14-…ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ
ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าพร้อมด้วยอาการมึนหัวระดับสิบก่อนจะมองไปยังไอ้ตัวต้นเหตุที่ตอนนี้ยังหลับอยู่ข้างๆ อย่างไม่รู้ไม่ชี้
"แค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ ครับว่าผมจะจีบพี่ ...ผมไม่ได้ขอ" ไอ้ปืนพูดออกมาพร้อมยิ้มจนตาหยี
"กวนตีนกูละ" ผมบอกมันก่อนจะเลี่ยงหันไปมองทางอื่นแทน ...แล้วทำไมผมต้องเขินไปกับมันวะเนี่ย
"ขออีกแก้วนะครับ" ไอ้คนที่เพิ่งบอกจะจีบผมไปหยกๆ ยื่นแก้วเปล่ามาตรงหน้าเพื่อให้ผมเติมให้
"มึงเมาละ"
"ยังไม่เมาสักหน่อยครับ" ไอ้ปืนยืนยันก่อนจะพยายามตามมาคว้าแก้วที่ผมดึงออกมาจากมือก่อนจะเอาไปวางไว้อีกมุมโต๊ะให้ห่างๆ มัน
"มึงควรไปนอน" ผมบอกก่อนจะดันตัวคนที่เริ่มงอแงให้กลับไปนั่งที่เดิม
"งั้นพี่ไปนอนกับผม"
"เรื่องอะไรล่ะ กูจะอยู่กับเพื่อน"
"งั้นผมจะอยู่กับพี่"
"เมาแล้วดื้อจริงโว้ยย" ผมหันไปบอกมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะทำท่ากระดกแก้วเหล้าในมือผมเข้าปาก แต่อยู่ดีๆ ก็มีใบหน้าตี๋ๆยื่นเข้ามาที่อีกด้านหนึ่งของแก้วก่อนจะใช้ริมฝีปากคาบไว้ที่ด้านตรงข้าม
"ไอ้เชี่ย!" ผมสะดุ้งสุดตัวจนแทบตกเก้าอี้หากไม่มีมือของไอ้คนข้างๆ คว้าไว้ได้ทัน ผมหันไปจ้องหน้ามันอย่างคาดโทษก่อนที่ไอ้ตัวต้นเหตุจะนั่งหัวเราะจนหน้าแดง
"ก็พี่ไม่ให้แก้วผมอ่ะ" มันบอกก่อนจะดึงแก้วที่มันยังคาบไว้มาถือดีๆ แล้วยกขึ้นจิบไปอึกใหญ่
"เออ เอาไปเลย กินให้หมดขวดไปเลยนะ" ผมบอกก่อนจะหยิบขวดเหล้า โซดา และถังน้ำแข็งมาวางกระแทกลงตรงหน้ามัน
"พี่ก็เมาเหมือนกันแหละครับ"
"เมาเชี่ยไร เหล้าแค่นี้แมร่งโคตรกระจอก" ผมบอกมันก่อนจะดึงแก้วของผมคืนมาแล้วยกขึ้นกินจนหมดแก้วก่อนจะคว่ำแก้วให้มันดู
"เหรอครับ แต่หน้าพี่อ่ะโคตรแดง" มันบอกก่อนจะเอานิ้วมาจิ้มๆ ที่แก้มผมจนผมเพิ่งเข้าใจความหมายที่ไอ้คนตรงหน้ามันพูด
"มึงมานี่เลยมา"
แล้วจากนั้นผมเลยจับมันกรอกเหล้าให้สมกับที่แมร่งอยากกิน ...เมาๆ ให้หลับไปเลยมึงจะได้หยุดพูดมากสักที ผมคิดก่อนจะนั่งมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้หน้าเริ่มจะแดงมากๆ แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มอยู่ตลอด ...ทำไมวันนี้มึงเสือกคอแข็งขึ้นมาวะ ผมได้แต่มองมันอย่างเริ่มสงสัยแต่ก็รับแก้วเหล้าที่มันชงมาให้กินเป็นเพื่อนมันอย่างเสร็จสรรพก่อนจะกินตามมันเข้าไป
กว่าไอ้คนตรงหน้าจะหลับก็ปาเข้าไปเกือบตีสาม ไหนจะต้องแบกมันกลับห้อง ไหนจะต้องดูแลปรนนิบัติพัดวีไอ้คนที่ตอนเมาแล้วเรื่องโคตรเยอะ แล้วไหนจะดันออกมาเจอพี่แชมป์เข้าตอนเกือบตีสี่ กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้า แล้วไอ้นิสัยที่เมาแล้วตื่นเช้ามันก็ดันทำให้ผมต้องตื่นมาตั้งแต่เจ็ดโมงพร้อมด้วยอาการที่พังซะยิ่งกว่าพัง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเบาๆ ทำให้ผมเลิกสนใจไอ้คนที่ยังนอนอยู่แล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูก่อนจะเจอกับน้องทิงเกอร์เบล น้องสายรหัสปีสองของผมยืนยิ้มอยู่
"เอ่อ พี่กันย์ตื่นแล้วใช่มั้ยคะ?" น้องเบลถามพลางเอามือประสานกันไว้ตรงหน้าอกแล้วยิ้มให้ผมอย่างเกรงใจ
"ยืนอยู่ตรงนี้ก็ตื่นแล้วแหละครับ" ผมบอกน้องยิ้มๆ เพื่อให้น้องมันสบายใจก่อนจะเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยว่ามาหาทำไมแต่เช้า
"จะชวนไปถ่ายรูปสายรหัสกันน่ะค่ะ" น้องเบลบอกพร้อมยกกล้องโพราลอยด์ในมือขึ้นมายืนยัน
"เหลือแค่พี่เหรอครับ แล้วคนอื่นอ่ะ"
"การันต์อยู่ที่หาดแล้วค่ะ พี่เจกำลังไปอาบน้ำ เดี๋ยวหนูไปตามพี่ดินอีกคน" 'พี่ดินสอ' คือสายรหัสปีห้าของผมครับ ผมพยักหน้ารับก่อนจะบอกให้น้องเดินไปตามพี่ดินก่อนเดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จจะรีบตามออกไป
"อ้อ หนูเอานี่มาให้ค่ะ" น้องเบลพูดขึ้นก่อนจะส่งเครื่องดื่มแก้แฮงค์ขวดหนึ่งมาให้ผมอย่างรู้ใจ ...การมีน้องผู้หญิงในสายรหัสก็ดีอย่างนี้แหละครับ
"ขอบคุณครับ" ผมบอกก่อนมองส่งน้องออกไปแล้วจึงเข้าไปทำธุระของตัวเอง
"ไอ้เจโว้ยยย" พี่ดินตะโกนเรียกไอ้เจที่กำลังเดินอย่างมึนๆ ให้เข้ามารวมกับสายรหัส ...ดูสภาพก็รู้ครับว่ามันยังไม่ได้นอน อีกแล้ว
"วันสุดท้ายแล้วเว้ย" ผมบอกมันก่อนจะตบไหล่มันเพื่อให้มันฮึกเหิม
"งั้นเดี๋ยวผมถ่ายให้ก่อนนะครับ" ไอ้การันต์เสนอตัวก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา
วันสุดท้ายของทริปคณะทุกปีจะเป็นวันถ่ายรูปของสายรหัสเพื่อให้ทั้งพี่ที่จบไปแล้วและน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาได้พูดคุยรู้จักกัน ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเมาหนักขนาดไหนหรือใครยังไม่ได้นอนก็ต้องลากสังขารออกมาให้ได้เพื่อถ่ายรูปกับสายซึ่งเป็นเหมือนธรรมเนียมประจำทุกๆ ปี
"เดี๋ยวให้คนอื่นช่วยถ่ายให้ดีกว่า" น้องเบลบอกก่อนจะกวักมือเรียกไอ้การันต์ให้เข้ามาถ่ายรูปด้วยกันแล้วมองซ้ายมองขวาหาเป้าหมายรายใหม่ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาคนๆ หนึ่งที่เพิ่งเดินมาถึงพอดี
"ขอโทษนะคะ ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ยคะน้อง?" น้องเบลพูดขึ้นอย่างเกรงใจก่อนคนตรงหน้าจะพยักหน้ารับยิ้มๆ แล้วรับทั้งโทรศัพท์และกล้องโพราลอยด์ไปถือไว้
"โอเคค่ะ" น้องเบลวิ่งกลับมาอย่างดีใจก่อนจะชี้ชวนให้ทุกคนให้มองกล้องพร้อมให้จังหวะ …หนึ่ง สอง สาม
"ขอบคุณมากนะคะ" น้องเบลวิ่งกลับไปหาตากล้องจำเป็นก่อนจะรับกล้องทั้งหมดกลับคืนมา
"อ้าว น้องรักไอ้กันย์นี่นา ไม่ไปถ่ายกับมันรึไง" 'ไอ้กัมป์' คนเดียวกับที่เป็นคนนำฐานกิจกรรมของปีสี่เดินผ่านมาแล้วตะโกนทักคนที่เพิ่งทำหน้าที่ตากล้องจำเป็นจนทำให้สายรหัสของผมหันไปมองไอ้ปืนที่ยังไม่เดินไปไหนสักที
"น้องสายเราหรอวะ" เสียงพี่ดินถามขึ้นทำให้ไอ้เจกับไอ้การันต์หัวเราะขึ้นมาก่อนจะมองผมอย่างมีเลศนัย
"ไม่ใช่พี่ เป็นแค่น้องพี่กันย์คนเดียว" ไอ้เจว่าก่อนจะเอาศอกกระทุ้งสีข้างผมอย่างแซวๆ
"สัด!"
"ยังไงมึง" พี่ดินหันมาถามผมพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาแล้วกวักมือเรียกไอ้เด็กนั่นให้เดินมาหา ไอ้ปืนยืนมองพี่ดินอย่างงงๆ ก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง พี่ดินพยักหน้ารับจนมันได้แต่มองผมอย่างสงสัยแต่ก็ยอมเดินเข้ามา
"เรียกผมหรอครับ"
"เออ ชื่อไรวะ"
"ปืนครับ"
"ปืน? ปืนที่แปลว่า GUN อ่านะ" พี่ดินถามอย่างได้ยินไม่ถนัดก่อนจะเรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งวงขึ้นมาเป็นบ้าเป็นหลัง
"ครับ ปืนที่แปลว่า GUN" เจ้าของชื่อตอบก่อนจะหันมามองผมพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ...กูเกลียดรอยยิ้มมึงจริงๆ ให้ตาย
"เออนั่นแหละ มาถ่ายรูปกัน" พี่ดินว่าก่อนจะขยับที่ว่างระหว่างผมกับพี่เขาให้มันเดินเข้ามา
"ไอ้ขิงถ่ายรูปให้กูหน่อย" ไอ้เจตะโกนดักไอ้ขิงที่เพิ่งเดินผ่านมาก่อนจะบอกให้น้องเบลส่งกล้องกับโทรศัพท์ให้มัน
"อ่าวเฮ้ย สะใภ้ เอ้ย! รึเขยสายวะ" ไอ้ขิงแซวขึ้นมาเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามองกันหมด
"ไม่ใช่โว้ยยย" ผมรีบตะโกนด่ามันก่อนจะบอกให้มันรีบๆ ถ่ายรูปได้แล้ว
"อย่าร้อนตัวดิพี่ ผมยังไม่ทันระบุชื่อเลย" ไอ้ขิงว่าก่อนไอ้คนในสายจะหันมาส่งเสียงแซวผมกันใหญ่ ไอ้คู่กรณีเลยเอื้อมมืออ้อมมาข้างหลังก่อนจะตบที่หลังเบาๆ แล้วก้มลงมากระซิบ
"จะเป็นเขยหรือสะใภ้เดี๋ยวค่อยตกลงกันอีกทีนะครับ"
"ไอ้เชี่ยปืน!" ผมสบถออกมาอย่างสุดจะทนจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไมได้เพราะไอ้ขิงกำลังนับ หนึ่ง สอง สาม
"ทำไมครับ หรือพี่อยากเป็นทั้งสองอย่าง"
"เดี๋ยวมึงตายแน่!" ผมพูดอย่างหมายมาดก่อนจะหันไปยิ้มอย่างอกกลั้นให้กล้องต่อไป
[Bpuen's]
"พี่กันย์ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ" เสียงน้องผู้หญิงอีกคนดังขึ้นด้านหลังผมก่อนคนที่ถูกเรียกชื่อจะผละจากน้องอีกคนหนึ่งที่เข้ามาขอถ่ายรูปเหมือนกันแล้วหันมายิ้มให้
"ได้ครับผม" พี่กันย์ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะถอดแว่นกันแดดอันโปรดออกตามคำเรียกร้องของสาวๆ ที่อยากเห็นหู ตา จมูก ปากของคนที่ถ่ายรูปด้วยชัดๆ
"ฝากถ่ายให้หน่อยนะคะ" แล้วจะใครล่ะครับที่ต้องมาเป็นตากล้องให้ ...ก็ผมคนนี้นี่ไง
"ยิ้มนะครับ หนึ่ง สอง สาม" ผมส่งสัญญาณก่อนจะมองคนตรงหน้าผ่านเฟรมแล้วกดถ่ายรูปก่อนจะส่งกล้องคืนให้น้องเขาซึ่งเป็นคนที่มาขอถ่ายไม่รู้คนที่เท่าไหร่แล้วของเช้าวันนี้
"สาวเยอะนะครับ" เมื่อเห็นใบหน้าที่เอาแต่ยิ้มกว้างผมก็อดแซวออกไปไม่ได้จริงๆ
"ธรรมดาครับน้อง" พี่กันย์ว่าก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วให้ผมอย่างกวนๆ ...ทำหน้าทำตาแบบนี้ นี่มันน่าแกล้งอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ครับ
"พี่กันย์คะ คือว่า..." เสียงน้องผู้หญิงอีกคนที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้คนตรงหน้าที่เมื่อกี้ยังทำหน้ากวนๆ อยู่กลายเป็นยิ้มหวานทันทีก่อนจะชะโงกหน้าผ่านตัวผมไปยังข้างหลัง
"จะขอพี่กันย์ถ่ายรูปหรอครับ" ผมหมุนตัวกลับมาก่อนจะชิงพูดขึ้นก่อนด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วยกมือขึ้นไปพาดคอของคนข้างๆ ทันทีจนเจ้าตัวหน้าเหวอ
"เอ่อ..ค่ะ"
"งั้นผมขอถ่ายด้วยคนได้ไหมครับ" ผมบอกก่อนจะยิ้มให้สุดฤทธิ์ก่อนสาวปีหนึ่งตรงหน้าจะพยักหน้าอย่างงงๆ แต่ก็ยอมหันหน้าไปมองกล้องแต่โดยดีพร้อมผมและพี่กันย์ที่ยืนขนาบกันคนละข้าง
"หนึ่ง สอง สาม"
"โอ้ยยย" เสียงร้องของพี่กันย์ทำให้คนที่มาขอถ่ายรูปด้วยหันไปมองอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะเจอคนตรงหน้ายืนเอามือกุมแก้มพลางส่งสายอาฆาตมามองผมอย่างไม่วางตา
"พี่กันย์เป็นอะไรหรอคะ"
"อ่อ.. เปล่าครับเปล่า" พี่กันย์ว่าก่อนทั้งหมดจะมายืนเรียงถ่ายรูปด้วยกันอีกครั้ง
"ดึงแก้มกูเพื่อ?" ทันที่ที่สาวปีหนึ่งคนนั้นเดินจากไปพี่กันย์ก็หันมาทำตาเขียวใส่ผมทันที
"ยิ้มอะไรเยอะแยะครับ เดี๋ยวก็ปวดแก้มหรอก"
"กูปวดแก้มเพราะมึงดึงนี่แหละ" พี่กันย์ยังร้องโอดโอยต่อไปก่อนจะหันมาทำหน้างอนๆ ใส่ผม
"ขอโทษครับผม" ผมว่าก่อนจะยื่นมือไปลูบแก้มคนตรงหน้าที่มีรอยแดงขึ้นมานิดนึง แต่เชื่อเถอะครับไม่ใช่เพราะฝีมือผม แต่เพราะคนตรงหน้าเขาถูของเขาเองต่างหาก
แชะ..
เสียงชัตเตอร์ที่ลั่นขึ้นทำให้ผมกับพี่กันย์หันไปมองแล้วเห็นพี่เบลน้องสายของพี่กันย์ที่ลดกล้องโพราลอยด์ลงพอดีก่อนจะหยิบฟิล์มที่เพิ่งไหลออกมาจากตัวกล้องมาถือไว้
"แอบถ่ายหรอทิงเกอร์เบล" พี่กันย์ถามก่อนจะเดินย่างสามขุมไปหาจนพี่เบลที่ค่อยๆ ถอยหลังหนีอัตโนมัติ
"เอ่ออ..."
"ถ้าอยากถ่ายบอกผมก็ได้นะ" ผมว่าก่อนจะลากคอเสื้อคนที่กำลังจะประทุษร้ายน้องสายให้ถอยหลังกลับมา
"ถ่ายรูปกันครับ" ผมหันไปบอกพี่กันย์ก่อนจะจะปล่อยมือจากคอเสื้อพี่เขาเอามาไขว้หลังแล้วยิ้มให้กล้อง
"หนึ่ง สอง สาม"
แชะ...
"ขออีกรูปได้มั้ย" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มหวานให้ผมสุดฤทธิ์ ...ยิ้มแบบนี้ต้องมีอะไรแหงๆ ครับ
"หนึ่ง สอง สาม"
"โอ้ยพี่" ผมร้องขึ้นมาเพราะอยู่ดีๆ ไอ้คนที่ยืนถ่ายรูปอยู่ข้างๆ ก็จับแขนผมที่พาดอยู่บนคอเจ้าตัวขึ้นมาก่อนจะกัดลงไปซะเต็มแรง
"ไงล่ะ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะกอดอกแล้วยืนยิ้มให้อย่างกวนๆ
"พี่กัดผมทำไมเนี่ย?" ผมถามก่อนจะมองแขนที่เป็นรอยแดงๆ เพราะแรงกัดของคนตรงหน้า
"แล้วเอาแขนมาพาดคอกูทำไมบ่อยๆ ครับ เดี๋ยวก็เมื่อยแขนแย่หรอก" พี่กันย์ตอบก่อนจะยักคิ้วให้อย่างเหนือกว่า ...เอาคืนหรอครับ แสบนักนะครับพี่
“ฝากไว้ก่อนเถอะครับ”
"ดูอะไรอยู่วะ" พี่กันย์ถามผมที่ตอนนี้กำลังนั่งดูรูปโพราลอยด์ในมือที่พี่เบลให้มาเกือบสิบใบ
"ขอดูด้วย" พี่กันย์ชะโงกหน้าเข้ามาก่อนจะก่อนจะจ้องรูปหลายใบในมือผมก่อนจะใช้ตัวเองบังลมที่ตีเข้ามาทางหน้าต่างรถบัสป้องกันไม่ให้รูปปลิว ตอนนี้เรากำลังอยู่บนรถบัสเพื่อเดินทางกลับมหา'ลัยให้ทันกำหนดการเดิมคือห้าโมงครับ และตอนขากลับพี่กันย์ก็ยังชวนผมให้มานั่งคันรถปีศาจเหมือนเดิมเพราะคนมันน้อย แถมปีศาจทุกคนยังสลบกันแทบไม่เหลือเพราะปาร์ตี้เมื่อคืนนี่แหละครับ
"ขยับมานี่ครับ" ผมว่าก่อนจะใช้มืออ้อมตัวพี่กันย์แล้วดันหัวคนตรงหน้าให้มาชิดกับไหล่ผม
"แต๊ะอั๋งกูหรอ" พี่กันย์เงยหน้าหรี่ตามองผมอย่างสงสัยก่อนจะมองสภาพคล้ายตอนนี้ที่เจ้าตัวเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของผมไปเรียบร้อยแล้ว ...ผมจะคิดก็เพราะพี่พูดนั่นแหละครับ ผมได้แต่ยิ้มอย่างขำๆ ส่วนคนข้างๆ ก็ไม่ได้ขยับตัวหลีกไปแต่อย่างใด
"ก็หัวพี่บังอ่ะ ผมมองไม่เห็น" ผมบอกก่อนจะยกรูปถ่ายขึ้นมาให้ดู พี่กันย์พยักหน้าเออออเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมองภาพในมือต่อไป
"กูล่ะอยากฉีกรูปนี้จริงๆ ให้ตาย" พี่กันย์ว่าก่อนจะจิ้มๆ ไปยังรูปที่พี่เบลแอบถ่ายตอนที่ผมกำลังยื่นมือไปลูบๆ แก้มคนตรงหน้าตอนที่ผมแกล้งไปดึงแก้มพี่เขาอยู่พอดี
"หยุดเลยครับ รูปนี้ผมจะเอา" ผมบอกก่อนจะดึงรูปแยกออกมากันคนพูดที่จะอย่างปากว่าจริงๆ
"เออ เอาไปเลย" พี่กันย์ว่าก่อนจะใช้สายตาไล่ๆ รูปในมือผมบ้าง
"เอารูปนี้แล้วกัน กูว่าแมร่งปกติสุดละ" พี่กันย์ที่เงียบไปนานพูดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะรูปที่ผมยืนกอดคอพี่เขาไว้ตรงริมทะเล ผมมองภาพในมือพี่กันย์อย่างขำๆ เพราะรูปที่เหลือจะไม่ทะเลาะกันก็ต้องแกล้งกันเพราะอะไรซักอย่าง
"ผมก็อย่างนั้นแหละครับ" ผมพูดขึ้นก่อนจะเก็บรูปทั้งหมดเข้ากระเป๋าก่อนจะเห็นคนข้างๆ หยิบปากกากันน้ำแบบหัวเล็กออกมา พี่กันย์ทำหน้านึกอยู่นานก่อนจะค่อยๆ เขียนวันที่วันนี้ลงไปข้างๆ พร้อมระบุชื่อสถานที่กำกับไว้
01.08.xx
ที่ทะเล
เอี๊ยดดด..
"เชี่ยยย" อยู่ดีๆ รถบัสก็เบรคจนทำให้คนที่นั่งอยู่ต่างเสียหลักกันไปเล็กน้อยก่อนคนข้างๆ ผมจะสบถออกมาจนผมต้องหันไปเช็คสวัสดิภาพเพราะกลัวเจ้าตัวจะเป็นอะไร ภาพที่เห็นคือพี่กันย์ที่นั่งเบะปากพร้อมรอยปากกาที่เลอะออกไปเพียงเล็กน้อย ผมมองหน้าที่พี่กันย์ที่กำลังช็อคอยู่อย่างขำๆ เพราะพี่กันย์ยิ่งเป็นพวกที่ทรมานใจกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้อยู่ด้วย …แต่ถ้ามันเลอะทั้งใบ พี่กันย์ก็จะแค่โยนมันทิ้งไปเท่านั้นครับ
"เดี๋ยวผมแก้ให้ครับ" ผมเลยถือวิสาสะหยิบโพราลอยด์กับปากกาในมือของคนของคนข้างๆ มาถือไว้เอง
"จะทำอะไรวะ" พี่กันย์ว่าก่อนพยายามจะดึงเอารูปในมือผมกลับไป
"อยู่นิ่งๆ ครับ เดี๋ยวมันยิ่งเลอะนะ" ผมบอกก่อนจะดุคนข้างๆ เหมือนเด็กๆ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดีแต่ยังมีสายตาที่มองตามของในมือผมอยู่ไม่วางตา ผมเหล่ไปมองคนข้างๆ เล็กน้อยก่อนจะเอี้ยวตัวหลบให้พ้นสายตาก่อนจะเขียนลงไปบนรูปเร็วๆ แล้วยื่นกลับไปให้
"เด็กอนุบาล" พี่กันย์ว่าพลางปรายตามามองผมที่ทำหน้าภูมิใจแบบสุดๆ ก่อนจะรับรูปคืนไปแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์
01.08.xx
ที่ทะเล ♥
กว่าจะเดินทางมาถึงมหา'ลัยก็ปาไปเกือบหนึ่งทุ่มแล้วผมเลยตัดสินใจตรงกลับหอแทนที่จะไปต่อกับพวกพี่กันย์ ...ก็ไปเล่นกับเขาตั้งสามวันแล้วก็ควรจะปล่อยให้อยู่กับเพื่อนเขาบ้าง ผมคิดอย่างขำๆ ก่อนจะวางกระเป๋าลงที่ปลายเตียงแล้วเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ตรงมุมห้องก่อนจะเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาจัดการล็อคอินเข้าโปรแกรมเฟสบุ๊คเรียบร้อย
ภาพที่เด้งขึ้นเป็นอันแรกบนหน้าไทม์ไลน์คืออัลบั้มทริปที่ผมเพิ่งกลับมาซึ่งภาพส่วนใหญ่นั้นจะต้องมีพี่กันย์อยู่ทุกรูป เพราะผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับพี่คนอื่นๆ ในคณะสถาปัตย์ ดังนั้น หากผมจะเห็นรูปได้ก็ต้องเป็นรูปที่ถูกแท็กมาอีกทีเพราะมีเพื่อนในเฟสบุ๊คคนใดคนหนึ่งรวมอยู่ในรูปด้วย
ผมกดเข้าไปดูในอัลบั้มก่อนจะกดไล่ดูรูปไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นภาพที่ถ่ายหมู่กันตอนทำฐานกิจกรรม ตอนนั่งชิลกันอยู่ริมทะเลเป็นส่วนใหญ่
"หืมม" ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเลื่อนหน้าไทม์ไลน์มาเจอรูปๆ หนึ่งที่พี่กันย์อัพขึ้นมายังไม่ทันถึงหนึ่งนาทีดี
ในรูปเป็นรูปของฝากหลายชิ้นที่เจ้าตัวซื้อมาจากร้านขายของที่ระลึกตอนที่รถบัสแวะพัก รวมไปถึงแว่นกันแดดและกระเป๋าเดินทางที่เจ้าตัวใช้ตอนไปทริปก่อนผมจะเหลือบไปเห็นรูปโพราลอยด์เล็กๆ ที่วางอยู่ใต้แว่นกันแดดที่ถ้าไม่สังเกตก็แทบไม่เห็นตัวหนังสือที่อยู่ข้างใต้ แต่มีเหรอครับที่คนที่จบท้ายประโยคในรูปใบนั้นอย่างผมจะมองไม่ออกว่ามันมีอะไรที่เขียนเติมเข้ามา ผมนั่งเพ่งอยู่นานกว่าจะอ่านมันออกแล้วก็ต้องยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ก่อนจะโพสต์ต่อลงไปใต้ภาพนั้น
Bpuen : ไว้ไปกันอีก ‘แค่สองคน’ นะครับ
01.08.xx
ที่ทะเล ♥ กับไอ้ปืน