แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]  (อ่าน 376956 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 22 : คลุมเครือ


คาร์ลเดินไปตามทางเดินในปราสาทฝั่งซ้าย โดยมีลูคัสและทหารติดตามไปทางด้านหลัง เมื่อถึงห้องนอนลอร์ดหนุ่มก็ก้าวเข้าห้องไป

ลูคัสรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขานึกว่าอีกฝ่ายจะตามเข้ามาในห้องด้วยเสียอีก อย่างน้อยหันมาบอกราตรีสวัสดิ์กันก็ยังดี หากก็เข้าใจว่าพรุ่งนี้ยังมีงานและท่านลอร์ดก็ต้องพักผ่อน พอก้าวเข้าไปในห้องนอนแล้ว เขาก็นั่งรอให้สาวใช้มาช่วยถอดเสื้อผ้าออกให้ ระหว่างนั้นก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

“อือ... กำแพงปราสาท... ในยุคโบราณแบบนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก แล้วปืนใหญ่ก็หาได้ยากมากด้วย ถ้างั้นเวลาเขาจะยึดปราสาทกัน จะต้องทำยังไงนะ” เด็กหนุ่มลุกไปที่โต๊ะหนังสือ หยิบดินสอขึ้นมาจดสิ่งที่คิดลงไป “กำแพงปราสาทแบร์กไฮม์ อืม... ตอนที่เข้าไปตรวจสอบกับโปรเฟสเซอร์...”

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น จากนั้นสาวใช้อีกสองคนก็ก้าวเข้ามา “ท่านลูคัสเจ้าคะ”

“อื้ม จะถอดชุดใช่ไหม เอาเลย” เขาพูดโดยไม่หันกลับไปมองพวกหล่อน ใจจดจ่ออยู่กับแผ่นกระดาษตรงหน้า ไม่ได้ยินเสียงประตูเปิดปิดด้วยซ้ำ หากเมื่อนั่งไปสักพักก็มีมือยื่นมาถอดเครื่องประดับบนศีรษะออกให้ จากนั้นก็ไล้มือผ่านใบหูลงไปตามลำคอระหง หยุดคลึงหัวไหล่อย่างแผ่วเบา แล้วเอื้อมลงไปดึงปมเชือกของชุดที่เด็กหนุ่มสวมอยู่ออก

“ถอดไม่สะดวกใช่มั้ย เดี๋ยวนะ” ลูคัสพูดพลางลุกขึ้นยืนให้อีกฝ่ายถอดชุดตัวนอกสุดออก “เอาล่ะ เสร็จแล้ว”

พอหันหน้ากลับไปทางด้านหลังเด็กหนุ่มก็เบิกตาโพลง เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าคือ... “ท่านลอร์ด!” เขาหันมองไปภายในห้อง “คนอื่นหายไปไหนหมดแล้ว”

“ข้าสั่งให้พวกเขาออกไปเอง”

“ผมนึกว่าคุณจะนอนแล้วซะอีก”

คาร์ลโอบไหล่เด็กหนุ่มเข้าหาตัว เขายิ้มมุมปากพลางโน้มใบหน้าไปกระซิบ “ยังไม่ได้บอกราตรีสวัสดิ์เจ้าเลย จะนอนได้อย่างไร” ก่อนจะไล้ริมฝีปากผ่านแก้มนิ่ม “ผมยาวก็เหมาะกับเจ้าดี ชุดที่พวกสาวใช้เลือกให้ก็เช่นกัน แต่ข้าว่า...”

ลอร์ดหนุ่มใช้ปลายนิ้วไล้ผ่านผิวเนียน แกะปมเชือกของชุดตัวกลางออกแล้วเกี่ยวเอาแขนเสื้อลงไปทางหัวไหล่ทีละข้างอย่างเชื่องช้า จากนั้นจึงกระตุกชุดที่อีกฝ่ายสวมไว้ให้ร่วงลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า เหลือเพียงแค่ชุดกระโปรงสีขาวบางๆ ข้างในเท่านั้น

“ไม่ใส่น่าจะดีกว่า”

“หวา เดี๋ยวก่อน” แก้มนวลซับสีเลือด เขาทำท่าจะถอยหนี หากอีกฝ่ายรวบเอวเข้าไปแนบกาย มือเรียวจึงทุบลงบนไหล่หนาเบาๆ “ทำไมคุณถอดเก่งจังเนี่ย”

“เก่งอะไรกัน นี่ยังไม่ทันใจข้าเลย หืม... ไหนดูซิ เจ้ายัดอะไรไว้ตรงนี้กันนะ” คาร์ลพูดพลางดึงคอเสื้อชุดกระโปรงออกดู

ลูคัสตีมือหยาบอย่างไม่เบาแรงนัก “ท่านลอร์ด! แค่ผ้าธรรมดาจะดูไปทำไม! มันไม่เหมือนของจริงหรอกน่ะ”

“หืม เจ้าเรียกข้าว่าอย่างไรนะ” ลอร์ดหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ริมฝีปากคลอเคลียอยู่บนกลีบปากนุ่ม หากยังไม่ยอมจูบลงไป

นัยน์ตาสีเข้มมองตามเรียวปากของลอร์ดหนุ่ม ลมหายใจติดขัดอยู่นานอีกฝ่ายก็ไม่ยอมจูบสักที เขาพูดเสียงอ่อย “แกล้งผมอีกแล้ว”

“ทำไมอยู่ต่อหน้าคนอื่นเรียกชื่อข้าได้ แต่อยู่กันสองคนถึงเรียกไม่ได้”

“เรียกก็ได้” ลูคัสเสตาหลบ “ท่านคาร์ล! ท่านคาร์ล! ท่านคาร์ล! พอใจรึยัง อื้อ!”

มือกร้านจับคางเรียวไว้ไม่ให้เด็กหนุ่มขยับหนีได้ในขณะที่เขาบดเบียดริมฝีปากกับเรียวปากอวบอิ่มแล้วสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัด ความนุ่มหยุ่นของกลีบปากชักชวนให้ลุ่มหลง ความหวานล้ำในโพรงปากที่พอได้ลิ้มลองแล้วก็ยิ่งทำให้หิวกระหายมากขึ้น

คาร์ลเคลื่อนมือไปประคองท้ายทอยเด็กหนุ่มไว้ เขากระชับเรียวปากหนักหน่วงขึ้นอีก

ลูคัสรู้สึกราวกับว่าจุมพิตนี้ดูดกลืนวิญญาณเขาไปด้วย มือนุ่มขยุ้มเสื้อของลอร์ดหนุ่มแล้วดึงทึ้งเบาๆ เมื่อลมหายใจติดขัด

ลอร์ดหนุ่มถอนริมฝีปากออกช้าๆ ในขณะที่สองสายตายังประสานกันนิ่ง เขาลดสายตาลงมองกลีบปากที่เจ่อบวมเล็กน้อยซึ่งกำลังเผยอหอบหายใจ จากนั้นจึงย่อตัวลงอุ้มร่างโปร่งขึ้นแนบกายแล้วพาไปวางลงบนเตียงกว้าง

“เรียกชื่อข้าอีกสิ” เขาใช้ปลายนิ้วไล้แก้มสีสตรอว์เบอร์รี แล้วไปหยุดกดคลึงบนกลีบปากอวบอิ่ม

“ท่านคาร์ล”

ลอร์ดหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปคลอเคลีย กัดกลีบปากสีสดเบาๆ ก่อนจะบดจูบ จุมพิตของเขารุกล้ำ เร่งเร้า จนทำให้คนใต้ร่างแทบหลอมละลาย

แขนเรียวยกขึ้นโอบไหล่หนา เขาเงยหน้าขึ้นรับจุมพิตหวานที่คนบนร่างมอบให้ แล้วพาตัวเองจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความปรารถนา

เรียวปากร้อนเคลื่อนออกไปพรมจูบบริเวณลำคอ ไล่ลงมาจนถึงอกช่วงบน มือหยาบถลกชายกระโปรงขึ้นแล้วลากไล้ไปตามเรียวขา

เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง เขารู้สึกตึงๆ ที่ตรงส่วนไวสัมผัสกลางร่าง มือเรียวรีบผลักลอร์ดหนุ่มออกห่าง ลุกขึ้นนั่งแล้ววางมือลงปิดส่วนที่ร้อนผ่าวเอาไว้

“ลูคัส เป็นอะไรไป”

เจ้าของชื่อเรียกก้มหน้าหลบสายตา ก็เพราะคิดว่าลอร์ดหนุ่มอยากจะกกกอดตัวเขาทั้งยังอยู่ในชุดผู้หญิงเช่นนี้ แล้วถ้าหากไปสัมผัสโดนส่วนนั้นเข้า... ก็อาจจะทำให้เสียอารมณ์ไปได้ง่ายๆ

“ลูคัส”

ปวดหนึบที่ตรงนั้น หากก็ไม่กล้าพูดออกไป หัวไหล่ของเด็กหนุ่มสั่นน้อยๆ ขณะที่หลับตาและเม้มริมฝีปากไว้แน่น

ลอร์ดหนุ่มดึงร่างโปร่งเข้าไปโอบกอด ค่อยๆ ลูบแผ่นหลังอย่างอ่อนโยน เขาคงจะเร่งเร้าอีกฝ่ายมากเกินไป หากก็เพราะเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน เขาก็เอาแต่ปรารถนาที่จะได้ครอบครองร่างกายนี้ “ข้าทำให้เจ้ากลัวหรือ เด็กน้อย”

ลูคัสส่ายหน้าไปมา “เปล่าครับ”

เด็กหนุ่มตอบเช่นนั้น ทว่าพอคาร์ลก้มลงจูบตรงซอกคอ เขาก็ย่นคอลงแล้วขยับหนี

“ไหนว่าไม่กลัวไง”

“ไม่กลัว แต่...”

“แต่...”

“ผมง่วงแล้ว”

คาร์ลยิ้มบาง เมื่อเขาเอื้อมมือไปแตะแขนเรียว อีกฝ่ายก็สะดุ้งเฮือก ลอร์ดหนุ่มถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจึงยิ้มบาง “ถ้าเช่นนั้นก็พักผ่อนเถอะ ข้าจะกลับห้องของข้าล่ะ”

ลูคัสเงยหน้าขึ้น สบสายตากันเพียงชั่วครู่เขาก็รีบเสตาหลบ ถ้าเป็นทุกครั้งเขาคงจะรั้งให้อีกฝ่ายนอนด้วยกัน หากคืนนี้... “ครับ ราตรีสวัสดิ์”

ลอร์ดหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ เขาลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน “ราตรีสวัสดิ์” จากนั้นจึงเดินกลับไปยังห้องตนเองด้วยทางลับที่เชื่อมระหว่างทั้งสองห้อง

เด็กหนุ่มนั่งชันเข่าอยู่สักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียง เขาถอดวิกผมยาวสีน้ำตาลออก ตามด้วยชุดกระโปรงสีขาวตัวบาง แล้วสอดตัวกลับเข้าไปขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ที่ตรงส่วนกลางร่างยังคงปวดหนึบ รสสัมผัสของลอร์ดหนุ่มยังคงชัดเจนอยู่ในความคิด เขาพยายามข่มตาให้หลับลง แต่ดูท่าจะเป็นไปได้ยากโดยเฉพาะเมื่อร่างกายร้อนรุ่มถึงขนาดนี้

มือนุ่มเลื่อนลงไปลูบสัมผัสส่วนที่ตื่นตัวในกางเกงชั้นใน พยายามกัดฟันไว้ไม่ให้มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาได้ ระหว่างนั้นก็นึกถึงริมฝีปากร้อนที่ลากไล้ไปบนผิวกาย และฝ่ามือกร้านที่อบอุ่น

เมื่อเร่งจังหวะการขยับมือเร็วขึ้น เขาก็หอบถี่  “ท่านคาร์ล อะ!” และปลดปล่อยความร้อนรุ่มในกายออกมาในที่สุด

ลูคัสลุกขึ้นพรวด รีบรุดเดินไปล้างมือให้สะอาด จากนั้นจึงกลับมานอนบนเตียง ใบหน้าน่ารักซุกลงบนหมอน ริมฝีปากเผยอหอบ หัวใจเต้นระรัว

“ท่านคาร์ล” มือเรียวขยุ้มผ้าปูที่นอนไว้แน่น เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วกับความรู้สึกแปลกๆ ในกายเช่นนี้

...

......

...

เด็กหนุ่มตื่นมาแต่งตัวในตอนสายของวันใหม่ ชุดที่ต้องใส่ในวันนี้มีน้ำหนักมากกว่าเมื่อวานเสียอีก เนื่องจากความหนาของเนื้อผ้าสำหรับใส่ข้างนอกในฤดูหนาวแล้วยังมีผ้าคลุมขนสัตว์ทับอีกชั้น

ชุดสีดำตัวในปักลายสีทองอย่างละเอียด สวมทับด้วยชุดตัวนอกสีแดงแขนยาวกรุยกราย ส่วนกระโปรงยาวทอดไปทางด้านหลัง มีผูกผ้าพันเอวสีทองพันทบไว้อีกชั้น เมื่อสวมวิกแล้วก็สวมผ้าคลุมศีรษะทับ ปิดท้ายด้วยผ้าคลุมขนสัตว์

“ผมควรจะลองใส่ชุดนี้ขี่ม้าดูก่อน” ลูคัสพึมพำ “ลมพัดทีผมจะตกจากหลังม้ามั้ยเนี่ย”

“ม้าเดินช้าๆ มีทหารคอยระวัง ท่านลูคัสไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ”

ถึงสาวใช้จะยืนยันเช่นนั้น หากเด็กหนุ่มก็ยังถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ

เมื่อถึงเวลาบ่าย เออร์วินก็มารับเด็กหนุ่มที่ห้องเพื่อพาไปเตรียมตัวในสนาม เขายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ค้อมศีรษะลงต่ำแล้วผายมือเชิญให้เดินนำออกไป

“เออร์วิน ทำแบบนี้ผมไม่คุ้นเลยนะ”

เออร์วินหัวเราะ “เจ้าเป็นเลดี้ ข้าก็สมควรจะปฏิบัติเช่นนี้กับเจ้าไม่ใช่หรือ”

ลูคัสขมวดคิ้ว หากก็เดินนำออกไป

“เจ้างามมากเหลือเกิน รู้ไหม”

เด็กหนุ่มหยุดกึก หันหลังกลับไปสบสายตากับคนพูด “ผมเป็นผู้ชายนะ คิดว่ามีคนชมแบบนี้ผมจะดีใจมั้ย”

“เอาน่ะ มีคนชมก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ”

ลูคัสก้าวเดินไปตามทางเดินในปราสาทอย่างเงียบเชียบ เมื่อถึงประตูทางออกปราสาทก็หยุดนิ่ง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกและทำสมาธิ

เออร์วินให้เวลากับอีกฝ่ายชั่วครู่ ก่อนจะค้อมศีรษะลงอีกครั้ง “ท่านพร้อมหรือยัง เลดี้อารามิส”

นัยน์ตาสีเข้มปิดลงสนิท แล้วลืมขึ้นช้าๆ “ข้าพร้อมแล้ว”


ร่างโปร่งในชุดสีแดงเด่นสง่าบนหลังอาชาสีขาว ใบหน้าน่ารักเชิดขึ้น มีรอยยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปาก ในมือถือดาบขณะที่บังคับม้าให้เดินนำกองทหารเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพิงที่นั่งของลอร์ดหนุ่ม เขาวางมือลงบนฝ่ามือของนายทหารที่ช่วยจูงม้าเข้ามาเพื่อใช้ในการประคองตัวลงจากหลังม้า จากนั้นก็เดินไปย่อตัวทำความเคารพตรงหน้าที่นั่ง

สายตาของบาร์ดอฟที่มองมาดูไม่ค่อยเป็นมิตรนัก พอสบสายตากันกับเด็กหนุ่มก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย

ลูคัสพยายามไม่ใส่ใจ หลังจากส่งดาบยาวให้กับลอร์ดหนุ่มได้ก็ถือว่าหน้าที่ของเขาเสร็จสมบูรณ์

คาร์ลรับดาบมาไว้ในมือ เขาดึงออกจากฝักแล้วชูขึ้นสูง เป็นการส่งสัญญาณบอกกับเหล่าทหารม้า เมื่อหัวหน้านายกองขานรับ เขาจึงนั่งลงเพื่อรอดูการแสดง

ลูคัสก้าวไปนั่งลงเคียงข้างลอร์ดหนุ่มตามที่อาเธอร์ได้บอกไว้ แล้วทอดสายตามองความพร้อมเพรียงของเหล่าทหาร

เมื่อการแสดงจบลง ทุกคนต่างพากันปรบมือ ยกเว้นบาร์ดอฟเพียงคนเดียว เขาหันไปหาคาร์ลแล้วพูดขึ้น “อันที่จริง ดูความสามารถของทหารเจ้า ข้าว่ามันน่าเบื่อจะตายไป ข้าอยากจะเห็นฝีมือในการขี่ม้าของเลดี้อารามิสมากกว่า ได้ยินพวกทหารพูดกันว่าเก่งกาจมิใช่น้อย”

“นั่นมิใช่หน้าที่ของเลดี้ข้า ต้องขอโทษท่านอาด้วย” หากก่อนลอร์ดหนุ่มจะค้อมศีรษะลง ลูคัสก็รั้งแขนเขาไว้

เด็กหนุ่มเชิดหน้าขึ้น สิ่งเดียวที่เขาทนไม่ได้คือการที่คาร์ลจะต้องพ่ายให้กับคนคนนี้ “ท่านบาร์ดอฟมีความประสงค์จะให้ข้าทำอย่างไร”

“ลองขี่ม้าแล้วบังคับมันให้กระโดดข้ามรั้วที่ล้อมลานตรงนั้นสักหน่อยเป็นไร”

ลูคัสไม่ตอบ หากเดินไปยังชาโรน ม้าตัวสีขาวของเขา

“เดี๋ยวก่อนสิ เลดี้อารามิส ช่างใจร้อนเสียจริง” บาร์ดอฟยิ้มกริ่ม “กิตติศัพท์ของยาสพาล ม้าตัวโปรดของท่านลอร์ดเป็นที่เลื่องลือ ถ้าหากข้าจะได้เห็นเลดี้อารามิส ขี่หลังมันกระโดดข้ามรั้วคงจะเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่น้อย”

“เจ้า!” ลอร์ดหนุ่มชักสีหน้า ยาสพาลเป็นม้าที่สวยงามและหยิ่งผยอง ไม่ใช่ว่าจะยอมให้ใครต่อใครขึ้นขี่หลังมันได้ง่ายๆ แล้ว ลูคัสก็ยังไม่เคยได้ฝึกซ้อมขี่หลังมันมาก่อนเลย การเอ่ยปากเช่นนี้ บาร์ดอฟต้องการหาเรื่องกับเด็กหนุ่มอย่างชัดเจน

ทว่าในฐานะของเลดี้ของมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์แล้ว เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ หรอก “ข้าจะลองดู”

“อารามิส ข้าไม่อนุญาต”

“ท่านคาร์ล ข้าเป็นเลดี้ของท่าน เรื่องแค่นี้ท่านไม่ต้องกังวล” ลูคัสยิ้มพลางจับมือของลอร์ดหนุ่มไว้ เขาหันไปบอกกับทหารให้ไปพาตัวยาสพาลมา จากนั้นจึงเอ่ยกับบาร์ดอฟ “ถ้าหากข้าทำได้สำเร็จ ท่านจะมีรางวัลให้ข้าหรือไม่”

บาร์ดอฟแสยะยิ้ม “นั่นสินะ เจ้าอยากได้สิ่งใดกันล่ะ เงิน ทอง?”

“ของแค่นั้นคงไม่เหมาะหรอกท่านบาร์ดอฟ” ยาคอปพูดแทรก

ไฮน์ริชยิ้มมุมปาก “ดาบสั้นของท่านท่าจะเหมาะสมดี”

บาร์ดอฟชักสีหน้า หากถ้าปฏิเสธก็จะเสียหน้าเช่นกัน “ก็ได้” เขากัดฟันกรอด หยิบดาบสั้นซึ่งอยู่ในฝักหนังที่ประดับด้วยดิ้นทองและเพชรพลอยนานาชนิด  มีตราของมาควิสแห่งโรเซนไฮม์จารึกไว้และยังฝังพลอยหลากสีตรงด้ามจับอย่างสวยงามขึ้นมาวางลงตรงหน้า

ยาสพาลส่งเสียงร้องลั่นมาแต่ไกล ขนสีดำเป็นเงาสะท้อนกับแสงแดดในยามบ่าย ความสง่างามของมันเป็นที่หนึ่ง หากความดื้อรั้นก็เช่นกัน มันสะบัดหน้าไปมาจนนายทหารที่จูงอยู่เซไปตามแรงเหวี่ยง เมื่อเดินมาถึงหน้าที่นั่ง เห็นลอร์ดหนุ่มผู้เป็นนายของมันหูก็ตั้งขึ้นพลางกระทืบเท้าไปมาด้วยความดีใจ

คาร์ลก้าวเข้าไปลูบหัวมันเบาๆ “ยาสพาล เจ้าจงเชื่อฟังเลดี้อารามิส ดูแลเลดี้ของข้าด้วย”

ลูคัสเดินเข้าไปยืนเคียงข้างลอร์ดหนุ่ม เขาเอื้อมมือไปลูบตามใบหน้าของเจ้าม้าตัวสวย “เจอกันอีกแล้วนะ ยาสพาล” ก่อนจะโอบลำคอของมันแล้วซบใบหน้าลง

เจ้าม้าสีดำนิ่งเสียจนทั้งยาคอป ไฮน์ริช อาเธอร์และแม้แต่คาร์ลก็ยังแปลกใจ หนำซ้ำมันยังยอมให้ลูคัสขึ้นขี่หลังมันได้ง่ายๆ

มือนุ่มลูบไล้แผงขนอย่างอ่อนโยนที่สุด เขามักจะใช้วิธีนี้สร้างความคุ้นเคยกับม้าเสมอ แขนเรียวโอบลำคอมันหลวมๆ อีกครั้งแล้วกระซิบบอก “เรามาพยายามด้วยกันเพื่อท่านคาร์ลนะ” จากนั้นก็จับบังเหียนม้าไว้พร้อมกับเตะสีข้างมันเบาๆ ให้ เดินออกไป

ลูคัสพาเจ้าม้าสีนิลวิ่งเหยาะๆ ไปรอบๆ สองสามรอบ ก่อนจะเตะสีข้างให้ยาสพาลเพิ่มความเร็วขึ้นทีละน้อย และเมื่อคิดว่าพร้อมก็พามันวิ่งตรงไปยังรั้วกั้น รอให้ระยะห่างเหมาะสมจึงให้สัญญาณในการกระโดด

เจ้าม้าสีดำขลับกระโดดสูงขึ้นไปในอากาศ ข้ามพ้นรั้วไปอย่างสง่างาม เรียกเสียงปรบมือดังก้อง

ลอร์ดหนุ่มยิ้มออกมาอย่างพอใจ ในขณะที่อาเธอร์ก้าวเข้าไปหาบาร์ดอฟ

“ท่านจะไม่เอ่ยชมเลดี้อารามิสสักหน่อยหรือ”

บาร์ดอฟกัดฟันกรอด “อืม เก่งกาจสมกับที่ได้ยินมา”

เมื่อลูคัสขี่ม้ากลับมาถึงที่หน้าเพิงที่นั่ง คาร์ลเดินไปรับเด็กหนุ่มด้วยตัวเอง เขาบอกขอบใจยาสเพอร์ แล้วส่งมือให้อีกฝ่าย

มือนุ่มวางลงบนฝ่ามืออบอุ่น หากพอจะก้าวลงจากม้า ลอร์ดหนุ่มก็ชิงอุ้มเขาตัวลอย “ท่านคาร์ล”

เจ้าของชื่อวางร่างโปร่งลงอย่างระมัดระวัง “เจ้าเก่งมาก อารามิส”

“สมเป็นเลดี้ของท่านใช่ไหม” เด็กหนุ่มหัวเราะ

คาร์ลยิ้มกริ่ม เขาเชยคางเรียวขึ้นแล้วจุมพิตริมฝีปากสีแดงสดต่อหน้าทุกคน “ใช่ สมเป็นอารามิสของข้า” จากนั้นจึงจูงมือเรียวพาเดินเข้าไปข้างในเพิงด้วยกัน “ข้าคิดว่าท่านอาคงไม่มีข้อกังขาใดๆ ในตัวเลดี้ของข้าอีกแล้ว”

ไฮน์ริชกับยาคอปยิ้มเยาะ ชอบอกชอบใจกับสีหน้าที่ดูหงุดหงิดของบาร์ดอฟเป็นอย่างมาก “แล้วรางวัลของเลดี้อารามิสเล่าขอรับ”

บาร์ดอฟกระชากดาบสั้นขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด จำใจต้องส่งมันให้กับเด็กหนุ่มตามที่ได้เอ่ยปากไว้โดยที่ไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ

ลูคัสยิ้มมุมปากพลางย่อตัวลง “ขอบคุณ” จากนั้นก็รับดาบสั้นนั้นมา แล้วสอดเข้าไปในผ้าซึ่งผูกอยู่ที่เอว

“ข้าควรจะกลับสักที” บาร์ดอฟเชิดหน้าขึ้น

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปส่งท่านถึงที่กำแพงเมือง”

“กลัวข้าจะไม่กลับไปจริงงั้นรึ”

“ข้าเกรงว่าท่านจะพาทหารของท่านกลับไปไม่หมด จึงต้องไปส่งให้แน่ใจ เพราะตอนนี้ข้าปกครองทหารหลายพันนายก็มากมายเท่าทหารของทั้งเมืองท่านอาแล้ว” ลอร์ดหนุ่มพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง

บาร์ดอฟชักสีหน้า สายตาแฝงไว้ด้วยความเกลียดชัง แต่แล้วก็กลับมาพูดด้วยน้ำเสียงปกติอีกครั้ง “บางทีการมีทหารมากมายในกำมือ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรได้อย่างใจคิด ช่างน่าเสียดาย” เขายิ้มร้าย “จริงไหม”

คาร์ลไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพยายามจะสื่อถึงอะไร เขาเมินเฉยต่อคำพูดนั้นเสีย แล้วหันไปออกคำสั่งทหารให้เตรียมขบวนพาแขกผู้มาเยือนไปส่งที่ชายแดน


*~TBC~*


หยอดกันเข้าไป คนนึงก็อ้อยสุด คนนึงก็เต๊าะเด็กสุด อีกไม่นานคงได้กัล /เอ๊ะ พิมพ์อัลรัยลงป๊ายยย

แต่บาร์ดอฟทำไมพูดจาแปลกจั๊ง จะมีแผนอัลรัยอีกรึเปล่าเนี่ยยยย  :hao5:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า จุ๊บๆ  :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ระแวงบาร์ดอฟนี่ล่ะ คนเค้ากำลังอ้อยกัน โอ้ยยย เครียดแทนท่านลอร์ด

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ภูมิใจในความสามารถของน้องลู ไม่มีใครทำอะไรนางได้เลย แม้กระทั่งท่านลอร์ด ก็ยังทำไม่ได้ คลุมเครือของจริง :mew5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อูยยย......คาร์ล ทำให้ลูคัส ระส่ำระส่าย จนต้องปลดปล่อยตัวเอง
แล้วคาร์ล ล่ะ เกิดอารมณ์เหมือนลูคัส มั้ยนะ
บาร์ดอฟ นี่น่ารำคาญ นิสัยร้ายกาจ
โลภมาก กระหายอำนาจ อยากได้สมบัติของคนอื่น
นี่คงจะวางแผนร้ายๆ อีกแน่เลย
คาร์ ลูคัส สั่งสอนบาร์ดอฟ ให้สาสมน่าจะดี
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ดูท่าลูน้อยจะเข้าใจผิดเรื่องที่ท่านอยากมีอะไรด้วยเพราะลูแต่งหญิงนะทั่นหลอด

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เก่งกาจ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
 :3123: :3123: :3123: :3123:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :interest:
เก่งกาจมาก เลดี้

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ตบมือดังๆเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
« ตอบ #639 เมื่อ: 16-02-2017 14:26:37 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
บาร์ดอฟ ทำให้เสียบรรยากาศตลอดเลย 55+

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ฆ่าไปก้อสิ้นเรื่อง

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
โถ่ น้องลูก็คิดมากไป ท่านหลอดก็บอกอยู่ว่าชอบมากกกถ้าไม่ใส่เลย  อิทั่นหลอดหื่น  :o8:
เดือดร้อนน้องนางทั้ง5ไปอีก  ท่านหลอดก็คงจะไม่ต่างกันแน่  :z1:
มองข้ามอิตาบาดอฟไปก่อน ตอนนี้พระนายเค้าจะโชว์สวีทกัน

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pinkpunk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
โอ้ยยยยหนูลูคัสคิดมากไปทำไมค่ะ คราวก่อนที่เขาจะสอนหนูหนูก้ยังไม่แต่งหญิงนะคะ  ทีานเลดี้นี้เก่งจริงๆเล้ยยยยยย กรี๊ดฉากจุมพิต ต่อหน้าทุกคนมากกกกกกกกก เขินนท่านคาร์ล ทำิารายยยย

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ลูคัสเก่งมากๆเลย

ต่อไปก็วางแผนการจู่โจมของตาแก่ดีๆ

เชื่อว่าท่านลอร์ดและลูคัสทำได้


ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
รอเขาได้กันค่ะ อุ้ยยยย55555

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
บาดอฟเหมือนเด็กๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ขี้อิจฉาขี้อวดอีก..
เดี๋ยวเร็วๆนี้ทั่นหลอดและน้องอ้อยคงจะได้กันแน่ๆ แหมมมม คนนึงก็น้ำมัน อีกคนพร้อมเติมเพลิง คิคิ  :m20:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
บริการถอดชุดให้ขนาดนี้ ทำไมถอยหนีไปง่ายๆล่ะท่านหลอด
น้องลูก็นะคิดมากอีกแล้ว แล้วเป็นไงค้างคาจนต้องพึ่งตัวเองเลย มันน่าตีนัก

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4982
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น้องลูเก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หวังว่าจะไม่แพ้ให้แผนการต่างๆของบาดอฟนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
« ตอบ #649 เมื่อ: 16-02-2017 20:55:47 »





ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
หนูลูคัสก็ช่างคิดมากกกก :mew2:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หมดกังวลเรื่องตาแก่เมื่อไร คาร์ลได้กินอ้อยแน่ ๆ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
«ตอบ #653 เมื่อ17-02-2017 09:31:45 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เก่งมากหนูลู งานนี้อิท่านอาวางแผนชั่วไว้แน่ๆ

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :-[  :-[

ออฟไลน์ plugie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
สนุกมากๆเลย :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ SaJung13

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1057
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
สู้นะลูคัส พยายามเข้า

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 23 : ตัดสินใจ


ขบวนของบาร์ดอฟเคลื่อนออกไปจากปราสาทโดยที่มีกองทหารของแบร์กไฮม์ขนาบด้านหน้าและหลัง ไฮน์ริชกับยาคอปเดินทางไปพร้อมกับทหารกองหน้า คาร์ลอยู่ในกองหลัง ส่วนอาเธอร์กับลูคัสไม่ได้ไปด้วย หลังจากทุกขบวนออกไปพ้นเขตปราสาทแล้วทั้งสองจึงไปนั่งพักผ่อนกันที่ศาลาในสวนกุหลาบ

“อากาศเย็นไปสักหน่อย แต่หลังจากท่านบาร์ดอฟกลับไปได้ ข้าก็อยากจะสูดอากาศบริสุทธิ์เยอะๆ” อาเธอร์พูดกลั้วหัวเราะ “เจ้าทำหน้าที่ได้ดีมากนะลูคัส สมแล้วที่ท่านคาร์ลเลือกเจ้า”

“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มยังคงอยู่ในชุดของหญิงสาว เขายังไม่ทันได้เปลี่ยนอีกฝ่ายก็เอ่ยปากชวนออกมาเดินเล่น และชุดนี้ถึงจะหนักแต่ก็อุ่นดีไม่น้อย เขาจึงไม่ปฏิเสธ

“มีเจ้าอยู่ใกล้ๆ ท่านคาร์ล ข้ากับท่านวิลแฮล์มจะได้สบายใจ อีกสักสองสามวันข้าก็ควรจะเดินทางกลับได้ละ”

“ท่านวิลแฮล์ม” ลูคัสเปรย “ท่านอาเธอร์เดินทางมาหลายวัน ส่วนท่านคาร์ล ท่านไฮน์ริชกับท่านยาคอปก็ไม่อยู่ อย่างนี้ท่านวิลแฮล์มคงเหงาแย่เลยนะครับ”

อาเธอร์พยักหน้า “ใช่  ไม่เพียงแค่เหงา แต่ท่านยังเป็นห่วง เป็นกังวลตลอดเวลา เกรงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับท่านคาร์ล เพราะแบร์กไฮม์อยู่ใกล้กับโรเซนไฮม์ของท่านบาร์ดอฟมากที่สุด ข้าจึงต้องนำกองทหารมาเสริมให้”

“แต่ว่าท่านพาทหารมามากมาย แล้วอย่างนี้ทหารที่อยู่กับท่านวิลแฮล์มก็เหลือไม่มากน่ะสิครับ”

“ทหารในกองก็มีลดลงไปบ้าง แต่ถึงอย่างไรเมืองไฮเดลแบร์กก็อยู่ในอาณาเขตล้อมที่ไว้ด้วยพันธมิตร ถ้าหากจะมีข้าศึกบุกเข้ามาก็ต้องผ่านเมืองอื่นก่อนอยู่ดี การกระจายกำลังทหารก็เป็นสิ่งสำคัญ แคว้นของเราก็เหมือนบ้าน เมืองชายแดนก็เหมือนกำแพง ต้องมีกำแพงที่ดีเพื่อปกป้องตัวบ้านอย่างไรกันล่ะ”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก “เข้าใจแล้วครับ แต่พอพูดถึงกำแพง...” เขาหยุดแล้วหันมองไปยังกำแพงหินของปราสาท “ผมว่ากำแพงปราสาทแบร์กไฮม์ยังไม่แน่นหนาสักเท่าไหร่”

“เจ้าก็คิดเช่นนั้นหรือ ท่านคาร์ลกับข้าก็คิดเช่นเดียวกัน นี่ท่านบาร์ดอฟคงจะหัวเราะเยาะอยู่ในใจ เพราะกำแพงปราสาทของท่านบาร์ดอฟแข็งแกร่งเป็นที่เลื่องลือ ทั้งสูงใหญ่แล้วก็มีถึงสามชั้น แทบจะไม่มีทางบุกฝ่าเข้าไปได้เลยทีเดียว”

“แทบจะไม่มีทางแต่ก็ยังมีทางใช่ไหมครับ กำแพงน่ะ ต่อให้แน่นหนาแค่ไหน ถ้าหากมีปืนใหญ่ก็พังได้”

“เจ้ารู้จักปืนใหญ่ด้วยหรือ” อาเธอร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ “ข้าเคยได้ยินคำเล่าลือมาบ้าง มันเป็นอาวุธที่พระเจ้าประธานมาให้ใช้ปกป้องเมืองศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น”

“ท่านหมายถึง... กรุงโรมสินะ”

“โอ้ เจ้านี่ไม่ธรรมดาเลย”

ลูคัสนิ่งคิด ถ้าหากไม่มีปืนใหญ่ การทลายกำแพงหินสูงๆ ก็คงจะเป็นเรื่องยาก ทหารที่จะบุกเข้าไปก็ต้องปีนกำแพงปราสาท ต้องต่อสู้กับหอกดาบและธนูจากข้าศึกบนกำแพง ทหารที่จะรอดข้ามกำแพงไปได้คงจะเหลือน้อย แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปสู้กับข้าศึกในกำแพงอีก

“แคว้นของท่านบาร์ดอฟคงจะเข้มแข็งมากสินะครับ”

“ลำพังทหารในกองทัพก็ไม่เท่าไหร่ แต่การที่จะบุกเข้าไป กว่าจะผ่านปราการของปราสาทเข้าไปได้ก็ไม่รู้จะเหลือทหารสักกี่นาย ฝ่ายรุกเสียเปรียบกว่ามากน่ะ เพราะอีกฝ่ายมีที่กำบัง ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะเอาชีวิตของพวกทหารเข้าไปเสี่ยง”

ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้ม “สมแล้วที่ท่านเป็นคนสั่งสอนท่านคาร์ลมา และผมก็คิดว่าท่านคาร์ลคงได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมาจากท่านวิลแฮล์มด้วย พวกท่านไม่เหมือนพวกขุนนางที่ผมเคยได้ยินมาเลย ชาวเมืองในแคว้นนี้โชคดีมากๆ”

อาเธอร์หัวเราะ “เจ้านี่ช่างฉลาดพูด” เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน “เมื่อบ้านเมืองสงบ ท่านคาร์ลคงจะได้พาเจ้าไปพบท่านวิลแฮล์ม ท่านคงจะโปรดเจ้ามากเลยทีเดียว”

รอยยิ้มน่ารักค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อนๆ เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านคาร์ลจะแนะนำตัวเขากับผู้เป็นบิดาว่าอย่างไร จะว่าไปทั้งน้องชายและอาจารย์ของอีกฝ่ายก็คงคิดว่าเขาเป็นมือขวาของท่านคาร์ลอย่างที่ลอร์ดหนุ่มเคยบอกกับพวกทหารและพวกชาวเมืองไว้

“มีอะไรรึ หรือว่าเจ้าหนาวแล้ว”

“เปล่า... เปล่าหรอกครับ”

“จริงสิ ดื่มชาร้อนๆ กันสักหน่อยดีกว่า” อาเธอร์หันไปกวักมือเรียกสาวใช้มาสั่งชากับอาหารว่าง ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นก็มีนายทหารคนหนึ่งนำจดหมายเข้ามาส่งให้

ระหว่างที่รอให้อาเธอร์อ่านจดหมายเสร็จ เด็กหนุ่มจึงคิดว่าจะไปพาลูห์กับลาห์มาเล่นด้วยสักหน่อย “ถ้างั้นเดี๋ยวผมมานะครับ ขอไปพาลูห์กับลาห์มาที่นี่ด้วย”

อาเธอร์พยักหน้า “เอาสิ รีบไปรีบมาล่ะ”

...

.....

...

กองทัพของลอร์ดหนุ่มหยุดอยู่ที่ตรงประตูกำแพงเมือง และก่อนกองทัพของบาร์ดอฟจะข้ามเขตแดนออกไป เขาก็ก้าวลงมาจากรถม้าเพื่อบอกลา

บาร์ดอฟเดินเข้ามายืนประจันหน้ามาควิสแห่งแบร์กไฮม์ ก่อนจะยื่นมือมาสัมผัส เขายิ้มร้าย “ไม่มีอะไรที่ข้าต้องการแล้วจะไม่สมหวัง อะไรที่สวรรค์ประทานมาให้ข้า ก็ต้องเป็นของข้าอยู่วันยังค่ำ ขอให้ท่านคาร์ลจงจำคำข้าไว้ให้ดี”

คาร์ลขมวดคิ้ว นึกสังหรณ์ใจขึ้นมาแปลกๆ หากก็ยังพยายามทำสีหน้าให้เรียบเฉย เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยืนรอให้กองทัพของบาร์ดอฟข้ามผ่านเขตเมืองไป

“ข้าว่ามันแปลกๆ นะท่านพี่”

“ลูคัส” คาร์ลกัดฟันกรอด “ลูคัสกำลังตกอยู่ในอันตราย ดาบสั้นอันนั้น!” ลอร์ดหนุ่มก้าวขึ้นหลังม้า พร้อมกับตะโกนสั่งน้องชายทั้งสองที่มาด้วยกัน “พวกเจ้าจงนำทหารกลับปราสาทด้วย”

“ขอรับท่านพี่!”

คาร์ลเตะสีข้างม้าอย่างแรงให้มันพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีองครักษ์ทั้งสองติดตามไปอย่างกระชั้นชิด

..

.....

..

ลูคัสรีบรุดตรงไปยังประตูทางเข้าทางด้านข้างของปราสาท โดยมีทหารนายหนึ่งติดตามไปด้วย ขณะที่เดินไปก่อนจะถึงทางเข้าประตู เด็กหนุ่มสังเกตเห็นใครบางคนนอนอยู่บนพื้นในดงของพุ่มกุหลาบ เขาจึงหยุดมองดู “ใครมานอนอยู่ตรงนี้น่ะ”

“นั่นสิขอรับ” นายทหารก้าวเข้าไปใกล้ เขาก้มลงพิจารณาคนที่นอนอยู่ ส่วนลูคัสเองก็สงสัย เขาจึงเดินตามเข้าไปดูใกล้ๆ

“เป็นลมหรือ อะ!” เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง เพราะจู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ลุกขึ้นพรวด แล้วใช้ดาบสั้นแทงนายทหารที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

“ท่าน... ลูคัส... หนี...” นายทหารพูดไม่ทันจบประโยคก็ทรุดกายลงบนพื้น เลือดสีแดงฉานหลั่งไหลออกมามากมาย

ลูคัสอ้าปากค้าง เขาหันหลังขวับแล้ววิ่งหนี ทว่าชุดของหญิงสาวที่ทั้งยาวรุ่มร่ามและหนักอึ้งทำให้ขยับได้ไม่ทันใจนัก ยังไม่ทันไรชายคนร้ายก็คว้าตัวเขาไว้ได้ มันใช้ผ้าที่มีกลิ่นแปลกประหลาดปิดจมูกของเด็กหนุ่ม ทำให้เขาอ่อนแรงจนไม่สามารถขยับได้อีก หากก็ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ครบ

ชายคนร้ายอุ้มร่างโปร่งขึ้นพาดบ่า จับเด็กหนุ่มใส่ลงในถังเบียร์เปล่าแล้วนำไปวางรวมกับถังเบียร์อื่นๆ บนหลังรถม้า จากนั้นก็เคลื่อนรถออกจากปราสาท หากที่ประตูทางออกพวกทหารสั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยจึงเสียเวลาไปอีกพักใหญ่ ทว่าก็ไม่มีใครนึกเปิดถังเบียร์ดู

เมื่อรถม้าเคลื่อนออกไปพ้นเขตปราสาท ลูคัสเริ่มขยับตัวได้เล็กน้อย เขาสูดกลิ่นแปลกประหลาดนั่นเข้าไปไม่มากนัก เพราะพอได้กลิ่นแปลกๆ ก็รีบกลั้นหายใจ หากก่อนหน้าก็สูดเข้าไปเฮือกหนึ่งแล้ว

อึดอัด... คลื่นไส้ชะมัด

เด็กหนุ่มหันมองไปภายในถังเบียร์อย่างเชื่องช้า มันแคบเสียจนแทบขยับตัวไม่ได้แล้วก็มืดมาก เขาได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองชัดเจน

ความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลองเอามือดันตัวถังเบียร์จากภายในอยู่หลายครั้งแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหอบหายใจหนักๆ

“ท่านคาร์ล ช่วยผมด้วย” ลูคัสครางเสียงแผ่ว ก่อนจะลดมือลงกอดลำตัวไว้ “พ่อแม่ ไอแซ็ก ผมจะทำยังไงดี” น้ำตาอุ่นๆ รื้นขึ้นมาเอ่อคลอหน่วยตา หากเด็กหนุ่มยับยั้งตัวเองไว้ไม่ให้ร้องไห้

มือเรียวยกขึ้นสัมผัสลำคอช้าๆ เมื่อคลำจนพบล็อกเกตก็กุมไว้ในฝ่ามือ “ท่านคาร์ล” เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น พยายามสงบสติอารมณ์แล้วคิดหาวิธีเอาตัวรอด

ดูเหมือนคนร้ายจะต้องการพาเขาไปส่งต่อให้ใครเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นก็คงปลิดชีวิตเขาไปแล้ว แต่ถ้าให้เดาว่าจะนำไปส่งให้ใครก็ไม่น่าจะยาก คงจะเป็นคนที่เพิ่งจะกลับไปไม่นาน

เขาไม่ยอมแพ้ไอ้บ้านั่นแน่นอน

ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองเหนือศีรษะ ในเมื่อตัวเขาอยู่ในถัง ฝาเปิดก็น่าจะอยู่ด้านบน

เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ มือเรียวพยายามผลักฝาถังเบียร์ออกด้วยกำลังทั้งหมดที่มี บนหลังรถม้าก็โคลงเคลงจนมึนงงไปหมด ใช้เวลาอยู่พักใหญ่จึงผลักฝาถังเบียร์ออกไปได้ เขาเผยอริมฝีปากหอบหายใจหนักๆ พอมองออกไปข้างนอกฟ้าก็มืดเสียแล้ว และรถม้านี่ วิ่งมาถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ เขามองไม่เห็นอะไรเลย

ลูคัสหันมองซ้ายขวาหาอะไรที่พอจะนำมาใช้เป็นอาวุธได้ ก่อนจะนึกออก มือเรียวคลำไปที่ผ้าผูกเอว แล้วหยิบดาบสั้นที่ได้รับมาจากบาร์ดอฟขึ้นมา มันคมกริบเลยทีเดียว เขาหันไปทางหน้ารถม้า ใช้ดาบกรีดผ้าให้เป็นช่องว่างแล้วจึงเห็นว่ามีชายคนร้ายเพียงคนเดียวนั่งอยู่ตรงที่คนคุมม้า มีตะเกียงน้ำมันห้อยลงมาจากหลังคารถม้าอยู่ข้างตัว

ภายในรถม้ามีถังเบียร์ตั้งวางเรียงกัน แต่ละถังผูกเชือกยึดติดกันไว้ ส่วนด้านหลังรถม้ามีไม้กั้นแล้วปิดทับด้วยผ้าอีกชั้น

เด็กหนุ่มถอดเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวหนาออกเพื่อให้ขยับตัวได้สะดวกขึ้น ก่อนจะขยับไปดึงไม้กั้นที่ปิดหลังรถม้าออก ใช้มีดกรีดผ้าคลุมทับให้ขาด แล้วเอื้อมมือไปตัดเชือกที่ผูกถังเบียร์ไว้ด้วยกัน จากนั้นก็ถีบถังเบียร์ออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี

ได้ผล รถม้าหยุดทันควัน ลูคัสรอให้คนร้ายลงจากตรงที่นั่งเพื่อเดินวนมาตรวจดูทางด้านหลังรถก่อนจึงค่อยกรีดผ้าที่ด้านหน้าให้ขาดพอที่ตัวเขาจะคลานออกไปตรงที่นั่งคนคุมม้าได้ มือเรียวคว้าตะเกียงมาแล้วจัดการถอดเชือกคล้องม้าออก เขาปีนขึ้นไปนั่งบนม้าตัวหนึ่ง ตีก้นม้าอีกตัวก่อนจะเตะสีข้างม้าตัวที่นั่งอยู่ให้วิ่งออกไปพร้อมกัน

“วิ่งเร็ว วิ่งไปเลย!” เด็กหนุ่มกุมบังเหียนม้าไว้แน่น เขาได้ยินเสียงคนร้ายตะโกนไล่หลังมา ส่วนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าอาชาจะพาไปที่ไหน แต่ก็ขอให้ห่างไกลจากคนร้ายมากที่สุด

หลังจากควบม้าวิ่งไปได้พักใหญ่ ลูคัสจึงสั่งให้ม้าลดความเร็วลง เขายกตะเกียงขึ้นหันมองไปรอบๆ เบื้องหน้ามีแต่ต้นไม้แล้วก็ต้นไม้เท่านั้น

เกล็ดหิมะร่วงหล่นลงมาช้าๆ สัมผัสผิวแก้ม เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆหนาพลางยกมือขึ้นรองรับ อากาศหนาวจับใจจนลมหายใจที่พ่นออกมาเป็นควัน และในความมืดเช่นนี้ เขาไม่สามารถเดาทิศทางได้เลย

“ฉันจะทำยังไงดี” ลูคัสหันรีหันขวาง เขาลูบแผงคอเจ้าม้าแล้วบอกให้มันเดินต่อไปเรื่อยๆ

สักพักก็พบเข้ากับเพิงที่พวกชาวบ้านสร้างไว้สำหรับเป็นที่พักในยามล่าสัตว์ เด็กหนุ่มจึงรีบพาม้าเข้าไปด้านใน มันเป็นเพิงที่สร้างไว้ง่ายๆ มีแค่เสากับหลังคาสูง หากมีกองไม้ไว้สำหรับก่อกองไฟด้วย เขาจึงใช้ไฟจากตะเกียงน้ำมันมาก่อกองไฟ จากนั้นก็นั่งลงพิงเจ้าม้าไว้เพื่อให้ความอบอุ่นแก่กันและกัน

ลูคัสยกแขนขึ้นกอดลำตัว ทั้งหนาวและหวาดกลัว แต่ร่างกายก็อ่อนล้าเต็มที “ท่านคาร์ล... ช่วยผมด้วย” เด็กหนุ่มเอนศีรษะซบลำตัวเจ้าม้า มือกุมล็อกเกตที่เจ้าของชื่อให้มาไว้แนบอก เมื่อรู้สึกอุ่นขึ้นดวงตาก็หรี่ปิดลง


ฝ่ายคาร์ลนั้น เมื่อกลับมาถึงปราสาทก็พบว่าพวกทหารกำลังออกตามหาตัวลูคัสกันให้วุ่น ส่วนอาเธอร์ก็รอเขาอยู่อย่างร้อนใจ ลอร์ดหนุ่มสบถเสียงดัง เขานึกอยากจะฆ่าบาร์ดอฟให้ตายไปกับมือ

“ไปพาลูห์ลาห์มา! เตรียมทหารออกตามหา!”

สุนัขแสนรู้ทั้งสองมีเชือกคล้องปลอกคอไว้ พวกมันวิ่งออกไปทันทีที่ผู้เป็นนายออกคำสั่ง ส่งเสียงร้องงี้ดง้าดราวกับจะขาดใจ

หิมะเม็ดกลมร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้ายามราตรีกาล อากาศที่หนาวเหน็บทำให้ลอร์ดหนุ่มวิตกกังวลหนักขึ้น เป็นห่วงเด็กหนุ่มจับใจ เขาเร่งฝีเท้าเจ้าม้าให้ไวขึ้นอีก

ระหว่างทางเขาก็พบเข้ากับพวกทหารที่กลับมาพร้อมกับตัวชายคนร้าย พวกเขารายงานว่าเจอชายคนร้ายที่ในป่า มันสารภาพเรียบร้อยว่าใครเป็นผู้สั่งงานมา

“ท่านบาร์ดอฟสั่งให้พาตัวเลดี้อารามิสไปให้ขอรับ”

“เขาต้องการอะไรจากเลดี้ของข้า” ลอร์ดหนุ่มถามเสียงเย็น

“ข้าไม่รู้”

“เจ้าพาอารามิสไปไว้ที่ไหน”

“ข้าไม่รู้”

คาร์ลดึงดาบออกจากฝัก ใช้ปลายของมันจี้ลำคอของคนร้ายไว้แล้วถามอีกครั้ง “ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย อารามิสอยู่ที่ไหน” หากไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย เขาจึงกดปลายดาบลงไปในผิวเนื้อช้าๆ โดยที่แววตาสีอ่อนไม่สั่นไหวเลยแม้แต่นิดเดียว

“ข้าไม่รู้! ข้าไม่รู้จริงๆ ข้านั่งคุมรถม้าอยู่ดีๆ ถังเบียร์ด้านหลังก็ร่วงลงมา พอข้าจอดรถม้า เด็กนั่นก็ขโมยม้าข้าหนีไป!”

“งั้นรึ” ลอร์ดหนุ่มดึงดาบกลับ จากนั้นจึงหันไปสั่งพวกทหาร “ส่งร่างมันกลับไปให้บาร์ดอฟที่ชายแดน” แล้วรีบรุดพาลูห์ลาห์และพวกทหารขี่ม้าออกไป

ลูห์ลาห์เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ส่งเสียงเห่าดังระงม พวกมันได้กลิ่นของลูคัสชัดเจนขึ้นทุกที

เด็กหนุ่มผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้า หากเมื่อได้ยินเสียงสุนัขก็สะดุ้งตื่น เขาตะโกนลั่น “ลูห์ ลาห์ ท่านคาร์ล!”

“ลูคัส!”

“ท่านคาร์ล ผมอยู่นี่!”

“ลูคัส ข้าจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้!”

คาร์ลปล่อยเชือกคล้องลูห์ลาห์ให้พวกมันวิ่งนำออกไปก่อนแล้วจึงเร่งม้าให้วิ่งตามเสียงไป ไม่นานก็เห็นแสงไฟสลัว เมื่อเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าเด็กหนุ่มยืนอยู่ที่นั่น

ลอร์ดหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้า ในเวลาเดียวกันกับที่เด็กหนุ่มโผเข้าสวมกอด เจ้าลูห์ลาห์ก็ส่งเสียงงี้ดง้าดอยู่ข้างกาย

“ท่านคาร์ล ท่านคาร์ล ฮือ ผมกลัวมากเลย” ลูคัสซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแกร่ง ความหวาดกลัวและความโล่งใจพรั่งพรูออกมากับน้ำตา “ทหารคนนั้น ถูกฆ่าต่อหน้าผม ผมนึกว่ามันจะฆ่าผมไปด้วยซะแล้ว”

แขนแกร่งโอบกอดร่างโปร่งไว้แน่น เขาก้มลงจูบศีรษะเล็ก ค่อยๆ ปลอบจนเด็กหนุ่มหยุดสะอึกสะอื้นไห้อย่างใจเย็น “ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรวางใจบาร์ดอฟเช่นนั้นเลย ดีเหลือเกินที่เจ้าไม่เป็นอะไร”

“ผมนึกถึงแต่คุณ กลัวว่าจะไม่ได้เจอคุณอีก” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่น

“ข้าอยู่ที่นี่ เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว” คาร์ลเชยคางเรียวขึ้นแล้วจูบซับน้ำตาให้

คำปลอบประโลมและสัมผัสอันอ่อนโยนส่งผ่านความอบอุ่นลึกเข้าไปถึงหัวใจดวงน้อย นัยน์ตาสีเข้มที่ยังมีน้ำตาเอ่อคลออยู่ ลืมขึ้นสบประสานกับดวงตาสีฟ้าคู่สวย “คาร์ล... ท่านคาร์ล”

เจ้าของชื่อเรียกยิ้มบาง เขาถอดเสื้อคลุมของตนเองออกแล้วเอามาคลุมศีรษะให้เด็กหนุ่ม “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่ปราสาทของเรา”


องครักษ์ทั้งสองหยุดม้าอยู่ห่างๆ พวกเขาก้าวลงจากหลังม้าแล้วสั่งให้ทหารไปเดินตรวจตรารักษาความปลอดภัยในบริเวณนั้น ก่อนจะหยุดยืนนิ่งเมื่อหันไปเห็นภาพของเด็กหนุ่มที่ใบหน้าน่ารักเปื้อนไปด้วยน้ำตา สองแขนกอดรัด ริมฝีปากพร่ำร้องเรียกชื่อของลอร์ดหนุ่ม ฝ่ายผู้เป็นนายของพวกเขาเองก็ไม่ต่างกัน ถ้าหากเป็นเรื่องของลูคัสแล้วก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่ลอร์ดหนุ่มจะอยู่นิ่งเฉยได้

สีหน้าและท่าทางของทั้งสองแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าพวกเขาสำคัญสำหรับกันและกันมากเพียงไหน เออร์วินจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายปะปนกัน แม้จะปวดหนึบในอก แต่ก็สุขใจและดีใจกับทั้งสองคนด้วย 

คอนราดบีบไหล่เพื่อนองครักษ์เบาๆ ก่อนอีกฝ่ายจะหันมาสบสายตาแล้วยิ้มบาง

“เตรียมกลับปราสาทกันเถอะ” คอนราดเอ่ย จากนั้นจึงหันไปสั่งให้พวกทหารตรียมม้าที่จะพาผู้เป็นนายและเด็กหนุ่มกลับปราสาทให้พร้อม แล้วก็ให้ไปจับม้าตัวที่ลูคัสพาหนีมาจากโจรกลับไปด้วย

ไม่นานลอร์ดหนุ่มก็อุ้มร่างโปร่งมายังม้าที่เตรียมไว้ แล้วรีบรุดเดินทางกลับไปยังปราสาททันที


ฝ่ายบาร์ดอฟและกองทัพของเขาเดินทางไปพบกับกองทหารที่มารอรับตรงเชิงเขาแล้ว เขาพักอยู่ในเต็นท์เพื่อรอฟังข่าวจากทางแบร์กไฮม์ จนรุ่งเช้าจึงมีทหารนำข่าวมาแจ้ง

“ท่านลอร์ดขอรับ งานที่ท่านสั่งไป...”

“ดาบข้าล่ะ”

“ไม่สำเร็จขอรับ”

“หึ งานแค่นี้ก็ไม่สำเร็จ แล้วมันอยู่ไหน เจ้าไปจัดการปิดปากมันเสีย”

“ทางนั้นจับตัวไว้ได้เสียก่อน พวกเขานำร่างของมันมาทิ้งไว้ที่ชายแดนขอรับ”

“ก็ดี” บาร์ดอฟยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก “ดาบไว้เอาคืนทีหลังก็ได้ ครั้งนี้ข้าก็แค่อยากจะทำให้เจ้าคาร์ลปั่นป่วนเล่นเท่านั้นล่ะ เรื่องสนุกกว่านี้ยังมีอีกเยอะ”

..

.....

..

หิมะโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสายตลอดการเดินทางฝ่าความมืดมนอนธการกลับไปยังปราสาท ลอร์ดหนุ่มบังคับม้าด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างคอยตระกองกอดร่างโปร่งไว้แนบกาย อากาศหนาวเหน็บจนลมหายใจที่พ่นออกมากลายเป็นควัน ส่งผลให้เขาเป็นห่วงเด็กหนุ่มในอ้อมแขนจับใจ

เด็กหนุ่มไม่ได้นั่งคร่อมบนหลังม้าเหมือนอย่างเคย เขานั่งหันข้าง ทิ้งสองขาไปทางเดียวกัน สองแขนโอบกอดร่างกายอบอุ่นกำยำไว้ไม่ยอมออกห่าง

“เจ้าหนาวหรือ” คาร์ลก้มลงถามเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายกอดตัวเขาแน่น

ลูคัสเงยหน้าขึ้นตอบ “ไม่ครับ ผมควรจะถามคุณมากกว่า”

“ข้าไม่หนาวหรอก เจ้ากอดข้าแน่นขนาดนี้จะหนาวได้อย่างไร”

คิ้วเรียวขมวดมุ่น พอจะผละออกแขนแกร่งที่กอดรัดตัวเขาอยู่ก็กระชับแน่นขึ้นอีก

“เจ้าไม่กลัวข้าหนาวหรือ”

“เอ่อ...”

“กอดไว้ให้แน่นๆ สิ”

“ก็ได้ เพราะกลัวคุณหนาวหรอกนะ” ใบหน้าน่ารักที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำซุกซบบนแผ่นอก เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้นหนักๆ ผ่านเสื้อตัวหนาของเจ้าของอ้อมกอด ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ที่ตรงนี้ ในอ้อมกอดอบอุ่นนี่ คือที่ที่ใจเขาปรารถนามากที่สุดแล้ว

คาร์ลหัวเราะเบาๆ ถ้าหากไม่ได้ขี่ม้าอยู่เขาคงจะกอดฟัดลูคัสให้หายมันเขี้ยว แต่แค่ท่าทางของเด็กหนุ่มในตอนนี้ก็ทำให้เขาพอใจมากแล้ว เขาก้มลงจูบศีรษะเล็กเบาๆ แล้วกระซิบบอก “อีกเดี๋ยวก็ถึงปราสาทแล้ว” 

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก “ครับ”


*~TBC~*


กรีซซซซ อิตาบาร์ดอฟช่างร้ายกาจ! นี่แค่การกวนประสาทครั้งแรกเท่านั้น แล้วครั้งต่อๆ ไปอีกล่ะ  :hao5:

น้องลูกับทั่นหลอดต้องสู้นะ!!

ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ ช่วงนี้ฮัสกี้เครียดดดดด ทั้งเรื่องสอบและอีกหลายๆ เรื่อง หัวหงอกหมดแว้ว  :m15:

ฮรือออ /อ้อนขอกำลังใจ



ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
«ตอบ #659 เมื่อ23-02-2017 12:05:37 »

โอ้ยยยย บาร์ดอฟโคตรเลว!!!!! ทำแบบนี้กับน้องลูได้ไง :z6:
น้องลูเข้มแข็งไว้นะลูก การจะเป็นเลดี้ของท่านลอร์ดไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หนูต้องเจอแผนการคนชั่วอย่างบาร์ดอฟอีกเยอะ ท่านลอร์ดกับหนูต้องผ่านมันไปให้ได้ แนะนำให้ท่านลอร์ดฆ่ามันที โกรธจนหัวร้อนไปหมดล่ะ
กอดๆๆ เราจะส่งกำลังใจให้คุณฮัสกี้เยอะๆเลยนะคะ :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด