พิมพ์หน้านี้ - [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: zenzaii ที่ 27-10-2016 21:56:51

หัวข้อ: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 27-10-2016 21:56:51
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ



.....


คุณเคยเจอคนเยอะๆ มั้ยครับ?
เยอะแบบที่ว่า..


'กูชอบหมากู แต่ไม่ได้หมายความว่ากูชอบหมาทุกตัวป่ะ'
'คือกูชอบสีดำน่ะใช่ แต่มึงดูดีไซน์ดิ อันนี้กับสีดำ มันไปด้วยกันไม่ได้ป่ะวะ'
'กูอยากกินชีส แต่แบบ.. ชีสแผ่นๆ นี่กับพิซซ่าหน้านี้ กูกินไม่ได้ไง'


...

สารภาพตามตรงครับ ตั้งแต่ผมเกิดมา
ยังไม่เคยเจอใครที่ขัดแย้งกันในตัวเองเท่าพี่เขาเลย

ให้ตาย!


[yaoi]...ก็พี่มันเยอะ





00 - พี่คนนั้น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3500387#msg3500387)
01 - …ก็พี่มันเท่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3500650#msg3500650)
02-…ก็พี่ชอบสีดำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3501144#msg3501144)
03-…ก็พี่ไม่ชอบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3502433#msg3502433)
04-…ก็พี่ขี้เมา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3503576#msg3503576)
05-…ก็พี่ขี้บ่น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3505129#msg3505129)
06-…ก็พี่ไม่สนิท (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3506102#msg3506102)
07-…ก็พี่ไม่คิด เดี๋ยวผมคิดเอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3506898#msg3506898)
08-…ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3507565#msg3507565)
09-…ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3508946#msg3508946)
10-…ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3510581#msg3510581)
11-…ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3511321#msg3511321)
12-…ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3512123#msg3512123)
13-…ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3513748#msg3513748)
14-…ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3516174#msg3516174)
15-…ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3516820#msg3516820)
16-…ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ (1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3518897#msg3518897)
17-…ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ (2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3520296#msg3520296)
18-…ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3521598#msg3521598)
19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3522456#msg3522456)
20-…ก็พี่อยากได้คำตอบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3524781#msg3524781)
21-…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3526064#msg3526064)
22-…ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3526858#msg3526858)
23-…ก็พี่คงไม่สนใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3527865#msg3527865)
24-…ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3529665#msg3529665)
25-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ (1) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3531103#msg3531103)
26-…ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(2) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3532601#msg3532601)
27-...ก็พี่มีแฟน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3535072#msg3535072)
28-...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3537611#msg3537611)
29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3542779#msg3542779)
30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3544804#msg3544804)
31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3553437#msg3553437)
32-...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3557146#msg3557146)
33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3567389#msg3567389)
34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ? (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3570291#msg3570291)
35-...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56268.msg3577781#msg3577781)


THE END ♥







หัวข้อ: Re: [Yaoi]...ก็พี่มันเยอะ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 27-10-2016 22:00:37
00 - พี่คนนั้น


ฉึก ฉึก ฉึก…

“มึง เสียงอะไรวะ”

ในตอนกลางคืนที่เงียบสงัดแบบนี้ เวลาก็เลยเข้าสู่วันใหม่มามากกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วแบบนี้ กับเสียงแปลกๆ ที่ยังดังมาต่อเนื่องแบบนี้ทำเอาผมใจคอไม่ดีเลยครับ อยากรู้จริงๆ ว่าอะไรดลใจให้พวกรุ่นพี่ปีสองต้องชวนกึ่งบังคับเฟรชชี่หน้าใสอย่างพวกผมเข้ามามหา’ลัยในยามวิกาลแบบนี้

“เสียงอะไรของมึง อย่ามาเล่นตอนนี้ได้ป่าววะ ดูเวลาด้วยครับเพื่อน”

‘ปกป้อง’ เพื่อนผมบ่นขึ้นมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะหันไปมองรอบๆ เพื่อสำรวจหาเสียงแปลกๆ ตามคำพูดผม พาลเอาไอ้พวกเหลือที่เดินตามๆ กันมาเริ่มอยู่ไม่ติดกันเป็นแถว

ฉึก ฉึก ฉึก…

“กูได้ยินอีกแล้วว่ะ” ผมเริ่มใจคอไม่ดีแบบจริงจังแล้วนะผมว่า

“เสียงลม ต้นไม้ ใบหญ้าป่าวมึง”

ป้าบ! ‘ไอ้ธันย์’ เพื่อนที่เดินอยู่ด้วยกันกับผมหัวเกือบทิ่มลงพื้นจากมือปริศนาที่โผล่เข้ามาร่วมวง

“ต้นไม้ใบหญ้าบ้านมึงมันต้องทำปฏิกิริยากันท่าไหนวะถึงได้ดังฉึกๆ”

‘พีท’ เพื่อนอีกคนที่คงได้ยินเสียงเหมือนกันพูดขึ้นก่อนจะเริ่มหาต้นเสียงอย่างจริงๆ จังๆ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร แขกยามวิกาลชั้นปีที่หนึ่งทั้งสิบชีวิตก็หยุดลงข้างตึกหนึ่งที่มีป้ายตัวใหญ่มองเห็นได้ตั้งแต่ไกลเขียนว่า ‘คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์’

“น้องครับ ถ้าเราจะดอยคัท คณะนี้เหมาะสุดครับน้อง เพราะในมหา’ลัยเรามีคณะที่เกี่ยวกับศิลปะแค่คณะเดียว เพราะฉะนั้น เชิญครับน้องและขอให้…โชคดี” พี่ผู้ชายปีสองคนหนึ่งพูดขึ้นก่อนจะผายมือไปยังคณะสถาปัตย์ที่ตอนนี้เงียบมาก หนำซ้ำยังแทบไม่มีแสงสว่างนอกจากไฟใต้ตึกที่ทำหน้าที่ส่องแสงสลัวๆ ออกมาเพียงแค่สองสามดวงเท่านั้น

ประเพณีดอยคัท พูดง่ายๆ ก็คือการแอบไปจิ๊กคัทเอาท์จากคณะอื่นมาเป็นของเรา ภาษาง่ายๆ ก็คือขโมยนั่นแหละครับ แต่ถ้าพูดให้สวยๆ หน่อยก็คือการหมุนเวียนกันใช้ในมหา’ลัย คัทเอาท์ที่ว่าก็คือป้ายที่ใช้ในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีมันตลอดทั้งปี พอคณะนี้มีกิจกรรมก็ไปดอยมา พอคณะอื่นมีกิจกรรมบ้างก็มาดอยกลับไป ถึงจะเป็นการแอบจิ๊กไป แต่อย่างน้อยเราก็มีจรรยาบรรณพอที่จะดูก่อนว่าคัทเอาท์ที่วางอยู่เขากำลังใช้อยู่มั้ย ส่วนใหญ่ก็จะรอให้ผ่านช่วงกิจกรรมที่อยู่บนคัทเอาท์ไปแล้วซักระยะหนึ่งถึงจะเอามา ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการดอยคัทก็หลังเที่ยงคืนนี่แหละครับ

พวกผมเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อเห็นพี่ปีสองเดินหลบไปนั่งที่ฟุตบาทข้างๆ รถซาเล้งเก่ากึกที่ยืมจากคณะมา เป็นอันว่างานนี้ปีหนึ่งต้องลุยกันเองสินะ

ฉึก ฉึก ฉึก…

“เชี่ยย เสียงงง..” เพื่อนตัวข้างๆ ผมพูดขึ้นมาเล่นเอาพวกปีหนึ่งที่ทำใจกล้าเริ่มใจฟ่อกันเป็นแถว ไอ้ไปดอยคัทนี่ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่ไอ้เสียงฉึก ฉึกที่เริ่มเป็นประเด็นนี่สิ ทำไมยิ่งเดินเข้าใกล้ๆ ตึกแล้วมันยิ่งดังวะ เพราะเท่าที่ดูตอนนี้ในตึกไม่น่าจะมีคนอื่นนอกจากพี่ยามที่กำลังหลับอยู่และวันนี้ก็เป็นคืนวันเสาร์แรกของเปิดเทอมที่พวกเด็กคณะนี้ไม่น่ามีเรียน(ตามที่พี่บอกมา)



“เงียบไปแล้วว่ะ” พวกผมมองหน้ากันแล้วรีบๆ เดินกันเข้าไปในตึกนั่น ถ้าจะทำอะไรก็ต้องทำมันตอนนี้แหละวะ




“กูว่าเราเอาคัทอันนี้ไปได้เว้ย กับอีกสองอันที่น่าจะอยู่แถวๆ ประตูด้านหลังตามที่พี่ปีสองบอกมา” ตอนนี้เด็กปีหนึ่งเริ่มแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อยๆ โดยกลุ่มหนึ่งจะเอาคัทที่เจอหน้าคณะกลับไปที่ซาเล้งก่อนส่วนพวกที่เหลือต้องไปหาคัทอีกสองอันตามบัญชาของปีสองให้เจอ

“แล้วพี่เค้าบอกป่ะว่าประตูหลังอยู่ไหน”

“อยู่นี่ค่า” นางฟ้าหนึ่งเดียวในกลุ่มพูดขึ้นก่อนจะแอ่นตูดมารับลูกถีบของเพื่อนผมไปเต็มๆ

“ใช่เวลามาเล่นมั้ยอิแบงค์”

“รุนแรงอ่ะป้อง ไรว้า” อิแบงค์ หรือ แบงแบง ชื่อใหม่ของมัน(ที่มันตั้งเอง) โอดครวญก่อนจะเดินตูดบิดไปหาพวกกลุ่มแรกที่เอาคัทกลับซาเล้งไป

“มึงก็ไปแกล้งมัน งั้นเราลองเดินไปทางนั้นมั้ย กูว่าตึกมันน่าจะสุดแค่นั้นนะ คงอยู่แถวๆ นั้นแหละ” ผมมองตามทางที่ไอ้พีทชี้ไป โอ้โห ทางอย่างมืดครับผม ไม่ต้องคิดว่าจะหาเจอมั้ย ถามว่าผมจะกล้าเดินไปรึป่าวก่อนเหอะ

“รีบๆ ไป รีบๆ กลับกูง่วง” พีทพูดขึ้นก่อนจะลากพวกผมที่เหลือกันอยู่สี่คนเดินไปตามทางอันเปล่าเปลี่ยวเอกานั่น

ฉึก ฉึก ฉึก…

พวกเราทั้งหมดหยุดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ฉึก สวบ…

เสียงที่ใกล้เข้ามาทำให้หันไปมองต้นกำเนิดของมันอย่างอดไม่ได้

สวบ สวบ…

เงาตะคุ่มๆ ของบางอย่างกำลังตรงมาทางนี้ ฉิบหาย.. มันกำลังกวักมือเรียกพวกเรา

“อ้าวเฮ้ย” ไม่ใช่พวกเราแล้วครับ ไอ้เงานั้นคงกวักมือเรียกผมมากกว่าเพราะตอนนี้ข้างๆ ผมไม่มีใครแล้ว หนีกันไปตอนไหนวะเนี่ย ยังไม่ทันที่ผมจะได้ก้าวเท้าวิ่งตามเพื่อนไป ก็มีอะไรบางอย่างมาแตะไหล่ผม ไม่ได้แตะอย่างเดียวด้วย มันยังกระชากผมจนหันกลับไปหามันได้อีก

สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าทำเอาผมแทบร้องไม่ออก ร่างที่น่าจะเป็นผู้ชาย ตัวผอมๆ หัวพันกันยุ่งเหยิง ตาแดงก่ำ ใต้ตาคล้ำเหมือนคนอดนอนมาสิบชาติ ซ้ำตามเนื้อตัวยังเลอะเทอะไปด้วยรอยดำๆ แดงๆ นาทีนี้คิดบวกแบบโลกสวยให้ดีสุดก็คนบ้าแล้วครับ แต่บังเอิญโลกของผมมันขี้เหร่แบบสุดๆ ซะด้วยสิ

“เชี่ย ศพ”

“เฮ้ย รู้ได้ไงวะ”

“เชี่ยยย พูดได้ด้วย”

“อ้าว ไอ้นี่” ร่างตรงหน้าเริ่มทำหน้ายุ่งจนผมใจไม่ดีแต่ที่ยังยืนอยู่ได้คาดว่าคงเป็นพลังเฮือกสุดท้าย เขาว่ากันว่า ‘คนใกล้ตายหลังจากผ่านจุดที่ทุกข์ทรมานที่สุดมาได้ จะกลับมาอยู่อย่างสบาย …ก่อนจะตายอย่างสงบ’

“ไปก่อนนะคร้าบบ” ผมตัดสินใจเอาชีวิตรอดในนาทีสุดท้ายก่อนจะติดเกียร์หมาวิ่งออกไปสุดชีวิต

โครมม..

และผมก็ได้ตายอย่างสงบจริงๆ …

“ขอโทษๆ เป็นไรป่าววะ” ผมมึนไปครู่ใหญ่ก่อนจะมีสติคิดได้ว่ากูลงมานอนทำซากอะไรที่พื้นวะเนี่ย หลังจากนั้นก็มีพลังงานบางฉุดตัวผมให้ลุกขึ้นมาก่อนจะหันไปเห็นร่างที่ผมวิ่งหนีมากำลังช่วยให้ผมลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล

“เชี่ยย ผีผลักอ่ะ”

ผัวะ..

“ผีพ่อง พี่มึงอ่ะ ปีหนึ่งใช่ป่ะ มาช่วยกูเลย” ตอนนี้กลายเป็นผีลากไปแล้ว อาเมน





ภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือกองดินหย่อมหนึ่งที่ถูกขุดขึ้นมาจากหลุมขนาดไม่ใหญ่นัก ข้างๆ หลุมมีห่อผ้าสีขาว กับดอกเข็มอีกสองสามช่อวางอยู่ ถัดไปอีกมีทั้งธูป เทียน ไม้กระดาน ถังสี พู่กัน …มันต้องเล่นของแน่ๆ แต่ถังสีกับพู่กันเอามาทำอะไรวะ?

“มึงยกห่อผ้าขาวนั่นมาให้กูหน่อย เบาๆ นะ” ร่างนั้นที่ตอนนี้ผมลดขั้นจากศพเหลือคนบ้าให้ชี้ไปยังห่อผ้าขาวที่พื้น ตอนแรกก็ว่าจะไม่ทำหรอกแต่ไอ้ตาแดงๆ ที่มองมานั่น.. ทำก็ได้วะ ขู่กูจังเลยเว้ย ฮือออ

“เอ่อ ทำไมมันหนักอ่ะ ..ครับ” พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่ว..คงไม่ได้กลับออกไป

“ลูกกู.. อยู่ในนั้น”

“เชี่ยย” คำตอบทำเอาผมมือไม้สั่นจนห่อผ้าขาวในมือแทบร่วงลงไป ก่อนคนคนนั้นจะเข้ามาคว้าไว้พลางหันมาถลึงตาใส่ผม พร้อมน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอ

“ส่งมานี่ กูจัดการเอง” เขารับเอาผ้าไปด้วยเสียงสั่นเครือก่อนจะค่อยๆ หย่อนห่อผ้าลงไปในหลุมอย่างเบามือ ก่อนจะโกยกองดินมาทับร่างนั้นไว้ จากนั้นจึงหันไปจัดการกับถังสี พู่กันและไม้กระดานก่อนจะกลับมาวุ่นวายที่ที่คาดว่าน่าจะเป็นหลุมศพลูกเขาพร้อมด้วยป้ายหลุมศพ (อ่อ เค้าไม่ได้เล่นของ) ที่วาดรูปหัวใจพร้อมลงวันที่สองวันที่คาดว่าคงเป็นวันเกิดและวันตายซึ่งก็คือวันนี้

“เอ่อ.. เสียใจด้วยนะครับ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดีในเวลาแบบนี้นอกจากแสดงความเสียใจ จะคนดีคนบ้าก็มีความเป็นพ่อเป็นแม่เหมือนกัน ว่าแต่.. ทำไมเขาเอาศพลูกเขามาฝังไว้ในมหา’ลัยวะ?

“อือ” เขาคนนั้นใช้หลังมือขยี้ตานิดหน่อยก่อนจะหันไปวุ่นวายกับกองดินตรงหน้า จากดินที่มีระดับเสมอพื้นตอนนี้มันเริ่มกลายเป็นภูเขาขนาดย่อมๆ ด้วยมือเขาคนนั้น จากนั้นเขาก็เดินหายไปไหนซักที่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมถังเลอะสีที่ใส่น้ำไว้จนเกือบเต็ม เขาวางถังไว้ข้างๆ ตัวก่อนจะขว้าเสียมเล็กที่หลบอยู่หลังต้นไม้ทำให้ผมไม่เห็นมันในตอนแรก

ฉึก ฉึก ฉึก…

ไอ้เสียงนั่นนี่หว่า.. คราวนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่หลุมใหญ่เหมือนในตอนแรกแต่เป็นร่องยาวๆ สักเมตรหนึ่งอยู่ตรงหน้ากองดิน เขาวางเสียมลงก่อนจะคว้าถังน้ำแล้วเทลงไปตามร่องยาวๆ นั่น …จากนั้นน้ำก็ซึมลงดินไปหมด ‘เชี่ยย หรือแมร่งจะเล่นของจริงๆ วะเนี่ย’ ผมเผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ตาแดงๆ นั่นหันมามองผมอีกครั้งอย่างไม่ใส่ใจนักก่อนรวบอุปกรณ์ทั้งหมดแล้วเดินกลับไปในตึก

“จะอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย เดี๋ยวปล่อยให้อยู่คนเดียวซะหรอก” เขาตะโกนมาจนผมเริ่มสับสนจริงๆ แล้วว่า



‘ตกลงวันนี้กูทำมาทำอะไรนะ’








หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 00 - พี่คนนั้น
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 27-10-2016 22:34:32
งงเลย 555555555555555555555555555รอๆ


หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 00 - พี่คนนั้น
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 28-10-2016 08:38:16
01 - …ก็พี่มันเท่

"ปีหนึ่งครับผม ถ้าเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ลงไปเจอพวกพี่ลานต้นไทรนะครับ" เสียงพี่คีย์(ก็พี่คนที่เป็นหัวโจกแก๊งค์ดอยคัทพวกผมเมื่อคืนวันก่อนนั่นแหละครับ)ตะโกนแข่งกับเสียงโหวกเหวกโวยวายของเจ้าพวกปีหนึ่งที่กำลังลนลานเก็บชีทและอุปกรณ์การเรียนเพื่อไปให้ทันเข้าห้องเชียร์ของพวกพี่ว๊ากปีสาม

ตอนนี้มหา'ลัยเพิ่งเปิดเทอมเป็นสัปดาห์ที่สอง ปีหนึ่งอย่างพวกผมเลยยังหนีไม่พ้นช่วงรับน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหา'ลัยที่ถูกหล่อหลอมมาด้วยระบบยอดฮิตอย่างระบบโซตัสแบบนี้ ก็ยิ่งเลี่ยงไม่ได้เลยครับที่จะถูกหล่อหลอมไปด้วยกันอีกปี

"ขาดเยอะนะเนี่ย ซวยแน่พวกมึง" พี่คีย์พูดขึ้นมาขำๆ หลังจากนับจำนวนปีหนึ่งทั้งหมด แต่คนที่จะขำไม่ออกก็พวกผมนี่แหละครับ

"โอเคค่ะน้องๆ พี่มีข่าวมาแจ้งจากพวกพี่ปีสามว่า วันนี้ไม่มีห้องเชียร์ แต่!" พี่ปีสองอีกคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนแต่บอกได้คำเดียวครับว่านับจากวันนี้ผมจะไม่มีทางลืมหน้าพี่เขาแน่ๆ เอ่ยขึ้น

"น่ารักโคตร" ไอ้ป้องพูดขึ้นมาอย่างเพ้อๆ

"แต่ปีหนึ่งทั้งหมดจะต้องช่วยกันทำคัทเฟรชชี่ให้เสร็จภายในวันศุกร์นี้นะคะ"

"โห.." ห้าวันเท่านั้นครับกับคัทว่างเปล่าทั้งสามแผ่นที่วางอยู่ตรงหน้าอันประกอบด้วยคัทเลอะๆ จากคณะสถาปัตย์หนึ่งแผ่น และคัทอันสวยงามอีกสองแผ่นที่สุดท้ายก็จบลงด้วยการเรี่ยไรเงินไปซื้อมาเพราะดอยมาได้ไม่ครบ

"งั้นก็เริ่มได้ค่ะ แบ่งเวลากันดีๆ นะคะ ได้ข่าวว่ามีควิซกันด้วยนี่นา" พี่ปีสองสุดสวยหรือที่ไอ้ป้องไปสืบมาแล้วว่าชื่อ 'พี่เนม' จากไปพร้อมกับทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ให้ปีหนึ่งอย่างพวกผมได้ใจเต้นกันเล่นๆ





"เราควรเริ่มจากตรงไหนก่อนดี" ไอ้พีทที่ ณ บัดนี้ได้รับการเลื่อนยศเป็นหัวหน้าชั้นปีเป็นที่เรียบร้อยแล้วพูดขึ้นหลังจากที่กว่าร้อยชีวิตนั่งล้อมวงมองคัทที่อยู่ตรงกลางวงโดยไม่มีใครทำอะไร

...ศิลปะกับเด็กเกษตรอย่างพวกผมนี่ช่างไม่ถูกกันซะจริง

"นั่งมองมันเข้าไป คัทมันจะงอกเงยขึ้นมามั้ยเนี่ย" พี่คีย์ที่วันนี้มีหน้าที่นั่งเฝ้าพวกผมเหลือบมามองเล็กน้อยก่อนจะก้มมองจอในมือต่อไป

..พี่ช่างทำหน้าที่ได้ดีเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

"เอาเลยมั้ย"เด็กปีหนึ่งที่ผมไม่รู้จักชื่อเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกไปที่คัทและกองถังสีกลางวงก่อนจะมองอุปกรณ์ตรงหน้าแล้วสุ่มหยิบถังสีขึ้นมาหนึ่งอัน สุ่มจริงๆ ครับ ผมได้ยินมันท่อง 'จ้ำจี้มะเขือเปราะ..'

หลังจากนั้นปีหนึ่งทั้งหมดก็เริ่มละเลงสีลงไปตามการสุ่มหยิบจากทริคของแต่ละคน

...สีสันช่างแสบทรวงดีเหลือเกิน





"ห่วย"

"ไม่เอาครับ"

"เด็กอนุบาลก็ทำได้"

สารพัดคำสุภาพเท่าที่จะสามารถด่าปีหนึ่งอย่างพวกผมได้ดังขึ้นจากพวกพี่ว๊ากปีสามทันทีที่พวกพี่แกเหยีบย่างเข้ามายังบริเวณลานต้นไทรซึ่งเป็นห้องเชียร์กลางแจ้งเฉพาะกิจเพื่อเอาไว้ตรวจคัทโดยเฉพาะเลยครับ

...แล้วหลังจากนั้นทุกอย่างก็รีรัน

...เพียงแต่วันนี้

...เป็นวันพฤหัสบดี ไม่ใช่วันจันทร์แต่อย่างใด





"เวรแล้ว ทำไงดีวะ" ไอ้ป้องพูดขึ้นมาอย่างจนใจพลางมองคัทสีสันแสบทรวงที่บัดนี้มีรอยสเปร์พ่นทับเป็นเครื่องหมายกากบาทสีแดงอันใหญ่อยู่ตรงกลางแบบพอดิบพอดี

...พวกพี่ว๊ากต้องเป็นเป็นพวกแก๊งค์พ่นสีใต้สะพานเก่าอย่างแน่นอน

"เป็นไงพวกมึง" พี่คีย์เดินเข้ามาตบไหล่ ดูเหมือนจะเห็นใจถ้าพี่แกไม่พยายามกลั้นยิ้มน่ะนะ

"ทำไงดีวะพี่ พรุ่งนี้มีควิซด้วยนี่สิ" ไอ้พีทพูดขึ้นพลางมองหน้าปีหนึ่งทั้งหมดที่นั่งหมดแรงตัวเหี่ยวกันเป็นแถว ตัวไอ้พีทเองอ่ะไม่น่าห่วงเพราะมันฉลาด แต่พวกที่เหลือถ้าไม่อ่านหนังสือนี่เรียบร้อยโรงเรียนควิซกันแน่ๆ

...รวมถึงผมด้วยครับ ขออนุญาตเศร้าสองนาที

"เออ เลิกงอแงได้ละ เดี๋ยวกูช่วย อย่าไปบอกพี่เค้าละกัน"

"พี่เนี่ยนะ" ปีหนึ่งมองหน้าพี่คีย์อย่างไม่อยากเชื่อ

...ถ้ากูเป็นพี่คีย์นี่กูปล่อยพวกแมร่งไปละ บอกเลย

"ถ้าขืนพวกมึงยังทำหน้าอย่างนั้นต่อไป เดี๋ยวกูปล่อยให้พวกมึงตายคาคัทอย่างใจมึงต้องการเลยดีมั้ย" แหม่ เข้าไปประจบกันแทบไม่ทันเลยทีเดียวครับ

"เดี๋ยวกูโทรหามันแป๊บ" พี่คีย์พูดพลางยกโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ โทรหาใครบางคน

"นั่นไง" พี่หนึ่งพร้อมใจกันแซวทันทีที่รู้ว่าคนพูดปากดีไปอย่างนั้น ไม่มีทางช่วยได้เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิด

"จะเอาไม่เอา" พี่คีย์เลื่อนมือไปยังปุ่มวางสายหลังได้ยินเสียงแซวของพวกปีหนึ่ง

"เอาครับพี่"

"เออ ให้มันรู้ซะบ้างใครเป็นใคร.. ฮัลโหล ไอ้กันย์ กูมีเรื่องให้ช่วย"





"ศพ"

"ผี"

"เด็ก'ถาปัตย์"

"พ่อของลูก"

"หืมม.." ไอ้พวกสามตัวนั่นหันมามองเป็นตาเดียวจนอธิบายแทบไม่ทัน

"ก็พ่อก็ไอ้ลูกในห่อสีขาวที่กูช่วยเขาฝังไง"

"อ๋ออ"

พี่คีย์กลับเข้ามายังลานใต้ต้นไทรใหญ่ประจำคณะที่พวกผมนั่งระบายสีคัทกันอยู่อีกครั้งพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นแว้บแรกก็จำได้ทันทีว่าเป็น 'พี่คนนั้น' แต่วันนี้ดูเหมือนจะสภาพดีขึ้นกว่าที่เจอกันครั้งแรก เพราะอย่างน้อยเสื้อสีขาวของเขาก็ไม่มีรอยเลอะๆ อย่างวันนั้น ถึงเจ้าตัวจะยังคงสภาพผมยุ่งเหยิงและรอยคล้ำเหมือนไม่ได้นอนมาสิบชาติอันเป็นเอกลักษณ์ก็ตาม

"นี่เพื่อนกู ชื่อกันย์ อยู่'ถาปัตย์ ปีสี่"

"ห๊ะอยู่ปีสี่แล้วทำไมเป็นเพื่อนพี่อ่ะ" เด็กปีหนึ่งคนหนึ่งตะโกนถามขึ้น

"ก็กูซิ่วมาไงไอ้คนฉลาดครับ" จบข่าว..

"อ๊ะ มึงช่วยพวกมันคัทหนึ่งแล้วกัน อีกสองอันปล่อยพวกแมร่งทำไป" พี่คีย์พูดขึ้นพลางชี้ๆ ไปที่คัทตรงหน้า แต่ดูท่าท่างเพื่อนพี่ไม่ได้ฟังพี่เลยนะครับ เพราะพี่เขาเอาแต่จ้องหน้าผมก่อนจะเหลือบไปมองไอ้สามตัวข้างๆ ผมแบบเร็วๆ

"กู get ละ" พี่กันย์พูดออกมาคำหนึ่งก่อนจะเดินไปถามพี่คีย์ใหม่อีกรอบถึงเรื่องคัทเมื่อครู่นี้

"get อะไรของพี่เค้าวะ" ไอ้ธันย์หันมาถามอย่างงงๆ

"ไม่รู้เขาว่ะ"

เด็กปีหนึ่งเกษตร + ทำคัท + คณะถาปัตย์ดึกๆ ดื่นๆ + คัท'ถาปัตย์หาย = ?

"พวกมึงแมร่งโจร ดอยคัทคณะกู" พี่กันย์หันไปมองพี่คีย์ตาขวางๆ ก่อนจะหยิบแก้วพลาสติกที่ใช้ผสมสีขึ้นมาเทสีแดงลงไปค่อนแก้วแล้วผสมน้ำนิดหน่อย จากนั้นก็... สาด! ลงไปบนคัทแผ่นที่ดอยมาจากคณะถาปัตย์แบบไม่ผิดแผ่นเลยทีเดียว

"เชี่ยย มึงทำไรวะ" หลายคนเริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่กหลังจากเห็นสีแดงอาบไปทั่วคัท

"แก้แค้น" พี่กันย์พูดก่อนจะหันมายักคิ้วให้พวกผมแบบกวนๆ ก่อนจะสั่งให้ปีหนึ่งแถวๆ นั้นช่วยกันยกคัทไปล้าง

“พี่เขาจะสาดหน้ากูเปล่าวะ” ไอ้ป้องถามขึ้นก่อนจะหยุดเดินเอาดื้อๆ

“ดวงล้วนๆ เลยมึง” ไอ้ธันย์ตอบอย่างสยองๆ แล้วลากไอ้ป้องเข้าไปช่วยงานคัทอย่างเลี่ยงไม่ได้

..เชี่ยย น่ากลัวฉิบหาย





"โห... น้องมึงนี่ทำงานกันโคตรช้า มีสอบไม่ใช่รึไง เมื่อไหร่จะได้นอนกันเนี่ย" กันย์เดินบ่นกระปอดกระแปดเมื่อหันไปมองนาฬิกาบอกเวลาสี่ทุ่มพอดิบพอดี แต่อีกสองคัทที่เว้นไว้ให้เป็นหน้าที่ของปีหนึ่งเพิ่งทาสีพื้นเสร็จไปรอบเดียวในขณะที่คัทของเจ้าตัวเริ่มเป็นรูปเป็นร่างจวนจะเสร็จอยู่แล้ว

"มึงเอาคอมฯ มาทำไมวะ" คีย์มองเพื่อนต่างคณะหยิบคอมฯ ออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มจัดการกับสิ่งที่น่าจะเป็นงานที่เขาไม่เข้าใจแล้วปล่อยให้มันทำงานก่อจะเดินกลับไปที่คัทพร้อมด้วยไอโฟนรุ่นใหม่พร้อมหูฟัง

"เรนเดอร์งาน ก็ว่าจะกลับไปทำที่หอ แต่เห็นสภาพน้องมึงละ กูว่าเช้าแน่ๆ" กันย์มองสภาพเด็กปีหนึ่งที่ตอนนี้เริ่มตาจะปิดกันเป็นแถวก่อนจะส่ายหัวอย่างขำๆ แล้วแยกไปยังโซนของตัวเอง เอาหูฟังอุดหูแล้วโลกนี้ก็เหลือแค่ตัวเขาเองอีกครั้ง





"พี่เขาโคตรอึดเลยว่ะ เด็ก'ถาปัตย์แมร่งต้องเป็นงี้กันทุกคนเลยเปล่าวะ" ไอ้ป้องมองพี่กันย์ที่ตอนนี้เหมือนพระเอกเอ็มวีติสท์ๆ กำลังนั่งวาดภาพท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ โผล่เหนือเส้นขอบฟ้า

"โคตรอ่ะ เหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ตั้งแต่ตอนมาละ แต่แมร่งนั่งทำคัทไม่ขยับเลยว่ะ" ไอ้ธันย์เสริมขึ้นมาอีกคนพลางหันไปมองซากเพื่อนๆ ปีหนึ่งที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง บางส่วนก็หลับอยู่ตามเก้าอี้ยาว อีกส่วนก็หลบมุมอ่านหนังสือตาลีตาเหลือก

หลังจากนั้นไม่นานร่างที่นั่งอยู่นานเริ่มยืดเส้นยืดสายแล้วรวบอุปกรณ์ทั้งหมดเดินตรงมาที่พี่คีย์ที่กำลังนอนหลับอยู่บนเก้าอี้ยาวแถมยังใช้กระเป๋าพี่กันย์ต่างหมอนอีกต่างหาก

...โคตรรักเพื่อนเลยพี่กูเนี่ย

"มึง กูจะไปแล้วนะ" พี่กันย์เขย่าคนที่หลับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาแล้วรวบคอมที่เหมือนจะทำงานตามที่พี่เขาตั้งค่าไว้เสร็จแล้วเข้ากระเป๋า

"แล้วนี่มึงจะไปไหนต่อ มีเรียนเปล่าเนี่ย" พี่คีย์ถามอย่างมึนๆ เพราะตอนนี้เกือบเจ็ดโมงแล้วแต่เพื่อนก็ยังอยู่

"เออ กุมีควิซ Eng ตอนแปดโมงว่ะ"

"แปดโมง!" พี่คีย์เอ่ยอย่างตกใจก่อนจะหันไปขอโทษเพื่อนอย่างลนๆ เพราะไม่รู้ว่าพี่กันย์มีสอบวันนี้เหมือนกันแถมยังเช้ามากอีกด้วย

"แล้วมึงจะไหวเปล่าวะเนี่ย ได้นอนบ้างยัง จะกลับหอก่อนเปล่าวะ หนังสือก็ไม่ได้อ่าน ขอโทษว่ะกูไม่รู้ มึงก็ไม่ยอมบอกกู เพราะพวกมึงแท้ๆ เพื่อนกูซวยเลยเนี่ย" ...พวกผมผิดอีกครับงานนี้

"ช่างแมร่ง อีกห้าชั่วโมงกูก็ไม่ได้นอนครบ 48 ชั่วโมงพอดี พอตายก็ได้นอนสบายๆ ละ ฮ่าๆ เดี๋ยวแวะไปอาบน้ำที่คณะก่อน มีชุดอยู่ที่สตูฯ ส่วนหนังสือกูอ่านแล้วไม่ต้องห่วง"

"เชี่ย มึงมันไม่ใช่คนแน่ๆ แล้วหนังสือมึงไปทันอ่านตอนไหนวะ" พี่คีย์เอ่ยขึ้นอย่างงงๆ

"เนี่ย" พี่กันย์ดึงสายหูฟังออกทำให้เสียงที่พี่เขาฟังอยู่ทั้งคืนนั้นดังออกมาทางลำโพง เป็นเสียงผู้หญิงสำเนียงภาษาอังกฤษชัดเป๊ะ

...เชี่ยย ทุกการกระทำมีความหมาย

"พี่โคตรเท่อ่ะ" ไอ้พีทเอ่ยขึ้นอย่างชื่นชมขั้นสุด

"ถ้ากูไม่ตายไปก่อนมึงคงได้เห็นกูทำมากกว่านี้อีก ไปแล้วเว้ย" พี่กันย์รวบกระเป๋าขึ้นบ่าแล้วเดินไปลาเด็กๆ ที่ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่

"ขอบคุณมากครับพี่" พี่กันย์โบกมือให้อย่างเป็นกันเองแล้วเดินจากไปพร้อมสายตาขอบพระคุณอย่างสุดซึ่งจากเด็กเกษตรปีหนึ่งอย่างพวกผมที่กองกันอยู่ตรงลานต้นไทร


'ต้องทำยังไงถึงจะเท่ได้สักครึ่งของพี่กันย์วะเนี่ย'




หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 01 - ...ก็พี่มันเท่
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-10-2016 09:51:56
พี่กันย์ ทั้งเยอะ ทั้งเท่ จริงๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 01 - ...ก็พี่มันเท่
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 28-10-2016 15:51:26
พี่กันย์ แม่งโคตร เท่ เลย



นี่ขนาดสภาพแบบศพๆนะ



ถ้าพักผ่อนเต็มที่พี่จะเท่ขนาดใหน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 01 - ...ก็พี่มันเท่
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 28-10-2016 18:39:18
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 01 - ...ก็พี่มันเท่
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 28-10-2016 19:50:28
น่าติดตามๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 01 - ...ก็พี่มันเท่
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 28-10-2016 22:27:51
02-…ก็พี่ชอบสีดำ

"ว่าไงไอ้กันย์ ห๊ะ! เออได้ๆ แป๊บนะเว้ย เดี๋ยวกูดูให้" เสียงพี่คีย์ดังขึ้นเรียกความสนใจของพวกปีหนึ่งที่เพิ่งเลิกห้องเชียร์และกำลังเตรียมตัวกลับบ้านได้เป็นอย่างดี

"เฮ้ย มึงอ่ะ มาช่วยกูหน่อยดิ" พี่คีย์ตะโกนขึ้นมาอีกครั้งพลางเรียกปีหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดไปหา ก็จะใครล่ะครับ ...พวกผมเอง

"มีไรพี่" ท่าทางมุดเข้ามุดออกใต้โต๊ะทำให้พวกเพื่อนผมเข้าไปสอดรู้สอดเห็นด้วยความสนใจ

"ช่วยกูหาแฟลชไดรฟ์หน่อย อันสีเงินๆ บางๆ อ่ะ" พี่คีย์เงยหน้าจากพื้นอิฐบล็อกของลานต้นไทรบริเวณใกล้ๆ กับที่ทำคัทเมื่อคืนขึ้นมาบอกพวกผมก่อนจะก้มลงไปหาใหม่

"แฟลชไดรฟ์หรอพี่ อืม.. อันนี้รึเปล่าครับ" ไอ้พีทพูดขึ้นก่อนจะยื่นวัตถุสีเงินบางๆ อย่างที่คนขอให้ช่วยบอกมาเมื่อครู่

"อ้าวเฮ้ย กูก็อุตส่าห์หาตั้งนาน"

"ว่าจะเอาให้พี่ตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ดันลืม แหะๆ โทษทีพี่" ไอ้พีทได้แต่หัวเราะแห้งๆ ก่อนจะคืนให้พี่เขาไป

"เออ ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ ฝากพวกมึงเอาไปคืนเจ้าของด้วยละกัน กูมีธุระว่ะ" พี่คีย์พูดก่อนจะยัดแฟลชไดรฟ์กลับมาใส่มือไอ้พีทแล้วคว้าเป้ขึ้นมาสะพายอย่างเร่งรีบ

"เฮ้ยพี่ ผมก็ไม่ว่าง ต้องไปกินข้าวกับที่บ้านอ่ะ" ไอ้พีทตอบก่อนจะยัดเข้ามือไอ้ธันย์เป็นรายต่อไป

"ผมก็ไม่ว่าง ต้องไป.."

"ผมด้วย!" ยังไม่ทันที่ไอ้ธันย์จะบอกเหตุผล วัตถุเล็กๆ นั่นก็โดนไอ้ป้องฉกจากมือไอ้ธันย์มายัดใส่มือผมทันที

"โอเค กูฝากมึงละกัน ขอบคุณมากน้องรัก" ฝ่ามือของพี่ปีสองสุดที่รักตบแปะๆ บนไหล่ผมก่อนจะเดินจากไปพร้อมไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสามโดยไม่รอฟังคำทักท้วงของผมเลยแม้แต่น้อย

"เดี๋ยวพี่ แล้วผมต้องเอาไปคืนใครล่ะเนี่ย" พี่คีย์ตะโกนตอบมาโดยไม่คิดจะหันกลับมามองสักนิด

"ไอ้กันย์ เพื่อนกูคนที่มาช่วยพวกมึงเมื่อคืนไง ให้ไวเลยมึง มันรีบ"

…นอกจากผมต้องเอาไปคืนแล้ว ผมยังต้องรีบด้วยใช่มั้ยเนี่ย





ถึงจะรู้ว่าเจ้าของเป็นใครก็เถอะ แต่การลุยเดี่ยวมาคณะที่รวมพลคนแปลกที่สุดในมหา'ลัยก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเท่าไหร่นะผมว่า..

ผมได้แต่เดินทำตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะเล็กได้ เมื่อสองเท้าของผมต้องพาร่างกายอันแต่งตัวได้ถูกระเบียบเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้าตามประสาเด็กปีหนึ่งใสกิ๊งมาอยู่ท่ามกลางเหล่านักศึกษาที่มีแทบไม่มีองค์ประกอบบนตัวส่วนใดเลยจะตรงตามข้อบังคับเรื่องการแต่งกายของมหา'ลัย

…จะเกิดอะไรขึ้นล่ะครับ โคตรเด่นเลยงานนี้

"มึงมาถึงยังเนี่ย อาจารย์กูจะไม่รอแล้วนะเว้ย.." น้ำเสียงสวรรค์ที่ฟังดูคุ้นๆ ทำให้ผมหันไปมองแล้วก็ต้องโล่งใจ …คนที่กำลังตามหาโผล่มาพอดี

"นี่ถ้าพี่ไม่โผล่มา ผมจะเอาความกล้าที่ไหนไปถามหาพี่วะ" คำทักทายของผมเรียกทำให้คนตัวสูงที่ก้าวมายืนข้างๆ หันไปมองตามทิศทางที่ผมให้ความสนใจอยู่อย่างงงๆ ก่อนจะหลุดขำออกมา

"มึงก็เว่อร์ไปป่ะ" พี่กันย์ถามก่อนจะส่ายหัว

ตรงหน้าคือพวกที่คาดว่าน่าจะเป็นปีแก่ของคณะนี้ที่พร้อมใจกันปล่อยชายเสื้อให้หลุดลุ่ย รองเท้าแตะหนีบรุ่นยอดฮิต บวกกับกางเกงเลสีมอๆ ยิ่งไปกว่านั้นคือหน้าตาแต่ละคนที่ดูอ่อนระโหยโรยแรงแต่ยังฝืนสังขารนั่งล้อมวงอัดบุหรี่เข้าปอดกันอยู่บนพื้นตรงคอร์ทกลางคณะ

...สาบานได้ ผมไม่ได้เว่อร์แน่ๆ พี่

"ปล่อยพวกพี่เขาไปเถอะ ทีสิสคงทำให้คนเป็นบ้า" พี่กันย์พูดขำๆ ก่อนจะรับแฟลชไดรฟ์ที่ผมยื่นให้ไป

"รีบไปไหนเปล่าวะ" พี่กันย์ถามขึ้นมาตอนที่ผมกำลังจะขอตัวกลับพอดี

"ก็ไม่ได้จะไปไหนนะ มีไรเปล่าพี่"

"งั้นรอกูก่อนละกัน เดี๋ยวไปส่ง" พี่กันย์พูดก่อนจะพยักหน้าให้ผมเดินตามขึ้นไปยังชั้นสองของอาคารเรียน

"เฮ้ย ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้"

"ไม่เป็นไร กูเกรงใจ อุตส่าห์เอาของมาให้" พี่กันย์ยืนยัน ก่อนจะผลักประตูเข้าไปยังห้องเรียนห้องหนึ่งที่มีนักศึกษาสองสามคนนั่งล้อมวงกับอาจารย์

"ขอสิบห้านาที" พี่กันย์พูดก่อนจะเดินไปร่วมวงด้วยอีกคน





[Gun's]

"กลับดีๆ นะพวกมึง" ผมหันไปโบกมือลาเพื่อนที่เริ่มแยกย้ายเมื่อตรวจแบบเสร็จและทุกคนลงความเห็นพ้องต้องกันว่า ...ควรกลับไปนอน

"ไป กลับกัน" ผมหันไปชวนไอ้เด็กปีหนึ่งซึ่งเป็นน้องของเพื่อนที่ซิ่วไปเรียนคณะเกษตรกลับด้วยกัน ...ไอ้นี่ว่าง่ายดีแฮะ บอกให้รอก็รอ

"พี่ปล่อยผมลงหน้ามอก็ได้นะ เดี๋ยวผมกลับรถเมล์เองได้ พี่จะได้รีบกลับไปนอน"

"ไม่อ่ะ กูไปส่งได้ บ้านมึงอยู่ไหน" ผมถามมันก่อนจะเดินนำไปยัง Nissan Juke สีแดงคันโปรดของผมแล้วเอาของทั้งหมดยัดใส่หลังรถโดยไม่คิดจะสนใจมันอีก

"ผมอยู่หอตรงแถวเมเจอร์อ่ะ รถติดโคตรเลยพี่" เด็กนี่เอ่ยด้วยสีหน้ารู้สึกผิดจับใจ

"งั้นก็ไปติดด้วยกันนี่แหละ กูก็อยู่แถวนั้นพอดี" ผมตัดบทก่อนจะลากมันขึ้นรถแล้วขับออกไป





"ก่อนอื่นเลย มึงชื่ออะไรนะ" นี่ก็เพิ่งนึกได้นะครับ เรียกมึงๆ ตามไอ้คีย์ตั้งนานจนเริ่มกระดากปาก ถึงจะไม่ใช่สุภาพชนอะไร แต่การที่เรียกคนที่ไม่สนิทแบบนี้มันก็ดูไม่ควรเท่าไหร่แฮะ

"ปืนครับพี่" ชื่อนี่อย่างโหด แต่หน้านี่โคตรตี๋..

"แล้วกูควรเรียกมึงว่าอะไรวะ"

"แล้วแต่พี่ดิ เรียกมึงก็ได้ ผมไม่ถือ"  ...คือกูถือไง ไม่อย่างนั้นจะถามทำซากอ้อยอะไรล่ะ

"No เราไม่ได้สนิทกัน เพราะงั้นกูจะไม่เรียก" ผมพูดก่อนเหลือบไปมองหน้ามันที่กำลังด่าผมด้วยหางตามันแน่ๆ

"ถ้างั้นก็แล้วแต่พี่สะดวกใจเลยครับ"

"ปกติคนอื่นเรียกมึงว่าไง"

"ก็เรียก ปืน ครับ"

"ยากว่ะ ออกเสียงไม่ดีกลายเป็น ปื๊ดบ้าง เปินบ้าง ไม่ออก ปืน หรอกเชื่อกู ขอ option ครับ"

"งั้นเรียก กัน ก็ได้ครับ"

"ห๊ะ?"

"ก็ปืน มันแปลว่า gun" ...แหม่ คือกูก็ไม่ได้ตก Eng นอะ

"ใช้สมองสิ กูชื่อกันย์มั้ยล่ะ มันซ้ำ ไม่เอาเว้ย" ผมเห็นไอ้เด็กเวรนั่นเหลือบมามองแรงอีกครั้งก่อนจะหันออกนอกกระจกโดยไม่ตอบคำถามผมอีกเลย งั้นเอาเป็นว่าถ้าเจอมันอีกครั้งแล้วผมคิดออกค่อยสรุปละกัน เมื่อคิดได้แบบนั้นเลยหันไปตั้งใจขับรถต่อ

...ว่าแต่ทำไมไฟแดงวันนี้มันนานนักวะ ผมคิดพลางจ้องไปยังสัญญาณไฟสีแดงที่ไม่มีทีท่าว่าจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวสักที รู้ตัวอีกทีเปลือกตาก็เริ่มหนักและทุกอย่างก็ตัดไปอย่างรวดเร็ว





[Bpuen's]

ปี๊นนนน...

เสียงบีบแตรยาวจากรถคันข้างหลังทำให้ผมสะดุ้งจนห้องหันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไอ้รถคันข้างหลังมันถึงบีบแตรเอาเป็นเอาตายขนาดนั้นวะเนี่ย...

"เฮ้ย! พี่" ความฉิบหายมาเยือน.. เมื่อหันมามองอีกทีไอ้คนขับรถที่นั่งข้างๆ นั่งสัปหงกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

...พี่จะหลับที่ไหนก็ได้ครับพี่ แต่ไม่ใช่กลางสี่แยกไฟแดง เข้าใจมั้ย!

"พี่กันย์ ตื่นพี่ตื่น" ผมเขย่าตัวพี่เขาอย่างแรงจนพี่เขาสะดุ้งสุดตัวแล้วหันมามองว่าเกิดอะไรขึ้น …ก็เห็นอยู่หรอกนะว่าหาวบ่อย แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นหลับในไง

"ห๊ะ! มีอะไรวะ" พี่กันย์หันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะลากสติกลับมาแล้วเคลื่อนรถให้พ้นสี่แยกก่อนจะจอดลงข้างทาง

"เชี่ยมึง กูไม่ไหวแล้วว่ะ" ...ผมรู้แล้วพี่ ผมคิดในใจก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่นั่งขยี้พยายามจะช่วยให้ตื่นแต่ดูท่าจะไม่ได้ผล

"เดี๋ยวผมขับให้ก็ได้พี่"

"ขับเป็นด้วย เหยดดด"

"เออน่า มานั่งนี่มา" ผมบอกก่อนจะเปิดประตูเดินอ้อมไปลากคนที่ทำหน้าที่สารถีเมื่อห้านาทีก่อนลงมาแล้วยัดเขาไว้ที่ที่นั่งข้างคนขับแทน

"ขอบใจมากมึง"

"เดี๋ยวพี่ อย่าเพิ่งหลับดิวะ หอพี่อยู่ไหนเนี่ย.." ไม่ทันแล้วครับ เจ้าของรถและหอพักที่ผมต้องไปส่งมันไปเข้าเฝ้าพระอินทร์เป็นที่เรียบร้อย

"งั้นไปห้องผมก่อนนะ ผมบอกพี่แล้วนะเว้ย" ผมบอกพี่เขาดังๆ เพื่อขออนุญาตแล้วขับรถออกไป





[Gun's]

..นี่ผมไม่ได้นอนหลับสบายๆ อย่างนี้มากี่วันแล้ววะเนี่ย

ร่างสูงของคนที่นอนอยู่คิดอย่างสบายใจก่อนจะพลิกตัวไปอีกข้างเพื่อเอาตัวซุกหมอนแล้วนอนต่อ

"เชี่ย โมเดล!" ยังไม่ทันจะเข้าสู่ห้วงนิทรารอบสอง ร่างที่นอนอยู่ดีๆ ก็สะดุ้งแล้วค้างขาข้างที่กำลังจะพลิกไปอีกข้างอย่างตกใจแล้วหดกลับมา ก่อนจะลืมตาแล้วจ้องมองไปยังที่ว่างข้างเตียงตรงหน้า …โมเดลก็ส่งไปแล้วไง โว๊ะ

"กูนี่เป็นเอามากนะเนี่ย" กันย์ตัดสินใจลุกขึ้นมานั่งมึนๆ ก่อนจะสะบัดหัวเรียกสติให้กลับมาพร้อมรับเช้าวันใหม่

...แต่ทำไม ห้องมันดูไม่คุ้นเลยวะ

ร่างสูงเริ่มขมวดคิ้วมากขึ้นทุกทีเมื่อหันไปทางไหนก็ไม่มีอะไรที่เคยผ่านเข้ามาอยู่ในความทรงจำเลยสักนิด โอเค.. นี่ไม่ใช่ห้องเขาแน่ๆ อาจจะเป็นห้องของเพื่อนเขาสักคน ว่าแต่.. มันห้องของใครวะ?

"หึ ตื่นแล้วหรอครับพี่" เสียงทักทายที่ดังมาจากประตูทำให้ผมต้องหันไปมอง ภาพไอ้เด็กหน้าตี๋ที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานกำลังยักคิ้วทักทายผม …นี่กูพี่มึงนะ มันใช่หรอวะ

จริงๆ ไอ้เด็กนี่หน้าตาก็ดูดีประมาณหนึ่งนะถ้าไม่ติดว่าปากมันกวนบาทาดีเหลือเกิน ผอมแต่มีกล้ามเนื้อ ขาวแต่ก็คล้ำแดดเลยทำให้ภาพรวมมันดูคมขึ้น รวมๆ กันแล้วก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ไอ้ผ้ากันเปื้อนสีช็อกกี้พิงค์ลายหมีกินน้ำผึ้งบนตัวนั่นมันอะไรวะเนี่ย

"ไร้รสนิยมสุดๆ" คำสบถของผมเรียกสีหน้ายุ่งเหยิงของมันออกมาได้อย่างรวดเร็ว …พอๆ กับปากมันนั่นแหละ

"ก็ถ้ารู้ว่าปากพี่จะดีขนาดนี้ ผมน่าจะทิ้งพี่ไว้ข้างถนนตั้งแต่เมื่อคืนนะผมว่า.."

"เออ โทษที กูติดนิสัยว่ะ" แล้วไอ้นิสัยชอบวิจารณ์เนี่ยไม่ได้เป็นแค่ผมนะครับ เป็นทั้งคณะอ่ะบอกเลย เวลาไปเที่ยวกันที่นี่บ่นตั้งแต่ลายกระเบื้องปูพื้นยันฝ้าเพดาน

"หิวเปล่าพี่ มานั่งนี่ดิ" ว่าแล้วเจ้าตัวก็เดินนำผมออกไปจากห้องนอน ตอนนี้คาดว่าผมกำลังอยู่ในห้องของไอ้เด็กนี่ซึ่งเป็นห้องขนาดกลาง มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัวที่ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างละเท่าๆ กัน โดยในโซนห้องครัวเองก็ถูกแบ่งเป็นโซนทำอาหารครึ่งหนึ่งและส่วนรับประทานอาหารอีกครึ่งหนึ่งอย่างลงตัว โทนสีของห้องถูกตกแต่งด้วยสีเบจและสีขาวเป็นหลัก มีเน้นพวกเฟอร์นิเจอร์บางชิ้นด้วยหนังและไม้โทนน้ำตาลเข้มบ้างอย่างน่าสนใจ ทำให้ภาพรวมของห้องดูอบอุ่นและสบายๆ

"ชอบทำอาหารสินะ" ผมเอ่ยถามก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะทานข้าวไม้ขนาด 2 ที่นั่ง เรียกความสนใจจากคนที่กำลังทำอาหารอย่างคล่องแคล่วให้หันมามองอย่างสงสัย

"ครับ พี่รู้ได้ไง"

"ครัวใหญ่" ผมตอบก่อนจะหยิบจับของตกแต่งบนโต๊ะอย่างสนใจ ...ไอ้ผู้ชายมุ้งมิ้งเอ้ย ผมคิดอย่างขำๆ ผู้ชายที่ไหนมันจะบ้ามานั่งจัดโต๊ะกินข้าวประหนึ่งอยู่ในร้านกาแฟเก๋ๆ สักแห่งแบบนี้วะ

"คำตอบสมกับเป็นสถาปนิก" ผมได้ยินไอ้คนที่กำลังทำอาหารบ่นพึมพำก่อนจะเคาะตะหลิวสองสามทีแล้วตักข้าวผัดหน้าตาดูดีใส่จานสองใบแล้วยกมาวางบนโต๊ะก่อนจะเดินไปเปิดไฟ ...ก็ว่าทำไมห้องมันดูมืดๆ แต่เดี๋ยวนะ

"นี่กี่โมง"

"หกโมงครึ่งครับพี่"

"หกโมงเช้า?"

"บ้านพี่ดิ จะทุ่มนึงแล้วพี่"

"เชี่ยยย... เดี๋ยวนะ กูนอนมาตั้งแต่ตอนไหน เมื่อคืนหรือเมื่อคืนวาน?" คำถามของผมทำให้คนฟังชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะลั่น

"เมื่อคืนพี่ ถ้าพี่นอนมาตั้งแต่เมื่อคืนวานผมว่าพี่ไม่ได้นอนอ่ะ พี่ตาย!"

"อย่าทำเป็นเล่นนะเว้ย กูเคย.."

"ห๊ะ! จริงดิ"ค นตรงหน้านี่ชะงักจนปล่อยช้อนในมือหล่นมากระทบจานข้าวดัง แกร๊ง! เลยทีเดียว

"เออ แล้วกูมาอยู่ได้ไงวะ กูหลับในแน่ๆ แล้วชุดกูล่ะ มึงเปลี่ยนให้กู? แต่กูว่ากูน่าจะเปลี่ยนเองได้ แล้วกูก็นอน แล้วทำไมมึงไม่ปลุกกูวะ แต่.."

"หยุดพี่ ตกลงพี่ถามผมหรือพี่ถามตัวเองนะ" เออว่ะ..

"ถามมึง.. ก็ได้" ผมสรุปให้ก่อนจะพยักพเยิดหน้าเพื่อให้มันตอบส่วนผมก็กินข้าวเงียบๆ ต่อไป

"คำตอบแรก พี่หลับคาสี่แยกไฟแดงเลยครับพี่ ไม่ตายก็บุญแล้ว พอดีพี่หลับไปก่อน ผมก็ไม่รู้หอพี่เลยพามานี่ ขออนุญาตพี่แล้วด้วย คำตอบที่สอง.."

"เดี๋ยวๆ มึงขอกูตอนไหนวะ" ผมพยายามทบทวนสิ่งที่อยู่ในหัวทั้งหมด แต่ผมว่า.. ไม่เคยได้ยินคำขออนุญาตจากมันนะ

"ตอนพี่หลับอ่ะ คำตอบที่สอง.."

"ดีครับมึง" ผมประชด..

"คำตอบที่สอง..! จะฟังมั้ยเนี่ย" ...ถ้าจะทำตาดุขนาดนั้น กูฟังมึงก็ได้ครับ

"อ่ะๆ เล่ามา"

"พี่เป็นคนเปลี่ยนชุดเอง แต่ไม่ยอมอาบน้ำ แหวะ แต่ถึงพี่ไม่เปลี่ยนผมก็ไม่คิดจะเปลี่ยนให้พี่นะบอกเลย" มันพูดพลางหันมาทำหน้าขยะแขยงใส่ผม ...ถึงขนาดที่รอดจากสี่แยกไฟแดงมาได้ แค่นอนไม่อาบน้ำหรือไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าสักวันผมว่ามันก็คงไม่ตายหรอกครับ

"คำตอบที่สาม ผมปลุกแล้วแต่พี่ไม่ตื่น แต่.. พี่ไม่ต้องห่วงครับ เพราะเพื่อนพี่ไลน์มาตอนเช้าพอดีว่าอาจารย์ยกคลาส เพื่อนพี่เลยจะไปซิ่งแล้วจะชวนพี่ไปด้วย แต่ผมไม่รู้รหัสมือถือพี่อ่ะเลยไม่ได้ตอบ เห็นเฉพาะอันที่มันค้างไว้ที่หน้าจอเฉยๆ" ดูมันครับ ร่ายยาวประหนึ่งผมจะสวดมัน ถ้าเกิดมันเผลอไปทำอะไรที่ดูไม่มีเหตุผลแม้แต่นิด

"อือ ขอบใจ"

"ส่วนคำถามสุดท้าย คืนนี้จะนอนนี่ต่อหรือกลับหอพี่ดีครับผม" คำถามสุดท้ายนี่หน้าแมร่งกวนบาทาผมมากครับ

"กลับดิ จะนอนเพื่อ..?" ป่านนี้ห้องผมตะไคร่เกาะแล้วมั้ง ไม่ได้กลับไปชาติเศษ

"แล้ว..จะอาบน้ำก่อนมั้ยครับ หรือกลับเลย" มันถามพลางชี้มายังผมที่ใส่บอกเซอร์กับเสื้อยืดย้วยๆ ตัวหนึ่งอยู่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของเจ้าของห้องนี่แหละ

"อาบน้ำก่อนละกัน ขอยืมชุดหน่อยดิ เดี๋ยวซักมาคืนให้" ผมว่าก่อนจะเดินตามมันกลับเข้าไปในห้องนอนที่มีตู้เสื้อผ้าขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อยู่ตู้หนึ่งก่อนจะเปิดออกแล้วผายมือเป็นเชิงอนุญาตให้ผมหยิบมาสักตัว

"อืมม.." ผมว่าบางทีผมอาจจะรื้อของของไอ้เด็กนี่มากไปหน่อย เพราะตอนนี้ไอ้คุณเจ้าของห้องเริ่มดึงๆ ตัวผมให้ออกห่างจากตู้มันแล้ว

"พี่ใจเย็นครับ พี่จะเอาอะไร" เจ้าของห้องถามขึ้นพร้อมกับแทรกตัวเข้ามาขวางระหว่างผมกับตู้เสื้อผ้า โดยปิดประตูตู้ไว้แล้วยืนกอดอกพิงตัวทับลงไปถามขึ้นอย่างคนเริ่มทนไม่ไหว

"เสื้อ.."

"เสื้อ..?" มันทวนคำพูดผมพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

"เสื้อ..ยืดก็ได้ สีดำ" มันทำหน้าเข้าใจก่อนจะหันกลับไปยังกองเสื้อยืดแล้วหยิบเสื้อตัวหนึ่งส่งมาให้ ผมลองกางออกมาดูมันเป็นเสื้อยืดสีดำ แต่ดันมีแถบเหมือนบาร์โค้ดสีขาวที่ปลายแขนเสื้อทั้งสองข้าง ส่วนอกข้างซ้ายมีกระเป๋าแถมยังมีลายหัวกะโหลกลายเดียวกันที่กลางหลังอีกด้วย

"อย่าหาว่ากูเรื่องมากเลยนะ แต่ขอเสื้อยืดสีดำแบบสีพื้นๆ ไม่มีกระเป๋า ไม่มีลาย มีมั้ย?" ผมถามมันอย่างเกรงใจ …นิดนึง คือแบบ …สงสารกูเถอะ ทำใจใส่ไม่ได้จริงๆ ว่ะ

"อ่าฮะ" เจ้าของห้องรับคำอีกครั้งก่อนจะมุดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อยืดสีดำสามตัวตามคำขอออกมายื่นให้ผม

"เลือกเอาพี่ มีแค่นี้แหละครับ" ผมรับมาก่อนจะกางทั้งหมดลงบนเตียงแล้วพิจารณา ตัวแรกมันไม่ใช่สีดำอ่ะ มันคือดาร์คเกรย์ ส่วนตัวที่สองสีดำครับ ดำจริง แต่ไอ้หัวใจเสล่อๆ แล้วมีคำว่า LOVE บนอกอันเล็กๆ นี่คืออะไร ส่วนตัวที่สาม...

"กูเอาอันนี้" ผมหยิบเสื้อยือสีดาร์คเกรย์ขึ้นมา อันนี้น่าจะหวือหวาน้อยที่สุดแล้ว

"กางเกงล่ะครับ"

"กูซ้ำได้ ไม่มีปัญหา" มันถาม แต่ผมรีบปฏิเสธทันที จากการสแกนด้วยความรวดเร็วตอนมุดเข้าไปครั้งแรก ลายพรางพวกนั้นน่าจะไม่ใช่คำตอบสำหรับผมแน่ๆ

"นั่นห้องน้ำครับ แล้วนี่ …ผ้าขนหนู" เจ้าของห้องพูดพร้อมยื่นผ้าขนหนูสีขาวมาให้แล้วเดินออกจากห้องนอนไป ผมก้มมองผ้าขนหนูในมือก่อนจะชำเลืองไปเห็นบางอย่างแล้วรวบมันรวมกับเสื้อและกางเกง


'ผมจะพยายามทำเป็นมองไม่เป็นกระต่ายน้อยสีชมพูหวานแหววตรงมุมขวาล่างแล้วกัน'




หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 02 - ...ก็พี่ชอบสีดำ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-10-2016 13:09:49
ติดตามจ้ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 02 - ...ก็พี่ชอบสีดำ
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 29-10-2016 14:06:04
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 02 - ...ก็พี่ชอบสีดำ
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 29-10-2016 17:09:11
นุ้งgun จะมุ้งมิ้งไรขนาดนั้นอะ5555555555555น่ารักดี

ความเรื่องเยอะของพี่กันต์นี่เราเข้าใจดีเลยนะ เพราะเราก็เรียนออกแบบเหมือนกัน5555 มันเปนอย่างงั้นจริงๆอะ บางทีเห็นแล้วมันขัดอะ ไม่ได้เรื่องมากเรื่องเยอะไรเลยไม่ได้ตั้งใจทุกอย่างมันจะถูกจับแมทขึ้นมาในหัวว่าไหนดีไหนโอเค แล้วอันไหนมันแบบ
 มันไม่ใช่อะ555

อยากอ่านอีกๆๆๆ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 02 - ...ก็พี่ชอบสีดำ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-10-2016 18:31:06
พี่กัลย์ กัน(ปืน)  :mew1: :mew1: :mew1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 02 - ...ก็พี่ชอบสีดำ
เริ่มหัวข้อโดย: mony ที่ 29-10-2016 18:54:26
ชอบมากเลยค่ะ เป็นคนที่ชอบคนเรื่องเยอะ รู้สึกว่าเป็นคนละเอียดอ่อนดี
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 02 - ...ก็พี่ชอบสีดำ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 30-10-2016 16:10:39
03-…ก็พี่ไม่ชอบ

[Gun's]

ในเย็นวันพฤหัสบดีที่ผมเพิ่งฝ่ามรสุมการอดหลับอดนอนเพื่อทำงานมาตรวจแบบกับอาจารย์ประจำกลุ่มแล้ว สิ่งที่ผมควรจะได้ทำเป็นอย่างต่อไปก็คือ …การกลับไปนอน หรือไม่ก็ควรได้ไปชิลกับเพื่อนที่ร้านเหล้าแถวๆ มอ ไม่ก็ร้านหมูกระทะเปล่าวะ แล้วไอ้การที่ผมต้องมายืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวแล้วจ้องหน้าไอ้พวกปีหนึ่งเกษตรนี่มันใช่เรื่องมั้ย ตอบ!

...คือกูแก่แล้วไง ไม่ใช่เด็กน้อยในห้องเชียร์ของพวกมึง ปล่อยกูไปเห๊อะ

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ได้แต่คิดในใจก่อนจะเหล่สายตาไปยังพวกปีสามของคณะเกษตรที่ผมพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง โดยเฉพาะไอ้เฮดว๊ากที่เคยเรียนวิชาวัสดุพืชพรรณด้วยกันตอนผมอยูู่ปีสองแล้วคิดไปถึงไอ้เหตุผลบ้าๆ ที่ทำให้ผมต้องมาอยู่ตรงนี้





เมื่อชั่วโมงที่แล้ว..

"พี่กันย์ หวัดดีครับ จำผมได้มั้ยพี่" ผมละสายตาขึ้นจากกระดาษร่างแบบที่มีรอยแก้ของอาจารย์ก่อนจะเจอกับรุ่นน้องต่างคณะที่ไม่ได้เจอกันมา …น่าจะเป็นปี

"ไอ้แชมป์ใช่เปล่า เออจำได้ๆ ไปไงมาไงวะ" ไอ้แชมป์เป็นเด็กปีสามของภาควิชาพืชสวน คณะเกษตรที่เคยทำงานกลุ่มกับพวกผม ตอนนั้นมันอยู่ปีหนึ่งส่วนพวกผมอยู่ปีสอง แล้วก็ได้มันนี่แหละที่ช่วยฉุดกระชากลากดึงจนพวกผมทั้งก๊วนผ่านวิชาสุดหินซึ่งเป็นวิชาบังคับของภาคผมให้ผ่านไปได้ด้วยดี

...จำได้ว่าตอนเกรดออกถึงกับลากมันไปเลี้ยงเหล้าสองวันสองคืนเลยทีเดียว

"ก็..มาหาพี่นี่แหละ" ไอ้แชมป์พูดพลางนั่งลงตรงข้ามผมพร้อมกับเพื่อนหน้าโหดๆ อีกสองสามคน

"มาหากู เพื่อ?" ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะพับกระดาษแบบเก็บให้คุยกันได้สะดวกๆ

"วันก่อนพี่ไปช่วยพวกปีหนึ่งคณะผมทำคัทใช่เปล่า"

"เออ โทษไอ้คีย์เลยเว้ย กูไม่เกี่ยว เรื่องของพวกมึง" ผมพูดพลางเท้าคางอย่างเบื่อๆ ถ้าเดาไม่ผิด ไอ้พวกนี้ต้องเป็นแก๊งค์ว๊ากของปีนี้แถมมันต้องกำลังสร้างดราม่าอะไรไปแกล้งเจ้าพวกเด็กนั่นแน่ๆ

"เออนั่นแหละพี่ เลยมีเรื่องอยากให้พี่ช่วย..นิดนึง นะครับพี่"

...ถึงขนาดหลุดบทว๊ากกลายมาเป็นน้องใสๆ ของผมอย่างนี้ไม่น่าไว้ใจจริงๆ

ผมมองหน้ามันด้วยความยุ่งยากใจ มีเค้าว่าไอ้เรื่องที่มันขอต้องเป็นเรื่องที่ผมต้องไม่อยากทำแน่ๆ แต่พอคิดถึงเกรดที่มันอุตส่าห์ช่วยชีวิตพวกผมไว้ ก็นะ..

"อ่ะๆ มีไรก็ว่ามา แต่กูไม่มีเวลาว่างขนาดนั้นนะเว้ย" ถึงจะตอบเหมือนตกลงไป แต่ก็ต้องดักๆ ไว้บ้างแหละ อย่างน้อยผมก็แก่กว่าพวกมัน ถ้าทำอะไรที่เกินไปกูจะเล่นกลับให้ยับเลยคอยดู

"ไม่นานหรอกพี่ แค่ช่วยมากับผมแป๊บนึงเท่านั้นเองครับ.."





...แล้วกูก็มาโผล่คณะเกษตร

...ต่อหน้าเด็กปีหนึ่ง

...ในห้องเชียร์

...ครับ

"เงยหน้าขึ้นมาดูครับ ผมถามว่า คนนี้ใช่ไหมที่ทำคัทให้พวกคุณ" ปีสามเริ่มกระแทกเสียงหนักขึ้นเมื่อไม่มีปีหนึ่งคนไหนตอบคำถาม

"กล้าทำก็กล้ารับดิวะ เฮ้ย" ผู้หญิงปีสามอีกคนสุมไฟเข้าไป

"ของง่ายๆ แค่นี้ไม่ปัญญาทำเองรึไงครับ แล้วถ้าพวกคุณเจองานใหญ่กว่านี้จะทำยังไง แค่นี้ยังทำไม่ได้ แค่เรื่องแค่นี้ยังไม่ยอมรับ" ไอ้แชมป์ปิดท้ายด้วยคำพูดยอดฮิตสำหรับการจี้ใจดำในห้องเชียร์อย่างที่ทำกันมาทุกปี

...พวกมึงจะตะโกนอะไรกันก็ได้ครับ แต่ช่วยอย่าตะโกนใส่หลังกู เดี๋ยวเสื้อด่าง

"ขออนุญาตครับ"

"เชิญ!" ปีหนึ่งผู้กล้าหาญนามว่า ไอ้พีท ผู้เป็นหัวหน้าชั้นปียืนขึ้น

"ผมนายพีรธัช กิตติรัตนากร ชื่อเล่น พีท ภาควิชาปฐพีวิทยา ครับ"

"มีอะไร!"

"พี่คนนี้เป็นคนช่วยพวกเราทำคัทจริงครับ" เสียงดังฟังชัดสมกับตำแหน่งหัวหน้าชั้นปีทำให้ผมหลุดยิ้มมุมปาก ไม่ว่าจะผ่านไปกี่รุ่น ไม่ว่าจะคณะไหน แต่ห้องเชียร์..มักจะสร้างอะไรบางอย่างขึ้นมาเสมอ

"แล้วพวกผมบอกพวกคุณว่ายังไง!"

"พี่บอกว่า ให้พวกผมทำคัทส่งภายในวันศุกร์ครับ"

"แล้วทำไม! พวกคุณถึงให้คนอื่นมาช่วยทำ!" ไอ้แชมป์กระแทกเสียงหนักขึ้นก่อนจะชี้มาที่ผม

...ถ้ามึงชี้หน้ากูขนาดนี้ เดี๋ยวกูจะไม่ทนนะ

"ขออนุญาตครับ" เสียงที่สองดังขึ้นเรียกความสนใจของคนทั้งห้องให้หันไปมอง

"มีอะไร!"

"ผม นายปภาวิน ภิญญูพงษ์ ชื่อเล่น ปืน ภาควิชาปฐพีวิทยา ครับ"

"ทำไม จะช่วยเพื่อนแก้ตัวรึไง" น้องผู้หญิงคนเดิมถามไอ้เด็กนั่นด้วยสีหน้ากวนๆ ...จริงๆ ผมก็แอบอยากรู้นะว่า สกิลการพูดต่อหน้ารุ่นพี่ของมันจะเป็นยังไง

"เปล่าครับ ผมแค่จะบอกว่า...พี่กันย์ไม่ใช่คนอื่น"

...เหยดดด

"คุณว่าอะไรนะ!"

"พี่กันย์เป็นรุ่นพี่พวกผมครับ ถึงจะอยู่คนละคณะ...แต่ก็เป็นรุ่นพี่ที่ปีหนึ่งทุกคนนับถือ เพราะฉะนั้น พี่กันย์ก็เป็น ‘พวกเรา’ครับ ไม่ใช่คนอื่น" คำแถของแมร่งนี่เกือบทำผมหลุดขำ ไม่ว่าจะตอนผมเป็นเฟรชชี่ปีหนึ่ง พี่พยาบาลปีสอง หรือเป็นพี่ว๊ากตอนปีสาม ไอ้ประโยคเน่าๆ แบบนี้มันต้องมีมาทุกปีสิน่า แต่ดูท่าว่าพวกแก๊งค์ว๊ากปีนี้จะยังไม่ชิน พวกมันเลยอึ้งกันใหญ่

"ก็ดี ถ้าคุณยืนยันว่าเขาเป็น ‘พวกคุณ’ "

"..." …ทำไมอยู่ดีๆ หนังตาข้างขวาผมกระตุกวะ

"งั้นวันเสาร์นี้ ตอนปีหนึ่งทุกคนลงนา.." …ผมว่าไม่ใช่แค่ตาขวาแล้วที่กระตุก ตอนนี้เส้นประสาทที่หัวผมเริ่มกระตุกด้วยละ

"..."

"คุณต้องพา 'พวกของคุณ' มาให้ครบ ขอให้พวกคุณโชคดี" ไอ้แชมป์พูดเสียงนิ่งๆ ทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไปจากห้องเชียร์ปล่อยพวกเด็กปีหนึ่ง พยาบาลปีสองและผมยืนนิ่งอึ้งกิมกี่

...อ้าวเฮ้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นา

...ไอ้-เหี้ย-แชมป์!!!!!





[Bpuen's]

ตอนนี้พวกเพื่อนผมทุกคนมาพร้อมกันที่คณะจะขาดก็แต่... ใครบางคนที่ผมโมเมเอาว่าเป็นพวกเดียวกันในห้องเชียร์

...พี่เขาต้องโกรธมากแน่ๆ ให้ตาย

ผมคิดอย่างกังวลก่อนจะมองนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้จะแปดโมงเข้าไปทุกที แถมไม่ใช่แค่ผมที่กำลังคิดมากเรื่องนี้หรอกครับ เพราะพวกปีหนึ่งเริ่มหันมามองหน้ากันแล้วก็ถามถึงพี่กันย์

สำหรับเด็กเกษตรอย่างพวกผม วันนี้ถือเป็นวันสำคัญเพราะมันเป็นวันดำนาปลูกข้าวหรือเรียกสั้นๆ ว่า 'วันลงนา' นอกจากจะทำให้เราเห็นความสำคัญของผืนดินที่เป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพชีวิตบนโลกแล้ว ยังทำให้รู้ถึงความลำบากในการทำนาของชาวนา รู้จักการอดทน มีระเบียบวินัยและรู้จักการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมอีกด้วย

แต่จุดประสงค์อ้อมๆ ซึ่งได้ยินพวกพี่ๆ เล่ากันมา มันคือวันชี้ชะตาที่จะบอกว่าพวกผมจะได้รู่นหรือไม่ได้รุ่นนั่นเอง ซึ่งผมคิดว่าสิ่งสำคัญประการแรกของการได้รุ่นน่าจะหมายถึงความร่วมแรงใจในการมาร่วมกิจกรรม หรือพูดง่ายๆ คือต้องลากเพื่อนทุกคนให้มาพร้อมกันให้ได้ก่อนแปดโมง!

"พี่คีย์ พี่ว่าพี่กันย์จะมามั้ยครับ" ผมได้ยินไอ้ธันย์ถามถึงพี่กันย์อย่างเกรงใจ เพราะขนาดพี่คีย์ที่เป็นเพื่อนยังไม่กล้าโทรจิกพี่เขาเลย

"สวัสดีครับ ปีหนึ่ง!" พี่แชมป์ เฮดว๊ากปีสามเดินเข้ามาทำให้ปีหนึ่งทั้งหมดตั้งแถวอัตโนมัติ

"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" ปีหนึ่งทักทายอย่างพร้อมเพรียงกัน แต่ก็ยังมีเสียงลอบถอนหายใจด้วยความกังวลออกมาให้ได้ยินเป็นพักๆ ถึงจะไม่ได้จริงจังอะไรกันมากมาย แต่พยายามกันมาถึงขนาดนี้แล้วเพื่อนๆ ผมทุกคนก็คงอยากได้รุ่น ได้รับการยอมรับจากพี่ๆ แน่นอนอยู่แล้ว

"หึ ขณะนี้เวลา.." พี่แชมป์เหยียดยิ้มก่อนจะชูข้อมือที่สวมนาฬิกาก่อนจะเคาะบนหน้าปัดสองสามที

"แปด..."

"ขอโทษที่เกือบสาย แต่คิดว่าน่าจะมาทันนะ" เสียงที่ดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบทำให้ทุกคนหันไปมองก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก พี่กันย์โผล่มาแบบเฉียดฉิวด้วยอาการหอบนิดๆ ก่อนจะเช็ดเหงื่อที่เริ่มซึมออกมาตามไรผมด้วยความรำคาญ แล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเหล่าพี่ว๊ากด้วยท่าทางที่เดาไม่ออก

"(มึง)จะเอายังไงครับ" พี่กันย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจะเย็นกว่าปกติ เรียกสีหน้าแปลกๆ ของพี่แชมป์ได้แว่บหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติ

"(เอ่อ..พี่)ก็ลองถามพวกของคุณ(พี่)ดูสิ" ผมได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ครั้งหนึ่งจากพี่กันย์ก่อนพี่เขาจะหมุนตัวกลับมาแล้วหยุดลงตรงหน้าไอ้พีท

"ให้ไว" ..ก่อนที่กูจะหมดความอดทน ไม่รู้ทำไมแต่ผมเหมือนได้ยินประโยคนี้ดังขึ้นมาในหัวต่อท้าย

"เอ่อ นี่ของพี่กันย์ครับ พี่ไปเปลี่ยนก่อนก็ได้" ไอ้พีทพูดก่อนจะยื่นชุดหมีผ้าเดนิมสีเข้มที่ปักตราคณะเกษตรที่กระเป๋าเสื้อห้พี่กันย์ก่อนจะชี้ทางไปห้องน้ำที่อยู่ในตึก

"เดี๋ยวผมพาไปครับ" ผมรีบอาสาแล้วกึ่งจูงกึ่งลากพี่กันย์ไปห้องน้ำเมื่อเห็นพี่เขาเริ่มกัดริมฝีปากพลางมองชุดในมือ

…ผมว่า ถ้าพี่เขาคิดจะชำแหละชุดหมีตรงหน้า ก็ช่วยหลบๆ ไปจากสายตาพวกพี่คณะผมก่อนท่าจะดี





"ข้อ 1 กูเกลียดการตื่นก่อนแปดโมง" เสียงพึมพำของคนที่เดินตามมาทำให้ผมหันไปมองหน้าพี่กันย์ ตั้งแต่รู้จักพี่เขามา วันนี้น่าจะเป็นวันที่พี่กันย์มีสภาพดูดีที่สุดแล้ว ผมที่ถึงแม้ไม่ได้เซทไว้ แต่ก็ไม่ถึงกับพันกันยุ่งเหยิงอย่างวันก่อน หน้าตาดูสดใสถึงแม้จะมีร่องรอยของความอิดโรยที่น่าจะมาจากการตื่นก่อนแปดโมงอย่างที่เจ้าตัวว่า ผิวที่ดูสว่างกว่าปกติคงเพราะตัดกับเสื้อยืดสีดำพอดีตัว กางเกงยีนส์ขาเดปสีเข้มบวกกับรองเท้าหนังกลับสีน้ำตาลที่เจ้าตัวชอบใส่

...จริงๆ พี่กันย์นี่ก็หน้าตาใช่ย่อยนะเนี่ย

"ข้อ 2 กูเกลียดยูนิฟอร์มโว้ยย" ปัง! เสียงกระแทกประตูห้องน้ำทำให้ผมสะดุ้งอย่างตกใจ ...ผมควรทำไงดีครับเนี่ย





ตอนนี้ปีหนึ่งทั้งหมดมายืนแถวตอนเรียงหนึ่งกันรอบคันนาซึ่งเป็นส่วนของแปลงทดลองที่แยกตัวออกมาจากตัวคณะซึ่งอยู่เกือบหลังมหา'ลัย

"เอ่อ ไอ้กันย์ มึงจะถอด Accessories ทั้งหมดของมึงฝากกูก่อนมั้ย" พี่คีย์ถามแบบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

"เออ" พี่กันย์ตอบรับก่อนจะเริ่มถอดนาฬิกาข้อมือที่ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันไม่ได้มีตัวเลขหรือเข็มอย่างนาฬิกาทั่วไป แต่มีวัตถุสามเหลี่ยมที่อยู่กลางหน้าปัดนาฬิกาทำหน้าที่ให้เกิดเงาซึ่งมีลักษณะคล้ายเข็มนาฬิกาแทน

...เชี่ยย นาฬิกายังมีดีไซน์

พี่กันย์ส่งนาฬิกาข้อมือให้พี่คีย์ก่อนจะเริ่มปลดสร้อยข้อมือที่มีลักษณะเป็นโซ่เงินเส้นเล็กๆ ตามด้วยต่างหูเพชรและจิวสีดำบนหูซ้ายออกอย่างเริ่มหงุดหงิด ก่อนจะถอดรองเท้าหนังออกแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ผมแล้วถอนหายใจแรง

"ข้อ 3 กูเกลียดการอยู่ข้างนอกในวันหยุดโดยไม่มีจิว ต่างหู นาฬิกาแล้วก็สร้อยข้อมือ" พี่กันย์หลับตาอย่างคนระงับอารมณ์ก่อนจะพับชายแขนเสื้อขึ้นจนมาถึงข้อพับก่อนจะก้มลงไปพับชายกางเกงให้ลอยขึ้นมาเหนือข้อเท้าทั้งสองข้าง

"นี่คือเครื่องแบบสำหรับการลงนา ดังนั้น พวกคุณต้องแต่งมันให้เรียบร้อยเหมือนชุดนักศึกษา ห้ามพับแขน ห้าม.." เสียงของพี่แชมป์ชะงักไปเมื่อหันมาเห็นพี่กันย์ที่นอกจากจะพับแขนเสื้อและขากางเกงแล้วยังปลดซิบลงมาถึงช่วงอกทำให้เห็นเสื้อยืดสีดำที่อยู่ข้างในจนแทบไม่เหลือเค้าชุดหมีทรงเชยๆ

"ห้ามอะไรครับ.." พี่กันย์เลิกคิ้วถามเสียงเรียบ

"เอ่อ..ช่างเถอะ ปีหนึ่งทุกคนพร้อมแล้วใช่มั้ยครับ!"

"พร้อมคับ/พร้อมค่ะ"

"ดี ขอให้พวกคุณตั้งใจ เพราะกิจกรรมนี้จะทำให้พวกคุณเข้าใจในความเป็นคณะเกษตรของพวกเราทุกคน" พี่แชมป์พูดขึ้นอย่างฮึกเหิมจนทำให้นักศึกษาคณะเกษตรทุกคนอดที่จะภูมิใจในความเป็นเด็กเกษตรไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่พี่กันย์.. ที่มองตรงไปยังแปลงนาตรงหน้าด้วยความสนใจ

"ปีหนึ่งทั้งหมด เชิญครับ!" พี่ปีสองที่วันนี้มาทำหน้าที่เป็นสวัสดิการสำหรับกิจกรรมได้ก้าวขึ้นยืนข้างน้องปีหนึ่งทุกคนก่อนจะส่งต้นกล้าข้าวให้คนละหนึ่งกำมือแล้วถอยออกไปยืนล้อมรอบแปลงนาของของนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่งปี 59 แล้วจับมือกันเอาไว้ เหมือนเป็นสัญญาณให้ปีหนึ่งทุกคนค่อยๆ เดินลงไปในนาแล้วเริ่มปักต้นกล้าลงไปเป็นแถวๆ

"ข้อ 4 กูเกลียดของแหยะๆ ทุกชนิดยกเว้นกาว" ส่วนพี่กันย์ก็ยังคงบ่นต่อไปไม่หยุดจนผมแอบกังวลเล็กๆ ไม่ได้

...เด็กเกษตรอย่างพวกผมน่ะไม่เป็นไรหรอก แต่พี่เขาเนี่ยสิ จะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้

"มึงก็รีบๆ เดินเข้าไปสิ กูจะได้ทำของกูบ้างเนี่ย" เสียงตวาดไอ้ธันย์ยังดังมาแว่วๆ จนผมหลุดขำ ถ้ายังอาละวาดได้แบบนี้คงไม่เป็นไรหรอกมั้งครับ





ตอนนี้ปีหนึ่งหลายคนเริ่มปักกล้ากันเสร็จแล้ว จึงค่อยๆ ทยอยยืนรอบๆ แปลงเพื่อรอให้คนที่เหลือได้เข้าไปปักต่อ สิ่งที่ผมกังวลเมื่อครู่นี่มอดมลายหายไปแล้วครับ ใครจะคิดว่าเด็ก'ถาปัตย์ บุคลิกติดจะสำอางแบบนั้นจะทำงานพวกนี้ได้อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้เด็กเกษตรอย่างพวกผมเลยสักนิด

ผมแอบเห็นพี่กันย์เงยหน้าขึ้นอย่างดูภูมิใจเมื่อพี่เขาปักกล้าต้นสุดท้ายลงในแปลงแล้วเดินตามพวกปีหนึ่งกลุ่มสุดท้ายออกมา เสียงปรบมือดังขึ้นไปทั่วแปลงนาจนปีหนึ่งทุกคนหันไปดูด้วยความสนใจ ตอนนี้นอกจากพวกพี่ปีสองและปีสามแล้วยังมีพี่ปีสี่และพี่ที่จบไปแล้วอีกหลายคนยืนล้อมรอบพวกผมอยู่บนคันนาและปรบมือให้จนปีหนึ่งทุกคนยิ้มกันแก้มแทบปริด้วยความดีใจ

...ห้องเชียร์ปีนี้จบลงไปแล้ว และชีวิตเด็กปีหนึ่งในรั้วมหา'ลัยกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

"ขอบคุณสำหรับความตั้งใจตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ต่อจากนี้ไปพวกคุณคือเด็กเกษตร คืออนาคตของประเทศ และคุณ...คือรุ่นน้องของพวกผมครับ ยินดีด้วยครับ 'น้องๆ' ทุกคน" พี่แชมป์พูดขึ้นก่อเสียงเฮจะดังขึ้นตามมา

‘พี่ๆ’ ต่างกวักมือเรียกปีหนึ่งให้ขึ้นจากแปลงนาแล้วเดินไปรับสร้อยคอซึ่งมีจี้ใสๆ ห้อยอยู่ ตัวจี้มีลักษณะเป็นกระบอกใสบรรจุเมล็ดข้าวที่มีเลข ‘71’ กำกับไว้

"ขอให้มึงมีความสุขกับชีวิตนักศึกษามากๆ ใช่ชีวิตให้เป็น ทั้งเรียน ทั้งเล่น แล้วมึงจะรู้ว่ามึงคิดถูกแค่ไหนที่ได้มาเรียนที่นี่" พี่คีย์พูดก่อนจะหย่อนสร้อยลงบนมือของผม

...เด็กเกษตร รุ่น 71 สินะ





"เอ่อ...พี่กันย์ครับ ผมขอโทษครับพี่.." เสียงโหวกเหวกโวยวายจากเฮดว๊ากหน้าโหดที่ตอนนี้กำลังตกเป็นเหยื่อของรุ่นพี่ต่างคณะกำลังพูดขอโทษพร้อมกับวิ่งหนีไปด้วย เรียกเสียงหัวเราะและเสียงสมน้ำหน้าจากรุ่นพี่และรุ่นน้องคณะเกษตรได้เป็นอย่างดี

"ไอ้-เหี้ย-แชมป์ มึงเล่นอะไรแมร่งไม่ปรึกษากูเลย อย่าหนีนะเว้ย กลับมานี่เลยมึง"
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 30-10-2016 17:19:13
 :o8: :o8: :o8: :o8:
     


  สนุกมาก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-10-2016 19:22:06
แหมๆ.....พี่แชมป์ ว้ากเกษตร จะรับน้องแรงๆ สินะ
แต่ไปยุ่งกับพี่กัลย์ ฐาปัตย์
ปีน เลยบอกซะเลยเป็นรุ่นพี่ พวกเดียวกัน อะจ๊ากกกก
แต่ได้ใจพี่กัลย์ นะ ทั้งที่ไม่ชอบหลายๆไม่ชอบ
แต่ก็ยอม พี่กัลย์ น่ารัก
ปืน เริ่มเห็นแล้วสินะ พี่กัลย์ เขาหน้าตาดีนะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 30-10-2016 19:56:41
พี่กันย์เท่จังงงง :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 30-10-2016 20:14:56
ทำไมพี่กันย์ดูน่ารัก ถึงจะเยอะแต่ก็น่ารักนะ
 :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: imac ที่ 30-10-2016 20:24:59
ชอบพี่ gun
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: wnkth ที่ 30-10-2016 20:38:50
ติดตามๆ สนุกอะครับ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 30-10-2016 22:02:15
ทำไมคาแรกเตอร์กันย์เหมือนผมจังวะเนี่ย (ฮา) แต่ผมสุภาพกว่านิดหน่อย (มั้ง) คิดว่างั้นนะ 555 แต่เรื่องนอนได้เยอะๆ กับเด็กต่างคณะชอบเรียกมาให้ช่วยนี่โคตรจริง บางทีจับพลัดจับพลูโดนอาจารย์คณะอื่นถูกใจ ทำเรื่องเรียกมาจีบไปช่วยงานอีก กรรมของเวร 555

เอ้อ แต่ไม่เหมือนอยู่อย่าง ผมไม่ได้เรียนสถาปัตย์ 555 เด็กสถาปัตย์งานเยอะจริงครับ โชคดีที่ไม่ได้เรียน แค่ช่วยเพื่อนทำงานนี่ก็รู้สึกเลยว่างานเยอะจริง คือถ้ารวยขนาดจ้างร้านขึ้นโมเดล 3D หรือทำเลเซอร์แปลนได้มันก็ง่ายอะครับ เปลือง แต่เร็วหน่อย ความจริงตัวเรนเดอร์งานเด็กวิศวะก็ช่วยทำได้นะครับ โปรแกรมบางตัวมันทำงานคล้ายๆกัน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 31-10-2016 10:18:57
พี่กันย์น่ารักดีนะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 03 - ...ก็พี่ไม่ชอบ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 31-10-2016 23:19:45
04-…ก็พี่ขี้เมา

"ไอ้ปืน! ทางนี้โว้ยย" ไอ้ธันย์ตะโกนทักผมมาแต่ไกลจนคนแถวนั้นหันมามอง

…จากที่เดินมาเงียบๆ นี่กลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาทันที

"จะตะโกนทำซากอะไรของมึงครับเพื่อน" ผมด่าก่อนจะเดินเข้าไปร่วมวงกับพวกเพื่อนๆ และพี่ๆ ปีสองกลุ่มของพี่คีย์

หลังจากเลิกกิจกรรมลงนากันตอนเกือบเที่ยง พี่แชมป์ก็สั่งให้ทุกคนแยกย้ายก่อนจะกลับมารวมตัวกันใหม่เวลาทุ่มตรงที่ร้านอาหารกึ่งๆ ร้านเหล้าไม่ใกล้ๆ มอ โดยครั้งนี้พวกปีสามอาสาเป็นเจ้ามือเหมาร้านไว้ให้ในวาระที่ฉลองปีหนึ่งได้รุ่นและความต้องการแอลกอฮอล์ส่วนตัวของพวกพี่ๆ เอง แล้วก็ตามระเบียบครับ… พูดถึงงานเลี้ยงก็ต้องมีการแต่งตัว และธีมในการแต่งตัวครั้งนี้คือ 'ใส่ลายดอก..มาบอกรัก' …ซึ่งมันง่ายสุดครับ ก็แค่หาเสื้อผ้าลายดอกซึ่งเป็นแฟชั่นยอดฮิตของเด็กคณะผมอยู่แล้วมาใส่สักตัวแล้วก็ลากตัวเองมานั่งในงานเท่านั้น จบ! (พี่แชมป์เขาว่ามางี้…)

ไอ้ธันย์นี่เล่นใส่เสื้อเชิ๊ตสีเขียวลายดอกสีชมพูสะท้อนแสงเห็นมาตั้งแต่ผมยังอยู่ตรงทางเข้าร้าน ยังดีนะครับที่มันมีสามัญสำนึกเบรกสีสดๆ ของเสื้อมันด้วยกางเกงขาสั้นสีครีมอ่อนๆ กับรองเท้าสีน้ำตาลทำให้สุนัขที่นอนเล่นอยู่ในร้านไม่ลุกขึ้นมาเห่ามันซะก่อน ส่วนของผมนี่ถึงจะไม่ได้เป็นคนแต่งตัวดีอะไรนัก แต่ลายดอกสีพาวเวอร์เรนเจอร์นี่คงต้องขอละไว้บ้าง เลยจัดมาแค่ยืดสีขาวมีกราฟฟิคลายดอกสีดำแซมๆ ชมพูบ้างเป็นบางจุดตรงไหล่กับชายเสื้อพอเป็นพิธีก็พอ

"สวัสดีครับผมมม..." เสียงแก๊งค์พี่ว๊ากที่ตามมาเสริมทัพทักทายกันมาแต่ไกลเล่นเอาพวกผมหลบสายตากันไม่ทัน

…ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่เสื้อนี่สีสะท้อนแสงพอๆ กับไอ้ธันย์เลยทีเดียว

"ไอ้ธันย์น้องรัก สมแล้วที่เป็นน้องกู" พี่คีย์ที่ติดสอยห้อยตามแก๊งค์พี่ว๊ากเดินเข้ามากอดคอไอ้ธันย์แล้วตรงดิ่งไปที่บาร์ทันที ส่วนผม ไอ้พีทและเพื่อนๆ พี่ๆ ต่างขยับขยายวงเพื่อให้แก๊งค์พี่ปีสามเข้ามานั่งด้วยกัน

…จากนั่นแอลกอฮอล์ทุกชนิดในร้านต่างถูกยกเข้ามาประเคนแบบไม่ว่างเว้นกันเลยทีเดียวครับ





"เอ้อไอ้คีย์ มึงบอกพี่กันย์แล้วใช่เปล่าว่าร้านนี้" พี่แชมป์ถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าตอนนี้เกือบสองทุ่มแล้วแต่รุ่นพี่ต่างคณะที่ชวนมาสังสรรค์ด้วยกันก็ยังไม่มา

"บอกแล้วพี่ แต่เดี๋ยวผมโทรตามมันอีกทีดีกว่า" พี่คีย์ว่าก่อนจะกดโทรศัพท์เพื่อโทรหารุ่นพี่ต่างคณะอีกคนที่นับวันยิ่งทำตัวเหมือนเป็นรุ่นพี่ในคณะผมเข้าไปทุกที

"ฮัลโหลไอ้กันย์ อยู่ไหนแล้ววะ เออ ร้านที่ห้อยผ้าสีส้มๆ อ่ะ เลี้ยวเข้ามาได้เลยมึงข้างหลังมี่ทีจอด พวกกูนั่งอยู่หน้าเวทีนะ" พี่คีย์วางสายก่อนจะหันไปบอกพวกพี่แชมป์ว่าพี่เขากำลังจะถึง





"เฮ้ย นั่นใช่พี่คณะเราเปล่าวะ?"

"ไม่ใช่แก พี่คนที่มาช่วยทำคัทอ่ะ"

"ที่เรียนสถาปัตย์ใช่ป่ะ"

"เชี่ย ไปทำไรมาวะ ทำไมวันนี้โคตรหล่อ"

"กรี๊ดดด.."

เสียงซุบซิบผสมเสียงกรี๊ดยังดังขึ้นมาเป็นระยะๆ และยิ่งดังขึ้นจนคนทั้งโต๊ะทนไม่ได้ต้องหันไปมองก็เห็นตัวต้นเหตุที่กำลังมองหาโต๊ะพวกผมอยู่พอดี

"ไอ้เชี่ยยย พ่อเจ้าแม่เจ้าโว้ยย ถ้ามึงจะจัดเต็มขนาดนี้ เล่นเอากูนี่ไม่มีที่ยืนเลยครับเพื่อน" พี่คีย์อุทานก่อนจะเดินไปรับเพื่อนที่เริ่มจะทำตัวไม่ถูกเพราะทุกสายตาเริ่มพุ่งไปที่เจ้าตัวให้รีบมาที่โต๊ะก่อนจะโดนรุมทึ้งไปซะก่อน

เมื่อเช้าที่ผมว่าสภาพพี่กันย์ดูดีแล้วนี่เทียบไม่ได้กับตอนนี้เลยครับ เสื้อผ้าสไตล์ Casual ของพี่เขานี่กินขาด เสื้อเชิ๊ตสีขาวสะดาดตากับเสื้อคลุมตัวนอกกึ่งสูทกึ่งลำลองสีมัสตาร์ดตัดกับกางเกงยีนส์ขาเดปสีกรม รองเท้าหนังกลับคู่โปรด แถมด้วย Accessories ทั้งสี่ แล้วไหนจะยังไอ้ผมหัวตั้งที่เซทมาอย่างดีกับหน้าใสกิ๊งเหมือนได้รับการนอนชดเชยเมื่อสิบชาติก่อนไปแล้ว

...ถึงพี่จะโคตรหล่อ แต่ช่วยเกรงใจลายดอกสีโคตรสด ตรงนี้ด้วยครับ!

"โทษทีว่ะ กูตื่นสาย รถแมร่งก็โคตรติด" พี่กันย์หันมาค้อมหน้างึกๆ สองสามทีรอบวงอย่างเกรงใจที่มาช้า แล้วดูพี่เขาครับ แต่งตัวดีๆ แบกหน้าหล่อๆ มายังไม่พอ ยังมานั่งท่ามกลางดงดอกไม้ในวันคริสต์มาสอย่างพวกผมอีก คนเบ้าหน้าดียังรอดยากแล้วลองนึกถึงพวกผมสิครับ

...ตายเรียบ

"กูว่าละ หน้ามึงใสขนาดนี้นี่ไปนอนมาชัวร์" ...คุณพระคุณเจ้า สงสัยถ้าผมอยากหล่อนี่ไม่ต้องทำศัลยกรรมแล้วครับ แค่นอนก็พอ

"เออ ไม่ไหวว่ะ ตื่นเช้าเกิน" พี่กันย์บ่นถึงเรื่องเมื่อเช้าก่อนจะรับแก้วเหล้าจากพี่แชมป์มากระดกอึกๆ อย่างกับน้ำเปล่า

"พี่มาทีนี่แย่งซีนพวกผมหมด งานเลี้ยงแบบนี้ต้องให้พวกพี่ว๊ากเป็นพระเอกสิครับพี่" พี่แชมป์แซวเมื่อทุกสายตารอบโต๊ะยังคงหันมามองพี่กันย์ไม่หยุด

"หุบปากเลยมึง กูจะมาคิดบัญชีกับมึงเนี่ย ไหนว่าแค่ให้กูไปยืนเฉยๆ ไง" พี่กันย์ได้ทีรีบทวงถึงเรื่องเก่าๆ ก่อนจะเทเหล้าเพียวๆ ลงในแก้วพี่แชมป์จนสีเข้ม

"ขอโทษจริงๆ พี่ ก็ใครใช้ให้ไอ้เด็กปีหนึ่งมันเล่นนอกบทล่ะ" พี่แชมป์ว่าก่อนพี่กันย์จะเหล่มาทางผม

"เออ กูเป็นพวกมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับเนี่ย แหม่ กินเข้าไปเลยมึง" พี่กันย์ได้ทีชักเริ่มสนุกชงเหล้าให้คนนู้นทีคนนี้ทีอย่างคล่องก่อนจะเรียกพนักงานเสิร์ฟให้เอาเหล้ามาให้ขวดที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้





"ก็ตอนแรกอ่ะเพ่ ผมอ่ะจะให้..ไอ้..คีย์แมร่งเป็นตัวดราม่า ที่ไหนด้ายย..ย มันดันไปใช้พี่ทำคัทแทนมันอ่าาา.." พี่แชมป์ที่ตอนนี้น้ำเสียงเริ่มยานยังตั้งหน้าตั้งตา 'แฉ' เบื้องหลังการรับน้องไปเรื่อยๆ จนปีหนึ่งเริ่มมามุงฟังด้วยความสนใจ

"พี่ต้องคิดดิว้าา.. พี่จะใช้ผมทำอะไรก็ได้เว้ยยย..ย.. แต่ผมโง่ศิลปะ มีเพื่อนเก่งก็ต้องใช้เพื่อนดิ เนอะ ไอ้กันย์" พี่คีย์พูดก่อนจะโผเข้าไปซบคอพี่กันย์ก่อนจะเอาหน้าไถๆ ที่ต้นแขนจนพี่กันย์ต้องผลักหัวออก

"มึงมาช่วยกูหน่อยดิ" พี่กันย์กวักมือเรียกผมก่อนจะให้ช่วยลากตัวพี่คีย์ที่ตอนนี้เริ่มทิ้งตัวทั้งตัวไปทางพี่กันย์ให้หันไปซบโซฟาอีกข้างที่ยังว่างแทน

"พี่คอแข็งเหมือนกันนะครับเนี่ย" ผมหันไปมองอย่างทึ่งๆ ปริมาณแอลกอฮอล์ที่พี่กันย์กินเข้าไปไม่ได้น้อยไปกว่าแก๊งค์พี่ว๊ากกับพี่คีย์เลย แต่พี่เขากลับมีอาการแค่หน้าแดงเรื่อๆ ขึ้นมานิดหน่อยเท่านั้น

...ที่เขาบอกว่าเด็ก'ถาปัตย์กินเหล้าต่างน้ำท่าจะจริง

"แล้วมึงไม่กินล่ะ" พี่กันย์ถามก่อนจะเติมเหล้าในแก้วของผมที่น้ำแข็งละลายจนหมดแล้ว

"ไม่ค่อยชอบครับ"

"เด็กอนามัย" พี่กันย์พูดก่อนจะหยิบแก้วของผมไปกินเสียเอง

"พี่กันย์ขาา" เสียงหวานของ 'เฟรม' ดาวคณะชั้นปีผมดังมาแต่ไกลก่อนจะเดินมานั่งบนเก้าอี้เดี่ยวข้างๆ พี่กันย์

"ครับผม" พี่กันย์หันไปยิ้มตอบ

"เพื่อนเฟรมชอบพี่อ่ะค่ะ ขอเบอร์ได้มั้ยค้าา" เสียงเฟรมที่เริ่มทอดยาวทำให้ผมรู้ว่าเธอคงกรึ่มๆ ไม่แพ้กัน พอหันไปมองรอบๆ ตัวถึงเพิ่งรู้สึกได้ว่าพวกปีหนึ่งที่มากันในตอนแรกนี่แทบไม่เหลือแล้ว ส่วนพี่ปีสองกับปีสามก็เริ่มทยอยหิ้วปีกกันออกไป

...แล้วไอ้พีทกับไอ้ธันย์ไปไหนแล้ววะ

ผมคิดก่อนตั้งท่าจะออกไปหาเพื่อนแต่จู่ๆ ก็มีมือมาจับต้นแขนแน่นจนต้องหันไปมอง  พี่กันย์นั่นเองครับแถมยังส่งสายตาขอความช่วยเหลือมาเต็มที่

"เฟรม กลับมั้ย เดี๋ยวเราไปส่ง" ผมเดินเข้าไปเขย่าตัวเพื่อนสาวเบาๆ โดยพยายามจะไม่แตะตัวเธอมากเกินไปเพื่อให้เธอมีสติ

...ก็เธอเล่นทั้งดึงทั้งกระชากเสื้อนอกพี่กันย์จนจะขาดติดมือมาอยู่แล้วเนี่ย

"พี่ไม่เห็นใส่ลายดอกเลยย..ยย หนูขอหาลายดอกของพี่หน่อยน้าา..าา"

...เชี่ยย ผู้หญิงสมัยนี้โคตรน่ากลัว

"อิเฟรมม แกทำอะไรพี่เขาา... ขอโทษค่ะพี่" อิแบงแบงที่วันนี้แต่งตัวเป็นผู้หญิงตั้งแต่หัวจรดเท้ารีบเดินเข้ามาลากเพื่อนสาวที่เริ่มเมาแล้วอาละวาดออกไป

"กูจะบ้าตาย" ผมเห็นพี่กันย์ปาดเหงื่อเบาๆ ก่อนจะกระชับเสื้อนอกให้เข้าที่แล้วกระดกเหล้าเข้าปากต่อไป

"มึงนี่ฮอตเนอะ น้องเฟรมแมร่งยังจะกินมึงเลยว่ะไอ้กันย์" พี่แชมป์ที่เดินกลับมาจากห้องน้ำเอ่ยขึ้น

"เดี๋ยวๆ กูอ่ะพี่มึง! อย่าเยอะ!" พี่กันย์พูดแล้วชี้นิ้วอย่างคาดโทษ

"ไม่เป็นไรนะ ไม่เปนรายย...ย.. กูไม่ถือ แต่มึงถือใช่ป่ะล่าา.." พี่แชมป์พูดพลางหงายมือให้ดูว่าในมือพี่เขาไม่มีอะไร แต่พี่กันย์ต่างหากที่ถือแก้วอยู่ในมือ

"สัด!"

"รุนแรงจัง ว่าแต่..ทำไมถึงไม่ใส่เสื้อลายดอกว้าา..า รู้ป่ะเนี่ย ว่าเด็กเกษตรเขาก็มีธีมกันนะเว้ย" พี่แชมป์คะยั้นคะยอถามเพื่อจะเอาคำตอบให้ได้

"ข้อ 5..."

"พี่กันย์ไม่ใส่เสื้อผ้าลายดอกครับ" ผมตอบในขณะที่ส่งถุงพลาสติกให้พี่แชมป์ที่เหมือนกำลังจะคืนแอลกอฮอล์ทั้งหมดออกมาคืนร้าน

"เหยดดด นี่สนิทกับกูถึงขนาดนั้น ใช้ได้ๆ" พี่กันย์พูดอย่างขำๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างพอใจ

"ไม่ได้เว้ย..ย วันนี้มาถิ่นเด็กเกษตร พี่ต้องทำตามธรรมเนียม เข้าใจป่ะ!" พี่แชมป์พูดก่อนจะถอดเสื้อลายดอกจากเพื่อนข้างๆ ที่เมาหลับไปแล้ว แล้วพยายามเอามายัดให้พี่กันย์ใส่ให้ได้

"ไอ้แชมป์ หยุดเลยมึง เมาแล้วกลับบ้านไปโว้ยยย" พี่กันย์ทั้งดันทั้งยันจนเกือบจะถีบพี่แชมป์อยู่แล้ว ผมลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วล้วงบางอย่างออกมาแล้วพับอย่างเรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วเสียบมันลงในกระเป๋าเสื้อนอกของพี่กันย์

"นี่ไงลายดอกพี่แชมป์ เห็นยัง เอาเสื้อกลับไปให้พี่วินได้แล้ว พี่เขาจะหนาวตายแล้วนั่น" ผมกล่อมพี่แชมป์เหมือนกล่อมคนบ้าที่คลุ้มคลั่งแล้วพยายามจะทำร้ายคนให้หันไปมองเพื่อนตัวเองที่นอนกอดท่อนบนที่เปลือยเปล่าจนตัวแทบสั่นเป็นเจ้าเข้า

"อะไรของมึงวะ" พี่กันย์มองสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อนอกแล้วทำท่าจะดึงออกจนผมต้องรีบหยุดไว้

"มันคือผ้าเช็ดหน้า ของ young designer คนไทย ผมเช็คลาย สี โทนรวมๆ แล้วก็ตะเข็บแล้วเพราะฉะนั้นพี่เก็บไว้นะครับ และอย่าเอามันออกมาเพราะผมพับแบบนั้นได้แค่ครั้งเดียว" ทันทีที่ผมพูดจบพี่กันย์ก็ได้แต่มองผมอย่างอึ้งๆ ก่อนจะชี้ที่ผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้เล็กสี Old rose บนพื้นผ้าสีกรมท่าที่สีของทั้งผืนโดนเบรคลงมาให้ดูออกแนววินเทจประมาณว่า

...มึงให้กูทำไมครับ

“ก็ผมเจอมัน..”

“อ่าฮะ”

 “แล้วผมก็ซื้อมา…”

“อ่าฮะ”

แล้วผมก็ต้องนิ่งแล้วหยุดคิดก่อนจะตอบไปว่า…

“นั่นดิ ไม่รู้เหมือนกันว่ะพี่…”

...เออ ผมซื้อมาทำไมวะ

"เออ.. ขอบใจแล้วกัน"  พี่กันย์ตัดจบเมื่อเห็นผมไม่พูดอะไร

ผมเลยหันไปลากพี่แชมป์ให้กลับไปนั่งที่แล้วจัดการใส่เสื้อคืนให้พี่วินจนเรียบร้อยแล้วจัดการสั่งเหล้าปั่นซึ่งเป็นเหล้าชนิดเดียวที่ผมกินได้แบบไม่ฝืนใจนักมาแก้สถานการณ์ที่เหมือนจะมีบรรยากาศแปลกๆ เกิดขึ้นโดยไม่ลืมเผื่อแผ่ไปถึงพี่เขาด้วย

…ถือซะว่ากินเป็นเพื่อนพี่เขาแล้วกัน เพราะดูท่ารายนั้นจะไม่ยอมหยุดกินง่ายๆ เสียด้วย





"เอ้อ..พี่กันย์ครับ" ผมตัดสินใจทำลายความเงียบขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเวลาเริ่มล่วงเข้าสู่วันใหม่และร้านใกล้จะปิดเต็มที

"ว่าไงครับน้องปืน" ...เดี๋ยวนะ

"พี่กันย์.. เรียกผมว่าอะไรนะครับ"

"น้องปืนไง ชื่อปืนไม่ใช่หรอเราอ่ะ"

...เชี่ยย เรียกผมว่า ‘ปืน’ แถมใช้สรรพนานแทนผมว่า ‘เรา’ อีก

...หนักกว่าเหตุผลของการซื้อผ้าเช็ดหน้า ก็ ‘ปืน’ กับ ‘เรา’ นี่แหละครับ

"พี่... เป็นไรป่ะครับ" ผมลองถามอีกครั้งอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

"ก็เปล่านี้ ผมปกติดี"

...ผมว่านั่นแหละครับ ‘โคตรไม่ปกติเลย’

"เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมออกไปส่งพวกพี่แชมป์ก่อนนะครับ พี่กันย์ นั่งคนเดียวไปก่อนนะครับ" ผมเอ่ยบอกคนที่ยังนั่งหัวโด่อยู่คนเดียวในโต๊ะแล้วช่วยลากพวกแก๊งค์พี่ว๊ากตามพวกพี่ปีสามที่อาสาไปส่งให้

"ได้สิครับน้องปืน" รอยยิ้มหวานๆ ที่ยิ้มจนตาหยีถูกส่งมาให้ผมจนผมนี่ใจคอไม่ดีเลยทีเดียวพลางนึกถึงสาเหตุที่ทำมห้คนคอแข็งใช้คำพูดคำจาแปลกๆ จะว่าเมาก็ไม่น่าใช่..

...น้ำเสียงก็ปกติ

...หน้าตาก็ปกติ

...แล้วอะไรที่ไม่ปกติวะ?





ผมนี่แทบถลาเข้าไม่ทัน เมื่อตอนที่เดินกลับเข้ามาในร้านแล้วเห็นพี่กันย์เริ่มกลายเป็นปีศาจเที่ยวไล่จูบพวกพี่ปีสองที่เหลืออยู่ไปทั่ว แล้วมันดันมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งทำท่าเหมือนจะเล่นด้วยขึ้นมานี่สิ

"พี่กันย์ครับ!" ผมรีบตะโกนเรียกก่อนจะปีนข้ามเก้าอี้ไปยังโต๊ะที่อยู่อีกมุมหนึ่งของร้านแล้วเอื้อมมือไปปิดปากพี่กันย์เอาไว้ก่อนที่จะจูบพี่ผู้หญิงคนนั้นได้ทัน พี่คนนั้นจิ๊ปากอย่างขัดใจเล็กน้อยแต่ก็ปล่อยผมลากพี่กันย์กลับมาที่โต๊ะแต่โดยดี

"ว่าไงคร้าบบ น้องปืน" ...อ่าฮะ เสียงเริ่มไม่ปกติล่ะ

"พี่กันย์จะกลับแล้วยังครับ"

"ถ้าน้องปืนอยากให้พี่กลับ พี่กลับก็ได้นะคร้าบบ.." พี่กันย์พูดก่อนจะเท้าคางหันมามองหน้าผมตาแป๋ว หน้าเริ่มแดงที่ไม่ใช่เพราะแสงไฟในร้านแน่ๆ ...หน้าเริ่มไม่ปกติ

"แล้วพี่.. จะกลับยังไงครับ" ผมพูดพลางชูกุญแจรถของพี่กันย์ขึ้นมาตรงหน้า ...ถ้าคิดจะเมาแล้วเอารถมาทำไมวะเนี่ย

"อย่าดุพี่ด้วยสายตาอย่างน้านน.. ปกติ พี่ก็ไม่เมาน้าา.." พี่กันย์ยื่นหน้าเข้ามาดูกุญแจรถใกล้ๆ พลางทำท่าคิดอย่างสงสัย

"แล้วทำไมวันนี้..." ยังไม่ทันพูดจบกุญแจรถตรงหน้าผมก็ถูกดึงออกไป ผมเพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้เองว่าหน้าผมกับพี่กันย์ใกล้กันมากขนาดรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่าย แล้วจู่ๆ พี่กันย์ก็ยื่นริมฝีปากออกมา..

"จุ๊บ"

...ผมเพิ่งรู้ตอนนี้นี่เองว่าไอ้ท่าทางของคนที่นั่งคอแข็งมาตลอดนี่คืออะไร

…สรุปว่าว่าไอ้พี่กันย์แมร่งเมา

…แล้วไอ้คนเมาคนนี้ก็ดันมาจูบผมไงไครับ





...เชี่ยยยย ผมโดนผู้ชายจูบปาก อี๋!

"ไอ้เชี่ยพี่กันย์" ผมลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วจนพี่กันย์ตกใจหงายท้องลงไปนอนกับพื้นของร้านแล้วก็เริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับไอ้พี่คีย์ที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

"กูว่าแล้ว ฮ่าๆๆ มึงสั่งมาใช่มั้ย เหล้าปั่นอ่ะ" พี่คีย์ถามก่อนจะชี้ไปที่โถเหล้าปั่นที่ตอนนี้มีแต่โถเปล่า

"ครับ?"

"ไอ้เชี่ยกันย์มันแพ้พวกเหล้าผสมน้ำผลไม้ กินเข้าไปแค่สองสามแก้วก็เยิ้มแล้วมึงเอ้ย ฮ่าๆๆ" พี่คีย์ยังคงหัวเราะต่อไปอย่างสะใจ ก่อนจะยื่นกุญแจรถที่ฉกไปเมื่อกี้คืนมาให้ผม

"ลากมันกลับหอด้วย กูว่ามันขับรถไม่ไหวว่ะ" พี่คีย์ว่าแล้วเดินออกจากร้านไปปล่อยผมไว้กับคนเมาที่เที่ยวไล่จูบคนอื่นแล้วยังหัวเราะไม่ยอมหยุด

‘หึๆๆ ฮ่าๆๆ….’

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 04 - ...ก็พี่ขี้เมา
เริ่มหัวข้อโดย: wnkth ที่ 02-11-2016 16:40:34
อุ้ย โดนจุ๊บด้วย น่ารักอะครับ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 04 - ...ก็พี่ขี้เมา
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 02-11-2016 23:03:49
05-…ก็พี่ขี้บ่น

อ้วกกก..

สุดท้าย…ผมก็ต้องแบกพี่กันย์กลับมาที่ห้องอีกแล้วครับ และจนตอนนี้พี่เขายังคงนั่งเฝ้าชักโครกไม่ยอมไปไหน

"ไหวมั้ยครับเนี่ย" ผมเดินไปลูบหลังก่อนจะส่งแก้วน้ำให้พี่กันย์ แต่พี่เขากลับเทน้ำลงในชักโครกแล้วนั่งหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังแทนที่จะเอาไปดื่มเสียนี่

"ดูดิมึง เชี่ยนี่ตลกว่ะ เติมเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม อ้วกกก..." พี่กันย์ชี้น้ำในชักโครกที่ไม่ว่าพี่เขาจะเทน้ำลงไปเท่าไหร่มันก็ยังรักษาระดับน้ำไว้เท่าเดิม

...มันก็ปกติของมันเปล่าวะพี่

ยังดีที่ตอนนี้อาการปีศาจหายไปแล้วครับ ไม่เรียกผมว่า ‘น้องปืน’ หรือ ‘เรา’ ให้ผมขนลุกเล่นๆ เหลือเพียงแค่ความเพี้ยนระยะเริ่มต้นกับอาการอ้วกที่ยังไม่สิ้นสุดเท่านั้น

"หมดยังครับ" ผมถามเมื่อพี่กันย์ทำท่าจะฟุบหน้าลงไปกับพื้นห้องน้ำซะงั้น

"อือ"

"งั้นไปนอนกันพี่" ผมว่าก่อนจะแบกพี่กันย์ไปพิงไว้หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วหาเสื้อกล้ามสีขาวซึ่งดูเป็นตัวที่ใส่ง่ายที่สุดแทนชุดเก่าที่ถอดทิ้งไปเพราะเลอะอ้วก

...จะยอมเปลี่ยนให้แค่วันนี้เท่านั้นแหละครับ จำไว้

"เฮ้อ" ผมถอนหายใจออกมาดังๆ เมื่อในที่สุดผมก็ลากคนตัวสูงมาทิ้งลงบนที่นอนได้สำเร็จก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวพี่เขาไว้ลวกๆ

"ห้ามทำที่นอนผมเลอะเด็ดขาดนะพี่" พูดไม่ทันขาดคำพี่กันย์ก็ทำท่าจะเอาของเสียออกมาอีกรอบจนผมรีบวิ่งไปเอาถุงจากในครัวมาแทบไม่ทัน

"ฮ่าๆๆ" เสียงหัวเราะทำให้รู้ว่าพี่มันเล่นผมซะแล้ว ผมเลยจัดการเอาหูของถุงทั้งสองข้างจนเกี่ยวหูพี่เขาไว้จนคนที่นอนอยู่เริ่มโวยวาย

"ห้ามอ้วก.. นะครับ" ผมกำชับอีกครั้งแล้วดึงถุงออกไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป





[Gun's]

...เหมือนหนังรีรัน

ผมตื่นมาในห้องที่มองยังไงก็ไม่ใช่ห้องผมอีกแล้ว แต่ไม่ต้องเดาหรอกครับผมจำได้ ห้องไอ้เด็กปีหนึ่งคณะเกษตรแน่ๆ

...นี่ผมปล่อยให้มันหิ้วมาอีกแล้วหรอวะ

ผมคิดอย่างเซ็งๆ ปกติถ้าผมคิดจะเมาผมจะไม่เอารถไป แต่เมื่อวานนี้ผมก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเมาอะไรขนาดนั้น เพราะไปกินกับเด็กคณะอื่นแถมผมยังคอแข็งอยู่แล้วด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เด็กนั่นดันสั่งเหล้าปั่นรสแอปเปิ้ลมา แล้วผมก็ดันกินเข้าไป...

06:15 น.

ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผมถึงตื่นก่อนแปดโมงได้ นี่เป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ผมค้นพบ คือถ้าวันไหนผมเมาหนักๆ ผมจะตื่นเช้ามาก แต่อาการแฮงค์นี่ก็แล้วแต่โอกาสกันไป บางวันซวยตื่นมายังอ้วกอยู่เลยก็มี แต่ถึงอย่างนั้นเตียงข้างๆ ของผมก็ว่างซะแล้ว

...ไอ้เด็กนั่นมันจะตื่นเช้าไปไหนเนี่ย

ผมเดินงงๆ ออกมาจากห้องนอนก่อนจะพบข้าวต้มปลาส่งกลิ่นหอมฉุยออกมาจากห้องครัว ส่วนตัวคนทำกำลังสาละวนกับอะไรบางอย่างอยู่ที่ระเบียงข้างนอก

"ทำอะไรวะ" ผมเดินออกไปพยายามสอดรู้สอดเห็นเต็มที่ก็พบกระถางต้นไม้อยู่สี่ห้ากระถาง มีผักใบเขียวๆ ขึ้นงอกงามน่าเด็ดทีเดียว

"ทำไมตื่นเช้าจังครับ ไหนว่าข้อ 1..."

"หุบปากมึงไปเลย" ผมด่ามันก่อนที่มันจะได้ล้อเลียนผมแล้วนั่งยองๆ ลงข้างมัน

"กินได้ป่ะ" ผมชี้ไปที่ต้นผักชีที่มันกำลังบรรจงเด็ดใบอยู่ก่อนมันจะพยักหน้าให้ ผมเลยเด็ดมาใบหนึ่งแล้วส่งมันเข้าปาก

"เชี่ยย รสธรรมชาติ... ดีว่ะ กูมันพวกมือร้อน ปลูกอะไรก็ตาย มึงคิดดูกระบองเพชรกูยังทำมันตาย" มันหันมาทำหน้าภาคภูมิใจใส่ผมก่อนจะเด็ดต้นหอมออกมายื่นให้ผม

"กูไม่ใช่วัว" ผมด่ามันแต่ปากก็อ้างับต้นหอมที่มันยื่นมาให้เรียกเสียงหัวเราะจากมันได้เบาๆ

"แต่กูรักธรรมชาติไง.."





"กูปวดหัวกับเสื้อผ้ามึงจริงๆ ว่ะ" เป็นอีกครั้งที่ผมต้องขอยืมเสื้อผ้ามัน และเป็นอีกครั้งที่ผมต้องมานั่งปวดหัวกับเสื้อลายกราฟฟิกพวกนี้

...ลายมึงจะเยอะไปไหนวะ

ผมพลิกไปกี่ตัวๆ ก็ต้องมีลายไม่ต้องนู้นก็ตรงนี้สักแห่ง ให้ตาย ถึงจะบ่นอยู่ในใจแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องหาเสื้อใส่อยู่ดี แต่รอบนี้มันเปิดโอกาสให้ผมรื้อเอง โดยกำชับว่า 'ต้องรื้ออย่างเรียบร้อย' นี่มึงเข้าใจคำว่า ‘รื้อ’ ผิดไปเปล่าวะ

"เฮ้อ" เสียงถอนหายใจดังมาจากคนที่ยืนพิงผนังอีกด้าน ผมหันไปมองหน้ามันก่อนที่ไอ้เด็กนั่นจะเคาะหน้าปัดนาฬิกาแล้วชูสองนิ้ว

...2 ชั่วโมง

…ก็เกินไป 20 นาทีพอเหอะครับ

สุดท้ายเลยตัดสินใจหยิบเชิ๊ตขาวกับกางเกงสแลคสีดำอันคุ้นตาออกมา

"ชุดนักศึกษา?" ไอ้เด็กนั่นถามขึ้นมาอย่างสงสัย

"เออ ยืมหน่อย กูขี้เกียจคิดละ" ผมตอบก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ยังคงผึ่งไว้ที่ระเบียงตั้งแต่ที่ผมมาเมื่อวันก่อน

"แค่แต่งตัวต้องคิดด้วย"

"เอ้า คิดดิมึง เรื่องใหญ่นะเว้ย" มันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นแปรงสีฟันสีดำให้ผม

"ของกู?" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ ขืนมันเอาของที่ใช้แล้วมาให้ผมนี่เรื่องใหญ่เลยนะ

"ครับผม กว่าจะหาสีดำได้นี่แทบพลิกแผ่นดิน" มันตอบก่อนจะเดินออกไปรอที่โซฟาข้างนอกเหมือนเดิม

"หาให้กูเพื่อ? อะไรของมันวะ?" ผมได้แต่เดินงงๆ เข้าห้องน้ำไป

...อย่างน้อยคราวนี้กูก็มีแปรงสีฟันใช้ละ





[Bpuen's]

วันนี้ผมว่างทั้งวันเลยกะจะไปซื้อของบางอย่างเพิ่มเติมเผื่อเข้าห้อง พี่กันย์เลยบอกให้ติดรถพี่เขาออกมาเพราะอีกนิดมันก็จะถึงถนนเส้นหลักอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องเดินให้ร้อนเปล่าๆ แต่สุดท้ายไม่รู้พี่เขาอารมณ์ไหนเลยจะไปกับผมด้วย โดยให้เหตุผลว่า

"กูขอไปเสพรสนิยมมึงสักหน่อยเหอะว่ะ"

และตอนนี้ผมเลยต้องมาอยู่ตรงหน้าตู้เสื้อผ้าของคนที่บอกว่า 'เรื่องแต่งตัวน่ะมันเรื่องใหญ่'

...ใหญ่จริงๆ ครับ ห้องแต่งตัวพี่กันย์ใหญ่มาก ขอย้ำนะครับ ไม่ใช่ตู้เสื้อผ้า แต่มันคือห้องแต่งตัว

จะว่ายังไงดี ไอ้หอของพี่กันย์เนี่ย มันเป็นหอเก่าแต่เขาขายขาดทำให้ไอ้คนซื้อเนี่ยจะปู้ยี่ปู้ยำมันขนาดไหนก็ได้ ห้องของพี่กันย์ใหญ่กว่าห้องผมมาก เป็นห้องสตูดิโอหนึ่งห้องใหญ่ๆ กับห้องน้ำ 1 ห้องแล้วกั้นทุกอย่างออกเป็นสัดส่วนด้วยชั้นวางของหรือฉากสวยๆ แทนที่จะแบ่งเป็นห้องๆ อย่างห้องผม

มีส่วนรับแขกที่ดูสบายๆ ใช้พวก Bean bag กองๆ กับพื้นแทนโซฟา มีมุมครัวเล็กๆ ที่น่าจะไว้แค่ประกอบอาหารง่ายๆ ได้ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคือห้องนอนครับ ความเท่มันเริ่มตั้งแต่การที่ประตูห้องนอนถูกออกแบบให้คล้ายกับประตูบานพับเหล็กตามร้านขายของชำ พื้นของห้องนอนถูกยกระดับขึ้นมาจากพื้นห้องปกติแล้วมีฟูกอันหนึ่งวางข้างบนอย่างห้องญี่ปุ่น ไม่มีเตียง ซึ่งมันเชื่อมอยู่กับไอ้ห้องที่เป็นประเด็นนี่แหละครับ

ห้องแต่งตัวที่โคตรใหญ่ มันเหมือนตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีบานเปิดปิดแต่สูงจนชิดเพดานแปะอยู่บนผนังทั้งสามด้าน สไตล์เสื้อผ้านี่แขวนไล่ไปตามสีซึ่งมากกว่า 80 เปอร์เซ็น คือโทนขาวเทาดำ ส่วนพวกเสื้อผ้าสีสันก็พอมีบ้างแต่เป็นโทนเย็นเป็นส่วนใหญ่ แล้วไอ้พวกขาวเทาดำนี่ก็แยกเรียงกันตั้งแต่สไตล์เป็นทางการไปจนถึงเสื้อยืดที่ดูสบายๆ แต่ไอ้ที่เด่นสุดคงเป็นโต๊ะกระจกกลางห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับสี่ชิ้นในตำนานของพี่เขา

...ข้อ 4 ต่างหู จิว นาฬิกา สร้อยข้อมือ

แล้วไอ้นาฬิกานี่น่าทึ่งมาก บอกเลยครับ ไม่มีอันไหนที่ดูเวลาง่ายๆ เลยสักอัน

"ผมรู้แล้วครับว่า..."

"หยุด ห้ามด่ากูเยอะ โอเค๊?" พี่กันย์พูดดักคอจนผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างขำๆ

"ไม่ได้จะว่าเลยครับ แค่จะบอกว่ารู้แล้วว่าทำไมพี่ถึงใส่เสื้อผ้าผมไม่ได้แค่นั้นเอง" ผมพูดอย่างยิ้มๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปเลือกชุดสำหรับใส่วันนี้

"มึงจะไปดูของที่ไหนนะ" พี่กันย์ถามในขณะที่หยิบเสื้อสองตัวออกมา ตัวหนึ่งเป็นเสื้อยืดคอวีสีขาว ส่วนอีกตัวเป็นเสื้อโปโล เรียบๆ สีดำ ก่อนจะเดินไปหยุดหน้าตู้ที่มีจำพวกเสื้อคลุม

"สยามครับ สยามร้อน" ผมเน้นคำว่า ‘ร้อน’ เป็นพิเศษเพื่อให้พี่เขารับรู้ถึงอากาศเมืองไทยจนเหลือไว้แค่เสื้อโปโลสีดำตัวเดียว

"พี่ชอบแต่งตัวสินะครับ" ผมพูดขึ้นขำๆ ระหว่างที่ยืนดูพี่เขาพลิกกางเกงตัวนั้นตัวนี้มาเป็นนาทีแล้ว

"เปล่าอ่ะ มันจำเป็น" พี่เขาหันมาตอบก่อนจะวุ่นวายกับการหากางเกงต่อไป

"จำเป็น?"

"ก็ไอ้ว่าที่อาชีพกูเนี่ย มันต้องเข้าสังคมไง แล้วสังคมก็มีโคตรจะหลายแบบ การแต่งตัวก็เป็นกาลเทศะอย่างหนึ่งที่มึงต้องเรียนรู้ เข้าใจ๊?"

"พี่แมร่ง.." ผมอุทานจนพี่เขาหรี่ตามอง

"อะไร"

"โคตรเท่อ่ะ" ผมตอบแล้วขยิบตาให้ก่อนจะเห็นรอยยิ้มกว้างจากคนตรงหน้า พี่กันย์ยักคิ้วให้ทีนึงก่อนจะไล่ผมออกมาเพราะพี่เขาจะแต่งตัว





ตอนนี้พวกผมกำลังเดินวนไปในสยามร้อนที่ร้อนสมชื่อจริงๆ ครับ จนผมทนไม่ได้ต้องข้ามกลับไปเดินฝั่งสยามปกติที่มีเครื่องทำความเย็นก็เพราะไอ้คนข้างหลังนี่แหละครับ ที่เดินมาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เหงื่อท่วมที่เหมือนเพิ่งไปอาบน้ำมายังไงอย่างงั้น

"ตกลงมึงจะซื้ออะไรครับเนี่ย" พี่กันย์ที่ดูเหมือนจะคืนชีพขึ้นหลังจากได้รับอากาศเย็นถาม

"ก็จะซื้อพวกของใช้เนี่ยแหละพี่ แต่ยังไม่เจอของที่อยากได้เลย" ผมตอบไปพลางมองสองข้างทางอย่างไม่ได้จริงจังนัก

"แล้วมึงอยากได้อะไรวะ"

"ชั้นหนังสือ"

ป้าบบ.. กำปั้นของคนข้างๆ ตีลงมากลางหัวผมแบบพอดิบพอดี จนผมต้องหันไปมองอย่างคาดโทษ

"จะซื้อชั้นหนังสือจะมาสยามทำเพื่อ? ควรไปอิเกียร์อะไรเทือกนั้นมั้ยล่ะ" พี่กันย์ถามอย่างเซ็งๆ

"ก็ไม่รู้จะไปไหนอ่ะ แล้วทำไมพี่ไม่บอกผมก่อนล่ะคร้าบบ"

"ก็กูเพิ่งรู้เมื่อกี้เองนี่คร้าบบ ไม่บอกกูล่ะคร้าบว่าจะซื้อชั้นหนังสืออ่ะ" พี่กันย์ประชดก่อนจะลากผมกลับไปที่ลานจอดรถอย่างรวดเร็ว

"โอเค ตอนนี้บอกกูมามึงจะซื้ออะไรบ้าง"

"ก็ชั้นหนังสือ ชั้นวางต้นไม้ กระถางใหม่ด้วยก็ดี อืมม.. แต่ก็อยากได้พวกเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูด้วยนะครับ"

"เยอะจังวะ ถ้ามาคนเดียวจะขนกลับยังไง ใช้สมองบ้างป่ะเนี่ย โว๊ะ" ถึงจะบ่นแต่คนข้างๆ ก็ยอมเคลื่อนรถออกจากชั้นใต้ดินแต่โดยดี





[Gun's]

หลังจากบึ่งรถข้ามค่อนสยามประเทศมา ตอนนี้เราเลยมาอยู่ห้างสรรพสินค้าที่รวมทุกสิ่งอันที่มันอยากได้ไว้หมดแล้ว

"เชิญครับคุณมึง" ผมพูดพลางภายมือไปยังโซนของของแต่งบ้านเป็นอันดับแรกแล้วเดินตามมันเข้าไป ที่นี่เป็นที่ๆ ผมชอบมาเดินบ่อยๆ เพราะนอกจากจะมีของเยอะแล้ว มันยังมีมุมจำลองห้องต่างๆ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ให้ได้ศึกษาเพื่อเป็นไอเดียเสมอ แล้วราคาก็ยังอยู่ในขั้นพอรับได้ จะติดก็ตรงที่มันออกจะไกลไปหน่อยนี่แหละครับ

"พี่ว่าอันไหนดีอ่ะ" ผมหันไปตามทิศทางที่มันชี้ก่อนจะเจอเข้ากับชั้นวางขนาดเล็กสีดำ กับชั้นวางสีครีมลายไม้ขนาดสูงกว่าตัวมันนิดหน่อย

"มึงอ่านหนังสือด้วยหรอ" ผมถามมันอย่างสงสัย คราวก่อนไปนี่แทบจะไม่เห็นหนังสืออะไรของมันนอกจากหนังสือเรียนเลยด้วยซ้ำ

"ก็ไม่ค่อยหรอกครับ แต่มีไว้มันก็...ดูน่ารักดี"

...รู้แล้วครับ ไอ้เด็กนี่ต้องเป็นพวกชอบของสิ้นเปลือง ประโยชน์ไม่ เอาที่สบายใจไว้ก่อน ชัวร์!

"กูว่าอันนี้แจ่ม" ผมลากมันมาอีกฝั่งที่เป็นโซนเด็ก ซึ่งโซนนี้เป็นโซนที่ข้าวของทุกย่างจะถูกย่อขนาดลงจนดูจิ๋วไปเลย

"แน่ใจหรอพี่" มันถามผมก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างชั้นวางหนังสือนิทานสีสันสดใสแถมยังมีล้อและราวจับเพื่อให้ใช้เข็นไปได้รอบๆ อีกด้วย

"กูประชด ก็เห็นชอบของน่ารักนี่"

"แต่จริงๆ ก็ไม่เลวนะพี่" ...ผมนี่เกลียดไอ้สายตาวิบวับประหนึ่งเจอของถูกใจของมันเหลือเกิน

แล้วไอ้ชั้นหนังสือนิทานเด็กที่ว่านี่ไม่ได้มีแค่ตัวเดียวเดี่ยวๆ นะครับ มันมีมาทั้งเซทครับผม ถ้าดูดีๆ ชั้นหนังสือมันจะมียอดประสาทข้างบนแล้วลิ้นชักข้างหน้าสามารถดึงพาดลงมาให้กลายเป็นสะพานแขวนอย่างในนิทานได้ ส่วนเก้าอี้เด็กตัวข้างๆ นี่เหมือนกำแพงเมือง มีช่องเล็กๆ ไว้สำหรับปืนใหญ่ซึ่งดันยิงได้จริง นอกจากนี้ก็มีโต๊ะเล็กๆ ซึ่งเอามาพับแล้วประกอบกันเป็นร้านค้า หรือบ้านเรือนต่างๆ ในเมืองได้อีกด้วย

"ซื้อเถ๊อะ!" ไม่ใช่เสียงมันนะครับ เสียงผมนี่แหละ เห็นแล้วนี่มันช่างปลุกไฟความเป็นสถาปนิกในตัวผมได้ดีจริงๆ

...ก็ขนาดแค่เกมเดอะซิมส์ยังหลอกล่อให้พวกผมหน้ามืดมาเรียนคณะนี้ได้ แต่นี่มันเมืองจำลองขนาดย่อมๆ ที่เอาตัวมุดเข้าไปได้จริงๆ แบบนี้เนี่ยไม่พลาดแน่ๆ

...แล้วประเด็นคือไม่ใช่เงินผมไง ฮ่าๆๆ

"ตกลงไอ้ที่ซื้อนี่ของใครนะครับ" ไอ้เด็กเกษตรถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจแต่ก็หยิบเซทเมืองจำลองที่กล่องโคตรใหญ่มาใส่รถเข็นทันที

"อือ ของมึงอ่ะ แต่กูอยากเล่น" ผมตอบส่งๆ

...เข้ากับห้องรึเปล่าไม่รู้ กูอยากเล่นเป็นพอ





เมื่อครู่นี้เป็นโซนของเด็ก’ถาปัตย์ คราวนี้ได้เวลาของเด็กเกษตรเขาบ้างแล้วครับ เมื่อไอ้เด็กนี่เดินเข้าโซนของจุกจิกส่วนครัวและ OUTDOOR ได้ไม่ถึงห้านาที กระถางต้นไม้หลากสีนี่ลงรถเข็นเป็นอย่างแรกเลย

...แถมยังตามมาด้วยตะเกียงเซรามิกสีขาวและเทียนไขในเบ้าอะลูมิเนียม

"บ้านมึงไฟฟ้าเข้าไม่ถึงหรอครับ" ผมถามมันอย่างสงสัย คือมึงจะเอาเทียนไขไปทำไมตั้งมากมาย ห๊ะ!

"หุบปากพี่ไปเลย ผมซื้อไอ้เซทบ้านจำลองนั่นให้ก็บุญแล้วครับ" โอ๊ะ... ไอ้เด็กนี่ร้ายกาจเว้ยเฮ้ย

"เดี๋ยวๆๆ ไอ้พวกเมื่อกี้กูยังเข้าใจ แต่มึงจะเอาเปลแขวนเพดานอันใหญ่เท่าบ้านนี่ไปไม่ได้" ผมด่ามันในขณะที่มันกวักมือเรียกผมยิกๆ ให้ไปขนไอ้เปลที่ตัวโคตรใหญ่ใส่ลงไปในรถ

"ทำไมล่ะครับ" มันถามพลางเบะปากเหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจ

"หยุดเบะเลยมึง กูสั่งทุบห้องมึงละเอาเปลวางไว้ให้เอามั้ยล่ะ เตียงเติงไม่ต้องใช้มันละ นอนเปลแมร่งไปแล้วกัน" มันทำหน้างอจนผมต้องลากไอ้เด็กโลภมากออกมาจากโซน OUTDOOR ก่อนที่มันจะยอมให้ผมสั่งทุบห้องมันจริงๆ

"ซื้อผักบุ้ง ผักกาดมึงไปไป๊" ผมพูดก่อนจะปล่อยให้มันไปวิ่งเล่นในดงเมล็ดพันธุ์พืชของมันแทน

"พี่อยากกินอันไหนเป็นพิเศษมั้ยครับ ไม่อยากจะอวดแต่ผมนี่ปลูกโคตรเก่งอ่ะ" มันพูดพร้อมกับหอบเมล็ดพืชมากกว่าสิบถุงมาโยนใส่ในรถ

"กูกินหมดอ่ะ กูเลี้ยงง่าย" ผมตอบก่อนจะยิ้มขำๆ เมื่อมันเดินกลับไปยังชั้นวางถุงเมล็ดพืชแล้วโกยมาอีกสิบถุงใหญ่

"สบายมาก เดี๋ยวผมคนนี้จะเลี้ยงพี่เอง" มันหันมายักคิ้วให้ก่อนจะเดินนำไปโซนถัดไป

…อยากเลี้ยงกูหรอ ก็ลองดู!





"เดี๋ยวๆ มึงไว้ทุกข์ใครหรอครับ" ผมถามพลางกระชากรถเข็นหนีเมื่อมันยังไม่หยุดโยนทุกสรรพสิ่งที่เป็นสีดำลงรถเข็นตรงบริเวณโซนของใช้จิปาถะ

"เอ้า" มันสบถก่อนจะจ้องผมตาโตก่อนจะหรี่ตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า

…แน่นอนครับ ร่างกายผมมีแต่สีดำ

"ของกูเนี่เรียกสไตล์ครับ ส่วนของมึงนี่เกินไป" ผมพูดก่อนจะเขี่ยๆ ดูของในรถเข็นที่มีทั้งผ้าขนหนูผืนเล็ก ผืนใหญ่ ผ้าเช็ดมือ ถ้วย แก้ว จาน ชามรวมไปถึงเสื้อกล้าม บอกเซอร์ มีแม้แต่...กางเกงใน

…ซึ่งทั้งหมดนั่นเป็น สีดำ!

"เป็นเชี่ยไรของมึงเนี่ย อยู่ใกล้กูมากไปรึไง"

"ของผมที่ไหน ของพี่ทั้งนั้นอ่ะ"

"ของกู?"

"ก็พี่ขี้บ่นอ่ะ มาห้องผมทีก็จะเอาแต่สีดำๆ เนี่ยดำพอป่ะ อยากใช้อะไรอีกก็หยิบๆ มา" มันพูดอย่างรำคาญก่อนจะเดินไปหยุดหน้าไม้แขวนเสื้อแล้วหยิบอันที่เป็นสีดำใส่ลงมาอีก

"ประชดกูป่ะเนี่ย" ผมหรี่ตามองอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเก็บพวกถ้วยโถโอชามกลับไป รวมถึงเครื่องแต่งกายภายในเหล่านั้นด้วย

"คืนไปหมดแล้วพี่จะใส่อะไรล่ะ"

"เดี๋ยวขากลับกูแวะเอาที่หอให้"

"ห๊ะ?"

"เอ้า ก็อยากได้ไปไว้นักก็เอาของกูไปเลยไง ของกู สไตล์กู จะได้ไม่บ่นกันทั้งมึงทั้งกูอ่ะ" มันพยักหน้าเข้าใจก่อนหยิบอะไรบางอย่างส่งให้

"ต้องการมั้ย?"

...มันคือถุงสำหรับอ้วก

...สีดำ

"กวน-ตีน!"











หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 05 - ...ก็พี่ขี้บ่น
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 03-11-2016 01:21:59
พวกเค้าคือคนจีบกันใช่ไหมคะ5555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 05 - ...ก็พี่ขี้บ่น
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 03-11-2016 02:35:24
เอ๊ะ แอ้วกันอยุหรืออะไร หรือยังไง งงไปหมด5555555555555555 เริ่มคืบคลานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันแบบงงๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 05 - ...ก็พี่ขี้บ่น
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-11-2016 05:19:52
พี่กัลย์ น้องปืน  :mew1: :mew1: :mew1:
พี่กัลย์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตน้องปืน ไปและ
ที่ปืน พยายามหาเสื้อผ้า ของใช้สไตล์พี่กัลย์เข้าห้อง
นี่ก็ทำให้แปลกๆ แล้วนะ :hao3:
แค่รำคาญ หรือเริ่มตามใจพี่กัลย์ กันแน่ :katai1: :katai1: :katai1:
แต่เริ่มถามเรื่องผักเพื่อปลูกให้กินนี่   
ปืน เริ่มรู้สึกอะไรกับพี่กัลย์ เข้าแล้วหรือเปล่า
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 05 - ...ก็พี่ขี้บ่น
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 03-11-2016 13:04:47
อารมณ์ผัวเมียซื้อของเข้าบ้าน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 05 - ...ก็พี่ขี้บ่น
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-11-2016 14:16:13
เหมือนจะบอกกลาย ๆ ว่าจะมีการไปค้างที่ห้องอีกฝ่าย ในครั้งต่อ ๆ ไป ฮา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 05 - ...ก็พี่ขี้บ่น
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 04-11-2016 07:42:48
06-…ก็พี่ไม่สนิท

"ไอ้กันย์ ชิลจังนะมึง" นอกจากเสียงจะเสียดแทงเข้าไปถึงโสตประสาทแล้วฝ่ามือพิฆาตของไอ้เพื่อนรักผมยังตามมาติดๆ จนผมต้องหันไปด่ามันด้วยสายตา

"ชิลห่าอะไรมึงล่ะ ดูตากูครับจะไม่เหลือพื้นที่ให้ผิวขาวๆ ของกูแล้วเนี่ย" ผมประชดมันอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพยายามจ้องหน้ามันเท่าที่ตาบวมๆ ของผมจะถลึงใส่มันได้

"ในที่สุดก็กลับมาสู่ความเป็นจริง น้ำตากูจะไหล" 'นที' หรือ 'ไอ้ที' เพื่อนที่ตัวติดกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งนั่งพร่ำเพ้ออย่างไม่ยอมรับความจริงพลางจ้องมองใบโปรแกรมของวิชาออกแบบที่เพิ่งได้มาใหม่หลังจากที่อาจารย์ประจำวิชาให้ทำ Workshop ซึ่งเป็นโปรเจคเล็กๆ (แต่ก็ทำเอาไม่ได้นอนไปหลายคืน) อยู่นานสองนาน

จริงๆ ตามหลักสูตรภาควิชาภูมิภูมิสถาปัตยกรรมที่ผมเรียนเนี่ย จะถูกแยกตัวออกมาจากสถาปัตยกรรมหลักตอนปี 2 เทอม 2 และเน้นไปทาง Landscape ตามสาขาโดยตรง โดยส่วนของเนื้อหาในวิชาออกแบบจะเน้นออกแบบมากๆ ตอนปี 1-3 แต่ปี 4 จะเน้นการวิเคราะห์ในงานที่สเกลใหญ่มากๆ  ซึ่งบางงานก็แทบไม่มีส่วนที่ต้องออกแบบเพื่อความสวยงามเลยด้วยซ้ำ แล้วความบรรลัยมันก็อยู่ตรงนี้แหละครับ เพราะไอ้งานวิเคราะห์นี่จะมานั่งนึกเอาเองแบบตอนเน้นออกแบบไม่ได้  ต้องค้นมาหมดทั้งห้องสมุด เอกสารอ้างอิง ตำราสารพัดนึก แล้วลองนึกดูนะครับว่าเด็กที่อยู่แต่กับรูปภาพ กราฟฟิค อย่างพวกผมต้องมาอยู่กับตัวหนังสือนับพันๆ ตัว แหม่.. ช่างเข้ากั๊น เข้ากัน นอกจากนั้น ความบรรลัยขั้นกว่าคือ... มันต้องทำเป็นกลุ่มครับผม นั่นหมายความว่า ชีวิตผมแทบจะไม่เหลือที่ว่างให้หายใจอีกต่อไป

...ขอไว้อาลัยให้ชีวิตปี 4 เป็นเวลาหนึ่งนาที อาเมน

"ไม่เป็นไรนะเพื่อน เราจะผ่านมันไปด้วยกัน" ผมยื่นมือออกไปข้างหน้าแล้วไอ้ทีก็ยื่นมาจับก่อนจะกอดคอกันเบะปากร้องไห้

"ไอ้ที เด็กมึงมาหาว่ะ" 'ไอ้โฟม' เพื่อนในกลุ่มอีกคนเดินมาสมทบแล้วชี้ไปที่เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักในชุดนักเรียนคนหนึ่งที่กำลังมองมาทางนี้แล้วโบกมือขึ้นทักทายเมื่อพวกเราทั้งกลุ่มหันไปมอง

"เออ เดี๋ยวกูมา" ไอ้ทีว่าก่อนจะเดินไปหา 'น้องหลิน' กิ๊กมัน พูดคุยกันสองสามคำน้องหลินก็ยกมือไหว้เผื่อแผ่มาทางพวกเราแล้วเดินจากไป ทิ้งไว้แต่ไอ้ทีที่เดินหน้าแป้นแล้นกลับมาพร้อมกล่องร้านเค้กชื่อดังในมือ

"หมั่นไส้โว้ยยย เอามากินซะดีๆ" ไอ้ทีหัวเราะเบาๆ ก่อนจะวางกล่องเค้กลงตรงหน้าแล้วแจกช้อนให้ทุกคนเป็นสัญญาณว่า ...พวกมึงกินได้

ในบรรดาพวกเด็กสถาปัตย์อย่างพวกผม ใครมีแฟนนี่ถือว่าน่าอิจฉาครับ ส่วนใครที่มีแฟนที่คบกันมานานจนลากกันมาถึงปัจจุบันได้นี่ถือว่าน่าอิจฉากว่า แต่ใครที่ทั้งมีแฟน ทั้งคบกันมานาน ทั้งโคตรแห่งความเข้าใจแถมยังเทคแคร์ดูแลไม่ขาดแบบน้องหลินนี่ ที่สุดของความอิจฉา ริษยาบวกความมั่นไส้จะรวมกันได้อีกครับผม

...ก็ใครมันจะมาเข้าอกเข้าใจคนไม่มีเวลาให้แบบพวกผม ขออนุญาตบีบน้ำตาสักสองสามหยดเถอะครับ ถุย!

"น้องหลินเขาก็ดีนะเว้ย ดูแลมึงโคตรดี ทำไมไม่เป็นแฟนกับน้องเขาสักทีวะ" ผมถามด้วยความสงสัย คือคำว่า 'กิ๊ก' ของไอ้ทีเนี่ยก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะมีหลายคนหรอกครับ เห็นมีแต่น้องหลินนี่แหละที่มันไปไหนมาไหนด้วยตั้งแต่ตอนปีสองจนจะยิ่งกว่าแฟนอยู่แล้ว แต่มันก็ยังบอกใครต่อใครว่าเป็นแค่ 'กิ๊ก'

"ก็รู้ว่าดี แต่กูชอบแบบนี้ว่ะ แบบไม่มีพันธะไง สบายใจทั้งคู่" มันตอบหน้าตาย

"กูไม่อยากนะด่าแต่มึงดูเลวมาก ควงน้องเขาจนช้ำละแต่ดันบอกว่าไม่ใช่แฟน ไม่สงสารน้องเขาหรอวะ"

"พูดไปพวกมึงก็ไม่เข้าใจหรอกว่ะ ต้องลองมีดู เชื่อกูนะครับเพื่อน" มันพูดพลางตบไหล่ผมอย่างคนที่เข้าใจโลกมากกว่า

...อย่าให้กูมีบ้าง

"เอ้อ แล้วพวกปูนไปไหนวะ" ไอ้โฟมถามถึงพวกเพื่อนๆ ที่เหลือพลางจ้วงเค้กกิน ด้วยความที่เด็กภาคผมคนมันน้อยครับเลยสนิทกันเกือบหมด เวลาจะไปไหนทีนี่ก็แห่กันไปทีละเกือบสามสิบคน ไม่เด่นไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ

"มานู่นละ" ไอ้ทีชี้ก่อนจะกวักมือเรียกให้คนอื่นๆ มานั่งด้วยกัน

"ปูนกินเค้กมั้ยคะ?" ไอ้ทีพูดพลางชี้ที่กองเค้กตรงหน้าที่ได้เสียสละหน้าตาอันสวยงามส่วนหนึ่งเข้าไปอยู่ในท้องผมเรียบร้อยแล้ว

"ถ้ามึงป้อนกูก็จะกินค่ะที แต่ไม่กินเค้กได้มั้ยคะ? ขอกินมึงแทนแล้วกัน" ปูนพูดก่อนจะหยอดยิ้มหวานๆ ตามมาเล่นเอาพวกผมไม่รู้จะเขินหรือจะฮาดี 'ปูน' คือดาวคณะรุ่นพวกผมที่น้องจากหน้าตาอันสวยหวานของมันแล้วก็แทบไม่มีอากัปกิริยาไหนเลยที่บอกว่ามันเป็นผู้หญิงแถมยังเอาแต่แซวพวกผมตลอดจนบางทีนี่ถึงกับต้องอายแทนมันเลยทีเดียว

"กูไม่อยากทำงานเลยให้ตาย อาทิตย์หน้าพวกมึงจะส่งอะไรกันครับ" พอกินขนมเสร็จไอ้ทีก็เริ่มกลับมางอแงอีกครั้ง

"ทำใจเหอะว่ะ" ไอ้ปูนพูดก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ อย่างเข้าใจ …เรามันคนชะตากรรมเดียวกัน

"ใครทำมาเกินหน้าเกินตากูจะเดินไปฉีกเพลตมึงทิ้งคอยดู" ไอ้ทีพูดขึ้นมาอย่างคาดโทษก่อนทุกคนจะส่ายหัวอย่างเอือมระอา

...ก็ไอ้คนที่กำลังพูดขึ้นมานั่นแหละตัวดีเลยครับ





"ทำไมกูต้องมาอยากรู้ว่า ถนนสายนี้เกิดขึ้นได้ยังไงวะ?" ไอ้ทีบ่นก่อนจะฟุบหน้าลงกับกองหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุด

"อ่านไปก็ไม่เข้าหัว กูว่าหาผัวดีกว่า" ปูนเสริมทัพก่อนจะฟุบหน้าลงเป็นรายต่อไป นี่พวกมึงแอบอู้กันสินะ ...กูขอด้วย

"อ่ะ" อะไรบางอย่างจิ้มเข้าที่แขนจนทำให้ผมต้องสะดุ้งขึ้นมาจากความฝันที่ฝันว่ากำลังได้นอนอีกที ...สงสัยจะอดนอนมากเกิน

"อ้าว มึง" ผมมองไอ้คนตรงหน้าอย่างงงๆ ที่ขนาดอยู่มหา'ลัยในช่วงบ่ายร้อนๆ มันยังมาหลอกหลอนผมในชุดผ้ากันเปื้อนสีชมพูลายหมีกินน้ำผึ้งที่มันชอบใส่

...ผมขอซื้อไปเผาทิ้งได้มั้ยครับเนี่ย ไอ้ผ้าผืนนี้

"สวัสดีค่ะ น้องน่ารักมากจนพี่อยากจะขอเบอร์ แต่ผ้ากันเปื้อนน้องสุดจะทนมาก ไปเปลี่ยนเหอะ เชื่อพี่" ไอ้ปูนที่ไม่รู้ตื่นมาตั้งแต่เมื่อไหร่เอ่ยตามใจคิดไปไม่ยั้งเล่นเอาไอ้ธันย์(ที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนลายไม่ต่างกันมาก แค่เปลี่ยนจากหมีกินน้ำผึ้งบนพื้นชมพู เป็นหมูสีชมพูบนพื้นเขียวแทน)กำลังจะยื่นขนมในห่อใสๆ ให้ถึงกับชะงัก

...ผู้หญิงคณะผมนี่ไม่ธรรมดาครับ บอกเลย

"เพื่อนพี่พูดซะผมไม่อยากจะให้เลยเนี่ย" ไอ้เด็กนั่นพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ ก่อนจะว่างห่อขนมลงบนโต๊ะแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ผม

"อ้าว รู้จักกันหรอ โทษทีๆ ปากพี่มันไวน่ะ" ไอ้ปูนพูดก่อนจะคว้าขนมตรงหน้าไปกินหน้าตาเฉยแต่ตาก็ยังมองไอ้ผ้ากันเปื้อนสีชมพูและเขียวตรงหน้าไม่วางตาจนเจ้าตัวทั้งสองร้อนรนต้องถอดเอง

"ทำดีมากลูก งั้นก็เอาเบอร์มาได้ละ" ปูนพูดพลางยื่นมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของมันไปให้ไอ้เด็กนั่น

"จีบผมหรอครับ ง่ายไปป่ะพี่" ไอ้เด็กนั่นพูดก่อนจิ้มมือถือเร็วๆ แล้วส่งคืนให้

"ทำเป็นพูดไป จริงๆ ก็ขี้อ่อยนะเราอ่ะ" ไอ้ปูนพูดขึ้นขำๆ ก่อนจะเก็บมือถือเข้ากระเป๋าไปปล่อยให้ไอ้ธันย์ยืนยิ้มเก้อ

...นี่คือโลกนี้มีกันอยู่สองคน? เห็นพวกผมเป็นหัวหลักหัวตอว่างั้น

"แล้วตกลงมึงมาทำไมเนี่ย" ผมถามมันก่อนที่ไอ้เด็กนั่นจะชี้ไปที่ถุงขนม

"แค่นี้?" ผมถามก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบห่อขนมตรงหน้าขึ้นมาดู

"เอ้ย แป๊บหนึ่งพี่" มันพูดก่อนจะเดินกลับไปที่ๆ น่าจะเป็นบูทขายขนมของคณะเกษตร ตอนนี้พวกผมนั่งกันอยู่แถวๆ โรงอาหารมหา'ลัย ซึ่งจะมีตลาดนัดนักศึกษาทุกวันอังคารแรกของเดือน เป็นอันตกลงกันระหว่างพวกเราว่าไม่ว่าจะทำอะไรอยู่จะต้องขนกันมาเพื่อร่วมกิจกรรมมหา'ลัย(แท้จริงแล้วคือการส่องเด็กนั่นเอง) ซึ่งจริงๆ ตั้งแต่เรียนมาตั้งแต่ปีหนึ่งก็เพิ่งได้มาจริงๆ แค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นแหละครับ

...ให้เวลาพวกผมได้ลืมตาดูโลกภายนอกบ้างเถ๊อะ

"อ่ะ นี่ของพี่" มันพูดพลางยื่นขนมที่น่าจะเป็นชนิดเดียวกัน แต่ต่างตรงที่ของผมเป็นสีดำที่น่าจะมาจากการเคลือบช็อคโกแลตเพิ่มเข้าไป

"เหยดด มีความเป็นพิเศษว่ะ" ไอ้ปูนแซวก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินต่อไป

"ของพี่ก็มีครับ" ไอ้เด็กนั่นพูดก่อนจะยื่นขนมที่ถุงเป็นสีชมพูให้ไอ้ปูน

"ขอบคุณนะคะ แต่พี่เกลียดสีชมพู ขออนุญญาตหักหนึ่งคะแนนค่ะลูก" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนจะยื่นขนมไปให้ไอ้โฟมที่ยังเป็นคนเดียวที่ใจจดใจจ่ออยู่กับหนังสือ ส่วนไอ้เด็กนั่นได้แต่ยิ้มขำๆ ก่อนจะหันมาพยักเพยิดหน้าให้ผมกินขนมของมัน

"อร่อยป่ะ?"

"ก็ไม่แย่ แต่กูว่าหวานไปหน่อย" ผมตอบก่อนจะคว้าอีกอันขึ้นมายื่นให้มันกิน จริงๆ ผมชอบเกือบทุกอย่างที่เป็นช็อคโกแลต แต่ต้องไม่หวานนะครับ ยิ่งแบบดาร์คๆ เลยยิ่งดี

"หวานจริงๆ ด้วยแฮะ" ไอ้เด็กนั่นพูดขึ้นก่อนคิดตาม

"กูก็ว่าหวาน" เสียงไอ้ปูนทำให้ผมหันไปมอง

"ก็ถ้ามึงจะเล่นป้อนน้องมันขนาดนั้นน่ะนะ" ไอ้ทีเสริมจนผมต้องหันกลับมามองหน้าไอ้เด็กนั่นอย่างงงๆ มันก็ท่าจะงงเหมือนผมนี่แหละครับ

"ตกลงคือสนิทกัน?" ไอ้ปูนถามก่อนจะยิ้มพลางหรี่ตามอง

หลังจากไปคว่ำตายหงายเป็นที่ห้องของมันอยู่เกือบทั้งอาทิตย์เพราะไอ้เซทบ้านจำลองนั่น ผมก็แทบไม่เจอมันอีกจนผมเองก็เริ่มงงละเนี่ยว่าตกลง

...กูสนิทกับมันเปล่าวะ?

"อะไรคือเงียบทั้งคู่ นี่มันน่าสงสัยนะเนี่ย" ไอ้ปูนเริ่มเค้นถามจนผมต้องหันไปมองหน้าไอ้เด็กนั่นอีกรอบ

"ก็สนิทมั้งครับ/ไม่ค่อยว่ะ" คำตอบที่สวนทางกันทำให้ทั้งโต๊ะเงียบแล้วมองหน้ากัน

"กูว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ" ไอ้โฟมที่อยู่ดีๆ ก็พูดขึ้นมาพลางดันแว่นขึ้นเหมือนโคนันเวลาจะสืบหาคนร้าย

"เงื่อนงำเชี่ยไรมึง ก็เป็นน้องไอ้คีย์เลยรู้จักกัน แต่ไม่ถึงขั้นแบบพวกมึง จะให้กูบอกว่าอะไรวะ" ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

"อ้าวกรรม ปกติคนไม่สนิทนี่ไม่ค้างห้องผมนะครับพี่" ไอ้เด็กเวรตอบหน้าตาย

"นั่นไง!" ...โต๊ะจะพังเพราะพวกมึงร่วมใจกันตบนี่แหละ

"เอ้า กูก็นอนค้างห้องพวกมึงป่ะ"

"ป้าบ... ก็มึงสนิทกับกูไง" ...ก็รู้ว่าสนิทกัน แต่ไม่ต้องตบหัวกูก็ได้มั้ยล่ะ ไอ้ห่านี่

"ช่ายย.." ไอ้ปูนพยักหน้าเออออตาม

"อ่ะๆ สนิทก็สนิทวะ" ผมยอมจำนอน
 
"ก็แค่นั้นแหละ" ไอ้ปูนตอบก่อนจะไม่สนใจผมอีกต่อไป ปล่อยให้ผมหันไปมองไอ้เด็กนั่นที่ได้แต่ยักไหล่อย่างงงๆ

‘แล้วทำไมกูต้องมานั่งหาเหตุผลว่าจริงๆ แล้วกูสนิทหรือไม่สนิทกับไอ้เด็กนี่ให้คนอื่นฟังวะ’





ตอนเกือบพิเศษ : พี่กันย์ ‘ถาปัตย์

[Bpuen's]

"ครับแม่ ปืนถึงห้องแล้วครับ"

" อ้อ แล้วไอ้ถังจะมาวันไหนนะแม่"

" อ่าฮะ ไม่เป็นไรครับ โอเค สวัสดีครับผม" ผมวางสายจากแม่บังเกิดเกล้าแล้วเริ่มตรวจตราไปรอบๆ ห้องเพื่อดูว่าจะเริ่มจัดการกับห้องไหนก่อนดี

เพราะวันเสาร์ที่จะถึงนี้ 'รถถัง' น้องชายแท้ๆ ที่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่เดียวกันกับผมแต่แค่ช้ากว่าไปหกปีกำลังจะมาขอค้างด้วยคืนหนึ่ง แล้วไอ้เด็กนี่ก็ดันเจ้าระเบียบเกินกว่าอายุของมันเลยทำให้ผมต้องจัดการห้องที่ผมว่ามันก็ไม่ได้รกซักเท่าไหร่ยิ่งกว่าตอนที่พ่อกับแม่ผมมาค้างเองซะอีก อาจจะเป็นเพราะผมมีน้องชายที่ห่างกันหลายปีมั้งครับ เลยทำให้ผมเป็นพวกชอบดูแลและเจ้ากี้เจ้าการคนอื่นโดยไม่รู้ตัวอย่างที่น้องพวกเพื่อนผมมันชอบบอก

ผมเริ่มจากจัดการกวาดเอาเศษฝุ่นเศษผงออกไป ก่อนจะตามด้วยการจัดการกับข้าวของมากมายที่ไม่ใช่ของตัวเองซักชิ้นเพื่อหาที่ลง พวกเพื่อนๆ ผมโดยเฉพาะพวกไอ้ธันย์ก็ช่างแสนดีมาค้างทีไรก็ทิ้งอนุสรณ์ไว้ให้เป็นประจำจนของผมกับของมันนี่แทบจะปนกันมั่วไปหมด แล้วยิ่งกับข้าวของของคนล่าสุดอย่างรุ่นพี่ต่างคณะคนนั้นนี่แทบจะเปลี่ยนโทนของห้องผมไปเลยก็ว่าได้

...คนบ้าอะไรครับจะชอบสีดำขนาดนั้น

ผมคิดก่อนจะเดินไปรวบๆ เซทบ้านจำลองเก็บเข้ากล่องชั่วคราวจากนั้นจึงเดินไปเก็บเสื้อผ้าที่ซักและตากจนแห้งเรียบร้อยแล้วเข้ามารีดก่อนจะเก็บเขาตู้ไว้ให้เรียบร้อย

...ทำไมตู้เสื้อผ้าผมถึงได้เศร้าขนาดนี้เนี่ย

ผมหันไปมองเสื้อผ้าสีดำที่เริ่มร่วงล้ำอาณาเขตมายังเสื้อผ้าลายกราฟฟิคสีๆ ของผมแล้วเริ่มปลง ก่อนจะรวบผ้าห่มสีน้ำเงินเข้มที่ดูจะเป็นของชิ้นเดียวของพี่เขาที่ไม่ใช่สีดำเก็บเข้าตู้ก่อนจะดึงเอาผ้าห่มสีขาวสะอาดตาที่น้องผมชอบมาวางไว้แทน

...คือมากบดานเพราะไอ้เซทบ้านจำลองนั่นจนมีผ้าห่มเป็นของตัวเองนี่ถือว่าอาการหนักกว่าพวกไอ้ธันย์นะผมว่า

ผมได้แต่ส่ายหัวขำๆ ก่อนจะเดินไปยังห้องครัวซึ่งเชื่อมอยู่กับระเบียงด้านนอกเป็นเป้าหมายต่อไป ผมใช้เวลาอยู่กับห้องตรงส่วนนี้มากกว่าหนึ่งชั่วโมง อาจเป็นเพราะผมชอบทำอาหารแถมยังชอบปลูกต้นไม้ ผมเลยใช้ชีวิตตรงนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ จริงๆ มันก็ไม่ได้รกอะไรมากหรอกครับ แต่ไอ้ความกระจุ๊กกระจิ๊กของผมตามที่ไอ้ป้องชอบเหน็บบ่อยๆ นี่แหละเลยต้องเก็บนานหน่อย

…ก็เวลาเห็นอะไรน่ารักๆ มันก็สบายตาดีไม่ใช่หรอครับ

"อ้าว ไม่หาแย่แล้วเหรอวะนั่น" ผมชะงักมือที่กำลังจัดกระถางของต้นกระบอกเพชรเล็กๆ สามสี่ต้นบนโต๊ะก่อนจะมองนาฬิกาข้อมือสีดำที่บนหน้าปัดถูกออกแบบไว้ให้มีแต่เข็ม ไม่มีตัวเลขหรือขีดบอกตำแหน่งของเวลาใดๆ

...ดูยากขนาดนี้ของพี่กันย์แหงๆ

คิดได้ดังนั้นเลยตรงไปยังโทรศัพท์ที่อยู่ในห้องนอนก่อนจะเลื่อนหาเบอร์ปลายทาง

...เวรกรรม ผมไม่มีเบอร์พี่เขานี่หว่า

แต่ยังไม่ทันที่จะได้เลื่อนหาชื่อเป้าหมายต่อไปโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นก่อนจะโชว์เบอร์แปลกเบอร์ใหม่ที่ไม่เคยบันทึกไว้

"สวัสดีครับ"

'เฮ้ยมึง กูลืมนาฬิกาไว้ว่ะ หาให้หน่อยดิ' เสียงปลายสายที่เนื้อหาเหมือนจะขอร้องแต่น้ำเสียงนี่เหมือนสั่งมากกว่าดังขึ้น ทำให้ผมได้แต่ยิ้มอย่างระอา

"เห็นแล้วครับ พี่ลืมไว้บนโต๊ะกินข้าวอ่ะ แล้ว.."

"ดีมากเด็กน้อย เอามาให้กูที่คณะหน่อยดิ"

"เมื่อไหร่พี่"

"ถ้าได้ตอนนี้กูจะรักมึงมาก"

"งั้นพี่เกลียดผมเถอะครับ"

"สัด!"

"ล้อเล่นพี่ แค่นี้ต้องด่ากันด้วย เดี๋ยวปาทิ้งซะนี่"

"กูพูดเล่น อย่ามาเล่นตัว มาให้ไวเลยครับมึง เดี๋ยวเลี้ยงหมูกระทะก็ได้ เอ้า!" เสนอมาซะขนาดนี้ไม่ไปก็เสียดายของฟรีแย่สิครับ

"ขอสิบนาทีนะครับ"

"กูให้ห้า ห้ามต่อ! แค่นี้นะ บาย" ผมได้แต่ส่ายหัวกับความชอบสั่งของคนที่วางสายไปแล้วก่อนจะจัดโต๊ะทานข้าวอีกเล็กน้อยแล้วเดินไปหยิบกุญแจห้องและกระเป๋าเตรียมตัวออกไปข้างนอก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บันทึกเบอร์โทรเข้าล่าสุดนี่หว่า… คิดได้ดังนั้นผมเลยหยุดแล้วจิ้มๆ ไปที่หน้าจอสองสามทีก่อนจะเดินออกจากห้องไป

'พี่กันย์ 'ถาปัตย์'
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 06 - ...ก็พี่ไม่สนิท + ตอนเกือบพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-11-2016 08:20:17
เหมือนเป็นเพื่อนกันเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 06 - ...ก็พี่ไม่สนิท + ตอนเกือบพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 04-11-2016 08:34:35
มีอยู่คำถามเดียวนะครับตอนนี้ ตกลงใครรุกใครรับวะเนี่ย (ฮา) ผมว่าพี่กันย์น่าจะรับนะ ตัวผอมแต่น่ารักซะขนาดนั้นเนี่ย ส่วนน้องปืนนี่เป็นผู้ชายมุ้งมิ้ง แต่เรียนคณะเกษตร เพิ่งจะปีหนึ่ง เดี๋ยวก็คงจะสูงขึ้นตัวหนาขึ้นเองล่ะ

ค่อยโล่งใจหน่อย นึกว่าจะเดจาวูเป็นคาแรกเตอร์ตัวเองแล้วครับ (ฮา) พี่กันย์นี่ต่างจากผมหน่อย ตรงที่ผมไม่ค่อยใส่เครื่องประดับ กับผมค่อนข้างชอบอ่านหนังสือ แต่เรื่องอื่นนี่เป๊ะ ทั้งวิธีอ่านหนังสือสอบ นิสัยส่วนตัวที่ปากร้ายๆหน่อย แล้วก็วิธีกินเหล้าเนี่ย โคตรเหมือนเลยนะครับ ฮะๆๆ

ผมมองไปไกลถึงขั้นสองคนนี้ปลูกบ้านอยู่ด้วยกันแล้วอะครับ คงเป็นบ้านที่สุดยอดน่าดู เพราะฝั่งนึงก็ละเอียดอ่อนและมีเซนส์เรื่องห้องแต่งตัว รสนิยมตกแต่งภายในก็น่าชมดี ส่วนอีกคนก็ชอบครัวใหญ่ๆ มีที่วางของประดับโซนกระจุกกระจิกตามห้องนั่งเล่น แล้วก็ชอบโซนเอาท์ดอร์ มีเปลสนาม แปลงพืชผักที่น่าจะมีการดูแลอย่างเป็นระเบียบ คิดๆดูแล้วถ้าให้พื้นที่สักสองสามร้อยตารางวา หรือให้สักครึ่งไร่ คงจะเนรมิตบ้านได้เป็นบ้านตัวอย่างแน่ๆ เพราะรสนิยมสร้างบ้านพี่กันย์ครีเอทซะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 06 - ...ก็พี่ไม่สนิท + ตอนเกือบพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 04-11-2016 11:32:29
ดูสนิทกันแบบงงๆนะคะ..
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 06 - ...ก็พี่ไม่สนิท + ตอนเกือบพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-11-2016 16:01:33
พี่กัลย์ กับปืน :mew1: :mew1: :mew1:
ไม่สนิท แต่พี่กัลย์ ป้อนขนมปืน
ไม่สนิท แต่ไปนอนค้างเป็นสัปดาห์
ไม่สนิท แต่มีเสื้อผ้า ผ้าห่มเฉพาะตัวมาทิ้งไว้ที่ห้อง
ล่าสุด มานอนค้างแล้วลืมนาฬิกา
ก็งงๆ กับพี่กัลย์
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 06 - ...ก็พี่ไม่สนิท + ตอนเกือบพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 04-11-2016 18:21:15
สนุกๆ :)
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 06 - ...ก็พี่ไม่สนิท + ตอนเกือบพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 05-11-2016 18:13:18
07-…ก็พี่ไม่คิด เดี๋ยวผมคิดเอง

"เฮ้ย ไอ้ปืน นั่นพี่กันย์เปล่าวะ" ปกป้องถามขึ้นพลางชี้ ไปยังทางเดินริมถนนที่เป็นทางผ่านของคณะเกษตรพอดีจนนักศึกษาทั้งกลุ่มที่กำลังนั่งติวหนังสือสำหรับการสอบกลางภาคที่จะมาถึงต่างพากันหันไปมอง ภาพที่เห็นคือนักศึกษาชายคนหนึ่งในสภาพหัวยุ่ง ชายเสื้อหลุดลุ่ย หน้าตาอิดโรยกำลังเดินแบกทั้งม้วนกระดาษและถุงพลาสติกอีกมากมายเดินไปตามทางอย่างทุลักทุเล

"เออว่ะ แล้วพี่เขาจะไปไหนวะนั้น" พีทตอบพลางชะเง้อมองคนที่ตอนนี้กำลังตกเป็นหัวข้อการสนทนาโดยไม่รู้ตัว

โครม...

"โอ้ย กูล่ะเจ็บแทน" ไอ้ธันย์ย่นจมูกแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมาเมื่อเจ้าตัวที่ถูกพูดถึงอยู่เมื่อครู่เดินอยู่ดีๆ ก็ชนเข้ากับป้ายบอกทาง มือสองข้างเผลอปล่อยของทั้งหมดก่อนจะยกขึ้นกุมหัวอย่างมึนๆ ก่อนจะตามด้วยสารพัดสัตว์ที่ถูกสบถออกมา

"อ้าวเฮ้ย แล้วมึงจะไปไหนวะนั่น ไอ้ปืน! ไม่ติวแล้วหรอวะ"

"เดี๋ยวกูมา"





[Gun's]

"ไอ้สัดที! ของแมร่งโคตรเยอะ ห่า ไม่ยอมมาช่วยกูเลย" ผมตั้งสติก่อนจะโทรไปด่าไอ้เพื่อนตัวดีที่ปล่อยให้ผมมาซื้อของคนเดียวอย่างหัวเสีย ...เดินมาได้ตั้งครึ่งทางแมร่งไม่ชน ให้กูเดินดีๆ อีกซักครึ่งทางจะเป็นไรไปวะ ผมได้แต่คิดอย่างเซ็งๆ แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายก็โทษใครไม่ได้หรอกครับ ผมเดินไม่ดูทางเอง

"พี่กันย์พี่" เสียงคุ้นๆ ที่เหมือนจะได้ยินบ่อยเหลือเกินในช่วงนี้ดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะโผล่มาตรงหน้าแล้วชี้ไปที่ของที่ยังกองอยู่บนพื้น

"ชี้หาอะไรครับ ช่วยกันเก็บสิครับมึง" ผมวางสายจากไอ้ทีก่อนจะประชดมันอย่างหมั่นไส้แล้วรวบม้วนกระดาษและถุงพลาสติกขึ้นมาถือไว้บางส่วน และอีกบางส่วน...อยู่ที่ไอ้คนที่เพิ่งโผล่มา

"ปั่นโปรเจคอีกแล้วหรอครับ" ไอ้เด็กเกษตรถามก่อนจะเดินตรงไปยังคณะของมัน

"คณะกูอยู่นี่" ผมตะโกนไล่หลังจนมันหันกลับมามองแล้วจึงชี้ไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับที่มันกำลังจะเดินไป

"แวะคณะผมเดี๋ยวเดียวครับ"

"อย่าให้กูต้องเดินมากกว่าที่จำเป็น กูขอ" ผมบอกมันอย่างเซ็งๆ ...ทุกวันนี้พลังผมก็ไม่พอใช้อยู่ละ อย่าให้มันต้องลดไปมากกว่านี้อีกเลย กราบล่ะ

"เดี๋ยวผมไปส่ง" มันพูดก่อนจะเดินอ้อมมาดันหลังผมเข้าไปใต้อาคารที่พวกปีหนึ่งทั้งฝูงนั่งอยู่อย่างเลี่ยงไม่ได้





"พี่กันย์ หวัดดีคร้าบบ" พวกปีหนึ่งเกษตรพร้อมใจกันส่งเสียงทักทายพร้อมกับเขยิบที่นั่ง หาน้ำหาท่ามาวางต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี ...เออ ดีกว่าน้องคณะกูอีก ใช้ได้ๆ

"เออ ไหว้พระเหอะ" ผมทักทายตอบก่อนจะยกมือขึ้นรับไหว้มือหนึ่งอย่างส่งๆ แล้ววางของทั้งหมดพิงไว้กับขาโต๊ะ ก่อนจะมองหาไอ้ตัวต้นเหตุที่ลากผมมาแต่ดันเดินหนีไปไหนไม่รู้

"เพื่อนมึงไปไหนแล้ววะ"

"เออ ไปตามมันหน่อยดิ ลากพี่เขามาแล้วทิ้งไว้เฉยๆ" ...ไอ้ห่าธันย์ คือกูไม่ใช่ขยะไง

"พี่กันย์สนิทกับไอ้ปืนหรอครับ" ...คำถามนี้อีกละ

"แล้วมึงสนิทกับกูป่ะล่ะ" ผมถามมันกลับอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพยักเพยิดหน้าให้มันตอบ

"ก็...ประมาณหนึ่งมั้งครับ" ไอ้พีทตอบก่อนจะเกาหัวอย่างไม่รู้จะตอบยังไงดี

"เออ ก็เหมือนกันอ่ะ"

"แต่ผมไปห้องมันมา เสื้อผ้าพี่นี่อย่างเยอะ" คราวนี้ตาไอ้ปกป้องเป็นคนอยากรู้บ้าง

"แล้วของมึงมีป่ะล่ะ"

"เอ่อ.. ก็มีนะครับ"

"อือ ก็เหมือนกันอ่ะ" ผมเริ่มถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย ไอ้เด็กเวรพวกนี้มันต้องการอะไรจากผมวะเนี่ย

"แต่มันซื้อบ้านจำลองให้พี่ด้วยนะ แถมยังห้ามผมแตะอีกต่างหาก" คราวนี้เป็นตาไอ้ธันย์น้องรักไอ้คีย์มันครับ

"ไอ้ทั้งหมดเนี่ย ใครจ่าย?" ผมถามมันกลับก่อนจะชี้ไปยังขนมนมเนยที่อยู่บนโต๊ะ ไม่ต้องเดาก็รู้ครับว่าฝีมือไอ้เด็กนั่น หลังจากรู้จักมันมาสักพัก(แล้วไม่ต้องถามนะครับว่าสนิทกันรึเปล่า) ไอ้นี่มันชอบดูแลคนอื่นครับ ถ้าไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงไอ้นี่มันเปย์หมดตัวครับ ใครได้มันไปนี่สบายไปทั้งชาติ ผมบอกเลย

"ก็...ไอ้ปืนครับพี่"

"แล้วมึงยังอยากให้กูตอบคำถามมึงอีกมั้ย?" ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่เป็นอันรู้กันว่าถ้ายังถามมาอีกนี่พวกมึงจะไม่ได้คำตอบละ ...จะได้ฝ่ามือกูแทน

"ไปครับพี่" เสียงไอ้เด็กที่หายตัวไปเป็นชาติตะโกนมาทำให้วงนักศึกษาผู้อยากรู้อยากเห็นกระจายตัวออกอย่างรวดเร็ว

"เอามาทำไมวะ" ผมถามพลางชี้ไปยังซาเล้งเก่าๆ ที่มันลากมาด้วย

"เอาไปส่งพี่ไง" ไอ้เด็กนั่นตอบก่อนพวกเดอะแก๊งค์ของมันจะหันมาแอบแทคมือกันเบาๆ หนึ่งที ...ไม่ต้องแอบ กูเห็น

"แต่มันสกปรก เดี๋ยวกระดาษกูเลอะ" ผมชี้ไปที่กระดาษม้วนยาวที่มีถุงพลาสติกคลุมอยู่ได้แค่ครึ่งม้วน

"อ่ะ" ไอ้ปืนหยิบผ้าสีดำๆ ที่มันยัดไว้ในกระเป๋ากางเกงออกมาก่อนจะกางมันลงไปบนพื้นรถเลอะสนิมแล้วจัดการวางม้วนกระดาษอย่างเป็นระเบียบ

...แล้วเดอะแก๊งค์มันก็แอบไปแทคมือกันอีกหนึ่งที

"เออ กูไปละ เดี๋ยวเพื่อนกูรอ" ผมหันไปบอกพวกเด็กปีหนึ่งอย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี ...แล้วพวกมันก็แอบแทคมือกันอีกหนึ่งที

"ไอ้สัด! กูเห็น" ผมพูดก่อนจะคว้าม้วนกระดาษไปตีหัวพวกมันคนล่ะทีสองที

...ไอ้พวกเด็กเวร ถามกันซะกูเริ่มคิดเลยเนี่ย!





[Bpuen's]

"อ้าว น้องปืน" พี่ปูนทักขึ้นในขณะที่เดินเข้ามาช่วยถือของพร้อมกับพวกพี่โฟมและพี่ที ส่วนคนที่เดินมาด้วยกันก็เพิ่งจะหยุดบ่นเอาตอนที่มาถึงนี่แหละครับ

ก็ตอนแรกผมกะว่าจะเอาพี่กันย์ใส่รวมกับของแล้วเข็นมาด้วยกันพี่เขาจะได้ไม่ต้องเหนื่อย แต่พี่เขาบอกว่าถ้าผมทำอย่างนั้น พี่เขาจะถีบผมให้ตกคลองระบายน้ำข้างทาง ผมเลยต้องปล่อยให้พี่เขาเดินเอง …สุดท้ายเจ้าตัวก็เอาแต่บ่นเรื่องที่ว่า ทำไมต้องแวะไปคณะเกษตร เหนื่อยอย่างนั้นอย่างนี้ จนผมนี่หูชาไปหมดแล้วครับ

"สวัสดีครับพี่" ผมเอ่ยทักตอบก่อนจะยื่นของบางส่วนไปให้พี่โฟมถือ

"แล้วไปไงมาไงถึงมาส่งมันได้เนี่ย" พี่ปูนถามพลางมองพี่กันย์ที มองผมที

"คือผมเห็นพี่กันย์.." พี่กันย์ทำท่าปาดคอก่อนจะส่งสัญญาณให้หยุดพูดเรื่องที่พี่เขาเดินชนเสาหน้าคณะเกษตร

"กูเดินผ่านคณะมันพอดี พวกมึงอ่ะไม่ยอมไปช่วยกู ของนี่ก็เยอะ ใหญ่อีกต่างหาก" พออยู่กับกลุ่มเพื่อนพี่กันย์ก็เริ่มหลุดมาดงอแงออกมาจนผมอดขำไม่ได้ เพราะปกติพี่เขาจะมาสายเนี๊ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า จะมีสภาพแบบคนอดนอนสิบชาติโผล่มาบ้างเป็นระยะๆ ตามฤดูการของโปรเจค ...ส่วนช่วงที่ไม่ได้โผล่มาคือโดนโปรเจคสูบวิญญาณไปแล้วนั่นเองครับ

"ของหรือมึงวะที่เยอะ" พี่ทีแซวขำๆ ก่อนจะขนกันเดินขึ้นไปบนสตูดิโอชั้นสองที่มีพื้นที่บางส่วนถูกเคลีย์ออกหมดเหลือแต่พื้นเปล่า

"วางไว้ตรงนี้ก็ได้ปืน ขอบคุณมากนะที่มาส่งไอ้กันย์มัน ไม่อย่างนั้นคงทำงานไปบ่นไปจนจบโปรเจคแหงๆ" พี่ปูนพูดก่อนจะแอบลดเสียงลงเมื่อพูดประโยคหลังจนเจ้าตัวที่ถูกพูดถึงได้แต่มองอย่างสงสัย

"นินทาอะไรกู"

"ไม่มีอะไรค่ะ กันย์ขา นี่กางเกงมึงค่ะ เชิญ" พี่ปูนรีบปฏิเสธก่อนจะยืนกางเกงบาสสีดำส่งให้พี่กันย์ไปเปลี่ยนแทนกางเกงนักศึกษาขายาวเพื่อให้สะดวกต่อการทำงานบนพื้น

"งั้น ผมกลับก่อนนะครับพี่"

"อื้อ ขอบคุณมากนะ สมกับหน้าตาจริงๆ" พี่ปูนพูดขึ้นก่อนที่พี่ที่จะหัวเราะขึ้นมาพลางส่ายหน้าอย่างเอือมๆ

"สักนิดสักหน่อยก็เอานะมึง"

"ของมันขาด มึงต้องเข้าใจ" พี่กันย์ส่ายหัวก่อนจะผลักหัวพี่ปูนอย่างหมั่นไส้

"แต้งกิ้วโว้ย" พี่กันย์พูดขึ้นพลางยกมือขึ้นเอ่ยลา





ผมเงยหน้าขึ้นมาอีกทีฟ้าก็มืดสนิทจนต้องก้มมองเวลาจากหน้าจอโทรศัพท์ …ตอนแรกก็ไม่เท่าไหร่ แต่พอเห็นเวลาเท่านั้นแหละครับขี้เกียจขึ้นมาทันที

"จะสามทุ่มแล้วว่ะ งั้นกูไปก่อนนะพวกมึง" ไอ้ป้องพูดขึ้นก่อนจะรวบหนังสือของตัวเองขึ้นแล้วหนีกลับบ้านไปเฉย

"งั้นก็แยกย้ายเหอะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย" ทุกคนสนับสนุนความคิดไอ้พีทก่อนจะช่วยกันเก็บของบนโต๊ะแล้วเคลีย์สถานที่

"มึงจะกลับเลยป่ะ" ไอ้ธันย์พูดขึ้นพลางสะพายเป้ขึ้นบ่า

"เดี๋ยวกูเอาเล่มนี้ไปคืนห้องสมุดก่อน" ผมชูหนังสือเล่มบางขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้มันกลับก่อนได้เลย

"เออ เจอกันพรุ่งนี้"

"บาย" ผมบอกลามันก่อนจะเดินไปยังห้องสมุดของมหา'ลัยที่จะเปิดจนถึงเที่ยงคืนเฉพาะช่วงสอบเท่านั้น





"แฮ่!"

"ตกใจสุดๆ อ่ะพี่" ผมหันมาหัวเราะขำๆ กับท่าทางเซ็งๆ ของพี่คีย์ที่กะจะเข้ามาทำให้ผมตกใจแต่ดันไม่เป็นไปตามแผน

"มาคืนหนังสือหรอวะ ฟิตโว้ยน้องกู" พี่คีย์พูดก่อนจะทำหน้าเชิดประหนึ่งภูมิใจในตัวน้องอย่างผมมาก

"พี่ก็พอกันอ่ะ" ผมแซวพี่คีย์กลับพลางมองหนังสือเล่มหน้าที่เจ้าตัวเพิ่งส่งให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูล

"หึ ไม่ใช่ของกูโว้ย" พี่คีย์รับหนังสือที่ทำเรื่องยืมเรียบร้อยแล้วมาจากเจ้าหน้าที่ก่อนจะส่งให้ผมถือแล้วจิ้มๆ มาที่หน้าปก 'จินตภาพของเมือง ...เควิน ลินซ์'

"พี่อ่านหนังสือยากนะเนี่ย" ผมหันไปทำตาโตก่อนจะพี่คีย์จะดึงหนังสือกลับแล้วฟาดลงมาที่ไหล่ผม

"บอกว่าไม่ใช่ของกู ของพวกไอ้กันย์มันโว้ย"

"ก็เห็นพี่ยืม"

"พวกมันคงว่างมากันหรอก ป่านนี้ยังปั่นงานกันหัวหมุนอยู่ที่คณะกันอยู่เลย" พี่คีย์พูดพลางเดินนำผมออกมาตรงที่จอดรถหน้าห้องสมุดแล้วตรงไปยังมอเตอร์ไซค์คันเก่งของพี่เขา

"ยังไม่กลับกันอีกหรอครับ" ผมถามอย่างงงๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้ ...อ่อ ลืมไป พวกเด็กคณะนี้เค้าเสพโปรเจคเป็นอาหารและยาชูกำลัง

"อ้าว รู้ด้วยหรอ ไปช่วยพวกมันป่ะล่ะ นี่กูกำลังจะไปหาพวกมัน"

"อืม… ไปดิพี่ แต่แวะเซเว่นก่อนได้ป่ะ"





"ขนมครับพี่ ผมแวะซื้อที่เซเว่นข้างล่าง แต่ไม่รู้พวกพี่อยากได้อะไรกัน" ผมพูดกับพวกเพื่อนๆ ของพี่กันย์ที่แม้ตอนนี้จะสามทุ้มกว่าเข้าไปแล้วแต่ทุกคนก็ยังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งเดิม ที่เพิ่มเติมคืองานและความตาโหล

"อ้าว มาอีกแล้วหรอน้อง ขอบใจๆ วางไว้แล้วมานี่มา" พี่โฟมพูดพลางกวักมือเรียกผมไปหาแล้วส่งคัตเตอร์ ฟุตเหล็ก แผ่นรองตัด แผ่นโฟมอัดและแผนที่(ที่โคตรใหญ่)ของอะไรซักอย่างที่มีสี่เหลี่ยมเล็กๆ เต็มไปหมดให้ผมที่นั่งลงข้างๆ

"เพิ่งมาถึงก็เล่นน้องซะ A0 เลยนะมึง" พี่คีย์พูดขำๆ พลางเดินแจกกระทิงแดงให้เพื่อนทุกคนแล้วหยิบคัตเตอร์กับฟุตเหล็กมานั่งลงข้างๆ ผม

"ไหนๆ ก็อุตส่าห์มาแล้ว ก็ตัดให้กูหน่อยแล้วกัน" พี่โฟมพูดแกมขอร้องแบบที่ไม่ให้ผมปฏิเสธได้ก่อนจะกลับเข้าสู่หน้าจอโน๊ตบุ๊คที่ใช้เก้าอี้แทนโต๊ะส่วนเจ้าตัวก็นั่งราบไปกับพื้น

"อ้าวมึง มาไงวะ" พี่กันย์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้้ำพลางใช้ผ้าขนหนูขยี้หัวที่ยังเปียกๆ อยู่ถามขึ้นอย่างสงสัย ...เหมือนบ้านเลยจริงๆ แฮะ ผมคิดก่อนจะหันไปเห็นที่นอนที่กางมุ้งไว้เรียบร้อยตรงมุมห้อง รวมถึงเต๊นท์ที่กระจัดกระจายลามออกไปจนถึงทางเดินหน้าสตูฯ

"มากับพี่คีย์ครับ"

"มีเรียนเช้าไม่ใช่หรือไง" คำถามพี่กันย์ทำให้พี่โฟมที่ยังจดจ่ออยู่กับหน้าจอส่วนตัวเงยขึ้นมาทำหน้าเสียใจอย่างสุดซึ้งจนผมแทบจะหลุดขำก่อนจะพูดแบบไม่ออกเสียงว่า 'ไม่เป็นไรครับ ผมจะช่วย'

"ใช่ครับ" ผมตอบพี่กันย์ที่ตอนนี้เริ่มเดินตรงดิ่งไปยังกองของกินที่ผมเอามาวางไว้ให้ ผมเลยลุกขึ้นไปแล้วหยิบอีกถุงหนึ่งที่วางแยกไว้ส่งให้

"อ่ะแหน่ะ มีความพิเศษค่า" พี่ปูนที่บอกได้เลยว่าตาไวได้อีกหันมาแซวจนพี่คนอื่นๆ ต้องหันมามอง

"อะไรวะๆ" พี่ทีที่เดินลุยทุกสรรพสิ่งมาเพื่อสอดรู้เดินเข้ามาฉกถุงในมือแล้วแหวกๆ ดู

"แหมๆๆๆ แซนวิสแฮมชีสกับนมโอวันติน ไม่ธรรมดาครับ ไม่ธรรมดา" พี่ทีจุ๊ปากอย่างมีเลศนัยก่อนจะส่งถุงคืนให้พี่กันย์แล้วนั่งลงดูของอื่นๆ

"กูถามจริงเหอะว่ะ ตกลงมึงสนิทกันจริงๆ ใช่ป่ะ" พี่ปูนที่ตอนนี้วางมือจากงานทั้งหมดลงแล้วหันมาซักผมกับพี่กันย์อย่างเต็มตัว

...ทีอย่างนี้ล่ะตาสว่างกันเชียวนะคร้าบบ

"เชี่ยยย กูเบื่อละนะเอาจริง อะไรของพวกมึงนักหนาวะ วันก่อนก็ถาม วันนี้เพื่อนไอ้เชี่ยนี่ก็ถาม นี่พวกมึงก็ยังจะถามอีก จะเอาอะไรกับกูว่ามาเลยครับเพื่อนครับ" พี่กันย์พูดด้วยสีหน้าที่ดูเริ่มจะหงุดหงิด

...อย่าว่าแต่พี่เขาเลยครับ ผมเองก็เริ่มแอบรำคาญละ พวกเพื่อนผมก็ถามอยู่นั่นแหละ

"มันมีอะไรแปลกหรอครับ" ผมหลุดถามออกไปอย่างอดไม่ติด

"จะว่าแปลกก็ไม่ใช่ จะว่าไม่แปลกเลยก็ไม่เชิง" พี่ปูนพูดขึ้นพลางทำสีหน้าครุ่นคิดจนผมนี่ลุ้นตามไปด้วยเลย

"คือไอ้กันย์อ่ะ มันติดคนยาก พูดง่ายๆ คือ…มันเยอะไง" พี่คีย์เป็นคนเปิด

"สัด!"

"แต่มันยอมไปนอนห้องน้องปืนทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จัก" พี่ปูนเสริม

"ก็กูหลับในป่ะ"

"แถมยังมีครั้งที่สอง" พี่โฟมที่ตอนนี้ก็เริ่มทิ้งงานทิ้งการมานั่งล้อมวงด้วยคนเข้ามาเป็นลูกคู่

"ก็กูเมาป่ะวะ มึงไม่ลากกูกลับไปอ่ะไอ้คีย์"

"อย่ามาพูด แล้วอีกเป็นอาทิตย์ที่ตามมาอ่ะ" พี่คีย์รีบถมทันที

"ก็กูอยากเล่นของเล่นอ่ะ" พี่กันย์ทำหน้างอนๆ ก่อนจะกัดแซนวิสในมือแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์

"แล้วไอ้นี่ก็อีกคน ตามใจมันไปทุกเรื่อง จริงๆ กูก็ไม่แปลกใจหรอกถ้าไอ้กันย์จะติดมึงขนาดนี้" คราวนี้พี่คีย์หันมาพูดกับผม

"กูไม่ได้ติดมันโว้ยย แค่กๆ" พี่กันย์รีบโวยวายออกมาจนสำลักทำเอาผมเล่นเปิดฝานมโอวันตินส่งให้แทบไม่ทัน

"แต่มึงอ่ะไอ้ปืน ตามใจเพื่อนกูมากไปเปล่าวะ กูได้ข่าวมาจากพวกไอ้ธันย์ว่าของๆ ไอ้กันย์แทบจะถมห้องมึงได้อยู่ละ" พี่คีย์พูดพลางทำท่าจริงจังจนผมต้องส่ายหัวกับความคิดของพี่เขา ไอ้พวกเพื่อนผมนี่ก็อีกตัว

"พวกมึงพูดซะกูคิดมากเลยเนี่ย" อีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมาจนต้องหันไปมาหน้าพี่กันย์

"กูรู้ว่าน้องมันอ่ะชอบดูแลคนอื่น  ส่วนมึงอ่ะชอบคนเอาใจไอ้กันย์ แต่เวลาพวกมึงอยู่ด้วยกันอ่ะเคมีมันแปลก พวกมึง..เอากันเลยมั้ยจะได้จบๆ กูขี้เกียจคิดละ" พี่คีย์พูดก่อนจะตัดจบ ...ที่เค้าว่ากันว่าเด็กคณะนี้คิดเยอะนี่ถ้าจะจริง ไม่เว้นแม้แต่อดีตเด็ก'ถาปัตย์ก็ตาม

"ตลกละ เคมีพวกกูจะเป็นยังไก็เรื่องของพวกกูเปล่าวะ ทำให้เป็นประเด็นทำไมเนี่ย" พี่กันย์โวยวายจนเริ่มจะงอแงจนผมเกือบจะหลุดขำ …จริงๆ มันก็สนุกดีนะเนี่ย

"แล้วที่สำคัญ.. กูเป็นผู้ชาย ไอ้เด็กนี่ก็เป็นผู้ชาย มึงใช้สมองสิครับ" ผมคิดตามก่อนจะมองหน้าคนที่เริ่มสาธยายเหตุผลออกมาแล้วย่นจมูกอย่างไม่พอใจ ...ตามใจมาเยอะละ ขอนิดนึงแล้วกันนะครับพี่

"แต่ผมไม่ซีเรียสนะ" คำพูดผมทำให้พวกพี่ๆ ต่างหันมามองหน้ารวมถึงพี่กันย์ด้วย …ผมไม่รู้หรอกครับว่าจริงๆ แล้วผมคิดหรือไม่คิดอะไรตามที่พวกเพื่อนๆ หรือพี่ๆ เขาว่าหรือเปล่า

"ซีเรียสว่า..."

"ก็ที่พี่เป็นผู้ชาย กับผม...ที่เป็นผู้ชาย" …แต่ตอนนี้ผมรู้อย่างเดียวว่า

"มึงหมายความว่า..." พี่ทีถามขึ้นพลางเหลือบไปมองคนนู้นทีคนนี้ทีอย่างลุ้นๆ

…ผมขอแกล้งไอ้พี่หน้าหล่อเรื่องเยอะๆ ตรงหน้า ให้มาดหลุดที่ไม่ใช่เพราะนอนน้อยหรือเพราะต้องทำโปรเจคดูบ้าง

"พี่กันย์อ่ะ”

…ก็คงไม่เสียหายหรอกมั้งครับ



“จะให้ผมลองจีบดูก็ได้นะครับ ผมไม่ถือ..."





หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 07 - ...ก็พี่ไม่คิด เดี๋ยวผมคิดเอง
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 05-11-2016 18:46:02
เอออเว้ยปืนน่ารักอะเอาใจไป555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 07 - ...ก็พี่ไม่คิด เดี๋ยวผมคิดเอง
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 05-11-2016 19:10:38
กรี๊ด ปืนน่ารักมากกกกกกกกกก ฟินจนเลือดออกหมดตัว :z1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 07 - ...ก็พี่ไม่คิด เดี๋ยวผมคิดเอง
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 06-11-2016 17:46:50
08-…ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้

[Gun’s]

“จะให้ผมลองจีบดูก็ได้นะครับ ผมไม่ถือ..." คำพูดของไอ้เด็กนั่นทำเอาพวกผมทั้งกลุ่มค้างแบบไปต่อกันไม่ถูกเลยทีเดียว

"เพื่อนกูถึงกับอึ้ง" ไอ้คีย์พูดขึ้นก่อนจะเหลือบสายตามมามองผม ส่วนตัวมันนี่ก็ยังถือคัตเตอร์ค้างไว้อยู่

"อย่าว่าแต่มันเลย" ไอ้โฟมเสริมก่อนจะรวบรวมสติแล้วหันตัวกลับไปหน้าโน๊ตบุ๊คของมันต่อ

"กูว่า.. กูไปทำงานดีกว่า" ไอ้ทีกับปูนได้แต่ยิ้มงงๆ ก่อนจะหันกลับไปตัดโมเดลต่อเช่นกัน เหลือแค่ไอ้เด็กเกษตรคนนั้นที่ยังนั่งเอามือปิดปากกลั้นขำไม่ยอมหยุด

"ไอ้-เชี่ย-ปืน" ผมคว้ากระดาษใกล้ๆ มือขึ้นมาขยำก่อนจะปาเข้าไปกลางหัวมันแบบพอดิบพอดีจนมันหยุดหัวเราะแล้วมองหน้าผม ...แล้วหัวเราะใหม่

"ถึงกับเรียกชื่อผมได้ มีอะไรครับ" ดูมัน ยังมีหน้ามาเล่นหูเล่นตา ...ให้ตายเหอะครับ บอกผมทีว่ามันพูดเล่นหรือพูดจริงวะเนี่ย

"ทำงานไปดิ โว๊ะ" แต่จะให้ผมถามมันเหรอครับ ...ไม่มีทาง!





"เชี่ยยย! ตีสี่แล้วโว้ยย!" ไอ้โฟมที่ตอนนี้เริ่มได้เวลาประสาทกินของมันระบายอารมณ์ออกมาเป็นรอบที่ยี่สิบ ผมมองไปยังโมเดลสเกลเมืองตรงหน้าที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ที่จริงงานก็เหลือไม่มากแต่สังขารพวกผมนี่แหละครับที่เริ่มไม่ไหวแล้ว

แก๊ก แก๊ก แก๊ก! ...แล้วยังบวกกับไอ้เสียงคลิกเมาส์อันบ้าพลังของมันพลอยจะทำให้พวกผมเริ่มประสาทกินไปด้วยแล้วเนี่ย

"กูขอเปิดเพลงนะ" ไอ้คีย์ที่เริ่มทนไม่ไหวหยิบโทรศัพท์มันขึ้นมาก่อนจะเปิดเพลงออกลำโพงดังๆ

'เราทุกคนก็คงรู้วันเกิด แต่มีสักกี่คนที่รู้วันตาย...' แค่เพลงแรกเปิดมาพวกผมก็หันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย

"เพลงมึงจะเศร้าไปไหนวะไอ้คีย์ ฟังแล้วกูนี่อยากตายไปจากโปรเจคนี้เลย" ผมพูดก่อนจะบอกให้มันเปลี่ยนเพลง

"เออๆ" มันรับคำก่อนจะกดยุกยิกๆ ที่หน้าจอ

'ฉันโชคดีเหลือเกินที่ได้ตื่นมาพร้อมเธอ...อีกครั้ง คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะมีโอกาสถึงวันไหน...'

"หยุดเลยสัด! เดี๋ยวกูเปิดเอง" ไอ้โฟมหันมาด่าก่อนจะเปิดเพลงดนตรีหนักๆ จังหวะคึกๆ ขึ้นมาแทนที่ ปล่อยให้ไอ้คีย์ตายแล้วตายอีกกับเพลงของมันไปคนเดียว

ผมวางแผ่นโฟมที่ถูกตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ แล้วติดลงไปในโมเดลซึ่งใช้แทนสัญลักษณ์ของบ้านที่อยู่รอบๆ ไซต์เป็นชิ้นสุดท้ายก่อนจะบิดขี้เกียจ หางตาเลยเหลือบไปเห็นเด็กปีหนึ่งต่างคณะที่อาสามาช่วยงานเด็ก'ถาปัตย์ปีสี่อย่างพวกผมจนนั่งสัปหงกโดยที่ในมือยังถือหลอดกาวและแผ่นโฟมเล็กๆ อยู่จนผมต้องหลุดขำออกมา

"เฮ้ย!" ผมเผลอสบถออกมาก่อนรีบเข้าไปเอามือรองกาวที่กำลังจะหยดลงบนโมเดลจนทำให้คนที่เผลอหลับสะดุ้งตื่นแล้วหันมามองหน้าผมงงๆ

"เอ่อ.. ขอโทษครับพี่ ผม..เผลอหลับ" มันพูดขึ้นมาอย่างมึนๆ ก่อนจะมองมือผมที่เลอะกาวตรงหน้ามัน

"มือกูเลอะเลยเนี่ย" ผมแกล้งว่าก่อนจะชี้หลอดกาวในมือมันที่ทำท่าจะหยดอีกรอบ

"ขอโทษครับพี่กันย์" มันรีบบอกก่อนจะหยิบเศษกระดาษแถวนั้นมาเช็ดกาวที่เปื้อนมือผมออกไป

"กูล้อเล่น ไม่ไหวก็ไปนอนไป"

"ไม่เป็นครับพี่ เดี๋ยวผม.."

"ไปนอน!" ผมดุ ก่อนจะชี้มือไปที่มุ้งตรงมุมห้อง แต่คนตรงหน้ายังไม่ยอมลุกไปไหน

"ผมเกรงใจอ่ะ"

"มานี่!" ผมออกคำสั่งแล้วดึงเสื้อนักศึกษาของมันจนเจ้าตัวต้องลุกขึ้นตามมาหยุดลงหน้ามุ้งสีขาว

"ไม่ใช่สีดำอ่ะ" มันบ่นงุ้งงิ้งๆ ก่อนจะขำแบบระโหยโรยแรงอย่างคนง่วงนอนจนผมต้องตบเข้าไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้

"ยังจะมากวนตีน จะใช้สีดำให้ยุงหามหรอครับ เข้าไปเลย" ผมว่าพลางเลิกชายมุ้งขึ้นแล้วดันไอ้เด็กนั่นเข้าไปนั่งสะลึมสะลืออยู่ข้างใน

"รู้ใช่มั้ยอันไหนของกูอ่ะ" ผมว่าพลางมองมันที่หันซ้ายหันขวาไปยังกองหมอนกับผ้าห่มภายในมุ้งก่อนจะหยิบอันที่เป็นสีน้ำเงินเข้มมากอดไว้แล้วพยักหน้าเบาๆ

"นอนลงไปเลย กูไปทำงานละ" มันรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะล้มตัวนอนลงไปแล้วเอาผ้าห่มมาม้วนๆ กอดแทนหมอนข้างแทนที่จะเอามาห่ม ผมเลยเดินกลับมาตรงที่ทำงานจนเพิ่งสังเกตว่าพวกเพื่อนๆ กำลังมองผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม

"ฮั่นแน่ มีการไปส่งน้องเข้านอน" ไอ้ปูนพูดออกมาก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัย

"อะไร ก็น้องมันง่วง กูขอตัวหนึ่งนะ" ผมบอกมันก่อนจะเดินไปถอดพัดลมตัวหนึ่งแล้วเดินไปเสียบปลั๊กใกล้ๆ มุ้งก่อนจะปรับให้รัศมีการส่ายของพัดลมพอดีกับคนที่นอนอยู่

"มีบริการพัดลมให้ด้วย อืมๆ" ไอ้คีย์พูดขึ้นก่อนจะพยักหน้าเหมือนทำความเข้าใจกับตัวเอง

"รอให้กูส่งงานเสร็จแล้วไว้กูจะมาแซวมึงทีหลังนะ" ไอ้ทีหันมาโบกมือแบบมึนๆ เรียกเสียงหัวจากคนทั้งกลุ่มที่นั่งง่วงๆ ให้ตาสว่างทันที





[Bpuen's]

"เฮ้ยตื่น!" เสียงเรียกของใครบางคนทำให้ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองก่อนจะลำดับเหตุการณ์ในหัวอย่างมึนๆ

"กี่โมงแล้วครับพี่" ผมตื่นมานั่งเอ๋ออยู่ประมาณเกือบนาทีจนได้ยินเสียงหัวเราะของคนข้างๆ ดังขึ้น หันไปก็เจอรอยยิ้มที่สว่างพอๆ กับแสงแดดที่แยงเข้ามาในมุ้ง ...ไว้จะไปถามทีหลังว่าใช้ยาสีฟันยี่ห้ออะไร

"เจ็ดโมงกว่าแล้ว มึงมีเรียนกี่โมงนะ แปดหรือเก้า"

"อืมม ..เก้าครับพี่" ผมตอบก่อนจะลูบหน้าสองสามทีแล้วหันหลังกลับมาเก็บหมอนกับผ้าห่มให้เรียบร้อยแล้วมุดออกมาจากมุ้ง ดูจากกองหมอนกับผ้าห่มข้างๆ ที่ยังเรียบร้อยเหมือนเมื่อคืนแสดงว่าพวกพี่เขาคงยังไม่ได้นอนกันแน่ๆ

"ไปอาบน้ำไป จะได้ไปเรียน" พี่กันย์ว่าก่อนจะยื่นขันที่มีอุปกรณ์อาบน้ำครบเซทพร้อมผ้าขนหนูและชุดนักศึกษาที่อยู่ในไม้แขวนเสื้อเรียบกริบตามแบบฉบับพี่กันย์มาให้

"ขอบคุณครับพี่" ผมว่าก่อนจะเดินไปยังห้องน้ำตามที่พี่เขาบอก





โชคดีที่ตัวผมกับพี่กันย์ไม่ได้ต่างกันมากนัก แค่พี่เขาสูงกว่านิดหน่อยและผมก็ตัวหนากว่าเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นชุดนักศึกษาวันนี้ก็ออกจะตึงๆ ส่วนชายเสื้อกับขากางเกงก็เหลือซะยาวเชียว ผมเลิกพยายามกับการจะยัดชายเสื้อลงกางเกงยังไงไม่ให้มันกองๆ อยู่ที่เอวแล้วรวบของทั้งหมดก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ

"มึงเป็นเด็กอนุบาลรึไง" เสียงพี่ทีที่ตะโกนข้ามห้องมาเรียกให้ผมหันไปมองก่อนจะเห็นพวกพี่เขาหันมามองผมเป็นตาเดียว พี่ปูนกับพี่โฟมได้แต่อมยิ้มอย่างขำๆ ส่วนอีกสองคนที่เหลือนี่เล่นหัวเราะซะจนผมเริ่มจะอายแล้วเนี่ย ...จริงๆ ไซส์มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันขนาดนั้นหรอกครับ สาบานได้

"มานี่ๆ" พี่กันย์ที่ยังคงขำอยู่กวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหาก่อนสองมือบางจะดึงชายเสื้อทั้งหมดออกมานอกกางเกงแล้วจัดการพับชายเสื้อทั้งหมดเข้าข้างในก่อนทบหนึ่งแล้วบอกให้ผมถอดกางเกง

"เดี๋ยวๆๆ จะทำอะไรก็เกรงใจสถานที่บ้าง มหา'ลัยนะเว้ย" พี่ทีตะโกนขึ้นมาก่อนชี้มือประมาณว่า ...มึงอย่าบ้าจี้ถอดนะ

"ตลกละ ไอ้ปูนปิดตา" พี่กันย์ตะโกนบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินมาบังฝั่งทางด้านพี่ปูนไว้

"อย่าบัง กูมองไม่เห็น" พี่ปูนว่าก่อนจะขำออกมาแล้วก้มลงสนใจเพลตงานตรงหน้าที่พี่โฟมกำลังปริ้นท์ออกมาต่อ ส่วนพี่กันย์จับชายกางเกงผมดึงออกแล้วค่อยๆ ยัดชายเสื้อที่เหลือลงไปไม่ให้เป็นก้อนก่อนจะดึงกางเกงขึ้นมาแล้วบอกให้ผมจัดการต่อ จริงๆ ผมก็แอบเขินนะครับ แต่พอเห็นคนที่มีท่าทีเฉยๆ ตรงหน้าเม้มปากก้มหน้าเดินกลับไปนั่ง ผมว่า… ปล่อยให้อีกคนเขินแทนดีกว่า

"เยอะนะมึง" พี่ทีแซวทันทีที่พี่กันย์กลับไปนั่งที่เดิม พี่กันย์เหมือนโรคจิตครับ เห็นอะไรไม่เรียบร้อยนิดนึงจะทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ...ความจริงมันก็ดีนะครับ ถ้าความเยอะของพี่เขาจะเอามาลงที่ผมบ้าง อยากเห็นคนเนี๊ยบๆ ทำหน้าเขินบ่อยๆ บันเทิงดี

"ยังไม่ไปเรียนอีกล่ะ" เสียงพี่กันย์ดังขึ้นมาพร้อมทำหน้าดุจนผมต้องยอมจำนนเดินไปเก็บอุปกรณ์อาบน้ำแล้วเดินกลับไปหยิบกระเป๋าก่อนจะบอกลาพี่ๆ ทุกคน





[Gun's]

หลังจากจัดการส่งมันไปเรียนพวกผมกลับมาอัดกระทิงแดงที่ไอ้คีย์เพิ่งซื้อมาทิ้งไว้เมื่อตอนหกโมงคนละขวด(ส่วนคนซื้อหนีกลับบ้านไปเรียบร้อยแล้วครับ) แล้วจึงเริ่มตะลุยงานที่เหลือกันอีกไม่มากพอๆ กับเวลา

ไอ้โฟมจัดการปริ้นท์กระดาษที่ถูกจัดเป็นเพลตเพื่อใช้อธิบายงานทั้งหมดออกมาเป็นกระดาษ A4 ไอ้ทีมีหน้าที่ตัดขอบสีขาวที่เกินออกมาก่อนจะส่งมาให้ปูนกับผมช่วยกันต่อจนกลายเป็นเพลตขนาด A0 ไปเรื่อยๆ

"มึงมาทำไมอีกเนี่ย" ผมด่าทันทีที่เห็นหน้าไอ้เด็กนั่นโผล่มาอีกครั้งทั้งที่เพิ่งส่งมันไปเมื่อยี่สิบนาทีก่อน

"เอาอาหารเช้ามาให้ครับ" มันพูดก่อนจะยิ้มกว้างแล้ววางถุงเซเว่นในมือลงกับพื้น ค่อยๆ บรรจงเปิดฝาทีละถ้วยก่อนจะเอาไปวางที่ข้างๆ พวกเพื่อนๆ ผมพร้อมกับกาแฟหนึ่งแก้วและน้ำหนึ่งขวดทีละคนจนพวกมันได้แต่นั่งทำหน้าประหนึ่งน้ำตาจะไหล แล้วเดินเอาโจ๊กถ้วยหนึ่ง แซนวิสแฮมชีสและนมโอวันตินหนึ่งขวดมาวางให้ผมแล้วยกมือไหว้รอบวงอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป

"ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วมึงเอ้ย" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาซ้ำกระทิงแดงที่เพิ่งกินเข้าไปไม่นาน ...เดี๋ยวก็ตายกันพอดี

"จริงๆ มึง ถ้าเป็นไอ้ปืนนะ ถึงมันเป็นผู้ชายกูก็เชียร์" ไอ้ทีพูดขึ้นก่อนจะหันมาสนใจโจ๊กตรงหน้าไม่เว้นแม้แต่ไอ้โฟมที่ตอนแรกแทบจะไม่ขยับออกจากโน๊ตบุ๊คเลยด้วยซ้ำ ...อย่างที่บอกครับ คณะผมมีคนดูแลว่ายากแล้ว แต่มีคนที่ทั้งมาดูแล ทั้งเข้าใจแถมมาช่วยงานอีก ไม่ต้องแฟนหรอกครับ จะแค่เพื่อนหรือคนรู้จัก น้ำตาแมร่งก็จะไหลอยู่ละ

"อือ" ผมรับคำมันก่อนจะจัดการตรงหน้าจนหมดแล้วหันมาสนใจงานต่อ

...จะว่าไป มันก็ดีจริงๆ นั่นแหละ





"กูจะกลับไปนอนสามวันสามคืน"

"กูจะเอาหัวจุ่มถังเหล้า"

"กูจะตีดอทไม่หลับไม่นอนเลยคอยดู"

เสียงเซ็งแซ่ของเด็กปีสี่ดังขึ้นรอบด้านตอนเวลาเที่ยงตรงเหมือนได้รับการปลดแอก เพื่อนทุกกลุ่มที่ส่งงานกันเรียบร้อยแล้วต่างทยอยแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันด้วยอาการอิดโรยกันถ้วนหน้า ถึงแม้หลังจากนี้จะเป็นสอบกลางภาค แต่สำหรับพวกเด็ก'ถาปัตย์อย่างผมไม่มีอะไรชิลไปกว่าช่วงเวลานี้อีกแล้ว

...ไม่ใช่สอบกลางภาคไม่หนัก แต่ทำโปรเจคมันหนักกว่ากันเยอะครับผม

"งั้นกูกลับก่อนนะพวกมึง ขอบคุณมากเว้ย" ไอ้ทีหันมายกนิ้วโป้งให้เพื่อนๆ ทุกคนก่อนจะแยกตัวออกไปพร้อมไอ้โฟม

'ตึ๊ง ตึง' เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นมาทำให้ท้ังผมและไอ้ปูนควักโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกัน

Bpuen : ส่งงานเรียบร้อยยังครับ

"ตรงเวลาสุดๆ" ไอ้ปูนที่โผล่หัวมาข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แซวขึ้นมาก่อนหัวเราะอย่างขำๆ

Gun : แล้ว
Bpuen : กลับเลยเปล่าครับ
Gun : อือ
Bpuen : งั้นแวะมาหาผมหน่อย ที่คณะนะครับ

"โอ๊ะ!" เสียงไอ้ปูนที่ดังขึ้นมาอีกรอบทำให้ผมรีบฉกของในมือมันมาถือแล้วรีบเดินไปที่รถ ปล่อยให้มันที่ทำหน้าล้อเลียนเดินมามาทีหลัง

Gun : ง่วง จะกลับห้อง!
Bpuen : แป๊บเดียวเองครับ นะคร้าบบบ
Gun : สาดดด กูง่วง อย่าเยอะ
Bpuen : แค่ 5 นาที
Gun : ไม่!
Bpuen : 2 นาทีก็ได้ เอ้า!

"ไปเห๊อะ ง่วงแล้วอยากกลับบ้าน" ไอ้ปูนที่ขึ้นมาในนั่งในรถที่ยังไม่ยอมออกตัวสักทีพูดขึ้นจนผมยอมจำนน

Gun : เออก็ได้
Bpuen : โอเคครับ ผมอยู่หน้าป้ายคณะนะ
Gun : เออ

ผมพิมพ์ข้อความสุดท้ายก่อนจะโยนโทรศัพท์ลงข้างๆ ตัวแล้วขับรถออกไป ใช้เวลาไม่เกินสองนาทีตามที่มันพูดผมก็มาถึงหน้าป้ายคณะเกษตร

"สวัสดีตอนเที่ยงครับพี่" ไอ้ปืนที่ยืนทำหน้าแป้นแล้นอยู่ยกมือไหว้ผมเผื่อแผ่ไปทางไอ้ปูนที่นั่งจะหลับดีไม่หลับดีอยู่ข้างๆ

"เออ มีไรว่ามา" ผมเร่งมัน

"ลงมานี่หน่อยครับ" มันว่าก่อนจะทำหน้าคะยั้นคะยอให้ผมลงจากรถ ตอนนี้ผมไม่มีแรงจะเล่นแง่กับมันแล้วครับจึงยอมเข้าเกียร์ว่างปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเดินลงตามมันไป

แล้วทันทีที่ผมเดินลงไปไอ้เด็กนี่ก็รีบสวมรอยขึ้นไปนั่งแทนที่คนขับทันทีจนขนาดไอ้ปูนยังสะดุ้งลุกขึ้นมามอง

"ไม่ได้จะจับพี่ไปเรียกค่าไถ่ใช่มั้ย?" ไอ้ปูนถามก่อนจะมองอย่างเริ่มระแวง

"เปล่าครับ ผมแค่จะขับรถให้ ขึ้นมาสิครับ" ไอ้เด็กเกษตรพูดอย่างกับเป็นรถของตัวเอง ไอ้ปูนที่นิ่งไปสักพักปลดเข็มขัดนิรภัยของตัวเองออกก่อนจะข้ามไปนั่งที่เบาะหลัง

"คิดซะว่ากูไม่ได้อยู่ตรงนี้นะ ตามสบาย" มันพูดขึ้นมาก่อนจะเอนตัวพิงไปกับกระจกปล่อยผมให้ยืนเอ๋ออยู่ริมถนนอยู่นั่น

"ขึ้นมาสิครับ จะได้กลับไปนอนไง" คนขับรถจำเป็นพูดขึ้นอีกครั้งจนผมต้องเดินงงๆ ไปที่นั่งข้างคนขับแทน มันเอื้อมมือมารัดเข็มขัดนิรภัยให้ ปรับแอร์ ปรับเบาะเรียบร้อยก่อนจะขับรถออกไป ปล่อยให้ผมที่โดนลดระดับจากคนขับเป็นตุ๊กตาหน้ารถมองมันอย่างงงๆ

"มองทำไมครับพี่ นอนไปดิครับ ก็เมื่อคืนพี่ยังไม่ได้หลับ เดี๋ยวผมขับให้” มันพูดพลางหันมายิ้มกว้างให้พลางกดเปิดเพลย์ลิสต์เพลงบรรเลงเบาๆ จากอัลบั้มของผมให้เสร็จสรรพ

“ขอโทษนะครับพี่" มันพูดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเอาหมอนหน้าแมวสีดำที่เอามาจากไหนไม่รู้มาวางไว้ริมประตูฝั่งผมในระหว่างที่รถติดไฟแดงก่อนจะผลักหัวผมให้เอนลงไป จนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูกเลยได้แต่ซบลงไปบนหมอนของมันแล้วหลับตาลง



'เออ นอนก็นอนวะ'







หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08 - ...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 06-11-2016 18:10:39
ขนาดว่ายังไม่ทันได้จีบกัน
ยังฟินสุดขนาดนี้
พี่กันย์รีบๆไปขอน้องปืนเลย อย่าทำหลุดมือเด็ดขาด ขอบคุณมากค่ะ
รอต่อเสมอ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 06-11-2016 19:26:08
เอ้ะๆๆๆๆๆๆๆเอ้อะอ้ะ ตกลงใครรุกใครรับทำไมปืนดูแลดี้ดี555555555555555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 06-11-2016 21:57:16
ฮือ  น้องปืนดูแลดีสุด ๆ (มีความอิจฉาตาร้อน)
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 06-11-2016 22:18:23
มุ้งมิ้ง มุ้งมิ้ง ดูวิ๊งๆเหมือนโลกเป็นสีชมพู :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 06-11-2016 22:28:15
น่ารักกันจังค่ะคุณณ :ling1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-11-2016 08:27:04
ดูน้องปืนเทคแคร์ดีจังนะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 07-11-2016 10:44:43
น้องปืนคะ กันย์ไม่เอามาเป็นแฟนพี่ก็ได้นะคะ ดีเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 07-11-2016 12:21:03
เยอะ แต่ น่ารักอ่ะ ส่วนน้องปืนพี่ขอใส่กล่องกลับบ้านเถอะ ดีงามเวอร์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 07-11-2016 17:03:50
ทำให้ขนาดนี้เป็นแฟนกันเถอะค่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 08-...ก็พี่ยังไม่หลับ เดี๋ยวผมขับให้ [06-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 08-11-2016 08:29:42
09-…ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ

เมื่อสัปดาห์แห่งการสอบกลางภาคมาถึง ทุกชีวิตของกลุ่มผมเลยตัดสินใจว่าควรแยกย้ายกันอ่านดีกว่าเพราะเจอกันทีไรสติกระเจิดกระเจิงไม่เป็นอันอ่านหนังสือกันทุกที

...แต่ใช่ว่าแยกกันแล้วสติผมจะมานะครับ ก็ตอนนี้แขกเจ้าประจำคนล่าสุดกำลังทำให้ผมที่กำลังรวบรวมสมาธิต้องสติหลุดครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้

เมื่อวันก่อนหลังจากที่แวะไปส่งพี่ปูนเรียบร้อยแล้วผมเลยลากทั้งคนทั้งรถที่เหลือมากองไว้ห้องผมตามปกติ แต่คราวนี้พี่กันย์เล่นหลับไปสองวันจริงๆ อย่างที่เจ้าตัวเคยบอก …คือประมาณว่านอนไปห้าชั่วโมงตื่นมาไถๆ โทรศัพท์เล่นก่อนจะนอนใหม่แล้วลุกขึ้นมากินข้าวสองสามคำ แล้วก็นอนอีกจนเช้าวันนี้ซึ่งจะเข้าวันที่สามอยู่แล้ว ผมเลยขุดพี่กันย์ขึ้นมาจากเตียงแล้วลากออกไปหาอะไรกินข้างนอกแทนที่ผมจะทำอาหารอย่างเคย

...ถึงจะโอดครวญอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง แต่เจ้าตัวก็ยอมออกไปเพราะทนหิวไม่ไหว ก่อนจะลากสังขารกลับมาที่ห้องแล้วบอกว่าจะอ่านหนังสือ สุดท้ายก็อย่างที่เห็น พี่กันย์เดินไปรื้อบ้านจำลองที่ผมเก็บเข้ากล่องไปตอนไอ้รถถังมาค้างออกมากองกับพื้นในห้องนอนก่อนจะเริ่มตั้งฐานทัพใหม่จนผมต้องเนรเทศตัวเองออกมาอ่านหนังสือที่ระเบียงกับผักของผมเพราะเริ่มจะทนเสียงเรียกให้ไปเล่นด้วยไม่ไหว

"อยากกินขนมอ่ะ" คนที่เพิ่งนึกถึงโผล่หน้าออกมาจากครัวก่อนจะทำหน้าหงอยๆ เหมือนคนหมดแรง ท่าทางที่จะเห็นเฉพาะตอนอยู่กับกลุ่มเพื่อนของพี่กันย์เริ่มหลุดมาให้เห็นในพักหลังๆ จนผมต้องแอบหัวเราะเมื่อนึกไปถึงมาดนิ่งๆ ก่อนหน้านี้ที่เขาเคยใช้กับผม

"มีช็อคโกแลตอยู่ในตู้เย็นอ่ะครับ" ผมบอกก่อนจะเห็นเจ้าตัวผลุบหายเข้าไปสักพักก่อนเดินกลับมาพร้อมชูถุงช็อคโกแลตห่อใหญ่เป็นเชิงขออนุญาต

"แต่ห้ามเอาไปกินบนที่นอนนะครับ" คำพูดผมทำเอาคนตรงหน้าได้แต่บ่นงุบงิบๆ ก่อนจะเดินจากไป

"รู้แล้วน่า ใครพี่ใครน้องวะเนี่ย" ผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างขำๆ ก่อนจะเดินไปดูว่าคนที่เหมือนจะเข้าใจว่าจะเข้าใจจริงอย่างที่พูดรึเปล่า

"อ่ะ ผมบอกว่าไงนะครับ" เสียงของผมทำให้คนที่กำลังถือถุงช็อคโกแลตชะงักตัวที่กำลังจะหย่อนลงบนเตียงหันมามองเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิด

"กูแค่จะมาเอาโทรศัพท์เอง อะไรว้าา" พี่กันย์ทำหน้ายู่ก่อนจะเดินออกมาวางถุงช็อคโกแลตไว้บนโต๊ะเล็กๆ ที่ตอนนี้ผมกั้นส่วนครัวครึ่งหนึ่งไว้เป็นโซนนั่งเล่นบนพื้นอย่างง่ายๆ ก่อนพี่เขาจะเดินไปหยิบโทรศัพท์และชีทปึกหนึ่งมาวางไว้ข้างกันแล้วนั่งลง

"พอใจยัง" เจ้าตัวว่า ไม่วายปรายสายตาขึ้นมองผมอย่างเซ็งๆ

"จะอ่านหนังสือ 'จริงๆ' แล้วใช่มั้ยครับเนี่ย" ผมถามก่อนคนที่กำลังจะเอาช็อคโกแลตเข้าปากจะพยักหน้าหงึกๆ ผมเลยเดินไปหยิบหนังสือตรงระเบียงกลับเข้ามาแล้วนั่งลงตรงข้ามพี่กันย์





ผมต่ออายุการอ่านหนังสือของผมได้มากกว่าที่คิดไว้เพราะคนตรงหน้าอ่านหนังสือได้ไม่ถึง 30 นาทีก็ค่อยๆ ไหลตัวจนฟุบกับโต๊ะไปเรียบร้อยแล้ว ผมได้แต่สายหัวอย่างขำๆ แล้วค่อยๆ ดึงซองช็อคโกแลตในมือที่เจ้าตัวยังถือเอาไว้ออกมาก่อนจะลุกไปเบาแอร์ลงอีกหน่อยแล้วกลับมานั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ตามเดิม

ครืด ครืด ... เสียงโทรศัพท์ของคนที่หลับอยู่สั่นอยู่สองสามทีจนเจ้าตัวสะลึมสะลือขึ้นมากดรับมัน

"อือ"

'อยู่ไหนวะมึง' และเพราะห้องมันเงียบมากเลยทำให้ผมพลอยได้ยินเสียงพี่ทีไปด้วย

"ห้องไอ้ปืน" เป็นครั้งที่สองแล้วครับ ที่พี่เขาเรียกชื่อผม ...ควรดีใจมั้ยเนี่ย

'อีกละ ไปทำอะไรกันว้าา' เสียงล้อเลียนที่ดังลอดมาตามสายทำให้คนที่ฟุบหน้าคุยโทรศัพท์อยู่กับโต๊ะเงยหน้าขึ้นมาเจอผมที่เหลือบมองอยู่ก่อนจะสะดุ้งตัวขึ้นมา

"มันลักพาตัวกูมา..." จากนั้นจึงเดินเลี่ยงออกไปคุยที่ระเบียงข้างนอกแทน ผมเลยหันไปสนใจหนังสือต่อ ไม่นานคนที่หนีออกไปคุยโทรศัพท์ก็กลับเข้ามา

"ดูมันดิ คิดได้ไงวะชวนไปกินเหล้าวันนี้ มะรืนนี้สอบป่ะวะ" เสียงบ่นอันเป็นเอกลักษณ์ลอยเข้ามาพร้อมเจ้าตัวที่ทรุดลงนั่งที่เดิมก่อนจะฟุบตัวลงกับโต๊ะแล้วเริ่มไถโทรศัพท์อีกรอบ ...แต่ผมว่าที่พี่เขาเป็นอยู่ตอนนี้หรือออกไปกินเหล้า ผลที่ได้ก็คงไม่ต่างกันหรอกครับ

"อยากให้ยึดไว้มั้ยครับ"

"อะไร" เจ้าตัวถามกลับแต่สายตาไม่ได้หันมามองผมเลยสักนิด

"โทรศัพท์พี่เนี่ย"

"ของๆ กู โว๊ะ" พี่กันย์ขมวดคิ้วก่อนจะชำเลืองตามามองผมอย่างไม่สบอารมณ์

"พี่กันย์ครับ" ...ดูท่าจะต้องใช้ไม้แข็งขึ้นอีกหน่อย

"อะไรวะ"

"นับหนึ่งครับ"

"นับทำซากอะไร"

"นับสองครับ" ผมพูดขึ้นก่อนจะเลื่อนมือไปข้างหลังโทรศัพท์จนเจ้าของเครื่องเริ่มเหล่มองตามมือ

"กูไม่ให้" เจ้าตัวพูดก่อนจะดึงโทรศัพท์หนี

"นับสามครับ!" ผมนับครั้งสุดท้ายก่อนเตรียมตัวจะพุ่งเข้าไปเต็มที่ จนพี่เขาลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้าในครัว

"อ่ะๆ กูวางก็ได้ โห่ อะไรว้าา" พี่กันย์ทำหน้าขัดใจก่อนจะเดินกลับมานั่งใหม่แล้วเอาโทรศัพท์วางไว้ข้างๆ ตัวก่อนจะปรายตามามองผม

"พอใจยัง?"

"ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ" ผมยิ้มรับก่อนจะใช้สายตาบังคับให้คนตรงหน้าอ่านหนังสือแล้วผมก็อ่านของผมต่อไป





ครืด ครืด ครืด... เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำลายสมาธิของคนที่เพิ่งจะตั้งสติให้อยู่กับชีทได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดีจนผมต้องรีบรับสายแล้วเดินออกมาที่ระเบียงแทน

"ฮัลโหล" ผมกดรับสายหลังจากเห็นชื่อบนจอที่โทรเข้ามา

'ช่วยกูด้วยไอ้ปืน ฮือออ" ไอ้ธันย์นั่นเองครับ โทรมาโอดครวญแบบนี้อ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแหงๆ

"เออ จะให้กูช่วยอะไรล่ะ" ผมถามมันกลับ

'กูอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง' ...นั่นไงครับ

"แล้วจะให้กูช่วยยังไง สมองก็ของมึง เกรดก็ของมึง" ผมพูดขำๆ อย่างจี้ใจดำจนคนปลายสายเริ่มโวยวายดังขึ้นเรื่อยๆ

'กูไปอ่านด้วยได้เปล่า น้าาา' ผมส่ายหัวอย่างเอือมๆ ถ้ามันมานี่สมาธิแตกแน่นอน แต่ก็นั่นแหละ.. ถ้าปล่อยไว้สงสัยได้ลงแดงตายไปก่อน

"เออ อยากมาก็มา" ผมกดวางสายแล้วเดินเข้ามาจะอ่านหนังสือต่อก่อนจะชะงักเมื่อเห็นใครบางคนนั่งจมกับชีทของตัวเองอยู่

"ฉิบหายละ" ผมสบถเบาๆ ก่อนจะรีบกดโทรหาคนปลายสายที่เพิ่งวางไปได้ไม่นาน

'เปลี่ยนใจไม่ทันแล้วนะโว้ย กูออกมาแล้วเนี่ย' เสียงไอ้ธันย์แทรกขึ้นมาพร้อมกับเสียงลมที่ตีเข้าหูผม ...สงสัยจะออกมาแล้วจริงๆ

"เออๆ แต่มาแล้วเงียบๆ ด้วยนะเว้ย" ผมกำชับมันอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปตรงโต๊ะอ่านหนังสือที่ตอนนี้พี่กันย์เริ่มทำผมสติแตกอีกครั้งด้วยการเปิดเพลงจังหวะหนักๆ พร้อมโยกหัวไปด้วยอ่านหนังสือไปด้วย

...ระหว่างเกรงใจพี่กับเกรงใจเพื่อน ผมควรจะกังวลอย่างไหนก่อนดีครับ





"อ้าว พี่กันย์ สวัสดีครับพี่" ทันทีที่ผมผลักประตูเข้าไปในห้อง ไอ้ธันย์ที่ลากไอ้พีทกับไอ้ป้องมาด้วยจากไหนไม่รู้ยกมือขึ้นไหว้แทบไม่ทันเมื่อเห็นพี่กันนั่งอ่านหนังสืออยู่(และผมได้ยึดโทรศัพท์พี่เขาไปเป็นการชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว)

"อือ หวัดดี" พี่กันย์เงยหน้ามาทักตอบอย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีก่อนจะหันมามองผมนิ่งๆ แล้วก้มลงอ่านชีทต่อไป ผมเลยลากไอ้เพื่อนสามตัวเข้าไปในห้องนอนแล้วกางโต๊ะญี่ปุ่นตัวใหญ่อีกตัวไว้กลางห้องข้างๆ ฐานทัพของพี่กันย์เพื่อให้พวกมันไว้สิงสถิตย์

"นี่คือย้ายมาถาวร" ทันทีที่นั่งลงไอ้ธันย์ก็เปิดฉากขึ้นมา

"ก็ว่า ไม่ยอมมาอ่านหนังสือกับพวกกู" ไอ้ป้องได้ทีรีบเสริมต่อ

"ขั้นไหนกันแล้วครับ" ขนาดไอ้พีทที่ไม่ค่อยจะอะไรยังแซวผม

"ตอนนี้ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ มาอ่านหนังสือไม่ใช่รึไง" ผมโวยกลับก่อนจะดึงชีทของมันออกมากางไว้ตรงหน้า

"ตอนนี้?" ไอ้ป้องเลิกคิ้วถาม

"แล้วหลังจากนี้ล่ะ?" ไอ้ธันย์รับต่อเป็นลูกคู่ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

"ถ้าจะจีบเดี๋ยวกูก็บอกเองแหละ"

"ฮิ้ววว แววมันมาแล้วเว้ยเฮ้ย" ไอ้พีทแซวขึ้นมาก่อนจะแทคมือกับไอ้สองตัวทีเหลือ ผมได้แต่ส่ายหัวอย่างขำๆ ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นพวกมันเอามือปิดปากตัวเองแล้วเงียบลง

"กู.. เอาชีทมาให้ เผื่อมึงจะอ่านกับเพื่อน" พี่กันย์ว่าก่อนจะเม้มปากในขณะที่ยื่นชีทมาให้จากหน้าประตูโดยไม่เดินเข้ามา ...เม้มปากแบบนี้ เขินสินะครับ

"เมื่อกี้พวกมึงถามกูว่าไงนะ ตอนนี้ขั้นไหนแล้วใช่เปล่าวะ?" เพื่อนผมได้แต่มองหน้าผมอย่างงงๆ ส่วนคนที่เอาชีทมาให้ก็ยังยืนค้างรอให้ผมรับชีทจากมือ

"กูขอเปลี่ยนคำตอบได้เปล่าวะ" ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปจับชีทไว้

"หลังจากนี้อ่ะกูไม่รู้ แต่ตอนนี้..." ผมพูดในขณะที่ช้อนสายตายขึ้นไปมองคนที่จับชีทอีกด้านไว้

"กูขออ่อยก่อนได้เปล่าวะ"

ปัง!

"เชี่ยย มึงกล้ามาก" ไอ้ธันย์พูดขึ้นพลางทำหน้าเหลอหลาก่อนจะมองไปยังประตูที่เพิ่งถูกคนที่เอาชีทมาให้ปิดใส่อย่างแรง

"ตอนแรกกูนึกว่าพี่เขาจะเปิดมาด่า" ไอ้ป้องว่าก่อนจะพูดให้เบาลง

"แต่กูว่าตอนนี้เค้าจะฆ่ามึงแทน ไอ้ปืน" ผมขำกับคำพูดของพวกเพื่อนผมก่อนจะบอกให้มันสนใจชีทตรงหน้าแล้วเริ่มเข้าสู่การติวกันอย่างจริงจัง





'สาดดด ตึง! ตึง! ตึง!' เสียงแปลกปลอมที่ดังขึ้นมาขัดสมาธิเป็นรอบที่ร้อยของวันนี้แล้วมั้งครับ ทำให้พวกผมทั้งสี่คนผละสายตาจากหนังสือแล้วมองหน้ากัน

"เสียงอะไรวะ" ไอ้พีทถามหน้ายุ่งๆ ก่อนจะพยายามอ่านชีทของตัวเองต่อไป

'ไอเชี่ย กูบอกให้เข้ามาบวกไง แมร่ง ตึง!' เสียงที่ดังขึ้นทำให้รู้ที่มาของเสียงจนทุกคนหันไปมองทางประตูแต่ไม่มีใครพูดอะไร

"อ่านต่อเหอะ" ไอ้ป้องที่ดูเหมือนจะแอบกลัวพี่กันย์ที่สุดบอกเพื่อนทุกคนแล้วหันมาติวกันต่อ

"ตรงนี้มันคือยังไงนะ…" ไอ้ธันย์เริ่มถามถึงหัวข้อต่อไปอีกครั้งหลังเสียงจากคนที่คุณก็รู้ว่าใครเงียบลงไป





'กากสาดด มึงเล่นยังไงของมึงเนี่ย'

'เชี่ยย สกิลดิวะ อัลติหาป้าหรอคร้าบบบ'

คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงเดียว แต่มีอีกเสียงที่ดังแทรกขึ้นมาจนพวกผมเงยหน้ามามองกันอีกครั้ง

"พี่เขาไม่อ่านหนังสือหรอวะ" ไอ้พีทถามขึ้นเบาๆ ก่อนจะมองไปทางประตู

'ซูมม ซูมม ปัง!'

"พรุ่งนี้พี่เขาไม่มีสอบว่ะ" ผมตอบเพื่อนอย่างเริ่มเกรงใจ ...ก็พวกผมมีสอบติดกันสามวันนี่ครับ ใครจะไปชิลเหมือนพี่เขาล่ะ

"เวรกรรม" ไอ้ป้องพูดพลางหันมายิ้มแหยๆ ให้ผม

"ขอโทษว่ะ กูน่าจะบอกพวกมึงก่อน" ผมพูดกับพวกมันอย่างเสียใจ

"ปกติพี่เขาเป็นแบบนี้หรอวะ กูเห็นแต่เวลาเขาเงียบๆ" ไอ้พีทพูดขึ้นมาจนผมต้องคิดตามมันก่อนจะยิ้มออกมา

"กูรู้ละ เดี๋ยวมานะ" ผมบอกพวกมันก่อนจะลุกออกไป





[Gun's]


"พี่กันย์ครับ" เสียงไอ้เด็กนั่นเรียกผม …ผมได้ยิน แต่จะไม่สน ทำไมครับ

"ดันดิวะ ดันเลยย" ผมตะโกนพูดผ่านไมค์ของโน๊ตบุ๊คเพื่อบอกไอ้ทีที่เล่นอยู่ทีมเดียวกับผม รู้ตัวอีกทีไอ้เด็กนั่นก็นั่งยองๆ ลงเท้าคางอยู่ตรงหน้าผมพอดีแถมยังไม่ยอมปิดประตูห้องอีก ทำให้เวลาผมมองหน้าจอแล้วเลยไปอีกนิดก็เจอหน้ามันมองอยู่ ถัดไปอีกหน่อยก็พวกเพื่อนมันทั้งฝูงแค่นั้นล่ะครับ

"พี่กันย์เล่นเกมหรอครับ" ...ก็รู้หรอกว่ามันเสียมารยาทคนอ่านหนังสือ แต่ใครใช้ให้มึงมากวนตีนกูก่อนล่ะ โว๊ะ

"พี่กันย์ไม่อ่านหนังสือหรอครับ" มันย้ำ

"พรุ่งนี้กูไม่มีสอบ มึงจะทำไม" ผมพูดก่อนจะยักคิ้วให้มันอย่างหาเรื่อง

'มึงพูดกับใครวะไอ้กันย์' เสียงไอ้ทีที่ดังออกมาจากลำโพงตะโกนถามผมออกมา

"มารผจญ" ผมตอบก่อนจะหันไปเล่นเกมอีกแบบไม่สนใจมัน

"เชี่ยย โคตรกากเลย" ผมยังจดจ่ออยู่กับเกมต่อไป ส่วนไอ้เด็กนั่นลุกขึ้นไปไหนสักที่ก่อนจะเดินกลับมาใหม่

"พี่กันย์เล่นเกมต่อไปก็ได้ครับ" ไอ้เด็กนั่นที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือทำให้ผมต้องเงยหน้ามองมันที่ยืนค้ำหัวผมอยู่อย่างสงสัยแต่ยังไม่ทันได้มอง รู้ตัวอีกทีมันก็ทรุดตัวลงนั่งข้างแล้วโน้มตัวผ่านหน้าผมไป จนหน้ามันเฉียดหน้าผมไปแบบเส้นยาแดงผ่านแปดก่อนจะเสียบสายหูฟังสีขาวเข้ากับโน๊ตบุ๊ค จากนั้นก็ค่อยๆ เอื้อมมือแล้วเอาหูฟังสีขาวยัดใส่รูหูผมจนผมตกใจต้องหันไปมอง

...แล้วก็ต้องตกใจกว่าเมื่อหน้ามันอยู่ใกล้ผมซะขนาดรู้สึกได้ถึงลมร้อนๆ ที่รดอยู่ตรงปลายจมูก

"แต่พรุ่งนี้พวกผมมีสอบ ขอสมาธินิดนึงนะครับ" มันว่าก่อนจะยัดหูฟังข้างที่เหลือใส่หูผมแล้วเคาะที่หูฟังทั้งสองค้างเบาๆ ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องนอนไป

…และปล่อยผมทิ้งไว้ด้วยสมองอันขาวโพลน

'เฮ้ย ไอ้กันย์ตายไปรึยังวะ' ผมได้ยินเสียงไอ้ทีแทรกขึ้นมาแต่ไม่รู้มันพูดว่าอะไร เพราะถึงผมจะใส่หูฟังอยู่แต่ก็ยังได้ยินเสียงคนตรงหน้าที่จงใจพูดให้เสียงดังกว่าปกติแทรกขึ้นมาว่า

"แต่ถ้าพี่อยากได้ยินเสียงผม จะถอดออกก็ได้นะครับ" มันพูดพลางยิ้มหวานแล้วปิดประตูห้องนอนปล่อยให้ผมอยู่ข้างนอกคนเดียวเหมือนเดิม แต่ผมว่าสติผม...ไม่น่าจะเหมือนเดิมนะ


'ไอ้เชี่ยกันย์ มึงโดนครีปตีตาย โคตรอ่อนเลยมึง'




(หมายเหตุ : ครีป คือ มอนสเตอร์ขั้นพื้นฐานในเกม DOTA2 ที่ตัวฮีโร่/ผู้เล่นไว้ตีเพื่ออัพเลเวล)
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-11-2016 09:21:52
แอร๊ยยยยแดดิ้นแต่เช้า  น้องปืนแอทแทครัวๆ   :mew1:   o13   จะอ่อยก็อ่อยเลยลูกขา
เอาให้ป้าๆระทวย ส่วนพี่กันย์เหรอ เชอะ อย่าคิดลองดีกับเด็กหน้าตี๋นะจ๊ะ
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 08-11-2016 09:49:53
ปืนรุกชัวร์.  ฟันธง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-11-2016 10:25:22
ทำไมพี่กันย์ดูมุ้งมิ้งขึ้น
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 09-11-2016 02:29:15
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงตั้ลล้าคออ่าาา :ling1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 09-11-2016 07:22:25
พี่กันย์แม่งอ่อนจิง โดนน้องปืนประชิดตัวหน่อยเดียวถึงกะสตั้น
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 09-11-2016 07:23:41
น่ารักกกกก ทำไมเราก็ยังรู้สึกว่ากันย์รุกน้อออ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 09-11-2016 16:03:25
ปืนน่ารักอ่ะ :-[รุกพี่กันย์แบบจอดสนิทไปไม่เป็นเลยทีเดียว :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 09-11-2016 19:51:12
พี่กันย์น่ารักมากค่ะ เป็นไงล่ะ เจอน้องมาทำให้ปั่นป่วน
ส่วนน้องปืนนี่ก็ช่างดูแล แบบนี้พี่กันย์ต้องยอมพิจารณาบ้างแล้วล่ะนะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 09-...ก็พี่ไม่มีสอบ แต่ผมมีนี่ครับ [08-11-16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-11-2016 20:30:00
ที่ผ่านมาพี่กัลย์ ดูโหด น่ากลัว
ตอนนี้ติดปืน เพราะอยู่กับปืน แล้วสบายใจสินะ
ก็ปืน ตามใจพี่กัลย์ ตลอด
แต่จริงๆ พี่กัลย์ ก็คงถูกใจ สนใจปืน บ้างเหมือนกัน
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 10-...ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 10-11-2016 19:40:58
10-…ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ

หลังจากผ่านมหกรรมการสอบกลางภาคมาได้ มหา'ลัยผมก็เข้าสู่เทศกาลการรับปริญญาซึ่งหมายความว่า ...พวกผมจะได้หยุดหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ครับผม แล้วคณะผมเนี่ยมักจะจัดทริปเลี้ยงส่งบัณฑิตพร้อมๆ กับต้อนรับน้องใหม่อย่างไอ้พวกปีหนึ่งไปพร้อมๆ กัน อันมีชื่อเก๋ๆ ว่า 'ทริปรักษ์ทะเล' นั่นเอง

...ว่าแต่ว่า ทำไมสุดท้ายผมต้องมาจบชีวิตหลังสอบอยู่ตรงลานต้นไทร คณะเกษตรอีกแล้ววะครับ

"กูล่ะปวดหัวกับพวกมึงจริงๆ" ผมบ่นก่อนจะอยากขยี้หัวแรงๆ อย่างรำคาญแต่ก็ไม่ได้ทำจริงเพราะกลัวผมเสียทรง ผมยืนมองคัทเอาท์เจ้าเก่าตรงหน้าที่คราวนี้ไอ้พวกเด็กนี่มันดอยมาได้จากคณะวิทยาฯ อย่างเซ็งๆ

คิดดูนะครับ ...เมื่อคืนผมนอนเต็มที่หลังจากสอบเสร็จวันสุดท้าย ก่อนจะตื่นมาด้วยใบหน้าใสกิ๊ง เซทผมมาอย่างดี ประกอบกับเสื้อยืดสีดำ ขาเดปตัวเก่ง รองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งถอยพร้อมกับ Accessories ทั้งสี่เพื่อจะไปเดินสยามชิลๆ หาของขวัญรับปริญญาให้พวกพี่รหัสและพี่บัณฑิตคนอื่นๆ

...แล้วมีเหตุผลอะไรต้องทำให้ทุกอย่างมันไม่เป็นไปตามที่มันควรจะเป็นหรอครับ ถามใจมันดู

"ไอ้-เชี่ย-ปืน มานี่มา" ผมถอนหายใจอย่างเบื่อๆ ก่อนจะกวักมือเรียกไอ้ตัวการที่เรียกผมออกมา

"ครับพี่"

"เรียกกูมาเพื่อ?" ผมถามก่อนจะแกว่งโทรศัพท์ที่โชว์หน้าข้อความไลน์ของมันที่ส่งมาหาผมเมื่อชั่วโมงที่แล้ว

Bpuen : ทำอะไรอยู่ครับผม
Gun : แต่งตัว
Bpuen : จะไปไหนหรอครับ
Gun : สยาม
Bpuen : อยากไปด้วยอ่ะ
Gun : ไปดิ
Bpuen : ยังอยู่คณะอยู่เลยครับ เพิ่งสอบเสร็จเนี่ย
Gun : นี่คืออ่อยให้กูไปรับ?
Bpeun : ก็แล้วแต่คนโดนอ่อยจะกรุณาล่ะครับ
Gun : แล้วจะไปป่ะ
Bpuen : ^_________^
Gun : เออ อีกสิบนาทีกูถึง
Bpuen : ถึงไหนครับ?
Gun : คณะมึงไงสัด!

...แล้วผมก็โผล่มาตรงนี้ด้วยฝีมือของไอ้คนที่บอกว่าจะไปสยามกับผม

"กูจะไปสยาม ไม่ใช่ลานต้นไทร เผื่อมึงเข้าใจอะไรผิด" ผมเอามือล้วงกระเป๋าก่อนจะจ้องหน้ามันอย่างเอาเรื่อง ส่วนไอ้คนตรงหน้าก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ

"ก็ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวไปสยามกันต่อไงครับ" มันพูดพลางยิ้มตาหยีเพื่อเอาใจ ...ไม่สำเร็จโว้ยย

"เดี๋ยวเสื้อเหม็น มึงเห็นชุดกูมั้ยเนี่ย" ขู่แล้วก็ไม่ได้ผลจนผมจะงอแงแทนละนะ

"นี่ไง ผมเลยเตรียมนี่มาให้" มันพูดพลางยื่นถุงกระดาษใบหนึ่งให้ผม ข้างในมีชุดกันฝนแบบบางที่มีทั้งเสื้อและกางเกงแถมยังมีสายรัดบริเวณข้อมือและข้อเท้าเรียบร้อย ไหนจะถุงมือยางและหมวกคลุมอาบน้ำอะไรนั่นอีก

"ให้กูตัวเหม็นไปสยามยังทารุณน้อยกว่าให้ใส่ไอ้พวกนี้ทำคัทอ่ะบอกเลย" ผมพูดอย่างระเหี่ยใจก่อนจะยื่นของทั้งหมดกลับไปให้มัน

"ผมก็ไม่อยากให้พี่ตัวเหม็น แต่ผมอยากไปด้วยอ่ะ" มันได้แต่ยืนมองหน้าแล้วทำตาปริบๆ ใส่ผมอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ...คือถ้าไม่เสร็จมึงก็ไปไม่ได้ แล้วมึงก็จะไม่ให้กูไปด้วยใช่มั้ยครับเนี่ย

"อ่อยวิธีนี้ จีบกูไม่ติดนะบอกเลย" ผมว่ามันหน้าตายก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนซึ่งห่างจากคัทประมาณห้าเมตรอย่างอย่างระอา ก่อนจะตะโกนสั่งพวกปีหนึ่งที่ยืนก้มๆ เงยๆ อยู่ตรงหน้าคัทรับปริญญาที่ตอนนี้ยังคงว่างเปล่า

"เอาสีขาวที่เท้ามึงอ่ะ ทาลงไปเลย ให้ไว" ผมพูดก่อนจะนั่งมองพวกมันทาสีไปเรื่อยๆ ก่อนไอ้คนที่ทำให้ผมต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่เดินยิ้มกว้างเข้ามาพร้อมน้ำและขนมเต็มสองมือ

"ยังไม่ติดก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมหาวิธีใหม่" มันพูดก่อนจะทิ้งผมไว้ที่โต๊ะคนเดียวแล้วเดินเข้าไปช่วยเพื่อน

...แล้วทำไมแก้มผมมันต้องร้อนๆ ขึ้นมาวะเนี่ย โว๊ะ





"มึงจะกลับไปอาบน้ำมั้ย กูให้โอกาส" ผมถามมันในขณะที่เราสองคนขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้วแต่คนข้างๆ มัวแต่เอาหลังมือเช็ดเหงื่อและคราบสีจนผมต้องยื่นทิชชู่เปียกให้

"ไม่เอาอ่ะครับ เดี๋ยวพี่รอ" มันพูดก่อนจะหันไปเร่งแอร์แล้วเอาหน้าตี๋ๆ เข้าไปจ่อเพื่อคลายร้อน

"กูเห็นสภาพมึงแล้วกูอึดอัดแทนว่ะ" ผมคิดก่อนจะออกรถไปยังจุดหมายที่ใกล้ที่สุดที่จะทำให้ไอ้เด็กข้างๆ สภาพดีขึ้นมาได้ ...สตูฯ พวกผมเองครับ

ผมจอดรถไว้หลังคณะก่อนจะเปิดท้ายรถหยิบเสื้อและกางเกงนักศึกษาที่มันลืมไว้บนสตูฯ จนผมต้องเก็บไปซักให้คราวก่อนส่งให้มันพร้อมเดินนำขึ้นไปบนอาคาร

"ห้านาทีเท่านั้นครับ" มันว่าก่อนจะหยิบอุปกรณ์อาบน้ำแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความรวดเร็วก่อนจะออกมาด้วยสภาพชุดนักศึกษาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือสภาพที่ดีขึ้น

"พี่จะซักให้อีกมั้ยครับ" มันว่าก่อนจะยื่นชุดที่เลอะสีมาตรงหน้าผม

"ฝันไปเหอะ" ผมว่าก่อนจะอ้าถุงพลาสติกยื่นให้มันยัดชุดนักศึกษาที่ใช้แล้วลงไปแล้วยื่นคืนให้มัน

"มานี่ก่อน" ผมเรียกมันที่กำลังจะขึ้นไปนั่งบนรถให้เดินมาหาผมที่ยังเก็บของอยู่ท้ายรถ

ฟืดดดด...

"โห่ ผมไม่ใช่ยุงนะพี่ ฉีดเข้ามาได้ แค่กๆ" ผมหัวเราะก่อนจะเก็บน้ำหอมกลิ่นโปรดของผมเข้ากล่องยังชีพที่ยังไม่ได้เอาลงจากรถตั้งแต่มาค้างสตูฯ เมื่อคราวก่อนแล้วปิดท้ายรถลง

"ดีอ่ะ กลิ่นเดียวกันเลย"

"โอ้ย!" เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆ หูทำเอาผมตกใจจนศอกไปกระแทกเข้ากับท้ายรถ ...ไอ้เชี่ยนี่ก็ดมมาได้ ไซร้คอกูเลยป่ะล่ะ แหม่

"เจ็บมั้ยครับพี่" มันถามขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับๆ ที่ข้อศอก …เว่อร์มาก แค่ศอกกระแทกป่ะ ไม่ได้โดนรถชน

"เจ็บดิถามได้" …แล้วทำไมผมต้องอ้อยวะเนี่ย โว๊ะ

"งั้นผมขับรถให้" มันว่าก่อนจะทำท่าคว้ากุญแจในมือผม แต่ผมดึงหลบก่อน

"จะขโมยรถกูรึไง เอาไปขับบ่อยจริง" ผมว่าก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่คนขับรอจนคนข้างๆ ขึ้นมา รัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้วจึงขับออกไป





[Bpuen's]

"ซื้ออะไรดีวะ" พี่กันย์เปรยขึ้นหลังจากที่เดินเขาเดินออกทั้งร้านหนังสือก็แล้ว ร้านเครื่องเขียนก็แล้ว ร้านขายของเล่นก็แล้วแต่เจ้าตัวยังตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะซื้ออะไรไปเป็นของขวัญรับปริญญาให้พี่รหัสตัวเองดี

"เครื่องเขียนมั้ยครับ" ผมเสนอก่อนที่เราจะเดินเข้าร้านเครื่องเขียน
 
"เห็นจนบ่อยละ คณะกูนี่รับปริญญาทีก็ซื้อแต่ LAMY"

"หนังสือมั้ยครับ ผมว่าดีนะ" ผมเสนอตามประสาคนชอบหนังสือ
 
"มึงเห็นกูมั้ยครับ จับหนังสือปุ๊บตายปั๊บ พี่กูก็เหมือนกูเลยครับผม"

"ของเล่นมั้ยพี่ ชิ้นนั้นโคตรเจ๋งอ่ะ" ผมว่าคนจะชี้ชวนให้ดูกันพลาตัวนึงที่มีป้ายกำกับว่า 'LIMITED EDITION'

"โตโตกันแล้ว ใครจะยังมาเล่นของกันโว๊ะ" พี่เขาว่าพลางทำตาดุใส่ผม …แต่คนแถวนี้ยังเล่นอยู่เลยนะครับ ผมคิดอย่างขำๆ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ผมเลยเลิกเสนอแล้วตัดสินใจเดินตามคนตรงหน้าไปเรื่อยๆ ก่อนขาทั้งสองข้างของคนที่เดินนำหน้ามาตลอดจะหยุดลงหน้าขายเครื่องประดับร้านหนึ่ง

"ดูมั้ย?" พี่กันย์ว่าพลางมองผมด้วยหางตาก่อนจะเดินนำเข้าไปอย่างที่ยังไม่ทันได้ฟังคำตอบ

ร้านนี้เป็นร้านเครื่องประดับขนาดกลางที่สินค้าทำจากเงินและหนังเป็นส่วนใหญ่ คนที่เดินนำเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าตู้กระจกที่บรรจุเครื่องประดับโทนสีดำไว้ตามแบบที่เจ้าตัวชอบ ปกติผมไม่ค่อยใส่เครื่องประดับอยู่แล้วเลยถอยออกมายืนมองห่างๆ เพื่อให้คนตรงหน้าได้ใช้เวลาในโลกส่วนตัวต่อไป

"ชิ้นนี้เป็นแบบใหม่ค่ะ มีชิ้นเดียวด้วยนะคะเพราะร้านเราใช้ช่างทำมือค่ะ" พี่พนักงานสาวสวยหันมาทักทายผมก่อนจะชี้ไปยังสร้อยข้อมือหนังสีน้ำตาลที่มีสายโซ่สีเงินถักแทรกเข้าไปเป็นจังหวะๆ ผมได้แต่ยิ้มรับไมตรีก่อนจะหันไปมองชิ้นนู้นชิ้นนี้บ้างอย่างไม่อยากเสียมารยาทก่อนจะสะดุดตาเข้ากับสร้อยข้อมือหนังสีน้ำตาลเส้นหนึ่งที่ถักกันเป็นเปียเส้นเล็กๆ แล้วมีข้อต่อเป็นเงิน

"สนใจเส้นนี้หรอคะ?" พี่พนักงานถามขึ้นมาอีกครั้ง

"เอ่อ ครับ" พี่พนักงานรีบหยิบสร้อยเส้นนั้นออกมาจากตู้กระจกก่อนจะลองสวมเข้าที่ข้อมือผมทันที

"เอาเส้นนี้ด้วยครับ" พี่กันย์ที่เดินมาที่เคาน์เตอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้มาที่สร้อยบนข้อมือผมก่อนจะส่งถาดบุกำมะหยี่สีดำที่ตอนนี้มีสร้อยข้อมือวางอยู่สามสี่เส้นส่งให้พนักงาน

"ไม่ต้องหรอกครับพี่ ปกติผมก็ไม่ใส่อยู่แล้ว" ผมพูดพลางทำท่าจะถอดคืน

"ไม่ใส่เพราะไม่ชอบใส่ หรือเพราะไม่ชอบสร้อย" คำถามพี่กันย์ทำให้ผมหยุดคิด ...ทำไมพวกเด็ก'ถาปัตย์ชอบถามคำถามให้ต้องใช้สมองอยู่เรื่อย

"อืมม ไม่ชอบสร้อยมั้งครับ ก็เลยไม่ใส่ แต่ก็ไม่ได้เกลียดนะ" คำตอบผมทำเอาคนตรงหน้าเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา

"งั้นที่ยอมใส่อยู่นี่ ก็แสดงว่าชอบ 'จริงๆ' ใช่มั้ยล่ะ" พี่กันย์พูดก่อนจะยื่นกล่องเปล่าที่ไว้สำหรับใส่เจ้านี่มาให้ผมถือก่อนจะดึงข้อมือผมไปแล้วค่อยๆเกี่ยวสรายสร้อยที่ผมยังถอดออกมาไม่เรียบร้อยไว้เหมือนเดิม ผมเผลอมองการกระทำนั้นจนเผลออมยิ้มออกมา …น่าแกล้งเป็นบ้า

"งั้นที่ปกติที่ผมไม่อ่อยผู้ชาย แต่ผมดันอยากอ่อยพี่นี่ ก็แสดงว่าชอบ 'จริงๆ' ด้วยเหมือนกันใช่มั้ยครับ" ผมจงใจกระซิบที่ข้างๆ หูพี่กันย์ก่อนจะเดินออกมา ทิ้งให้คนที่เดินนำหน้ามาตลอดหยุดลงก่อนจะเป็นฝ่ายเดินตามหลังผมบ้าง

...การมีพี่เขาเข้ามาในชีวิตนี่มันบันเทิงดีจริงๆ ครับ ผมชักเริ่มชอบขึ้นมา 'จริงๆ' แล้วสิ





[Gun's]

"เฮ้ยไอ้กันย์ มึงไปทริปคณะเปล่าวะ" ไอ้ทีถามผมก่อนจะนั่งลงตรงหน้าก่อนจะหาวออกมาอย่างคนตื่นไม่เต็มตาดีนัก

ถึงจะได้ชื่อว่า 'ปิดรับปริญญาหนึ่งอาทิตย์' แต่ไม่รู้ทำไมอาจารย์คณะผมถึงขยันนัก ยังนัดตรวจแบบกลุ่มได้แม้เป็นวันหยุดตามประกาศมหา'ลัยก็ตาม

"ไปดิ มึงอ่ะ"

"กูไม่พลาดแน่ครับ" ไอ้ทีพูดขึ้นพลางยกนิ้วชี้ขึ้นมาส่ายไปมาอย่างไม่น่าถาม

"แล้วมึงบอกไอ้คีย์ยัง" ปูนกับไอ้โฟมที่เดินตามมาสมทบถามขึ้นทีหลังเมื่อได้ยินพวกผมพูดถึงเรื่องวันไปทริปกัน

"เดี๋ยวกูโทรหามันให้" ไอ้โฟมว่าก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วต่อสายถึงเพื่อนอีกคนทันที

"เออ ไอ้คีย์ ทริปคณะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หน้า มึงไปป่ะ เออๆ เหมือนเดิมแหละ..." ไอ้โฟมพูดต่ออีกสองสามคำก่อนจะวางสายแล้วหันมาพยักหน้าให้ว่า …ไอ้คีย์จะไป ผมผละสายตาจากไอ้โฟมก่อนจะเห็นว่าปูนนั่งจ้องหน้าผมอยู่ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

"เออ แล้วเราชวนคนนอกไปได้เปล่าวะมึง" อยู่ดีๆ ปูนก็พูดขึ้นก่อนจะปรายสายตามาหาผม

"ไม่รู้ดิ ได้มั้ง แต่ต้องจ่ายตังค์ด้วยนะ" ผมตอบส่งๆ ปกติไอ้ทริปคณะหรือทริปรักษ์ทะเลที่ว่าเนี่ย เหมือนทริปเพื่อนๆ ชวนกันไปเที่ยวมากกว่า แต่บังเอิญพวกผมเพื่อนเยอะกันไปหน่อยเลยแห่กันไปทั้งคณะเลย พวกเพื่อนๆ ปี 2 3 4 5 ของผมเนี่ยเลยต้องรวมเงินจ่ายกันเอง

"เอ แต่ปีหนึ่งก็ไม่ต้องจ่ายเปล่าวะ" ไอ้ทีรีบพูดต่อพอมันเหมือนจะเข้าใจอะไรกลายๆ ตามที่ปูนส่งมา

"นั่นดิ มึงว่า... ชวนดีเปล่าวะ" ไอ้ปูนทำท่าเหมือนพูดกับไอ้ที ...แล้วมันจะส่งสายตามาถามผมทำซากอะไรวะ

"เอาไงดีวะ แล้วแต่มึงแล้วกัน" ไอ้ทีพูดก่อนจะโยนการตัดสินใจกลับไป ผมว่า …ผมเข้าใจมันครับ แต่ผมไม่สน! ใครจะทำไม

"งั้น...กูชวนละน้าา" ไอ้ปูนพูดเน้นเสียงดังฟังชัดจนผมต้องละสายตาจากงานที่กำลังรีบปั่นให้ทันตรวจตอนบ่ายแล้วมองหน้ามันแทน

"จะชวนใครก็รีบๆ ชวน กูรำคาญละ หรือจะให้กูโทรให้ด้วยมั้ยล่ะ" ผมพูดตัดรำคาญ

"กูโทรเองได้ค่ะ สักครู่นะคะ" ไอ้ปูนจีบปากจีบคอพูดก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะกลางวงแล้วกดโทรออกหา 'น้องปืนของไอ้กันย์' พร้อมเปิดลำโพงเรียบร้อยจนผมต้องหันไปด่ามันแบบไม่มีเสียง

'ไม่ใช่ของกูโว้ยย' ไอ้ปูนยังหัวเราะอย่างไม่สะทกสะท้านก่อนจะเงียบเสียงลงเมื่อปลายสายกดรับโทรศัพท์

"สวัสดีครับ" ...เสียงหล่อมาเชียวนะมึง

"น้องปืน พี่ปูนเองน้าา" ...แหม่ะ ทำมาเป็นมีความชื่อคล้อง

"ครับพี่ ว่าไงครับ"

"ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หน้าน้องปืนไปไหนเปล่า ว่างมั้ย?"

"อืมม ก็ไม่นะครับ มีอะไรรึเปล่าครับพี่" ...แถมยังว่างตลอด ไม่มีงานมีการทำรึไงวะ

"คณะพี่มีทริปไปทะเลกัน เลยมาชวน ไปเปล่า?"

"พี่ชวน?.. เหรอครับ?" ...เออดิสัด ใครโทรคนนั้นก็ชวน ใช้สมองสิครับ

"อยากให้ใครชวนล่ะคะลูก?" มันไม่ตอบแต่มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมาแทน ...แล้วทำไมก็ต้องมาลุ้นด้วยวะ ทำงานดิ ทำงาน

"ก็..เปล่าหรอกครับ แล้วผมไปได้หรอครับ มีแต่คณะพี่ทั้งนั้น"

"ไปได้ คนแถวนี้บอกไปได้ ไปกัน"

"หรอครับ งั้น..."

"ท่ามากจังวะ" ผมเผลอสบถออกไปจนคนปลายสายเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบออกมา

"ก็..ถ้าคนแถวนั้นไม่ว่าอะไร ผมก็อยากไปนะครับ" เสียงปลายสายที่ตอบกลับมาทำเอาเพื่อนทั้งโต๊ะหันมามองหน้าผม

"ลองถามดูสิคะ" ปูนบอกก่อนจะดันโทรศัพท์มาทางผม

"เอ่อ.. ผมไปด้วยคนได้รึเปล่าครับ" สำเนียงการพูดที่เปลี่ยนไปนิดหน่อยทำเอาไอ้พวกเพื่อนตรงหน้าหันมามองผมอย่างล้อๆ

"…" ผมยังคงเฉย ก็มันพูดขึ้นมาลอยๆ ถ้าไม่ได้ถามผมขึ้นมา ผมไม่หน้าแหกหรอครับ

"พี่ว่าปืนต้องระบุชื่อแล้วลูก บางที…คนถูกถามอาจจะยังไม่รู้ตัว" ปูนพูดก่อนจะเบะปากทำหน้าตาหมั่นไส้ผมเต็มที

"พี่กันย์ครับ ปืนขอไปทะเลด้วยนะครับพี่” …ไอ้เชี่ยย กูขนลุก

คราวนี้ทั้งกลุ่มผมถึงกับหัวเราะออกมาดังลั่นแล้วเอามือตบโต๊ะอย่างถูกใจจนผมไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเลยตัดสินใจพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คกะจะหอบขึ้นไปทำบนห้องสมุดของคณะแทน

"อย่าเพิ่งหนีดิว้าา ตอบน้องปืนก่อน" ไอ้ทีว่าอย่างล้อเลียนก่อนจะยื้อเป้ผมไว้ไม่ยอมปล่อย

"ใครหนี กูจะไปทำงาน ปล่อยกระเป๋ากูได้แล้วโว้ยย" ผมว่าก่อนจะเอาสันโน๊ตบุ๊คลูกรักเคาะมือมัน

"ว่ายังไงครับ?" เสียงจากปลายสายดังขึ้นมาทำให้ผมหยุดประทุษร้ายไอ้ที

"ว่าไงมึง น้องรออยู่เนี่ย เปลืองค่าโทรศัพท์กู"

"เออ อยากไปก็ไป กูไปผูกขามึงไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ" ผมบอกอย่างไม่รู้จะทไหน้ายังไงดี …ก็ถ้าพวกมึงจะทำหน้าล้อเลียนกูกันขนาดนั้นอ่ะนะ

“งั้นผมไปด้วยนะครับ”


“เออ!”





หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 10-...ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-11-2016 19:55:05
 :-[.   นี่เขินแทนพี่กันย์แล้วนะน้องปืน
อ่อยแรงมากจริงๆ เพื่อนๆไฟเขียวขนาดนี้ก้อยอมให้น้องมันจีบต้ดสักทีเถอะน่า
ชอบมาก ทะเลต้องมีความโรแมนติกบ้างสิน่า
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 10-...ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 10-11-2016 20:15:39
ชอบการตั้งชื่อตอนมาก ๆ มันลงตัว เข้ากันมาก  แค่ชื่อตอนก็เขินและรู้สึกฟิน :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 10-...ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-11-2016 20:37:01
แอ๊ะๆ .....พี่ๆ เพื่อนพี่กัลย์
ขยันชง พี่กัลย์ น้องปืน ซะด้วย
อย่างนี้ก็เข้าทางปืนเลย จะได้จีบพี่กัลย์ ต่อ
ปากพี่กัลย์ ว่ารำคาญปืน
แต่ก็ยอมตามใจตลอด   
ยอมช่วยทำคัทเอ้าท์ ยอมพาไปอาบน้ำ
แถมซักชุดเก่าของปืนให้ด้วย
สุดท้ายยังฉีดน้ำหอมให้ด้วย
ไม่ชอบ จะทำให้ขนาดนี้เรอะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 10-...ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 10-11-2016 20:52:56
เป็นไงค่ะพี่กันย์ เพื่อนก็ชงซะขนาดนี้
พี่กันย์ก็ต้องปล่อยให้น้องอ่อยเยอะๆนะ จะได้ใจอ่อนไวๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 10-...ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 10-11-2016 21:06:26
กันย์น่าแกล้งจริงๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 10-...ก็ถ้าพี่ว่าไง ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-11-2016 22:25:14
อ้อยกันทำไมเนี่ย คนอ่านเขินเห็นไหมโว๊ะ!
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 11-11-2016 21:14:38
11-…ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ

"ไอ้คีย์ น้องปืน ทางนี้ๆ" พี่ปูนตะโกนมาทันทีที่ผมและพี่คีย์มาถึงสถานที่นัดหมายตอนเวลาเกือบๆ หนึ่งทุ่ม วันนี้ที่คณะสถาปัตย์ดูเหมือนจะแตกต่างจากทุกวันเพราะพวกเด็ก’ถาปัตย์ที่เคยเห็นนั่งหน้าโทรมๆ ตาโหลๆ แบบลืมตากันแทบไม่ขึ้นกำลังพูดคุยร้องรำทำเพลงกันอย่างครึกครื้นเหมือนได้รับพลังมาจากสวรรค์ก็ว่าได้

พี่โฟมที่เดินมาสมทบบอกว่าจุดหมายในปีนี้ก็คือระยองเหมือนเมื่อปีที่แล้วแค่เปลี่ยนที่พัก แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจกันเท่าไหร่ว่าจะไปที่ไหน สนแค่ว่าไปกับใครหรือมีเหล้าให้กินมั้ย …แค่นั้นแหละครับ

"ปีหนึ่งถ้าพร้อมแล้วขึ้นรถได้เลยนะคะ" เสียงเด็กปีสามซึ่งเป็นปีหัวเรี่ยวหัวแรงตะโกนผ่านโทรโข่งก่อนจะให้เพื่อนคนอื่นๆ เดินนำเด็กปีหนึ่งที่ส่วนใหญ่จะแต่งตัวสบายๆ เสื้อยืดกางเกงขาสั้นกับแตะคีบสีสันสดใสเดินกันไปที่รถที่มีหมายเลข 1 ติดอยู่ที่กระจกด้านหน้า

"ปีสอง ถ้าพร้อมแล้วก็ขึ้นรถได้เลยนะ" ปีสามอีกชุดหนึ่งเดินมาก่อนจะให้ปีสองสองเช็คชื่อแล้วเอาของไปเก็บใต้ท้องรถสำหรับคนที่มีกระเป๋าหรือสัมภาระมาด้วยเยอะๆ ส่วนใครที่มีของไม่มากก็ขึ้นไปจับจองที่นั่งกันได้เลย

"แล้วพี่กันย์ล่ะครับ" ผมถามขึ้นก่อนจะมองพี่ๆ ที่ตอนนี้อยู่กันครบองค์ประชุมจะเว้นก็แต่ ...พี่กันย์

"ไอ้กันย์มันปั่นงานอยู่หออ่ะ"

"อ้าว แล้ว..." ผมยังไม่ทันได้ถามต่อพี่ทีก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า

"เดี๋ยวมันก็มา ได้ไปกับมันแน่ไม่ต้องห่วง" พี่ทีพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะก่อนจะส่งสายตาล้อๆ จนผมเริ่มจะทำหน้าไม่ถูก ...ก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ แต่ไปเที่ยวกับคณะอื่นแบบไม่มีคนรู้จักมันก็แปลกๆ นี่นา

"พี่ปีสี่ครับผม พร้อมแล้วก็เชิญที่รถเลยครับพี่" เด็กปีสามคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกพี่ทีก่อนจะโค้งตัวแล้วผายมืออัญเชิญเหล่าพี่ๆ ที่ยังนั่งแช่กันอยู่ให้ขึ้นรถ

"มาก็ดีละ ไอ้เจ โทรไปจิกพี่มึงหน่อยไป โดนโปรเจคกินหัวไปแล้วมั้งนั่น" พี่ทีว่าก่อนจะสะพายเป้ขึ้นบ่าก่อนจะหันไปหยิบกระเป๋าของพี่ปูนมาถือไว้แล้วเดินไปที่รถหมายเลข 4

"อ้าว พี่กันย์ไม่ไปหรอครับ" คนที่ชื่อ ‘เจ’ หันไปถามพี่โฟมก่อนจะควักโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายตรงถึงคนที่ยังไม่มา

"พี่กันย์! มาให้ไวเลยพี่ รถจะออกแล้วเนี่ย ห๊ะ? สี่ทุ่มพี่ อืมม..เอางั้นหรอครับ ได้ๆ งั้นเดี๋ยวผมบอกพวกไอ้ขิงไว้ให้ เคครับพี่ เจอกันคร้าบบ"

"มันว่าไงวะ" พี่คีย์ถามขึ้นก่อนจะเดินตามเจไปที่รถโดยไม่ลืมหันมาเรียกผมให้เดินตามไป

"พี่กันย์ไม่น่าทันรอบนี้ว่ะพี่ น่าจะตามไปกับรถปีศาจ" ...รถปีศาจ? ผมว่า..แค่ชื่อก็ไม่น่าเข้าใกล้แล้วครับ

"เวร หรือกูรอมันดีวะ?" พี่คีย์พูดก่อนจะหยุดมือที่กำลังส่งกระเป๋าให้คนรถเอาไปเก็บ

"ไม่เป็นไรหรอกมั้งพี่ พวกไอ้ขิงดูคันนั้น เดี๋ยวผมบอกมันให้" เจพูดก่อนจะชี้ไปที่กลุ่มเพื่อนอีกกลุ่มที่กำลังนั่งเล่นกีตาร์อยู่ใต้อาคาร

"มีไรวะ?" พี่ทีที่เดินย้อนลงมาจากรถถามขึ้นเมื่อไม่เห็นคนที่เหลือเดินตามขึ้นไป

"ไอ้กันย์จะไปรถปีศาจว่ะ"

"ฉิบหาย ปีนี้พวกพี่แชมป์ก็ไปใช่ป่ะ" พี่โฟมอุทานอย่างตกใจก่อนจะหันไปถามพี่เจ

“ไม่น่ารอด” พี่ทีว่าก่อนยกมือขึ้นถุมหัวตัวเอง

"ไม่เป็นไรหรอกพี่ เดี๋ยวผมบอกพวกไอ้ขิงให้" พี่เจคะยั้นคะยอให้พวกพี่ๆ ขึ้นรถตามเดิมก่อนจะเช็คจำนวนเด็กปีสี่ตามใบเช็คชื่อ

"กูคงได้ถ่างตารอมันทั้งคืน" พี่ปูนโอดครวญก่อนจะทำหน้าเหมือนร้องไห้

จากที่ฟังๆ มาเหมือนทริปนี้จะแบ่งรถออกเป็นสองรอบครับ คือรอบหนึ่งทุ่มที่พวกนักศึกษาปี 1-5 ใสๆ ไปกัน กับอีกรอบคือรอบสี่ทุ่มซึ่งเป็นเวลาที่พวกพี่ๆ ที่จบไปแล้วน่าจะเลิกงานแล้วมากันทัน พี่เจเลยบอกให้พวกพี่ๆ ที่มาแล้วไปกันก่อนเลย เพราะไอ้รถรอบสี่ทุ่มนี่ก็มีแค่คันเดียว ดังนั้น ถ้าใครมาทันรอบแรกก็ให้ไปกันก่อนเพราะไม่รู้ว่าจำนวนพี่ที่จะมาจริงๆ นั้นมีเท่าไหร่ หากพวกนักศึกษามัวแต่รอไปกันรอบดึกที่นั่งอาจจะไม่พอ

แต่เหมือนประเด็นหลักจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่มันอยู่ที่ว่า...รถรอบดึกเนี่ยมันคือรถปีศาจอะไรนั่นมากกว่า

“เอาไงดีวะ?” พี่ที่พูดขึ้นก่อนจะหันมองคนอื่นๆ อย่างถามความเห็น

“พี่แชมป์เล่นไอ้กันย์แน่ กูมั่นใจ” พี่คีย์ว่าก่อนจะทำท่าขนลุกเมื่อพูดถึงพี่แชมป์คนนั้นแล้วกระซิบบอกผมว่าพี่แชมป์เนี่ยคือพี่ที่โตกว่าพวกพี่เขาเกือบสิบปี แต่รู้จักกันเพราะพี่เขามาที่คณะบ่อย ซี้สุดๆ ก็กับพี่กันย์ เจอหน้ากันปุ๊บ เหล้าเข้าปากปั๊บ ไม่เมา! ไม่อ้วก! ไม่เลิก!

“แล้วแมร่งก็ดันไม่ได้นอนอีกเมื่อคืน” พี่โฟมขยี้หัวอย่างใช้ความคิดก่อนพี่เจปีสามจะเดินมาอัญเชิญให้พวกพี่ๆ ขึ้นรถสักที

"งั้น…เดี๋ยวผมรอพี่กันย์เองครับ" ผมพูดขึ้นมาก่อนจะถอยหลังกลับมายืนบนทางเท้าแล้วบอกให้พี่ๆ ขึ้นรถไปกันก่อน

เหตุผลข้อแรกคือ ผมไม่ได้อยู่ในจำนวนรายชื่อที่เช็คไว้สำหรับรถรอบแรก
เหตุผลข้อสองคือ คนที่เป็นเหตุผลให้ผมต้องไปเขายังไม่มา
และเหตุผลข้อสุดท้าย... คือไม่มีเหตุผลให้ผมต้องไป ก็ใจมันยังไม่ไป ตัวก็ต้องอยู่กับใจสิครับ…





"เชี่ยย พี่แชมป์เล่นแรงว่ะรอบนี้" พี่กันย์บ่นก่อนจะพิงเบาะแล้วเงยหน้าค้างไว้ ผมได้แต่เอามือโบกๆ เรียกลมให้ใบหน้าแดงๆ ก่อนจะอดคิดถึงเมื่อตอนก่อนหน้านี้ไม่ได้

"อ้าวมึง ไม่ไปกับพวกไอ้ทีวะ" พี่กันย์พูดด้วยน้ำเสียงหอบๆ ก่อนจะยื่นกระเป๋ามาให้ผมแต่โดยดีเมื่อผมดึงกระเป๋าที่ไหล่พี่เขาไว้

"ก็พี่ยังไม่มา" ผมตอบหน้าตายก่อนจะเดินไปส่งกระเป๋าสองใบให้คนรถ

"กูไม่มาแล้วไปไม่ได้รึไง ทำเหมือนเด็กยังไม่หย่านมแม่ไปได้ โว๊ะ" พี่กันย์พูดพลางทำหน้ายุ่งก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถ

"ฉิบหายละ" ผมได้ยินเสียงพี่กันย์สบถ ยังไม่ทันขาดคำเจ้าตัวก็ถูกลากไปยังเบาะโซนหลังที่มีกลุ่มผู้ชายกลุ่มใหญ่หัวเราะเสียงดังกันอยู่

"ไอ้กันย์น้องรักกูมาแล้วโว้ยย" พี่คนที่ลากพี่กันย์ไปตะโกนขึ้นมาก่อนพวกพี่ที่เหลือจะปรบมือกันเกรียวกราว

"หวัดดีครับพี่" พี่กันย์ได้แต่ยกมือไว้ก่อนจะยิ้มแล้วหันมาพยักเพยิดหน้าให้ผมเดินไปหาที่นั่งตรงโซนด้านแทนที่จะเดินตามมา ส่วนเจ้าตัวนั้นถูกลากไปกองอยู่เบาะหลังเรียบร้อยแล้ว

"นี่กูมาเพื่อกินกับมึงโดยเฉพาะเลยนะเว้ย" พี่อีกคนเดินเข้าสมทบแล้วตบไหล่พี่กันย์อย่างถูกใจ

"พวกพี่กินกันมาแล้วใช่มั้ยครับเนี่ย" พี่กันย์พูดพลางทำหน้าเหวอๆ เมื่อเห็นอาการพี่ๆ ตรงหน้า

"นิดหน่อยเอง ก็รอนานนี่หว่า เจ้านายกูอุตส่าห์ใจดีปล่อยออกมาก่อนเนี่ย" พี่คนที่ตบไหล่พี่กันย์บอกก่อนจะสาธยายถึงความดีงามถึงร้านเหล้าเปิดใหม่ซึ่งไม่ไกลจากหอพี่กันย์มากนักอย่างออกรส

และทันทีที่จังหวะและโอกาสมาถึง พวกพี่ๆ ก็เริ่มกระจายแอลกอฮอล์กันทันที อาจจะเป็นเพราะรถไม่มีหมายเลขคันนี้ไม่ถูกนับรวมอยู่ในกลุ่มของนักศึกษา ทุกคนเลยมีอิสระในการทำกิจกรรมเต็มที่ประหนึ่งเพื่อนๆ เหมารถมาเที่ยวกันเอง พอสติเริ่มขาดหาย หายนะก็เริ่มมาเยือนโดยเหยื่อรายแรกก็หนีไม่คนที่ผมตั้งหน้าตั้งตารอแล้วก็โดนลากไปซะอย่างนั้น

ตั้งแต่เริ่มตั้งวงกันผมยังไม่เห็นชอตไหนเลยที่พี่กันย์ไม่ได้เอาเหล้าเข้าปาก พอชนกับคนนู้นเสร็จคนนี้ก็มาชนต่อ ต่อให้คอแข็งยังไงก็ไม่น่ารอดอย่างที่พี่ทีว่าแน่ๆ





"ไหวมั้ยเนี่ยพี่" พี่กันย์ปรายตามามองผมก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วชูแก้วเหล้าตรงหน้าที่ไม่มีอะไรผสมอยู่เลยนอกจากเหล้าเพียวๆ ให้ดู ผมมองคนตรงหน้าที่หน้าแดงก่ำก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าแก้วตรงหน้า

“ทำไรวะ” พี่กันย์ขมวดคิ้วก่อนจะใช้อีกมือปัดมือผมแล้วยกแก้วหนี

“ก็พี่ไม่ไหวแล้วนี่ครับ”

“ทำอย่างกับมึงกินได้ อย่ามาทำเท่แถวนี้” พี่กันย์ว่าอย่างฉุนๆ ก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากไปอีกอึกใหญ่

"ไอ้กันย์ ชนหน่อยโว้ย" พี่คนหนึ่งเดินตามพี่กันย์มาที่เบาะก่อนจะยื่นแก้วมาชน พี่กันย์ถอนหายใจแรงๆ หนึ่งครั้งก่อนจะหันไปชนแก้วแล้วกระดกเหล้าที่เหลือเข้าปากจนหมดแต่พี่คนเดิมก็ยังไม่ไปไหน ซ้ำยังมีพี่อีกคนเดินถือขวดเหล้าเดินมาตามอีก

"แล้วไอ้เนี่ยใครวะ" พี่ที่มาใหม่ถามขึ้นพลางชวนกันหันมามองผม

"ปีหนึ่งอ่ะพี่ อย่าสนใจเลย" พี่กันย์ว่าก่อนจะลุกขึ้นดันพวกพี่ๆ ให้กลับไปเบาะหลังแต่พี่ทั้งสองคนกลับหยุดนิ่งอยู่กับที่

"เฮ้ย ปีหนึ่งก็ดีเลย มาๆ เดี๋ยวกูช่วยรับน้อง" พี่คนที่ถือขวดเหล้าว่าก่อนจะคว้าแก้วพลาสติกขึ้นมาแล้วรินเหล้าใส่ก่อนจะยื่นมาให้ผม

"ปล่อยน้องมันไปเหอะพี่ ไปกินกับผมดีกว่า" พี่กันย์ว่าพลางพยายามดึงแก้วมาถือไว้เอง

"แค่แก้วเดียวเอง มึงจะหวงอะไรนักหนาเนี่ย" ...แต่แก้วเดียวของพี่นี่เหล้าเพียวๆ ไม่มีโซดาผสมเลยนะครับ

"มันเปลืองพี่ เก็บไว้กินเอง เชื่อผม" พี่กันย์พูดก่อนจะคว้าขวดเหล้ามาถือไว้เอง

"แก้วเดียว! เดี๋ยวกูไปเลย" พี่เขาว่าก่อนนิ้วขึ้นมาเพื่อยืนยันก่อนจะชูแก้วเหล้าหลบพี่กันย์แล้วยื่นให้ผม ผมเลยต้องจำใจรับมาถือไว้เอง

"เฮ้ยพี่ เพื่อนพี่พูดว่าอะไรนะ" พี่กันย์ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่โคตรดังในรถแล้วชี้ๆ ไปข้างหลังจนพี่ทั้งสองคนหันไปมอง อยู่ดีๆ ก็มีมือหนึ่งมาดึงแก้วในมือที่ผมทำท่าจะเทเข้าปากเพื่อให้มันจบๆ เรื่องไปไว้เอง

"เดี๋ยวกูกินเอง" พี่กันย์ว่าก่อนจะกระดกน้ำสีอำพันในแก้วจนหมดแล้วยื่นแก้วเปล่าคืนให้ผมก่อนเจ้าตัวจะหลับตาหยีแล้วกลืนลงไป

"ไหนวะ ไม่เห็นมีใครเรียกกูสักคน" พี่ๆ ทั้งสองหันมาพอเห็นว่าแก้วในมือผมว่างเปล่าเลยตบไหล่ผมเบาๆ แล้วเดินกลับไป พี่กันย์หันมาหายใจเข้าลึกๆ สองสามครั้งก่อนจะตัดสินใจหมุนตัวตามพวกพี่ๆ ไป ก่อนจะทันคิดมือของผมก็คว้าข้อมือพี่เขาไว้จนพี่กันย์หันมามองหน้าผมอย่างสงสัย ก่อนจะยิ้มมุมปากให้แล้วก้มลงมากระซิบข้างๆ หูผมจากนั้นก็เดินตามพี่ทั้งสองคนไป





ผมเข้าใจจนถ่องแท้เลยครับว่าทำไมถึงเรียกรถคันนี้ว่า ‘รถปีศาจ’ เพราะทันทีที่มาถึงทะเลในเวลาเกือบตีสองของวันใหม่ คนทั้งหมดบนรถต่างกรูกันลงไปแบบไม่มีใครที่เรียกได้ว่าปกติสักคน บางคนต้องตามพวกปีสามมาช่วยหิ้วปีก บางคนก็นั่งอ้วกอยู่ข้างรถ บางคนก็เมาแล้ววิ่งเข้าใส่เฟรชชี่หน้าใสๆ จนปีสามต้องไล่ให้พวกเด็กๆ หนีไปนอน

ผมที่ดูท่าจะปกติดีที่สุดค่อยๆ งัดพี่กันย์ที่นั่งคอพับคออ่อนอยู่บนเบาะหลังขึ้นมาแล้วหิ้วลงไปจากรถ ก่อนที่พวกพี่ปูนที่มายื่นรอรับอยู่ก่อนจะเข้ามาช่วยแบกไปยังบังกะโลหลังหนึ่งที่ข้างในมีห้องใหญ่เพียงห้องเดียวแต่มีเตียงและฟูกเสริมอีกสองอันที่พื้น

"ปวดหัวฉิบหาย" พี่กันย์โอดครวญขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตาก่อนจะยกมือขึ้นมากุมหัว

"แล้ว..ต้องทำยังไงต่อไปอ่ะครับ" ผมถามขึ้นอย่างไม่รู้จะช่วยพี่กันย์ยังไงดี ตัวผมเองก็ไม่ค่อยกินเหล้า ถึงพวกเพื่อนๆ ผมจะกินแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เคยเมากันจนต้องหิ้วมาแบบนี้

"ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรนิ" พี่ทีพูดก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับพวกพี่ๆ คนอื่นๆ

"ปล่อยมันไว้แบบนี้แหละ เดี๋ยวตื่นมามันก็หาย ปืนนอนก่อนได้เลย เดี๋ยวพวกพี่ออกไปคุยกับพวกพี่ๆ ข้างนอกก่อน นอนเลยๆ" พี่ปูนว่าก่อนจะชี้ไปยังที่ว่างข้างพี่กันย์ที่ยังไม่มีใครจับจองแล้วเดินออกไป ปล่อยผมไว้กับอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะทรมานมากขึ้นทุกที

"กูจะอ้วกว่ะ" อยู่ดีๆ คนที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาโพลงขึ้นมาแล้วพยายามดันตัวเองให้นั่งก่อนจะตะเกียกตะกายไปทางห้องน้ำ

"เดี๋ยวผมช่วยครับ" ผมบอกก่อนจะพยุงพี่เขาไปนั่งอยู่หน้าชักโครก วันนี้ต่างกับวันนั้นตรงคนที่กำลังอ้วกไม่ได้หัวเราะเพราะน้ำที่เติมไม่เต็มของชักโครก หากแต่กำลังน้ำตาคลอเพราะเอาของเสียออกมามากเกินไปจนผมใจไม่ดี แต่ก็ทำได้แค่ลูบหลังขึ้นแล้วค่อยๆ เอาทิชชู่เช็ดหน้าเช็ดตาให้

"เชี่ยย กูเหนื่อยว่ะ" คนที่ดูเหมือนจะสงบลงแล้วว่าก่อนจะเอนหลังพิงประตูห้องน้ำแล้วหลับตาลง เหงื่อที่เริ่มผุดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมเริ่มอยู่ไม่ติด ...ไม่รู้ว่าคนเมาปกติเป็นแบบนี้ หรืออันนี้เรียกว่าไม่ปกติกันแน่

"พี่โอเคมั้ยครับ?" ผมถามเมื่อเห็นคนตรงหน้าเริ่มไถลตัวลงกับพื้นเหมือนจะนอน ผมเลยเดินอ้อมไปอีกด้านก่อนจะดันตัวพี่เขาขึ้นแล้วแทรกตัวเข้าไปนั่งแทนที่ตำแหน่งเดิมของเจ้าตัวแล้วปล่อยให้คนตรงหน้าพิงมาที่ผมแทน ลมหายใจที่ค่อยๆ สม่ำเสมอทำให้ผมนึกว่าคนตรงหน้าหลับไปแล้วเลยดึงทิชชู่เปียกข้างๆ ตัวมาเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาอีกรอบเพื่อให้เจ้าตัวสบายขึ้น

"กูปวดฉี่" อยู่ดีๆ คนที่ผมนึกว่าหลับไปแล้วก็พูดขึ้นก่อนจะชี้ไปที่ชักโครกเล่นเอาผมทำหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียว

"เอ่อ..ครับ" ในนาทีที่ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะช่วยทำธุระยังไงดี พี่กันย์ก็ค่อยเอามือยันพื้นแล้วยืนขึ้นแต่ดันเซไปพิงกำแพงห้องน้ำ ก่อนจะค่อยๆ ยันตัวไปกับกำแพงอีกครั้งแล้วเริ่มถอดกางเกง ...ใจหนึ่งผมก็อยากให้พี่เขาได้ทำธุระแบบส่วนตัว แต่อีกใจก็ไม่กล้าปล่อยไว้คนเดียว

"เอาวะ" ผมพูดปลุกใจตัวเองก่อนจะสอดแขนไปล็อคตัวคนข้างหน้าเพื่อให้สามารถทรงตัวได้ก่อนจะตัดสินใจหลับตาแล้วซุกหน้าเข้ากับท้ายทอยพี่เขาแทน

"อย่าปล้ำกูนะเว้ย" พี่กันย์พูดก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

"ถ้าพี่ไม่รีบทำธุระให้เสร็จ ผมก็ไม่รับประกันความปลอดภัยนะครับ" ผมกระซิบเบาๆ ข้างต้นคอพี่เขาก่อนจะสังเกตได้ว่าคนตรงหน้าเริ่มยุกยิกๆ ก่อนจะได้ยินเสียงกดน้ำอีกครั้ง

"เสร็จแล้ว ไอ้ห่านี่" พี่กันย์ว่าก่อนจะใช้ศอกดันตัวผมออกก่อนเจ้าตัวจะเซแล้วค่อยๆ ไหลจากกำแพงลงไปกองกับพื้น

"กูปวดหัว" หลังจากทำธุระเสร็จเจ้าตัวก็เริ่มกลับมาโอดครวญอีกครั้งก่อนจะพยายามลุกขึ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมองผม

"พากูไปนอนหน่อย" ท่าทางที่งอแงเหมือนเด็กๆ บวกกับมือที่ยื่นส่งมา ทำให้ผมอดที่เผลอยิ้มออกมาไม่ได้ ในขณะที่ผมเอื้อมมือเข้าไปจับกับมือของพี่กันย์อยู่ดีๆ นิ้วเรียวของพี่กันย์ก็สัมผัสกับบางอย่างบนข้อมือผมก่อนจะลูบมันเบาๆ

"ก็ใส่นี่นา" พี่กันย์ว่าก่อนจะยิ้มมุมปากให้ผมอย่างล้อๆ ก่อนที่ผมจะดึงพี่เขาขึ้นมาไม่ทันตั้งตัวจนคนตรงหน้าเผลอเซเข้ามาใกล้ผม ผมจ้องหน้าพี่กันย์ที่ตอนนี้เริ่มแดงขึ้นอีกครั้ง …ไม่รู้ว่าเพราะอาการเมาหรือเพราะอย่างอื่นกันแน่

"ก็ชอบจริงๆ นี่นา" ผมว่าก่อนจะพยุงพี่กันย์กลับไปโยนบนที่นอนเหมือนเดิม เมื่อเห็นคนตรงหน้าหลับตาลงแล้วลมหายใจเริ่มสม่ำเสมออีกครั้งผมเลยตัดสินใจไปอาบน้ำเพื่อจะได้ออกมานอนบ้าง ทันทีที่ปิดไฟแต่ยังไม่ทันจะได้ล้มตัวลงนอน คนข้างๆ ที่ไม่รู้ว่าพูดจริงๆ หรือละเมอก็โอดครวญออกมา

"ปวดหัว" ผมนั่งมองอาการนั้นอยู่ในความมืดสักพักก่อนจะตัดสินใจเดินไปเปิดไฟห้องน้ำที่น่าจะทำให้พอให้มีแสงสว่างแต่ไม่รบกวนคนที่นอนอยู่มากนักแล้วจึงหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กในกระเป๋าออกมาชุบน้ำหมาดๆ นำไปวางบนหัวจนอดรู้สึกผิดไม่ได้เมื่อเห็นคนที่คิดว่าหลับไปแล้วลืมตาขึ้นมาจ้องหน้าผมอีกครั้งทันทีที่ผ้าขนหนูสัมผัสใบหน้า

"ไปนอนไป" พี่กันย์ว่าพลางทำหน้ายุ่งๆ ก่อนจะพลิกตัวไปอีกข้างจนผ้าขนหนูเลื่อนหล่นจากตำแหน่งเดิม แต่เจ้าตัวเหมือนจะรู้เพราะมือนั้นรีบหยิบมันขึ้นมาแล้ววางไว้บนหัวเหมือนเดิมจนผมอดยิ้มไม่ได้ก่อนจะนึกไปถึงคำพูดของคนที่กำลังนอนอยู่ตอนอยู่บนรถ





"เดี๋ยวกูกินเอง" พี่กันย์ว่าก่อนจะกระดกน้ำเหล้าจนหมดแก้วทำให้พี่ทั้งสองคนยอมเดินจากไป สีหน้าที่เหมือนจะถูกจับไปเชือดของพี่กันย์ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะดึงมือพี่เขาไว้ พี่กันย์หันมามองหน้าผมก่อนก่อนจะยิ้มมุมปากให้ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างๆ หู

"ฝากดูแลกูด้วยนะ"






'ก็เล่นพูดซะขนาดนั้น จะให้ผมหนีไปนอนได้ยังไงล่ะครับ ...พี่กันย์'












ตอนที่ 11 กับวันที่ 11 เดือน 11 ล่ะค่ะ เย้ ^________^ :mc4:
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันน้าาา ดีใจ น้ำตาไหล ยิ้มได้ทุกวัน 55555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-11-2016 21:26:52
โอ้ววววว. พี่กันย์แมนมาก
น้องปืนนี่ดูเหมือนจะรุกอะแต่คือเหมือนคุณแม่ เหมือนสามีไปพร้อมๆกันเลย ดูแลกันและกันมันดีจริงๆ
กันย์และgun.  :L1:   
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 11-11-2016 22:35:37
พี่กันย์มีความน่ารักแบบแมนๆ
เอาเซ่มีอ้อยกลับนิดนึง พี่เมาแทนแต่น้องดูแลพี่ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-11-2016 22:42:35
...ก็ถึงพี่ไม่สั่ง ผมก็ดูแลอยู่แล้วครับ

คนหนึ่งใส่สร้อย อีกคนอ้อยเป็นระยะ

แล้วมันจะพ้นกันไปได้อย่างไร  :hao3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-11-2016 22:53:12
ก็ห่วงใยกัน :mew1: :mew1: :mew1:
พี่กัลย์ ห่วงปืน เลยกินเหล้าแทนปืน
แถมสั่งปืนให้ดูแลตัวพี่ด้วย ถ้าพี่เมา
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 12-11-2016 03:36:43
ทำไมน้องปืนขี้อ่อยขนาดนี้คะ ไหนบอกพี่สิ้55555555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 12-11-2016 09:25:29
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 12-11-2016 13:37:09
มันดีกับใจชอบอ่อยกันทั้งคู่นั่นล่ะ :laugh:
ดูแลดีขนาดนี้เป็นแฟนกันเถอะ :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 12-11-2016 14:38:22
ถ้าจะอ้อนกันขนาดนี้....
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 12-11-2016 14:40:35
ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 11-...ก็ถ้าพี่สั่ง ผมจะไม่ฟังได้ยังไงล่ะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 12-11-2016 16:07:24
เรื่องนีสนุกมากอ่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 12-11-2016 22:51:52
12-…ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง

"ปวดหัวโว้ยยย" ผมยืนแหกปากอยู่หน้าบังกะโลทันทีที่เดินออกมาพบกับแสงแรกของเช้าวันใหม่และยังไม่มีใครตื่น ...ส่วนพวกที่ยังไม่นอนนั้นก็ยังกองกันอยู่ตรงหน้าหาดอยู่เลยครับ

"ตื่นเช้าจังพี่" ไอ้เจ น้องรหัสสุดที่รักของผมที่เดินผ่านมาพอดีทักขึ้นพร้อมกับส่งขวดน้ำเปล่าที่หอบมาเต็มสองมือมาให้

"ก็ปกติของกู ยังไม่ได้นอนสินะมึงอ่ะ" ผมว่าก่อนจะยกมือขึ้นให้กำลังใจมัน ทริปนี้ปีที่หนักที่สุดก็หนีไม่พ้นพวกปีสามที่เป็นคนจัดนี่แหละครับ ในขณะที่คนอื่นเมากันหัวราน้ำ ปีสามต้องคอยควบคุมสถานการณ์ เหล้าห้ามแตะ ไหนจะต้องคอยกันคนไม่ให้วิ่งลงทะเล ไหนจะต้องคอยตามล้างตามเช็ดเศษซากอารยธรรมของพวกพี่ๆ น้องๆ อีก พวกผมในฐานะที่จัดมาเมื่อปีที่แล้วนี่รู้ซึ้งถึงใจกันไปเลยทีเดียว

"ขอบคุณมากพี่ ข้าวเช้ามีตอนเจ็ดโมงนะครับ" มันว่าก่อนจะเดินเอาน้ำไปแจกจ่ายให้คนอื่นๆ ต่อ ผมเลยตัดสินใจเดินกลับเข้าไปอาบน้ำในบังกะโลเพื่อจะได้ออกไปหาอะไรกิน

"เมาฉิบหายอ่ะมึงอ่ะ" ไอ้ทีทักขึ้นทั้งที่ยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นมามองโลก

"เออดิ พวกพี่แชมป์แมร่งเล่นไม่ปล่อยเลยว่ะ สงสัยเครียดงานจัด" ผมพูดติดตลกพลางนึกถึงพี่ๆ ที่ชอบชวนผมไปสังสรรค์บ่อยๆ ตั้งแต่ตอนที่ผมเข้าปีหนึ่งจนถึงตอนนี้ แม้พวกพี่เขาจะยุ่งกับงานมากแค่ไหนก็ตาม

"อาบน้ำเสร็จแล้วปลุกกูด้วย โคตรหิวเลยว่ะ" ไอ้ทีว่าก่อนจะเอาหัวมุดกลับเข้าไปในผ้าห่ม ผมได้แต่สายหัวอย่างระอาก่อนจะเดินหากระเป๋าเสื้อผ้าที่คงมีใครสักคนหยิบมาวางไว้ให้เหมือนทุกที

"อยู่ไหนวะ" ผมเดินไปที่กองกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อนๆ ที่กองรวมกันไว้ใกล้ๆ ประตูแต่กลับไม่มีของผม ผมเลยเริ่มขุดคุ้ยจนกลับมาตรงฟูกที่นอนเมื่อคืนก่อนจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าใบคุ้นตาวางอยู่ข้างๆ หมอนพร้อมกับเสื้อผ้าและของใช้ที่ถูกเอาออกมาจัดวางแยกประเภทไว้อย่างเรียบร้อยเลยไปอีกหน่อยก็เป็นกองของใช้เช่นกันแต่มันไม่ใช่ของผมเนี่ยสิ

"หืม?" ผมหันไปมองทั่วห้อง ไอ้ปูนอยู่บนเตียง ไอ้ที ไอ้โฟม ไอ้คีย์กองกันอยู่บนฟูกถัดไป แล้วไอ้นี่ใครวะ? ผมเริ่มสงสัยก่อนจะค่อยๆ แง้มผ้าห่มออกดู …ไอ้เชี่ยปืนน! มันนี่เองที่บังอาจมายุ่งกับกางเกงในผม

"ผมง่วงงง" ไอ้เด็กที่ถูกผมดึงผ้าห่มจนแสงแยงตาพูดออกมาพร้อมทำหน้ายุ่งๆ ก่อนจะมุดกลับเข้าผ้าห่มไป

"ไอ้เด็กขี้เซาเอ้ยย" ผมว่าก่อนจะแกล้งเอาหมอนกับผ้าห่มของผมถมตัวมันไว้แล้วเดินออกมาอย่างสะใจเมื่อได้ยินเสียงโวยวายดังลอดออกมา





"เอาข้าวน้อยๆ ขอน้ำเยอะๆ นะครับ" ผมบอกพี่แม่ครัวที่ทำหน้าที่ตักข้าวต้มไก่ให้แล้วเดินตรงไปทางริมหาด

"พี่กันย์" ไอ้เจตะโกนเรียกผมที่กำลังจะเดินไปหาที่นั่งชิลๆ ริมทะเลจนต้องเดินย้อนขึ้นมาใหม่แล้วนั่งแหมะลงตรงโต๊ะไม้ข้างมัน

"นี่น้องปีหนึ่งสายเราพี่ ชื่อการันต์" ไอ้เจว่าก่อนจะแนะนำเด็กผู้ชายปีหนึ่งที่นั่งหัวโด่อยู่กลางดงปีสามที่เหลือให้ผมรู้จัก

"หวัดดีครับพี่" ไอ้เด็กที่ชื่อการันต์ว่าก่อนจะยกมือขึ้นไหว้ผม

"แล้วน้องทิงเกอร์เบลล์ของกูมาป่ะ" ผมถามถึงน้องเบลล์ น้องสายปีสองที่เป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวในสายที่เหลืออยู่ตอนนี้

"มาครับพี่ เห็นวิ่งดุ๊กดิ๊กอยู่กับเพื่อนเมื่อคืน" ไอ้การันต์ว่าพลางล้อเลียนพี่รหัสที่หุ่นออกจะเป็นก้อนกลมๆ สมคำ ‘ดุ๊กดิ๊ก’

"ก็ไปว่ามัน" ผมว่ามันขำๆ ก่อนจะลงมือจัดการข้าวต้มตรงหน้า

"อ้าว หวัดดีครับพี่" เสียงทักทายของไอ้พวกเด็กๆ ที่นั่งอยู่ทำให้ผมต้องหันไปมองก็เห็นพวกเพื่อนๆ ผมที่เหลือกำลังเดินตามมาสมทบพอดี

"นั่งนี่ดิ" ผมว่าก่อนจะเขยิบไปนั่งริมเก้าอีกเพื่อให้มีที่นั่งพอสำหรับคนมาใหม่

"มึงนี่น่าอิจฉาเนอะ ตื่นปุ๊บหายปั๊บ" ปูนว่าก่อนจะทำหน้ายู่ใส่ผมแล้วกระดกเครื่องดื่มแก้แฮงค์ในมือเข้าปาก

"อ่อนว่ะ แค่กินต้องกินด้วย" ผมแซวกลับก่อนจะจิ้มๆ ขวดเปล่าที่อยู่ในมือมัน

"เออดิ ใครจะไปเหมือนมึงวะ เมาเหมือนหมาแต่ยังมีคนตามมาดูแลอย่างดี"

"ฮิ้ววว..วว" เสียงแซวจากไอ้ปูนทำเอาคนทั้งกลุ่มถึงกับส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

"ใครวะ" ผมถามันอย่างงงๆ

"จะใครล่ะครับผม ก็น้องปีหนึ่งคณะผมไง"

"ฮิ้ววว..วว"  เสียงลูกคู่จากไอ้คีย์เรียกเสียงแซวขึ้นมาได้อีกหน

"ใช่คนที่ผมเจอเมื่อวานเปล่าพี่" ไอ้เจถามขึ้นพลางทำหน้านึกถึงใครสักคน

"ก็มันมีของมันอยู่คนเดียวนั่นแหละ ใช่เปล่าวะ" ไอ้ทีพูดขึ้นจนตอนนี้คนทั้งเริ่มหันมาถามกันแล้วว่า ...ใครวะ ใครวะ

"ไอ้น้องคนที่พี่กินเพียวแทนมันอ่านะ" ไอ้ขิง เด็กปีสามประจำรถปีศาจเมื่อคืนพูดขึ้นจนเรียกสายตาของทุกคนให้หันไปมองได้เป็นตาเดียว

"โคตรลงทุนอ่ะพี่" ไอ้เจว่าก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างอึ้งๆ

"แด่ไอ้กันย์ผู้ไม่นิมยมกินเพียว" ไอโฟมพูดขึ้นบ้างพลางยกแก้มน้ำเปล่าขึ้นมาประหนึ่งไว้อาลัยแล้วชนกับทุกคนรอบวง

"ถึงไม่ชอบกิน แต่ก็ไม่ใช่กินไม่ได้เปล่าวะ" ผมพูดขึ้นอย่างเซ็งๆ ก่อนจะคว้าแก้วน้ำในมือมันมากินเอง

"แล้วแบบน้องกูนี่ ปากบอกไม่ชอบๆ แล้วสุดท้าย...มึงอยากจะลองกินบ้างเปล่าวะ"

"ฮิ้ววว..วว" ...ประสาทกูจะกิน ไอ้พวกนี้นิ

"อะไรของพวกมึง โว๊ะ! แล้วนี่น้องมึงหายหัวไปไหน" ผมถามมันขึ้นมาเพราะเพิ่งสังเกตได้ว่าอีกคนที่เป็นคู่กรณีไม่อยู่แถวนี้

"อ่ะแหน่ะ อยากเจออ่ะดิ ปล่อยให้น้องกูได้นอนบ้างเห๊อะ เล่นทำมันไม่ได้นอนทั้งคืนอ่ะมึงอ่ะ"

"เฮ้ยๆ เล่าพี่ เรื่องนี้ต้องเล่า" ไอ้เจที่เสียงดังกว่าเพื่อนตะโกนขึ้นอย่างคึกคัก ไม่เว้นแม้แต่น้องใหม่ของสายรหัสอย่างไอ้การันต์ด้วย

"ก็เปล่า ก็ไอ้กันย์เมาเละขนาดนั้น น้องคนดีของกูก็ต้องอยู่ดูแลเปล่าวะ" ไอ้คีย์ว่าก่อนจะหน้าแบบคนถือไพ่เหนือกว่าสุดๆ …อย่าให้ถึงทีกูบ้างแล้วกัน!

"ยังไงพี่ ยังไง" ไอ้การันต์ตบมุขต่อ ...ยังไม่หยุดนะพวกมึง

"ก็แค่...พยุงกันลงจากรถ พาไปส่งถึงเตียง พี่บ่นปวดหัวน้องก็เดือดร้อนหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ พี่จะอ้วกก็พาไปส่งถึงฝาชักโครก..." ไอ้คีย์ที่ตอนแรกมัวแต่เล่นตัวทำเป็นไม่เล่าๆ สุดท้ายก็คายออกมาซะยาวจนผมยังต้องหันไปมองอย่างสงสัย

"ขนาดพี่ทำธุระน้องยังจับไม่ปล่อยเลยครับผม" ไอ้ทีเสริมต่อก่อนจะหันไปแทคมือกับไอ้คีย์ก่อนจะหัวเราะชอบใจ

“จับอะไรพี่!” ไอ้พวกปีสามตะโกนขึ้นมาพร้อมกันจนผมยังสะดุ้งไปด้วยเลยเนี่ย

“ก็..จับพี่กันย์ยังไงล่ะคร้าบบ”

“เขาเรียก ‘พยุง’ ไอ้สัด!” ผมว่าก่อนจะเอามือผลักหัวมันอย่างหมั่นไส้

"โธ่! พี่ผม โดนเด็กเกษตรสอยไปซะละ" ไอ้เจว่าก่อนจะแกล้งบีบน้ำตาแล้วไอ้เพื่อนทั้งฝูงของมันก็เข้ามาปลอบ …มึงเล่นใหญ่กันไปป่ะ

"มึงก็พูดไปเรื่อย" ผมพูดดักขึ้นมาก่อนที่มันจะใส่สีตีไข่ไปไกลกว่านี้

"เอ้าจริง! ที่พูดๆ อยู่เนี่ยเรื่องจริงนะครับผม" มันย้ำจนผมได้แต่เหล่ตามองมันก่อนจะพยายามนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

"ถึงกับพูดไม่ออกเลยเพื่อนกู" ไอ้ปูนว่าก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาจนผมได้แต่คิดตามอย่างสงสัย ...ทำไมนึกไม่ออกวะ ถึงแม้จะคุ้นๆ อยู่บ้างก็เถอะ





ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

"ตื่นได้แล้วโว้ยยย" ผมแกล้งเคาะบานประตูที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะยืนกอดออกพิงกำแพงมองคนที่ตอนนี้เพิ่งสลึมสลือลืมตาขึ้นมามองผมได้

"เป็นไงบ้างพี่" คำถามแรกที่มันถามขึ้นมาทำเอาผมนี่ต้องเค้นความทรงจำออกมาอย่างหนัก ...นี่ผมเมาขนาดต้องให้ไอ้เด็กคออ่อนนี่มาเป็นห่วงเลยหรอวะ

"ปกติ คิดด้วยว่ากำลังพูดอยู่กับใคร" ผมเลิกสนใจกับความทรงจำที่ว่างเปล่าก่อนจะยักไหล่ให้มันอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

"ก็ดีแล้วครับ" มันว่าก่อนจะเลื้อยตัวลงไปซุกผ้าห่มใหม่

"ไอ้ตีห้า มึงตื่นได้ละ คนอื่นเขาไปทำอะไรกันถึงไหนแล้ว" ผมว่าก่อนจะเดินไปหย่อนตัวลงบนเตียงแล้วเอาเท้าเขี่ยๆ มันที่ยังนอนอยู่บนฟูกบนพื้น ‘ไอ้ตีห้า’ คือคำเรียกติดปากมาจากที่พักหลังๆ ผมเริ่มตื่นมาทันเสียงนาฬิกาปลุกมันบ่อยขึ้น และพบว่าเวลาที่มันตั้งปลุกคือ ’05.00’ ...จะตื่นเช้าขนาดนั้นไปทำซากอะไร กูจะนอน

"วันนี้ผมขอเป็นไอ้บ่ายโมงครึ่งได้มั้ยครับ" คนที่ตอนนี้ได้แปลงร่างเป็นเด็กเกเรไปแล้วพูดขึ้นก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมโปง

จริงๆ ไอ้เด็กนี่โคตรอนามัย มันสามารถตื่นมาตอนตีห้าได้ด้วยความสดชื่น แต่นั่นหมายความว่ามันต้องได้นอนพอดีครบแปดชั่วโมงไม่ขาดไม่เกิน พูดง่ายๆ คือต้องเข้านอนตั้งแต่สามทุ่ม แต่ได้ข่าวเมื่อวานมันนอนหลังเวลาตื่นปกติมันเสียอีก เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ครบแปดชั่วโมงก็ต้อง... ผมคิดพลางยกนิ้วขึ้นมานับ

…นี่คือมันกะจะนอนให้ถึงบ่ายโมงครึ่งตามที่มันว่าเลยใช่มั้ยครับเนี่ย!

"ช้าหมดอดกินข้าวกูไม่รู้ด้วยนะ" ผมบอกกับมันก่อนจะเรียกสายตาปริบๆ ให้โผล่พ้นชายผ้าห่มออกมาได้ เรื่องสำคัญของมันรองจากเรื่องนอน ก็เรื่องกินนี่แหละครับ 'ข้าวสามมื้อ ตอน 7 โมง เที่ยงตรงและ 6 โมงเย็น'

"หิวครับ"

"รีบๆ ลุกขึ้นแล้วไปกินดิ" ผมว่าก่อนจะยื่นแขนที่สวมนาฬิกาไปให้มันดูเวลาที่ตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้ว

"ผมง่วง" …บทจะงอแงนี่ก็เปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังเท้าได้เนอะคนเรา

"แต่มึงกำลังจะอดข้าวมื้อที่สอง" ผมว่าก่อนจะยักคิ้วให้มันอย่างจงใจกวนประสาท

"ขอข้าวให้ผมหน่อย" มันพยายามคะยั้นคะยอผมด้วยการพยักหน้าถี่ๆ เหมือนลูกหมาที่ต้องการอาหาร ...น่ารักตายล่ะ

"เรื่องอะไร อยากกินก็ลุกดิวะ" ผมว่าก่อนที่มันจะคลานออกมาจากผ้าห่มแล้วเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋า

"เป็นไร" ผมถามก่อนจะฉกซองพลาสติกในมือมันมาดู 'ยาลดกรด เคลือบแผลในกระเพาะอาหาร'

"อย่ามาสำออย" ผมบอกมันก่อนจะโยนถุงลงข้างๆ มันแล้วเดินออกไป จนคนที่นอนอยู่ได้แต่ทำหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ก่อนจะลุกขึ้นบิดซ้ายทีขวาทีเพื่อเตรียมตัวไปอาบน้ำ





"อ่ะ" ผมเดินกลับมาอีกครั้งก่อนจะวางจานข้าวที่โปะด้วยไข่เจียวและถ้วยแกงจืดลงที่ปลายฟูกของมันจนคนที่กำลังเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำชะงักแล้วหันมามองหน้าผมสลับกับจานอาหาร

"กูไม่ตามใจมึงบ่อยๆ หรอกนะ" ผมว่าก่อนจะรีบๆ เดินออกมา …ก็แค่กลัวคนแถวนี้โรคกระเพาะจะกำเริบเท่านั้นแหละครับ เพราะถ้าเกิดมันไม่สบายขึ้นมาใครล่ะที่จะซวย ก็ผมนี่ไง!

“ขอบคุณนะครับพี่” เสียงที่ตะโกนไล่หลังออกมาทำเอาคนแถวนั้นหันมามองผมกันเป็นแถบจนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูกจึงได้แต่เร่งฝีเท้าเพื่อเดินกลับไปหาพวกเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ริมชายหาด

“เป็นบ้าอะไร ทำไมยิ้มคนเดียว” คำพูดไอ้ทีทำเอาผมหันไปมองมันอย่างงๆ ก่อนจะเพิ่งสังเกตตัวเอง

“เปล่า”

“เปล่าอะไร ก็กูเห็นอยู่เนี่ย” ไอ้ทีพูดอย่างจริงจังก่อนจะเดินมากอดคอผมไว้

“ไม่มีอะไร ก็..เวลามึงเดินสวนกับคนน่ารักๆ มึงก็ต้องยิ้มเปล่าวะ” ผมแถไปเรื่อยโดยไม่คิดอะไร

“ก็จริงของมึง ยิ่งคนที่น่ารักมากๆ ยิ่งห้ามไม่ให้ยิ้มนี่…โคตรยากเลยเนอะ” มันว่าก่อนจะเหล่มองผมอย่างสงสัยก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เดิม

“คนที่น่ารักมากๆ งั้นเหรอ” ผมคิดตามมันก่อนจะหันไปเจอใครบางคนที่เพิ่งเดินตามออกมา …ก็ไม่เท่าไหร่หรอกมั้ง หน้าตี๋ซะขนาดนั้นอ่ะ





[Bpuen's]

กว่าผมจะอาบน้ำ แต่งตัวและกินข้าวที่พี่กันย์ในมาดพ่อพระใจดีเอามาให้ผมเสร็จเรียบร้อย เวลาก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายโมงซึ่งเหมือนทุกคนจะพร้อมใจกันอยู่บริเวณชายหาดเรียบร้อยแล้ว

“พี่ๆ ตั้งฐานด้วยครับ ส่วนน้องปีหนึ่งมาทางนี้เลย” เสียงที่คาดว่าน่าจะเป็นพวกพี่ปีสามดังขึ้นก่อนเหล่านักศึกษาที่กองๆ กันอยู่จะแยกย้ายออกไปอยู่เป็นกลุ่มๆ ตามบริเวณ ริมชายหาด ส่วนปีหนึ่งซึ่งเดาได้จากป้ายชื่อที่แขวนเอาไว้กำลังยืนเข้าแถวตอนแบ่งออกเป็นห้าแถว เท่ากับจำนวนฐานของพี่ๆ ชั้นปีแก่กว่าทั้งสี่และพี่ที่จบไปแล้วอีกหนึ่ง

“ปีหนึ่งรึเปล่าครับ ทางนี้เลยๆ” พี่ปีสามคนหนึ่งหันมามองก่อนจะกวักมือเรียกผม

“ผมหรอครับ” ผมยกมือชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ ...ก็ปีหนึ่งแหละ แค่ไม่ใช่เด็กคณะนี้เท่านั้นเอง ผมมองมือที่ยังกวักเรียกผมอย่างงงๆ ก่อนจะมองไปเจอเข้ากับพี่กันย์ที่มองมาทางผมพอดี วันนี้พี่เขาใส่เสื้อกล้ามสีขาวทับด้วยเสื้อเชิ๊ตสีขาวอีกตัว(คาดว่าถ้าใส่สีดำเหมือนปกติคงจะทนความร้อนของแดดประเทศไทยไม่ไหว) กางเกงขาสั้นสีเหลือง แล้วไม่ใช่เหลืองธรรมดานะครับ …เหลืองมัสตาร์ด(ตามที่พี่กันย์พูดกรอกหูผมอยู่บ่อยๆ) รองเท้าแตะคีบสีน้ำเงินและแว่นกันแดดทรงกลมสีดำ

"มาเลยครับ ให้ไวๆ เห็นมั้ยเพื่อนๆ รออยู่เนี่ย" พี่ปีสามอีกคนหนึ่งเร่งแต่ไม่ได้ดูสีหน้าไอ้พวกปีหนึ่งที่กำลังทำหน้างงประหนึ่งว่า ...ใครเพื่อนมัน ผมหันไปมองพี่กันย์ที่กำลังเกาท้ายทอยอย่างใช้ความคิดก่อนจะพยักเพยิดหน้าให้ผมเดินไปรวมกับพวกปีหนึ่ง'ถาปัตย์ ...ทำไมผมต้องมารับน้องรอบสองเนี่ยครับ

"ไอ้การันต์" เสียงพี่กันย์ตะโกนขึ้นมาเรียกเด็กผู้ชายปีหนึ่งที่ตัวสูงๆ คนหนึ่งให้หันไปมองก่อนพี่กันย์จะพูดแบบไม่ออกเสียงแล้วชี้มาที่ผม 'น้องกู ดูมันด้วย' ตอนแรกผมก็เห็นคนที่ชื่อการันต์ทำหน้างงๆ ก่อนพี่คีย์จะตะโกนตามมา

"น้องไอ้กันย์ ดูมัน 'ดีๆ' ด้วย" เท่านั้นแหละครับ ไม่ใช่แค่คนที่ชื่อการันต์ แต่ทั้งพี่ขิง พี่เจรวมถึงพี่ปีสามคนอื่นๆ ต่างหันมามองผมเป็นตาเดียวก่อนจะร้อง 'อ๋อออ' ขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ...เอ่อ ผมจะปลอดภัยใช่มั้ยครับ ทำไมเย็นๆ สันหลังชอบกล





“ผ่านคร้าบบ ไปฐานต่อไปได้” เสียงพวกพี่ปีสามดังขึ้นก่อนจะดึงเอาถังแป้งที่ตอนแรกก็ป้ายหน้าพวกผมอยู่ดีๆ แล้วไม่รู้เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมาตอนไหนเลยจัดการราดลงบนหัวพวกผมจนเปียกไปหมดกลับไป แล้วอัญเชิญพวกผมไปยังฐานต่อไปโดยไม่คิดจะล้างออกให้สักนิด

“ตัวหอมไปเลยกู” ไอ้การันต์พูดอย่างขำๆ ก่อนจะอ้าแขนออกให้ผมดูตัวที่ตอนนี้ขาวไปด้วยแป้งตั้งแต่หัวจรดเท้า

“จะได้ไม่ต้องอาบน้ำไง” ผมว่าก่อนจะลูบหน้าตัวเองให้พอยังลืมตาได้บ้าง แล้วเดินตามเพื่อนที่เหลือเพื่อเข้าฐานต่อไป

"สวัสดีครับปีหนึ่ง นี่คือฐานปีสี่นะ เอ้า แนะนำตัวกันหน่อยเร็ว" ฐานต่อมาที่พวกกลุ่มที่ผมอาศัยอยู่ต้องมาเจอก็คือฐานของปีสี่ ซึ่งผมเห็นคนที่เพิ่งเมาไม่ได้สติเมื่อคืนเริ่มตั้งวงกับเพื่อนๆ อีกแล้วครับ

"ไอ้กันย์ ของมึงเอาเป๊บซี่หรือโซดาวะ" ผมได้ยินเสียงพี่ทีถามก่อนที่พี่กันย์จะชี้ไปยังขวดโซดาก่อนจะรับมาเปิดฝาให้โดยใช้โซดาอีกขวดหนึ่งอย่างชำนาญ

"สวัสดีครับ ผมชื่อการันต์ เป็นน้องพี่กันย์ครับ" เสียงของการันต์ที่เอ่ยแนะนำตัวพร้อมบอกชื่อพี่สายชั้นปีที่สี่ดังแทรกขึ้นมาทำให้ผมหันกลับไปสนใจกับกิจกรรมตรงหน้าอีกครั้ง

"น้องไอ้กันย์ว่ะ สายนี้เขามีดีจริงๆ เว้ย" พี่ปูนพูดขึ้นก่อนจะเรียกเสียงแซวจากพี่ผู้หญิงที่เหลือตามมา

"น้องผมครับ น้องผม" พี่กันย์ว่าก่อนจะเดินเข้ามากอดคอน้องสายอย่างอารมณ์ดี

"เอาเปล่า" พี่ปีสี่อีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อนจะชูแก้วเหล้าขึ้นถาม

"อย่าเพิ่งเถ๊อะ ปล่อยน้องกูใสๆ ไปก่อน" พี่กันย์ว่าก่อนจะหันมาพยักหน้ากับน้องตัวเองอย่างหาแนวร่วมแล้วเดินกลับไปนั่งที่

"โอเค คนต่อไปครับ" พี่ปีสี่คนที่นำกิจกรรมฐานนี้ถามก่อนจะเลื่อนมือมายังผม

"เอ่อ.. ผมชื่อปืนครับ เป็นน้องของ..." ผมเอ่ยแนะนำตัวก่อนมองไปยังคนที่จ้องมองมายังผมเหมือนกัน

"ลืมชื่อพี่รึไง เดี๋ยวมีซ่อมๆ" พี่คนเดิมว่าก่อนจะแซวกันอย่างไม่จริงจังนัก ส่วนพี่กันย์ก็ยกยิ้มมุมปากอย่างขำๆ

"เอ่อ..เป็นน้องของ..พี่กันย์ครับ"

"ทำไมไอ้กันย์มีน้องสองคนวะ" พี่ปีสี่คนที่ถามหันมามองพี่กันย์อย่างงงๆ พี่กันย์ไม่ได้ตอบอะไรแต่หันมามองหน้าผมก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นอีกครั้ง ...สนุกอยู่คนเดียวอ่ะ

"มันไม่ใช่น้องคณะมึงหรอก น้องคณะกูเนี่ย" พี่คีย์พูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนยังทำหน้างงไม่หาย

"อ้าว แล้วทำไมบอกว่าเป็นน้องไอ้กันย์วะ" พี่คีย์ลุกขึ้นก่อนจะเดินมาเข้ามาตบไหล่พี่คนนำกิจกรรมอย่างเห็นใจก่อนจะช่วยให้กระจ่างอีกที

"ก็คนหนึ่งอ่ะ น้องคณะไง”

“อ่าฮะ แล้วอีกคนอ่ะ?”

“ก็ ‘น้องรัก’ ของพี่ยังไงล่ะคร้าบบ"

"ฮิ้ววว..วว" เสียงฮิ้วที่ดังขึ้นจากทั้งปีหนึ่งและปีสี่ทำเอาผมถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก …ถ้าผมยิ้มออกมาจะโดนพี่กันย์ด่ามั้ยครับ

"แหน่ะ อย่ายิ้มดิมึง อย่ายิ้มดิ หวายยย" พี่ทีที่ตะโกนแซวมาจากด้านหลังทำให้ผมต้องหันไปมองคนโดนแซวที่พยายามดึงหน้าดุแล้วหันไปด่าเพื่อน

“อะไรของพวกมึง” พี่กันย์ว่า แล้วหันไปชี้หน้าคาดโทษเพื่อนที่ได้แต่มองไปที่เจ้าตัวอย่างล้อๆ

“อยากยิ้มก็ยิ้มเถอะ เจอคนน่ารักก็ต้องยิ้มเปล่าวะ”

"กูไม่ได้ยิ้มโว้ยย" พี่กันย์ว่าก่อนจะงัดเอาแว่นดำที่ถอดออกไปแล้วขึ้นมาใส่อีกครั้งแล้วก่อนจะหันหน้าหนีทำคิ้วยุ่งๆ มองไปที่ทะเลแทน



'ไม่ยิ้มก็ไม่ยิ้มครับพี่ ผมว่าจะถามพี่แต่ก็ลืมทุกที เอ..พี่ใช้ยาสีฟันยี่ห้ออะไรนะครับพี่กันย์'
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 12-11-2016 22:53:32
กรี๊ด ประโยคสุดท้ายเอาใจไปเลย  พี่กันย์ :pighaun:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-11-2016 18:03:26
คนอ่านก้อหุบยิ้มไม่ได้เหมือนกัน
เด็กน่ารักต้องรับมาเลี้ยงนะพี่กันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-11-2016 18:29:12
ต่างฝ่าย ต่างดูแลกัน  :mew1:
ปืน ดูแลพี่กัลย์ ดีมาก
พี่กัลย์ ดูแล ไปปลุก หาข้าวให้กิน
น่ารัก ทั้งคู่เลย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 13-11-2016 19:58:15
อ่านไปเขินไป  :hao6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 13-11-2016 20:14:42
เขินตามเลย


 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: Kimigari ที่ 13-11-2016 21:49:10
น่ารักมากกกกก
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ รอคอยทุกวันเลยยยย
น้องปืนน่ารักมากกก พี่กันย์ก็น่าร้ากกก
อยากให้เป็นพี่กันย์xน้องปืน อ่ะ
เพราะรุ้สึกว่าถึงพี่กันย์งอเเงเเต่ถ้าเป็นเรื่องของน้องปืน
พี่กันย์protect ตัลหลอดด เขิลล+++ kaaa
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 13-11-2016 22:03:41
 :hao3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 13-11-2016 22:43:33
เอ๊ะ พี่กันย์นี่ก็เผลอตัวบ่อยนะคะ
ทริปนี้เป็นทริปกระชับความสัมพันธ์ไปซะแล้ว
แถมมือชงเยอะด้วย หุหุ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 13-11-2016 23:17:01
ไม่มีปฏิเสธนะพี่กันย์ว่าคนนี้น้องรัก.....
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter12-...ก็พี่ไม่ได้เขิน ผมแค่บังเอิญเห็นพี่ยิ้มเอง
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 14-11-2016 14:58:15
โอ้ยน่ารัก
ลุ้นๆๆให้รักกันไวๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 15-11-2016 05:31:32
13-…ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ

หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมเข้าฐานตอนบ่าย พวกปีสามเลยปล่อยพวกปีแก่ๆ อย่างพวกผมพักผ่อนกันตามอัธยาศัยก่อนจะนัดรวมพลพวกปีหนึ่งกันอีกครั้งตอนหนึ่งทุ่ม ซึ่งความชิลของการมาทริปคณะผมมันก็อยู่ตรงนี้แหละครับ เพราะนอกจากการที่พวกเด็กน้อยของพวกผมจะอัญเชิญมาให้ช่วยตั้งฐานกิจกรรมแล้ว(ซึ่งอยากตั้งก็ได้ ไม่ตั้งก็ได้) มันก็ไม่ให้ทำอะไรอีกเลย ใครอยากนอนก็นอน อยากกินก็กิน อยากลงทะเลก็ทำไป เจอกันอีกทีตอนขากลับทีเดียวเลยก็ได้ครับไม่มีใครว่า ...ผมล่ะชอบความคิดนี้ของไอ้คนจัดจริงๆ ให้ตาย

"ไม่ไปเล่นน้ำหรอครับ?” เสียงทักของคนที่เดินเข้ามาใหม่ทำให้ผมที่กำลังนอนหลบแดดอยู่ริมทะเลชิลๆ ละสายตาจากไอ้พวกเพื่อนๆ ที่พากันวิ่งลงทะเลไปแล้วให้หันไปมอง

“ไม่อ่ะ ขี้เกียจสระผม” ผมบอกมันก่อนจะเห็นคนที่ถามเดินมานั่งลงที่เก้าอี้ชายหาดตัวใกล้ๆ

“ผมทำให้ก็ได้นะ ถ้าพี่อยาก...” ไอ้เด็กนั่นพูดสองแง่สองง่ามก่อนจะส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้

"อยากเชี่ยไรมึง" ผมรีบถามมันพลางหันมองซ้ายมองขวา ...ไอ้ห่า เดี๋ยวก็โดนแซวอีก วันนี้โดนไปรอบที่ร้อยแล้วมั้งเนี่ย

“ก็ถ้าพี่อยากเล่นน้ำไงครับ คิดอะไรของพี่เนี่ย โว๊ะ" ...มีความล้อเลียนกู เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อย

“จีบกันอยู่เปล่าวะ กูควรทำตัวยังไงเนี่ย” …นั่นไง ผมคิดยังทันขาดคำ ไอ้ทีที่เพิ่งวิ่งขึ้นมาจากทะเลก็ทักขึ้นจนผมต้องหันไปเบ้หน้าใส่มันอย่างเซ็งๆ

"บ้านมึงสิ! / กำลังทดลองอยู่ครับ" คำตอบอีกคำตอบที่แทรกขึ้นมาทำให้ผมต้องหันไปมองไอ้ตัวคนพูดที่นั่งทำหน้าแป้นแล้นไม่ทุกข์ไม่ร้อนจนไอ้ทียังต้องปรบมือให้

"สัด!"

"เจ๋งโคตร สมแล้วที่จะมาดองกับพวกกู" ไอ้ทีว่าก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่ไอ้เด็กนั่นอย่างถูกใจ

"เพื่อนผมคนนี้เกือบดีเลยนะครับ ติดอยู่นิดเดียวก็ตรงที่ …หน้าตาดีแต่ไม่มีเวลาให้ โคตรเอาแต่ใจแถมยังเรื่องมากเป็นที่หนึ่ง นัดกันทำอะไรก็ต้องเผื่อไปชั่วโมงนึง แถมมึงยังต้องคอยเป็นที่พึ่งให้มันเรียกใช้ทุกเวลา"

"ถ้ามึงจะมาเป็นกลอนขนาดนี้ล่ะก็นะ…" ผมบอกมันอย่างเอือมๆ หลังเจอไอ้ความร่ายยาวของแมร่งเข้าไปนี่ไปต่อไม่ถูกเลยจริงๆ

"กูนี่ใครครับ คนบ้านเดียวกับสุนทรภู่นะ" ไอ้ทีว่าอย่างอวดตัวก่อนจะถือแก้วเหล้าสองแก้วที่ผสมเรียบร้อยแล้ววิ่งลงทะเลไป

"ยิ้มเชี่ยไรมึง" ผมถามอย่างหมั่นไส้ ...มึงหุบๆ ยิ้มบ้างได้มั้ย กูเห็นละปวดแก้มแทน

"เจอคนน่ารักก็ต้องยิ้มเปล่าครับ"

"สัด!" ...ผมซื้อได้ไหมไอ้ประโยคนี้เนี่ย

"ผมมีเวลาให้นะ"  ประโยคที่ดังขึ้นจากคนที่เงียบไปพักหนึ่งดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองหน้ามันอย่างงงๆ

"เวลาอะไร?"

"ก็พี่ทีบอกพี่ไม่มีเวลาให้ เดี๋ยวผมเอาของผมให้พี่แทนไงครับ"

"เหยดดด"

"ผมเอาใจเก่งด้วยนะครับ ทำอาหารก็เป็น ตื่นก็เช้า แถมยังสแตนด์บายให้ได้ตลอดเวลาเลยด้วย"

"แล้วไง?" ผมถามมันขึ้นมาโดยเผลอลืมไปว่า ...ผมยิ้มออกมาอีกแล้ว

"ก็จะไม่ลองรับน้องคนนี้ไปพิจารณาหน่อยหรอครับพี่กันย์"





หนึ่งทุ่มตรงหลังจากที่ไอ้พวกปีสามเรียกปีหนึ่งกลับมารวมกันอีกครั้งและทำการมอบป้ายสตูฯ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำรุ่นให้พวกเด็กใหม่ไปแล้วก็ได้เวลาปาร์ตี้ดนตรีสดซึ่งเป็นจุดหมายของทุกคนที่มาทริปนี้อย่างแท้จริง ...ทะเล เหล้า ดนตรี จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีกเหรอครับผม

"เอ้า ของมึง" ไอ้โฟมว่าก่อนจะยื่นแก้วเหล้าผสมโซดามาให้ผมที่กำลังนั่งฟังดนตรีเพลินๆ อยู่ พวกผมเลือกโต๊ะที่ห่างออกมาจากลานหน้าเวทีเล็กน้อย ...ปล่อยให้พวกเด็กๆ มันแดนซ์กันไปเถอะครับ ปล่อยพวกปีแก่ๆ อย่างพวกผมนั่งเฝ้าโต๊ะไปอ่ะดีแล้ว

"ยังไม่อยากกลับเลยว่ะ" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนจะทำหน้าเสียดายเมื่อคิดได้ว่าคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายแล้วสำหรับทริปในปีนี้

"จริง คิดถึงงานที่ต้องแก้แล้วกูเครียด" ไอ้ทีพูดขึ้นเรียกเสียงโห่จากเพื่อนร่วมวงได้เป็นอย่างดี …พูดอะไรไม่พูด ดันพูดเรื่องงานเนอะมึง

"ช่างแมร่งสักวันแล้วกัน ค่อยกลับไปลงนรกพร้อมๆ กับพวกกูนี่แหละ เอ้า ชน!" ผมว่าก่อนจะยื่นแก้วไปชนกับเพื่อนๆ ตรงหน้า ...เรื่องของพรุ่งนี้ก็ไว้จัดการพรุ่งนี้แล้วกันครับ

"เดี๋ยวก็เมาอีกหรอกครับ" เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับพวกแก๊งค์ปีหนึ่งที่โผล่หัวกันมา

"พ่อมึงมาว่ะ" ไอ้โฟมแซวขึ้นขำๆ ก่อนจะมองไอ้ปืนที่เดินอ้อมโต๊ะมานั่งแหม่ะลงข้างผมพร้อมกับพวกไอ้การันต์ที่เข้ามาร่วมวงด้วย

"แล้วมึงจะกินป่ะ" ผมถามมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะยื่นแก้วอีกใบไปให้มัน

"ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวคนแถวนี้ไม่มีคนดูแล" มันพูดขึ้นหน้าตาเฉยจนคนทั้งวงหันมามองผมเป็นตาเดียว

"ฮิ้ววว..วว"  ...อีกนิดเดียวกูจะเริ่มเกลียดหน้าตี๋ๆ ของมึงแล้วนะเนี่ย

"แล้วมาทำไม" ผมถามมันก่อนจะเลิกคิ้วอย่างกวนตีนแล้วรับแก้วที่มันยื่นคืนมาให้กระดกเข้าปากแทน

"เอาเวลามาให้ครับ"

"เวลาอะไรของมึงวะ?" ไอ้คีย์ถามขึ้นอย่างอยากรู้เต็มที่ ส่วนผมนี่แทบจะวิ่งไปขย้ำคอไอ้คนพูดแล้วครับ

"ก็พี่ทีบอกพี่กันย์ไม่มีเวลาให้ ผมเลยเอาของผมมาแบ่งให้พี่เขาก็เท่านั้นแหละครับ"

"ไอ้เชี่ยยย กูควรทำยังไงกับสถานการณ์นี้ดีวะครับ" ไอ้คีย์พูดก่อนจะลุกขึ้นโวยวายอย่างนั่งไม่ติดก่อนจะหัวเราะออกมาพลางเอามือชี้หน้าผม

"มึงเสร็จแน่ๆ"

"เออดิ อ่อยกูฉิบหายเนี่ย" ผมสบถออกไปอย่างยอมจำนนทำเอาคนทั้งกลุ่มหัวเราะขึ้นอย่างชอบใจจนผมเริ่มทำหน้าไปไม่เป็น …แดกเหล้าย้อมใจแมร่ง

"นี่ขนาดผมยังไม่ทันทำอะไรพี่ยังเป็นขนาดนี้" อยู่ดีๆ ไอ้เด็กนี่ก็พูดขึ้นมาก่อนจะแย่งแก้วเหล้าที่ผมกำลังจะเติมไปจัดการเองเสร็จสรรพ

"..."

"แล้วถ้าผมจีบนี่ พี่ไม่แย่หรอครับ"

"ฮิ้ววว..วว"

"เอาเหล้ามาแดกเลยสัด!" ผมตะโกนขึ้นมาก่อนจะคว้าเหล้าในมือของไอ้คนที่นั่งขำมากินทั้งๆ ที่มันยังไม่ได้ผสม

"เดี๋ยวพี่ ผมยังไม่ได้ใส่โซดาเลย"

"โซดาห่าไรไม่ต้องแล้ว แมร่งเอ้ย!" ผมว่าก่อนทุกคนจะหัวเราะขึ้นมาเป็นบ้าเป็นหลัง 

...เดี๋ยวกูได้พิจารณามึงเป็นพิเศษแน่ๆ ไอ้หน้าตี๋เอ้ย!





"พี่ปูนไหวมั้ยครับเนี่ย?" ไอ้ปืนถามขึ้นพลางมองไอ้ทีที่หิ้วไอ้ปูนที่หลับคอพับคออ่อนไปแล้วขึ้นมาก่อนไอ้ทีจะหันมาโบกมือให้ว่าไม่เป็นไร

"ไอ้นี่แมร่ง คออ่อนแล้วยังซ่าส์" ผมว่าก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเมื่อไอ้ทีเริ่มเอนตัวไปๆ มาๆ ตามทิศทางที่ไอ้ปูนพยายามจะพุ่งไป

"พี่ว่าตัวเองหรอครับ" ไอ้เด็กข้างๆ ผมพูดขึ้นก่อนจะยื่นนิ้วชี้มาจิ้มๆ ที่หน้าผม

"มากไปแล้วมึง" ผมหันไปทำหน้าดุใส่มันที่เริ่มหน้าแดงๆ จากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่พวกเพื่อนๆ ผมยื่นให้มันกิน

"ขอโทษครับ" มันว่าก่อนจะดึงนิ้วกลับพลางมองหน้าผมเหมือนหมาหงอย

"ห่วงตัวเองก่อนเถอะไป" ผมบอกมันอีกครั้งก่อนจะส่ายหน้าให้ไอ้โฟมที่เพิ่งเติมเหล้าในแก้วของไอ้เด็กนี่แล้วยื่นมาให้มันก่อนจะพูดแบบไม่มีเสียง 'มันไม่ไหวละ'

"ไปนอนเลยป่ะ เดี๋ยวกูพาไป" ผมถามมันอีกครั้งหลังจากหันไปมองเวลาที่เกือบๆ ตีหนึ่งกับสภาพคนข้างๆ ที่เริ่มนั่งนิ่งแล้วหงอยๆ ลงไป

"ยังไม่อยากไปครับ"

"เมาแล้วดราม่าหรอวะ" ผมถามมันขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะมองไอ้เด็กข้างๆ ที่เงียบมากผิดปกติ อย่างไอ้ทีเนี่ยคอแข็งสุดนานๆ จะเมาสักครั้ง เมาทีก็หลับไปเลย ไอ้โฟมไม่ค่อยกินจนเมาเท่าไหร่ ส่วนไอ้ปูนนี่อย่าให้พูดถึงเลยครับ ...เมาปลิ้นทุกรอบ

"นิดหน่อยครับ" มันว่าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผม

"อยากเล่าป่ะ" ผมถามมันก่อนจะยิ้มให้อย่างขำๆ นึกถึงเพื่อนบางคนที่เมาแล้วเอาแต่ร้องไห้นั่งจนต้องนั่งปลอบกันเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะหยุด

"แล้วพี่อยากฟังป่ะ"

"สัด!" ...มึงจะย้อนกูเพื่อ?

"พี่ด่าผมอ่ะ" มันว่าก่อนจะทำหน้างอนๆ ใส่ผมจนผมต้องง้อแทบไม่ทัน

"โอ๋ๆ กูขอโทษ กูอยากฟังครับ กูอยากฟัง" ผมว่าก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวคนข้างหน้าเบาๆ อยู่ตั้งนานกว่ามันจะกลับมาทำหน้าจ๋อยเหมือนเดิม

"ผมเคยมีคนที่ชอบคนหนึ่ง..." ...มาแล้วครับประโยคเด็ดก่อนเปิดดราม่า ร้อยทั้งร้อยแมร่งเหมือนกันทุกคน

"อ่าฮะ" ...แต่ก็นั่นแหละครับ ฟังมันหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวแมร่งงอนผมอีก

"เราเป็นเพื่อนสนิทกัน เจอกันมาตั้งแต่ประถม มัธยม แต่พอมหา’ลัยเขาก็สอบติดอีกที่หนึ่ง ผมเลยบอกชอบเขาเพราะกลัวโดนหมาคาบไปแดก" ...ไอ้นี่เมาแล้วเริ่มหยาบคาย

"เขาก็ตกลง คบกันได้สามเดือนสุดท้ายเขาก็ขอเลิก เขามาบอกผมว่าเขาไม่ชอบที่โทรไปปลุกเขาตอนเช้า ไม่ชอบที่ผมชอบถามเรื่องอะไรต่ออะไรมากเกินไป ไม่ชอบที่ผมไปรับไปส่ง ไม่ชอบที่ผมชอบซื้อของไปให้"

"แล้ว?"

"แต่ทุกอย่างนั้นอ่ะ ผมกำลังทำกับพี่ พี่ว่า... พี่จะชอบสิ่งที่ผมทำมั้ยครับ?" ...เดี๋ยวนะ! ทำไมกูว่ากูงงวะ

"มึงถามกู ว่ากูชอบสิ่งที่มึงทำให้กูมั้ย?" ผมย้อนถามไอ้คนเมาที่ยิงคำถามมาให้ผมโดยไม่ทันตั้งตัว ...แล้วแฟนมึงที่เป็นเพื่อนสนิทมึงตอนประถม มัธยม มหา'ลัย มันเกี่ยวอะไรกับกูวะครับ

"ก็ดี" ผมตอบมันไปส่งๆ เพราะไอ้คนเมาตรงหน้ายังไม่เลิกจ้องหน้าผมสักที

"อะไรดีครับ"

"ก็ที่มึงถามกูไง ไอ้นี่นิ" ผมบอกมันก่อนจะหันไปคว้าแก้วเหล้าจากวงเหล้าที่ตอนนี้ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันไปหมดแล้วมากิน

"ที่ผมชอบปลุกพี่ตอนเช้าอ่านะ"

"อือ"

"ที่ผมชอบถามนู่นถามนี่พี่อ่านะ"

"อือ"

"ที่ผมชอบชอบไปรับไปส่งพี่บ่อยๆ"

"ถ้าจะพูดให้ถูกคือมึงขโมยรถกูไปส่ง"

"นั่นแหละครับ แล้วก็ที่ผมชอบซื้อของไปให้"

"เออ ย้ำจังเลยวะ" ...กูปลอบมึงจนกูเริ่มจะรำคาญมึงแทนแล้วนะ

"แล้วที่ผมจะจีบพี่อ่ะ"

"ห๊ะ!?"

“ก็แล้วถ้าผมจะจีบพี่เพิ่มอีกอย่าง พี่จะ ‘ก็ดี’ ด้วยมั้ยครับ”

“สัด!”

"พี่ด่าผมอีกแล้วอ่ะ"

"โอ๋ๆ กูขอโทษ โอเคนะ" ...ทำไมผมต้องมานั่งง้อคนที่ปากบอกว่าจะจีบผมด้วยวะ

"งั้นผมจีบพี่นะ" มันว่าพลางมองหน้าผมโดยที่ผมก็เองก็เดาไม่ถูกเหมือนกันว่ามันมาอารมณ์ไหนวะ

“ตลกละ" ...เมื่อกี้มึงเพิ่งดราม่าอยู่เลยได้ข่าว

“ไหนพี่บอกโอเค”

“กูไม่โอเค” …GAT เชื่อมโยงมึงแน่มาก

"ให้ผม-จีบ-พี่-นะครับ"

"จริงจังป่ะเนี่ย" ผมถามมันก่อนจะเหล่ตามองอย่างจับผิด คือแมร่งหยอดผมบ่อยมากจนแยกไม่ออกแล้วครับว่าอันไหนจริง อันไหนเล่น

"จริงดิครับ" มันย้ำ

"กู-ไม่-ให้" ผมบอกมันก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปากอีกครั้งอย่างเริ่มรู้สึกคอแห้ง

“ประโยคบอกเล่าครับ ไม่ใช่ประโยคคำถาม”

“แค่กๆ” มันพูดขึ้นมาจนทำเอาเหล้าในปากผมแทบพุ่ง ...ไหนใครบอกมันใสครับ ไอ้นี่แมร่งโคตรร้ายอ่ะ มันหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหลังผมเบาๆ

“เชี่ยไรมึง กูบอกว่ากูไม่ให้ไง” ผมเริ่มโวยวายใส่มันแต่คนตรงหน้าก็ยังคงยิ้มแล้วพูดตบท้ายว่า


“แค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ ครับว่าผมจะจีบพี่ …ผมไม่ได้ขอ”





มีแอคทวิตเตอร์แล้วค่ะไปคุยกันได้นะ @zenzaii1 หรืออันนี้ #ก็พี่มันเยอะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะค้าา ^_________^

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 15-11-2016 07:15:54
น่ารักที่สุดอะสองคนเนี้ย เขินนนน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-11-2016 07:41:32
“แค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ ครับว่าผมจะจีบพี่ …ผมไม่ได้ขอ”

เด็ดมาก ปืน
ปืน ปลุกตอนเช้า ทั้งดูแล เอาใจใส่
ไปรับไปส่ง ซื้อของให้ ให้เวลา
พี่กัลย์ ไม่ให้จีบไม่ได้แล้ว
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 15-11-2016 08:50:57
น้องปืนน่ารัก มารอทุกวันเลยยยยยยยย :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-11-2016 09:57:30
 :-[  เขินทุกตอน แง้วว
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 15-11-2016 13:50:49
ชอบจัง เคมีเข้ากันมาก  คนนึงชอบดูแลส่วนอีกคนก็เรื่องเยอะต้องมีคนคอยดูแลใกล้ ๆ น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 15-11-2016 15:15:38
ชอบบบบบบบบบ!! :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 15-11-2016 16:44:11
รุกแรงเฟ่อร์ 5555555 :hao6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-11-2016 17:25:26
ดาเมจรุนแรงมากน้องปืน

แล้วกันย์จะรอดเหรอ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Kimigari ที่ 16-11-2016 08:57:47
รุกแรงจริงงง อรั้ยยยย
พี่กันย์ไปไหนไม่รอดเเน่ค่าา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 16-11-2016 11:36:57
เขาประกาศจีบกันจริงจังแล้วจ้า
ไม่รอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 16-11-2016 21:57:50
ทำไมปืนรุกหนักขนาดเน้5555555555555555555สงสาร กันต์เอ้ยยไม่รอดแน่ๆหลงน้องแน่ๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: tukkata bambola ที่ 17-11-2016 07:55:31
เชียร์ปืนขอให้จีบติดไวๆโอ้ยยยชอบน่ารักมาก :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 17-11-2016 10:17:07
ปืนพูดได้ถูกใจแม่ยกเป็นอย่างยิ่ง

พี่กันย์ก็น่ารัก


 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//13-...ก็ถึงพี่จะไม่ให้ แต่ผมไม่ได้ขอนี่ครับ [15.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 17-11-2016 12:02:18
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 18-11-2016 09:34:25
14-…ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ

ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้าพร้อมด้วยอาการมึนหัวระดับสิบก่อนจะมองไปยังไอ้ตัวต้นเหตุที่ตอนนี้ยังหลับอยู่ข้างๆ อย่างไม่รู้ไม่ชี้

"แค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ ครับว่าผมจะจีบพี่ ...ผมไม่ได้ขอ" ไอ้ปืนพูดออกมาพร้อมยิ้มจนตาหยี

"กวนตีนกูละ" ผมบอกมันก่อนจะเลี่ยงหันไปมองทางอื่นแทน ...แล้วทำไมผมต้องเขินไปกับมันวะเนี่ย

"ขออีกแก้วนะครับ" ไอ้คนที่เพิ่งบอกจะจีบผมไปหยกๆ ยื่นแก้วเปล่ามาตรงหน้าเพื่อให้ผมเติมให้

"มึงเมาละ"

"ยังไม่เมาสักหน่อยครับ" ไอ้ปืนยืนยันก่อนจะพยายามตามมาคว้าแก้วที่ผมดึงออกมาจากมือก่อนจะเอาไปวางไว้อีกมุมโต๊ะให้ห่างๆ มัน

"มึงควรไปนอน" ผมบอกก่อนจะดันตัวคนที่เริ่มงอแงให้กลับไปนั่งที่เดิม

"งั้นพี่ไปนอนกับผม"

"เรื่องอะไรล่ะ กูจะอยู่กับเพื่อน"

"งั้นผมจะอยู่กับพี่"

"เมาแล้วดื้อจริงโว้ยย" ผมหันไปบอกมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะทำท่ากระดกแก้วเหล้าในมือผมเข้าปาก แต่อยู่ดีๆ ก็มีใบหน้าตี๋ๆยื่นเข้ามาที่อีกด้านหนึ่งของแก้วก่อนจะใช้ริมฝีปากคาบไว้ที่ด้านตรงข้าม

"ไอ้เชี่ย!" ผมสะดุ้งสุดตัวจนแทบตกเก้าอี้หากไม่มีมือของไอ้คนข้างๆ คว้าไว้ได้ทัน ผมหันไปจ้องหน้ามันอย่างคาดโทษก่อนที่ไอ้ตัวต้นเหตุจะนั่งหัวเราะจนหน้าแดง

"ก็พี่ไม่ให้แก้วผมอ่ะ" มันบอกก่อนจะดึงแก้วที่มันยังคาบไว้มาถือดีๆ แล้วยกขึ้นจิบไปอึกใหญ่

"เออ เอาไปเลย กินให้หมดขวดไปเลยนะ" ผมบอกก่อนจะหยิบขวดเหล้า โซดา และถังน้ำแข็งมาวางกระแทกลงตรงหน้ามัน

"พี่ก็เมาเหมือนกันแหละครับ"

"เมาเชี่ยไร เหล้าแค่นี้แมร่งโคตรกระจอก" ผมบอกมันก่อนจะดึงแก้วของผมคืนมาแล้วยกขึ้นกินจนหมดแก้วก่อนจะคว่ำแก้วให้มันดู

"เหรอครับ แต่หน้าพี่อ่ะโคตรแดง" มันบอกก่อนจะเอานิ้วมาจิ้มๆ ที่แก้มผมจนผมเพิ่งเข้าใจความหมายที่ไอ้คนตรงหน้ามันพูด

"มึงมานี่เลยมา"

แล้วจากนั้นผมเลยจับมันกรอกเหล้าให้สมกับที่แมร่งอยากกิน ...เมาๆ ให้หลับไปเลยมึงจะได้หยุดพูดมากสักที ผมคิดก่อนจะนั่งมองคนตรงหน้าที่ตอนนี้หน้าเริ่มจะแดงมากๆ แต่เจ้าตัวก็ยังยิ้มอยู่ตลอด ...ทำไมวันนี้มึงเสือกคอแข็งขึ้นมาวะ ผมได้แต่มองมันอย่างเริ่มสงสัยแต่ก็รับแก้วเหล้าที่มันชงมาให้กินเป็นเพื่อนมันอย่างเสร็จสรรพก่อนจะกินตามมันเข้าไป

กว่าไอ้คนตรงหน้าจะหลับก็ปาเข้าไปเกือบตีสาม ไหนจะต้องแบกมันกลับห้อง ไหนจะต้องดูแลปรนนิบัติพัดวีไอ้คนที่ตอนเมาแล้วเรื่องโคตรเยอะ แล้วไหนจะดันออกมาเจอพี่แชมป์เข้าตอนเกือบตีสี่ กว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้า แล้วไอ้นิสัยที่เมาแล้วตื่นเช้ามันก็ดันทำให้ผมต้องตื่นมาตั้งแต่เจ็ดโมงพร้อมด้วยอาการที่พังซะยิ่งกว่าพัง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก...

เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเบาๆ ทำให้ผมเลิกสนใจไอ้คนที่ยังนอนอยู่แล้วลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูก่อนจะเจอกับน้องทิงเกอร์เบล น้องสายรหัสปีสองของผมยืนยิ้มอยู่

"เอ่อ พี่กันย์ตื่นแล้วใช่มั้ยคะ?" น้องเบลถามพลางเอามือประสานกันไว้ตรงหน้าอกแล้วยิ้มให้ผมอย่างเกรงใจ

"ยืนอยู่ตรงนี้ก็ตื่นแล้วแหละครับ" ผมบอกน้องยิ้มๆ เพื่อให้น้องมันสบายใจก่อนจะเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยว่ามาหาทำไมแต่เช้า

"จะชวนไปถ่ายรูปสายรหัสกันน่ะค่ะ" น้องเบลบอกพร้อมยกกล้องโพราลอยด์ในมือขึ้นมายืนยัน

"เหลือแค่พี่เหรอครับ แล้วคนอื่นอ่ะ"

"การันต์อยู่ที่หาดแล้วค่ะ พี่เจกำลังไปอาบน้ำ เดี๋ยวหนูไปตามพี่ดินอีกคน" 'พี่ดินสอ' คือสายรหัสปีห้าของผมครับ ผมพยักหน้ารับก่อนจะบอกให้น้องเดินไปตามพี่ดินก่อนเดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จจะรีบตามออกไป

"อ้อ หนูเอานี่มาให้ค่ะ" น้องเบลพูดขึ้นก่อนจะส่งเครื่องดื่มแก้แฮงค์ขวดหนึ่งมาให้ผมอย่างรู้ใจ ...การมีน้องผู้หญิงในสายรหัสก็ดีอย่างนี้แหละครับ

"ขอบคุณครับ" ผมบอกก่อนมองส่งน้องออกไปแล้วจึงเข้าไปทำธุระของตัวเอง





"ไอ้เจโว้ยยย" พี่ดินตะโกนเรียกไอ้เจที่กำลังเดินอย่างมึนๆ ให้เข้ามารวมกับสายรหัส ...ดูสภาพก็รู้ครับว่ามันยังไม่ได้นอน อีกแล้ว

"วันสุดท้ายแล้วเว้ย" ผมบอกมันก่อนจะตบไหล่มันเพื่อให้มันฮึกเหิม

"งั้นเดี๋ยวผมถ่ายให้ก่อนนะครับ" ไอ้การันต์เสนอตัวก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา

วันสุดท้ายของทริปคณะทุกปีจะเป็นวันถ่ายรูปของสายรหัสเพื่อให้ทั้งพี่ที่จบไปแล้วและน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาได้พูดคุยรู้จักกัน ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเมาหนักขนาดไหนหรือใครยังไม่ได้นอนก็ต้องลากสังขารออกมาให้ได้เพื่อถ่ายรูปกับสายซึ่งเป็นเหมือนธรรมเนียมประจำทุกๆ ปี

"เดี๋ยวให้คนอื่นช่วยถ่ายให้ดีกว่า" น้องเบลบอกก่อนจะกวักมือเรียกไอ้การันต์ให้เข้ามาถ่ายรูปด้วยกันแล้วมองซ้ายมองขวาหาเป้าหมายรายใหม่ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาคนๆ หนึ่งที่เพิ่งเดินมาถึงพอดี

"ขอโทษนะคะ ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยได้มั้ยคะน้อง?" น้องเบลพูดขึ้นอย่างเกรงใจก่อนคนตรงหน้าจะพยักหน้ารับยิ้มๆ แล้วรับทั้งโทรศัพท์และกล้องโพราลอยด์ไปถือไว้

"โอเคค่ะ" น้องเบลวิ่งกลับมาอย่างดีใจก่อนจะชี้ชวนให้ทุกคนให้มองกล้องพร้อมให้จังหวะ …หนึ่ง สอง สาม

"ขอบคุณมากนะคะ" น้องเบลวิ่งกลับไปหาตากล้องจำเป็นก่อนจะรับกล้องทั้งหมดกลับคืนมา

"อ้าว น้องรักไอ้กันย์นี่นา ไม่ไปถ่ายกับมันรึไง" 'ไอ้กัมป์' คนเดียวกับที่เป็นคนนำฐานกิจกรรมของปีสี่เดินผ่านมาแล้วตะโกนทักคนที่เพิ่งทำหน้าที่ตากล้องจำเป็นจนทำให้สายรหัสของผมหันไปมองไอ้ปืนที่ยังไม่เดินไปไหนสักที

"น้องสายเราหรอวะ" เสียงพี่ดินถามขึ้นทำให้ไอ้เจกับไอ้การันต์หัวเราะขึ้นมาก่อนจะมองผมอย่างมีเลศนัย

"ไม่ใช่พี่ เป็นแค่น้องพี่กันย์คนเดียว" ไอ้เจว่าก่อนจะเอาศอกกระทุ้งสีข้างผมอย่างแซวๆ

"สัด!"

"ยังไงมึง" พี่ดินหันมาถามผมพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาแล้วกวักมือเรียกไอ้เด็กนั่นให้เดินมาหา ไอ้ปืนยืนมองพี่ดินอย่างงงๆ ก่อนจะชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง  พี่ดินพยักหน้ารับจนมันได้แต่มองผมอย่างสงสัยแต่ก็ยอมเดินเข้ามา

"เรียกผมหรอครับ"

"เออ ชื่อไรวะ"

"ปืนครับ"

"ปืน? ปืนที่แปลว่า GUN อ่านะ" พี่ดินถามอย่างได้ยินไม่ถนัดก่อนจะเรียกเสียงหัวเราะจากคนทั้งวงขึ้นมาเป็นบ้าเป็นหลัง

"ครับ ปืนที่แปลว่า GUN" เจ้าของชื่อตอบก่อนจะหันมามองผมพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม ...กูเกลียดรอยยิ้มมึงจริงๆ ให้ตาย

"เออนั่นแหละ มาถ่ายรูปกัน" พี่ดินว่าก่อนจะขยับที่ว่างระหว่างผมกับพี่เขาให้มันเดินเข้ามา

"ไอ้ขิงถ่ายรูปให้กูหน่อย" ไอ้เจตะโกนดักไอ้ขิงที่เพิ่งเดินผ่านมาก่อนจะบอกให้น้องเบลส่งกล้องกับโทรศัพท์ให้มัน

"อ่าวเฮ้ย สะใภ้ เอ้ย! รึเขยสายวะ" ไอ้ขิงแซวขึ้นมาเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามองกันหมด

"ไม่ใช่โว้ยยย" ผมรีบตะโกนด่ามันก่อนจะบอกให้มันรีบๆ ถ่ายรูปได้แล้ว

"อย่าร้อนตัวดิพี่ ผมยังไม่ทันระบุชื่อเลย" ไอ้ขิงว่าก่อนไอ้คนในสายจะหันมาส่งเสียงแซวผมกันใหญ่ ไอ้คู่กรณีเลยเอื้อมมืออ้อมมาข้างหลังก่อนจะตบที่หลังเบาๆ แล้วก้มลงมากระซิบ

"จะเป็นเขยหรือสะใภ้เดี๋ยวค่อยตกลงกันอีกทีนะครับ"

"ไอ้เชี่ยปืน!" ผมสบถออกมาอย่างสุดจะทนจริงๆ แต่ก็ทำอะไรไมได้เพราะไอ้ขิงกำลังนับ หนึ่ง สอง สาม

"ทำไมครับ หรือพี่อยากเป็นทั้งสองอย่าง"

"เดี๋ยวมึงตายแน่!" ผมพูดอย่างหมายมาดก่อนจะหันไปยิ้มอย่างอกกลั้นให้กล้องต่อไป





[Bpuen's]

"พี่กันย์ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ" เสียงน้องผู้หญิงอีกคนดังขึ้นด้านหลังผมก่อนคนที่ถูกเรียกชื่อจะผละจากน้องอีกคนหนึ่งที่เข้ามาขอถ่ายรูปเหมือนกันแล้วหันมายิ้มให้

"ได้ครับผม" พี่กันย์ฉีกยิ้มกว้างก่อนจะถอดแว่นกันแดดอันโปรดออกตามคำเรียกร้องของสาวๆ ที่อยากเห็นหู ตา จมูก ปากของคนที่ถ่ายรูปด้วยชัดๆ

"ฝากถ่ายให้หน่อยนะคะ" แล้วจะใครล่ะครับที่ต้องมาเป็นตากล้องให้ ...ก็ผมคนนี้นี่ไง

"ยิ้มนะครับ หนึ่ง สอง สาม" ผมส่งสัญญาณก่อนจะมองคนตรงหน้าผ่านเฟรมแล้วกดถ่ายรูปก่อนจะส่งกล้องคืนให้น้องเขาซึ่งเป็นคนที่มาขอถ่ายไม่รู้คนที่เท่าไหร่แล้วของเช้าวันนี้

"สาวเยอะนะครับ" เมื่อเห็นใบหน้าที่เอาแต่ยิ้มกว้างผมก็อดแซวออกไปไม่ได้จริงๆ

"ธรรมดาครับน้อง" พี่กันย์ว่าก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วยักคิ้วให้ผมอย่างกวนๆ ...ทำหน้าทำตาแบบนี้ นี่มันน่าแกล้งอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ครับ

"พี่กันย์คะ คือว่า..." เสียงน้องผู้หญิงอีกคนที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้คนตรงหน้าที่เมื่อกี้ยังทำหน้ากวนๆ อยู่กลายเป็นยิ้มหวานทันทีก่อนจะชะโงกหน้าผ่านตัวผมไปยังข้างหลัง

"จะขอพี่กันย์ถ่ายรูปหรอครับ" ผมหมุนตัวกลับมาก่อนจะชิงพูดขึ้นก่อนด้วยใบหน้ายิ้มๆ แล้วยกมือขึ้นไปพาดคอของคนข้างๆ ทันทีจนเจ้าตัวหน้าเหวอ

"เอ่อ..ค่ะ"

"งั้นผมขอถ่ายด้วยคนได้ไหมครับ" ผมบอกก่อนจะยิ้มให้สุดฤทธิ์ก่อนสาวปีหนึ่งตรงหน้าจะพยักหน้าอย่างงงๆ แต่ก็ยอมหันหน้าไปมองกล้องแต่โดยดีพร้อมผมและพี่กันย์ที่ยืนขนาบกันคนละข้าง

"หนึ่ง สอง สาม"

"โอ้ยยย" เสียงร้องของพี่กันย์ทำให้คนที่มาขอถ่ายรูปด้วยหันไปมองอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนจะเจอคนตรงหน้ายืนเอามือกุมแก้มพลางส่งสายอาฆาตมามองผมอย่างไม่วางตา

"พี่กันย์เป็นอะไรหรอคะ"

"อ่อ.. เปล่าครับเปล่า" พี่กันย์ว่าก่อนทั้งหมดจะมายืนเรียงถ่ายรูปด้วยกันอีกครั้ง

"ดึงแก้มกูเพื่อ?" ทันที่ที่สาวปีหนึ่งคนนั้นเดินจากไปพี่กันย์ก็หันมาทำตาเขียวใส่ผมทันที

"ยิ้มอะไรเยอะแยะครับ เดี๋ยวก็ปวดแก้มหรอก"

"กูปวดแก้มเพราะมึงดึงนี่แหละ" พี่กันย์ยังร้องโอดโอยต่อไปก่อนจะหันมาทำหน้างอนๆ ใส่ผม

"ขอโทษครับผม" ผมว่าก่อนจะยื่นมือไปลูบแก้มคนตรงหน้าที่มีรอยแดงขึ้นมานิดนึง แต่เชื่อเถอะครับไม่ใช่เพราะฝีมือผม แต่เพราะคนตรงหน้าเขาถูของเขาเองต่างหาก

แชะ..

เสียงชัตเตอร์ที่ลั่นขึ้นทำให้ผมกับพี่กันย์หันไปมองแล้วเห็นพี่เบลน้องสายของพี่กันย์ที่ลดกล้องโพราลอยด์ลงพอดีก่อนจะหยิบฟิล์มที่เพิ่งไหลออกมาจากตัวกล้องมาถือไว้

"แอบถ่ายหรอทิงเกอร์เบล" พี่กันย์ถามก่อนจะเดินย่างสามขุมไปหาจนพี่เบลที่ค่อยๆ ถอยหลังหนีอัตโนมัติ

"เอ่ออ..."

"ถ้าอยากถ่ายบอกผมก็ได้นะ" ผมว่าก่อนจะลากคอเสื้อคนที่กำลังจะประทุษร้ายน้องสายให้ถอยหลังกลับมา

"ถ่ายรูปกันครับ" ผมหันไปบอกพี่กันย์ก่อนจะจะปล่อยมือจากคอเสื้อพี่เขาเอามาไขว้หลังแล้วยิ้มให้กล้อง

"หนึ่ง สอง สาม"

แชะ...

"ขออีกรูปได้มั้ย" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มหวานให้ผมสุดฤทธิ์ ...ยิ้มแบบนี้ต้องมีอะไรแหงๆ ครับ

"หนึ่ง สอง สาม"

"โอ้ยพี่" ผมร้องขึ้นมาเพราะอยู่ดีๆ ไอ้คนที่ยืนถ่ายรูปอยู่ข้างๆ ก็จับแขนผมที่พาดอยู่บนคอเจ้าตัวขึ้นมาก่อนจะกัดลงไปซะเต็มแรง

"ไงล่ะ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะกอดอกแล้วยืนยิ้มให้อย่างกวนๆ

"พี่กัดผมทำไมเนี่ย?" ผมถามก่อนจะมองแขนที่เป็นรอยแดงๆ เพราะแรงกัดของคนตรงหน้า

"แล้วเอาแขนมาพาดคอกูทำไมบ่อยๆ ครับ เดี๋ยวก็เมื่อยแขนแย่หรอก" พี่กันย์ตอบก่อนจะยักคิ้วให้อย่างเหนือกว่า ...เอาคืนหรอครับ แสบนักนะครับพี่

“ฝากไว้ก่อนเถอะครับ”





"ดูอะไรอยู่วะ" พี่กันย์ถามผมที่ตอนนี้กำลังนั่งดูรูปโพราลอยด์ในมือที่พี่เบลให้มาเกือบสิบใบ

"ขอดูด้วย" พี่กันย์ชะโงกหน้าเข้ามาก่อนจะก่อนจะจ้องรูปหลายใบในมือผมก่อนจะใช้ตัวเองบังลมที่ตีเข้ามาทางหน้าต่างรถบัสป้องกันไม่ให้รูปปลิว ตอนนี้เรากำลังอยู่บนรถบัสเพื่อเดินทางกลับมหา'ลัยให้ทันกำหนดการเดิมคือห้าโมงครับ และตอนขากลับพี่กันย์ก็ยังชวนผมให้มานั่งคันรถปีศาจเหมือนเดิมเพราะคนมันน้อย แถมปีศาจทุกคนยังสลบกันแทบไม่เหลือเพราะปาร์ตี้เมื่อคืนนี่แหละครับ

"ขยับมานี่ครับ" ผมว่าก่อนจะใช้มืออ้อมตัวพี่กันย์แล้วดันหัวคนตรงหน้าให้มาชิดกับไหล่ผม

"แต๊ะอั๋งกูหรอ" พี่กันย์เงยหน้าหรี่ตามองผมอย่างสงสัยก่อนจะมองสภาพคล้ายตอนนี้ที่เจ้าตัวเหมือนอยู่ในอ้อมกอดของผมไปเรียบร้อยแล้ว ...ผมจะคิดก็เพราะพี่พูดนั่นแหละครับ ผมได้แต่ยิ้มอย่างขำๆ ส่วนคนข้างๆ ก็ไม่ได้ขยับตัวหลีกไปแต่อย่างใด

"ก็หัวพี่บังอ่ะ ผมมองไม่เห็น" ผมบอกก่อนจะยกรูปถ่ายขึ้นมาให้ดู พี่กันย์พยักหน้าเออออเล็กน้อยก่อนจะก้มลงมองภาพในมือต่อไป

"กูล่ะอยากฉีกรูปนี้จริงๆ ให้ตาย" พี่กันย์ว่าก่อนจะจิ้มๆ ไปยังรูปที่พี่เบลแอบถ่ายตอนที่ผมกำลังยื่นมือไปลูบๆ แก้มคนตรงหน้าตอนที่ผมแกล้งไปดึงแก้มพี่เขาอยู่พอดี

"หยุดเลยครับ รูปนี้ผมจะเอา" ผมบอกก่อนจะดึงรูปแยกออกมากันคนพูดที่จะอย่างปากว่าจริงๆ

"เออ เอาไปเลย" พี่กันย์ว่าก่อนจะใช้สายตาไล่ๆ รูปในมือผมบ้าง

"เอารูปนี้แล้วกัน กูว่าแมร่งปกติสุดละ" พี่กันย์ที่เงียบไปนานพูดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะรูปที่ผมยืนกอดคอพี่เขาไว้ตรงริมทะเล ผมมองภาพในมือพี่กันย์อย่างขำๆ เพราะรูปที่เหลือจะไม่ทะเลาะกันก็ต้องแกล้งกันเพราะอะไรซักอย่าง

"ผมก็อย่างนั้นแหละครับ" ผมพูดขึ้นก่อนจะเก็บรูปทั้งหมดเข้ากระเป๋าก่อนจะเห็นคนข้างๆ หยิบปากกากันน้ำแบบหัวเล็กออกมา พี่กันย์ทำหน้านึกอยู่นานก่อนจะค่อยๆ เขียนวันที่วันนี้ลงไปข้างๆ พร้อมระบุชื่อสถานที่กำกับไว้

01.08.xx
ที่ทะเล

เอี๊ยดดด..

"เชี่ยยย" อยู่ดีๆ รถบัสก็เบรคจนทำให้คนที่นั่งอยู่ต่างเสียหลักกันไปเล็กน้อยก่อนคนข้างๆ ผมจะสบถออกมาจนผมต้องหันไปเช็คสวัสดิภาพเพราะกลัวเจ้าตัวจะเป็นอะไร ภาพที่เห็นคือพี่กันย์ที่นั่งเบะปากพร้อมรอยปากกาที่เลอะออกไปเพียงเล็กน้อย ผมมองหน้าที่พี่กันย์ที่กำลังช็อคอยู่อย่างขำๆ เพราะพี่กันย์ยิ่งเป็นพวกที่ทรมานใจกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้อยู่ด้วย …แต่ถ้ามันเลอะทั้งใบ พี่กันย์ก็จะแค่โยนมันทิ้งไปเท่านั้นครับ

"เดี๋ยวผมแก้ให้ครับ" ผมเลยถือวิสาสะหยิบโพราลอยด์กับปากกาในมือของคนของคนข้างๆ มาถือไว้เอง

"จะทำอะไรวะ" พี่กันย์ว่าก่อนพยายามจะดึงเอารูปในมือผมกลับไป

"อยู่นิ่งๆ ครับ เดี๋ยวมันยิ่งเลอะนะ" ผมบอกก่อนจะดุคนข้างๆ เหมือนเด็กๆ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดีแต่ยังมีสายตาที่มองตามของในมือผมอยู่ไม่วางตา ผมเหล่ไปมองคนข้างๆ เล็กน้อยก่อนจะเอี้ยวตัวหลบให้พ้นสายตาก่อนจะเขียนลงไปบนรูปเร็วๆ แล้วยื่นกลับไปให้

"เด็กอนุบาล" พี่กันย์ว่าพลางปรายตามามองผมที่ทำหน้าภูมิใจแบบสุดๆ ก่อนจะรับรูปคืนไปแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์

01.08.xx
ที่ทะเล ♥





กว่าจะเดินทางมาถึงมหา'ลัยก็ปาไปเกือบหนึ่งทุ่มแล้วผมเลยตัดสินใจตรงกลับหอแทนที่จะไปต่อกับพวกพี่กันย์ ...ก็ไปเล่นกับเขาตั้งสามวันแล้วก็ควรจะปล่อยให้อยู่กับเพื่อนเขาบ้าง ผมคิดอย่างขำๆ ก่อนจะวางกระเป๋าลงที่ปลายเตียงแล้วเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ตรงมุมห้องก่อนจะเปิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาจัดการล็อคอินเข้าโปรแกรมเฟสบุ๊คเรียบร้อย

ภาพที่เด้งขึ้นเป็นอันแรกบนหน้าไทม์ไลน์คืออัลบั้มทริปที่ผมเพิ่งกลับมาซึ่งภาพส่วนใหญ่นั้นจะต้องมีพี่กันย์อยู่ทุกรูป เพราะผมไม่ได้เป็นเพื่อนกับพี่คนอื่นๆ ในคณะสถาปัตย์ ดังนั้น หากผมจะเห็นรูปได้ก็ต้องเป็นรูปที่ถูกแท็กมาอีกทีเพราะมีเพื่อนในเฟสบุ๊คคนใดคนหนึ่งรวมอยู่ในรูปด้วย

ผมกดเข้าไปดูในอัลบั้มก่อนจะกดไล่ดูรูปไปเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นภาพที่ถ่ายหมู่กันตอนทำฐานกิจกรรม ตอนนั่งชิลกันอยู่ริมทะเลเป็นส่วนใหญ่

"หืมม" ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัยเมื่อเลื่อนหน้าไทม์ไลน์มาเจอรูปๆ หนึ่งที่พี่กันย์อัพขึ้นมายังไม่ทันถึงหนึ่งนาทีดี

ในรูปเป็นรูปของฝากหลายชิ้นที่เจ้าตัวซื้อมาจากร้านขายของที่ระลึกตอนที่รถบัสแวะพัก รวมไปถึงแว่นกันแดดและกระเป๋าเดินทางที่เจ้าตัวใช้ตอนไปทริปก่อนผมจะเหลือบไปเห็นรูปโพราลอยด์เล็กๆ ที่วางอยู่ใต้แว่นกันแดดที่ถ้าไม่สังเกตก็แทบไม่เห็นตัวหนังสือที่อยู่ข้างใต้ แต่มีเหรอครับที่คนที่จบท้ายประโยคในรูปใบนั้นอย่างผมจะมองไม่ออกว่ามันมีอะไรที่เขียนเติมเข้ามา ผมนั่งเพ่งอยู่นานกว่าจะอ่านมันออกแล้วก็ต้องยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ก่อนจะโพสต์ต่อลงไปใต้ภาพนั้น

Bpuen : ไว้ไปกันอีก ‘แค่สองคน’ นะครับ



01.08.xx
ที่ทะเล ♥ กับไอ้ปืน

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: Kimigari ที่ 18-11-2016 13:30:41
โอ้ยยยย ยิ้มเขิลลลล
โอ้ยยยย เเก้มเเตกคร้าาาาา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-11-2016 18:56:41
อ่อยมาอ่อยกลับไม่โกงสินะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 18-11-2016 21:47:20
ใครเป็นรุกใครเป็นรับคะ ชั้นอยากรู้แค่นี้ค่ะ55555555555555555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-11-2016 22:17:57
ปืน พี่กัลย์ สนิทกันมากขึ้นนะ
มีดึงแก้ม กัดแขนกันซะด้วย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-11-2016 22:22:24
หวานปนเปรี้ยว  น่ารักอะตัววววววว
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 18-11-2016 23:40:16
ยิ้มจนแก้มจะแตกแล้วเนี่ย งื้อออ เขินจริงเขินจัง :m3:
อ่อยเข้าไปน้องปืน เชื่อว่าน้องทำได้มากกว่านี้ 5555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 19-11-2016 07:51:15
กรี๊ด เขินหนักมากกกกกกกกกกกกก  อายจัง :mew2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//14-..ก็ถ้าใจพี่ยังอยู่ทะเล ใจผมก็อยู่ทะเลครับ 18.11.16
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-11-2016 08:03:40
 :mew1:  โอ๊ย ถ้าจะหยอดกันขนาดนี้ คบๆกันไปเถอะ ไม่ต้องรอไปทะเลรอบหน้าหรอกจ้า ขอคบกันไปเลยจ้า
กล้าๆหน่อยสิพี่กันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 19-11-2016 09:36:06
15-…ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร

'ตึ๊ง ตึง' เสียงเตือนจากข้อความไลน์ทำให้ผมที่กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำชะงักก่อนจะเดินอ้อมกลับมาตรงโต๊ะข้างเตียงอีกครั้ง ทันทีที่สไลด์เปิดหน้าจอข้อความแรกที่เด้งขึ้นมาก็คือ ...ไอ้ปืน

Bpuen : ผมเห็นนะครับ!!!
Gun : เห็นเชี่ยไรมึง
Bpuen : เนี่ยยย
Bpuen sent  you a photo

ผมมองหน้าจออย่างสงสัยก่อนจะเปิดรูปที่ไอ้ปืนส่งมา มันเป็นภาพที่ผมเพิ่งอัพลงเฟสบุ๊คของผมไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเท่านั้น

Gun : แล้วทำไมวะ?
Bpuen : เนี่ยยย
Bpuen sent  you a photo

ไอ้ปืนส่งรูปมาอีกครั้งแต่คราวนี้กลับซูมลงไปในรายละเอียดมากขึ้นจนเห็นเฉพาะแว่นกันแดดอันโปรดของผมและรูปโพราลอยด์ใบหนึ่งที่โดนทับอยู่ข้างใต้

"เชี่ยยยย" ผมสบถขึ้นมาอย่างตกใจก่อนจะรีบตรงไปยังกองกระเป๋าที่ผมเพิ่งรื้อเอาของต่างๆ ออกมาถ่ายรูปแล้วยังไม่ได้เก็บเข้าที่ก่อนจะหยิบรูปเจ้าปัญหาที่หล่นออกมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ขึ้นมามองอย่างเซ็งๆ

...แล้วผมจะร้อนตัวทำไมวะ ก็แค่เขียนชื่อมันเติมลงไปแค่นั้นเอง

"เออว่ะ" ผมนึกขึ้นได้ก่อนเตรียมตัวจะพิมพ์ตอบมันอย่างคนที่คิดว่า ...ไม่ได้คิดอะไร

'ตึ๊ง ตึง' แต่ก่อนที่ผมจะได้พิมพ์ตอบไอ้ปืนทางข้อความไลน์ เสียงเตือนจากเฟสบุ๊คก็ดังขึ้นก่อนหน้าจอจะปรากฏข้อความที่แจ้งเตือนว่ามีคนมาคอมเมนต์ใต้รูปของผม

"เชี่ยยยย" ผมสบถออกมาอีกครั้งเมื่อรูปที่ผมลงเหมือนปกติมีคนมากดไลค์และคอมเมนต์ 'มากผิดปกติ' โดยเฉพาะคอมเมนต์ของใครคนหนึ่งที่ถูกดันขึ้นเป็นท๊อปคอมเมนต์หราอยู่บนหน้าไทม์ไลน์

Bpuen : ไว้ไปกันอีก ‘แค่สองคน’ นะครับ (22 ไลค์)
TT : ก็ออกตัวแรงไปนะครับเพื่อน
Foam : ชัดเจน!!
Poonnii : สองคนนี้จะเกินไปแล้วนะ!
Tinkerbell : อ๊ะ หนูแถมให้ค่ะ (รูป)
Tinkerbell : (รูป)
Tinkerbell : (รูป)

ผมเริ่มไล่ดูคอมเมนต์ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นของพวกไอ้ทีนี่แหละ ก่อนจะเปิดดูรูปที่น้องเบลโพสต์มารัวๆ ซึ่งก็เป็นรูปถ่ายรวมกับสายรหัสของผมบ้าง พวกเพื่อนๆ ผมบ้าง กับพวกน้องที่มาขอถ่ายบ้าง แต่ทุกรูปดันมีไอ้ปืนติดมาด้วยตลอด ...ก็แค่นั้น

Gun : ก็ธรรมดาเปล่าวะ

ผมคอมเมนต์ตอบพวกมันกลับไป ...ใครๆ เขาก็ถ่ายรูปกัน ไปเที่ยวนี่หว่าไม่ได้ไปปฏิบัติธรรม

Tinkerbell : (รูป)
Jay : รูปคู่ก็มานะครับพี่

ไอ้เจที่มีความไวแสงพอๆ กับแสงอาทิตย์ที่ส่องมาถึงโลกคอมเมนต์ต่อตั้งแต่ผมยังไม่ทันเปิดดูภาพที่ตอนนี้น้องเบล(ที่เริ่มไม่น่ารักละ)ของผมโพสต์ขึ้นเป็นรูปถัดมา ผมเลยกดเข้าไปดูซึ่งก็เป็นรูปคู่ชอตเดียวกับรูปโพราลอยด์ที่ผมเผลอเพิ่งลงไปนั่นแหละครับ

Gun : แล้วไง?

ผมเมนต์ตอบกลับไปแต่ใจเริ่มเต้นตึกๆ ...ทำไมตาขวาผมกระตุกๆ วะ

Khing : ก็ไม่ทำไมหรอกครับ
Khing : (รูป)

"เชี่ยยยยย" ผมแทบจะขว้างโทรศัพท์ผมทิ้งทันทีที่เปิดรูปของไอ้ขิงขึ้นมา มันเป็นมุมภาพที่ถ่ายมาจากเบาะข้างหลังพวกผม ซึ่งตอนนั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมชะโงกหน้าเข้าไปมองรูปที่อยู่ในมือไอ้ปืนแล้วมันก็ดันเอามือมาผลักหัวผมเข้าตรงไหล่มันพอดีเพราะผมบังรูปมัน พอมองมาจากข้างหลังมันเลยดูเหมือนผมกำลังซบไหล่ไอ้เด็กนั่นแล้วก็มีมือของมันที่อ้อมมาจับหัวผมอีกที ...แค่นั้นเองครับ ไม่มีอะรไเลย แต่ทำไมน้ำตาผมจะไหล เล่นแรงสัดอ่ะไอ้เชี่ยขิง มึงไม่ใช่น้องกูอีกต่อไป ตัดรุ่นโว้ยยย ตัดรุ่น!

Poonnii : ก็ธรรมดาเปล่าวะ
Foam : แล้วไง?

ไอ้ปูนกับไอ้โฟมเลียนแบบคอมเมนต์ที่ผมเพิ่งโพสต์ไปก่อนหน้าอย่างล้อๆ จนเพิ่มเริ่มไปต่ไม่ถูก

TT : ที่ทะเล ♥ กับไอ้ปืน (5 ไลค์)

ไอ้เชี่ยทีก็อีกคน ...ที่มึงเงียบไปเนี่ยหายไปแกะตัวหนังสือมาใช่มั้ยไอ้ที ตอบ! ผมไล่แสปมพวกมันทันมั้ยครับ เรียงตัวเลย ฮือออ

TT : ที่ทะเล ♥ กับไอ้ปืน (Bpuen + 5 ไลค์)

แล้วไอ้เด็กนั่นมันจะไปไลค์พวกเพื่อนผมเพื่อ? ตอนนี้มึงกับกูอยู่ข้างเดียวกันแล้วนะโว้ยยย ช่วยกูสิครับ ช่วยกู!

Gun : @Bpuen จะกดไลค์เพื่อ?
Bpuen : อ้าว ก็ผม'ชอบ'นี่ครับ ก็ต้องกดไลค์อ่ะ ถูกแล้ว ^________^

...โอเคครับ ชอตนี้ผมตาย

...โดนปืนยิง!





'ตึ๊ง ตึง' เสียงข้อความไลน์ทำให้ผมสะดุ้งขึ้นอย่างตกใจก่อนจะกดปิดเสียงแทบไม่ทันเมื่ออาจารย์ที่ยืนสอนอยู่หน้าคลาสเหล่มามองอย่างเคืองๆ ...ไลน์เช้าไลน์เย็นจริงนะมึงเนี่ย ผมคิดอย่างรำคาญนิดๆ ก่อนจะสไลด์เปิดโปรแกรมไลน์ขึ้นมา

Bpuen : พี่กันย์เลิกเรียนยังครับ
Gun : ยังโว้ยย กูเกือบโดนอาจารย์ฆ่าเพราะมึงเลยเนี่ย
Bpuen : งั้นไม่กวนแล้วก็ได้ครับ

มันพิมพ์ข้อความส่งมาก่อนจะหายไปเป็นสิบนาทีจนผมต้องยกโทรศัพท์มาเปิดข้อความไลน์อีกครั้งเผื่ออินเตอร์เน็ตผมอาจจะมีปัญหา แต่เมื่อเปิดเข้าไปดูก็ไม่พบว่ามีอัพเดทข้อความใหม่จากคู่สนทนา ...หายไปไหนของมันวะ

"90% ของคนที่บอกว่าไม่กวนแล้วล้วนอยากกวน" เสียงกระซิบจากไอ้ปูนที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำให้ผมต้องปรายตาไปมองมันอย่างหมั่นไส้

"แอบอ่านของกูตลอด"

"ระดับนี้ไม่ต้องแอบแล้วค่ะ เอามาเปิดดูเองยังได้" มันว่าก่อนทำท่าจะคว้าโทรศัพท์ไปจากมือผมจริงๆ ...คณะผมนี่ 'ความลับไม่มีในคณะ' จริงๆ ครับ

"เออ กูเชื่อ" ผมบอกมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะได้ยินอาจารย์ทวนงานที่สั่งไปเมื่อต้นคลาสแล้วบอกปล่อยนักศึกษาให้เลิกคลาสได้

Gun : เออ กูเลิกแล้ว มีไรว่ามา?
Bpuen : ผมเบื่ออ่ะ ไปเที่ยวกัน
Gun : เป็นเชี่ยไรอีกล่ะ
Bpuen : เบื่อโลก

คำตอบจากคนที่ปกติอารมณ์ดีจนแทบจะยิ้มตาหยีอยู่ตลอดเวลาทำให้ผมหันไปมองไอ้ปูน(ที่แอบมองข้อความในมือผมไปด้วย)อย่างงงๆ

Gun : งั้นไปดาวอังคารป่ะล่ะ
Bpuen : ถ้าพี่พาไปผมก็ไปหมดแหละ

...ไอ้นี่ก็ใจง่ายเกิน ผมคิดขึ้นมาอย่างขำๆ ก่อนจะนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ ผหันไปมองไอ้ปูนที่ตอนนี้เลิกสนใจผมแล้ว ผมเลยรวบของเข้ากระเป๋าทั้งหมดใส่กระเป๋าแล้วเตรียมตัวจะออกไป

Bpuen : อ้าว หายเลย

"กูกลับก่อนนะเว้ย" ผมหันไปบอกพวกเพื่อนผมที่ตอนนี้ก็กำลังจะแยกย้ายทางใครทางมันเหมือนกันก่อนพิมพ์ตอบมันลงไป

Gun : เออเดี๋ยวกูพาไป
Bpuen : ไปไหนครับ?
Gun : ดาวอังคาร





[Bpuen's]

"ผมว่าผมกลับไปอยู่บนโลกเหมือนเดิมดีกว่ามั้งครับ" ผมบอกพี่กันย์ในขณะที่เรากำลังยืนอยู่หน้าท่าเรือโดยสารขนาดกลางแห่งหนึ่งอย่างโอดครวญเมื่อเห็นผู้คนตรงหน้าที่เดินขวักไขว่ไปมาจนแทบจะเรียกได้ว่าแออัดเลยทีเดียว

"เออน่า" คนที่อาสาพาไปดาวอังคารคะยั้นคะยอผมที่คงทำหน้าตาเบื่อโลกเต็มแก่ ...แค่เรื่องที่มหา'ลัยก็เซ็งจะตายอยู่แล้ว ทำไมผมต้องมาทนอากาศร้อนๆ กับคนเยอะๆ ด้วยก็ไม่รู้เนี่ยครับ

"จะดีหรอครับพี่ ผมจะไม่ปวดหัวกว่าเดิมใช่มั้ยเนี่ย" ผมถามเพื่อให้คนตรงหน้าลองไตร่ตรองให้ดีอีกครั้งก่อนเตรียมตัวจะเดินกลับ

"ดีดิวะ เชื่อกู" เสียงของพี่กันย์ดังขึ้นมาตามหลังก่อนจะมีมือของใครบางคนคว้าข้อมือของผมไว้จนผมต้องหันไปมอง คนตรงหน้าส่งยิ้มอย่างมั่นใจให้ก่อนจะลากผมให้เดินไปต่อแถวที่ค่อยๆ สั้นลงเมื่อมีเรือมาเทียบท่าในแต่ละครั้ง ผมก้มมองมือของคนตรงหน้าที่ยังกำข้อมือของผมไม่ปล่อยแม้ว่าเราจะเดินขึ้นเรือมาแล้วก็ตามก่อนจะเหลือบไปมองคนตรงหน้าที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับวิวสองข้างทางของแม่น้ำเจ้าพระยา

"มันคงจะดีอย่างที่พี่ว่าจริงๆ นั่นแหละครับ" ผมพูดขึ้นแล้วยิ้มให้พี่กันย์ที่หันมามองหน้าผมพอดีก่อนเจ้าตัวจะยิ้มตอบ ...แม้จะไม่รู้ว่าผมหมายถึงอะไรก็ตาม





หลังจากนั่งเรือมาประมาณสี่สิบนาที เราก็มาโผล่ที่ท่าเรือสาธรซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการสัญจรที่สำคัญไม่ว่าจะทางน้ำ ทางบกหรือรถไฟฟ้าก็ตาม ผมมองดูอะไรไปเรื่อยๆ อย่างสนใจ สำหรับเด็กเกษตรผู้รักธรรมชาติและการทำอาหารแล้ว ที่ๆ น่าสนใจสำหรับการพักผ่อนคงหนีไม่พ้นพวกตลาดนัด สวนจตุจักร หรือร้านหนังสือดีๆ สักแห่ง ส่วนพวกย่านเมือง ชุมชน ถนนหนทางที่มีกลิ่นอายอยู่ในยุคกลางเกล่ากลางใหม่แห่งนี้คงไม่เเฉียดเข้ามาในความคิดผมแน่ๆ ...ถ้าไม่ใช่เพราะคนตรงหน้าเป็นคนพามา

"หิวยัง?" พี่กันย์ที่อยู่ดีๆ ก็หยุดเดินก่อนจะหลบเข้าข้างทางเพื่อให้คนที่เดินผ่านมาสามารถผ่านไปได้หันมาถามความเห็นผม

"ก็ยังไม่ค่อยหรอกครับ" ผมตอบไป ...จริงๆ คือยังไม่อยากกินอะไรมากกว่า

"งั้นไปถ่ายรูปเล่นกัน" พี่กันย์บอกก่อนจะชวนให้ผมเดินตามทางไปเรื่อยๆ ก่อนจะมุดเข้าซอยเล็กๆ แล้วมาโผล่อีกทีก็ตรงตึกขนาดใหญ่ที่หากจะบอกว่าหลุดออกมาจากแฮร์รี่พอตเตอร์ก็ไม่เกินจริงไปหรอกครับ

"สวยเนอะ กูโคตรชอบเลย" พี่กันย์บอกก่อนจะมองดูตึกนั้นอย่างหลงไหลแล้วชวนให้เดินตัดผ่านลานรูปปั้นประจำตึกเข้าไปก่อนจะทะลุออกซอยเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ ตึกเมื่อสักครู่ ...วิญญาณสถาปนิกเข้าสิงแล้วแน่ๆ ครับ

"โห" ทันทีที่เดินเข้ามาผมก็เห็นพวกภาพกราฟฟิตี้ขนาดใหญ่ที่ถูกเขียนขึ้นบนผนังบ้าง ตามข้างตึกบ้างอย่างทึ่งๆ ภาพบางภาพก็เป็นลายเส้นการ์ตูนที่ดูง่ายๆ แต่ภาพบางภาพนี่ผมคิดเล่นๆ ว่ามันอาจจะต้องตีลังกาดูรึเปล่าครับผมถึงจะดูออก

"เจ๋งป่ะล่ะ มากูถ่ายให้" พี่กันย์บอกก่อนจะเดินถอยหลังไปพร้อมกับหยิบกล้อง DSLR ตัวใหญ่ที่ผมไม่เคยเห็นออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วหันมากำกับผมว่าต้องยืนตรงไหนหรือทำสีหน้ายังไงให้เข้ากับกับฟีลลิ่งของภาพ

"สวยอ่ะพี่" ผมบอกทันทีที่เห็นภาพขาวดำหลังกล้องที่มีผมยืนตัวเล็กๆ อยู่ตรงกลางโดยมีภาพกราฟฟิตี้ลายเส้นขาวดำขนาดใหญ่เป็นฉากหลัง

"ใช่มั้ยล่ะ" พี่กันย์ยิ้มกว้างออกมาอย่างภูมิใจอย่างที่ผมไม่เคยเห็นจนอดมองรอยยิ้มตรงหน้าไม่ได้

"คนเราจะทำได้ดีที่สุดเมื่ออยู่กับสิ่งที่เราชอบเสมอครับ" ผมบอกก่อนก่อนจะมองหน้าพี่กันย์สลับกับมองภาพหลังกล้องที่เจ้าตัวเลื่อนให้ดูไปเรื่อยๆ

"อ่อยแบบนี้ มีโอกาสจีบติดนะกูว่า" พี่กันย์บอกก่อนจะยกยิ้มมุมปากให้แล้วเดินไปยังภาพที่อยู่ถัดไป ทิ้งให้ผมที่ได้แต่มองตามอย่างกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่

...ดาวอังคารของพี่นี่ดีกว่าโลกเห็นๆ เลยครับ





หลังจากเดินย้อนออกมาจากซอยกราฟฟิตี้นั้นแล้ว ซอยถัดมาที่กันย์เดินนำมาก็คือ ซอยสถานีดับเพลิง ที่มีชื่อเสียงในด้านความเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ยังมีชีวิตแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ พี่กันย์บอกว่าตัวอาคารหลังนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอ-ปัลลาเดียนซึ่งเป็นศิลปะโรมันผสมกับยุคคลาสสิคอะไรสักอย่างที่ผมเข้าไม่ถึง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็สัมผัสได้ถึงความสวยงามของอาคารเก่าตรงหน้ามีแม้ว่ามันจะมีราวตากผ้าหรือจานรับสัญญาณโผล่มาบ้างตามยุคสมัยก็ตาม

"มึงรู้ป่ะ ว่าอาคารนี้คนเขาฮิตมาถ่ายอะไรกัน" พี่กันย์หันมาถามผมก่อนจะเดินนำเข้าไปในตัวอาคารอย่างระมัดระวัง

"ไม่รู้ครับ" ผมตอบก่อนจะมองไปรอบๆ อย่างสนใจ

"พรีเวดดิ้ง" คำตอบของคนตรงหน้าทำเอาผมต้องหันไปมองหน้าคนตอบอย่างรวดเร็วก่อนคนที่มีกล้องในมือจะยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ แล้วยกกล้องขึ้นมาถ่ายผมอย่างไม่ให้ผมได้ตั้งตัว ...คิดว่าแกล้งผมได้คนเดียวใช่มั้ยครับ รอก่อนครับพี่

"แล้วพี่เอาขาตั้งกล้องมาป่ะครับ" ผมถามก่อนจะชี้ไปยังกระเป๋าที่คนตรงหน้าสะพายไว้

"จะเอาไปทำไม" พี่กันย์ถามผมอย่างงงๆ แล้วส่ายหน้าให้ก่อนจะยกกล้องไปถ่ายมุมนู้นมุมนี้ต่อไป

"ก็พรีเวดดิ้ง มันต้องถ่ายกันสองคนไม่ใช่หรอครับ" คำตอบของผมทำเอาคนที่กำลังถ่ายรูปอยู่ชะงักก่อนจะหันมาลั่นแฟลชใส่ผมรัวๆ

"มึงถ่ายไปคนเดียวเลย" พี่กันย์ว่าก่อนจะเดินนำเร็วๆ ออกไปจากตัวอาคารชั้นล่างแล้วปล่อยให้เดินตามออกไป

...ปากพี่น่ะเลือดจะไปเลี้ยงไม่พอแล้วนะครับ เม้มซะซีดเลยครับพี่กันย์





"โจ๊กสองถ้วยครับ" พี่กันย์จัดการสั่งรายการอาหารของตัวเองและของผมทันทีเมื่อเราเข้ามานั่งอยู่ในร้านที่อยู่ในซอยเล็กๆ ข้างทางฃ(ซึ่งคนนำเที่ยวการันตีว่ามันอร่อยมาก)จนผมต้องตามมากินด้วยแม้ว่าปกติผมจะไม่ค่อยกินโจ๊ะเป็นมือค่ำก็ตาม

"ถ้วยหนึ่งไม่เอาเครื่องในนะครับ เอาแต่ตับ ใส่ไข่ด้วยแล้วก็ไปม่เอาผักชี มึงอ่ะ?" ผมนั่งฟังคนตรงหน้าสั่งรายการอาหารของตัวเองอย่างรัวจนพนักงานแทบจดออเดอร์ไม่ทันอย่างขำๆ ก่อนจะหันมาสั่งของตัวเอง

"ของผมเอาทุกอย่างครับ" ผมบอกก่อนจะยิ้มให้พนักงานรับออเดอร์ไปแล้วจัดการรินน้ำใส่แก้วทั้งสองใบก่อนจะดันไปให้คนตรงหน้าที่กำลังนั่งมองอยู่จนผมต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัย

"ตกลงมึงเป็นไรวะ" พี่กันย์วกเข้าเรื่องเดิมซึ่งเป็นสาเหตุให้เจ้าตัวต้องพาผมถ่อมาไกลถึงนี่

"เบื่อโลกน่ะครับ" ผมบอกก่อนจะหันกลับมาเขี่ยน้ำแข็งในแก้วเล่นอย่างเซ็งๆ

"เออ กูรู้ แต่กูต้องการคำขยายความคำว่า 'เซ็งๆ' ของมึงอ่ะ เดี๋ยวกูให้สิบคะแนน" ผมหันไปมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ กับข้อเสนอที่คนอยากรู้ยื่นมาให้

"คะแนนอะไรครับ?"

"คะแนนความประพฤติมั้งสัด! มันเป็นคำสร้อย ตอบมา! ให้ไวเลยครับ" ผมมองคนตรงหน้าอย่างอดยิ้มไม่ได้จริงๆ  ...ผมจะไปหาคนแบบนี้ได้จากที่ไหนอีกครับเนี่ย

"ช่วงนี้ผมเรียนวิชาฟื้นฟูดินใช่มั้ยครับ แล้วทีนี้เนี่ยผมต้องเอาดินที่มันแย่มากๆ มาบำรุงดูแลใส่ปุ๋ยหรือทำยังไงก็ได้เพื่อให้มันสามารถเพาะปลูกพืชขึ้นมาได้ ซึ่งไอ้ต้นไม้ของผมเนี่ยมันก็โตวันโตคืนดีอยู่หรอกแต่วันนี้ผมไปดูมันพี่รู้มั้ยครับว่าผมเจออะไร ต้นไม้ผมตายครับพี่!"

"ทำไมอ่ะ ดินไม่ดีเหรอวะ" พี่กันย์ถามพลางรับเอาถ้วยโจ๊กที่พนักงานนำมาเสิร์ฟวางไว้ตรงหน้า

"ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงไม่เซ็งอยู่แบบนี้หรอกครับ แต่นี่มันตายเพราะไอ้ป้องแมร่งลืมรดน้ำ"

"ลืมรดน้ำ?"

"ครับ สามวัน"

"อย่าบอกนะว่า"

"ตลอดเวลาที่ผมไปทริปกับพี่เลยครับ" ผมบอกอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันมาตักโจ๊กใส่ปากอย่างรวดเร็วเพื่อระบายอารมณ์

"แล้วทำไงวะ"

"ปลูกใหม่ดิพี่ ส่งวันศุกร์นี้แล้วเนี่ย" ผมบอกก่อนพี่กันย์จะยกมือขึ้นมานับแล้วชูนิ้วสี่นิ้วขึ้นมา

"มันจะทันหรอวะ มีเวลาแค่สี่วันเองนะ แล้วมึงปลูกต้นอะไร"

"ตอนแรกปลูกต้นยาง?"

"ตอนนี้ล่ะ" พี่กันย์ถามกลับก่อนผมแทบจะก้มหน้าลงไปร้องไห้กับถ้วยโจ๊ก

"ถั่วงอก"

"ไอ้เชี่ยยยย" พี่กันย์สบถก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วพยายามกลั้นขำเมื่อผมหันไปมองอย่างดุๆ

"ผมเนี่ยจะร้องไห้อยู่แล้วครับ ดีนะครับที่คะแนนต้นไม้แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์" ผมบอกก่อนจะเบะปากออกมาจนคนตรงหน้ายกมือมาลูบหัวผมเบาๆ

"ไม่เป็นไรนะเว้ย กูพามาเที่ยวแล้วนี่ไง ยิ้มหน่อย" พี่กันย์บอกก่อนจะดึงแก้มผมเพื่อให้ผมยิ้มออกมา

"เพราะพี่เลยนะเนี่ย" ผมตอบก่อนจะยิ้มออกมาจนตาหยีกับความเอาใจใส่ของคนตรงหน้าที่นอกจากจะปลอบแล้วยังตักไข่ลวกในถ้วยตัวเองมาให้ผมอีก

"เด็กดีๆ" พี่กันย์ว่าก่อนจะยื่นมือมาเกาคางให้ผมเหมือนเป็นหมาซะงั้น

"แค่กับพี่เท่านั้นแหละครับ" ผมตอบก่อนจะแกล้งเอาแก้มแนบลงไปกับฝ่ามือของคนตรงหน้าก่อนเจ้าตัวจะส่งแรงมากระทบแก้มผมเบาๆ ก่อนต่างคนต่างหันไปจัดการกับโจ๊กตรงหน้าจนหมดเพื่อให้ทันเรือเที่ยวสุดท้ายที่จะกลับไปยังท่าเรือแรกที่เรามา





"เอ้อ พี่กันย์ครับ ว่าแต่ที่ที่เราไปมาวันนี้มันเรียกว่าอะไรนะครับ" ผมถามในขณะที่เรากำลังนั่งอยู่บนเรือที่กำลังแล่นอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อกลับไปเอารถที่จอดทิ้งไว้ที่มหา'ลัย

"อ้าว มึงไม่รู้เหรอ" พี่กันย์หันมาถามผมงงๆ จนผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ เจ้าตัวมองหน้าผมแล้วเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเม้มริมฝีปากจากแล้วหันไปมองวิวข้างนอกเรือพลางตอบออกมาเสียงเบาๆ


"บางรัก"




หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-11-2016 09:57:21
 :o8:   :ling1:  โอ๊ยยยยนี่มันเดท+พรีเวดดิ้งชัดๆ
เออว่ะ ดาวอังคารก็คือบางรักเหรอ
เขินมาก ช็อตน้องปืนเอาแก้มซบฝ่ามือนี่โหย ละลาย ดีดดิ้น
ขออวยพรให้ถั่วงอกงอกไวๆนะจ๊ะ  :hao6: 
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 19-11-2016 10:25:46
อ่อยแรงนะพี่กันต์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 19-11-2016 11:30:55
แหมๆ. พี่กันย์เราไม่ธรรมดา :hao3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 19-11-2016 13:45:32
เทคแคร์กันระดับนี้ เป็นแฟนกันเถอะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: numay ที่ 19-11-2016 14:47:02
 :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 19-11-2016 16:12:51
ชอบเค้าจีบกัน ดีต่อใจเจงๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-11-2016 17:26:37
แอ๊ะๆ......พี่กัลย์ตั้งใจพาปืน มาบางรักสินะ
อยากให้ปืน หายเซ็งๆ เท่านั้นจริงรึ
แต่เวลาตอบปืน ทำไมหันหน้าไปทางอื่น
แถมตอบเสียงเบาด้วย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-11-2016 19:25:24
น้องปืนแผนสูงนะค๊าาาาาาาา
ไม่รู้จักบางรักจริงๆหรอ.....


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zzzzzz ที่ 19-11-2016 19:47:46
งื้ออออทำไมน้องปืนขี้อ้อน ขี้อ่อยขนาดนี้อะ  อยากทุบ  :katai1: จับกดให้รุ้แล้วรุ้รอดไป

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 19-11-2016 22:58:44
ตายทุกชอต แอร๊ยยยยยยย
นอนไม่หลับเลยยยย :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 19-11-2016 23:53:28
พี่กันย์คะ อ่อยก็บอกมาเถอะ 55555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-11-2016 09:40:39
ทริปดาวอังคารทำปืนยิ้มได้ เพราะพี่กันย์เป็นคนพามาเลยนะนี่ ฮา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 20-11-2016 10:16:57
ชอบจัง ดูคนเค้าจีบกัน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 20-11-2016 15:27:14
ก็พี่เพิ่งมาอ่าน 55555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 15 - ...ก็พี่บอกว่าจะพาผมไปดาวอังคาร [19.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: yuuri ที่ 21-11-2016 22:31:29
สนุกมาก เมื่อไหร่เขาจะเป็นแฟนกัน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 22-11-2016 01:50:13
16-…ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ (1)

Bpuen : ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่รู้จะไปไหน ก็แวะมาหาผมได้ที่คณะเกษตรนะครับ #OpenHouse20xx

ผมโพสต์ข้อความเพื่อโปรโมตงาน Open House ของมหา'ลัยลงในหน้าเฟสบุ๊คก่อนจะหันไปช่วยพวกไอ้พีทเตรียมเอกสาร

"อันนี้ต้องใช้เท่าไหร่กันแน่วะ ทำไมไม่เสร็จสักทีเนี่ย" ไอ้ป้องบ่นออกมาก่อนจะล้มตัวลงนอนกับพื้นในห้องสโมฯ แล้วเอามือเขี่ยๆ กองเอกสารที่จะนำมาทำแผ่นพับแต่ยังไม่ได้พับให้เรียบร้อย

"อีกไม่กี่กองเท่านั้นแหละ" ไอ้ธันย์พูดขึ้นมาอย่างประชดก่อนจะนอนลงกับพื้นอีกคนโดยใช้ตัวของไอ้ป้องต่างหมอนแล้วหนุนลงไปอย่างสบายใจก่อนจะเอาโทรศัพท์ขึ้นมาไถเล่น

"อย่ามาทำเนียนเลยพวกมึง ลุกขึ้นมาโว้ยย" ผมด่าพวกมันก่อนส่งสายตาเอือมๆ ไปให้ในขณะที่มือก็พยายามพับเอกสารตรงหน้าต่อไป …จริงๆ มันก็เยอะจนผมเริ่มจะท้อแท้แล้วเหมือนกันนะครับเนี่ย

"พรุ่งนี้ต้องมากี่โมงนะ" ไอ้ป้องที่ตอนนี้เขี่ยไอ้ธันย์ให้ลงไปกองอยู่กับพื้นแทนตัวมันแล้วลุกขึ้นมาทำงานต่อถามขึ้นอย่างเซ็งๆ

"แปด" ไอ้พีทตอบก่อนจะเอากองแผ่นพับที่เสร็จเรียบร้อยแล้วเก็บลงในลังกระดาษแล้วเขียนหมายเลข 5 กำกับไว้บนฝาหลังที่ปิดทับด้วยเทปเรียบร้อยแล้ว

"ใครมันจะตื่นวะ" ไอ้ธันย์ร้องขึ้นมาอย่างโอดครวญก่อนจะถูกไอ้ป้องลากให้มาช่วยทำงานสักที

"พวกเราไง" ไอ้พีทบอกอย่างขำๆ ก่อนจะยกลังกล่องล่าสุดไปวางรวมไปกับลังหมายเลขอื่นๆ

'ตึ๊ง ตึง' เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ทำให้ผมละมือจากงานตรงหน้าก่อนจะกดเข้าไปยังโปรแกรมเฟสบุ๊ค

Bpuen : ถ้าพรุ่งนี้ยังไม่รู้จะไปไหน ก็แวะมาหาผมได้ที่คณะเกษตรนะครับ #OpenHouse20xx (35 ไลค์)
Bang Bang Bang : มากันเยอะๆ นะค้าาา
Piin : ของคณะปืนหรอ?
...
Poonnii : น้องเขาชวนมึงอ่ะ @Gun
TT : น้องเขาชวนมึงอ่ะ @Gun
Foam : น้องเขาชวนมึงอ่ะ @Gun

ผมเลื่อนข้อความลงไปยังคอมเมนต์ล่าสุดที่เป็นของพวกพี่ปูนก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขำๆ แล้วดูท่าว่าคนที่ถูกพาดพิงถึงจะยังไม่รู้ตัวด้วยสิครับ

Thunder : @Gun มีคนอู้งานครับพี่

ผมมองข้อความที่โผล่มาอันล่าสุดก่อนจะหันไปมองคนที่ว่าผมแต่ตัวเองกลับลงไปนอนไถหน้าจออีกครั้งทั้งที่ยังลุกขึ้นมาทำงานได้ไม่ถึงสองนาที

"ทำงานได้แล้วโว้ยยย" ไอ้ป้องบ่นออกมาก่อนจะเอาแผ่นพับที่พับแล้วโปรยลงไปบนตัวไอ้ธันย์

"เชี่ยยย เดี๋ยวแมร่งเลอะ" ไอ้พีทด่าออกมาก่อนจะปาลังกระกระดาษเปล่าตรงเผงเข้าหน้าไอ้ป้องพอดีจนคนที่ตกเป็นเป้าหมายถึงกับหันมามองตาขวาง

"ปาไอ้เชี่ยนี่บ้างดิ" ไอ้ป้องโวยวายออกมาเพราะความไม่เท่าเทียมของไอ้พีท …พวกมึงเป็นเด็กประถมกันรึไงครับเนี่ย

"มึงหลบไป กูกำลังจะลงทัณฑ์มัน" คำพูดของไอ้พีททำเอาไอ้ธันย์ที่มัวแต่หัวเราะไอ้ป้องหันมามองก่อนจะรีบลุกขึ้นมาอย่างไว ...ไอ้เชี่ยย ไอ้พีทจะปาคัตเตอร์ที่มันเอามาตัดลังครับ

"กูผิดไปแล้วครับท่านพีท โปรดอภัยให้ผมด้วย" ไอ้ธันย์ร้องขึ้นมาอย่างลนๆ ก่อนจะกลับมาพับเอกสารตรงหน้ามือเป็นระวิง

"ถ้าเข้าใจแล้วก็ทำงานครับ" ไอ้พี่ทว่าก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสะใจ ...ผมจะไม่ทำให้มันโกรธเป็นอันขาดครับ ผมสัญญา!

"กูขอเวลานอกได้ป่ะครับ" ไอ้ธันย์พูดขึ้นทั้งที่ยังพับเอกสารได้ไม่ถึงสิบแผ่นก่อนจะหันมามองหน้าไอ้พีทในขณะที่มือก็ยังคงพับเอกสารต่อไป

"มีอะไรก็ว่ามาครับ" ไอ้พีทบอกก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ธันย์ที่ได้แต่ยิ้มแหยงๆ ให้

"ขอเปิดเฟสบุ๊คได้มั้ยครับท่าน"

"ไม่ได้ครับ" ...และจบภายในสองประโยคเท่านั้นครับ

"แต่ผมรู้สึกว่างานกำลังจะเข้าไอ้ปืนนะครับ" คำพูดที่พาดพิงมาถึงผมทำให้ผมที่กำลังใจจดใจจ่อกับกองเอกสารหน้าหันไปมองมันอย่างงงๆ ก่อนจะเห็นไอ้พีทหยิบโทรศัพท์ของมันขึ้นมาเอง

"เออ กูอนุญาตให้ทุกคนเปิดเฟสบุ๊คได้ครับ"

"ขอบคุณครับผม" ทุกคนพร้อมใจกันพูดขึ้นมาอย่างไม่ได้นัดหมายก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของใครของมันแล้วเปิดเข้าหน้าเฟสบุ๊คไปหน้าไทม์ไลน์ผมกันอย่างรวดเร็ว

"พี่กันย์หรอวะ ไหนวะ กูไม่เห็นพี่เขาจะมาตอบอะไรเลย" ไอ้ป้องถามก่อนจะชะเง้อไปมองที่หน้าจอไอ้ธันย์ซึ่งน่าจะเร็วกว่านั่งหาเอง

"ไม่ใช่โว้ย เลื่อนลงไปอีก" ไอ้ธันย์บอกก่อนทุกคนจะไล่อ่านคอมเมนต์ไปเรื่อยๆ

BeWithYou : เราไปๆ
Laanna : แวะมาคณะเราด้วยเลย
...

ผมก็เป็นอีกคนที่ไล่อ่านทีละคอมเมนต์ตามมันก่อนจะไปสะดุดตาเข้ากับเฟสบุ๊คของใครบางคนที่ไม่ได้มาคอมเมนต์หรือกดไลค์โพสต์อะไรของผมนานแล้ว

PamPam : เราไปด้วยได้เปล่า ^______^

"แพม?" ไอ้พีทพูดขึ้นก่อนจะทำท่านึกถึงอะไรบางอย่าง

"คนที่เคยมาหามึงบ่อยๆ ตอนรับน้องป่ะ" ไอ้ป้องถามขึ้นมาอีกเสียงอย่างสงสัยพลางย้อนไปถึงเหตุการณ์ตั้งแต่รับน้องก่อนเปิดเทอม

"อือ" ผมรับคำมันสั้นๆ ก่อนจะเลื่อนๆ หน้าไทม์ไลน์ไปมาอย่างสับสน

"จะว่าไปกูก็ไม่เห็นเขานานแล้วนะ" คำพูดไอ้ป้องที่ยังคงพูดขึ้นมาทำให้ไอ้ธันย์ที่นั่งอ้ำอึ้งอยู่นานหันไปตบกะโหลมันหนึ่งที่แรงๆ

"ไอ้สัด! ก็เขาเลิกกันแล้วไง แพมอ่ะแฟนเก่าไอ้เชี่ยปืน ไอ้ฟายยยย" ไอ้ธันย์ด่าออกมาก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างตกใจแล้วกลับไปนั่งเงียบอีกครั้ง

"อย่าทำหน้าอย่างนั้นกันดิวะ ไม่เห็นมีเชี่ยอะไรเลย" ผมบอกพวกมันก่อนจะทำให้บรรยากาศมันกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง

"มึงโอเคป่ะวะ?" ไอ้พีทที่นั่งเงียบอยู่นานถามขึ้นก่อนจะตบไหล่ผมเบาๆ

"โอเค กูแค่ไม่รู้ว่ากูควรจะรู้สึกยังไงดีเท่านั้นแหละ" ผมบอกพวกมันก่อนจะยิ้มออกมาแล้วนั่งมองข้อความของแพมก่อนจะพิมพ์ต่อลงไป

PamPam : เราไปด้วยได้เปล่า ^______^
Bpuen : แน่นอน
PamPam : จริงนะ งั้นเดี๋ยวเราแวะไปหา อย่าเพิ่งหนีกลับบ้านไปก่อนล่ะ
Bpuen : อื้อ เดี๋ยวเรารอที่บูธนะ
PamPam : โอเค แล้วเจอกันน้าา
Bpuen : แล้วเจอกันครับ ^^

"จะดีหรอวะ" ไอ้ธันย์เงยหันมามองผมอย่างสงสัย

"ไม่เห็นเป็นไรนี่หว่า ก็เพื่อนกันเปล่าวะ" ผมบอกมันก่อนจะส่ายหน้าว่าไม่เป็นไรเพื่อให้พวกมันสบายใจ

"แต่กูว่ารอบนี้อ่ะของจริง" เสียงไอ้พีทที่ดังขึ้นทำให้พวกผมที่วางโทรศัพท์ลงไปแล้วต้องหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง

"ซวยแน่มึง" ไอ้พีทหันมามองผมก่อนจะชี้หน้าแล้วทำท่าเอานิ้วมาปาดคอ

Gun : มันไม่ได้ชวนกู

...งานเข้าแล้วครับผม!





(กูไม่ว่าง) เสียงของพี่กันย์ที่พูดย้ำคำตอบเดิมมามากกว่าสามรอบทำเอาไอ้พีทต้องเดินมาตบไหล่อย่างให้กำลังใจเมื่อผมกดวางสายแล้วนั่งอยู่หน้าสโมฯ ด้วยสีหน้าที่โคตรห่อเหี่ยว

"พี่กันย์เขาก็แค่ไม่ว่างรึเปล่า" ไอ้ธันย์ที่เดินตามออกมาพูดขึ้นเพื่อให้ผมมองโลกในแง่ดี ...ผมก็พยายามคิดอย่างนั้น แต่ผมว่ามันไม่ใช่อ่ะ!

"กูว่าจะถามหลายรอบละ มึงจะอะไรกับพี่เขานักหนาวะ มึงก็ไม่ได้ไปอะไรกับพี่เขานี่ ที่มึงบอกกูอ่ะ กูจำได้" ไอ้ป้องพูดขึ้นพลางมองผมอย่างสงสัย

"เออ จริงของมัน" ไอ้ธันย์พูดขึ้นมาอีกคนพลางมองหน้าไอ้พีทที่กำลังมองผมแล้วยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย

"เออ กูลืมบอกพวกมึงว่ะ" ผมนึกขึ้นมาได้ก่อนจะหันไปมองพวกมัน …ยกเว้นไอ้พีท ไอ้นี่สามารถรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณของมันชัวร์!

"บอกว่า..."

"กูจีบพี่กันย์อยู่นะ" คำตอบของผมที่พูดออกมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้ไอ้ป้องกับไอ้ธันย์หันมามองผมตาปริบๆ ก่อนจะหันไปมองหน้ากันเอง

"ไอ้เชี่ยยย กูว่าแล้วเชียว" ไอ้ธันย์สบถออกมาเสียงดังก่อนจะอ้าปากพะงาบๆ แล้วชึ้หน้าผมไม่หยุดจนไอ้พีทหัวเราะออกมา

"ว่าอะไร"

"ก็มึงแมร่งเล่นหายไปกับพี่กันย์ตลอดเลย ทำตัวเหมือนตอนคบกับ..." ไอ้ธันย์พูดขึ้นมานิดหนึ่งก่อนจะชะงักไปเมื่อรู้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกมา

"เดี๋ยวนะ แล้วเขารู้ป่ะว่ามึงจีบ" ไอ้ป้องถามขึ้นบ้างพลางทำหน้าสงสัย

"รู้ดิ"

"รู้ได้ไงวะ?"

"เอ้า ก็กูบอกเขา"

"ตอนไหนวะ แล้วทำไมไมพวกกูไม่รู้" ไอ้ป้องโวยวายออกมาพลางทำตัวเหมือนเด็กงอแง

"ที่ทะเล"

"เชี่ยยย เพื่อนกูนี่มันสายโรแมนซ์นี่หว่า"

"ไม่อ่ะ ตอนนั้นกูเมา" คำตอบของผมทำเอาพวกมันหันมามองหน้าผมอย่างพร้อมเพรียง

"เหยดดดด ไอ้ปืนผู้เพียบพร้อมของเรากำลังปล่อยตัวครับผม"

"มึงกล้าปล่อยให้ตัวเองเมาได้ด้วยหรอวะ" ไอ้ธันย์ถามผมอย่างสงสัยก่อนจะมองหน้าผมอย่างมีเลศนัย

"ทำไมกูจะเมาไม่ได้วะ" ผมถามมันกลับอย่างงงๆ …ปกติผมไม่กินเหล้าน่ะใช่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมกินไม่ได้นี่ครับ

"ทีเมื่อก่อนมึงเคยเมาซะที่ไหน ให้กินเหล้ายังไม่อยากจะกินเลย" ไอ้ธันย์ท้วงขึ้นเบาๆ พลางอ้างสารพัดเหตุผลจนผมได้แต่มองหน้ามันตาปริบๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเพราะผมก็เริ่มเข้าใจถึงความ ‘ปกติ’ ที่ ‘ไม่ปกติ’ ตามที่มันว่านั่นแล้ว

"ก็ตอนนั้นกูไม่มีพี่กันย์นี่หว่า"

"เหยดดดด" ไอ้ป้องร้องขึ้นอย่างถูกใจก่อนจะเขามารัดคอผมอย่างหมั่นไส้

"งั้นกูว่าเรื่องแพมสบายใจได้หายห่วง ห่วงเรื่องพี่กันย์ของมึงเถอะ" ไอ้พีทพูดขึ้นยิ้มๆ ก่อนจะเข้ามากอดคอมผมอีกคนแล้ววกกลับเข้ามาเรื่องเดิม

"เออดิ เสียงอย่างนี้แมร่งงอนชัวร์ๆ" ผมบอกมันก่อนจะหุบยิ้มลงอีกครั้งเมื่อคิดถึงคนที่เพิ่งโทรหาแล้วเอาแต่บอกว่าไม่ว่าง

"แล้วทำไมเขาถึงงอนมึงวะ?" ไอ้ธันย์ถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะหาสาเหตุไม่ได้

"อ่ะ" ผมเลยยื่นหน้าจอให้มันดูข้อความใหม่ที่โผล่ขึ้นมาในช่องข้อความตอบกลับอันเดียวกับที่ผมตอบแพม

PPong : @Bpuen ถ่านไฟเก่ามันร้อนนน

"ไอ้เชี่ยป้อง" ทุกคนหันไปประสานเสียงด่าไอ้ป้องจนเจ้าตัวทำหน้าเหวอๆ

"กูขอโทษ ก็กูไม่รู้นี่หว่าว่ามันจีบพี่กันย์อยู่" มันรีบอธิบายก่อนจะโดนไอ้พีทลากกลับไปนั่งกลางห้องสโมฯ แล้วเอาเอกสารอีกกองใหญ่ที่ยังไม่ได้พับมาวางลงตรงหน้ามัน

"ของมึงทั้งหมด!" ไอ้พีทว่าก่อนจะมองหน้ามันอย่างเซ็งๆ

"แต่มันก็ไม่ได้แย่ทั้งหมดนะเว้ย" เสียงของไอ้ป้องที่ตะโกนตามหลังไอ้พีทที่เดินกลับมาทำให้ไอ้พีทหันไปส่งสายตาดุๆ ให้มันอีกครั้งจนมันต้องเริ่มพับเอกสารตรงหน้าแต่ตาก็ยังมองมาที่พวกผมอยู่

"หุบปากไปเลยมึงอ่ะ" ไอ้พีทว่าก่อนจะชี้ไปยังเอกสารกองสุดท้ายที่เหลืออยู่เพื่อรอพับ แต่เหมือนไอ้ป้องจะเริ่มชินเพราะมันพูดต่อทันทีว่า

"ก็ถ้าพี่กันย์ไม่ได้คิดอะไรกับมึง พี่เขาจะงอนมึงทำไมวะ คิดดิครับ คิด!"





[Gun's]

Bpuen : มาหาผมหน่อยนะครับ

ผมมองโปรแกรมไลน์ของไอ้เด็กปีหนึ่งที่วันนี้ต้องไปออกบูธสำหรับกิจกรรม Open House ของมหา'ลัยที่หอประชุมกลางอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป

Gun : กูไม่ว่าง

"มึงอ่ะว่างฉิบหาย" ไอ้ปูนที่นั่งข้างๆ ผมพูดขึ้นก่อนจะหันไปลงสีในกระดาษเอสามตรงหน้าตัวเองต่ออย่างรีบๆ เพราะใกล้จะถึงเวลาส่งเข้ามาทุกที

"ใครบอก กูก็ต้องส่งงานพร้อมมึงป่ะวะ" ผมบอกมันที่เหลือบมามองผมอย่างหมั่นไส้

"มึงขึ้นไปส่งตอนนี้เลยก็ได้ค่า" ไอ้ปูนพูดก่อนจะหยิบงานชิ้นเอสามของผมออกมาจากกระบอกซูมแล้วกางมันลงตรงหน้าผมทันที

"ใครหน้าไหนวะที่มันอดหลับอดนอนรีบปั่นจนเสร็จตั้งแต่เมื่อวานเพราะบอกว่าจะไปส่องเด็กที่หอประชุมกลาง" ไอ้ทีพูดขึ้นก่อนจะหันมาเบะปากใส่ผมแล้วลงมือทำงานตรงหน้ามันต่อ

"เด็กมัธยมเหรอว้าา" ไอ้โฟมที่นั่งเงียบมานานพูดขึ้นพลางทำเสียงเล็กเสียงน้อย

"เด็กปีหนึ่ง คณะเกษตรต่างหากล่ะครับ" ไอ้ทีพูดต่อก่อนจะหัวเราะแล้วแทคมือกับไอ้โฟมอย่างเข้าขา

"แต่ดูเหมือนวันนี้เด็กจะไม่ว่าง คนแถวนี้เลยต้องมานั่งหงอยอยู่ที่คณะแทน" ไอ้ปูนพูดขึ้นมาบ้างก่อนจะเท้าคางมองผมที่นั่งสไลด์มือถือไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย

"ทำไมล่ะว้าา" ไอ้โฟมยังทำหน้าที่ลูกคู่ที่ดีต่อก่อนจะเหลือบมามองผมที่เริ่มจะมองหน้ามันอย่างเคืองๆ

"ก็เด็กเขามีนัดแล้วไง กับใครกันน้าา"

"ถ่านไฟเก่ามันร้อน รอวัน รื้อฟื้น..." แล้วพวกมันก็ประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพรียง





"คนแมร่งจะเยอะไปไหนวะเนี่ย" ผมสบถออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะพยายามฝ่าฝูงเด็กมัธยมเพื่อเดินไปยังอาคารจอดรถตรงประตูอีกฝั่งหนึ่งของมหา'ลัย ทุกครั้งที่มหา'ลัยมีกิจกรรม ที่จอดรถลำดับแรกๆ ที่มันจะเต็มก็ตรงหลังมอแถวๆ คณะผมนั้นแหละครับ ...คณะผมก็แสนจะเล็กจนแทบจไม่มีที่จอดกันอยู่แล้วก็ยังมาเบียดเบียนกันอยู่ได้

ครืด ครืด... แรงสั่นในกระเป๋าทำเอาผมต้องหาที่หลบเพื่อไม่ให้ยืนขวางทางคนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วมองชื่อที่ปราฎอยู่บนหน้าจอ

'ไอ้ปืน'

"เฮ้ออ" ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะตัดสินใจกดรับให้มันรู้แล้วรู้รอดไป

(พี่กันย์ครับ จะไม่มาหาผมจริงๆ หรอครับ) เสียงอ้อนๆ จากปลายสายที่ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงเดินเข้าไปตีมันสักป้าบอย่างหมั่นไส้เข้าให้แล้ว ...แต่ตอนนี้แค่ตอบมันคำถามมัน ผมยังไม่มีอารมณ์เลย คนแมร่งจะเยอะไปไหนวะ

"กูไม่ว่าง" ผมบอกคำตอบเดิมๆ ไปเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ...เลิกถามสักทีได้มั้ย กูขี้เกียจจะตอบแล้วเนี่ย

(แล้วพี่จะไปไหนครับ อุตส่าห์ผ่านหอประชุมแล้วแท้ๆ) คำพูดของมันทำเอาผมที่ยืนพิงเสาไฟข้างทางอยู่สะดุ้งขึ้นมายืนตรงก่อนจะหันมองไปรอบๆ

"จะไปไหนก็เรื่องของกูเปล่าวะ" ผมบอกมันอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะกลับมาพิงเสาเหมือนเดิมเพราะมองไปก็ไม่เจอคนที่คิดว่าน่าจะมองเห็นผมจากตรงไหนสักแห่ง

(แต่ผมอยากเจอพี่นี่นา) คำตอบที่ดังขึ้นพร้อมแรงสะกิดจากข้างหลังทำเอาผมต้องหันไปมองอย่างตกใจก่อนจะเจอเข้ากับเจ้าของรอยยิ้มที่ยืนยิ้มจนตาหยี

"แต่กูอยากกลับหอ" ผมบอกมันก่อนจะวางโทรศัพท์ลงเมื่อไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องใช้อีกต่อไป

"ทำไมรีบกลับจังล่ะครับ"

"กูเบื่อ"

"ถ้ามันน่าเบื่อขนาดนั้น ให้ผมพาไปดาวอังคารแทนมั้ยครับ" มันบอกพร้อมกับยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนฉกกุญแจรถในมือผมไปอย่างไว

"เอาคืนมา กูจะกลับแล้ว" ผมบอกมันก่อนจะยื่นมือไปขอกุญแจคืน ก่อนที่คนตรงหน้าจะมองผมตาแป๋วแล้วเอาคางมาเกยที่มือของผมแทนที่จะเป็นกุญแจรถ ...มึงเป็นหมารึไง?

"เดี๋ยวผมไปส่งนะครับ แต่ไปเดินดูงานกันก่อนนะ" มันบอกก่อนจะคว้าเข้าที่ข้อมือผมแล้วลากไปทันทีทั้งที่ยังไม่ทันฟังคำตอบ

"ถึงกูจะบอกว่าไม่ไป มึงก็ไม่ฟังอยู่ดีใช่มั้ยล่ะ" คนตรงหน้าชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะหันมาตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส

"พี่ก็รู้ว่า 'ไม่' แน่นอนครับ"





[Bpuen's]

"นี่ต้นอะไรวะ?" เสียงคนข้างๆ ที่กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งหลังจากที่หงอยมานานถามขึ้นพลางเดินเข้าไปดูต้นไม้แปลกๆ ที่ที่มีรูปร่างเหมือนแอปเปิ้ลแต่มีผิวและกลิ่นเหมือนมะม่วง

"มะม่วงแอปเปิ้ลครับ" ผมบอกก่อนจะชี้ไปที่กล่องพลาสติกข้างๆ ที่มีเจ้ามะม่วงแอปเปิ้ลที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ไว้ให้ลองชิม

"เอาไปปลูกที่ห้องมั้ย?" พี่กันย์ถามก่อนจะชี้ไปที่ต้นอ่อนที่อยู่ในถุงดำซึ่งถูกเอามาตั้งโชว์ไว้ในส่วนของผลงานนักศึกษา

"ถ้าเอาเจ้านี่ไปปลูก พี่ก็กลับไปซื้อเปลสนามอันเท่าบ้านมาวางคู่กันได้เลยครับ คงไม่มีที่ให้นอนอีกแล้ว" ผมบอกก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขำๆ กับท่าทางที่เหมือนเด็กถูกขัดใจของคนตรงหน้า

"แล้วนี่มึงไม่ต้องทำอะไรแล้วเหรอวะ" พี่กันย์ถามขึ้นมาอีกครั้งในขณะที่เราเดินดูอะไรไปเกือบครบรอบหอประชุมแล้ว

"ไอ้พีทคุมน้องไปดูคณะอยู่ครับ แต่เดี๋ยวตอนบ่ายสามผมต้องไปรับช่วงต่อจากมัน" พี่กันย์จะก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะยื่นมือมาขอกุญแจรถอีกครั้ง

"อีกห้านาทีเอง งั้นกูกลับเลยก็แล้วกัน"
 
"ไปด้วยกันเถอะนะครับ" ผมบอกก่อนจะมองคนตรงหน้าที่ทำหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินตามมา





"หายงอนเพื่อนผมแล้วเหรอครับ" คำทักทายแรกของไอ้ป้องทำเอาผมแทบอยากจะปาคัตเตอร์ใส่มันเหมือนที่ไอ้พีทเคยขู่มันขึ้นมาตะหงิดๆ

"ไปดูน้องกับกูเลยมึง" ไอ้ธันย์ที่โผล่เข้ามาได้ทันเวลาพอดีพูดขึ้นก่อนจะลากคอไอ้ป้องเดินออกจากบูธไป …ไว้กูจะตบรางวัลให้อย่างงาม

"สวัสดีครับพี่" ไอ้พีทที่นั่งดูน้องมัธยมที่เดินเข้ามาลงทะเบียนอยู่พูดขึ้นก่อนจะหันมายกมือไหว้พี่กันย์จนน้องๆ ที่มาต่อแถวพลอยยกมือไหว้กันไปด้วยเป็นแถว

"คนเยอะชะมัด" พี่กันย์พูดขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะเดินมาหลบอยู่ข้างๆ ผมเมื่อเด็กมัธยมหลายคนเริ่มหันมามองจนพี่กันย์เริ่มทำตัวไม่ถูก ผมเพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้เองว่าวันนี้ถึงพี่กันย์จะดูเหมือนยังสะลึมสะลืออยู่บ้างแต่เจ้าตัวก็จัดเต็มเรื่องการแต่งตัวพอดู ทั้งเสื้อนักศึกษาเนี๊ยบกริบ ยีนส์ขาเดปสีเข้มกับร้องเท้าหนังสีน้ำตาลพร้อมด้วย Accessories ทั้งสี่ที่เจ้าตัวชอบใส่ ทั้งๆ ที่ปกติแล้วถ้าไม่ได้นอน เจ้าตัวจะปล่อยทุกอย่างไปตามยถากรรม ไม่แม้แต่จะใส่เครื่องประดับด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นพี่กันย์ก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะไม่มั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ถ้าไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100% จริงๆ

"ไปนั่งข้างในมั้ยครับ" ผมถามพี่กันย์ก่อนจะเดินนำเข้าไปตรงโซนที่เพื่อนๆ เอากระเป๋าและลังเอกสารมาวางไว้ก่อนจะเดินไปลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาวางให้ตรงโต๊ะวางของแล้วบอกให้เจ้าตัวนั่งรอ

"กูควรปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆ แบบนี้เหรอ" พี่กันย์ถามขึ้นมาตามประสาคนที่มีงานต้องทำตลอดเวลาเมื่อไอ้พีทเดินมาเรียกผมให้รับช่วงต่อรอบสุดท้ายก่อนจะหมดหน้าที่สำหรับงานวันนี้แล้วต้องปล่อยให้เจ้าตัวนั่งรอ …เพราะผมจะเป็นคนไปส่งพี่เขาเองยังไงล่ะครับ

"งั้นผมขอซื้อเวลาพี่ด้วยนี่กับนี่ พอไหวมั้ยครับ" ผมบอกก่อนจะเดินถือโน๊ตบุ๊คที่ยืมมาจากไอ้พีท หูฟังแล้วก็ช็อคโกแลตที่เตรียมไว้สำหรับง้อคนตรงหน้าอยู่แล้วมาให้ก่อนจะเปิดหน้าล็อคอินเกมโปรดของคนตรงหน้าขึ้นมา ใส่หูฟังให้ พร้อมทั้งดึงช็อคโกแลตออกมาอันหนึ่งเพื่อแกะให้

"ได้แค่หนึ่งหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นแหละ คิดว่าทันป่ะล่ะ" พี่กันย์ยักคิ้วให้ก่อนจะชะโงกตัวมากัดช็อคโกแลตในมือผมแล้วหันไปสนใจโน๊ตบุ๊คตรงหน้าแทน

"แค่นั้นก็ถมเถแล้วครับ" ผมพูดเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือป็ดคราบช็อคโกแลตที่ติดอยู่ตรงมุมปากคนตรงหน้าแล้วเดินตามไปสมทบกับไอ้พีทแล้วปล่อยพี่กันย์ให้จมเข้าไปในโลกส่วนตัวของพี่เขาต่อไป





[Gun's]

"เดี๋ยวนั่งรอตรงนั้นก่อนก็ได้ อีกไม่นานก็มา" เสียงที่ดังขึ้นก่อนจะใครบางคนเดินมานั่งลงข้างๆ ทำให้ผมหันไปมองในตอนที่เกมของผมจบตาพอดีก่อนจะเจอเข้ากับผู้หญิงผมยาวหน้าตาน่ารักมากๆ คนหนึ่งที่ส่งยิ้มมาให้ ...ไม่ใช่เด็กที่นี่ซะด้วย ผมคิดในใจพลางมองชุดนักศึกษาที่มีตราสัญลักษณ์เป็นของอีกมหา’ลัยหนึ่งที่แทบจะเรียกได้ว่าอยู่กันคนละฟากของกรุงเทพฯ

"อยู่คณะเกษตรเหรอ" คำถามที่ถามขึ้นอย่างเป็นมิตรทำให้ผมต้องถอดหูฟังออกเพื่อไม่ให้เสียมารยาทก่อนจะตอบกลับไป

"เปล่าครับ เรียนสถาปัตย์น่ะ พอดี...มารอน้อง"

"งั้นก็เป็นรุ่นพี่สินะคะ ขอโทษด้วยค่ะนึกว่าปีหนึ่งเหมือนกัน" ผมยิ้มตอบพลางส่ายหน้าให้ทำนองว่าไม่เป็นไร ก่อนจะยื่นห่อช็อคโกแลตที่เหลือให้เพราะไม่มีเรื่องจะคุยต่อ

"กินได้นะครับ" เธอคนนั้นหัวเราะขึ้นมาก่อนจะหยิบไปหนึ่งชิ้นอย่างไม่ให้เสียน้ำใจ

"พี่กันย์ครับ ไอ้ปืนฝากมาให้... อ้าว แพม!" ชื่อ ที่หลุดออกมาจากปากไอ้ธันย์ดังขึ้นจนทำให้ผมต้องหันไปมองคนข้างๆ ใหม่อีกครั้งด้วยความรู้สึกใหม่ก่อนที่เธอจะหันไปยิ้มกว้างให้ไอ้ธันย์ …แพม? PamPam?

"ปืนล่ะ" เธอถามขึ้นก่อนจะชะเง้อมองหาใครบางคนที่เธอถามถึง

"เอ่อ เดี๋ยวมันมาอ่ะ พี่กันย์น้ำครับ" ไอ้ธันย์ว่าก่อนจะยื่นขวดน้ำเปล่าที่มีรอยปากกาเมจิกเขียนเป็นรูปหน้ายิ้มอันเล็กๆ ไว้ข้างๆ มาตรงหน้าผม

"เราก็หิวน้ำเหมือนกันอ่ะธันย์ ขอเราบ้างสิ" แพมพูดขึ้นก่อนจะทำหน้างอนๆ ไปให้ธันย์พร้อมทั้งจิ้มๆ ไปที่ขวดน้ำตรงหน้า


...ทำไมอยู่ดีๆ ผมก็นึกอยากได้ช็อคโกแลตห่อเมื่อกี้คืนมาซะงั้น!





หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 22-11-2016 03:28:37
แอ๊ค ค้างอ่ะ :call:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-11-2016 05:31:57
ปืน จะจีบพี่กัลย์
ก็ทำตัวให้ชัดเจนกับแพม แฟนเก่า และพี่กัลย์ ไปเลย
บอกแพม ว่าตัวเองกำลังจีบพี่กัลย์ อยู่ซะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-11-2016 06:36:27
พี่กันย์นั่งหล่อๆไปพอค่ะ
ไม่ต้องหวั่นกับถ่านมอดๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 22-11-2016 06:45:54
ปืนยังสับสนอยู่เหรอ จัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อนดีไหม
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 22-11-2016 07:23:11
พี่กันมีความหวงของ   อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 22-11-2016 18:43:19
อ๊ะ! พี่กันย์ออกอาการ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 16-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(1)[22.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 23-11-2016 20:47:14
งานเข้าเต็มๆ
รีบๆเคลียร์นะปืน
ถ้าลังเล ขอให้พี่กันโกรธจริงๆด้วย  :katai5:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 24-11-2016 00:36:07
17-…ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ (2)

"เราก็หิวน้ำเหมือนกันอ่ะธันย์ ขอเราบ้างสิ" ผมหันไปมองแพมที่ทำหน้างอนๆ เพราะไอ้ธันย์ดันถือน้ำมาแค่ขวดเดียวก่อนจะยื่นมาตรงหน้าผม

"เอ่อ ถ้างั้น..." ผมยังพูดไม่ทันจบ ไอ้ธันย์ก็ส่งสายตามาหาผมก่อนจะทำหน้าคะยั้นคะยอให้รับน้ำขวดนั้นมา

"เดี๋ยวเราไปซื้อให้ รอเดี๋ยวนะ” ไอ้ธันย์บอกก่อนจะวิ่งออกไปปล่อยให้ผมนั่งอยู่กับแพมแค่สองคนเหมือนเดิม แพมหันมายิ้มให้ผมนิดหน่อยอย่างเกรงใจที่แสดงความเอาใจตัวเองออกมาก่อนผมจะส่งยิ้มไปให้อย่างไม่ถืออะไรพลางก้มหน้ามองขวดน้ำในมือที่มีรูปหน้ายิ้มเขียนเอาไว้ด้วยปากกากับข้อความเล็กๆ อีกอันที่ผมเพิ่งสังเกตเพราะมันกลืนไปกับตัวหนังสือของฉลากบนขวด

'ผมชวนพี่กันย์ไปกินข้าวนะครับ'

ผมอ่านข้อความที่ขีดเส้นใต้ประธาน กริยา กรรมไว้อย่างชัดเจนอย่างขำๆ ...นี่มันถามเพื่อให้ผมตอบ หรือมันบอกให้ผมรู้เฉยๆ ว่ามันชวนผมครับเนี่ย ผมหลุดยิ้มกับความช่างสังเกตของคนที่ฝากน้ำมาให้ก่อนจะนึกไปถึงสเตตัสของมันที่อัพเมื่อวาน …จริงๆ ผมก็ไม่ได้งอนอะไรอย่างที่พวกเพื่อนมันแซวหรอกครับ แต่พวกไอ้ทีเล่นออกตัวแรงขนาดนั้นแล้วมันก็ดันไม่ตอบอะไรสักอย่างแถมยังไปชวนคนอื่นอีก ผมจะโผล่มาให้หน้าแหกทำไมล่ะครับ …ของแบบนี้มันต้องไว้ท่ากันบ้าง

"ยิ้มอะไรเหรอคะ?" อยู่ดีๆ แพมก็ถามขึ้นมาจนผมต้องหันไปมองหน้าเธออย่างงงๆ ก่อนจะแนบขวดน้ำด้านที่มีข้อความเข้ากับตัว ...แล้วทำไมผมต้องทำตัวเหมือนเป็นชู้กับแฟนชาวบ้านเขาด้วยวะเนี่ย

"เปล่านี่ครับ" ผมบอกแล้วยิ้มให้ก่อนจะเปิดฝาขวดน้ำแล้วยกขึ้นมาดื่มอย่างเริ่มทำตัวไม่ถูก

"น้ำครับผม" ไอ้ธันย์เดินกลับมาพร้อมขวดน้ำอีกขวดก่อนจะยื่นให้แพมแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผม

"ขอบใจมากนะ" แพมตอบก่อนจะรับขวดน้ำไปเปิดฝา แต่สุดท้ายก็ยื่นขวดน้ำกลับมาเพื่อให้ไอ้ธันย์เปิดให้ก่อนจะใส่หลอดแล้วส่งคืน

"พี่กันย์ครับ" เสียงทักที่ดังมาจากหน้าบูธทำให้ผมหันไปมองคนที่เป็นสาเหตุให้ผมต้องมานั่งรอชั่วโมงกว่าก่อนจะพบเข้ากับรอยยิ้มตาหยีที่ไม่รู้จะยิ้มอะไรนักหนาของไอ้ปืน

"เลิกสักทีนะมึงอ่ะ" ผมบอกมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเคาะบนหน้าปัดนาฬิกาของผมอย่างเคืองๆ จนเจ้าตัวได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ อย่างยอมรับผิด

"ขอโทษครับ งั้นดี๋ยวผมเลี้ยงพี่เองแล้วกันนะมื้อนี้"

"ป๋าเหลือกินนะมึง เดี๋ยวกูจะกินให้ล่มจมไปเลยคอยดู" ผมบอกก่อนมันจะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ แล้วเดินเข้ามาหยิบโน๊ตบุ๊คที่ผมพับเก็บไว้เรียบร้อยตั้งแต่เริ่มหันมาสนใจแพม

...เออ แพม! ผมคิดอย่างนึกขึ้นได้ก่อนจะหันไปมองแพมที่นั่งมองปืนอย่างงอนๆ จนผมต้องเอื้อมมือไปกระตุกชายเสื้อคนที่ยังไม่รู้ตัวให้หันให้หันกลับมาก่อนสายตาที่มองมาอย่างงงๆ ในตอนแรกจะเปลี่ยนเป็นตกใจ

"แพม!" ...ความรู้สึกช้าเหลือเกินนะมึงเอ้ย

"ก็ใช่น่ะสิ เรามารอปืนตั้งนานแล้วเนี่ย"

"ขอโทษๆ เราไม่ทันสังเกตอ่ะ" คำพูดของไอ้ปืนยิ่งทำให้แพมหน้างอไปใหญ่

"ปืนอ่ะ! ไม่เคยสนใจอะไรเหมือนเดิมเลยนะ" แพมบอกก่อนจะกระแทกตัวลงไปกับเก้าอี้ ผมพอเดาออกแล้วครับว่าทำไมไอ้คู่นี้มันถึงเลิกกัน แต่ผมสงสัยอยู่อย่าง ...ถ้าอย่างไอ้ปืนเรียกไม่สนใจ ผมว่าไม่มีผู้ชายคนไหนจำชื่อแฟนตัวเองได้แล้วมั้งครับเนี่ย

"ว่าแต่… แพมมานี่สนใจคณะไหนเป็นพิเศษรึเปล่า? ให้เราแนะนำมั้ย?" คำถามของไอ้ปืนที่เงียบหายไปนานทำเอาผมและไอ้ธันย์แทบจะกุมขมับ ...มึงทำสัญชาตญาณผู้ชายหล่นไว้ที่คณะรึเปล่าครับผม

"ปืน เราเพิ่งเข้าปีหนึ่ง" แพมบอกก่อนจะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ จนผมต้องเดินเข้าไปสะกิดมันให้หันมาสนใจผมแล้วกระซิบบอกมันให้รู้ตัว

"ไอ้เชี่ยปืน!"

"ครับพี่กันย์" …ไอ้ห่า กูจะมาด่า อย่ามาทำตาหวานใส่กูครับ!

"เขามาหามึงโว้ยย" ผมด่ามันก่อนจะแอบต่อยเข้าที่ต้นแขนของคนตรงหน้าอย่างหมั่นไส้

"แล้วมาหาผมทำไมอ่ะ" …ผมควรทำยังไงกับมันดีครับ?

"เอ้า กูจะไปรู้มึงเหรอ ถามเขาดิ" ผมบอกก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างเหลืออด

"เดี๋ยวเขาก็ด่าผมอีกสิครับพี่" มันพูดก่อนจะทำหน้าไปไม่เป็นจนผมต้องนึกเรื่องช่วยมันแทน

"เอางี้ ชวนไปกินข้าวด้วยกันก่อนแล้วกัน สงสารเขาอุตส่าห์มาตั้งไกล" ผมบอกก่อนจะตบไหล่มันเบาๆ แล้วทำทีไปเก็บกระเป๋าแทนเลยไม่ทันเห็นรอยยิ้มมุมปากที่ปรากฏขึ้นมาทันทีที่ผมหันไป

"เอ่อ..แพมหิวมั้ย ไปกินข้าวด้วยกันเปล่า?" แพมหันมามองค้อนทีหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"ไปสิ หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย"

"พี่กันย์ครับ ผมขอพา 'เพื่อน' ไปด้วยคนนะ" เสียงจากไอ้คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมถามออกมาจนผมได้แต่ส่งสายตาไปอย่างมีคำถามก่อนจะหันไปมองแพมที่อยู่ดีๆ ก็ทำหน้าเกรงใจผมขึ้นมาเพราะเหมือนเพิ่งเข้าใจว่าไม่ได้รอไอ้ปืนอยู่คนเดียว

"อื้ม ไปดิ กินด้วยกันหลายๆ คนสนุกดี" ผมบอกไปตามมารยาทก่อนจะเดินตามคนที่ถือกุญแจรถผมไว้ในมืออย่างงงๆ

 ...ได้ข่าวกูเป็นคนบอกให้มึงชวน แล้วมึงจะมาขอกูเพื่ออะไรวะ?





"รถปืนเหรอ" แพมถามด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ผมช่วยชวนเธอคุยมาตลอดทางเพราะไอ้คนตรงหน้าเอาแต่ทำหน้าเฉยๆ เพียงอย่างเดียว

"เปล่าหรอก ของพี่กันย์" คำตอบของไอ้ปืนทำเอาแพมที่กำลังจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับถึงกับชะงักแล้วหยุดรอจนไอ้ปืนเดินมาถึงรถพอดี

"นี่ครับกุญแจ" ไอ้ปืนยื่นกุญแจมาให้ผมที่ยืนรอมันอยู่ก่อนผมจะมองหน้ามันอย่างงงๆ เข้าไปทุกที ...ปกตินี่แทบจะขโมยรถกูกลับบ้านอยู่แล้ว ทำไมวันนี้ให้กูขับเฉย

"งั้นปืนมานั่งนี่ดีกว่า" แพมบอกก่อนจะเดินไปเปิดประตูตรงเบาะหลังแทนก่อนไอ้ปืนจะหันไปยิ้มให้เบาๆ แล้วขึ้นมานั่งข้างๆ ผม

"เข็มขัดครับ" มันไม่พูดเปล่าแต่ดันเอี้ยวตัวเข้ามาจนหน้ามันแทบจะชิดกับหน้าผมก่อนจะดึงเข็มขัดนิรภัยข้างๆ ตัวมาคาดให้แล้วกลับไปนั่งที่เดิมแล้วคาดของมันบ้าง

...ปกติมีแต่คนขับคาดให้คนนั่งข้างไม่ใช่หรอวะ?

ผมมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจก่อนจะไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจาหัวแล้วเคลื่อนรถออกไป




"แพมสบายดีมั้ย?" เสียงของไอ้ปืนที่อยู่ดีๆ ก็ถามขึ้นในขณะที่พวกเรากำลังเปิดดูเมนูในร้านชาบูแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากมอมากนัก ทำให้แพมหันมามองหน้าไอ้ปืนอย่างงงๆ ก่อนจะยู่หน้าใส่

"นึกว่าจะไม่ถามแล้วนะเนี่ย" แพมประชดก่อนจะจะรวบผมขึ้นไปด้านหลังทันทีที่พนักงานยกหม้อชาบูมาวางไว้กลางโต๊ะ ...ผมก็คิดเหมือนแพมนั่นแหละครับ ทำไมมึงไม่รอถามตอนเจอเขาครั้งหน้าล่ะ โว๊ะ!

"ขอโทษที" ไอ้ปืนบอกแล้วหันมาจัดจานชามตรงหน้าให้ผมก่อนจะยื่นถาดใส่อุปกรณ์ที่เหลือให้แพม

"ก็เรื่อยๆ แหละ แล้วปืนล่ะ"

"เรื่อยๆ เหมือนกัน" ไอ้ปืนตอบยิ้มๆ ก่อนจะเอาอาหารที่พนักงานเพิ่งนำมาเสิร์ฟใส่ลงในหม้อ

"แล้วมีแฟนใหม่รึยังเนี่ย?" คำถามแบบไม่มีต้นสายปลายเหตุของแพมทำเอาไอ้ปืนอึ้งไปนิดหนึ่งก่อนจะส่งยิ้มให้อีกครั้งแล้วส่ายหน้า

"ยังไม่มีหรอก" คำตอบของไอ้ปืนทำเอาผมหุบยิ้มลงโดยไม่รู้ตัว แต่คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกับยิ้มออกมาแทน

"ถ้างั้น..."

"แต่มีคนที่อยากได้มาเป็นแฟนอยู่นะ"

"พรวด แค่กๆๆ" ไอ้ปืนรีบส่งแก้วชาเขียวมาให้ผมก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างขำๆ จนผมต้องหันไปทำตาขวางใส่มันอย่างหมั่นไส้

"งั้นเหรอ" แพมลอบถอนหายใจออกมานิดหนึ่งอย่างผิดหวังก่อนจะหันมายิ้มให้ไอ้ปืนอีกครั้ง

"แต่ก็ดีแล้วล่ะ เราอยากเห็นหน้าจัง อยากรู้ว่าใครมันจะทนความเยอะของปืนได้" แพมพูดขึ้นมายิ้มๆ ก่อนจะแซวคนตรงหน้าออกมาก

"คนที่เยอะกว่าเราไง"

"แค่กๆๆ" คราวนี้ไม่ใช่แค่ไอ้ปืน แต่รวมถึงแพมที่รีบยื่นแก้วน้ำมาวางหน้าผมอย่างตกใจ

"โอเคมั้ยคะพี่?" แพมถามขึ้นอย่างเป็นห่วงพร้อมส่งทิชชู่มาให้

"โอเคครับ ขอบคุณมาก" ผมบอกก่อนจะรับทิชชู่มาเช็ดริมฝีปากก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มพลางหายใจหอบ

"ไอ้นี่มันเยอะยังไหรอครับ" ผมเปิดคำถามใหม่ขึ้นมาเพื่อให้ทั้งสองคนละความสนใจจากผมสักที

"อย่าให้พูดเลยค่ะพี่ มีผู้ชายที่ไหนบ้างคะต้องนอนตอนสามทุ่ม ตื่นตอนตีห้า ต้องกินข้าวเช้า เที่ยง เย็นตรงเวลา ใครจะไปอยู่ด้วยไหวคะพี่" คำพูดของแพมทำให้ผมมองหน้าเธอนิ่งๆ ก่อนจะเหลือบไปมองคนที่หันมาสบตากับผมพอดีแล้วยกยิ้มมุมปากให้

"อาจจะมีคนไหวก็ได้นะ" ปืนตอบก่อนจะคีบหมูในหม้อส่งมาให้ผม

"แต่พี่ว่าคนอยู่ด้วยต้องลำบากมากแน่ๆ" ผมพูดพลางยิ้มแหยๆ ให้กับแพมที่รอฟังความเห็นจากผมอยู่ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนข้างๆ

"ใช่มั้ยล่ะคะ นี่ขนาดไม่ได้อยู่ด้วยกันนะคะ ตอนเช้าก็ยังโทรมาปลุก ตอนเย็นก็มารับอีก จะไปไหนกับเพื่อนก็ไม่ได้" แพมว่าพลางส่งสายตาต่อว่าไปยังคนที่ทำหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนอยู่อย่างนั้น

"แต่บางคนอาจจะตื่นยากไง ถ้าวันไหนต้องตื่นก่อนแปดโมง แถมถ้าไม่ไปรับก็อาจจะเผลอหลับในอยู่กลางสี่แยกก็ได้เนอะ ใช่มั้ยครับพี่กันย์" ไอ้ปืนหันมาถามผมอย่างหาแนวร่วมก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อกลั้นขำเพราะผมทำอะไรมันตอนนี้ไม่ได้นอกจากส่งสายตาคาดโทษไปให้มัน ก่อนที่ไอ้ปืนจะหันกลับไปสนใจหม้อตรงหน้าอีกครั้งแล้วคีบหมูมาใส่จานผมอีกครั้ง

"จะมีใครบ้าไปหลับอยู่กลางสี่แยกอ่ะปืน" คำถามของแพมทำเอาผมเกือบจะพ่นหมูออกมาถ้าไม่ติดว่าคนข้างๆ เอื้อมมือมาปิดปากผมได้ทันก่อนจะบอกให้ผมกลืนลงไปแล้วส่งน้ำตามมาให้

"เห็นมั้ย? พี่กันย์ยังตลกจนเกือบจะพ่นหมูออกมาแหน่ะ" ผมมองหน้าแพมก่อนจะก้มมองตะเกียบในมืออย่างเขินๆ ...ไม่รู้ว่าจะเขินที่กลายเป็นคนบ้าไปหลับกลางสี่แยกหรือเขินที่เกือบจะพ่นหมูก่อนดีเลยครับ

"อาจจะมีก็ได้นะ" ปืนตอบก่อนจะคีบหมูมาให้ผมเป็นชิ้นที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้จนตอนนี้ในถ้วยของผมมีแต่ผมเน้นๆ ไม่มีน้ำหรือผักอะไรเลย

"กูไม่ได้อยากกินแต่หมูนะ" ผมบอกมันก่อนจะคีบหมูเข้าปากอย่างเซ็งๆ

"แต่ผมอยากให้พี่กินนี่นา"

"ทำไมวะ?"

"ผมจะได้จีบพี่ติดแบบ 'หมูๆ' หน่อยไง"

“ไอ้.. แค่กๆ" คำพูดที่มันกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูทำให้ผมหันไปมองแพมอย่างตกใจ แต่เมื่อเห็นว่าเธอยังมัวแต่สนใจอาหารในจานผมเลยหันกลับมาหรี่ตามองไอ้คนข้างๆ ที่เริ่มขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

"เรียกพนักงานให้กูเลย!"

"พี่จะเอาอะไรครับ"

"น้ำดิไอ้สัด! กูสำลักจนกินน้ำไปไม่รู้กี่แก้วแล้วเนี่ย" คำพูดของผมทำให้ไอ้คนข้างๆ หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังจนแพมได้แต่หันมามองอย่างงงๆ

"เอามาทั้งเหยือกเลยมั้ยครับ?"

"เพื่อ?"

"เพราะกว่าจะหมดมื้อนี้ ผมว่าขอเพิ่มอีกกี่แก็วก็คงไม่พอ"





"งั้นเรากลับก่อนนะ ขอบคุณที่เลี้ยงนะคะพี่กันย์" แพมพูดขึ้นก่อนจะยกมือไหว้ผม ตอนแรกก็กะจะให้ไอ้ปืนเลี้ยงอยู่หรอกครับ แต่ในฐานะพี่ที่มีน้องๆ มากินด้วยจะไม่เลี้ยงก็ยังไงๆ อยู่

"กลับดีๆ นะ" ผมบอกก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินไปส่งที่ป้ายรถเมล์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านมากนัก

"ปืน ขอบคุณมากนะที่ชวนมา ถึงปืนจะลืมก็เถอะ" แพมพูดขึ้นอย่างประชดนิดๆ ก่อนจะยิ้มให้แบบไม่ถือสา

"ขอโทษด้วยนะ แล้วก็ขอบคุณมากที่แวะมา" ปืนยิ้มให้ก่อนจะยกมือไปลูบหัวคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูก่อนจะหันมามองผมอย่างตกใจ …จะทำอะไรก็ทำไปดิ มองหน้ากูเพื่อ? ผมคิดก่อนจะพยักเพยิดหน้าให้มันอย่างไม่ได้อะไรจนคนตรงหน้ายิ้มออกมาอย่างโล่งอก

"ไม่เป็นไรหรอก เราก็ดีใจที่เจอปืน" แพมหันมายิ้มให้อีกครั้งเมื่อเห็นว่าสายรถเมล์ที่รอกำลังจะเข้ามาจอดแล้ว

"ถึงแล้วทักมาด้วยนะ" ไอ้ปืนว่าก็จะโบกมือให้

"โอเค เออปืน…"

"ครับ"

"ถ้ามีคนที่อยากได้มาเป็นแฟนอยู่แล้วก็ทำอะไรให้มันชัดเจนนะ เผื่อเขาจะไม่รู้ตัว" แพมบอกอย่างยิ้มๆ ก่อนจะเหล่มามองผมอย่างมีเลศนัยจนไอ้ปืนหันมามองตามแล้วยิ้มกว้างให้อย่างอารมณ์ดี

"โอเคครับผม โชคดีนะแพม" ไอ้ปืนบอกก่อนจะยิ้มให้แพมอย่างจริงใจที่สุดอย่างคนที่ไม่มีอะไรค้างคาในใจแล้ว ก่อนแพมจะยิ้มตอบกลับมาเหมือนกันแล้วขึ้นรถไป

"ทุกวันนี้ผมยังชัดเจนไม่พออีกเหรอครับ หรือพี่ว่าไงครับพี่กันย์" มันหันมามองผมทันที่ที่รถเมล์เคลื่อนออกไปแล้วพลางขมวดคิ้วเหมือนคนที่สงสัยเสียเต็มประดา

"กูจะไปรู้มึงเหรอ" ผมบอกมันก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินนำไปยังลานจอดรถข้างหลังร้านแล้วปล่อยให้ไอ้ปืนยืนยิ้มของมันอยู่คนเดียวโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าผมเองก็ยิ้มกว้างไม่แพ้มันเหมือนกัน

…ก็คุ้มพอประมาณกับการที่ต้องอดทนทำงานเพื่อให้วันนี้ว่างล่ะนะครับ



[Bpuen's]

(เป็นไงบ้างวะมึง) เสียงไอ้ธันย์ที่พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นดังมาตามสายจนทำให้ผมหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

"รอดตายแบบฉิวเฉียดเลย ต้องขอบใจมึงว่ะที่ช่วยคิดแผนให้" ผมบอกมันอย่างซึ้งใจพลางนึกถึงตอนที่ไอ้ธันย์วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกผมว่าพี่กันย์อยู่กับแพม จนต้องช่วยกันคิดแผนเร่งด่วนเพื่อไม่ให้พี่กันย์งอนผมอีกแถมยังต้องรักษาน้ำใจแพมที่อุตส่าห์มาหาด้วย ...ถึงตอนสุดท้ายจะรักษาน้ำใจไว้ได้ไม่มากเท่าไหร่ก็เถอะ ปืนขอโทษน้าา

(กูบอกมึงแล้ว คนอย่างพี่กันย์เขาพร้อมจะโดดเข้ามาช่วยมึงทุกเมื่อแหละถ้ามึงต้องการ) คำพูดของไอ้ธันย์ทำเอาผมได้แต่ยิ้มขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนจะนึกถึงเหตุผลของมันที่ให้ผมทำตัวอึนๆ ให้แพมด่าเข้าไว้ ดีกว่าออกนอกหน้าไปต้อนรับขับสู้ในฐานะเจ้าบ้านมากเกินไป ...เดี๋ยวใครบางคนจะรู้สึกเป็นส่วนเกินจนหนีไปอีก คราวนี้ต่อให้เป็นช็อคโกแลตสักหนึ่งคันรถหรือเกมใหม่ล่าสุดก็ดูท่าจะรั้งเจ้าตัวเอาไว้ไม่อยู่แน่ครับ

"เออ ขอบใจเว้ย"

(ว่าแต่พี่กันย์ของมึงนี่ก็โคตรดีเลยเนอะ ทั้งมาช่วยงาน พาไปเที่ยว แถมช่วยเคลียร์เรื่องมึงกับแพมอีก)

"ใช่ไหมล่ะ บอกแล้วกูตาถึง"

(เออกูเชื่อ คนอะไรแมร่งโคตรเท่ งั้นกูจีบด้วยอีกคนได้ป่ะวะ)

"หยุดแม้แต่จะคิดเลยมึง"

(ทำไมล่ะว้าาา) ไอ้ธันย์ลากเสียงงอแงออกมาอย่างน่าหมั่นไส้จนผมต้องตะโกนด่ามันไปทางโทรศัพท์แล้วเดินตามพี่กันย์ไปยังที่จอดรถทันที


"คนนี้กูหวง กูควงได้แค่คนเดียวโว้ยยย!"






หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-11-2016 05:33:37
โถพี่กันย์ เด็กมันร้ายนะเนี่ย
น่ารักมากๆค่ะ ดีนะพี่กันย์ไม่สำลักหมูจนติดคอ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 24-11-2016 06:32:07
กรี๊ด แทบลงไปดิ้นตาย น่ารักกันอะไรเบอร์นี้ :ling1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 24-11-2016 07:00:27
เด็กนี่มันร้าย!!!
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-11-2016 07:48:56
พี่กัลย์ น่ารัก ไม่หยุดหงิด งอน วุ่นวาย
แถมยังยอมให้แพมไปกินอาหารด้วย
อยู่ด้วยกัน ไม่ทิ้งกัน แม้จะสำลักไปหลายครั้ง
ปืน แสดงจุดยืนชัดเจน ไม่เกรงใจแพม
ว่าไม่มีอะไรหวนกลับไปหาแพมอีก
ธันย์ เพื่อเลิฟ ช่วยแก้ปัญหาให้ปืน ดีมากกกก
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 24-11-2016 08:24:57
ปืนร้ายกาจมาก


 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 24-11-2016 09:55:26
น่ารัก มุ้งมิ้ง ชอบความชัดเจนของปืน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 24-11-2016 17:45:51
ชัดเจนดีมากค่าาปืนนน
เดินหน้าจีบพี่กันต่อ อีกไม่นานต้องติดแน่ๆ  :o8:
แอบสงสารแพมเบาๆ แต่ก็นะ คนละสไตล์
กลับมาคบเด๋วก็เลิก เปนเพื่อนที่ดีกันแบบนี้ดีและ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 17-...ก็ถ้าพี่หวง ก็มาควงผมแทนสิครับ(2)[24.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 24-11-2016 22:25:04
แหนะนายปืน ร้ายนะเรา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 26-11-2016 01:20:15
18-…ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง

"มึงทะเลาะกับพี่กันย์เหรอวะ" พวกไอ้พีทที่เดินเข้ามาสมทบตรงที่นั่งประจำใต้ตึกคณะถามขึ้นอย่างสงสัย

"เปล่า"

"หรือเขาจะงอนมึงเรื่องแพมอีก?" ไอ้ธันย์สันนิษฐาน

"เรื่องนั้นกูว่ากูชัดเจนมากพอแล้วนะ" ผมบอกมันอย่างมั่นใจพลางนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อวัน Open House ที่คนที่ได้ชื่อว่าเป็น 'แฟนเก่า' ของผมมาหาก่อนจะลองกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาคนปลายสายที่มีแต่เสียงบอกให้ฝากข้อความไว้ทุกที

...พี่กันย์หายไปไหนของพี่ครับเนี่ย?





...กว่าจะรู้ตัว สองเท้าของผมก็พาผมมายืนอยู่กลางโรงอาหารคณะสถาปัตย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"อ้าวไอ้ปืน" พี่เจที่เดินผ่านมาพอดีพร้อมกับกลุ่มเพื่อนพี่เขาทักขึ้น ผมเลยหันไปทักทายพร้อมยกมือไหว้พี่ๆ ทุกคนเผื่อแผ่ไปจนถึงเพื่อนของพี่เจด้วย

"มาหาพี่กันย์เหรอวะ?" พี่ขิงถามขึ้นก่อนจะส่งยิ้มอย่างมีเลศนัยมาให้ผม ...ถ้าเป็นปกติผมคงใจกล้าหน้าด้านยิ้มรับคำล้อเลียนของพี่ขิงไปแล้วครับ แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์อ่ะ ...อยากเจอหน้าเด็ก'ถาปัตย์ไวๆ

"ครับพี่ พี่กันย์มีเรียนมั้ยครับวันนี้?" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ ที่รู้ๆ คือพี่กันย์มีตรวจแบบวิชาดีไซน์วันจันทร์กับวันพฤหัสแน่ๆ แต่วันที่เหลืออย่างเช่นวันนี้ผมตารางชีวิตอะไรของพี่กันย์เก็บไว้ในหัวเลยแม้แต่นิดเดียว

"วันนี้โหมดจริงจังเว้ยเฮ้ย! ไม่รู้ว่ะ เดี๋ยวกูถามให้" พี่ขิงบอกก่อนจะวางกระเป๋าลงบนโต๊ะรวมกับของเพื่อนคนอื่นๆ แล้วล้วงโทรศัพท์ออกมากดโทรหาใครบางคนเมื่อพี่เจหันมาส่งสัญญาณให้ว่าโทรหาพี่รหัสตัวเองไม่ติดก่อนจะพูดอยู่สองสามคำแล้วหันมาพยักหน้าให้ผมเดินตามไป

สถานที่ที่พี่ขิงพามาก็คือสตูฯ ของปีสี่บนชั้นสองที่ก่อนหน้านี้ผมแวะเอาข้าวเอาน้ำมาบ่อยๆ จะหายไปก็ช่วงหลังๆ นี้แหละครับเพราะผมมัวแต่ยุ่งอยู่กับแปลงฟื้นฟูดินจนแทบไม่มีเวลามาทำคะแนนอีกเลย ผมสังเกตไปรอบๆ สตูฯ ที่มีของกระจายเต็มพื้นที่เหมือนผ่านศึกมาอย่างหนักก่อนพี่ขิงจะพาผมเดินฝ่ากองกระดาษและพี่ๆ ที่นั่งอยู่ประปรายเข้าไปหาใครบางคน

"พี่โฟม!" พี่ขิงตะโกนเรียกคนที่กำลังนั่งหลบอยู่ตรงมุมห้องอย่างมีสมาธิจดจ่อกับงานตรงห้นาก่อนเจ้าตัวจะหันมาด้วยหน้าตาที่เต็มไปด้วยความอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ตรงหน้ามีโน๊ตบุ๊คคู่ใจตัวเดิมกับกองกระดาษที่มีร่องรอยทั้งขีดเขียน ตัด ฉีก แปะที่เรียกได้ว่าคงผ่านอะไรมาเยอะพอสมควรวางอยู่
 
"ว่าไงมึง" พี่โฟมทักกลับด้วยเสียงแหบๆ ก่อนจะคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มแล้วหันมามองทางพวกผมอีกครั้ง

"โห ส่งวันไหนเนี่ยพี่" พี่ขิงถามขึ้นตาโตก่อนจะค่อยๆ หาที่นั่งด้วยการดันกองกระดาษไปให้พ้นทางแล้วนั่งลงก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมเดินไปนั่งข้างๆ

"วันศุกร์หน้า" คนที่มีงานต้องส่งบอกก่อนจะทำหน้าเหมือนอยากตายเสียเต็มประดา

"แล้วซับจูฯ ที่ผ่านมาเป็นไงบ้างพี่" พี่ขิงหันไปถามอย่างตื่นเต้นก่อนพี่โฟมจะส่ายหน้าแล้วทำท่าปาดคอตัวเอง จากนั้นจึงเล่ารายละเอียดต่างๆ ให้พี่ขิงฟังอย่างอัดอั้น

ผมจับใจความได้ประมาณว่าซับจูฯ ที่พี่ขิงหมายถึงก็คือการนำเสนองานรอบ Mid Term ซึ่งงานของกลุ่มพี่ๆ เขา(อันเดียวกับที่ผมมาช่วยวันก่อนนั่นแหละครับ) มีการนำเสนอแนวคิดที่แปลกและแหวกแนวมากเกินไป ซึ่งอาจารย์ที่ตรวจก็ไม่ได้ว่าอะไรแถมยังแนะนำให้มาทำต่อแต่โดนย้ำมาว่า ...พวกคุณจะทำยังไงก็ได้ แต่ต้องทำให้อาจารย์เชื่อและซื้อความคิดของคุณโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ในตอนจูรี่(ไฟนอล) ซึ่งมันมีความเสี่ยงคือถ้าไม่ A+ ไปเลยก็อาจ D- ไปเลยเช่นกัน แถมงานรอบนี้ยังเป็นพาร์ทงานเดียวตัวใครตัวมันอีกด้วยครับ

"โคตรโหดอ่ะพี่" พี่ขิงพูดอย่างอึ้งๆ ก่อนจะอธิบายให้ผมฟังว่า ...ในฐานะนักออกแบบคนหนึ่งการทำในสิ่งที่คนอื่นยังไม่ทำมันเป็นอะไรที่สุดยอดแล้วก็โคตรภูมิใจอย่างหนึ่ง แต่ไอ้สิ่งที่ยังไม่มีคนทำเนี่ยมันตีความได้เป็นสองอย่าง ..หนึ่งคือมันสุดยอดจนคนอื่นคิดไม่ถึง และสองคืองคนอื่นคิดแล้วว่ามันเหี้ย! เลยไม่มีใครทำ

"เออดิ เครียดกันฉิบหายเลยทีนี้" พี่โฟมบ่นออกมาก่อนจะคลี่ๆ กระดาษออกมาลองอธิบายให้พี่ขิงฟัง

"ก็ว่า... พวกพี่เล่นหายเงียบกันไปหมดเลย" ผมบอกก่อนพี่โฟมจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม

"ตอนนี้โทรศัพท์กูอยู่ไหนกูยังไม่รู้เลยเนี่ย" พี่โฟมพูดขึ้นก่อนจะส่ายหน้าอย่างปลงๆ ก่อนพี่ขิงจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์จากรกระเป๋าเสื้อของคนตรงหน้าก่อนจะยื่นกลับไปให้

"อาการหนักแล้วพี่ ผมเพิ่งโทรหาพี่เมื่อกี้นี้เอง" คำพูดของพี่ขิงทำเอาพี่โฟมได้แต่มองหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะพยักหน้าแบบเพิ่งนึกขึ้นได้

"แล้วนี่พี่กันย์ทำงานที่ไหนอ่ะครับ" ผมถามหลังจากที่ลองส่งสายไปตาไปรอบๆ สตูฯ แล้วแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่ผมกำลังตามหาอยู่เลย

"ไม่รู้ว่ะ ลองโทรหามันดิ" พี่โฟมบอกก่อนยื่นโทรศัพท์ของพี่เขามาให้ผม

"โทรไม่ติดอ่ะครับ" ผมบอกพี่โฟมก่อนจะยกโทรศัพท์ของผมขึ้นมาให้ดูว่า ...ปัญหาไม่ใช่ผมไม่มีเบอร์ แต่เพราะผมโทรหาคนปลายสายไม่ติดต่างหาก

"ไอ้กันย์แมร่งก็ชอบเป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวพอวันส่งงานมันก็โผล่ออกมาเอง" พี่โฟมบอกอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหันไปนั่งเขียนไดอะแกรมใหม่เแล้วลองอธิบายให้พี่ขิงฟังอีกครั้ง

"ทำหน้าเหมือนจะตาย ไม่ได้เจอพี่เขาแค่กี่วันเอง" พี่ขิงถามขึ้นอย่างขำๆ ที่ผมแสดงสีหน้าออกมาอย่างไม่เก็บอาการ ก่อนผมจะนิ้วสามนิ้วขึ้นมา

"สามวัน?"

"สามอาทิตย์ครับ" คำตอบของผมทำเอาพี่ขิงตาโตก่อนจะหัวเราะออกมาแต่ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ

"ช่วงเร่งทำคะแนนก็แบบนี้แหละ จะเป็นจะตาย" พี่โฟมหันมาหรี่ตามองผมก่อนจะส่ายหน้าอย่างเอือมๆ แล้วหันกลับไปสนใจงานตัวเองต่อ

"แน่นอสิครับ ว่าแต่ผมจะไปหาพี่กันย์ได้ที่ไหนเนี่ย" ผมบ่นออกมาอย่างหมดหนทาง ก็ถ้าเจ้าตัวเล่นปิดเครื่องแบบนี้หมายความว่าไลน์ก็อดไปด้วย เฟสบุ๊คก็ไม่เคลื่อนไหวมาพอๆ กับที่ผมไม่เจอพี่เขานั่นแหละเพราะฉะนั้นตัดทิ้งไปได้เลย

"ไปหอมันดิ" พี่โฟมพูดพูดลอยๆ ขึ้นมาจนผมต้องหันไปมองแล้วรีบยกมือขึ้นไหว้พี่เขาอย่างขอบคุณ

..ผมลืมไปได้ยังไงเนี่ย ต้องโทษพี่กันย์เลยนะที่มาค้างห้องผมบ่อยจนลืมไปแล้วว่าพี่เขาก็อยู่หอน่ะ





"เอ่อ.." ผมได้แต่ยืนอ้ำอึ้งอยู่หน้าประตูป้อมยามทั้งที่ผมมาถึงตั้งแต่เมื่อสิบนาทีก่อน

เรื่องที่อยู่หออ่ะผมรู้แน่ๆ อยู่แล้ว แถมยังรู้ชั้น รวมถึงเบอร์ห้องด้วย แต่ประเด็นก็คือ ...ผมไม่มีคีย์การ์ด! ผมเลยต้องมาอาศัยขอความกรุณาจากพี่ยามหน้าหอเพื่อที่จะเข้าไปข้างใน ส่วนพี่ยามก็ได้แต่มองหน้าผมแปลกๆ อย่างไม่ไว้ใจก่อนจะหันไปดูโทรทัศน์ตรงหน้าที่เปิดไว้เสียงดังต่อโดยไม่สนใจผมเลยสักนิด ...ผมจะไปหาพี่กันย์ ให้ผมเข้าไปเถอะครับพี่!

"ขอเข้าไปหน่อยได้มั้ยครับ?" ผมบอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าสุภาพและดูอ้อนวอนที่สุดแล้ว

"แล้วน้องจะเข้าไปทำไมครับ?"

"ผมมาหา.. เอ่อ รุ่นพี่ที่อยู่หอนี้น่ะครับ"

"ก็ใช้คีย์การ์ดสิครับน้อง" พี่ยามบอกผมหน้าตาย

"ผมไม่มีไงครับเลยต้องมาขอให้พี่เปิดให้อ่ะ"

"เอ้าน้อง! ไม่มีก็โทรหาเจ้าของห้องสิครับ ให้พี่เปิดเข้าไปให้สุ่มสี่สุ่มห้า เกิดน้องเป็นโจรขึ้นมาพี่ไม่ซวยถูกไล่ออกเหรอ แล้วถ้าพี่ถูกไล่ออก ลูกเมียพี่ก็ต้องลำบาก..."

"โอเคครับพี่ ผมขอโทษครับ ผมผิดเอง" ผมบอกพี่ยามอย่างยอมจำนนแล้วถอยออกมาตั้งหลังรออยู่ตรงลานจอดรถหน้าหอพักก่อนจะมองขึ้นไปตรงระเบียงของห้องชั้นสี่ที่มีแต่ระเบียงว่างเปล่าต่างจากหอของผมลิบลับ

"พี่กันย์คร้าบบ! ลงมาเปิดประตูให้ผมหน่อย!" เสียงตะโกนของผมทำให้พี่ยามวิ่งออกมาดูอย่างตกใจก่อนจะทำหน้าดุใส่ผมแล้วเริ่งบรรเลงเพลงด่าอีกครั้ง

"น้องมาตะโกนอย่างนี้ไม่ได้นะครับ มันรบกวนคนอื่นเขา"

"ขอโทษจริงๆ ครับ แต่ผมไม่รู้จำยังไงนี่นา" ผมบอกก่อนจะทำหน้าเหมือนรู้สึกผิดเสียเต็มประดา

"พี่รู้ แต่น้องต้องใช้วิธีอื่นสิ ตะโกนอย่างนี้ไม่ได้นะ"

"ก็ให้ผมเข้าไปสิครับ เดี๋ยวผมจะลากเจ้าตัวออกมายืนยันเลย ผมไม่หลอกพี่หรอกน่า"

"ไม่ได้ก็คือไม่ได้สิ" ผมยามพูดขึ้นมาอย่างเริ่มหมดความอดทน

ตุบ!

ของบางอย่างที่ตกลงมาจากข้างบนทำให้ผมกับพี่ยามที่ยืนทะเลาะกันอยู่เงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะเจอเข้ากับคนที่ผมมาหายืนทำหน้ายุ่งๆ อยู่ตรงระเบียงก่อนผมจะก้มลงไปหยิบของที่เจ้าตัวคงตั้งใจทิ้งลงมาขึ้นมาดู ...คีย์การ์ดกับกุญแจห้อง

"หุบปากแล้วขึ้นมาซะ" พี่กันย์บอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแล้วกระแทกประตูระเบียงแรงๆ จนขนาดพี่ยามยังสะดุ้งอย่างตกใจ

"น้องกันย์เขาเป็นอะไรน่ะครับ?" พี่ยามหันมาทำหน้างงงๆ ใส่ก่อนจะมองผมที่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ

"สงสัยจะเครียดงานน่ะครับ งั้นเดี๋ยวผมไปก่อนนะครับพี่" ผมบอกพี่ยามก่อนจะใช้คีย์การ์ดแตะตรงแป้นรหัสแล้วผลักประตูเข้าไป

"เชิญครับ ฝากดูน้องกันย์เขาด้วยนะน้อง" พี่ยามเอ่ยตามหลังผมมาอย่างเป็นห่วงในสวัสดิภาพของคนร่วมหอพัก

"ไม่ต้องฝากผมก็ดูแลอยู่แล้วครับพี่"





ก๊อก ก๊อก...

ผมเคาะประตูเบาๆ สองครั้งเพื่อให้เจ้าของห้องรู้ตัวว่ามีคนมาก่อนจะใช้กุญแจไขเข้าไปให้เงียบที่สุดตามเงื่อนไขของกฎเฉพาะกิจที่ผมคิดขึ้นมาหลังจากที่รู้จักกับพี่กันย์มาเกือบครึ่งปี โดยกฎนี้จะถูกเอามาใช้เฉพาะเวลาเจ้าตัวเคร่งเครียดอยู่กับงานเท่านั้น ชื่อสั้นๆ คือ 'กฎพี่กันย์' แต่ชื่อยาวๆ คือ 'กฎน้องปืนของพี่กันย์' ...ผมจะเป็นเด็กดีให้วันหนึ่งละกันครับ

'ข้อหนึ่ง พี่กันย์ไม่ชอบเสียงดังเวลาใช้ความคิด' ผมนึกขึ้นมาอย่างจำขึ้นใจก่อนจะค่อยๆ ปิดประตูลงให้เบาที่สุดแล้วเดินเข้าไปในห้อง จากห้องที่ผมเคยเห็นโล่งๆ กว้างๆ เป็นสัดเป็นส่วน ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยกองกระดาษ เศษโฟม หลอดกาวและอุปกรณ์มากมายที่กระจายอยู่เต็มห้อง ...ยิ่งกว่าสตูฯ ที่พี่โฟมกำลังนั่งทำงานอยู่เสียอีก

'กฎข้อที่สอง คือพูดกับพี่กันย์ด้วยน้ำเสียงโทนปกติ ไม่ให้เบาจนเจ้าตัวต้องถามซ้ำและไม่ดังจนน่ารำคาญ' แล้วรีบๆ พูดธุระออกมา

"พี่กันย์ครับ ผมมาหา"

"อือ" พี่กันย์รับคำก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะแหวกๆ กระดาษออกเพื่อให้เกิดที่ว่างแล้วปา Bean bag ที่กองระเนระนาดอยู่ข้างตัวมาวางไว้พอดี

'กฎข้อที่สาม ปล่อยให้พี่กันย์ชำระความคิดที่ติดค้างของตัวเองไปก่อน อย่าเพิ่งขัด ถ้าเรียบร้อยแล้วเจ้าตัวจะพูดขึ้นมาเอง' ผมนั่งรอไปเรื่อยๆ อย่างไม่ทุข์ไม่ร้อนจนคนตรงหน้าหยุดเขียนแล้ววางปากกาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม

"มีอะไร?"

"พี่หายไปสองอาทิตย์"

"แล้วไง?"

"ผมเป็นห่วง" เหตุผลจริงๆ ที่มาหาตอนแรกคือแค่อยากเจอหน้าคนตรงหน้าเฉยๆ แต่พอเห็นสภาพอิดโรยที่ไม่ได้ต่างจากพี่โฟมท่าไหร่นักบวกกับความเครียดที่ส่งออกมาจากคนตรงหน้าอย่างเห็นได้ชัดคำว่า 'เป็นห่วง' เลยโผล่ขึ้นมาในหัวผมแทน

"ขอบใจ" พี่กันย์ตอบพลางมองหน้าผมนิ่งๆ เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะลุกเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วย้อนกลับออกมาที่ระเบียงจนผมต้องเดินตามออกไปด้วยความเป็นห่วง

"พี่กันย์ สูบบุหรี่ด้วยเหรอครับ?" ความรู้ใหม่ทำเอาผมอึ้งไปไม่น้อยเมื่อเดินออกไปที่ระเบียงแล้วเห็นควันลอยขึ้นมาพร้อมแท่งดำๆ ที่เจ้าตัวคีบเอาไว้ในมืออย่างไม่ขัดเหมือนคนที่สูบจนเคยชิน

"อือ" พี่กันย์ตอบเบาๆ ก่อนจะเดินอ้อมมายืนอีกด้านเพื่อให้ผมยืนเหนือลมแล้วให้ควันบุหรี่ลอยออกไปอีกด้านแทน

"มันไม่ดีไม่ใช่หรอครับ" ผมบอกอย่างเป็นห่วงแต่ก็ไม่กล้าถึงขนาดที่จะสั่งคนตรงหน้าให้เลิก เพราะยังไงก็เป็นเรื่องส่วนตัวของพี่กันย์ แถมพี่กันย์ยังเป็นรุ่นพี่ผมอีกต่างหาก

"กูรู้น่า ก็ไม่ได้ติดอะไรขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก" ฝ่ามืออีกข้างที่ว่างยื่นมาลูบหัวผมเบาๆ ก่อนผมจะเงยหน้าไปพบกับรอยยิ้มบางๆ ที่ยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนจนผมอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปวางไว้บนแก้มของคนตรงหน้าก่อนจะใช้นิ้วโป้งไล้แก้มของพี่กันย์เบาๆ เมื่อเจ้าตัวไม่ได้ว่าอะไร

"ไม่ให้ห่วงได้ไงล่ะครับ" ผมมองหน้าพี่กันย์อย่างเป็นห่วง เจ้าตัวยิ้มให้ผมมากกว่าเดิมก่อนจะดันหัวผมไปทางประตู

"เข้าไปก่อนไป มึงอ่ะอันตรายกว่ากูอีก" พี่กันย์บอกก่อนจะละมืออกจากหัวผมแล้วปัดๆ ควันที่ลอยมาเพราะลมเปลี่ยนทิศให้กระจายออกไป

"ผม 'รอ' อยู่นะ" ผมจงใจเน้นคำจนคนที่กำลังจะอัดควันเข้าปอดหันมามองก่อนจะขยี้แท่งสีดำในมือกับที่เขี่ยบุหรี่อย่างเซ็งๆ

"เออ"





[Gun's]

มือที่จิ้มลงมาระหว่างคิ้วทำให้ผมมองคนที่เดินหายเข้าไปในครัวพักหนึ่งก่อนจะออกมาพร้อมกับจานผลไม้ที่วางลงบนโต๊ะญี่ปุ่นแล้วเจ้าตัวจึงนั่งลงข้างๆ พลางมองหน้าผมที่เผลอแสดงความเครียดออกมาอีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่

"เครียดมากสินะครับ" คำพูดที่แสดงความห่วงใยออกมาอย่างชัดเจนของมันทำเอาผมหันไปมองหน้าก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ ให้แล้วเอนตัวฟุบลงไปกับโต๊ะญี่ปุ่นอย่างท้อแท้

"เมื่อไหร่จะเสร็จวะเนี่ย" ผมครางออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายที่งานตรงหน้ายังไปไม่ถึงไหนก่อนจะมองนาฬิกาที่เวลาล่วงมาเกือบสี่ทุ่มแล้ว

"ไปหาอะไรกินกันหน่อยมั้ยครับ?" คำถามของไอ้คนข้างๆ ทำให้ผมหันไปมองงานอย่างชั่งใจ ...ถึงอยู่ไปตอนนี้ก็ไม่มีสมาธิอยู่ดี ออกไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อยก็ดีวะ

"ไปก็ได้" ผมบอกก่อนจะมองมือที่ยื่นมาตรงหน้าก่อนจะคว้าไว้แล้วพยุงตัวขึ้นตามแรงดึงแล้วดินนำมันไปที่ประตู

"จะไปไหนครับ?"

"ไปกินข้าวไง" ผมบอกมันอย่างงงๆ พลางมองมันที่เดินตรงไปยังมุมครัวเล็กๆ ของผมที่มีไว้ชงกาแฟเพียงอย่างเดียวก่อนจะเห็นถ้วยข้าวต้มเปล่าร้อนๆ อยู่สองถ้วยกับกับข้าวสามสี่อย่างที่ทำง่ายๆ อย่างพวกยำไข่เค็มหรือหมูหยองที่เพิ่งแกะออกจากห่อวางอยู่ มันจัดการเลื่อนโต๊ะญี่ปุ่นมาตรงข้างๆ ประตูกระจกที่ต่อกับระเบียงก่อนจะยกอาหารมาวางไว้ตรงหน้าผมที่ทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้าม

"เชิญเลยครับ" มันบอกพลางทำหน้าภูมิใจเสียเต็มประดา

"ทำตอนไหนเนี่ย?" ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะเริ่มกินอาหารตรงหน้า ...เพิ่งจะรู้ว่าหิวมากๆ ก็ตอนที่เริ่มกินนี่แหละครับ

"ตอนที่พี่จมอยู่กับงานนั่นแหละครับ"

"โทษทีว่ะ อุตส่าห์แวะมาแท้ๆ" ผมบอกมันอย่างรู้สึกผิดพราะไม่ได้สนใจแขกอย่างเจ้าของห้องที่ดีนัก

"แค่เห็นหน้าพี่ผมก็คุ้มแล้ว" คำพูดของมันทำอาผมเริ่มทำหน้าไม่ถูก แต่สุดท้ายก็เผลอยิ้มออกมาจนได้ ...กูเครียดอยู่นะเว้ยเฮ้ย!

"แล้วจะกลับเมื่อไหร่เนี่ย"

"อาจจะเป็นพรุ่งนี้ มะรืนนี้ หรืออาทิตย์หน้า แล้วแต่เจ้าของห้องจะกรุณา" มันพูดก่อนจะทิ้งตัวลงฝั่งตรงข้ามแล้วเริ่มลงมือกินข้าวต้มตรงหน้ามัน

"ห๊ะ? เอาจริงดิ" ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะชี้ไปยังสัมภาระที่มันพกมาด้วยซึ่งนอกจากกระเป๋าเสื้อผ้า(ซึ่งเป็นใบเดียวกับที่เอาไปทะเล)แล้ว ยังมีอุปกรณ์หน้าตาคุ้นๆ ที่อยู่ในถุงร้านขายเครื่องเขียนเจ้าประจำที่ผมชอบซื้อจากในมหา'ลัยอีกด้วย

"นั่นอะไรวะ?"

"อุปกรณ์ช่วยเหลือครับ" มันบอกก่อนจะลุกไปหยิบมาส่งให้ผมดูอย่างภูมิใจ ในนั้นมีทั้งคัตเตอร์ ฟุตเหล็ก แผ่นรองตัดพร้อมกาวอีกหนึ่งแผง

"มึงรู้ได้ไงเนี่ย?" ผมถามมันอย่างอดแปลกใจไม่ได้ ...ก็ขนาดใบมีดคัตเตอร์ยังเป็นองศาเดียวกับที่พวกผมชอบใช้เลยนี่นา


"ความลับของฝ่ายสนับสนุนเด็ก'ถาปัตย์ครับ"






หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-11-2016 05:28:23
งื้อ. งานดีจริงๆเลยน้องปืน
แบบนี้พี่กันย์ต้องยอมให้เป็นแฟนได้แล้วล่ะนะ  :katai3: 
รอก้อปคีย์การ์ดและกุณแจห้องค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 26-11-2016 07:01:25
ปืนนี่หวานจนน้ำตาลจืดจริงๆ


 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 26-11-2016 07:24:53
น้องมันดีขนาดนี้เราขอยุให้พี่พลีกาย 5555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 26-11-2016 11:51:01
แบบนี้ยังมีอีกมั้ย. หาแบบปืนให้สักคน. แสนดีอะไรอย่างนี้
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Liliz ที่ 26-11-2016 18:26:43
งุ้ยยยยยย ดีต่อในจริงๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 26-11-2016 18:27:58
รู้สึกเขิน อ่านเรื่องนี้ทีไรยิ้มตามทุกที ฟินกระจาย :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 26-11-2016 22:46:29
พี่กันย์คับ ผมขอปืนเถอะ :hao5:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//18-..ก็ถ้าพี่ไม่ว่าง เดี๋ยวผมไปอยู่ข้างๆ พี่เอง[26.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 26-11-2016 23:07:48
#ปืนกันย์ กู๊ดฟิลลิ่ง อ่านไปยิ้มไป เขินนนทุกตอน หยอดกันตลอด เชรดดดดด น่ารักอ่ะ เออ สนุกดี อ่านเพลินๆ พี่กันย์จะหาแฟนได้แบบปืนไม่ง่ายนะ เพราะงั้นรีบรับรักเลยค่ะ ทุกคนเขาก็เชียร์  555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 27-11-2016 14:18:18
19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น

"เชี่ยโว้ยยยย" เสียงที่ร้องขึ้นมาอย่างหัวเสียทำเอาผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาก่อนจะหันไปมองนาฬิกาตรงหัวเตียง

...ตีสามกว่าแล้ว ผมมองไปยังแสงไฟที่ยังลอดออกมาจากห้องนั่งเล่นก่อนจะค่อยๆ ไถตัวลงจากเตียงแล้วเดินออกไปหาคนที่กำลังขยำกระดาษตรงหน้าก่อนจะปาลงถังขยะข้างๆ ตัวไป

"โทษที กูทำมึงตื่นใช่ป่ะ" พี่กันย์บอกอย่างรู้สึกผิดก่อนจะหันไปมองหน้าจอคอมฯ ตั้งโต๊ะสลับกับจอโน๊ตบุ๊คอีกครั้งอย่างเครียดๆ

"ใจเย็นดิครับ" ผมเดินไปหย่อนตัวลงข้างๆ ก่อนก่อนจะเอามือไปลูบหลังพี่กันย์เพื่อให้เจ้าตัวใจเย็นลง

"เครื่องปริ้นแมร่งเจ๊ง" พี่กันย์บอกอย่างเซ็งๆ พลางพยายามหายใจเข้าออกยาวๆ ตามจังหวะมือของผม ...เด็กคณะนี้จะอ่อนไหวเป็นพิเศษในช่วงส่งงานทุกคนจริงๆ ครับ ผมคิดอย่างสงสารพลางนึกถึงพี่ขิงที่เพิ่งโทรเข้าเครื่องพี่กันย์ทันทีที่ผมเอาโทรศัพท์ของคนข้างๆ ไปชาร์จให้ก่อนจะรายงานมาว่าพี่โฟมที่อยู่ทางนั้นก็แทบจะสละกายหยาบไปแล้วเหมือนกัน ความเดือดของทุกคนตอนนี้คือ ...วันนี้เป็นวันพฤหัสครับ พรุ่งนี้ส่งงาน!

ตอนแรกผมตั้งใจแค่ว่าจะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่กันย์สักวันสองวัน แต่กลายเป็นว่าตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วจนถึงวันนี้ผมก็ยังสิงอยู่ที่นี่ตลอด ทำได้แค่กลับห้องไปขนหนังสือกับอุปกรณ์การเรียนมาแล้วยึดรถเจ้าของห้องที่ไม่มีเวลาได้ใช้มาไว้กับตัวเพื่อทำหน้าที่สารถีคอยส่งข้าวส่งน้ำและอุปกรณ์ที่ต้องการเพิ่มเติมให้อยู่เกือบอาทิตย์ซะงั้น

"มันเป็นอะไรครับ?"

"ปริ้นสีเขียวไม่ออก" พี่กันย์บอกพลางยื่นกระดาษเอสี่ที่มีแปลนลงสีที่สีต้นไม้กลายเป็นสีอื่นไปแล้วมาให้อย่างเซ็งๆ

"เดี๋ยวผมดูให้นะ" ผมบอกก่อนจะลูบหัวคนตรงหน้าที่ฟุบลงไปกับโต๊ะญี่ปุ่นอีกครั้งอย่างหมดแรงก่อนจะพยักหน้าหงึกๆ แล้วเงยขึ้นมาสนใจจอคอมฯ ตรงหน้าต่อ 

'กฎข้อที่สี่คือ เวลาพี่กันย์หัวร้อนการสกินชิพจะทำให้เจ้าตัวใจเย็นลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ’ ...ซึ่งผมโคตรชอบกฎข้อนี้จริงๆ ครับ ให้ตาย!

ผมลากเครื่องปริ้นให้ออกมาจากกองงานของพี่กันย์ ก่อนจะใช้โทรศัพท์เสิร์จหาข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาเครื่องปริ้นก่อนจะนั่งซ่อมมันไปเรื่อยๆ ตามขั้นตอน กว่าจะรู้ตัวอีกทีแสงแดดก็ส่องลอดบานประตูกระจกตรงระเบียงเข้ามาแล้ว ผมหันไปมองพี่กันย์ที่นั่งสัปหงกไปทำงานไปอย่างเหนื่อยแทน ไฟนอลจูรี่รอบนี้ที่คนตรงหน้าปั่นมาตลอดสามอาทิตย์ ผมมาอยู่ด้วยไม่ถึงอาทิตย์ยังเห็นพี่กันย์งีบได้ไม่เกินสองสามชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างไม่รู้จะช่วยอย่างไรดีก่อนจะยกเครื่องปริ้นที่ดูเหมือนจะคืนสู่สภาวะปกติแล้วไปวางให้ตรงหน้า

"ลองปริ้นดูนะครับ" พี่กันย์หันมายิ้มให้บางๆ พลางพูดออกมาแบบไม่มีเสียงว่า 'ขอบใจ' ก่อนผมจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพราะมีเรียนตอนแปดโมง ถึงแม้ว่าผมอยากจะโดดเรียนขนาดไหน แต่เพราะเจ้าของห้องยื่นคำขาดว่า 'ไม่ให้โดด' ผมก็ต้องไปอยู่ดี





"ข้าวผัดหมูไข่ดาวสองกล่องครับ" ผมบอกแม่ค้าร้านประจำที่อยู่ใต้ตึกคณะผมก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาที่เลยเที่ยงมาหน่อยๆ ตั้งแต่เริ่มไปช่วยพี่กันย์นี่ผมกลายเป็นคนติดนาฬิกาไปโดยปริยาย ...ก็พี่กันย์เล่นนับถอยหลังกันเป็นชั่วโมงต่อชั่วโมงจนกว่าเวลาส่งงานจะมาถึง ไม่เพียงเท่านั้น ไทม์ไลน์ในเฟสผมตอนนี้ที่พอมีพี่ๆ เพื่อนๆ เป็นเด็ก'ถาปัตย์อยู่บ้างก็เริ่มอัพสเตตัสนับถอยหลังเพื่อเป็นการระบายความเครียดเหมือนทุกคนเป็นระเบิดเวลา จนผมจะเป็นบ้านับเวลาไปด้วยอีกคนแล้วครับเนี่ย

"เอาไปให้พี่กันย์หรอวะ" ไอ้พีทที่เดินเข้ามาถามขึ้นอย่างเริ่มชินกับกิจวัตรประจำวันของผมช่วงนี้ก่อนจะยื่นขนมถุงใหญ่มาให้

"อะไรวะ?"

"ฝากให้พี่กันย์หน่อย แล้วบอกด้วยว่าเดี๋ยวคืนนี้พวกกูไปช่วย" คำพูดของไอ้พีททำให้ผมหันไปมองมันอย่างอึ้งๆ ...ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเจ้าตัวมาได้ยินเองนี่จะซึ้งใจขนาดไหน

"ขอบใจมากพวกมึง"

"มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะเว้ย!" ไอ้ป้องที่วันนี้พูดได้ดูดีมีสาระขึ้นเป็นครั้งแรกทำเอาผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"เออ เดี๋ยวกูบอกพี่กันย์ให้"

"บอกพี่เขาด้วยว่าไม่ต้องเกรงใจ" ไอ้ธันย์พูดขึ้นก่อนไอ้คนที่ผมเพิ่งจะชมมันในใจจะเดินเข้ามากอดคอผมแล้วพูดต่อ

"เสร็จแล้วค่อยใช้คืนพวกกูทีเดียวละกัน กูไม่รีบ"

"สัด!"





ตอนเย็นผมกับพวกไอ้พีทแยกย้ายกันตอนห้าโมงหลังเลิกเรียนก่อนจะนัดกันที่หอผมอีกครั้งตอนหกโมงเพื่อไปช่วยพี่กันย์อย่างที่พวกมันได้บอกไว้ซึ่งพวกมันก็ทำตัวได้ตรงเวลาดีเยี่ยมมากจนผมแทบจะกราบขอบคุณแทนคนที่ฝากความซาบซึ้งใจมาให้อีกที

"ห้องไหนวะ?" ไอ้ธันย์ถามผมในขณะที่กำลังช่วยกันขนอาหารที่ซื้อมาตุนไว้ขนาดที่จะไม่อดตายไปจนถึงสิบโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ลงมาจากรถ

"ห้องบนหัวมึงอ่ะ ชั้นสี่"

"พี่เขาไม่ได้กำลังจะเผาห้องใช่มั้ย?" เสียงถามขึ้นจากไอ้ป้องทำเอาผมเงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความสงสัยก่อนจะเห็นควันที่ลอยออกมาตรงระเบียง

"ควันอะไรวะนั่น" ไอ้พีทถามขึ้นอีกเสียงจนผมได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง

"ซองที่เท่าไหร่แล้วนี่ย"





ผมเดินมาถึงหน้าห้องพี่กันย์ก่อนจะหันไปส่งสัญญาณให้พวกมันทำตัวให้เงียบที่สุดแล้วไขกุญแจเข้าไป ในห้องนั่งเล่นนั้นยังมีสภาพเป็นสมรภูมิรบเหมือนเดิมไม่ต่างจากเมื่อตอนเที่ยงที่ผมแวะมา ขาดก็แต่เจ้าของห้องที่ไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิม เลยบอกให้พวกไอ้พีทนั่งรอในห้องนั่งเล่นก่อนและไม่ลืมย้ำว่า 'อย่าเข้าใกล้งานของพี่กันย์เกิน 1 เมตร' อย่างระวังก่อนจะวางของตรงเคาน์เตอร์ครัวแล้วเลื่อนประตูกระจกเพื่อออกไปตรงระเบียง

พี่กันย์กำลังนั่งหลับตาเอาตัวพิงฝาผนังอย่างเคร่งเครียดพลางอัดบุหรี่เข้าไปแล้วปล่อยให้ควันลอยออกมาอย่างเหม่อลอย ผมเลยตัดสินใจนั่งลงข้างๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะพี่กันย์เบาๆ ทันทีที่มือผมถูกตัว พี่กันย์ก็ลืมตาขึ้นอย่างตกใจก่อนจะเห็นตาแดงๆ ของเจ้าตัวที่ไม่รู้เป็นเพราะไม่ได้นอนหรือเพราะร้องไห้มากันแน่

"พี่กันย์"

"กูไม่อยากทำแล้วว่ะ" พี่กันย์บอกเสียงสั่นก่อนจะมองหน้าผมเคร่งเครียดอย่างไม่เก็บอาการอีกต่อไป

"พรุ่งนี้ก็ส่งแล้วพี่" ผมบอกเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับไหล่ของคนตรงหน้าที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้จนผมต้องเอื้อมมือไปหยิบบุหรี่ในมือของพี่กันย์มาถือไว้แล้วรวบตัวคนตรงหน้ามากอดปลอบเบาๆ

"ไอ้ปืน" เสียงไอ้ธันย์ที่โผล่ออกมาพอดีทำให้ผมหันไปมองมันที่มองหน้าผมด้วยคำถามก่อนจะส่งบุหรี่ให้มันช่วยดับแล้วบอกให้มันเข้าไปนั่งรอข้างใน ผมปล่อยให้เจ้าตัวพิงอยู่กับอกผมอยู่ซักพักก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงหายใจที่สูดเข้าไปลึกๆ ก่อนจะปล่อยออกมา

"โอเค พรุ่งนี้สิบโมง กูจะเป็นอิสระ" พี่กันย์พูดปลอบใจตัวเองก่อนจะขยับออกไปนั่งที่เดิมแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม

"ใช่พี่ เสร็จแล้วเราจะได้ไปเที่ยว กินเหล้า เล่นเกมกันให้ชุ่มปอดไปเลย" ผมบอกก่อนจะยื่นมือออกไปลูบหัวคนตรงหน้าอย่างให้กำลังใจ

"เอามาล่อกูอยู่ได้ ไม่ใช่เด็กแล้วเปล่าวะ" คนตรงหน้าพูดออกมาขำๆ ก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหน้าลูบหน้าแล้วตบแก้มตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกกำลังใจ

"แล้วได้ผลรึเปล่าครับ?" ผมถามก่อนจะฉุดตัวคนตรงหน้าให้ลุกขึ้นแล้วเดินนำเข้าไปข้างใน

"แน่อยู่แล้วดิ กูยังไม่แก่สักหน่อย"





"เที่ยงคืนแล้วโว้ยยยย!" เสียงพี่กันย์ที่ทำหน้าที่ได้พอดีกับนกที่ออกมาจากนาฬิกาดังขึ้นจนทำให้พวกผมที่กำลังช่วยกันประกอบร่างเพลตเอสี่ของพี่กันย์ให้เป็นขนาดเอศูนย์เริ่มลนไปด้วย

"อย่าบิวต์ดิพี่ ผมโคตรตื่นเต้นเลยเนี่ย" ไอ้ป้องพูดขึ้นอย่างติดตลกก่อนจะพยายามควบคุมอาการลนๆ ให้นิ่งลงเพราะมือเริ่มสั่นจนติดกระดาษเบี้ยว

"ใจเย็นดิว้าา จะลนไปทำไม" พี่กันย์พูดออกมาชิลๆ สวนทางกับร่างกายที่เริ่มเดินกุมหัวไปมาเพราะลืมไปแล้วว่าจะต้องทำอะไรต่อ

"เพลตสิบแผ่นปริ้นครบแล้วยังครับ?" ผมที่มาซุกหัวอยู่กับเจ้าตัวอยู่นานจนเริ่มรู้เนื้องานถามขึ้นเพื่อให้เจ้าของงานตัวจริงตั้งสติได้

"เหลือเพลตสุดท้าย กูเรนเดอร์ตีฟอยู่" พี่กันย์หันมาบอกก่อนจะเริ่มเดินไปเดินมาอีกครั้ง

"สไลด์เตรียมแล้วยังครับ?"

"รอบนี้กูไม่ใช้!"

"งั้นโมฯ Surrounding ติดฐานรึยังครับ?" ผมถามถึงโมเดลขนาดใหญ่สุดที่ทำหน้าที่อธิบายบริบทรอบๆ พื้นที่โครงการของพี่กันย์ที่ตัวงานเสร็จตั้งแต่เมื่อตอนค่ำเหลือแค่ยังไม่ได้ติดฐาน

"เออ ยังเลย" พี่กันย์พูดพลางเริ่มมองหาคัตเตอร์ที่ไม่รู้เอาไปวางลืมไว้ตรงไหน

"ผมติดให้อยู่ครับ ผ่านไปเลย" ไอ้พีทตะโกนออกมาจากมุมหนึ่งตรงโซนครัวก่อนจะมุดตัวกลับไปนั่งทำงานต่อ

"โมฯ Concept ล่ะครับ?"

"เชี่ย กูยังไม่ทำ" พี่กันย์หันมาบอกผมอย่างอึ้งๆ จนผมต้องเดินไปหาคนตรงหน้าแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างไว้

"พี่บอกผมว่าโมฯ อันนี้ 'ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้' ตอนนี้เรามีเวลาอีก... 10 ชั่วโมง ไม่สิ ตัดเวลาขับรถไปคณะ ติดเพลต ตรวจความเรียบร้อย ผมให้ 6 ชั่วโมง คิดว่าทันมั้ยครับ?" พี่กันย์มองหน้าผมก่อนจะหลับตาแล้วเริ่มพึมพำอะไรบางอย่าง

"ตัดฐาน ตัดอาคาร ไซส์เอสามก็พอ ขึงเชือก ปักหมุด... ทัน!"

"ดีครับ งั้นแบ่งงานเลย" ผมบอกก่อนพี่กันย์จะเดินไปหน้าโน๊ตบุ๊คที่ไม่ได้ใช้เรนเดอร์งานอยู่ก่อนจะปริ้นไอดะแกรมต่างๆ ที่จะใช้ออกมา





"เชี่ยยย 8.45 แล้ว" พี่กันย์ตะโกนขึ้นอีกครั้งก่อนจะรีบม้วนเพลตทั้งหมดที่เสร็จแล้วก่อนจะยัดลงถุงพลาสติกแล้วหยิบโมฯ ขึ้นมาส่งให้ผมตัวหนึ่งก่อนตัวเองจะหยิบตัวที่เหลือขึ้นมาแล้วรีบออกมาจากห้อง

"กูไม่ล็อคนะ เฝ้าห้องให้กูด้วย" พี่กันย์ตะโกนบอกพวกไอ้ธันย์ที่นอนแผ่อยู่กับพื้นอย่างหมดแรงก่อนพวกมันจะยกมือขึ้นมาโบกว่ารับทราบแล้ว

"9 โมงแล้ววว!" คนข้างๆ ยังคงจดจ่ออยู่กับเวลาบนนาฬิกาข้อมือพลางมองถนนตรงหน้าที่ไม่ได้ไกลจากมหา'ลัยมากนัก แต่รถโคตรติดมหาประลัยจนผมต้องเอื้อมมือไปแตะบนข้อมือที่สวมนาฬิกาให้ใจเย็น

"อีกตั้งหนึ่งชั่วโมงพี่"

"โอเค อีกตั้งหนึ่งชั่วโมง"





"ไอ้กันย์มาแล้วเว้ย" เสียงพี่ทีตะโกนขึ้นมาทันทีที่ผมจอดรถเทียบหน้าคณะก่อนพวกเพื่อนๆ ที่เหลือของพี่กันย์ที่ส่วนใหญ่ขนงานมาทำที่คณะตั้งแต่เมื่อคืนจะรีบวิ่งมาก่อนรับเอาของลงไปแล้วพากันวิ่งไปยังห้องส่งงาน

'ตึ้ง ตึง' เสียงโปรแกรมไลน์ที่แจ้งเตือนข้อความของไอ้พีทเด้งขึ้นมาทันทีที่ผมวนเอารถมาจอดที่ลานจอดรถข้างตึกคณะสถาปัตย์พอดี

Pete : ถึงยังวะ?
Bpuen : ถึงแล้ว พี่กันย์เอาขึ้นไปส่งอยู่
Pete : เชี่ยย กูนี่ตื่นเต้นยิ่งกว่างานตัวเอง
Pete : คณะนี่แมร่งโหดฉิบหาย
Bpuen : จริงมึง แค่เห็นกูยังเครียดแทนเลย
Pete : เออ ขับรถกลับมาดีๆ ล่ะ มึงก็ไม่ได้นอนเหมือนกันนี่
Bpuen : เออ เดี๋ยวเจอกัน

ผมตอบมันไปก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเมื่อเห็นคนที่เพิ่งเอางานไปส่งเดินกลับลงมา

"เรียบร้อยมั้ยครับ?"

"เรียบร้อยดิ นี่ใคร นี่กันย์นะครับผม" พี่กันย์พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีที่สุดในรอบสามอาทิตย์ที่ผ่านมาจนผมอดยิ้มตามกับคนตรงหน้าไปด้วยไม่ได้

"ยินดีด้วยครับ พี่ได้รับอิสรภาพแล้ว" ผมพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขำๆ เมื่อคนตรงหน้ากำมือชูขึ้นฟ้าเหมือนได้รับชัยชนะในสงคราม

"เออมึง!" พี่กันย์พูดขึ้นมาในตอนที่ผมกำลังจะออกรถจนต้องชะงักมือไว้แล้วหันไปมองอย่างงงๆ

"ครับ?"

"มานี่ดิ" พี่กันย์พูดขึ้นพลางอ้าแขนทั้งสองข้างมาข้างหน้าจนผมได้แต่มองอย่างคาดไม่ถึง

"อะไรครับ?" ผมถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่พลางมองคนข้างหน้าที่เอาแต่เม้มปากอย่างสงสัย

"ขอกอดหน่อย" คำพูดที่พูดออกมาทำเอาผมอึ้งไปเล็กน้อย รู้ตัวอีกทีผมก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคนตรงหน้าจนผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วเอื้อมมือไปกอดตอบ

"ขอบคุณมาก รอบนี้กูแมร่งโคตรโชคดีที่มีมึง" พี่กันย์พูดขึ้นพลางเอากำปั้นตีที่หลังผมเบาๆ ก่อนจะดันตัวผมออกมาแล้วยิ้มให้
 
“แล้วพี่อยากโชคดีตลอดไปมั้ยครับ?” คำถามของผมทำเอาพี่กันย์ได้แต่หรี่ตามองมาอย่างไม่ไว้ใจ

“อยากก็ได้ แล้วกูต้องทำไงวะ?”

“มีผมตลอดไปสิ”

“ยังไง?” ผมมองคนตรงหน้าก่อนจะเอนตัวเข้าไปหาแล้วแกล้งก้มลงไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูของคนที่ที่มองอยู่

“เป็น-แฟน-กัน”

"ได้ทีละเอาใหญ่เลยนะมึง" พี่กันย์อึ้งไปพักหนึ่งแล้วทำเสียงดุขึ้นมาแล้วหันไปสนใจกับเข็มขัดนิรภัยข้างตัวแทน

"ไม่สนจริงๆ หรอครับ?” ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะดึงแผ่นบังแสงลงมาเพราะเห็นว่าคนข้างๆ กำลังจะหนีนอน

“ไม่ว่ะ” พี่กันย์ตอบพลางรับหมอนแมวที่ผมหยิบมาจากเบาะหลังส่งไปให้

“สวัสดิการดีนะ"

"สวัสดิการอะไร?" พี่กันย์ถามขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะปรับเบาะให้เอนลง

"อืมม.. ซ่อมเครื่องปริ้นได้ ขับรถให้ ปลอบใจเป็น" คำตอบของผมทำเอาพี่กันย์ถึงกับหลุดขำออกมาก่อนจะเหล่สายตามามองผม

"งั้นกูขอผ่าน"

"ทำไมล่ะครับ?" ผมพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ก่อนจะแกล้งหันไปค้อนคนข้างๆ อย่างงอนๆ จนพี่กันย์ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างขำๆ อีกรอบ

"ก็ขนาดทุกวันนี้ยังไม่ได้เป็นแฟน”

“…”


“กูยังได้มากกว่านั้นอีกอ่ะดิ!”



หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 27-11-2016 14:28:24
งืออ น่ารักเกินไปแล้ววว
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 27-11-2016 15:02:49
พี่กันย์พูดแบบนี้น้องก็ยิ่งติดหนับ
รับรองดูแลดี๊ดีไม่มีขาดตกบกพร่องแน่นอนค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-11-2016 15:11:03
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-11-2016 15:37:13
แอร๊ยยยยยส์  คืออะไรเนี่ยความละมุนนี้
ขนาดยังไม่เป็น_แฟน_กัน(ย์)คนอ่านยังฟินแทบตายเลยนะครัช
แต่รีบๆเถอะพี่  รีบๆคว้าน้องปืนเอาไว้แก่แล้วอย่าเล่นตัวนาน. ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: toeyy ที่ 27-11-2016 15:50:24
น่าร้ากกกกก 
พี่กันย์ไม่เอาเราเอานะ อยากได้คนช่วยตัดโม5555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 27-11-2016 15:52:47
แสรดดดดดดดด น่ารักกกหว่ะ หูยยยยหยอดวันละจิตแจ่มใส ดีใจด้วยงานเสร็จ ป่ะป่ะไปปลดปล่อย #กันย์ปืน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-11-2016 15:58:50
แหม ฝ่ายหนึ่งก็ขยันจีบฝ่ายหนึ่งก็(เหมือนจะ)ไว้ท่ากันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 27-11-2016 21:37:48
งือออออ น่าร๊ากกกกด เมื่อไหร่เค้าจะเป็นแฟนกันสักที
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 27-11-2016 21:55:53
พี่กันย์ไม่ใจอ่อนก่ะน้องจริงๆเหรอออออ
 :mew2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 27-11-2016 22:06:54
เป็นแฟนเถอะ แล้วพี่จะมีมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว   อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 28-11-2016 01:32:59
เพิ่งเข้ามาอ่าน
ชอบจัง น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-11-2016 07:36:50
ปืนน่ารัก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: semen ที่ 28-11-2016 14:23:43
แอร๊ยยยยยย  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 28-11-2016 21:29:26
กรี๊ด  เขินจนไม่รู้จะทำไง :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 19-…ก็ถ้าพี่อยากได้มากกว่านั้น [27.11.16]
เริ่มหัวข้อโดย: thejaoil ที่ 29-11-2016 09:57:51
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 01-12-2016 02:21:51
20-…ก็พี่อยากได้คำตอบ

"จริงๆ มึงเรียน'ถาปัตย์ป่ะเนี่ย" เสียงไอ้การันต์ทักขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วเอามือมาตบไหล่ผมอย่างชอบใจ

"กูก็คิดอยู่ว่ะ" ผมบอกมันในขณะที่สายตาผมเอาแต่จดจ่อกับคนที่รีบลงไปซื้อของกินทันทีที่รถไฟเข้าเทียบชานชาลาของสถานีระหว่างทาง

หลังจากที่นักศึกษาทั้งหลายได้ผ่านมหกรรมการส่งงานและการสอบปลายภาคของภาคเรียนที่หนึ่งมาแล้ว เด็ก'ถาปัตย์ผู้ไม่เคยว่างก็มีคิวของค่ายอาสามาจ่อรอทันทีที่ปิดเทอมไปได้เพียงสิบวัน โดยในปีนี้ค่ายอาสาของคณะสถาปัตย์จะไปสร้างห้องสมุดให้โรงเรียนบนดอยเล็กๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงรายและเพื่อการสร้างบรรยากาศให้สมกับเป็นคณะที่เสพสุนทรียภาพแทนข้าวอย่างคณะสถาปัตย์แล้ว พวกพี่ปีสี่อย่างพี่กันย์ซึ่งเป็นชั้นปีที่รับผิดชอบการจัดค่ายในปีนี้ก็พาพี่ๆ น้องๆ กว่าหกสิบชีวิตเดินทางไปค่ายฯ โดยรถไฟซึ่งมีสถานีปลายทางคือจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะต่อรถบัสเล็กไปจังหวัดเชียงรายอีกที

"กินป่ะ?" พี่กันย์ถามขึ้นในขณะที่เจ้าตัวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมาให้แล้วเดินขึ้นรถไฟไปพร้อมกับพี่ที

"เดี๋ยวนี้มีขนงขนมให้ด้วยนะ" ไอ้การันต์มองขนมในมือผมอย่างล้อๆ ก่อนจะหันไปส่งเสียงแซวกับเพื่อนแล้วเดินขึ้นรถไฟไปอีกคนปล่อยผมไว้กับขนมในมือที่ต้องยกขึ้นมาดูอย่างสงสัย

...เค้กช็อคโกแลต ช่างเข้ากับบรรยากาศและสถานที่จริงๆ ครับ ผมคิดก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาในความชอบช็อคโกแลตของพี่กันย์ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ชานชาลาที่มีแต่ชาวบ้านมาเดินขายอาหารท้องถิ่นกันขวักไขว่ก่อนจะก้าวเดินตามขึ้นไปบนรถไฟ

"เอ่อ ขอโทษนะคะ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยทักขึ้นจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเจอเข้ากับผู้หญิงที่แต่งหน้าตาจัดจ้านใส่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้นคนหนึ่งซึ่งจากสำเนียงคิดว่าน่าจะป็นคนท้องถิ่นแถวๆ นี้ไม่ผิดแน่

"ครับ?" ผมรับคำอย่างงงๆ พลางมองผู้หญิงตรงหน้าที่ยื่นโทรศัพท์มาให้ผมก่อนจะพูดต่อ

"พอดีเพื่อนที่อยู่ตรงนู้นสนใจเธอ" เธอว่าก่อนจะชี้ไปที่ที่นั่งริมทางรถไฟที่มีกลุ่มเด็กผู้หญิงสองสามคนนั่งอยู่และหนึ่งในนั้นกำลังเอาแขนประสานกันที่หน้าตักก่อนจะบิดไปบิดมา

"เลยฝากเรามาขอ..."

"ขอโทษนะครับ" เสียงคนที่ผมคิดว่าเดินขึ้นรถไฟไปนานแล้วดังขึ้นก่อนจะโผล่มายืนข้างๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ในมือผมไปก่อนจะยื่นกลับไปให้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า

"นี่น้องผมครับ ขอตัวก่อนนะ" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มให้อย่างสุภาพแล้วคว้าคอผมลากขึ้นรถไฟไปด้วยกันจนผมแทบไม่ทันตั้งตัว

ตั้งแต่วันส่งงานของพี่กันย์ที่ผมเผลอพูดออกไป อีกฝ่ายก็ดูจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรที่มากไปกว่านั้น ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เจอกันก็ทัก ว่างก็ไปซื้อของด้วยกัน กินข้าว เล่นเกม ไปที่ห้อง ขับรถให้ ไปรับไปส่ง ทุกอย่างยัง 'เกือบ' เหมือนปกติ จะเว้นก็แต่...





[Gun's]
หนึ่งอาทิตย์ที่แล้ว...



'เป็น-แฟน-กัน'

ทันทีที่ผมลืมตาตื่นมาในตอนเช้าวันอาทิตย์หลังจากส่งงาน สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาให้หัวก็คือ …คำพูดของไอ้ปืน ไอ้เด็กปีหนึ่ง คณะเกษตรที่พักหลังๆ เริ่มเข้ามาอยู่ในชีวิตผมมากขึ้นทุกที

…นี่ผมมาอยู่ในจุดที่มีผู้ชายมาขอเป็นแฟนแล้วเหรอครับ?

ผมคิดขึ้นมาอย่างอดทึ่งในชะตาชีวิตของผมไม่ได้ก่อนจะพาลนึกไปถึงคำพูดของผมที่ดันตอบมันกลับไป

'ก็ขนาดทุกวันนี้ยังไม่ได้เป็นแฟน'
'กูยังได้มากกว่านั้นอีกอ่ะดิ!'


...ซึ่งจุดที่แย่กว่าคือ ทำไมผมต้อง 'ทำเหมือน' ไปอ่อยมันอย่างนั้น!

"ไอ้สัดเอ้ย!" ผมโวยวายออกมาอย่างตกใจกับความคิดตัวเองก่อนจะสะบัดหัวแรงๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านแล้วลุกไปอาบน้ำเพื่อจะได้ออกไปหาอะไรกินให้เป็นชิ้นเป็นอันหลังจากที่เอาแต่นอนขลุกอยู่กับเตียงมามากกว่าหนึ่งวันเต็มก่อนจะวางแผนจัดการเวลาให้ตัวเองเพื่อให้มีเวลาสำหรับไปเคลียร์งานค่ายอาสาที่ถึงเวลาต้องกลับมาชำระความมันสักที

ปกติงานค่ายอาสาที่ปีสี่เป็นคนจัดจะถูกแบ่งหน้าที่ออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือกลุ่มที่จะต้องเดินทางขึ้นไปก่อนเพื่อเตรียมพื้นที่และติดต่อช่างเพื่อดำเนินงานส่วนโครงสร้างที่กินเวลานานไล่ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงหลังคาเพื่อให้กลุ่มที่สองซึ่งได้แก่พวกผมที่มีหน้าที่ขนเอาพี่ๆ น้องๆ ร่วมค่ายรวมไปถึงข้าวสารอาหารแห้งรวมถึงอุปกรณ์ที่จำเป็นตามขึ้นไปหลังจากกลุ่มแรกหนึ่งอาทิตย์ซึ่งระยะเวลาอยู่ค่ายจริงๆ จะกินเวลาประมาณสิบห้าวันหรือจนหมดปิดเทอมกันเลยทีเดียว

แต่ยังไม่ทันจะเดินออกจากห้องตามความตั้งใจแรก สองเท้าของผมก็ต้องเปลี่ยนทิศทางจากประตูห้องเป็นส่วนครัวเมื่อเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ข้างอ่างล้างจาน

...ช็อคโกแลต กับ โน๊ตหนึ่งใบ

'ไม่อยากทำให้มากกว่านี้ เดี๋ยวสวัสดิการจะดีจนใครบางคนไม่อยากเลื่อนขั้นน่ะสิครับ'

"ไอ้เด็กเวรเอ้ย!" ผมสบถก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อเผลอไปคิดถึงหน้าของไอ้คนเขียนตอนกำลังเขียนคำพูดเลี่ยนๆ อะไรแบบนี้อยู่พลางมองถุงช็อคโกแลตตรงหน้าก่อนจะฉีกออกมากินอย่างหมั่นไส้ ...แล้วทำไมผมต้องยิ้มด้วยวะ?

'ตึ้ง ตึง' ผมมองโปรแกรมไลน์ที่เด้งข้อความของไอ้คนที่ผมเพิ่งนึกถึงไปหยกๆ อย่างอดทึ่งไม่ได้ก่อนจะอ่านข้อความแล้วเผลอหันไปมองรอบๆ ห้องอย่างระแวง

Bpuen : ตื่นแล้วสินะครับ
Gun : นี่มึงติด CCTV ไว้ในห้องกูป่ะเนี่ย?
Bpuen sent  you a photo

ผมถามมันอย่างอดหมั่นไส้ในความไวของไอ้ปืนไม่ได้ก่อนจะเปิดดูภาพที่มันส่งมาซึ่งเป็นภาพหน้าเฟสบุ๊คที่แถบข้างๆ ปรากฎไฟเขียวๆ ต่อท้ายชื่อของผมอยู่

Gun : แล้วไป
Bpuen : แต่ผมมีนี่นะ
Bpuen sent  you a photo

ภาพที่มันส่งถัดมาคือภาพกุญแจสำรองของผมพร้อมคีย์การ์ดที่เคยให้มันไว้ใช้ทำหน้าที่สารถีเป็นการชั่วคราวตอนปั่นโปรเจคแล้วมันยังไม่ได้เอามาคืน

Gun : กูจะทำกุญแจอีกชั้น
Bpuen : ใจร้ายเกินไปแล้วครับ
Bpuen : ไว้เดี๋ยวเอาไปคืนให้นะครับพี่
Gun : อือ

ผมกดภาพล่าสุดขึ้นมาดูอีกครั้งอย่างสงสัย ปกติผมเป็นคนรักความเป็นส่วนตัวระดับหนึ่ง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ พวกไอ้ทียังแทบไม่ได้มาเหยียบห้องผมเลยด้วยซ้ำ ...แต่ทำไมไอ้เชี่ยปืนมันถึงขั้นได้กุญแจสำรองที่มีแค่ชุดเดียวของผมไปได้วะ? ผมคิดไม่ตกก่อนจะมองข้อความใหม่ที่เด้งขึ้นมา

Bpuen : วันนี้พี่กันย์ไปไหนรึเปล่าครับ?
Gun : ทำไม จะไปกับกูรึไง?
Bpuen : ขอดูก่อนแล้วกันครับว่าน่าสนใจพอรึเปล่า
Bpuen sent you a sticker
Gun : เดี๋ยวนี้ท่าเยอะนะมึงอ่ะ
Bpuen : ก็เดี๋ยวใครบางคนจะได้ใจเกินไป
Bpuen : ผมก็แย่กันพอดีสิครับ

ผมอดขำกับข้อความที่มันส่งมาไม่ได้ นี่ขนาดมันพยายามลดสวัสดิการในฐานะน้องอะไรของมันที่ว่านั่นแล้วนะครับ แต่คนที่ทักมาก่อนก็คือมันอยู่ดีป่ะวะ? ผมคิดอย่างขำๆ กับความอ่อนด๋อยของมันแล้วพิมพ์กลับไป

Gun : เออดี งั้นกูไม่ชวนละ
Bpuen : ชวน? ไปไหนครับ!
Gun : ไม่เอาอ่ะ ถ้ามึงไม่ไปกูก็หน้าแหกพอดี
Bpuen : ผมไป!
Gun : อ่อนแอสัดอ่ะมึง
Gun : ฮ่าๆๆ
Bpuen : เล่นตัวมากไปเดี๋ยวพี่เปลี่ยนใจ
Bpuen : คนที่ซวยไปก็ผมอีกอ่ะ
Bpuen : ว่าแต่พี่จะไปไหนนะครับ
Gun : จตุจักร
Bpuen : ไปทำอะไรครับ?
Gun : ซื้อของ
Bpuen : ซื้ออะไรครับ?

...สัด! ทำไมวันนี้มันถามมากจังวะ เดี๋ยวกูก็ไปคนเดียวซะเลยเนี่ย โว๊ะ!

Gun : ของทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับค่ายอาสา
Bpuen : พี่จะไปค่ายเหรอครับ?
Bpuen : ไม่เห็นบอกผมเลย
Gun : แล้วนี่กูก็บอกมึงอยู่ป่ะ
Bpuen sent you a sticker

ผมมองสติกเกอร์รูปหมีทำท่างอนที่มันส่งมาแล้วเจ้าตัวก็หายไป ผมเลยเลื่อนหน้าไลน์ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมายก่อนจะเพิ่งสังเกตว่าจริงๆ แล้ว ...ผมกับมันก็คุยกันไม่น้อยเลยทีเดียว

'มาหาผมหน่อยนะครับ'
'เออ อีกสิบนาทีกูถึง'

'ให้ผมไปช่วยมั้ยครับ'
'อยากมาก็มา'

'ผมรออยู่ข้างล่างนะครับพี่กันย์'
'เออ รอกูก่อนนะ'


แต่ความน่าประหลาดใจไม่ได้อยู่ที่มันพูดอะไรกับผม ...แต่มันอยู่ที่ผมพูดอะไรกับมันมากกว่า หรือว่าในความปกติที่ผมคิดมาตลอด ...จริงๆ แล้วมันก็อาจจะไม่ปกติงั้นเหรอครับ?

'ให้ผม-จีบ-พี่-นะครับ'
'เป็น-แฟน-กัน'


"ไอ้เชี่ยปืนโว้ยยย! แล้วกูต้องทำยังไงวะเนี่ย!" และกว่าจะรู้ตัวผมก็ดันพิมพ์ตอบมันกลับไปแล้ว

Gun : ตกลงจะไปมั้ยเนี่ย?
Bpuen : จตุจักรอ่ะนะครับ
Gun : เปล่า ค่ายอาสา




[Bpuen's]
สิบนาทีก่อน...



"หน้าผมมีอะไรติดอยู่รึเปล่าครับ" ผมถามขึ้นอย่างสงสัยเมื่อเห็นคนที่นั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามนั่งมองหน้าผมมาไม่ต่ำกว่าสิบนาทีแล้ว

"เปล่าอ่ะ” พี่กันย์บอกแต่สายตาก็ยังไม่ละไปจากใบหน้าของผมจนผมต้องล้วงเอาโทรศัพท์มาเปิดโหมดกล้องหน้าเพื่อส่องหน้าตัวเองอย่างจริงจัง

ก็จะไม่ให้กังวลได้ยังไงล่ะครับ ก็ตั้งแต่นัดเจอกันที่สถานีรถไฟใกล้มหา'ลัย จนรถไฟออกมาจากชานชาลาและจนถึงเมื่อครู่นี้ คนที่ชวนผมมาก็เล่นหายไปโดยปล่อยผมไว้กับสัมภาระของผมอยู่คนเดียวก่อนจะเดินกลับมาแล้วก็เอาแต่จ้องหน้าผมอย่างที่เห็น บอกได้คำเดียวครับว่า ...ไม่ปกติแบบสุดๆ!

“พี่กำลังทำให้ผมกังวลจริงๆ นะครับ” ผมบอกก่อนจะขมวดคิ้วอย่างสงสัยเมื่อไม่เห็นว่ามีอะไรติดอยู่บนหน้าอย่างที่ผมถามออกไป

“เออ ลืมๆ มันไปเหอะ” พี่กันย์บอกก่อนจะลากเสียงอย่างเริ่มรำคาญแล้วยกมือขึ้นโบกเบาๆ อย่างไม่อยากให้สนใจนักจนผมต้องตัดสินใจคาดคั้นออกไป

"พี่กันย์ครับ"

"อะไร?"

"มีอะไรก็พูดครับพี่"

"ไม่มีไง"

"ทำหน้าแบบนี้มีแน่ๆ ครับ บอกผมมานะ ชวนผมมาก็ช่วยรับผิดชอบผมด้วยสิครับ" คำพูดของผมทำเอาคนที่เอาแต่บอกว่าไม่มีอะไรถึงกับหันมาหรี่ตามองก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ

"รับผิดชอบอะไร กูทำมึงท้องรึไงวะ?"

"รถไฟจะเทียบชานชาลาที่นี่สิบนาทีนะครับ ใครอยากลงก็ลงแต่ช่วยรักษาเวลาด้วยนะ" พี่ทีที่วันนี้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายสันทนาการเอ่ยขึ้นก่อนจะบอกให้พี่ๆ น้องๆ ร่วมค่ายเตรียมตัวเมื่อรถไฟเริ่มชะลอความเร็วเพื่อเทียบชานชาลาของสถานีระหว่างทาง

"บอกว่าไม่มีก็ไม่มีดิ โว๊ะ!" เจ้าตัวว่าก่อนจะหมุนตัวเดินไปหาพวกพี่ทีที่กำลังเตรียมลงจากรถไฟ รู้ตัวอีกทีมือผมก็ยื่นไปคว้าข้อมือคนตรงหน้าไว้แล้วซ้ำร้ายยังเผลอดึงพี่กันย์จนเจ้าตัวเสียหลักเซไปชนกับขอบเก้าอี้จนร่วงลงไปกองกับพื้นระหว่างที่นั่งของรถไฟ

"ไอ้เชี่ยปืน!" พี่กันย์ร้องออกมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองผมอย่างฉุนนิดๆ จนผมเริ่มรู้สึกผิดจนเผลอเอามือไปถูเข่าคนตรงหน้าที่ยังนั่งอยู่บนพื้นเพื่อบรรเทาหนักให้เป็นเบา ...ไม่ใช่อาการที่เข่านะครับ อารมณ์ต่างหาก!

"ขอโทษนะครับ"

"เออช่างแมร่ง กูผิดเองแหละ มัวแต่คิดอะไรบ้าๆ" พี่กันย์บอกก่อนทำท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่ผมดันเผลอไปกดไหล่ให้พี่เขานั่งกลับลงไป

"คิด?"

"เออ กูคิด" พี่กันย์บอกก่อนจะเลิกหลบสายตาแล้วเงยขึ้นมามองผมตรงๆ

"คิดว่า?" ผมถามขึ้นอย่างอดที่จะลุ้นไปกับสิ่งที่พี่กันย์บอกว่า 'คิด' ไปด้วยไม่ได้  ...แถมลางสังหรณ์ลึกๆ ยังบอกอีกว่า อะไรที่ว่านั่นมันต้องเกี่ยวกับผมแหงๆ

"ก็คิดว่ากูคิดอะไรอย่างที่มึงคิดรึเปล่า? ก็แค่นั้นแหละ" พี่กันย์พูดออกมาเร็วๆ ก่อนจะก้มลงไปมองพื้นใหม่จนผมแทบจะถามออกไปอีกรอบถ้าไม่ติดที่ว่าคนตรงหน้าเริ่มเม้มปากไปด้วยทำหน้าเครียดไปด้วยอยู่อย่างนั้นล่ะก็นะ

"เดี๋ยวนะครับ พี่คิด... ว่าพี่คิด... แบบที่ผมคิด... รึเปล่า?"

พี่คิด... แบบที่ผมคิด...
แบบที่ผมคิด...??

ผมพูดทวนคำถามพี่กันย์ไปมาอยู่สองสามรอบก่อนจะก้มลงมองคนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างอึ้งๆ จนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่อยู่ก่อนจะแซวกลับไปเมื่อคนที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมามองผมก้มหน้าลงไปอีกแล้ว

"แล้วพี่คิดออกรึยังล่ะครับ?"

"ยัง กูเลยชวนมึงมาค่ายนี่ไง" คำตอบที่ไม่ค่อยจะตรงคำถามทำเอาผมได้แต่มองอย่างสงสัยก่อนคนตรงหน้าจะใช้มือยันเก้าอี้แล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินตามพวกพี่ทีที่ลงจากรถไฟไป

"เพื่ออะไรครับ?"

"มาหาคำตอบ ...ของคำถามที่มึงถามกูไง"





[Bpuen's]
ตอนนี้...




ทุกอย่างยัง 'เกือบ' เหมือนปกติ จะเว้นก็แต่... 'สวัสดิการ' ในส่วนของผมที่เหมือนจะเพิ่มขึ้นมา

"หวงหรอครับ" ผมถามออกไปยิ้มๆ พลางมองคนข้างๆ ที่ยังเอาแขนมาพาดคอผมไม่ยอมปล่อย

"ไม่อ่ะ" พี่กันย์หันมาบอกหน้าตายก่อนจะยักคิ้วให้อย่างกวนๆ

"ไม่หวง" ผมย้ำก่อนคนตรงหน้าจะปล่อยมือแล้วหันหน้ามามองก่อนจะเดินหนีไป

"ไม่เท่าไหร่"

...ไม่เท่าไหร่? ผมทวนคำพูดนั้นอยู่ในหัวอีกครั้งก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา

...'ไม่เท่าไหร่' = 'ไม่มาก' แต่ไม่ใช่ 'ไม่มี'


'คำตอบของพี่ ดูเหมือนว่าผมเห็นพยัญชนะตัวแรกแล้วนะครับ...พี่กันย์'





#ก็พี่มันเยอะ


หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 01-12-2016 06:38:10
ชอบคู่นี้จริงๆ
พี่กัน์น้องปืน

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-12-2016 07:19:58
นี่พี่กันย์หรือนางเอกลิเก?

ท่ามากแต่อ่อยทุกท่า
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-12-2016 07:33:37
จ้ะๆๆ. เชื่อก็ได้ ไม่หวงแค่กั๊กไว้ ไม่ยอมให้จีบ
ถวายตัวเลยค่ะปืน เดี๋ยวๆสรุปใครเคะ
อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 01-12-2016 07:52:31
พี่กันย์นางน่ารักน่ะ รักนางงง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 01-12-2016 07:53:01
พี่กันย์แม่งโคตรน่านัก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-12-2016 08:34:29
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-12-2016 09:51:56
นี่พี่กันย์หรือนางเอกลิเก?

ท่ามากแต่อ่อยทุกท่า

เห็นด้วย แต่แอบขำมาก ฮา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 01-12-2016 11:23:09
โอ้ยยยยยย....คืออะไร

คำตอบมีแล้วแค่ยังไม่บอกรึป่าว อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 01-12-2016 12:20:21
โถ่พี่กันย์เยอะสิ่งจริงๆค่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 20 -…ก็พี่อยากได้คำตอบ [01.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 02-12-2016 04:12:32
....ก็พี่มันเยอะ  //เออก็พี่มันเยอะจริงๆนั่นละ 555555555 น่าร๊ากกกก มาค่ายได้รู้คำตอบแน่ชัดละนะ #ปืนกันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 03-12-2016 04:54:37
21-…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ

เช้าตรู่ของวันถัดมา พี่น้องร่วมค่ายทั้งหมดก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่จากนั้นจึงทำการกระจายตัวออกเป็นรอบๆ เพื่อต่อรถบัสเล็กซึ่งเป็นรถโดยสารประจำทางไปยังจังหวัดเชียงรายก่อนจะลงที่ป้ายรถแห่งหนึ่งซึ่งถึงก่อนเข้าตัวเมือง

ถึงจะเรียกว่าเป็น 'ป้ายรถ' แต่เมื่อลองหันมองไปรอบๆ กลับเห็นแค่ทุ่งข้าวโพดที่ทอดยาวตลอดแนวไปจนสุดลูกหูลูกตา สิ่งเดียวที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกคือศาลาพักรถที่ทำด้วยโครงสร้างไม้ขนาดเล็กที่พอจะจุคนได้ประมาณสี่ห้าคนเท่านั้น และในตำแหน่งเดียวกันของอีกฟากถนนนั้นก็มีป้ายไม้เก่าๆ ที่เขียนชื่อโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ตั้งค่ายไว้ก่อนจะมีถนนลูกลังเส้นเล็กๆ ต่อเข้าไปและดูเหมือนว่าจะทอดยาวไปจนถึงยอดดอยที่เห็นอยู่ไกลลิบๆ นั่น

"ไหวนะครับ?" ผมเดินเข้าไปหาพี่กันย์ก่อนจะรับเอาถุงอุปกรณ์ต่างๆ มาถือไว้เมื่อรถบัสเล็กที่มีพวกเพื่อนพี่กันย์อีกทีมนำขบวนน้องอีกกลุ่มมาสมทบที่บริเวณศาลารอรถประจำทาง พี่กันย์หันมามองหน้าผมก่อนจะพยักหน้าแล้วหันไปตรวจสอบรายการอุปกรณ์ในมือต่อ

"ไอ้กันย์ พวกไอ้กัมป์บอกรึเปล่าว่ารถจะมารับเรากี่โมง?" พี่ทีตะโกนมาถามพลางก้มลงมองนาฬิกาเพื่อไล่ดูตารางกิจกรรมสำหรับวันนี้

"น่าจะไม่เกินบ่ายโมงว่ะ" พี่กันย์ตอบตามที่พวกพี่กัมป์ซึ่งเป็นหนึ่งในพวกพี่ปีสี่กลุ่มแรกที่ล่วงหน้ามาก่อนได้โทรมานัดหมายเวลาตั้งแต่เมื่อวานอย่างไม่แน่ใจ จะโทรหาก็โทรไม่ได้เพราะบนค่ายไม่มีสัญญาณ ส่วนคนในค่ายจะโทรได้ก็ต่อเมื่อลงมาจากค่ายเท่านั้นซึ่งหากพ่อแม่พี่น้องใครมีเรื่องฉุกเฉินจริงๆ ก็สามารถติดต่อคนในค่ายผ่านทางพี่ๆ ที่ทำหน้าที่ลงมาซื้อของทุกวันได้อยู่แล้ว

"อีกสามสิบนาทีก็บ่ายโมงแล้วครับ" ผมบอกก่อนจะเอาพัดลมมือถือที่ผมพกมาจ่อไปยังใบหน้าของคนที่เริ่มแดงขึ้นด้วยความร้อนก่อนจะปลดเป้สะพายหลังมาช่วยสะพายไว้เองอีกข้าง

"โอเค" พี่กันย์รับคำก่อนจะบอกให้น้องๆ ที่เหลือหาที่หลบแดดแล้วจึงทยอยส่งน้ำและขนมที่น่าจะพอใช้รองท้องไปก่อนถึงเวลาอาหารเที่ยงจริงๆ ได้ต่อๆ กันไป

"อ่ะ ของมึง" พี่กันย์บอกโดยไม่ลืมหันมายื่นให้ผมด้วยอีกชุดก่อนผมจะเพิ่งสังเกตว่าไม่มีพี่คนไหนได้รับอาหารว่างไปเลยสักคน

“แล้วของพวกพี่ล่ะครับ?” ผมถามออกไปอย่างสงสัยก่อนจะรับอาหารที่พี่กันย์ยื่นมาให้นานแล้ว

“ไม่ต้องกังวลกับพวกกูหรอก มึงอ่ะกินไปเลย” พี่กันย์บอกก่อนจะเริ่มหันไปตรวจสอบของที่ต้องเอาขึ้นค่ายอีกครั้ง

“งั้นอันนี้อาหารของพี่ครับ” ผมพูดขึ้นก่อนจะล้วงเอาถุงเซเว่นที่แวะซื้อจากสถานีรถไฟไปให้ เจ้าตัวได้แต่มองอย่างงงๆ ก่อนจะรับถุงไปเปิดดู

“ไม่เอาอ่ะ คนอื่นยังไม่ได้กินเลย” พี่กันย์ส่ายหัวก่อนจะเดินมายัดขนมที่ผมซื้อมาเผื่อลงในเป้ของผมตามเดิม

“งั้นกินนี่แทนแล้วกันครับ” ผมหยิบช็อคโกแลตแท่ง(ที่เหมือนจะกลายเป็นไอเทมประจำตัวผมไปแล้ว)ที่พี่กันย์ชอบกินออกมาจากกระเป๋าก่อนจะแกะแล้วยื่นไปจ่อไว้ใกล้ๆ ปากของคนตรงหน้า

“อันนี้บ้านกูไม่เรียกอาหารนะ” พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขำๆ พลางมองช็อคโกแลตในมือ

“บ้านผมเขาก็เรียกของหวานครับ เผื่อน้ำตาลจะทำให้พี่ฮึกเหิมขึ้น”

“ศัพท์มึงก็เนอะ” พี่กันย์ส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะทนแรงตื้อไม่ไว้เลยยอมอ้าปากแล้วกัดเข้าไปเต็มคำ

“พี่จะกินผมแทนรึไงครับ” ผมอดแซวขึ้นมาไม่ได้เมื่อคนตรงหน้าแทนที่จะกัดแต่ช็อคโกแลตแต่ดันกัดเอานิ้วผมไปด้วยอีกอัน

“ไม่อ่ะ มึงมันไม่หวาน” พี่กันย์บอกก่อนก่อนจะยักคิ้วให้อย่างกวนๆ 
“ก็แน่สิครับ ผมไม่ใช่ของหวานสักหน่อย” ผมยกยิ้มมุมปากอย่างขำๆ ก่อนจะเดินเข้าไปยืนชิดกับคนตรงหน้า
 
“แต่แบบผมเนี่ยเรียกปิ่นโตฝีมือคุณแม่” ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะที่ริมฝีปากก่อนจะค่อยๆ เช็ดคราบช็อกโกแลตที่ติดอยู่ที่มุมปากข้างหนึ่งจนเจ้าตัวถึงกับยืนตัวแข็งก่อนจะแกล้งดึงนิ้วกลับมาแล้วสัมผัสรสชาตินั้นเข้าไปแทน

“เพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการจะสูงแล้ว ยังหิ้วไปไหนก็ง่ายอีกด้วย จริงมั้ยครับ?”





กว่าจะมาถึงโรงเรียนซึ่งเป็นที่ตั้งค่ายในปีนี้ก็กินเวลาไปจนเกือบบ่ายสามโมง โดยที่ชาวค่ายทั้งหมดได้รับความช่วยเหลือจากรถของชาวบ้านในละแวกที่อาสากันขับลงไปรับแล้วพากลับขึ้นมาส่งที่โรงเรียนบนดอย บรรยากาศเย็นๆ บวกกับวิวสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าทำเอาคนที่ผมมองอยู่ถึงกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขก่อนจะยืดแขนออกเพื่อรับสัมผัสรอบตัวอย่างสดชื่น

"มารวมกันตรงนี้ก่อนนะครับทุกคน" พี่ทีซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าฝ่ายสันทนาการพูดผ่านโทรโข่งก่อนจะเรียกทุกคนให้มารวมกันตรงศาลาอเนกประสงค์ซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ลานกว้างของโรงเรียน

"งั้นเริ่มกันเลยนะครับ ขอต้อนรับทุกคนสู่ค่ายอาสาครั้งที่ 11 ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ครับผม" คำพูดที่ดูเป็นทางการทำเอาทุกคนปรบมืออย่างเสียงดังก่อนจะส่งเสียงฮาเมื่อเจ้าตัวพูดต่อ

"เอาล่ะหมดเวลาพิธีการ พี่จะอธิบายการทำงานของค่ายให้ฟังก่อนละกันนะ ค่ายเราจะแบ่งออกเป็น 5 ฝ่ายคือ ก่อ(สร้าง) 1 ก่อ(สร้าง) 2 สวน ครัวและจิปาถะ ส่วนหน้าที่ที่ต้องทำก็ตามชื่อของมันเลยครับ แต่! ทุกคืนหลังจบกิจกรรมเราจะมีการจับฉลากเพื่อหาฝ่ายที่จะอยู่ในวันถัดไป นั่นหมายถึงในแต่ละวันอาจจะมีหรือไม่มีคนที่ได้ทำงานเหมือนเดิมก็ได้ เข้าใจมั้ยครับ?”

“เข้าใจค่ะ / เข้าใจครับ”

"ดีครับ งั้นต่อไปเรามาแนะนำหัวหน้าและรองหัวหน้าแต่ละฝ่ายกันสักหน่อย" พี่ทีไล่ลายชื่อพี่ปีสี่ที่รับผิดชอบงานในฝ่ายต่างๆ ตามลำดับ

"ต่อไปฝ่ายสวน หัวหน้าฝ่ายคือพี่กันย์ รองหัวหน้าฝ่ายคือพี่โฟมนะครับ ส่วนฝ่ายครัว หัวหน้าฝ่ายคือพี่ปูน รองหัวหน้าฝ่ายคือพี่เป้นะนั่นเอง"

"อาหารจะกินได้ใช่มั้ยครับพี่ปูน" เสียงพี่เจตะโกนแซวขึ้นก่อนจะเรียกเสียงฮาจากทุกคนจนเจ้าตัวได้แต่เหล่ตามมองอย่างเซ็งๆ

"อาหารอ่ะกินได้ แต่มึงอ่ะจะไม่ได้กิน" พี่ปูนตะโกนบอกก่อนเตรียมจะพุ่งเข้ามาหาพี่เจเต็มที่ ติดก็แต่พี่กันย์ที่รับมุกด้วยการดึงตัวไว้อย่างขำๆ

"นอกจากนี้ยังมีพี่ๆ ฝ่ายบัญชาการอีกห้าคน ถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัยอะไรก็แจ้งพี่เขาได้นะครับ" พี่ทีพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะแนะนำพี่ๆ ทีมหัวหน้าซึ่งมีพี่กัมป์เป็นประธานแล้วบอกให้น้องๆ แยกย้ายเพื่อไปดูที่ทางสำหรับอาบน้ำและนอน

ถัดจากโรงอเนกประสงค์คือ ‘อาคารเรียนหลัก’ ซึ่งเป็นอาคารสองชั้นเพียงหลังเดียวของโรงเรียนโดยห้องเรียนชั้นล่างจะเป็นที่พักของผู้ชาย ส่วนชั้นสองจะเป็นที่พักของผู้หญิง มีห้องน้ำแยกชายหญิงอยู่ข้างหลังอาคารไปอีกหน่อยโดยมีเงื่อนไขว่า ‘น้ำจะเปิดให้ตอนหกโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นเท่านั้น’ นั่นหมายความว่าเราจะมีน้ำใช้อย่างจำกัดจึงขอให้ทุกคนช่วยกันประหยัดเพื่อให้มีน้ำใช้ได้อย่างทั่วถึงกัน

ถัดมาเป็นห้องสมุดเดิมที่เป็นอาคารไม้ซึ่งมีสภาพเก่ากว่าอาคารแรก โดยได้ถูกจัดสรรเป็น 'ศูนย์บัญชาการ' สำหรับพี่ปีสี่ จากนั้นก็เป็นห้องน้ำรวม โรงอาหารและห้องพักครูซึ่งเป็นส่วนที่ปิดไว้ไม่ให้เข้าไปใช้

"ไอ้กันย์เอาของไปเก็บกัน" พี่กัมป์เดินมาตามก่อนจะบอกให้พวกพี่ปีสี่ที่เพิ่งขึ้นมารอบสองเอาของไปเก็บที่ศูนย์ฯ พี่กันย์พยักหน้ารับก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วทำท่าจะเดินตามไปก่อนเจ้าตัวจะนึกได้แล้วรีบหมุนตัวกลับมาแล้วมองหน้าผม

"ไอ้เด็กนั่นล่ะ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนคนถูกถามจะหันมามองตามทิศที่พี่กันย์ชี้มา ประธานค่ายมองหน้าผมอย่างยิ้มๆ ก่อนจะหันไปหาพี่กันย์อีกครั้ง

"ไหนๆ ก็อุตส่าห์มาเป็นเด็ก'ถาปัตย์แล้ว กูเลื่อนขั้นนให้มึงอยู่ปีสี่ด้วยเลยก็แล้วกัน" คำพูดของพี่กัมป์ทำเอาพวกพี่ทีที่หอบกระเป๋ามาสมทบหัวเราะขึ้นอย่างอดไม่ได้

"แต่มึงต้องร่วมกิจกรรมนะโว้ย  ไอ้เชี่ยกันย์ยังไม่ยอมให้เลื่อนขั้น เพราะงั้นมึงไปทำกับไอ้กันย์ไม่ได้นะครับผม"

"ทำเหี้ยไร!" พี่กันย์สบถออกมาอย่างตื่นๆ จนพวกพี่ทีหัวเราะออกมาเป็นบ้าเป็นหลังก่อนจะหรี่ตามองอย่างมีเลศนัยก่อนจะยิ้มกวนๆ

"กูหมายถึง จะไปทำตัวเป็นหัวหน้าแบบมึงไม่ได้ไง คิดไปถึงไหนเนี่ย โว๊ะ!" พี่ทีพูดก่อนจะแกล้งทำเสียงแบบที่พี่กันย์ชอบทำบ่อยๆ แล้วเดินตามพี่กัมป์ไป ปล่อยให้พี่กันย์ยืนมองผมก่อนจะส่ายหัวแล้วเดินตามไปอีกคน

"กูพลาดเองใช่มั้ยเนี่ยที่ชวนมึงมา"





[Gun's]

"ในศูนย์ฯ ไม่น่าพอว่ะ มึงเอาเต็นท์มากันปล่าว่ะ" ไอ้กัมป์พูดขึ้นเครียดๆ เมื่อมองไปยังห้องเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสัมภาระก่อนจะมองมาที่พวกผมซึ่งตามมาทีหลัง

"ในพวกนี้น่าจะมีแค่กูมั้งที่เอามา" ไอ้โฟมพูดขึ้นก่อนจะหยิบเอาเต็นท์สำหรับสองคนออกมาแต่คนที่ยืนอยู่หน้าบ้านดันมีกันแปดคน

"เอางี้มึงนอนกับไอ้ทีละกัน ปูนไปนอนกับหยกในศูนย์ฯ นะ อีกสองคนไปนอนกับน้องปีสามได้ พวกมันก็เอามา" ไอ้กัมป์บอกก่อนจะทำท่าคิดเพื่อแก้ปัญหาให้กับอีกสองคนที่เหลือ

"ให้ไอ้ปืนไปนอนในศูนย์ก็ได้ เหลือกูกับมึง..."

"ไม่เป็นไรครับ ผมก็เอามา" ยังไม่ทันที่ไอ้กัมป์จะพูดจบ ไอ้เด็กปีหนึ่งเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนเงียบมาตลอดก็พูดขึ้นมาก่อนจะหยิบเอาเต็นท์สำหรับสองคนออกมาจากกระเป๋าตัวเอง

"ไอ้กันย์ งั้นเดี๋ยวมึงกับกูนอนในเต็นท์ แล้วให้น้องมัน..."

"ไม่เป็นไรครับ ผมจะนอนเต็นท์เอง" ไอ้ปืนพูดก่อนจะยิ้มจนตาหยีออกมาแล้วเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ผม

"กับพี่กันย์อีกคน"




"ทำไมไม่คิดว่ากูรักสบาย อยากนอนง่ายๆ ในศูนย์ฯ งี้ แล้วให้มึงกับไอ้เชี่ยกัมป์นอนในเต็นท์บ้างรึไงวะ?" ผมพูดขึ้นก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ ในระหว่างที่ช่วยมันประกอบร่างเต็นท์ขึ้นมา ...ถึงผมจะชอบเล่นโมเดลบ้าน แต่ไอ้เต็นท์ห่านี่นี่ก็ต่อยากเอาการเหมือนกันนะครับเนี่ย โว๊ะ!

"เหรอครับ แต่ผมไม่คิดว่าพี่เป็นคนรักสบายนะ" มันบอกก่อนจะส่งยิ้มมาให้แล้วเขยิบมานั่งใกล้ๆ ก่อนจะรับเอาข้อต่อเหล็กในมือผมไปร้อยเข้ากับรอยต่อของผ้าใบ

"เพราะกูเรียน'ถาปัตย์รึไง?" ผมเดาคำพูดต่อไปของมันอย่างที่คนทั่วไปชอบพูดๆ กันถึงบุคลิกลักษณะของเด็ก’ถาปัตย์ … ทำไมไม่คิดว่าผมจบออกไปจะอยากนั่งเขียนแบบหล่อๆ อยู่ในออฟฟิศบ้างเหรอครับ?

"เปล่า เพราะพี่รักผมมากกว่าสบายน่ะสิ"

"..." คำพูดของมันทำเอาผมถึงกับสตั๊นท์ไปสิบวิจนแทบจะกระโดดทับเต็นท์ที่ประกอบเสร็จเรียบร้อยแล้วตรงหน้าแล้วคว้าสัมภาระทั้งหมดไปนอนในศูนย์ฯ แทน

"แค่นี้อึ้งเหรอครับ ตลอดค่ายนี้ผมมีให้พี่มากกว่านี้อีกนะ"

"กูไม่นอนกับมึงละ ไอ้เชี่ยปืน!"

"โอ๋ๆ ผมล้อเล่นน่ะพี่ มานอนด้วยกันเถอะนะครับ" มันบอกก่อนจะยึดข้อมือผมที่เตรียมลุกหนีเต็มที่เอาไว้ก่อนจะหัวเราะออกมา

"กูโคตรรู้สึกไม่ปลอดภัย" ผมบอกมันก่อนจะก้มลงมองข้อมือที่ไอ้คนตรงหน้ายังจับเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

"ทำไมครับ? ผมไม่นอนดิ้นนะ พี่ก็รู้" มันทำหน้าสงสัยแล้วบอกออกมาอย่างมั่นใจจนผมต้องเงยหน้ามองมันแล้วก้มกลับมาดูที่ข้อมืออีกครั้งพลางคิดในใจ

‘เปล่า ที่ไม่ปลอดภัยอ่ะ ...หัวใจกูเอง’





[Bpuen's]

"พี่ไม่เคยขึ้นดอยเหรอครับ" ผมพูดขึ้นเมื่อพี่กันย์เปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองออกมาเพื่อที่จะหาชุดเตรียมไปอาบน้ำให้ทันก่อนห้าโมงเย็นตามกฎของค่าย

"ทำไมวะ?" คนตรงหน้าถามขึ้นมาอย่างสงสัยก่อนจะมองมายังกระเป๋าเสื้อผ้าของผมที่เปิดออกบ้าง

"ทำไมมึงเอามาแต่เสื้อแขนยาว?" พี่กันย์ถามก่อนจะเริ่มคุ้ยๆ เสื้อผ้าของผมแล้วเอาไปเปรียบเทียบกับของตัวเอง

"พี่คิดว่าตอนกลางคืนของที่นี่กี่องศาครับ?" ผมถามก่อนผมจะเริ่มสังเกตอากาศรอบตัวที่เริ่มเย็นลงเมื่อใกล้ค่ะ ก่อนพี่กันย์จะหันมามองหน้าผมที่นั่งมองด้วยความเป็นห่วงแล้วหันไปมองเสื้อแขนสั้นกับกางเกงบอลสบายๆ ในกระเป๋าของตัวเอง

"คงไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง"

"เดี๋ยวคืนนี้ก็รู้ครับ"
 




"มึง หลับยังวะ?" เสียงคนข้างๆ ที่เงียบไปสักพักตั้งแต่เข้ามาในเต็นท์ทำเอาผมที่กำลังมุดอยู่ในถุงนอนลืมตาขึ้นมา

"ยังครับ"

"กูนอนไม่หลับว่ะ" คำพูดของคนข้างๆ บวกกับเสียงสั่นๆ ทำเอาผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ก่อนจะตะแคงข้างหันไปมองคนที่ลืมตาโพลงอยู่ในความมืดแล้วถามออกไปทั้งๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

"ทำไมล่ะครับ?"

"หนาวสัด!" พี่กันย์บอกก่อนจะตะแคงตัวหันมาหาผมเหมือนกัน ผมยิ้มออกมาขำๆ ก่อนจะยื่นมือออกจับมือของคนที่นอนข้างๆ ที่ยกขึ้นมาถูกันเพื่อบรรเทาความหนาวของอากาศในตอนกลางคืน

ความจริงอากาศมันก็ไม่ได้หนาวอะไรมากมาย ถ้าไม่ติดว่าคนตรงหน้าดันเอามาแต่เสื้อผ้าบางๆ ไหนจะถุงนอนที่เอามาแค่พอให้นอนได้บวกกับเต็นท์ที่ตั้งอยู่บนพื้นสนามหญ้านอกอาคารแบบนี้ ...ไม่หนาวก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับพี่กันย์

"แต๊ะอั๋งกูอีกละสัด!" พี่กันย์โวยวายออกมาแต่ก็ไม่ได้ดึงมือกลับ ผมจึงถือโอกาสดึงมือของคนตรงหน้ามาสัมผัสกับเนื้อผ้าด้านในถุงนอนของผม

"ต่างกันมั้ยครับ?" ผมถามออกไปพลางมองหน้าของพี่กันย์ที่เบิกตาโต

"ทำไมถุงนอนมึงมีขนด้วยวะ" ผมขำออกมากับคำเรียกแปลกๆ นั้นก่อนจะรูดซิปถุงนอนที่ใหญ่พอสำหรับสองคนออกแล้วยื่นแขนไปหาคนตรงหน้า

"มามั้ยครับ?" คำถามของผมทำเอาคนตรงหน้ามองมาก่อนจะชะงักนิดๆ สักพักเจ้าตัวจึงตัดสินใจรูดซิปถุงนอนของตัวเองออกแล้วลุกออกมา

"กูไป แต่ห้ามกอดกูนะเว้ย!" ผมหัวเราะออกมาอย่างขำๆ เมื่อนึกถึงพี่กันย์ที่พูดประโยคนี้กับผมแล้วดันต่อท้ายด้วย 'ขอกอดหน่อย' ขึ้นมาก่อนจะขยับให้คนตรงหน้าพลิกตัวเข้ามาในถุงนอน

"ครับ" ผมพูดขึ้นยิ้มๆ แล้วยกแขนพาดไปบนตัวคนข้างๆ ที่สะดุ้งอย่างตกใจก่อนจะหันกลับมามอง

"กูเพิ่งพูดไปหยกๆ ไอ้ห่า!"

"ผมไม่ได้กอดสักหน่อยนี่ครับ"

"ตลกละ แล้วนี่อะไร?" พี่กันย์พูดด้วยสีหน้าเอือมๆ ก่อนจะปรายตาไปมองแขนของผมที่พาดอยู่บนตัว



"ผมแค่จะรูดซิปเฉยๆ พี่จะได้ไม่หนาวไงครับ"





#ก็พี่มันเยอะ



หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-12-2016 05:18:00
 :impress2: ความอบอุ่นข้องทั้งปืนและกันย์ภายในถุงนอนนั้น.  นี่ไม่ได้คิดอะไรไกลเลยนะ
พี่กันย์ท่ามากจริงๆอะเปล่า แฮ่ะๆ คุกเข่าขอเป็นแฟนเลยไหมล่ะ บรรยากาศดีขนาด
ขอบคุณค่ะที่มาต่อสม่ำเสมอ ลุ้นคู่นี้มาก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-12-2016 07:15:21
เป็นแฟนน้องปืนเถอะพี่กันต์
น้องปืนดูแลพี่กันต์ได้

 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-12-2016 07:23:33
 :katai2-1: :katai2-1:

คือมันดี
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-12-2016 08:01:52
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 03-12-2016 08:04:30
น่ารํากจริงๆ ช่วงเวลาจีบกันนิแหละ ดีที่สุดแล้ว
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-12-2016 09:21:38
 :m3: :m3: :m3: :m3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 03-12-2016 11:37:23
โอ๊ย เค้าจีบกันได้มุ้งมิังละมุนละไมมากใจอ่อนยอมเป็นแฟนนปืนสักทีโนะ พี่กันย์โนะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-12-2016 15:24:48
ดูเหมือนปืนจะคาดการณ์ไว้หมดเลยนะ ไหนจะเต็นท์สำหรับสองคน ไหนจะถุงนอนสำหรับสองคนอีก อืม ๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-12-2016 15:26:08
อยากได้ปิ่นโตยี่ห้อปืน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 03-12-2016 16:31:16
โถ หนาวๆอย่างนี้มันก็ต้องให้ความอบอุ่นกันและกันสิคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 03-12-2016 17:51:48
พี่กันย์ถ้ายังเล่นตัวเราจะแย่งน้องปืนล่ะน๊าาาา 55555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 03-12-2016 22:21:32
ฟินเวอร์ ชมพูวิ๊งๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter 21 -…ก็พี่ไม่รู้ว่าบนดอยมันหนาวจับใจ [03.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 03-12-2016 23:27:00
เด็กมันร้ายยย ไม่รู้หรือไง พลาดดแล้วววพี่กันย์ ฮอลลลลล >/////< #ปืนกันย์ น่ารักว่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 04-12-2016 13:26:08
22-…ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ

'ครืดด..ด ครืดด..ด'

เสียงโทรศัพท์ที่ตอนนี้ทำหน้าที่ได้เพียงแค่เป็นนาฬิกาปลุกเพราะไม่มีสัญญาณทำเอาผมตื่นขึ้นมาก่อนจะเอื้อมมือไปปิดแล้วมองคนที่เป็นคนตั้งเวลาเองแต่จนตอนนี้ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นมา

"พี่กันย์ ตื่นได้แล้วครับ" ผมกระซิบเบาก่อนจะวางมือลงบนตัวคนข้างๆ แล้วเขย่าเบาๆ

"อืมม.." พี่กันย์งัวเงียก่อนจะเริ่มบิดตัวไปมาจนผมต้องรวบคนตรงหน้าให้อยู่นิ่งๆ เพราะไอ้ถุงนอนที่นอนกันอยู่อยู่ก็ไม่ได้ใหญ่จนจะขยับได้ดังใจขนาดนั้น

"บอกว่าอย่ากอดกูไง" พี่กันย์มุ่นคิ้วเข้าหากันทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตาก่อนจะดุผมจนผมต้องยิ้มออกมาน้อยๆ กับท่าทางของคนตรงหน้า

"ก็ถ้าขืนปล่อยให้พี่ดิ้นขนาดนี้ คืนนี้ก็ไม่ต้องนอนกันแล้วล่ะครับ" ผมบอกก่อนจะเอื้อมมืออ้อมหลังพี่กันย์ไปรูดซิปแล้วยกมือขึ้นอย่างยอมจำนนเมื่อคนที่เอาแต่บอกว่า ‘ห้ามกอด’ ส่งตาเขียวมาให้ก่อนจะลุกขึ้นนั่งในเต็นท์อย่างมึนๆ

"นี่ครับ" ผมยื่นขันที่มีอุปกรณ์อาบน้ำให้พี่กันย์อันหนึ่งแล้วหยิบของตัวเองขึ้นมาเหมือนกัน

"มึงนอนต่อก็ได้นะ ตื่นตอนเจ็ดโมงก็ทัน"

"ไม่เป็นไรครับ นี่ก็เวลาตื่นผม" พี่กันย์เบะปากใส่อย่างหมั่นไส้ก่อนจะดึงขันไปถือแล้วเดินนำลงบันไดไปยังห้องน้ำที่อยู่ต่ำกว่าระดับพื้นปกติประมาณสามเมตร

"เออกูลืมไป มึงอ่ะมันไอ้ตีห้า ส่วนกูเนี่ยทำไมถึงไม่ได้ตื่นตอนเจ็ดโมงบ้างวะ" เสียงบ่นยังดังต่อไปเรื่อยๆ จนผมได้แต่ขำไม่หยุด …ปากก็บ่นไปอย่างนั้น แต่ไม่เคยเห็นจะพลาดหน้าที่ของตัวเองสักที




"กูไม่อาบได้เปล่าวะ" พี่กันย์บอกก่อนจะยืนตัวสั่นอยู่หน้าห้องน้ำเมื่อถอดเสื้อกันหนาวที่ผมยกให้เมื่อวานออกมาคืนให้ผม

"ก็น่าจะได้นะครับ" ผมบอกก่อนจะหันไปยิ้มให้แล้วตัดสินใจส่งเสื้อคืนไปให้คนตรงหน้าที่รีบใส่กลับเข้าไปทันที

"ล้างหน้าแปรงฟันก็พอเนอะ" พี่กันย์รีบพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะเอาของในขันออกมาวางบนพื้นคอนกรีตข้างๆ แล้วเดินเข้าไปตักน้ำจากถังในห้องน้ำออกมาก่อนจะดึงเอาขันของผมไปตักให้บ้าง

"ให้ไวเลยมึง" พี่กันย์บอกก่อนจะนั่งตัวสั่นงกๆ ไปด้วยในขณะที่แปรงฟันจนผมอดขำคนที่ทั้งหนาวทั้งง่วงตรงหน้าไม่ได้

"ขอโทษนะครับพี่กันย์" ผมบอกเจ้าตัวที่ทำหน้าทรมานอยู่ก่อนจะดึงมือของคนขี้หนาวข้างที่ว่างมาจับไว้แล้วซุกเข้าไปในกระเป๋าเสื้อหนาวของผมเองจนพี่กันย์ถึงกับสำลักยาสีฟันออกมา

“แค่กๆ มึงมันแมร่ง!”

"รีบๆ แปรงให้เสร็จสิครับจะได้รีบไปกัน" ผมบอกก่อนจะมองคนตรงหน้าที่พยายามดึงมือกลับอย่างทุลักทุเลก่อนรีบแปรงฟันล้างหน้าให้เสร็จอย่างรวดเร็ว

"ปล่อยได้แล้ว" พี่กันย์พูดออกมาเมื่อรวบของด้วยมือข้างเดียวใส่ลงในขันให้เรียบร้อยก่อนจะลุกขึ้นพร้อมๆ กับผมที่ลุกขึ้นยืน

"บอกว่าให้แปรงให้เสร็จ แต่ไม่ได้บอกว่าเสร็จแล้วจะปล่อยนี่ครับ" ผมบอกก่อนจะมองหน้าคนที่เหมือนจะทำหน้าโกรธดีหรือจะเขินดีดีอย่างขำๆ ก่อนจะออกแรงดึงให้คนที่มืออยู่ในกระเป๋าผมเดินตามมา

"อย่าให้ถึงตากูบ้างแล้วกัน"





[Gun's]

"ไอ้กันย์ มาช่วยกูหน่อยดิ" ไอ้โฟมตะโกนขึ้นมาจากลานกว้างด้านล่างที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับทำสวนมากมาย ผมเลยหันไปเรียกเด็กปีหนึ่งอีกสองคนที่อยู่ฝ่ายสวนเพื่อให้ไปช่วยขนทั้งจอบ ทั้งเสียม ทั้งบัวรดน้ำตามคำสั่งไอ้รองหัวหน้าฝ่าย

"เอาไปหมดนี่เลยใช่ป่ะ?" ผมมองกองอุปกรณ์ตรงหน้าที่น่าจะขนหมดด้วยแรงสามคนในรอบเดียวก่อนจะช่วยกันขนไปคนละไม้คนละมือ

งานสวนในวันนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากจะไล่ถางพวกวัชพืชรอบๆ บริเวณที่จะสร้างตัวอาคารห้องสมุดแล้วเรื่อยมาจนถึงทางเข้าโรงเรียนจากนั้นก็เริ่มลงมือพรวนดินที่แข็งๆ อยู่ให้นุ่มขึ้น จากนั้นจะผสมปุ๋ยธรรมชาติที่ได้มาจากชาวบ้านลงไปแล้วปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้สามารถเอาไม้พุ่มบางส่วนมาลงได้ในวันพรุ่งนี้

"หน้าโรงเรียนเสร็จแล้วนะคะ" น้องผู้หญิงปีหนึ่งอีกคนเดินเข้ามารายงานความคืบหน้าของงานสวนอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับหน้าที่ให้ไปถางวัชพืชบริเวณหน้าโรงเรียนซึ่งปริมาณงานน้อยกว่า

"ขอบคุณครับ งั้นส่วนหน้าโรงเรียนก็เหลือแค่ลงปุ๋ยเนอะ"

“ใช่ค่ะ ถ้ายังไงรบกวนพี่กันย์ช่วยกกระสอบปุ๋ยไปให้หน่อยได้มั้ยคะ?” น้องปีหนึ่งถามขึ้นอย่างเกรงใจ ผมพยักหน้ารับก่อนจะแบกกระสอบปุ๋ยขึ้นบ่าแล้วเดินตามไปยังหน้าโรงเรียน
 
"วางไว้ตรงนี้ก็ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะพี่" เธอบอกผมก่อนจะยิ้มให้แล้วหันไปเรียกเพื่อนๆ ให้มาช่วยกันแบ่งปุ๋ยใส่ถังเพื่อที่จะได้นำไปผสมลงดิน

"ให้ช่วยมั้ยครับ?" ผมถามขึ้นอย่างห่วงๆ เพราะเพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้ว่าถึงกลุ่มนี้จะคนเยอะแต่ก็มีแต่น้องผู้หญิงทั้งนั้น

"ไม่เป็นไรค่ะพี่ แค่นี้สบายมาก" เพื่อนอีกคนของน้องที่ไปขอความช่วยเหลือพูดขึ้นพลางทำหน้าตามั่นใจ แต่คนที่ลงมือไปฉีกกระสอบปุ๋ยกลับเป็นเพื่อนอีกคนที่ตัวเล็กกว่าจนกลัวว่ากระสอบปุ๋ยจะทำเอาได้

"โอ้ย!" ยังไม่ทันขาดคำ เจ้าตัวที่อาศาแกะกระสอบปุ๋ยเองก็ร้องขึ้นก่อนจะจับที่มือตัวเองไว้จนผมต้องเข้าไปดูอย่างตกใจก่อนจะเห็นรอยเลือดที่เริ่มซึมออกมาเป็นทางยาวตรงฝ่ามือ

"งั้นเดี๋ยวพี่ไปเอายาแดงกับพลาสเตอร์มาให้นะ ดูเพื่อนด้วยนะครับ" ผมบอกก่อนจะอาสากลับไปที่ศูนย์ฯ เพื่อติดต่อเพื่อนๆ ฝ่ายพยาบาลให้ก่อนที่คนได้เลือดจะเอ่ยขอบคุณขึ้นมา





"มีใครอยู่เปล่าวะ?" ผม ชะเง้อมองเข้าไปในศูนย์ฯ ที่ตอนนี้เงียบกริบเพราะไม่มีคนอยู่ก่อนจะเดินย้อนกลับมาเพราะไม่รู้ว่าไอ้กล่องพยาบาลที่ว่ามันอยู่ตรงไหน

"อ้าวไอ้กันย์ แอบอู้เหรอวะ?" ไอ้ทีที่เดินมาพอดีทักขึ้นก่อนจะหรี่ตามองผมอย่างจับผิดแล้วขำออกมา

"คนขยันอย่างกูเนี่ยนะจะโดด อีกสองสามวันค่อยมาว่ากัน” ผมบอกมันก่อนไอ้คนถามจะส่ายหน้าอย่างระอาพลางเดินเข้าไปเอาของในศูนย์ฯ

“แล้วตกลงมึงมาทำอะไรนะ?”

“เออไอ้สัด! กูลืมเลย กูมาเอายาให้น้อง"

"ใครเป็นอะไรวะ" ไอ้ทีถามขึ้นอย่างตกใจก่อนจะเดินนำผมไปยังมุมห้องที่มีกล่องพยาบาลวางอยู่

"น้องปีหนึ่งอ่ะ โดนกระสอบบาดมั้ง?" ผมเองก็บอกสาเหตุไปอย่างไม่แน่ใจนักจนไอ้ทีทำหน้างงๆ แล้วรื้อเอายาที่จำเป็นออกมาให้ …เห็นเลือดออกเลยอาสามาเอายาที่ห้องพยาบาลแทน

“มึงนี่นะ ถ้าน้องโดนอย่างอื่นนี่ไม่ต้องเดินกลับมาอีกรอบเหรอวะ” ไอ้ทีบอกก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะแบ่งเอายาแดงกับพลาสเตอร์ใส่ถุงพลาสติกแล้วยื่นให้

“ไม่เป็นไร ถ้าต้องมาอีกรอบกูก็รู้แล้วว่ากล่องพยาบาลอยู่ตรงไหน”

"กูล่ะงงกับตรรกะมึง ว่าแต่น้องไม่เป็นไรมากใช่เปล่าวะ?" ไอ้ทีถามย้ำอีกครั้งก่อนจะปิดฝากล่องพยาบาลก่อนจะเดินไปหยิบของๆ มันแล้วเดินตามผมออกมา

"แค่มีเลือดนิดเดียวเอง" ผมบอกมันก่อนจะรับถุงยามาแล้วเดินกลับไปหน้าโรงเรียน แต่เพราะไอ้กลิ่นหอมๆ ที่ลอยมาทำเอาผมต้องเปลี่ยนทิศทางเดินอ้อมไปทางโรงอาหารแทนทันที

"ไอ้ปูนทำอะไรวะ?" ผมตะโกนถามออกไปทันที่ทีเจอเพื่อนกำลังวุ่นวายอยู่กับการพัดเตาถ่านให้ติดอยู่หน้าโรงอาหารก่อนจะเหลือบไปเห็นที่มาของกลิ่นหอมๆ ที่วางอยู่ในตะแกรงข้างๆ ...หมูย่างของผม!

"ไฟไม่แรงเลยว่ะ ช่วยน่อยดิ" ไอ้ปูนบอกก่อนจะยื่นสมุดเก่าๆ เล่มหนึ่งที่มีรอยไฟไหม้ตรงมุมมาให้

"เออ เดี๋ยวกูจัดการให้" ผมวางของในมือไว้บนโต๊ะข้างๆ ก่อนจะเอาไม้มาเขี่ยๆ ถ่านให้กระจายออก ก่อนจะหันไปตัดยางในรถอันใหม่มาจุดไฟแล้วหย่อนลงไปก่อนจะใช้ที่คีบถ่านหยิบถ่านชิ้นใหม่มาวางเรียงๆ กันแล้วเริ่มพัดอีกครั้ง

"สมแล้วที่เป็นเพื่อนกู" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนจะตบไหล่ผมอย่างดีใจเมื่อเห็นไฟในเตาถ่านลุกขึ้นมาอย่างที่ต้องการสักที

"ค่าตอบแทนขอเป็นหมูย่างสักจานก็แล้วกันนะ" ผมทำหน้าคะยั้นคะยออย่างพยายามใช้เส้นความเป็นเพื่อนจนไอ้ปูนหัวเราะออกมาอย่างขำๆ

"อ่ะ นี่ครับ" เสียงที่พูดขึ้นพร้อมกับหมูย่างที่ลอยมาตรงหน้าทำให้ผมต้องหันหลังไปมอง

"พูดถึงหมู หมูก็มา" ไอ้ปูนพูดขึ้นอย่างล้อๆ เมื่อผมหันไปเจอไอ้ปืนที่อยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน(และยังดีที่วันนี้เป็นสีดำ)นั่งหั่นหมูอยู่ตรงโต๊ะถัดไปและกำลังหยิบหมูชิ้นหนึ่งส่งมาให้

“ดีมากเด็กน้อย” ผมพูดขึ้อน่างอารมณ์ดีก่อนจะยื่นมือไปหมายจะคว้าหมูมากินแต่ไอ้ปืนดันชักหลบก่อนจะยิ้มออกมาอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า

“ให้ผมป้อนนะครับ” มันบอกก่อนจะทำหน้าอ้อนๆ จนผมได้แต่มองมันอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะเหลือบไปมองไอ้ปูนที่พยายามเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เต็มที่

"อือ" ผมรับคำก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อให้ไอ้คนหั่นหมูมันป้อนอย่างอารมณ์ดี

“ที่ยอมเนี่ยเพราะเห็นแก่หมูหรอกนะ”

"เพราะหมูก็ได้ครับ แล้วนี่พี่.. โอ้ย!" ไอ้ปืนร้องขึ้นในขณะที่ผมกำลังจ้องหมูย่างชิ้นใหม่อย่างเพลินๆ จนต้องลุกไปดูมันอย่างตกใจ

"เป็นไรวะ?" ผมถามมันก่อนเจ้าตัวจะยื่นมือที่มีรอยเลือดซึมออกมาตรงปลายนิ้วให้แล้วแกล้งทำหน้าเบะปากเหมือนเด็กสามขวบถูกเพื่อนแกล้วแล้ววิ่งมาฟ้องแม่ก็ไม่ปาน

"นิ้วผม" ผมมองหน้าไอ้คนที่ได้เลือดเพราะถูกมีดบาดอย่างระอาก่อนจะรับทิชชู่จากไอ้ปูนมาซับๆ เลือดให้

"น่าจะโดนลึกกว่านี้เนอะ" ผมบอกก่อนจะแกล้งกดแผลแรงๆ อย่างหมั้นไส้ก่อนจะตัวจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างมีเลศนัย

"ถ้าโดนลึกกว่านี้ คนแถวนี้จะไม่เป็นห่วงแย่เหรอครับ" มันบอกก่อนจะส่งสายตาล้อๆ ให้ทันทีเมื่อในมือของผมตอนนี้มียาแดงและพลาสเตอร์ที่แกะออกจากห่อเรียบร้อยแล้ว

"ไอ้สัด! แค่นี้ไกลหัวใจเยอะ" ผมบอกมันก่อนจะหยดยาลงไปแล้วดึงนิ้วมันมาใกล้ๆ ก่อนจะค่อยๆ เอาพลาสเตอร์พันลงไปบนแผลที่ถูกมีดบาด

“ตอนแรกผมก็ว่าไกล” คำพูดของมันทำเอาเงยหน้าไปมองอย่างงงๆ ก่อนจะใช้ทิชชู่ซับรอยยาที่เลอะบนมือของมัน

“แต่ตอนนี้หัวใจดันมาอยู่ใกล้ๆ จะเป็นไรมั้ยครับ” ไอ้ปืนพูดก่อนจะยิ้มขึ้นมาจนตาหยีจนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ …ก็ถ้ามึงจะเล่นอ่อยกูขนาดนี้ล่ะก็นะ

"ว่าแต่ ...พี่พกยากับพลาสเตอร์มาทำไมครับ" ผมมองหน้าไอ้ปืนที่ถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

"ฉิบหาย น้องปีหนึ่งโดนกระสอบบาด กูเลยมาเอายาไปให้ไง" คำตอบของผมทำเอาไอ้ปืนกับไอ้ปูนถึงกับมองมาอย่างอึ้งๆ ก่อนจะพูดขึ้นมา

"กูว่า น้องแมร่งเลือดไหลหมดตัวแล้วว่ะ ไอ้กันย์เอ้ย!"





[Bpuen's]

"ตกลงได้เอาพลาสเตอร์ไปให้เขามั้ยครับ?" ผมถามขึ้นอย่างขำๆ ระหว่างทางเดินกลับเตนท์พลางนึกถืงเรื่องเมื่อตอนบ่ายที่คนตรงหน้ามัวแต่ห่วงกินจนลืมเอายากับพลาสเตอร์ไปให้เด็กปีหนึ่งที่ถูกกระสอบบาดมือ

"ได้ดิ แต่โดนไอ้โฟมสวด แค่กๆ จนหูชาไปข้าง" พี่กันย์บ่นออกมาแต่ก็อดทำหน้ารู้สึกผิดไม่ได้

"แล้วปีหนึ่งคนนั้นเขาไม่ว่าอะไรเหรอครับ"

“จริงๆ กูว่าน้องมันคงอยากด่ากูนะ” พี่กันย์บอกก่อนจะหันมาทำหน้าแหยงๆ ใส่หลังจากที่เล่าว่าตัวเองหายมาเกือบสามสิบนาที กลับไปอีกทีน้องก็เลือดแห้งไปแล้ว

“แล้วเขาด่าพี่กันย์มั้ยครับ?”

"อย่างน้อยกูก็เป็นพี่มันเปล่าวะ แค่กๆ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะไอออกมาอีกรอบจนผมเริ่มสังเกตได้

"พี่ไม่สบายเหรอครับ" พี่กันย์ส่ายหน้าก่อนจะไอออกมา

"แค่กๆ ก็ปกตินะ"

"ปกติก็แย่แล้วครับแบบนี้" ผมดุคนตรงหน้าที่ยังทำหน้าไม่ทุกข์ไม่ร้อนก่อนจะเปิดเตนท์แล้วดันคนตรงหน้าให้เข้าไปก่อนแล้วจึงตามเข้าไป ผมเปิดกระเป๋าแล้วลองค้นๆ เพื่อหาผ้าพันคอที่ติดมาด้วยก่อนจะคล้องไปรอบๆ คอของคนที่ทำท่าจะป่วยแต่ยังไม่ยอมดูแลตัวเอง

"ก็หนาไปเนอะ" พี่กันย์แซวขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะเริ่มมุดเข้าในถุงนอนของตัวเอง

"มานอนนี่สิครับ" ผมบอกก่อนจะสอดตัวเข้าไปในถุงนอนของผมบ้างแล้วเรียกคนข้างๆ ให้มานอนด้วยกัน

"ไม่เอาแล้ว แค่กๆๆ"

"มาเถอะครับ ถุงนอนพี่บางจะตาย" ผมบอกก่อนจะใช้สายตาคะยั้นคะยอให้คนตรงหน้ามานอนด้วยกัน

“ไม่ดีมั้ง” พี่กันย์บอกก่อนจะส่ายหัวเบาๆ แต่ก็อดทำหน้าลังเลไม่ได้

“ดีกว่าถุงนอนบางๆ ของพี่ตั้งเยอะ ไม่ดีตรงไหนครับ” ผมบอกก่อนจะเอื้อมมือไปดึงชายผ้าพันคอของคนตรงหน้าจนพี่กันย์หันมามองก่อนจะตัดสินใจขยับเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะสอดมานอนข้างๆ ผม

"งั้นขอ แค่กๆ อีกวันแล้วกัน”

“หลายๆ วันก็ได้ครับ ผมชอบ” ผมบอกก่อนจะยิ้มอย่างชอบใจเพราะสีแดงๆ บนใบหน้าของพี่กันย์ที่ไม่รู้ว่าเพราะหนาวหรือเขินกันแน่

“อ่อยสัดอ่ะ! แค่กๆ” พี่กันย์พูดขึ้นมาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะก้มหน้าหลบแล้วไอออกมาจนผมต้องยกมืออ้อมหลังไปลูบให้อย่างห่วงๆ

"ไหวมั้ยครับเนี่ย?"

"มึงนี่แมร่งโคตรเนียนเลย" พี่กันย์พูดในขณะที่เจ้าตัวอยู่ในลักษณะที่เหมือนกำลังซุกอยู่ในอ้อมกอดของผมพูดขึ้นจนผมยิ้มออกมา

"หนาวเนื้อก็ต้องห่มเนื้อสิครับ"

"หยุดพูดคำเลี่ยนๆ แบบนั้น แค่กๆ สักทีได้มั้ยวะ?"

"ทำไมล่ะครับ?" ผมถามขึ้นอย่างเป็นห่วงเพราะดูเหมือนคนตรงหน้าจะยิ่งไอ้มากขึ้นทุกทีกระชับอ้อมแขนขึ้นไปอีกก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขำๆ เพราะคำพูดที่นึกไม่ถึงของคนป่วย


"แค่ยอมนอนให้มึงกอด แค่กๆ กูก็ขนลุกฉิบหายแล้วเนี่ย"



หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-12-2016 14:02:25
ประโยคสุดท้ายนี่จะทำให้ปืนเสียใจไหมนะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 04-12-2016 14:34:49
ปืนเจ้าของไร่อ้อยฮับ555
แต่ประโยคสุดท้ายชวนดราม่าจังงง
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-12-2016 15:28:35
พี่คะ อย่าพูดกับน้องแบบนี้สิ น้องแค่อ่อยนะน้องไม่ได้ทำไรเลย
ขนลุกเพราะหนาวไม่นับนะคะ ว่าแต่พี่กันย์ป่วยแล้วอย่าอ้อนมากนะ ทุกวันนี้เข้าขั้นอ่อยแล้วเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 04-12-2016 15:51:56
พี่กันต์ย่าพูดแบบนี่ซิ
น้องปืนน้อยใจแย่

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-12-2016 15:52:30
#พี่กันย์สายแดก

ไอ้ที่ขนลุกนี่คือวูบวาบใช่ป่ะ?
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 04-12-2016 16:30:00
เน้นคำว่า. "ยอม". พเดียวก็พอ
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 04-12-2016 18:27:11
 o13
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 04-12-2016 19:16:36
น้องปืนน่ารักมากกกกกกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-12-2016 19:20:15
ประโยคสุดท้ายพี่กันย์ไหงพูดแบบนี้ :hao4: :hao4: :hao4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 04-12-2016 19:51:03
ขนลุกหรืออะไรลุก อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 04-12-2016 19:52:27
น้องปืนลองทำมึนไม่สนพี่กันย์บ้างก็ดีนะ ยอมมากเขามักไม่เห็นค่า มาอ่อยพี่นี่มาๆๆ  :katai3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-12-2016 20:26:08
พี่กัลย์ มาขนลุกอะไรกัน
นอนแนบเนื้อมาหนึ่งคืนแล้ว
หลับสบาย จนปืนต้องมาปลุก
นี่ปืน ยังไม่ได้รุกเลยนะเนี่ย
แค่อ่อย แค่ป้อน เท่านั้นเอง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 04-12-2016 22:36:11
จร้าาา ขนลุกก กลับไปจากค่ายปืนจัดไปสักหลายๆยกดีไหม อ่อยมานานแล้วนะ พี่มันก็ใช่ย่อยให้ท่าให้เขาอ่อย จัดไปทีดิ 555 น่าร๊ากกกอ่ะ #ปืนกันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ//22-ก็พี่ไม่ชอบคำเลี่ยนๆ ผมเปลี่ยนเป็นทำอย่างเดียวก็ได้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nattharikan ที่ 05-12-2016 02:02:41
ทำไมเราเพิ่งมาเจอเรื่องนี้นะ มันดีต่อใจมากเลย :katai2-1: :katai2-1:
เค้าจีบกันน่ารักมากเลย  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 05-12-2016 20:27:28
23-…ก็พี่คงไม่สนใจ

"แค่กๆๆ" เสียงไอของคนข้างๆ ที่ดังขึ้นมาตลอดทั้งคืนทำเอาผมกังวลจนนอนไม่หลับจึงต้องค่อยๆ ลุกออกจากถุงนอนแล้วไปรบกวนขอยาจากพวกพี่ที่ศูนย์ฯ พวกพี่กัมป์เลยมาจัดการบอกให้พี่กันย์ลากสังขารไปนอนข้างในที่ดูจะอุ่นกว่าแล้วตกลงกันว่าจะให้ติดรถลงไปโรงพยาบาลในตัวเมืองพร้อมๆ กับพวกพี่ที่ต้องลงไปตลาดทุกวันอยู่แล้ว

"กระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ไอ้กันย์อยู่ไหนวะ?" พี่ทีถามขึ้นในขณะที่ให้พวกพี่กัมป์แบกคนป่วยขึ้นรถกระบะไปก่อนจะเดินมารับของในมือของผมที่เตรียมไว้ให้

"อยู่นี่ครับพี่ บัตรประชาชนอยู่ในช่องแรกนะครับ มีบัตรประกันสุขภาพกับประกันชีวิตอย่างละใบ" ผมถือวิสาสะเปิดกระเป๋าตังค์ของพี่กันย์ออกดูแล้วชี้ไปตรงช่องบัตรแถวแรก

"ผมใส่เงินสดไว้ให้สองพัน ถ้าไม่พอนี่บัตรผมครับ รหัส xxxx พี่ใช้ได้เลย" ผมบอกอีกครั้งก่อนจะดึงบัตร ATM ของผมออกมาแล้วใส่เข้าไปในกระเป๋าพี่กันย์เพิ่มอีกใบ

"นี่เสื้อหนาวกับผ้าพันคอครับ แล้วก็…"

"ไอ้ปืน" เสียงเรียกชื่อจากคนตรงหน้าทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ทีอย่างงงๆ ก่อนจะเห็นรอยยิ้มแปลกๆ ที่ถูกส่งมา

"ครับพี่?"

"ขี้หวงขนาดนี้ ไปกับกูเลยมั้ยล่ะ?" พี่ทีถามขึ้นมาก่อนจะส่ายหัวอย่างขำๆ แล้วเตรียมจะหมุนตัวกลับไปยังรถกระบะปล่อยให้ผมยืนมองอย่างงงๆ ก่อนจะคิดได้แล้วกลับไปหยิบกระเป๋าสะพายก่อนจะวิ่งตามไป

"พี่ทีผมไปด้วย"





[Gun's]

“สงสัยคราวหน้าผมคงต้องขอดูเสื้อผ้าพี่กันย์ก่อนจะไปไหนแล้วมั้งครับเนี่ย" เสียงของคนข้างๆ ที่ยังบ่นไม่หยุดตั้งแต่ขึ้นรถมาทำให้ผมต้องพยายามฝืนหนังตาที่กำลังจะปิดให้หันไปมองในขณะที่มันก็พยายามกระชับเสื้อหนาวบนตัวผมก่อนจะเอาผ้าพันคอมาพันให้อีกชั้น

"ถุงนอนก็ด้วย ทำไมไม่ซื้อแบบดีๆ มาเลยครับ ก็รู้อยู่ว่าต้องใช้" ผมยังคงนั่งมองใบหน้าด้านข้างของมันอย่างขำๆ ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาโดยที่มันยังไม่รู้ตัว ...ก็รู้อยู่หรอกครับว่าห่วง แต่จำเป็นต้องบ่นผมขนาดนี้มั้ย?

"แล้วก็ไม่รู้จักดูแลตัวเอง ปลอ่ยให้..."

"ไอ้เชี่ยปืน! กูจะไข้แดกตามไปด้วยอีกคนเพราะมึงบ่นนี่แหละ" คำพูดของไอ้ทีทำเอาผมที่แทบจะไม่มีแรงอยู่แล้วถึงกับกลั้นไม่อยู่จนต้องหัวเราะออกมา

"แค่กๆๆ"

"รู้สึกยังไงบ้างครับ?" ไอ้ปืนหยุดบ่นแล้วหันกลับมาสนใจผมทันทีที่เสียงไอดังขึ้นก่อนจะยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากแล้วดึงตัวผมให้ล้มลงไปนอนบนตักมัน

"ไม่เป็นไร" ทันทีที่ผมตอบออกไปผมก็รู้สึกถึงแรงดีดที่หน้าผากจนต้องลืมตาขึ้นมาดูผู้ก่อการร้ายอย่างฉุนๆ

"กูเจ็บ ไอ้สัด!"

"คนไม่เป็นไรที่ไหนเขาต้องหอบสังขารมาโรงพยาบาลกันบ้างครับ" ไอ้ปืนส่ายหน้าอย่างระอาแล้วจับผมข้างหน้าของผมรวบๆ ขึ้นไปก่อนจะใช้ยางรัดผมที่เอามาจากไหนไม่รู้มามัดให้จนเป็นจุกแล้วหยิบแผ่นลดไข้มาแปะให้บนหน้าผาก

"ชักอยากไม่สบายบ้างแล้วเนี่ย" เสียงไอ้ปูนที่นั่งอยู่ข้างคนขับพูดขึ้นก่อนจะส่งยิ้มล้อๆ มาให้

"ถึงมึงจะป่วยตาย แค่กๆ ก็ไม่ได้แบบนี้หรอกว่ะ"

"รู้ได้ไง น้องปืนเขาอาจะอยากดูแลกูบางก็ได้นะ"

"ขอโทษครับ แค่กๆ นี่น้องกูไง มึงก็ไม่ แค่กๆๆ มีสิทธิ์เนอะ" ผมบอกมันอย่างขำๆ โดยลืมนึกไปว่าผมกำลังนอนอยู่บนตักของคนที่กำลังถูกพาดพิงกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนเงยขึ้นไปเจอมันที่เอาแต่นั่งมองหน้าผมอยู่แล้ว

"แล้วถ้าอยากเป็นมากกว่าน้อง ผมต้องทำยังไงเหรอครับ?"





"อาการเป็นยังไงบ้างครับ?"

"มีไข้ครับ ไอมีเสมหะเล็กน้อย บางทีก็มีน้ำมูกใสๆ ด้วย"

"มีอาการเวียนศีรษะหรือคลื่นไส้อาเจียนมั้ยครับ?"

"มีปวดหัวเป็นบางครั้งครับ แต่ไม่อาเจียน"

"อ้าปากหน่อยครับ"

"อ่ะ คนนี้ครับ"

"ไม่อ้าปากให้หมอดูด้วยล่ะ" ผมพูดขึ้นมาอย่างอดที่จะประชดไม่ได้ ก็ตั้งแต่มาถึงโรงพยาบาลไอ้คนที่มาทำหน้าที่เป็นญาติผู้ป่วยเฉพาะกิจก็เล่นตอบคำถามตั้งแต่กรอกประวัติ บอกอาการกับพยาบาลจนเข้ามาพบหมอ ...ขนาดหมอยังเข้าใจผิดว่าคนที่ป่วยคือมันเลยครับคิดดู มันเลยหันมายิ้มแห้งๆ ให้ก่อนจะขยับหลบไปทางด้านหลังเพื่อให้หมอเข้ามาตรวจคนไข้จริงๆ สักที

"เป็นไข้หวัดธรรมดาน่ะครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง" คุณหมอหันไปบอกไอ้คนข้างๆ แทนที่จะเป็นผมเพราะมันดันทำหน้าลุ้นซะยิ่งกว่าคนป่วยเสียอีก คุณหมอได้แต่หัวเราะอย่างขำๆ ก่อนจะเขียนรายงานผลการตรวจแล้วส่งให้พยาบาลที่มานำทางพวกผมไปที่ช่องรอรับยา

"ดีขึ้นหรือแย่ลงครับ" ไอ้ปืนหันมาถามผมก่อนจะแปะแผ่นลดไข้ที่ก่อนหน้านี้ต้องเอาออกเพราะเข้าห้องตรวจมาแปะให้ใหม่

"กำลังจะแย่ลงเพราะมึงนี่แหละ แค่กๆ" ผมนั่งมองคนที่วันนี้เอาแต่ทำตัววุ่นวายเป็นหนูติดจั่นอย่างขำๆ ก่อนจะแกล้งดุมันไปทำเอาคนฟังที่กำลังพยายามจะทำอะไรสักอย่างอีกครั้งถึงกับหันกลับมานั่งอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวจนผมเริ่มรู้สึกผิด

"ขอโทษครับ"

"อย่ามาเฉาน่า กูล้อเล่น แค่กๆๆ" ไอ้ปืนหันมายิ้มทันทีก่อนจะเริ่มล่วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายอีกครั้งแล้วหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาพร้อมกับสายหูฟังจากนั้นจัดการเสียบเข้าที่หูผมสรรพเสร็จโดยไม่ขอผมสักคำ
"เพื่อความผ่อนคลายนะครับ" มันส่งยิ้มมาให้พลางเลื่อนดูเพลย์ลิสต์บนหน้าจอก่อนจะกดเล่นเพลง จากนั้นมันก็ถือวิสาสะเอาโทรศัพท์มาใส่ในกระเป๋าเสื้อหนาวของผมแล้วจึงล้วงเอาหน้ากากอนามัยที่ขอพยาบาลมาเมื่อครู่มาสวมให้แล้วก็เดินหายไป ผมมองตามหลังมันไปโดยไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะไปไหนเลยเลิกสนใจแล้วกับมาใจจดใจจ่ออยู่กับเพลงที่มันเปิดให้ฟังก่อนจะหลับตาลงเพราะรู้สึกเหมือนไข้จะกลับมาอีกครั้ง

'อยากจะได้คนนี้เป็นแฟน ก็ฉันนั้นอยากจะได้คนนี้เป็นแฟน ถ้าหากได้คนนี้เป็นแฟนก็ดี'

"เพลงเชี่ยอะไรของมันวะเนี่ย" ผมเผลอสบถก่อนจะลืมตาขึ้นมาอย่างขำๆ ทันทีที่เพลงเข้าสู่ท่อนฮุคก่อนจะตัดสินใจล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วเลื่อนไปยังเพลงต่อไป

'เธอคือหวานเย็นดับร้อนข้างในหัวใจที่ฉันมี และรักซะจนตัวฉันเก็บไปคิด เอาเธอมานอนคิดเท่านี้ฉันก็สุขใจ
เธอคือหวานเย็น แค่เห็นหน้าเธอแล้วฉันก็ชื่นใจ ชีวิตที่มีเธอคงสดใส แค่มีเธอมาใกล้ชิดกัน’


"อื้อหือ แต่ละเพลง" ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะส่ายหัวเบาๆ ให้กับความอ่อยของมันที่ยังมีมาให้ได้แม้เจ้าตัวจะไม่อยู่ก่อนจะเหลือบไปเห็นเจ้าของเพลย์ลิสต์ที่เดินเดินกลับมาพร้อมแซนวิสในมือกับนมสองขวด

"พวกพี่ทีกว่าจะมาน่าจะอีกสักพัก กินอันนี้รองท้องไปก่อนนะครับ" ไอ้ปืนยื่นแซนวิสที่แกะแล้วมาให้ผมก่อนจะหันไปเปิดนมโอวันตินมาเตรียมไว้ให้

"ขอบใจ" ผมยิ้มให้มันก่อนจะรับแซนวิสมาแล้วเริ่มลงมือกินก่อนเพลงในหูผมจะเข้าฮุคของเพลงถัดไปพอดีจนผมเผลอหันไปมองหน้ามัน

‘เพราะเธอเป็นดั่งดาว เกินใจจะไขว่คว้า เอาเธอเข้ามากอด ดึงเธอมาซบตรงไหล่ จริง ๆ ก็รู้ว่าเธอก็คงไม่สนใจ’

"ฟังเพลงอะไรอยู่เหรอครับ" มันหันมามองผมอย่างงๆ ที่ผมดันไปจ้องหน้ามันก่อนจะยิ้มอย่างมีเลศนัยเมื่อเหลือบมาเห็นหูฟังที่ขาวยังไม่ถูกถอดออกก่อนจะดึงหูฟังข้างหนึ่งไปเสียบเข้ากับหูตัวเอง

‘เพราะเธอเป็นดั่งดาว เลิศเลออย่างใครเขา ฉันทำไม่ไหว มองเธอเพียงแค่ห่าง ๆ ฝันว่าเธอนั้นเคียงข้าง’

ก่อนจะขยับปากออกมาแบบไม่มีเสียงแต่ผมก็พออ่านได้ ...ว่ามันตรงกับเนื้อเพลงท่อนสุดท้าย

‘และต่อให้ฉันจะทำได้เพียงแค่เท่านั้น ฉันก็พอใจ'





[Bpuen's]

“พี่กันย์อยู่คนเดียวได้แน่นะครับ” ผมถามคนตรงหน้าอีกครั้งก่อนเจ้าตัวจะพยักหน้าหงึกๆ แล้วมุดเข้าถุงนอนของผมไป

“กูไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย เพื่อนกูก็มี โว๊ะ!” พี่กันย์บอกด้วยสีหน้ารำคาญเล็กน้อยก่อนจะพลิกตัวหนีไปแล้วหลับตาลง ผมมองคนตรงหน้าที่ไข้ยังขึ้นๆ ลงๆ อยู่อย่างอดห่วงไม่ได้ ถึงจะบังคับให้นอนพักตอนกลางวัน แต่เดี๋ยวพอตกดึกอากาศก็เย็นขึ้นอีก ไม่รู้จะไข้จะกลับมาสูงรึเปล่า

“ผมรู้ครับ แต่ผมห่วงนี่นา” คำพูดของผมทำให้คนที่พลิกตัวหนีไปก่อนหน้านี้หันกลับมาก่อนจะสัมผัสได้ถึงแรงสะกิดเบาๆ ที่มือของผมที่กำลังหยิบถุงยาออกมาวางไว้ให้ข้างๆ ถุงนอน

“กูอยู่ได้จริงๆ” พี่กันย์ย้ำก่อนจะส่งยิ้มมาให้ก่อนจะเอื้อมมาหยิบแผ่นลดไข้ไปแกะเองแล้วแปะลงไปบนหน้าผาก

“แน่นะครับ” ผมถามก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อคนตรงหน้าเริ่มหรี่ตามองก่อนะจะพยายามลุกมาทำหน้าหาเรื่องผม

“ไอ้สัด! เชื่อกูเถ๊อะ จะไปไหนก็รีบไปเลยมึง” พี่กันย์บอกก่อนจะใช้มือดันๆ ผมอีกครั้งก่อนจะพลิกตัวกลับไปแล้วปิดตาลง

“เดี๋ยวผมกลับมานะครับ ต้องนอนพักนะ อย่าเพิ่งไปวิ่งเล่นที่ไหนนะครับพี่”

“เออ” เสียงที่รับคำออกมาอย่างเริ่มรำคาญทำเอาผมได้แต่ส่ายหน้ากับความกวนของคนตรงหน้าก่อนจะเช็คความเรียบร้อยของของตรงหน้าอีกครั้ง

“ไอ้ปืนพร้อมยัง?” พี่เจเดินมาตามก่อนจะถามอาการพี่รหัสตัวเองสองสามคำ เมื่อเห็นว่าไม่ได้เป็นอะไรมากจึงปล่อยให้คนป่วยนอนต่อแล้วจึงเดินนำออกไป

“หายไวไวนะครับพี่กันย์”





"หินแน่งานนี้" พี่เจที่วันนี้จับได้ฝ่ายจิปาถะเหมือนกันพูดขึ้นในระหว่างที่คนในฝ่ายเกือบสิบคนทยอยลงจากท้ายรถกระบะแล้วมองลงไปยังเนินที่ลาดลงไปข้างล่างด้วยความสูงที่ค่อนข้างชันก่อนจะเห็นกอไผ่กระจายตัวอยู่เป็นหย่อมๆ โดยรอบ

งานวันนี้ของฝ่ายจิปาถะแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกอยู่ที่โรงเรียนเพื่อทำหน้าที่คัดแยกหนังสือและอุปกรณ์ที่ยังใช้ได้มาจัดเรียงและทำความสะอาด ส่วนกลุ่มที่สองซึ่งก็คือพวกผมต้องออกมาตัดต้นไผ่เพื่อเอาไปเป็นวัสดุในการทำอุปกรณ์และตกแต่งห้องสมุดตามคำเรียกร้องของพวกฝ่ายก่อและฝ่ายสวน

"ไหวกันเปล่าวะ?" พี่เอ็มซึ่งเป็นพี่ปีสี่หัวหน้าฝ่ายมองไปยังพื้นที่ตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจก่อนจะหันมาถามความเห็นพวกผมที่ยืนอยู่ริมขอบทาง

"มากันขนาดนี้แล้วพี่" พี่เจตะโกนกลับไปอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน พี่เอ็มทำหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาบอกคนในฝ่ายทุกคน

"งั้นทำเท่าที่ทำได้ละกัน ไม่ไหวก็แค่กลับโรงเรียน" พอได้สัญญาณพวกผมเลยกระจายตัวกันตามหน้าที่ที่ได้วางแผนกันไว้ คือต้องมีกลุ่มหนึ่งคอยสังเกตการณ์จากข้างบน อีกกลุ่มทำหน้าที่ลงไปตัดไผ่แล้วส่งให้อีกกลุ่มทยอยขนขึ้นมากองไว้ท้ายรถ

"ไอ้ปืนระวังนะเว้ย"

"ครับพี่" ผมบอกก่อนจะค่อยๆ ไถตัวลงไปตามเนินบริเวณที่ไม่ชันนักก่อนจะปีนข้ามไปยืนอยู่บนหินแง่งถัดไปซึ่งอยู่ใกล้กอไผ่ที่พอจะใช้ได้มากกว่าแล้วใช้มีดที่เตรียมมาฟันลงไฟตรงโคนมัน





ฉับ! ฉับ! ฉับ! ตอนนี้ทุกฝ่ายพยายามทำงานแข่งกับเวลาเมื่อบรรยากาศรอบๆ เริ่มมืดลงเพราะใกล้ค่ำเต็มที

"กูว่าตัดอีกสักกอสองกอก็พอแล้วว่ะ" พี่เอ็มตะโกนลงมาก่อนจะช่วยรับไม้ไผ่ที่ตัดแล้วไปวางกองรวมกันไว้บนรถอีกคัน

"เฮ้ยมึง ระวังผึ้ง" เสียงของพี่อีกคนที่อยู่ตรงกอไผ่ใกล้ๆ ตะโกนมาทำให้ผมหันไปมองผึ้งตัวเล็กๆ ที่มาบินป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ อย่างไม่น่าไว้ใจก่อนจะเหลือบไปเห็นรังของมันที่อยู่ปลายยอดไผ่กอที่ผมฟันอยู่พอดี

"เวรแล้วไง" พี่เอ็มอุทานขึ้นอย่างตกใจก่อนจะรีบบอกให้ทุกคนรีบปีนขึ้นมาอย่างเงียบๆ

"เฮ้ยพี่ อย่าเหยียบตรงนั้น" ผมบอกแทบไม่ทันเมื่อพี่อีกคนที่กำลังปีนขึ้นเผลอปีนไปทางต้นไม้ที่กิ่งดูอ่อนแอสุดๆ จนผมต้องรีบปีนตามไปดึงพี่เขาที่ทำท่าจะเสียหลักให้กลับมาทรงตัวได้แล้วดึงให้ปีนขึ้นมาด้วยกัน

"ขอบคุณมากเว้ย" พี่คนนั้นพูดขึ้นมาพลางหอบหายใจแรงๆ อย่างตื่นตระหนกแล้วรีบปีนขึ้นไป

"ไม่เป็นไรครับ"

"ค่ายปีนี้แมร่งโคตรน่าจดจำ แต่เหนือสิ่งอื่นใดไอ้พวกฝ่ายก่อกับฝ่ายสวนต้องเลี้ยงปลาดิบพวกกูแล้วว่ะงานนี้" พี่เอ็มที่กำลังยืนสังเกตการณ์ฝูงผึ้งเอ่ยขึ้นพลางถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมาในระหว่างที่ผมซึ่งเป็นคนสุดท้ายกำลังปีนขึ้นไป

"อ้าวเชี่ยย พวกมึงระวัง" ผมหันไปมองตามเสียงตะโกนพอดีก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปปะทะกับท่อนไม้ไผ่ที่หลุดจากมือพี่ข้างบนก่อนจะหล่นลงมาตามแรงโน้มถ่วงแล้วฟาดเข้าที่ซีกหน้าข้างขวาของผมพอดี

"ฉิบหายละ" พี่เจอุทานขึ้นมาก่อนจะค่อยๆ ปีนลงมาคว้ามือผมที่เผลอปล่อยออกมาจับหน้าตัวเองอย่างมึนๆ ก่อนจะลากขึ้นไปด้วยกัน

"เฮ้ยกูขอโทษ เป็นไรมากเปล่าวะมึง" พี่ที่เผลอทำไม้หลุดมือพูดขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหา ผมได้แต่ยกมือขึ้นโบกว่าไม่เป็นไรก่อนจะทรุดลงนั่งเพราะยังรู้สึกมึนไม่หาย

"ต้องไปโรง'บาลเปล่าวะ?" พี่เอ็มถามก่อนจะนั่ง ลงข้างๆ เพื่อเช็คอาการ

"ไม่เป็นไรพี่ ขอผมนั่งแป๊บหนึ่ง" ผมบอกก่อนจะพยายามรวบรวมสติให้กลับมาเพื่อที่จะลืมตาขึ้นมองพี่เจที่เข้ามาช่วยพยุงผมไปขึ้นรถ

"พี่กันย์เอากูตายแหงงานนี้"





"โอเคเปล่าวะ" พี่เจถามย้ำในตอนที่รถมาถึงโรงเรียนก่อนจะลากผมไปทางโรงอาหารที่ตอนนี้เหลือแค่พี่ปูนกับพี่เป้ที่รออยู่เพื่อเตรียมอาหารให้เพราะเลยเวลามือเย็นไปนานแล้ว

"ปืนไปโดนอะไรมาอ่ะ นั่งก่อนๆ" ผมได้ยินเสียงพี่ปูนพูดขึ้นอย่างตกใจก่อนจะสัมผัสได้ถึงมือเย็นๆ ที่ยื่นมาแตะหน้าผม

"โอ้ย!" ผมถอยตัวหนีจนพี่ปูนต้องเอามือออก ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่เพราะมันยังชาอยู่ แต่พอมีคนแตะผมถึงรู้สึกได้มากกว่าความชา ...หน้าผมแมร่งโคตรระบมเลยครับตอนนี้

"งั้นเดี๋ยวพี่เอาผ้าชุบนำน้ำอุ่นมาประคบให้นะ ไอ้เจไปเอามาดิ"

"ได้พี่ รอเดี๋ยวนะมึง" พี่เจรับคำก่อนจะรีบเดินไปหาของที่ต้องการจากในครัว

"เอ่อ พี่ปูนครับ" ผมตะโกนเรียกพี่ปูนที่กำลังเดินไปเสียบกาน้ำร้อนก่อนพี่เขาจะหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ

"ผมขอน้ำอุ่นแก้วหนึ่งด้วยนะครับ เอ่อ ขอน้ำผึ้งกับมะนาวด้วยถ้ามี"

"เจ็บคอด้วยเหรอ?" พี่ปูนถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะเดินไปเปิดฝาตู้เก็บกับข้าวแล้วหยิบขวดน้ำผึ้งกับมะนาวติดมือออกมา

"เปล่าครับพี่ พอดีจะเอาไปให้พี่กันย์"





หลังจากที่พี่ปูนกับพี่เจช่วยปฐมพยาบาลผมมากกว่าครึ่งชั่วโมงจนรู้สึกดีขึ้น พี่เขาเลยบอกให้กินข้าวเย็นก่อนที่ผมจะขอตัวออกมาโดยมีแก้วน้ำอุ่นที่ผสมน้ำผึ้งกับมะนาวไว้ในมือ

"อ้าว ไม่อยู่นี่หว่า" ผมเดินกลับมาที่เต็นท์ก่อนจะรูดซิปเข้าไปแต่ก็ไม่เห็นคนที่ตอนนี้น่าจะนอนพักอยู่เพราะไม่สบายอย่างที่ควรจะเป็น

'อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป เธอก็รู้ทั้งหัวใจ ฉันอยู่ที่เธอหมดแล้วตอนนี้...'

เสียงเพลงที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องหันไปมองที่มาก่อนจะเห็นเพื่อนๆ พี่ๆ ร่วมค่ายที่ตอนนี้เริ่มตั้งวงรอบกองไฟกันอย่างอารมณ์ดี ผมวางแก้วน้ำอุ่นในมือลงก่อนจะเอาผ้าชุบน้ำอุ่นที่พี่ปูนให้ติดมามาประคบหน้าอีกครั้งเพราะเริ่มปวดขึ้นมากกว่าเดิม

"ไปไหนของพี่เขาวะเนี่ย" ผมคิดอย่างกังวลเพราะตอนที่ผมลงไปตัดไผ่ถึงแม้พี่กันย์จะไม่ได้มีไข้สูงเหมือนตอนแรกแต่ก็ยังไม่หายดี ยิ่งตอนนี้ยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็นเข้าไปใหญ่

"ไอ้ปืนเป็นไงบ้างวะ ได้ข่าวโดนไผ่ฟาดหน้า" พี่โฟมที่เดินออกมาจากศูนย์ฯ พูดติดตลกก่อนจะเดินเข้ามาดูอาการ

"ไม่เป็นไรครับพี่"

"แต่กูว่ามึงเริ่มจะเป็นแล้วนะ ช้ำเป็นแถบไอ้ห่า" พี่โฟมพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะดินเข้าไปเอายาแล้วส่งมาให้ผมอีกอันหนึ่งถึงแม้ผมจะชูยาในมือให้พี่โฟมดูว่าผมมีอยู่แล้วก็ตาม

"ขอบคุณครับพี่"

"ถ้าไม่ไหวก็บอกนะเว้ย ไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวพวกกูพาไปหาหมอ"

"ครับพี่ เอ่อ..พี่โฟมครับ เห็นพี่กันย์มั้ยครับ" ผมถามคนที่กำลังจะเดินไป พี่โฟมหันมาแล้วทำหน้าคิดก่อนจะชี้ไปตรงวงรอบกองไฟ

"มึงไปหาแถวนั้นอ่ะ เดี๋ยวก็เจอ"





'อากาศร้อนๆ ตอนบ่ายๆ กับวันสุดท้ายที่เธอลาไป ภาพเธอเก่าๆ ยังหลอน ยิ่งทำให้ร้อนข้างในหัวใจ...'

ผมเดินมาตรงที่ตั้งวงรอบกองไฟที่ตอนนี้ผมเพิ่งเห็นว่ามันไม่ใช่แค่วงดนตรีใสๆ อย่างที่ผมเคยไปออกค่ายตอนมัธยม แต่วงนี้มีทั้งกับแกล้มและเหล้าพร้อม แถมไม่ใช่เหล้าธรรมดาด้วยครับ ...แต่มันคือเหล้าต้ม! เหล้าต้มที่ชาวบ้านแถวนี้ทำเองและน่าจะเป็นคนเอามาให้ด้วยความขอบคุณเพราะผมเห็นคุณลุงท่าทางมีอายุคนหนึ่งกำลังสาธยายดีกรีที่โหดสุดของมันอยู่ข้างๆ พี่กัมป์ประธานค่าย

"พวกเอ็งต้องลองดูสักครั้งแล้วจะติดใจ" ลุงคนนั้นคะยั้นคะยอก่อนยื่นแก้วขนาดพอๆ กับแก้วน้ำธรรมดาที่ข้างในบรรจุน้ำใสๆ ที่ผมว่าฤทธิ์ข้างในมันคงไม่ใสอย่างที่เห็นแน่ๆ

"เอาเลยพี่กัมป์ หมดแก้ว! หมดแก้ว! หมดแก้ว!" เสียงเชียร์ดังขึ้นรอบวงก่อนจะตามด้วยเสียงเฮเมื่อประธานค่ายผู้ที่ดูเหมือนจะทำใจอยู่พักหนึ่งก่อนจะกรอกน้ำใสๆ นั้นลงไปจนหมดแก้วตามคำเรียกร้อง

"สุดยอดเลยพี่"

"ให้ผมลองบ้างนะลุง"

"กูบอกแล้วว่าเด็ด ใช่มั้ยวะไอ้กันย์" ชื่อของใครบางคนดังแทรกขึ้นมาตามเสียงเฮฮาทำให้ผมต้องหันไปมองก่อนจะเจอกับคนที่ผมกำลังตามหาอยู่พอดี

"อ้าวไอ้ปืน นั่งก่อนดิ" พี่ทีที่นั่งอยู่ข้างๆ ทักขึ้นก่อนพี่กันย์ที่มองผมอยู่ก่อนจะทำหน้าตกใจ

"หน้ามึง…" พี่กันย์ถามก่อนจะชี้มาที่หน้าผมในระหว่างที่ผมนั่งลงข้างๆ เพราะพี่ทีขยับที่ว่างให้

"พี่หายดีแล้วเหรอครับ" ผมไม่ตอบคำถามแต่กลับมองคนตรงหน้าอย่างเป็นห่วงก่อนจะยกมือขึ้นไปแตะใบหน้าที่ยังคงมีสีแดงระเรื่ออยู่ แต่สายตาดันจะเหลือบไปเห็นแก้วบรรจุน้ำใสๆ ที่อยู่ในมือของคนที่ได้ชื่อว่ากำลังป่วย

"เกือบๆ แล้วแหละ แค่กๆ แล้วมึงเป็น…"
 
"พี่กันย์ กินเหล้าเหรอครับ?" ผมได้ยินตัวเองถามออกไปเสียงเรียบอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนจะเสียมารยาทดึงแก้วของคนตรงหน้ามาถือไว้แล้วยกขึ้นจรดริมฝีปากเอง  ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าคนตรงหน้าเชี่ยวเรื่องเหล้าเรื่องยาขนาดไหน แต่ไม่รู้ทำไม …ผมถึงรู้สึกชาๆ บนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่
 
"คือว่า..."

"งั้นผมไปนอนก่อนนะครับ" ผมบอกเบาๆ ก่อนจะยื่นแก้วคืนไปให้พี่กันย์แล้วตัดสินใจลุกเดินออกมา

ผมโดนไม้ไผ่ฟาดเข้ากลางหน้า ผมว่าผมก็ยังไม่เป็นไร
ถึงมันจะช้ำ จะบวม จะอักเสบจนผมเริ่มจะมีไข้ ผมก็คิดว่าผมยังทนไหว
แต่ทำไมกับแค่น้ำใสๆ ในมือของคนที่ผมโคตรห่วง ...ถึงทำเอาผมเจ็บไปจนถึงข้างในได้ขนาดนี้

ผมเดินกลับมาที่เต็นท์โดยไม่เห็นเงาของคนที่ผมดันเผลอคิดไปเองว่า …เขาคงจะสนใจผมบ้างสักนิด ผมคิดอย่างหมดแรงก่อนจะทรุดลงนั่งมองแก้วน้ำอุ่นตรงหน้าที่มันคงไม่อุ่นอีกต่อไป

กว่าจะรู้ตัวผมก็ตัดสินใจเทมันลงดินไปแล้ว

"ให้ผม-จีบ-พี่-นะครับ"
"กู-ไม่-ให้"

“เป็น-แฟน-กัน”
“ไม่ว่ะ”



"หึ! ไม่น่าพยายาม"





หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 05-12-2016 20:56:19
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-12-2016 20:57:24
 :ling3:   โอ๋ๆๆๆน้องปืน แย่งถุงนอนคืนมาเลย ไม่เอาอย่าเพิ่งถอดใจนะลูกนะ
แค่เล่นตัวบ้างก้อดี จะได้รู้สึก
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-12-2016 21:15:47
เอาล่ะสิ เข้าใจปืนนะ ไอ้เราเป็นห่วงแทบตายแต่คนป่วยกลับไม่ยอมดูแลตัวเอง
แต่เราจะไม่ฟังความข้างเดียว คงต้องรอพี่กันย์มาแก้ต่างว่าทำไมถึงออกไปตากลมกินเหล้าได้ทั้งที่ป่วยอยู่
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 05-12-2016 21:26:13
น่าสงสารน้องปืน :mew2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 05-12-2016 21:27:25
โธ่ อีพี่กันย์ทำร้ายจิตใจน้องปืนได้ไง  น่าสงสารปืน  โอ๋ อย่าน้อยใจไปเลยนะ  (รอกันย์มาง้อ)
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 05-12-2016 21:36:56
ดีดเหม่งพี่กันย์ 3 ที
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 05-12-2016 21:52:19
โอ๋ๆนะปืนนะ

อีพี่กันต์นี่ก็คนเขาอุตส่าห์บอกให้พักยังมาดอดกินเหล้าอีก ไม่สนใจคำบอกของคนที่เขาเป็นห่วงเลย
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 05-12-2016 21:52:36
ค้างๆๆ ต่อๆๆ ด่วนๆๆ นะค้าบบบ
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 05-12-2016 21:54:32
สะเทือนไตมาก เข้าใจความรู้สึกเลย
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Nattharikan ที่ 05-12-2016 22:14:54
หวานกันอยู่ดีๆ เจอประโยคสุดท้ายนี่สะอึกเลย
"ไม่น่าพยายาม"  :hao5: :hao5: ฮือๆๆๆๆๆ  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-12-2016 22:17:31
ปืน ห่วงใยพี่กัลย์ มากกว่าห่วงตัวเอง
พอเห็นพี่กัลย์ ไปอยู่วงเหล้า คงรู้สึกน้อยใจสินะ
เอาน่า....ไว้รอฟังเหตุผลพี่กัลย์ ก่อน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Kimigari ที่ 05-12-2016 22:40:59
ค้างงงง
สงสารน้องปืนมากกกก
โอ้ยยย น้องปืนของป้า กอดๆ
พี่กันย์มาดูเเลน้องปืนด้วยนะคะ เเสนดีขนาดนี้ ไม่เอาเดี๋ยวป้าเเย่งนะคะ
5555
นักเขียนมาต่อไวไวน๊าาาส จุ้บๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 05-12-2016 23:21:45
พี่กันย์ทำไมทำอย่างนี้  ชิส์
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 05-12-2016 23:55:43
สงสารปืน เจ็บตัวด้วย ใจก็เจ็บด้วย
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 06-12-2016 10:46:03
สมน้ำหน้าพี่กันต์
ถ้าน้องปืนไม่สนใจ
อย่ามางอแงแล้วกันนะ
ให้ปืนไม่สนใจ ให้พี่กันต์ตามจีบน้องบ้าง

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 06-12-2016 11:40:19
น้องปืนไม่สบายแน่เลย อาการงอแงเริ่มมา 5555
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 06-12-2016 12:41:24
พี่กันต์เอ้ย งานเข้าแล้ว
ทำน้องปืนน้อยใจหนัก งอนยาวๆไปเลยพี่กันต์จะได้รู้สึกซะบ้าง

หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 06-12-2016 15:48:56
สงสารปีนจัง พี่กันต์รีบมาหาน้องเลย ด่วน  :z3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: nuttzier ที่ 06-12-2016 22:46:15
 :mew2: :mew2:ค
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 07-12-2016 10:11:25
งานเข้าล่ะพี่กันย์ ทำน้องเสียใจ ง้อด่วนเลย :a6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]..ก็พี่มันเยอะ // chapter 23 - …ก็พี่คงไม่สนใจ [05.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 07-12-2016 19:14:52
 :katai1: :hao5:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 08-12-2016 00:23:17
24-…ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้

"ไอ้กันย์ แดกเหล้าโว้ยย!" เสียงพี่แชมป์เจ้าเก่าตะโกนก่อนจะได้ยินเสียงซิปของเต็นท์ที่ผมนอนอยู่ถูกรูดลงมา

"ขอโดดวันหนึ่งดิพี่" ผมโอดครวญออกมาต่อหน้าคนที่ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจมันสักนิด ถึงตอนนี้ไข้จะลดจนสามารถถ่อสังขารกลับมานอนที่เต็นท์ได้โดยไม่ทรมานนัก แต่จะให้แบกร่างทั้งร่างไปนั่งกินเหล้ากลางสภาพอากาศแบบนี้นี่มันก็ออกจะทรหดไปหน่อย แล้วอีกอย่าง …ไอ้คนที่ตอนนี้ลงไปตัดไผ่มันก็ดันย้ำไว้ซะขนาดนั้น

"อย่ามาอ่อนไอ้น้อง ลุกเลยมึง" พี่แชมป์ไม่พูดเปล่ายังถือวิสาสะเดินมารูดซิปถุงนอนก่อนจะลากตัวผมให้ลุกขึ้นมานั่งแล้วยื่นมือมาตบหน้าผมเบาๆ เพื่อให้หายจากอาการสะลึมสะลือ

"ผมป่วยอยู่อ่ะพี่"

"กูก็ป่วยเนี่ย เห็นน้ำมูกกูมั้ย? ฟืดด..."

"ผมเจ็บคอด้วยเนี่ย"

"เหล้ามันของร้อน แดกปุ๊บคอมึงโล่งปั๊บเชื่อกู"

"ผม..."

"ไม่ต้องพูดแล้ว ถ้ามึงไม่ออกมาภายในสามนาที เราจบกัน!" พี่แชมป์พูดตัดบทก่อนจะเดินออกไปแล้วปล่อยผมไว้กับทางเลือกที่คงไม่ต้องเลือกอีก ...ก็ถ้าพี่ที่เคารพรักของผมเล่นพูดซะขนาดนั้น จะให้ผมทำอะไรได้อีกล่ะครับ ผมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเก็บถุงนอนของไอ้ปืนที่มันยกให้ใช้ระหว่างที่มันไม่อยู่ให้เรียบร้อย ผมมองถุงนอนตรงหน้าก่อนจะพาลคิดไปถึงเจ้าของมันอย่างอดรู้สึกผิดไม่ได้

"ให้ถุงนอนมึงเป็นพยาน กูพยายามเลี่ยงแล้ว ห้ามโกรธกูนะเว้ย!"





'อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป เธอก็รู้ทั้งหัวใจ ฉันอยู่ที่เธอหมดแล้วตอนนี้...'

เสียงดนตรีเบาๆ อากาศเย็นๆ กับพี่ๆ น้องๆ ร่วมคณะที่กำลังนั่งเฮฮาปาร์ตี้กันอยู่ แถมยังมีตัวกระตุ้นชั้นดีอย่างเหล้าต้มที่ทุกคนการันตีว่าเด็ดตามคำโฆษณาของลุงชาวบ้านที่แวะเวียนเอามาให้ไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงแทบจะเมาจนลงไปเกลือกกลิ้งกับความรื่นเริงตรงหน้ามากกว่านี้ แต่ตอนนี้ผมมันดันไม่ปกติ ทั้งร่างกายภายนอก...และภายใน

"เอ้าชน!" พี่แชมป์หันมาชูแก้วให้จนผมต้องจำใจยกไปชนด้วยตามคำขอก่อนจะยกขึ้นแตะริมฝีปากแค่พอเป็นพิธี ถ้าเป็นเวลาปกติเหล้าแก้วแค่นี้ไม่ต้องรอถูกเรียกให้ชนหรอกครับ แต่ก็อย่างที่บอก...วันนี้ผมมันไม่ปกติไง!

"พวกไอ้กัมป์กลับมาแล้วว่ะ" ไอ้ทีเดินเข้ามาบอกก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ผมแล้วรับแก้วที่พี่แชมป์ส่งมาให้อย่างรวดเร็วไปไว้ในมือ ...ถ้าอย่างนั้นไอ้ปืนก็ต้องกลับมาแล้วเหมือนกัน มันจะด่าผมเปล่าวะเนี่ย?

"ได้ข่าวว่าน้องมึงโดนบ้องไผ่ฟาดหน้า กูล่ะเจ็บแทน"

"น้องไหน?" ผมถามขึ้นมาอย่างรู้สึกตงิดๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก คงไม่ใช่...

"ไอ้เชี่ยปืนไง จะใครล่ะ หน้านี่เขียวเป็นทางเลย" ไอ้คนเล่าก็ดันมีแอคติ้งประกอบจนผมเริ่มใจไม่ดี ...ก็ผมเป็นคนเอาลูกเขามา ถ้าลูกเขาเป็นอะไรขึ้นมาผมจะชดใช้คืนให้พ่อแม่เขาได้ยังไงล่ะครับ

"งั้นเดี๋ยวกูมานะ" ผมบอกไอ้ทีก่อนทำท่าจะลุกแต่ก็ต้องนั่งลงอีกครั้งเพราะมือพี่แชมป์เจ้าเก่าที่ลากผมมากินเหล้านั่นแหละครับ

"จะหนีไปไหนครับผม ไม่เมา! ไม่เลิกเว้ย!" ...เชี่ยเอ้ย จะด่าก็ไม่ได้อีก ผมคิดอย่างเซ็งๆ จนไม่รู้จะเซ็งยังไงแล้ว ก่อนจะจำใจยกแก้วเหล้าไปชนกับพี่แชมป์แล้วยกขึ้นมาจิบอย่างร้อนใจ




'อากาศร้อนๆ ตอนบ่ายๆ กับวันสุดท้ายที่เธอลาไป ภาพเธอเก่าๆ ยังหลอน ยิ่งทำให้ร้อนข้างในหัวใจ...'

"เฮ้ย เอาแก้วมึงมาดิ เนี่ยลุงเขาอุตส่าห์เอาตำรับใหม่มาให้ลองถึงที่เลยนะเว้ย" เพื่อนพี่แชมป์อีกคนพูดขึ้นจนผมต้องแอบเทเหล้าที่เหลือทิ้งตรงสนามหญ้าข้างๆ ก่อนจะยื่นแก้วเปล่าไปให้แล้วหันไปสนใจคนที่มาใหม่ตามเสียงเรียกของไอ้ที

"เฮ้ยไอ้โฟม นั่งนี่ๆ" ไอ้โฟมที่ตามมาสมทบเดินเข้ามานั่งข้างๆ ก่อนพี่แชมป์จะทำหน้าที่หนุ่มเชียร์เหล้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

"แล้วนี่ก็ของมึงกับของมึง" พี่แชมป์ส่งแก้วกลับมาให้ผมก่อนจะยื่นแก้วอีกใบไปให้ไอ้กัมป์ที่วันนี้ดูจะแตะเหล้าน้อยที่สุดเพราะตำแหน่งประธานค่ายมันค้ำคอ

"พวกเอ็งต้องลองดูสักครั้งแล้วจะติดใจ" ลุงคนนั้นคะยั้นคะยอจนไอ้กัมป์ได้แต่มองแก้วเหล้าในมืออย่างลำบากใจ

"เอาเลยพี่กัมป์ หมดแก้ว! หมดแก้ว! หมดแก้ว!" เสียงเชียร์ดังขึ้นรอบวงก่อนจะตามด้วยเสียงเฮเมื่อไอ้กัมป์มันกระดกเหล้าเข้าปากตามคำเรียกร้องก่อนจะทำสีหน้าบรรยายไม่ถูกออกมา

"กูบอกแล้วว่าเด็ด ใช่มั้ยไอ้กันย์" พี่แชมป์พูดขึ้นอย่างชอบใจก่อนจะหันมาหาแนวร่วมจนผมต้องพยักหน้าเอออห่อหมกไปตามเรื่อง

"อ้าวไอ้ปืน! นั่งก่อนดิ" เสียงเรียกของไอ้ทีทำให้ผมหันไปมองอย่างตกใจก่อนจะเห็นคนที่วันนี้หายไปทั้งวันกำลังยืนมองมาที่ผมพอดี

"หน้ามึง…" ผมถามในขณะมองใบหน้าของไอ้ปืนที่ขึ้นรอยเขียวอย่างเห็นได้ชัดจนน่าเป็นห่วงก่อนมันจะเดินมานั่งลงข้างๆ ผมแล้วพูดแทรกขึ้นมา

"พี่หายดีแล้วเหรอครับ?"

"เกือบๆ แล้วแหละ แค่กๆ แล้วมึงเป็น…"

"พี่กันย์ กินเหล้าเหรอครับ" ยังไม่ทันที่ผมจะได้ถามอีกครั้งไอ้ปืนก็เบนสายตาไปยังแก้วที่ผมถืออยู่ในมือแล้วถามขึ้นมาด้วยสีหน้าที่คล้ายๆ จะผิดหวัง ก่อนจะดึงแก้วจากมือผมไปแล้วยกขึ้นแตะริมฝีปาก

"คือว่า..."

"งั้นผมไปนอนก่อนนะครับ" ยังไม่ทันจะอธิบาย สายตาตัดพ้อของคนตรงหน้าก็ถูกส่งมาก่อนเจ้าตัวจะยื่นแก้วกลับมาให้แล้วลุกเดินออกไป

"มันไปไหนของมันวะ?" ไอ้ทีมองตามไปอย่างงงๆ ที่จู่ๆ คนที่เพิ่งมาก็ลุกเดินออกไปซะอย่างนั้นก่อนจะหันมามองผมที่ได้แต่นั่งอ้ำๆ อึ้งๆ อย่างไปไม่เป็น ...มันโกรธผมใช่มั้ย? ผิดหวัง? เสียใจ? ยังไง?

รู้ตัวอีกทีคนที่มาปล่อยระเบิดไว้ก็หายไปจากสายตาซะแล้วจนผมเพิ่งจะมารู้สึกว่า …หรือจริงๆ แล้วผมควรจะตามมันไป?

'ทำไมมันร้อนห้ามไม่อยู่ก็ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร  ได้แต่ห้ามใจ และไม่รู้ทำไมมันยิ่งร้อน
ยิ่งคิดยิ่งร้อน ...ข้างในหัวใจ'


'ไอ้เชี่ยปืนเอ้ย กูฝากถุงนอนบอกมึงแล้วไง...ว่าห้ามโกรธกูอ่ะ'






ผมเดินไปเดินมารอบเต็นท์ตั้งแต่ชั่วโมงก่อนจนตอนนี้วงเหล้ารอบกองไฟได้ฤกษ์สลายตัวกันไปแล้ว แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังทำได้แค่ยืนมองเต็นท์ต่อไปอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไร ...ถ้าผมเข้าไปแล้วเจอมัน อย่างแรกที่ผมต้องทำคืออะไรนะครับ?
 
ครืดด..ด

สุดท้ายผมก็ตัดสินใจว่าควรอันเชิญตัวเองเข้าไปข้างในเมื่อคิดได้ว่า ...ถ้ามันโกรธผมอย่างที่คิดไว้จริงๆ ผมก็จะได้อธิบายและขอโทษมัน แล้วทุกอย่างก็จะเข้าสู่สภาวะปกติ ผมจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดเองเออเองอยู่คนเดียว และทันทีที่ผมมุดเข้าไปข้างในก็เห็นไอ้คนที่เป็นสาเหตุให้ผมทำตัวไม่ถูกนั้นนอนหลับไปแล้ว แต่แปลกที่วันนี้มันหันหน้าเข้าหาเต็นท์แทนที่จะหันมาทางฟากผมเหมือนวันก่อนๆ ...มันอาจจะเจ็บแผล ผมพยายามคิดเข้าข้างตัวเองก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูรอยช้ำที่หน้าของมัน

"อืออ" เสียงครางจากคนที่นอนอยู่ดังขึ้นจนผมต้องชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปแตะอย่างตกใจก่อนจะดึงมือกลับแล้วถอยไปนั่งตรงฝั่งของผมเองจากนั้นจึงรื้อเอาถุงนอนของตัวเองออกมาเงียบๆ เพราะไม่อยากไปรบกวนคนตรงหน้าเหมือนอย่างวันก่อนๆ

"หืม?" ผมเพิ่งสังเกตเดี๋ยวนี้เองว่าถุงนอนที่ไอ้ปืนนอนอยู่มันเป็นของผม ส่วนที่ยังพับไว้เรียบร้อยในมือผมนี้คือถุงนอนที่โคตรอุ่นของมัน ผมมองถุงนอนในมือสลับกับคนตรงหน้าอย่างรู้สึกผิดก่อนจะตัดสินใจกางถุงนอนออกแล้วเอาไปห่มให้มันจากนั้นจึงออกมาจากเต็นท์แล้วไปขอนอนกับไอ้กัมป์ในศูนย์ฯ แทน





[Bpuen's]

ผมตื่นมาในตอนสายๆ ด้วยใบหน้าที่รู้สึกระบมมากกว่าเมื่อวานก่อนจะเหลือบไปมองที่นอนข้างๆ อย่างเคยชิน ...พี่กันย์ไม่ได้กลับมา ความจริงที่ปรากฏทำเอาผมอดที่จะรู้สึกน้อยใจขึ้นมาไม่ได้ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ให้กับความหวังลมๆ แล้งๆ ของตัวเอง ผมลุกขึ้นมานั่งอย่างมึนๆ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์มาดูเวลา

'06.20' ...คงเป็นวันที่ผมตื่นสายที่สุดตั้งแต่มาค่ายแล้วมั้งครับ ผมเลื่อนตัวออกมาจากถุงนอนก่อนจะหันไปพับเก็บให้เรียบร้อยจนเพิ่งสังเกตว่า ...ผมไม่ได้ใช้ถุงนอนแค่อันเดียว ผมนิ่งไปสักพักก่อนจะพับต่อไปอย่างไม่ใส่ใจ ...บางทีผมอาจจะหนาวเกินไปจนเผลอหยิบมาใช้ก็ได้ ก็คนที่อยากให้ใช้เขาก็ไม่กลับมาใช้อยู่แล้วนี่นา

"เป็นยังไงบ้าง?" พี่ปูนทักขึ้นทันทีที่ผมเดินเข้าไปในโรงอาหารแล้วไปต่อแถวกินข้าวเหมือนคนอื่นๆ ที่มาถึงก่อน

"ยังปวดๆ อยู่เลยครับ" ผมบอกก่อนจะรับจานข้าวร้อนๆ ที่โปะไข่เจียวกับผัดผักมาแล้วเดินไปนั่งร่วมโต๊ะกับเด็กฝ่าย 'ก่อ 1' ซึ่งเป็นฝ่ายที่ผมจับฉลากได้สำหรับวันนี้

"ไหวเปล่าวะ? ไม่ไหวมึงลาก็ได้นะกูไม่ว่าอะไร" พี่หัวหน้าฝ่ายที่ผมเพิ่งรู้จักเป็นครั้งแรกว่าชื่อ 'พี่ซัน' พูดขึ้นก่อนเพื่อนๆ พี่ๆ คนอื่นจะหันมาร่วมด้วยอย่างเป็นห่วงจนผมอดที่จะรู้สึกตื้นตันไม่ได้ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแรงสะกิดที่หลังเบาๆ …

"ไอ้ปืน! หน้ามึง...เป็นยังไงบ้าง?" ผมหันไปตามแรงสะกิดก่อนจะเจอเข้ากับคนที่หายไปทั้งคืนกำลังยืนมองอยู่ก่อนจะชี้ๆ มาที่หน้าของผมเพื่อถามอาการ

"ไม่เป็นไรครับ" สีหน้าของพี่กันย์สลดลงจนทำให้ผมเพิ่งรู้สึกตัวว่า …บางทีคำพูดของผมอาจจะห้วนเกินไป แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับคิดว่า ...ถึงแม้จะพูดมากกว่านี้ แต่เขาก็อาจจะไม่ได้สนใจมากขึ้นหรือน้อยลงมากกว่าที่เป็นอยู่เท่าไหร่หรอกมั้งครับ?

"เจ็บมากเปล่าวะ?" ผมมองมือที่กำลังจะยื่นมาจับอย่างรู้สึกแปลกๆ รู้ตัวอีกที่ผมก็เผลอปัดมือของคนตรงหน้าก่อนจะมองสีหน้าตกใจของพี่กันย์ เจ้าตัวทำได้แค่ยิ้มบางๆ มาให้แล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะฝ่ายสวน

"เอ่อ ถ้ากินข้าวไม่ได้ กินอันนี้แทนก็ได้นะ" พี่ปูนที่เพิ่งเดินเข้ามาที่โต๊ะของพวกผมพูดขึ้นอย่างลังเลก่อนจะวางแก้วโอวัลตินร้อนๆ ลงตรงหน้าผมพร้อมกับยาแก้อักเสบอีกถุงหนึ่งแล้วเดินจากไปปล่อยให้ผมนั่งมองถุงยาตรงหน้าที่มาพร้อมกับลายมือคุ้นตาของใครบางคน

'ขอโทษ'





[Gun's]

"มึงทะเลาะอะไรกันวะ?" ไอ้ปูนทักขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างๆ ผมในตอนที่ทุกคนออกจากโรงอาหารไปหมดแล้ว ส่วนผมขอใช้อำนาจของคนป่วยลาเฉพาะกิจอีกครึ่งวันแล้วโดดมานั่งเล่นที่โรงอาหารอย่างคนไม่ค่อยมีกะจิตกะใจจะทำงานสักเท่าไหร่

"เปล่านี่" ผมบอกมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะจิ้มฝรั่งที่ไอ้เป้เอามาวางไว้ให้ก่อนจะนั่งลงสอบสวนผมอีกคน

"งั้นมึงจะขอโทษน้องมันทำไม?"

"กูไม่รู้ แต่มันเหมือนจะโกรธกูนี่หว่า" คำตอบของผมทำเอาเพื่อนสองคนถึงกับมองหน้ากันก่อนจะหันมามองผมอย่างไม่เข้าใจ

"เอ้า! ขนาดตัวมึงยังไม่รู้เรื่องที่มึงจะขอโทษเลย แล้วมึงคิดก็วะว่าน้องมันจะยอมรับคำขอโทษส่งๆ ของมึงรึไง"

"ไม่ได้ขอโทษส่งๆ นะเว้ย กูตั้งใจ"

"เออ มึงตั้งใจ แล้วไงวะ? ตกลงมันโกรธมึงเรื่องอะไรเนี่ย"

“กูว่า …น่าจะเพราะกูหนีไปแดกเหล้า”

“ห๊ะ? ทำไมวะ มึงก็กินเป็นปกติป่ะ?" ไอ้พูดถามขึ้นอย่างสงสัย

“คืองี้ ...กูไม่สบายใช่ป่ะ ไอ้ปืนเนี่ยมันก็ย้ำนักย้ำหนาว่าให้กูนอน กูก็นอนแล้วนะ แต่บังเอิญ..."

"อืมมมมม" ไอ้เป้กับไอ้ปูนรับคำพร้อมกันจนผมต้องเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะเห็นรอยยิ้มล้อเลียนที่ถูกส่งมา

"เชี่ยอะไรของพวกมึง"

"ไม่มีอะไรค่า เล่าต่อๆ"

"เออ บังเอิญพี่แชมป์ขึ้นค่ายมาพอดีเลยลากกูออกไปแดกเหล้า มึงก็รู้กูเลี่ยงพี่แชมป์ได้ที่ไหน แต่กูพยายามไม่กินแล้วนะเว้ย ไม่เชื่อเอาเลือดกูไปตรวจได้เลย แมร่งมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในเลือดกูไม่ถึงสองช้อนโต๊ะชัวร์" ผมเล่าก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ จนพวกมันได้แต่ยื่นมือมาตบไหล่เบาๆ เหมือนจะเข้าใจก่อนจะส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้

"น้องแมร่งไม่ได้โกรธมึงหรอก" ไอ้ปูนพูดยิ้มๆ ก่อนไอ้เป้จะเสริมขึ้นมาอีกคน

"น้องมันแค่เสียใจ"

"เสียใจ? เสียใจอะไรวะ"

"ไอ้กันย์เอ้ย มึงรู้แต่มึงไม่ยอมรับ" ไอ้ปูนพูดก่อนจะเดินอ้อมมานั่งลงข้างๆ ผมตามด้วยไอ้เป้อีกคน ...นี่พวกมึงเล่นเป็นบีหนึ่งบีสองกันรึไงวะ?

"ยอมรับอะไร?"

"ก็ไอ้ปืนมันโคตรห่วงมึง มึงรู้ใช่ป่ะ?"

"เอ่อ..."

"รู้-ใช่-มั้ย?" ไอ้ปูนเน้นคำก่อนจะหรี่ตามองผมอย่างจริงจัง

"ก็..คิดว่ารู้"

"นั่นแหละ ทีนี้พอมันมาเห็นมึงที่ไม่ยอมห่วงตัวเองทั้งๆ ที่มันห่วงมึงแทบตายมันก็เสียใจไง”

“เสียใจว่า?”

“ว่ามึงไม่เห็นค่าของทุกอย่างที่มันทำให้มึงไง ส่วนมึงก็มานั่งเสียใจที่ทำให้มันเสียใจอย่างนี้ พูดง่ายๆ คือ …มึงก็ห่วงมันเหมือนกัน หรือไม่จริง?" ไอ้เป้เริ่มสาธยายก่อนจะย้อนกลับมาถามผม

"ไม่..."

"หยุดเลยไอ้กันย์! มึงแมร่งมีเหตุผลร้อยแปดอ่ะ ถ้ามึงจะบอกว่าไม่ แล้วมึงจะมานั่งอยู่ตรงนี้ทำไมวะ?"

"..."

"ฟังค่ะไอ้กันย์ จากที่กูสัมผัสได้ น้องปืนชอบมึงชัวร์" คำถามของไอ้เป้ทำเอาทั้งผมและไอ้ปูนหันมามองหน้าพร้อมกันก่อนไอ้ปูนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ส่วนผมนี่นั่งเอ๋อไปแล้วครับ

"มึงรู้ได้ไงวะ?"

"ไอ้ห่ากันย์ เขารู้กันทั้งคณะแล้วมั้ง กูแค่ถามมึงอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ" ไอ้เป้เบะปากใส่ผมอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพูดต่อ

"แล้วมึงอ่ะ คำว่า ‘ห่วง’ ของมึงเนี่ยมันมีคำว่า ‘ชอบ’ อยู่ด้วยเปล่าวะ?" คำถามของมันเล่นเอาผมถึงกับไปต่อไม่ถูก

"เอ่อ มึงต้องเข้าใจก่อนว่าเด็กคณะเราเนี่ยมันไม่ค่อยมีเวลาไปเจอใครอยู่แล้ว แล้วพอมีคนเข้ามาอ่ะมันก็แบบ…"

"ตอบซะยาวเลยมึง กูขอคำเดียว ชอบหรือไม่ชอบ?" ไอ้เป้พูดดักขึ้นมาจนผมชะงัก

"ไอ้ปืนเป็นผู้ชาย"

"กูรู้"

"กูก็เป็นผู้ชายเผื่อมึงลืม" ผมย้ำมันถึงความจริงบางอย่างที่ทำเป็นมองไม่เห็นไม่ได้

"อันนั้นกูก็รู้ แล้วกูก็ไม่ได้ถาม ตอบให้ตรงคำถามดิวะ" ไอ้เป้ย้ำก่อนจะหรี่ตามองแล้วพูดต่อ

"ถ้ามึงตัดคำว่า ‘ผู้ชาย’ ออกไป"

"..."

"ชอบหรือไม่ชอบ?" ไอ้เป้ถามขึ้นมาพร้อมๆ กับไอ้ปูนจนผมต้องหลับตาลงเพื่อคิดทบทวนอะไรบางอย่างที่มันวนอยู่ในหัวของผมตั้งแต่ตัดสินใจชวนไอ้ปืนมาค่ายในครั้งนี้ ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ ออกมาแล้วมองหน้าพวกมัน

"เออ"

"เออ คือ?" ...ผมล่ะแมร่งเกลียดไอ้สองคนตรงหน้าที่มันทำหน้าทำตาตื่นเต้นซะขนาดนั้นจริงๆ ให้ตาย!

"กูชอบมัน"

ไอ้บีหนึ่งบีสองถอนหายใจออกมาราวกับยกภูเขาออกไปได้ทั้งลูกก่อนจะลุกขึ้นเต้นไปรอบๆ จนผมเริ่มเกลียดตัวเอง ...มึงเครียดอยู่ไอ้กันย์ มึงอย่ายิ้มสิโว้ยยย!

"ก็แค่นั้นแหละ"

"แค่นั้นเชี่ยไรล่ะ" ผมโวยวายขึ้นมาก่อนจะฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะเมื่อพวกมันเอาแต่ยิ้มแล้วเดินมาจิ้มๆ แก้มผมคนละข้างอย่างหมั่นไส้

"เอ้า คนชอบกันจะต้องแค่ไหนล่ะคะ? ก็ไปคุยกัน คืนดีกัน คบกัน จบ!"

"มึงครับ นั่นแหละยากสุดเลย" ผมโอดครวญก่อนออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองมัน

"ทำไม เห็นเวลาทำดีไซน์ล่ะพยายามจะออกนอกกรอบนัก เรื่องความรักออกนอกกรอบบ้างมันจะเป็นอะไรไปคะ คุณภูมิสถาปนิก"

"อื้อหือ บาดลึกไปถึงหัวใจ" ไอ้เป้เห็นดีเห็นงามจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมามองพวกมันอย่างเซ็งๆ

"เออ งั้นกูไปก็ได้"

"ไปไหนวะ?"

"เอ้า! ก็ไปหาไอ้ปืนไง" อย่างน้อยในใจผมตอนนี้อะไรบางอย่างมันก็ชัดเจนขึ้น คงเป็นจริงอย่างที่มันว่า ...ผมแค่ไม่ยอมรับเอง ผมหันไปบอกมันหน้าตายก่อนจะรีบเดินออกมาจากโรงอาหารเพื่อหลบรอยยิ้มล้อเลียนที่พวกมันยังส่งมาไม่หยุดจนไข้ผมแทบจะขึ้นอีกรอบเลยไม่ทันได้ยินบางอย่างหลังจากนั้น





"โคตรจะหมั่นไส้ไอ้กันย์ เยอะไปซะทุกเรื่อง" ปูนพูดขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะเก็บจานผลไม้ที่กินหมดแล้วไปรวมกับแก้วใช้แล้วที่วางไว้ตรงประตูทางออกอีกฝั่งเพื่อนำไปล้าง

"จริงๆ มันก็น่าจะรู้ตัวตั้งนานแล้วเปล่าวะ แสดงออกกันซะขนาดนั้น อุ้ย! น้องปืน" เป้ที่เดินตามมาทีหลังชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เพิ่งถูกพูดถึงกำลังยืนมองด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์อยู่ตรงประตู

"ครับผมเอง”

"จะเอาอะไรเหรอ?" ปูนถามพลางมองไปยังคนตรงหน้าที่ยกยิ้มมุมปากมาให้ก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามา

"พอดีก่อ 1 จะผสมสีผมเลยกะว่าจะมาขอช้อนที่ไมใช่แล้วสักคัน"

“แล้ว?”


"แล้วถ้าตอนนี้ผมเปลี่ยนเป็นขอพี่กันย์ ...พี่ว่าผมจะ 'ได้' มั้ยครับ?"




หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 08-12-2016 00:35:37
ยังไม่ทันให้พี่กันย์ง้อเลย น้องปืนมาขอพี่กันย์ซะแล้ว
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Nattharikan ที่ 08-12-2016 00:58:24
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 08-12-2016 01:03:38
เล่นตัวนิดดดนึงนะปืนให้พี่กันย์ยอมพูดความใจจริงออกมาเองแล้วค่อยรุกต่ออิอิ ง่ะ ความจริงพี่กันย์ก็แอบน่ารักนี้ว๊าเพียงแต่จังหวะมันไม่ให้ รูปการณ์เลยออกมาแบนี้ ก็เลยเข้าใจผิดไป แต่ก็นะ งอนให้เขาง้อหน่อยเถอะปืน อยากเห็นพี่กันย์ยอมหมดฟอร์มคนปากแข็ง 5555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Kimigari ที่ 08-12-2016 01:10:56
พี่กันย์รู้ใจตัวเองซักที
จีบน้องปืนบ้างสิ น้องปืนเล่นตัวหน่อยน๊า อ้อนหนักๆเลยยยยย
ขอบคุณสำหรับนิยายค่า มาต่อไวไวน้า
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-12-2016 01:18:34
เด็กมันร้ายค่ะหัวหน้า!
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 08-12-2016 01:22:45
โถ่ ปืนนมาเร็วจังง น่าจะเล่นตัวให้พีกันต์ไปง้อก่อน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 08-12-2016 07:14:42
งืออออออ ในที่สุดดดดด
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 08-12-2016 07:40:50
คนเขียนขา เห็นใจคนอ่านหน่อยสิคะ. มาต่ออีกนิด.   :ling1:

ปืนเก๊กไว้ก่อนนะ อย่าพึ่งหลุด.  อยากอ่านพี่กันย์ง้อน้องปืน รอฉากฟิน :hao3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-12-2016 08:06:12
รักเขามากกว่าก้อแบบนี้แหละ  แค่เห็นคำว่าขอโทษบนซองยาก้อระทวยแล้ว
พี่กันย์นี่น้อ ต้องรอคนกระตุ้น สองสาวรบกวนมาไซโคอีกค่ะ ก็พี่กันย์มันเยอะ
ตอนปัดมือนี่กระตุกจี้ดได้อีก
 :pig4: 
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 08-12-2016 08:15:00
 :m1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 08-12-2016 10:41:52
ดีใจจัง กันย์รู้ตัว ยอมรับซะที
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 08-12-2016 11:29:06
หึหึ    รอดูพี่ง้อน้อง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-12-2016 11:52:49
รุ่นพี่ ที่ไม่ฟังเหตุผล
เอาแต่ความต้องการของตัวเองนี่แย่ มากกกก......
บังคับให้น้องกินเหล้าด้วยตลอด
ถ้าไม่กินก็ขาดกัน ตัดพี่ตัดน้อง อะไรจะขนาดนั้น
น่าจะดูเป็นเรื่องๆไป น้องไม่สบายก็ไม่ฟัง :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
น้องกินอย่างอื่นแทนเหล้าก็น่าจะได้ งงงงงงงงง
ปืน คงได้ฟังทั้งหมดไปและ ถึงยิ้มเจ้าเล่ห์
พี่กันย์ จะไปง้อปืน ยังไงนะ :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-12-2016 12:06:34
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: semen ที่ 08-12-2016 14:33:57
 :-[ :-[ :o8: :o8: รีบๆมาต่อนะคับผม
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 08-12-2016 14:44:32
มันต้อิย่างนี้ซิพี่กันต์
ชอบก็ยอมรับว่าชอบ

 :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 08-12-2016 20:35:25
ปืนมันร้าย มีแผนตลอด สนุกค่า รอตอนต่อไปนะคะ :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 24 - …ก็ถ้าพี่ไม่ให้ ผมก็คงไม่ได้ [08.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 08-12-2016 23:10:02
ให้พี่กันต์ง้อก่อนนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 10-12-2016 01:30:06
25-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ (1)
(เนื้อหาเหมือนเดิมค่ะ ใครอ่านแล้วข้ามไป 26 ได้เลยน้า)

“กูชอบมัน”

...คำตอบง่ายๆ แต่ไม่ได้ทำให้ชีวิตผมง่ายขึ้นสักนิด เพราะอะไรล่ะครับ ก็เพราะไอ้ปืนมันยังโกรธ ยังงอน ยังน้อยใจ หรือยังอะไรก็แล้วแต่ของมันอยู่น่ะสิ ซึ่งวันนี้ก็ปาเข้าไปเป็นวันที่สี่แล้วที่ไอ้ปืนมันไม่เข้ามายุ่ง …กับผม แถมมันออกจะทำตัวเกินกว่าปกติและอารมณ์ดีมากเป็นพิเศษกับทุกคนบนโลก …ยกเว้นผม

"แค่นี้พอรึเปล่าครับ?" เสียงของไอ้คนที่ผมกำลังจะเป็นบ้าเพราะมันดังขึ้นมาจนทำให้ผมหันไปมอง ไอ้ปืนเดินยกถังปูนที่เต็มไปด้วยเนื้อปูนที่ผสมแล้วขึ้นมาตามขั้นบันไดก่อนจะวางลงตรงลานหน้าห้องสมุดที่พวกก่อ 1 กำลังช่วยกันเทพื้นแล้วเดินกลับลงไปตามเสียงเรียกของน้องในคณะผมคนหนึ่งที่บอกให้ไปเอาวัสดุที่ใกล้จะหมดมาเพิ่ม

"ทำมาเป็นแอบมอง" ไอ้ปูนที่แอบมานั่งอู้อยู่ตรงฝ่ายสวนทักขึ้นก่อนจะเบะปากมาให้แล้วทำหน้าล้อเลียนจนผมได้แต่ปรายตาไปมองมันอย่างเซ็งๆ

"กูไม่ได้แอบ กูมองมันตรงๆ เลยเนี่ย แมร่ง! ไม่สนใจกู" ผมพูดเองก็แทบกระอักน้ำลายตัวเองก่อนจะตอกตะปูลงบนไม้หน้าสามตรงหน้าแรงๆ เพื่อระบายอารมณ์แล้วเหลือบมองไปยังคนที่เดินกลับขึ้นมาอีกรอบพร้อมถังน้ำในมือ

"อย่าใช้สายตาแบบนั้นกับน้องค่ะ เดี๋ยวมันละลาย"

"ช่างหัวมันดิ! กูกะจะมองให้มันระเหยไปเลยเนี่ย หมั่นไส้โว้ยย!”

“ใจเย็น” ไอ้ปูนพูดออกมาก่อนจะหลบลงบนไหล่ผมเบาๆ แล้วส่งตะปูในถังมาให้

“มึงว่ากูเข้าไปแบบตัวตัวเลยดีเปล่าวะ เห็นมันเดินไปเดินมาแบบนี้แล้วกูหงุดหงิดว่ะ" ผมบอกไอ้ปูนก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ปืนตรงๆ  อีกครั้งจนมันหันมาสบตาเข้ากับผมพอดีแต่ไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินกลับลงไปอีกรอบ

"อ้าว มึงยังไม่ได้ง้อน้องมันเหรอ?" ไอ้ปูนถามก่อนจะจับหน้าผมให้หันไปสนใจมันอย่างงงๆ

"ง้อแล้ว" ผมยืนยัน

"ยังไง?"

"กูยิ้มให้"

"ตลกละ นั่นเรียกว่าง้อ?" ไอ้ปูนทำสีหน้าเหมือนจะร้องไห้แล้วเปลี่ยนเป็นมองผมด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าระอาสุดๆ

"เออดิ ก็ถ้ามันยิ้มตอบ กูก็จะถือโอกาสเดินเข้าไปขอโทษมันไง" ผมบอกในสิ่งที่ผมตั้งใจไว้ออกไปจนไอ้ปูนต้องถามออกมาด้วยความสงสัย

"แล้วทำไมต้องรอ? ก็เดินไปหาแล้วขอโทษมันไปเลยดิวะ"

“หน้ากูมันยังไม่อยากจะมอง ถ้าขืนเข้าไปแล้วมันเดินหนีกูจะทำยังไงวะ?"

"เอ้า! ก็ไม่ทำไมไง น้องมันงอนมึงอยู่ มึงก็ต้องง้อไงคะเพื่อน" ไอ้ปูนพูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แบบที่เด็กอนุบาลโกรธกันก็ทำได้อย่างไม่เข้าใจ

"ไม่ได้ว่ะ" ผมบอกมันก่อนจะมองไปยังคนที่ยังคงเดินขึ้นเดินลงระหว่างไซต์ก่อสร้างของห้องสมุดกับลานกว้างที่เป็นที่วางอุปกรณ์ก่อสร้างอยู่ ...โดยที่ไม่ได้สนใจผมสักนิด

"อะไรไม่ได้?"

"กูนี่แหละจะทนไม่ได้” คำพูดของผมทำเอาไอ้ปูนชะงักก่อนจะหันมามองหน้าผมตาโต

“ตอนนี้มันไม่สนใจกูก็เรื่องหนึ่ง แต่ถ้าต้องให้กูเข้าหาแล้วมันจะไม่สนใจกูชัดเจนขนาดนั้น …กูว่ากูทนไม่ได้ว่ะ" ผมถอนหายใจออกมาอีกรอบก่อนไอ้ปูนจะยื่นมือมาตบไหล่ผมอย่างให้กำลังใจ

...การที่คนเคยรู้จักแล้วมาทำเป็นไม่รู้จักผมก็ว่า 'เจ็บ' แล้ว
...การที่คนเคยสนิทมาทำเป็นเมินใส่ผมว่า 'เจ็บ' ยิ่งกว่า
...แต่การที่โดนคนเคยบอกว่า 'ชอบ' มาเดินหนีไปในตอนที่เราเพิ่งรู้ใจตัวเองนี่ ผมว่า...

"ไอ้กันย์ดูตรงหน้ามึงด้วย ไอ้เชี่ยเอ้ยย มือ!" เสียงของไอ้โฟมดังขึ้นแต่ไม่ทันแล้วครับเพราะแทนที่ค้อนในมือผมจะตอกลงบนหัวตะปูแต่มันกลับมาลงบนนิ้วของผมแทน

"โอ้ย!"

"บอกแล้วให้ระวัง ไหนดูดิ" ไอ้โฟมวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับไอ้ปูนที่ดึงมือผมไปดูอย่างตกใจ ผมก้มมองนิ้วโป้งตัวเองที่ตอนนี้เริ่มมีรอยแดงๆ ขึ้นมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้เจ็บอะไรมากก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจพลางเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนที่ยืนอยู่ข้างหลังพอดี

"เอ่อ พี่โฟมครับ พี่ซันบอกว่าถ้าตรงนี้เสร็จแล้วรบกวนไปช่วยเทพื้นตรงลานด้านหน้าหน่อยนะครับ" ไอ้ปืนพูดเสร็จก็ปรายตามามองผมแว่บหนึ่งแล้วเดินจากไปโดยไม่พูดไม่จาอะไรกับผมสักคำ ...หรือผมต้องลองโดนให้ครบทั้งสิบนิ้วมั้ยครับ? มันถึงจะยอมสนใจผมบ้าง

"เฮ้ย เจ็บมากเหรอวะ?" เสียงไอ้โฟมที่ดังขึ้นทำให้ผมดึงสติกลับมาก่อนจะหันไปมองหน้ามันก่อนจะส่ายหัวอย่างงงๆ

"ก็ไม่นี่"

"เหรอวะ ก็เห็นตาแดงๆ นึกว่าเจ็บมากซะอีก" คำพูดของมันทำให้ผมชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวบริเวณขอบตาก่อนจะตั้งสมาธิเพื่อกลับไปทำงานต่อ แต่สุดท้ายก็ได้แต่ลอบถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน

...มึงแมร่งอ่อนว่ะ ไอ้กันย์





หลังจากที่งานฝ่ายสวนของวันนี้เสร็จ พวกไอ้โฟมก็ยกโขยงกันไปช่วยพวกไอ้ซันเทพื้นที่เหลือก่อนจะไล่ผมให้ลงมาล้างหน้าล้างตาเพื่อเรียกวิญญาณกลับเข้าร่างที่ดูห่อเหี่ยวให้สดชื่นขึ้นมา  ไหนๆ ก็ไม่มีอารมณ์ทำงานอยู่แล้ว ผมเลยไม่ขัดศรัทธาด้วยการลงมาหากาแฟกินที่โรงอาหารเผื่อกลิ่นกาแฟมันจะช่วยเยียวยาหัวใจผมให้สดชื่นขึ้นมาได้อย่างที่ไอ้โฟมมันต้องการ

"พี่ปูนครับ ผมขอน้ำสักแก้วสิครับ" เสียงของคนที่เข้ามาใหม่ทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเจอเข้ากับไอ้ปืนที่ยืนมองผมด้วยสายตาไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ

"รอเดี๋ยวนะ" ผมตอบมันอย่างพยายามที่จะไม่ทำให้บรรยากาศของโรงอาหารอึดอัดเกินไปนักก่อนจะหยุดมือที่กำลังจะเทผงกาแฟสำเร็จรูปลงในแก้วน้ำร้อนของตัวเองแล้วเทน้ำออกครึ่งหนึ่งจากนั้นจึงผสมน้ำที่อุณหภูมิปกติเข้าไปแทนแล้วเดินเอาไปให้มัน

"พอดีไอ้ปูนไม่อยู่ เอานี่ไปก่อนแล้วกัน" ผมบอกมันอย่างแอบคาดหวังว่ามันคงจะไม่ใจร้ายเกินไปจนปฏิเสธน้ำใจของผมที่ยื่นไปให้ มันมองมาที่ผมเล็กน้อยก่อนจะรับแก้วไปแต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้พูดคำขอโทษอย่างที่ตั้งใจไว้ ไอ้คนตรงหน้าก็เดินไปที่อ่างล้างจานก่อนจะเทน้ำในแก้วออกแล้วเติมน้ำจากขวดน้ำดื่มเข้าไปแทน

"ขอบคุณครับ แต่ผมอยากกินน้ำธรรมดามากกว่า" ไอ้ปืนพูดขึ้นลอยๆ โดยไม่ได้หันมองหน้าผมก่อนจะแกะยาแก้อักเสบออกจากแผงซึ่งเป็นคนละอันกับที่ผมฝากไอ้ปูนเอาไปให้แล้วกินน้ำตามจากนั้นก็เดินออกไป

ผมมองแก้วเปล่าที่ไอ้ปืนทิ้งไว้ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะเก็บไปล้างแล้วตัดสินใจเดินกลับไปที่ศูนย์ฯ (ซึ่งผมใช้นอนแทนเต็นท์ของไอ้ปืนมาหลายคืน) แทนที่จะเป็นหน้าไซต์ที่ผมพยายามถ่อไปทุกวันถึงแม้บางวันฝ่ายสวนจะไม่มีงานก็ตาม …ก็ใครมันใช้ให้ไอ้ปืนดันจับฉลากได้ฝ่ายก่อแทบทุกวี่ทุกวันกันล่ะครับ





'ไม่เคยจะทำอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่เพราะเธอ แต่เพราะเธอ ฉันจึงยอม...'

...พวกมึงแมร่งจะเล่นเพลงเศร้ากันไปไหนวะเนี่ย ผมคิดก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่ายจนอยากจะหนีกลับศูนย์ฯ เต็มที

"เอาหน่อยมั้ยเอ็ง?" ลุงชาวบ้านคนเดิมที่ยังแวะเวียนมาไม่ขาดโดยเฉพาะวันที่ค่ายมีกิจกรรมรอบกองไฟ และไม่ลืมที่จะพกเหล้าต้มสูตรโคตรพิเศษของลุงแกติดไม้ติดมือมาด้วยก่อนจะรินใส่แก้วแล้วยื่นมาให้ผม

"ไม่ล่ะครับ ขอบคุณ" ไม่รู้ทำไมแต่แค่เห็นน้ำใสๆ ในแก้วตรงหน้าผมก็ไม่มีอารมณ์แม้แต่จะหยิบมันขึ้นมาแล้วล่ะครับ ผมจึงได้แต่หันไปยิ้มขอบคุณให้พอเป็นพิธีแล้วเลือกที่จะเดินเลี่ยงออกมาแทน

"ปืนกินเหล้ารึเปล่า?" ชื่อของคนที่เวียนเข้าเวียนออกในหัวผมบ่อยเหลือเกินในช่วงนี้ดังขึ้นมาอีกแล้วจนผมต้องเงยหน้าไปมอง ไอ้ปืนเดินมากับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักและเป็นคนรุ่นเดียวกับมัน …ที่ไม่ใช่ผม

"ก็กินได้นะ แต่ปกติไม่ค่อยกินหรอก พายล่ะกินรึเปล่า?" เสียงสนทนาที่ดูสดใสและเป็นธรรมชาติยังดังขึ้นมาโดยไม่มีทีท่าว่าคนพูดจะสังเกตเห็นผมเลยสักนิด ผมมองไปยังคนตรงหน้าที่ยังไม่รู้ตัวก่อนจะคาดคะเนระยะห่างด้วยสายตา ...แค่สิบก้าว ไกลกันขนาดนั้นเชียว?

"ก็นิดหนึ่งอ่ะ เห็นเพื่อนสนุกก็เลยนึกสนุกตามไปด้วย” เด็กปีหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าชื่อ ‘พาย’ พูดขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

"เสพบรรยากาศสินะ สมกับเป็นเด็ก'ถาปัตย์จริงๆ"

"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า ว่าแต่ปืนเคยกินเหล้าต้มรึยัง? ลุงชาวบ้านแกเอามาให้ แรงอยู่แต่เด็ดเลยนะ" คำพูดของคู่สนทนาทำให้ไอ้ปืนชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆ ไปให้ก่อนจะหันกลับมาแล้วสบตาเข้ากับผมที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันพอดีจนผมอดที่จะยิ้มมุมปากออกมาไม่ได้ ...ก้าวเดียว ต้องใกล้ขนาดนี้ใช่มั้ยวะถึงจะเห็น?

"แต่เราว่าลองหน่อยก็ดีนะ ไหนๆ ก็มาแล้ว" ไอ้ปืนละสายตาแล้วหันไปบอกคนข้างๆ อีกครั้งก่อนทั้งคู่จะหันกลับมาที่ผมเพราะน้องพายทักขึ้นมา

"อ้าวพี่กันย์ จะไปนอนแล้วเหรอคะ?" น้องพายถามออกมาเมื่อเห็นผมเดินมาในทิศทางตรงกันข้ามกับวงรอบกองไฟ

"อืม พอดีปวดหัวนิดหน่อยน่ะ"

"จริงสิคะ พี่กันย์เพิ่งหายไข้นี่นา อากาศยิ่งหนาวๆ อยู่ด้วยนะคะคืนนี้" ผมยิ้มรับในความเป็นห่วงใยก่อนจะเอ่ยลาแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง

"หนาวเหรอครับ เอ่อ พายเอาเสื้อเรามั้ย?” เสียงที่เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่ผมไม่ได้ยินมาหลายวันทำให้ผมอดที่จะหันกลับไปมองไม่ได้

ภาพที่ไอ้ปืนกำลังถอดเสื้อกันหนาวของตัวเองออกมาแล้วส่งให้กับน้องปีหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวของขอบตาตัวเองอีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้ตาของผมเริ่มพล่ามัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

…นอกจากจะร้ายแล้ว ยังใจร้ายมากด้วยนะ ไอ้เชี่ยปืน!





ผมเดินหลบเข้ามาในห้องเปิดใจแทนที่จะกลับไปนอนอย่างที่คิดไว้ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่มีซองสีน้ำตาลแปะอยู่แล้วถูกเขียนที่หน้าซองด้วยตัวอักษรโตๆ ด้วยปากกาเมจิกสีน้ำเงินว่า 'ปืน ปีหนึ่ง(เกษตร)'

ห้องแห่งความลับคือกิจกรรมหนึ่งของค่ายอาสาที่จะทำให้ชาวค่ายได้พูดคุยและสร้างมิตรภาพระหว่างกันอีกทางหนึ่ง ซึ่งจริงๆ แล้วห้องนี้คือห้องเรียนเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ ส่วนที่ถูกกันเป็นห้องพักสำหรับผู้ชาย โดยเอาโต๊ะนักเรียนมาต่อๆ กันไปรอบห้องเท่าจำนวนของคนที่มาค่าย จากนั้นก็แปะซองเอกสารสีน้ำตาลเอาไว้พร้อมเขียนชื่อกำกับ ส่วนโต๊ะตัวแรกก็มีโพสต์อิทพร้อมปากกาสีหลายๆ ด้ามวางไว้สำหรับเขียนจดหมายถึงกันแล้วเอาไปใส่ไว้ในซองรอให้เจ้าของเขามาเปิด

...และดูเหมือนว่าเจ้าของซองที่ผมเอาจดหมายไปใส่ให้ตลอดสี่วันที่ผ่านจะไม่เคยมาเปิดมันออกดูเลยแม้แต่ครั้งเดียว

"เฮ้อออ" ผมถอนหายใจยาวๆ ออกมาอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่โต๊ะตัวแรกเพื่อหยิบกระดาษใบหนึ่งขึ้นมาแล้วลงมือเขียนเหมือนทุกๆ วัน จากนั้นก็เอากระดาษยัดใส่ซองไว้ก่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี

'ขอโทษ'





เผลอแป๊บเดียว อีกสามวันกิจกรรมค่ายอาสาที่พวกเราเตรียมงานกันมาตลอดทั้งปีก็จะหมดลง ผมยืนมองอาคารที่อยู่บนเนินตรงหน้าที่ใกล้จะเสร็จเรียบร้อยเต็มที

...ความฝันของนักออกแบบนอกจากเราจะได้คิดในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยคิดแล้ว ความฝันอีกอย่างก็คือการที่งานชิ้นนั้นสามารถออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้จริงๆ

ผมมองอาคารตรงหน้าอย่างอดภูมิใจไม่ได้ถึงมันจะไม่ใช่งานที่ได้รับการออกแบบมาอย่างวิจิตรพิศดาร แต่มันเป็นงานที่เราทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจกันทำมันขึ้นมาตั้งแต่หาทุนจนกระทั่งจัดหนังสือในชั้น และหวังว่าน้องๆ ที่ได้ใช้มันจะสามารถเติมเต็มตามความต้องการได้จริงๆ อย่างที่พวกผมตั้งใจ

"สุดยอดไปเลยว่ะ" ไอ้กัมป์ที่เดินมายืนข้างๆ พูดขึ้นพลางมองไปยังทิศทางเดียวกัน

"ดีใจด้วยนะครับ ไอ้ประธานค่าย" ผมพูดออกไปอย่างอดดีใจกับมันที่ดูจะพยายามหยักกว่าใครไม่ได้ก่อนเจ้าตัวจะหัวเราะขึ้นมาแล้วเอามือมาพาดคอผม

"นี่มันงานของทุกคนนะเว้ย มาดีใจด้วยกันดิวะ"

"เออ กูดีใจอยู่เนี่ย หรือมึงตาบอด?" ผมบอกมันก่อนจะหัวเราะขึ้นมาเบาๆ

"กูรู้ครับว่ามึงดีใจ แต่หน้ามึงนี่สุนัขไม่รับประทานสุดๆ อยากให้ผมขนกระจกในห้องน้ำมาให้มึงส่องมั้ย?" คำพูดของไอ้กัมป์ทำให้ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะพยายามยิ้มออกมาจนไอ้คนตรงหน้าได้แต่ยื่นมือมาวางบนหัวผมแล้วโยกเบาๆ

"ไอ้สัด กูปวดหัวโว้ยย" ผมโวยวายก่อนจะแกะมือมันออกอย่างรำคาญ

"ยิ้มได้แล้ว พวกไอ้ทีเป็นห่วงมึงกันหมดแล้วเนี่ย" คำพูดของมันทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ไม่ได้ก่อนจะหันไปมองพวกที่เพิ่งเอ่ยถึงไปหยกๆ เดินตามมาสบทบพอดี

"ได้เวลาลาดตระเวนแล้วครับเพื่อน" ไอ้ทีพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะลากทั้งผมทั้งไอ้กัมป์ให้ไปด้วยกัน





"ดีนะที่กูเอากล้องติดมาด้วย" ไอ้โฟมพูดขึ้นมาในระหว่างที่พวกผมกำลังยืนอยู่บนยอดดอยซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของดอยแห่งนี้ก่อนจะมองออกไปยังวิวป่าไม้ข้างล่างที่ทอดยาวออกไปผสมกับควันสีขาวๆ ของหมอกที่เริ่มมากขึ้นเพราะความหนาวที่เริ่มมาเยือนในช่วงใกล้สิ้นปี

วันนี้พวกเราทุกคนพร้อมใจกันหยุดกิจกรรมทุกอย่างในช่วงบ่ายเพราะแทบไม่เหลืองานให้ทำแล้วก่อนจะพาพี่ๆ น้องๆ ออกมาทัศนศึกษาหรือพูดง่ายๆ ว่า ‘มาเที่ยว’ รอบๆ หมู่บ้านนั่นเอง

"ถ่ายรูปกันหน่อยครับผม" ไอ้กัมป์ตะโกนบอกทุกคนก่อนไอ้โฟมจะเดินไปตั้งกล้อง DSLR ตัวเก่งของมันบนขาตั้งตรงถนนแล้วให้ทุกคนหันหลังให้วิวเพื่อเป็น Background ก่อนทุกคนจะยิ้มออกมาตามจังหวะที่มันให้เพื่อเก็บไว้เป็นรูปที่ระลึกที่คงจะนึกถึงไปอีกนาน

หนึ่ง สอง สาม แชะ!

ผมเดินตามเจ้าของกล้องไปก่อนจะดูภาพที่มันเปิดให้ดู ผมไล่มองหน้าทุกคนก่อนจะไปหยุดที่คนๆ หนึ่งที่มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มจนผมอดที่จะยิ้มบางๆ ตามมันไม่ได้ ...อย่างน้อยมันก็มีความสุขกับกิจกรรมที่ผมชวนมา

"ไปนั่งเล่นตรงนั้นกัน" ไอ้ปูนที่เพิ่งเดินเข้ามาชวนก่อนจะลากผมให้ไปตรงบริเวณลานหินที่มีขนาดไม่ใหญ่และมีแท่นหินเรียบๆ วางอยู่สองสามก้อนก่อนจะนั่งลงไป

"ยังไม่ได้คุยกันอีกเหรอวะ?"

"ยังว่ะ มันคงโกรธกูหนักจริงๆ แหละงานนี้" ผมบอกก่อนจะพยายามฝืนยิ้มออกมาแต่ก็รู้ว่าทำได้ไม่ดีนักก่อนจะฟุบหน้าลงไปกับเข่าตัวเองแล้วถอนหายใจออกมา

"เอาน่า เดี๋ยวน้องมันก็ดีเองแหละ อย่าคิดมากๆ ให้เวลามันหน่อย" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงแรงตบเบาๆ ที่หลัง จากนั้นก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เสียบเข้ามาที่หูของผมจนผมต้องเงยหน้ามองเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่างสงสัย

"อะไรวะ?" ผมถามมันก่อนจะหยิบสิ่งแปลกปลอมออกมาดู มันคือหูฟังสีขาวที่น่าจะเชื่อมไปกับโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อหนาวของไอ้ปูน ผมมองมันที่ส่งยิ้มแปลกๆ มาให้ผมอีกครั้งก่อนจะมองหูฟังสีขาวในมือ ...อย่าคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยเลย หูฟังยี่ห้อนี้มันก็เป็นแบบนี้ทุกอันนั่นแหละ ผมคิดก่อนจะยัดหูฟังกลับไปเข้าไปในหูแล้วหันไปยิ้มให้มันอย่างขอบคุณก่อนจะฟุบหน้าเข้ากับเข่าอีกครั้ง

'แต่ต้องเก็บต่อไปอีกนานแค่ไหน รักที่เอ่อล้นใจ รักที่มีให้เธอมากมาย สุดท้ายไม่มีค่าใด
จะทำให้เธอเห็นใจจะทำให้เธอสนใจ เพราะรักที่มีมันเกินเอ่ยไป เกินกว่าคำอธิบายใดๆ จะเท่าเทียม'


"ไอ้กันย์ เฮ้ย! ไอ้กันย์" แรงเขย่าจากคนข้างๆ ทำให้ผมสะดุ้งขึ้นมาอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองอย่างงงๆ

"อะไร?"

"กูเรียกตั้งนาน มึงนี่มัน.. เดี๋ยวนะ มึงร้องไห้เหรอ?" ไอ้ปูนถามขึ้นอย่างตกใจก่อนจะเอาสองมือมาจับหน้าผมไหวแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ จนผมต้องเอามือขึ้นมาจับหน้าตัวเอง ...ทำไมมันเปียกวะ?

"ไม่ได้ร้อง ฟืดดด.. สักหน่อย" ...แล้วทำไมเสียงผมแมร่งแหบอย่างนี้เนี่ย ผมสังเกตตัวเองอย่างตกใจก่อนจะหันไปมองไอ้ปูนที่กำลังมองผมด้วยสีหน้าอึ้งอย่างสุดๆ

"ไอ้เชี่ยกันย์!" มันสบถออกมาก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมพลางมองมาอย่างตื่นเต้น …ไอ้ห่า คนกำลังเศร้า

“กูไม่ได้ร้อง ฟืดดด.. กูเป็นหวัด" ผมบอกมันก่อนจะพยายามหลบจากฝ่ามือมันก่อนจะเจอสายตาของไอ้ปูนที่มองมาอย่างกึ่งสงสารกึ่งหัวเราะเยาะ

"เออ เป็นหวัดก็ได้ แต่น้ำมูกบ้านกูไม่ได้ไหลออกทางตานะบอกเลย"





"ไอ้ปูน ไอ้กันย์ถ่ายรูปกัน" ไอ้ทีเดินมาเรียกพวกผมที่นั่งอยู่ก่อนจะยื่นกล้องโพราลอยด์ของมันให้ไอ้เป้ช่วยถ่ายรูปให้

"ปืนถ่ายรูปกัน" เสียงเรียกชื่อไอ้ปืนที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทำให้ไอ้ปูนที่ยืนอยู่ข้างๆ หันมามองผมที่เริ่มจะประสาทเสียเพราะชื่อไอ้ปืนอย่างขำๆ ก่อนจะหันไปมองคนที่เดินไปตามเสียงเรียก

"กล้องไหนดี" ไอ้ปืนพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะชี้ไปที่ทั้งกล้องโทรศัพท์ กล้องโพราลอยด์และกล้อง DSLR ที่ถูกรุ่นน้องร่วมคณะผมยกขึ้นมาเพื่อจะถ่ายรูปคู่มันกับน้องพาย

"สักกล้องเหอะน่า" น้องพายที่ยืนอยู่ข้างมันพูดขึ้นมาก่อนจะหัวเราะ แล้วยิ้มให้กล้อง

"ฮอตสุดๆ" ไอ้ปูนพูดขึ้นก่อนจะตบเข้าที่ไหล่ผมอย่างเห็นใจ

"เออดิ"

"ไม่เอาค่ะกันย์ ไม่หึงน้องนะคะ" มันบอกก่อนจะยิ้มล้อมาให้ผมอีกครั้งจนผมได้แต่หลบสายตามันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเหลือบไปมองคนที่เอาแต่ถ่ายรูปกับคนนั้นคนนี้อย่างอารมณ์ดี …ทีตอนไปทะเลผมจะถ่ายกับคนอื่นบ้างทำมาเป็นหวง หึ!

"เออไอ้ที" ผมตะโกนเรียกไอ้เพื่อนที่มันยังเที่ยวถ่ายกับคนนู้นคนนี้ไปทั่วก่อนจะเดินไปหา

"กูขอยืมกล้องหน่อยดิ" ผมบอกก่อนจะชี้ไปที่กล้องโพราลอยด์ในมือมันก่อนเจ้าของจะส่งมาให้ผมอย่างงงๆ

"อือ เอาไปดิ"

"ขอบใจเว้ย"





ผมยืนอยู่หน้าซองเอกสารสีน้ำตาลในห้องแห่งความลับอีกครั้งก่อนจะมองซองตรงหน้าที่เริ่มจะนูนขึ้นมาเพราะกระดาษที่อยู่ข้างในเริ่มเยอะมากขึ้นทุกที จากนั้นจึงเดินไปที่โต๊ะตัวแรกเพื่อที่จะหยิบกระดาษอย่างเช่นที่ทำทุกวันก่อนจะมองข้อความในมือที่เขียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

...อีกสามวัน ไอ้เจ้าของซองนี้ก็คงจะเห็นสิ่งที่ผมพยายามจะบอกมัน ถ้ามันคิดจะเปิดอ่านอ่านะ

ผมคิดก่อนจะยิ้มปลอบใจตัวเองแล้วพับโพสต์อิทที่ผมเขียนให้มันก่อนจะใส่เข้าไป จากนั้นผมก็ล้วงบางสิ่งบางอย่างออกมาจากกระเป๋า

...มันคือรูปโพราลอยด์ที่ผมแอบถ่ายไอ้ปืนไว้ตอนที่อยู่บนยอดดอย

ผมหยิบปากกาเมจิกแบบกันน้ำออกมาก่อนจะเขียนลงไปบนรูปใบนั้นแล้วสอดมันตามเข้าไปในซองสีน้ำตาล


26.10.xx
ค่ายอาสา. กูขอโทษ








หลังจากที่พิจารณาด้วยประการทั้งปวง เปลี่ยนแค่ชื่อตอนเท่านั้นค่าา 555555
Re-write มันคืออะไรอย่าไปสนใจใครอ่านไปรอบหนึ่งแล้วก็ต่อตอนที่ 26 ได้เลย
ขอโทษน้าที่ทำให้ตอนมันปั่นป่วนปานกลางถึงมากที่สุด กราบขออภัยอย่างสูงเพราะความนัวของเราเอง TT
แต่อย่าเพิ่งทิ้งพี่กันย์กับน้องปืนไปไหนน้าา มาช่วยกันดันให้พี่น้องคู่นี้ไปถึงฝั่งฝันกันเถอะค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่อยู่เป็นเพื่อนกันมาตลอดมาช่วยอ่าน ช่วยคอมเมนต์ ดีใจมากๆ
ปล.มีตอนพิเศษอันหนึ่งที่เขียนไว้ เราชอบมากเลย ช่วยอยู่ด้วยกันจนกว่าจะได้อ่านมันน้าาา

ขอบคุณมากนะคะ ^_________^

Zenzaii

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 10-12-2016 01:39:08
ถ้าจะเมินขนาดนี้แล้วไปใส่ใจคนอื่น ขอให้พี่กันย์เลิกชอบอีปืนไปเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 10-12-2016 04:32:36
อ้าวปืนนน ไหนตอนนั้นเหมือนจะเข้าใจแล้วไงงงง เกิดอะไรขึ้นนนน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Nattharikan ที่ 10-12-2016 05:38:44
 :hao5: :hao5: :hao5:
สงสารพี่กันย์นะปืน  อย่าเล่นแรงนักนะ :z6:
พี่กันย์ร้องไห้น่าเอ็ดดูมาก :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 10-12-2016 06:52:22
อ้าววววว   อะไรยังไง   พี่กันก็นะ ไปขอโทษใส่ซอง ง้อในมุมลับ อิน้องปืนมันจะรู้ได้ไง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 10-12-2016 07:02:44
เกินไปละปืน. เล่นกับความรู้สึกแบบนี้มันหนักไป เมินได้แต่ไม่ใช่ควงคนอื่น

พี่กันย์ต้องมีศักดิ์ศรีแล้วนะ ก้อพี่มันเยอะต้องรักษาตัวตนไว้บ้าง เจ็บเกินไปละ

ง้อเขาแต่อย่าให้เราตกต่ำจนน่าสงสารขนาดนี้

เจ็บยังไง ต้องหยิ่ง ต้องเยอะไว้ ยืดไว้

พอละ ท่องไว้ เชิดหน้าแล้วเดินต่อไป

ปืนจะลองใจขนาดนี้ จะเอาคืนขนาดนี้ก้อปล่อยเถอะ

อินอ่ะ.

 :a5:  :z6:   :z6:  :z6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-12-2016 08:14:49
ดูเหมือนเพื่อนพี่กันย์กับปืนจะรวมหัวกันแกล้งพี่กันย์นะ
แต่แกล้งกันแบบนี้เราไม่ขำด้วย แทบจะร้องไห้ตามพี่กันย์อยู่แล้ว เดี๋ยวก็เชียร์ให้พี่กันย์เลิกชอบซะเลยนี่
ยุทธการงอนไม่เลิกเลยงอนกลับ ทีนี้ใครต้องง้อกันแน่
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 10-12-2016 08:27:45
ตอนแรกก็สงสารปืนนะ
แต่ตอนนี้ ขอเอาความสงสารนั่นคืนมาได้ป่าว

 :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 10-12-2016 09:00:50
เห็นด้วยกับหลายเม้น ตอนแรกก็เชียร์ให้ปืนเมินแต่ไม่ได้หมายถึงต้องประชดทำดีกับคนอื่นหรือไม่ใส่ใจขนาดนี้ เอาแค่พอดีสิ รู้อยู่ว่าพี่มันพยายามขอโทษแล้วก็น่าจะเข้าใจนิสัยแก อีกอย่างก็เป็นพี่ด้วย ลองใจ? มากไปหน่อยไหม ทำดีมาตั้งเยอะจะมาตกม้าตายตอนท้าย หรือว่าพอรู้ว่าเค้าชอบแล้วก็หยุด ดีไม่จริงนี่หว่า -_-#
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-12-2016 09:03:17
 :mew2:   เออเว้ยยย สงสารพี่กันย์อ่า น้ำตาพี่จะไหล
น้องปืนมันร้ายจริงๆค่ะ ยอมรับเลย  :กอด1:   :L2: 
รอ Rewrite นะคะ เอาใจช่วยคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว (Re-write) [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-12-2016 10:31:06
ปืน เล่นแรง เล่นนานนะ
แต่พี่กัลย์ ก็เยอะ สมควรให้รู้ต้วซักที
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 25 - …ก็พี่พยายามแล้ว (Re-write) [10.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 11-12-2016 21:10:13
รอ re-write น้าาาา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 12-12-2016 01:59:58
26-…ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(2)

“กูชอบมัน”

...คำตอบง่ายๆ ที่หลุดออกมาจากคนปากหนักอย่างพี่กันย์ทำให้โลกของผมที่กำลังหดหู่อยู่สดใสขึ้นทันตาเห็นก่อนจะแอบมองไปยังคนที่นั่งอยู่บนเนินที่เอาแต่ทำท่าเหมือนจะเข้ามาแต่ก็ไม่เข้ามาสักทีอย่างอดยิ้มออกมาไม่ได้ ผมรู้ครับว่าพี่กันย์ต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหนที่จะต่อสู้กับเหตุผลในหัวร้อยแปดเพื่อจะเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาผมก่อน แต่ผมขอ ‘รอ’ อีกนิดได้มั้ยครับ ผมอยากรู้ว่าคนเยอะๆ อย่างพี่กันย์จะมีวิธี …ง้อคนที่ชอบยังไง?

“แค่นี้พอรึเปล่าครับ?” ผมจงใจถามขึ้นให้เสียงดังกว่าปกติในระหว่างที่หิ้วถังปูนขึ้นไปให้พวกพี่ซันที่อยู่ตรงไซต์บนเนินเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาตอกไม้อยู่พอดีจนเจ้าตัวเหลือบมามองจนผมต้องเป็นฝ่ายหลบซะเอง

“ผสมอีกสักครึ่งถุงกูว่าก็น่าจะพอแล้วนะ” พี่ซันเอ่ยขึ้นมาจนผมต้องเดินเอาถังปูนไปยื่นให้เลยไม่ได้สนใจพี่กันย์อีกก่อนจะรีบเดินลงเนินไปตักน้ำมาให้พี่อีกคนที่กำลังฉาบพื้นไปพร้อมๆ กัน

"น้ำครับพี่” ผมยื่นถังน้ำให้พี่ที่นั่งฉาบอยู่ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ในมุมที่มองเห็นพี่กันย์ที่กำลังทำหน้ายุ่งๆ อยู่พอดีก่อนจะถามพี่อีกคนไป

“พี่อยากได้อะไรอีกมั้ยครับ?”

“วันนี้ขยันแปลกๆ นะ มีอะไรเปล่าวะ?” พี่ขิงถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะส่งสายตาแบบมีเลศนัยมาให้จนผมต้องรีบส่ายหัวแล้วยิ้มกลบเกลื่อนก่อนพี่เจที่วันนี้อยู่ฝ่ายครัวจะเดินหิ้วกระติกน้ำเย็นๆ ซึ่งเป็นอภินันทนาการจากฝ่ายครัวมาให้

“จะอะไรล่ะครับ ก็ทางขึ้นลงไซต์มันอยู่ตรงหน้าพวกฝ่ายสวนที่กำลังทำกระบะต้นไม้อยู่ไง” พี่เจพูดขึ้นจนพี่ขิงร้องอ๋อขึ้นอย่างไม่มีเสียงก่อนจะหันมามองผมอย่างหมั่นไส้

“งั้นกูขอเอาอะไรสักอย่างได้มั้ยครับ?”

“ได้สิครับพี่ ว่าแต่…พี่จะเอาอะไรดีครับผม?” ผมรับมุกแล้วลุกขึ้นยืนข้างพี่ขิงก่อนเจ้าตัวจะทำเป็นกระแอมแล้วพูดออกมา

“ถ้ากูขอ ‘เอากันย์’ มึงจะไปเอาให้กูได้มั้ยครับ?” คำพูดสองแง่สองง่ามทำให้พี่เจหัวเราะออกมาเป็นบ้าเป็นหลังก่อนจะตบลงที่ไหล่พี่ขิงอย่างชอบใจจนผมได้แกล้งหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจแล้วถามต่อ

“ไอ้ให้ไปเอาน่ะได้ครับ แต่ผมเกรงว่าจะมาไม่ถึงพี่เนี่ยสิ ว้า” ผมเกรงทำหน้าลำบากใจจนพี่เจถึงกับระเบิดหัวเราะออกมาชุดใหญ่

“กูไม่เล่นกับมึงละ” พี่ขิงได้แต่เบะปากหมั่นไส้จะเดินกับไปทำงานต่อปล่อยให้ผมกับพี่เจหันมามองหน้ากันก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาๆ

“ไอ้กันย์ดูตรงหน้ามึงด้วย ไอ้เชี่ยเอ้ยย มือ!" เสียงพี่โฟมที่ตะโกนแทรกเสียงหัวเราะขึ้นมาทำให้ผมหันไปมองเจ้าของชื่ออย่างตกใจก่อนจะรีบวิ่งไปเลยไม่ได้ยินคำพูดที่พี่เจที่แซวตามมา

“ไอ้เชี่ยปืนแมร่งก็ไวไป”





"โอ้ย!"

"บอกแล้วให้ระวัง ไหนดูดิ" พี่โฟมกับพี่ปูนที่รีบเข้าไปดูเพื่อนตัวเองทำให้ผมต้องชะงักมือที่กำลังเอื้อมไปก่อนจะหลบมายืนดูอยู่ข้างหลังอย่างเป็นห่วงก่อนจะเจอสายตาของคนเจ็บที่หันมามองพอดี

"เอ่อ พี่โฟมครับ พี่ซันบอกว่าถ้าตรงนี้เสร็จแล้วรบกวนไปช่วยเทพื้นตรงลานด้านหน้าหน่อยนะครับ" เพราะสายตาที่คาดไม่ถึงที่อยู่ดีๆ ก็มองมาทำให้ผมที่ในหัวตอนนี้มีแต่เรื่องอุบัติเหตุของคนตรงหน้าถึงกับสติหลุดจนพูดอะไรไปเรื่อยก่อนจะรีบถอยออกมาตั้งหลัก

"เฮ้ย เจ็บมากเหรอวะ?" เสียงของพี่โฟมที่ดังขึ้นมาอีกครั้งทำให้ผมนึกขึ้นได้ก่อนจะเดินไปที่กระติกน้ำแข็งแล้วเอาผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมารองน้ำแข็งที่ตักมาใส่ก่อนจะรวบๆ ชายผ้าแล้วเดินเข้าไปหาพี่ปูน

“ฝากหน่อยนะครับพี่” พี่ปูนที่หันมาตามแรงสะกิดยิ้มรับก่อนจะรับของในมือไปก่อนผมจะถอยออกมาด้วยความยากลำบากที่จะไม่เป็นคนเข้าไปดูแลคนตรงหน้าซะเอง

...ใจแข็งไว้ดิวะ ไอ้ปืน!





ผมแอบเดินตามคนเจ็บที่หลบมาโรงอาหารทันทีที่งานฝ่ายสวนเสร็จอย่างห่วงๆ ก่อนจะยืนรีรออยู่ข้างหน้าโรงอาหารเพราะไม่รู้ควรจะเข้าไปด้วยสถานการณ์ประมาณไหนดี เพราะ…

ข้อหนึ่ง ผมกำลังเล่นตัวเป็นคนที่รอให้พี่กันย์เป็นฝ่ายมาง้ออยู่ถึงแม้ตอนนี้ผมจะเป็นฝ่ายมาอ่อยเจ้าตัวถึงที่ก็ตาม
ข้อสอง ถ้าผมต้องกลายมาเป็นฝ่ายง้อก่อนเหมือนที่ผ่านๆ มา เดี๋ยวคนที่อยู่ในโรงอาหารจะได้ใจเกินไปถึงแม้จริงๆ แล้วผมจะยอมให้ตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘ชอบ’ ก็ตาม

“กูชอบมัน” …แล้วทำไมแค่คิดผมยังต้องเขินด้วยเนี่ย ชักจะอ่อนแอเกินไปแล้วไอ้ปืนเอ้ย

ผมมองพี่กันย์ที่อยู่คนเดียวในโรงอาหารก่อนจะเดินไปเดินมาระหว่างโต๊ะเพื่อหาอะไรบางอย่างก่อนจะนึกขึ้นได้แล้วรีบเดินกลับไปที่เต็นท์ ผมเดินเข้าไปรื้อตรงกองถุงนอนที่ตอนนี้มีแต่ผมคนเดียวที่ใช้อย่างรีบๆ ก่อนจะเจอแผงยาแก้อักเสบที่หล่นลงมาพร้อมกับถุงยาชนิดเดียวกันที่มีตัวหนังสือ ‘ขอโทษ’ อยู่ ผมหยิบขึ้นมามองอย่างอดยิ้มออกมาไม่ได้ …นี่คงเป็นการแสดงออกที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดสำหรับคนเยอะๆ อย่างพี่กันย์ ผมคิดก่อนจะเก็บถุงยาแก้อักเสบถุงนั้นกลับเข้าไปในถุงพลาสติกก่อนจะปิดด้วยเทปไว้อย่างดีเพราะไม่อยากให้ตัวหนังสือที่เขียนด้วยปากกาเมจิกหลุดออกไปเร็วนัก ก่อนจะหยิบแผงยาที่ขอมาจากพี่ฝ่ายพยาบาลมาแทนแล้วเดินกลับไปยังโรงอาหาร

“พี่ปูนครับ ผมขอน้ำสักแก้วสิครับ” ผมหายใจเข้าออกเพื่อระงับความตื่นเต้นก่อนจะเรียกชื่อคนที่เห็นๆ อยู่แล้วว่าไม่ได้อยู่ในโรงอาหารก่อนคนที่ผมเล็งไว้จริงๆ จะหันมาแทน

“รอเดี๋ยวนะ”พี่กันย์ตอบเบาๆ ก่อนจะหันไปทำอะไรสักอย่างกับแก้วน้ำที่อยู่ตรงหน้าแล้วเดินเอามายื่นให้

"พอดีไอ้ปูนไม่อยู่ เอานี่ไปก่อนแล้วกัน" พี่กันย์ยื่นให้อยู่นานจนผมต้องละสายตาจากมือของคนตรงหน้าที่เห็นแล้วว่าไม่ได้มีเลือดคั่งหรือรอยแผลแต่อย่างใดก่อนจะสะดุ้งอย่างตกใจเพราะความร้อนของน้ำในแก้วที่คงมากเกินกว่าจะใช้กินยาได้ ผมเลยตัดสินใจเดินไปที่อ่างล้างจานก่อนจะเทน้ำออกแล้วผสมน้ำธรรมดาเพิ่มลงไปก่อนจะเหลือบไปเห็นสีหน้าของพี่กันย์จนผมเพิ่งรู้สึกตัวว่าอาจจะทำให้คนตรงหน้าเข้าใจผิดได้

"ขอบคุณครับ แต่ผมอยากกินน้ำธรรมดามากกว่า" ผมอธิบายเหตุผลที่เทน้ำในแก้วออกไปก่อนจะแกะยาออกมาจากแผงแล้วใส่เข้าปาก จากนั้นจึงรีบเดินออกมาจากโรงอาหารเพื่อหลบไปยังห้องน้ำข้างๆ ก่อนจะคายยาในปากออกมาเพราะยังไม่ใช่เวลาของมันก่อนจะคิดถึงคนที่ผมเพิ่งเดินออกมา

“จะคิดมาอะไรอีกมั้ยเนี่ย” ผมคิดอย่างเป็นกังวลเมื่อนึกถึงนิสัยของพี่กันย์ก่อนจะก้มลงมองยาเม็ดสีเขียวฟ้าในมือ

…ผมลงทุนขนาดนี้ รีบๆ มาง้อผมหน่อยนะครับพี่กันย์





'ไม่เคยจะทำอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่เพราะเธอ แต่เพราะเธอ ฉันจึงยอม...'

ผมมองไปยังคนที่นั่งรวมอยู่กับวงรอบกองไฟตั้งแต่ค่ำ แต่ยังดีที่ดูเหมือนวันนี้เจ้าตัวจะไม่แตะเหล้าต้มที่ลุงชาวบ้านคนนั้นยื่นมาให้ก่อนพี่กันย์จะบอกปัดไปแล้วทำท่าจะลุกออกมาจนทำเอาผมที่นั่งมองอยู่จากหน้าเต็นท์ต้องลุกขึ้นตามโดยอัตโนมัติ แต่เหนือสิ่งอื่นใด …ผมหมดมุกแล้วครับ ถ้าพี่กันย์ยังไม่มาง้อภายในวันนี้ ผมจะ! …เป็นคนไปง้อเองก็ได้

ผมคิดอย่างเซ็งๆ ในความใจอ่อนของตัวเองพลางมองไปยังคนที่กำลังก้าวเดินมาอย่างช้าๆ ก่อนจะส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ได้ …ไม่มีเหตุผลอะไรต้องมานั่งทรมานเองในเมื่อ ‘ชอบ’ กัน

“อ้าว! ปืน” เสียงทักขึ้นมาทำให้เท้าของผมที่กำลังจะก้าวต้องชะงักก่อนจะหันไปมองเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักไม่นานเพราะอยู่กลุ่มเดียวกันหลายครั้งตอนทำกิจกรรมแล้วยิ้มให้กลับไป

“จะไปไหนเหรอ?” พายถามขึ้นอย่างเป็นมิตรก่อนจะชี้ไปยังทิศทางที่ผมกำลังจะเดินไปคือวงรอบกองไฟ ผมพยักหน้ารับอย่างไม่มั่นใจนัก …คือผมจะไปหาคนที่อยู่ตรงนั้น ถ้าอย่างนั้นก็คงใช่แหละครับ

"ปืนกินเหล้ารึเปล่า?" พายถามขึ้นมาเพื่อทำลายความเงียบในระหว่างที่ผมกำลังแอบมองคนที่เดินตรงมาไปด้วยอย่างเหม่อๆ ก่อนจะหันไปตอบแล้วถามกลับเพื่อไม่ให้เสียมารยาทมากนัก

"ก็กินได้นะ แต่ปกติไม่ค่อยกินหรอก พายล่ะกินรึเปล่า?"

"ก็นิดหนึ่งอ่ะ เห็นเพื่อนสนุกก็เลยนึกสนุกตามไปด้วย” พายตอบกลับมายิ้มๆ ก่อนผมจะพยักหน้าหน้าอย่างเข้าใจเมื่อนึกไปถึงใครบางคนที่ไม่ว่าเพื่อนจะส่งอะไรให้กินก็กินหมดอย่างขำๆ

"เสพบรรยากาศสินะ สมกับเป็นเด็ก'ถาปัตย์จริงๆ"

"ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า ว่าแต่ปืนเคยกินเหล้าต้มรึยัง? ลุงชาวบ้านแกเอามาให้ แรงอยู่แต่เด็ดเลยนะ" คำพูดของพายที่ดังขึ้นพร้อมกับเงาของคนตรงหน้าที่ทอดลงมาพอดีทำให้ผมชะงักก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง …ในที่สุดก็เดินมาถึงจนได้สินะครับ

"แต่เราว่าลองหน่อยก็ดีนะ ไหนๆ ก็มาแล้ว" ผมตอบไปตามมารยาทก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่ดูเหมือนจะไม่ได้สังเกตว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคนอีกต่อไปก่อนจะหันกลับมามองหน้าพี่กันย์อีกครั้งพร้อมๆ กับพายที่ทักขึ้นมา

"อ้าวพี่กันย์ จะไปนอนแล้วเหรอคะ?"

"อืม พอดีปวดหัวนิดหน่อยน่ะ" คำตอบจากคนตรงหน้าทำให้ผมเผลอขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างสงสัยไม่ได้ …ไหนพี่ปูนบอกว่าหายแล้วนี่นา

"จริงสิคะ พี่กันย์เพิ่งหายไข้นี่นา อากาศยิ่งหนาวๆ อยู่ด้วยนะคะคืนนี้" ผมยิ้มรับคำของน้องคณะตัวเองก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางอย่างห่วงๆ

"หนาวเหรอครับ” ผมได้ยินเสียงตัวเองถามออกไปก่อนพี่กันย์จะหยุดแล้วหันมามองผมจากนั้นก็เลื่อนสายตาไปหาคนข้างๆ ที่ยืนยิ้มให้พร้อมทั้งพยักหน้ารับจนผมต้องจำใจถามต่อทั้งๆ ที่อยากจะถามอีกคนมากกว่า

“เอ่อ พายเอาเสื้อเรามั้ย?” พายยิ้มกว้างจนผมต้องถอดเสื้อหนาวแล้วส่งไปให้ก่อนจะมองไปยังพี่กันย์ที่หมุนตัวเดินไปอีกทาง

“ไม่ไปรอบกองไฟแล้วเหรอ” พายถามขึ้นในขณะที่ผมกำลังจะเดินย้อนกลับไปยังทางที่มาก่อนจะหันไปส่ายหน้าให้

“ก็ไม่ได้จะไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”





“เห็นพี่กันย์มั้ยครับ?” ผมถามหาพี่กันย์จากพี่ปีสี่คนหนึ่งที่เดินสวนมาก่อนคนถูกถามจะส่ายหน้าแล้วเดินจากไป ผมหันไปมองรอบๆ ก่อนจะเห็นร่างคุ้นๆ ของคนที่ผมตามหาอยู่เดินออกมาจากห้องๆ หนึ่งใกล้ๆ กับโซนที่พักของผู้ชายก่อนจะเดินกลับไปที่ศูนย์ ตอนแรกผมทำท่าจะเดินตามไปแต่เพราะด้วยความสงสัยผมจึงเดินย้อนกลับไปยังห้องที่พี่กันย์เพิ่งเดินออกมา

ผมมองป้าย ‘ห้องแห่งความลับ’ ที่แปะอยู่บนประตูอย่างสงสัยก่อนจะเปิดเข้าไปแล้วพบกับโต๊ะนักเรียนที่ถูกวางต่อๆ กันไปรอบห้อง ทุกโต๊ะมีซองสีน้ำตาลแปะอยู่และถูกเขียนชื่อกับชั้นปีกำกับไว้ทุกซอง

“มาเขียนจดหมายหาใครเหรอครับเพื่อน?” ไอ้การันต์ที่เดินผ่านมาทักขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหาผมด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนไอ้คนตรงหน้าน่าจะกระดกแอลกอฮอล์มาได้ที่ทีเดียว

“จดหมายอะไรวะ?” ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนไอ้การันต์จะเดินไล่นิ้วไปตามซองสีน้ำตาลรอบห้องแล้วหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะตัวหนึ่ง

“มาค่ายอาสาก็ร่วมกิจกรรมบ้าง อย่าทำตัวเป็นเด็กติดพี่ให้มันมากนัก กูล่ะหมั่นไส้” ไอ้การันต์เหยียดยิ้มออกมาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะกวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหาแล้วใช้มือเคาะซองที่อยู่ตรงหน้า

'ปืน ปีหนึ่ง(เกษตร)'

“ทำไมมีชื่อกูด้วยวะ?” ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะก้มลงมองซองตรงหน้าอย่างสงสัย …เหมือนมีอะไรอยู่ข้างในแฮะ ผมคิดก่อนจะล้วงมือเข้าไปในซองก่อนจะดึงกระดาษมากมายออกมา

“จดหมายไงไอฟายยย” ไอ้การันต์ด่าก่อนจะเดินไปที่ตัวอีกตัวหนึ่งที่น่าจะเป็นของมันแทน ผมหยิบกระดาษโพสต์อิทหลากสีสันในซองออกมาก่อนจะไล่อ่านข้อความทีละใบ

‘ยินดีที่ได้รู้จักนะเด็กคณะเกษตร’
‘ตามพี่กูขนาดนี้ ก็ขอพี่กูเป็นแฟนไปเลยไม่ดีรึไง …การันต์’
ผมอ่านข้อความที่ตอนนี้คนเขียนดันเอาแต่นั่งสบถอะไรขมุบขมิบก่อนจะเดินไปหยิบกระดาษใบใหม่มาเขียนแล้วยัดใส่ซองโน้นซองนี้ไปทั่ว

“กูขอแล้วเว้ย” ผมตะโกนไปบอกมันก่อนเจ้าตัวจะหันมามองอย่างสงสัยจนผมต้องยกข้อความในมือให้มันดู

“แล้วผลเป็นไง?”

“ระดับนี้แล้ว น่าจะไม่พลาดนะ” ไอ้การันต์หัวเราะขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้อย่างไม่เชื่อเท่าไหร่แล้วหันไปสนใจของตรงหน้ามันต่อ

‘หายไวไวนะมึง’
‘ขอโทษ’


“หืม?” ผมสะดุดใจกับลายมือและข้อความคุ้นๆ ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าก่อนจะเปิดใบถัดไปแล้วก็เจอเหมือนเดิม

‘ขอโทษ’
‘ขอโทษ’


และ

‘ขอโทษ’


“นี่คือวิธีของพี่สินะครับ” ผมคิดขึ้นมาอย่างอดดีใจกับตัวบรรจงในกระดาษไม่ได้ …ก็เหมาะสมแล้วล่ะครับสำหรับคนปากหนักและเรื่องเยอะอย่างพี่กันย์

“บ่นอะไรของมึงวะ” เสียงทักจากคนที่ผมคิดว่าออกจากห้องไปแล้วทักขึ้น ผมเก็บกระดาษที่มีข้อความ ‘ขอโทษ’ ทั้งสี่ใบไว้ก่อนจะรวบข้อความที่เหลือยัดกลับเข้าไปในซองตามเดิมก่อนจะเดินไปหาไอ้การันต์ที่เริ่มไล่ยัดโพสต์อิทใส่ซองโน้นซองนี้อีกรอบ

“เฮ้ยมึง! กูขอบ้างดิ”





"ถ่ายรูปกันหน่อยครับผม" เสียงพี่กัมป์ที่ตะโกนขึ้นมาเรียกให้ทุกคนหันไปมองก่อนไอ้พวกแก๊งค์ปีหนึ่งของไอ้การันต์จะชวนผมเดินไปถ่ายรูปรวมเป็นที่ระลึกแล้วจึงแยกย้ายกันไปเดินรอบๆ ตามศรัทธา

“พี่ปูนครับ พี่กันย์มีไข้รึเปล่า?” พอถามตอนที่พี่ปูนแยกออกมาถ่ายรูปอยู่คนเดียวก่อนจะถามถึงใครบางคนที่วันนี้สีหน้าไม่สดใสนัก

“ถ้าหมายถึงไข้ใจล่ะก็ไม่แน่” พี่ปูนพูดขึ้นก่อนจะส่งยิ้มขำๆ มาให้ผมมองหน้าพี่ปูนอย่างงงๆ แล้วคิดตามก่อนจะเอะใจอะไรบางอย่าง …นี่คงมัวแต่เขียนให้คนอื่นจนไม่ได้เปิดอ่านของตัวเองสินะ ให้ตายเถอะพี่กันย์!

“เอาไอ้นี่ไปแก้ขัดก่อนได้มั้ยครับ?” ผมยื่นโทรศัพท์ที่ยังพกไว้แม้จะไม่มีสัญญาณกับหูฟังให้ปูนก่อนคนรับจะส่งสายตาอย่างมีคำถามมาให้

“ไม่เอาไปให้มันเองอ่ะ?”

“เดี๋ยวผมไปแน่ครับ ขอเวลาอีกแค่นิดเดียว”





“ลุงครับ ของผมอ่ะ” ผมถามทันทีที่รถของลุงจอดหน้าโรงเรียนตามเวลาที่ได้นัดหมายกันไว้ก่อนลุงจะยื่นถุงพลาสติกสีดำมาให้ ผมเปิดดูของข้างในก่อนจะพยักหน้ารับแล้วยื่นเงินค่าของไปให้ก่อนจะรีบเอาไปเก็บในโรงเรียนแล้ววิ่งกลับขึ้นมาบนยอดดอยใหม่อีกรอบ …ทำไมมันเหนื่อยกว่าตอนรับน้องอีกวะเนี่ย? ผมคิดก่อนจะปาดเหงื่อแล้วรีบเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับพวกไอ้การันต์ทันทีเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย

"ปืนถ่ายรูปกัน" พายที่เดินมากับพวกไอ้การันต์ทักขึ้นก่อนจะกวักมือเรียก ผมเลยได้ทีตีเนียนไปอย่างนึกดีใจที่ไม่มีใครทันสังเกตว่าผมหายไปไหนมา

"กล้องไหนดี" ผมถามก่อนจะมองกล้องหลายกล้องตรงหน้าอย่างงงๆ

"สักกล้องเหอะน่า" พายพูดขึ้นก่อนจะชี้ให้ผมมองกล้องนั้นกล้องนี้จนผมเริ่มตาลายก่อนจะเห็นคนที่เพิ่งชวนผมถ่ายรูปยื่นมือรับกล้องโพราลอยด์กลับมาจากเพื่อนอีกคน

“เออพาย เราขอยืมกล้องหน่อยดิ”





ผมยืนอยู่หน้า ‘ห้องแห่งความลับ’ อีกครั้งด้วยหัวใจที่เต้นแรงมากกว่าปกติพร้อมกับคำๆ หนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัว

‘คิดถึง’

ผมยิ้มเขินๆ ให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะส่ายหัวอย่างขำๆ อย่างคิดไม่ถึงในอาการที่เป็นอยู่ก่อนจะตัดสินใจค่อยๆ เปิดประตูเข้าไป

ผมมองดูพี่กันย์ที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาเมื่อคิดได้ว่าคนตรงหน้าต้องพยายามขนาดไหนที่จะสลัดเหตุผลร้อยแปดของตัวเองทิ้งไปแล้วพยายามที่จะขอโทษกับเรื่องที่หากเป็นในเวลาปกติเจ้าตัวคงจะมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนไม่คิดจะเก็บมาคิดให้มันมากความด้วยซ้ำ

“ขออนุญาตครับ” เสียงของผมที่ดังออกไปทำให้คนที่เพิ่งใส่อะไรบางอย่างเข้าไปในซองถึงกับสะดุ้งก่อนจะหันมามองผมแล้วทำตาโตอย่างตกใจ

“มึง! …มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“หลังพี่นิดหน่อยครับ” ผมบอกก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งข้างเจ้าตัวที่ทำท่าทางเลิ่กลั่กอย่างไปไม่เป็นก่อนจะพยายามเลื่อนมือมาบังชื่อบนซองตรงหน้าไว้

“เขียนใส่แต่ซองคนอื่น ของตัวเองไม่เปิดดูบ้างหรอครับ” ผมพูดก่อนจะเท้าคางมองคนข้างที่หันมามองอย่างงงๆ พี่กันย์ย่นคิ้วอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินไปที่ซองของตัวเอง ผมเลยได้ทีหยิบอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนพี่กันย์จะเพิ่งใส่เข้าไปออกมา

26.10.xx
ค่ายอาสา. กูขอโทษ


ผมมองรูปถ่ายตรงหน้าที่เห็นเพียงเสี้ยวหน้าด้านข้างของผมที่อยู่ท่ามกลางวิวของทุ่งข้าวโพดบนยอดดอยเมื่อกลางวันก่อนจะหันไปมองคนที่ดูเหมือนจะจมไปกับกองกระดาษตรงหน้าตัวเองซะแล้ว

“เจอคำตอบรับของข้อความที่พี่ส่งมามั้ยครับ” ผมถามก่อนจะเดินยิ้มๆ เข้าไปหาแล้วมองกระดาษโพสต์อิทสี่แผ่นที่พี่กันย์แยกออกมาวางต่อกันตรงหน้าก่อนผมจะวางหยิบกระเป๋าตังค์แล้วล้วงเอาโพสต์อิทที่ผมเก็บไว้ออกมาไปเรียงไว้ด้านล่างอีกแถว

ขอโทษ – ขอโทษ – ขอโทษ - ขอโทษ
ไม่เป็นไรครับ – ไม่เป็นไรครับ – ไม่เป็นไรครับ – ไม่เป็นไรครับ


“แล้วนี่คือคำง้อในส่วนของผมครับ” ผมบอกก่อนจะยื่นถุงสีดำตรงหน้าไปให้ พี่กันย์มองหน้าผมอย่างงงๆ ก่อนจะรับไปแล้วเปิดออกดูก่อนจะหลุดยิ้มออกมา

“ไอ้นี่อีกแล้ว” พี่กันย์บอกด้วยน้ำเสียงรำคาญก่อนจะทำหน้าเซ็งๆ แล้วยื่นห่อช็อคโกแลตคืนมาให้

“ไม่เอาเหรอครับ” ผมถามอย่างอดใจแป้วขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้ก่อนพี่กันย์จะส่ายหน้าแล้วอมยิ้มออกมาก่อนจะตีหน้าขรึมใหม่

“กูให้แกะให้ครับ ไม่ได้ให้คืน” …น้ำเสียง ท่าทางและแววตาแบบเดิมที่กลับมาทำให้ผมต้องลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนจะแกะช็อคโกแลตในมือให้อย่างที่เจ้าตัวต้องการ

“ส่วนอย่างสุดท้าย” ผมบอกก่อนจะวางรูปโพราลอยด์ใบที่พี่กันย์เพิ่งใส่เข้าไปตรงหน้า

“ผมไม่อยากได้รูปเดี่ยวหรอกครับบอกเลย” ผมบอกก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆแล้วยกกล้องโพราลอยด์ที่ยืมมาขึ้นมาตรงหน้าแล้วกดถ่ายก่อนจะลุกหนีออกมาแล้วเดินกลับไปนั่งตรงโต๊ะที่มีซองของผมแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงไปก่อนจะเดินมายื่นให้พี่กันย์

“ไอ้เชี่ยปืนนน!” พี่กันย์ดูรูปที่ผมยื่นไปให้ก่อนจะโวยวายขึ้นมา
 
“ครับพี่?” ผมถามกลับไปด้วยใบหน้าที่ไม่สามารถหุบยิ้มลงไปได้ และดูเหมือนว่าคนตรงหน้าก็คงเป็นเหมือนกัน

“กูเป็นพี่มึงนะ มาเรียกชื่อกูเฉยๆ ได้ไง กลับมานี่นะเว้ย!”


26.10.xx
ห้องแห่งความรัก ♥ หายโกรธกันย์นะ







หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 12-12-2016 03:00:39
ดีกันแล้ว ค่อยยังชั่ว สงสารพี่กันย์มากตอนโดนน้องเมิน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-12-2016 03:08:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 12-12-2016 05:47:33
อืมมม.  มุมของปืน

พี่กันย์คิดเยอะ คนอ่านก็คิดแยะ

 :n1:   :n1:   :n1:   :n1: 

...
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 12-12-2016 06:46:11
ดีกันซะที

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: Nattharikan ที่ 12-12-2016 07:29:51
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 12-12-2016 08:38:11
ดีใจจัง ดีกันแล้ว  ขอแบบหวาน ๆ บ้างนะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-12-2016 09:16:33
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 12-12-2016 09:31:21
ว่าจะมั่นไส้ปืนไปอีกซักตอนสองตอน ชิ!!  :katai3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 12-12-2016 16:44:01
พี่มันเยอะ น้องก็เยอะเหมื่อนกานนนนนนนน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-12-2016 16:46:49
ห้องแห่งความรัก.  :mew1:
ยอมน้องเถอะพี่กันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 12-12-2016 19:38:21
ในที่สุดก็ดีกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-12-2016 22:00:27
เอิ่มมม.....มุก "เอากันย์"  :ling1: :ling1: :ling1:
หายโกรธกัลย์นะ  :mew1: :mew1: :mew1:
เข้าใจกัลย์ซักที
ลุ้นซะ.....
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 12-12-2016 23:54:19
ลุ้นจนเหนื่อย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-12-2016 00:25:27
ง้องอนแบบนี้ก็ต้องตกหลุมรักอีกครั้งสิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//Chapter25+26-...ก็ถ้าพี่มาง้อ ผมก็รออยู่ตรงนี้ไงครับ(1+2)
เริ่มหัวข้อโดย: Kimigari ที่ 14-12-2016 22:27:35
 :impress3:
ดีกันไวๆน๊า รอฉากหวานๆค่า
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 15-12-2016 02:57:44
27-...ก็พี่มีแฟน

"ในที่สุดพวกเราก็มีวันนี้ อย่างนี้มันต้องฉลอง เอ้า! ไชโย! ไชโย! ไชโย!" ไอ้กัมป์ลุกขึ้นพูดก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นชูตามธรรมเนียมอย่างอารมณ์ดีทำเอาคนที่เหลือถึงกับต้องรับมุกยกแก้วในมือขึ้นกินตามอย่างอดที่จะคึกคักไปด้วยไม่ได้

ผมมองไปรอบๆ อย่างนึกใจหาย เพราะคืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายก่อนที่พรุ่งนี้จะทำการส่งมอบอาคารให้กับทางโรงเรียน หลังจากนั้นเราจะลงจากที่นี่ ต่อรถเข้าเชียงใหม่แล้วเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันยาวๆ เพราะฉะนั้นวงรอบกองไฟในวันนี้เลยยิ่งพิเศษกว่าทุกวันเพราะมันเหมือนงานเลี้ยงปิดค่ายกลายๆ ที่ทุกคนจะพร้อมใจกันมาร่วมวงเพื่อระลึกชีวิตค่ายตลอดสิบกว่าวันที่ผ่านมาก่อนจะกลับไปผจญโลกความจริงของการเปิดภาคเรียนที่สองที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

"กูต้องคิดถึงที่นี่แน่ๆ" ไอ้ทีพูดขึ้นก่อนจะทำท่าบีบน้ำตาแล้วเอนตัวมาซบผมอย่างน่าหมั่นไส้

"ไม่คิดถึงก็บ้าแล้ว กรุงเทพฯ ร้อนฉิบหาย" ไอ็โฟมบอกก่อนจะยื่นมือไปตบหัวไอ้ทีทีหนึ่งอย่างนึกรำคาญที่มันยังเล่นใหญ่ไม่เลิกแล้วหันไปรับแก้วจากน้องปีหนึ่งที่บริการเติมเหล้าให้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องมาไว้ในมือก่อนจะยกขึ้นกินตามจังหวะที่ไอ้ประธานค่ายมันบิ้ว

"พี่กันย์เอามั้ยครับ?" น้องคนเดิมหันมาถามทันทีที่สังเกตเห็นว่าในมือของผมยังไม่มีแก้วก่อนจะจัดแจงหาแล้วยื่นมาให้อย่างรู้ใจ ผมมองน้ำใสๆ ในแก้วตรงหน้าก่อนจะเหลือบไปมองคนที่กำลังเดินถือเสื้อหนาวเข้ามาอย่างอดลังเลไม่ได้

"เอ่อ..."

"รอให้มันขอพ่อก่อนนะคะ" ไอ้ปูนตอบก่อนจะมองมาที่ผมอย่างหมั่นไส้แล้วมองเลยไปยังไอ้ปืนที่เพิ่งเดินเข้ามา





[Bpuen's]

"มีอะไรเหรอครับ" ผมถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะยื่นเสื้อกันหนาวที่หยิบติดมาส่งให้พี่กันย์

"ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่น้องมันยื่นแก้วมาให้ไอ้กันย์" พี่ทีตอบพลางทำหน้าล้อเลียนก่อนจะพยักเพยิดไปให้อีกคนรับมุก

"ช่ายย ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ไอ้กันย์มันไม่กล้ารับไว้ก็เท่านั้น" พี่โฟมพูดต่อก่อนจะยักคิ้วให้แล้วปรายตาไปมองพี่กันย์ที่ได้แต่หลบสายตาอย่างเซ็งๆ

"ทำไมล่ะครับ?" ผมแกล้งถามออกไปทั้งๆ ที่ผมพอจะรู้แล้วล่ะครับว่าเพราะอะไร

"กูแค่ไม่อยากกิน ทำไมวะ?" พี่กันย์ตอบก่อนจะถามกลับจนผมแทบจะหลุดยิ้มออกมา ...ผากก็บอกว่าไม่แต่สายตานี่โหยหาไอ้แก้วตรงหน้าเหลือเกินนะครับพี่

"ไอ้เชี่ยย คนอย่างไอ้กันย์ไม่อยากกินเหล้าว่ะ?" พี่ทีพูดขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดูสลับกับหน้าพี่กันย์ที่เริ่มเบื่อโลกเข้าไปทุกที

"พี่กันย์ไม่อยากกินเหรอครับ?"

"เออ"

"ไม่อยากกินจริงๆ เหรอครับ?" ผมแกล้งเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะชูขึ้นมาถามเพื่อความแน่ใจ

"เออออ" พี่กันย์ลากเสียงก่อนจะเบนสายตาไปโฟกัสที่อื่นจนผมแทบกลั้นขำไม่ไหวก่อนจะงัดไม้ตายออกมาอย่างอดสงสารคนที่พยายามจะอดทนตรงหน้าไม่ได้

"ว้าา แย่เลยครับ ผมก็อุตส่าห์เตรียมตัวมา"

"เตรียมไรวะ?" พี่กันย์หันกลับมาด้วยความสนใจก่อนจะเพ่งมองใกล้ๆ เมื่อผมล้วงเอาอะไรบางอย่างที่เตรียมไว้ออกมา

"นี่ไงครับ"  ...มันคือถุงอ้วกครับแถมยังเป็นสีดำอีกด้วย!

"ตกลงวันนั้นมึงซื้อมาจริงอ่ะ" พี่กันย์ถามขึ้นก่อนจะมองผสมสลับกับถุงอ้วกในมือตาโตอย่างอดทึ่งไม่ได้จนผมหลุดยิ้มออกมา

"ครับ"

"ไม่มีใครเหมือนมึงอีกแล้วแหละ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะส่งถุงที่ดูจะเป็นที่สนใจให้พี่คนอื่นดู

"แล้วตกลงพี่จะไม่กินจริงๆ ใช่มั้ยครับ ผมจะได้เก็บ" ผมย้ำอีกครั้งก่อนจะหรี่ตามมองคนตรงหน้าที่เหมือนจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"ไม่!" พี่กันย์ยืนยันหนักแน่นจนผมต้องเลิกคิ้วถามอย่างสนใจ

"ไม่กิน?"

"ไม่ใช้โว้ยย! กูซะอย่าง ไม่อ้วกแน่นอนครับผม!"





[Gun's]

"อีกแก้วว!" ไอ้เจที่เริ่มเมาได้ที่จนต้องให้ไอ้ขิงมันหิ้วปีกแต่ยังพยายามถลาเข้ามาหาผมก่อนจะยกแก้วขึ้นชนจนผมต้องเล่นกับไอ้น้องรหัสไปด้วยอย่างนึกสนุก

"กูว่ามึงควรไปนอนครับไอ้น้องชาย" ผมบอกก่อนจะตบไหล่ไอ้เจอย่างหมั่นไส้แล้วหันไปมองไอ้ขิงที่ทำหน้ารำคาญอยู่ข้างๆ อย่างเห็นใจ

"พี่ลากมันไปเก็บให้หน่อยดิ" ไอ้ขิงบอกก่อนจะลากแขนไอ้เจที่ลงไปกองกับพื้นขึ้นมาพาดคออีกครั้งแล้วพยายามลากให้คนที่มองยังไงก็ไม่ไหวแล้วกลับไป

"กูไม่เมาา!" ไอ้เจร้องขึ้นก่อนจะพยายามตะเกียกตะกายมาทางผมจนผมแทบจะถีบมันส่งกลับไป

"เอามันไปเก็บไป" ผมบอกเพื่อนสนิทน้องรหัสก่อนจะมองส่งพวกมันอย่างลุ้นๆ จนพวกมันกลับถึงห้องแล้วจึงค่อยเดินกลับมาร่วมวงกับพวกไอ้ที

"ไอ้เชี่ยเจแมร่งไม่ไหวแล้วว่ะ" ไอ้โฟมพูดขึ้นอีกคนพลางมองไปยังน้องทั้งสองคนที่เดินหายไปก่อนจะยกขวดเหล้ามาเทใส่แก้วในมือผมที่พร่องไปเกินครึ่ง

"ว่าแต่ไอ้เจ แล้วไอ้ทีล่ะวะ?" ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ ...จะว่าไปผมก็ไม่ได้ยินเสียงมันมาสักพักแล้วนะเนี่ย

"เออ เดี๋ยวกูไปหาแมร่งก่อน" ไอ้โฟมบอกก่อนจะลุกออกไปจนผมได้แต่มองตามไปอย่างพยายามจะช่วยหาแต่กลับสะดุดกลับสายตาของใครบางคนที่กำลังมองมาเสียก่อน

"มองอะไรครับ?" ผมถามขึ้นอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้ ...ไม่มองเปล่าครับ เสือกยิ้มด้วย!

"มองไม่ได้เหรอครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะขยับเข้ามานั่งใกล้ๆ เพราะตอนนี้วงเริ่มแตกกระจายออกเพราะสังขารที่เริ่มถดถอยไปตามระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของแต่ละคน

"เรื่องของมึงอ่ะ" ผมบอกมันก่อนจะยกแก้วในมือขึ้นกินก่อนจะหันไปเจอสายตามันที่ยังคงมองมา ...ผมไม่น่ารับคำ

"เบาๆ หน่อยครับ คืนนี้ยังอีกไกล" มันบอกยิ้มๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาแตะก้นก่อนจะออกแรงกดจนผมต้องดึงแก้วออกจากริมฝีปาก

"ขี้บ่นจังวะ"

"ไม่ได้บ่นครับ เขาเรียก 'เป็นห่วง' ต่างหาก" ...เชี่ยยยยย!

"ไอ้ปืนโว้ยยย!" ไอ้การันต์ตะโกนแทรกขึ้นมาก่อนจะยื่นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์เบาๆ มาให้ไอ้คนที่นั่งไม่แตะเหล้าจนไอ้ปืนได้แต่ยิ้มอย่างขอบคุณก่อนจะยื่นมาให้ผมอีกที

"กูไม่กิน" ผมบอกมันพลางมองรูปแอปเปิ้ลที่แปะหลาอยู่หน้าขวดแล้วชี้ให้มันดู

"ไม่ได้ให้กินครับ ให้เปิดให้ผมหน่อย" คำพูดของมันทำเอาผมถึงกับมองไอ้คนตรงหน้าด้วยความงงแต่มือก็ยอมบิดฝาก่อนจะยื่นกลับไปให้แต่โดยดี

"ทำเป็นไม่มีแรง" ผมมองคนที่นั่งยิ้มพร้อมกับขวดเครื่องดื่มในมือก่อนจะพูดขึ้นด้วยความหมั่นไส้อย่างอดไม่ได้

"แรงน่ะมีครับ แต่ผมแค่อยากอ้อน ไม่ได้เหรอครับพี่กันย์?"

"มึงมันแมร่ง!" ....ทำใจกูเต้นเลยเนี่ย ผมสบถด่ามันก่อนจะยกแก้วขึ้นมากินเพื่อปิดรอยยิ้มที่กำลังจะหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"วันก่อนครับ" พูดที่อยู่ดีๆ ไอ้ปืนก็พูดขึ้นมาทำให้ผมหันไปมองหน้ามันอย่างงงๆ ก่อนจะขำออกมาเมื่อนึกไปถึงมุกที่เด็กในคณะผมมันชอบเล่นกัน

"กูต้องเล่นมุกกับมึงด้วยมั้ยเนี่ย" ผมถามมันก่อนยกแก้วเหล้วของตัวเองขึ้นกินบ้าง

"ผมได้ยินที่พี่บอกว่า 'กูชอบมัน'"

"แค่กๆๆ" คำพูดของมันทำเอาถึงกับผมสำลักออกมาจนเจ้าตัวต้องยื่นมือมาลูบหลังให้ก่อนจะพูดต่อ

"ได้ยินได้ไงวะ?" ผมสบถออกมาเบาๆ  ก่อนจะเหลือบไปมองคนที่ยังยิ้มไม่หยุดก่อนมันจะตอบว่า

"แสดงว่าหูผมไม่ฝาด" ...โอเคครับ กลายเป็นผมยืนยันคำตอบมันเป็นที่เรียบร้อย

"เออ แล้วไง" ผมพยายามแถก่อนจะตีหน้าซื่อตาใสแล้วกินเหล้าในมือที่แทบเหลือแต่แก้วเปล่าต่อไป

"ก็ผมไม่อยากเป็นบุรุษที่สามนี่นา ขอเป็นบุรุษที่สองแทนได้รึเปล่าครับ?" เหตุผลของมันทำเอาผมงงไปพักหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ ...มึงแมร่งร้ายเกินไปแล้วนะ ไอ้เชี่ยปืน!





[Bpuen's]

"บอกผมหน่อยนะครับ" ผมร้องขอคนตรงหน้าที่เริ่มทำสีหน้าไม่ถูกอย่างนึกขำ

"บอกอะไรวะ?"

"บอกว่า 'พี่ชอบผม'" คำพูดของผมทำเอาคนตรงหน้ามองผมอย่างอึ้งๆ ก่อนจะเม้มปากแล้วฟุบลงกับแขนตัวเอง

"ทีผมยังกล้าบอกพี่เลย" พี่กันย์พลิกหน้ามามองผมอย่างสงสัยก่อนจะถามออกมา

"บอกว่า?"

"ผมชอบพี่"

"..." พี่กันย์ไม่ตอบ แต่หน้าแดงขึ้น ...ไม่ใช่เพราะเหล้าแน่นอนครับเชื่อผม

"แล้วพี่ชอบผมมั้ยครับ?"

"ไอ้เชี่ยปืนนน!" พี่กันย์ส่งเสียงออกมากึ่งเรียกกึ่งสบถกับตัวเองจนผมได้แต่หัวเราะออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะยื่นนิ้วไปนวดระหว่างคิ้วของพี่กันย์ที่ยู่เข้าหากันอย่างอดไม่ได้

"ต้องเครียดขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

"อือ"

"งั้นไม่ต้องบอกก็ได้ครับ เพราะยังไงผมก็รู้แล้วอยู่ดี" ผมบอกก่อนฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองแล้วพลิกหน้าไปมองคนข้างๆ เหมือนกัน

"ไม่อ่ะ กูจะบอก" อยู่ดีๆ พี่กันย์ก็พูดขึ้นมาหลังจากที่นิ่งไปนานเหมือนตัดสินใจได้ทำให้ผมมองไปอย่างอดใจเต้นไม่ได้

"ผมรอฟังอยู่นะครับ" ผมบอกก่อนจะยิ้มให้แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

"อ่ะ" พี่กันย์ยื่นขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์กลิ่นแอปปิ้ลอีกขวดที่ยังไม่ได้เปิดยื่นมาให้จนผมได้แต่เลิกคิ้วให้อย่างสงสัย

"ผมกินไปหลายขวดแล้วนะครับ" ผมบอกอย่างงงๆ ก่อนจะชี้ไปยังขวดเปล่าของผมที่เริ่มมีจำนวนเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะอยากกินเป็นเพื่อนพี่กันย์ที่ยังคงกินเหล้าต้มต่อไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

"เปิดให้กูหน่อย" คำพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ อย่างคาดไม่ถึงทำเอาผมถึงกับมองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะรับขวดมาถือไว้แล้วเปิดให้ตามคำขอ พี่กันย์มองขวดที่รับคืนไปอย่างชั่งใจก่อนทำท่าจะกระดกเข้าไป

"ทำอะไรครับ?" ผมคว้ามือคนตรงหน้าไว้ก่อนจะถามออกมาเพราะนึกขึ้นได้ว่าคนตรงหน้าแพ้พวกแอลกอฮอล์ผสมผลไม้

"กินไง" พี่กันย์บอกก่อนจะมองงมือของผมที่ไแดึงข้อมือพี่กันย์ไว้อย่างงงๆ

"แต่พี่แพ้"

"กูจะชนะวันนี้แหละ" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มมุมปากมาให้แล้วทำท่าจะกินอีกครั้งจนผมเริ่มเอะใจก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ ผมส่งยิ้มกลับไปก่อนจะยึดขวดของพี่กันย์มาถือไว้แล้วโน้มเข้าไปกระซิบเบาๆ

"พี่ไม่ชนะหรอกครับ" 

"รู้ได้ไง?"

"เพราะผมไม่จูบกับคนแพ้เหล้าเป็นรอบที่สองแน่ๆ" ผมบอกอย่างขำๆ ก่อนจะยกขวดแอลกอฮอล์ในมือขึ้นมากินซะเองจนคนตรงหน้าได้แต่มองอย่างอึ้งๆ ที่ผมรู้ทันก่อนจะยิ้มมุมปากขึ้นมาอีกครั้ง

"เออ กูยอมแพ้ก็ได้" พี่กันย์บอกพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วมองหน้าผม

"ยอมง่ายเกินไปป่ะครับ" ผมถามก่อนจะสบตาคนตรงหน้าที่มองมากลับไปเหมือนกัน

"เพราะวันนี้ถึงกูจะไม่แพ้เหล้า" พี่กันย์บอกก่อนจะยกยิ้มมุมปากขึ้นมาอีกครั้ง รู้ตัวอีกทีอะไรบางอย่างก็ทาบลงบนริมฝีปากของผมก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ ที่ดังตามมา

"แต่กูก็แพ้มึงไปแล้วไง ไอ้เชี่ยปืน"







"ใครให้ไอ้กันย์แดกเหล้าผลไม้วะเมื่อคืน เมาแล้วจูบไปทั่ว" เสียงไอ้กัมป์ที่ยังมีอาการแฮงค์อยู่ข้างๆ บ่นขึ้นมาในระหว่างอยู่บนขบวนรถไฟขากลับทำให้ผมต้องปรายตาไปมองก่อนจะสลับมามองหน้าอีกคนที่กำลังนั่งมองผมอยู่ฝั่งตรงข้ามพร้อมกับรอยยิ้มอันมีเอกลักษณ์ของเจ้าตัว

ตึ้ง ตึง! เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่โทรศัพท์มีสัญญาณทำให้ผมละสายตาจากคนตรงหน้าก่อนจะเปิดโปรแกรมไลน์ขึ้นมา

Bpuen : ก็เห็นมีแค่ผมคนเดียว จะเรียก 'ไปทั่ว' ได้ยังไง?

ข้อความที่ส่งมาทำให้ผมแทบอยากจะเดินไปผลักไอ้คนที่ส่งข้อความออกนอกหน้าต่างรถไฟให้รู้แล้วรู้รอดก่อนจะพาลนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอย่างอดไม่ได้ ...ผมมันใช้ร่างกายเปลือง ผมทอดสะพานให้มัน!

"ว่าแต่ใครโดนลูกหลงบ้างวะ?" เสียงไอ้ทีที่มีอาการไม่ได้ต่างกันถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะรับลูกอมที่ไอ้ปูนยื่นให้ไปกินแก้เวียนหัว

"จะใครล่ะครับ ไอ้ปืนไง ซวยสุดละดันนั่งใกล้มัน"

"ไอ้เชี่ยย มีความถูกคนว่ะ" ไอ้ปูนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอ้ปืนสบถออกอย่างถูกใจก่อนจะยิ้มมาให้อย่างล้อๆ จนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูก

Bpuen : อยากยิ้มก็ยิ้มสิครับ
Bpuen : ^_____________^
Gun : บิ้วกูจังเลยวะ

ผมหันไปมองหน้าคนที่เอาแต่ยิ้มเหมือนคนไม่มีอะไรทำอย่างหมั่นไส้ก่อนจะก้มลงมองหน้าจออีกครั้งเมื่อมีสัญญาณแจ้งเตือน

Gun : เอ้อ พี่กันย์ครับ
Bpuen : ว่า?

ผมพิมพ์ตอบกลับไปก่อนจะมองให้คนตรงหน้าอย่างสงสัยก่อนจะเห็นมันพิมพ์ยุกยิกๆ อะไรกลับมาก่อนเจ้าตัวจะหันออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มที่ดูเหือนจะไม่ได้ช่วยอะไรออกมา

Bpuen : คราวหน้าขอรสช็อคโกแลตได้มั้ยครับ เหล้าต้มนี่ผมไม่ไหวจริงๆ

"สัด!" ผมด่ามันไปก่อนจะหลบสายตาของพวกไอ้ทีที่หันมามองอย่างงงๆ ด้วยการมองออกไปนอกหน้าต่างก่อนจะเห็นภาพของตังเองลางๆ ที่สะท้อนอยู่ในกระจก ...แล้วทำไมผมถึงต้องยิ้มตามที่มันบอกด้วยวะเนี่ย?

"เอ้อ พี่กันย์ครับ" เสียงเรียกจากปากของไอ้ปืนแทนที่จะเป็นในไลน์ดังขึ้นทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเห็นพวงกุญแจและคีย์การ์ดของผมลอยอยู่ตรงหน้าตามที่ไอ้ปืนมันยื่นมาให้

"กุญแจห้องกู?" ผมถามมันอย่างไม่มั่นใจก่อนจะยื่นมือไปรับพวงกุญแจไว้ ผมมองคนตรงหน้ากับพวงกุญแจในมือสลับไปมาอย่างรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะนึกไปถึงเหตุผลของการชวนมันมาค่ายรวมไปถึงอะไรหลายๆ อย่างที่ผ่านเข้ามาตั้งแต่ ...ได้รู้จักกับ 'ไอ้ปืน'

"มีปากกาเปล่าวะ?" ผมถามก่อนไอ้ปืนจะหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ แล้วล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าส่งมาให้

"นี่ครับ แต่วันนี้เรายังไม่ได้ถ่ายรูปกันนะ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะยิ้มล้อๆ มาให้เมื่อนึกถึงเหตุผลที่ผมมักจะถามหาปากกาทุกครั้งจนผมต้องหันไปมองมันอย่างหมั่นไส้

"ให้กูเอาไปทำอย่างอื่นบ้างเห๊อะ" ผมบอกก่อนจะรับปากกาเมจิกมาแล้วลุกเดินออกไปจากที่นั่งเพื่อเดินไปยังโบกี้ถัดไปที่ไม่มีพวกเด็กคณะผมนั่งอยู่ก่อนจะลงมือเขียนอะไรบางอย่างลงไป





"สกิลการอ่อยพี่นี่พื้นฐานมากครับ" คำพูดของคนที่มาใหม่ทำให้ผมอดหันไปมองอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ก่อนมันจะทรุดตัวลงนั่งที่ฝั่งตรงข้ามแล้วมองมาอย่างยิ้มๆ

"กูไม่ได้อ่อยครับ ได้ข่าวว่ามึงมาเอง" ผมตอบพลางยักคิ้วให้มันอย่างกวนๆ ก่อนจะยกยิ้มให้อย่างอดไม่ได้ ผมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้งก่อนจะตัดสินใจโยนพวงกุญแจที่มันเพิ่งคืนมาให้กลับไปจนมันแทบรับเอาไว้ไม่ทันก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างงงๆ

"นี่คือ..?"

"กูให้" ผมบอกมันสั้นๆ ก่อนจะลุกออกมาแล้วรีบเดินกลับไปยังโบกี้เดิม แต่ต้องหยุดลงอีกครั้งตรงรอยต่อระหว่างโบกี้เพราะมือของใครบางคนที่คว้าข้อมือผมไว้

"มุกเดิมตลอดอ่ะครับ" มันบอกก่อนจะยิ้มกว้างออกมาพลางชูพวงกุญแจขึ้นตรงหน้าผมทำให้ผมเห็นข้อความเล็กๆ ที่ตัวเองเขียนอยู่มุมล่างของคีย์การ์ด

29.10.xx
เป็นแฟนกัน?


"ให้กูเลิกใช้มั้ยล่ะ?" ผมถามมันอย่างเซ็งๆ ก่อนทำท่าจะคว้าพวงกุญแจกลับมาแต่ไอ้ปืนดันมือไวกว่า

"ยังไม่ทัน 'เป็น' เลย จะเลิกได้ไงล่ะครับ" มันบอกก่อนจะยิ้มตาหยีจนผมอดที่จะด่ามันไม่ได้

"มุกควาย"

"โอ๋เอ๋ ไม่งอนผมนะ" ไอ้ปืนพูดอย่างๆ ขำก่อนจะยื่นมือมาลูบหัวผมเบาๆ จนผมต้องหันไปหรี่ตามองมัน

"น้อยๆ หน่อยครับ ยังไงกูเป็นพี่มึงนะ" ผมบอกก่อนจะยักคิ้วให้มันอย่างกวนๆ ก่อนคนที่โดนกวนกลับจะเป็นผมเอง


"อ้าว! เป็นพี่เหรอครับ ผมนึกว่า 'เป็นแฟน'"





ตอนเกือบพิเศษ 2

"กินป่ะ?" พี่กันย์ถามขึ้นในขณะที่เจ้าตัวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างที่เจ้าตัวต้องหอบหิ้วขึ้นมาทุกครั้งที่รถไฟเทียบชานชาลาที่สถานีระหว่างทาง

...เค้กช็อคโกแลตเหมือนเดิมครับ แต่คราวนี้เป็นรูปหัวใจ! ผมคิดอย่างขำๆ ในความพยายามจะทำตัวเป็นปกติที่แฝงไปด้วยความไม่ปกติของคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมากับท่าทางที่ดูเก้ๆ กังๆ ไปบ้าง ...อย่างรู้สึกขอบคุณ

"เอ่อ ขอโทษนะคะ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยทักขึ้นจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมองก่อนจะเจอเข้ากับผู้หญิงที่ตอนขามาเพื่อนอีกคนบอกผมว่า 'เธอคนนี้สนใจ' ...แต่ดูเหมือนว่าวันนี้เธอจะรวบรวมความกล้าแล้วมาด้วยตัวเอง

"ครับ?"

"พอดีเราเห็นเธอตั้งแต่วันก่อน" เธอพยายามเท้าความเพื่อให้ผมจำได้พร้อมกลับทำท่าทางเอียงอายทำให้ผมไม่กล้าที่จะเสียมารยาทที่จะพูดแทรกเธอขึ้นมาก่อน

"เราเลยอยากจะขอ..."

"ขอโทษนะครับ" เสียงคนที่คราวนี้ผมคิดว่า 'ยังไงก็ต้องมา' ดังขึ้นก่อนจะโผล่มายืนข้างๆ อย่างคราวที่แล้วไม่มีผิดก่อนจะยิ้มให้ผู้หญิงตรงหน้าแล้วยกมือขึ้นมาพาดไหล่ผม

"นี่ 'แฟน' ผมครับ ขอตัวก่อนนะ" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มให้อย่างสุภาพก่อนจะออกแรงลากผมขึ้นไปด้วยกันจนผมได้แต่มองคนที่เดินอยู่ข้างๆ อย่างยิ้มไม่หุบ

"ยิ้มอยู่นั่นอ่ะ เป็นไรมากป่ะ?" พี่กันย์ถามขึ้นอย่างหมั่นไส้ก่อนจะฟังคำตอบแล้วหันไปแอบยิ้มอยู่อีกทาง


"เป็นแฟนพี่กันย์ครับ"




หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 15-12-2016 03:18:30
เค้าเปนแฟนกันแล้วววว  :-[

ดีต่อใจมากมาย  :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-12-2016 04:16:54
พี่กันย์อ่อยแรง หึงแรง หวงแรง ฮา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 15-12-2016 06:01:49
พี่กันย์เป็นแฟนกันกับปืนแล้ว เย้ เย้  :mc4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 15-12-2016 06:28:42
ขอฉากหวานๆ บ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-12-2016 06:53:08
น่ารักแกมกวน  อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-12-2016 06:55:25
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 15-12-2016 07:37:26
ลุ้นเหนื่อยมากคู่นี้ แต่ก็น่ารักมากเช่นกัน ดีต่อใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 15-12-2016 07:38:22
เค้าเป็นแฟนกันแล้วค๊าาาาาาา
แบบนี้ต้องฉลอง

 :mc4: :mc4:

 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-12-2016 07:41:36
เหยยย.  :mc4:  พี่กันย์น่ะจำได้ใช่ไหมว่าครั้งแรกที่จูบกับปืนคือตอนเมาครั้งนั้น
คราวนี้กลัวอายเพื่อนเลยจุ๊ปแบบมีเงื่อนไข โชว์ๆกันไปเลยเนาะ สุดยอด
เป็นแฟนแล้วไงต่ออะคะ ใสๆไม่รู้จริงๆ.  :z1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 15-12-2016 07:48:25
แปะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 15-12-2016 08:22:22
ฟินเลย. เป็นแฟนกันแล้วเนอะ

 :o8:  :-[  :impress2:  :man1:

...
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 15-12-2016 09:10:11
เป็นแฟนกันแล้ววววว :mc4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 15-12-2016 11:03:44
วี๊ดวิ๊ววว  :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: semen ที่ 15-12-2016 12:27:09
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Kimigari ที่ 15-12-2016 23:51:06
กันย์xปืนกันย์xปืน กันย์xปืน กันย์xปืน กันย์xปืน
กรีดดดด
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 16-12-2016 00:18:40
น่ารักไปอีก :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-12-2016 02:19:58
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 16-12-2016 08:47:25
อร๊ายยยย
น่ารักกก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Soda.wine ที่ 16-12-2016 11:35:02
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 16-12-2016 12:07:52
เอร้ยยยย เป็นแฟนกันแล้ววววว
พี่กันย์นี่โดนหนักเหมือนกันแฮะ
แอบสงสารตอนพี่น้ำตาตก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Chapter 27 - ...ก็พี่มีแฟน [15.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-12-2016 15:43:17
พี่กันย์ทำตัวน่าฟัดมาก

ปืนก็ขี้หลีว่ะ

น่ารักสุด ๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 18-12-2016 15:04:47
28-...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย

[Gun’s]

"พี่กันย์ครับ" เสียงเรียกพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ ทำเอาผมต้องดึงตัวเองออกจากความฝันที่แม้จะหลับแต่ก็ยังเห็นตัวเองนั่งปั่นงานเหมือนตอนก่อนเข้านอนไม่มีผิดก่อนจะลืมตาขึ้นมาพร้อมกับภาพของใครบางคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง

"ไอ้ปืน?" ผมเรียกชื่อคนตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจนักก่อนจะพลิกตัวจากที่นอนตะแคงข้างเปลี่ยนเป็นเงยหน้ามองเพดานอย่างงงๆ

"เมื่อคืนกูนอนห้องมึงเหรอวะ?" ผมถามมันอีกครั้งก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะหึหึตามมา ผมลุกขึ้นนั่งงัวเงียอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมือขึ้นสางๆ ผมที่ชี้ไม่เป็นระเบียบให้เข้าที่พลางมองไปรอบๆ ห้องเพื่อไขความข้องใจ ...เตียง? ตู้? โต๊ะ? ก็ห้องกูนี่หว่า
 
"ละเมออยู่เหรอไงครับ?" ไอ้ปืนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปเปิดผ้าม่านเพื่อให้แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่เล่นเอาผมถึงกับตาพล่าไปชั่วขณะก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนยิ้มจนตาหยีมาให้พร้อมกับชูพวงกุญแจที่มีทั้งกุญแจสีเงินและคีย์การ์ดสีขาวอยู่ครบถ้วนรวมถึงไอ้ข้อความใจกล้าหน้าด้านของผมที่เคยเขียนไว้ก็ยังอยู่

...เป็นแฟนกัน?
…เสี่ยวชะมัด ให้ตายเหอะ! ผมคิดอย่างเซ็งๆ ก่อนจะมองพวงกุญแจตรงหน้าที่คนถือยังจงใจแก่วงไปมาจนผมต้องแซวมันออกมาอย่างหมั่นไส้

“รถกูก็แทบจะยึดไปแล้ว นี่จะเอาห้องกูด้วยเหรอวะ?” ไอ้ปืนส่ายหน้าก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียง

"จะเอาเจ้าของห้องนะครับ เสียดายตื่นซะก่อน"

“สัด!” ผมมองคนตรงหน้าอึ้งๆ ก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวอย่างไม่ไว้ใจแต่มันก็คอยแต่จะดึงออกซะงั้น

“พูดเล่นน่ะครับ ผมก็แค่ ‘อยากเจอ’” คำพูดของไอ้ปืนที่ส่งมาพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ทำให้เผลอจ้องหน้ามันตอบ …จะว่าไปตั้งแต่กลับมาจากค่ายผมก็โดนโปรเจคใหม่โหมกระหน่ำจนแทบจะไม่ได้เจอมันเลยนี่หว่า

“อ่าฮะ” ผมรับคำมันก่อนทำท่าจะลุกจากเตียงแต่คนตรงหน้าดูไม่มีทีท่าจะขยับไปไหนจนทำให้ผมต้องหันไปมอง

“แล้วพี่ไม่อยากเจอผมบ้างเหรอครับ?” ผมมองหน้าคนที่รอคำตอบอยู่ก่อนจะเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย

“กุญแจไง”

“ครับ?” ไอ้ปืนรับคำอย่างงงๆ ก่อนจะยกพวงกุญแจในมือขึ้นมาดู

“ก็ให้ไปแล้วไง อยากเจอเมื่อไหร่ …ก็มา” ผมบอกมันอีกครั้งก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น …เชี่ยเอ้ยยย! ผมกำลังอ่อยผู้ชาย

“สวัสดิการของฐานะ ‘แฟน’ รึเปล่าครับ?” ไอ้ปืนถามขึ้นก่อนผมจะรู้สึกได้ถึงแรงยวบที่ข้างเตียงจนต้องหันกลับไปมอง

“แล้วแต่มึงจะคิดอ่ะ” ผมบอกมันก่อนจะพยายามใช้แขนดันมันอย่างเนียนๆ ไว้เพราะเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยเข้าทุกที

"ถ้าอย่างนั้นช่วยเพิ่มให้ผมอีกสักข้อได้มั้ยครับ?" คำถามของมันทำเอาต้องหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจแต่สุดท้ายก็รับคำมันอยู่ดี

"ว่ามา?"

"ก็อะไรใหม่ๆ อย่างเช่น..."

"..."

"มอร์นิ่้ง คิส?"

"…" ผมเผลออ้าปากค้างอย่างคาดไม่ถึงก่อนจะรับรู้ได้ถึงลมร้อนๆ ของคนที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้

ครีดด... ครืดด...

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำเอาผมสะดุ้งพร้อมสติที่ถูกดึงกลับมา ผมมองหน้าไอ้ปืนที่ถอยออกไปอย่างเสียดายก่อนจะพยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปกติแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่เสียบสายชาร์จไว้ตรงโต๊ะทำงานขึ้นมาแล้วกดรับสาย

"ว่าไงวะ?" ผมถามขึ้นทันทีที่เห็นว่าเป็นเบอร์ไอ้ทีที่โชว์อยู่บนหน้าจอ

(ไอ้กันย์ 'จารย์เลื่อนมาตรวจแบบตอนสิบโมงว่ะมึง!)

"ฉิบหาย! แล้วมาบอกอะไรตอนนี้วะเนี่ย?" ผมสบถออกมาเมื่อหันไปมองนาฬิกาที่ตอนนี้ก็เกือบเก้าโมงเข้าไปแล้ว

(มึงมีอะไรไปตรวจยังวะ?) เสียงปลายสายที่ดังขึ้นอย่างร้อนรนทำให้รู้ว่าสภาพคนอื่นในกลุ่มก็คงไม่ต่างกัน ผมเดินไปที่โต๊ะดราฟท์ที่วางไว้ห้องนั่งเล่นก่อนจะพลิกเพลตขนาด A0 สองสามแผ่นที่เขียนๆ ไว้เมื่อคืนออกดู

"เออ ก็พอได้ว่ะ เดี๋ยวกูไปรับหน้าให้ก่อนละกัน"

(ขอบใจมากเว้ย ลากให้ได้สักหนึ่งชั่วโมงนะมึง) ไอ้ทีบอกมาด้วยน้ำเสียงกึ่งสั่งกึ่งขอร้องจนผมต้องส่ายหัวด้วยความอ่อนใจก่อนจะกรอกเสียงลงไป

"กูให้ได้แค่สี่สิบนาที รีบตามไปนะเว้ย" ผมบอกมันก่อนจะกดตัดสายไอ้ทีแล้วม้วนงานทั้งหมดเข้าด้วยกันโดยใช้ยางรัดไว้แล้วกำลังจะไปเตรียมตัว พอดีกลับที่ใครบางคนเดินเข้ามายืนซ้อนหลังพอดี

"อะไร?" ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงปกติพลางมองคนตรงหน้าที่เอาแต่อมยิ้มจนพาลให้นึกไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าจะรับโทรศัพท์

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลยครับ” …ผมบอกแล้ว ไอ้เชี่ยปืนมันร้าย!

“หลีกไปเร็ว กูรีบ” ผมบอกมันอย่างเร่งๆ ก่อนจะพยายามใช้มือดันตัวแต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ

“ครั้งเดียว” ไอ้ปืนบอกก่อนจะนิ้วชี้ขึ้นมาหนึ่งนิ้วแล้วพยักหน้าเออออเสร็จสรรพ

“ไม่โว้ยยย!”

“ที่ตอนอยู่บนค่ายพี่ยังจูบผมได้เลยนี่ครับ” คำว่า ‘จูบ’ ที่มันเล่นพูดออกมาโต้งๆ ทำเอาผมถึงกับไปไม่เป็นพลางมองคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ …เออ วันหลังกูจะไม่เริ่มอะไรก่อนแล้ว โว๊ะ!

“ก็ตอนนั้นบรรยากาศมันได้เปล่าวะ?” ผมแกล้งทำเสียงดุๆ พร้อมกับหน้ายุ่งๆ กับไปแต่ดูเหมือนไอ้ปืนจะไม่สนใจเพราะเอาแต่พึมพำอะไรบางอย่างแล้วเดินไปรอบห้อง

“บรรยากาศสินะครับ” ไอ้ปืนพูดขึ้นมาก่อนจะไล่ปิดม่านจนห้องมืดก่อนจะเดินไปเปิดไฟหรี่ให้พอมีเสียงสลัวๆ จากนั้นก็เดินไปเปิดอยู่เย็น

“ทำเชี่ยไรเนี่ย?” ผมถามมันออกไปอย่างอดไม่ได้ก่อนจะเดินตามมันไปหน้าตู้เย็นอย่างสงสัย

“สำหรับครั้งที่สอง …เอารสแอปเปิ้ลหรือเบอร์รี่ดีครับ” มันถามด้วยรอยยิ้มก่อนจะยื่นขวดเครื่องผสมผลไม้สองคนมาตรงหน้า ผมคิดตามมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกได้เลยฟาดมันไปทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้

“ฝันไปเหอะ ว่าแต่ไอ้ของพวกนี้มาอยู่ที่ห้องกูได้ไงเนี่ย?” ผมถามขึ้นอย่างงงๆ …มันไม่ใช่แค่สองขวด แต่ผมว่ามีเกือบโหลแถมหลายรสอีกต่างหาก

“ผมซื้อมาเอง” ไอ้ปืนตอบก่อนจะยิ้มตาหยีออกมาแบบไม่ทุกข์ไม่ร้อนจนผมต้องมองหน้ามันอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวคนตรงหน้าอย่างขำๆ

“คิดจะมอมกูยังเร็วไปสิบปีครับผม”

ครีดด... ครืดด...

เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอีกรอบทำให้ผมมองที่หน้าจออย่างนึกขึ้นได้ก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงลงไปอย่างตื่นๆ

“เออๆ กูกำลังจะออกแล้ว เดี๋ยวเจอกันโว้ย” ผมบอกไอ้ทีที่โทรมาเร่งก่อนจะหมุนตัวกลับไปทางห้องนอนเพื่อจะได้อาบน้ำและแต่งตัวไปเรียน

“ไว้ผมคิดแผนใหม่แล้วกันนะครับ” เสียงไอ้ปืนที่ดังลอยขึ้นมาทำให้ผมหันกลับไปมองคนที่เอาเครื่องดื่มเข้าไปแช่ไว้อย่างเดิมอย่างอดนึกเอ็นดูไม่ได้ …ได้เด็กน้อยเอ้ย! ผมคิดอย่างขำๆ ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปแล้วเอามือล็อคคอมันจากด้วยหลังก่อนจะดึงเอาตัวของคนที่ได้ชื่อว่า 'แฟน' มาแนบอก

"มอร์นิ่งคิสมันเยอะไป เอามอร์นิ่งฮักไปก่อนละกัน" ผมกระซิบบอกมันก่อนทำท่าจะถอยออกมาแต่อยู่ดีๆ คนที่อยู่ในอ้อมแขนเมื่อครู่ดันหมุนตัวกลับมาด้วยรอยยิ้มมุมปากก่อนจะยื่นแขนทั้งสองข้างมาโอบรอบเอวผมแน่นอย่างรวดเร็วก่อนจะกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูแล้วรีบดีดตัวถอยหลังไปพ้นรัศมีที่ผมกำลังจะฟาดมันด้วยความหมั่นไส้ ...กูไม่น่ายอมมึงเลยจริงๆ ให้ตาย!

"สวัสดีตอนเช้าครับพี่กันย์"

"เออ สวัสดี"





[Bpuen]

หลังจากเปิดเทอมสองได้เพียงสองอาทิตย์ทั้งรายงาน การสอบ โปรเจคก็เริ่มถาโถมกลับมาอีกครั้ง พวกเด็กปีหนึ่งคณะเกษตรอย่างผมน่ะยังไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนพวกปีสี่คณะสถาปัตย์อย่างพี่กันย์จะเริ่มเข้าสู่โหมดคนอดนอนกันอีกรอบจนผมแทบไม่เจอตัว จะมีบ้างก็บางวันที่ผมดูแล้วว่าน่าจะไม่รบกวนเวลานักก็จะแวะไปหาตอนเช้าเพื่อรับไปส่งที่คณะซึ่งถ้านับตั้งแต่กลับจากค่ายมาก็เพิ่งจะเจอแค่…สองครั้ง

Bpuen : ขี้เกียจจังครับ
Bpuen send you a photo

ผมถ่ายรูปบรรยากาศในคลาสก่อนจะส่งไปให้อีกฝ่าย ผ่านไปไม่นานหลังข้อความของผมก็ขึ้นตัวอักษร Read ก่อนจะได้รับข้อความตอบมา

Gun : เด็กไม่ดี
Gun : ไม่ไหวๆ

ผมหัวเราะให้กลับข้อความตรงหน้าก่อนจะกดตอบกลับไป

Bpuen : แต่เป็น ‘เด็กดีของพี่’ ผมว่าก็น่าจะพอไหวนะ
Bpuen : send you a sticker
Gun : สัด!
Gun : กูเพิ่งคิดได้
Bpuen : ?
Gun : กูได้แฟนเป็นผู้ชายยังไม่พอ
Gun : กูต้องโดนข้อหากินเด็กด้วยใช่เปล่าวะ?

คำถามที่ส่งมาทำเอาผมถึงกับกลั้นหัวเราะไม่อยู่จนไอ้พีทที่กำลังตั้งใจเรียนหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะส่งยิ้มล้อๆ มาให้เมื่อเห็นชื่อของใครบางคนปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์

“หายง่วงเลยดิมึง” ผมพยักหน้ารับก่อนจะพยายามหุบยิ้มแล้วหันมาสนใจหน้าจอใหม่

Bpuen : กินเด็กจะเป็นอมตะ
Gun : แต่ตอนนี้กูเริ่มอยากตาย

ผมมองข้อความตรงหน้าอย่างสงสัยก่อนจะพิมพ์ถามกลับไป

Bpuen : เป็นอะไรครับ? โดน’จารย์แก้งาน?
Gun : อย่าแช่ง! วันนี้งานกูไม่มีปากกาแดงแล้วเว้ย

ผมหลุดขำออกมาอีกรอบเมื่อนึกไปว่าพี่กันย์จะต้องเดินมาอวดงานด้วยสีหน้าแบบไหน พาลนึกไปถึงเมื่อตอนวันจันทร์ที่แวะไปหาแต่เจ้าตัวกลับเบะปากเดินมาพร้อมกับกางกระดาษในมือที่เต็มไปด้วยปากกาแดงอย่างอดที่จะสงสารไม่ได้

Bpuen : ดีใจด้วยครับผม
Bpuen : แล้วตกลงพี่เป็นอะไรครับ?
Gun : คนเริ่มมองกูเยอะเกินไปแล้วอ่ะดิ
Gun : เมื่อไหร่มึงจะเลิกเนี่ย?
Gun send a photo
 
ผมก้มมองข้อความตรงหน้าอย่างงงๆ ก่อนจะกดดูรูปที่พี่กันย์ส่งมา ภาพตรงหน้าเป็นเหมือนโถงใต้อาคารที่มีโต๊ะยาววางเรียงเป็นแผงพร้อมกับนักศึกษาที่นั่งอยู่รอบๆ อย่างคุ้นตา ผมนั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อเหลือบไปเห็นเสาต้นหนึ่งที่มีป้ายไม้ติดด้วยตัวอักษรสีขาวไว้ว่า ‘ภาควิชาปฐพีวิทยา’

Bpuen : พี่มาหาผมเหรอครับ?
Gun : เปล่าครับ กูแค่ว่างมากเลยมานั่งเล่นเฉยๆ

ผมอดขำไปกับข้อความประชดประชันของคนตรงหน้าไม่ได้ก่อนจะมองเวลาบนจอโทรศัพท์ …พี่กันย์น่าจะเพิ่งตรวจแบบเสร็จ พรุ่งนี้ก็วันศุกร์มีแค่วิชาภาคทฤษฎีอะไรสักอย่าง ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
 
Bpuen : งั้นช่วยรออีกสักสิบนาทีนะครับ
Bpuen : เดี๋ยวผมจะไปทำให้พี่ ‘ไม่ว่าง’ เอง





"วันนี้ไปไหนดีวะ?" ไอ้ป้องถามขึ้นในตอนที่อาจารย์ปล่อยแล้วก่อนนักศึกษาทุกคนจะตั้งหน้าตั้งตาเก็บของเพื่อเตรียมแยกย้าย

"ยังมีหน้ามาถาม รายงานมึงเสร็จแล้วเหรอครับเพื่อน" ไอ้พีทพูดพร้อมกับตีไปที่ไหล่คนพูดแรงๆ อย่างหมั่นไส้ก่อนจะสะพายเป้ขึ้นบ่า

"แต่จริงๆ กูก็หิวนะ"

“ไอ้ห่า!” ไอ้ป้องกับไอ้ธันย์เข้าล็อคคอคนที่พูดทันทีอย่างอดไม่ได้ก่อนจะพากันลากออกจากคลาสไป

"วันนี้กูขอบายนะ" ผมบอกพวกมันในระหว่างที่กำลังเดินลงจากตึกจนพวกมันหันมามองอย่างงงๆ แล้วก็เหมือนเดิม...คนหัวไวอย่างไอ้พีทไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอนครับ

"ไปไหนวะ?" ไอ้ธันย์ถามขึ้นก่อนจะหันมามองผมอย่างสงสัย

"มีนัดตลอด กับเพื่อนกับฝูงนี่ไม่เคยเหลียวแล" คำไอ้ป้องเสริมขึ้นมาอีกคนทำเอาผมหัวเราะออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะเดินไปตบๆ ไหล่พวกมันอย่างอดรู้สึกผิดนิดๆ ไม่ได้

"ปล่อยๆ มันไปเหอะน่า ก็ต้องให้เวลากับแฟนบ้าง" ไอ้พีทพูดก่อนจะส่งยิ้มล้อๆ มาให้จนผมได้แต่ส่ายหัวอย่างระอา
 
"แฟน? มึงมีแฟนแล้วเหรวะไอ้ปืน!" ไอ้คู่หูมันพร้อมใจกันประสานเสียงขึ้นมาจนผมได้แต่หัวเราะก่อนจะหันไปยักคิ้วให้อย่างเหนือกว่าก่อนจะมองโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ในมือ

"ครับ กำลังเดินลงไปครับผม" ผมกดรับแล้วตอบปลายสายไปสองสามคำก่อนจะกดวาง

"มึงไปมีตอนไหนวะ กูเห็นวันๆ มึงก็ไม่ได้ไปเจอใคร นอกจาก..." ไอ้ธันย์โวยวายขึ้นมาเหมือนเด็กๆ ก่อนจะค่อยๆ กลืนคำพูดตัวเองลงไปเมื่อฉุกใจคิดอะไรได้บางอย่างแล้วหันไปทำตาโตใส่ไอ้ป้องก่อนจะหันมามองหน้าผมพร้อมกัน

"อย่าบอกนะว่า..." ไอ้ป้องยังพูดไม่ทันจบพี่กันย์ก็เดินเข้ามาก่อนจนไอ้พวกเพื่อนผมมันยกมือไหว้กันแทบไม่ทัน

"สวัสดีครับพี่"

"เออ หวัดดี" พี่กันย์ทักกลับก่อนจะส่งยิ้มมาให้ ผมยืนมองพวกไอ้ป้องกับไอ้ธันย์ที่ยืนทำหน้าอึ้งจนเผลออ้าปากหวอจนไอ้พีทต้องยื่นมือมาปิดอย่างระอา

"งั้นกูไปก่อนนะ" ผมหันไปบอกพวกมันก่อนจะโบกมือให้แล้วเดินตามพี่กันย์ออกไป

"ทำไมพวกมันต้องทำหน้าอึ้งขนาดนั้นวะ เล่นซะกูเสียเซลฟ์เลยเนี่ย" พี่กันย์พูดขึ้นมาในตอนที่เดินมาถึงลานจอดรถข้างคณะก่อนจะมองผมด้วยสีหน้าไปไม่เป็นจนผมต้องหัวเราะออกมา

"ไม่มีอะไรหรอกครับ"

“แต่กูว่ามี” พี่กันย์พูดพลางหรี่ตามามองอย่างไม่ไว้ใจก่อนจะถามต่อ

"แล้วก่อนหน้านี้คุยอะไรกัน"

"แค่บอกว่าวันนี้ไปกับพวกมันไม่ได้นะ" ผมตอบยิ้มๆ จนข้างๆ เริ่มเอียงคอมามองอย่างสงสัย

"แล้วไงต่อ?"

"เพราะผมจะไปกับแฟน"

"…" พี่กันย์หยุดเดินก่อนจะหันมามองหน้าผมหน้าตาตื่นๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาจนผมต้องเป็นฝ่ายถามกลับไปแทน

"บอกไม่ได้เหรอครับ?" ผมถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ พี่กันย์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมามองหน้าผมแล้วหันกลับไป

"เปล่านี่ ก็บอกได้"

"ตกใจหมดครับ นึกว่าพี่จะโกรธซะอีก" ผมพูดขึ้นอย่างโล่งอก เพราะถึงแม้จะไม่ได้รู้สึกเป็นประเด็นอะไรกับการที่อยู่ดีๆ มีแฟนเป็นผู้ชาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเที่ยวประกาศบอกใครต่อใครไปทั่ว

"แต่กูยังไม่ได้บอกใครนะ" คำพูดของพี่กันย์ทำเอาผมถึงกับหยุดเดินก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ ที่หยุดเดินเหมือนกันอย่างแอบหวั่นใจน้อยๆ

"ทำไมล่ะครับ?"

"กูเขิน" คำตอบของพี่กันย์ทำเอาผมถึงกับหลุดยิ้มออกมาก่อนจะมองคนข้างๆ ที่เผลอเม้มปากเหมือนกัน

“ไม่ต้องบอกหรอกครับ ผมว่าคณะพี่…เขารู้กันทั้งคณะแล้วมั้งครับ” ผมบอกออกไปอย่างกลั้วหัวเราะจนคนข้างๆ หันมามองอย่างอึ้งๆ จนพลอยหลุดขำออกมาด้วยอีกคน

“เออ ก็จริง”





หลังจากฝ่ามรสุมรถติดช่วงเย็นมามากกว่าหนึ่งชั่วโมงเราก็มาโผล่สถานที่ประจำของพี่กันย์ ‘สยาม’ …ผมก็ว่าทำไมวันนี้เจ้าตัวถึงแต่งตัวดูดีเป็นพิเศษ

"พี่กันย์จะมาซื้ออะไรเหรอครับ?"

"เปล่า" คำตอบของคนข้างๆ ทำเอาผมถึงกับหันไปมองอย่างงงๆ …ปกติเวลามาสยามพี่กันย์ต้องมีเป้าหมายในใจอย่างน้อยหนึ่งอย่าง เพราะถึงจะชอบมาที่นี่แค่ไหนแต่จะให้เอาตัวมาฝ่าคนเยอะๆ แบบไม่รู้จะทำไปทำไมเจ้าตัวก็ดันไม่ชอบอีก

"หิวอ่ะ มึงเลือกดิ" ผมยิ่งงงกับคำถามที่ถูกส่งกลับมาเข้าไปใหญ่ …ปกติเจ้าตัวก็เลือกเองตลอดเพราะผมกินอะไรก็ได้อยู่แล้ว

"พิซซ่า …มั้ยครับ?" ผมแกล้งตอบก่อนจะเหลือบไปมองปฏิกิริยาจากคนข้างๆ เล็กน้อย …ปกติพี่กันย์จะชอบกินพวกเนื้อหรือผักมากกว่าพวกคาร์โบไฮเดรตล้วนๆ อยู่แล้ว

"ได้" ผมมองไปยังคนข้างๆ ที่เดินนำไปยังร้านพิซซ่าอย่างอดแปลกใจไม่ได้เอื้อมมือไปดึงคนข้างหน้าไว้

"ผมเปลี่ยนใจแล้วครับ"

"อะไรของมึง?" พี่กันย์หันมามองอย่างงงๆ จนผมต้องยิ้มให้แล้วลากพี่กันย์ไปอีกทาง

"ไปกินชาบูดีกว่า"

"เรื่องมากจังวะ" พี่กันย์บ่นออกมาก่อนจะหันมาทำหน้าเซ็งๆ ให้

"แล้วได้เปล่าล่ะครับ" ผมแกล้งถามออกไปทั้งๆ ที่ในใจรู้คำตอบก่อนจะอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้เพราะคำพูดของคนที่เดินตามมา

"กูเดินมาด้วยขนาดนี้แล้ว ไม่ได้มั้ง!"

…ผมรู้แล้วครับว่า วันนี้มัน ‘ไม่ปกติ’ จริงๆ





หลังจากกวาดเนื้อลงท้องกันไปคนละเกือบกิโล พี่กันย์ก็เอาแต่เดินไปเรื่อยๆ สลับกับดูหน้าจอโทรศัพท์จนผมเริ่มจะสงสัยกับท่าทางแปลกๆ ของคนตรงหน้ามากขึ้นทุกทีจนอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าตามไปก่อนจะดึงไหล่ของคนตรงหน้าให้หยุดลง

"จะไปไหนครับ?" ผมถามก่อนพี่กันย์จะมองมาอย่างตื่นๆ จนผมสังเกตได้

"เปล่า"

"ขออนุญาตนะครับ"

“โทรศัพท์กู” ผมถือวิสาสะดึงโทรศัพท์ในมือคนตรงหน้ามาดูก่อนจะเห็นโปรแกรมหนังยาวเหยียดบนจอ

"อยากดูหนังเหรอครับ?"

"ประมาณนั้น" ผมมองพี่กันย์ที่ตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนไปให้

"อยากดูเรื่องอะไรล่ะครับ?" ผมถามในตอนที่พาตัวเองกับคนข้างๆ มายืนมองโปรแกรมหน้าโรงหนังเรียบร้อยแล้ว …ก็ตั้งแต่รู้จักกันมา ยังไม่เคยมาดูหนังด้วยกันสักครั้ง

"มึงเลือกเลย" พี่กันย์พูดขึ้นมาก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปทางหน้าจอจนผมต้องแซวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"วันนี้ผมโชคดีนะครับ ได้เลือกตั้งสองอย่าง" ผมยิ้มให้ก่อนคนตรงหน้าจะเผลอเม้มปากจนผมต้องกลั้นยิ้มเอาไว้แล้วหันไปสนใจโปรแกรมหนังบนหน้าจอแล้วเลือกหนังฝรั่งชื่อดังที่เข้าฉายช่วงนี้ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง

"นึกว่าจะเลือกเรื่องนี้ซะอีก" พี่กันย์มองผมอย่างงงๆ ก่อนจะชี้ไปที่โปรแกรมหนังไทยอีกเรื่องที่มีรอบฉายเวลานี้พอดี

"ก็พี่ไม่ดูหนังไทย"

“รู้ได้ไงวะ?” พี่กันย์อึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ขุดเอา” ผมตอบกลับยิ้มๆ ก่อนจะยื่นหน้าจอโทรศัพท์เปิดโปรแกรมเฟสบุ๊คที่เป็นหน้าไทม์ไลน์ของคนตรงหน้าขึ้นมา

“มึงแมร่งร้าย”

“เขาไม่ได้เรียก ‘ร้าย’ ครับ เขาเรียก ‘เรียนรู้เพื่อเอาใจ’” ผมมองพี่กันย์ที่หันมามองอย่างหมั่นไส้ที่หนึ่งก่อนจะเดินนำไปที่เคาน์เตอร์เพื่อซื้อตั๋ว

“ว่าแต่ …พี่รู้ได้ยังไงครับว่าผมอยากดูเรื่องไหน?” ผมถามกลับอย่างงงๆ ก่อนจะมองหน้าจอโทรศัพท์ที่คนตรงหน้ายื่นกลับมาให้

“พี่ก็ร้ายพอกันนั่นแหละครับทำมาเป็นว่าผม” ผมพูดขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่ปรากฎหน้าไทม์ไลน์เฟสบุ๊คของผมคืนไปก่อนคนข้างๆ จะเดินนำไปที่ช่องซื้อตั๋วก่อนจะกดเลือกรอบหนัง …ที่เป็นหนังไทยขึ้นมา

…วันนี้มัน ‘ไม่ปกติ’ จริงๆ นั่นแหละครับ ผมว่ามันออกจะ ‘พิเศษ’ มากกว่าทุกวัน

"พี่กันย์ครับ" ผมเรียกคนข้างๆ ที่กำลังเดินลากผมไปยังโรงหนังเพราะใกล้เวลาฉายแล้วก่อนเจ้าตัวจะหยุดเดินแล้วหันกลับมามองอย่างสงสัย

"ว่า?"

"วันนี้ …เขาเรียกว่าเดทรึเปล่า?" ผมถามออกไปอย่างอดไม่ได้ พี่กันย์ชะงักไปนิดหนึ่งแล้วเม้มปากก่อนจะถามผมกลับมา

"แล้วคำว่า ‘เดท’ ของมึงคืออะไรล่ะ" ผมมองคนถามอย่างอึ้งๆ ไปเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึง …ทำไมต้องถามคำถามยากๆ อย่างนี้ทุกที ให้ตาย!

"ไม่รู้สิครับ อาจจะหมายถึง…การมาเที่ยวด้วยกัน ทำอะไรร่วมกัน ‘สองคน’ อะไรแบบนั้น" ผมตอบออกไปตามคำนิยามที่ชอบได้ยินบ่อยๆ พี่กันย์พยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาให้อย่างขำๆ

"ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า เราก็ ‘เดท’ กันมาหลายครั้งแล้วสิ"

"แต่ผมว่าไม่เหมือนกันนะ ตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย" ผมตอบกลับไปทั้งๆ ที่ในใจเริ่มงงกับคำว่าเดทไปด้วยอีกคน

"งั้นมึงต้องใส่คำว่า ‘แฟน’ ลงไปในนิยามคำว่า ‘เดท’ ของมึงด้วย" พี่กันย์บอกก่อนจะเลิกคิ้วมองอย่างขำๆ เมื่อผมเริ่มทำหน้ายุ่งเข้าไปใหญ่

"โอเคครับผมใส่ลงไปแล้ว"

"อ่าฮะ" พี่กันย์พยักหน้ารับก่อนจะมองมาด้วยแววตาที่ยังขำๆ ผมไม่หยุดก่อนจะยื่นตั๋วให้พนักงานแล้วเดินนำเข้าไป และโดยไม่ทันรู้ตัวผมก็เอื้อมมือออกไปคว้าคนตรงหน้าไว้จนพี่กันย์เริ่มเปลี่ยนแววตามามองอย่างระอาแทน

"งั้นสรุปว่า …วันนี้เรามาเดท?"

“ยังไม่เลิก” พี่กันย์พูดออกมาอย่างติดจะรำคาญนิดหนึ่งจนผมต้องเอาลูกอ้อนเข้าสู้แทน

“นิดหนึ่งเถอะครับ เดี๋ยวผมดูหนังไม่รู้เรื่อง” พี่กันย์ทำท่าคิดเล็กน้อยพลางเหลือบมามองผมที่ยื่นลุ้นอยู่ข้างๆ เป็นระยะๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมา

“เออ”

“หมายความว่า…” ผมถามออกไปอย่างลุ้นๆ พี่กันย์ยักคิ้วอย่างกวนๆ ให้ทีหนึ่งก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าโรงหนังไป


"ถ้ามึงจะเรียกอย่างนั้น ...ก็ตามนั้นแหละ"







#ก็พี่มันเยอะ เดินทางกันมาเกินครึ่งมากๆ แล้ว อีกไม่กี่ตอนก็ใกล้จะจบแล้วค่ะ ใจหายมากๆ
เรื่องนี้นับเป็นนิยายวายเรื่องแรกจริงๆ ที่ลงมือเขียนทั้งที่ตอนแรกคิดไว้ว่ายังไงตัวเองก็คงไม่ชอบแนวนี้
ยกเว้นคู่ชิปที่เป็นศิลปินที่เราติ่งอยู่อย่าง #ยุนแจ ที่ทั้งรักและเทิดทูน 55555 แต่สุดท้าย…ก็กลับมาตายรังจนได้

ส่วนพล็อตคร่าวๆ ของเรื่องนี้ไม่มีอะไรเลยค่ะ เราแค่มองว่า ‘ความรู้สึกของคนที่ต่างชอบกันก่อนจะมาเป็นแฟนนี่มันดีเนอะ’
แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องนี้ขึ้นมาเลยค่ะ 55555 แอบรู้สึกดีที่มันกลายมาเป็นเรื่องราวของพี่กันย์กับน้องปืนในวันนี้

ขอบคุณทุกคนที่มาอ่าน มาพูดคุยกัน มาติดตามน้องปืนแล้วก็พี่กันย์น้า ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ
ยังไงก็ช่วยเป็นกำลังใจกันไปจนจบเรื่องด้วยน้า ^__________^

 ฝากทวิตเตอร์ไว้จ้า @zenzaii1 หรือติดแฮชแท็ก #ก็พี่มันเยอะ นะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 18-12-2016 15:23:54
เรื่องนีบู้สินะครับ เอาปืนมาไล่ยิงกัน(ย์)ตั้งแต่ตอนแรกเลย ^^ แถวคว่ำรถอ้อยเป็นระยะๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-12-2016 15:37:18
 :impress2:   เดทกันใสๆ ดูหนัง กินข้าว  รักในวัยเรียนก็แบบนี้แหละ
มอมเลยค่ะน้องปืน   555555
ขอบคุณค่ะ จบได้ค่ะแต่ขอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-12-2016 16:02:51
ชอบอ่านเวลาคนจีบกัน
มันกิ๊วก๊าวมากเลย
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 18-12-2016 16:16:18
พี่กันย์น่ารักจริงจัง อิอิ น้องปืนหลงแย่เลย :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 18-12-2016 19:14:15
 :m1:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: oiruop ที่ 18-12-2016 19:31:56
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-12-2016 20:25:34
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 18-12-2016 20:52:38
 :o8: :o8: :o8:


น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 18-12-2016 21:12:50
อ่านรวดเดียวเลยอ่ะ สนุกมากๆๆๆๆ
ทั้งปืนทั้งกันต์มีมุมน่ารักๆของตัวเองเยอะเลย ไม่รุ้ว่าใครจะหลงใครมากกว่ากัน
เขินแทนละเนี่ยะ  :-[ :-[

แต่ว่าตกลงถาปัตย์ได้เขยหรือสะใภ้อ่ะนะ
คือตอนแรกก็หวังว่าจะเป็นสะใภ้ แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจละ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-12-2016 13:44:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 19-12-2016 15:59:27
อ่านไปก็เขินตามพี่กันต์ไปด้วย
ปืนมันร้าย


 :mew3: :mew3:

หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ // 28 - ...ก็พี่ไม่นิยาม แต่ผมว่ามันมีความหมาย [18.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 24-12-2016 11:26:24
อ่านทันแล้ว สนุกมากกกกกพี่มันเยอะจริงๆ 555555 แต่พี่มันก็ไม่ทันไอ้ปืนสักที :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 25-12-2016 15:58:17
29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ)

[Bpuen’s]

"สวัสดีครับ"

"หวัดดี"

ผมมอง 'ไอ้รถถัง' น้องชายบังเกิดเกล้าที่อายุห่างกันถึงหกปีก้าวขึ้นไปนั่งตรงเบาะหลังแล้วส่งเสียงทักคนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งคนขับด้วยเสียงดังฟังชัด พี่กันย์หันมามองก่อนจะทักทายกลับแล้วเหลือบมามองผมที่ขึ้นไปนั่งข้างๆ ด้วยท่าทางตื่นๆ จนผมอดยิ้มออกมาไม่ได้จนพาลคิดไปถึงคำพูดเมื่อวันก่อนของเจ้าตัวที่ดูเหมือนจะ ‘ตื่นเต้น’ กับการออกมาด้วยกันครั้งนี้อยู่พอสมควร





"ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หน้า ผมไม่ว่างนะครับ"

"แล้วไงวะ?" พี่กันย์ที่กำลังนั่งจดจ่ออยู่กับโมเดลของเล่นเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะถามออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ

"ก็บอกไว้ก่อนไงครับ เผื่อคนแถวนี้เกิดอยากชวนผมไปไหนขึ้นมา" ผมหรี่ตามองอย่างอดหมั่นไส้กับความปากไม่ตรงกับใจของคนตรงหน้าไม่ได้ก่อนจะวางจานมะละกอที่หั่นเป็นชิ้นๆ แล้ว(และไม่สุกจนเละตามที่เจ้าตัวกำชับมา)ลงบนโต๊ะญี่ปุ่นแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม พี่กันย์ละมือจากโมเดลบ้านที่เพิ่งถอยมาใหม่ตรงหน้าก่อนจะเท้าคางมองหน้าผม

"แล้วคนแถวนี้จะไปไหนล่ะครับ?"

"ไปทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีสักหน่อยน่ะครับ" พี่กันย์เลิกคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะรับมะละกอที่ผมจิ้มแล้วยื่นไปให้เข้าปากไปอย่างไม่ปฏิเสธ

"รถถัง?"

"ครับผม ไอ้รถถังมันจะขึ้นมาหาคอร์สเรียนพิเศษตอนปิดเทอมน่ะครับ"

"โห ขยันจังวะ อีกตั้งนานไม่ใช่เหรอกว่าจะปิดเทอม"

"มันเป็นพวกวิตกจริตน่ะครับ ต้องเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้ายาวๆ" ผมบอกอย่างขำๆ เมื่อนึกไปถึงน้องชายที่เหมือนจะยังเด็กแต่กลับคิดทุกอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเรื่องข้างหน้าอยู่เสมอ

"ว่าแต่ กูต้องตื่นเต้นเปล่าวะ?" คำถามที่อยู่ดีๆ พี่กันย์ก็ถามขึ้นทำให้ผมหันไปมองคนพูดอย่างงงๆ

"ทำไมเหรอครับ?"

"ก็ประมาณว่า 'เจอน้องของแฟน' อะไรแบบนั้น?" คำตอบที่เหนือความคาดหมายจากพี่กันย์ทำเอาผมชะงักก่อนจะหลุดขำออกมาจนคนตรงหน้าต้องเอามะละกอมายัดปากผมจนเกือบหมดจนผมต้องยกมือยอมแพ้ ...ก็ใครจะไปคิดล่ะครับว่าคนแบบพี่กันย์จะมีมุมแบบนี้ด้วย

...น่าแกล้งชะมัด ให้ตาย!

"พี่กันย์ตื่นเต้นเหรอครับ?" ผมย้อนถามกลับในตอนที่เลิกขำได้แล้วพลางมองคนตรงหน้าที่เอาแต่ทำสีหน้าแปลกๆ

"ก็นิดหนึ่งมั้ง แต่ไม่เท่าตอนพรีเซนต์งานกับอาจารย์ว่ะ"

"นั่นสิครับ แค่เจอ ‘น้องแฟน’ น่ะไม่เท่าไหร่หรอกครับ" พี่กันย์พยักหน้ารับก่อนจะมองผลไม้ที่ผมจิ้มส่งไปให้อีกชิ้นก่อนจะกัดแล้วลากมันออกจากส้อมไป

"ผมว่าเวลามาเจอ ‘แฟน’ น่ะ ตื่นเต้นกว่ากันเยอะ ว่ามั้ยครับ?" ผมบอกก่อนจะยักคิ้วให้ทำเอาพี่กันย์ชะงักแล้วหันมาจ้องหน้าผมก่อนหน้าขาวๆ จะขึ้นสีแดงจางๆ จนผมอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เพราะสังเกตอะไรบางอย่างมาได้สักพัก ...ก็คนตรงหน้าดันแพ้คำว่า 'แฟน' น่ะสิครับ ผมมองพี่กันย์ที่ยังพยายามเม้มปากต่อไปแม้ในปากจะคาบชิ้นมะละกอไว้ก็ตามก่อนจะแซวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"ถ้ายังไม่กินเดี๋ยวผมช่วยกินนะครับ" พี่กันย์หันมามองอย่างสงสัยรู้ตัวอีกทีเจ้าตัวก็ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ก่อนจะทำตาโตขึ้นอย่างตกใจเมื่อผมดึงตัวเองกลับมาพร้อมด้วยมะละกออีกครึ่งชิ้นในปากที่ไปขโมยมา …จากปากของพี่กันย์

"ครั้งที่สอง รสมะละกอล่ะครับ" ผมพูดไปแค่นั้นก็เจอเข้ากับหมอนที่ลอยเข้ามาปะทะใบหน้าพอดี ผมได้แต่หัวเราะอย่างขำๆ ก่อนจะดึงหมอนออกแล้วนั่งมองคนปาที่ตอนนี้เอาแต่นั่งเม้มปากพร้อมกับหน้าที่เริ่มขึ้นสีอย่างห้ามไม่อยู่ ...ดีกว่ารสเหล้าต้มตั้งเยอะแฮะ

"มึงมันแมร่ง!" พี่กันย์สบถออกมาก่อนจะจิ้มส้อมลงไปบนมะละกอชิ้นสุดท้ายอย่างระบายอารมณ์ซึ่งขัดหน้าเขินๆ ตอนนี้จนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนจะอ้าปากรับมะละกอที่คนตรงหน้ายัดเข้ามาใส่ปากผมอย่างหมั่นไส้

"อยากกินก็กินไปเลย" ผมมองพี่กันย์ที่หน้ายังมีสีอยู่อย่างขำๆ ก่อนเจ้าตัวจะเหลือบมามองสองสามรอบจนผมสงสัยแล้วอยู่ดีๆ เจ้าตัวก็ยื่นมือมาก่อนจะใช้หัวแม่มือเช็ดที่มุมปากของผมเบาๆ จนผมอดยิ้มให้กับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ไม่ได้

"งั้นที่เขาว่าไว้ก็จริงสินะครับ" คำพูดของผมทำเอาคนที่กำลังเช็ดปากให้ผมชะงักก่อนจะเลิกคิ้วมองอย่างสงสัยก่อนจะดึงมือกลับไปเมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้ว

"อะไร?"

"ชิ้นสุดท้าย..." ผมพูดขึ้นมาก่อนจะเท้าคางมองคนตรงหน้าที่นั่งทำหน้าเอ๋อๆ ก่อนจะเผลอยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้

"แฟนน่ารัก"





[Roth-thang's]

"เรียบร้อยรึเปล่า?"

"ถามผมเหรอครับ?" ผมถามขึ้นอย่างงงๆ เมื่อได้ยินเสียงคนถามแต่ไม่มีคนตอบก่อนจะหันไปมอง 'พี่กันย์' ที่พี่ปืนแนะนำว่าเป็นรุ่นพี่ต่างคณะที่มหา'ลัยอย่างงงๆ ก่อนจะชี้มือมาที่ตัวเองก่อนที่คนถามจะพยักหน้ายืนยัน ...ใครจะไปรู้ล่ะครับอยู่ดีๆ ก็ถามขึ้นมา แต่หน้าพี่เขาไม่ได้มองผมนี่

"เรียบร้อยดีครับ"

"แล้วยังไงต่อล่ะ?" คำถามที่ถูกถามขึ้นมาทำเอาผมต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยก่อนจะเหลือบไปมองคนที่ทำหน้าที่ขับรถให้ผ่านทางกระจกมองหลังก่อนจะเหลือบไปมองไอ้พี่ปืนที่นั่งยิ้มอยู่อย่างขำๆ ...ผมว่าผมก็ไม่ได้โง่นะ แต่ทำไมผมไม่เข้าใจคำถามพี่เขาวะ?

"เอ่อ..."

"ขยายความคำว่า 'เรียบร้อย' หน่อย" พี่ปืนพูดแทรกขึ้นมาก่อนพี่กันย์จะเหลือบมามองด้วยหน้าตาเหรอหราประมาณว่า ...กูพูดไม่รู้เรื่องเหรอ?

"สามวิชาที่จองได้เลยก็จ่ายตังค์ยืนยันไปแล้วครับ เหลืออีกสองวิชาที่ยังไม่แน่ใจเลยขอเอกสารมาศึกษาก่อน เปรียบเทียบกันอีกสองที่ ถ้าตัดสินใจได้จะโทรมาจองแล้วก็จ่ายตังค์สิ้นเดือนนี้ครับ" ทันทีที่ผมพูดจบไอ้พี่บังเกิดเกล้าก็ปรบมือก่อนจะผิวปากขึ้นอย่างล้อๆ จนพี่คนขับยิ้มมุมปากขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"ไม่บอกชื่อวิชามาด้วยเลยล่ะ" ไอ้พี่ปืนแซวขึ้นมาจนผมต้องหันไปมองอย่างเคืองๆ

"ก็จะบอกอยู่หรอกครับ แต่กลัวจะละเอียดเกินไป" ผมประชดก่อนจะมองพี่ชายตัวเองอย่างเซ็งๆ

"กูชอบน้องมึงว่ะ" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะหัวเราะอย่างถูกใจพลางยื่นกล่องขนมมาให้ ผมรับกล่องขนมมาก่อนจะมองไอ้พี่ชายของผมที่หรี่ตามองไปยังคนขับรถจนพี่พี่กันย์หัวเราะออกมา
 
"กินรองท้องไปก่อนนะ รถไม่ขยับเลยว่ะ" พี่กันย์บอกพลางมองไปยังถนนตรงหน้า ผมมองกล่องขนมในมือก่อนจะเปิดออกดู ...มีแต่ช็อคโกแลต ผมเหลือบไปมองเจ้าของขนมก่อนจะหยิบออกมากินชิ้นหนึ่งอย่างรักษามารยาทเพราะไม่ชอบของหวานเท่าไหร่นักก่อนจะส่งทั้งกล่องคืนไปให้ไอ้พี่ปืนที่ยื่นมารับก่อนพี่ชายของผมจะหยิบชิ้นหนึ่งออกมาแกะแล้วยื่นไปป้อนให้คนที่ขับรถอยู่แต่มือไม่ว่างเพราะต้องขับรถ

"พี่เรียนคณะอะไรนะครับ?" ผมถามขึ้นมาเพราะรู้สึกว่ามันเงียบจนเริ่มจะอึดอัด ...ก็ถ้าพี่คนขับรถเล่นเหลือบมองผมเป็นระยะๆ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ไม่พูดแบบนั้นล่ะก็ ผมพูดเองก็ได้ครับ

"สถาปัตย์ครับ ภูมิสถาปัตย์" พี่กันย์ตอบก่อนจะยิ้มผ่านกระจกมองหลังมาให้

"ภูมิสถาปัตย์? เรียนเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ มันไม่เหมือนสถาปัตย์ใช่มั้ย?" ผมถามออกไปอย่างสนใจ เพราะถ้าพูดถึงสถาปัตย์หรืออินทีเรียผมก็พอรู้จักอยู่หรอก แต่ภูมิสถาปัตย์นี่เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับสมองผมมากจริงๆ

"ใช่ เอาง่ายๆ คือ …สถาปัตย์ออกแบบอาคาร อินทีเรียก็ตกแต่งภายใน พวกเราก็ตกแต่งภายนอกไง"

"ออกแบบสวนอะไรแบบนั้นรึเปล่าครับ?"

"ประมาณนั้นเลย" พี่กันย์บอกก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะได้ยินเจ้าตัวบ่นกับพี่ปืนว่าเป็นวิชาชีพที่อธิบายยากชะมัดเพราะคนไม่ค่อยรู้จัก ...แต่ผมเข้าใจนะพี่ ถ้าพี่พูดยาวๆ จนรู้เรื่องแบบนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจ




 
หลังจากฝ่ามรสุมรถติดเพราะต้องผ่านย่านยอดฮิตหลายแห่ง สุดท้ายพวกผมก็มาโผล่ที่ 'สยาม' ซึ่งได้ยินพี่ปืนแซวพี่กันย์ว่า ...คิดได้แค่นี้ใช่มั้ยครับ? จนพี่กันย์หันมาหรี่ตามองอย่าเซ็งๆ แล้วหนีมาเดินข้างผมแทนจนพี่ปืนต้องเดินตามมาง้อจนผมได้แต่มองตามอย่างสงสัย ...เพิ่งเคยเห็นผู้ชายงอนผู้ชายก็วันนี้แหละครับ

"อยากกินอะไรบอกเลย พี่เป็นเจ้ามือเอง" พี่กันย์พูดขึ้นหลังจากที่เราเดินมาตรงโซนอาหาร ผมหันไปยิ้มขอบคุณก่อนจะมองร้านต่างๆ ที่มีทั้งไทย จีน ญี่ปุ่นอยู่รวมกันจนเลือกไม่ถูก

"แล้วแต่พี่เลยดีกว่าครับ ผมกินอะไรก็ได้" ผมบอกก่อนจะเหลือไปมองพี่ปืนที่เดินมายืนข้างๆ ก่อนจะส่งสายตาปริบๆ มาให้พี่กันย์ก่อนคนปรายตามองจะยู่หน้าขึ้นมาทีหนึ่งแล้วหันไปถามความเห็นว่า …ไอ้พี่ชายของผมจะกินอะไร?

"ชาบูอีกมั้ยล่ะครับ?" พี่ปืนพูดขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วรีบยื่นมือมาดึงๆ แขนพี่กันย์ที่เริ่มหรี่ตามองอีกครั้งเหมือนจะง้อก่อนพี่กันย์จะตีเข้าที่ท้องแรงๆ หนึ่งทีอย่างหมั่นไส้จนไอ้พี่ชายของผมถึงกับตัวงอก่อนจะหัวเราะออกมา ...เด็กมหา'ลัยนี่ดูจะมีวุฒิภาวะกว่าเด็กมัธยมนะครับ ถ้าเป็นเพื่อนผมนี่ไม่เล่นกันเบาๆ อย่างนี้แน่

"ร้านนั้นแล้วกัน" พี่กันย์สรุปออกมาก่อนจะเดินนำเข้าไปในร้านที่ที่อยู่ถัดไป





"บาร์ตรงนี้ตักได้เลยนะ แต่ถ้าจะกินตรงส่วนนั้นต้องเอาไม้อันนี้ไปหนีบไว้บนเมนูที่จะสั่ง" พี่กันย์อธิบายในขณะที่เราสามคนพาตัวเองเข้ามานั่งในร้านบุฟเฟ่ต์นานาชาติก่อนจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆ ว่าอันไหนตักเองได้เลยหรืออันไหนต้องสั่งก่อนจะโกยตัวหนีบไม้ที่มีหมายเลขโต๊ะกำกับไว้ใส่มือผมและพี่ปืนคนละกอง

"ขอบคุณครับ"

"งั้นเดี๋ยวผมไปสั่งก่อนนะ" พี่ปืนบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันมาพยักหน้าให้ผมเดินตามไป ผมมองอาหารมากมายหลายอย่างอย่างเลือกไม่ถูกจนได้แต่เดินตามพี่ปืนไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าเคาน์เตอร์ที่เต็มไปด้วยเมนูเนื้อย่างมุมหนึ่งซึ่งหลังเคาน์เตอร์มีเชฟที่กำลังจัดการเนื้อตามออเดอร์อย่างแข็งขัน

"ขอโทษนะครับ เนื้อจานนี้รบกวนขอแบบมีเดียมแรร์ แต่ไม่อยากให้ข้างในแดงเกิน ขอชิ้นที่มีไขมันแทรกอยู่แค่นิดๆ หน่อยๆ ก็พอครับ" พี่ปืนบอกหลังจากหนีบตัวหนีบไว้กับเมนูเนื้อวากิวย่างจานหนึ่งก่อนจะหันไปสั่งอะไรอีกยืดยาวจนผมเริ่มงง ...ไม่ใช่แค่หนีบไว้ก็พอเหรอวะ?

"ผมต้องสั่งเขาด้วยป่ะ" ผมถามไอ้พี่ปืนที่หันมามองผมอย่างงงๆ ก่อนจะถามขึ้นมาว่า ...ผมอยากกินอะไร? ผมเลยชี้ไปที่หมูสันคอย่างบนเมนูก่อนพี่ปืนจะหยิบไม้หนีบบนมือตัวเองไปหนีบไว้ให้แล้วเดินไปตรงเคาน์เตอร์ถัดไป

"ไม่ต้องสั่งยาวๆ แบบเมื่อกี้เหรอพี่"

"ไม่อ่ะ แค่หนีบไว้ก็พอ" ผมพยักหน้าตามอย่างงงๆ แล้วเดินตามไป ...แล้วเมื่อกี้ไอ้พี่ปืนมันสั่งอะไรเยอะแยะวะ? ดูไม่ยุติธรรมกับผมเลยแฮะ ผมจะกลับไปฟ้องแม่คอยดู!



"พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนอันนี้ขอชีสเยอะๆ  แล้วก็รบกวนช่วยอบให้มันละลายเยอะๆ ด้วยนะครับ"

"พี่ปืน ผมจะเอาอันนี้ด้วย"

"หนีบไว้ดิ"




"สเต็กปลาซาบะอันนี้ขอเนื้อไม่แห้งมาก แต่ช่วยทำให้หนังมันกรอบๆ นิดหนึ่งนะครับ"

"พี่ปืน ผมเอาอันนี้"

"ก็หนีบไว้ตรงนั้นเลย"



"พี่ปืน ผม..."

"หนีบไว้ๆ" ผมมองหน้าไอ้พี่ชายที่เดินมาหยุดตรงเคาน์เตอร์สุดท้ายก่อนจะสั่งอะไรอีกยืดยาวๆ แต่หันมาบอกผมด้วยคำพูดเดิมๆ แค่ว่า ...หนีบไว้เลย! แม่! ไอ้พี่ปืนมันแกล้งผมอ่ะ! ผมมองพี่ชายบังเกิดเกล้าที่เดินกลับไปที่โต๊ะอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินตามไปแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามพี่ๆ ทั้งสองก่อนจะมองคนที่นั่งอยู่ก่อนอย่างสงสัยเพราะไม่เห็นลุกไปสั่งอะไรสักอย่าง

"พี่กันย์ไม่กินเหรอครับ?"

"เดี๋ยวกินกับมัน" พี่กันย์ตอบก่อนจะยิ้มให้พลางมองพี่ปืนที่ลุกออกไปตักอาหารตรงบาร์ที่สามารถตักเองได้เลยอีกครั้งก่อนจะเดินกลับมาพร้อมด้วยอาหารหลายอย่างที่วางลงตรงหน้าโดยไม่ลืมเผื่อแผ่มาถึงผมด้วย ...เห็นแก่ความดีครั้งนี้ ผมจะไม่ฟ้องแม่ก็ได้!

"เนื้อวากิวกับหมูสันคอ 2 ที่ครับ" พนักงานที่เดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารถามขึ้นก่อนจะวางอาหารลงตรงหน้าตามตำแหน่งที่พี่ปืนบอก หมูสันคอยางตรงหน้าผมกับพี่ปืนและเนื้อวากิว 'ยืดยาว' ...ตรงหน้าพี่กันย์

"พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนกับพิซซ่าหน้าไก่บาร์บีคิวครับ" พนักงานคนต่อไปเดินเข้ามาพร้อมพิซซ่าชิ้นขนาดกลางในจานสองจานแล้ววางไว้ตามที่ตำแหน่งที่พี่ปืนบอกเหมือนเดิม พิซซ่าหน้าไก่บาร์บีคิวของผมและพิซซ่าฮาวายเอี้ยน 'ยืดยาว' ...ตรงหน้าพี่กันย์

"สเต็กปลาซาบะกับสเต็กแซลมอน 2 ที่ครับ" และเหมือนเดิม สเต็กปลาซาบะ 'ยืดยาว' ...ตรงหน้าพี่กันย์ ผมอดมองไปยังสองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลายอย่าง

อย่างแรก ไอ้พี่ปืนมันก็กินแบบปกติเหมือนผมนั่นแหละ(เพราะฉะนั้นผมจะไม่ไปฟ้องแม่แล้ว) แต่คนที่กินไอ้เมนูยืดยาวนั่นกลับเป็นพี่กันย์ ...เอ่อ ช่างเป็นคนที่มีรายละเอียดในชีวิต 'เยอะ' มากจริงๆ

และอย่างที่สอง โดยปกติคนจะไปสั่งอาหารแทนกันบ้างมันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นี่คือสั่งทั้งหมดและตักให้ทุกอย่าง โอเคครับยังเข้าใจได้ว่าไอ้พี่ปืนมันเป็นรุ่นน้อง แต่เมนูของรุ่นพี่พี่ชายผมตรงหน้านี่มันยาวเกินไป แถมผมยังไม่เห็นพี่เขาจะบอกอะไรก่อนพี่ปืนจะไปสั่งสักอย่าง ประเด็นคือ ...ไอ้พี่ชายผมมันรู้ได้ไง?

"พวกพี่สนิทกัน 'มาก' เหรอครับ" ผมถามขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะเหลือบมองพี่ชายทั้งสองตรงหน้า พี่ปืนหลุดขำออกมาก่อนจะหันไปมองพี่กันย์ที่ชะงักไปเล็กก่อนจะพยักหน้าให้เบาๆ

"ก็... สนิทนะ"

"ขนาดไหนเหรอครับ" ผมถามออกไปอย่างห้ามไม่อยู่จนพี่กันย์ถึงกับชะงักแล้วหันมามองผมตาปริบๆ ก่อนผมจะรู้สึกได้ถึงแรงสั่นในกระเป๋ากางเกงจนต้องล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา

Bpuen : ถามมากจังวะ?

ผมมองหน้าไอ้คนส่งที่ยังหันไปมองคนข้างๆ ด้วยรอยยิ้มขำๆ อย่างอดแปลกใจไม่ได้ ...ออกตัวแรงขนาดนี้ เรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำ

Roth-thang : งั้นก็ไม่ต้องรอให้ถาม
Roth-thang : รีบๆ บอกมาเลย
Bpuen : บอกอะไร?

ผมมองไอ้คนตรงหน้าที่ยืดเยื้อไปเรื่อยก่อนจะหันมายักคิ้วให้อย่างกวนๆ

Roth-thang : สนิทกัน 'ระดับ' ไหน
Bpuen : เหยดด เดี๋ยวนี้มีซักเว้ยเฮ้ย!
Roth-thang : หรือจะให้ผมถามรุ่นพี่ 'คนสนิท' ของพี่เอง

"ขนาดปกติ" คำพูดพี่กันย์ที่พูดขึ้นมาทำเอาทั้งผมทั้งพี่ปืนเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ก่อนจะหันไปมองอย่างงงๆ ด้วยกันทั้งคู่

"ขนาดอะไรครับ?" พี่ปืนถามคำถามเดียวกับที่ผมคิดอยู่พอดีจนผมได้แต่หลุดขำออกมา ...บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นเพราะผม แต่เพราะพี่กันย์พูดไม่รู้เรื่องต่างหากเล่า

"ก็ถามว่าสนิทกันขนาดไหนไม่ใช่เหรอ?" พี่กันย์ทวนคำถามก่อนจะเม้มปากด้วยหน้าตาตื่นๆ จนพี่ปืนหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวพี่ชายตรงหน้าด้วยท่าทางเอ็นดู ...เดี๋ยวนะ! ผมต้องตกใจอะไรก่อนดีครับ รุ่นน้องปีนเกลียวลูบหัวรุ่นรุ่นพี่ หรือ รุ่นพี่ยอมให้รุ่นน้องลูบหัว ...ด้วยท่าทางเอ็นดู

"แต่ผมว่าไม่ปกตินะ" ผมยืนยันก่อนจะขมวดคิ้วจนยุ่งจนพี่กันย์เริ่มหน้าเสีย

"ปกติดิวะ" พี่ฟืนยืนยันก่อนจะเอนตัวไปพิงพนักเก้าอี้ด้วยท่าทางสบายๆ ต่างกับคนข้างๆ ที่เหมือนจะเริ่มแผ่ออร่าความเครียดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ...พี่จะไม่คว่ำโต๊ะใช่มั้ยครับ? ผมยังกินไม่เสร็จนะ

"ปกติบ้านพี่ดิ"

"ก็ปกติ ...ของคนเป็น 'แฟน' กันไง" พี่ปืนตอบหน้าตายทำเอาทั้งผมทั้งพี่กันย์อึ้งไปพักใหญ่ๆ ก่อนคนแก่กว่าจะเหลือบมองหน้าผมสลับกับพี่ปืนเป็นระยะๆ ...พระเจ้า! ผมบอกแล้วว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ!





[Gun's]

"ก็ปกติ ...ของคนเป็น 'แฟน' กันไง" คำพูดของไอ้ปืนทำเอาผมถึงกับไปต่อไม่ถูกก่อนจะเหลือบไปมองน้องชายของคนข้างๆ ที่นิ่งไปพักใหญ่ๆ อย่างกังวล

...ผู้ชายกับผู้ชายนี่ผมว่าก็ทำใจยากแล้วนะ
...พอต้องไปบอกเพื่อนว่า 'กูชอบผู้ชาย' นี่ยากยิ่งกว่า
...แล้ว 'รถถัง' ที่นั่งอยู่ตรงหน้าที่เป็นถึงครอบครัว เป็นน้องชายที่คลานตามกันมาแท้ๆ ของไอ้ปืน!
...เวรเอ้ย! น้องมันต้องรับไม่ได้แน่ๆ

"พี่กันย์คบกับพี่ปืนเหรอครับ?" ผมมองหน้ารถถังที่ถามขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์จนผมเริ่มหวั่นใจก่อนจะเหลือบไปมองไอ้ปืนที่ยักคิ้วให้อย่างสบายอารมณ์ ...ไม่เครียดหน่อยเหรอวะ?

"คือผมสงสัย..."

"สงสัยว่าไอ้ปืนเป็นเกย์รึเปล่าใช่มั้ย? วางใจได้เลยว่ามันไม่ได้ชอบผู้ชาย มันแค่ชอบพี่เฉยๆ ก่อนหน้านี้มันยังมีแฟนเป็นผู้หญิงเลย แล้วมันก็ไม่ได้สนใจผู้ชายคนอื่นนะ เพราะฉะนั้นมันไม่ได้เป็นเกย์ชัวร์ เชื่อใจได้" ผมตอบรัวออกไปก่อนจะหยุดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ ของไอ้สองคนพี่น้องที่ดังขึ้นมาจนผมต้องหันไปมองอย่างงงๆ

"ไม่เขินเหรอครับ" ไอ้ปืนถามก่อนจะยื่นนิ้วมาเขี่ยๆ แก้มผมจนผมได้แต่เลิกคิ้วถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเองทันทีที่นึกขึ้นได้ 'มันแค่ชอบพี่เฉยๆ' ...เวรเอ้ย!

"ไม่ใช่ครับ คือผมสงสัยว่า..."

"หรือสงสัยว่าพี่เป็นเกย์รึเปล่า? พี่ก็ไม่ได้เป็นนะเว้ย พี่ก็แค่ชอบมัน ...แค่นั้นเอง" ผมตอบประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงที่เบาลงหลังจากนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไปอีกแล้วจนไอ้สองพี่น้องที่ตอนนี้ผมคิดว่า …มันคงร้ายพอกันหัวเราะออกมาก่อนไอ้ปืนจะหันมายิ้มให้จนตาหยี

"ขอบคุณนะครับที่ พี่-ชอบ-ผม" ผมหันไปส่งสายตาดุๆ ให้ไอ้ปืนที่ยังขยี้ประโยคที่ผมเผลอพูดออกไปอย่างไม่ดูสถานการณ์ก่อนรถถังทำท่าจะพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างอดตื่นเต้นไม่ได้

"ไม่ใช่ครับคือว่า.."

"หรือว่า..." ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตั้งข้อสันนิษฐานต่อไปไอ้ปืนก็ยื่นมือมาล็อคคอผมไว้ก่อนจะดึงผมเข้ากับตัวมันแล้วปิดปากไม่ให้พูดจากนั้นจึงพยักเพยิดหน้าไปทางน้องชายมันเพื่อเป็นสัญญาณให้พูดต่อ

"ผมแค่สงสัยว่าระหว่างพวกพี่สองคน..." ไอ้รถถังถามขึ้นอย่างลังเลก่อนจะยกมือไหว้อย่างขออนุญาตก่อนแล้วพูดต่อก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อทั้งผมและไอ้ปืนชะงักไปก่อนจะหันมามองหน้ากัน


"ใครเป็นรุกใครเป็นรับเหรอครับ?"





ขอโทษที่หายไปเป็นอาทิตย์เลยนะคะ TT พอดีอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์สุดท้ายของการทำงานในปีนี้ งานเลยท่วมหัวแทบเอาตัวไม่รอดมากๆ แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้(โดยการโยนบางส่วนไปปีหน้า 55555) แต่กว่าจะผ่านมาได้นี่มัน …ตาโหลๆ พอๆ กับพี่กันย์เลยค่ะ แทบไม่ได้นอนเลย ฮืออออ ตอนนี้ก็เลยอยู่ในช่วงวันหยุดยาวแล้วค่า อิอิ อัพตอนนี้เสร็จแล้วจะหนีไปดูพารูรุตรงโซนหน้าจอ มีใครเป็นแฟน AKB48 บ้างมั้ยคะ? มาดำดิ่งด้วยกันเถอะ 55555

Merry X’mas นะคะ ขอให้มีความสุขกันถ้วนๆ หน้าทุกคนเลย
เจอกันตอนหน้าค่ะ ^________^

Zenzai


หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-12-2016 16:18:21
เราก้อสงสัยเหมือนกัน อิอิอิอิอิ   :mew1: 
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 25-12-2016 16:25:09
พี่กันย์บอกเลยว่าเป็นรับอย่างภาคภูมิ อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-12-2016 17:59:42
จะตอบรถถังยังไงล่ะทีนี้ (โดยส่วนตัวคิดว่าปืนน่าจะรุกนะ แต่ถ้าปืนจะยอมให้พี่กันย์ลองรุกดูสักครั้ง (เผื่อพี่ชอบรุกน้อยกว่า จะได้รับให้ถาวรเลย) ก็ไม่ว่ากัน)
ดูพี่กันย์ตื่นเต้นมากมายกับการเจอน้องแฟนครั้งแรก ถ้าเจอพ่อแม่แฟนนี่คงยิ่งกว่านี้ ฮา
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-12-2016 20:46:49
รถถัง.... พี่ปืน พี่กัลย์ แมนๆ ทั้งคู่
มันก็น่าสงสัยเนาะ
แต่ปืนคงไม่ยอมให้พี่กัลย์รุกแน่เลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 25-12-2016 21:31:42
ร้ายๆ อย่างปืน  มีหรือจะยอมให้พี่กันย์รุก  รถถังถามนำอะดิ ใช่ปะ :hao3:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-12-2016 21:39:13
น้องรถถังสงสัยเหมือนเราเลย 5555  :แต่เราว่า...คิคิ  จะเดาถูกไหมน๊าาาา
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-12-2016 12:56:44
เราจะได้รู้พร้อมรถถังใช่ไหม หรือถ้ารถถังรู้ก็มากระซิบบอกกันบ้างนะ อยากรู้ด้วยว่าใครรุกใครรับ :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-12-2016 13:18:01
โอยยยย
พี่กันย์น่ารักมาก ใส่ห่อกลับบ้านให้หน่อยเถอะ

โดนสองพี่น้องป่วนจนหัวปั่นเลย

ว่าแต่....พี่พร้อม "รับ" ใช่ไหมเคอะ?
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-12-2016 20:40:40
รถถังถามได้ตรงใจเจ๊มากเลยค่ะ อิอิอิ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: satiara ที่ 27-12-2016 17:36:21
หนูรถถังทำดี คำถามดีมากก
#สงสัยมากมานานแล้ว 555
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 27-12-2016 21:13:30
เราก้อสงสัย งุงิ งุงิ
หัวข้อ: Re: [yaoi] ...ก็พี่มันเยอะ//chapter29-...ก็พี่ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้(มั้งครับ) [25.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 27-12-2016 21:32:36
รถถังน่ารักจัง

 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 28-12-2016 00:23:54
30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ?

[Bpuen's]

"สวัสดีตอนเช้าครับ" ผมเอ่ยทักคนที่กำลังนอนอยู่ก่อนจะออกแรงเขย่าเบาๆ เพื่อให้เจ้าตัวรู้สึกตัว พี่กันย์ลืมตาขึ้นมามองอย่างงงๆ ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่ใกล้หมอนขึ้นมาดูเวลา

"เช้าตลอดอ่ะ" พี่กันย์บ่นงุบงิบๆ ก่อนจะนิ่งไปพักหนึ่งเพื่อเรียกสติก่อนจะยื่นมือมาให้ ผมยิ้มให้กับท่าทางขี้อ้อนของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะมากขึ้นทุกวันก่อนจะดึงเจ้าตัวให้ลุกขึ้นมานั่งอย่างที่ต้องการ

"ไปอาบน้ำเลยครับ วันนี้ให้แค่สิบห้านาทีนะ" ผมบอกก่อนจะยัดผ้าขนหนูใส่มือคนที่ยังไม่ตื่นดีก่อนจะออกแรงดึงให้เจ้าตัวไปยังห้องน้ำ

"ยี่สิบไม่ได้เหรอวะ?" พี่กันย์ทำตาปริบๆ ก่อนจะกอดวงกบประตูไว้อย่างไม่ยอมขยับ

"ยี่สิบก็ได้ครับแต่ห้ามมากกว่านี้นะ" ผมกำชับก่อนจะขยี้หัวคนตรงหน้าเบาๆ จนเจ้าตัวคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะถอยหลังเข้าไปในห้องน้ำ ผมมองอย่างขำๆ ก่อนจะดึงประตูมาปิดให้พร้อมกับเสียงรับทราบจากคนที่เริ่มปฏิบัติภารกิจของตัวเอง

"โอเค"




"ดูอะไรอยู่วะ?" เสียงทักดังขึ้นทันทีที่เจ้าของห้องเดินออกมา วันนี้เจ้าตัวใส่เสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงขาเดปสีเข้มพร้อมด้วย Accessories ทั้งสี่ที่ไม่เคยขาดก่อนจะทักทายไอ้รถถังที่นั่งดูการ์ตูนตอนเช้าอยู่หน้าโทรทัศน์

"สวัสดีครับพี่"

"หวัดดี" พี่กันย์เอ่ยตอบก่อนจะเดินถือถุงเท้าไปนั่งตรง Bean bag อีกอันที่วางอยู่ข้างๆ อันที่รถถังนั่งอยู่

"แต่งตัวซะหล่อเลยพี่" ไอ้รถถังชมจนเจ้าตัวหันไปยิ้มมุมปากให้อย่างมาดมั่นจนผมอดหมั่นไส้ให้กับคนที่มีความมั่นใจในรสนิยมเกินร้อยไม่ได้ก่อนจะวางจานแซนวิสกับแก้วใส่นมโอวิลตินของโปรดไว้ตรงหน้าพี่กันย์แล้วนั่งลงกับพื้นข้างเจ้าตัว

"ยังไม่เซตผมเหรอครับ" ผมถามพลางยื่นมือไปปัดๆ ผมของคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะยาวขึ้นจนแทบจะเข้าตาอยู่แล้วอย่างอดรำคาญแทนไม่ได้ พี่กันย์พยักหน้าก่อนจะอ้าปากรับแซนวิสที่ผมยื่นไปให้เพราะเห็นว่าใกล้จะได้เวลาแล้ว

"ลืมไปเลยก็ได้ครับว่าผมอยู่ตรงนี้" เสียงของไอ้รถถังบวกกับสายตาล้อเลียนทำให้พี่กันย์หยุดชะงักก่อนจะหันมามองหน้าผมก่อนจะมองมือที่จับปลายแซนวิสอีกด้านไว้อย่างเขินๆ

"เดี๋ยวกูกินเอง" พี่กันย์บอกก่อนจะใช้ปากดึงแซนวิสในมือไปทั้งชิ้นก่อนจะตั้งใจใส่ถุงเท้าจนเสร็จ จากนั้นก็เดินไปล้างมือก่อนจะจับแซนวิสมากินต่อจนหมด ผมได้แต่หันไปมองอย่างขำๆ ก่อนจะหันมามองไอ้รถถังที่หันมายักคิ้วให้อย่างอารมณ์ดี

“แกล้งแฟนกูเหรอวะ?” ผมถามมันอย่างหมั่นไส้ก่อนจะยก Bean bag อันที่ว่างอยู่ทุ่มใส่หัวมัน

"พวกมึงสองคนล่ะกินอะไรยัง?"

"เรียบร้อยแล้วครับ" ผมหันไปตอบก่อนจะดึง Bean bag อีกอันที่ไอ้รถถังเตรียมจะทุ่มใส่ผมกลับมาก่อนจะมองหน้าไอ้น้องตัวแสบที่ยิ้มร้ายๆ เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้อีกแล้ว

"ต้องขยายความคำว่า 'เรียบร้อย' อีกมั้ยครับพี่เขย เอ๊ะ หรือพี่สะใภ้?"

"พรวดดด แค่กๆๆๆ" คำถามของไอ้รถถังทำเอาพี่กันย์ที่กำลังดื่มนมในแก้วถึงกับพ่นออกมาก่อนเจ้าตัวจะไอต่อขนานใหญ่จนผมต้องเอื้อมมือไปช่วยลูบหลังให้

"เป็นอะไรมั้ยครับ?" ผมถามขึ้นทั้งๆ ที่ในใจก็อดขำไปด้วยไม่ได้ ...ไอ้รถถังนี่มันร้ายโดยสายเลือดแท้ๆ

"กูโอเค" พี่กันย์บอกก่อนจะดึงทิชชู่ที่ผมส่งให้ไปเช็ดปากก่อนจะมองไอ้รถถังที่หลังจากทิ้งระเบิดตูมใหญ่ไว้แล้วมันก็หันกลับไปดูการ์ตูนต่ออย่างสบายออกสบายใจ

"แต่จะว่าไป ...ผมก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกันนะครับ" คำพูดของผมทำเอาพี่กันย์ที่เพิ่งหายใจเข้าทีหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหรี่ตาอย่างไม่ไว้ใจ

"สงสัยอะไรของมึง?"

"ระหว่าง เขย กับ สะใภ้ พี่กันย์อยากเป็นอะไรมากกว่ากัน?"

"ไอ้เชี่ยปืน!"





[Gun's]

"ไอ้พี่น้องคู่นี้แมร่ง!" ผมอดสบถออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงสองศรีพี่น้องที่กำลังนั่งรอผมอยู่หน้าโทรทัศน์ในระหว่างที่ผมเดินเข้ามาเซตผมก่อนจะนึกไปถึงคำพูดที่พวกมันเอาแต่ถามผมอยู่นั่น ...รุกหรือรับ? เขยหรือสะใภ้?

...เกิดมายี่สิบเอ็ดปีมีแฟนเป็นผู้ชายนี่ผมว่ารันทดแล้วนะ ทำไมต้องมานั่งคิดด้วยวะว่าต้องรับบทไหน ให้ตาย!

"ให้เวลาอีกห้านาทีนะครับ" เสียงไอ้ปืนตะโกนเข้ามาทำให้ผมเหลือบไปมองประตูห้องอย่างหงุดหงิดก่อนจะตะโกนรับคำมันออกไป หลังจากนั้นจึงหันมาเซตผมด้วยความไวแสงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน …สองนาที ผมมองสารรูปขอตัวเองในกระจกให้พอรับได้ก่อนจะเอาเวลาที่เหลืออีกสามนาทีล้วงโทรศัพท์ขึ้นมา กดเข้าแอพกูเกิ้ลแล้วพิมพ์ลงไปว่า

'รุกกับรับ ต่างกันอย่างไร?"

...ไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับว่าตัวเองจะมีโมเมนต์ที่ต้องมาพิมพ์อะไรแบบนี้ลงไปในกูเกิ้ล ผมล่ะอยากตาย!





"ผมขับให้นะครับ" ไอ้ปืนที่เดินอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นก่อนจะยื่นมาตรงหน้าผมเหลือบไปมองมันก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ

"เดี๋ยวกูขับเอง" ผมบอกก่อนจะเดินไปนั่งยังฝั่งคนขับจนไอ้ปืนได้แต่มองตามอย่างงงๆ แต่ก็ยอมไปนั่งฝั่งข้างคนขับแต่โดยดี

"เข็มขัดมึง" ผมมองหน้ามันแล้วมองเลยไปยังเข็มขัดนิรภัยข้างๆ ที่เจ้าตัวยังไม่ได้รัดก่อนจะเอื้อมมือผ่านตัวมันไปเพื่อจะดึงมารัดให้อย่างที่ไอ้ปืนชอบทำ …เชี่ยยย! ติด! ผมก้มมองเข็มขัดนิรภัยของตัวเองที่รั้งตัวผมไว้อย่างเซ็งๆ

"พี่จะทำอะไรครับ?" ไอ้ปืนถามขึ้นพลางมองผมอย่างงงๆ พลางมองผมที่เอนหลังกลับมาที่เบาะของตัวเอง

"รัดเข็มขัดให้มึงไง" ผมบอกก่อนจะมองหน้าคนตรงหน้าที่ยิ้มอย่างขำๆ ก่อนเจ้าตัวจะเอื้อมมือมาเพื่อปลดล็อคเข็มขัดที่ของผมให้แล้วถอยกลับไป

"เอาล่ะครับ รัดให้ผมได้แล้ว" มันบอกก่อนจะยักคิ้วมาให้ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากไอ้เด็กที่นั่งอยู่เบาะหลังจนหน้าผมเริ่มร้อนๆ …ไม่รงไม่รัดให้แมร่งแล้ว โว๊ะ!

"รัดเองเลยมึง ลำบากกูเกิน" ผมบอกก่อนจะรัดเข็มขัดให้ตัวเองใหม่จนไอ้ปืนหลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง ผมเหลือบไปมองคนที่รัดเข็มขัดให้ตัวเองอย่างเซ็งๆ พลางนึกไปถึงเนื้อหาในอินเตอร์เน็ตที่ผมเพิ่งเจอมา

'รุกกับรับต่างกันอย่างไร?'
'รุก คือฝ่ายกระทำเปรียบเสมือน ฝ่ายชาย'
'รับ คือฝ่ายถูกกระทำเปรียบเสมือน ฝ่ายหญิง'

...ไหนๆ ก็ได้ผู้ชายแล้วขอเป็นชายเหนือชายแล้วกันนะครับ อย่าให้ชีวิตผมต้องอัปยศอดสูไปมากกว่านี้เลย!





[Bpuen's]

"เดี๋ยวกูเปิดให้" ผมชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูก่อนจะมองพี่กันย์อย่างงงๆ แต่สุดท้ายนั่งรอให้คนที่เพิ่งละจากตำแหน่งคนขับรถเดินอ้อมโลกเพื่อมาเปิดประตูให้แล้วอันเชิญให้ผมลงจากรถก่อนจะยิ้มกว้างให้แล้วหลบไปถอนหายใจ

…อาการแบบนี้ มีแผนในใจอะไรอีกชัวร์!

"ขอบคุณครับผม" ผมหันไปยิ้มให้คนที่วันนี้ดูจะใจดีเป็นพิเศษก่อนจะพากันเดินเข้าไปยังประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่มีป้ายตัวอักษรเขียนว่า 'สวนสัตว์ดุสิต' พร้อมด้วยรูปปั้นสิงสาราสัตว์อีกมากมาย ผมหันไปมองคนต้นคิดที่จะพาไอ้รถถังมาที่นี่อย่างเริ่มสงสัยกับท่าทางแปลกๆ ไม่ได้ ก่อนจะไล่ไปตามวันสำคัญต่างๆ ก็ดูไม่มีวันไหนจะเข้าเค้าที่จะเป็นสาเหตุให้คนตรงหน้าทำตัวแปลกๆ เลยสักอย่างจนผมเริ่มปลงก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาพี่กันย์

"รอตรงนี้ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมไปซื้อ..."

"เดี๋ยวกูไปซื้อให้" พี่กันย์เสนอตัวก่อนจะฝากกระเป๋าสะพายไว้กับผมแล้วพาตัวเองเดินเข้าไปต่อแถวเพื่อซื้อตั๋วเข้า

"กี่ท่านคะ?" เสียงพนักงานสาวถามขึ้นพลางยิ้มให้อย่างมีไมตรี

"สามคนครับ" พี่กันย์บอกก่อเจ้าตัวจะล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วก็ชะงักไปจนผมสงสัย ก่อนจะเจอสายตาที่มองมาอย่างขอความช่วยเหลือจนผมต้องเดินเข้าไปหาอย่างงงๆ

"มีอะไรหรอครับ?" ผมถามก่อนเจ้าตัวจะชี้มาที่กระเป๋าสะพายหลังที่ฝากไว้

"กระเป๋าตังค์" พี่กันย์บอกอย่างเซ็งๆ จนผมเผลอหัวเราะออกก่อนจะปลดกระเป๋าสะพายลงแล้วล้วงเอากระเป๋าตังค์ของเจ้าตัวยื่นไปให้

"มีตังค์พอใช่มั้ยครับ?" ผมแกล้งถามจนได้รับสายตาดุๆ กลับมาก่อนเจ้าตัวจะหันไปจ่ายตังค์แล้วรับตั๋วมาสามใบ

"ทำไมมันยากอย่างนี้เนี่ย เฮ้อ"

"พี่ว่ายังไงนะครับ" ผมหันไปกลับไปถามเพราะได้ยินไม่ค่อยชัดก่อนเจ้าตัวจะหันมาทำหน้าเหรอหราแล้วบอกให้เดินเข้าไป





"เอาไปให้มันกินดิ" พี่กันย์กำใบไม้ที่เป็นอาหารของเจ้ายีราฟตรงหน้ามากำหนึ่งก่อนจะยื่นให้ไอ้รถถังเพื่อเอาไปให้มันกินแต่คนยื่นกลับไม่เข้าไปด้วย

"ไม่ไปด้วยกันเหรอพี่?" ไอ้รถถังถามพลางพยักหน้าคะยั้นคะยอให้เจ้าตัวเดินตามมาด้วยกันแต่พี่กันย์ก็เอาแต่สายหน้าจนผมต้องเดินเข้าไป

"เป็นอะไรครับ?"

"ไม่เป็นไรนี่" พี่กันย์บอกก่อนจะฉีกยิ้มออกมาจนผมเกือบจะเชื่อจริงๆ ถ้าไม่ติดว่า…

"อ่ะพี่ ผมเอายีราฟมาให้" ไอ้รถถังพูดขึ้นก่อนจะค่อยๆ ใช้ใบไม้ที่เหลือล่อยีราฟมาตรงด้านที่พี่กันย์ยืนอยู่จนผมอดขำในความกวนตีนของมันไม่ได้ ก่อนจะหันไปมองคนที่เอาแต่ยืนหันหน้าไปทางอื่นในขณะที่มือก็พยายามยื่นใบไม้ให้เข้าปากยีราฟตามคำชักชวนของไอ้รถถัง

"เชี่ย!" พี่กันย์สบถออกมากก่อนจะปล่อยตะกร้าลงบนพื้นแล้วกระโดดถอยห่างออกไป เจ้าตัวยกมือทั้งสองข้างขึ้นอย่างยอมแพ้ด้วยท่าทางสั่นๆ เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง

"เป็นอะไรครับ?" ผมถามย้ำก่อนล้วงเอาทิชชู่เปียกออกมาเช็ดมือของคนตรงหน้าที่เห็นเป็นคราบเปียกๆ ติดอยู่

"ลิ้นมันโดนมือกูอ่ะ" พี่กันย์บอกก่อนทำหน้าเหมือนร้องไห้พลางเอามือมาเช็ดๆ ที่เสื้อผมอย่างรวดเร็ว
 
"พี่กลัวยีราฟ?" ไอ้รถถังถามอย่างสงสัยก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มเมื่อเมื่อเห็นท่าทางพี่กันย์ที่พร้อมจะสลายร่างทุกเมื่อ

"เปล่า กูแค่ไม่ชอบลิ้นมัน" พี่กันย์บอกก่อนจะทำหน้าแหยงๆ อีกครั้งเมื่อหันไปตอบไอ้รถถังแต่ไอ้คนถามดันหยิบใบไม้ยื่นไปให้ยีราฟจนมันยื่นลิ้นยาวๆ ของมันออกมาเกี่ยวใบไม้เข้าปากไปอีกที

"ไอ้ปืน กูอยากฆ่าน้องมึง" พี่กันย์บอกก่อนจะกระโดดมายืนข้างๆ ผมพร้อมกับมองไอ้ตัวต้นเหตุที่เอาแต่หัวเราะอย่างคาดโทษ

"ทำไมพี่ไม่ชอบล่ะครับ" ไอ้รถถังถามหลังจากที่ยอมลามือจากการให้อาหารยีราฟก่อนจะหยิบตะกร้าใส่ใบไม้ขึ้นมาแล้วส่งคืนไปให้คนดูแล

"มันแหยะ" พี่กันย์บอกก่อนจะทำหน้าแหยงๆ แล้วเดินนำลงลงบันไดไป

"งั้นพี่ก็ไม่ชอบสัตว์ที่มีลิ้นทุกตัวเลยป่ะครับ" ไอ้รถถังยังถามต่อจนพี่กันย์ชะงักก่อนจะทำท่าคิดอย่างจริงจัง

"ประมาณนั้น" ไอ้รถถังพยักหน้าเออออก่อนจะหันมาตบไหล่ผมเบาๆ อย่างเห็นใจจนพี่กันย์ยังหันกลับมามออย่างสงสัยอีกคน

"จำไว้นะพี่"

“อะไรวะ?”

"พี่กันย์ไม่ชอบลิ้น อย่าเผลอใช้นะครับผม" ไอ้รถถังพูดต่ออย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินนำไปยังกรงถัดไปปล่อยให้ผมกับพี่กันย์ยืนมองหน้ากันย์อย่างงงๆ ก่อนจะนึกได้เมื่อคนตรงหน้าเผลอสบถออกมาก่อนจะไล่ตามไอ้น้องชายตัวดีของผมไป

...เวรกรรม ใช้ไม่ได้จริงๆ เหรอวะ?






[Gun's]

"เอาน้ำอะไร?" ผมหันไปถามไอ้ปืนที่ตอนนี้ยืนรอไอ้รถถังมันเข้าไปซื้อของในร้านขายของที่ระลึกของสวนสัตว์ด้วยเหตุผลที่ว่าจะเอาไปฝากสาวก่อนมันจะยิ้มให้แล้วบอกว่า

“อะไรก็ได้ครับ” …ไอ้เชี่ยปืนครับ! เรื่องมากหน่อยมั้ยมึง ตอบแบบนี้กูต้องคิดอีกสิ โว๊ะ!

ผมคิดอย่างเซ็งๆ ก่อนจะตรงไปร้านขายน้ำเพื่อซื้อน้ำเปล่าสองขวดและเกลือแร่อีกขวด ...ของผมเองครับ ทำไมการพยายามทำตัวเป็นชายเหนือชายนี่มันเหนื่อยขนาดนี้วะ? ผมสบถในใจเพื่อไม่ให้เชิงชายก่อนจะเดินกลับมาหาไอ้ปืนที่ยืนอยู่กับไอ้รถถังที่ตอนนี้มีตุ๊กตาช้างน้อยน่ารักติดดอกไม้สีชมพูอยู่ในมือหนึ่งตัวก่อนจะยื่นขวดน้ำเปล่าไปให้

...รสนิยมแมร่งพอกันทั้งพี่ทั้งน้อง

"ขอบคุณครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะรับขวดน้ำขวดหนึ่งไปเปิดฝา ใส่หลอดลงไปแล้วยื่นไปให้ไอ้รถถัง ผมมองภาพนั้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะเรียนรู้จากมัน จากนั้นจึงดึงขวดน้ำหนีเมื่อมันทำท่าจะเอาไป

"เดี๋ยวกูเปิดให้" ผมบอกมันก่อนจะฝากขวดเกลือแร่ให้มันถือแล้วหันมาสนใจกับขวดน้ำตรงหน้าแทน ผมบรรจงบิดฝาขวดน้ำตรงหน้าแต่ทำไมมันไม่เห็นง่ายเหมือนเวลาไอ้ปืนมันทำเลยวะ? เลยตัดสินใจเพิ่มแรงบิดอีกนิด อีกนิดและอีกนิด จนในที่สุดฝาก็เปิดออกแต่น้ำมันดันกระฉอกออกมาเพราะไอ้ขวดแสนบอบบางที่ถูกออกแบบมาด้วยความรักษ์โลกดันทำตัวอ่อนแอเกินไปแค่เพราะแรงบีบของผม

...แมร่ง ทำไมไม่ออกแบบมาให้ซัพพอร์ตความอยากเท่ของกูหน่อยวะ

"ทิชชู่ครับ" ไอ้ปืนส่งทิชชู่มาให้(ซึ่งเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ของวัน)ก่อนจะช่วยซับน้ำที่เลอะอยู่ตามข้อมือของผม
 
"เดี๋ยวกูเช็ดเอง" ผมบอกก่อนจะแย่งทิชชู่ในมือมันมาทั้งหมดเพื่อซับรอยน้ำที่ยังเหลืออยู่ก่อนจะรับขวดเกลือแร่ที่มันส่งกลับมาให้แล้วชวนไอ้สองพี่น้องขีปนาวุธตรงหน้าไปหาข้าวเที่ยงกิน





"เคลียร์โต๊ะให้หน่อย" ผมบอกไอ้ปืนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนจะค่อยๆ วางถาดไก่และอะไรต่อมิอะไรที่อยู่ในเมนูลงตรงหน้าก่อนจะจัดการแยกถาดออกมาแล้วเอาไปวางไปที่เคาน์เตอร์กลาง

"ผมไปเอาจานมาให้นะครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนทำท่าจะลุกไปจนผมต้องยกมือห้ามไว้แล้วลุกขึ้นเอง ...ให้มันทำไม่ได้ครับ เสียเชิงชายหมด

"เดี๋ยวกูไปเอาให้" ผมบอกก่อนจะอาสาเดินกลับไปเคาน์เตอร์กลางอีกครั้งก่อนจะหยิบจานสามใบกลับมา

"ช้อนกับส้อม" ไอ้ปืนพูดเกริ่นขึ้นมาก่อนจะมองหน้าผม ผมมองมันงงๆ ก่อนจะนึกได้แล้วเดินกลับไปใหม่จากนั้นก็หยิบช้อนกับส้อมสามคู่กลับมาที่โต๊ะ

"เอ่อ...." ไอ้ปืนส่งเสียงขึ้นมาครั้งจนผมต้องมองไปบนโต๊ะก่อนจะนึกขึ้นได้อย่างเริ่มหงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอีกครั้งเพื่อหยิบมีดกลับมา ...มันจะหลายรอบเกินไปแล้วนะผมว่า

"ซอสครับ" คราวนี้เป็นตาไอ้รถถังที่พูดขึ้นมาบ้าง ผมหันกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอย่างน้ำตาจะไหลก่อนมือของไอ้ปืนจะยื่นมาดึงไว้แล้วทำท่าจะลุกไปเอง

"ไม่เป็นไร กู-ไป-เอา-ให้" ผมบอกมันอย่างเริ่มหมดความอดทนก่อนจะเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์กลางอีกครั้งแล้วหยิบถ้วยพลาสติกเล็กๆ มาสองใบก่อนจะกดซอสมะเขือเทศลงไปแล้วเดินกลับมา ...ไม่เหลืออะไรให้กูหยิบแล้วนะเว้ย!

"พี่กันย์ครับ" เสียงเรียงของไอ้ปืนทำเอาที่เพิ่งกลับมานั่งได้ไม่ถึงนาทีเงยหน้าขึ้นมองอย่างเริ่มโอดครวญก่อนจะถามมันออกไป

"กูลืมอะไรอีก?"

"ซอสพริกครับ" ผมอ้าปากค้าง

"มึงจะกินใช้มั้ย? โอเค เดี๋ยวกูไปเอาให้นะ" ผมบอกกับตัวเองอย่างใจเย็นแล้วลุกขึ้นอีกรอบก่อนคนตรงหน้าจะดึงไว้แล้วยิ้มให้ก่อนจะลุกขึ้นเอง

"ก็พี่กันย์ไปไม่กินซอสมะเขือเทศไม่ใช่เหรอครับ? เดี๋ยวผมไปเอาให้นะ" มันบอกก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆ จนผมต้องฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะอย่างหมดแรง

...ถ้าจะเหนื่อยขนาดนี้ กูไม่เป็นแมร่งละ ฝ่ายรุก ฝ่ายรับอะไรนั่น เซ็งโว้ยย!





[Bpuen's]

"กูขอไปห้องน้ำห้านาที" พี่กันย์บอกก่อนจะฝากโทรศัพท์ไว้แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับไอ้รถถัง ผมเลยไปหาที่นั่งรอใต้ต้นไม้ตรงหน้าห้องน้ำ

ครืดด... ครืด... แรงสั่นจากโทรศัพท์ในมือทำให้ผมต้องยกโทรศัพท์ของพี่กันย์ที่ฝากไว้ขึ้นมาดูก่อนจะเห็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้โทรเข้ามา ...เบอร์ไอ้รถถังนี่หว่า ผมมองอย่างงงๆ ก่อนจะกดรับ

"ว่าไงมึง" ผมกรอกเสียงลงไป ปลายสายเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบกลับมา

(อ้าว ไอ้ปืนเหรอวะ?) เสียงกันย์ถามขึ้นอย่างงงๆ ก่อนจะได้ยินเสียงไอ้รถถังหัวเราะแล้วแซวคนข้างๆ กลับมา

(แก่แล้วฟั่นเฟือนนะพี่)

"ครับ?"

"เปล่าๆ ไม่มีอะไร กูแค่หาโทรศัพท์ไม่เจอ แค่นี้นะ" บอกได้เท่านั้นก็ตัดสายไป ผมได้แต่ก้มมองโทรศัพท์ในมืออย่างขำๆ ก่อนจะสะดุดใจกับอะไรบางอย่างที่ปรากฎขึ้นมาบนหน้าจอ มันเป็นหน้าต่างของแอพพลิเคชั่นสำหรับหาข้อมูลอย่างที่คุ้นเคยกันนั่นแหละครับ เพียงไอ้คำค้นหน้าตรงหน้ามัน…

'รุกกับรับต่างกันอย่างไร?'

"โห จริงจังวะ" ผมพูดกับตัวเองอย่างขำๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปอ่านเนื้อหาที่มีคนคอมเมนต์ต่อไว้อีกยืดยาว ...รุก คือฝ่ายกระทำ เปรียบเสมือนผู้ชาย รับคือฝ่ายถูกกระทำ เปรียบเสมือนผู้หญิง ฝ่ายกระทำ? เหมือนผู้ชาย? ผมเอะใจกับคำนิยามตรงหน้าจนพาลนึกไปถึงการกระทำแปลกๆ ของเจ้าของโทรศัพท์วันนี้อย่างอดไม่ได้

...ที่แท้ก็อยากรุก!

"กลับกัน" เสียงพี่กันย์ที่ดังมาพร้อมกับเจ้าตัวทำให้ผมละสายตาจากโทรศัพท์ก่อนจะกดล็อคแล้วส่งคืนให้ก่อนจะแซวเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้กลับไป

"ลืมเหรอครับว่าฝากผมไว้"

"เออ" พี่กันย์บอกอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเหลือบไปมองไอ้รถถังที่คงจะแซวเรื่องนี้มาตลอดทางแน่ๆ

"เหมือนคุณครูแก่ๆ ที่โรงเรียนผมที่เอาแต่หาแว่นทั้งๆ ที่คาดแว่นไว้บนหัวไม่มีผิด"

"ไอ้น้องเวร!" พี่กันย์ด่าก่อนจะขยี้หัวไอ้น้องชายผมแรงๆ อย่างหมั่นไส้จากนั้นจึงพากันเดินออกไปเพราะต้องไปส่งไอ้รถถังให้ทันขึ้นรถกลับบ้านตอนเย็น

"จะขับเองมั้ยครับ?" ผมถามขึ้นมายิ้มๆ พลางมองเจ้าของรถที่ตอนนี้ดูหมดเรี่ยวแรงมากกว่าปกติอย่างขำๆ ก่อนจะยื่นกระเป๋าสะพายคืนไปให้

"มึงขับเลย กูไม่ขับแมร่งละ" พี่กันย์พูดขึ้นมาก่อนจะล้วงเอากุญแจรถในกระเป๋าออกมาโยนให้แล้วก้าวขึ้นไปนั่งข้างที่นั่งคนขับอย่างเซ็งๆ

"ผมคาดเข็มขัดให้นะครับ" ผมบอกในขณะที่พาตัวเองขึ้นมานั่งประจำที่สารถีเรียบร้อยแล้วพาลนึกไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เจ้าตัวพยายามทำมาตั้งแต่เช้าอย่างอดไม่ได้ จากนั้นจึงค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงสายเข็มขัดของอีกฝ่ายมาล็อคไว้กับที่ล็อคข้างตัวพลางเหลือบไปมองพี่กันย์ที่พยายามจะลอกตามการกระทำของผมอย่างอดยิ้มไม่ได้

“เวลาจะรัดเข็มขัดให้คนอื่น ก็อย่าเผลอรัดของตัวเองซะก่อนล่ะครับ”

"เออ กูจะจำไว้" พี่กันย์ประชดก่อนจะเอนตัวลงกับเบาะแล้วหันหน้าไปมองนอกหน้าต่างอย่างเซ็งๆ





"จอดตรงนี้เลยพี่" ไอ้รถถังร้องบอกก่อนผมจะเทียบรถเข้ากับข้างทาง มันหันมาไหว้พวกผมคนละทีก่อนจะเอ่ยขอบคุณแล้วลงจากรถไป

"กลับดีๆ นะเว้ย" พี่กันย์ลดกระจกลงก่อนจะโบกมือให้จนคนที่ต้องกลับบ้านส่งยิ้มกว้างกลับมา

"ไปเที่ยวที่บ้านผมบ้างนะครับ พี่สะใภ้!"

"บ้านมึงสิ!" พี่กันย์สบถออกมาก่อนจะริบปิดหน้าต่างเมื่อคนเริ่มหันมามองอย่างอายๆ ที่น้องชายผมตะโกนขึ้นมาพร้อมกับระบุสถานะให้เสร็จสรรพ

"น้องมึงนี่มันแมร่ง!" พี่กันย์ยังคงบ่นงุบงิบตลอดเวลาที่ผมขับรถกลับหอจนผมอดที่จะแกล้งต่อไม่ได้

"ไม่อยากเป็นสะใภ้เหรอครับ?"

"เออดิ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย!" พี่กันย์หันมามองหน้าผมเซ็งๆ ก่อนจะล้วงเอาช็อคโกแลตในกล่องออกมากิน

"แต่ก็มีแฟนเป็นผู้ชาย"

"อย่าย้ำ ไอ้ห่านี่!" เจ้าตัวปรายตามามองแรงๆ หนึ่งทีจนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ก่อนจะเลี้ยวเข้าที่จอรถเมื่อมาถึงหอพี่กันย์

"อยากเป็นเขยว่างั้น?"

"ก็ยังดีกว่าเปล่าวะ?" คนอยากเป็นเขยบอกก่อนจะทำหน้ายู่ให้หนึ่งที ผมมองพี่กันย์อย่างขำๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดของเจ้าตัวเพื่อให้คนข้างๆ เอื้อมไปหยิบกระเป๋าสะพายที่อยู่เบาะหลังได้สะดวก

"งั้นถ้าพี่อยากรุกนัก ผมรับให้ก็ได้นะครับ" คำพูดของผมทำเอาเจ้าตัวหันมามองอย่างอึ้งๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างถูกใจ

"ดีมากเด็กน้อย ว่าง่ายๆ โตไวไว" พี่กันย์พยักหน้ากับตัวเองอย่างอารมณ์ดีก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้ ผมมองริมฝีปากคนตรงหน้าที่มีรอยช็อคโกแลตติดอยู่เป็นคราบอย่างขำๆ …โตจนป่านนี้ยังกินเหมือนเด็กๆ ผมคิดก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดคราบบนริมฝีปากให้จนเจ้าตัวชะงักไปก่อนจะหรี่ตามองผม

"ไหนบอกจะรับไง"

"ครับ?" ผมเลิกคิ้วกลับไปอย่างสงสัยโดยที่มือก็ยังไม่ละจากริมฝีปากจากคนตรงหน้า ...ทำไมมันเพลินแบบนี้วะ?

"รุกกูทำไมเนี่ย?" คำถามที่ถูกส่งมาทำให้ผมหลุดขำก่อนจะละสายตาจากริมฝีกปากเป็นตาของคนตรงหน้าแทน

"เปล่านี่ครับ นี่กำลังอ่อยให้พี่รุกอยู่" ผมบอกก่อนเจ้าตัวจะชะงักไป สักพักพี่กันย์จึงค่อยๆ เอื้อมมือมาแล้วแตะลงบนริมฝีปากผมไว้บ้าง

"ไอ้ห่า อย่าจูบนิ้วกูดิวะ"

"ขอโทษครับ มันเผลอ" ผมบอกอย่างขำๆ ก่อนจะมองเจ้าของนิ้วมือที่กำลังสั่นน้อยๆ อย่างรีรอว่าเจ้าตัวจะเอายังไง

"ไม่ไหวว่ะ ใจเต้นเกิน" พี่กันย์บอกก่อนจะผละนิ้วมือออกจากปากผมไปจนผมตัดสินใจได้ว่าจะไม่รอแล้วเหมือนกัน

"ไหนว่ามึงจะระ.." ไม่ทันที่พี่กันย์จะพูดจบประโยคริมฝีปากตรงหน้าก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของผมก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ หลับตาปี๋ ผมมองคนตรงหน้าอย่างขำๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากเม้มขอบปากล่างของพี่กันย์อย่างแกล้งๆ ก่อนจะผละออกมา

…อยากทำมากกว่านี้ แต่ไว้วันหลังแล้วกันครับ

"ไหนบอกจะรับไง เล่นซะกูเสียเชิงชายเลย" พี่กันย์อ้อมแอ้มพูดออกมาก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้จนผมอดที่จะยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้

"นี่ผมก็รอรับอยู่นะ" ผมบอกอย่างๆ ขำก่อนคนตรงหน้าจะหรี่ตามามองในจังหวะนั้นก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสเบาๆ ที่มุมปากก่อนเจ้าตัวจะผละออกแล้วเม้มปากอย่างเขินๆ

"กูรุกได้แค่นี้แหละ สัด!"

"แค่นี้ก็เก่งแล้วครับ" ผมขยี้หัวคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้

"แล้วเวลาอยากเปิดประตูรถให้อีกฝ่าย" พี่กันย์หันมามองหน้าผมงงๆ ที่อยู่ๆ ผมก็พูดขึ้นมาจนผมต้องยิ้มให้ก่อนจะเอื้อมมือทาบไปบนเจ้าตัวแล้วค่อยๆ ไล่มือไปยังประตูอีกฝั่ง

"ลองทำแบบนี้สิครับ ไม่ต้องเหนื่อยเดินอ้อมแถมได้กำไรอีก" ผมบอกในจังหวะที่ซีกหนึ่งของตัวผมทาบทับอยู่บนตัวพี่กันย์ ใบหน้าใกล้กันจนลมหายใจของคนที่สงบไปแล้วเริ่มถี่ขึ้นอีกครั้งจนสัมผัสได้ ผมได้แต่ยิ้มตาหยีก่อนจะเปิดประตูให้อีกฝ่ายแล้วดึงตัวกลับมา

"ไอ้เชี่ยปืน! ไหนบอกจะรับ" พี่กันย์ปรายตามองมาอย่างเซ็งๆ ในขณะที่หน้าก็ไม่ได้ลดความแดงลงก่อนจะลงจากรถไปก่อน

"ก็รับไงครับ" ผมยืนยันก่อนจะยิ้มตาหยีไงแล้วลงจากรถก่อนจะเดินตามเจ้าตัวที่ส่ายหัวอย่างไม่เชื่อไปจนผมได้แต่คิดในใจเพราะถ้าพูดออกไปมีหวังอดเข้าห้องพี่กันย์แหงๆ


‘ก็รับไงครับ …รับหน้าที่เป็นรุก’





ในที่สุด!!! น้องปืนขอรุกค่าา หลายคนคงรู้กันอยู่แล้วล่ะเนอะแต่ประเด็นคือ พี่กันย์ดันไม่ยอมรับจ้า
นิดนึงก็ขอให้พี่ได้รุก คงต้องดูกันต่อไปว่าน้องจะใช้มารยาเล่มไหนกล่อมพี่ให้มารับได้ 55555
ปล.ตอนนี้พี่กันย์พ่นคำสบถมาเยอะหน่อยนะคะขออภัย ก็อะไรๆ มันดันไม่ได้ดั่งใจพี่เลยนี่นา

สำหรับเรื่องทำเล่ม ใจจริงอยากทำมากๆ ค่ะเพราะชอบอ่านอะไรก็ตามในรูปแบบหนังสือมากกว่าออนไลน์
พอมีเรื่องเป็นของตัวเองก็อยากได้มาไว้เป็นเล่มเหมือนกัน ยังไงก็ขอศึกษาก่อนอีกสักระยะนะคะ
ถ้าใครสนใจก็ฝากติดตามด้วยน้าา ได้ความคืบหน้ายังไงไว้จะมาบอกค่ะ

ขอบคุณที่ติดตาม #ก็พี่มันเยอะ นะคะ ^__________^
Zenzaii





หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-12-2016 00:43:18
พี่กันย์น่ารักอ่ะ รังสีรับแรงเหลือเกิน ฮา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-12-2016 01:42:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 28-12-2016 06:19:31
พี่กันย์น่ารักเกิน :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 28-12-2016 07:32:15
555  พี่กันคนเยอะยอมแพ้น้องปืนคนรับหน้าที่รุกเถอะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-12-2016 07:50:50
โถๆๆพี่กันย์คะ แบบนี้ดีแล้วค่ะไม่ต้องเหนื่อยมาก
รับบทเป็นรึก โหน้องปืนมันร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 28-12-2016 09:08:31
ปืน นายแน่มาก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-12-2016 09:25:13
น้องปืนเสียสละนะพี่กันย์ ปืนยอมรับ…รับหน้าที่เป็นรุกให้ด้วย :laugh: :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 28-12-2016 09:39:39
พี่กันต์น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก


 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 28-12-2016 09:44:13
ชอบสุดๆ.  ทำหนังสือเลย. จะอุดหนุน. ขอตอนพิเศษอีกเยอะๆ  :3123:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-12-2016 16:42:44
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: พี่กัลย์ จะเป็นรุก
แล้วก็ เหนื่อยโว้ย ไม่เป็นแล้วรุก รับ
ปืน ชอบเลย "งั้นผมเป็นรับเอง"
"ไหนมึงว่าเป็นรับ..ไง"
‘ก็รับไงครับ …รับหน้าที่เป็นรุก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 28-12-2016 19:53:39
โถๆๆ พี่กันย์ฝันอยู่หรือคับที่จะเป็นรุกน่ะ พี่เกิดมาเพื่อรับนะ รู้ยัง? 5555 ชอบรถถังว่ะไอ้เด็กแสบบบบ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-12-2016 22:23:19
ปืนเป็นรับที่ทำหน้าที่เหมือนรุกก็ได้นะ
ยอม ๆ พี่เขาไปเถอะ เขาอุตส่าห์พยายามขนาดนี้ 55555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 29-12-2016 00:02:46
ความน่ารักของสองคนนี้ โอ้ยยยยย สิบคะแนนนนนน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 29-12-2016 17:04:27
ในที่สุดปืนก็รุกอ่ะ จริงๆก็แอบลุ้นยุ่ว่าพี่กันย์แกจะรุก โธ่พี่ทำน่ารักซะ อินี่หมดหวังเลย
งั้นก็ปล่อยน้องมันรุกไปละกันนะ
แอบเสียใจแทนพี่นิดนึง  :katai1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 30-12-2016 21:32:47
พี่กันย์น่ารักจริงจังนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: Wereena ที่ 30-12-2016 23:37:28
เพิ่งเข้ามาเจอเรื่องนี้ ขอติดตามด้วยคนนะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 31-12-2016 00:22:23
กันย์น่าเอ็นดูจริงๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 31-12-2016 13:03:01
งื๊อออออ~~~ มุ้งมิ้งกันจริงๆ :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 05-01-2017 07:47:46
ชอบอะ รับ รับหน้าที่รุก55555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 05-01-2017 22:03:29
 :o8: :o8: :o8: :o8: พี่กันน่ารักอ่า  น่ารักแบบคนเยอะๆ  ไอน้องปืน แกนี้มันร้ายลึกกกก แต่เจ้ชอบบบบบบ

เราชอบโทนเรื่องออบอุ่นๆแบบนี้ ไปเรื่อยๆนะ

สนับสนุนหนังสือจ้าาาา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // Ch30-...ก็ถ้าพี่จะรุก แล้วผมต้องรับมั้ยครับ? [28.12.16]
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 06-01-2017 03:19:51
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 09-01-2017 00:32:10
31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ

[Gun’s]

'งานมหกรรมสินค้าการเกษตร ครั้งที่ xx'

ผมได้แต่ยืนมองป้ายไวนิลสีเขียวสดใสที่มีรูปไดคัทเป็นพืชผักนานาชนิดตามคอนเซปต์ของงานตาปริบๆ ก่อนจะหันไปมองไอ้คนข้างๆ ที่เป็นคนเอ่ยปากชวนมา

ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนนู้นที่ไปเที่ยวสวนสัตว์ดุสิตพร้อมด้วยน้องชายสุดที่รัก(ของไอ้ปืน)อย่างไอ้รถถัง ผมกับไอ้ปืนก็แทบไม่ได้เจอกันจนอยู่ดีๆ เมื่อสองวันก่อนไอ้เด็กปีหนึ่งคนดีของผมก็ไลน์มาถามตารางชีวิตเรียบร้อยก่อนจะชักชวนให้ 'มาเดทกันที่งานแฟร์'

ในชีวิตผมนี่สัมผัสกับคำว่า 'งานแฟร์' มาก็หลายครั้ง ไปมาก็หลายหน ส่วนใหญ่จะเป็นพวกงานที่เกี่ยวกับบ้านและสวน ของแต่งบ้าน ไม่ก็พวกงานแฟร์มหา'ลัยที่เขาขายพวกของทำมือเก๋ๆ มีดนตรีสด เหล้า สาวๆ หรืออะไรก็ได้ที่มันดูชิคๆ คูลๆ อย่างที่พวกเด็กคณะผมชอบไปกัน แต่ 'งานแฟร์' ในความหมายของเด็กเกษตรอย่างไอ้ปืนนั้นก็เป็นงานแฟร์อย่างที่มันว่านั่นแหละครับผมไม่เถียง แต่เป็น...

เกษตรแฟร์!

คือถ้าเป็นเกษตรแฟร์แบบที่มีกิจกรรมนักศึกษา มีของกิน ของเล่นเหมือนที่จัดที่มหา'ลัยนี่ผมจะไม่ว่าเลย แต่นี่มันคือเกษตรแฟร์แบบที่เต็มไปด้วยการชุมนุมของเหล่าเกษตรกรตัวจริงในระดับประเทศที่ถูกจัดขึ้นที่เมืองทอง แถมไอ้เด็กข้างๆ ผมมันยังมาร่วมงานด้วยโควต้าตัวแทนนักศึกษาของมหา'ลัยอีกด้วย

"ไอ้เชี่ยปืนครับ"

"ครับ"

"กูกลับล่ะ" ผมบอกมันอย่างมึนๆ ด้วยความรู้สึกที่ว่า …กูมาทำอะไรอยู่ตรงนี้? ก่อนจะหมุนตัวไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับทางเข้างานแต่ก็ต้องถูกหยุดความตั้งใจด้วยมือทั้งสองข้างของไอ้คนชวน

"ไม่กลับสิครับ" ไอ้ปืนหันมาทำหน้าคะยั้นคะยอก่อนจะพยายามลากผมไปยังทางเข้าของฮอลล์ขนาดใหญ่ที่มีผู้คนพากันเดินเข้าไปอย่างล้นหลามด้วยการแต่งกายและท่าทางที่บ่งบอกถึงความเป็นเกษตรกรเต็มยศ จนต้องกลับมามองเราทั้งคู่ที่คนหนึ่งแต่งตัวจัดเต็มประหนึ่งจะไปเดินแฟชั่นโชว์ ส่วนอีกคนจัดเต็มเหมือนกันครับ

…ยูนิฟอร์มนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้ามาเชียว

...คือผมจินตนาการไม่ออกเลยครับว่าผมกับมันจะมาเดทกันท่าไหน?

"ถามจริงๆ นะ"

"ครับ"

"ลากกูมาเพื่อ?"

"เดทไงครับ"

"ตลกแล้วครับ คือมึงเป็นตัวแทนมหา’ลัยมาสัมมนาเกษตรอะไรนั่นไม่ใช่เหรอวะ แล้วตรงไหนที่เรียกว่าเดท? ช่วยบอกจุดยืนกูนิดนึง" ผมถามมันอย่างงงๆ พลางมองไอ้คนชวนมาที่ยิ้มจนตาหยีก่อนจะลากผมไปตรงจุดลงทะเบียน

"จุดยืนพี่ก็ที่ข้างๆ ผมนี่แหละครับ เร็วๆ ครับสัมมนาใกล้จะเริ่มแล้ว" ไอ้ปืนบอกก่อนจะลงชื่อในช่องนักศึกษาตัวแทนจากมหา'ลัย ส่วนผมลงชื่อในช่อง 'ผู้ที่สนใจ' ก่อนจะรับบัตรผู้เข้าร่วมสัมมนาจากพนักงานตรงโต๊ะลงทะเบียนมาสองใบ

...ใครบอกกูสนใจ กูไม่ได้สนใจโว้ยยย!






จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า ...มันมาสัมมนา แล้วมันจะลากกูมาเพื่อ? ผมได้แต่คิดอย่างเซ็งๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะหลวมตัวมากับมันแล้ว สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือพยายามฝืนตาไม่ให้ปิดเพราะเกรงใจเหล่าเกษตรกรทั้งหลายที่กำลังตั้งใจฟังการนำเสนอเกี่ยวกับการเกษตรทฤษฎีใหม่อะไรสักอย่างที่ผมฟังเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ครั้นจะฟุบหลับไปเลยก็ออกจะเกินไปเพราะสัมมนาครั้งนี้เป็นสัมมนาที่ไม่มีใครบังคับมา ...ครับ ถ้าไม่มีใครบังครับมา!

"อดทนอีกนิดนะครับ อีกสิบห้านาที"  ผมปรายตามองมันแรงๆ ทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้ก่อนจะพยายามยืดตัวตรงอีกครั้งเพื่อไม่ให้เผลอหลับไปก่อน

"หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามหมายเลขท้ายเอกสารเลยนะครับ ขอบคุณมากครับ" เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วห้องประชุมพร้อมๆ กับคำพูดสุดท้ายที่จบลงไปทำให้ผมสะดุ้งสุดตัวก่อนจะร่วมปรบมือไปด้วยอีกคน ...ในที่สุดก็จะได้กลับไปนอนแล้วสินะครับผม

"เดี๋ยวกูช่วยถือ" ผมหันไปรวบเอกสารตรงหน้าที่ได้รับแจกในห้องสัมมนามาไว้อย่างรีบๆ แล้วจัดการลากไอ้ปืนให้เดินออกมาด้วยกันก่อนที่คนจะแห่กันออกมาหมดจนเดินลำบาก

"พี่กันย์จะไปไหนครับ?" ไอ้ปืนถามขึ้นพร้อมกับแรงดึงจนผมชะงักก่อนจะหันไปมองมันอย่างงงๆ

"อ้าว ก็กลับกันไง เสร็จแล้วไม่ใช่เหรอวะ?"

"แต่เรายังไม่ได้เดทกันเลยนะครับ" ไอ้ปืนบอกจนผมต้องมองไปตามทิศทางที่มันชี้ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดงงานที่ผู้คนมากมายต่างหลั่งไหลกันไปอออยู่ตรงส่วนทางเข้าชั้นในซึ่งนอกจากจะเป็นคนจากห้องสัมมนาที่เริ่มทยอยออกมาแล้วก็ยังมีคนจากภายนอกที่ยังเดินตามกันเข้ามาไม่ขาดสาย

"นี่เรา ...ต้องเดินฝ่าดงคนเหล่านี้ไปเหรอวะ?" ผมหันไปถามไอ้คนข้างๆ อย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะเบะปากเหมือนจะร้องไห้จนไอ้ปืนหลุดขำออกมา

"ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละครับ"

"กูทำอะไรผิดไปรึเปล่า?"

"ครับ?"

"ทำไมต้องลงโทษกูถึงขนาดนี้?" ไอ้ปืนหัวเราะออกมาก่อนจะดันหลังผมให้เดินเข้าไปตามกระแสของมวลมหาชน




"นั่นต้นอะไรวะ?" ผมหันไปถามไอ้คนข้างๆ ในขณะที่เรากำลังเดินตามกระแสไปเรื่อยๆ ก่อนจะหลงเข้ามาในโซนจัดจำหน่ายกล้าไม้ชนิดต่างๆ จากทั่วประเทศ ซึ่งมีบูธแบ่งออกเป็นล็อคๆ ขนาดเท่าๆ กัน แต่ละล็อคมีต้นกล้าที่บรรจุไว้ในถุงดำวางเรียงรายกันตลอดแนวจนแทบแยกไม่ออกว่าต้นอะไรเป็นต้นอะไรต้องคอยอาศัยอ่านป้ายกับดูรูปประกอบที่มีบ้างไม่มีบ้างไปเรื่อยๆ

"เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกครับ"

"เอ้า! เรียนเกษตรจริงเปล่าวะ?"

"ผมเรียน SOIL ครับ ไม่ได้เรียนพืชสวน" มันตอบก่อนจะยักคิ้วให้อย่างกวนๆ จนผมต้องหันไปมองอย่างระอา แต่จะว่าไป..ผมก็ไม่ค่อยรู้จักต้นไม้เหมือนกันนั่นแหละครับ ทั้งๆ ที่ความจริงผมต้องใช้ในงานออกแบบมากกว่ามันอีกมั้งนั่น

"นั่นต้นอะไรวะ?"

"อ่านป้ายสิครับ"

"เออ กูลืม" ผมบอกมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเพ่งมองป้ายอีกรอบ ...ก็คนมันติดนิสัยนี่หว่า

"นั่นต้น..." ยังไม่ทันจะพูดจบก็นึกขึ้นได้ว่าเผลอถามมันไปอีกรอบก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ เผื่อมันจะมองแรงใส่จะได้ชิงมองก่อน

"อ้าว หายไปไหนวะ?" ผมสบถกับตัวเองอย่างงงๆ เมื่อหันไปแล้วกลับไปไม่เจอคนที่คิดว่าเดินอยู่ข้างๆ เลยตัดสินใจไหลตามคนไปเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดรอตรงที่ว่างข้างล็อคๆ หนึ่งแล้วล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา

"เวร ไม่มีสัญญาณอีก" และความน่าเบื่ออย่างหนึ่งของการอยู่ในพื้นที่คนเยอะคือการแย่งสัญญาณกันนี่แหละครับ เฮ้อ..

"เฮ้ย!" ผมอุทานขึ้นอย่างตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีมือๆ หนึ่งกระชากเข้าที่แขนจนต้องหันไปมอง

"ตกใจเหรอครับ?"

"ไม่เลย! กูให้คนแปลกหน้าจับมือถือแขนได้สบายมาก กูไม่ตกใจเลย" ผมประชด แต่ก็หายใจหายคอโล่งเมื่อเห็นว่าเป็นใครก่อนจะมองไอ้ปืนที่ยังเอาแต่ยิ้มไม่ยอมหุบ

"ยิ้มอะไรวะ?"

"คนเยอะนะครับ"

"อือ แล้วไงวะ?" ผมถามมันอย่างงงๆ ในขณะที่สองเท้าก็ก้าวตามมันไปเรื่อยๆ เมื่อกลับไปอยู่ในกระแสมวลมหาชนอีกครั้ง

"สัญญาณก็ไม่มีเนอะ"

"ก็เออ" ผมรับคำต่อไปอย่างไม่เข้าใจก่อนคนข้างๆ จะก้มลงมากระซิบที่ข้างหู

"ขอจับมือได้มั้ยครับ?"

"อ่ะแหน่ะ" ผมหรี่ตามองไอ้คนที่ยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ข้างๆ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงฝ่ามือที่ลูบตั้งแต่ต้นแขนลงมาก่อนจะสอดเข้าระหว่างนิ้วของผมพอดี

"ไอ้เชี่ยปืน! หยุดเลย"

"จับไม่ได้เหรอครับ?" มันถามหน้าตาเหรอหราก่อนทำท่าจะดึงมือออกจนผมต้องเป็นฝ่ายกระชับมือของมันเอาไว้แทน

"จับได้แต่ไม่ต้องลูบขนาดนั้นได้เปล่าวะ ไอ้ห่า! ทำเหมือนยิ่งกว่าจะขอจับมือ" ผมบอกก่อนเจ้าตัวจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจจนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูกแต่ก็ยอมให้มันลากต่อไปแต่โดยดี

...ทำมาเป็นขอจับมือ จูบกูไปกี่รอบไม่เห็นเคยขอถึงครั้งแรกผมจะเป็นฝ่ายเริ่มเองก็เถอะ โว๊ะ!




"ขอถามอะไรหน่อยได้เปล่าวะ?" ผมเอ่ยถามไอ้คนที่ยังเอาแต่ลากผมต่อไปโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดก่อนจะมองผ่านๆ ไปยังส่วนที่ยังไม่ได้เดินอย่างอดที่จะท้อแท้ไม่ได้

งานเกษตรฯ ครั้งนี้เป็นงานใหญ่ประจำปีที่รวมองค์ความรู้และความน่าสนใจทางการเกษตรเอาไว้ทั้งหมด ไม่ต้องบอกว่าพื้นที่จัดงานจะใหญ่และคนเยอะขนาดไหน จริงๆ ถ้าเป็นคนที่สนใจทางด้านการเกษตรผมว่างานนี้ก็เป็นงานที่น่าสนใจมากๆ ที่พลาดไม่ได้งานหนึ่ง แต่สำหรับคนอย่างผมที่ไม่ได้สนใจทางนี้เป็นพิเศษนั้นก็อดไม่ได้ที่จะห่อเหี่ยวลงไปหลังจากเดินมาพักใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากงอแงมากเพราะนานทีปีหนไอ้คนชวนข้างๆ มันจะออกปากชวนก่อนสักที

"ครับ?"

"เราจะเดินกันจนหมดนี่เลยใช่เปล่าวะ?" แต่สุดท้ายผมก็ถามออกไปอย่างอดไม่ได้

"เบื่อเหรอครับ?" ไอ้ปืนยิ้มบางๆ ออกมาก่อนจะถามกลับ เล่นเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ แฮะ

"เปล่า! กูแค่...ถามเฉยๆ" ผมอ้อมแอ้มตอบกลับไปทั้งๆ ที่ในใจอยากกลับไปนอนเต็มแก่ ไอ้ปืนหลุดขำออกมาก่อนจะลากไปยังโซนแปลงสาธิตที่คนน้อยกว่าแล้วยกมือขึ้นมาโบกเรียกลมให้เบาๆ ก่อนจะเดินเลาะตามแปลงนั้นแปลงนี้ไปเรื่อย จริงๆ คนทำก็เก่งเหมือนกันนะครับ แม้จะเป็นงานในฮอลล์แต่ก็ทำออกมาซะเหมือนอยู่ในสวนในไร่จริงๆ ได้แบบนี้

"มาเล่นเกมกันมั้ยครับ?"

"หืม? เกมอะไรวะ?" ผมหันไปมองมันอย่างงงๆ ที่อยู่ดีๆ ก็ชวนเล่นเกม ...คือมึงไม่ดูงานแล้วใช่ป่ะ?

"เกมทางเลือก ผมจะให้พี่เลือกระหว่างของสองอย่าง เริ่มเลยนะครับ!"

"ห๊ะ? อ่ะ..อื้อ" ถึงจะงงๆ ว่ามันมาอารมณ์ไหนของมันแต่ผมก็ได้ยินเสียงตัวเองตอบตกลงไปซะอย่างนั้น

"ทะเลหรือภูเขา?"

"เดี๋ยวนะ เอาคำตอบสั้นหรือยาว" ผมถามก่อนจะเห็นหน้ามันอึ้งๆ ไปสักพักก่อนจะหลุดขำออกมา

"คนปกติที่เขาไม่คิด 'เยอะๆ' ก็จะตอบแค่สิ่งที่เลือกรึเปล่าครับ?" มันถามกลับมาก่อนจะพยายามกลั้นหัวเราะจนผมต้องปรายตามองมันอย่างเซ็งๆ ...ถ้าจะถามอย่างนั้นด่ากูเยอะเลยก็ได้นะสัด!

"มันก็แล้วแต่กรณีป่ะวะ?" ผมถามมันกลับไปเสียงขุ่นจนไอ้คนถามต้องพยักหน้าอย่างยอมแพ้

"ยาวๆ ก็ได้ครับ แต่ไม่ยาวมากได้มั้ย?"

"เออ" ผมกระแทกเสียงลงไปอย่างหมั่นไส้ก่อนจะทวนคำถามของมันอีกรอบ ...ทะเลหรือภูเขา?

"ทะเล! แต่ต้องไปกับคนเยอะๆ นะถ้าคนน้อยๆ กูเลือกภูเขา"

"รีสอร์ทหรือโฮมสเตย์?"

"รีสอร์ท! จริงๆ แล้วแต่อารมณ์ว่ะ บางที่โฮมสเตย์แมร่งได้ฟีลกว่า"

"อยู่เฉยๆ หรือทำกิจกรรม?"

"อยู่เฉยๆ! แต่ถ้ากิจกรรมน่าสนใจกูก็ทำ"

"คนเยอะๆ หรือคนน้อยๆ"

"คนเยอะๆ! แต่ต้องเป็นคนรู้จัก ถ้าไม่รู้จักกูไม่เอา"

"เมืองหรือชนบท"

"เมือง! กูชอบแค่สาธารณูปโภคอ่ะ ถ้าไม่สนเรื่องนั้นก็ชอบชนบทมากกว่า"

"อ่อนกว่าหรือแก่กว่า?"

"ห๊ะ?เอ่อ จริงๆ ชอบเท่ากันแต่...อ่อนกว่าก็ได้" ผมว่า...คำถามนี้เริ่มแปลกๆ แล้วนะครับ

"เด็กถาปัตย์หรือเด็กเกษตร?" ...ผมไม่ได้รู้สึกเองแล้วแหละ

"ถาปัตย์ดิ" ไอ้ปืนทำหน้ายุ่งนิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ลดละ

"เด็กบริหารหรือเด็กเกษตร?"

"เออ! เด็กเกษตร" ...และแมร่งก็ยิ้มออกมา

"ปืนหรือปภาวินครับ?" ...กูว่าแล้วว่ามึงต้องมามุกนี้

"ไม่ทั้งคู่" ผมตอบกลับอย่างมั่นใจจนไอ้ปืนทำหน้ายุ่ง

"เอาจริงดิครับ?"

"เออ ก็กูชอบมึงมากกว่า ชื่อ 'มึง' ได้ป่ะล่ะ?" ผมตอบก่อนจะยักคิ้วให้กะให้มันอึ้งเต็มที่ เอ่อ ...สุดท้ายมันก็อึ้งนะแถมยิ้มออกมาจนตาหยี แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกร้อนๆ ที่หน้าขึ้นมาแทนมันวะ แมร่งเอ้ย ...กูไม่น่าเล่นมุกฆ่าตัวเองเลย ให้ตาย!

"คราวนี้ให้กูถามมึงบ้างได้ป่ะ?"

"ไม่ได้ครับ"

"สัด!" ...เกมโอเวอร์! ผมมองมันอย่างเซ็งๆ ก่อนจะละสายตาจากไอ้ปืนที่ยังเอาแต่ลากผมไปเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนจากโซนแปลงสาธิตมาเป็นโซนเกษตรกรรมและการท่องเที่ยวแทน ชื่อมันก็บอกไปเรียบร้อยแล้วครับว่าไอ้โซนนี้คนมันต้องเยอะขึ้นมากกว่าเดิมแน่ๆ และทันที่ที่ต้องเอาตัวเบียดเข้าไป มือของไอ้ปืนที่จากเดินมันสอดอยู่ระหว่างนิ้วของผมก็เลื่อนมาแปะตรงตำแหน่งเอวผมโดยอัตโนมัติ ...ตอนแรกกะจะแซว แต่ไม่เอาดีกว่าครับเดี๋ยวเข้าตัวอีก

"ขอโอบหน่อยนะครับ"

"ไอ้ห่า อย่าทัก!" ผมคิดไม่ทันเสร็จก็ต้องสบถออกมาเพราะหน้าพาลจะร้อนขึ้นมาอีกรอบก่อนที่ไอ้ปืนจะส่งยิ้มกวนๆ มาให้พร้อมกับกระชับวงแขนของมันให้แน่ขึ้นไปอีก ...แต่ผมไม่เดือดร้อนหรอกครับ อยากทำอะไรก็ทำอย่าทักขึ้นมาเป็นพอ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ มันเขิน!

ว่าแต่ว่า...

"มึงครับ!"

"ครับพี่?"

"คือ...เราจะมาเดินอย่างเดียวเลยใช่เปล่าวะ?"

"เอ่อครับ ก็...เดินเที่ยว" ไอ้ปืนชะงักกับคำถามไปนิดนึงก่อนจะตอบออกมา

"ตลกละ ตั้งแต่มาทั้งมึงทั้งกูก็เอาแต่เดินนี่ยังไม่ได้ดูอะไรเลยนะ เดินขนาดนี้กลับไปเดินรอบสนามฟุตบอลที่มอมั้ยมึง?" ผมถามมันอย่างงงๆ ก่อนจะฉุดมันเข้าตรงช่องว่างระหว่างบูธๆ หนึ่งแล้วหันมามองจนไอ้คนที่บอกว่าจะเดินเที่ยวได้แต่ส่งยิ้มแหยๆ มาให้

"อีกนิดเดียวเองครับ นะครับ" มันทำเสียงสองก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ มาให้จนผมเริ่มหมั่นไส้

"แสดงว่ามีเป้าหมายแต่แรก?" ผมเลิกคิ้วถาม

"ก็..ใช่ครับ"

"ไอ้ห่า แล้วจะพากูเดินวนเพื่อ?" ผมฟาดเข้าไปที่ไหล่มันทีนึงอย่างหมั่นไส้ก่อนจะกอดอกแล้วมองหน้าประหนึ่งว่า ...มึงจะเอายังไงกับกู?

"ใจเย็นนะคนดี เดี๋ยวเสร็จแล้วพี่จะพากลับไปนอน"

"คนดีพ่อง แล้วมึงพี่ใครวะ!" มันหัวเราะออกมาอย่างขำๆ ก่อนจะรีบลากผมไปตามทิศทางที่มันต้องการทันที




 
"การท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม" ผมอ่านตามหัวข้อตัวโตๆ ที่พาดอยู่เหนือโปรชัวร์ที่ไอ้ปืนยื่นมาให้ทันทีที่มันลากผมมายืนอยู่หน้าบูธๆ หนึ่งที่มีชื่อว่า 'บ้านไร่อุ่นไอรัก'

"อะไรวะ?" ผมถามมันอย่างสงสัยก่อนจะพลิกดูหน้าถัดไปอย่างสนใจเพราะในโปรชัวร์มีทั้งรายละเอียดและแนวคิดต่างๆ ของสถานที่ที่เหมือนจะเป็นไร่ที่เปิดให้คนที่สนใจเข้าไปท่องเที่ยวได้ ...เหมือนโปรเจคที่ทำไปเทอมที่แล้วเลยแฮะ

"สวนเกษตรอินทรีย์ครับ แต่เจ้าของเปิดเป็นโฮมสเตย์ให้เข้าพักได้ มีกิจกรรมให้ทำด้วย เปิดเป็นช่วงๆ ครับปีหนึ่งแค่ไม่กี่เดือน คนน้อย บรรยากาศดีด้วยครับ" หืม? โฮมสเตย์ กิจกรรม คนน้อย ชนบท? ผมทวนคีย์เวิร์ดที่หลุดมาจากปากคนที่พยายามเสนอตรงหน้าก่อนจะคิดไปถึงเกมทางเลือกที่มันถามก่อนหน้านี้จนเกือบจะหลุดยิ้มออกมา …แผนเดทที่แท้จริงคือไอ้นี่สินะ

"เมื่อกี้คือหลอกถาม? แล้วถ้ากูบอกว่าไม่ชอบล่ะ" ผมเลิกคิ้วถามอย่างสงสัยก่อนมันจะมองตอบมา

"ก็จะพาไปดูที่งานข้างๆ แทนครับ" มันบอกก่อนจะชี้ไปยังป้ายบอกทางของฮอลล์ข้างๆ ที่ติดไว้ว่า 'งานท่องเที่ยวไทย' ...คือยังไงก็จะลากกูไปให้ได้สินะ

"แล้วตกลง พี่กันย์ชอบรึเปล่าครับ?" ผมแทบจะหลุดขำกับท่าทีของไอ้คนตรงหน้าที่ตัดสินใจถามขึ้นมาเพราะผมไม่พูดอะไรต่อ ก็ตอนแรกมันดูนำเสนอด้วยความมั่นใจมากแต่อยู่ดีๆ ก็ดูลังเลขึ้นมาซะอย่างนั้น

"ก็ดี" ผมยักไหล่ให้ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะก้มมองเอกสารในมือต่อไปในขณะเดียวกันก็ลอบสังเกตปฏิกิริยาของไอ้ปืนไปด้วย ...ตลกชะมัด

"แล้ว ...อยากไปมั้ยครับ?"

"ไปนี่น่ะเหรอ กับใครวะ?"

"กับผม"

"สองคน?"

"ครับ แค่สองคน"

"อืมมมม..." ผมแกล้วลากเสียงจนไอ้ปืนแทบนั่งไม่ติดจนต้องหลุดหัวเราะออกมาก่อนจะยิ้มให้เมื่อวันถามคำถามเหมือนตอนเล่นเกมออกมา

"ไป หรือไม่ไปครับ?"

"ไม่ไปได้ป่ะ?" ผมแกล้งแหย่มันก่อนไอ้คนตรงหน้าจะหรี่ตามมอง

"ไม่ได้ครับ!" ...ถ้าชัดเจนขนาดนี้ ทีหลังอย่าให้กูเลือกเลยครับ

"ไปก็ไป" ผมตอบก่อนจะยื่นมือให้คนที่ยืนรออยู่ก่อนแล้วฉุดขึ้นไปก่อนจะเดินกลับไปที่บูธอีกครั้ง และเพิ่งจะทราบตอนนั้นนี่เองว่าสำหรับรอบปลายปีซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของปีนี้จะเปิดรับแค่เฉพาะคนที่สมัครในงานนี้เท่านั้น แถมคนที่เข้าสัมมนาจะได้รับสิทธิ์จองก่อนคนอื่นอีกด้วยครับ ...เหยดด ดูเป็นของแรร์ขึ้นมาทันที อย่างนี้ต้องขอบคุณไอ้ปืนที่มันอุตส่าห์ลากผมมาใช่มั้ยครับเนี่ย

"รบกวนกรอกรายละเอียดในนี้นะคะ" พนักงานที่แต่งตัวด้วยเสื้อโปโลที่สกรีนชื่อ 'บ้านไรอุ่นไอรัก' ยิ้มรับก่อนจะยื่นเอกสารขนาดเอสี่มาให้พร้อมกับสำเนาบัตรประชาชนของผมที่มีบริการรับสำเนาให้เสร็จสรรพ

"จะไปช่วงไหนวะ?" ผมถามมันอย่างนึกขึ้นได้

"หลังสอบมิดเทอมครับก่อนปีใหม่" ผมเหล่ไปมองมันก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ ให้กับจอมวางแผนที่เหมือนมัดมือชกมาเรียบร้อยแล้วก่อนจะก้มลงกรอกเอกสารในมือ

"บอกแค่ว่าจะชวนไปเที่ยวก็จบแล้วเปล่าวะ? ติดเชื้อเยอะไปจากกูรึไง?" ผมแซวออกไปอย่างอดไม่ได้ แค่มันบอกผมมาตรงๆ ก็จบแล้ว พอสัมมนาเสร็จจะได้ตรงดิ่งมาจองให้สิ้นเรื่อง ไม่เห็นต้องพาเดินวนซะรอบงานจนผมเกือบจะถอดใจหนีกลับบ้านไปแล้วเชียว

"เดี๋ยวมันจะข้ามขั้นไปไงครับ" ไอ้ปืนบอกก่อนจะยื่นมือมาจับเอกสารที่ผมกรอกเสร็จแล้วไว้ ...มึงก็จะรีบไปไหนกูยังไม่ได้เซ็นสำเนาบัตรประชาชนกูเลย โว๊ะ!

"ข้ามขั้นอะไรวะ?" ผมถามมันอย่างงงๆ ในขณะที่เอาปากกาลากปาดหน้าตัวเองก่อนจะเขียนรับรองสำเนากำกับ

"ก็..." มันลากเสียงก่อนผมจะเซ็นชื่อกำกับปิดท้ายพอดีกับที่มันดึงไปถือไว้ในมือก่อนจะยิ้มออกมา

"จับมือก็แล้ว โอบเอวก็แล้ว จูบ...ก็หลายรอบแล้ว"

"หืม?"

"ไปเที่ยวด้วยกันครั้งนี้..." มันตัดบทก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหูจนสัมผัสได้ถึงลงที่เป่ารดลงมา

"ขอมากกว่าทั้งหมดที่ว่ามานี้ ...ได้มั้ยครับ?" ผมเงยหน้าไปมองคนที่ยิ้มกว้างให้พลางคิดตามกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มันยื่นเอกสารพร้อมเงินมัดจำไปให้พนักงานเรียบร้อยแล้ว ...พูดขนาดนี้นี่ ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงคิดว่าตัวเองโดนหลอกไปฟันแน่ๆ

...หืม!?

"เดี๋ยวนะ!"

"หึ! ไม่ทันแล้วครับผม"

...ฉิบหาย! ถึงผมจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าผมจะปลอดภัย

...ใช่มั้ยครับ!?


"ไอ้เชี่ยปืน! ปีใหม่กูไม่ว่างแล้วโว้ยย กูจะกลับบ้าน กูคิดถึงแม่กู!!"







สวัสดีปีใหม่ค่า!!! ขอโทษที่หายไปนาน TT ทั้งเที่ยว ทั้งติ่ง ทั้งติดนิยาย นี่ยังทำใจไม่ได้ที่จะต้องทำงานวันพรุ่งนี้ กระซิกๆ
เสียใจมากที่เขียนไม่ทันเวลาในเรื่อง ในเรื่องยังไม่ปีใหม่เลยโถ่วว อีกอย่างเรื่องนี้ฟีลกู๊ดใสๆ นะคะ ได้โปรดอย่าคาดหวังอะไรกับ NC เลยค่ะ 555 อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้ว ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามกันมาเรื่อยๆ หลงทางบ้าง ออกทะเลไปบ้าง งงๆ ไปบ้างก็ช่วยถูไถกันไป จะพยายามปรับปรุงหลายๆ อย่างให้ดีขึ้นในอนาคตค่ะ
นักอ่านที่มาคอมเมนต์ให้เห็นหน้าค่าตากันเราจำได้ค่ะ ขอบคุณมากจริงๆ ส่วนนักอ่านที่ไม่ได้คอมเมนต์ก็ขอบคุณมากเหมือนกันค่ะ แค่มาอ่านเราดีใจแล้วค่า ^__________^

เจอกันตอนหน้านะคะ
Zenzaii
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-01-2017 00:44:12
ปืนมันเยอะทันที่พี่กันย์แล้ว

ว่าแต่....ที่ปืนขอพี่จะให้ไหมอ้ะพี่กันย์
ไหน ๆ ก็เผลอขนาดนี้แล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-01-2017 01:08:42
เด็กมันร้ายนะพี่กันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 09-01-2017 01:12:36
นึกว่าไปซะแล้วเรื่องนี้ มารอทุกวันเลยเข้าบอร์ดปุ๊บหาก่อนเลยอย่างแรก ดีใจคะที่กลับมา ตอนหน้าคนเขียนบอกว่าอย่าคาดหวังกะ nc ถ้าคนเขียนไม่ถนัดตัดไปที่โคมไฟก้อได้คะ เพราะเราอยากให้เค้าได้กันอะคะ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-01-2017 07:04:34
ปืนหลอกพาเดินจะได้คิดไม่ทัน เสร็จปืนแน่ๆงานนี้

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-01-2017 07:09:21
"ขอมากกว่าทั้งหมดที่ว่ามานี้ ...ได้มั้ยครับ?"
"ไอ้เชี่ยปืน! ปีใหม่กูไม่ว่างแล้วโว้ยย กูจะกลับบ้าน กูคิดถึงแม่กู!!"
ฮากร๊ากกกก เลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 09-01-2017 07:20:52
โดนปืนหลอกพาไปฟันแน่พี่กันย์คนเยอะ 5555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-01-2017 09:35:48
 :L1:   ขอบคุณค่ะ  สวัสดีปีใหม่
นี่นั่งลุ้น NC ทุกตอน 5555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 09-01-2017 09:37:02
เขินตัวแตกตายยย~ :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-01-2017 10:00:35
 :laugh: :laugh: :laugh:

ปืนนี่มันปืนจริง ๆ



สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 09-01-2017 19:31:42
 :z2: :z2: พี่กันแม่งงงง น่ารักวะ น่ารักแบบคนเยอะๆๆๆ   

พี่ตาคะ(เสียงสอง) เด็กสมัยนี้มันร้ายมากคะพี่ น้องตามไม่ทัน  (พี่กันนี้เรียกได้ว่า โดดนปล่อยทิ้ง มองไม่เห็นฝุ่นเลยคะ
)


ขอฉากซัมตังเถ้อออออออ เอาแบบน่ารักๆก็ได้ ไม่ต้องเลือดกระจายหรอก สงสสารพี่กัน  ฮ่าๆๆๆ



สนับสนุน ไห้ทำหนังสือคะ  ฮุฮุ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 09-01-2017 19:33:19
นี้คิดอยากไห้พี่กันรับ ไม่รู้ทำไม น่ารักในความเยอะ และหมันใส่ ในความเยอะของพี่กัน พอกัน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-01-2017 20:32:31
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-01-2017 13:22:10
หลวมตัวไปแล้วพี่กันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 10-01-2017 14:16:40
โธ่  ครบทุกขั้นตอนแล้ว   พี่กันย์ก็หลับหูหลับตาให้ ๆ ไปเถอะ   เก็บไว้ทำไม  เสียดายของ   :z1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 31-...ก็พี่เผลอ แล้วเจอกันครับ [09.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 10-01-2017 14:48:16
ปืนไอ้คนเจ้าเล่ห์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 14-01-2017 09:08:28
32-...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?

"สวัสดีตอนเช้าครับผม" ผมเอ่ยทักทันทีที่พี่กันย์ขับรถเข้ามาจอดหน้าหอผมก่อนเจ้าตัวจะเปิดประตูลงมา ผมยิ้มให้ก่อนจะมองคนตรงหน้าที่วันนี้ก็ยังเหมือนกับทุกๆ วันที่ผ่านมา เสื้อยืดแขนยาวที่เจ้าตัวรั้งขึ้นมาที่ข้อดูสบายๆ กับกางเกงขาสั้น รองเท้าผ้าใบ พร้อมด้วย Accessories ทั้งสี่ และทุกอย่างก็ยังเป็นสีดำ ...ไม่เคยเปลี่ยน

หลังจากผ่านพ้นช่วงสอบกลางภาค เด็กมหา'ลัยอย่างพวกเราก็ได้รับการชดเชยจากการพากเพียรอ่านหนังสือและทุ่มเททำโปรเจคด้วยวันหยุดยาวจนถึงปีหน้า ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่จริงๆ มันก็แค่วันหยุดยาวกว่าปกตินิดหน่อยเนื่องในโอกาสอย่างวันส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่ ซึ่งผมกับพี่กันย์ตกลงกันว่าจะไปเที่ยวด้วยกันตามแพ็คเกจที่ได้ของไว้ตอนงานเกษตรฯ สองสามวันก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านไปใช้เวลากับครอบครัวในวันสิ้นปี

"อือ หวัดดี" พี่กันย์ทักกลับก่อนจะถอดแว่นกันแดดแล้วส่งยิ้มมาให้ ผมยื่นมองหน้าพี่กันย์ด้วยความรู้สึกฟูๆ ในอกอย่างบอกไม่ถูกจนคนถูกมองเริ่มทำหน้าแปลกๆ จนผมต้องหลุดขำออกมา

"มองอะไรนักหนาวะ?" พี่กันย์ถามอย่างงงๆ ก่อนจะดึงกระเป๋าในมือผมไปใส่ไว้ในท้ายรถจากนั้นจึงเข้าประจำตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับ ผมได้แต่ยิ้มขำๆ ก่อนจะก่อนจะเดินอ้อมไปอีกด้านแต่ก็อดแซวคนข้างตัวกลับไปอย่างอดไม่ได้

"มองแฟนตัวเอง ผิดด้วยเหรอครับ?" คำถามของผมทำเอาพี่กันย์ที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดเพลงถึงกับชะงักก่อนจะปรายตามามองก่อนจะยังคิ้วให้อย่างกวนๆ และคว้าแว่นกันแดดขึ้นมาใส่

"ไม่ผิด แต่ไม่ให้มองโว้ย!"

"งั้น... ผมหาอย่างอื่นมองก็ได้ครับ" ผมบอกก่อนจะละสายตาจากพี่กันย์มามองถนนตรงหน้าแล้วขับรถออกไป

"ทำดี" พี่กันย์พยักหน้าอย่างพอใจก่อนจะไล่เพลงในเพลย์ลิสต์ต่อไป ผมเหลือบมองคนข้างตัวก่อนจะหันไปมองรอบๆ เพื่อหาสิ่งเรียกร้องความสนใจ

"ผู้หญิงคนนั้น" ผมเอ่ยทักทันทีที่สายตาไปหยุดลงตรงผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงทางม้าลายข้างถนนก่อนจะชะลอรถเพื่อให้เธอคนนั้นเดินข้ามไป

"หืม?" พี่กันย์เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอก่อนจะมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้าก่อนจะหันมามองผมอย่างงงๆ

"ผมยาวดีนะครับ สีผมก็สวย" ผมแกล้งพูดสิ่งที่ตรงข้ามในใจออกไปก่อนจะลอบสังเกตปฏิกิริยาจากคนข้างๆ จริงๆ แล้วผมชอบผมสีธรรมชาติมากกว่าอย่างคนข้างๆ เป็นต้น

"อ่าฮะ" พี่กันย์รับคำหลังจากมองผู้หญิงผมยาวย้อมสีบลอนด์ตั้งแต่โคนจรดปลายก่อนจะก้มลงไปสนใจหน้าจอตรงหน้าต่อ

"แถมปากก็ดู...อวบอิ่ม" จังหวะนี้มีคนเม้มปากตัวเองครับก่อนจะเหลือบขึ้นมามองผู้หญิงตรงหน้าอีกรอบแต่มือก็ยังกดเลื่อนเพลงอยู่

"..."

"โอ๊ะ!" พี่กันย์หยุดมือที่เลื่อนเพลงก่อนจะเหลือบมามองทางผมด้วยหางตา

"ส่วนเว้าส่วนโค้งนี่ก็ช่าง..."

"สัด! พอเลยมึง" พี่กันย์ไม่ด่าเปล่าแต่ยังยกมือขึ้นมาปิดตาอย่างทันท่วงทีก่อนจะยื่นมือมาบีบแตรรถตรงหน้าผมจนผู้หญิงคนนั้นหันมามองก่อนจะรีบเดินเร็วๆ ข้ามไป ...เอ่อ ผมต้องขอโทษที่เอาคุณมาพูดเสียๆ หายๆ นะครับ ผมแค่เด็กที่อยากเรียกร้องความสนใจเท่านั้นเอง

"อันนี้ก็มองไม่ได้เหรอครับ?" ผมหันกลับมาสนใจคนข้างๆ ที่ละมือออกไปแล้วก่อนจะกลั้นขำเมื่อเห็นเจ้าตัวเลิกสนใจเพลงแล้วหันมาทำหน้าเซ็งใส่ผมแทน

"ต้องให้ตอบด้วยเหรอ?" พี่กันย์เลิกคิ้วถามจนผมหลุดยิ้มออกมา ผมส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเลื่อนเพลงที่เจ้าของรถชอบฟังบ่อยๆ ให้แล้วเคลื่อนรถออกไป

"ไม่ต้องก็ได้ครับ"





"เดี๋ยวเราต้องแวะซื้อของเข้าไปด้วยนะครับ ที่พักมันมีแค่พวกอุปกรณ์ที่จำเป็นแต่ไม่มีพวกอาหารสด" ผมบอกรายเละเอียดที่คิดว่าเพื่อนร่วมทริปเพียงคนเดียวในครั้งนี้คงไม่ได้สนใจมานักก่อนจะเปิดแมพในโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูตำแหน่งซูเปอร์มาเก็ตสาขาใหญ่ที่ปักหมุดไว้เอาไว้เพราะเป็นทางผ่านก่อนจะเหลือบมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้หันมองบรรยากาศข้างนอกสลับกับมองหน้าผมมาสักพักเหมือนมีอะไรในใจแต่ไม่พูดไม่จา

"พี่กันย์ครับ" ผมเรียกอีกครั้งแต่เจ้าตัวก็ยังไม่สนใจจนผมเริ่มหมั่นไส้เลยแกล้งเอื้อมมือไปบีบแก้มคนข้างตัวเบาๆ จนเจ้าตัวสะดุ้งก่อนจะหันมามองอย่างเคืองๆ

"เจ็บ!"

"ขอโทษครับผม" เลยเปลี่ยนเป็นใช้หลังมือไล้เบาๆ ที่ข้างแก้มเป็นการไถ่โทษแทน

"ก็ช่วยสนใจผมหน่อยสิครับ" ผมลากเสียงอย่างอ้อนๆ จนพี่กันย์ได้แต่ปรายตามามองอย่างเอือมๆ แต่สุดท้ายก็พลิกตัวมามองผมอย่างที่ขออยู่ดี

"มีอะไรก็ว่ามา"

"ผมบอกว่า เดี๋ยวเราต้องแวะซื้อของสดกับพวกเครื่องดื่มติดเข้าไปด้วยครับเพราะที่นั่นไม่มี"

"อือ ก็แวะดิ" พี่กันย์ตอบก่อนจะเลิกคิ้วเป็นคำถามว่า ...คือมึงต้องการคำตอบแค่นี้?

"พี่กันย์ครับ"

"อะไรอีกล่ะ?"

"มีอะไรจะพูดกับผมรึเปล่าครับ?" ผมถามขึ้นอย่างอดสงสัยไม่ได้

"หึ ไม่มี" พี่กันย์รีบส่ายหัวก่อนจะหันกลับไปมองวิวข้างนอกแต่ก็ยังปรายตามามองผมเป็นพักๆ เหมือนเดิม

"พี่กันย์ครับ"

"เรียกกูจังเว้ยเฮ้ย!" พี่กันย์สบถจนเริ่มทำหน้ายุ่งแต่ก็ยังไม่ยอมหันกลับมา ...โอเคครับ การเรียกร้องความสนใจที่ดีที่สุดคือการเรียกชื่อนั่นเอง

"พี่กันย์ครับ"

"สัด! กวนตีนป่ะเนี่ย" พี่กันย์พลิกตัวกลับมาก่อนจะทำหน้าเซ็งเต็มที่

"มีอะไรก็พูดครับพี่?" ผมถามอีกครั้งก่อนจะทำเนียนไปจับมาคนข้างๆ มาไว้บนตักตัวเองเพื่อเป็นตัวประกันซะเลย

"ไม่มี ปล่อยมือกูด้วย!"

"ไม่ปล่อยครับ บอกผมก่อนนะ"

"ก็ไม่มีอะไร จะให้บอกว่าอะไรเล่า โว๊ะ!" พี่กันย์ตอบก่อนจะพยายามดึงมือกลับแต่ก็ไม่ได้ออกแรงมากนักเพราะผมขับรถอยู่

"มีแน่ๆ"

"ไม่มีเว้ย!"

"ไม่บอกผมจูบนะ" ผมบอกก่อนจะยกมือของตัวเองข้างที่มีมือของพี่กันย์อยู่ในมือขึ้นมาก่อนจะแกล้งกดริมฝีปากของตัวเองลงบนหลังมือพี่กันย์จนเจ้าตัวตีป้าบลงมาที่ไหล่ผมทันที

"ปล่อยมือกู!"

"บอกหน่อยนะครับ" ผมย้ำอีกครั้งแต่ยังไม่ยอมปล่อยก่อนจะยกขึ้นมาแกล้งจูบย้ำๆ แต่เจ้าตัวก็ยังเฉยจนผมเริ่มหมั่นเขี้ยวเลยเปลี่ยนจากริมฝีปากเป็นฟันแทน

"โอ๊ย! อย่ากัดดิวะ"

"ถ้าไม่บอกผมจะกัดให้เจ็บเลย"

"หึ" ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่สบถออกมาก่อนจะส่ายหัวอย่างเอือมๆ ก่อนจะสบถออกมาเสียงหลงเมื่อผมยังเล่นไม่เลิก

"โอ๊ยย! ไอ้ปืน ปล่อยกูนะโว้ย!"

"จะบอกไม่บอกครับ"

"ไม่เว้ย โอ้ยๆ เออ บอกแล้วๆ" ผมเลยยอมลดมือของคนข้างๆ ลงมาจับไว้เหมือนเดิมก่อนเจ้าตัวส่งตาดุๆ มาให้เลยได้แต่ยิ้มให้กลับไป

"ว่าไงครับ?"

"กูแค่สงสัย ก็...ที่มึงพูดนั่นแหละ" พี่กันย์บอกเสียงอ้อมแอ้มก่อนจะพยักพเยิดหน้ามาทางผมจนผมได้แต่เลิกคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ

"ครับ?"

"ก็ที่บอกว่า... จะทำมากกว่านี้อ่ะ" ผมนั่งคิดตามก่อนจะร้องอ๋อในใจเมื่อนึกไปถึงงานเกษตรฯ และคำพูดตอนนั้นก่อนจะพยายามกลั้นยิ้มแล้วหันไปลุ้นว่าคนข้างๆ จะพูดอะไรต่อ

"..."

"มัน... จริงเปล่าวะ?"

"จริงครับ" ผมตอบทันควันอย่างที่ไม่มีช่องให้เจ้าตัวได้หาคำปฏิเสธ จากการเรียนรู้มาตลอดที่รู้จักกัน อะไรที่รวดเร็ว ฉับไว และเด็ดขาด ...พี่กันย์คิดไม่ทันแน่นอนครับ

"เชี่ย กูอยากกลับบ้าน" พี่กันย์ครางออกมาก่อนจะหันมามองหน้าพลางเบะปากร้องไห้จนผมรู้สึกขำปนเอ็นดูขึ้นมาไม่ได้

"แต่ถ้าพี่ยังพร้อม ผมให้เวลาเตรียมใจก็ได้ครับ" ผมบอกก่อนจะหลุดยิ้มออกมาเมื่อคนข้างๆ มีสีหน้าผ่อนคลายขึ้น

"กี่ปี?" ผมแทบจะเหยียบเบรคทันทีที่ได้ยินคำถามก่อนจะหันไปมองหน้าพี่กันย์อย่างทึ่งๆ

"กี่นาทีก็พอมั้งครับ?"

"สัด!"

"เอาเป็นว่าวันนี่ทั้งวันผมจะปล่อยพี่ไปก่อนแล้วกันครับ" ผมเสนอทางเลือกที่ผมจะไม่เสียเปรียบไปให้ก่อนคนได้รับข้อเสนอจะทำหน้าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันกลับมาถาม

"แน่ใจ?"

"ครับ"

"โอเค" พี่กันย์พยักหน้ารับอย่างพอใจก่อนจะยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ...นี่คือที่เงียบๆ นิ่งๆ หันมองซ้ายทีขวาทีมาตั้งแต่เช้าคือเรื่องนี้? ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่ทำให้บรรยากาศในรถเปลี่ยนไปอย่างนึกขำก่อนจะแกล้งแหย่เจ้าตัวอย่างอดไม่ได้

"เพราะงั้นถ้าไม่ต้องคิดมากแล้ว ก็ช่วยทำตัวน่ารักๆ กับผมหน่อยน้า"

"หึ" พี่กันย์หันมามองอย่างกวนๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากให้

"ได้มั้ยล่ะครับ?"

"ก็ถ้าไม่ได้... มึงจะได้จับมือกูนานขนาดนี้เปล่าวะ?" ผมเลิกคิ้วอย่างงงๆ ก่อนจะก้มมองตามสายตาเจ้าตัวที่มองมายังมือของตัวเองที่ผมยังจับเอาไว้ไม่ปล่อยก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาทั้งคู่ ผมเหลือบมองคนข้างๆ ที่ตอนนี้หันกลับไปสนใจวิวข้างทางมากกว่าผมเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือรอยยิ้มบนใบหน้า

"รักนะครับ"

"อือ" พี่กันย์ครางรับแต่ไม่ให้หันกลับมา ผมหันไปมองถนนตรงหน้าด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มันมากกว่าเดิมก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงบีบเบาๆ จากมือของใครบางคนที่อยู่ในมือผมพร้อมกับคำพูดเบาๆ ที่ทำให้รถคันนี้มีความรู้สึกหวานๆ ไปตลอดทาง

"เหมือนกัน"





"เนื้อไม่ติดมัน 2 แพ็คพอรึเปล่าครับ? หรือจะเอาเบคอนเพิ่มด้วย" ผมถามพี่กันย์ในระหว่างที่เราเดินอยู่ตรงซูเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ระหว่างทางเพื่อหาของสดและพวกเครื่องดื่มตามแผนที่ได้วางไว้แล้วหลังจากนี้จะมุ่งหน้าไปยังจังหวัดระนองแบบไม่แวะพักอีก

"พอแล้ว"

"งั้นไปดูพวกผักมั้ยครับ จริงๆ ที่ไร่ก็น่าจะมีผักนะครับ แต่ดูเพิ่มก็ได้เผื่อ.."

"หมายถึงของกูอ่ะพอแล้ว เอาของมึงบ้าง" คำพูดนั้นทำเอาผมชะงักก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ พี่กันย์เหล่มามองนิดนึงก่อนจะหันกลับไปสนใจชั้นวางเนื้อสัตว์ตรงหน้าจนผมอดยิ้มขึ้นมากับตัวเองไม่ได้

"ผมกินอะไรก็ได้ครับ" ผมตอบยิ้มๆ พลางมองท่าทางคนตรงหน้าที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าชั้นวางเนื้อก่อนจะหันมาถามแถมยังพยายามช่วยผมเค้นหาความชอบที่ 'พิเศษ' ของตัวผมเองออกมาขนานใหญ่

"ไม่อะไรก็ได้ดิ มันต้องมีสักอย่างแหละที่ชอบมากกว่าอย่างอื่นอ่ะ"

"จริงๆ ก็มีนะครับ" ผมคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบออกมาอดยิ้มไปไม่ได้กับท่าทางของคนตรงหน้าที่ดูจะตื่นเต้นมากกว่าทุกครั้ง ...ผมว่าวันนี้ ผมชักจะยิ้มมากเกินไปแล้วนะเนี่ย

"อื้อ ว่ามาเลย" พี่กันย์บอกก่อนยื่นเนื้อหลายๆ อย่างที่คาดว่าผมจะชอบมาให้เลือกตรงหน้าเกือบสิบถาด

"คนนี้ไงครับ ผมชอบมากที่สุดเลย" ผมตอบก่อนจะเลื่อนนิ้วชี้มาหยุดตรงหน้าพี่กันย์แล้วแตะลงไปบนปลายจมูกอย่างล้อๆ เมื่อคนตรงหน้าเริ่มเม้มปากอย่างเขินๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วมองมาอย่างเซ็งๆ แทน

"เอาของที่มีไว้กินสิครับมึง"

"อ้าว แล้วคนนี้กินไม่ได้เหรอครับ โอ้ย!" แซวได้ไม่ทันขาดนิ้วชี้ที่บังอาจไปจิ้มปลายจมูกของคนตรงหน้าก็โดนงับไปเข้าไปเต็มๆ จนชักกลับแทบไม่ทัน

"กูไม่ถามมึงละ กินของกูไปแทนแล้วกัน โว๊ะ!" เป็นอันว่าประเด็นในการพยายามหาของกินของผมเป็นอันตกไปด้วยประการนี้นี่แหละครับ อาเมน...





[Gun's]

"พี่กันย์ครับ"

"ทำไมวันนี้เรียกบ่อยจังวะ เก็บค่าเรียกดีมั้ยเนี่ย?" ผมหันไปมองไอ้ปืนที่วันนี้ดูเหมือนจะคึกผิดปกติอย่างขำๆ ก่อนจะแซวมันขึ้นมาในระหว่างที่ต่อแถวเพื่อจ่ายตังค์

"เราควรซื้อไอ้นั่นป่ะครับ?" ไอ้ปืนถามพลางพยักพเยิดหน้าไปทางอะไรสักอย่างแถวๆ แคชเชียร์

"อะไรวะ?"

"ไอ้นั่นอ่ะ" มันย้ำก่อนจะพยายามส่งสัญญาณให้ผมหันไปมองทางนั้นอีก ...แล้วกูจะรู้กับมึงมั้ยล่ะครับ โว๊ะ!

"อะไรของมึง?"

"ไอ้เนี่ย!" ไอ้ปืนล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของมันออกมาก่อนจะพิมพ์อะไรบางอย่างในหน้าโน้ตแล้วยื่นมาให้ผมพร้อมกับหน้าของมันที่ขึ้นสีแดงจางๆ จนผมต้องก้มลงอ่าน

'ถุงยาง'

"ไอ้!..." ยังไม่ทันทันได้ด่า แต่แค่หันไปเห็นหน้าไอ้เด็กปีหนึ่งของผมที่ชวนซื้ออุปกรณ์ผู้ใหญ่แต่ตัวเองกลับอายเองขึ้นมาซะอย่างนั้น ก็ทำเอาจากผมที่ทำตัวไม่ถูกกลายเป็นขำมันแทนซะได้ โถ...

"เขินขนาดนี้ กล้าเดินไปหยิบเหรอวะ?" ผมแซวมันอย่างขำๆ พลางพยักพเยิดหน้าไปยังทิศทางตามที่มันว่าก่อนจะหยิบของจากรถเข็นขึ้นมาวางเมื่อถึงคิวจ่ายตังค์

"กล้าสิครับ แค่นี้เอง" มันบอกก่อนทำท่าจะเดินไปหยิบจริงๆ จนผมต้องล็อคคอมันอย่างทันท่วงที

"ใจเย็นครับมึง แล้วไหนบอกวันนี้กูรอดไง" ไอ้ปืนชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมนิดนึงก่อนจะยิ้มออกมา ...กูล่ะเกลียดไอ้รอยยิ้มแบบนี้ของมึงจริงๆ ให้ตาย!

"เราไม่ได้มากันแค่วันเดียวนี่ครับ" มันบอกก่อนพยายามจะเอาหน้ามาคลอเคลียแถวๆ ไหล่เหมือนเด็กน้อยจะอ้อนเอาอะไรบางอย่างพาลเอาผมหน้าร้อนขึ้นมาดื้อๆ เมื่อดันเผลอไปคิดถึงเหตุการณ์ต่อจากนั้นเสียได้

"เอาจริงอ่ะ" ผมถามอย่างไม่มันใจก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้คนข้างๆ ที่เอาแต่ยิ้มจนตาหยีตามแบบฉบับของมันแต่สายตามันนี่โคตรไม่น่าไว้วางใจแบบสุดๆ

"เอาครับ" มันยิ้มอย่างมั่นใจก่อนจะเผลอกัดขอบปากตัวเองจนผมได้แต่มองด้วยความรู้สึกเสียวหลังแปลกๆ ...นี่มึง 'เอา' เดียวกับกูป่ะเนี่ย?

"สรุปคือ..." มันทอดเสียงก่อนจะเลิกคิ้วถามอย่างลองเชิง

"เออ" ผมรับคำมันก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"..."

"ไปหยิบมา"

"เย้!" ...เย้พ่อง! แล้วมึงจะร้องขึ้นมาให้คนมองเพื่อ? ผมคิดพลางพยายามซ่อนใบหน้าร้อนๆ จากพนักงานแคชเชียร์ตรงหน้าที่มองตามไอ้ปืนไปอย่างงๆ อีกคนก่อนจะแอบยิ้มกับตัวเองในระหว่างที่กำลังคิดตังค์อยู่

"อันนี้ด้วยครับ" ไอ้ปืนพูดขึ้นหลังจากเดินกลับมาพร้อมด้วยกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ในมือก่อนจะยื่นให้พนักงานสาวตรงหน้าคิดเงินเป็นชิ้นสุดท้ายทำเอาผมทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

"ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยครับ?" คำถามของไอ้ปืนเรียกให้ทั้งผมและพนักงานสาวหันไปมองก่อนมันจะยื่นขวดทรงสูงของบางอย่างส่งให้พนักงาน

"คะ?"

"ปกติเขาใช้อันนี้ด้วยใช่มั้ยครับ?" ...ไอ้ห่า คือมึงยื่นขวดเจลหล่อลื่นให้ผู้หญิง แล้วถามเขาว่าต้องใช้มั้ยเนี่ยนะ?

"เอ่อ แล้วแต่ค่ะ" ...จริงๆ เขาคงอยากบอกว่า 'เรื่องของมึง ไอ้สัด!' มากกว่า

"มันจะทำให้ง่ายขึ้นใช่มั้ยครับ เอ่อ...สำหรับครั้งแรก"

"คะ? ค่ะ" พนักงานสาวทำหน้างงๆ ก่อนจะมองผมทีไอ้ปืนที่ก่อนจะหลุดขำออกมาจนต้องพยายามปรับสีหน้าแล้วตอบรับ

"โอเคครับ งั้นเอาอันนี้ด้วย" ...ไอ้ปืนครับ มึงทิ้งความอายทีมีในตอนแรกไปไหนหมดเนี่ย? ผมคิดอย่างปลงๆ พลางพยายามใจจดใจจ่อกับการจัดเรียงถุงตรงหน้าเพื่อหนีจากโลกแห่งความจริงอันโหดร้ายที่สร้างด้วยไอ้ปืน

"ค่ะ เอ่อ ตอนนี้มีโปรโมชั่นซื้อสองแถมหนึ่งค่ะ สำหรับ เอ่อ ชิ้นนี้ จะรับเพิ่มอีกชิ้นมั้ยคะ? จะได้เป็นสามกล่องไปเลย" พนักงานสาวถามขึ้นก่อนจะยกกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ขึ้นมาประกอบการถาม ...คือถามเฉยๆ ไม่ได้งี้?

"รับครับ"

"เชี่ย! มึงก็ตอบไวไป" ผมสบถทันทีที่เจ้าตัวรีบหันกลับไปทางชั้นวางข้างเคาน์เตอร์ทันที

"เอ่อ ต้องเหมือนกันใช่มั้ยครับ?" ไอ้ปืนไม่สนใจคำพูดผมเลยสักนิดก่อนจะหันไปถามพนักงานพลางชูกล่องที่เหมือนกันให้ดู ประหนึ่งพนักงานนี่เป็นเพื่อนแมร่ง ...เข้าใจแล้วครับว่ามึงไม่อาย แต่คือกูยังอายอยู่ไง เห็นใจความเปราะบางของหน้าและหัวใจกูด้วยครับ สัด!

"ใช่ค่ะ กล่องนี้เป็นกลิ่นและรสช็อคโกแลต อีกกล่องรวมถึงกล่องที่แถมก็ต้องเป็นช็อคโกแลตเหมือนกันค่ะ" ...เดี๋ยวนะ คือกลิ่นนี่ยังพอเข้าใจ แต่รสมันคืออะไรวะ? คือกูต้องกินมันเหรอ หรือยังไง?

"ไอ้เชี่ยปืน! ไม่เอา!"

"ไม่เอาของแถมเหรอครับ?"

"ไม่เอาช็อคโกแลตโว้ย!" จากพนักงานที่พยายามทำหน้าเฉยๆ เริ่มกลายเป็นกลั้นขำอย่างจริงจังจนผมเริ่มทำหน้าไม่ถูกหลังจากรู้ตัวว่าเพิ่งตะโกนอะไรออกไป

"งั้นลองรับเป็นรสผลไม้แทนมั้ยคะ? คุณลูกค้าอาจจะชอบ" พนักงานสาวหันมาถามก่อนจะยิ้มให้แล้วแล้วชะเง้อไปยังชั้นวางก่อนจะแนะนำรสอื่นๆ ให้ไอ้เด็กปีหนึ่งของผมแทนจนผมได้แต่ฟุบหน้ากับรถเข็นอย่างอายๆ


'จะแอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม กูก็ไม่เอาทั้งนั้นแหละโว้ยยย!'





หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 14-01-2017 09:41:54
5555 ตลกอ่ะสองคนนี้
ปืนก็นะทำไรนึกถึงหน้าพี่เค้ามั่งกะได้ เขินจะละลายแล้วมั้ง
แต่ว่าซื้อแล้วแถมขนาดนี้มีจัดหนักแน่ใช่มะ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 14-01-2017 09:44:15
ฮากันต์มาก :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-01-2017 10:31:49
 :pigha2: :laugh: :m20: :jul3: ทำไมเป็นการซื้อถุงยางที่ขำหนักมาก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 14-01-2017 10:55:51
สงสารพี่กันย์ 55555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 14-01-2017 11:26:03
สตรอว์เบอร์รี่ก็มีนะ ^^
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-01-2017 12:11:16
สงสารพี่กันย์คนหน้าบาง ฮา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 14-01-2017 12:16:33
น่ารักกันจังเลย
ทั้งขี้แกล้ง ขี้เขิน
ชอบจัง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-01-2017 12:20:17
 :impress2:  จะรสอะไรก็ขอให้ได้ใช้เร็วๆนะ เอ๊ะหรือจะสดๆไปแทน
พี่กันย์น้องดีสจด้วยนะที่ได้แฟนดีรู้จักเลือกซื้อของ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 14-01-2017 12:24:41
ปกติพี่กันย์ชอบกินช็อคโกแลตนี่นา.  น่าจะชอบกลิ่นและรสช็อคโกแลตนะ :hao6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 14-01-2017 12:38:03
คู่นี้น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-01-2017 13:37:34
ดูจากที่ซื้อ  :z1: :pighaun: :jul1: แน่ๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-01-2017 22:47:29
ไม่เอาชอคโกแลต 5555555555555555

พี่กันย์แพ้ทางปืนหนักมาก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 15-01-2017 05:41:19
แค่ซื้อุปกรณ์ยังขนาดนี้แล้วตอนลงมือจริงจะขนาดไหนกันนะ  อั๊ยยยยยย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 15-01-2017 09:02:06
จะน่ารักกันเกินไปแล้วนะคู่นี้
ทั้งพี่กันต์น้องปืน

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: minkey ที่ 15-01-2017 13:54:44
น่าร๊ากกกกกกกกกก
 :mew3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 15-01-2017 20:21:05
พี่กันย์น่ารัก  เด้กนี้มันร้ายยยย แต่ชอบบมากกกก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 16-01-2017 04:33:34
 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-01-2017 10:40:00
งี้ก็ได้หรอปืน ถามกับพนักงานเอางี้อะ  โอ๊ย!~ น่าร๊ากกกกกก~(?) :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 17-01-2017 13:06:51
 :-[ แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าเป็ดน้อย ที่ 21-01-2017 23:17:34
ชอบหนักมากเรื่องนี้อ่าาาา // รอพี่กันต์โดนน้องกินนนนนนน อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//chapter32 -...ก็พี่ต้องเลือก ผมหรือผลไม้ดีครับ?[14.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 25-01-2017 23:48:39
พี่กันย์น่าสงสารจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 29-01-2017 17:40:24
33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย

หลังจากสลับกันทำหน้าที่สารถีมาสองสามรอบ ผมก็พาตัวเองและพี่กันย์มาเหยียบจังหวัดระนองได้ในที่สุดโดยอาศัยตัวช่วยอย่างกูเกิ้ลแมพที่แม้จะพาเราไปยังเส้นทางแปลกๆ หลายครั้งก็ตาม

วิวสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากทางหลวงแปดเลน กลายเป็นถนนสี่เลนของชุมชนเมืองของตัวอำเภอหลักก่อนจะเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อเข้าสู่อำเภอเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักที่จองไว้ จากตึกรามบ้านช่องสองข้างทางกลายเป็นสวนยางพาราสลับกับบ้านหลังเล็กๆ ที่แทรกอยู่ในสวนเป็นระยะๆ ทำให้ผมเริ่มผ่อนน้ำหนักที่แตะคันเร่งเพื่อทำเวลามาตลอดทางลงอย่างผ่อนคลาย

“วันหลังนั่งเครื่องมาเหอะ เหนื่อยฉิบหาย” พี่กันย์บ่นพลางเอี้ยวตัวบิดซ้ายทีขวาทีเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ดูจะเมื่อยล้าเพราะนี่ก็เข้าไปเกือบจะชั่วโมงที่เก้าแล้วที่ที่เดินทางสลับกับแวะปั๊มพักไม่กี่นาทีจนผมไม่ได้ที่จะสงสารก่อนจะเอื้อมกำปั้นไปช่วยทุบเบาๆ เพื่อเอาใจ
 
“นานทีปีหนเองครับ” ผมยิ้มพลางพยายามพยักหน้าเพื่อคะยั้นคะยอให้อีกคนเออออไปด้วยแต่ดันได้รับสายตาคาดโทษกลับมาแทน

“เออ กูคงจะปล่อยให้มึงลากมาทำอะไรแบบนี้บ่อยๆ อยู่หรอกเนอะ หึ!” พี่กันย์ย่นจมูกใส่ก่อนจะหันไปมองวิวนอกหน้าต่าง ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอดที่จะยิ้มกับตัวเองไม่ได้ …ดีใจที่พี่กันย์ยอมตามใจแล้วมาเที่ยวด้วยกันทั้งที่ไม่ใช่สไตล์อย่างที่เจ้าตัวชอบพูดบ่อยๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ยังไงก็ไม่มีทางแน่นอน คนอย่างพี่กันย์ไม่ได้ติดหรูแต่ก็ชอบใช่ชีวิตแบบสะดวกสบายมากกว่าจะต้องมาทนลำบากถ้าไม่จำเป็น อย่างการไปค่ายอาสาพี่กันย์บอกว่านั่นคือกิจกรรมพิเศษ

…ผมนี่รักความพิเศษของคำว่า ‘แฟน’ ขึ้นมาเลยครับ

“แต่มันก็ดีใช่มั้ยล่ะครับ?” ผมถามยิ้มๆ เมื่อเห็นคนข้างตัวเริ่มตื่นตาตื่นใจไปกับวิวของภูเขาลูกเล็กลูกน้อยที่มีพืชพรรณเขตร้อนชื้นขึ้นให้เขียวไปหมดสลับกับพื้นที่เกษตรกรรมที่มีลำธารเล็กๆ ขนานไปกับถนนอยู่เป็นช่วงๆ อย่างอดไม่ได้ คงดูเป็นภาพแปลกตาสำหรับเด็กในเมืองอย่างพี่กันย์อยู่ไม่น้อยเพราะเห็นเจ้าตัวควักโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมากดถ่ายไว้ทันที

“ก็ดี” พี่กันย์ส่งเสียงรับก่อนจะปรายตามามองผมที่ส่งยิ้มล้อๆ ไปให้คนที่เพิ่งบ่นไม่ค่อยอยากจะมาอยู่เมื่อครู่ก่อนจะแซวขึ้นมาอย่างไม่ได้เมื่อนึกถึงสถานที่ที่พี่กันย์จะชวนไปหากให้เจ้าตัวเป็นคนเลือกเหมือนเช่นทุกครั้ง

“ดีกว่าสยามรึเปล่าครับ?” …และเจ้าตัวก็หันขวับมามองอย่างที่คิดไม่มีผิด

“สยามคือที่สุดเว้ย!” พี่กันย์กอดอกก่อนจะตอบอย่างมั่นใจจนผมต้องหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

“ดีขนาดนั้นเชียว?” ผมแกล้งย่นจมูกอย่างไม่อยากเชื่อก่อนจะได้รับคำตอบเป็นแรงบีบแรงๆ ที่จมูกกลับมาแทน

“เออ ขนาดนั้นแหละ”

“แล้วผมกับสยามล่ะครับ?”

“ห๊ะ?” พี่กันย์ทำหน้างงๆ ก่อนจะหันมามองจนผมต้องถามใหม่อีกรอบ

“ถ้าต้องเลือกระหว่างผมกับสยาม พี่จะเลือกอะไร?”

“สยาม” พี่กันย์ตอบหน้าตายก่อนจะหันมามองผมอย่างลองเชิง

“ก็ตอบไวไปครับ”

“ต้องคิดด้วยเหรอ ไม่น่าถามนะ” พี่กันย์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะปรายตามามองผมเป็นระยะๆ จนผมเริ่มหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ

“ผมให้โอกาสเลือกใหม่” ผมบอกก่อนจะเหล่สายตาไปมองพี่กันย์

“ช่วยคิดก่อนตอบสักนิดเถอะครับ เอาใจผมหน่อยนะ” พี่กันย์หัวเราะออกมาก่อนจะเอื้อมมือมาผลักหัวผมเบาๆ แล้วส่ายหน้าให้ความช่างตื้อที่ยังถามไม่เลิก

“ก็สยามอยู่ดีอ่ะ” พี่กันย์บอกพลางส่งสายตามาประมาณว่าช่วยไม่ได้จนผมต้องย่นจมูกอีกครั้งอย่างเซ็งๆ

“น้อยใจนะครับเนี่ย” ผมบอกก่อนจะหันไปเบะปากให้อย่างงอนๆ ก่อนพี่กันย์จะหัวเราะขึ้นมาอีกรอบก่อนจะหันไปมองนอกหน้าต่างแทน  …เพิ่งเข้าใจวันนี้แหละครับว่าสวัสดิการแฟนมันดี แต่ก็ยังไม่ดีเท่าสยาม ผมจะไม่ไปเดินสยามอีกเลยคอยดู!

“ก็ถ้าเลือกมึง กูก็จะไม่ได้ไปสยามใช่ป่ะ?” คำพูดของพี่กันที่ทิ้งช่วงไปนานจนผมเกือบลืมคำถามก่อนหน้าพูดขึ้นจนผมต้องหันไปมองอย่างงงๆ

“ครับ?”

“แต่ถ้ากูเลือกสยาม กูก็จะมีมึงไปเป็นเพื่อนไง”

“หืมมม?” ผมเผลอลากเสียงออกมาอย่างประหลาดใจหลังจากกลั่นกรองประโยคของพี่กันย์และประมวลผลออกมาได้ว่า มันดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ชวนเขินมากๆ สำหรับคนอย่างพี่กันย์ก่อนจะเหลือบไปมองคนพูดที่มีพัฒนาการจากการเม้มปากเวลาเขินเป็นกัดริมฝีปากตัวเองแทน …คงเขินขั้นสุด

“แล้วจะไปไม่ไป?”

“ไปไหนครับ?” ผมถามไปอย่างไม่ทันได้คิดตามคำถามเพราะยังมึนกับประโยคเมื่อครู่อยู่

“สยามไง อย่าให้พูดซ้ำได้เปล่าวะ โว๊ะ!”

“ไปสิครับ” ผมตอบกลับพลางมองคนที่ทำท่าว่าจะสนใจโทรศัพท์ในมือมากกว่าผมแต่ดันทิ้งตัวมาพิงกับไหล่ผมอย่างอ้อนๆ ซะอย่างนั้น

“จะไปด้วยทุกวันเลย”





“กูขอร้องไห้ได้เปล่าวะ?” พี่กันย์พูดขึ้นทันทีที่เราทั้งสองคนลงจากรถพลางมองภาพแปลงผักหลากหลายชนิดตรงหน้าบวกกับฉากหลังที่เป็นดงต้นหมากและภูเขาที่อยู่ไม่ไกล …อากาศโคตรดี แต่คนข้างๆ ผมนี่โคตรงอแง
 
“ร้องไห้เพราะชอบมาก?” ผมแกล้งต่อมุกพลางส่งขวดน้ำหวานที่หยิบออกมาจากลังโฟมที่ใช้แช่พวกเครื่องดื่มและอาหารสดให้

“กูเหนื่อยมากจนจะร้องไห้ต่างหากโว้ย ไอ้เชี่ย! ไกลสัดอ่ะ ไกลโคตรๆ” พี่กันย์บ่นออกมาอย่างระบายอารมณ์ก่อนจะหลับตาแล้วทิ้งตัวไปพิงกับรถ ผมส่ายหัวอย่างขำๆ อย่างอดเอ็นดูไม่ได้ก่อนจะเหลือบไปเห็นผู้หญิงท่าทางมีอายุคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพร้อมกับตะกร้าไม้ไผ่สานในมือที่เต็มไปด้วยผักสดหลากหลายชนิด

“สวัสดีครับ ผมขอสักใบนะครับคุณป้า" ผมบอกก่อนจะเด็ดเอาโหระพามากิ่งหนึ่งทันทีที่คุณป้าพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตก่อนจะเอาไปปัดๆ แถวริมฝีกปากของคนที่หลับตาอยู่จนเจ้าตัวลืมตาขึ้นก่อนจะมองว่าเป็นอะไรแล้วอ้าปากงับเข้าไปอัตโนมัติอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ บ่อยขนาดที่ตอนนี้ในกระถางผักสวนครัวตรงระเบียงห้องผมแทบไม่เหลือสีเขียวของผักอยู่เลยสักใบจนอยากจะถามว่า …พี่เป็นคนหรือเป็นหนอนครับ?

“ป้าครับผมลืมถาม มันต้องล้างมั้ยครับเนี่ย?” ผมหันกลับไปถามป้าอย่างนึกขึ้นได้ก่อนคนที่เพิ่งกลืนใบโหระพาลงคอไปจะไอพร้อมมองมาอย่างคาดโทษจนผมต้องกลั้นยิ้ม

“ไอ้เชี่ยปืน!”

“ผมล้อเล่นน่ะครับ ผมอ่านมาแล้ว เขาบอกที่นี่ปลูกผักเองแถมยังปลอดสารพิษอีกด้วย”

“เออ แล้วไป”

“ว่าแต่… ป้าเป็นคนของที่นี่รึเปล่าครับเนี่ย?” และทันทีที่ถามคำถามนี้ออกไปพี่กันย์ก็ตรงเข้ามากระชากคอผมพร้อมกับเขย่าๆ จนผมต้องยกมือยอมแพ้แล้วหัวเราะออกมาพร้อมกับคำตอบของป้าที่เข้ามาช่วยได้ทันเวลาพอดี

“ไม่ต้องห่วงนะลูก สะอาดปลอดภัยแน่นอนจ้ะ” คุณป้าบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ส่วนพี่กันย์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะยกมือไว้พร้อมกล่าวสวัสดีอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อรู้ว่าคุณป้าเป็นเจ้าของ ‘บ้านไร่ไออุ่นรัก’ ที่พวกเราจะมาพักกันนั่นเอง

“เดี๋ยวไปรอพี่เขาข้างในนะลูก พี่เขาบอกป้าไว้แล้วแหละว่าพวกลูกจะมา” คุณป้าบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มก่อนจะยอมปล่อยตะกร้าผักให้ผมช่วยถือแล้วเดินนำเข้าไปข้างในส่วนต้อนรับที่ดูเหมือนจะเป็นคาเฟ่ต์เล็กๆ ที่ตัวอาคารทำจากอิฐมอญก่อเปลือยผสมกับโครงสร้างจากไม้ไผ่ที่นำมาขัดต่อๆ กันเข้ากับบรรยากาศบ้านไร่สมชื่อจริงๆ

รอไม่นาน ‘พี่เขา’ ที่คุณป้าว่าก็เดินออกมาต้อนรับ ‘พี่บอล’ เป็นลูกชายของคุณป้าที่ทำหน้าที่ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งแต่ให้ข้อมูลการเดินทาง จุดแวะพัก ตลอดจนเรื่องจิปาถะอีกมากมายที่ผมโทรมาถามตลอดการเดินทาง ผมชอบที่พักแบบโฮมสเตย์มากกว่ารีสอร์ทก็ตรงจุดนี้ ถ้าไปพวกรีสอร์ททุกอย่างจะถูกจัดไว้เตรียมพร้อมอย่างมืออาชีพซึ่งคนข้างๆ ผมตอนนี้ดูจะชอบแบบนั้นมากกว่า แต่ผมว่าบรรยากาศสบายๆ แบบพึ่งพาอาศัยกันเหมือนครอบครัวแบบนี้กลับมีเสน่ห์มากกว่า เพราะเหมือนเราได้มาสัมผัสกับพื้นที่จริงๆ ไม่ใช่ไปแค่พัก ถ่ายรูปแล้วก็กลับบ้าน

“สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้ทักทายทันทีที่ชายหนุ่มหน้าคม ผิวแทนเดินยิ้มร่าเข้ามาพลางเอ่ยต้อนรับอย่างเป็นมิตร

“อ้าวพี่! / ไอ้กันย์!” พี่กันย์กับพี่บอลอุทานขึ้นพร้อมกันอย่างดีใจก่อนจะโผเข้ากอดกันอย่างสนิทสนม จากนั้นจึงหันมาแนะนำตัวให้ผมรู้จัก

พี่บอลเป็นรุ่นพี่ที่คณะก๊วนเดียวกับพวกพี่แชมป์ขาวงเหล้าเจ้าประจำของพี่กันย์นั่นแหละครับ แต่เพราะพี่บอลไม่ใช่สายแอลกอฮอล์เท่าไหร่เลยเจอกันแค่ที่เวลามีกิจกรรมของคณะมากกว่าเลยไม่รู้ข้อมูลอะไรมากนอกจากว่าพี่แกติสท์ไม่ทำมันแล้วกับอาชีพนักออกแบบในเมืองแต่เบนเข็มกลับมาทำไร่ทำฟาร์มให้ที่บ้านแทน

“เลิกคุยกันก่อนเถอะลูก น้องหิวจะแย่แล้วเนี่ย” คุณป้าหรือแม่พี่บอลเข้ามาปรามก่อนจะเดินนำไปที่เรือนไม้ไผ่อีกหลังที่มีชานเรือนกว้างกว่าหลังแรกก่อนจะหย่อนพวกเราให้นั่งลงที่โต๊ะตรงมุมสุดพร้อมเมนูอาหารที่มีรายการอาหารง่ายๆ เพียงไม่กี่อย่างในมือ

“ผมต้องแปลงร่างเป็นหนอนใช่มั้ยเนี่ย?” พี่กันย์เอ่ยขึ้นมาอย่างอารมณ์ดีพลางมองเมนูในมือที่มีผักเป็นส่วนประกอบแทบทุกอย่างจนผมหลุดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้เพราะดันนึกไปถึงเรื่องที่ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเจ้าตัวเป็นคนหรือหนอนกันแน่

“กูรู้มึงชอบกินผัก อย่ามาทำงอแง” พี่บอลตอบกลับก่อนจะใช้ปากกาเคาะหัวพี่กันย์ทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้จนเจ้าตัวที่โดนว่างอแงหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

“สุกี้น้ำนี่เป็นถ้วยๆ หรือเป็นหม้อๆ ครับ” คำถามของผมทำเอาคนทั้งสองหันมามองผมอย่างงงๆ ก่อนพี่บอลจะตอบ

“ปกติขายเป็นถ้วยนะ แต่ถ้าอยากได้หม้อจะไปเอาหม้อไฟฟ้าที่บ้านมาให้เป็นกรณีพิเศษ”

“โหวว โคตรรักพี่เลยว่ะ” พี่กันย์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะล็อคคอพี่บอลมากอดอย่างชอบใจพลางตบเข้าที่หลังดังป้าบสองสามที

“อะแฮ่ม” ผมเผลอกระแอมขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนจะค้อมหัวเป็นการขอโทษที่เสียมารยาทจนพี่บอลหัวเราะออกก่อนจะผลักพี่กันย์ออกไป …ผมไม่ได้อะไรนะครับ แต่พี่กันย์จะไม่หวงตัวหน่อยเหรอครับพี่ โว๊ะ!

“แต่เนื้อกูมีไม่เยอะ มีแต่ผักนะ เอามั้ย?”

“เอาหมดแหละครับ พี่มีอะไรมาเสนอผมก็เอาทั้งนั้นแหละ” พี่กันย์พูดอ้อนๆ เพื่อขอของฟรีจนพี่บอลหัวเราะออกมา แต่ไม่รู้ทำไมผมกลับไม่รู้สึกขำไปด้วยสักนิด

“ของผมก็มีนะ เอาของผมบ้างมั้ยล่ะครับ?” กว่าจะรู้ตัวผมก็เผลอพูดออกไปจนพี่กันย์หันมามองอย่างอึ้งๆ แต่พี่บอลกลับหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังไปแล้ว

“ของอะไรวะ?”

“พี่จะเอาอะไรผมก็มีทั้งหมดนั่นแหละ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปอาคนอื่นเลยครับ”

“เดี๋ยวนะมึง ใจเย็น กูไม่ได้จะไปเอาใครทั้งนั้น”

“เอ่อ…” ผมนิ่งไปทันทีที่เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ผมแค่จะหมายความว่า …ถ้าพี่ต้องการเนื้อ ผมก็ซื้อมาให้แล้วก็เท่านั้น …มั้งครับ

“ไอ้เชี่ย! กูชอบ ฮ่าๆๆ”

“ชอบใครครับ?” ผมหันไปจ้องหน้าพี่บอลทันทีจนเจ้าตัวชะงักก่อนจะตอบกลับมา

“ชอบมึงไง” พี่บอลตอบก่อนจะชี้มาที่ผมอย่างงงๆ

“แล้วไปครับ” ผมถอนหายใจก่อนจะเอนตัวพิงพนักเก้าอี้แทน แต่คราวนี้กลับเป็นอีกคนที่โวยวายขึ้นมาแทน

“พี่ชอบมันไม่ได้ นี่แฟนผมเว้ย!”

“คือตกลงเป็นแฟนกัน?” คำถามของพี่บอลทำให้ทั้งผมทั้งพี่กันย์ชะงักก่อนบรรยากาศเขินๆ จะเข้ามาแทรกจนพี่บอลที่ดูเหมือนจะได้สติก่อนจะหัวเราะขึ้นมาอีกครั้งแล้วเดินออกไป

“กูล่ะปวดหัวกับพวกมึงจริงๆ ให้ตาย”





[Gun’s]

“งั้นเดี๋ยวผมไปเอาเนื้อที่รถมาให้นะครับ” ไอ้ปืนบอกก่อนจะยื่นมือมาขอกุญแจแล้วเดินออกไป ปล่อยให้ผมนั่งปวดหัวกับตัวเองที่ไม่รู้กลายเป็นคน ‘ขี้หวง’ จนถึงขั้นต้องออกโรงประกาศสถานะต่อรุ่นพี่ร่วมคณะซะขนาดนั้น

“ทำไมอยู่ดีๆ มีแฟนเป็นผู้ชายไปได้วะ? กูนึกว่ามึงชอบผู้หญิงซะอีก” พี่บอลที่เดินกลับมาพร้อมหม้อไฟฟ้าถามขึ้นก่อนจะวางหม้อไว้ตรงกลางโต๊ะอย่างขำๆ

“ไม่รู้ว่ะพี่ รู้ตัวอีกทีก็มีแฟนเป็นไอ้ปืนไปซะแล้ว” ผมตอบก่อนจะคิดถามอย่างสงสัยเหมือนกัน …นั่นดิ ทำไมอยู่ดีๆ ผมกับมันถึงได้มาเป็นแฟนกันวะ?

“แต่มึงก็โอเคใช่เปล่าล่ะ?” พี่บอลถามพลางเทน้ำซุปจากกาลงในหม้อให้พลางจัดแจงตั้งค่าความร้อนให้เสร็จสรรพ

“โอเคอะไรพี่?”

“กับแฟนมึงไง แบบไม่ได้รู้สึกแย่ หรืออึดอัดอะไรแบบนั้นใช้มั้ยวะ?”

“อืมม ก็ไม่นะ อยู่กับมันก็สบายใจดี มันเป็นคนตรงๆ อ่ะ มีอะไรก็พูดไม่ต้องคิดเองเออเอง เทคแคร์ เข้าใจ ไม่งอแง”

“โหวว โคตรประเสริฐ”

“จริงพี่” ผมยิ้มรับแล้วยิ่งยิ้มมากขึ้นไปอีกเมื่อคิดได้ว่าตั้งแต่ที่รู้จักกันมามันทำอะไรให้ผมบ้าง อาจจะเป็นเพราะความใส่ใจของมัน ความเข้าใจหรออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมเปิดใจ แต่ตอนนี้ผมรู้แค่ว่าผมดีใจและรู้สึกขอบคุณมากขนาดไหนที่มีมันอยู่ข้างๆ ไม่ต้องมีเรื่องยิ่งใหญ่หรืออุปสรรคอะไรให้ฝ่าฟันกันมาเหมือนในหนัง แค่มีคนช่วยปลุกในวันที่มีส่งงาน มีคนช่วยตัดโมเดลบ้างเวลาที่มันไม่ทัน ขับรถให้เวลาที่ไม่ได้นอน มีเพื่อนไปเดินสยามหรือแค่นั่งๆ นอนๆ อยู่ในห้องในวันว่างๆ ผมว่าก็พอแล้วนะ … แค่นั้นก็พอ

“เนื้อครับ” ไอ้ปืนทักขึ้นก่อนจะวางกล่องโฟมไว้ที่โต๊ะข้างๆ อีกตัวก่อนจะดึงเอาเฉพาะแพ็คเนื้อออกมา ตัดถุงแล้วจัดใส่จานส่งมาให้

“ขอบคุณนะมึง” ผมบอกมัน รู้ในใจว่าคำที่บอกไปนั้นมันมากกว่าแค่เรื่องเนื้อที่มันส่งมาให้ เจ้าตัวพยักหน้ารับอย่างงงๆ ยิ้มตอบแล้วหย่อนตัวที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามตามเดิม

“ไม่เป็นไรครับ” มันยิ้มตอบก่อนจะหันไปสนใจผักนานาชนิดที่คุณป้ายกตามมาให้ก่อนจะเริ่มเด็ดมันแล้วค่อยๆ ใส่ลงในหม้อสุกี้ตรงหน้าซึ่งก็เหมือนทุกครั้งที่ผักที่ผมชอบจะถูกจับโยนลงไปในหม้อจนเกือบเต็ม เหลือเพียงแค่ไม่กี่อย่างที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หนักอย่างพวกแครอทหรือเผือกก็จะลอยอยู่ประรายตรงหน้ามันแทน

“อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะเว้ย” ผมบอกพลางคีบแครอทที่ต้มสุกแล้วชิ้นหนึ่งให้มันกลบเกลือนความเขินที่พุ่งขึ้นมา แต่ไม่ว่ายังไงผมก็อยากพูดมันออกไปอยู่ดี ไอ้ปืนชะงัก มองหน้าผมงงๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มยิ้มตาหยีประจำตัวที่เริ่มรู้สึกว่าหลงรอยยิ้มแบบนี้ของมันเข้าไปทุกวันๆ

“ครับพี่”





หลังจากที่มื้อเย็นจบลงพร้อมกับดวงอาทิตย์ที่ตกดินไปเรียบร้อย พี่บอลก็พาผมกับไอ้ปืนเดินมาตามทางที่ทำจากไม้ไผ่และยกสูงขึ้นจากพื้นเพื่อป้องกันช่วงเวลาน้ำหลาก ก่อนจะเจอเข้ากับบ้านไซต์กะทัดรัดหลังหนึ่งซึ่งพี่บอลบอกว่าชื่อบ้าน ‘ละอองดาว’  บ้านหลังนี้มีจุดเด่นสมชื่อคือระเบียงไม้ไผ่ที่ถูกยกสูงจนกลายเป็นเหมือนดาดฟ้าสามารถปีนขึ้นไปได้ด้วยบันไดลิงเล็กๆ ที่พาดอยู่ด้านข้างๆ …เอาไว้ดูดาว ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้านที่ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและสีของไม้ไผ่ แถมด้วยไฟประดับดวงเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั้งมุมนั้นมุมนี้ให้ความรู้สึกสมชื่อ ‘ละอองดาว’ มากจริงๆ

“ชอบอ่ะดิ” ผมหันไปแซวไอ้เด็กข้างๆ ที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นมากกว่า เพราะตั้งแต่เดินเข้ามามันก็เอาแต่จับนู่นจับนี่ไปทั่ว พลางเอาแต่พึมพำว่าน่ารักอย่างนั้น น่ารักอย่างนี้แถมยังขอซื้อพี่บอลไปอีกอย่างแจกันดอกไม้ที่ทำจากไม้ไผ่ดูท่ามันจะชอบมากจริงๆ

ไอ้ปืนมันชอบของน่ารักๆ อย่างพวกข้าวของบนโต๊ะทานข้าวที่หอมันนี่กระถางเซรามิกกระถามเล็กกระถางน้อยเต็มไปหมด เพราะฉะนั้นการตกแต่งของที่นี่ไม่ต้องพูดถึง สไตล์มันชัดๆ กลับไปนี่ห้องของมันต้องเต็มไปด้วยกระบอกไม้ไผ่แหงๆ ถ้ามันยังไม่ขอซื้อจากพี่บอลสักทีล่ะก็นะ

“มากๆ ครับ” มันยิ้มจนตาหยีพลางเดินไปที่ชิงช้าแขวนเพดานที่แขวนไว้ตรงปลายเตียงแทนที่จะเป็นโซฟาอย่างในโรงแรม

“หยุดคิดเลยมึง” ผมชี้หน้ามันอย่างรู้ทันเมื่อเจ้าตัวหันมาทำตาวิบวับให้

“เห็นมั้ยครับ มันแขวนได้จริงๆ นะ” มันย้ำ เล่นเอาผมได้แต่ส่ายหัวอย่างระอาแต่ก็อดพยักหน้ารับไปกับมันไม่ได้เมื่อมันเล่นเข้ามาบีบนวดเพื่อประจบซะขนาดนั้น สงสัยกลับไปคงได้แวะไป IKEA ก่อนกลับปีใหม่แน่ๆ ผมคิดอย่างขำๆ อย่างนึกภาพไม่ออกว่าผมจะเอาไอ้เปลอันใหญ่ที่มันอยากได้เข้าไปแขวนในห้องนอนมันยังไง

“ทุกอย่างโอเคนะ ถ้าคิดว่ามีส่วนไหนต้องปรับปรุงก็บอกได้เลย ถือว่าช่วยๆ กันดู พี่ก็มือใหม่มีอะไรพลาดไปก็ขอโทษด้วย”

“ขอบคุณมากครับพี่ พวกผมชอบมากจริงๆ” ผมถือโอกาสตอบแทนไอ้ปืนเพราะเจ้าตัวเอาแต่สนใจชิงช้าตรงปลายเตียงโดยไม่ได้สนใจคำพูดพี่บอลมากเท่าไหร่ …ดูก็รู้ว่าชอบมากขนาดไหน จะว่าไปก็ชักอิจฉาไอ้ชิงช้านี่ขี้นมาตงิดๆ แฮะ ไม่ซื้อให้ดีกว่ามั้งเนี่ย เดี๋ยวมันสนใจชิงชามากกว่าผม

“โอเค ที่นีมีกฎอยู่สามข้อนะ ข้อ 1 อย่าจุดเทียนหรือสูบบุหรี่ในบ้าน ผ้ากับไม้ไผ่มันเยอะ ติดไฟง่าย ระวังด้วยนะ ข้อ 2 ตอนกลางคืนปิดประตูหน้าต่างดีๆ กันพวกแมลงกับงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ถึงแถวนี้จะไม่ค่อยมีแต่ระวังไว้ก่อนแล้วกัน ส่วนข้อสุดท้าย…” พี่บอลหยุดพูดไปนิดหนึ่งก่อนจะส่งยิ้มล้อเลียนมาให้แล้วเดินหนีไปปล่อยให้ผมกับไอ้ปืนมองหน้ากันตาปริบๆ ก่อนไอ้ปืนจะยิ้มร้ายออกมาจนผมต้องละสายตาไปแทน

“ผนังบ้านมันบางนะ ‘เล่น’ อะไรกัน เบาเสียงนิดหนึ่งก็ดี”





“มึงจะอาบน้ำก่อนรึเปล่า?” ผมตัดสินใจถามขึ้นหลังจากที่รู้สึกว่าห้องมันเงียบมานานทั้งทีความจริงพี่บอลเพิ่งเดินออกไปแท้ๆ ไอ้ปืนหันมามองผมงงๆ ก่อนจะหลุดขำออกมา

“ทำไมผมรู้สึกเหมือนผมล่อลวงพี่มาแล้วพี่พยายามจะหาทางออกด้วยการหนีไปในระหว่างที่ผมอาบน้ำล่ะครับ” คำพูดของไอ้ปืนทำเอาผมไปต่อไม่ถูกเพราะบางทีอาจจะจริงตามที่มันว่า …แต่ประเด็นคือจะให้กูหนีไปไหนวะ?

“อาบน้ำก่อนเถอะครับ เหนื่อยมาทั้งวัน” ไอ้ปืนบอกพลางยิ้มขำก่อนจะเดินมาทางผมที่ยืนอยู่ตรงที่กระเป๋าสัมภาระวางไว้พอดี มันก็เดินมาธรรมดาๆ นะ แต่ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกว่าการเดินมาของมันครั้งนี้ทำเอาผมเสียวหลังแปลกๆ

“ใครจะอาบก่อน?”

“ถ้าตามบทแล้วต้องผมสินะครับ” มันถามขำๆ พลางรับผ้าเช็ดตัวผืนที่ผมรีบยื่นส่งให้มันเพื่อให้มันไม่ต้องเดินเข้ามาใกล้กว่านี้ แต่ผิดคาดเพราะมันยังเดินเข้ามาหาเรื่อยๆ ก่อนจะหยุดเมื่อหน้าของมันกับผมห่างกันแค่คืบ

“บทที่กูต้องอาบก่อนก็มีนะ” ผมพูดออกไปเพราะเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเข้าทุกที ถ้ามันโอเค ผมจะได้รีบชิ่งไปอาบน้ำ อย่างน้อย…ถึงหนีไม่ได้ก็จะได้มีเวลาเตรียมใจ

“ผมพี่ยาวแล้วนะครับ” คำพูดของมันทำเอาผมงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องก่อนหน้านี้ แถมมันไม่พูดเปล่าแต่ดันเอามือขึ้นมาเกี่ยวผมของผมไว้ก่อนจะทัดไปที่หลังใบหูอย่างแผ่วเบา …ทั้งๆ ที่มันแค่เกี่ยวผมแต่ใจผมนี่โคตรเต้นแรง

“กะ.. เกี่ยวอะไรกับเรื่องอาบน้ำวะ?”

“ไม่เกี่ยวหรอกครับ ผมแค่พูดในสิ่งที่เห็นเฉยๆ” มันบอกก่อนจะส่งยิ้มมุมปากมาให้ …มึงอย่ามายิ้มตอนนี้ ใจกูมันไม่ดีครับมึง

“อะ.. อือ”

“หูพี่แดงด้วย ผมเพิ่งรู้ว่านอกจากเวลาพี่เขินแล้วพี่จะเม้มปาก อ้อ เร็วๆ นี้เปลี่ยนมาเป็นกัดปากแล้ว หูพี่ยังจะแดงอีกด้วยนะครับเนี่ย” ผมสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แตะลงบนใบหูก่อนจะรับรู้ได้ถึงแรงบีบเป็นระยะๆ จากส่วนบนไล่ลงมาจนถึงติ่งหูแล้วก็ย้ำอยู่อย่างนั้น

“ระ.. เรื่องของกูเปล่าวะ?” ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่วินาทีนี้กลับห้ามไม่ให้เสียงสั่นไม่ได้เลยครับ ให้ตาย!

“เขินเหรอครับ เม้มปากแน่นขนาดนั้นเดี๋ยวเลือดก็ไม่เดินหรอก” สัมผัสร้อนๆ ที่ติ่งหูหายไปแล้วก่อนจะรับความรู้สึกใหม่ได้ตรงแถวๆ ริมฝีปากแทน …ไอ้เชี่ยปืน! กูไม่ได้เขิน กูเกร็ง มึงเข้าใจมั้ย กูเกร็งเว้ย! เอามือมึงออกไป

“ดะ..เดี๋ยวๆ มือมึงจะไปไหนวะเนี่ย? ใจเย็นครับมึง” ผมรีบตะครุบมือมันทันทีที่รู้สึกเหมือนตำแหน่งมือมันเปลี่ยนไปจากริมฝีปากลากไปคางไล่ลงไปต้นคอแล้วเริ่มต่ำลงไปจนเริ่มอยู่ไม่สุข …ใจกูนี่แหละครับอยู่ไม่สุข กระจัดกระจายหายไปดาวอังคารแล้วมั้งเนี่ย

“ก็ไปเรื่อยแหละครับ” มันยิ้มตาหยีก่อนจะค่อยๆ ชะโงกตัวเข้ามาจนผมต้องก้าวถอยหลังไปจนติดตู้เสื้อผ้าก่อนตัวมันจะทาบทับลงมา

“ผมให้เวลาพี่เตรียมใจสัก…สามวิ”

“สัด!” ผมเผลอสบถก่อนจะมองไปยังดวงตาคมๆ ที่ของมันที่มองจ้องมาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก รู้สึกเป็นรุ่นน้องมันก็วันนี้เอง

“หนึ่ง”

“ใจเย็นดิวะ” ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล

“สอง”

“ไอ้ปืน..”สัมผัสได้ถึงลมร้อนๆ ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนต้องหลับตา

“สาม”

“…” ไม่รอดแน่ๆ ครับ ผมขอลาตายหนึ่งวัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก…

“ใจเย็นครับพวกมึง ปิดประตูก่อนเนอะ” เสียงเคาะประตูที่ตามมาพร้อมเสียงพี่บอลทำให้ให้ปืนผละออกอย่างงงๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับไปมองคนพูดที่ยืนส่งสายตายตาล้อเลียนมาให้อยู่หน้าประตู

“พี่บอล คือว่า…” ยังไม่ทันที่ผมจะได้หาตัวช่วยพี่บอลก็ยกมือขึ้นทำท่าจุ๊ปากให้เงียบลงก่อนจะพูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินหนีไปอีกรอบ

“คืนนี้บ้านหลังอื่นยังไม่มีคนเข้าพัก อนุญาตให้เสียงดังได้มากกว่าปกตินิดหน่อย คงไม่เป็นไร”

“พี่บอล!”

“หึ” ไอ้ปืนหัวเราะในลำคอก่อนจะหมุนตัวกลับมามองผมที่ตอนนี้แทบจะไหลลงไปกองกับพื้นซะให้รู้แล้วรู้รอด

“งั้นผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่าครับ อย่าเพิ่งหนีไปไหนนะ” ไอ้ปืนพูดยิ้มๆ ก่อนจะพาดผ้าเช็ดขึ้นบ่าแล้วเดินไปทางห้องน้ำ

“ว่าแต่ว่า พี่ได้กลิ่นอะไรมั้ยครับ?”

“กะ..กลิ่นอะไรวะ?”

“กลิ่นเบอร์รี่” มันยิ้มจนตาหยีก่อนจะปิดประตูห้องน้ำลงปล่อยให้ผมยืนงงพลางคิดว่า …เบอร์รี่อะไรของมันวะ? พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่หล่นออกมาจากกระเป๋าของมัน ขวดทรงกระบอกที่มีตัวอักษรบอกกลิ่นเด่นชัดอยู่ปรากฏอยู่บนพื้นสีแดง

‘Sweet Strawberry’

ชัดเลยครับ! ไอ้กล่องสี่เหลี่ยมนั่นอุตส่าห์เลือกแบบธรรมดาราบเรียบ ไม่มีกลิ่น ไม่มีสีมาแล้ว ทำไมถึงได้ไอ้ขวดนี่เป็นไอ้กลิ่นนี้มาได้อีกวะเนี่ย…

“ไอ้เชี่ยปืน แมร่ง!”

“รอเดี๋ยวสิครับพี่ ใจร้อนขนาดนี้เข้ามาอาบด้วยกันเลยมั้ยล่ะครับ?” คนที่ผมคิดว่ามันคงไม่ได้ยินกลับส่งเสียงตอบกลับมา แถมมันไม่ว่าเปล่าแต่ยังเปิดประตูออกมาชะเง้อหน้ามองผมตาปริบๆ อีกต่างหาก

“โหวว นี่พี่เล่นเตรียมเจลไว้พร้อมซะขนาดนั้น รีบเหรอครับพี่ ให้ผมออกไปเลยมั้ย?” ผมมองตามสายตาของมันจนมาหยุดอยู่ที่ขวดเจลที่ผมดันหยิบมาถือไว้ในมือก่อนจะหันกลับไปมองไอ้คนที่เอาแต่ยิ้มล้อๆ มาไม่หยุดอย่างหมั่นไส้ …เมื่อก่อนมันกวนตีนขนาดนี้เปล่าวะ?

“ส่วนถุงยางอยู่ในกระเป๋าด้านหน้านะครับ ถ้ารีบก็ลองเอาออกมาลองใช้ก่อนเล่นๆ ได้ ผมมีหลายอัน”

“ไอ้เชี่ยปืน!” ผมอุทานแก้เขินก่อนจะโยนขวดเจลทิ้งลงบนกองกระเป๋าอย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี

“ครับพี่?”

“กูจะทนไม่ไหวแล้วนะ” ผมแกล้งทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน ก่อนไอ้ปืนจะหัวเราะออกมา

“เฮ้ยพี่! พี่ต้องอดทนสิครับ ผมยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย” มันรู้ว่าผมพูดเรื่องอะไร แต่แมร่งก็ไปเรื่อยจนผมอยากจะเข้าไปฟาดมันเข้าจริงๆ สักที

“มึงออกมานี่เดี๋ยวนี้เลยมา” มันรู้ว่าผมพูดเรื่องอะไร แต่แมร่งก็ไปเรื่อยจนผมอยากจะเข้าไปฟาดมันจริงๆ สักที ถ้าไม่ติดว่าตัวมันหลังประตูในตอนนี้คงไม่มีอะไรห่อตัวอยู่ล่ะก็นะ ผมยังไม่อยากเห็นของแสลงก่อนถึงวัยอันควร และความจริงคือวัยอันควรกำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้หลังจากมันอาบน้ำเสร็จนี่แหละ ฮือออ

“โอเคครับ ออกก็ออก ไม่ต้องอาบมันแล้วเนอะน้ำอ่ะ”

“ห๊ะ? เดี๋ยวดิ…” ผมชะงักทันทีที่ไอ้ปืนพูดจบก่อนตัวมันจะหายไปหลังประตูอีกครั้งก่อนจะเปิดออกมาใหม่พร้อมด้วยท่อนบนที่มีหยดน้ำเกาะพราวส่วนท่อนล่าง …ยังดีที่มันมีจิตสำนึกนุ่งผ้าเช็ดตัว

“เดี๋ยวอะไรล่ะครับ ไหนว่าไม่ทนแล้วไง” มันพูดพลางกระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะย่างสามขุมตรงมาทางผม และรอบนี้ผมไม่ได้คิดไปเอง มันย่างสามขุมมาจริงๆ ครับผม

“มะ..ไม่! กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้” ผมพยายามอธิบายมันแต่ดูเหมือนมันจะไม่ฟังอะไรนอกจากเดินเข้ามาประชิดตัวผมเรื่อยๆ

“แต่ตอนนี้.. ผมก็จะไม่ทนแล้วนะ” มันบอกในนาทีที่เดินมาหยุดตรงหน้าผมก่อนจะสอดแขนทั้งสองมารั้งเอวผมให้เข้าไปแนบชิดมัน

“เฮ้ย! เดี๋ยว…”

“ไม่เดี๋ยวแล้วครับพี่ มาถึงขั้นนี้ผมถอยไม่ได้แล้วนะ” กูก็ถอยไม่ได้แล้วเหมือนกันครับ  เล่นดันมาจนหลังกูชนตู้เสื้อผ้าแล้วเนี่ย ไอ้เด็กเวร!

“ไอ้เชี่ยปืน! ใจเย็นโว้ยย…”


“หึหึหึ ยอมผมซะเถอะครับ พี่กันย์”











ขอโทษค่า รอบนี้ดองนานกว่าทุกครั้งเลย รู้สึกผิดมากจริงๆ T_____T
ตอนแรกหายไปเพราะติดงานค่ะได้นอนตีสามตีสี่ตลอดเลย มีวันหนึ่งกลับหกโมงเช้าช่างน่าเศร้า
ตอนหลังหายไปเพราะติดเด็กกับนิยายค่ะ ไปติ่งมา สิงโตน่ารักมากจริงๆ -///////-

ในส่วนนิยายของเรานั้น... เขาจะได้กันแล้วค่ะ ฮิ้ววววว จริงๆ มันแอบยืดกว่าที่คิดไว้นิดหนึ่งด้วย
แต่คาดว่าทั้งหมดทั้งมวลอยากให้จบก่อนวาเลนไทน์ค่ะ เพราะตอนพิเศษตอนแรกที่แต่งไว้คือ วันวาเลนไทน์
อยากให้อ่านมาก เราชอบมาก แต่งเสร็จตั้งแต่ปีมะโว้ ยังไงช่วยรออ่านกันด้วยนะคะ ^________^

ขอบคุณมากที่ติดตาม #ก็พี่มันเยอะ นะคะ
Zenzaii

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: minneemint ที่ 29-01-2017 17:55:42
รอตอนต่อไป จัดไปอย่าให้เสีย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-01-2017 18:00:17
โอ้ววว.  พี่กันย์ยอมๆน้องมันเถอะ. ทางสะดวกขนาดนี้แล้ว. ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 29-01-2017 18:25:47
 :hao6: :hao7: :jul1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-01-2017 19:02:36
เหมือนคนเขียนจะหายไปนานจริง ๆ ละค่ะ ดีใจที่มาต่อนะคะ
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 29-01-2017 20:10:30
มยอมๆไปเลยค่ะคุณพี่
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 29-01-2017 21:31:58
อ้าวปืน  ไหนว่าคืนนี้รอดไง  ทนไม่ไหวซะแล้ว :hao6:
อยากอ่านต่อแล้ว  มาเร็ว ๆ นะคะ o18
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-01-2017 22:24:44
อารมณ์เหมือนปืนล่อลวงเด็กมาฟัน

555555555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 30-01-2017 12:37:53
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: งื้อออออออออออ ยอมน้องมันเถอะพี่กันย์ แอร๊ยยยยยย :jul1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 30-01-2017 13:16:59
จัดสิค่ะ รออะไร  คึคึ

 :hao6:    :hao6:   o3   o3
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 30-01-2017 13:37:57
ฮาพี่บอล

น้องปืนทำพี่กันย์เขินใหญ่แล้ว


 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-01-2017 16:47:35
ปีน อย่าช้า  :z3: :z3: :z3:
คนอ่านรอ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-01-2017 16:51:04
ปึน อย่าช้า  :hao3:
คนอ่านรอ  :ling1: :ling1: :ling1:
บรรยากาศดี ไม่มีคนพัก
ปืน เต็มที่ไปเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 30-01-2017 17:54:53
อีกนิดเดียวเอง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 33-...ก็พี่ใจร้อน ส่วนผมมันเด็กว่านอนสอนง่าย[29.01.17]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 30-01-2017 17:57:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 03-02-2017 01:37:23
34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?

ทันทีที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าทาบทับลงมา ผมก็รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร้อนผ่าวที่ไล่เรียงขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าจรดปลายเส้นผมบนหัว ไอ้ปืนรั้งเอวผมให้แนบชิดกับมันมากขึ้นก่อนจะค่อยๆ เอียงหน้า ทำเรื่องอุกอาจด้วยการพยายามดันลิ้นเข้ามาจนผมหลับตาปี๋ สมองพยายามประมวลผลหาความผิดชอบชั่วดี

แต่สุดท้าย...ก็ยอมคลายริมฝีปากที่เกร็งจนแทบบ้าให้ไอ้เด็กที่ยืนตรงหน้ายอมทำตามใจ

"อือ..อ" ...อือพ่อง! ทันทีที่ได้ยินเสียงหลุดครางจากไอ้ปืน อุณหภูมิใต้ร่มผ้าที่ว่าสูงแล้วยิ่งแทบจะดันทะลุปรอท …จูบเฉยๆ ไม่ได้รึไงวะ จะครางเพื่อ?  ผมคิดอย่างเซ็งๆ เพราะเริ่มรู้สึกร้อนหน้าผ่าวๆ จนอยากจะหนีกลับไปหาแม่ซะตั้งแต่ตอนนี้ แต่ดูเหมือนไอ้ปืนจะไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะมันยังคงใช้ทั้งปากและลิ้นตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ต่อไป

"อ๊ะ.." ผมหลุดอุทานออกมาทันทีที่สัมผัสได้ถึงความร้อนจากมือมารที่ค่อยๆ ไต่ระดับสูงขึ้น ลากผ่านแนวสันหลังแผ่วเบาจนผมเสียววาบ …เสียวหลังจริงๆ ให้ตาย!

"จะ.. ใจเย็นดิวะ" ผมบอกเสียงสั่นในจังหวะที่ไอ้ปืนผละออกเพื่อหายใจ มันจ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะกระตุกยิ้มร้ายจนผมใจไม่ดี

"ก็... พยายามเย็นอยู่นะครับ" มันบอก สายตามันจ้องผมตาไม่กระพริบจนผมอดที่จะจ้องกลับไม่ได้ รู้ตัวอีกทีว่าโดนทำเนียนเอาก็ตอนที่มือมันละจากการรั้งแนวแผ่นหลังมาเป็นเกาะกุมตรงสีข้าง มันจะไม่เป็นไรเลยถ้าหัวแม่มือของมันทั้งสองข้างจะไม่พยายามลวนลามส่วนอ่อนไหวของผม …ไอ้เชี่ยปืนครับ หัวนมกู!

"อื้อออ.." ผมเผลอครางออกมา พยามยามเอาความนิ่งเข้าสู้แต่มันไม่ได้ไงครับ แล้วมันยัง …เสือกขยี้ซ้ำ!

"แฮ่ก.. มือมึง!” จังหวะที่คิดได้ว่าปล่อยมันขยี้ทำไม ดึงมือมันออกไปสิวะ! ผมเลยรวบรวมสติก่อนจะดึงมือมันออกจากตัว มองมันตาขวาง มันยิ้ม ยอมผละมืออกไปแต่โดยดีแต่ไม่วายเปลี่ยนมาเกลี่ยที่แก้มก่อนจะลากต่ำลงไปเรื่อยๆ พร้อมสายตาที่ไล่มองตามก่อนจะหยุดอยู่ที่…
 
"มือผมทำไมครับ?" มันเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยรอยยิ้มแต่มือมันไม่ได้ตามขึ้นมา

"ไอ้ปืน!" ผมสะดุ้งอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่ามันจะกล้าขนาดแตะส่วนอ่อนไหว …ช่วงล่าง! พยายามผลักมือมันออกแต่ตัวไม่รักดีดันแอ่นตามไปรับสัมผัส รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเพราะรอยยิ้มร้ายๆ ของคนตรงหน้าบวกกับร่างเปลือยท่อนบนของมันที่ทาบกดลงมาเพื่อลดช่องว่างที่ผมจะอาศัยเข้าไปดึงมือมันออกได้ ผมแทบหายใจสะดุดพอคิดได้ว่าตอนนี้ …หากไม่มีมือมันกั้นลูกชายของผมและของมันคงจะได้สวัสดีกันไปแล้ว!

"ยะ..อย่าลูบ อืออ..” ไม่เคยรู้สึกเหมือนตัวจะระเบิดแบบนี้มาก่อน เข่าผมแทบทรุดลงทันทีเมื่อมือไอ้ปืนที่เคยอยู่นิ่งๆ เริ่มขยับ ถึงแม้เดปยีนส์จะหนาแต่ด้วยสัมผัสแผ่วที่ยังรู้สึกได้บวกกับจินตนาการในหัวก็ทำเอาผมแทบไปไม่ถูก รู้สึกมือไม้เริ่มเกะกะเลยอาศัยไหล่ของไอ้คนข้างหน้าเป็นหลักยึด ถึงสถานการณ์ตอนนี้ผมจะเป็นเหมือนผู้ถูกกระทำแต่ลมหายใจขัดๆ ของไอ้ปืนก็ทำเอาไม่ได้รู้สึกแย่นัก …มือมันขยับแต่ก็รับรู้ถึงแรงสัมผัสกันไปทั้งคู่ อย่างน้อยก็อารมณ์ผู้ถูกกระทำเหมือนกัน แม้จริงๆ แล้วมันจะทำตัวเอง แต่ผมโดนมันกระทำ ก็ตาม

“พี่กันย์… อึก…ครับ”

“อื้ออ…” เหมือนแรงนั้นจะส่งผลมากกว่าที่คิดเมื่อไอ้ปืนเริ่มหน้าแดง มันเรียกชื่อผมกระเส่าก่อนจะก้มลงมาปิดปาก แรงดุนดันที่ถูกส่งเข้ามาทำเอาผมแทบหมดแรง มือที่วางอยู่บนไหล่ของคนตรงหน้าค่อยๆ เลื่อนลงมาจนไปสัมผัสเข้ากับตุ่มไตอะไรบางอย่าง พอนึกขึ้นได้ …เลยขยี้คืนแมร่ง!s

ไอ้ปืนกระตุกแรงจนผมตกใจ ยังไม่หายอึ้งกับอาการของคนตรงหน้าที่เหมือนเผลอไปเปิดสวิตซ์มันเข้า ไอ้ปืนผละมือมารจากช่วงล่างของผมก่อนจะค่อยๆ สอดเข้าไปใต้เสื้อยืดสีดำ รอยมือที่นูนขึ้นจากใต้เสื้อทำเอาผมเหงื่อแตกพลั่กก่อนสิ่งที่คิดไว้จะเป็นจริง …ไอ้เชี่ยปืนแมร่งขยี้คืนอีกรอบ! ก่อนมือที่กอบกุมสีข้างจะดันขึ้นสูงจนผมที่เริ่มตามน้ำไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ยกมือไม้ขึ้นตามแรงบังคับของมัน รู้อีกทีเสื้อก็หลุดจากตัว

…ครับไอ้เชี่ยปืน! กูอึ้ง แต่มึงยิ้ม

ผมอ้าปากค้างก่อนจะมองผู้ร้ายเพิ่งก่อเหตุอุกอาจไปหยกๆ ค่อยๆ ไล่สายตาจากหน้าผมที่เริ่มแดงลามไปจนคอ ไหปลาร้า อก เอว สะโพก และ...

"มึงครับ!"

"ครับ?"

"ไม่ได้คิดจะถอดกางเกงกูด้วย ...ใช่มั้ย?"

"ไม่ได้คิดครับ" ไอ้ปืนยิ้ม ผมถอนหายใจเฮือก

"แต่ผมจะทำเลย" มันยิ้ม แต่มือนี่พุ่งทีเดียวผมถึงกับซิปหลุด ผมจ้องมองคนตรงหน้าที่ทำหน้าเสียดายอย่างอึ้งๆ เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ก่อนจะก้มมองท่อนล่างของตัวเองที่ยังอยู่ดีแม้สภาพจะไม่เรียบร้อยนัก …คงต้องขอบคุณเดปยีนส์ที่โคตรฟิตตัวนี้ ผมถอดเองยังยาก มึงเอ้ยย! อย่าหวังเลยครับผม

"ถอดไม่ได้อ่ะดิ" ผมยิ้มให้มันอย่างเหนือกว่าแต่ใจดันเต้นไม่เป็นส่ำ

"ครับ ถอดไม่ได้"

"หึ! อ่อนว่ะ"

"แต่ผมทำให้พี่ถอดได้นะ" มันกระซิบข้างหูก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงความร้อนรุ่มที่จู่โจมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว ไล่ตั้งแต่ขมับ ใบหูก่อนติ่งหูจะถูกขบเม้มเบาๆ จนผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ มือหนาสอดประสานเข้ามา แรงบีบเบาๆ ประสานเป็นจังหวะเดียวกับแรงดูดดึงที่ริมฝีปากทำให้ผมเริ่มใจไม่ดี สติที่เพิ่งรวบรวมได้หดหายไปอีกครั้งเมื่อลมร้อนเริ่มไล่ต่ำลงไปที่ต้นคอ

"อ๊ะ!" แรงดูดที่มากกว่าปกติทำให้ผมเผลอร้องก่อนจะสัมผัสได้ถึงหัวใจของผมที่เต้นแรงรวมถึงอาการสั่นๆ ไม่แพ้กันของคนตรงหน้าที่เริ่มลดต่ำลงไปตรงช่วงลำตัว

"ดะ… ดูดเบาๆ" ผมบอกมันแทบไม่เป็นศัพท์เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนพร้อมๆ กับความชื้นที่หน้าอกจนทำให้แทบจะยืนไม่อยู่ รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คนตรงหน้าเริ่มหอบแรงขึ้น ไม่รู้เพราะมันมีอารมณ์ร่วมหรือเพราะผมเผลอกดหัวมันกับแผ่นอกไว้อย่างต้องการสัมผัสทั้งที่ใจคิดจะหยุดมันต่างหาก ...ให้ตาย! ไอ้มือไม่รักดี

"เล่นเกม… แฮ่ก กันมั้ยครับ?" อยู่ดีๆ อารมณ์ที่กำลังไต่ระดับของผมก็ถูกขัดด้วยคำพูดของคนตรงหน้า พลางมองมันที่ยืนตัวสั่นตาเยิ้มไม่ต่างกัน ผมพยายามควบคุมลมหายใจให้กลับเข้าที่เพราะอารมณ์ผีเข้าผีออกของไอ้ปืนที่ทำเอาผมเริ่มตามไม่ทัน

"เกมอะไรวะ?" ผมตอบด้วยน้ำเสียงขัดใจนิดๆ ที่โดนขัดจังหวะจนมันหลุดขำ ก่อนจะทาบมือลงบนมือผมที่ยังล็อคคอมันไว้ไม่ปล่อยให้คลายออกก่อนจะยกขึ้นมา จรดริมฝีปากลงทีละนิ้ว ทีละนิ้วอย่างกวน …อารมณ์
 
"เกมทางเลือก" ผมขมวดคิ้วทั้งสงสัยพลางนึกถึงเกมที่มันเคยชวนเล่นตอนงานเกษตรฯ

"สนมั้ยครับ?" มันถามก่อนจะแช่จูบอยู่ที่นิ้วชี้ของผมนานกว่าปกติก่อนจะไต่เข้ามาเรื่อยๆ ข้อมือ ท้องแขน ข้อศอก หัวไหล่...

"อืมมม..." เป็นอีกครั้งที่ผมเผลอครางรับไม่รู้ว่าเพราะตอบตกลงหรือเพราะเผลอใจไปกับสัมผัสแบบไม่ทันตั้งตัว ไอ้ปืนละจากไหล่และกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู

"คำถามแรก ตรงนี้... หรือเตียงดีครับ?"  พูดจบยังไม่ทันฟังคำตอบมันก็ทาบทับริมฝีปากของมันลงมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนจะรุนแรงและร้อนแรงจนผมยืนไม่อยู่ขึ้นมาจริงๆ ไอ้ปืนใช้สองแขนประคองผมไว้ก่อนจะใช้ตัวเองดันตัวผมจนชิดผนังตู้เสื้อผ้าแล้วปล่อยให้ร่างของเราค่อยๆ ไหล่ลงไปตามแรงโน้มถ่วงอย่างไม่สนใจ …หัวไม่ฟาดพื้นตายก็บุญละครับ

"โอ้ย!"

"เป็นอะไรครับ?"

"ตูดกูกระแทก พื้นแมร่งแข็ง" ผมสบถออกมาทันทีที่เสียจังหวะในตอนสุดท้ายจนก้นกระแทก ทำเอาไอ้ปืนชะงักก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วง พอได้คำตอบตัวผมจากที่นั่งอยู่บนพื้นอยู่ดีๆ ก็ปลิวติดมือมันไปวางแหมะอยู่บนเตียงทันที

“กูยังไม่ทันเลือกเลยนะ” ผมขมวดคิ้ว มันยิ้มให้ก่อนจะกระซิบตอบ

“ก็ผมห่วงสวัสดิภาพของ …ร่างกายพี่” …ที่แบบนี้ล่ะเป็นห่วงขึ้นมาเชียวนะ ผมทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะย่นคอหนีแทบไม่ทันเมื่อไอ้ปืนเริ่มมุดลงต้นคอผมอีกครั้ง สองมือของมันกดมือของผมไว้ สอดนิ้วเข้าหาเหมือนลำตัวของมันที่แทรกกลางเข้ามา

"คำถามที่สอง พี่กันย์…จะถีบผมมั้ยครับ?"

"ห๊ะ?" ยังไม่ทันเข้าใจคำถามดี ไอ้ตัวคนถามก็มุดกลับมาซ้ำที่ต้นคอก่อผมจะสัมผัสได้ถึงความชื้นที่ลากเลียผ่านไปเรื่อยๆ จนมาหยุดเหนือขอบเดปเจ้าปัญหาของผมที่เกาะสะโพกอยู่หมิ่นเหม่พอๆ กับปมผ้าขนหนูรอบเอวมัน ยังไม่ทันตั้งสติจูบมันก็ระดมเข้ามาอีกครั้ง วนๆ อยู่เหนือขอบเดปพอๆ กับมือมารของมันที่ละจากฝ่ามือผมแล้วตามลงไปทันที มันลากผ่านหน้าท้องก่อนจะเขี่ยวนๆ อยู่แถวท้องน้อยอย่างใช้ความคิด …ที่ทำเอาผมคิดดีไม่ได้เลย เหมือนไอ้คนตรงหน้าท้องจะรู้ทันความคิด มันเงยหน้ามามองผม ยิ้มให้ แล้วถามย้ำ

"จะถีบมั้ยครับ?"

"ถีบเพื่อ?" และมันก็คิดคำตอบเองอีกครั้ง ไอ้ปืนนั่งทับช่วงขาผมไว้ก่อนจะกดลมหายใจลงเหนือรอยแยกของซิปจนผมใจหายวาบ ตัวสั่นจนเหงื่อแตกพลั่ก แทบหยุดหายใจเมื่อมือกร้านจากการอยู่กับดินกับต้นไม้ของมันลากผ่านรอยแยกของเนื้อผ้าหนาทั้งที่หน้ามันยังยิ้มให้ผมอยู่ สัมผัสถูกเน้นย้ำเมื่อมันลากผ่านไปผ่านมาเป็นครั้งที่สาม สี่ ห้า…

“อึก.. อืออ” ผมเม้มปากเพื่อกลั้นเสียง หลับตาปี๋เพราะทนมองหน้ามันไม่ได้ ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ที่ข้างหูแต่สัมผัสตรงส่วนอ่อนไหวก็ยังชัดเจนจนผมเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่กลางลำตัว

"คำถามที่สาม ช่วยผมถอดกางเกงหน่อยนะครับ?" ผมอึ้งกับคำถามแต่ยังไม่ทันได้คิดก็รู้สึกว่ามีมือมาเกี่ยวรั้งที่ขอบกางเกงไว้ ผมหายใจแรงๆ อย่างช่วยระบายอารมณ์ก่อนจะแทบลั่นเมื่อสัมผัสได้ถึงจูบ ไม่ใช่ที่ปาก…แต่เป็นกลางลำตัว ก่อนแรงฝังเขี้ยวที่ไม่เบานักจะทำให้ผมสะดุ้งจนเอวลอย …แล้วกางเกงก็ถูกกระชากลงอีกครั้ง เมื่อมันเลยต้นขาไปแล้วแค่เกี่ยวให้หลุดจากตัวก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
"ไอ้เชี่ยปืน ทำไรของมึงวะเนี่ย?"  ผมคว้าผ้าห่มแทบไม่ทันเมื่อส่วนอ่อนไหวสัมผัสได้ถึงความเย็นของอากาศ ไม่ใช่แค่กางเกงที่ถูกดึงออกไป แต่แมร่งไปหมดเลย …ทั้งตัวนอกและตัวใน ให้ตาย! ว่าแต่ว่า…

เมื่อกี้ไอ้เชี่ยปืนแมร่งกัดน้องผม!

ผมส่งสายตาคาดโคตรพลางกลิ้งตัวหลบมือไอ้คนที่เอาแต่หัวเราะไปพยายามจะแกะผ้าห่มผมไปพร้อมกัน แต่ยังไม่วายบ่นงุ้งงิ้งๆ ออกมาให้ได้ยินอีก

"กางเกงพี่ถอดโคตรยากอ่ะ" …จะเอาก็ยังจะบ่นเนอะ คนเรา!

“ทีหลังก็ไม่ต้องถอด” ผมบอกมันก่อจะหยุดกลิ้งเมื่อเกือบจะตกเตียงพร้อมๆ กับมือของไอ้ปืนที่ดักไว้ได้ทัน

“พี่กันย์อ่ะแหละ ทีหลังไม่ต้องใส่ ง่ายกว่าตั้งเยอะ เนอะ!" ไม่ต้องมาเนอะเลย ไอ้เด็กเวร! ผมมองมันทีjยังยิ้มให้ผมอย่างขำๆ ก่อนมันจะฉุดตัวผมให้ลุกขึ้นนั่งพลางมองผ้าห่มที่ร่นลงไปกองตรงสะโพกอย่างหมิ่นเหม่ด้วยสายตาวาววับ

"คำถามสุดท้ายครับ”

“…”

“ให้ผมรุกพี่กันย์นะครับ?"

‘ให้ผมจีบพี่นะครับ’

รูปประโยคคุ้นๆ ที่เหมือนเคยได้ยินมาก่อนทำให้ผมเผลอยิ้มก่อนจะตอบคำตามที่เกือบจะเหมือนเดิม ...ด้วยคำตอบเดิม

"กูไม่ให้"

‘กูไม่ให้’

"ผมแค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ ครับว่าผมจะรุกพี่…" ให้ปืนยิ้มก่อนจะพูดต่อ

“ผมไม่ได้ขอ / ผมไม่ได้ขอ” คำตอบที่ดังขึ้นพร้อมกันจากทั้งไอ้ปืนและผมทำเอาหลุดขำออกมาพร้อมกัน ผมยิ้มให้มัน มันยิ้มให้ผม ก่อนจะรู้ตัวว่า... กูพลาดไปอีกแล้ว

"ไอ้เชี่ยปืน!" ไอ้ปืนนั่งมองหน้าผม ยิ้มให้ก่อนจะใช้ฝ่ามือค่อยๆ ไล้จากใบหน้า แนวกรามลามลงไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้องน้อย โดยที่สายตามันไม่ได้ละไปและผมก็ไม่ได้ละไปจากมันเหมือนกัน แต่ดูเหมือนความตั้งใจที่มากเกินไปจะทำให้ผมและมันตื่นเต้นมากกว่าปกติ ทั้งห้องเงียบ ได้ยินแต่เสียงแอร์และลมหายใจ

"อ้ะ.." ผมหลุดเสียงร้องออกมาทันทีที่มือมารของมันเกี่ยวรั้งขอบผ้าห่มลงจนสัมผัสเข้ากับจุดอ่อนไหวที่เริ่มอ่อนไหวสมชื่ออยู่ข้างใน

"มึง กะ..กู" ผมเริ่มร้องไม่เป็นภาษา ไอ้ปืนยังจ้องหน้าผมแต่ริมฝีปากค่อยๆ เม้มเข้าหากันเหมือนพยายามปกปิดความรู้สึกบางอย่าง ผมวางมือบนไหล่ของมันก่อจะค่อยๆ  ไต่ลงไปตามร่างกายของมันอย่างไม่รู้ตัว …อยากหยุด แต่ใจหนึ่งก็เริ่มจะไม่ไหว สถานการณ์ตรงหน้าทำให้อารมณ์ผมพุ่งสูงขึ้นจนเผลอไผล ไอ้ปืนชะงักแล้วมองหน้าผม จนผมสัมผัสได้ถึงความเกร็งตรงท้องน้อยของมันในขณะที่มือของผมกำลังไล่ต่ำลงไป

"พี่กันย์ครับ"

"วะ… ว่า?"

"ผมจะไม่ไหวแล้วนะ" แล้วอะไรคือการที่มึงบอกไม่ไหวแล้วมาจับของกูวะเนี่ย อ้าาา.. ไอ้เชี่ยปืน!

"พี่จะทำอะ… อะไรครับ? อึก.. อื้ออ"  ถึงเสียงมึงจะสั่นแต่กูจะไม่สนใจครับผม เล่นของกูได้ กะ..กู อ้ะ.. ก็เอาคืนได้เหมือนกันเว้ย!

"อ้าาา... พี่" มันหลับตากัดปากทันทีที่ผมกระตุกปมผ้าขนหนูให้หลุดออกก่อนจะคว้าร่างกายมันไว้ สัมผัสได้ว่ามือของเราข้างที่ไม่ว่างทั้งคู่ชนกันเป็นครั้งคราว

"อื้อ อ้ะ.." ผมเกร็งหน้าท้องเมื่อความรู้สึกเริ่มพุ่งสูงขึ้นจนในหัวมันวิ้งๆ เลยทิ้งตัวตรงกับไหล่หนาของคนข้างหน้าก่อนจะเลือกวิธีกลั้นเสียงที่ได้ยินเท่าไหร่ก็ไม่ชินสักทีด้วยการงับที่ไหล่ของมัน  …ไอ้ปืนก็เหมือนกันแต่เปลี่ยนจากแค่งับด้วยริมฝีปากเป็นฝังเขี้ยวลงบนต้นคอผมแทน …พ่อมึงเป็นแวมไพร์เหรอครับ!
 
ไม่มีเสียงแปลกๆ ให้ได้ยิน มีแค่เพียงเสียงหายใจด้วยจังหวะที่โคตรไม่ปกติ ยิ่งอารมณ์เพิ่มขึ้นก็เริ่มควบคุมกันแทบไม่อยู่ แล้วยิ่งอารมณ์เพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ ต่างฝ่ายก็ต่างเร่งมือไม้ข้างที่ไม่ว่างให้ขยับเร็วขึ้นเท่านั้น ทำเอาคนที่นั่งเป็นหลักให้ผมทำท่าจะนั่งไม่อยู่จนต้องใช้มืออีกข้างค้ำไว้

"อึก..ไอ้ปืนนน อ้าา.." รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนร่างกาย   ปลดปล่อยออกมา สมองพร่าเลือนไปหมด ตอนผมทำท่าจะทิ้งตัวก็รู้สึกได้ถึงแรงขยับของสิ่งที่อยู่ในมือจนเพิ่งรู้สึกตัวว่าใครอีกคนยังไปไม่ถึงไหน ผมเรียกสติกลับมา มองหน้าอีกคนที่ดูทรมานก่อนจะกลับไปขยับมือให้เร็วขึ้นจนหน้าท้องไอ้ปืนเกร็งจนรู้สึกได้ ผมทาบริมฝากลงไปหามันที่เริ่มส่งเสียงอย่างเริ่มกลั้นไม่ไหวเพื่อเป็นตัวช่วย รู้สึกดีขึ้นหน่อยที่ได้รุกบ้างก่อนจะแตะลิ้นลงไปเป็นใบเบิกทาง เล่นกันอยู่สักพักคนตรงหน้าก็กระตุกก่อนผมจะสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นเต็มฝ่ามือ

"แค่นี้กูก็หมดแรงแล้วเนี่ย" ผมบอกมันก่อนจะเอนหัวลงพิงกับไหล่หนาตรงหน้า ไอ้ทำให้ตัวเองบ้างมันก็เรื่องธรรมดาของผู้ชาย แต่ไอ้การที่จะให้คนอื่นช่วยแถมยังมาทำพร้อมๆ กันแบบนี้ ยอมรับแบบหน้าไม่อายเลยครับว่าเล่นเอาผมหมดแรงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ไอ้ปืนสั่นหัวก่อนจะเลื่อนมือไปแตะสะโพกแล้วไล่ต่ำลงไปด้านหลัง

"แต่ผมยังอยากกินสตรอเบอร์รี่อยู่นะครับ"

“ไอ้เชี่ยปืน! อื้ออ…”





เอาแต่บอกว่าอยากกิน อยากกิน ทำไมมันไม่เอาของผมไปกินเองล่ะวะ เอาของมันมาใส่เข้าให้ผมกินทำไม ฮือออ...

ผมโอดครวญอยู่ข้างในใจทันทีที่ตื่นมาก่อนจะเหลือบมองไอ้เด็กอนามัยข้างๆ ที่เมื่อคืนเล่นเอาผมนอนซะเกือบตีห้า บอกแล้วไงครับว่าถ้าผม ‘เมา’ ผมจะตื่นเช้า กลับกันไอ้ปืนจะนอนชดเชยไปเรื่อยๆ จนกว่าจะครบแปดชั่วโมง

…ขอบคุณมากครับมึง นอกจากจะทะลวงประตูหลังแล้วยังปล่อยให้กูนอนเจ็บคนเดียว

ผมลุกขึ้นนั่งแต่ก็ทำได้แต่นั่งตะแคงอย่างเซ็งๆ พลางจ้องหน้าไอ้คนที่ยังนอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข ไม่สุขได้ยังไงล่ะครับ ก็ในเมื่อเมื่อคืนนอกจากชั่วโมงที่มันพยายามสอนเทคนิคการสูญเสียความเป็นชายให้ผมอยู่นานสองนาน หลังจากนั้นมันเล่นใส่เข้ามาไม่ยั้ง ยอมรับว่ารู้สึกดี …แต่นี่มึงล่อเอาเกือบหมดทั้งของซื้อของแถมกูก็จะไม่ไหวเอาไงครับผม

ผมถอนหายใจพลางตัดสินใจลุกขึ้นไปเก็บเศษซากอารยะธรรมที่กองเกลื่อนอย่างอุจาดตาไปทิ้งให้เป็นทาง ก่อนจะเดินเข้าห้องไปทำความสะอาดตัวเอง เงาในกระจกสะท้อนร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยแดงๆ จนหน้าเริ่มขึ้นสีไปด้วยอย่างห้ามไม่อยู่อีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งจะมายอมพลีกายถวายตัวให้ผู้ชายด้วยกันได้

“เฮ้ย!” ผมอุทานอย่างนึกขึ้นได้ในระหว่างที่ไล่ๆ รอยแดงตามตัวก่อนจะนึกถึงช็อตหนึ่งที่ไอ้ปืนเผลอกัดน้องชายผมขึ้นมาจนต้องพลิกซ้ายดูขวาเพราะห่วงสวัสดิภาพมันอย่างอดไม่ได้

…ถึงจะไม่ได้ใช้จิ้มใคร แต่ขอมีไว้แบบครบสามสิบสองเถอะนะครับ!

“อรุณสวัสดิ์ครับพี่กันย์” เสียงของคนที่ผมคิดว่าจะเป็นเด็กอนามัยดังขึ้นก่อนจะรับรู้ได้ถึงวงแขนของอีกคนที่สวมเข้ากอดทางด้านหลัง

“แปลกว่ะ ยังไม่ครบแปดชั่วโมงเลย” ผมเลิกคิ้วพลางมองรอยยิ้มตาหยีของคนข้างหลังจากเงาสะท้อนในกระจกอย่างสงสัย

“บางทีผมอาจจะเป็นคนประเภทเดียวกับพี่ก็ได้นะครับ”

“คนแบบไหนวะ?” ผมถามขึ้นอยากแปลกใจรพลางมองคนที่ก้มลงมาที่ตรงไหล่ก่อนจะผละออกไปพร้อมทิ้งด้วยแดงไว้อีกรอยอย่างเซ็งๆ

“คนที่เมาแล้วจะตื่นเช้า” ไอ้ปืนพูดอย่างขำๆ ก่อนจะลากผมเข้าไปในส่วนของ Shower Rain ด้วยกัน

“กินเหล้ามารึไง เมาอะไรของมึงวะ?” ผมถามมันอย่างขำๆ ก่อนจะส่ายหัวพลางเปิดน้ำเพื่อชำระคราบสกปรกที่ไอ้คนตรงหน้าทำเอาผมไม่ได้อาบน้ำมาตั้งแต่เมื่อวาน …ก็มันอ่ะไม่กินเหล้าจะเมาได้ไงครับ?

“เมารัก” ไอ้ปืนยิ้มหวานก่อนจะบีบสบู่เหลวใส่ใยบวบที่มีบริการไว้ในห้องน้ำก่อนจะแปะมันลงบนตัวผมแล้วเริ่มถูให้

“เพ้อเจ้อชะมัด” ผมหัวเราะอย่างขำๆ ก่อนมันจะผลักหัวผมเบาๆ อย่างหมั่นไส้ ผมยู่หน้าก่อนจะหันหลังให้มันขัดหลังแทน …รู้สึกห่วงใยความปลอดภัยของทัพหน้าแปลกๆ

“ก็เพ้อเจ้อน่ะสิครับ” เสียงกระซิบเบาๆ ดังขึ้นที่ข้างหูทำให้รู้ว่า …ผมพลาดอีกแล้ว พลาด..ที่ดันหันหลังให้มัน

“ผมเมาสตรอเบอร์รี่ต่างหาก” ผมได้ยินเสียงหัวเราะร้ายๆ ดังขึ้นด้านหลังก่อนจะถูกดันไปติดกับบานกระจกที่ใช้กั้นส่วน Shower ทั้งๆ ที่น้ำยังไม่ได้ปิด สบู่ก็ยังไม่ได้ล้างออก เหลือบไปอีกที

…สตรอเบอร์รี่ก็อยู่มือไอ้ปืนเรียบร้อยแล้ว

“ไม่น่าตื่นเช้าเลยกู อ้าา…”





[Bpuen's]

ก๊อก ก๊อก ก๊อก…

“ครับผม” ผมส่งเสียงตะโกนรับหน้าไปก่อนจะเดินไปเปิดประตู คุณป้ายิ้มให้ก่อนจะบอกว่าวันนี้คุณป้าจะยกแปลงผักใหม่เลยลองมาชวนดู ถ้าหากสนใจก็ไปร่วมด้วยช่วยกันได้ พอได้ยินอย่างนั้นในฐานะเด็กเกษตรอย่างผมก็ไฟลุกทันที รีบถามรายละเอียดใหญ่ว่าเป็นผักอะไร ยกแปลงตรงไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คุณป้าเงียบไปจนผมต้องหันไปมองอย่างสงสัยก็เห็นคุณป้าจ้องที่คอผมอยู่ก่อนแล้ว

“เมื่อคืนนอนไม่ปิดประตูเหรอลูก” คุณป้าถามพลางขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“ก็ปิดนะครับ ทำไมเหรอครับคุณป้า”

“เปล่าลูก เห็นคอเป็นรอยก็นึกสงสัยอยู่ว่าไปโดนตัวอะไรมันกัดเข้า คันมั้ยล่ะนั่น?” คุณป้าถามอย่างห่วงใยจนผมต้องเอามือแตะคอเพื่อสำรวจอาการตัวเองอย่างงงๆ

“ไม่คันหรอกแม่ตรงคออ่ะ คันอย่างอื่นมากกว่า” เสียงพี่บอลที่ดังขึ้นมาพร้อมถาดตราไก่ในมือที่เต็มไปด้วยจานข้าวและถ้วยแกงพูดขึ้นก่อนจะวางมันลงตรงโต๊ะเตี้ยสำหรับนั่งพื้นที่วางไว้อยู่ก่อนแล้วตรงชานบ้าน

“คันอะไรลูก” คุณป้าถามอย่างสงสัย พี่บอลหัวเราะบอกคุณป้าไปว่าไม่มีอะไรจนคุณป้าเดินจากไปอย่างงงๆ พร้อมกับฝากไว้ ย้ำให้ไปยกแปลงด้วยกัน

“แมลงในสวนกูนี่ท่าทางจะเยอะเนอะ โดนกัดกันระนาว” พี่บอลหัวเราะขึ้นมาอีกรอบตอนที่พี่กันย์เดินออกมาจนเจ้าตัวทำหน้างงเหมือนผมเมื่อครู่นี้ไม่มีผิด แต่ตอนนี้ผมว่าผมรู้แล้วล่ะครับว่ารอยแดงที่ป้าว่า …หมายถึงอะไร

“แมลงอะไรของพี่วะ?” พี่กันย์ขมวดคิ้วก่อนจะบิดตัวไปมาเพื่อคล้ายอาการเมื่อยล้า ชะงักกึกก่อนจะสะโพกพลางทำหน้าโอดโอย

“ไม่รู้ว่ะ รู้แค่ว่าตัวเมียตบไม่ตาย ต้องใช่ปืนยิง” พี่บอลยกยิ้มมุมปากก่อนจะยักคิ้วให้พี่กันย์อย่างกวนๆ จนผมหลุดขำออกมา

“ว่าแต่ว่า… กระสุนมีน้ำยาเปล่าวะ?” พี่บอลยังยิงคำถามไม่เลิกก่อนจะเปิดฝาถ้วยแกงออกแล้วอันเชิญผมกับพี่กันย์ลงนั่งกับพื้นปูเสื่อ

“กระสุนบ้านผมมีแต่ตะกั่วว่ะ ไม่มีน้ำยา โอ้ย!” พี่กันย์กวนกลับทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าฝ่ายตรงข้ามหมายถึงอะไรก่อนจะร้องโอดอวยอีกครั้งเมื่อผลอทิ้งตัวลงกับพื้นปูเสื้อที่ปูบนพื้นไม้แข็งๆ อีกที

“ไม่มีน้ำยายังร้องซะขนาดนี้” พี่บอลพูขึ้นอย่างขำๆ ไอ้คนที่ยังไม่รู้ตัวยังทำหน้างงต่อไปก่อนจะเริ่มทำหน้าเหมือนเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างเมื่อผมเดินกลับมาเอาหมอนที่ไว้รองนั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้งมายื่นให้พี่กันย์

“ถ้าไม่ไหวไม่ต้องไปก็ได้นะเดี๋ยวบอกแม่ให้” พี่บอลรวบฝาถ้วยแกงวางบนถาดก่อนจะยกขึ้น ก่อนจะมองหน้าน้องร่วมคณะที่เมื่อกี้ยังเอาแต่กวนกลับแต่ตอนนี้หน้าเปลี่ยนสีไปซะแล้ว

“แล้วก็อีกอย่าง…”

“ครับ?” ผมหันไปมองอย่างงงๆ หลังจากบังคับให้พี่กันย์ใช้เบาะรองนั่งได้สำเร็จ ก่อนพี่บอลจะพูดกลั้วหัวเราะออกมาจนพี่กันย์แทบสำลักน้ำแกงส้มตรงหน้า


“วันนี้มีแขกเข้าพักเต็ม เพราะงั้น…เสียงดังขนาดเมื่อคืนไม่ได้แล้วนะครับไอ้น้องชาย!”









พยายามมาเร็วอย่างที่สุดแล้วนะคะ TT อาทิตย์นี้กลับเช้าสองวันติด เดินแบบไม่มีสติเลยค่ะ
เอาล่ะ!!  NC เป็นยังไงบ้างค้าา? อาจไม่ดีเท่าไหร่ แต่ให้รู้ไว้ว่าพยายามกว่าทุกบทที่ผ่านมาอีกนะเนี่ย 55555
นี่เข็นให้สุดๆ แล้วนะคะ ยาวมากจริงๆ สำหรับ NC ครั้งแรก น้ำตาแทบไหลเลย จินตนาการไม่ถูกเลยทีเดียว -/////-
ถึงจะคัทตอนสำคัญไป แต่เท่านี้ก็น่าจะพอไหวนะคะ รึเปล่า? 55555 เอาเป็นว่า ...ชอบไม่ชอบยังไงบอกไว้น้า ^^

และเหมือนเดิมค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตาม #ก็พี่มันเยอะ นะคะ ขอบคุณมากจริงๆ
รักน้าา ♥
Zenzaii

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-02-2017 02:47:15
พี่กันย์เสร็จน้องปืนจนได้ :z1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2017 05:34:08
คนอ่าน น่าจะเข้าพักห้องข้างๆพี่กันย์นะ  :hao6: :z1: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-02-2017 08:00:35
 :o8:  เขินมาก พี่บอลอย่าเพิ่งแซวสิคะ   :pighaun: 
เบาะนั้นที่พี่กันย์คู่ควร อิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 03-02-2017 09:44:52
แมลงตัวเมียตบไม่ตายต้องใช้ปืนยิง โอ้ยยยยยยถูกใจ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-02-2017 10:32:32
กันย์ไม่เยอะหรอกบทนี้
ปืนสิ "ได้" ไป "เยอะ" เลย
 :laugh:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-02-2017 10:47:25
อยากจิไปพักอยู่ห้องข้าง ๆ
พี่กันต์กับน้องปืน

 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-02-2017 13:06:46
 :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-02-2017 15:06:16
 :hao7: :jul1:  มันดีต่อใจ~~~~~><
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 04-02-2017 00:14:15
ปืนสมหวังซะที o18  พี่กันย์น่ารัก  ปืนไม่ใช่ย่อย ๆ เล่นเอาของแถมแทบหมด :hao3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 04-02-2017 00:43:41
NC ทำให้เลือดออกจนหมดตัว
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 04-02-2017 08:06:40
ว๊ายยยย เค้าได้กันแล้ววววว
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 09-02-2017 11:27:40
อ่านมาสามวันแล้วค่ะตั้งแต่ตอนแรกเลย สนุกมาก ทำไมถึงเพิ่งเข้ามาอ่านก็ไม่รู้โอ้ยยย
ปืนกับพี่กันย์นี่ น่ารักกันจริงๆ
แด่ตอนล่าสุด...... เค้าได้กันแล้วค่าาาา ว้ายยยยยยยยยยยย :haun4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ//CH 34-...ก็พี่เสียงดัง จะให้ผมยั้งยังไงล่ะครับ?[03.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 11-02-2017 17:12:13
พี่กันย์ไม่ทันตลอดอ่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 13-02-2017 01:56:06
35-...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้

“สวัสดีตอนเช้าครับ” ผมชะงักมือที่กำลังเกลี่ยเส้นผมบนใบหน้าของคนที่กำลังนอนอยู่ก่อนจะเอ่ยทักเมื่อเจ้าตัวลืมตาขึ้นมามองผม พี่กันย์กระพริบตาปริบๆ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอย่างมึนๆ แล้วถามขึ้นมา

“กี่โมงแล้ว?”

“เจ็ดโมงกว่าแล้วครับ”

“ตื่นเช้าจังวะ?” พี่กันย์หันมามองก่อนจะชี้ๆ มาที่ผมซึ่งอาบน้ำและอยู่ในชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว ผมยิ้มขำกับท่าทางของคนตรงหน้าที่ยังเหมือนไม่ตื่นดีก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่ส่งให้คนที่ทำท่าเหมือนจะลุกไปอาบน้ำ

“พี่ก็ตื่นเช้าเหมือนกันครับ” พี่กันย์หันมาเลิกคิ้วให้ผมอย่างงงๆ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากเมื่อผมเอ่ยขึ้น

"ข้อ 1 พี่เกลียดการตื่นก่อนแปดโมง…"

“หึ ติดนิสัยไปแล้วมั้ง?” พี่กันย์เดินมาผลักหัวผมหนึ่งทีก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ผมมองตามอยู่ครู่หนึ่งถึงแม้ประตูห้องน้ำจะปิดไปแล้วแต่ผมก็ยังหยุดยิ้มไม่ได้  พี่กันย์ก็ยังเป็นพี่กันย์คนเดิม แต่เหมือนจะมีบางอย่างที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป ซึ่งผมว่า …มันก็ดีนะครับ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก…

เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นในตอนเช้าแบบนี้ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร ผมเดินไปเปิดประตูก่อนจะยิ้มให้เจ้าของไร่ที่ยืนมองผมด้วยแววตาเป็นประกาย

“ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือนะครับ”

“ครับ?” ผมมองพี่บอลอย่างงงๆ อย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าตัวพยายามจะสื่อพลางเดินตามไปยังโต๊ะตรงชานบ้านที่มีถาดอาหารเช้าวางพร้อมไว้ให้แล้ว

“เมื่อวานยังไม่มีลูกค้าท่านไหนรายงาน …ว่ามีเสียงรบกวนยามวิกาล” ผมเลิกคิ้วก่อนจะหลุดขำออกมาเมื่อเข้าใจในสิ่งที่พี่บอลบอก …จะมีได้ยังไงล่ะครับก็เมื่อคืนผมกับพี่กันย์ไม่ได้ ‘เล่น’ อะไรกันสักหน่อยเพราะสงสารคนที่นอนทั้งวันด้วยท่าทางอ่อนเพลียจนแทบไม่ได้ทำกิจกรรมที่ทางไร่จัดไว้ให้เลยสักอย่าง

“ขอบคุณสำหรับอาหารนะครับ” ผมเปลี่ยนประเด็นจนพี่บอลหัวเราะหึหึออกมาอย่างมีเลศนัยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา เกรงว่าถ้าชักเข้าเรื่องนี้เดี๋ยวคนที่ตามออกมาทีหลังจะมาลงที่ผมเอาน่ะสิครับ

“กะจะออกกันกี่โมงวะ?” พี่บอลถามพลางรับเครื่องดื่มที่พี่อีกคนยกตามมาให้วางไว้ข้างๆ ถาดอาหารก่อนจะจัดการจัดระเบียบบนโต๊ะให้อย่างเรียบร้อย

“น่าจะก่อนเที่ยงว่ะพี่ ไม่อยากไปถึงกรุงเทพฯ ดึก” พี่กันย์ที่เดินตามออกมาทั้งๆ ที่ผมยังไม่แห้งดีตอบก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“โอเค กูจะได้ไปบอกแม่ เขาเตรียมขนมไว้ให้พวกมึงเพียบ กินได้จนถึงชาติหน้าชัวร์” พี่บอลพูดขึ้นอย่างขำๆ ก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้พวกผมนั่งกินข้าว เสพอากาศยามเช้าที่โคตรดีอย่างเงียบๆ ผมมองคนตรงหน้าที่ลองตักนู่นตักนี่กินไม่หยุดอย่างยิ้มๆ จนเจ้าตัวชะงักก่อนจะเหลือบตาขึ้นมามอง

“มองอะไร กูไปแย่งอาหารมึงรึไง?” พี่กันย์เลิกคิ้วอย่างงงๆ ก่อนจะเลื่อนช้อนที่เต็มไปด้วยแกงเขียวหวานมาโปะลงบนข้าวในจานผมแทน

“เปล่าครับ ขอบคุณครับผม” ผมตอบยิ้มๆ พลางตักแกงคืนให้บ้าง ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังไม่หายสงสัยแต่ก็ยอมกินข้าวต่อไป

“จ้องอะไรนักหนาวะ?” พี่กันย์ยังบ่นงุบงิบออกมาจนผมได้แต่หลุดขำก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเม็ดข้าวที่ติดตรงมุมปากออกให้

“ผมแค่รู้สึกแปลกๆ”

“หืมม? ยังไง?” คำพูดของผมทำให้พี่กันย์หยุดกินอีกครั้งก่อนจะเงยขึ้นมามองอย่างงงๆ

“ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาเที่ยวกับพี่แบบนี้ มานั่งกินข้าวด้วยกัน นอนด้วยกัน ทำอะไร…”

“เดี๋ยวๆ นอนด้วยกันคืออะไรวะ?” พี่กันย์สะดุ้งก่อนจะพูดออกมาตะกุกตะกักจนผมหลุดหัวเราะออกมาจนคนตรงหน้าเริ่มหน้าขึ้นสี

“จะว่าไป… หายเจ็บแล้วยังครับ?”

“สัด!”

“ยังไม่หายเหรอครับ? เมื่อคืนผมอุตส่าห์ไม่กวนแล้วนะ” ผมแกล้งเลิกคิ้วอย่างสงสัยพลางเหลือบมองคนตรงหน้าที่มองมาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ครั้งแรกมั้ยล่ะ เห็นใจกูบ้างเนอะ!”

“หมายความครั้งต่อไป… จะไม่เจ็บแล้วเหรอครับ?”

“แค่กๆๆ” เสียงไอทำให้ผมหลุดขำก่อนจะรีบยื่นน้ำส่งไปให้คนตรงหน้าอย่างช่วยไม่ได้

“ครั้งต่อไปอะไรของมึง!” พี่กันย์พูดเสียงสูงก่อนจะตักอาหารมากองๆ ไว้ในจานผมจนเต็มไปหมดเพื่อแก้เขินก่อนจะเริ่มกินอีกครั้งอย่างพยายามไม่สนใจฟัง

“เดี๋ยวก็รู้ครับ” ผมตอบยิ้มๆ พลางเริ่มกินอาหารตรงหน้าบ้าง ไม่นานอาหารก็พร่องไปจนเกือบหมด ผมนั่งมองคนตรงหน้าที่นั่งลูบท้องป้อยๆ ด้วยความอิ่มเพราะเล่นกินเข้าไปซะขนาดนั้นก่อนจะเอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบ

“ที่มึงบอกรู้สึกแปลกๆ …มันดีหรือไม่ดีวะ?” คำถามที่จู่ๆ ก็ถามขึ้นมาทำให้ผมนึกไปถึงเรื่องก่อนหน้าที่เกือบจะลืมไปแล้วก่อนจะยกมือขึ้นเท้าคางกับโต๊ะตั้งใจมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ผมเริ่มมั่นใจแล้วว่า …มันเกินคำว่า ‘ชอบ’ มานานมากแล้ว

“ดีสิครับ ดีมาก” ผมตอบอย่างมั่นใจพลางมองพี่กันย์ที่เม้มปากแล้วเหลือบมามองผมเป็นระยะๆ

“แล้วพี่ล่ะครับ รู้สึกยังไง?”

“แปลกๆ”

“ดีหรือไม่ดีครับ?”

“ก็…ไม่ได้แย่อะไร” ผมลอบยิ้มให้กับคนที่หน้าเริ่มขึ้นสีชัดขึ้นเรื่อยๆ ขัดกับคำพูดที่เหมือนจะตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร

“กู เอ่อ…ไปเก็บกระเป๋าก่อนนะ” พี่กันย์บอกก่อนจะผุดลุกขึ้นทำท่าจะเดินเข้าไปด้วยท่าทางเขินๆ ผมมองท่าทางนั้นด้วยความรู้สึกฟูๆ ในอก รู้ตัวอีกทีมือผมก็คว้าข้อมือพี่กันย์เอาไว้แล้ว เจ้าตัวหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะหลบตาไปทางอื่นพร้อมกับผมที่ลุกขึ้นเดินเข้าไปประชิดร่างกายของอีกคน

“ไม่รู้ผมเคยบอกพี่ไปรึยัง? คือผม…” อยู่ดีๆ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองกลั้นหายใจ หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มือที่กำข้อมือพี่กันย์สั่นน้อยๆ จนคนที่โดนจับไว้หันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะดึงมือผมขึ้นมามองอย่างสงสัย

“คือผม… ผม… ”

“มึงทำไม?”

“ผม… รักพี่นะครับ” ผมลอบถอนหายใจอย่างรู้สึกโล่งอก ไม่คิดว่าแค่จะพูดคำว่า ‘รัก’ จะต้องใช้ความกล้ามากมายขนาดนี้ …ขอมีอะไรกันยังง่ายกว่า ไอ้ปืนเอ้ย!

“แมร่ง!” พี่กันย์สบถจนผมสะดุ้งอย่างตกใจก่อนจะเห็นคนตรงหน้าหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะยกมือมาแปะบนหัวผมแล้วโยกไปมา

“โคตรเด็กน้อยอ่ะ”

“ก็ผมเด็กกว่าพี่” ผมแถแก้เขินก่อนจะมองคนตรงหน้าที่ยังมองมาด้วยแววตาเป็นประกาย

“มือมึงสั่น…” พี่กันย์พูดอย่างขำๆ ก่อนจะวางมือตัวเองทับมือผมข้างที่กำข้อมือเจ้าตัวอยู่แล้วบีบเบาๆ

“ใจผมก็สั่นนะ” ผมบอกอีกครั้งก่อนจะจับมือคนตรงหน้ามาแปะบนอกข้างซ้ายเพื่อยืนยันว่าใจผมเต้นแรงมากจริงๆ
 
“ขนาดนั้นเลย?”

“ขนาดนั้นแหละครับ สงสัย…ผมจะกลัวมั้ง”

“กลัวอะไรวะ?” พี่กันย์เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

“มีเรื่องให้กลัวเยอะแยะไปครับ กลัวพี่ด่า กลัวพี่ถีบ กลัวพี่ไม่ให้นอนด้วย กลัวพี่…ไม่รัก”

“ไอ้เชี่ยปืน! ไอ้เด็กน้อยเอ้ย!” พี่กันย์พูดอย่างขำๆ ก่อนจะขยี้หัวผมจนยุ่งไปหมด

“ที่ทำอย่างอื่นล่ะมั่นใจเชียวนะมึง เรื่องแค่นี้ทำใจหมาขึ้นมา เวร!” พี่กันย์ส่ายอย่างระอาก่อนจะเดินเข้าล็อคคอแล้วดึงผมไปกอดไว้ …แมร่งโคตรฮาร์ดคอร์

“ถ้าไม่นับเรื่องบนเตียง มึงนี่ฝ่ายรับชัดๆ กูแมร่งไม่น่าพลาดเลย” ผมได้ยินเสียงพี่กันย์พูดขึ้นอย่างเซ็งๆ ก่อนเจ้าตัวจะเงียบไปจนสัมผัสได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจที่ทำให้ผมรู้ได้ว่าไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกครับที่ใจเต้นแรง

“เมื่อกี้มึงบอกกูว่าอะไรนะ” พี่กันย์ถามผมอีกครั้ง ผมยิ้มและตั้งใจตอบใหม่ด้วยน้ำเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำกว่าเดิม

“ผมรักพี่ครับ”

“เออ” พี่กันย์รับคำก่อนเจ้าตัวจะใช้กำปั้นทุบหลังผมเบาๆ

“รักมึงเหมือนกัน ไอ้เด็กน้อยของกู!”





หลังจากกลับจากระนองก็เข้าสู่ช่วงหยุดยาวปีใหม่ ทั้งผมทั้งพี่กันย์ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ครอบครัวผมและญาติๆ ชวนกันไปรับแสงแรกของปีใหม่ที่เชียงใหม่ ส่วนพี่กันย์นั้นก็มีปาร์ตี้เล็กๆ กับครอบครัวที่บ้าน เจ้าตัวส่งรูปช็อคโกแลตที่ถูกบรรจุอยู่เต็มลังส่งมาให้ว่าจับได้เป็นของขวัญพร้อมกับข้อความสวัสดีปีใหม่ …ดูท่าทางผมจะไม่ต้องซื้อไว้ให้ไปอีกเป็นเดือน

“สวัสดีปีใหม่ครับเพื่อนฝูง” ไอ้ป้องทักขึ้นก่อนจะวางถุงของฝากจากใต้ที่มันไปกับครอบครัวมันลงบนโต๊ะก่อนจะหันไปสนใจกับโทรศัพท์ของตัวเองต่อปล่อยให้พวกผมรื้อกองของฝากอย่างสนใจ

“เสื้อนี่ของพวกกูป่ะ?” ไอ้ธันย์ถามขึ้นก่อนจะรื้อเสื้อสีดำที่มีชื่อแหล่งท่องเที่ยวสกรีนด้วยตัวหนังสือสีแดงแปะหราอยู่บนอกทั้งที่เจ้าของมันยังไม่ทันจะอนุญาต

“เออ ของพวกมึงอ่ะ” พอได้ยินเจ้าของมันบอกอย่างนั้นผมเลยลองรื้อตัวอื่นออกมาบ้าง แต่ทุกตัวก็เหมือนกัน…ต่างกันแค่สีตัวอักษรและชื่อสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่างกันออกไป

“ตัวหนังสือแมร่งโคตรใหญ่ ไม่มีตัวที่สรีนสีเรียบๆ ตัวอักษรเล็กๆ บ้างเหรอวะ?” ผมถามมันหลังจากที่แกะเสื้อทุกตัวออกมาดูก่อนจะมองหน้าพวกไอ้ธันย์ที่จ้องผมอยู่ก่อนแล้วอย่างงงๆ

“ติดเชื้อจากพี่กันย์มารึไง เมื่อก่อนไม่เห็นเรื่องมากแถมชอบด้วยซ้ำไอ้พวกเสื้อสกรีนลายใหญ่ๆ เนี่ย” ผมชะงักไปตามคำพูดของไอ้พีทที่แซวขึ้นมาก่อนจะหลุดหัวเราะจนไอ้พวกเพื่อนผมได้แต่เบะปากใส่อย่างหมั่นไส้ นั่นสิครับ…สงสัยจะติดเชื้อจากพี่กันย์มาจริงๆ

“เออๆ ขอบใจมากแล้วกัน กูจะใส่มันอย่างดีครับผม” ผมหันไปบอกเอาใจไอ้ป้องที่อุตส่าห์ซื้อเสื้อมาฝากก่อนหันมาสนใจโทรศัพท์ในกระเป๋าที่สั่นเนื่องจากมีสายเข้า

“ครับพี่กันย์”

(อยู่ไหนวะ?)

“ใต้ตึกคณะครับพี่ กลับมาแล้วหรอครับ?” ผมถามคนที่ผมกำลังรออยู่เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกหลังหยุดยาวปีใหม่ ผมกลับมาหอตั้งแต่สองวันก่อนแต่พี่กันย์มีนัดไปต่างจังหวัดกับเพื่อนต่อเลยกลับมาถึงเช้าวันนี้พอดี

(กลับมาแล้ว แค่นี้นะ) ผมมองโทรศัพท์ที่อีกฝ่ายตัดสายทิ้งอย่างงงๆ ก่อนจะสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่หลัง พอหันไปก็เจอเข้ากับคนที่เพิ่งตัดสายผมเมื่อครู่พอดี

“อ่ะของฝาก” พี่กันย์บอกก่อนจะวางถุงมากมายลงตรงกลางโต๊ะเรียกให้ไอ้พวกเพื่อนผมที่เหลือหันมามองอย่างงงๆ ก่อนจะยกมือไหว้กันแทบไม่ทัน

“อ้าวพี่ มาไงครับเนี่ย สวัสดีครับ / สวัสดีครับพี่กันย์”

“หวัดดี มีของพวกมึงด้วยนะเอาไปแบ่งๆ กัน” พี่กันย์บอกก่อนจะรับเสื้อที่ไอ้ป้องยื่นมาให้อย่างงงๆ

“ของฝากของผมครับ ซื้อมาให้พี่ด้วย”

“แต้งกิ้วเว้ย” พี่กันย์ตบลงบนบ่าไอ้ป้องสองทีก่อนจะรื้อเสื้อในถุงออกมาคลี่ดู สายตาเจ้าตัวจะชะงักกึกกับลายสกรีนที่เด่นหราอยู่กลางเสื้อเหมือนกับผมไม่มีผิด

“แล้วไม่ต้องบ่นเรื่องลายสกรีนตรงกลางเสื้อนะครับ เพราะไอ้ปืนจัดผมไปเรียบร้อยแล้ว” ไอ้ป้องดักทางก่อนพี่กันย์จะหันมาหรี่ตามองผมอย่างขำๆ

“เออ เดี๋ยวกูยกเว้นใส่นอนให้ตัวหนึ่ง”

“แค่ครั้งเดียวตอนเมาด้วย เชื่อกู!” ผมเสริมเล่นเอาไอ้ป้องได้แต่ทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะพากันหัวเราะขึ้นมารอบวง

“แล้วของฝากกูอ่ะ?” คราวนี้พี่กันย์หันมาถามก่อนจะแบมือขึ้นมาตรงหน้าอย่างคาดหวัง ผมวางมือของผมลงไปก่อนจะยิ้มให้อย่างขำๆ

“นี่ไงครับ”

“สัด! ไม่ลงทุนเลยว่ะ” พี่กันย์เบะปากอย่างเซ็งๆ ก่อนจะยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาที่ตอนนี้ใกล้จะเก้าโมงแล้วเลยบอกให้พวกไอ้พีทขึ้นไปก่อนส่วนผมเดินมาส่งพี่กันย์ที่รถ

“เจอกันตอนเย็นนะครับ” ผมบอกก่อนจะมองคนที่ขึ้นไปนั่งบนรถและรัดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว พี่กันย์หันมายิ้มให้ก่อนจะยื่นมือมายีหัวผมเบาๆ อย่างที่พักหลังๆ นี้เริ่มติดเป็นนิสัยอีกอย่าง

“อือ เจอกัน”





“วันนี้พวกไอ้ทีแมร่งชวนไปกินเหล้าว่ะ” พี่กันย์ขับรถมาหาผมที่หน้าคณะเหมือนทุกครั้งก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งจากสารถีไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถเหมือนอย่างเคยๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นทำให้ผมหันไปเลิกคิ้วอย่างสงสัย

“แจ้งให้ทราบหรือขออนุญาตครับ?”

“ต้องขอด้วยเหรอวะ?” พี่กันย์ยกยิ้มมุมปากก่อนจะหันไปหยิบหมอนแมวดำที่ตอนนี้กลายเป็นไอเทมประจำตัวไปแล้วมากอดไว้ก่อนจะซบหน้าลงไปแต่ยังเอียงหน้ามามองผมอยู่

“ก็…ไม่ต้องหรอกครับ” ผมบอกก่อนจะแกล้งหรี่ตาไปมองคนข้างๆ ที่หลุดยิ้มออกมา

“แล้วให้ไปป่ะ?”

“นี่คือถาม?”

“เออ ถามมึงอ่ะแหละ กูไปได้ใช่มั้ยครับ?” พี่กันย์เท้าคางมองผมยิ้มๆ จนผมเริ่มหมั่นเขี้ยวแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะกำลังขับรถอยู่ ผมทำท่าคิดอยู่นานจนพี่กันย์เริ่มตั้งท่าจะโวยวายนั่นแหละเลยตอบกลับไป

“ไปได้สิครับ ทำไมจะไปไม่ได้ล่ะ” ผมบอกก่อนจะหันไปยิ้มให้ พี่กันย์ยิ้มตอบก่อนต่างคนจะต่างเงียบไป แล้วอยู่ๆ ผมก็สัมผัสได้ถึงแรงกดหนักๆ ตรงไหล่ข้างซ้าย

“ง่วงว่ะ บนรถแมร่งไม่ได้นอนเลย พวกมันเอาแต่เล่นกัน” พี่กันบ่นงุ้งงิ้งๆ เหมือนไม่มีอะไรแต่ทำเอาผมกลั้นยิ้มไม่อยู่ที่อยู่ดีๆ เจ้าตัวก็เอนหัวมาพิงไหล่ผมต่างหมอนทั้งที่ไม่เคยทำ ส่วนเจ้าหมอนแมวดำก็ตกกระป๋องกลายเป็นแค่หมอนข้างไว้กอดเรียบร้อยแล้ว

“ถ้าง่วงก็นอนสิครับ ถึงหอแล้วเดี๋ยวปลุก” ผมบอกก่อนจะเอนหัวลงไปกระทบกับหัวของคนที่พิงอยู่ก่อนเบาๆ เจ้าตัวยุกยิกเหมือนจะผละออกจนผมต้องเอื้อมมือไปกดไว้ให้นอนลงไปเหมือนเดิม

“แมร่งปิดปีใหม่หลายวัน” คนที่ผมนึกว่าหลับไปแล้วพูดขึ้นจนผมต้องเหลือบไปมองอย่างงงๆ อีกครั้ง

“แล้วไม่ดีเหรอครับ ได้หยุดตั้งหลายวัน?” ผมถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจ

“ก็ดี แต่…”

“ครับ?” ผมรับคำอย่างงๆ เมื่อเจ้าตัวเงียบหายไปนานจนคิดว่าคราวนี้พี่กันย์จะหลับไปแล้วจริงๆ

“คิดถึงไง” เสียงที่ตอบขึ้นมาเบาๆ ทำให้ผมชะงักจนเกือบเหยียบเบรก ดีที่ตั้งสติได้ไม่งั้นพี่กันย์คงหน้าทิ่มไปแล้วแหงๆ ว่าแต่…

“คิดถึงผมเหรอครับ” ผมถามย้ำแต่เจ้าตัวไม่ตอบ

“พี่กันย์…คิดถึงผมเหรอ?” พี่กันย์ยังคงเงียบ ผมกลั้นยิ้มและยังคงถามต่อไป

“พี่กันย์ครับ…”

“กูหลับแล้ว ไม่ต้องมาเรียกแล้วนะ โว๊ะ!” ผมรู้สึกว่าตอนนี้ผมยิ้มออกมากว้างกว่าครั้งไหนๆ และเพราะผมกำลังขับรถเลยไม่ทันเห็นว่าพี่กันย์ …ก็เม้มปากแน่นกว่าครั้งไหนๆ เหมือนกัน





(ต่อด้านล่าง)



หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 13-02-2017 01:56:31
“น้องกันย์ครับ” เสียงพี่ยามเรียกในระหว่างที่เรากำลังเดินเข้าหอทำให้พี่กันย์ชะงักก่อนจะหันมองอย่างงงๆ

“ครับพี่?”

“ของน้องกันย์ครับ”

“อ่อ ขอบคุณครับพี่” พี่กันย์รับซองสีน้ำตาลขนาดเท่าฝ่ามือมาอย่างงงๆ ก่อนจะพลิกซ้ายพลิกขวาแต่ก็ไม่เจอชื่อผู้ส่ง แค่มีตราประทับว่าจาก ‘เชียงใหม่’ ก็เท่านั้น ผมหันไปมองของในมือพี่กันย์อย่างยิ้มๆ ก่อนเจ้าตัวจะหันมาเจอผมที่มองอยู่ก่อนพอดีเลยเลิกคิ้วถามอย่างงงๆ

“รู้เหรอว่าของใคร?”

“ของพี่นั่นแหละครับ ชื่อก็เขียนอยู่” ผมตอบ พี่กันย์ทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะใช้ซองเอกสารสีน้ำตาลตีหัวผมแล้วเดินนำเข้าไปในหอ

“กูหมายถึงคนส่งดิวะ!” ผมหลุดขำออกมาเบาๆ ในตอนที่เดินถึงห้องพี่กันย์พอดี พี่กันย์ไขเข้าไปก่อนจะวางกระเป๋าลงแล้วทิ้งตัวลงนั่งตรง Bean bag สายตายังคงจับจ้องอยู่กับซองสีน้ำตาลในมือ

“แกะดูสิครับ” พี่กันย์หันมามองผมอย่างงงๆ ก่อนจะเลิกคิ้วถาม ผมยิ้มให้ก่อนจะชี้ไปที่ซองสีน้ำตาล

“ของฝาก…จากเชียงใหม่ครับ” พี่กันย์ทำตาโตก่อนจะมองมาอย่างไม่ไว้ใจเท่าไหร่แต่ก็เริ่มจัดการแกะมันออกทันที และเพราะผมรู้ว่ามันคืออะไรเลยเดินเลี่ยงออกมาตรงระเบียงเพราะรู้สึกเขินแบบแปลลๆ ผ่านไปเกือบยี่สิบนาทีพี่กันย์ก็เดินออกมาตาม

“มานั่งอะไรให้ยุงหามตรงนี้วะ?” ผมหันไปมองพี่กันย์ที่ยืนพิงขอบประตูด้วยใบหน้ายิ้มๆ ก่อนจะยื่นมือมาให้ ผมยิ้มรับแล้ววางมือลงไปตามคำขอก่อนจะปล่อยให้อีกฝ่ายฉุดตัวผมให้ลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเข้าไปในห้อง

“ไม่คิดว่าจะเสี่ยวแดกขนาดนี้” พี่กันย์เอ่ยขำๆ ก่อนจะโบกซองสีน้ำตาลในมือให้ผมดู จากนั้นจึงเดินไปเก็บมันไว้ในลิ้นชักโต๊ะทำงานแล้วเข้ามาหาผมแล้ว คว้าไปกอดพลางตบลงที่กลางหลังสองสามที

“กูขอถอนคำพูดได้เปล่าวะ?” พี่กันย์ดึงตัวออกไปก่อนจะถามยิ้มๆ

“ครับ?”

“ของฝากมึงนี่โคตรลงทุนอ่ะ อุตส่าห์ถ่อไปเขียนถึงบนดอย ขอบใจนะเว้ย! กูชอบมาก” ผมหัวเราะก่อนจะนึกไปถึงคำพูดเมื่อตอนเช้าที่พี่กันย์ถามหาของฝากแล้วผมไม่มีให้ก่อนจะแซวกลับไป

“แล้วชอบอะไรมากกว่ากันครับ ของฝาก หรือคนฝาก?” พี่กันย์เบะปากให้ผมอย่างหมั่นไส้ก่อนจะหัวเราะออกมา

“ทั้งคู่แหละ กูไปแต่งตัวก่อนนะ” พี่กันย์บอกก่อนจะเดินเข้าโซนแต่งตัวไปปล่อยให้ผมนอนไถโทรศัพท์เล่นอยู่บนเตียงอย่างไม่มีอะไรทำ

“พี่กันย์นัดพวกพี่ทีไว้กี่โมงนะครับ?” ผมเหลือบไปมองนาฬิกาแขวนผนังที่ดูโคตรยากของพี่กันย์ก่อนจะถามเจ้าตัวเมื่อเห็นเวลาเกือบสองทุ่ม

“สามทุ่ม”

“โอเคครับ งั้นเดี๋ยวผมออกไปพร้อมพี่เลยนะ”

“ไม่ต้องหรอก” เสียงปฏิเสธของอีกคนทำให้ผมหันไปมองอย่างงงๆ

“ครับ?”

“คืนนี้ …จะนอนที่นี่ก็ได้นะ เดี๋ยวกูกลับมา” พี่กันย์ตอบแต่มือเจ้าตัวยังคงวุ่นวายอยู่กับเสื้อผ้าโดยไม่ได้ให้หันมามองหน้าผม

“ให้ผมนอนนี่ได้เหรอครับ?” ผมถามขึ้นอย่างอดแปลกใจไม่ได้ ถึงแม้ผมจะมีกุญแจสำรองแต่นั่นก็ไว้ใช้แค่ส่งข้าวส่งน้ำ มาค้างอย่างมากก็แค่ช่วงส่งงานที่คนตรงหน้าเริ่มทำไม่ทันและต้องการกำลังพลเพิ่ม และถึงแม้พี่กันย์จะไปค้างห้องผมบ่อยๆ แต่ผมไม่เคยมาค้างห้องพี่กันย์โดยนอกเหนือจากเหตุผลที่ว่าเลยสักครั้ง

…เพราะพี่กันย์ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัว แต่ดูเหมือนวันนี้ผมจะได้รับอนุญาตให้วุ่นวายได้ ‘เป็นพิเศษ’ สินะครับ

“เออ หรือถ้าอยากกลับจะกลับก็ได้ แล้วแต่มึง” พี่กันย์ยักไหล่เหมือนไม่ได้สนใจอะไรจนผมต้องรีบปรี่เข้าไปหา

“นอนครับนอน คืนนี้ผมนอนที่นี่นะครับ” ผมรีบตอบตกลงทันทีเพราะกลัวคนตรงหน้าจะเปลี่ยนใจ

“อือ” พี่กันย์พยักหน้ารับ และถ้ามองไม่ผิดเหมือนผมจะเห็นสีแดงจางๆ บนหน้าอีกฝ่ายเหมือนกัน

“งั้นผมคงต้องขอยืมชุดกับของใช้พี่นิดหน่อย พอดีไม่ได้หยิบติดมา” ผมพูดขึ้นอย่างติดเกรงใจนิดๆ ถึงจะเป็นแฟนกันแต่ยังไงผมก็ไม่ลืมข้อที่ว่า …พี่กันย์รักความเป็นส่วนตัว ได้รับอนุญาตให้ค้างที่ห้อง แต่ของใช้ส่วนตัวอาจจะมากเกินไป

“ไม่ต้องยืมหรอก ของมึงอยู่นั่น” พี่กันย์พยักพเยิดหน้าไปทางอีกมุมหนึ่งของโซนนี้จนผมต้องหันไปมองตาม ล็อคหนึ่งของราวตู้เสื้อผ้า มีเสื้อยืดและกางเกงอยู่สามสี่ตัวที่ดูเหมือนจะไม่เข้าพวกแขวนอยู่ ผมเดินเข้าไปดูอย่างสงสัยก่อนจะพลิกไปมาด้วยความสนใจ มันเป็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นลายกราฟฟิคแบบที่ผมชอบใส่ แต่ที่มากกว่านั้นคือ …ไอ้ลายกราฟฟิคบนเสื้อกับกางเกงนี่มันลายเพ้นท์มือชัดๆ!

“พี่กันย์ …เพ้นท์เองเหรอครับ?” ผมหันไปถามอย่างทึ่งๆ ไม่รู้จะอึ้งเรื่องที่พี่กันย์พยายามเตรียมของให้ผม หรือเรื่องที่พี่กันย์เพ้นท์ลายเสื้อเองก่อนดี

“อือ กูพยายามแล้วแต่ตัดใจซื้อแบบที่มึงใส่ให้ไม่ได้จริงๆ ว่ะ เลยทำเองแมร่ง ใส่ได้เปล่าวะ?” พี่กันย์ตอบอ้อมแอ้มก่อนจะเดินไปอีกตู้หนึ่งแล้วหยิบผ้าขนหนูสีน้ำตาลมายื่นให้ และผมจะไม่ยิ้มจนแก้มแทบแตกแบบนี้ถ้าไม่เห็นลายกระตายน้อยสีชมพูคล้ายๆ กับผืนของผมถูกเพ้นท์ไว้ตรงมุมหนึ่งของผ้าแล้วมีตัวอักษรเล็กๆ เขียนว่า ‘BPUEN’S’ กำกับไว้

…โอ้ยยย! ผมจะใจเต้นตายมั้ยครับเนี่ย?

“ใส่ได้สิครับ แฟนผมทำให้ทั้งที”

“แหวะ” พี่กันย์มองผมอย่างหมั่นไส้ก่อนจะทำทีหันไปสนใจกับการเลือกสร้อยข้อมือของตัวเองต่อ แต่ผมเห็นนะครับ …ว่าพี่ก็กำลังยิ้มอยู่เหมือนกัน

พี่กันย์ใช้เวลาแต่งตัวอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะหลุดออกมาจากโซนแต่งตัวได้ ผมมองคนที่จัดเต็มอย่างขำๆ จนเจ้าตัวหันมาหรี่ตามองจนผมต้องหุบยิ้มทันที …ผู้ชายที่ไหนเขาใช้เวลาแต่งตัวนานขนาดนี้กันบ้างครับเนี่ย?

“ห้ามกินเยอะนะครับ พรุ่งนี้มีเรียนถึงจะบ่ายก็เถอะ” ผมบอกในขณะที่เดินลงมาส่งพี่กันย์เพื่อรอแท็กซี่ที่หน้าหอทั้งๆ ที่ผมบอกจะไปส่งก็ไม่ยอม

“อือ”

“ห้ามกินเหล้าผลไม้ด้วย” ขอนี้ผมย้ำเป็นพิเศษโดยไม่ลืมไลน์ไปบอกพวกพี่ทีให้ช่วยดูอีกแรงจนโดนพวกพี่เขาแซวกลับมาซะยับ

“รู้แล้ว”

“เฮ้อ ผมว่าผมไปด้วยดีมั้ยเนี่ย?” ผมถอนหายใจอย่างเป็นห่วงถึงจะรู้ว่าพี่กันย์ก็เที่ยวกับเพื่อนอย่างนี้เป็นปกติ แต่ตอนนี้เป็นผมแล้วไง ขอห่วงนิดนึงได้เปล่าล่ะครับ?

“มึงอย่าเว่อร์” พี่กันย์ส่ายหน้าอย่างเอือมก่อนจะโบกเรียกแท็กซี่ที่ผ่านมาพอดี

“รีบกลับมานะครับ” ผมยกมือโบกหยอยๆ ก่อนพี่กันย์จะขึ้นรถไปแล้วหันมามองมือที่ยังจับประตูไม่ปล่อยของผมอย่างขำๆ

“ปล่อยได้แล้วโว้ย! กูอยากแดกเหล้าแล้วเนี่ย โว๊ะ!” พี่กันย์ตีป้าบลงมาบนมือจนผมต้องปล่อยแล้วมองพี่กันย์ที่นั่งขำก่อนจะดึงประตูรถไปปิด ผมรู้ตัวว่ามองตามตาละห้อยเหมือนหมาถูกเจ้าของทิ้งก่อนจะได้สติเมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโปรแกรมเฟสบุ๊คดังขึ้น ผมล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะเปิดเข้าไปดู

รูปของโปสการ์ดสีขาวธรรมดาๆ สี่ห้าใบที่ถูกวางทับอยู่บนซองสีน้ำตาลปรากฏขึ้นตรงหน้า ที่มุมขวามีตราประทับบอกชื่อสถานที่ชื่อดังของเชียงใหม่ ส่วนพื้นสีขาวนั้นถูกแทนที่ด้วยลายมือของผมที่เขียนข้อความมากมายให้คนที่เพิ่งโพสต์ภาพพร้อมกับแคปชั่นที่ว่า …

‘ของฝากจากเชียงใหม่ ♥ @Bpuen’’

เอาจริงๆ ในรูปนั้นมันอ่านแทบไม่ออกหรอกครับ แต่ผมกลับจำมันได้ขึ้นใจเพราะมันเป็นสิ่งที่ผมตั้งใจเขียนมันเองกับมือก่อนจะใส่ซองติดสแตมป์ส่งมาให้คนทางนี้ …เป็นของฝาก

‘ผมเจอพี่ที่คณะสถาปัตย์ ตอนนั้นพี่ให้ผมไปช่วยฝังลูก(?) แต่เพราะผมทำลูกพี่ตกพี่เลยทำเอง
พี่แก้แค้นที่พวกผมไปดอยคัทคณะพี่ด้วยการสาดสีแดงใส่แต่สุดท้ายพี่ก็ช่วยพวกผมทำจนเสร็จ
พี่เพิ่งบอกพวกผมตอนเช้าว่ามีสอบและพี่ก็บอกว่าอ่านหนังสือแล้ว ทั้งที่พี่ไม่ได้อ่าน แต่พี่ฟังเอา
พี่สามารถทำงานไม่หลับไม่นอนได้หลายวันแต่วันนั้นพี่ดันไปหลับอยู่กลางสี่แยกซะได้
พี่ไปค้างห้องผมแต่ไม่ชอบเสื้อผมสักตัวเพราะพี่ชอบสีดำแต่สุดท้ายก็ยอมใส่เสื้อยืดสีดาร์คเกรย์ของผมจนได้
พี่โดนไอ้พี่คีย์บังคับให้มาช่วยพวกผมทำคัทจนโดนพี่แชมป์ลากมาลงนาแต่พี่ก็ไม่โทษพวกผมสักคำ
พี่เกลียดการตื่นก่อนแปดโมงแต่พี่ก็ยอมตื่นก่อนเวลาเพื่อมาให้ทันตามนัดแปดโมง
พี่เกลียดยูนิฟอร์มแต่พี่ก็ยอมใส่ชุดหมีที่โคตรเชยของคณะผม
 พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มี Accessories ทั้งสี่แต่พี่ก็ยอมถอดมัน
 พี่เกลียดของแหยะๆ ยกเว้นกาวแต่พี่ก็ยอมลงนา
 พี่เกลียดลายดอกแต่ก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ผมให้
พี่ไม่กินเหล้าผลไม้แต่ก็กินมันจนเมาแล้วดันมาจูบผม
พี่บอกว่าผมเด็กแต่พี่ให้ผมซื้อบ้านจำลองของเด็กให้
พี่บอกว่าไม่สนิทกับผมแต่มาค้างห้องผมโคตรบ่อย
พี่บอกจะมาอ่านหนังสือด้วยแต่พี่ทำตัวโคตรว่างแถมยังชวนผมเล่นด้วยอีก
พี่บอกว่าวิธีที่ผมใช้อ่อยมันไม่ได้ผลแต่ตอนนี้ผมก็ได้พี่มาเป็นแฟน
พี่ดูไม่สนใจเท่าไหร่ที่พวกพี่ปูนมาชวนผมไปทะเลแต่สุดท้ายก็ยอมเอ่ยปากชวนผมเอง
พี่ไม่กินเหล้าเพียวแต่ก็ยอมกินแทนผมถึงสุดท้ายผมจะต้องเป็นฝ่ายดูแลพี่ก็ตาม
พี่บอกจะไม่ไปเอาข้าวให้เพราะผมตื่นสายแต่สุดท้ายก็ยอมตามใจผมอยู่ดี
พี่บอกไม่เขินเวลาที่ถูกแซวแต่ผมก็แอบเห็นพี่ยิ้มอยู่ตลอดเวลา
พี่ไม่ให้ผมจีบพี่แต่พี่ดันอ่อยด้วยการลงรูปคู่ผม
พี่บอกจะพาผมไปดาวอังคารแต่พี่ดันพาผมไปบางรัก
พี่บอกว่าพี่ไม่ได้คิดอะไรแต่แค่เจอแฟนเก่าผมเข้าไปพี่ถึงกับไปไม่เป็น
พี่บอกว่าไม่ว่างแต่สุดท้ายแต่สุดท้ายก็ยอมมาเดินงาน Open house ข้างๆ ผมจนได้
พี่หวงพื้นที่ส่วนตัวของพี่แต่พี่ให้กุญแจสำรองของห้องพี่กับผม
พี่ไม่ยอมตกลงเป็นแฟนด้วยเหตุผลที่ว่าสวัสดิการตอนนี้ดีกว่า
พี่บอกกับคนอื่นว่าผมเป็นน้องแต่พี่ก็ไม่ยอมให้ผมแจกเบอร์ใคร
พี่บอกว่าห้ามกอดแต่ตอนที่ผมเผลอไปกอดพี่ก็ไม่ได้ปฏิเสธมัน
พี่บอกว่าแผลผมไกลหัวใจแต่ก็รีบเข้ามาทำแผลให้อยู่ดี
พี่ไม่สบายแต่สุดท้ายก็หนีไปนั่งวงเหล้า
พี่อยากขอโทษแต่ไม่ยอมพูดมันออกมาเหมือนกับที่พี่ชอบผมแต่ก็ไม่ยอมพูดมันออกมาเหมือนกัน
พี่เอาแต่บอกว่าพี่เป็นพี่ แต่ผมไม่อยากเป็นแค่น้องนี่ครับ
พี่ไม่ตกลงที่ผมขอเป็นแฟนแต่สุดท้ายพี่ก็มาขอผมเป็นแฟนะซะเอง
พี่ชวนผมไปเดทแต่บอกว่ามันไม่ใช่เดท แค่ออกมาด้วยกันเฉยๆ
พี่บอกอยากเป็นรุกแต่สุดท้ายก็มารับให้ผมจนได้
พี่ยอมไปเที่ยวต่างจังหวัดกับผมถึงแม้พี่จะชอบในเมืองมากกว่า
พี่โคตรเขินแต่ก็ยอมให้ผมเดินไปหาพนักงานเพื่อซื้อไอ้นั่นมา
พี่บอกจะไม่ยอมแต่พี่ดันเป็นคนเริ่มก่อน และถึงพี่จะเจ็บพี่ก็ยอมให้ผมทุกครั้ง
และ…
เพราะพี่จะเป็นคนที่โคตรเยอะแบบนี้ ผมเลยรักพี่ไงครับ

ปีใหม่นี้ผมไม่อยากขออะไรมากนอกจากขอให้พี่มีเวลานอนเยอะๆ มีเวลาไปสยามเยอะๆ
มีเวลากินชาบูเยอะๆ มีเวลาแต่งตัวเยอะๆ แล้วก็…มีเวลาให้ผมเยอะๆ นะครับ

ถ้าปีต่อไปเราไม่ได้เคาท์ดาวน์ด้วยกันผมก็คงจะเขียนจดหมายหาพี่จากที่ไหนสักที่อีก
แต่ถ้าปีไหนเราได้เคาท์ดาวน์ด้วยกันผมจะบอกมันกับพี่…ด้วยตัวผมเอง

สวัสดีปีใหม่นะครับ พี่กันย์ของผม ♥

01.01.xx
เชียงใหม่ ♥ เด็กน้อยของพี่





THE END ♥








ในที่สุดนิยายวายเรื่องแรกที่ไม่ใช่ฟิคของเราก็จบลงแล้ว (ยกมือปาดน้ำตาด้วยความซาบซึ้ง) ใช้เวลาเกือบสี่เดือนในการแต่งเรื่องนี้ แอบนานกว่าที่คิดแต่ก็น้อยกว่าฟิคเรื่องที่แล้วเยอะเลยค่ะ ดีใจมากที่จบก่อนวาเลนไทน์ตามที่ตั้งใจไว้ หลังจากนี้จะมีตอนพิเศษอีกนิดหน่อย ยังไงก็ฝากติดตามกันต่อด้วยนะคะ

ส่วนจุดเริ่มต้นของนี้มาจากผู้ชายรอบๆ ตัวมีความ ‘เยอะ’ แบบสุดๆ ค่ะ เยอะแบบที่ว่า…จะว่าน่ารำคาญก็ได้ หรือมองว่ามันคือเสน่ห์อีกแบบก็ได้เหมือนกัน ถ้าสังเกตจริงๆทั้งพี่กันย์และน้องปืนเยอะพอกันทั้งคู่ค่ะ พี่กันย์จะเยอะแบบข้อแม้ในชีวิตเยอะ เป็นผู้ชายช่างเลือกอะไรแบบนั้น ส่วนปืนจะเห็นได้จากความมุ้งมิ้งในการแต่งห้อง โต๊ะกินข้าวเอย ระเบียงห้องเอย เรื่องไร้สาระขอให้บอกอะไรแบบนั้นน่ะค่ะ 55555

ถ้าติดตามกันมาจะรู้สึกว่าเรื่องมันออกทะเลบ้าง แกว่งบ้างอยากสารภาพว่าเขียนเรื่องนี้โดยไม่มีพล็อตค่ะ แบบเขียนครั้งต่อครั้งเหมือนพยามลงไปสิงตัวละครว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้จะทำยังไงประมาณนั้น แถมเนื้อเรื่องยังเป็นแนวเรื่อยๆ ที่ไม่ได้มีอะไรพีคขนาดนั้น ตอนหลังๆ เลยเขียนค่อนข้างยากค่ะ TT เขียนแล้วลบไปหลายรอบเหมือนกัน

ยังไงก็ตาม…
ขอบคุณนะคะที่ติดตาม #ก็พี่มันเยอะ มาจนถึงตอนนี้ ขอบคุณที่ให้กำลังใจ มาเขิน มาฟินไปด้วยกัน สำหรับคำติชมเราจะพยายามนำไปปรับปรุงเพื่อพัฒนาเรื่องต่อไปให้ดีขึ้นนะคะ

ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ
Zenzaii

Twitter : @zenzaii1
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 13-02-2017 02:17:51
 o13สนุกมากค่ะ   เป็นคู่ที่น่ารักมาก   รอผลงานเรื่องต่อไป   ขอบคุณค่ะ :3123:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Nattharikan ที่ 13-02-2017 02:22:46
 o13 o13 o13 o13

โอ๊ย.....ชอบ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-02-2017 02:34:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 13-02-2017 03:26:14
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ต้องเก็บไว้ในใจเลยคะ สนุกมาก ติดตามเขียน อ่านไปด้วยกันจนจบ เป็นนิยายฟินๆ ดีต่อใจทุกตอน รักนิยายเรื่องนี้ น้องปืน❤พี่กันย์
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-02-2017 06:24:47
จบแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ปืน ทำให้พี่กันย์ที่เป็นคนเยอะ
กลายเป็นที่กันย์ ที่ถึงยังเยอะอยู่
รับความเป็นปืน เอ่อ.....ตัวตนของปืน /ไม่ใช่เรื่องน้านน.... :o8: :-[
เพิ่มในความเยอะของพี่กันย์ได้
ปืน พี่กันย์  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณ ไรท์ ที่มีเรื่องน่ารักให้อ่าน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 13-02-2017 06:54:40
โอ้ยยย...ชอบที่สุด 
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 13-02-2017 08:00:24
ละมุนกันจนหยอดสุดท้าย~ :hao7: :mew3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 13-02-2017 08:23:37
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
พี่กันย์น้องปืน น่ารักเสมอ

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-02-2017 08:29:09
ก็พี่กันย์กับน้องปืนมันเยอะ....เราก็เลยรักเรื่องนี้ไง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: mam.nalok ที่ 13-02-2017 08:59:39
สนุกมากคะ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 13-02-2017 09:12:03
แหม ตอนอ่านนี่พี่กันย์จะเขินไหม ตอบ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-02-2017 13:52:21
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ // chapter 35 - ...พี่คนนั้น กับน้องคนนี้ [END] [13.02.17]
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 13-02-2017 15:21:12
เรื่องนี้มีความเรื่อยๆแบบละมุนมาก ชอบความเยอะของ และความตามใจของคนน้อง
ชอบความสถาปัต ขอบคุณคนเขียนนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: zenzaii ที่ 14-02-2017 01:07:08
Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥


14 กุมภาพันธ์ xx

[Gun’s]

00.00

'ตึ้ง ตึง'

เสียงจากโปรแกรมไลน์ที่เด้งขึ้นมาทำให้ผมที่กำลังวุ่นวายอยู่กับการพ่นสีป้ายหยุดชะงักก่อนจะชะเง้อคอไปมองใกล้ๆ ว่าเป็นใครก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอยากอดไม่ได้

…ไอ้เชี่ยปืนแมร่งโคตรไว

Bpuen : สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ
Bpuen sent you a photo

และเพราะรูปที่มันส่งตามมาทำให้ผมต้องจำใจวางสีสเปรย์ในมือลงก่อนจะเดินไปล้างมือที่ก๊อกน้ำข้างๆ เช็ดมือลวกๆ กับชายเสื้อแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาสไลด์ดูรูปมัน

“เฮ้ยๆ ทำงานอยู่ครับมึง อย่าอู้ดิวะ” เสียงไอ้ทีที่ตะโกนมาจากกลางสนามทำให้ไอ้พวกที่เหลือที่กำลังนั่งทำอุปกรณ์ประกอบฉากกันคนละไม้คนล่ะมือหันมามองผมเป็นตาเดียวจนผมต้องส่งสายตาคาดโทษไปให้

“อะไรว้า มีแฟนแล้วลืมเพื่อนเลยเว้ยเฮ้ย!” เสียงไอ้โฟมที่ตะโกนสมทบขึ้นมาทำให้ไอ้พวกที่เหลือส่งเสียงฮิ้วววรับกันมาเป็นแถบๆ ทำให้ผมหมดหนทางในการต่อสู้จึงได้แต่พยายามปั้นหน้าไม่ให้หลุดยิ้มก่อนจะเดินหลบมาตรงทางเดินที่ไม่ค่อยมีคน

“หืมม?” ผมมองดูภาพป้ายคณะผมที่เด่นหราได้ด้วยแสงแฟลชทั้งๆ ที่ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืน รู้ตัวอีกทีสองขามันก็พาผมมาหยุดอยู่หน้าคณะเป็นที่เรียบร้อย แต่มองหาไอ้คนส่งเท่าไหร่ก็ไม่เจอเลยตัดสินใจโทรหา ยังไม่ทันที่สัญญาณปลายสายจะดังเป็นครั้งที่สองถุงกระดาษสีดำที่สกรีนชื่อร้านเครื่องประดับสุดคลาสสิคที่ผมชอบแวะไปสอยประจำก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าจนต้องรีบหมุนตัวกลับมาจนเจอไอ้เชี่ยปืนที่ยืนยิ้มจนตาหยี

“มาทำไม?” ผมแกล้งถามเสียงเข้มก่อนจะเคาะหน้าปัดนาฬิกาเป็นทำนองว่า …มาwfhไม่รู้จักเวล่ำเวลา แต่ดูเหมือนไอ้คนตรงหน้าจะไม่สะทกสะท้านสักนิด

“มาหาแฟนครับ พี่เห็นพี่เขาบ้างรึเปล่า? ตั้งแต่มานี่ผมยังไม่เจอเลยนะ” ไอ้ปืนถามยิ้มๆ ก่อนจะแกล้งมองซ้ายมองขวาเหมือนกำลังหาใครอยู่จริงๆ จนผมหมั่นไส้

“ไม่เห็นว่ะครับน้อง แต่ถ้ามีธุระกับมัน ฝากพี่ไว้ก็ได้นะ” ผมยักคิ้วให้มันอย่างกวนๆ ก่อนจะปรายตาไปมองถุงสีดำในมือไอ้เชี่ยปืนก่อนจะแบมือออกไปด้วยความมั่นใจว่า …ของกูแน่ๆ

“จะเอาอะไรเหรอครับ?” มันแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะดึงถุงไปหลบไว้ด้านหลังจนผมต้องมองมันอย่างเซ็งๆ

“ไอ้ถุงนั่นไง เอามาดิ กูจะได้กลับไปทำงานเนี่ย” ผมเร่งก่อนพยายามจะคว้าถุงในมือมันมา

“ไม่ใช่ของพี่ ของแฟนผมต่างหาก”

“โว๊ะ! ก็บอกแล้วไงว่าฝากกูไปก็ได้ เดี๋ยวกูเอาไปให้มันเองไง” ผมทำหน้าเซ็งๆ ที่แย่งถุงมาจากมันไม่ได้สักทีเลยเปลี่ยนใจเป็นยืนกอดอกมองมันเฉยๆ มองไอ้คนที่เอาแต่ยิ้มกริ่มอย่างเดาไม่ถูกว่าจะมาไม้ไหนอีก

“ฝากก็ได้ครับ แต่เอ…แฟนผมได้บอกอะไรกับพี่ไว้ก่อนรึเปล่าครับ?”

“บอกว่า?” ผมเลิกคิ้วถามมันอย่างงงๆ ก่อนไอ้คนตรงหน้าจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ

“ก็บอกว่า…ของชิ้นนี้เรียกเก็บเงินปลายทางน่ะสิครับ”

“หืมม?” ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจก่อนไอ้ปืนจะยกนิ้วขึ้นมาแตะๆ ที่ริมฝีปากของตัวเองแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากกว่าเดิม …แมร่ง! ไอ้เด็กแผนสูง

“เหรอ? แต่เขาไม่ได้ฝากเงินไว้ให้นี่หว่า ค่อยไปเก็บทีหลังได้ป่ะ?” ผมแกล้งถามก่อนจะมองมันที่ส่ายหน้าอย่างไม่ยอมท่าเดียว

“ต้องตอนนี้ หาวว… ขอโทษทีครับ” ผมหลุดขำออกมาทันทีก่อนจะยื่นมือไปขยี้หัวไอ้เด็กน้อยตรงหน้าอย่างอดไม่ได้

“เด็กน้อยเอ้ย!” ผมแซวมันอย่างอดไม่ได้ก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาทำให้รู้ว่าเลยเวลาเข้านอนของไอ้คนตรงหน้ามามากพอสมควร

“เซ็งครับ เกือบจะเท่อยู่แล้วแท้ๆ” ไอ้ปืนบ่นงุ้งงิ้งๆ ก่อนจะยอมยื่นถุงสีดำมาให้อย่างหมดท่า ผมรับถุงตรงหน้ามาด้วยใบหน้ายิ้มๆ ก่อนจะตบลงที่ไหล่มันสองสามทีอย่างให้กำลังใจ

“แค่นี้ก็โคตรเท่แล้ว ขอบใจมาก” คำพูดของผมทำให้ไอ้คนที่เพิ่งทำหน้าห่อเหี่ยวอยู่เมื่อครู่กลับมาสดใสอีกครั้งก่อนจะเชียร์ยิกๆ ให้ผมเปิดของในถุงดูสักที ผมล้วงเข้าไปในถุงตรงหน้าก่อนจะหยิบกล่องกำมะหยี่สีดำคุ้นตาออกมาเปิดดู

…สร้อยข้อมือ

แบบเดียวกับที่ผมเคยซื้อให้ไอ้ปืนเมื่อตอนไปซื้อของขวัญรับปริญญาให้พี่ แต่ต่างกันที่สี

…ของไอ้ปืนเป็นสีน้ำตาล และของผมเป็นสีดำ

“อ่ะ” ผมหยิบสร้อยข้อมืออกจากกล่องก่อนจะส่งให้ไอ้ปืนที่มองมาอย่างงๆ

“ใส่ให้หน่อยดิวะ” ผมแกล้งทำเสียงแข็งและพยายามอย่างที่สุดเพื่อไม่ให้หลุดยิ้มออกมา แต่ทุกอย่างก็พังทลายเมื่อไอ้ปืนแปะหน้าผากของมันลงมากับหน้าผากขอมผมแล้วพยักหน้าแรงๆ

“เหมือนกันเลยอ่ะ” ไอ้ปืนทำเสียงดีใจเหมือนเด็กๆ ก่อนจะยกข้อมือของตัวเองข้างที่ใส่สร้อยข้อมือแบบเดียวกันขึ้นมาทาบอย่างอดไม่ได้จนผมเผลอยิ้มไปกับมันด้วยอีกคน

“แต่กูไม่มีอะไรจะให้นะ” ผมบอกมันทันทีที่นึกได้ ไอ้ปืนยิ้มตาหยีก่อนจะส่ายหน้าบอกว่า …ไม่เป็นไร ทำเอาผมรู้สึกผิดไปไม่น้อย ไอ้ปืนชอบดูแลคนอื่นและมันก็จะเป็นฝ่าย ‘ให้’ ผมก่อนเสมอ อย่างตอนปีใหม่ ‘ของฝาก’ ของมันกับผมนี่แทบจะคนละเรื่อง

“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่พี่รับของของผมไว้ แค่นั้นผมก็ดีใจแล้ว จริงๆ นะ” ไอ้ปืนย้ำก่อนจะพยักหน้าหลายๆ ครั้งเพื่อเป็นการยืนยัน

“เออ ขอบใจมากนะมึง” ผมบอกก่อนจะไล่มันให้กลับไปนอนเพราะเห็นตาแดงๆ ที่แทบจะลืมต่อไปไม่ไหวแล้วของคนตรงหน้า

“เจอกันพรุ่งนี้นะครับ เดี๋ยวเลิกเรียนแล้วผมมาช่วยที่คณะ” ไอ้ปืนบอก ความจริงข้อนี้ทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมาอีกครั้ง …นอกจากจะไม่มีของให้แล้ว ยังไม่มีเวลาให้มันอีก โคตรเศร้าเลยครับ แต่ทำไงได้คณะผมคนมันน้อยแถมงานนี้ผมยังเป็นประธานโครงการเองอีก

“เข้าไปได้แล้วครับ ยุงกัดหมดแล้วเนี่ย” ไอ้ปืนที่ทำท่าจะเดินออกไปเดินย้อนกลับมาก่อนจะใช้มือปัดๆ ไล่ยุงที่มาบินๆ รอบตัวผมก่อนจะออกแรงดันให้ผมกลับเข้าคณะไป

“เจอกัน” ผมตะโกนตามหลังมันไปก่อนเจ้าตัวจะหันมายิ้มให้แล้วเร่งให้ผมรีบเดินกลับเข้าคณะไปเร็วๆ





07.30

"พี่กันย์ครับ" เสียงเรียกทำให้ผมสะดุ้งก่อนจะหันไปมองที่มาของเสียงที่นั่งยิ้มอยู่ข้างเตียงอย่างงงๆ

“อ้าวมึง” ผมเอ่ยทักทั้งๆ ที่ตายังสู้แสงได้ไม่เต็มที่เลยตัดสินใจหลับตาอีกรอบจนอยากจะหลับไปให้รู้แล้วรู้รอด

 "พี่กันย์มีเรียนตอนเช้านะครับ" เสียงที่ยังดังย้ำๆ จากข้างเตียงทำให้ผมยอมฝืนสังขารตื่นมาในที่สุด เมื่อวานผมกลับมาห้องตอนเกือบจะเช้าและตอนนี้…เพิ่งผ่านไปได้แค่สองชั่วโมง

“มึง กูง่วงอ่ะ” ผมเริ่มเข้าโหมดงอแงทันทีที่อีกฝ่ายเริ่มใช้กำลังเข้ากระชากผมให้ลุกจากที่นอนทั้งๆ ที่ผมแทบจะลืมตาไม่ขึ้นจนผมแกล้งทิ้งตัวไปพิงมันไว้ไม่ยอมให้อีกฝ่ายดันผมเข้าไปในห้องน้ำ

"เดี๋ยวไปไม่ทันนะครับพี่” มันเร่งยิกๆ ยิ่งกว่าแม่จนผมเริ่มฟังเพลงเสียงมันไม่ไหวเลยยอมใจเดินเข้าห้องน้ำไปเอง

“อย่าไปแอบหลับในห้องน้ำนะครับ!” …เชี่ย! ยังจะมารู้ทัน ผมล่ะเบื่อมันจริงๆ ให้ตาย!





"เลิกบ่ายสามใช่มั้ยครับ แล้ว FebMarket ของพี่นี่เริ่มกี่โมงนะครับ" ไอ้ปืนดันชามโจ๊กที่มันหิ้วมาให้แถมยังเทใส่จานให้เรียบร้อยมาตรงหน้าผมก่อนจะถามถึงเรื่องงานเย็นนี้

FebMarket เป็นงานฉายหนังสั้นของคณะผมครับ เตรียมงานกันประมาณเดือนหนึ่งให้คนที่สนใจส่งงานเข้าร่วมประกวดได้เรื่อยจนถึงเมื่ออาทิตย์ก่อน ส่วนงานที่จัดขึ้นวันนี้จะมีพิธีมอบรางวัลกับนำหนังสั้นที่ชนะการประกวดมาฉาย หลังจากนั้นก็จะมีคอนเสิร์ตแล้วก็โซนขายของเก๋ๆ ชิคๆ ตามแต่เด็กคณะผมมันจะสรรหากันมา และไอ้ความพิเศษของ FebMarket นี้มันอยู่ตรงที่ …ต้องจัดในวันวาเลนไทน์เท่านั้นครับ!

…คนโสดก็ได้แต่นั่งเฉากันไป ส่วนคนมีคู่นั้นไซร้ …ก็ไม่มีเวลาให้แฟนแบบผมนี่ยังไงล่ะครับ!

"ห้าโมงอ่ะ"

“งั้นผมไปช่วยพี่กี่โมงดีถึงจะไม่กวนพี่ครับ” ไอ้ปืนถามก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำเย็นออกมาจากตู้เย็น รินใส่แก้วแล้วยื่นให้ในจังหวะที่ผมตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากพอดี

"อยากมาตอนไหนก็มาเลย” ผมบอกมันที่ทำหน้าไม่แน่ใจก่อนจะรับแก้วน้ำจาหมันมา

"ไม่กวนแน่นะครับ?” มันถามย้ำ

“เออ” ไอ้ปืนยิ้มจนตาหยีก่อนจะเก็บถ้วยทั้งสองใบไปล้าง แล้วเดินไปหยิบกระเป๋าที่มันวางทิ้งไว้ในห้องผมก่อนจะเดินกลับออกมา

“อ้าว ไม่รอไปพร้อมกูวะ เดี๋ยวไปส่ง” ผมมองมันที่ดูรีบร้อนขึ้นมาอย่างแปลกใจก่อนจะเดินเข้าไปในโซนแต่งตัวเพื่อเริ่มจัดการกับสารรูปตัวเอง …ถึงวันนี้จะนอนไปแค่สองชั่วโมง แต่ผมต้องไม่โทรมให้ใครเห็นเด็ดขาด ขอเอาศักดิ์ศรีความเป็นประธานจัดงานเป็นประกัน

“จะไม่ทันแล้วพี่ ผมไปก่อนดีกว่าครับ” ไอ้ปืนใส่ร้องเท้าด้วยความรีบร้อนจนผมต้องเดินย้อนกลับมาที่หน้าประตูเพื่อถามมัน

“มึงมีเรียนกี่โมง?”

“แปดโมงครึ่งครับ”

“ฉิบหาย แล้วไม่บอกกูวะ?” ผมสบถอย่างหัวเสียพลางมองคนที่ยืมยิ้มแหยๆ พลางคิดในใจอย่างเริ่มหงุดหงิด …ก็นัดกันแล้วว่าจะเจอกันตอนเย็นเลย แล้วแมร่งยังเสือกโผล่มาปลุก ซื้อข้าวมาให้แล้วตัวเองจะไปเรียนไม่ทัน ให้มันได้อย่างนี้สิวะ!

“พี่กันย์จะไปค้างที่ไหนครับ?” ไอ้ปืนถามงงๆ ก่อนจะชี้มาที่กระเป๋าเป้ที่ผมใช้ใส่เสื้อผ้าเวลาเดินทางเท่านั้น

“ไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ”

“แล้วกระเป๋านั่น…?” มันถามอีกครั้งในระหว่างที่ผมเริ่มกวาดอุปกรณ์ช่วยชีวิตทุกอย่างลงกระเป๋า

“มึงรีบไม่ใช่รึไง?” ผมย้อนถามมันกลับพลางรูดซิปก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบกุญแจรถแล้วโยนให้ไอ้ปืน

“ก็รีบครับ”

“งั้นไปสตาร์ทรถรอเลยไป”

“แล้วพี่กันย์ไม่…”

“กูจะไปแต่งตัวในรถ เร็ว!”





[Bpuen’s]

19.00


"วันนี้ไม่ไปไหนกับพี่กันย์เหรอวะ?" ไอ้พีทถามขึ้นในขณะที่กำลังเก็บของเข้ากระเป๋า วันนี้ผมมีเรียนทั้งวันตั้งแต่แปดโมงครึ่งจนถึงบ่ายสอง และมีเรียนอีกตัวที่อาจารย์ยกคลาสมาจากวันก่อนตอนห้าโมงเย็นจนถึงตอนนี้ซึ่งเป็นวิชาสุดท้าย ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู คิดว่างาน FebMarket ของพี่กันย์เริ่มไปได้สองชั่วโมงกว่าแล้วก่อนจะส่ายหัวให้เป็นคำตอบ

"’ถาปัตย์มีงานว่ะ กว่าจะเลิกกูว่าก็เที่ยงคืนพอดี" ผมบอกพวกมันก่อนไอ้ธันย์จะเดินเข้ามาตบไหล่ผมก่อนจะาพยักหน้าอย่างเห็นอกเห็นใจด้วยท่าทางที่โคตร…กวนตีน

“น่าสงสารเขานะครับ” ไอ้ป้องเสริมทัพก่อนจะพากันหัวเราะคิกคักจนผมต้องตบกะโหลกพวกมันไปคนละทีสองที

"แล้วของขวัญมึงอ่ะ ให้ไปยัง?" ไอ้พีทถามขึ้นเพราะมันเป็นคนที่ผมลากไปซื้อสร้อยเป็นเพื่อนที่สยามเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว

"ให้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

“แล้วพี่กันย์ ให้อะไรมึงวะ? บอกกูหน่อยครับกูอยากเสือก” ไอ้ป้องคะยั้นคะยอก่อนพวกมันจะทำท่าเอียงหูเข้ามาฟังจนผมต้องตบกบาลมันไปอีกคนละทีสองทีเป็นของรางวัล

“ไม่ได้ให้ แต่แค่พี่กันย์ยอมรับของกูไปใส่นี่ก็โคตรดีต่อใจกูแล้วป่ะวะ?” ผมย้อนถามมันกลับก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้อะไรตอบกลับมา แต่แค่พี่กันย์ยอมใส่สร้อยคู่ แถมยังดูคิดถึงใจผมมากๆ จนกังวลแบบนั้น …แค่นั้นก็เกินพอแล้วครับ

"ครับผม ไอ้พวกมักน้อย ไอ้พวกโลกสีชมพูด กูล่ะไม่เข้าใจมึงจริงๆ” ไอ้ป้องพูดขึ้นมาก่อนจะยักไหล่ให้อย่างไม่เข้าใจ
 
"เออน่า ลองมีแล้วมึงจะรู้ งั้นกูไปก่อนนะ ไว้เจอกัน" ผมบอกพวกมันก่อนต่างคนจะต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน ส่วนผมเหรอครับ…ก็ต้องไปคณะสถาปัตย์แน่นอนอยู่แล้ว





"มึงช่วยไอ้ปูนขายของไปก่อนนะ" คนที่ผมอุตส่าห์รีบถ่อมาหาถึงที่หันมาบอกผมก่อนจะเดินตามรุ่นพี่อีกคนที่มาบอกว่าเครื่องเสียงมีปัญหาไป

"โทษทีนะที่ใช้งานแฟนมึงซะหนักเลย" พี่กัมป์ที่มานั่งพักอยู่ตรงซุ้มขายเสื้อของพี่ปูนพูดขึ้นอย่างเกรงใจจนผมต้องยิ้มให้ก่อนจะส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร

"คบกันมากี่เดือนแล้วนะ" พี่ทีที่โผล่เข้ามาอีกคนถามขึ้นก่อนทั้งหมดจะเริ่มสัมภาษณ์ผมอย่างจริงจังจนผมเริ่มที่จะเขินขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"เอ่อ… เกือบสี่เดือนแล้วครับ"

“เชี่ยย! จำได้ด้วยว่ะ!” พี่ปูนตบไหล่ผมอย่างถูกใจก่อนจะยกนิ้วให้พลางบ่นๆ ให้ฟังว่าผ็ชายส่วนใหญ่แมร่งชอบลืมวันสำคัญ เอ่อ…ผมเป็นผู้ชายส่วนน้อยเหรอครับ?

"กูนี่รอลุ้นแทบตายว่าผู้หญิงที่ไหนจะทนมันได้ สุดท้าย...ได้ผู้ชายแทน" คำพูดของพี่โฟมทำให้ทุกคนนิ่งไปก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาแทน

“จริงของมึงเลยไอ้โฟม ไอ้กันย์แมร่ง…”

"นินทาอะไรกูครับผม?"  พี่กันย์ที่เพิ่งจัดการธุระเสร็จเดินเข้ามาก่อนจะหรี่ตามองไปรอบๆ ด้วยความสงสัยก่อนจะมาหยุดลงที่ผมเป็นคนสุดท้าย

"ไม่มีใครกล้านินทาท่านประธานหรอกครับ กลัวเด็กมันเอาไปฟ้องว่ะ" พี่กัมป์พูดอย่างขำๆ ก่อนจะมองหน้าผมแล้วหันไปสนใจลูกค้าสาวๆ ที่มาถามราคาเสื้อพี่ปูนแทน

"งานเลิกสี่ทุ่ม กว่าจะเคลียร์ของเสร็จกูว่าหลังเที่ยงคืนชัวร์" พี่กันย์นั่งลงแทนตำแหน่งของพี่กัมป์ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าท่าทางเป็นกังวลจนผมต้องเอามือไปจิ้มๆ ระหว่างคิ้วเพื่อให้คนตรงหน้าสบายใจ

"ผมรอได้ครับ ไม่เป็นไร"

"ไม่เบื่อเหรอวะ?"

"ไม่ครับ ก็สนุกดี" ผมบอกก่อนจะหันไปมองบรรยากาศงานรอบๆ ที่ยังครื้นเครงกันอยู่แม้จะเริ่มดึกมากแล้วก็ตาม

“ไม่ได้หมายถึงงาน หมายถึงกูเนี่ย” พี่กันย์ถามย้ำพี้อมกับชี้นิ้วเข้าหาตัวเองจนผมหลุดขำกับท่าทางที่ติดจะอ้อนๆ แบบที่คนตรงหน้าไม่รู้ตัวว่ากำลังแสดงออกมา

"ครับ?"

"เรื่องก็เยอะฉิบหาย ไม่จำวันสำคัญ ไม่มีของขวัญให้ ไม่มีเวลาให้ด้วยแถมยังต้องคอยให้มึงช่วยทุกเรื่องอีก บางทีกูยังเบื่อตัวเองเลย แมร่ง…ไม่ชอบเลยว่ะ" พี่กันย์ทำหน้ายุ่งก่อนจะหันมามองหน้าผม

“ก็ดีแล้วนี่ครับ” ผมตอบกลับยิ้มๆ

“ดียังไงวะ?” พี่กันย์ถามอย่างไม่แน่ใจ

“พี่ไม่ชอบตัวเองก็ดีแล้วนี่ครับ”

“ห๊ะ?”

“ผมจะได้…ชอบพี่แค่คนเดียว”





23.00

งานเลิกแล้ว ทั้งในส่วนของโรงฉายหนัง บูธขายของและเวทีคอนเสิร์ตต่างเริ่มเก็บของเพื่อเคลียร์สถานที่ให้พร้อมสำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ เหมือนเดิมในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่มาถึงงานผมได้คุยกับพี่กันย์แทบนับคำได้เพราะเจ้าตัวเอาแต่คอยแก้ปัญหาให้คนนู้นคนนี้ตลอดเวลา ผมยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้าอย่างอดสงสารไม่ได้พลางมองไปยังคนที่ยังคงวิ่งวุ่นอยู่แถวเวทีแม้ตอนนี้งานจะเลิกแล้วก็ตาม

"อันนี้ไว้ไหนครับพี่?" ผมหันไปถามพี่ปูนพลางปลดเสื้อจากไม้แขวนแล้วชูไว้ก่อนจะนำไปใส่กล่องที่เจ้าตัวชี้ให้เห็น

"รวมๆ ไว้ตรงนั้นก็ได้ปืน เดี๋ยวพี่ให้ไอ้ทียกไปเก็บที่รถ" พี่ปูนบอกก่อนจะเดินไปตามพี่ทีซึ่งอยู่อีกส่วนหนึ่งของงาน ปล่อยให้ผมยืนงงอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อไปดี

"อ่า อ่า ได้ยินกันมั้ยครับผม?" เสียงที่ดังออกจากลำโพงที่ยังไม่ได้เก็บทำให้ผมกับพวกพี่ๆ ที่กำลังเก็บสถานที่อีกไม่กี่คนหันไปมองอย่างงงๆ ก่อนจะเห็นคนที่ผมรอให้ว่างมาตั้งแต่เมื่อคืนนั่งอยู่บนเวทีกับพี่ทีที่มีกีตาร์อยู่ในมือ

"ไหนๆ วันนี้กิจกรรมก็ลุล่วงไปได้ด้วยดีแล้ว งั้นเรามาอาฟเตอร์ปาร์ตี้กันหน่อยดีกว่า" คำพูดของพี่กันย์ทำเอาทุกคนที่เมื่อกี้ยังยืนงงกันอยู่ถึงกับทิ้งทุกอย่างในมือก่อนจะกรูกันเข้าไปหน้าเวทีอย่างนึกสนุก

"แล้วอีกอย่างวันนี้ก็เป็นวันพิเศษด้วย คนที่ไม่มีคู่คงจะเหงากันน่าดู" พี่กันย์พูดขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อพี่คนหนึ่งหน้าเวทีโวยวายออกมาเมื่อถูกจี้ใจดำ

"แต่กูว่าคนมีคู่แล้วไม่ได้ไปไหนนี่น่าสงสารกว่าอีกว่ะ" เสียงพี่ทีที่ตะโกนผ่านไมค์ออกมาเรียกเสียงฮาขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่ทั้งคนถูกแซวและพวกเพื่อนพี่กันย์อีกหลายคนจะพากันมองมายังผมที่ยืนยิ้มอยู่ก่อนจะส่ายหัวแก้เขินวออกมาอย่างช่วยไม่ได้

"ก็นั่นแหละครับ เพราะอย่างงั้นเพลงแรกที่จะเล่นเนี่ย ผมขอใช้อภิสิทธิ์ของความเป็นประธานจัดงาน..." พี่กันย์พูดขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะมองมายังผมที่ยืนมองอยู่ก่อนแล้ว

"มอบอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้เด็กน้อยที่น่าสงสารของผมหน่อยนะครับ"

“ฮิ้วววววว…วววว”
"ไอ้เชี่ยกันย์โว้ยยยย! สงสารคนโสดแบบพวกกูบ้าง"
"มึงจะออกนอกหน้านอกตาไปแล้วค่ะมึง"
“โอ้ยยยย! ทำไมกูเขินแทนวะแมร่งงง”
"เชี่ยยยย! มึงแมร่งขี้โกง มึงทอดสะพานให้น้อง"

เสียงทั้งแซวทั้งด่าที่ตะโกนขึ้นมาเป็นทอดๆ ทำเอาผมและคนที่นั่งอยู่บนเวทีอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

"เพลงที่จะเล่นเป็นเพลงของวง  Mild " พี่กันย์พูดแนะนำเพลงก่อนจะพูดประโยคต่อมาด้วยนำเสียงที่เบาลงเหมือนไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน แต่คือพี่กันย์…พูดผ่านไมค์

“ตั้งใจฟังดีๆ นะครับ…แฟน

 “เชี่ยยยยยย!”
"ไอ้กันย์แมร่งอ่อยผู้ชายโว้ยยยย!"

(เปิดเพลง Forever ของวง Mild ประกอบเพื่ออรรถรส ^^)

'เพราะวันนั้นคุณเข้ามา เอาความรักที่มีค่า
ความรักที่เกินกว่าจะหาจากใครในที่ใด
เพราะวันนั้นคุณได้เปลี่ยน เปลี่ยนโลกของผมให้สดใส'

"ให้ผม-จีบ-พี่-นะครับ"
“เชี่ยไรมึง กูบอกว่ากูไม่ให้ไง”
“แค่บอกให้รู้ไว้เฉยๆ ครับว่าผมจะจีบพี่ …ผมไม่ได้ขอ”


'แม้วันนี้ไม่ได้พูด แม้วันนี้ไม่ได้เจอ
แต่ทุกนาทีหัวใจยังเพ้อยังละเมออยู่เรื่อยไป
ก็เพราะว่าคุณนั้นแหละ ที่ทำให้ผมนั้นเปลี่ยนไป'

01.08.xx
ที่ทะเล ♥กับไอ้ปืน


'คำบางคำ คำเดียว คุณอาจจะดูจะฟังไม่พอเท่าไร
ใจก็ใจดวงเดียว ไม่เคยจะเหลียวมองที่ใคร
ขอให้คุณได้โปรด รับฟังจะได้ไหม'

"เป็น-แฟน-กัน"

'คำก็คำเดิมๆ ที่ไม่อาจเพิ่มจะเติมให้มีมากมาย
ใจก็ใจดวงเดิมแค่อยากให้รู้และเข้าใจ
ผมรักคุณที่สุด ผมรักคุณจนหมดใจ'

“แล้วไม่ดีเหรอครับ ได้หยุดตั้งหลายวัน?”
“ก็ดี แต่…คิดถึงไง”


'รักที่คุณให้มา รักช่างแสนมีค่า
ผมขอสัญญาว่าจะรักษาดูแลด้วยหัวใจ
คุณไม่ต้องเป็นห่วง ใจของผมจะไปไหน'

“ผมรักพี่ครับ”
“เออ…รักมึงเหมือนกัน”

'ก็คุณนั้นคือทุกสิ่ง คุณนั้นคือทุกอย่าง
เปลี่ยนแปลงหัวใจที่มันอ้างว้างด้วยความรักและห่วงใย
ขอบคุณที่คุณยังอยู่ ขอบคุณที่ยังไม่เปลี่ยนไป'

"ขอบคุณมาก รอบนี้กูแมร่งโคตรโชคดีที่มีมึง"

'คำบางคำ คำเดียว คุณอาจจะดูจะฟังไม่พอเท่าไร
ใจก็ใจดวงเดียว ไม่เคยจะเหลียวมองที่ใคร
ขอให้คุณได้โปรด รับฟังจะได้ไหม

คำก็คำเดิม ๆ ที่ไม่อาจเพิ่มจะเติมให้มีมากมาย
ใจก็ใจดวงเดิมแค่อยากให้รู้และเข้าใจ
ผมรักคุณที่สุด ผมรักคุณจนหมดใจ'

“เอ่อ…
ขอบคุณที่มาปลุกกูก่อนแปดโมง
ขอบคุณที่ซื้อข้าวให้และไม่คิดตังค์
ขอบคุณที่ให้กูยืมเสื้อถึงกูจะไม่ชอบเสื้อมึง
ขอบคุณที่ขับรถให้จนกูเริ่มคิดละว่ามึงคงขโมยเข้าสักวัน
ขอบคุณที่มาช่วยงานแม้จะทำได้แค่ซ่อมเครื่องปริ้นท์
ขอบคุณที่ซื้อสร้อยให้และแมร่งเป็นสีดำ
ขอบคุณ เอ่อ.. กูคิดไม่ออกละเดี๋ยวท่อนต่อไปขึ้น
แค่อยากจะบอกมึงว่า…
สุขสันต์วันวาเลนไทน์
แล้วก็ปีหน้า… วันที่ 14 กุมภา …

กูแมร่ง… จะลางาน”

'คำบางคำ คำเดียว คุณอาจจะดูจะฟังไม่พอเท่าไร
ใจก็ใจดวงเดียว ไม่เคยจะเหลียวมองที่ใคร
ขอให้คุณได้โปรด รับฟังจะได้ไหม'

ผมมองไปยังคนที่ยังร้องเพลงต่อไปแต่หน้าแทบจะมุดลงพื้นไปอยู่แล้ว…

‘คำก็คำเดิม ๆ ที่ไม่อาจเพิ่มจะเติมให้มีมากมาย
ใจก็ใจดวงเดิมแค่อยากให้รู้และเข้าใจ
ผมรักคุณที่สุด ผมรักคุณจนหมดใจ'

พี่กันย์โคตรเขิน…

'คำก็คำเดิม ๆ ที่ไม่อาจเพิ่มจะเติมให้มีมากมาย
ใจก็ใจดวงเดิมแค่อยากให้รู้และเข้าใจ
ผมรักคุณที่สุด ผมรักคุณจนหมดใจ'

และผมก็โคตรเขิน…

'หัวใจผมให้คุณหมด และจะรักคุณ
จะรักคุณตลอดไป'

พี่กันย์เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองมาทางผมอีกครั้ง…

'ผมรักคุณได้ยินไหม'

ร้องประโยคถัดไปแล้วเลิกคิ้วถาม…

'ผมรักคุณไม่เปลี่ยนไป'

ผมยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับหลายครั้ง…

'ผมรักคุณคนเดียว'

พี่กันย์หลุดขำก่อนจะหลบสายตาไปทางอื่น แต่พอเริ่มร้องท่อนสุดท้าย…
พี่กันยก็หันกลับมามองหน้าผมอยู่ดี…


'รักคุณตลอดไป'










นี่คือสาเหตุที่ต้องจบเรื่องก่อนวาเลนไทน์ เพราะตอนพิเศษที่เขียนไว้ตั้งแต่ปีมะโว้จ้าาา
ไหนๆ ตอนจบก็ลงไม่ทันปีใหม่แล้ว ขอให้ตอนพิเศษทันวันวาเลนไทน์ก็ยังดี TT
ตอนแรกอยากทิ้งช่วงตอนจบไปซักระยะแต่แบบ …อยากลงอ่ะ ของลงหน่อยน้า 55555
ธีมของตอนนี้คือเพลง FOREVER ของวง MILD ค่ะ เปิดมาแล้วแบบ เฮ้ย! พี่กันย์มากๆ ชอบ! เอา! 555
ถ้าจะให้ดีเปิดฟังไปด้วย อ่านไปด้วย เราลองแล้ว มันทันพอดีเลยค่ะ ลองนะ จริงๆ ^______^

ปล.อ่านคอมเมนต์ของทุกคนแล้วดีใจมากๆ ขอบคุณที่ชอบกันนะคะ ขอบคุณมากๆ จากใจเลย ♥

เจอกันใหม่ในตอนพิเศษตอนไหนสักตอนนะคะ ^^
Zenzaii

#ก็พี่มันเยอะ Twitter : @zenzaii1




หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-02-2017 06:17:53
HAPPY VALENTINE'S DAY นะ ไรท์
......
'ผมรักคุณได้ยินไหม'
'ผมรักคุณไม่เปลี่ยนไป'
'ผมรักคุณคนเดียว'
'รักคุณตลอดไป'
Forever นะปีน พี่กันย์
ขอบคุณไรท์
พาความรักของทั้งคู่มาให้คนอ่านสุขใจ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-02-2017 07:44:30
แหม หวานนนนน (พี่กันย์น่ารักอ่ะ)
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 14-02-2017 10:00:27
หวานซึ้ง. น่ารักมาก. ถ้าทำหนังสือแจ้งข่าวด้วยนะคะ. ไม่พลาดแน่ๆ :3123:
สุขสันต์วาเลนไทน์ค่า :L1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 14-02-2017 10:48:28
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
บทพี่กันต์จะหวาน ก็หวานซ๊าาาาาาาาา


 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 14-02-2017 12:14:32
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

อย่างที่บอก เด็กนี้มันร้ายลึกคะ พี่กันย์ มันคือ หมาป่าคุมหนังแกะ

โอ้ย นึกว่าจะไม่มีฉากอย่างว่าซะแล้ว มีพอนิดๆ ก็โอเคแล้วคะ

เราชอบเรื่องนี้มาก มันดูแมนๆ ดูละมุน ดูเยอะๆ(แบบอิพี่กันย์)

รอรวมเล่มคะ :z10: :z10:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-02-2017 13:43:24
 :L2: :L1: :pig4:

หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-02-2017 18:48:17
ชอบเรื่องนี้มาก. แอบเสียดายที่จบไวไปนิดนึง. ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษในวันพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: zhai ที่ 14-02-2017 20:13:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
พี่คนนี้เยอะจริงๆ 
ส่วนน้องคนนี้ก็น่ารักจริงๆ
ไม่ได้ใช้คำว่า "ทน" เลยนะคู่นี้
ใช้ใจอย่างเดียว
ขอบคุณสำหรับความเยอะของเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 14-02-2017 21:08:28
ถ้าจะเยอะกันขนาดนี้ เราก็ได้แต่หลงรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าสิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 14-02-2017 23:30:30
เขินพี่กันย์หนักมาก  :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: bluerose ที่ 15-02-2017 00:25:30
งือออออ สองคนนี้ร่ารักมากกก คอนแรกไม่เห็นด้วยส่าเรื่องนี้ลงตอนจบแล้ว คิดถึงสองคนนี้มากกก แวะมาลงตอนพิเศษอีกนะะค
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-02-2017 01:59:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 15-02-2017 14:05:47
สนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 15-02-2017 17:45:13
เป็นความเยอะที่ลงตัว น่ารักมากเลย ตอนแรกก็ลุ้นว่าใครจะรุกใครจะรับ 55555555555 ตอนนี้เข้าใจละ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 16-02-2017 02:47:40
คือดี คือน่ารัก ฟีลกูด โนดราม่า นิยายรักแนวมหาลัย ที่พระเอกแม่งโครตดี ดูแลทุกอย่าง เข้าใจทุกสิ่ง เอาต่ำแหน่งพระเอกแห่งปีไปเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Kitsune1st ที่ 16-02-2017 12:17:02
คือมันดีมากกกก
พี่กันย์คนซึน
น้องปืนหน้ามึนนน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Haruya ที่ 17-02-2017 21:07:42
คืออ่านตอนวาเลนไทน์ อ่านแล้วเขินมากกกกก :-[ :haun4: บิดตัวร้อยรอบ
คู่นี้ตอนแรกๆ ก็ลังเล ใครจะเป็นเมะหรือเคะนะ
อ่านนานๆไปก็ถึงรู้

เรื่องน่ารักมากค่ะ ไม่ดราม่า สนุก
ชอบบบ
รอติดตามเรื่องต่อไปนะ
รรักกันนานๆนะ พี่กันย์ น้องปืน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 18-02-2017 14:27:37
แปะไว้ก่อน  :hao7:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 18-02-2017 22:05:36
หวานๆๆๆ เขินแทนละเนี่ยะ พี่กันต์ออกตัวแรงนะคะ แนี้น้องมันก็ไม่รุ้จะหลงยังไงแล้ว  อิจมากพูดเลย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: bokiee ที่ 18-02-2017 22:37:09
อ่าน2วันรวดเดียวจบ  ละมุนมาก สนุกมากๆเลยค่ะ  จบเร็วเกินไป ฮือออ
 :pig4: :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 19-02-2017 00:50:43
 o13
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: itsgonnabeme ที่ 19-02-2017 12:09:33
จริงๆติดตามมาตั้งแต่ลงตอนแรกๆ
แต่เพิ่งมีโอกาสได้คอมเม้นต์

ขอบคุณมากเลยนะคะที่ทำให้เรายิ้มและหัวเราะได้ในวันที่เราเหนื่อยแสนเหนื่อย

เรารักเรื่องนี้มากเลย
รักพี่กันต์ รักเจ้าปืน รักตัวละครทุกตัวเลย

ถ้ามีโอกาสก็อยากได้เป็นเล่มมาเก็บไว้นะคะ และก็ยังอยากรับรู้ความเป็นไปของสองคนนี้อีก

อย่าลืมแว๊ปมาลงตอนพิเศษ
หรือจะต่อภาคสองก็ได้นะเออ

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
รอผลงานต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 21-02-2017 13:26:31
เห้ย คือแบบว่า มันดีมากอะ
ดีงามมากๆๆๆ สนุกสุดๆ หวานละมุน เปรียบได้กับนั่งกินพุดดิ้งคาราเมลที่ใช้นมจากฮอกไกโด
มันแบบ อธิบายไม่ถูก แต่ชอบมากๆๆๆๆ โอ้ย
น่ารักมากครับ

ขอบคุณผู้แต่งมากๆๆ และขอสมัครเป็นแฟนคลับเลยครับ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 21-02-2017 21:17:06
ดีงามมากค่าาพี่กันย์
อ่านไปยิ้มไปเขินไป
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-02-2017 00:06:43
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 22-02-2017 05:20:48
พีกันต์น่ารัก...น้องผืนก็แสนดี

ขอบึุณเรื่องราวดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 23-02-2017 22:38:17
ก็พี่มันเยอะจริงๆคะ อ่านถึงตอนสามแล้วสนุกดีคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 23-02-2017 23:16:05
น่ารักดีคะ เพิ่งมีโอกาสได้อ่าน ภาษาดีมากเลยนะคะ อ่านแล้วรื่น สนุกและมุ้งมิ้งในความเท่ห์ของพี่ และความกวนของน้องอิอิ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 25-02-2017 12:17:35
ตอนเก้าแล้น. น้องปืนขี้อ่อยมากๆค่ะ น่ารักพี่กันต์โดนน้องปืนแอคแทค
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 26-02-2017 21:41:02
ฮือออออ เรื่องนี้มันน่ารักมากกกก ตามมาจากห้องแนะนำ

ตอนแรกนะพี่กันย์แม่งโคตรเท่โคตรชิค. แต่หลังๆทำไมพี่แกน่ารักเหมือนแมวน้อยได้ขนาดนี้~~~ น่ารักน่าแกล้งมากกกก
ส่วนปืน ตอนแรกนึกว่าจะเป็นรับ นายนี่มันเสือร้ายจริงๆ

ชอบความรักของ2คนนี้ มันเรียบๆง่าย ไม่หวือหวา แต่มีความสุขในทุกวัน งื้ออ น่ารัก

อยากอ่านตอนพิเศษอีกหลายๆตอนจัง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 26-02-2017 23:29:44
พลาดไป ที่เพิ่งมาอ่าน สนุก และน่ารักมาก

แอบคิดในใจว่า พี่กันย์มีตัวตนจริงมั้ย เพราะดันมีพี่บอล กับโฮมสเตย์ชื่อดังนั่น  :katai2-1:

ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวน่ารักๆ มาให้อ่านนะคะ  :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 28-02-2017 22:19:10
ฟินจนตาย เลือดออกหมดตัว :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: mjpnta ที่ 02-03-2017 23:24:22
นิยายอะไรน่ารักจริงๆ เขินไปหมดดด
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 03-03-2017 03:07:18
ฮือออออออ น่ารักมากเลย
ฮือ ทำยังไงดี เรายังอยากอ่านต่ออยู่เลย
การกระทำของทั้งสองคนทำให้เรารู้สึกว่าโคตรน่ารัก
เลยอะ  ฮือออออออ
ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะคะ
เราชอบมากๆๆๆเลย  อ่านไปเขินไป
เป็นบ้าอยู่คนเดียว ฮือออออ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwzaa ที่ 06-03-2017 11:09:42
น่ารักกกเ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: mucan99 ที่ 06-03-2017 15:41:02
หวานมากกกกกกกกกกกกก มากที่สุด เด็กน้อยยย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 08-03-2017 14:27:38
งานดีค่ะคุณขาาาา ดีมากกกกกกก มันละมุนมันอบอุ่นละมันมีความอมยิ้มทั้งเรื่องงงงง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 10-03-2017 10:25:50
เรื่องนี้ดีต่อใจมากเลยอ่ะ  :mew1:
เราชอยที่มันเรียบๆลื่นๆแต่สามารถไปได้เรื่อยๆอย่างบอกไม่ถูก ตัวละครมีสเน่ห์มาก อยากได้แฟนเยอะๆแบบปืนสักคน ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: mayachiwit ที่ 11-03-2017 06:40:29
โอย...ทำไมน่ารักกกกกกกกกกกก  ชอบความสัมพันธ์ของคู่นี้มาก มันดูพอดี มันดูเรียล อ่านตอนพิเศษแล้วอมยิ้มแก้มแตก พี่กันย์หวานก็เป็น เขินแทนน้องปืน
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: yakkaru ที่ 12-03-2017 17:03:15
อ่านจบแล้วอยากได้คนแบบน้องปืนหารสอง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 14-03-2017 22:17:44
อ่านจบแล้วอยากไปเรียนสถาปัตย์เลยอยากดูคนเขารักกัน ยิ่งตอนพิเศษนี่เขินเลย555 รักกันไปนานๆ ขอบคุณนักเขียนสำหรับนิยายเรื่องนี้และแต่งนิยายไปอีกนานๆนะ^^
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Missmu ที่ 16-03-2017 05:24:34
ตอนพิเศษน่ารักมากกกค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Siran ที่ 17-03-2017 23:35:21
ปังตั้งแต่ตอนแรกก ติดงอมแงมเลยจ้า 5555  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Missmu ที่ 24-03-2017 21:57:34
อ่านสองวันจบเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 26-03-2017 00:45:47
ขอบคุณค่ะ

ชอบเรื่องนี้มากๆ

น่ารักมาก

ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับนิยายดีๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 26-03-2017 11:16:11
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกก
ขอให้แต่งออกมาอีกเยอะๆเลยนะคะ
หลงรัก 2 คนนี้มากๆ รักน้องปืนพี่กันต์ที่สุดเลยยยยยย
ฮือออออออออออ ~
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 26-03-2017 20:35:08
โอ้ยยย มันดีต่อใจจริงๆเรืีองนี้

      ปืนXกันย์

อ่านยาวรวดเดียวเลย เกือบพลาด

ชอบทุกสิ่งอย่างอ่ะ อ่านแล้วฟินกลิ้งไปมา
ตอนพี่กันย์เขินก็เขินตาม ปืนงานดีจริงๆ อยากได้สักคน

รอติดติดตามตอนพิเศษและรวมเล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: SOLARBEAM ที่ 27-03-2017 03:01:53
ดีงามขอรับ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
[/b][/size]
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 27-03-2017 13:05:32
เป็นเรื่องที่น่ารักมากจริง ๆ ครับ น้องปืน-พี่กันย์ อ่านแล้วยิ้มได้มีความสุข



ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: hardened-boy ที่ 27-03-2017 22:02:19
 :hao7: :hao7: หนุกหนานมากๆ. ชอบแนวนี้. แนวแบบจีบกันนานๆ. มันฟินดีจัง
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 29-03-2017 11:09:59
รักเหมือนกันนะ
รักกันตลอดไปนะ
รักกันอย่างนี้เรื่อยไป
ชอบมากค่ะ
ประทับใจ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 31-03-2017 22:01:21
จบแล้วววว
น่ารักมากอ่ะเรื่องนี้
น้องปืนน่ารักมาก
อยากได้ ผช แบบน้องปืนสักคน
แอบอิจพี่กันเบาๆ 55555+
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 08-04-2017 12:25:12
สนุกมากกก อ่านแล้วเขิน  :-[
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 16-04-2017 13:17:10
สนุกมากค่ะ
ประทับใจพี่กันย์ กับปืนมาก
ไม่ได้อ่านนิยายแล้วเขินแบบนี้มานานมากแล้ว
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดี นะคะ
มันอิ่มอ่ะ เป็นเรื่องที่ดีมากอีกเรื่องนึงที่เราจะจำตัวละครไว้ ^^
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Missmu ที่ 22-04-2017 05:24:40
 :-[ เข้ามาอ่่านอีกรอบค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 22-04-2017 19:42:08
ชอบมาก สนุกมาก รอติดตามผลงานใหม่ๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ยอดมนุษย์ขนมปัง ที่ 23-04-2017 02:16:06
เขินระดับ 10

รออุดหนุนเล่มนะคะ

 :o8:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 25-04-2017 12:54:56
หวานๆ น่ารักมากเรื่องนี้
ชอบความเยอะของพี่กันย์ ชอบความช่างดูแลของน้องปืน
มันเป็นความลงตัวอ่ะ นี่คืออ่านไปยิ้มไปแก้มจะแตก
ตอนพิเศษก็หวานหยด เขินแทนน้องปืนเลยพี่กันย์ร้องเพลงจีบ 5555
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 11-05-2017 07:22:45
ละมุนละไมมากเลย เป็นนิยายที่อ่านแล้วไหลลื่นมาก
บรรยายดีมาก อารมดีทั้งเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: NOO~KUNG ที่ 11-05-2017 23:04:00
เขียนเรื่องได้น่ารักดีค่ะ...อ่านเพลินเลย
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 15-05-2017 21:05:39
เรื่องนี้มันกร๊าวใจจจจดีจริงๆ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 29-05-2017 18:50:01
 :กอด1:
เรื่องคนเขียนเขียนได้ดีมากเราชอบดูไม่รีบจนเกินไป
เนื้อเรื่องตามความสัมพีนธ์ที่ขยับเพิ่มเรื่อยๆไม่น้อยไม่มากไป
และเราชอบปืนจังอยากได้ :laugh:
พี่กันย์ก็แอบน่ารักแต้เก๊กเท่ห์ตามสไตล์เด็กถาปัตย์
คือดีอ่ะ
งานละมุม งานอ่อย งานฟิน ก็มานะไม่ขาด

ชอบๆน่ารักดี :L1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ichiichi ที่ 07-06-2017 12:03:12
ไล่อ่านมาหลายเรื่อง ถ้าไม่ชอบมากจริงๆ ก็ไม่เม้นท์ 55 บางเรื่องอ่านข้ามๆ
แต่เรื่องนี้ต้องอ่านถึงสอบรอบ แล้วเซฟเก็บไว้อ่านต่อ คือ ชอบมากกกกกกกกกกก

ชอบบุคลิกของตัวละคร มันละเอียดอ่อน ไม่เพี้ยนเลย คือนิสัยเสมอต้นเสมอปลายมาก
อ่านแล้วก็มานึกถึงตัวเอง เราเป็นคนเยอะพอสมควร คล้ายๆ อิพี่กันย์นี่แหละ แล้วแฟนเราก็เป็นคนชอบดูแลไง แต่ไม่ขนาดปืนหรอก ของปืนนี่เยอะจริงไรจริง แล้วแฟนเราก็เป็นโรคกระเพราะ ต้องกินข้าวตามเวลาเป๊ะ เหมือนปืนเลย

แต่แฟนเราเป็นรับนะ 55555

สลับตำแหน่ง แต่นิสัยตรงกันสุดๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 22-06-2017 21:21:20
เป็นคู่เยอะที่ลงตัวสินะ
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ender_m ที่ 27-06-2017 11:36:53
พี่กันย์ คือท่ามันจะยากขนาดนั้น ลุกขึ้นแล้วเดินไปนอนเฉยๆดีกว่านะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-07-2017 17:24:03
น่าย๊าก...กกกกกกกกก
[/size][/font][/color] :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 30-07-2017 11:28:39
 :katai5: :katai5: :katai5: พี่กันย์แหม หลงรักกับความเยอะของพี่เลย น้องปืนก็ช่างเอาใจ คู่นี้ลงตัวสุดๆ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: noknaja01 ที่ 06-08-2017 18:22:09
เนื้อเรื่องน่ารัก มีความกวนกันไปมา แรกๆอ่านก็ยังนึกไม่ออกว่าใครจะรุกใครจะรับ 55 เขียนได้ฮาดี แต่แอบนอยด์ตอนที่ทั้งคู่งอนไม่พูดกันอะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 09-08-2017 13:13:26
โอ้ยยยยยย พึ่งมาเจอตอนจบไปนานแล้วววว
ขอบอกคนเขียนว่า ขอบคุณมากกกกก สนุกมากกกกก เรื่องดำเนินไปเรื่อยๆ แต่มันฟินจริงๆ ชอบความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว ชอบพี่กันย์ ชอบน้องปืน ฮืออ ดีต่อใจ ตอนพิเศษ วาเลนไทน์ ทำน้ำตาซึมจริงๆ เขาเกิดมาเพื่อกันและกันจริงๆ
จะรอตอนพิเศษอีกนะครับบบบบบ
 :mew1: :mew1: :mew1: :pig4: :L1: :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-09-2017 11:56:20
 :impress2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 17-09-2017 02:43:27
อ่านรวดเดียวจบบบเลยค่ะ สนุกมากก น่ารักมากกก
พี่กันย์นี่เยอะสิ่งจริงๆแหละ แต่เราเข้าใจจจ
เข้าใจความย้อนแย้งของพี่นะ จับมืออออ
เคยช่วยงานพี่สาวเรียนถาปัตย์ก้ซึ้งเลยว่างานมาน้ำตาไหลเปนไง
การที่มีน้องปืนเข้ามานี่ถือเป็นสิ่งดีๆในชีวิตอิพี่จริงๆอะ
อะไรจะเข้าใจ ดูแล และซัพพอร์ตพี่ได้ดีขนาดนั้นคะคุณขาาา อิจฉาาาอะ
ปืนน่ารักมากกก แบบมากก พี่กันย์ก้น่ารักกไม่ซึนด้วย พอรู้ใจก้ชัดเจนมากก
ฉากนั้นยังน่ารักก อบอุ่นเลยอะ แถมขำอีกต่างหากกก
ตอนพิเศษนี่ค้องบอกว่าไม่เคยฟังเพลงนี้แล้วเขินขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ
ไม่รู้เขินอะไร น่าจะเขินแทนน้อง หวานมากก ละมุนน เขินนนสุดด
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 21-09-2017 14:41:45
ชอบบอกเลย..
ไม่ได้หล่อเลิศ ไม่ได้ขาวใสตัวเล็ก ไม่ได้หวือหวา
แต่ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมดาและธรรมชาติมากคร้าาาาา..
ดำเนินเรื่องดีค่ะ ไม่เร้วหรือช้าไป ฉากหวาน ๆ ก้ฟินเวอร์+++ โมเม้นดี๊ดี (วิบัติเพื่ออรรธรส)  o13

เรื่องนี้เราใช้เวลาอ่านนานนะ เพราะเราทำงาน จนอ่านไม่ต่อเนื่อง แต่เรากลับไม่รู้สึกเบื่อหรือไม่อ่านต่อเลย มันดี มันสมู้ททททททท ค่ะ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 28-09-2017 23:34:47
น่ารักมากเลยค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Quasar77 ที่ 18-10-2017 20:22:35
เพิ่งได้มาอ่าน อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากกกกกกกกก. น่ารัก อ่านสบายสไตล์ฟีลกู๊ด 555
มีความอ่อยแรง  มีความเทคแคร์เวอร์
ขอบที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่าน  :mew6:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 20-10-2017 22:16:43
สนุกมากค่ะ ชอบพี่กันย์กะน้องปืนมาก
ลุ้นตั้งนานว่าใครจะยอมใครก่อน  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 22-10-2017 10:31:41
 :o8: :-[ โอ้ยยยย เขินนนนน อยากได้แบบนี้
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 15-12-2017 11:42:21
อ่านจบแล้ว  :onion_asleep: :onion_asleep: :onion_asleep:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 31-01-2018 20:46:09
สนุกมากค่ะ อ่านแล้วน่ารักดีจังเลย :L2:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Nunng ที่ 01-02-2018 00:31:09
 อยากได้แบบน้องปืนหาได้ที่ไหนบ้าง :z3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ 03-02-2018 22:48:17
มีความอิจค่ะ ไม่รู้จะอิจฉาใคร ระหว่างพี่กันย์กับน้องปืน อยากได้แบบนี้บ้างง่าาาา :z3: :z3: :z3:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ :pig4: :L1: :pig4: :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 04-02-2018 08:47:00
ร๊ากกกกกกกกกกกกกก :L1: :L1:
รักพี่กันย์ กะน้องปืนมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชอบมากกกกกกกกกก เดี๋ยวตามไปซื้ออีบุ๊คค่ะ คึคึ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-02-2018 23:05:15
ดวงคนมันจะต้องพบกัน มันก็ต้องมีอะไรมาดลให้เจอกันอยู่ดี
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: lnwgreankak ที่ 15-05-2018 23:45:09
ละมุนละไม ชอบความน่ารักทุกอย่างของเรื่องนี้  :mew3:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 30-05-2018 16:48:33
รักเรื่องนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-10-2018 14:14:54
จะบอกว่าตามมาจากกระทู้แนะนำนิยาย
ขอบคุณคนที่แนะนำและขอบคุณคนเขียน
เรื่องราวน่ารักมากมาย อ่านไปยิ้มไปแก้มปริ
คนนึงก็ชอบคนเอาใจคนตามใจ
อีกคนก็ชอบเอาใจชอบตามใจ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: airjang ที่ 23-11-2018 04:44:13
น่ารัก เรียบๆ ง่ายๆ อบอุ่นมาก ดีใจที่ได้อ่านงานดีๆแบบนี้ ขอบคุณมาก
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: gang ที่ 07-07-2020 17:06:29
สนุกดีครับ เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะตรับ
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 10-07-2020 14:37:48
 o13
หัวข้อ: Re: [yaoi]...ก็พี่มันเยอะ [END] // Special Valentine’s Day – ก็พี่มัน ‘รัก’ ♥
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 13-07-2020 15:57:38
ชื่นใจนักอ่าน มากกกก

ขอบคุณนักเขียนZENZAI

 :pig4: :pig4: :pig4: