พิมพ์หน้านี้ - จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Silvan ที่ 28-10-2016 11:07:18

หัวข้อ: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 28-10-2016 11:07:18
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: จอมใจเจ้าหมาป่า บทนำ 28/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 28-10-2016 11:09:42
จอมใจจ้าวหมาป่า
   
บทนำ
   
อเล็กเซีย เทีย อเล็กซานเดรีย เป็นเจ้าชายลำดับสองแห่งอาณาจักรอเล็กซานเดรีย เพราะเป็นราชบุตรองค์เล็กจึงถูกตามใจจนแทบไม่มีอะไรเลยที่จะไม่ได้มา อเล็กเซียนั้นรู้ตัวเองดีอยู่ว่าตนเองนั้นมีนิสัยเอาแต่ใจเหมือนเด็กๆแต่เมื่อไม่มีใครคอยดุว่าก็คร้านที่จะแก้ไขนิสัยแย่ๆนี่ออกไปทั้งที่รู้ตัว
   
อเล็กเซียนั้นปีนี้อายุได้สิบหกปีบริบูรณ์ ทว่าทั้งๆที่ใกล้วันคล้ายวันเกิดแต่ก็ไม่ได้มีงานฉลองให้สมกับที่เป็นราชบุตร แต่เขาก็ไม่เสียใจใดใดทั้งนั้นเพราะเมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ย่อมไม่อาจเห็นแก่ความสนุกจัดงานรื่นเริงใดใด กระนั้นเนื่องจากเยาว์วัยจึงไม่อาจเลิกนิสัยซุกซนตามภาษาวัยหนุ่มได้
   
ยามเช้าตรู่ไร้ผู้คนในป่า อเล็กเซียควบม้าไล่ตามหลังไอแซค บาร์ตันไปด้วยอารมณ์ที่ก่ำกึ่งระหว่างความสนุกและกังวล ไอแซค บาร์ตันนั้นเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านเสนาบดี บาส บาร์ตัน และเป็นเพื่อนสนิทที่อายุมากกว่าเขาสองปี

อันที่จริงการออกมาเที่ยวสนุกครั้งนี้ อเล็กเซียค่อนข้างไม่เห็นด้วย แต่ไม่อาจทัดทานลูกตื้อของเพื่อนสนิทที่วัยวุฒิมากกว่าได้ ดังนั้นตอนนี้จึงพากันขี่ม้าเล่นออกมาถึงในป่านอกเมืองหลวงอย่างคึกคะนอง ถึงจะบอกไปว่าในช่วงที่มีข่าวศัตรูยกกองทัพเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆเช่นนี้ไม่ควรออกมาเที่ยวเล่นข้างนอกเมือง แต่ก็ได้รับคำตอบในเชิงยั่วยุทำนอง’เจ้ากลัวอย่างนั้นหรือ’ทำให้เด็กหนุ่มเกิดแรงทิฐิประมานถึงตายก็ต้องไปให้ได้

รู้ตัวดีว่าคิดน้อยไปหน่อย มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปเสียแล้วด้วยไม่นึกว่าไอแซคจะขี่ม้ามาใกล้ถึงในป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพวกวูฟ พวกวูฟที่ว่าหากเป็นคนทั่วไปคงจะคิดถึงหมาป่า ใช่หมาป่านั่นแหละ แต่ไม่ใช่หมาป่าตรงตัวแต่เป็นชนเผ่าในตำนานที่ได้ยินมาว่าสามารถกลายร่างเป็นหมาป่าตัวเขื่องได้

สำหรับอเล็กเซียนั้นถึงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพ่อมดแม่มดมามาก แต่ยังไม่เคยเห็นตัวจริงของคนพวกนั้นเลยซักครั้ง ดังนั้นเรื่องในตำนานอย่างชนเผ่าที่กลายร่างเป็นหมาป่าได้จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือเท่าใดนัก ว่ากันตามตรงถึงจะได้รู้ข่าวว่าพวกวูฟย้ายมาอยู่ในป่านอกเมืองของอาณาจักรได้หลายเดือนแล้วแต่ไม่เคยเห็นพวกวูฟตัวเป็นๆจริงๆเลยซักหน
ได้ข่าวว่าเป็นชนเผ่าป่าเถื่อนที่เชี่ยวชาญการรบมาก อเล็กเซียนั้นมีความสนใจวูฟในแง่ที่ว่าหากสามารถเรียกคนพวกนั้นให้มาร่วมสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นได้คงจะดีไม่น้อย ถ้าหากว่าคำล่ำลือเป็นจริงดั่งที่เขาเล่ากันมา

“ไอแซค...” อเล็กเซียตะโกนเรียกคนที่ควบม้านำไปโดยไม่ยอมหยุด

“นี่เราเข้ามาในป่าลึกมากแล้วนะ เรากลับกันดีกว่าไหม”
เหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมฟังที่เด็กหนุ่มเตือนง่ายๆยังคงนำพาเขาเข้าไปในป่าลึกขึ้น โล่งอกไปทีที่ในที่สุดไอแซคก็ลดความเร็วลงให้ม้าวิ่งเยาะๆไป อเล็กเซียบังคับม้าให้เดินไปเคียงข้างม้าของไอแซค

“เจ้าเข้ามาในป่าลึกเช่นนี้ทำไมกัน” อเล็กเซียถามด้วยความสงสัย ทั้งที่ตอนแรกชวนเขาขี่ม้าเล่นรอบเมืองเท่านั้นแท้ๆไปๆมาๆกลับพาเข้ามาในป่าลึกเสียนี่

“เจ้าไม่อยากเห็นพวกวูฟหรอกหรืออเล็กเซีย ข้าอยากรู้ว่าพวกมันจะดูโง่เง่าป่าเถื่อนกันมากแค่ไหน” อเล็กเซียได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ข้อเสียของไอแซคคือความช่างสงสัย ไม่สิยังมีความยโสและเอาแต่ใจ กระนั้นจะว่าอีกฝ่ายมากไม่ได้เพราะเขาเองก็นิสัยใช่ว่าจะดีไปมากกว่า

“กลับกันเถอะ ท่านพี่เตือนข้ามาว่าในป่านี้อันตราย ถ้าเป็นไปได้อย่าเข้าไปยุ่งกกับพวกวูฟจะดีที่สุด”

“อย่าขี้ขลาดไปหน่อยเลยน่าคนสวย เราแค่เจอหน้าพวกมันแป๊บเดียวแล้วกลับก็ได้นี่ น่าแค่มาเยี่ยมเยียนเท่านั้น พวกมันไม่กล้าทำอะไรคนของพระราชสำนักหรอก”

อเล็กเซียนั้นแน่ใจว่าพวกวูฟคงไม่กล้าทำอะไรผู้คนจากพระราชสำนัก เพราะก่อนหน้าที่จะย้ายเข้ามายังส่งคนมาถวายของบรรณาการเพื่อขออนุญาติตั้งรกรากอยู่ในอาณาจักรอเล็กซานเดรีย เดิมทีท่านพ่อจะไม่ให้พวกวูฟเข้ามาอยู่แต่พวกวูฟนั้นสร้างผลงานครั้งใหญ่โดยการขับไล่พวกโจรและพวกนอกรีตออกไปจากอาณาจักรดังนั้นราชาธีโอดอร์หรือท่านพ่อของเขาจึงต้องยอมอย่างเสียไม่ได้

“ข้าไม่ได้ขี้ขลาดนะไอแซค ข้าแค่เป็นห่วงเจ้าและข้าก็คิดว่าเราสนุกกันมากเกินพอแล้ว” ดุออกไปด้วยเสียงขุ่นมัว โดยไม่ทันคาดคิด เจ้าหมีตัวใหญ่โผล่พรวดออกมาจากด้านหลังของต้นไม้ใหญ่ มันยกขาหน้าขึ้นยืนข่มขู่จนม้าของเขาและไอแซคตื่นตกใจ ไอแซคถูกม้าที่ตื่นกลัวสลัดตกลงมาจนล้มกลิ้งโค่โล่เป็นสัญญาณเปิดฉากให้เจ้าหมีพุ่งเข้าหา

“ไอแซค” อเล็กเซียร้องตะโกนพลางโดดลงจากหลังม้า ไอแซคที่ยังล้มลุกคลุกคลานไม่สามารถชักดาบออกมาป้องกันตัวได้ทันทำให้เด็กหนุ่มต้องออกหน้าใช้ดาบปกป้องให้เพื่อนสนิทพ้นภัย

“ไปเสียเจ้าหมี กลับไปที่ของแกซะ” เจ้าหมีนั้นพอเห็นดาบคมแวววาวก็หยุดชะงัก เมื่อสังเกตุรอยบากบนใบหน้าของมันทำให้เดาได้ว่ามันคงรู้ฤทธิ์เดชของคมดาบที่อเล็กเซียถือเป็นอย่างดี

ประสาทรับรู้ของเด็กหนุ่มถูกขึงจนตึงเปรี๊ยะ ความเครียดจากการที่ต้องตั้งรับสิ่งที่ใครๆต่างหวาดกลัวทำให้เหงื่อของเขาแตกพลั่ก แกล้งตายตอนนี้จะทันไหมนะ ขณะที่คิดเช่นนั้นเจ้าหมีใหญ่ก็โถมเข้าใส่จะหลบหนีไม่ได้เพราะไอแซคยังนั่งเจ็บตัวรอให้เขาปกป้องอยู่

อเล็กเซียกระชับด้ามดาบแน่นเด็กหนุ่มเล็งผลเลิศด้วยการคิดที่จะโยกหลบการพุ่งแล้วฉวยโอกาสแทงที่สีข้างของเจ้าหมี แต่ไม่เป็นอย่างที่คิดแค่โยกหลบก็เต็มกลืนแล้วจะหวังให้คนเจ็บอย่างไอแซคช่วยก็ไม่ได้ในเมื่อเจ้าตัวดันสลบไปแล้วแถมตอนนี้ยังโดนเจ้าหมีปัดดาบออกจนหลุดมือ

จนแต้มแล้ว อเล็กเซียได้แต่ถอดถอนหายใจหรือว่าเขาจะต้องมาตกตายในป่านี้โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ โทษใครไม่ได้ต้องโทษตัวเองที่ยอมเสี่ยงเข้ามาตามคำขอเอาแต่ใจของไอแซค ชั่วจังหวะที่คิดเช่นนั้นเจ้าหมาป่าขนดำตัวใหญ่กว่าหมีก็โผล่พรวดออกมากัดเข้าที่ลำคอของเจ้าหมีร้ายตายในพริบตา อเล็กเซียตื่นงงจนทำอะไรไม่ถูก

ไม่น่าเชื่อในโลกนี้มีหมาป่าที่ตัวใหญ่ถึงขนาดนี้ด้วยหรือ ขนาดตัวของหมาป่าที่ใหญ่โตกว่าหมีเกือบเท่าตัวนั้นสร้างความตื่นตะลึงให้อเล็กเซีย เด็กหนุ่มหวาดกลัวว่าหากมันเข้ามาทำร้ายตนต่อจากเจ้าหมีตัวเขาเองคงจะตายแน่ๆ
จะปืนขึ้นต้นไม้ดีไหมนะ คิดหาทางออกได้แต่ก็ไม่กล้าทิ้งไอแซคที่สลบไว้ข้างล่างเพียงลำพัง ตอนที่มีแต่ความลังเลเจ้ามหาป่าตัวเชื่องสีดำก็เดินเข้ามาในระยะประชิดเสียแล้ว

“อึก...” ได้แต่สะอึกในลำคอเมื่อถูกสูดดมกลิ่นตัวในระยะใกล้ ไม่เข้าใจว่ามันต้องการจะพิสูจน์กลิ่นก่อนที่จะกินเขาเข้าไปหรืออย่างไร ต้องทำอะไรซักอย่างหากตายไปโดยไม่พยายามดิ้นรนนับว่าไม่ใช่ชายชาตรีท่านพ่อกับท่านพี่สอนเขามาอย่างนี้เสมอๆ เหลือบตาไปมองที่พื้นพบว่าดาบของเขาตกอยู่ไม่ไกล ดังนั้นจึงขยับตัวอย่างฉับไวม้วนตัวไปคว้าเอาดาบมาตั้งท่าพร้อมรับการโจมตีของเจ้าหมาป่าสีดำ

ตั้งรับอยู่อย่างนั้นผ่านไปหลายนาทีแต่ไม่เกิดอะไรขึ้น เจ้าหมาป่าตัวเขื่องได้แต่มองมาอเล็กเซียรู้สึกได้ถึงความขบขันผ่านแววตาของเจ้าหมาป่าสีดำ

บ้าชัดๆคิดไปเองหรือเปล่านะว่ามันกำลังขบขับท่าทางของเขา ขณะที่คิดเช่นนั้นเจ้าหมาป่าสีดำก็ขยับตัวไปหาไอแซคที่นอนสลบอยู่อเล็กเซียตึงเครียดขึ้นมาแทบจะในทันที เด็กหนุ่มจู่โจมเข้าปะทะเฉียบพลันหวังว่าการโจมตีของตนจะได้ผลบ้างแต่ก็ผิดหวัง เจ้าหมาป่าสีดำตัวเขื่องใช้ฟันคมวับคาบแย่งดาบไปจากมืออเล็กเซียแล้วจัดการเคี้ยวดาบเหล็กเหมือนเคี้ยวขนมกร้วมๆก่อนจะคายทิ้ง

เด็กหนุ่มหน้าซีดเผือดตอนนี้นี่เองที่เขาเกิดกลัวขึ้นมาอย่างจริงจัง ตอนนี้ได้แต่ยืนมองปล่อยให้เจ้าหมาป่ายักษ์ดมกลิ่นตัวของไอแซค เจ้าหมาระบายลมหายใจดังฟุดฟิด อเล็กเซียเดาว่ามันคงจะไม่ชอบกลิ่นของเพื่อนสนิทเขาเป็นแน่แท้

พริบตานั้นเจ้าหมาป่าก็ใช้ปากคาบไอแซคแล้วเหวี่ยงขึ้นหลังของมัน อเล็กเซียงุนงงต่อการกระทำของเจ้าหมาป่า ในตอนนั้นเจ้าหมาป่าก็หันมาเห่าใส่เขาเสียงดัง เด็กหนุ่มตีความว่าอาจจะหมายถึงให้เดินตามไปเพราะตอนนี้เจ้าหมาป่าเดินออกนำไปแล้ว
อเล็กเซียนั้นไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวยักษ์นี่มันจะช่วยเขากับเพื่อน ในเมื่อมันเป็นสัตว์หน้าขนที่น่าจะไม่รู้ความ หรือว่าเจ้าตัวนี้จะเป็นเผ่าวูฟที่เขาล่ำลือกันนะ คิดอย่างนั้นก็ลอบมองใบหน้าด้านข้างของเจ้าหมาป่าตัวใหญ่

หากมีร่างกายเป็นคนจริงก็น่าจะพูดได้ หากพูดได้ล่ะก็อยากจะพูดคุยขอบคุณซักเล็กน้อย แต่ดูเหมือนจะคิดช้าเกินไปตอนนี้เจ้าหมาป่าพาเขาออกมาที่ด้านหน้าของป่าเสียแล้ว ที่ด้านหน้าเจ้าม้าสีขาวปลอดม้าที่อเล็กเซียเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กยืนรอคอยเขาอยู่ที่ตรงนั้น

“เชอรีน ดีใจจริงที่เจ้ารอข้าอยู่” อเล็กเซียเดินไปกอดจูบลูบไล้แผงคอเจ้าเชอรีนพอหันกลับมาเจ้าหมาป่าสีดำก็เข้ามาประชิดเสียแล้ว ดูเหมือนว่ามันกำลังรอให้เขาจัดการกับไอแซ๊กที่อยู่บนหลังของมัน อเล็กเซียใช้เวลานานหลายนาทีกว่าจะจัดแจงลากร่างของไอแซคขึ้นไปวางบนหลังเชอรีนได้

“เอ่อ...ขอบใจนะไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร” ไม่ลืมขอบใจเจ้าหมาป่าสีดำตัวใหญ่ เจ้าหมาป่าไม่พูดภาษามนุษย์ออกมาแต่เลือกที่จะสะบัดหางวิ่งกลับเข้าป่าไป ทิ้งอเล็กเซียให้เก็บความขอบคุณและซาบซึ้งเอาไว้ในความทรงจำ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เปิดเรื่องใหม่อีกและ

เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทนำ 28/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 28-10-2016 13:05:41
มาติดตามเจ้าชายอเล็กเซียกับหมาป่าจ้ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทนำ 28/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-10-2016 22:29:36
อ่านแววตาขบขันของหมาป่าออกด้วย?
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่1 29/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 29-10-2016 11:12:51
ตอนที่1



“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนี้มีเรื่องอะไรดีดีหรือเอเดรียน”



ยิ้มหรือ?นี่เขายิ้มอยู่หรือ? เอเดรียนคิดว่าเขาคงจะยิ้มอยู่จริงๆนั่นแหละ



“มีเรื่องอะไรดีดีเล่าให้ฟังกันบ้างซี้” เอเดรียนหันไปยิ้มให้ไนเจลเพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่แบเบาะ รู้สึกว่าไม่อยากเล่าอยากจะเก็บเรื่องของเด็กหนุ่มคนนั้นเอาไว้เป็นความลับ แต่เมื่อถูกเซ้าซี้อย่างหนักจึงจำต้องเล่าออกไปอย่างเสียไม่ได้



“โฮ่...เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง แต่กับแค่ช่วยเด็กหนุ่มโชคร้ายมันทำให้เจ้าอารมณ์ดีขนาดนี้เชียวหรือ หรือว่าที่จริงแล้วที่ช่วยเอาไว้คือสาวน้อยรูปงามกันแน่”



เป็นเด็กหนุ่มจริงแท้แน่นอน เอเดรียนไม่ตอบได้แต่ยิ้มละไมให้ไนเจล แต่ถึงเป็นเด็กหนุ่มก็รูปงามเกินกว่าที่จะพบเจอได้ง่ายๆ เส้นผมสีทองดวงตาสีเขียวเรียวปากที่พอยิ้มก็จะเห็นลักยิ้มตรงแก้มชวนให้รู้สึกว่าน่าเอ็นดู คิดอย่างนี้แล้วชายหนุ่มก็แปลกใจตัวเองนัก เขาไม่เคยประทับใจใครเมื่อแรกพบเช่นนี้มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ชายด้วยแล้ว



“จากที่เจ้าเล่ามาเด็กนั่นนับว่ามีความกล้าอยู่บ้าง กล้าเข้าจู่โจมพวกเราทั้งที่พวกผู้ชายอกสามศอกส่วนใหญ่พอเห็นพวกเราในร่างหมาป่าตัวใหญ่ก็พากันแข้งขาสั่นกันหมด”



“ก็แค่ทำใจดีสู้เสือเท่านั้นแหละ” เอเดรียนหัวเราะเบาๆ หากแต่ในใจนั้นไม่ได้คิดไปในทางเดียวกับคำพูด ตัวเขาเองก็ประทับใจในความกล้าของเด็กหนุ่มอยู่มาก กับเด็กหนุ่มที่ดูแล้ววัยไม่น่าจะเกินสิบห้าสิบหกกล้าหาญได้เท่านี้ก็นับว่ายอดแล้ว



ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะพบหน้ากันอีก กลิ่นกายหอมๆที่ปลุกเร้าฆานประสาทชวนให้หลงไหลว่ากันว่าสำหรับเผ่าวูฟแล้วกลิ่นกายของคนที่ถูกใจมักจะหอมหวนเป็นพิเศษ



นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาพึงใจต่อเด็กหนุ่มผู้นั้นตั้งแต่แรกพบหรอกหรือ เอเดรียนอยากจะให้มันเป็นเรื่องตลกแต่ไม่อาจลืมรอยยิ้มและกลิ่นหอมหวานๆของเด็กหนุ่มได้เลย มันยังคงติดอยู่ในความทรงจำแม้จะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ



“เอาล่ะเอาล่ะพอแค่นี้เถอะท่านหัวหน้าเผ่า พวกหนุ่มๆในหมู่บ้านรอให้เจ้าเข้าประชุมอยู่นะ” ไนเจลเดินนำไปยังลานกว้างที่ใช้เป็นจุดประชุม พอเอเดรียนไปถึงผู้คนในเผ่าก็แสดงความเคารพอย่างนอบน้อม



“ท่านหัวหน้า สายของเราบอกว่ากองทัพของอาณาจักรไซปรัสกำลังใกล้เข้ามาทุกทีเห็นทีว่าคงหนีไม่พ้นเกิดเป็นสงครามครั้งใหญ่เพื่อแย่งชิงดินแดนแน่ๆ” หนุ่มหมาป่าในเผ่าแจ้งข้อเท็จจริงต่อหน้าลานประชุม เพียงข้อเท็จจริงข้อนี้ก็ทำให้เกิดการถกเถียงระหว่างคนในเผ่าไปทั่ว



ความเห็นของคนในเผ่าที่เสนอขึ้นมาหลากหลายแตกต่างกันไป เอเดรียนจำต้องคิดให้ถี่ถ้วนถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด จะยอมย้ายถิ่นฐานอีกครั้งเพื่อหลบภัยสงครามอย่างนั้นหรือ คำตอบส่วนใหญ่ของคนในเผ่าคือไม่อย่างเด็ดขาด คนในเผ่าพึงพอใจต่อความสัมพันธ์แบบไม่ยุ่งเกี่ยวกันที่ราชาธีโอดอร์มอบให้เช่นนี้



ความเป็นไปได้ที่คิดไว้หากว่าอาณาจักรไซปรัสบุกตีอาณาจักรอเล็กซานเดรียสำเร็จอาจเข้ามายุ่งวุ่นวายกับพวกเผ่าวูฟมีความเป็นไปได้สูง เพราะมีอยู่หลายครั้งที่คนนอกเผ่ามักจะลักพาตัวเด็กเผ่าวูฟไปเป็นทาส บางครั้งก็พบเห็นเผ่าวูฟในลานประลองในฐานะทาสที่ถูกฝึกสอนมาเป็นอย่างดี ดังนั้นการจะปล่อยให้อำนาจปกครองในดินแดนแถบนี้เปลี่ยนมือไปย่อมไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเอเดรียนและชนเผ่า



คิดได้ดังนั้นจึงบอกความคิดของตัวเองออกไปต่อหน้าชาวเผ่า หนุ่มๆในเผ่าตอบรับความต้องการของเขาโดยไม่มีใครคัดค้านแม้แต่คนเดียว



พวกเราจะเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ด้วย



นี่เป็นการตัดสินใจที่ชนเผ่าวูฟคิดเห็นพร้อมกันเป็นหนึ่งเดียว



กองทัพของอาณาจักรไซปรัสนับวันยิ่งเข้าใกล้อาณาจักรอเล็กซานเดรียเข้าไปทุกที ทุกวันนี้ราชาธีโอดอร์ผู้เป็นพ่อและเจ้าชายรัชทายาทธีโอผู้เป็นพี่ของอเล็กเซียเอาแต่คร่ำเคร่งกับการจัดเตรียมไพร่พลและการซ้อมรบ



“ข้าจะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วยครับท่านพ่อท่านพี่” อเล็กเซียเอ่ยความต้องการขึ้นต่อหน้าห้องโถงที่ใช้ประชุมเหล่าขุนนาง คำพูดอันกล้าหาญของเด็กหนุ่มนำพาความยกย่องจากเหล่าขุนนางที่อยู่ในท้องพระโรง แต่หาใช่กับราชาและเจ้าชายรัชทายาทไม่



“น้องพี่เจ้าอย่าได้รีบร้อนเข้าสู่สงครามไปเจ้ายังเยาว์วัยนัก นอกจากนั้นเจ้ามิได้เรียนวิชาการทางทหารอย่างเช่นพี่ เจ้าอยู่รอข่าวดีกับท่านพ่อในปราสาทเถอะ”



“แต่ท่านพี่ ข้ารู้มาว่าในกองทัพได้เกณฑ์เด็กชายที่อายุน้อยกว่าข้าเสียอีกเข้าร่วม แถมถึงมิได้เรียนวิชาทหารแต่ข้าก็ฝึกซ้อมดาบกับท่านหัวหน้าอัศวินจนข้าเชื่อว่าจะไม่เป็นตัวถ่วงของท่านพี่แน่ๆ”



อเล็กเซียเชื่อมั่นว่าตัวเองน่าจะมีประโยชน์ เด็กหนุ่มส่งสายตาอ้อนวอนไปยังท่านพ่อซึ่งเป็นราชา หากแต่คำตอบที่ได้รับกลับไม่เป็นอย่างที่คิด



“ไม่ใช่เรื่องของเด็กนะอเล็กเซีย เรื่องพวกนี้ให้พวกผู้ใหญ่จัดการจะดีกว่า”



อเล็กเซียเม้มปากให้ต่อคำบัญชาของท่านพ่อ มีคำพูดมากมายเป็นล้านคำที่จะใช้เถียงแต่ด้วยเกรงว่าจะเป็นการหักหน้าท่านพ่อและท่านพี่จึงจำใจเงียบปากทำตัวเสมือนประหนึ่งไม่มีตัวตน เด็กหนุ่มเก็บเอาความน้อยใจและไม่พอใจเอาไว้แล้วมาระบายต่อเพื่อนสนิทต่างวัยนามว่าไอแซค



“ดีออกไม่ใช่หรือที่ไม่ต้องออกไปสู่สนามรบ อย่าว่าแต่องค์ราชาหรือองค์รัชทายาทเลยเลย แม้แต่ข้าก็ทนเห็นเจ้าไปลำบากในสนามรบด้วยไม่ได้หรอก”



“เจ้าก็ได้ไปร่วมรบด้วยหรือไอแซค” อเล็กเซียถามเสียงระโหยไม่อาจปิดบังความอิจฉาที่เพื่อนสนิทได้มีส่วนร่วมในการทำประโยชน์เพื่ออาณาจักรได้



“ก็นะ...ถึงแม้ใจจริงจะไม่อยากก็เถอะ แต่ท่านพ่อคิดว่าการที่ข้าได้เข้าร่วมกองทัพจะเป็นการกรุยทางสู้ตำแหน่งดีดีในอนาคตได้ ตอนนี้ข้าได้เป็นถึงหัวหน้ากองในกลุ่มอัศวินแล้วนะ”



“เลื่อนขั้นเร็วจริง...” ระบายลมหายใจด้วยความอิจฉา ไอแซคนั้นก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนยังเป็นเพื่อนเที่ยวเล่นกับเขาและไร้ซึ่งตำแหน่งใดใดอยู่เลย เคยคิดว่าเพื่อนของเขาคนนี้เป็นคนที่เอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆแต่พริบตาเดียวก็กลายมาเป็นหัวหน้ากองของกลุ่มอัศวินแล้ว



“ที่เร็วก็เพราะว่าข้าฝีมือดีอย่างไรล่ะ” ทนต่อความโอ้อวดไม่ได้เพราะริษยาอย่างหนัก ด้วยสำนึกว่าตัวเองนั้นนอกจากฐานะเจ้าชายองค์เล็กของอาณาจักรอเล็กซานเดรียแล้วก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถโอ้อวดหรือภูมิใจได้ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง



อเล็กเซียถูกประคบประหงมจากทั้งท่านพ่อและท่านพี่ เนื่องจากว่าในวัยเยาว์เขามีร่างกายที่อ่อนแอ นอกจากนั้นแล้วด้วยรูปโฉมที่ราวกับอิสตรีจึงทำให้ถูกปฏิบัติประหนึ่งเจ้าหญิงพระองค์หนึ่ง



‘เจ้าเป็นบุตรชายคนเล็กไม่จำเป็นต้องแบกภาระอะไรทั้งนั้นจงใช้ชีวิตอย่างที่เจ้าชอบเสียเถิดอเล็กเซีย’



ท่านพ่อมักจะพูดจาเช่นนี้และลูบหัวเขาด้วยความเอ็นดูอยู่เสมอทุกครั้งที่พยายามทำในสิ่งที่ท่านพ่อกับท่านพี่เห็นว่าเกินตัว ทั้งการขี่ม้าและการฝึกดาบกว่าจะได้เรียนรู้ในสิ่งพวกนี้เด็กหนุ่มต้องเสียน้ำตาไปมากจนนับไม่ถ้วน



ถึงแม้จะน้อยใจต่อท่านพ่อและท่านพี่ แต่อเล็กเซียก็ยังพอเข้าใจต่อความห่วงใยของคนทั้งคู่อยู่มาก อาจเป็นเพราะตนเองนั้นมีใบหน้าที่คล้ายคลึงท่านแม่ซึ่งเป็นหญิงงามแห่งยุค จึงทำให้ทั้งสองพาลคิดไปว่าเขานั้นแท้จริงแล้วเป็นบุตรสาวหรือน้องสาว ไม่สิบางทีคงเป็นเช่นนี้ด้วยพวกท่านพ่อและท่านพี่คิดถึงท่านแม่ที่ตายไปจากโรคร้ายเมื่อตอนเขาอายุได้สามขวบ ดังนั้นจึงมอบความห่วงใยให้อย่างมากมาย การมีชีวิตอยู่เพื่อแทนที่ท่านแม่แบบนี้บางครั้งก็ทำให้เขาลำบากใจ



“อย่าได้เสียใจไปเราสองคนแอบไปเที่ยวเล่นกันที่ตลาดดีไหม เอาไงเจ้าปลอมตัวไปอย่างทุกทีไม่มีใครรู้หรอก”



ถูกชวนไปเล่นซุกซนอีกแล้ว ถึงอเล็กเซียจะรู้สึกระอาต่อความเป็นเด็กของไอแซค แต่ก็ไม่มีอะไรจะทำนอกไปจากนี้ ดังนั้นจึงพากันปลอมตัวแล้วแอบออกไปจากปราสาทอย่างลับๆ



เมื่อเห็นสภาพร้านรวงที่ถูกทิ้งร้างว่างเปล่ากับพ่อค้าและแม่ค้าที่มีอยู่น้อยนิดก็ทำให้อเล็กเซียรู้สึกใจหาย ทั้งๆที่ตลาดในเมืองอเล็กซานเดรียนั้นเคยคึกคักด้วยพ่อค้าแม่ค้าจากในเมืองและต่างเมืองซึ่งมาเยือนมากมาย แต่พอเข้าสู่ช่วงสงครามก็มีไม่น้อยที่พากันอพยพย้ายออกจากอาณาจักรกันไป พวกที่เหลืออยู่ก็เตรียมเข้าสู่สภาวะสงครามกักเก็บอาหารและใช้ชีวิตอย่างระแวดระวัง จนตอนนี้ตลาดของเมืองขาดสีสันที่เคยมีไปจนหมด



“เฮ้อน่าเบื่อไม่มีอะไรสนุกๆทำเลยหรือไงนะ” คิดอยากจะเอ่ยตำหนิไอแซคที่คิดจะหาความรื่นเริงในช่วงเวลาที่วิกฤตเช่นนี้แต่ก็คร้านที่จะทะเลาะด้วย เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนอย่างไอแซคไม่ยอมให้ใครมาตำหนิเฉยๆแน่นอน



“ช่วยด้วยปล่อยข้านะ ช่วยข้าด้วยผู้ร้ายฆ่าคน” เสียงของเด็กร้องตะโกนให้ช่วยดังจากด้านหลัง อเล็กเซียรีบตรงเข้าไปยังจุดเกิดเหตุโดยมีไอแซคตามมาติดๆ



เมื่อไปถึงเข้าเห็นชายผมดำร่างสูงใหญ่กำยำยืนตระหง่านคว้าจับเอาเด็กชายผอมบางซึ่งดิ้นกระแด่วๆร้องตะโกนขอให้ช่วย ไม่ทันได้เห็นหน้าของชายผู้นั้นเพราะว่ายืนหันหลังให้แต่เดาว่าผู้ชายใจร้ายที่ทำร้ายเด็กน่าจะมีใบหน้าหยาบกระด้างป่าเถื่อนอย่างแน่นอน อเล็กเซียไม่รอช้าย่างสามขุมไปที่ด้านหลังชักดาบคู่กายจี้ไปที่บ่าของชายร่างสูงใหญ่



“ปล่อยเด็กเสียไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน” ชายร่างสูงใหญ่ยังไม่หันกลับมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ทำตามจึงลองพูดจาข่มขู่ดูอีกครั้ง แต่ทว่าพริบตาที่ขาดความระมัดระวังชายร่างสูงใหญ่ก็หันหลังกลับมาพร้อมกับเหวี่ยงเอาเด็กน้อยเข้ามาปะทะกับร่างของอเล็กเซียเต็มๆ



เลว กล้าผลักเด็กเข้ามาปะทะ เสียท่า สิ่งนี้ผุดขึ้นมาในหัวของอเล็กเซีย แต่โชคยังดีที่ยังมีไอแซคอยู่ด้วย ไอแซคชักดาบเข้าจู่โจมชายร่างสูงใหญ่ทันที



ตอนนี้ตรงหน้าของอเล็กเซียไอแซคจู่โจมด้วยดาบปาดซ้ายทีขวาทีอย่างมีชั้นเชิง ทว่าชายร่างสูงใหญ่กลับหลบคมดาบไปได้อย่างฉิวเฉียดทุกครั้งจนเหมือนกับว่าอีกฝ่ายกำลังหยอกล้อไอแซค



“ไอ้บ้าเอ๊ยสู้สิวะ” ไอแซคคำรามอย่างหัวเสีย เป็นภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นจากเพื่อนที่ชอบวางท่าคนนี้ ตอนนี้เองจึงได้มองสังเกตุรูปลักษณ์ของชายร่างสูงใหญ่อย่างละเอียด ดวงตาสีน้ำเงินเข้มกับเส้นผมสีดำสนิท จมูกที่โด่งเป็นสันเข้ากันดีกับริมฝีปากรูปกระจับ คิ้วที่ค่อนข้างหนาไม่ได้ทำให้ดูตลกแต่กลับทำให้ดูสมชายมากยิ่งขึ้น องค์ประกอบที่รวมกันบนใบหน้าแม้จะไม่ใช่ชายหนุ่มที่หล่อเหลาจนเรียกได้ว่าเทพบุตร แต่หากมองให้นานนานจะยิ่งติดกับต่อความสมบูรณ์แบบที่มาพร้อมกับความเข้มและดิบเถื่อน อเล็กเซียตระหนักว่ารูปลักษณ์ของชายตรงหน้าไม่ใช่บุคคลที่จะหาดูได้ง่ายๆในชีวิตประจำวัน



แต่แล้วมันอย่างไรล่ะ จะยังไงก็แล้วแต่เจ้าผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนร้ายที่รังแกเด็กตัวเล็กๆ ต่อให้หน้าตาดีแล้วอย่างไรหากไม่ใช่คนดีย่อมต้องสมควรโดนจัดการ



เมื่อเห็นว่าไอแซคยังถูกหยอกล้ออยู่เช่นนี้ ความคิดชั่ววูบอย่างเช่นว่าใช้พวกมากเอาชนะจึงผุดขึ้นมาในใจของ



อเล็กเซีย หากแต่ขณะที่ยังลังเลต่อความยึดมั่นถือมั่นในคุณธรรมที่ถูกท่านพ่อและท่านพี่สอนมา จังหวะที่ลังเลอยู่นั้นหญิงสาวผู้หนึ่งกลับวิ่งมาหน้าตาตื่น หญิงสาวคนนั้นชี้นิ้วมาที่เด็กน้อยที่ยังงุนงงอยู่แต่ไม่นานนักหรอกเด็กน้อยก็วิ่งหนีไปแทบไม่คิดชีวิต



“ขโมย...จับขโมยไว้ที” หญิงสาวตะโกนพลางวิ่งเข้ามาใกล้ทุกที



ขโมย?ขโมยอย่างนั้นหรือ



ด้วยความที่เป็นคนฉลาด อเล็กเซียจึงประติดประต่อรูปการณ์เข้าหากันได้ในทันทีอย่างน้อยก็ขอแก้ตัวจับคนร้ายตัวจริงให้ได้ชดเชยความผิดก็ยังดี คิดแล้วกวิ่งกวดแล้วคว้าจับเอาไว้ได้ทัน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ไอแซคถูกชายร่างสูงใหญ่ขัดขาจนล้มไม่เป็นท่า



“ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยจับเจ้าขโมยตัวจ้อย เจ้าเด็กนี่ล้วงกระเป๋าข้าค่ะ” ความจริงถูกเปิดเผยกลายเป็นว่าเขากับไอแซคยุ่งไม่เข้าเรื่อง อเล็กเซียนั้นยังดีที่กลับตัวช่วยจับคนร้ายเอาไว้ได้ แต่ไอแซคนี่สิดันมาซวยเพราะตนไปเต็มๆ



ตอนนี้ไอแซคดูจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแต่ยังไม่หยุดมองดูชายร่างสูงใหญ่ด้วยสายตาอาฆาต ดูท่าแล้วคงอยากจะขย้ำคออีกฝ่ายแต่ห้ามตัวเอาไว้อยู่ สำหรับเด็กน้อยนั้นด้วยความที่เจ้าทุกข์เป็นหญิงสาวที่มีใจเมตตาเมื่อได้ของคืนจึงปล่อยเด็กไป เธอผู้นั้นค้อมกายขอบคุณชายแปลกหน้าเขาและไอแซคนับครั้งไม่ถ้วนก่อนจากไปทิ้งพวกเขาเอาไว้ให้เผชิญหน้ากับชายร่างสูงใหญ่



“เอ่อ...ขอโทษนะ” กล่าวคำขอโทษทันทีจากใจจริง แต่ไอแซคดูจะไม่เห็นด้วยคนที่อยู่ด้านหลังอเล็กเซียโวยวายยกใหญ่ เด็กหนุ่มไม่สามารถทำอะไรต่อความโกรธแค้นของไอแซคทำได้แต่ขอร้องให้ชายหนุ่มเห็นแก่หน้าเขาบ้าง



“คราวหน้าก่อนจะทะเล่อทะล่าทำร้ายใครก็ให้ดูเหตุการณ์ให้ดีเสียก่อนล่ะ” เห็นด้วยกับคำต่อว่าทั้งหมด



“อ่อนต่อโลกแบบนี้คงจะถูกเลี้ยงดูประคบประหงมมากเกินไปสิท่า” คำพูดนั้นคล้ายกับจะพูดให้ตัวเองฟัง แต่มันเป็นเสียงที่ดังฟังชัดไปหน่อย แต่ไหนแต่ไรมาอเล็กเซียมักมีปมด้อยต่อการถูกเลี้ยงมาอย่างไข่ในหิน รู้ตัวดีอยู่ว่าตัวเองนั้นเป็นเช่นไร แต่การที่ถูกจี้จุดกันซึ่งๆหน้ามันทำให้เขาทั้งอายและโกรธ แต่กระนั้นก็ยังระงับใจกายไม่ให้แสดงท่าทางกักขฬะออกไปได้อย่างสมบูรณ์



“เพื่อเป็นการขอโทษที่เข้าใจผิด จนทำร้ายท่าน ท่านต้องการอะไรตอบแทน” ยื่นข้อเสนอตอบแทนเพื่อที่ต้องการจะให้ความรู้สึกผิดของตนหายไป ตอนนี้เองที่ชายแปลกหน้าอมยิ้มชอบใจ



“นั่นสินะ....เข้ามาใกล้ๆสิแล้วข้าจะบอก” หงุดหงิดที่อีกฝ่ายท่ามากเสียเหลือเกินแต่ก็เดินเข้าไปใกล้ พอเข้าไปในระยะเอื้อมถึง อีกฝ่ายก็แตะจูบแผ่วๆลงมาวูบหนึ่ง อเล็กเซียตะลึงงันจนตั้งตัวไม่ถูก



“ไอ้ชาติชั่วแกทำอะไรของแกวะ” ไอแซคโวยวายชักดาบหมายจะเอาเรื่อง แต่หากว่าการจูบเขาเพียงแผ่วๆนี่คือรางวัล เขาที่ออกปากว่าจะให้ก็จำต้องให้ อเล็กเซียหันไปขอร้องให้คนที่โวยวายสงบลง เมื่อถูกขอร้องด้วยสายตาเว้าวอนไอแซคจึงยอมตามแต่ไม่วายส่งเสียงฮึดฮัด



“สิ่งแทนคำขอโทษเจ้าต้องการเพียงเท่านี้หรือ” อเล็กเซียถามเสียงเย็นเยียบ ชายแปลกหน้าส่งยิ้มกว้างมาให้แทนคำตอบ



“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอตัวล่ะหวังว่าคราวหน้าเราคงจะไม่ได้เจอะเจอกันอีก” อเล็กเซียเดินจากมาพร้อมกับไอแซคที่ยังคงแสดงอาการไม่พอใจ การออกมานอกปราสาทครั้งนี้นับว่าเขาได้รับบทเรียนหลายอย่าง โดยเฉพาะการถูกทำลายศักดิ์ศรีด้วยการล่วงเกินราวกับเขาเป็นอิสตรี เจ็บใจนักและคงจะลืมได้ยาก แต่หากคิดให้ดีแล้วการจะได้พบหน้าของผู้ชายคนนั้นอีกคงเป็นไปได้ยากดังนั้นจึงตั้งใจว่าจะลืมเลือนให้เร็วที่สุด

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า





หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 30-10-2016 12:21:51
บทที่2





เป็นความบังเอิญที่ทำให้เอเดรียนพึงพอใจยิ่งนัก หลังจากพบหน้ากับเด็กหนุ่มผู้มีกลิ่นกายหอมหวานเมื่อเดือนก่อน คราวนี้ถึงแม้จะพบกันอีกครั้งในสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักแต่ก็ทำให้ชายหนุ่มได้ทำความรู้จักกับอีกฝ่ายเพิ่มมากขึ้น



นอกจากความกล้าหาญที่พบได้จากการพบกันคราวก่อน ครั้งนี้ยังได้รู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นคนมีคุณธรรมแฝงอยู่ในตัวหลายอย่าง ตอนแรกคิดว่าจะเป็นลูกคุณหนูเอาแต่ใจด้วยรูปลักษณ์ที่ชวนให้คิดเป็นเช่นนั้น การที่ไม่เข้ามารุมทำร้ายเขาหรือการที่ยอมรับผิดขอโทษง่ายๆมันทำให้เขาถูกใจอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้นไปอีก



แต่กระนั้นยังสัมผัสได้ถึงความทระนงและดื้อแพ่ง ด้วยคำพูดบางคำของเขาคงทำให้เด็กหนุ่มผู้นั้นไม่พอใจ ดังนั้นจึงปั้นหน้าดุดุ พองขนราวกับเจ้าแมวเปอร์เซีย



มันช่างน่ารักน่าหมันเขี้ยวนักจนนึกอยากจุมพิต หากจุมพิตลงไปเด็กหนุ่มผู้นี้จะมีปฏิกิริยาเช่นไรนะ เอเดรียน

อยากเห็นอารมณ์อันหลากหลายของเด็กหนุ่มให้มากกว่านี้ จะเขินอาย โกรธเกรี้ยว หรือตกใจ ล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อเด็กหนุ่มถามถึงสิ่งตอบแทน เขาจึงจุมพิตแผ่วๆลงไป



 เป็นจุมพิตที่แฝงความปรารถนาหลายอย่างเอาไว้ หากเป็นไปได้อยากจะจุมพิตให้อ่อนหวานยิ่งกว่านี้ แต่นี่มันยังเป็นแค่การเริ่มต้น เอเดรียนนั้นตัดสินใจไปเรียบร้อยแล้วไม่ว่าอย่างไรก็อยากจะเข้าไปสนิทสนมใกล้ชิดกับเด็กหนุ่มผู้นี้ให้มากขึ้น



การที่เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขานั้นไม่ใช่ปัญหา เอเดรียนสามารถสะกดรอยตามหาแล้วนำตัวเองเข้าไปสนิทชิดใกล้กับเด็กหนุ่มได้ไม่ยาก นอกจากนั้นการที่ได้พบกับเด็กหนุ่มคนนี้อีกครั้งชายหนุ่มเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงลิขิต ตัวเขานั้นถึงแม้ว่าจะถูกใจความกล้าหาญ อีกทั้งยังหลงไหลต่อกลิ่นหอมเย้ายวนจนเอาแต่คิดถึงเด็กหนุ่มตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือน



แต่หากไม่ได้บังเอิญพบกันอีกครั้ง คงไม่ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปเช่นนี้ รู้สึกว่ากลิ่นหอมของเด็กหนุ่มรุนแรงขึ้นตอนนี้แม้ว่าอีกฝ่ายจะจากไปไกลแต่ยังทิ้งกลิ่นหอมหวานเป็นสัญลักษณ์ลอยตามลมประหนึ่งจะบอกให้เขาสะกดรอยตามไปอย่างไรอย่างนั้น



ลักพาตัวกลับไปที่เผ่าดีหรือไม่นะ



หากคนทั่วไปมาฟังความคิดของเขาคงคิดว่าตนนั้นเป็นคนป่าเถื่อนเลวร้าย แต่สำหรับเผ่าวูฟแล้วพฤติกรรมเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ หนุ่มๆในเผ่าเวลาพึงพอใจใครก็มักจะลักพาตัวมาไว้ในเผ่า เพราะเผ่าวูฟนั้นไม่อาจทนต่อกลิ่นหอมเย้ายวนของคู่ที่ฟ้าลิขิตมาให้ได้



พูดถึงคู่ที่ฟ้าลิขิต เกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่ผู้อาวุโสในเผ่ายังไม่สามารถอธิบายได้ แต่มันจะเกิดกับคนในเผ่าวูฟทุกคน ทันทีที่เจอกับคนที่ฟ้าลิขิตมาจะรู้ได้ในทันทีจากกลิ่นหอมที่อบอวลออกมา สำหรับกลิ่นกายของเด็กหนุ่มผู้นั้นเป็นกลิ่นหอมที่คล้ายกับผลของสตอร์เบอรี่ป่าที่เขาชื่นชอบ เอเดรียนชอบสตรอร์เบอรี่และเขาก็ชอบที่จะดมกลิ่นของมัน



“อ้า....เจ้ามาอยู่ที่นี่เอง” ไนเจลและชายหนุ่มของเผ่าสองสามคนเดินตรงมาหาเอเดรียน ชายหนุ่มถูกพวกลูกเผ่าและเพื่อนสนิทตำหนิ เนื่องด้วยเป็นห่วงที่เขาจู่จู่ก็เดินหายไปคนเดียวเกือบถึงครึ่งชั่วโมง



“เจ้าดูมีความสุขอยู่นะเอเดรียน รู้ไหมว่าเจ้าไม่หุบยิ้มเลย คงไม่ได้ลืมไปนะว่าเราเข้าเมืองมาครั้งนี้เพื่อขันอาสาร่วมรบกับอาณาจักร” เอเดรียนไม่ตอบได้แต่ส่งยิ้มละไมไปให้ไนเจล คร้านที่จะบอกว่าตนเองนั้นอารมณ์ดีเพราะได้กลิ่นหอมหวานของคนที่พึงใจลอยตามลมมา การได้เข้ามาในเมืองครั้งนี้นับว่าคุ้มค่าดีเหลือเกิน



“ข้าได้รับราชโองการจากมือเสนาบดีมาแล้วนะ ท่านราชาอนุญาตให้เราเข้าพบได้ในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้”



“เยี่ยม” เอเดรียนพูด ค่ำคืนนั้นพวกเขาและคณะเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ชื่อว่าเล้าหมู ชื่อฟังดูไม่น่าพิศมัยแต่หญิงม่ายเจ้าของโรงแรมต้อนรับขับสู้พวกเขาเป็นอย่างดี



“ไหนบอกมาสิว่าอะไรทำให้เจ้าอารมณ์ดีได้จนยิ้มไม่หุบทั้งวัน” ไนเจลเปิดประเด็นขณะที่พวกเขานั่งดื่มเหล้ากันตามลำพังสองคน



“อย่าได้โกหกข้า เพราะก่อนหน้านั้นเดือนหนึ่งเต็มๆเจ้าเอาแต่ทำหน้าเหมือนปลาขาดน้ำ เพื่อนสนิทอย่างข้ารู้ดีว่าเจ้าเป็นเช่นไร”



รู้ทันไปเสียหมด เอเดรียนได้แต่แค่นยิ้ม สงสัยว่าคงจะปิดบังไม่ได้เสียแล้ว ชายหนุ่มรู้จักนิสัยเพื่อนสนิทแต่แบเบาะผู้นี้ดี หากเป็นเรื่องที่หมายหมั้นแล้วล่ะก็จะสู้ไม่ถอยและไม่ยอมแพ้โดยง่าย



“ว่าอะไรนะ” ไนเจลโวยวายเสียงดังหน้าตาของเขาดูตื่นเต้น



“จริงหรือที่เจ้าพบคู่ที่ฟ้าลิขิตแล้ว” ประโยคนี้ไนเจลเบาเสียงลงมาก คงจะรู้ตัวว่าตนเองนั้นกระโตกกระตากโวยวายมากไปหน่อย



“นี่เองสินะที่เป็นสาเหตุให้เจ้าทำหน้าเหมือนปลาขาดน้ำมาตลอดหนึ่งเดือน” ไนเจลยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา



“แล้วคนที่ว่าเป็นสาวบ้านไหนกันล่ะ ชักอยากรู้แล้วสิ” เอเดรียนมองดูไนเจลถูมือเข้าหากันไปมาอย่างหมายมาด ท่าทางอยากรู้จนเนื้อเต้นของเพื่อนสนิททำให้เขาหมันไส้ขึ้นมาตงิดๆ นี่หากรู้ว่าที่คนฟ้าลิขิตมาของเขาเป็นผู้ชายจะทำหน้าอย่างไรนะ



“เป็นเด็กผู้ชายแปลกหน้า” พอบอกออกไปไนเจลก็ทำหน้าพิศวงงงงวย แต่ไม่นานนักก็กลับมาทำสีหน้าปกติ



“คงไม่ใช่ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เจ้าบังเอิญช่วยไว้เมื่อเดือนก่อนหรอกนะ” เอเดรียนยิ้มละไมแทนคำตอบ



“ปัดโธ่” ไนเจลตีฝ่ามือลงบนเข่าตัวเองดังฉาด”ข้าน่าจะเดาได้แต่แรก เจ้าแสดงอาการชัดเจนมาตลอดหนึ่งเดือนถึงขนาดนั้น”



รู้ตัวดีว่าตัวเองแสดงออกอย่างชัดเจน เพราะหลายครั้งที่เอเดรียนก้ำกึ่งอยู่ระหว่างการตัดใจกับการตามหาตัวเด็กหนุ่มผู้นั้นให้พบ



“แล้วเจ้าจะเอาอย่างไร จะสานสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มผู้นั้นหรือไม่”



“ข้าได้ตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นไว้แล้ว” ไนเจลพยักหน้าหงึกหงัก เอเดรียนรู้ว่าเพื่อนของเขาคงเดาใจตนเองได้



“เจ้าทำตามใจชอบเถอะเอเดรียน ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งที่คู่ฟ้าลิขิตดันเป็นเพศเดียวกัน แถมเจ้ายังเป็นถึงผู้นำเผ่าอีก แต่ก็นะเจ้าโชคดีที่ผู้นำเผ่าเราคัดเลือกจากการลงคะแนนมิใช่จากสายเลือด บ๊ะ....ชักอยากเห็นคู่ฟ้าลิขิตของเจ้าเสียแล้วสิ” ไนเจลตีมือลงบนไหล่ของเอเดรียนดังป้าบแล้วหัวเราะร่วน



เช้าวันนี้ก็เหมือนทุกๆวันอเล็กเซียตื่นไปซ้อมอาวุธแต่เช้าและศึกษาหาความรู้กับท่านครูก่อนจะเข้าร่วมประชุมขุนนางกับท่านพ่อและท่านพี่ วันนี้ท่านพ่อดูมีสีหน้าไม่เหมือนทุกที คงมีเรื่องรบกวนใจ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร ดังนั้นจึงแอบกระซิบถามท่านพี่เบาๆ



“ท่านพี่เพราะอะไรท่านพ่อถึงมีสีหน้าเคร่งเครียดนัก หรือว่ามีเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับกองทัพศัตรูที่ทำให้ท่านพ่อลำบากใจเพิ่มขึ้นหรือ”



“เรื่องกองทัพศัตรูก็เรื่องหนึ่ง แต่วันนี้พวกวูฟมาขอเข้าพบกับท่านพ่ออีกแล้ว”



อเล็กเซียอุทานดังเอ๊ะ ตอนนี้มีแต่ความสงสัยว่าพวกวูฟจะเข้าพบท่านพ่อทำไมในเวลาที่มีแต่ความวุ่นวายเช่นนี้ ดังนั้นจึงรอให้พวกวูฟเข้ามาในห้องประชุมด้วยความสนอกสนใจ



“ได้ข่าวว่าคราวนี้ผู้นำเผ่าวูฟมาด้วยตัวเองเชียวนะ” รัชทายาทธีโอกระซิบ



“อย่างนั้นหรือครับ”



“พี่ได้ข่าวมาว่าผู้นำเผ่าคนนี้เก่งมาก ฝีมือของเขาเชื่อถือได้ตั้งแต่ขับไล่พวกนอกรีตออกจากอาณาจักรเรา เจ้าคงยังไม่เคยเห็นหน้าเพราะเจ้าเพิ่งได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมขุนนางแค่ไม่กี่เดือน”



จริงดั่งที่ท่านพี่พูดทุกอย่าง ครั้งก่อนที่ผู้นำเผ่าวูฟเข้าพบท่านพ่อเขาก็เกิดความสนใจอยู่ คราวนี้จะได้เห็นผู้นำเผ่าวูฟที่เลื่องชื่อมานานเสียที แต่ทว่าแทนที่จะได้ประทับใจต่อการได้พบผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อได้เห็นหน้าผู้นำเผ่าวูฟ

อเล็กเซียก็ขมวดคิ้วในทันที



นี่นะหรือ เอเดรียน เฟลเวเธอร์ นี่มันไม่ใช่ผู้ชายที่ล่วงเกินเขาในตลาดเมื่อวานหรอกหรือ



ชั่วจังหวะที่ตกตะลึงนั้น เอเดรียนส่งสายตามองจ้องมาที่เขา พอประสานสายตากันชายหนุ่มก็เลียริมฝีปาก อเล็กเซียสะดุ้งตกใจจนเผลอใช้มือป้องริมฝีปากของตน พาลให้นึกไปถึงตอนที่ถูกจุมพิตแผ่วๆ



หน้าด้านไร้ยางอาย อย่าบอกนะว่าต้องการจะเตือนสติเขาให้นึกถึงเรื่องจูบ



แต่หลังจากนั้นเอเดรียนก็ไม่ได้สนใจเขาอีก ชายหนุ่มเริ่มต้นรายงานจุดประสงค์ของตนที่มาอย่างจริงจัง จน

อเล็กเซียเริ่มคิดไปว่าตนอาจจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องที่ตนคิดเมื่อครู่นี้ไปเอง



เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็เกิดความละอาย ใบหน้าของเขาร้อนเห่อ ทั้งที่อยากจะลืมแท้ๆ แต่พอมาเจอหน้ากันอีกครั้งก็เอาแต่เฝ้าครุ่นคิดว่าเพราะเหตุใดอีกฝ่ายถึงมาจุมพิตตนเช่นนั้น คิดวนไปวนมาจนไม่ได้ฟังเสียงคนรอบข้างเลยแม้แต่นิดเดียว



“อเล็กเซียๆ” สะดุ้งตัวเบาเมื่อถูกรัชทายาทธีโอสะกิด



“ครับท่านพี่”



“เจ้าได้ยินหรือไม่ เป็นเรื่องดีเชียวนะ”



“ครับ”



“โธ่นี่เจ้าเอาแต่เหม่อหรือ สมแล้วที่ยังเป็นเด็ก” ท่านพี่ส่ายหน้ายิ้มๆ อับอายอีกครั้งที่เอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องจูบจนขาดสติ ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆส่งให้ท่านพี่เท่านั้น



“เอเดรียน เฟลเวเธอร์บอกว่าจะขออาสานำเผ่าวูฟเข้าร่วมสงครามครั้งนี้กับเราอย่างไรล่ะ”

อเล็กเซียอุทานดังเอ๊ะอีกครั้ง เด็กหนุ่มหันไปมองดูเอเดรียนที่ตอนนี้รอรับราชโองการ



“พวกวูฟจะเข้ามาอยู่ภายใต้การควบคุมของพี่เมื่ออยู่ในสนามรบ พี่คิดว่าพวกเขาคงมีประโยชน์มาก”



“หากว่าเขาทำประโยชน์ได้ล่ะก็นะท่านพี่” ถึงแม้จะรู้สึกดีอยู่บ้างเล็กน้อยที่เอเดรียนอาสาเข้าร่วมรบกับอาณาจักร แต่ด้วยความเป็นเด็กของตนที่ยังเหลืออยู่มาก ทำให้อเล็กเซียไม่อาจลืมเลือนเรื่องที่ชายหนุ่มล่วงเกินตัวเองไปได้ง่ายๆ



...



ตอนที่สองแล้วจ้า



เรื่องอาจจะหนืดๆหน่อยเพราะอยู่ในช่วงปูเนื้อเรื่องนะจ๊ะ



เม้นเป็นกำลังใจบ้างนา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: ohuii ที่ 30-10-2016 12:41:23
ติดตามเรื่องใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-10-2016 16:04:10
เหมือนว่าเอเดรียนจะรุกเร็วไปนะ เจ้าชายน้อยเลยไม่ชอบขี้หน้าเลย ฮา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-10-2016 16:19:28
เอเดรียนจะลักพาตัวเล็กเซียกลับเผ่าไหม อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 30-10-2016 20:12:14
น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 30-10-2016 21:32:11
ชอบความคลั่งนายเอก เพื่อนนายเอกจะมีคู่มั้ยน้ออ สนใจพ่อหนุ่มหมาป่าเพื่อนพระเอกเอกป่าว  :katai3:  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 31-10-2016 00:21:46
 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 31-10-2016 13:16:41
ตอนที่3



ยอมรับว่าตัวเขานั้นตกใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าตอนแรกจะเอะใจอยู่บ้างเรื่องที่กลิ่นหอมของเด็กหนุ่มซึ่งเป็นคู่ฟ้าลิขิตของเขาอบอวลอยู่ภายในปราสาท



เป็นถึงเจ้าชายเชียวหรือ แต่ถึงเป็นเจ้าชายเอเดรียนก็มิได้หวาดกลัวอะไร ตอนนี้สมองอันฉับไวของเขาเริ่ม

วิเคราะห์วางแผนให้เข้าไปชิดใกล้เพื่อให้ได้มาซึ่งคนที่ปรารถนา คิดได้เช่นนั้นก็เลียริมฝีปากตัวเองด้วยท่าทางประหนึ่งนักล่า เป็นเรื่องบังเอิญที่เจ้าชายมองสบตามา

           

   หึหึหึ น่ารัก

           

   เอเดรียนลอบเอ็นดูท่าทางประหม่าของเจ้าชายผู้น่ารัก คงจะนึกถึงตอนที่เขาขโมยจูบไปเป็นแน่แท้ ชายหนุ่มไม่ได้คิดว่าการกระทำของตัวเองเป็นการรุกหนักแต่อย่างใด เพราะสำหรับเขานี่มันเป็นแค่การเข้าหาแบบเบาๆเท่านั้นเอง

           

   “เจ้าว่าจะเข้าร่วมสงครามกับเราอย่างนั้นหรือ”  ราชาธีโอดอร์เอ่ยถาม

           

    “ใช่ครับ ข้าคิดว่าการที่พระองค์ให้ข้ากับชาวเผ่าอาศัยอยู่ในอาณาจักรถือว่าเป็นการให้ที่เผ่าข้าสมควรจะให้ความช่วยเหลือในเวลาที่พระองค์และประชาชนของพระองค์กำลังลำบาก”

       

       นั่นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สาระสำคัญคือเขาและชาวเผ่าไม่ต้องการจะสูญเสียถิ่นที่อยู่อันสงบสุขไปอีกเพียงเท่านั้น ก่อนหน้านั้นเผ่าวูฟต้องมีชะตากรรมเร่ร่อน มีคนในเผ่าจำนวนมากที่พลัดหลงไปจากเผ่า ผู้นำเผ่าคนก่อนใช้เวลาอย่างมากในการรวบรวมคนที่หายไปกลับคืนมา

     

          ส่วนตัวเขานั้น ณ ปัจจุบันจึงมีหน้าที่สำคัญในการตามหาแหล่งอยู่อาศัยที่ชาวเผ่าจะอาศัยได้โดยปราศจากกังวล และหลังจากที่มาอาศัยอยู่ที่อาณาจักรอเล็กซานเดรียมาได้ครบปี ชาวเผ่าและตัวเขาก็ถูกใจที่ป่านอกเมืองไม่ใช่น้อย

         

      ป่านอกเมืองที่เขากับชาวเผ่าอาศัยอยู่นั้นมีชื่อว่าป่าดำ เป็นป่าที่ลึกและซับซ้อนจนแม้แต่ผู้คนในอาณาจักรยังไม่กล้าย่างกรายเข้าไป ตัวป่านั้นเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย นอกจากนั้นเขายังได้ยินว่ามีแม่มดผู้หนึ่งอาศัยอยู่เพียงลำพังภายในป่าดำด้วยเช่นกัน

       

       การขอเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแห่งอาณาจักรเป็นไปได้ด้วยดี ราชาธีโอดอร์อนุญาตให้ชาวเผ่าของเขาเข้าร่วม ดูจากรอยยิ้มน้อยๆที่ดูเหมือนไม่ยิ้มขององค์ราชา เอเดรียนเดาว่าราชาคงพึงพอใจต่อการเข้าร่วมของพวกเขา เจ้าชายรัชทายาทธีโอร้องขอองค์ราชาให้เผ่าของเขาเข้าร่วมโดยรับคำสั่งจากรัชทายาทโดยตรง

       

       เมื่อได้รับอนุญาตจากราชาเจ้าชายรัชทายาทส่งยิ้มเป็นกันเองมาให้ เจ้าชายองค์รัชทายาทคนนี้ดูไม่คล้ายกับเจ้าชายผู้เป็นคู่ฟ้าลิขิตของเขา เจ้าชายรัชทายาทธีโอดูคล้ายราชาธีโอดอร์ราวกับเป็นภาพจำลองในวัยหนุ่ม ด้วยเส้นผมสีน้ำตาลเข้มและรูปกายสูงใหญ่มีเพียงดวงตาสีเขียวเท่านั้นที่คล้ายกับดวงตาของคนที่เขาปรารถนา

         

      หลังจากภารกิจขอเข้าร่วมรบเสร็จสมบูรณ์ องค์ราชาอนุญาตให้เขากับพักพวกผักผ่อนที่ปราสาทได้หนึ่งคืน พรรคพวกของเขาได้รับห้องพักคนละหนึ่งห้องซึ่งเป็นห้องที่ดีใช้ได้ จนนึกแปลกใจในความเมตตาที่ได้รับจากราชาธีโอดอร์

         

      “ตอนแรกนึกว่าราชาหน้าตายนั้นจะรังเกียจเราเสียอีก ตอนเจ้าเอ่ยปากอาสาร่วมรบก็ไม่มีทีท่าว่าจะยินดีหรือไม่ชอบใจซักนิด” เอเดรียนได้แต่ยิ้มปล่อยให้ไนเจลบ่นไปเรื่อย บางทีคนเถรตรงคิดช้าอย่างไนเจลอาจไม่สังเกตเห็นรอยยิ้มชอบใจของราชาที่แสดงออกมาเพียงแวบเดียว เอาเถอะราชาธีโอดอร์เก็บอารมณ์ได้เก่งถึงเพียงนั้นก็สมแล้วที่เป็นถึงราชา

         

     ไนเจลยังคงบ่นเรื่องของราชาหน้าปลาตายไม่เลิก เห็นทีว่าถ้าไม่หาเรื่องอื่นมาพูดคงไม่ยอมหยุดบ่นง่ายๆ ดังนั้นจึงเอาเรื่องที่น่าสนใจกว่ามาล่อหลอกจะได้เลิกบ่นเสียที

         

     “อะไรนะ คู่ฟ้าลิขิตของเจ้าเป็นถึงเจ้าชายเชียวหรือ” เอเดรียนพยักหน้าให้ไนเจลที่มีใบหน้าตื่นตกใจ

         

      “แล้วที่นี้เอาอย่างไร เจ้าจะเดินหน้าต่อไปไหม ยุ่งยากเสียแล้วสิ หากลักพาตัวมาจะไม่เป็นเรื่องใหญ่หรอกหรือ”

         

     “เรื่องนั้นข้าก็คิดอยู่ บางทีข้าก็มีความคิดโง่ๆอย่างลักพาตัวมาแล้วพาหนีหายไปด้วยกันในโลกอันกว้างใหญ่ละทิ้งทุกสิ่งเพื่อให้ได้อยู่ใกล้คู่ฟ้าลิขิตของข้า”

         

      “อย่ามาล้อเล่นน่าเอเดรียน ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่ใช่คนที่ไร้ความรับผิดชอบเช่นนั้น” เอเดรียนได้แต่หัวเราะ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าชั่ววูบหนึ่งเคยคิดเช่นนี้จริงๆ กลิ่นหอมหวานจากตัวของเจ้าชายผู้นั้นนับวันยิ่งมอมเมาตัวเขาจนสุดที่จะต้านทาน

ยิ่งอยู่ในสถานที่ใกล้ชิดที่อบอวลไปด้วยกลิ่นกายของเจ้าชายด้วยแล้ว

         

     น่าสังเวชตัวเองเหลือเกิน สมัยที่เป็นเด็กเอเดรียนเคยเห็นหนุ่มๆในเผ่าทุรนทุรายต่อการไม่ได้อยู่ใกล้คู่ฟ้าลิขิต สุดท้ายจึงมีวูฟจำนวนมากที่แยกตัวจากเผ่าไปเพื่อไปอยู่อาศัยกับคู่ฟ้าลิขิต เคยคิดว่านั่นเป็นการทรยศต่อเผ่าของตัวเองหน้ามืดตามัวจนลืมความภักดีต่อเผ่า แต่ไม่นึกเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวของเขาเอง

         

      เอเดรียนได้แต่แค่นยิ้ม ไนเจลยังคงวางแผนหาวิธีที่เขาจะได้อยู่กับเจ้าชายผู้นั้นไปเรื่อย ตอนนี้เขาได้รู้ชื่อจริงของเจ้าชายผู้นั้นมาแล้ว อเล็กเซีย เทีย อเล็กซานเดรีย เป็นชื่อที่น่าฟังเหมาะกับเจ้าตัวยิ่งนัก

     

          “ไนเจล ข้าขอตัวกลับห้องก่อนนะ วันพรุ่งนี้มีเรื่องหลายอย่างที่จะต้องทำไม่ใช่หรือ” ไนเจลอือออ เมื่อถูกปล่อยตัวมาโดยง่าย แทนที่จะกลับห้องเอเดรียนกลับเดินตามกลิ่นหอมของอเล็กเซียที่ลอยมาตามลมไปอย่างตั้งใจ

         

     คืนนี้อเล็กเซียอยู่สนทนากับเจ้าชายรัชทายาทธีโอจนดึกดื่น เด็กหนุ่มชวนพี่ชายคุยหลายเรื่องหนึ่งในนั้นคือแผนการรบซึ่งเป็นความลับทางการทหารของอาณาจักร

         

      อเล็กเซียนั้นได้รับทราบถึงความตื่นเต้นของท่านพี่ที่จะได้เห็นฝีมือในการรบของชาวเผ่าวูฟอีกครั้ง ท่านพี่เล่าให้ฟังเกี่ยวกับการขับไล่พวกนอกรีตเมื่อครึ่งปีก่อนให้เขาฟังไม่หยุดปาก เรื่องที่อยากรู้ก็ได้รู้จากปากท่านพี่โดยไม่ต้องถามเลยซักนิด

     

         “ท่านพี่ยกย่องพวกวูฟมากเกินไปแล้ว โดยเฉพาะกับเอเดรียน เฟลเวเธอร์ เขาอาจจะไม่ได้เก่งจริงอย่างที่ท่านพี่คิดก็ได้”

   

           “ก็เจ้าไม่ได้เข้าร่วมการขับไล่พวกนอกรีตตอนนั้นนี่อเล็กเซีย หากว่าเจ้าได้เห็นร่างหมาป่าของพวกวูฟแล้วล่ะก็เจ้าจะทึ่งในความสง่างามของพวกเขา”

   

           ร่างจริงอย่างนั้นหรือ?

         

      อเล็กเซียอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเจ้าหมาป่าตัวเชื่องในป่าดำที่ช่วยเขาเมื่อเดือนก่อน หากว่าเจ้าหมาตัวนั้นใช่พวกวูฟล่ะก็ เขาอาจจะเชื่อที่ท่านพี่พูดก็ได้ แต่ไม่อาจเล่าสิ่งที่เก็บไว้ในใจออกไปได้ เพราะหากเล่าว่าเขากับไอแซคเที่ยวซนไปถึงในป่าดำ ตัวเขาอาจถูกท่านพ่อกักบริเวณได้

       

       “เฮ้อ...หากเจ้าสามารถเข้าร่วมรบได้คงจะได้เห็นถึงความสามารถอันฉกาจของพวกวูฟ น่าเสียดายนะ”

       

       “ท่านพี่กับท่านพ่อเป็นคนห้ามไม่ให้ข้าเข้าร่วมรบเองนี่ครับ” อเล็กเซียต่อว่าด้วยความน้อยใจ เหมือนว่าธีโอจะสัมผัสได้ จึงลูบหัวของเด็กหนุ่มไปมาเบาๆ

       

       “เจ้าเพิ่งจะมีร่างกายแข็งแรงเหมือนคนอื่นมาได้แค่ปีสองปีเท่านั้น อดทนหน่อยเถอะนะ”

       

        “ครับท่านพี่” อดไม่ได้ที่จะคิดน้อยใจ แต่รับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่ท่านพี่มีจึงไม่คิดจะโต้เถียง อเล็กเซียจึงขอลากลับไปยังห้องนอนของตน เพราะว่านี่มันก็ดึกแล้ว

       

        “ใครน่ะ” ถามออกไปเพราะรู้สึกได้ถึงการตามติดของใครบางคน ชั่วเสี้ยวนั้นจากมุมมืดคนในชุดดำพุ่งเข้าจู่โจมเขาด้วยดาบ อเล็กเซียชักดาบออกมาต่อสู้ทันที

         

     “แกเข้ามาในปราสาทได้อย่างไร” อเล็กเซียถามขณะปะดาบ คนชุดดำไม่ตอบคำแต่โหมตัวเข้าจู่โจมเขาอย่างไม่ลดละ

         

     พวกทหารไปไหนหมดนะ แทนคำตอบ อเล็กเซียเห็นร่างของทหารยามนอนสลบอยู่บนพื้น ไม่ทราบว่าเป็นหรือตาย เกิดความสงสัยครามครันว่าคนชุดดำใช้เล่ห์กลอันใดกับพวกทหารยาม

         

      เสียงดาบกระทบกันดังแกร๊งๆ ที่ทางเดินนี้เป็นทางเดินไปสู่ห้องบรรทมของท่านพี่และท่านพ่อ หรือว่าเจ้าคนชุดดำนี่จะเป็นนักฆ่าของศัตรูกันนะ

         

      ต้องจับตัวให้ได้

       

       คิดได้ดังนั้นจึงอาศัยความว่องไวกว่าปาดดาบซ้ายทีขวาทีไม่หยุดแล้วจัดการปลดดาบออกจากมือของคนในชุดดำ แต่ไม่ทันคาดคิดเจ้าคนชุดดำขยับตอบโต้ได้ว่องไว มันซัดผงบางอย่างเข้าใส่ตาของอเล็กเซียจนตาพร่า เด็กหนุ่มเดินถอยหลังออกห่างคู่ต่อสู้น้ำตาไหลพรากไม่สามารถมองภาพรอบด้านได้ถนัดเช่นเดิม

       

       บ้าเอ๊ย

       

       ขณะที่สบถในใจ เขาได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด น้ำอุ่นๆเหนียวข้นกระทบถูกร่างของเขา เดาว่าน่าจะเป็นเลือดสาดกระเซ็นมาโดน ตอนนี้ดวงตาของอเล็กเซียเริ่มกลับมาเห็นได้อย่างปกติแล้ว

       

       เสียงทึบๆดังขึ้นเนื่องจากร่างของชายชุดดำล่วงลงไปกระทบพื้น ที่ตรงหน้าเอเดรียน เฟลเวเธอร์มองมาด้วยสายตาเป็นห่วง ในมือของชายหนุ่มถือดาบเปื้อนเลือดเอาไว้

         

      “บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าเจ้าชาย” คนตัวใหญ่ขยับเข้ามาสำรวจร่างกายเขา อเล็กเซียงุนงงไปหมดได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ

         

      “มันตายแล้วหรือ” อเล็กเซียถาม

         

     “ตายสนิท”

       

       ขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นโบว์ อเล็กเซียนั้นตั้งใจจะจับเป็นเพื่อถามว่าใครส่งมันมา แต่เอเดรียนกลับฆ่ามันไปเสียแล้ว รู้อยู่ว่าอีกฝ่ายช่วยเขา นอกจากนั้นในขณะที่จวนตัวขนาดนี้คงไม่มีใครคิดไว้ชีวิตคนร้ายเป็นแน่ กระนั้นในใจกลับขุ่นเคืองการกระทำของชายหนุ่มอย่างไม่มีเหตุผล

           

   “เจ้าไม่น่าฆ่ามัน ข้ามีเรื่องอยากจะถามมันอีกเยอะ” คนถูกต่อว่าได้แต่ยักไหล่

       

       ช่วยไม่ได้



อเล็กเซียได้แต่เข้าไปสำรวจตรวจตราดูร่างไร้วิญญาณของชายชุดดำ ในตอนนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

       

       “เดี๋ยวนะ เอเดรียนทำไมเจ้าถึงได้มาอยู่แถวนี้ได้” ใช่ทำไมคนคนนี้ถึงได้มาอยู่ในบริเวณต้องห้ามนี่ได้ ยิ่งคิดยิ่งไม่น่าไว้ใจ อเล็กเซียลุกขึ้นยืนส่งสายตาจับผิดไปยังเอเดรียน

           

    “เจ้าคงมีคำอธิบายสินะ” ถึงจะโดนเขาข่มขู่ขนาดนี้ แต่คนตรงหน้าก็ยังอมยิ้มได้อยู่ ยิ้มบ้าอะไรของเจ้ากันนะ เห็นได้ชัดว่ากำลังเดือดร้อนเพราะว่ามีความผิดฐานบุกรุกอย่างเห็นได้ชัด

           

    “เกิดอะไรขึ้น อเล็กเซีย”

           

    “ท่านพี่” อเล็กเซียยิ้มต่อการปรากฏตัวของธีโอ

         

      “นี่มันอะไรกันทหารยามพากันนอนสลบอยู่บนพื้น...เอ๊ะ เอเดรียนเจ้า....” ธีโอมองมาที่เขาและเอเดรียนด้วยแววตาสงสัย เหตุการณ์ยิ่งบานปลายขึ้นไปอีกเมื่อราชาธีโอดอร์กับทหารองค์รักษ์ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน

       

       ตอนนี้อเล็กเซีย รัชทายาทธีโอ เอเดรียน อยู่กันพร้อมหน้าในห้องอักษรของราชาธีโอดอร์ หลังจากเด็กหนุ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ราชาก็เริ่มตั้งคำถามกับเอเดรียนว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

         

      ‘เข้าห้องน้ำแล้วหลงทาง’ เป็นคำตอบที่เหมือนเด็กเสียนี่กระไร แต่ท่านพ่อของเขากลับเชื่อ เพราะคำตอบถัดไปของเอเดรียน

         

    “ระหว่างที่หลงทางข้าก็พบว่าทหารยามหลายคนนอนสลบอยู่ข้าจึงเดินไล่ตามมาจนพบกับเจ้าชายอเล็กเซียที่โดนทำร้ายอยู่ครับ”

     

          “เข้าใจแล้ว อันที่จริงเจ้ามีความผิดฐานบุกรุกแต่เห็นว่าเพราะเจ้าช่วยชีวิตอเล็กเซียข้าจะให้อภัย เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ”

     

          อเล็กเซียได้แต่มองตามเอเดรียนที่ออกจากห้องอักษรไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย รู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายช่วยเหลือ แต่ไม่อาจไว้ใจคนที่ผลุบโผล่ไปมาโดยอ้างว่าหลงทางแบบเด็กๆได้ ต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ๆถึงได้โผล่มาในที่ต้องห้ามเช่นนี้  ไม่รู้ด้วยสาเหตุอันใดดังนั้นทั้งคืนจึงได้แต่เฝ้าคิดว่าเพราะเหตุใดเอเดรียนถึงมาโผล่ในจุดที่ใกล้กับห้องส่วนตัวของเขาและท่านพี่เช่นนี้



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


รู้สึกออกทะเลชอบกล



ตอนต่อไปเริ่มจิเขียนแล้ว



ตลบๆๆๆๆกลับเข้าที่



แต่เขียนออกมาอย่างนี้มันเกี่ยวกับเนื้อเรื่องนา



55555555



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ รักคนอ่านจุ๊บๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่2 30/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: hamony ที่ 31-10-2016 13:37:38
มาต่อไวนะจะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: hamony ที่ 31-10-2016 13:51:42
อยากอ่านต่อนะ น่าสนใจดีนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 31-10-2016 14:20:08
นี่เอเดรียนคิดจะหิ้วอเล็กเซียไปกินเงียบๆเหรอ?!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-10-2016 15:00:47
ใครส่งชายชุดดำมากันนะ
ดูท่าเอเดรียนจะเจองานหินนะ พ่อกับพี่หวงขนาดหนัก ฮา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 31-10-2016 15:19:52
ติดตามมม~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 31-10-2016 16:32:23
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 31-10-2016 19:25:45
น่าสนใจมากเลยครับรอติดตามตอนต่อไปอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-10-2016 20:53:19
โจรชุดดำเป็นใคร ใช่พวกที่จะมาโจมตีเมืองรึป่าว
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 31-10-2016 21:28:11
ชอบแนวนี้จังเลยยยยย

รออ่านตอนต่อไปนะครับ^^
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 31-10-2016 22:07:23
สนุกกกกกก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: jang_wang ที่ 31-10-2016 22:15:01
งื้ออออ ชอบแนวนี้  ชอบหมาป่า รอตอนต่อไปนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่3 31/10/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-11-2016 12:09:39
สนุกกกกรอรีบมาต่อนะ
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 01-11-2016 12:40:21
ตอนที่4
   
เอเดรียนรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างมีโชคที่ไล่ตามกลิ่นหอมของเจ้าชายอเล็กเซียไป หากค่ำคืนนี้เขาไม่ตัดสินใจทำเช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เขาเฝ้าคิดถึงบ้าง แค่จินตนาการภาพร่างเด็กหนุ่มนอนจมกองเลือดชายหนุ่มก็ปวดร้าวในอก
เอเดรียนไม่เคยจินตนาการถึงตัวเองที่เป็นเช่นนี้มาก่อน แทบไม่เคยคิดว่าเมื่อตนพบเจอคู่ฟ้าลิขิตจะเป็นเช่นไร พอได้มาประสบกับตัวเองบ้างแล้วถึงได้รู้รสชาติของความทรมานที่ผู้อื่นเคยได้รับ
   
ตอนที่เห็นอเล็กเซียพลาดท่า เป็นครั้งแรกเลยที่เขากระวนกระวายจนเกือบทำอะไรไม่ถูก หากเป็นโดยปกติแล้วคงจะไม่ลงมือฆ่านักฆ่าที่ลอบเข้ามา เป็นเรื่องปกติที่จะไว้ชีวิตเพื่อสืบหาความจริงหากคนร้ายไม่ชิงฆ่าตัวตายไปเสียก่อน

   แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้เสียทีเดียวว่านักฆ่านั้นถูกส่งมาจากที่ไหน
   
เอเดรียนมองดูเหรียญทองในมือที่ได้มาจากการแอบล้วงมานิดหน่อยจากร่างที่ตายสนิท เหรียญทองในมือเป็นเหรียญทองที่ใช้ทั่วไปในอาณาจักรไซปรัส
   
เอาทุกทางเลยสินะ
   
เอเดรียนแค่นยิ้มต่อแผนการทำลายอาณาจักรของพวกไซปรัส นอกจากจะบุกตีเมืองแล้วยังส่งคนมาฆ่าเชื้อพระวงศ์สร้างความระส่ำระสาย ต่อให้ถึงไม่สำเร็จก็ยังสร้างความหวาดกลัวให้ได้

   ป่านนี้แล้วราชากับรัชทายาทคงรู้ตัวแล้วว่านักฆ่าที่ว่าเป็นนักฆ่าของพวกไซปรัส
   
ในยามนี้นั้นเอเดรียนมีความคิดที่อยากจะกลับไปเฝ้ายามเพื่อปกป้องอเล็กเซียจากอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่เมื่อคิดว่าตอนนี้คนทั้งปราสาทคงจะตื่นตัวกันมากเป็นพิเศษ คงเป็นการยากที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง ช่วงนี้พวกองครักษ์คงเข้มงวดมากกว่าเดิมและวางยามแน่นหนาขึ้น เมื่อคิดถึงข้อเท็จจริงเช่นนี้จึงวางใจขึ้นมาได้บ้าง
   
เอเดรียนกลับไปยังห้องของตนโดยมีทหารในปราสาทนำทาง เมื่อถึงห้องเขายังไม่นอนในทันทีได้แต่ครุ่นคิดถึงใบหน้าของเอเล็กเซียจนสุดท้ายก็เผลอหลับไป
   
หลังจากการลอบสังหารจากไซปรัสเมื่อสามวันก่อน ตอนนี้ท่านพ่อและท่านพี่เห็นว่าอเล็กเซียต้องได้รับความคุ้มครองอย่างแน่นหนาดังนั้นไม่ว่าจะไปไหนเขาจึงมีเหล่าองครักษ์ชั้นเลิศตามติดเป็นเงาถึงสามคน
   
อึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะเข้าใจความคิดของท่านพ่อท่านพี่ แต่อเล็กเซียไม่เคยไปไหนมาไหนโดยมีคนตามติดเป็นเงาอย่างนี้แม้กระทั่งเวลาที่อยู่ในปราสาท เนื่องจากว่าแม้แต่ในปราสาทตอนนี้ยังกลายเป็นสถานที่ที่ไม่ปลอดภัยก็ได้แต่ต้องยอมทำใจยอมรับ
   
ช่วงนี้มีแต่เรื่องให้คิดจนปวดหัวไหนจะเรื่องนักฆ่าแล้วยังเรื่องของเอเดรียน เฟลเวเธอร์นั่นอีก อเล็กเซียนั้นยังติดใจเรื่องการปรากฏตัวอย่างผิดที่ผิดทางของชายผู้นั้นไม่เลิก คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ตก ดังนั้นจึงต้องหาคนที่จะปรึกษาได้
   
อเล็กเซียเดินทางไปหาไอแซคที่ที่ซ้อมรบพร้อมกับองครักษ์ที่ตามเป็นเงา เมื่อไปถึงที่นั้นเด็กหนุ่มพบว่าเจ้าชายรัชทายาทก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน แต่ไม่ได้เข้าไปทักทายกลับเดินตรงไปหาเพื่อนสนิททันที
   
“เจ้าพวกวูฟอะไรนั่นอาจจะคิดขโมยของมีค่าก็ได้นะ”  ไอแซคเริ่มสันนิษฐานหลังจากฟังเรื่องที่เอล็กเซียเล่ามา

   “จริงหรือ...เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ”
   
“ก็มันเห็นได้ชัดออกนี่นา พวกมันอยู่อย่างแร้นแค้นจะโลภมากก็ไม่แปลก” อเล็กเซียมีใจเอนเอียงเชื่อความคิดของไอแซค แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าจะไปดูถูกหรือใส่ความคนอื่นโดยไม่มีมูลไม่ได้เด็ดขาด

   “อะไรกันเจ้าทำหน้าเหมือนลังเล นี่เจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูดอย่างนั้นหรือ” ไอแซคเริ่มจะไม่พอใจ
   
“ข้าไม่ได้ไม่เชื่อเจ้า แต่ข้าไม่อยากปรักปรำใคร”
   
“แล้วข้าปรักปรำตรงไหน เจ้านั่นมันเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากขโมย” เริ่มจะเห็นด้วยเพิ่มมากขึ้น มันช่วยไม่ได้ที่เขาจะคิดเช่นนั้น การโผล่ผลุบแบบมีนัยยะเช่นนี้ไม่ใช่แค่เขาแน่ๆที่จะสงสัย ควรจะเตือนท่านพี่เอาไว้บ้างดีไหมนะ
   
ขณะที่คิดเช่นนั้นก็พบว่าในกลุ่มของทหารที่ซ้อมรบอยู่นั้นมีพวกวูฟปะปนอยู่มาก อเล็กเซียเห็นเอเดรียนซ้อมดาบอยู่กลับพวกทหารของอาณาจักร ท่านพี่ไม่เห็นบอกเขาเลยว่าจะนำพวกวูฟเข้ามาซ้อมรบร่วมด้วย

   “อเล็กเซียดูเจ้าพวกนั้นสิ” ไอแซคสะกิดเรียก อเล็กเซียมองไปตามปลายนิ้วชี้ของไอแซคไปพบกับพวกทหารที่เริ่มแข่งพนันชกมวยกัน

   “น่าสนุกเนอะ” อเล็กเซียได้แต่ยิ้มให้ไอแซค ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีความคิดพิเรนทร์อะไรอีก
   
“เจ้าจะเชื่อไหมว่าข้านะชกมวยเก่งมาก” อเล็กเซียนั้นไม่เคยเห็นไอแซคชกมวยมาก่อน ดังนั้นจึงอดแสดงสีหน้าแปลกใจออกไปไม่ได้
   
“ไม่เชื่อล่ะสิ” ไอแซคทำหน้างอ ชวนให้อเล็กเซียนึกอยากหยอกเย้าอีกฝ่ายดังนั้นจึงแกล้งดูถูกเพื่อนสนิทไปทั้งที่ใจไม่ได้คิดเช่นนั้น
   
“ข้ากลัวว่าเจ้าจะโดนเขาชกจนร้องไห้มากกว่านะสิ” ตอนนี้ไอแซคยิ้มกว้าง รอยยิ้มซุกซนเจ้าเล่ห์ของไอแซค
อเล็กเซียเห็นแล้วตงิดในใจแปลกๆ
   
“ถ้าข้าชนะคนพวกนั้นได้เจ้าจะให้รางวัลข้าไหมล่ะ”
   
“รางวัลอะไร เจ้าจะเอาอะไร” ชักไม่ขอบมาพากลเสียแล้ว แต่เอล็กเซียยังยิ้มให้ไอแซค
   
“อะไรก็ได้ตามที่ข้าขอไง” ไอแซคแสยะยิ้ม อเล็กเซียได้แต่ถอนหายใจ เรื่องสนุกแบบบ้าๆของไอแซคอีกอย่างหนึ่งเขาไม่เอาด้วยเด็ดขาด

   “ไม่เอาล่ะ คำขอของเจ้ามันกว้างเกินไป ข้าไม่เล่นด้วยดีกว่า” บอกไปตรงๆแต่ไอแซคไม่ยอมแพ้ยังยื่นข้อเสนอต่อไป

   “เอาเป็นจูบซักครั้งดีไหมล่ะ ถ้าข้าชนะเจ้าพวกนั้นเจ้าต้องมอบจูบให้ข้าเป็นรางวัลเหมือนที่เจ้าหญิงมอบจูบให้อัศวิน”

   “น่าสนุกดีนี่” อเล็กเซียและไอแซคพากันตกใจ เมื่อรัชทายาทธีโอปรากฏตัวแบบไม่ให้ซุ่มเสียง

   “ท่านพี่หมายความว่าอย่างไรที่ว่าสนุก” อเล็กเซียชักสังหรณ์ใจไม่ดี ไม่รู้ว่าท่านพี่คิดจะทำอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่ามาแอบฟังเรื่องที่เขาพูดกับไอแซคตั้งแต่เมื่อไหร่

   “เอาอย่างนี้ดีไหมน้องพี่จัดเป็นงานแข่งอย่างเป็นทางการไปเลยนอกจากจะได้จุมพิตจากเจ้ายังจะได้เหรียญทองเป็นรางวัลอีกพันเหรียญ”
   
“ท่านพี่ล้อเล่นอะไรครับ”

   “เอาน่าอเล็กเซีย เรื่องจูบนี่จูบทักทายตามธรรมเนียมไปก็ได้นี่ ที่สำคัญพี่อยากจะให้พวกทหารได้สนุกกันบ้างในเวลาตึงเครียดแบบนี้ เจ้าก็ถือว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงซักวันเถอะนะ” รัชทายาทตีมือที่ไหล่ของอเล็กเซียเบาๆพลางขยิบตาส่งมาให้ เด็กหนุ่มส่งสายตาค้อนควักใส่ไอแซคแต่อีกฝ่ายหารู้ตัวว่าผิดไม่
   
“เอาน่าอเล็กเซียแค่ข้าขนะก็พอใช่ไหมล่า”
   
“ใช่ๆๆ แค่ไอแซคชนะเท่านี้น้องพี่ก็ไม่ต้องหอมแก้มคนอื่นแล้วนะ” มองค้อนให้ท่านพี่ที่เอาแต่ใจด้วยอีกคน ต้องยอมตามเสียไม่ได้เพราะท่านพี่ตีกลองป่าวประกาศให้พวกทหารในค่ายมารวมตัวกัน หนึ่งในนั้นมีเอเดรียนกับพวกวูฟมารับฟังด้วย

   พวกทหารเริ่มจะคึกคักพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่อการแข่งชกมวยที่เจ้าชายรัชทายาทจัดขึ้น อเล็กเซียได้ยินเสียงโห่ฮาว่านอกจากจะได้เงินแล้วยังจะได้จูบจากเจ้าชาย ท่าทางสนุกสนานของพวกทหารที่เอาแต่เคร่งเครียดกันมาหลายเดือน ทำให้เด็กหนุ่มคิดว่าอาจจะดีก็ได้ที่ท่านพี่จัดงานแข่งเช่นนี้ขึ้นมา ทว่ายังตะขิดตะขวงใจอยู่เช่นเดิมที่ต้องมอบจูบให้ผู้ชนะ

   “ท่านพี่แค่หอมแก้มแค่นั้นนะครับ”

   “แน่นอน อันที่จริงแค่ให้เจ้าหอมแก้มเพื่อเป็นสีสันในการแข่งเท่านั้น ผู้ชายที่ไหนเขาจะอยากจูบอยากได้หอมจากผู้ชายกันล่ะ บางทีผู้ชนะอาจจะขอยกเลิกไม่ให้เจ้าหอมแก้มก็ได้นา” รัชทายาทเอ่ยขำๆ อเล็กเซียฟังแล้วเกิดความคล้อยตาม จริงอย่างที่ท่านพี่พูดผู้ชายที่ไหนจะอยากให้ผู้ชายด้วยกันมาหอมแก้ม ถึงแม้จะแค่จูบทักทายก็ตามเถอะ คิดแล้วก็ถอนหายใจต้องยอมทำตามที่ท่านพี่ขอแกมบังคับอย่างเสียไม่ได้

   การแข่งขันผ่านไปจนบ่ายแก่ๆ ตอนนี้พวกทหารดูจะสนุกสนานกับการแข่งขันอย่างมาก ส่วนอเล็กเซียนั้นนอกจากเอาใจช่วยให้ไอแซคชนะอย่างมุ่งมั่นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น และไอแซคก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ทว่าคู่แข่งคนสุดท้ายของไอแซคดันกลายมาเป็นเอเดรียน เฟลเวเธอร์เสียได้
   
อเล็กเซียนั้นแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าจะมีคนที่เก่งทั้งเชิงดาบและเชิงมวยอย่างเอเดรียนปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าเขา ยิ่งได้ดูการแข่งของเอเดรียนยิ่งหนักใจขึ้นทุกขณะ หากว่าไอแซคพ่ายแพ้ต่อเอเดรียนจริงเขาจำต้องหอมแก้มผู้ชายคนนั้น
   
พาลให้นึกไปถึงตอนที่ถูกปล้นจูบ ตอนนั้นถูกขโมยอย่างไม่เต็มใจ แค่นั้นก็ทำให้เขารู้สึกแย่พออยู่แล้ว ครั้งนี้กลับต้องเป็นคนมอบจูบให้คนผู้นั้นด้วยตัวเอง
   
ทำไมผู้ชายคนนั้นต้องเข้ามาแข่งชกมวยในครั้งนี้ด้วยนะ อยากได้เงินหรอกหรือ หรือว่า......อยากได้จูบจากเขา
คิดถึงตรงนี้ก็เกิดความละอายขึ้นมา ใบหน้าของเอล็กเซียแดงก่ำ บ้าที่สุดไม่มีเหตุผลที่อีกฝ่ายจะอยากได้จุมพิตจากเขาเสียหน่อย
   
แต่หากจะคิดดูให้ดี ตอนที่เสนอว่าจะให้สิ่งของแทนคำขอโทษ อีกฝ่ายก็ปล้นจูบเขาไปแทนสิ่งมีค่า เคยได้ยินมาว่าพวกขุนนางมักจะมีชายบำเรอคอยสนองความใคร่ นอกจากนั้นผู้คนบางส่วนก็มีไม่น้อยที่รักชอบเพศเดียวกัน หรือว่า
เอเดรียน เฟลเวเธอร์ก็เป็นคนแบบนั้น
   
ถ้าหากว่าคนผู้นั้นเกิดมีใจให้เขาจริงเขาคงต้องขอปฏิเสธ เขาไม่เคยคิดชอบพออีกฝ่ายเลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้นยังมีแต่ความไม่ไว้ใจต่อท่าทีหยาบคายที่อีกฝ่ายแสดงต่อเขา พอจุดประเด็นเรื่องรักๆใคร่ๆขึ้นมาก็พาลคิดไปว่าคืนนั้นที่เอเดรียนแอบเข้ามาในเขตต้องห้ามอาจจะเพราะแอบตามเขามาหรือเปล่า
   
หากเป็นเช่นนั้นจริงก็อันตรายนัก เรื่องเช่นนี้ไม่สามารถเอาไปปรึกษาท่านพี่ได้ แต่ถ้าเรื่องที่คิดอยู่นี้เป็นการคิดไปเอง เห็นทีว่านอกจากจะกลายเป็นการใส่ร้ายยังมีแต่ที่จะต้องเสียหน้าด้วยความอับอาย

   เสียงระฆังดังขึ้นเป็นการเริ่มต้นการชก รู้ตัวอีกทีไอแซคกับเอเดรียนก็ขึ้นชกเสียแล้ว ไอแซคนั้นอาศัยที่ตัวเองว่องไวกว่าออกท่วงท่ามากมายทั้งยังหลบซ้ายป่ายขวาอย่างคล่องแคล่ว หลบการโจมตีของเอเดรียนได้หลายหมัด
   
น่าแปลกตอนที่ทะเลาะกันครั้งแรกกับไอแซคนั้นเอเดรียนเป็นคนที่ว่องไวมากแม้จะตัวโตกว่าคนปกติ แต่ตอนนี้กลับดูเชื่องช้ากว่าเดิม หรือว่าคนผู้นี้อาจจะเหนื่อยต่อการชกต่อเนื่องเสียแล้วกระมัง
   
เมื่อเห็นไอแซครัวหมัดอยู่ฝ่ายเดียวจนเอเดรียนได้แต่ปัดป้องคุมเชิง อเล็กเซียก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ครั้งนี้เด็กหนุ่มเดาว่าไอแซคต้องชนะเอเดรียนอย่างแน่นอน ทว่าจังหวะที่ไอแซคโถมตัวเข้าชกเต็มหมัด คนถูกชกกลับโยกหลบหมัดก่อนจะสวนหมัดเข้าที่แก้มของไอแซคเข้าเต็มๆ ไอแซคเซถลาลงพื้นในท่าจับกบ อเล็กเซียหน้าซีดเผือดไม่คิดว่าการต่อสู้จะจบเร็วแค่นี้
   
“ไอแซคลุกขึ้นยืนสิ” อเล็กเซียตะโกนเชียร์ โดยไม่มีใครคาดคิด ไอแซคที่ลุกขึ้นพรวดซัดเอาทรายเข้าตาของ
เอเดรียน เด็กหนุ่มเดาว่าเอเดรียนนั้นมองไม่เห็นแน่ๆเพราะทรายเขาตาไปเต็มๆ
   
“เฮ้อถึงแม้จะเป็นกลยุทธอย่างหนึ่งในการต่อสู้ก็เถอะ...แต่ก็นะพี่รู้สึกขัดใจอย่างไรไม่รู้”
   
ไม่แค่ท่านพี่เท่านั้นที่ขัดอกขัดใจ อเล็กเซียเองก็รู้สึกขัดใจเช่นกัน ในการประลองที่ยึดถือความขาวสะอาดแบบนี้ แต่ในเมื่อไม่มีกติกาห้ามไว้การกระทำของไอแซคจึงถือว่าไม่ผิด ตอนนี้เด็กหนุ่มเริ่มจะเห็นใจเอเดรียนขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน
   
กระนั้นเหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่ใครๆคิด ทุกคนที่คิดว่าไอแซคต้องชนะแน่กลับต้องส่งเสียงฮือฮาเพราะคนที่ถูกจัดการจนลงไปกองกลับไม่ใช่คนที่มองไม่เห็น เอเดรียนนั้นถึงจะตามมืดบอดก็ยังตอบโต้หลบหลีกว่องไวมากเสียกว่าตอนลืมตาได้เสียอีก หมัดขวาที่ควงสว่านจนดูน่ากลัวนั้นถูกกระแทกเข้าที่หน้าท้องและใบหน้าของไอแซคจนจุกล้มลงไปนอนสลบเหมือดอย่างสวยงาม
   
เสียงเอาใจช่วยแซ่ซ้องยินดีดังกระหึ่มไปทั่ว พวกทหารรวมทั้งพวกวูฟต่างเข้าไปแสดงความยินดีต่อการชนะของเอเดรียน หัวใจของอเล็กเซียเต้นตุบๆเกิดความรู้สึกแปลกๆบางอย่างที่อธิบายไม่ได้

   ผู้ชายคนนี้ดูดีกว่าที่เขาคิดไว้มาก ในตอนที่ชกชนะด้วยดวงตาที่มองไม่เห็นได้นั้น อเล็กเซียถึงกับชื่นชมและยอมรับในความเก่งกาจของชายหนุ่ม คนผู้นี้สมควรได้รับรางวัล ถึงแม้จะกระดากที่ต้องหอมแก้มก็เถอะ แต่จะถือว่าเป็นการให้รางวัลที่อีกฝ่ายได้ให้เขาเห็นการต่อสู้ที่งดงามซึ่งไม่ได้มีได้บ่อยครั้ง
   
“เอ้าๆ เอเดรียนมารับรางวัลเสียสิ” รัชทายาทธีโอมอบรางวัลเป็นเหรียญทองพันเหรียญให้เอเดรียนรับไป และยังไม่ลืมถามถึงเรื่องจุมพิต
   
“ว่าไงเอเดรียนอยากจะได้จุมพิตจากเจ้าชายหรือไม่” เจ้าชายรัชทายาทยิ้มกริ่ม อเล็กเซียสูดลมหายเจ้าเข้าปอดรอคอยคำตอบจากเอเดรียน
   
“การได้จูบจากเจ้าชายถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่งของข้าครับ”  เจ้าชายรัชทายาทฟังแล้วก็หัวเราะ
   
ท่านพี่คงเห็นเป็นเรื่องขำขันและสนุก ไม่เพียงแค่ท่านพี่พวกทหารคนอื่นก็เห็นเป็นเรื่องสนุกด้วยเช่นกัน ตอนนี้ท่านพี่กวักมือเรียกเขา อเล็กเซียเดินตรงไปหาเอเดรียน มีความลังเลว่าจะหอมที่แก้มซ้ายหรือขวาดี สุดท้ายก็เลือกที่แก้มขวาแล้วจูบลงไปแผ่วๆอย่างรวดเร็ว
   
ยิ้ม เอเดรียน เฟลเวอเธอร์ส่งยิ้มหวานๆมาให้เขา ทำเอาหัวใจของอเล็กเซียสะดุดลงชั่วแวบหนึ่ง เหตุใดคนผู้นี้ต้องยิ้มเช่นนี้ให้เขาด้วยนะ
   
“เอ้าในเมื่อเจ้าได้รับรางวัลครบแล้วนะเอเดรียน ข้ามีรางวัลส่วนตัวจากข้า เพราะข้าประทับใจในฝีมือของเจ้ามาก ข้าจะจัดงานเลี้ยงเหล้าให้พวกเจ้ากับคนในเผ่าแล้วกันนะ...ส่วนพวกทหารคนอื่นๆที่ร่วมแข่งขันไปรับเหล้าหนึ่งขวดจากคลังของปราสาทได้บอกว่าเป็นคำสั่งของข้า”
   
สิ้นคำของท่านพี่เหล่าทหารก็โห่ร้องด้วยความชอบใจ อเล็กเซียปลีกตัวไปเพื่อไปดูอาการของไอแซคที่นอนสลบอยู่ด้วยความเป็นห่วง

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


จะบอกว่าดีใจโครต คนเม้นเยอะมากอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช็ดน้ำตาแป๊บ

ตอนต่อไปกำลังเขียนอยู่ค่ะ แต่ว่าพรุ่งนี้ติดธุระคงงดลงหนึ่งวัน

เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 01-11-2016 13:37:43
รอตอนต่อไปอย่างขยันขันแข็ง

หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 01-11-2016 14:17:39
ทำไมเขินน>< :-[
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: kajeaw ที่ 01-11-2016 15:45:51
น่าติดตามมากเลยครับ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-11-2016 19:27:42
    :impress2: :impress2:   ตอนแรกลังเลมากว่าจะอ่านดีไหมถึงแม้ว่าจะเป็นแนวที่ชอบมากก็เถอะแต่กลัวคนแต่งทิ้งช่วงนานจะทำให้การอ่านไม่สนุกเพราะว่าเป็นนิยายที่พึ่งลงได้ไม่กี่ตอนแต่พอเห็นว่าคนแต่งขยันลงเเบบนี้แล้วดีใจมากๆๆๆๆเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะสู้ๆๆจร้ารออ่านจร้าา :mew1: :mew1:
                                                       :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 01-11-2016 20:45:54
สนุกค่ะ ไอแซคชอบอเล็กเซียหรือเปล่าาา ทำไมอยากได้จูบจัง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-11-2016 21:22:55
แอบไม่ชอบไอแซค
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 01-11-2016 21:54:47
อเล็กเซียน่ารักก

รอตอนต่อไปอยู่นะจ้ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 01-11-2016 23:03:00
พ่อหมาป่าไม่พลาดจูบ~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 02-11-2016 01:51:22
รอค่าาาา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-11-2016 07:39:09
น่ารักๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 02-11-2016 10:10:22
หลายๆ ครั้งก็แอบรู้สึกว่าไอแซคมีนิสัยเด็กเหลือเกิน....เฮ้อออออ

ชูป้ายไฟเอเดรียน ฮาาาา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่4 1/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 02-11-2016 16:31:32
 :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่5 หน้า2 3/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 03-11-2016 13:10:33
ตอนที่5

           

   สำหรับเอเดรียนแล้วรางวัลเพียงแค่หอมแก้มแผ่วๆนั้นยังไม่เพียงพอ แต่ในเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนมากมายชายหนุ่มจึงไม่สามารถทำตามใจชอบได้

           

    หลังจากได้รับรางวัลมาแล้ว เจ้าชายรัชทายาทได้จัดงานเลี้ยงเล็กๆให้เขากับคนในเผ่า ตอนนี้เอเดรียนนั่งดื่มเหล้าร่วมโต๊ะกับรัชทายาท พูดคุยเรื่องทั่วไปรวมไปถึงเรื่องสงครามที่ใกล้จะเกิดขึ้น

           

   เอเดรียนยอมรับว่าระหว่างที่พูดคุยกับรัชทายาทภายในใจก็เอาแต่ถวิลหาอเล็กเซีย อยากจะเข้าไปสนิทชิดใกล้กันให้มากกว่านี้ หรือถ้าเป็นไปได้อยากจะกกกอดเอาไว้แนบอกอย่างที่คนรักเขาทำกัน

           

   แต่ไม่ใช่ไม่รู้ว่าอเล็กเซียนั้นมองตนด้วยสายตาเช่นไร ความคลางแคลงที่สื่อชัดจากดวงตาคู่สวยนั้น บางครั้งก็ทำให้ชายหนุ่มนึกอยากลงโทษด้วยการบดเบียดจูบ แค่คิดว่าอเล็กเซียจะต่อต้านแบบไหนภายในใจก็ร้อนระอุด้วยเพลิงแห่งความปรารถนา

           

   คิดอยู่ว่าตนเองนั้นช่างเป็นคนที่ป่าเถื่อน ทั้งๆที่ใจหนึ่งอยากจะอ่อนโยนด้วยการเข้าหาแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่อีกใจก็อยากจะฉุดคร่าย่ำยีทำตามสัญชาติญาณของสัตว์ป่า ที่เป็นเช่นนั้นอาจเป็นเพราะมันอยู่ในสายเลือด บรรพบุรุษตามตำนานของเผ่าวูฟนั้นว่ากันว่าเป็นนักรบป่าเถื่อนที่ต้องสาป นักรบป่าเถื่อนนั้นคร่าชีวิตผู้คนไปมากจึงถูกสาปจากพระเจ้าให้ต้องใช้ชีวิตเยี่ยงเดรัจฉาน

           

   การที่ได้คุยกับเจ้าชายรัชทายาทที่เข้าขากันในยามนี้ก็นับว่าสนุกอยู่ แต่เมื่อได้รู้จากรัชทายาทว่าอีกเดี๋ยว

อเล็กเซียจะตามมา ความคิดของเอเดรียนก็จดจ่อกับคนที่เฝ้าปรารถนาแทบทุกขณะจิต อยากให้มาปรากฏตัวตรงหน้าเขาโดยเร็ว กลิ่นหอมหวานอันรุนแรงขึ้นทุกทีนั้นบอกชัดว่าอเล็กเซียใกล้เข้ามาทุกที

           

    “อ้าว อเล็กเซียมาแล้วหรือ...มานี่สิน้องพี่” เจ้าชายรัชทายาทกวักมือเรียกให้เด็กหนุ่มเข้ามาหา ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ยังคงงดงามเสมอ ไม่สิยิ่งมองยิ่งงดงามจนแทบลืมหายใจ สำหรับเอเดรียนนั้นอเล็กเซียไม่ได้งามแค่รูปร่างหน้าตา แต่กริยามารยาทท่าทางการเดินนั่งยังงามสง่าสมกับที่เป็นเจ้าชาย

           

   “มามามานั่งตรงนี้” อเล็กเซียนั่งลงตรงจุดที่เจ้าชายรัชทายาทสั่ง ดวงตาคู่สวยนั้นมองมาที่เขา หากแต่พอสบตากลับไปเด็กหนุ่มก็แสร้งทำเมินเหมือนเขาไม่มีตัวตน

             

อยากจะพูดคุยกับอเล็กเซียบ้างแต่เจ้าชายรัชทายาทก็ชวนเขาคุยไม่หยุด ตอนนี้เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาเล็กๆที่ไม่สามารถทำตามที่ใจปรารถนาได้ อเล็กเซียนั้นไม่ยอมมองหน้าเขาเลยซักนิดเดียว เด็กหนุ่มทำเพียงแค่จิบเหล้าทีละนิดคอยฟังสิ่งที่เขากับรัชทายาทพูดเงียบๆ ไม่แม้แต่จะพูดแทรกในเวลาที่พวกเขาพูด ดูแล้วช่างเป็นเด็กที่มารยาท

           

   ในตอนที่เจ้าชายรัชทายาทพูดเรื่องขำขันเกี่ยวกับขุนนางเฒ่าจอมเปิ่นอย่างเพลิดเพลิน พลทหารผู้หนึ่งก็เข้ามากระซิบที่ข้างหู เจ้าชายรัชทายาทจึงขอตัวออกไปด้านนอกชั่วครู่เปิดโอกาสให้เขากับเอล็กเซียได้อยู่กันตามลำพัง

             

  “ท่านดื่มเหล้าได้เยอะกว่าที่คิดนะเจ้าชาย” ชวนคุยด้วยท่าทีสบายๆ อเล็กเซียพอถูกทักก็สะดุ้งตัวเบาๆ เด็กหนุ่มมองมาที่เขามีท่าที่ลังเลอยู่ในที

             

  “บางทีเพราะต้องเข้าวงสังคมบ่อยละมั้งจึงทำให้ข้าดื่มเหล้าได้มากกว่าที่ใครๆคิด” กล่าวจบก็ทำนิ่งเฉยอีกครั้ง เข้าใจว่าเป็นเพราะเขากับเจ้าชายยังไม่สนิทกัน แต่ก็อดปวดแปลบภายในอกไม่ได้

           

   “นี่...ท่านพอจะตอบคำถามของข้าได้หรือไม่” เอเดรียนคอยฟังคำถามอย่างใจจดใจจ่อ ในที่สุดเจ้าชายคนงามก็เป็นฝ่ายพูดคุยกับเขาด้วยตัวเองบ้าง หากว่าเขาสามารถตอบได้เขาจะตอบคำถามให้ทุกเรื่อง

             

  “เมื่อหลายเดือนก่อนบังเอิญข้ากับเพื่อนเข้าไปในป่าดำ....แล้ว....”  เอเดรียนเข้าใจจุดประสงค์ของอเล็กเซียในทันที คงต้องการจะถามถึงตัวเขาในร่างหมาป่ายักษ์ ชายหนุ่มรอให้เด็กหนุ่มเอ่ยถามให้จบแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ถามออกมาเสียที เจ้าชายของเขานั้นมีแต่ความลังเลในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

           

    “ในป่าดำนั้นค่อนข้างอันตราย เจ้าชายไม่ได้บังเอิญเจอหมีเข้าทำร้ายหรอกใช่หรือไม่” จงใจพูดจาบอกความจริงออกไปกลายๆ ถึงอยากจะเอาเรื่องที่ตนเองนั้นช่วยชีวิตอีกฝ่ายเอาไว้มาพูดด้วยเพื่อจะได้เข้าหาโดยง่าย แต่คิดดูให้ดีแล้ว

เอเดรียนเดาเอาว่า ถึงอเล็กเซียจะรู้ความจริงว่าเขาเป็นคนช่วย แต่ด้วยความคิดต่อต้านลึกๆที่อีกฝ่ายมีอยู่อาจไม่ช่วยให้เขาเข้ากับเด็กหนุ่มได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงเกิดความท้อแท้เหนื่อยใจอยู่ชั่วครู่ แต่ไม่นานนักก็กลับมาฮึกเหิมได้อีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าตกอกตกใจของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มก้มหน้าครุ่นคิดอยู่หลายอึดใจทั้งยังมองมาที่เขาเป็นระยะๆ

           

    หึ คิดเสียให้พอเถอะเจ้าชาย หากเจ้าคิดให้มากอีกหน่อยคงจะเดาได้ว่าคนที่ช่วยเจ้านั้นคือตัวข้า ไม่รู้ว่าตัวเองยิ้มแบบไหนออกไปในตอนนี้ แต่คาดว่าน่าจะเป็นยิ้มร้ายๆแบบสัตว์ป่า เพราะปฏิกิริยาของอเล็กเซียที่แสดงออกมาชัดเจนในตอนนี้นั้นคือขุ่นข้องใจจนเห็นได้ชัด

           

   “ไม่ต้องให้ท่านมาเตือนข้าก็รู้ดีอยู่แล้ว” อเล็กเซียเมินหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางหยิ่งยโสก้ำกึ่งระหว่างความน่าเอ็นดูกับกระตุ้นความป่าเถื่อนในตัวเขา ชั่ววูบหนึ่งอยากจะกระชากเด็กหนุ่มเข้ามาบดเบียดริมฝีปากก่อนจะบอกให้รู้ว่าผู้ที่ช่วยชีวิตเจ้าไว้นั้นคือตัวเขาเองไม่ใช่ใครอื่นใด

         

      แต่ยังระงับตัวเองเอาไว้ได้อยู่ ได้แต่เตือนตัวเองเอาไว้ให้สงบใจ มันไม่ใช่ความผิดของอเล็กเซียที่ไม่อาจไว้ใจชายแปลกหน้าที่พบกันแค่ไม่กี่ครั้งแถมเจอหน้าแต่ละครั้งยังปล้นจูบไปอีก กระนั้นท่าทางยโสถือตัวอย่างนี้มันชวนให้จิตใจด้านมืดของเขาร่ำร้อง หากได้ปราบพยศของเจ้าชายน้อยนี่ได้มันจะดีซักแค่ไหนกันนะ

         

     อึดอัดใจเหลือเกินที่ต้องนั่งอยู่ตามลำพังกับเอเดรียน เฟลเวเธอร์ ยิ่งอีกฝ่ายส่งรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์มาให้ยิ่งทำให้เกิดความไม่สบายใจ

         

     เขาไม่น่าพลาดพูดถึงเรื่องที่ป่าดำออกไปเลย ในตอนนี้อีกฝ่ายคงเดาได้แล้วว่าเขาเข้าไปเที่ยวซนโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำหน้าเจ้าเล่ห์ชวนให้โมโหอย่างนี้

         

     อเล็กเซียนั้นกลัวว่าชายหนุ่มจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องท่านพี่ธีโอ ดังนั้นจึงพยายามคิดหาวิธีมากมายเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายพูดออกไป ยิ่งคิดก็ยิ่งกรุ่นโกรธ คิดไม่พอใจที่เอเดรียน เฟลเวเธอร์เป็นคนขี้ฟ้องทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้กระทำลงไปแม้แต่นิดเดียว

         

     “ท่านคงจะไม่เอาเรื่องที่ข้าพูดกับท่านเมื่อครู่ไปบอกให้คนอื่นฟังใช่หรือไม่” อเล็กเซียเชิดหน้าตั้งคำถาม เด็กหนุ่มพยายามทำท่าท่างให้เหนือกว่าอีกฝ่ายเข้าไว้เพื่อปิดบังความกลัวในใจ

           

    “พูดกับใครล่ะ...อ้อ...ท่านคงกลัวว้าขาจะเอาไปฟ้องรัชทายาทสินะ” อีกฝ่ายเผยรอยยิ้มที่ดูร้ายกาจยิ่งกว่าเดิม อเล็กเซียรู้สึกเหมือนตอนนี้ตนเองได้ก้าวเท้าร่วงลงไปในหลุมลึกอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

           

   “หากเจ้าพูดออกไปอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

           

   “ท่านจะทำอะไรข้า แทนที่ท่านจะคิดทำร้ายข้าสู้ยื่นสินบนให้ข้าดีกว่าหรือไม่”

           

   อเล็กเซียงงงวยหนักเมื่อถูกเรียกหาสินบน เด็กหนุ่มไม่อยากถูกท่านพ่อกักบริเวณและโดนท่านพี่ตำหนิ แต่ก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองให้ไม่ได้ ลอบทำร้ายเพื่อสั่งสอน สิ่งนี้ผุดขึ้นมาในความคิดชั่วเสี้ยว แต่ก็เกิดความละอายทันทีที่คิดอะไรร้ายกาจเช่นนั้น

           

   แต่มันก็สมแล้วกับเจ้าผู้ชายที่คิดเอาเรื่องความลับมาเล่นงานผู้อื่นไม่ใช่หรือ อเล็กเซียหาข้ออ้างให้แก่ตัวเอง ตอนนี้จิตใจสองฝั่งโต้เถียงกันอยู่อย่างดุเดือด สุดท้ายเมื่อสงบสติอารมณ์ได้จึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นจิตใจไม่เหี้ยมพอที่จะสั่งให้คนไปลอบทำร้ายใครได้

             

  “เจ้าต้องการอะไรเป็นค่าปิดปาก” ถามด้วยเสียงที่ค่อนข้างแข็งกร้าว

           

   “ให้ข้าได้หอมแก้มท่านซักครั้งเป็นอย่างไร”

           

   ดวงตาของอเล็กเซียเบิกกว้าง เหตุใดเอเดรียน เฟลเวเธอร์ถึงต้องเรียกร้องจูบจากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า อีกฝ่ายต้องการเหยียดหยามเขาหรือว่ามีความปรารถนาในตัวเขาอย่างนั้นหรือ ยิ่งคิดโมโห เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืดพรวดพราด ใบหน้างดงามนั้นส่อชัดว่าโกรธเกรี้ยวแค่ไหน

             

“เจ้าอยากจะเอาเรื่องของข้าไปพูดก็ตามใจ แต่อย่าหวังว่าข้าจะยอมให้เจ้าล่วงเกินข้าได้” กล่าวจบอเล็กเซียก็ผลุนผลันออกจากสถานที่นั้น ระหว่างนั้นที่ด้านนอกเขาปะเข้ากับท่านพี่ที่กำลังจะกลับเข้าไปด้านใน อเล็กเซียปรับสีหน้าแทบไม่ทัน

         

     “อ้าวจะกลับแล้วหรืออเล็กเซีย”

           

   “ครับท่านพี่”

           

   “เป็นอะไรไปเหมือนเจ้าโกรธอะไรอยู่” พอถูกถามก็อ้าปากจะบอกออกไป ขอเพียงพูดออกไปคนป่าเถื่อนนั่นจะต้องถูกลงโทษอย่างสาสม ทว่าแค่คิดว่าเมื่อพบหน้ากันอีกครั้งเอเดรียน เฟลเวเธอร์อาจจะยิ้มเยาะดูถูกว่าเขาเป็นเด็กขี้ฟ้องแค่คิดถึงรอยยิ้มเย้ยหยันก็กรุ่นโกรธอย่างบอกไม่ถูก จึงตัดสินใจว่าตราบใดที่คนผู้นั้นไม่เอาเรื่องของเขาไปปูดเขาก็จะเก็บเรื่องที่อีกฝ่ายตั้งใจล่วงเกินเขาเอาไว้เช่นกัน

           

   อเล็กเซียลำพองใจอย่างบอกไม่ถูก หากกล้าทำให้เขาเดือดร้อนอีกฝ่ายก็ต้องเดือดร้อนด้วยเช่นกันอย่าได้คิดว่าจะหนีพ้น เด็กหนุ่มเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เอเดรียน เฟลเวเธอร์อย่าหวังว่าจะทำให้เขาเดือดร้อนได้ฝ่ายเดียวเพราะตอนนี้ตัวเขาเองก็มีอาวุธที่จะจัดการอีกฝ่ายได้เหมือนกัน

           

   ก็ได้แต่หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่โง่บอกความลับของเขาออกไป ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะต้องพูดเรื่องที่ชายหนุ่มเอาความลับของเขามาข่มขู่เช่นกัน

           

    เช้าวันถัดมาอเล็กเซียไปเยี่ยมไอแซคที่คฤหาสน์ตระกูลบาตันแต่เช้าตรู่ เพื่อนสนิทของเขายังคงสภาพไม่ดีนัก แต่ก็ลุกมาเดินเหินได้อย่างปกติ ทำให้เด็กหนุ่มคลายความกังวลไปได้มาก

           

   “เมื่อคืนได้ข่าวว่ารัชทายาทเลี้ยงเหล้าพวกมันด้วยสินะ....” ไอแซคถามด้วยสีหน้าที่ไม่สู้จะเป็นมิตรนัก

         

      “ไอ้เจ้าวูฟชั้นต่ำนั่นมันเป็นอย่างไร คงมีความสุขดีสิ”

           

   สัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่ไอแซคมีต่อเอเดรียน อเล็กเซียไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะทั้งคู่ได้เข้าปะทะกันหลายครั้งและจบด้วยความพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิงของไอแซค

         

     “เจ้าก็คิดว่าข้าฝีมืออ่อนด้อยกว่ามันใช่หรือไม่” ถูกมองมาด้วยแววตากดดัน อเล็กเซียรู้ดีว่าไอแซคนั้นนอกจากเป็นคนขี้โมโหยังเจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นนิสัย แต่ไม่เคยเห็นเพื่อนสนิทพูดถึงใครด้วยใบหน้าชิงชังเท่านี้

           

    “เจ้าจูบมันด้วยล่ะสิ”

         

     “ก็ตามกติกาเท่านั้น” ไอแซคแยกเขี้ยวทันที่ที่ได้รับคำตอบ อเล็กเซียชักไม่เข้าใจเพื่อนสนิทของเขาเข้าไปทุกทีแล้ว แต่ชั่ววูบหนึ่งคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายอาจจะมีใจให้ตนก็เป็นได้

           

   “โธ่เว้ย” จู่ๆก็อาละวาดกวาดของจากโต๊ะใกล้ๆร่วงลงไปบนพื้นจนหมด ไอแซคเดินงุ่นงานไปมาภายในห้อง มองหาที่ระบายอารมณ์

         

     “ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อนนะไอแซค ไว้เจ้าอารมณ์ดีแล้วเราค่อยมาคุยกัน” รีบปลีกตัวออกมาเพราะไม่อยากเห็นภาพไม่น่าดูของเพื่อนสนิทอีกต่อไป อเล็กเซียได้ยินเสียงขว้างปาข้าวของในห้องดังไล่หลังมา เด็กหนุ่มตัดสินใจว่าระยะนี้จะปล่อยให้ไอแซคอยู่เพียงลำพังน่าจะดีกว่า เมื่อตัดสินใจได้จึงเดินทางกลับปราสาทพร้อมกับเหล่าองครักษ์ส่วนตัว





...



                                             กำลังเขียนตอนต่อไปอยู่ค่ะ รู้สึกว่าเขียนยากเหลือเกิน แถมวันหนึ่งเขียนได้แค่ตอนละสี่หน้าเอง



แต่มันเยอะแล้วสำหรับเรานะ5555555555



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ



ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่5 หน้า2 3/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-11-2016 14:15:08
ก็คิดอยู่ว่าไอแซคชอบเพื่อนตัวเองหรือเปล่านี่
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่5 หน้า2 3/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-11-2016 22:47:40
มาให้กำลังใจจ้า

เรื่องสนุกน่าสนใจมากๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่5 หน้า2 3/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 04-11-2016 02:39:05
โถ่ พ่อคนงามของหมาป่า~ :hao4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่5 หน้า2 3/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-11-2016 07:36:32
ไอแซคทำไมขี้โมโหจัง ทำลายข้าวของอีก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่5 หน้า2 3/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-11-2016 10:21:25
 :L1: 
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่5 หน้า2 3/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 04-11-2016 11:22:40
นี่คือไอแซคแอบชอบเพื่อนตัวเอง?

การแสดงออกเด็กน้อยมากอะ โถๆๆๆๆ พ่อหนุ่มน้อย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่6 หน้า2 6/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 06-11-2016 12:26:26
ตอนที่6

             

ในที่สุดกองทัพของอาณาจักรก็พร้อมเข้าสู่สนามรบ อเล็กเซียตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อตามส่งขบวนทหารและรัชทายาทจนถึงที่หน้าประตูเมือง

           

    “ท่านพี่ขอให้กลับมาอย่างปลอดภัยนะครับ” อวยพรขณะอยู่บนหลังม้า เด็กหนุ่มบังคับให้เจ้าเชอรีนเยื้อย่างตามเคียงข้างม้าของท่านพี่ ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองเอเดรียนที่บังคับม้าเดินเคียงคู่ท่านพี่ราวกับเป็นเพื่อนสนิท

           

   คนผู้นี้ได้รับความไว้วางใจจากท่านพี่จนถึงขนาดได้มาอยู่หัวขบวนเคียงข้างกับท่านพี่เชียวหรือ?

         

     อเล็กเซียมองไล่ไปตามขบวนแถวของกองทัพตามลำดับ ที่เดินแถวตามหลังท่านพี่คือเหล่าทหารนายกองที่สนิท จำนวนหนึ่ง ตามด้วยพวกชนเผ่าวูฟที่มีจำนวนมาก อเล็กเซียสามารถแยกพวกวูฟออกจากทหารในกองทัพของตนเองได้เพราะพวกวูฟไม่ได้แต่งกายตามแบบทหารของอาณาจักร ถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมองหาไอแซค

         

     คิดถึงไอแซคแล้วก็ลำบากใจอย่างที่สุด ช่วงหลายอาทิตย์มานี้เพื่อนสนิทของเขาเอาแต่งอนหลบหน้า พอเจอหน้ากันก็เอาแต่เมินจนไม่รู้ว่าจะเอาใจอย่างไร เนื่องจากอเล็กเซียนั้นไม่รู้สาเหตุที่อีกฝ่ายโกรธจึงยังงุนงงไม่หายตอนนี้ได้แต่ลอบมองไปแล้วถอนหายใจเพียงเท่านั้น

           

   “เจ้าส่งพี่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วอเล็กเซีย”

           

   “เข้าใจแล้วครับ” เพิ่งจะถึงแค่หน้าประตูเมืองเท่านั้นแต่ก็ถูกบอกให้กลับไป อเล็กเซียอยากจะไปส่งท่านพี่อีกหน่อย แต่ก็คร้านที่จะเอาแต่ใจ ตอนที่บังคับเจ้าเชอรีนให้วกกลับปราสาทก็เผลอไปสบตาเข้ากับเอเดรียน เฟลเวเธอร์เข้าจนได้อีกฝ่ายส่งรอยยิ้มหวานๆมาให้เขา

           

  “เจ้าเองก็รักษาตัวด้วยนะ” อวยพรไปแบบลอยๆใครอยากรับหรือไม่อยากรับก็แล้วแต่ หลังจากทำเช่นนั้นแล้ว

อเล็กเซียก็ควบเจ้าเชอรีนมุ่งหน้ากลับสู่ปราสาท

           

   วันนี้ทั้งวันนอกจากในเมืองแล้วในปราสาทยังเต็มไปด้วยความกดดัน ผู้คนในปราสาทต่างเอาหัวข้อเรื่องสงครามพวกทหารที่ไปรบหรือแม้แต่เรื่องของอาณาจักรไซปรัสมาพูดซุบซิบ อเล็กเซียไม่อยากให้ผู้คนเอาแต่เครียดกันแบบนี้เลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ ยิ่งได้ยินมาว่ากองทัพของไซปรัสตั้งค่ายอยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงก็ยิ่งเกิดความวิตก ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นพวกขุนนางหรือแม้แต่ท่านพ่อก็ยังแสดงออกถึงความตึงเครียดผ่านทางสีหน้า

         

     หากว่าเป็นยุคสมัยที่ท่านปู่ยังอยู่ อเล็กเซียคิดว่าอาณาจักรอื่นคงไม่กล้ามารุกรานเช่นนี้ ท่านปู่ของเขาอดีตราชานามว่าอเล็กซิส ได้ฉายาว่าเป็นกษัตริย์นักรบที่ขึ้นชื่อลือนามไปทั่ว แต่เมื่อมาถึงยุคของท่านพ่อ ท่านพ่อราชาธีโอดอร์ไม่เก่งในเรื่องการรบเอาเสียเลย ท่านพ่อเก่งเรื่องการปกครองมากกว่า ดังนั้นอาณาจักรจึงสมบูรณ์และมั่งคั่งชวนให้อาณาจักรอื่นเกิดความสนใจ

         

      แต่กระนั้นหลายปีมานี้ก็ไม่มีผู้ใดกล้ารุกรานอาณาจักรของพวกเขา ไม่รู้ว่าไซปรัสคิดอย่างไรจึงส่งกองทัพมาโจมตีเราในช่วงเวลาที่สงบสุขอย่างนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งจิตใจไม่สงบ ตอนนี้อยากจะพูดคุยกับใครซักคน ท่านพี่หรือไอแซคเองก็เข้าสู่สนามรบไปแล้ว ดังนั้นในยามดึกถึงเพียงนี้จึงมุ่งหน้าไปหาท่านพ่อที่ห้องอักษรหวังว่าจะพูดจาตามประสาพ่อลูกเพื่อผ่อนคล่ายความเครียด

       

       “ท่านพ่ออยู่ในห้องใช่หรือไม่”

         

      “ครับเจ้าชาย” ทหารองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูถึงสี่นายตอบ อเล็กเซียแตะมือทีบานประตูหมายจะผลักเข้าไปตอนนั้นก็ได้ยินเสียงของร่วงหล่นจากภายในห้องดังเคร้ง เด็กหนุ่มรีบเปิดประตูเข้าไปดูภายในทันที

           

    “ท่านพ่อ” เมื่อเข้าไปด้านในอเล็กเซียพบว่าท่านพ่อถูกนางกำนัลผู้หนึ่งทำร้าย ท่านพ่อบาดเจ็บที่แขนเนื่องจากโดนของมีคมบาด ไม่ไกลกันนักนางกำนัลถือมีดสั้นเปื้อนเลือดเอาไว้ในมือ ใบหน้าของนางกำนัลผู้นั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูแล้วช่างวิปลาส

       

       อเล็กเซียชักดาบหมายจัดการนางกำนัลผู้ลอบทำร้ายราชาของตนทันที ทว่านางกำนัลผู้นั้นก็หันมาตอบโต้ด้วยชั้นเชิงที่ไม่ด้อยไปกว่าอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการตอบโต้ของนางกำนัลที่ไม่เคยแม้แต่จะจับอาวุธ

         

      นางกำนัลทั้งปาดมีดทั้งจ้วงแทงถี่ยิบและว่องไวจนอเล็กเซียแทบตั้งรับไม่ติด โชคยังดีที่ทหารองครักษณ์หลายคนเข้ามาห้อมล้อมและช่วยกันจัดการกับนางกำนัล

         

      “จับเป็นนางเค้นความจริงมาให้ได้” ราชาธีโอดอร์ออกคำสั่ง ดังนั้นทหารทั้งหมดรวมถึงอเล็กเซียจึงทำการล้อมนางกำนัลไว้อย่างแน่นหนา เมื่อถูกล้อมจับจู่ๆนางกำนัลก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

         

     “เจ้าหัวเราะอะไร” อเล็กเซียงุนงง ไม่เข้าใจจริงๆทำไมนางกำนัลผู้จนมุมถึงหัวเราะออกมา

       

       “เจ้าอย่าคิดนะว่าแค่จัดการหุ่นเชิดของข้าได้แล้วเรื่องมันจะจบ” ทุกคนที่อยู่ในห้องอักษรต่างตกใจเมื่อเสียงของนางกำนัลกลายเป็นเสียงของผู้ชาย

       

       “หากมีโอกาสข้าจะส่งหุ่นเชิดของข้ามาลอบฆ่าเจ้าอีกราชาธีโอดอร์”

         

      “เจ้าเป็นใคร” ราชาธีโอดอร์เอ่ยถาม อเล็กเซียเองก็อยากรู้เช่นกัน

       

       “นามของข้าคือ มอร์โด ลาปิส อีกไม่นานข้าและกองทัพของข้าจะบุกเข้ายึดเมืองบดขยี้ทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าจงใช้ชีวิตเฮือกสุดท้ายของเจ้าให้เต็มที่เถอะ”

       

       สิ้นคำพูดจู่จู่นางกำนัลก็ใช้มีดที่อยู่ในมือปาดคอตัวเอง เลือดสดๆสาดกระเซ็นไปทั่วสร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนในห้องยิ่งนัก



มอร์โด ลาปิส คนผู้นี้มีใช่พ่อมดชั่วร้ายที่เลื่องชื่อไปทั่วแดนหรอกหรือ ความเลวร้ายเจ้าเล่ห์ของมอร์โดแม้จะอยู่ห่างไกลแต่ขจรมาถึงอเล็กซานเดรียด้วยเช่นกัน

       

       อเล็กเซียเคยได้ยินมาว่า อีกฝ่ายมีมนต์ประหลาดสามารถควบคุมร่างกายและความคิดผู้คนได้ ไม่นึกว่ามาวันนี้จะได้เห็นเองกับตา นอกจากนั้นยังมีข่าวลือหนาหูว่า มอร์โด ลาปิส เป็นพ่อมดที่มีเวทย์มนต์คาถาร้ายกาจสามารถฆ่าคนจำนวนมากได้ด้วยคาถาเพียงบทเดียว หากว่าคนผู้นี้เป็นผู้นำทัพมาโจมตีอาณาจักรของเขาจริง พวกทหารธรรมดาจะสามารถต้านทานได้อย่างนั้นหรือ

       

       มัวแต่คิดกังวลจนลืมนึกถึงท่านพ่อที่บาดเจ็บ พอระลึกได้ก็ปรี่เข้าไปหาท่านพ่อเพื่อดูอาการพร้อมทั้งออกคำสั่งต่อทหารให้ไปเรียกหมอหลวงมาทำแผล

           

   ระหว่างที่ทำแผลสีหน้าท่านพ่อช่างดูเคร่งเครียด ไม่รู้ว่าคิดสิ่งใดอยู่ อเล็กเซียไม่กล้าถามเพราะเกรงว่าจะถูกตำหนิ คำคืนนั้นแทนที่ท่านพ่อจะเข้านอนท่านพ่อเรียกประชุมขุนนางกลางดึกอย่างกะทันหัน

       

       เดินทางออกมาได้ยังไม่ถึงสองวันดี ม้าเร็วจากอาณาจักรก็ไล่กวดมาเพื่อส่งสารให้แก่เจ้าชายรัชทายาท เมื่อธีโออ่านเนื้อหาข้างในสาร รัชทายาทส่งสายตามองมาที่เอเดรียนชั่วครู่ก่อนจะเรียกตัวเขาไปคุยด้วยกันเพียงลำพัง

         

     “มีสารจากท่านพ่อมาถึงสองฉบับ อันแรกเป็นของข้าอีกอันเป็นของเจ้า ทว่าข้าได้เปิดอ่านสารของเจ้าเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นข้าจะเล่าของข้าให้เจ้าฟังบ้างเจ้าอยากรู้หรือไม่”

         

      “ถ้ารัชทายาทจะกรุณาเล่าข้าก็อยากจะฟังครับ”

       

       “ท่านพ่อถูกมอร์โด ลาปิสลอบทำร้าย ในสารบอกว่าคนผู้นี้อาจเป็นแม่ทัพผู้ควบคุมกองทหารของอาณาจักรไซปรัส เจ้าคิดว่าอย่างไร”

         

     เอเดรียนเงียบครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง มอร์โด ลาปิส เคยได้ยินชื่ออยู่เหมือนกันว่าเป็นพ่อมดชั่วร้าย ล่ำรือกันมาหลายแบบแต่ไม่เคยเจอตัวจริงซักครั้ง ขณะที่คิดก็เปิดอ่านสารที่อยู่ในมือ ในนั้นเขียนว่าให้กลับไปพบราชาอย่างเร่งด่วน หรือว่าราชาธีโอดอร์จะร้อนใจเรื่องนี้กันนะ

       

       “บ๊ะ...หากเจ้ายังคิดคำตอบไม่ออกข้าก็ไม่ถามดีกว่า เจ้ากลับไปตามคำสั่งท่านพ่อเถอะ ระหว่างนั้นเราจะเคลื่อนทัพไปยังจุดตั้งมั่นแล้วตั้งค่ายรอจังหวะจู่โจมที่นั่น”

         

     “ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวนะครับ” หลังจากกล่าวจบเอเดรียนก็ตัดสินใจจะกลายร่างเป็นหมาป่าวิ่งห้อกลับเมืองไป หมาป่าสีดำวิ่งด้วยความเร็วที่ยากจะมองเห็นด้วยตาได้ชัด ดังนั้นถึงจะกระโดดข้ามผ่านประตูเมืองที่มีทหารยามเฝ้าอยู่ก็ไม่มีใครมองตามทัน



เมื่อวิ่งมาถึงหน้ากำแพงปราสาทเอเดรียนก็กระโดดข้ามกำแพงมายืนอยู่ที่บริเวณสวนของปราสาท ที่นั้นโดยไม่คาดคิดเขาได้พบกับอเล็กเซียที่อยู่ในสวนกลางดึกเพียงลำพัง

         

      ดีใจที่ได้เจอกันโดยบังเอิญ แต่ไม่มีเวลาจะเข้าไปตีสนิทด้วย โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในร่างของหมาป่าเช่นนี้ จึงเลือกที่จะสะบัดตูดเดินหนี หามุมลับเพื่อกลับร่างเดิมแต่ทว่า

         

      “เดี๋ยวสิ” พอถูกเรียกก็หยุดชะงัก เอเดรียนใช้ดวงตาสุนัขที่วาววับมองดูอเล็กเซีย

         

     “เจ้าใช่หมาป่าที่ช่วยข้าไว้ในป่าดำหรือเปล่า” สีหน้าของอเล็กเซียดูลังเล เอเดรียนรู้สึกได้ว่าเด็กหนุ่มไม่ไว้ใจเขาเสียทีเดียว

         

     “เจ้าใช่เผ่าวูฟหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ช่วยพูดกับข้าหน่อยเถอะ”

           

    จะเปิดเผยออกไปดีไหมนะว่าความจริงแล้วตัวเขาในตอนนี้คือใคร ขณะที่คิดขาสุนัขเจ้ากรรมก็เดินไปหาเด็กหนุ่ม อเล็กเซียนั้นมีท่าทีจะชักดาบออกมาแต่เพราะมีความลังเลจึงปล่อยให้เขาเข้าประชิดตัว สุดท้ายเด็กหนุ่มก็ถูกเขาใช้ลิ้นสุนัขเลียเข้าที่ใบหน้าจนได้

           

   “อะ....เดี๋ยว...” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นมาปัดป้อง แต่เอเดรียนยังคงตั้งหน้าเลียไม่หยุด สุดท้ายอเล็กเซียก็เปียกโชกด้วยน้ำลายของเขา

           

    “หรือว่าเจ้าจะเป็นแค่หมาธรรมดา” ตอนนี้หยุดเลียแล้ว เอเดรียนใช้ตาสุนัขมองอเล็กเซียตาแป๋ว ได้แต่หัวเราะข้อสันนิษฐานของเด็กหนุ่ม จะว่าไร้เดียงสาเกินไปหรือว่าคิดน้อยเกินไปดีนะ

           

    “ว่าแต่ทำไมเจ้ามาอยู่ที่ในปราสาทนี่ได้” แทนคำตอบเอเดรียนใช้ตัวเข้าถูไถอเล็กเซีย ได้กลิ่นหอมรุนแรงมาจากเด็กหนุ่ม หมาป่ายักษ์ดอมดมกลิ่นหอมผ่านทางจมูกจนได้ยินเสียงฟุตฟิต

           

    “ให้ตายสิเอาไงดีนะหากพวกทหารมาเห็นเกรงว่าเจ้าหมาป่ายักษ์นี่จะถูกทำร้าย” อเล็กเซียพึมพำพลางใช้มือลูบไล้ตามตัวของหมาป่า เอเดรียนชอบเหลือเกินความรู้สึกจากสัมผัสอุ่นๆของมือนุ่มมันทำให้เขารู้สึกสบาย หางของเขากวัดแกว่งไปมาอย่างบ้าคลั่ง

       

       “ข้าคงไม่ได้คิดไปเองสินะว่าเจ้าชอบข้า” เอเดรียนแทนคำตอบด้วยการใช้ลิ้นเลียที่ใบหน้าของอเล็กเซียอีกครั้ง คราวนี้ได้ใจไปหน่อยฉวยโอกาสเลียไปตามเนื้อตัวด้วยเสียเลย อเล็กเซียหัวเราะคิกคักเบาๆพลางปัดป้อง ท่าทางจะจักกะจี้อยู่ไม่น้อย

         

     “ตัวใหญ่ขนาดนี้....เอาอย่างนี้นะเจ้ารอซักเดี๋ยวที่นี่ให้ข้าไปขออนุญาตท่านพ่อเสียก่อน บางทีข้าอาจจะได้เลี้ยงเจ้าเอาไว้ในปราสาทก็ได้”

         

     โอ้ นี่คิดจะเลี้ยงเขาหรือ อเล็กเซียเจ้าช่างไร้เดียงสาจริงๆ หากคิดอีกซักหน่อยตัวข้าในร่างหมาป่ายักษ์นี่น่าจะเป็นเผ่าวูฟอย่างไม่มีทางเป็นอื่นแท้ๆ อยากจะบอกความจริงออกไป แต่ด้วยรอยยิ้มและฝ่ามืออุ่นๆที่อเล็กเซียมอบให้ทำให้

เอเดรียนติดกับดักที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวานของเด็กหนุ่มที่มีต่อเขาในร่างหมาป่า

           

    หากว่าฉวยโอกาสที่อเล็กเซียยังไม่รู้แล้วมาเล่นด้วยอย่างสนิทสนมเช่นนี้ได้อีกซักพักคงจะดีไม่น้อย

         

      “เจ้ารอข้าแป๊บหนึ่งนะ” อเล็กเซียหันหลังกลับแต่ก็รีรีรอรอไม่ยอมเดินไปเสียที

         

     “เจ้าคงจะไม่ไปไหนสินะ รอข้าอยู่ที่นี่ไม่นานหรอก”

           

   เอเดรียนขานรับด้วยการเห่าเบาๆดังโฮ่ง แต่พออเล็กเซียลับตาไปเขาก็กลายร่างกลับเป็นมนุษย์ โชคดีที่เอาเสื้อผ้าใส่ห่อผ้าและมัดติดไว้ที่ใต้คอดังนั้นจึงไม่เดือดร้อนในตอนที่คืนร่าง เอเดรียนสวมใส่เสื้อผ้าของตนก่อนจะมุ่งหน้าไปยังท้องพระโรงเพื่อแจ้งมหาดเล็กขอเข้าพบราชาธีโอดอร์ตามคำสั่ง



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



                           หายไปสองวัน ตอนต่อไปกำลังเขียนจ้า

 
                            ยอมัรบว่าไม่เคยเขียนฉากกลยุทธทางสงครามมาก่อน ตันมาก

                            แต่จะพยายามเขียนจ้า อาจจะไม่ดีก็ได้ แต่รับรองว่าได้อ่านอีกไม่นาน

                             ตอนนี้เขียนไปเกือบจบแล้วค่า เป็นฉากสงครามที่ดูกากๆเหมือนสติปัญญาคนเขียนนี่แหละ

                             ได้โปรดอย่าคาดหวัง

                             เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่6 หน้า2 6/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-11-2016 13:11:38
อ้าว มีโอกาสแล้วไม่ยอมแสดงตัวเสียอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่6 หน้า2 6/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 06-11-2016 14:53:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่6 หน้า2 6/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 06-11-2016 20:59:50
                                                                             :pig4: :pig4:
                           รออ่านนะคราฟฟเนื้อเรื่องกำลังน่าลุ้นทั้งสงครามทั้งความรักของเอเดรียนกับอาเล็กเซีย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่6 หน้า2 6/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 07-11-2016 01:06:48
ทำไมราชาถึงเรียกเอเดรียนกลับเข้ามา มันต้องมีเรื่องอะไรอีกแน่เลย (เดา...555)
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่6 หน้า2 6/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 07-11-2016 01:54:55
พอเห็นคำว่ากลยุทธทางสงคราม คิดถึงสามก๊ก ลองไปหาอ่านดูเผื่อชวนด้านนี้ได้  ชอบเอเดรียนจัง หมาน้อยๆๆๆๆ555
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่6 หน้า2 6/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-11-2016 08:08:31
แหมๆๆเสื้อผ้าพร้อมตลอด
อยากลูบขนจัง  :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 07-11-2016 12:55:47
ตอนที่7

           

   ได้รับอนุญาตให้เข้าพบองค์ราชาเป็นการส่วนตัวในห้องอักษร เอเดรียนสงสัยอยู่ครามครันต่อการถูกเรียกกลับมาอย่างเร่งด่วนในขณะเดียวกันก็พยายามคาดเดาเหตุผลที่ถูกเรียกพบแบบลับๆเช่นนี้

       

       “ได้ข่าวว่าเจ้ารีบกลับมาขณะอยู่ระหว่างเคลื่อนทัพสินะ”

     

         “ครับ” ตอบรับคำถามด้วยเสียงแข็งขัน ราชาธีโอดอร์นิ่งเงียบอยู่หลายอึดใจก่อนจะเอ่ยปากพูดกับเอเดรียน

     

          “เจ้าคิดว่าสงครามครั้งนี้เรามีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหน”

       

       ถูกถามแบบนี้แม้แต่เอเดรียนก็ไม่รู้จะตอบเช่นไร ถึงแม้ตัวเขาจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของตนเองและคนในเผ่า แต่เหตุการณ์ทุกอย่างนั้นสามารถผลิกแพลงผกผันได้ตลอด

         

      “เจ้าเคยได้ยินชื่อพ่อมดนามมอร์โด ลาปิสหรือไม่”

         

      “เคยได้ยินครับ”

           

    เจ้าคิดว่าจะสามารถกำราบพ่อมดชั่วนั่นได้ด้วยมือของเจ้าหรือไม่” ตอนนี้ราชาธีโอดอร์ทำหน้าปั้นยาก ถึงตรงนี้

เอเดรียนเริ่มจะรู้จุดประสงค์ที่ถูกเรียกตัวมา

         

      “พระองค์กังวลหรือครับ” ราชานิ่งไปอีกอึดใจ เอเดรียนสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดผ่านทางสีหน้า

         

      “หากเป็นเพียงแค่คำลือข้าคงไม่หวาดกลัวเช่นนี้ แต่นี่ข้าประสบมาด้วยตัวเอง....”

         

      ราชานิ่งเงียบไปอีกครั้ง ตอนนี้เอเดรียนบรรลุแล้ว ราชาธีโอดอร์คงหวาดกลัวต่ออำนาจเวทย์มนต์ของมอร์โด ลาปิส กลัวจนถึงกับต้องหาใครซักคนเป็นที่พึ่ง คนคนนั้นก็คือเขากับชนเผ่าวูฟ

       

       “หากว่าเจ้าสามารถทำให้อาณาจักรเราชนะสงครามหรือกำจัดมอร์โด ลาปิสได้ข้าจะให้รางวัลที่เจ้าปรารถนาหนึ่งอย่างเจ้าคิดเห็นเป็นอย่างไร”

         

      เอเดรียนยิ้มกริ่ม ราชายื่นเงื่อนไขว่าจะให้รางวัลที่เขาปรารถนาได้หนึ่งอย่างแถมยังไม่มีข้อแม้ ใจหนึ่งคิดว่าราชาอาจจะพูดเล่นและเนื่องจากไม่มีสัญญาเป็นรูปธรรมและผู้อื่นอยู่ด้วยจึงไม่คิดถือเอาคำพูดนี้เป็นจริงเป็นจัง แต่กระนั้นหากบอกว่าขออะไรก็ได้ เอเดรียนก็มีสิ่งที่หมายมั่นเอาไว้ในใจอยู่แล้ว

         

      “ข้าจะทำอย่างสุดความสามารถครับ” ไม่ต่อความยาวสาวความยืด เอเดรียนขออณุญาติราชากลับไปยังสนามรบอีกครั้ง ราชาธีโอดอร์เหมือนยังมีคำพูดจะกล่าวกับเขาอีกหลายคำ แต่จนแล้วจนรอดราชาก็ไม่ได้พูดกับเขา

     

         หลังจากไล่ตามกองทัพที่เคลื่อนมาถึงที่มั่นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงจนทัน เมื่อมาถึงพวกทหารชั้นล่างกำลังช่วยกันสร้างค่ายพัก มาถึงไม่ทันไรคนในเผ่าของเขาก็มารายงานว่ารัชทายาทเรียกประชุมแม่ทัพนายกอง

       

       “โอ้เจ้ามาแล้วหรือเอเดรียน” เจ้าชายรัชทายาทฉีกยิ้มกว้าง เอเดรียนไม่รอช้าเดินตรงไปนั่งบริเวณที่ว่างที่ยังเหลืออยู่

       

        การประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมที่สำคัญเพราะเป็นการกำหนดกลยุทธที่จะทำต่อไปหลังจากตั้งค่ายเสร็จ

เนื้อหาการประชุมที่คร่ำเคร่งมีการพูดถึง มอร์โด ลาปิส อยู่หลายครั้ง ภายในห้องประชุมเอเดรียนสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดของเหล่าแม่ทัพนายกอง

         

     “หากว่าเราวางยาพิษในแหล่งน้ำที่พวกมันดื่มกินและครับ” เอเดรียนหันไปหาผู้เสนอแนะแผนการ คนคนนั้นไม่ใช่ใครนอกจากไอแซค บาร์ตัน คนที่มักจะติดสอยห้อยตามอเล็กเซียอยู่เสมอ

         

      สำหรับเอเดรียนนั้นการวางยาพิษในแหล่งน้ำอาจเป็นแผนการที่ดี แต่หากสังเกตุภูมิประเทศให้ดีจะรู้ว่าแหล่งน้ำที่พวกศัตรูใช้นั้นทอดยาวเป็นสายเดียวไปจนถึงแหล่งน้ำในเมืองหลวงทั้งยังเชื่อมต่อกับแหล่งน้ำเล็กๆที่อยู่ในป่าดำ

         

      หากจะวางยาพิษต้องใช้ยาพิษไร้กลิ่นไร้สีและรสซึ่งสิ่งนั้นหาได้ยากมาก นอกจากนั้นยังต้องใช้ปริมาณมากเพราะไม่รู้ว่าพิษจะเจือจางไปมากแค่ไหนในกระแสน้ำ ยิ่งไปกว่านั้นการวางยาพิษในปริมาณมากพิษในน้ำอาจกระจายไปทั่วจนถึงแหล่งกินใช้ในเมืองและป่าดำ ข้อเท็จจริงทั้งดีและร้ายที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์นี่เป็นสิ่งที่ทำให้แผนการณ์ของไอแซคบาร์ตันเป็นแผนการณ์ที่ไม่เหมาะสมรัดกุมด้วยประการทั้งปวง

         

     “ข้าขอคัดค้านครับ” สายตาทุกคู่ในห้องประชุมมองมาที่เอเดรียนเป็นหนึ่งเดียว ไอแซคบาร์ตันถลึงตามองเขาด้วยสายตาขัดเคือง

         

      “ท่านเอ่ยค้านแบบนี้คงมี แผนการที่ดีกว่าและเหตุผลใช่หรือไม่” ไอแซค บาร์ตันร้องถามด้วยใบหน้าท่าทางเอาเรื่องเสียจนเอเดรียนนึกขำ รู้ตัวอยู่ว่าได้เพิ่มความแค้นที่อีกฝ่ายมีต่อตนไปอีกหนึ่งเรื่อง แต่ทุกเรื่องที่ทำให้ถูกเกลียดล้วนเป็นเรื่องที่เขาไม่ได้ตั้งใจทั้งนั้น

           

    “ไหนเจ้าลองเสนอแนะมาสิเอเดรียน” เจ้าชายรัชทายาทเปิดโอกาสให้เขาได้พูด เอเดรียนเริ่มเล่าถึงข้อเท็จจริงที่เขาประเมินการไว้ในใจให้ทุกคนในที่ประชุมฟัง ไอแซคบาร์ตันนั้นยิ่งได้ฟังก็ยิ่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เอเดรียนมิได้สนใจท่าทางที่น่ารำคาญนั้นแม้แต่นิดเดียว

           

    “ข้าเสนอให้บุกโจมตีเร็วครับ ฉวยโอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามคิดว่าเรายังไม่จู่โจม ส่งคนลอบปีนค่ายของพวกมันเข้าไปป่วนจากด้านในแล้วเปิดประตูให้พวกเราที่ด้านนอกบุกเข้าตีค่ายอีกแรง”

         

      ข้อเสนอของเอเดรียนทำให้เหล่าแม่ทัพนายกองเริ่มหันไปปรึกษากันเป็นการใหญ่ สุดท้ายหนึ่งในแม่ทัพทั้งหมดก็มีคำถามต่อเขา

       

       “แล้วจะให้ใครเสี่ยงปีนค่ายเข้าไปป่วนพวกมันล่ะ งานอันตรายแบบนี้ต้องใช้ทหารที่มีฝีมืออย่างมาก” เหล่าผู้คนในห้องมองมาที่เขาเป็นจุดเดียว โดยเฉพาะไอแซค บาร์ตันที่กระตือรือร้นที่จะฟังมากกว่าใครเขาเพื่อน

         

      “ข้ากับชาวเผ่าของข้าจะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้เองครับ”

         

     “แล้วเจ้าจะเริ่มแผนการเมื่อไหร่” เจ้าชายรัชทายาทถาม

         

     “คืนนี้เลยครับ”

           

   “ฝ่าบาท แต่พวกทหารของเรากำลังตั้งค่ายอยู่ เราควรจะตั้งค่ายพักให้เสร็จก่อนไม่ดีหรือครับ” ไอแซค บาร์ตันเสนอความเห็นอีกครั้ง เจ้าชายรัชทายาทนิ่งคิดอยู่หลายอึดใจก่อนจะหันมาพูดกับเอเดรียน

         

     “เจ้ามั่นใจแค่ไหนว่าจะสามารถทำให้พวกมันปั่นป่วนแล้วเปิดประตูค่ายให้พวกเราเข้ายึดได้โดยง่าย” เอเดรียนยิ้มกริ่มต่อคำถาม

       

       “หากว่ารัชทายาทไว้ใจพวกข้า ข้าจะขอทำอย่างสุดความสามารถครับ” สิ้นคำพูดของเขาเหล่าแม่ทัพนายกองมากมายต่างมีความคิดเห็นหลายรูปแบบ บางคนเห็นด้วยกับแผนการโจมตีเร็วของเขา บางคนเห็นว่าควรตั้งค่ายเพื่อหาที่มั่นเอาไว้เสียก่อนที่จะทำอย่างอื่น

         

     ดังนั้นเจ้าชายรัชทายาทจึงใช้การลงคะแนนเพื่อตัดสินใจ ผลที่ได้ผู้ที่เห็นด้วยกับแผนการณ์ของเอเดรียนมีมากกว่าถึงสามในห้า ด้วยเหตุนี้แผนการถึงได้เริ่มต้นขึ้น พวกทหารชั้นล่างหยุดการสร้างค่ายพักและเริ่มต้นพักผ่อนก่อนจะเตรียมพร้อมโจมตีในยามค่ำคืน

         

     เมื่อเวลาผ่านไปจนตะวันลับขอบฟ้า เจ้าชายรัชทายาทเคลื่อนทัพอย่างเงียบเชียบไปในเวลาดึกสงัดก่อนจะหยุดการเดินทัพในจุดที่เหมาะสมที่สุด

           

   “หวังว่าพวกท่านคงไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ” เจ้าชายรัชทายาทกำชับเอเดรียนกับพวกหนุ่มๆในเผ่าวูฟ หลังจากให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด เอเดรียนกับคนในเผ่าก็ออกเดินทางเพื่อไปยังค่ายของพวกศัตรู

           

    “ไม่ได้ตื่นเต้นเช่นนี้มานานแล้วนะ เอเดรียน” ไนเจลกระซิบให้เอเดรียนฟัง ชายหนุ่มรู้ว่าไม่แค่เพื่อนสนิทของเขาที่ตื่นเต้นเท่านั้น หนุ่มๆในเผ่าที่มาด้วยก็ฮึกเหิมจนถึงที่สุดเช่นกัน

         

      “นั่นสิ เผ่าเราไม่ได้ออกรบมานานเท่าไหร่แล้วนะ” เอเดรียนพึมพำกับตัวเอง

           

    “นับตั้งแต่เราขับไล่พวกนอกรีตออกจากอาณาจักรอเล็กซานเดรีย แต่ก็นั่นแหละพวกนอกรีตพวกนั้นไม่พอมือพวกเราด้วยซ้ำ” พวกชายหนุ่มในเผ่าส่งเสียงเห็นด้วยต่อคำพูดของไนเจล เอเดรียนส่งสัญญาณปรามสั่งให้พวกหนุ่มๆเงียบเสียง ตอนนี้พวกเขาเคลื่อนกายอย่างเงียบเฉียบมาใกล้กำแพงค่ายแล้ว

       

       “บุกจู่โจมอย่างรวดเร็ว และจงอย่าลืมนอกจากจะฆ่าพวกศัตรูให้ได้มากที่สุดใครซักคนต้องพังประตูค่ายส่งสัญญาณให้เจ้าชายรัชทายาทเคลื่อนทัพ”

         

      สิ้นคำพูดเหมือนจะเข้าใจกันได้โดยสัญชาติญาณ เอเดรียนและคนในเผ่ากลายร่างเป็นหมาป่าตัวเขื่อง ในจำนวนของหมาป่าทั้งหมดเอเดรียนตัวใหญ่ดุดันกว่าใครและนี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่คนในเผ่าพร้อมใจกันเลือกเขาเป็นหัวหน้า

         

      “โบรว” หมาป่าหนุ่มบางตัวเผลอตัวหอนตามสัญชาติญาณ ไนเจลในร่างหมาป่าคำรามในลำคอเตือนมิให้หมาป่าตัวอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

         

     “ไป” เอเดรียนในร่างหมาป่ายักษ์สีดำพูดภาษามนุษย์ก่อนจะออกวิ่งนำหน้ากระโจนข้ามกำแพงค่ายเข้าไปสู่ด้านในอย่างรวดเร็ว หมาป่าตัวอื่นวิ่งตามมาด้วยความเร็วที่พยายามที่จะไล่ให้ทันหัวหน้าฝูง

           

    เมื่อหมาป่าทุกตัวเข้าสู้ภายในค่ายก็เริ่มละเลงเลือดด้วยการไล่ฆ่าพวกทหารยาม เสียงร้องตะโกนโหวกเหวกด้วยความกลัวดังคู่กับเสียงเห่าหอนของหมาป่า หมาป่าบางตัวใช้วิธีการคาบคบเพลิงแล้วโยนเข้าใส่กระโจมเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในค่าย

         

      “ไนเจลเจ้าพาพวกเราไปสองสามคนพังประตูค่ายแล้วส่งสัญญาณเสีย” เอเดรียนออกคำสั่งก่อนจะเริ่มต้นไล่ฆ่าทหารของศัตรูอีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังตามหากระโจมที่พักที่หรูหราที่สุด เนื่องจากเดาโดยสัญชาติญาณว่านั่นต้องเป็นกระโจมของมอร์โด ลาปิส

         

      ในที่สุดเขาก็พบจนได้ หมาป่าหนุ่มใช้ขาหน้าแหวกประตูกระโจมก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไป โดยไม่ทันตั้งตัวลูกบอลเพลิงขนาดเล็กหลายลูกพุ่งเข้าหาเขาจากด้านหน้า เอเดรียนโดดหลบถอยหลังเพื่อให้พ้นจากรัศมี

           

    “ไม่มีใครบอกข้าเลยว่าพวกวูฟจะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วย” ชายหัวล้านวัยสี่สิบปลายๆเอ่ยกับเอเดรียน ในมือของคนผู้นั้นถือดาบสีทองเต็มไปด้วยกลิ่นอายโบราณชวนให้หวาดระแวง

         

     “ข้าเคยเห็นพวกวูฟมามาก แต่ไม่เคยเห็นตัวไหนใหญ่โตเท่าเจ้ามาก่อน หากจับมาเป็นทาสรับใช้ได้คงดีไม่น้อยนะ” เอเดรียนดาว่าคนหัวล้านนี่คงเป็นมอร์โด ลาปิส ไม่น่าจะผิดพลาด เมื่อพบคนที่ตัวเองหมายหัวโดยง่ายหมาป่าหนุ่มแสยะเขี้ยวหัวเราะชอบใจ

         

     “มาเป็นข้ารับใช้ของข้าเสียเถอะ” ชั่ววินาทีที่มอร์โดลาปิสพูด ดวงตาของมันเปล่งแสงสีแดง เอเดรียนเข้าใจว่าคงจะเริ่มร่ายมนต์สะกดบางอย่าง

           

    “กรร” เอเดรียนขู่คำราม มนต์สะกดเหมือนจะใช้ได้ผลกับเขาอยู่บ้างเล็กน้อยในลักษณะที่ทำให้ปวดหัวจี๊ดๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมอมเมาให้เขาทำตามคำสั่งได้ อาการงุนง่านของเขาคงทำให้มอร์โดได้ใจ เจ้าเฒ่านั่นเดินเข้ามาประชิดที่ร่างของเขาก่อนจะแทงดาบสีทองลงมาที่บริเวณเนินไหล่

       

        “กรร” เอเดรียนคำรามด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้ได้สติเต็มที่แล้วจังหวะที่มอร์โด ลาปิสถอนคมดาบออกจากร่างแล้วหัวเราะร่า เอเดรียนก็กระโจนเข้าใส่ด้วยความเร็วสูงสุด เด็ดหัวพ่อมดผู้ประมาทในตัวเขาออกจากร่าง

         

      เอเดรียนคาบหัวของมอร์โด ลาปิสไว้ในปากทั้งยังไม่ลืมดาบสีทองและฝักที่ดูเหมือนเป็นของหายาก ใช่แล้วน่าจะเป็นของที่หายากมากและผ่านวิธีการทำด้วยเวทย์มนต์อะไรซักอย่าง โดยปกติแล้วพวกวูฟอย่างเขาจะสมานแผลจากอาการบาดเจ็บได้เร็วมาก แต่ชายหนุ่มรู้ว่าแผลที่ได้รับครานี้ไม่สามารถรักษาตัวได้ง่ายๆ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

         

      ท่ามกลางความโกลาหลในที่สุดกองทัพของรัชทายาทก็มาถึง ทหารของเจ้าชายไล่ฆ่าเผาและทำลายค่ายของศัตรูจนไม่เหลือชิ้นดี หลังจากการต่อสู้จบลงเอเดรียนได้มอบหัวของมอร์โด ลาปิสให้กับเจ้าชายรัชทายาท ธีโอดีใจจนสัญญากับเขาว่าจะร้องขอรางวัลจากราชาให้อย่างงาม

         

     “เจ้าต้องการอะไรเป็นรางวัล หากเราให้ได้เราจะให้ทุกอย่าง” ธีโอเสนอรางวัลส่วนตัวให้แก่เขา อเล็กเซียได้แต่ยิ้ม พ่อลูกคู่นี้ให้เขาขอสิ่งที่ต้องการได้ตามใจชอบ ไม่รู้ว่าหากเขาพูดขอออกไปทั้งคู่จะให้ตามที่เขาขอหรือเปล่า แต่กระนั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เขาเกรงใจไม่กล้าร้องขอจากคนทั้งคู่

         

     “เจ้าชายอณุญาติให้ข้าขอสิ่งใดก็ได้เหมือนกับที่องค์ราชาพูดกับข้าเลยครับ เอาไว้ให้ข้าลองคิดดูซักหน่อยก่อนแล้วข้าจะแจ้งต่อหน้าองค์ราชาแน่นอนครับ”

         

      “ท่านพ่อก็สัญญาว่าจะให้อะไรเจ้าตามที่ขออย่างหนึ่งด้วยหรือ” เจ้าชายรัชทายาทดูแปลกใจ ธีโอครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่

           

   “เอาเถอะเจ้าไปพักผ่อนเถอะเอเดรียน ก็ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ขอในสิ่งที่เราพ่อลูกให้ไม่ได้นะ”  เอเดรียนลอบแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ สิ่งที่เขาจะขอนั้นไม่ใช่สิ่งที่หามาไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าพวกเจ้าสองคนจะยกสิ่งนั้นให้ข้าหรือเปล่า ถึงแม้จะรู้ว่าโอกาสได้มาย่อมไม่ง่าย แต่เอเดรียนนั้นไม่หวั่นเกรงที่จะเอ่ยปากขอสิ่งนั้นจากราชาและรัชทายาท เมื่อมีโอกาสย่อมต่องไขว่คว้ามาดีกว่าไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่หรือ บางทีนี่อาจเป็นหนทางที่อาจจะทำให้เขาได้มาในสิ่งที่ปรารถณาก็เป็นได้





 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

                                         
ฉากรบนี่เขียนออกมาได้ดีสุดแค่นี้จริงๆTT



รับกันได้ไหม รู้สึกอายที่เขียนออกมาแบบนี้



แต่นี่คิดจนปวดหัวเลยนะ



เม้นให้กำลังใจกันบ้างน้า



คิดว่าผู้อ่านหลายคนอ่านตอนนี้แล้วต้องเดาตอนต่อไปได้แน่ๆเลย



หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-11-2016 13:21:12
พ่อมดตายง่ายจัง สงครามนี่ก็ดูชนะไม่ยากนะ แต่เมืองนี้อาจจะรอผู้กล้าอยู่ ฮา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-11-2016 13:32:28
ดีจัง
รอมอบรางวัล รู้นะว่าจะขออะไร
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-11-2016 14:06:49
จะขอรางวัลอะไรน้าาาาา เอเดรียน
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 07-11-2016 16:34:30
ไม่เป็นไรๆ เนื้อหาพอได้อยู่จ้า ฮ่าๆ ตอนนี้เรารอตอนได้รับรางวัล :hao6:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 07-11-2016 17:03:26
เรื่องพ่อมดจบลงง่ายกว่าที่คิดไปมากแฮะ ตอนแรกปูไว้ซะน่ากลัวเชียว แต่ช่างเถอะไปรับรางวัลดีกว่า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 07-11-2016 17:24:39
ตามมาจากสไลม์ฮะ เรื่องน่ารักและสนุกดี แถมอัพบ่อยไม่ต้องรอนาน ตามอ่านผลงานนะฮะ  :L2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-11-2016 18:06:24
เร็วจัง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 07-11-2016 20:43:57
รวดเร็วทันใจ จบศึกภายใน1ตอน สนุกค่าาา รอๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 07-11-2016 20:54:33
ตายง่ายเกิน
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 07-11-2016 22:01:58
แล้วถ้ารางวัลเป็นของที่ราชาและรัชทายาทให้ได้ แต่ไม่อยากให้ล่ะ...อีกอย่างอเล็กเซียน้อย...ไม่ใช่สิ่งของน่ะสิ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่7 หน้า2 7/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 07-11-2016 22:25:33
พ่อมดทำไมนายกากอย่างนี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 08-11-2016 12:18:56
ตอนที่8

             

  หมู่นี้อเล็กเซียวนเวียนอยู่ในสวนของปราสาททุกวันเพียงเพราะว่าต้องการที่จะได้พบกับเจ้าหมาป่าตัวใหญ่สีดำนั่นอีกครั้ง คืนวันนั้นเด็กหนุ่มอุตส่าห์หลอกล่อท่านพ่อจนอนุญาตให้เขาเลี้ยงหมาในปราสาทได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บอกความจริงเรื่องที่มันเป็นหมาป่ายักษ์ก็ตามที

           

   ในใจลึกๆอเล็กเซียยังคงสงสัยในที่มาที่ไปของเจ้าหมาป่าสีดำ แต่จากการที่บังเอิญได้เจอมันถึงสองครั้งเด็กหนุ่มเข้าใจว่าเจ้าสัตว์หน้าขนตัวนี้จะไม่ทำอันตรายเขา เดาได้จากพฤติกรรมของมันจึงทำให้คลายความหวาดระแวงไปบ้าง

       

       หลังจากได้เจอมันคืนนั้น อเล็กเซียไปยังห้องสมุดของปราสาท พยายามค้นหาเอกสารที่เล่าถึงเจ้าหมาป่าสีดำ ข้อมูลที่ได้เกี่ยวกับเจ้าหมาป่าดำตัวยักษ์นั้นมีอยู่สองประการ อย่างแรกคือเจ้าหมาป่าตัวนั้นคือพวกวูฟ อย่างที่สองอาจเป็นคนที่ถูกสาป บางทีคงเป็นพ่อมดที่คำสาปย้อนมาทำร้ายตนเองหรือจะเป็นใครซักคนที่ถูกพ่อมดสาปเพื่อเอาไว้ใช้งาน อเล็กเซียโอนเอนไปยังข้อสันนิษฐานอย่างหลัง

         

     เหตุผลที่เชื่อเช่นนั้นเพราะเล็กเซียแค่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้นนะสิ เนื่องจากไม่อยากให้เจ้าหมาตัวนั้นเป็นพวกวูฟ ไม่ได้เกลียดพวกวูฟเป็นพิเศษแต่แค่ไม่อยากเข้าไปใกล้ชิด การที่เจ้าหมาป่าตัวนั้นพูดไม่ได้เขาจึงเข้าข้างตัวเองว่ามันต้องไม่ใช่พวกวูฟอย่างแน่นอน

         

      หากว่าเป็นคนที่ถูกสาปจริงก็นับว่าน่าสงสาร การที่เจ้าหมาป่าตัวนั้นเคยเป็นคนมาก่อนทำให้ท่าทีสนิทสนมคุ้นเคยกับมนุษย์อย่างเขาดูไม่แปลกอะไร แต่ก็แอบสงสัยไม่ได้ว่ามันอาจจะเป็นนักฆ่าของมอร์โด ลาปิสที่เข้ามาหลอกล่อเขาหรือเปล่า

         

     ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมถึงช่วยเขาเอาไว้เมื่อครั้งที่เจอหน้ากันที่ป่าดำล่ะ? นอกจากนั้นการที่มันผลุบโผล่มายังปราสาทที่เขาอาศัยอยู่ยิ่งไม่น่าแปลกขึ้นไปอีกหรือ มันตามเขามา?หรือว่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่นะ?

         

      หากสันนิษฐานว่าเจ้าหมาป่าตัวนั้นมีวงจรความคิดเหมือนมนุษย์มันก็น่าจะมีเหตุผลที่เข้ามาใกล้ชิดกับเขา

ยิ่งคิดอเล็กเซียก็ยิ่งสับสน ระหว่างที่ยืนเพียงลำพังบริเวณมุมลับในสวนซึ่งเคยพบกับเจ้าหมาป่าตัวนั้น ต่อหน้าต่อตาเด็กหนุ่มเห็นเจ้าหมาป่าสีดำตัวใหญ่โดดข้ามกำแพงปราสาทเข้ามา

           

   “อ๊ะ...เจ้าหมา” เนื่องจากเริ่มไม่ไว้ใจมันเสียแล้วจึงอดตกใจต่อการปรากฏตัวของมันไม่ได้ เจ้าหมาป่าสีดำตัวนั้นเดินเข้ามาหาเขาในปากคาบดาบเล่มหนึ่งเมื่อเข้ามาประชิดตัวมันวางดาบเล่มนั้นลงตรงหน้าก่อนจะขยับตัวนอนลงอย่างเกียจคร้าน

         

      “เจ้าให้ข้าหรือ” เจ้าหมาป่าเห่าเบาๆแทนคำตอบ อเล็กเซียลังเลที่จะหยิบดาบเล่มนั้นขึ้นมาแต่พอถูกเจ้าหมาเห่าอีกครั้งเป็นเชิงเร่งเร้าเด็กหนุ่มจึงหยิบมันขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

         

      “สวย” ทันทีที่ชักดาบออกจากฝัก อเล็กเซียก็ตกตะลึงในความงามของคมดาบ ตัวด้ามดาบถูกฝังด้วยอัญมณีสีแดงซึ่งหาได้ยาก เพื่อทดสอบความคมเด็กหนุ่มเหวี่ยงดาบฟันเข้าที่กิ่งไม้หนาใกล้ๆทันที

         

      กิ่งไม้หนาถูกตัดด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวแถมอเล็กเซียไม่ได้ออกแรงอะไรมากอีกด้วย การกระทำของเขาเป็นการการันตีว่าดาบเล่มนี้มีความคมมากแค่ไหน

           

    “เจ้าเอามาจากไหนเจ้าหมา” หมาป่าสีดำไม่ตอบอเล็กเซียตอนนี้มันกำลังเริ่มต้นเลียขนตามตัวของมันโดยไม่สนใจต่อคำถามของเด็กหนุ่ม ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะเห็นตรงบริเวณเนินไหล่ของมันมีบาดแผลที่ยังไม่สมานตัวกันดี         “เจ้าหมาขอข้าดูหน่อยสิ” เจ้าหมาป่าสีดำมองหน้าเขา มันปล่อยให้อเล็กเซียเข้าใกล้และสำรวจบาดแผลโดยไม่ขัดขืน เป็นรอยแผลถูกแทงดูแล้วยังสดใหม่คิดว่าคงโดนมาเมื่อไม่นาน

       

       “ข้าจะไปเอายารักษาแผลมาให้เจ้านะ” คิดถึงเรื่องการรักษาแผลมากเสียยิ่งกว่าเรื่องที่เจ้าหมาได้แผลมาเพราะเหตุใดขณะที่ขยับเคลื่อนกายลุกขึ้นจากท่านั่งก็รู้สึกได้ถึงแรงกระตุกเบาๆ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเจ้าหมาป่าใช้ฟันกัดชายเสื้อของเขาเอาไว้

         

      “ปล่อยข้าก่อนสิเจ้าหมา” เจ้าหมาป่าไม่ยอมปล่อยชายเสื้อของเขามันส่งสายตามองจ้องมาราวกับต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

     

         “ไม่อยากให้ข้าไปหรืออย่างนั้นจะให้ทำอย่างไร” เจ้าหมาปล่อยชายเสื้อของอเล็กเซียแล้ว ตอนนี้เจ้าหมาเริ่มเอาตัวใหญ่ยักษ์ของมันเข้ามาถูไถออดอ้อนเด็กหนุ่มราวกับเป็นหมาตัวเล็ก สร้างความขบขันและลำบากใจให้อเล็กเซีย

         

      “ทำไมถึงขี้อ้อนเช่นนี้นะ” อเล็กเซียยิ้มอ่อนใจเมื่อเจ้าหมาพยายามเกยหัวอันใหญ่โตเข้ากับหน้าตักของเขา ให้ตายเถอะตัวก็ออกจะใหญ่ยักษ์ยังทำตัวเหมือนลูกหมาอยากจะนอนเกยตักเขาเสียอย่างนั้น อดเอ็นดูไม่ได้อเล็กเซียกอดรัดและซุกไซ้ใบหน้าเข้ากลุ่มขนสีดำอันแสนหนานุ่ม

           

    “ตัวนุ่มมากเลยชักชอบขึ้นมาแล้วสิ” พึมพำกับตัวเองเบาๆขณะฝังหน้าลงไปด้วยความหมันเขี้ยว เจ้าหมาป่าสีดำดูจะชอบใจมันแกว่งหางของมันไปมาอย่างบ้าคลั่งและเริ่มต้นหยอกเด็กหนุ่มด้วยการขึ้นคร่อมก่อนจะเลียตามเนื้อตัวจนเขาชักจะเปียกแฉะ

           

   “พอพอแล้ว” อเล็กเซียหัวเราะเสียงดัง ในตอนนั้นจู่จู่เจ้าหมาป่าก็หยุดเลียมันผละจากเขาแล้วกระโจนข้ามกำแพงหายไปอย่างกระทันหัน ทำเอาเด็กหนุ่มงงไปหมด

       

       “ท่านอเล็กเซียเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”

       

        ที่แท้แล้วก็ทหารยามนี่เอง อเล็กเซียเดาว่ามันคงได้ยินฝีเท้าของคนแปลกหน้า เจ้าหมาป่าดำจึงรีบหลบหนีไป

นี่ยิ่งไม่เป็นการยืนยันว่าเจ้าหมาป่าตัวนั้นชื่นชอบเขามากเป็นพิเศษหรอกหรือ การที่มันหลีกหนีผู้คนและเข้ามาตีสนิทแค่เพียงเฉพาะเขา ถึงแม้ว่าลึกๆจะระแวงอยู่บ้าง กระนั้นยังอดดีใจที่ได้รับความรักจากสิ่งมีชีวิตที่อาจเรียกได้ว่าเป็นสัตว์อันตรายไม่ได้ เขานี่มันช่างสมกับเป็นเด็กไม่รู้จักโตตามที่ท่านพี่เคยปรามาสเอาไว้เสียจริงๆ

         

     “ไม่มีอะไรหรอก ข้าจะกลับไปที่ห้องแล้วเจ้าจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ” อเล็กเซียออกจากบริเวณนั้นและไม่ลืมหยิบดาบที่ได้รับมาจากหมาป่าสีดำกลับไปที่ห้องด้วย

               สองวันต่อมากองทัพที่ออกไปรบรวมทั้งท่านพี่ก็กลับมาถึง อเล็กเซียตื่นเต้นดีใจจนถึงกับออกไปรับที่หน้าประตูเมือง

         

      “ท่านพี่” เมื่อเห็นท่านพี่บังคับม้าเดินนำขบวนทหารมา อเล็กเซียก็ควบม้าเข้าไปหา ข้างๆของท่านพี่ยังมีคนที่เขาไม่ถูกชะตาเคลื่อนม้าตามเคียงคู่กัน

         

      “สบายดีหรือเอเดรียน เฟลเวเธอร์” ทักออกไปตามมารยาท คนถูกทักยิ้มกว้างมาให้อเล็กเซีย

         

     “สบายดีครับ ขอบคุณที่เจ้าชายอุตส่าห์มีน้ำใจเป็นห่วงข้า” อเล็กเซียอดเชิดหน้าขึ้นแล้วมองดูอีกฝ่ายด้วยสายตากดต่ำไม่ได้ อย่าสำคัญตัวผิดไปนักเลยใช่ว่าเขาจะเป็นห่วงคนผู้นี้จริงๆเสียหน่อย มันก็แค่...ตามมารยาทเท่านั้น

         

      “เจ้าดูจะเป็นห่วงเอเดรียนเสียเหลือเกินนะ เจ้าถามว่าเขาเป็นอย่างไรก่อนที่จะถามพี่เสียอีก”

           

    “ท่านพี่ก็...อย่าหยอกกันสิครับ” รู้ได้ในทันทีว่าถูกสัพยอก ก็ท่านพี่เล่นส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้

         

      “เอ้าเจ้าจะไม่ถามบ้างหรือว่าพี่คนนี้สบายดีหรือไม่”

       

       “ท่านพี่นี่ละก็...ข้าก็ไม่เห็นท่านมีแผลตรงไหนเสียหน่อย”

         

     “ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงสังเกตเห็นแผลภายใต้เสื้อผ้าของเอเดรียนได้อย่างนั้นสิ” อเล็กเซียเลิกคิ้วอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจตามเนื้อตัวของเอเดรียน แต่คิดดูอีกทีเขาไม่อยากจะสนใจว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บแค่ไหนจึงมองเมินแทบจะในทันที

         

      “ข้าไม่ได้สังเกตเห็นอะไรหรอกครับท่านพี่ แค่คิดว่าในสงครามใครๆก็อาจจะบาดเจ็บกันได้ ข้าก็แค่ถามไปตามมารยาทเท่านั้น” เพื่อไม่ให้บทสนทนาเป็นไปในทางที่ทำให้ลำบากใจ หากว่ายังจับกลุ่มสนทนาโดยมีเอเดรียน เฟลเวเธอร์อยู่ในกลุ่มด้วยเช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าจะถูกหยอกเย้าอะไรอีก ดังนั้นอเล็กเซียจึงขอล่วงหน้าไปยังปราสาทก่อน

       

       หลังจากท่านพี่กลับมาถึงก็ถูกเรียกให้เข้าพบที่ท้องพระโรงทันที ตอนนี้อเล็กเซียยืนอยู่ข้างท่านพ่อที่นั่งอยู่บนบัลลังค์ ท่านพี่ยืนอยู่ที่พื้นด้านล่างและกำลังรายงานเกี่ยวกับการรบที่ผ่านมาทั้งหมด เนื้อหาที่ท่านพี่เล่านั้นส่วนใหญ่เป็นการกล่าวชมเชยเอเดรียน เฟลเวเธอร์และพวกวูฟไปมากกว่าครึ่ง

         

      “ข้าคิดว่าท่านพ่อสมควรจะให้รางวัลตามที่เขาปรารถนาหนึ่งอย่างนะท่านพ่อ” เจ้าชายรัชทายาทเสนอ อเล็กเซียเห็นว่าท่านพ่อเองก็เห็นด้วยถึงแม้ว่าจะมีขุนนางบางคนแสดงความเป็นห่วงใยต่อคำขอที่ดูจะกว้างมากเกินไป แต่ก็เป็นเพียงเสียงซุบซิบที่พอจะให้เขากับท่านพ่อได้ยินเท่านั้น

           

   “ถ้าอย่างนั้นก็เบิกตัวเอเดรียน เฟลเวเธอร์เข้ามา” หลังจากราชาพูดจบ เอเดรียน เฟลเวเธอร์ก็ถูกนำตัวเข้ามา ท่าทางการเดินอันองอาจทำให้อเล็กเซียคิดแปลกใจว่านี่นะหรือท่าทางเดินของคนเจ็บ ชายผู้นี่เดินเหินไม่เหมือนกับคนที่บาดเจ็บมาเลยซักนิด เกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้เด็กหนุ่มเลื่อมใสอีกฝ่ายขึ้นมานิดหน่อย

           

    “ข้าได้ข่าวว่าเจ้าทำได้ดีในสนามรบ ทั้งยังเป็นผู้ปลิดชีพมอร์โด ลาปิสให้ข้าอีกด้วยจริงหรือไม่”

           

   “จริงครับ” เอเดรียนไม่พูดเปล่ายังเปิดห่อผ้าที่บรรจุหัวของมอร์โด ลาปิสให้คนในท้องพระโรงดู อเล็กเซียผงะไปเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่าชายหนุ่มจะนำหัวของศัตรูมาเป็นหลักฐานด้วย

         

      “โอ้...นี่นะหรือมอร์โด ลาปิส เป็นชายที่หน้าตาธรรมดากว่าที่ข้าเคยคาดเอาไว้นะ” กล่าวจบราชาก็ส่งสัญญาณบอกมหาดเล็กให้นำหัวของมอร์โดออกไป

           

    “ข้าพิจารนาดูแล้วว่าเจ้าทำได้เยี่ยมสมกับที่ข้าตั้งหวังไว้ดังนั้นข้าจะทำตามคำสัตย์ให้รางวัลตามที่เจ้าปรารถนาหนึ่งอย่าง”

           

   อเล็กเซียอดตกใจกับคำพูดของท่านพ่อไม่ได้ นอกจากท่านพี่แล้วท่านพ่อเองก็ลั่นวาจาไปว่าจะให้เอเดรียน เฟลเวเธอร์ในสิ่งที่ปรารถนาหนึ่งอย่างด้วยหรือ เหตุใดท่านพ่อและท่านพี่จึงพูดจาออกไปเช่นนั้น ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ สำหรับท่านพี่นั้นเขาพอรู้อยู่บ้างว่าเลื่อมใสและชื่นชมเอเดรียน เฟลเวเธอร์อยู่มาก แต่ท่านพ่อนี่สิคิดไม่ออกว่าท่านคิดเห็นเป็นอย่างไร

         

     “ข้าต้องการให้พระองค์ประทานเจ้าชายอเล็กเซียให้มาเป็นภรรยาของข้าครับ”

         

      “อะไรนะ”



ราชากับอเล็กเซียร้องถามออกมาพร้อมกัน รัชทายาทยิ้มค้างด้วยไม่รู้ว่าที่เอเดรียนพูดนั้นคือเรื่องจริงหรือล้อเล่น ตอนนี้เด็กหนุ่มขบฟันเข้าที่ริมฝีปากจ้องมองชายหนุ่มผู้อุกอาจตาแถบถลน อย่างจะสับอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆนักไม่รู้ว่ากล้าดีอย่างไรถึงคิดขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต้องการให้เขาไปเป็นภรรยาหรือ ถึงเขาจะเป็นเจ้าหญิงก็ใช่ว่าท่านพ่อจะยกตัวเขาให้อีกฝ่ายง่ายๆ นี่ยิ่งเขาเป็นผู้ชายด้วยแล้ว ท่านพ่อไม่มีวันทำตามที่อีกฝ่ายขออย่างแน่นอน

       

        “เจ้าล่อเล่นอะไรอยู่นี่ เอเดรียน เฟลเวเธอร์” ราชาถามเสียงดุดัน

         

     “ใช่ๆแล้วท่านพ่อข้าว่าเอเดรียนแค่ล่อเล่นนะครับ..ใช่ไหมเอเดรียน” รัชทายาทหันไปถามเอเดรียน แต่คำตอบที่ได้ชายหนุ่มยังหน้าด้านยืนยันคำขอเดิม อเล็กเซียกำหมัดแน่นอยากจะเข้าไปชกอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้ เริ่มจะเข้าใจว่าทำไม

เอเดรียนถึงกล้าขอจูบจากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แท้แล้วก็เห็นเขาเป็นดั่งเช่นอิสตรีผู้หนึ่ง

         

     “เจ้าดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะ เอเดรียน เฟลเวอเธอร์ เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นผู้ชายยังจะกล้าขอข้าจากท่านพ่อให้ไปเป็นภรรยาเจ้าอีกหรือ..นี่เจ้าตั้งใจจะดูถูกเหยียดหยามข้าใช่หรือไม่” อเล็กเซียตวาดออกไปด้วยความเดือดดาล ไม่คาดว่าคำตอบที่ได้รับจะกลายเป็นการบอกรักต่อหน้าผู้คนมากมาย

           

   “เจ้าชายอเล็กเซียข้าหาได้ดูถูกท่านไม่ แต่ข้ามีใจให้ท่านตั้งแต่วินาทีแรกที่พบท่าน ท่านเป็นคู่ฟ้าลิขิตเพียงหนึ่งเดียวของข้า”

         

     “คู่ฟ้าลิขิตอย่างนั้นหรือ” ท่านพ่อพึมพำซ้ำไปมากับตัวเอง อเล็กเซียไม่เข้าใจว่าคู่ฟ้าลิขิตหมายถึงอะไร แต่จากสีหน้าของท่านพ่อกับท่านพี่แล้วคิดว่าทั้งคู่คงจะรู้อะไรบางอย่าง

         

     “ถึงเจ้าจะอ้างว่าอเล็กเซียเป็นคู่ฟ้าลิขิตของเจ้า แต่หาใช่ข้ออ้างที่จะทำให้ข้ายกบุตรชายของข้าให้เจ้าได้ เจ้ากลับไปยังเผ่าของเจ้าเสียเจ้าผู้อุกอาจ เพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลืออาณาจักร ข้าจะไม่ลงโทษเจ้าไปให้พ้นจากที่นี่เสียแล้วอย่าได้เรียกร้องอะไรจากข้าอีก”

         

     อเล็กเซียเห็นเอเดรียน เฟลเวเธอร์กระตุกยิ้มร้าย รอยยิ้มร้ายกาจนั้นทำให้อเล็กเซียหนาววูบเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าชายผู้นั้นจะลาจากไปโดยไม่ได้โวยวายใดใดทั้งนั้น แต่วินาทีที่เผลอสบตากันเด็กหนุ่มก็เข้าใจว่าเอเดรียน เฟลเวเธอร์ไม่ได้ยอมตัดใจจากเขาแต่อย่างใด



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



                                    เนื่องจากติดธุระอาจจะไม่ได้ลงนิยายสองถึงสามวันนะจ๊ะ



                                     รู้สึกว่านิยายตัวเองเริ่มเขียนยาก มีหลายฉากที่คิดไม่ตก



                                    อันนี้ไม่ได้หายไปคิดพล๊อตแต่อย่างใด แต่คนเขียนไม่ว่างจริงๆจ้า



                                    ขอลาไปทำธุระส่วนตัวสักหน่อย



                                     เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-11-2016 13:23:07
 :mew1:  โอ๋ๆ มีความหวงลูกสาวนะ
เอาใจช่วยนะคะ ค่อยๆคิดค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 08-11-2016 17:51:15
อ้าวกษัตริย์ตรัสแล้วคืนคำซะงั้น
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 08-11-2016 22:12:44
อ้าวววว กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำสิ (ถึงเราจะคิดว่าอเล็กเซียไม่ใช่สิ่งของที่ควรยกให้กันง่ายๆก็เหอะนะ)
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 08-11-2016 23:57:43
อุต๊ะ! คิดจะทำอะไรรรร หืม?
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-11-2016 07:22:43
ราชาาาาาา ต้องทำตามคำพูดสิ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 09-11-2016 15:25:17
ก็ว่าทำไมพ่อมดตายง่าย เพราะจริงๆแล้วว่าที่พ่อตาไม่ได้ยอมง่ายๆนี่เอง เรื่องสนุกกำลังจะเริ่มสินะ 


:hao6: :hao6:


เอ้ยๆๆ.. ว่าที่พ่อตาก็อนุญาตแล้วนี่ ให้เลี้ยงหมาแล้วนี่หน่า คริๆ  o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 09-11-2016 23:04:43
 :katai1: :katai1:อยากอ่นต่อแบบรัวๆๆเลยอ่าสนุกมาก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 10-11-2016 01:49:07
สนุกกกกกมากก รอตอนต่อปายยย
ป.ล.หมาป่าเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบเห่านะคะ มันจะเห่าเบาๆในลำคอมากกว่า ส่วนมากจะหอนเป็นกิจวัตร
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 11-11-2016 16:40:53
รอด้วยใจจดจ่อ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่9 หน้า3 12/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 12-11-2016 11:31:14
ตอนที่9

             

  เวลานี้คนในเผ่าวูฟทั้งหมดรู้กันแล้วว่าเจ้าชายอเล็กเซียคือคู่ฟ้าลิขิตของใคร ทว่าก็ไม่ได้ต่อต้านชายหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่พากันแสดงความเห็นใจทั้งยังไม่พอใจต่อราชาธีโอดอร์ที่ผิดสัญญาต่อเอเดรียน การที่ถูกปฏิเสธกลายเป็นเรื่องน่าเห็นอกเห็นใจจนแม้แต่เด็กตัวเล็กๆยังต้องเอ่ยปลอบโยนตัวเขา

         

      ตอนแรกเอเดรียนยังหวั่นเกรงอยู่บ้างเรื่องแรงต่อต้านจากคนในเผ่า แต่การที่คนในเผ่าแสดงออกถึงความเข้าใจทั้งยังกรุ่นโกรธแทนเขาเช่นนี้ มันทำให้ชายหนุ่มคล้ายเหมือนมีแรงผลักดันทำให้เดินหน้าต่อไปได้โดยไม่พะวักพะวง

         

      เกือบเดือนหนึ่งแล้วที่เอเดรียนไม่ได้พบหน้าของอเล็กเซีย ที่ยังพอทนอยู่ได้เพราะตนเองนั้นแอบดอดไปแอบดูเด็กหนุ่มอยู่เป็นพักๆราวกลับเป็นพวกโรคจิต หากไม่ทำเช่นนั้นก็รู้สึกเหมือนประหนึ่งใจจะขาดรอนๆ ครั้นจะกลายร่างเป็นหมาป่าเข้าไปเล่นด้วยก็พบว่าอเล็กเซียไม่ค่อยได้อยู่ตามลำพังทำให้ไม่สามารถแอบเข้าไปออเซาะในร่างหมาป่าได้ดั่งที่ใจต้องการ

           

    “เอเดรียน...เอเดรียน...เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่” เอเดรียนเลิกกระหวัดถึงอเล็กเซียแล้วกลับมาให้ความสนใจต่อเจ้าของเสียง ตรงหน้าชายหนุ่มมีอาน้องสาวของไนเจลทำท่าทางกระเง้ากระงอดดูเหมือนว่าจะไม่พอใจที่เขาไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร

         

     “ตกลงว่าข้าใส่ชุดนี้แล้วสวยไหม” หญิงสาววัยสิบแปดในชุดกระโปรงหรูหรา เสื้อผ้าชุดนี้เอเดรียนเป็นผู้สบทบทุนให้มีอาไปซื้อด้วยตัวเอง เนื่องจากมีอาเอาแต่พูดกับเขาทำนองน้อยอกน้อยใจว่าตนเองไม่มีเสื้อผ้าหรูหราดั่งเช่นพวกสตรีในเมืองดังนั้นจึงไม่งามน่ามองจนไนเจลและเขาเลิกให้ความสนใจ

           

    เอเดรียนได้ฟังแล้วอดขำขันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าตนเองนั้นไม่รู้ตัว นอกจากจะรู้ตัวดีแล้วไนเจลยังเป็นผู้ย้ำเตือนกับเขาเอง มีอาน้องสาวตัวน้อยในสายตาเขาคนนี้มีใจให้ตนแบบชู้สาวไม่ผิดแน่

         

      แต่ถึงอย่างนั้นเอเดรียนไม่เคยเห็นมีอาเป็นอื่นนอกจากน้องสาวมาก่อน โดยปกติก็มักถูกรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจอยู่เป็นนิจ ยิ่งพอรู้ว่าเขาพบคู่ฟ้าลิขิตแล้วยิ่งหนักข้อมากกว่าเก่า ถึงแม้จะเคยบอกออกไปแล้วว่าเห็นเป็นน้องสาวเพียงแค่นั้น แต่มีอากลับทำเป็นบ้าใบ้ไม่สนใจคำพูดของเขาเอาเสียเลย



เมื่อเห็นว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนเท่าไหร่ บวกกับว่าถูกข้อร้องจากไนเจลให้อย่าทำร้ายจิตใจน้องสาวคนนี้นัก นอกไปจากนั้นสำหรับเอเดรียนแล้วการที่ไม่ทำร้ายจิตใจกันมากไปกว่านี้นั่นเป็นเพราะเขาเอ็นดูมีอาในฐานะน้องสาวคนสนิท ก็ทำไงได้ล่ะเขาเห็นหล่อนมาตั้งแต่จำความได้             



“นี่คู่ฟ้าลิขิตของเจ้าสวยไหม” ถูกล้วงลึกเข้าให้ แต่หากไม่ตอบก็รำคาญเวลาที่ถูกเซ้าซี้



“สวยสิ”



“แต่ก็เป็นผู้ชายไม่ใช่หรือ จะสู้พวกผู้หญิงอย่างเราได้ที่ไหน”



“นั่นสิ หากแค่สวยข้าคงไม่สนใจ อเล็กเซียนอกจากจะงามรูปแล้วนิสัยของเขาข้าก็ชอบด้วยเหมือนกัน ทั้งความ



เหย่อหยิ่งที่มี ความกล้าหาญอันน่าจับตามองล้วนแล้วแต่ชวนให้ข้าอยากเข้าใกล้”



“กล้าหาญอะไรกัน เอเดรียนมองเจ้าชายนั่นดีเกินไป เจ้าแค่พบหน้ากับเจ้าชายนั่นแค่กี่ครั้งกันเชียวฮึ”



 มีอากระทืบเท้าเบาๆอย่างไม่พอใจ เอเดรียนได้แต่ยิ้มกริ่ม อาจจะจริงอย่างที่มีอาว่าเขาอาจจะรู้จักอเล็กเซียน้อยเกินไป แต่สำหรับเขาแล้วหาใช่ปัญหาไม่ เวลานี้เขาพร้อมทุกอย่างที่จะเข้าหาและเรียนรู้เกี่ยวกับอเล็กเซีย



 มีอาคงไม่เข้าใจเพราะยังไม่เคยเจอคู่ฟ้าลิขิต วินาทีแรกที่เขาพบและได้กลิ่นกายหอมหวานจากเด็กหนุ่มผู้นั้นเขาก็เหมือนถูกแรงดึงดูดมหาศาลไม่อาจไม่สนใจหรือเมินเฉยต่อการคงอยู่ของเด็กนั่นได้อีกต่อไป



“เอเดรียน...” เสียงตะโกนเรียกดังมาแต่ไกล คนที่เรียกเขาเข้ามาในระยะใกล้ทุกทีและคนผู้นั้นคือไนเจล



“แอบมาเที่ยวเล่นกับตัวปัญหาในที่แบบนี้นี่เอง” ไนเจลบ่นพึมพำแต่มันดังพอที่จะให้เขากับมีอาได้ยิน หญิงสาวแสดงอาการไม่พอใจทันที



“ตัวปัญหาอะไรกันท่านพี่ กล้าพูดอย่างนี้กับเลดี้ได้อย่างไร” เป็นอีกครั้งที่มีอาขยี้เท้าอย่างไม่พอใจ



“เอเดรียนคงไม่เห็นว่าข้าเป็นตัวปัญหาอย่างที่ท่านพี่ว่าใช่หรือไม่”



เอเดรียนได้แต่ส่งยิ้มละไมให้มีอาแทนคำตอบ หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจเธอคงตีความเข้าข้างตนเอง แต่จริงๆแล้วเอเดรียนแค่ไม่ยินดียินร้ายหากมีเวลาว่างเขาก็สามารถเจียดเวลาให้น้องสาวผู้นี่ได้อยู่ ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ใช่คนใจดีถึงขนาดจะให้ผู้อื่นรบกวนในเวลาสำคัญ ซึ่งข้อนี้เขาคิดว่ามีอาน่าจะรู้อยู่แก่ใจหากแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้



“ตัวปัญหาเห็นๆ” ไนเจลยังไม่หยุดพูดจาร้ายๆ มีอาชกหมัดขวาเข้าที่สีข้างของไนเจลเข้าเต็มแรงก่อนจะวิ่งหนีออกห่างไปไกล



“เด็กบ้านี่” ไนเจลโหวกเหวกโวยวาย มีอาหันมาแลบลิ้นปริ้นตาใส่ก่อนจะวิ่งหายไป เอเดรียนและไนเจลเดาว่าน่าจะกลับหมู่บ้านไปก่อนดังนั้นจึงไม่ห่วง แน่นอนว่าไม่มีอะไรน่าห่วงสำหรับหญิงสาวของเผ่าที่กลายร่างเป็นวูฟตัวโตได้



“มีอะไรหรือไนเจล”



“สายของเราบอกว่าพวกไซปรัสยกกองทัพมาระลอกที่สองนะสิ”



เหล่าผู้คนในท้องพระโรงต่างตึงเครียดกันอีกครั้ง เนื่องจากสายสืบของอาณาจักรเข้ามารายงานว่าพวกไซปรัสยกกองทัพเคลื่อนมาเป็นระรอกที่สอง



“พวกมันมาเท่าไหร่”



“ประมาณหนึ่งหมื่นคนได้พระองค์”



อเล็กเซียได้ฟังแล้วค่อนข้างโล่งใจหากเพียงแค่หมื่นคน นับว่ากองกำลังในอาณาจักรของเขานั้นมีมากกว่า จากที่ได้ฟังที่ท่านพี่เล่า เนื่องจากการรบในครั้งที่แล้วแทบไม่ได้เสียเลือดเนื้อ ดังนั้นทหารของอเล็กซานเดรียจึงอยู่ในสภาพพร้อมรบมากกว่าสองหมื่นคน



คิดถึงตรงนี้แล้วอดนึกถึงเอเดรียน เฟลเวเธอร์ไม่ได้ การที่เหลือทหารพร้อมรบมากมายขนาดนี้เป็นความดีความชอบของคนผู้นั้นกับเผ่าวูฟโดยแท้จริง หากว่าเจ้าผู้ชายบ้านั่นไม่สติฟั่นเฟือนขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เสียก่อน สงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ คนผู้นั้นอาจได้เข้าร่วมรบและผลที่ได้รับอาจทำให้ชายหนุ่มมีสิทธิกลายเป็นขุนนางระดับสูงของอาณาจักร



คู่ฟ้าลิขิต



หลังจากได้ยินคำคำนี้อเล็กเซียก็ค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที สิ่งที่ได้รู้มานั้นทำให้เขาแปลกใจอย่างบอกไม่ถูก คู่ฟ้าลิขิต สิ่งนั้นหมายถึงความรักที่เกิดขึ้นโดยเฉียบพลันตามสัญชาติญาณ เป็นความรักครั้งเดียวของพวกวูฟที่จะเกิดขึ้นและรับรู้ในทันทีที่พบหน้า



ฟังดูแล้วช่างไร้สาระ อเล็กเซียเกิดความสงสารพวกวูฟที่มีชะตากรรมที่เหมือนต้องคำสาป หากว่าตัวเขาต้องพบรักเฉียบพลันกับคนที่พบหน้าครั้งแรกอย่างอธิบายเหตุผลไม่ได้อย่างนี้ คงมีแต่ความทุกข์จนหาความสุขไม่ได้



ไม่รู้ว่าเอเดรียน เฟลเวเธอร์คิดเห็นเป็นเช่นไร แต่ตามที่ได้อ่านจากหนังสือเก่าเก็บในหอสมุดจึงรู้ว่าพวกวูฟต้องทุกข์ทรมานแค่ไหนหากต้องอยู่ห่างคู่ฟ้าลิขิต



ชายผู้นั้นก็ทรมานด้วยเช่นกันหรือเปล่านะยามที่ไม่ได้พบหน้าเขาเช่นนี้?



ยิ่งคิดยิ่งสงสัย อเล็กเซียไม่เคยมีความรักมาก่อนดังนั้นจึงไม่ค่อยเข้าใจความลุ่มหลงที่เอเดรียนพยายามสื่อให้เขาเห็น เพราะว่าลุ่มหลงในตัวเขามากถึงได้เรียกร้องจูบไปเสียทุกครั้งหรอกหรือ ใบหน้าของเด็กหนุ่มเริ่มร้อนขึ้นทีละนิด ได้แต่ตำหนิตัวเองที่เอาแต่นึกถึงจูบของเอเดรียน เฟลเวอเธอร์ ทั้งยังแปลกใจที่ตนเองนั้นต้องร้อนวูบไปทุกครั้งที่นึกถึงจูบบ้าๆนั่น



“เจ้าชายรัชทายาทจงฟัง เจ้าจงนำทัพหนึ่งหมื่นนายไปจัดการกับพวกทหารของไซปรัส” รู้สึกตัวอีกทีท่านพ่อก็ออกคำสั่งกับท่านพี่เสียแล้ว อเล็กเซียส่งยิ้มตอบให้ท่านพี่ที่ส่งยิ้มมาให้ เด็กหนุ่มเข้าใจว่าสงครามครั้งนี้คงไม่ยากอย่างที่คิด เพราะตัวปัญหาอย่างมอร์โด ลาปิสก็ถูกกำจัดไปแล้วโดยง่าย



“ในที่สุดเหล่าทหารที่แท้จริงก็จะได้แสดงฝีมือกันเสียที” ไอแซคพูดในสิ่งที่ตนคิดขณะนั่งดื่มชากับอเล็กเซียในสวนของปราสาท สำหรับเด็กหนุ่มนั้นรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนสนิทกลับมาคบกับเขาและเลิกงอนโดยไร้เหตุผลไปได้เสียที



“จริงๆนะอเล็กเซียข้าตื่นเต้นจนรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ออกไปสู่สนามรบ จริงๆการรบครั้งก่อนถึงไม่มีไอ้พวกวูฟ กองทัพของเราก็สามารถชนะสงครามได้โดยง่ายอยู่แล้ว”



“ตอนเจ้าไปยังค่ายศัตรู เจ้าได้พบมอร์โด ลาปิสตอนเป็นๆหรือไม่” ไอแซคยักไหล่ก่อนจะตอบคำถาม



“ไม่เห็น แต่เดาว่ามันน่าจะเป็นพ่อมดกระจอกหรือไม่ก็พวกลวงโลก ไม่อย่างนั้นแค่ไอ้เจ้าเอเดรียนจะจัดการมันอย่างง่ายๆได้อย่างไร”



“อย่างนั้นหรอกหรือ” อเล็กเซียพึมพำ รู้สึกไม่เห็นด้วยนิดๆเพราะได้ประสบความร้ายกาจของพ่อมดนั่นมากับตา คิดในทางกลับกันหากว่าพ่อมดนั่นเก่งจริงนั่นไม่ได้หมายความว่าเอเดรียน เฟลเวเธอร์มีฝีมือเก่งกาจมากหรอกหรือ เนื่องจากตนเองไม่ได้อยู่ในสนามรบจึงพูดอะไรไม่ได้มากและได้แต่เก็บการอนุมานเอาไว้กับตัว



“ต้องอย่างนั้นสิ เจ้ามอร์โด ลาปิสอะไรนั่นประกาศศักดาไปทั่ว แต่ก็ไม่รู้นะว่าเป็นแค่คำลือหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะพรุ่งนี้ข้าจะออกไปสู่สนามรบแล้ว เจ้าไม่มีอะไรที่จะพูดกับข้าหน่อยหรือ”



“ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้วกัน”



อวยพรออกไปด้วยหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แต่ไอแซคกลับทำหน้าเหมือนไม่พอใจ จู่จู่ร่างสูงก็เข้ามาประชิดก่อนจะใช้มือเกี่ยวปลายคางของเขาให้เงยหน้าไปสบตา



ไม่เข้าใจทำอย่างนี้ทำไม แถมยังส่งสายตาหวานซึ้งมาให้อีก ได้แต่ปลอบใจว่าสิ่งที่แอบคิดเอาไว้คงจะไม่ใช่เรื่องจริง ไอแซคหรือว่าเพื่อนคนนี้จะคิดกับเขาแบบชู้สาว



เริ่มรู้สึกถึงอันตรายเมื่ออีกฝ่ายหลับตาลง ผลักออกไปน่าจะดีที่สุดเขาไม่ต้องการจูบกับไอแซคถึงอีกฝ่ายจะโกรธก็เถอะ จังหวะที่อเล็กเซียผลักออกเป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงรับใช้โผล่หน้าเข้ามาพอดี



นับว่าช่วยได้มาก ไอแซคเข้าใจว่าที่เขาผลักออกเป็นเพราะหญิงรับใช้ ดังนั้นเพื่อนของเขาจึงแยกเขี้ยวใส่หญิงรับใช้แทนเสียอย่างนั้น



“มีอะไรหรือ” อเล็กเซียถาม



“รัชทายาทเรียกให้เจ้าชายไปทานขนมที่ห้องของรัชทายาทเจ้าค่ะ” นับว่าโอกาสเหมาะทีเดียว เวลานี้เขาไม่กล้าอยู่ตามลำพังกับไอแซคเสียแล้ว หากอยู่กันตามลำพังอีกก็ไม่รู้ว่าไอแซคจะสานต่อจูบเมื่อครู่อีกหรือไม่



“เจ้าจะไปด้วยหรือไม่ไอแซค” ถามออกไปตามมารยาท แต่ถึงไอแซคอยากจะตามไป คนใจดีอย่างท่านพี่คงไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว



“ไม่ล่ะข้าว่าข้ากลับไปเตรียมตัวเดินทางในวันพรุ่งนี้จะดีกว่า”  ไอแซคจากไปแล้วอเล็กเซียโล่งใจจนต้องระบายลมหายใจออกมา



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                                                หายไปสามวันกลับมาละน้า จะบอกว่ายิ่งเขียนยิ่งเขียนยาก



                                               ประมานว่ามีพล๊อตเต็มหัวแต่เวลาเขียนมันออกมาไม่ดีไง



                                              เม้นเป็นกำลังใจกัยบ้างนะคะ

                                               ป.ล. พล๊อตเราไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการชวนตื่นเต้นเล๊ย หวังว่าคนอ่านจะไม่เบื่อก่อนนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่9 หน้า3 12/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-11-2016 11:46:11
เอาใจช่วยพ่อพระเอกหมาป่าของเราค่ะ
น้องอเล็กเซียคิดถึงทั้งคนทั้งหมาล่ะสิ อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่9 หน้า3 12/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 12-11-2016 14:42:32
ไอแซคนี่มีความเป็นเด็กเอาแต่ใจอยู่นะ

คิดถึงพี่หมาตัวโตแล้ววววว
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่9 หน้า3 12/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-11-2016 15:54:28
ไม่เบื่อๆ ชอบๆๆๆ มาต่อไวๆน้าา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่9 หน้า3 12/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 13-11-2016 07:50:37
 o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่9 หน้า3 12/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 13-11-2016 10:37:04
ไอแซคดูมั่นใจเว่อร์ รอตอนต่อไปค่ะ
 +1  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 13-11-2016 13:07:27
ตอนที่10



เป็นเวลาเกือบจะสองอาทิตย์แล้วที่เจ้าชายรัชทายาทเดินทางไปออกรบพร้อมกับกองทัพ เป็นสองอาทิตย์ที่

อเล็กเซียไม่ได้ยินแม้แต่ข่าวสารใดใดจากท่านพี่เนื่องจากว่าไม่มีทหารคนใดถือสารลับกลับมาแม้แต่คนเดียว



เวลานี้อเล็กเซียเริ่มจะกังวลพอพอกับที่ท่านพ่อเป็นกังวล พวกขุนนางเองพอขาดการติดต่อกับรัชทายาทนานๆเข้าก็เริ่มจะอยู่ไม่ติดที่ ทั้งราชาและสภาขุนนางต่างมีความลังเลที่จะส่งทหารอีกหนึ่งหมื่นคนไปสมทบดีหรือไม่ นั่นก็เพราะไม่มีผู้ใดส่งสารกลับมาหรือแม้แต่ผู้ส่งสารที่ส่งไปก็ไม่กลับมาเช่นกัน



แต่แล้วในที่สุดฝันร้ายของอเล็กเซียและราชาธีโอดอร์ก็มาถึง เมื่อเจ้าชายรัชทายาทถูกไอแซคกับทหารอีกไม่กี่คนนำตัวกลับมาในสภาพบาดเจ็บ ธีโอมีแผลถูกไฟไหม้ที่แขนซ้ายดูแล้วช่างน่ากลัวเวลานี้ถึงจะถูกหามกลับมาถึงปราสาทแต่ก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ



“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไอแซค บาร์ตันไหนรายงานข้าสิ” ราชาธีโอดอร์ถาม ไอแซคเล่าถึงเหตุการณ์ในสนามรบที่กองทัพของอเล็กซานเดรียแตกพ่ายเพราะไม่อาจต่อกรกับกองทัพของไซปรัสที่เต็มไปด้วยผู้ใช้มนต์ดำ อเล็กเซียและราชาตกใจอย่างมากด้วยไม่คิดว่าจะมีผู้ใช้เวทย์มนต์นอกไปจากมอร์โด ลาปิสเข้าร่วมสงครามอีก



“แล้วแม่ทัพโรแลนล่ะเป็นอย่างไรบ้าง”  ราชาถามถึงโรแลน หัวหน้าแม่ทัพของอาณาจักร คนคนนี้เป็นผู้ที่มีฝีมือในการรบเป็นอย่างมาก ไอแซครายงานว่าโรแลนยังพยายามใช้ทหารที่เหลืออยู่คอยต้านการเคลื่อนทัพของไซปรัสแม้ว่าจะไม่เห็นผลชนะ

         

     ถึงตรงนี้แม้แต่อเล็กเซียยังเข้าใจว่าจะต้องส่งกองหนุนอีกหนึ่งหมื่นไปช่วย แต่หลังจากได้ฟังความร้ายกาจของพวกพ่อมดกับสถานการณ์ของอาณาจักรซึ่งขาดแคลนผู้นำทัพที่ดี การที่อาณาจักรอเล็กซานเดรียขาดบุคลากรทางทหารที่ดีแบบนี้เป็นเพราะท่านพ่อเอาแต่สนใจทางด้านการค้าและเกษตรกรรมเป็นเวลานาน

         

     เกี่ยวกับทางด้านการทหารของอาณาจักรที่เพิ่งกลับมาเข้ารูปเข้ารอยจนสามารถมีจำนวนทหารพร้อมรบในมือมากถึงสองหมื่นนั้น ความดีความชอบต้องยกให้รัชทายาทที่พยายามอย่างยิ่งยวดมาตลอดหลายปีจนมีทุกวันนี้

         

      หลังจากไอแซครายงานสถานการณ์แล้วก็พากันลากลับไปพักรักษาตัว อเล็กเซียนอกจากจะเป็นห่วงท่านพี่แล้วยังคิดเผื่อไปถึงเพื่อนสนิท ไอแซคดิ้นรนพาท่านพี่ฝ่าสมรภูมิกลับมายังปราสาททั้งที่แขนของตัวเองก็หักเช่นกัน เด็กหนุ่มรู้สึกขอบคุณเพื่อนของเขาอยู่ไม่น้อยที่ไม่ทิ้งท่านพี่เอาไว้เพียงลำพัง

         

      จากนั้นราชาธีโอดอร์เรียกประชุมขุนนางอย่างเร่งด่วน อเล็กเซียไม่ได้เข้าประชุมขุนนางครั้งนี้ด้วยเนื่องจากต้องคอยดูอาการของท่านพี่ที่ยังไม่ฟื้น แผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายของท่านพี่ช่างดูน่ากลัว แต่หมอหลวงบอกว่าแขนของท่านพี่จะยังคงใช้ได้ เด็กหนุ่มโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก หากยังใช้แขนต่อไปได้ย่อมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถึงแม้ว่าแขนซ้ายของท่านพี่จะมีรอยแผลเป็นติดตัวไปตลอดชีวิตก็ตาม

       

       ค่ำวันนั้นได้ยินเสียงซุบซิบของพวกขุนนางว่าท่านพ่อจะบากหน้าไปขอให้พวกวูฟช่วยอีกครั้ง อเล็กเซียสงสารท่านพ่อเหลือเกินเพราะไม่รู้ว่าการไปขอร้องอีกฝ่ายครั้งนี้จะต้องแลกด้วยความอัปยศอะไรบ้าง

         

      คนผู้นั้นจะยอมช่วยอาณาจักรของเขาอีกครั้งหรือ? ในเมื่อท่านพ่อผิดคำพูดที่ได้ให้ไว้ อเล็กเซียยังจำรอยยิ้มร้ายๆของเอเดรียน เฟลเวเธอร์ได้ดี ผู้ชายคนนั้นโกรธมากถึงขนาดนั้นคงจะไม่ยอมทำตามคำขอร้องของท่านพ่ออย่างแน่นอน

           

    แล้วมันก็เป็นไปตามที่อเล็กเซียคาด พวกวูฟส่งสารปฏิเสธคำขอความช่วยเหลือของอาณาจักร แต่กระนั้นยังมีข้อแม้ที่ทำให้ราชาต้องปวดหัวแนบกลับมาด้วย เนื้อหาที่ว่าคือหากอยากให้ร่วมรบต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ ต้องมอบอเล็กเซียให้เป็นภรรยาของเอเดรียน นอกจากนั้นยังต้องงดเว้นภาษีและยกระดับชนชั้นของเผ่าวูฟให้เท่าเทียมกับผู้คนในอาณาจักร

         

      สำหรับอเล็กเซียการของดเว้นภาษีกับยกระดับฐานะย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับขุนนางของอาณาจักรนั้นไม่สามารถทำใจยอมรับได้โดยง่าย พวกเขาเอาแต่โต้เถียงกันต่อหน้าราชาที่เอาแต่นิ่งเงียบ เด็กหนุ่มเข้าใจว่าท่านพ่อคิดเรื่องอะไรอยู่

         

      เรื่องที่ทำให้ท่านพ่อเก็บไปคิดมากขนาดนี้ น่าจะเป็นเรื่องของเขาไม่ผิด การโต้เถียงของขุนนางไม่จบลงง่ายๆสุดท้ายจึงต้องเลิกประชุมทั้งที่ยังไม่ได้บทสรุป หลังประชุมขุนนางอเล็กเซียกลับมายังห้องพักเพื่อดูแลท่านพี่ เจ้าชายรัชทายาทยังคงนอนสลบไม่มีท่าที่ว่าจะฟื้นง่ายๆ

         

     แต่อเล็กเซียเข้าใจว่าอีกไม่นานท่านพี่ก็คงจะตื่นจากการหลับเพราะหมอหลวงยืนยันเป็นมั่นเหมาะเรื่องที่ท่านพี่จะต้องฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอนในเวลาไม่นาน

         

     ขณะที่มองดูใบหน้าของท่านพี่ยามหลับ อเล็กเซียครุ่นคิดถึงหน้าที่ของเจ้าชายพระองค์หนึ่งของอาณาจักร คิดถึงหน้าที่ของผู้เป็นลูก หน้าที่ของผู้เป็นน้องชาย และคุณค่าของการคงอยู่ของตนเอง

         

     เด็กหนุ่มทราบว่าหากตนเองเอาแต่เห็นความสุขของตนจนปล่อยให้อาณาจักรล่มสลาย ตัวเขาคงไม่สามารถให้อภัยตัวเอง หากว่ามีหนทางสามารถช่วยเหลืออาณาจักรท่านพ่อและท่านพี่ได้ ตัวเขาย่อมจะไม่ปฏิเสธสิ่งนั้นถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาไม่มีความสุขก็ตาม

         

      “ท่านพ่ออยู่ข้างในหรือไม่” อเล็กเซียพูดกับทหารองครักษ์ที่อยู่หน้าห้องอักษรเมื่อได้รับคำตอบ เด็กหนุ่มเคาะประตูห้องสามครั้งแล้วยืนรอให้ท่านพ่ออนุญาตให้เข้าไป

           

    “เข้ามาได้” เมื่อได้รับอนุญาตเด็กหนุ่มก็ผลักประตูเข้าไปในห้องอักษร แวบแรกที่สบตา ราชามีสีหน้าเคร่งเครียดเสียจนอดเป็นห่วงไม่ได้แต่ในเวลาถัดมาท่านพ่อก็ปั้นยิ้มส่งมาให้เขา

           

    “มีอะไรหรืออเล็กเซีย” อเล็กเซียไม่ยอมเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเขาพูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้ในทันที

         

     “ท่านพ่อข้าจะยอมทำตามคำขอของเอเดรียน เฟลเวเธอร์” ราชาธีโอดอร์เปลี่ยนสีหน้าเป็นโกรธขึ้งในเฉียบพลัน

         

     “เจ้าอย่าพูดไรสาระ เจ้าเด็กโง่”

           

    “ข้าไม่ได้ไร้สาระท่านพ่อ” อเล็กเซียคุกเข่าลงต่อหน้าราชา เด็กหนุ่มคว้าจับมือของท่านพ่อเอาไว้พลางส่งสายตาอ้อนวอนไปให้

           

   “หากข้าไม่ยอมเสียสละสิ่งใดไปบ้าง ข้าย่อมไม่มีคุณค่าในฐานะเจ้าชายพระองค์หนึ่ง” สิ้นคำพูดของอเล็กเซียราชาก็หลั่งน้ำตาออกมา ท่านพ่อใช้มือลูบศีรษะเขาเบาๆราวกับจะปลอบโยน

           

    “เจ้าไม่ควรจะเสียสละเพื่อใครถึงเพียงนี้ ต้องโทษพ่อเองที่ไร้ความสามารถในการปกครองจึงทำให้อาณาจักรต้องเป็นเช่นนี้”

           

   “ท่านพ่ออย่าได้โทษตัวเอง ข้าภูมิใจในการเสียสละของตัวเอง ท่านพ่ออย่าได้กังวล ท่านพ่อทำตามที่ข้าขอเถอะ เราจะรอช้าไม่ได้แล้วนะครับ” ราชาธีโอดอร์กอดรัดอเล็กเซียเอาไว้แน่นแทนคำตอบ เขากับท่านพ่อกอดรัดกันอยู่เช่นนั้นยาวนานเมื่อผละจากกัน ผู้เป็นพ่อก็เริ่มเขียนสารฉบับใหม่อีกครั้งเพื่อส่งข้อความให้กับเผ่าวูฟ

         

      สารตอบตกลงจากเผ่าวูฟรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ พวกขุนนางแม้จะไม่พอใจการตัดสินใจของราชาอยู่บ้างแต่

อเล็กเซียรู้ดีว่าพวกขุนนางเหล่านั้นพากันถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าพวกวูฟจะทำให้ชนะสงครามได้หรือไม่แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

           

    อเล็กเซียมีความหวังว่าจะได้เข้าร่วมสงครามครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะต้องไปกับพวกวูฟ แต่ก็ถูกท่านพ่อทำลายความฝันไปเสียอีกครั้ง สำหรับท่านพ่อแค่ยกเขาให้กับเอเดรียน เฟลเวเธอร์ก็เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากอยู่แล้ว หากว่าต้องส่งเขาไปลำบากในสนามรบเห็นทีว่าจะทนรับไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่เฝ้ารอผลของสงครามจากในปราสาทด้วยความรู้สึกที่ว่าตนยังทำประโยชน์ให้อาณาจักรไม่เพียงพอ

         

      “อเล็กเซีย” เสียงโหวกเหวกโวยวายของไอแซคดังมาแต่ไกล เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันนึกรำคาญเพื่อนสนิทที่ทำลายความสงบในการจิบชาของตน

         

     “มีอะไรหรือไอแซค เจ้าหายดีแล้วหรือ”

         

     “ก็ยังไม่หายดีเท่าที่ควร” ไอแซคยักไหล่แต่อารมณ์รุนแรงของเพื่อนสนิทยังคงไม่ลดลงง่ายๆ อเล็กเซียไม่เข้าใจจริงๆว่าหมู่นี้เพื่อนของเขาคนนี้เป็นอะไรจึงได้อยู่ในภาวะอารมณ์ร้ายเช่นนี้ตลอดเวลา

           

   “ข้าเพิ่งรู้จากท่านพ่อว่าเจ้ายอมรับข้อเสนอของไอ้เจ้าวูฟนั่น จริงหรือที่เจ้าจะไปเป็นภรรยามันหลังจากชนะสงคราม” อเล็กเซียสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาไม่สบายใจขึ้นมาเสียแล้วเกี่ยวกับคำถามและท่าทีของไอแซค

         

     “เจ้ารู้ช้าไปหน่อยนะ” พยายามปั้นยิ้มให้นุ่มนวลที่สุดไม่อยากให้ใครเห็นสีหน้าหวาดกลัวและอ่อนแอของตนยามที่สะกิดเรื่องนี้เข้า

           

    “เจ้ากับองค์ราชาวางแผนจะปฏิเสธมันอีกครั้งหลังสงครามจบใช่หรือไม่” ได้แต่ถอนหายใจ ไม่เข้าใจไอแซคคิดอะไรอยู่กันแน่ แค่ผิดสัญญาครั้งแรกยังพอทำเนาหากแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เป็นพวกเขาเองที่หน้าด้านไปขอให้พวกวูฟช่วยดังนั้นสัญญาในครั้งที่จะบิดพริ้วไปไม่ได้อีกแล้ว

           

    “เห็นแก่พระเจ้าเถอะไอแซคข้าว่าเจ้าน่าจะเข้าใจดีว่าเราจะผิดสัญญากับพวกวูฟอีกไม่ได้”

           

   “ทำไมจะไม่ได้ พวกมันแทบไม่มีค่าหรือสิทธิเสียงใดใดในอเล็กซานเดรียอยู่แล้ว” ได้แต่ส่ายหน้าให้กับคำพูดแสนยโสของไอแซค ถึงแม้ตนเองนั้นจะไม่ได้ดีไปกว่า ทว่าเวลานี้อเล็กเซียไม่อาจทำตัวหยิ่งยโสแบบเดิมๆได้อีกต่อไป เด็กหนุ่มเลือกที่จะไม่พูดแล้วเดินหนีอีกฝ่าย

           

    ขี้เกียจจะเถียงหรืออธิบายด้วย คนอย่างไอแซคเขารู้ดีว่าลองได้ยึดถืออะไรแล้วจะไม่เปลี่ยนใจไปง่ายๆ

           

    “อย่าหนีหน้ากันสิอเล็กเซีย...ข้าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงยอมรับข้อเสนอ” ก้าวเดินต่อไปโดยไม่หันหลังไปมอง

           

   “อย่าบอกนะว่าเจ้าอยากจะเป็นเมียของไอ้พวกหมานั่นเสียเต็มประดา” หยุดชะงักด้วยคาดไม่ถึงว่าจะถูกด่าว่าเช่นนั้น อเล็กเซียอดที่จะหันไปมองดูไอแซคไม่ได้

           

   “ใช่ไหมล่ะ...เจ้ามันไม่ใช่ลูกผู้ชายใช่ไหม..ถึงได้ยอมไปเป็นเครื่องบำเรอกามของผู้ชายด้วยกันง่ายๆแบบนี้”

         

      โกรธจนเลือดขึ้นหน้า อเล็กเซียใช้กำปั้นชกเข้าที่แก้มซีกขวาของไอแซคจนสะบัดหันไปอีกทาง เขาไม่เคยชกหน้าเพื่อนคนนี้มาก่อนแต่มันเหลืออดจริงๆ เวลานี้ความโกรธเกรี้ยวอัดแน่นไปทั่วทั้งร่างกาย



 คิดหรือว่าเขาจะอยากไปเป็นนางบำเรอของผู้ชายด้วยกัน ทว่าขณะที่คิดจะชกอีกหนึ่งหมัดก็คิดได้ ไอแซคเป็นคนปากเสียแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ความโกรธจึงลดระดับลงเด็กหนุ่มหันหลังกลับแล้วค่อยๆเดินจากมา

       

       “อเล็กเซียเจ้าฟังข้านะ เจ้าจะปฏิเสธไปก็ไม่มีใครว่าอยู่แล้ว ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องรักษาคำพูดกับพวกป่าเถื่อนนั่น เจ้าได้ยินไหม”

       

       เบื่อที่จะฟัง ไม่อยากได้ยินเสียงของไอแซคจึงสาวเท้าหนีอย่างรวดเร็ว เกลียดและไม่เข้าใจเหตุใดตนเองถึงต้องเป็นคู่ฟ้าลิขิตของเอเดรียน เฟลเวเธอร์ด้วย ถ้าหากว่าเขากับคนผู้นั้นไม่มีโอกาสได้พบหน้ากันเลยซักครั้ง หากเลี่ยงได้ผลที่คงจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้

         

      ก็ได้แต่คิดเท่านั้น อเล็กเซียรู้ดี อะไรที่ลงมือทำไปแล้วย่อมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อีกไม่กี่วันกองทัพของอาณาจักรก็จะเคลื่อนทัพไปพร้อมกับเผ่าวูฟอีกครั้ง เขาทำให้แค่รอและภาวนาขอให้พวกทหารที่ไปรบได้ชับชนะกลับมาถึงแม้จะต้องเอาตัวของเขาเข้าแลก



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                                                                        ตอนนี้ดูเครียดๆเนอะ 55555

   

                                                                      หวังว่าคนอ่านจะชอบ



                                                                       เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ



                                                                      ตอนนี้กำลังแต่งตอนใหม่อยู่จ้า

หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-11-2016 13:24:15
รำคาญไอแซค
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-11-2016 13:39:24
เอาล่ะสิ เริ่มจะเข้มข้นแล้ว สุดยอดเลย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 13-11-2016 17:41:58
รำคาญไอแซค เอาตัวเองให้รอดก่อนมั้ย พูดจาน่าตบ  :beat: :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 13-11-2016 20:51:21
คือไอแซคคะ ถ้ายังเป็นคนที่มีทัศนคติแบบนี้อยู่นี่ไม่โอเคมากๆเลยนะ ถ้าจะเป็นหัวหน้าทหารหรืออะไรที่ใหญ่โตแล้วเป็นคนแบบนี้เนี่ย เห็นจะมีแต่ผลเสียนะคะ...เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-11-2016 21:06:53
ไอแซคนี่ปากไม่บันยะบันยังเลย น่ารำคาญ ใจแคบนะเราเนี่ย หนุ่มน้อย เห็นแก่ตัวอ่ะ 
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 13-11-2016 21:18:08
เง้อ ค้างง่ะ ตอนนี้น้องหมาเราไม่มีบทเลยอิอิ :katai5:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-11-2016 21:26:43
ไอแซคเหมือนเด็กเกเรหลังห้องอ่ะ ไม่น่ารักเลยยยย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 13-11-2016 21:31:14
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 13-11-2016 23:15:00
ไอแซคนี่ปากสุนัขมากเลยค่ะ อยู่เงียบๆไป๊
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 13-11-2016 23:20:47
ไอแซคเหมือนหมาชิวาว่าปอมๆ
เอาแต่เห่าหมาป่า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 14-11-2016 01:08:04
เราเข้าใจนายนะไอแซค แต่นายจะทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ไม่ได้  :z6:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 14-11-2016 08:20:44
โอยยยยยย  อยากจิเข้าจอคอมแล้วอมหัวไอแซคซะ  ลำไยนางมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่10 หน้า3 13/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 14-11-2016 10:34:50
น่ารำคาญอะอิตาไอแซค หึคิดว่าตัวเก่งมากละสิ คิดแต่ละอย่างเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น ไม่ฟัง ไม่มองคนอื่นเลย :z6:
พ่อหมาป่าสู้ๆ นะจ๊ะ เอาชนะใจเจ้าชายน้อยๆให้ได้นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 14-11-2016 13:18:13
ตอนที่11

           

   เอเดรียนพาพวกหนุ่มๆในเผ่าเดินทางเข้าเมืองหลวงของอาณาจักรอีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้รับตำแหน่งสูงส่งมากจากราชา เขามีสถานะกลายเป็นแม่ทัพผู้ควบคุมกองกำลังถึงหนึ่งหมื่นคน

         

     ระหว่างเข้ารับตราแม่ทัพ เอเดรียนจ้องมองดูใบหน้าของอเล็กเซียหลายครั้ง แต่เด็กหนุ่มแทบไม่ยอมมองตอบกลับมาเลย เข้าใจดีว่าคงโกรธมันช่วยไม่ได้หากไม่ทำเช่นนี้เขาคงไม่มีโอกาสได้อีกฝ่ายมาครอบครอง รู้ดีอยู่ว่าตัวเองเป็นคนร้ายกาจแต่ถ้าหากไม่ร้ายเช่นนี้ย่อมไม่อาจนำพาชนเผ่าให้รอดจากความโหดร้ายที่ต้องเผชิญทุกวัน

           

   ทั้งหมดนี้ย่อมต้องขอบคุณความรักและความเมตตาที่ได้จากชาวเผ่า หากแม้ว่ามีคนในเผ่าคัดค้านเรื่องของ

อเล็กเซีย เขาคงไม่อาจเดินหน้าวางแผนกดดันราชาและอเล็กเซียเช่นนี้ได้ นอกจากนั้นยังต้องขอบคุณที่ตกลงรับข้อเสนอโดยง่าย ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นอีกไม่นานเขาคงลงมือลักพาตัวอเล็กเซียไปโดยไม่สนใจใยดีว่าอเล็กซานเดรียจะเดือดร้อนแค่ไหน

         

     อยากจะให้เด็กหนุ่มมองมาทางนี้บ้าง แต่จนแล้วจนรอดอเล็กเซียก็ไม่ชายตาแลมา คงจะเกลียดเขามากสินะ แต่ทว่าหากเขาได้รับชัยชนะมาเด็กหนุ่มย่อมไม่มีทางหนีพ้นจากเงื้อมือของเขา

       

       ด้วยเพราะมีความรักเป็นแรงผลักดันเอเดรียนจึงฮึกเหิมอย่างมาก นอกจากนั้นสัญญาที่ว่าจะลดภาษีกลับเลื่อนชนชั้นของเผ่าให้เสมอกับคนในอาณาจักรยังเป็นสาระสำคัญที่เขาไม่อาจมองข้ามไปได้

       

       อยากจะเจอหน้ากันก่อนจากไปสงคราม ดังนั้นค่ำคืนนั้นจึงลอบเข้าไปในสวนของปราสาทอีกครั้ง นับว่าเขามีโชคมากมายมหาศาลอเล็กเซียอยู่ตามลำพังในสวนเหมือนเช่นทุกครั้ง

         

      “โฮ่ง” เห่าเบาๆเพื่อให้เด็กหนุ่มหันมามอง ได้ผลอเล็กเซียรู้ตัวแต่แทนที่จะเข้ามาหาเขากลับมองเมินไปอีกทางราวกับโกรธตัวตนในร่างหมาป่า แปลกใจนักเพราะเขาในร่างหมาป่าน่าจะไม่มีเรื่องที่ทำให้เด็กหนุ่มขึงโกรธ หรือว่าอาจจะรู้แล้วว่าเขาคือใคร

         

      ถึงจะคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะรู้แล้วว่าตนเป็นใครแต่ก็ยังหน้าด้านเดินสี่เท้าเข้าหา เอเดรียนใช้จมูกเปียกชื้นของหมาดุนมือของเด็กหนุ่มพลางร้องเสียงงี้ดๆเพื่อแสดงออกถึงความรักและภักดี

         

     “อย่าเพิ่งยุ่งน่าข้ากำลังอารมณ์ไม่ดีนะ” อเล็กเซียเอ็ดเขาด้วยเสียงที่ฟังดูหงุดหงิด อีกฝ่ายไม่ยอมหันหน้ามาสบตา ดังนั้นเอเดรียนจึงอ้อมไปด้านหน้าแล้วล้มตัวนอนหงายเปิดเผยให้เห็นหน้าท้องซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขาแล้วส่งเสียงงี้ดๆ

           

    อเล็กเซียกระพริบตามองดูเขาปริบๆ เอเดรียนไม่ยอมแพ้ผลิกตัววิ่งวนไปรอบๆตัวเด็กหนุ่มสลับกับนอนหงายอวดพุงสลับไปมา ในที่สุดคนที่เข้าเฝ้าเอาใจสุดฤทธิ์ก็หัวเราะออกมาจนได้

           

   “เจ้านี่มัน...ฉอเลาะใช่ย่อยเลยนะ” ใช้แล้วเขากำลังฉอเลาะอ้อนออดเด็กหนุ่มอยู่ เมื่อรู้แล้วทำไมยังไม่เข้ามาเล่นกับเขาอีกล่ะ เอเดรียนยังคงหงายท้องและสงเสียงงี้ดๆ

         

     “ให้ตายสิ หมาเชื่องๆอย่างเจ้าจะเป็นเอเดรียน เฟลเวเธอร์ได้อย่างไรนะ” อเล็กเซียลดตัวลงนั่งข้างๆพลางใช้มือลูบพุงเขาไปมา รู้สึกดีเหลือเกินที่เด็กหนุ่มทำเช่นนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะผลิกตัวแล้วโผเข้าหาเด็กหนุ่มเบาๆใช้ลิ้นเลียไปตามใบหน้า หางสุนัขของเขากวัดแกว่งไปมาโดยแรง

           

    “ข้าตั้งใจว่าจะเลี้ยงเจ้าแท้ๆ แต่เจ้าก็หายไปต่อหน้าทุกครั้งเลย”

หากอยู่ให้เด็กหนุ่มเลี้ยงจริงๆเขาคงจะลำบาก เอเดรียนยังคงเอาแต่เลียตามเนื้อตัวของอเล็กเซีย



“นี่ เจ้าไม่ใช่เอเดรียน เฟลเวเธอร์จริงๆหรอกใช่ไหม” ถูกถามอีกครั้ง ได้แต่คิดในใจ หากข้าบอกเจ้าไปเจ้าคงไม่มีทางสนิทสนมเล่นหัวกับข้าเช่นนี้อีก ดังนั้นจึงทำนิ่งเงียบนั่งสองขาแสร้งทำเป็นหมาแสนน่ารักเพื่อบ่ายเบี่ยงต่อคำถามของ

อเล็กเซีย



“นั่นสินะ เจ้าออกจะเชื่องกับข้าแบบนี้ หาใช่ป่าเถื่อนไร้ยางอายอย่างผู้ชายคนนั้น ขอโทษนะที่กล่าวหาเจ้า”



เอเดรียนอยากจะอยู่เล่นกับเด็กหนุ่มให้นานอีกหน่อย แต่มันช่วยไม่ได้จริงๆเขาได้ยินเสียงทหารยามเดินมาอีกแล้ว ดังนั้นจึงผละจากอเล็กเซียแล้วโดดข้ามกำแพงหลีกหนีผู้คนอีกครั้ง



หลังจากกองทัพหมื่นนายกับพวกวูฟออกเดินทางไปรบก็ผ่านมาได้เดือนหนึ่งแล้ว เอเดรียนผู้เป็นแม่ทัพได้ส่งทหารถือสารลับกลับมาหลายครั้ง ในแต่ละครั้งก็แจ้งความคืบหน้าของสงคราม ข่าวคราวในจดหมายในแต่ละครั้งนั้นล้วนแล้วแต่มีเรื่องดีทั้งนั้น



ตอนนี้อเล็กเซียกับรัชทายาทที่อาการดีขึ้นแล้วยืนอยู่เคียงข้างบัลลังค์ของราชารอให้ทหารยื่นสารลับที่เอเดรียน เฟลเวเธอร์ส่งมา อเล็กเซียรู้สึกได้ว่าท่านพี่ตื่นเต้นกับสารลับมาก เขาไม่แปลกใจที่ท่านพี่จะตื่นเต้น เพราะพอหายดีก็กระหายจะเข้าร่วมสงครามอีกครั้ง ทว่าท่านพ่อกลับไม่ยอมให้ท่านพี่ไปร่วมรบตามใจชอบ



“ในที่สุดก็จบเสียที” ราชาพูดกับตัวเองหลังอ่านสาร หลังจากนั้นจึงส่งสารลับให้อเล็กเซียและรัชทายาทดูตามลำดับ



“สงครามจบแล้ว พวกเราชนะ กองทัพของพวกเรากำลังเดินทางกลับมา” เมื่อราชาประกาศเหล่าขุนนางต่างส่งเสียงยินดีกันทั่วหน้า อเล็กเซียและรัชทายาทเองก็เช่นกัน



หลังจากการประกาศของราชา พวกขุนนางต่างคาดการกันถึงความเสียหายที่ไซปรัสน่าจะได้รับ อเล็กเซียกับรัชทายาทเห็นด้วยว่าไซปรัสน่าจะสูญเสียกำลังพลไปมาก คิดว่าคงต้องใช้เวลาฟื้นฟูกันอีกนาน ดังนั้นคงจะไม่มาวุ่นวายกับอาณาจักรอเล็กซานเดรียอีกพักใหญ่



ผลจากสงครามอันนำมาซึ่งความวุ่นวายและหวาดกลัวในครั้งนี้ทำให้ข้อเสนอในการเพิ่มงบประมาณในทางทหารของพี่ดูมีเหตุผลขึ้น อเล็กเซียอดยินดีกับท่านพี่ในเรื่องนี้ไม่ได้ เกี่ยวกับเรื่องงบประมาณนี้ท่านพี่เคยยื่นเรื่องเข้าสภาขุนนางหลายครั้ง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากท่านพ่อและไม่มีขุนนางคนใดให้การสนับสนุน



คงเป็นเพราะอยู่อย่างสงบสุขมานาน ทว่าวันนี้อะไรหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไป ท่านพ่อและขุนนางเล็งเห็นความสำคัญของกองทัพมากขึ้น อเล็กเซียเข้าใจว่าทุกคนในท้องพระโรงคงกังวลหากต้องหวังพึ่งพวกเผ่าวูฟไปเรื่อยๆ



ในการประชุมครั้งนี้ อเล็กเซียสัมผัสได้ถึงแรงต่อต้านพวกวูฟที่เบาบางลงไป แต่ใช่ว่าจะหายไปหมด ขุนนางบางคนต้องการให้จัดการเฟ้นเลือกแม่ทัพนายกองและซ้อมรบเพิ่มเติม บางคนก็เสนอให้เอาตำแหน่งผูกมัดพวกวูฟเอาไว้เผื่อว่ามีสงครามอีกจะได้ใช้งานพวกวูฟได้



ตอนนี้ท่านพ่อเอาแต่นิ่งคิด อเล็กเซียไม่เห็นด้วยกับการที่จะพึ่งพาพวกวูฟมากเกินไป แต่ท่านพี่กลับเห็นต่าง ท่านพี่กล่าวว่าหากให้ตำแหน่งขุนนางแก่พวกวูฟเป็นรางวัล นอกจากจะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์อันดีแล้วยังทำให้อาณาจักรได้บุคลากรชั้นดีเพิ่มขึ้นอีก



“เจ้าทำหน้าเหมือนไม่พอใจต่อข้อเสนอของพี่เลยนะ” รัชทายาทเอ่ยพูดกับอเล็กเซียขณะที่รับประทานอาหารค่ำเพียงสองคน



“หรือว่าเจ้ากำลังโกรธที่พี่ยังมองเอเดรียน เฟลเวเธอร์ในแง่ดีทั้งๆที่เขาขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ” รัชทายาทมีสีหน้าลำบากใจ อเล็กเซียได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ เด็กหนุ่มเข้าใจความคิดของท่านพี่ดีดังนั้นจึงไม่ได้เอาเรื่องที่ท่านพี่พูดมาใส่ใจ



“อเล็กเซียคงคิดว่าพี่ยินดีที่จะใช้เจ้าเป็นหมากทางการเมือง”



“ไม่ใช่เช่นนั้นเลยครับท่านพี่”



“แต่ที่เจ้าคิดอยู่ก็มีส่วนถูก พี่ขอโทษนะที่คิดใช้เจ้าเป็นหมากทางการเมือง” อเล็กเซียถอนหายใจ รู้อยู่บ้างแล้วว่าอาจถูกท่านพี่ใช้ตัวเองเป็นหมาก แต่ทว่าไม่รู้สึกโกรธแค้นท่านพี่ ด้วยสถานการณ์บ้านเมืองที่ย่ำแย่เช่นนี้หากเขาสามารถช่วยอะไรได้เขาก็อยากจะช่วย



“ขอโทษนะที่พี่ตีค่าของเจ้าประหนึ่งเจ้าหญิงพระองค์หนึ่ง ทว่าหากใช้เจ้ายึดเหนี่ยวพวกวูฟให้ภักดีต่ออาณาจักรเราได้พี่คิดว่าจะเป็นผลดีต่ออาณาจักรเรามาก ดังนั้นพี่ถึงได้ทำสิ่งที่อาจทำร้ายจิตใจเจ้าด้วยการเสนอตำแหน่งขุนนางให้กับเอเดรียน”



“บางทีข้าก็คิดว่ามันอาจจะดีก็ได้ครับ หากเขาเป็นขุนนางบางทีข้าอาจจะไม่ต้องออกไปอยู่ในป่าดำซึ่งห่างไกลจากท่านพี่และท่านพ่อมากนัก” อเล็กเซียพยายามหาข้อดี ถึงแม้ไม่รู้ว่าอนาคตของตนเองจะเป็นเช่นไร เอเดารียน เฟลเวเธอร์จะดีต่อเขาไหมหากได้ตัวเขาไป อาจจะเบื่อในระยะเวลาอันสั้นถึงแม้อีกฝ่ายจะอ้างว่าเขาเป็นคู่ฟ้าลิขิตก็ตาม



“ขอโทษนะอเล็กเซียหากพี่พูดในสิ่งที่ฟังดูเห็นแก่ตัว” รัชทายาทกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจก่อนจะนิ่งเงียบ อเล็กเซียรอฟังอย่างตั้งใจ



“พี่บางทีคิดว่าหากเจ้าใช้ความรักของเอเดรียนที่มีต่อเจ้าผูกมัดเขาเอาไว้ได้มันจะส่งผลดีต่ออาณาจักรของเราซักแค่ไหน...” จู่ๆรัชทายาทก็หยุดพูดไป ใบหน้าของเขาแดงก่ำจนเห็นได้ชัด อเล็กเซียเข้าใจดีว่าท่านพี่คงละอายแก่ใจที่คิดใช้เขาเป็นเหมือนตัวหมาก



อเล็กเซียไม่โทษท่านพี่ที่คิดเช่นนั้น เขาเข้าใจดีท่านพี่อาจยังกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยของอาณาจักร การรบถึงสองครั้งนี้ทำให้อเล็กซานเดรียสูญเสียไพร่พลไปมาก ในขณะที่พวกวูฟแม้จะผ่านการรบหนักหน่วง แต่ได้ยินมาว่าถึงจะบาดเจ็บมากน้อยลดหลั่นกันไปก็เดินทางกลับมายังอาณาจักรครบตามจำนวนคน สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดถึงความแข็งแกร่งของพวกวูฟ



“หากว่าท่านพี่หวังพึ่งข้า ข้าก็ยินดีครับ” แม้ปากจะพูดออกไปเช่นนั้น ทว่ายามนึกภาพตนเองใช้มารยาดั่งเช่นอิสตรียั่วยวนชายคนนั้นแล้วก็เกิดความรู้สึกประหลาด กระนั้นหากว่าต้องทำเพื่ออาณาจักรก็คิดว่าน่าจะสามารถทำได้



อเล็กเซียไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องเสียสละตนเองเพื่ออาณาจักรในเรื่องแบบนี้ เคยคิดมาก่อนในซักวันหนึ่งจะเข้าสู้สนามรบเพื่ออาณาจักรหรือช่วยงานของท่านพี่สนับสนุนในทุกๆด้าน นั่นเป็นความฝันอย่างหนึ่งที่แม้แต่ตอนนี้ก็ยังหวังให้เป็นเช่นนั้น



ทว่าการที่เขาต้องไปเป็นภรรยาให้แก่เอเดรียน เฟลเวเธอร์ อาจพูดได้ว่าเป็นการทำเพื่ออาณาจักร แต่นั่นก็เป็นการทำลายความฝันของเขาด้วยเช่นกัน หากว่าต้องแต่งออกไปแล้วถูกกระทำเยี่ยงหญิงสาว แล้วสิทธิเสียงของเขาในฐานะผู้ชายล่ะ นอกจากนั้นยังมีหน้าที่ที่เจ้าชายพึงกระทำอีก



การแต่งงานครั้งนี้อาจนำชีวิตของเขาไปสู่สิ่งที่เรียกว่าการตกต่ำก็เป็นได้ สูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะฐานะ หรือว่าศักดิ์ศรี เวลานี้ความคิดสองฝั่งตีกันอยู่ในหัวของเขาไปมา ความคิดที่ว่าจะให้อภัยทุกคนที่ผลักดันให้เขาต้องกลายเป็นเช่นนี้ดีหรือควรจะอาฆาตแค้นทุกคนโดยเฉพาะเอเดรียน เฟลเวเธอร์ ในตอนนั้นท่านพี่ก็ทำสิ่งที่คาดไม่ถึง



“ขอโทษนะอเล็กเซียที่โยนภาระทุกอย่างไปให้เจ้า” รัชทายาทร้องไห้ อเล็กเซียจำความได้หลายๆครั้งที่ท่านพี่มักจะร้องไห้ให้เขาเสมอ ท่านพี่รักและเอ็นดูเขายิ่งกว่าใครอาจเป็นเพราะว่าเขากับท่านพี่อายุห่างกันมาก ดังนั้นจึงประคบประหงมเขาเสียจนเคยตัว



หยาดน้ำตาของรัชทายาทสำหรับอเล็กเซียถือเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความรักที่มีต่อตัวเขา เป็นการร้องไห้อันสำคัญเหลือเกินชวนให้คิดถึงอดีตเมื่อท่านพี่เฝ้าไข้ไปร้องไห้ไปในยามที่เขาเอาแต่ป่วยบ่อยครั้ง



แม้แต่ท่านพี่ก็ร้องไห้ให้กับเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ การเสียน้ำตาของราชาและรัชทายาททำให้อเล็กเซียตัดสินใจได้เด็ดขาด เขาจะทำให้ดีที่สุด การแต่งงานของเขากับเอเดรียนไม่ใช่แค่เป็นเพียงการตบรางวัลเท่านั้น แต่สำหรับเขามันมีนัยยะสำคัญและเป็นผลดีต่อผู้คนมากมาย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องร้องไห้ฟูมฟายต่อความอับโชคในครั้งนี้ คิดได้อย่างนี้เด็กหนุ่มก็สบายใจขึ้นจนสามารถยิ้มออกมาได้ในรอบหลายวัน



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:





                                                 อยากจะบอกคนอ่านว่าที่ไม่เขียนถึงฉากรบนี่เพราะคนเขียนไม่สันทัดจริงๆจ้า



                                                 ถ้าฉากต่อสู้อ่ะยังพอไปวัดไปวาได้ แต่ฉากแปรขบวนรบเต็มรูปแบบนี่ไม่ไหวจริงๆ



                                                ดันน้านนนนนเลยไม่เขียนถึงจ้า อย่าว่าข้อยเด้อ



                                                ตอนนี้กำลังเขียนตอนต่อไปอยู่จ้า



                                                  เม้นให้กำลังใจคนเขียนบ้างนะจ๊ะ



                                                 ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 14-11-2016 14:07:54
เฮ้ออออ มันอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนั้นก็ได้นะอเล็กเซีย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 14-11-2016 14:21:17
คุณหมาป่าจะกลับมาแล้วว
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 14-11-2016 15:45:47
สงสารพระเอกจัง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-11-2016 17:24:01
มันไม่แย่ขนาดนั้นนะเจ้าชายยยย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-11-2016 17:26:42
สู้ๆนะ หัวหน้าเผ่า

หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 14-11-2016 18:47:31
น้องหมาาาาาา :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 14-11-2016 21:03:53
นี้ถ้าเอเดรียนบอกน้องไปว่าตัวเองเป็นน้องหมา บางทีน้องอาจจะไม่คิดมากอย่างนี้ก็ได้ ฮื้อ
ไปอยู่ในป่าดำแล้วดูแลน้องดีๆนะคะ ให้น้องตกหลุมรักหัวหน้าให้ได้เลยนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่11 หน้า4 14/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-11-2016 21:09:04
เรานี่คิด/กล/ปถึงวันเข้าหอแล้วนะคะเนี่ย
เราอยากมห้กลายร่างเป็นหมาน้อยก่อนเลยก่อนที่จะพูดอะไรเพราะว่าสามีภรรยาไม่ควรมีความลับต่อกันนะ
เรื่องความรักย่อมตามมาเมื่อเราคิดว่าอีกฝ่ายไว้ใจได้
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 15-11-2016 12:39:06
ตอนที่12



หลังจากรบชนะกลับมาเอเดรียนนอกจากจะได้ในสิ่งที่ร้องขอ เขายังได้รับพระราชทานยศขุนนางในตำแหน่งรองแม่ทัพ บรรดาหนุ่มๆในเผ่าที่ได้ไปร่วมรบก็เช่นกันพวกเขาได้ตำแหน่งพลทหารและนายกองตามลำดับลดหลั่นกันไป แน่นอนว่าชาวเผ่าที่ไปรบทั้งหมดยังอยู่ในความดูแลของเขาเช่นเดิมมิได้ปประจำกองอยู่กับผู้ใด



ผลจากการได้รับตำแหน่งทำให้หนุ่มๆในเผ่าวูฟได้รับเงินทองและทรัพย์สินเป็นรางวัล ถึงแม้จะไม่มากแต่ก็นับว่าไม่ขี้เหร่ กระนั้นก็มิได้ทำให้หนุ่มในเผ่าเกิดความละโมบ ตรงจุดนี้เอเดรียนภาคภูมิใจในชาวเผ่าของตัวเองเหลือเกินที่ไม่มีผู้ใดเห็นแก่ทรัพย์สินเงินทองที่มากองอยู่ตรงหน้า



“เจ้าคิดอย่างไรกับการที่ราชาธีโอดอร์มอบตำแหน่งให้กับพวกเราที่ไปร่วมรบบ้างเอเดรียน”

ไนเจลเปิดประเด็นขณะที่พวกเขาสังสรรค์ในงานเลี้ยงฉลองการกลับมาของหนุ่มๆในเผ่า เอเดรียนนึกอยู่แล้วว่าเพื่อนของเขาต้องถาม



“อาจเป็นการเล่นการเมือง”



“นึกอยู่แล้วเชียว” ไนเจลตีมือลงบนเข่าของตนดังฉาด เอเดรียนส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทซึ่งดีอกดีใจที่ตัวเองคิดถูก



“ข้าเฝ้าคิดอยู่หลายตลบว่าเพราะเหตุใดราชากับพวกขุนนางจอมยโสถึงใจดีกับพวกเรานัก ทั้งๆที่ตอนแรกไม่ยอมทำตามสัญญาแท้ๆ แต่มาครานี้กับยกนั้นยกนี่ให้เราเสียมากมาย ดูแล้วเหมือนกับวางแผนอะไรบางอย่าง”



“คงแค่อยากผูกมัดเผ่าเราเอาไว้นั่นแหละ”



 เอเดรียนเข้าใจความรู้สึกของราชากับพวกขุนนางในอเล็กซานเดรียดี เพราะเหตุผลซึ่งเผ่าวูฟเร่รอนอยู่ตลอดมีมาจากผู้ประสงค์ร้ายที่ต้องการจะหยิบยืมเอาความแข็งแกร่งของพวกเขาไปใช้ บางทีถึงขั้นคิดกำราบจับพวกเขาไปเป็นทาส เรื่องเช่นนี้วนเวียนเป็นวงกลมมาตลอดหลายพันปี เขาจึงไม่แปลกใจที่ราชามีความคิดที่จะใช้เผ่าวูฟให้เป็นประโยชน์



“แล้วเรื่องเจ้าสาวของเจ้าล่ะ”



“เรื่องนั้นข้าบอกให้ฝ่ายนั้นเตรียมตัวรอข้าส่งคนไปรับแล้วอย่างไรล่ะ อย่าลืมสิว่าข้าต้องเตรียมบ้าน เตรียมงานเลี้ยงฉลองต้อนรับหนุ่มๆและงานต้อนรับภรรยาของข้า เจ้าไม่คิดบ้างหรือว่าข้ายุ่งวุ่นวายไปหมด”



“ก็ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าจะใจร้อนรับภรรยาคนสวยของเจ้ามาที่เผ่าทันทีนี่นา”



“ข้าไม่รีบร้อนขนาดนั้น” เอเดรียนยกยิ้มบางๆ ชายหนุ่มมองดูพวกหนุ่มสาวในเผ่าเต้นรำรอบกองไฟด้วยความสนุกสนาน ในจำนวนนั้นมีอาดูเฉิดฉายกว่าหญิงสาวคนใดในเผ่า



“อ๋อ....อีกเรื่องหนึ่งเจ้าคิดว่าเจ้าจะจัดการกับยัยตัวแสบยังไง เจ้าคิดบ้างไหม”



“เจ้าคงหมายถึงมีอา”



“ใช่ใช่ใช่!!!” ไนเจลพยักหน้าหงึกหงัก เอเดรียนนั้นไม่ใช่ว่าไม่คิดถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างมีอากับอเล็กเซีย ทว่าอเล็กเซียในความคิดของเขาน่าจะเป็นเจ้าชายที่มีความเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ห่วงว่าเด็กหนุ่มจะลดตัวลงไปทะเลาะเบาะแว้งกับเด็กผู้หญิงแน่ๆ ส่วนมีอาหากว่าก่อปัญหามากนักเขาก็ไม่ลังเลที่จะจัดการ



“หากว่านางก่อปัญหาข้าจะลงโทษเจ้าก็คงไม่โกรธข้าสินะ” เอเดรียนแสยะยิ้มร้ายขณะมองดูมีอาเต้นรำอยู่ท่ามกลางคนในเผ่า ไนเจลที่ตอนนี้หดคอด้วยความขนลุกชายหนุ่มเห็นแล้วอดหัวเราะไม่ได้



“หากเจ้าจะตีก้นนางแทนข้าข้าก็ไม่รังเกียจหรอก ดีเสียอีกนางจะได้เลิกทำตัวเป็นเด็กเสียที”



“เอเดรียน” มีอาวิ่งเข้ามาหาเขากับไนเจล เธอโบกมือไปมาอย่างร่าเริง



“พูดถึงตัวแสบตัวแสบก็มาปั๊บ” ไนเจลแค่นหัวเราะ เอเดรียนขยิบตาให้เพื่อนของเขาที่ส่งยิ้มละเหี่ยใจมาให้



“หนุ่มๆกำลังคุยอะไรกันอยู่” มีอายืนเอามือไขว้หลัง วันนี้เธอดูสวยเป็นพิเศษไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพิธีพิถันในการแต่งตัวมากแค่ไหน



“ก็คุยเรื่องเจ้าสาวที่กำลังจะมาถึงของเอเดรียนนะสิ” พอได้รับคำตอบมีอาก็เบ้ปากทันที เธอไม่คิดจะปิดบังความไม่ชอบพอที่มีต่ออเล็กเซียถึงแม้ว่าจะไม่เคยพบหน้ากันเลยซักครั้ง





“เอเดรียนไปเต้นรำกับข้าเถอะนะ ข้าอยากเต้นรำกับเจ้า” มือเล็กๆคว้าท่อนแขนของเอเดรียนแล้วออกแรงฉุด



“จะได้อย่างไรมีอา เจ้าไม่เห็นหรือว่าเอเดรียนยังคุยกับพี่ไม่จบ” มีอาแลบลิ้นใส่ไนเจลแทบจะในทันที พี่น้องคู่นี้เป็นอย่างนี้กันตลอด มีอาไม่ค่อยจะเชื่อฟังไนเจลเพราะเพื่อนของเขาไม่ใช่พี่ชายในอุดมคติของมีอา เนื่องจากช่องว่างของอายุทำให้ไนเจลมักเข้มงวดกับน้องสาว



สำหรับมีอาที่เป็นคนมั่นใจในตัวเองและค่อนข้างกล้าหาญ การพี่ชายเอาแต่ห้ามมิให้ทำนู้นทำนี่ เอเดรียนไม่แปลกใจเลยที่เธอจะรำคาญ กลับกันกับเขาที่มักจะสนับสนุนให้เธอทำในสิ่งที่ชอบนั่นก็เพราะว่าเขาเห็นศักยภาพของมีอา ด้วยเหตุนี้มีอาจึงเห็นเขาเป็นพี่ชายที่เข้าท่ากว่า เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แววตาของความเถิดทูนค่อยๆเปลี่ยนเป็นปรารถนาดั่งเช่นทุกวันนี้



“เอาน่าไนเจล อย่าว่านางเลย ข้าเองก็อยากยืดเส้นยืดสายอยู่เหมือนกัน” ไนเจลคอตกส่วนมีอายิ้มระรื่น เธอไม่รอช้าฉุดเอเดรียนให้ขยับตามไปยังลานกว้างหน้ากองไฟ



ยามนี้อเล็กเซียขุ่นเคืองอยู่ไม่น้อยที่เอเดรียนมิยอมให้ตนนำข้ารับใช้คนสนิทติดตัวไปด้วย เหตุผลที่เอเดรียนใช้เป็นข้ออ้างคือคนในเผ่าจะไม่ชอบและไม่สบายใจต่อ่การที่มีคนนอกเข้าไปวุ่นวาย



ให้มันได้อย่างนี้สิ ตอนนี้อเล็กเซียเตรียมใจยอมรับความลำบากที่น่าจะต้องเจอในอนาคตข้างหน้า เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าพวกวูฟอาศัยกันอยู่อย่างไรในป่าดำ จึงมีความกังวลอยู่หลายอย่างไปตั้งแต่ที่หลับนอนไปจนถึงอาหารที่จะรับประทาน



“อเล็กเซียต้องลองอดทนอยู่อย่างชาวเผ่าให้ได้เสียก่อนนะ หากไม่ไหวจริงๆพี่จะจัดการยัดเยียดคนรับใช้คนสนิทของเจ้าเข้าไปให้เอง”



อเล็กเซียพยักหน้ารับ บางทีก็แอบคิดว่าอยากจะให้ท่านพี่ดื้อแพ่งยัดเยียดหญิงรับใช้ให้เขาเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ เหตุผลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่แค่เรื่องการกินอยู่เท่านั้น



เรื่องการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานอเล็กเซียคิดว่าน่าจะทนลำบากได้ไม่เดือดร้อน แต่เรื่องที่ต้องไปอยู่ตามลำพังกับชนเผ่านี่สิ ไม่รู้เขาจะทนเหงายามต้องโดดเดี่ยวไร้คนสนิทชิดเชื้อได้นานแค่ไหน



ถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าตนเองควรจะเริ่มปรับตัวให้เข้ากับคนในเผ่า การทำแบบนั้นย่อมดีกว่าหากต้องการมัดใจเพื่อให้เอเดรียนหลงใหลในตัวเขามากยิ่งขึ้นกว่าเดิม แผนการนี้ได้ตัดสินใจเอาไว้แล้วด้วยตัวเอง หากว่าสามารถทำให้เอเดรียนเชื่อฟังจนถึงขั้นชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ได้น่าจะเป็นผลดีต่ออาณาจักรอเล็กซานเดรียในอนาคตข้างหน้า



ไม่ต้องให้ใครมาบอกอเล็กเซียว่าสามารถเสียสละให้แก่อาณาจักรได้มากแค่ไหน เด็กหนุ่มเพียงแต่คิดว่าตนเองนั้นจะให้มากที่สุดเท่าที่ให้ได้ในฐานะเจ้าชายลำดับที่สองของอาณาจักร คิดได้อย่างนี้มันก็ทำให้ฮึกเหิมมากขึ้น ความกลัวที่ต้องไปอยู่ในที่ที่ไม่รู้จักกับคนที่ไม่รู้จักยังหลงเหลืออยู่บ้างแต่ก็ลดน้อยลงไปเพราะมีแรงผลักดันในใจ



อีกเพียงไม่กี่วันคนของเผ่าวูฟจะมารับตัว ราชาและรัชทายาทเตรียมข้าวของส่วนตัวของอเล็กเซียไว้พร้อม เพื่อให้สมเกียรติของเจ้าชายลำดับสองเพชรพลอยเงินทองถูกขนใส่หีบไปเป็นจำนวนมาก



“มีเงินทองมากขนาดนี้เจ้าคงไม่ต้องอยู่อย่างลำบากล่ะนะ” รัชทายาทส่งยิ้มให้อเล็กเซีย ตอนนี้เขากับท่านพี่กำลังสำรวจทรัพย์สินที่จะนำติดตัวไปเผ่าวูฟด้วย ทรัพย์สินที่ได้รับมาจากท่านพ่อมากมายนักมากกว่าที่เด็กหนุ่มอาจจะได้ตลอดทั้งชีวิตเสียอีก



“แต่ว่ามากมายขนาดนี้ ข้าคิดว่าข้าไม่สมควรได้รับ”



“ไม่สมควรอย่างไร เจ้าแต่งออกไปทั้งทีนะ อีกอย่างเจ้ายอมเสียสละเพื่ออาณาจักรถึงเพียงนี้ทรัพย์สินเท่านี้ก็สมกับสิ่งที่เจ้าต้องแลกมาแล้ว”



อเล็กเซียได้แต่ยิ้ม หากว่าแลกกับทรัพย์สินจำนวนนี้ได้ใจจริงเขาไม่อยากแต่งงานกับเอเดรียน เฟลเวอเธอร์เลย แต่เพราะได้ตัดสินใจเสียสละตัวเองเรียบร้อยแล้วจึงไม่ได้เอ่ยปากบ่นหรือเรียกร้องความสนใจจากท่านพี่



หลังจากคืนที่ท่านพี่สารภาพว่าต้องการใช้เขาเป็นหมากทางการเมือง ท่านพี่ก็ไม่ได้เน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีก ท่านพี่ทำเหมือนเรื่องวันนั้นไม่เคยเกิดขึ้น ทว่าอเล็กเซียกลับยึดติดต่อแผนการนั้น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ยอมคล้อยตามคำพูดของท่านพี่โดยง่าย



อาจเป็นเพราะน้ำตาของท่านพี่ก็เป็นได้ นอกจากนั้นอเล็กเซียก็เพิ่งรู้ว่าตนเองมีความรักและภักดีต่ออาณาจักรและท่านพ่อกับท่านพี่มากมายแค่ไหน ไม่คิดโอ้อวดว่าการเอาตัวเข้าแลกเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ แต่ก็มีความภูมิใจที่ได้ทำเพื่อคนที่ตนรักอย่างแท้จริง



“ท่านอเล็กเซียคะ ท่านไอแซคขอเข้าพบคะ” หญิงรับใช้เข้ามารายงาน แค่ได้ยินชื่อไอแซคอเล็กเซียก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเสียแล้ว



“เจ้ามาแล้วหรืออเล็กเซีย” ไอแซคมีท่าทางดีใจที่เขามาพบหน้าแต่เวลาถัดมาอีกฝ่ายก็ทำหน้าสลด



“ข้าขอโทษนะอเล็กเซียที่พูดจาไม่ดีกับเจ้า ตอนนั้นข้ายอมรับว่าข้าสับสนหลายอย่างทั้งยัง.....เอ่อ....เจ้าให้อภัยข้านะ” อเล็กเซียเลิกคิ้วให้กับไอแซคที่เอาแต่ขอโทษ ยอมรับว่ายังโกรธไม่หายที่เพื่อนสนิทคนนี้ด่าเขาเอาไว้อย่างเจ็บแสบ



“เจ้ารู้ตัวก็ดีแล้ว ข้าให้อภัย...แต่ตอนนี้เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ข้ามีธุระ” หันหลังควับแล้วสาวเท้าเดินหนี



“เดี๋ยวก่อนอเล็กเซียฟังข้าพูดก่อนสิ” ไอแซคคว้ามือของอเล็กเซียเอาไว้ เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้ยังต้องการพูดเรื่องอะไรอีก



“เจ้ารู้หรือเปล่าว่าการเป็นภรรยานั้นต้องทำอย่างไรบ้าง....”



“แน่นอนว่าข้าต้องรู้สิ”



“เจ้าไม่รู้แน่ๆ” ตอนนี้ไอแซคเริ่มจะควบคุมตนเองไม่อยู่อีกแล้ว เพื่อนสนิทขึ้นเสียงสูงกับเขา



“ข..ข้าขอโทษ” เหมือนจะรู้ตัวว่าไม่ควรทำเช่นนี้กับเขา อเล็กเซียถอนหายใจต่ออารมณ์ไม่คงที่ของไอแซค



“หากเจ้าแต่งงานเจ้าคงรู้สินะว่าต้องปรนนิบัติสามี แล้วเรื่องบนเตียงระหว่างชายกับชายเจ้ารู้แล้วอย่างนั้นหรือ”



“รู้แล้ว” อเล็กเซียตอบ



“เจ้ารู้ได้อย่างไรใครบอกเจ้า” ไอแซคทำท่าทางประหนึ่งจะเข้ามาคุกคาม อเล็กเซียถอยออกห่างจากเพื่อนสนิทสองสามก้าว



“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้” ไอแซคฮึดฮัดขึ้นมาทันที



“อย่างนั้นเจ้าคงรู้แล้วว่าชายกับชายต้องใช้ช่องทางตรงไหน....ก็ดี”  ไอแซคคว้ามือของเขาแล้วยัดเยียดบางสิ่งมาให้ อเล็กเซียมองดูห่อบางอย่างที่ดูคล้ายกับห่อยา



“นี่คือยาสั่งที่ได้มาจากแม่มด ยาชุดนี่แค่ผสมเพียงเล็กน้อยในน้ำจะทำให้คนที่ดื่มเข้าไปฝันเพ้อว่าตนเองมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ปรารถนา” กล่าวจบไอแซคก็ยัดเยียดกรงนกซึ่งพิราบหนึ่งตัวอาศัยอยู่ในนั้นให้อเล็กเซีย



“ส่วนนี้ เอาไว้ส่งคราวข่าวถึงกัน เมื่อไปถึงที่อยู่ของพวกวูฟเจ้าก็ปล่อยมันออกจากรงให้มันได้สำรวจภายในหมู่บ้านจนจำได้แค่นี้เจ้าก็ใช้มันส่งข่าวคราวติดต่อกับข้าได้” อเล็กเซียงุนงงไปหมด แต่ที่กังวลที่สุดเห็นจะเป็นที่มาของยาสั่งซึ่งไอแซคมอบมาให้



“เจ้าติดต่อกับพวกนอกรีตอย่างนั้นหรือไอแซค”



“เรื่องนั้นช่างมันก่อน...ยาที่ข้าให้ไปนี่เจ้าใช้ได้ถึงหนึ่งอาทิตย์ อาทิตย์ถัดมาเจ้านกนี่จะบินกลับมาหาข้าเพื่อรับยาชุดถัดไป เจ้าเองก็อย่าลืมปล่อยนกออกจากกรงให้มันบินกลับมาได้ล่ะ”



“ไอแซคเจ้าก็รู้ดีว่าการติดต่อกับพวกนอกรีตมีความผิดสถานใด” พยายามชี้ให้เห็นถึงเรื่องที่ถูกต้องแต่ไอแซคไม่สนใจหลังจากเพื่อนสนิทอธิบายทุกอย่างเสร็จอเล็กเซียก็ถูกกอดรัดแนบแน่น ถูกแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยเช่นนี้จึงทำให้ไม่สามารถต่อว่าอีกฝ่ายได้ตามที่ใจคิด



“ข้าจะรอเจ้าติดต่อกลับมานะ”



ไอแซคจากไปแล้วแต่ทิ้งสิ่งของเอาไว้ให้อเล็กเซียมากมาย เด็กหนุ่มคิดว่าอาจจะทำให้ไอแซคต้องผิดหวัง เพราะเขาไม่คิดจะใช้ยาสั่งนี่กับเอเดรียน เฟลเวเธอร์ ก็ตัดสินใจไว้แล้วนี่ว่าจะใช้ร่างกายและทั้งชีวิตของตนผูกมัดคนผู้นั้นเอาไว้ ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะใช้สายสัมพันธ์ที่เรียกว่าคู่ฟ้าลิขิตให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:




                                                      เย้ๆๆๆๆตอนใหม่มาแล้วจ้า



                                                     รู้สึกว่าแต่งยากกว่าเดิมเยอะเลย



                                                  และไม่รู้ว่าจะมีฉากncให้คนอ่านชื่นใจเมื่อไหร่



                                                 5555555หากคนอ่านคาดหวังคงต้องร้องเพลงรอต่อไปนะจ๊ะ



                                                    เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า





                                                   รักคนอ่านขอบคุณ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 15-11-2016 12:55:49
อยากอมหัวไอแซคอีกแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-11-2016 13:03:35
 :mew1:  อเล็กเซียสู้ๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 15-11-2016 13:21:03
คนเขียนสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 15-11-2016 14:53:11
ไอแซค...เราเริ่มไม่ชอบเธอจริงจังแล้วนะ...เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-11-2016 20:41:46
ไอแซคนี่ตะเป็นตัวการชักศึกเข้าบ้านนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 15-11-2016 22:08:11
ปล่อยนกสู่ฟากฟ้า :z1: :hao6:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-11-2016 23:28:31
ไอแซคนี่มันสร้างความวุ่นวานจริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่12 หน้า4 15/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-11-2016 05:07:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 16-11-2016 12:45:55
ตอนที่13

         

      ผู้ที่เอเดรียนส่งมารับอเล็กเซียคือไนเจล อัลเบอร์ต้า เมื่อมีผู้มารับแล้วเด็กหนุ่มจึงออกเดินทางจากเมืองไปยังป่าดำพร้อมด้วยทรัพย์สินที่เหล่าทหารลำเลียงตามมา

               “ข้าเองก็มีน้องสาวครับเจ้าชายอเล็กเซีย” จู่จู่ไนเจลก็เปิดบทสนทนาท่ามกลางความเงียบ อเล็กเซียเข้าใจว่าอาจเป็นเพราะเขาเอาแต่ทำหน้านิ่งขรึม คนผู้นี้จึงหาเรื่องชวนคุยเปลี่ยนบรรยากาศ

         

     “นางน่าจะอายุมากกว่าท่านสองปี กำลังเป็นสาวสะพรั่งเชียว พอเห็นท่านแล้วทำให้ข้าอดนึกถึงน้องสาวข้าไม่ได้”

         

     “น้องสาวท่านชื่ออะไรหรือ” อเล็กเซียถาม

           

    “มีอา...มีอา อัลเบอร์ต้าครับ” ไนเจลยิ้มกว้างส่งมาให้ ด้วยรอยยิ้มที่ดูจริงใจเช่นนี้มันทำให้อเล็กเซียรู้สึกดีกับอีกฝ่ายมากขึ้นมานิดหน่อย

           

   “น้องสาวท่านคงเป็นคนสวย”

           

    “โอ๊ย...นางสวยก็จริงแต่แก่นแก้วยิ่งนัก เรื่องความสง่างามสู้ท่านอเล็กเซียไม่ได้เลยครับ บอกตามตรงข้าไม่เคยเห็นคนที่รูปสวยและกริยางามสง่าเท่าท่านมาก่อน....เอ่อขออภัยครับ” เหมือนไนเจลจะรู้สึกได้ว่าเขาไม่ค่อยพอใจ คำว่ารูปสวยของอีกฝ่ายมันดูคล้ายคำชมอิสตรีมากกว่า ดังนั้นอเล็กเซียจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

         

      “ท่านชมข้าเกินไปแล้ว ข้าย่อมไม่มีทางรูปงามกว่าอิสตรีมิใช่หรือ พวกนางทั้งอ้อนช้อยงดงามแถมยังมีทรวดทรงชวนฝัน ตัวข้าที่มีทุกอย่างแบบเดียวกับท่านคงไม่อาจเอาไปเปรียบเทียบ” อเล็กเซียส่งรอยยิ้มให้ไนเจลพออีกฝ่ายเห็นรอยยิ้มก็ยิ้มกว้างส่งกลับมาทันที

       

       “แบบไหนคือความงามมันขึ้นอยู่กับคนมองไม่ใช่หรือท่านอเล็กเซีย ที่ข้าว่าท่านงามกว่าพวกผู้หญิงที่ข้าเคยเห็นอาจเป็นเพราะกริยามารยาทของท่านด้วย พวกผู้หญิงในเผ่าวูฟส่วนใหญ่จะมีลักษณะห้าวหาญคล้ายผู้ชายดังนั้นจึงไม่ค่อยมีผู้ที่งามด้วยท่วงท่าและกริยาเช่นท่านมากนัก”

     

         ฟังแล้วคล้ายกับบอกว่าอเล็กเซียเป็นพวกกรีดกราย แต่ไม่รู้ทำไมกับไนเจลซึ่งพูดไปยิ้มไปไม่ทำให้เด็กหนุ่มขุ่นเคืองทั้งยังชอบใจเสียอีกที่อีกฝ่ายพูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้

       

       “ท่านชมข้าเกินไปแล้ว”

       

        “ไม่หรอกครับ หากเป็นไปได้ก็อยากจะให้น้องสาวของข้าเรียนรู้กริยางามๆจากท่านไปซักนิดหนึ่ง เอ้อ...จริงสิบางทีพอนางเห็นท่านนางอาจจะเรียนรู้ได้บ้างก็เป็นได้” ไนเจลทุบกำปั้นลงบนฝ่ามือด้วยท่าทางเป็นจริงเป็นจัง เห็นแล้วมันทำให้อเล็กเซียนึกขำ ลักษณะเข้ากับคนง่ายและเป็นกันเองแบบนี้ชวนให้นึกถึงท่านพี่ของเขาเหลือเกิน

       

       “ท่านอย่าเอาแต่ยกยอข้า หากว่านางเลียนแบบพฤติกรรมของข้าจริงน้องสาวท่านไม่กลายเป็นหญิงไม่ใช่ชายไม่เชิงไปหรือ” พอเตือนสติไนเจลก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ คนตรงหน้าหัวเราะเสียงดังเสียงหัวเราะของอีกฝ่ายให้ความรู้สึกเป็นกันเองยิ่งนัก

       

       “บางทีข้าก็อยากให้นางลดจริตจะก้านมารยาหญิงให้น้อยลงบ้างเหมือนกัน ข้าคงพูดมากเกินไปท่านอเล็กเซียอย่าได้โกรธข้านะ” อเล็กเซียรู้ดีว่าไนเจลพยายามเลี่ยงประเด็นเรื่องการนำเขาไปเปรียบเทียบกับอิสตรี เด็กหนุ่มไม่แปลกใจเพราะท่านพ่อกับท่านพี่เองหรือแม้แต่ไอแซคก็เอาแต่วิจารย์รูปร่างหน้าตาที่ค่อนไปทางผู้หญิงของเขาอยู่เป็นประจำ

     

          “ได้ข่าวว่าท่านเป็นร้องหัวหน้าเผ่าสินะไนเจล”

       

        “ใช่ครับ”

     

         “การเป็นถึงรองหัวหน้าคงทำให้ท่านยุ่งมากสิ”

           

    “โอ๊ย...ยุ่งมากเลยครับ เจ้าเอเดรียนบางทีก็โยนงานมาให้ข้าทำแบบไม่เกรงใจเลยเชียวล่ะ อ๊ะ...ข้าไม่ได้หมายถึงเอเดรียนเป็นคนไม่เอาการเอางานนะท่านอย่าเข้าใจผิด” หัวข้อเกี่ยวกับเอเดรียน เฟลเวเธอร์ทำให้อเล็กเซียสนใจขึ้นมา หากว่าต้องการยั่วยวนให้คนผู้นั้นหลงใหล เด็กหนุ่มย่อมต้องการข้อมูลของอีกฝ่ายให้มากที่สุด

         

     “เอเดรียน เฟลเวเธอร์ไม่สิ ว่าที่สามีข้าเขาเป็นคนอย่างไร” ไนเจลทำท่าครุ่นคิดขณะบังคับม้าเยื้องย่างไปข้างหน้า อเล็กเซียขี่ม้าเคียงคู่กันไป

       

       “อือ....เป็นคนเอาจริงเอาจรัง...ให้ตายสิหากข้าพูดออกไปจะไม่กลายเป็นข้าชมเพื่อนของข้าหรอกหรือครับ เอาเป็นว่ากับคนที่เขารักเอเดรียนจะอ่อนโยนมาก”

         

      จริงหรือ?

       

       เกิดคำถามเช่นนี้ขึ้นในใจของอเล็กเซีย คนผู้นั้นอ่อนโยนมากจริงหรือ แล้วก่อนหน้านั้นล่ะ การที่หน้าด้านเอาแต่ขอจูบเขาอย่างหน้าด้านหยาบโลนเช่นนั้นจะให้เขาคิดเห็นเป็นอย่างไร

         

      เวลานี้อเล็กเซียกลัวการผ่านคืนแรกกับว่าที่สามีของตนอย่างที่สุด เพราะเอเดรียน เฟลเวเธอร์ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่สามีภรรยากัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นชายอีกฝ่ายก็ยังรุกเข้าหาอย่างหยาบคาย เด็กหนุ่มเกรงว่าคืนเข้าหอตนจะถูกกลืนกินอย่างตะกละตะกรามไร้ซึ่งความมีเมตตา

       

       “เขาอ่อนโยนกับผู้หญิงของเขาหรือไม่”

       

        เผลอถามถามในสิ่งที่กลัวออกไปจนได้ เมื่อรู้ตัวว่าตนเองพูดอะไรออกไปอเล็กเซียจึงสบถด่าตัวเองในใจ รู้สึกว่าใบหน้าของตนเห่อร้อนด้วยความอับอายจนไม่กล้าที่จะมองหน้าไนเจล

       

        “ท่านอเล็กเซียท่านอย่าได้กังวล เขาจะอ่อนโยนกับท่านอย่างที่สุด เพราะว่าท่านคือคนที่เอเดรียนรักอย่างสุดหัวใจแน่นอน”

         

      บทสนทนาจบลงเท่านั้นตอนนี้ต่างฝ่ายต่างพากันเงียบ รู้ตัวอีกทีไนเจลก็พามาจนถึงหน้าหมู่บ้านที่อยู่ลึกภายในป่าดำ อเล็กเซียตกตกตะลึงเพราะไม่คิดว่าหมู่บ้านของพวกวูฟจะกว้างใหญ่และมีคนจำนวนมากกว่าที่คิด

         

     ผู้คนในหมู่บ้านมองมาที่อเล็กเซียกับทหารที่ลำเลียงทรัพย์สินของเขาเป็นจุดเดียว เด็กหนุ่มรู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อยที่สายตาทุกคู่ล้วนแล้วแต่มองมาด้วยความสนอกสนใจ

       

        ไม่นานนักอเล็กเซียก็ถูกพามาถึงบ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้ที่ค่อนข้างใหญ่โตหรูหรามากสำหรับพวกชาวเผ่า เด็กหนุ่มเดาว่าน่าจะเป็นบ้านของเอเดรียน เฟลเวเธอร์

         

     เวลาต่อมาถูกไนเจลเชิญชวนให้เข้าสู่ภายในตัวบ้าน อเล็กเซียมองไปรอบๆ เหมือนว่าไนเจลจะเดาได้ว่าเขามองหาใครอยู่

       

       “เอเดรียนตอนนี้ประชุมอยู่กับพวกหนุ่มๆในหมู่บ้านอีกเดี๋ยวก็คงกลับมาครับท่านอเล็กเซีย”

       

       “ไนเจล....ไม่ต้องเรียกข้าว่าท่านก็ได้ เรียกอเล็กเซียเฉยๆเถอะ ยังไงเจ้าก็อายุมากกว่าข้านะ” ไนเจลยิ้มกว้างดูแล้วยิ่งชวนให้นึกถึงท่านพี่เข้าไปอีก อดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกดีกับคนคนนี้

         

      “ถ้าอย่างนั้นข้าไม่เกรงใจนะอเล็กเซีย” อเล็กเซียส่งยิ้มบางๆให้ไนเจล จากนั้นจึงนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องที่น่าจะเป็นห้องรับแขก ดูจากด้านในห้องที่ประดับด้วยหัวสัตว์สต๊าฟและพรมขนสัตว์จำนวนมากแล้ว อเล็กเซียสามารถเดางานอดิเรกของเอเดรียนได้

         

      “ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวก่อนนะอเล็กเซีย” ถูกทิ้งไว้ให้อยู่ตามลำพัง เมื่ออยู่เพียงคนเดียวในบ้านก็อดที่จะสำรวจดูของสะสมของเอเดรียน เฟลเวเธอร์ไม่ได้

         

     “เจ้าเองหรือเมียที่เป็นผู้ชายของเอเดรียน” อเล็กเซียหันกลับไปมองเจ้าของเสียง ตรงหน้าเป็นหญิงสาวรูปงามผมสีน้ำตาลแดง ผู้หญิงคนนี้มองดูเขาด้วยแววตาไม่เป็นมิตร

       

       “แหม...หน้าตาก็ใช้ได้นะ” น้ำเสียงที่หญิงสาวใช้สื่อไปในเชิงลบ เธอพูดกับตัวเองหลังจากเดินวนและเมียงมองดูตัวอเล็กเซียไปรอบๆด้วยกริยาท่วงท่าประหนึ่งท้าทาย

         

      “เจ้าเป็นเจ้าชายละสิ ชื่ออะไร” อเล็กเซียยังทำใจเย็นได้อยู่ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เป็นมิตรอีกทั้งยังแสดงออกอย่างกักขฬะ ทว่าถึงจะยิ้มออกไปอย่างงดงามหากแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้อ่อนข้อให้หญิงสาว

       

       “ตามมารยาทหากอยากรู้ชื่อใครอีกฝ่ายต้องแนะนำตัวก่อนไม่ใช่หรือคุณผู้หญิง” หญิงสาวเบ้ปาก เวลาถัดมาจึงเริ่มแนะนำตัวเองอย่างเสียไม่ได้

       

        “ข้าคือมีอา อัลเบอร์ต้า”

               อเล็กเซียมองดูหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า นี่หรือคือน้องสาวของไนเจล เหตุใดนิสัยจึงต่างกับพี่ชายราวฟ้ากับเหวเช่นนี้นะ

       

       “ข้าคือ อเล็กเซีย เทีย อเล็กซานเดรีย เจ้าชายลำดับที่สองแห่งอเล็กซานเดรีย”

       

       “เป็นเจ้าชายจริงๆด้วยสินะ” หญิงสาวเชิดใบหน้าขึ้นอย่างยโส สำหรับอเล็กเซียนับว่าเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ เพราะไม่มีใครกล้าแสดงกริยาแบบนี้ต่อหน้าเขามาก่อน

       

       “เจ้าชายจะสามารถอาศัยอยู่ในที่แบบนี้ได้หรือคะ”

       

       “เจ้าหมายถึงในที่ไร้อารยะธรรมเช่นนี้นะหรือมีอา” จงใจพูดจาโจมตีหญิงสาวไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า ในเวลาต่อมาจึงเข้าใจว่ามันได้ผลดี มีอามีสีหน้าบึ้งตึง

         

      “เจ้าอย่าได้ดูถูกชนเผ่าเรานะ เฮอะความคิดแบบนี้ก็สมแล้วกับพวกผู้ดีที่ไม่เคยลำบาก”

       

       ไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไป เพราะค้านที่จะพูดคุยกับมีอาต่อจึงแสร้งทำเป็นเดินดูหัวสัตว์ที่ถูกสต๊าฟรอบๆห้อง ไม่คาดคิดว่าการทำเช่นนี้จะเรียกโทสะจากเธอได้อีกเหมือนกัน

         

      “อย่ามาทำเมินกันนะ” ถูกกระชากแขนให้หันกลับไปเผชิญหน้า อเล็กเซียชักรู้สึกไม่ชอบขึ้นมาเสียแล้ว

         

     “เจ้ารีบกลับปราสาทของเจ้าไปเสีย อยากให้รู้ว่าที่เผ่าวูฟไม่มีใครต้อนรับเจ้า”

       

       อเล็กเซียแสร้งแสยะยิ้มร้าย ภายในใจแอบคิดว่าหากเป็นเช่นนั้นจริงเขาจะรีบกลับปราสาทไปพร้อมกับเต้นระบำไปด้วยเพื่อเป็นการฉลอง แต่ในเมื่อเอเดรียน เฟลเวเธอร์ยังไม่ได้ออกปากไล่เขา เด็กหนุ่มย่อมไม่สามารถกลับไปตามใจชอบและมีแต่ต้องใช้ความสามารถทั้งหมดยั่วยวนเพื่อให้เอเดรียนทำในสิ่งที่เอื้อประโยชน์ต่ออเล็กซานเดรียให้มากที่สุด

         

      “ข้าจะกลับก็ต่อเมื่อสามีของข้าไล่ข้ากลับเท่านั้น เจ้าคงเข้าใจข้านะมีอา” มีอานิ่งอึ้งไปชั่วขณะ คงไม่คิดว่า

อเล็กเซียจะตอบโต้ด้วยคำพูดเช่นนี้ นิ่งเงียบอยู่ไม่นานนักใบหน้าสวยๆของมีอาก็เริ่มบูดเบี้ยว

       

       “เกลียดนักพวกผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้ชาย ทำไมนะพวกกะเทยอย่างพวกเจ้าถึงได้เดินเพ่นพ่านไปให้ทั่วแบบนี้”

             

  ตอนนี้พอจะเดาอะไรได้บางอย่าง การที่มีอาเล่นงานเขาอย่างดุเดือดเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่าเธอแอบชอบ

เอเดรียน เฟลเวเธอร์หรอกหรือ ทำไมนะจู่จู่อเล็กเซียก็อารมณ์ดีขึ้น

           

    “ถ้าข้าเดาไม่ผิดเจ้าคงพึงใจในตัวเอเดรียน แต่เจ้าคงลืมไปว่าข้าเป็นคู่ฟ้าลิขิตของเขา ขอโทษนะที่เขาคงไม่อาจอยู่ห่างจากตัวข้าได้” จงใจที่จะพูดจาทำร้ายจิตใจมีอา ช่วยไม่ได้นี่อีกฝ่ายอย่างมาพูดจาโจมตีเขาก่อนทำไม ยิ่งรู้ว่ามีอาน่าจะมีสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเอเดรียนยิ่งนึกอย่างแกล้งให้หญิงสาวเจ็บใจเล่น

         

     “เจ้า....เจ้า......”  มีอาได้แต่ขยี้เท้าไปมาระบายอารมณ์ การที่หญิงสาวโกรธเกรี้ยวแต่ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรยิ่งทำให้อเล็กเซียได้ใจ

         

     “แทนที่จะเอาเวลามาโจมตีข้า สู้เอาเวลาไปคิดว่าจะทำอย่างไรให้สามีของข้าสนใจเจ้าจะดีกว่าหรือไม่”



 กระดากอายนิดๆที่เปรียบเอเดรียนเป็นสามีของตนได้อย่างหน้าชื่นตาบาน แต่สนุกมากที่เห็นมีอามีสีหน้าบูดเบี้ยวอีกทั้งยังถลึงตามา อเล็กเซียรู้ว่าอีกไม่นานหญิงสาวคงกระโจนเข้ามาเล่นงานตัวเองแน่ๆ เอาเถอะจะยอมให้เจ้าตบซักครั้งหนึ่งก็แล้วกัน ยังไงเขาก็ไม่ทำร้ายผู้หญิงอยู่แล้ว

           

    “ข้า...จะ....” จังหวะที่มีอาง้างมือจะตบ คนที่คาดไม่ถึงก็โผล่หน้ามา อเล็กเซียได้แต่คิดว่าในที่สุดเอเดรียน เฟลเวเธอร์ก็มาจนได้

         

     “ทำอะไรกันอยู่นะ”

           

    “เอเดรียน...” มีอาลดมือลง อเล็กเซียนึกทึ่งที่หญิงสาวยิ้มหวานออกมาได้แทบจะในทันที

           

    “ทำไมเจ้าถึงเข้ามาอยู่ในบ้านตอนที่ข้าไม่อยู่ได้ล่ะมีอา” เอเดรียนถาม จากสีหน้าของมีอา อเล็กเซียเดาไม่น่าพลาดหญิงสาวคิดว่าเหตุการณ์ท่าจะไม่ดีต่อเธอ

               “ข้าแค่มาทักทายเจ้าสาวของเอเดรียนเท่านั้น...ใช่ไหมอเล็กเซีย” มีอาพยายามหาพวก เธอพยายามปั้นยิ้มเป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้ คงหวังจะให้เขาช่วยสินะ เอาเถอะจะเออออตามน้ำไปก็ได้

           

    “ข้ากับมีอาแค่แนะนำตัวกันเฉยๆเจ้าก็เข้ามาเสียก่อน” ตอนนี้เอเดรียนหรี่ตามองดูทั้งอเล็กเซียและมีอา รู้ชัดเลยว่ากำลังรอให้เขากับมีอาพูดความจริงอะไรบางอย่าง แต่ก็นั่นแหละไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมา

         

      “เอาเถอะ ถ้าไม่มีอะไรจริงๆก็ดี มีอาไนเจลตามหาเจ้าอยู่แนะเจ้ากลับบ้านไปได้แล้ว”

     

         “เอเดรียนก็ไปส่งข้าด้วยสิ นะไปส่งข้าที” มีอาออดอ้อนเอเดรียนด้วยการกอดแขน อเล็กเซียอดที่จะยิ้มไม่ได้

แย่หน่อยที่มีอาดันเห็นเข้าพอดี

         

      “ยิ้มอะไรของเจ้าอเล็กเซีย”

         

     “เปล่าข้าแค่คิดว่าพวกเจ้าสองคนสนิทกันดี ดูน่ารัก” เหมือนหญิงสาวจะรู้ดีว่าเขาแสร้งชมจึงถลึงตามองมาไม่เลิก ขืนยังแสดงออกชัดแจ้งแบบนี้เอเดรียนคงจะรู้แน่ๆว่าพวกเขาทะเลาะกันดังนั้นจึงเสนอให้เอเดรียนเดินไปส่งมีอา

           

   “เจ้าไปส่งมีอาเถอะเอเดรียน” พยายามยิ้มหวานให้มากที่สุดขณะพูด

         

      “นะน้าไปส่งข้าเถอะนะเอเดรียน อเล็กเซียเขาอนุญาตแล้วนี่”



ตอนนี้เอเดรียนใช้ดวงตาช่างจับผิดมองมาที่อเล็กเซีย รู้สึกใจหายวาบเมื่อถูกมองเช่นนั้น เด็กหนุ่มเกรงว่าหากหลบตาจะเป็นการพ่ายแพ้ต่ออีกฝ่ายดังนั้นจึงมองตอบกลับไป

         

     “เข้าใจล่ะ อเล็กเซียท่านรอข้าอยู่นี่นะ เดี๋ยวข้ากลับมา”



สุดท้ายคนทั้งคู่ก็ออกไปได้เสียที ด้วยรูปการณ์เช่นนี้ทำให้เด็กหนุ่มมีเวลาเตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับเอเดรียน เฟลเวเธอร์ได้อีกหน่อย เขาเฝ้าครุ่นคิดอยู่เพียงลำพังหากว่าอีกฝ่ายกลับมาอีกครั้งควรจะเริ่มต้นใช้มารยาที่มีทั้งหมดเข้าหลอกล่อเสียตั้งแต่เนิ่นๆดีหรือไม่เพราะเวลาให้หยุดคิดน่าจะมีไม่นาน ดังนั้นอเล็กเซียจึงจับจดต่อการวางแผนการเข้าหาเอเดรียนโดยไม่ได้สนใจอย่างอื่น




 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

                                                                               
                                   
                                   รู้สึกไหมว่าอเล็กเซียวางแผนการเจ้าเล่ห์ขี้โกงอยู่

                                   ไม่รู้อนาคตจะเจ้าเล่ห์มากกว่านี้ไหมน้า



                                    รู้สึกว่าตอนนี้ใช้เวลาในการเขียนยาวขึ้นและเนื้อหาสั้นลง



                                    ตอนนี้กำลังเขียนตอนต่อไปอยู่จ้า คิดไม่ตกหลายอย่างเลยกับเนื้อหาของเรื่อง



                                                       กลัวไม่สนุกเหลือเกิน กลัวโดนด่าบลาๆๆๆๆๆ



                                                          เม้นเป็นกำลังใจบ้างน้า  ขอบคุณจ้า

หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 16-11-2016 13:38:06
 :ling1: ในวังรำคาญอิตาไอแซค มาในหมู่บ้านวูฟรำคาญยัยมีอาจริงๆ :z6:
เกิดวันหนึ่งอิสองคนนี้รวมมือกัน ไม่อยากมโน พอๆ รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 16-11-2016 17:57:45
เฮ้ออออออ...(ขออนุญาตถอนหายใจใส่มีอาแป๊บ....เฮ้ออออออออ)
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 16-11-2016 19:48:33
ตัวน่ารำคาญโผล่มาอีกละ อันนี้หมาป่ารึว่าแรดคะ รู้ทั้งรู้เขามาในฐานะอะไรยังจะสั่นริกๆ  :m16:
พระเอกน่ารักแถมเก่งน้าา ทำไมรังเกียจไรเบอร์นั้นคะโอ้ยย  :hao5:
เป็นกำลังใจให้นะคะอย่าเครียดค่ะคนเขียน  :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-11-2016 19:53:57
จัดการเลย

 o18
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 16-11-2016 20:39:46
รำคาญไอแซค หมั่นไส้มีอา พระเอกต้องหนักแน่นนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 16-11-2016 21:26:22
ดูรูปการณ์แล้วคนที่น่าเห็นใจที่สุดก็คือพระเอกเนี่ยแหล่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-11-2016 22:26:26
                                           :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 16-11-2016 22:58:52
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่13 หน้า4 16/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-11-2016 00:47:32
เอามีอาไปอยู่กับไอแซคเถอะ 55555555
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 17-11-2016 13:16:49
ตอนที่14

         

     เอเดรียนทั้งทึ่งทั้งประหลาดใจต่อนิสัยและการแสดงออกของอเล็กเซีย นอกจากจะกล้าหาญและหยิ่งทระนงยังเป็นคนประเภทที่ไม่ยอมลงให้ใครอีกด้วย การที่ชายหนุ่มรู้จักนิสัยของคู่ฟ้าลิขิตเพิ่มมากขึ้น นั่นเป็นเพราะเขาแอบยืนฟังในตอนที่อเล็กเซียกับมีอาโต้เถียงกัน

       

       ถึงกับเรียกขานเขาเป็นสามีได้อย่างเต็มปากเต็มคำ คำพูดของอเล็กเซียทำให้เอเดรียนอมยิ้มไม่หุบ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เข้าใจว่าเด็กหนุ่มเรียกเขาเช่นนั้นด้วยความรู้สึกใด ชายหนุ่มรู้ดีคู่ฟ้าลิขิตของเขายังมิได้ยอมรับตนเอาไว้ด้วยใจ

         

     การเรียกขานเป็นสามีของอีกฝ่าย อาจเป็นไปด้วยเพราะหน้าทีที่ได้รับ หากแต่เอเดรียนกลับไม่ใส่ใจรายละเอียดปลีกย่อยข้อนั้น ตราบใดที่อเล็กเซียยังยอมอยู่ร่วมกับเขาถึงแม้จะแสร้งทำเป็นรักกันเขาก็พึงพอใจมากเกินพอแล้ว

         

     หมู่นี้เอเดรียนรู้สึกว่าตัวเองชักจะอาการหนัก ยิ่งได้อยู่ใกล้ชิดกับอเล็กเซียหัวใจของเขายิ่งเต้นตึกตัก กลิ่นหอมหวานที่เย้ายวนชวนให้อยากเข้าไปใกล้เพื่อจะสูดดมมันทั้งวัน

           

    เอเดรียนไม่ปฏิเสธความต้องการด้านมืดของตัวเอง เขาอยากจะโอบกอดสอดแทรกความเป็นชาย เติมเต็มหลั่งรินเข้าไปจนกว่าอเล็กเซียจะมองดูเขาด้วยสายตาอันเปี่ยมรัก

       

       กระนั้นก็รู้ดี แค่ความสัมพันธ์ทางกายย่อมไม่อาจชนะใจเด็กหนุ่มได้ มองดูด้วยตาก็เข้าใจ อเล็กเซียเป็นผู้ที่มีความหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรีมากแค่ไหนและนั่นเป็นลักษณะนิสัยอย่างหนึ่งที่เขาชื่นชอบ

         

      “เอเดรียน...เอเดรียน....” คนที่กอดแขนเอเดรียนเดินชักจะหัวเสีย เมื่อมีอาเริ่มจะใช้เสียงสูงชายหนุ่มจึงกลับไปให้ความสนใจกับเธออีกครั้ง

       

       “มีอะไรมีอา”

       

       “ก็เจ้าเอาแต่เหม่อนี่ ใกล้จะถึงบ้านของข้าแล้วเจ้าจะเข้าไปดื่มอะไรหน่อยไหม” มีอาพยายามเอาอกเอาใจ

เอเดรียนเข้าใจว่าเธอพยายามถ่วงเวลาเพราะไม่ต้องการให้เขากับอเล็กเซียอยู่กันตามลำพัง

         

      “อ้าว เอเดรียนมาส่งมีอาด้วยหรือ” ไนเจลซึ่งยืนรออยู่หน้าบ้านเอ่ยถาม ท่าทางจะยืนรอน้องสาวที่หน้าบ้านอยู่นานแล้ว ที่ข้างๆของไนเจลแคสเปียนญาติทางฝ่ายแม่ของเอเดรียนยืนอยู่ข้างๆ เอเดรียนลอบยิ้ม เท่านี้ก็สลัดมีอาออกไปได้เสียที

         

    “มีอาเจ้านัดกับแคสเปียนไว้ไม่ใช่หรือ เจ้านี่มารอเจ้าแต่เช้าแล้ว” ไนเจลเตือนความจำของน้องสาว

ตอนนี้แคสเปียนมองมาที่หญิงสาวดวงตาเป็นประกายในขณะที่มีอามีสีหน้าเหนื่อยใจอย่างที่สุด

         

      อดจะขำไม่ได้ ถึงแม้ว่ามีอาจะโดนแคสเปียนตามตื้อเช่นนี้แต่ก็ไม่ยักเข้าใจเสียทีถึงความรู้สึกของเขาเวลาที่ถูกเธอไล่ตาม  แคสเปียนเป็นญาติฝ่ายแม่ของเขาเด็กหนุ่มวัยสิบหกผู้นี้มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาอยู่สองสามส่วน หน่วยก้านก็ถือว่าใช้ได้ ทว่ามีอากลับไม่ชอบใจเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีความคิดเป็นของตัวเองและเอาแต่ตามก้นเธออยู่เสมอ

         

      ได้แต่รักข้างเดียว ช่างคล้ายกับเอเดรียนที่ได้แต่รักอเล็กเซียข้างเดียวเช่นกัน คนที่เฝ้าถวิลหาไม่เคยแสดงท่าทางอ่อนโยนกับเขา หากทว่าในยามที่เขาเป็นหมาป่ากลับแสดงออกถึงความใสซื่ออ่อนหวานเสียจนเขานึกอิจฉาตัวเองในยามที่กลายร่าง

       

       ใจหนึ่งอยากจะบอกความจริงแก่อเล็กเซียเสียเดี๋ยวนี้ว่าเขาเองคือหมาป่าตัวนั้น แต่ก็กลัวจะสูญเสียช่วงเวลาแสนหวานไป ควรจะหาเวลาเหมาะๆในการบอกความจริงสินะ กระนั้นเขากลับลังเลที่จะบอก ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูท่าว่าจะไม่คลี่คลายไปโดยง่ายหากเขายังคงนึกเสียดายอยู่อย่างนี้

         

      เสียงโหวกเหวกโวยวายของมีอาทำให้เอเดรียนกลับมาสู่ความจริงตรงหน้า ตอนนี้หญิงสาวเดินกระแทกเท้าปึงปัง เธอตั้งใจจะหนีให้พ้นจากการตามตื้อของแคสเปียน ทว่าเด็กหนุ่มผู้มีความรักคับอกกลับเดินไล่ตามไปไม่ลดละ

         

      “ปวดหัวกับเจ้าเด็กมีปัญหาพวกนี้จริงๆเลยนะ” ไนเจลดูจะเหนื่อยหน่ายต่อปัญหานี้ ก็ไม่แปลก ไนเจลเองก็คอยลุ้นอยู่ว่าจะมีใครมากำราบความแก่นแก้วของมีอาลงได้บ้าง

       

        “เอ้อจริงสิเอียนเต้ตามหาเจ้าอยู่แนะ...โอ๊ะพูดถึงก็มาพอดี”

       

       เป็นตามที่พูดชายหนุ่มผมเงินรูปร่างสูงใหญ่เดินตรงมาพร้อมกับคู่ฟ้าลิขิตของเขาที่คอยตามเป็นเงา

       

       “มีอะไรหรือเอียนเต้” เอเดรียนถามเมื่อทั้งคู่เดินมาถึงตรงหน้าเขา

     

          “อยากให้ท่านไปช่วยจัดการกับทรัพย์สินที่คู่ฟ้าลิขิตของท่านนำติดตัวมาที”

       

        “อ้อ...เข้าใจแล้ว” เอเดรียนรับคำแต่ก่อนจะไปเขามีเรื่องต้องฝากฝังไว้กับเรเวนคู่ฟ้าลิขิตของเอียนเต้เสียหน่อย

         

     “เรเวนเจ้าช่วยไปดูแลความเรียบร้อยของอเล็กเซียให้ทีได้หรือไม่ ทั้งเรื่องเสื้อผ้าและการเตรียมตัว ข้าเตรียมของไว้ในบ้านทั้งหมดแล้วเจ้าช่วยไปจัดการแทนข้าทีสิ”

         

     “ท่านหมายถึงจะให้ข้าช่วยดูแลคู่ฟ้าลิขิตของท่านหรือ” เรเวนถามด้วยความกระตือรือร้นยิ่ง เห็นแล้วอดเอ็นดูไม่ได้

         

      “ใช่แล้ว เขาอายุห่างจากเจ้าไม่เท่าไหร่ น่าจะเข้ากันได้ดีนะ”

           

    “เข้าใจแล้ว ข้าจะดูแลอเล็กเซียเป็นอย่างดีท่านไม่ต้องกังวล” เรเวนให้คำสัญญาก่อนจะฉุดลากให้เอียนเต้เดินตามไป เอเดรียนเห็นท่าทางสนิทสนมของวูฟหนุ่มกับคู่ฟ้าลิขิตคู่นี้แล้วอดยิ้มไม่ได้

       

        “รักกันดีจริงๆนะ” เอเดรียนพึมพำทว่าไนเจลกลับได้ยินเสียนี่

         

    “เจ้าเองถ้าพยายามซักวันหนึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้นแน่ๆ” ไนเจลตบบ่าเอเดรียนเบาๆ การได้รับคำปลอบใจและแรงกระตุ้นเช่นนี้จากเพื่อนสนิททำให้เขาฮึกเหิมอยู่ไม่น้อย

       

        “เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ”

         

      “แน่นอนสิ เจ้าเองก็มีคุณสมบัติครบถ้วนไม่แพ้ชายใด อย่าดูถูกตัวเองไปล่ะเอเดรียน”



อดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ ถึงแม้จะเป็นอย่างที่ไนเจลว่าจริง แต่หากอเล็กเซียไม่เห็นค่าย่อมไม่มีประโยชน์ ทว่าถึงจะรังเกียจเขาแค่ไหนเอเดรียนก็ไม่คิดจะปล่อยให้เด็กหนุ่มหลุดพ้นจากอ้อมแขนของเขาอย่างเด็ดขาด ไม่มีวัน

         

     อเล็กเซียเดินวนไปวนมาสลับกับนั่งลงบนเก้าอี้เป็นพักๆ เด็กหนุ่มรอคอยการกลับมาของเอเดรียนด้วยความกระวนกระวาย เขาตัดสินใจแล้วหากคนผู้นั้นมาเขาจะเสนอจูบให้ฝ่ายนั้นเป็นอย่างแรก

       

       มันจะแปลกๆไปไหมนะหากว่าตนเองจะเป็นฝ่ายเสนอจูบก่อน ไม่หรอกยังไงฝ่ายนั้นก็ต้องการจูบจากเขาอยู่แล้ว ปัญหาที่ว่าจะทำอย่างไรให้การจูบของเขาดูโรแมนติคแนบเนียนและดูไม่เหมือนเป็นการวางแผนอะไรบางอย่าง สำหรับ

อเล็กเซียที่ไม่เคยมีความรักมาก่อนนับว่าเป็นหัวข้อที่ชวนปวดหัวยิ่งนัก

         

      ขณะที่เอาแต่คิดเสียงเคาะประตูหน้าบ้านก็ดังขึ้น อเล็กเซียสะดุ้งโหยงเดินตัวแข็งๆไปเปิดประตูเพื่อต้อนรับการกลับมาของเอเดรียน แต่ทว่ากลับไม่ใช่คนที่เขารออยู่ ตรงหน้าเป็นชายหนุ่มและเด็กชายวัยประมาณสิบสองสิบสาม

         

     “ท่านคืออเล็กเซียสินะครับ...ข้าเรเวนส่วนนี่เอียนเต้คู่ฟ้าลิขิตของข้าครับ”

         

      คู่ฟ้าลิขิต

         

      แค่เพียงคำคำนี้ทำให้อเล็กเซียตื่นตัวอย่างมาก เด็กหนุ่มมองสลับไปมาระหว่างเรเวนกลับเอียนเต้ เรเวนเป็นเด็กชายผมสีดำตาสีเขียวและมีใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้ม ส่วนเอียนเต้เป็นชายหนุ่มผมสีเงินร่างกายสูงใหญ่กำยำ คนคนนี้มีใบหน้าหล่อเหลาแต่ติดจะเย็นชา

         

     สองคนนี้เป็นคู่ฟ้าลิขิตกันอย่างนั้นหรือ เด็กชายคนนี้ ไม่สิเรเวนไม่อายุน้อยเกินไปหรือ เป็นคนนอกเผ่าไม่ใช่พวกวูฟหรือว่าเป็นพวกวูฟเหมือนกันนะ ยิ่งมองยิ่งสงสัย อเล็กเซียเก็บความสงสัยนั้นเอาไว้กับตัวรอจนเอียนเต้จากไปจึงกล้าเอ่ยปากถาม

         

      “เรเวนเป็นชาวเผ่าวูฟหรือเปล่า”

           

    “ไม่ใช่ครับ ข้าไม่ใช่ชาวเผ่าวูฟ” เรเวนตอบชัดถ้อยชัดคำ

         

     “อย่างนั้นเจ้ามาจากเมืองไหน ใช่คนในอาณาจักรเราหรือเปล่า” อยากจะรู้ให้แน่ชัด อเล็กเซียเริ่มจะไม่ชอบหน้าของเอียนเต้แพราะสันนิษฐานที่คิดเอาเองบางอย่าง ดังนั้นจึงอยากจะรู้จากปากของเรเวน

         

     “ข้าเป็นชาวเมืองเอเดนครับ”

         

     “เอเดนหรือ” อเล็กเซียอดตกใจไม่ได้ เอเดนเป็นอาณาจักรทางใต้ที่อยู่ไกลจากอเล็กซานเดรียมาก ลักพาตัวมาอย่างนั้นหรือจากพ่อแม่ นึกออกได้แต่เรื่องเลวร้ายทั้งนั้น ทว่ายิ่งคิดยิ่งมีแต่หลุมดำ เอียนเต้คนนั้นพบเรเวนซึ่งเป็นคู่ฟ้าลิขิตตั้งแต่อายุเท่าไหร่ ดูจากสภาพของเรเวนที่ดูมีความสุขไม่น่าจะมาด้วยความไม่เต็มใจ ด้วยความสงสัยหนักจึงถามสิ่งที่คิดออกไป

       

       “เรเวน เอียนเต้เขาค้นพบเจ้าในฐานะคู่ฟ้าลิขิตตั้งแต่เจ้าอายุเท่าไหร่กันหรือ”

         

      “น่าจะประมาณตอนห้าขวบได้นะ” เรเวนยิ้ม

     

         “เจ้าถูกพวกวูฟลักพาตัวมาจากพ่อแม่หรือเรเวน” จู่จู่เรเวนก็หัวเราะออกมา อเล็กเซียงงไปหมดไม่เข้าใจว่าเด็กชายหัวเราะทำไม

         

      “ไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดหรอก เอียนเต้พบข้าที่เป็นเด็กกำพร้าในสลัมนะครับ ตอนนั้นเอียนเต้เองก็เป็นนักสู้ในลานประลองของเอเดน พวกเราสองคนอยู่ด้วยกันจนเอียนเต้ได้พบกับเอเดรียนและชาวเผ่าพวกเราจึงมาอาศัยอยู่ที่นี่ไงครับ” อยากจะล้วงลึกให้มากกว่านี้ แต่อเล็กเซียก็กลัวว่าเด็กชายจะโกรธ อยากถามเหลือเกิน เมื่ออดใจไม่ไหวจึงถามออกไป

       

       “ตอนนี้เจ้าอยู่กับเขาในฐานะไหนกันหรือ” อเล็กเซียไม่กล้าคาดเดา เพราะว่าในโลกใบนี้มีพวกวิปริตชอบเสพสมกับเด็กอยู่มาก

       

       “ข้าเป็นว่าที่ภรรยาของเอียนเต้ครับ” เรเวนหน้าแดงเล็กน้อยแต่ก็ตอบได้ชัดเจนมาก

       

        “หมายถึงเจ้ากับเขายังไม่ได้แต่งงานเข้าหอกันสินะ” ตอนนี้เรเวนหน้าแดงก่ำไปทั้งหน้า เด็กชายตอบคำถาม

อเล็กเซียด้วยเสียงอู้อี้

         

      “ก็ต้องใช่สิครับ เอียนเต้บอกว่าเขาต้องรอให้ข้าอายุสิบหกเสียก่อน”

         

     เป็นอย่างนี้นี่เอง ดูจากท่าทางของเรเวนแล้วเขาไม่จำเป็นต้องเดาว่าเด็กชายมีใจรักให้กับเอียนเต้หรือไม่

 อเล็กเซียเดาว่าคงเป็นเพราะความผูกพันที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันจากวัยเยาว์จึงทำให้เรเวนมอบความรักให้แก่วูฟหนุ่ม

         

      “ตอนที่เจอกันครั้งแรก เอียนเต้เขาอยู่ในร่างหมาป่าตัวยักษ์ดูแล้วช่างงดงาม ข้าตกหลุมรักเอียนเต้ที่เป็นอย่างนั้นครับ” เรเวนเล่าความทรงจำอันงดงามออกมา เกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้อเล็กเซียฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้

       

       “เรเวนเจ้าเคยเห็นเอเดรียน สามีของข้าในร่างหมาป่าหรือเปล่า” เป็นโอกาสดีที่จะได้รู้สิ่งที่ตนสงสัย เจ้าหมาป่าตัวใหญ่สีดำที่คอยตามติดเขาอยู่ตลอดเวลาทั้งยังให้ของขวัญแก่เขา เจ้าสัตว์น่ารักแต่ที่มาที่ไปเป็นปริศนานั้นหลายครั้งที่

อเล็กเซียอดคิดไม่ได้ว่าคนคนนั้นอาจเป็นเอเดรียน

       

       “ท่านเอเดรียนเป็นหมาป่าสีดำที่ตัวใหญ่กว่าใครในบรรดาหมาป่าครับ ใครๆก็รู้ว่าท่านแข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้าน”

       

       อเล็กเซียเอามือทาบอกตัวเอง เอเดรียน เฟลเวเธอร์เมื่อกลายร่างแล้วเป็นหมาป่าสีดำตัวยักษ์จริงๆด้วย แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันเพราะเอเดรียนไม่ได้ยอมรับกับตัวว่าชายหนุ่มคือหมาป่าตนนั้น

         

     หากว่าเอเดรียนคือหมาป่ายักษ์ตัวนั้นจริงๆล่ะ คนผู้นั้นมีจุดประสงค์อะไรถึงไม่บอกความจริง คิดล้อเล่นกับความรู้สึกของเขาหรือ ไม่สิ เจ้าหมาตัวนั้นแสดงออกว่าชอบเขาชัดเจน มันเข้าหาเขาด้วยความรักอย่างแน่นอน

         

      คิดถึงตรงนี้ใบหน้าก็ร้อนผะผ่าว หากเป็นเอเดรียนจริง การที่เขาถูกเลียเนื้อตัวจนเปียกแฉะไม่เท่ากับว่าถูกลวนลามอยู่หรือ คนเจ้าเล่ห์ เขาจะรอดูว่าอีกฝ่ายจะพูดความจริงด้วยตอนไหน



คิดโกหกผู้อื่นอย่างนั้นหรือมันน่าโมโหน้อยอยู่เมื่อไหร่ แต่กระนั้นยามเมื่อนึกถึงตอนที่ถูกช่วยเอาไว้ทั้งตอนที่ได้พบหน้ากันหลายต่อหลายครั้งในร่างเช่นนั้น ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้เผลอยิ้มก็ไม่รู้



พอรู้ตัวว่าทำสิ่งเหลือเชื่อก็รีบหุบยิ้มแทบไม่ทัน เขาคิดอะไรอยู่กันแน่นะ เผลอคิดไปได้ว่าการกระทำแสนเจ้าเล่ห์ของชายผู้นั้นช่างน่ารัก แค่คิดว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆทำกริยาออดอ้อนสุดฤทธิ์ดั่งเช่นหมาตัวหนึ่ง ก็อดหัวเราะไม่ได้ แปลก...แปลกเหลือเกินที่ตอนนี้เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก

         

      “ท่านอเล็กเซียรีบแต่งตัวเถอะเดี๋ยวจะไม่ทันงานฉลองที่จัดขึ้นเพื่อท่านนะ”

         

     “เรียกอเล็กเซียเฉยๆเถอะ เรเวน ข้าชอบให้เจ้าเรียกข้าแบบนั้น” เรเวนยิ้มแก้มปริ เด็กชายไม่รอช้ารีบเอาเสื้อผ้าจากหีบจำนวนมากมาเรียงรายช่วยจัดแจงเลือกและแต่งตัวให้อเล็กเซีย



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



                                     จะขอพักการลงนิยายซักสามสี่วันนะจ๊ะ พอดีอยากจะอ่านกองนิยายที่ดองไว้ในห้องซักหน่อยนึง



                                                        สัญญาว่าจะกลับมาแน่นอนไม่รอนาน ถ้าอ่านจบเร็วอาจจะแค่สองถึงสามวัน



                                                          ช่วงนี้สมองตื้อตันมาก รู้สึกว่าเขียนได้ช้าและน้อยลงกว่าเดิมเยอะ



                                                            หลังจากช่วงนี้อาจจะต้องใช้เวลาในการเขียนและการลงถี่น้อยลงกว่าเดิม



                                                            เข้าใจบ้างไหมว่ามันต้องมีช่วงตันกันบ้าง



                                                              แต่ที่หยุดลงตอนนี้ยังไม่ตันนะตอนนี้เริ่มเขียนตอนต่อไปอยู่



                                                               แต่ขอสต็อกไว้เผื่อมันตันจริงๆจะได้ไม่หายไปนานไง เข้าใจนะจ๊ะๆๆ



                                                                รักคนอ่านเม้นเป็นกำลังใจกันบ้าง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 17-11-2016 19:20:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-11-2016 19:29:26
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-11-2016 19:54:47
แบบนี้ต้องเค้นความจริงซะแล้ว
อเล็กเซียน่ารัก. รอเข้าหอ
ดีค่ะ.  :mew1: 
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 17-11-2016 20:23:30
คุณคนแต่งสู้ๆค่า :กอด1: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 17-11-2016 21:07:26
ฟินมากกก น่ารักที่สุดในที่สุดก็ยอมเปิดใจ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-11-2016 21:16:16
เป็นกำลังใจให้จ้าาา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 18-11-2016 00:51:42
 :impress2: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่14 หน้า5 17/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 18-11-2016 08:42:49
วี้ดดดด.. เรเวนหนูเด็กมากเลยลูก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 18-11-2016 12:16:48
ตอนที่15

           

   งานเลี้ยงฉลองคืนนี้เป็นงานเลี้ยงที่มีไว้เพื่อต้อนรับอเล็กเซียที่จะกลายมาเป็นภรรยาของเขา  สำหรับเผ่าวูฟซึ่งไม่มีพิธีการแต่งงานเป็นทางการ งานเลี้ยงฉลองจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดไม่ได้แทนพิธีสาบานตนที่ควรจะมี

         

     “อ้าวเจ้าสาวมาโน้นแล้ว” ไนเจลสะกิดแขนเอเดรียน ด้วยสายตาของเผ่าวูฟที่ดียิ่งกว่าสัตว์ป่า ชายหนุ่มเห็นเงาร่างของอเล็กเซียแต่ไกล เด็กหนุ่มในชุดที่เขาเตรียมเอาไว้ให้ดูงามสง่าและน่ารัก สมแล้วที่เขาทุ่มเทเงินทองในการตัดเย็บชุดๆนี้เพื่อเด็กหนุ่ม

         

      “ชุดที่อเล็กเซียใส่นั่นทำจากผ้าไหมของทางตะวันออกสินะ” ไนเจลกระซิบถาม

         

      “ใช่”

           

    “สายตาแหลมคมนัก อเล็กเซียช่างเหมาะกับอาภรณ์เลิศหรูนี้มากจริงๆ” ไนเจลระบายลมหายใจด้วยความชื่นชม เอเดรียนยิ้มกริ่มนับว่าเขาคาดการไม่ผิด อเล็กเซียดูงดงามยิ่งเมื่ออยู่ในชุดผ้าไหมที่ตัดเย็บมาอย่างดี

         

      “ข้านำอเล็กเซียมาส่งแล้วครับเอเดรียน” เรเวนใช้มือดันหลังอเล็กเซียให้เดินมาหาเขา เด็กหนุ่มดูประหม่า

เอเดรียนส่งยิ้มละไมให้หวังว่าว่าที่ภรรยาของเขาจะผ่อนคลาย

         

     “ไปนั่งตรงนั้นกันเถอะอเล็กเซีย ข้าจะหาอะไรให้ท่านทาน” ยื่นมือออกไปรอรับมือของเด็กหนุ่ม ตอนแรกเอเดรียนคิดว่าอเล็กเซียจะเมินเฉยและทำเย็นชา ทว่ากลับผิดคาดเด็กหนุ่มยื่นมือมาให้เขาจับโดยไม่มีท่าทีรังเกียจ

         

     “ท่านค่อยๆนั่งลงนะ” ดูแลราวกับไข่ในหิน หากสามารถจับให้อเล็กเซียนั่งตักได้เขาก็อยากจะทำ เวลานี้อเล็กเซียนั่งอยู่เคียงข้างเขา มีเอียนเต้ ไนเจล และเรเวนนั่งร่วมโต๊ะ ในตอนนั้นเองที่นึกถึงคนที่หายไปขึ้นมาได้

         

     “ไนเจลแล้วมีอาล่ะ” ไนเจลมีสีหน้าลำบากใจ การที่เพื่อนของเขายิ้มเจื่อนๆทำให้เอเดรียนเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กนั่นคงทนไม่ได้ที่ต้องมางานฉลองแต่งงานของเขาละมั้ง หากสังเกตุให้ดีแคสเปียนเองก็ไม่มาร่วมงานด้วย



ชายหนุ่มไม่สามารถบังคับให้ใครเลิกรักหรือชอบตนเองได้ เพราะฉะนั้นจึงคิดง่ายๆว่าความรู้สึกรักที่มีต่อเขาเมื่อผ่านไปมันน่าจะเจือจางลง ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นในเมื่อเขามีภรรยาเป็นตัวเป็นตนให้เห็นแล้ว



“อเล็กเซียทานเนื้อย่างนี้เสียหน่อยนะ” เริ่มต้นเอาอกเอาใจภรรยาของตัวเองอย่างตั้งใจ ชายหนุ่มใช้มีดตัดเนื้อหมูที่ย่างทั้งตัวแบ่งใส่จานให้อเล็กเซีย



“ขอบคุณนะเอเดรียน” รู้สึกไปเองหรือเปล่านะว่าอเล็กเซียจ้องมองมาด้วยแววตาหยาดเยิ้มประหนึ่งหลงใหล น่าแปลกมันควรจะเป็นสายตาเย็นชามากกว่าสิ ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ



“เจ้าเองก็ทานด้วยนะ” อเล็กเซียใช้มีดตัดแบ่งเนื้อใส่จานยื่นมาให้เขาบ้าง เด็กหนุ่มยังใช้ดวงตาเป็นประกายระยับช้อนมองมาที่เขา ให้ตายสิตั้งใจจะยั่วยวนเขาหรืออย่างไรกันนะ



เอเดรียนรู้ว่ามันผิดวิสัยของอเล็กเซีย แต่แทนที่จะระแวงกลับชอบใจที่เด็กหนุ่มมีปฏิกิริยาต่อเขาเช่นนี้ เอาเถอะเขาจะตอบรับการยั่วยวนของอเล็กเซียอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในค่ำคืนสำคัญหากอีกฝ่ายยังตั้งใจจะยั่วยวนกวนราคะเช่นนี้อีกเขาจะดีใจมาก

       

       เอเดรียนเริ่มต้นทานชิ้นเนื้อในจาน ตลอดการทานอาหารจานนั้น อเล็กเซียคอยปรนนิบัติเขาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งคอยรินน้ำให้หรือส่งผ้าเช็ดปากให้ จนเอเดรียนบางทีก็แอบคิดเข้าข้างตนเอง อีกฝ่ายคงยอมรับด้วยใจแล้วที่ต้องมาเป็นภรรยาของเขา ก็แค่หลอกตัวเองให้สบายใจเท่านั้น ลึกๆแล้วชายหนุ่มเข้าใจว่าอเล็กเซียคงจะมีอะไรปิดบังแอบแฝงอยู่

           

    “อเล็กเซียท่านดีต่อข้าเหลือเกิน มันทำให้ข้ารักท่านมากยิ่งขึ้นไปอีก” อเล็กเซียตัวแข็งทื่อชั่วแวบหนึ่งก่อนจะยิ้มหวานส่งมาให้เขา มันช่างน่าขำเอเดรียนรู้ชัด อเล็กเซียน่าจะมีแผนการในใจ

           

    เด็กน้อยเอ๊ย



บางทีอเล็กเซียคงเห็นว่าเขาโง่ ชายหนุ่มใช้เวลาอนุมาณนิดหน่อยก็สามารถเดาออกได้ ที่ต้องพยายามเอาอกเอาใจยั่วยวนเขาเช่นนี้ อาจถูกข้อร้องจากราชาหรือพวกขุนนางที่จงใจใช้ความรักซึ่งเขามีต่อเด็กหนุ่มให้เป็นประโยชน์

       

       หากว่าอเล็กเซียต้องการทำเช่นนั้นเขาจะไม่ถือโทษโกรธ แค่เด็กหนุ่มยอมมาเป็นภรรยาเขาก็พอใจมากแล้ว แต่อย่าได้คิดหวังว่าจะยอมให้เชิดตามใจชอบได้ง่ายๆ เพราะอย่างไรความเป็นไปของชนเผ่าก็สำคัญต่อเขาเช่นกัน

         

      “เอเดรียนคือว่าข้ามีเรื่องจะบอกท่าน” กลับมาสู่ความเป็นจริงอีกครั้งด้วยคำพูดของเรเวน

         

     “พูดมาสิ” เรเวนทำท่าอึกอักไม่สบายใจ คงมีเรื่องสำคัญบางอย่างที่ให้ใครรู้ไม่ได้ เอเดรียนผุดลุกจากที่นั่งกวักมือเรียกให้เรเวนเดินตามมา ทั้งคู่ออกมาไกลจากผู้คนพอสมควร เมื่อเห็นว่าปลอดผู้คนเรเวนก็ยื่นห่อบางอย่างมาให้”

         

      “นี่คือสิ่งทีมันตกจากเสื้อผ้าชุดเก่าของอเล็กเซียครับ”

         

     เอเดรียนมองดูห่อเล็กๆสลับกับมองดูเรเวน ในตอนแรกไม่เข้าใจว่ามันสำคัญอย่างไร แต่ความกังวลบางอย่างทำให้เขาเปิดห่อในมือออก ข้างในมีผงสีขาวละเอียดแถมยังมีกลิ่นหอมชวนให้หลงไหลโชยออกมาก สำหรับเอเดรียนแล้วมันเป็นกลิ่นสตอร์เบอรี่ป่าที่เขาชื่นชอบ

           

    “เจ้าแน่ใจนะว่าได้มาจากอเล็กเซีย” เรเวนพยักหน้า เพื่อเป็นการทดสอบว่าใช่ที่เขาคิดไว้ไหมเอเดรียนใช้ใช้ปลายเล็บสะกิดผงนั้นขึ้นมาเล็กน้อยแล้วกลืนเข้าไป

         

      รู้สึกได้ถึงความร้อนระอุภายในกาย ใช่แล้วมันคือความโกรธ หลังจากได้ลิ้มรสตัวยาและดมกลิ่นดูแล้ว ยาชนิดนี้คือค่ำคืนนิรันด์ไม่ผิดแน่ เจ้าสิ่งนี้พวกโสเภณีมักจะใช้ให้พวกแม่มดปรุงให้เพื่อนำไปรับมือกับแขกที่ไม่ชอบหน้า เป็นทำเนียบยาลับที่รู้กันในกลุ่มคนเล็กๆเท่านั้น

       

       รู้อยู่ว่ารังเกียจเขา ก่อนหน้านั้นเมื่อครู่คิดว่าอเล็กเซียจะเตรียมใจมาเผื่อที่จะเป็นภรรยาของเขาอย่างสมบูรณ์ คิดแม้กระทั่งว่าจะไม่ถือโกรธที่เด็กหนุ่มตั้งใจจะหลอกใช้ แต่นี่กลับตั้งใจใช้ยาประเภทนี้กับเขาอย่างนั้นหรือ

       

       มันช่างน่าขยำขยี้ให้แหลกคามือนัก หากว่าเป็นคนธรรมดา คงจะหลงเพ้อคิดว่าได้ผ่านค่ำคืนแห่งปรารถนาไปกับคนที่เฝ้าฝัน แต่อเล็กเซียคงไม่รู้ว่าสำหรับเผ่าวูฟแล้วไม่ว่ายาพิษใดใดก็ไม่สามารถทำอันตรายได้ เป็นความลับที่มีแต่พวกวูฟเท่านั้นที่รู้

     

          อเล็กเซีย...เด็กน้อยของเขา จะโทษว่าเป็นความผิดของเขาไม่ได้ คืนนี้หากว่าเด็กหนุ่มใช้ยาเจ้าเล่ห์นี้กับเขาจริง ก็จะสั่งสอนให้อีกฝ่ายรู้ว่าการถูกทำรักอย่างเร้าร้อนนั้นเป็นเช่นไร



แค่คิดว่าจะเห็นอเล็กเซียร้องไห้ ในใจก็ทั้งปวดแปลบผสมปนเปไปกับตื่นเต้น ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้ายด้วยความหมายมาด จะโทษเขาเป็นฝ่ายผิดคนเดียวไม่ได้ ต้องโทษที่เจ้าทำในสิ่งที่ข้าเกินจะรับได้ก่อน



ไม่คิดว่าตัวเองจะโกรธได้ถึงเพียงนี้ ทั้งที่ตั้งใจว่าจะอ่อนโยนกับอเล็กเซียให้มากในค่ำคืนแรก หากแต่เพราะเด็กหนุ่มตั้งใจจะเล่นกับไฟ ถ้าเช่นนั้นเขาจะเป็นไฟเผาผลาญเด็กหนุ่มให้มอดไหม้ จนกว่าเขาจะพึงพอใจและหายโกรธ



ใครกันนะที่สรรหายาเช่นนี้มาให้ ราชาหรือรัชทายาท จากการอนุมานไม่น่าจะเป็นทั้งสองคน เพราะทั้งคู่ต่างก็เกลียดพวกนอกรีตอย่างพ่อมดแม่มด ในตอนนั้นใบหน้าของคนผู้หนึ่งก็วาบเข้ามาในความคิด



ไอแซค บาร์ตัน ผู้ชายที่ตามติดอเล็กเซียเป็นเงาและตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา นอกจากจะต้องสั่งสอนเด็กหนุ่มเสียบ้าง เห็นทีคงต้องจับตาดูการเคลื่อนไหวของผู้ชายคนนั้นด้วยเหมือนกัน



ไม่อยากให้เกิดสิ่งผิดพลาดที่หวนกลับไปไม่ได้ ดังนั้นเอเดรียนจึงเริ่มวางแผนซับซ้อนแต่เนิ่นๆ คิดแม้กระทั่งว่าจะให้เรเวนคอยตามดูแลอเล็กเซียอย่างใกล้ชิด ถึงตอนนี้ก็เริ่มกลัวตัวเองขึ้นมา เอเดรียนไม่เคยโกรธใครมากขนาดนี้มานานแล้วนับตั้งแต่หลังจากเขาอายุยี่สิบปีเป็นต้นมา



เคยคิดว่าเมื่อโตขึ้นจะกลายเป็นคนเยือกเย็นโดยสมบูรณ์ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เขารู้ว่าตนเองยังคงเป็นคนขี้โมโหและใจร้อนดั่งเช่นเมื่อสมัยยังเป็นเด็กไม่เสื่อมคลาย



“เจ้าไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ใช่ไหมเรเวน”



“อื้อ...คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี เลยไม่เอาไปบอกใคร เพราะว่าข้าเคยเห็นพวกผู้หญิงในสลัมบางคนใช้ยาตัวนี้ข้าก็เลย”



มีวี่แววของความกลัวและรู้สึกผิด เรเวนคงจะไม่สบายใจที่เอาความลับของอเล็กเซียมาปูดให้เขารู้ ดังนั้นเด็กชายจึงทำหน้าไม่สบายใจ



“ท่านคงจะไม่ลงโทษอเล็กเซียหรอกใช่ไหม” เรเวนถามด้วยเสียงที่เบาหวิว



“หากเจ้าไม่อยากเห็นอเล็กเซียโดนลงโทษ เหตุใดเจ้าถึงได้เอายาตัวนี้มาให้ข้ากันล่ะ”



“นั่นก็เพราะ...” เอเดรียนรู้คำตอบของเรเวนดี เรเวนอาศัยอยู่กับเผ่าวูฟมานานจนเป็นส่วนหนึ่งของคนในเผ่า เด็กน้อยย่อมต้องไม่เห็นผู้อื่นดีกว่าคนในเผ่าโดยเฉพาะภรรยาแต่งที่คิดไม่ซื่อกับสามีซึ่งเป็นถึงหัวหน้าเผ่าของตน



“เอเดรียน....ข้า....” เรเวนยังคงเสมือนน้ำท่วมปาก เอเดรียนตบมือลงบนไหล่ของเด็กชายเบาๆเป็นการปลอบโยน



“กลับไปนั่งที่โต๊ะเสียแล้วทำตัวให้เป็นปกติ เจ้าไม่ต้องห่วงอเล็กเซียข้าไม่ใจร้ายลงโทษเขาจนถึงทำให้บาดเจ็บหรอก”



“จริงนะ” เรเวนช้อนตามองมาอย่างมีความหวัง



“จริงสิ ก็แค่อยู่ร่วมกันทั้งคืนในแบบสามีภรรยาย่อมไม่ทำให้ใครบาดเจ็บอยู่แล้ว” เรเวนที่พอจะรู้ความอยู่บ้างถึงกับหน้าแดงก่ำ เด็กชายรีบวิ่งไปยังโต๊ะที่เคยนั่งโดยไม่พูดอะไรอีก เอเดรียนมองไล่ตามเรเวนด้วยสายตาเอ็นดูก่อนจะตวัดมองอเล็กเซียจากที่ไกลๆด้วยสายตาแวววาวเป็นประกาย 





 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                     ตอนแรกว่าจะตุนนิยายเอาไว้หลายๆตอนเพื่อเอาไว้เวลาตันจริงๆแต่พอแต่งได้แล้วก็อดใจไม่ไหวต้องเอามาลง



                             ตอนหน้าncแล้วนะจ๊ะ สปอย์นิดนึงncไม่ดราม่านะจ๊ะ ไม่มีดราม่าทำร้ายจิตใจใครแน่นอน



                             ตอนนี้กะลังเขียนอยู่



                              รักคนอ่านเม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 18-11-2016 13:59:25
 :katai2-1: ดีนะพระเอกของเราฉลาด หึหึ จัดชุดใหญ่เลย อิตาไอซอกไอแซค เราก็ระแวงเหมือนกัน มันต้องมีอะไรมากกว่าที่คิดแน่ๆ  :m16:
แต่ตอนนี้เรารอเขาเข้าหอกันแหละ  :hao6:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-11-2016 16:15:51
ไอแซคหางานมาแล้วมั้ยล่ะ เกลียดจริง!!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 18-11-2016 16:44:44
ใช้ความรักที่อีกฝ่ายมีให้เป็นเครื่องมือ ในการทำให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเลือดเย็นดีไหม 5555 อเล็กเซีย น่าสงสาร แต่งกับผชไม่พอ ยังโดนบังคับให้ทำเรื่องร้ายกาจ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-11-2016 17:00:47
เราเชื่อใจคนเขียนจ้ะ
รอncนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 18-11-2016 18:09:13
ถามกันก่อนดีมั้ย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-11-2016 18:22:37
คิดว่าจะไม่ใช้แล้วเอาติดมาด้วยทำไมล่ะอเล็กเซีย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: peeranatyaikaew ที่ 18-11-2016 19:24:10
ชอบบบบ :hao6:อเล็กเซียตายแน่ๆ :hao7: :hao6: :hao6: :jul1:เติมถุงเลือดรอ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 18-11-2016 19:44:29
ถ้าทำรุนแรงไปจะไม่ยิ่งทำให้อเล็กเซียไม่พอใจมากขึ้นหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-11-2016 20:39:41
หลังจากนี้ไอแซคคงได้รับบทเรียน
ส่วนอเล็กเซีย ไม่รอดแน่คืนนี้ คึคึ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 18-11-2016 21:40:22
ยังดีที่เอเดรียนรักน้องก่อน ไม่งั้นน่าจะดราม่าแรงงง เอเดรียนฉลาดมาก สมเป็นหัวหน้าเผ่า :katai2-1:
ก็ยังอยากให้ทั้งคู่จับเข่าคุยกันสักที แปลงร่างเป็นน้องหมากะได้ น่าจะคุยง่ายเลยล่ะ55555
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 18-11-2016 21:56:09
คือมันน่าจะถึงเวลาที่ทั้งสองคนต้องมาคุยกันแบบจริงจังได้แล้วนะ จะได้เข้าใจกันมากขึ้นเนอะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่15 หน้า5 18/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 18-11-2016 22:17:49
ไอแซค!ถึงนายจะไม่อยู่ก็สามารถนำความวุ่นวายมาได้!
ncขออย่าน้องหมาใจร้ายรุนแรงกับน้องเลย ต้องใจอ่อนกับน้องนะ สาธุ :call:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 19-11-2016 11:37:37
ตอนที่16



ทั้งทั้งที่เรเวนกลับมานั่งที่นานแล้วแต่เอเดรียนก็ยังไม่กลับมา อเล็กเซียมองหาชายหนุ่มไปรอบๆงาน เมื่อหาไม่พบจึงอดถามกับเรเวนไม่ได้



“เอเดรียนล่ะเรเวน”



“ไม่รู้เหมือนกันอเล็กเซียหลังจากที่ข้าคุยธุระกับเอเดรียนเสร็จเขาก็เหมือนจะมีเรื่องที่ต้องให้ทำ”

เรื่องที่ต้องให้ทำอย่างนั้นหรือ? อเล็กเซียสงสัยเหลือเกินว่ามีเรื่องอะไรที่ต้องรีบเร่งถึงเพียงนั้น



“อเล็กเซียเจ้าอย่ากังวล เอเดรียนอาจจะลืมอะไรบางอย่างไว้ที่บ้านก็เป็นได้” พยักหน้าอือออให้กับข้อสันนิษฐานของไนเจล



“มามาอเล็กเซียเจ้ามาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนข้าดีกว่านะ” ไนเจลรินเหล้าลงในแก้วแล้วยื่นส่งมาให้ อเล็กเซียค่อยๆจิบไปทีละนิดเพราะไม่อยากให้ตัวเองเมา ไม่อยากผ่านคืนแรกกับเอเดรียนโดยที่ไม่มีสติ หากต้องร่วมรักกับชายผู้นั้นโดยไม่มีความนึกคิดอาจจะเสียโอกาสที่จะได้เป็นฝ่ายควบคุมดังที่วางแผนเอาไว้



“อ้าวๆมานู้นแล้วไง” หลังจากดื่มไปได้ซักพักไนเจลที่เห็นการกลับมาของเอเดรียนก่อนใครก็ส่งเสียงบอกให้ทุกคนรับทราบ



“ท่านรอข้านานหรือไม่อเล็กเซีย” เอเดรียแตะมือลงบนบ่าของอเล็กเซีย สัมผัสอุ่นๆของฝ่ามือทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกแปลกๆ ประหลาดใจเหลือเกินที่ตนไม่รังเกียจที่ถูกแตะต้องเช่นนี้ อาจเป็นเพราะว่าเตรียมใจมาดีเรื่องที่ต้องพลีกายให้อีกฝ่ายแล้วก็เป็นได้



“อเล็กเซียข้ามีของจะให้ท่าน ยื่นมือออกมารับสิ” อเล็กเซียแบมือออกไปที่เบื้องหน้า เอเดรียนวางแหวนเล็กๆวงหนึ่งลงบนอุ้งมือของเขา



“หากเทียบกับทรัพย์สมบัติที่ท่านนำติดตัวมาคงไม่ได้แม่แต่เศษฝุ่น แต่ข้าก็อยากให้มันเป็นของขวัญแก่ท่าน”



“อา....ขอบคุณนะเอเดรียน”



“สีของอัญมณีที่ประดับเป็นสีเขียวสีเดียวกับตาของท่าน ข้าว่ามันเหมาะกับท่านมาก” อเล็กเซียมองดูแหวนที่อยู่ในมือ ตัวแหวนทำจากทองประดับด้วยอัญมณีสีเขียว ดูเรียบๆก็จริงแต่ถ้าคิดให้ดีสำหรับพวกวูฟที่ฐานะไม่น่ามั่งคั่งก็นับได้ว่ามากเกินพอแล้ว



ไม่คิดว่าจะใส่ใจเอาอกเอาใจเขาถึงเพียงนี้ ถึงแม้จะขัดใจเล็กๆที่อีกฝ่ายกำนัลเขาด้วยแหวนราวกับอิสตรี แต่อดไม่ได้ที่จะนึกถึงดาบเล่มสวยที่เอเดรียนมอบให้ยามทีเป็นหมาป่า



ดาบเล่มนั้นอเล็กเซียได้เรียกผู้มีทักษะในการตีดาบมาดูก็พบว่าเป็นดาบที่ถูกทำมาอย่างประณีตจากเวทย์มนต์ชั้นสูง การที่เขาปักใจว่าหมาป่ายักษ์สีดำก็คือเอเดรียนสาเหตุมาจากดาบเล่มนี้และตัวท่านพี่ที่ชี้ให้เห็นถึงความเป็นจริงบางอย่าง ยิ่งได้รับการบอกเล่าจากเรเวนด้วยแล้วทำให้ข้อสันนิษฐานน่าเชื่อถือเข้าไปอีก



“ถ้าอย่างนั้นข้าสวมมันนะ” อเล็กเซียเอียงคอขณะถาม ตั้งใจว่าจะแสดงกริยาให้น่ารักที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วมันก็ได้ผลเอเดรียนยิ้มกว้างด้วยความดีใจ



“มาข้าจะสวมมันให้ท่านเอง” เอเดรียนคว้าเอาแหวนไปจากมือของอเล็กเซียแล้วสวมให้อย่างช้าๆที่นิ้วนางของมือซ้าย แหวนที่ชายหนุ่มมอบให้พอดีอย่างน่าประหลาด ไม่รู้ว่าคนผู้นี้รู้เรื่องส่วนตัวของเขามากน้อยเท่าไหร่กันนะ ไม่สิจะรู้ก็ไม่แปลก จ่ากพฤติกรรมการกลายร่างเป็นหมามาเล่นด้วย เด็กหนุ่มเดาว่าตนเองคงถูกแอบตามดูนานแล้วเป็นแน่แท้



แปลกดีแท้ที่เขาไม่รู้สึกโกรธ หากแต่นึกถึงสถานการณ์ที่อีกฝ่ายแอบตามติดตนในร่างหมาป่าตัวยักษ์ ตัวใหญ่ขนาดนั้นหลบพวกทหารพ้นได้อย่างไรกันนะ ยิ่งคิดยิ่งเป็นปริศนา



หลังจากสวมแหวนเรียบร้อยอเล็กเซียกับเอเดรียนอยู่สังสรรค์ในงานเลี้ยงจนมืดค่ำ เด็กหนุ่มเฝ้ารอการมาถึงของสิ่งที่คาดว่าควรจะเกิดขึ้น และแล้วสัญญาณบ่งบอกก็มาถึง



“อเล็กเซียเรากลับบ้านของเรากันเถอะนะ”



“อื้อ” อเล็กเซียยิ้มหวานมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าจะหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นอันใกล้ แต่ทำใจสู้ลุกขึ้นเดินตามเอเดรียนออกจากบริเวณงานเลี้ยงฉลอง



“ท่านสนุกหรือไม่อเล็กเซีย” เอเดรียนถามขณะเดินไปตามทางเดินของหมู่บ้าน



“สนุกสิ อาจเป็นเพราะว่าแปลกใหม่สำหรับข้าก็เป็นได้ งานเลี้ยงในปราสาทที่ข้าเคยเข้าร่วมไม่มีการเต้นรอบกองไฟกันเช่นนี้”



“อา...ข้าลืมชวนท่านเต้นรำรอบกองไฟไปเสียสนิทเลย” สีหน้าของเอเดรียนบอกชัดว่าเสียดายอย่างยิ่ง



“เอาไว้หากจัดงานกันอีกคราวหน้าเจ้าค่อยชวนข้าก็ได้ อีกอย่างเจ้าคงต้องสอนข้าเต้นรำ เพราะข้าไม่เคยเต้นรำแบบพวกชาวเผ่ามาก่อน”



หลังจากนั้นต่างฝ่ายก็ต่างเงียบไป อเล็กเซียเห็นว่าสถานการณ์อึมครึมแบบนี้มันไม่ดีเท่าไหร่ ดังนั้นจึงพยายามหาวิธีเข้าหาเอเดรียนเพื่อสร้างความสนิทสนม



“เอเดรียนข้าขอจับมือเจ้าเดินได้หรือไม่” พูดออกไปเสียแล้ว โชคดีตอนนี้รอบข้างค่อนข้างมืด ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าเอเดรียนจะเห็นใบหน้าที่ขึ้นสีด้วยความอายและกระดากของตนเอง



“แน่นอนอเล็กเซียหากท่านต้องการ” เอเดรียนคว้ามือของอเล็กเซียไปจับ มือของอีกฝ่ายอุ่นมาก อุ่นเสียจนรู้สึกร้อน หากแต่อเล็กเซียก็ไม่ได้สะบัดมือออกได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มจูงมือเดินไปโดยไม่ได้พูดอะไรกันเลยแม้แต่คำเดียว ในที่สุดทั้งคู่ก็มาถึงบ้านจนได้

         

     “อเล็กเซียท่านจะดื่มน้ำเสียหน่อยไหม” เอเดรียนถามหลังจากเข้าไปในตัวบ้านแล้ว แทนคำตอบอเล็กเซียโผเข้ากอดรัดแล้วซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังของผู้เป็นสามีอย่างออดอ้อน

         

     “มีแต่ข้าคนเดียวหรือที่รอให้เราเป็นหนึ่งเดียวกันในค่ำคืนนี้” หลังจากประดิฐคำพูดสุดหวามหวานในใจได้ก็พูดออกไปด้วยเสียงที่อ่อนหวานที่สุด เด็กหนุ่มกอดรัดแนบแน่นรอคอยปฏิกิริยาตอบสนองของเอเดรียน หากแต่ว่าชายหนุ่มกับหัวเราะเสียงดังจนอเล็กเซียงุนงงไปหมด

         

      “อเล็กเซียท่านนี่ช่างเป็นเด็กแก่แดดเสียจริง” พอถูกต่อว่าก็ชักฉุน ให้ตายสินี่เขาอุตส่าห์ใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเชิญชวนเชียวนะ เด็กหนุ่มคลายการกอดรัดแล้วก้าวเท้าออกห่างสองสามก้าวด้วยความไม่ชอบใจ

       

       “ที่รักของข้า ยอดรัก หากท่านปรารถนาเช่นนั้นจริงคืนนี้ข้าจะทำให้ท่านสมหวังดีหรือไม่” เอเดรียนเดินเข้ามาหาแล้วช้อนตัวอเล็กเซียขึ้นอุ้ม ตกใจเล็กน้อยที่ถูกทำเช่นนั้น แต่เมื่อเป็นไปตามแผนอเล็กเซียก็รีบยิ้มยั่วยวนให้อีกฝ่ายดู

           

    “ท่านนี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก” ไม่รู้ว่าทำไมถึงถูกต่อว่าเช่นนั้น เด็กหนุ่มเอนศีรษะซบลงบนอกของเอเดรียน สาเหตุมาจากไม่อาจทนสบตาหวานเยิ้มของผู้เป็นสามีที่ทอดมาได้ บ้าจริงๆ แค่มองสบตาเพียงแค่นั้นเหตุใดเขาถึงได้ทำไม่ได้นะ



ทั้งหมดเป็นความผิดของชายผู้นี้ต่างหากที่มองมาด้วยสายตาร้อนแรงจนเขารู้สึกอับอาย

         

      อเล็กเซียถูกอุ้มพามายังห้องนอน เขาถูกปล่อยให้ยืนลงบนพื้นหน้าเตียงหลังใหญ่ อเล็กเซียมองดูเอเดรียนเริ่มเปลื้องผ้าออกจากร่างกาย

         

      “เอ่อ...ให้ข้าช่วยเจ้าดีไหม” หากอยู่มองเฉยๆคงทนความระทึกใจต่อไปไม่ไหว ดังนั้นจึงเสนอช่วยถอดเสื้อให้

เอเดรียนพยักหน้าแทนคำตอบ อเล็กเซียไม่รอช้าเข้าช่วยอีกฝ่ายถอดเสื้อผ้า

         

     เมื่อถอดเสื้อผ้าท่อนบนออก อเล็กเซียก็พบว่าเอเดรียนมีเรือนกายที่แกร่งกร้าวยิ่งนัก ด้วยกล้ามเนื้อรูปทรงที่งดงามปานรูปหล่อ ทำให้เด็กหนุ่มอดที่จะยืนมือไปแตะกล้ามทองซึ่งเป็นลอนไม่ได้



 วินาทีที่แตะเพียงเฉียบพลันอเล็กเซียก็ชักมือกลับ ใบหน้าของเขาแดงซ่าน รู้สึกอายในความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองเหลือเกิน ในตอนนั้นเอเดรียนก็คว้ามือของเขาเอาไว้แน่น



“ท่านสามารถจับหรือสำรวจร่างกายของข้าได้ตามใจชอบ เพราะข้าคือสมบัติของท่านแล้ว”



อเล็กเซียกลืนน้ำลายลงคอ พยายามออกแรงขืนแต่ในที่สุดก็ปล่อยให้เอเดรียนนำมือของตนไปสัมผัสกับกล้ามเนื้อท้องชายหนุ่ม สัมผัสได้ถึงความแน่นตึงบริเวณนั้นก็จริงหากทว่าผิวกายของคนตรงหน้าเนียนลื่นให้ความรู้สึกดีจนเผลอลูบไล้ไปจนถึงแผ่นอก



มีแผลเป็นด้วยหรือ?



แผลบริเวณเนินไหล่เป็นที่เดียวกันกับที่หมาป่ายักษ์สีดำเคยบาดเจ็บและซมซานกลับมาหาเขา นี่ยิ่งไม่เป็นการบ่งชัดว่าอีกฝ่ายคือคนคนเดียวกันหรอกหรือ



 เมื่อเจอแผลตรงที่หนึ่งแล้วก็อดมองหาหาตรงจุดอื่นไม่ได้ แต่ทว่านอกจากแผลที่ตรงนั้นตรงอื่นก็ไม่มีที่ใดอีก ทันทีที่รู้ตัวว่าตนเองชักจะลูบไล้ร่างกายของเอเดรียนมากเกินไปแล้วก็กระดากขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ



“ท่านชอบหรือไม่อเล็กเซีย”



“เหตุใดต้องถามเช่นนั้น” เมินหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับชักมือกลับ อเล็กเซียสับสนจนเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก



 พอหันกลับไปมองอีกที เอเดรียนก็เปลืองผ้าออกจนหมดเผยให้เห็นสัดส่วนที่มองแล้วชวนให้รู้สึกตาพร่า



อเล็กเซียกัดริมฝีปาก เหตุใดเขาต้องรู้สึกว่าผู้ชายด้วยกันมีรูปร่างร่างงดงามเช่นนี้ด้วยนะ ยิ่งเมื่อนำไปเทียบกับรูปร่างของตัวเองด้วยแล้วยิ่งเกิดความรู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก



“อเล็กเซียท่านเองก็ถอดเสื้อผ้าด้วยสิ” สะดุ้งตัวเบาๆแล้วก้าวเท้าถอยหลังเมื่ออีกฝ่ายทำท่าทางจะเข้ามาช่วยถอด จู่ๆเอเดรียนก็หัวเราะคิกคัก



“ท่านไม่อยากผ่านคืนแสนหวานกับข้าแล้วหรืออเล็กเซีย เหตุใดถึงก้าวเท้าหนีข้าล่ะ” ถูกเตือนให้นึกถึงแผนการณ์ที่วางไว้อีกครั้ง อเล็กเซียก้าวเดินเข้าหาเอเดรียนด้วยท่าทางไม่เป็นธรรมชาติก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายถอดเสื้อผ้าของตนออก



ในที่สุดอเล็กเซียก็อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า เอเดรียนก็เปลือยเปล่าเช่นกัน ใบหน้าของเด็กหนุ่มเห่อร้อนขึ้นเฉียบพลัน ยิ่งถูกมองด้วยสายตาหวานๆด้วยแล้วอดไม่ได้ที่จะหลบตาอีกฝ่าย



“ท่านช่างสวยเหลือเกิน อเล็กเซีย”



“เจ้าต้องล้อเล่นแน่ๆ รูปร่างของข้าไม่มีทางสวยกว่าพวกผู้หญิงอยู่แล้ว”



“ท่านอย่าดูถูกตัวเองสิ” ถูกอีกฝ่ายใช้นิ้วเชยคางให้เงยหน้าขึ้นมอง อเล็กเซียไม่สามารถห้ามไม่ให้หัวใจของตัวเองเต้นได้ เกลียดตัวเองนักที่เอาแต่ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก



ตัวเขาต้องเป็นฝ่ายควบคุมสิ



คิดได้ดังนั้นจึงเสนอจูบให้เอเดรียน อเล็กเซียใช้แขนโน้มคอชายหนุ่มลงมาแล้วแนบจูบ เด็กหนุ่มใช้ประสบการณ์ที่เคยมีมาทั้งหมดทุ่มเทไปกับการจูบในครั้งนี้ด้วยหวังว่าจะทำให้ชายหนุ่มหลงใหลในตัวเขาเพิ่มมากขึ้น



“เจ้าชอบจูบของข้าหรือไม่” อเล็กเซียหอบเบาๆหลังจากถอนจูบ เอเดรียนส่งยิ้มหวานๆมาให้แทนคำตอบ



“ข้าขอจูบท่านอีกทีนะ คราวนี้ขอจูบทั้งตัวเลย”

ถูกอุ้มแล้วพาไปวางลงบนเตียงกว้าง เอเดรียนขยับขึ้นคร่อมร่างของอเล็กเซียก่อนจะประทับจูบลงบนร่างขาวเนียนอย่างแผ่วเบา



“จ..เจ้าอ่อนโยนแบบนี้กับคู่นอนตลอดหรือ”



“หากว่าท่านชอบให้ข้ารุนแรงมากกว่านี้ ข้าก็จะทำตามที่ท่านปรารถนา” หวีดร้องเบาๆเมื่อถูกคว้าหมับเข้าที่เครื่องเพศ เอเดรียนครอบครองส่วนนั้นของเขาด้วยปากปลุกเร้าจนอเล็กเซียไม่อาจกลั้นเสียงครางเอาไว้ทั้งๆที่พยายามสะกดเอาไว้ด้วยความอาย การปลุกเร้าอย่างมีชั้นเชิงดำเนินไปจนในที่สุดเด็กหนุ่มก็ปลดปล่อยออกมา



“เอเดรียน...เจ้าอยากให้ข้าช่วยเจ้าหรือไม่...ข้าหมายถึงแบบที่เจ้าทำให้ข้า” ถึงแม้จะยังหอบเหนื่อยจากการปลดปล่อยเมื่อครู่ แต่เพราะอยากเป็นฝ่ายควบคุมจึงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อเล็กเซียลุกขึ้นนั่งพลางใช้สายตาเว้าวอนส่งให้ให้

เอเดรียน



“ข้าว่าท่านอย่าเพิ่งใช้ปากจะดีกว่า เอาอย่างนี้ท่านใช้มือให้ข้าก็พอ”

ถูกจับให้นอนลงกับเตียงอีกครั้ง เอเดรียนนอนตะแคงลงข้างๆนำมือของเขาไปจับที่ความใหญ่โตแล้วสั่งให้เขาทำอย่างที่อีกฝ่ายเคยทำให้



“ท่านใช้มือได้เก่งมากอเล็กเซีย” หลังจากถูกชมอเล็กเซียก็ตั้งใจใช้มือปรนนิบัติเอเดรียนมากขึ้น ในตอนนั้นมือซุกซนของเอเดรียนก็คว้าจับเครื่องเพศของเขาอีกครั้งเวลานี้จึงกลายเป็นต่างคนต่างช่วยกันเพื่อไปให้ถึงฝั่งฝัน ระหว่างที่ช่วยกันชายหนุ่มก็ประทับจูบลงมาอเล็กเซียจูบตอบด้วยความตั้งใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน



“อึก....อา.....” ในที่สุดก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง อเล็กเซียแทบหมดแรง การปลดปล่อยสองครั้งติดกันทำให้อ่อนเปลี้ยเล็กน้อย



“อเล็กเซียท่านพร้อมให้ข้าเข้าไปหรือไม่” ในที่สุดเวลาที่อเล็กเซียกลัวที่สุดก็มาถึง เด็กหนุ่มเรียนรู้การเสพสังวาสของชายกับชายมาจากหนังสือภาพที่ขอให้หญิงรับใช้แอบนำมาให้ จากที่ได้รู้ฝ่ายรับต้องใช้ช่องทางขับถ่ายบริเวณบั้นท้ายนั้นรับเอาความเป็นชายเข้าไป



ทว่าไม่เข้าใจจริงๆว่าช่องทางตรงนั้นสามารถมอบความสุขให้แก่ผู้ถูกกระทำได้ด้วยหรือ ยิ่งคิดยิ่งหวาดกลัว ถึงแม้จะเตรียมใจมาดีแล้วว่าจะใช้ความสามารถทั้งหมดยั่วยวนให้เอเดรียนหลงใหล แต่ยังไม่อาจขับไล่ความกลัวออกไปจากใจได้



“ข้ามีน้ำมันหอมอยู่ท่านไม่ต้องกลัวว่าจะเจ็บนะ” เอเดรียนลงจากเตียงไปหยิบน้ำมันหอมมาจากโต๊ะข้างเตียง อเล็กเซียยังไม่เข้าใจว่าชายหนุ่มนำมาทำไม ด้วยเหตุนี้จึงยิ่งเพิ่มความกังวลมากขึ้นไปอีก

         

     อดทน ต้องอดทนให้ได้ หากผ่านครั้งแรกไปได้ครั้งที่สองก็ย่อมง่าย อเล็กเซียหลับตาลงทั้งที่ร่างกายเริ่มจะแข็งขืนด้วยความกลัว

           

    “อเล็กเซีย....อเล็กเซีย” ไม่ยอมลืมตาแม้จะถูกเรียก อยากให้อีกฝ่ายเริ่มในสิ่งที่ควรทำเสียที ในตอนนั้นเอเดรียนก็จุมพิตแผ่วๆลงมาบนเปลือกตา

           

   “อเล็กเซียท่านนอนเถอะ ข้าจะออกไปธุระซักครู่”

         

     “อะไรนะ”



 อเล็กเซียผวาลุกขึ้น เด็กหนุ่มใช้มือชุดแขนเอเดรียนไม่ให้ไปไหน ในใจคิดวกวนด้วยความสับสน เด็กหนุ่มกลัวว่าการที่ชายหนุ่มไม่ยอมทำรักขั้นต่อไปอาจเป็นเพราะเบื่อหน่ายในความไร้ชั้นเชิงของตน



 เคยได้ยินพวกทหารพูดถึงพวกผู้หญิงบางคนในทำนองว่าเบื่อหน่ายกับการที่แม่หญิงคนนั้นเอาแต่นอนนิ่งให้เป็นฝ่ายกระทำอยู่ฝ่ายเดียว หรือว่าเอเดรียนก็คิดกับเขาเช่นนั้น จะให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด

         

     “เจ้าจะไม่ทำต่อหรือ...จะไม่เข้ามาหรือไง”

           

    พยายามไม่แสดงท่าทางร้อนรนออกไปแต่ก็ยังควบคุมตัวเองให้สงบไม่ได้เท่าที่ควร เอเดรียนส่งยิ้มละมุนละไมมาให้แล้วลดตัวนั่งลงเคียงข้างอเล็กเซียอีกครั้ง

       

       “ท่านคงไม่รู้ตัวว่าท่านกลัวข้าจนตัวสั่น”

         

     “ข้าไม่กลัวแล้วเรากลับมาสานต่อกันเถอะนะ”



 อเล็กเซียยังยืนยันคำเดิม เด็กหนุ่มกลัวว่าหากปล่อยให้เอเดรียนผละจากไป ชายหนุ่มอาจจะไประบายออกกับหญิงสาวผู้อื่น แบบนั้นจะทำให้แผนการของตัวเองพังทลายไม่เป็นท่า อเล็กเซียต้องการเป็นภรรยาที่ควบคุมอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยรักมิใช่ภรรยาที่น่าเบื่อและต้องจำทน

           

    “อเล็กเซีย” ตื่นตัวเพราะถูกเรียกชื่อ รู้ตัวอีกทีเอเดรียนก็ประกบจูบลงมา เป็นจูบที่อ่อนหวานและยาวนานจนชวนให้ใจพร่าสั่น

           

    “ยอดรักของข้า เราสองคนยังมีเวลาร่วมกันอีกมาก เอาไว้ท่านพร้อมมากกว่านี้ รับรองว่าข้าจะไม่ปล่อยท่านไปง่ายๆเช่นนี้แน่”

           

   กล่าวจบก็ถูกเอเดรียนบังคับให้นอนลงกับเตียงอีกครั้ง อเล็กเซียนอนลงโดยมีเอเดรียนนอนกอดเอาไว้แน่น ตอนนี้เด็กหนุ่มสบายใจขึ้นมาก เพราะเข้าใจว่าการที่ชายหนุ่มปฏิเสธการสานต่อไม่ใช่เพราะเบื่อหน่ายเขาอย่างที่คิด

           

    “นอนเสียอเล็กเซีย ข้าจะอยู่ข้างๆท่านไปตลอดทั้งคืน” เอเดรียนกระซิบที่ข้างหูของอเล็กเซีย ไม่รู้ว่าเพราะอะไรคราวนี้เขาถึงเชื่อฟังอีกฝ่ายโดยง่าย เด็กหนุ่มค่อยๆหลับตาแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



                                                ต้องมีแมทท้าแก้ตัวแน่นอนเราสัญญา555555555



                                                ตอนนี้จะขอกลบดานอ่านนิยายจริงๆและน้า อยากอ่านมาก



                                               นิยายจากเขียนได้วันละตอน ตอนนรี้กลายเป็นสองวันต่อตอนแล้วจ้า



                                              อยากจะร้องไห้ ช่วงที่หยุดนี้จะพยายามแตะๆคอมเขียนแบบกระดืบกระดืบไปน้า



                                                  ไม่ต้องกลัวว่าจะหายไปนาน ขอเวลาเข้าถ้ำซักสี่วันจริงๆแล้วนะจ๊ะ



                                                  รักคนอ่าน เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะขอบคุณ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-11-2016 12:47:02
 :-[   น่ารักจังเลย   :katai2-1:  เจ้าหมาป่าทำดีมาก
หนูกลัวหรือหนูสั่นสู้กันแน่ลูกอเล็กเซีย อิอิ
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-11-2016 14:05:49
 :-[
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 19-11-2016 14:58:10
งานดีย์ :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-11-2016 09:41:38
เปิดใจหน่อยเถอะอเล็กเซีย อย่ามัวแต่คิดว่าจะหลอกใช้อย่างเดียว
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 20-11-2016 15:00:34
พระเอกดูเหมือนจะโฉดๆแต่โคตรสุภาพบุรุษ
แล้วดูฝั่งนายเอกแต่ละคนสิ เป็นถึงองค์ชาย เป็นถึงราชา แต่จิตใจนี่ต่ำช้าจนน่าตบกบาล
เฮ้อออออ พออ่านบทนี้แล้วรู้สึกว่าอเล็กเซียไม่คู่ควรกับเอเดรียนเลย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-11-2016 16:38:18
มีเวลาให้เตรียมตัวเตรียมใจ คึคึ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-11-2016 16:59:34
เอเดรียนเป็นคนดีจัง แต่ จะแอบหาทางแก้แค้นหรือเปล่านะ...
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 20-11-2016 17:32:50
งืออออ เอเดรียนดีงามมากเลย :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 20-11-2016 20:06:03
สองวันตอนก็เราก็โอเคคคค...
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่16 หน้า5 19/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 21-11-2016 02:48:15
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่17 หน้า6 22/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 22-11-2016 13:38:48
ตอนที่17

             



  นับเป็นเรื่องดีที่ไม่ได้ระเบิดโทสะเข้าใส่อเล็กเซีย จากเหตุการณ์แสนหวานเมื่อคืนทำให้เข้าใจเด็กหนุ่มดีขึ้น เจ้าสาวของเขาไม่ได้มีความต้องการที่จะใช้ค่ำคืนนิรันด์กับเขาแม้แต่นิดเดียว ไม่เช่นนั้นคงไม่แสดงปฏิกริยาตอบโต้สุดแสนน่ารักให้เขาประจักษ์เป็นแน่แท้

     

         คิดแล้วอดที่จะลูบหัวอเล็กเซียที่นอนหลับสนิทบนเตียงไม่ได้ เด็กหนุ่มยังคงหลับสนิทลมหายใจที่สม่ำเสมอทำให้เดาได้ว่าอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาง่ายๆ เอเดรียนจุมพิตแผ่วๆลงบนแก้มของเจ้าสาวอย่างลืมตัว

         

     “เอาล่ะ ออกไปหาของป่าเพื่อเตรียมกับมาทำอาหารเช้าดีกว่า” พูดกับตัวเองขณะบิดขี้เกียจ เอเดรียนลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบเชียบ ไปยังบ่อน้ำที่อยู่ข้างบ้านทำความสะอาดร่างกายแล้วกลับขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้า นอกจากนั้นยังไม่ลืมเตรียมอ่างน้ำเอาไว้ให้อเล็กเซียใช้ทำความสะอาดร่างกายหลังจากตื่นขึ้นมา

       

       เสียงนกร้องขับขานบ่งบอกว่ายามเช้าใกล้จะมาถึง ท้องฟ้ายังไม่สว่างดีนักแต่เอเดรียนก็รีบร้อนที่จะหาของป่าให้เสร็จก่อนที่อีกฝ่ายจะตื่นนอน ชายหนุ่มคว้าตะกร้าใบหนึ่งไปด้วยตั้งใจจะนำมันไปใส่ของป่าเหมือนทุกที

           

    เอเดรียนเดินไปตามทางของหมู่บ้านและไม่ลืมแวะที่บ้านไนเจลเพื่อชวนเพื่อนสนิทของเขาให้ไปด้วยกัน ที่หน้าบ้านไนเจลยืนโบกมือไปมาชายหนุ่มโบกมือตอบกลับ เป็นเรื่องปกติที่ไนเจลจะตื่นแต่เช้ามารอให้เขาเรียกไปหาของป่า

         

     “เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้าง” ไนเจลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขณะพยายามล้วงลึก

       

       “คงจะได้ผ่านคืนแสนหวานกับภรรยาหมาดๆของเจ้ามาแล้วสินะ”

         

      “ยัง”

         

     “เอ๋....” เอเดรียนและไนเจลหันกลับไปมองเจ้าของเสียงร้องที่ดังจากด้านหลัง เมื่อหันกลับไปก็พบกับมีอาที่ฉีกยิ้มกว้างดีอกดีใจ

         

      “เอเดรียนยังไม่ได้สมรักกับเจ้าสาวที่เป็นผู้ชายอีกหรือ...เสียดายจังนะ”



 เอเดรียนนึกขำอาการดีใจจนออกนอกหน้าของมีอา เด็กเอ๋ยเด็ก หากเจ้าคิดให้ถี่ถ้วนมากกว่านี้น่าจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้ง่ายๆ ชายหนุ่มอยากจะให้หญิงสาวเข้าใจด้วยตัวเอง เพราะหากเขาพูดออกไปคงเป็นการทำร้ายจิตใจของมีอา ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเขาไม่อยากจะเห็นน้องสาวคนนี้ร้องไห้ต่อหน้า

         

      “ท่านพี่กับเอเดรียนจะไปหาของป่าสินะ ถ้าอย่างนั้นข้าไปด้วยน้า” มีอารีบเดินมาควงแขนเอเดรียนอย่างกับเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ ไนเจลแยกเขี้ยวด้วยความไม่ชอบใจแล้วเริ่มต้นดุด่าน้องสาวทันที

       

       “มีอาอย่าทำรุ่มร่ามกับเอเดรียนนะ เจ้าก็รู้แล้วนี่ว่าเอเดรียนมีภรรยาแล้ว” มีอาแลบลิ้นปริ้นตาใส่ไนเจลแทนคำตอบ

       

       “ไม่เห็นแปลกตรงไหนก็ข้าเป็นน้องสาวของเอเดรียนคนหนึ่ง น้องสาวควงแขนพี่ชายแค่นี้ท่านอย่าได้คิดไม่ดีกับข้าเชียวนะ”

         

      “ยัยเด็กนี่ไม่ฟังที่พี่พูดหรือไง” เมื่อเห็นว่าเริ่มจะบานปลาย เอเดรียนจึงต้องออกโรงสั่งสอนมีอาด้วยตัวเอง

         

     “มีอาปล่อยแขนข้าเถอะ”

         

      “เอ๊ะ..ทำไมล่ะเอเดรียน” มีอาทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาบอก เอเดรียนจึงให้เหตุผลด้วยเสียงที่นุ่มนวล

         

     “ข้ามีภรรยาแล้วมีอา การที่ข้าจะสงวนท่าทีใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นนอกจากคู่ของข้าเพื่อมิให้ภรรยาเจ็บช้ำน้ำใจเจ้าคงจะเข้าใจนะ” มีอาเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ท่าทางของหญิงสาวคล้ายกับมีคำพูดที่อยากจะกล่าว แต่ในเวลาถัดมาก็ทำหน้าเศร้าๆและค่อยๆคลายมืออกจากการเกาะกุมแขนของเอเดรียน

       

       “ก็ได้....”



รู้สึกได้ว่ามีอากำลังจะร้องไห้ หญิงสาวออกเดินไปข้างหน้าพวกเขาคงไม่อยากจะให้เห็นช่วงเวลานั้น มีความคิดที่จะเข้าไปปลอบอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าทำเช่นนั้นอาจเป็นการให้ความหวังโดยไม่ตั้งใจและคงทำให้มีอาตัดใจไม่ได้เสียที

         

     ตอนนี้เขากับไนเจลได้แต่มองหน้ากัน ไนเจลเองเมื่อเห็นน้องสาวเป็นเช่นนี้ก็อดเศร้าไม่ได้ เพื่อนสนิทของเขารักน้องสาวคนนี้มาก ดูเหมือนอยากจะเข้าไปปลอบเช่นกัน แต่ก็เกรงว่าจะทำให้มีอาเสียใจหนักกว่าเดิมจึงได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของหญิงสาว

       

       “พวกท่านสองคนทำอะไรอยู่รีบมาเร็วเข้า” มีอากวักมือเรียกพร้อมกับยิ้มกว้าง การที่สามารถยิ้มได้ในเวลาไม่กี่อึดใจเช่นนี้ ทำให้เอเดรียนรู้สึกนับถือ หากว่าหญิงสาวจะยิ้มได้เช่นนี้ตลอดไปเขาก็จะสบายใจขึ้นมาก

         

      อเล็กเซียลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องนอนเพียงลำพัง เมื่อลุกขึ้นนั่งบนเตียงก็อดนึกถึงเรื่องของค่ำคืนวานไม่ได้ เด็กหนุ่มไม่ปฏิเสธว่าตนเองรู้สึกดีต่อเอเดรียนมากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า การที่ผู้เป็นสามีไม่ตะกละตะกรามกลืนกินอย่างที่นึกกลัวมันทำให้เขาได้เห็นอีกด้านหนึ่งอันแสนอ่อนโยนของเอเดรียน

         

     หากทว่าก็อดกลัวอยู่บ้างหากว่าเขายังปล่อยให้เป็นเช่นนี้อยู่อีกไม่นานเอเดรียนอาจจะเบื่อภรรยาที่สนองความต้องการทางกายให้ไม่ได้ จะให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด

       

       ยังไงก็แล้วแต่คืนนี้เขาจะสยบความกลัวของตัวเองแล้วผ่านค่ำคืนอันหวาบหวามให้สมบูรณ์อย่างแท้จริงให้จงได้ เมื่อหมายใจเป็นมั่นเหมาะอเล็กเซียก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนล้างหน้าล้างตาในอ่างที่ดูเหมือนว่าเอเดรียนจะเตรียมเอาไว้ให้ก่อนจะออกจากห้องเพื่อตามหาสามีที่น่าจะยังอยู่ในบ้าน

         

      เมื่อลงไปที่ชั้นล่างเสียงโหวกเหวกของเรเวนดังมาเป็นระลอก อเล็กเซียแปลกใจนักเหตุใดเด็กชายถึงมาอยู่ในบ้านของเขาแต่เช้าตรู่ เสียงร้องของเรเวนดังมาจากห้องรับแขก เมื่อเขาเดินไปถึงก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังไล่จับนกพิราบที่ตนได้รับมาจากไอแซค

     

         “อเล็กเซียข้าขอโทษ ขอเวลาให้ข้าจับเจ้าพิราบตัวนี้ก่อนนะ” เรเวนร้องบอกขณะโผไปมาเพื่อจับนก ทว่าเจ้านกน้อยพอเห็นเขาก็บินเข้ามาเกาะบนไหล่ทันที

         

      “เอ๊ะ” อเล็กเซียกับเรเวนอุทานออกมาพร้อมกับ เด็กหนุ่มตกใจในความเชื่องของเจ้านกที่มีต่อตน แต่เมื่อสังเกตุนกพิราบให้ดีดีเขาก็จำได้ว่าเจ้านกตัวนี้เป็นนกที่ไอแซคใช้ส่งจดหมายให้เขาเป็นประจำจนมันเชื่องกับเขามากเป็นพิเศษ

         

     “สมแล้วที่เป็นเจ้าของนกนี่เชื่องกับอเล็กเซียมากจริงๆ” เรเวนพูดไปหอบไปดูแล้วน่าสงสาร

         

     “แล้วทำไมนกนี่ถึงออกมานอกกรงได้ล่ะเรเวน” เรเวนหัวเราะแฮะๆแล้วเริ่มต้นเล่าอย่างละเอียด

         

     “คือว่าข้าตั้งใจจะนำแยมสตอร์เบอรี่ที่ข้าพึ่งทำเสร็จมาให้พวกเจ้า ที่นี่พอมาถึงข้าเห็นประตูเปิดแง้มไว้อยู่ ข้าเลยคิดว่ามีคนอยู่ในบ้าน พอเข้ามาถึงก็พบว่าเจ้าพิราบอาละวาดอยู่ในกรงทั้งบินทั้งกระโดด ข้าคิดว่ามันคงจะหิวเลยเปิดกรงเพื่อจะให้อาหารกับมันที่ไหนได้มันกลับบินออกมาด้านนอกลำบากให้ข้าไล่จับอย่างที่อเล็กเซียเห็นนี่แหละ”

         

     อเล็กเซียฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้ม หลายสิ่งหลายอย่างที่เรเวนทำนั้นค่อนข้างผิดมารยาท แต่เมื่อเห็นแววตาและท่าทางที่ดูสำนึกผิดของเด็กชายแล้วก็คร้านที่จะดุด่าแต่จะไม่สั่งสอนก็ไม่ได้

         

      “เรเวนคราวหน้าถ้าเห็นประตูแง้มเปิดไว้หรือไม่มีคนอยู่เจ้าก็ไม่ควรเข้าไปในบ้านของเขาโดยไม่ได้รับอนุญาตนะ มันไม่ดีเจ้ารู้ใช่ไหม”

         

     “ข้ารู้แล้วอเล็กเซียข้าขอโทษนะ” เมื่อเรเวนขอโทษด้วยความจริงใจ อเล็กเซียก็ไม่ได้ว่ากล่าวสั่งสอนอะไรอีก

         

     “ข้ายอมยกโทษให้เพราะว่าเจ้าเอาแยมที่แสนน่ากินมาให้ข้านี่ล่ะ” เรเวนยิ้มกว้างพลางชุดมืออเล็กเซียให้ไปนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเอาแยมสองกระปุกออกมาจากตะกร้าที่ถือมา

         

      “ข้าเอาขนมปังมาด้วยนะอเล็กเซีย”

         

     “เจ้าทำเองหรือ เก่งจังนะ” เรเวนพยักหน้าหงึกหงัก เด็กชายดูพออกพอใจต่อคำชมที่ได้รับ

         

     “ข้าเองก็อยากจะทำแบบเจ้าได้บ้างจังนะ”

     

         “เอาไว้ข้าจะสอนให้นะอเล็กเซีย” อเล็กเซียยิ้มกว้าง ขณะที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวเรเวนเจ้านกพิราบที่เกาะอยู่บนไหล่ก็โผบินออกนอกหน้าต่างไป

         

      “อ๊ะ อเล็กเซียนกของท่านมันหนีไปแล้วนะ”

       

       “อื้อ...”



อเล็กเซียไม่เดือนร้อนเท่าไหร่ถ้านกจะบินหนีไป หากเป็นเช่นนั้นจริงจะได้มีข้ออ้างให้ไม่ต้องติดต่อกับไอแซค นึกถึงหน้าไอแซคแล้วยิ่งรู้สึกเหนื่อย ถ้าเกิดเพื่อนคนนี้รู้ว่าตนตั้งใจจะทำในสิ่งที่ค้านกับความต้องการคงจะทั้งโกรธทั้งโวยวาย ดังนั้นการที่เจ้านกตัวนี้หายมันอาจจะดีกว่าก็ได้



“อเล็กเซียท่านทำหน้าเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ” ได้สติต่อคำถามของเรเวนแทบจะในทันที อเล็กเซียยิ้มเจื่อนๆให้เด็กชาย



“ข้าก็กลัวว่ามันจะหายอยู่เหมือนกัน แต่ก็นะถ้ามันอยากจะเป็นอิสระก็ช่วยไม่ได้นะ”



 เรเวนทำหน้าเข้าอกเข้าใจ ในตอนนั้นก็ได้ยินเสียงพูดคุยดังตรงบริเวณหน้าบ้าน อเล็กเซียเข้าใจว่านั่นเป็นเสียงของเอเดรียนจึงเดินไปต้อนรับหวังจะทำตัวให้น่ารักที่สุดในสายตาของชายหนุ่ม



“อุ๊ยตายจริง อเล็กเซียเจ้าตื่นเช้าจังนะ” มีอาทักทายเขาทันทีที่พบหน้ากัน อเล็กเซียมองดูเอเดรียนสลับกับมีอา เริ่มจะสงสัยว่าเหตุใดทั้งคู่จึงอยู่ด้วยกันแต่เช้า



“เจ้าคงสงสัยสินะว่าทำไมเราถึงอยู่ด้วยกันแต่เช้า เราสองคนไปหาของป่ามาให้เจ้าทานอย่างไรล่ะ” มีอาตอบราวกับรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ อเล็กเซียไม่เข้าใจว่าทำไมตอนนี้ตนเองถึงเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ



“อเล็กเซียท่านจูบอรุณสวัสดิ์กับข้าดีหรือไม่”



โดยไม่คาดคิดข้อเสนอแบบกะทันหันของเอเดรียนทำให้ทั้งอเล็กเซียและมีอาตกใจ เด็กหนุ่มใช้สายตาจิกมองคนหน้าด้านที่กล้ามาขอจูบต่อหน้าผู้อื่น แต่ทว่าลึกๆลงไปแล้วเขาพอใจมากที่ได้หักหน้ามีอาทั้งยังเกิดความดีใจแบบแปลกๆโดยหาคำอธิบายให้กับตัวเองไม่ได้



“ถ้าเจ้าต้องการละก็” แทนคำตอบเอเดรียนรวบเอาร่างของอเล็กเซียเข้าไปกอด ทั้งคู่จุมพิตกันแผ่วๆที่ริมฝีปาก เมื่อถอนจูบออกจากกัน อเล็กเซียทันเห็นใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของมีอา แต่หญิงสาวก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าได้ไวพอดู



“เจ้าจะเข้ามาทานอาหารเช้ากับเราด้วยไหมมีอา” เอเดรียนถาม



“แน่นอนอยู่แล้วข้าไม่ได้ทานอาหารฝีมือเอเดรียนมาสามสี่วันแล้วนี่นา” อเล็กเซียเลิกคิ้ว สามสี่วันเองหรือ นี่ไม่ได้หมายความว่ามีอาคนนี้ทานอาหารฝีมือเอเดรียนเป็นประจำหรือไง ความรู้สึกในตอนนี้บอกได้เลยว่าเขาชักไม่ค่อยชอบเท่าไหร่



“เอ๊ะ เรเวนก็อยู่ด้วยหรือ” เมื่อเดินเข้ามาในบ้านพอมีอาเห็นเรเวนก็เบ้ปากทันที เรเวนเองก็เช่นกัน ตอนนี้อเล็กเซียรู้ชัดว่าทั้งคู่คงไม่ชอบหน้ากันเท่าไหร่



“อ้าวเจ้าก็จะมาทานอาหารฝีมือข้าด้วยหรือเรเวน” เอเดรียนไม่พูดเปล่ายังใช้มือใหญ่ลูบหัวเรเวนไปมา อเล็กเซียเห็นสีหน้ามีอาแล้วก็เข้าใจว่าคงจะอิจฉา เริ่มเข้าใจขึ้นอีกนิดถึงความรู้สึกของมีอาที่มีต่อเอเดรียน



 ทว่าถึงเจ้าจะรักเขาจริงแต่ใช่เรื่องที่ข้าจะต้องถอยให้กับเจ้าไม่ ชั่วจังหวะที่คิดเช่นนั้น อเล็กเซียกลับประหลาดใจในความคิดของตนเองยิ่งนัก เด็กหนุ่มได้แต่ปลุกปลอบใจตัวเองเกี่ยวกับเหตุผลที่ตนเองทำเหมือนหวงแหนเอเดรียนเสียเต็มประดา เขาก็แค่ไม่อยากให้แผนการที่วางเอาไว้ผิดผลาดก็แค่นั้น



“ข้าเข้าไปช่วยเอเดรียนทำอาหารด้วยดีกว่า ให้ข้าช่วยนะครับ” เรเวนเสนอตัว เอเดรียนรับข้อเสนอแล้วพากันหายเข้าไปในครัวทิ้งอเล็กเซียเอาไว้กับมีอา



อึดอัดใจเสียจริงที่ต้องอยู่กับคนที่เกลียดตัวเอง แต่ก็นะเขาแค่ทำเป็นไม่สนใจอีกฝ่ายเท่านั้นก็น่าจะจบ ดังนั้นจึงเอาแต่สนใจสิ่งรอบข้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้านกพิราบบินกลับมา เจ้านกพิราบเข้ามาเกาะที่ไหล่อเล็กเซียคลอเคลียอยู่พักหนึ่งก่อนจะบินกลับเข้ากรงไปเอง



“นั่นนกของเจ้าหรือ” มีอาถาม



“ใช่”



“เชื่องดีนี่ จะว่าไปข้าค่อนข้างชอบเนื้อนกพิราบนะ” เข้าใจว่ามีอาพูดขู่ตนเอง แต่หาได้กลัวไม่จึงหันไปยิ้มหวานให้หญิงสาว จากที่ตั้งใจจะทำให้เขาหงุดหงิดกลายเป็นต้องมาอารมณ์ไม่ดีเองเสียอย่างนั้น มีอาขบฟันลงที่ริมฝีปาก



“ได้ข่าวว่าเจ้ายังไม่ได้เป็นสามีภรรยากับเอเดรียนอย่างสมบูรณ์ มันน่าสมเพชไม่ใช่หรือนอกจากจะเป็นภรรยาที่เป็นผู้ชายแล้ว ยังไม่ได้รับความรักอันลึกซึ้งจากสามี บางทีเอเดรียนอาจจะรู้ตัวแล้วก็ได้นะว่าเขาใม่ได้ปรารถนาเรือนร่างที่ไร้ความนิ่มนวลของผู้ชายอย่างเจ้า”



“แต่เมื่อคืนไม่เห็นเอเดรียนเขาจะไม่พอใจอะไรข้านี่ เราสองคนถึงไม่ได้ร่วมรักกันขั้นสุดท้าย แต่ก็ได้ทำหลายอย่างที่เจ้าจินตนาการไม่ออกแน่ๆ นอกจากนั้นแล้วเจ้าก็ไม่มีทางได้เห็นว่าอเดรียนยามอยู่บนเตียงนั้นร้อนแรงแค่ไหน”



พออเล็กเซียกล่าวจบมีอาก็หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ตอนแรกเด็กหนุ่มเข้าใจว่าอีกฝ่ายจะถลาเข้ามาเล่นงานตัวเอง แต่ไม่นานนักหญิงสาวก็สงบจิตสงบใจลง



“เฮอะ ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอกอเล็กเซีย บอกให้รู้นะว่าเอเดรียนไม่มีทางผลักไสข้าออกไปหรอก เพราะว่าข้าเป็นคนสำคัญของเขาไม่น้อยไปกว่าเจ้า”



สำคัญแบบไหนกันนะ? อเล็กเซียคาดเดาไม่ถูกถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นที่มีอากับเอเดรียนมีต่อกัน หากให้เขาเดาจากการปฏิสัมพันธ์ ทั้งสองคนคงสนิทกันมากเพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ยอมให้ติดสอยห้อยตามหรือเข้ามาวอแวเรื่องส่วนตัวเช่นนี้

 



นี่ไม่เท่ากับว่าเขามีคู่แข่งหรอกหรือ? อเล็กเซียต้องตกใจในความคิดของตัวเองอีกครั้ง คู่แข่งอย่างนั้นหรือ? เหตุใดเขาถึงคิดแบบนั้นกันนะ ชักไม่เข้าใจตัวเองมากขึ้นไปทุกที



หลังจากพยายามปลุกปลอบตัวเองอยู่หลายครั้งว่าสิ่งที่เขารู้สึกหรือคิดมันเป็นแค่แผนการที่วางเอาไว้อย่างหนึ่ง อเล็กเซียก็ไม่ยอมพูดอะไรกับมีอาอีกถึงแม้ว่าจะถูกยั่วยุซักแค่ไหน เด็กหนุ่มก็เอาแต่ยิ้มรับสร้างความไม่พอใจแก่หญิงสาวเป็นอย่างมาก



อเล็กเซียรอคอยเวลาที่เอเดรียนกับเรเวนจะกลับมาพร้อมกับอาหารเช้าเมื่อถึงเวลานั้นมีอาคงจะเลิกพูดเรื่องไร้สาระให้เขาฟังได้เสียที



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:




                                                               ตอนต่อไปขอเวลาซักสองวันนะคะ



                                                            จริงๆก็เริ่มเขียนแล้วล่ะ แต่มันเขียนได้อืดกว่าเดิมเยอะมาก



                                                            ดังนั้นจึงขอให้คนอ่านรอคอยซักนิดนึงนะคะ



                                       ช่วงที่หยุดไปนี่อ่านคินดะอิจิสนุกมาก ใครชอบแนวสอบสวนควรหามาอ่านนะคะ55555



                                                            รักคนอ่าน เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่17 หน้า6 22/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-11-2016 15:36:03
สังหรณ์ใจว่านกนั่นต้องนำปัญหามาให้แน่ ๆ ทำไมนะทำไม ไม่ได้ดั่งใจเลยจริง ๆ เชียวอเล็กเซีย ไม่คิดจะใช้ก็ไม่ควรเอาติดตัวไปด้วยนะ ทั้งนกทั้งยา เฮ้อ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่17 หน้า6 22/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-11-2016 15:50:10
 :hao7:  เราว่ายัยมีอาจะต้องตีนกาขึ้นแน่นอน
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่17 หน้า6 22/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 22-11-2016 16:24:26
คคงไม่หึงหน้ามืดข่มขืนสามีไปซะก่อนนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่17 หน้า6 22/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-11-2016 16:29:19
มีอานิสัยไม่ดีจริงๆ แย่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่17 หน้า6 22/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 22-11-2016 19:31:12
มีอาคู่กับแคสเปียนไปเถอะ จะได้ไม่มายุ่งกับเอเดรียน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่17 หน้า6 22/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: yumijung ที่ 22-11-2016 22:55:36
ปักหมุด..  :z2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 23-11-2016 12:34:11
ตอนที่18



หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ไนเจลก็มาตามตัวเอเดรียนออกไป อเล็กเซียมีความคิดที่อยากจะตามสามีของตัวเองออกไป หนึ่งเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับหมู่บ้าน สองเพื่อสานสัมพันธ์สามีภรรยาให้แน่นแฟ้นขึ้น



แต่ก็นั่นแหละเขาถูกอีกฝ่ายขอร้องให้รออยู่ที่บ้านด้วยเสียงอ่อนเสียงหวาน ดังนั้นจึงยอมตามอย่างเสียไม่ได้ กระนั้นก็อดขัดอดขัดใจอยู่ไม่น้อยที่มีอาสามารถตามติดเอเดรียนไปได้ราวกับเป็นเงา ยิ่งได้เห็นรอยยิ้มหยันของหญิงสาวภายในใจก็กระวนกระวายอย่างหาสาเหตุไม่ได้



จะทำอย่างไรดีนะ จะต้องทำอย่างไรถึงจะกลายเป็นภรรยาที่สมบูรณ์แบบในความคิดของเอเดรียนได้ ชั่วเสี้ยวหนึ่งความคิดดีดีก็ผุดขึ้นมาในหัว อเล็กเซียยิ้มจนแก้มแทบปริ



“เรเวน....ข้ามีเรื่องที่จะขอร้อง”



“อะไรหรืออเล็กเซีย”



“เจ้าช่วยสอนข้าทำความสะอาดบ้านได้หรือไม่”



“ย่อมได้อยู่แล้ว” เรเวนยิ้มกว้างพลางฉุดมืออเล็กเซียตรงไปยังห้องนอนของพวกเขา เด็กชายเริ่มต้นสอนวิธีการปูที่นอนให้ก่อนเป็นอย่างแรกของการฝึกทั้งหมด



ผ่านจนเวลาบ่ายคล้อยๆหลังจากปูเตียงกวาดถูพื้นและทำอาหาร เรเวนก็สอนให้ซักผ้าอีกหน่อยก่อนจะขอตัวลากลับเพราะต้องรีบไปจัดการเรื่องส่วนตัวที่บ้านของตัวเองบ้าง เรเวนยังสัญญาว่าจะมาเยี่ยมเขาที่บ้านบ่อยๆ อเล็กเซียดีใจเหลือเกินที่เด็กชายกล่าวเช่นนั้น



“ดีนะที่เสื้อผ้าไม่เยอะวันนี้คงจะซักเสร็จได้ทั้งหมด” พูดกับตัวเอง พลางหยิบเสื้อผ้าชุดเก่าของตนขึ้นมาซัก ในตอนนั้นห่อบางอย่างก็ล่วงออกมาจากกระเป๋าเสื้อ อเล็กเซียหยิบขึ้นมาดูเจ้าสิ่งนั้นคือห่อยาสั่งที่ไอแซคให้เขามานั่นเอง



บ้าจริงลืมไปเลยว่าเจ้าสิ่งนี้ยังอยู่ในกระเป๋า จะทำอย่างไรกับมันดีนะ ทำลายทิ้ง ขณะที่คิดเช่นนั้นก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงเอเดรียนจากด้านหลัง



“ท่านทำอะไรอยู่หรืออเล็กเซีย”



“อ๊ะ...เอ่อ...” ยังไม่ทันที่จะได้ฉีกทำลายของเจ้าปัญหาเอเดรียนก็โผล่หน้ามาเสียก่อน



“สิ่งนั่นคืออะไรหรืออเล็กเซีย”



“เอ่อคือ....ไม่ใช่ของสำคัญอะไรหรอก” อเล็กเซียรีบฉีกทำลายของในห่อทันที ผงสีขาวที่มีกลิ่นหอมแปลกๆถูกสายลมพัดปลิวไปบ้างล่วงหล่นลงสู้พื้นที่เต็มไปด้วยดินทรายบ้าง



“ท่านนี่ตลกเหลือเกินนะอเล็กเซียเหตุใดแค่ทำลายขยะทิ้งถึงต้องหน้าซีดเผือดด้วย” เอเดรียนหัวเราะ ใบหน้าที่ดูเป็นมิตรและท่าทางที่ไม่สงสัยใดใดทำให้อเล็กเซียโล่งใจจนสามารถปั้นยิ้มตอบกลับไปได้ ทั้งทั้งที่หัวใจเต้นราวกลับรัวกลองด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ว่าตนมียาไม่พึงประสงค์เก็บไว้กับตัว



“ท่านซักผ้าหรืออเล็กเซีย ให้ข้าช่วยดีหรือไม่”



“เอ่อถ้าเจ้าอยากจะช่วยล่ะก็นะ” เอเดรียนไม่รอช้าลากเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งข้างอเล็กเซียแล้วช่วยกันซักผ้า



“อเล็กเซียอย่าบอกนะว่าวันนี้ทั้งวันท่านทำงานบ้านแทนข้าทั้งหมด”



“อื้อ...”



“ท่านช่างน่ารักเหลือเกินที่ช่วยแบ่งเบาภาระให้ข้า” เอเดรียนยิ้มหวานพลางใช้มือลูบหัวอเล็กเซียไปเบาๆ แปลกหากเป็นปกติเขาคงหงุดหงิดที่มีผู้อื่นนอกจากท่านพ่อและท่านที่มาทำราวกับตนเองเป็นเด็กเล็กๆ แต่นี่กลับไม่มีความรู้สึกอย่างที่ควรจะเป็น อเล็กเซียหงุดหงิดเหลือนเกินที่ตัวเองเหมือนไม่ใช่คนเดิม



“จริงๆข้าทำเองไม่เป็นหรอก เรื่องพวกนี้เรเวนเป็นคนสอนทั้งหมด” ไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองเสแสร้งหรือรู้สึกดีจริงๆกันแน่ แต่อเล็กเซียหลับตาพริ้มดื่มด่ำไปกับการถูกฝ่ามืออุ่นๆที่ลูบศีรษะของตนไปมา



“ขอบคุณท่านมากจริงๆอเล็กเซียที่อุตส่าห์เรียนรู้สิ่งเหล่านี้เพื่อข้า แต่ข้าคงไม่ปล่อยให้ท่านทำคนเดียวทั้งหมดเรื่องงานบ้านเราสองคนจะช่วยกันทำนะ”



“อื้อ”



อเล็กเซียและเอเดรียนก็ช่วยกันซักผ้าจนเสร็จ หลังจากนั้นก็พากันเข้าครัวเอเดรียนตัดสินใจจะทำอาหารเพิ่มอีกหนึ่งอย่างดังนั้นอเล็กเซียจึงเข้าไปช่วยเป็นลูกมือ เย็นวันนั้นอเล็กเซียรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน อาจจะเป็นเพราะเขาภูมิใจที่ทำอาหารมื้อแรกของชีวิตออกมาได้น่าทานกว่าที่คาด



สนุกเหลือเกินวันนี้ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าการได้ขยับร่างกายทำในสิ่งที่ไม่เคยได้ทำจะสนุกอย่างนี้  คิดอยู่ว่าพวกหญิงรับใช้ทำแต่เรื่องน่าเบื่อและจำเจ แต่พอได้ทำกลับไม่คิดอย่างนั้น การได้ทำความสะอาดบ้านไปคิดอะไรเพลินๆไปก็นับว่าเป็นเรื่องสนุกอย่างหนึ่งได้เหมือนกัน โดยเฉพาะตอนที่ได้เรียนรู้วิธีการปรุงอาหาร อเล็กเซียตั้งใจว่าจะขอเรียนรู้จากเอเดรียนและเรเวนเพิ่มขึ้น

         

      ถึงจะสนุกแค่ไหนแต่อเล็กเซียก็ยังไม่ลืมแผนการที่จะใช้ตัวเองเป็นสิ่งผูกมัดชายหนุ่ม คืนนี้เขาจะต้องทำให้สำเร็จจะต้องทำให้เอเดรียนทั้งรักทั้งหลงจนโงหัวไม่ขึ้น จะไม่ยอมให้ผิดผลาดอย่างครั้งก่อนเป็นเด็ดขาด

       

       มื้อค่ำวันนี้ช่างเต็มไปด้วยความสุขจนเอเดรียนหุบยิ้มไม่ลง ที่เขามีความสุขนั้นอย่างแรกคืออเล็กเซียยอมทำในสิ่งที่เจ้าชายไม่น่าจะลดตัวลงมาทำ อย่างที่สองการที่เจ้าสาวของเขาทำลายค่ำคืนนิรันด์ทิ้งไปเสียมันยิ่งเป็นการยืนยันว่า

อเล็กเซียยินยอมพร้อมใจที่จะเป็นสมบัติของเขาถึงแม้ว่าอาจจะเป็นเพียงแค่แผนการที่วางไว้ก็ตาม

         

     ซักวันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้ารักข้า คิดหวังในใจว่าหากมอบความรักให้เด็กหนุ่มไปเรื่อยๆคงมีซักวันที่อเล็กเซียจะรักตอบ อยากจะให้วันนั้นมาถึงโดยเร็ว ดังนั้นจึงวางแผนการณ์ทุกอย่างแบบค่อยเป็นค่อยไป ถึงแม้ว่าอยากจะกลืนกิน

กกกอดเจ้าสาวมากแค่ไหนแต่จะอดทนเอาไว้รอให้อีกฝ่ายพร้อมสำหรับเขาแล้วจริงๆ

           

    “อเล็กเซียเราเข้านอนกันเถอะนะ” กล่าวหลังจากช่วยกันเก็บล้างจานชามเรียบร้อย เอแดรียนจูงมืออเล็กเซียไปยังห้องนอน เขาถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกงตัวเดียวแล้วขยับกายล้มตัวลงนอนบนเตียง แต่ทว่าอเล็กเซียกลับยืนนิ่งและใช้สายตาไม่พอใจมองมา

           

   “ท่านไม่พอใจข้าหรือเปล่าอเล็กเซีย” อเล็กเซียนิ่งงันอยู่ชั่วครู่ เขาเห็นเด็กหนุ่มกัดริมฝีปาก

           

   “หากเจ้าเบื่อหน่ายในตัวข้าแล้วเหตุใดถึงไม่คืนข้าให้กับท่านพ่อเสียล่ะ” เอเดรียนขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดอเล็กเซียถึงคิดเช่นนั้น เอเดรียนรีบลุกจากเตียงไปหาเด็กหนุ่มทันที

           

    “เหตุใดท่านถึงคิดเช่นนั้นเล่าอเล็กเซีย”

         

      “ก็เจ้าไม่ยอมทำในสิ่งที่สามีภรรยาเขาทำกันในยามค่ำคืนนี่” อเล็กเซียกล่าวคำเชิญชวนเขาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ดวงตาคู่สวยที่ช้อนมองมาดูแล้วช่างมุ่งมั่น เอเดรียนสัมผัสได้ถึงความดื้อรันเอาจริงเอาจังที่สื่อมาจากดวงตาของเด็กหนุ่ม

         

      “แต่ท่านกลัวการร่วมรักกับข้าไม่ใช่หรือ ข้าเดาว่าท่านคงกลัวเจ็บจริงหรือไม่”

           

    “ข้าไม่กลัวแล้ว ตอนนี้แค่อยากเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าเพียงเท่านั้นเอง” อดหัวเราะไม่ได้แล้วเอเดรียนก็หัวเราะออกมาจริงๆ ร้ายกาจ อเล็กเซียที่รักช่างร้ายกาจ เด็กหนุ่มรู้ดีว่าทำอย่างไรเขาถึงจะทั้งรักทั้งหลงอีกฝ่าย ช่างเป็นปีศาจตัวน้อยที่แสนเจ้าเล่ห์เสียจริงๆ

         

     “ถ้าอย่างนั้นอเล็กเซียท่านถอดเสื้อผ้าออกเสียสิ” อเล็กเซียสะดุ้งเล็กน้อยต่อคำกล่าวของเขา เอเดรียนยิ้มกริ่มถึงแม้จะเตรียมใจมาแล้วแต่ก็ยังหลงเหลือความกลัวอยู่บ้างดูแล้วช่างน่ารักไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน

           

    เอเดรียนมองดูอเล็กเซียค่อยๆเปลื้องผ้าออกทีละชิ้น การปลดเสื้อผ้าในแต่ละชิ้นของเด็กหนุ่มกระตุ้นเร้าอารมณ์ของเขาได้อย่างไม่มีที่ติ อดไม่ได้เลยที่จะเลียริมฝีปากด้วยท่าทางประหนึ่งเสือร้าย

         

     ชายหนุ่มเฝ้ารอยามที่ร่างของอเล็กเซียจะเปลือยเปล่า เวลาแห่งการถอดเสื้อผ้านั้นช่างยาวนาน ยืดยาวเสียจนเขาอยากจะเข้าไปจัดการเสียเองให้รู้แล้วรู้รอดไป

         

     “เจ้าก็ถอดด้วยสิ” ถูกเตือนให้รู้ว่าตนเองนั้นยังเหลือเสื้อผ้าติดกายอยู่ เอเดรียนยิ้มหวานให้อเล็กเซียแล้วถอดกางเกงของตนออกจนเปลือยเปล่าเช่นกัน หลังจากที่ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเจ้าสาวก็เข้ามาจูงมือนำพาเขากลับไปยังเตียงนอนหลังโตอีกครั้ง

         

     “อเล็กเซียข้าขอถามอีกครั้งว่าท่านแน่ใจแล้วนะ” อเล็กเซียพยักหน้าแทนคำตอบ เอเดรียนใช้มือใหญ่ลูบไล้แก้มนิ่มก่อนจะลากยาวไปยังริมฝีปากของเด็กหนุ่ม ริมฝีปากอิ่มสีชมพูช่างน่าจุมพิตนัก ไวเท่าความคิดเขาประทับจูบลงไปตามที่ใจต้องการ

         

      เอเดรียนใช้ปลายลิ้นสำรวจทั่วทั้งโพรงปาก อเล็กเซียที่พยายามตอบสนองการจูบของเขาช่างน่ารักเหลือประมาณ แม้จะเป็นเพียงแค่จูบแต่ก็เร่าร้อนและใช้เวลาเนิ่นนาน ชายหนุ่มสลับมุมประกบปากพร้อมทั้งดูดดุนลิ้นของเจ้าสาวหลายครั้งจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบฟังดูแล้วช่างลามกและหยาบโลน

           

    “อึก....อื้อ.....” เสียงครางอู้อี้ในปากเกิดจากการที่เขาใช้ปลายนิ้วบดบี้ยอดอกของอเล็กเซียไปพร้อมกับจูบ อยากจะให้เจ้าสาวของเขามีความสุขที่สุด ดังนั้นหลังจากถอนจูบก็จัดการกับยอดอกสีชมพูที่เริ่มชูชันสู้มือด้วยปากและลิ้น

           

    “อึก......อย่า....ตรงนั้น...สิ...” เอเดรียนไม่สนใจคำห้าม ชายหนุ่มเฝ้าดูดดุนอย่างต่อเนื่องจนส่วนนั้นบวมเป่ง ขณะที่ยอดอกสีสวยยังคาอยู่ในปากเขาก็เอื้อมมือไปยังเครื่องเพศปรนเปรอจนส่วนนั้นพองโตอยู่ในมือ

         

     “อเล็กเซียยอดรักท่านทำให้ข้าสับสนนะ ท่านเองไม่ใช่หรือที่ต้องการให้ข้าทำเช่นนี้ แล้วเพราะอะไรท่านถึงได้ทำเหมือนข้ารังแกท่านล่ะ”

           

    พูดจาหยอกเย้าให้ได้อับอาย ใบหน้าที่ทั้งสับสนและกระดากอายบอกชัดว่าอเล็กเซียรู้สึกเช่นไร ทั้งอยากให้ทำและไม่อยากให้ทำ การที่ได้สีหน้าขัดแย้งสลับกันไปมาช่างปลุกเร้าอารมณ์ของเอเดรียนเสียเหลือเกิน

           

    เอเดรียนจัดการกับเครื่องเพศของเด็กหนุ่มด้วยการขยับชักรูดถี่รัว ไม่นานนักร่างของเจ้าสาวก็กระตุกเกร็งปลดปล่อยหยาดน้ำขุ่นขาวออกมา ชายหนุ่มไม่รอช้าจับร่างขาวเนียนตรงหน้าให้นอนคว่ำหน้า เขายกสะโพกของอเล็กเซียขึ้นแล้วแตะปลายลิ้นลงบนช่องทางเร้นลับบริเวณบั้นท้าย

           

    “อึก.....อ๊า.....อื้อ......ทำไม.....ที่...อ๊า...ตรงนั้น” ไม่ตอบคำถามแต่ตั้งใจบรรจงใช้ลิ้นกับช่องทางสีหวานอย่างต่อเนื่อง เสียงครางหวานๆของอเล็กเซียบอกชัดถึงคำว่าสุขสมมันยิ่งทำให้เอเดรียนละเลงลิ้นอย่างไม่ปราณี

           

   “นอนรอสักครู่นะอเล็กเซีย” หลังจากจัดการจนอเล็กเซียแทบหมดแรง เอเดรียนก็ลงจากเตียงไปหยิบน้ำมันหอมมา เมื่อกลับมาอีกครั้งชายหนุ่มเปิดฝาขวดเทน้ำมันหอมชะโลมทั่วมือของเขาจนชุ่มก่อนจะแตะปลายนิ้วโลมไล้ไปที่ช่องทางของอเล็กเซีย

           

   “เย็นจัง” อเล็กเซียที่สั่นเทานิดๆอดไม่ได้ที่จะผงกหัวมองมา เอเดรียนยิ้มหวานตอบกลับไปขณะที่ลูบไล้จุดๆนั้นด้วยมือที่เปื้อนน้ำมันหอม

         

      “จะเข้ามาแล้วหรือ”

           

   “แค่นิ้วของข้าเท่านั้นที่รัก” บอกเด็กหนุ่มว่าต้องการจะทำสิ่งใด แต่ก่อนที่จะสอดนิ้วเข้าไปก็จัดการปรับเปลี่ยนท่าทางของคนใต้ร่างเสียใหม่ เอเดรียนจับให้อเล็กเซียนอนหงายแล้วทิ้งร่างลงบริเวณกึ่งกลางลำตัวโดยดันขาทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มให้แยกออกกว้าง

           

   “อ๊ะ.....อื้อ......” เกิดเป็นเสียงครางทันทีเมื่อครอบครองเครื่องเพศด้วยริมฝีปาก ดูดดึงขยับรูดรอจนอเล็กเซียเพลิดด้วยไฟราคะจึงฉวยโอกาศสอดนิ้วเข้าไปยังช่องทางแล้วขยับเข้าออกเพื่อเตรียมการให้พร้อมสำหรับสิ่งที่ใหญ่โตกว่า

         

      “อ๊า.....อื้อ......” หนึ่งนิ้วสองนิ้วสามนิ้ว พอขยับเข้าออกบริเวณนั้นได้ถึงสามนิ้วเอเดรียนก็แทบอดใจไม่ไหวที่จะสอดแทรกความเป็นชายของเขาเข้าไป

         

      “อเล็กเซียท่านพร้อมหรือไม่ อยากให้ข้าเข้าไปในตัวท่านหรือยัง”

       

       “อีก.....อื้อ.....อา....” เอเดรียนถือเสียว่าเสียงครางหวานๆนั้นคือคำตอบ ชายหนุ่มค่อยๆแทนที่ปลายนิ้วด้วยความใหญ่โตของตัวเอง

         

     “เจ็บหรือไม่อเล็กเซีย” อเล็กเซียพยักหน้าถี่รัว หยาดน้ำเอ่อคลอในดวงตาของคู่สวย รู้อยู่ว่าทั้งเจ็บทั้งกลัวแต่จะให้เขาหยุดทำตอนนี้เท่ากับตายทั้งเป็นเลยทีเดียว

     

         “ให้ข้าเลิกดีหรือไม่” แสร้งถามไปอย่างนั้น แต่ถึงจะบอกให้เขาหยุดเขาก็จะปรนเปรอเด็กหนุ่มจนกว่าจะยอมให้เขาสอดแทรกเข้าไปจนได้

         

      “ข...เข้ามาเถอะ....อื้อ...” คำอนุญาตเป็นสัญญานให้เอเดรียนดำเนินการต่อไป เมื่อเข้าไปจนสุดปลายทางชายหนุ่มไม่ได้ขยับร่างกายในทันทีแต่เปิดโอกาศให้อเล็กเซียได้ผ่อนคลายชั่วครู่

         

      “อเล็กเซียข้าเข้าไปในตัวท่านทั้งหมดแล้วนะ” ขยับกายโน้มจูบหน้าผากของคนใต้ร่างก่อนจะเริ่มขยับตัวอย่างช้าๆ หากเสียเวลานานกว่านี้อีกซักหน่อยเกรงว่าอเล็กเซียจะโวยวายขอให้หยุดทำรักขั้นต่อไป

       

        “อือ....เอเดรียน...มัน...แปลก....อา....”

         

      “ท่านรู้สึกดีใช่หรือไม่” เมื่อรู้ว่าการทอดแทรกของตนทำให้รู้สึกดีจึงขยับเร่งจังหวะเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายไม่นานนักก็กลายเป็นกระหน่ำจ้วงอย่างไม่ลดละ อเล็กเซียทั้งร้องครางทั้งบิดกายพล่านไปมาใต้ร่างของเขา สุดท้ายเด็กหนุ่มก็ขยับสะโพกให้เข้ากับจังหวะการสอดใส่จนเป็นหนึ่งเดียว

         

     “อื้อ.....อึก....เอ..เดรีย...น...”

         

      “อเล็กเซียข้ารักท่าน รักท่านเหลือเกิน” พูดพร่ำบอกคำว่ารักไม่หยุด ในที่สุดก็ได้มาเสียที เขาดีใจเหลือเกินถึงแม้ว่าจะได้มาแค่เพียงร่างกายเท่านั้น



ค่ำคืนนั้นเขาเฝ้ากกกอดและปรนเปรออเล็กเซียไม่ห่างทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กหนุ่มมีความสุข คิดกระทั่งว่าจะทำอย่างไรถึงจะให้เด็กหนุ่มหลงใหลในเพศรสของตนจนโงหัวไม่ขึ้น ด้วยเหตุนี้การมอบความสุขสมนี้จึงยาวนานต่อเนื่องหลายชั่วโมง เอเดรียนยอมปล่อยให้คนใต้ร่างเป็นอิสระก็ในตอนนี้เขาเองก็หมดเรี่ยวแรงด้วยเช่นกัน





 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:




                                                          ปั่นตอนต่อออกมาทันจนได้ คราวนี้จะขอหายตัวไปสองวันแล้วจริงๆนะจ๊ะ



                                                        แต่ถ้าแต่งออกมาได้เร็จก็จตะเอามาลงต่อแน่นอนจ้า



                                                          ช่วงนี้กระหน่ำฉากเอ็นซีเพราะเจ้าหมาป่ากับอเล็กเซียเขาน้ำผึ้งพระจันทร์กันอยู่นะจ๊ะ



                                                         รักคนอ่าน เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 23-11-2016 14:33:54
โถ่ พ่อหมาน้อยแสนดีของข้า
โยนอเล็กเซียทิ้งไปแล้วมาแต่งกับข้าแทนเถอะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-11-2016 16:12:12
เอเดรียนนี่งานดีจริงๆ อย่าแปลงร่างเป็นหมาน้อยบ่อยนะ เอาลุคเท่ห์ๆแบบนี้ไว้ก่อน   :mew1:
ฮันนีมูนกันนานๆหน่อยสิ อย่าให้พวกตัวป่วนเข้าบ้านด้วย หมั่นไส้จริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-11-2016 16:56:22
พ่อหมาป่าเจ้าเล่!!!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-11-2016 17:29:49
เสร็จเอเดรียนจนได้
ว่าแต่อเล็กเซียหนูแน่ใจน๊าว่าที่เคลิ้มๆ เนี่ยแผนทั้งหมด คึคึ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 23-11-2016 18:18:43
 o13 o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-11-2016 20:35:55
ในที่สุด

 :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-11-2016 00:51:33
 :pig4: :pig4: :pig4:เป็นnc ที่น่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่18 หน้า6 23/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 24-11-2016 01:04:13
โอ้วว :jul1: :pighaun: :z1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 24-11-2016 12:45:22
ตอนที่19

           

    หลายต่อหลายครั้งที่เล็กเซียร่วมรักกับเอเดรียนอย่างเร่าร้อน นานวันเข้าเด็กหนุ่มก็ยิ่งสับสนกับความรู้สึกของตัวเองมากขึ้นไปทุกที ทุกวันนี้เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าการที่ตนยินยอมให้ชายหนุ่มกกกอดเป็นแผนการณ์ที่ตั้งใจไว้หรือว่าตนเองนั้นเต็มใจกันแน่

           

   อเล็กเซียรู้อยู่แก่ใจว่าเอเดรียนรักตนเองอย่างแน่นอน แต่มันชัดเจนขึ้นอีกหลังจากถูกมอบความรักด้วยนำเสียงและท่าทางอันอ่อนโยน

         

      “อึก…อื้อ….เอ…เดรียน…”



 เวลานี้อเล็กเซียมัวเมาอยู่กับเอเดรียนบนเตียงหลังกว้าง เด็กหนุ่มถูกโอ้โลมให้ร่วมรักกันในยามเช้า นึกอยากจะทุบตีคนมักมากอย่างเอเดรียนนัก ทั้งที่เมื่อคืนก็ผ่านค่ำคืนอันยาวนานด้วยกันมาแท้ๆแต่ก็ยังไม่เพียงพอเข้ามาปลุกเร้าจนเขาเกิดอารมณ์และคล้อยตามไปจนได้



“คนบ้า...ทั้งที่...อึก....เช้า...อื้อ.....” ไม่สามารถพูดออกมาได้เต็มประโยคอเล็กเซียอยากจะพูดว่าทั้งที่เช้านี้สัญญาว่าจะพาตนออกไปหาของป่าแท้ๆ อเล็กเซียรอคอยให้เป็นเช่นนั้นมาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เขาทำได้แต่ช่วยงานบ้านรอคอยให้เอเดรียนกลับมาหรือคุยเล่นกับเรเวนจนชักจะเริ่มเบื่อ



อเล็กเซียมีความคิดที่ว่าอยากจะแบ่งเบาภาระนอกบ้านและอยากเรียนรู้เรื่องความเป็นอยู่ของพวกวูฟด้วยเหมือนกัน เด็กหนุ่มเริ่มมีความคิดนี้หลังจากเริ่มสนิทสนมกับเอเดรียนตามที่ตั้งใจเอาไว้แล้วเมื่อหลายวันก่อน



ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงคิดเช่นนี้ หากแต่เมื่อคิดถึงเบื้องลึกของเหตุผลในใจก็รู้สึกอับอายและกระดากอย่างหนัก ได้แต่แก้ตัวให้ตนเองว่าทั้งหมดเป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนการที่ตนวางไว้เท่านั้น



หมู่นี่อเล็กเซียเริ่มจะสับสนอยู่บ่อยครั้ง นานวันเข้าเอเดรียนยิ่งลุกล้ำเข้ามาภายในใจทั้งที่พยายามป้องกันอย่างหนัก แต่กลับไม่สามารถทำได้อย่างที่ต้องการ ยิ่งได้ใกล้ชิดผู้เป็นสามีมากเท่าไหร่ยิ่งสัมผัสได้ถึงข้อดีของอีกฝ่ายที่มีอยู่หลายประการ



เอเดรียนเป็นคนอ่อนโยนมาก หลายครั้งที่ได้รับรู้ถึงความจริงในข้อนี้ ทั้งเรื่องรอบตัวหรือแม้แต่เรื่องบนเตียงสามีของเขามักจะคิดถึงความรู้สึกของอเล็กเซียอยู่เสมอ



อเล็กเซียเคยเข้าใจว่าการแต่งงานกับเอเดรียนนั้นอาจทำให้ต้องมีชีวิตเหมือนคล้ายอยู่ในนรก แต่มันกลับไม่จริงเลยสามีของเขาไม่เคยบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่เคยดูถูกความไม่รู้ของเขา นอกจากนั้นยังเอาใจใส่เสียจนราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า



เอเดรียนเจ้าอ่อนโยนกับข้าอย่างนี้รู้ไหมว่ามันทำให้ข้าเจ็บปวด



บางครั้งอเล็กเซียเริ่มจะคิดว่าตัวเองช่างไม่คู่ควรต่อความรักที่เอเดรียนทุ่มเทให้เอาเสียเลย แต่เริ่มเดิมทีเด็กหนุ่มตั้งใจคิดว่าจะหลอกใช้ความรักที่ชายหนุ่มมีต่อตนเอง แต่ทว่าเวลานี้กลับรู้สึกไม่แน่ใจว่าเหตุใดบางครั้งตัวเองถึงทำเหมือนลืมเลือนสิ่งนั้นไปเสียอย่างนั้น



“อึก....อื้อ...” ปลายลิ้นร้อนที่ลากไล้ตามเนินเนื้อช่างสร้างความเสียวกระสันให้อเล็กเซียยิ่งนัก โดยเฉพาะเมื่อ

เอเดรียนจงใจเน้นย้ำอยู่แต่เฉพาะยอดอก

         

      “อา....เอเดรียน...อื้อ....พอ.....” ทั้งที่เอ่ยปากขอร้องแต่ก็มีบางครั้งที่ชายหนุ่มจะทำใจดำกับเขาด้วยการเมินเฉย แทนคำตอบเอเดรียนขบกัดสลับกับดูดเลียตรงจุดนั้น หมู่นี้อเล็กเซียเริ่มจะเรียนรู้ว่าบางครั้งการวอนขอของตัวเองก็กระตุ้นให้สามีของตนแสดงอาการดื้อดึงเหมือนเด็กๆออกมา

         

     “อ๊า....อื้อ....”



 ดังนั้นจึงไม่ห้ามให้ชายหนุ่มรังแกเน้นๆย้ำๆตรงเนินอกอีกต่อไป สู้ปล่อยตัวปล่อยใจให้เพลิดไปกับความสุขเสียยังจะดีกว่า เดี๋ยวพอเอเดรียนเบื่อเขาคงจะเลิกสนใจตรงจุดนั้นไปเอง แต่ทว่ากลับไม่ใช่อย่างที่คิดสามีของเขาย้ำคิดย้ำทำปรนเปรออยู่แต่ตรงจุดนั้นโดยไม่ยอมแตะต้องตรงส่วนอื่น

         

     “อื้อ....อึก.....อ๊า.....” อับอายเหลือเกินทั้งที่ปรนเปรอแค่ตรงยอดอกเขาก็ดันปลดปล่อยออกมาโดยที่เอเดรียนไม่ได้แตะต้องตรงเครื่องเพศเลยด้วยซ้ำ

         

     “แค่กระตุ้นตรงหน้าอกท่านก็ปลดปล่อยได้เชียหรืออเล็กเซีย” เอเดรียนหัวเราะหึหึพร้อมทั้งส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ อเล็กเซียไม่รู้จะทำอย่างไรในเวลาที่ถูกแกล้งเช่นนี้ ไม่อยากขัดใจเอเดรียนจึงได้แต่ส่งสายตาแง่งอนไปให้อีกฝ่าย

         

      รู้สึกขัดแย้งในใจเหลือเกิน การที่ไม่ทุบตีหรือต่อว่าทั้งที่นึกโกรธ มันชวนให้ละอายใจหากคิดว่าตัวเองนั้นยินยอมพร้อมใจที่จะให้เอเดรียนกลั่นแกล้ง ถ้าเป็นตัวเขาเมื่อก่อนเล่าคงไม่รีรอที่จะสั่งสอนให้ชายหนุ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่แปลกเหลือเกินที่ตอนนี้ลึกๆแล้วกลับดีใจที่สามารถมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นอย่างการหยอกเย้ากันบนเตียงเช่นนี้ได้

         

      “หากว่าเจ้าไม่ยอมทำตรงจุดอื่นบ้าง ข้าจะไม่อนุญาตให้เจ้าแตะต้องตรงจุดอื่นนอกจากตรงนั้นแล้วนะ”



อเล็กเซียวางท่าข่มขู่เอเดรียน การที่ชายหนุ่มแสร้งทำสำนึกผิดด้วยการตีหน้าสลดทำให้นึกอยากหยิกให้เนื้อเขียว และแล้วเขาก็เอื้อมมือไปหยิกเข้าที่แขนของอีกฝ่ายจริงๆ

         

     “อื้อ.....ท่านใจร้ายนัก” เอเดรียนส่งยิ้มกว้าง ดูเหมือนว่าการลงโทษจะไม่ได้ผลเพราะอีกฝ่ายไม่ได้แสดงสีหน้าเจ็บปวดแต่อย่างใด นอกจากนั้นมือใหญ่ยังคว้าหมับเข้าที่เครื่องเพศของเขาแล้วเริ่มต้นเล้าโลม

         

     “อื้อ....”

           

    “ท่านอยากให้ข้าเล้าโลมตรงจุดอื่นบ้างอย่างนั้นข้าจะใช้ปากกับตรงนี้ของท่านแล้วกันนะ” กล่าวจบก็ครอบครองเครื่องเพศของเขาด้วยปาก อเล็กเซียรู้สึกดีจนต้องจิกปลายเท้าลงบนเตียงกว้าง ร่างทั้งร่างกระตุกเกร็งด้วยความเสียวกระสัน

           

    “อื้อ...อา....ดี.....” ถูกทำให้รู้สึกดีอย่างนี้กี่ครั้งแล้วกันนะ อเล็กเซียไม่กล้าที่จะนับ เพราะอายเหลือเกินหากต้องนับความพ่ายแพ้ที่ตนมีต่อราคะที่ชายหนุ่มเป็นผู้มอบให้

           

    ปลายนิ้วร้อนที่ชำแรกเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า อเล็กเซียไม่สามารถโกหกร่างกายตนเองได้ ร่างกายของเขาต้องการเอเดรียน แล้วจิตใจของตนนั้นเล่า หมู่นี้เริ่มจะค้นพบในสิ่งที่ทำให้ทรมาณใจมากยิ่งขึ้นไปทุกที

         

      กลัวตัวเองที่จะยอมรับความจริงว่าตนเองนั้นมีใจ อเล็กเซียเข้าใจตัวเองดี เขารู้สึกดีต่อชายหนุ่มมากเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคือหมาป่าสีดำตัวยักษ์ที่คอยช่วยเหลือจากหมีในครั้งนั้น นอกจากนั้นพอนึกถึงความน่ารักฉอเลาะของเจ้าหมา การแสดงออกถึงความรักอันเต็มเปี่ยมทั้งในร่างหมาป่าและร่างมนุษย์ทำให้กำแพงที่เขาตั้งเอาไว้พังทลายอย่างง่ายๆจนเริ่มจะเกลียดตัวเองขึ้นมา

         

     หากว่าเอเดรียนเป็นสามีที่โหดร้ายและแสดงออกถึงตัณหาอย่างกักขฬระ อเล็กเซียคงไม่ต้องตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้ล่อชายหนุ่มแบบนี้ การที่เผลอร่วงลงไปในกับดักแบบเดียวกับที่คิดใช้กับชายหนุ่มถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เด็กหนุ่มให้ตายก็ไม่อยากจะยอมรับความจริงในข้อนี้

         

     “อึก....อื้อ......” เพราะมัวแต่คิดอย่างอื่นรู้ตัวอีกทีความเป็นชายของเอเดรียนก็อัดแน่นเข้ามา เหมือนจะจงใจแกล้งสอดพรวดเข้ามาทีเดียว ใบหน้าของผู้เป็นสามีบอกชัดถึงอารมณ์ที่เป็นอยู่

       

       กำลังงอนเขาอยู่เห็นๆ

         

     คิดถึงตรงนี้จู่ๆเอเดรียนก็ขยับกายเข้าออกอย่างรุกเร้า ผิดจากทุกทีที่มักจะเปิดโอกาสให้อเล็กเซียได้หายใจหายคอบ้าง บ้าที่สุด ความรู้สึกผิดเล็กๆที่เกิดขึ้นในใจนี้ทำให้ตัวเขายอมให้อีกฝ่ายทำได้ตามใจชอบโดยไม่ต่อว่าใดใดทั้งนั้น

       

       “อึก....อื้อ.....เบาๆ....อึก...หน่อย...อา...”

           

    “ท่านผิดเองนะอเล็กเซียที่เอาแต่คิดถึงเรื่องไร้สาระในตอนที่สำคัญเช่นนี้”

       

       เกลียดตัวเองเหลือเกินที่ดันเห็นพ้องด้วย เอเดรียนส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจมาให้ชวนให้ใจเต้นระส่ำแบบแปลกๆ ไม่อยากจะยอมรับความจริงเลย ให้ตายก็ไม่อยากรับรู้ถึงจิตใจที่อ่อนยวบยาบของตัวเองในยามนี้ อเล็กเซียไม่รู้ว่าตนเองหลั่งน้ำตาเพราะชายหนุ่มทำรุนแรงเกินไปหรือว่ารู้สึกผิดต่อท่านพ่อและท่านพี่ที่เขาทำในสิ่งที่ผิดไปจากสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรกกันแน่

         

      กว่าจะตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาสายของวัน อเล็กเซียล้างหน้าล้างตัวในอ่างน้ำที่เอเดรียนเตรียมไว้ให้ก่อนจะลงไปด้านล่าง เด็กหนุ่มได้กลิ่นหอมๆและเสียงดังมาจากในครัวดังนั้นจึงเดินเข้าไปเพราะคิดว่าจะต้องได้เจอกับเอเดรียน

         

     “อ้าวตื่นแล้วหรืออเล็กเซีย วันนี้ข้ามีเวลาอยู่กับท่านทั้งวันเลยนะ” เอเดรียนหันมายิ้มให้ก่อนจะกลับไปสนใจกับอาหารที่ปรุงในหม้อ อเล็กเซียไม่รอช้าตรงเข้าไปตีที่แขนของชายหนุ่มเบาๆทั้งยังปั้นสีหน้าให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขางอนอยู่นะอีกด้วย

         

     “ไหนสัญญากันแล้วไงว่าเช้านี่จะสอนข้าทำอาหารเพิ่มเติม”

         

      “อ้าวก็นี่มันจะเที่ยงแล้วนี่ ข้าไม่ได้ผิดสัญญากับท่านนะอเล็กเซีย”

             

  “เป็นความผิดของใครกันล่ะ” อดไม่ได้ที่จะทุบลงไปอีกครั้ง เอเดรียนหัวเราะร่วนชายหนุ่มไม่ได้หลบการลงไม้ลงมือของเขาแต่อย่างใด หมันไส้นักเหตุใดทั้งที่ถูกเขาทุบตีถึงได้ยังหัวเราะร่วนได้อีกแบบนี้ อดที่จะหาเรื่องให้เอเดรียนลำบากเพิ่มขึ้นไม่ได้

           

    “เมื่อวานสัญญากับข้าแท้ๆว่าจะพาไปหาของป่าแต่เช้าด้วยกัน ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอยากไปสำรวจรอบๆหมู่บ้านบ้าง นี่อยู่มาทั้งเกือบสองสัปดาห์แล้วแท้ๆแต่กลับไม่ได้ไปไหนนอกจากบ้านของตัวเองกับบ้านของเรเวน”

         

     “เอาไว้ข้าจะพาท่านออกไปสำรวจตามที่ท่านต้องการแน่นอนท่านอย่าได้กังวล” กล่าวจบเอเดรียนก็รวบเอา

อเล็กเซียเข้าไปกอดแล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหู

         

      “แค่ช่วงเวลาหนึ่งถึงสองสัปดาห์นี้ข้าอยากจะอยู่บนเตียงกับท่านให้มากที่สุดมันก็เท่านั้น หรือว่าท่านไม่อยาก

อเล็กเซีย”

         

      “ใครว่าข้าอยากจะเอาแต่อยู่บนเตียงกับเจ้าล่ะคนมักมาก” อเล็กเซียผลักเอเดรียนออกจากตัวแล้วหันหลังให้ เด็กหนุ่มไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้ายามเขินอายจนทำอะไรไม่ถูกของตน ยามนี้นึกเกลียดตัวเองขึ้นมาอีกแล้วที่จิตใจชักเหมือนไม่ใช่ของตัวเองมากขึ้นไปทุกที

         

      “อเล็กเซียไม่ใช่ท่านหรอกหรือที่เอาแต่เรียกร้องให้ข้าทำรักกับท่าน” อเล็กเซียขบฟันลงบนริมฝีปากด้วยความเจ็บใจตัวเอง ที่เอเดรียนพูดมานั้นถูกทั้งหมด ตนเองเป็นฝ่ายเรียกร้องให้ชายหนุ่มมากกกอด ยิ่งคิดยิ่งอับอายเหลือเกินที่เป็นคนวางแผนเองแท้ๆแต่กลับต้องมาเสียทีอย่างที่ตัวเองก็ไม่อยากจะเชื่อ

         

     เขาในตอนนี้จะสามารถกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้ไหมนะ อเล็กเซียละอายแก่ใจเหลือเกินที่ยอมให้เอเดรียนเข้ามายึดพื้นที่ในใจง่ายๆในระยะเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น ทว่าสำหรับเด็กหนุ่มคล้ายกับว่ามันผ่านมานาน อาจเป็นเพราะเอเดรียนให้ความรักและความสนิทสนมประหนึ่งสามีภรรยาที่อยู่กินกันมานับแรมปี

         

      ความต้องการของเอเดรียนจะมีวันลดน้อยลงไปไหมนะ แอบคิดอยู่ภายในใจว่าหากอีกฝ่ายเบื่อหน่ายเมื่อไหร่ความรู้สึกของตนที่กำลังลุกไหม้อย่างช้าๆอาจจะมอดลงด้วยเช่นกัน เป็นเช่นนั้นคงจะดีไม่น้อยเขาจะได้ไม่ต้องทรมาณใจต่อความรู้สึกผิดหลายๆอย่าง

         

      ทว่าเมื่อคิดถึงใบหน้าเย็นชาของเอเดรียนในอกก็ปวดหนึบอย่างบอกไม่ถูก อเล็กเซียได้แต่หลอกตัวเองว่าอาการนั้นเกิดจากความเครียดและกดดันที่แผนของตนจะไม่ประสบผลสำเร็จ

         

     “ท่านเหม่ออีกแล้วนะอเล็กเซีย”



 สะดุ้งตัวนิดๆเมื่อเอเดรียนหัวเราะขบขัน เพื่อเป็นการปิดบังความในใจไม่ให้อีกฝ่ายรู้ จึงเสนอจูบอันดูดดื่มให้กับสามี จากแรกเป็นจูบที่ตั้งใจจะใช้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจแท้ๆ แต่อเล็กเซียก็ติดกับความหวามหวานจนเผลอคล้อยตามอารมณ์ที่อยู่ในห้วงลึกของตนเอง

             

“ให้ตายสิอเล็กเซียท่านไปรอข้าที่ห้องอื่นเถอะ ไม่อย่างนั้นเราสองคนจะไม่ได้ทานอาหารกันแน่ๆ” เอเดเรียนทำสีหน้าดุดันรอยยิ้มร้ายกาจชวนให้หวาดวิตก อเล็กเซียรีบพาตัวเองไปรอที่อื่นไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มต้องเอ่ยเตือนซ้ำสอง

         

     เมื่อมาถึงห้องรับแขกอเล็กเซียก็เดินตรงไปยังกรงนกที่ว่างเปล่า สองวันมาแล้วที่เจ้านกพิราบบินหายไป เด็กหนุ่มอดเป็นห่วงไม่ได้ ถึงแม้ว่าหากมันไม่กลับมาอาจจะทำให้ตนเองสบายใจมากกว่ากันก็ตาม

           

   ขณะที่คิดเป็นห่วงมันอยู่นั้น เจ้านกพิราบก็บินกลับมา เจ้านกบินผ่านหน้าต่างเข้ามาเกาะอยู่ตรงกรงนกพร้อมกับยกขาข้างหนึ่งราวกับจะบอกให้อเล็กเซียมองดู ที่ขาของมันมีกระดาษผูกติดเอาไว้ เด็กหนุ่มเดาว่าคงเป็นจดหมายจากไอแซค

           

    เหนื่อยใจขึ้นมาทันทีที่ต้องอ่านจดหมายของไอแซค อเล็กเซียเดาไม่ถูกว่าไอแซคติดต่อมาด้วยเรื่องอะไร คงไม่ใช่เรื่องยาที่อีกฝ่ายบอกจะหามาให้เพิ่มแน่ๆ เพราะที่ขาของเจ้านกไม่มีห่อยาใดใดทั้งนั้น

           

    หรือว่าจะมีเรื่องสำคัญอย่างอื่น

       

      คิดอย่างนั้นก็ค่อยๆเปิดจดหมายอ่าน เนื้อหาใจความในจดหมายคือขอให้เขาแอบไปพบกันที่บริเวณชายป่าดำในวันพรุ่งนี้โดยไม่ให้ใครรู้ ในจดหมายบอกว่าต้องพบให้ได้และจะรอจนกว่าเขาจะออกมาเจอ

         

     มันเรื่องอะไรกันนะ

         

     ได้แต่กังวลอยู่เพียงลำพัง แต่กระนั้นพอคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ส่งยาตัวเดิมมาเพิ่มก็ทำให้เบาใจขึ้นมาเล็กน้อย ใจหนึ่งคิดว่าจะทำเมินเฉย แต่หากเป็นเรื่องสำคัญเล่า เมื่อมีแต่ความสงสัยอเล็กเซียจึงตัดสินใจที่จะออกไปพบกับไอแซคตามที่ร้องขอ





 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



                           ตอนแรกก็ว่าจะทิ้งระยะซักสองวัน แต่ก็นะ พอแต่งได้ก็อยากจะเอามาลงให้อ่านเร็วๆ55555



                                  ตอนนี้กำลังแต่งตอนต่อไปอยู่ถ้าตันจริงๆอาจจะหายหัวไปซักสองวันจริงๆและนะ5555


                                    ช่วงนี้อเล็กเซียกับเอเดรียนเลิฟๆกันถี่ๆเยย หวังว่าคงจะไม่เบื่อฉากรักไปเสียก่อนน้า



                                                        รักคนอ่านเม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-11-2016 13:34:57
ไอแซคจะสร้างเรื่องอะไรอีก ไม่ใช่ฉุดอเล็กเซียกลับเข้าเมืองหรอกนะ งื้ออออ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-11-2016 13:47:56
 :o8: กรี้ด  มีความถี่
เราว่าเจ้าไอแซคคงไม่รอดสายตาหมาแน่นอน
ว่าแต่อเล็กเซียเถอะจะได้ออกจากบ้านเหรอ ฮ่าๆๆ   :L1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-11-2016 14:32:12
ระแวงอยู่เรื่อย ๆ ว่าจะเกิดเรื่อง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-11-2016 14:43:09
จะมีเรื่องก็เพราะไอแซคนี่แหละ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 24-11-2016 15:36:55
เมื่อไหร่ไอแซคจะเลิกบ้าซะที ชิ!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-11-2016 18:12:51
จะไปไหนมาไหนก็อย่าลืมบอกสามีก่อนนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 24-11-2016 19:01:33
ไอแซค! เลิกวุ่นวายได้แล้ว! :beat: :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-11-2016 22:16:07
จดหมายไม่น่าไว้ใจ ไอแซคจะทำอะไรอีก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-11-2016 22:44:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 24-11-2016 22:53:06
การไปหาไอแซคคนเดียวไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เลย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่19 หน้า6 24/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 24-11-2016 23:54:23
ทำไมเรารู้สึกว่าไอแซคนี่ไม่รู้จักโตสักที คิดเองเออเองตลอด ตัวเองทำอะไรไม่เคยผิดเลย

โอ้ยยย หงุดหงิดนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 25-11-2016 12:45:48
ตอนที่20

           

   ในที่สุดก็ถึงวันที่ไอแซคเรียกให้ออกไปพบ อเล็กเซียตื่นแต่เช้าตรู่แล้วออกไปเก็บของป่ากับเอเดรียน ถึงแม้ว่าการได้ออกมานอกหมู่บ้านกับชายหนุ่มครั้งนี้จะเป็นสิ่งที่อเล็กเซียเฝ้ารอคอย แต่มันกลับไม่ทำให้เขาสนุกแม้เพียงนิด นั่นก็เพราะเด็กหนุ่มต้องคอยจดจำทางเดินออกนอกป่าและทางกลับไว้ให้แม่น เพื่อที่จะลอบออกไปพบกับไอแซคตามนัดเพียงลำพัง

           

   หลังจากเก็บของป่าเสร็จอเล็กเซียกับเอเดรียนก็กลับมาช่วยกันทำมื้อเช้าที่บ้าน เมื่อทานมื้อเช้าเรียบร้อย ผู้เป็นสามีก็ออกไปจัดการเรื่องต่างๆเกี่ยวกับหมู่บ้านและสัญญากับเขาว่าจะรีบกลับมาโดยเร็ว

           

   อเล็กเซียรอคอยให้เอเดรียนออกจากบ้านแล้วค่อยขยับตัวทำในสิ่งที่ตั้งใจ เด็กหนุ่มเดินออกนอกหมู่บ้านซึ่งล้อมรอบด้วยป่าและบังเอิญได้พบกับมีอาแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน เขารีบเดินทางต่อไปอย่างเร่งร้อน

         

     อเล็กเซียจำที่เอเดรียนพูดได้ว่าพวกหนุ่มๆในเผ่าทำสัญลักษ์ลับบอกทางเอาไว้ตามจุดต่างๆเพื่อกันคนในหมู่บ้านหลงทาง ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงมองหาสิ่งนั้นเพื่อมุ่งหน้าไปยังชายป่า

         

     แต่ทว่าถึงแม้จะมีสัญลักษณ์บอกทางแต่อเล็กเซียก็หลงทางเข้าจนได้ ยิ่งเดินยิ่งหลงวนอยู่ในป่าซึ่งเริ่มจะทึบขึ้นไปทุกที ขณะที่กังวลหนักถึงสภาพปัจจุบันที่กำลังประสบก็ได้ยินเสียงเห่าเบาๆดังจากด้านหลัง

         

      อเล็กเซียสะดุ้งสุดตัว พยายามตั้งสติเอาไว้ไม่ให้กระเจิงไปเสียก่อน เด็กหนุ่มกุมดาบที่ได้มาจากเจ้าหมาป่ายักษ์เอาไว้แน่น เตรียมตัวพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเลวร้ายหากพบหมาป่าที่ออกล่าเหยื่อ

         

     “อ๊ะ...เจ้าหมา..” โล่งอกทันทีเมื่อหันไปแล้วพบกับหมาป่าสีดำตัวยักษ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ลำบากใจนักที่เจ้าหมาป่ามาพบเข้าตอนที่แอบทำในเรื่องที่ปิดบังเอาไว้

         

      “เอ่อ....ข้าหลงทางน่ะ” พูดออกไปด้วยเสียงที่พร่าสั่นเล็กน้อย ในหัวพยายามคิดหาข้อแก้ตัวนับล้าน แต่ว่าเมื่อฉุกคิดได้บางอย่างก็เลิกที่จะหาข้อแก้ตัว เจ้าหมาป่าตัวนี้ไม่เคยยอมรับซักครั้งว่าคือเอเดรียน หากว่าเขาจะทำบ้าใบ้ไม่รู้ไม่ชี้ก็น่าจะได้อยู่ละมั้งนะ

           

    ปลอบโยนตัวเองทั้งๆที่วิตกหนักเรื่องที่ถูกจับได้ ในตอนนั้นเจ้าหมาป่าก็เข้ามางับเบาๆที่แขนเสื้อฉุดดึงให้

อเล็กเซียออกเดิน เมื่อเด็กหนุ่มออกเดินเจ้าหมาก็เดินนำทางอยู่ข้างหน้า คิดว่าคงจะพาเขากลับหมู่บ้าน

           

    ก็ดีเหมือนกันเขาจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างจะได้ไม่ต้องออกไปพบกับไอแซค

         

      เดินตามเจ้าหมาป่าอยู่นานก็พบว่าหนทางข้างหน้าคือทางออกนอกป่า อเล็กเซียถูกพามาถึงที่ชายป่าดำอย่างงงๆ เมื่อมาถึงที่จุดนั้นเจ้าหมาป่าจู่จู่ก็ขยับตัวนอนลงอย่างช้าๆปล่อยให้อเล็กเซียสับสนทำอะไรไม่ถูก

         

     “เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไม เจ้าหมา” ทำใจสู้ถามออกไปถึงแม้จะระแวงและสงสัย หรือว่าเจ้าหมาตัวนี้จะรู้นะเรื่องที่เขาแอบทำลับๆล่อๆเพื่ออะไรบางอย่าง

       

       ไม่อยากถูกเกลียด

         

      อเล็กเซียตกใจกับความคิดเช่นนี้ของตนเอง เด็กหนุ่มสะบัดศีรษะไปมาไล่ความคิดนี้ออกไป ในเมื่อถูกพามาถึงที่นี่แล้วก็ช่วยไม่ได้ ดังนั้นจึงออกไปนอกป่าเพียงลำพังปล่อยเจ้าหมาให้นอนรออยู่ด้านในป่า

         

      อเล็กเซียเหลียวมองดูเจ้าหมาเป็นระยะๆ เจ้าหมาป่าสีดำไม่ได้เดินตามมา ในที่สุดเจ้าหมาป่าก็ลับตาไป เด็กหนุ่มออกมานอกป่าและพบกับไอแซคที่รอคอยอยู่



ทันทีที่พบหน้ากันไอแซคก็โถมเข้ากอดอเล็กเซีย เด็กหนุ่มถึงแม้จะไม่ชอบแต่ก็ยังปล่อยให้เพื่อนสนิทกอดเขาอยู่เช่นนั้น



“ดีใจที่เจ้ามาเหลือเกินอเล็กเซีย” ไอแซคผละออกจากอเล็กเซียแล้วส่งยิ้มกว้างมาให้



 “ยาที่ข้าให้ไปคงได้ผลสินะ”



อเล็กเซียนิ่งอึ้งอยู่พักหนึ่งครุ่นคิดว่าจะตอบออกไปอย่างไรดี ไม่อยากจะโกหกแต่ก็ใม่อยากทะเลาะด้วยดังนั้นจึงเลี่ยงที่จะพูดแล้วอาศัยพยักหน้าแทนคำตอบ



“เยี่ยมเลย...” ไอแซคชูหมัดอย่างผู้มีชัยก่อนจะหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ายื่นส่งให้อเล็กเซีย



“ไอ้นี่คือยาที่ข้าได้มาจากแม่มด เป็นยาพิษไร้กลิ่นไร้รสไร้สี เจ้าเอาผสมน้ำให้เจ้าวูฟมันทานเสีย พอมันตายเจ้าจะได้กลับไปอยู่ที่ปราสาทของเจ้าได้เหมือนเดิม”



รู้สึกได้ถึงอารมณ์อารมณ์บางอย่างที่อัดแน่นอยู่ในอก อเล็กเซียทั้งโกรธทั้งวิตกที่ไอแซควางแผนให้เขาลอบสังหารเอเดรียน



 เด็กหนุ่มคิดภาพเอเดรียนที่นอนทอดกายเป็นศพแล้วแทบทนไม่ได้ เขาไม่อยากให้ชายคนนั้นตาย คิดถึงตรงนี้เริ่มจะเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น หากแต่ว่ายังหาข้อแก้ตัวให้แก่ตนเองได้อยู่ ก็แค่ไม่อยากสูญเสียทรัพยากรบุคคลไปเท่านั้น



ทว่าได้ยินเสียงเจ้าเล่ห์ภายในใจบอกเตือนว่าจะจริงอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ว่าตัวเขาเองหรอกหรือที่หลงรักเอเดรียนเข้าเสียแล้วและไม่อาจทนให้อีกฝ่ายตายไปต่อหน้าต่อตาได้



 อเล็กเซียขบริมฝีปากตัวเองเมื่อไม่สามารถเถียงเจ้าเสียงที่ดังอยู่ในใจของเขาได้ เวลานี้รู้ใจตัวเองแน่ชัดแล้วว่าเป็นอย่างไร หากทว่าไอแซคกลับตีความท่าทางผิดไป เพื่อนสนิทเข้าใจว่าเขาเกรงกลัวว่าแผนการจะไม่สำเร็จ ไอแซคเข้ามากอดรัดแนบแน่นอีกครั้งพร้อมกับใช้มือลูบหลังเขาไปมา



“ไม่ต้องกลัวนะอเล็กเซียจะไม่มีใครจับได้แน่ว่าพวกเราวางยาเจ้าวูฟนั่น ข้าบอกเจ้าแล้วนี่ว่าเป็นยาพิษไร้กลิ่นไร้รสและไร้สี เจ้าวูฟเมื่อทานเข้าไปจะมีสภาพคล้ายคนเป็นอัมพาตก่อนสองสามวันและหากไม่ได้ยาแก้ก็จะหัวใจวายตายในเวลาถัดมา เจ้าไม่ต้องกลัวนะ มันจะเหมือนกับแค่เจ้าวูฟเป็นโรคอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง”



เกลียดนัก



สีหน้าของอเล็กเซียมีแต่ความชิงชัง ไอแซคไม่ทันได้เห็นเพราะเอาแต่กอดปลอบโยนด้วยเข้าใจผิดคิดว่าอาการสั่นของร่างกายคือความหวาดกลัว หาได้รู้ไม่ว่าเขาโกรธจนตัวสั่นต่างหาก



“เอาล่ะอเล็กเซียข้าต้องไปแล้ว ข้าจะรอคอยการกลับมาของเจ้าอย่างใจจดใจจ่อนะ”



ไม่เปิดโอกาสให้อเล็กเซียได้ตอบโต้นอกจากนั้นยังไม่ยอมสังเกตุเห็นสีหน้าที่เป็นปรปักษ์อย่างชัดแจ้งอีกด้วย เด็กหนุ่มไม่เข้าใจไอแซคจริงๆเหตุใดเพื่อนของเขาจึงกลายเป็นคนเลือดเย็นเช่นนี้ไปได้

 

 

เมื่อไอแซคควบม้าลับตาไปอเล็กเซียไม่รอช้าทำลายห่อยาพิษทิ้งเสีย ต่อให้ตายเขาก็จะไม่มีวันใช้สิ่งนี้กับ

เอเดรียนอย่างเด็ดขาด เสียดายเหลือเกินที่มัวแต่โกรธไอแซคจนไม่ได้ต่อว่าสั่งสอนอีกฝ่ายไป หากจำเป็นต้องพบกันครั้งหน้าอีกคงถึงเวลาเสียทีที่เขาต้องพูดกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง



ทว่าเหนื่อยเหลือเกินที่ต้องลักลอบออกมาพบเพื่อนคนนี้เพียงลำพังโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากถูกเจ้าหมาพบเข้าเสียแล้ว แต่กระนั้นก็แอบใจชื้นอยู่บ้างที่เจ้าหมาไม่ได้ดึงดันตามออกมาพบกับไอแซคด้วย ดีใจจริงๆที่อีกฝ่ายไม่ได้ยินเรื่องที่เขาคุยกับไอแซค หากรู้เข้าก็ไม่รู้เลยว่าจะปั้นหน้าแบบไหนโกหกหลอกลวงเจ้าหมาป่าได้อีก



แปลกเหลือเกินทั้งๆที่จนถึงตอนนี้ก็เอาแต่ใช้มารยาหลอกลวงเจ้าหมาป่ามาตลอดแท้ๆ แต่เมื่อรู้ใจตัวเองดีแล้วกลับกลัวขึ้นมาเสียได้ อเล็กเซียได้แต่ยิ้มหยันด้วยความสมเพชตัวเอง



อเล็กเซียคงไม่รู้ว่าถึงแม้จะอยู่ห่างถึงเพียงนี้แต่ด้วยตาและหูของสัตว์อสูรอย่างเผ่าวูฟเอเดรียนสามารถเห็นและได้ยินชัดเจนราวกลับเข้าไปอยู่ใกล้ชิดเลยทีเดียว



เอเดรียนเห็นและได้ยินทุกอย่างตลอดเวลาที่อเล็กเซียอยู่เพียงลำพังกับไอแซค การที่เขารู้ว่าเด็กหนุ่มแอบนัดพบกับไอแซคได้เช่นนี้เป็นเพราะว่าเขาคอยสอดแนมเจ้านกพิราบของเจ้าสาวอยู่ตลอดเวลา



ชายหนุ่มดักจับและแอบอ่านจดหมายที่ว่าก่อนที่จะปล่อยให้เจ้านกบินกลับมาหาอเล็กเซียเสียอีกด้วยซ้ำ ตอนนี้เขารู้ชัดแล้วคนที่ให้ค่ำคืนนิรันด์แก่อเล็กเซียคือไอแซคไม่ผิด นอกจากนั้นเจ้าคนบัดซบยังกล้ามอบยาพิษร้ายแรงให้เจ้าสาวเพื่อใช้มันลอบสังหารเขาอีกต่างหาก



แวบหนึ่งความกรุ่นโกรธอัดแน่นอยู่ในอก แต่เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางซึ่งเดาได้ง่ายของอเล็กเซียความไม่พอใจก็ทุเลาลงจนหายไป ที่รักของข้าการที่เจ้าทำสีหน้าโกรธเกรี้ยวเช่นนั้นหมายความว่าเจ้าไม่พอใจแผนการของเจ้าสวะนั่นใช่หรือไม่



เอเดรียนได้แต่วิเคราะห์สีหน้าท่าทางของอเล็กเซียอย่างเอาเป็นเอาตาย ยิ่งเพ่งมองยิ่งรู้สึกได้ถึงความเป็นปรปักษ์ที่เด็กหนุ่มมีต่อคำพูดของไอแซค เพียงเท่านี้หัวใจของเขาก็ชุ่มชื่นแค่คิดว่าเจ้าสาวจะโกรธเกลียดแทนเขาชายหนุ่มก็เป็นสุขจนเหลือที่จะกล่าว



และเด็กหนุ่มก็ทำให้เขามีความสุขมากยิ่งขึ้นด้วยการฉีกทำลายเจ้าห่อยาพิษทิ้งไปเสีย ถึงแม้ว่าใจจริงจะอยากให้อเล็กเซียตะโกนด่าและตัดสัมพันธ์กับไอแซคไปเสียด้วย แต่เข้าใจว่าคงไม่อาจทิ้งสายสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นมาก่อนไปง่ายๆ



แต่กระนั้นก็อยากให้อเล็กเซียทำสิ่งนั้นเพื่อเขาเหลือเกิน การที่อเล็กเซียยอมทำลายยาพิษทิ้งไปอย่างนี้หมายความว่าเด็กหนุ่มรักเขาแล้วหรือเปล่านะ หรือว่าจะเป็นเพียงแค่แผนการที่วางเอาไว้อีกอย่างหนึ่ง



ช่างมันปะไร แค่อเล็กเซียไม่วางแผนเอาชีวิตเขาก็ทำให้เขาปลื้มใจมากเกินพอแล้ว ไม่อยากรออีกต่อไปอยากจะเข้าไปออดอ้อนคอเคลียแสดงความรักต่อเจ้าสาวดังนั้นจึงวิ่งห้อออกไปยังนอกป่าไปหาเจ้าสาวของตน

 

หางสุนัขของเขากวัดแกว่งไปมาอย่างแรงบอกชัดถึงอารมณ์ที่เป็นอยู่ เอเดรียนเอาหัวใหญ่โตของตนเองถูไถ

อเล็กเซียไปมาก่อนจะนั่งหมอบลงตรงหน้าหวังว่าเด็กหนุ่มจะขึ้นมาขี่หลังของเขา



แต่เหมือนเด็กหนุ่มจะไม่เข้าใจ ต้องอาศัยให้เขาเห่าบอกและแสดงท่าทางกระวนกระวายอีกสองสามครั้ง

อเล็กเซียถึงยอมขึ้นขี่บนหลังสุนัขของเขา



ทันทีที่เด็กหนุ่มขึ้นขี่หลังก็ออกเดินเข้าไปในป่า เริ่มเดินเร็วขึ้นอีกนิดจนอเล็กเซียต้องกำยึดขนหนาๆของเขาเอาไว้แน่น เมื่อเข้าใจว่าเด็กหนุ่มยึดจับดีพอ เอเดรียนก็ออกวิ่งไปยังสถานที่ที่ต้องการจะพาเด็กหนุ่มไป



“ว้าวน้ำตกนี่ สวยจัง”



 เอเดรียนดีใจเหลือเกินที่อเล็กเซียชอบ เขาปล่อยให้เด็กหนุ่มลงจากหลังก่อนจะกระโดดตูมลงไปเล่นน้ำ เจ้าหมาป่าเห่าเรียกให้เจ้าสาวลงมาเล่นน้ำด้วยกัน



อเล็กเซียมีที่ท่าลังเล แต่ไม่นานนักเด็กหนุ่มก็ยอมถอดเสื้อผ้าแล้วตามลงน้ำมาด้วย เอเดรียนแหวกว่ายเข้าไปคลอเคลียร่างขาวอยู่ไม่ห่าง เสียงหัวเราะชอบอกชอบใจของเด็กหนุ่มทำให้เจ้าหมาป่ามีความสุขเสียเหลือเกิน



เล่นน้ำกันอยู่นานนับชั่วโมงเวลานี้อเล็กเซียกับเขาขึ้นมานั่งพักบริเวณริมฝั่งของน้ำตก เด็กหนุ่มแกว่งเท้าไปมาในน้ำก่อนจะวักน้ำใส่หน้าเจ้าหมาป่าเป็นการหยอกเล่นด้วยท่าทางพึงพอใจ

           

   “หากว่าสามีของข้าเขาพาข้ามาเที่ยวเล่นเช่นนี้บ้างข้าคงมีความสุขกว่านี้”



หูสุนัขของเขากระตุกผึ่ง เสียดายเหมือนกันที่ตนไม่พาอเล็กเซียมาเที่ยวเล่นในร่างมนุษย์ให้เร็วกว่านี้อาจเป็นเพราะมัวแต่ยุ่งวุ่นวายกับพวกคนในเผ่ามากเกินไป เอเดรียนสาบานกับตัวเองว่าคราวหน้าจะพาเด็กหนุ่มมาทั้งที่อยู่ในร่างมนุษย์ให้ได้

           

   “เจ้านี่มีหลายอย่างคล้ายสามีของข้าจังน้า เขาเองก็คอยเอาใจใส่ข้าทุกอย่าง แต่ก็นะเขาไม่ออเซาะออดอ้อนเท่าเจ้า เจ้าหมาถ้าเจ้าพูดได้เจ้าคงมีเรื่องที่อยากจะบอกข้าอยู่สินะ”

           

    อเล็กเซียถามขณะที่เอเดรียนเฝ้าแต่เลียมือและเท้าของเอล็กเซีย ตกใจเล็กน้อยกับคำถามที่แฝงความใน หรือว่าเด็กหนุ่มจะรู้แล้วว่าเขากับหมาป่าคือคนเดียวกัน ควรจะสารภาพเสียในตอนนี้ดีหรือไม่นะ หากเจ้ารู้ว่าข้าโกหกเจ้าจะทำสีหน้าเยี่ยงไร แค่คิดว่าเจ้าสาวจะโกรธเกรี้ยวก็รู้สึกใจหาย

         

      “เจ้าหมา เจ้าคิดอะไรอยู่หือ....”

อเล็กเซียส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ เอเดรียนแน่ชัดแล้วว่าเด็กหนุ่มคงจะรู้ความจริงเข้าแล้ว

           

    “กลับกันเถอะ หากเจ้าไม่อยากบอกความลับแก่ข้าตอนนี้ ข้าก็ไม่อยากกดดันหรอก” เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากริมฝั่งไปยังเสื้อผ้าแล้วเริ่มแต่งตัว ในที่สุดเอเดรียนก็ทนโกหกอเล็กเซียต่อไปไม่ไหว

         

      “ที่รักของข้าท่านรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าร่างหมาป่านี่ก็คือข้า” อเล็กเซียหันมายิ้มจนตาหยี ท่าทางดีใจอย่างเหลือเชื่อของเด็กหนุ่มทำให้เอเดรียนคิดว่าทำถูกแล้วที่บอกความจริงออกไป

           

    “เจ้าเดาเอาสิ”



อเล็กเซียเริ่มใส่เสื้อผ้าแต่ยังคงยิ้มไม่เลิกเมื่อเด็กหนุ่มใส่เสื้อผ้าเสร็จก็เดินเข้ามาหา เจ้าสาวจุมพิตลงมาบนใบหน้าสุนัข ทั้งยังกอดคอเขาแน่นและเริ่มฟัดจนเอเดรียนอยากจะขย้ำด้วยความหมันเขี้ยว

           

   “เอาเป็นว่าข้ารู้นานแล้วก็แล้วกันคนเจ้าเล่ห์”



อดใจไม่ไหวแล้วตอนนี้ได้แต่ใช้ลิ้นเลียไปตามเนื้อตัวของอเล็กเซียแทนการจูบอย่างที่ควรจะเป็น สุดท้ายก็รีบกลายร่างเป็นมนุษย์เพื่อสานต่อเรื่องดีงามตามที่คิดเอาไว้

         

     “อเล็กเซียที่นี่ได้หรือไม่” เอเดรียนถามความเห็นของคนในอ้อมกอด อเล็กเซียตีหน้านิ่งชวนให้ลุ้นระทึก

         

      “ตามใจเจ้าสิ”



รอยยิ้มหวานของอเล็กเซียพาให้ใจเต้นตึกตัก เอเดรียนปล่อยให้อเล็กเซียเป็นอิสระชั่วครู่ก่อนจะจัดแจงหาใบไม้มาทำเป็นเตียงนอนให้เขากับเจ้าสาวใช้ชั่วคราว

           

    “มาสิอเล็กเซีย” เอ่ยปากเรียกให้เจ้าสาวเข้ามาหา เอเดรียนคว้าร่างของอเล็กเซียมากอดรัดแล้วประทับจูบ

         

     “อย่างนี้ไม่น่าใส่เสื้อผ้าให้เสียเวลาเลยเนอะอเล็กเซีย” กระซิบเย้าหยอกหลังถอนจูบ อเล็กเซียส่งรอยยิ้มอ่อนอกอ่อนใจมาให้

           

    “ใครจะเหมือนเจ้าที่ร่างกายเปลือยเปล่าอยู่แล้วตั้งแต่แรกล่ะ”



เอเดรียนหัวเราะชอบใจต่อคำเหน็บแนมของอเล็กเซีย ชายหนุ่มเริ่มต้นถอดเสื้อผ้าของเจ้าสาวแล้วดำดิ่งลงสู่ห้วงปรารถนาอันเต็มไปด้วยความรักด้วยความสุขอันเปี่ยมล้น



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



                                          ตอนหน้าจะมีฉากncไหมน้า ลุ้นมะ คนเขียนยังลังเลอยู่เลยว่าควรเขียนไหม555555



                                          กะลังจะเริ่มเขียนตอนต่อไปอยู่ นิยายเรื่องนี้ก็ใกล้จะจบแล้วนะจ๊ะเร็วไปไหม55555



                                           ดีใจที่คนอ่านติดตามกันอย่างเหนียวแน่น ขอบคุณน้าที่ตามอ่านตามเม้น



                                            ถ้าเขียนได้เร็วพรุ่งนี้จะเอามาลงแน่นอน ถ้าไม่ได้จะขอดองสักสองวันนะจ๊ะ



                                              เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-11-2016 15:21:14
ดีใจที่ไม่ผิดใจกันนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-11-2016 15:34:34
 :-[  ฟินจริงๆ
น้ำตกคงไม่มีใครมาแอบซุ่มนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 25-11-2016 15:51:48
ดีจุงเบย ต่างคนต่างเริ่มเข้าอกเข้าใจกันเนี่ย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-11-2016 19:12:35
ไอแซค ไอ้คนน่ารังเกียจ!!!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 25-11-2016 19:28:46
จะจบแล้วหรอเร็วจัง :mew2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 25-11-2016 20:27:38
เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีกันแล้วสินะ

เย้ๆ

รบกวนเอาไอแซคไปเก็บด้วยค่ะ!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 25-11-2016 21:05:27
ได้ยินว่าใกล้จะจบแล้วนี่สะดุ้งเลย เร็วจัง  :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 25-11-2016 21:08:22
อย่าเพิ่งจบเลย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 25-11-2016 22:16:54
ดีจริงๆที่ไม่เข้าใจผิดกัน
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-11-2016 23:04:45
เรียกกันหวานจริงงงงง คึคึ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่20 หน้า7 25/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-11-2016 02:37:53
 :impress2: :impress2:เป็นนิยายที่เปลกดีนะสนุกแบบเรียบๆไม่กดันอ่านแล้วสบายใจไม่ปวดหัวชอบแบบนี้สู่ๆนะคนเขียนรออ่านคะ่ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 26-11-2016 12:22:07
ตอนที่21

             

สำหรับอเล็กเซียแล้วนี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ทำรักกันนอกสถานที่ เคยคิดว่าคนที่กล้าทำเช่นนี้ได้ต้องเป็นคนที่ไร้ยางอายอย่างที่สุด แต่เมื่อประสบเข้ากับตนเอง เด็กหนุ่มยังแปลกใจที่ตัวเขากลับไม่รังเกียจ

           

   “อเล็กเซียท่านชอบหรือไม่”

         

     “อึก...อื้อ....”



ได้แต่พยักหน้าถี่รัว ไม่สามารถพูดตอบออกไปได้เพราะเสียวกระสันจนต้องร้องครางออกมาไม่หยุด เอเดรียนเฝ้าปรนเปรอตรงเครื่องเพศและยอดอกจนทั้งสมองและร่างกายอ่อนยวบยาบไปหมด

         

      “อ๊ะ...อา....”



หลังจากเอเดรียนเตรียมความพร้อมให้กับช่องทางจนส่วนนั้นสามารถเปิดรับเอาความเป็นชายเข้าไปได้ อเล็กเซียก็ถูกสอดใส่เข้ามาอย่างช้าๆ ในที่สุดภายในก็ถูกอัดแน่นด้วยสิ่งใหญ่โต เด็กหนุ่มรอคอยความสุขสมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน

         

      “ข้าจะขยับละนะอเล็กเซีย”



 พยักหน้าแทนคำตอบอีกครั้ง ถึงตรงนี้ก็อดแอบคิดถึงเรื่องครั้งแรกของตนกับเอเดรียนไม่ได้ ในตอนนั้นแม้เขาจะเป็นฝ่ายยั่วยวนพลีกายด้วยความเต็มใจ แต่ยังคงมีความกระดากอายอยู่มาก ทว่าตอนนี้นอกจากจะกระตือรือร้นที่จะร่วมรักแล้วยังเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เปี่ยมรักจนยากจะอธิบาย

         

      ไม่เข้าใจจริงๆเหตุใดถึงกลายเป็นคนใจง่ายเช่นนี้ไปได้นะ กระนั้นเมื่อสำรวจความต้องการภายในใจของตัวเองดีพอแล้วอเล็กเซียก็ปัดเหตุผลและตรรกะของตัวเองทิ้งไปเสีย

         

     “ท่านคิดอะไรอยู่อเล็กเซีย” มีวี่แววของความไม่พอใจอยู่ในสีหน้าของเอเดรียน อเล็กเซียได้แต่ยิ้มอ่อนใจคงจะโกรธที่เขาเอาแต่คิดถึงเรื่องอื่นในระหว่างที่ร่วมรักกันอย่างเร่าร้อนเช่นนี้

     

          “ท่านช่างใจร้ายนักอเล็กเซีย หมู่นี้ระหว่างทำรักกันท่านเอาแต่ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง”



กล่าวจบเอเดรียนก็ขยับกระแทกกายหนักหน่วงราวกับจะลงโทษ อเล็กเซียไม่สามารถต่อว่าอะไรชายหนุ่มได้ ก็ในเมื่อตนเองเป็นฝ่ายผิดที่ไม่มีสมาธิกับกิจกรรมแห่งรักที่พวกเขาทำอยู่

         

     ขณะที่ร่วมรักกันแต่ภายในใจยังวุ่นวายสับสน เพียงคิดถึงหน้าที่ซึ่งถูกพี่ชายขอร้องมา อเล็กเซียก็เกิดความปวดร้าวในใจ นับจากนี้เขาจะสู้หน้าท่านพี่ได้อย่างไรนะ หากท่านพี่และท่านพ่อรู้ว่าเขามอบใจให้เอเดรียนไปหมดเช่นนี้แล้ว

     

          ในเวลานี้อเล็กเซียไม่ต้องการจะใช้ความรักจอมปลอมล่อหลอกเอเดรียนอีกต่อไป ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจจิตใจตนเองลึกซึ้งดีพอ แต่ไม่อาจปฏิเสธสิ่งที่ออกมาจากส่วนลึกของจิตใจตนเองได้

       

       หลังจากได้ใช้ชีวิตร่วมกันแบบสามีภรรยา เอเดรียนได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความดีที่มีอยู่ ด้วยการมอบความรักความเคารพและเท่าเทียมกันมาให้ ชายหนุ่มไม่เคยแสดงท่าทางกักฬระหยาบช้าทำร้ายจิตใจหรือบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นสามีของเขาช่างผิดกับที่อเล็กเซียเคยจินตนาการไว้ทั้งหมด

         

      หากท่านพี่รู้ว่าเขารักอเล็กเซียเข้าเสียแล้วท่านจะคิดอย่างไรกันนะ

       

       อเล็กเซียอดคิดในทางร้ายไม่ได้ หากถูกหัวเราะเยาะหยันหรือต่อว่าอย่างรุนแรงล่ะ หรือว่าอาจจะถูกบังคับให้เลิกรักเอเดรียนเขาจะทำอย่างไร จะทำตามที่ท่านพี่พูดหรือ

       

       ไม่ เขาไม่อยากทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นในร่างมนุษย์หรือร่างหมาป่าอเล็กเซียรับรู้ดี ตนได้รับความรักจากเอเดรียนมากมายเพียงไหน เพราะว่ารักอีกฝ่ายเข้าแล้วตอนนี้จึงอยากตอบแทนรักด้วยรักที่คู่ควรกัน ตัดสินใจแล้วอนาคตข้างหน้าจะมอบความจริงใจให้กับสามีของตนโดยไม่มีแผนการณ์ลวงล่ออีกต่อไป

       

       “อเล็กเซียท่านโกรธที่ข้ากลายร่างเป็นหมาป่าไปหลอกท่านหรือไม่”



เอเดรียนถามหลังจากผ่านการร่วมรักอันยาวนานไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขาสองคนนอนก่ายกอดกันในสภาพเปลือยเปล่า ถึงแม้จะไม่อยู่ในที่รโหฐานแต่กลับอบอุ่นใจราวกับได้อยู่ในบ้านก็ไม่ปาน

       

       “ไม่โกรธ”

       

       “จริงหรือ” เอเดรียนทำสีหน้าไม่เชื่อ ใบหน้าที่ดูหงอชวนให้นึกรักและสงสารอย่างบอกไม่ถูก

     

         “เอเดรียน ข้าเองก็เจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากเจ้านะ ข้านะนะทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าหมาป่าตัวนั้นน่าจะเป็นเจ้าแต่ก็แสร้งทำเป็นไม่รู้”

         

      “ถ้าอย่างนั้นข้ากับท่านก็ถือว่าเราต่างคนต่างหลอกสิ” เอเดรียนยิ้มกว้าง อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวชายหนุ่ม กระทำเสมือนว่าสามีของเขากลายร่างเป็นหมาป่า

       

        “ท่านรักข้าบ้างหรือไม่อเล็กเซีย”

         

      “เกลียด” ทันที่ที่บอกเช่นนั้นรอยยิ้มก็เลือนหายไปจากใบหน้าของเอเดรียน อเล็กเซียเสนอจุมพิตแผ่วๆไปยังริมฝีปากของชายหนุ่มเป็นการปลอบโยน

         

      “แต่ตอนนี้ข้าไม่เกลียดเจ้าแล้ว”

         

      “จริงหรือ” อเล็กเซียพยักหน้าแผ่วเบา

       

        “อย่างนั้นตอนนี้ท่านรักข้าบ้างไหม” 



ยิ้มอ่อนอกอ่อนใจอีกแล้ว ดูเหมือนแค่การกระทำยังไม่ชัดเจน ไม่สิ พอจะเข้าใจความรู้สึกของเอเดรียนอยู่ ชายหนุ่มคงพอรู้อยู่บ้างว่าตอนไหนที่เขาพยายามเสแสร้งดังนั้นจึงไม่มั่นใจในตัวเขาจนต้องเฝ้าถามคำถามอยู่อย่างนี้

       

        “รัก...แต่ยังไม่มากไปกว่าอาณาจักรและประชาชนของข้า....”



“อเล็กเซีย...ข้าจะทำให้ท่านรักข้ามากกว่าสิ่งใดเอง” 



ทั้งที่บอกไปว่าจะไม่ให้อีกฝ่ายเป็นที่สุดในใจแต่ประโยคคำพูดของเอเดรียนทำให้อเล็กเซียซาบซึ้งใจอย่างที่สุด เขาอยากตอบแทนความรู้สึกของอีกฝ่ายบ้าง อยากให้รู้ว่าตัวเขาเองก็มีความรักให้อยู่ไม่น้อย รักจนทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นเชื่อพระวงศ์ทิ้งแม้กระทั้งความทระนงในความเป็นชายของตัวเอง เช่นนั้นจึงปล่อยให้เอเดรียนเล้าโลมอีกครั้งทั้งที่ยังอ่อนล้าจากการทำรักเมื่อครู่

       

       “อื้อ...อ๊ะ...”



ถูกจูบไปตามเนื้อตัวทั้งยังขบกัด อเล็กเซียถูกปรนเปรอเช่นนี้จนเคยชิน เวลานี้นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเองก็อยากจะทำให้เอเดรียนมีความสุขบางดังนั้นจึง…

         

     “เอเดรียนให้ข้าทำให้เจ้าบ้างดีไหม” เอเดรียนหยุดการกระทำ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมีแววของความสงสัยอยู่ในนั้น

           

    “เจ้าอยากให้ข้าใช้ปากกับความเป็นชายของเจ้าหรือไม่”

       

       “จะดีหรืออเล็กเซีย...ท่านทำได้หรือ....”

       

       “เจ้าทำให้ข้าหลายครั้งแล้วก็ต้องทำได้สิ” อเล็กเซียผลักให้เอเดรียนถอยห่างเบาๆแล้วขยับลุกขึ้นนั่ง

     

         “อเล็กเซียข้าว่าท่านไม่ต้องทำเพื่อข้าขนาดนั้นก็ได้นะ”

       

       ไม่ยอมเสียเวลาโต้เถียงกับเอเดรียน อเล็กเซียใช้ปากครอบครองส่วนใหญ่โต เด็กหนุ่มตั้งอกตั้งใจเลียนแบบชายหนุ่มทั้งขยับขึ้นลงทั้งไล่เลียไปตามส่วนกลมและยาว

     

         “อา....อเล็ก...เซีย.....อื้อ.....”



 เสียงครางแหบพร่าของเอเดรียนปลุกเร้าอารมณ์ของอเล็กเซียได้อย่างชะงัด เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองดูว่าสีหน้าของชายหนุ่มเป็นเช่นไรในขณะที่ปากเล็กๆก็ยังไม่หยุดปรนเปรอให้

         

      “อเล็กท่าน....อา....ช่างร้ายกาจ....”

           

    ไม่รู้ว่าเป็นคำชมหรือเปล่า แต่อเล็กเซียจะถือว่านั่นเป็นคำชม เนื่องด้วยอยากให้เอเดรียนมีความสุขให้มากๆ จึงตั้งอกตั้งใจใช้ปากให้นานที่สุด รสชาติขมๆจากการกลืนกินความเป็นชายของสามีในตอนแรกตอนนี้กลับไม่รู้สึกว่ามันขมอีกต่อไป

           

   “อเล็กเซีย....อึก....” ในที่สุดเอเดรียนก็ปลดปล่อยออกมาจนได้ น้ำรักขุ่นขาวอเล็กเซียดื่มกินมันไปจนหมด

         

      “ท่านดื่มของของข้าเข้าไปหรืออเล็กเซีย”



เอเดรียนทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ ทำหน้าตกใจอย่างนี้มันชวนให้รู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก คงจะคิดสินะว่าเขาไม่ได้รักตอบถึงกลับกล้าที่จะทำเรื่องเช่นนี้ให้

         

     “แปลกตรงไหน” อเล็กเซียถามด้วยเสียงที่อ่อนโยนก่อนจะขยับโน้มกายเข้าไปประทับจูบเอเดรียนอีกครั้ง

         

     “คนรักกันเขาไม่รังเกียจกับเรื่องเพียงเท่านี้หรอกนะ” อเล็กเซียเอ่ยสั่งสอน หลังจากถอนจูบเอเดรียนยังคงทำสีหน้าทั้งลังเลและเจ็บปวด

           

   “อเล็กเซียท่านคงไม่ได้วางแผนสิ่งใดใช่หรือไม่” แทนคำตอบอเล็กเซียมอบจูบให้เอเดรียนอีกครั้งคราวนี้ยาวนานและรุกเร้ากว่าเก่า เอเดรียนถึงแม้จะมีแต่ความสงสัยแต่ก็ยังสนองตอบอย่างเต็มที่

         

     “จะทำอย่างไรเจ้าถึงจะเชื่อกันหืม...ข้าดูเป็นคนเลวร้ายในสายตาเจ้าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”



หลังจากเอ่ยถามก็ระดมจูบไปตามส่วนต่างๆของใบหน้าเอเดรียน อเล็กเซียตั้งอกตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อให้รู้ว่าตนเองจริงใจแค่ไหน

           

    “ถึงตอนนี้ท่านจะหลอกลวงข้า แต่ข้าก็มีความสุขเหลือเกินอเล็กเซีย” ถูกกอดรัดแนบแน่นจนแทบหายใจไม่ออก อเล็กเซียยิ้มอ่อนใจในความดื้อดึงของสามี



เอเดรียนจากนี้ไปข้าจะใช้เวลาพิสูจน์นะจนกว่าเจ้าจะเลิกสงสัยในตัวข้า



ไม่ได้พูดคำคำนี้ออกไป เพราะหากพูดไปอาจเข้าใจผิดคิดว่าเขาวางแผนอะไรบางอย่างอีก ดังนั้นจะใช้การกระทำของตนเป็นการพิสูจน์ความจริงใจ อเล็กเซียหวังว่าซักวันหนึ่งเอเดรียนจะเลิกระแวง



“อเล็กเซียข้ารักท่านเหลือเกิน”



ในตอนที่จะจูบกันอีกครั้งก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้แห้งหักแดงกร๊อบ เอเดรียนและอเล็กเซียต่างพากันตื่นตัวและมองดูไปรอบๆ ไม่พบผู้ใด แต่จากสีหน้าของเอเดรียนคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่าง



“เกิดอะไรขึ้นหรือเอเดรียน”



“มีอานะสิ”



“อ้อ”



อเล็กเซียอารมณ์ดีจนเกือบจะกลายเป็นหัวเราะ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นคนใจร้ายถึงเพียงนี้ แต่ส่วนลึกภายในใจกลับยินดีที่มีอาได้มาเห็นภาพบาดตาซึ่งแสดงให้เห็นชัดว่าเขากับเอเดรียนรักกันมากแค่ไหน ไม่รู้ว่ามาแอบดูตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มีอาคงจะรับรู้และเข็ดไปอีกนาน



ได้เห็นภาพเขากับเอเดรียนรักใคร่แน่นแฟ้นกันเช่นนี้มีอาจะยอมตัดใจหรือไม่นะ ถึงหญิงสาวจะไม่ยอมเลิกรา

อเล็กเซียก็พร้อมแล้วที่จะรับมือ เด็กหนุ่มจะไม่ยอมปล่อยสมบัติอันล้ำค่าอย่างเช่นเอเดรียนให้กับมีอาอย่างเด็ดขาด



“อเล็กเซียข้าว่าเรากลับกันเถอะ”



“อื้อ”

 อเล็กเซียเริ่มแต่งตัวให้เรียบร้อย เมื่อแต่งตัวเสร็จเอเดรียนก็กลายร่างเป็นหมาป่าก่อนที่พวกเขาจะพากันกลับหมู่บ้านในเวลาต่อมา



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:




                         อเล็กเซียนี่นับวันยิ่งร้ายขึ้นไปทุกทีแล้วเนอะ คิดอยู่ว่านางมีมาดราชินีเหมือนกันแฮะ



                        หลังจากนี้จะขอลาพักสักสามวัน เจอกันอีกทีวันที่23นะจ๊ะ



                        ข้าใช้วันหยุดยาวซักกะน้อย แต่จะเขียนต่อในช่วงวันหยุดนี่และ



                         เพื่อตันขึ้นมาจะได้มีลงต่อเนื่องนะจ๊ะๆ



                         รักคนอ่านเม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-11-2016 13:27:45
เอมอิ่มปริ่มเปรมสุดๆ ช่วงฮันนีมูลนอกสถานที่เนี่ยสุดยอดอะ    :mew1:   :oo1:   :haun4: 

ไงจ๊ะ มีอา หนังสดบันเทิงไหมล่ะ หึหึ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-11-2016 13:49:04
มีอากะไอแซคนี่ พอกันเลยแฮะ คนร้ายกาจ 555
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-11-2016 17:06:34
 :z1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-11-2016 22:12:12
เป็นncที่ไม่น่าเกรียจแต่น่ารักมากคุณคนแต่งแต่งออกมาได้ดีมากชอบบบบเป็นกำลังใจให้ในการเขียนตอนต่อๆไปนะคราฟฟฟ :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 26-11-2016 22:59:38
ก็ดีนะ หลังจากนี้ก็ควรจัดการไอแซคแล้วก็มีอาให้ชัดเจน ชีวิตจะได้มีความสงบเนอะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 26-11-2016 23:23:57
 :hao6: มีอาจ๊ะ แอบมีน้ำลายหรือเลือดกำเดาหยดมาบ้างไหมจ๊ะตัวเอ๊ง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 26-11-2016 23:28:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 27-11-2016 04:31:38
ผันตัวจากนางร้าย มาเป็นสาววายน่าจะรุ่งกว่านะมีอา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่21 หน้า7 26/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-11-2016 12:12:44
มีอาช๊อคไปแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 29-11-2016 12:04:16
ตอนที่22



หมู่นี้อเล็กเซียกับเอเดรียนมักจะอยู่ติดกันไปทุกที่ราวกับเป็นเงาของกันและกัน วันนี้ก็เป็นเช่นนั้นหลังจากชายหนุ่มจัดการธุระเกี่ยวกับหมู่บ้านก็พาเจ้าสาวมาปิคนิกตรงทุ่งดอกไม้ที่อยู่นอกป่าดำตามที่ได้คุยกันไว้



เอเดรียนมีความสุขเหลือเกิน หลังจากที่อเล็กเซียกล่าวคำรักต่อเขาถึงแม้เด็กหนุ่มจะไม่สามารถรักเขาได้มากกว่าอาณาจักรและประชาชนของอเล็กซานเดรียเขาก็ไม่น้อยใจแต่อย่างใด แถมเพราะคำพูดของเจ้าสาวเขาจึงได้มีแรงใจที่จะพยายามต่อไปโดยหวังว่าซักวันคู่ฟ้าลิขิตจะรักเขามากกว่าสิ่งอื่นใด



ไม่สิถึงแม้ว่าจะไม่เป็นที่หนึ่งเขาก็หาได้เสียใจไม่ ถึงไม่ได้เป็นดั่งที่คาดหวังไว้ แต่ทราบดีว่าตัวเขาเป็นคนเพียงผู้เดียวที่อเล็กเซียมอบความรักให้ในแบบคู่รักอย่างแน่นอน



หลายวันมานี้เอเดรียนกับอเล็กเซียจมอยู่ในห้วงรักและปรารถณาความสัมพันธ์ของพวกเขายิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆจนเขาแทบหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติ



ทุกวันนี้เวลาที่เอเดรียนกับอเล็กเซียอยู่ด้วยกัน เขากับเด็กหนุ่มจะผลัดกันเล่าเรื่องส่วนตัวในอดีต พากันจมดิ่งสู่ความทรงจำเก่าแก่ไม่ต่างกับคู่สามีภรรยาเฒ่าที่ช่วยกันลำลึกถึงอดีตอันสวยงาม



เอเดรียนอยากให้ช่วงเวลานี้คงอยู่และยาวนานไปเรื่อยๆ ชายหนุ่มเกิดความหวงแหนและต้องการที่จะสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้ไปนานๆราวกับคนที่ไม่อาจขาดสารเสพติด หากว่าอเล็กเซียเป็นพิษร้ายเขาก็พร้อมที่จะยอมพลีกายให้



“อเล็กเซียข้ามีเรื่องจะสารภาพให้ท่านฟัง”



“อะไรหรือ” อเล็กเซียส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ รอยยิ้มนั้นทำให้เอเดรียนตัดสินใจพูดในสิ่งที่ยังลังเลอยู่บ้างออกมาโดยง่าย



“ถ้าข้าพูดไปท่านอาจจะโกรธ จริงๆข้ารู้อยู่แล้วเรื่องที่ท่านได้ยาพิษร้ายมาจากเพื่อนของท่านถึงสองครั้ง”

ทันทีที่กล่าวจบอเล็กเซียมีสีหน้าสับสนก่อนที่ทำหน้าเศร้าๆคล้ายกับจะเสียใจ



“ข้าพบยาตัวแรกในกระเป๋าเสื้อของท่าน และที่ตามท่านไปพบเพื่อนในร่างสุนัขได้เพราะข้าแอบดักจับพิราบสื่อสารของท่าน”



“เจ้าคงเกลียดข้ามากสินะตอนที่รู้ว่าความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้”



“เหตุใดท่านถึงคิดเช่นนั้นอเล็กเซีย”



“ก็ข้าทำแบบนี้มันเหมือนกับสมรู้ร่วมคิดไม่ใช่หรือ” อเล็กเซียใช้แววตาที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิดมองมา

เอเดรียนรู้สึกว่าเด็กหนุ่มกำลังมองหาความโกรธเกลียดบนใบหน้าของเขา

           

    “ท่านอย่าได้คิดมากอเล็กเซีย ข้าได้รู้ความเป็นจริงด้วยหูและตาของข้า ประสาทสัมผัสต่างๆของวูฟดีกว่าพวกสัตว์หลายเท่า ดังนั้นถึงแม้จะอยู่ไกลแต่คำพูดและสีหน้าในตอนนั้นของท่านประทับอยู่ในใจข้าไม่มีทางลืมเลือน”

         

      “เอเดรียนเจ้าไม่คิดว่าข้าจะแสร้งทำเพราะเป็นแผนการอย่างหนึ่งหรอกหรือ”

         

      “ช่างมันปะไร ข้ายอมโง่ขอเพียงได้อยู่กับท่านก็เพียงพอแล้ว”

         

     “คนโง่เง่า”



รอยยิ้มที่ทั้งเหงาและเศร้าผุดบนใบหน้าของอเล็กเซีย เด็กหนุ่มใช้มือเรียวงามลูบลงมาบนศีรษะของเขา เอเดรียนรู้สึกดีจึงลดตัวลงนอนหนุนตักแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายลูบปลอบโยนเขาต่อไป

       

        “ท่านสัญญาได้ไหมอเล็กเซียว่าจะอยู่เคียงข้างข้าตลอดไป” เอเดรียนหลับตาพริ้มดื่มด่ำไปกับสัมผัสมือที่แสนอ่อนโยน อเล็กเซียไม่ได้ตอบคำถามของเขา ทว่าเด็กหนุ่มกับจุมพิตลงมาบนริมฝีปากแผ่วเบา

           

    หลังจากถอนจูบอเล็กเซียส่งยิ้มมาให้ เป็นรอยยิ้มที่งดงามจนเอเดรียนต้องใจเต้น หมู่นี้ชายหนุ่มมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็กหนุ่ม ระยะนี้เจ้าสาวยิ้มบ่อยมากขึ้นไปทุกที นี่หมายความว่าอีกฝ่ายมีความสุขที่ได้อยู่กับเขาใช่หรือเปล่านะ

         

      ท่านเองก็ทำให้ข้ามีความสุขมากนะอเล็กเซีย เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ ไม่มีวันไหนเลยที่เขาจะไม่มีความสุข

เอเดรียนอยากให้ช่วงเวลาแสนหวานนี้คงอยู่ไปชั่วนิจนิรันด์

           

    “กลับกันได้เสียทีมั้งเอเดรียน เดี๋ยวจะมืดค่ำไปเสียก่อน” ถูกเตือนให้คิดถึงเวลาอันน้อยนิด ดังนั้นจึงต้องพา

อเล็กเซียกลับหมู่บ้านอย่างเสียไม่ได้

         

     “เอเดรียน” ระหว่างทางกลับบ้านไนเจลตะโกนเรียกทั้งโบกมือไปมา เพื่อนสนิทเดินตรงมาหาเขากับอเล็กเซีย

           

  “นี่ไปไหนกันมาหรือ” ไนเจลถาม

           

   “ไปปิคนิกกันที่ทุ่งดอกไม้นอกหมู่บ้านนะสิ ทำไมอยากไปด้วยหรือ” เอเดรียนอดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่ไนเจล ทว่าสีหน้าของเพื่อนดูไม่ดีนักดังนั้นจึงต้องปั้นสีหน้าให้จริงจังมากขึ้น

         

      “มีอะไรหรือเปล่าไนเจล เจ้าทำหน้าเหมือนไม่สบายใจ” ไนเจลถอนหายใจแทนคำตอบ เพื่อนสนิทนิ่งเงียบชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยปากพูด

       

       “เจ้าพอจะมีเวลาว่างให้ข้าปรึกษาหน่อยไหมล่ะ”

       

        “ถ้าอย่างนั้นข้ากลับไปรอที่บ้านนะเอเดรียน”

       

       “ท่านจะกลับแล้วหรือ” เอเดรียนแทบไม่อยากจะอยู่ห่างจากอเล็กเซียแม้แต่วินาทีเดียว ในตอนนั้นอเล็กเซียก็โน้มคอเขาลงไปหาแล้วประทับจูบต่อหน้าไนเจล

         

      “ข้าจะรอเจ้าอยู่บนเตียงที่บ้านนะ”



 เอเดรียนมองไล่หลังอเล็กเซียที่เดินกลับไปเพียงลำพัง เขากำลังยิ้มเพราะมีความสุข พอหันกลับไปมองดูไนเจล เพื่อนสนิทของเขาหน้าแดงก่ำท่าทางเขินอายของผู้ชายตัวโตๆดูแล้วทั้งน่าขำและน่าเอ็นดู

         

      “ข้าก็ดีใจนะที่พวกเจ้าสนิทสนมรักใคร่แน่นแฟ้นกันดี” ในที่สุดไนเจลก็ปรับสีหน้าเป็นปกติได้เสียที

       

       “เจ้ามีเรื่องจะปรึกษาข้าไม่ใช่หรือ เราไปที่บ้านของเจ้าดีหรือไม่”

       

       “อ้อ...จริงสิข้าเกือบลืมไปเลยนะนี่” ไนเจลเกาหัวแกรกๆ

         

     “เพราะคำพูดร้อนแรงของอเล็กเซียแท้ๆทำเอาข้าเกือบลืมไปเสียสนิท” เอเดรียนยิ้มนิดๆ ให้ตายสิเพื่อนสนิทของเขาไม่คิดว่าจะเป็นหนุ่มที่แสนไร้เดียงสาถึงเพียงนี้ ทั้งๆที่ใช่ว่าจะไม่เคยผ่านผู้หญิงมาก่อนแท้ๆ

         

      “บ๊ะ แต่พวกเจ้าเป็นคู่รักที่เพิ่งแต่งงานนี่นะ จะร้อนแรงเช่นนี้ก็ไม่แปลก”



ไนเจลพึมพำก่อนที่จะเดินนำหน้าเอเดรียนไปยังบ้านของตนเอง เมื่อไปถึงบ้านเอเดรียนนั่งลงบนเก้าอี้รอให้เพื่อนของเขานำเหล้ามายื่นให้ หลายวันแล้วที่เขาไม่ได้สังสรรค์กับเพื่อนคนนี้เป็นจริงเป็นจัง รู้สึกผิดเล็กน้อยที่เอาแต่หมกมุ่นอยู่กับอเล็กเซียจนลืมอีกฝ่ายไปเสียสนิท



“ว่าไงมีอะไรก็พูดมาสิ”

หลังจากนั่งลงแล้วไนเจลก็เอาแต่ดื่มเหล้าด้วยสีหน้าเป็นกังวล ดูแล้วคงมีเรื่องไม่สบายใจมากแน่ๆ แต่เอเดรียนยังเดาไม่ออกว่าคือเรื่องอะไร



“.......”

 เอเดรียนนิ่งเงียบรอให้ไนเจลพร้อมพูด ในตอนนั้นเองเพื่อนสนิทของเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง



“มันเรื่องอะไรกันแน่ไนเจล” ไนเจลเกาหัวแกรกๆก่อนจะพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ



“เอเดรียนข้าขอโทษนะที่บ้างครั้งก็แอบคิดหวังให้ความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาของพวกเจ้าไปกันไม่ด้วยดี”

ไนเจลตอนนี้ทำสีหน้าเหมือนลังเลว่าควรจะพูดดีหรือไม่



“ข้ารอฟังสิ่งที่เจ้าจะพูดอยู่ระบายมาเถอะ” ต้องให้เอเดรียนบอกไนเจลถึงจะรวบรวมความกล้าพูดออกมาจนได้



“เจ้าก็รู้ใช่ไหมว่ามีอาเขารักเจ้า”



ถึงตรงนี้เอเดรียนก็ระบายลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย ที่แท้แล้วก็เรื่องของมีอา ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะว่าหญิงสาวคิดกับเขาอย่างไร ทว่าเป็นเขาเองที่ตั้งใจจะทำเป็นไม่เข้าใจ



“เจ้าคิดว่าข้าควรจะทำอย่างไรล่ะไนเจล”



“เปล่าๆแค่หมู่นี้มีอาดูเศร้าๆ บางทีนางแอบร้องไห้เพียงลำพังในห้อง ข้าเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับนางดี”



เอเดรียนใช้มือลูบไล้ปลายคางไปมาระหว่างครุ่นคิดและฟัง การที่มีอามีท่าทางแปลกๆไปอาจเป็นเพราะว่าได้มาเห็นภาพบาดตาบาดใจของเขากับอเล็กเซียไม่ผิดแน่ สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ บางทีที่มีอาเศร้าถึงเพียงนี้อาจจะพยายามตัดใจจากเขาก็เป็นได้



“เอเดรียนเจ้าไม่คิดอยากจะมีบุตรชายบุตรสาวตัวเล็กๆไว้วิ่งเล่นในบ้านบ้างหรือ”



“เจ้าอยากจะพูดอะไรกันแน่”



“ข้าแค่คิดว่า ถ้าเจ้าไม่รังเกียจจะช่วยรับมีอาไว้เป็นเมียรองของเจ้าอีกคนเจ้าจะคิดเห็นเป็นเช่นไร”

ตกใจกับความคิดของไนเจล ไม่เข้าใจจริงๆคนที่รักน้องสาวยิ่งชีพทำไมมีความคิดนี้ขึ้นมาในสมอง



“เจ้าพูดเหมือนเจ้าไม่รักน้องสาวของเจ้าอย่างนั้นล่ะ เจ้ายอมให้น้องสาวเจ้าเป็นเมียรองของผู้อื่นได้หรือ”



“ก็ยังดีกว่าปล่อยให้นางจมอยู่กับความเศร้า”

ไนเจลเกาหัวแกรกๆจนหัวยุ่งไปหมด เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะที่เพื่อนคนนี้แสดงกริยาเช่นนี้ เอเดรียนรู้ว่าอีกฝ่ายคงจะลำบากใจมากที่เสนอความคิดนี้ขึ้นมา



“นะเอเดรียน ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็ไม่ได้รังเกียจมีอา เรื่องรับมีอาเป็นเมียรองข้าจะเป็นคนเกลี่ยกล่อมอเล็กเซียเอง”

เอเดรียนรู้สึกเหนื่อยใจเสียเหลือเกิน ขณะที่จะเอ่ยปากปฏิเสธ เสียงเปิดประตูดังโครมทำให้เขาและไนเจลจำต้องหันไปมองบริเวณนั้น



“ท่านพี่เลิกพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เถอะ เอเดรียนเขาไม่สนใจใครนอกจากคู่ฟ้าลิขิตของเขาหรอก”

มีอาเดินตึงตังเข้ามาในบ้าน ตอนนี้หญิงสาวส่งสายตาท้าทายมาให้เอเดรียน



“หากข้าต้องแต่งงานกับเอเดรียน ข้าจะต้องเป็นเมียเพียงคนเดียวของเขาไม่ใช่เมียรอง ท่านพี่เข้าใจหรือไม่”

กล่าวจบมีอาก็เดินปึงปังไปยังห้องส่วนตัวของเธอ เอเดรียนได้แต่ส่งยิ้มหยันให้กับไนเจลที่เสมือนคนน้ำท่วมปาก



“เจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่ไนเจล มีอาเองก็ไม่อยากเป็นเมียรองของข้า”



“ใจเย็นก่อนน่านางอาจจะพูดไม่ตรงกับใจก็ได้ ข้ารู้นิสัยนางดี”

ไนเจลทำท่าจะลุกขึ้นตามไปพูดกับมีอาให้รู้เรื่อง แต่เอเดรียนใช้มือฉุดข้อมือเพื่อนเอาไว้เสียก่อน



“ฟังนะไนเจล นอกจากข้าจะไม่รับเมียรองแล้ว ข้าจะไม่เลิกรักอเล็กเซียด้วย”



“แต่เรื่องทายาทล่ะ” ไนเจลทำสีหน้าเจ็บปวด ท่าทางสับสนของเพื่อนคนนี้ดูแล้วช่างน่าสงสาร นี่คงจะเอาแต่คิดถึงความรู้สึกของน้องสาวจนลืมความเป็นจริงและลืมในสิ่งที่เคยยึดมั่นไป



“ไนเจลฟังนะถึงข้าจะไม่มีทายาทตัวน้อยๆ ข้าก็มีความสุขมากพอแล้วเมื่อได้อยู่กับอเล็กเซีย นอกจากนั้นเจ้าก็รู้ดีนี่ต่อให้ข้าไม่มีทายาทก็ไม่ส่งผลอะไรต่อหมู่บ้านซักนิด”



“เรื่องนั้นมันก็จริง....แต่ว่า”

ไนเจลยังมีที่ท่าไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เอเดรียนไม่ปล่อยโอกาสให้เพื่อนของเขาได้ตั้งตัว



“ฟังที่ข้าจะพูดหน่อยเถอะไนเจล เจ้าเอาแต่คิดถึงน้องสาวของเจ้า แล้วได้คิดถึงอเล็กเซียด้วยไหม มันเป็นความผิดของอเล็กเซียหรือที่ให้กำเนิดทายาทแก่ข้าไม่ได้ กลับกันนะข้าต่างหากที่ทำร้ายอเล็กเซีย หากข้าไม่ดึงดันให้เขามาแต่งงานกับข้า อเล็กเซียควรได้มีลูกหลานและภรรยาอยู่เคียงข้าง สิ่งที่เจ้าต้องการจะให้ข้าทำนอกจากจะทำให้ข้าต้องทรมานใจต่อความรู้สึกผิด ยังเป็นการทำร้ายอเล็กเซียที่ยอมเสียสละตัวเองเพื่อมาแต่งงานกับข้าอีกด้วย”



ไนเจลถึงกับนิ่งงันไปทันทีเมื่อเอเดรียนกล่าวจบ เมื่อเพื่อนของเขาไม่มีอะไรจะพูดอีกชายหนุ่มจึงลุกจากเก้าอี้แล้วกลับบ้านโดยไม่ได้กล่าวลาแม้ซักคำ



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                   หลังจากนี้อาจจะลงนิยายจากวันละตอนเป็นสองวันต่อตอนนะจ๊ะ



                    ใกล้ถึงฉากที่เขียนยากมากๆแล้ว



                    อยากจะใช้เวลาคิดมากๆหน่อยก่อนที่จะเอามาลง



                   รู้สึกว่ายิ่งเขียนยิ่งยากจริงๆนะหมู่นี้



                   เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า รักคนอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-11-2016 13:44:00
รอตอนต่อไปค่ะ ให้กำลังใจคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-11-2016 14:45:56
เอเดรียนดีงามจริงๆนะ ทั้งความรักความซื่อสัตย์และความเป็นผู้นำ
นี่สิคนที่คู่ควรจริงๆกับความรักของอเล็กเซีย
รีบกลับๆ เมียรออยู่บนเตียง คิคิ

 :L2:   :pig4: 
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 29-11-2016 15:26:43
เฮ้อออออ ก็เข้าใจว่ารักน้องนะไนเจล แต่ก็ต้องรักให้ถูกทางด้วยหรือเปล่า?

เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-11-2016 16:04:42
ไนเจลตอนแรกเหมือนจะเข้าใจอะไรง่ายๆ แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ เหมือนำม่รู้จักเอเดรียนเลย ไนเจลเอ้ยยยยย มีอาน่ะ ปล่อยไปเถอะ นางต้องเจอคู่ของตัวเองสิ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-11-2016 17:36:21
กลัวดราม่าอ่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 29-11-2016 17:59:42
 เห้อ เอเดรียน นี่เป็นหัวหน้าเผ่าจริงเปล่าอะ สงสาร เขาไม่เด็ดขาด หรือเกรงใจเพื่อน นี่กะว่าถ้าไม่ปฏิเสธไนเจล แวมีท่าทีลังเล เชียร์ให้อเล็กกลับบ้าน ไม่น่ารักเลยไนเจล เห็นแก่ตัว มีอาแมนกว่าซะอีก รอบนี้ ขอให้นางเจอคุ่ลิขิตไว ๆ นะมีอา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 29-11-2016 20:54:10
ไนเจลน่ารังเกียจมาก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 29-11-2016 21:39:25
เป็นการรักน้องแบบผิดๆ ดีที่ว่ามีอามีจิตสำนึกอยู่บ้างหรือไม่ก็อยากเป็นเมียหลวงไม่งั้นเรื่องราวคงไปกันใหญ่  :katai1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 29-11-2016 21:56:50
ดีมาก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 30-11-2016 02:34:57
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-12-2016 00:17:31
เพิ่งตามมาอ่านจ้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่22 หน้า7 29/11/59
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 01-12-2016 13:37:23
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 01-12-2016 14:15:20
ตอนที่23



อเล็กเซียรู้สึกได้ตั้งแต่เมื่อค่ำคืนวานถึงความไม่สบายใจของเอเดรียน เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่ต้องการจะเอื่อนเอ่ยถามเพราะไม่อยากบังคับให้ชายหนุ่มพูดในสิ่งที่ไม่ต้องการพูด



เอเดรียนดูแปลกไปนิดหน่อยหลังจากที่กลับมาจากการพูดคุยกับไนเจล อเล็กเซียพยายามคาดเดาแต่ก็นึกได้ว่าแทนที่จะคิดเอาเองไม่สู้ถามออกไปเลยเสียจะดีกว่า



“เอเดรียนเกิดอะไรขึ้นหรือ เจ้าดูไม่สบายใจมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ” เอเดรียนมีสีหน้าลำบากใจยามที่ถูกเขาถาม อเล็กเซียปั้นหน้ายิ้มให้ดูเป็นมิตรที่สุดเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มเกิดความตึงเครียดมากกว่าเก่า



“อเล็กเซียข้า....” เอเดรียนมีท่าทางลังเลที่จะกล่าว



“หากเจ้าไม่อยากพูดตอนนี้ก็ช่างเถอะ ข้าจะไม่บังคับ” อเล็กเซียยิ้มหวาน จังหวะที่หันหลังกลับเตรียมจะเก็บจานชามที่เพิ่งทานไปล้าง เอเดรียนก็คว้าตัวเขาบังคับจับหมุนร่างให้กลับไปเผชิญหน้า



“อเล็กเซียท่านอยากมีทายาทหรือไม่” สีหน้าของเอเดรียนดูตึงเครียดนักยามที่เอ่ยถาม



“อยากสิ”



พอตอบออกไปเอเดรียนก็ปล่อยมือจากแขนของเขา เอเดรียนลดกายนั่งลงบนเก้าอี้โดยใช้มือทั้งสองข้างปิดบังใบหน้าของตน อเล็กเซียคาดเดาไม่ออกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น



“เอเดรียน....” ขานเรียกนามของอีกฝ่าย ทว่าเอเดรียนกับนั่งซบมือซ่อนใบหน้าจากผู้คนอยู่เช่นเดิม



“เกิดอะไรขึ้น...เอเดรียน” อเล็กเซียเดินเข้าไปหาชายหนุ่มก่อนจะใช้จะมือลูบไล้ไปบนแผ่นหลังปลอบโยนคนที่เอาแต่ซ่อนใบหน้า



“อเล็กเซียข้าขอโทษนะที่ทำให้ท่านไม่อาจมีทายาทได้” กล่าวขอโทษโดยไม่ยอมเผยใบหน้าออกมาให้เห็น



ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เองที่กังวล สำหรับอเล็กเซียที่ตัดใจเรื่องนี้ไปนานแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์เลยสักนิดหากจะพูดถึงมัน ทว่าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเอเดรียนจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้



ทั้งน่ารักและน่าสงสาร การที่ชายหนุ่มคิดถึงความรู้สึกของเขามันทำให้อเล็กเซียเอ็นดูและนึกรักเอเดรียนเพิ่มมากขึ้น ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ฝ่ามือนั้นคาดเดาเอาว่าอาจจะเต็มไปด้วยความเสียใจกับกังวลก็เป็นได้



“นั่นสินะ จริงๆแล้วข้ามีความฝันที่จะมีบุตรชายและบุตรสาวอย่างละคนแท้ๆเชียว”



 แค่นิดเดียวเท่านั้นท่าทางที่น่าสงสารของเอเดรียนชวนให้อยากกลั่นแกล้งจนร้องไห้ อเล็กเซียไม่คิดมาก่อนเลยว่าตนเองจะมีนิสัยร้ายกาจเช่นนี้ซ่อนอยู่ ในตอนนั้นร่างกำยำก็สั่นระริกชายหนุ่มถอนหายใจก่อนค่อยๆลดมือเผยให้เห็นใบหน้าอันแสนหดหู่จนได้



“อเล็กเซียที่รักข้าขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าทำต่อท่าน”



เอเดรียนยังคงก้มหน้าลงต่ำ อเล็กเซียได้แต่ยิ้มพร้อมทั้งส่ายหน้าไปมา ทั้งน่ารักและน่าสงสารเสียเหลือเกิน ชายผู้นี้ช่างเป็นคนละเอียดอ่อนทั้งยังอ่อนหวาน นี่เจ้าต้องการทำให้ข้าหลงใหลในตัวตนของเจ้าเพิ่มมากขึ้นสินะ เจ้าหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์



“เอเดรียน....” อเล็กเซียใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าของเอเดรียนให้เงยหน้าขึ้น



“ข้านะนะตั้งแต่ตัดสินใจจะมาเป็นภรรยาของเจ้าข้าก็ทำใจเอาไว้แล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลแทนข้าหรอกนะ”



“แต่ว่า....ท่านจะไม่เสียใจภายหลังหรือ....” ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเอเดรียนไหวระริก อเล็กเซียดูก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรเพราะว่าดวงตาคู่สวยนั้นมีแต่ความหวาดกลัว



“เอาไว้หากเราอยากมีทายาทด้วยกันเมื่อไหร่ เราไปขอเด็กกำพร้ามาเลี้ยงก็ยังได้ แต่ว่านะข้ายังไม่อยากมีทายาทให้มากวนใจพวกเราตอนนี้ หรือว่าเจ้าไม่อยากจะอยู่ตามลำพังกับข้าอีกแล้ว....เจ้าเบื่อข้าแล้วหรือเอเดรียน”



เอียงคอถามด้วยท่าทางที่ตั้งใจทำให้ดูน่ารักที่สุด อเล็กเซียตั้งใจว่าจะอ้อนออดปรนเปรอจนกว่าเอเดรียนจะคลายความกังวลไปเสีย ดังนั้นจึงลดตัวลงนั่งบนตักของชายหนุ่มทั้งยังใช้มือทั้งสองคล้องลงไปบนคอ



“ฟังนะเอเดรียน เรื่องที่เราไม่อาจมีทายาทกันไม่อาจทำให้ข้าลดความรักที่มีต่อเจ้าไปหรอก เลิกกังวลนะ”

อเล็กเซียระดมจูบลงไปตามส่วนต่างๆบนใบหน้าของเอเดรียน หลังจากใช้เวลาเอาอกเอาใจอยู่พักใหญ่ในที่สุดผู้เป็นสามีก็ยิ้มออกมาจนได้



“แล้วนอกจากเรื่องนี้ยังมีสิ่งใดที่เจ้าไม่สบายใจอีกหรือเปล่า” เอเดรียนมีท่าทีลังเลที่จะกล่าวอีกหน คราวนี้

อเล็กเซียไม่ยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ



“พูดออกมาเสียไม่อย่างนั้นข้าจะโกรธเจ้านะ” เอเดรียนยังคงอ้ำอึ้งอยู่เล็กน้อย แต่ไม่นานนักชายหนุ่มก็ตัดสินใจพูดออกมาก



“ท่านฟังแล้วต้องไม่โกรธนะอเล็กเซีย”

           

    เอเดรียนทำหน้าหงอยๆ หากว่ามีหูและหางคงจะลู่ตกลงให้เห็นอย่างแน่นอน ท่าทางเช่นนี้ทำให้อเล็กเซียเอ็นดูชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก ผู้ชายบ้าทำไมถึงได้ทำตัวน่ารักยิ่งขึ้นเรื่อยๆนะ

           

   “ข้าจะพยายามไม่โกรธเจ้าพูดมาเถอะ”

         

      “ไนเจลมาขอร้องให้ข้ารับมีอาเป็นภรรยารอง”

           

   อเล็กเซียคิ้วกระตุกทันที ภายในใจนึกโกรธไนเจลอยู่มาก ไม่คิดเลยว่าคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่และสุขุมอย่างคนคนนั้นจะทำในสิ่งที่ทำร้ายจิตใจผู้อื่นเช่นนี้ ถึงแม้ว่าการมีหลายภรรยาจะเป็นเรื่องปกติทั่วไปของชายหนุ่มทั่วแผ่นดิน แต่เมื่อคิดถึงยามที่ต้องให้มีอามาอยู่ร่วมบ้านรวมถึงแบ่งปันเอเดรียนให้อีกด้วย ในอกของเด็กหนุ่มก็ระอุด้วยเปลวเพลิงจนยากที่จะดับ

              “เหตุใดไนเจลถึงมาขอร้องเช่นนี้ล่ะ”

           

    “เป็นเพราะมีอาเอาแต่ร้องไห้เพียงลำพัง ไนเจลเดาว่าเพราะนางรักข้าและเจ็บปวดที่ข้าต้องแต่งงานกับเจ้า”

         

     “แน่ใจหรือว่าแค่นั้น” พอคาดคั้นมากๆเข้าเอเดรียนก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า

         

     “ท่านจำวันที่เราร่วมรักกันตรงน้ำตกได้หรือไม่”

         

      “จำได้สิ”

       

       “อย่างนั้นท่านคงรู้แล้วเพราะข้าบอกท่าน มีอาแอบดูเราตอนที่อยู่ด้วยกัน ด้วยเหตุนั้นนางจึงได้ทุกข์ใจ”

               แปลกใจอยู่นิดหน่อยที่ไม่นึกสงสารมีอาเลยซักนิด  มาตอนนี้ถึงได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นความเป็นจริงที่เขาหวงแหนเอเดรียนมากแค่ไหน

           

    “มีอาไม่ยอมตัดใจจากเจ้าหรือเกี่ยวกับเรื่องนี้นางให้ไนเจลมาขอร้องท่านหรืออย่างไร”

               เอเดรียนส่ายหน้าไปมาก่อนตอบ

           

    “นางไม่ต้องการเป็นเมียรองของข้าหรอกอเล็กเซีย” อเล็กเซียเลิกคิ้วน้อยๆ ใบหน้าของเขาตอนนี้ไม่จำเป็นต้องอนุมานก็บอกชัดได้ว่าไม่พอใจอย่างยิ่ง

           

   “นางต้องการเป็นเมียคนเดียวของเจ้าสินะ”

         

      “ท่านโกรธข้าหรืออเล็กเซีย” เอเดรียนยิ้มเจื่อนๆ

         

     “เปล่าข้าไม่ได้โกรธเจ้า”

         

     “อย่างนั้นเหตุใดท่านจึงได้ปั้นหน้าราวกับจะฆ่าคนเช่นนั้น”

           

    “ข้าดูเป็นคนโหดเหี้ยมถึงปานนั้นเชียวหรือ”

         

     อเล็กเซียพยายามปั้นหน้ายิ้ม แต่ทว่ารู้ดีว่าไม่เป็นธรรมชาติ เด็กหนุ่มเดาจากสีหน้าพรั่นพรึงของเอเดรียน รอยยิ้มของเขาคงดูร้ายกาจมากแน่ๆ ในตอนนั้นเองจู่ๆชายหนุ่มก็ประทับจูบลงมา ไม่ทั้นตั้งตัวก็จริงแต่ไม่นานนักเขาก็ตอบรับจูบที่รุกเร้าของอีกฝ่าย

           

   “อึก....อื้อ....” ปลายลิ้นของเอเดรียนรุกไล่เข้ามาในโพรงปาก จูบที่ยาวนานทำให้อเล็กเซียต้องจดจ่ออยู่กับคนตรงหน้าจนลืมความโกรธเมื่อครู่ไปสิ้น

         

     “ท่านหายโกรธแล้วหรือยังอเล็กเซีย” เอเดรียนกระซิบเสียงอ่อนหวานก่อนจะจูบลงมาอีกครั้ง คราวนี้อเล็กเซียตกอยู่ในอารมณ์หวามไหวจนไม่สามารถคิดสิ่งใดได้อีก

           

    “อื้อ...เอเดรียน....” ไม่หยุดเพียงจูบที่ริมฝีปากเท่านั้นแต่ยังรุกไล่ไปตามเนื้อตัวของเขา

         

      “อเล็กเซียเราไปที่เตียงกันดีหรือไม่”

       

        อเล็กเซียพยักหน้าแทนคำตอบ เอเดรียนดีใจจนยิ้มกว้างก่อนจะช้อนตัวเด็กหนุ่มขึ้นอุ้ม ขณะที่กำลังจะออกเดินนั้นทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเรียก

           

    “อเล็กเซียท่านรอข้าซักครู่นะ” ใบหน้าของเอเดรียนเต็มไปด้วยความเสียดาย อเล็กเซียก็เช่นกัน มีความไม่พอใจนิดๆที่มีคนมาขัดจังหวะในตอนที่เขากำลังมีความสุข

       

       เสียงพูดคุยตรงหน้าบ้านค่อนข้างเบาและจับความไม่ได้ แต่เอเดรียนออกไปนานเสียเหลือเกินจนความต้องการอันเร่าร้อนของอเล็กเซียลดลงจนเป็นปกติ

               ช่วยใม่ได้อาจจะมีเรื่องที่สำคัญก็ได้ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เอเดรียนเดินกลับมาหาพร้อมทั้งทำหน้าสำนึกผิด

           

    “อเล็กเซียข้าขอโทษนะ ดูเหมือนข้าต้องเป็นหัวแรงช่วยเกณพวกหนุ่มๆในเผ่าไปสร้างเรือนหอให้ลูกชายของพ่อเฒ่าแกรนด์ซักหน่อย”

         

     “เจ้าไปเถอะ ข้าเข้าใจเพราะอย่างไรเจ้าก็เป็นหัวหน้าเผ่า”

       

       “ข้าสัญญาว่าจะชดเชยให้ท่านคืนนี้แน่ๆ” เอเดรียนหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ วนเวียนคลอเคลียต่ออีกพักหนึ่งก่อนจะขอตัวออกไปกับคนในเผ่าที่มาตามจริงๆด้วยท่าทางที่ยังอิดออดอยู่บ้าง

         

     “ท่านรอข้านะ”

           

    “อื้อ....เจ้าไปเถอะ” หลังจากกล่าวลาครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆเอเดรียนก็ออกจากบ้านไป จากนั้นเพื่อไม่ให้ว่างเกินไปอเล็กเซียจึงเริ่มต้นทำความสะอาดบ้านไปพลางๆรอคอยให้ผู้เป็นสามีกลับมาที่บ้าน



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                          รู้สึกว่าเขียนยากจังแฮะ ยิ่งใกล้จะจบนี่ยิ่งเขียนยากเหลือเกินเพราะมีเหตุการณ์ที่ต้องเขียนให้เคลียอยู่



                                              ถ้าเขียนออกมาไม่ดีไม่โดนต้องขออภัยล่วงหน้านะจ๊ะ





                                                  เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 01-12-2016 15:37:58
ชูป้ายไฟ อเล็กเซีย :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 01-12-2016 15:47:30
หลังจากนี้คงไม่ดราม่าเนอะ...(เริ่มระแวง ฮาาาา)
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-12-2016 15:59:04
โอ้วดีจังเนาะ สองคนนี้ดูเปิดทั้งอกเปิดทั้งใจพูดคุยกันได้ทุกเรื่องแล้ว
ต่างฝ่ายต่างทะลายกำแพงลง เลิกคิดเองเออเองแล้วดีนะ ว่าแต่ใกล้จบแล้วแปลว่าจะเป็นเรื่องการเมืองล่ะสิ
เราคงเปลี่ยนความคิดอคติของคนทุกคนไม่ได้ แต่เราอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับการแต่งงานของทั้งคู่และยินดีกับทั้งสองอย่างจริงใจ
ถึงจะไม่มีทายาทเป็นตัวรับประกันชีวิตคู่แต่มันต้องมีทางอื่นสิ หวานกันขนาดนี้ต้องออกสื่อด่วนๆค่ะ
รอวันที่เห็นราชินีอเล็กเซีย     :L1:  คนเขียนสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-12-2016 16:19:18
ตบมีอากับไนเจลคนละทรได้มั้ย นิสัยยย !!!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 01-12-2016 17:16:18
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 01-12-2016 17:30:35
 :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-12-2016 21:09:52
ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเท่าไหร่
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-12-2016 21:57:03
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-12-2016 00:53:17
สักวันมีอาคงทำใจได้
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 02-12-2016 09:24:55
ไม่อยากให้รีบจบเลยอ่านเเล้วสะบายใจอ่ะไม่กดดันชอบเเนวรักๆเรื่อยๆแต่ไม่น่าเบื่อแบบนี้แต่คนแต่งชอบจบเร็วอ่ะไม่ยอมมมมมมอิอิ :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่23 หน้า8 1/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 02-12-2016 21:24:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 03-12-2016 12:20:33
ตอนที่24

           

   หลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จไปได้พักใหญ่ๆ อเล็กเซียก็ทำการต้อนรับเรเวนที่มาเยี่ยมพร้อมกับของฝากมากมาย เด็กชายพอมาถึงก็พูดคุยไม่หยุดจนเขาอดที่จะเหนื่อยแทนไม่ได้

         

      “พูดช้าๆหน่อยก็ได้เรเวน”

           

    “ขอโทษอเล็กเซียข้าตื่นเต้นไปหน่อย” เรเวนฉีกยิ้มกว้างก่อนจะลดระดับความเร็วในการพูดลงตามที่อเล็กเซียขอ แต่กระนั้นก็ยังคงพูดไม่หยุดเช่นเดิม

           

    “เอียนเต้เองก็ไปช่วยพวกผู้ชายในหมู่บ้านสร้างเรือนหอเหมือนกันหรือเรเวน”

       

        “ใช่แล้ว ข้าก็เลยฉวยโอกาสที่ว่างๆมาเยี่ยมเจ้าอย่างนี้ไง อเล็กเซียชอบแยมสตอร์เบอร์รี่ที่ข้าเอามาให้ไหม”

         

      “ก็ชอบอยู่นะ แต่คนที่ชอบมากจริงๆน่าจะเป็นเอเดรียนนั่นล่ะ”

         

     “อ้อ...จริงๆๆ เอเดรียนเขาชอบสตอร์เบอรี่มากจริงๆนั่นล่ะ”

           

   “เอ๋...สรุปว่าชอบจริงๆสินะ หมู่นี้ข้าก็สังเกตเห็นได้อยู่” อเล็กเซียทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในใจนึกอยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อเอเดรียนที่ชื่นชอบในสตอร์เบอร์รี่

         

     “เรเวนเจ้าสอนข้าทำแยมสตอร์เบอร์รี่ได้หรือไม่”

         

      “โอ้ได้แน่นอนอเล็กเซีย เอ อย่างนี้เริ่มกันเลยไหมข้าเอาสตอร์เบอร์รี่สดมาเผื่อด้วยพอดีเลย”

           

    “ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีนะ”



อเล็กเซียดีใจจริงๆที่ได้ทำในสิ่งที่คาดไว้เร็วอย่างเหลือเชื่อ ทว่าขณะที่จะเข้าครัวไปพร้อมกับเรเวนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูที่หน้าบ้าน เด็กหนุ่มจึงขอให้เรเวนรออยู่ในบ้านชั่วครู่

         

      เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบกับมีอาที่ยืนเชิดใบหน้ารออยู่ อเล็กเซียถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้เลยว่าหญิงสาวมาที่บ้านทำไม มาหาเอเดรียนอย่างนั้นหรือ ช่วยไม่ได้หากอยากรู้ว่าเอเดรียนไปไหนเขาจะบอกให้ก็แล้วกัน

       

       “เอเดรียนไปช่วยคนในหมู่บ้านสร้างเรือนหอ สามีของข้าเขาไม่อยู่ที่บ้านหรอกนะ”

         

      “ข้ารู้แล้ว”



อเล็กเซียเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน ถ้ารู้แล้วเหตุใดมีอาถึงได้มาที่บ้านซึ่งไม่มีเอเดรียนอยู่ ชักไม่ชอบมาพากลเสียแล้วสิ หรือว่าต้องการอะไรจากเขาหรือเปล่านะ



“ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”



“อ้อ.....ถ้าอย่างนั้นจะเข้าไปคุยในบ้านไหม”



“ไม่ต้องข้าจะพูดกับเจ้าตรงนี้ล่ะ”



“เข้าใจแล้ว” อเล็กเซียรอให้มีอาพูดในสิ่งที่ต้องการ มีอาไม่ปล่อยให้เขารอช้าเธอพูดในสิ่งที่คิดออกมาทันที



“เจ้าออกจากหมู่บ้านเราไปเสีย”

นี่หรือคือสิ่งที่มีอาต้องการจะพูด อเล็กเซียพอจะเดาได้อยู่บ้างแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าพูดออกมาตรงๆ



“เหตุใดข้าต้องไปด้วย”



“ก็เพราะเจ้าไม่ได้รักเอเดรียน จริงหรือไม่ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่ลอบนัดพบคนของเจ้าเพื่อขอยาพิษหรอกใช่ไหม”



อเล็กเซียตกใจจนพูดไม่ออก นึกไม่ถึงว่ามีอาจะทราบเหตุการณ์ระหว่างเขากับไอแซคด้วย เธอคนนี้คงแอบตามเขาไปตั้งแต่แรกซึ่งบังเอิญพบกันอย่างแน่นอน



“จริงใช่ไหม เจ้าไม่ได้รักเอเดรียน ดังนั้นก็อย่าทนอยู่ต่อไปเลย ไปเสียให้พ้นจากเอเดรียนและเผ่าของเรา ขอร้องล่ะอย่ามาทำให้เอเดรียนเสียใจ”

               มีอาพูดจาร้อนแรงด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น อเล็กเซียสัมผัสได้ถึงความรักและความจริงใจที่เธอมีต่อเอเดรียน

       

       “ข้าไม่ไปอย่างเด็ดขาด”

         

      “ทำไมล่ะ เจ้าเองก็ไม่เต็มใจจะแต่งงานกับเอเดรียนไม่ใช่หรือหรือว่าข้าเข้าใจผิด”

 มีอาเริ่มจะตะโกน อเล็กเซียพยายามใจเย็นพูดในสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองออกไป

         

     “จริงของเจ้ามีอาข้าเกลียดเอเดรียน” เมื่อพูดออกไปมีอาก็ยิ้มกว้างออกมา

         

      “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะไปจากเผ่าเราใช่ไหม”

         

      “ไม่ใช่ ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เพราะเวลานี้ข้ารักเอเดรียนหมดหัวใจ” ตอนนี้มีอาเม้มปากเข้าหากันด้วยท่าทางที่ราวกับจะหยุดหายใจ หญิงสาวทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ

           

    “เจ้าจะคิดว่าข้าโกหกก็ได้ แต่ความดีของเอเดรียนทำลายกำแพงหัวใจของข้า มันทำให้ข้ารักเขาอย่างไม่อาจถอนตัว และจะไม่มีสิ่งใดที่จะพรากข้าจากเขาไปได้”

       

        “เจ้าโกหก” มีอาพึมพำ สีหน้าของเธอบอกชัดว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด

         

     “ไม่ได้โกหกมีอา หากเจ้ารักเขาเช่นกันคงจะรู้ดีว่าเอเดรียนมีข้อดีมากมายแค่ไหน ความรักที่เอเดรียนทุ่มเทให้ข้ามันมากพอที่จะทำให้รักตอบได้ไม่ยาก และข้าก็ได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะทุ่มเทความรักตอบแทนความดีงามของเขาด้วยการรักและอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต อยากให้เจ้าเข้าใจตรงนี้ด้วย”

     

         มีอาทำสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ มือเรียวงามทั้งคู่กำชายกระโปรงของตนเอาไว้แน่น

         

     “ข้าบอกให้เจ้าไปเสียอย่างไรเล่า” ในที่สุดเธอก็ระเบิดโทสะออกมา มีอาใช้มือยื้อยุดอเล็กเซีย เด็กหนุ่มเดาว่าเธอคงตั้งใจจะใช้กำลังไล่เขาออกจากหมู่บ้านด้วยคุมสติไม่อยู่

       

        “ออกไป ออกไปเสีย”



 มีอากล่าวทั้งน้ำตา ตอนนี้กลายเป็นว่าพวกเขาสองคนต่างก็ออกแรงต้านกันไม่ลดละ มีอาไม่ยอมแพ้ อเล็กเซียก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบเช่นกัน ชั่วจังหวะที่พัลวัลกันอยู่นั้น เพราะเด็กหนุ่มลดแรงต้านลงมีอาที่ออกแรงดึงเต็มแรงถึงเซถอยหลังแล้วหงายหลังล้มลงไป มีอากรีดร้องเสียงดัง

         

     “เกิดอะไรขึ้นนะ” แคสเปียนและเรเวนพูดแทบจะพร้อมๆกัน เรเวนเนื่องจากได้ยินเสียงเอะอะจึงออกมาจากในบ้าน ส่วนแคสเปียนอเล็กเซียเดาว่าคงมาพร้อมกับมีอาแล้วหลบยืนคอยอยู่

       

       “แกทำอะไรมีอาหา”



 เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาพุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็ว เรเวนร้องโวยวายในขณะที่อเล็กเซียตั้งรับด้วยการฉากหลบ แต่กระนั้นแคสเปียนยังวาดหมัดในอากาศหวังจะจัดการเขาด้วยกำปั้นอย่างต่อเนื่อง

         

     “แคสเปียนเดี๋ยวก่อน” มีอาพยายามห้าม แต่แคสเปียนเหมือนจะไม่ฟัง อีกฝ่ายโถมหมัดเข้าหาเขาไม่ยั้ง เมื่อจวนตัวอเล็กเซียหลบไปทางซ้ายก่อนจะใช้ขาเกี่ยวขาของอีกฝ่ายเป็นผลให้ล้มลงหน้าคะมำไปกับพื้น

         

      ใครจะไปคิดเล่าว่าแคสเปียนจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ด้วยเพราะโกรธจนไม่ลืมหูลืมตา แคสเปียนกลายร่างเป็นหมาป่าตัวใหญ่กระโจนเข้างับบริเวณหัวไหล่ของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว

         

      อเล็กเซียตาพร่าไปหมด เสียงหวีดร้องโวยวายดังไปทั่วบริเวณ เรเวนนั้นทรุดลงด้วยแข้งขาสั่นส่วนมีอาก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

         

      หลังจากเขากับหนุ่มๆในหมู่บ้านช่วยผู้เฒ่าแกรนด์สร้างเรือนหอให้บุตรชายจนงานรุดหน้าไปมาก เวลานี้ก็เริ่มเย็นแล้วเอเดรียนจึงบอกให้ทุกคนพักงานแล้วค่อยกลับมาจัดการต่อไปอีกในวันพรุ่งนี้

         

     “เอเดรียน” ไนเจลเรียกขณะที่เขากำลังจะเดินกลับบ้าน เอเดรียนหันไปยิ้มให้เพื่อนสนิท ทว่าอีกฝ่ายกลับมีสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

           

    “เป็นอะไรไปไนเจล หากเจ้ามีอะไรจะพูดเดินไปคุยไปดีหรือไม่” ไนเจลไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้แต่ก็เดินตามเขามาติดๆ เงียบอยู่ได้พักใหญ่ในที่สุดก็เปิดปากพูดจนได้

           

   “ข้าขอโทษเรื่องเอาแต่ได้ที่ข้าพูดกับเจ้าเมื่อวานนะ ยกโทษให้ข้าเถอะเอเดรียน”

           

    “ข้าไม่ถือโทษโกรธเจ้าซักนิด...เจ้าก็แค่ทำในสิ่งที่พี่ชายซึ่งรักน้องสาวเขาทำกัน”

         

     “เจ้าไม่โกรธจริงๆรึ” ไนเจลยังคงทำหน้าเจ็บปวดใจ เอเดรียนตบฝ่ามือลงไปที่หลังของคนข้างตัวดังฉาด

         

     “ข้าตีเจ้าเป็นการลงโทษแล้วถือว่าเรื่องที่เจ้าทำให้ข้าลำบากใจก็จบกันไปนะ”

         

     “จะได้อย่างไรเล่าเอเดรียน” ไนเจลยังไม่ยอมแพ้ เอเดรียนส่งยิ้มกริ่มให้อีกฝ่าย

         

     “ให้ข้าชกเจ้าซักครั้งดีไหมล่ะ เจ้าจะได้รู้สึกดีขึ้น”

       

        “เอาสิ”

แทบจะในทันทีกำปั้นของเอเดรียนปะทะเข้ากับใบหน้าซีกซ้ายของไนเจลดังปึก นึกขำที่เพื่อนของเขาไม่มีท่าทางโกรธแต่อย่างใดแต่กลับยิ้มออกมาเสียได้

         

     “อย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย”

       

       “เจ้าสบายใจก็ดีแล้วไนเจล”



จากนั้นพวกเขาก็พากันหัวเราะเสียงดัง เอเดรียนสบายใจเหลือเกินที่มิตรภาพระหว่างเขากับไนเจลยังคงแน่นแฟ้น กับเพื่อนคนนี้ยังไงเอเดรียนก็ตัดไม่ขาดจริงๆ

         

     “เสียงอะไรนะเอเดรียน”



 เขาเองก็ได้ยินเช่นกัน ด้วยประสาทสัมผัสที่ดียิ่งกว่าสัตว์ป่าทำให้รู้ว่าเสียงนั้นดังมาจากบริเวณบ้านของตน

เอเดรียนออกวิ่งโดยมีไนเจลตามมาติดๆ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าบ้านภาพตรงหน้าทำให้เขาตกตะลึง



“อเล็กเซีย” ร้องตะโกนเสียงแหบพร่า อเล็กเซียของเขาถูกหมาป่าที่คาดว่าคือแคสเปียนกัดบริเวณไหล่จนเลือดไหลโชก เอเดรียนกลายร่างเป็นหมาป่าพุ่งเข้าใส่แคสเปียนในทันที



เจ้าหมาป่าแคสเปียนดูตกใจมันปล่อยร่างอเล็กเซียให้ร่วงลงไปกองที่พื้น เอเดรียนโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาตรงเข้าขย้ำเจ้าหมาแคสเปียนด้วยเขี้ยวและร่างกายที่ใหญ่โตกว่ามากจนเจ้าหมาแคสเปียนร้องด้วยความเจ็บปวดทั้งยังหวาดกลัว



“เอเดรียนใจเย็นก่อน” เสียงไนเจลแว่วมาเข้าหู แต่เข้าไม่ฟังใดใดทั้งนั้น เขาเล่นงานเจ้าหมาแคสเปียนจนได้เลือดและร้องขอชีวิต เสียงกรี๊ดร้องของมีอากระตุ้นสัญชาติญาณดิบของเขาจนถึงขีดสุด

ในตอนนั้นไนเจลในร่างหมาป่าก็โถมเข้าใส่เขาจนต้องปล่อยแคสเปียนให้เป็นอิสระ เอเดรียนยืนประจันหน้ากับไนเจลที่อยู่ในร่างหมาป่าตัวยักษ์เช่นกัน



“หลีกไปไนเจล”



“ไม่หลีกขืนหลีกเจ้าก็กัดแคสเปียนจนตายซี้”  ตอนนี้มีอาร้องไห้จนตัวโยน หญิงสาวรี่เข้าไปดูอาการของ

แคสเปียนที่เจ็บหนักจนลุกไม่ขึ้น



ยังไม่สาสมกับความผิดเลย อีกอย่างการที่มีอาอยู่ที่นี่ในเวลาซึ่งแคสเปียนเข้าจู่โจมด้วย คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกเสียจากว่ามีอาเป็นคนสั่ง เอเดรียนกราดเกรี้ยวหนักยิ่งกว่าเดิม เจ้าหมาป่าแยกเขี้ยวข่มขู่แม้กระทั่งไนเจลที่เป็นเพื่อนสนิท



“หลีกไปไนเจล อีกเดี๋ยวนอกจากแคสเปียนข้าจะสั่งสอนมีอาเสียด้วย”



“ให้ตายสิเจ้าใจเย็นๆก่อน” ไนเจลพยายามเตือนสติ แต่ทว่ากลับไม่ทำให้เอเดรียนหัวเย็นขึ้นเลยซักนิด จังหวะนั้นคนที่คิดว่าสลบไปแล้วกลับพยายามลุกขึ้นมาเอเดรียนลืมความโกรธแล้วปราดเข้าไปหาอเล็กเซียทันที



“ท่านเป็นอย่างไรบ้างที่รัก”

จะไม่เป็นไรได้อย่างไรเขานี่มันช่างโง่นัก อเล็กเซียบาดเจ็บสาหัสจนเลือดไหลออกมาเช่นนี้ ทว่าเจ้าสาวของเขากลับส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้



“เจ้าอย่าโกรธเกรี้ยวนักเลยเอเดรียน ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ให้ข้าได้อธิบายก่อนนะ”



“เข้าใจผิดอย่างไรท่านเจ็บถึงเพียงนี้”



“คนโง่ในเมื่อเจ้าทุกข์อย่างข้าไม่เอาผิด ทำไมเจ้ายังไม่เชื่อฟัง หากไม่ฟังข้า ข้าจะโกรธเจ้าแล้วนะ”

อเล็กเซียทำเสียงระโหย



 บ้าเอ๊ยแค่เจ้าสาวของเขาเค้นเสียงพูดก็น่าจะเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้เอเดรียนก็คิดได้แทนที่จะมัวจัดการกับคนลงมือด้วยความโกรธเกรี้ยว สู้เอาเวลาตามหมอมารักษาอเล็กเซียน่าจะดีกว่า



“ข้าจะพาอเล็กเซียไปหาหมอ หลังจากรักษาอเล็กเซียแล้วหวังว่าพวกเจ้าสองคนคงมีคำอธิบาย”

เอเดรียนสาดสายตาวาววับไปยังมีอาและแคสเปียนก่อนจะคาบอเล็กเซียไว้ในปากนำพาร่างที่บาดเจ็บไปหาหมอประจำหมู่บ้านในเวลาต่อมา



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


     เขียนๆแก้ๆอยู่หลายตอนมากเลย ยอมรับว่าเขียนล่วงหน้าไปสองสามตอนแล้ว



แต่ยังจะขอดองเผื่อว่าเขียนไปแล้วอยากจะกลับมาแก้ตอนก่อนหน้านั้นอีกหน่อย



  คือไม่มั่นใจว่าที่เขียนไปแล้วมันดีหรือเปล่าไหม



นอกจากนั้นแล้วยังเขียนจำนวนหน้าต่อตอนได้น้อยมาก จากห้าหน้าต่อตอนเหลือสี่หน้าต่อตอน



เป็นที่น่าอนาถใจเหลือเกิน หากไม่ดีติชมได้นะ แต่อย่ารุนแรง จิตใจคนเขียนบอบบางน้า



เม้นเป็นกำลังใจบ้างนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-12-2016 12:58:21
 :hao7:   เอ่อ  คนธรรมดาอยู่ในฝูงหมาก้อว่าน่ากลัวแล้วนี่ยังมีหมาบ้าเสียด้วย
ว่าแต่เอเดรียนตัวใหญ่ขนาดคาบอเล็กเซียไว้ได้หรือ เราว่าแบกขึ้นหลังหรือกลายร่างเป็นคนแล้วอุ้มไปจะดีต่อคนเจ็บมากกว่านะคะ
คือสงสารอ่า แล้วเรเวนคือแทบไม่มีประโยชน์เล้ย เห้อ  :ling1: 
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Glitterycandy ที่ 03-12-2016 13:18:05
อเล็กเซียเอ้ยย ตัวเล็กนิดเดียวจะสู้อะไรได้ สงสาร
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-12-2016 15:23:50
หวังว่าอเล็กเซียจะไม่เป็นไรมาก
ให้กำลังใจคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-12-2016 16:23:07
มีอาทำไมรู้ว่า อเล็กติดต่อกับไอแซค แถมยังขี้อิจฉาอีก นิสัยแย่จริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 03-12-2016 17:22:16
อะไรกันนักหนาเนี่ย ทำไมแต่ละคนใจร้อนกันจังเลย

เฮ้อออออ สงสารอเล็กเซีย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-12-2016 17:34:01
มันควรจะมีบทลงโทษในฐานะหัวหน้าเผ่าบ้างนะ

 :m16:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 03-12-2016 18:47:44
 :fire:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 03-12-2016 20:37:44
เฮ้อ... ต่างคนต่างเหตุผลเน๊าะ แต่ฟังๆ กันบ้างก็ดี รำคาญแต่อิไอซกไอแซคก็พอแล้วมั้ง
เพราะคาดว่าอิตาเนี้ยแระปัญญาใหญ่เลยละ
พาไปรักษาแล้วก็ทำให้มีอภินิหารท้องได้มาด้วยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 03-12-2016 20:57:32
เจ้าแคสเปียน :angry2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 03-12-2016 21:04:30
เอาจริงนะ เราเกลียดมีอา ตอนแรกก็สงสารหรอก แต่ตอนนี้เกลียด  เกลียดเต้มหัวใจ เลิกยุ่ง เลิกคบ ต่างคนต่างอยู่เถอะ อเล็กไม่ต้องไปดีหรอก ใจดีพร่ำเพื่อมันไม่ดีหรอก ดีให้ถูกคน สงสารอเล็ก เลิกคบไนเจลด้วยก็ดีนะ เพื่อนแย่
  ปล.เราเห็นด้วยนะคาบอะ แปลว่าเอเดรียนตัวใหญ่มาก ปกติของหมา มักชอบคาบลูกไว้ในปากอยู่แล้ว ไม่ค่อยเอาพาดหลังหรอกคะ

   
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 03-12-2016 22:13:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 03-12-2016 22:15:29
เลิกคบไปเหอะกับคนแบบนี้ เพื่อนแบบนี้ไม่น่าคบละ
แคสเปี้ยนนี่ยิ่งแล้วใหญ่ไม่ทันรู้เรื่องอะไรก็พุ่งเข้าทำร้ายละ...โกรธแทนอเล็กเซียมาก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-12-2016 22:17:13
ไม่ควรได้รับการให้อภัยนะมีอา
คนที่ต้องออกจากหมู่บ้านควรจะเป็นมีอามากกว่า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่24 หน้า8 3/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 04-12-2016 01:36:34
โธ่ๆ พ่อคู๊ณณณณณณฺช่างเลือดร้อนซะจริงเยย  :mew5:
สู้ๆนะคะคนแต่งจ๋า เป็นกำลังใจให้นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 04-12-2016 13:11:40
ตอนที่25



ลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนที่อยู่ข้างตัวคือเอเดรียน อเล็กเซียไม่รู้ว่าตนหลับไปนานเท่าไหร่แล้วแต่เดาจากสีหน้าของสามีคาดว่าน่าจะนานทีเดียว

“..........”



พอขยับตัวจะลุกขึ้นนั่งก็เจ็บบริเวณที่ถูกกัด เอเดรียนรีบเข้ามาช่วยประคองเขาจึงสามารถลุกขึ้นนั่งได้โดยที่พิงหลังเข้ากับหัวเตียง



“หิวน้ำจัง” ทันทีที่เอ่ยขอเอเดรียนก็จัดแจงยื่นสิ่งที่ต้องการมาให้ตรงหน้า อเล็กเซียค่อยๆดื่มน้ำถึงแม้จะกระหายมาก



“ท่านหลับยาวเหลือเกินอเล็กเซีย หลับนานจนข้ากังวล”



“คนโง่เง่า ท่านหมอก็บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าอาจจะหลับยาวเพราะฤทธิ์ยา”

ถึงจะกล่าวตำหนิแต่อเล็กเซียส่งรอยยิ้มอ่อนโยนไปให้เอเดรียน พยายามไม่แสดงอาการเจ็บบริเวณแผลเพราะไม่อยากให้ชายหนุ่มกังวลมากกว่าเดิม



“อเล็กเซียทานซุปเสียหน่อยแล้วค่อยทานยานะ” เอเดรียนน้ำซุปมาป้อนให้อเล็กเซีย หลังจากทานเสร็จเขาก็ทานยาขมๆโดยไม่อิดออดซักนิด



“เอเดรียน......แล้วแคสเปียนกับมีอาล่ะ”



“ท่านถามถึงพวกเขาทำไมอเล็กเซีย”



“ข้าก็แค่อยากรู้ว่าพวกเขายังสบายดีอยู่ไหม” เอเดรียนถอนหายใจ ชายหนุ่มทำสีหน้าเหมือนไม่พอใจหลายๆอย่าง

“เพราะท่านบอกข้าว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความเข้าใจผิด ข้าก็เลยสืบสาวราวเรื่องทั้งหมด ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็นั่นแหละถึงจะเป็นแค่การบันดาลโทสะ แต่ตามกฎหมู่บ้านข้าได้ลงโทษแคสเปียนให้ตระเวณไปช่วยงานคนในหมู่บ้านตลอดหนึ่งปี”



“ช่วยงานนี่คือ”



“ก็ช่วยทำไร่หรือทำในสิ่งที่ถูกขอร้องทั้งหมดห้ามปฏิเสธ อเล็กเซียท่านอย่าได้สงสารโทษที่แคสเปียนได้รับมันเบามากเสียจนข้ายังแปลกใจกับการตัดสินใจของตัวเอง ยอดรักของข้าหากข้าใจดำซักหน่อยคงเนรเทศแคสเปียนออกจากเผ่าไปแล้วถ้าเจ้าไม่ขอร้องข้าเอาไว้ก่อนที่จะสลบไป”



“เจ้าทำดีมากเอเดรียน” ส่งยิ้มหวานให้พร้อมทั้งจับมือของเอเดรียนมากุมเอาไว้แล้วลูบไล้ไปมาเบาๆ เอเดรียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ดูท่าทางแล้วมีเรื่องอยากจะพูดมากมาย



“เหตุใดท่านถึงได้ไม่ยอมให้ข้าเอาผิดแคสเปียนกับมีอาล่ะ”



“นั่นสินะ....”



 อเล็กเซียครุ่นคิดถึงเหตุผล โดยใจจริงแล้วอเล็กเซียเข้าใจว่าที่มีอาทำไปเพราะรักเอเดรียนมากเหลือเกิน สถานการณ์ในตอนนั้นยามที่ถูกแคสเปียนทำร้ายเพราะเข้าใจผิด เมื่อเห็นแววตาของคนคนนั้นก็เดาได้ว่าอีกฝ่ายเล่นงานเขาด้วยความรู้สึกแบบไหน



“แคสเปียนชอบมีอาใช่หรือเปล่านะเอเดรียน”



“ใช่เจ้านั่นชอบมีอามานานแล้ว ท่านรู้ได้อย่างไร”



“จากที่เขาเล่นงานข้าเพราะเห็นมีอาล้มลงไปแบบนั้นโดยไม่ฟังเหตุผล แค่นี้ก็เดาได้แล้ว” เอเดรียนถอนหายใจอีกครั้ง



“แคสเปียนที่ตอนนี้ยังพักรักษาตัวบอกกับข้าว่า แต่เดิมก็ไม่พอใจเจ้าที่ทำให้มีอาเสียใจอยู่แล้วยิ่งเห็นมีอาอยู่ในสภาพที่คล้ายถูกทำร้ายจึงบันดาลโทสะเล่นงานเจ้า แล้วก็ที่สะกดใจไม่อยู่กลายร่างเพราะหัวเสียที่ถูกท่านทำเสียท่า”



“เอเดรียนหากผู้หญิงที่ข้าแอบชอบโดนทำร้ายข้าก็คงบันดาลโทสะเช่นกัน อีกอย่างนะที่มีอามาหาข้าในวันนั้นนางทำเพื่อเจ้านะเอเดรียน”



“ยังไงหรืออเล็กเซียข้าไม่เข้าใจ” นึกถึงความรู้สึกของมีอา อเล็กเซียก็อดชื่นชมไม่ได้ ที่มีอาขับไล่เขาอาจจะไม่ได้เพื่อตัวเองเพียงอย่างเดียว ที่หญิงสาวทำเป็นเพราะอะไรเด็กหนุ่มรู้ดีแก่ใจ



“นางไล่ข้าเพราะนางแอบฟังที่ข้าคุยกับไอแซคเรื่องยาพิษ นางบอกว่าให้ข้าออกจากเผ่าไปก่อนที่จะทำให้เจ้าเจ็บปวด”



“นางพูดแบบนั้นรึ”



“จริงๆนะเอเดรียน แล้วก็นะนางไม่ได้ตั้งใจมาทำร้ายข้าแต่ตั้งใจมาไล่ข้าให้ออกจากหมู่บ้านไปเพื่อเจ้าเท่านั้น”

ไม่รู้ว่าเอเดรียนถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว อเล็กเซียถึงแม้จะเจ็บแผลแต่ก็ขยับตัวโน้มจูบลงบนแก้มชายหนุ่มที่ทำสีหน้าลำบากใจ



“ถึงข้าจะถูกท่านหลอกมันก็ไม่เกี่ยวกับนางเลยแท้ๆ” ถึงแม้จะพูดต่อว่ามีอา แต่สีหน้าท่าทางของเอเดรียนไม่ได้เป็นเช่นนั้น



“เจ้าคงไม่ได้ลงโทษมีอาใช่หรือไม่” เอเดรียนส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ



“ดีแล้ว” อเล็กเซียยิ้มหวานพลางใช้มือลูบไปมาบนศีรษะของเอเดรียน ในตอนนั้นก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตูหน้าบ้าน เอเดรียนขอตัวซักครู่เพื่อไปดูว่าใครมา ไม่นานนักก็กลับมาที่ห้องด้วยสีหน้าแปลกพิกล



“ไนเจลกลับมีอามาเยี่ยมท่าน ท่านอยากพบพวกเขาไหม”



“เอาสิ”

 เมื่ออนุญาตเอเดรียนก็พามีอากับไนเจลเข้ามาในห้อง



“แผลเป็นอย่างไรบ้างอเล็กเซีย” ไนเจลถาม อเล็กเซียยิ้มกว้างก่อนจะตอบกลับ



“ก็ดีขึ้นมากแล้วขอบใจที่มาเยี่ยมนะไนเจล” ไนเจลพยักหน้าหงึกๆสีหน้าของชายหนุ่มดูไม่สู้ดีนัก คงจะรู้สึกผิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแน่ๆ ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้ไนเจลคิดแบบนั้นเพราะมันเป็นแค่อุบัติเหตุ



“มีอา มาขอโทษอเล็กเซียเสียสิ” หลังจากทำงกงกเงิ่นเงิ่นอยู่นานไนเจลก็รุนหลังมีอาให้เดินมาที่เบื้องหน้าอเล็กเซีย หญิงสาวทีสีหน้าสับสนทั้งยังลังเล เด็กหนุ่มเดาไม่ถูกเลยว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่



“เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกให้เอเดรียนลงโทษข้าทั้งที่มีโอกาสล่ะ” เป็นคำถามที่คิดเอาไว้แล้วว่าต้องถาม อเล็กเซียตอบกลับไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด



“ก็แค่ไม่อยากใส่ความใครเท่านั้นเอง” มีอาเม้มปากเข้าหากันแน่น ดูท่าทางคงมีเรื่องจะให้พูดกันอีกมาก



“แต่มันจะเป็นโอกาสดีของเจ้าที่จะได้ขับไล่ศัตรูหัวใจอย่างข้าไปนะ ตามกฎของหมู่บ้านหากทำร้ายคนในเผ่าเดียวกันต้องถูกเนรเทศสถานเดียว ข้ากับแคสเปียนทำผิดทั้งคู่ก็ต้องถูกขับไล่ออกไปพร้อมกัน เจ้ารู้ข้อนี่แล้วเสียใจภายหลังหรือยังล่ะ”



อเล็กเซียครุ่นคิดเล็กน้อย ยิ่งเขาคิดนานมีอาก็ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น นี่คงจะอนุมานเอาเองว่าเขาแสนจะเสียดายที่ไม่ได้ฉวยโอกาสขับไล่ตนเองออกไปหรือเปล่านะ โธ่เอ๊ยมีอาถึงข้าจะไม่ใช่คนดีนักแต่ก็ไม่มีความคิดที่จะขับไล่ผู้หญิงตัวคนเดียวออกไปเผชิญความลำบากเลยซักนิด



“ข้าดูเป็นคนใจดำถึงเพียงนั้นเชียวหรือ” อเล็กเซียถาม



“ก็เราเป็นศัตรูหัวใจกัน หากข้าเป็นเจ้าข้าก็ไม่ลังเลที่จะทำ” ถึงตรงนี้ไนเจลทำท่าจะเข้ามาห้ามให้มีอาหยุดพูด

 เอเดรียนเองก็ดูไม่ค่อยพอใจ แต่อเล็กเซียส่งสัญญาณปรามให้สองหนุ่มอยู่เฉยๆ



“ข้าไม่สามารถห้ามความคิดของใครได้ หากเจ้าจะคิดว่าข้าแสร้งทำดีมันก็เป็นเรื่องที่เจ้ามีสิทธิที่จะคิด”



“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว อเล็กเซีย”



มีอาเชิดหน้าขึ้นอย่างยโส เดาเอาว่านางคงไม่เชื่อว่าเขาไม่ได้คิดร้ายต่อเธอง่ายๆแน่ ดังนั้นจึงไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เขากับมีอาต่างจ้องหน้ากันและนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่



“เจ้าเจ็บแผลมากหรือไม่” มีอาถาม แทนคำตอบเพราะขยับตัวผิดท่าเล็กน้อยทำให้รู้สึกเจ็บอเล็กเซียกัดฟันกรอดโดยไม่ยอมร้องออกมา



“ขอโทษนะ....ข้าขอโทษแค่เฉพาะเรื่องที่เป็นต้นเหตุทำให้เจ้าต้องเจ็บตัว” มีอานิ่งงันอยู่ชั่วครู่ อเล็กเซียเข้าใจว่าคงกำลังคิดหาคำพูดที่จะกล่าวต่อไป



“ข้าขอบอกเจ้าเอาไว้ว่าข้ายังไม่ไว้วางใจเจ้า ตอนนี้เอเดรียนอาจจะหลงเจ้าหัวปักหัวปำโดยทำเป็นไม่สนใจเรื่องแย่ๆที่เจ้าเคยทำ แต่ว่าข้าจะจับตาดูเจ้าอยู่เสมอ หากเจ้าทำให้เอเดรียนเสียใจข้าจะแย่งเอเดรียนมาเป็นของข้าให้ได้”



หลังจากได้ฟังคำกล่าวของมีอา เอเดรียนอดคิดถึงในตอนที่เขาคุยเพียงลำพังกับมีอาไม่ได้ ในตอนนั้นถึงแม้จะเต็มไปด้วยความโกรธแต่เอเดรียนก็สงบใจลงได้มากพอสมควรแล้ว แต่มีอานี่สิกลับไม่สามารถรักษาอารมณ์ของตนได้



“ข้ายอมรับว่าข้าเป็นคนก่อเรื่อง แต่เอเดรียนภรรยาของเจ้าคิดไม่ซื่อกับเจ้านะ เหตุใดเจ้าถึงยอมให้เขาหลอกเจ้าเช่นนี้”



“เจ้าพูดถึงอะไร”



“ข้าก็หมายถึงที่ภรรยาของเจ้าแอบนัดพบเพื่อนเก่าเพื่อเอายาพิษอย่างไรล่ะ” มีอาพูดเสียงดังทั้งยังรัวเร็ว



“มีอาหากเจ้าตั้งใจแอบดูจริงๆคงจะรู้ชัดแล้วสินะว่าอเล็กเซียทำลายยาพิษนั่นทิ้งไปแล้ว”



กล่าวจบมีอาก็แสดงท่าที่อึกอัก หากได้เห็นและได้ฟังอย่างชัดเจนก็คงทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้หญิงสาวคงไม่รู้จะเถียงต่อไปอย่างไรถึงได้เอาแต่กัดริมฝีปากมือทั้งสองข้างยังกำชายกระโปรงไว้แน่น



“วันใดวันหนึ่งภรรยาของเจ้าอาจจะมีความคิดเรียกให้เจ้าหมอนั่นเอายาพิษมาให้อีกก็ได้นี่ เอเดรียนเจ้าก็รู้ว่าคนนอกเผ่าไว้ใจไม่ได้” มีอายังคงทุ่มเถียงอย่างไม่ลดละ เหนื่อยใจจริงๆที่จะอธิบายดังนั้นจึงพูดในสิ่งที่คิดออกไป



“มีอาเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเจ้าเลยนะ ถึงแม้ว่าข้าจะตายเพราะถูกอเล็กเซียวางยาพิษมันก็เป็นสิ่งที่ข้ายอมรับมันด้วยตนเอง”



“เจ้า...เจ้ารักเจ้านั่นถึงเพียงนี้เชียวหรือ” น้ำตาใสๆเอ่อคลอทั่วดวงตาของมีอา หญิงสาวพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องไห้



“มีอาข้ารักอเล็กเซียไม่ใช่ว่าเพราะเป็นแค่คู่ฟ้าลิขิตนะ ข้าชื่นชอบตัวตนของอเล็กเซีย ระหว่างที่เราอยู่ด้วยกันเกือบเดือนข้าคิดว่าข้าอยากจะอยู่กับอเล็กเซียไปตลอดทั้งชีวิต”



“แค่เดือนเดียวเท่านั้นมันพิสูจน์อะไรได้ตรงไหน”

 มีอาพูดไปสะอื้นไป การที่หญิงสาวไม่ยอมแพ้ง่ายๆทำให้เอเดรียนเหนื่อยใจอย่างยิ่ง



“ข้ายินดีจะใช้ทั้งชีวิตของข้าเรียนรู้และพิสูจน์สิ่งนั้น มีอาเจ้าคงเข้าใจข้านะ”



ในตอนนั้นมีอาร้องไห้หนักมากจนไนเจลต้องเข้ามาปลอบโยน เอเดรียนไม่รู้ว่าหญิงสาวจะตัดใจหรือไม่ วันนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไร นอกจากจะไม่ยอมตัดใจง่ายๆยังแสดงออกถึงความจริงใจซึ่งเป็นนิสัยอย่างหนึ่งที่ดีงามของเธอ



มีอาข้าหวังว่าเจ้าจะเจอคู่ฟ้าลิขิตของเจ้าในซักวันหนึ่ง ถึงตอนนั้นหญิงสาวคงจะเข้าใจเสียที เอเดรียนทำได้แค่เพียงเฝ้ารอให้ถึงวันนั้น



“ท่านพี่ข้าจะกลับล่ะ” มีอาสะบัดกายย่ำเท้าออกจากห้องนอนไป ไนเจลกล่าวขอโทษหลายครั้งก่อนจะตามน้องสาวไปแทบไม่ทัน



“เอเดรียนเจ้าปลื้มใจหรือไม่ที่มีหญิงสาวคนหนึ่งจะรอคอยให้เจ้ารักไปตลอดชีวิต” อเล็กเซียถามหลังจากที่พวกเขาอยู่เพียงลำพัง เอเดรียนเดินตรงเข้าไปหาแล้วทรุดตัวนั่งที่ริมเตียงก่อนจะจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเจ้าสาว



“นอกจากจะไม่ดีใจแล้วข้ายังภาวนาให้นางเจอคู่ฟ้าลิขิตของนางโดยเร็ว แต่ก็นะข้าคิดว่าหลังจากนี้นางคงจะไม่มาวุ่นวายกับท่านอีกแล้ว”



“นางจะเกลียดข้ามากกว่าเดิมไหมนะ” อเล็กเซียตั้งคำถาม



“ท่านอยากให้นางชอบท่านหรือ” ชักสงสัยแล้วว่าเจ้าสาวคิดอย่างไรกับมีอากันแน่ ดูจากสีหน้าท่าทางแล้วเดาว่าอเล็กเซียคงชอบพอในความเป็นตัวเองของมีอาอยู่ใม่น้อย



“ข้าชักหึงแล้วสิ” เอเดรียนบอกความในใจออกไป อเล็กเซียยิ้มหวานก่อนจะเอื่อมมือมาหยิกที่แขนเขาเบาๆ



“เจ้าอย่าไร้สาระ”



จากนั้นเอเดรียนก็ประทับจูบลงไปบนริมฝีปากของอเล็กเซียด้วยความทนุถนอชายหนุ่มพยายามไม่ไปแตะต้องตัวของเจ้าสาวมากนักเพราะเกรงว่าจะเจ็บร้าวไปถึงบาดแผล ดังนั้นจึงได้แต่จุมพิตเบาๆอย่างแสนเสียดาย



“อเล็กเซียข้าลืมบอกท่านไปว่าข้าส่งข่าวที่ท่านบาดเจ็บไปให้พี่ชายของท่าน คิดว่าอีกไม่นานคงมีจดหมายตอบกลับมาหรืออาจจะมาเยี่ยมก็ได้” ตอนนี้อเล็กเซียทำสีหน้าลำบากใจ ดูท่าทางแล้วจะไม่ค่อยชอบที่เขาส่งจดหมายบอกธีโอเท่าไหร่



“ท่านไม่พอใจข้าหรือ....ข้าแค่คิดว่าพ่อกับพี่ชายของท่าน่าจะมีสิทธิได้รู้”



“เปล่าๆเอเดรียน ข้าแค่กลัวว่าพวกท่านจะเป็นห่วง เจ้าส่งข่าวไปให้พวกเขาก็ดีแล้วล่ะ”

 อเล็กเซียยังมีสีหน้าไม่สบายใจ เด็กหนุ่มค่อยๆลดตัวลงนอนบนเตียงแล้วปรือตาหลับ เอเดรียนเดาว่ายาที่ทานเข้าไปคงออกฤทธิ์แล้ว



“ท่านพักผ่อนเสียเถอะอเล็กเซียข้าจะอยู่ข้างๆท่านตลอด” อเล็กเซียพยักหน้าเบาๆก่อนจะหลับลึกในเวลาต่อมา



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4


คนอ่านจะด่าเราไหมที่เขียนออกมาแบบนี้ เอาเถอะพร้อมแล้วจ้า เชิญตำหนิได้เต็มที่



แต่อย่ารุนแรงมากน้า จิตใจบอบบาง 



หลังจากนี้อาจจะขอหายวันไปสักสี่วัน เจอกันอีกทีวันที่แปดนะจ๊ะ



เนื่องจากมันใกล้ไคลแม๊กแล้ว ขอเวลาครุ่นคิดซักนิด



อย่าคาดหวังว่ามันจะดีงามเลยนะ คนแต่งหัวสมองขี้ปลาทองมากๆๆจ้า



เม้นเป็นกำลังใจบ้างนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 04-12-2016 13:51:42
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-12-2016 14:03:01
คงไม่ใช่ว่าพ่อ พี่ชาย กับเจ้าไอแซคตัวดีมาพากลับหรอกนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 04-12-2016 14:49:19
พึ่งติดตามเรื่องนี้  :-[

ดีงามมากค่าาาา เราชอบบบบบ  o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 04-12-2016 15:19:40
ถ้าไอแซคจะตามท่านพ่อ ท่านพี่มาด้วย ก็จัดการไปในคราวเดียวเลยเนอะอเล็กเซีย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-12-2016 15:21:10
 o13    เอเดรียนทำดีนะ หวังว่าไอแซคจะไม่เสนอหน้าทำเรื่องต่ำๆอีก

แต่เราว่าการรีบส่งข่าวทั้งๆที่น่าจะรอให้อเล็กเซียฟื้นก่อนแล้วค่อยถามน่าจะดีกว่าว่าจะให้บอกไหม เจ้าตัวอาจจะไม่อยากให้ทางบ้านเป็นห่วงก็ได้
ยัยมีอา ชิ หมั่นไส้ หัดรู้แพ้รู้ชนะซะบ้างนะ คนเขาแต่งงานไปแล้วมันก็เรื่องของเขาป้ะวะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 04-12-2016 17:09:25
อยากให้อเล็กเซียกล้าพูดอะไรๆในใจมากกว่านี้จัง มัวแต่เก็บเอาไว้ เดี๋ยวมันจะสายเกินไป
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-12-2016 18:26:53
ทำไม มีอา เข้าใจอะไรยากจัง โวะ!
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-12-2016 18:34:27
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: it.the.world ที่ 05-12-2016 01:34:36
เราชอบนะ มันดูเรื่อยๆแต่มีความสุขดี  :L2: :กอด1: :pig4: o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่25 หน้า9 4/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 05-12-2016 05:49:25
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 08-12-2016 13:03:25
ตอนที่26



คนที่ติดตามรัชทายาทมาเยี่ยมอเล็กเซียด้วยทำให้เอเดรียนหัวเสีย ไอแซคบาร์ตันเป็นผู้ติดตามเพียงผู้เดียวที่

รัชทายาทพามา ถึงแม้ชายซึ่งเต็มไปด้วยพิษร้ายจะทำเมินเฉยเหมือนเขาไม่มีตัวตน แต่ยังรู้สึกได้ถึงแววตาที่มองมาทั้งไม่เป็นมิตรและเต็มไปด้วยความสงสัย



เมื่อเผชิญหน้ากับรัชทายาทก็รู้ได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายไม่พอใจอย่างมาก เอเดรียนไม่รู้จะทำอย่างไรดีจึงได้แต่นำทางพี่ชายของอเล็กเซียและไอแซคเข้าหมู่บ้านโดยไม่ได้พูดอะไรกันแม้แต่คำเดียว



“ข้าเคยคิดว่าเจ้าจะดูแลน้องชายของข้าเป็นอย่างดี”



ในที่สุดธีโอก็เปิดปากพูดเสียที คำแรกคือตำหนิเขาอย่างที่คิด เอเดรียนไม่มีข้อโต้เถียงแต่อย่างใดได้แต่นิ่งเงียบปล่อยให้รัชทายาทว่ากล่าว

ทว่าก็ไม่ได้ดุด่าอะไรมากมายนัก หลังจากประโยคแรกที่เอ่ยกับเขารัชทายาทนิ่งเงียบอยู่บนหลังม้าซึ่งเยื้องย่างไปตามทาง หากตะโกนด่าเขาคงจะดีกว่ามากกว่านี้



“ข้าอยากจะพบอเล็กเซียโดยเร็วอีกนานไหมกว่าจะถึงหมู่บ้าน”



ด้วยคำกล่าวของธีโอทำให้เอเดรียนต้องเร่งฝีเท้าม้าในการเดินทางให้เร็วขึ้น ไม่นานนักชายหนุ่มก็พารัชทายาทมาถึงหมู่บ้านจนได้

ระหว่างที่นำทางไปหาอเล็กเซียเอเดรียนได้พบกับไนเจลและมีอา เป็นการพบกันที่น่าลำบากใจยิ่งนัก อาจเป็นเพราะเขาเล่าวีรกรรมของหญิงสาวไปแล้วทางจดหมาย



“รัชทายาทยินดีที่ได้พบครับ”



 ไนเจลรีบทำความเคารพเมื่อได้พบหน้ากับธีโอและยังไม่ลืมเตือนให้น้องสาวทำตามด้วย แต่สิ่งไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นทันทีที่พบหน้ากับผู้สูงศักดิ์หญิงสาวถึงกับเข่าอ่อนและทรุดลง



ดวงตาคู่สวยของมีอาไหวระริกและเต็มไปด้วยความสับสน ถึงแม้จะตั้งสติได้แล้วยืนขึ้นทำความเคารพด้วยการถอนสายบัวแต่ยังไม่อาจสลัดหลุดจากห้วงคำนึงของตนเอง หญิงสาวเอาแต่พิศมองดูทุกท่าทางและการกระทำของธีโอโดยไม่สามารถถอนสายตา



 ตรงนี้เองที่ทำให้เอเดรียนและไนเจลฉุกคิดขึ้นมา มีอาได้พบคู่ฟ้าลิขิตของตนเข้าให้แล้ว ทว่าช่างน่าสงสารยิ่งนักคู่ฟ้าลิขิตของหล่อนอยู่สูงเกินเอื้อม ไนเจลตอนนี้มีสีหน้าเจ็บปวดอย่างมากต่อชะตากรรมของมีอา



“สาวน้อยมีอะไรติดหน้าข้าอยู่หรือ”

ธีโอถามเมื่อรู้ตัวว่าถูกจ้องหน้า มีอาสะดุ้งตัวเบาๆ รอยยิ้มเก้อเขินและประหม่าของหล่อนเอเดรียนเพิ่งจะเคยได้เห็นเป็นครั้งแรก



“เพราะว่าท่านดูดีมากข้าถึงได้มองหน้าท่าน แค่นี้ก็ห่วงเอาไว้ด้วยหรือ” มีอาทำหน้าล้อเลียนยั่วยุอารมณ์นิดหน่อย ไนเจลเห็นท่าทีของน้องสาวถึงกับต้องดุด้วยเสียงดังๆ



“มีอาขอโทษรัชทายาทเดี๋ยวนี้นะ”



“โอ๊ะคนผู้นี้คือรัชทายาทหรือ”



 มีอาไม่พูดเปล่าหญิงสาวเดินสำรวจไปรอบๆตัวธีโอ การที่ธีโอยังยิ้มได้อยู่ทำให้เอเดรียนไม่เข้าไปขัดจังหวะการพยายามทำความรู้จักในแบบของมีอา ในทางกลับกันไนเจลดูร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด



“แหมจากรูปลักษณ์ท่าทางและการแต่งตัวของท่าน เป็นรัชทายาทก็สมควรอยู่นะ”

ตอนนี้ที่พูดเช่นนั้นมีอายื่นหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าของธีโอเพื่อมองดูใบหน้าของอีกฝ่ายให้ชัดๆ รัชทายาทตกใจเล็กน้อยกับท่าทางก๋ากั่นของมีอา

           

    “ไร้มารยาท” ไอแซค ทำท่าจะเข้ามาจัดการ มีอาหาได้กลัวไม่ เอเดรียนเตรียมพร้อมรับการเผชิญหน้า

           

    “ไม่เป็นไรน่าไอแซค ใจเย็นก่อน” เมื่อธีโอเอ่ยปากห้ามไอแซคก็ถอยกลับไปยืนที่ด้านหลังอย่างสงบแต่ไม่วายส่งสายตาเหยียดๆมาให้มีอา ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังคงไม่รู้สึกอะไร เอเดรียนนับถือในความใจกล้าของเธอเสียจริงๆ



“มีอาถอยออกห่างจากรัชทายาทนะ” ไนเจลทนไม่ไหวจนได้ เพื่อนของเอเดรียนตรงเข้าไปกระชากมีอาให้ออกห่างจากธีโอก่อนจะเริ่มต้นดุด่า



“ทำไมถึงไร้มารยาทเช่นนี้มีอา เจ้าไม่รู้หรือว่านั้นคือรัชทายาทนะ”



มีอากอดอกและมองเมินไม่สนใจต่อคำว่ากล่าวของไนเจล เมื่อถูกด่ามากๆเข้าหญิงสาวก็วิ่งหนีพี่ชายของตนไปเสียดื้อๆและยังไม่วายหันมาแลบลิ้นปริ้นตาใส่



ชั่วจังหวะหนึ่งเอเดรียนสังเกตเห็นมีอาส่งยิ้มหวานๆให้ธีโอ รัชทายาทที่ไม่คาดว่าจะได้รอยยิ้มตกตะลึงเล็กน้อยทั้งยังยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ คงไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนเข้าหาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้กระมัง เอเดรียนอดจะเอาใจช่วยให้ความรักของมีอาสมหวังไม่ได้



“ข้าไม่เคยเห็นหญิงสาวคนไหนมีชีวิตชีวาเท่านางมาก่อน นางชื่ออะไรนะ” รัชทายาทถามเอเดรียนในขณะที่ยังไม่ละสายตาจากร่างของมีอาที่ห่างออกไปเรื่อยๆ



“มีอา อัลเบอร์ต้าครับ” เอเดรียนตอบ



“โอ้ รัชทายาทโปรดให้อภัยในความไร้มารยาทของน้องส่าวข้าด้วยครับ อย่าถือสานางเลย” ไนเจลก้มหัวปะหลกๆ



“นางยังเด็กอยู่ข้าไม่ถือสาหาความหรอก เจ้าสบายใจได้”



 ไนเจลจะยิ้มแต่ก็ยิ้มไม่ออก ดูเหมือนว่าจะมีความไม่สบายใจอยู่เต็มอก เอเดรียนทำได้แค่เพียงส่งสายตาเห็นใจไปให้เพื่อนของเขา เรื่องกลุ้มใจของไนเจลคงไม่พ้นเรื่องคู่ฟ้าลิขิตของมีอาดันกลายเป็นรัชทายาทไปเสียนี่



“ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวไปตามน้องสาวก่อนนะครับ” เมื่อธีโออนุญาตไนเจลก็จากไป



“พวกวูฟนี่ไร้มารยาททั้งผู้ชายและหญิงเลยนะครับ ท่านคิดอย่างไรท่านรัชทายาท”



ไอแซคเปิดประเด็นทันทีหลังจากไนเจลจากไป คงต้องการจะด่ากระทบเขาไม่ผิดแต่เอเดรียนยังยิ้มได้อยู่โดยไม่รู้สึกใดใดทั้งนั้น ดังนั้นไอแซคจึงมีสีหน้าไม่พอใจเมื่อไม่สามารถทำให้เขาโกรธ



 “เจ้าพูดแรงไปแล้ว อาจเป็นเพราะนางยังเด็กจึงกล้าที่จะทำตามใจชอบก็เป็นได้ เจ้าอย่าถือสาเด็กสาวในวัยนี้เลย”



การที่รัชทายาทไม่ถือสาหาความทำให้เอเดรียนคิดว่ามีอาน่าจะยังมีหวัง ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงจะมีหญิงสาวเผ่าวูฟมากมายที่ต้องประสบเคราะห์กรรมเพราะคู่ฟ้าลิขิต เอเดรียนยังจำพวกผู้หญิงในเผ่าบางคนที่ถูกญาติพี่น้องกักขังเอาไว้ไม่ให้ไล่ตามคู่ฟ้าลิขิตไปจนตรอมใจตาย



บางคนก็ถูกคู่ฟ้าลิขิตทอดทิ้งเพราะทนไม่ได้ที่ต้องอยู่กลับพวกวูฟที่กลายร่างได้ หรือแม้แต่หญิงเผ่าวูฟที่ไล่ตามคู่ฟ้าลิขิตไปโดยที่เขามิได้รัก ดังนั้นจึงเอาแต่เฝ้าตามติดเขาอยู่เช่นนั้นถึงแม้จะไม่ได้รับความรักใดใดตอบแทน



 เมื่อคิดถึงตรงจุดนี้เอเดรียนก็อดเศร้าใจไม่ได้ เขาไม่รู้ว่ารัชทายาทเป็นคนเช่นไร หากปล่อยให้มีอาทำตามใจชอบวิ่งเข้าหาธีโอก็ไม่รู้ว่าจะเกิดหายนะแบบไหนบ้าง



ทว่าอีกใจหนึ่งก็อยากจะให้มีอาทำตามที่ต้องการ หากเป็นเรื่องที่ตนเองตัดสินใจแล้ว การปล่อยให้ต้องทนแบกรับถือเป็นการก้าวสู้ความเป็นผู้ใหญ่ขั้นหนึ่ง เป็นห่วงเหลือเกิน เมื่อความเป็นจริงที่นอกจากต้องเอาชนะใจธีโอแล้วการที่จะได้เป็นที่หนึ่งยังเป็นเรื่องยากยิ่งกว่า อุปสรรคของมีอายากที่ก้าวผ่านยิ่งกว่าเขาเสียอีก



เอาแต่ครุ่นคิดในที่สุดก็มาถึงบ้านของตนจนได้ เอเดรียนนำทางธีโอและไอแซคเข้าไปในบ้านจนถึงห้องที่อเล็กเซียนอนพักอยู่



“อเล็กเซียข้าพารัชทายาทเข้าไปนะ” บอกกล่าวให้อเล็กเซียรู้ก่อนเมื่อได้รับอนุญาตจึงเปิดประตูนำคนอีกสองคนเข้าไป



“ท่านพี่”



“อเล็กเซีย” อเล็กเซียกับธีโอยิ้มกว้างเมื่อได้พบหน้ากัน ระหว่างที่พี่น้องไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกันเอเดรียนก็อดมองไอแซคที่อยู่ด้วยกันภายในห้องไม่ได้



รู้ชัดเสียยิ่งกว่าชัดว่าเกลียดจนอยากจะฆ่าเขาให้ตาย ดวงตามาดร้ายประหนึ่งอสรพิษไม่ได้ทำให้เอเดรียนกลัวแต่อย่างใด กลับนึกขำเสียอีกที่คนผู้นี่ไม่ประมาณตัวคิดต่อกรกับวูฟอย่างเขา



“อเล็กเซียเจ้ากลับไปยังปราสาทพร้อมกับพี่ดีหรือไม่”



สิ่งที่เอเดรียนกลัวในที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้ นึกอยู่แล้วว่ารัชทายาทอาจพูดเช่นนี้ ทว่าก่อนที่เอเดรียนจะเอ่ยคัดค้าน

อเล็กเซียก็พูดบางอย่างกับธีโอเสียก่อน



“ท่านพี่ข้ามีเรื่องจะพูดกับท่านเพียงลำพัง”



“พูดกับพี่หรือได้สิ”



กล่าวจบรัชทายาทก็หันมาส่งสัญญาณบอกให้เขากับไอแซคออกไปรอด้านนอก ถึงจะรอด้านนอกเขาก็ยังได้ยินที่ทั้งสองต้องการจะพูดแน่ๆจึงไม่เดือดร้อนใดใด แต่ไอแซคนี่สิดูหัวเสียจนเห็นได้ชัด



สมน้ำหน้าถึงอยากจะสอดรู้แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะรัชทายาทสั่งเอาไว้ว่าให้ไปรออีกห้องดังนั้นเอเดรียนจึงพาไอแซคไปรอที่อื่นตามคำสั่ง



ดูท่าทางจะร้อนรนเสียเหลือเกิน คงจะอยากฟังมากสินะว่าพี่น้องเขาพูดคุยอะไรกัน เอเดรียนสงสัยว่านอกจากเรื่องที่อยากจะแอบฟังยังกระวนกระวายเรื่องที่เขายังมีชีวิตอยู่ตรงนี้ด้วยหรือเปล่า



เจ้าคนโง่เง่า เจ้าสาวของข้าเขาไม่ได้ใช้ยาพิษนั่นกับข้านะ



 อยากจะบอกกับไอแซคออกไปเช่นนี้ แต่ก็เก็บความคิดนั้นเอาไว้กับตัวด้วยกลัวว่าถ้าแหวกหญ้าให้ตื่นขึ้นว่าเสียแล้วก็ไม่รู้ว่าชายผู้นี้จะทำสิ่งเหนือความคาดหมายหรือเปล่า ด้วยเหตุนี้จึงต่างคนต่างเงียบรอให้อเล็กเซียพูดกับธีโอให้เสร็จสิ้นไป



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



เอามาลงตามที่เคยสัญญาไว้ก่อนหน้านั้น



ตอนนี้กำลังเขียนถึงฉากสำคัญอยู่เขียนยากมาก กลัวออกมาไม่ดีอยู่นะ55555 แต่จะพยายามให้มากที่สุด



คิดว่าจะลงนิยายสองวันต่อตอนจากนี้ไปจนกว่าจะเขียนบทสรุปออกมาจนจบ กำลังเร่งปั้นยิกๆเลยจ้า



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-12-2016 13:17:44
มีอาไปแล้วหนึ่งคน เหลือไอแซคอีกหนึ่ง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 08-12-2016 13:52:10
ว่าละมีอาคู่แล้ว  :bye2: สู้ๆ นะจ๊ะเธอ เพราะยังไงนางก็เป็นคนดีคนนึงเลยนะ จะเทียบกะอิไอแซคไม่ได้หรอก
อันนั้นเลวล้วนๆ แถมคิดการใหญ่จนน่ากลัว หากรู้ความจริงมันไม่อยู่เฉยแน่ๆ เฮ้อ...  :serius2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 08-12-2016 14:11:08
โอ้โหมีอา บอกเลยถ้านางแฮปปี้นี่ฉันจะผิดหวังมาก
อยากให้ธีโอสะบัดรักซะจะได้ดูสมเหตุสมผลกว่า
นางทำให้น้องแกต้องนอนเดี้ยงแบบนี้ถ้าไม่คิดจะถือโทษโกรธเกลียดอะไรนางเลยฉันก็จะตบกบาลให้
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 08-12-2016 15:11:44
รอฟังว่าพี่น้องจะคุยอะไรกัน

อยากให้อเล็กเซียบอกพี่ไปด้วยนะ ว่าไอแซคทำอะไรเอาไว้บ้าง...เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-12-2016 16:00:30
ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอำมหิตหรอกนะ เราเชื่อว่าอเล็กเซียอภัยสห้สองตัวแสบได้
แต่ถ้ามีอาสมหวังง่ายๆกับองค์รัชทายาทเนี่ยเราว่าจะโลกสวยเกินไปแล้วล่ะ
ส่วนไอแซคนี่รอวันโดนแฉ.   พวกหอกข้างแคร่นี่โทษตายนะจ๊ะ จะเก็บไว้เพื่อไร
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 08-12-2016 17:46:50
เมื่อไหร่ ไอแซคจะโดนจัดการ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 08-12-2016 19:14:42
เหลือไอแซคอีกคน จะมีปัญหาอะไรกับฮีอีกรึเปล่า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่26 หน้า9 8/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-12-2016 21:07:04
สงสารรัชทายาทถ้าต้องคู่กับมีอา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่27 หน้า9 9/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 09-12-2016 13:00:16
ตอนที่27



“ท่านพี่ข้าขอโทษครับ”



“ขอโทษอะไรหรือ” รัชทายาททำสีหน้างงงวย เมื่อพี่ชายไม่เข้าใจอเล็กเซียจึงเริ่มอธิบายในสิ่งที่ตนเองต้องการจะบอก



“ที่ข้าขอโทษเพราะว่าข้ารักเอเดรียนเข้าแล้วนะสิครับ ข้าต้องขอโทษที่เดี๋ยวนี้ข้าไม่อาจเสแสร้งหลอกลวงให้เขาทำประโยชน์ให้แก่อาณาจักรเราได้อีกต่อไป”



อเล็กเซียก้มหน้าลงต่ำขณะพูด เด็กหนุ่มไม่กล้ามองดูสีหน้าของพี่ชาย กลัวเหลือเกินที่จะถูกตำหนิ ทว่าในความเป็นจริงธีโอใช้มือลูบลงมาบนศีรษะของเขาเบาๆคล้ายจะปลอบโยน



“อเล็กเซียเจ้าคงอึดอัดมากสินะกับคำขอของพี่” อเล็กเซียไม่ตอบคำแต่ยังคงหลบตาธีโอ



“พี่เองต่างหากที่ต้องขอโทษที่บังคับให้เจ้าต้องทำเรื่องเลวร้าย ขอโทษนะ” ตอนนี้เองที่อเล็กเซียเงยหน้าขึ้นมองดูใบหน้าของพี่ชาย ธีโอนั้นมีสีหน้าเศร้าบอกชัดว่าเสียใจต่อการกระทำของตนมากแค่ไหน



“ท่านพี่....ข้า.....”

แทนที่จะได้กล่าวสิ่งที่คิดธีโอกลับส่งสัญญาณบอกให้อเล็กเซียเงียบเสียง เด็กหนุ่มจึงต้องหยุดพูดไปโดยปริยาย ปล่อยให้พี่ชายเป็นคนพูดต่อไป



“จริงๆหลังจากที่พูดเรื่องนั้นกับเจ้าพี่ละอายใจมาก เพราะว่าอายในสิ่งที่พูดจึงทำนิ่งเฉยด้วยคิดว่าหากไม่ตอกย้ำในคำพูดก่อนหน้านั้นเจ้าอาจจะไม่นำคำพูดของพี่ไปใส่ใจ ขอโทษนะที่พี่เอาแต่เห็นแก่ตัวเองจนทำให้เจ้าต้องลำบากใจถึงทุกวันนี้"



“ท่านพี่อย่าได้โทษตัวเองเช่นนั้น ในความเป็นจริงถึงท่านจะไม่พูดขึ้นมา หากคิดถึงหน้าที่ของเจ้าชายพระองค์หนึ่งแล้วบางทีข้าอาจจะตัดสินใจทำลงไปด้วยตัวเองก็ได้”



“แต่เจ้าก็ทำไม่ลงใช่ไหม” ธีโอยิ้มเศร้าๆพลางใช้มือลูบหัวอเล็กเซียไม่หยุด



“ท่านพี่ข้า....” พยายามจะขอโทษอีกครั้ง แต่ธีโอไม่เปิดโอกาสให้ได้พูด



“พี่เข้าใจอเล็กเซีย ความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์ซึ่งหาคำอธิบายไม่ได้ ในเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วทั้งพี่และท่านพ่อคงไม่คิดตำหนิเจ้า อีกอย่างการที่สามีภรรยาจะรักกันอย่างแน่นแฟ้นเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว หาใช่เรื่องที่เป็นความผิดไม่ เจ้าสบายใจเถอะ หากเจ้ามีความสุขพี่กับท่านพ่อเองก็มีความสุข”



“ถ้าอย่างนั้นข้าคงไม่ต้องกลับไปยังปราสาทแล้วใช่ไหมครับ” อเล็กเซียถามหยั่งเชิง ตอนนี้ธีโอถอนหายใจเบาๆ



“ข้าไม่ใจดำถึงขนาดจะพรากคนที่รักกันออกจากกันหรอก แต่เอเดรียนกับเจ้าต้องสัญญากับพี่ว่าจะไม่เกิดเรื่องจนเจ้าบาดเจ็บเพราะเรื่องชู้สาวเช่นนี้อีก”



“เอเดรียนเล่าให้ท่านพี่ฟังแล้วหรือครับ”



“ทางจดหมายนะสิ”



“อยากนั้นท่านพ่อคงรู้แล้ว” อเล็กเซียหน้าซีดเผือด เด็กหนุ่มเกรงว่าหากท่านพ่อรู้อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินแก้



“เด็กโง่สีหน้าเจ้าบอกชัดเลยนะว่ากลัวอะไรอยู่” เมื่อถูกรู้ความในใจอเล็กเซียก็ยิ้มเจื่อนๆ



“ท่านพ่อยังไม่รู้หรอก แค่ครั้งนี้เท่านั้นที่พี่จะปิดเป็นความลับให้เจ้า ดังนั้นหากหายดีแล้วเจ้าก็กลับไปเยี่ยมที่ปราสาทบ้างนะ พี่จะมารับเจ้าเอง”



“ขอบคุณมากครับท่านพี่” โผกอดธีโอด้วยความดีใจ แต่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นก็ร้องครางออกมาเพราะการกอดแบบนี้มันกระเทือนแผลตรงหัวไหล่ซึ่งยังไม่หายดี

           

   “อ้อจริงสิพี่ว่าจะพักค้างคืนที่นี่ดูอาการเจ้าซักสองสามวัน เจ้าลำบากหรือไม่”

           

    “ไม่เลยครับ ดีเสียอีกที่ท่านพี่มาค้าง”



 วันนี้อเล็กเซียมีความสุขที่สุด เพราะได้คลี่คลายเรื่องที่ตนเป็นทุกข์ใจมานานได้เสียที ถึงแม้ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะมีขวากหนามแบบไหนมาขวางทางเดินของเขากับเอเดรียนอีก แต่เมื่อมีท่านพี่คอยเข้าข้างเขาอย่างนี้มันทำให้สบายใจขึ้นมากทีเดียว

           

   หลังจากพูดคุยสัพเพเหระกันอีกนิดหน่อยธีโอก็ส่งสัญญาณให้เอเดรียนกับไอแซคเข้ามาในห้องได้ รัชทายาทออกคำสั่งให้ไอแซคนำข่าวกลับไปแจ้งให้ราชาธีโอดอร์ผู้เป็นพ่อทราบก่อนที่จะกลับบ้านไปพักได้ตามต้องการ คนรับคำสั่งมีท่าทีฮึดฮัด ไม่คาดว่าชายหนุ่มจะเอ่ยปากขอในสิ่งที่ทำให้ธีโอแปลกใจ

         

      “อเล็กเซียท่านไปส่งข้าได้หรือไม่...คือข้ามีเรื่องจะคุยกับท่านนิดหน่อย”

           

   “อ้าวถ้าจะคุยก็คุยกันตรงนี้ก็ได้นี่ อเล็กเซียยังไม่หายเจ็บจะไปส่งเจ้าไหวหรือ” ธีโอยังคงยิ้มอยู่แต่คาดว่าหากไอแซคยังดื้อแพ่งคงจะโกรธขึ้นมาแน่ๆ

         

     “ขอร้องล่ะอเล็กเซียไปส่งข้าทีนะ ตามลำพังด้วยยิ่งดี”

         

     “เอ้า....เจ้าเป็นอะไรของเจ้ากันหืมไอแซค” ธีโอชักไม่ชอบใจขึ้นมาแล้ว อเล็กเซียเห็นว่าการได้พูดคุยกับไอแซคตามลำพังก็ดีเหมือนกัน เขาเองก็มีเรื่องที่จะพูดให้อีกฝ่ายเข้าใจเสียที

           

    “ท่านพี่ข้าจะไปส่งไอแซคเองครับ”

           

    “เอาอย่างนั้นหรือ ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม”

           

    “เดี๋ยวข้าให้เอเดรียนไปเป็นเพื่อนก็ได้ครับ”



ไอแซคเคี้ยวฟันกรอดๆเห็นได้ชัดว่าไม่ได้ดั่งใจ ทำไงได้อเล็กเซียยอมให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบได้แค่นี้ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงเดินทางออกไปส่งไอแซคโดยขี่หลังเชอรีนเจ้าม้าตัวโปรดไปและมีเอเดรียนเป็นผู้ติดตาม



ระหว่างทางเดินออกนอกป่า พวกเขาสามคนต่างไม่ได้พูดอะไรกัน ได้แต่มุ่งหน้าออกจากป่าลึกอย่างมุ่งมั่น ไม่นานนักก็ออกมาถึงชายป่า



“ข้ามีเรื่องจะคุยกับอเล็กเซียขอเวลาซักครู่ได้หรือไม่” เห็นได้ชัดว่าไอแซคพยายามสะกดอารมณ์บางอย่างเอาไว้ยามที่พูดกับเอเดรียน



“อย่างนั้นข้ารออยู่ที่นี่นะอเล็กเซีย”



พยักหน้ารับก่อนจะบังคับม้าไล่ตามไอแซคที่นำหน้าไป อเล็กเซียขี่ม้าตามคนข้างหน้าออกห่างจากที่ที่เอเดรียน

อยู่มาใกล้พอสมควร ในที่สุดคนนำก็บังคับให้ม้าหยุดเดินแล้วลงจากหลังม้าจนได้ เด็กหนุ่มทำตามอย่างบ้างแล้วยืนคอยให้อีกฝ่ายเริ่มบทสนทนาเสียที

           

   “อเล็กเซียที่เจ้าถูกทำร้ายอย่างนี้เพราะถูกจับได้ว่าวางยาพิษเจ้าวูฟนั่นใช่หรือเปล่า”  ทันทีที่เริ่มพูดก็เปิดประเด็นเรื่องยาพิษเสียนี่ อเล็กเซียถอนหายใจออกมาโดยแรง

           

    “เปล่า”

           

    “ถ้าอย่างนั้นแล้วมันคืออะไร เจ้ายังไม่ได้ทำตามแผนที่เราวางไว้อย่างนั้นหรือ”

 ไอแซคเริ่มร้อนรน ในขณะที่อเล็กเซียเยือกเย็นขึ้นมากกว่าปกติ ถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดกันให้รู้เรื่องเสียที

         

     “ไอแซคฟังข้านะ...อย่างแรกรู้สึกขอบคุณจริงๆที่เจ้าเป็นห่วงข้าทั้งให้ยาที่ทำให้ข้าไม่ต้องร่วมรักกับเอเดรียน อีกทั้งยังสรรหายาอันตรายมาให้เพื่อให้ข้าเป็นอิสระจากเขาคนนั้น”

         

     “แน่นอนอยู่แล้วก็เพราะข้าปรารถนาดีต่อเจ้าอย่างไรล่ะ เจ้าก็รู้สินะว่าไม่มีใครดีต่อเจ้าได้มากเท่าข้าอีกแล้ว”

           

   “ใช่เจ้าอาจจะดีต่อข้า แต่ว่าข้าไม่เคยคิดใช้เจ้ายาประหลาดที่เจ้าให้มาเลยซักครั้ง”

           

   “หมายความว่าอย่างไรอเล็กเซีย” ตอนนี้ใบหน้าที่เป็นกันเองเปลี่ยนไปทีละนิด ไอแซคกำลังจะเปลี่ยนเป็นสัตว์ร้ายและอเล็กเซียก็รู้สึกได้

         

     “ข้าไม่ได้ใช่ยาที่เจ้าให้มากับเอเดรียนเลยแม้แต่ตัวเดียว ข้าทำลายยาที่เจ้าให้มาทิ้งไปหมด”

               ทันทีที่พูดความจริงออกไป ใบหน้าของไอแซคก็บิดเบี้ยวไปอย่างน่ากลัวด้วยความโกรธ อเล็กเซียเห็นอีกฝ่ายกำหมัดแน่น

         

      “อย่าบอกนะว่าที่เจ้าไม่ใช้ยาของข้าก็เพราะเจ้ารักมันเข้าแล้ว”

           

    “ใช่ข้ารักเอเดรียน” 

ทันที่ที่กล่าวจบไอแซคก็ตรงเข้ามาคว้าจับบนไหล่ทั้งสองข้างแล้วออกแรงเขย่าตัวอเล็กเซียไปมาด้วยลุแก่โทสะ



“เจ้าบ้าไปแล้วหรืออเล็กเซียมันไม่ใช่คนแท้ๆ แล้วข้าล่ะข้าเองก็รักเจ้านะ เจ้าทำแบบนี้ได้ลงคออย่างนั้นหรือ”



เพราะบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วแรงที่จะต่อต้านจึงแทบไม่มี การที่ถูกจับแล้วเขย่าอย่างแรงทำให้เลือดบริเวณแผลไหลออกมาอีกครั้งอเล็กเซียเจ็บจนร้องไม่ออก ได้แต่รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดสลัดให้หลุด



ทันทีที่หลุดจากการจับยึด ไอแซคก็ถูกหมาป่าสีดำตัวยักษ์กระโจนเข้าขย้ำอย่างไม่ปรานี อเล็กเซียคาดไม่ถึงว่า

เอเดรียนจะวิ่งมาได้ไวปานนี้ สงสัยจะได้ยินและเห็นที่พวกเขาคุยกันและรอจังหวะอยู่เป็นแน่แท้



“อ๊ากกก”



“กรร”



เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดของไอแซคกับเสียงขู่กรรโชกดังประสานกัน อเล็กเซียได้แต่ตะลึงในความดุร้ายของสามีกว่าจะฉุกคิดได้ว่าต้องห้ามไอแซคก็บาดเจ็บหนักเพราะถูกฝังเขี้ยวลึกอย่างตั้งใจ



“เอเดรียนพอ พอแล้ว” อเล็กเซียตรงเข้ายื้อยุดเจ้าหมาป่า วอนขอให้หยุดทำร้ายไอแซค



“แต่มันทำร้ายเจ้านะ แถมยังพยายามวางแผนแล่นงานข้าตั้งหลายครั้ง” เอเดรียนคำรามแล้วตั้งใจจะกลับไปฝังเขี้ยวกับร่างที่โทรมไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว



“เจ้าเล่นงานจนเขาแทบปางตาย ไอแซคก็สลบไปแล้วข้าคิดว่าเขาคงไม่กล้าทำอีกแล้วล่ะ พอเถอะ ขอร้องล่ะอย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนของข้า”

เอเดรียนหยุดเล่นงาน ไอแซคอย่างเสียไม่ได้ อเล็กเซียโล่งใจที่สามีของตนไม่ต้องเป็นฆาตกรเข่นฆ่าอดีตเพื่อนสนิทของตน



“แผลของท่านเป็นอย่างไรบ้างอเล็กเซีย ไอ้บัดซบมันซ้ำแผลท่านจนเลือดไหลออกมาเยอะถึงเพียงนี้” เอเดรียนทำท่าจะเข้าไปกัดไอแซคซ้ำอีกครั้ง



“ปล่อยไปเถอะเอเดรียน สำหรับไอแซคหากเจ้ายังปรานีช่วยให้หนุ่มๆในหมู่บ้านพากลับไปที่คฤหาสน์ของเขาในเมืองก็น่าจะพอแล้ว”



“ท่านใจดีกับมันเหลือเกิน”



 เอเดรียนทำเสียงไม่พอใจ ทว่าเมื่อเห็นอเล็กเซียเจ็บหนักเช่นนี้จึงไม่พูดให้มากความ เด็กหนุ่มถูกขอให้ขึ้นขี่หลังหมาป่าก่อนจะถูกนำกลับหมู่บ้านโดยมีเจ้าม้าเชอรีนวิ่งไล่ตามมาติดๆ



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


เอามาลงให้อีกตอนก่อนจะหายไปสองวันจริงๆและนะ เป็นอีกตอนที่ลังเลใจว่าจะเขียนออกมายังไง



เพราะมันมีผลต่อพล๊อตต่อไปอีกเยอะเลย  เฮ้อ เขียนยากจังน้า รู้ตัวว่ามีบางจุดที่ไม่สมเหตุผล แต่บางทีใจมัยก็อยากจะเขียนออกมาแบบนี้



ต้องขอโทษล่วงหน้าด้วยน้าถ้าเกิดคนอ่านพบช่องโหว่ขนาดใหญ่ ตอนนี้เข้าสู้เนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายแล้ว



สปอยว่าหาฉากหวานๆของเอเดรียนกับอเล็กเซลแทบไม่เจอเลย อย่าว่าเขาน้า



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่27 หน้า9 9/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-12-2016 13:40:45
อะโด่เอ๊ย รักจริงไม่ทำแบบนี้หรอก ป๊อดนี่หว่าไอแซค   
เอเดรียนน่าร้าก ชอบๆๆ อเล็กเซียคงต้องพักรักษาาตัวอีกนาน เอเดรียนก็อดไปก่อนนะ
ท่านพี่ธีโอต้องระวังหมาป่าสาวให้ดีนะเพคะ หุหุหุ   :hao6:    :L2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่27 หน้า9 9/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 09-12-2016 13:43:18
โหย...นี้และจุดเปลี่ยนตีงูไม่ตายแค่บาดเจ็บ แรงพยาบาทมันแรงอะ  :serius2:
ขอให้ผ่านอุปสรรคครั้งนี้ให้ได้นะคะ :3123: ส่วนองค์รัชทายาทกะมีอาขอให้สมหวังนะจ๊ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่27 หน้า9 9/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 09-12-2016 15:39:52
ไอแซคไม่ได้นักอเล๊กเซียหรอก คนรักกันไม่มำแบบนี้ น่าจะโดนให้หนักกว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่28 หน้า9 10/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 10-12-2016 11:33:33
ตอนที่28



หลังจากถูกไอแซคทำร้ายก็ผ่านมาได้สามเดือนแล้ว อเล็กเซียทราบข่าวจากท่านพี่ที่มาเยี่ยมเยียนบ่อยๆว่าอดีตเพื่อนของเขาได้รับการลงโทษปลดจากตำแหน่งราชการทั้งหมดที่มีกลายเป็นสามัญชน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะธีโอสืบสาวเรื่องทั้งหมดจากเอเดรียนกับเขาจนสามารถกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจนได้



ยามที่คิดถึงไอแซคอเล็กเซียก็นึกถึงสภาพบาดแผลฉกรรจ์ที่เอเดรียนลงมือทำร้าย เด็กหนุ่มคาดว่าบาดแผลนั่นคงกลายเป็นแผลเป็นน่าเกลียดอย่างแน่นอน แต่เดิมอดีตเพื่อนคนนี้เป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลามากคนหนึ่งจึงอดไม่ได้ที่จะให้ความสงสาร



กระนั้นก็ใช่ว่าจะเอาแต่คิดถึงไอแซคที่ไม่ได้พบกันนาน สามเดือนมานี่มีเรื่องให้ครุ่นคิดอีกหลายอย่างหนึ่งในนั้นคือความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไปอย่างช้าๆระหว่างท่านพี่กับมีอา



มันกลายเป็นเช่นนี้หลังจากที่เขาบาดเจ็บซ้ำจากไอแซค มีอาเป็นผู้นำยามารักษาเขาด้วยตัวเอง ตอนแรกก็นึกสงสัยว่าเพราะเหตุใดหญิงสาวถึงได้มาใจดีกับเขา แต่รู้ภายหลังมีอานั้นเป็นลูกศิษย์คนโปรดของหมอประจำเผ่าวูฟและยังเป็นอัจฉริยะในการปรุงยาที่หาได้ยากอีกด้วย



การที่เธอเอายามาให้อย่างสม่ำเสมอทำให้ได้พบกับท่านพี่ที่แวะเวียนมาเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง ท่านพี่ตอนแรกดูจะประหลาดใจที่คู่แข่งทางความรักอย่างมีอามาคอยดูแลเขา แต่นานๆเข้าก็กลายเป็นพูดคุยกันได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงเสียนี่



ยิ่งนานวันอเล็กเซียยิ่งรู้สึกว่ามันแปลก มีอากระตือรือร้นที่จะเข้าหาท่านพี่ ดวงตาคู่งามเปล่งประกายเจิดจรัสยามได้อยู่ใกล้พี่ชายของเขา ในที่สุดอเล็กเซียก็ทราบความจริงจากเอเดรียนเมื่อเดือนก่อนจนได้ว่าธีโอเป็นคู่ฟ้าลิขิตของมีอา



ตกใจอย่างมากที่รู้ความจริงเรื่องนั้น ตอนนี้ถึงเข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่มีอามาที่บ้านของเขาไนเจลจึงตามมาด้วยทั้งยังทำหน้าหงิกงอทุกครั้งไป อเล็กเซียเข้าใจความรู้สึกของไนเจลดี หากว่าคู่ฟ้าลิขิตของหญิงสาวเป็นบุคคลทั่วไปย่อมไม่ยากที่จะสมหวังในความรักครั้งนี้



ทว่าเมื่อกลายเป็นเจ้าชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรอเล็กซานเดรียแล้วมันไม่ง่ายอย่างที่คิด แต่ก็นั่นแหละจากที่ท่านพี่แวะเวียนมาเยี่ยมบ่อยๆจนเกินความจำเป็นอย่างนี้ มันทำให้อเล็กเซียสัมผัสได้ถึงความเป็นไปได้บางอย่าง



กระนั้นในความเป็นจริงถึงท่านพี่จะสามารถเลือกชายาตามใจชอบได้ แต่ท่านพ่อล่ะจะคิดเห็นเป็นเช่นไร เนื่องจากอเล็กเซียไม่ได้มีความเกลียดชังมีอาถึงแม้ว่าจะเคยเป็นศัตรูทางความรักมาก่อน นอกจากนั้นยังนิยมชมชอบไนเจลอยู่มากด้วยความคิดเช่นนี้จึงไม่อยากให้มีอาเสียใจเพราะผิดหวังจากท่านพี่



ตอนนี้ท่านพี่กับมีอาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานโดยมีไนเจลนั่งหน้าบูดคุมเชิงอยู่ไม่ห่าง ดูจากท่าทางของท่านพี่ไม่แคล้วว่าคงจะพึงใจในตัวมีอาเช่นกัน ไม่คิดว่าก่อนเลยว่าคนที่เอาแต่สนใจแต่เรื่องบ้านเมืองจนไม่ค่อยได้เข้าใกล้ผู้หญิงจะมีใจให้กับมีอาง่ายๆ



เพราะพูดคุยกันถูกคอหรือไงนะ อเล็กเซียยิ่งได้ฟังธีโอกับมีอาพูดคุยกันก็ยิ่งรู้ว่าทั้งสองคนมีอะไรหลายๆอย่างที่คล้ายกันจนน่าใจหาย ควรจะปล่อยให้ดำเนินไปอย่างนี้หรือควรจะหยุดเสียก่อนที่จะมีคนเสียใจดีหรือเปล่านะ



 ไม่สิ ก่อนอื่นต้องสำรวจใจจริงของท่านพี่เสียก่อน หากว่าไม่คิดจริงจังกับมีอาเขาจะได้ห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้ทั้งสองคนยุ่งเกี่ยวกันอีก ไม่ควรมองท่านพี่ในแง่ร้ายแต่ท่านพี่เองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง บางทีอาจมีความคิดล่อลวงหญิงสาวบ้านนอกเป็นครั้งคราวบ้างเหมือนกัน ขอให้เขาคิดผิดในเรื่องนี้เถอะ



“ท่านพี่ข้ามีเรื่องจะพูดกับท่านหน่อย”



“ขอตัวสักครู๋นะมีอา”



กล่าวจบธีโอก็เดินตามหลังของอเล็กเซีย เด็กหนุ่มพาท่านพี่มายังห้องนอนของเขากับเอเดรียน รู้ดีอยู่ว่าระยะห่างแค่นี้ไม่สามารถปิดกั้นเสียงจากพวกวูฟได้ ดังนั้นจึงจงใจถามล้วงเอาความต้องการของท่านพี่ออกมาให้มีอาและไนเจลได้ยินกันไปเลย



“ท่านพี่ที่ท่านแวะเวียนมาเยี่ยมข้าบ่อยเช่นนี้ข้าก็ดีใจอยู่หรอกนะ แต่ว่าจริงๆแล้วท่านมาเพราะมีอาอยู่ที่นี่ใช่หรือไม่”

ธีโอเงียบไปหลายอึดใจ อเล็กเซียมองดูท่านพี่แสดงท่าทางอึดอัดกระวนกระวาย จนสุดท้ายก็ยอมพูดความจริงออกมากจนได้



“พี่ไม่ปฎิเสธว่ามานี่เพราะอยากพบเธอคนนั้นเช่นกัน”



“ท่านพี่หญิงสาวในเมืองไม่พอให้ท่านเล่นสนุกด้วยแล้วอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงคิดหาเรื่องใส่ตัวกับหญิงสาวเผ่าวูฟล่ะ ท่านไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นหรืออย่างไร”

ธีโอเงียบไปอีกหลายอึดใจ ใบหน้าที่สับสนของท่านพี่ชวนให้นึกประหลาดใจ ท่านพี่ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน



“นางมีชีวิตชีวาน่าค้นหาและแตกต่างจากผู้หญิงในเมือง พี่รู้ว่ามันแปลกๆแต่อเล็กเซียพี่ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนเลย”



“ตัดใจเสียท่านพี่ แล้วอย่ามายุ่งกับนางอีก หากยังเป็นเพียงแค่ถูกดึงดูดก็ยังตัดใจได้ทันนะ”



ธีโอนิ่งเงียบอีกคราคราวนี้นานกว่าเดิมมาก สุดท้ายชายหนุ่มก็ส่ายหน้าไปมาแล้วถอดถอนหายใจ อเล็กเซียเดาไม่ถูกเลยว่าท่านพี่คิดอะไรอยู่จนยอมพูดออกมานี่แหละ



“พี่รู้อเล็กเซียแต่ว่า....” ท่าทางลังเลของธีโอทำให้อเล็กเซียต้องกล่าวเตือนเน้นย้ำอีกครั้ง



“ท่านพี่มันจะยุ่งยากเอานะครับ ท่านคิดถึงอุปสรรคที่เกิดขึ้นดีแล้วหรือ อีกอย่างด้วยระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่นี้ท่านจะมาบอกข้าว่าขอบหรือรักมีอามันก็...”



“อเล็กเซียอย่าลืมสิ เจ้าเองก็ไม่ต่างกันไม่ใช่หรือ อย่าทำเหมือนความรู้สึกของพี่เป็นของไร้สาระสิ “



เมื่อถูกย้อนศรกลับมาเช่นนี้ทำให้พูดอะไรไม่ออก อเล็กเซียเองก็ตกหลุมรักเอเดรียนในระยะเวลาที่สั้นมากเช่นกัน จนอดคิดตลกๆไม่ได้ว่าพวกเขาสองพี่น้องนี่ช่างรักใครได้ง่ายๆเกินไปแล้ว



“แล้วท่านจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตอนนี้ ท่านพ่อจะยอมให้ท่านพี่ยกให้มีอาเป็นคู่แต่งงานของท่านพี่หรือ”



“ถ้าในฐานะชายาคนหนึ่งท่านพ่อคงไม่ขัดข้องแต่ในฐานะราชินีท่านพ่อคงไม่ยอม”



“แล้วมีอาล่ะนางจะยอมหรือ ท่านพี่ได้บอกรักนางไปแล้วหรือยัง”

เมื่ออเล็กเซียรุกหนักธีโอก็ถึงกับไหล่ตก ชายหนุ่มห่อไหล่เข้าหากันท่าทางคล้ายกับคนที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูป



“ท่านพี่ข้าจะไม่ขัดขวางทางรักของท่าน หากท่านจริงจังกับนางท่านสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่ถ้ายังไม่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตใครท่านหยุดเอาไว้แค่นี้จะดีเสียกว่า ข้าหวังดีต่อท่านและมีอานะ”



หลังจากพูดคุยกันจบอเล็กเซียกับธีโอก็กลับไปยังห้องรับแขกที่นั่น เอเดรียนส่งยิ้มเอาใจช่วยให้เข้า ในขณะที่ไนเจลแสดงสีหน้าประหนึ่งกำลังขอบคุณมาเช่นกัน อเล็กเซียคิดว่าดีแล้วที่ได้พูด ท่านพี่ของเขาดูนิ่งขรึมและรักษาระยะห่างกับมีอามากกว่าเดิมแต่ทว่า



“ธีโอ ท่านสัญญาว่าจะพาข้าเข้าไปเที่ยวในปราสาทนี่นา ท่านลืมสัญญาไปแล้วหรือ”



ไนเจลสะดุ้งเฮือกใหญ่ อเล็กเซียเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าความสัมพันธ์ของท่านพี่กับมีอาจะรุดหน้าไปถึงขั้นนี้ ถึงแม้เวลาส่วนใหญ่คนทั้งคู่จะอยู่ในสายตาของเขาก็เถอะแต่ก็มีบ้างที่อยู่ห่างสาสยตา นี่คงจะไปสัญญากันเอาไว้ในช่วงเวลานั้นนั่นเอง



“ท่านอย่าบอกนะว่าลืมไปแล้ว”



 ตอนนี้มีอาทำหน้าเศร้าๆ ถึงแม้ว่าจะได้ยินที่เขาพูดกับท่านพี่ครบทุกถ้อยคำ แต่หญิงสาวยังคิดจะเดินหน้า อเล็กเซียนับถือในความยึดมั่นในรักของอีกฝ่ายเสียจริงๆ ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจความหมายของคู่ฟ้าลิขิตเพิ่มมากขึ้น



“มีอาให้มันน้อยๆหน่อยนะ เจ้าจะเอาคำพูดเล่นๆของรัชทายาทมาคิดเป็นจริงเป็นจังได้ที่ไหน มากลับบ้านไปกับพี่ได้แล้ว อเล็กเซียเองก็หายดีนานแล้วเจ้าไม่จำเป็นต้องนำยามาให้อีกก็ได้”



มีอาเม้มริมฝีปากแน่น หญิงสาวทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ คงเสียใจและผิดหวังมากสินะ อเล็กเซียมีความคิดสับสนหลายอย่างในใจ ระหว่างอยากจะช่วยให้ความรักนี้เดินหน้ากับหยุดยั้งเอาไว้ก่อนที่จะทำคนทั้งคู่เจ็บไปด้วยกัน



“มีอา เจ้าจะเข้าไปเที่ยวเล่นที่ปราสาทก็ได้นะ ไปเป็นเพื่อนข้านี่ล่ะ ข้าเองก็คิดจะกลับไปปราสาทเพื่อเยี่ยมเยียนท่านพ่อเหมือนกัน”



ทุกคนหันมามองที่เขาเป็นจุดเดียวด้วยแววตาที่เหมือนไม่อยากจะเชื่อ ช่วยไม่ได้นะใบหน้าที่ทั้งเหงาและเศร้าใจของทั้งท่านพี่และมีอามันทำให้อเล็กเซียใจอ่อน จะลองปล่อยไปตามครรลองแห่งรักดูซักครั้ง หากว่าต้องเจ็บมันก็เป็นเรื่องที่ทั้งสองคนมีสิทธิเลือกและได้ทำมันไปด้วยตนเอง



“ท่านพี่เห็นเป็นอย่างไรครับ” อเล็กเซียยิ้มหวานให้ธีโอ



“ดี...ดีมากเลย...” ธีโอเหมือนจะยังสับสนและตามสถานการณ์ไม่ทัน



“แล้วไนเจลล่ะอนุญาตให้มีอาไปเป็นเพื่อนอเล็กเซียไหม”



ตอนนี้ไนเจลเริ่มจะคิดหนัก มีอาส่งสายตาเต็มไปด้วยความหวังไปให้ไนเจล ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถทนเห็นใบหน้าโศกเศร้าของน้องสาวได้จึงตอบตกลงแม้จะมีท่าทางลังเล



“ถ้าอย่างนั้นข้าจะขออนุญาตรัชทายาทตามติดไปด้วยอีกคน” ไนเจลเอ่ยขอแต่เอเดรียนกลับขัดคอและชี้ให้เห็นถึงเรื่องสำคัญที่เร่งด่วนกว่า



“เจ้าอย่าลืมสิไนเจลว่าเดือนนี้ทั้งเดือนเราต้องจัดการกับผลผลิตของหมู่บ้านก่อนที่จะเข้าสู่หน้าหนาว เจ้ามีเวลาไปเที่ยวเล่นด้วยหรือ”



ไนเจลครางในลำคอ จากที่อเล็กเซียได้ฟังจากเอเดรียนมาบ้างก็รู้ดีว่าเวลาที่ฤดูหนาวมาเยือนสามีของเขาและไนเจลต้องช่วยกันดูแลผลผลิตและคลังสเบียงของชาวเผ่า ช่วงเวลานี้จะวุ่นวายมากเป็นพิเศษจนแทบไม่มีเวลาได้หยุดพัก



“ไม่ต้องห่วงนะไนเจลข้าจะดูแลมีอาเป็นอย่างดี” อเล็กเซียให้คำสัญญาแก่ไนเจล ชายหนุ่มนิ่งคิดชั่วครู่ก่อนจะฝากฝังมีอากับเขาอย่างเสียไม่ได้



“ฝากดูแลน้องสาวของข้าด้วยนะอเล็กเซีย” ทันทีที่กล่าวจบมีอาก็โผเข้ากอดไนเจล หญิงสาวหอมแก้มพี่ชายฟอดใหญ่และกล่าวคำขอบคุณ



“ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปเตรียมตัวเถอะอีกสองวันข้าตั้งใจว่าจะออกเดินทาง” อเล็กเซียบอกความต้องการให้ทุกคนทราบ ดังนั้นมีอาจึงขอกลับบ้านไปเพื่อเตรียมตัวให้พร้อม



“ขอบใจนะอเล็กเซีย”



ธีโอกล่าวด้วยใบหน้าที่ก้ำกึ่งระหว่างลำบากใจและยินดี อเล็กเซียเข้าใจความรู้สึกของท่านพี่ดีพอ ตอนนี้คงตระหนักถึงอะไรหลายๆอย่างขึ้นมาบ้างแล้วสินะ ทว่าจากนี้เขาจะไม่เข้าไปยุ่งอีกแล้วสิ่งที่คิดทำคือขอเอาใจช่วยให้ท่านพี่ผ่านอุปสรรครักครั้งนี้ด้วยความราบรื่นเขาทำได้เพียงแค่นั้นจริงๆ



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



เขียนอีกสองตอนก็จบแล้ว 55555 ดีใจที่กำลังจะเขียนจบ



ฉากตอนท้ายๆเขียนไปยังงงตัวเอง รู้สึกว่าฉากรบนี่ไม่ใช่ของถนัดของเราเสียเลย อุ๊ปสปอย



ดังนั้นต้องขออภัยล่วงหน้าก่อนที่จะเอามาลงนะจ๊ะ



ไม่ใช่ฉากที่ยิ่งใหญ่ไรมาก แค่ตอนเดียวจบ5555



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะจ๊ะ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่28 หน้า9 10/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 10-12-2016 13:36:59
 :m16: ไอแซคไม่อยู่เฉยแน่ๆ เตรียมรับมือดีๆ กันน๊า
ส่วนความรักคู่พี่สู้ๆ จ้า คงมีใจทั้งสองฝ่าย อุปสรรคมีไว้ฝ่าเน๊าะ   :3123:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่28 หน้า9 10/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-12-2016 14:21:17
อ้าว จะจบแล้วหรอเนี่ยย   :hao7:   :mew1:  เอาใจช่วยพี่ธีโอนะคะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่28 หน้า9 10/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 10-12-2016 14:55:47
ลุ้นนนนน  :hao7:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 12-12-2016 15:54:24
ตอนที่29



กว่าจะรู้ตัวว่าแหล่งน้ำสำคัญที่ทอดยาวผ่านหมู่บ้านมีพิษปะปนอยู่ก็เป็นเวลาเที่ยงของวันเสียแล้ว ตอนที่

เอเดรียนผลัดกับไนเจลดื่มน้ำในสายธารก็รู้ได้ในทันทีว่าพิษที่เจือปนอยู่นั้นคืออะไร

         

     เอเดรียนยืนคิดถึงสาเหตุของการปนเปื้อนในแหล่งน้ำ เรื่องการวางยาเช่นนี้ทำให้อดคิดถึงไอแซคไม่ได้ ชายหนุ่มสังหรณ์ใจว่าชายผู้นั่นน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

         

     “ท่านหัวหน้า”



หนุ่มในเผ่าคนหนึ่งตรงเข้ามาหาเขากับไนเจล เมื่อมาถึงก็ยื่นจดหมายให้หนึ่งฉบับ เอเดรียนเปิดอ่านดู เนื้อหาในนั้นกล่าวถึงกลุ่มโจรและพวกนอกรีตที่รวมตัวกันอยู่ไม่ไกลจากป่าดำ คนเหล่านี้กบดานอยู่ในหมู่บ้านร้างและมีจำนวนมาก ขณะนี้พวกมันคล้ายกับจะลงมือทำอะไรบางอย่าง จดหมายยังเล่าอีกว่าพบเห็นพวกมันกระจายพิษลงในต้นน้ำอีกด้วย



แผนการนี้มันเคยเป็นความคิดของไอแซคมิใช่หรือ เอเดรียนอดคิดไม่ได้ว่าจุดประสงค์หลักอาจเพื่อเล่นงานพวกวูฟเพื่อล้างแค้นก็เป็นได้



“เอเดรียนประชุมเผ่าดีหรือไม่” ไนเจลเสนอความเห็น เอเดรียนตอบตกลงในทันที



ในระหว่างการประชุมมีผู้แสดงความคิดเห็นมากมาย หลายคนในเผ่าเชื่อว่าการวางยาในน้ำนี้เป็นไปเพื่อเล่นงานคนในเผ่าวูฟ ทว่าความโง่เขลาของคนคิดแผนก็ทำให้คนในเผ่าหัวเราะได้เช่นกัน



โชคดีเหลือเกินที่พวกมันไม่รู้ว่ายาพิษไม่สามารถทำอันตรายต่อเผ่าวูฟได้ และเป็นโชคดีที่พวกผู้หญิงในหมู่บ้านซึ่งไม่ใช้วูฟยังไม่มีใครได้ดื่มน้ำลงไป ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มต้นวางแผนการณ์อย่างละเอียดถี่ถ้วน



ช่วงเวลาที่เฝ้าวางแผนกัน สายของเผ่าก็ส่งจดหมายมาอีกฉบับผ่านทางนก ในจดหมายเขียนว่าพวกกองโจรและพวกนอกรีตแบ่งออกเป็นสองกลุ่มๆหนึ่งมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวงส่วนอีกกลุ่มมุ่งหน้ามาที่ป่าดำ



ไนเจลมีท่าทีวิตกกังวลทันที เพราะว่าราวๆสองวันก่อนมีอาได้เดินทางไปยังเมืองหลวงกับอเล็กเซียและธีโอ

 เอเดรียนเองก็เป็นห่วงภรรยาของเขาเช่นกัน

           

   มีผู้เสนอความคิดบางอย่าง ผู้เฒ่าในเผ่ากล่าวว่าหากพวกผู้ไม่ประสงค์ดีต้องการเดินทางมาลอบกัดคนในเผ่าหลังจากถูกพิษก็ควรแกล้งถูกพิษแล้วล่อให้พวกมันเข้ามาติดกับดีหรือไม่

         

     พวกหนุ่มในเผ่าหลายคนเห็นด้วยกับความคิดนี้ เพราะต้องการกำจัดผู้ไม่หวังดีให้สิ้นซาก หากพวกมันไม่บุกเข้ามาเพราะแผนการณ์สำเร็จก็ไม่รู้ว่าจะมีความคิดเลวร้ายอันซับซ้อนอื่นโผล่ขึ้นมาให้พวกเขาลำบากใจอีกมากเท่าไหร่



 ดังนั้นความคิดแกล้งถูกพิษแล้วล่อพวกมันออกมาจัดการครั้งเดียวจึงเป็นความคิดที่น่าสนใจ แล้วความคิดนี้ทุกคนก็เห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์



จากนั้นเอเดรียนยังไม่ลืมแบ่งคนจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังเมืองหลวงของอเล็กซานเดรียเพื่อเฝ้าดูและช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะแน่ใจว่าคนในเมืองคงจะถูกพิษอยู่ไม่ใช่น้อย



“ข้าขออาสาไปเอง ข้าจะพาหนุ่มในหมู่บ้านไปซักสี่สิบคน เจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไรเอเดรียน”

เอเดรียนพยักหน้าบอกว่าเขาเห็นด้วย



“นำหมอประจำเผ่าเราไปด้วยล่ะ เพราะอย่างไรคงต้องปรุงยาแก้พิษให้คนในเมืองแน่ๆ”



หลังจากจบการประชุม เอเดรียนก็สั่งให้ผู้หญิงกับเด็กที่ไม่สามารถกลายร่างได้ไปกบดานอยู่ในฐานลับของเผ่า พวกหนุ่มๆเริ่มต้นเล่นละครให้คล้ายกับถูกพิษเล่นงาน



 เอเดรียนเลือกที่จะแสดงเป็นคนถูกพิษในบ้านของเขาเอง ไม่รู้ว่าแผนการนี้จะล่อให้พวกผู้ไม่ประสงค์ดีออกมาได้หรือไม่ ชาวเผ่าวูฟของเขาแต่ละคนนั้นใจเด็ดและมีความอึดเหนือมนุษย์อยู่แล้ว จึงตัดสินใจว่าจะแกล้งง่อยเปลี้ยเสียขาได้ยาวนานที่สุดซักสองวัน



เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เอเดรียนเริ่มจะคิดว่าแผนการที่วางไว้อาจจะสูญเปล่า บางทีเรื่องราวอาจไม่เป็นอย่างที่คิด ทว่าขณะที่คิดเช่นนั้นก็ได้ยินเสียงคนถีบประตู เสียงเดินหนักๆใกล้เข้ามาทุกทีจนในที่สุดเขาซึ่งนอนแผ่อยู่ก็ได้เห็นหน้าคนปริศนาจนได้



ถูกเตะอัดเข้าเต็มแรงหลายครั้งทันทีที่ได้เห็นหน้า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลฉกรรจ์สูญเสียความหล่อเหลาไปแต่ยังมีเค้าให้จำได้อยู่บ้างคนคนนี้คือไอแซคไม่ผิด



“คงแปลกใจล่ะสิที่ข้ายังมีแรงเดินเหินและสามารถวางแผนเล่นงานแกได้ไอ้วูฟโสโครก” หลังจากทั้งเตะทั้งกระทืบจนหนำใจไอแซคก็เริ่มต้นพูดพล่ามสิ่งที่คิด



“ว่าไงตกใจหรือไม่”



เอเดรียนแสร้งทำสีหน้าตกใจและหวาดกลัวอย่างสุดความสามารถ เนื่องด้วยยาพิษทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตทั้งหมดจึงแสดงได้แค่สีหน้าแววตาและคำพูดเท่านั้น



“ไว้ชีวิตข้ากับคนในเผ่าเถอะ ข้าขอร้อง”

ไอแซคหัวเราะเสียงดัง แววตาประสงค์ร้ายหรี่มองไปรอบๆ



“อเล็กเซียล่ะเจ้าหมาสวะ”

เอเดรียนแกล้งอึกอักไม่ยอมพูด ไอแซคกระทืบซ้ำลงมาบนใบหน้าของเขาจนเลือดกำเดาไหลโกรก



“บอกมาเสียไอ้สวะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว”



“บอกแล้วๆ อเล็กเซียไปเยี่ยมกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด เขาไปที่ปราสาท”



“ดีดีมาก” ไอแซคหัวเราะร่วนต่อความว่าง่ายของเอเดรียน

 ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเจ้าอสรพิษพาผู้คนมามากเท่าไหร่แล้วสถานการณ์ของคนในเผ่าเป็นอย่างไร แต่ได้ออกคำสั่งไปว่าหากประสบโอกาสให้เล่นงานคนที่เข้าถึงตัวได้ทันที



“คงจะงงล่ะสิว่าทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่ ล้างแค้นไงล่ะ ไม่ใช่ล้างแค้นธรรมดานะ เจ้าเดาได้หรือยัง ไม่สินะ ข้าจะบอกให้รู้ ข้านะแอบติดต่อกับพวกโจรและพวกนอกรีตไว้นานแล้ว ตอนแรกคิดว่าจะใช้เป็นเส้นสายเลี้ยงไว้ทำงานสกปรกให้ แต่ว่าเพราะพวกแกทำให้ชีวิตข้าป่นปี้ไปหมด ข้ากลายเป็นคนอัปลักษณ์ แถมถูกแย่งตำแหน่งและชื่อเสียง อเล็กเซียเองก็ทำให้ข้าผิดหวังจนไม่อาจให้อภัย ดังนั้นข้าจึงได้ยื่นเงื่อนไขให้พวกนอกรีตช่วยข้าจัดการล้างแค้น ไม่คาดว่าสิ่งที่ได้กลับมาจะเกินคาด พวกโจรกับพวกนอกรีตวางแผนจะยึดอาณาจักรแล้วให้ข้าขึ้นเป็นราชาองค์ต่อไป ดังนั้นข้าจึงเสนอแผนการดีเยี่ยมวางยาพิษร้ายให้พวกแกและคนในเมืองเป็นอัมพาตไปเสียเลย คงจะเข้าใจสินะว่าจัดการกับพวกอัมพาตมันง่ายมากแค่ไหน” ไอแซคแสยะยิ้ม



“แล้วอเล็กเซียเล่าเจ้าจะฆ่าอเล็กเซียด้วยหรือ” แสร้งถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไอแซคดูจะชอบใบหน้าแบบนี้ของเขา



“สำหรับอเล็กเซียข้าจะให้มันมาเป็นเครื่องบำเรอกามของข้า ในเมื่อมอบความรักให้อย่างจริงใจแล้วไม่เห็นค่า ข้าก็จะขังมันไว้ให้มีชีวิตอยู่เพื่อแค่เป็นที่ระบายความใคร่ไปตลอดชีวิต”



กล่าวจบไอแซคก็หัวเราะชอบใจ เอเดรียนโกรธเส้นเลือดที่ขมับปูดบวม คิดว่าหากไม่จัดการให้มันสิ้นซากไป คงไม่สามารถหลับตานอนได้อย่างสบายใจเป็นแน่ ในตอนนั้นเสียงกรี๊ดร้องเสียงโครมครามอันเป็นเครื่องหมายของการต่อสู้ก็ดังขึ้นที่ด้านนอก



เอเดรียนเข้าใจว่าพวกหนุ่มๆในเผ่าคงเปิดการจู่โจมกันไปทั่วแล้ว ไอแซคดูตกใจกับเสียงโหวกเหวกนั้นไม่น้อย ชายหนุ่มฉวยโอกาสที่เจ้าอสรพิษไม่ทันตั้งตัวลุกขึ้นอย่างผ่าเผยก่อนจัดการถีบคนไม่ระวังตัวล้มกลิ้งโค่โล่



“กะ....แก...ทำไม....”



ไม่เปิดโอกาสให้ถามและไม่คิดจะตอบคำถาม ก่อนที่จะฆ่าทิ้งเอเดรียนต้องการจะชกและกระทืบเจ้าอสรพิษจนกว่าจะสาแก่ใจ ดังนั้นจึงประเคนหมัดและเท้าเข้าใส่ไม่ยั้งจนไอแซคหลั่งน้ำตาออกมา



“แก...ไม่ได้โดนพิษหรอกหรือ”



“นั่นสิ ไอ้โง่ไม่คิดบ้างหรือว่า ทางข้าเองก็มีสายสืบวูฟกระจายไปทั่วอาณาจักรเหมือนกัน”



“ไม่จริง”



ไอแซคดวงตาเบิกกว้าง เอเดรียนเปิดโอกาสให้เจ้าอสรพิษลุกขึ้นวิ่งหนีด้วยความกลัวเพราะว่าตอนนี้เขากลายร่างเป็นหมาป่าตัวใหญ่พร้อมกระโจนเข้าเล่นงาน



เอเดรียนไล่ตามไอแซคไปอย่างช้าๆ ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างพวกนอกรีตที่ใช้เวทย์มนต์กับพวกวูฟที่กลายร่างแล้ว เอเดรียนพบว่าคนที่เจ้าหน้าแปลกที่ไอแซควิ่งไปขอความช่วยเหลือนี้คงเป็นหัวหน้าไม่ผิดแน่



“ช่วยด้วย มันจะฆ่าข้าแล้ว”



 ไอแซคโผเข้าไปยื้อยุดแขนของพ่อมดในชุดแดงด้วยท่าทางเสียขวัญและไร้สติ เอเดรียนไม่แปลกใจที่ความกลัวจะเล่นงานเจ้าหมอนี่มากถึงเพียงนี้ ความหวาดผวาจากการถูกเขาเล่นงานในครั้งก่อนคงฝังรากลึกลงในใจของชายผู้นี้เสียแล้ว



“ไอ้โง่บัดซบ ยังมีหน้ามาร้องขอให้ช่วยอีกหรือ” พ่อมดชุดแดงผลักไสไอแซคจนล้มกลิ้งไปกับพื้น เอเดรียนสัมผัสได้ถึงแววตาเหยียดหยามจากพ่อมดผู้นี้ที่มีต่อเจ้าอสรพิษ



“แกเป็นคนคิดแผนวางยาพวกมันแท้ๆ แต่นี่อะไรพวกวูฟมันนอกจากจะไม่ถูกพิษยังลุกขึ้นมาสู้กับพวกเราจนล้มตายไปมาก ไอ้สวะทำให้พวกเราเสียไพร่พลไปเยอะขนาดนี้ จงตายเสียเพื่อชดใช้ในสิ่งที่แกทำเสียเถอะ”



ไอแซคลนลานลุกขึ้นเพื่อจะวิ่งหนี แต่ทว่าพ่อมดชุดแดงกลับร่ายเวทย์สร้างลูกบอลไฟเข้าใส่ เจ้าอสรพิษถูกเผาทั้งเป็นต่อหน้าต่อตาของเอเดรียน เสียงเนื้อไหม้และเสียงกรีดร้องโหยหวนไม่ได้ทำให้นึกสงสารแต่ลึกๆแล้วมีความสมเพชให้อยู่ไม่น้อย



หลังจากเล่นงานไอแซคแล้วพ่อมดชุดแดงไม่พูดพล่ามทำเพลงร่ายเวทย์มนต์สร้างลูกบอลไฟใส่เขาเช่นกัน

 เอเดรียนใช้ความเร็วหลบการจู่โจมได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับความเร็วของเขาที่รวดเร็วประดุจสายลมการร่ายเวทย์อันเชื่องช้าของพ่อมดไม่สามารถหยุดยั้งการจู่โจมของเขาได้ เจ้าหมาป่ากระโจนเข้างับหัวของพ่อมดแดงปลิดชีวิตคนที่รนหาที่ในพริบตา



เมื่อปลิดชีวิตตัวหัวหน้าได้ พวกพ่อมดแม่มดนอกรีตก็มีท่าทางตื่นตกใจจนแตกร่นไม่เป็นขบวน หนุ่มๆหมาป่าจึงโหมบุกไม่ยั้งและสามารถปลิดชีพพวกนอกรีตได้เป็นจำนวนมาก เอเดรียนสั่งให้พวกหนุ่มๆไล่ตามพวกที่หนีไปแล้วปลิดชีวิตพวกมันไม่ให้เหลือ



เป็นเวลาเกือบเย็นแล้ว เอเดรียนและคนในเผ่าจัดการพวกนอกรีตได้จนหมด ชายหนุ่มเรียกรวมตัวคนในเผ่าเพื่อตรวจสอบจำนวนคน ตอนนี้เริ่มจะร้อนรนกลัวว่าอเล็กเซียจะเป็นอันตราย



หากเป็นไปตามแผนที่ไอแซคกล่าว ที่เมืองน่าจะถูกโจมตีอย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าคนในเผ่าเพียงสี่สิบคนจะช่วยได้มากแค่ไหน ดังนั้นเอเดรียนจึงรวมรวบและแบ่งกำลังคนอีกครั้งครึ่งหนึ่งทิ้งไว้ดูความปลอดภัยที่หมู่บ้านส่วนอีกครึ่งเขาจะเป็นผู้นำตามไปช่วยเหลือผู้คนในเมืองสมทบกับไนเจล



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



ใกล้จบจริงๆและนะ5555555 กำลังมองหาพล๊อตนิยายเรื่องใหม่อยู่อาจจะทิ่งช่วงซักนิดนึง ยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะแต่งไรต่อดี



อยากให้คนอ่านตามไปอ่านเรื่องใหม่ด้วยน้ามีความหวัง 555555



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะ ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-12-2016 16:35:27
 :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-12-2016 16:45:07
 :ling3:  งูพิษเอ๊ยยย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 12-12-2016 18:02:55
จะมีคนด่ามั้ยถ้าเราอยากกระโดดแล้วร้องว่า "เย้ ไอแซค มึงตายๆไปได้ซักทีนะ! อิอิ"....
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-12-2016 18:22:35
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 12-12-2016 20:06:03
 :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-12-2016 23:00:20
เหอะๆ ไอแซค ได้รับจุดจบที่สาสมเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 12-12-2016 23:33:04
ดำเนินเรื่องรวดเร็วดีชอบๆๆ
เป็นห่วงเอล็กเซียไม่รู้จะเป็นไงกันบ้าง :katai1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 13-12-2016 09:08:53
เป็นไปตามกฎแห่งกรรม หมองูตายเพราะงู   o13 สมจริงๆ
แต่ยังเหลือในเมืองรีบๆ ไปช่วยน๊า ขอให้ปลอดภัย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 13-12-2016 22:44:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 14-12-2016 12:06:32
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:สนุกมากไม่อยากให้จบเลย :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่29 หน้า10 12/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 14-12-2016 16:21:03
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 15-12-2016 12:34:37
ตอนที่30



เสียงครางแว่วหวานดังประสานกัน อเล็กเซียขยับพลิ้วไหวบนหน้าตักของเอเดรียนหลอมรวมร่างกายกันเป็นหนึ่งเดียว เด็กหนุ่มยิ่งนานวันยิ่งเพิ่มพูนความรักที่มีต่อสามีของตนอย่างล้ำลึก



การได้ก่ายกอดกันไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมสร้างความสุขทางกายเท่านั้น ยังเป็นรูปแบบการสานสัมพันธ์ทางใจให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย



นานเข้านานเข้าอเล็กเซียกลับรู้สึกว่าไม่อาจขาดเอเดรียนไปได้และเด็กหนุ่มคิดว่าสามีของตนเองก็คงคิดเห็นไม่ต่างกัน หลังจากผ่านกิจกรรมอันเร้าร้อนหนักหน่วงทั้งคู่แลกจูบกันก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความอ่อนล้า



“พรุ่งนี้เช้าท่านจะกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของท่านแล้ว ไม่รู้ว่าข้าจะทนคิดถึงท่านไหวไหม”



เอเดรียนใช้มือเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าของเขาขณะพูด เด็กหนุ่มส่งยิ้มหวานๆไปให้ อเล็กเซียดีใจเหลือเกินที่สามีมาออดอ้อนขอความรักเช่นนี้



“ไปแค่อาทิตย์เดียวเอง ก่อนหน้าที่จะมีข้าเจ้าอยู่อย่างไรมาก่อนก็อยู่อย่างนั้นนั่นแหละ”



“ท่านช่างใจร้ายนัก”

 ถูกโถมเข้ากอดรัดอย่างแนบแน่น เมื่อปล่อยเป็นอิสระเอเดรียนก็ซบศีรษะลงมาบนแผ่นอกของเขา เด็กหนุ่มและสามีหลับลึกไปพร้อมกันทั้งอย่างนั้น



วันต่อมาอเล็กเซียตื่นแต่เช้าตรู่เหมือนทุกวัน ท่านพี่ที่นอนอยู่อีกห้องเองก็ตื่นแล้ว ก่อนจะเดินทางออกจากหมู่บ้านพวกเขาทานอาหารเช้าที่ช่วยกันทำอย่างสุดฝีมือ นั่นไม่ได้รวมธีโอซึ่งได้แต่นั่งรออยู่ในห้องอาหาร



เมื่อทานอาหารเสร็จอเล็กเซียกับธีโอเดินทางไปรับมีอาที่บ้าน ที่นั้นมีอาและไนเจลยืนรออยู่ ไนเจลดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เกี่ยวกับเรื่องนี้เด็กหนุ่มเข้าใจความรู้สึกของชายหนุ่มดี



“อเล็กเซียฝากดูแลมีอาด้วยนะ” ไนเจลฝากฝังน้องสาวกับเขาและยังไม่ลืมขอความเมตตาจากท่านพี่



“รัชทายาทหากนางทำอะไรไม่ถูกต้องโปรดเมตตานางด้วยนะครับ นางแทบไม่เคยออกไปไหนไกลจากเผ่าของตัวเองอาจจะทำผิดธรรมเนียมคนในอาณาจักรไปบ้าง”



“เจ้าไม่ต้องกังวลข้าจะดูแลนางอย่างดี” ถึงธีโอจะรับคำแต่ไนเจลยังคงไม่สบายใจ อเล็กเซียนึกสงสารชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย ทำอย่างไรได้ล่ะเรื่องความรักเป็นสิ่งที่ห้ามกันได้ที่ไหน



“ท่านพี่ข้าไปก่อนนะ” มีอากล่าวคำลา ไนเจลกอดรัดหญิงสาวแน่นทำราวกับว่าจะจากกันเสียเป็นปี



“ท่านพี่ปล่อยข้าได้แล้ว ทุกคนพร้อมจะออกเดินทางนานแล้วนะ”

ไนเจลปล่อยให้มีอาเป็นอิสระ อเล็กเซียให้คำสัญญากับชายหนุ่มอีกครั้งว่าจะดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี



ระหว่างเดินทางไปยังเมืองหลวงมีอาดูร่าเริงเป็นพิเศษ เธอชวนพี่ชายของเขาคุยไม่หยุดทั้งยิ้มและหัวเราะจนธีโอแทบจะลืมไปเลยว่ายังมีน้องชายอย่างอเล็กเซียอยู่ตรงนี้ด้วย



เนื่องจากเป็นการเดินทางที่สนุกของทั้งสองคน ในตอนที่ถึงตัวปราสาททั้งธีโอและมีอาต่างก็พูดเหมือนๆกันว่าการเดินทางครั้งนี้ใช้ระยะเวลาสั้นนัก อเล็กเซียได้แต่ยิ้มขำๆ



คนมีความรักเป็นเช่นนี้ด้วยกันหมด แม้แต่ตัวเขาเองยังยอมรับว่าเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันกับเอเดรียนบางครั้งก็ช่างผ่านไปรวดเร็ว ทันทีที่ถึงปราสาทธีโอก็นำพาพวกเขาสองคนไปยังห้องพัก อเล็กเซียยังพักอยู่ห้องเดิมที่เคยเป็นของเขา ส่วนมีอานั้นท่านพี่จัดห้องเอาไว้ให้อยู่ข้างๆกับเด็กหนุ่มเลยทีเดียว



“เดี๋ยวมีอาอาบน้ำอาบท่าแล้วแต่งตัวใหม่เสียก่อน แล้วข้าจะพาเจ้าไปทักทายท่านพ่อของพวกเรา”

พออเล็กเซียกล่าวเช่นนี้ ธีโอก็มีท่าทีไม่สบายใจเล็กน้อย หลังจากมีอาเข้าห้องพักไป ท่านพี่ก็ปรับทุกข์กับเขาทันที



“เจ้าคิดว่าท่านพ่อจะรู้ระแคะระคายแล้วรังเกียจนางหรือไม่”



“ถึงรู้แล้วจะอย่างไรท่านพี่เคยบอกรักมีอาเสียเมื่อไหร่ ในเมื่อท่านยังไม่ได้เริ่มซักนิดท่านก็อย่าได้หวาดกลัวจนเกินกว่าเหตุ”



ตอนนี้ท่านพี่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก คงมีคำกล่าวที่จะเถียงเขาอยู่หลายคำ การที่ท่านพี่ลังเลเช่นนี้ทำให้

อเล็กซียนึกสงสาร คงยังสับสนและไม่อาจตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับความรักครั้งนี้ดี แต่หากว่าท่านพี่ตั้งใจเดินหน้าแล้วล่ะก็เด็กหนุ่มก็พร้อมจะสนับสนุนเสมอ



“นางดูเป็นคนรักอิสระ นางคงไม่อยากเสียสละชีวิตเช่นนั้นมาอยู่ในปราสาทกับพี่หรอก”

โธ่เอ๋ยท่านพี่ผู้น่าสงสาร อเล็กเซียส่ายหน้าไปพร้อมกับยิ้มอ่อนใจ ท่านพี่เป็นคู่ฟ้าลิขิตของมีอา ยังไงนางก็ไม่อาจตัดใจจากท่านได้แน่ๆ



เกี่ยวกับเรื่องนี้เด็กหนุ่มไม่ยอมบอกออกไปเพราะตัวเขาเองก็อยากจะให้ความยุติธรรมต่อหญิงสาวและไนเจล เพราะรู้ดีอยู่ว่าอุปสรรครักระหว่างคนทั้งสองไม่ได้มีแต่ผู้คนรอบด้าน ยังมีตัวท่านพี่เองที่ไม่รู้ว่าจริงจังต่อความรักครั้งนี้มากเท่าใด



อเล็กเซียไม่รู้จริงๆว่าท่านพี่รักมีอามากขนาดไหน รักถึงขั้นยอมเสียสละยอมยกให้หญิงสาวเป็นที่หนึ่งหรือไม่ จะยอมฝ่าฟันเพื่อรักครั้งนี้หรือเปล่า หรือแค่รักแต่ไม่อาจรักไปได้มากกว่าตัวเองและหน้าที่ดังที่เขาเคยกระทำต่อเอเดรียนมาก่อน



“เอ่อ...พี่คงพูดมากเกินไป ถ้าอย่างนั้นพี่ขอตัวก่อนนะ”



จากนั้นเวลาผ่านไปอีกสองชั่วยาม อเล็กเซียนำเสื้อผ้าที่เลือกสรรแล้วสำหรับมีอาไปให้หญิงสาวที่ห้อง เด็กหนุ่มเคาะประตูสองสามครั้ง เมื่อได้รับอนุญาตก็เข้าไปพร้อมกับหญิงรับใช้สองคน



“ข้านำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้เจ้าลองใส่ดู คิดว่าน่าจะใช้ใส่ระหว่างที่เจ้าอาศัยในปราสาทได้”



หญิงรับใช้นำหีบเสื้อผ้าที่ยกมาวางลงตรงหน้ามีอา จากนั้นเลือกสรรเสื้อผ้าหลากหลายชุดให้หญิงสาว



“อา....สวยจัง....” มีอาละลานตาต่อเสื้อผ้าที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีและหรูหรา หญิงสาวยังคงสำรวมไม่ลิงโลดเหมือนเด็กสาวทั่วไปยามได้ชุดสวยๆมาครอบครอง



“ข้าจะไปรอนอกห้องแต่งตัวเสร็จแล้วก็รีบออกมานะ เราจะไปพบท่านพ่อกัน”



อเล็กเซียไปรออยู่ที่นอกห้อง มีอาใช้เวลาแต่งกายไม่นานนักประมาณสิบถึงสิบห้านาทีได้ เธอก็ออกมาด้วยชุดกระโปรงสีน้ำเงินเช้ม ในบรรดาชุดที่เขาเตรียมให้เสื้อผ้าชุดนี้ดูเรียบง่ายแต่ก็ภูมิฐานที่สุด มีอาเลือกเสื้อผ้าได้ตรงกับรสนิยมของท่านพี่และท่านพ่อนัก อเล็กเซียเองก็ชอบที่หญิงสาวไม่แต่งตัวอู้ฟู้เกินไปเช่นกัน



“ไปกันเถอะ ท่านพ่อกับท่านพี่ของข้าคงรอพวกเรานานแล้ว” อเล็กเซียยื่นมือไปให้มีอาจับยึด หญิงสาวเบิกตากว้างอยู่ชั่วครู่ก่อนจะวางมือลงมาบนฝ่ามือของเขาให้เขาจับจูง เด็กหนุ่มพามีอาไปยังห้องรับประทานอาหาร ที่นั่นท่านพ่อกับท่านพี่รออยู่แล้ว



“ท่านพ่อข้ามาแล้วครับ” อเล็กเซียทำความเคารพราชาธีโอดอร์ตามทำเนียมก่อนจะแนะนำตัวมีอาในเวลาต่อมา



“นี่คือมีอา อัลเบอร์ต้าครับท่านพ่อ” เมื่อแนะนำมีอาก็ถอนสายบัวอย่างสวยงาม ท่านพ่อไม่มีท่าทางรังเกียจหญิงสาวแต่อย่างใด



“มีอาขอบใจเจ้ามากนะที่ช่วยดูแลลูกข้าตอนที่เขาอาศัยอยู่ในเผ่าวูฟ ข้ารู้มาจากธีโอว่าเจ้าเป็นน้องสาวของรองหัวหน้าเผ่าสินะ”

หลังจากทุกคนนั่งลงบนเก้าอี้ ราชาก็เริ่มเปิดบทสนทนาทันที การที่มีอาไม่ได้ประหม่าแม้แต่นิด ทำให้อเล็กเซียชื่นชมหญิงสาวอยู่ไม่น้อย



“เหมือนลูกชายเราสัญญากับเจ้าว่าจะพาเจ้าเที่ยมชมปราสาท เป็นอย่างไรบ้างเจ้าชอบที่นี่บ้างไหม”



“ค่ะที่นี่งดงามมาก หรูหราและโอ่อ่า แต่ข้ากลับคิดว่าที่หมู่บ้านของข้ายังสุขสบายมากกว่าที่นี่”



มีอาตอบเสียงฉะฉาน ด้วยลักษณะที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเป็นกันเองแม้แต่ราชาธีโอดอร์ก็ยังค่อนข้างพอใจในตัวเธอ อเล็กเซียรู้สึกว่าหญิงสาวช่างเป็นคนที่น่าเอาใจช่วยเสียเหลือเกิน



“เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นเล่าสาวน้อย” ราชาธีโอดอร์ถาม



“ข้าเข้าใจว่าความสุขสบายย่อมต้องแลกมาด้วยระเบียบมากมาย ที่นี่คือปราสาทซึ่งเป็นที่อยู่ของพระองค์และขุนนางจำนวนมาก ข้าย่อมต้องระมัดระวังมากกว่าปกติไม่อาจทำตัวเป็นธรรมชาติดังเช่นอยู่ที่หมู่บ้านได้ ด้วยเหตุเช่นนี้ข้าจึงชอบหมู่บ้านของข้ามากกว่าค่ะ”

ถึงตรงนี้อเล็กเซียสังเกตสีหน้าของธีโอ ท่านพี่ทำสีหน้าคล้ายกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง คงไม่แคล้วนึกถึงเรื่องความสบายใจที่มีอาพูดถึงเป็นแน่



“แต่ข้ากลับไม่เห็นว่าเจ้าลำบากอะไรต่อกฎเกณของชนชั้นสูงเลยนี่ เห็นได้ชัดว่าเจ้ารู้มารยาทในการรับประทานอาหารเป็นอย่างดี”



เมื่อท่านพ่อชี้ให้เห็นอเล็กเซียก็นึกขึ้นได้ มีอานั้นรู้วิธีการใช้อุปกรณ์บนโต๊ะทานอาหารเป็นอย่างดีโดยไม่ต้องให้ใครสอน ชักอยากรู้แล้วสิว่าหญิงสาวเรียนรู้มาจากไหน



“ภรรยาของคนในหมู่บ้านไม่น้อยมาจากชนชั้นสูงค่ะ ข้าเรียนรู้มารยาทนี้มาจากพวกนาง”



“อ้อ...ในพวกวูฟมีสตรีที่เคยเป็นชนชั้นสูงด้วยหรือ พวกนางมาอยู่ในเผ่าได้อย่างไร” ราชาซักถามด้วยความสนใจ อเล็กเซียกับธีโอเองก็อยากรู้ไม่ต่างกัน



“พวกนางบางคนก็หนีตามมาด้วยความเต็มใจบางคนก็ถูกลักพาตัวมาจากบ้านค่ะ”



“เข้าใจล่ะ เข้าใจแล้ว หากหนีตามกันมาก็เข้าใจง่ายหน่อย แต่ถึงขั้นลักพาตัวมาเจ้าไม่คิดว่าช่างเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนหรอกหรือ”



“พระองค์อาจคิดเช่นนั้น แต่สำหรับเผ่าวูฟ การที่ไม่ได้อยู่เคียงข้างคู่ฟ้าลิขิต อาจะทำให้ทรมานไม่ต่างกับคนไร้หัวใจ”



อเล็กเซียแปลกใจที่ท่านพ่อและมีอาต่างยังสนทนาด้วยความยิ้มแย้มกันได้อยู่ ทั้งที่เรื่องที่พูดคุยกันนั้นช่างล่อแหลมเสี่ยงต่อการทุ่มเถียง ทว่ามีอาไม่มีท่าทางหวั่นเกรงและท่านพ่อก็ไม่มีอาการไม่พอใจ



“พูดถึงคู่ฟ้าลิขิต อเล็กเซียลูกข้าเองก็เป็นคู่ฟ้าลิขิตของเอเดรียนเช่นกัน การที่ลูกเขยข้าทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้บุตรชายคนเล็กของข้าไปก็ทำให้ข้าเข้าใจบางอย่างดีขึ้นอยู่นะ”



“มีอาเอ๋ยจากสายตาของเจ้า เอเดรียนดีต่ออเล็กเซียหรือไม่”

อเล็กเซียไม่คาดว่าท่านพ่อจะวกเข้าเรื่องของเขากับเอเดรียนเช่นนี้ เด็กหนุ่มอดที่จะกังวลไม่ได้



“พระองค์ข้าพูดเองอาจจะดูเป็นการเข้าข้าง แต่เอเดรียนรักอเล็กเซียจากใจจริง ข้อนี้ทุกคนในเผ่าวูฟต่างรู้กันดี”



 มีอาตอบ ราชาธีโอดอร์ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ อเล็กเซียร้อนรนดั่งไฟเผา โชคดีเหลือเกินที่ท่านพี่ไม่ได้เล่าเรื่องที่เขาบาดเจ็บหนักเพราะถูกแคสเปียนทำร้ายให้ท่านพ่อฟัง ทราบว่าตอนนี้ท่านพ่อรู้เรื่องแค่เขาถูกไอแซคทำร้ายเท่านั้น



“อเล็กเซียแล้วเจ้าล่ะรักเอเดรียนหรือไม่”

อเล็กเซียสะดุ้ง คาดไม่ถึงว่าจะถูกถามอย่างกะทันหัน



“ข้ารักเอเดรียนท่านพ่อ” อเล็กเซียไม่เสียเวลาคิดแม้แต่น้อยที่จะตอบถึงแม้จะกังวลใจก็ตาม



“ดีแล้ว หากเจ้าไม่มีความสุขพ่อก็คงไม่มีความสุขเช่นกัน อเล็กเซียพ่อรู้ว่าเจ้าต้องลำบากเพื่ออาณาจักรมาก แต่เมื่อรู้ว่าเจ้ามีความสุขพ่อก็สบายใจ”



หลังจากกล่าวจบราชาก็หันไปชวนมีอาคุยอีกครั้ง ท่าทางเป็นกันเองระหว่างคนทั้งคู่ทำให้ธีโอยิ้มไม่หุบ อเล็กเซียคาดเดาไม่ถูกเลยว่าอนาคตของมีอาแลท่านพี่จะเป็นอย่างไรต่อไป



หลังจากทานอาหารเสร็จอเล็กเซียและธีโอพามีอากลับมาส่งที่ห้อง พวกเขาสองคนสัญญาว่าจะพาหญิงสาวไปเที่ยวเล่นในเมืองในวันพรุ่งนี้ เมื่อกล่าวคำลาเสร็จธีโอก็รีบขอตัวไปประชุมขุนนาง ในขณะที่เด็กหนุ่มถูกมีอาเรียกเอาไว้เสียก่อน



“ขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้”



“เหตุใดเจ้าถึงขอบคุณข้าเล่ามีอา” อเล็กเซียถามเขาไม่คิดเลยว่าจะได้รับคำขอบคุณจากคนที่เคยเป็นคู่แข่งทางความรัก



“เจ้าคงรู้แล้วสินะว่าธีโอคือคู่ฟ้าลิขิตของข้า” อเล็กเซียพยักหน้าแทนคำตอบ



“คนประหลาด”



มีอาพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะกลับเข้าห้องของเธอไป ตอนนี้เองที่อเล็กเซียคิดว่าหญิงสาวเองก็มีส่วนที่น่ารักหลายอย่าง อีกฝ่ายอาจไม่รู้ตัว แต่ยามที่เธอเข้าใจว่าเขารู้เรื่องคู่ฟ้าลิขิตของเธอแล้วใบหน้าสวยก็แดงเรื่อนิดๆด้วยความอับอาย ท่าทางน่ารักเช่นสาวแรกรุ่นแบบนี้ช่างน่าอัศจรรย์สำหรับเขาที่เคยเห็นแต่ใบหน้าไม่เป็นมิตรของมีอามาโดยตลอด



ประหลาดใจเหลือเกิน อเล็กเซียกลับคิดว่ามีอาน่าจะเหมาะสมกับท่านพี่มากกว่าบรรดาลูกสาวขุนนางที่เอาแต่แต่งกายอวดโฉมและจับกลุ่มสังสรรค์ในงานปาร์ตี้น้ำชาเสียอีก ก็ได้แต่เอาใจช่วยเท่านั้นถึงแม้จะรู้ว่าตัวท่านพี่เองก็ยังลังเลอยู่ไม่น้อย

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



อีกตอนกับบทสรุปก็จบแล้วน้านิยายเรื่องนี้  หวังว่าคนอ่านจะติดตามกันจนจบนะจ๊ะ



กำลังพยายามเฟ้นหาจอนตนาการใหม่ๆเพื่อจะเขียนเรื่องใหม่



อยากเขียนแฟนตาซีอีก แวมไพร์ก็อยาก 3pก็อยาก Omegaverse นี่สนใจเป็นพิเศษ



หวังว่าเรื่องต่อไปจะตามติดไปอ่านกันนะคะ



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้าง ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-12-2016 12:47:27
ยังไงก้อขอให้มีอารอดละกัน เราเดาใจเด็จพ่อไม่ถูกจริงๆ
ว่าแต่พี่ธีโอมีรักก้อเหมือนมีทุกข์ใช่ป่าว
ขอบคุณค่ะ รอตอนจบ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 15-12-2016 13:00:10
 :mew2: ใกล้จะจบแล้วหรือคะนี้ เสียดายอะ อยากให้อเล็กเซียมีลูกอะจ้า  แล้วมาลุ้นต่อว่ามีอาจะสมหวังหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้เกี่ยวกะหมาป่าแล้ว เรื่องต่อไปก็แวมไพร์ไงคะ รวบยอด 3 ความอยากในเรื่องเดียวเลย  :hao3:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: k_keenny ที่ 15-12-2016 13:58:56
 o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-12-2016 16:28:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 15-12-2016 16:32:20
 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 15-12-2016 17:02:38
มีอาสู้ๆล่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-12-2016 20:13:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่30 หน้า10 15/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-12-2016 12:21:48
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่31 หน้า10 16/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 16-12-2016 12:24:52
ตอนที่31



ผ่านมาสองวันแล้วหลังจากที่กลับมาเยี่ยมเยียนปราสาทอันเป็นบ้านเกิดของตน สองวันมานี้เขาเป็นคนนำเที่ยวให้แก่มีอาไปจนทั่วเมือง แอบสงสารนิดหน่อยที่หญิงสาวแทบไม่ได้อยู่ตามลำพังกับท่านพี่เลย นั่นเป็นเพราะท่านพี่นั้นมีทั้งงานราชกิจและฐานะที่ต้องวางตัวไม่ให้ดูใกล้ชิดกับสตรีผู้ใดมากจนเกินงาม



อเล็กเซียรู้ดีว่าการต่อสู้ฟาดฟันของเหล่าหญิงสาวเพื่อแย่งชิงธีโอนั้นเริ่มหนักหน่วงมากขึ้นทุกที เหตุผลเพราะใครๆก็คาดการณ์ว่าท่านพ่ออาจจะสละราชบัลลังค์ในอีกระยะเวลาไม่นาน



หลังจากตื่นขึ้นมาอเล็กเซียก็ล้างหน้าล้างตาในอ่างน้ำซึ่งเตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ตามจริงจะต้องรอให้หญิงรับใช้นำน้ำมาให้ใหม่ แต่เพราะยังไม่มีใครนำมาให้จึงต้องล้างหน้าในอ่างซึ่งเตรียมเผื่อไว้เมื่อคืนอย่างเสียไม่ได้



เมื่อล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ได้ยินเสียงเคาะประตูถี่รัว อเล็กเซียเดินไปเปิดประตูแล้วพบว่าคนเคาะคือธีโอนั่นเอง



“มีอะไรหรือครับท่านพี่”



“ไปชวนมีอาด้วยสิเราจะออกไปขี่ม้ารอบเมืองกัน”



ที่แท้ก็ชวนเที่ยวเล่นนี่เอง พวกเขาสองคนพากันไปเคาะประตูเรียกมีอา เธอตอบรับคำตกลงและขอให้ทั้งสองคนรอซักครู่ประมาณสิบนาทีหญิงสาวก็ออกมาพร้อมทั้งชุดขี่ม้าซึ่งอเล็กเซียเตรียมเอาไว้ให้ก่อนหน้านั้น



ทั้งที่คิดว่าจะได้ผ่อนคลายด้วยการขี่ม้า ทว่าพอควบม้าออกไปยังนอกปราสาทกลับพบว่าผู้คนในเมืองอยู่ในสภาพโกลาหล อเล็กเซียและธีโออดที่จะเข้าไปถามถึงสาเหตุไม่ได้



“เกิดอะไรขึ้นสาวน้อยทำไมในเมืองวุ่นวายถึงเพียงนี้” ธีโอถามสาวน้อยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในจุดที่ผู้คนพากันขนย้ายคนป่วยจนดูวุ่นวาย



“พี่ชายข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ทุกคนที่ดื่มใช้นำในลำธารหลักซึ่งทอดยาวเข้ามาในเมืองที่ใช้กันอยู่ประจำต่างก็ล้มลงและกลายเป็นอัมพาตเสียทุกคนไป”  หลังจากกล่าวจบสาวน้อยก็รีบวิ่งตามผู้ป่วยที่ถูกแบกไป อเล็กเซียเดาว่าผู้ป่วยกับสาวน้อยคงจะเป็นญาติกัน



“ท่านพี่เราไปสำรวจที่แหล่งน้ำของเมืองดีไหม”



หลังจากเสนอแนะพวกเขาสามคนก็เดินทางไปยังแหล่งน้ำหลักของเมือง ที่นั่นพบทหารหลายคนกำลังทำการสำรวจดู ทหารหนึ่งในนั้นทดลองดื่มน้ำแทบจะในทันทีทหารผู้นั้นล้มลงและไม่สามารถขยับร่างกายได้เป็นที่แตกตื่นกับผู้คนที่อยู่บริเวณนั้น



“รัชทายาท เจ้าชายอเล็กเซีย” ในที่สุดพวกทหารก็สังเกตเห็นพวกเขาจนได้ ธีโอสั่งการให้พวกทหารสำรวจจำนวนคนที่ได้รับพิษ ระหว่างสั่งการมีอาเดินตรงไปยังแหล่งน้ำแล้วใช้มือรองน้ำขึ้นมาดื่มกิน ท่านพี่ตกใจอย่างมากจนกระโดดลงจากหลังม้าปราดเข้าไปดูอาการของเธอ



“เจ้าดื่มเข้าไปทำไมมีอา” ธีโอแสดงความเป็นห่วงชัดเจน แต่ไม่นานนักก็ต้องแปลกใจกับการที่มีอายังคงเป็นปกติแตกต่างจากคนอื่นๆที่ดื่มน้ำลงไป



“ไร้รสไร้กลิ่นไร้สี อาจจะเป็นยาพิษที่ชื่อว่าตะวันนิทราก็เป็นได้” มีอาบอกเรื่องที่ตนรู้แก่ธีโอ



“แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร นอกจากนั้นเพราะเหตุใดเจ้าถึงไม่ถูกพิษที่ว่าทำร้ายเล่า” ธีโอรัวคำถาม อเล็กเซียตัดสินใจอธิบายแทนมีอาที่ยังคงครุ่นคิดบางอย่าง



“ท่านพี่ที่นางไม่ติดพิษเพราะเผ่าวูฟทนทานพิษทุกชนิดในโลก อีกอย่างการที่นางจะรู้ว่าพิษชนิดนี้คืออะไรก็เพราะนางเป็นหมอยาของเผ่าวูฟ”



“เข้าใจล่ะ ถ้าอย่างนั้นมีอาเจ้ารู้วิธีปรุงยาแก้พิษหรือไม่”

“ย่อมต้องรู้แน่นอน” มีอาตอบ



“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะสามารถปรุงยาแจกจ่ายแก่ประชาชนของข้าได้สินะ” ธีโอถาม



 “ถ้ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าล่ะก็ ข้าจะช่วยเจ้าเอง”



ดังนั้นพวกเขาทั้งสามคนจึงรีบกลับไปยังปราสาท ก่อนที่จะกลับธีโอออกคำสั่งห้ามผู้คนดื่มน้ำในแหล่งน้ำโดยเด็ดขาดหากไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าในน้ำนั้นไม่มีพิษ



มีอาใช้เวลาปรุงยาแต่เช้าตรู่จวบจนเที่ยงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ ระหว่างนั้นอเล็กเซียและธีโอได้ไปสำรวจแหล่งน้ำต่างๆในเมืองและพบว่า สายน้ำที่ทอดยาวจวบจนถึงในเมืองต่างมีพิษเจือปนอยู่ทั้งหมด



 ตอนนี้ผู้คนจำนวนมากอยู่นอนนิ่งเป็นอัมพาตรอคอยการรักษา ธีโอต้องการข้อมูลเกี่ยวกับยาพิษมากขึ้นจึงกลับไปยังปราสาทพร้อมกับอเล็กเซียเพื่อแจ้งปัญหาให้ท่านพ่อฟังและไปสอบถามกับมีอาอีกครั้ง



ท่านพ่อเริ่มประชุมขุนนางอย่างกะทันหัน ขุนนางไม่น้อยถูกพิษจากแหล่งน้ำทำให้ผู้มาประชุมมีเพียงหยิบมือ หลังจากประชุมเสร็จท่านพ่อก็แวะไปดูมีอาปรุงยาพร้อมกับเขาและท่านพี่



“ท่านหมอมีอาเจ้าปรุงยาใกล้เสร็จแล้วใช่หรือไม่” ราชาธีโอดอร์ถามในขณะที่มีอาวุ่นวายกับหม้อปรุงยาขนาดใหญ่ มีอาไม่ตอบคำถามง่ายๆ แต่ก็ไม่มีใครโกรธเธอ พวกเขารอคอยให้มีอาหยุดมือ



“เรียบร้อยแล้ว” มีอาปาดเหงื่อบนใบหน้า เมื่อเธอเปิดโอกาสเช่นนี้ ราชาธีโอดอร์ก็ถามในสิ่งที่อยากรู้



“ยานี่ข้ามั่นใจว่าต้องแก้พิษได้ แต่แหล่งน้ำที่ปนเปื้อนอยู่เล่าจะจัดการอย่างไร ท่านหมอมีอามีข้อชี้แนะหรือไม่”



“ตะวันนิทราเป็นยาพิษที่ถูกปรุงขึ้นมาลอบสังหารโดยไม่ให้ใครจับได้ นับจากผงยาเจือจางลงในแหล่งน้ำมันจะมีฤทธิ์อยู่ในน้ำได้แค่เพียงวันเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นน้ำจะกลับมาสะอาดและดื่มได้อีก”



ท่านพ่อและท่านพี่โล่งอก อเล็กเซียเองก็เช่นกัน จากนั้นท่านพ่อก็ขอให้มีอานำยาไปทดสอบกับพวกขุนนางที่ถูกพิษก่อนเป็นอันดับแรก ตัวยาได้ผลแทบจะในทันที ท่านพ่อดีใจมากถึงขนาดออกปากจะตบรางวัลให้มีอาอย่างงาม



“ถ้าอย่างนั้นเราไปแจกจ่ายยาให้ผู้คนในเมืองกันเถอะครับ” อเล็กเซียเสนอแนะ แต่ธีโอยังมีข้อสงสัย



“แต่ยาเพียงหม้อเดียวจะพอต่อประชาชนในเมืองหรือ” ถูกชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงจนได้อเล็กเซียเองก็เริ่มจะกังวลแล้วเช่นกัน



“ตัวยาหยดเดียวผสมกับน้ำหนึ่งแก้วต่อหนึ่งคนหม้อใหญ่ถึงเพียงนี้สามารถรักษาคนได้ทั้งเมืองแน่นอน”



มีอายืนยันเป็นมั่นเหมาะ อเล็กเซียขออาสาท่านพี่เป็นคนนำยาไปแจกจ่ายมีอาเองก็ต้องการที่จะไปด้วย เมื่อเห็นความกระตือรือร้น ท่านพ่อจึงออกคำสั่งให้เขาท่านพี่และมีอาไปแจกจ่ายเสียด้วยกัน



พวกทหารช่วยกันยกหมอลงเกวียนแล้วลำเลียงไปยังจตุรัสของเมือง ผู้คนที่ยังไม่ติดพิษพากันมาขอยาหลังจากที่พวกทหารประกาศออกไป ระหว่างที่กำลังแจกจ่ายยาอยู่นั้นโดยไม่มีใครคาดคิดทหารผู้หนึ่งควบม้ามาแจ้งข่าวให้ทราบในสภาพที่เต็มไปด้วยบาดแผล



“รัชทายาท เจ้าชาย มีคนจำนวนมากทำลายประตูจนบุกเข้ามาในเมืองได้แล้วพะยะค่ะ”



“ได้อย่างไร” ท่านพี่โกรธเกรี้ยวอย่างหนัก แม้แต่อเล็กเซียยังแทบไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน แต่ในสภาพที่ผู้คนถูกพิษจำนวนมากเช่นนี้พวกทหารอาจไม่เพียงพอก็เป็นได้



“พวกมันเป็นใครกัน” ธีโอถามนายหทารหลังจากสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว



“ดูจากท่าทางแล้วน่าจะเป็นพวกโจรครับ มีจำนวนมากเหลือเกิน แถมพวกมันยังมีมังกรมาอีกด้วย”



“สัตว์ในตำนานแบบนั้นเป็นไปไม่ได้” ธีโอไม่ยอมเชื่อง่ายๆ อเล็กเซียที่ตั้งสติได้ดีกว่าจึงสนทนากับนายหทารต่อ



“พวกมันเป็นคนเลี้ยงเจ้ามังกรนั่นหรือ”



“เปล่าครับแม่มดนางหนึ่งใช้เวทย์มนต์แปลงกายตัวเองให้เป็นมังกร” อเล็กเซียถึงบางอ้อทันที จากที่เขาร่ำเรียนมามีแม่มดจำนวนหนึ่งสามารถใช้ศาสตร์ลับแปลงกายให้เป็นสัตว์ต่างๆได้



“ไปรวบรวมกำลังพลมาแล้วเตรียมตอบโต้” ธีโอออกคำสั่งนายทหารเฉียบพลันก่อนจะหันมาคุยกับอเล็กเซีย



“น้องพี่ การปราบพวกนอกรีตสำคัญกว่า ดังนั้นเจ้านำมีอากลับปราสาทไปก่อนพร้อมยารักษาเถอะ”



จากนั้นธีโอก็ขึ้นม้าเตรียมตัวเพื่อไปรวบรวมพลทหารที่ยังสั่งการณ์ได้อยู่ ทว่าพวกโจรบุกเข้ามาถึงกลางจตุรัสได้ไม่น้อยแล้วจึงทำให้ท่านพี่ต้องอยู่ต้านพวกโจรแทนที่จะได้ทำตามที่ต้องการ



อเล็กเซียชักดาบที่ได้มาจากเอเดรียนฟาดฟันศัตรูจนล้มตายไปมาก มีอาเองตอนนี้ก็กลายร่างเป็นวูฟไปแล้วเช่นกัน หญิงสาวยืนหยัดเคียงข้างเขากับท่านพี่สู้ยิบตาเธอเป็นผู้ช่วยอันประเสริฐที่สุด



หลังจากยืนปักหลักต่อต้านไม่นานนัก ทหารหลวงจำนวนมากถูกส่งมาเพื่อช่วยเหลือ อเล็กเซียเดาว่าคงเป็นทหารที่ท่านพ่อส่งมาสบทบ ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้ทางฝ่ายเข้าจึงมีโอกาสชนะมากกว่า ต้องขอบคุณมีอาที่ช่วยปรุงยาแก้พิษให้กับพวกทหารจำนวนมากก่อนที่เหล่าโจรจะบุกมา



และแล้วชั่วขณะที่พวกเขาเป็นต่อ กระสุนลมจากทองฟ้าแหวกอากาศมามีเป้าหมายที่ตัวอเล็กเซีย คนไหวตัวทันมีเพียงมีอาเท่านั้น หมาป่าสาวกระโจนตะครุบให้เด็กหนุ่มล้มลงหลบกระสุนลมโดยที่ตัวเองรับการโจมตีนั้นเข้าไปเต็มๆ



“อเล็กเซีย มีอา” ท่านพี่ตะโกนเสียงดังก่อนจะฝ่าศัตรูมาเพื่อมาดูอาการของเขากับมีอา



“เพราะอะไรเจ้าถึงเอาตัวเข้ามาเจ็บแทนข้า” อเล็กเซียไม่เข้าใจจริงๆว่าเป็นเพราะเหตุใด ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เกลียดกันอีกแล้ว แต่ถึงกลับยอมเจ็บตัวถึงเพียงนี้มันเกินกว่าที่จะเข้าใจ



“อย่าทำหน้าอย่างนั้นน่า ข้าไม่ได้ปกป้องเจ้า แต่แค่คิดว่าถ้าเจ้าเจ็บหรือตายไปธีโอจะเสียใจมากก็เท่านั้น”



มีอากำลังบอกเขาว่าเธอทำเพื่อตัวเองหรือ คำพูดของเธอท่านพี่เองก็ได้ยินเต็มสองหู ต้องมีความรักท่วมท้นแค่ไหนกันถึงจะยอมเจ็บแทนคนของผู้เป็นที่รักอย่างนี้ได้



ทว่าเจ้ามังกรผู้พ่นกะสุนลมมาไม่ปล่อยให้พวกเขามีโอกาสได้คร่ำครวญมันบินโฉบไปมาแล้วพ่นกระสุนลมเข้าใส่เหล่าทหารและอาคารบ้านเรืยนจนพังพินาศสร้างความตื่นกลัวเป็นอย่างมาก เสียงหวีดร้องของผู้คนมากมายดังราวกับเป็นเสียงดนตรีประกอบให้แก่แม่มดที่กลายร่างเป็นมังกร



“ทหารรวมพล” ธีโอสั่งเสียงกร้าว ทว่าเหล่าทหารก็มีความหวาดกลัวอยู่ไม่น้อยจึงไม่สามารถทำตามคำสั่งได้ในทันที พวกทหารค่อยๆถูกกระสุนลมจากมังกรเล่นงานที่ละหลายคน น่าสังเวชและอดสูจนรัชทายาทแทบร้องไห้



ในตอนนั้นเสียงหอนของหมาป่าจำนวนมากก็กังวานไปทั่วบริเวณ เห็นได้ชัดว่าพวกวูฟจำนวนมากมุ่งหน้าตรงมายังทีที่อเล็กเซียกับพวกอยู่ โดยไม่ต้องให้ใครบอก พวกวูฟจำนวนมากอาศัยอาคารบ้านเรือนเป็นแท่นโดดเข้าใส่มังกรที่บินต่ำ รุมกัดจนเจ้ามังกรต้องถลาลงพื้น



“อเล็กเซีย มีอา” เจ้าหมาป่าขนแดงวิ่งตรงมา เสียงอันเป็นเอกลักษณ์บอกชัดว่าเจ้าหมาตัวนี้คือไนเจล



“เกิดอะไรขึ้น อเล็กเซียเหตุใดมีอาถึงบาดเจ็บเยี่ยงนี้” ไนเจลถาม



“นางปกป้องข้าจากกระสุนลมของแม่มดที่แปลงร่างเป็นมังกร”



ไนเจลผงกหัวสุนัขแทนคำพูด ก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับพวกหมาป่าในเผ่าให้จู่โจมมังกรที่ร่วงมาบนพื้นได้ไม่ยั้ง พวกหมาป่าตัวเขื่องถึงแม้จะไม่ใหญ่เท่าเอเดรียนแต่ก็ถือว่าตัวใหญ่มาก พากันรุมทึ้งปีกทั้งสองข้างของมังกร จนปีกมังกรขาดวิ่น เจ้ามังกรกรีดร้องโหยหวนคลานไปมาตามพื้นด้วยขาแทนการบิน



ช่วงสุดท้ายของชีวิตมังกรพยายามพ่นกระสุนลมไปทั่วบริเวณ อเล็กเซียกับธีโอต้องพาร่างของมีอาหลบการโจมตีหลายครั้งอย่างทุลักทุเล ในที่สุดเหล่าหมาป่าตัวยักษ์ก็เข้าถึงตัวรุมปลิดชีพมังกรจนได้



เมื่อมังกรสิ้นชีพ ร่างของมันค่อยๆหดเล็กลงก่อนจะกลายเป็นหญิงสูงวัยผู้หนึ่งนอนหมดลมในลักษณะเปลือยเปล่า



“ให้ตายสิ นี่มันยัยแม่มดที่อาศัยอยู่ในป่าดำนี่นา” หนึ่งในหมาป่าหนุ่มร้องบอกให้พวกเดี๋ยวกันรู้



“เฮอะอยู่ดีไม่ว่าดี” ไนเจลไม่แม้แต่จะสนใจร่างที่ตายแล้ว หมาป่าหนุ่มมุ่งตรงมายังน้องสาวจัดแจงให้มีอานอนอยู่บนหลังและเตรียมจะกลับหมู่บ้าน หากว่าอเล็กเซียไม่ขอร้องไว้ก่อนคงจะบ่ายหน้าไปโดยไม่พูดอะไรกันแม้ซํกคำ



“ให้หมอของอาณาจักรรักษามีอาเถอะนะไนเจล กว่าจะไปถึงหมู่บ้านอาจจะไม่ทันการณ์”

โชคดีที่ไนเจลเห็นด้วย อเล็กเซียไม่อยากให้การรักษาของมีอาล่าช้า หากหญิงสาวเป็นอะไรไปเขาคงต้องทุกข์ใจไปตลอดการมีชีวิตอยู่แน่ๆ



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



ตอนหน้าเป็นบทสรุปแล้วจ้า



ไม่มีอะไรพูดมากตอนนี้เตรียมเขียนเรื่องใหม่แล้ว



แต่อาจจะเอามาลงได้ไม่ถี่เท่าเรื่องนี้ เพราะเรื่องใหม่แต่งยากกว่าเรื่องนี้มากกกกกกกกกก



เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่31 หน้า10 16/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-12-2016 15:51:24
เอ้า ถือว่ากลับตัวแล้ว เป็นกำลังใจให้มีอาแล้วกัน
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่31 หน้า10 16/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 16-12-2016 16:22:27
มีแววแล้วจ้า มีอาสู้ๆ  :3123:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่31 หน้า10 16/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-12-2016 19:01:49
 :oo1: :mew1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่31 หน้า10 16/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-12-2016 19:15:05
เอาใจช่วยคนเขียนค่ะ มีอาด้วยนะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่31 หน้า10 16/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-12-2016 08:33:10
พระเอกหายไปไหนนนน
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่31 หน้า10 16/12/59
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 17-12-2016 10:44:43
มีอาสู้ๆน๊าา
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 17-12-2016 11:53:54
ตอนที่32



อาการของมีอาดีขึ้นตามลำดับ หลังจากหายดีราชาธีโอดอร์ตัดสินใจจะมอบตำแหน่งหมอหลวงให้กับมีอา ไนเจลคัดค้านอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้จนทะเลาะกับมีอาหลายครั้ง



อเล็กเซียรู้ว่ามีอาต้องการจะอยู่ใกล้ชิดกับธีโอ ดังนั้นการได้เป็นหมอหลวงจึงเป็นโอกาสดีที่สุด เพราะตำแหน่งนี้จะสามารถทำให้หญิงสาวเข้านอกออกในปราสาทได้โดยไม่มีใครห้าม



อเล็กเซียมีความเห็นใจและสงสารมีอาอยู่มาก ด้วยรู้ว่าความรักของมีอาใช่ว่าจะได้มาโดยง่าย และการต่อสู้ของเธอได้เริ่มต้นนับตั้งแต่ตัดสินใจออกจากหมู่บ้านไปอาศัยอยู่ในเมืองเพียงลำพังในฐานะหมอหลวง



ไนเจลไม่สามารถจัดการกับน้องสาวของเขาได้ เพราะไม่อาจตัดใจกักขังมีอาเอาไว้ดังเช่นคนอื่นๆในเผ่าวูฟเขาทำกัน เอเดรียนแวะเวียนไปเยี่ยมไนเจลบ่อยขึ้นเพื่อช่วยให้เพื่อนสนิทคลายเหงา อเล็กเซียเองก็ติดตามไปด้วยบ่อยครั้ง



นับจากมีอาไปอยู่ในเมืองก็หนึ่งเดือนมาแล้ว ไนเจลกับพวกเขาแวะเวียนไปเยี่ยมหญิงสาวหลายครั้ง มีอาดูมีความสุขที่ได้พบเจอคู่ฟ้าลิขิตในปราสาทได้บ่อยๆ ดังนั้นไนเจลจึงไม่สามารถบังคับเธอกลับหมู่บ้านได้



อเล็กเซียได้แต่เอาใจช่วยหวังว่ามีอาจะสมหวังในรักซักวันหนึ่ง ท่านพ่อดูเหมือนจะโปรดปรานมีอามากเป็นพิเศษ เด็กหนุ่มไม่แปลกใจแต่ไหนแต่ไรก็ชื่นชอบผู้ที่มีความสามารถเช่นนี้อยู่แล้ว



จากเหตุการณ์โจมตีเมืองครั้งนั้น เอเดรียนตามมาที่เมืองหลังจากการมาเยือนไนเจลในช่วงค่ำ ชายหนุ่มทำให้ความจริงปรากฏ ที่แท้แล้วแผนการทั้งหมดไอแซคเป็นผู้วางเอาไว้





เนื่องจากไอแซคเป็นลูก เสนาบดีบาส บาร์ตันจึงต้องรับผิดชอบด้วย แต่ทว่าเห็นแก่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในแผนการเพราะเสนาบดีบาสเองก็ถูกพิษเล่นงานเช่นกัน จึงทำเพียงแค่ยึดทรัพย์และปลดให้เป็นสามัญชน



ผ่านไปอีกสองเดือนอะไรๆก็ดีขึ้นมาก ผู้คนในเมืองกับเหล่าขุนนางยอมรับการมีอยู่ของเผ่าวูฟมากขึ้น ไม่มีใครรังเกียจหรือแบ่งชนชั้นพวกวูฟอีกต่อไป ตอนนี้พวกวูฟกลายเป็นส่วนหนึ่งของชาวเมืองที่จะขาดไปเสียไม่ได้ไปแล้ว



“อเล็กเซียท่านยังจำวันที่เราพบกันครั้งแรกได้หรือไม่” หลังจากเสร็จสิ้นการร่วมรักอันเร้าร้อนเอเดรียนก็เข้ามาออดอ้อนชวนให้รำลึกถึงอดีต



“จำได้สิ ข้าไม่มีวันลืมเจ้าหมาป่าตัวใหญ่ที่ช่วยข้าเอาไว้จากหมีป่าตัวนั้นได้หรอก”



“ตอนนั้นท่านคิดหรือไม่ว่าซักวันท่านจะได้รักกับหมาป่าตัวนั้น”



“คนโง่เง่า ใครจะไปคิดรักกับหมาป่าที่พูดไม่ได้กันล่ะ”



“จริงของท่านนะ ถ้าอย่างนั้นครั้งแรกที่เราพบกันในเมืองเล่าท่านคิดกับข้าอย่างไร”

อเล็กเซียยิ้มหวานให้ ไม่รู้ทำไมสามีถึงอยากรู้เรื่องนี้นัก เด็กหนุ่มจึงบรรยายความรู้สึกที่แท้จริงออกไปโดยไม่ปิดบัง



“เจ้าในสายตาข้าเมื่อตอนนั้นช่างเป็นคนไร้มารยาทและชอบลวนลามเป็นที่สุดน่ะสิ”



“ท่านเกลียดข้าเพราะข้าร้องขอจูบจากท่านครั้งแล้วครั้งเล่าใช่หรือไม่” อเล็กเซียพยักหน้าแทนคำตอบ



“แล้วถ้าหากว่าข้าไม่เรียกร้องขอจูบจากท่านเราสองคนจะรักกันได้เร็วกว่านี้หรือเปล่านะ” เอเดรียนใช้มือลูบปลายคางครุ่นคิด



“ย่อมไม่มีทาง เอเดรียนหากเจ้าไม่รุกเข้าหาข้าจะไม่มีทางสนใจใยดีเจ้า เพราะข้าไม่เคยคิดชอบพอผู้ชายด้วยกัน การที่เจ้ารุกเร้าเข้าหาอย่างหนักเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ข้ามองดูเจ้าถึงแม้จะเป็นเพราะเกลียดก็ตามที”



“แสดงว่าตอนนั้นข้าก็จีบท่านถูกวิธีแล้วสิ” เอเดรียนยิ้มกว้าง ชายหนุ่มดูพออกพอใจในตนเอง



“เรียกร้องความสนใจได้ถูกต้อง แถมยังเจ้าแผนการ หากเจ้าไม่บังคับขอข้ามาเป็นรางวัล ข้าคงยังไม่รู้ใจตัวเองเช่นนี้”



“ท่านรักข้าเมื่อไหร่กันหรืออเล็กเซีย” เอเดรียนมองสบตามาไม่กระพริบ



“ความลับ”



 อเล็กเซียหัวเราะคิกๆ เด็กหนุ่มอายที่จะบอก เมื่อทบทวนดูให้ดีแล้วตัวเขานั้นน่าจะสนใจเอเดรียนตั้งแต่แรกพบ หากไม่เป็นเช่นนั้นเหตุใดถึงต้องเอาแต่คิดถึงคนที่ขโมยจูบไปอย่างไม่เลิกรา



อเล็กเซียรู้นิสัยและสันดารตนเองดี หากว่าเกลียดหรือไม่ชอบใครขึ้นมาเขาจะเมินเฉยต่อคนผู้นั้นราวกับเป็นอากาศธาตุ ไม่มีทางเก็บเอาคนที่เกลียดมาใส่ใจถึงแม้ว่าจะเกลียดมากก็ตาม



เขาติดใจเอเดรียนตรงไหนนะ อาจจะเป็นที่รูปลักษณ์สมชายและดิบเถื่อน อเล็กเซียเคยพบแต่ผู้ชายที่ค่อนข้างสำอางและเป็นผู้ดี แม้แต่อัศวินชั้นเลิศของอาณาจักรยังไม่มีผู้ใดมีความดุดันเท่ากับสามีของเขา



อเล็กเซียถอนหายใจออกมา ตัวเองนั้นช่างไม่ต่างกับผู้หญิงเลยมิใช่หรือ ปากบอกว่าเกลียดแต่ก็ยังเอาแต่คิดถึงเอเดรียน ทว่าตอนนี้ต่างกันออกไป เพราะว่าเขารู้ตัวดีแล้วว่ารักชายหนุ่มมากแค่ไหน



“ท่านจะทำให้ข้าอกแตกตายนะอเล็กเซีย” เอเดรียนทำสีหน้ากระเง้ากระงอดชวนให้นึกรักและเอ็นดู อเล็กเซียจุมพิตลงไปบนหน้าผากของชายหนุ่ม ตามด้วยหอมแก้มทั้งสองข้างฟอดใหญ่



“เจ้ากล้าตายโดยทิ้งข้าไว้เพียงลำพังหรือ”



“ย่อมไม่กล้าอยู่แล้ว ข้าจะไม่ตายก่อนท่านอย่างแน่นอน”



“สัญญาสิว่าจะอยู่เคียงข้างข้าตลอดไป” อเล็กเซียจรดหน้าผากของตนลงบนหน้าผากของเอเดรียน ในระยะประชิดเช่นนี้การได้สบตากันชวนให้รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน เอเดรียนยิ้มเป็นยิ้มที่อ่อนหวานซึ่งเด็กหนุ่มเห็นจนชินตา



“ข้าจะตามติดท่านตลอดไปถึงแม้จะเป็นภพหน้าข้าขอสาบาน”



ทันทีที่กล่าวจบอเล็กเซียกับเอเดรียนก็จูบกันเนิ่นนาน จูบอันแสนหวานนี้ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย มันจะมีครั้งต่อๆไปอีกและไม่มีวันสิ้นสุด เพราะคำสาบานที่ได้ให้ไว้แก่กันจะผูกมัดพวกเขาเอาไว้ตราบจนชั่วนิจนิรันด์



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


จบแล้วจ้า ปะตามอ่านเรื่องใหม่ได้น้าลงแล้วเรื่อง real heart ตัวจริงของหัวใจ




เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-12-2016 12:23:46
ขอบคุณค่ะ
 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 17-12-2016 13:18:29
 :laugh: แหมะสรุปพอกันทั้งคู่  :haun4: 
 :pig4:  รอเจิมเรื่องต่อไป  :L1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-12-2016 13:47:07
 :mew1:  ขอบคุณมากค่ะ
อเล็กเซียน่่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-12-2016 13:58:44
เเฮปปี้เอ็นดิ้ง เย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: chaichan ที่ 17-12-2016 14:39:13
คาใจคู่พี่คร่า 555
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-12-2016 15:53:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 17-12-2016 16:08:20
คู่น้องก็แฮปปี้เอนดิ้ง แล้วคู่พี่...???
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 17-12-2016 19:25:57
สนุกมากค่า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 17-12-2016 19:35:49
หนุกมากกกกกกกกก ชอบบบ สำนวนการเขียนดีมาก เคยเขียนเรื่องอื่นมาก่อนเปล่า เก่งจุง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 17-12-2016 19:37:51
หนุกมากกกกกกกกก ชอบบบ สำนวนการเขียนดีมาก เคยเขียนเรื่องอื่นมาก่อนเปล่า เก่งจุง

ลงในเล้าหลายเรื่องแล้วค่ะ ในนามsilvan ลองหาอ่านในกระทู้เก่าได้นะคะ

ชมอย่างนี้ลอยเลย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-12-2016 19:49:24
สั้นไปหน่อย แต่สนุกมากกกก ชอบอเล็กเซีย ดูเป็นเจ้าชายที่เอาจริงเอาจังมากกก อยากรู้บทสรุปของคู่ท่านพี่อ่ะ 
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Meen0064 ที่ 17-12-2016 20:15:05
จบเร็วเกินไป อยากให้มีภาคต่อ :ling1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Laliat ที่ 17-12-2016 21:15:01
 :mew1:โอ้วตามมานานจบแว้ว ชอบตอนเค้าเอ้าท์ดอร์จัง :oo1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 17-12-2016 23:17:25
สนุกกกกกกกกกก :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-12-2016 23:18:34
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 19-12-2016 12:28:02
หมาป่าน่ารักอ่ะ อ่านรวดเดียวจบเลยสนุกมากบอกเลย ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-12-2016 12:54:22
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 21-12-2016 04:15:10
ขอบตุณนะคะที่แต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมาอ่านแล้วสนุกเลยคะชอบเอเดรียนกับอเล็กเซียมากจริงๆคะเนื่อเรื่องน่ารักดีคะไม่ปวดหัวหรือบีบหัวใจมากเกินไปอ่านสะบายๆดีคะชอบมากเลย....ไม่น่าจบเร็วเลยจะมีตอนพิเศษไหมคะรออ่านนะคะ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 21-12-2016 22:10:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 25-12-2016 20:22:32
ตอนนี้silvanเปลี่ยนนามปากกาใหม่เป็นviolasheepแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 25-12-2016 20:34:39
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 25-12-2016 22:24:43
ชอบมากเลยค่า อยากรู้คู่พี่จะลงเอยยังไง
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 26-12-2016 22:25:36
ฮิ้ว จบแย้ว แต่อยากได้ตอนพิเศษที่เป็นคู่ของพี่อ่ะ คู่น้องสมหวังไปแย้ว แต่คู่ของพี่ยังง่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 27-12-2016 10:07:40
 :o8: o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 04-01-2017 23:54:49
น่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 18-01-2017 18:01:51
หวานจนจบเลยนะคู่เนี่ย ว่าแต่คู่ธีโอกีบมีอายังไงต่อ่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 19-01-2017 22:19:34
ตายง่ายมากอ่ะ เป็นพ่อมดน่าจะตายยากกว่านี้เื่องสนุก เจ้าชายน้อยน่ารัก ><
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: wiwari ที่ 19-01-2017 23:24:58
 :katai2-1: :mew1: :mew3:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 22-05-2017 23:45:02
 o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Tatangth ที่ 04-07-2017 10:24:20
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 05-07-2017 22:22:05
สนุกๆๆ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 06-07-2017 19:04:59
สนุกค่ะ ชอบอเล็กเซีย น่ารักดี
ชอบแนวนี้มาก อยากให้มีต่อยาวๆ 5555+ ชอบอ่านแนวนี้
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 08-07-2017 22:12:44
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เอเดรียนเป็นหมาป่าโรแมนติกและเซ็กส์จัดมากกกกก 555555 สนุกมากค่า หวังอยากให้มีอาคู่กัพี่ชาย และอยากให้ไนเจลเจอคู่ฟ้าลิขิตบ้าง
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 03-08-2017 16:43:53
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ ดำเนินเรื่องดีมากเลย ภาษาก็ดีงาม ขอบสำหรับนิยายดีๆนะคะ   o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 17/12/59 จบแล้วย้ายได้จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: +MooN+ ที่ 05-08-2017 13:57:20
น่ารัก :o8:
เป็นหมาป่าที่เจ้าเล่ห์ และช่างอ้อนเป็นที่สุด :laugh:
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทสรุป หน้า11 7/9/60 แจ้งข่าวเปิดจองนิยายจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Silvan ที่ 07-09-2017 19:44:57
เปิดจอง วันที่ 7 กันยายน - 10 ตุลาคม 60
จัดส่งหนังสือ 10 พฤศจิการยน 60
..............................................................
เรื่อง : จอมใจจ้าวหมาป่า
เขียน : violasheep
หนังสือ จำนวน 330-340 หน้า
จำนวน 32 ตอน
ตอนพิเศษเฉพาะในเล่ม 2 ตอน
ที่คั่นหนังสือ 2 ลาย
***ของเเถมเฉพาะรอบพรีออเดอร์
โปสการ์ด จำนวน 1 ใบ
ปกติราคา 410 บาท
สั่งจองในรอบพรีลดเหลือ 395 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง)
(มีจำหน่ายในรูปเเบบ E-Book เดือนพฤศจิกายน ราคา 385 บาท)
สั่งซื้อ>>http://darin-novel.lnwshop.com

https://web.facebook.com/Darin-Novel-1825342907788856/

จริงๆอยากแปะรูปแต่ทำไมเป็นนิยายออกกับสนพดารินนะคะ

ถ้าชอบก็ไปจองกันเยอะๆน้า
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 14/9/60 เปิดจองนิยายจ้า ตัวอย่างตอนพิเศษในเล่ม
เริ่มหัวข้อโดย: Violasheep ที่ 14-09-2017 16:46:06
ตอนพิเศษ จอมใจจ้าวหมาป่า

               ตอนศัตรูหัวใจ

               เสียงแซ่ซ้องของประชาชนดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ อเล็กเซียร่วมยินดีในงานแต่งงานของธีโอกับมีอา เขาดีใจต่อความสุขสมหวังของท่านพี่กับวูฟสาวอย่างที่สุด เอเดรียนซึ่งยืนเคียงข้างก็คงคิดไม่ต่างกัน

               กระนั้นคนที่มีความสุขที่สุดคงเป็นไนเจลไม่ผิดแน่ ชายร่างสูงคนนี้ร้องห่มร้องไห้ยกใหญ่จนเอเดรียนต้องเข้าไปปลอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า คงคิดไม่ถึงว่ามีอาจะได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายรัชทายาทของอาณาจักรอเล็กซานเดรีย

               “ร้องไห้จนพอแล้วหรือยัง ไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรือไนเจล” เอเดรียนยิ้มกริ่มให้กับการปล่อยโฮไม่ยั้งของไนเจลดูท่าทางแล้วเพื่อนคนนี้คงซาบซึ้งยินดีมากจริงๆ ทั้งอย่างนั้นยังไม่วายแสดงความกังวล

               “ข้ากังวลเหลือเกินเอเดรียน กลัวว่ามีอาจะอยู่ท่ามกลางวังวนของการแก่งแย่งทางการเมืองไม่ได้” เอเดรียนฟังแล้วถอนหายใจ

...

เอาncมายั่วอีกนิด555555

...

“อเล็กเซียข้าจะใช้นิ้วกับท่านก่อนนะ”

อเล็กเซียพยักหน้าหงึกหงักโดยไม่หันกลับมามอง เมื่อได้รับคำอนุญาตเอเดรียนจึงใช้นิ้วชำแรกเข้าสู่จุดเร้นลับบริเวณบั้นท้าย ดึงออกแล้วส่งกลับเข้าไปอย่างยั่วเย้า ช่องทางสีหวานดูดนิ้วเขาเอาไว้แน่น เอเดรียนลำคอแห้งผากกระหวัดนึกถึงยามที่ความเป็นชายของตนถูกโอบรัด



...



ถ้าชอบก็ไปจองกันหน่อยน้า TT
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 16-09-2017 09:50:09
มียั่ว ส่งท้าย
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 19-09-2017 09:44:48
 :z1:่สนุกมาก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 03-06-2018 23:06:20
สนุกมากกก
พระเอกน่ารัก
นายเอกรู้ใจตัวเองแล้วหวานกันมาก
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: night2 ที่ 20-09-2018 18:53:26
ขอให้ไอแซคได้ผัวในเผ่าวูฟ
หัวข้อ: Re: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 28-09-2018 21:58:49
 :pig4: