《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 《ใจยักษ์❤[เมฆ-เก่ง]:ตอนที่1❤[25/03/61]  (อ่าน 221239 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #870 เมื่อ30-12-2017 18:34:27 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #871 เมื่อ30-12-2017 20:09:14 »

 :pig4:  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #872 เมื่อ30-12-2017 20:17:10 »

 :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #873 เมื่อ30-12-2017 20:30:24 »

ซีชอบอ่อยคนมีเจ้าของเหรอ บางทีก็ควรดูด้วยว่าเจ้าที่เขาแรงไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #874 เมื่อ31-12-2017 01:44:06 »

 :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #875 เมื่อ31-12-2017 04:18:14 »

Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

รันต์ อ้วนออกที่แก้ม กับที่พุง เอ๊ย.....ท้องหรือเปล่า  :hao3:

ซี ชอบทศแน่ๆ
แต่ทศ รักรันต์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หื่นกับรันต์ตลอด   :-[
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-12-2017 20:15:33 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ lovenine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 38❤[30/12/60]
«ตอบ #876 เมื่อ31-12-2017 15:52:41 »

 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
«ตอบ #877 เมื่อ31-12-2017 21:25:55 »

ใจยักษ์ 39.1

“วันนี้จะไปไหนต่อไหม?”

“อืม...ไม่รู้สิ น่าจะไม่นะ” ผมครุ่นคิดว่าวันนี้เพื่อนมีนัดทำโปรเจ็คไหมเพราะใกล้สอบไฟนอลเข้าไปทุกที งานก็ต้องส่งก่อนสอบอีก

“เลิกเรียนเดี๋ยวพี่มารับ”

“วันนี้เลิกหนึ่งทุ่มนี่?” ผมที่จำตารางเรียนของอีกคนได้กล่าวเตือน

“งดคลาส” ทศกัณฐ์ตอบหน้าตาย

“จริงอ่ะ?”ผมถามอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ อาจารย์ที่สอนภาคอินเตอร์จะเป๊ะมากเรื่องเวลาเรียน แทบไม่เคยได้ยินว่าอาจารย์งดคลาสจากทศกัณฐ์เลย

“อืม” ทศกัณฐ์รับคำในลำคอ

“โอเค งั้นน้องไปก่อนนะ สวัสดีครับ”ผมยกมือไหว้ทศกัณฐ์แล้วลงจากรถเดินตรงเข้าตึกคณะ ผมนั่งรอเมฆใต้ตึกไม่ถึงห้านาทีมันก็โผล่หัวยุ่งๆที่เส้นผมยังเปียกหมาดๆอยู่มา

“ตื่นสายหรอ” ผมเอ่ยทักพร้อมกับช่วยพี่สางผมให้เรียบร้อย

“เออ เมื่อคืนกลับไปนอนบ้าน” เมฆกัดขนมปังคำใหญ่ นั่งไขว่ห้างสะบัดผมไปมาเบาๆ ผู้หญิงที่เดินผ่านไปผ่านมาก็กรี๊ดให้กับท่าทางเท่ห์ๆโดยไม่รู้ตัวของเมฆ

“เย็นนี้มึงว่างป่ะ?” วันนี้มันวันอะไรทำไมมีแต่คนถามเวลาชีวิตผมบ่อยจริง

“ก็...ตอนเย็นพี่ทศบอกจะมารับ”

“อ่อ งั้นก็ไปแดกตอนเที่ยง”

“แดกไร?”

“มึงจะแดกไรอ่ะ กูตามใจมึงเดี๋ยวพี่เมฆจะเลี้ยงน้องรันต์เอง” เมฆยื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆด้วยความเอ็นดู

“หือ ทำไมวันนี้ใจดีแปลกๆ มีอะไรงั้นหรอ?” ผมถามเพื่อนอย่างสงสัยใคร่รู้ แต่เมฆกลับมีสีหน้าปุเลี่ยน ขมวดคิ้วจ้องผมเขม็ง

“นี่มึงจำไม่ได้จริงๆหรอ?”

“จำไม่ได้อะไร วันเกิดมึงก็ไม่ใช่...เอ๊ะ!วันนี้วันที่เท่าไหร่วะ?” ผมจำได้ว่าเมฆเกิดเดือนมิถุนายน ซึ่งนี่มันเดือนธันวาเดือนเกิดผม

“วันที่6”เมฆตอบด้วยสีหน้าเอือมๆ

“วันเกิดกูนี่” ผมถึงกับบางอ้อ ที่แท้วันนี้ก็วันเกิดผมนี่เอง ช่วงนี้ผมอ่านหนังสือดึก แถมยังต้องช่วยทศกัณฐ์ทำการบ้าน(?) ผมรู้ว่าวันนี้คือวันอังคาร แต่ก็จำไม่ได้ว่าวันที่เท่าไหร่

“เป็นเยอะไปแล้วมึงน่ะ เพลาๆลงบ้างนะ พักผ่อนเยอะๆหน่อย” เมฆรั้งคอผมไปกอดไว้หลวมๆ เขกหัวผมเบาๆเป็นการลงโทษหนึ่งที

“ใกล้สอบแล้ว อ่านหนังสือดึก”

“มึงฉลาดจะตาย อ่านรอบเดียวก็พอแล้ว ผัวก็ไม่ต้องไปตามใจมันมาก ขัดขืนมันบ้างเข้าใจไหม” ผมพยักหน้าเข้าใจแต่ไม่ได้รับปากเมฆเพราะไม่รู้จะทำได้ไหมน่ะสิ แต่ไม่พูดดีกว่าเดี๋ยวมันด่า

“สรุปแล้วจะแดกอะไร?”ปีที่แล้วเมฆพาไปเลี้ยงชาบู ปีนี้จะกินอะไรดีน้า

“บุฟเฟ่ต์ซูชิแล้วกัน” เมฆพยักหน้ารับ เราพากันลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวไปเรียน เมฆเดินกอดคอผมเข้าไปในลิฟท์ คนก็พากันมองใหญ่แต่มันก็ไม่ได้สนใจ ชวนผมคุยนั่นคุยนี่ไปเรื่อย ผมเงยหน้ามองเมฆ มันสูงขึ้นอีกแล้ว ทศกัณฐ์ก็สูงขึ้นแตะร้อยเก้าสิบเซนฯไปแล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
“รันรันจะไปแดกซูชิหรอ” ไอ้ท็อฟฟี่เสนอหน้ามาใกล้ผมทันทีที่อาจารย์ย่างกรายออกจากห้อง ผมก็พยักหน้าตอบมันไป

“ใช่ เมฆจะเลี้ยง”

“โห่ อิจฉามีคนเลี้ยง” ไอ้อ๋องแกล้งแซว ผมก็ยิ้มๆให้มันไป

“กูไปแดกด้วยดิ อยากกิซูชิพอดี”

“เอาสิ แต่จ่ายเองนะ เมฆเลี้ยงกูคนเดียว” ผมยักคิ้วกวนส้นไอ้ท็อฟฟี่ มันเบ้ปากใส่ทันที

“จ้ะ ยกให้วันหนึ่ง”

หลังจากนั้นพวกเราก็ย้ายทัพไปร้านซูชิแห่งหนึ่งไม่ไกลจากมหาลัยมาก มีผู้ร่วมขบวนการ ได้แก่ เมฆ อ๋อง เก่ง ท็อฟฟี่ และผม

ระหว่างที่เรากำลังรอซูชิ เมฆที่นั่งอยู่ข้างๆก็หยิบนิยายเรื่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเป้ มันยื่นมาตรงหน้าผม

“ปีก่อนๆกูให้หนังสือวิชาการกับมึง แต่ปีนี้กูอยากให้มึงอ่านเรื่องราวที่มีความรักสอดแทรกดูบ้าง สนุกดีมึงน่าจะชอบ วุขสันต์วันครบรอบสิบเก้าปีนะน้องรันต์” ผมยกมือไหว้เมฆก่อนและรับหนังสือมาไว้ในมือ น้ำตาคลอหน่วยด้วยความซาบซึ้งใจ ตั้งแต่คุณแม่ไม่อยู่ เมฆก็จะคอยอยู่เคียงข้างผมในทุกๆปี ไม่ว่าผมจะมีหรือไม่มีใครมันก็ยังยืนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน

เมฆเป็นผู้ชายที่ผมพูดได้เต็มปากว่ารักเขามาก เขาเป็นพี่ชายที่ผมรักที่สุด

“หึ ซึ้งเลยสิ” เมฆยิ้มก่อนจะอ้าแขนออกเป็นสัญญาณ ผมโผซุกเข้าสู่อ้อมกอดอบอุ่นนี้ทันที ใครจะมองยังไงก็ช่างผมไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

“ขอบคุณนะพี่เมฆ น้องขอบคุณจริงๆที่อยู่ด้วยกันมาตลอด...รักนะ” ผมพูดเสียงสั่นแต่น้ำตามันไหลซึมกับบ่าแกร่งไปแล้ว มันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะปีนี้ผมได้พบเจอกับเรื่องราวมากมายจนคาดไม่ถึง รสชาติชีวิตที่ไม่เคยได้สัมผัสทำให้ผมมีความสุขมาก แต่ผมไม่เคยลืมว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่อยู่ข้างๆผมเสมอในเวลาที่ผมทุกข์และเป็นคนที่ร้องไห้แทนผมในเวลาที่ผมอ่อนแอที่สุด

“กูก็รักมึง มีความสุขมากๆนะเว้ยน้อง” เมฆกอดผมแน่น ลูบหลังผมไปมาอย่างที่ชอบทำ ผมพยักหน้าและผละออกจากอ้อมแขนพี่เมื่อพนักงานขออนุญาตเสิร์ฟอาหาร ผมเช็ดน้ำตาเกาแก้มหน่อยๆแก้เก้อ พอพนักงานเดินจากไปไอ้ท็อฟฟี่ก็เปิดปากขึ้น

“ถ้าไม่ติดว่ามึงมีผัวแล้วนะ กูจะยุให้มึงได้กับไอ้เมฆจริงๆ มิน่าเขาถึงพูดกันให้แซ่ดว่ามึงกับไอ้เมฆเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทกัน”

“ก็จริงอย่างที่เขาพูดนะ” เมฆว่ายิ้มๆ ผมก็พยักหน้าเออออไปกับเมฆ

“เหี้ย!นี่พวกมึงเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกันหรอ แล้วพี่ทศกัณฐ์อิรันต์ทองง” ไอ้ท็อฟฟี่ทำท่าตกใจ คิดเป็นตุเป็นตะไปไกล เมฆจึงส่งสัญญาณให้อ๋องที่นั่งข้างๆไอ้ท็อฟฟี่ ไอ้อ๋องพยักหน้ารับก่อนจะประทับฝ่ามือลงกระหม่อมไอ้ท็อฟฟี่เต็มๆ เมฆหัวเราะพอใจก่อนจะแทคมือกับไอ้อ๋อง

“อิเหี้ยอ๋อง!อิสัสเมฆ! สารเลวมาก” ไอ้ท็อฟฟี่โววายทำท่าจะคืนแต่ก็ทำไม่ได้ จึงได้แต่ฟึดฟัดเจ็บใจอยู่คนเดียว

“มึงนี่นะ ฟังก่อนดิ กูกับเมฆเป็นมากกว่าเพื่อนสนิทจริงๆเพราะกูนับเมฆเป็นพี่เป็นเหมือนคนในครอบครัวกูจริงๆ” ผมอธิบาย

“ก็แล้วทำไมพวกมึงไม่อธิบายให้ชัดเจนตั้งแต่แรกล่ะคะ กูยิ่งเป็นตุ๊ดขี้มโนอยู่”

“มึงไม่ได้มโน มึงมันเพ้อเจ้อ” เก่งที่นั่งฟังเงียบๆอยู่นานได้ทีเหน็บไอ้ท็อฟฟี่บ้าง

“ไอ้เก่ง มึงก็อีกคนช่วยกันรุมด่ากูดีจัง ทำไมไม่พากันรุมโทรมกูบ้าง” ไอ้ท็อฟฟี่หัวเดียวกระเทียมลีบได้แต่โววายอยู่คนเดียว พวกผมก็พากันหัวเราะครีนกับท่าทางหัวเสียของมัน

“อ่ะนี่ของกู อาจจะไม่ได้แพงแต่กูตั้งใจเลือกให้มึงสุดๆและก็สุขสันต์วันเกิดนะเว้ย” อ๋องยื่นกล่องของขวัญเรียบๆขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือผมไม่มากมาให้ ผมยิ้มรับของที่เพื่อนให้มา

“ขอบใจมากนะเว้ย”

“ส่วนนี่ของกูค่า...ของขวัญนี้มึงจะชอบจนต้องกราบขอบคุณตรงอกแม่เลยล่ะรันรัน แล้วก็ขอให้มึงมีความสุขมากๆผัวรักผัวหลง ผัวดีผัวเปย์ ทำการบ้านบ่อยๆไม่เปลี่ยวใจ” มันยื่นกล่องของขวัญลายดอกไม้ที่...โคตรเชยมาให้ กล่องใหญ่กว่าของไอ้อ๋องขึ้นมาหน่อย และคำอวยพรที่แม้จะเอาฮาแต่ผมก็สัมผัสได้ถึงความจริงใจจากสุเทพ ผมรับมาแล้วฉีกยิ้มกว้างให้มัน

“ขอบคุณคร้าบคุณแม่”

“จ้ะลูกสาว” ท็อฟฟี่ยิ้มพราวดูเจ้าเล่ห์แปลกๆ ผมวางของขวัญไว้ที่นั่งที่ว่างข้างๆ สายตาเหลือบเห็นหนังสือที่เมฆให้มา

“เมฆ...ของขวัญมึงมันมีเล่มเดียวหรอวะ?”

“ช่าย แต่เรื่องนี้สองเล่มจบนะ”

“แล้วมึงซื้อเล่มสองมาให้กูเนี่ยนะ?”

“อื้อ กูอยากให้มึงได้อ่านแต่เล่มหนึ่งหมดเลยเอาเล่มสองมาแทน ส่วนเล่มหนึ่งมึงไปหาซื้อเอาเองละกัน” พูดจบมันก็คีบซูชิเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆโดยไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้น มึงจะให้กูจับใจความของเรื่องยังไงวะ

เอาความซึ้งกลับน้ำตากูคืนมา...

“เอ่อ...สุขสันต์วันเกิดรันต์” เก่งส่งเสียงเรียก ผมหันไปมองก่อนมันจะยื่นหนังสือหนึ่งเล่มที่ปกเหมือนกันกับของเมฆเปี๊ยบแต่ขึ้นตัวไอใหญ่ตามหลังชื่อเรื่องหนึ่งตัวโดดๆ

หนังสือเรื่องเดียวกับเมฆแต่เป็นเล่มหนึ่ง...

ผมรับมาอย่างงงๆ บังเอิญโคตรๆ...อย่างกับพรหมลิขิต

เมฆที่เคี้ยวซูชิอยู่ถึงกับชะงักไปเลยดิ

“คือกูชอบเรื่องนี้ คิดว่ามันสนุกดีเลยไปหาซื้อมาเป็นของขวัญให้มึง แต่เล่มสองมันหมดก่อน ก็เลยซื้อมาเล่มเดียว”

ทุกคนเงียบ เหมือนจะประหลาดใจในความบังเอิญโคตรๆนี้

“ฮ่ะๆ โคตรเจ๋งขอบใจมากนะเว้ย” ผมยิ้มกว้างให้เก่ง ปัดเรื่องที่ไม่น่าเชื่อนี้ออกจากหัว

หลังจากนั้นทุกอย่างก็เข้าสู้โหมดปกติ ทุกคนต่างสวาปามอาหารตรงหน้าด้วยความหิวโหย กินกันสองชั่วโมงครบเวลาแต่เกือบกลับไปเรียนกันไม่ทัน

+++++++++++++++++++++

หลังเลิกเรียน

ผมเดินออกจากตึกก่อนเวลาเลิกเรียนครึ่งชั่วโมงมาพร้อมกับเพื่อนๆที่พากันเจี้ยวจ้าวเป็นนกแก้วนกขุนทองโดยเฉพาะท็อฟฟี่กับอ๋องที่ขัดแข้งขัดขากันดีเหลือเกิน

“น้องรันต์!”น้ำเสียงคุ้นหูเอ่ยเรียกชื่อผมจากอีกด้านหนึ่งของตัวอาคาร ชายวัยกลางคนมีผมสีดอกเลาแซมบนศีรษะประปราย อยู่ในชุดทำงานดูภูมิฐานเพียงแต่สูทตัวนอกพาดไว้กับแขนและเนคไทคลายออกเล้กน้อย

“คุณพ่อ” ผมขมวดคิ้วพึมพำกับตัวเองก่อนจะบอกลาเพื่อนๆ พยักหน้าให้กับเมฆที่มองอยู่แล้วปลีกตัวไปหาคุณพ่อ

“คุณพ่อสวัสดีครับ มาหาน้องรันต์มีอะไรรึเปล่าครับ”

“พ่อมารับน้องรันต์” คุณพ่อส่งยิ้มอบอุ่นมาให้แม้ใบหน้าเขาจะดูอิดโรยอยู่เนืองๆ

“มารับน้องรันต์ทำไมครับ?” ปกติเราก็จะโทรหากันบ้าง บางทีก็นัดกันออกไปกินข้าวกันสองคน แต่ผมไม่เคยให้คุณพ่อมารับผมเพราะผมกลัวท่านจะเหนื่อยและเสียเวลา แม้เราจะปรับความเข้าใจกันแล้วแต่ผมไม่อยากเป็นภาระ

“วันนี้วันเกิดน้องรันต์ พ่ออยากจะมารับน้องรันต์ไปกินข้าวที่บ้านด้วยกัน...ได้ไหมลูก?”คุณเอ่ยถามผมด้วยความไม่มั่นใจราวกับว่าตัวเองทำอะไรผิด

ผมเห็นแบบนั้นก็ใจอ่อนปนเวทนา

คนเป็นพ่อต้องมาอ้อนวอนลูกขนาดนี้เชียวหรอ

เรื่องแค่นี้เอง ทำไมผมจะให้เขาไม่ได้ เขาคือคนที่ทำให้ผมได้เกิดมานี่นา

“ได้สิครับ น้องรันต์อยากกินเค้กชาเขียวด้วย”ผมจับมือบุพการีที่เหลืออยู่คนเดียวแล้วแกว่งไปมาอ้อนๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนผมเปล่งประกายด้วยความดีใจ

“พอซื้อไว้อยู่ที่บ้สน นมใจทำของโปรดน้องไว้เต็มเลยนะลูก” คุณพ่อพูดพร้อมกับจูงมือพาผมไปที่รถด้วย ดีที่วันนี้ท่านให้คนมาขับรถให้ เราสองพ่อลูกก็นั่งคุยกันไปตลอดทาง

แต่ระหว่างนั้นผมรู้สึกสะกิดใจแปลก

ผมลืมอะไรไปรึเปล่านะ?

+++++++++++++++++++++++

ที่บ้านเปรมมีงานยุ่งทั้งวันเลย ขอมาลงครึ่งหนึ่งก่อนนะคะ แล้วก็สวัสดีวันปีใหม่ล่วงหน้านะคะ ขอให้นักอ่านทุกคนมีความสุขมากๆ...รักทุกคนเน้อ จุ๊ฟ :L1:


ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
«ตอบ #878 เมื่อ31-12-2017 23:33:29 »

อ้าววววว น้องรันต์ลืมผัวซะงั้น
จะมีน้อยใจยาวๆอีกไหมล่ะเนี้ย :ling2:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
«ตอบ #879 เมื่อ01-01-2018 01:36:58 »

พี่ทศน้อยใจไปแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
« ตอบ #879 เมื่อ: 01-01-2018 01:36:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
«ตอบ #880 เมื่อ01-01-2018 01:41:40 »

อ้าวว ลืมผัว 5555

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
«ตอบ #881 เมื่อ01-01-2018 05:09:38 »

น้องลืมพี่ทศได้ไงเนี่ย  :hao4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
«ตอบ #882 เมื่อ01-01-2018 05:56:04 »

อูยยยยยย..............น้องรันต์ ลืมพี่ทศ  :laugh:
พี่ทศงอนแน่ๆ  :z3: :z3: :z3:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.1❤++50%++[31/12/60]
«ตอบ #883 เมื่อ01-01-2018 06:55:18 »

ลืมพี่ยักษ์ซะแล้วน้องรัน

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #884 เมื่อ14-01-2018 20:03:58 »

ใจยักษ์ 39.2
“พี่รันต์!คิดถึงจัง!” เมื่อผมย่างเท้าเข้าสู่ตัวบ้าน เด็กหนุ่มตัวสูงผมสีทองก็วิ่งโร่เข้ามากอดผมเต็มรัก ผมจึงยกมือตบหลังริวเบาๆ

“เจ้าริว ใจคอลูกจะไม่ให้พี่รันต์เขาพักให้หายเหนื่อยหน่อยหรือไง” คุณพ่อที่เดินตามมาทีหลังเอ่ยทัก ริวผละออกจากผมแล้ววิ่งไปกอดคุณพ่อทันที

“คุณพ่อสวัสดีครับ ริวคิดถึงคุณพ่อเหมือนกัน”

“รู้แล้วๆขี้ประจบจริงๆลูกคนนี้” คุณพ่อลูบหัวริวด้วยความเอ็นดู ผมเผยรอยยิ้มบางๆเมื่อเห็นภาพนี้

“พี่รันต์วันนี้นอนที่นี่นะครับ น้า” ผมนิ่งคิดแต่เมื่อเห็นสายตาคาดหวังจากคุณพ่อปากผมก็ตอบไปเองโดยอัตโนมัติ

“อืม”

“เย้ รักพี่รันต์ที่สุด” โตแต่ตัวจริงๆเจ้าริว

“คุณน้อง” นมใจที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆผมเมื่อไหร่รู้เอ่ยเรียก ผมฉีกยิ้มกว้างแล้วจึงโน้มตัวไปกอดร่างท้วมของแม่นมแน่นๆพร้อมหอมแก้มซ้ายทีขวาที

“น้องคิดถึงนมที่สุดเล้ย”

“แหม ตั้งแต่มีแฟนนี่ปากหวานขึ้นนะคะเนี่ยคุณหนูของนม” นมได้ทีก็แซวผมใหญ่ ผมก็ได้แต่ยิ้มแก้มแดงๆอย่างเดียว

แฟนหรอ...เดี๋ยวนะ!

ผมนึกออกแล้วว่าผมลืมอะไรไปสักอย่าง ที่แท้ก็นัดทศกัณฐ์ไว้นี่เอง

Rrrr  Rrrr  Rrrr

‘ยักษ์ใหญ่’

ชิบหายละ!ยังไม่ทันได้ขาดคำเลย

“น้องขอไปคุยโทรศัพท์แปบหนึ่งนะครับ” ผมบอกทุกคนก่อนจะแยกตัวไปคุยโทรศัพท์อีกด้าน

ติ๊ด!

(อยู่ไหน?)น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ถูกส่งผ่านออกมาทำให้ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะตอบเขา

“อยู่...บ้านน้อง”

(...)

“ยักษ์ น้องขอโทษนะครับ คือคุณพ่อมารับแล้วเราคุยกันเพลิน น้องเลย...ลืม”

(...ไม่เป็นไร) โทนเสียงของเขายังปกติไม่มีกระแสอารมณ์อื่นเจือปนอยู่ในนั้น

“โกรธไหม” ผมถามอย่างร้อนใจ รู้สึกไม่ดีสุดๆ อย่างน้อยถ้าไม่ลืมก็จะได้โทรบอกให้เขาไม่ต้องไปรับ ผมอยู่กับทศกัณฐ์ทุกวัน ในขณะเดียวกันคุณพ่อคือคนที่นานๆได้เจอกันที ผมก็ไม่อยากปฏิเสธ

(ไม่โกรธ...จะกลับตอนไหน เดี๋ยวพี่ไป)

“ยักษ์...วันนี้น้องค้างที่บ้านนะ”

(อืม)

“ยักษ์ มากินข้าวที่บ้านกับน้องไหม”

(น้องกินเถอะ กว่าพี่จะถึงคงไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง)

“น้องจะรอ”

(ไม่เอาดิ นานๆได้อยู่กับครอบครัวทั้งทีนะ)

“พี่ก็ครอบครัวน้อง” เสียงผมเริ่มสั่น ทำไมเขาต้องทำเหมือนตัวเองเป็นคนนอกด้วย

(อย่างอแงดิ ไม่ได้อยู่โอ๋นะ)

“ก็มาสิ...ฮึก”

(ร้องไห้ทำไมครับ วันนี้วันเกิดน้องนะ...น้องต้องมีความสุขมากๆ)

“…”ผมเงียบแต่น้ำตามันไหลแล้วไง ทำไมเขาต้องพูดเหมือนไม่รู้สึกอะไร ทั้งๆที่เขาก็คงรู้สึกไม่น้อยไปกว่าผม

(พี่โอเคจริงๆ น้องอย่าร้องเลยนะ...พี่ใจจะขาด)

“ฮึก ครับ”

(ครับก็เงียบดิ)

“เงียบแล้วจะให้คุยยังไง”

(กวนตีนแล้วก้าง) บางครั้งทศกัณฐ์ก็จะชอบเรียกผมว่าก้างเนื่องจากว่าผมผอมจนเกินไป แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเรียกสงสัยผมจะอ้วนขึ้นจริงๆ

“ยักษ์...น้องรักยักษ์มากๆนะ” ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด ยิ่งบอกรักยิ่งแล้วใหญ่ ตั้งแต่วันที่เขาขอคบผมก็ไม่เคยพูดอีก ทศกัณฐ์ก็นิสัยคล้ายๆกับผม เราชอบที่จะแสดงออกมากกว่ามาบรรยายเป็นคำพูด

แต่ที่ผมบอกเขาในวันนี้ ก็เพราะผมอยากให้เขามั่นใจว่าผมยังรักและคิดถึงเขาเสมอ แม้บางบางช่วงเวลาอาจจะหลงๆลืมๆไปบ้าง...นิดหน่อย(ช่วงนี้ผมพักผ่อนน้อยนี่)

(พี่ก็รักน้องมากๆๆเหมือนกัน)

 “อื้อ” ถ้าทศกัณฐ์กัณฐ์ยืนอยู่ตรงหน้า ผมต้องเขินเขาหนักกว่ามากกว่านี้แน่ๆ

(พรุ่งนี้เจอกัน)

ผมรับคำทศกัณฐ์อีกไม่กี่คำแล้วกดวางสายจากนั้นจึงเช็ดหน้าเช็ดตาแล้วเดินเข้าไปหาทุกคนที่รออยู่ที่ห้องโถงใหญ่ จากนั้นเราก็พากันทานอาหารซึ่งมีแต่ของโปรดของผมจริงๆอยู่เต็มโต๊ะ ตบท้ายด้วยเค้กชาเขียวก้อนใหญ่ขนาดประมาณสามปอนด์

ช่วงประมาณสามทุ่มปาร์ตี้เล็กๆก็เลิก ริวกับคุณพ่อตามมาส่งผมถึงบนห้อง พวกเขาผลัดกันกอดและหอมแก้มผมคนละทีสองทีด้วยความรักใคร่

ริวงอแงจะนอนกับผมให้ได้ สุดท้ายผมก็ใจอ่อนยอมให้เขามานอนด้วย ตกดึกผมก็นอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา น่าแปลกที่ผมรู้สึกนอนไม่หลับเลย ทั้งๆที่ห้องนี้ผมก็เคยนอนหลับสนิทมาหลายปีแต่ทำไมวันนี้ผมถึงข่มตาให้หลับลงไม่ได้

“พี่รันต์นอนไม่หลับหรือครับ” ริวที่นอนอยู่ข้างๆถามด้วยน้ำเสียงติดจะงัวเงีย

“อืม...นิดหน่อย” ผมยื่นมือไปลูบหัวน้องเบาๆกล่อมให้หลับ

“มีเรื่องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า”

“เปล่า”

หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างเงียบไปจนสักพักริวก็เด้งตัวขึ้น เปิดโคมไฟข้างหัวเตียง

“พี่รันต์ลุกมาเก็บของเถอะครับ เดี๋ยวริวจะไปส่ง”

“ไปไหน?” ผมลุกขึ้นถามด้วยความงงงวย

“ตอนนี้ใจพี่รันต์นึกถึงใคร ก็ไปที่นั่นแหละ” ริวพูดยิ้มๆเหมือนรู้ทัน

“พี่...”ผมกำลังจะเอ่ยปฏิเสธคนเป็นน้องแต่ก็ตัดสินใจเปลี่ยนคำพูด “ขอบใจนะ”

“ริวรู้ใจพี่รันต์อยู่แล้ว แต่วันหลังพี่รันต์ต้องมานอนชดเชยกับริวนะ หลายๆวันด้วย” ริวพูดอย่างเด็กเอาแต่ใจ ผมก็ได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้าตกลง ผมใช้เวลาเก็บข้าวของไม่นาน ส่วนริวเดินไปล้างหน้าให้สดชื่น ตอนที่เราเดินออกจากห้อง ก็มีบางคนเดินขึ้นมาจากด้านล่าง

“สองพี่น้องจะพากันไปไหน” ริวสะดุ้งตามเสียงของคนที่เราคิดว่าหลับไปแล้ว คุณพ่อเลิกคิ้วนิดๆมองกล่องของขวัญที่เต็มไม้เต็มมือผม

“คือ...”ริวกำลังอ้าปากจะอธิบายแต่ผมก็ชิงตัดบทพูดก่อน

“น้องจะไปหาเขาครับ ริวเลยจะไปส่ง”

“ทศกัณฐ์?”

“ครับ” ผมมองสบตาคุณพ่อตรงๆ อยากให้เขาเข้าใจว่าทศกัณฐ์ก็สำคัญไม่แพ้ใคร

“อืม...เอาไว้วันหลังพาเขามาทานข้าวที่บ้านด้วยกันนะ”คุณพ่อคลี่ยิ้มบางพร้อมลูบหัวผมเบาๆ ผมฉีกยิ้มแล้วยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มที่เริ่มย่นเล็กน้อยไปตามกาลเวลา

“ขอบคุณครับ พรุ่งนี้เดี๋ยวน้องจะโทรหา”

คุณพ่อรับคำแล้วหันไปกำชับริวให้ขับรถดีๆ ริวขับรถพาผมไปส่งด้วยอัตราเร็วคงที่เนื่องด้วยถนนเส้นทางนี้ยามห้าทุ่มนั้นค่อนข้างโล่งจึงทำให้ริวมาส่งผมด้วยระยะเวลาแค่สี่สิบนาที

“พี่ไปแล้ว ขอบใจมากนะ” ผมปลดเบลท์แล้วหันไปเอ่ยลาริวที่นั่งจ้องหน้าผมแป๋ว

“เขาโชคดีจริงๆที่พี่รันต์รักเขามากขนาดนี้”

“พี่ก็โชคดีจริงๆที่มีน้องรักที่รักพี่ขนาดนี้” ผมยื่นมือไปขยี้ทรงผมเท่ๆของเขาเบาๆ ริวฉีกยิ้มกว้างแล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ผมผงะนิดๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผู้ชายรอบตัวผมเป็นอะไรกันไปหมดนะ ชอบมากอดมาหอมผมกันจริง

ผมเดินเข้าตึก สแกนคีย์การ์ดเข้าลิฟท์ รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆขณะที่ลิฟท์กำลังเดินทางถึงชั้นสี่สิบ เมื่อลิฟท์เปิดออกผมก็ค่อยๆย่างก้าวไปถึงห้องที่คุ้นเคย

ผมกดรหัสเข้าห้อง ภายในเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศแต่ทุกอย่างกับเงียบสงัดราวกับไร้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ผมกดเปิดไฟ กวาดตามองไปรอบๆห้อง เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาบอกเวลาห้าทุ่มสี่สิบห้า

ผมวางของไว้บนโต๊ะแล้วก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้นสองเมื่อไม่พบเขาที่ห้องนั่งเล่น เปิดแง้มประตูเบาๆ ไอเย็นจากแอร์ปะทะหน้าผมทันที ทศกัณฐ์เป็นคนขี้ร้อนมากเรื่องนั้นผมรู้ดี แต่เมื่อผมนอนด้วยเขาจะปรับอุณหภูมิให้เย็นพอเหมาะ บ่งบอกว่าเขาเอาใจใส่ผมแค่ไหน

ได้ยินเสียงลมหายใจเบาๆมาจากบนเตียง ผมเดินอ้อมไปอีกฝั่งของเตียงสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มที่กองไว้ฝั่งของผม ค่อยๆขยับตัวเข้าไปใกล้อีกคนก่อนจะค่อยๆซุกหน้าเข้ากับแขนแกร่ง เบียดตัวเข้าหาอย่างต้องการความอบอุ่น ชั่วพริบตาคนที่ผมคิดว่ากำลังหลับอยู่กลับพลิกตัวขึ้นมาคร่อมทับตัวผมไว้อย่างรวดเร็ว

“ไหนว่าไม่กลับ?” ในน้ำเสียงเขาไม่มีความง่วงงุนอยู่เลยแม้แต่น้อย ลมหายใจอุ่นๆรินรดอยู่เหนือหน้าผากผมไม่กี่นิ้ว ผมหายใจติดขัดไปชั่วขณะ

“แล้วกลับไม่ได้หรือไง?”

“ได้ตามที่น้องต้องการครับ” แม้จะมองไม่เห็นใบหน้าเขาแต่ก็รู้ได้เลยว่าอีกคนกำลังยิ้มอยู่

“ฮึ!”

“คิดถึงพี่อ่ะดิ”

“อื้อ คิดถึงมาก นอนไม่หลับเลย”

ผมยื่นมือไปลูบแก้มสากเบาๆเมื่อเขาชะงักค้างไป ทศกัณกัณฐ์หายใจแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเอื้อมมือไปเปิดไฟบนหัวเตียง ทศกัณฐ์มองผมด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาก้มลงมาประทับจูบบนหน้าผากผมเนิ่นนานก่อนจะค่อยๆขยับจูบไล่ไปตามขมับ พวงแก้ม แล้วหยุดอยู่ชิดริมฝีปาก

“จะทำให้รักไปถึงไหน แค่นี้ก็ขาดไม่ได้แล้ว”

“นั่นแหละที่น้องต้องการ” ผมฉีกยิ้มมองเขาโดยไม่หลบสายตา สื่อความหมายให้เขารู้ว่าที่ผมพูดไปนั่นคือเรื่องจริง

ทศกัณฐ์กระตุกยิ้มก่อนจะแนบรุมฝีปากประทับจุมพิตด้วยความอ่อนหวาน ผมจูบตอบอีกคนด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกับเขา ริมฝีปากหนาค่อยๆละเลียดชิมบดจูบช้าๆและอ่อนโยน

“สุขสันต์วันเกิดนะเด็กน้อย มีความสุขมากๆสุขภาพร่างกายแข็งแรงเป็นดวงใจของพี่ตลอดไป” อีกคนอวยพรสั้นๆแล้วกดจูบบนหน้าผากผมอีกรอบแผ่วเบา

“ครับ” ถ้าหากในวันเกิดเราสามารถขอพรได้หนึ่งอย่าง ผมก็ขอให้คนที่ผมรักทุกคนมีแต่ความสุขและอยู่กับผมไปในทุกๆปี

ทศกัณฐ์พลิกตัวลงนอนข้างๆ รั้งตัวผมไปกอดแนบอกลูบหัวกล่อมผมเบาๆราวกับเป็นเด็กน้อย แต่ถึงกระนั้นไม่กี่วินาทีถัดมาผมก็หลับสนิทในอ้อมแขนคนรักอย่างง่ายดาย

จวบจนกระทั่งช่วงเวลาใกล้รุ่ง ผมสะดุ้งตื่นเพราะปวดฉี่ ผมค่อยแกะมือทศกัณฐ์ออกจากบั้นเอวแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ รู้สึกคอแห้งเลยเดินไปเปิดตู้เย็นเล็กในห้อง แต่น้ำดันหมด ผมเลยเดินไปชั้นล่างแทน

เมื่อถึงในครัวผมก็ตรงดิ่งไปหาตู้เย็นเทน้ำใส่แก้วแล้วดื่มดับกระหาย ในจังหวะที่หมุนตัวออกจากครัว สายตาผมเหลือบไปทางห้องกินข้าวเห็นเห็นเงาตะคุ่มๆขิงบางสิ่งวางไว้โดดๆอยู่บนโต๊ะอาหาร ผมเปลี่ยนเป้าหมายเดินไปอีกทางเปิดไฟห้องกินข้าว ก้าวเข้าไปใกล้สิ่งนั้นชัดๆมือจับฝาครอบให้เปิดออก

มันคือ...ข้าวผัด รึเปล่านะ?

ผมมองพิจารณาข้าวสีน้ำตาลที่มีลักษณะค่อนข้างเละปะปนอยู่กับไข่สีเหลืองมีผักปะปรายดูไม่ค่อยน่ากินสักเท่าไหร่ ที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นข้าวผัดเพราะว่ามีแตงกวารูปร่างบางหนาไม่เท่ากันพร้อมกับมะนาวอีกหนึ่งลูกที่วางประดับอยู่ขอบจาน

ย้ำนะครับว่ามะนาวหนึ่งลูก!

ผมทรุดตัวนั่งเก้าอี้ เลื่อนจานอาหารมาตรงหน้า หยิบช้อนและซ่อมที่เตรียมไว้ข้างจานขึ้นมา ก่อนจะตักคำแรกเข้าปาก รสสัมผัสแรกก็เกือบทำให้ผมคายทิ้งออกแล้ว แต่เดาว่าใครเป็นคนทำก็ทำให้ผมสามารถเคียวคำต่อๆไปได้

รสชาติมันค่อนข้างจะเค็มมาก เค็มจนปลายลิ้นชาเลยทีเดียว ผมจึงหยิบมะนาวไปที่ครัว ใช้มีดผ่าเป็นซีกๆแล้วบีบใส่ข้าวผัด รสชาติค่อยกินได้ขึ้นมาหน่อย บางคำก็มีเศษเปลือกไข่มาให้เคี้ยวเล่นได้อารมณ์ไปอีกแบบ

มันก็ไม่ได้เป็นการฝืนกินอะไร กลับกันผมรู้สึกว่าผมสามารถกินได้อีกถ้าเขาเป็นคนทำให้ ข้าวผัดจานนี้แม้รสชาติจะไม่ได้อร่อยติดไปทางย่ำแย่ด้วยซ้ำ แต่ผมสัมผัสได้ว่าเขาใส่ใจและอยากทำให้ผมจริงๆมันจึงทำให้ผมสามารถกินอาหารจานนี้ได้เรื่อยๆจนหมด

ผมมองจานอาหารที่ว่างเปล่าด้วยความรู้สึกหลากหลาย มันทั้งคาดไม่ถึงทั้งอธิบายเป็นคำพูดไม่ถูก แต่ความรู้สึกที่ชัดเจนที่สุดคือมันอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ

ผมอมยิ้มเล็กๆเก็บจานไปล้างทำความสะอาด ดื่มน้ำล้างปากเรียบร้อยแล้วจึงขึ้นไปยังชั้นสอง

ผมสอดตัวเข้าไปในผ้าห่ม ขยับตัวเข้าไปใกล้อีกคนอีกนิดแล้วซุกหน้ากับแขนแกร่ง

ทศกัณฐ์ขยับตัวน้อยๆก่อนจะรั้งตัวผมเข้าไปในอ้อมกอดซุกอกเขา ผมกอดเอวสอบแน่นแล้วผงกหัวขึ้นจูบปลายคางของเขาแผ่วเบาก่อนจะซุกหน้าลงกับอกหนาดังเดิมแล้วหลับสนิทไปในที่สุด

+++++++++++++++

ผมตื่นขึ้นมาในช่วงเจ็ดโมงเช้าก็ไม่เจอทศกัณฐ์อีกแล้ว คาดว่าเขาคงไปออกกำลังกายอีกไม่นานก็คงจะกลับ ผมขยับตัวลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แต่มือกลับสัมผัสไปโดนบางสิ่งที่วางอยู่บนเตียง

ผมหยิบกล่องของขวัญขนาดเล็กกว่าฝ่ามือเล็กน้อยขึ้นมาพิจารณาดู มันถูกห่อด้วยกระดาษเรียบลื่นสีน้ำตาลทองพร้อมโบว์เล็กๆประดับไว้ มีการ์ดห้อยอันเล็กว่าของขวัญสำหรับผมเป็นลายมือของทศกัณฐ์

ผมแกะห่อของขวัญออกช้าๆอย่างประณีต ค่อยๆเปิดฝากล่องออกอย่างลุ้นนิดๆ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในก็ทำให้ผมอดจะกังวลไม่ได้

ดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอก แต่ว่า...

ผมตัดสินใจลุกจากเตียงไปล้างหน้าแปรงฟัน ก่อนจะลงไปด้านล่างก็ไม่ลืมหยิบของขวัญจากอีกคนลงไปด้วย

เมื่อเดินมาชั้นล่างทศกัณฐ์ก็เปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี เขายิ้มทักทายผมด้วยใบหน้าที่สดใส ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นหน้ามาหอมแก้มรับอรุณผมไปอีกสองที

“เป็นอะไรทำหน้าเครียดๆ”ทศกัณฐ์รั้งแขนผมไปนั่งด้วยกันบนโซฟาก่อนเอ่ยถาม

“ยักษ์...ของขวัญที่ให้น้องเอาคืนไปนะ มันมากเกินไป” ผมวางกล่องลงบนมือหนาแล้วระบายยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนที่สุด ทศกัณฐ์ก้มมองสิ่งของที่อยู่บนมือ ใบหน้าหล่อเหลาขรึมลงไปอีกหลายระดับ

“พี่ให้น้องแล้ว ไม่รับคืนหรอก”

“ยักษ์ มันแพงเกินไป” ผมแสดงสีหน้าลำบากใจอย่างชัดเจน ให้อะไรไม่ให้ดันให้รถแถมยังเป็นรุ่นที่เขาเพิ่งถามผมไปเมื่อสัปดาห์ก่อนๆอีก

“ถ้าน้องไม่ต้องการก็เอาไปทิ้งหรือจะเอาไปทำอะไรก็ได้ตามใจน้อง อะไรที่พี่ให้ไปแล้วก็คือให้มันไม่ใช่ของพี่อีก”

“…”

“สำหรับพี่น้องคือทุกอย่างในชีวิต ไม่มีอะไรที่น้อยหรือมากเกินไป...พี่ให้ด้วยใจจริง”ทศกัณฐ์ลุกขึ้นวางกุญแจรถไว้บนโต๊ะแล้วเดินขึ้นชั้นสองไป

ผมได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างไปจนสุดสายตา

หลังจากนั้นผมก็ไปอาบน้ำอีกห้อง หลังแต่งตัวเสร็จเราก็ยังไม่ได้พูดอะไรกัน พอถึงเวลาจะไปเรียนทศกัณฐ์ก็เป็นคนขับรถพาผมไปส่งที่มหาลัย ก่อนลงเขาก็ยัดถุงแซนวิชใส่มือผมเงียบๆ ผมไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ยกมือไหว้เขาแล้วลงรถ

วันนี้ผมเงียบจนบรรยากาศอึมครึมไปทั้งวัน เพื่อนไม่มีใครกล้าเข้ามาแกล้งผมสักคน

“น้อง วันนี้มึงเป็นอะไรวะ” เมฆที่ทนไม่ไหวก่อนใครเพื่อนเอ่ยถาม

“เปล่า”

“เปล่าเหี้ยไรคะ ทะเลาะกับผัวมาน่ะสิ” ไอ้ท็อฟฟี่เสือกขึ้นมา

“ไม่ได้ทะเลาะ” เป็นผมที่งี่เง่าไปเองคนเดียวมากกว่า

“ปากบอกไม่ได้ทะเลาะแต่หน้ามึงนี่จะร้องอยู่แล้วสัส”

“กู...ไม่รู้ว่ะ”

“เอ้า ร้องซะละ” เมฆร้องอย่างตกใจก่อนจะรั้งผมเข้าไปกอด “เป็นอะไรเล่ามาดิ๊”

“พี่ทศโกรธกูแล้วอ่ะ กูงี่เง่าเอง” ผมเช็ดน้ำตาปริ่มๆแต่ยังไม่ได้ไหล คือมันเหมือนมีคนมารุมถามเยอะๆแล้วมันรู้สึกกดดันแล้วก็อ่อนแอลงไปซะเฉยๆน่ะครับ

“โกรธยังไง ไหนเหลามาสิ” ไอ้ท็อฟฟี่ลากผมไปนั่งตรงจุดที่ไม่ค่อยมีคน เมฆกับอ๋องก็ตามมานั่งฟังด้วย ผมเลยเปิดปากเล่าตั้งแต่เรื่องเมื่อวานให้เพื่อนฟัง

“โอ๊ยยยย!อิดอก!เล่นตัวไม่เข้าเรื่อง เขาให้อะไรก็รับๆไว้เถอะ ใช้ไม่ใช้นั่นอีกเรื่อง”

“กูไม่ได้คบกับเขาเพื่อหวังสิ่งของเงินทองจากเขานะเว้ย อีกอย่างมันสิ้นเปลืองไปหน่อย”

“กูก็ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น เขาให้มึงเองด้วยความเสน่หาน่ะ เข้าใจไหมคะ แล้วถ้าเขาเดือดร้อนเขาจะให้มึงหรอ ที่เขาซื้อให้แสดงว่าต้องมีเหตุผล คิดหน่อยสิหนู” ไอ้ท็อฟฟี่จิ้มหัวผมจนสั่นไปหมด

“กูว่าที่อีสุเทพพูดมันก็ถูก เขาคงเห็นมึงไปนั่งรอเขาเรียนเสร็จมืดๆค่ำ บางทีเวลามาเรียนก็ไม่ตรง มอเตอร์ไซค์ก็ไม่ให้ขี่ แท็กซี่ก็ไม่ให้นั่ง รถเมย์ก็หมด เขาคงเป็นห่วงมึงก็สมเหตุสมผลที่จะซื้อรถเพิ่มอีกคัน” เมฆวิเคร์ตามที่ไอ้ท็อฟฟี่พูด

“อิเหี้ยเมฆอยากโดนกูจูบปากใช่ไหม ถึงกล้าเรียกชื่อนี้” ไอ้ท็อฟฟี่ชี้หน้าคาดโทษเมฆ

“แต่มันก็มากเกินไปอยู่ดีนะมึง”

“ผัวมึงรวย!” ทุกคนพร้อมใจกันประสานเสียง ผมได้แต่สงบปากสงบคำไม่เถียงอะไรพวกมันอีก

“อย่าลืมไปง้อเขาล่ะ เล่นท่ายากสักสองสามท่าก็ใจอ่อนละ”

เออออออ เอาก็เอาวะ

++++++++++++++

ผมรอทศกัณฐ์เลิกเรียนแล้วกลับพร้อมกัน สายตาตอนที่เขาเห็นผมดูประหลาดใจชั่วแวบหนึ่งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นดีใจเมื่อผมส่งยิ้มบางๆให้เขา

เขายกมือลาเพื่อนก่อนจะเดินมาจับมือผมไว้หลวมๆแล้วพาไปขึ้นรถ ผมก้มมองมือที่ประสานกันอยู่แล้วรู้สึกโล่งอก เราสองคนเป็นประเภทมีอะไรแล้วไม่ค่อยยอมพูดกัน ชอบเก็บงำความรู้สึกไว้เพราะกลัวว่าถ้าแสดงออกไปแล้วอีกฝ่ายจะไม่ชอบ มาตอนนี้เรายังสามารถอยู่ด้วยกันได้อยู่ ผมก็ดีใจ

บางทีผมก็ควรจะลดทิฐิของตัวเองลงอีกนิด เพราะเขาก็ยอมให้ผมมากพอแล้ว

ไม่ใช่เพื่อผมแต่เพื่อเรา...

+++++++++++++++

มาแย้วววว ติดไปทำนั่นทำนี่ พอว่างแล้วก็ติดเพื่อนติดเที่ยวด้วย นิยายก็เลยไม่ได้ใส่ใจ แต่มีคนเตือนสติเปรมก็สำนึกแล้วจริงๆจ้า :m15:
ป.ล.ตอนหน้าจบนะ


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #885 เมื่อ14-01-2018 20:30:59 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #886 เมื่อ14-01-2018 20:35:00 »

พระเอกเราสายเปย์ อย่าไปขัดใจเขาเลยค่ะ   :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #887 เมื่อ14-01-2018 20:36:41 »

ชอบบบบบ..... :mew1: :mew1: :mew1:

ทศ รันต์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
รันต์ เปิดเผยอารมณ์ของตัวเองว่าติดทศ
นอนไม่หลับถ้าไม่ได้นอนกับทศ
ทศ ก็รักรันต์ สุดๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #888 เมื่อ14-01-2018 23:21:36 »

 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #889 เมื่อ16-01-2018 00:00:50 »

เรียนรู้ ปรับตัว ปรับทัศนะคติ ปรับจูนความคิด สุดท้ายคือการให้อภัย
ไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร ไม่หนีไปไหน  :กอด1:
มารอดูตอนจบ จะจบแบบไหน หวานซึ้ง หวานหื่น หรือหวานปานน้ำผึ้ง  :hao6:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
« ตอบ #889 เมื่อ: 16-01-2018 00:00:50 »





ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #890 เมื่อ16-01-2018 09:51:03 »

พี่เค้าอยากให้ ก้รับๆไว้เถอะหนูรันต์
ให้ในโอกาสพิเศษงี้ ไม่ได้ซื้อของราคาเท่านี้ให้ทุกวันซะหน่อย
ปฏิเสธพอเป็นพิธีก้พอละ คนให้มันเสียน้ำใจ
รอตอนจบค่าาา

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: 《ใจยักษ์》❤ตอนที่ 39.2❤++100%++[14/01/60]
«ตอบ #891 เมื่อ16-01-2018 10:51:36 »

สามีสายเปย์ o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ YINGPREM

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 131
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
ใจยักษ์ (ตอนจบ)[ครึ่งแรก]

ร่างสูงเพรียวในชุดสูทเข้ารูปสมัยใหม่สีน้ำเงินเข้มก้าวเท้าเข้าบริษัทเงินทุนที่มั่งคั่งและยิ่งใหญ่เป็นอันดับหนึ่งในแถบยุโรป สถานที่ตั้งสำนักงานอยู่ในเขตCanary Wharf  ทางด้านทิศตะวันออกของกรุงลอนดอน

ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไป เหล่าพนักงานที่เห็นต่างค้อมศีรษะให้เล็กน้อยเป็นการแสดงความเคารพ รอยยิ้มบางถูกแจกจ่ายให้กับทุกคนอย่างทั่วถึง ขาเรียวยาวภายใต้กางเกงแสล็คเข้ารูปเดินตรงดิ่งเข้าลิฟท์สำหรับผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีคนใช้ลิฟท์ตัวนี้ได้แค่สองคนเท่านั้น

หนึ่งคือเขาคนนี้ และอีกคนที่เป็นเจ้าของบริษัท

เขากดชั้น 35 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของตึกสูงระฟ้าแห่งนี้

ติ้ง!

“คุณรันต์!ผมนึกว่าวันนี้คุณจะไม่เข้าออฟฟิตแล้วซะอีก...พระเจ้า!ในที่สุดคุณก็มาช่วยเรา” บุคคลที่นั่งอยู่หน้าประตูห้องCEOเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ด้วยความดีใจระคนตื้นตัน วันนี้เจ้านายเขาค่อนข้างหัวเสียอยู่พอสมควร ไม่ว่าใครก็เข้าหน้าไม่ติด พอเห็นคนที่พอจะช่วยเขาแก้ไขสถานการณ์ได้ก็อดจะดีใจไม่ได้

วันนี้สถานการณ์ค่อนข้างเลวร้าย เนื่องจากผู้ช่วยพิเศษคนนี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาซึ่งควบตำแหน่งคนรักของท่านประธานออกไปคุยเรื่องสัญญากับคู่ค้าข้างนอกบริษัทตั้งแต่เช้าและมีแววว่าจะไม่กลับเข้ามาอีกในตอนบ่าย

ท่านประธานที่พึ่งมารู้ในตอนหลังถึงกับหัวคิ้วกระตุกหน้าตึงขึ้นอีกสิบระดับ บรรยายกาศรอบตัวลดฮวบฮาบจนติดลบ ริชาร์ดที่ทำหน้าที่เป็นเลขาท่านประธานมาห้าปีกว่ารู้ได้โดยทันทีว่าท่านหงุดหงิดหนักค่อนไปทางอารมณ์เสียมากแล้ว

และสาเหตุที่ทำให้ท่านเป็นแบบนี้น่ะหรือ

ก็คู่ค้าที่คุณรันต์ออกไปคุยด้วยวันนี้ เขาค่อนข้างสนใจคุณรันต์อย่างออกหน้าออกตาเลยล่ะ

จะไม่ให้ท่านประธานโมโหหึงอย่างไรไหว

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ท่านเป็นอย่างนี้ แต่ก็ไม่บ่อยจนต้องวางแผนหาทางรับมือ

เพราะคนที่เอาท่านประธานอยู่ก็มีอยู่คนเดียว ถ้าคุณรันต์ไม่อยู่เขาจะทำอย่างไรได้

พวกที่ไม่รู้ตื้นลึกบางหนาก็ต้องเป็นเบาะรองรับพายุอารมณ์ของท่านประธานไปตามๆกัน

“เขาเป็นอย่างไรบ้างริชาร์ด”ร่างเพรียวเพียงเอ่ยถามยิ้มๆอย่างใจเย็น

“ไม่มีใครเข้าหน้าติดสักคนเลยครับ วันนี้ในที่ประชุมโดนท่านประธานฉะยับกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะผู้จัดการฝ่ายสินเชื่อที่โดนท่านฉีกแบบร่างโครงการใหม่ทิ้งลงถังขยะใส่หน้าอย่างไม่ไยดีเลย”ริชาร์ดกล่าวรายงานให้เจ้านายอีกคนฟัง

“อืม แสดงว่าอารมณ์เสียจริงๆ” เหรันต์พยักหน้ารับทราบสถารการณ์ “เขาอยู่ในห้องใช่ไหม?”

“ครับ” ริชาร์ดเอ่ยตอบรัวเร็ว มองตามร่างบางสูงโปร่งที่เดินเข้าห้องท่านประธานด้วยท่าทีสบายใจ เอาเถอะ!ถึงมือคุณรันต์แล้วคงไม่มีอะไรต้องห่วง

ใครจะไปคิดว่าท่านประธานผู้แสนเย็นชาและดุดันคนนั้น จะกลายเป็นลูกแมวน้อยเชื่องๆในมือผู้ชายที่มีใบหน้าประดับรอยยิ้มตลอดเวลาอย่างคุณรันต์

เขามีวิธีปราบเสือร้ายแบบไหนกันนะ ริชาร์ดไม่กล้าแม้แต่จะคิดต่อเลยทีเดียว...

+++++++++++++++++

แกร็ก! ผมดันปิดประตูเบาๆ ยังก้าวเท้าไม่ถึงสามก้าวดีอีกคนที่นั่งอ่านเอกสารอยู่บนโต๊ะก็เอ่ยไล่ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ถ้าเป็นคนอื่นคงแข้งขาสั่นจนไปไม่เป็นแล้ว

“ผมอนุญาตให้คุณเข้ามาหรือ” ทศกัณฐ์เอ่ยทั้งๆที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามองด้วยซ้ำ

“ผมขออนุญาตเข้าพบท่านประธานได้ไหมครับ” ผมพูดขึ้นขณะสาวเท้าเข้าไปใกล้โต๊ะทำงานยักษ์ขี้โมโห เขาเงยหน้าขึ้นประจวบเหมาะกับที่ผมหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาโดยมีโต๊ะคั่นกลางไว้พอดี

ทศกัณฐ์ลุกขึ้นฉับพลัน ตรงมาคว้าแขนผมพาไปที่โซฟาสีเบสอีกมุมหนึ่งของห้อง เขานั่งลงก่อนจะจับให้ผมนั่งลงกับตักแกร่งของตัวเอง ผมจึงสอดแขนคล้องคอหนาอย่างเอาใจเขา พร้อมๆกับที่เขาก็กอดรัดเอวผมไว้แน่นก่อนจะฝังจมูกลงกับซอกคอผมแล้วดูดแรงๆทีหนึ่งจนผมสะดุ้ง

“วันนี้เป็นอะไร ทำไมถึงหงุดหงิดขนาดนี้หืม?”ผมลูบหัวทศกัณฐ์เบาๆพร้อมกับนวดคลึงขมับให้เขาผ่อนคลายอารมณ์

“ไม่รู้จริงๆหรอ?” ใบหน้าหล่อเหลาผละออกจากซอกคอมองหน้าผมตรงๆ ดวงตาสีเขียวซีดประกายแววน้อยใจออกมาหน่อยๆ ทำให้ผมกลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่

“น้องไปทำงาน พี่จะมางอนอะไรน้อง” ผมหยิดแก้มสากที่มีไรหนวดขึ้นสั้นๆแต่ทรงเสน่ห์ เขาขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะไล่ต้อนผมอย่างไม่ยอมแพ้

“แล้วทำไมน้องต้องไป พี่บอกแล้วไงว่าไม่ให้ทำ”

“ก็น้องเป็นคนดูแลลูกค้าคนนี้ตั้งแต่แรก อยู่ๆจะให้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบไม่มีเหตุผลเขาจะมองบริษัทไม่ดีนะ”

“มองยังไงก็ช่างหัวมันสิ ไม่พอใจก็ไม่ต้องทำ” แรงกอดรัดบริเวณเอวผมเพิ่มขึ้น รู้สึกว่าเส้นความอดทนของทศกัณฐ์ใกล้จะขาดลงทุกที ขืนเป็นแบบนี้มีหวังทศกัณฐ์ฉีกสัญญาของบริษัทอีวานส์แน่ๆ

ผมจึงโน้มหน้าไปจูบขมับอีกคนหลายๆทีก่อนจะกอดเขาไว้แน่น มืออีกข้างลูบหลังเขาไปมาให้ใจเย็นขึ้น เมื่อรู้สึกว่าอีกคนสงบสติอารมณ์ได้แล้วจึงค่อยๆอธิบายเหตุผลให้ฟัง

“บริษัทคุณอีวานส์เขาเป็นลูกค้ารายใหญ่ทำสัญญากับเขาก็ไม่มีอะไรเสียหาย ความเสี่ยงโครงการเขาก็ต่ำ กำไรที่เราจะได้คืนจากเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ อย่างน้อยเราก็ต้องให้เกียรติเขาบ้างยักษ์”

“แต่มันสนใจน้อง มันมองน้องแบบ...” ทศกัณฐ์กัดฟันกรอดๆไม่ยอมพูดต่อ ผมจึงจูบหน้าผากกว้างปลอบใจเขาไปอีกที

“ก็เขาไม่รู้ว่าน้องมีแฟนแล้ว”

“ผัว”

“เออๆนั่นแหละ”

“แล้วทำไมไม่บอกมัน”

“แหม อยู่ๆจะให้เดินไปบอกเขาว่า ‘ผมมีผัวแล้วนะครับคุณอีวานส์ชื่อทศกัณฐ์เป็นเจ้าของบริษัทที่คุณกำลังจะทำสัญญาด้วย เลิกมองผมแบบนี้สักที ผัวผมหวง’ แบบนี้อ่ะหรอ”

“ใช่ เอาแบบนั้นแหละ” ทศกัณฐ์ตอบหน้านิ่ง

“ฮ่าๆๆ ยักษ์บ้าป่ะ เขาแค่มองเองไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้สักหน่อย” ทศกัณฐ์ดูจะหมั่นไส้กับการหัวเราะเยาะเขา จึงจับผมบดจูบแรงๆจนขำไม่ออกไปหลายนาที

“แค่มองก็หวง ไม่ชอบ”

“ฮึ น้องแก่แล้วนะ มีอะไรให้หวงกัน ไม่ใช่เด็กหนุ่มสิบเจ็ดสิบแปดนะ”

“แก่ตรงไหนน่ะเรา ถึงจะแก่พี่ก็รัก” แล้วผมก็โดนเขาฟัดแก้มไปอีกหลายที ท่าทางน่าจะอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อยแล้วล่ะครับ

อืม...ผมคงลืมเล่าอะไรบางอย่างไป ปัจจุบันนี้ผมอายุ 29 ขวบปีแล้วครับ ทศกัณฐ์ก็ 32 ตั้งแต่ที่เริ่มครบกันจนถึงวันนี้ก็เกินสิบปีเข้าไปแล้วล่ะครับ ชีวิตผมและทศกัณฐ์มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง

ตอนที่ทศกัณฐ์เรียนจบเขาก็ยังรั้งอยู่ที่เมืองไทยกับผม แต่ก็บินไปๆมาที่อังกฤษกับไทยเพื่อมาดูงาน จนเมื่อผมเรียนจบเขาขอให้ผมย้ายมาอยู่กับเขาที่อังกฤษเพราะบริษัทเขาขยายตัวใหญ่ขึ้นทำให้เขาต้องทำงานหนักขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เวลาประจำเขาจึงต้องอยู่ที่อังกฤษเป็นส่วนใหญ่ แต่ผมก็ปฎิเสธคำขอร้องเขาไปทำให้ทศกัณฐ์นอยด์ผมไปเป็นเดือนเลยล่ะ

เหตุผลที่ทำให้ผมยังไม่มาอยู่กับเขาตั้งแต่แรงคือผมอยากหาประสบการณ์ทำงานด้วยตัวเองก่อน อุตส่าห์บากบั่นเรียนจนจบเกีนรตินิยมจะไม่ให้ใช้งานเลยได้อย่างไร สุดท้ายทศกัณฐ์ก็ต้องยอมแพ้ให้กับเหตุผลของผมแต่ยื่นข้อแม้ว่าถ้าเดือนไหนที่เขาไม่ว่างกลับมาหา ก็ต้องเป็นผมที่ต้องมาหาเขาที่ลอนดอนแทน เราทำแบบนี้ไปๆมาๆได้สักปีเศษผมก็ออกจากบริษัทที่ทำอยู่ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง

ทศกัณฐ์ดูดีใจมากที่ในที่สุดผมก็ว่างงานสักที  แต่แล้วเขาก็ไม่สามารถพาผมกลับมาอยู่ที่อังกฤษดังใจหมายได้เพราะบริษัทพ่อผมอยู่ในช่วงวิกฤต อาการเจ็บป่วยของคุณพ่อก็เริ่มเป็นหนักขึ้น ริวที่พึ่งจบมาก็ยังจัดการอะไรไม่คล่องแคล่วเท่าไหร่ คุณพ่อเลยขอให้ผมกลับไปช่วย

ผมช่วยงานบริษัทคุณพ่ออีกสามปี รอเวลาที่ริวเรียนจบปริญญาโทกลับมาจากอเมริกาด้วย สถารการณ์บริษัทก็ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ จนริวเข้ามาช่วยคุณพ่อบริหารอย่างเต็มตัวบริษัทก็ใหญ่โตและมั่นคงจนมาถึงทุกวันนี้

พอตัวผมไร้ภาระ ทศกัณฐ์ก็วางแผนกระทำชำเราร่างกายผมจนไร้เรี่ยวแรงแล้วจึงจับผมยัดใส่เครื่องบินส่วนตัวพาข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่ที่อังกฤษแบบขัดขืนอะไรไม่ได้สักนิด แล้วเขาก็ให้เหตุผลว่าขอคุณพ่อผมเรียบร้อยทำเอาปฏิเสธไม่ออกเลยล่ะครับ จวบจนปัจจุบันนี้ก็เกือบห้าปีแล้วที่ผมต้องจากบ้านเกิดมาอยู่กับคนรัก

ผมกลับไทยปีละสามสี่ครั้ง แต่ก็อยู่นานมากไม่ได้ เดี๋ยวคนแถวนี้จะลงแดงเอา มันเคยมีเหตุการณ์มาแล้วน่ะครับ

มาเล่าถึงชีวิตคนอื่นบ้าง เริ่มจากเมฆก่อนเลยก็แล้วกัน เมฆเรียนจบแล้วก็เลือกไปเรียนต่อMBAที่อเมริกาสองปี แล้วกลับไปช่วยป๊ากับเฮียมันบริหารบริษัท ปัจจุบันมันก็นั่งตำแหน่งรองประธานกรรมการ โดยมีเฮียพายุรับตำแหน่งประธานต่อจากป๊า

ส่วนเก่ง มันเข้าทำงานที่บริษัทลูกในเขตปริมณฑลของบริษัทเมฆ ผมมีโอกาสได้คุยกับมัน มันก็บอกไม่รู้จริงๆว่าเป็นกิจการของบ้านเมฆ ช่างบังเอิญจริงๆ ปัจจุบันเก่งก็ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกอะไรสักอย่างอยู่ที่เดิม

อ๋องเป็นเด็กเหนือ ที่บ้านมีกิจการไร่ชาและกาแฟ มันก็กลับไปช่วยกิจการที่บ้าน เวลาที่ผมกลับไทยตอนไหนถ้ามันว่างก็จะลงกรุงเทพฯมาหาเสมอ...ซึ่งมันก็ดูว่างอยู่ตลอด

ส่วนไอ้ท็อฟฟี่ รายนั้นก็มีร้านกระเป๋าเป็นของตัวเองทั้งๆที่ตอนแรกก็เข้าไปช่วยงานบริษัทของป๊ามัน แต่ทำได้ไม่กี่ปีก็เลิกโดยที่มันให้เหตุผลว่าไม่ชอบบรรยากาศการทำงานแบบนั้น ดูไม่เป็นตัวของตัวเอง จะแสดงออกมากก็ไม่ได้ต้องไว้หน้าป๊าบ้าง ก็เลยออกมาเปิดแบรนด์กระเป๋าเป็นของตัวเองซะเลย ช่วงแรกๆผมก็ถามมันว่าเงินพอใช้หรอเปิดร้านใหม่โดยไม่ขอพ่อ มันก็ตอกกลับมาซะผมหน้าแดงฉ่า ‘กูขายตัวให้ผัวกู ได้น้ำละหมื่น ช่วงนี้ขยันหน่อยเพราะไม่ค่อยมีเงินก็ได้วันละเป็นแสนอยู่นะลูก’ ผมไม่รู้ว่าจริงไหมแต่ก็ไม่กล้าถามต่อ เพราะฉะนั้นถ้าอยากรู้ก็ไปถามมันเอาเองก็แล้วกันนะครับ

ส่วนสองสาวน้ำและหญิง น้ำทำงานในบริษัทข้ามชาติแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯปัจจุบันก็ตำแหน่งค่อนข้างสูง ส่วนหญิงมาเหนือความคาดหมายมากเพราะเธอเข้าวงการไปเป็นนักแสดง ตอนนี้ก็ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆเลยล่ะครับ

คิดๆไปแล้วก็รู้สึกคิดถึงเพื่อนๆแฮะ

“...น้อง...น้องรันต์”ทศกัณฐ์สะกิดเรียกผมเบาๆให้ตื่นจากภวังค์

“เมื่อกี้พี่ว่าไงนะ?”

“พี่ถามว่ากินข้าวมาหรือยัง น้องเหม่ออะไร? หรือคิดถึงนายอีวานส์” ทศกัณฐ์หลี่ตามอง หึงอีกละ

“ยังไม่ได้กินเลยครับ รอมากินพร้องเบบนี่แหละ” ผมเรียกทศกัณฐ์อ้อนๆก่อนจะจูบมุมปากเขาอีกทีอย่างหมั่นเขี้ยว

“ถ้าอย่างนั้นเราออกไปกินข้างนอกแล้วกัน…แล้วเมื่อกี้เหม่ออะไร?”

“คิดถึงเรื่องสมัยก่อนของเราน่ะครับ แล้วก็คิดถึงเพื่อนๆที่ไทยด้วย...อยากกลับไปได้ป่าว?” ผมจ้องทศกัณฐ์อ้อนๆผมทำตาแป๋วใส่

“พึ่งกลับไม่ใช่หรือไง”

“ห้าเดือนแล้วเนี่ยนะ! น้องคิดถึงบ้าน” คือช่วงนี้ผมยุ่งมากจริงๆครับ แม้ว่าทศกัณฐ์จะไม่ต้องการให้ผมทำงาน แค่ใช้เงินที่เขาใส่บัญชีไว้ให้ใช้แต่ละเดือนๆก็พอแล้ว ผมมีหน้าที่แค่กิน นอน ทำกับข้าว ใช้เงิน เที่ยวเล่น(ในสายตาเขา) มันก็ค่อนข้างจะเบื่อ เลยมาช่วยเขาทำงานซะเลย ตัวผมก็ไม่ได้ต้องการตำแหน่งอะไร แต่ทุกคนที่นี่ก็ยกตำแหน่งให้ผมเป็นผู้ช่วยพิเศษของท่านประธาน

อีกหน้าที่หนึ่งที่ทศกัณฐ์ทำให้ผมลำบากใจสุดๆคือการเอาบัญชีทรัพย์สินต่างๆของตัวเองมายัดใส่มือผมให้ช่วยดูแล แต่ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ชื่อของทรัพย์สินหลายๆอย่างเปลี่ยนมาเป็นชื่อผม จนทศกัณฐ์แทบจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว

ผมอยากปฏิเสธเขา แต่พอเจอเหตุผลของเขาในแต่ละครั้งก็เถียงไม่ออก และเหตุการณ์ในวันเกิดเมื่อสิบปีก่อนก็เป็นบทเรียนได้ดี

และมีอยู่เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมเลิกปฏิเสธเขาไปเลยก็คือ

‘สินสอดจากพี่ น้องจะรับไว้ได้ไหม’

จากนั้นผมก็เลิกพูดเรื่องนี้อีก เขาอยากให้ผมก็จะรับไว้ จะเก็บรักษาและดูแลไว้ให้เขา ถ้าเขาอยากได้คืนเมื่อไหร่ผมก็พร้อมจะให้คืนได้เสมอ เพราะผมไม่ได้ต้องการสิ่งของเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย

ที่ผมต้องการ คือ หัวใจของทศกัณฐ์ ซึ่งผมก็ได้รับมาอย่างสุดหัวใจ

“ไปด้วยกันนะ” ผมเอ่ยชวนเขายิ้มๆ ทศกัณฐ์มองหน้าผมก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

“ก็ได้ แต่ปีนี้ห้ามปฏิเสธแล้วนะ”

ผมยิ้มแล้วกอดเขาไว้แน่น เป็นคำตอบของคำถามที่ระหว่างเรารู้กันเพียงสองคน

+++++++++++++++++++

ขอลงก่อนครึ่งหนึ่ง มีเรื่องไม่สบายใจเล็กน้อยเขียนไม่ค่อยออก แต่เปรมไม่อยากให้รอนาน อีกสองสามวันเจอกันค่ะ :L1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
รอๆๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :z1:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เป็นกำลังใจให้คุณเปรมนะคะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ uyong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 อีกครึ่งก็จบแล้วเหรอ เดี๋ยวจะกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่เริ่ม ขอบคุณค่ะ :pig4: :กอด1::L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด