ตอนที่30
เสียงครางแว่วหวานดังประสานกัน อเล็กเซียขยับพลิ้วไหวบนหน้าตักของเอเดรียนหลอมรวมร่างกายกันเป็นหนึ่งเดียว เด็กหนุ่มยิ่งนานวันยิ่งเพิ่มพูนความรักที่มีต่อสามีของตนอย่างล้ำลึก
การได้ก่ายกอดกันไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมสร้างความสุขทางกายเท่านั้น ยังเป็นรูปแบบการสานสัมพันธ์ทางใจให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย
นานเข้านานเข้าอเล็กเซียกลับรู้สึกว่าไม่อาจขาดเอเดรียนไปได้และเด็กหนุ่มคิดว่าสามีของตนเองก็คงคิดเห็นไม่ต่างกัน หลังจากผ่านกิจกรรมอันเร้าร้อนหนักหน่วงทั้งคู่แลกจูบกันก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความอ่อนล้า
“พรุ่งนี้เช้าท่านจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของท่านแล้ว ไม่รู้ว่าข้าจะทนคิดถึงท่านไหวไหม”
เอเดรียนใช้มือเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าของเขาขณะพูด เด็กหนุ่มส่งยิ้มหวานๆไปให้ อเล็กเซียดีใจเหลือเกินที่สามีมาออดอ้อนขอความรักเช่นนี้
“ไปแค่อาทิตย์เดียวเอง ก่อนหน้าที่จะมีข้าเจ้าอยู่อย่างไรมาก่อนก็อยู่อย่างนั้นนั่นแหละ”
“ท่านช่างใจร้ายนัก”
ถูกโถมเข้ากอดรัดอย่างแนบแน่น เมื่อปล่อยเป็นอิสระเอเดรียนก็ซบศีรษะลงมาบนแผ่นอกของเขา เด็กหนุ่มและสามีหลับลึกไปพร้อมกันทั้งอย่างนั้น
วันต่อมาอเล็กเซียตื่นแต่เช้าตรู่เหมือนทุกวัน ท่านพี่ที่นอนอยู่อีกห้องเองก็ตื่นแล้ว ก่อนจะเดินทางออกจากหมู่บ้านพวกเขาทานอาหารเช้าที่ช่วยกันทำอย่างสุดฝีมือ นั่นไม่ได้รวมธีโอซึ่งได้แต่นั่งรออยู่ในห้องอาหาร
เมื่อทานอาหารเสร็จอเล็กเซียกับธีโอเดินทางไปรับมีอาที่บ้าน ที่นั้นมีอาและไนเจลยืนรออยู่ ไนเจลดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เกี่ยวกับเรื่องนี้เด็กหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มดี
“อเล็กเซียฝากดูแลมีอาด้วยนะ” ไนเจลฝากฝังน้องสาวกับเขาและยังไม่ลืมขอความเมตตาจากท่านพี่
“รัชทายาทหากนางทำอะไรไม่ถูกต้องโปรดเมตตานางด้วยนะครับ นางแทบไม่เคยออกไปไหนไกลจากเผ่าของตัวเองอาจจะทำผิดธรรมเนียมคนในอาณาจักรไปบ้าง”
“เจ้าไม่ต้องกังวลข้าจะดูแลนางอย่างดี” ถึงธีโอจะรับคำแต่ไนเจลยังคงไม่สบายใจ อเล็กเซียนึกสงสารชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย ทำอย่างไรได้ล่ะเรื่องความรักเป็นสิ่งที่ห้ามกันได้ที่ไหน
“ท่านพี่ข้าไปก่อนนะ” มีอากล่าวคำลา ไนเจลกอดรัดหญิงสาวแน่นทำราวกับว่าจะจากกันเสียเป็นปี
“ท่านพี่ปล่อยข้าได้แล้ว ทุกคนพร้อมจะออกเดินทางนานแล้วนะ”
ไนเจลปล่อยให้มีอาเป็นอิสระ อเล็กเซียให้คำสัญญากับชายหนุ่มอีกครั้งว่าจะดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี
ระหว่างเดินทางไปยังเมืองหลวงมีอาดูร่าเริงเป็นพิเศษ เธอชวนพี่ชายของเขาคุยไม่หยุดทั้งยิ้มและหัวเราะจนธีโอแทบจะลืมไปเลยว่ายังมีน้องชายอย่างอเล็กเซียอยู่ตรงนี้ด้วย
เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สนุกของทั้งสองคน ในตอนที่ถึงตัวปราสาททั้งธีโอและมีอาต่างก็พูดเหมือนๆกันว่าการเดินทางครั้งนี้ใช้ระยะเวลาสั้นนัก อเล็กเซียได้แต่ยิ้มขำๆ
คนมีความรักเป็นเช่นนี้ด้วยกันหมด แม้แต่ตัวเขาเองยังยอมรับว่าเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันกับเอเดรียนบางครั้งก็ช่างผ่านไปรวดเร็ว ทันทีที่ถึงปราสาทธีโอก็นำพาพวกเขาสองคนไปยังห้องพัก อเล็กเซียยังพักอยู่ห้องเดิมที่เคยเป็นของเขา ส่วนมีอานั้นท่านพี่จัดห้องเอาไว้ให้อยู่ข้างๆกับเด็กหนุ่มเลยทีเดียว
“เดี๋ยวมีอาอาบน้ำอาบท่าแล้วแต่งตัวใหม่เสียก่อน แล้วข้าจะพาเจ้าไปทักทายท่านพ่อของพวกเรา”
พออเล็กเซียกล่าวเช่นนี้ ธีโอก็มีท่าทีไม่สบายใจเล็กน้อย หลังจากมีอาเข้าห้องพักไป ท่านพี่ก็ปรับทุกข์กับเขาทันที
“เจ้าคิดว่าท่านพ่อจะรู้ระแคะระคายแล้วรังเกียจนางหรือไม่”
“ถึงรู้แล้วจะอย่างไรท่านพี่เคยบอกรักมีอาเสียเมื่อไหร่ ในเมื่อท่านยังไม่ได้เริ่มซักนิดท่านก็อย่าได้หวาดกลัวจนเกินกว่าเหตุ”
ตอนนี้ท่านพี่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงมีคำกล่าวที่จะเถียงเขาอยู่หลายคำ การที่ท่านพี่ลังเลเช่นนี้ทำให้
อเล็กซียนึกสงสาร คงยังสับสนและไม่อาจตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับความรักครั้งนี้ดี แต่หากว่าท่านพี่ตั้งใจเดินหน้าแล้วล่ะก็เด็กหนุ่มก็พร้อมจะสนับสนุนเสมอ
“นางดูเป็นคนรักอิสระ นางคงไม่อยากเสียสละชีวิตเช่นนั้นมาอยู่ในปราสาทกับพี่หรอก”
โธ่เอ๋ยท่านพี่ผู้น่าสงสาร อเล็กเซียส่ายหน้าไปพร้อมกับยิ้มอ่อนใจ ท่านพี่เป็นคู่ฟ้าลิขิตของมีอา ยังไงนางก็ไม่อาจตัดใจจากท่านได้แน่ๆ
เกี่ยวกับเรื่องนี้เด็กหนุ่มไม่ยอมบอกออกไปเพราะตัวเขาเองก็อยากจะให้ความยุติธรรมต่อหญิงสาวและไนเจล เพราะรู้ดีอยู่ว่าอุปสรรครักระหว่างคนทั้งสองไม่ได้มีแต่ผู้คนรอบด้าน ยังมีตัวท่านพี่เองที่ไม่รู้ว่าจริงจังต่อความรักครั้งนี้มากเท่าใด
อเล็กเซียไม่รู้จริงๆว่าท่านพี่รักมีอามากขนาดไหน รักถึงขั้นยอมเสียสละยอมยกให้หญิงสาวเป็นที่หนึ่งหรือไม่ จะยอมฝ่าฟันเพื่อรักครั้งนี้หรือเปล่า หรือแค่รักแต่ไม่อาจรักไปได้มากกว่าตัวเองและหน้าที่ดังที่เขาเคยกระทำต่อเอเดรียนมาก่อน
“เอ่อ...พี่คงพูดมากเกินไป ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวก่อนนะ”
จากนั้นเวลาผ่านไปอีกสองชั่วยาม อเล็กเซียนำเสื้อผ้าที่เลือกสรรแล้วสำหรับมีอาไปให้หญิงสาวที่ห้อง เด็กหนุ่มเคาะประตูสองสามครั้ง เมื่อได้รับอนุญาตก็เข้าไปพร้อมกับหญิงรับใช้สองคน
“ข้านำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เจ้าลองใส่ดู คิดว่าน่าจะใช้ใส่ระหว่างที่เจ้าอาศัยในปราสาทได้”
หญิงรับใช้นำหีบเสื้อผ้าที่ยกมาวางลงตรงหน้ามีอา จากนั้นเลือกสรรเสื้อผ้าหลากหลายชุดให้หญิงสาว
“อา....สวยจัง....” มีอาละลานตาต่อเสื้อผ้าที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีและหรูหรา หญิงสาวยังคงสำรวมไม่ลิงโลดเหมือนเด็กสาวทั่วไปยามได้ชุดสวยๆมาครอบครอง
“ข้าจะไปรอนอกห้องแต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบออกมานะ เราจะไปพบท่านพ่อกัน”
อเล็กเซียไปรออยู่ที่นอกห้อง มีอาใช้เวลาแต่งกายไม่นานนักประมาณสิบถึงสิบห้านาทีได้ เธอก็ออกมาด้วยชุดกระโปรงสีน้ำเงินเช้ม ในบรรดาชุดที่เขาเตรียมให้เสื้อผ้าชุดนี้ดูเรียบง่ายแต่ก็ภูมิฐานที่สุด มีอาเลือกเสื้อผ้าได้ตรงกับรสนิยมของท่านพี่และท่านพ่อนัก อเล็กเซียเองก็ชอบที่หญิงสาวไม่แต่งตัวอู้ฟู้เกินไปเช่นกัน
“ไปกันเถอะ ท่านพ่อกับท่านพี่ของข้าคงรอพวกเรานานแล้ว” อเล็กเซียยื่นมือไปให้มีอาจับยึด หญิงสาวเบิกตากว้างอยู่ชั่วครู่ก่อนจะวางมือลงมาบนฝ่ามือของเขาให้เขาจับจูง เด็กหนุ่มพามีอาไปยังห้องรับประทานอาหาร ที่นั่นท่านพ่อกับท่านพี่รออยู่แล้ว
“ท่านพ่อข้ามาแล้วครับ” อเล็กเซียทำความเคารพราชาธีโอดอร์ตามทำเนียมก่อนจะแนะนำตัวมีอาในเวลาต่อมา
“นี่คือมีอา อัลเบอร์ต้าครับท่านพ่อ” เมื่อแนะนำมีอาก็ถอนสายบัวอย่างสวยงาม ท่านพ่อไม่มีท่าทางรังเกียจหญิงสาวแต่อย่างใด
“มีอาขอบใจเจ้ามากนะที่ช่วยดูแลลูกข้าตอนที่เขาอาศัยอยู่ในเผ่าวูฟ ข้ารู้มาจากธีโอว่าเจ้าเป็นน้องสาวของรองหัวหน้าเผ่าสินะ”
หลังจากทุกคนนั่งลงบนเก้าอี้ ราชาก็เริ่มเปิดบทสนทนาทันที การที่มีอาไม่ได้ประหม่าแม้แต่นิด ทำให้อเล็กเซียชื่นชมหญิงสาวอยู่ไม่น้อย
“เหมือนลูกชายเราสัญญากับเจ้าว่าจะพาเจ้าเที่ยมชมปราสาท เป็นอย่างไรบ้างเจ้าชอบที่นี่บ้างไหม”
“ค่ะที่นี่งดงามมาก หรูหราและโอ่อ่า แต่ข้ากลับคิดว่าที่หมู่บ้านของข้ายังสุขสบายมากกว่าที่นี่”
มีอาตอบเสียงฉะฉาน ด้วยลักษณะที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเป็นกันเองแม้แต่ราชาธีโอดอร์ก็ยังค่อนข้างพอใจในตัวเธอ อเล็กเซียรู้สึกว่าหญิงสาวช่างเป็นคนที่น่าเอาใจช่วยเสียเหลือเกิน
“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเล่าสาวน้อย” ราชาธีโอดอร์ถาม
“ข้าเข้าใจว่าความสุขสบายย่อมต้องแลกมาด้วยระเบียบมากมาย ที่นี่คือปราสาทซึ่งเป็นที่อยู่ของพระองค์และขุนนางจำนวนมาก ข้าย่อมต้องระมัดระวังมากกว่าปกติไม่อาจทำตัวเป็นธรรมชาติดังเช่นอยู่ที่หมู่บ้านได้ ด้วยเหตุเช่นนี้ข้าจึงชอบหมู่บ้านของข้ามากกว่าค่ะ”
ถึงตรงนี้อเล็กเซียสังเกตสีหน้าของธีโอ ท่านพี่ทำสีหน้าคล้ายกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง คงไม่แคล้วนึกถึงเรื่องความสบายใจที่มีอาพูดถึงเป็นแน่
“แต่ข้ากลับไม่เห็นว่าเจ้าลำบากอะไรต่อกฎเกณของชนชั้นสูงเลยนี่ เห็นได้ชัดว่าเจ้ารู้มารยาทในการรับประทานอาหารเป็นอย่างดี”
เมื่อท่านพ่อชี้ให้เห็นอเล็กเซียก็นึกขึ้นได้ มีอานั้นรู้วิธีการใช้อุปกรณ์บนโต๊ะทานอาหารเป็นอย่างดีโดยไม่ต้องให้ใครสอน ชักอยากรู้แล้วสิว่าหญิงสาวเรียนรู้มาจากไหน
“ภรรยาของคนในหมู่บ้านไม่น้อยมาจากชนชั้นสูงค่ะ ข้าเรียนรู้มารยาทนี้มาจากพวกนาง”
“อ้อ...ในพวกวูฟมีสตรีที่เคยเป็นชนชั้นสูงด้วยหรือ พวกนางมาอยู่ในเผ่าได้อย่างไร” ราชาซักถามด้วยความสนใจ อเล็กเซียกับธีโอเองก็อยากรู้ไม่ต่างกัน
“พวกนางบางคนก็หนีตามมาด้วยความเต็มใจบางคนก็ถูกลักพาตัวมาจากบ้านค่ะ”
“เข้าใจล่ะ เข้าใจแล้ว หากหนีตามกันมาก็เข้าใจง่ายหน่อย แต่ถึงขั้นลักพาตัวมาเจ้าไม่คิดว่าช่างเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนหรอกหรือ”
“พระองค์อาจคิดเช่นนั้น แต่สำหรับเผ่าวูฟ การที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างคู่ฟ้าลิขิต อาจะทำให้ทรมานไม่ต่างกับคนไร้หัวใจ”
อเล็กเซียแปลกใจที่ท่านพ่อและมีอาต่างยังสนทนาด้วยความยิ้มแย้มกันได้อยู่ ทั้งที่เรื่องที่พูดคุยกันนั้นช่างล่อแหลมเสี่ยงต่อการทุ่มเถียง ทว่ามีอาไม่มีท่าทางหวั่นเกรงและท่านพ่อก็ไม่มีอาการไม่พอใจ
“พูดถึงคู่ฟ้าลิขิต อเล็กเซียลูกข้าเองก็เป็นคู่ฟ้าลิขิตของเอเดรียนเช่นกัน การที่ลูกเขยข้าทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้บุตรชายคนเล็กของข้าไปก็ทำให้ข้าเข้าใจบางอย่างดีขึ้นอยู่นะ”
“มีอาเอ๋ยจากสายตาของเจ้า เอเดรียนดีต่ออเล็กเซียหรือไม่”
อเล็กเซียไม่คาดว่าท่านพ่อจะวกเข้าเรื่องของเขากับเอเดรียนเช่นนี้ เด็กหนุ่มอดที่จะกังวลไม่ได้
“พระองค์ข้าพูดเองอาจจะดูเป็นการเข้าข้าง แต่เอเดรียนรักอเล็กเซียจากใจจริง ข้อนี้ทุกคนในเผ่าวูฟต่างรู้กันดี”
มีอาตอบ ราชาธีโอดอร์ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ อเล็กเซียร้อนรนดั่งไฟเผา โชคดีเหลือเกินที่ท่านพี่ไม่ได้เล่าเรื่องที่เขาบาดเจ็บหนักเพราะถูกแคสเปียนทำร้ายให้ท่านพ่อฟัง ทราบว่าตอนนี้ท่านพ่อรู้เรื่องแค่เขาถูกไอแซคทำร้ายเท่านั้น
“อเล็กเซียแล้วเจ้าล่ะรักเอเดรียนหรือไม่”
อเล็กเซียสะดุ้ง คาดไม่ถึงว่าจะถูกถามอย่างกะทันหัน
“ข้ารักเอเดรียนท่านพ่อ” อเล็กเซียไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อยที่จะตอบถึงแม้จะกังวลใจก็ตาม
“ดีแล้ว หากเจ้าไม่มีความสุขพ่อก็คงไม่มีความสุขเช่นกัน อเล็กเซียพ่อรู้ว่าเจ้าต้องลำบากเพื่ออาณาจักรมาก แต่เมื่อรู้ว่าเจ้ามีความสุขพ่อก็สบายใจ”
หลังจากกล่าวจบราชาก็หันไปชวนมีอาคุยอีกครั้ง ท่าทางเป็นกันเองระหว่างคนทั้งคู่ทำให้ธีโอยิ้มไม่หุบ อเล็กเซียคาดเดาไม่ถูกเลยว่าอนาคตของมีอาแลท่านพี่จะเป็นอย่างไรต่อไป
หลังจากทานอาหารเสร็จอเล็กเซียและธีโอพามีอากลับมาส่งที่ห้อง พวกเขาสองคนสัญญาว่าจะพาหญิงสาวไปเที่ยวเล่นในเมืองในวันพรุ่งนี้ เมื่อกล่าวคำลาเสร็จธีโอก็รีบขอตัวไปประชุมขุนนาง ในขณะที่เด็กหนุ่มถูกมีอาเรียกเอาไว้เสียก่อน
“ขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้”
“เหตุใดเจ้าถึงขอบคุณข้าเล่ามีอา” อเล็กเซียถามเขาไม่คิดเลยว่าจะได้รับคำขอบคุณจากคนที่เคยเป็นคู่แข่งทางความรัก
“เจ้าคงรู้แล้วสินะว่าธีโอคือคู่ฟ้าลิขิตของข้า” อเล็กเซียพยักหน้าแทนคำตอบ
“คนประหลาด”
มีอาพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะกลับเข้าห้องของเธอไป ตอนนี้เองที่อเล็กเซียคิดว่าหญิงสาวเองก็มีส่วนที่น่ารักหลายอย่าง อีกฝ่ายอาจไม่รู้ตัว แต่ยามที่เธอเข้าใจว่าเขารู้เรื่องคู่ฟ้าลิขิตของเธอแล้วใบหน้าสวยก็แดงเรื่อนิดๆด้วยความอับอาย ท่าทางน่ารักเช่นสาวแรกรุ่นแบบนี้ช่างน่าอัศจรรย์สำหรับเขาที่เคยเห็นแต่ใบหน้าไม่เป็นมิตรของมีอามาโดยตลอด
ประหลาดใจเหลือเกิน อเล็กเซียกลับคิดว่ามีอาน่าจะเหมาะสมกับท่านพี่มากกว่าบรรดาลูกสาวขุนนางที่เอาแต่แต่งกายอวดโฉมและจับกลุ่มสังสรรค์ในงานปาร์ตี้น้ำชาเสียอีก ก็ได้แต่เอาใจช่วยเท่านั้นถึงแม้จะรู้ว่าตัวท่านพี่เองก็ยังลังเลอยู่ไม่น้อย
อีกตอนกับบทสรุปก็จบแล้วน้านิยายเรื่องนี้ หวังว่าคนอ่านจะติดตามกันจนจบนะจ๊ะ
กำลังพยายามเฟ้นหาจอนตนาการใหม่ๆเพื่อจะเขียนเรื่องใหม่
อยากเขียนแฟนตาซีอีก แวมไพร์ก็อยาก 3pก็อยาก Omegaverse นี่สนใจเป็นพิเศษ
หวังว่าเรื่องต่อไปจะตามติดไปอ่านกันนะคะ
เม้นเป็นกำลังใจกันบ้าง ขอบคุณค่ะ