย แต่คราวนี้ประชดเสีย
เลยยอมให้ลูกน้องถอดเสื้อผ้าเมีย
ยอมให้เห็นเมียช่วยตัวเอง  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เมื่อไรสมิท จะเปิดใจกับลุค
เพราะลุคยึดติดแต่กับสมิทคนเดียว
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2017 03:58:28 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #849 เมื่อ19-11-2017 22:48:21 »

คู่หนึ่งสุขสม :n1:
อีกคู่เมื่อไหร่หนอ  :เฮ้อ:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
« ตอบ #849 เมื่อ: 19-11-2017 22:48:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #850 เมื่อ20-11-2017 01:30:30 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #851 เมื่อ20-11-2017 04:08:18 »

หลังๆเราว่าคู่ลูคัสกับสมิทมันดูดีขึ้นนะ
เหมือนเราเห็นมุมของลุคมากขึ้นอะเลยเข้าใจเค้ามากขึ้น
นี่ว่าผิดทั้งคู่เลย
สมิทผิดที่รู้ว่าทำแบบนี้แล้วจะโดนอะไร แต่ก้ยังจะทำอยู่แบบนั้น
ดูได้จากตแนนี้เลยชัดๆว่านางรู้ว่าทำแบบไหนแล้วลุคจะยอม
แบบไหนลุคจะเกรี้ยวกราดขึ้นมา แต่ก้เลือกเองอะที่จะทำให้ลุคอารมณ์ขึ้น
ส่วนลูคัสก้ผิดที่ทั้งๆที่รักและยึดติดสมิทมากขนาดนี้ แต่ก้เลือกจะเข้าหาด้วยวิธีการเดิมๆ
เป็นวิธีการเดิมๆที่ทำให้นึกถึงแต่เรื่องแย่ๆชวนให้ต่อต้านไปเรื่อยๆ รึอาจจะชอบแบบนี้
และรู้สึกว่าลูคัสรักสมิทนะ แต่ยังไม่มากพออะ เหมือนยึดติดอะใช่แน่ๆมากด้วยแหละ
แต่ยังไม่ได้ถึงขั้นรักมากๆแบบทศกัณฐ์ หวงมากๆจนความโมโหของตัวเองก้ทำให้ลืมความหวงไม่ได้อะ
เนี่ย พอโกรธ อยากจะลงโทษจะดัดนิสัย นี่ก้ถึงขั้นให้ทำอะไรแบบนี้ให้ลูกน้องดู
ลูคัสเหมือนคนที่ผสมทศกัณฐ์ตอนปกติกับตอนที่สติหลุดไว้ด้วยกันแบบเสถียรแล้วอะ
บวกไปกับการเลี้ยงดูของครอบครัวนี้ และยังไม่ทีที่ยึดเหนี่ยวให้อยากเป็นคนดีแบบทศกัณฐ์ที่มีแม่อะ
ในตอนนั้นพอเจอสมิทก้เลยยึดติดได้ถึงขนาดนี้จริงๆ แต่ผิดวิธีไปเยอะเลย ด้วยการเลี้ยงดูแบบนั้นอะ
รออค่าา อยากเห็นคู่หลังเค้ารักกันดีๆซะที

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #852 เมื่อ20-11-2017 19:53:28 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 36♡++100%++[19/11/60]
«ตอบ #853 เมื่อ20-11-2017 20:04:40 »

 :mew5:  คู่สมิธไม่น่าจะไปกันรอดนะ

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #854 เมื่อ17-12-2017 23:04:18 »

ใจยักษ์ 37

“เอามือมึงออกไปเดี๋ยวนี้!” สมิธผลักอกคนที่กำลังคุกคามส่วนสงวนของตนออกอย่างแรง ลูคัสผงะถอยห่างเล็กน้อยตามแรงผลัก มือที่สาวแก่นกายให้อีกคนหยุดชะงักแต่สองนิ้วเรียวของเขายังไม่หลุดออกจากช่องทางรัดนุ่ม

“อย่าดื้อน่า แต่ก่อนยังพูดง่ายกว่านี้นี่มิทตี้” ลูคัสฉีกยิ้มมุมปากอย่างอารมณ์ดีแม้จะโดนคนอายุน้อยกว่าขัดขืนจนน่าหงุดหงิด แต่เขาเลือกจะปล่อยผ่านแล้วขยับตัวไปจูบซับใบหูอีกคนแทน ถึงแม้จะโดนมือขาวๆทั้งสองข้างนั้นยันอกกว้างเขาไว้ ซึ่งแรงของสมิธก็ต้านทานการกระทำเขาไม่ได้อยู่ดี

“กูไม่ได้พูดง่ายแต่กูโดนมึงบังคับต่างหาก แล้วก็เลิกเรียกกูด้วยชื่อทุเรศๆแบบนั้นสักที!” สมิธตีสีหน้ายุ่ง เบี่ยงหน้าหนีริมฝีปากบางที่กำลังขบเม้นไปตามใบหูเขาอย่างไม่ลดละ แม้ไม่อยากยอมรับ แต่ว่าตอนนี้แขนขาเขาเริ่มอ่อนแรง เสียววูบไปทั่วท้องน้อยไม่หยุด

ไอ้ปีศาจนี่เล่นจู่โจมจุดอ่อนไหวที่สุดของเขาน่ะสิ!

“ไม่เลิก น่ารักดีออก...พี่ชอบ” ลูคัสกระซิบเย้าชิดใบหูจนสมิธขนลุกเกรียวไปทั้งตัว เขาชอบที่จะเห็นสมิธแสดงสีหน้าต่างๆมากกว่าทำเป็นเฉยชาหรือทำประชดในสิ่งที่เขาไม่ชอบใจนัก

“ถ้าอย่างนั้นกูเรียกมึงว่า‘ไอ้นรก’ เพราะ ‘กูชอบ’ ได้ไหมล่ะ” สมิธเน้นชื่อเรียกใหม่ของลูคัสเสียงหยัน เขาสบตาสีเขียวเข้มตรงๆในดวงตามีแววท้าทายที่มักจะทำให้ลูคัสตบะแตกทนไม่ไหวก่อนเสมอ สมิธทำใจว่าครั้งนี้ถ้าไม่โดนตบจนปากฉีกก็ต้องโดนทารุณกรรมด้วยสารพัดวิธีต่างๆตามแบบฉบับของมัน

“ก็ได้นะ” สมิธชะงักค้างกับคำตอบง่ายๆและรอยยิ้มบนหน้าคมหวานนั่น ไม่คิดว่ามันจะยอมง่ายขนาดนี้แม้ตอนแรกจะเห็นหัวคิ้วเข้มกระตุกแล้วก็ตาม แต่ประโยคต่อมาจากอีกคนก็ทำสมิธเม้มริมฝีปากแน่นอย่างพยายามเก็บอารมณ์ คิดถูกจริงๆนั่นแหละว่ายอมง่ายๆแบบนี้ไม่ใช่ตัวมันเลย

“เรียกได้ แต่ว่า...หนึ่งคำต่อสิบน้ำนะ เพราะพี่จะถือว่านั่นเป็นคำเรียกแสดงความรักจากนาย” ลูคัสฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่คนอายุน้อยกว่า เมื้อกี้คือเขาเกือบจะฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าขาวแต่สากจากหนวดแล้วจริงๆ แต่ใจอีกด้านก็สามารถควบคุมความโกรธไว้ได้ทัน จึงเปลี่ยนจากจะตบเป็นดูดแรงๆลงบนต้นคอสวยแทน เขาจะใช้แต่ความรุนแรงกับสมิธเหมือนเดิมไม่ได้ อย่างน้อยก็ไม่อยากให้เด็กน้อยทนไม่ไหวจนเตลิดหนีเขาไปอีกนั่นแหละ ครั้งนี้เขาต้องรีบจับแมวดื้อตัวนี้ให้อยู่ ‘ของๆเขา’ เขาต้องได้คืน

“ฝันไปเถอะ! อึก!...ขยับทำเหี้ยไร เอานิ้วออกไป!” สมิธขยับตัวหนีจากการรุกรานของนิ้วเรียวอีกคน แต่แทนที่ลูคัสจะทำตามคำพูดของสมิธ เขากลับสอดนิ้วที่สามเข้าไปอีกนิ้วสร้างความเจ็บปวดที่ช่องทางนั้นให้อีกคน

นิ้วเรียวยาวทั้งสามขยับเข้าออกช้าๆสลับหมุนควงกระแทกจุดกระสันเป็นระยะสอดรับกับจังหวะการสาวชักแก่นกาย สมิธถึงกับหมดเรี่ยวแรงจะต้านทาน แอลกอฮอลล์ในเลือดยิ่งทำให้เขารู้สึกตื่นตัวเร็วเป็นพิเศษ

“เป็นเด็กดีของพี่ แล้วพี่จะไม่ทำอะไร” จบประโยคลูคัสก็ทาบทับริมฝีปากบางลงสัมผัสกับริมฝีปากของอีกคน สมิธเม้มริมฝีปากแน่นไม่อยากให้อีกคนได้เชยชิมน้ำหวานจากริมฝีปากเขา ลูคัสที่รู้อยู่แล้วว่าอีกคนต้องไม่ยอมให้เขาง่ายๆ มือเรียวที่ชักรูดแก่นกายให้อีกคนอยู่เปลี่ยนไปลูบวนส่วนปลายพร้อมใช้นิ้วโป้งขยี้ตามรอยแยกหยักด้วยน้ำหนักพอดีมือ สมิธถึงกับเผลอหลุดร้องครางด้วยความเสียวอย่างทนไม่ไหว

ลูคัสอาศัยจังหวะนั้นรีบสอดลิ้นเข้าไปเชยชิดความหวานในริมฝีปากอีกคนทันที เขาส่งลิ้นไปทักทายกับลิ้นเด็กน้อยที่พยายามหลบเลี่ยงเขา ริมฝีปากบางขบเม้มอย่างเร่าร้อนหื่นกระหาย มือทั้งสองข้างยังทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม สมิธที่โดนจู่โจมทั้งบนและล่างอย่างหนักก็ถึงขีดจำกัด ไม่นานสมิธน้อยก็พรั่งพรูหยาดน้ำไปถึงฝั่งฝัน

“แฮ่กๆๆ” ลูคัสถอนริมฝีปากออกมองคนใต้ร่างที่หอบหนัก ดวงตาหยาดเยิ้มและริมฝีปากที่แดงเจ่อ มันทำให้ปวดหนึบไปทั้งส่วนล่าง อยากสอดตัวตนเข้าไปแล้วกระแทกลงหนักๆให้อีกคนตัวสั่นคลอนเหมือนเมื่อครั้งก่อน

แต่ร่างกายของสมิธคงจะรองรับอารมณ์เขาตอนนี้ไม่ไหว ช่องทางรักยังบวมแดงและมีเลือดซึมออกมาหน่อยๆ

ความต้องการเขามีมากและอึดกว่าคนทั่วๆไป ถ้าเขาทำไม่ว่าอย่างไรสมิธคงไปฟื้นโรงพยาบาลแน่ๆ

แล้วถ้าเป็นอย่างนั้นทศกัณฐ์ก็จะมีข้ออ้างกีดกันเขาอีกน่ะสิ

ใครจะไปยอม!

ชึบ! ลูคัสถอนนิ้วที่เปียกชื้นออกจากช่องทางนุ่มช้าๆ เขายืดตัวลุกออกจากเตียงส่งเสียงทิ้งท้ายก่อนจะออกจากห้องไปพร้อมกับความโป่งพองที่ดุนดันกางเกงอยู่อย่างรวดเร็ว แม้จะเสียดายมากแต่เพื่อแผนการระยะยาวเขาต้องยอมปล่อยเด็กน้อยไปก่อน

“พักผ่อนซะ อาทิตย์หน้าเจอกัน”

++++++++++++++++++++++++++++++
“ยักษ์ ไม่ว่ายังไงน้องก็จะช่วยพี่สมิธนะ” ผมเอ่ยบอกทศกัณฐ์พลางก้าวขึ้นเตียงลงไปนอนเคียงข้างร่างหนาที่นอนพิงหัวเตียงรออยู่ก่อนแล้ว

“อืม แต่ลุคไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ เขาฉลาดและเหี้ยมโหดกว่าที่น้องคิด” ทศกัณฐ์เคลื่อนตัวลงมานอนดีๆ เขาสอดแขนใต้คอผมพร้อมรั้งเอวให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอุ่นของเขา ผมกอดตอบเขาหลวมๆ

“ถ้าอย่างนั้นเรามาร่วมมือกันช่วยพี่สมิธนะ” ผมนอนตะแคงข้างหันไปส่งสายตาที่ทศกัณฐ์มักใจอ่อนเสมอให้เขา

“หึ ไม่ต้องมาส่งสายตาอ้อนเลย เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบและอีกอย่างเราต้องถามไอ้สมิธด้วยว่าอยากให้เราช่วยรึเปล่า” ที่ทศกัณฐ์พูดก็มีเหตุผล แต่ผมรู้ว่าพี่สมิธต้องการความช่วยเหลือ แววตาเขามันฟ้องเพียงแต่เขาไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก อาจจะจริงอย่างที่ทศกัณฐ์ว่าที่ฮาล์นคนพี่นั้นเหี้ยมโหด พี่สมิธจึงไม่อยากให้คนอื่นมาเดือดร้อน

แต่ผมจะยอมให้พี่สมิธโดนรังแกฝ่ายเดียวได้อย่างไร เขาเป็นพี่ชายที่ผมรัก และอีกอย่างที่เขาต้องกลับไปสู่วังวนของคนๆนั้นส่วนหนึ่งก็มาจากผมด้วย

“อื้อ แต่ว่านะยักษ์ คนอย่างพี่สมิธถ้าไม่ไหวจริงๆเขาไม่มีทางเอ่ยปากแน่”

“ถ้าถึงตอนนั้นแล้ว พี่จะจัดการเอง...อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ไม่ได้ทำอะไรรุนแรงกับมัน ไม่ได้กักขังอิสรภาพ เราจึงไม่สามารถเข้าไปก้าวก่ายเรื่องเขาตรงๆได้ น้องอย่าลืมว่าไอ้สมิธก็เป็นคนของเขาตั้งแต่แรก พี่ต่างหากที่ไปแย่งชิงมันมาจากเขา”ทศกัณฐ์ลูบหัวผมเบาๆอย่างปลอบโยน เมื่อกี้ผมอาจแสดงสีหน้ากังวลมากเกินไปล่ะมั้ง

“โห พวกเหมือนรักสามเศร้า” ผมแกล้งพูดติดตลกเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันอึมครึมจนเกินไป แม้ทศกัณฐ์จะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่เรื่องนี้เขาก็คงรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย

“ปกติพี่เป็นคนไม่สนใจใคร แต่วันนั้นพี่ทนดูไม่ได้จริงๆ เป็นครั้งแรกที่พี่ทำเพื่อคนอื่น แถมเป็นคนที่ไม่รู้จักกันอีก แต่นั่นก็เป็นการหักหลังพี่ชายตัวเอง” ทศกัณฐ์ยิ้มเศร้า เขาคงนึกถึงวันที่ได้เจอกับพี่สมิธครั้งแรก

“พี่ทำดีแล้ว อย่างน้อยพี่ก็ได้เพื่อนที่ดีที่สุดมา” ผมตบหลังมือหนาเบาๆ ทศกัณฐ์จึงโน้มหน้ามาจูบหน้าผากผมแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว

“แล้วตอนนี้พี่ก็ได้น้องกลับคืนมา”
.
.
.
.
.

“สวัสดี คุณเหรันต์”ผมหันไปมองเจ้าของเสียงเรียบ ใบหน้านิ่งๆของเขาทำเสียงผมสะดุดไปหนึ่งจังหวะ


“สะสวัสดีครับ พี่กล้า”  ผมยกมือไหว้พี่รหัสตัวเอง ผมยิ้มแหยๆให้รู้สึกปั้นหน้าไม่ถูกกับท่าทางของเขา ทำไมต้องพูดทางการแบบประชดขนาดนั้นด้วยวะ

“รู้จักชื่อผมด้วยหรอ” เขากอดอกเลิกคิ้วมองกวนๆ ข้างหลังเขามีเพื่อนยืนคอยอยู่สองคน นี่ถึงขนาดมายืนดักรอผมเลิกเรียน อาจจะมีเรื่องสำคัญก็ได้

“รู้ครับ ก็พี่เป็นพี่รหัสผม”

“ก็ยังดีที่คุณยังจำได้ ผมคิดว่าคุณน่าจะลืมทั้งสายรหัสด้วยซ้ำ” ผมเหวอไปนิดนึง กัดแรงใช่เล่น

“อ่า...ครับ”

“วันเสาร์นี้คุณพอจะมีเวลาว่างไหม เฮียบลูนัดเลี้ยงสายที่ร้านมาว สี่ทุ่มตรง ถ้าคุณมีอารมณ์ว่าง ก็ช่วยมาด้วยละกัน” พูดจบเขาก็หมุนตัวเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนเลย ผมยังไม่ทันได้ยกมือไหว้ด้วยซ้ำ

“อิรันต์ พี่กล้าเขาปากจัดเว่อร์ จิกมึงซะพรุน” ไอ้ท็อฟฟี่ยื่นหน้ามากระซิบข้างหู

“มึงไปทำอะไรให้พี่เขาโกรธรึเปล่าวะ” ไอ้อ๋องก็โผล่หน้าเข้ามาเสือกในวงสนทนา

“ยิ่งโดยเฉพาะคำว่า ‘มีอารมณ์ว่าง’นะมึง เขาด่ามึงเรื่องปีที่แล้วชัดๆ” เก่งเปรยขึ้นแต่พุ่งกระแทกอกผมเต็มๆ ผมเคยเล่าไปแล้วใช่ไหมครับที่เฮียบลูพี่ซีเนียร์ปีที่แล้ว(พี่บัณฑิตปีนี้)นัดเลี้ยงสายแล้วผมก็โดดแบบไร้เหตุผล ซึ่งร้านที่นัดก็ไอ้ร้านมาวนี่แหละครับ

“แล้วมึงจะไปป่ะ”

“เขาพูดขนาดนี้ก็ต้องไปแหละ” ผมเอ่ยตอบไอ้ท็อฟฟี่ แต่เมฆที่ยืนเงียบๆมาตั้งนานก็เอ่ยขึ้น

“แล้วผัวมึงจะให้ไปหรอ” ผมนิ่งไปหลายวินาที นั่นสิตอนนี้ผมมีผู้คุมอยู่นี่หว่า

“ก็คงให้ไปแหละ” ล่ะมั้ง
.
.
.
.
.
.
.
.

“ไม่ให้ไป” ทศกัณฐ์ปฎิเสธแทบจะทันทีที่ผมเอ่ยปาก

“ต้องไปจริงๆ น้องเบี้ยวพี่เขาบ่อยแล้ว ยักษ์อย่าไร้เหตุผลดิ” ผมเอาคางเกยไหล่หนาอ้อนๆ ทศกัณฐ์วางไอแพดที่ดูหุ้นอยู่ลงบนโต๊ะแล้วหันมามองหน้าผมตรงๆ แววตาเขาไม่ได้อ่อนลงเลย

“มันเป็นร้านเหล้าและดึก พี่เป็นห่วงมาก เหตุผลแค่นี้พอไหม” สายตาจริงจังของเขาทำผมพูดไม่ออก ก็รู้ว่าห่วงอ่ะ แต่มันก็จำเป็นวุ้ย ลำบากใจไอ้คนกลางอย่างผมเนี่ย

“น้องสัญญาจะไม่ดื่มเหล้า” ผมหาทางออกที่น่าจะดีสำหรับทั้งสองฝ่าย

“ไม่มีทาง ไอ้พวกรุ่นพี่ยังไงเขาก็ต้องบังคับให้ดื่ม” อันนี้น่าจะจริงอย่างที่ทศกัณฐ์ว่าครับ พี่กล้าแกยิ่งดูแค้นๆผมอยู่ อย่างน้อยก็เพียวสิบวิฯ เป็นอย่างต่ำ

“แล้วจะให้น้องทำยังไง”

“ก็ไม่ต้องไป”

“ยักษ์อ่า ไม่เอาแบบนี้ดิ ไปเฝ้าเลยไหมล่ะ” ผมโพล่งออกไปอย่างไม่ทันคิดอะไร แต่อีกคนกลับตอบรับคำพูดผมอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขารอให้ผมเอ่ยปากไว้อยู่แล้ว

“แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน”

++++++++++++++++++++++
วันเสาร์

ยืนอยู่ที่หน้าร้านมาวข้างๆยักษ์ปักหลั่น อีกสิบนาทีจะสี่ทุ่ม เราตกลงกันว่าจะกลับก่อนเที่ยงคืน และทศกัณฐ์จะไม่เข้ามายุ่งกับผมถ้าไม่จำเป็น

เมื่อเดินเข้าไปในร้านเราก็แยกกันไปคนละทาง ทศกัณฐ์บอกว่าเขานัดพี่ดีออกมานั่งเป็นเพื่อน ผมก็เบาใจเพราะไม่อยากให้เขาต้องนั่งรออยู่คนเดียว ผมกวาดสายตาทีเดียวก็เจอกลุ่มพี่บลู เป็นพี่บัณฑิตกลุ่มเขาที่นัดน้องสายตัวเองมาเลี้ยง ต่อโต๊ะยาวหลายตัวคนเยอะมากจนเป็นจุดเด่น ผมก้าวเข้าไปหาพวกเขาด้วยความมั่นใจ

“พี่ๆสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้รอบโต๊ะพร้อมฉีกยิ้มให้ทุกคน รู้จักหรือไม่ก็ต้องทำไว้ก่อน

“น้อง...ใครวะครับ” พี่คนหนึ่งที่ผมจำได้ว่าเป็นเพื่อนพี่บลูมองหน้าผมงงๆ ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจสักเท่าไหร่ที่เขาจะจำผมไม่ได้ เพราะตัวผมก็ไม่ค่อยโผล่ศีรษะไปเข้าร่วมกิจกรรมเวลาพี่เขาอยู่สักเท่าไหร่

“นี่รันต์ น้องสายไอ้บลูไงไอ้ห่าเนม” พี่ผู้ชายอีกคนที่นั่งใกล้ๆกันพูดขึ้น พี่ผู้ชายคนนั้นก็ครุ่นคิดไปสักพักก่อนจะนึกออก

“อ๋ออออ เฟรชชี่ที่โดดเลี้ยงสายไอ้บลูนี่เอง” ถ้าพี่จะจำได้แบบนี้ ไม่ต้องนึกขึ้นมาก็ได้นะครับ

“ไม่ได้เฟรชชี่แล้วครับ เฟรชชี่ชื่อนัท” ผมเอ่ยตอบยิ้มๆแต่ทำเอาเงียบกริบทั้งวง

นี่ผมพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ

“จะยืนค้ำหัวเถียงรุ่นพี่อีกนานไหม นั่งสิ” เสียงพี่กล้าดังขึ้นที่มุมหนึ่ง ผมจึงเดินไปนั่งลงที่ว่างข้างๆเขา นัทที่นั่งถัดจากพี่กล้าผมก็ยกยิ้มทักทายให้เขาบางๆ เหลือบเห็นไอ้เก่งกับท็อฟฟี่ยกมือให้เล็กน้อย

“อ้าวรันต์ มาแล้ว ไอ้กล้าเจ๋งนี่หว่าไปเรียกน้องมาได้” พี่บลูที่เพื่งเดินมาอีกทางเห็นผมเข้าจึงเอ่ยทัก สงสัยพึ่งไปเข้าห้องน้ำมา

“เหลือใครยังไม่มาวะ” เพื่อนพี่บลูที่เป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มถามขึ้น

“เหลือไอ้ออยน้องกูอ่ะ” พี่บลูเอ่ยตอบ

“ฮ่า คิดถึงน้องออยสุดสวยชะมัด” พี่ผู้หญิงคนนั้นพูดยิ้มๆพร้อมทำหน้าตาแปลกๆ

“พอเลยเชี่ยฟ้า อย่าลากน้องไปเบี้ยนกับมึง” พี่คนหนึ่งผลักหัวพี่ฟ้าหยอกๆ จากนั้นพี่เขาก็ให้น้องๆสั่งอาหารกันเต็มที่ มีอาหารบางส่วนเริ่มทะยอยมาเสิร์ฟจากที่สั่งไว้ก่อนหน้านี้

“สวัสดีค่ะพี่ๆ ออยขอโทษที่มาสายน้าพอดีรถติดอ่ะ” พี่ออยเดินเข้ามาตอนเกือยสี่ทุ่มครึ่งด้วยท่าทางรีบๆ พร้อมกับฉีกยิ้มหวานที่ทำเอาผู้ชายและผู้หญิง(บางคน)อ่อนระทวย

“ตอนที่ผมมาจากบ้านก็รถไม่ติดนะ เจ๊มาจากเส้นไหน” พี่กล้าเอ่ยถามพี่ออยที่ทรุดนั่งข้างผม

“กูก็มาเส้นเดียวกับมึงนั่นแหละ แต่กูขี้อยู่เลยอ้างเหตุผลที่ดูดีหน่อย จบนะ” พี่ออยว่าเชิดๆสะบัดผมไม่แคร์สื่อ

“ว่าไงรันต์ หายหน้าหายตาเลยนะลูก” พี่ออยเปลี่ยนเป้าหมายมาคุยกับผมแทน ผมได้แต่ยิ้มให้ เธอชอบเรียกผมเป็นลูกแบบนี้แหละ

“ก็พี่ออยไปฝึกงานก็ต้องไม่เห็นรันต์สิครับ”

“หรอ”ทำไมรู้สึกได้ยินเสียงประสานจากทั้งสองข้างชอบกล

ใช้เวลาไม่นานหลังจากทานอาหารกันพอประมาณ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ก็เต็มโต๊ะ เสียงพูดคุยเล่าประสบการณ์ต่างๆก็เริ่มดังขึ้น จนกระทั่งวกมาเข้าสู่การรับน้องสาย ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อเห็นท็อฟฟี่และเก่งช่วยน้องดื่ม

กูโดนแน่ๆ

“มาถึงสายสุดท้าย สายไอ้บลู...” ผมอยากมูฟตัวเองออกจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยได้ไหม

“ปีหนึ่ง รายงานตัว” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นไม่ดังและไม่เบาจนเกินไปแต่ก็ดูน่าเกรงขาม นัทลุกขึ้นรายงานตัว พี่เขาก็พยักหน้าให้นัทนั่งลงพร้อมแก้วทรงสูงสีอำพันเต็มแก้วถูกยื่นมาตรงหน้า

“สามสิบวิฯ” พี่บลูเอ่ยนิ่งๆ จากนั้นก็มีเสียงโห่จากพี่ๆดังขึ้นมา

“โห่ไรวะ พวกกูให้นางเป็นนาที น้อยไปป่าว”

“น้องมันจะไม่ไหว” พี่บลูว่าเรียบๆ แต่มุมปากกลับมีรอยยิ้มที่ไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่

“พี่มันมีไว้ทำไม ทำไมไม่ช่วยน้อง”แล้วก็มีอีกหลายๆเสียงสนับสนุนประโยคเมื่อกี้ขึ้นมา เจ๊ออยกำลังจะยกมือขออนุญาตช่วยน้องแต่ผมรีบตะครุบมือพี่ไว้แล้วเอ่ยปากเอง

“ขออนุญาตช่วยน้องครับ”

“ว้าว ดูซิว่าใครขอช่วยน้อง” พี่จูเนียร์คนหนึ่งพูดขึ้น ถ้าจำไม่ผิดนั่นเป็นเพื่อนของพี่กล้า

“จะช่วยเท่าไหร่” พี่บลูพูดยิ้มๆเหมือนพอใจ

“เอ่อ สิบ...ห้าวิฯ”

“น้อยไปเปล่า ห้าวิน้องนัทก็จะไม่ไหวแล้ว” กูนี่สิไม่ไหว ผมเงียบไม่พูดอะไร เขาให้ทำอะไรก็ต้องทำแล้วล่ะ

“น่าๆพวกมึง อย่าแกล้งน้องกู สิบห้าก็สิบห้า เอาสิรันต์” พี่บลูส่งอีกแก้วมาทางผม นัทขอเริ่มก่อน พวกพี่ๆก็ส่งเสียงเชียร์นับกันเสียงดัง นัทกระดกชิวๆจนครบเวลาตามที่พี่นับ หน้าเขาแดงปลั่ง ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่

กูตายแน่ๆ

“เอาล่ะ มาถึงคนสุดท้ายที่เรารอคอย”พี่ครามพื่อนพี่บลูพูดขึ้นด้วยความสมใจ แหม่ได้ทีขี่แพะไล่กันดีเนอะ

“ถ้าพร้อมก็ยกเลย” พี่กล้าที่นั่งข้างๆเอ่ยขึ้นนิ่งๆ ผมสูดหายใจเฮือกใหญ่เรียกความมั่นใจ ก่อนจะคว้าแก้วยกขึ้นกระดก อย่างรวดเร็ว ผมนับในใจค่อยๆจิบให้น้อยและช้าที่สุด เมื่อครบเวลาผมจะยกแก้วออกจากปากแต่กลับโดนมือปริศนายันก้นแก้วผมไว้ให้ดื่มต่ออึกใหญ่จนผมแทบสำลักมือนั้นจึงผละออกไป

ผมสะบัดหน้านิดๆรู้สึกมึนงง และโลกหมุนตลอดเวลา แทบจะฟังพวกเขาคุยกันไม่รู้เรื่อง

“ไอ้กล้า ไปแกล้งน้องมันทำไมวะ”

“มันจิบไปนิดเดียวเองเจ๊”

“นิวเดียวบ้านมึงสิ เหลือค่อนแก้วเนี่ย”

ผมมึนๆและเวียนหัวอย่างหนัก รู้สึกผะอืดผะอมอยากจะอาเจียน เลยพยายามลุกขึ้นเงียบๆคนเดียว แต่ก็เหมือนจะเซล้มลงอีก

หมับ! แขนหนาของใครบางคนสอดเข้าพยุงเอวผมเพื่อให้ผมทรงตัวได้ ผมหันไปมองแต่ผมมันซ้อนๆกันมองไม่ค่อยชัด กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่หอมจัดจนฉุนทำให้ผมย่นจมูกนิดๆเพราะเวียนหัวหนักกว่าเดิม

“เดี๋ยวหนูพารันต์ไปเข้าห้องน้ำนะคะพี่” ผมรู้สึกเหมือนมีใครพาเดินไปที่ไหนสักแห่ง ได้ยินเสียงพูดอยู่ใกล้ๆหูแต่ผมฟังไม่ได้ศัพท์สักเท่าไหร่

“มึง อ้วกออกให้หมดเลยนะ จะได้ดีขึ้น” สัมผัสลูบหลังผมไม่เบานักทำให้ผมรู้สึกผะอืดผะอมขึ้นมา มือผมควานหาโถตามสัญชาตญาณก่อนจะอ้วกออกมาจนแสบคอไปหมด ผมอ้วกอยู่นานจนรู้สึกดีขึ้นแต่ก็ยังมึนหัวอยู่

มีคนพยุงผมไปล้างหน้าและบ้วนปาก ผมยืนอยู่นิ่งๆสักพักจึงรู้สึกดีขึ้น มองไปที่คนที่ยืนอยู่เคียงข้างก็เป็นไอ้ท็อฟฟี่อย่างที่คิดจริงๆ

“อ่ะ ดื่มสักหน่อยจะได้รู้สึกดีขึ้น” มันยื่นขวดโซดามาให้ ผมก้รับมาดื่มโดยไม่อิดออด

“ขอบใจ”

“เออ กูโคตรสงสารมึงค่ะดอก แต่อย่าโกรธอะไรพี่เขาเลย เขาก็แกล้งแรงแบบนี้ไปตามธรรมเนียมแหละ”

“ไม่ได้โกรธ” แต่กูจำ

“กูเห็นพี่ทศ มึงไปนั่งกับพี่เขาก่อนดีไหม กลับตอนนี้พี่เขาจะเข้าใจผิดเอา”

“อืม”

ท็อฟฟี่กับผมพากันเดินออกจากห้องน้ำ มันพาผมเดินไปอีกทาง แต่อยู่ๆแผ่นหลังกว้างของท็อฟฟี่ก็หยุดลงกะทันหัน

“อิรันต์ งานเข้าค่ะ” ผมขมวดคิ้วมุ่นและลากสายตาตามที่ท็อฟฟี่มองอยู่

ตรงนั้นมีผู้ชายนั่งดื่มบนโซฟาอยู่สองคน และมีผู้ชายตัวเล็กอีกคนหนึ่งนั่งอยู่...บนตักแฟนผม

“เอาไง ตบไหมมึง” ผมไม่ตอบท็อฟฟี่แต่เดินตรงไปยังที่ทศกัณฐ์นั่งอยู่ทันที

“ยักษ์”ทศกัณฐ์หันมามองตามเสียงเรียกพร้อมๆกับที่ผู้ชายหน้าหวานคนนั้นกระเด็นออกจากตักทศกัณฐ์พอดิบพอดี

“เสร็จแล้วหรอ” ผมส่ายหน้า เขาจึงขยับที่ให้ผมนั่ง ผมก็ทรุดลงนั่ง...บนตักแฟนผม โดยไม่อิดออด พิงหลังกับอกแกร่งอย่างต้องการพัก แขนหนาก็โอบเอวผมหลวมๆไว้กันตก

“เมารึยัง” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบชิดหู

“เมา” ผมพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขา สองแขนโอบรอบคอแกร่งพร้อมกลับซุกหน้าไถจมูกกับบ่าเขาอย่างที่ชอบทำ

“กลับเลยไหม?” ทศกัณฐ์ถามพลางลูบหลังให้ผมไปด้วย

“ยัง ว่าแต่...เขาเป็นใครหรอ” ปากผมถามทศกัณฐ์ แต่สายตาผมหันไปมองพร้อมฉีกยิ้มบางๆให้บุคคลแปลกหน้าที่ย้ายไปนั่งข้างพี่ดีแล้ว เขาที่จ้องพวกผมอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นผมมองกลับก็หน้าเครียดขมึงใส่ผมทันที

“น้องไอ้เซนท์ ชื่อซี” ทศกัณฐ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร

“อ๋อหรอ แล้วทำไมเขาถึงมานั่งตักพี่ได้ล่ะ”

“เขาล้ม พี่เลยรับไว้” ผมพยักหน้ารับรู้

“ผมชื่อรันต์นะครับ” ผมยิ้มแล้วแนะนำตัวกับอีกคน

“ซีครับ”

“คุณ ไม่เป็นอะไรนะครับ”

“ครับ” เขาตอบห้วนๆตัดบทแล้วยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นดื่ม

“โชคดีจังเลยนะครับที่คุณล้มใส่แฟนผมพอดี ไม่อย่างนั้นคงเจ็บตัวแย่” แก้วที่เขายกขึ้นดื่มชะงักไป  เขาวางแก้วลงบนโต๊ะเสียงดัง พี่ดีหันไปมองดุๆ ทศกัณฐ์ก็มองด้วยความไม่ชอบใจ แต่ผมเพียงยิ้มให้เขา

“ผมกลับก่อนนะ” พูดจบเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที

“รันต์พี่ขอโทษแทนซีด้วย” พี่ดีเอ่ยขอโทษแทนคนที่จากไปแล้ว

“พี่ดีจะขอโทษทำไม มันเป็นอุบัติเหตุนี่ครับ อย่าคิดมากเลย รันต์ไม่ถือสา”

“อืม”

“ยักษ์ เดี๋ยวน้องจะไปหารุ่นพี่ก่อนนะ อีกครึ่งชั่วโมงค่อยกลับ” ผมหันมาพูดกับอีกคนที่นั่งทับเขาอยู่ ทศกัณฐ์พยักหน้าพร้อมยื่นหน้ามาหอมแก้มผมหนึ่งฟอด

“อ้าว ยังไม่กลับหรอครับคุณซี” ผมเดินมาทางห้องน้ำแล้วเอ่ยทักอีกคนที่กำลังล้างมือที่อ้างล้างหน้าอยู่ เขาหันมามองผมด้วยสายตาทิ่มแทงเสียยิ่งกว่ามีดอีก

“นายจงใจใช่ไหม” เขากัดฟันถามออกมา

“ผมต่างหากที่ต้องเป็นคนพูดคำนั้น ฉลาดล้มได้ถูกที่ดีนะครับ ที่ว่างขนาดนั้นสะดุดอากาศล้มหรอ” ผมพูดยิ้มๆ เอาตรงๆตอนที่เห็นภาพเขานั่งอยู่บนตักทศกัณฐ์ก็ทำผมพูดไม่ออกเหมือนกัน ตอนนั้นสัญชาตญาณผมบอกว่าไม่ควรปล่อยผ่านไปง่ายๆ อาจจะเพราะผมเมาผมเลยกล้าทำตัวหน้าไม่อายแบบนั้นล่ะมั้ง

ที่ผมเดินมาเจอเขาตรงนี้ก็ไม่ได้บังเอิญหรอกนะ

“เหอะ! แล้วยังไงอย่างน้อยผมก็ไม่ตีสองหน้าเก่งเหมือนนาย”

“แต่คนตีสองหน้าเก่งอย่างผมก็เป็นคนที่ได้เขามานอนกอดทุกคืนนะครับ ไม่เหมือนบางคน พยายามสำออยแทบตายแต่ก็ได้แค่นั้น”

“แก ถ้าพี่ทศกัณฐ์รู้ว่าแกเป็นคนแบบนี้เขาจะว่ายังไง”

“เขาก็จะหอมแก้มผมสองฟอดแล้วถามว่าอยากได้อะไรน่ะสิครับ” ซีกัดฟันกรอดกำมือแน่น แต่สิ่งที่ผมพูดให้เขามันก็จริงทุกอย่างนี่ครับ

“ผมเตือนว่าอย่าพยายามล้ำเส้นให้มันมากเกินไป ผมทำได้มากกว่านี้อีก ต่อให้คุณเป็นน้องพี่เซนท์ก็อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ” พูดจบผมก็เดินออกมาเลย

เอ...หรือว่าผมจะว่าเขาเกินไปนะ

ช่างเถอะ ใครบอกให้เขามองแฟนผมด้วยสายตาแบบนั้นกันล่ะ สายตานั้นผมทำได้คนเดียว

ผมเดินไปโต๊ะพี่ๆ นั่งดื่มน้ำอัดลมเงียบๆฟังพวกเขาคุยกัน พี่ปีสูงก็ไม่ได้บังคับให้ผมดื่มอีก ท็อฟฟี่มองผมเหมือนจะถามเรื่องที่เกิดขึ้น ผมจึงยิ้มและยกนิ้วโอเคให้มัน มันเลยพยักหน้าตอบกลับมา ผมนั่งอีกสิบนาทีก็ขอตัวกลับโดยอ้างว่าเมา พวกเขาก็ยอมให้ผมกลับแต่โดยดี

ผมออกมานอกร้านแล้วโทรบอกทศกัณฐ์ เขาบอกให้ผมไปรอที่รถ เขาขอเคลียร์บิลก่อน ผมยืนพิงรถเงียบๆกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นคนที่ผมพึ่งไปวางท่าใส่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ไม่ไกล เขาคงยังไม่เห็นผม แต่ถ้าหันมาก็จะเจอผมเต็มๆเลยล่ะ

“ยุงกัดไหม” ร่างหนาที่เดินมาถึงตัวผมก็เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง และเป็นจังหวะเดียวกับที่ซีหันมาทางนี้พอดี อาจเป็นเพราะเขาได้ยินเสียงทศกัณฐ์

“โอ๊ย! เจ็บขา” อยู่ๆโรคขาเจ็บก็เกิดขึ้นกะทันหัน ผมแกล้งทรุดตัวตรงๆแบบว่ารู้แน่ๆว่าแกล้ง แต่ทศกัณฐ์ก็เลือกที่จะตามน้ำเล่นละครไปกับผม เขารีบสอดแขนพยุงผมไม่ให้ล้ม ปลดล็อกรถเปิดประตูแล้วจับผมให้นั่งลงบนเบาะหนังนุ่มๆ โดยหันเท้าออกมานอกรถ

“เจ็บข้างไหน” ทศกัณฐ์ทรุดเข่าลงกับพื้นข้างหนึ่ง ผมชี้มั่วๆไปที่เท้าขวา เขาก็จับขาผมพาดตักตัวเอง ถอดรองเท้าผมออกอย่างเบามือราวกับกลัวว่าทำทำแรงไปขาผมมันจะหักซะอย่างนั้น เขานวดๆคลึงๆให้ผมอยู่สักพักก่อนจะเงยหน้าพูดกับผม

“อาจจะพลิกนิดหน่อย น้องทนเจ็บนะ กลับห้องไปพี่จะเอายานวดให้” ร่างสูงบอกยิ้มๆ ดวงตาสีเขียวซีดทอประกายแวววับอย่างรู้ทัน

“อื้อ ขอบคุณครับ” ผมโน้มตัวไปจูบหน้าผากเขาหนักๆหนึ่งทีที่ยอมตามใจ

ก็นั่นแหละครับ ถ้าทศกัณฐ์ตามผมไม่ทัน ผมไม่เอาเขามาทำ...แฟนหรอก

+++++++++++++++++++++++++

แอบมาดึกๆ คิดถึงทุกคนนะ แต่มอเลื่อนสอบมันเลยไม่ว่างยืดเยื้อเป็นเดือนแบบนี้แหละ รอหน่อยเน้อ จุ๊ฟฟฟฟ :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #855 เมื่อ17-12-2017 23:53:24 »

 :pig4:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #856 เมื่อ18-12-2017 00:05:17 »

ชอบช็อตวันนี้ของน้องรันต์


แต่!!!! พี่กล้าคืออะไร???

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #857 เมื่อ18-12-2017 01:31:20 »

 :katai2-1:

ออฟไลน์ ravyy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 77
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #858 เมื่อ18-12-2017 02:32:56 »

มันต้องแบบนี้จ้า หึๆๆๆ สะใจมากนุ้งรันต์

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #859 เมื่อ18-12-2017 05:55:32 »

อย่ามายุ่งกับแฟนรันต์นะ ฮึ่มมมม  :m16:
ตอบโต้แบบนิ่มๆ เตือนดีๆแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ
งั้นเจอลูกอ่อย ลูกอ้อน ให้อิจฉาตาร้อนไปเลย

นี่เล่นเบาะๆนะ ถ้าเจอสุดๆแล้วจะซีด  :angry2: :angry2: :angry2:
ทศ ก็เล่นด้วย น่าร้ากกกกก  :mew1:
ทศ รันต์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
« ตอบ #859 เมื่อ: 18-12-2017 05:55:32 »





ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #860 เมื่อ18-12-2017 07:26:05 »


ตามกันทันด้วย  น่ารักอ่ะ  :L1:




ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #861 เมื่อ18-12-2017 08:48:46 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #862 เมื่อ18-12-2017 09:55:05 »

อย่างนี้แหละถึงไปด้วยกันได้รู้ทันกัน

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #863 เมื่อ18-12-2017 10:18:37 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》♡ตอนที่ 37♡[17/12/60]
«ตอบ #864 เมื่อ18-12-2017 10:49:47 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 37❤[17/12/60]
«ตอบ #865 เมื่อ18-12-2017 16:37:16 »

คนของเราค่ะ อย่าให้ใครมายุ่ง ชอบรันต์เวอร์ชั่นนี้มาก :mew1:

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 37❤[17/12/60]
«ตอบ #866 เมื่อ18-12-2017 20:10:11 »

พี่ยักษ์น้องรันต์ :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 37❤[17/12/60]
«ตอบ #867 เมื่อ18-12-2017 21:13:33 »

ชอบมาก แซ่บค่ะ

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #868 เมื่อ30-12-2017 17:44:12 »

ใจยักษ์ 38

“ทำไรอยู่...ฟอด!” ผมเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมองคนที่ย่องมาขโมยหอมแก้มผมเงียบๆ เขาอยู่ในชุดจ๊อกกิ้งที่ชื้นเหงื่อนิดๆ ดวงตาสีเขียวซีดเป็นประกายสดใส ริมฝีปากหนาได้รูปหยักยิ้มที่มุมปากอย่างอารมณ์ดี  ผมคั่นหนังสือปิดไว้แล้วกวักมือเรียกอีกคนให้โน้มหน้ามาใกล้ๆผมที่นั่งอยู่

ทศกัณฐ์โน้มตัวข้ามโซฟาเข้ามาใกล้ตามที่ผมเรียก ผมจึ่งยื่นหน้ากดจมูกลงบนแก้มของคนรักคืน ได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะปรับองศาให้ริมฝีปากเราประกบกันพอดี มือหนายื่นมาดันท้ายทอยผมให้ริมฝีปากเราชิดสนิทแนบแน่นยิ่งกว่าเดิม ต่างคนต่างขบเม้นริมฝีปากของกันและกันอย่างโหยหา ลิ้นอุ่นร้อนถูกส่งเข้ามาหยอกล้อกันด้วยความคุ้นเคย กวาดต้อนแลกเปลี่ยนเอนไซม์ระหว่างกันอย่างไม่รู้เบื่อ เสียงดูดดึงริมฝีปากดังเข้าหูผมเป็นระยะ เราจูบกันนานมากจนผมรู้สึกว่าริมฝีปากชานิดๆ แต่มาได้สติอีกทีก็ตอนแผ่นหลังผมสัมผัสกับอุณหภูมิเย็นเฉียบของโซฟา

“ฮื่อ...อ๊ะ ยักษ์จะทำอะไร” ผมเอ่ยคำถามที่รู้คำตอบอยู่แล้วกับอีกคนด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อเห็นกางเกงเลเนื้อเบาที่ชอบใส่กำลังจะหลุดออกจากขา ผมปรือสายตามองอีกคนที่กำลังมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไฟแห่งความปรารถนาและตอนนี้เขาก็คร่อมตัวลงมาเหนือร่างผมแล้ว

“ทำรัก...จุ๊บ”ตอบได้หน้าตาเฉยแถมยังมาจุ๊บเหม่งผมซะเสียงดัง

“แต่ว่า...มันยังเช้าอยู่เลยนะ” ผมอึกอักหน้าแดง

“แล้วไง? มันเป็นการแสดงความรักรูปแบบหนึ่งเราจะทำเวลาไหนก็ได้”

“…”หลักการมาเต็มจนผมเถียงไม่ออก

“พี่รักน้องตลอดเวลา พี่ก็อยากทำกับน้องตลอดเวลานั่นแหละ” นี่ไม่ใช่ข้ออ้างของคนหื่นกามใช่ไหมครับ แต่ที่แน่ๆตอนนี้คือหน้าผมสุกไปหมดแล้ว

“น้อง...นะครับ” ท่าหงอยๆเหมือนลูกสุนัขหูลู่หางตกโคตรจะไม่เข้ากับผู้ชายตัวโตๆอย่างทศกัณฐ์เลยเถอะ

 แต่เชี่ยเอ้ย! มันทำให้ผมใจสั่นเลยว่ะ ถ้าผมถอดเสื้อให้เขาเองเลยจะน่าเกลียดไปไหมนะ

“ก็ได้ แต่รอบเดียวนะน้องหิวแล้ว”ผมแกล้งทำเป็นเสียงเข้มกลบเกลื่อนความอายแต่พวงแก้มที่ร้อนผ่าวก็บ่งบอกได้ดีว่าผมเขินเขาขนาดไหน ทศกัณฐ์กระตุกยิ้มหล่อให้อย่างดีใจ เขายิ้มกว้างจนตาหยีขึ้นเล็กน้อย

“เมียพี่น่ารักที่สุด”

++++++++++++++++++++

หมับ! แรงกอดรัดจากด้านหลังพร้อมสัมผัสหนักๆจากริมฝีปากอีกคนที่ข้างขมับ ผมเกือบจะทำมีดหลุดมือแล้วเชียวถ้าไม่เริ่มชินกับการจู่โจมกะทันหันของเขา ผมจึงหันไปส่งสายตาดุๆให้แทนการว่า

“ไปรอข้างนอกเลยไป น้องจะทำกับข้าว” ผมเอ่ยปากไล่อีกคนแล้วหั่นหมูต่อ

“ทำไมไม่โทรสั่ง ไม่เหนื่อยหรือไง” ทศกัณฐ์เกยคางบนไหล่ผมอ้อนๆ แต่ผมก็เอียงหลบไปล้างผักอีกทาง

“แล้วมันเพราะใครกันล่ะ น้องหิวจะแย่!ถ้าโทรสั่งเมื่อไหร่จะได้กิน” ผมตวัดสายตาเคืองๆไปให้ยักษ์ขี้แกล้ง ถึงจะบอกว่ารอบเดียว แต่ผมเสร็จไปสาม ล่อไปสองชั่วโมงกว่า ทศกัณฐ์กลั้นแล้วกลั้นอีกไม่ยอมถึงสักที บ้าที่สุด! หิวจะตายอยู่แล้ว

เอ๊ะ!นี่ผมคิดเรื่องบ้าอะไรอยู่วะ

“ขอโทษครับ พี่แค่อยากกอดน้องนานๆนี่” ทศกัณฐ์ทำหน้าซึม พูดเสียงหงอยซะผมรู้สึกผิด

อึก!เจอโหมดนี้ทศกัณฐ์เข้าไปแล้วผมจะพูดอะไรได้ล่ะครับ จริงๆผมยอมเขาเองนี่หว่า

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นเลย น้องแค่โมโหหิวไปอย่างนั้น ไม่ได้โกรธยักษ์สักหน่อย”

ทศกัณฐ์ยิ้มกว้างขยับมาใกล้แล้วกดจมูกหอมแก้มที่ป่องหน่อยๆของผมไปหลายที

“พอเลยๆ ไม่ได้กินข้าวพอดีวันนี้” ผมดันอกกว้างให้ห่างตัว ทำตั้งนานพึ่งล้างต้นหอมได้ต้นเดียวเอง

“หึๆ เขินก็บอก” เออดิ แต่ผมไม่พูดหรอกแค่ยักไหล่ใส่เขาไปเท่านั้นแล้วหันไปล้างแครอทต่อ

“ทำไรกินอ่ะ” ทศกัณฐ์ที่เงียบไปนานและไม่ได้ขยับตัวออกจากครัวไปไหนถามขึ้นขณะที่ผมกำลังตั้งกระทะ

“ข้าวผัด” ถึงแม้จะหิวมาก แต่อาหารแต่ละมื้อที่ผมทำจะต้องถูกปากพ่อคนเรื่องมากอย่างทศกัณฐ์ด้วย แม้ว่าผมจะเคยทำต้มมาม่าให้เขากินมาก่อนก็เถอะ

“สอนหน่อยดิ”

“หือ?” ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหมครับ “คิดยังไงถึงอยากทำครับ”

“ก็อยากทำเฉยๆ” ผมมองตาทศกัณฐ์อย่างค้นหา ร้อยวันพันปีไม่เคยอยากทำอาหาร แค่ต้มมาม่าเขายังไม่ทำเลยเถอะ แต่ทศกัณฐ์นิ่งมาก ผมมองไม่ออกว่าเขาคิดอะไรอยู่

“โอเค ขั้นตอนแรกก็เตรียมวัตถุดิบ อยู่ที่ว่าเราจะทำข้าวผัดอะไร วันนี้น้องทำข้าวผัดหมู น้องก็จะหั่นหมูเป็นชิ้นๆแบบนี้...” ผมปิดเตา แล้วเริ่มสอนทศกัณฐ์โดยไม่เซ้าซี้เขาอีก เรียกเขาเข้ามาใกล้ๆสอนวิธีการหั่นหมูและผักให้เขาดูช้าๆ ให้เขาลองทำเองก็เกือบเฉือนนิ้วตัวเองไปหลายครั้ง ผมต้องจับมือหนาแล้วค่อยๆพาทำ

ซึ่งผมไม่ได้โอบเขาจากด้านหลังเหมือนในละครหรือนิยายหรอกนะครับ ตัวทศกัณฐ์ไม่ใช่เล็กๆขืนทำแบบนั้นคงตลกพิลึก ผมยืนอยู่ด้านหน้าส่วนทศกัณฐ์อยู่ด้านหลังเยื้องมาข้างๆคลายๆเขาโอบผมมากกว่า(เขิน) สรุปข้าวผัดฝีมือผม(ซะส่วนใหญ่)และทศกัณฐ์ก็ใช้เวลาไปเกือบชั่วโมง แต่ก็ดีครับ โรแมนติกไปอีกแบบ หึ

“เป็นไง อร่อยไหม” ผมเอ่ยถามเมื่อทศกัณฐ์ตักคำแรกเข้าปาก

“ก็เหมือนเดิม...อร่อย” คนทำอาหารพอได้ยินคนกินชมว่าอร่อยมันก็รู้สึกดีมากเหมือนตัวจะลอยเลยนะครับ

“พี่ก็ปรุงตามที่น้องบอก ส่วนผสมมันไม่เยอะหรอก ปริมาณถ้าจำไม่ได้ก็กะเอาใส่น้อยๆไปก่อนถ้าไม่พอดีหรืออยากได้รสไหนก็ปรุงเพิ่ม” ทศกัณฐ์พยักหน้าฟังอย่างตั้งใจ กินไปและครุ่นคิดไปเหมือนพยายามทวนความจำที่ผมพึ่งสอนไป

หลังจากกินอาหารเช้า(และเที่ยง)เสร็จ เราก็แยกย้ายไปทำกิจวัตรของตัวเอง ทศกัณฐ์ทำงานของในห้องทำงานบนชั้นสอง ส่วนผมอ่านหนังสือเตรียมสอบไฟนอล อ่านไปอ่านมาก็ผล็อยหลับไป มารู้ตัวอีกทีตอนทศกัณฐ์มาปลุกให้ไปล้างหน้าแต่งตัว เขาจะพาออกไปกินข้าวข้างนอกกับพี่สมิธ

ทศกัณฐ์พาผมออกจากห้องตอนหกโมงเย็น แต่ถึงโรงแรมหนึ่งทุ่มกว่า สถานที่ที่พี่สมิธนัดคือเล้านจ์สุดหรูบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งใจกลางกรุง พอไปถึงก็เห็นพี่สมิธนั่งโดดเด่นอยู่มุมหนึ่ง โต๊ะที่เขาเลือกค่อนข้างเป็นส่วนตัวและสามารถชมความสวยงามของวิวยามค่ำคืนในกรุงเทพได้เป็นอย่างดี

“ช้า” ยังไม่มันที่ก้นจะแตะบนเก้าอี้ พี่สมิธที่ละจากวิวมามองก็บ่นพวกผมทันที

“มาขับรถให้พวกกูสิ จะได้เร็วทันใจมึง”

“สัส!”

บอกผมทีว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน ทศกัณฐ์ยกมือเป็นสัญญาณ ไม่นานบริกรชายที่แต่งตัวเนี้ยบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าก็เข้ามาให้บริการ ผมสั่งสเต็กปลาทูน่ากับน้ำกีวี่เพราะยังอิ่มๆอยู่ ส่วนทศกัณฐ์และพี่สมิธก็จัดหนักทั้งสเต็กโกเบ สเต็กขาแกะ ลาซานญ่า สปาเก็ตตี้ซอสเนื้อ บลาๆ ตบท้ายด้วยไวน์แดงที่ผมเห็นราคาแล้วแทบช็อค

พระเจ้า...ผมไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาตัวใหญ่(แต่ไม่อ้วน) โดยเฉพาะพี่สมิธนะดูจะชอบอาหารอิตาเลี่ยนสุดๆ

“มองหน้าพี่อยากมีเรื่องหรืออยากมีเราจ้ะหนูรันต์” พี่สมิธเลิกคิ้วถามกวนๆ

“เดี๋ยวมึงจะมีเลือด”

“แหม่...นิดๆหน่อยๆไม่ได้เลย” พี่สมิธเบ้หน้าใส่ทศกัณฐ์ ก่อนจะหันมาคุยกับผมแทนเพื่อนสนิท

“มึงอ้วนขึ้นป่ะเนี่ย” ดูคำพูดเขาแต่ละคำสิครับ

“3กิโลฯครับ” ผมก็เริ่มสังเกตว่าตัวเองเริ่มมีแก้ม แต่ส่วนอื่นก็ไม่ค่อยได้สังเกต เลยหันไปมองหน้าทศกัณฐ์นิดๆทำไมเขาไม่เห็นพูดอะไร ผมอ้วนขึ้นจนดูออกได้ขนาดนั้นเลยหรอ ทศกัณฐ์คงเห็นสีหน้าเป็นกังวลของผมเขาจึงเอ่ยปลอบใจ

“ไม่อ้วนหรอก ออกแค่แก้มแล้วก็...”

“แล้วก็...?” ผมเอียงคอมองยักษ์ด้วยความสงสัยใคร่รู้

“หึ” ทศกัณฐ์ไม่ตอบแต่หัวเราะในลำคอแทน

“อะไรอ่ะ บอกมานะ”ผมเขย่าแขนยักษ์เหมือนเด็กอยากได้ของเล่น มาทำให้อยากรู้แต่ดันอมพะนำไว้ไม่ยอมบอก แต่ทศกัณฐ์ก็เอาแต่ยิ้มมุมปากไม่ยอมพูดท่าเดียว ผมจึงเลิกตื้อ เอามือกอดอกแล้วหันไปมองวิวแทน

บ่งบอกว่าผมจะโกรธแล้วนะ...ไม่ได้งอนอะไรทั้งนั้น

“น้องไม่อยากให้พี่พูดตอนนี้หรอกเชื่อสิ เดี๋ยวกลับห้องจะบอก โอเคไหมครับ” ทศกัณฐ์โน้มหน้าเข้ามากระซิบใกล้หู ผมจึงหันไปหาต้นเสียง แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าเอาหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนี้ จมูกเราเลยสัมผัสกันโดยบังเอิญ อีกนิดปากก็จะแตะกันอยู่แล้ว ผมย่นจมูกใส่เขาแล้วขยับหน้าออกห่างส่วนอีกคนกดยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

“รันต์อ้วนมากเลยหรอพี่สมิธ”

“ใช่ อ้วนมาก โดยเฉพาะตรงนี้” พี่สมิธยื่นมือมาดึงสองข้างแก้มผมด้วยความหมั่นเขี้ยว ผมก็ได้แต่ร้องอือาให้เขาแกล้งไป ไอ้คนที่นี่งข้างๆก็ไม่ช่วยกูเล้ย

ไม่นานไวน์แดงก็ถูกนำมาเสิร์ฟก่อนอาหาร ปกติจะมีบริกรคอยรินไวน์ให้แต่ทศกัณฐ์ก็ให้เขากลับไปแล้วเทจิบเองด้วยเหตุผลที่ว่า

“มันเทไม่ทันใจ”

คือบริกรเขาก็ต้องบริการอย่างพิถีพิถันไม่ใช่หรอ ตัวเองน่ะใจร้อนเอง หลังจากนั้นอาหารก็ค่อยๆทยอยมาเสิร์ฟตามลำดับ เราใช่เวลาดื่มกินพร้อมชมวิวไปด้วยเกือบๆหนึ่งชั่วโมง อาหารที่สั่งมาถูกจัดการเรียบ เรานั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆมีลมพัดมาเอื่อยๆเคล้าคลอไปกับเพลงacousticฟังสบายๆ ผมที่ดื่มไปนิดหน่อยด้วยความเพลินก็ไม่ถึงกับมึนมาก จนไวน์ขวดที่สองหมดเราถึงได้แยกย้ายกันกลับ พี่สมิธมีรถมารอรับอีกแล้ว คันเดิมกับเมื่อคืนเลยครับ

“กุญแจรถมา เดี๋ยวน้องขับ” ผมแบมือขอกุญแจรถกับอีกคนเพราะทศกัณฐ์ก็ดื่มไปมากอยู่ ถึงจะน้อยกว่าเรทปกติของเขาก็ตาม

“พี่ไม่เมาเหอะ น้องนั่นแหละตาเยิ้มเชียว” ทศกัณฐ์ลูบแก้มผมบางๆแทนการปฏิเสธให้กุญแจรถ เขาจับผมนั่งฝั่งข้างคนขับก่อนจะพาตัวเองไปเป็นสารถีให้ผมแทน

เขากดปุ่มสตาร์ทก่อนแล้วมาช่วยผมคาดเบลท์ที่พอเริ่มคบกันเขาก็จะทำให้ตลอด ผมก็ยอมให้เขาทำนะเพราะมันเหมือนเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจจากเขา และช่วงที่ทศกัณฐ์โน้มตัวมาคาดเบลท์ให้ผมหน้าเราอยู่ใกล้กันมาก จริงๆก็รู้ว่าเขาจงใจนั่นแหละ ผมมองสบตากับอีกคนโดยไร้เลนส์ขวางกั้น(ผมใส่แว่นเฉพาะเวลาไปมหาลัย) ไม่มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้น มีเพียงความหมายที่สื่ออกมาทางสายตาระหว่างเรา ริมฝีปากหนาได้รูปเคลื่อนเข้ามาใกล้ปากอิ่มที่เผยอคอยท่า

ผมหลับตาพริ้มเมื่อกลีบปากถูกสัมผัสและดูดุนเบาๆก่อนจะค่อยๆไต่ระดับเป็นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ สองแขนคล้องคอร่างหนาเพื่อให้ได้ท่าที่ถนัดและสบายที่สุด ลิ้นร้อนสอดเข้ามากระหวัดเกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน รสชาติฝาดเฝื่อนของไวน์ที่ติดอยู่ลิ้นทศกัณฐ์มากกว่ายิ่งทำให้ผมมัวเมาไปกับรสจูบนี้ยิ่งกว่าเดิม

เมื่อผมรู้สึกว่าอารมณ์ของเราสองคนกำลังจะเลยเถิด ผมจึงสะกิดเอ่ยเตือนอีกคนที่ย้ายไปจูบตามต้นคอผมแล้วให้หยุด ทศกัณฐ์เกร็งตัวค้างก่อนจะหายใจหนักๆอย่างพยายามระงับอารมณ์ทั้งๆที่ใบหน้าเขายังฝังอยู่กับซอกคอผมอยู่ ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของเขาที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ ขนาดผมยังเริ่มมีอารมณ์ไม่ต้องถามถึงทศกัณฐ์เลยครับว่าเขาจะขนาดไหน หื่นแทบทุกเวลา

“จะทำให้หลงไปถึงไหน พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” ทศกัณฐ์พึมพำกับตัวเองเสียงเบาก่อนเขาจะเงยหน้ามาหอมแก้มผมหนักๆอีกหลายทีจนพอใจเขาแล้วนั่นแหละเขาถึงได้ย้ายกับไปที่ตัวเอง คาดเบลท์ใส่เกียร์แล้วเริ่มออกรถ มือหนาเอื้อมมาขยี้หัวผมเบาๆ บอกว่าถ้าง่วงก็ให้นอนเลย

ส่วนผมก็นั่งเงียบตัวแดงให้กำลังใจ(?)เขาไป

+++++++++++++++++++++++++

“ดูให้หน่อย ชอบคันไหน”

ในเช้าวันหยุดที่แสนสงบสุข อยู่ๆอีกคนก็เดินหน้านิ่งๆวางหนังสือรถลงบนตักผมก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรเพิ่มเติม ผมที่ยังเอ๋อก็ได้แต่มองตามหลังเขาไปด้วยความมึนงง เปิดหนังสือดูมีแต่รถสปอร์ตสวยๆทั้งนั้น บอกรายละเอียดต่างๆทั้งสเปค CC แรงม้า แต่ไม่มีราคาบอก ผมเลือกไว้สองคันดูที่มันน่าจะเหมาะสมกับทศกัณฐ์และไม่เว่อร์มากจนเกินไป บางทีเขาอาจจะอยากเปลี่ยนรถใหม่แต่เลือกไม่ได้ล่ะมั้ง

ทศกัณฐ์ที่เพิ่งไปวิ่งกลับมาผมก็ยื่นหนังสือให้เขา เขาเปิดดูทันทีก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นที่ผมเลือกไว้

“เอาที่รันต์ชอบ ไม่ใช่พี่ชอบ”

“ทำไมอ่ะ?” ผมถามเพราะรู้สึกว่ามันเริ่มแปลกๆ

“ก็ดูๆไว้ไง เผื่ออนาคตได้ใช้”

“น้องไม่ซื้อหรอก แพงไป” ไอ้เรื่องรถเนี่ยปกติผมก็ไม่ค่อยสนใจหรอกนะครับ มีก็ดีไม่มีก็ได้ ซึ่งอนาคตถ้าผมเรียนจบมีงานทำแล้วก็ไม่รู้จะซื้อไหม ถ้าจำเป็นอย่างมากก็ราคาช่วงล้านต้นๆก็พอครับ แต่ดูที่ทศกัณฐ์เอามาให้ผมดูสิครับถึงไม่มีราคาบอกแต่รถนำเข้าสวยๆพวกนี้ก็น่าจะหลักสิบล้านขึ้นไปแน่ๆ

“ก็ไม่ได้ให้ซื้อ ถามความคิดเห็นเฉยๆ” พอเขาพูดแบบนั้นผมก็พยักหน้าเข้าใจก่อนจะเปิดๆดูอีกรอบ แล้วชี้ไปที่รถคันหนึ่งเป็นยี่ห้อที่มีห่วงวงกลมสี่ห่วงเป็นเอกลักษณ์ ผมไม่ได้ดูรายละเอียดแต่ดูรูปทรงรถและเป็นสีขาวก็สวยดี ทศกัณฐ์พยักหน้าก่อนจะพับหนังสือเก็บ ผมเลิกคิ้วมองเขานิดๆจะไม่ถามอะไรเลยหรือไง

หลังจากนั้นเราก็ทานอาหารเช้ากันปกติ ไม่ได้พูดเรื่องรถอีก บ่ายๆทศกัณฐ์ก็พาผมออกไปเดินห้างใกล้ๆคอนโดฯ เขาพาผมไปดูหนังแต่ตัวเองดันหลับซบไหล่ผมตั้งแต่ครึ่งชั่วโมง แล้วไอ้หนังเรื่องนี้ก้ใช่ว่าผมจะอยากดูนะครับ แต่ก็ดูๆไปจะได้คุ้มค่าที่นั่งฮันนีมูนซีทนี่

พอกลับถึงห้องผมโดนทศกัณฐ์จัดก่อนกินข้าวไปหนึ่งยก(เพราะเมื่อวานกลับมาเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผม) จากนั้นก็พักอาบน้ำกินข้าว ดึกๆพอจะหลับก็โดนสะกิดอีก แต่เขาก็ค่อนข้างทำเวลาเพราะรู้ว่าพรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้า
.
.
.
.
.
.

“อิรันต์ มึงอยากรู้ไหมว่าเมื่อวานกูไปเจอใครมา” ท็อฟฟี่หันมาคุยกับผมทันทีที่ผมวางจานข้าวลงบนโต๊ะ ผมนั่งลงข้างๆเมฆก่อนจะกวนตีนไอ้ท็อฟฟี่

“ไม่อยากรู้”

“เอ๊ะ!อินี่ ไม่อยากรู้มึงก็ต้องรู้ กูไปเจอโจกท์มึงมาจ้า” ผมเลิกคิ้วมองมันก่อนจะตักผัดวุ้นเส้นเข้าปาก

“ใครวะ”

“ก็ใครล่ะที่นั่งตักผัวมึงเมื่อวันศุกร์ก่อนอ่ะ”

“หืม? นี่กูตกข่าวอะไรไปรึเปล่า?” ไอ้เมฆที่นั่งแย่งลูกชิ้นไอ้เก่งอยู่หันมาสนใจบ้าง

“นี่มึงไม่ได้เหลาให้ไอ้เมฆฟังอ๋อ” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบก็ไม่รู้จะเล่าอะไร ค่อนข้างไร้สาระ ผมไม่ใช่คนช่างพูดอยู่แล้ว

“ก็ตอนวันศุกร์ที่พวกกูไปเลี้ยงสายร้านมาวใช่ป่ะ อิรันต์เนี่ยก็มีผัวไปเฝ้าแต่ว่านั่งอยู่คนละโต๊ะ ละทีนี้มันก็เมากูเลยพามันไปหาผัว รู้ไหมพวกกูเห็นอะไร”

“กูจะไปรู้กะพวกมึงหรอ” ไอ้เมฆกวนตีนจจนโดนไอ้ท็อฟฟี่ถลึงตาใส่

“เออสัส พวกกูเห็นฮีคนนี้นั่งตักคล้องคอพี่ทศกัณฐ์อยู่จ้า สายตาที่มองพี่แกนะแทบจะแดกลงไปทั้งตัว” คล้องคอด้วยหรอวะไม่เห็นจำได้แล้วมืดขนาดนั้นมันดันไปเห็นสายตาเขาอีก ยอมใจมันจริงๆ เมฆก็มองผมเหมือนถามว่าเรื่องจริงหรอ

“มันก็ไม่ถึงกับขนาดนั้นหรอก มึงก็ว่าเขาเกินไป” อย่างน้อยซีก็เป็นน้องพี่เซนท์ล่ะนะ ผมก็ต้องรักษาหน้าเขาไว้หน่อย

“เฮอะ! มึงน่ะไม่รู้ความร้ายของนาง ในวงการพวกกูนางดังจะตาย เรื่องตกผู้ชายหล่อๆอ่ะนางได้แอ้มมาครึ่งมอละ”วงการที่ไอ้ท็อฟฟี่พูดถึงคงหมายถึงสังคมเพื่อนเพศที่สาม

“มึงอิจฉาเขาก็บอก” ไอ้เก่งพูดขึ้นบ้าง พวกผมก็พยักหน้าเห็นด้วย มันเลยค้อนวงโตมาให้

“ส่วนหนึ่ง แต่นางกับกูคนละสายกันก็เลยไม่ได้ขัดแข้งขัดขากันมาก แต่มันบังอาจมาแหย่มกับผัวเพื่อนกู เพราะฉะนั้นกูไม่ยอม!”

“นี่ผัวเพื่อนหรือผัวตัวเอง ออกตัวแรงเชียวนะมึง” ไอ้อ๋องตบหัวไอ้ท็อฟฟี่ไปหนึ่งที เลยโดนมันตบเกรียนคืนเกือบแตก

“และส่วนหนึ่งเพราะนางเล็งเหยื่อคนเดียวกับมึงใช่ไหมแม่” ไอ้น้ำที่โผล่มาจากไหนไม่รู้พูดขึ้น มีไอ้หญิงที่เป็นลูกคู่กันยืนอยู่ข้างๆ ผมขยับตัวให้สาวแสบสองคนนั่งลงด้วยกัน

“อะไรของมึงคะลูกสาว” ไอ้ท็อฟฟี่ถามเหมือนคนไม่รู้เรื่องแต่ว่ามันดูมีพิรุธแปลกๆ

“อย่ามาแหลค่ะ เมื่อคืนมึงไปอ่อยใครสารภาพมา” ไอ้น้ำเข้าโหมดนักสืบทันที

“อะไรของมึงเนี่ย!กูก็อ่อยไปเรื่อยของกูปกติ๊!”

“เสียงสูงเชียว ปิดบังไรเพื่อนป่ะเนี่ย”

“หุบปากไปค่ะอิรันรัน เวลาถามไม่อยากตอบบแต่คราวเสือกพูดเก่งเชียว” ไอ้ท็อฟฟี่เบ้ปากงอนๆ

“หึๆ มึงอย่าเปลี่ยนเรื่องแม่ จะพูดเองหรือให้กูแฉ”

“อะไรของพวกมึงเนี่ย!...เมื่อคืนกูไปบาร์เกย์แถวXXกับพวกอิแคนดี้ใช่ป่ะ มันก็ปกติไหมที่กูจะส่องแล้วกูก็ไปเจอกับ...” ไอ้ท็อฟฟี่เงียบไปเหมือนไม่อยากพูดแต่บิดตัวเหมือนเขินๆ

“พี่หมอ”ไอ้หญิงพูดประโยคเดียวระเบิดลงที่ไอ้ท็อฟฟี่ทันที มันหน้าแดงก่ำทั้งๆที่ผิวสีเข้มแต่กลับเห็นได้อย่างชัดเจน เขินอายบิดตัวไปมาตุ้งติ้งตามประสามัน

ผมแปลกใจนิดหน่อย ไอ้ท็อฟฟี่เล็งหมอไม่เห็นมีอะไรต้องปกปิดหรือน่าเสียหายตรงไหน

“ก็เออ...กูไม่รู้นี่ แต่กูปิ้งอ่ะ มารู้ตัวเมื่อหลวมตัวไปแล้ว” มันว่าเพ้อๆ

“เดี๋ยวๆ มันมีกฎห้ามว่าตุ๊ดห้ามชอบหมอหรอวะ” ไอ้อ๋องถามสิ่งที่ผมสงสัยในใจ

“ตุ๊ดคนอื่นไม่มี แต่อิเพื่อนมึงมันปฏิญาณตนไว้เลยว่ามันจะแดกทุกอาชีพตั้งแต่กรรมกรยันผู้ว่าฯ แต่ยกเว้นหมอ” ไอ้น้ำตอบข้อสงสัย

“ทำไมวะ?”

“กูมีเหตุผลของกูน่า” ไอ้ท็อฟฟี่ตอบปัดเหมือนไม่อยากพูดถึง

“แล้วยังไง สรุปว่ามึงตกหมอคนนี้ได้รึเปล่า” ไอ้เก่งถามต่อ

“กูก็ไปเบียดๆแล้วก็ขอชนแก้วเขานั่นแหละ  แล้วทีนี้กูมารู้ว่าเขาเป็นหมอจากเพื่อนเขาน้ำตากูแทบไหลเป็นสายเลือด ด้วยปฏิญาณอันแรงกล้าของกู กูก็ว่าจะถอยทัพ แต๊นังซีคนสวยก็เหมือนจะสนใจเขาว่ะ มันก็อ่อยเขามากเหมือนกัน กูเลยไม่อยากยอมแพ้มัน ”

“ก็เลยสู้ใช่ไหม”

“ใช่ เพื่อผู้ชายกูสู้สุดชีวิต” มันพูดแล้วทาบมือกับอกตัวเองด้วยความภูมิใจ

“แต่สุดท้ายเขาก็เลือกซีใช่ป่ะ” ไอ้เมฆว่าเยาะๆ

“เปล่า เขาเลือกกู”

“ห๊า!!!/เหี้ย!/ไม่จริง/เป็นไปไม่ได้”ทั้งโต๊ะพูดขึ้นแทบจะพร้อมกันทันทีที่มันพูดจบประโยค

“อะไรของพวกมึง กูออกจะสวยนะ” มันทำท่าสะบัดหัวเกรียนๆประหนึ่งว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์แชมพู

“จริงหรอ”

“จริง กูว่าเขาชอบของแปลก” ท็อฟฟี่กอดอกเชิดหน้า ที่มันพูดมาผมก็เห็นด้วย คือมันค่อนข้างตัวสูงใหญ่ มีกล้ามด้วยแต่ไม่เท่าทศกัณฐ์ ตัดผมรองทรงเบอร์สอง ผิวแทนสวย ตารีเรียวแต่ใบหน้าออกคม ทั้งที่มันดูหล่อนะ แต่ชอบพูดว่าตัวเองสวย อีกอย่างผมยังไม่เคยเห็นมันแต่งหญิงเลยนอกจาก กระเป๋าและรองเท้านี่ต้องยกให้เป็นเจ้าแม่เลยจัดเต็มตลอด

“แล้วเป็นไงแซ่บไหมแม่” ไอ้หญิงถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้สุดๆ

“ไม่รู้ กูไม่ได้แดก” ไอ้ท็อฟฟี่หน้างอลงหงอยๆไปเลย

“อ้าว ไหนว่าเขาเลือกมึงวะ พี่แคนดี้ยังบอกว่าเห็นมึงดูดปากกับเขาอยู่ลานจอดรถ” ไอ้น้ำถามเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ไอ้ท็อฟฟี่ถลึงตาเอามือปิดปากไอ้น้ำทันที

“มึงจะแถลงออกมาให้เขารู้กันไปทั้งมอเลยไหมคะอีน้ำ”

“โทษ กูลืม” น้ำขอโทษส่งๆเหมือนไม่ใส่ใจ โชคดีที่พวกเราได้มากินกันก่อนเที่ยง คนยังไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเป็นแค่โรงอาหารของคณะ

“จูบน่ะจูบ แต่กูตัดใจไม่ไปต่อว่ะ เสียดายสัสๆ” ท็อฟฟี่ทำหน้าเสียดายมากจริงๆ

“เขาก็ยอมง่ายๆเลยหรอ” เมฆถามใคร่รู้

“อืม โคตรคนดี โคตรสุภาพบุรุษ อยากได้มาเป็นพ่อของลูกชิบหาย”

“มึงท้องไม่ได้!!!!” ทุกคนพูดรวมกันโดยไม่ได้นัดหมาย มีคนหันมามองด้วย

“ลูกบุญธรรมสิคะ ไม่ฉลาดเลยพวกมึงนี่”

“สรุปเลยคือ มึงไม่ชอบซีเพราะอ่อยพี่ทศหรือเพราะเขาจะแย่งว่าที่ผัวมึง”

“ทั้งคู่”

“เออ แค่นี้ก็จบสัส ฟังมาตั้งนานก๋วยเตี๋ยวกูเย็นหมด” ไอ้เก่งบ่น

“แต่อิรันต์ข้าวหมดแล้ว” ทุกคนหันมามองจานข้าวผม

“ก็กูหิว ฟังไปแดกไปไง”

“มีผัวแล้วใช้พลังงานเยอะน่ะสิ” ไอ้ท็อฟฟี่เหน็บ ทำหน้าทำตาน่าตีชิบ

“เออ ดีกว่าคนอยากกินแล้วไม่ได้กินแล้วกัน”

“อิรันต์!มึงมันร้าย!”

+++++++++++++++++++++++

หง่อววว เปรมมาแย้ว ช่วงปีใหม่คิวก็จะแน่นนิสนุง  นี่รีบมาหลังจากผ่อนผ่อนมาหลายวัน พรุ่งนี้เปรมจะลงอีกตอนอาจจะค่ำๆ และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็จะลงตอนจบอีกสองตอนในช่วงวันปีใหม่นะจ้ะ จุ๊ฟๆ :กอด1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #869 เมื่อ30-12-2017 18:31:29 »

 :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด