........................
เหนื่อยจังเลยที่รัก....
ทำงานกับคนต่างชาติที่มีวัฒนธรรมไม่เหมือนเรายิ่งทำให้เหนื่อย ไทม์เป็นกำลังใจให้วุธได้ไหมครับ? ผ่านไปหลายเดือนแล้วนะ ไทม์คิดถึงวุธหรือเปล่า ส่วนเราคิดถึงไทม์มาก
ชื่อไทม์ ที่แปลว่า เวลา คงหมายถึงเวลาของคนรักกัน มันจะยังคงเดินหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับไทม์ วุธไม่ห้ามถ้าไทม์ต้องการทำตามใจตัวเองบ้าง
รอวันที่วุธกลับนะครับ
วุธรอแทบไม่ไหวเลยล่ะ
......................
ซื้อหนังสือ ที่งานหนังสือ เวลาเที่ยงตรง ของวันเสาร์ คนมากมาย เดินเบียด เลือกหนังสือมั่วๆ จ่ายเงิน ออกมา
โว้ยยยยยยย
นี่มึงจะแต่งประโยคป.สองแข่งกับใครวะไอ้ไทม์ แค่มีใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร มึงก็ชนะขาดแล้ว ฮ่าๆๆ
หัวเราะเหมือนคนบ้าเลยเรา....
ผมนอนเล่นริมระเบียงที่เพิ่งจัดใหม่ เอาเก้าอี้ออก วางหญ้าเทียม ใส่น้ำตกตรงหัวมุมทำให้ดูเหมือนน้ำตกขนาดจิ๋ว ที่มีนกกระจิบยักษ์มาจิกกินน้ำ ส่วนตรงกลางผมเลือกวางถังอาบน้ำไม้โอ้คกลิ่นหอมฉุย ...เอาจริงๆก็ยังไม่ได้แตะสักที มัวแต่นอนเกลือกกลิ้งบนพื้นหญ้าแข็งๆมากกว่า
คลี่เปิดหนังสือจนถึงหน้าสิบเก้า เพราะจำได้ขึ้นใจว่าโรงเรียนสมัยมัธยมจะเลือกหน้านี้เอาไว้ปั๊มตราโรงเรียนเพื่อบอกว่านี่คือสมบัติของห้องสมุด ผมจึงมักเปิดหน้าสิบเก้าเสมอ ยามต้องการอ่านตัวอย่างเนื้อหาภายในเล่ม
เป็นหนังสือปรัชญาความรักทั่วๆไป มีภาพการ์ตูนน่ารักๆประกอบจุกจิก
ความรัก...ขึ้นอยู่กับนิยามของแต่ละคน สำหรับผมแล้วความรักก็เหมือนกล่องขนม เปิดกล่องออกมาแล้วเราไม่รู้หรอกว่าจะได้แบบไหน (เอ๊ะ ทำไมคุ้น?)
นอนก่ายหน้าผาก เอาหนังสือกางปิดหน้า พลางเหล่ตามองกำแพงระเบียงห้องข้างๆ
จากวันนั้น เขาก็เซ่นขนมมาให้ผมนิดหน่อย แต่ด้วยความเอ๋อเหรอในช่วงนี้ ผมจึงไม่ได้ส่งสายตาวิ้งๆให้เขา เขาก็ล่าถอยไปเอง ...อย่างว่าแหละ แม้แต่ชื่อยังจำไม่ได้ เขาก็คงไม่อยากเสียเวลา ผมดูหน้าก็รู้แล้วว่าเป็นพวกคาสโนว่า พ่วงตำแหน่งเสือไบอีก เดี๋ยวมันก็ทิ้งเราไปแต่งงานกับผู้หญิงอยู่ดี
Tru tru tru tru
หยิบมือถือดูชื่อสายเข้า เป็นเบอร์ประหลาดจากต่างประเทศ ไอ้ผมมันคนเพื่อนน้อยเสียด้วยซี้ ....ไม่รับให้ดีใจเล่นหรอกน่า!
Tru tru tru
ลูกช่างตื๊อ! ผมแกล้งกดรับแล้วไม่พูด
"คิๆ" แต่ก็เผลอขำ
เสียงหายใจแรงๆจากฝั่งนั้นบ่งบอกได้ว่าคงกำลังดีใจมาก
<"คิดถึงจัง กว่าจะรับได้นะ ปาไปตั้งเกือบครึ่งปี" >
ทำเป็นมาบ่นไอ้หน้าอ่อน ผมหัวเราะใส่ไป เพื่อยั่วอารมณ์คนใจเย็น อยากรู้นักว่าถ้าเดือดแล้วจะเป็นยังไง
<"สงกรานต์ปีนี้เรากลับบ้านนะ">
ยั่วไม่ขึ้นแฮะ
<"ยิ้มดีใจอยู่ล่ะซี้~">
"ไอ้มั่ว!"
อุ๊บ! ผมรีบตะครุบปากตัวเอง ก่อนที่จะด่ามันไปมากกว่านี้
<"หึๆ แล้วเป็นอะไร ไม่ตอบเมลเลย...."> แล้วแฟนผมก็บ่นนั่นนี่ไปตามประสา ขี้เกียจจะฟัง เลยเปิดลำโพงทิ้งไว้ อาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวก็เอาโทรศัพท์เข้าไปด้วย ให้มันฟังเสียงอุบาทว์ๆไป แกล้งคนแล้วสนุกชะมัด
.
.
.
ไม่รู้ทำไม ณ เวลานี้ ผมถึงได้มานั่งดูหนังจับมือกับนายโก๋อดีตเพื่อนร่วมงาน?!
บอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมไม่ได้เริ่มก่อน
เรื่องมีอยู่ว่าเบื่อๆ เบื่องาน เบื่อบ้าน มองไปทางไหนก็เบื่อ หัวใจหนุ่มวัยฉกรรจ์นั้นช่างเศร้าหมอง ผมเลยแต่งกลอนเพี้ยนๆด่าไอ้วุธส่งให้มันทางอีเมล เผื่อมันจะคิดเลิกกับผมบ้าง
พอส่งเมลเสร็จ ก็รู้สึกหนักๆขึ้นมาแทนที่จะโล่งสบาย ....ผมเลยออกมาดูหนังข้างนอก แล้วบังเอิ๊ญเจอไอ้โก๋เพื่อนเก่า เลยซื้อตั๋วนั่งข้างกันซะเลย หนังก็ระทึกอยู่หรอกนะ แต่ตอนที่โก๋จับมือผมอย่างเงียบๆนั้นกลับทำเอาใจผมระทึกกว่า
ไม่รู้สิ....มันพูดไม่ถูก แค่รู้สึกว่าหัวใจเจ็บหนึบผิดปกติ อันไม่ใช่มาจากผีเสื้อแสนสวยบินวน แต่เป็นกรงเล็บแหลมคมจิกทึ้ง พยายามดึงให้ผมนึกถึงฟิกเกอร์มังกรบนหัวเตียง
ผมพอจะจำได้แล้วว่าเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่เหมือนกัน ตอนถูกนายข้างห้องเอาขนมมาให้
"หนังสนุกเนอะ"
ไอ้โก๋ยื่นริมฝีปากพูดใกล้ๆหูผม จึงเอนหัวหนี พยักหน้าแทนคำตอบ
"เซลฟี่กัน"
มือถือราคาแพงถูกยื่นมาตรงหน้า ผมฉีกยิ้มตามมารยาท ถ่ายรูปชิดหน้ามันจนปากมันแทบจะงาบหัวผมอยู่แล้ว
"พอแล้วใช่มั้ย งั้นกลับก่อนนะ"
ผมรีบบอก รู้สึกแย่ๆ งงๆ อยากนอนนิ่งๆบนเตียงมากกว่า
"อ่าว ไม่กินข้าวก่อนเหรอ"
ผมส่ายหน้า พลางโบกมือลาเพื่อนเก่า
เฮ้อ!....ทำไมต้องเป็นแบบนี้วะไอ้ไทม์
มึงสวยมึงรวย รีบๆหาผัวใหม่ได้แล้ว แต่นี่อะไรกัน แค่ไอ้โก๋แต๊ะอั๋งก็รู้สึกอยากอ้วกและ
นับประสาอะไรกับคนอื่นที่เพิ่งทำความรู้จักล่ะ
ติ๊ง
เสียงอีเมลเข้าจากมือถือผม จึงกดเปิดดู
กะไว้แล้วเชียว! ฮ่าๆๆ วุธมันตอบกลับกลอนที่ผมแต่งไป ติ๊งต๊องสมอายุจริงๆตานี่
ถึงคนที่ชื่อวุธสุดตลก
แสนสกปรกไม่อาบน้ำเช้ายันค่ำ
ถ้าใครเห็นคงต้องรุมสกรัม
ไม่จับปล้ำหรอกมันเหม็นอี่อี๊อี๋
...
ถึงคนที่ชื่อไทม์สุดจะห่าม
เป็นคนงามแห่งเมืองกรุงแสนสุขี
ใครได้ยลเป็นต้องหลงราคี
พี่วุธนี้จึงต้องขังดูคนเดียว
.....อ่า...ทำไมอ่านแล้วขนลุกซู่เลย
ไม่ไหวๆ รีบกลับบ้านดีกว่า ฝนกำลังจะตกมั้งไอ้ไทม์ หายใจเข้าออกลึกๆสิ
.
.
.
พรุ่งนี้สินะวันสงกรานต์ ผมไม่มีแพลนจะไปไหน เพราะต้องรอวุธติดต่อมา เจ้านั่นไม่ยอมนั่งแท็กซี่จากสนามบิน มันบอกว่าเงิน50บาทที่แท็กซี่บวกนั้นแพงเกินไป ต้องให้ผมขับรถไปรับถึงจะรู้สึกคุ้ม บ้ามั้ยล่ะ
พอถามว่าจะเก็บเงินไปทำอะไร แทนที่มันจะเอาใจเราสักหน่อย มันดันตอบว่าเอาไว้ซื้อตั๋วขากลับ แล้วมาอยู่กี่วันก็ไม่ยอมบอกเนี่ย ผมจะได้เตรียมตัวถูก เซ็งจริงๆ
Tru tru tru
คงเป็นวุธ
"ฮัลโหล"
<"ถึงแล้วคร้าบ รออยู่สถานีขนส่ง">
"อื้ม"
วางสาย แล้วทำตัวอืดอาด หยิบกุญแจรถ ใส่รองเท้า ทอดน่องไปเรื่อย ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงถึงสตาร์ทรถ
เฮ้อ...ทำไมวันนี้เหงื่อออกเยอะจัง
.
.
.
.
สัมผัสแรกที่ได้รับคือกอดแนบแน่น ร่างผมเซไปสองสามก้าว วุธถึงได้รู้ตัวปล่อยผม แต่ยังไม่วายหอมแก้มซ้ายขวาให้เราอายคนอื่นเล่น
เขาผละออก มือสองข้างจับมือผมไว้ ยิ้มกว้างดวงอาทิตย์ข้างหลังส่องแสงเจิดจ้าตัดกับใบหน้าอันสดใส ผมลูบหัววุธเหมือนลูบหัวหมา ก่อนพากันกลับบ้าน
"2 วัน!! จะบ้าหรือไงมาอยู่แค่สองวันเนี่ยนะ"
เสียงเกย์คนหนึ่งตะโกน ฟังจากน้ำเสียงแล้วคงโมโหแทบอยากฆ่าคน
"งานมันยุ่งน่ะ"
"ยุ่งแล้วจะกลับมาทำไมวะ!"
เกย์คนเดิมฉวยเอาตุ๊กตานุ่มนิ่มบนโซฟาปาใส่ผัว ซึ่งผัวก็ดันรับได้อีก
"เข้าใจหน่อยสิ อย่ามัวแต่โกรธเลย เรามาใช้เวลาสองวันให้คุ้มค่าดีกว่า"
ผัวร่างใหญ่เท่สมาร์ทลูบหลังปลอบให้ใจเย็นๆ
เกย์สุดสวยรวยทรัพย์ค่อยๆผ่อนลมหายใจลงให้กลับมาเป็นปกติ
"ลืมไปแล้วหรือไงนี่มันสงกรานต์ ไปที่ไหนก็มีแต่คนสาดน้ำทั้งนั้น ไทม์อยากเที่ยวสงบๆชิลๆ ไม่ต้องนึกถึงวันเวลา ไม่ต้องรีบเร่ง"
"เราก็ไปสาดน้ำกับเขาสิ สนุกออก"
"ไม่ชอบสาดน้ำ ไม่ได้สาดมาเป็นชาติ ก็รู้นี่"
"ไม่กลัวว่าถ้าเราเลิกกันแล้ว ไทม์จะเหงาเหรอ"
"ยังไง?"
"ก็สมมติว่าสงกรานต์ปีหน้าไทม์ไม่มีเราแล้ว แล้วไทม์ก็ทำกิจกรรมที่เคยทำกับเรา คือการนอนชิลๆ เที่ยวชิลๆ ไทม์ก็เหงาตายเลยสิ สู้ไปสาดน้ำกับเราดีกว่า เพราะตอนเลิกกันไทม์ก็ไม่ได้เล่นอยู่แล้ว"
"อืมม ก็มีเหตุผลนะ"
นิ้วก้อยเรียวสวยชูขึ้น มันกระดิกยิกๆร้องเรียก ผมเลยยื่นนิ้วก้อยตัวเองไปเกี่ยว แก้มเห่อแดงน้อยๆ แต่มันคงไม่รู้หรอก ไอ้วุธมันซื่อจะตาย
"ไม่มีใครรู้ใจไทม์เท่าวุธหรอก"
.
.
.
เป็นอย่างที่แฟนเด็กของผมว่าไว้ การสาดน้ำครั้งนี้คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายกับมัน!
น่าโมโหมากเลย คนอะไรวะหน้าตาก็ธรรมด๊าธรรมดา นี่ขนาดผมเลือกแบบที่ดร็อปสุดๆเวลาเดินข้างแล้วนะ ยังมีแต่คนปะแป้ง เด็กๆสมัยนี้เป็นอะไรกันไปหมด ผมอยากจะเป็นลม สงกรานต์บ้านเราฮาร์ดคอร์เกินไปแล้ว!!
"อ่ะ!..."
ตายโหง! ไอ้คนข้างห้องยืนหล่ออยู่หน้าประตู
ผมยิ้มหวาน ทำเหมือนไม่มีอะไร ...ก็มันไม่มีอะไรจริงๆนี่!
"ไปเล่นน้ำกันมาเหรอครับ"
หนุ่มตี๋ที่ผมลืมชื่อไปแล้วเอ่ยถาม
"ครับ"
เป็นแฟนผมที่ตอบ น้ำเสียงนี้ผมคุ้นเคยดี มันจะใช้เวลาโกรธมากๆแล้วระบายไม่ได้ ทุกครั้งที่วุธเป็นแบบนี้ มันจะเข้าไปฟาดฝักบัวในห้องน้ำเล่น ดังนั้นโกรธทีก็เหมือนล้างห้องน้ำที(และซื้อฝักบัวใหม่ทุกที)
"คุณไทม์"
มันเรียกผมเมื่อเราสองคนผัวเมียเปิดประตูห้อง ผมให้ดันให้วุธเข้าไปก่อน ส่วนตัวเองเปิดประตูค้างไว้
"มีอะไรเหรอครับ"
"เราน่าจะกลับมาคุยกันอีกนะ....ตอนแฟนคุณไม่อยู่" มันกระซิบ...แบบที่ได้ยินกันทั่ว
ผมเลยยิ้มแหยๆ ก่อนรีบเข้าห้อง
ไอ้นี่มันบ้าหรือเปล่าวะ ว่าแล้วว่าต้องโรคจิต ดูจากสายตามันสิ ยิ้มพราว ภูมิใจที่ได้แกล้งผม
ฟู่ววว เอามือลูบอกไปมา
"คุย....? หรือนอนด้วยกัน...?"
เสียงเย็นยะเยือกฉุดกระชากให้เกย์ร่างบอบบางอย่างผมสะดุดลมหายใจ
วุธยืนจ้องด้วยสายตาราวกับจะฆ่าคนได้ ผมเลยผงะถอยหลัง พลันร่างหนาก้าวยาวๆทีเดียวก็ประชิดตัวผม
"ก็เข้าใจนะว่าคนเหงา....แต่จะไปนอนกับคนอื่นไปทั่วไม่ได้!!"
วุธตวาด
"ไม่ใช่นะ ไม่เคยนอนด้วยกัน"
ผมต้องเถียงในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง
"แล้วไอ้โก๋ห่าอะไรนั่นล่ะ?!"
"พูดดีๆสิวุธ ใจเย็นๆ"
"ไม่เย็นแล้ว! อดทนมามากพอ!!"
"ก็เลิกไปดิ! เลิกไปเลย อย่ามายุ่งกับคนไม่มีหัวใจอย่างเรา"
มันโมโหได้ ผมก็มีสิทธิ์โมโหได้ป่ะวะ จู่ๆก็ว่าเราปาวๆ ไม่ฟังเราเลย
"ตอนแรกก็ให้อภัยอยู่หรอก แต่อุตส่าห์มาหา ไทม์ก็ยังทำร้ายจิตใจเรา ....เราเหนื่อยนะไทม์ ตอนอยู่'เมกา ไทม์ไม่เคยสนใจเราเลย ไม่เคยแม้แต่ตอบเมล ไทม์เคยคิดถึงเราบ้างมั้ย!"
"จะอะไรนักหนาวะ! ก็เคยบอกไปแล้วว่าเป็นคนแบบนี้ มาจีบเองทำไมล่ะ"
ผมเถียงกลับ
"เออจะได้รู้ไว้ ว่าที่ผ่านไทม์ไม่เคยรักเราเลย"
"...ม.."
คำพูดติดอยู่ที่ปาก ผมอึกอัก เบ้หน้า
"อะไร?"
"ทนไม่ได้ก็เลิก จบ! ขี้เกียจคุยแล่ว"
วิ่งหนีมันแม่ง กระโดดขึ้นเตียง นอนคลุมโปงด้วยกลัวว่าไอ้วุธมันจะเห็นน้ำตาผม
นอนนับเลขข่มอารมณ์ตัวเองได้ถึงเลขห้า ก็มีบางสิ่งเคลื่อนไหว ผมเลยยิ่งขดตัวหนี
"จะเอาหมอน! เล่นทุบห้องทิ้งไปแล้วจะให้ไปนอนที่ไหน"
"คิดเองดิ"
ต่อปากต่อคำมันไป มันจะได้เลิกๆไปซะ
ใช่สิ! ผมมันคนไม่ดีนี่
ไม่เคยเอาใจ ไม่เคยทำอะไรให้เขาภูมิใจเลย
เป็นแค่เกย์หน้าตาดี ที่มองโลกในง่ายร้ายสุดๆ
ก็ถูกแล้วที่คบใคร ..คนนั้นก็ทิ้ง
แต่ผม....ผมรักวุธ
ผมรักแฟนทุกคนที่คบด้วย...
ผมอยากพูด แต่ไม่กล้า ผมกลัวว่ามันจะกลายเป็นคำที่ไม่ศักดิ์สิทธิ์
ตอนคบแฟนคนแรก ผมเคยรักเขามาก บอกรักทุกวันจนเขาบอกว่ารำคาญแล้วทิ้งไป ฮ่าๆๆ เคยนึกว่ารักคือคำวิเศษ ที่จะช่วยให้คู่รักอยู่ด้วยกัน
แต่ไม่ใช่เลย มันไปมีคนอื่นจนได้
ตั้งแต่นั้นมาจึงทำตัวเหมือนพวกโลกมืด เข้าใจความรักไปเสียทุกอย่าง เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรับมือกับความรักที่เกาะกินหัวใจ
หล่อหลอมให้กลายเป็นผมอย่างทุกวันนี้
ใครๆก็บอกว่าผมมันบ้า นิสัยเสีย
จริงๆแล้วถ้าผมไม่หลอกตัวเอง ทุกคนอาจดีใจกว่านี้
ผมรักวุธ
ไม่เคยอยากให้วุธไปไหน
ชอบที่มันอ้อน งอแง
ชอบอ่านอีเมลของมัน แต่ไม่กล้าตอบกลับเพราะกลัวเผลอบอกความในใจ
ทำใจคบคนอื่นไม่ได้ เพราะไม่มีใครดีเท่า
แกล้งปากหนัก วุธจะได้สนใจ ไม่เบื่อผม
แต่ผมก็ทำมันพังทุกอย่าง...
ผมทำให้วุธไม่เชื่อใจ
ทำร้ายจิตใจเขา
รวมทั้ง...หัวใจตัวเอง
"งั้นเรานอนโซฟาข้างล่างนะ"
ฮึก....ผมสะดุ้ง ไอ้วุธคงเห็นกลุ่มก้อนผ้ากระตุกแล้วแหละ น่าอายชะมัด
วันพรุ่งนี้วุธก็กลับอเมริกาแล้ว มันคงเป็นวันสุดท้ายที่เราจะมองหน้ากันได้ ....
บอกตรงๆว่าผมไม่อยากเลิก!ในบรรดาแฟนที่คบมา วุธเป็นคนที่ใช่ที่สุด เป็นคนแรกที่หัวใจผมไม่มีความลังเลเลยที่จะรัก
....แต่ผมก็เอานิสัยบ้าๆมาทำกับเขาจนได้....
จะทำไงดี เรื่องถูกคนอื่นสมน้ำหน้าน่ะไม่แคร์หรอก ผมแคร์วุธมากกว่า เขาต้องมองว่าเราเป็นคนไม่ดี ผิดหวังในตัวเรา แล้วอาจจะเกลียดความรักไปเลยก็ได้
ผมไม่ต้องการให้ใครต้องมาตกเป็นเหยื่อของความรักอีก...
ทำยังไงดี....
..........
ตาบวมเป่ง ....ถ้าเอาเข็มเจาะ มันคงแตกโพล้ะเป็นน้ำหนองไหลเยิ้ม ...เอ่อ เราอย่าพูดเลยดีกว่า
ผมชะเง้อมองชั้นล่าง ไม่มีร่างไอ้โย่งนอนอยู่ ห้องเงียบสงัด ...หัวใจผมเริ่มกรีดร้อง
ขาสองข้างพาผมลงมาข้างล่างอัตโนมัติ
วุธหายไป!
ดวงตาสั่นระริก ผมมือสั่นขาสั่น ทรุดลงกับพื้น แล้วปล่อยโฮ
ผมภาวนามาตลอด....ตลอดทั้งคืน....
ขอให้วุธเลือกผม
ขอให้วุธใจเย็นแล้วปรับความเข้าใจกัน
ขอให้วุธหันกลับมาพูดอะไรก็ได้ ผมจะยอม จะยอมวุธทุกอย่าง
ผมไม่อยากเสียเขาไป
ฝันร้าย....
หรือนี่คือฝันร้าย...
ผมกัดปากตัวเองจนได้รสเฝื่อนของเลือด
คู้ตัวดั่งลูกนกที่ถูกเด็ดปีก
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่ากระทบพื้นเย็นเฉียบ
เริ่มหายใจไม่ออก ลำตัวเหยียดเกร็ง
"อึก...."
ผมพยายากอ้าปาก ส่งลมหายใจ
ไม่ๆ
ยังไม่อยากตาย
อยากขอโทษวุธ
....วุธ...กลับมา
"อ..อะ"
"ไทม์!!!"
รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงของที่รักลอยมาแต่ไกล แล้วสวรรค์ก็สั่งให้ผมไม่ต้องรับรู้อะไรอีก
.........
ผมคงไม่ต้องบรรยายการตื่นขึ้นมากะพริบตาปริบๆ มองเพดานสีขาว พร้อมจมูกที่รับกลิ่นยาเข้าไปประมวลว่าที่นี่คือโรงพยาบาลหรอกนะ
ข้างๆมีผู้ชายหน้าตาพอดูได้นั่งเหม่อ ผมจึงขยับแขนเป็นสัญญาณเรียก
"ตื่นแล้วเหรอ"
ถ้าไม่ตื่นคงหลับตาแหละวุธ
"กินน้ำนะ"
วุธปรับเตียงให้ผมนั่งได้ถนัดขึ้น ผมดูดน้ำเงียบๆ กลั้วปากเพราะปากเหม็นเต็มทน อยากล้างหน้าสักหน่อย แต่ขี้เกียจ จึงเอนหลังมองวุธ
....เขาเลือกผมใช่ไหม?
"ไทม์ช็อคจนหมดสติน่ะ"
คนแมนหยุดถอนใจ
"ตอนนั้นเราอยู่ที่ระเบียง..อยากให้สมองมันโล่งน่ะ"
"อย่าขมวดคิ้วสิ เราเห็นแล้วใจไม่ดีเลย"
"จะกลับ'เมกาวันไหน"
บ้าเอ๊ย เสียงสั่นเป็นบ้า
เลือกมาเลยวุธ เราพร้อมยอมรับทุกอย่าง
"หน้าซีดแล้ว ตามหมอดีกว่า"
มือหนาทำท่าจะกดปุ่มฉุกเฉิน ผมเลยรีบห้ามไว้
"วุธยังโกรธเราอยู่มั้ย"
"ไม่หรอก ขอโทษที่อารมณ์ร้อนนะ"
ผมน้ำตาเอ่อ...แม้แต่คำขอโทษวุธยังเอ่ยก่อน
มึงจะดีกับกูไปถึงไหนเนี่ย!
"ฮึก...เราขอโทษ...แต่เรา..ม..ไม่ได้มีใครจริงๆ"
"รู้แล้ว"
"วุธ....ถ้าเราพูดอะไรออกไป.. เราอยากให้วุธตัดสินใจโดยที่ยึดตัวเองเป็นหลักนะ ...อย่าสงสารอย่าเห็นใจ อ..เอาที่วุธสบายใจเลย"
ผมกุมมือหนาเอาไว้ ไม่กล้ามองตาคนที่ตัวเองรัก และทำร้ายจิตใจมาโดยตลอด
"เรารักวุธนะ ....ที่เราไม่พูด เพราะกลัววุธจะเบื่อ แล้วทิ้งไป...อึก..ที่ไม่ชอบติดต่อไปก่อน เพราะมันเขิน เราไม่ชอบที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่วุธรู้มั้ย ยิ่งไม่เจอวุธมากเท่าไหร่ ไทม์ก็ยิ่งเหมือนคนหลงทางมากขึ้นเท่านั้น....เรากลัวการมีความรัก เรากลัวถูกทิ้ง ถึงต้องทำตัวเย่อหยิ่ง ทำเหมือนไม่แคร์ ทั้งๆที่จริงแล้ว วุธทลายกำแพงเราจนไม่เหลือชิ้นดี"
หน้าตาผมคงทุเรศมาก วุธถึงได้ยิ้ม
ตอนนี้น้ำมูกน้ำตาไหลรวมกันไปหมด เหมือนเด็กๆ
"ไทม์...."
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆ ชะตาของผมกำลังจะถูกตัดสิน
ถ้าวุธทิ้งไป ผมคงเหมือนตายทั้งเป็น
"เราตัดสินใจตั้งแต่วันที่เดินเข้าไปหาคนนิ่งๆแล้วล่ะ....
ว่าเราจะไม่ทิ้งเขาไป..."
ผมร้องสะอึกสะอื้น
"รักมันพัง เราก็ซ่อมได้ รักมันห่วย เราก็แก้ไขกันได้ ตราบใดที่เรายังคงรักกันนะไทม์....มั่นใจในตัวเรา แสดงออกมาเลย ไม่ต้องกลัวว่าเราจะทิ้ง เพราะเราไม่มีวันทิ้งไทม์แน่ๆ"
"จ..จริงเหรอ"
"จริง....คิดอะไรก็พูด แสดงออกมาเลย เราไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ถึงวันไหน ตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ไทม์ไม่เสียดายเวลาเหรอ"
"แต่เรากลัว มันเศร้ามากเลยนะ แค่วุธไม่อยู่ เราก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว"
"พวกเราถึงต้องใช้เวลาที่อยู่ด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุดไง"
ผมนิ่งคิด....
ปาดน้ำตา
"แสดงตัวตนที่แท้จริงของไทม์ออกมา เรารู้...แค่มองตาก็รู้แล้วว่าไทม์ตัวจริงน่ะน่ารักขนาดไหน"
วุธรวบกอดคนที่กำลังเห็นทางสว่าง
ผมยกมือขึ้นกอดตอบ
อุ่นจัง
ร่างกายของวุธอุ่นที่สุด สบายใจที่สุด
"เรารักวุธนะ รักโคตรๆ โคตรพ่อโคตรแม่"
ผมรัดคนตัวหนาแน่นขึ้น แทบจะตะโกนใส่หูมันอยู่แล้ว แต่เกรงใจสถานที่
เด็กน้อยของผมตัวสั่นนิดๆ
ผมรู้หรอกน่า คงกำลังร้องไห้ซึ้งใจอยู่ล่ะสิ
ใสซื่อไร้เดียงสาแบบนี้ ทำไมเขาจะไม่รัก
.............
'แผนสำเร็จ...หึๆ'
'เด็กน้อย' ทำได้เพียงคิดในใจ พร้อมแสยะยิ้ม
.......
-จบ-
.......
มีปัญหาในการลงมากๆ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่า เรื่อยๆมากเรื่องนี้
แต่ก็สอดแทรกพฤติกรรมของไทม์เป็นกิมมิคของเรื่องไว้ตลอดตั้งแต่ต้น
จะสังเกตได้ว่าไทม์พยายามหลอกตัวเอง ลั้ลลาไปหาผู้ใหม่ แต่พอเจอลูกอ้อนจากผัว(ทางอีเมล ฯลฯ)ก็ไขว้เขว้ตล๊อด
ส่วนตอนจบ 5555
ขี้เกียจเขียนให้พลิกจนเดาไม่ออก
เด็กน้อยของไทม์หาใช่เด็กไม่ ไทม์ต่างหากที่นิสัยเด็กกว่าใครเขา แถมไม่ทันวุธหรอกบอกตรงๆ
บอกเลยว่าเสร็จค่ะ โดนรวบหัวรวบหางตลอดชีวิตแน่