[yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥  (อ่าน 201473 ครั้ง)

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
10-…ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ

หลังจากผ่านมหกรรมการสอบกลางภาคมาได้ มหา'ลัยผมก็เข้าสู่เทศกาลการรับปริญญาซึ่งหมายความว่า ...พวกผมจะได้หยุดหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ครับผม แล้วคณะผมเนี่ยมักจะจัดทริปเลี้ยงส่งบัณฑิตพร้อมๆ กับต้อนรับน้องใหม่อย่างไอ้พวกปีหนึ่งไปพร้อมๆ กัน อันมีชื่อเก๋ๆ ว่า 'ทริปรักษ์ทะเล' นั่นเอง

...ว่าแต่ว่า ทำไมสุดท้ายผมต้องมาจบชีวิตหลังสอบอยู่ตรงลานต้นไทร คณะเกษตรอีกแล้ววะครับ

"กูล่ะปวดหัวกับพวกมึงจริงๆ" ผมบ่นก่อนจะอยากขยี้หัวแรงๆ อย่างรำคาญแต่ก็ไม่ได้ทำจริงเพราะกลัวผมเสียทรง ผมยืนมองคัทเอาท์เจ้าเก่าตรงหน้าที่คราวนี้ไอ้พวกเด็กนี่มันดอยมาได้จากคณะวิทยาฯ อย่างเซ็งๆ

คิดดูนะครับ ...เมื่อคืนผมนอนเต็มที่หลังจากสอบเสร็จวันสุดท้าย ก่อนจะตื่นมาด้วยใบหน้าใสกิ๊ง เซทผมมาอย่างดี ประกอบกับเสื้อยืดสีดำ ขาเดปตัวเก่ง รองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยพร้อมกับ Accessories ทั้งสี่เพื่อจะไปเดินสยามชิลๆ หาของขวัญรับปริญญาให้พวกพี่รหัสและพี่บัณฑิตคนอื่นๆ

...แล้วมีเหตุผลอะไรต้องทำให้ทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่มันควรจะเป็นหรอครับ ถามใจมันดู

"ไอ้-เชี่ย-ปืน มานี่มา" ผมถอนหายใจอย่างเบื่อๆ ก่อนจะกวักมือเรียกไอ้ตัวการที่เรียกผมออกมา

"ครับพี่"

"เรียกกูมาเพื่อ?" ผมถามก่อนจะแกว่งโทรศัพท์ที่โชว์หน้าข้อความไลน์ของมันที่ส่งมาหาผมเมื่อชั่วโมงที่แล้ว

Bpuen : ทำอะไรอยู่ครับผม
Gun : แต่งตัว
Bpuen : จะไปไหนหรอครับ
Gun : สยาม
Bpuen : อยากไปด้วยอ่ะ
Gun : ไปดิ
Bpuen : ยังอยู่คณะอยู่เลยครับ เพิ่งสอบเสร็จเนี่ย
Gun : นี่คืออ่อยให้กูไปรับ?
Bpeun : ก็แล้วแต่คนโดนอ่อยจะกรุณาล่ะครับ
Gun : แล้วจะไปป่ะ
Bpuen : ^_________^
Gun : เออ อีกสิบนาทีกูถึง
Bpuen : ถึงไหนครับ?
Gun : คณะมึงไงสัด!

...แล้วผมก็โผล่มาตรงนี้ด้วยฝีมือของไอ้คนที่บอกว่าจะไปสยามกับผม

"กูจะไปสยาม ไม่ใช่ลานต้นไทร เผื่อมึงเข้าใจอะไรผิด" ผมเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะจ้องหน้ามันอย่างเอาเรื่อง ส่วนไอ้คนตรงหน้าก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ

"ก็ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวไปสยามกันต่อไงครับ" มันพูดพลางยิ้มตาหยีเพื่อเอาใจ ...ไม่สำเร็จโว้ยย

"เดี๋ยวเสื้อเหม็น มึงเห็นชุดกูมั้ยเนี่ย" ขู่แล้วก็ไม่ได้ผลจนผมจะงอแงแทนละนะ

"นี่ไง ผมเลยเตรียมนี่มาให้" มันพูดพลางยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งให้ผม ข้างในมีชุดกันฝนแบบบางที่มีทั้งเสื้อและกางเกงแถมยังมีสายรัดบริเวณข้อมือและข้อเท้าเรียบร้อย ไหนจะถุงมือยางและหมวกคลุมอาบน้ำอะไรนั่นอีก

"ให้กูตัวเหม็นไปสยามยังทารุณน้อยกว่าให้ใส่ไอ้พวกนี้ทำคัทอ่ะบอกเลย" ผมพูดอย่างระเหี่ยใจก่อนจะยื่นของทั้งหมดกลับไปให้มัน

"ผมก็ไม่อยากให้พี่ตัวเหม็น แต่ผมอยากไปด้วยอ่ะ" มันได้แต่ยืนมองหน้าแล้วทำตาปริบๆ ใส่ผมอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ...คือถ้าไม่เสร็จมึงก็ไปไม่ได้ แล้วมึงก็จะไม่ให้กูไปด้วยใช่มั้ยครับเนี่ย

"อ่อยวิธีนี้ จีบกูไม่ติดนะบอกเลย" ผมว่ามันหน้าตายก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนซึ่งห่างจากคัทประมาณห้าเมตรอย่างอย่างระอา ก่อนจะตะโกนสั่งพวกปีหนึ่งที่ยืนก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงหน้าคัทรับปริญญาที่ตอนนี้ยังคงว่างเปล่า

"เอาสีขาวที่เท้ามึงอ่ะ ทาลงไปเลย ให้ไว" ผมพูดก่อนจะนั่งมองพวกมันทาสีไปเรื่อยๆ ก่อนไอ้คนที่ทำให้ผมต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่เดินยิ้มกว้างเข้ามาพร้อมน้ำและขนมเต็มสองมือ

"ยังไม่ติดก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมหาวิธีใหม่" มันพูดก่อนจะทิ้งผมไว้ที่โต๊ะคนเดียวแล้วเดินเข้าไปช่วยเพื่อน

...แล้วทำไมแก้มผมมันต้องร้อนๆ ขึ้นมาวะเนี่ย โว๊ะ





"มึงจะกลับไปอาบน้ำมั้ย กูให้โอกาส" ผมถามมันในขณะที่เราสองคนขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วแต่คนข้างๆ มัวแต่เอาหลังมือเช็ดเหงื่อและคราบสีจนผมต้องยื่นทิชชู่เปียกให้

"ไม่เอาอ่ะครับ เดี๋ยวพี่รอ" มันพูดก่อนจะหันไปเร่งแอร์แล้วเอาหน้าตี๋ๆ เข้าไปจ่อเพื่อคลายร้อน

"กูเห็นสภาพมึงแล้วกูอึดอัดแทนว่ะ" ผมคิดก่อนจะออกรถไปยังจุดหมายที่ใกล้ที่สุดที่จะทำให้ไอ้เด็กข้างๆ สภาพดีขึ้นมาได้ ...สตูฯ พวกผมเองครับ

ผมจอดรถไว้หลังคณะก่อนจะเปิดท้ายรถหยิบเสื้อและกางเกงนักศึกษาที่มันลืมไว้บนสตูฯ จนผมต้องเก็บไปซักให้คราวก่อนส่งให้มันพร้อมเดินนำขึ้นไปบนอาคาร

"ห้านาทีเท่านั้นครับ" มันว่าก่อนจะหยิบอุปกรณ์อาบน้ำแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความรวดเร็วก่อนจะออกมาด้วยสภาพชุดนักศึกษาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสภาพที่ดีขึ้น

"พี่จะซักให้อีกมั้ยครับ" มันว่าก่อนจะยื่นชุดที่เลอะสีมาตรงหน้าผม

"ฝันไปเหอะ" ผมว่าก่อนจะอ้าถุงพลาสติกยื่นให้มันยัดชุดนักศึกษาที่ใช้แล้วลงไปแล้วยื่นคืนให้มัน

"มานี่ก่อน" ผมเรียกมันที่กำลังจะขึ้นไปนั่งบนรถให้เดินมาหาผมที่ยังเก็บของอยู่ท้ายรถ

ฟืดดดด...

"โห่ ผมไม่ใช่ยุงนะพี่ ฉีดเข้ามาได้ แค่กๆ" ผมหัวเราะก่อนจะเก็บน้ำหอมกลิ่นโปรดของผมเข้ากล่องยังชีพที่ยังไม่ได้เอาลงจากรถตั้งแต่มาค้างสตูฯ เมื่อคราวก่อนแล้วปิดท้ายรถลง

"ดีอ่ะ กลิ่นเดียวกันเลย"

"โอ้ย!" เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆ หูทำเอาผมตกใจจนศอกไปกระแทกเข้ากับท้ายรถ ...ไอ้เชี่ยนี่ก็ดมมาได้ ไซร้คอกูเลยป่ะล่ะ แหม่

"เจ็บมั้ยครับพี่" มันถามขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับๆ ที่ข้อศอก …เว่อร์มาก แค่ศอกกระแทกป่ะ ไม่ได้โดนรถชน

"เจ็บดิถามได้" …แล้วทำไมผมต้องอ้อยวะเนี่ย โว๊ะ

"งั้นผมขับรถให้" มันว่าก่อนจะทำท่าคว้ากุญแจในมือผม แต่ผมดึงหลบก่อน

"จะขโมยรถกูรึไง เอาไปขับบ่อยจริง" ผมว่าก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่คนขับรอจนคนข้างๆ ขึ้นมา รัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้วจึงขับออกไป





[Bpuen's]

"ซื้ออะไรดีวะ" พี่กันย์เปรยขึ้นหลังจากที่เดินเขาเดินออกทั้งร้านหนังสือก็แล้ว ร้านเครื่องเขียนก็แล้ว ร้านขายของเล่นก็แล้วแต่เจ้าตัวยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะซื้ออะไรไปเป็นของขวัญรับปริญญาให้พี่รหัสตัวเองดี

"เครื่องเขียนมั้ยครับ" ผมเสนอก่อนที่เราจะเดินเข้าร้านเครื่องเขียน
 
"เห็นจนบ่อยละ คณะกูนี่รับปริญญาทีก็ซื้อแต่ LAMY"

"หนังสือมั้ยครับ ผมว่าดีนะ" ผมเสนอตามประสาคนชอบหนังสือ
 
"มึงเห็นกูมั้ยครับ จับหนังสือปุ๊บตายปั๊บ พี่กูก็เหมือนกูเลยครับผม"

"ของเล่นมั้ยพี่ ชิ้นนั้นโคตรเจ๋งอ่ะ" ผมว่าคนจะชี้ชวนให้ดูกันพลาตัวนึงที่มีป้ายกำกับว่า 'LIMITED EDITION'

"โตโตกันแล้ว ใครจะยังมาเล่นของกันโว๊ะ" พี่เขาว่าพลางทำตาดุใส่ผม …แต่คนแถวนี้ยังเล่นอยู่เลยนะครับ ผมคิดอย่างขำๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ผมเลยเลิกเสนอแล้วตัดสินใจเดินตามคนตรงหน้าไปเรื่อยๆ ก่อนขาทั้งสองข้างของคนที่เดินนำหน้ามาตลอดจะหยุดลงหน้าขายเครื่องประดับร้านหนึ่ง

"ดูมั้ย?" พี่กันย์ว่าพลางมองผมด้วยหางตาก่อนจะเดินนำเข้าไปอย่างที่ยังไม่ทันได้ฟังคำตอบ

ร้านนี้เป็นร้านเครื่องประดับขนาดกลางที่สินค้าทำจากเงินและหนังเป็นส่วนใหญ่ คนที่เดินนำเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้กระจกที่บรรจุเครื่องประดับโทนสีดำไว้ตามแบบที่เจ้าตัวชอบ ปกติผมไม่ค่อยใส่เครื่องประดับอยู่แล้วเลยถอยออกมายืนมองห่างๆ เพื่อให้คนตรงหน้าได้ใช้เวลาในโลกส่วนตัวต่อไป

"ชิ้นนี้เป็นแบบใหม่ค่ะ มีชิ้นเดียวด้วยนะคะเพราะร้านเราใช้ช่างทำมือค่ะ" พี่พนักงานสาวสวยหันมาทักทายผมก่อนจะชี้ไปยังสร้อยข้อมือหนังสีน้ำตาลที่มีสายโซ่สีเงินถักแทรกเข้าไปเป็นจังหวะๆ ผมได้แต่ยิ้มรับไมตรีก่อนจะหันไปมองชิ้นนู้นชิ้นนี้บ้างอย่างไม่อยากเสียมารยาทก่อนจะสะดุดตาเข้ากับสร้อยข้อมือหนังสีน้ำตาลเส้นหนึ่งที่ถักกันเป็นเปียเส้นเล็กๆ แล้วมีข้อต่อเป็นเงิน

"สนใจเส้นนี้หรอคะ?" พี่พนักงานถามขึ้นมาอีกครั้ง

"เอ่อ ครับ" พี่พนักงานรีบหยิบสร้อยเส้นนั้นออกมาจากตู้กระจกก่อนจะลองสวมเข้าที่ข้อมือผมทันที

"เอาเส้นนี้ด้วยครับ" พี่กันย์ที่เดินมาที่เคาน์เตอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้มาที่สร้อยบนข้อมือผมก่อนจะส่งถาดบุกำมะหยี่สีดำที่ตอนนี้มีสร้อยข้อมือวางอยู่สามสี่เส้นส่งให้พนักงาน

"ไม่ต้องหรอกครับพี่ ปกติผมก็ไม่ใส่อยู่แล้ว" ผมพูดพลางทำท่าจะถอดคืน

"ไม่ใส่เพราะไม่ชอบใส่ หรือเพราะไม่ชอบสร้อย" คำถามพี่กันย์ทำให้ผมหยุดคิด ...ทำไมพวกเด็ก'ถาปัตย์ชอบถามคำถามให้ต้องใช้สมองอยู่เรื่อย

"อืมม ไม่ชอบสร้อยมั้งครับ ก็เลยไม่ใส่ แต่ก็ไม่ได้เกลียดนะ" คำตอบผมทำเอาคนตรงหน้าเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา

"งั้นที่ยอมใส่อยู่นี่ ก็แสดงว่าชอบ 'จริงๆ' ใช่มั้ยล่ะ" พี่กันย์พูดก่อนจะยื่นกล่องเปล่าที่ไว้สำหรับใส่เจ้านี่มาให้ผมถือก่อนจะดึงข้อมือผมไปแล้วค่อยๆเกี่ยวสรายสร้อยที่ผมยังถอดออกมาไม่เรียบร้อยไว้เหมือนเดิม ผมเผลอมองการกระทำนั้นจนเผลออมยิ้มออกมา …น่าแกล้งเป็นบ้า

"งั้นที่ปกติที่ผมไม่อ่อยผู้ชาย แต่ผมดันอยากอ่อยพี่นี่ ก็แสดงว่าชอบ 'จริงๆ' ด้วยเหมือนกันใช่มั้ยครับ" ผมจงใจกระซิบที่ข้างๆ หูพี่กันย์ก่อนจะเดินออกมา ทิ้งให้คนที่เดินนำหน้ามาตลอดหยุดลงก่อนจะเป็นฝ่ายเดินตามหลังผมบ้าง

...การมีพี่เขาเข้ามาในชีวิตนี่มันบันเทิงดีจริงๆ ครับ ผมชักเริ่มชอบขึ้นมา 'จริงๆ' แล้วสิ





[Gun's]

"เฮ้ยไอ้กันย์ มึงไปทริปคณะเปล่าวะ" ไอ้ทีถามผมก่อนจะนั่งลงตรงหน้าก่อนจะหาวออกมาอย่างคนตื่นไม่เต็มตาดีนัก

ถึงจะได้ชื่อว่า 'ปิดรับปริญญาหนึ่งอาทิตย์' แต่ไม่รู้ทำไมอาจารย์คณะผมถึงขยันนัก ยังนัดตรวจแบบกลุ่มได้แม้เป็นวันหยุดตามประกาศมหา'ลัยก็ตาม

"ไปดิ มึงอ่ะ"

"กูไม่พลาดแน่ครับ" ไอ้ทีพูดขึ้นพลางยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมาอย่างไม่น่าถาม

"แล้วมึงบอกไอ้คีย์ยัง" ปูนกับไอ้โฟมที่เดินตามมาสมทบถามขึ้นทีหลังเมื่อได้ยินพวกผมพูดถึงเรื่องวันไปทริปกัน

"เดี๋ยวกูโทรหามันให้" ไอ้โฟมว่าก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วต่อสายถึงเพื่อนอีกคนทันที

"เออ ไอ้คีย์ ทริปคณะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หน้า มึงไปป่ะ เออๆ เหมือนเดิมแหละ..." ไอ้โฟมพูดต่ออีกสองสามคำก่อนจะวางสายแล้วหันมาพยักหน้าให้ว่า …ไอ้คีย์จะไป ผมผละสายตาจากไอ้โฟมก่อนจะเห็นว่าปูนนั่งจ้องหน้าผมอยู่ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

"เออ แล้วเราชวนคนนอกไปได้เปล่าวะมึง" อยู่ดีๆ ปูนก็พูดขึ้นก่อนจะปรายสายตามาหาผม

"ไม่รู้ดิ ได้มั้ง แต่ต้องจ่ายตังค์ด้วยนะ" ผมตอบส่งๆ ปกติไอ้ทริปคณะหรือทริปรักษ์ทะเลที่ว่าเนี่ย เหมือนทริปเพื่อนๆ ชวนกันไปเที่ยวมากกว่า แต่บังเอิญพวกผมเพื่อนเยอะกันไปหน่อยเลยแห่กันไปทั้งคณะเลย พวกเพื่อนๆ ปี 2 3 4 5 ของผมเนี่ยเลยต้องรวมเงินจ่ายกันเอง

"เอ แต่ปีหนึ่งก็ไม่ต้องจ่ายเปล่าวะ" ไอ้ทีรีบพูดต่อพอมันเหมือนจะเข้าใจอะไรกลายๆ ตามที่ปูนส่งมา

"นั่นดิ มึงว่า... ชวนดีเปล่าวะ" ไอ้ปูนทำท่าเหมือนพูดกับไอ้ที ...แล้วมันจะส่งสายตามาถามผมทำซากอะไรวะ

"เอาไงดีวะ แล้วแต่มึงแล้วกัน" ไอ้ทีพูดก่อนจะโยนการตัดสินใจกลับไป ผมว่า …ผมเข้าใจมันครับ แต่ผมไม่สน! ใครจะทำไม

"งั้น...กูชวนละน้าา" ไอ้ปูนพูดเน้นเสียงดังฟังชัดจนผมต้องละสายตาจากงานที่กำลังรีบปั่นให้ทันตรวจตอนบ่ายแล้วมองหน้ามันแทน

"จะชวนใครก็รีบๆ ชวน กูรำคาญละ หรือจะให้กูโทรให้ด้วยมั้ยล่ะ" ผมพูดตัดรำคาญ

"กูโทรเองได้ค่ะ สักครู่นะคะ" ไอ้ปูนจีบปากจีบคอพูดก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะกลางวงแล้วกดโทรออกหา 'น้องปืนของไอ้กันย์' พร้อมเปิดลำโพงเรียบร้อยจนผมต้องหันไปด่ามันแบบไม่มีเสียง

'ไม่ใช่ของกูโว้ยย' ไอ้ปูนยังหัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้านก่อนจะเงียบเสียงลงเมื่อปลายสายกดรับโทรศัพท์

"สวัสดีครับ" ...เสียงหล่อมาเชียวนะมึง

"น้องปืน พี่ปูนเองน้าา" ...แหม่ะ ทำมาเป็นมีความชื่อคล้อง

"ครับพี่ ว่าไงครับ"

"ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หน้าน้องปืนไปไหนเปล่า ว่างมั้ย?"

"อืมม ก็ไม่นะครับ มีอะไรรึเปล่าครับพี่" ...แถมยังว่างตลอด ไม่มีงานมีการทำรึไงวะ

"คณะพี่มีทริปไปทะเลกัน เลยมาชวน ไปเปล่า?"

"พี่ชวน?.. เหรอครับ?" ...เออดิสัด ใครโทรคนนั้นก็ชวน ใช้สมองสิครับ

"อยากให้ใครชวนล่ะคะลูก?" มันไม่ตอบแต่มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมาแทน ...แล้วทำไมก็ต้องมาลุ้นด้วยวะ ทำงานดิ ทำงาน

"ก็..เปล่าหรอกครับ แล้วผมไปได้หรอครับ มีแต่คณะพี่ทั้งนั้น"

"ไปได้ คนแถวนี้บอกไปได้ ไปกัน"

"หรอครับ งั้น..."

"ท่ามากจังวะ" ผมเผลอสบถออกไปจนคนปลายสายเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบออกมา

"ก็..ถ้าคนแถวนั้นไม่ว่าอะไร ผมก็อยากไปนะครับ" เสียงปลายสายที่ตอบกลับมาทำเอาเพื่อนทั้งโต๊ะหันมามองหน้าผม

"ลองถามดูสิคะ" ปูนบอกก่อนจะดันโทรศัพท์มาทางผม

"เอ่อ.. ผมไปด้วยคนได้รึเปล่าครับ" สำเนียงการพูดที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยทำเอาไอ้พวกเพื่อนตรงหน้าหันมามองผมอย่างล้อๆ

"…" ผมยังคงเฉย ก็มันพูดขึ้นมาลอยๆ ถ้าไม่ได้ถามผมขึ้นมา ผมไม่หน้าแหกหรอครับ

"พี่ว่าปืนต้องระบุชื่อแล้วลูก บางที…คนถูกถามอาจจะยังไม่รู้ตัว" ปูนพูดก่อนจะเบะปากทำหน้าตาหมั่นไส้ผมเต็มที

"พี่กันย์ครับ ปืนขอไปทะเลด้วยนะครับพี่” …ไอ้เชี่ยย กูขนลุก

คราวนี้ทั้งกลุ่มผมถึงกับหัวเราะออกมาดังลั่นแล้วเอามือตบโต๊ะอย่างถูกใจจนผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลยตัดสินใจพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คกะจะหอบขึ้นไปทำบนห้องสมุดของคณะแทน

"อย่าเพิ่งหนีดิว้าา ตอบน้องปืนก่อน" ไอ้ทีว่าอย่างล้อเลียนก่อนจะยื้อเป้ผมไว้ไม่ยอมปล่อย

"ใครหนี กูจะไปทำงาน ปล่อยกระเป๋ากูได้แล้วโว้ยย" ผมว่าก่อนจะเอาสันโน๊ตบุ๊คลูกรักเคาะมือมัน

"ว่ายังไงครับ?" เสียงจากปลายสายดังขึ้นมาทำให้ผมหยุดประทุษร้ายไอ้ที

"ว่าไงมึง น้องรออยู่เนี่ย เปลืองค่าโทรศัพท์กู"

"เออ อยากไปก็ไป กูไปผูกขามึงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ" ผมบอกอย่างไม่รู้จะทไหน้ายังไงดี …ก็ถ้าพวกมึงจะทำหน้าล้อเลียนกูกันขนาดนั้นอ่ะนะ

“งั้นผมไปด้วยนะครับ”


“เออ!”






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :-[.   นี่เขินแทนพี่กันย์แล้วนะน้องปืน
อ่อยแรงมากจริงๆ เพื่อนๆไฟเขียวขนาดนี้ก้อยอมให้น้องมันจีบต้ดสักทีเถอะน่า
ชอบมาก ทะเลต้องมีความโรแมนติกบ้างสิน่า

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ชอบการตั้งชื่อตอนมาก ๆ มันลงตัว เข้ากันมาก  แค่ชื่อตอนก็เขินและรู้สึกฟิน :-[

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
แอ๊ะๆ .....พี่ๆ เพื่อนพี่กัลย์
ขยันชง พี่กัลย์ น้องปืน ซะด้วย
อย่างนี้ก็เข้าทางปืนเลย จะได้จีบพี่กัลย์ ต่อ
ปากพี่กัลย์ ว่ารำคาญปืน
แต่ก็ยอมตามใจตลอด   
ยอมช่วยทำคัทเอ้าท์ ยอมพาไปอาบน้ำ
แถมซักชุดเก่าของปืนให้ด้วย
สุดท้ายยังฉีดน้ำหอมให้ด้วย
ไม่ชอบ จะทำให้ขนาดนี้เรอะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เป็นไงค่ะพี่กันย์ เพื่อนก็ชงซะขนาดนี้
พี่กันย์ก็ต้องปล่อยให้น้องอ่อยเยอะๆนะ จะได้ใจอ่อนไวๆ :impress2:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
อ้อยกันทำไมเนี่ย คนอ่านเขินเห็นไหมโว๊ะ!

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
11-…ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ

"ไอ้คีย์ น้องปืน ทางนี้ๆ" พี่ปูนตะโกนมาทันทีที่ผมและพี่คีย์มาถึงสถานที่นัดหมายตอนเวลาเกือบๆ หนึ่งทุ่ม วันนี้ที่คณะสถาปัตย์ดูเหมือนจะแตกต่างจากทุกวันเพราะพวกเด็ก’ถาปัตย์ที่เคยเห็นนั่งหน้าโทรมๆ ตาโหลๆ แบบลืมตากันแทบไม่ขึ้นกำลังพูดคุยร้องรำทำเพลงกันอย่างครึกครื้นเหมือนได้รับพลังมาจากสวรรค์ก็ว่าได้

พี่โฟมที่เดินมาสมทบบอกว่าจุดหมายในปีนี้ก็คือระยองเหมือนเมื่อปีที่แล้วแค่เปลี่ยนที่พัก แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจกันเท่าไหร่ว่าจะไปที่ไหน สนแค่ว่าไปกับใครหรือมีเหล้าให้กินมั้ย …แค่นั้นแหละครับ

"ปีหนึ่งถ้าพร้อมแล้วขึ้นรถได้เลยนะคะ" เสียงเด็กปีสามซึ่งเป็นปีหัวเรี่ยวหัวแรงตะโกนผ่านโทรโข่งก่อนจะให้เพื่อนคนอื่นๆ เดินนำเด็กปีหนึ่งที่ส่วนใหญ่จะแต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้นกับแตะคีบสีสันสดใสเดินกันไปที่รถที่มีหมายเลข 1 ติดอยู่ที่กระจกด้านหน้า

"ปีสอง ถ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นรถได้เลยนะ" ปีสามอีกชุดหนึ่งเดินมาก่อนจะให้ปีสองสองเช็คชื่อแล้วเอาของไปเก็บใต้ท้องรถสำหรับคนที่มีกระเป๋าหรือสัมภาระมาด้วยเยอะๆ ส่วนใครที่มีของไม่มากก็ขึ้นไปจับจองที่นั่งกันได้เลย

"แล้วพี่กันย์ล่ะครับ" ผมถามขึ้นก่อนจะมองพี่ๆ ที่ตอนนี้อยู่กันครบองค์ประชุมจะเว้นก็แต่ ...พี่กันย์

"ไอ้กันย์มันปั่นงานอยู่หออ่ะ"

"อ้าว แล้ว..." ผมยังไม่ทันได้ถามต่อพี่ทีก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า

"เดี๋ยวมันก็มา ได้ไปกับมันแน่ไม่ต้องห่วง" พี่ทีพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะก่อนจะส่งสายตาล้อๆ จนผมเริ่มจะทำหน้าไม่ถูก ...ก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ แต่ไปเที่ยวกับคณะอื่นแบบไม่มีคนรู้จักมันก็แปลกๆ นี่นา

"พี่ปีสี่ครับผม พร้อมแล้วก็เชิญที่รถเลยครับพี่" เด็กปีสามคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกพี่ทีก่อนจะโค้งตัวแล้วผายมืออัญเชิญเหล่าพี่ๆ ที่ยังนั่งแช่กันอยู่ให้ขึ้นรถ

"มาก็ดีละ ไอ้เจ โทรไปจิกพี่มึงหน่อยไป โดนโปรเจคกินหัวไปแล้วมั้งนั่น" พี่ทีว่าก่อนจะสะพายเป้ขึ้นบ่าก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าของพี่ปูนมาถือไว้แล้วเดินไปที่รถหมายเลข 4

"อ้าว พี่กันย์ไม่ไปหรอครับ" คนที่ชื่อ ‘เจ’ หันไปถามพี่โฟมก่อนจะควักโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายตรงถึงคนที่ยังไม่มา

"พี่กันย์! มาให้ไวเลยพี่ รถจะออกแล้วเนี่ย ห๊ะ? สี่ทุ่มพี่ อืมม..เอางั้นหรอครับ ได้ๆ งั้นเดี๋ยวผมบอกพวกไอ้ขิงไว้ให้ เคครับพี่ เจอกันคร้าบบ"

"มันว่าไงวะ" พี่คีย์ถามขึ้นก่อนจะเดินตามเจไปที่รถโดยไม่ลืมหันมาเรียกผมให้เดินตามไป

"พี่กันย์ไม่น่าทันรอบนี้ว่ะพี่ น่าจะตามไปกับรถปีศาจ" ...รถปีศาจ? ผมว่า..แค่ชื่อก็ไม่น่าเข้าใกล้แล้วครับ

"เวร หรือกูรอมันดีวะ?" พี่คีย์พูดก่อนจะหยุดมือที่กำลังส่งกระเป๋าให้คนรถเอาไปเก็บ

"ไม่เป็นไรหรอกมั้งพี่ พวกไอ้ขิงดูคันนั้น เดี๋ยวผมบอกมันให้" เจพูดก่อนจะชี้ไปที่กลุ่มเพื่อนอีกกลุ่มที่กำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่ใต้อาคาร

"มีไรวะ?" พี่ทีที่เดินย้อนลงมาจากรถถามขึ้นเมื่อไม่เห็นคนที่เหลือเดินตามขึ้นไป

"ไอ้กันย์จะไปรถปีศาจว่ะ"

"ฉิบหาย ปีนี้พวกพี่แชมป์ก็ไปใช่ป่ะ" พี่โฟมอุทานอย่างตกใจก่อนจะหันไปถามพี่เจ

“ไม่น่ารอด” พี่ทีว่าก่อนยกมือขึ้นถุมหัวตัวเอง

"ไม่เป็นไรหรอกพี่ เดี๋ยวผมบอกพวกไอ้ขิงให้" พี่เจคะยั้นคะยอให้พวกพี่ๆ ขึ้นรถตามเดิมก่อนจะเช็คจำนวนเด็กปีสี่ตามใบเช็คชื่อ

"กูคงได้ถ่างตารอมันทั้งคืน" พี่ปูนโอดครวญก่อนจะทำหน้าเหมือนร้องไห้

จากที่ฟังๆ มาเหมือนทริปนี้จะแบ่งรถออกเป็นสองรอบครับ คือรอบหนึ่งทุ่มที่พวกนักศึกษาปี 1-5 ใสๆ ไปกัน กับอีกรอบคือรอบสี่ทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่พวกพี่ๆ ที่จบไปแล้วน่าจะเลิกงานแล้วมากันทัน พี่เจเลยบอกให้พวกพี่ๆ ที่มาแล้วไปกันก่อนเลย เพราะไอ้รถรอบสี่ทุ่มนี่ก็มีแค่คันเดียว ดังนั้น ถ้าใครมาทันรอบแรกก็ให้ไปกันก่อนเพราะไม่รู้ว่าจำนวนพี่ที่จะมาจริงๆ นั้นมีเท่าไหร่ หากพวกนักศึกษามัวแต่รอไปกันรอบดึกที่นั่งอาจจะไม่พอ

แต่เหมือนประเด็นหลักจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่มันอยู่ที่ว่า...รถรอบดึกเนี่ยมันคือรถปีศาจอะไรนั่นมากกว่า

“เอาไงดีวะ?” พี่ที่พูดขึ้นก่อนจะหันมองคนอื่นๆ อย่างถามความเห็น

“พี่แชมป์เล่นไอ้กันย์แน่ กูมั่นใจ” พี่คีย์ว่าก่อนจะทำท่าขนลุกเมื่อพูดถึงพี่แชมป์คนนั้นแล้วกระซิบบอกผมว่าพี่แชมป์เนี่ยคือพี่ที่โตกว่าพวกพี่เขาเกือบสิบปี แต่รู้จักกันเพราะพี่เขามาที่คณะบ่อย ซี้สุดๆ ก็กับพี่กันย์ เจอหน้ากันปุ๊บ เหล้าเข้าปากปั๊บ ไม่เมา! ไม่อ้วก! ไม่เลิก!

“แล้วแมร่งก็ดันไม่ได้นอนอีกเมื่อคืน” พี่โฟมขยี้หัวอย่างใช้ความคิดก่อนพี่เจปีสามจะเดินมาอัญเชิญให้พวกพี่ๆ ขึ้นรถสักที

"งั้น…เดี๋ยวผมรอพี่กันย์เองครับ" ผมพูดขึ้นมาก่อนจะถอยหลังกลับมายืนบนทางเท้าแล้วบอกให้พี่ๆ ขึ้นรถไปกันก่อน

เหตุผลข้อแรกคือ ผมไม่ได้อยู่ในจำนวนรายชื่อที่เช็คไว้สำหรับรถรอบแรก
เหตุผลข้อสองคือ คนที่เป็นเหตุผลให้ผมต้องไปเขายังไม่มา
และเหตุผลข้อสุดท้าย... คือไม่มีเหตุผลให้ผมต้องไป ก็ใจมันยังไม่ไป ตัวก็ต้องอยู่กับใจสิครับ…





"เชี่ยย พี่แชมป์เล่นแรงว่ะรอบนี้" พี่กันย์บ่นก่อนจะพิงเบาะแล้วเงยหน้าค้างไว้ ผมได้แต่เอามือโบกๆ เรียกลมให้ใบหน้าแดงๆ ก่อนจะอดคิดถึงเมื่อตอนก่อนหน้านี้ไม่ได้

"อ้าวมึง ไม่ไปกับพวกไอ้ทีวะ" พี่กันย์พูดด้วยน้ำเสียงหอบๆ ก่อนจะยื่นกระเป๋ามาให้ผมแต่โดยดีเมื่อผมดึงกระเป๋าที่ไหล่พี่เขาไว้

"ก็พี่ยังไม่มา" ผมตอบหน้าตายก่อนจะเดินไปส่งกระเป๋าสองใบให้คนรถ

"กูไม่มาแล้วไปไม่ได้รึไง ทำเหมือนเด็กยังไม่หย่านมแม่ไปได้ โว๊ะ" พี่กันย์พูดพลางทำหน้ายุ่งก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถ

"ฉิบหายละ" ผมได้ยินเสียงพี่กันย์สบถ ยังไม่ทันขาดคำเจ้าตัวก็ถูกลากไปยังเบาะโซนหลังที่มีกลุ่มผู้ชายกลุ่มใหญ่หัวเราะเสียงดังกันอยู่

"ไอ้กันย์น้องรักกูมาแล้วโว้ยย" พี่คนที่ลากพี่กันย์ไปตะโกนขึ้นมาก่อนพวกพี่ที่เหลือจะปรบมือกันเกรียวกราว

"หวัดดีครับพี่" พี่กันย์ได้แต่ยกมือไว้ก่อนจะยิ้มแล้วหันมาพยักเพยิดหน้าให้ผมเดินไปหาที่นั่งตรงโซนด้านแทนที่จะเดินตามมา ส่วนเจ้าตัวนั้นถูกลากไปกองอยู่เบาะหลังเรียบร้อยแล้ว

"นี่กูมาเพื่อกินกับมึงโดยเฉพาะเลยนะเว้ย" พี่อีกคนเดินเข้าสมทบแล้วตบไหล่พี่กันย์อย่างถูกใจ

"พวกพี่กินกันมาแล้วใช่มั้ยครับเนี่ย" พี่กันย์พูดพลางทำหน้าเหวอๆ เมื่อเห็นอาการพี่ๆ ตรงหน้า

"นิดหน่อยเอง ก็รอนานนี่หว่า เจ้านายกูอุตส่าห์ใจดีปล่อยออกมาก่อนเนี่ย" พี่คนที่ตบไหล่พี่กันย์บอกก่อนจะสาธยายถึงความดีงามถึงร้านเหล้าเปิดใหม่ซึ่งไม่ไกลจากหอพี่กันย์มากนักอย่างออกรส

และทันทีที่จังหวะและโอกาสมาถึง พวกพี่ๆ ก็เริ่มกระจายแอลกอฮอล์กันทันที อาจจะเป็นเพราะรถไม่มีหมายเลขคันนี้ไม่ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่มของนักศึกษา ทุกคนเลยมีอิสระในการทำกิจกรรมเต็มที่ประหนึ่งเพื่อนๆ เหมารถมาเที่ยวกันเอง พอสติเริ่มขาดหาย หายนะก็เริ่มมาเยือนโดยเหยื่อรายแรกก็หนีไม่คนที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอแล้วก็โดนลากไปซะอย่างนั้น

ตั้งแต่เริ่มตั้งวงกันผมยังไม่เห็นชอตไหนเลยที่พี่กันย์ไม่ได้เอาเหล้าเข้าปาก พอชนกับคนนู้นเสร็จคนนี้ก็มาชนต่อ ต่อให้คอแข็งยังไงก็ไม่น่ารอดอย่างที่พี่ทีว่าแน่ๆ





"ไหวมั้ยเนี่ยพี่" พี่กันย์ปรายตามามองผมก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วชูแก้วเหล้าตรงหน้าที่ไม่มีอะไรผสมอยู่เลยนอกจากเหล้าเพียวๆ ให้ดู ผมมองคนตรงหน้าที่หน้าแดงก่ำก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าแก้วตรงหน้า

“ทำไรวะ” พี่กันย์ขมวดคิ้วก่อนจะใช้อีกมือปัดมือผมแล้วยกแก้วหนี

“ก็พี่ไม่ไหวแล้วนี่ครับ”

“ทำอย่างกับมึงกินได้ อย่ามาทำเท่แถวนี้” พี่กันย์ว่าอย่างฉุนๆ ก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากไปอีกอึกใหญ่

"ไอ้กันย์ ชนหน่อยโว้ย" พี่คนหนึ่งเดินตามพี่กันย์มาที่เบาะก่อนจะยื่นแก้วมาชน พี่กันย์ถอนหายใจแรงๆ หนึ่งครั้งก่อนจะหันไปชนแก้วแล้วกระดกเหล้าที่เหลือเข้าปากจนหมดแต่พี่คนเดิมก็ยังไม่ไปไหน ซ้ำยังมีพี่อีกคนเดินถือขวดเหล้าเดินมาตามอีก

"แล้วไอ้เนี่ยใครวะ" พี่ที่มาใหม่ถามขึ้นพลางชวนกันหันมามองผม

"ปีหนึ่งอ่ะพี่ อย่าสนใจเลย" พี่กันย์ว่าก่อนจะลุกขึ้นดันพวกพี่ๆ ให้กลับไปเบาะหลังแต่พี่ทั้งสองคนกลับหยุดนิ่งอยู่กับที่

"เฮ้ย ปีหนึ่งก็ดีเลย มาๆ เดี๋ยวกูช่วยรับน้อง" พี่คนที่ถือขวดเหล้าว่าก่อนจะคว้าแก้วพลาสติกขึ้นมาแล้วรินเหล้าใส่ก่อนจะยื่นมาให้ผม

"ปล่อยน้องมันไปเหอะพี่ ไปกินกับผมดีกว่า" พี่กันย์ว่าพลางพยายามดึงแก้วมาถือไว้เอง

"แค่แก้วเดียวเอง มึงจะหวงอะไรนักหนาเนี่ย" ...แต่แก้วเดียวของพี่นี่เหล้าเพียวๆ ไม่มีโซดาผสมเลยนะครับ

"มันเปลืองพี่ เก็บไว้กินเอง เชื่อผม" พี่กันย์พูดก่อนจะคว้าขวดเหล้ามาถือไว้เอง

"แก้วเดียว! เดี๋ยวกูไปเลย" พี่เขาว่าก่อนนิ้วขึ้นมาเพื่อยืนยันก่อนจะชูแก้วเหล้าหลบพี่กันย์แล้วยื่นให้ผม ผมเลยต้องจำใจรับมาถือไว้เอง

"เฮ้ยพี่ เพื่อนพี่พูดว่าอะไรนะ" พี่กันย์ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่โคตรดังในรถแล้วชี้ๆ ไปข้างหลังจนพี่ทั้งสองคนหันไปมอง อยู่ดีๆ ก็มีมือหนึ่งมาดึงแก้วในมือที่ผมทำท่าจะเทเข้าปากเพื่อให้มันจบๆ เรื่องไปไว้เอง

"เดี๋ยวกูกินเอง" พี่กันย์ว่าก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันในแก้วจนหมดแล้วยื่นแก้วเปล่าคืนให้ผมก่อนเจ้าตัวจะหลับตาหยีแล้วกลืนลงไป

"ไหนวะ ไม่เห็นมีใครเรียกกูสักคน" พี่ๆ ทั้งสองหันมาพอเห็นว่าแก้วในมือผมว่างเปล่าเลยตบไหล่ผมเบาๆ แล้วเดินกลับไป พี่กันย์หันมาหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวตามพวกพี่ๆ ไป ก่อนจะทันคิดมือของผมก็คว้าข้อมือพี่เขาไว้จนพี่กันย์หันมามองหน้าผมอย่างสงสัย ก่อนจะยิ้มมุมปากให้แล้วก้มลงมากระซิบข้างๆ หูผมจากนั้นก็เดินตามพี่ทั้งสองคนไป





ผมเข้าใจจนถ่องแท้เลยครับว่าทำไมถึงเรียกรถคันนี้ว่า ‘รถปีศาจ’ เพราะทันทีที่มาถึงทะเลในเวลาเกือบตีสองของวันใหม่ คนทั้งหมดบนรถต่างกรูกันลงไปแบบไม่มีใครที่เรียกได้ว่าปกติสักคน บางคนต้องตามพวกปีสามมาช่วยหิ้วปีก บางคนก็นั่งอ้วกอยู่ข้างรถ บางคนก็เมาแล้ววิ่งเข้าใส่เฟรชชี่หน้าใสๆ จนปีสามต้องไล่ให้พวกเด็กๆ หนีไปนอน

ผมที่ดูท่าจะปกติดีที่สุดค่อยๆ งัดพี่กันย์ที่นั่งคอพับคออ่อนอยู่บนเบาะหลังขึ้นมาแล้วหิ้วลงไปจากรถ ก่อนที่พวกพี่ปูนที่มายื่นรอรับอยู่ก่อนจะเข้ามาช่วยแบกไปยังบังกะโลหลังหนึ่งที่ข้างในมีห้องใหญ่เพียงห้องเดียวแต่มีเตียงและฟูกเสริมอีกสองอันที่พื้น

"ปวดหัวฉิบหาย" พี่กันย์โอดครวญขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตาก่อนจะยกมือขึ้นมากุมหัว

"แล้ว..ต้องทำยังไงต่อไปอ่ะครับ" ผมถามขึ้นอย่างไม่รู้จะช่วยพี่กันย์ยังไงดี ตัวผมเองก็ไม่ค่อยกินเหล้า ถึงพวกเพื่อนๆ ผมจะกินแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเมากันจนต้องหิ้วมาแบบนี้

"ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรนิ" พี่ทีพูดก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับพวกพี่ๆ คนอื่นๆ

"ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละ เดี๋ยวตื่นมามันก็หาย ปืนนอนก่อนได้เลย เดี๋ยวพวกพี่ออกไปคุยกับพวกพี่ๆ ข้างนอกก่อน นอนเลยๆ" พี่ปูนว่าก่อนจะชี้ไปยังที่ว่างข้างพี่กันย์ที่ยังไม่มีใครจับจองแล้วเดินออกไป ปล่อยผมไว้กับอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะทรมานมากขึ้นทุกที

"กูจะอ้วกว่ะ" อยู่ดีๆ คนที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแล้วพยายามดันตัวเองให้นั่งก่อนจะตะเกียกตะกายไปทางห้องน้ำ

"เดี๋ยวผมช่วยครับ" ผมบอกก่อนจะพยุงพี่เขาไปนั่งอยู่หน้าชักโครก วันนี้ต่างกับวันนั้นตรงคนที่กำลังอ้วกไม่ได้หัวเราะเพราะน้ำที่เติมไม่เต็มของชักโครก หากแต่กำลังน้ำตาคลอเพราะเอาของเสียออกมามากเกินไปจนผมใจไม่ดี แต่ก็ทำได้แค่ลูบหลังขึ้นแล้วค่อยๆ เอาทิชชู่เช็ดหน้าเช็ดตาให้

"เชี่ยย กูเหนื่อยว่ะ" คนที่ดูเหมือนจะสงบลงแล้วว่าก่อนจะเอนหลังพิงประตูห้องน้ำแล้วหลับตาลง เหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมเริ่มอยู่ไม่ติด ...ไม่รู้ว่าคนเมาปกติเป็นแบบนี้ หรืออันนี้เรียกว่าไม่ปกติกันแน่

"พี่โอเคมั้ยครับ?" ผมถามเมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มไถลตัวลงกับพื้นเหมือนจะนอน ผมเลยเดินอ้อมไปอีกด้านก่อนจะดันตัวพี่เขาขึ้นแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งแทนที่ตำแหน่งเดิมของเจ้าตัวแล้วปล่อยให้คนตรงหน้าพิงมาที่ผมแทน ลมหายใจที่ค่อยๆ สม่ำเสมอทำให้ผมนึกว่าคนตรงหน้าหลับไปแล้วเลยดึงทิชชู่เปียกข้างๆ ตัวมาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาอีกรอบเพื่อให้เจ้าตัวสบายขึ้น

"กูปวดฉี่" อยู่ดีๆ คนที่ผมนึกว่าหลับไปแล้วก็พูดขึ้นก่อนจะชี้ไปที่ชักโครกเล่นเอาผมทำหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียว

"เอ่อ..ครับ" ในนาทีที่ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะช่วยทำธุระยังไงดี พี่กันย์ก็ค่อยเอามือยันพื้นแล้วยืนขึ้นแต่ดันเซไปพิงกำแพงห้องน้ำ ก่อนจะค่อยๆ ยันตัวไปกับกำแพงอีกครั้งแล้วเริ่มถอดกางเกง ...ใจหนึ่งผมก็อยากให้พี่เขาได้ทำธุระแบบส่วนตัว แต่อีกใจก็ไม่กล้าปล่อยไว้คนเดียว

"เอาวะ" ผมพูดปลุกใจตัวเองก่อนจะสอดแขนไปล็อคตัวคนข้างหน้าเพื่อให้สามารถทรงตัวได้ก่อนจะตัดสินใจหลับตาแล้วซุกหน้าเข้ากับท้ายทอยพี่เขาแทน

"อย่าปล้ำกูนะเว้ย" พี่กันย์พูดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

"ถ้าพี่ไม่รีบทำธุระให้เสร็จ ผมก็ไม่รับประกันความปลอดภัยนะครับ" ผมกระซิบเบาๆ ข้างต้นคอพี่เขาก่อนจะสังเกตได้ว่าคนตรงหน้าเริ่มยุกยิกๆ ก่อนจะได้ยินเสียงกดน้ำอีกครั้ง

"เสร็จแล้ว ไอ้ห่านี่" พี่กันย์ว่าก่อนจะใช้ศอกดันตัวผมออกก่อนเจ้าตัวจะเซแล้วค่อยๆ ไหลจากกำแพงลงไปกองกับพื้น

"กูปวดหัว" หลังจากทำธุระเสร็จเจ้าตัวก็เริ่มกลับมาโอดครวญอีกครั้งก่อนจะพยายามลุกขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม

"พากูไปนอนหน่อย" ท่าทางที่งอแงเหมือนเด็กๆ บวกกับมือที่ยื่นส่งมา ทำให้ผมอดที่เผลอยิ้มออกมาไม่ได้ ในขณะที่ผมเอื้อมมือเข้าไปจับกับมือของพี่กันย์อยู่ดีๆ นิ้วเรียวของพี่กันย์ก็สัมผัสกับบางอย่างบนข้อมือผมก่อนจะลูบมันเบาๆ

"ก็ใส่นี่นา" พี่กันย์ว่าก่อนจะยิ้มมุมปากให้ผมอย่างล้อๆ ก่อนที่ผมจะดึงพี่เขาขึ้นมาไม่ทันตั้งตัวจนคนตรงหน้าเผลอเซเข้ามาใกล้ผม ผมจ้องหน้าพี่กันย์ที่ตอนนี้เริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง …ไม่รู้ว่าเพราะอาการเมาหรือเพราะอย่างอื่นกันแน่

"ก็ชอบจริงๆ นี่นา" ผมว่าก่อนจะพยุงพี่กันย์กลับไปโยนบนที่นอนเหมือนเดิม เมื่อเห็นคนตรงหน้าหลับตาลงแล้วลมหายใจเริ่มสม่ำเสมออีกครั้งผมเลยตัดสินใจไปอาบน้ำเพื่อจะได้ออกมานอนบ้าง ทันทีที่ปิดไฟแต่ยังไม่ทันจะได้ล้มตัวลงนอน คนข้างๆ ที่ไม่รู้ว่าพูดจริงๆ หรือละเมอก็โอดครวญออกมา

"ปวดหัว" ผมนั่งมองอาการนั้นอยู่ในความมืดสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินไปเปิดไฟห้องน้ำที่น่าจะทำให้พอให้มีแสงสว่างแต่ไม่รบกวนคนที่นอนอยู่มากนักแล้วจึงหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในกระเป๋าออกมาชุบน้ำหมาดๆ นำไปวางบนหัวจนอดรู้สึกผิดไม่ได้เมื่อเห็นคนที่คิดว่าหลับไปแล้วลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าผมอีกครั้งทันทีที่ผ้าขนหนูสัมผัสใบหน้า

"ไปนอนไป" พี่กันย์ว่าพลางทำหน้ายุ่งๆ ก่อนจะพลิกตัวไปอีกข้างจนผ้าขนหนูเลื่อนหล่นจากตำแหน่งเดิม แต่เจ้าตัวเหมือนจะรู้เพราะมือนั้นรีบหยิบมันขึ้นมาแล้ววางไว้บนหัวเหมือนเดิมจนผมอดยิ้มไม่ได้ก่อนจะนึกไปถึงคำพูดของคนที่กำลังนอนอยู่ตอนอยู่บนรถ





"เดี๋ยวกูกินเอง" พี่กันย์ว่าก่อนจะกระดกน้ำเหล้าจนหมดแก้วทำให้พี่ทั้งสองคนยอมเดินจากไป สีหน้าที่เหมือนจะถูกจับไปเชือดของพี่กันย์ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะดึงมือพี่เขาไว้ พี่กันย์หันมามองหน้าผมก่อนก่อนจะยิ้มมุมปากให้ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างๆ หู

"ฝากดูแลกูด้วยนะ"






'ก็เล่นพูดซะขนาดนั้น จะให้ผมหนีไปนอนได้ยังไงล่ะครับ ...พี่กันย์'












ตอนที่ 11 กับวันที่ 11 เดือน 11 ล่ะค่ะ เย้ ^________^ :mc4:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน้าาา ดีใจ น้ำตาไหล ยิ้มได้ทุกวัน 55555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
โอ้ววววว. พี่กันย์แมนมาก
น้องปืนนี่ดูเหมือนจะรุกอะแต่คือเหมือนคุณแม่ เหมือนสามีไปพร้อมๆกันเลย ดูแลกันและกันมันดีจริงๆ
กันย์และgun.  :L1:   

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
พี่กันย์มีความน่ารักแบบแมนๆ
เอาเซ่มีอ้อยกลับนิดนึง พี่เมาแทนแต่น้องดูแลพี่ด้วยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
...ก็ถึงพี่ไม่สั่ง ผมก็ดูแลอยู่แล้วครับ

คนหนึ่งใส่สร้อย อีกคนอ้อยเป็นระยะ

แล้วมันจะพ้นกันไปได้อย่างไร  :hao3:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ก็ห่วงใยกัน :mew1: :mew1: :mew1:
พี่กัลย์ ห่วงปืน เลยกินเหล้าแทนปืน
แถมสั่งปืนให้ดูแลตัวพี่ด้วย ถ้าพี่เมา
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ zzzzzz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 84
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทำไมน้องปืนขี้อ่อยขนาดนี้คะ ไหนบอกพี่สิ้55555555555

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ tukkata bambola

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันดีกับใจชอบอ่อยกันทั้งคู่นั่นล่ะ :laugh:
ดูแลดีขนาดนี้เป็นแฟนกันเถอะ :laugh:

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ yuuri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
12-…ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง

"ปวดหัวโว้ยยย" ผมยืนแหกปากอยู่หน้าบังกะโลทันทีที่เดินออกมาพบกับแสงแรกของเช้าวันใหม่และยังไม่มีใครตื่น ...ส่วนพวกที่ยังไม่นอนนั้นก็ยังกองกันอยู่ตรงหน้าหาดอยู่เลยครับ

"ตื่นเช้าจังพี่" ไอ้เจ น้องรหัสสุดที่รักของผมที่เดินผ่านมาพอดีทักขึ้นพร้อมกับส่งขวดน้ำเปล่าที่หอบมาเต็มสองมือมาให้

"ก็ปกติของกู ยังไม่ได้นอนสินะมึงอ่ะ" ผมว่าก่อนจะยกมือขึ้นให้กำลังใจมัน ทริปนี้ปีที่หนักที่สุดก็หนีไม่พ้นพวกปีสามที่เป็นคนจัดนี่แหละครับ ในขณะที่คนอื่นเมากันหัวราน้ำ ปีสามต้องคอยควบคุมสถานการณ์ เหล้าห้ามแตะ ไหนจะต้องคอยกันคนไม่ให้วิ่งลงทะเล ไหนจะต้องคอยตามล้างตามเช็ดเศษซากอารยธรรมของพวกพี่ๆ น้องๆ อีก พวกผมในฐานะที่จัดมาเมื่อปีที่แล้วนี่รู้ซึ้งถึงใจกันไปเลยทีเดียว

"ขอบคุณมากพี่ ข้าวเช้ามีตอนเจ็ดโมงนะครับ" มันว่าก่อนจะเดินเอาน้ำไปแจกจ่ายให้คนอื่นๆ ต่อ ผมเลยตัดสินใจเดินกลับเข้าไปอาบน้ำในบังกะโลเพื่อจะได้ออกไปหาอะไรกิน

"เมาฉิบหายอ่ะมึงอ่ะ" ไอ้ทีทักขึ้นทั้งที่ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นมามองโลก

"เออดิ พวกพี่แชมป์แมร่งเล่นไม่ปล่อยเลยว่ะ สงสัยเครียดงานจัด" ผมพูดติดตลกพลางนึกถึงพี่ๆ ที่ชอบชวนผมไปสังสรรค์บ่อยๆ ตั้งแต่ตอนที่ผมเข้าปีหนึ่งจนถึงตอนนี้ แม้พวกพี่เขาจะยุ่งกับงานมากแค่ไหนก็ตาม

"อาบน้ำเสร็จแล้วปลุกกูด้วย โคตรหิวเลยว่ะ" ไอ้ทีว่าก่อนจะเอาหัวมุดกลับเข้าไปในผ้าห่ม ผมได้แต่สายหัวอย่างระอาก่อนจะเดินหากระเป๋าเสื้อผ้าที่คงมีใครสักคนหยิบมาวางไว้ให้เหมือนทุกที

"อยู่ไหนวะ" ผมเดินไปที่กองกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อนๆ ที่กองรวมกันไว้ใกล้ๆ ประตูแต่กลับไม่มีของผม ผมเลยเริ่มขุดคุ้ยจนกลับมาตรงฟูกที่นอนเมื่อคืนก่อนจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าใบคุ้นตาวางอยู่ข้างๆ หมอนพร้อมกับเสื้อผ้าและของใช้ที่ถูกเอาออกมาจัดวางแยกประเภทไว้อย่างเรียบร้อยเลยไปอีกหน่อยก็เป็นกองของใช้เช่นกันแต่มันไม่ใช่ของผมเนี่ยสิ

"หืม?" ผมหันไปมองทั่วห้อง ไอ้ปูนอยู่บนเตียง ไอ้ที ไอ้โฟม ไอ้คีย์กองกันอยู่บนฟูกถัดไป แล้วไอ้นี่ใครวะ? ผมเริ่มสงสัยก่อนจะค่อยๆ แง้มผ้าห่มออกดู …ไอ้เชี่ยปืนน! มันนี่เองที่บังอาจมายุ่งกับกางเกงในผม

"ผมง่วงงง" ไอ้เด็กที่ถูกผมดึงผ้าห่มจนแสงแยงตาพูดออกมาพร้อมทำหน้ายุ่งๆ ก่อนจะมุดกลับเข้าผ้าห่มไป

"ไอ้เด็กขี้เซาเอ้ยย" ผมว่าก่อนจะแกล้งเอาหมอนกับผ้าห่มของผมถมตัวมันไว้แล้วเดินออกมาอย่างสะใจเมื่อได้ยินเสียงโวยวายดังลอดออกมา





"เอาข้าวน้อยๆ ขอน้ำเยอะๆ นะครับ" ผมบอกพี่แม่ครัวที่ทำหน้าที่ตักข้าวต้มไก่ให้แล้วเดินตรงไปทางริมหาด

"พี่กันย์" ไอ้เจตะโกนเรียกผมที่กำลังจะเดินไปหาที่นั่งชิลๆ ริมทะเลจนต้องเดินย้อนขึ้นมาใหม่แล้วนั่งแหมะลงตรงโต๊ะไม้ข้างมัน

"นี่น้องปีหนึ่งสายเราพี่ ชื่อการันต์" ไอ้เจว่าก่อนจะแนะนำเด็กผู้ชายปีหนึ่งที่นั่งหัวโด่อยู่กลางดงปีสามที่เหลือให้ผมรู้จัก

"หวัดดีครับพี่" ไอ้เด็กที่ชื่อการันต์ว่าก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ผม

"แล้วน้องทิงเกอร์เบลล์ของกูมาป่ะ" ผมถามถึงน้องเบลล์ น้องสายปีสองที่เป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวในสายที่เหลืออยู่ตอนนี้

"มาครับพี่ เห็นวิ่งดุ๊กดิ๊กอยู่กับเพื่อนเมื่อคืน" ไอ้การันต์ว่าพลางล้อเลียนพี่รหัสที่หุ่นออกจะเป็นก้อนกลมๆ สมคำ ‘ดุ๊กดิ๊ก’

"ก็ไปว่ามัน" ผมว่ามันขำๆ ก่อนจะลงมือจัดการข้าวต้มตรงหน้า

"อ้าว หวัดดีครับพี่" เสียงทักทายของไอ้พวกเด็กๆ ที่นั่งอยู่ทำให้ผมต้องหันไปมองก็เห็นพวกเพื่อนๆ ผมที่เหลือกำลังเดินตามมาสมทบพอดี

"นั่งนี่ดิ" ผมว่าก่อนจะเขยิบไปนั่งริมเก้าอีกเพื่อให้มีที่นั่งพอสำหรับคนมาใหม่

"มึงนี่น่าอิจฉาเนอะ ตื่นปุ๊บหายปั๊บ" ปูนว่าก่อนจะทำหน้ายู่ใส่ผมแล้วกระดกเครื่องดื่มแก้แฮงค์ในมือเข้าปาก

"อ่อนว่ะ แค่กินต้องกินด้วย" ผมแซวกลับก่อนจะจิ้มๆ ขวดเปล่าที่อยู่ในมือมัน

"เออดิ ใครจะไปเหมือนมึงวะ เมาเหมือนหมาแต่ยังมีคนตามมาดูแลอย่างดี"

"ฮิ้ววว..วว" เสียงแซวจากไอ้ปูนทำเอาคนทั้งกลุ่มถึงกับส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

"ใครวะ" ผมถามันอย่างงงๆ

"จะใครล่ะครับผม ก็น้องปีหนึ่งคณะผมไง"

"ฮิ้ววว..วว"  เสียงลูกคู่จากไอ้คีย์เรียกเสียงแซวขึ้นมาได้อีกหน

"ใช่คนที่ผมเจอเมื่อวานเปล่าพี่" ไอ้เจถามขึ้นพลางทำหน้านึกถึงใครสักคน

"ก็มันมีของมันอยู่คนเดียวนั่นแหละ ใช่เปล่าวะ" ไอ้ทีพูดขึ้นจนตอนนี้คนทั้งเริ่มหันมาถามกันแล้วว่า ...ใครวะ ใครวะ

"ไอ้น้องคนที่พี่กินเพียวแทนมันอ่านะ" ไอ้ขิง เด็กปีสามประจำรถปีศาจเมื่อคืนพูดขึ้นจนเรียกสายตาของทุกคนให้หันไปมองได้เป็นตาเดียว

"โคตรลงทุนอ่ะพี่" ไอ้เจว่าก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างอึ้งๆ

"แด่ไอ้กันย์ผู้ไม่นิมยมกินเพียว" ไอโฟมพูดขึ้นบ้างพลางยกแก้มน้ำเปล่าขึ้นมาประหนึ่งไว้อาลัยแล้วชนกับทุกคนรอบวง

"ถึงไม่ชอบกิน แต่ก็ไม่ใช่กินไม่ได้เปล่าวะ" ผมพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ ก่อนจะคว้าแก้วน้ำในมือมันมากินเอง

"แล้วแบบน้องกูนี่ ปากบอกไม่ชอบๆ แล้วสุดท้าย...มึงอยากจะลองกินบ้างเปล่าวะ"

"ฮิ้ววว..วว" ...ประสาทกูจะกิน ไอ้พวกนี้นิ

"อะไรของพวกมึง โว๊ะ! แล้วนี่น้องมึงหายหัวไปไหน" ผมถามมันขึ้นมาเพราะเพิ่งสังเกตได้ว่าอีกคนที่เป็นคู่กรณีไม่อยู่แถวนี้

"อ่ะแหน่ะ อยากเจออ่ะดิ ปล่อยให้น้องกูได้นอนบ้างเห๊อะ เล่นทำมันไม่ได้นอนทั้งคืนอ่ะมึงอ่ะ"

"เฮ้ยๆ เล่าพี่ เรื่องนี้ต้องเล่า" ไอ้เจที่เสียงดังกว่าเพื่อนตะโกนขึ้นอย่างคึกคัก ไม่เว้นแม้แต่น้องใหม่ของสายรหัสอย่างไอ้การันต์ด้วย

"ก็เปล่า ก็ไอ้กันย์เมาเละขนาดนั้น น้องคนดีของกูก็ต้องอยู่ดูแลเปล่าวะ" ไอ้คีย์ว่าก่อนจะหน้าแบบคนถือไพ่เหนือกว่าสุดๆ …อย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกัน!

"ยังไงพี่ ยังไง" ไอ้การันต์ตบมุขต่อ ...ยังไม่หยุดนะพวกมึง

"ก็แค่...พยุงกันลงจากรถ พาไปส่งถึงเตียง พี่บ่นปวดหัวน้องก็เดือดร้อนหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ พี่จะอ้วกก็พาไปส่งถึงฝาชักโครก..." ไอ้คีย์ที่ตอนแรกมัวแต่เล่นตัวทำเป็นไม่เล่าๆ สุดท้ายก็คายออกมาซะยาวจนผมยังต้องหันไปมองอย่างสงสัย

"ขนาดพี่ทำธุระน้องยังจับไม่ปล่อยเลยครับผม" ไอ้ทีเสริมต่อก่อนจะหันไปแทคมือกับไอ้คีย์ก่อนจะหัวเราะชอบใจ

“จับอะไรพี่!” ไอ้พวกปีสามตะโกนขึ้นมาพร้อมกันจนผมยังสะดุ้งไปด้วยเลยเนี่ย

“ก็..จับพี่กันย์ยังไงล่ะคร้าบบ”

“เขาเรียก ‘พยุง’ ไอ้สัด!” ผมว่าก่อนจะเอามือผลักหัวมันอย่างหมั่นไส้

"โธ่! พี่ผม โดนเด็กเกษตรสอยไปซะละ" ไอ้เจว่าก่อนจะแกล้งบีบน้ำตาแล้วไอ้เพื่อนทั้งฝูงของมันก็เข้ามาปลอบ …มึงเล่นใหญ่กันไปป่ะ

"มึงก็พูดไปเรื่อย" ผมพูดดักขึ้นมาก่อนที่มันจะใส่สีตีไข่ไปไกลกว่านี้

"เอ้าจริง! ที่พูดๆ อยู่เนี่ยเรื่องจริงนะครับผม" มันย้ำจนผมได้แต่เหล่ตามองมันก่อนจะพยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

"ถึงกับพูดไม่ออกเลยเพื่อนกู" ไอ้ปูนว่าก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาจนผมได้แต่คิดตามอย่างสงสัย ...ทำไมนึกไม่ออกวะ ถึงแม้จะคุ้นๆ อยู่บ้างก็เถอะ





ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

"ตื่นได้แล้วโว้ยยย" ผมแกล้งเคาะบานประตูที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะยืนกอดออกพิงกำแพงมองคนที่ตอนนี้เพิ่งสลึมสลือลืมตาขึ้นมามองผมได้

"เป็นไงบ้างพี่" คำถามแรกที่มันถามขึ้นมาทำเอาผมนี่ต้องเค้นความทรงจำออกมาอย่างหนัก ...นี่ผมเมาขนาดต้องให้ไอ้เด็กคออ่อนนี่มาเป็นห่วงเลยหรอวะ

"ปกติ คิดด้วยว่ากำลังพูดอยู่กับใคร" ผมเลิกสนใจกับความทรงจำที่ว่างเปล่าก่อนจะยักไหล่ให้มันอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

"ก็ดีแล้วครับ" มันว่าก่อนจะเลื้อยตัวลงไปซุกผ้าห่มใหม่

"ไอ้ตีห้า มึงตื่นได้ละ คนอื่นเขาไปทำอะไรกันถึงไหนแล้ว" ผมว่าก่อนจะเดินไปหย่อนตัวลงบนเตียงแล้วเอาเท้าเขี่ยๆ มันที่ยังนอนอยู่บนฟูกบนพื้น ‘ไอ้ตีห้า’ คือคำเรียกติดปากมาจากที่พักหลังๆ ผมเริ่มตื่นมาทันเสียงนาฬิกาปลุกมันบ่อยขึ้น และพบว่าเวลาที่มันตั้งปลุกคือ ’05.00’ ...จะตื่นเช้าขนาดนั้นไปทำซากอะไร กูจะนอน

"วันนี้ผมขอเป็นไอ้บ่ายโมงครึ่งได้มั้ยครับ" คนที่ตอนนี้ได้แปลงร่างเป็นเด็กเกเรไปแล้วพูดขึ้นก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมโปง

จริงๆ ไอ้เด็กนี่โคตรอนามัย มันสามารถตื่นมาตอนตีห้าได้ด้วยความสดชื่น แต่นั่นหมายความว่ามันต้องได้นอนพอดีครบแปดชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน พูดง่ายๆ คือต้องเข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม แต่ได้ข่าวเมื่อวานมันนอนหลังเวลาตื่นปกติมันเสียอีก เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ครบแปดชั่วโมงก็ต้อง... ผมคิดพลางยกนิ้วขึ้นมานับ

…นี่คือมันกะจะนอนให้ถึงบ่ายโมงครึ่งตามที่มันว่าเลยใช่มั้ยครับเนี่ย!

"ช้าหมดอดกินข้าวกูไม่รู้ด้วยนะ" ผมบอกกับมันก่อนจะเรียกสายตาปริบๆ ให้โผล่พ้นชายผ้าห่มออกมาได้ เรื่องสำคัญของมันรองจากเรื่องนอน ก็เรื่องกินนี่แหละครับ 'ข้าวสามมื้อ ตอน 7 โมง เที่ยงตรงและ 6 โมงเย็น'

"หิวครับ"

"รีบๆ ลุกขึ้นแล้วไปกินดิ" ผมว่าก่อนจะยื่นแขนที่สวมนาฬิกาไปให้มันดูเวลาที่ตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้ว

"ผมง่วง" …บทจะงอแงนี่ก็เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังเท้าได้เนอะคนเรา

"แต่มึงกำลังจะอดข้าวมื้อที่สอง" ผมว่าก่อนจะยักคิ้วให้มันอย่างจงใจกวนประสาท

"ขอข้าวให้ผมหน่อย" มันพยายามคะยั้นคะยอผมด้วยการพยักหน้าถี่ๆ เหมือนลูกหมาที่ต้องการอาหาร ...น่ารักตายล่ะ

"เรื่องอะไร อยากกินก็ลุกดิวะ" ผมว่าก่อนที่มันจะคลานออกมาจากผ้าห่มแล้วเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า

"เป็นไร" ผมถามก่อนจะฉกซองพลาสติกในมือมันมาดู 'ยาลดกรด เคลือบแผลในกระเพาะอาหาร'

"อย่ามาสำออย" ผมบอกมันก่อนจะโยนถุงลงข้างๆ มันแล้วเดินออกไป จนคนที่นอนอยู่ได้แต่ทำหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ก่อนจะลุกขึ้นบิดซ้ายทีขวาทีเพื่อเตรียมตัวไปอาบน้ำ





"อ่ะ" ผมเดินกลับมาอีกครั้งก่อนจะวางจานข้าวที่โปะด้วยไข่เจียวและถ้วยแกงจืดลงที่ปลายฟูกของมันจนคนที่กำลังเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำชะงักแล้วหันมามองหน้าผมสลับกับจานอาหาร

"กูไม่ตามใจมึงบ่อยๆ หรอกนะ" ผมว่าก่อนจะรีบๆ เดินออกมา …ก็แค่กลัวคนแถวนี้โรคกระเพาะจะกำเริบเท่านั้นแหละครับ เพราะถ้าเกิดมันไม่สบายขึ้นมาใครล่ะที่จะซวย ก็ผมนี่ไง!

“ขอบคุณนะครับพี่” เสียงที่ตะโกนไล่หลังออกมาทำเอาคนแถวนั้นหันมามองผมกันเป็นแถบจนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูกจึงได้แต่เร่งฝีเท้าเพื่อเดินกลับไปหาพวกเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ริมชายหาด

“เป็นบ้าอะไร ทำไมยิ้มคนเดียว” คำพูดไอ้ทีทำเอาผมหันไปมองมันอย่างงๆ ก่อนจะเพิ่งสังเกตตัวเอง

“เปล่า”

“เปล่าอะไร ก็กูเห็นอยู่เนี่ย” ไอ้ทีพูดอย่างจริงจังก่อนจะเดินมากอดคอผมไว้

“ไม่มีอะไร ก็..เวลามึงเดินสวนกับคนน่ารักๆ มึงก็ต้องยิ้มเปล่าวะ” ผมแถไปเรื่อยโดยไม่คิดอะไร

“ก็จริงของมึง ยิ่งคนที่น่ารักมากๆ ยิ่งห้ามไม่ให้ยิ้มนี่…โคตรยากเลยเนอะ” มันว่าก่อนจะเหล่มองผมอย่างสงสัยก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม

“คนที่น่ารักมากๆ งั้นเหรอ” ผมคิดตามมันก่อนจะหันไปเจอใครบางคนที่เพิ่งเดินตามออกมา …ก็ไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง หน้าตี๋ซะขนาดนั้นอ่ะ





[Bpuen's]

กว่าผมจะอาบน้ำ แต่งตัวและกินข้าวที่พี่กันย์ในมาดพ่อพระใจดีเอามาให้ผมเสร็จเรียบร้อย เวลาก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายโมงซึ่งเหมือนทุกคนจะพร้อมใจกันอยู่บริเวณชายหาดเรียบร้อยแล้ว

“พี่ๆ ตั้งฐานด้วยครับ ส่วนน้องปีหนึ่งมาทางนี้เลย” เสียงที่คาดว่าน่าจะเป็นพวกพี่ปีสามดังขึ้นก่อนเหล่านักศึกษาที่กองๆ กันอยู่จะแยกย้ายออกไปอยู่เป็นกลุ่มๆ ตามบริเวณ ริมชายหาด ส่วนปีหนึ่งซึ่งเดาได้จากป้ายชื่อที่แขวนเอาไว้กำลังยืนเข้าแถวตอนแบ่งออกเป็นห้าแถว เท่ากับจำนวนฐานของพี่ๆ ชั้นปีแก่กว่าทั้งสี่และพี่ที่จบไปแล้วอีกหนึ่ง

“ปีหนึ่งรึเปล่าครับ ทางนี้เลยๆ” พี่ปีสามคนหนึ่งหันมามองก่อนจะกวักมือเรียกผม

“ผมหรอครับ” ผมยกมือชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ ...ก็ปีหนึ่งแหละ แค่ไม่ใช่เด็กคณะนี้เท่านั้นเอง ผมมองมือที่ยังกวักเรียกผมอย่างงงๆ ก่อนจะมองไปเจอเข้ากับพี่กันย์ที่มองมาทางผมพอดี วันนี้พี่เขาใส่เสื้อกล้ามสีขาวทับด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวอีกตัว(คาดว่าถ้าใส่สีดำเหมือนปกติคงจะทนความร้อนของแดดประเทศไทยไม่ไหว) กางเกงขาสั้นสีเหลือง แล้วไม่ใช่เหลืองธรรมดานะครับ …เหลืองมัสตาร์ด(ตามที่พี่กันย์พูดกรอกหูผมอยู่บ่อยๆ) รองเท้าแตะคีบสีน้ำเงินและแว่นกันแดดทรงกลมสีดำ

"มาเลยครับ ให้ไวๆ เห็นมั้ยเพื่อนๆ รออยู่เนี่ย" พี่ปีสามอีกคนหนึ่งเร่งแต่ไม่ได้ดูสีหน้าไอ้พวกปีหนึ่งที่กำลังทำหน้างงประหนึ่งว่า ...ใครเพื่อนมัน ผมหันไปมองพี่กันย์ที่กำลังเกาท้ายทอยอย่างใช้ความคิดก่อนจะพยักเพยิดหน้าให้ผมเดินไปรวมกับพวกปีหนึ่ง'ถาปัตย์ ...ทำไมผมต้องมารับน้องรอบสองเนี่ยครับ

"ไอ้การันต์" เสียงพี่กันย์ตะโกนขึ้นมาเรียกเด็กผู้ชายปีหนึ่งที่ตัวสูงๆ คนหนึ่งให้หันไปมองก่อนพี่กันย์จะพูดแบบไม่ออกเสียงแล้วชี้มาที่ผม 'น้องกู ดูมันด้วย' ตอนแรกผมก็เห็นคนที่ชื่อการันต์ทำหน้างงๆ ก่อนพี่คีย์จะตะโกนตามมา

"น้องไอ้กันย์ ดูมัน 'ดีๆ' ด้วย" เท่านั้นแหละครับ ไม่ใช่แค่คนที่ชื่อการันต์ แต่ทั้งพี่ขิง พี่เจรวมถึงพี่ปีสามคนอื่นๆ ต่างหันมามองผมเป็นตาเดียวก่อนจะร้อง 'อ๋อออ' ขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ...เอ่อ ผมจะปลอดภัยใช่มั้ยครับ ทำไมเย็นๆ สันหลังชอบกล





“ผ่านคร้าบบ ไปฐานต่อไปได้” เสียงพวกพี่ปีสามดังขึ้นก่อนจะดึงเอาถังแป้งที่ตอนแรกก็ป้ายหน้าพวกผมอยู่ดีๆ แล้วไม่รู้เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาตอนไหนเลยจัดการราดลงบนหัวพวกผมจนเปียกไปหมดกลับไป แล้วอัญเชิญพวกผมไปยังฐานต่อไปโดยไม่คิดจะล้างออกให้สักนิด

“ตัวหอมไปเลยกู” ไอ้การันต์พูดอย่างขำๆ ก่อนจะอ้าแขนออกให้ผมดูตัวที่ตอนนี้ขาวไปด้วยแป้งตั้งแต่หัวจรดเท้า

“จะได้ไม่ต้องอาบน้ำไง” ผมว่าก่อนจะลูบหน้าตัวเองให้พอยังลืมตาได้บ้าง แล้วเดินตามเพื่อนที่เหลือเพื่อเข้าฐานต่อไป

"สวัสดีครับปีหนึ่ง นี่คือฐานปีสี่นะ เอ้า แนะนำตัวกันหน่อยเร็ว" ฐานต่อมาที่พวกกลุ่มที่ผมอาศัยอยู่ต้องมาเจอก็คือฐานของปีสี่ ซึ่งผมเห็นคนที่เพิ่งเมาไม่ได้สติเมื่อคืนเริ่มตั้งวงกับเพื่อนๆ อีกแล้วครับ

"ไอ้กันย์ ของมึงเอาเป๊บซี่หรือโซดาวะ" ผมได้ยินเสียงพี่ทีถามก่อนที่พี่กันย์จะชี้ไปยังขวดโซดาก่อนจะรับมาเปิดฝาให้โดยใช้โซดาอีกขวดหนึ่งอย่างชำนาญ

"สวัสดีครับ ผมชื่อการันต์ เป็นน้องพี่กันย์ครับ" เสียงของการันต์ที่เอ่ยแนะนำตัวพร้อมบอกชื่อพี่สายชั้นปีที่สี่ดังแทรกขึ้นมาทำให้ผมหันกลับไปสนใจกับกิจกรรมตรงหน้าอีกครั้ง

"น้องไอ้กันย์ว่ะ สายนี้เขามีดีจริงๆ เว้ย" พี่ปูนพูดขึ้นก่อนจะเรียกเสียงแซวจากพี่ผู้หญิงที่เหลือตามมา

"น้องผมครับ น้องผม" พี่กันย์ว่าก่อนจะเดินเข้ามากอดคอน้องสายอย่างอารมณ์ดี

"เอาเปล่า" พี่ปีสี่อีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อนจะชูแก้วเหล้าขึ้นถาม

"อย่าเพิ่งเถ๊อะ ปล่อยน้องกูใสๆ ไปก่อน" พี่กันย์ว่าก่อนจะหันมาพยักหน้ากับน้องตัวเองอย่างหาแนวร่วมแล้วเดินกลับไปนั่งที่

"โอเค คนต่อไปครับ" พี่ปีสี่คนที่นำกิจกรรมฐานนี้ถามก่อนจะเลื่อนมือมายังผม

"เอ่อ.. ผมชื่อปืนครับ เป็นน้องของ..." ผมเอ่ยแนะนำตัวก่อนมองไปยังคนที่จ้องมองมายังผมเหมือนกัน

"ลืมชื่อพี่รึไง เดี๋ยวมีซ่อมๆ" พี่คนเดิมว่าก่อนจะแซวกันอย่างไม่จริงจังนัก ส่วนพี่กันย์ก็ยกยิ้มมุมปากอย่างขำๆ

"เอ่อ..เป็นน้องของ..พี่กันย์ครับ"

"ทำไมไอ้กันย์มีน้องสองคนวะ" พี่ปีสี่คนที่ถามหันมามองพี่กันย์อย่างงงๆ พี่กันย์ไม่ได้ตอบอะไรแต่หันมามองหน้าผมก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นอีกครั้ง ...สนุกอยู่คนเดียวอ่ะ

"มันไม่ใช่น้องคณะมึงหรอก น้องคณะกูเนี่ย" พี่คีย์พูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนยังทำหน้างงไม่หาย

"อ้าว แล้วทำไมบอกว่าเป็นน้องไอ้กันย์วะ" พี่คีย์ลุกขึ้นก่อนจะเดินมาเข้ามาตบไหล่พี่คนนำกิจกรรมอย่างเห็นใจก่อนจะช่วยให้กระจ่างอีกที

"ก็คนหนึ่งอ่ะ น้องคณะไง”

“อ่าฮะ แล้วอีกคนอ่ะ?”

“ก็ ‘น้องรัก’ ของพี่ยังไงล่ะคร้าบบ"

"ฮิ้ววว..วว" เสียงฮิ้วที่ดังขึ้นจากทั้งปีหนึ่งและปีสี่ทำเอาผมถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก …ถ้าผมยิ้มออกมาจะโดนพี่กันย์ด่ามั้ยครับ

"แหน่ะ อย่ายิ้มดิมึง อย่ายิ้มดิ หวายยย" พี่ทีที่ตะโกนแซวมาจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันไปมองคนโดนแซวที่พยายามดึงหน้าดุแล้วหันไปด่าเพื่อน

“อะไรของพวกมึง” พี่กันย์ว่า แล้วหันไปชี้หน้าคาดโทษเพื่อนที่ได้แต่มองไปที่เจ้าตัวอย่างล้อๆ

“อยากยิ้มก็ยิ้มเถอะ เจอคนน่ารักก็ต้องยิ้มเปล่าวะ”

"กูไม่ได้ยิ้มโว้ยย" พี่กันย์ว่าก่อนจะงัดเอาแว่นดำที่ถอดออกไปแล้วขึ้นมาใส่อีกครั้งแล้วก่อนจะหันหน้าหนีทำคิ้วยุ่งๆ มองไปที่ทะเลแทน



'ไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้มครับพี่ ผมว่าจะถามพี่แต่ก็ลืมทุกที เอ..พี่ใช้ยาสีฟันยี่ห้ออะไรนะครับพี่กันย์'
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2016 08:23:01 โดย zenzaii »

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
กรี๊ด ประโยคสุดท้ายเอาใจไปเลย  พี่กันย์ :pighaun:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
คนอ่านก้อหุบยิ้มไม่ได้เหมือนกัน
เด็กน่ารักต้องรับมาเลี้ยงนะพี่กันย์

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ต่างฝ่าย ต่างดูแลกัน  :mew1:
ปืน ดูแลพี่กัลย์ ดีมาก
พี่กัลย์ ดูแล ไปปลุก หาข้าวให้กิน
น่ารัก ทั้งคู่เลย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2016 18:32:24 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ Kimigari

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
น่ารักมากกกกก
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ รอคอยทุกวันเลยยยย
น้องปืนน่ารักมากกก พี่กันย์ก็น่าร้ากกก
อยากให้เป็นพี่กันย์xน้องปืน อ่ะ
เพราะรุ้สึกว่าถึงพี่กันย์งอเเงเเต่ถ้าเป็นเรื่องของน้องปืน
พี่กันย์protect ตัลหลอดด เขิลล+++ kaaa

ออฟไลน์ thyme812

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
เอ๊ะ พี่กันย์นี่ก็เผลอตัวบ่อยนะคะ
ทริปนี้เป็นทริปกระชับความสัมพันธ์ไปซะแล้ว
แถมมือชงเยอะด้วย หุหุ

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ไม่มีปฏิเสธนะพี่กันย์ว่าคนนี้น้องรัก.....

ออฟไลน์ muiko

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-3
โอ้ยน่ารัก
ลุ้นๆๆให้รักกันไวๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ zenzaii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
13-…ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ

หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมเข้าฐานตอนบ่าย พวกปีสามเลยปล่อยพวกปีแก่ๆ อย่างพวกผมพักผ่อนกันตามอัธยาศัยก่อนจะนัดรวมพลพวกปีหนึ่งกันอีกครั้งตอนหนึ่งทุ่ม ซึ่งความชิลของการมาทริปคณะผมมันก็อยู่ตรงนี้แหละครับ เพราะนอกจากการที่พวกเด็กน้อยของพวกผมจะอัญเชิญมาให้ช่วยตั้งฐานกิจกรรมแล้ว(ซึ่งอยากตั้งก็ได้ ไม่ตั้งก็ได้) มันก็ไม่ให้ทำอะไรอีกเลย ใครอยากนอนก็นอน อยากกินก็กิน อยากลงทะเลก็ทำไป เจอกันอีกทีตอนขากลับทีเดียวเลยก็ได้ครับไม่มีใครว่า ...ผมล่ะชอบความคิดนี้ของไอ้คนจัดจริงๆ ให้ตาย

"ไม่ไปเล่นน้ำหรอครับ?” เสียงทักของคนที่เดินเข้ามาใหม่ทำให้ผมที่กำลังนอนหลบแดดอยู่ริมทะเลชิลๆ ละสายตาจากไอ้พวกเพื่อนๆ ที่พากันวิ่งลงทะเลไปแล้วให้หันไปมอง

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจสระผม” ผมบอกมันก่อนจะเห็นคนที่ถามเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ชายหาดตัวใกล้ๆ

“ผมทำให้ก็ได้นะ ถ้าพี่อยาก...” ไอ้เด็กนั่นพูดสองแง่สองง่ามก่อนจะส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้

"อยากเชี่ยไรมึง" ผมรีบถามมันพลางหันมองซ้ายมองขวา ...ไอ้ห่า เดี๋ยวก็โดนแซวอีก วันนี้โดนไปรอบที่ร้อยแล้วมั้งเนี่ย

“ก็ถ้าพี่อยากเล่นน้ำไงครับ คิดอะไรของพี่เนี่ย โว๊ะ" ...มีความล้อเลียนกู เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อย

“จีบกันอยู่เปล่าวะ กูควรทำตัวยังไงเนี่ย” …นั่นไง ผมคิดยังทันขาดคำ ไอ้ทีที่เพิ่งวิ่งขึ้นมาจากทะเลก็ทักขึ้นจนผมต้องหันไปเบ้หน้าใส่มันอย่างเซ็งๆ

"บ้านมึงสิ! / กำลังทดลองอยู่ครับ" คำตอบอีกคำตอบที่แทรกขึ้นมาทำให้ผมต้องหันไปมองไอ้ตัวคนพูดที่นั่งทำหน้าแป้นแล้นไม่ทุกข์ไม่ร้อนจนไอ้ทียังต้องปรบมือให้

"สัด!"

"เจ๋งโคตร สมแล้วที่จะมาดองกับพวกกู" ไอ้ทีว่าก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่ไอ้เด็กนั่นอย่างถูกใจ

"เพื่อนผมคนนี้เกือบดีเลยนะครับ ติดอยู่นิดเดียวก็ตรงที่ …หน้าตาดีแต่ไม่มีเวลาให้ โคตรเอาแต่ใจแถมยังเรื่องมากเป็นที่หนึ่ง นัดกันทำอะไรก็ต้องเผื่อไปชั่วโมงนึง แถมมึงยังต้องคอยเป็นที่พึ่งให้มันเรียกใช้ทุกเวลา"

"ถ้ามึงจะมาเป็นกลอนขนาดนี้ล่ะก็นะ…" ผมบอกมันอย่างเอือมๆ หลังเจอไอ้ความร่ายยาวของแมร่งเข้าไปนี่ไปต่อไม่ถูกเลยจริงๆ

"กูนี่ใครครับ คนบ้านเดียวกับสุนทรภู่นะ" ไอ้ทีว่าอย่างอวดตัวก่อนจะถือแก้วเหล้าสองแก้วที่ผสมเรียบร้อยแล้ววิ่งลงทะเลไป

"ยิ้มเชี่ยไรมึง" ผมถามอย่างหมั่นไส้ ...มึงหุบๆ ยิ้มบ้างได้มั้ย กูเห็นละปวดแก้มแทน

"เจอคนน่ารักก็ต้องยิ้มเปล่าครับ"

"สัด!" ...ผมซื้อได้ไหมไอ้ประโยคนี้เนี่ย

"ผมมีเวลาให้นะ"  ประโยคที่ดังขึ้นจากคนที่เงียบไปพักหนึ่งดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองหน้ามันอย่างงงๆ

"เวลาอะไร?"

"ก็พี่ทีบอกพี่ไม่มีเวลาให้ เดี๋ยวผมเอาของผมให้พี่แทนไงครับ"

"เหยดดด"

"ผมเอาใจเก่งด้วยนะครับ ทำอาหารก็เป็น ตื่นก็เช้า แถมยังสแตนด์บายให้ได้ตลอดเวลาเลยด้วย"

"แล้วไง?" ผมถามมันขึ้นมาโดยเผลอลืมไปว่า ...ผมยิ้มออกมาอีกแล้ว

"ก็จะไม่ลองรับน้องคนนี้ไปพิจารณาหน่อยหรอครับพี่กันย์"





หนึ่งทุ่มตรงหลังจากที่ไอ้พวกปีสามเรียกปีหนึ่งกลับมารวมกันอีกครั้งและทำการมอบป้ายสตูฯ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำรุ่นให้พวกเด็กใหม่ไปแล้วก็ได้เวลาปาร์ตี้ดนตรีสดซึ่งเป็นจุดหมายของทุกคนที่มาทริปนี้อย่างแท้จริง ...ทะเล เหล้า ดนตรี จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกเหรอครับผม

"เอ้า ของมึง" ไอ้โฟมว่าก่อนจะยื่นแก้วเหล้าผสมโซดามาให้ผมที่กำลังนั่งฟังดนตรีเพลินๆ อยู่ พวกผมเลือกโต๊ะที่ห่างออกมาจากลานหน้าเวทีเล็กน้อย ...ปล่อยให้พวกเด็กๆ มันแดนซ์กันไปเถอะครับ ปล่อยพวกปีแก่ๆ อย่างพวกผมนั่งเฝ้าโต๊ะไปอ่ะดีแล้ว

"ยังไม่อยากกลับเลยว่ะ" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนจะทำหน้าเสียดายเมื่อคิดได้ว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วสำหรับทริปในปีนี้

"จริง คิดถึงงานที่ต้องแก้แล้วกูเครียด" ไอ้ทีพูดขึ้นเรียกเสียงโห่จากเพื่อนร่วมวงได้เป็นอย่างดี …พูดอะไรไม่พูด ดันพูดเรื่องงานเนอะมึง

"ช่างแมร่งสักวันแล้วกัน ค่อยกลับไปลงนรกพร้อมๆ กับพวกกูนี่แหละ เอ้า ชน!" ผมว่าก่อนจะยื่นแก้วไปชนกับเพื่อนๆ ตรงหน้า ...เรื่องของพรุ่งนี้ก็ไว้จัดการพรุ่งนี้แล้วกันครับ

"เดี๋ยวก็เมาอีกหรอกครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับพวกแก๊งค์ปีหนึ่งที่โผล่หัวกันมา

"พ่อมึงมาว่ะ" ไอ้โฟมแซวขึ้นขำๆ ก่อนจะมองไอ้ปืนที่เดินอ้อมโต๊ะมานั่งแหม่ะลงข้างผมพร้อมกับพวกไอ้การันต์ที่เข้ามาร่วมวงด้วย

"แล้วมึงจะกินป่ะ" ผมถามมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะยื่นแก้วอีกใบไปให้มัน

"ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวคนแถวนี้ไม่มีคนดูแล" มันพูดขึ้นหน้าตาเฉยจนคนทั้งวงหันมามองผมเป็นตาเดียว

"ฮิ้ววว..วว"  ...อีกนิดเดียวกูจะเริ่มเกลียดหน้าตี๋ๆ ของมึงแล้วนะเนี่ย

"แล้วมาทำไม" ผมถามมันก่อนจะเลิกคิ้วอย่างกวนตีนแล้วรับแก้วที่มันยื่นคืนมาให้กระดกเข้าปากแทน

"เอาเวลามาให้ครับ"

"เวลาอะไรของมึงวะ?" ไอ้คีย์ถามขึ้นอย่างอยากรู้เต็มที่ ส่วนผมนี่แทบจะวิ่งไปขย้ำคอไอ้คนพูดแล้วครับ

"ก็พี่ทีบอกพี่กันย์ไม่มีเวลาให้ ผมเลยเอาของผมมาแบ่งให้พี่เขาก็เท่านั้นแหละครับ"

"ไอ้เชี่ยยย กูควรทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดีวะครับ" ไอ้คีย์พูดก่อนจะลุกขึ้นโวยวายอย่างนั่งไม่ติดก่อนจะหัวเราะออกมาพลางเอามือชี้หน้าผม

"มึงเสร็จแน่ๆ"

"เออดิ อ่อยกูฉิบหายเนี่ย" ผมสบถออกไปอย่างยอมจำนนทำเอาคนทั้งกลุ่มหัวเราะขึ้นอย่างชอบใจจนผมเริ่มทำหน้าไปไม่เป็น …แดกเหล้าย้อมใจแมร่ง

"นี่ขนาดผมยังไม่ทันทำอะไรพี่ยังเป็นขนาดนี้" อยู่ดีๆ ไอ้เด็กนี่ก็พูดขึ้นมาก่อนจะแย่งแก้วเหล้าที่ผมกำลังจะเติมไปจัดการเองเสร็จสรรพ

"..."

"แล้วถ้าผมจีบนี่ พี่ไม่แย่หรอครับ"

"ฮิ้ววว..วว"

"เอาเหล้ามาแดกเลยสัด!" ผมตะโกนขึ้นมาก่อนจะคว้าเหล้าในมือของไอ้คนที่นั่งขำมากินทั้งๆ ที่มันยังไม่ได้ผสม

"เดี๋ยวพี่ ผมยังไม่ได้ใส่โซดาเลย"

"โซดาห่าไรไม่ต้องแล้ว แมร่งเอ้ย!" ผมว่าก่อนทุกคนจะหัวเราะขึ้นมาเป็นบ้าเป็นหลัง 

...เดี๋ยวกูได้พิจารณามึงเป็นพิเศษแน่ๆ ไอ้หน้าตี๋เอ้ย!





"พี่ปูนไหวมั้ยครับเนี่ย?" ไอ้ปืนถามขึ้นพลางมองไอ้ทีที่หิ้วไอ้ปูนที่หลับคอพับคออ่อนไปแล้วขึ้นมาก่อนไอ้ทีจะหันมาโบกมือให้ว่าไม่เป็นไร

"ไอ้นี่แมร่ง คออ่อนแล้วยังซ่าส์" ผมว่าก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเมื่อไอ้ทีเริ่มเอนตัวไปๆ มาๆ ตามทิศทางที่ไอ้ปูนพยายามจะพุ่งไป

"พี่ว่าตัวเองหรอครับ" ไอ้เด็กข้างๆ ผมพูดขึ้นก่อนจะยื่นนิ้วชี้มาจิ้มๆ ที่หน้าผม

"มากไปแล้วมึง" ผมหันไปทำหน้าดุใส่มันที่เริ่มหน้าแดงๆ จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่พวกเพื่อนๆ ผมยื่นให้มันกิน

"ขอโทษครับ" มันว่าก่อนจะดึงนิ้วกลับพลางมองหน้าผมเหมือนหมาหงอย

"ห่วงตัวเองก่อนเถอะไป" ผมบอกมันอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้าให้ไอ้โฟมที่เพิ่งเติมเหล้าในแก้วของไอ้เด็กนี่แล้วยื่นมาให้มันก่อนจะพูดแบบไม่มีเสียง 'มันไม่ไหวละ'

"ไปนอนเลยป่ะ เดี๋ยวกูพาไป" ผมถามมันอีกครั้งหลังจากหันไปมองเวลาที่เกือบๆ ตีหนึ่งกับสภาพคนข้างๆ ที่เริ่มนั่งนิ่งแล้วหงอยๆ ลงไป

"ยังไม่อยากไปครับ"

"เมาแล้วดราม่าหรอวะ" ผมถามมันขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะมองไอ้เด็กข้างๆ ที่เงียบมากผิดปกติ อย่างไอ้ทีเนี่ยคอแข็งสุดนานๆ จะเมาสักครั้ง เมาทีก็หลับไปเลย ไอ้โฟมไม่ค่อยกินจนเมาเท่าไหร่ ส่วนไอ้ปูนนี่อย่าให้พูดถึงเลยครับ ...เมาปลิ้นทุกรอบ

"นิดหน่อยครับ" มันว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม

"อยากเล่าป่ะ" ผมถามมันก่อนจะยิ้มให้อย่างขำๆ นึกถึงเพื่อนบางคนที่เมาแล้วเอาแต่ร้องไห้นั่งจนต้องนั่งปลอบกันเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะหยุด

"แล้วพี่อยากฟังป่ะ"

"สัด!" ...มึงจะย้อนกูเพื่อ?

"พี่ด่าผมอ่ะ" มันว่าก่อนจะทำหน้างอนๆ ใส่ผมจนผมต้องง้อแทบไม่ทัน

"โอ๋ๆ กูขอโทษ กูอยากฟังครับ กูอยากฟัง" ผมว่าก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวคนข้างหน้าเบาๆ อยู่ตั้งนานกว่ามันจะกลับมาทำหน้าจ๋อยเหมือนเดิม

"ผมเคยมีคนที่ชอบคนหนึ่ง..." ...มาแล้วครับประโยคเด็ดก่อนเปิดดราม่า ร้อยทั้งร้อยแมร่งเหมือนกันทุกคน

"อ่าฮะ" ...แต่ก็นั่นแหละครับ ฟังมันหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวแมร่งงอนผมอีก

"เราเป็นเพื่อนสนิทกัน เจอกันมาตั้งแต่ประถม มัธยม แต่พอมหา’ลัยเขาก็สอบติดอีกที่หนึ่ง ผมเลยบอกชอบเขาเพราะกลัวโดนหมาคาบไปแดก" ...ไอ้นี่เมาแล้วเริ่มหยาบคาย

"เขาก็ตกลง คบกันได้สามเดือนสุดท้ายเขาก็ขอเลิก เขามาบอกผมว่าเขาไม่ชอบที่โทรไปปลุกเขาตอนเช้า ไม่ชอบที่ผมชอบถามเรื่องอะไรต่ออะไรมากเกินไป ไม่ชอบที่ผมไปรับไปส่ง ไม่ชอบที่ผมชอบซื้อของไปให้"

"แล้ว?"

"แต่ทุกอย่างนั้นอ่ะ ผมกำลังทำกับพี่ พี่ว่า... พี่จะชอบสิ่งที่ผมทำมั้ยครับ?" ...เดี๋ยวนะ! ทำไมกูว่ากูงงวะ

"มึงถามกู ว่ากูชอบสิ่งที่มึงทำให้กูมั้ย?" ผมย้อนถามไอ้คนเมาที่ยิงคำถามมาให้ผมโดยไม่ทันตั้งตัว ...แล้วแฟนมึงที่เป็นเพื่อนสนิทมึงตอนประถม มัธยม มหา'ลัย มันเกี่ยวอะไรกับกูวะครับ

"ก็ดี" ผมตอบมันไปส่งๆ เพราะไอ้คนเมาตรงหน้ายังไม่เลิกจ้องหน้าผมสักที

"อะไรดีครับ"

"ก็ที่มึงถามกูไง ไอ้นี่นิ" ผมบอกมันก่อนจะหันไปคว้าแก้วเหล้าจากวงเหล้าที่ตอนนี้ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไปหมดแล้วมากิน

"ที่ผมชอบปลุกพี่ตอนเช้าอ่านะ"

"อือ"

"ที่ผมชอบถามนู่นถามนี่พี่อ่านะ"

"อือ"

"ที่ผมชอบชอบไปรับไปส่งพี่บ่อยๆ"

"ถ้าจะพูดให้ถูกคือมึงขโมยรถกูไปส่ง"

"นั่นแหละครับ แล้วก็ที่ผมชอบซื้อของไปให้"

"เออ ย้ำจังเลยวะ" ...กูปลอบมึงจนกูเริ่มจะรำคาญมึงแทนแล้วนะ

"แล้วที่ผมจะจีบพี่อ่ะ"

"ห๊ะ!?"

“ก็แล้วถ้าผมจะจีบพี่เพิ่มอีกอย่าง พี่จะ ‘ก็ดี’ ด้วยมั้ยครับ”

“สัด!”

"พี่ด่าผมอีกแล้วอ่ะ"

"โอ๋ๆ กูขอโทษ โอเคนะ" ...ทำไมผมต้องมานั่งง้อคนที่ปากบอกว่าจะจีบผมด้วยวะ

"งั้นผมจีบพี่นะ" มันว่าพลางมองหน้าผมโดยที่ผมก็เองก็เดาไม่ถูกเหมือนกันว่ามันมาอารมณ์ไหนวะ

“ตลกละ" ...เมื่อกี้มึงเพิ่งดราม่าอยู่เลยได้ข่าว

“ไหนพี่บอกโอเค”

“กูไม่โอเค” …GAT เชื่อมโยงมึงแน่มาก

"ให้ผม-จีบ-พี่-นะครับ"

"จริงจังป่ะเนี่ย" ผมถามมันก่อนจะเหล่ตามองอย่างจับผิด คือแมร่งหยอดผมบ่อยมากจนแยกไม่ออกแล้วครับว่าอันไหนจริง อันไหนเล่น

"จริงดิครับ" มันย้ำ

"กู-ไม่-ให้" ผมบอกมันก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้งอย่างเริ่มรู้สึกคอแห้ง

“ประโยคบอกเล่าครับ ไม่ใช่ประโยคคำถาม”

“แค่กๆ” มันพูดขึ้นมาจนทำเอาเหล้าในปากผมแทบพุ่ง ...ไหนใครบอกมันใสครับ ไอ้นี่แมร่งโคตรร้ายอ่ะ มันหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหลังผมเบาๆ

“เชี่ยไรมึง กูบอกว่ากูไม่ให้ไง” ผมเริ่มโวยวายใส่มันแต่คนตรงหน้าก็ยังคงยิ้มแล้วพูดตบท้ายว่า


“แค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ ครับว่าผมจะจีบพี่ …ผมไม่ได้ขอ”





มีแอคทวิตเตอร์แล้วค่ะไปคุยกันได้นะ @zenzaii1 หรืออันนี้ #ก็พี่มันเยอะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะค้าา ^_________^


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด