ใจยักษ์ 27 [ต่อ]
“น้องมึงแต่เมียกูไหม” ทศกัณฐ์รั้งใบหน้าผมเข้าไปจูบแผ่วเบาแล้วปล่อยเป็นอิสระ
เพี๊ยะ! พอเขาปล่อยมือผมก็ฟาดแรงๆไปที่ต้นแขนเขาทันที
“โอ๊ย!” ทศกัณฐ์ร้องเสียงหลงลูบแขนล่ำๆตัวเองป้อยๆราวกับว่าเจ็บมากอย่างนั้น แอคติ้งเว่อร์ๆนั่นยิ่งทำผมหมั่นไส้อยากฟาดเขาอีกสักรอบ
“สม!”พี่สมิธแลบลิ้นเยาะเย้ยทศกัณฐ์ แปลกที่เขาไม่ล้อเลียนผมเหมือนแต่ก่อนเมื่อตอนเย็นนั่นก็เหมือนกัน ทำราวกับเป็นเรื่องธรรมชาติที่เขาเห็นจนชาชิน
“เดี๋ยวมึงได้กระเด็นออกจากห้องกูไอ้สมิธ” ทศกัณฐ์ชี้หน้าพี่สมิธ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจผีที่โผล่มาแล้วครับ
“กูไม่ไป มึงจะทำไม?” พี่สมิธท้าทายด้วยใบหน้าที่เหนือกว่า
“สัส!”สั้นๆคำเดียวเป็นการจบบทสนทนาจากทศกัณฐ์ ดูๆไปแล้วเขาก็ค่อนข้างตามใจพี่สมิธเหมือนกัน
“พวกพี่สองคนเป็นแฟนกันรึเปล่าครับ” ผมถามในสิ่งที่ใจคิดออกไป
“เหี้ย!!!/อ้วก!!!” เสียงอุทานตกใจของชายฉกรรจ์ทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน พี่สมิธทำท่าโก่งคออ้วกซะผมเชื่อเลย
“ขอร้อง ได้โปรดเอาความคิดเหี้ยๆนี่ออกจากหัวมึงด้วย กูยังไม่อยากอ้วกข้าวที่พึ่งกินไป ขนลุกว่ะ”พี่สมิธลูบแขนตัวเองแหยงๆ
“พี่ยอมตายอีกสิบชาติดีกว่าต้องเป็นแฟนมัน” ทศกัณฐ์ก็ทำหน้ายี้ๆจนผมหลุดหัวเราะออกมาจากการแสดงออกของพวกเขา
“ก็แค่ถามดู ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ดิ” ผมยักไหล่แล้วตั้งใจดูหนังไม่สนใจเสียงง็องแง็งของพวกเขาอีก
ตกดึกพี่สมิธไม่ยอมนอนคนเดียวเพราะกลัวผีจนขึ้นสมอง จะให้ผมนอนเป็นเพื่อนทศกัณฐ์ก็ไม่ยอม ผมจะนอนคนเดียวแล้วให้พวกเขานอนด้วยกันก็ไม่ยอมอีก เถียงกันตั้งนานกว่าจะตกลงกันได้ สรุปคือนอนในห้องทศกัณฐ์กันทั้งสามคน และทศกัณฐ์เป็นคนนอนคั่นกลาง ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ก่อนจะหลับก็ได้ยินเสียงพวกเขาคุยกันแว่วๆมาเข้าหู ‘หวงแม่งไรนักหนาไม่รู้’ ‘เสือก’
.
.
.
.
.
.
.
.
“มึงๆ มึงว่าใครเป็นคนในข่าวลือวะ” เสียงเด็กปีหนึ่งสนทนากันบนโต๊ะอาหาร
“ข่าวลืออะไรวะ” เด็กหน้าม้าถามเพื่อนงงๆอย่างไม่รู้เรื่อง
“มึงไปอยู่ไหนมาเนี่ย! ก็เรื่องพี่ทศกัณฐ์ภาคอินเตอร์กิ๊กกับเด็กภาคปกฯคณะเดียวกันนี่แหละ!” เด็กผู้หญิงดัดฟันหน้าตาน่ารักอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
“อ้าว! ไหนเขาว่าเป็นเจ้าชายบนหอคอยน้ำแข็งไม่เคยมีใครในม.นี้สอยได้ไม่ใช่หรอวะ?”
“ก็นั่นแหละกูถึงอยากรู้ว่ามันเรื่องจริงรึเปล่า แต่ก็มีคนพูดกันมาอีกนะเว้ยว่าเคยเห็นพี่ทศขี่บิ๊กไบค์เทียวรับเทียวส่งผู้หญิงผมสั้นช่วงก่อนมิดเทอมอ่ะ” แค่กๆๆ จบประโยคของน้องที่นั่งด้านหลัง ผมก็สำลักน้ำที่พึ่งดื่มเข้าไปทันที สงสัยคงสะดุดลมหายใจตัวเอง เมฆลูบหลังให้ป้อยๆ
“ค่อยๆเขาไม่รู้หรอกว่าเป็นมึง” เมฆกระซิบเบาๆ
“เมฆ!” ผมร้องอย่างตกใจ กลุ่มเด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างหลังหันมามองกันพรึ่บ พอเจอรอยยิ้มเมฆพวกเธอก็ยิ้มเขินๆให้แล้วหันไปกรี๊ดกร๊าดกันในกลุ่มต่อ ที่เมฆพูดเมื่อดี้คือเขารู้แล้วหรอวะ
“มึงไม่พูด ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นเขาจะไม่รู้นะรันต์” เมฆยังยิ้ม ผมใจชื้นขึ้นอีกนิดอย่างน้อยเขาก็คงไม่ได้โกรธอะไรผมมากนัก
“มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่คิด” ผมบีบมือเมฆเบาๆ พูดเสียงอ่อยๆ
“แล้วมันเป็นแบบไหนล่ะ บอกกูมาสิ หรือต้องให้กูรู้เองอีกแล้ว?” ใบหน้าหล่อเหลาของเมฆไม่มีรอยยิ้มให้ผมแล้ว เขาเบือนหน้าหนีจากผมเป็นครั้งแรกเลยนับตั้งแต่รู้จักกันมา ผมส่ายหน้าปฏิเสธข้อกล่าวหาจากเมฆ
“บอกก็ได้” ผมลุกขึ้นพร้อมกับฉุดมือเมฆไปด้วยกัน คงต้องไปหาที่ๆปลอดคนมากกว่านี้ อีกสิบนาทีถึงเวลาเรียนคงต้องโดดแล้วล่ะ(เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ) ผมพาเมฆออกจากโรงอาหารเดินลัดเลาะไปจนถึงห้องสมุดของคณะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีคนเพราะผ่านเทศกาลการสอบไปแล้ว ผมเลือกโต๊ะมุมๆแล้วทรุดนั่ง เมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วจึงเปิดปากเล่าเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ไปทำงานกับเจค สถานการณ์ของครอบครัวที่ไม่เคยปริปากให้ใครฟัง รวมถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมและทศกัณฐ์ตอนนี้ เมฆนั่งฟังด้วยท่าทีสงบ บางช่วงก็บีบมือเหมือนจะให้กำลังใจผม ใจผมไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก เพียงแต่ผมสงสารเมฆ เขาคือคนที่มีผมอยู่ในสายตาเสมอ มีอยู่ครั้งหนึ่งเมฆหลุดปากว่าถ้าผมไม่มีแฟนเขาก็จะไม่ยอมมองใคร ตอนแรกก็คิดว่าพูดเล่น แต่จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมมีใครจริงๆ หรือมีแล้วผมไม่รู้ก็ไม่ทราบ จวบจนผมพูดจบเมฆก็ยังไม่พูดอะไรมีแค่น้ำตาที่หยดกระทบมือเราทั้งสอง เมฆร้องไห้เงียบๆเขาบีบมือผมแน่นราวกับกลัวว่าจะหายไปจากเขา ผม...ทำครอบครัวร้องไห้อีกแล้ว
“ลำบากไหมน้อง...ทำไมไม่บอกพี่” เมฆเอื้อมมือมาไล้แก้มผมบางๆ ผมส่ายหัวพร้อมยิ้มให้เมฆบางๆราวกับว่าไม่เป็นอะไร
“น้องทนได้ พี่เมฆอย่าร้องเลยนะ” ผมเอื้อมมืออีกข้างไปเช็ดน้ำตาให้พี่ โชคดีที่ชั้นนี้มีคนนั่งสองสามคนประปรายไม่มีใครหันมาสนใจพวกผม
“พี่ขอโทษนะน้อง ขอโทษที่ดูแลมึงไม่ได้” เมฆร้องไห้ซบลงกับมือที่ประสานกันไว้ ผมเงยหน้าสะกดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา ผมไม่อยากร้องไห้...ไม่อยากอ่อนแออีกแล้ว
.
.
.
.
.
.
“แล้วเรื่องทศกัณฐ์มึงจะเอายังไงต่อ มีข่าวลือเรื่องนี้เป็นสัปดาห์แล้วยังไม่ซาลงเลยนะ” เมฆถามหลังสงบสติอารมณ์ตัวเองได้ ที่เขาไม่เรียกทศกัณฐ์ว่าพี่เพราะอายุเมฆก็พอๆกับพวกพี่ทศกัณฐ์
“ก็ต้องห่างๆแล้วล่ะ เพราะถ้าจบเรื่องนั้นเมื่อไหร่ น้องก็ต้องออกไปจากชีวิตเขา”
“ให้พี่ไปรับไปส่งไหม”
“ไม่เอา ลำบากเมฆเปล่าๆ”
“ลำบากเหี้ยไรล่ะ ถ้ายังเห็นกูเป็นพี่เป็นเพื่อนอยู่ก็ให้กูไปรับไปส่ง” เมฆว่าเสียงเข้ม
“ก็ได้” หวังว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไรนะ
ติ้ง! เสียงโปรแกรมแชทดังขึ้นจากคนที่พึ่งจะนินทาไปเมื่อกี้
THOSSAKAN : อยู่ไหน?
Run Run : ห้องเรียนดิ
THOSSAKAN : อย่ามาโกหก พี่อยู่เซคที่รันต์เรียน
Run Run : ไปทำอะไรล่ะนั่น
THOSSAKAN : ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง
Run Run : ป่าวววว
THOSSAKAN : แล้วอยู่ไหนกันแน่?
Run Run : หอสมุดคณะ
THOSSAKAN : ไปทำอะไร?
Run Run : หลีหญิง
THOSSAKAN : หรอ
Run Run : หลีหนุ่มก็ได้
THOSSAKAN : ฝากบอกคนถูกจีบด้วยว่าระวังโดนตีนผัวคนจีบ
Run Run : ไม่กลัว
THOSSAKAN : ลองดูดิถ้าอยากเห็นคนตาย
เอิ่ม...เปลี่ยนเรื่องดีกว่า
Run Run : จะไม่ไปไหนมาไหนด้วยแล้วนะ คนในคณะเริ่มสังเกตแล้ว
ผมกดส่งให้ทศกัณฐ์พอขึ้นอ่านเท่านั้นแหละ
Rrrr Rrrr Rrrr
มันโทรมาเลยครับ ผมเงยหน้าขึ้นมองเมฆเห็นมันกดโทรยิกๆไม่ได้สนใจ ผมเลยกดรับสาย
(เจอกันที่รถ) เสียงเข้มๆส่งผ่านสายมา
“ไม่เอา”
(เดี๋ยวนี้)
จิ๊! ไปก็ได้วะ ไม่ได้กลัวหรอก
“เมฆ เดี๋ยววันนี้น้องกลับก่อนนะ” ผมบอกเมฆเบาๆ เขาเงยหน้าขึ้นมามองแล้วลุกขึ้น
“ไปดิ เดี๋ยวไปส่ง” เมฆคว้ามือผมแล้วพาออกเดิน
“คือ ต้องไปคุยกับเขาก่อน” ผมบอกเมฆขณะเดินลงบันได
“เขาหรอ?...กูไปด้วย” เมฆบอกแล้วใช้สายตาให้ผมนำทางไป เมื่อถึงที่จอดรถผมเห็นทศกัณฐ์ยืนพิงรถเขาสูบบุหรี่เงียบๆคนเดียว เขาตวัดสายตาขึ้นมองเมื่อพวกผมเดินเข้าไปใกล้
“จากนี้ไปกูจะเป็นคนไปรับไปส่งไอ้น้องเอง” เมฆเปิดประเด็นขึ้นก่อนพร้อมเอาแขนพาดบ่าผมไว้ ไม่มีความเคารพรุ่นพี่ในน้ำเสียงอีกต่อไป ทศกัณฐ์ขมวดคิ้วนิดๆ นั่นทำให้ผมรู้ว่าเขาเริ่มหงุดหงิดแล้ว
“ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องเสือก” ทศกัณฐ์พูดเสียงเข้ม
“ทำไมกูจะเสือกไม่ได้ กูเป็นพี่แล้วก็เพื่อนมัน”
“มึงรู้ดีอยู่แก่ใจว่ากูเป็นอะไรกับมัน”
“แล้วไง? ตราบใดที่กูยังไม่ได้ยินจากปากมันเอง กูไม่ถอย”เมฆยักไหล่พร้อมแสยะยิ้มส่งให้ทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์เหลือบมามองผมนิดๆแล้วหันไปพูดกับเมฆ
“มึงจะเอายังไง” พวกเขาพูดอะไรกันวะ ใช่เรื่องเดียวกับผมไหมเนี่ย
“เอาเลยไหมล่ะ” เมฆพูดจบก็ดันผมไปอยู่ด้านหลังตัวเอง ไม่กี่วินาทีต่อมาพวกเขาก็พุ่งซัดหมัดใส่กันทันที
“เฮ้ย!!” ผมร้องเสียงหลง ไหงมาตีกันได้วะ ผมไม่รู้จะหาจังหวะแทรกยังไงเพราะพวกเขาซัดกันนัวเลย แต่รู้สึกว่าเมฆจะเริ่มเสียเปรียบทศกัณฐ์แล้วสิ เมฆถีบทศกัณฐ์ออกจากตัวแล้วพุ่งไปซัดหมัดใส่ทศกัณฐ์ใบหน้าทศกัณฐ์เต็มๆ เขาผงะถอยไปตามแรงชกเล็กน้อย ทศกัณฐ์อาศัยจังหวะที่เมฆจะเข้าไปถีบชกเข้าที่ท้องเมฆจนตัวงอแล้วถีบอย่างแรงจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ทศกัณฐ์ตามไปคร่อมแล้วชกใส่เมฆเสียหลายหมัด คิ้วและโหนกแก้มแตกเป็นทาง ผมอาศัยจังหวะที่ทศกัณฐ์ง้างหมัดขึ้นไปกอดเขาไว้แน่น กลัวว่าเขาจะฆ่าเมฆตายจริงๆอย่างที่บอก
“ยักษ์หยุด! นี่พี่ชายน้องนะ!”ผมร้องตะโกนหวังให้เขาหยุด ทศกัณฐ์หยุด เขายืดตัวขึ้นแล้วถอยออกจากเมฆ มือแกร่งจับแขนผมแน่นจนแดงเป็นปื้น ผมลูบแขนเขาเบาๆให้ใจเย็น ทั้งหน้าทศกัณฐ์มีแค่มุมปากที่เลือดซิบ ถือว่าเบากว่าเมฆมากนัก ผมส่งสายตาขอร้องเขาให้ปล่อยไปดูพี่ ทศกัณฐ์ถอนหายใจแรงๆแล้วยอมปล่อย พอเป็นอิสระผมก็รีบวิ่งไปพยุงร่างกายสะบักสะบอมของเมฆขึ้น เขาพาดแขนบนไหล่ผมเพื่อพยุงตัวไว้ ฟาดฟันกับทศกัณฐ์ผ่านทางสายตา
“ไปทำแผลที่คอนโดฯกูนะ ทำกับข้าวให้ด้วย” เมฆพูดเสียงอ่อยกับผม
“อื้อ” ผมพยักหน้าตกลง ในใจก็งงว่าจะต่อยกันทำบ้าอะไร ก่อนหน้านี้ยังดีๆกันอยู่เลย หรือจะโกรธเรื่องความสัมพันธ์อธิบายยากระหว่างผมกับทศกัณฐ์
“รันต์!” ทศกัณฐ์ทำท่าจะย่างเท้าเข้ามาหาเรา แต่เมฆก็ชิงพูดขึ้นก่อน
“มึงอย่าใจแคบนักเลย กูแพ้แล้วอย่างน้อยก็ให้มันอยู่ปลอบใจกูบ้าง” ในน้ำเสียงเมฆมีแววเศร้าออกมา
“ห้ามเกินสี่ทุ่ม...ถึงเวลาเดี๋ยวไปรับ” ประโยคสุดท้ายเขาหันมาพูดกับผมก่อนจะหันหลังเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไป
“ตีกันทำไม ถ้าคนอื่นมาเห็นเดี๋ยวก็เป็นเรื่อง” ผมดุเมฆเบาๆขณะพยุงเขามาที่BMW คันสวย
“มันเป็นการคุยกันผ่านหมัดของลูกผู้ชาย” เมฆบอก
“กูก็ลูกผู้ชาย ไม่เห็นจะเข้าใจ”
“มึงมีเมียเมื่อไหร่เดี๋ยวก็เข้าใจเอง...ไปๆขับรถให้กูเลย ผัวมึงต่อยกูซะยับ เจ็บชิบหาย” พูดจบเมฆก็รีบสอดตัวเข้าไปในรถทันที
“เมฆ!!!” เดี๋ยวแม่งก็มีคนได้ยินหรอก ผมล่ะเอือมระอากับผู้ชายรอบตัวผมจริงๆ เฮ้ออออออ
+++++++++{โปรดติดตามตอนต่อไป}++++++++++++
แอบย่องมา ช่วงนี้ขยันจริงๆไอ้เปรม(สงสารคนรออ่านงายยย) 
เริ่มหมั่นไส้ไอ้น้องรันต์ละ มีผู้มาต่อยแย่งขนาดนี้ยังไม่รู้ตัว ฉันจะหาแบบแกได้ที่หนายยยย(เริ่มบ้า) ช่วงนี้จะมาเบาๆหวานๆก่อนให้พระนายมีฉากมุ้งมิ้งอย่างที่ชอบบ้าง แต่ขออกตัวก่อนว่าเปรมไม่ค่อยถนัดแนวนี้นะ ถ้าหวานเยอะไปเปรมเลี่ยนไม่ไหวจริงๆ อีกไม่นานตัวร้ายตัวแรกก็จะออกแล้ววว เย้! คอยเป็นกำลังใจให้น้องกับพี่ยักษ์ด้วยนะ จุ๊ฟ