พิมพ์หน้านี้ - แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: huskyhund ที่ 27-10-2016 19:51:23

หัวข้อ: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 27-10-2016 19:51:23
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



สารบัญ

Prologue (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3500268#msg3500268)
Chapter 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3500960#msg3500960)
Chapter 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3503355#msg3503355)
Chapter 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3505382#msg3505382)
Chapter 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3508275#msg3508275)
Chapter 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3510354#msg3510354)
Chapter 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3513962#msg3513962)
Chapter 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3516228#msg3516228)
Chapter 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3519015#msg3519015)
Chapter 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3521296#msg3521296)
Chapter 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3525099#msg3525099)
Chapter 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3528507#msg3528507)
Chapter 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3533080#msg3533080)
Chapter 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3536911#msg3536911)
Chapter 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3541453#msg3541453)
Chapter 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3550568#msg3550568)
Chapter 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3554268#msg3554268)
Chapter 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3558537#msg3558537)
Chapter 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3561535#msg3561535)
Chapter 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3565585#msg3565585)
Chapter 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3570027#msg3570027)
Chapter 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3574872#msg3574872)
Chapter 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3580142#msg3580142)
Chapter 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3584960#msg3584960)
Chapter 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3589860#msg3589860)
Chapter 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3598998#msg3598998)
Chapter 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3603319#msg3603319)
Chapter 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3607116#msg3607116)
Chapter 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3611526#msg3611526)
Chapter 29 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3617789#msg3617789)
Chapter 30 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3628159#msg3628159)
Chapter 31 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3633222#msg3633222)
Chapter 32 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3637505#msg3637505)
Chapter 33 END (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56263.msg3643623#msg3643623)


นิยายเรื่องนี้ฮัสกี้อ้างอิงจากยุคกลาง มีบางส่วนที่จกประวัติศาสตร์จริงมาใช้ในเรื่อง และมีบางส่วนที่แต่งเสริมขึ้นมาตามใจฮัสกี้เองนะคะ 555555 ส่วนที่เกินจริงก็มีเรื่อยๆ 55555 ตามจินตนาการเพ้อฝันของฮัสกี้ค่ะ  :o8:


 :mew1: เพจสำหรับอัปเดตนิยายของฮัสกี้ค่ะ -->Facebook (https://www.facebook.com/pages/Husky_novel/1432563496996295?ref=hl)


อ้างถึง
นิยายของฮัสกี้ทั้งหมดค่ะ  :กอด1:

Nisreen, the white rose of the desert (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44832.msg2905201#msg2905201)
เงาจันทร์ในม่านหมอก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45116.msg2931321#msg2931321)
เบลอ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45395)
เหนือเมฆ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48008)
ภูสอยเดือน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=62103)

**นิยายทุกเรื่องของฮัสกี้ ไม่อนุญาตให้นำออกจากเล้า และไม่อนุญาตให้ใครนำไปโพสต์ที่บอร์ดอื่นๆ เด็ดขาดค่ะ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 27-10-2016 19:55:31


Prologue : สองยุค


เด็กหนุ่มมองเหม่อไปยังท้องน้ำเวิ้งว้าง กระแสน้ำไหลเชี่ยวที่พัดพาความอุดมสมบูรณ์มาสู่เมืองตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตกาลจนถึงปัจจุบัน เสียงของมันช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มหรี่ปิดลงช้าๆ ปล่อยให้สายลมเย็นโลมไล้ใบหน้า เส้นผมสีดำขลับปลิวน้อยๆ ขณะที่เจ้าตัวเอนหลังพิงกองอิฐของซากปรักหักพังอายุเก่าแก่บนเกาะริมแม่น้ำ

“ลูคัส อย่าอู้! จะอยู่ที่นี่ถึงเย็นไม่ได้หรอกนะ”

เจ้าของชื่อเรียกสะดุ้งตัวเบาๆ “ไม่ได้อู้สักหน่อย” จากนั้นจึงหยิบสมุดสเก็ตช์ภาพที่วางอยู่บนตักออกแล้วลุกขึ้น

“ไหน เอาสเก็ตช์ปราสาทของนายมาดูหน่อยสิ”

ลูคัสส่งสมุดสเก็ตช์ภาพให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนดูแล้วพึมพำ “ฉันรู้สึกแปลกๆ กับที่นี่ ไม่รู้ทำไม”

“แค่รู้สึกแปลกๆ เองเหรอ ฉันน่ะ ไม่ชอบเลย น่าเบื่อจะตาย มีแต่ซากอิฐพังๆ โปรเฟสเซอร์จะให้พวกเราเดาโครงสร้างปราสาทจากตอด้วนๆ พวกนี้เนี่ยนะ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน” คนพูดส่ายหน้ารัว บ่นยาวยิ่งกว่าลูคัสเสียอีก หากเมื่อก้มลงมองภาพในสมุดสเก็ตช์ก็เบิกตากว้าง“โอ้โห! นายวาดภาพออกมาจากไหนกันเนี่ย จะมโนเก่งเกินไปแล้ว”

เพื่อนอีกคนได้ยินเข้าก็ชะโงกหน้าเข้ามาดูบ้าง “นายเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้วเหรอ ทำไมวาดเร็วชะมัด”

“ฉันมาที่นี่ครั้งแรกพร้อมกับพวกนายนี่แหละ ก็แค่วาดไปเรื่อยๆ แต่เดี๋ยวเอาไปวาดในคอมฯ คงจะเห็นปราสาทได้ชัดกว่านี้” ขาเรียวก้าวออกไปช้าๆ ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์กว่าใครๆ ในชั้นเรียนก้มลงมองเศษหินและทรายริมแม่น้ำ เขาก้มลงหยิบก้อนหินขึ้นมาก่อนหนึ่ง เหวี่ยงให้กระเด้งไปบนผิวน้ำ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วหันมองไปรอบๆ “จะว่าไป... ถ้าปราสาทนี่ไม่โดนระเบิดสมัยสงครามโลกจนเละแบบนี้ก็คงจะเป็นปราสาทที่สวยอยู่นะ อยู่บนเกาะไม่ไกลจากฝั่งแม่น้ำมาก โลเคชันสุดยอดไปเลย แต่ก็นะ... ถึงจะสวยอลังแค่ไหน ฉันก็ยังรู้สึกแปลกๆ กับที่นี่อยู่ดี”

เพื่อนร่วมชั้นอีกคนพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นจึงขยับเข้าไปกระซิบถามเสียงเบา ราวกับกลัวว่าสิ่งที่เขาถามถึงจะได้ยิน “หรือนายอาจจะมีซิกเซนส์ คิดว่าที่นี่จะมีผีไหม”

“ผีเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้สักหน่อย” ลูคัสตอบเสียงดุ

“แต่ก็น่ากลัวใช่มั้ยล่ะ”

“อือ ปราสาทอายุตั้งร้อยๆ ปีแบบนี้ ต้องมีคนตายเพียบแน่”

“สำหรับฉันน่ะนะ ต่อให้ปราสาทนี้ยังอยู่ในสภาพร้อยเปอร์เซ็นต์ จ้างฉันคืนละห้าร้อยยูโรให้นอนที่นี่ยังไม่เอาเลย”

เด็กหนุ่มหัวเราะ “แต่ฉันเอานะ ยอมหัวโกร๋นสักสามคืนก็ถอยแม็คเครื่องใหม่ได้ละ”

“ให้มันจริงเถอะน่ะ”

มือเรียวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา อีกไม่นานจะถึงกำหนดเวลารถออกแล้ว ถ้าไม่ทันรถเที่ยวนี้ เขาคงจะถึงห้องพักในไฮเดลแบร์กค่ำมืดแน่ “ไปกันเถอะ เก็บข้อมูลพอแล้ว ฉันจะรีบกลับไปทำงานส่งโปรเฟสเซอร์ โพรเจ็กต์จะได้เสร็จๆ ไปซะที”

“อือ ไปก็ไป”

ลูคัสกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีกสี่ห้าคนพากันเดินออกจากเกาะริมแม่น้ำไป เกาะนี้อยู่ห่างจากแผ่นดินแค่ประมาณสิบเมตร พวกเขาสามารถเดินข้ามสะพานไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อลงมาจากสะพานก็พบกับสวนกุหลาบที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมกรุ่นไปทั่วบริเวณ

“สมกับชื่อเมืองโรเซนไฮม์ดีนะ” ลูคัสเปรย

(โรเซน แปลว่า ดอกกุหลาบ ไฮม์ แปลว่า บ้าน)

การเดินทางด้วยรถบัสจากเมืองโรเซนไฮม์ไปยังเมืองไฮเดลแบร์กใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง เด็กหนุ่มเพิ่งจะย้ายเข้ามาเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในไฮเดลแบร์กได้ปีเดียวเท่านั้น และเขากับเพื่อนร่วมชั้นเรียนก็เดินทางมาต่างเมืองเช่นนี้เพื่อทำโพรเจ็กต์จำลองภาพของปราสาทส่งศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย

ขณะที่รถบัสเคลื่อนผ่านสวนกุหลาบไปช้าๆ ลูคัสหันกลับไปมองที่ซากปรักพังบนเกาะซึ่งห่างไกลออกไปเรื่อยๆ เขารู้สึกราวกับว่ามีความทรงจำอะไรบางอย่างในที่แห่งนี้

หรือบางทีในกาลก่อน... เขาอาจจะเคยมาที่นี่กับใครสักคนก็เป็นได้

..

......

..

ขบวนเรือใหญ่ล่องไปตามกระแสน้ำเชี่ยว ในขณะที่เม็ดฝนพรั่งพรูลงมาจากท้องนภาสีหม่น สายลมกระโชกแรงเป็นระยะๆ พัดพาให้ใบเรือแผ่กว้าง ช่วยเป็นแรงสมทบให้ฝีพายพาลำเรือเคลื่อนที่ไปได้เร็วมากขึ้นอีก

เสียงพวกทหารให้สัญญาณในการจ้วงไม้พายดังก้อง คละเคล้ากับเสียงน้ำกระทบลำเรือยามที่เรือแล่นผ่าน เนิ่นนานตลอดการเดินทาง ไม่เว้นแม้กระทั่งในยามราตรีกาล

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวยาวดูมีศักดิ์สูงกว่าใครยืนนิ่งราวกับรูปปั้น หมวกที่ติดอยู่กับเสื้อคลุมบดบังใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรไว้ ดวงตาคมกริบทอดมองออกไปในความมืดเบื้องหน้าซึ่งมองเห็นได้เพียงเลือนราง มีแสงไฟบางเบาจากเรือใหญ่ลำที่อยู่ข้างหน้าและจากภายในลำเรือ เรียวปากบางเม้มแน่นคล้ายว่ากำลังคิดกังวลถึงบางสิ่งบางอย่าง ข้างกายของเขามีทหารองครักษ์สองนายคอยระแวดระวังภัยที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

“ท่านควรพักผ่อนบ้าง”

ลอร์ดหนุ่มผู้เป็นนายส่ายหน้าช้าๆ “ใกล้ถึงแบร์กไฮม์แล้วไม่ใช่หรือเออร์วิน”

“ใช่แล้วขอรับท่านคาร์ล อีกไม่ไกลแล้ว”  เจ้าของชื่อเรียกค้อมศีรษะลงต่ำ เขาส่งสายตาบอกกับคอนราด เพื่อนทหารคู่กายของเจ้านายอีกคน ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงตอบรับว่าเข้าใจ เมื่อเข้าใกล้จุดหมาย นั่นก็หมายความว่าองครักษ์อย่างพวกเขาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเคลื่อนพลขึ้นบก หลังจากที่เดินทางในแม่น้ำมานานเกือบสัปดาห์ 

“ฝนพรำตลอดเช่นนี้ ดูท่าที่ทางคงเป็นโคลนหมดแน่ โชคดีที่ท่านตัดสินใจเลือกเดินทางโดยเรือไปเสียค่อนทาง”

“นั่นสินะ แต่ทุกคนคงเหน็ดเหนื่อยกันมากแล้ว” ผู้เป็นนายกล่าวพลางหันมองไปรอบๆ ภายในลำเรือ จากนั้นจึงชะเง้อมองเรือใหญ่ที่ประกบด้านหน้าและหลังพลางถอนหายใจ “แย่หน่อยนะที่ต้องติดสอยห้อยตามข้ามาแบบนี้”

เออร์วินเงยหน้าขึ้นพรวด “ไม่เลยท่านคาร์ล! พวกข้าติดตามรับใช้ท่านด้วยความเต็มใจ”

“พวกเจ้าเป็นทหารฝีมือดี ควรจะอยู่เคียงข้างท่านพ่อ...”

“ชีวิตพวกข้าจะมีความหมายอะไร หากไม่ได้รับใช้ท่าน”

“พวกเจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าแบร์กไฮม์เป็นเมืองเช่นไร”

“ข้ารู้ดี แบร์กไฮม์เป็นเมืองชายแดนที่อยู่ไกลจากเมืองหลวงของแคว้นมากที่สุด ห่างไกลความเจริญแล้วยังมีโจรผู้ร้ายเข้ามาก่อกวนอยู่บ่อยครั้ง”

“พวกเจ้ารู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ยังสมัครใจจะมากับข้างั้นหรือ” คาร์ลพ่นลมหายใจออกหนักๆ

องครักษ์อีกคนที่ยืนนิ่งอยู่นานคุกเข่าลง “ถ้าหากไม่มีท่านคาร์ล ก็ไม่มีนายทหารคอนราดในวันนี้” คอนราดประคองชายเสื้อของผู้เป็นนายขึ้นจรดหน้าผาก “ข้าสาบานแทนทุกคนได้ เจ้าชีวิตของพวกเราคือท่านคาร์ล ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ผู้นี้เท่านั้น”

คาร์ลยิ้มบาง ดวงตาสีฟ้าหลุบต่ำมองศีรษะของทหารองครักษ์ผู้จงรักภักดีทั้งสองคนซึ่งคอยดูแลเขามาตั้งแต่เมื่อครั้งยังเยาว์ เป็นเสมือนพี่เลี้ยง เพื่อนและที่ปรึกษาให้เขา “ขอบใจ”


ฝนหยุดตกไปสักพักแล้ว แสงสว่างค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่ปลายฟ้า ไม่นานขบวนเรือก็เข้าจอดเทียบที่หมาย หลังจากนั้นทหารนับร้อยๆ นายก็กรูกันลงไปตรวจสอบพื้นที่ ตระเตรียมม้าและรถม้าเพื่อเคลื่อนย้ายขบวน ส่วนคาร์ลกับทหารองครักษ์รออยู่ในลำเรือต่อไปอีกสักพัก รอสัญญาณเรียกจากพวกทหาร

ทิวทัศน์ของเมืองแบร์กไฮม์จากบนเรือราวกับถูกแต่งแต้มด้วยพู่กัน มีทุ่งข้าวสาลีและข้าวบาร์เล่ย์สีเหลืองทอง ทุ่งหญ้าสีเขียวสดใสสลับกับต้นไม้ที่มีใบไม้สีเหลืองส้ม ใบไม้บางส่วนร่วงหล่นปลิวไปตามสายลม มีบ้านหลังเล็กๆ มากมายตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก

เมืองแบร์กไฮม์ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ มีภูเขาสูงทางทิศตะวันตก เป็นเมืองชายแดนของแคว้นไฮเดลแบร์กซึ่งไม่เคยมีขุนนางคนใดมาปกครองดูแล มีทหารผ่านมาตรวจตราบ้างนานๆ ครั้ง หรือไม่ก็เพื่อจะเก็บผลประโยชน์ที่ชาวเมืองต้องส่งให้เท่านั้น

ทิศเหนือของแบร์กไฮม์มีอาณาเขตติดกับสองเมือง คือเคิร์ชไฮม์และนอยเออร์ไฮม์ ถัดจากสองเมืองนี้ไปคือเมืองไฮเดลแบร์กซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้น ทั้งหมดอยู่ในการปกครองของอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก ส่วนทิศใต้อยู่ไม่ไกลจากเมืองโรเซนไฮม์นัก ซึ่งเป็นเมืองที่มีการปกครองเป็นของตนเองและไม่ได้ขึ้นอยู่กับแคว้นใด

จากริมแม่น้ำผ่านเมืองแบร์กไฮม์ไปจนถึงภูเขาทางทิศตะวันตก ที่บนเนินเขาสูงนั้นมีปราสาทหลังใหญ่ซึ่งเป็นที่พักผ่อนล่าสัตว์ของอาร์ชดยุกผู้ปกครองแคว้น หากนับแต่นี้ต่อไป ปราสาทแห่งนี้จะเป็นที่พักของลอร์ดแบร์กไฮม์ ผู้ปกครองเมืองคนใหม่ที่เพิ่งเดินทางมาถึง

กลุ่มเงาของผู้คนปรากฏขึ้นจากที่ไกล เสียงย่ำฝีเท้าในดินโคลนดังแว่ว ส่งผลให้พวกทหารที่กำลังวุ่นอยู่กับการยกข้าวของลงจากลำเรือต้องละทิ้งงานไปดูลาดเลาเสียก่อน พวกเขาไม่อาจรู้ได้ว่ากลุ่มคนที่เดินเท้าเข้ามาหานั้นมีจุดประสงค์อันใด

เมื่อเหล่าทหารเข้าไปใกล้จึงพบว่ากลุ่มคนเหล่านั้นแต่งตัวคล้ายชาวบ้าน มีหญิงชายต่างวัยและเด็กๆ พวกเขาใส่เสื้อผ้าสีตุ่น พวกเด็กเนื้อตัวเปื้อนโคลน หากใบหน้าทุกคนแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม

“กองทัพของท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ใช่หรือไม่”

“พวกเจ้ามีธุระอะไรงั้นรึ”

“ข้าเป็นหัวหน้าหมู่บ้านใกล้ๆ นานเหลือเกินที่แบร์กไฮม์ไม่มีผู้ใดใส่ใจ พวกข้าจึงมารอต้อนรับท่านลอร์ด” ชายชรายิ้มกว้าง แต่ดวงตาฉ่ำชื้นน้ำ เขาพูดเสียงสั่นเครือ “พวกข้าจะขอยืนอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าไปรบกวนพวกท่านหรอก ขอแค่ท่านลอร์ดได้รับรู้ว่าพวกข้ามารอต้อนรับท่านก็พอ”

แม้ชาวบ้านชาวเมืองดูไม่มีพิษภัย หากพวกทหารก็แบ่งกลุ่มผลัดกันมายืนรักษาการณ์ พร้อมกับส่งคนไปรายงานผู้เป็นนายที่อยู่บนเรือ

“พวกเขามากันกี่คนรึ” คาร์ลถาม

“ข้าลองกะด้วยสายตา คิดว่าน่าจะหลายร้อยคน พวกคนแก่กับเด็กก็มาด้วย”

ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะลุกขึ้น “ม้าของข้าพร้อมแล้วใช่ไหม”

“พร้อมแล้วท่านลอร์ด”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ”

พวกทหารด้านล่างแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกจะเดินทางด้วยม้าไปยังปราสาทพร้อมกับผู้เป็นนาย พวกเขาจะไปถึงตัวปราสาทได้เร็วกว่าพวกที่เดินทางไปพร้อมกับข้ารับใช้และขนข้าวของไปกับรถม้าในกลุ่มที่สอง

ก้าวแรกบนฝั่งหลังจากที่เดินทางด้วยเรือมาเกือบสัปดาห์ แม้จะเฉอะแฉะไปสักหน่อย ทว่าก็ทำให้คาร์ลยิ้มได้ เขาหยุดยืนด้วยท่วงท่าสง่างาม เชิดหน้าขึ้นมองตรงไปยังกลุ่มม้าที่นายทหารเตรียมไว้ให้ ก่อนจะก้าวตรงไปยังม้าประจำกายของตน

เจ้าม้าที่มีขนสีดำเป็นเงากระทืบเท้าพลางร้องเสียงดัง รูปร่างของมันสูงใหญ่สง่างามเฉกเช่นผู้เป็นเจ้าของ มันสะบัดคอไปมาด้วยท่าทางยโส ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีนักเพราะต้องอุดอู้ในเรือมาเป็นเวลานาน

หากเมื่อมือหยาบสัมผัสลงบนแผงขน เจ้าม้าก็หยุดนิ่งทันควัน มันค้อมศีรษะลงให้ผู้เป็นนายอย่างรู้งาน

“ยาสเพอร์ เดี๋ยวเจ้าจะได้วิ่งยืดเส้นยืดสายให้เต็มที่ อดทนอีกนิดนะ”

แขนแกร่งปัดผ้าคลุมไว้เบื้องหลังขณะที่เขาก้าวเท้าขึ้นเหยียบโกลน จากนั้นจึงตวัดขาคร่อมบนอานม้าแล้วยืดตัวตรง

องครักษ์ทั้งสองรีบขึ้นม้าแล้วเข้ามาประกบด้านซ้ายขวา ข้างหน้าและข้างหลังของพวกเขาเป็นกลุ่มทหารนับสิบนาย พอเห็นว่าผู้เป็นนายพยักหน้าแล้วก็สั่งให้กลุ่มทหารออกเดินทาง

ทว่าเจ้าม้าออกวิ่งไปได้เพียงเล็กน้อยก็ถูกลอร์ดหนุ่มสั่งให้หยุด เขาขมวดคิ้ว ทอดสายตาลงมองชาวเมืองที่ยืนอยู่สองข้างทางด้วยความสงสัย

“พวกเจ้าร้องไห้ทำไม”

“ท่านลอร์ด” ชายที่ดูสูงวัยกว่าใครเพื่อนค้อมศีรษะลงพร้อมกับทรุดตัวลงนั่งบนเข่าในดินโคลนเฉอะแฉะ สองแขนกอดดอกไม้ที่ไปเก็บมาจากในทุ่งแต่เช้าตรู่ไว้แน่น

“ข้าถามว่าพวกเจ้าร้องไห้ทำไม”

“พวกข้าดีใจกับการมาของท่าน” ชายชราตอบโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้น “แบร์กไฮม์จะได้สงบสุขสักที ข้าจะได้ตายตาหลับ”

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนแสงลง “ดอกไม้นั่นเอามาให้ข้ารึ”

“ใช่แล้วท่านลอร์ด”

“ถ้างั้นก็เอามาให้ข้าสิ”

ชายชราสะดุ้งเฮือก จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วหรี่ตามองผู้สูงศักดิ์บนหลังม้า แม้ใบหน้าถูกซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าคลุม หากเขาก็ไม่เคยพบเห็นใครที่ท่าทางน่าเกรงขามเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ได้ฟังเปรียบเสมือนคำสั่งที่ต้องปฏิบัติตาม มือที่สั่นเทาเอื้อมส่งช่อดอกไม้ขึ้นสูง

“ขอบใจ” ลอร์ดหนุ่มรับช่อดอกไม้มาแล้วหันไปกระตุกบังเหียนพร้อมกับใช้เท้าเตะลำตัวเจ้าม้าเบาๆ เพื่อบอกให้มันเดินออกไป  เขาดึงดาบประจำกายออกจากฝักแล้วชูขึ้นสูง ลำแสงจากดวงสุริยันฉาบปลายดาบให้เป็นประกายวาบ “ข้าคือคาร์ล ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ และต่อจากนี้ไป ที่แห่งนี้คือบ้านของข้า”

พวกทหารค้อมศีรษะลงต่ำอย่างพร้อมเพรียง หลังจากนั้นก็บังคับให้ม้าพุ่งตัวมุ่งหน้าไปยังปราสาทแบร์กไฮม์ซึ่งเป็นที่หมายอย่างรวดเร็ว


*~TBC~*


ฮัสกี้กลับมาแร้วววววว~ ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ยังไม่ลืมกันใช่มั้ยยยย~ รอบนี้กลับมาแบบชวนทุกคนปวดหัว พาย้อนยุคไปไกลเลยทีเดี๊ยววว (เสียงสู้งงง)

ชื่อเมืองในเรื่องอาจจะอ่านแล้วรู้สึกเหนื่อยหน่อยนะคะ T.T จำชื่อเมืองของพระเอกของเราก็พอค่ะ เมืองแบร์กไฮม์ จำง่ายๆ ว่าแบกหามก็ล่าย พระเอกเราสายใช้แรงงานอยู่แว้ว~

ก่อนอื่นขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเนื้อหาในเรื่องมีทั้งที่อิงประวัติศาสตร์จริงและฮัสกี้มโนใส่ (อย่างหลังน่าจะเยอะกว่า) เพราะฉะนั้นขออย่าซีเรียสกับเนื้อหาบางส่วนในเรื่องนะคะ T.T

(ตัวอย่างเช่นการมีองครักษ์ของพระเอก จริงๆ แล้วที่อ่านมา เขาว่ากันว่าในยุคนั้นยังไม่มีทหารองครักษ์ค่ะ แต่ฮัสกี้ชอบ มันเท่ ไม่มีใช่มั้ย จับใส่เอง 555555)

ฮัสกี้ขออภัยหากมีข้อผิดพลาดในเรื่องและขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะคะ ตรงไหนผิดพลาดเตือนกันได้น้า แต่ขอเบาๆ ฮัสกี้หัวใจอ่อนแอค่า 55555555

ปล. อีกไม่นานจะพาเรื่องของตั้งใจกับใบตองมาส่งอีกเรื่องนะคะ อิอิอิ 

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 27-10-2016 20:24:02
เรื่องใหม่ น่าติดตามมากกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 27-10-2016 20:36:40
ว้าวววว น่าสนุกมากเลยค่า
จะรอติดตามน้าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 27-10-2016 20:46:22
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 27-10-2016 21:09:27
อ่านแล้วเนื้อเรื่องสนุกดีค่า จะติดตามนะคะ มาลงต่ออีกไวๆน้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-10-2016 21:33:27
คิดถึง ๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตั้งแต่เงาจันทร์ในม่านหมอกจบไป ยังคิดถึงคุณอยู่เรื่อย ๆ

ท่านคาร์ลมาดเท่มาก

สงสัยจังว่า ทำไมถึงมาอยู่ชายแดนล่ะ

แล้วเกี่ยวอะไรดับลูคัส

ฉากหลังมาจากเยอรมนีใช่ไหม? เห็นชื่อแล้วคุ้น ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-10-2016 21:44:42
รอติดตามค่าาาาา

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 27-10-2016 22:00:47
มาแว้วๆ อีกเรื่องที่น่าติดตามของพี่ฮัสกี้ จะติดตามยันตอนสุดท้ายเลย แถมนายเอกเราหน้าเด็กด้วยอ่ะ   :-[  :-[
รอตอนต่อไปน้า~~~ :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 27-10-2016 22:04:48
จิ้มเรื่องใหม่ 
ฮัสกี้รีเทิร์นนนนแล้ว เย้ๆ
รอติดตามตอนต่อไปน้า
 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 27-10-2016 23:28:00
เจิมมมมมมม  :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-10-2016 00:14:36
มาตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 28-10-2016 01:00:52
มาแปะ รอค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Prologue : สองยุค ][271016]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 28-10-2016 19:54:38


Chapter 1 : เสียงเรียก   


ขาเรียวยาวพาเจ้าของวิ่งไปบนถนนเก่าแก่ที่ปูด้วยก้อนหินซึ่งทอดยาวจากป้ายรถเมล์ไปจนถึงตัวปราสาท มุ่งหน้าไปยังบานประตูสัมฤทธิ์ขนาดใหญ่ตรงทางเข้า ซึ่งที่นั่นมีป้อมปราสาทบนกำแพงม่านประกบข้างซ้ายและขวา เสียงระฆังเหง่งหง่างดังก้อง ทำให้เขาต้องเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นอีก
 
(กำแพงม่าน คือกำแพงที่ล้อมรอบตัวปราสาท)

“โอย สายแล้วๆ โดนว่าอีกแหง” เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งอยู่ในเสื้อสเวตเตอร์และกางเกงยีน เขาหอบสัมภาระมากมายมาพร้อมในกระเป๋าเป้ใบใหญ่

“เอ้าวิ่งๆ วิ่งเข้า เร็วเข้าลูคัส สายอีกแล้วนะ วันนี้นายต้องโดนโปรเฟสเซอร์บ่นอีกแน่ๆ” ยามรักษาการณ์ที่ยืนอยู่ข้างหน้าป้อมปราสาทตะโกนกลั้วหัวเราะ

“ถ้าไอ้ถนนนี่ไม่ใช่หินตะปุ่มตะป่ำแบบนี้ผมวิ่งได้เร็วกว่านี้แน่นอน!” เด็กหนุ่มยังคงมีอารมณ์หันไปโต้ตอบ เขาส่ายหน้าไปมาพลางบ่นดังๆ “อยากจะเจอหน้าไอ้คนที่คิดทำถนนนี่จริงจริ๊ง ทำไมไม่ทำให้เรียบกว่านี้หน่อยนะ”

“ก็มันตั้งหลายร้อยปีแล้ว ถนนจะเรียบเหมือนราดด้วยคอนกรีตเหมือนสมัยนี้ได้ยังไงกันล่ะ แล้วถ้านายได้เจอคนคิดทำถนนนี่ควรจะต้องก้มหัวขอบคุณเขาหลายๆ ครั้งเลยนะ เพราะถ้าเป็นถนนดินล่ะก็ ฝนตกเมื่อคืนทั้งคืนแบบนี้นายได้ลุยโคลนมาทำงานแน่”

“อ๋า โปรเฟสเซอร์เคลาส์” ลูคัสชะงักแล้วหยุดหอบหนักๆ

“หรือไม่ก็กลายเป็นพวกเดียวกับปลาตีน” อเล็กซ์ รุ่นพี่คนสนิทจากคณะเดียวกันที่ยืนอยู่ด้วยกันกับศาสตราจารย์พูดสมทบ

เด็กหนุ่มส่งสายตาขุ่นๆ ใส่ “ผมรู้หรอกน่าว่าถนนนี่เลอค่าแค่ไหน”

อเล็กซ์หัวเราะพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้เส้นผมสีดำบนศีรษะเล็ก “แค่ขี้บ่นเท่านั้นใช่มั้ยล่ะ เด็กเอ๊ย!” ในขณะเดียวกันคนอื่นๆ ในทีมอีกเกือบสิบคนก็พากันเข้ามารุมล้อมเด็กหนุ่มด้วย

“มาสายเพราะทำรายงานดึกอีกล่ะสิ”

“ครับ” ลูคัสส่ายศีรษะไปมาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย “การบ้านเยอะชะมัด”

“ไม่ทันได้กินมื้อเช้าอีกล่ะสิ เอ้า! เดี๋ยวสมองทำงานไม่เต็มที่” รุ่นพี่คนสนิทโยนถุงกระดาษที่ใส่ขนมปังที่ไว้ให้

“โอ้โห ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง เขากำลังหิวอยู่พอดี นึกว่าจะต้องรอจนถึงพักเที่ยงเสียแล้ว มือเรียวรีบรับขนมปังมา พอกัดไปได้สองคำ เพื่อนร่วมงานอีกคนก็ส่งกล่องน้ำผลไม้ให้พร้อมหัวเราะอย่างเอ็นดู

“ยิ้มได้แล้วสินะ นายนี่มัน เด็กวัยกำลังกินกำลังนอนชัดๆ”

ลูคัสเป็นนักศึกษาปีที่สอง คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา ในมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเยอรมนี เขาเป็นหนึ่งในทีมโพรเจ็กต์พิเศษของมหาวิทยาลัยเพื่อศึกษาโครงสร้างปราสาทและสิ่งก่อสร้างในยุคโบราณ แต่ส่วนใหญ่นักศึกษาในทีมจะเป็นนักศึกษาปีสุดท้าย มีตัวเขาที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่สองคนเดียวเท่านั้น ปกติแล้วตัวเขาก็ดูอ่อนวัยกว่าคนอื่นในชั้นเรียนทั้งที่ตัวก็สูงและอายุพอๆ กัน อาจเป็นเพราะใบหน้าเล็กรูปไข่ที่ดูน่ารักและแก้มที่เป็นสีชมพูมีเลือดฝาดอยู่เสมอ หรือไม่ก็เพราะความที่เขาเป็นลูกครึ่งเอเชีย เชื้อชาติทำให้เขาดูอายุน้อยกว่าเพื่อนชาวยุโรปรุ่นราวคราวเดียวกัน และพอต้องมารวมกลุ่มกับรุ่นพี่และพวกศาสตราจารย์ก็ยิ่งทำให้เขาดูเด็กลงไปอีก

ครั้งแรกที่มีการประชุมนักศึกษาที่ได้รับคัดเลือกจากคณะที่เกี่ยวข้องมาร่วมในโพรเจ็กต์ ตัวเขาดูไม่ดีในสายตารุ่นพี่นัก นั่นก็เพราะอายุและชั้นปีที่น้อยกว่าใคร ประกอบกับบิดาที่เป็นสถาปนิกชื่อดังด้วยแล้ว ทำให้พวกรุ่นพี่คิดว่าเขาได้รับคัดเลือกมาอย่างไม่ใสสะอาดนัก หากความเฉลียวฉลาดและความสามารถของลูคัสก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเข้าใจ แล้วยังนิสัยที่น่ารักเป็นกันเอง จากที่ไม่ชอบใจในตอนแรกกลับกลายเป็นเอ็นดูเด็กน้อยกันไปเสียหมด จนถึงขั้นที่ว่าไม่อาจเริ่มงานกันได้ถ้าเด็กหนุ่มยังมาไม่ถึงเลยทีเดียว

“เอาล่ะ อิ่มแล้วใช่มั้ยลูคัส จะได้เริ่มงานกันสักที” ศาสตราจารย์เอ่ยอย่างอ่อนใจ

“ครับ พร้อมแล้วครับ” เด็กหนุ่มตอบรับเสียงใส พอท้องอิ่มแล้วก็อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด

ศาสตราจารย์ยิ้มมุมปากพลางหัวเราะเบาๆ “วันนี้เราจะเข้าไปศึกษาห้องโถงของปราสาท ทุกคนเปิดดูแพลนด้วย...” เขาพูดคุยโต้ตอบกับทุกคนในทีมและทบทวนหน้าที่กัน “เข้าใจแล้วนะ เดี๋ยวใส่ชุดป้องกันให้เรียบร้อยแล้วไปรอฟังบรีฟเรื่องความปลอดภัยพร้อมกันกับทีมงานอื่นที่ลานหน้าปราสาทนะ”

“ครับ โปรเฟสเซอร์”

“วันนี้มีทีมนักโบราณคดีมาด้วยใช่มั้ย” ลูคัสหันไปถามรุ่นพี่

“ใช่ สนใจสาวนักโบราณคดีรึไง”

“เปล่าสักหน่อย” เด็กหนุ่มเบ้ปากใส่

เดิมทีลูคัสก็เป็นคนชอบประวัติศาสตร์มากอยู่แล้ว โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ยุโรป ถึงแม้เขาจะมีเลือดเอเชียครึ่งหนึ่งในกาย หากยุโรปก็เป็นบ้านเกิด เขาสนใจสิ่งก่อสร้างเก่าๆ มากเป็นพิเศษ ใจฝันอยากจะมีโอกาสได้สร้างสิ่งก่อสร้างที่สำคัญๆ กับเขาสักครั้ง เฉกเช่นบิดาที่เป็นสถาปนิกซึ่งมีผลงานเลื่องชื่อมากมาย

หัวใจเต้นรัวแรงอยู่ในอกขณะที่มือเรียวหยิบหมวกก่อสร้างมาสวม ตามด้วยชุดหมีที่มีเนื้อผ้าเหนียวเป็นพิเศษ ใช้ป้องกันอันตรายจากหินและเศษไม้ที่อาจตกหล่นลงมาได้ทุกเมื่อภายในตัวปราสาท นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจับจ้องประตูไม้แกะสลักตรงทางเข้าของปราสาทนิ่งไม่ไหวติง ริมฝีปากอิ่มสีแดงอมยิ้มอย่างมีความสุข

นี่เป็นครั้งแรกที่ปราสาทแห่งนี้เปิดโอกาสให้ทีมงานวิจัยจากสาขาต่างๆ เข้าไปศึกษาค้นคว้าหลังจากที่ปิดตายมานานนับร้อยๆ ปี ทีมงานของลูคัสรับหน้าที่ศึกษาและตรวจสอบโครงสร้างของปราสาท สมาชิกในทีมประกอบไปด้วยนักศึกษาหัวกะทิจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ วิศวกรโครงสร้างและกลุ่มศาสตราจารย์ พวกเขาใช้เวลาเป็นเดือนในการศึกษากำแพงม่านล้อมรอบตัวปราสาท ซึ่งบนกำแพงม่านนั้นมีป้อมจำนวนหกป้อม ขนาบประตูทางเข้าที่ทำจากสัมฤทธิ์สองป้อม ส่วนอีกสี่ป้อมตั้งอยู่บนกำแพงม่านทางทิศตะวันออกกับทิศตะวันตก มีทางเดินบนกำแพงให้ทหารสามารถเดินตรวจตราและเดินไปมาระหว่างป้อมได้ ส่วนทิศใต้ติดหน้าผาจึงไม่จำเป็นต้องมีป้อม นอกจากนั้นก็ยังมีคุกใต้ดินข้างล่างป้อมปราสาท มีลานปราสาท ลานฝึกซ้อมสำหรับทหาร โรงเก็บม้า โบสถ์และสวนดอกไม้ก่อนจะถึงปราสาทชั้นใน ทุกคนต่างประทับใจโครงสร้างและสภาพที่คงไว้เป็นอย่างดีแม้ไม่ได้รับการดูแลรักษามากมายนัก

หากสำหรับลูคัสแล้ว ที่แห่งนี้พิเศษมากกว่านั้น เพราะ... เขารู้สึกว่าตัวเองรู้จักที่แห่งนี้ดี ราวกับเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาก่อนอย่างไรอย่างนั้น เป็นความรู้สึกที่แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ไปสำรวจซากปราสาทในโรเซนไฮม์โดยสิ้นเชิง

แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันเล่า เขาเพิ่งจะอายุเกือบๆ สิบเก้าปี แล้วก็เพิ่งย้ายมาอยู่เมืองไฮเดลแบร์กนี้กับพี่ชายเพื่อเรียนมหาวิทยาลัยได้ปีเดียวเท่านั้น

สมัยเด็กๆ เขาเคยฝันถึงปราสาทแห่งนี้หลายครั้ง อาจเป็นเพราะได้เห็นรูปและรับฟังเรื่องเล่าของเมืองไฮเดลแบร์ก ซึ่งบิดามารดามักจะพูดว่าเป็นเมืองที่แสนจะสวยงามและโรแมนติกไม่แพ้เมืองอื่นๆ ในยุโรป แล้วก็มักจะร้องเพลงให้ฟัง


(เพลงที่พ่อแม่ของลูคัสหมายถึงคือเพลง I lost my heart in Heidelberg ค่ะ จิ้มฟังและดูวิวเมืองไฮเดลแบร์กได้ตรงนี้น้า --> เพลงค่ะ (https://www.youtube.com/watch?v=MmzX86d_MEg))


จะว่าไปเมืองนี้ก็สวยมากจริงๆ ตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ ไม่มีสักวันที่รู้สึกเบื่อ และจำนวนคืนที่ฝันถึงปราสาทแห่งนี้ก็ถี่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะระยะหลังนี่ เขาฝันถึงทุกคืนเลยทีเดียว จนพี่ชายบอกว่าเขาหมกมุ่นกับโพรเจ็กต์นี้มากเกินไป

พวกคนงานดันบานประตูไม้ขนาดใหญ่ให้เปิดออกช้าๆ ก่อนทุกคนจะเดินเข้าไปตามทางเดินที่มีเพดานโค้งสูงอย่างระมัดระวัง ไม่นานก็ไปถึงบานประตูเข้าสู่ห้องโถงใหญ่กลางปราสาท

เหล่าศาสตราจารย์พลิกเปิดแฟ้มงานหนาเตอะแล้วหันไปพูดคุยกับทีมนักศึกษา “จากภาพเอ็กซเรย์นี่ โครงสร้างภายในของประตูเป็นเหล็ก คาดเดาน้ำหนักไว้ที่... เสารับน้ำหนักสำคัญมาก ทุกคนต้องระวังตรงจุดนี้...”

สักพักบานประตูทั้งสองบานก็ถูกเปิดออกกว้าง แวบแรกที่ได้เห็นห้องโถงขนาดใหญ่ทุกคนก็เบิกตากว้าง หันมองไปโดยรอบวนไปวนมาอยู่เช่นนั้นครู่ใหญ่

“โอ้โห เป็นปราสาทในช่วงยุคกลางที่ยังสมบูรณ์มากจริงๆ ผมไม่เคยเห็นปราสาทที่สมบูรณ์ขนาดนี้มาก่อนเลย” ศาสตราจารย์เปรย

(ช่วงยุคกลาง ศตวรรษที่ห้าถึงสิบห้า)

นักโบราณคดีคนหนึ่งที่เข้ามาพร้อมกันก้มลงใช้แปรงปัดพื้นกระเบื้องอย่างแผ่วเบา สักพักก็พูดเสียงดัง “ดูลายกระเบื้องนี่สิคะ ขนาดสีจางแล้วยังสวยอยู่เลย”

“ถ่ายรูปพรมบนผนังเยอะๆ เลยนะ เดี๋ยวเอาไปปรับสีในคอมฯ แล้วจะได้ปะติดปะต่อรายละเอียดได้ง่ายหน่อย”

เสียงพูดคุยปรึกษากันดังก้องไปทั้งห้องโถง ไม่นานแต่ละคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน ลูคัสเองก็เดินถ่ายรูปเพดานกับเสาไปพร้อมกับพิจารณาวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง เขาก้าวไปช้าๆ ใจจดจ่ออยู่กับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจนกระทั่งไปหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าพรมผืนใหญ่ผืนหนึ่ง

ภาพบนผืนพรมเลือนรางไปตามกาลเวลา หากยังพอมองเห็นได้ว่าเป็นภาพของชายหนุ่มกับม้าที่น่าจะมีขนเป็นสีดำ ส่วนที่เหลือจางจนเป็นสีขาวโพลน เขาหยุดมองแล้วขมวดคิ้ว

“มีอะไรหรือลูคัส”

“ลูคัส”

“เฮ้ย ลูคัส!”

หลังจากโดนเคาะศีรษะเรียกสติกลับมาได้เด็กหนุ่มก็หันขวับ “โอ๊ย! เจ็บนะอเล็กซ์”

“ยืนจ้องอะไร นิ่งเป็นเสาหินเลย” เจ้าของชื่อเรียกมองไปยังพรมที่เขาเห็นเด็กหนุ่มยืนจ้องอยู่นาน “มองม้าหรือ เห็นแล้วนึกอยากจะแวบไปขี่ม้ารึไง”

“เปล่าสักหน่อย ผมก็แค่คิดว่าภาพบนพรมนี่น่าสนใจดี”

“อืม... ดูจากตำแหน่งที่แขวนพรมแล้ว เขาน่าจะเป็นคนสำคัญมากๆ อาจจะเป็นเจ้าของปราสาท... แต่ภาพสีซีดขนาดนี้ คงจะบอกว่าเป็นภาพของใครได้ยากนะ”

“นี่ อเล็กซ์ นายว่าในภาพนี้มีสองคนมั้ย” นิ้วเรียวชี้ไปตรงที่ว่างอีกข้างของม้าในภาพ “จางจนมองไม่เห็นเป็นรูปร่างเลย แต่ดูจากพื้นที่ว่างแล้ว...”

“อาจจะเป็นภรรยาเขารึเปล่า”

“ไม่น่าจะใช่... ถ้าเป็นภรรยาน่าจะยืนข้างกันมากกว่ายืนคนละข้างนะ”

“ก็ไม่แน่นะ อาจจะเพื่อความสมดุลของภาพไง... ถ้าไม่ใช่ก็อาจจะเป็นเจ้าของปราสาทร่วมกัน เป็นพี่น้องกันอะไรแบบนี้”

“อือ ก็อาจเป็นไปได้ ประวัติเจ้าของของปราสาทนี้ก็แทบไม่มีเลยด้วยสิ มันเก่ามากเหลือเกิน”

“อืม จากที่อ่านมา ปราสาทนี้สร้างในยุคกลาง ใช้งานมาจนถึงช่วงก่อนสงครามโลกแล้วก็ปิดไว้ คงยากที่จะระบุว่าใครเคยเป็นเจ้าของบ้าง”

“แต่ที่แถวๆ ไฮเดลแบร์กนี่มีปราสาทยุคกลางตั้งหลายแห่ง สงสัยยุคนั้นคนแถวนี้คงจะรวยมากแหงๆ”

“ตามประวัติศาสตร์แล้ว แต่ก่อนพื้นที่ของแคว้นไฮเดลแบร์กกว้างขวางกว่านี้มาก รวมหลายๆ เมืองในตอนนี้เข้าไว้ด้วยกัน  แต่ละเมืองร่ำรวยแล้วก็เจริญรุ่งเรืองมากค่ะ ปราสาทหลังนี้แต่เดิมมีชื่อว่าปราสาทแห่งแบร์กไฮม์ค่ะ มีการเปลี่ยนชื่อเป็นปราสาทแห่งไฮเดลแบร์กทีหลังประมาณช่วงกลางของยุคกลาง ส่วนปราสาทอื่นในแถบเดียวกันนี้พังไปจนเกือบหมดในช่วงสงครามโลกน่ะค่ะ มีบางจุดที่ยังพอเหลือซากให้เห็นได้ในปัจจุบัน ในหนังสือเขียนไว้ว่าเป็นของญาติๆ กันนี่ล่ะ” เสียงของหญิงสาวเรียกสองหนุ่มที่กำลังคุยกันให้หันขวับไปทางต้นเสียง หล่อนมีชื่อว่าคริส เป็นหนึ่งในนักโบราณคดีที่มาทำวิจัยในปราสาทแห่งนี้ “คนในภาพก็น่าจะเป็นเจ้าของปราสาทคนหนึ่งล่ะค่ะ ดูจากตำแหน่งที่แขวนพรมแล้วก็น่าจะเป็นคนแรกๆ เลยนะคะ แต่ภาพบนพรมสีซีดขนาดนี้ คงต้องทำงานกันในแล็บอีกนาน แถมยังไม่แน่ว่าจะแกะภาพออกมาได้เห็นรายละเอียดชัดเจนขนาดไหนด้วย”

“ถ้าได้เห็นภาพชัดๆ คงจะดีมากเลยนะครับ” ลูคัสพูดเสียงอ่อย เขาหันกลับไปมองภาพบนผืนพรมอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดที่ทำให้เขารู้สึกติดใจภาพนี้เสียเหลือเกิน

“ประวัติศาสตร์ของแคว้นไฮเดลแบร์กสมัยยุคกลางมีบันทึกไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าคุณสนใจ ดิฉันจะให้ยืมหนังสือนะ” หล่อนยิ้มกว้างอย่างเป็นกันเอง

“จริงหรือครับ ขอบคุณมาก! ผมสนใจมากเลยล่ะ”

พอเห็นนัยน์ตากลมใสเป็นประกายและรอยยิ้มของเด็กหนุ่มแล้ว คนสูงวัยกว่าทั้งสองก็อดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้ ลูคัสเป็นเด็กที่แปลก ทำให้ใครต่อใครรู้สึกเอ็นดูไปเสียหมด อาจจะเป็นเพราะดวงตาโตราวกับลูกกวาง หรือรอยยิ้มที่จริงใจของเขา

แล้วในตอนเย็นหลังเลิกงานของวันเดียวกัน ทั้งสามคนก็ไปรวมตัวกันที่อพาร์ตเมนต์ของหญิงสาว ในตอนแรกลูคัสก็ว่าจะไปเพื่อยืมหนังสืออย่างเดียว แต่ดันคุยกันติดลมเสียได้ พวกเขานั่งฟังหล่อนเล่าประวัติศาสตร์ของแคว้นไฮแดลแบร์กอย่างสนใจ

เมื่อรับประทานมื้อเย็นที่โทรศัพท์สั่งมาเสร็จแล้ว คริสก็เข้าไปชงกาแฟร้อนมาเสิร์ฟให้สองหนุ่มที่กำลังเก็บกล่องใส่อาหารลงในถุงขยะ ระหว่างนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันเรื่องโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างในเมืองไปด้วย

“ดูเหมือนปราสาทจะสร้างมาก่อนถนนหนทางในเมืองนะ กำแพงม่านกับป้อมปราสาทก็น่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง”

“ดูจากอายุถนนที่ประเมินมาสิ... ถนนในยุคกลางส่วนใหญ่จะเป็นดิน แต่ในไฮเดลแบร์กรู้จักใช้หินแล้ว แปลว่าความคิดผู้ครองเมืองสมัยนั้นนำสมัยที่อื่นๆ ไม่เบาเลย”

“จะว่าไป ฉันมีเรื่องจะถามพวกคุณพอดีเลย” คริสขยับเข้ามาร่วมวงสักพักก็ลุกไปที่โต๊ะซึ่งหล่อนกางแพลนของปราสาททิ้งไว้ “พวกคุณว่าทางแคบๆ ตรงนี้มีไว้ทำไม” หล่อนชี้ไปที่บนกระดาษ จากห้องห้องหนึ่งที่ชั้นสาม ด้านหลังกำแพงมีทางแคบๆ ซ่อนอยู่ ทว่าก็ตันอยู่แค่ห้องนั้นเท่านั้น

สองหนุ่มเดินตามหญิงสาวไป พวกเขาก้มลงพิจารณาไปพลางจิบกาแฟไปด้วย “ผมว่าแต่เดิมอาจใช้เป็นที่ซ่อนฉุกเฉิน เวลาที่มีคนร้ายบุกเข้ามา งั้นห้องนี้ก็น่าจะเป็นของบุคคลสำคัญ” อเล็กซ์ออกความเห็น

“หรือบางทีแต่เดิมอาจจะทำไว้เพื่อเป็นทางลับก็ได้นะครับ ปราสาทหรือวังมักมีทางลับไว้หลบหนี อย่างเมืองวาติกันยังทำช่องทางหลบหนีไปยัง Castel Sant'Angelo ไว้ให้พระสันตะปาปาเลย แต่ที่ปราสาทแห่งนี้ เขาอาจมีการปรับปรุงทีหลังก็เลยปิดทิ้งไว้” ลูคัสก้มลงมอง พยายามหาห้องที่มีกำแพงสองชั้นในแพลนอีก หากก็หาไม่เจอ “ในแพลนของกำแพงม่านล้อมปราสาท มีอุโมงค์ใต้ดินจากกำแพงม่านมาถึงตัวปราสาทด้วย โปรเฟสเซอร์บอกผลสรุปคร่าวๆ ไว้ว่าน่าจะเอาไว้ใช้ขนย้ายพวกนักโทษเพราะมีร่องรอยของพวกโซ่กับรอยลากของลูกตุ้มเหล็กอะไรแบบนี้ แต่บางทีก่อนหน้านั้นอาจจะเคยใช้เป็นทางหนีทีไล่ของเจ้าของปราสาทก็ได้นะครับ”

“ก็เป็นไปได้นะ แต่ถ้าจะให้ชัวร์ก็คงต้องรอเข้าไปตรวจสอบที่ชั้นสามนั่นล่ะ”

“น่าเสียดายที่ในปราสาทแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์เหลือแล้วนะ จะแยกห้องไหนเป็นของใครก็ดูยากเหลือเกิน พวกข้าวของส่วนใหญ่คงจะขายทิ้งไปช่วงก่อนสงครามโลกเสียเกือบหมด”

“แต่ก็โชคดีของพวกเราที่ปราสาทแห่งแบร์กไฮม์นี่ไม่โดนระเบิดสมัยสงครามโลกจนพังเหมือนปราสาทอื่นนะ”

ลูคัสนั่งฟังรุ่นพี่ทั้งสองไปเรื่อย จนกระทั่งรู้สึกง่วง เขาผล็อยหลับไปทั้งแล็ปท็อปยังเปิดคาไว้อยู่บนตัก

สักพักอเล็กซ์จึงสังเกตเห็น เขาค่อยๆ หยิบแล็ปท็อปออกจากตักเด็กหนุ่มให้ “ให้เขางีบสักสิบห้านาทีแล้วกันนะคริส คงจะเหนื่อยมากน่ะ”

หญิงสาวยิ้มพลางพยักหน้ารับ “แค่เรียนก็น่าจะหนักมากอยู่แล้ว ต้องวิ่งเทียวไล้เทียวขื่อทำโพรเจ็กต์อีก ไม่รู้ว่าเขาเอาเวลาตอนไหนนอนบ้างเลยนะ เป็นฉันคงขอเรียนอย่างเดียว”

“ตอนแรกฉันก็เคยคิดแบบนั้น นึกสงสารเขาอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็เป็นคนสำคัญในทีมเรามากเลยนะ ถ้าไม่มีลูคัส งานวิจัยโครงสร้างนี่คงใช้เวลามากกว่านี้หลายเท่า เด็กอะไรไม่รู้เก่งชะมัดเลย” อเล็กซ์เอ่ยถึงรุ่นน้องอย่างชื่นชม “โพรเจ็กต์ตอนจบปีหนึ่งเขาทำโครงร่างปราสาทในโรเซนไฮม์จากซากปราสาทที่เหลืออยู่ออกมาได้คล้ายคลึงกับที่นักวิจัยคะเนไว้มากที่สุด ขนาดโปรเฟสเซอร์ยังทึ่ง เขาเก่งถึงขนาดนี้แต่ก็ถ่อมตัวเสมอ ไม่เคยหยิ่งใส่ใครเลยสักครั้ง”

“ถ้าลูคัสได้ยินรุ่นพี่พูดถึงแบบนี้คงปลื้มแย่เลย”



ภาพฝันปรากฏขึ้นในศีรษะของเด็กหนุ่มที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว เขากลับไปที่ปราสาทแห่งแบร์กไฮม์ในยามค่ำคืนอีกครั้งตามลำพัง หากครั้งนี้มีบางสิ่งบางอย่างแปลกไป... บนป้อมที่ตั้งอยู่บนกำแพงม่านของปราสาทไม่ได้ใช้ไฟสปอตไลต์ส่องให้แสงสว่างเหมือนทุกครั้ง แต่กลับใช้คบเพลิงแทน

บนกำแพงปราสาทมีทหารรักษาการณ์ในเครื่องแบบเดินไปเดินมา ทำให้เด็กหนุ่มลังเลที่จะเดินเข้าไปใกล้ เขาหันมองซ้ายขวา ใจคิดว่าควรจะกลับบ้านก่อนดีกว่า ทว่าเมื่อทหารคนหนึ่งหันมาพบตัวเขาเข้าก็วิ่งตรงเข้ามาหา


“ท่านลูคัส! ท่านลอร์ดถามหาท่านอยู่พอดี”

เจ้าของชื่อเรียกชะงัก “นาย... รู้จักฉันด้วยหรือ”

นายทหารหัวเราะ “พูดอะไรน่ะท่านลูคัส ข้าจะไม่รู้จักท่านได้อย่างไรกัน ไปเถอะ ท่านลอร์ดรอท่านอยู่ที่ห้องหนังสือ”

“เดี๋ยวสิ ลอร์ดอะไร ใครกันน่ะ แล้วห้องหนังสือที่ไหน”

“ท่านลอร์ดก็คือท่านคาร์ลอย่างไรกันล่ะท่านลูคัส ห้องหนังสือก็อยู่ที่ชั้นสองบนปราสาทฝั่งซ้าย...”

“คาร์ล?”



“ลูคัส! ตื่นเถอะ ลูคัส!”

“คาร์ล!” เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก เบิกตาโพลง แล้วหันมองไปทางเจ้าของเสียงเรียก “อเล็กซ์”

อเล็กซ์ขมวดคิ้ว “คาร์ลนี่ใครน่ะ”

แต่ลูคัสทำหน้างงยิ่งกว่า “หือ?”

“เอ๊า! ก็เมื่อกี้เห็นนายร้องเรียก”

“ผมหรือ” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เขายกมือขึ้นเกาศีรษะ “ใครอ่ะ”

“เวรกรรม แล้วฉันจะรู้มั้ย ช่างเถอะๆ พี่ชายนายมารับแล้ว รีบกลับไปนอนที่ห้องนายเถอะ ละเมอใหญ่แล้วเนี่ย”

“ฮื่อ” ลูคัสลุกขึ้นควานหาข้าวของทั้งยังครึ่งหลับครึ่งตื่น จากนั้นจึงเดินโซซัดโซเซออกจากห้องของคริสไป

“อย่าเดินมึนตกบันไดนะ” รุ่นพี่ตะโกนไล่หลัง


*~TBC~*


จบไปอีกตอนแล้วกับฮัสกี้พาทัวร์ อ้าว ไม่ใช่เหรอ 555555

ลงตอนต่อแล้ววว ไวมั้ยค้าาาา ฮัสกี้จะพยายามลงอาทิตย์ละสองตอนจนกว่าท่านลอร์ดจะได้พบกับลูคัสนะคะ ทุกคนจะได้ไม่ต้องรอนานเนอะๆๆๆ อยากให้เขาเจอกันแล้วใช่มั้ยล่าาาา

ขอบคุณทุกคนที่รอติดตามนิยายของฮัสกี้อยู่นะคะ ฮือๆๆ /กอดดดด รักทุกคนเลย  :กอด1: เรื่องนี้รายละเอียดค่อนข้างเยอะ เลยอาจจะทำให้น่าเบื่อบ้างในบางตอน (คล้ายๆ นิสรีนเลยค่ะ  :hao5: ) แต่อย่าเพิ่งทิ้งกันน้าาาา /เกาะขาทั่นหลอดร้องห้าย

ตอบคุณ alternative ใช่แล้วค่า ฉากในเรื่องอยู่ในเยอรมนีค่ะ ยืมชื่อเมืองมาแต่แผนที่นี่ฮัสกี้มโนเอาเอง 55555555555 ขอบคุณที่คิดถึงกันนะคะ :mew1:

ปล. ถ้าหากสนใจ ตัวอย่างภาพของพรมบนกำแพงกับพื้นกระเบื้องฮัสกี้แปะรูปไว้ในเพจนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 28-10-2016 20:34:24
ตามอ่านคับ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 28-10-2016 20:55:35
ชอบนิยายแนวนี้จัง รอตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังให้ค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-10-2016 21:20:52
ลึกลับดีค่ะ ติดตามมม  :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 28-10-2016 21:43:23
แล้วท่านลอร์ดมาเกิดเป็นใครหว่า อยากให้เจอกันเร็วๆ  :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 28-10-2016 22:00:30
อยากไปเที่ยวปราสาทโบราณเลย รอตอนต่อไปค่าา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 28-10-2016 22:14:18
^
^
^
^
^
แย่จังมาจิ้มไม่ทัน งั้นก็จิ้มยาวๆไป แบบว่า จิ้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อะไรกันพี่ฮัสกี้ ตัดจบแบบลุ้นระทึก ชวนอ่านตอนต่อไป แต่ดันยังไม่มา บอกเลย ณ ที่นี้ ร้องให้หนักมากกกกกกกกก แง~~~~ :sad5: :sad5: :sad2: :sad2: อย่างนี้ต้องสะกดจิตให้มาต่อ แห่ๆๆ  :oni3: :oni3: :oni3:
โบกแท่งไฟรอตอนต่อไปต่อ เยเย่เย้~~~ :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-10-2016 22:18:58
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-10-2016 23:00:30
ไม่เศร้าใช่ไหมค๊าาาาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-10-2016 23:03:01
น่าติดตาม...
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 29-10-2016 01:33:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: เย่ๆๆได้อ่านเรื่องใหม่แล้วฮัสกี้หายไปนานมากเลยนะในเพจก็เงียบๆไปเลยเวลคั้มแบ๊กนะจร้าา :pig2: :pig2: :pig2:
เราขอเดานะเรื่องจะประมาณไหนนะ
1 ลูคัสฝันถึงอดีตและรับรู้สิ่งต่างๆจากความฝันว่าตนเองรักกับท่านคาร์ลและรับรู้ความเป็นมาทุกๆอย่าของปราสาทว่าเมื่ออดีตมันเป็นรูปแบบไหนแล้วนำมาสร้างใหม่ในปัจจุบันกับทีมวิศวกรที่ทำงานร่วมกัน
และ ในปัจจุบันลูคัสก็มาร่วมคิดหาความเป็นมาของประสาทแบร์กไฮม์และเจอกับท่านคาร์ลที่กลับชาติมาเกิดแล้ว  แต่  จุดเด่นที่ไว้ลุ่นมีตรงนี้ว่าจะจำกันได้ไหมหรือลูคัสจำได้คนเดียวแล้วท่านคาร์ลค่อยๆจำได้ และสรุปตอนจบชาติที่แล้วไม่สมหวังตายเพราะอะไรแล้วแต่ฮัสกี้จะใจร้ายกับตัวละครของตัวเองอิอิ  และทั้งสองสัญญาให้ได้กลับมาเจอกันในชาตินี้....กรี้ดดดดดดด :-[ :-[ :-[ :-[ :-[นี้ฉันมโนอะไรไปยืดยาว :ling1: อ่านแนวนี้แล้วฟินแต่ต้องลงต่อเนื่องนะเราอ่านมาหลายๆเรื่องแนวย้อนทวิภพถ้าขาดตอนนานกลับมาอ่านอีกทีมันไม่ลืนอ่ะเราว่าความรู้สึกอินมันจะหายไป...เป็นกำลังใจให้นะคราฟฟฟดีใจกับเรื่องใหม่ด้วยจร้าา :L1: :L1: :L1:
 
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 1 : เสียงเรียก][281016]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 31-10-2016 19:09:54


Chapter 2 : สู่อดีต


เช้าตรู่วันอาทิตย์ในฤดูใบไม้ร่วงเย็นเยือก ท้องฟ้ายังคงมืดมน เด็กหนุ่มที่นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอเป็นจังหวะช้าๆ

เสียงระฆังจากโบสถ์ที่อยู่ไม่ไกลออกไปนักดังแว่ว...


“ลูคัส”


เสียงเรียกชื่อทำให้เขาปรือตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ แล้วก็ปิดตาลงอีกครั้งด้วยความง่วง


“ลูคัส ข้ารอเจ้าอยู่...”


เด็กหนุ่มผงกศีรษะขึ้น “ใครน่ะ”  เขาหันมองไปรอบๆ ห้องนอนของตน หากก็ไม่พบใคร “ฝันหรือเนี่ย” จากนั้นจึงแหงนหน้าขึ้นมองนาฬิกาบนหัวเตียง พอเห็นว่ายังเช้าอยู่มากก็วางศีรษะลงบนหมอนแล้วนอนต่อ

เมื่อปิดตาลงก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ค่อยๆ ตรงมายังเตียงนอนของเขา

“ลูคัส”

เรียกอีกแล้ว

“เฮ้ ลูคัส”

ลูคัสรอจนเสียงนั้นเข้ามาใกล้ก่อนจะลุกขึ้นพรวด “จะเรียกทำไมนักเล่า!”

“ก็เคาะประตูเรียกตั้งนานไม่ตอบ นึกว่าเป็นอะไรไปแล้วก็เลยเข้ามาดูน่ะสิ!”

“อ้าว ไอแซ็ก” เด็กหนุ่มทำตาปริบๆ ก็เพราะถ้าเป็นเสียงของพี่ชายปลุกเขาแต่แรก เขาก็คงลุกขึ้นนานแล้ว แต่เสียงเมื่อกี้...

พี่ชายยิ้มกว้าง เดินเข้าไปกระตุกผ้าห่มของคนที่นั่งอยู่บนเตียงออก “ขอโทษที่ปลุกแต่เช้านะ แต่วันนี้เป็นวันพิเศษ รีบออกไปข้างนอกก่อนเร็วเข้า” พูดจบก็คว้าแขนน้องชายให้ลุกขึ้น

“เหอ!” ลูคัสถูกทั้งลากทั้งจูงออกจากห้องนอนไปโดยไม่ทันตั้งตัว และเมื่อพี่ชายพาเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น เขาก็ต้องเบิกตากว้าง บนโต๊ะเล็กข้างหน้าโซฟาในห้องมีกล่องของขวัญกล่องใหญ่ตั้งอยู่ด้วยกันกับเค้กและขนมมากมาย บนโซฟามีคนที่เขารู้จักดีนั่งอยู่ “พ่อแม่!”

“Happy Birthday ลูคัส!”

เด็กหนุ่มถลาเข้าไปกอดบิดามารดา แล้วจึงหันมากระโดดกอดพี่ชาย “ขอบคุณครับ!”

“โฮ่ง!”

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกโพลง ก่อนเจ้าหมาเกรทเดนสองตัวที่หลบอยู่หลังโซฟาจะกระโจนเข้าใส่ เด็กหนุ่มนั่งลงกับพื้นให้พวกมันเลียเขาให้หนำใจ สองแขนโอบกอดและลูบไปหัวให้ “ลูห์ ลาห์! มาด้วยหรือเนี่ย คิดถึงจังเลย”

“ฉันว่าแล้วนายต้องลืมวันเกิดตัวเองแน่ๆ ทั้งเรียนทั้งทำงานยุ่งไปหมดแบบนี้ วันนี้ก็มีงานอีกใช่มั้ย ฉันก็เลยต้องปลุกนายเช้าหน่อย” พี่ชายพูดกลั้วหัวเราะพร้อมกับลูบศีรษะน้องชายอย่างรักใคร่ “ปล่อยลูห์กับลาห์ก่อน มาเปิดดูของขวัญจากพ่อแม่แล้วก็พี่เร็ว”

นัยน์ตากลมใสกวาดมองไปที่บนโต๊ะเล็กอีกครั้ง บนนั้นมีกล่องใบใหญ่ตั้งอยู่เพียงกล่องเดียว เด็กหนุ่มจึงเบ้ปากเล็กน้อย “อะไรกัน สามคนให้รวมกันชิ้นเดียวอะ ไม่ลงทุนเลย”

“ฮ่าๆ เปิดดูซะก่อนค่อยบ่นน่ะ เจ้าตัวแสบ”

ลูคัสก้มลงยกกล่องขึ้นสุดแรง ความเบาแบบที่ไม่ได้คาดคิดไว้ก่อนทำให้เขาเกือบหงายหลัง “หวา อะไรเนี่ย” เขาเขย่ากล่องไปมาก่อนจะเปิดออก

ภายในกล่องใบใหญ่มีโฟมตัวหนอนกันกระแทกมากมาย เด็กหนุ่มจึงล้วงมือลงไปควาน ใช้เวลาอยู่นานจึงพบกับกล่องใบกะจิดริดซ่อนอยู่ในนั้น “โห ไม่ต้องใช้กล่องใหญ่ขนาดนี้ก็ได้ป่าวครับ!”

“เดี๋ยวมันไม่เซอร์ไพรส์”

ลูคัสส่ายหน้าไปมาพลางเปิดกล่องใบเล็กออก เขาชะงัก “ไม่จริงน่า” แล้วหยิบกุญแจที่มีตรารถชั้นนำของประเทศเยอรมันขึ้นมาตรงหน้า

“จริงและจริงมากเลยแหละ” ไอเซ็กหัวเราะ

“รถจอดอยู่ข้างล่างน่ะลูก จะลงไปดูกันก่อนเลยมั้ย แล้วเดี๋ยวค่อยขึ้นมากินเค้กกัน”

ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกโพลง “รถ... รถของผม... จริงๆ หรือครับ”

“เอ๊า ยังไม่เชื่ออีก ไปๆ ลงไปดูกันเดี๋ยวนี้เลย ส่วนลูห์กับลาห์ปล่อยให้เฝ้าห้องไว้นี่แหละ”

รถคันสวยจอดนิ่งอยู่ในโรงรถเรียบร้อย เด็กหนุ่มเดินวนรอบตัวรถอยู่หลายครั้งอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เพราะถึงตัวเขาจะได้ใบขับขี่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว หากทุกคนบอกกับเขาอยู่ตลอดว่า เป็นเด็กเป็นเล็กขึ้นรถเมล์หรือขี่จักรยานไปเรียนกับไปทำงานก็พอ จากอพาร์ตเมนต์ไปก็ไม่ได้ไกลเลยสักนิด

“ตอนแรกพ่อบอกว่าอยากจะซื้อม้าให้เพราะเห็นเราชอบขี่ม้า แต่เรียนอยู่ในเมืองแบบนี้ พี่กับแม่เห็นว่ารถน่าจะใช้งานได้มากกว่านะ” ไอแซ็กมองตามน้องชายแล้วหัวเราะ “จะเดินวนอีกกี่รอบ เข้าไปลองนั่งดูสิ”

“ขับออกไปลองเครื่องกันสักนิดมั้ย” บิดาเอ่ยชวน

“ได้... ได้จริงๆ หรือครับ”

ไอแซ็กลูบศีรษะน้องชายเบาๆ “รถของนายนี่นา ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”

“ไป... ไปทั้งชุดนอนแบบนี้เลยหรือ”

“จะเป็นไรไปล่ะ ก็ไม่ได้ลงจากรถไปไหนสักหน่อย”

เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล เขาสวมกอดพี่ชายและบิดามารดาแน่น “ขอบคุณครับ ขอบคุณ... ผมรักทุกคนที่สุดเลย”

“ลูคัสเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงานมาตลอด พวกเราก็เลยอยากจะให้รถคันนี้เป็นรางวัลน่ะ” บิดาพูดพลางลูบแผ่นหลังของบุตรชาย

รถยนต์คันสวยแล่นออกไปจากโรงรถช้าๆ ขับวนอยู่ในตัวเมืองไฮเดลแบร์กสักพักจึงกลับมาจอดนิ่งอยู่ในที่จอดของมัน ตลอดทางรอยยิ้มไม่จางหายไปจากใบหน้าน่ารักของเด็กหนุ่มเลย ต่อจากนั้นพวกเขาก็ขึ้นไปรับประทานเค้กกันบนห้อง หากช่วงเวลาแห่งความสุขช่างแสนสั้น เนื่องจากลูคัสต้องปลีกตัวออกไปเตรียมตัวเพื่อออกไปทำงานที่ปราสาท

“วันนี้ผมจะขอกลับเร็วหน่อย แล้วเราค่อยฉลองกันต่อตอนเย็นนะครับ”

“โอเคเลย แม่จะทำของโปรดไว้รอลูกนะ”

“ขับรถระวังด้วยล่ะ”

“ครับ” ลูคัสเข้าไปสวมกอดอำลาทุกคนอย่างอาลัยอาวรณ์ วันนี้เขาไม่อยากไปทำงานเสียแล้ว หากความรับผิดชอบต่อโพรเจ็กต์ก็สำคัญ เขาจะต้องไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง

“ไม่ต้องทำท่างอแงแบบนั้น พ่อแม่ยังอยู่ที่นี่อีกหลายวันน่ะ”

“จริงหรือครับ” เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “ดีจังเลย”

“รีบไปทำงานเถอะ แล้วรีบกลับนะลูก”

“เดี๋ยวฉันจะกินขนมรอนายนะ”

ลูคัสโบกมือลา แล้วหันไปบอกกับสุนัขสองตัวที่ส่ายหางดุ๊กดิ๊กให้ “ไปก่อนนะ ลูห์ ลาห์” จากนั้นจึงหักใจถือกระเป๋าเป้ใบประจำเดินออกจากห้องไป ทุกย่างก้าวที่ห่างจากครอบครัวออกไปทำให้เขารู้สึกโหวงเหวงอย่างประหลาด

ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกัน...


“เอาล่ะ วันนี้เราจะเริ่มเข้าไปตรวจดูในปราสาทปีกซ้ายกัน ตัวปราสาทมีหกชั้น เราจะเริ่มตรวจดูเฉพาะชั้นล่างกันก่อน ตามแพลนแล้วคงจะเป็นห้องครัว ห้องเก็บอาหาร ห้องเก็บของกับห้องพักทหารยาม” เมื่อพวกศาสตราจารย์แบ่งงานให้กับนักศึกษาเรียบร้อย บานประตูเปิดเข้าสู่ตัวปราสาทฝั่งซ้ายก็ถูกเปิดออกได้สำเร็จพอดี เนื่องจากกาลเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานทำให้บานพับประตูเป็นสนิม พวกคนงานจึงต้องใช้เวลาในการเปิดประตูมากสักหน่อย

บนทางเดินที่ปูไว้ด้วยหินสีพื้นๆ ปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนา ผนังทั้งสองข้างมีบานประตูแยกเข้าสู่ห้องต่างๆ ตรงสุดปลายทางมีบานหน้าต่างที่ปิดไว้สนิท

ภายในห้องครัวขนาดกว้างขวางแบ่งออกเป็นห้องเล็กๆ อีกหลายห้อง ห้องขนาดใหญ่ที่สุดใช้ในการประกอบอาหาร มีเตาดินเผาหลายเตาและหม้อไหหลากหลายขนาดตั้งเรียงราย ห้องอื่นๆ ที่เหลือแบ่งเป็นห้องที่ใช้สำหรับเก็บเครื่องเทศ มีห้องที่ตั้งเขียงขนาดใหญ่พร้อมมีดหลากหลายขนาดไว้สำหรับหั่นเนื้อ ห้องที่ใช้สำหรับเก็บจานชามของเจ้านายและยังมีบันไดลงไปห้องเก็บความเย็น ห้องเก็บไวน์กับเบียร์ใต้ดินอีกด้วย

“ดูสิ ในโถอันนี้ยังมีเครื่องเทศอยู่เลย กี่ร้อยปีมาแล้วนะ”

“เตานี่เหมือนเตาดินเผาที่ใช้ทำพิซซ่าสมัยนี้เลยเนอะ” เสียงจากพวกนักศึกษาพูดคุยกันด้วยความสนอกสนใจก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงาน

“ลูคัส อเล็กซ์”

“ครับ โปรเฟสเซอร์”

“ในห้องครัวคนเยอะ เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง พวกนายสองคนแยกไปตรวจสอบโครงสร้างของบันไดกลางก็แล้วกัน ดูสภาพให้ดีก่อนขึ้นไปด้วยนะ”

“ได้ครับ”

บันไดกลางที่ว่าอยู่ด้านในสุดของห้องโถง เป็นบันไดใช้ขึ้นไปยังปีกซ้ายขวาของปราสาท ในยุคก่อนจะมีเฉพาะเจ้านายเท่านั้นที่ใช้บันไดแห่งนี้ ชั้นล่างทั้งในปีกซ้ายขวาของปราสาทเป็นของพวกข้ารับใช้และทหาร ซึ่งพวกเขาจะมีบันไดวนแคบๆ ใช้ต่างหาก ไม่ปะปนกับเจ้านายเด็ดขาด  นับจากชั้นสองขึ้นไปจะเป็นส่วนของเจ้าของปราสาท

เมื่อเหลือกันอยู่เพียงสองคน บรรยากาศในห้องโถงก็น่าวังเวงอย่างประหลาด เสียงกดชัตเตอร์ดังสะท้อนก้อง พวกเขาก้าวเดินอย่างเชื่องช้า ระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียง จดบันทึกกันไปสักพักก็หันหน้ามาสบสายตากัน

“พออยู่กันแค่สองคนแบบนี้ ห้องโถงนี่ก็กว้างบรรลัยเลยนะ”

“โครงสร้างของเพดานห้องทำให้เสียงก้องมากด้วย”

ลูคัสก้าวขึ้นบันไดหินไปทีละขั้น ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อถ่ายรูปราวจับซึ่งมีลวดลายหินสลัก พอถ่ายรูปเสร็จแล้วจึงเอื้อมมือไปสัมผัสเบาๆ “เหมือนจะเป็นตรา...”


“ลูคัส... ลูคัส...”


“มีอะไรหรืออเล็กซ์” เสียงเรียกแผ่วเบาแว่วเข้ามาในโสตประสาท เด็กหนุ่มยืดตัวขึ้นแล้วชะโงกหน้าลงไปหารุ่นพี่ที่ยืนอยู่ที่ตีนบันไดอีกฝั่ง

“หือ จะให้มีอะไร?”

“แล้วเรียกผมทำไม”

“ไม่ได้เรียกสักหน่อย ถ่ายรูปอยู่ตรงนี้เนี่ย”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแล้วพึมพำกับตัวเอง “คงจะหูฝาดแฮะ” เขาก้าวขึ้นบันไดหินต่อไปอีก ทีละขั้น ทีละขั้น จนเกือบถึงขั้นบนสุด ใจกลับมาจดจ่ออยู่กับบันไดและตราหินอีกครั้ง

“อืม มังกร... หรือกิ้งก่าเนี่ย” ลวดลายบนแผ่นหินรางเลือนไปตามกาลเวลา ทำให้คาดเดาภาพได้ยากลำบาก


“ลูคัส... มาที่ห้องหนังสือ”

“ลูคัส ข้ารอเจ้าอยู่”


“หือ” ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองไปตามทางเดินโล่งว่างที่ชั้นสอง “ห้องหนังสือ... อยู่บนชั้นสองปีกซ้ายของปราสาท”


“ลูคัส”

“ท่านลูคัส พวกข้ารอการมาของท่าน...”

“ท่านลูคัส...”


เด็กหนุ่มยืนนิ่ง เสียงที่เรียกหาเขาไม่ได้มาจากคนคนเดียวอีกแล้ว หากเพิ่มจำนวนขึ้นและยังดังขึ้นอีกเรื่อยๆ เขาก้าวขาขึ้นบันไดไปตามเสียงเรียกราวกับต้องมนตร์พร้อมกับขานรับเสียงดัง “รอเดี๋ยว จะไปหาเดี๋ยวนี้ล่ะ”

เพราะจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงรุ่นน้องพูดโพล่งขึ้นมา อเล็กซ์จึงหันขวับไปทางต้นเสียง ก่อนจะเห็นว่าเด็กหนุ่มก้าวขึ้นบันไดฉับๆ แล้วเดินต่อไปบนทางเดินที่ชั้นสอง

“เฮ้ย! พื้นที่ยังไม่ได้เคลียร์ เข้าไปไม่ได้นะลูคัส” อเล็กซ์ร้องเรียกเด็กหนุ่มเสียงดังลั่น จากนั้นจึงรีบวิ่งตามขึ้นไป เมื่อถึงตัวอีกฝ่ายก็คว้าแขนไว้ “ลูคัส นายจะไปไหนน่ะ”

“ไปห้องหนังสือ”

“นายรู้หรือว่าอยู่ไหน เฮ้ย!”

“อยู่นั่น ห้องในสุด” มือขาวยกขึ้นชี้ไปยังบานประตูที่อยู่ด้านในสุด

“แต่มันอันตรายนะ อย่าเพิ่งเข้าไปเลย!”

“ลูคัส”

“ปล่อย... เขากำลังเรียก” แววตาของเด็กหนุ่มเหม่อลอย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกแล้ว

“ใครเรียก!”

“คาร์ล... คาร์ลกำลังเรียกผม”

“ใครน่ะ ลูคัส”

“ปล่อยผม!” ลูคัสสะบัดแขนอย่างแรง ก่อนจะวิ่งตรงไปยังห้องที่อยู่ด้านในสุดอย่างรวดเร็ว เขาจับที่จับบานประตูไม้แล้วดึงให้เปิดออกอย่างง่ายดาย

อเล็กซ์วิ่งตามไปทันที หากเมื่อถึงตัวห้องหนังสือบานประตูก็ปิดลงสนิท เขาคว้าที่จับบานประตูดึงออก ทว่ามันไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด รุ่นพี่หน้าซีดเผือด เขาทุบบานประตูแรงๆ พร้อมกับส่งเสียงเรียก “ลูคัส! เปิดประตูหน่อย ลูคัส!”

ในระหว่างนั้นพื้นดินก็เริ่มสั่นไหวน้อยๆ แล้วเพิ่มกำลังแรงขึ้นจนชายหนุ่มรุ่นพี่ไม่สามารถยืนนิ่งๆ ได้ พอเขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานก็เห็นว่าโคมไฟทองเหลืองตามทางเดินนั้นส่ายไปมาตามแรงสั่นสะเทือน

“แผ่นดินไหวหรือ” อเล็กซ์เบิกตาโพลง เขารีบหันไปทุบบานประตูจนสุดแรง “ลูคัส! แผ่นดินไหว! นายรีบออกมาเร็วเข้า!”

เสียงจากไซเรนเตือนภัยดังลั่น เสียงแหลมหวีดหวิวจนแสบแก้วหู แรงสั่นสะเทือนก็เพิ่มมากขึ้นจนฝุ่นผงร่วงหล่นลงมาจากเพดานด้านบน

อเล็กซ์หันรีหันขวาง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วตอนนี้

“คุณครับ! ออกไปจากที่นี่ก่อนเร็ว”

ชายหนุ่มหันขวับไปยังต้นเสียง เป็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยที่เรียกเขา

“คนอื่นออกไปกันจะหมดแล้ว เร็วเข้าครับ ที่นี่อันตราย”

“แต่เพื่อนผมติดอยู่ในห้องนี้!”

เจ้าหน้าที่รีบวิ่งเข้าไปหา พวกเขาพยายามจะเปิดประตูตรงหน้าอเล็กซ์ออก แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งเห็นท่าไม่ดีเมื่อความแรงของแผ่นดินไหวหนักหน่วงขึ้นจนมีรอยร้าวปรากฏขึ้นบนผนัง พวกเขาจึงฉุดกระชากอเล็กซ์ให้ออกไปจากที่ตรงนั้นเสียก่อน

“แล้วลูคัสล่ะ!”

“เราต้องออกไปก่อนครับ ท่าไม่ดีแล้ว!”

“เดี๋ยว!”

เพดานด้านบนเริ่มพังทลาย พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบเร่งทั้งฉุดทั้งลากชายหนุ่มลงไปยังชั้นล่าง แล้ววิ่งออกไปข้างนอกปราสาทได้ในที่สุด

“อเล็กซ์! คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย” คริสถลาเข้าไปหาทันทีที่เห็นชายหนุ่มถูกลากออกมา

“ลูคัสยังติดอยู่ข้างใน!”

“ที่นี่อันตรายมากครับ รีบออกไปจากบริเวณนี้ก่อน อย่าอยู่ใกล้ตัวปราสาทหรือป้อมมากเกินไปนะครับ” เจ้าหน้าที่ผลักให้พวกคนที่ยืนออกันอยู่ด้านหน้าปราสาทออกไปห่างๆ

สักพักแผ่นดินไหวก็สงบลง ทุกสิ่งอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทิ้งไว้เพียงร่องรอยความเสียหายเล็กน้อยของปราสาททางด้านนอก

กลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและพนักงานดับเพลิงที่เข้ามาสมทบทยอยกันกลับเข้าไปในปราสาทอีกครั้ง อเล็กซ์กับนักศึกษาชายหลายคนก็อาสาตามเข้าไปช่วยค้นหาด้วย ตามทางเดินมีหินร่วงลงมาระเกะระกะ ห้องหับภายในปราสาทได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวไม่ใช่น้อย แต่โครงสร้างหลักของปราสาทก็ยังแข็งแรงทนทานดี

พวกเขาทยอยกันขึ้นไปที่ชั้นสองในปราสาทปีกซ้าย หากเพดานถล่มลงมามากมายจนทำให้ต้องไต่ข้ามกองหินเพื่อให้เข้าไปถึงห้องที่อยู่ด้านในสุดได้ พวกเขาใช้เวลาพักใหญ่จึงเข้าไปถึงที่หมาย

“ประตูเปิดไม่ออก”

“ลูคัส! เฮ้! นายเป็นอะไรรึเปล่า!” อเล็กซ์ตะโกนเสียงดัง ทว่าไม่มีเสียงใดๆ ตอบกลับมาจากภายใน

“เอาหินที่ขวางทางออกก่อนเร็วเข้า!”

พวกเขาวุ่นวายอยู่กับการเคลียร์พื้นที่และงัดบานประตูห้องที่ว่ากันจนถึงเวลาเย็น พวกศาสตราจารย์ก็มายืนรออยู่ห่างๆ ด้วยความเป็นห่วง

“เราพอจะเข้าจากทางอื่นได้มั้ย” ศาสตราจารย์ยิบแพลนขึ้นมากางออกดู พวกเขาต้องใช้ไฟฉายกับสปอตไลต์ส่องให้แสงสว่างเพราะท้องฟ้าทางด้านนอกมืดสนิท “จากในแพลนนี่ก็ไม่รู้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แย่จริง”

ในขณะเดียวกันพวกเจ้าหน้าที่ก็ตะโกนเสียงดังด้วยความดีใจ “เปิดได้แล้วครับ!”

บานประตูไม้เปิดออกกว้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จัดการส่องไฟเข้าไปตรวจดูภายใน “คุณลูคัส! คุณลูคัสครับ!”

“เอ๋ ส่องที่พื้นหน่อยสิครับ!” อเล็กซ์ชะโงกหน้าเข้าไปมองภายในห้อง “ดูที่พื้นนี่ ทำไมไม่มีรอยเท้าเลยล่ะ”

“จริงด้วย ฝุ่นหนาขนาดนี้ ถ้าคุณลูคัสเข้ามาต้องมีรอยเท้าให้เห็นแน่”

“ผิดห้องรึเปล่าอเล็กซ์”

“ไม่ครับ! ห้องในสุดนี่แหละ ผมมั่นใจ!”

เจ้าหน้าที่ช่วยกันส่องไฟเข้าไปภายในห้องนั้น ค่อยๆ ตรวจสอบด้วยสายตาจากบนพื้น ไล่ขึ้นไปตามผนัง

ห้องขนาดใหญ่โตสูงราวๆ ตึกสามชั้น ผนังห้องถูกบดบังด้วยชั้นหนังสือผุพัง สูงขึ้นไปจนถึงเพดานห้อง หากไม่มีหนังสือสักเล่ม มีบานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่ถูกปิดทับไว้ด้วยหน้าต่างไม้ บนพื้นมีเศษแก้วกับหินร่วงหล่นประปราย

“เหมือนจะไม่มีใครเข้ามาในห้องนี้นานมากแล้วนะครับ”

อเล็กซ์หน้าซีดไร้สีเลือด หัวใจร่วงลงไปอยู่ใต้ฝ่าเท้า “แล้วลูคัสหายไปไหน...”


*~TBC~*


สุขสันต์วันฮาโลวีนค่า

เอามาลงต่อแว้วววว หนูลูคัสก็หายตัวไปแว้วว ตอนหน้าหนูลูจะไปโผล่ที่ไหนกันหน้อ  :hao3:

เมื่อไหร่พระเอกกะนายเอกจะได้เจอกันล่ะเนี่ย 555555555

ขอบคุณนักอ่านทุกท่านเลยนะคะ
ขอบคุณคุณขนมสัมปันนี คุณPisoi คุณSnowermyhae คุณTaecKhun Imagine Love คุณsirin_chadada ที่รอติดตามอ่านน้า
คุณaiyuki เดี๋ยวฮัสกี้พาเที่ยวพร้อมน้องลูคัสนะคะ
คุณmultiver ตอนนี้ตัดจบดีขึ้นมั้ยค้า กร๊ากกก
คุณlizzii ไม่เศร้าค่า ไม่ต้องห่วง อิอิ
คุณบาน่าติ่งเอ็กโซ คุณ เป็ดอนุบาล สงสัยท่านลอร์ดจะไม่ได้กลับชาติมาเกิดแล้วล่ะ ขอแอบเก็บไว้เป็นพล็อตเรื่องหน้าน้า >,.<

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 31-10-2016 19:24:46
เป็นแนวย้อนอดีตหรอกเหรอ แล้วอย่างนี้ลูคัสจะได้เจอกับครอบครัวอีกไหม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 31-10-2016 19:45:22
หาาาา หายไปแล้วววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 31-10-2016 21:24:59
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 31-10-2016 21:45:34
อ้าว! ไหงใจง่ายขนาดนี้ล่ะลูคัส

เขาเรียกไม่กี่ทีก็ไปเลย ฮ่าฮ่าฮ่า

ภาพปักที่เลือน ๆ คือลูคัสกับท่านคาล์ลล่ะสิ

ลุ้น ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-10-2016 22:13:57
จะเป็นยังไงต่อ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-10-2016 22:28:24
มีความลุ้นนนนนนน ลูคัสแว๊บไปอยู่กับคาร์ลใช่ไหม นั่นแน่ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 31-10-2016 23:17:25
ฝุ่นที่อยู่ที่พื้นอาจจะมาจากแผ่นดินไหวเมื่อกี๊ป่ะคะ 55555555
แต่น้องลูเราข้ามเวลาไปแล้วววว อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ จะได้เปิดตัวคุณคาร์ลพระเอกของเรารึยังน้า >____<
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 01-11-2016 01:41:25
^
^
^
จิ้มทะลุทะลวง 7 เม้นบน อิอิ
ตอนนี้ตัดจบได้ดีขึ้นแล้วจ้าท่านเซอร์ฮัสกี้
แต่ว่าน้า....พี่ลูคัสของผมหายปายหนายยย หรือว่า...
ถ้าตามการคาดเดาของผมละก็...อืม...อืม...ถูกย้อนเวลาไปแล้วสินะ!!!《สะดุ้ง เฮือกกก!!!》(○□○)~ :a5:  :a5: แถมถูกผีอำ(หรือผีสะกดจิต??)เรียกไปซะด้วย!! :sad5: :sad3:
จากการคาดเดาแล้ว...ตอนต่อไปมาภายใน 1-3 วันที่จะถึงนี้สิน้า~~ :m12: :m12:
โบกแท่งไฟรอตอนต่อไปอีกเช่นเคย เยเย่เย้~~~ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-11-2016 06:40:27
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: คือตัดจบได้แบบนะร้องแปปลุ้นตัวกลมจบเฉยเลย o13 o13
  อ่อถ้างั้นก็ประมาณกลับมาเกิดแค่ลูคัลส่วนท่านคาร์ลยังไม่ได้กลับมาเกิดแบบนี้คือ คุณหลวงแม่มณีในทวิภพอ่ะดิคุณฮัสกี :impress2: :impress2:
รอติดตามนะชอบอ่านแนวนี้มากรอดูฝีมือการเขียนนะจ๊ะเป็นกำลังใจให้สู้และรีบมาต่อนะอย่าปล่อยให้รอนานนะจร๊ะสู้ๆๆๆ
                                                                  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 01-11-2016 20:44:15
อ้าว เค้าเรียกก็ตามเค้าไปเฉย ไม่ห่วงรถใหม่ที่เพิ่งได้มาเลยอ่ะ
ย้อนอดีตไปจะกลับมาได้มั้ยอ่ะ
แต่ว่าเค้าจะได้เจอกันแล้วววววว
หุหุ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-11-2016 00:31:56
ย้อนกลับไปสิน้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 03-11-2016 09:53:55


Chapter 3 : แรกพบ


“อือ...”

เด็กหนุ่มใช้มือยันตัวเองให้ลุกขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกะพริบปริบให้เข้ากับแสงสว่างอยู่สักพักก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ “เหอ ที่นี่มัน...” เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอย่างเชื่องช้า

“โอ้โห ที่นี่คือห้องหนังสือหรือ สุดยอดไปเลย”

เบื้องหน้าตัวเขาเป็นชั้นหนังสือสูงถึงเพดานห้อง มีหนังสือเต็มแน่นทุกตารางนิ้ว ชั้นหนังสือนั้นแบ่งเป็นชั้นๆ โดยมีบันไดให้ใช้ไต่ขึ้นไปยังที่พักแต่ละชั้นได้ ที่ตรงกลางห้องมีโต๊ะตัวใหญ่กับโซฟา ถัดไปเป็นโต๊ะทำงานที่มีหน้าต่างบานใหญ่อยู่เบื้องหลัง บานหน้าต่างเปิดแง้มไว้เล็กน้อยพอให้สายลมเย็นสบายพัดเข้ามาในห้องได้

“ว่าแต่ฉันเข้ามาในนี้ได้ยังไงเนี่ย” ลูคัสขมวดคิ้วพลางยกมือขึ้นกุมศีรษะ เขาพยายามนึกย้อนกลับไป...

“ฉันกำลังเก็บรายละเอียดโครงสร้างบันไดกลางในห้องโถงอยู่กับอเล็กซ์ แล้วทำไมมาโผล่ที่ห้องนี้ได้ล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยกับตัวเองอย่างงุนงง “ว่าแต่... ห้องนี้มันใหม่เกินไปรึเปล่า” เขาเดินไปสัมผัสโต๊ะไม้ตรงกลางห้องด้วยความสงสัย “ไม่มีฝุ่นเลยด้วยแฮะ เป็นไปได้ยังไงน่ะ”

บนโต๊ะมีม้วนเอกสารกับหนังสือวางอยู่มากมายทำให้ลูคัสอดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาเปิดดู

ตัวอักษรที่ปรากฏในภาพเป็นแบบที่คนโบราณเขียนกันทำให้อ่านเข้าใจได้ยาก หากหมึกยังดูสดใหม่ แล้วกระดาษถึงจะไม่ขาวเหมือนกระดาษในยุคปัจจุบัน แต่ก็ดูเหมือนเป็นของที่เพิ่งจะทำขึ้นไม่นาน

“จำนวนทาสที่ส่งมาจากเมืองหลวง จะมาถึงในอีกห้าวัน”

“รายชื่อที่ปรึกษา นักปราชญ์ ผู้เชี่ยวชาญการคำนวณและทำนายดวงดาว ช่างผู้ชำนาญการก่อสร้าง ช่างเหล็ก... โอ้โห ของจริงรึเปล่าเนี่ย ถ้าคริสได้เห็นเอกสารพวกนี้ต้องอ้าปากค้างแน่” เขาอมยิ้ม ก่อนจะนึกขึ้นได้ “แย่แล้ว ปล่อยให้อเล็กซ์ทำงานอยู่คนเดียว ต้องรีบออกไปก่อน!”

หากเมื่อเด็กหนุ่มเดินไปถึงบานประตูห้องก็ได้ยินเสียงผู้คนมากมายจากทางด้านนอก สำเนียงและการพูดจาแบบแปลกๆ ทำให้เขาหยุดชะงักแล้วแง้มบานประตูออกดู

ทางเดินด้านนอกแตกต่างจากที่เขาเดินผ่านมาโดยสิ้นเชิง พื้นเป็นกระเบื้องลวดลายสวยงาม ผนังทาสีใหม่เอี่ยม โคมไฟทองเหลืองที่ห้อยลงมาจากเพดานสูงโค้งถูกขัดจนเป็นมันวาว นอกจากนั้นก็ยังมีคนในชุดทหารโบราณ มีทั้งที่เดินไปเดินมาและยืนพูดคุยกันอยู่

แต่แล้วดวงตาเจ้ากรรมก็สบประสานกับนายทหารเฝ้ายามคนหนึ่งเข้า

“เฮ้ย ใครน่ะ!” ไม่พูดเปล่าหากชักดาบยาวออกมาจากฝักพร้อมกับวิ่งตรงเข้ามายังเด็กหนุ่มด้วย

ลูคัสหน้าถอดสี เขารีบปิดประตูแล้วใส่กลอนทันควัน

“เปิดประตู!” พวกทหารตะโกนพลางกระแทกบานประตูอย่างแรง

“อะไรเนี่ย! ท่าทางเหมือนจะฆ่าแกงกันเลย!” เด็กหนุ่มหันรีหันขวาง วินาทีนี้สัญชาตญาณบอกว่าให้หนีเอาตัวรอดก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง เขาวิ่งตรงไปที่บานหน้าต่างซึ่งเปิดแง้มอยู่แล้วชะโงกหน้ามองลงไปสำรวจ พอเห็นว่ากำแพงด้านนอกที่เป็นหินพอมีที่ให้เกาะและใช้เหยียบได้บ้างก็รีบปีนลงไป

เมื่อเท้าสัมผัสพื้นลูคัสก็ออกตัววิ่ง ใจคิดเพียงแค่ต้องหนีไปให้ไกลจากตัวปราสาทมากที่สุด กว่าจะรู้ตัวก็มายืนงงอยู่ในสวนกุหลาบที่มีดอกกุหลาบนานาชนิดบานสะพรั่ง แต่ดูเหมือนจะถูกทิ้งๆ ขว้างๆ มาเป็นเวลานาน เพราะไม่มีการตัดแต่งหรือจัดเป็นพุ่มตามอย่างสวนทั่วไป

“สวนนี่มาจากไหนอีกเนี่ย เมื่อวานยังไม่มีเลยนี่หว่า” 


“ใครน่ะ”


ลูคัสสะดุ้งเฮือกแล้วหันขวับไปทางต้นเสียง

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำ ปักลวดลายสีทองบริเวณลำคอ ช่วงอก ชายเสื้อและตรงปลายแขน ตรงส่วนลำตัวยาวคลุมสะโพก มีเข็มขัดหนังรัดเอว ท่อนล่างสวมกางเกงผ้าสีดำและรองเท้าบูทหนังสูงเกือบถึงหัวเข่า มีดาบยาวอยู่ในฝักคล้องอยู่ที่เข็มขัดหนัง  การแต่งกายเหมือนคนสูงศักดิ์ในสมัยก่อนที่เขาเคยเห็นในหนังสือ

“เจ้าเป็นใคร”

“อะ... เอ่อ ผมเป็นนักศึกษาที่ทำงานอยู่ในโพรเจ็กต์ของที่นี่ครับ แต่จู่ๆ ก็โดนคนในปราสาทวิ่งไล่ออกมาเนี่ย” ลูคัสตอบกลับไปอย่างงงๆ นัยน์ตาสีเข้มจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ชายหนุ่มที่มีผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า แต่งตัวแบบนี้... ใช่แน่แล้ว

“นี่คุณ... แต่งคอสเพลย์เป็นเจ้าชายดิสนีย์มางานในปราสาทหรือ จะมีปาร์ตี้หรือครับ”

ชายหนุ่มทำหน้าฉงน “พูดอะไรแปลกๆ เหมือนไม่ใช่ภาษาคน”

เด็กหนุ่มคิ้วกระตุก “อ้าว หน้าตาดีๆ ทำไมไม่พูดจาให้เหมือนหน้าตาหน่อยล่ะครับ แล้วตกลงคุณเป็นใครกันเนี่ย มาทำอะไรที่นี่”

อีกฝ่ายไม่ตอบ เขายืนนิ่ง สายตาจับจ้องพิจารณาเด็กหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นถี่ๆ ตามมาด้วยเสียงตะโกนดังก้องไปทั่วบริเวณ “ท่านลอร์ด! มีคนลอบเข้ามาในปราสาท!”

ลูคัสเบิกตาโพลง จะว่าไปพวกที่แต่งตัวเป็นทหารแล้ววิ่งตามเขามากับคนตรงหน้านี่ก็แต่งตัวอยู่ในธีมเดียวกัน เพราะงั้นอาจจะเป็นพวกเดียวกันก็ได้ แล้วดาบยาวที่คล้องอยู่ตรงเอวนั่น คงไม่ได้ใช้สำหรับตัดกุหลาบแน่  หลังจากตรึกตรองดูแล้วก็คิดว่าเขาควรจะรีบหนีไปให้ไกลจากคนคนนี้เช่นกัน

บางทีคนพวกนี้อาจจะแกล้งแต่งตัวแบบโบราณเพื่อหลอกเข้ามาทำอะไรสักอย่างในปราสาทแล้วขโมยของมีค่าก็ได้

แล้วตัวเขาเห็นหน้าพวกมันตั้งหลายคน มีหวังต้องโดนฆ่าปิดปากแหงๆ

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองตัวปราสาทก่อนจะหันหลังขวับ เขาออกตัววิ่งไปทางทิศเฉียงเหนือของปราสาทให้เร็วที่สุดในชีวิต เพราะจำได้ว่ามีถนนที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่นั่น พอผ่านสวนกุหลาบไปก็พบกับพื้นที่ว่างซึ่งมีหญ้ารก เขาหันกลับไปมอง ได้ยินเสียงคนอยู่ไกลๆ คิดว่าน่าจะเป็นพวกทหารที่ไล่ตามมาจึงตัดสินใจวิ่งฝ่าทุ่งหญ้ารกต่อไปอีก จนกระทั่งถึงกำแพงหินสูงซึ่งสูงประมาณตึกสองชั้น และมันไม่เหมือนกับกำแพงปราสาทที่เขาเคยเห็นสักเท่าไหร่

“ทำไมกำแพงม่านกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง ก่อนจะลองปีนข้ามไป และเมื่อกระโดดลงอีกฝั่งของกำแพงก็กลิ้งหลุนๆ ลงไปตามเนินที่ไม่สูงมากนัก พอลุกขึ้นได้ก็ต้องหยุดอ้าปากค้าง

“โอย ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย ฉันหลุดมาอีกโลกนึงรึไง”

เบื้องหน้าเขาเป็นป่าโปร่งที่มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ บนพื้นเต็มไปด้วยมอส มีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นประปราย แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นมีทางเดินใดๆ “มีป่าผุดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วลานจอดรถกับถนนหายไปไหน”

หากเด็กหนุ่มจำได้ว่าถัดจากที่ตั้งปราสาทออกไปไม่ไกลจะพบกับตัวเมือง เขาจึงคิดว่าอย่างไรก็ควรจะไปที่นั่นก่อน

สองขาพาเจ้าของก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ ริมฝีปากเผยอหอบ เขายังอยู่ในชุดหมีที่ใส่ตอนทำงาน ข้างในยังคงเป็นเสื้อสเวตเตอร์และกางเกงยีน รองเท้าผ้าใบที่ใส่มีพื้นหนาเป็นแบบที่ใช้สวมใส่เพื่อความปลอดภัยในสถานที่ก่อสร้างหรือโรงงานโดยเฉพาะ “หนาวชะมัด” ลูคัสพึมพำพร้อมกับควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง “อ้าว แย่แล้ว ทำหล่นไปตอนไหนกันเนี่ย”

ในเมื่อติดต่อใครไม่ได้จึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ก็หลุดจากเขตป่ามาพบกับทุ่งข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์สีเหลืองทอง หากนั่นไม่ทำให้เขาประหลาดใจเท่าบ้านคนที่เห็นอยู่ลิบๆ

ลูคัสยืนนิ่งเป็นเสาหิน งุนงงจนทำอะไรไม่ถูก เมืองที่เขาอยู่อาศัย ถนนหินที่เคยเดินผ่าน รถหรือตึกรามบ้านช่อง ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปสิ้น เหลือเพียงป่าและทุ่ง

“ฉันฝันอยู่รึเปล่า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นกุมศีรษะก่อนจะทรุดตัวลงนั่งอยู่ในทุ่งข้าว “ฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี” เขาส่ายศีรษะไปมาแล้วพ่นลมหายใจออกหนักๆ

ถ้ามีทุ่งข้าว ก็น่าจะมีบ้านคน

ริมฝีปากสีแดงเม้มแน่นอย่างครุ่นคิด ในเมืองนี้มีแม่น้ำ ถ้าจะหาบ้านคนก็ควรจะต้องเริ่มจากแม่น้ำก่อน

ลูคัสหันหลังกลับไปมองปราสาทบนเนินเขาที่เพิ่งจากมาเพื่อคาดเดาทิศทางของแม่น้ำโดยใช้ปราสาทที่เห็นเทียบกับเมืองในความทรงจำ จากนั้นจึงเริ่มเดินออกไปอีกครั้ง

ดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำ เด็กหนุ่มเดินบ้างหยุดพักบ้างมาครู่ใหญ่แล้ว ท้องก็เริ่มหิว ปวดขาและเจ็บเท้า ใกล้หมดแรงไปทุกที หากไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาแม่น้ำให้พบก่อนตะวันจะลาลับไป ไม่อย่างนั้นเขาต้องหนาวตายอยู่กลางทุ่งแน่ๆ

ระหว่างที่นั่งพักอย่างอ่อนแรงก็ได้ยินเสียงน้ำแว่วเข้ามาในโสตประสาท ลูคัสลุกขึ้นพรวดแล้ววิ่งตรงไปยังต้นกำเนิดเสียง ไม่นานก็พบกับแม่น้ำกว้างใหญ่ เมื่อหันมองซ้ายขวาก็เห็นว่าไม่ไกลออกไปมีบ้านคนหลังเล็กๆ อยู่หลายหลัง

“ฉันหลงมาที่ไหนกันเนี่ย... อย่างกับหลงมาอีกยุค แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกันเรื่องแบบนั้น” เขาพึมพำพลางเดินตรงไปยังแม่น้ำ จากนั้นจึงย่อตัวลงวักน้ำขึ้นมาดื่มและล้างหน้าหลายๆ ครั้ง

“น้ำเย็นชะมัด!” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มลืมขึ้นแล้วมองไปรอบๆ ตัวอีกครั้ง ทุกอย่างยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป


“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!”


เสียงคน!

ลูคัสวิ่งพรวดพราดไปยังต้นเสียง ก่อนจะพบกับผู้หญิงชาวบ้านวัยกลางคนในชุดกระโปรงยาวสีตุ่นๆ สีหน้าของหล่อนซีดเผือด สายตามองตรงไปในแม่น้ำ เด็กหนุ่มจึงมองตามหล่อนไป

ในแม่น้ำที่เย็นเยือกไม่ไกลจากฝั่งนัก มีเด็กชายเกาะขอนไม้ร้องไห้อยู่ ลูคัสไม่รอช้า เขารีบถอดชุดหมี เสื้อสเวตเตอร์และรองเท้าออก จากนั้นจึงวิ่งลงไปในน้ำแล้วว่ายน้ำตรงไปยังเด็กชาย

วินาทีนั้นลูคัสลืมความหนาวเย็นไปเสียสนิท พอคว้าคอเสื้อเด็กชายได้ก็ว่ายน้ำพากลับขึ้นฝั่ง

หญิงวัยกลางคนถลาเข้ามากอดเด็กชาย หล่อนมองตามลูคัสที่เดินไปหยิบเสื้อสเวตเตอร์ขึ้นมาใส่ ตามด้วยชุดหมีอีกชั้น เด็กหนุ่มนั่งลงกอดเนื้อตัวที่สั่นเทา

“เกิดอะไรขึ้น!” เด็กหนุ่มชาวบ้านในชุดซอมซ่ออีกคนวิ่งเข้ามาหยุดหอบอยู่ใกล้ๆ กับหญิงวัยกลางคนและเด็กชาย พอหันไปเห็นลูคัสเข้าก็เบิกตาโพลง “ไอ้โจรนี่มันทำร้ายเอาหรือแม่” เขาหันไปคว้าท่อนไม้แล้วเดินตรงเข้าไปหา

“แก! ไอ้โจร! จะรังแกพวกข้าไปถึงเมื่อไหร่!”

ร่างกายรู้สึกชาและสั่นด้วยความหนาว อยากจะขยับหนีก็ขยับไม่ได้ สองแขนกอดลำตัวค้างไว้แน่น เขาเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มชาวบ้าน จะพูดแก้ตัว ริมฝีปากก็สั่นเสียจนพูดจาไม่รู้เรื่อง “ไม่... ผม...”

เด็กหนุ่มชาวบ้านคนนั้นเงื้อมือข้างที่ถือท่อนไม้ขึ้นสูง

“เดี๋ยวก่อนเลน! อย่าทำร้ายเขานะ” หญิงวัยกลางคนเอาผ้าคลุมไหล่ของหล่อนพันตัวเด็กชายแล้วอุ้มขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามาขวาง “เขาเป็นคนช่วยวิลไว้!”

เจ้าของชื่อเรียกชะงัก “ฮะ!”

“เขาเป็นคนพาวิลขึ้นมาจากน้ำ!”

“จริงหรือแม่ ไอ้หมอเนี่ยน่ะหรือ” เด็กหนุ่มมองหน้ามารดาสลับกับน้องชายที่หน้าซีดตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของหล่อน

“ใช่! เจ้าอย่าทำอะไรเขาเชียวนะ!”

เลนหันกลับไปมองลูคัสอีกครั้ง ในสายตาของเขา อีกฝ่ายดูไม่เหมือนชาวเมืองทั่วไปทำให้เขาคิดว่าเป็นโจร แต่ถ้าเป็นคนที่เสียสละช่วยน้องชายเขาแล้ว...

เด็กหนุ่มชาวบ้านย่อตัวลงนั่งข้างๆ “ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเลย มาจากไหนรึ”

“จาก... มิว... นะ... นิค...”

“ที่ไหนกันนี่ ไม่เห็นเคยได้ยิน” เลนขมวดคิ้วพร้อมกับยกมือขึ้นเกาศีรษะ เขาถอดผ้าคลุมไหล่ตนเองออกแล้วนำไปคลุมให้เด็กหนุ่ม “แต่เอาไว้ก่อนเถอะ ลงไปในน้ำเย็นแบบนั้นเจ้าคงหนาวมากสินะ ไปที่บ้านข้ากันก่อนดีกว่า นี่ฟ้าก็จะมืดแล้วด้วย”

ลูคัสส่ายหน้า ไม่ใช่ว่าไม่อยากกลับไปด้วย แต่เพราะหนาวสั่นจนลุกขึ้นไม่ไหว “ไม่... ไหว...”

เลนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไร งั้นขี่หลังข้าไปก็แล้วกัน”

บ้านของเลนตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ละแวกนั้นมีบ้านนับสิบๆ หลังตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ที่หน้าบ้านของเลนมีคู่ชายหญิงชรายืนรอการกลับมาของพวกเขาอยู่

“มารี เลน วิล เกิดอะไรขึ้นรึ!”

“ตายาย เข้าบ้านก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน” เลนหอบเด็กหนุ่มแปลกหน้าวิ่งเข้าไปในบ้าน นำไปวางลงข้างหน้าเตาผิงแล้ววิ่งไปรับน้องชายต่อจากมารดามาวางลงข้างๆ กัน

ภายในบ้านไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางอะไรนัก บนพื้นปูไว้ด้วยต้นข้าวแห้งๆ มีโต๊ะกับเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง

“ดูแลเขาที เดี๋ยวข้าดูแลวิลเอง” มาเรียบอกกับบิดามารดาของหล่อน

“เกิดอะไรขึ้นกันนี่” ชายชรารีบรุดไปหยิบฟืนใส่เตาผิง ส่วนหญิงชราตักซุปร้อนๆ ใส่ชามมาส่งให้

ลูคัสรับชามซุปมาถือไว้ มือของเขายังคงสั่นอยู่น้อยๆ จึงต้องค่อยๆ ยกชามขึ้นจิบ วินาทีแรกที่ลิ้นได้สัมผัสซุปเขาถึงได้รู้ว่าตนเองหิวโหยมากขนาดไหน เขาพยายามเป่าซุปให้เย็นลงแล้วยกขึ้นซดฮั่กๆ

“ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็สำลักหรอก”

“แค่กๆ” ไม่ทันขาดคำ เด็กหนุ่มก็สำลัก ไอโขลกจนตัวโยน

เลนช่วยลูบหลังให้เบาๆ “ดูท่าจะหิวมาก”

“งั้นกินซุปกับขนมปังหน่อยดีไหม” หญิงชราจ้องมองเด็กหนุ่มอย่างสงสาร หล่อนลุกไปตักซุปและหยิบขนมปังมาส่งให้ จากนั้นจึงขยับไปดูหลานชาย

วิลฟื้นตัวได้ไวกว่าลูคัสมากเพราะเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาในละแวกนั้น หลังจากดื่มซุปเข้าไปสักพักก็ดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติ เขาลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่มารดาสั่ง

“ไหนบอกข้าหน่อย เจ้าลงไปทำอะไรในน้ำน่ะวิล”

“ข้าจะไปจับปลาให้ยาย เห็นยายบ่นอยากกินปลา แต่เบ็ดมันติด ข้าเลยลงไปดู แล้วขาก็ชา เจ็บไปหมด ขยับไม่ได้เลย ปลาก็หลุด เบ็ดก็หาย” เด็กชายตอบเสียงสลด

“เกือบตายแล้วไหม โชคดีของเจ้าที่เขามาเห็นทัน”

“ขอบคุณ” เด็กชายหันไปบอกกับผู้มีพระคุณของตน

“ที่แท้ก็คนที่ช่วยวิลไว้นี่เอง ขอบใจเจ้ามากนะ” ตายายพยักหน้าอย่างเข้าใจ

ลูคัสผงกศีรษะ ในปากยังมีขนมปังเต็มไปหมด เขายกชามซุปขึ้นซดตามอีกหลายๆ อึกใหญ่

ท่าทางของเด็กหนุ่มทำให้เลนหัวเราะออกมาเบาๆ “อร่อยหรือ”

“ครับ อร่อยมาก”

“เอาอีกไหม”

“เอาครับ”

หญิงชรายิ้มชอบใจ หล่อนรีบรุดไปตักซุปใส่ชามและหยิบขนมปังมาให้เด็กหนุ่มอีกก้อน “กินเสียให้อิ่มนะเจ้าหนู”

“เจ้ากินไปก่อน เดี๋ยวข้าจะไปหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน”

เสื้อผ้าที่เลนนำมาให้ใส่เหมือนกับตัวที่เขาใส่อยู่ เป็นเสื้อแขนยาวลำตัวยาว ไม่มีลวดลายใดๆ เนื้อผ้าหยาบๆ มีผ้าผูกเอวกับกางเกงผ้า รูปแบบคล้ายกับผู้ชายที่ลูคัสพบในปราสาท แต่ความหรูหราต่างกันลิบลับ

ลูคัสรับมาสวมแต่ก็ยังสวมสเวตเตอร์ทับไว้ จากนั้นจึงมานั่งลงที่หน้าเตาผิงร่วมกับทุกคน

“เอาล่ะ เจ้าชื่ออะไร”

“ลูคัส”

“ข้าชื่อเลน นี่มาเรียแม่ข้า คนที่เจ้าช่วยไว้เป็นน้องของข้าชื่อวิล แล้วนั่นก็ตากับยาย”

ลูคัสฟังคำพูดอีกฝ่ายไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขาควรจะต้องยอมรับว่าตัวเองหลงมาอยู่ในยุคโบราณใช่ไหมนะ นี่คงไม่ใช่การเล่นตลกของใคร

“เจ้ามาจากเมืองอะไรนะ”

“บ้านเกิดผมอยู่ที่มิวนิค อยู่ไกลจากที่นี่มาก”

ทุกคนในบ้านหันไปมองหน้ากัน “ไม่เคยได้ยิน คงจะไกลมากจริงๆ คนที่นั่นหน้าตาเป็นแบบเจ้ากันหรือ”

“หน้าตา?” ลูคัสขมวดคิ้ว “อ๋อ ไม่หรอก ผมเป็นลูกครึ่งน่ะ”

“ลูกครึ่ง? คืออะไรน่ะ”

“ก็พ่อผมเป็นชาวยุโรป แม่ผมเป็นชาวเอเชียไงครับ”

คำตอบของเด็กหนุ่มทำให้ทุกคนงุนงงหนักเข้าไปใหญ่ แต่พวกเขาก็เดาเอาว่า ยุโรป กับ เอเชีย ที่อีกฝ่ายพูดถึงคงจะเป็นชื่อเมืองที่อยู่ไกลๆ เฉกเช่นมิวนิคกระมัง

“พอผมมาถึงที่นี่ก็ดันหลงเข้าไปในปราสาท แล้วก็เจอพวกทหารไล่กวดออกมา”

“เจ้าเดินอีท่าไหนกันถึงหลงเข้าไปที่นั่นได้น่ะ ไม่ถูกทหารฆ่าตายก็ดีนักหนาแล้ว” เลนตบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ “ก่อนหน้าที่ปราสาทนั่นมีทหารเฝ้ายามอยู่แค่ไม่กี่คน แต่เมื่อไม่กี่วันมานี่ ท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์กับกองทัพของท่านเพิ่งเดินทางมาถึง ได้ยินว่าองครักษ์ของท่านเป็นทหารฝีมือดีอันดับต้นๆ ของแคว้น เจ้าโชคดีมากที่รอดมาได้นะ”

นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง “ลอร์ด... ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์”

“ใช่ ผู้ครองเมืองแบร์กไฮม์อย่างไรกันล่ะ”

“ถ้างั้นปราสาทนั่นชื่อ...”

“ปราสาทแห่งแบร์กไฮม์ ข้าได้ยินว่าแต่เดิมเป็นของท่านอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กนะ ท่านคงยกให้เป็นที่พักของท่านลอร์ด”

ลูคัสนึกย้อนไปถึงคริส เพื่อนร่วมงานนักโบราณคดีของเขา หล่อนเคยพูดไว้ว่าปราสาทนี้แต่เดิมชื่อปราสาทแห่งแบร์กไฮม์ แล้วมาเปลี่ยนชื่อเป็นปราสาทแห่งไฮเดลแบร์กทีหลัง

แล้วมีอาร์ชดยุก มีลอร์ด มีผู้ครองเมือง... “นี่มันคือยุคกลางหรือเปล่า ศตวรรษที่เท่าไหร่กันเนี่ย”

“เจ้าพูดอะไรน่ะ” เลนขมวดคิ้ว “ภาษาแบบบ้านเกิดเจ้าหรือ”

“เอ่อ จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

“มิน่าเล่า เจ้าถึงได้พูดจาแปลกๆ”

“แล้วเจ้าจะไปไหนต่อ” มาเรียซักบ้าง

“ผม...” ลูคัสก้มหน้าลงมองพื้น เขานิ่งไปสักพักจึงตอบเสียงเศร้า “ผมไม่รู้ครับ” เขาไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี “จะกลับบ้านก็ไม่รู้จะกลับยังไง” ป่านนี้บิดามารดาและพี่ชายจะรู้ข่าวของเขาแล้วหรือยัง จะออกตามหากันวุ่นวายไหม

ชายชราลูบศีรษะเด็กหนุ่มด้วยความสงสาร “เจ้าจะอยู่ที่นี่ไปสักพักก็ได้ บ้านคับแคบไปสักหน่อย แต่ก็พอมีที่ว่างให้อีกสักคน”

“จริงหรือ ผมอยู่ที่นี่ได้หรือ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมาก”

“แต่เจ้าต้องระวังตัวด้วยนะ แถวนี้มีโจรบุกเข้ามารังควานอยู่บ่อยๆ”

“โจร?”

“ใช่ พวกมันบุกมาปล้นเงินทอง เสบียงอาหารบ้าง เครื่องประดับบ้าง มีของดีอะไรพวกมันก็ขโมยไปหมด”

สีหน้าของเด็กหนุ่มเจื่อนลงเล็กน้อย ก็นั่นสินะ ไม่ว่ายุคไหนๆ ก็มีคนร้าย คนที่เอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่าด้วยกันทั้งนั้น “...ครับ ผมจะระวัง”

ภายในบ้านมีห้องแคบๆ อยู่อีกสองห้อง ใช้เป็นที่หลับนอนของครอบครัว ห้องหนึ่งเป็นของตายายกับมาเรีย ดังนั้นอีกห้องจึงเป็นของเลน วิลและลูคัส

สภาพห้องนอนที่ไม่เหมือนห้องนอนเอาเสียเลยส่งผลให้เด็กหนุ่มทอดถอนใจออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ต่างจากที่คาดไว้มากนัก พวกเขาใช้ฟางปูพื้น มีผ้าปูทับเป็นที่นอน มีผ้าห่มเก่าๆ หลายผืนไว้ให้ห่มซ้อนๆ กัน อากาศในเวลากลางคืนเย็นจัด ก่อนจะนอนต้องใส่ฟืนในเตาผิงเพิ่มไว้ เมื่อเอนหลังลงนอนแล้วเขาก็ปิดตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน

 
*~TBC~*


ว้ายๆ ปู้จายเขาได้เจอกันแหล่วคร่าาา ตอนนี้เจอกันแป๊บเดียว เอาไว้ตอนหน้าๆๆๆๆๆๆ จะเจอกันเยอะๆ นะคะ กรั่กกก

จริงๆ ความแตกต่างของภาษาของสองยุคคงจะต้องมีมากกว่านี้แหละค่ะ แต่เอาแค่นี้ละกันนะคะ 55555 ถือว่าเขาเขียนอ่านภาษาเดียวกันก็พอ ฮัสกี้จะได้ไม่งงล่วย 55555 /เล่นง่ายจิมๆ

หนูลูคัสถูกพามายุคอดีตแล้ว จำไม่ได้ซะด้วยมาใครเรียกมาพามา อิทั่นหลอดที่เรียกมาก็ไม่รู้ น่าสงสารชิมิคะ  :mew6:
ยังไงก็รอติดตามกันต่อนะคะ ว่าหนูลูคัสจะพิชิตใจทั่นหลอดยังงอยยย 5555

ขอบคุณทุกคนมากค่า จุ๊ฟฟฟฟ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-11-2016 10:18:13
นั่นสิ ใครเรียกมากันนะ พอเรียกเขามาแล้วก็ไม่มาดูแล ฮา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 03-11-2016 11:22:35
เจอกันแล้วววว อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-11-2016 12:51:18
         :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 03-11-2016 14:23:49
^
^
^
จิ้มกลางทวารทะลุ 3 เม้น!!  :a9: :a9:
มากลางวันแสกแสก!! แห่ๆๆๆ  :angry2: :angry2: แถมมาน้อยอีก!! แห่ๆๆๆ :m31: :m31: ไม่ให้อภัยท่านหรอกท่านเซอร์ฮัสกี้ ตอนหน้าต้องมาเยอะๆด้วย!!! o11 o11 แต่นี่ผมทายถูกสินะเนี่ย ลูคัสย้อนอดีต เซอร์ฮัสกี้มาต่อใน 2 วัน 5555
:a1: แล้วข้าจะรอตอนต่อไปของเจ้า Sir Huskyhund... :a1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-11-2016 16:05:35
ลูคัสจะทำไงต่อละเนี่ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-11-2016 17:10:52
จริง ๆ ไม่ใช่ว่าท่านลอร์ดจะไม่ดูแลนะ
แต่ลูคัสวิ่งเร็วเกิ๊น! ท่านลอร์ดแก่แล้ววิ่งตามไม่ทัน
ฮ่าฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 03-11-2016 20:41:30
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 03-11-2016 22:12:17
แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา.... เพลงนี้รอยเข้ามาในหัว 5555555
แหม ตัวเองเรียกเขามาแท้ๆ ทำมาเป็นถามเจ้าเป็นใคร

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: ploysure ที่ 04-11-2016 09:48:33
จิ้มมาตามชื่อคนเขียน  :z13:
อ๋อยยยเพิ่งเริ่มเรื่องเอง จะเป็นยังไงต่อไปนะลูคัส
อีกกี่ตอนกว่าเค้าจะได้อยู่ด้วยกันคะ ทนรอไม่ไหวแล้วววว อยากรู้จักคุณคาร์ลค่า :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-11-2016 13:29:21
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-11-2016 15:42:42
เพิ่งเห็น คราวนี้มาแบบย้อนยุคเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-11-2016 22:43:27
สู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 06-11-2016 21:11:15
ติดตามน๊า สนุกดี
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 06-11-2016 21:30:22
สนุกจังครับ
ยังไม่เคยอ่านเรื่องที่ย้อนมาโผล่ยุคกลางแบบนี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 07-11-2016 11:41:43


Chapter 4 : โจรร้าย


สองวันผ่านไป ลูคัสเริ่มทำใจกับการหลงมาอยู่ผิดยุคของตนได้บ้าง เลนกับมาเรียพาเขาไปแนะนำให้เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ได้รู้จัก ซึ่งทุกคนก็ดูเป็นมิตรดี

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวและสะสมอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่จะต้องคัดเลือกพืชพรรณหรือสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดส่งให้กับผู้ครองเมือง คล้ายการจ่ายภาษีเฉกเช่นในปัจจุบัน

พื้นที่ปลูกข้าวสาลีของบ้านเลนเก็บเกี่ยวไปจนหมดแล้ว ช่วงนี้เด็กหนุ่มกับมารีจึงออกไปช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ปล่อยให้ลูคัสอยู่บ้านกับวิลและตายาย

ในคราวแรกลูคัสเสนอตัวจะไปช่วยด้วย หากตัวเขายังไม่หายไข้จากการที่ลงไปในน้ำเย็นเมื่อคราวก่อน แล้วตอนกลางคืนก็หนาวไม่ใช่น้อย ยารักษาโรคก็ไม่มี ทำให้อาการไข้หายช้ามากขึ้นไปอีก เลนจึงให้พักอยู่กับบ้านไปก่อน เขาขี้เกียจจะแบกเด็กหนุ่มขึ้นหลังกลับบ้านอีก ทุ่งของเพื่อนบ้านก็อยู่ไกลเสียด้วย

เด็กหนุ่มนั่งซึมกระทืออยู่ที่หน้าบ้าน มองชายชราตระเตรียมการถนอมเนื้อสัตว์เก็บไว้สำหรับฤดูหนาวไปพลางๆ เขารู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์เสียเหลือเกิน ช่วยอะไรใครก็ไม่ได้

พอวิลเห็นเข้าก็เดินเข้าไปหา “ลูคัส ออกมานั่งตากลมแบบนี้ เดี๋ยวก็ไข้ขึ้นอีกหรอก แม่บอกให้เจ้านอนพักในบ้านไม่ใช่หรือ”

“นอนจนเจ็บหลังไปหมดแล้วน่ะวิล”

“อดทนอีกหน่อย วันนี้พวกบ้านข้างๆ ออกไปหาสมุนไพรจากในป่ามาให้เจ้าได้แล้วน่ะ ยายเขากำลังต้มอยู่” ชายชราหัวเราะ

“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเท้าคาง

สายลมเย็นพัดวูบ พัดพาขนเป็ดขนห่านจากตรงที่ชายชรายืนอยู่มาร่วงหล่นตรงหน้า มือเรียวหยิบขนเป็ดขึ้นมาดู ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ เขาหันไปมองกองขนเป็ดขนห่านที่ถูกถอนทิ้งไว้กองใหญ่แล้วลุกขึ้นพรวด

“ตาครับ ขนพวกนั้นไม่ใช้แล้วใช่มั้ย”

“อื้ม มันกินไม่ได้นี่”

“งั้นขอผมนะ” ลูคัสยิ้มกว้าง รีบรุดเข้าบ้านไปขอเข็ม ด้ายกับผ้าห่มเก่าๆ จากยาย เขาเรียกวิลให้มาช่วยกันด้วย เด็กหนุ่มจัดการเย็บผ้าห่มสองผืนให้ติดกัน เหลือช่องว่างไว้ข้างใน จากนั้นจึงยัดขนเป็ดขนห่านใส่เข้าไปแล้วเย็บปิด

“เจ้าทำอะไรน่ะลูคัส” ตายายถามอย่างสงสัย

“ทำผ้าห่มของพวกเราไงครับ พวกเป็ดห่านเนี่ย มันมีขนไว้ปกป้องตัวเองจากความหนาวเย็น เพราะงั้นเราก็น่าจะเอาขนมันมาใช้ให้ความอบอุ่นกับเราได้”

คืนนั้นทุกคนในบ้านได้ทดลองใช้ผ้าห่มผืนใหม่ แม้จะแปลกๆ เมื่อจับโดนส่วนแข็งของปีก แต่ก็ให้ความอบอุ่นแล้วก็มีน้ำหนักเบามากกว่าการใช้ผ้าห่มหลายๆ ผืนหรือฟางสุมทับ พวกเขาต่างชื่นชมความคิดของลูคัสจึงนำไปแนะนำให้เพื่อนบ้านลองทำตาม หลังจากนั้นก็ได้ขนมปังกับอาหารติดมือกลับมาฝากเด็กหนุ่มมากมาย


วันถัดมาเมื่อลูคัสอาการดีขึ้นมากแล้ว เขาชวนวิลไปริมแม่น้ำพร้อมกับนำกระสอบติดมือไปด้วย

“ลูคัส เจ้าทำอะไรน่ะ” วิลเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บก้อนหินขนาดเท่ากำมือมาจากในแม่น้ำ

“เก็บหินไง เดี๋ยวคืนนี้จะสอนทำอะไรดีๆ มาช่วยกันขนไปที่บ้านก่อนนะ”

หลังจากเดินไปเดินมากันอยู่หลายรอบก็ได้หินมากองโต พอตกเย็นเด็กหนุ่มก็จัดการนำหินเข้าไปจัดเรียงในเตาไฟ ซึ่งทุกคนก็รอดูกันอย่างสนใจ

“พอหินร้อนแล้วก็เอาออกมาใส่ห่อผ้า เอาใส่ไว้ใต้ผ้าห่มตอนกลางคืนจะได้อุ่นๆ คล้ายๆ กระเป๋าน้ำร้อนไงครับ”

“กระเป๋าน้ำร้อน?”

ลูคัสหัวเราะเบาๆ “เอาน่ะ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าคืนนี้อุ่นแน่ๆ เชื่อผม”

ความคิดของเด็กหนุ่มเป็นที่นิยมของชาวบ้านในละแวกนั้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูคัสเป็นที่รู้จักและชื่นชมของคนในหมู่บ้าน เมื่อหายไข้ดีเขาก็คิดหาวิธีใหม่ๆ ที่จะทำให้ตัวเองเป็นประโยชน์กับทุกคนได้อีก เพื่อตอบแทนที่ให้เขาซุกหัวนอนและมีอาหารรับประทาน แล้วก็เพื่อตอบแทนคนในหมู่บ้านที่แบ่งปันอาหารกับสมุนไพรมาให้เขาอยู่บ่อยๆ

การเริ่มต้นชีวิตในยุคโบราณของลูคัสเกือบจะเป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าหากไม่มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นเสียก่อน


ในคืนที่เงียบสงัด ลูคัสนอนหลับสบายอยู่ในที่นอนอบอุ่น หากจู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะมีเสียงกรีดร้องดังก้อง คละเคล้ากับเสียงม้าและเสียงฝีเท้าหนักๆ ของมัน เด็กหนุ่มลุกขึ้นพรวด ทำท่าจะเดินออกไปดู หากถูกเลนคว้าแขนไว้ก่อน

“อยู่นิ่งๆ อย่าออกไป”

“เกิดอะไรขึ้นน่ะเลน”

เสียงหวีดร้องและร่ำไห้แว่วเข้ามาในโสตประสาท ลูคัสหน้าซีดเผือก เขาประสานสายตากับเลนอย่างไม่เข้าใจ

แววตาของเลนฉายแววเศร้าสลด สีหน้าโกรธแค้น เขากัดฟันกรอด มือกร้านกำท่อนแขนลูคัสไว้แน่นอย่างลืมตัว

“เลน”

“ครั้งหน้าคงถึงคราวบ้านข้า”

“อะไรน่ะ ถึงคราวอะไร”

“พวกโจร... มันบุกมาปล้นเงินทองกับเสบียง”

ลูคัสอ้าปากค้างอยู่สักพัก “พวกมันจะฆ่าใครมั้ย”

“ถ้าขัดขืนมันก็ฆ่า แต่ถ้าไม่ขัดขืน พวกมันเอาเงินไปพวกข้าก็อดตาย เอาเสบียงที่ต้องส่งให้ทางการไป พวกข้าก็ตายอยู่ดี เจ้าก็เห็นว่าคนในหมู่บ้านข้าเหลือน้อยมากแค่ไหน”

เด็กหนุ่มนิ่งอึ้ง ลืมตัวไปเสียสนิทว่าตนเองหลงมาอยู่ในยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน แล้วมีดดาบอะไรที่พอจะใช้ป้องกันตัวได้ก็ใช้ไม่เป็น

“นอนเถอะลูคัส พรุ่งนี้ยังมีเรื่องเศร้ารออยู่อีก”

“เรื่องเศร้าอะไร”

“เดี๋ยวเจ้าก็จะได้เห็น” เลนเอนหลังลงนอนแล้วพลิกตัวหันหน้าออกจากอีกฝ่าย เป็นเชิงบอกว่าเขาไม่อยากพูดถึงอะไรอีกแล้ว

..

....

...

ในตอนเช้าตรู่ของวัน นายทหารคนหนึ่งรีบรุดเข้ามาหาหัวหน้ากองของเขาในขณะที่กำลังประชุมอยู่กับลอร์ดหนุ่ม “ม้าเร็วรายงานเข้ามาว่าพวกทหารลาดตระเวนพบกลุ่มกองโจรแถวชายแดนทางใต้ และจับตัวไว้ได้ทั้งหมดห้าคน ตอนนี้กำลังพาตัวมาที่นี่”

หัวหน้าทหารพยักหน้า “ดีมาก เอาพวกมันไปขังไว้ในคุกก่อน อาจจะใช้ประโยชน์อะไรจากพวกมันได้”

ทหารอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้น “ท่านว่าไอ้คนที่ลอบเข้ามาในปราสาทจะเป็นพวกเดียวกันไหม มันอาจมาดูลาดเลาแล้วไปบอกพวกพ้องมัน”

“เป็นไปได้ มันหนีไปได้รวดเร็วขนาดนั้น น่าจะรู้ที่ทางดี คงเคยมาสอดส่องหลายครั้งแล้ว”

“ส่งทหารไปตามหาตัวมัน ถ้าเจอก็ฆ่าเสีย! มันบุกรุกเข้ามาในปราสาท โทษของมันคือประหาร!”

ลอร์ดหนุ่มที่นั่งนิ่งฟังรายงานอยู่บนเก้าอี้ไม้ยกมือขึ้นลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มที่เขาได้พบ จะว่าไปก็ท่าทางคล่องแคล่วมากจริงๆ พูดจาก็แปลกๆ ดูน่าสงสัยไม่ใช่น้อย หากดวงตาที่เขาได้สบประสานคู่นั้น... ดูไร้เดียงสาเกินกว่าจะเป็นดวงตาของโจรผู้ร้าย

“จับตัวมาก็พอ”

“ท่านลอร์ด?” หัวหน้านายทหารหันขวับ

“ท่านคาร์ล” องครักษ์ทั้งสองก็เช่นกัน “มันจะไม่อันตรายไปหรือ ถ้าหากมันรู้ที่ทางภายในปราสาทนี่ ”

คาร์ลนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาได้พบกับเด็กหนุ่มแปลกหน้า เขาคิดว่าถ้าเป็นโจรอย่างน้อยก็ต้องมีอาวุธติดตัวบ้าง แล้วตอนที่พบกับเขาดูท่าทางเหมือนกระต่ายตื่นคน ดูยังเป็นเด็กที่ไม่ประสีประสา ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมาย ใจเขาเพียงแค่ไม่ต้องการพรากชีวิตคนบริสุทธิ์ก็เท่านั้น ถ้าหากเขาเห็นชีวิตคนเป็นเหมือนผักปลา เขาก็ไม่ต่างอะไรกับพวกโจรเลยแม้แต่น้อย

“ข้าต้องการคุยกับเขา”

คำพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบของผู้เป็นนาย หากนายทหารรับรู้ได้ถึงความเฉียบขาด พวกเขาไม่กล้าคัดค้านหรือขัดคำสั่งอย่างแน่นอน “ขอรับ ท่านลอร์ด”

“เตรียมม้าหน่อยซิ”

คอนราดหันขวับ “ท่านจะไปไหนหรือ”

“ข้าจะไปตรวจดูในเมืองสักหน่อย”

...

......

...


เมื่อยามเช้ามาถึง ลูคัสก็เข้าใจสิ่งที่เลนบอกกับตนเองเมื่อคืน

เพื่อนบ้านคนที่เคยนำสมุนไพรมาส่งให้ยามที่เขาป่วยถูกโจรฆ่าตาย เหลือเพียงชายชรากับเด็กเท่านั้น หากโชคชะตายังกลั่นแกล้งไม่พอ เนื่องจากพวกทหารมารับเสบียงตามกำหนด หากเสบียงที่จัดเตรียมไว้สำหรับส่งให้กับผู้ครองเมืองถูกพวกโจรขนเอาไปจนหมดแล้ว เงินทองก็ไม่เหลือไว้ให้สักเหรียญเดียว

เด็กหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกับทุกคนในบ้าน เขารับประทานอะไรไม่ลง ได้ยินแต่เสียงร่ำไห้ของเพื่อนบ้านตลอดเวลา “เราจะไม่ออกไปดูเขาหน่อยหรือครับ”

ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ “ออกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว”

ลูคัสได้ยินเสียงตะคอกของพวกทหารชัดเจนทุกคำพูดทุกประโยค ในเมื่อไม่มีเสบียงส่งให้กับผู้ครองเมือง โทษก็คือตาย มันสมควรแล้วหรือ

มือเรียวกำแน่นจนเกร็งไปทั้งท่อนแขน เขาลุกขึ้นแล้ววิ่งพรวดออกไปโดยที่ไม่มีใครห้ามทัน

ภาพเบื้องหน้าชวนให้รู้สึกสลด ศพของเพื่อนบ้านชายหญิงยังนอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าบ้าน เหลือเพียงชายชรากับหลานอีกสามคนที่กอดคอกันร้องไห้อยู่ตลอดเวลา หากพวกทหารก็ยังตะคอกต่อว่า เร่งให้ไปหาเสบียงมาส่งให้ ในมือก็ถือดาบตวัดไปมาเพื่อขู่ชายชราอยู่ตลอด

“พวกคุณจะบ้ารึไง ไม่เห็นหรือว่าเกิดอะไรขึ้น” ลูคัสถลาเข้าไปขวาง ในขณะเดียวกันที่บ้านของลูคัสก็วิ่งเข้ามาสมทบ เลนรั้งแขนของเด็กหนุ่มไว้ ทว่าไม่เป็นผล ลูคัสตะโกนใส่พวกทหารเสียงดัง “พวกเขาถูกปล้น มีคนตายนอนอยู่ตรงนั้นทนโท่ ตาบอดรึไงน่ะ”

“ไอ้เด็กนี่! มันเป็นหน้าที่ของพวกเจ้าที่ต้องส่งเสบียงให้กับท่านลอร์ดไม่ใช่รึ!”

“แล้วมันไม่ใช่หน้าที่ของท่านลอร์ดหรือ ที่จะต้องปกป้องพวกเราจากโจรน่ะ!” เด็กหนุ่มเถียงกลับไปเสียงดัง

วินาทีนั้นพวกทหารเงียบกริบไปชั่วครู่ เพราะไม่เคยมีใครต่อกรด้วยเช่นนี้ พอตั้งหลักได้ก็เงื้อดาบในมือขึ้น “ไอ้เด็กเวรนี่! ปากดีนักก็อย่าอยู่เลย”


“หยุด!”

พวกทหารชะงัก หันขวับไปทางต้นเสียงแล้วค้อมศีรษะลง “ท่านเออร์วิน”

องครักษ์หนุ่มพูดเสียงเข้ม “ท่านลอร์ดสั่งพวกเจ้าไว้ว่าอย่างไร ท่านไม่ให้ทำร้ายชาวบ้านไม่ใช่รึ!”

“แต่พวกมันทำผิด ไม่มีเสบียงส่งให้ตามกำหนดขอรับ”

เออร์วินกวาดสายตามอง เขาพอจะคาดเดาสถานการณ์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในที่แห่งนี้ “ไอ้พวกโจรมาที่นี่หรือ”

ชายชราพยักหน้าตอบอย่างหวาดกลัว เสียงร้องไห้ของพวกเด็กๆ ดังระงมไปหมด

ลูคัสจ้องมององครักษ์หนุ่มบนหลังม้าเขม็ง คนคนนี้ดูเป็นคนมีเหตุผล พวกทหารให้ความเคารพเชื่อฟังก็น่าจะมียศสูง ทำให้เขานึกไปถึง...

“มีอะไรหรือเออร์วิน”

เสียงนี้... ถึงจะเคยได้ยินแค่ไม่กี่ประโยค แต่เขาจำได้แม่นเลย! ลูคัสก้มหน้าลงแล้วถอยไปหลบหลังเลนทันที

ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์อยู่ในเสื้อคลุมที่มีหมวกคลุมศีรษะสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาถูกซ่อนจนเกือบมิดชิด เขาขี่ม้าสีดำเดินเข้ามาช้าๆ พร้อมกับองครักษ์อีกคนและทหารกลุ่มใหญ่ ลอร์ดหนุ่มมาตรวจตราดูความเรียบร้อยของหมู่บ้านนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่อยู่ไกลจากปราสาทมากที่สุด

“มีพวกโจรบุกเข้ามาที่นี่เมื่อคืนขอรับท่านคาร์ล”

ท่าทางของลอร์ดหนุ่มบนหลังม้ายังคงสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง เขาหันมองไปทางชายชรา ซึ่งอีกฝ่ายยังไม่ทันได้สบสายตาก็รีบก้มหน้าลงมองพื้น หวาดกลัวเขาจนตัวสั่น

“ข้าจะจัดการกับโจรพวกนี้ให้ได้ ข้าสัญญา”

ชายชราชะงัก ก่อนจะผงกศีรษะหลายๆ ครั้ง คำพูดของลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ราวกับต้องการจะปลอบใจครอบครัวของเขาและพวกชาวบ้านในละแวกนั้น

“แล้วเรื่องเสบียง... จะทำอย่างไรดี” เออร์วินหันไปถาม

“ครั้งนี้ข้าจะละเว้นให้” คาร์ลตอบพลางกระตุกบังเหียนม้าให้มันเดินออกไป ทว่าสายตากวาดมองไปพบกับคนที่มีสีผมคุ้นตา สีดำราวกับสีของรัตติกาล ชาวไฮเดลแบร์กส่วนใหญ่ไม่มีผมสีเข้มเช่นนี้

“เจ้า”

ลูคัสสะดุ้ง แต่ก็ยังนิ่งเฉย

“เจ้าคนที่มีผมสีดำนั่น มาหาข้าหน่อยสิ”

สายตาทุกคู่มุ่งตรงไปยังเด็กหนุ่ม เขาก้มงุดซุกแผ่นหลังของเลน สองมือขยุ้มเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่น

“ท่านลอร์ดสั่งไม่ได้ยินรึไง”

ทหารคนหนึ่งเดินตรงเข้าไปกระชากแขนเด็กหนุ่มออกมา “ไปหาท่านลอร์ดเดี๋ยวนี้!”

“เฮ้ย ไอ้เจ้านี่” ทหารอีกคนชี้มาที่ลูคัสแล้วร้องลั่น “ไอ้โจรที่ลอบเข้ามาในปราสาทนี่”

“จับตัวมันไว้!”

“ลูคัส!” มารีหวีดลั่น หล่อนถลาเข้าไปกอดเด็กหนุ่ม ส่วนเลนก็วิ่งเข้าไปขวางหน้า “เขาเป็นแค่คนต่างเมืองเท่านั้น! ไม่ใช่โจร!”

“ลูคัสเป็นแค่เด็กหลงทาง! ท่านลอร์ดได้โปรดกรุณาด้วย”

“เขาเข้าไปในเขตปราสาท มีความผิดมากนัก พวกเจ้ารู้ใช่หรือไม่” คอนราดตอบแทนนายของตน

“แต่ลูคัสไม่ได้ตั้งใจนะเจ้าคะ เขาเป็นคนต่างเมืองที่หลงทางมาเท่านั้น”

ชายชราเพื่อนบ้านพูดบ้าง “ท่านผู้สูงศักดิ์ ลูคัสเป็นเด็กดี เขาช่วยเหลือพวกข้าไว้หลายอย่าง ได้โปรดเมตตาเขาเถิด”

“หลงเข้ามาในปราสาทเนี่ยนะ เชื่อก็บ้าแล้ว” นายทหารหัวเราะพร้อมกับฉุดกระชากแขนเด็กหนุ่มเข้าไปหาผู้เป็นนายตน

“อย่า!” เลนดึงแขนเรียวอีกข้างไว้ เมื่อทหารเห็นก็ง้างเท้าขึ้นถีบให้เด็กหนุ่มชาวบ้านหงายหลัง

“เลน!” ลูคัสร้องลั่น เขาสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของนายทหาร “ปล่อย! ผมไปก็ได้!”

ลูคัสเดินไปหยุดยืนก้มหน้านิ่งอยู่ที่ข้างหน้าม้าสีดำสนิท ใจนึกถึงบิดามารดาและพี่ชาย เขาคงจะไม่ได้พบกับทุกคนอีกแน่แล้ว

“ข้ามีเรื่องต้องการคุยกับเจ้า”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น แววตาฉายแววแข็งกระด้าง “ก็คุยมาสิครับ”

ลอร์ดหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก เขารู้สึกชอบใจ ถูกชะตากับเด็กหนุ่มอย่างประหลาด “พาเขาไปที่ปราสาท”

“ทำไมต้องไปที่นั่น คุยที่นี่ก็ได้”

“เจ้าบังอาจนัก!” นายทหารใช้ฝักดาบในมือฟาดลงบนหลังของลูคัสอย่างแรงจนเด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง

“โอ๊ย! มันเจ็บนะโว้ย!”

“ปากดีนัก!”

“หยุด” คาร์ลพูดเสียงเรียบ “หน้าที่ของพวกเจ้าคือพาเขาไปที่ปราสาท” จากนั้นจึงขี่ม้าออกไปพร้อมกับองครักษ์และทหารของตน

มารีและตายายร้องไห้ระงม พวกเขาไม่รู้จะทำเช่นไร ได้แต่บอกลูคัสว่าอย่าขัดขืน เดี๋ยวจะโดนทำร้ายอีก

เด็กหนุ่มไม่มีทางเลือก เขากัดริมฝีปากจนห้อเลือด เจ็บกายที่ถูกทำร้าย เจ็บใจที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีน้ำตาใดๆ ร่วงหล่นลงมาจากดวงตาสีเข้ม

พวกทหารมัดมือมัดเท้าเขาแล้วจับโยนใส่รถม้าขนเสบียง ทำเหมือนตัวเขาเป็นสิ่งของไม่มีชีวิต จากนั้นก็มุ่งตรงกลับไปยังปราสาทตามคำสั่ง


*~TBC~*


สวัสดีวันจันทร์ค่าาา ฮัสกี้พาหนูลูคัสมาส่งแล้วว

สองหนุ่มได้พบกันครั้งที่สองแล้วนะคะ แต่อิตาทั่นหลอดนี่ใจร้ายจิมๆ ทำน้องเจ็บ! เดี๋ยวจะโดนฮัสกี้จัดการแน่นวล!

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ ฮืออออ  ดีใจจจจ :mew6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 07-11-2016 12:15:16
^
^
^
จิ้มๆๆ วันนี้จิ้มทัน เย้ๆ
ท่านหลอดกับทหารใจร้าย บังอาจนักที่มาทำร้ายลูคัสผู้ใสซื่อ ท่านเซอร์ฮัสกี้โปรดลงโทษมนุษย์พวกนั้นด้วยเถอะขอรับ :fire:
แล้วข้าจะคอยติดตามอนาคตของลูคัส ท่านหลอด ชาวเมือง และผู้เกี่ยวข้องต่างๆต่อไป  :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 07-11-2016 13:43:07
กรี้ดดด ทำไมต้องทำรุนแรงด้วยถึงกับต้องมัดมือมัดเท้า นี่ว่าที่เมียหลอดนะ!! เดี๋ยวเจอสั่งประหาร(?)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-11-2016 13:55:26
อย่าใจร้ายมากนักน้าา ท่านลอร์ดดด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-11-2016 14:07:08
ทำกันรุนแรงแบบนี้ท่านลอร์ดระวังเจอเอาคืน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 07-11-2016 15:20:35
ใจเย็นนะลูคัส ท่านลอร์ดยังไม่รู้จัก
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-11-2016 20:29:41
อีท่านหลอดดูดน้ำใจร้ายไปไหนเจ้าค้าาาา :ling1: :ling1:
ลูคัสจำไว้นะพออีตาหลอดดูดหลงรักแล้วแกล้งให้ตายให้เหมือนโสรยาในจำเลยรักเลยนะ
แหมๆๆพอเค้าอยู่อีกโลกก็ร้องเรียกให้เค้ากลับมาพอเค้ากลับมาแล้วทำไมทำแบบนี้เพค้าาท่านหลอดดูด
#รออ่านอีกนะเป็นกำลังจายให้น้าาา :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-11-2016 21:02:09
เคืองทหารท่านลอร์ดอ่ะ !!!!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-11-2016 21:08:14
ตกลงโจรร้ายคือท่านลอร์ดที่มาปล้นน้องลูคัสสินะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 07-11-2016 21:33:44
ใจร้ายกันจริงๆแต่ละคน ท่านลอร์ดก็เข้มซะเหลือเกิน หมั่น
แต่ใครเรียกลูคัสมากันนะ ถ้าท่านลอร์ดไม่ได้เรียก แล้วลูคัสตามเสียงใครมากันแน่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 07-11-2016 23:59:44
จะรุนแรงไปไหน ทั้งเจ้านาย(ท่านลอร์ด)และลูกน้อง(ทหาร) :m16:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 08-11-2016 22:46:00
แหงะ.. จับไปแล้ว... ลูคัสคนเก่งของเจ๊
ตาหลอดนี่จะเอายังไงทำไมให้ลากกลับปราสาทแบบนั้นสงสารลุค โดนมัดมือมัดเท้าเลย แถมทางอีกตั้งไกล
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-11-2016 13:55:53
เดะก้อหลงลูคัส อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: mirage ที่ 09-11-2016 20:10:02
บรรยายได้เห็นภาพเลยค่ะ
ติดตามค่ะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 10-11-2016 10:27:46


Chapter 5 : คุก


เมื่อไปถึงปราสาท ลูคัสถูกทหารนำไปขังไว้ที่คุกใต้ป้อมของกำแพงปราสาททางทิศตะวันออก เขาเดินผ่านห้องที่มีลูกกรงสัมฤทธิ์เป็นซี่ๆ ไปทีละห้อง จนถึงห้องที่อยู่ข้างในสุด

“ท่านลอร์ดสั่งให้เจ้าอยู่ที่นี่”

ห้องที่ใช้ขังลูคัสดีกว่าห้องอื่นนิดหน่อยตรงที่มีหน้าต่างลูกกรงให้แสงสว่างส่องเข้ามาถึง อยู่ใกล้กับเตาผิง มีกองไม้และกองฟางกับผ้าห่มให้ใช้หลับนอน

เด็กหนุ่มตวัดสายตามองทหารที่พามาแล้วบ่นในใจ

มีเรื่องจะคุย แล้วทำไมต้องเอามาขังคุกด้วยล่ะ โคตรย้อนแย้งเลย!

จากนั้นจึงนั่งลงบนกองฟางอย่างอ่อนแรง

นั่งไปสักพักก็มีเสียงฝีเท้าคนกับเสียงพูดคุยกันดังอื้ออึง เขาชะเง้อมองลอดซี่ลูกกรงออกไป เห็นพวกทหารพาคนมากลุ่มหนึ่ง เนื้อตัวสกปรกมอมแมม หนวดเครายาวเฟิ้ม คนกลุ่มนั้นทั้งดิ้นต่อสู้ สบถและถุยน้ำลายใส่พวกทหารอย่างหยาบคาย อีกฝ่ายก็ตอบโต้ด้วยการทุบตี แล้วขังไว้ในคุกเดียวกันทั้งหมด

“ระวังให้ดีเถอะ ตาย! พวกแกทุกคนต้องตาย แล้วข้าจะถลกหนังหัวพวกเจ้ามาทำเสื้อผ้าใส่!” คนพวกนั้นตะโกนไล่หลัง พอกลุ่มทหารออกไป พวกเขาก็หันมาแสยะยิ้มให้กับเด็กหนุ่ม

ลูคัสเสียวสันหลังวาบ นึกขอบคุณพระเจ้าที่เขาไม่ต้องอยู่รวมกันกับคนกลุ่มนั้น ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะถูกฆ่าตายก่อนได้คุยกับไอ้ท่านหลอดดูดน้ำอะไรนั่น

ลูคัสนั่งๆ นอนๆ ฟังกลุ่มคนในคุกใกล้ๆ พูดคุยกันไปเรื่อยๆ แต่ฟังอยู่นานก็ยังไม่เข้าใจ เขาคิดว่าคนพวกนี้น่าจะตั้งใจเรียงประโยคให้ผิดและใช้คำแปลกๆ คล้ายกับการใช้รหัสในการเจรจา

มือเรียวหยิบเศษไม้ขึ้นมาแล้วเขียนประโยคที่ได้ยินลงบนพื้นไปเรื่อยๆ

เมื่อถึงเวลาเย็น พวกทหารกลับมาที่คุกอีกครั้งเพื่อมาพาตัวลูคัสออกไป เด็กหนุ่มถูกพาไปยังลานโล่งข้างหน้าปราสาท ซึ่งลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ยืนรออยู่ที่นั่น เขามีองครักษ์สองคนยืนรักษาการณ์อยู่ข้างกาย ส่วนพวกทหารคนอื่นๆ ถอยไปยืนอยู่ห่างๆ

ลอร์ดหนุ่มพิจารณาคนที่เพิ่งถูกพาตัวมาจากศีรษะจรดปลายเท้าอยู่สักพัก ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เจ้าเป็นใคร จะบอกข้าได้หรือยัง”

“ผมชื่อลูคัส มาจากมิวนิค เป็นเมืองที่อยู่ทางทิศตะวันออกของที่นี่ ไกลออกไปมากๆ” ลูคัสเลือกให้คำตอบแบบเดียวกันกับที่ตอบชาวบ้าน ก็พวกเขายังเชื่อเลยนี่นา

“ไกลมาก? ถึงโรมไหม ข้าได้ยินว่าชาวเมืองที่นั่นมีผมสีเข้มเหมือนเจ้า”

“ไม่ถึงครับ ไม่ถึงครึ่งทางจากที่นี่ไปโรมด้วยซ้ำ”

“เจ้าเดินทางมาที่นี่ได้อย่างไร”

“ก็นั่งรถมาเรื่อยๆ”

คาร์ลขมวดคิ้ว “นั่งรถ? รถม้างั้นรึ? แล้วเจ้าเข้ามาในปราสาทของข้าได้อย่างไร ทำไมไม่มีใครเห็นรถของเจ้า”

“ผมก็ไม่รู้ ผมหลงทางมา”

“ตอนนั้นเจ้าไม่ได้บอกกับข้าเช่นนี้นี่”

“คุณคงเข้าใจผิด เพราะภาษาพูดของคนต่างถิ่นอย่างผม ผมหลงทางมาจริงๆ ไม่ได้จะมาขโมยอะไร คุณก็เห็นไม่ใช่หรือว่าตอนนั้นผมออกมาแต่ตัว ไม่ได้หยิบอะไรมาด้วยสักหน่อย” ลูคัสแก้ตัวตาใส

“เจ้าจะให้ข้าเชื่อว่าเจ้าหลงทางเข้ามาในปราสาทที่มีทหารเฝ้าเป็นร้อย แล้วเจาะจงไปหลงต่อในห้องหนังสือของข้าน่ะหรือ”

“......” นั่นสินะ... ใครจะเชื่อเขากัน

“ใครส่งเจ้ามา”

“ไม่มีใครส่งผมมาทั้งนั้นแหละ ผมเข้าไปในห้องหนังสือของคุณได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาที่จริงน่ะนะ ผมโผล่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงก็ยังไม่รู้เลย” ลูคัสพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “ผมเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาๆ วันๆ เอาแต่เรียน มีดดาบอะไรพวกนี้ก็ไม่เคยจับ ผมจะไปทำอะไรใครได้ แค่เอาตัวรอดยังลำบากเลย”

สายตาของทั้งสองคนประสานกันนิ่ง ลอร์ดหนุ่มคิดว่าลูคัสไม่ได้โกหก อีกอย่างเด็กหนุ่มดูเปราะบางและเงอะงะเกินกว่าจะเป็นไส้ศึกจากที่ไหนได้ หากคำพูดของเด็กหนุ่มก็ยากที่จะเชื่อถือ เขาไม่ไว้ใจอีกฝ่ายมากพอที่จะปล่อยให้เป็นอิสระ “......”

“ปล่อยผมไปเถอะครับ คิดซะว่าทำบุญ ผมจะไม่กลับมาที่นี่อีกก็ได้ ผมสัญญา”

“ข้าจะไว้ใจเจ้าได้อย่างไร”

“ผม...” แววตาของเด็กหนุ่มสั่นไหว สองมือขยุ้มชายเสื้อของตนเองไว้แน่น

ระหว่างนั้นมีทหารคนหนึ่งรีบรุดเข้ามาหา เมื่อลอร์ดหนุ่มผู้เป็นนายได้ฟังรายงานก็หันไปออกคำสั่ง “พาเขากลับไปที่เดิม” ก่อนจะผลุนผลันเดินจากไป

“อ้าว เฮ้ย! เดี๋ยวสิครับ!”

เด็กหนุ่มตั้งท่าจะโวยวาย แต่ไม่ทันเสียแล้ว เขาถูกกึ่งลากกึ่งจูงกลับไปยังคุกที่เพิ่งจากมา

บนพื้นในคุกมีถาดใส่อาหารวางอยู่ “กินแล้วนอนซะ” พวกทหารพูดกับเด็กหนุ่มแล้วกลับออกไป

“มีอย่างอื่นให้ทำได้อีกรึไง” ลูคัสพึมพำ เขาชำเลืองมองพวกคนที่อยู่ในคุกใกล้ๆ ซึ่งกำลังหลับกันอย่างเอาเป็นเอาตาย จากนั้นจึงหยิบชามอาหารขึ้นมาดมแล้วค่อยๆ ซด เดาจากรสชาติน่าจะเป็นซุปที่ทำมาจากการเอาเศษผักเศษเนื้อมาต้มๆ แบบขอไปที หากก็ยังดีกว่าอดตาย มืออีกข้างหยิบขนมปังแห้งๆ ขึ้นมากัด ขณะที่เคี้ยวหยับๆ ก็คิดไปพลาง

จะว่าไป ถ้าหากตอนนี้เขาอยู่ในยุคกลาง เท่าที่จำได้ในหนังสือเขียนไว้ว่าการปกครองในยุคนี้เป็นระบบศักดินา พวกคนสูงศักดิ์มักไม่เห็นค่าของชีวิตคนด้อยศักดิ์กว่า มีการใช้แรงงานทาส มีเชลยศึกสงคราม มีการจับคนร้ายมาใส่เครื่องทรมาน ฆ่าฟันกันได้เหมือนชีวิตมนุษย์ไร้ค่า

เด็กหนุ่มขนลุกซู่ กลืนอาหารลงคอลำบากขึ้นมาฉับพลัน นี่เรียกว่าเขายังโชคดีมากใช่ไหมนะที่มาเจอลอร์ดคนนี้ ถ้าหากถูกพาไปทรมานเพื่อให้ตอบคำถามแบบที่เคยอ่านมาล่ะก็ คงจะเอาชีวิตไม่รอดตั้งแต่นาทีแรก

เมื่อท้องฟ้ามืดลงสนิท กลุ่มคนในคุกข้างๆ ก็เริ่มตื่นขึ้นและพูดคุยกันด้วยประโยคแปลกๆ อีก

ลูคัสนอนไม่หลับจึงฟังคนพวกนั้นพูดคุยกันไปเรื่อยๆ บางทีก็พลิกตัวนอนคว่ำแล้วเขียนประโยคที่ได้ยินมาลงบนพื้นดินแล้วเรียงประโยคใหม่เล่นๆ

จู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าทหารกับม้ากลุ่มใหญ่ดังกึกก้อง เด็กหนุ่มลุกขึ้นพรวด ปีนขึ้นไปเกาะลูกกรงหน้าต่างดูพร้อมกับเงี่ยหูฟัง

“ที่ริมแม่น้ำ ไอ้พวกโจรนั่น...”

คำพูดของทหารพอจับใจความได้เป็นคำๆ ทว่าก็ทำให้ลูคัสนึกถึงคำพูดของเลนขึ้นมาทันที


“ครั้งหน้าคงถึงคราวบ้านข้า”

“อะไรน่ะ ถึงคราวอะไร”

“พวกโจร... มันบุกมาปล้นเงินทองกับเสบียง”



เลน วิล มารี ตายาย ทุกคนกำลังตกอยู่ในอันตราย! เขาต้องไปเตือนให้ทุกคนหนี!

เด็กหนุ่มกระโดดลงมาบนพื้น วิ่งไปเกาะซี่ลูกกรงแล้วตะโกนสุดเสียง “ปล่อยผม! ปล่อยผมออกไปนะ! ไอ้ลอร์ดบ้า! ปล่อย!”

กลุ่มคนในคุกใกล้กันแสยะยิ้มแล้วหัวเราะใส่ลูคัส มองดูชวนให้รู้สึกขยะแขยงปนขนลุก เขาจึงถอยกลับไปนั่งเงียบๆ บนกองฟาง พยายามสงบจิตใจแล้วคิดหาวิธี

ดวงตาโตกวาดมองไปรอบๆ ห้องอย่างเชื่องช้า พิจารณาลูกกรงซี่หนาที่ทำจากสัมฤทธิ์เบื้องหน้า คงไม่ง่ายที่จะขันชะเนาะให้หัก แต่ถ้าลูกกรงคุกเป็นสัมฤทธิ์... บานหน้าต่างก็น่าจะเหมือนกัน

เด็กหนุ่มปีนขึ้นไปตรวจดูที่หน้าต่างอีกครั้ง ซี่ลูกกรงหน้าต่างมีขนาดเล็กกว่าครึ่ง แถมยังเก่าสนิมเขรอะ ถ้าแค่นี้ละก็เขาหักมันได้แน่ รอแค่โอกาสดีๆ

ลูคัสกลับมานั่งที่บนกองฟางเช่นเดิม เขารอโอกาสเหมาะๆ ให้ด้านนอกเงียบสงบ ไม่นานพวกคนในคุกใกล้ๆ ก็ล้มตัวลงนอน มือขาวฉีกผ้าห่มออกแล้วม้วนเป็นเส้นหนา จากนั้นจึงเลือกหยิบไม้ฟืนท่อนใหญ่มาผูกไว้กับลูกกรง เขาหันมองซ้ายขวาก่อนจะเริ่มขันชะเนาะช้าๆ

คุกใต้ดินแห่งนี้ไม่ได้ถูกใช้งานมานานปี มันถูกสร้างไว้ข้างใต้ป้อมปราสาททางทิศตะวันออก ซี่ลูกกรงที่หน้าต่างผ่านแสงแดดและลมฝนมาเนิ่นนาน เด็กหนุ่มไม่ต้องออกแรงขันชะเนาะมากก็หักเสียแล้ว เมื่อหักได้แล้วเขาก็ค่อยๆ ถอดซี่ลูกกรงออก

เด็กหนุ่มหันไปมองพวกคนในคุกใกล้ๆ อีกครั้ง ทุกคนในนั้นยังคงหลับกันราวกับตาย จากนั้นจึงปีนออกไปจากคุกอย่างระมัดระวัง

พอออกมาได้ก็วิ่งเลียบไปตามกำแพงม่าน เขาจำได้ว่ามีทางดินจากในเมืองตอนที่โดนจับขึ้นรถม้ามา ถ้าหากเลาะไปตามทางดินอัดแน่นก็จะถึงหมู่บ้านได้เร็วขึ้น

เมื่อเดินมาถึงตรงป้อมใหญ่ทางทิศตะวันตกของปราสาท ที่ข้างบนป้อมมีทหารประจำอยู่ แล้วกำแพงด้านหน้าปราสาทก็มีทหารหนาตา ลูคัสไม่สามารถหนีออกไปได้อย่างที่ใจคิด เขาจึงหลบอยู่แถวนั้นเพื่อฆ่าเวลา พอเห็นว่าทหารออกเดินก็เตรียมตัวพุ่งออกไป

ทว่ามีใครบางคนรั้งแขนเขาเอาไว้เสียก่อน

“เจ้าจะฆ่าตัวตายรึไงน่ะ ทะเล่อทะล่าออกไปตอนนี้ พวกทหารเห็นเข้าฟันคอเจ้าขาดแน่”

ลูคัสหันขวับ “คุณ!” ใบหน้าซีดเผือดทันควัน โดนใครจับได้ไม่โดน ดันมาโดนเจ้าของปราสาทจับได้เสียเอง เขาไปทำอะไรให้ใครสาปแช่งไว้หรือเปล่านะ ทำไมถึงซวยได้ขนาดนี้

“เจ้าออกมาจากคุกได้อย่างไรกัน”

“.....”

ลอร์ดหนุ่มกระตุกท่อนแขนที่เขาเกาะกุมไว้เข้าหาตัวอย่างแรง “ข้าถามว่าเจ้าออกมาจากคุกได้อย่างไร”

เด็กหนุ่มเซถลาไปตามแรงดึง “โอ๊ย ก็แหวกลูกกรงออกมาน่ะสิ!”

“แหวกออกมาได้อย่างไร ลูกกรงใหญ่ขนาดนั้น” มือหยาบจับท่อนแขนเรียวขึ้นมาตรงหน้า “ดูเจ้าก็ไม่น่าจะมีแรงสักเท่าไหร่ ตัวก็แค่นี้”

ตัวก็แค่นี้งั้นเรอะ! เขาสูง 172.59 ปัดเป็น 173 เซนติเมตรได้ ตกเกณฑ์มาตรฐานชายยุโรปไปนิดเดียวเอง! ถ้าจะสบประมาทกันขนาดนี้ หยิบดาบออกมาฟันคอกันเลยดีกว่า!

“ผมก็ออกมาทางหน้าต่างไง” คนถูกถามพูดกลับเสียงเข้ม “ซี่ลูกกรงหน้าต่างมันเก่าแล้ว ขันชะเนาะออกมาก็ไม่ได้ยากอะไรนี่”

“ชะเนาะ?”

“หึ ไม่รู้จักล่ะสิ” ลูคัสจ้องนัยน์ตาสีฟ้ากลับไปเขม็ง “ตัวโตซะเปล่า!”

ลอร์ดหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก บางทีเขาก็นึกสงสัยว่าเจ้าเด็กนี่รู้จักคำว่ากลัวกับเขาบ้างไหมนะ

เสียงฝีเท้ากับเสียงพูดคุยกันของพวกทหารดังแว่วเข้ามาใกล้ คาร์ลจึงผลักเด็กหนุ่มเข้าไปยืนในเงามืดของกำแพงแล้วเอาตัวบังไว้

“คุณ!”

“เงียบก่อน”

ลูคัสยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหิน แต่สักพักพวกทหารก็เดินจากไปทางอื่น เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมสันอย่างไม่เข้าใจ ทำไมอีกฝ่ายถึงช่วยเขา?

ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ ใกล้กันจนเด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของร่างสูงที่อยู่ตรงหน้า

คาร์ลโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้อีก แล้วพูดเสียงเบา “รู้ไหมว่าแหกคุกมีโทษถึงตาย” 

เด็กหนุ่มเถียงกลับไปทันควัน “แหกไม่แหกผมก็ต้องตายอยู่ดีมั้ย ไม่งั้นคุณจะเอาผมไปขังคุกไว้ทำไม”

“ข้าไม่ได้ขังเจ้าเพื่อจะทำร้าย แต่ข้าไม่ไว้ใจเจ้า”

“แล้วมันต่างกันตรงไหน อย่างกับคุณจะมีวันปล่อยผมไปงั้นล่ะ ถ้าเกิดวันหนึ่งคุณสรุปเอาว่าผมเป็นคนร้าย คุณก็ฆ่าผมอยู่ดีใช่มั้ย”

“เรื่องนั้นข้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง”

ดวงตาทั้งสองคู่สบประสานกันนิ่ง ลูคัสไม่ยอมหลบสายตาแม้แต่น้อย เขากัดริมฝีปากแน่น รู้สึกไม่ชอบขี้หน้าท่านลอร์ดอะไรนี่เอามากๆ ทำตัวเป็นเจ้าชีวิตคนไปได้

“ท่านคาร์ล มีรายงานมาแล้ว พวกโจรนั่น...”

เจ้าของชื่อเรียกผละออกแล้วหันขวับไปทางต้นเสียง “คอนราด”

เมื่อเห็นเด็กหนุ่มเข้า องครักษ์หนุ่มก็ชะงัก “ท่านคาร์ล เด็กคนนั้น...”

คาร์ลคว้าแขนเรียวแล้วเหวี่ยงร่างโปร่งเข้าไปทางที่คอนราดยืนอยู่ “ย้ายเขาไปไว้ในห้องเก็บของในคุกนั่น แล้วไปตรวจสอบมาด้วยว่าเขาออกมาได้อย่างไร”

“ขอรับ” คอนราดจับแขนเด็กหนุ่มไว้แน่น

“เดี๋ยวสิ พวกโจรนั่นทำไม! พวกมันบุกเข้าไปในหมู่บ้านรึเปล่า ไปที่หมู่บ้านริมแม่น้ำมั้ย!”

“มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเจ้า”

“ทำไมจะไม่ใช่! พวกเขาเป็นคนสำคัญของผม!” ลูคัสพยายามจะสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม หากก็สู้แรงองครักษ์หนุ่มไม่ได้ เขาถูกลากถูลู่ถูกังออกไป “ปล่อยผม ผมจะต้องไปช่วยพวกเขา!”

“ข้าจะจัดการเอง”

เด็กหนุ่มชะงัก คำพูดที่ราวกับเป็นคำสัญญาส่งผลให้ใจสงบลงได้บ้าง เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคำพูดเพียงแค่สั้นๆ ช่างมีอิทธิพลมากเหลือ

“ไปเถอะ อย่ากวนท่านเลย”

คราวนี้ลูคัสยอมให้คอนราดจูงเขาไปอย่างง่ายดาย

“นี่ คุณ”

“ข้าชื่อคอนราด”

“อ่า... คุณคอนราด...”

“.....”

“นี่คุณคอนราดพวกที่อยู่ในคุกข้างๆ ผมเป็นใครกันน่ะ”

คอนราดหันขวับ สบสายตากับนัยน์ตาสีเข้มที่กะพริบปริบๆ ก่อนจะตอบ “เป็นโจร”

“หืย มิน่า น่ากลัวชะมัด”

“แล้วเจ้าออกมาจากคุกได้อย่างไร”

“ก็ขันชะเนาะที่ลูกกรงหน้าต่างไง ไม่รู้จักขันชะเนาะอีกใช่มั้ย เดี๋ยวผมจะบอกให้ แล้วเอาไปรายงานนายคุณด้วยนะ” เด็กหนุ่มพูดดักไว้ก่อน เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายต้องถามแน่ “คือลูกกรงมันทำจากสัมฤทธิ์ที่เป็นโลหะแข็งๆ ใช่มั้ยล่ะ ในเมื่อมันเป็นของแข็ง มันก็งอไม่ได้มาก แต่หักได้ ส่วนซี่ลูกกรงมีขนาดไม่ใหญ่แล้วก็น่าจะเก่าด้วย เพราะงั้นถ้าโดนแรงบีบมากๆ มันก็จะหัก แต่ผมแรงน้อยไง ก็ต้องใช้การขันชะเนาะมาช่วย เริ่มแรกก็เอาผ้ามาผูกลูกกรงไว้ แล้วผูกกับไม้เพื่อทุ่นแรงขันเกลียว พอเกลียวแน่นขึ้นก็จะมีแรงบีบซี่ลูกกรงทั้งสองข้างเข้าหากันมากขึ้น แล้วในที่สุดก็หักเป๊าะ”

องครักษ์หนุ่มฟังไปอย่างตั้งใจก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ “เจ้านี่ฉลาดมากนะ สมควรที่ท่านคาร์ลจะไม่ไว้ใจ”

ลูคัสขมวดคิ้ว “อ้าว ไหงพูดงี้ล่ะ”

“เจ้าเข้ามาในปราสาทนี่ได้อย่างไร” น้ำเสียงของคอนราดเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาชักนึกเอ็นดูเด็กหนุ่มขึ้นมาบ้างแล้ว

“ผมก็บอกแล้วไงว่าหลงมา...”

“คนฉลาดอย่างเจ้าน่ะหรือ”

“ต่อให้ฉลาดสักแค่ไหน ถ้ามาที่ที่ไม่เคยมาก็หลงทางได้มั้ยครับ”

ลูคัสเถียงไปข้างๆ คูๆ เขาไม่มีวันพิสูจน์ได้หรอกว่าตัวเองหลงเข้ามาอยู่ในห้องหนังสือข้างในปราสาทในยุคโบราณแบบนี้ได้อย่างไร และในเมื่อพิสูจน์ไม่ได้เขาก็คงจะต้องโดนขังคุกไปจนตาย

องครักษ์หนุ่มยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กเบาๆ “เจ้าสงบเสงี่ยมรอการตัดสินใจของท่านคาร์ลเถอะ ห้องเก็บของที่ท่านสั่งให้เจ้าอยู่เป็นห้องที่เคยใช้ขังพวกขุนนาง มีเตียง มีเตาผิง แถมยังมีอาหารให้ ท่านเมตตาเจ้ามากแล้วนะ”

“แต่ผมไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย ทำไมต้องอยู่ในคุกด้วย”

“เจ้ามีความผิดร้ายแรงมากเลยล่ะ เพราะเจ้าล่วงล้ำเข้ามาในเขตปราสาทของท่าน ถ้าหากเป็นขุนนางท่านอื่น เจ้าได้ลงไปนอนคุยกับรากต้นสนแล้ว”

“ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่... ไม่ได้ตั้งใจเลยสักนิดเดียว” แววตาของเด็กหนุ่มสั่นไหว เช่นเดียวกับน้ำเสียงของเขา “ผมอยากกลับบ้าน”

“อดทนสักหน่อยนะ ท่านคาร์ลเป็นคนมีเหตุผล ท่านไม่ใช่คนใจร้าย เชื่อข้าเถอะ”

ห้องเก็บของที่คอนราดพาเด็กหนุ่มไปอยู่ในคุกใต้ดินแห่งเดียวกัน เป็นห้องที่มีช่องลมสูงติดเพดาน มีเตาผิง เตียงและโต๊ะไม้ บนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันวางไว้เหมือนห้องพักทั่วไป บนพื้นห้องก็มีข้าวของกองไว้ระเกะระกะ มีทั้งถังไม้ กระสอบวางเรียงๆ กัน ผนังด้านนอกทำจากหินเป็นก้อนๆ วางซ้อนทับกันแล้วเชื่อมด้วยปูน ผนังด้านในทำจากอิฐบล็อก ไม่มีลูกกรง แต่มีประตูที่ทำจากโลหะสัมฤทธิ์ ห้องนี้อยู่คนละฝั่งกับคุกที่ใช้ขังเด็กหนุ่มในคราวแรก แต่ก็ไม่ไกลจากกันมากนัก

ในขณะที่องครักษ์หนุ่มจัดการก่อไฟในเตาผิงให้ ส่วนลูคัสก็นั่งจ๋องอยู่บนเตียงไม้

“ขอบคุณครับ”

คอนราดยิ้มบาง “คอยเติมฟืนด้วยล่ะ ไม่อย่างนั้นกลางคืนเจ้าหนาวตายแน่ แล้วก็นอนเสีย”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงักแล้วเอนหลังลงนอนอย่างว่าง่าย วันนี้เขาเหน็ดเหนื่อยมามากเหลือเกินแล้ว นอนพลิกไปพลิกมาอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะกันจากพวกโจรในคุกไม่ไกลออกไปดังแว่ว แต่เขาก็ยังคงไม่เข้าใจคำพูดเหล่านั้นเช่นเดิม

องครักษ์หนุ่มก้าวออกจากห้องไป ล็อกประตูห้องเรียบร้อยจึงค่อยเดินไปตรวจตราบานหน้าต่างที่ลูคัสพูดถึง เขานึกชื่นชมความคิดของเด็กหนุ่ม จากนั้นจึงนำไปรายงานกับผู้เป็นนาย


*~TBC~*


น้องลูคัสผู้น่าสงสารยังคงซวยอย่างต่อเนื่อง 5555555 อดทนนะหนูนะ ถือซะว่าเปลี่ยนสไตล์ห้องพักไปเรื่อยๆ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-11-2016 11:24:31
ง่อวววววว ท่านลอร์ดติดใจลูคัสปะเนี่ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 10-11-2016 11:34:58
อะไรเนี่ยยยยย ท่านลอร์ด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 10-11-2016 11:56:17
เจอหน้าท่านหลอดก็ฌกลียดขี้หน้าซะแล้ว 555555 ซวยไปนะท่านหลอดดูดน้ำ -.-
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 10-11-2016 15:34:11
^
^
^
จิ้ม~~~ทะลุทะลวง!!
มากลางวันแสกๆอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไร ดีแล้วท่านเซอร์ฮัสกี้ที่ขยันมาอัพ o13 ความรู้ของลูคัสนั้นมากมายมหาศาลมีทั้งสมัยเก่าเล็กน้อย(มั้ง)และสมัยใหม่อัดแน่น จงใช้ความรู้ของเจ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ซะเถอะลูคัส นี่สินะที่เค้าเรียกกันว่า "มีความรู้ประดับหัวไว้ไม่เสียหาย" :laugh3: :laugh3:
แล้วเราจะรอตอนต่อไปอย่างตั้งใจ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 10-11-2016 17:25:10
ความฉลาดของลูคัสอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเมืองนี้ในภายภาคหน้าก็ได้นะ
คนแถวๆนี้จะต้องหลงเขาหัวปักหัวปำ เชื่อเหอะ *เหล่มองท่านลอร์ด*
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-11-2016 18:19:16
เปลี่ยนที่นอนเก๋ ๆ

จากคุกเต่า ๆ ไปคุกมีระดับ   :m20:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 10-11-2016 20:50:16
 :mew1: :mew1:อยากอ่านแบบรัวๆๆๆสนุกเมื่อไรจะได้ฟินอ่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 10-11-2016 21:10:52
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-11-2016 22:11:15
เปลี่ยนที่นอนเก๋ ๆ

จากคุกเต่า ๆ ไปคุกมีระดับ   :m20:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-11-2016 10:10:40
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 11-11-2016 13:58:57
รอเจ้าของบ้านมาสำเร็จโทษดีๆ
ในคุกไฮโซนะะ ลูคัส

 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 12-11-2016 15:58:28
น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 13-11-2016 22:26:17
   |กระทู้|
_             _
  \(>^<)/
     |    |
   / /  \ \
ดันขึ้นๆๆๆ มาช่วยดันกระทู้ขึ้นจ้า ข้ามเม้นนี้ไปเลยเนอะ 555  :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 14-11-2016 19:31:49
เปลี่ยนที่่นอนเรื่อยๆห้องสุดท้ายคือห้องของเจ้าของปราสาท  :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 14-11-2016 20:08:58
มาต่อไวๆน้าาา รอติดตามมมมม <3
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 5 : คุก][101116]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 15-11-2016 14:19:03


Chapter 6 : ระเบิด


ลูคัสนั่งๆ นอนๆ อยู่ในห้องใหม่ในคุกมาเกือบสองวันแล้ว เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่บอกว่ามีเรื่องต้องการคุยกับตนนั้นหายไปไหน เวลาว่างมีมากมายจนไม่รู้ทำอะไร พอได้ยินพวกโจรคุยกันเขาจึงใช้ถ่านเขียนคำพูดเหล่านั้นลงบนกำแพง เขียนไปเขียนมาก็เริ่มจะตีความหมายได้


“ออกไปได้เมื่อไหร่ ข้าจะเอาหัวไอ้ทหารผมแดงคนนั้นไปฝากหัวหน้า”

“เจ้าคิดว่าหัวหน้าจะอยากได้เรอะ เอาดาบของพวกมันดีกว่า ข้าได้ยินว่าทำจากเหล็กชั้นดี คงขายได้เงินมากมาย”

“ไอ้หมู่บ้านริมแม่น้ำนั่น ได้ข่าวว่ามีของดีเยอะ อุดมสมบูรณ์ที่สุด ผู้หญิงที่นั่น... หัวหน้าต้องชอบแน่”

“ใกล้คืนเดือนดับ แล้ว หึๆ”



โจรพวกนั้นพูดถึงหมู่บ้านของมารีหรือเปล่า หรือว่าหมู่บ้านอื่น แต่ดูเหมือนจะวางแผนอะไรกันอยู่ คืนเดือนมืดที่พูดถึงกัน... ก็น่าจะใกล้ถึงแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าทหารดังแว่ว พวกโจรก็ปิดปากเงียบ ปกติแล้วทหารจะเดินผ่านมาตรวจการณ์อยู่บ่อยๆ แต่เพราะเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ลูคัสที่นอนเอนหลังอยู่ในตอนแรกจึงลุกขึ้นนั่ง

เสียงลูกกุญแจลั่นดังก้อง ก่อนบานประตูสัมฤทธิ์จะเปิดออกกว้าง

“เลน มารี!” ลูคัสเบิกตาโพลง จากนั้นจึงเห็นว่าคอนราดกับทหารอีกสามนายยืนประกบอยู่ทางด้านหลัง เขายิ้มกว้าง พุ่งเข้าสวมกอดเลนกับมารีทันที “ทุกคนปลอดภัยใช่มั้ย!”

“ถามอะไรน่ะลูคัส พวกข้าสิต้องถามเจ้า” มารีร้องไห้โฮ ส่วนเลนก็กอดเด็กหนุ่มไว้แน่น “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

ลูคัสพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรจุกอยู่ในลำคอ เขาซบใบหน้าลงในอ้อมกอดของทั้งสองคน

“ได้เห็นเจ้าแบบนี้พวกข้าค่อยสบายใจหน่อย” เลนยิ้มบาง “โชคดีที่เขายอมให้เข้ามาหาเจ้าได้”

มารีส่งผ้าห่มสีตุ่นๆ ที่ยัดขนเป็ดขนห่านไว้ข้างในให้เด็กหนุ่มพร้อมกับห่อผ้าใส่อาหาร “ข้าเอาผ้าห่มของเจ้ามาให้ ตายายก็ฝากขนมปังที่เจ้าชอบมา เจ้าวิลน่ะ ร้องไห้จะเป็นจะตาย จะขอตามมาหาเจ้าให้ได้”

“.....”

“พวกข้ารอเจ้าอยู่นะ ทุกคนรอเจ้าอยู่”

เด็กหนุ่มพยักหน้าพลางเม้มปากแน่น กระบอกตาร้อนผ่าวคล้ายมีน้ำตาอุ่นๆ รื้นขึ้นมาเอ่อคลอ “......”

“เอาล่ะ พอแล้ว” คอนราดเอ่ยขึ้น

มารีถลาเข้าไปสวมกอดเด็กหนุ่ม “รักษาตัวให้ดีนะ พวกข้าจะรอเจ้ากลับมา” ก่อนพวกทหารจะเข้ามาฉุดแขนหล่อนกับลูกชายออกไป

ก่อนบานประตูห้องจะปิดลง ลูคัสคว้าแขนองครักษ์หนุ่มไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก พยายามอดกลั้นความรู้สึกไว้แล้วเอ่ยขึ้น “ขอบคุณนะครับ”

คอนราดยิ้มบาง “ขอบคุณท่านคาร์ลเถอะ” จากนั้นจึงเดินออกจากห้องไป

เด็กหนุ่มเผยอริมฝีปากค้าง กะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง

คนคนนั้น? เป็นคนอนุญาตให้มารีกับเลนเข้ามาเยี่ยมเขาได้อย่างนั้นหรือ

มือเรียวเอื้อมไปหยิบผ้าห่มที่มีขนเป็ดขนห่านอยู่ข้างในขึ้นมากอด เขานั่งเหม่ออยู่สักพักก่อนริมฝีปากสีแดงจะคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วเปรยเบาๆ กับตนเอง “ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ”


ในยามค่ำคืนที่เงียบสงบ ลูคัสหลับสบายอยู่บนที่นอนของเขา แต่จู่ๆ ก็มีเสียงเหยี่ยวร้องดังก้อง ส่งผลให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้น ต่อจากนั้นก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันของพวกโจร เขารีบจดข้อความที่ได้ยินไว้บนกำแพงแล้วตีความหมาย


“ทางน้ำ... พ่อค้า”

“ทรอย”

“ทั้งหมด... พร้อมแล้ว”

“ได้เวลายืดเส้นยืดสาย”

“กวาดให้เรียบทั้งหมู่บ้าน ภูเขา แม่น้ำสีเลือด”


เสียงหัวเราะที่ฟังดูน่าสยดสยองดังก้อง ทำให้คนที่ได้ฟังขนลุกซู่

ไอ้พวกโจรวางแผนจะบุกเข้ามาปล้นหมู่บ้านในคืนเดือนมืดเป็นแน่ แต่ว่ามันคือคืนไหนกันล่ะ เขาไม่ได้เห็นทั้งดวงตะวันดวงจันทร์มาหลายวันแล้ว คืนสุดท้ายที่ได้เห็นดวงจันทร์นั่นก็คิดว่าคืนเดือนดับน่าจะมาถึงในอีกสองหรือสามวัน

ลูคัสลุกเดินวนไปวนมาภายในห้องอย่างกระวนกระวาย  เขาจะต้องหาวิธีออกไปจากที่นั่นให้ได้ ไม่มีเวลารอให้มีใครเดินหลงมาหาเขา หรือต่อให้เป็นพวกทหารก็คงไม่มีใครใส่ใจคำพูดของเขา

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อาจจะรับฟังและช่วยทุกคนไว้ได้ ทว่าการจะเข้าถึงตัวคนคนนั้นได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

เพราะเขาเป็นถึงลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

แต่ว่าต่อให้เขาลอบเข้าไปในปราสาทได้ก็ไม่รู้ว่าห้องไหนคือห้องของท่านลอร์ดอยู่ดี

เด็กหนุ่มนึกย้อนไปถึงแพลนของปราสาทที่เขาเคยเห็น มันไม่ใช่แพลนที่สมบูรณ์ แล้วตัวปราสาทก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปหลายครั้งตามยุคและผู้เป็นเจ้าของ หากแต่ห้องที่มีกำแพงสองชั้นห้องนั้น อย่างไรก็น่าจะเป็นห้องของเจ้าของปราสาทเป็นแน่ แล้วถ้านั่นเป็นทางลับที่ทำไว้สำหรับหลบหนี อย่างไรทางลับนั้นก็คงไม่เชื่อมไปออกประตูหน้าตรงๆ ส่วนทิศใต้เป็นหน้าผาก็ไม่ได้อีก คงต้องหลบไปทางทิศตะวันตกหรือตะวันออก

เดี๋ยวสิ! วันก่อนที่เขาพบท่านลอร์ดที่ป้อมกำแพงทางทิศตะวันตกนั่น... ข้างล่างไม่มีทหาร มีเพียงคอนราดซึ่งเป็นคนใกล้ชิดที่รู้ว่าท่านลอร์ดอยู่ตรงนั้น บางทีทางเข้าออกทางลับที่ว่าอาจจะอยู่แถวนั้นด้วยเช่นกัน

ขณะที่เดินครุ่นคิดอยู่นั้น ขาเรียวเตะตวัดไปโดนกระสอบหนึ่งล้มลง เขาจึงก้มลงหยิบกระสอบตั้งขึ้น ทว่าสิ่งที่อยู่ในกระสอบทำให้เขาต้องประหลาดใจ “นี่มัน ดินปืน!?”

เท่าที่เคยได้ยินมา ในยุคกลางส่วนใหญ่จะใช้ดินปืนในการทำดอกไม้ไฟ วิธีการใช้ปืนและทำระเบิดยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย จะมีปืนใหญ่ใช้ก็เฉพาะในเมืองสำคัญๆ เช่นกรุงโรม เขาคิดว่าดินปืนพวกนี้อาจจะถูกนำมาเก็บไว้ที่นี่ก่อนส่งต่อไปเมืองอื่นหรืออาจจะได้รับมาเป็นของบรรณาการ แต่พวกทหารที่เพิ่งเดินทางมาประจำที่ปราสาทนี่อาจจะไม่รู้จักกัน หรือไม่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายังมีดินปืนหลงเหลืออยู่ที่นี่

เด็กหนุ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอย่างเชื่องช้า วัสดุภายในห้อง... ก็น่าจะมีพอที่จะทำระเบิดแบบง่ายๆ ได้

ทว่าถ้าจะทำระเบิด มันก็เสี่ยงมากนะ ไอ้ส่วนผสมของดินปืนนี่มีส่วนประกอบอะไรเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แล้วเขาก็เคยทำแต่ในห้องแล็บเสียด้วย

ลูคัสเดินไปตรวจสอบบานประตูสัมฤทธิ์ มันหนาพอดู คงจะไม่พังง่ายๆ แต่ผนังห้องฝั่งที่บานประตูฝังอยู่ทำจากอิฐบล็อก ดูไม่หนาสักเท่าไหร่

ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ “เอาวะ ไม่ลองไม่รู้!” เขาเดินไปหยิบเหยือกดินเผาสำหรับใส่น้ำ เทน้ำออกและเช็ดให้แห้ง กรอกดินปืนใส่เข้าไป ใช้เศษผ้าชุบน้ำมันจากตะเกียงบนโต๊ะเป็นชนวน ยัดถ่านจากในเตาปิดท้ายแล้วเอาผ้ายัดปากเหยือกไว้ให้แน่น คาดเดาจากขนาดเหยือกแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็น่าจะทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมากพอที่จะพังสลักหรือทำให้ผนังอิฐบล็อกเป็นรูโหว่ได้

เด็กหนุ่มจัดวางโต๊ะและเตียงเพื่อเป็นกำบังให้ตัวเองที่อีกมุมห้อง เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก นึกถึงครอบครัวแล้วเดินเอาเหยือกไปวางที่ตรงผนังอิฐบล็อก พอจุดชนวนแล้วรีบวิ่งไปหลบหลังกำบัง มือเรียวหยิบผ้าคลุมมาคลุมตัว ปิดตาไว้แน่นพร้อมกับอุดหู หัวใจเต้นระส่ำ ภาวนาให้พระเจ้าอยู่ข้างเขา

ไม่นานก็มีเสียงระเบิดดังก้อง แรงระเบิดทำให้ผนังอิฐบล็อกพังทลายลงมาเล็กน้อย เป็นช่องพอที่จะเอาตัวลอดออกไปได้ แต่แรงระเบิดนั้นก็ทำให้สลักบานประตูสัมฤทธิ์หลุดออกมาด้วย

ฝุ่นควันลอยโขมงภายในห้อง ลูคัสไอแค่กๆ เขาใช้เสื้อปิดปาก วิ่งไปถีบกำแพงอิฐให้พังมากขึ้นแล้วดึงบานประตูออกกว้าง เขาไม่ยังหนีออกไป แต่หลบอยู่หลังบานประตูแทน

เป็นอย่างที่เด็กหนุ่มคาดไว้ พวกทหารรีบวิ่งมาที่ห้อง พอเห็นช่องโหว่ที่บนกำแพงและไม่พบตัวเขาก็รีบรุดกันออกไปตามหาข้างนอก ทางจึงเปิดโล่งให้เขาหลบออกจากคุกไปได้สะดวกขึ้น

ลูคัสชะโงกหน้ามองพร้อมกับเงี่ยหูฟังเสียง มือเรียวหยิบตะเกียงน้ำมันมาถือไว้ จากนั้นจึงย่องออกไปตามทางเดินในคุกอย่างเงียบเชียบที่สุด เขาสบสายตากับพวกโจรทั้งห้าคนโดยบังเอิญ พวกมันจ้องเขาเขม็งอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ หากวินาทีนี้ลูคัสไม่สนใจอีกแล้ว พอพ้นเขตคุกไปได้ก็รีบรุดไปยังจุดที่เขาเคยพบกับลอร์ดหนุ่ม

ทุกอย่างคือการคะเนทั้งสิ้น แต่มาถึงขั้นนี้เขาก็ถอยไม่ได้แล้ว เมื่อไปถึงป้อมปราสาทเหนือกำแพงม่านตรงจุดที่หมาย เขาเงยหน้าขึ้นมอง บนป้อมมีนายทหารเพียงคนเดียว ส่วนพวกทหารคนอื่นๆ คงกำลังตามหาตัวเขากันอยู่ เด็กหนุ่มยกตะเกียงน้ำมันในมือขึ้นส่องก้อนหินทีละก้อน เมื่อเจอก้อนที่ไม่เหมือนก้อนอื่นและมีตรารูปมังกรสลักไว้เล็กๆ ตรงมุมด้านล่าง เขาจึงใช้มือดันก้อนหินก้อนนั้นไปจนสุดแรง

ได้ผล กำแพงเคลื่อนไปเล็กน้อย เมื่อลองผลักดูก็เปิดเป็นช่องพอให้คนแทรกเข้าไปได้ เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง เขารีบก้าวเข้าไปข้างในแล้วดันกำแพงกลับให้ปิดสนิทเช่นเดิม

ด้านหลังกำแพงเป็นห้องโล่งๆ แคบๆ ห้องหนึ่ง มีเตียงกับโต๊ะไม้ ซึ่งบนโต๊ะมีตะเกียงน้ำมันจุดไว้ แสดงว่าที่นี่ต้องมีคนเฝ้า แต่อาจจะออกไปข้างนอกตอนที่ได้ยินเสียงระเบิด

นัยน์ตาสีเข้มเหลือบไปเห็นผ้าคลุมไหล่คุ้นตา “เหมือนที่คุณคอนราดใช้รึเปล่านะ แต่ช่างมันก่อนเถอะ หาทางไปต่อก่อนดีกว่า” เด็กหนุ่มหันมองไปรอบๆ ในห้องไม่มีประตู แต่มีชั้นหนังสือ เพราะฉะนั้น... “นี่แหละทางเข้า” เขาลองผลักชั้นหนังสือดู พอมันเคลื่อนออกก็รีบมุดเข้าไปทันที

เขาพบอุโมงค์แล้ว มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย เด็กหนุ่มได้แต่ภาวนาให้ตะเกียงน้ำมันอยู่รอดถึงปลายทาง เขาต้องรีบไปให้ถึงก่อนที่คอนราดจะกลับมา

ลูคัสเอามือป้องตะเกียงไว้ สองขาพาเจ้าของวิ่งไปเรื่อยๆ ระยะทางไกลแสนไกลราวกับว่าจะไม่มีวันถึง ยิ่งห่างจากทางเข้าไปมากเท่าไหร่ ความกังวลใจก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

ไม่นานก็เห็นไฟลิบๆ ที่ปลายทาง เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก ทว่าเมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าเขามาถึงทางตันเข้าเสียแล้ว บนกำแพงตรงปลายทางนั้นมีคบเพลิงจุดไว้ให้แสงสว่าง

“อะไรอีกเนี่ย!”

หากเมื่อเข้าไปใกล้กำแพงนั้นก็เห็นว่ามีอีกกำแพงซ้อนกันอยู่ พอเดินเข้าไปก็พบกับบันไดวน ลูคัสยิ้มกว้าง เขารีบไต่บันไดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

“ชั้นหนึ่ง... ชั้นสอง...” นับไปพลางหอบฮักๆ แต่ในที่สุดเขาก็ไปหยุดอยู่ที่บานประตูห้องที่ชั้นสาม

หัวใจเต้นแรงราวกับจะระเบิดออกมาจากในอก มือขาวผลักบานประตูเข้าไปอย่างเชื่องช้า ก่อนจะพบกับทางให้เดินต่อ ที่ตรงสุดปลายทางมีบานประตูอีกบาน ถ้าเขาเดาไม่ผิด นั่นคงจะเป็นบานสุดท้ายแล้ว

ช่องบานประตูมีขนาดไม่ใหญ่มาก อยู่เหนือพื้นขึ้นมาประมาณเข่า เด็กหนุ่มเดาว่าอีกฝั่งคงจะใช้รูปภาพแทนบานประตูเป็นแน่

ลูคัสค่อยๆ แง้มบานประตูเปิดออกแล้วมองเข้าไปภายในห้อง เขาเห็นตะเกียงน้ำมันบนโต๊ะทำงานยังติดไฟอยู่แต่ก็ให้แสงพอสลัวเท่านั้น ที่ตรงกลางห้องมีเตียงสี่เสาหลังใหญ่ ม่านที่ใช้ขึงยังมัดไว้กับเสา ทำให้เด็กหนุ่มมองเห็นเงาของคนที่นอนอยู่บนเตียงหลังนั้นได้

ฟันซี่เล็กกัดลงบนกลีบปากอวบอิ่ม เขาหันมองกลับไปทางด้านหลัง คิดว่าอีกไม่นานคอนราดน่าจะตามมาทันแล้ว เวลามีไม่มาก เพราะฉะนั้นต้องใส่เกียร์เดินหน้าต่อเท่านั้น

ขาเรียวพาเจ้าของก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปภายในห้องอย่างเชื่องช้า ค่อยๆ ปล่อยบานประตูปิดลงอย่างเงียบเชียบ จากนั้นจึงเดินตรงไปที่เตียง

พอได้เห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงชัดๆ ก็ยิ้มกว้าง ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อ เขามาถึงที่นี่จนได้ ที่นี่คือห้องของท่านลอร์ดอย่างที่คิดไว้

หละหลวมชะมัด ทหารเฝ้าก็ไม่มี แต่อย่างว่าล่ะนะ ท่านลอร์ดเพิ่งย้ายเข้ามา อะไรคงยังไม่เข้าที่เข้าทางล่ะมั้ง

ลูคัสค่อยๆ ย่องไปที่ข้างเตียงแล้วชะโงกหน้ามองคนที่นอนอยู่ ในใจครุ่นคิดว่าจะปลุกอีกฝ่ายอย่างไรให้ลุกขึ้นมาคุยดีๆ ด้วย หรือจะกระโดดทับไว้ก่อนเลยดีไหม แต่ท่านลอร์ดตัวใหญ่กว่า เขาจะโดนดีดปลิวเสียก่อนหรือเปล่า

มือขาวยื่นออกไปช้าๆ กะว่าจะเขย่าเบาๆ เพื่อเรียกให้ตื่น ทว่าจู่ๆ อีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นคว้าแขนเขาพร้อมกับกระชากลงไปบนเตียง

“เฮ้ย!”

ลอร์ดหนุ่มพลิกร่างโปร่งให้ลงไปอยู่ใต้ร่างอย่างว่องไว มือข้างหนึ่งกดไหล่เด็กหนุ่มลงกับเตียง อีกข้างคว้าดาบยาวมาพาดไว้บนลำคอระคง “เจ้าต้องการอะไร!” หากเมื่อเห็นใบหน้าของลูคัสก็ชะงัก “ลูคัส”

นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง “เดี๋ยวๆ ผมไม่ได้จะทำร้ายคุณนะ ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกต่างหาก!”

“เจ้าออกมาจากคุกได้ยังไงกัน มาที่นี่ได้ยังไง!”

ลูคัสหลุบตาลงมองสัมผัสของคมดาบที่เย็นเฉียบบนลำคอ ร่างกายแข็งเกร็งไปทั้งร่าง เวลานี้จะกลืนน้ำลายยังไม่กล้าเลย “เอาไอ้นี่ออกไปก่อนได้มั้ย”

คาร์ลประสานสายตากับนัยน์ตาสีเข้มอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเก็บดาบลงในฝักพลางถอนหายใจ “มีอะไร”

เด็กหนุ่มลุกขึ้นพรวด “คือว่าผมได้ยินพวกโจรในคุกมันคุยกันเรื่องแผนการในคืนเดือนมืด คืนนี้เดือนมืดรึยังครับ”

“ยัง คืนพรุ่งนี้”

ลูคัสถอนหายใจอย่างโล่งอก “ถ้างั้นก็ยังมีเวลา”

“เจ้าฟังพวกมันคุยกันเข้าใจหรือ ทหารของข้าบอกว่าภาษาที่พวกมันใช้แปลกประหลาด ไม่เหมือนภาษาที่คนทั่วไปใช้สักเท่าไหร่”

“พวกมันใช้รหัสครับ สลับคำพูดในประโยค แล้วใช้คำแปลกๆ เสริม ผมนอนฟังพวกมันคุยกันมาหลายวันแล้ว แต่คืนนี้มีเหยี่ยวมาส่งข่าวให้พวกมัน ผมจับใจความได้เป็นบางคำ แต่ก็คิดว่าพวกมันน่าจะพูดถึงแผนการในคืนเดือนมืด มีคำว่า ทางน้ำ... พ่อค้า... ทรอย... ทั้งหมด... พร้อมแล้ว... ได้เวลายืดเส้นยืดสาย... กวาดให้เรียบทุกหมู่บ้าน ภูเขา แม่น้ำสีเลือด”

ลอร์ดหนุ่มชะงักพลางย่นคิ้วเข้าหากัน “เจ้าแน่ใจรึ”

“ผมเสี่ยงตายมาหาคุณถึงนี่ คิดว่าผมจะนึกสนุกแล้วบุกมาเล่นๆ หรือครับ” มือขาวจับท่อนแขนแกร่งแน่น แววตาที่สบประสานกับดวงตาสีฟ้าสั่นไหว “ครั้งนี้พวกมันจะต้องฆ่าคนในเมืองหมดแน่ๆ ชีวิตของทุกคนอยู่ในอันตราย คุณคนเดียวที่ช่วยพวกเขาได้ ได้โปรด...”


เสียงประตูปิดดังก้อง ตามมาด้วยเสียงฝีเท้ารัวๆ อยู่ที่ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่ ก่อนจะมีเสียงเคาะดังขึ้น “ท่านคาร์ล ลูคัสหลบเข้ามาที่นี่หรือเปล่า”

ลอร์ดหนุ่มผละออกช้าๆ หากขณะที่จะลุกไปยังภาพวาดเขาก็ถูกมือเรียวดึงรั้งไว้

ลูคัสจ้องใบหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ “ผมสาบานว่าที่พูดไปคือเรื่องจริง ได้โปรด... เชื่อผมเถอะครับ”

พอคอนราดได้ยินเสียงพูดคุยในห้อง เขาก็ตะโกนเรียกเสียงดัง “ท่านคาร์ล!”

“เขาอยู่ที่นี่” ผู้เป็นนายตอบขณะที่สายตายังคงสบประสานกับเด็กหนุ่ม “บอกทหารไม่ต้องตามหา ส่วนเจ้าไปตามเออร์วิน แล้วไปรอข้าที่ห้องหนังสือ”

“แต่ท่านคาร์ล!”

“ไปรอที่ห้องหนังสือ คอนราด”

องครักษ์หนุ่มที่ด้านหลังภาพนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงยอมถอยกลับไปตามคำสั่ง “ขอรับ ท่านคาร์ล”


ภายในห้องเงียบกริบลงทันควัน เมื่อคาร์ลลุกขึ้นจากเตียง เด็กหนุ่มก็รีบลุกตาม

“เอาล่ะ เจ้าบอกสิ่งที่ได้ยินไอ้พวกโจรคุยกันทั้งหมดมาซิ” คาร์ลพูดพร้อมกับเดินไปนั่งลงบนโซฟาในห้อง

ลูคัสเดินตามไปห่างๆ พอลอร์ดหนุ่มนั่งลงก็ยืนเก้ๆ กังๆ เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะยืนหัวโด่อยู่อย่างนี้ หรือจะนั่งลง หรือจะต้องคุกเข่าลงก้มศีรษะแบบที่เคยเห็นในโทรทัศน์ หรือจะต้องทำอย่างไร

“ไปนั่งสิ” คาร์ลชี้ไปที่โซฟาอีกตัว

เมื่อนั่งลงแล้วเด็กหนุ่มก็เริ่มย้อนเล่าคำพูดของพวกโจรทั้งหมดที่พอจะจำได้ให้เจ้าของห้องฟัง “ผมจำได้เท่านี้ล่ะ ที่จริงก็มีอีก แต่คิดว่าไม่สำคัญหรอกมั้ง ผมเขียนที่พวกมันคุยกันไว้บนกำแพงในคุกนั่นล่ะ คุณบอกให้พวกทหารของคุณไปจดมาสิ”

ลอร์ดหนุ่มเท้าแขนลงบนที่วางแขนโซฟา “คืนพรุ่งนี้มีจะกลุ่มพ่อค้านำเรือมาเทียบท่าแบร์กไฮม์ พวกมันอาจจะแฝงตัวเข้ามา”

“ถ้าอย่างนั้น ทรอยที่ว่าก็คงหมายถึงม้าโทรจันสินะ แปลว่าจะปลอมตัวเพื่อลักลอบเข้ามา” ลูคัสพึมพำ

“เจ้ารู้จักด้วยหรือ” คาร์ลเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ จะว่าไป เด็กคนนี้อ่านเขียนหนังสือได้ ซ้ำยังรู้จักเรื่องเล่าในหนังสือหายากเสียด้วย

“ผมเคยอ่านตอนเด็กๆ ม้าไม้กรุงทรอย กลของโอดีสซีอุส ผมเคยไปเที่ยวเมืองทรอยที่ว่านี่ด้วยนะ แต่เหลือแต่ซากแล้วล่ะ”

ลอร์ดหนุ่มจับจ้องใบหน้าอีกฝ่ายนิ่ง สายตาคมกริบฉาบไว้ด้วยความเคลือบแคลง 

“เอ่อ...” สงสัยเขาจะพูดมากไปเสียแล้ว ลูคัสปิดปากสนิท

“เจ้าหนีออกมาจากคุกได้ถึงสองครั้ง แล้วยังหาทางลับเข้ามาถึงห้องของข้าได้ เจ้าเป็นใคร มาจากไหนกันแน่”

“ผม...” ลูคัสอึกอัก จากนั้นจึงพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “ผมมาจากที่ไกลมากๆ แต่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ผมเองก็ตอบไม่ได้ เพราะผมก็ไม่รู้ ผมบอกได้แค่ว่าผมไม่ได้คิดร้ายกับคุณ ไม่ได้คิดร้ายกับใคร”

“คนที่รู้ทางลับเข้ามาที่นี่ มีเพียงข้า เออร์วินและคอนราด เจ้าหามันเจอได้อย่างไร”

“ผมก็เดาเอาน่ะสิ จากวันก่อนที่ผมเจอคุณ แล้วตรงนั้นก็ไม่มีทหาร ผมก็เลยเดาว่าคุณอาจจะออกมาจากตรงไหนสักแห่งแถวนั้น แล้วปกติปราสาทก็มักจะทำทางหนีทีไล่ไว้ให้เจ้าของปราสาทด้วย”

“เจ้าเคยเข้าไปในปราสาทอีกหลายแห่งงั้นหรือ”

“ถ้าผมบอกว่าเคยไปมาเป็นสิบๆ ปราสาทแล้ว คุณจะเชื่อผมมั้ย” เด็กหนุ่มทำเป็นพูดทีเล่นทีจริง หากพอเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่ายแล้วก็คิดว่าไม่ควรจะขุดหลุมฝังตัวเองให้ลึกไปมากกว่านี้ “ล้อเล่นน่ะ ผมอ่านเอาจากหนังสือทั้งนั้นแหละ”

คาร์ลนั่งนิ่งราวกับรูปปั้น ความฉลาดเฉลียวของเด็กหนุ่มคนนี้ หากคิดร้ายก็อาจจะนำอันตรายใหญ่หลวงมาให้เขาได้ แต่ในเวลาเดียวกัน ถ้าหากอีกฝ่ายมีความซื่อสัตย์และคิดเสียสละเพื่อชาวเมืองของเขา ก็อาจช่วยทำประโยชน์ได้มากมาย

แล้วเขาจะตัดสินใจอย่างไรดี จะลองเชื่อใจดูสักครั้งดีไหม

“ผมควรจะต้องทำยังไงให้คุณไว้ใจผมมากขึ้น...” ลูคัสพูดไปแล้วก็หยุดกึก ใจนึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่ตนเองหลงมาอยู่ในยุคนี้ “ตอนผมมา ผมมาทางห้องหนังสือ ถ้าผมจะกลับ ผมก็อาจจะกลับทางห้องหนังสือได้ ถ้าคุณช่วยพวกชาวเมืองได้แล้ว ผมจะไปจากที่นี่ เพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณจริงๆ ผมแค่ต้องการช่วยเหลือชาวเมืองเท่านั้น แต่ครั้งนี้ขอให้เชื่อ...”

ลอร์ดหนุ่มลุกพรวดจากโซฟา ทำเป็นว่าไม่ได้สนใจคำพูดสุดท้ายของอีกฝ่าย จากนั้นจึงเดินตรงไปยังบานประตูห้อง “เจ้าคงเหนื่อยมากแล้ว ถ้าอยากจะนอนพักก็ตามใจ”

“อ้าว แล้วคุณจะไปไหน” ลูคัสลุกวิ่งตามเจ้าของห้องไป พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะออกไปจากห้องก็รีบคว้าแขนเสื้อเอาไว้ “คุณ... คุณครับ ผมเป็นแค่คนธรรมดาๆ จริงๆ อาจจะพูดมากไปสักหน่อยแต่ก็ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ผมไม่ใช่คนร้ายจริงๆ เรื่องที่ผมบอกคุณไปทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ได้โปรดเชื่อผม...”

คาร์ลหันกลับมาหาเด็กหนุ่มช้าๆ แล้วลดสายตาลงมองมือเรียวที่จับแขนเสื้อของตน ก่อนจะเคลื่อนสายตาขึ้นมาสบกับดวงตาสีเข้ม “ถ้าอยากให้ข้าเชื่อก็รออยู่ที่นี่เฉยๆ”

ลูคัสชักมือกลับทันที “ครับ แต่ว่าคุณ... คุณจะช่วยพวกชาวเมืองได้ใช่ไหม”

“มันเป็นหน้าที่ของข้า”  ลอร์ดหนุ่มพูดแล้วเปิดประตูเดินออกจากห้องไป


*~TBC~*


น้องลูคัสช่างร้ายกาจ บุกเข้าห้องปู้จาย! น่าจับถลกกุงเกงตีตูดนัก! /โดนทั่นหลอดเหยียบ

เป็นไงล่ะ ย้ายคุกเขานัก ไม่มีลูกกรง ระเบิดแม่ม... 55555

(เรื่องการทำระเบิดนั้น ฮัสกี้มั่วเอานะคะ กร๊าก โปรดอย่าใส่ใจ)

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะค้า หลงรักทั่นหลอดกับน้องลูคัสหรือยังเอ่ย~

ปล. ขอบคุณคุณmultiver อุตส่าห์แวะมาดันกระทู้ให้เค้าด้วยอ่ะ น่ารักกกก 55555  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-11-2016 14:41:41
ลูคัสสสส โอ้ยยย จะเก่งเกินไปล้าววว ท่านลอร์ดเชื่อซะทีเถิดดดดด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 15-11-2016 18:29:17
ทั่นหลอด น้องออกจะน่ารักน่าใคร่ จับถอด แค่ก... กอดซักทีดีกว่าเนอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 15-11-2016 18:32:06
เจ้าหนูลูคัสฉลาดที่สุดดดดดดดดด :m4:
เป็นไงล่ะท่านลอร์ด อึ้งล่ะสิ อึ้งเลย 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 15-11-2016 19:10:23
อ่านรวดเดียวเลยยย ลูคัสฉลาดมากกกก

ระเบิดคุกซะงั้นนน  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 15-11-2016 20:03:57
ลูคัสน่ารักกกกก เก่งด้วย ชอบๆ เจ๋งดีค่ะ
ไม่อยากให้ต้องกลับเลยอ่ะ ฮือ แค่ดูก็เห็นเค้าลางดราม่ามาแต่ไกล T ____ T
แต่ด้วยความเชื่อใจคุณฮัสกี้ เรายังคงหวังว่าจะไม่หนักมากนะคะ (ฮา) ท่านคาร์ลคือดีอ้าาาาา เชื่อน้องด้วยๆ ><
ขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ!

รอติดตามตอนต่อไปนะ สนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-11-2016 20:20:55
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 15-11-2016 20:34:33
อยู่ในคุกก็ขันเหล็กออก พอไปอยู่ในห้องขังก็ระเบิดซะเลย ทีนี้ไปอยู่ในปราสาทจะพังอะไรอีกก็ไม่รู้นะ 5555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 15-11-2016 20:40:03
ม่าย~~~ มาจิ้มมั๋ยทัน  :z13: :z13:
วิธีการทำระเบิดนั้นก็จะว่าถูก.....อืม......ก็ถูกนะ :hao4:
แต่ถ้าเอาจริงๆแล้วก็ประมาณว่า เอาดินปืนเยอะๆมากๆไปวางไว้ที่กำแพงแล้วทำสายดินปืนเล็กๆไล่มาเรื่อยๆจนถึงที่แอบของขุ่นพี่ลูคัสแล้วเอาไฟจุด ไฟจะค่อยๆไล่ลามไปตามสายดินปืนซึ่งเป็นชนวนไปเรื่อยๆและพอมาถึงจุดที่มีดินปืนเยอะๆปุ๊ปก็จะ...
BOOMZ!!!
เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในประวัติการซึ่งทำให้ปราสาทถล่มได้ง่ายๆเลยทีเดียวเชียว...  :hao7: :hao7:(อ้างอิงจากหนังและการ์ตูนบางเรื่องจ้า)
ติดตามตอนต่อไปอยู่จ้าพี่ฮัสกี้ :mc4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 15-11-2016 21:57:53
เก่งจริงนะ เจ้าตัวเล็ก
 :m12:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-11-2016 22:07:10
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-11-2016 22:19:03
อ้าว
ลูคัสได้ย้ายที่นอนจากคุกมาห้องทั่นหลอดแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 15-11-2016 22:48:35
มีความรอคอย หนูลูคัสบุกห้องผู้ชายดึกๆดื่นๆ น่อววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 15-11-2016 23:15:56
โอ้ววว... โจรน่ากลัวแหะ ทั่นหลอดจะไหวใช่ไม๊
เดี๋ยวให้ลุคัสปาระเบิดใส่เลยพวกโจรหนิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-11-2016 23:18:36
ที่ขำคือ อะไรคือการที่นักโทษหนี้แล้วมาถามท่านคาร์ลว่าลูคัสแอบมาหารึป่าว 555555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-11-2016 05:37:34
                                                                   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 16-11-2016 06:32:37
ลูคัสตัวแสบบบบบ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 16-11-2016 13:41:21
มาให้กำลังใจค่า. เดี๋ยวตามมาอ่านนะคะ
แนวพีเรียดทางยุโรปแนวๆนี้ไม่ค่อยได้อ่านเลยค่ะ. ดูแปลกดี
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-11-2016 14:04:55
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 16-11-2016 20:32:44
ชอบบบบบ เราชอบพีีเรียดแนวนี้จัง
เริ่มจะสนุก เอาไงต่อท่านลอร์ด ไม่ต้องจับขังแล้วมั่ง อะไรก็ขังน้องแกไม่ได้ เป็นเด็กเป็นเล็กแอบย่องเข้าห้องผู้ชาย จับปล้ำเลยมั้ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: mirage ที่ 17-11-2016 08:34:54
สนุกมาก ท่านลอร์ดเชื่อลูคัสเถอะ
ติดตามค่ะ

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 17-11-2016 10:48:50
 :laugh: ลูกชายฮัสกี้เปรี้ยวมาก บุกห้องผะชายดั๊ว  o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 17-11-2016 16:55:01
กริ๊ดดดดดดดดดด!!!นิยายยุคกลาง
ชอบมากแถมนายเอกฉลาดจิตใจดีกล้าหาญ
พระเอกคือผู้นำในอุดมคติอีก...ขอติดตาม+เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 17-11-2016 17:00:34
รออ่านตอนหน้าค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 17-11-2016 19:24:26
สนุกมากกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 17-11-2016 19:40:26
ชอบมากกกก อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 17-11-2016 20:03:48
ลูคัสฉลาดล้ำ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-11-2016 20:31:27
ลูคัส หลงมาในยุคกลาง
ความรู้ของลูคัส ทำประโยชน์ให้คนในยุคนั้นได้แน่ๆ
ผ้าห่ม หินเผาไฟให้ความอบอุ่นตอนนอน
ดินปืน ระเบิด ขันชะเนาะ ช่วยการรบได้เลย
ปราบโจรเสร็จ ลูคัสกลายเป็นคนสำคัญแน่ๆ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 6 : ระเบิด][151116]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 18-11-2016 11:34:00


Chapter 7 : กวาดล้าง


เด็กหนุ่มยืนนิ่งอยู่กับที่อีกครู่ใหญ่ แม้เจ้าของห้องจะออกไปจากห้องนานแล้วก็ตาม เขาค่อยๆ หันหลังกลับไปมองรอบๆ ห้อง จากนั้นจึงเดินตรงไปยังบานประตูออกสู่ระเบียง มือเรียวถอดสลักออก แง้มบานประตูเล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าซึ่งเขาไม่ได้เห็นมาเป็นเวลาหลายวัน จันทร์เสี้ยวเล็กยังคงปรากฏอยู่ท่ามกลางดวงดาวนับล้าน เป็นภาพที่งดงามเสียเหลือเกินในความคิดของคนที่เกิดในเมืองกรุงเช่นเขา

ลูคัสทิ้งตัวลงนั่งบนพื้น เอนหลังพิงผ้าม่านที่รวบไว้ข้างบานประตูพลางทอดสายตามองท้องนภาในยามใกล้รุ่ง ก่อนจะผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

บรรยากาศภายในห้องหนังสือในปราสาทตึงเครียดแต่เช้าตรู่ ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์เรียกตัวหัวหน้าทหารแต่ละกองเข้ามาปรึกษาหารือกันตั้งแต่ท้องฟ้ายังมืดสนิท เขาสั่งให้ทหารส่งสาสน์ไปกับนกพิราบเพื่อส่งข่าวกับทหารที่ซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆ แล้วส่งม้าเร็วไปตรวจสอบพื้นที่ริมแม่น้ำ ท่าเรือและชานเมืองใกล้เคียงพร้อมกับสั่งให้ส่งรายงานเข้ามาเป็นระยะๆ

ในช่วงเที่ยงวันมีรายงานเข้ามาว่าพบศพชายกลุ่มหนึ่งกับข้าวของลอยมาเกยตื้น ดูแล้วน่าจะเป็นของพวกคนที่เดินทางมากับเรือ

“ไอ้พวกโจรอาจจะฆ่าคนในเรือแล้วสวมรอย ข้าวของที่ทิ้งเป็นพวกของไม่มีราคา แต่เพื่อที่เรือจะได้รับน้ำหนักโดยสารเพิ่มได้อีก พวกมันคงจะขนพรรคพวกมากันเยอะแน่”

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะพาทหารไปรอจับพวกมันที่ริมฝั่ง”

“เดี๋ยวก่อน บางทีพวกมันอาจจะไม่ได้แฝงเข้ามาทางเรืออย่างเดียว” ลอร์ดหนุ่มย้อนทบทวนคำพูดของลูคัสอีกครั้ง “ภูเขา แม่น้ำ สีเลือด... ข้าคิดว่าพวกมันตั้งใจจะบุกเข้ามาจากสองทาง วันก่อนที่ทหารพบเห็นพวกมันที่ชายป่า มันอาจจะมาดูลาดเลาก็เป็นได้”

“ถ้าพวกมันเข้ามาทั้งสองทางแบบนี้ ใครเห็นทหารก่อนก็ส่งสัญญาณบอกให้อีกทางหนีไปได้”

“ใช่แล้ว ฟังให้ดี เราจะต้องเคลื่อนพลอย่างเงียบเชียบที่สุด รอให้ฟ้าใกล้มืดก่อน ให้ทหารของเราปลอมตัวไปปะปนกับชาวบ้าน และแบ่งอีกกลุ่มไปซุ่มอยู่ที่หมู่บ้านชายป่ากับริมน้ำ เราจะรอให้พวกมันเข้าไปในหมู่บ้านก่อนค่อยตีวงล้อมจากข้างในและข้างนอกพร้อมกัน คืนนี้เราจะกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก” ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์กล่าวสรุป จากนั้นก็สั่งให้ทุกคนแยกย้ายกันไปตระเตรียมการ

คาร์ลกลับไปที่ห้องนอนของเขาในตอนบ่าย เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องก็พบถาดใส่อาหารที่เขาสั่งทหารให้นำมาให้เด็กหนุ่มวางอยู่ อาหารในถาดยังไม่แหว่งไปเลยแม้แต่น้อย แล้วพอกวาดสายตามองไปภายในห้องก็ไม่พบคนที่เขาบอกให้รอ ก่อนจะเห็นว่าบานประตูออกสู่ระเบียงเปิดแง้มไว้เล็กน้อย เขาก้าวเท้าตรงไปที่นั่นทันที

แต่แล้วก็พบคนที่ตามหา ลูคัสนั่งซุกตัวอยู่ในผ้าม่านแถมยังหลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว

“เจ้านี่น้า ทำไมมานอนตรงนี้” ลอร์ดหนุ่มอมยิ้ม อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าเด็กตัวแสบคนนี้ก็มีเวลาที่ดูไร้เดียงสากับเขาได้ จากนั้นจึงเอื้อมมือไปเคาะศีรษะเล็กเบาๆ “ลูคัส ลูคัส ตื่นเถอะ”

“ฮือ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มลืมขึ้น ก่อนเจ้าของชื่อเรียกจะสะดุ้ง รีบลุกขึ้นยืนทันควัน “มืดแล้วหรือครับ! เป็นยังไงบ้าง คุณช่วยทุกคนไว้ได้ไหม!”

“ยังไม่ค่ำเลย”

ลูคัสหันขวับไปยังบานประตูที่เปิดแง้มไว้ “จริงด้วยแฮะ”

“ไปกินอะไรสักหน่อยก่อน”

“ผมยังไม่หิ...”

จ๊อก...

มือเรียวยกขึ้นกุมท้องที่ร้องลั่นออกมาอย่างไม่รู้เวล่ำเวลา “เอ่อ...”

“อาหารวางอยู่ตรงนั้น ไปยกมากินซะ” ลอร์ดหนุ่มสั่งพลางเดินไปนั่งลงบนโซฟา เขามองตามร่างโปร่งที่เดินไปหยิบถาดอาหารมานั่งลงบนโซฟาอีกตัวแล้วก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหาร รอจนอีกฝ่ายรับประทานไปสักพักจึงเอ่ยขึ้น

“คอนราดบอกข้าว่าเจ้าระเบิดกำแพงหินเป็นรูเบ้อเริ่ม”

ลูคัสแทบจะพ่นอาหารในปากออกมา เขาเบิกตากว้าง รีบเคี้ยวๆ และกลืนลงท้องไปก่อนที่อาจจะโดนลงโทษไม่ให้รับประทานต่อ “ไม่ใช่ความผิดของผมซะทีเดียวนะ ก็คุณอยากเอาผมไปขังไว้กับดินปืนทำไมล่ะ”

“ข้าเองก็เพิ่งย้ายเข้ามาในปราสาทนี้ก่อนเจ้าไม่กี่วัน ไม่มีใครไปตรวจสอบว่าที่นี่มีของแบบนั้นเก็บไว้ด้วย แล้วเจ้าก็เป็นคนแรกของคุกนั่น”

เด็กหนุ่มเบ้ปาก “โอ้โห เป็นเกียรติของผมอย่างมากเลย”

ลอร์ดหนุ่มหัวเราะเบาๆ พลางเอนหลังพิงพนักโซฟา “ข้าเคยได้ยินว่าดินปืนใช้ทำดอกไม้ไฟ ไม่ยักรู้ว่ามีอำนาจมากขนาดพังทลายกำแพงอิฐได้”

“มันขึ้นอยู่กับส่วนผสมของดินปืนกับส่วนผสมหลายๆ อย่างที่เอามาทำระเบิดครับ...” พอพูดไปแล้วก็หยุดกึก “คุณหลอกให้ผมพูดอะไรอีกแล้ว จะถามอะไรก็ถามมาตรงๆ เถอะครับ”

“เจ้าทำระเบิดเป็นด้วยงั้นรึ”

ลูคัสตอบไปตามตรง “ก็เคยทำ แต่ว่าที่จริงมันอันตรายมาก เพราะผมไม่รู้ส่วนผสมที่แน่นอนในดินปืนนั่น โอกาสที่จะมีอุบัติเหตุหรือความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้นได้เยอะมากๆ แต่ครั้งที่ระเบิดคุกนั่นผมคงโชคดี แล้วผนังอิฐบล็อกก็ไม่ได้แข็งแรงอะไร”

“เจ้ายอมเสี่ยงอันตรายเพื่อชาวเมืองขนาดนั้นเชียวหรือ”

นัยน์ตาสีเข้มหลุบต่ำ เขาทอดถอนใจยาว “ตั้งแต่ผมหลงมาอยู่ที่นี่ ก็ได้คนในหมู่บ้านที่ริมแม่น้ำนั่นคอยช่วยเหลือดูแลผม ไม่อย่างนั้นผมคงอดตายหรือไม่ก็หนาวตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง ตอนที่ผมไม่สบาย พวกชาวบ้านก็หาสมุนไพรมาให้ บางครั้งก็เอาอาหารมาให้ผมกิน พวกเขามีบุญคุณกับผมมาก แล้วชาวบ้านจากหมู่บ้านอื่น พวกเขาก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้ทำร้ายหรือเอาเปรียบใคร เพราะงั้นไม่ว่าใครๆ ก็ไม่สมควรที่จะถูกไอ้โจรพวกนั่นทำร้ายทั้งนั้น”

คาร์ลเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเด็กหนุ่มเบาๆ “เข้าใจแล้ว”

ฝ่ามือกร้านช่างอบอุ่น ส่งผลให้ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้ม “คุณก็ใจดีเหมือนกันนะ ไม่เหมือนพวกขุนนางยุคกลางที่ผมเคยอ่านในหนังสือเลย”

ลอร์ดหนุ่มชักมือกลับพลางส่ายหน้าไปมา “เจ้าพูดแปลกๆ อีกแล้วนะ สมควรที่ทหารจะเข้าใจว่าเจ้าเป็นพวกเดียวกับโจรนั่น”

ลูคัสหัวเราะ “จริงๆ นะ ที่ผมเคยอ่านมาน่ะ พวกขุนนางสูงศักดิ์ไม่เห็นค่าของคนต่ำศักดิ์กว่า ฆ่าทิ้งเหมือนเป็นผักปลา แต่คุณไม่เป็นแบบนั้นเลย”

“ถ้าข้าทำเช่นนั้น ข้าก็ไม่ต่างอะไรกับพวกโจรไม่ใช่หรือ” ลอร์ดหนุ่มตอบ ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา

ลูคัสรีบลุกตาม “คุณกำลังจะออกไปในเมืองใช่ไหม ขอผมไปด้วยนะ”

“เจ้ารออยู่ที่นี่ล่ะ จะไปให้เกะกะทำไมกัน”

“เกะ... เกะกะ!” โอ้โห ว่ากันตรงๆ แบบนี้ เอาดาบมาทุบหัวกันเลยดีกว่าไหม!

“เจ้าใช้ดาบ ใช้ธนูเป็นหรือ”

“เอ่อ”

“ปกป้องตัวเองยังไม่ได้ก็อย่าไปให้เกะกะเลย” คาร์ลพูดเสียงขรึม ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เขาสั่งกับองครักษ์ที่ยืนรออยู่ด้านนอก “เออร์วินจะไปกับข้า ส่วนเจ้า คอนราด เจ้าอยู่ที่นี่ เฝ้าเขาไว้”

คอนราดค้อมศีรษะรับ “ขอรับท่านคาร์ล”


ดวงสุริยันคล้อยลงต่ำจรดปลายฟ้า ไม่นานท้องนภาก็ถูกครอบคลุมด้วยความมืดมนอนธการ

เด็กหนุ่มนั่งกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟาโดยที่มีคอนราดนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ ไม่ยอมให้เขาคลาดสายตาไปเลยสักนิดเดียว “นี่คุณคอนราด คุณว่าพวกเขาจะจับพวกโจรได้หรือยัง”

“.....”

ลูคัสหันหน้าไปทางบานประตูออกระเบียงแล้วพูดเสียงเบา “ท่านลอร์ดจะปลอดภัยหรือเปล่า”

“ท่านคอยอยู่รอบนอก มีทหารอารักขาหลายคน ไม่ต้องห่วงหรอก”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก “ผมขอออกไปที่ระเบียงหน่อยได้ไหม”

“ข้าจะไปด้วย”

มือเรียววางลงบนราวระเบียงพลางโน้มตัวลงมองไปเบื้องล่าง ในคืนเดือนมืดเช่นนี้ เขามองไม่เห็นอะไรเลย ถ้าหากจะมีใครลอบเข้ามาในปราสาทคงทำได้อย่างง่ายดาย

แต่จะว่าไป... ถ้าหากทหารเดินตรวจเวรยาม อย่างน้อยก็น่าจะต้องถือคบไฟ ไม่อย่างนั้นจะมองเห็นทางได้อย่างไร

“คุณคอนราด ทหารหายไปไหนกันหมด”

“เฝ้าอยู่ที่บนป้อมไงล่ะ”

“ไม่ใช่สิ ทำไมไม่มีคนเดินตรวจเวรยาม ตอนที่ผมอยู่ในคุกคืนแรกยังเห็นทหารเดินไปเดินมาตลอดคืนเลย”

“......”

“พวกเขาไปกับท่านลอร์ดหมดใช่มั้ย... แล้ว... แล้ว...” จู่ๆ ก็รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากแน่น

“ไม่หมดหรอก เพียงแต่ที่นั่นต้องการกำลังคนมากกว่า” คอนราดจ้องมองท่าทางครุ่นคิดของอีกฝ่ายอย่างสงสัย “มีอะไรรึ”

“ในคุกมีพวกมันอีกห้าคนนะคุณคอนราด ถ้าหากผมเป็นพวกมัน คืนนี้ก็เป็นโอกาสดีที่จะหนี” เมื่อพูดไปใจก็ยิ่งเป็นกังวล เขาหันไปคว้าท่อนแขนแข็งแกร่งแล้วเขย่าแรงๆ “คุณคอนราด ถ้าพวกมันหนีออกไปได้แล้วลอบเข้าไปทำร้ายท่านลอร์ดล่ะ! ท่านจะทันระวังตัวไหม!”

องครักษ์หนุ่มกัดกรามแน่น ตัวเขาจะไปเองหรือจะไปสั่งการกับทหารที่ป้อมก็ไม่อาจละหน้าที่ที่ผู้เป็นนายสั่งไว้ได้ “.....”

“ไปดูที่คุกกันเถอะคุณคอนราด ไปเร็ว!” ลูคัสวิ่งไปที่ภาพวาด หากพอเปิดประตูลับออกและก้าวขาเข้าไป คอนราดก็ปราดมารั้งไว้

“ลูคัส ท่านคาร์ลสั่งให้เจ้าอยู่ที่นี่”

“ผมไม่สน! นี่ไม่ใช่เวลามาห่วงคำสั่งอะไรแล้ว ผมจะต้องไปดูที่คุกนั่นให้ได้!” เด็กหนุ่มสะบัดแขนอย่างแรงแล้วก้าวเข้าไปในประตูลับ แต่พอเจอเข้ากับความมืดก็ชะงัก หันขวับกลับไปที่บานประตูทันควัน

ประตูลับถูกเปิดออกอีกครั้ง ก่อนคอนราดจะก้าวเข้ามาพร้อมกับตะเกียงน้ำมัน “ไปก็ไป”


สองหนุ่มวิ่งไปตามทางเดินในอุโมงค์ พอออกจากทางลับได้ก็ตรงไปที่คุกใต้ดิน หากภาพที่น่าสยดสยองข้างหน้าทางเข้าคุกนั่นส่งผลให้พวกเขาใจหายวาบ

ทหารเฝ้ายามสองนายถูกฆ่าปาดคอแล้วทิ้งให้นอนจมกองเลือดอยู่ที่ด้านหน้าคุกนั่น

ลูคัสเบิกตาโพลง มือทั้งสองข้างสั่นเทา “คุณ... คุณคอนราด”

“แย่แล้ว!” คอนราดดึงดาบออกมาจากฝัก มืออีกข้างกระตุกแขนเด็กหนุ่มเข้าหาตัว “เจ้าอย่าอยู่ห่างข้าเชียวนะ” จากนั้นจึงวิ่งลงบันไดไป

ภายในคุกว่างเปล่า มีเพียงศพทหารอีกสองนายนอนนิ่ง

ลูคัสหน้าซีดเผือด “รีบไปหาท่านลอร์ดกันเถอะคุณคอนราด ไปตอนนี้อาจจะยังทัน”

องครักษ์หนุ่มไม่รีรออะไรอีกแล้ว ใจห่วงนายยิ่งกว่าสิ่งใด เขาวิ่งออกไปจากคุกแล้วตรงไปยังคอกม้า

“เดี๋ยวก่อน คุณคอนราด!”

“มีอะไร!”

“คุณควรสั่งทหารที่ยังเหลือให้ตรวจตราปราสาทโดยรอบ เผื่อว่ายังมีพวกมันซุ่มอยู่ที่นี่”

“จริงสินะ” คอนราดพยักหน้า เขาหยิบคบเพลิงมาถือไว้แล้วจึงหันไปเลือกม้าออกมาตัวหนึ่ง “เจ้ารีบไปหาที่ซ่อนซะ”

“ไม่! ผมจะไปด้วย!” ลูคัสหันไปคว้าม้ามาอีกตัว เขายกขาขึ้นเหยียบโกลนแล้วตวัดขาขึ้นคร่อมบนหลังม้าทันที “ไปเร็ว!”

“เจ้าขี่ม้าเป็นด้วยรึ” องครักษ์หนุ่มถามด้วยความประหลาดใจ เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายใช้ดาบใช้อาวุธไม่เป็น ไม่ได้เป็นทหาร ก็เลยไม่คิดว่าจะขี่ม้าได้ ดูท่าทางน่าจะคล่องแคล่วมากเสียด้วย

“โธ่ ขี่ม้าแค่นี้ ผมน่ะไปแข่งข้ามเครื่องกีดขวางได้เหรียญทองมาแล้ว”

ขณะที่ทั้งสองควบม้าออกไปคอนราดก็หันมาซักถามด้วยความสงสัย “เครื่องกีดขวางเป็นยังไงน่ะ”

“ก็เหมือนรั้วนั่นล่ะ”

“ไม่น่าเชื่อ เจ้าเก่งขนาดได้รับเหรียญทองเลยหรือ ใครประทานให้เจ้า ข้ายังไม่เคยเห็นขุนนางคนไหนให้รางวัลสูงเช่นนี้” คอนราดเข้าใจไปคนละเหรียญทองกับเด็กหนุ่ม

“โอย! ผมทำเป็นอีกหลายอย่างเลยล่ะ แต่เอาไว้ก่อน ผมขี้เกียจอธิบายแล้ว ตอนนี้เรารีบไปกันก่อนเถอะ!”

เมื่อทั้งสองคนขี่ม้าไปถึงป้อมที่ตรงประตูกำแพงปราสาท คอนราดก็หยุดสั่งการกับพวกทหาร เขาเห็นว่าจำนวนทหารที่เหลือเฝ้าปราสาทมีน้อย ไม่ควรจะลดกำลังคนลงไปอีกจึงตัดสินใจไปหาผู้เป็นนายกับเด็กหนุ่มตามลำพัง


ม้าสองตัววิ่งไปบนทางที่ทำด้วยดินอัดแน่น สองข้างทางมืดจนมองไม่เห็นอะไร มีเพียงแสงไฟบางเบาจากคบเพลิงในมือของคอนราดเท่านั้น หากจู่ๆ องครักษ์หนุ่มก็สั่งให้ม้าหยุด

“ข้าเห็นแสงไฟในป่า” คอนราดหันไปบอกกับเด็กหนุ่มพร้อมกับส่งคบเพลิงต่อให้ “เราแยกกันตรงนี้ เจ้ารีบไปแจ้งให้ท่านคาร์ลรู้ตัว”

ดวงตาสีเข้มเบิกโพลง “ผมจะรู้ได้ไงว่าท่านอยู่ตรงไหน!”

“เจ้าตรงไปตามทางดินนี่ ท่านคาร์ลจะอยู่บนเนินตรงชายป่าในจุดที่มองเห็นหมู่บ้านได้ รีบไป” องครักษ์หนุ่มตบสะโพกม้าอย่างแรงเป็นการสั่งให้มันรีบวิ่งออกไป “ฝากด้วยนะลูคัส”

“ระวังตัวด้วยนะคุณคอนราด!” ลูคัสหันหน้ากลับมาบอก มือขาวข้างหนึ่งกุมบังเหียนไว้แน่น อีกข้างถือคบเพลิงซึ่งริบหรี่ลงทุกที

เมื่อถึงชายป่าเด็กหนุ่มก็หลงทิศอยู่ชั่วครู่ ต้องพยายามเรียกสติกลับคืนและนึกย้อนไปเปรียบเทียบกับพื้นที่ในยุคปัจจุบัน ก่อนจะสั่งให้ม้าเดินออกไปช้าๆ ไม่นานก็เห็นแสงไฟรำไร ซึ่งท่านลอร์ดกับทหารน่าจะตั้งแคมป์ปักหลักอยู่ที่นั่น เขามุ่งหน้าเข้าไปที่ตรงนั้นทันที

ลอร์ดหนุ่มยืนอยู่กับเออร์วินและทหารอีกกว่าสิบนาย โดยรอบจุดคบเพลิงไว้สว่างไสว พวกเขาต่างมองตรงไปที่ในเมือง รอคอยสัญญาณแห่งชัยชนะจากพวกทหารหลังจากบุกเข้ารุมล้อมพวกโจรได้

ลูคัสกระโดดลงจากหลังม้า คบเพลิงในมือของเขาดับวูบไปแล้ว แต่สองขายังคงพาเจ้าของวิ่งตรงไปยังที่มีแสงสว่าง

“ท่านลอร์ด!” เด็กหนุ่มตะโกนลั่น

คาร์ลหันขวับมาทางต้นเสียง “ลูคัส! เจ้า!”

“ไอ้พวกโจรในคุก!” ลูคัสหอบหนักๆ หากในขณะเดียวกันเขาเหลือบไปเห็นเงาตะคุ่มในป่าใกล้ๆ พร้อมกับโลหะสะท้อนกับแสงไฟอยู่ในมือ “ระวัง!” ร่างโปร่งถลาเข้าไปขวาง

ความเจ็บปวดแล่นริ้วจากบริเวณหัวไหล่ เขารู้สึกได้ถึงเลือดอุ่นๆ ที่หลั่งไหลออกมามากมาย เด็กหนุ่มทรุดตัวลงเบื้องหน้าลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ มือขาวที่สั่นเทาเอื้อมไปสัมผัสมีดที่ฝังอยู่ในผิวเนื้อตน หากก็ยังกัดฟันพูดออกไป “มีคนช่วยพวกมันออกมา ท่านต้องระวัง”

“ลูคัส!” ลอร์ดหนุ่มดึงดาบยาวออกจากฝัก แต่ขณะที่ก้าวเข้าไปประคองร่างโปร่ง พวกโจรนับสิบก็ปรากฎตัวออกมาชิงเอาตัวเด็กหนุ่มไปเสียก่อน

“เอาตัวไอ้เด็กนั่นไปให้หัวหน้า! มันรู้วิธีทำระเบิด!”

ดวงตาสีเข้มเบิกโพลง ร่างโปร่งถูกพวกโจรอุ้มขึ้นพาดไหล่ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวจับใจ “ท่านลอร์ด! ช่วยผมด้วย!”

“ลูคัส!”

ความเจ็บปวดทำให้สติพร่าเลือน เด็กหนุ่มได้ยินเสียงโลหะของคมดาบกระทบกันดังก้อง คละเคล้าด้วยเสียงของคาร์ล พวกทหาร และคอนราดที่ตามเข้ามาสมทบ ฝุ่นควันลอยโขมงจนบดบังทัศนวิสัย ร่างของเขาถูกเหวี่ยงและกระชากไปมาจนบอบช้ำ หยดน้ำตารินไหลเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง เวลานั้นในใจเรียกหาแต่ท่านลอร์ดซึ่งเป็นคนเดียวที่เขาไว้วางใจ

แต่ในที่สุดทุกอย่างก็สงบลง ก่อนจะหมดสติไปเด็กหนุ่มได้ยินเสียงทุ้มต่ำนุ่มนวลกระซิบอยู่ใกล้ๆ เขาพยายามปรือตาขึ้น


“ลูคัส”


อ้อมแขนที่โอบกอดตัวเขาไว้ช่างอบอุ่น ดวงตาสีฟ้าตรงหน้าช่างสวยงามราวกับไพลินน้ำดี “ท่านลอร์ด”

“ไม่เป็นไรแล้วนะ เจ้าปลอดภัยแล้ว อดทนอีกนิด...”

นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ได้ยินก่อนเด็กหนุ่มจะหมดสติไป


*~TBC~*


โธ่ เจ็บตัวซะแล้วลูกชาย ไม่เป็นไรนะ ฝึกเจ็บๆ ไว้ นี่แค่มีดจิ้มเอง เดี๋ยวอีกหน่อยเจอใหญ่กว่ามีด อาจต้องเจ็บกว่านี้ #ผิดแล้วมั้ย

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า ฮรือออ เรื่องนี้ชื่อยากไปสักนิด ไม่รู้เหมือนกันว่าไปสรรหาชื่อยากๆ มาใช้ทำไม ฮัสกี้ขอน้อมรับผิด /นอนแผ่รับโทษ

ยังไงก็ขอให้ทุกคนมาหลงรักลูคัสไปด้วยกันกับทั่นหลอดนะคะ หุหิ

ปล. ตอนนี้เรื่องใหม่อีกเรื่องใกล้จะได้ฤกษ์เอามาลงแล้วค่า ขอแอบโฆษณา ชื่อเรื่อง "คลื่นใต้น้ำ" เป็นเรื่องของตั้งใจกับใบตอง สองหนุ่มจากเหนือเมฆนะคะ เรื่องนี้เป็นแนวเพื่อนรักเพื่อนค่ะ ฮัสกี้ไม่เคยเขียนแนวนี้เลย หุหิ ยังไงติดตามอ่านกันดูน้า ขอบคุณค่ะ จุ๊ฟฟฟฟ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-11-2016 11:45:50
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 18-11-2016 12:07:43
 :haun4: โห...เราไม่รู้มันคืออะไรอะคะคุณฮัสกี้จิ้มจึ้กๆ ใหญ่กว่ามีด มโนแพ๊บ  :z1:
เด็กน้อยเริ่มมีบทบาทสำคัญละน๊า ท่านคาร์ลข๋าดูแลลูกรักฉ้านดีๆ นะจ๊ะ หึหึ  :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-11-2016 12:50:46
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 18-11-2016 13:17:43
 :hao7:
ห๊ะ......ลูคัสต้องเจออะไรที่ใหญ่กว่ามีดอีกเหรอ น่าสงสารจัง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 18-11-2016 14:24:57
ลูคัสเอ้ยย เจ็บตัวจนได้เนอะ :hao4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-11-2016 14:42:40
เจ็บตัวแล้วว สงสาร ท่านลอร์ดพาไปรักษาเร็วๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 18-11-2016 15:18:10
นายเอกฉลาด แล้วเก่งหลายด้านจัง กำลังสนุกเลย อยากอ่านต่อตอนหน้าเร็วๆ ค่ะ  :call: :call:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-11-2016 16:00:48
ตื่นเต้นแทนลูคัสเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 18-11-2016 19:45:37
อุ้ย แค่มีดยังใหญ่ไม่พอสินะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 18-11-2016 19:49:04
อะไรใหญ่กว่ามีดหยออ :hao3:
ลูคัสเท่ซะ ท่านลอร์ดเป็นหนี้น้องลูครั้งใหญ่แล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 18-11-2016 20:04:32
แอร๊ญยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-11-2016 20:54:26
#อะไรที่ใหญ่กว่ามีด?

 :hao6:

อดทนไว้นะ ฮึบ!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 18-11-2016 21:10:15
ลูคัสทั้งเก่ง ทั้งฉลาด แล้วยังมีความกล้าหาญมาก โอ้ยย เพอร์เฟคแมนสุดๆ :impress2:
ท่านลอร์ดจะต้องเอ็นดูลูคัสยิ่งขึ้น อาจจะหลงรักเด็กคนนี้เลยล่ะมั้งงงงง หึหึ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-11-2016 21:33:56
น่าน.....ลูคัส เป็นที่ต้องการตัวของพวกโจรและ
เพราะรู้วิธีทำระเบิด
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 18-11-2016 21:38:55
เจ็บตัวจนได้ :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-11-2016 00:07:31
เป็นเรื่องที่ดีงามมากๆ

พระเอกแลอบอุ่น และฉลาด

ส่วนลูคัส เป็นนายเอกที่ชอบมากๆ ให้ติดท็อบ3

ในการอ่านนิยายมา10กว่าปีของข้าพเจ้า555

คือ ชอบนิสัยลูคัสไปหมด การคิด การทำ ชอบๆ

หวังว่านายเอกของเราจะไม่เป็นไรมากนะ

ปล ติดตามและมาให้กลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 19-11-2016 00:16:58
^
^
จิ้ม....
ขออภัยเป็นอย่างสูงที่มาเมนท์ช้ามากมาย แบบว่า..ไม่มีเวลาอ่านเลยง่ะ ฮือ~~~  :m15: :m15:
ลูคัส เจ้าแน่มาก บุกไปหาผู้ชายกลางดึก ถึงจะมีประสงค์ดีแต่มันมิงามนะ//ว่าไปนั่น 555 ลูคัสยังขาดประสบการณ์การสู้รบอีกมาก ท่านหลอดฝึกการต่อสู้ให้ลูคัส 1-1 เลย แบบว่า...โอบจากข้างหลังแล้วจับหลังมือลูคัส คางแนบไหล่ ลมหายใจรดต้นคอ แล้วสอนวิธีตวัดดาบและริมฝีปากลูคัสก็บังเอิญไปแตะโดนแก้มท่านหลอดโดยบังเอิญ....//ฟินเฟร่อ~~~ :pighaun: :pighaun: (///♢///)~
รอตอนต่อไปที่จะมาในอาทิตย์หน้าจ้า~ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-11-2016 09:43:54
ใกล้เข้ามาอีกนิด><
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 19-11-2016 09:53:00
ชอบนายเอกอ่ะดูฉลาด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 19-11-2016 12:16:53
หนูลูคัสจะเป็รไรไหม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 19-11-2016 17:01:21
 :katai2-1: เป็นนิยายที่นายเอกเท่มากเลยค่ะ ชอบบบ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-11-2016 18:09:36
มารอๆ

วันนี้จะมาป่าวคับ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: Ta_ii ที่ 19-11-2016 19:25:11
ท่านคาร์ลดูแลลูคัสดีๆโหน่ยยย น้องซนมากเลย ได้เลือดซะแล้ว เพราะความฉลาดของหนูแท้ๆ  อีกหน่อยคงมีแต่คนรุมน้องแน่ๆ ท่านคาร์ลจะไหวมั้ย :o8:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 19-11-2016 23:04:58
ทำไมคุณฮัสกี้เขียนนิยายดีจนเราติดงอมแงมทุกเรื่องเลยคะ?  :o12:
เรื่องนี้สนุกมาก ชอบที่นายเอกฉลาด และพระเอกดูไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ยอมทำตาม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-11-2016 03:52:49
 :mc4: :mc4: :mc4:ตลกฮัสกี่มีดจิ้มด้วยอิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: kappa ที่ 21-11-2016 09:28:42
กรี๊สสส ไม่ได้เข้ามาอ่านนิยายของคุณฮัสกี้นานแระ พอเหงเรื่องนี้เพิ่งเปิดตัวไม่นานเลยลองแว๊บมาอ่านหน่อย กลายเปงติดงอมแงมอ่าา ชอบบุคลิกของตัวละครทั้งนายเอกและพระเอก โดยเฉพาะนายเอกเป็นแบบที่เราชอบมากไม่ง๊องแง๊ง ฉลาด มีไหวพริบ และเนื้อเรื่องก็น่าติดตาม รีบๆมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-11-2016 11:23:48
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 22-11-2016 00:31:39
 :laugh: ดัน ดัน ดัน เรามาดัน กระทู้กันเตอะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 7 : กวาดล้าง][181116]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 22-11-2016 10:29:02


Chapter 8 : บาดเจ็บ


ย้อนกลับไปในเหตุการณ์เมื่อคืน เมื่อพวกโจรได้ตัวลูคัสไป พวกมันตะโกนบอกกันเสียงลั่นไปทั่วบริเวณ

“เอาตัวไอ้เด็กนั่นไปให้หัวหน้า! มันรู้วิธีทำระเบิด!”

“แย่แล้ว!” เออร์วินคว้าคันธนูขึ้นเล็ง

“หยุดนะ! ยิงไปแบบนั้นอาจจะโดนลูคัสได้” ลอร์ดหนุ่มตวาดพร้อมกับหันไปสั่งพวกทหาร “จัดการพวกมันให้หมดสิ้น ลูคัสเป็นคนของข้า ใครก็แตะต้องเขาไม่ได้!” เขากระชับดาบในมือ นัยน์ตาสีฟ้าฉาบประกายสีส้มจากเปลวไฟ จากนั้นลอร์ดหนุ่มจึงกระโจนขึ้นหลังม้าสีนิลแล้วควบไล่ตามหลังพวกโจรไป จนกระทั่งถึงตัวคนที่อุ้มลูคัสพาดไว้บนไหล่ เขาตวัดคมดาบอย่างแรง

ร่างโปร่งถูกทิ้งลงบนพื้น ส่วนร่างกายของโจรนั้นอาบไปด้วยเลือด เช่นเดียวกับคมดาบของคาร์ล

ลอร์ดหนุ่มกระโจนลงจากหลังม้า ในเวลาเดียวกันกับที่องครักษ์ทั้งสองและกลุ่มทหารตามมาสมทบ เขาสั่งด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด “อย่าให้พวกมันออกไปจากแบร์กไฮม์ได้แม้แต่คนเดียว!” เมื่อเหล่าทหารขานรับแล้วเขาก็รีบเข้าไปประคองตัวเด็กหนุ่มขึ้น

“ลูคัส”

นัยน์ตาที่พร่ามัวไปด้วยม่านน้ำตาลืมขึ้น แม้จะสะบักสะบอมไปทั้งร่าง หากพอเห็นใบหน้าคาร์ล ริมฝีปากสีสดก็คลี่ยิ้มออกมาได้ มือขาวขยุ้มแขนเสื้อของลอร์ดหนุ่มไว้แน่น “ท่านลอร์ด”

“ไม่เป็นไรแล้วนะ เจ้าปลอดภัยแล้ว อดทนอีกนิด ข้าจะพาเจ้ากลับไปกับข้า”

คาร์ลอุ้มเด็กหนุ่มขึ้นวางบนหลังม้าก่อนจะตามขึ้นไปนั่งประกบ แล้วหันไปออกคำสั่งกับองครักษ์ทั้งสองคน “ข้าจะพาลูคัสกลับไปที่ปราสาทก่อน พวกเจ้าจัดการตรงนี้ให้เรียบร้อย แล้วรีบมารายงานข้า”

“ขอรับ ท่านคาร์ล”

ลอร์ดหนุ่มเตะสีข้างม้าอย่างแรงเพื่อให้มันออกตัวไปอย่างรวดเร็ว เจ้าม้าตัวเขื่องวิ่งไปบนทางดินที่มืดสนิท เมื่อถึงตัวปราสาทเขาก็อุ้มอีกฝ่ายเดินเข้าไปภายใน “หมออยู่ไหน ไปตามตัวมาเดี๋ยวนี้!”

เด็กหนุ่มถูกจับให้นอนคว่ำอยู่บนเตียงนอนในห้องห้องหนึ่ง ในขณะที่หมอหลวงกับสาวใช้ช่วยกันใช้มีดตัดเสื้อผ้าของเขาออกเพื่อจัดการกับบาดแผล ใส่ยาและทำความสะอาดร่างกาย เสร็จแล้วจึงเอาผ้าสะอาดพันไว้ จัดท่านอนให้ใหม่และห่มผ้าห่มให้ หลังจากนั้นก็ทยอยกันออกจากห้องไป

คาร์ลนั่งลงตรงที่ว่างบนเตียง นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องใบหน้าที่ซีดไร้สีเลือดพลางเอื้อมมือไปลูบศีรษะเล็กอย่างแผ่วเบา เขาไม่อยากเชื่อว่าลูคัสจะเอาตัวเข้ามารับคมมีดแทนเขา นี่เป็นการพิสูจน์ว่าเขาจะเชื่อใจเด็กคนนี้ได้อย่างนั้นหรือ

ลูคัสช่างเป็นเด็กที่แปลก ทั้งการพูดจา การวางตัว แล้วยังมีความฉลาดเฉลียวมากจนน่ากลัว

“อือ...” เด็กหนุ่มปรือตาขึ้น “เจ็บ... เจ็บไปหมดเลย”

“อดทนหน่อยนะ เจ้าบาดเจ็บมาก”

หยดน้ำตาใสหลั่งริน ตามมาด้วยเสียงสะอึกสะอื้นไห้ “ผมคิดถึงบ้าน พ่อ แม่ ไอแซ็ก... ผมอยากกลับไป...”

ลอร์ดหนุ่มโน้มตัวลง เขาใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าให้ ก่อนจะก้มลงจูบหน้าผากเด็กหนุ่ม “อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย นอนพักเถอะ”

“ท่านลอร์ด”

“ข้าอยู่นี่”

“อย่าทิ้งผม... ช่วยผมด้วย” ลูคัสพร่ำเพ้อด้วยพิษไข้ ซ้ำยังร้องไห้ไม่หยุด สองมือยกขึ้นไขว่คว้าไปในอากาศ “เจ็บ... เจ็บเหลือเกิน”

คาร์ลเอื้อมมือไปกุมมือเรียวไว้ “ข้าไม่ทิ้งเจ้าหรอก ลูคัส”

“ผมหนาว”

“หนาวหรือ” คาร์ลประคองร่างโปร่งขึ้นแล้วจับให้เอนหลังพิงแผ่นอกเขา มือกร้านดึงผ้าห่มมาห่อตัวให้พร้อมกับโอบกอด ทับไว้หลวมๆ “นอนพักซะ ลูคัส”

นัยน์ตาสีเข้มหรี่ปิดลงเมื่อได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหู จากนั้นจึงผล็อยหลับไป

..

.....

..


สัมผัสของเรียวปากอุ่นๆ ที่แตะลงบนแก้ม... ใครกัน


“อยู่ที่นี่ไปอีกสักพักเถอะนะ”


เสียงทุ้มต่ำฟังดูคุ้นหูมากเหลือเกิน เขากำลังฝันอยู่หรือเปล่า

เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นทีละน้อยแล้วกะพริบปริบจนกระทั่งคุ้นชินกับแสงสว่าง พอเห็นเพดานห้องที่ไม่คุ้นเคยก็ผงกศีรษะขึ้นเล็กน้อย หากเมื่อขยับตัวก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวไหล่ขึ้นมาทันที

“โอย...”

“เจ็บใช่ไหม”

“หือ คุณ...” ลูคัสหันขวับไปทางต้นเสียง ลอร์ดหนุ่มนั่งเอนหลังพิงหมอนอยู่บนเตียงเดียวกันกับที่เขานอนอยู่

“เจ็บก็อย่าขยับ นอนนิ่งๆ” คาร์ลพูดเสียงเรียบ

เด็กหนุ่มวางศีรษะลงบนหมอนตามที่อีกฝ่ายบอก จากนั้นจึงหันหน้าไปถาม “ที่นี่ที่ไหน”

“ห้องของเจ้า”

ลูคัสขมวดคิ้ว “ห้องของผม?” เดี๋ยวๆ ก่อน เขามีห้องหรูหราขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ชีวิตจะหักดิบไปไหน เดี๋ยวนอนบนฟาง นอนในคุก แล้วก็มานอนบนเตียงนุ่มๆ นี่ สรุปมันเกิดอะไรขึ้นกับเขากัน

“จริงสิ แล้วพวกชาวเมือง โอ๊ย!” เด็กหนุ่มลืมตัวลุกขึ้นพรวด ผ้าห่มที่ห่มอยู่จึงร่นลงไปกองอยู่บนแผ่นอก ทำให้เขามองเห็นผ้าพันแผลที่พันช่วงหัวไหล่กับลำตัวไว้ มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อย “โอย เจ็บแฮะ”

“ทุกคนปลอดภัยดี”

“มารี เลน วิล ตายาย ทุกคนปลอดภัยใช่มั้ยครับ”

“อืม”

“อา...” ลูคัสยิ้มกว้าง “ขอบคุณนะครับ ขอบคุณมาก แล้วพวกโจรนั่น...”

ลอร์ดหนุ่มยิ้มบาง เขาเอื้อมมือไปลูบเส้นผมสีดำบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องห่วงแล้ว เมืองของเราคงจะสงบไปอีกพัก ขอบใจเจ้ามาก”

“ดีจัง” หัวใจดวงน้อยพองโต หยาดน้ำตาพรั่งพรูออกมาจากดวงตาสีเข้มโดยไม่รู้ตัว “ดีจริงๆ ฮึก... ทุกคนไม่ต้องหวาดกลัวตอนกลางคืนอีกแล้ว ฮือ...”

คาร์ลนิ่งอึ้ง เขาจับจ้องใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา น่าแปลกที่เขารู้สึกว่าลูคัสช่างน่ารักเหมือนเด็กๆ ทำให้เขานึกเอ็นดูอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ลอร์ดหนุ่มใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาออกจากแก้มสีชมพูระเรื่ออย่างแผ่วเบา “เจ้าช่วยข้าไว้ ข้าเองก็ต้องขอบใจเจ้าเช่นกัน”

“คุณใจดีกับผมแบบนี้ ไม่คุ้นเลยแฮะ”

ลอร์ดหนุ่มหัวเราะ “เด็กน้อยเอ๊ย” มือกร้านขยี้เส้นผมสีดำจนยุ่งไม่เป็นทรง ก่อนเขาจะลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ แล้วจัดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ให้เรียบร้อย “เจ้าพักผ่อนต่ออีกสักหน่อยเถอะ”

“คุณจะไปไหน” พออีกฝ่ายใจดีด้วยเด็กหนุ่มก็รู้สึกอยากอ้อน ประกอบกับมีพิษไข้ทำให้ไม่อยากอยู่ตามลำพัง “อยู่ต่ออีกแป๊บไม่ได้หรือครับ”

คาร์ลยิ้มบาง หากก็ไม่ได้ตอบอะไร เขาเดินออกจากห้องไปช้าๆ โดยไม่หันกลับมาหาเด็กหนุ่มอีก

ลูคัสถอนหายใจยาว เขาไม่อยากอยู่คนเดียวแบบนี้เลย ตั้งแต่หลุดมาที่ยุคนี้ก็เพิ่งมีท่านลอร์ดนี่ล่ะ ที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น สบายใจและปลอดภัย เขาใช้มือค่อยๆ ยันตัวลุกนั่ง ผ้าห่มจึงหล่นลงไปกองอยู่บนตัก

เดี๋ยวก่อน ทำไมรู้สึกหวิวๆ

มือเรียวจับผ้าห่มยกขึ้นดู “เฮ้ย!”

ร่างกายภายใต้ผ้าห่มไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆ ปิดบัง ตัวเขานอนโป๊เป็นหัวไชเท้าปอกเปลือก เนื้อตัวที่เคยสกปรกมอมแมมกลับสะอาดสะอ้าน ใบหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “หวา!”

บานประตูห้องเปิดออกอีกครั้ง ก่อนทหารที่ดูมียศสูงไม่น้อยคนหนึ่งจะก้าวเข้ามาพร้อมกับสาวใช้อีกหลายคน

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบสายตากับนายทหารคนนั้น ซึ่งเขาจำได้ว่าเคยเห็นอยู่ข้างกายท่านลอร์ดบ่อยๆ น่าจะเป็นองครักษ์เหมือนกับคอนราด รู้สึกจะชื่อว่าเออร์วินหรืออย่างไรนี่ละ หากสายตาที่มองมาดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกชะตากับเขาสักเท่าไหร่

พวกสาวใช้กรูกันนำอาหารเข้ามาป้อนและเช็ดตัวให้ หากเออร์วินเดินไปตรวจดูระเบียง กวาดสายตามองภายในห้องแล้วก็เดินออกไป

ลูคัสมองตามไปอย่างงงๆ ยังไม่ทันพูดอะไรสาวใช้ก็เปิดผ้าห่มของเขาออก

“เฮ้ย! เดี๋ยวครับ จะทำอะไร!”

“จะเช็ดตัวให้ท่านเจ้าค่ะ”

“โอย ไม่ต้องครับ ผมทำเองได้”

“ไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ ท่านยังมีไข้ เช็ดตัวแล้วทานซุปร้อนๆ กับทานยานะเจ้าคะ”

พวกสาวใช้ไม่เปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มโต้เถียง พวกหล่อนกดขาของเขาไว้แล้วจัดการเช็ดตัวให้ เรี่ยวแรงของพวกหล่อนมีมากกว่าเขาเสียอีก เด็กหนุ่มจะดิ้นก็รู้สึกเจ็บ อายก็อาย แต่ก็ไม่รู้จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้อย่างไร

ไม่นานพวกสาวใช้ก็ห่มผ้าห่มกลับคืนให้แล้วเริ่มต้นป้อนอาหาร

“ถ้าผมเจ็บนานกว่านี้ต้องเป็นง่อยแน่นอน” ลูคัสบ่นพึมพำ “นี่ คุณครับ ผมให้ป้อนก็ได้ แต่กินเสร็จแล้วเอาเสื้อผ้าให้ผมใส่หน่อยนะ”

...

.....

...

ภายในห้องหนังสือ ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์นั่งอ่านเอกสารอยู่บนโซฟา โดยมีองครักษ์ทั้งสองวนเวียนอยู่ใกล้ๆ คอนราดยืนอยู่นิ่งๆ หากเออร์วินเดินวนไปวนมาอย่างหัวเสีย

“ท่านคาร์ล ข้าไม่เห็นด้วยเลยที่ท่านจะให้เด็กคนนั้นเข้ามาอยู่ในปราสาท” เออร์วินกล่าวกับผู้เป็นนาย “เขาดูแปลกๆ เป็นใครมาจากไหนก็ไม่มีใครรู้ ข้าเกรงว่าจะเป็นอันตราย”

“เจ้าหมายถึงลูคัสรึ”

“โธ่ ท่านคาร์ล ข้าจะหมายถึงใครได้อีก”

“ขอบใจที่เป็นห่วง” ลอร์ดหนุ่มตอบเสียงเรียบ

“ท่านคาร์ล เด็กคนนั้นเข้ามาในห้องหนังสือแห่งนี้ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม เอกสารสำคัญในห้องก็มีมากมาย แล้วยังแหกคุกถึงสองครั้ง” เมื่อผู้เป็นนายนั่งนิ่ง เออร์วินก็หันไปพาลใส่เพื่อนองครักษ์แทน “เจ้าพูดอะไรบ้างสิ”

คอนราดใช้นิ้วก้อยไชหู จากนั้นจึงพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “เกี่ยวกับลูคัสน่ะหรือ”

“ก็ข้ากำลังพูดถึงใครอยู่กันเล่า เจ้าฟังที่ข้าพูดไปบ้างรึเปล่า”

“อืม เขาก็เป็นเด็กที่แปลกจริงๆ นั่นล่ะ ฉลาดจนน่ากลัว...” คอนราดเว้นระยะเล็กน้อย ก่อนจะหันไปหาผู้เป็นนาย “แต่ก็น่าเอ็นดูดีนะท่านคาร์ล ข้าว่าถ้าได้เขามาช่วยเหลือพวกเราคงจะดีมาก”

“คอนราด! ไอ้เด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้านั่นน่ะ!”

“เออร์วิน เจ้าลืมไปแล้วหรือว่ากำพืดของข้าเป็นเช่นไร”

เจ้าของชื่อเรียกชะงัก ขมวดคิ้วแล้วหลุบตาลงต่ำ “ข้าขอโทษ”

เออร์วินเป็นบุตรของบารอนคนหนึ่งในปกครองของอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก เขาอายุมากกว่าคาร์ลเจ็ดปี ถูกส่งให้มาเป็นองครักษ์ดูแลลอร์ดหนุ่มตั้งแต่อีกฝ่ายเพิ่งจะหัดเดิน ชีวิตของเขาดำเนินอยู่ในกรอบ ต่างกับคอนราดโดยสิ้นเชิง

คอนราดอายุน้อยกว่าเออร์วินสามปี เป็นโจรอยู่ในตลาดมาตั้งแต่จำความได้ ส่วนการพบกันครั้งแรกของพวกเขาทั้งสามก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีนัก คอนราดถูกทหารจับตัวได้และกำลังจะถูกลงโทษตัดแขน ลอร์ดหนุ่มในตอนนั้นอายุเพียงแปดปี เขาไปพบเข้า รู้สึกถูกชะตาจึงขอตัวคอนราดไว้

ดังนั้นความคิดของเออร์วินและคอนราดจึงมักจะต่างขั้วกันโดยสิ้นเชิงอยู่บ่อยๆ

“ไม่ต้องขอโทษหรอกเออร์วิน แต่ข้าไม่อยากให้เจ้าตัดสินคนจากภายนอกเท่านั้น ลองเปิดใจให้ลูคัสดูก่อน” คอนราดบอกกับเพื่อนตน “เหมือนที่เจ้าเคยเปิดใจให้ข้า”

เมื่อได้ฟังคำพูดขององครักษ์หนุ่ม คาร์ลจึงเงยหน้าขึ้นช้าๆ พร้อมกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย “ถ้าเป็นห่วงมาก เจ้าก็ไปเฝ้าเขาไว้สิ เออร์วิน”

“ท่านคาร์ล!” เออร์วินหันขวับ พอประสานสายตากับผู้เป็นนายแล้วก็ส่งสายตาขุ่นๆ ใส่ “เสร็จงานแล้วข้าจะแวะไปแน่”

...

......

...

เกือบหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปที่เด็กหนุ่มต้องนอนพักอยู่บนเตียง กว่าร่างกายจะฟื้นตัวและแผลที่หัวไหล่ประสานกันดีพอที่เขาจะลุกขึ้นนั่งได้โดยไม่รู้สึกเจ็บ แต่ถึงแม้จะหลับๆ ตื่นๆ อยู่ตลอด หลายครั้งที่ตื่นขึ้นมาในตอนกลางคืนก็จะพบกับท่านลอร์ดเจ้าของปราสาทอยู่ในห้อง และอีกหลายๆ ครั้งที่พบกับองครักษ์ที่ชื่อเออร์วินอะไรนั่นมายืนจ้องตัวเขาเขม็ง หรือไม่ก็มานั่งหลับอยู่บนโซฟา ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าองครักษ์คนนี้ไม่มีห้องนอนหรืออย่างไรกัน

ใบไม้สีเหลืองส้มเริ่มร่วงหล่นลงสู่พื้นหญ้า อากาศเย็นลงอีก หากท้องนภาในยามบ่ายยังดูแจ่มใส เมื่อมองผ่านบานหน้าต่างออกไป ลูคัสก็ไม่อยากจะนอนนิ่งเป็นผักต้มอยู่บนเตียงอีกแล้ว เวลากลางวันเช่นนี้เขามักจะอยู่ในห้องตามลำพัง พวกสาวใช้จะมาก็ต่อเมื่อนำอาหารมาส่งให้เท่านั้น

มือเรียวยันตัวเองลุกขึ้น ลองขยับตัวไปมาให้มั่นใจว่าตนเองยังไม่ได้เป็นง่อย ก่อนจะก้าวขาลงจากเตียงช้าๆ ค่อยๆ เดินไปเปิดบานประตูระเบียงแล้วชะโงกหน้าออกไป

“เจ้าจะไปไหน!”

ลูคัสหันขวับ “โอ้โห ไม่ต้องทำเสียงดุขนาดนั้นก็ได้ครับ ผมแค่จะออกไปบนระเบียง” เมื่อเขายืนนิ่ง อีกฝ่ายก็เดินตรงเข้ามาหา

“ข้าจะไปด้วย”

แค่ระเบียงห้องเนี่ยนะ พูดอย่างกับระเบียงอยู่ไกลสักสิบกิโลเมตร เด็กหนุ่มมองสีหน้าเคร่งขรึมขององครักษ์หนุ่มอย่างงุนงง “จะไปก็ไปสิครับ”

ขาเรียวพาเจ้าของเดินไปจนสุดระเบียง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองออกไปยังปลายฟ้าไกลอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงชำเลืองมององครักษ์หนุ่มที่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ไม่ห่างออกไปนัก

ถึงอีกฝ่ายจะดูเหมือนไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขา แต่ก็ยังดีกว่าอยู่คนเดียว

“เจ้าหายดีแล้วหรือ”

“ผมนอนบนเตียงจนเบื่อแล้ว ว่าแต่ ผมไม่เห็นคุณคอนราดเลย เขาไปไหนอะครับ”

“คอนราดไปกับท่านคาร์ล ไปลานฝึกยิงธนู” เออร์วินตอบเสียงเรียบ

“แล้วคุณเออร์วินไม่ต้องไปฝึกกะเขาหรือ”

“ข้าแวะมาดูเจ้าเท่านั้น เดี๋ยวจะรีบตามไป”

“งั้นผมขอไปดูด้วยได้มั้ย” ดวงตาโตเป็นประกายทันที “ผมยังไม่เคยเห็นคนยิงธนูจริงๆ เลยอะ”

เออร์วินขมวดคิ้ว อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าเด็กนี่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไรกัน คอนราดบอกกับเขาว่าเด็กคนนี้อ่านเขียนหนังสือได้ ถ้าเกิดในตระกูลขุนนางหรือทหารอย่างไรก็ต้องใช้อาวุธเป็น แล้วถ้าเป็นพวกลูกชาวบ้าน อย่างน้อยก็ต้องใช้อาวุธในการล่าสัตว์ไม่ใช่หรือ

“นะๆ คุณเออร์วินนะ ผมสัญญาว่าจะดูเฉยๆ ไม่เกะกะใครเลยจริงๆ”
 
“ไปก็ได้” เขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กนี่จะโกหกเขาหรือเปล่า

ก่อนจะออกจากห้องไป เออร์วินเรียกพวกสาวใช้ให้นำเสื้อคลุมกับรองเท้าหนังมาให้เด็กหนุ่ม พออีกฝ่ายสวมเสร็จเรียบร้อยก็เดินนำออกจากห้องไป


*~TBC~*


ในที่สุดน้องลูของเราก็ได้อัปเกรดห้องนอนแร้วววว 55555 ถ้าได้อัปเกรดขั้นสุดเมื่อไหร่คงได้นอนทับทั่นหลอดนะคะ /ผิด

ตอนนี้เออร์วินโผล่เข้ามามีบทบาทบ้าง หลังจากคอนราดได้บทไปอย่างเยอะ

แต่คนที่น่าอิจฉาที่สุดคงเป็นทั่นหลอดอะค่ะ ชีวิตมีแต่ผู้ชายรายล้อม 555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า จุ๊บๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-11-2016 10:49:58
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 22-11-2016 10:52:09
ดีใจกับนางด้วย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-11-2016 11:08:34
จะรอน้องลูอัพเกรดขั้นนอนทับท่านลอร์ด :hao6: :hao6: :hao6:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 22-11-2016 11:40:02
ทั่นหลอดดดดดดด ลักหลับจุ๊บแก้มน้องลูเหรอค๊าาาาาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 22-11-2016 11:41:19
พัฒนานะคะ จับน้องนอนซบด้วย  :hao7:
รอการอัพเกรดขั้นสุดค่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 22-11-2016 12:13:38
ตอนนี้สั้นจัง ขอตอนหน้ามาด่วนๆ ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 22-11-2016 12:28:06
แหมมม ท่านลอร์ด ไวไฟจริงเชียว :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 22-11-2016 12:32:46
^
^
^
จิ้ม .. ทะลุทะลวง!!!
ค่อยๆเพิ่มความเชื่อใจ ค่อยๆอ้อน ค่อยๆช่วยเหลือ แล้วท่านหลอดจะตกไปในหลุมแห่งความรักโดยไม่รู้ตัว เช่นเดียวกัน ท่านหลอดค่อยๆดูแล ค่อยๆเอาใจใส่ แล้วลูคัสก็ตกลงไปในหลุมแห่งความรักเช่นเดียวกับท่านหลอด o13 ตอนนี้ก็ได้นอนซบหลังท่านหลอดด้วย อัปเกรดขึ้นแล้วสินะ อืม อืม อืม เอาเป็นว่า...
รอตอนต่อไปจ้า~~~ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 22-11-2016 13:06:06
สำหรับตอนนี้ เปลี่ยนใจมาชอบเออร์วินแทนละ
บทของเขาดูน่ารักดี มีงอน มีงง มีอยากรู้ อิอิอิ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 22-11-2016 14:38:22
กว่าจะได้อัปเกรดห้องนอน หึหึ สู้ต่อไปนะ หนูน้อย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-11-2016 14:57:39
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุก น่าติดตามมาก เอาใจช่วยน้องลูค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 22-11-2016 15:54:02
อัปเกรดห้องนอนแล้วสินะลูคัสสส  :hao3:

รอดูเออร์วินจะเปิดใจยอมรับมั้ย อิอิ
 แต่คงทนความน่ารักของลูคัสไม่ไหวหรอก เนอะ~ o18
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 22-11-2016 18:35:05
อุ๊ มีห้องเป็นของตัวเองแล้ว มีกอดปลอบด้วย(ไม่รู้ตัว) นอน(นั่ง)บนเตียงเดียวกัน อุ๊ยๆ  :hao6:

หนูลูอย่าเล่นธนูนะลูกไม่ดีๆ ให้สา.. แค่ก นั่งดูเฉยๆก็พอเนอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-11-2016 18:40:46
เดะก้อโดนตามใจ55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 22-11-2016 18:49:08
แหม่อยากเห็นห้องนอนแบบอัพเกรดขั้นสุดจังเลยค่ะ :katai3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 22-11-2016 18:58:20
ท่านหลอดดด แอบลักหลับเด็ก ให้ซุกให้ซบ แอบหอมแก้ม  :-[  ร้ายกาจจจจ
ลูก็ชักจะขี้อ้อนไปแล้วว อ้อนบ่อยๆคงได้อัพเวลที่นอนไปนอนห้องท่านลอร์ดแทนแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-11-2016 20:45:15
เห็นความพิเศษของลูคัสหรือยัง

เออร์วินนี่อะไร

เหมือนไม่ชอบหน้าลูคัสสักเท่าไร

ส่วนพระเอกของเรา

หวั่นไหวบ้างหรือยังเอ่ย...
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 23-11-2016 05:35:07
ลูคัสหายป่วยแล้วจะป่วนอะไรอีกละทีนี้เผาวังดีไหมระเบิดก็แล้วนิ่อิอิ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 23-11-2016 12:29:38
ลูคัสน่าเอ็นดูเสียจริง อยากหยิกแก้ม :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: natt teng ที่ 23-11-2016 12:51:09
น่าติดตามจริงๆแหละ แต่บอกตรงๆ ถ้าต้องแยกจากกันสักวันคงเศร้ามาก แต่หลายเรื่องที่ข้ามภพมาเจอกันมักได้อยูร่วมกัน(มั้ง)ตอนจบ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-11-2016 13:36:42
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-11-2016 17:39:51
อ้าว...นี่จริง ๆ แล้วทั่นหลอดชอบอยู่ท่ามกลางชายหนุ่มหรอกรึ?
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 25-11-2016 00:33:31
 :z2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 8 : บาดเจ็บ][221116]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 25-11-2016 17:46:32


Chapter 9 : ลูกธนู


เป็นครั้งแรกที่ลูคัสได้เห็นทางเดินภายในปราสาท เขาหมุนมองไปรอบๆ ตัว เงยหน้าขึ้นมองโคมไฟขนาดใหญ่ที่ห้อยลงมาจากเพดานสูงโค้งเหนือศีรษะอย่างตื่นเต้น ผนังทั้งสองข้างฉาบไว้ด้วยปูน ทาสีทับและวาดลวดลายไว้สวยงาม มีโคมไฟขนาดเล็กบนผนังทั้งสองฝั่ง เขาคิดว่าตอนกลางคืนพวกสาวใช้คงจะต้องจุดไฟกันจนเหนื่อย

เออร์วินพาเด็กหนุ่มไปที่สนามหญ้าโล่งกว้างด้านข้างปราสาทฝั่งขวา เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงฮือฮาของพวกทหารดังลั่น จากที่เดินหอบฮั่กๆ ตามหลังองครักษ์หนุ่ม ลูคัสกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังต้นเสียงทันที

เขาเดินไปเกาะอยู่ที่รั้วไม้ด้านข้างสนาม พื้นที่ข้างในสนามมีทหารยืนอยู่มากมาย แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็มองเห็นลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ได้เป็นคนแรก

ลอร์ดหนุ่มหยิบลูกธนูที่ทหารนำมาส่งให้ขึ้นมาพิจารณา มืออีกข้างยกคันธนูในมือขึ้น แขนแกร่งยืดตรง เขาวางลูกธนูในตำแหน่งของมันแล้วน้าวสายออก จากนั้นจึงปล่อยลูกธนูออกไป

ลูกธนูวิ่งตัดสายลม ตรงเข้าเป้าที่ทำจากกองฟางอย่างรวดเร็ว

ลูคัสเบิกตากว้าง ยกมือขึ้นปรบมือเสียงดัง “โอ้โห สุดยอด!” นัยน์ตากลมโตจับจ้องไปที่ลอร์ดหนุ่ม ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้มอย่างลืมตัวขณะที่เขามองตามลูกธนูซึ่งอีกฝ่ายยิงออกไปดอกแล้วดอกเล่า

ทุกกริยาและท่าทางของเด็กหนุ่มอยู่ในสายตาของเออร์วินตลอด ส่งผลให้เขาแปลกใจยิ่งขึ้น เจ้าเด็กนี่... ดูท่าแล้วไม่เคยเห็นคนยิงธนูจริงๆ ด้วยสิ

“เจ้าไม่เคยฝึกยิงธนูเลยหรือ”

“ไม่อะครับ แต่ผมเคยเรียนขี่ม้านะ” ลูคัสส่ายหน้าไปมา หากสายตายังคงนิ่งอยู่ที่ลอร์ดหนุ่ม “เอ... ลูกธนูที่ท่านลอร์ดใช้มันไม่เหมือนกันหรือครับ”

“หืม เจ้าดูออกด้วยงั้นรึ”

“ดูจากตอนที่ท่านลอร์ดยิงออกไป วิถีลูกธนูมันไม่เหมือนกัน เบี่ยงซ้ายบ้างขวาบ้าง บางทีก็สั่นๆ”

“ช่างสังเกตเสียจริง” เออร์วินขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่จริงเขาก็เข้าใจล่ะว่าทำไมคอนราดกับผู้เป็นนายอยากให้เด็กนี่อยู่ในปราสาทด้วย หากก็ยังรู้สึกระแวง เพราะความฉลาดของอีกฝ่ายนี่ล่ะ

เมื่อลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ส่งคันธนูให้แก่ทหาร เขาหันมาทางที่ลูคัสยืนอยู่กับเออร์วินพอดี พอสายตาสบประสานกันเท่านั้น เด็กหนุ่มก็กระโดดโลดเต้น โบกไม้โบกมือราวกับเด็กๆ

คาร์ลย่นคิ้วเข้าหากัน นึกแปลกใจเล็กน้อยที่เออร์วินพาเด็กหนุ่มมาด้วย ก่อนจะกวักมือเรียกอีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้

ลูคัสปีนข้ามรั้วไม้อย่างรวดเร็ว ชนิดที่ลืมตัวไปเสียสนิทว่าแผลยังไม่หายดี สองขาพาเจ้าของวิ่งไปทางที่ลอร์ดหนุ่มยืนอยู่

“ท่าทางเหมือนเจ้าลูห์กับเจ้าลาห์ สุนัขของท่านคาร์ลเลยนะครับ” คอนราดหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

คาร์ลยิ้มมุมปาก จะว่าไปก็คล้ายเจ้าสองตัวนี่เมื่อตอนยังเป็นลูกสุนัขอยู่เหมือนกัน “พอลุกไหวก็อยู่นิ่งไม่ได้เชียวหรือ”

เด็กหนุ่มหยุดหอบแฮ่กอยู่ตรงหน้าคนถาม พวงแก้มนิ่มเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ “นอนเฉยๆ เบื่อจะตายอยู่แล้วครับ”

“ไม่น่าเชื่อว่าเออร์วินจะยอมพาเจ้ามาด้วย” คอนราดเหน็บเพื่อนองครักษ์

“ทำไมล่ะ ผมเป็นเด็กดีนะ ใช่ไหมคุณเออร์วิน” ลูคัสหันไปถาม ทว่าคนถูกถามรีบเบือนหน้าหนี

“เจ้าสนใจการยิงธนูหรือ”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก “สนครับ”

“ลองดูไหม” ลอร์ดหนุ่มหันไปหยิบคันธนูจากทหารมาส่งให้

ลูคัสรับมาถือไว้ในมือ ดวงตาเป็นประกายด้วยความสนใจ เขาลองทำท่าจับคันธนูยกขึ้นแบบที่อีกฝ่ายทำ หากพอจะน้าวสายธนูก็ต้องชะงัก “หือ” เด็กหนุ่มกะพริบตาปริบๆ หันไปถามท่านลอร์ดอย่างงุนงง “ทำไมน้าวไม่ไปอะครับ เกี่ยวดึงแล้วแทบไม่ขยับเลย”

พวกทหารที่ยืนอยู่แถวนั้นพากันหัวเราะ ส่งผลให้เด็กหนุ่มหน้าเสีย เขาพูดเสียงอ่อย “ผมไม่เคยยิงธนูนี่นา”

“เจ้าไม่มีเรี่ยวแรงเลยหรือ” คาร์ลส่ายหน้าไปมา เขาก้าวไปยืนทางด้านหลังเด็กหนุ่ม ยกมือข้างหนึ่งขึ้นจับคันธนูที่อยู่ในมือนุ่ม แขนอีกข้างยกขึ้นน้าวสายธนูออก “ธนูของข้าคันนี้ต้องใช้แรงน้าวมากสักหน่อย สายธนูตึงแข็งเพื่อให้มีแรงยิงได้ไกล ถ้าเจ้ายังไม่เคยก็คงต้องใช้ธนูคันอื่นก่อน”

ใบหน้าของลูคัสเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ไม่ใช่เพราะอายที่ยิงธนูไม่เป็น หากเพราะแผ่นอกที่เข้ามาแนบชิดแผ่นหลังของเขากับลมหายใจอุ่นๆ ที่ตกกระทบผิวแก้มต่างหาก “เอ่อ...” ทำไมต้องสอนท่านี้ด้วยล่ะ!

“ถ้าเจ้าอยากจะหัดยิงธนู ก็ต้องรอให้ไหล่หายดีเสียก่อน แล้วก็ต้องใส่ปลอกข้อมือด้วย เข้าใจไหม”

เสียงทุ้มดังอยู่ที่ข้างใบหู ลูคัสเหงื่อตกทั้งที่อากาศออกจะเย็นสบาย เขารีบพยักหน้ารัว “ครับๆ”

คาร์ลผละออกไปแล้ว ทิ้งเด็กหนุ่มให้ยืนอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่พักใหญ่ เขาหันมองไปรอบๆ โชคดีที่พวกทหารพูดคุยกันอยู่เสียงเซ็งแซ่คงไม่ใครทันใส่ใจเขา พอตั้งสติได้จึงเอ่ยถาม “เอ้อ ท่านลอร์ดทดสอบลูกธนูอยู่หรือครับ”

“ใช่ ช่างธนูของเราลองทำมาเสนอหลายๆ แบบน่ะ”

“ขอผมดูหน่อยได้มั้ย”

คาร์ลประสานสายตากับนัยน์ตากลมใส ก่อนจะพยักหน้า “เอาสิ” แล้วกวักมือเรียกทหารให้นำลูกธนูมาวางเรียงไว้เบื้องหน้า

ลูคัสย่อตัวลงพิจารณาลูกธนูอยู่ชั่วครู่ “ทำไมหัวลูกธนูถึงไม่เหมือนกันหรือครับ”

“จะใช้หัวลูกธนูแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ทำอะไร ถ้าเวลาออกไปล่าสัตว์ พวกหัวทื่อๆ ก็เอาไว้ใช้ล่าสัตว์เล็ก พวกนกหรือกระต่าย  หัวแหลมเป็นสามเหลี่ยมใหญ่ขึ้นมานี่ก็เอาไว้ใช้ล่าสัตว์ใหญ่ พวกกวางหรือหมี” มือกร้านชี้ไปที่ธนูซึ่งส่วนหัวทำจากโลหะรูปสามเหลี่ยม “การล่าสัตว์ใหญ่ ต้องใช้หัวธนูแบบนี้เพื่อให้เกิดบาดแผลใหญ่ลึก บาดเจ็บมากน่ะ”

เด็กหนุ่มรับฟังอย่างสนใจ “ล่าสัตว์ที่เคลื่อนที่ไปมาเร็วๆ ได้ คนยิงธนูก็ต้องแม่นมากเลยนะครับเนี่ย”

“แคว้นไฮเดลแบร์กมีนายขมังธนูเก่งเป็นที่เลื่องลือ กลุ่มหนึ่งในทั้งหมดนั้นก็ยืนอยู่ข้างหน้าเจ้าอย่างไรกันล่ะ” คาร์ลผายมือไปที่องครักษ์และทหารพลธนูของตน

“โอ้โห”

ลอร์ดหนุ่มเรียกทหารพลธนูออกมาสองนาย พร้อมกับสั่งให้ทหารอีกคนไปนำผลแอปเปิลมาให้ “พวกเจ้าแสดงความเก่งกาจให้ข้าดูหน่อยซิ” เขาวางผลแอปเปิลลงในมือเด็กหนุ่ม แล้วบอกให้โยนขึ้นไปในอากาศ “เจ้าไปยืนตรงเป้าฟาง แล้วเมื่อข้าให้สัญญาณก็จงโยนแอปเปิลขึ้นไปสูงๆ”

ลูคัสรีบวิ่งไปยืนข้างๆ เป้าฟางด้วยความตื่นเต้น เขารอฟังสัญญาณแล้วโยนผลแอปเปิลขึ้นในอากาศ ฝ่ายนายทหารก็น้าวสายธนูคันยาวแล้วยิงลูกธนูออกมาแทงทะลุผลแอปเปิลทันที

“สุดยอด!” เด็กหนุ่มปรบมือเสียงดัง เขาเดินไปหยิบลูกธนูซึ่งยังมีผลแอปเปิลติดคาอยู่บนก้านขึ้นมาดูอย่างสนใจ จากนั้นจึงเดินกลับมาหาลอร์ดหนุ่ม

“ไม่น่าเชื่อเลย ตอนผมมายืนดู เห็นบางครั้งลูกธนูส่ายน้อยๆ เลยไม่คิดว่าจะแม่น” เขาก้มลงมองหัวธนูแบบต่างๆ อีกครั้ง

“มันสั่นเพราะขนาดหัวธนูน่ะขอรับ พอหัวใหญ่ขึ้นก็จะกะเป้าที่อยู่ไกลออกไปได้ยากขึ้น ใช้ยิงได้ดีในระยะใกล้เท่านั้น” นายทหารตอบแทนผู้เป็นนาย

ลูคัสขมวดคิ้วพลางหยิบลูกธนูหัวสามเหลี่ยมขึ้นมาพิจารณาดู จากนั้นจึงชี้ไปที่ขนนกที่ปลายธนู “ขนนกตรงปลายนี่ช่วยพยุง ลูกธนูขณะเคลื่อนที่ไปในอากาศ ถ้าลองปรับการจัดวางขนนกสักหน่อย อาจจะช่วยพยุงให้ลูกธนูประคองตัวอยู่ในอากาศได้ดีขึ้น อาจจะเคลื่อนที่ได้ไกลขึ้นด้วยนะครับ อืม... อย่างเช่นลองบิดขนนกให้มันโค้งเล็กน้อย จะทำให้รอบหมุนของลูกธนูในอากาศเพิ่มขึ้น...”

สิ้นคำพูดของลูคัส บริเวณนั้นก็เงียบกริบไปพักหนึ่ง สายตาทุกคู่จับจ้องเขาเขม็งราวกับเป็นตัวประหลาด

ลูคัสชะงัก ก่อนจะลุกขึ้นพรวด เขาทำอะไรผิดอีกเนี่ย เดี๋ยวก็โดนหัวเราะใส่ เดี๋ยวก้อโดนจ้องเหมือนเขาเข้าไปขอยืมเงินมาแล้วชิ่งหนี แบบนี้จะให้ทำอย่างไร เขาควรจะถอยดีไหม หรือจะวิ่งเลยดี แต่คนเยอะขนาดนี้ แค่ก้าวขาออกไปก็โดนรุมแล้วไหม

ลอร์ดหนุ่มหยิบลูกธนูขึ้นมาพิจารณา ส่วนของขนนกที่อยู่ปลายธนูนั้น ช่างทำธนูเลือกใช้ขนนกชนิดที่มีน้ำหนักกำลังดีและทนทานที่สุดมาตัดให้มีขนาดเท่ากันทั้งหมด ใช้ตามแม่แบบเดิมมาแต่ไหนแต่ไร “ขนนกที่ปลายลูกธนูงั้นหรือ” เขาหันไปออกคำสั่งกับองครักษ์ “เรียกช่างทำลูกธนูมานี่ซิ”

“อ๋า” เด็กหนุ่มหันรีหันขวาง สงสัยว่างานนี้เขาจะได้ไปต่อ ไม่ต้องหนีให้เหนื่อย

เมื่อนายทหารที่เป็นช่างทำธนูก้าวเข้ามา คาร์ลจึงบอกเด็กหนุ่มให้อธิบายเรื่องการจัดวางขนนกช่างทำธนูอีกครั้ง เขาต้องการจะเห็นลูกธนูแบบที่อีกฝ่ายกล่าวถึง

สีหน้านายทหารคนอื่นๆ ยังคงงุนงง หากสักพักช่างทำธนูก็นำลูกธนูหลายๆ ดอกที่ติดขนนกไว้ตามที่เด็กหนุ่มบอกมาส่งให้

เออร์วินและคอนราดก็มองดูกันอย่างสนใจ พอถึงเวลาทดลองยิง ทั้งสองคนจึงอาสาเป็นคนทำการทดสอบให้ด้วยตนเอง

องครักษ์ทั้งสองยิงธนูออกไปพร้อมกัน การเคลื่อนที่ของลูกธนูหมุนเป็นเกลียวในอากาศ แล้วจึงพุ่งเข้าเป้าตรงกลางพอดิบพอดี พวกเขาลองหยิบธนูมาทดลองยิงอีกสองสามครั้งก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

“แต่ลูกธนูแบบเก่าก็เข้าเป้าเหมือนๆ กัน ข้าไม่เห็นว่ามันจะแตกต่างกันเลย” เออร์วินเปรย

“ถ้างั้นเลื่อนเป้าออกไปให้ห่างอีกได้ไหมครับ แล้วลองยิงเทียบกับลูกธนูแบบเดิม” เด็กหนุ่มบอกให้เคลื่อนเป้าออกไปเป็นระยะๆ พร้อมกับทดลองยิงอีกหลายๆ ครั้ง เมื่อระยะห่างออกไป จำนวนครั้งที่ลูกธนูแบบเดิมจะเข้าตรงเป้าก็ลดลงเรื่อยๆ “เราน่าจะพอสรุปได้แล้วนะครับ เมื่อระยะทางเพิ่มมากขึ้น ในภาวะที่ไม่มีลมแบบนี้ ธนูแบบเก่ายิงได้ไม่ตรงเป้าเท่าแบบที่สอง เพราะแบบใหม่ประคองตัวในอากาศได้ดีกว่านั่นเอง ทุกคนคงจะเห็นแล้วนะครับว่าแค่ความแตกต่างของการจัดวางขนนกก็มีผลต่อวิถีของลูกธนู”

ช่างทำธนูอ้าปากค้าง ไม่ต่างกับทหารที่ยืนอยู่ในที่นั้น ครั้งนี้แม้แต่เออร์วินก็พูดไม่ออก

Dead air อีกแล้วมั้ย! ลูคัสเอ๊ย! เขาจุ้นจ้านมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย

เด็กหนุ่มถอยหลังออกไปสองสามก้าว ชนเข้ากับลอร์ดหนุ่มพอดี เขาเงยหน้าขึ้นมอง พร้อมกับที่อีกฝ่ายโน้มใบหน้าเข้ามาหา

“เจ้ายิงธนูไม่เป็นไม่ใช่รึ” คาร์ลถามขึ้นท่ามกลางความเงียบ

“ก็ไม่เป็น...” ลูคัสอึกอัก “แต่ผมก็แค่เอาหลักการฟิสิกส์มาประยุกต์ใช้ เอ้อ... คุณคงพอจะเคยได้ยินคำว่าฟิสิกส์ใช่มั้ย คือ... เอาเป็นว่าผมอ่านเอาจากหนังสือก็แล้วกัน”

ลอร์ดหนุ่มยิ้มบางพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน เขานิ่งครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงเดินเข้าไปพูดคุยตรงที่องครักษ์กับพวกทหารพลธนูยืนรวมกันอยู่

พอยืนอยู่คนเดียวก็รู้สึกโหวงเหวงขึ้นมาทันใด เขารู้สึกว่าพวกทหารหันมามองตัวเขาอยู่หลายครั้ง สองขาพาเจ้าของถอยหลังไกลออกไปอีก แล้วพอได้โอกาสก็หันหลังขวับ

“เจ้าจะไปไหนรึ”

เสียงคุ้นหูส่งผลให้ร่างโปร่งหยุดกึก “กลับห้องครับ”

คนถามสาวเท้าเข้ามาใกล้ “เหนื่อยแล้วหรือ”

“ผม...” เด็กหนุ่มมองไปยังกลุ่มทหารทางด้านหลัง ซึ่งยังคงหันมามองเขาเป็นพักๆ “ทุกคนมองผมแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้”

“เจ้าก็แปลกจริงๆ ไม่ใช่หรือ” คาร์ลหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

ลูคัสเบ้ปากใส่ “อ้าว ท่านลอร์ด! ทำไมว่ากันอย่างนี้ล่ะ”

แขนแกร่งยกขึ้นโอบไหล่ของเด็กหนุ่มพร้อมกับพาให้เดินออกไปพร้อมๆ กัน “ข้าจะไปที่สวนด้านหลังสักหน่อย เห็นว่าเพิ่งตัดแต่งใหม่ เจ้าไปด้วยกันสิ”

เด็กหนุ่มหันขวับ “คุณว่างแล้วหรือ”

“อืม”

ริมฝีปากสีสดคลี่ยิ้ม “ก็ดีเหมือนกัน กลับห้องไปก็น่าเบื่ออะครับ”

“ข้าเห็นเจ้าหลับตลอด มีเวลาให้เบื่อด้วยหรือ”

“ผมไม่ได้หลับตลอดสักหน่อย คุณไม่ได้อยู่กับผมตลอดเวลานะ”

คาร์ลหัวเราะอย่างอารมณ์ดี น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกโกรธเวลาที่เด็กหนุ่มต่อปากต่อคำด้วย ทั้งที่ไม่เคยมีใครกล้าพูดจาเช่นนี้กับเขา แม้กระทั่งน้องชาย อาจเป็นเพราะเขารู้สึกถูกชะตากับอีกฝ่าย หรือความจริงใจของเด็กหนุ่มที่ส่งมาถึงเขา ที่สำคัญ การที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่ไม่สนใจฐานะและยศถาบรรดาศักดิ์ของเขาแบบนี้ก็ดีไม่ใช่น้อย

สวนกุหลาบด้านหลังปราสาทถูกตัดแต่งเป็นพุ่มให้ดูเรียบร้อย มีการนำโลหะมาทำโครงให้เถากุหลาบไต่ขึ้นไปได้ ทว่าน่าเสียดายที่กลีบดอกกุหลาบเริ่มร่วงโรยเพราะอากาศที่หนาวเย็นลงทุกวัน

“สวนดูดีกว่าที่เห็นครั้งแรกมากเลย ตอนนั้นมีก้านชี้โด่ชี้เด่ แล้วก็มีต้นหญ้าสูงๆ ขึ้นแทรกเต็มไปหมด” ลูคัสเปรย ก่อนจะเหลือบมองลอร์ดหนุ่ม เพราะจู่ๆ ก็ดันนึกขึ้นมาได้...

คืนนั้น เขาพูดกับอีกฝ่ายไว้ว่าเมื่อจับพวกโจรได้แล้วจะกลับหรือไม่ก็ไปให้พ้นจากที่นี่

แม้ในเวลานี้ใจคิดอยากจะลองอยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อย แต่ว่าก็เคยเอ่ยปากออกไปแล้ว คราวนี้เขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ

ลูคัสค่อยๆ ชำเลืองมองลอร์ดหนุ่ม “เอ้อ... คือ...”

“ครั้งแรก... ตอนที่เจ้าไต่กำแพงลงมาแล้วก็วิ่งหนีข้าน่ะหรือ”

“หือ? ทำไมคุณจำเรื่องแบบนี้ได้ดีจังครับ” เด็กหนุ่มส่งสายตาขุ่นๆ ใส่ จากนั้นจึงถอนหายใจ “ตอนนั้นผมทั้งกลัวทั้งงงมากเลยนะ พอตื่นขึ้นมาตัวผมก็เข้ามาอยู่ที่นี่ มาได้ยังไงก็ไม่รู้”

“สวรรค์คงส่งเจ้ามาช่วยเหลือแบร์กไฮม์กระมัง”

คำพูดกับสีหน้านิ่งที่บ่งบอกว่าไม่ได้ล้อเล่นส่งผลให้ใบหน้าของลูคัสซับสีเลือด “หะ... หา!”

“เจ้าคงไม่ได้มาจากนรกใช่ไหม” ครั้งนี้ลอร์ดหนุ่มพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง สีหน้าของอีกฝ่ายทำให้เขาเกือบจะหลุดขำออกมาอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าเมื่อไหร่ลูคัสก็ทำให้เขาอารมณ์ดีได้เสมอเลยจริงๆ

“ท่านลอร์ด! ผมไม่เหมือนคนตรงไหนกัน!”

“นอกจากมีสองตา หนึ่งจมูก หนึ่งปาก สองแขน สองขาแล้ว เจ้าก็ไม่ค่อยเหมือนใครที่นี่สักเท่าไหร่”

ลูคัสขมวดคิ้ว ท่านลอร์ดคนที่ใครๆ ก็เกรงขามและหวาดกลัว เวลาที่อยู่กับเขานี่กลับกลายเป็นคนช่างแกล้งไปได้ “เพราะพ่อกับแม่ผมเป็นคนต่างชาติ พวกท่านมาจากที่ไกลมากๆ”

“แต่ข้าชอบสีผมกับสีตาของเจ้านะ”

“......” แบบนี้เรียกว่าตบหัวแล้วลูบหลังหรือเปล่า นัยน์สีเข้มจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ไว้ใจนัก

“เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว”

“สิบเก้าครับ เพิ่งสิบเก้าวันที่พบกับคุณวันแรกนั่นล่ะ”

“งั้นรึ เจ้ายังดูเหมือนเป็นเด็กน้อยอยู่เลย”

“นี่คุณกำลังชมผมอยู่รึเปล่าเนี่ย”

“แต่ความรู้ของเจ้ามากกว่าคนแก่บางคนเสียอีก” คาร์ลพูดกลั้วหัวเราะ “เจ้าไปหัดเขียนอ่านมาจากไหนรึ”

“พ่อแม่ส่งผมไปเรียนตั้งแต่เด็กแล้ว...” เมื่อเอ่ยถึงบิดามารดาก็ทำให้สีหน้าของเด็กหนุ่มสลดลง เขาหลงมาอยู่ในต่างยุคอย่างนี้หลายวันมากแล้ว ป่านนี้ทุกคนจะเป็นอย่างไรกันบ้าง มารดาจะเศร้าโศกเสียใจขนาดไหน

ลูคัสก้มหน้าลงพลางทอดถอนใจอย่างแผ่วเบา

“เป็นอะไรไป”

“ผมควรจะรีบหาทางกลับบ้าน พ่อแม่กับพี่ชายของผม ป่านนี้ทุกคนคงตามหาผมกันแทบคลั่ง” เสียงที่เปล่งออกมาสั่นน้อยๆ สองมือกำเข้าหากันแน่นเพื่อพยายามอดกลั้น ความรู้สึกแปลกๆ ในอกนี้มันคืออะไรกัน ใจหนึ่งเป็นห่วงบ้าน อยากกลับไปหาครอบครัว แต่อีกใจ... กลับกลัวการจากลา “แล้วอีกอย่าง...”

ลอร์ดหนุ่มก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าร่างโปร่ง เขายกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน จากนั้นจึงยกหมวกของเสื้อคลุมขึ้นมาคลุมศีรษะให้ “เจ้าเพิ่งฟื้นไข้ อากาศเย็นแบบนี้เดี๋ยวจะมีไข้อีก” 

ฝ่ามือกร้านส่งผ่านความอบอุ่นไปถึงในหัวใจ ลูคัสสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วฝืนยิ้ม หากดวงตายังคงหลุบต่ำ

คาร์ลเชยคางอีกฝ่ายขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องแพขนตายาวบนดวงตาที่มีน้ำตารื้นขึ้นมาเอ่อคลอ เขาใช้ปลายนิ้วเกลี่ยพวงแก้มสีระเรื่ออย่างแผ่วเบาพลางโน้มศีรษะเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วพูดเสียงแผ่วเบา

“อยู่ต่อไปอีกสักพักเถอะ”

เมื่อใบหน้าคมสันหล่อเหลาเคลื่อนเข้ามาใกล้ก็ทำให้ลมหายใจขาดห้วง ลูคัสเงยหน้าขึ้นสบประสานสายตากัน “ท่าน...” ก่อนจะร้องลั่น “โอ๊ย! ท่านลอร์ด! หยิกแก้มผมทำไมอะ!”
 
“เจ้าเด็กขี้แย” ลอร์ดหนุ่มดึงหมวกลงมาคลุมใบหน้าอีกฝ่ายไว้เล็กน้อย จากนั้นจึงหันหลังเดินออกไป

“ผมขี้แยตรงไหนกัน!” มือเรียวยกขึ้นกุมแก้มตนเองไว้แล้วพึมพำ “ยังไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย” พอจับหมวกที่ปิดหน้ายกขึ้น ก็เห็นว่าลอร์ดหนุ่มเดินห่างออกไปแล้ว

“ท่าน...” ลูคัสชะงักไปเล็กน้อย

หรือว่าเมื่อกี้คือการปลอบใจของท่านลอร์ด ที่หันหลังเดินหนีไป ก็เพราะคิดว่าเขาคงจะอายที่เกือบจะร้องไห้ออกมาอย่างนั้นหรือ

แต่ที่สำคัญกว่านั้น


อยู่ต่อไปอีกสักพักเถอะ


กลีบปากสีแดงราวกลีบกุหลาบคลี่ยิ้ม ขาเรียวพาเจ้าของก้าวตามลอร์ดหนุ่มไป “ท่านลอร์ด นี่ ผมเห็นคุณยิงธนูแล้ว คุณฟันดาบเป็นด้วยหรือเปล่า”

เมื่อได้ยินเสียงเรียก คาร์ลก็ชะลอฝีเท้าลง รอให้เด็กหนุ่มก้าวเข้ามายืนข้างกัน “เป็นสิ ข้าเองก็ถูกฝึกมาเหมือนทหารทุกคนนั่นล่ะ”

“จริงหรือครับ เป็นท่านลอร์ดก็ต้องฝึกด้วยหรือ”

“เจ้าถามอะไรแปลกจริง”

มือนุ่มคว้าแขนเสื้ออีกฝ่ายแล้วกระตุกเบาๆ “นี่ๆ ถ้าวันไหนคุณจะซ้อมฟันดาบ ขอผมไปดูด้วยคนนะ ผมยังไม่เคยเห็นการต่อสู้ด้วยดาบจริงๆ เลยอะ”

ลอร์ดหนุ่มก้มลงมองมือที่ขยุ้มแขนเสื้อเขาอยู่ ก่อนจะจับมือเรียวพลิกขึ้นแล้วใช้ปลายนิ้วสัมผัสอย่างแผ่วเบา

“ฮะๆ จั๊กจี้ คุณจะทำอะไรน่ะ”

“เจ้า...” คาร์ลย่นคิ้วเข้าหากัน “ทำไมมืออย่างกับผู้หญิงแบบนี้กัน”

“อ้าว ท่านลอร์ดหาเรื่องผมแล้วมั้ยล่ะ” ลูคัสรีบดึงมือกลับพร้อมกับส่งสายตาดุใส่ “เหมือนผู้หญิงตรงไหนกัน” เขาก้มลงพิจารณาฝ่ามือตนเอง

“มือของเจ้าบอกว่าเจ้าไม่เคยจับอาวุธ ไม่เคยทำงานหนัก เจ้าเติบโตมาแบบไหนกัน”

“อ่า...” ลูคัสโคลงศีรษะไปมา จะให้เขาตอบว่าอย่างไรดีล่ะ ก็เพราะไม่เคยจริงๆ ไง วันๆ ก็เอาแต่เรียน จับปากกา ดินสอ แป้นพิมพ์กับเมาส์คอมพิวเตอร์เท่านั้น แล้วจะอธิบายอย่างไรให้เข้าใจได้ง่ายๆ “อืม... เพราะเมืองที่ผมจากมาสุขสงบ ไม่มีสงคราม โจรก็น้อย แต่ถึงอย่างนั้นเมืองก็ยังต้องการการพัฒนาใช่มั้ยล่ะครับ เพราะงั้นก็เลยต้องมีคนอีกกลุ่มที่ใช้ความรู้จากการเรียนกับอ่านหนังสือมาทำงานตรงนี้”

ลอร์ดหนุ่มรับฟังแล้วทอดสายตามองไกลออกไป “ข้าเองก็หวังให้แบร์กไฮม์เป็นเมืองเช่นนั้น”

เด็กหนุ่มจ้องมองใบหน้าคมสันกับนัยน์ตาสีฟ้าที่ดูราวกับท้องฟ้าสดใสเบื้องบนอยู่ชั่วครู่ เขาเข้าใจคำพูดของอีกฝ่ายดีจากการกระทำหลายๆ อย่าง และยังประทับใจมากด้วย “ต้องเป็นได้แน่ๆ ครับ เพราะมีผู้นำอย่างคุณไงล่ะ”

คาร์ลยิ้มบาง เขาหันมาหาที่เด็กหนุ่มยืนอยู่ใกล้ๆ “ขอบใจ”

เสียงฝีเท้าหนักๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ เรียกให้ทั้งสองหันไปทางต้นเสียง

“ท่านคาร์ล”

“มีอะไรรึ คอนราด เออร์วิน”

“มีพวกชาวเมืองจากในหมู่บ้านริมแม่น้ำมาขอเยี่ยมลูคัสขอรับ ตอนนี้พวกเขารออยู่ที่หน้ากำแพงปราสาท”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง ใบหน้าฉายแววดีใจ เขารีบหันไปขออนุญาตเจ้าของปราสาท “ท่านลอร์ด ผมไปพบพวกเขาได้มั้ย”

สีหน้าเปี่ยมสุขของลูคัสนั้นส่งผลให้ลอร์ดหนุ่มไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ทำไมน่ะหรือ... ก็เพราะตลอดเวลาที่อยู่กับเขา เด็กหนุ่มไม่เคยทำท่าดีใจขนาดนี้เลย

“ท่านลอร์ด” ลูคัสทวงถามคำตอบอีกครั้ง

“ไปสิ ข้าจะไปด้วย”


*~TBC~*


อร๊อยยยยย ทั่นหลอดดด คารมคมหอกจีบเด็กอ่ะะะะ 5555555555 :jul3:

ตอนนี้หวานๆ น่ารักๆ เนอะ เอาจริงๆ ก็แนวนี้ทั้งเรื่องแหละค่ะ จบแฮปปี้แน่นอน ไม่ต้องกังวลนะคะ

ส่วนหนูลูคัสยังจะเก่งยิ่งกว่านี้อีก ทั่นหลอดจะมีเมียเด็กทั้งที ต้องให้เริ่ดสุดๆ ไปเลยน้อออ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า เยิฟๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 25-11-2016 18:20:49
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-11-2016 18:23:30
อัจฉริยะน้อยย น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 25-11-2016 18:53:19
 :a5:
ห๊ะ ท่านหลอดครับ มีออกอาการน้อยใจด้วย
แหม...ตัวโตซะปล่าว เน๊อะท่านหลอดเน๊อะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-11-2016 19:01:53
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 25-11-2016 19:03:26
เอาล่ะเหวยต่างคนต่างเริ่มมีอารมณ์แปลกๆขึ้นมาแล้ว หุหุ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 25-11-2016 19:13:22
ท่านหลอดดดดดด เผลอไม่ได้แต๊ะอั๋งเด็กตลอดๆ
เดี๋ยวเชยคาง เดี๋ยวโอบ เดี๋ยวจับ เดี๋ยวหยอด :-[  :katai1:
น้องลูคัสช้ำหมดแล้วค่าท่านนนน
มีความหวงเบาๆ ตามไปคุมเด็กด้วย
ท่านลอร์ดไวไฟ ทันใจคนเชียร์จริงๆค่าาา
ตั้งชื่อหมาเหมือนกันด้วยอะ ไม่บังเอิญใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-11-2016 19:30:50
ท่านลอร์ด เริ่มหวั่นไหวใช่ไหม

ลูคัสนายเอกน้อยของเรา

ฉลาดหลักแหลมมากๆ

และไม่งี่เง่าด้วย ชอบๆ

อ่านเพลินๆตัดจบซะงั้น

ไม่เป็นไร มาบ่อยๆนะคนแต่ง

คนอ่านคนนี้มารอทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-11-2016 19:39:27
ลูคัสทำทุกคนอึ้งอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-11-2016 19:45:07
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 25-11-2016 19:49:58
หนูลูลูกกกกก น้ำตาซึมยิ่งดูโมเอ้ //จูบกระหม่อม  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 25-11-2016 19:52:45
แหมท่านลอร์ด ก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่ความเนียนของท่านจะดูไม่ออกเชียวหรือ? :confuse:
เนียนหลอกโอบไหล่น้อง แถมยังเนียนหยิกแก้มน้องอีก อยากสัมผัสแก้มน้องก็มาบอกเถอะะ
รู้สึกคันคออแปลกๆ อยากจะไอจังเลยค่ะท่านลอร์ด คุกคุกคุก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 25-11-2016 20:10:15
เจ้าหนูลูคัสสสสส น่ารักน่าหยิกจนท่านลิร์ดอดใจไม่ไหวต้องส่งมือไปหยิกแก้มเลย อิอิ  :hao7:
อยากอ่านตอนที่น้องลูขั้นเทพแล้วค่ะ รอแทบไม่ไหวเลย  :z13:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 25-11-2016 20:10:56
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 25-11-2016 20:26:29
ถึงขั้นไม่สบอารมณ์เชียวนะท่านลอร์ด  :hao3:

มีจับมงจับมืออีก  :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-11-2016 22:08:58
ตอนนี้ยังบอกแค่อยู่ต่อไปอีกสักพักเถอะ
อีกหน่อยท่านลอร์ดคงบอกว่าอยู่ด้วยกันตลอดไปเถอะนะลูคัส

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-11-2016 23:10:22
แบบนี้อีกไม่นานลูคัสได้ใจทหารทั้งวังแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 25-11-2016 23:33:58
^
^
^
จิ้ม...แบบช้า..ช้า..เพราะมาช้า.....(เกี่ยวมะ??)
อัจฉริยะตัวน้อยแห่งเมืองแบร์กไฮม์ ลูคัส ในครั้งนี้เองก็ได้ใช้ความรู้จากศตวรรษที่ 22 (???) มาใช้พัฒนาเมืองแบร์กไฮม์อีกเช่นเคย โดยตอนนี้ได้ใช้กฎฟิสิกส์การต้านลมมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธนูให้ดียิ่งขึ้นอีกทั้งยังทำให้เหล่าทหารองครักษ์และท่านหลอดตกใจได้อีกด้วย จบการนำเสนอ(อย่างเป็นทางการ)เพียงเท่านี้
เอาล่ะมาเมนท์แบบไม่เป็นทางการบ้าง 555
เปิดมาตอนนี้เลยรู้เลยว่าพี่ลูคัสอายุเท่าไหร่ 55 เอากฎฟิสิกส์มาใช้เพิ่มระยะธนูด้วยแถมเอาคนอื่นอึ้งตาค้างตกใจกันอีก ตบมือ!! :m4: :m4: ท่านหลอดก็เจ้าเล่ห์นะพอพี่ลูจะหนีไปก็ตามมาให้ไปอยู่หลังปราสาทกัน 1-1 ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ในฤดูค่อนหนาวลมเย็น.....ช่างโรแมนติกจริงๆ!!! :o9: :o9: และก็จับคางลูคัสเชยขึ้นและปาดน้ำตาให้ ความอ่อนโยนนี้มันอะไรกัลเดี๋ยวพี่ลูก็ได้หลงเข้าไปอีกหรอก หรือว่ามันเป็นแผนของท่านหลอด!!  ถ้ากำแพงอยู่ใกล้ๆนี่คง "ยันกำแพง เชยคาง" เลยสินะ 555 อ้ะๆๆข้ามจุดสำคัญมา ...สอนธนูๆๆๆๆๆๆ... อ้อมไปด้านหลังจับคันธนูจับสายธนู แผ่นหน้าอกท่านหลอดชิดหลังลูคัส ลมหายใจกระทบแก้ม....
o4 o4 ฟินนาเล่ไปตามๆกันเลยทีเดียว  o4 o4 และสุดท้าย ตอนสุดท้ายของตอนนี้ ท่านหลอดหึงสินะ....อืมๆ....หึงงั้นสินะ.....หึง..หึง...ท่านหลอดหึงล่ะ!!! //โดนท่านหลอดลากไปปรับทัศนะคติ.... :o :o
เอาเป็นว่ารอตอนต่อจ้า~~ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 25-11-2016 23:49:17
ทั่นหลอดเต๊าะเด็ก 555555 คู่นี้นางน่ารักอ่า มีความมุ้งมิ้ง หยอดเล็กหยอดน้อย เขิลลลล  :katai5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 26-11-2016 00:14:37
นายเอกที่เก่งและฉลาดใช่หากันได้ง่ายๆนะชอบบุคลิกลูคัสมากเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-11-2016 01:53:02
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-11-2016 02:09:15
ลูคัสหนูจะมีผู้ชายเป็นของตัวเองแล้วนะคะลูกสาว5555 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: INK@PANTIP ที่ 26-11-2016 09:20:28
 :hao4:สนุกมากค่ะร อๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-11-2016 12:41:50
ลูคัสเก่งมากๆเลย อ่านแล้วนึกถึงแม่มณีเลย ข้ามภพไปช่วยพระเอก อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 26-11-2016 23:57:05
 :o8:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-11-2016 00:20:48
ติดเด้กๆนะท่านหลอด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 27-11-2016 14:44:15
โอ้ยยย ท่าหลอดอาการออกแล้วล่ะค่ะ

ปล.ระบบศักดินาสวามิภักดิ์เพิ่งเรียนไปเมื่อเทอมที่แล้วพอดีเลย โอ้ยยยย เห็นคุณฮัสกี้บอกว่าในยุคนั้นยังไม่มีองครักษ์ เลยงงๆ ว่าแล้วที่ถูกส่งไปอยู่กับเลดี้แล้วโตขึ้นจะได้ไปรับใช้ขุนนางนี่คืออะไร สรุปคืออัศวิน ไม่ใช่องครักษ์ ขนาดเรียนไปเทอมที่แล้วยังลืมๆเลย แงงงง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 28-11-2016 19:45:40
สนุกอะ สนุกมากๆ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-11-2016 20:44:38
เมียเด็กทั้งเนื้อนุ่ม ทั้งฉลาดเฉลียว ทั้งจิตใจดีงาม ทั่นหลอดหลงเมียหัวปักหัวปำแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 28-11-2016 21:13:56
 :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 30-11-2016 23:57:48
:a9: :a9: ดัน ดัน ดัน เรามาดัน กระทู้กันเตอะ :a9: :a9:
มาดันกระทู้เพื่อท่านหลอด พี่ลู และพี่ฮัสกี้จ้า~~~
เอ้า!! ดัน ดัน ดัน ~~~ :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 9 : ลูกธนู][251116]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 01-12-2016 19:11:34


Chapter 10 : ไว้ใจ


ที่ตรงหน้าประตูทางเข้ากำแพงปราสาท เลนและมารียืนรออยู่ที่นั่นด้วยกันกับทหารเฝ้าประตู หญิงวัยกลางคนถือดอกไม้หลากสีช่อใหญ่ที่เก็บมาจากในทุ่งไว้ในมือ สีหน้าของพวกเขาดูกังวลเล็กน้อย เพราะเกรงกลัวพวกทหารที่เดินผ่านไปมา หากรออยู่สักพักก็ได้ยินเสียงใสร้องเรียก

“เลน! มารี!” ลูคัสวิ่งเข้าไปสวมกอดทั้งสองคน

“ลูคัส เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ข้าได้ยินว่าเจ้าบาดเจ็บ” มารีส่งดอกไม้ให้ หล่อนวางมือประกบแก้มนิ่มแล้วจูบบนหน้าผากของเด็กหนุ่มเบาๆ “เป็นห่วงเหลือเกิน”

“ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วครับ แต่ผมก็เพิ่งจะลุกได้ วันนี้เลยเดินซะเยอะเลย”

“ข้ากับแม่มาหาเจ้าเมื่อสามวันก่อน แต่พวกทหารเขาว่าเจ้าบาดเจ็บมากและยังไม่ฟื้น พอตายายรู้ข่าวเข้าก็นอนไม่หลับเลย”

“ยังเจ็บอยู่ไหมลูคัส”

“ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะครับ”

สองแม่ลูกถามไถ่ทุกข์สุขเด็กหนุ่มกันอยู่สักพักจึงสังเกตเห็นคอนราดยืนอยู่กับทหารที่ท่าทางจะมียศสูงอีกสองคน พวกเขาเดาเอาเองว่าน่าจะเป็นทหารองครักษ์ของเจ้าของปราสาทเช่นกัน มารีเดินเข้าไปหาแล้วค้อมศีรษะลงต่ำ “ขอบคุณเจ้าค่ะ ขอบคุณที่เมตตาลูคัส”

เลนลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน “เจ้าจะได้กลับบ้านเราแล้วใช่ไหมลูคัส ทุกคนคิดถึงเจ้าจะแย่”
 
“จริงหรือ ผมก็คิดถึงทุกคนนะ” ลูคัสยิ้มอย่างมีความสุข ดวงตาสีเข้มของเขาสดใสดูเป็นประกาย

“ที่ในเมืองกำลังจะมีงานเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยวด้วยนะ ครั้งนี้แต่ละหมู่บ้านเตรียมอาหารไว้เพียบเลย เพราะจะฉลองให้ท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ด้วย”

“งานฉลองหรือ! ผมอยากกลับไป...”

“กลับไม่ได้! ข้าไม่อนุญาต!” ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์กล่าวเสียงขรึม น้ำเสียงของเขาส่งผลให้มารีสะดุ้งเฮือก หล่อนรีบก้มหน้าลง แล้วถอยหลังออกไปยืนอยู่กับลูกชายพร้อมกับยกมือขึ้นกุมอกด้วยความกลัว

คาร์ลรู้สึกหงุดหงิดกับท่าทางดีอกดีใจของลูคัสมาสักพักแล้ว... เขาให้เด็กหนุ่มพักอยู่ในห้องหับสุขสบายภายในปราสาท หากอีกฝ่ายก็เอาแต่พูดว่าจะกลับบ้าน แล้วนี่ยังคิดจะกลับไปอยู่ที่เดิมอีกหรือ อยู่ใกล้ๆ เขาซึ่งเป็นผู้ครองเมืองไม่ดีหรืออย่างไรกัน

ฝ่ายลูคัสเองก็ตกใจไม่แพ้กันกับมารี แต่พอมานึกอีกที ถึงตอนนี้ตัวเขาจะไม่ได้อยู่ในคุก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาถูกปล่อยให้เป็นอิสระนี่นะ

สีหน้าของเด็กหนุ่มสลดลง ที่ท่านลอร์ดบอกกับเขาว่าให้อยู่ต่อไปอีกสักพัก คืออยู่ในฐานะอะไร เขาพยายามแสดงความจริงใจออกไปหมดแล้ว อีกฝ่ายยังไม่ไว้ใจกันอีกหรือ

เลนบีบมือเรียวแน่นพลางกระซิบเสียงเบา “ข้าขอโทษ ลูคัส ข้าดีใจมากเกินไป”

เด็กหนุ่มส่ายหน้าไปมาช้าๆ ทว่าพูดไม่ออกเลย ในศีรษะอื้ออึงไปหมด “.....”

“เจ้าจะถูกลงโทษไหม”

“ไม่... ไม่รู้เหมือนกัน” ลูคัสเอ่ยเสียงเศร้า

“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ข้ากับแม่จะมาเยี่ยมเจ้าอีก” เด็กหนุ่มชาวบ้านพูดพลางสวมกอดอีกฝ่าย

ลอร์ดหนุ่มจ้องมองคนทั้งสองเขม็ง “ลูคัส กลับห้องของเจ้าไปได้แล้ว” เขาหันหลังกลับแล้วเดินนำออกไป “เออร์วิน!”

เจ้าของชื่อเรียกค้อมศีรษะรับ “ขอรับ”

“ผมต้องไปแล้วล่ะ” ลูคัสบอกกับสองแม่ลูกเสียงอ่อย

มารียืนนิ่ง น้ำตาไหลอาบแก้ม นึกสงสารเด็กหนุ่มจับใจ ทว่าก็ทำได้เพียงแค่ยืนส่งด้วยกันกับลูกชายเท่านั้น

ลูคัสเงยหน้าขึ้นสบสายตากับองครักษ์หนุ่ม อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรหากเดินนำออกไปช้าๆ เขาจึงก้าวตามไปพร้อมกับทหารที่เข้ามาประกบทางด้านหลังอีกสองนาย

...ตัวเขาไม่ต่างกับเป็นนักโทษเลยจริงๆ แม้แต่จะไปไหนมาไหนเพียงลำพังยังไม่ได้

เด็กหนุ่มเดินตามเออร์วินไปเงียบๆ จนกระทั่งถึงห้องของตนที่ชั้นสองบนฝั่งขวาของปราสาท ที่หน้าห้องมีทหารเฝ้าประจำอยู่สองนาย องครักษ์หนุ่มเปิดประตูออกแล้วผายมือให้อีกฝ่ายเข้าไปด้านใน

เมื่อลูคัสเดินหน้าสลดเข้าไปในห้องแล้ว เออร์วินก็ดึงประตูปิด เขายืนนิ่งอยู่ที่หน้าห้องชั่วครู่ ก่อนจะเปิดเข้าไปอีกครั้ง “เจ้าหิวหรือยัง”

เด็กหนุ่มพยักหน้า “หิวครับ”

เออร์วินเบือนหน้าไปอีกทางแล้วถอนหายใจ เขาสั่งทหารให้ไปบอกกับสาวใช้ ก่อนจะก้าวเข้าไปภายในห้อง ตรงไปนั่งลงบนโซฟากับเด็กหนุ่ม 

ลูคัสชำเลืองมองคนที่นั่งเป็นรูปปั้นหินอยู่ข้างกันอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป

สักพักสาวใช้ก็ยกสำรับอาหารมาจัดวางให้ วันนี้พวกหล่อนไม่ต้องป้อนอาหารให้เด็กหนุ่มแล้วจึงถอยไปยืนรออยู่ห่างๆ

“หิวก็กินสิ”

นัยน์ตาสีเข้มกวาดมองไปบนสำรับอาหาร มีซุปเนื้อสองชาม กับขนมปังในตะกร้าสองตะกร้า นี่เป็นอาหารสำหรับสองคนงั้นหรือ “คุณเออร์วินจะกินกับผมหรือ”

“ข้าก็หิวเหมือนกัน” องครักษ์หนุ่มตอบเสียงเรียบ ก่อนจะก้มลงรับประทานซุปเนื้อในชาม

เด็กหนุ่มพอยิ้มออกมาได้เล็กน้อย ที่จริงเออร์วินก็คงไม่ได้เกลียดขี้หน้าเขามากมายอะไรล่ะมั้ง อุตส่าห์ยอมอยู่เป็นเพื่อนรับประทานอาหารด้วยกันกับเขาด้วย

หลังจากจัดการกับมื้อเย็นเสร็จแล้ว ลูคัสยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วถือคาไว้อยู่ในมือ เขาเหลือบมองคนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างกันหลายครั้ง เมื่ออีกฝ่ายยังไม่พูดอะไรตัวเขาเองก็ไม่กล้า

ทว่าสักพักองครักษ์หนุ่มที่นั่งเงียบอยู่นานเริ่มต้นบทสนทนาขึ้น “เจ้านั่งพักสักครู่ เดี๋ยวพวกสาวใช้จะมาเช็ดตัวกับเปลี่ยนผ้าพันแผลให้” จากนั้นก็ลุกขึ้นจากโซฟา

“คุณเออร์วินจะไปแล้วหรือ”

“เออร์วิน”

“หือ?” เด็กหนุ่มทำหน้างง

“เจ้าควรเรียกชื่อของข้าเฉยๆ กับคอนราดก็เช่นกัน คุณอะไรนั่นเป็นภาษาบ้านเมืองเจ้า ข้าเข้าใจ แต่เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดสุภาพกับข้าแบบนั้น”

ลูคัสกะพริบตาปริบๆ เออร์วินกำลังบอกเขาแบบอ้อมๆ อยู่ว่าจะยอมเป็นกับเพื่อนเขาให้หรือเปล่าเนี่ย เพราะถ้าเทียบยศถาบรรดาศักดิ์กันแล้ว เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆ เท่านั้นเอง ตามปกติแล้วก็ไม่น่าจะเรียกชื่อเฉยๆ ได้

“เข้าใจหรือเปล่า”

“ครับ เออร์วิน”

องครักษ์หนุ่มยิ้มบาง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

เมื่อบานประตูปิดลงสนิท ลูคัสก็ชำเลืองมองไปยังพวกสาวใช้ในห้อง พวกหล่อนดูจะเพ้อตามรอยยิ้มของเออร์วินกันเลยทีเดียว ทว่าสักพักก็นึกขึ้นได้ จึงรีบรุดไปยกถาดใส่ถ้วยยามาส่งให้เด็กหนุ่ม

“ท่านลูคัสรับยาก่อนนะเจ้าคะ”

ลูคัสหัวเราะเบาๆ “พวกคุณเป็นแฟนคลับเออร์วินกันหรือ เอ้อ ผมหมายถึงชอบเขาหรือ”

ใบหน้าของสาวใช้ที่ถูกถามเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ “แหม ท่านลูคัสล่ะก็... ก็ท่านเออร์วินเป็นเสือยิ้มยาก นานๆ จะได้เห็นรอยยิ้มสักทีน่ะเจ้าค่ะ ทุกทีทั้งดุทั้งเฉียบขาดไม่แพ้ท่านลอร์ดเลยล่ะเจ้าค่ะ”

ลูคัสรับถ้วยยามาจิบ เขาก็ไม่แปลกใจหรอกที่ท่านลอร์ดจะทั้งดุทั้งเฉียบขาด เพราะดูท่านก็น่าจะอายุไม่มากกว่าเขาสักเท่าไหร่ อาจจะเท่ากับไอแซ็ก แต่ต้องปกครองทหารกับเมืองใหญ่ที่มีคนเป็นพันๆ

หากก็มีบางครั้งที่เขาคิดว่าลอร์ดหนุ่มใจดี ทำให้หลงคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ

...เป็นคนพิเศษอย่างนั้นหรือ ทำไมคำนี้จึงทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ ในอก

มือขาวลดถ้วยในมือลง “......”   

อาจเป็นเพราะความจริงแล้ว เขาเป็นแค่นักโทษคนหนึ่งที่พอจะใช้ประโยชน์ได้บ้างเท่านั้นเอง

“ยาขมไปหรือเจ้าคะ”

“เปล่าหรอก... มันก็ขมล่ะ แต่ผมดื่มได้”

...อยากกลับบ้านเหลือเกิน

มือที่ถ้วยอยู่สั่นน้อยๆ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววเศร้าโศก “.....”

“ท่านลูคัสเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ สีหน้าดูไม่ดีเลย จะให้ข้าตามหมอไหม” เมื่อหล่อนเอ่ยขึ้น สาวใช้อีกคนก็เข้ามาสัมผัสใบหน้าของเด็กหนุ่ม “ตัวร้อนๆ นะเจ้าคะ เพราะเพิ่งหายไข้ท่านก็ออกไปตากลมแน่ๆ เดี๋ยวเช็ดตัวสักหน่อยดีกว่าเจ้าค่ะ” จากนั้นพวกหล่อนก็พากันเข้ามารุมล้อม

...

.....

...

เสียงเคาะประตูห้องหนังสือดังขึ้น

“ท่านคาร์ล ข้าเอง”
 
“เข้ามา”

ขณะที่เออร์วินก้าวเข้าไปภายในห้องก็ชำเลืองมองผู้เป็นนายซึ่งมีสีหน้าขรึมตามปกติ แล้วหันไปสบสายตากับคอนราด ก่อนจะเปรยเบาๆ “น่าสงสารนะขอรับ”

ลอร์ดหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะหนังสือ เขาวางปากกาขนนกในมือลงแล้วเงยหน้าขึ้น “เจ้าพูดถึงใคร”

“จะมีใครอีกล่ะท่าน”

คอนราดเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นจึงหัวเราะเบาๆ “เจ้ากินยาผิดมาหรือเออร์วิน”

“ข้า...” เจ้าของชื่ออ้ำอึ้ง

ภายในห้องหนังสือเงียบกริบ องครักษ์ทั้งสองส่งสายตาหากัน ส่วนเจ้าของห้องนั้นนั่งนิ่ง แต่สักพักก็กระแทกปากกาขนนกในมือลงอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลุกเดินไปยังบานหน้าต่าง

เออร์วินพยักพเยิดหน้ากับเพื่อนองครักษ์ เป็นเชิงบอกให้ทำอะไรสักอย่าง 

“ข้าได้ยินว่าในเมืองจะมีงานเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยว น่าสนใจดีนะขอรับ” คอนราดออกความเห็น “ให้ข้าหรือเออร์วินกับพวกทหารคอยตามประกบเขาไว้ก็ได้”

“ถ้าปล่อยให้เข้าไปในเมือง แล้วลูคัสจะไม่ยิ่งอยากกลับไปที่บ้านนั่นหรือ”

“โธ่ ท่านคาร์ล ลูคัสเป็นเด็กฉลาดขนาดนั้น ถ้าหากเขาจะกลับที่นั่นก็คงหนีไปได้ไม่ยาก สู้พาเขาไปเที่ยวเล่นให้อารมณ์ดีแล้วค่อยกล่อมให้กลับมาด้วยกันไม่ดีกว่าหรือ กับเด็กน่ะ บางทีก็ต้องตามใจบ้างนะขอรับ”

คาร์ลพูดเสียงเข้ม “แต่ข้าไม่ชอบ...” หากไม่ทันจบประโยคเขาก็หยุดพูดไปเสียก่อน ลอร์ดหนุ่มเบือนหน้าไปทางบานหน้าต่าง

“ข้าเข้าใจความรู้สึกของท่าน ข้ารู้ดีว่าท่านกังวลเรื่องอันใด... ความฉลาดของลูคัสเป็นประโยชน์กับเมืองของเรา แต่ในขณะเดียวกันถ้าหากเขาตกไปอยู่ในมือของศัตรูก็จะกลายเป็นเด็กที่อันตรายมาก” เออร์วินพูดขึ้นบ้าง “แต่ท่านขอรับ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น ห่างจากบ้านเมืองกับครอบครัวมาไกล...”

“ข้ารู้น่ะ” ลอร์ดหนุ่มพูดปัด ความรู้สึกคิดถึงบ้านของลูคัส เขารู้ดีกว่าใคร เพราะอย่างนั้นถึงได้เป็นกังวลอยู่แบบนี้ แล้วถ้าขืนปล่อยให้กลับเข้าหมู่บ้านไป เขาก็กังวลว่าเด็กหนุ่มจะติดครอบครัวชาวบ้านที่เคยอยู่อาศัยด้วยกันอีก “นี่พวกเจ้าไม่มีงานทำกันหรือ”

“งานของพวกข้าก็คอยรับใช้ท่านคาร์ลอย่างไรกันล่ะ”

ผู้เป็นนายพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “ข้าจะตอบจดหมายของท่านพ่อให้เสร็จแล้วจะกลับห้อง พวกเจ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ”


ความมืดมนอนธการคืบคลานเข้ามาปกคลุมท้องนภา จันทร์เสี้ยวลอยเด่นกลางฟ้า มีดวงดาวระยิบระยับมากมาย

คาร์ลนั่งเอนหลังพิงกับพนักโซฟาในห้องนอนของตน สายตาทอดมองออกไปไกล หากสักพักพอนึกย้อนไปถึงภาพของลูคัสกับเลนที่ข้างหน้ากำแพงปราสาทเมื่อตอนบ่ายแก่ๆ ก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้ว

ทว่าใบหน้าเศร้าสลดกับสายตาที่มองมายังตัวเขาเมื่อตอนนั้น...

ลอร์ดหนุ่มยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ พลางถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าทำไมถึงได้นึกถึงแต่เด็กหนุ่มอยู่บ่อยๆ ทำไมอีกฝ่ายถึงมีอิทธิพลกับเขานัก ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ได้พบกันครั้งแรก จนถึงตอนนี้ 

เสียงฝีเท้าของพวกทหารดังแว่วมาจากทางด้านนอกห้อง คงกำลังเปลี่ยนเวรยามกัน

คาร์ลเม้มปากอย่างครุ่นคิด สักพักก็วางแก้วไวน์ในมือลง เขาลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมมาสวม จากนั้นจึงเดินออกจากห้องไป แล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนของเด็กหนุ่มในปราสาทฝั่งขวา

นายทหารที่เฝ้าหน้าประตูค้อมศีรษะลงต่ำ “ท่านลอร์ด”

“ลูคัสหลับไปหรือยัง”

“เงียบไปสักพักใหญ่แล้วขอรับ”

“งั้นหรือ” ลอร์ดหนุ่มลังเล หากก็ตัดสินใจผลักบานประตูเข้าไป

ภายในห้องมีเพียงแสงสลัวจากตะเกียงน้ำมันบนโต๊ะและจากเตาผิง ส่วนเด็กหนุ่มนอนหลับนิ่งอยู่บนเตียง

คาร์ลก้าวเข้าไปหยุดอยู่ที่ข้างเตียง ก่อนจะนั่งลงตรงที่ว่างแล้วเอื้อมมือไปวางประกบแก้มนิ่ม

นัยน์ตาสีเข้มลืมขึ้นช้าๆ “ท่านลอร์ด” ความสะลึมสะลือส่งผลให้เด็กหนุ่มคิดว่าตนเองอยู่ในความฝัน เขายิ้มอย่างน่ารัก “จะมานอนเป็นเพื่อนผมใช่มั้ย ดีจังเลย ผมกำลังเหงาพอดี” มือเรียวยกขึ้นเกาะกุมแขนแกร่ง จากนั้นจึงกระตุกให้อีกฝ่ายล้มตัวลงมานอนเคียงข้างกัน

“ลูคัส!” ลอร์ดหนุ่มเซไปตามแรงดึง เขาเกือบจะล้มทับอีกฝ่าย หากยังใช้มือยันผืนเตียงไว้ได้ทัน

“เอ๋” เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง หายง่วงทันควัน

เดี๋ยวๆ นี่มันไม่ใช่ความฝันนี่!

“เหย! ท่านลอร์ดตัวจริง!” ลูคัสลุกขึ้นพรวด

“ข้ามีตัวจริงตัวปลอมด้วยหรือ”

“ปละ... เปล่าครับ” สองขาเรียวถีบผืนเตียงให้ตัวเขากระถดไปจนแผ่นหลังสัมผัสกับหัวเตียง เด็กหนุ่มเพ่งมองใบหน้าคมสันในแสงสลัวอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะพูดตะกุกตะกัก“ผมแค่... ตกใจนิดหน่อย เพราะไม่นึกว่าคุณจะมาหาผม”

“ทำไม ข้ามาหาเจ้านี่ แปลกมากรึ”

“ก็...” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มหลุบต่ำ “เมื่อตอนเย็นคุณดูเหมือนจะโกรธผม”

ลอร์ดหนุ่มถอนหายใจหนักๆ จากนั้นจึงเอนหลังพิงหัวเตียงเคียงข้างอีกฝ่าย “เรื่องงานฉลองในเมือง ถ้าเจ้าอยากไป...”

ลูคัสหันขวับ เขายิ้มกว้างจนดวงตากลมใสแจ๋วหรี่เล็ก “คุณจะพาผมไปหรือ! ดีจังเลยครับ!”

พอเห็นเด็กหนุ่มแสดงความดีใจออกมาขนาดนั้น คาร์ลก็ต้องชะงัก ในตอนแรกเขาคิดว่าจะปล่อยให้อีกฝ่ายไปด้วยกันกับเออร์วินหรือคอนราด แล้วอีกอย่าง... “ถ้าข้าไป งานจะสนุกหรือ”

“ทำไมถึงจะไม่สนุกล่ะครับ อะ! นี่ท่านลอร์ด ผมว่าคุณปลอมตัวไปร่วมในงานก็ดีนะ ไหนๆ ไปแล้วก็จะได้ไปดูวิถีชาวบ้านแล้วก็จะได้เห็นว่าพวกเขาพูดถึงคุณว่าอย่างไรยังไงล่ะครับ”

ลอร์ดหนุ่มย่นคิ้วเข้าหากัน จะว่าไปความคิดของลูคัสก็ไม่เลว ถ้าหากเขาแต่งตัวไปเต็มยศ ถึงอย่างไรก็คงไม่มีวันได้เห็นความเป็นอยู่ของชาวเมืองแล้วก็ได้รับฟังความคิดเห็นของทุกคนเป็นแน่ “ก็ดีเหมือนกัน”

“เย้! ดีจังเลย”

เป็นครั้งแรกที่คาร์ลได้เห็นรอยยิ้มเช่นนี้ของเด็กหนุ่มที่มีให้แก่เขา ส่งผลให้ลอร์ดหนุ่มยิ้มตามไปด้วย “แต่ข้ามีข้อแม้ เจ้าจะต้องอยู่กับข้าตลอด เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ ผมสัญญาเลย” ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก เขารู้สถานะของตัวเองดี แต่ถึงอย่างนั้น... “ขอบคุณนะครับ คุณใจดีกับผมมาก ทั้งที่ผมเป็นแค่...”

“เป็นแค่?”

“เป็นแค่นักโทษคนหนึ่ง” เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อย

“เจ้าไม่ได้เป็นนักโทษ”

คิ้วเรียวย่นเข้าหากัน “ไม่ได้เป็นหรือ แต่... ตอนที่มาที่นี่ผมต้องอยู่ในคุก แล้วผมก็ไปไหนมาไหนไม่ได้...”

“ในปราสาทฝั่งขวานี่ เจ้าจะไปที่ไหนก็ได้ จะออกไปในสวนก็ได้ แต่ต้องมีทหารติดตามอยู่ตลอด แล้วถ้าจะออกไปข้างนอกปราสาท เจ้าต้องได้รับอนุญาตจากข้าก่อน เข้าใจไหม”

มันก็ไม่ต่างจากนักโทษเท่าไหร่หรือเปล่าเนี่ย เด็กหนุ่มบ่นอยู่ในใจ “ผมเข้าใจ แต่ทำไมต้องมีทหารตามผมด้วยล่ะ คุณยังไม่ไว้ใจผมอีกหรือ”

“ข้าเองก็มีทหารติดตามอยู่ตลอด ก็ไม่แปลกไม่ใช่หรือ”

เดี๋ยวๆ กับท่านลอร์ดก็ไม่แปลกไหม แต่กับเขา...

“แล้วห้องหนังสือ...”

“ห้องหนังสืออยู่ในปราสาทฝั่งซ้าย เจ้าห้ามเข้าไปที่นั่นเด็ดขาด”

“แต่ที่นั่น...” ...เป็นที่เดียวที่เขาอาจจะใช้เป็นทางผ่านกลับบ้านได้

ลอร์ดหนุ่มยิ้มบาง ก่อนจะยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็ก “เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าอยากให้เจ้าใช้ความรู้ของเจ้าทำประโยชน์ให้กับชาวเมืองแบร์กไฮม์”

ลูคัสเบะปาก ไม่ต้องทำมาเป็นชมเขาหรอก นั่นไม่ใช่คำตอบที่อยากได้ยินสักหน่อย

คาร์ลหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าน่ารักแสนงอนนั่น เขาอยากจะบีบปากบีบจมูกอีกฝ่ายแรงๆ ให้หายมันเขี้ยว ดวงตาสีฟ้ามองเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน แล้วใช้ปลายนิ้วมือไล้พวงแก้มสีระเรื่อ “ข้าไว้ใจเจ้า ลูคัส เพราะอย่างนั้นข้าจึงอยากให้เจ้าอยู่ที่นี่กับข้า ที่ให้ทหารติดตามเจ้าก็เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าก็เท่านั้น”

พอได้ยินลอร์ดหนุ่มพูดเช่นนั้นลูคัสจึงค่อยยิ้มออกมาได้ หัวใจของเขาพองโตเต้นแรง ดีใจกว่าได้รับคำชมเสียอีก เด็กหนุ่มพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ เอนศีรษะพิงไหล่กว้าง จากนั้นจึงยกมือขึ้นกุมมือกร้านที่สัมผัสอยู่บนแก้มตนแล้วดึงลงมาวางไว้ที่บนแผ่นอก

“คิดถึงบ้านอีกแล้วหรือ” คาร์ลก้มลงมองเด็กหนุ่มที่กำลังอ้อนเขาเหมือนเด็กๆ

“ก็นิดหน่อยครับ แต่เพราะมีคุณอยู่ด้วย...” ลูคัสหัวเราะเบาๆ “ผมว่านะ ไอแซ็กพี่ชายผมกับคุณน่าจะอายุใกล้ๆ กันเลย”

ลอร์ดหนุ่มผ่อนลมหายใจออกยาว เขาดึงมือที่เด็กหนุ่มกุมไว้ออก ขยับตัวนอนลงพร้อมกับวางศีรษะลงบนหมอน “นอนเถอะ”

“คุณจะนอนที่นี่กับผมหรือ”

“ไม่ได้รึ”

“อ๋า ได้สิครับ” ลูคัสเอนตัวลงนอนแล้ววางศีรษะลงบนหมอนเดียวกัน ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มน่ารักประดับอยู่ตลอดเวลา ก็เพราะรู้สึกดีที่ท่านลอร์ดยอมอยู่เป็นเพื่อน นอนบนหมอนใบเดียวกันโดยไม่รังเกียจเด็กจรจัดอย่างเขา และที่สำคัญ นี่ก็เป็นการพิสูจน์ความไว้ใจที่อีกฝ่ายมีให้เป็นอย่างดี “ขอบคุณนะครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงเบาก่อนจะปิดตาลง

แสงไฟจากตะเกียงน้ำมันดับไปแล้ว ถ่านในเตาผิงเป็นก้อนไฟสีแดงให้ความอบอุ่นไปทั่วทั้งห้อง ไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดจากทั้งสองคนอีก มีเพียงเสียงลมหายใจเบาๆ แว่วมาอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น


*~TBC~*


ขอโทษที่พาท่านลอร์ดกับน้องลูคัสมาส่งช้านะคะ ฮัสกี้เปื่อยค่ะ ฮรือ... มึนไปหมดเหลย~

ตอนแรกเออร์วินแอบทำคะแนน แต่ช่วงหลังท่านลอร์ดควบม้าเร็วมาตีตื้นแล้วนะคะ

ท่านลอร์ดรู้วิธีเลี้ยงเด็กแล้วววว~ 5555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า อากาศเปลี่ยนรักษาสุขภาพกันด้วยน้า อย่าป่วยเหมือนฮัสกี้ค่ะ

จุ๊ฟฟฟฟฟ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-12-2016 20:04:35
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 01-12-2016 20:18:14
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 01-12-2016 20:31:04
ท่านหลอด อาการหนัก หวงว่าที่เมียเด็กอะไรเบอร์นั้น
น้องลูอ้อนเข้าไป อ้อนอีกค่ะ
อ้อนให้ท่านลอร์ดตบะแตกไปเล้ยย  :z1:
น้องคงนึกถึงพี่ชายค่ะท่านลอร์ด อย่าได้หลงดีใจไป
ตอนนี้มีความหมั่นไส้ท่านหลอดมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-12-2016 20:32:24
ยังไม่ครบนะทั่นหลอด

หลอกล่อว่าจะพาเที่ยวแล้ว
ต้องป้อนนม ตบก้น กล่อมนอนสิ
มันถึงจะครบกระบวนการเลี้ยงเด็ก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 01-12-2016 20:34:38
จะว่าเลี้ยงต้อยก็ไม่ถูก 555555
ท่านลอร์ดเจ้าคะ เลี้ยงเด็กๆดีๆในวันนี้จะมีภรรเมียที่ดีในวันหน้าใช่ไหมเจ้าคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 01-12-2016 20:36:28
น่ารักจังเลยยย ลูคัส เด็กน้อย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 01-12-2016 20:46:30
ท่านลอร์ดนี่แอบหึงลูคัส โดยไม่รู้ตัว
ว่าแต่เออร์วิน ซักจะยังไงแล้วนะ
อย่ามาจีบลูคัสละ ของท่านลอร์ดนะ
นู้น..คอนราด ยังว่างอยู่นะ ไปๆ ชิ้วๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-12-2016 21:00:35
อยากบอกว่ารอทุกวันเลย

วันนี้ได้อ่านแล้วสมใจแล้ว(อยากอ่านอีก)

ท่านลอร์ดเิริ่มหวั่นไหวก่อนหรือเปล่า

ลูคัสน่ารักเสมอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 01-12-2016 21:02:47
มีความหีงหวง ฉากหลังๆนี่ทำคะแนนแบบพุ่งพรวดเลยนะ 555555555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-12-2016 21:06:15
ยังดีที่ทำคะแนนตีตื้นกลับมาได้นะท่านลอร์ด (รีบ ๆ รู้ตัวเข้าล่ะ)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 01-12-2016 21:51:28
 :L2: รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อากาศเปลี่ยนก็งี้แระ  :L1:
แหมะมาส่งความน่ารัก นู๋ลูเริ่มอ้อนแระ ท่านลอร์ดจะไปไหนรอด  :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 01-12-2016 22:02:19
ลูคัสน่ารักแบบจริงใจ   ไม่เสแสร้ง  ทำให้แม้แต่เออร์วินที่ยิ้มยาก  ยังเอ็นดูหนูลูคัส

และสอนท่านคอนราด รู้วิธีตามใจเด็กซื้อใจเด็ก แบบหนูลูคัสด้วย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 01-12-2016 22:11:06
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:ทำไมท่านหลอดไม่ให้ลูคัสเข้าห้องหนังสือละคะ :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-12-2016 22:12:21
ออกอาการหวงแล้ววววววว :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 01-12-2016 22:21:46
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 01-12-2016 22:48:19
มีหวงๆ อาการต่อไปจะยังไงหนอ 55555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-12-2016 23:55:21
เข้าใจอารมณ์ของตัวละครเลยนะแต่เราก็สงสารลูคัสนะคนแต่งทำให้เราจิตนาการของลูคัสเลยว่าความเศร้าของการจากบ้านมามันหดหู่จริงๆนะเราว่าคนแต่งได้ดีนะแต่ก็ไม่ได้มืดมนเกินไปชื่นชมเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-12-2016 00:58:48
โฮ๊ะๆๆๆๆ ไม่ค่อยเลยนะท่านลอร์ด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-12-2016 01:26:47
จ้าาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-12-2016 09:09:54
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 02-12-2016 10:36:46
เออร์วินนี่เริ่มเข้าใจลูคัสแล้วสินะไม่สงสัยไรแล้วเนอะ 555 :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 02-12-2016 18:40:02
นี่มันซีรีส์เลี้ยงต้อยชัดๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 02-12-2016 19:32:01
ลูคัสนี่ขี้อ้อนเนอะ เหมือนแมวเลย อยากเกาคางให้ งื้อออ :m1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 02-12-2016 20:12:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 02-12-2016 20:22:50
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 02-12-2016 21:00:50
พึ่งมาอ่านจร้าาาาาา
อ่านตอนสุดท้ายจบแระอยากจะกรี๊ดๆๆๆ ฟินอ่ะ >\\\\<
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 03-12-2016 02:17:05
นี่เราพลาดหนูลูคัสไปได้ยังไงงงง น่ารักเกินไปแล้ววว

ขอลงชื่อติดตามเลยค่าาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: dradareal ที่ 03-12-2016 21:59:13
โง้ยยย ชอบบบบบ ลูคัสลูกแม่ ><
ชอบความฉลาดและน่ารักน่าเอ็นดูของน้องลูคัสมากกๆ
เป็นนิยายที่ให้ความรู้อะไรหลายๆอย่างเยอะมากๆเลยค่ะ ปลื้มๆ

มาขอสสมัครเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ มาต่อเร็วๆเน้อ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 03-12-2016 22:41:22
ลูคัสทั้งเก่งทั้งน่ารัก
ชอบตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้เลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: xaomammx ที่ 04-12-2016 07:58:42
ให้ตายเถอะพระเจ้า
คุณฮัสกี้ขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลยที่เคยเรื่องแบบนี้ขึ้นมา
ตอนแรกเข้ามาอ่านไม่ได้หวังอะไรเป็นพิเศษ เพราะอ่านชื่อแล้วดูไม่ออกเลยว่าจะเป็นแนวนี้
พระเจ้าเถอะ(รอบสอง) ไม่คิดเลยว่ามันจะออกมาดีเกินกว่าที่คาดมาก
คือเนื้อเรื่องเนื้อหาแน่น รู้สึกถึงความใส่ใจของคุณฮัสกี้
แต่ละบทบาทประโยคกินใจมาก เหมือนมันมีความรู้สึกพิเศษบางอย่างระหว่างตัวละคร
ท่านคาร์ล ช่างเป็นผู้ชายที่ดูอบอุ่นแสนน่ารัก โคตรของความชอบเลย ดูมีมนต์สะกดน่าเกรงขามเป็นผู้ใหญ่
ตอนล่าสุดแสดงอาการหวงลูคัส ประหนึ่งตอนคุณหลวงไม่อยากให้มณีจันทร์ข้ามกระจกกลับบ้านไป
ชอบการที่ค่อยๆสร้างความสัมพันธ์ ดูละเอียดละออ ลูคัสฉลาดน่าค้นหา
เนื้อเรื่องแสดงมุมแปลกใหม่ออกมาให้ได้พบ อาจจะเป็นเพราะเราไม่เคยได้อ่านเรื่องแบบนี้หรือจริงๆแล้ว
คุณฮัสกี้แต่งดีมากจนรู้สึก โคตรรรรรประทับใจ
พอเห็นมีสิบตอนรู้สึกถึงการรอคอยอันไม่สิ้นสุดจริงๆ

เขียนยาวไปหน่อยแต่อยากให้คุณฮัสกี้รู้ว่าใครคนนึงประทับใจมากจริงๆ
และหวังว่าตอนต่อไปจะมาในเร็ววันค่ะ

อดใจรอไม่ไหว ,ด้วยรัก
นักอ่านคนหนึ่งที่อยากให้ลูคัสเป็นเมียคาร์ลโดยไว5555555
  :-[ :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: arakanji ที่ 04-12-2016 11:38:26
สนุกมาก อ่านไป 3 ตอนติดเลยค่ะ
ชอบสุดๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 10 : ไว้ใจ][011216]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 06-12-2016 19:40:24


Chapter 11 : เทศกาล


เช้าตรู่ของวันที่จะมีงานเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยว ท้องฟ้าครึ้มมีหมอกหนา ใบไม้สีเหลืองส้มร่วงหล่นไปจนเกือบจะหมดต้นแล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าฤดูหนาวเข้ามาใกล้มากขึ้นไปทุกที

วันนี้ลูคัสจะได้กลับเข้าไปในเมืองเป็นครั้งแรกหลังจากที่เข้ามาอยู่ในปราสาทเสียนาน เขาทั้งตื่นเต้นและอารมณ์ดี เด็กหนุ่มลุกขึ้นมาแต่งตัวแต่เช้า หากเสื้อผ้าก็เหมือนที่สวมใส่อยู่ทุกวัน เสื้อแขนยาวสีขาวหม่น กางเกงขายาวสีน้ำตาล สวมรองเท้าบูทและผ้าคลุมแบบมีหมวกผืนหนาทับอีกชั้น ที่จริงก็เป็นชุดที่ดูดีกว่าชาวบ้านทั่วไปอยู่สักหน่อย เนื้อผ้าก็นุ่มกว่ามาก หากก็เทียบไม่ได้กับเสื้อผ้าที่ท่านลอร์ดและองครักษ์สวมใส่อยู่ทุกวัน

ทว่าเมื่อจะปลอมตัวเข้าไปในเมือง คาร์ลก็จำเป็นที่จะต้องแต่งตัวให้ดูไม่แตกต่างจากพวกชาวบ้านมากนัก ส่วนองครักษ์อีกสองคนที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องขอติดตามไปด้วยก็เช่นกัน

เป็นครั้งแรกสำหรับลูคัสที่ได้เห็นทั้งสามคนใส่ชุดแบบเดียวกันกับเขา เด็กหนุ่มอมยิ้ม รู้สึกราวกับเป็นเพื่อนก๊วนเดียวกันอย่างไรอย่างนั้น

ทหารที่ดูแลคอกม้าตระเตรียมม้าไว้ให้สี่ตัวและพามารออยู่ที่ด้านหน้าปราสาท เมื่อทั้งสี่คนมาถึงก็ขึ้นนั่งบนหลังม้าแล้วควบออกไปช้าๆ

ลอร์ดหนุ่มหันมามองลูคัสอยู่หลายครั้ง เด็กหนุ่มขี่ม้าได้ดีกว่าที่เขาคิดไว้มากโข ดูจากท่วงท่าและความคล่องแคล่วก็น่าจะฝึกฝนมานานมากแล้ว

“มีอะไรหรือครับ”

“เจ้าขี่ม้าได้ดีกว่าที่คิดไว้มากน่ะสิ”

“โธ่ ผมน่ะ ยังมีอะไรให้คุณแปลกใจอีกเยอะเลยล่ะ” ลูคัสยืดคออวด

คาร์ลยิ้มมุมปาก “ข้าก็คิดอย่างนั้น”

ม้าทั้งสี่ตัววิ่งไปบนทางดินอัดแน่นซึ่งเต็มไปด้วยใบไม้ทั้งสดและแห้ง ส่งเสียงดังกรอบแกรบซอกแซก ผ่านป่าที่มีใบไม้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองส้มเหลืออยู่ไม่มากบนกิ่งก้านสีเข้ม ส่วนต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบยังคงเป็นสีเขียวขจี พวกเขาขี่ม้าผ่านทุ่งโล่งกว้างไปอีกไม่นานก็เข้าสู่เขตเมือง
   
หากเมื่อไปถึงในเมืองกลับดูเงียบเชียบ ไม่เหมือนจะมีงานเลี้ยงฉลองสักเท่าไหร่ ตามทางจะมีก็แต่เด็กๆ วิ่งเล่น ลูคัสจึงหยุดม้าแล้วถามไถ่

“นี่ ทำไมเงียบจัง จะมีงานฉลองไม่ใช่หรือ”

เด็กสี่ห้าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นพยักหน้าหงึกหงัก “แม่บอกข้าว่าตอนเย็นจะไปร่วมงานฉลองที่โบสถ์” 

“อ้อ งั้นหรือ แล้วโบสถ์อยู่ที่ไหนกันล่ะ”

“ก็มีที่อยู่ที่เดียวนั่นล่ะ ขี่ม้าตรงไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง”

ในเมืองแบร์กไฮม์แบ่งเป็นหมู่บ้านย่อยๆ จำนวนเจ็ดหมู่บ้าน มีโบสถ์เป็นศูนย์กลางเอาไว้พบปะกัน ดังนั้นงานฉลองจึงจะจัดขึ้นที่นั่น

เสียงระฆังเหง่งหง่างดังแว่ว พวกเขาทั้งสี่คนจึงควบม้าตรงไปยังต้นเสียง เมื่อไปถึงลานหน้าโบสถ์ก็พบกับโต๊ะจัดเรียงไว้มากมาย มีฟักทองกับดอกไม้แห้งๆ ประดับ ตรงกลางลานมีไม้ท่อนใหญ่วางกองเรียงกันไว้เป็นชั้นๆ สูงท่วมศีรษะเลยทีเดียว บริเวณนั้นมีชาวบ้านเดินไปเดินมาอยู่ไม่กี่สิบคนเท่านั้น

“ลูคัส! ลูคัสนี่นา!”

“เลน!” เด็กหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้าแล้ววิ่งเข้าไปสวมกอด

“เจ้ามาได้อย่างไรกันน่ะ” เลนถาม หากพอเห็นคนบนหลังม้าอีกสามคนเขาก็เข้าใจ ลูคัสคงไม่ได้ถูกปล่อยกลับมาบ้านแน่ เพราะมีคนคุมมาแบบนั้น

“ผม...” ลูคัสชี้ไปยังลอร์ดหนุ่มซึ่งกำลังก้าวลงจากม้าแล้วจูงมันเดินเข้ามายืนข้างตน “...กับพวกเขาอยากมาดูงานฉลอง”

เลนมองลอร์ดหนุ่มกับองครักษ์ทั้งสองอย่างหวาดๆ เขาไม่รู้หรอกว่าทั้งสามคนเป็นใครกันแน่ แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นทหารที่มียศสูง ซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มาเฝ้าลูคัส เด็กหนุ่มชาวบ้านจึงค้อมศีรษะลงเพื่อทักทาย

“เลนมาทำอะไรที่นี่หรือ”

“ข้าช่วยคนที่หมู่บ้านเอาไม้มาส่ง” เลนชี้ไปที่ท่อนไม้ใหญ่ที่วางซ้อนๆ กันอยู่กลางลาน “เอาไว้ก่อไฟเย็นนี้”

“แล้วคนอื่นไปไหนล่ะ”

“ตอนนี้แม่กับยายก็ไปช่วยคนในหมู่บ้าน ส่วนตากับวิลอยู่ที่คอกแกะ”

“หือ วันฉลองอย่างนี้ยังทำงานอีกหรือ” เด็กหนุ่มถามอย่างงงๆ

ทว่าเลนทำหน้างุนงงยิ่งกว่า “เจ้าพูดอะไรน่ะ ก็นี่ล่ะคือการฉลองของพวกเรา”

ลูคัสขมวดคิ้วพลางหันไปมองใบหน้าคมสันของลอร์ดหนุ่ม “ปกติฉลองกันแบบนี้หรือครับ”

คาร์ลนิ่งอึ้ง “เจ้าเป็นคนชวนข้ามาไม่ใช่หรือ”

เด็กหนุ่มส่งสายตาไปถามองครักษ์ทั้งสองซึ่งพวกเขาก็เอาแต่ส่ายหน้า เขาจึงหันกลับมาที่เลน “ผมไม่เข้าใจเลย งานเทศกาลเก็บเกี่ยวที่ผมรู้จัก มีออกร้านขายของ ขายอาหาร มีดนตรี ขบวนพาเหรด...”

“ออกร้านอะไร ขบวนอะไร ข้าไม่รู้จัก แต่ถ้าดนตรีกับอาหารก็จะมีตอนเย็นไงล่ะ ส่วนตอนเช้านี่ พวกผู้หญิงจะไปรวมตัวกันเพื่อเตรียมทำไวน์กับเบียร์ไว้ใช้สำหรับงานฉลองปีหน้า ส่วนพวกผู้ชายจะทำความสะอาดยุ้งเก็บข้าว ห้องเก็บอาหารแล้วก็คอกเลี้ยงสัตว์ เพราะว่าจะเข้าฤดูหนาวแล้ว จะได้ทำความสะอาดกันอีกทีก็เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึงนู่น” 

“เตรียมทำไวน์กับเบียร์งั้นหรือ”

“ใช่ ก็ย่ำองุ่นกับโม่ข้าวบาร์เล่ย์ยังไงล่ะ” เลนชำเลืองมองอีกสามคน “เอ้อ ถ้าพวกท่านไม่ว่าอะไร ข้าจะพาไปดู”

ลูคัสหันไปทำเสียงอ้อนทันที “ไปได้มั้ยครับ ผมอยากเห็นย่ำองุ่นกับโม่ข้าว อยากพบทุกคนด้วย”

ลอร์ดหนุ่มยิ้มบาง เขาคงปฏิเสธท่าทางน่ารักเช่นนี้ไม่ลงแน่ “ไปสิ ข้ามาที่นี่ก็เพราะอยากจะเห็นการฉลองของพวกเขาไม่ใช่หรือ”

“เย้ ขอบคุณครับ”

จากลานหน้าโบสถ์ไปถึงหมู่บ้านของเลนใช้เวลาไม่นานนัก เนื่องจากคอนราดให้เด็กหนุ่มชาวบ้านโดยสารไปด้วยกันกับเขา พอถึงหมู่บ้านทุกคนก็ลงจากหลังม้าแล้วเปลี่ยนเป็นเดินเอา ระหว่างทางมีกลิ่นขนมปังลอยกรุ่น คละเคล้ากับกลิ่นหอมของอาหาร พอพวกเขาเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเป็นอะไร

หมูป่าตัวใหญ่ที่ทำความสะอาดและใส่เครื่องเทศไว้แล้วถูกเสียบไม้ค้างไว้บนเตาย่าง มีชายวัยกลางคนกลุ่มหนึ่งคอยนำเครื่องเทศมาทาแล้วหมุนไม้ให้หมูป่าสุกทั่วถึง ลูคัสเพิ่งเคยได้เห็นการย่างหมูทั้งตัวแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วอ้าปากค้าง “โอ้โห!”

“อ้าว ลูคัส เจ้ากลับมาแล้วหรือ” พวกพ่อครัวชั่วคราวยิ้มรับ “ไม่ได้เห็นหน้านาน ข้าดีใจที่เจ้ายังดูสดใสนะ สบายดีใช่ไหม”

“ผมสบายดีครับ ขอบคุณมาก” เด็กหนุ่มพยักหน้าพลางชี้ไปที่เตา “หมูตัวใหญ่จังเลยครับลุง หลายตัวเลยด้วย”

“ดีมากๆ เลยใช่ไหมล่ะ หมูป่าพวกนี้ พวกเราส่งตัวแทนของทั้งเจ็ดหมู่บ้านออกไปล่าด้วยกันเมื่อวานก่อนน่ะ งานหนักเลยทีเดียว”

“แล้วเวลากิน จะกินยังไงเนี่ย”

“ก็ใช้มีดหั่นเป็นชิ้นๆ ไง เอ้า! มัวแต่คุยซะแล้ว ข้าต้องไปหมุนไม้ก่อนนะ”

เนื่องจากหมูป่ามีน้ำหนักไม่ใช่น้อย เวลาจะหมุนก้านไม้จึงต้องใช้ผู้ชายแข็งแรงถึงสองคน พวกเขาตะโกนนัดแนะกันเสียงดัง จากนั้นจึงคว้าที่จับแล้วหมุนไปให้พร้อมกัน พร้อมกับนับจำนวนครั้งไว้ด้วย

“น่าสนุกดีใช่ไหม แต่เจ้าไปหมุนกับเขาไม่ไหวหรอก” เลนมองท่าทางของลูคัสแล้วหัวเราะ “หมู่บ้านเราทำหมูป่าย่างกับขนมปัง ส่วนหมู่บ้านข้างๆ นี่ทำซุปกับมันฝรั่ง พอถึงตอนเย็นทุกหมู่บ้านก็จะขนอาหารไปกินด้วยกัน เอาล่ะ ไปดูแม่กับยายทำไวน์กันดีกว่า”

เดินต่อไปอีกสักพักก็ได้ยินเสียงร้องเพลงคละเคล้าเสียงหัวเราะดังแว่วมาแต่ไกล พวกผู้หญิงในหมู่บ้านไปรวมกันที่ลานกว้างหน้าโรงโม่ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับแม่น้ำ กลุ่มหนึ่งที่หน้าโรงโม่กำลังย่ำผลองุ่นในถังไม้ขนาดใหญ่ไว้สำหรับทำไวน์ อีกกลุ่มที่อยู่ในโรงโม่กำลังโม่ข้าวบาร์เลย์งอกเตรียมไว้สำหรับการทำเบียร์

(ข้าวบาร์เลย์งอก คือเมล็ดข้าวบาเลย์ที่ถูกนำไปแช่น้ำไว้จนงอกและนำมาตากแดดให้แห้งไว้สำหรับการโม่ต่อไป)

หากเมื่อไปถึงก็มีชายสูงวัยคนหนึ่งโผล่มากวักมือเรียก “เลน มาช่วยพวกข้าทางนี้หน่อยสิ!”

“ไปเดี๋ยวนี้ละ” พอตอบกลับไปแล้วเลนก็หันไปบอกกับเด็กหนุ่มพร้อมกับชำเลืองมองกลุ่มคนที่มาด้วยกัน “ลูคัส เจ้ากับพวกท่านๆ อยู่แถวนี้ไปก่อน เดี๋ยวข้ามา”

“อื้อ” เจ้าของชื่อเรียกพยักหน้า เขามองตามหลังอีกฝ่ายไป ก่อนจะหันไปชวนลอร์ดหนุ่ม “ท่านลอร์ด เราเข้าไปดูใกล้ๆ กันเถอะ”

“เอาสิ”

มารีกับยายยืนอยู่ในถังไม้กับหญิงชาวบ้านอีกหลายคน เมื่อพวกหล่อนเห็นเด็กหนุ่มก็ร้องเรียกเสียงดัง “ลูคัส!”

“อะ มาเรีย!” ลูคัสวิ่งไปยืนเกาะขอบถังพร้อมกับส่งมือไปสัมผัสกับมือพวกหล่อน

“เจ้ากลับมาได้อย่างไร”

“ผมมากับพวกเขา” เด็กหนุ่มชี้ไปที่คาร์ลกับองครักษ์ ซึ่งเมื่อมารีเห็นเข้าก็ทำหน้าเจื่อนๆ “พวกเรามาดูการเตรียมงานฉลอง แล้วก็จะไปร่วมงานฉลองตอนเย็นด้วย”

“อย่างนั้นหรือ” มารีพยักหน้าพลางชำเลืองมองชายอีกสามคนที่มากับเด็กหนุ่มเป็นระยะๆ

ลูคัสชะโงกมองลงไปในถังไม้ซึ่งภายในเปรอะไปด้วยน้ำจากผลองุ่นสีม่วงเข้ม เขาเคยอ่านถึงวิธีการทำไวน์แบบนี้ในหนังสือมาก่อน พอมาได้เห็นของจริงก็ยิ่งรู้สึกสนใจ

“อยากลองบ้างไหมลูคัส ยังมีองุ่นเหลืออยู่อีกนิด” หญิงชาวบ้านที่ย่ำอยู่ในถังไม้เห็นดวงตาเป็นประกายของเด็กหนุ่มก็เลยเอ่ยชักชวน “หรืออยากจะลองโม่ข้าวบาร์เล่ย์งอกแบบตรงนั้น สนุกดีเหมือนกันนะ”

“ลองครับ!” ลูคัสหันไปคว้าแขนลอร์ดหนุ่ม “ไปเหยียบองุ่นกันนะครับ น่าสนุกออก”

“ฮะ!”

องครักษ์ทั้งสองอมยิ้ม ชักนึกสนุกไปด้วย พวกเขาขยับเข้าไปขนาบข้างผู้เป็นนายแล้วโน้มใบหน้าเข้าไปกระซิบ “ลองวิถีชาวบ้านอย่างไรเล่าครับท่านคาร์ล”

“ไปครับ ไปล้างเท้ากัน เร็วๆ” ลูคัสไม่รอคำตอบจากลอร์ดหนุ่มแล้ว เขาฉุดให้อีกฝ่ายเดินออกไปด้วยกัน

เมื่อเห็นเช่นนั้นพวกผู้หญิงที่อยู่ในถังไม้ก็ทยอยกันลงมา เพราะว่าองุ่นเหลือไม่มากแล้ว พวกหล่อนอยากให้ทั้งสองคนได้ลองเหยียบผลองุ่นกันอย่างสะดวก “เอาเลย เดี๋ยวพวกข้าจะไปช่วยโม่ข้าวบาร์เลย์งอก ยังเหลือข้าวอีกตั้งครึ่งถัง” พอนำองุ่นที่เหลือเทใส่ลงในถังไม้แล้วก็ถอยออกไป

ลอร์ดหนุ่มได้ยินเข้าก็ยิ้มมุมปากพลางหันไปหาองครักษ์ทั้งสอง “พวกเจ้าก็ไปช่วยด้วยสิ จะได้ลองวิถีชาวบ้านบ้างอย่างไรล่ะ”

สุดท้ายองครักษ์ทั้งสองก็ไปช่วยพวกชาวบ้านโม่ข้าวบาร์เลย์งอกตามที่ผู้เป็นนายสั่ง พวกเขาเองก็เพิ่งเคยเห็นการเตรียมทำเบียร์เป็นครั้งแรกจึงคิดว่าน่าสนใจดีไม่ใช่น้อย

ภายในโรงโม่มีโม่หินหลายอัน แต่ละอันมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ดังนั้นจึงโม่ข้าวได้ทีละไม่มาก พวกชาวบ้านต้องค่อยๆ กรอกข้าวใส่ลงไปในช่องว่างบนโม่ แล้วหมุนที่จับโม่อย่างรวดเร็ว

ในคราวแรกพวกหล่อนก็รู้สึกเกร็งๆ ทว่าเมื่อคอนราดกับเออร์วินเข้ามาช่วยได้สักพักก็รู้สึกดีขึ้น พวกหล่อนจึงชวนคุยในระหว่างที่โม่ข้าวไปด้วย

“พวกท่านมาจากในปราสาทใช่หรือไม่”

“ใช่” องครักษ์ทั้งสองตอบสั้นๆ

“ตั้งแต่ท่านลอร์ดมาอยู่ที่นี่ พวกข้าก็ไม่ต้องกลัวโจรร้ายอีกแล้ว ขอบคุณท่านมากเหลือเกิน เพราะอย่างนี้พวกข้าจึงพอมีเงิน ไปซื้อเอาแกะแพะมาเลี้ยงได้ ปีหน้าคงจะได้มีเสื้อผ้าดีๆ อุ่นๆ ไว้ใส่บ้าง”

“แล้วหน้าหนาวนี้ล่ะ พวกเจ้าเตรียมตัวกันแล้วหรือยัง” คอนราดถามอย่างรู้สึกเป็นห่วง เพราะเขาได้ยินว่ามีชาวบ้านที่ต้องเสียชีวิตเพราะทนความหนาวไม่ได้อยู่ทุกปี

“เตรียมแล้วเจ้าค่ะ ลูคัสสอนให้พวกข้าทำผ้าห่มยัดไส้ขนเป็ดขนห่าน พอเอาหินที่เผาไฟห่อผ้าไว้แล้วเอาไปซุกในผ้าห่มก็ทำให้อุ่นมากเลยทีเดียวเจ้าค่ะ”

“ลูคัสงั้นหรือ” เออร์วินยิ้ม สายตาของเขาอ่อนโยนขึ้นทันทีที่ได้ยินชื่อของเด็กหนุ่ม เขาฟังหญิงชาวบ้านเล่าเรื่องของลูคัสต่อไปอย่างเพลิดเพลินโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเพื่อนองครักษ์กำลังจ้องมองตนอยู่อย่างเงียบๆ

ฝ่ายคาร์ลกับลูคัส เมื่อถอดรองเท้า พับขากางเกงขึ้นและทำความสะอาดเท้าแล้วก็ปีนเข้าไปในถัง คาร์ลก้าวลงไปก่อน จากนั้นจึงยื่นมือไปรับเด็กหนุ่มให้ตามเข้ามา

“หวา! ให้ความรู้สึกประหลาดดีนะครับ เย็นเท้ามากด้วย” ลูคัสกระโดดย่ำผลองุ่นไปมา “กว่าจะได้ไวน์มาสักขวดนี่ก็ไม่ง่ายเลยนะครับ เหยียบจนเหนื่อยแล้วก็ยังต้องเอาน้ำองุ่นไปหมักอีก”

“นั่นสินะ แต่ไวน์ของแบร์กไฮม์ก็มีรสชาติดีมาก”

“เอ๋ คุณเคยชิมแล้วหรือ”

“เคยสิ”

“โหย ผมยังไม่เคยเลยอ่า...” เด็กหนุ่มตัดพ้อพลางหันไปมองเออร์วินกับคอนราดที่กำลังหมุนโม่หินในโรงโม่ “ดูเหมือนเออร์วินกับคอนราดจะโม่ข้าวไปได้เยอะแล้ว พวกเราจะเสร็จทีหลังพวกเขาไม่ได้นะครับ”

“ระวังหน่อย...” ยังพูดไม่ทันจบ เด็กหนุ่มก็ลื่นพรืดหงายหลัง แต่โชคดีที่คาร์ลก้าวเข้าไปรับตัวไว้ได้ทัน เขาส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ “เจ้าเด็กซนนี่น้า”

ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองคนที่ประคองหลังเขาไว้แล้วหัวเราะแหะๆ “ขอโทษครับ” พอทรงตัวได้ก็คว้ามือทั้งสองข้างของลอร์ดหนุ่มไว้พร้อมยิ้มกว้าง “จับมือกันไว้ดีกว่า ถ้าเผื่อผมลื่นอีก คุณจะได้ลื่นไปกับผมด้วย”

คาร์ลอมยิ้มพลางส่ายหน้าไปมา “นี่เจ้าจะทำงานหรือเต้นรำกันแน่”

องครักษ์ทั้งสองจ้องมองผู้เป็นนายกับเด็กหนุ่มจากในโรงโม่ หลังจากพวกเขาโม่ข้าวงอกเสร็จแล้วก็นั่งพักกันอยู่ที่นั่น ส่วนพวกชาวบ้านกำลังวุ่นอยู่กับการนำแป้งที่ได้จากการโม่มาใส่หม้อต้ม

“ตั้งแต่มีลูคัสอยู่ใกล้ๆ ท่านคาร์ลยิ้มบ่อยขึ้นจริงๆ” คอนราดเอ่ยขึ้น

เออร์วินย่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย เขาประสานสายตากับเพื่อนองครักษ์แล้วก็เบือนหน้าหนี “เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ”

คอนราดยิ้มมุมปาก “เจ้ายังไม่ไว้ใจลูคัสอีกหรือ”

“.....” ไม่มีคำตอบจากองครักษ์หนุ่ม สายตาของเขาจับจ้องไปที่ถังไม้ซึ่งผู้เป็นนายกับเด็กหนุ่มดูจะสนุกเสียจนไม่ได้สนใจสิ่งใดรอบๆ ตัวพวกเขาเอาเสียเลย

สักพักเลนก็กลับมาถึง เขามาพร้อมกับตะกร้าใส่มื้อกลางวันมาให้ทั้งสี่หนุ่มด้วย เป็นเวลาเดียวกันกับที่ลอร์ดหนุ่มกับลูคัสก้าวลงมาจากถังไม้พอดี พวกเขาจึงไปนั่งรวมกันบนขอนไม้บริเวณนั้น

“เหนื่อยกันแย่เลย ข้าไม่นึกว่าพวกท่านจะเข้าไปช่วย” เลนหยิบขนมปังซึ่งใส่ชิ้นเนื้อกับผักไว้ส่งให้ทุกคน “มันไม่ใช่ของดีเลิศอะไร พวกท่านจะพอกินได้ไหม”

คาร์ลรับขนมปังมาอย่างว่าง่าย “ได้สิ ขอบใจนะ”

“ได้กินอาหารหลังออกกำลัง อร่อยดีนะครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างอารมณ์ดี “เดี๋ยวเราจะไปไหนกันต่อดีน่ะเลน”

“เดี๋ยวจะพาไปดูคอกแกะ ตากับวิลอยู่ที่นั่น”


ยามบ่ายอากาศเย็นอีกลงเล็กน้อย หากภายในหมู่บ้านกลับครึกครื้นมากขึ้น อาจเป็นเพราะใกล้เวลาฉลองในตอนเย็นมากแล้ว

คอกแกะที่เลนหมายถึงอยู่ภายในสนามหญ้าที่มีรั้วกั้น มีแกะหลายตัวจากหลายบ้านอยู่รวมกัน ตอนกลางวันปล่อยให้แกะเดินหาหญ้ากิน ส่วนกลางคืนก็ต้อนเข้าไปนอนในคอกของบ้านใครบ้านมัน

“บ้านเรามีแกะสองตัว ชื่อโพกับโจ เพิ่งไปซื้อมาน่ะ” เลนเล่าให้ฟังขณะพาทุกคนเดินเข้าไปในรั้วล้อม “ดูสิ วิลยืนเฝ้าอยู่นั่นไง”

“ลูคัส! คิดถึงจังเลย” วิลวิ่งเข้ามากระโดดกอด จากนั้นก็กึ่งลากกึ่งจูงลูคัสให้ไปดูแกะของที่บ้านอย่างตื่นเต้น “มันน่ารักมากเลยใช่มั้ย”

“ก็น่ารัก แต่ว่ามันจะไม่ปนกับแกะของคนอื่นหรือ”

“ไม่หรอก ดูที่กระพรวนนี่ไง” วิลตอบพร้อมกับยกกระพรวนขึ้นให้ดู “ตาเป็นคนทำเอง”

เลนเห็นน้องชายยืนอยู่กับแกะตัวเดียวจึงถามขึ้น “วิล แล้วโจหายไปไหน”

“อยู่กับตาข้างในคอกน่ะ”

“ถ้างั้นไปดูในคอกกัน” เลนหันไปบอกกับทุกคน ก่อนจะเดินนำออกไป

ในคอกขนาดใหญ่แบ่งออกเป็นสามคอกย่อย ตามจำนวนบ้านที่ร่วมกันเป็นเจ้าของ ตากำลังสาละวนอยู่กับการล้างตัวช่วงล่างให้กับเจ้าโจ

“อ้าว ลูคัส โอ... ข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่” ตายิ้มรับ

“ตาล้างตัวมันทำไมเนี่ย อากาศเย็นๆ แบบนี้” เลนขยับเข้าไปช่วยจับเจ้าแกะไว้ พอก้มลงมองจึงเห็นว่าขนที่ก้นแกะแหว่งไปเป็นวง “อ้าว แล้วขนหายไปไหน”

“เจ้าโจมันขี้แตก” คำตอบของตาส่งผลให้สี่หนุ่มผู้มาเยือนชะงัก ถอยหลังกลับกันไปคนละก้าว ทว่าตาก็ไม่สนใจ เขาหยิบก้อนขนซึ่งเปลี่ยนเป็นสีเหลืองปนน้ำตาลที่เพิ่งตัดออกมาหมาดๆ ยกขึ้นให้ทุกคนได้เห็นชัดๆ “ดูสิ ขี้ติดขนตรงก้นแข็งเป็นก้อน ถ้าปล่อยไว้ขนมันจะติดกันแน่น ปิดรูก้น คราวนี้ล่ะ แกะมันจะขี้ไม่ออก ลำบากอีก”

ลูคัสยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันหน้าหนี ขนาดไม่ได้อยู่ใกล้เขายังรู้สึกขมคอขนาดนี้เลย แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่แกะอีกตัวที่นอนทำหน้าเหม็นเบื่อทุกสิ่งทุกอย่างในโลกอยู่ในคอกใกล้ๆ เขาจึงก้าวเข้าไปดู “ตัวนี้มันป่วยหรือครับตา”

“อ๋อ เปล่าหรอก มันยังเจ็บไข่อยู่ล่ะมั้ง”

เด็กหนุ่มหยุดกึก หันขวับไปทางชายสูงวัยทันที “หา!”

“มันโดนตอนไงล่ะ ดูที่ไข่มันสิ เขารัดไว้หลายวันละ อีกไม่นานก็คงจะร่วง”

“ฮะ! ไข่ร่วง!” มือเรียวจับเป้ากางเองของตัวเองโดยอัตโนมัติ แค่ฟังตาเล่าให้ฟังเขาก็เจ็บแทนเจ้าแกะผู้โชคร้ายแล้ว! ลูคัสหันไปสบสายตากับคาร์ลและองครักษ์ทั้งสองซึ่งพวกเขาก็มีสีหน้าตกใจไม่ต่างกันกับตน “ผมว่าเราออกไปข้างนอกกันดีกว่า”

“เป็นความคิดที่ดี” คาร์ลรีบหันหลังขวับแล้วสาวเท้าเดินนำออกไป

ทั้งสี่หนุ่มออกมายืนพิงรั้วอยู่ข้างนอก วันนี้พวกเขาได้ประสบการณ์ใหม่ๆ มาหลายอย่าง ทั้งดีและไม่ดีแบบที่คาดไม่ถึง เมื่อมีเวลาว่างก็เลยพูดคุยกันไปพลาง

“จากที่พวกชาวบ้านเล่าให้ฟัง แต่ละบ้านปีหนึ่งๆ เก็บเกี่ยวทั้งข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ได้เยอะ แล้วยังข้าวโพดอีก พวกข้าวบาร์เลย์แบ่งส่วนสำหรับส่งเป็นส่วยและสำหรับทำเบียร์แล้วก็ยังมีจำนวนมากกว่าความต้องการเยอะมาก ที่จริงข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะทำเบียร์เก็บไว้ได้ปริมาณมากกว่านี้ แต่คงจะทำไม่ทัน เพราะติดที่เวลาที่ใช้แล้วก็แรงงานในการโม่นี่ล่ะ”

“อืม เบียร์เก็บได้นาน... ถ้าหากพวกเขาสามารถทำเบียร์ได้มากขึ้น ก็จะมีพอที่จะนำไปขายหรือแลกเปลี่ยนสินค้ากับเมืองอื่น ชาวเมืองก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปด้วย” ลอร์ดหนุ่มเม้มปากอย่างครุ่นคิด “ที่ข้าเคยเห็นในเมืองไฮเดลแบร์ก พวกเขาใช้โม่ขนาดใหญ่มาก แล้วใช้แรงงานจากม้าหรือวัว”

“เมืองไฮเดลแบร์ก?” ลูคัสหันขวับไปจ้องใบหน้าหล่อเหลา

“ใช่แล้ว เมืองหลวงของแคว้นไฮเดลแบร์กอย่างไรกันล่ะ”

“อยู่ไกลจากที่นี่มากมั้ยครับ”

ลอร์ดหนุ่มพยักหน้า “ไกลมาก”

“เป็นเมืองที่สวย ใหญ่แล้วก็ร่ำรวยมากเลยล่ะ” คอนราดพูดสมทบ “เพราะฉะนั้นแต่ละบ้านจึงสามารถมีม้า มีวัวไว้ใช้งานได้”

ลูคัสขมวดคิ้วพลางเม้มริมฝีปาก แต่ถึงไม่มีม้า ไม่มีวัว แบร์กไฮม์ก็มีแม่น้ำ น่าจะใช้ประโยชน์จากแรงน้ำได้... แต่ถ้าขืนเขาพูดออกไปตอนนี้ ทุกคนคงจะยิ่งงงแน่ๆ จะวาดรูปอธิบายก็ไม่มีกระดาษ

“ลูคัส เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ”

“เอ้อ เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

“อยากไปไฮเดลแบร์กรึ”

เด็กหนุ่มส่ายหน้ารัว “เปล่านะครับ ไม่ใช่อย่างนั้น”

“เจ้าแน่ใจรึ”

เพราะสีหน้าของคาร์ลบ่งบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อ เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจตอบเลี่ยงๆ “เอ่อ... ตอนนี้ไว้ก่อนนะครับ เอาไว้มีโอกาสแล้วผมจะเล่าให้ฟัง”


*~TBC~*


ตอนนี้ฮัสกี้พาทุกคนมาทัวร์งานเทศกาลที่ไม่เหมือนงานเทศกาลแล้ว (ฟิลคล้ายชุดนอนไม่ได้นอนเลยนะคะ) 555555

สัญญาว่าเดี๋ยวตอนหน้าจะให้สองหนุ่มเขาสวีตกันนิ๊ดดดดนุง ฮี่ๆ

ขอบคุณทุกคนที่ชอบนิยายเรื่องนี้นะคะ  :hao5: ฮัสกี้จะตั้งใจเขียน พยายามไม่ให้ผิดหวังค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ จุ๊บๆๆๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 06-12-2016 19:53:33
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 06-12-2016 19:57:01
แหม่ ฉากเหยียบองุ่นนี่มันฟรุ้งฟริ้งจริงๆ ลูคัสก็ฉลาดมาก คงช่วยงานทั่นหลอดได้เยอะแน่ๆ  เรื่องนี้อ่านเพลินมาก แปปๆจบตอนนน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: xaomammx ที่ 06-12-2016 19:58:21
รู้สึกว่ามันสั้นทุกครั้งถึงแม้ที่จริงมันอาจจะยาวก็ตาม
หรื้ออออ อยากให้เขาจู๋จี๋กันไวๆ55555
หึ้ยยนย รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 06-12-2016 20:06:49
ถ้าเป็นบ้านเรานี่ก็ฮัลโลวีนใช่มั้ย ต่อไปลูคัสจะประดิษฐ์อะไรออกมาให้ชาวบ้านชาวเมืองแปลกใจอีกน้อ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 06-12-2016 20:15:33
แอบมีมุ้งมิ้งๆกันด้วยยย ถึงจะนิดหน่อยก็เถอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 06-12-2016 20:31:11
อยากไปอยู่บรรยากาศแบบนั้นจัง
ไม่อยากให้เวลาผ่านไปเลย
 :really2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 06-12-2016 20:37:14
 :-[   :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 06-12-2016 20:39:45
จะทำเครื่องโม่พลังน้ำเหรอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-12-2016 20:48:03
เออร์วินนี่น้า ท่าทางจะหลงเด็กเข้าอีกคน
ไหนตอนแรกไม่ชอบหน้าเขาละ
ไม่อยากจะนึกถึงตอนที่น้องลูต้องกลับปัจุบันเลย
นึกขึ้นได้ว่าภาพในปราสาทที่น้องลูเคยเห็นในปัจุบัน
ต้องใช่ท่านลอร์ดกับน้องลูแน่เลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-12-2016 20:52:14
บอกเลยชอบความฉลาดของลูคัสมากๆ

ส่วนนิสัยชอบอยู่แล้ว อิอิ

ลูคัสจะเปลี่ยนแปลงวิถีชิวิต การทำงาน ความเป็นอยู่ของชาวบ้านใช่ไหม

คิดแล้วตื่นเต้นจัง งานนี้ ท่านลอร์ด คอนราด เออร์วิน คงทึ่งในความฉลาด ในความเก่งของลูคัสบ้างหละ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 06-12-2016 20:57:38
หนูลูคัสช่างขี้อ้อนเหลือเกิน อ้อยกันไปแบบเนียนๆ งี้ท่านหลอดจะไม่รักไม่หลงได้ยังไง นี้ก็คงไม่อยากปล่อยกลับบ้านแระ
รออ่านความสวีทหวานเว่อร์  :mew1:


“ตอนนี้แม่กับยายก็ไปช่วยคนในหมู่บ้าน ส่วนตากับลูคัสอยู่ที่คอกแกะ”
แต่อันนี้น่าจะพิมพ์ผิดมั้ยคะ ตาไม่น่าอยู่กับลูคัส มั้ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-12-2016 21:08:43
เฝ้ารอแต่ละตอนที่ลูคัสจะแสดงความสามารถให้คนอื่นเห็นและแปลกใจ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 06-12-2016 21:11:20
น้องลูเหมือนทำไปตามธรรมชาติ จับมือท่านลอร์ดเหยียบองุ่น
น้องขะปล่อยของอีกแล้ววว รอดู อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 06-12-2016 21:15:31
ทำไวน์น่าสนุกจังงงงงง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-12-2016 21:28:55
พาท่านคาร์ลมาชมวิถีชาวบ้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ คึคึ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 06-12-2016 21:47:39
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 06-12-2016 22:03:59
อบอุ่นนนนน  :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 06-12-2016 22:06:00
^
^
^
จิ้ม....ไม่ได้แล้วสิ มาช้าไป งั้นก็..ทะลุทะลวงตับ ไต ไส้ พุง!!!!...ก็แล้วกัน แหะๆๆ :try2: :try2:
อะไรคือการเตรียมงานฉลองในวันที่มีงานฉลอง....น่าจะเตรียมก่อนซักอาทิตย์นึงหรือวันสองวันนะ งานฉลองจะได้เฮฮาทั้งวัน หรือมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เตรียมวันอื่นนอกจากวันฉลองไม่ได้ พี่ฮัสกี้ช่วยมาไขข้อสงสัยด้วย~~~~ :katai1: :katai1:
โอ๊ะ!! เจอจุดผิด!!! o3 o3
1.เสื้อแขนยาวสีขาวหม่น กางขายาวสีน้ำตาล
คือจะว่าพิมพ์กางเกงสินะ... :hao3: :hao3:
2.“ตอนนี้แม่กับยายก็ไปช่วยคนในหมู่บ้าน ส่วนตากับลูคัสอยู่ที่คอกแกะ”
ตรงนี้หมายถึงวิลสินะ....อย่าลืมแก้ล่ะคนอื่นเข้าใจผิดหมด :hao3: :hao3:
รอตอนต่อไปจ้า ฉากสวีทของสองหนุ่ม..ลูคัสกับท่านหลอดสินะ หรือจะมาหักมุม!! เออร์วินกับคอนราด!!!  :o :o คงไม่ชิมิ :try2: :try2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 06-12-2016 23:53:39
เออร์วินนี่ฟังเรื่องของลูคัสเพลินเลยสิ แอบชอบไปแล้วรึเปล่าเนี่ยยย :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-12-2016 00:58:34
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-12-2016 01:07:19
ฟ้าส่งมาให้นำทาง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 07-12-2016 08:01:43
 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 07-12-2016 08:32:37
 :katai2-1: สงสัยจะมีคนหลงสเน่ห์เพิ่มมาอีกคนละ ขอบอกเลยว่าน้องเขาต้องเป็นของท่านลอร์ดโอลี่จ้า  :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-12-2016 10:47:29
น้องลูมีอะไรให้เล่นอีกเยอะเลย ความรู้ความสามารถรอบตัว ใครก็รักใครก็หลง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 07-12-2016 12:56:38
อ่านแล้วรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในงานเลย :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-12-2016 19:34:38
ดูมีความงุ้งงิ้ง น่ารักอยู่นะเนี่ยยยย
อยากอ่านตอนหน้าเลยอ่ะ อยากรู้ว่าลูคัสจะประดิษฐ์อะไรอีก 55555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 07-12-2016 20:09:52
สนุกมากๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 07-12-2016 23:03:50
น่ารัก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 08-12-2016 12:31:00
นับวัน ยิ่งสนุกเพิ่มขึ้น
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 09-12-2016 20:39:12
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 10-12-2016 01:25:32
สิ่งที่ชอบที่สุดในนิยายเรื่องนี้คงเป็นวิถีของชาวบ้านบรรยากาศ  กับเเนวคิดที่พัฒนาแล้วที่ลูคัสเอามาสอนชาวบ้าน  รู้สึกดีเหมือนได้วิ่งเล่นในทุ่งข้าวบาร์เล่ 
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: casper75 ที่ 10-12-2016 17:03:11
นู๋ลูคัสน่ารักกก ฉลาดด้วย ทั่นหลอดเริ่มหลงรักแล้วใช่มะๆๆ   :hao3:
ติดตามตอนต่อไปค่าา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2016 16:27:36
ลูคัสมีโครงการอะไรอีกหนอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 11-12-2016 16:54:55
สนุกมากกกกก ลูคัสน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: ltdo_ltdo ที่ 11-12-2016 20:00:32
อ่านนิยายในเล้ามานานแต่พึ่งเคยมาคอมเม้นต์  ชอบนิยายแนวนี้มกค่ะ ลูคัสฉลาดมาก อ่านแล้วเห็นภาพเลยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 11-12-2016 20:08:25
วันนี้จะมาป่าวเอ่ย

มาให้กำลังใจคนแต่งจ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 11-12-2016 23:33:18
 :hao5: มารอร่วมงานคืนนี้ :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-12-2016 23:43:33
อยากอ่านอีกจังเลย ดิ้นๆ 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 12-12-2016 16:50:31
กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 11 : เทศกาล][061216]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 12-12-2016 19:46:08


Chapter 12 : จุมพิต


ดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำจวนเจียนจะมุดลงไปใต้ขอบฟ้าเมื่อถึงยามบ่ายแก่ๆ อากาศเย็นลงมาก พวกชาวบ้านต่างใส่เสื้อคลุมตัวหนาแล้วพากันไปยังสถานที่จัดงานฉลอง

เสียงระฆังจากโบสถ์ดังเหง่งหง่าง บาทหลวงก้าวออกมาพูดคุยและอวยพรให้แก่ทุกคน ก่อนกองไฟที่กลางลานจะถูกจุดขึ้น พวกอาหารและเครื่องดื่มวางอยู่ตามโต๊ะอาหาร ใครอยากรับประทานอะไรก็เลือกหยิบเอาได้ตามใจชอบ หลังจากนั้นสักพักใหญ่เสียงดนตรีกับร้องเพลงก็ดังขึ้น พวกชาวบ้านหนุ่มสาวจึงออกไปเต้นรำกัน เสียงหัวเราะ พูดคุยกันอย่างมีความสุขดังลั่นไปทั่ว

คาร์ล องครักษ์ทั้งสอง ลูคัสและครอบครัวของเลนนั่งอยู่บนผ้าผืนเดียวกัน ในตอนแรกพวกเลนก็รู้สึกเกร็งๆ หากพอเริ่มอิ่มท้องและได้ดื่มไวน์กับเบียร์ไปสักพักก็ชวนผู้มาเยือนพูดคุย

“อาหารอร่อยมั้ย ปีนี้น่ะอาหารดีที่สุดเลยนะ อะไรๆ ก็ดีขึ้นตั้งแต่ไอ้พวกโจรถูกจับไป” ชายสูงวัยเอ่ยขึ้นพลางหันไปชักชวนคอนราดกับเออร์วินให้ดื่มเบียร์อีก “น่าเสียดายที่ท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ไม่ได้มาร่วมงานฉลองด้วยนะ”

ยายตีแขนตาไปเบาๆ “โธ่ ตา ท่านเป็นขุนนางสูงส่ง จะกินอาหารแบบนี้ได้รึเปล่าก็ไม่รู้”

ลอร์ดหนุ่มที่กำลังยกแก้วไวน์ขึ้นจิบหยุดกึก “ไม่แน่หรอก ถ้าหากมีใครชวนอาจจะมาก็ได้”

ลูคัสอมยิ้ม “นั่นสิ ผมก็ว่างั้น”

“นี่ ท่านหัวหน้าทหาร ฝากบอกท่านลอร์ดด้วยน่ะ พวกชาวบ้านที่หมู่บ้านข้าชื่นชมท่านมาก อยากขอบคุณเหลือเกินที่ท่านนำความสงบสุขมาให้”

“หัวหน้าทหาร?” คอนราดกับเออร์วินหันไปมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนจะหันไปทางผู้เป็นนาย

ยายจึงหันไปถามลอร์ดหนุ่ม “ท่านไม่ใช่หัวหน้าทหารหรือ ข้าเห็นพวกทหารรับคำสั่งจากท่าน”

“อ้อ... จะว่าเป็นหัวหน้าทหารก็คงได้” คาร์ลพยักหน้าเล็กน้อย “ข้าจะบอกท่านให้ก็แล้วกัน”

“แล้วเจ้าล่ะ ลูคัส เคยพบท่านลอร์ดไหม” มารีถามบ้าง

“เอ่อ... จะว่าเคยก็เคยครับ”

เลนหันมาร่วมวงอย่างสนใจ “ท่านเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าเล่าให้ฟังหน่อยสิ”

เด็กหนุ่มหันไปหาคาร์ล ดวงตาโตกะพริบปริบ เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ใจนึกหวังว่าอีกฝ่ายจะช่วยพูดอะไรกลบเกลื่อนให้ ทว่าไม่เป็นอย่างที่คิด

ลอร์ดหนุ่มยิ้มมุมปาก “ข้าก็อยากรู้ เจ้าเล่ามาสิ”

แน้! ขอให้ช่วย ไม่ใช่ขอให้ขุดหลุมฝัง! ลูคัสบ่นไปทางสายตา จากนั้นจึงหันไปตอบ “ผมเจอแค่แวบๆ ก็... ดูใจดีล่ะมั้ง”

คาร์ลขมวดคิ้ว “ทำไมเจ้าตอบเหมือนไม่แน่ใจ”

“แล้วคุณคิดว่าท่านลอร์ดเป็นยังไงล่ะ คุณน่าจะเจอบ่อยกว่าผมนะ” เด็กหนุ่มย้อนถาม ส่งผลให้องครักษ์ทั้งสองหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

“ไม่ถามแล้วก็ได้ อ่ะ นี่ลูคัส ออกไปเต้นรำกับทุกคนไหม” เลนเอ่ยชักชวน

ลูคัสหันไปสบสายตากับดวงตาสีฟ้าคู่สวย แม้ใจอยากจะออกไปร่วมสนุกกับชาวเมือง หากเขาสัญญาไปแล้วว่าจะอยู่ข้างๆ ลอร์ดหนุ่มตลอด ถ้าหากไม่รักษาสัญญาครั้งนี้ก็อาจจะไม่มีครั้งต่อไป เด็กหนุ่มจึงส่ายหน้าช้าๆ “ไม่ล่ะ นั่งดูดีกว่า”

“งั้นก็ดื่มเบียร์อีกหน่อยสิ” มารียกแก้วเบียร์ของทุกคนไปเติมมาให้จนเต็มแก้ว จากนั้นหล่อนกับทุคนก็ออกไปเต้นรำกัน ปล่อยให้ทั้งสี่คนนั่งเฝ้าผ้าปูกันไป

ระหว่างที่นั่งอยู่ก็มีชาวเมืองแวะมาทักทายเป็นพักๆ มาชวนคุยและดื่มเบียร์กัน พอเห็นเบียร์พร่องลงไปก็รีบไปเติมให้

“ขอบคุณพวกท่าน ฝากขอบคุณไปถึงท่านลอร์ดด้วยน่ะ”

“แบร์กไฮม์ไม่ได้สงบสุขเช่นนี้มานานเหลือเกิน”

ได้ยินคำพูดชื่นชมจากชาวเมืองบ่อยเข้า ลอร์ดหนุ่มและองครักษ์ก็อดที่จะยิ้มบ้างเล็กน้อยไม่ได้ เมื่อได้เห็นความสุขของชาวเมืองก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับความเหน็ดเหนื่อยและหยาดเหงื่อที่เสียไปจากการจับพวกโจรผู้ร้าย

“ต้องขอบใจเจ้าเช่นกัน ลูคัส... ลูคัส!” พอคาร์ลหันไปทางเด็กหนุ่ม อีกฝ่ายก็นั่งโอนเอนจวนเจียนจะหงายหลัง เขาจึงเอื้อมมือไปช่วยประคองไว้ “เจ้าเมาหรือนี่”

“ฮึก~ เมาอาราย~” ลูคัสตอบเสียงอ้อแอ้ “โผมแค่ ฮึก! มึนๆ นิดโหน่ย~” ก่อนจะโถมตัวเข้าใส่แล้วกอดลอร์ดหนุ่มไว้แน่น “อุ่นดีจังเลย~”

“ลูคัส! ไม่ได้นะ!” คอนราดและเออร์วินยื่นมือออกไปพร้อมกัน

“ไม่ต้อง!” คาร์ลยกแขนขึ้นโอบเด็กหนุ่มไว้หลวมๆ เขาก้มลงมองใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำพลางหัวเราะเบาๆ “เด็กเอ๊ย เจ้าดื่มไปเยอะขนาดไหนกันนี่”

ลูคัสหัวเราะเอิ๊กอ๊าก “สี่แก้วเอง”

ตายายเดินกลับมานั่งลงบนผ้าปูอีกครั้ง พอเห็นว่าเด็กหนุ่มซุกอยู่ในอ้อมแขนของคาร์ลก็ขยับเข้าไปถาม “ลูคัสเป็นอะไรหรือท่าน”

“เขาเมาน่ะ”

“อ้าว แล้วกัน ถ้างั้นพาเขาไปพักที่บ้านก่อนไหมท่าน ข้าจุดเตาผิงทิ้งไว้ น่าจะยังอุ่น”

“ก็ดี งั้นเดี๋ยวข้าพาไปเอง” เออร์วินเสนอตัว

“ไม่ต้อง ข้าจะพาไปเอง”

องครักษ์หนุ่มหันขวับ “แต่ว่า ท่าน...”

“ข้าเองก็อยากพักเหมือนกัน ไปเอาม้ามาให้ข้าหน่อยสิ” คาร์ลตอบเสียงเข้ม

เออร์วินหลุบตาลงต่ำ เขาถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจึงลุกไปทำตามที่ลอร์ดหนุ่มสั่ง พอจูงม้ากลับมาก็ถามอีกครั้ง “จะดีหรือ ท่านคาร์ล ให้พวกข้าไปด้วย...”

“ไม่เป็นไร พวกเจ้าสนุกกับงานต่อเถอะ” ลอร์ดหนุ่มลุกขึ้นพร้อมกับประคองลูคัสขึ้นมาด้วย “ยังพอเดินไหวไหม”

“ไหวครับ”

“ข้าจะพาเจ้าไปพัก”

“ครับ” ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก

คาร์ลพยุงเด็กหนุ่มขึ้นไปนั่งบนหลังม้า ก่อนจะตามขึ้นไปประกบข้างหลังแล้วเตะสีข้างม้าเบาๆ ให้มันเดินออกไปช้าๆ ทิ้งให้เออร์วินกับคอนราดยืนมองผู้เป็นนายควบม้าห่างออกไป

“เจ้าห่วงอะไร ห่วงท่านคาร์ล หรือห่วงลูคัสกันแน่”

เออร์วินหันขวับ “เจ้า!” เขาสะอึกเมื่อสบสายตากับดวงตาของเพื่อนองครักษ์ที่ดูเหมือนจะมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ก่อนจะเสตาหลบ “ข้าเป็นองครักษ์ ก็ต้องเป็นห่วงท่านคาร์ลอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

คอนราดกระตุกยิ้มมุมปาก “แต่สายตาเจ้าจ้องลูคัสไม่วางตาเลยนะ ตอนแรกเจ้าก็ดูเหมือนจะยอมรับเขาแล้ว ยังมีอะไรอีกงั้นหรือ”

“ข้าจ้องเขาหรือ” เออร์วินย่นคิ้วเข้าหากัน เขาหยุดนิ่งไปสักพักจึงพูดต่อ “ข้าก็คงแค่... คิดว่าเด็กนั่นยิ้มน่ารักดี”

“ก็จริง... แต่ข้าก็ยิ้มน่ารักเหมือนกันไม่ใช่หรือ” คอนราดยิ้มกว้างพลางยกแขนขึ้นโอบไหล่อีกฝ่าย “ไปเถอะ ไปดื่มกันต่ออีกสักหน่อยค่อยตามท่านคาร์ลไป”


ลอร์ดหนุ่มควบม้าไปช้าๆ ออกจากบริเวณที่ฉลองกันเสียงดังเข้าไปภายในตัวหมู่บ้านที่เงียบเชียบ เขาตรงไปยังบ้านหลังที่เคยพบกับเด็กหนุ่ม สายลมยามค่ำคืนพัดมาแผ่วเบา หากก็พาความหนาวเหน็บมาส่งมอบให้ทุกหนแห่ง

หลังจากขี่ม้ากันไปสักพัก เด็กหนุ่มก็เริ่มสร่างเมา แขนเรียวยกขึ้นกอดลำตัว “หนาวชะมัดเลย”

“อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว”

ลูคัสแหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา “คุณจำบ้านของมารีได้ด้วยหรือ”

“หลังสุดท้ายริมแม่น้ำ ไม่ได้จำยากอะไรนี่” ลอร์ดหนุ่มก้มลงมอง “เจ้าสร่างเมาแล้วก็จับให้ดีๆ ข้าจะได้เร่งม้าให้วิ่งไวขึ้น จะได้ไปถึงบ้านเร็วๆ”

ลูคัสก้มลงเล็กน้อย มือขาวขยุ้มแผงคอม้าไว้แน่น “จับแล้วครับ” หากพอคาร์ลเตะสีข้างเจ้าม้าให้มันวิ่งออกไป เด็กหนุ่มก็หงายหลังกลับมาพิงแผ่นอกกว้าง ครั้งนี้สร่างเมาแล้วจึงรู้สึกได้ว่าร่างกายของพวกเขาแนบชิดกันมากขนาดไหน ถึงแม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้นก็ตามที เขาก้มหน้าลงต่ำ ซ่อนใบหน้าที่ร้อนผ่าวและพวงแก้มนิ่มที่เปลี่ยนเป็นสีระเรื่อไว้ โชคดีของเขาจริงๆ ที่เป็นเวลากลางคืนเช่นนี้

เมื่อไปถึงหน้าบ้าน ลอร์ดหนุ่มก็ผูกม้าไว้แล้วบอกให้ลูคัสไปหาอะไรมาใส่น้ำให้ม้า เสร็จแล้วจึงพากันเข้าไปในบ้าน

ภายในห้องยังอบอุ่นดีเพราะถ่านที่ยังแดงอยู่ในเตาผิง เด็กหนุ่มจึงเดินไปเติมฟืนเพิ่มไว้ก่อนที่ไฟจะดับลง “เดี๋ยวผมไปเติมฟืนในห้องนอนไว้ด้วยดีกว่า เวลาทุกคนกลับมาจะได้อุ่นๆ” ลูคัสวิ่งเข้าไปสักพักก็กลับออกมาพร้อมกับผ้าอีกผืน เขาปูลงตรงที่ว่างหน้าเตาผิงแล้วชวนให้ลอร์ดหนุ่มนั่งลงด้วยกัน

เสียงถ่านลั่นเปรี๊ยะๆ ดังแว่ว ขณะที่คาร์ลหันมองไปรอบๆ ห้อง

“เทียบกับปราสาทของคุณแล้ว ที่นี่แคบมากเลยใช่มั้ยครับ”

“อืม แต่ก็อุ่นดี”

ลูคัสยิ้มบาง “คุณเคยได้ยินมั้ย ต่อให้บ้านแคบขนาดไหน ถ้าคนในบ้านรักกัน มันก็เป็นที่ที่น่าอยู่ แต่ถ้าอยู่บ้านกว้างๆ แล้วคนในบ้านเอาแต่ทะเลาะกัน มันก็ไม่น่าอยู่หรอก”

“รู้สิ ข้าเข้าใจดีเลยละ”

เด็กหนุ่มเอียงคอมองอีกฝ่าย “คุณมีพี่น้องมั้ย”

“มีน้องชายสองคน”

“แล้วพวกเขาไปอยู่ไหนซะล่ะครับ”

“อยู่เมืองใกล้ๆ น่ะพวกเราต้องห่างกันไปเพราะมีหน้าที่สำคัญที่ต้องรับผิดชอบ”

คิ้วเรียวขมวดมุ่น จะถามมากกว่านี้ก็คิดว่าอาจจะละลาบละล้วงมากเกินไป ลูคัสจึงชวนเปลี่ยนเรื่องคุย เขาหันหน้าไปทางเตาผิง ทอดสายตามองเปลวไฟอยู่สักพักแล้วเอ่ยขึ้น “งานฉลองวันนี้สนุกดีนะครับ น่าเสียดายจังน้า... ท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ไม่ได้มา” เด็กหนุ่มหันไปทางคนที่นั่งข้างกัน “ถ้ามารีรู้ว่าคุณเป็นใครต้องลมจับแหงๆ”

คาร์ลยิ้มบาง “ข้าหวังว่าปีหน้าพวกเขาจะสนุกกันได้มากกว่านี้”

“แต่ผมก็คิดเหมือนพวกชาวเมืองนะ พวกเขาโชคดีที่มีผู้ครองเมืองแบบคุณ”

“เจ้าชมข้าแบบนี้ต้องการอะไรหรือ”

“ถ้าผมอยากได้อะไรคุณจะให้ผมงั้นหรือ” ลูคัสย้อนถามกลับไป

คาร์ลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ขอคิดดูก่อน”

เด็กหนุ่มเบ้ปากใส่ “โธ่! ท่านลอร์ดอ่ะ ถ้าแบบนี้แล้วจะถามผมทำไม”

“เจ้านี่น้า” ลอร์ดหนุ่มหัวเราะพลางยกมือขึ้นขยี้เส้นผมสีดำเบาๆ

ลูคัสจับจ้องใบหน้าหล่อเหลาคมสัน เส้นผมสีทองเป็นลอนน้อยๆ ดูอ่อนนุ่ม นัยน์ตาสีฟ้าแบบที่เขาคิดว่ามีเสน่ห์อย่างประหลาดและรอยยิ้มที่เขาชอบ ท่านลอร์ดเป็นคนที่ดูดีมากอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าหากเป็นคนในยุคปัจจุบัน คงจะเป็นนายแบบชื่อดังได้แน่ๆ

“มีอะไรหรือ”

“ขอผมจับผมคุณหน่อยได้มั้ย”

“ทำไมรึ”

“ก็คุณยังจับผมของผมบ่อยๆ เลย”

คาร์ลย่นคิ้วเข้าหากัน แต่ก็พยักหน้า “อยากจับก็ตามใจ”

มือเรียวยกขึ้นสัมผัสเส้นผมเหนือใบหูของลอร์ดหนุ่มอย่างแผ่วเบา “นุ่มอย่างที่คิดไว้เลย” เขายิ้มกว้าง ขยับตัวไปคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าอีกฝ่ายพร้อมกับยกมืออีกข้างขึ้นช่วยจัดเส้นผมไปทางด้านหลัง

ลอร์ดหนุ่มเงยหน้าขึ้น ใบหน้าของพวกเขาอยู่ห่างกันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น “เล่นสนุกเลยนะ” จากนั้นจึงยกมือขึ้นจับข้อมือทั้งสองข้างไว้

“ผมก็แค่... เย้ย!” เด็กหนุ่มโผเข้ากอดคนตรงหน้าเมื่อมีตัวอะไรกระโจนเข้ามาร่วงตุ้บที่ใกล้ๆ ตัว พอหันไปดูก็เห็นว่ามันคือสุนัขจิ้งจอกขนสีน้ำตาลแดง แล้วหลังจากมันได้ยินเสียงดังของเขาก็วิ่งพรวดพราดหนีไป “ตกใจหมดเลย มาได้ยังไงกันเนี่ย!”

“มันคงเข้ามาหลบหนาวอยู่ในนี้ก่อนแล้วน่ะ”

“ดีนะที่ไม่ใช่... หมี...” ลูคัสหันกลับไปหาลอร์ดหนุ่ม ปลายจมูกของพวกเขาเฉียดกันไปเพียงเล็กน้อย แต่นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยทำให้เขารู้สึกราวกับทั้งโลกหยุดหมุน เด็กหนุ่มไม่อาจละสายตาไปจากดวงตาคู่นั้นได้

“ลูคัส”

เสียงเรียกชื่อตัวส่งผลให้ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบลงต่ำ ครั้งนี้เขาจ้องเรียวปากบางรูปกระจับของอีกฝ่ายเขม็ง หัวใจเต้นระส่ำ “เอ่อ... ผม...”

ความรู้สึกนี้คืออะไร ลูคัสถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในใจ หากร่างกายก็ยังไม่ยอมขยับเขยื้อน

ถ่านจากในเตาผิงลั่นเปรี้ยะ เรียกสติของเด็กหนุ่มให้กลับคืน พอรู้สึกตัวว่าเขานั่งกอดลอร์ดหนุ่มอยู่ก็รีบผละออก “อะ ขอโท...” หากอีกฝ่ายกลับยกแขนขึ้นกอดเอวเขาไว้ “คุณ... เอ่อ... ปล่อย...”

“เจ้ากระโดดเข้ามากอดข้าเองนะ” คาร์ลยิ้ม สีหน้ากับท่าทางของลูคัสช่างน่ารัก แล้วกลีบปากสีแดงนั่น... ก็น่าลองชิมไม่ใช่น้อย ลอร์ดหนุ่มกระชับแขนแกร่งให้ร่างโปร่งเข้ามาแนบชิด “ลูคัส เจ้ามีคนรักหรือเปล่า”

ลมหายใจอุ่นๆ ส่งผลให้เด็กหนุ่มนั่งตัวเกร็ง มือเรียวขยุ้มเสื้อคลุมของอีกฝ่ายไว้แน่น “ไม่... ไม่มีครับ”

“อย่างนั้นหรือ”

ลูคัสขืนตัวออก เวลานี้ไม่กล้าสบสายตากับนัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นแล้ว หากริมฝีปากเผยอถามคำถามกลับไปไวกว่าที่ใจคิด “แล้วคุณ...”

“นอกจากคอนราดกับเออร์วิน เจ้าเห็นมีใครอยู่ข้างกายข้าอีกเล่า”

เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น แต่ก็อดยิ้มไม่ได้ เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน รู้เพียงแค่ว่าคำตอบของอีกฝ่ายนั้นทำให้หัวใจพองโต

“ลูคัส เงยหน้าขึ้นสิ”

เจ้าของชื่อเรียกส่ายหน้ารัว คาร์ลจึงเชยคางเขาขึ้นให้สบประสานสายตากัน

“เจ้า...” นิ้วหยาบเกลี่ยพวงแก้มสีระเรื่ออย่างอ่อนโยน “ในเมื่อเจ้าไม่มีใคร เจ้าจะอยู่กับข้าตลอดไปได้หรือไม่”

“ตลอดไป? อยู่กับคุณที่นี่ตลอดไปน่ะหรือ” ลูคัสพูดเสียงแผ่ว

“ใช่ อยู่กับข้า... กับชาวเมืองแบร์กไฮม์”

แวบหนึ่งหัวใจของเด็กหนุ่มกระตุกวาบ หากก็คิดได้ว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผู้ครองเมืองจะต้องการให้คนที่ทำประโยชน์ได้อยู่ข้างตัว

ไม่ใช่เรื่องแปลก... แต่ทำไมรู้สึกเจ็บในอก

สำหรับท่านลอร์ด เขามีความสำคัญเพียงแค่นี้เองน่ะหรือ

เจ็บ...

“ปล่อยผมเถอะครับ”

ร่างโปร่งทั้งผลักทั้งยันตัวเองให้หลุดจากอ้อมแขนแกร่ง ทว่าเมื่อไม่เป็นผลจึงก้มลงซุกหน้าบนแผ่นอก ไม่ให้ลอร์ดหนุ่มเห็นใบหน้าของตนเองได้

“ลูคัส... เจ้าไม่อยากอยู่กับข้าหรือ”

“ท่านลอร์ด ผมเป็นแค่คนธรรมดาๆ ที่ชอบอ่านหนังสือ คุณจะหาคนแบบผมมาอยู่กับคุณอีกสักกี่คนก็ได้”

“แต่ข้าไม่ต้องการคนอื่น” คาร์ลกระซิบข้างใบหูนิ่ม “ลูคัส เจ้ารังเกียจข้าหรือ” คำพูดของเขาส่งผลให้เด็กหนุ่มชะงัก หยุดขืนตัวออกห่าง มือหยาบจึงจับคางเรียวของอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้น

แววตาใสสั่นไหว เขาพ่ายแพ้ต่อนัยน์ตาสีฟ้าที่จ้องมองมาจริงๆ “ท่านลอร์ด ผมไม่...”

“จริงหรือ”

ลูคัสพยักหน้าช้าๆ พลางเสตาหลบ

“พิสูจน์สิ”

“คุณจะให้ผมทำยังไง”

“จูบข้า”

“จะ... จูบหรือ” เด็กหนุ่มหันขวับ นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง “ให้ผมจูบคุณเนี่ยนะ!”

คาร์ลตอบเสียงขรึม “ใช่”

ลูคัสอ้ำอึ้ง แต่สักพักก็คิดว่าบางทีนี่อาจเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของคนในยุคโบราณก็เป็นได้  เขาคิดในใจพลางโน้มใบหน้าเข้าไปจูบแก้มสาก

“ลูคัส ตรงนี้” ลอร์ดหนุ่มชี้ไปที่เรียวปากของตน

“หา! ท่านลอร์ด!”

“ทำไม่ได้หรือ”

นัยน์ตาสีแซฟไฟร์ที่จ้องมองมานิ่งไม่ไหวติง ลูคัสรู้สึกว่าเขากำลังพาตัวเองจมลึกลงไปในความเร้นลับและเสน่ห์ของดวงตาคู่นั้น เขาเม้มริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปหาลอร์ดหนุ่มอีกครั้ง ลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่ารดพวงแก้มเป็นผลให้หัวใจเต้นระส่ำ

กลีบปากสีแดงสดแนบสัมผัสเรียวปากหยักเพียงแผ่วเบา จากนั้นจึงรีบถอนริมฝีปากออก แค่นี้ใบหน้าของเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร้อนรุ่มราวกับมีไฟลน

คาร์ลหัวเราะเบาๆ ขณะที่ค่อยๆ เคลื่อนฝ่ามือจากเอว ผ่านแผ่นหลัง ต้นคอ และขึ้นไปอยู่บนท้ายทอยของเด็กหนุ่ม “เจ้าเคยจูบหรือเปล่า”

“เคย... เคยแบบที่จูบคุณเมื่อกี้นี่แหละ”

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะสอนวิธีที่ถูกต้องให้” มือหยาบดันท้ายทอยคนบนตักเข้าหาตัว “อ้าปากนิดนึงสิ”

ริมฝีปากอิ่มเผยอออก “คุณ...”


“ท่านคาร์ล! พวกข้ามาแล้วขอรับ!”

เสียงม้ากับเสียงฝีเท้าจากทางด้านนอกดังขึ้นแทรกพร้อมกับเสียงขององครักษ์ “ท่านคาร์ล!” เป็นผลให้อ้อมแขนแกร่งคลายออก เด็กหนุ่มจึงผละออกทันที

ลูคัสแทบจะกระโดดหนีไปหลบใต้โต๊ะ เขายกสองมือขึ้นปิดใบหน้า หัวใจราวกับจะระเบิดออกมาจากในอก

เมื่อกี้... เมื่อกี้มันอะไรกัน! เขากับท่านลอร์ด... ถ้าหากเออร์วินกับคอนราดมาช้ากว่านี้...

“ท่านคาร์ล!”

ลอร์ดหนุ่มพ่นลมหายใจออกหนักๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วตอบกลับไป “รู้แล้ว ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้”


*~TBC~*


ขอเชิญไล่ตบคอนราดกับเออร์วินตามอัธยาศัย งานนี้ฮัสกี้มะมีเอี่ยว~ 55555555555555  :o8:

แต่ว่า ทุกคนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับลูคัสในตอนนี้ว่าอย่างไร เด็กคนนี้... ก.ขี้อ่อย ข.ขี้อ่อยมาก ค.ขี้อ่อยที่สุด ง.ถูกทุกข้อ!

แล้วท่านลอร์ดจะอดทนไหวมั้ยเนี่ย!

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะค้า เยิฟๆ  :mew1:

ปล.1 ขอบคุณคุณsongte และน้องKan ที่ช่วยบอกที่ผิดนะคะ กรีซซซซ เค้าแก้แว้วน้าาา~

ปล.2 ตอบน้องKan การทำไวน์และโม่ข้าวงอกเป็นการฉลองของชาวบ้านอย่างหนึ่งค่ะ แบบว่าสนุกที่ได้ทำงานร่วมกันอะไรบั่บเน้ค่ะ คล้ายๆ งานกีฬาสีงอยย 55555555 ตอนเช้าทำงานกันก่อน ตอนค่ำก็เอาอาหารมาฉลองกัน เป็นวิถีชาวบ้านๆ (ที่ฮัสกี้มโนเอาเอง กร๊าก) น่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 12-12-2016 19:49:16
 :-[  :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 12-12-2016 20:00:19
 :katai1: สองคนนั้นจะมาทำไมมม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: spy_dummy ที่ 12-12-2016 20:12:25
คอนราดกับเออร์วินจะรีบมาทำไมห๊า *ตะกุยผนัง*  :z3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 12-12-2016 20:22:40
อ่อยยังไงให้รู้ว่าอ่อย ก็อ่อยแบบลูคัสไงล่ะ 555 ทำมาเนียนขอจับผมท่านลอร์ด หูยยย เมาแล้วแผนสูงหราาา เอาจริงๆก็แอบเขินน :haun5:
แต่ตอนนี้โกรธคอนราดกับเออร์วินมาขัดจังหวะที่สุดแระ! เหมือนรู้ เหมือนเห็น กขคที่สุด
ปล. จะได้เห็นคู่รองบ้างไหมน้าาา แบบทหารองครักษ์(แถวนี้)ได้กันเองไรงี้ 555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 12-12-2016 20:24:01
ชิ เบื่อพวกขัดจังหวะ แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 12-12-2016 20:30:45
โอยยย อีกนิดเดียวววว

มาทำไมตอนนี้ เออร์วินคอนราด  :ling1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 12-12-2016 20:34:19
ทำไมเด็กคนนี้ขี้อ่อยขนาดนี้ล่ะลูกกกก งู้ยยย  :-[
แล้วสองคนนั้นขัดจังหวะดีนัก เดี๋ยวเชียร์ให้ได้กันซะเลย!  :z1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-12-2016 20:37:51
มาได้จังหวะพอดีไปม้ายยยย โอ้ยยยย 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 12-12-2016 20:40:41
หูยมีสอนแบบถูกต้องด้วย
ผลักลูคัสออกไปเลย ชิ่วๆ
แล้วเราก็ไปอยู่แทนที่ ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-12-2016 20:44:41
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 12-12-2016 21:09:45
เขินๆๆๆๆ
พิสุจน์ความจริงใจหรือพิสุจน์หัวใจกันนี่ ใช้วิธีแบบนี้
แต่ก็นะลูคัสปลูกอ้อยทั้งไร่แบบนั้น ใครจะทน
เออวินหลงไร่อ้อยไปอีกคนแล้วด้วย

แต่องครักษ์ทั้งสอง กะเวลามาได้แบบน่าสั่งขังคุกมากกกกกก
 :serius2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 12-12-2016 21:12:30
โอ้ยยยย มาผิดเวลาจริงจริ๊งงงงง :ling1: :ling1: :ling1: :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-12-2016 21:25:05
เธอมันร้ายลูคัสเห็นเงียบๆแบบนี้กินเรียบเลยนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-12-2016 21:42:17
มาแล้วๆ

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-12-2016 22:07:19
โอ๊ย มันน่าให้นอนเฝ้าม้าซะจริงมาขัดจังหวะทำไม :z3: :z3: :z3: :z3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-12-2016 22:09:18
เออ...สรุปแล้วไม่ได้จูบกันใช่ไหม

เฮ้อ...เสียดาย มีคนมาขัดซะได้

ชอบความอบอุ่น ความนิ่งของท่านลอร์ด

ลูคัส มีมุมคิดเองเออเองด้วยเหรอเนี้ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 12-12-2016 22:11:09
จินตนาการท่านลอร์ดผมดำมาดเข้มมาตลอด พอรู้ว่าที่จริงผมทองตาฟ้าเล่นเอาปรับภาพในหัวแทบไม่ทัน
แต่แบบนี้ก็ชอบบบบบบเจ้าค่ะ  :m3:

////////
น้องลูไม่ได้อ่อย น้องลูแค่หยั่งเชิง 555555555555555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 12-12-2016 22:18:36
 :impress2: เค้าจูบกันแล้วจ้า  :mew1:
 :ling2: แต่ตาสองคนนี้มาไงอะ  :3125:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 12-12-2016 22:29:38
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-12-2016 22:32:30
มาขัดจังหวะทำมายยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-12-2016 22:44:38
ตอนแรกก็สงสารเออร์วินนะที่ถูกท่านลอร์ดตัดหน้า ตอนนี้เลยเอาคืนด้วยการขัดจังหวะซะเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 12-12-2016 22:52:13
_
^
หงึก...จิ้มม่ายด้ายยย ติดเมนท์จำนวนมากมาย ฮึกๆ :hao5:
ขอบคุณเป็นอย่างสูงครับพี่ฮัสกี้ที่ตอบให้  :pig4: :pig4: อืม...วิถีชาวบ้านฉบับฮัสกี้สินะ....งะ!! o22 ตอนนี้เองก็....ตอบ "ง." แน๋นอนจ้า~~ แบบซูเปอร์อ่อยเลย 555 คอนราดกับเออร์วิน พวกกขค.ชาวบ้าน เป็นแค่ทหารผู้ติดตามคนสนิทที่คิดไม่ซื่อกับพี่ลูคัสแท้ๆ :angry2: :angry2: งานนี้ต้องรุมประชาทัน!! แต่คอนราดแอบมีอ่อยเนอะ "แต่ข้าก็ยิ้มน่ารักเหมือนกันไม่ใช่หรอ"+ยิ้มน่ารักใส่ คู่นี้ก็น่าจับตามอง!!! พี่ฮัสกี้ช่วยบอกประมาณอายุของทั้ง 4 คน ท่านหลอด พี่ลูคัส คอนราด และ เออร์วิน มาให้หน่อยได้มั้ยเอ่ย เพื่อประโยชน์สูงสุดในการมโนและจินตนาการ :z1: :z1:
รอตอนต่อไปอีกเหมือนเคยจ้า  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: awila ที่ 12-12-2016 23:46:25
เพิ่งมาอ่าน อ่านรวด 12 ตอนเลย ฮือออ
เป็นเรื่องที่ดีต่อใจมากๆ ทั่นหลอดก็มือไวใจเร็ว ไหนจะคอนราดเออร์วิน ผช ดีงามจริงๆ ส่วนน้องลูสายอ่อยก็น่ารัก
ชอบพล้อตแนวนี้มาก ชอบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 12-12-2016 23:57:17
ถึงกับทิ้งหนังสือมากรีดร้องงงง โอ้ยยยย ดีต่อใจข่อย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-12-2016 00:58:12
คอนราดกะเออร์วิน ไปวิกพื้น 100 ที ปฎิบัติ!

ลูคัสว่าอ่อยแล้ว ทั่นหลอดอ่อยยิ่งกว่า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 13-12-2016 01:38:27
น้องลูสารภาพมา เมาดิบใช่ม้ายยยย อิเด็กขี้อ่อย
อ่อยแบบเน้ ควรจะถูกจับฟัด ท่านลอร์ดจัดการทีสิ
ท่านลอร์ดดดด ท่านก็ใช่ย่อย
แถวบ้านพูดแบบนี้เรียกว่าขอแต่งงานแล้ว :o8:
คืนนี้มีก้าง ไม่เป็นไร กลับไปพิสูจน์กันต่อที่ปราสาท 
ต้องพิสูจน์ต่อนะ มันสำคัญมากกก  :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: powl-the-2nd ที่ 13-12-2016 01:50:02
ท่านลอร์ดเนียนมาก 5555555555   o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 13-12-2016 06:41:22
สนุกมากๆๆเลยคะ สงสารลูคัสก็สงสาร
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 13-12-2016 08:36:12
โธ่เอ้ยย ขัดจังหวะสำคัญซะได้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-12-2016 11:09:20
แหม่ เสียดายจัง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-12-2016 16:28:12
มาทำอะไรตอนนี๊!!!!! กะลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย >\\\<
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-12-2016 18:28:34
คาร์ล ลูคัส :mew1: :mew1: :mew1:
เขาจุ๊บๆกันแล้ว บรรยากาศีมากกก
เสียดายเออร์วิน คอนราด มาเร็วไป :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
สงสัยมีคู่รองแล้ว
เออร์วิน คอนราด :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 13-12-2016 20:02:37
 :pig4 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 13-12-2016 21:50:49
ให้ท่านลอร์ดโบยเจ้าก้างกขคสิบไม้ !!!!!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-12-2016 01:02:21
แจ้ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 14-12-2016 01:56:41
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 15-12-2016 00:26:00
ง.งูค่ะ ลูคัสเป็นเด็กเป็นน้อยหัดขี้อ้อยนะเรา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 15-12-2016 00:50:30
ท่านลอร์ดเนียนมากเจ้าค่ะ >.,< ไม่น่ามี กขค เข้ามาเลยยย
ไม่งันเขาคงได้จูบแบบ (ดูดดื่ม) กันไปแล้ววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 15-12-2016 01:10:48
เกือบแล้ววววโอ้ยยยย :o8:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 15-12-2016 14:54:40
เออร์วิน คอนราด มาขัดจังหวะมากมาย แบบนี้ท่านลอร์ดต้องลงโทษแล้ว 55+
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-12-2016 22:35:20
มาให้กำลังใจจ้า

รอเสมอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: KS.F ที่ 17-12-2016 14:54:12
 :really2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 17-12-2016 17:05:59
ชอบบบบจัง

รอมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 12 : จุมพิต][121216]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 17-12-2016 19:08:52


Chapter 13 : กังหันน้ำ


ใบไม้จากต้นไม้ในสวนของปราสาทร่วงหล่นไปจนเกือบหมดต้นแล้ว เมื่อดวงสุริยันคล้อยลงต่ำ ลำแสงอบอุ่นลดน้อยลงก็ทำให้อากาศหนาวเย็นขึ้นทุกที หากการทำงานและฝึกฝนของเหล่าทหารยังไม่ถึงเวลาหยุดพัก เด็กหนุ่มยืนมองพวกทหารจากบนระเบียง พอจะก้าวออกจากห้องแต่ละครั้งก็มีทหารคอยเดินตามเป็นกลุ่ม สายตาทุกคู่คอยจับจ้องเขาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขารู้สึกอึดอัด หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ตัดสินใจกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง

“ท่านลอร์ดทำอะไรอยู่นะ” ลูคัสเท้าแขนลงกับราวระเบียง ตั้งแต่พวกเขากลับมาจากงานฉลองเมื่อคืนจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้พบกัน พวกทหารบอกกับเขาว่าท่านลอร์ดออกไปธุระข้างนอกตั้งแต่เมื่อตอนสายๆ

ไปธุระเรื่องอะไรที่ไหนกันนะ

พออยู่คนเดียวก็รู้สึกเหงา คิดถึงบ้านที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับไปอีกหรือเปล่า

“อ๊ะ ท่านลอร์ดนี่!” เด็กหนุ่มชะโงกหน้ามองจากระเบียงไปยังด้านหน้าปราสาท ซึ่งเขาพอมองเห็นได้ว่าลอร์ดหนุ่มกลับมาพร้อมกับองครักษ์ มีคนติดตามมาด้วยหลายคน แล้วก็พวกทหารกลุ่มใหญ่

ลูคัสปราดออกจากห้องไปในทันทีโดยมีทหารวิ่งตามหลังไปเป็นพรวน แต่พอใกล้จะถึงบันไดกลางก็เห็นว่าอีกฝ่ายก้าวขึ้นมาทางปราสาทฝั่งขวาพอดี

ทว่าลอร์ดหนุ่มไม่ได้มาตามลำพัง นอกจากองครักษ์แล้วก็ยังมีผู้ชายวัยกลางคนอีกกลุ่มกับพวกทหารตามมาด้วย เมื่อเขาสบสายตากับลูคัสจึงหยุดทักทาย “เจ้ากำลังจะไปไหนหรือ”

“อ่า... กำลังจะไปหาคุณน่ะครับ ผมนึกว่า...”

“งั้นรึ ข้ายังไม่เสร็จงาน มีเรื่องต้องปรึกษากับพวกเขาอีกพักใหญ่” คาร์ลยิ้มบางเมื่อเห็นลูคัสทำหน้าสลด อีกฝ่ายออกมาตามเขาขนาดนี้คงเพราะรู้สึกเหงา “ถ้าเจ้าต้องการจะมาด้วยกันกับข้าก็ได้”

“จะดีหรือครับ” ลูคัสลังเลใจ เขาหันไปประสานสายตากับคอนราดและเออร์วินเพื่อดูว่าพวกเขาจะคัดค้านไหม แต่ถึงแม้ทั้งสองคนจะไม่ว่าอะไรก็ยังมีสายตาของพวกคนที่มาด้วยกันกลุ่มใหญ่ ถ้าหากมันทิ่มแทงเข้ามาในเนื้อได้ ตัวเขาคงจะพรุนไปแล้ว “ผมเป็นแค่...”

หากลอร์ดหนุ่มขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับผลักแผ่นหลังเด็กหนุ่มเบาๆ เป็นเชิงบอกให้เดินออกไปด้วยกัน “ไปเถอะ”


เมื่อบานประตูห้องที่อยู่ใกล้ๆ เปิดออกกว้าง ลอร์ดหนุ่มจึงเดินนำเข้าไป ภายในห้องมีขนาดกว้างขวาง มีชั้นหนังสือกับโต๊ะไม้ทั้งขนาดใหญ่และเล็ก บนโต๊ะเล็กบางตัวมีม้วนเอกสารวางกองสุมๆ กัน บางตัวก็มีเอกสารเปิดค้างทิ้งไว้ บนโต๊ะตัวใหญ่กลางห้องนั้นมีโมเดลจำลองเมืองแบร์กไฮม์ซึ่งทำด้วยไม้ตั้งวางอยู่ ส่วนบนผนังมีภาพวาดแผนที่ของแคว้นไฮเดลแบร์กและดินแดนใกล้เคียง แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี

คาร์ลผายมือไปยังกลุ่มคนที่ติดตามเข้ามา ซึ่งคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ทหาร แต่มีทั้งนักปราชญ์ นักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ และช่างผู้ชำนาญงานแขนงต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในวัยกลางคน และส่วนที่เหลือก็ดูจะเลยวัยกลางคนไปแล้ว “คนกลุ่มนี้คือที่ปรึกษาของข้า ข้าให้พวกเขาจัดการวาดแผนที่และทำเมืองจำลองนี่ออกมา เพื่อที่จะได้วางแผนปฏิรูปได้ง่ายขึ้น”

“แล้วเด็กคนนี้คือ?” เหล่าที่ปรึกษาถามกันเสียงระงม ซึ่งลูคัสก็คิดว่าไม่แปลก ในห้องประชุมงานสำคัญที่มีแต่นักปราชญ์และผู้รู้ผู้ชำนาญการเช่นนี้ หากท่านลอร์ดกลับให้คนธรรดาอย่างเขาเข้ามาร่วมด้วย

“ลูคัสคือคนที่ข้าไว้ใจ” ลอร์ดหนุ่มตอบสั้นๆ “แล้วพวกเจ้าก็จะเข้าใจ”

หัวใจดวงน้อยเกือบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ลูคัสจับจ้องสีหน้านิ่งของเจ้าของคำพูดนั้นเขม็ง ก่อนจะหันหน้าไปอีกทางเพื่อซ่อนรอยยิ้มเอาไว้

ในระหว่างที่เหล่าที่ปรึกษาพูดคุยกัน เด็กหนุ่มเงี่ยหูฟังพลางเดินสำรวจไปภายในห้อง จากนั้นจึงไปหยุดก้มดูเมืองจำลองซึ่งจัดทำไว้อย่างละเอียด บนพื้นข้างๆ โต๊ะยังมีพวกถุงใส่หิน ดิน ทราย ไม้ ฟางและหญ้าแห้งๆ ที่ใช้ในการประกอบโมเดลวางทิ้งไว้ เขาชะโงกหน้าไปมองดูเอกสารบนโต๊ะใกล้ๆ ซึ่งเขียนอัตราส่วนที่ใช้วัดเมืองไว้แล้วขมวดคิ้วครุ่นคิด

“พวกข้าได้วางแผนการทำทางส่งน้ำเพื่อขยายพื้นที่ทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ไว้แบบตามที่ท่านลอร์ดสั่งเมื่อครั้งก่อนไว้แล้ว”

มือกร้านวางเอกสารลงบนโต๊ะแล้วแผ่ออก “อืม...” เขากวาดสายตาไปบนแผ่นกระดาษเพื่อตรวจสอบดูว่าทุกอย่างในเอกสารถูกต้องตามที่ตนได้สั่งไป “แต่ก่อนจะขยายพื้นที่ทำการเกษตร ข้าได้ยินจากพวกชาวเมืองว่าแต่ละปีพวกเขาเก็บเกี่ยว ข้าวได้มากมายจนยุ้งเก็บไม่พอ จะนำไปขายหรือแปรรูปก็ไม่ทัน ถ้าหากฝนตกหนักก็ต้องทิ้งขว้าง อข้าเห็นว่าผลผลิตพวกนี้มีประโยชน์ ดังนั้นเราจะเลื่อนแผนการขยายพื้นที่ทำการเกษตรออกไป แล้วมาแก้ไขปัญหานี้ก่อน”

“ปัญหาแรกที่ข้าจะพูดถึงคือการจะนำผลผลิตที่มีเหลือเฟือไปขายต่างเมือง ชาวเมืองแบร์กไฮม์ไม่ได้มีเงินทองมากมายที่จะเลี้ยงดูม้าหรือวัวไว้ใช้งานได้ทุกบ้าน แล้วในฤดูเก็บเกี่ยวฝนตกบ่อย ดินกลายเป็นโคลนเฉอะแฉะ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ก็คงจะเดินทางไม่สะดวก ข้าวของที่จะขนไปขายก็จะเสียหายไปเสียก่อน”

“ปัญหาอีกข้อคือการแปรรูปข้าวเป็นแป้งเพื่อทำอาหารหรือทำเบียร์ ชาวเมืองไม่ได้มีโม่ทุกบ้าน และที่มีก็เป็นโม่ขนาดเล็กซึ่งโม่ข้าวได้ครั้งละไม่มาก ส่วนโรงโม่ใหญ่ในเมืองมีเพียงแห่งเดียว ทำงานได้ไม่ทันเช่นกัน พวกชาวเมืองจึงมีแป้งเพียงพอแค่เป็นอาหารของพวกเขาเท่านั้น ส่วนข้าวที่เหลือถ้าหากนำมาใช้งานไม่ทันก็จะต้องทิ้งไป”

“ตอนที่ข้าไปดูการทำเบียร์สำหรับงานฉลองในเมือง ข้าวบาร์เล่ย์มีแค่สิบถัง แต่ได้ยินว่าต้องโม่กันมาล่วงหน้าหลายวัน ส่วนที่พวกชาวเมืองจะเก็บไว้ใช้ต้องมาแย่งกันโม่ก่อนหน้าจะมีงานเทศกาลหรือไม่ก็ต้องรอจนกว่าส่วนที่ต้องโม่ในงานเทศกาลจะหมดไป”

“พวกท่านคิดดูเถิด ชาวเมืองแต่ละบ้านไม่ได้มีข้าวแค่เพียงชนิดเดียว แต่มีทั้งข้าวโพด ข้าวสาลีและข้าวบาร์เล่ย์ แล้วพวกเราจะช่วยพวกเขาอย่างไรให้แปรรูปผลผลิตได้เยอะจนมีกินมีใช้เหลือเฟือ”

ลูคัสกะพริบตาปริบๆ ริมฝีปากเผยอค้างไว้เล็กน้อย ใจนึกอยากเสนอความคิดเห็นบ้าง แต่ตัวเขาเป็นแค่คนธรรมดาๆ ไม่แน่ใจว่าถ้าพูดอะไรออกไปจะเสียมารยาทหรือเปล่า ดีไม่ดีอาจจะโดนไล่ออกจากห้องเสียด้วย

“เอ่อ...”

ฮึ้ย! หลุดปาก!  มือเรียวยกขึ้นปิดปากไว้

คาร์ลหันมาทางเด็กหนุ่ม“มีอะไรหรือลูคัส”

คนถูกถามอ้ำอึ้งในคราวแรก แต่ก็ตัดสินใจพูดออกไป “เอ้อ ท่านลอร์ด คุณบอกว่าเมืองไฮเดลแบร์กใช้แรงงานจากม้า ลาหรือวัวในการโม่...”

“ใช่แล้ว แต่ไฮเดลแบร์กเป็นเมืองร่ำรวย สำหรับแบร์กไฮม์คงจะทำเช่นนั้นได้ยาก”

“แต่แบร์กไฮม์ก็เป็นเมืองที่ร่ำรวยทรัพยากรจากธรรมชาติ มีแม่น้ำ มีภูเขา อุดมสมบูรณ์ที่สุด” ลูคัสค้านไปอย่างลืมตัว “ที่คุณถามผมเมื่อวานว่ากำลังคิดอะไรอยู่ คือผมกำลังคิดถึงปัญหาการโม่ข้าวนั่น ทำไมไม่ลองสร้างกังหันน้ำดูล่ะครับ”

“กังหันน้ำ? เจ้าพูดถึงอะไรหรือ”

ลูคัสเอ่ยขอกระดาษกับดินสอ จากนั้นจึงวาดรูปลงไปคร่าวๆ “ผมวาดให้ดูก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำกังหันเล็กๆ ให้ดูเป็นตัวอย่าง” เมื่อมือเรียวบรรจงวาดและขีดเส้นอย่างคล่องแคล่ว พวกที่ปรึกษาซึ่งจะเรียกว่าเป็นวิศวกรในอดีตก็ได้พร้อมใจกันชะโงกหน้ามาดูอย่างสนใจ “แรงน้ำจะทำให้กังหันหมุน เราจะต่อกังหันนี้เข้ากับเกียร์แบบในรูป เมื่อฟันเฟืองหมุนมันจะมีแรงส่งไปหมุนโม่หินขนาดใหญ่ได้ครับ”

เด็กหนุ่มพูดเจื้อยแจ้ว ก่อนจะเดินไปยังเมืองจำลองขนาดเล็ก เขาชี้บอกกับทุกคนพลางอธิบาย “โรงโม่ปัจจุบันอยู่ใกล้แม่น้ำ แล้วก็อยู่ในทำเลดีซะด้วย ถ้าขุดอ่างเก็บน้ำเล็กๆ ตรงนี้ ทำประตูกั้นเพื่อเก็บน้ำไว้ เวลาจะใช้งานก็เปิดประตูน้ำ แรงจากน้ำจะเอาไปหมุนกังหันได้ทั้งวันทั้งคืน หลังจากนั้นก็สามารถสร้างทางน้ำต่อจากอ่างเก็บน้ำเพื่อทำการเกษตรหรือเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย”

“ส่วนพวกหินที่ได้จากการขุดทำอ่างเก็บน้ำ เราก็เอามาใช้ปูทางทำเป็นถนนซะ” มือเรียวเอื้อมไปหยิบก้อนหินในกระสอบที่วางทิ้งไว้ใต้โต๊ะมา จากนั้นก็หยิบอ่างดินเผามาใส่ทราย วางหินเรียงไว้ด้านบนแล้วใส่ทรายไว้ระหว่างช่องว่างเพื่อจำลองเป็นพื้นถนน “การปูทางด้วยทรายแล้วใช้หินวางทับด้านบนแบบนี้ จะช่วยให้พื้นระบายน้ำเวลาฝนตกได้ พวกม้า วัว ควาย หรือคนที่เดินเท้าก็จะไม่ต้องกังวลกับทางดินเฉอะแฉะเป็นโคลนอีก ในฤดูหนาวที่มีหิมะ พื้นผิวขรุขระจะช่วยให้ไม่ลื่นมาก หน้าร้อนก็ไม่เป็นฝุ่น ดูสะอาดอีกต่างหาก ส่วนรถม้าก็วิ่งได้สบายๆ เพราะงั้นการส่งข้าวของไปขายต่างเมืองก็จะง่ายขึ้น” พูดจบก็ทดลองเทน้ำลงไปในอ่างดินเผาเล็กน้อย  “เห็นมั้ยครั้บ น้ำมันจะซึมลงไป”

เอ๊ะ! ทำไมวิธีสร้างถนนแบบนี้มันคุ้นๆ

ลูคัสนิ่งอึ้ง ขณะนึกย้อนไปถึงตอนที่ศึกษาโครงสร้างพื้นถนนในไฮเดลแบร์กที่มหาวิทยาลัย ซึ่งมันคล้ายคลึงกับวิธีที่เขาเพิ่งพูดไปพอดี

คาร์ลก้มลงดูอ่างดินเผาที่วางอยู่บนโต๊ะ “ถ้าอย่างนั้น หากมีโม่หินขนาดใหญ่ที่ใช้งานได้จริงก็จะแปรรูปข้าวได้มากขึ้น ชาวเมืองจะมีอาหารมีเครื่องดื่มพอเพียงตลอดทั้งปี ส่วนที่เหลือ เมื่อการเดินทางเป็นไปได้สะดวกก็จะสามารถส่งของไปขายต่างเมืองได้ง่ายขึ้น ชาวเมืองก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปด้วย”

ในระหว่างที่ลูคัสนิ่งไป ฝ่ายที่ปรึกษาของลอร์ดหนุ่มกลับฮือฮา พวกทหารที่อยู่ภายในห้องจับจ้องเด็กหนุ่มผู้มาจากต่างเมืองอย่างสนอกสนใจ

“ที่เขาพูดมา น่าสนใจมากเหลือเกินขอรับท่านลอร์ด”

“ข้าว่าพวกเราน่าจะลองวางแผนให้ชัดเจนและละเอียดขึ้นอีกสักนิด”

คาร์ลพูดคุยปรึกษากับพวกที่ปรึกษาอยู่สักพัก หากเมื่อหันมองไปทางเด็กหนุ่มก็เห็นว่าอีกฝ่ายยังคงยืนขมวดคิ้วพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมขมับ “ลูคัส”

“อะ ครับ”

“เจ้าเหนื่อยแล้วหรือ หรือว่าปวดหัว”

“เปล่าครับ ผมกำลังนึกถึงวิธีทำกังหันน้ำน่ะครับ ว่าจะสร้างแบบจำลองต้องใช้อะไรบ้าง” ลูคัสแก้ตัว

“ต้องใช้อะไรบ้างล่ะ ข้า คอนราด เออร์วินจะช่วยเจ้าเอง”

“อะ... หา! คุณไม่ต้องประชุมแล้วหรือ”

“ทุกคนอยากเห็นกังหันน้ำของเจ้ามากเหลือเกินแล้ว”

และแล้วลูคัสก็ได้ห้องโล่งกว้างที่ชั้นล่างของปราสาทไว้สำหรับทำงานอีกห้อง ห้องขนาดกว้างขวางฉาบด้วยปูน ผนังและเพดานทาสีเรียบๆ ไม่ได้มีลวดลายอะไร หากแต่มีบานประตูให้ออกสู่สนามฝึกซ้อมธนูทางด้านนอกได้ เตาผิงภายในห้องลุกโชติช่วง มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง บนโต๊ะมีกระดาษที่เด็กหนุ่มวาดแบบไว้วางอยู่

มือเรียวจัดการต่อชิ้นไม้ที่คอนราดกับเออร์วินตัดมาให้ ประสานไว้ด้วยยางไม้อย่างลำบาก หากพอทำไปสักพักก็เริ่มชิน ไม่นานกังหันน้ำก็เป็นรูปเป็นร่าง เสร็จแล้วจึงนำมาประกอบเข้ากับฟันเฟืองที่ทำจากไม้เช่นกัน

“อันนี้ของจริงควรจะทำจากโลหะมากกว่า เพื่อความแข็งแรงนะครับ” เด็กหนุ่มอธิบายไปโดยไม่ได้เลยหน้าขึ้น จึงไม่ทันเห็นสายตาของลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ที่จ้องมองมาอย่างเอ็นดู “ประกอบตรงนี้เข้าด้วยกันก็จะเสร็จแล้ว”

“เจ้ายังไม่หิวหรือ พักกินมื้อเย็นก่อนสิ”

“ยังเหลืออีก...”

“ไปเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยทำต่อ ข้าสั่งให้จัดโต๊ะที่ห้องอาหารแล้ว” ลอร์ดหนุ่มคว้าข้อมือเรียวแล้วกึ่งลากกึ่งจูงออกไปจากห้อง

หลังเสร็จจากมื้ออาหาร ทุกคนแยกย้ายกันไปพักผ่อน ยกเว้นแต่ลูคัสที่ยังแอบกลับมาทำงานของเขาต่อ เนื่องจากมีส่วนประกอบเป็นชิ้นๆ ครบแล้ว เหลือแค่ประกอบมันเข้าด้วยกันเท่านั้น และยิ่งเสร็จเร็วมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้ใช้เป็นประโยชน์กับชาวเมืองเร็วขึ้นไปด้วย

เด็กหนุ่มทำงานจนลืมใส่ใจกับเวลา เขามีทหารหลายคนเฝ้าอยู่ในห้องด้วยจึงไม่รู้สึกง่วงสักเท่าไหร่

“เจ้ายังไม่ไปนอนอีกหรือ”

น้ำเสียงคุ้นเคยเรียกให้ลูคัสเงยหน้าขึ้น “อ้าว ท่านลอร์ดก็ยังไม่นอนเหมือนกันหรือ กังหันของผมใกล้เสร็จแล้วล่ะ อีกนิดเดียว เลยกะว่าจะทำให้เสร็จเลยครับ”

คาร์ลทำสัญญาณมือบอกให้พวกทหารไปเฝ้าอยู่ข้างนอก ส่วนตัวเขานั่งลงบนเก้าอี้เคียงข้างเด็กหนุ่ม “ถ้าเช่นนั้นข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าด้วย”

ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้ม ขณะที่นิ้วเรียวทดลองหมุนกังหันที่ต่อกับโม่หินอันเล็กๆ เสร็จแล้วไปช้าๆ “ยางไม้แห้งช้าเหลือเกิน ผมจะลองหมุนช้าๆ ดูก่อน สมมติว่านิ้วผมคือแรงจากน้ำ... เป็นไงบ้างครับ”

“พอน้ำไหลเข้ามาตรงนี้ กังหันนี่มันก็จะหมุนไปเรื่อยๆ ได้เองอย่างนั้นสินะ เพราะฉะนั้นจึงโม่ข้าวได้ทั้งวันทั้งคืน”

“ใช่แล้วครับ โม่กันจนหินสึกไปเลย ถ้าเราเอาโถดินเผาที่มีรูมาแขวนไว้ข้างบนให้ตรงกับช่องกรอกข้าวลงในโม่ แล้วปล่อยให้เมล็ดข้าวค่อยๆ ไหลลงมา เราก็จะไม่ต้องมาคอยใช้มือหยอดข้าวเอง ทิ้งไว้จนเสร็จค่อยมาเอา”

“พวกชาวบ้านจะต้องชอบใจมากแน่ๆ ถ้าหากสร้างเสร็จทันก่อนหิมะตกได้ ทุกคนก็จะมีอาหารเก็บเหลือเฟือ ไม่ต้องกังวลว่าจะอดอยากในฤดูหนาว” คาร์ลยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็ก “ขอบใจ เจ้าไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะเรียกที่ปรึกษาของข้ามาแต่เช้าเพื่อเตรียมตัววางแผนงาน เจ้าพอจะช่วยให้คำปรึกษากับพวกเขาหน่อยได้ไหม”

“ได้สิครับ!” ลูคัสยิ้มกว้าง เขาอยากจะทำตัวให้เป็นประโยชน์ อยากจะได้รับคำชื่นชมจากลอร์ดหนุ่มจนแทบอดใจรอไม่ไหว คำว่าไว้ใจจากอีกฝ่าย เพียงนึกถึงก็ทำให้หัวใจพองโต

คาร์ลใช้ปลายนิ้วไล้แก้มสีระเรื่ออย่างแผ่วเบา “ไปเถอะ ข้าจะไปส่งเจ้าที่ห้อง”

ลอร์ดหนุ่มเดินนำลูคัสและทหารอีกหลายคนไปตามทางเดินในปราสาทฝั่งขวา เขาเปิดประตูห้องของเด็กหนุ่มออกแล้วก้าวเข้าไปหยุดยืนอยู่หน้าโซฟา มือหยาบยกขึ้นลูบเส้นผมสีดำอย่างอ่อนโยน “นอนเสีย ถ้าหากจะอาบน้ำก็เอาไว้พรุ่งนี้เถอะ นี่ดึกมากแล้วเดี๋ยวเจ้าจะไม่สบาย”

มือเรียวเอื้อมออกไปกระตุกแขนเสื้อลอร์ดหนุ่มเบาๆ “แล้ว... คืนนี้คุณจะนอนกับผมมั้ย”

“ไม่ล่ะ ข้ายังมีงานต้องทำอีกสักหน่อย”

ลูคัสทำหน้าสลด หากก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากแขนเสื้ออีกฝ่าย “.....”

คาร์ลหัวเราะ มือกร้านเชยคางเรียวขึ้นพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าไปแต้มจูบริมฝีปากอิ่มสีแดงอย่างแผ่วเบา “เหงาหรือ”

นัยน์ตากลมโตจ้องมองเรียวปากที่เข้ามาสัมผัสเพียงชั่วครู่แล้วก็ถอนออกไปด้วยความเสียดาย เขาเผยอริมฝีปากออกเล็กน้อย หัวใจเต้นระรัว

อีกนิดไม่ได้หรือ...

พอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองคิดอะไรก็รีบเสตาหลบ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ มือที่จับแขนเสื้อลอร์ดหนุ่มไว้ในตอนแรกเปลี่ยนเป็นขยุ้มไว้แน่น

“ลูคัส”

เมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำใกล้ๆ หัวใจก็แทบจะระเบิดออกมาจากในอก เด็กหนุ่มปิดตาแน่นพร้อมกับพูดออกไปเสียงแผ่ว “คุณ... ตอนนั้น ที่คุณบอกว่าจะสอน...”

คาร์ลยิ้มมุมปาก มองคนที่ยืนปิดตาตัวสั่นตรงหน้า เขาโน้มใบหน้าเข้าไปจูบแก้มนิ่มทีละข้างอย่างเชื่องช้า แล้วค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปากไปแนบจูบบนหน้าผาก สัมผัสแม้เพียงแผ่วเบาของเขาก็ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งตัวราวกับถูกของร้อน ลอร์ดหนุ่มขยับเข้าไปกระซิบชิดใบหูนิ่ม “ราตรีสวัสดิ์” จากนั้นจึงดึงแขนตนเองออกจากการเกาะกุม แล้วก้าวออกจากห้องไป

ลูคัสลืมตาขึ้น ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำร้อนผ่าวราวกับถูกไฟลน นี่เขาพูดอะไรกับท่านลอร์ดไปเนี่ย!

ว้าก!

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นดึงทึ้งเส้นผม จากนั้นจึงวิ่งไปกระโดดลงบนเตียงแล้วขดตัวอยู่ในผ้าห่ม สองมือยกขึ้นประกบแก้มไว้

รสสัมผัสที่แผ่วเบานั้น เขายังจดจำได้แม่น แต่ก็ยังนึกเสียดายที่อีกฝ่ายยังไม่สอนสิ่งที่ต้องการให้

โว้ย! เขาคิดอะไรอยู่กันเนี่ย

แล้วคืนนี้เขาจะหลับลงไปได้อย่างไร...

...

.....

...

สองวันหลังจากสรุปแผนงานเสร็จแล้ว พวกหัวหน้าหมู่บ้านก็ถูกเรียกเข้ามาพูดคุยกันด้วย พวกเขาเห็นพ้องกันว่าจะต้องสร้างกังหันน้ำให้ได้เสร็จสิ้นก่อนหิมะจะตกและจำเป็นจะต้องเรียกใช้แรงงานจากชายหนุ่มทุกคนในเมืองเนื่องจากมีจำนวนทาสไม่มากพอ ส่วนการทำพื้นถนนจะเริ่มขึ้นหลังจากสร้างกังหันน้ำเป็นผลสำเร็จ

เช้าตรู่ของวันเริ่มต้นงานใหญ่ คาร์ลเข้าเมืองไปดูงานด้วยตนเอง ซึ่งที่ริมแม่น้ำก็มีพวกทาสและชาวเมืองผู้ชายที่ถูกเกณฑ์มารวมตัวกันอยู่มากมาย พวกที่เป็นช่างไม้หรือมีความรู้ทางด้านช่างไม้ถูกแบ่งไปทำงานไม้ในส่วนของตัวกังหันและใบพัด ช่างโลหะอีกหลายคนทำหน้าที่หลอมพวกฟันเฟืองกับส่วนประกอบโลหะต่างๆ ซึ่งพวกโลหะที่นำมาหลอมก็ได้มาจากพวกชาวบ้านและโบสถ์บริจาคร่วมกัน ช่างหินทำหน้าที่สกัดหินโม่ขนาดใหญ่ ส่วนคนที่เหลือแยกไปขุดบ่อเก็บน้ำ ซึ่งบ่อเก็บน้ำแห่งนี้จะถูกขุดเพิ่มและขยายเป็นอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ด้านอื่นด้วยในภายหลัง

หลายวันผ่านพ้นไป อากาศหนาวเย็นลงอีก พวกที่ปรึกษาของคาร์ลเริ่มกังวลกันว่าจะไม่ทันหิมะตกเสียแล้ว ถ้าหากเย็นจนแม่น้ำเป็นน้ำแข็ง แล้วกังหันน้ำจะทำงานได้อย่างไรกันเล่า

“เร่งมืออีก เวลามีไม่มากแล้ว!” นายทหารที่คุมคนงานตะโกนก้อง พวกทหารไม่เว้นแม้แต่หัวหน้านายทหารก็เข้าไปร่วมช่วยงานกันด้วย

ลอร์ดหนุ่มพาลูคัสเข้าไปดูสถานที่ประกอบกังหันน้ำในตอนบ่าย เมื่อเด็กหนุ่มได้เห็นทุกคนทำงานกันเหนื่อยแทบขาดใจก็อดสงสารไม่ได้ แต่ตัวเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้มากนัก นอกจากจะคอยระมัดระวังให้ส่วนประกอบที่ประกอบเข้าด้วยกันทุกชิ้นทำงานได้

“อดทนหน่อยนะครับ เมื่อกังหันเสร็จแล้ว ผลที่ได้จะทำให้ทุกคนจะหายเหนื่อยแน่นอน” ลูคัสพยายามให้กำลังใจกับพวกคนงานและชาวบ้าน ขณะที่เดินเข้าไปสำรวจการประกอบใบพัดเข้าด้วยกันแล้วตรวจดูความเรียบร้อย

พวกชาวบ้านที่เป็นหญิงและเด็กเข้ามาช่วยซับเหงื่อกับยกน้ำมาให้เป็นระยะ สำหรับพวกเขาแล้วก็นึกภาพไม่ออกหรอกว่าสิ่งที่ทุกคนกำลังเร่งก่อสร้างกันจะเป็นจะตายนี้เพื่ออะไรและจะมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

“ท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์สั่งให้สร้างสิ่งนี้งั้นหรือ” มารีมาดูบุตรชายทำงาน พอเห็นลูคัสก็ก้าวเข้าไปถาม “มันจะใช้งานได้จริงๆ หรือลูคัส”

“ใช้ได้สิ แล้วมารีจะต้องทึ่ง” เด็กหนุ่มตอบ

“ข้าอยากให้ท่านลอร์ดมาเห็นความเหน็ดเหนื่อยเสียจริงๆ เร่งเอาๆ เช้ายันเย็นถึงขนาดนี้” หญิงชาวเมืองที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เปรยขึ้น เมื่อหล่อนพูดเช่นนั้นพวกผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้วยกันก็พึมพำเป็นเสียงเดียวกัน “อากาศหนาวเช่นนี้ ท่านคงนั่งสบายอยู่ในปราสาท เกิดเป็นผู้มีศักดิ์สูงส่งก็ดีอย่างนี้”

“ไม่จริง! ท่านรู้เห็นอยู่ตลอด! สิ่งที่ท่านสั่งให้ทำนี่ก็เพื่อทุกคนในเมืองทั้งนั้น” ลูคัสหันไปบอกกับพวกหล่อนอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันไปมองลอร์ดหนุ่มในเสื้อคลุมสีดำซึ่งยืนถือเอกสารตรวจสอบการประกอบกังหันอยู่ไม่ไกลออกไปนัก

“พวกเจ้าลืมแล้วหรือว่าใครเป็นคนกำจัดพวกโจรออกไป” มารีเอ่ยปากดุพวกหญิงสาวบ้าง “หากไม่มีท่านลอร์ด พวกเจ้าจะมายืนพูดคุยกันได้อย่างสนุกปากเช่นนี้รึ!”

“ก็จริงอยู่หรอก...” พวกหล่อนพูดเสียงอ่อย

เด็กหนุ่มทำหน้าตึง จากนั้นจึงหันไปบอกกับกลุ่มหญิงสาว “ผมจะบอกให้ ท่านลอร์ดน่ะ อยู่ที่นี่ อยู่กับทุกคนตลอดเวลาเลยด้วย! ท่านเสียสละเพื่อทุกคน แล้วก็ลำบากไม่แพ้กัน”

ลอร์ดหนุ่มหันมาเห็นลูคัสทำท่าทางกระฟัดกระเฟียด เขาจึงก้าวเข้าไปหา “ติดขัดอะไรหรือลูคัส”

“อะ เปล่า... เปล่าครับ”

“เจ้าบอกว่าท่านลอร์ดอยู่ที่นี่ ไหนล่ะลูคัส พวกข้าก็อยากจะเห็นให้เป็นบุญตาสักครั้ง”

“จริงด้วย ไหนล่ะ อยู่ที่ไหน”

คาร์ลหันไปทางกลุ่มคนที่ถาม “พวกเจ้ามีธุระอะไรกับข้าหรือ”

เพียงแค่นั้นเสียงเซ็งแซ่ก็พลันเงียบหาย มารีเบิกตาโพลง “อ้าว! ท่าน... ท่านคือท่านลอร์ดหรือนี่” พวกหญิงสาวคนอื่นๆ ก็รีบไปออหลบกันอยู่ที่ด้านหลังของมารี

“ถ้าไม่มีธุระ ก็อย่าทำให้เสียเวลาทำงาน” ลอร์ดหนุ่มพูดเสียงเข้ม เป็นผลให้พวกหญิงชาวบ้านที่ก้มหน้าอยู่สะดุ้งตัว หน้าเสียยิ่งกว่าเดิม “กังหันน้ำที่กำลังสร้างนี้ จะช่วยให้พวกเจ้าโม่ข้าวได้ตลอดวันตลอดคืน ตราบใดที่น้ำยังไม่เป็นน้ำแข็ง เพราะอย่างนั้นทุกคนจึงต้องเร่งทำงานให้เสร็จ”

“โม่ข้าวได้ตลอดวันตลอดคืนเลยหรือ” มารีพึมพำกับตนเอง “ถ้าโม่ข้าวในยุ้งได้หมด พวกข้าก็จะไม่ต้องอดอยากในฤดูหนาวอีกต่อไปแล้วน่ะสิ”

“จะมีขนมปังกินเหลือเฟือตลอดทั้งฤดูหนาว” หญิงชาวบ้านอีกคนเปรย

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็จะทำเบียร์ไว้สำหรับปีหน้าได้มากมาย”

“เอาไว้ขายได้อีกด้วย”

“ถ้าอย่างนั้นพวกข้าจะช่วยด้วย” กลุ่มหญิงสาวเอ่ยปากอาสา พวกคนชราและเด็กที่ยังพอมีแรงก็แห่กันเข้ามาช่วยคนละไม้คนละมือ เท่าที่จะพอทำไหว

ทุกคนเร่งทำงานส่วนของตนกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ไม่กี่วันหลังจากนั้น บ่อเก็บน้ำและทางน้ำที่ถูกขุดมาจนถึงโรงโม่ก็เป็นผลสำเร็จ ส่วนตัวกังหันน้ำนั้นอยู่ในระหว่างประกอบให้เป็นรูปเป็นร่าง

หลายวันถัดมา ในที่สุดกังหันน้ำก็สำเร็จเสร็จสิ้นก่อนหิมะจะตกอย่างที่ตั้งใจไว้ วินาทีแรกที่เปิดประตูน้ำแล้วน้ำไหลไปตามทางน้ำอย่างรวดเร็วนั้น พวกชาวบ้านต่างปรบมือเฮฮากันด้วยความดีใจ

กระแสน้ำเชี่ยวพุ่งเข้ากระทบใบพัดกังหัน ส่งผลให้มันเริ่มเคลื่อนไปช้าๆ และค่อยๆ เร็วขึ้น จากนั้นจึงส่งแรงต่อไปหมุนฟันเฟืองทีละตัว ลูคัสเลือกใช้ฟันเฟืองหลายตัวเนื่องจากต้องการส่งแรงไปให้โม่หินหมุนได้เร็วที่สุด เพื่อให้ได้แป้งเนื้อละเอียดตามคำแนะนำของที่ปรึกษาของลอร์ดหนุ่ม

ไม่นานโม่หินขนาดใหญ่ที่หลายคนไม่อยากเชื่อว่ามันจะขยับได้ก็เริ่มหมุน หลังจากนั้นหัวหน้านายทหารจึงสั่งให้ชาวเมืองเทข้าวในกระสอบลงไปในโถดินเผาเหนือตัวโม่ เมล็ดข้าวร่วงหล่นลงในช่องหินตรงกลางโม่ทีละน้อย ชั่วพริบตาเดียวก็ได้แป้งออกมากองใหญ่

เสียงปรบมือโห่ร้องสรรเสริญลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ดังกึกก้อง ทั้งชาวเมืองและทหารต่างค้อมศีรษะให้ด้วยความเคารพแล้วกระโจนเข้ากอดคอกันอย่างมีความสุข

“ต่อจากนี้ พวกเจ้าจงเร่งโม่ข้าวให้หมดก่อนน้ำในแม่น้ำจะเป็นน้ำแข็ง ข้าหวังว่าจะทัน”

“ทันแน่นอนขอรับ โม่ขนาดใหญ่ขนาดนี้ ข้าเองถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาก็ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันทำงานได้จริงๆ” พวกหัวหน้าหมู่บ้านยิ้มกว้าง “ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้ำจะมีพลังมากถึงขนาดนี้”

คาร์ลยิ้มบาง “คนที่คิดสิ่งนี้ขึ้นมาก็คือลูคัสของพวกเจ้าอย่างไรกันล่ะ หน้าที่ของเขาคือเป็นมือขวาของข้า”

“มือขวา?” ลูคัสหันขวับ

“โอ ลูคัส ท่านลูคัส” พวกหัวหน้าหมู่บ้านค้อมศีรษะลงต่ำ “พวกข้าไม่แปลกใจเลย”

พวงแก้มใสซับสีเลือดขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มรีบโบกไม้โบกมือ “เดี๋ยวสิครับ ท่านอะไรกัน”

ที่ปรึกษาของลอร์ดหนุ่มก็เช่นกัน พวกเขาค้อมศีรษะแล้วจับมือของเด็กหนุ่ม “พวกข้าเข้าใจแล้ว ท่านลูคัส ท่านลอร์ดเลือกให้ท่านเป็นมือขวาของท่านสินะ พวกข้าหมดข้อกังขาแล้ว ต่อไปบ้านเมืองของเราจะต้องรุ่งเรืองเป็นแน่”

เด็กหนุ่มใช้ปลายนิ้วเขาจมูกเบาๆ อย่างเขินๆ “โอย ผมไม่ได้ทำอะไรมากมายเลย แค่ออกแบบเฉยๆ ทุกคนก็มีส่วนช่วยทั้งนั้น มันเป็นรางวัลของความเสียสละ ความสามัคคีและความตั้งใจของทุกคนต่างหาก”

องครักษ์ทั้งสองก็ค้อมศีรษะลงด้วย หากสายตาของเออร์วินยังคงไม่ละไปจากเด็กหนุ่ม เขาอมยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจ

ลอร์ดหนุ่มยกมือขึ้นลูบเส้นผมสีดำซึ่งในตอนนี้เย็นเฉียบเพราะอากาศที่เหน็บหนาว เขาจับหมวกของเสื้อคลุมขึ้นมาคลุมศีรษะไว้ให้ “ดูสิ ทุกคนยอมรับเจ้าแล้วนะ”

นัยน์ตาสีเข้มสบประสานกับดวงตาสีฟ้า เขายิ้มอย่างน่ารักแล้วพยักหน้า “ผมดีใจที่สุดเลย อะ... คุณ...” ลูคัสเซเข้าไปในอ้อมกอดของคนที่ยกแขนขึ้นโอบไหล่เขาแล้วดึงเข้าไปหาตัว

“ข้าก็ดีใจ... ดีใจที่สุด”

“ท่านลอร์ด”

แม้อากาศจะหนาวเย็น หากหัวใจอบอุ่นอย่างประหลาด เด็กหนุ่มซบใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรงที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย จากนั้นจึงผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา


*~TBC~*


น้องลูเก่งม้อยค้าาา ขอให้มองน้องเอ็นดูว์น้องที่ฟามสามารถ มองข้ามความช่างอ้อยของน้องลูไปนะคะทุกคน 55555 น้องไม่ได้ทำไร่อ้อย น้องแค่อยากรู้อยากเห็น อยู่ในวัยชอบการเรียนรู้ ทั่นหลอดต้องเข้าใจน้องบ้างนะ ช่วยสอนให้คล่องซะที /ไม่ใช่ละ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ เยิฟๆ ทุกคนเลย /แจกจุ๊ฟฟฟ

ปล. คุณDeShiWa ตอนที่แล้วเขาได้จูบกันน้า จูบแบบเด็กๆ งอยยย หรือจะเรียกว่าจุ๊บก็ได้ค่ะ กร๊าก
คุณmur@s@ki ผมสีทองตาสีฟ้าแต่มาดเข้มก็มีน้าาาา~ 55555
น้องKan ลูคัสอายุ 19 ปี ทั่นหลอดนี่ฮัสกี้ประมาณอายุไว้ที่ 23 ปี เออร์วิน 27 กับคอนราด 24 ค่ะ เป็นแก๊งหนุ่มบอยแบนด์ได้เลยนะเนี้ยะ 555555

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 17-12-2016 19:30:33
ทุกคนยอมรับลูคัสของเราแล้วสินะ ดีใจด้วยค่ะ ทั่นหลอดผู้เสียสละของเรา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-12-2016 19:42:24
ลูคัสน่ารัก น่าจับฟัดวันละหลายๆครั้ง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-12-2016 19:48:46
 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 17-12-2016 19:49:08
 o13 น้องลูเก่งจ้า แต่ไม่จริงอะน้องทำไร่อ้อยแน่ๆ ทำแบบไม่รู้ตัวอะ  :o8:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 17-12-2016 19:51:31
ฮือออ มันละมุนละไม มันดีต่อใจจจ :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-12-2016 19:57:12
ีใจที่มา

ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 17-12-2016 19:59:55
ฮึย หวานกันต่อหน้าประชาชน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-12-2016 20:00:08
น้องเก่งมากและน้องก็ขี้อ้อนมากเช่นกันค่ะ คึคึ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-12-2016 20:02:19
มีโกรธแทนท่ายลอร์ดนะค่ะลูคัส อิอิ

โอ๊ยละมุนนนนน :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 17-12-2016 20:08:50
ทั่นหลอดเด็กน้อยน่าเอ็นดูชิมิล่า  :hao6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 17-12-2016 20:14:51
หูยยย ตอนนี้ลูคัส แย่งซีนไปเต็มๆ
ว่าแต่เออร์วิน อย่าคิดอะไรเกินเลยนะ
ลูคัส เป็นของท่านลอร์ด ท่องไว้ๆ
 :really2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: ploysure ที่ 17-12-2016 20:26:10
ลูคัส นี่นายเป็นคนออกแบบทั้งเมืองเลยใช่มั้ย555555
เมื่อไหร่จะจุ้บกันแบบผู้ใหญ่ซะที :z1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 17-12-2016 20:39:43
ท่านลอร์ดน่าจะแก่กว่าลูคัสมากกว่านี้อ่ะ 23 ยังหนุ่มมากเลย เวลาคุยกันอย่างกะอายุห่างกันเยอะกว่านี้ น่าจะสัก 26-28 ปี  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 17-12-2016 20:42:20
ใช่ๆๆ น้องลูไม่ได้ทำไร่อ้อย น้องลูเป็นเจ้า
ของไร่อ้อย
นี่เถียงแทนน้องลูเลยนะนี่นะ ทุกคนอย่าใส่ร้ายน้องลูสิ
ท่านลอร์ดใจร้ายจัง น้องลูก็แค่อยากเรียนรู้ ทำไมคุณครูไม่สอนละ คุณครูท่านลอร์ดใจร้ายมากๆ
ท่านลอร์ดเนียนประกาศความเป็นเจ้าของน้องลู
อย่าลืมรางวัลให้เด็กดีนะท่าน แค่คำชมไม่พอแน่ๆ
เด็กดีเด็กฉลาดต้องตบรางวัลแรงๆ ไม่เอาแล้วจุ๊บแบบเด็กๆ  :z1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 17-12-2016 20:55:53
น้องลูเก่งจริง ๆ ท่านลอร์ดหลงไม่ไปไหนแน่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-12-2016 21:01:44
ผลงานที่ฉลาดหลักแหลมมม   >\\\<
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 17-12-2016 21:10:54
ลูคัสเก่งมากๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-12-2016 21:16:54
รอผลงานอื่นๆของลูคัสที่จะทำให้อึ้งอีก :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-12-2016 21:30:52
ลูคัสทำความดีความชอบอีกแล้ว

แบบนี้ท่านลอร์ดจะไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอ

เด็กมันทำดีก็ต้องให้รางวัลนะ

สำหรับรางวัลขอเป็นnc ได้ไหม 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 17-12-2016 21:33:23
ลูคัสหนูจะขี้อ้อนไปไหนลูกก สงสัยท่านลอร์ดจะใจระทวยไปหมดแล้วว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-12-2016 21:39:11
ลูคัส นี่เองที่เป็นต้นคิดทำให้บ้านเมืองเจริญ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 17-12-2016 21:41:55
แหม หวานกันเกินหน้าเกินตาแล้วว
มีจุ๊บแก้มจุ๊บหน้าผาก กอดกันเอย  :hao7:

ปล.มีคห.บอกว่าลอร์ดน่าจะอายุมากกว่านี้เพราะเวลาคุยกับลูคัสแล้วดูแก่กว่ามาก เราว่าน่าจะเป็นเพราะลอร์ดเป็นชนชั้นสูงค่ะ แล้วยังเป็นผู้ควบคุมทหารอีกด้วย บุคลิกเลยเป็นผู้ใหญ่กว่าตัว // อายุเท่านี้ก็ดีนะคะ แรงดีไม่มีตก กริ๊ววววววววว  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-12-2016 21:44:01
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 17-12-2016 22:07:08
จูบครั้งแรกไม่พอ ต้องมีต่ออีกสองสามสี่ห้า :hao6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 17-12-2016 22:15:44
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วคะ
น้องลูคัสน่ารัก :mew3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 17-12-2016 22:36:51
นี่แอบสงสัยนะว่าเออร์วินคิดอะไรกับลูคัสรึเปล่าน้อออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-12-2016 22:50:27
น้องลูปลูกอ้อยไว้กี่ไร่จ๊ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 17-12-2016 23:45:30
_
^
||(=□=)||
จิ้มม่ายทันอีกแว้ว แงๆ เดี๋ยวนี้มาช้าจริงๆเลยผมเนี่ย :o12: :o12:
ก็นะ พี่ลูเค้าเป็นเจ้าของไร่อ้อยนี่เนอะ อ้อยเค้าเลยมีเยอะม๋ายจำกัดเลย :hao7: :hao7: กังหันน้ำนำมาใช้คู่กับกลไกฟันเฟืองต่อมาเรื่อยๆแล้วต่อเข้ากับเครื่องโม่แป้งสินะ แล้วอีกทั้งยังเอาไว้เลี้ยงสัตว์และเพาะปลูกได้ด้วย ฉลาดมากๆ ที่จริงแล้วยังทำให้น้ำสะอาดได้อีกด้วยนะ เหมือนกังหันน้ำชัยพัฒนาของในหลวงไงล่า~~ :haun5: :haun5: และก็ตะลึงตึงตึงกันไปทั้งหมู่บ้าน เป็นไง้ล่ะท่านหลอดก็มาช่วยงานด้วยนะเออ 555
เอาล่ะ!! ตอนต่อไปพี่ลูจะแจกอ้อยท่านหลอดอีกกี่โหลกันนะ :laugh: :laugh: ตอนต่อไป ผมบอกเลยในฐานะนักจิตวิทยา(ในอนาคต) ตอนต่อไปท่านหลอดได้แจก kiss ที่ไม่ใช่ kiss แบบเด็กๆแน่นอน ชิมิคร้าบพี่ฮัสกี้ 555 :laugh3: :laugh3:
รอตอนต่อไปจ้า~~ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 18-12-2016 00:20:57
ในขณะที่ทุกคนชื่นชมความสามารถของน้องลูอย่างออกหน้า ก็มีบางคนแอบชื่นชมอยู่เงียบ ๆ โธ่เออร์วิน พระรองของเจ้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 18-12-2016 00:39:30
ทั่นหลอดมือไวตลอด

น้องลูไร่อ้อยก็ดูมีฟามสามารถมากกว่าแค่ทำไร่อ้อยเนอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-12-2016 11:26:59
เออร์วินมาหาเค้ามา! เค้าจะปลอบตัวเอง โถๆพ่อพระรองของบ่าว ฮ่าๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 18-12-2016 12:50:08
น้องลูลูกก ถ้าเราอุตส่าห์อ่อย อยากเรียนรู้ แต่ท่านลอร์ดเล่นตัวนัก
เจ้แนะนำให้ไปขอพี่เออร์วินสอนให้นะลูก ขี้คร้านจะได้เรียนคลาสพิเศษ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 18-12-2016 17:21:34
สนุกมากๆค่ะ ขอตอนต่อไปเลยได้มั้ยย โฮฮฮฮฮ :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 18-12-2016 22:16:53
ลุ้นกับการทำโม่ด้วยเลยอ่ะ เก่งจริงๆลูคัส
ว่าแต่าทั่นหลอดนี่23เองหรอ เด้กมั่กๆนึกว่าโตกว่านี้ มาปกครองบ้านเมืองได้สุดยอดไปเลย
เด้กรุ่นใหม่ไฟแรง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-12-2016 05:34:51
โอ้ยยยย!! ดีงาม!!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-12-2016 08:59:29
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: จ๊ะจ๋า ที่ 20-12-2016 21:33:45
เข้ามาดัน... และรอ ลูคัสน่ารักมากกกกก
อิจท่านลอร์ด ฉลาด อ้อนเก่ง โอ๊ย..อยากได้ๆ
สนุกมากๆคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-12-2016 22:07:51
รอๆ

มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 20-12-2016 23:04:11
เพิ่งเริ่มอ่านวันนี้
ลูคัสเก่งจัง  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-12-2016 23:16:42
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:น่ารักกว่าลูคัสไม่มีอีกละ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 21-12-2016 11:49:52
น่ารัก  o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 21-12-2016 23:13:16
เรื่องนี้สนุกมาก รอติดตอนต่อไปค่า :katai4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 22-12-2016 16:11:44


ติดตามค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 13 : กังหันน้ำ][171216]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 23-12-2016 20:01:54


Chapter 14 : หน้าไม้


อากาศในช่วงต้นฤดูหนาวเย็นเยียบแม้ในเวลากลางวัน แต่โชคดีที่วันนี้ท้องฟ้าสดใส มีแสงอาทิตย์แรงจ้าที่พอจะให้ความอบอุ่นได้บ้าง ลูคัสเงยหน้าขึ้นให้ลำแสงนั้นฉาบไล้ใบหน้า เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วผ่อนออกมายาวเหยียด

“ดีจังที่ยังไม่มีหิมะ” ถึงจะพูดไปเช่นนั้นแต่ที่จริงเขาก็อยากเห็นหิมะที่นี่เหมือนกันนะ หากเมื่อนึกถึงพวกชาวเมืองที่กำลังเร่งโม่ข้าวแล้ว ยังไม่ตกจะดีกว่า

“เฮ้อ... ท่านลอร์ดทำอะไรอยู่นะ” ลูคัสเท้าแขนลงกับราวระเบียง เขาไม่ได้พบกับลอร์ดหนุ่มมาหนึ่งวันกับอีกหนึ่งคืนเต็มๆ แล้ว พอถามถึงพวกสาวใช้ก็บอกว่าอีกฝ่ายกำลังจัดการอะไรอยู่สักอย่าง ตัวเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในปราสาทฝั่งซ้าย ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าจะเข้าไปหาอีกฝ่ายได้อย่างไร เมื่อวานก็เลยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในคอกม้า แล้วก็ออกไปขี่ม้าเล่นในสนามหญ้าภายในปราสาท

“น่าเบื่อชะมัด ไม่มีอะไรให้ทำบ้างเลย จะออกไปขี่ม้าเล่นอีกดีมั้ยนะ” เด็กหนุ่มยืดแขนขาบิดขี้เกียจ ก่อนจะสังเกตเห็นว่าทหารที่กำลังฝึกยิงธนูอยู่ด้านล่างเงยหน้าขึ้นมาบนระเบียงพร้อมกันหมด พอสบสายตากับเขาพวกทหารก็ค้อมศีรษะลงต่ำ

“หือ” ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองไประเบียงชั้นบนกับระเบียงห้องข้างๆ ซึ่งก็ไม่ได้มีใคร หมายความว่าพวกทหารค้อมศีรษะให้เขางั้นหรือ

สักพักก็มีเสียงเคาะประตูห้อง เด็กหนุ่มจึงรีบเดินไปเปิดประตูออกดู

คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาเป็นนายทหารที่เขาเคยพบอยู่ด้วยกันกับลอร์ดหนุ่มตอนยิงธนูครั้งก่อน เมื่อสังเกตดูบนเสื้อคลุมมีตรายศติดอยู่ ดูไม่เหมือนกับทหารทั่วไป ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าคนคนนี้น่าจะเป็นระดับหัวหน้า? “มีอะไร...”

“ข้า รูฟ ขอรับ เป็นหัวหน้ากองธนู” นายทหารค้อมศีรษะลงต่ำ “พวกข้าจะขอความกรุณาจากท่านลูคัสไปชมการทดสอบการยิงหน้าไม้ได้ไหมขอรับ”

“ท่าน... ท่าน?” นิ้วเรียวชี้กลับไปที่ตัวเองอย่างงุนงง “ผมน่ะหรือ”

“ขอรับ พวกข้าเพิ่งทำหน้าไม้มาใหม่ขอรับ”

หน้าไม้งั้นหรือ... จะว่าไปก็ดีเหมือนกันแฮะ อย่างน้อยมันก็ยิงง่ายกว่าธนู บางทีเขาอาจจะได้ลองฝึกยิงบ้าง

ลูคัสพยักหน้า “เอาสิ เดี๋ยวผมไปเอาเสื้อคลุมก่อนนะ”

เมื่อเด็กหนุ่มลงไปถึงสนามฝึก พวกทหารก็ค้อมศีรษะรับอย่างพร้อมเพรียง ส่งผลให้เขารู้สึกเขิน เขาจึงค้อมศีรษะตอบ เล่นเอาพวกทหารเบิกตาโพลง

“ท่านลูคัสจะก้มศีรษะให้พวกข้าไม่ได้นะขอรับ!” รูฟร้องลั่น

“อ้าว ทำไมล่ะ ค้อมทักทายมามาผมก็ค้อมทักตอบไง”

“การค้อมศีรษะจะกระทำกับผู้ต่ำศักดิ์กว่าเท่านั้นขอรับ”

คิ้วเรียวขมวดมุ่น “ผมมีศักดิ์อะไรที่ไหนกันล่ะ”

“แต่ท่านลูคัสมีตำแหน่งเป็นมือขวาของท่านลอร์ด” หัวหน้านายทหารตอบ

เรียกท่านได้อีก... ลูคัสยิ้มแหยๆ มือขวาอะไรนั่นก็ไม่ได้มีตำแหน่งอะไรสักหน่อยไม่ใช่หรือ เขาก็เป็นคนธรรมดาสามัญเหมือนทุกคนนั่นละ “คือ... แบบว่า...”

ขณะที่ยืนทำหน้างงอยู่นั้นก็มีทหารก้าวเข้ามาหาพร้อมกับส่งหน้าไม้ให้

“ท่านลูคัส อยากจะทดลองยิงไหมขอรับ”

มือขาวรับหน้าไม้มาพิจารณาดู มันเป็นหน้าไม้ที่ทำขึ้นมาอย่างเรียบง่าย ตัวหน้าไม้ทำจากไม้ที่เหลาจนเกลี้ยงเกลา มีช่องสำหรับวางลูกธนูอยู่ตรงกลาง ตรงปลายโค้งคล้ายคันธนู มีสายธนูขึงไว้ วิธีการยิงก็เดาได้ไม่ยาก แค่น้าวสายธนูมาเกี่ยวไว้ที่สลักด้านหลังช่องวางลูกธนูแล้วเหนี่ยวไก เพียงแค่นั้นก็ยิงได้แล้ว

ลูคัสยิ้มกริ่ม... เสร็จเรา วันนี้ลองยิงได้ไม่อายทหารแน่ๆ

เด็กหนุ่มหันไปมองทหารที่กำลังฝึกยิงหน้าไม้ให้เข้าเป้าหมายสำคัญ ทุกคนเหนี่ยวแล้วปล่อยลูกธนูได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเทียบกับนายขมังธนูมือหนึ่งที่ได้เห็นเมื่อครั้งก่อนแล้วก็ถือว่ายังช้ากว่ามาก เพราะต้องเสียเวลาในการโหลดลูกธนูใส่หน้าไม้ เขาหยิบลูกธนูวางลงในช่อง หากพอจะเหนี่ยวสายธนูไปเกี่ยวสลักก็ต้องชะงักไปเล็กน้อย เพราะมันเหนี่ยวได้ยากเหมือนเมื่อตอนเขาทดลองใช้คันธนูของท่านลอร์ดเลย

“อะ โอย...” พอดึงมาเกี่ยวสลักได้ก็ถูกสายธนูบาดเอาเสียอย่างนั้น ลูคัสรีบชักมือออกแล้วซุกไว้ด้านหลัง เขาหันไปมองนายทหารที่กำลังฝึกยิง แค่ช่วงเวลาที่เขาโหลดลูกธนู คนอื่นๆ ก็ยิงไปได้เกือบสิบดอกแล้ว

“ท่านลูคัสบาดเจ็บหรือ!” รูฟหน้าเสีย “ขอข้าดูบาดแผลสักหน่อย”

เด็กหนุ่มหันกลับมาตอบพร้อมกับเอี้ยวตัวหลบ “ไม่เป็นไร นิดเดียว”

“ไม่ได้นะขอรับ ถ้าหากมีบาดแผลจะต้องรีบทำแผลก่อน” รูฟยกมือขึ้นขอมือจากอีกฝ่าย สีหน้าของเขาจริงจังจนลูคัสจำใจต้องส่งมือให้ “โอ เลือดออก!” พอเห็นบาดแผลรูฟก็หน้าซีดลงไปยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

“โธ่ แค่นี้เอง” ลูคัสยกมือขึ้นทำท่าจะเลีย หากหัวหน้านายทหารรั้งมือไว้พร้อมกับหันไปสั่งนายทหารให้ทำน้ำสะอาดกับผ้ามาพันแผลให้เรียบร้อย

พวกทหารรุมทำแผลให้เด็กหนุ่มอยู่ชั่วครู่ ทว่าอีกฝ่าย ถึงจะรู้สึกเจ็บแต่กลับนึกขันท่าทางตกอกตกใจของทุกคนมากกว่า ดูเข้าสิ ทำอย่างกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น

แล้วจู่ๆ ทุกคนก็ถอยหลังไปพลางค้อมศีรษะลงต่ำ

อ้าว หรือจะเห็นผีเข้าจริงๆ

“มีอะไร ทำท่าเหมือนโดนผีหลอกกันแบบนั้น” ลูคัสหัวเราะ

“สงสัยข้าจะเหมือนผีมากกระมัง”

เด็กหนุ่มหันขวับไปตามต้นเสียง “ท่านลอร์ด! โอ้โห! บทจะมาก็มาเงียบๆ เลย”

คาร์ลนิ่งขรึม เขาเพิ่งจะพอมีเวลาว่างจึงแวะไปหาอีกฝ่ายที่ห้อง ทว่าไม่พบใคร พวกทหารยามจึงเข้ามารายงานว่าเด็กหนุ่มไปที่ลานฝึกยิงธนู เมื่อมองลงมาจากระเบียงห้องก็พบว่าพวกทหารกำลังจับมือถือแขนอีกฝ่ายอยู่ เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที แล้วดูทำหน้าเข้าสิ รอยยิ้มน่ารักแบบนั้น มันควรจะมีให้กับเขาและเป็นของเขาเพียงคนเดียว อารมณ์ของลอร์ดหนุ่มพลุ่งพล่านจนแทบควบคุมไม่ได้ ทำให้เขาต้องรีบรุดมาที่ลานฝึกธนูแห่งนี้

“ทำไมเจ้าปล่อยให้คนอื่นถูกตัวเช่นนั้น”

“เอ๋?” ลูคัสขมวดคิ้ว

“ส่งมือเจ้ามาซิ”

เด็กหนุ่มรีบส่งมือข้างที่ไม่ได้บาดเจ็บให้ทันที

“อีกข้าง”

“อ่า ท่านลอร์ด...” ลูคัสอยากจะชวนเปลี่ยนเรื่องคุย หากเมื่อเห็นสีหน้าดุๆ ของลอร์ดหนุ่มแล้วก็เริ่มจะกังวล เขายื่นมือที่ถูกพันแผลไว้ให้อีกฝ่ายช้าๆ

“เจ้าบาดเจ็บหรือ” มือกร้านประคองมือนุ่มขึ้นมาอย่างอ่อนโยน นัยน์ตาอ่อนแสงลง “เกิดอะไรขึ้น”

“ผมอยากจะลองยิงหน้าไม้... แต่รีบน้าวสายธนูไปหน่อย”

พอได้รับฟังคำตอบ คาร์ลก็มองไปทางพวกทหารทันที เด็กหนุ่มจึงรีบก้าวเข้าไปขวางไว้ เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะดุว่าพวกทหารเอา

“คุณอย่าว่าอะไรพวกเขานะ ผมอยากลองยิงหน้าไม้นี่เอง แล้วก็ทำตัวเองบาดเจ็บเองด้วย”

“พวกเขามีความผิดที่ทำให้เจ้าบาดเจ็บ ข้าควรจะต้องลงโทษพวกเขา”

“ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น มันเป็นความเลินเล่อของผมเองต่างหาก”

“ถ้าเช่นนั้นข้าลงโทษเจ้าแทนดีไหม”

ยิ่งพอลอร์ดหนุ่มทำหน้าขมึงทึง พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง พวกทหารก็ยิ่งถอยออกห่าง เด็กหนุ่มหันรีหันขวางอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี ถ้าต้องถูกลงโทษจริงๆ จะทำอย่างไร เขาต้องแย่แน่ๆ

แต่แล้วคาร์ลกลับก้มลงประทับรอยจูบบนฝ่ามือเด็กหนุ่ม ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกโพลง “ท่าน...”

ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เขารีบหันไปมองดูว่ามีคนอื่นเห็นหรือเปล่า ทว่าพวกทหารกำลังก้มหน้ากันอยู่จึงผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ

“เอ่อ...” ครั้งนี้เขาพูดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูกอีกแล้ว พอสบสายตากับนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยก็ราวกับถูกสะกดไว้นิ่ง

“เจ็บมากไหม”

หัวใจเต้นรัวแรงราวกับจะระเบิดอยู่ในอก ลูคัสรีบส่ายหน้าไปมาพลางค่อยๆ ดึงมือออก แล้วก้มหน้าหลุบตาต่ำ “ไม่เจ็บหรอกครับ นิดหน่อยเอง” เขารู้สึกว่าลอร์ดหนุ่มกำลังจ้องมองตัวเขาราวกับมองเห็นทะลุปรุโปร่งได้ไปถึงไหนต่อไหน เขินจนควันจะออกจากหูทั้งสองข้างแล้ว เขาควรต้องทำอะไรกลบเกลื่อน เพราะถ้าพวกทหารเห็นเข้าคงไม่ดีแน่

“เอ้อ...” ลูคัสกวาดสายตาไปพบหน้าไม้ที่วางทิ้งไว้ เขารีบหยิบมันขึ้นมาพลิกไปพลิกมาแล้วคิดในใจ หน้าไม้ที่เขาเคยเห็นในโทรทัศน์ดูจะแตกต่างออกไปนิดหน่อย ตรงวิธีการเหนี่ยวสายธนู “มีนายขมังธนูแล้วทำไมต้องใช้หน้าไม้อีกล่ะครับ ทั้งที่ธนูยิงได้เร็วกว่าตั้งเยอะ”

“หน้าไม้อาจจะยิงได้ไม่เร็วเท่า แต่ยิงได้ง่ายกว่าธนู ถึงจะมีความแม่นยำเหมือนกัน แต่นายทหารไม่จำเป็นต้องเป็นนายขมังธนูที่มีฝีมือซึ่งหาได้ยากและต้องใช้เวลาในการฝึกฝน ในสนามรบนั้น เราจะใช้หน้าไม้ในการโจมตีเป็นตัวบุคคล ขณะที่ธนูโจมตีวงกว้าง ทั้งม้าและทหารทั่วไป”

“อย่างนี้นี่เอง” เด็กหนุ่มรับฟังอย่างสนใจ ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วเปรยกับลอร์ดหนุ่ม “ผมเคยเห็นหน้าไม้ที่มีโกลนโลหะยื่นออกมาตรงส่วนปลายนี่ เอาไว้ใช้เท้าเหยียบเพื่อให้มีแรงเหนี่ยวสายธนูได้มากขึ้น ลองทำดูบ้างดีมั้ยครับ”

“รูฟ” คาร์ลหันไปเรียกหัวหน้านายกองธนู ซึ่งอีกฝ่ายก็สะดุ้งเฮือกแล้วรีบรุดเข้ามาหา

รูฟค้อมศีรษะลงต่ำ “ท่านลอร์ด”

ลอร์ดหนุ่มหันไปทางลูคัสเป็นเชิงบอกให้เด็กหนุ่มออกคำสั่งกับนายทหารด้วยตัวเอง

มือเรียวทั้งสองข้างยกขึ้นทำรูปโกลน เอานิ้วโป้งยืดตรงแตะกันไว้ ส่วนนิ้วที่เหลือทำเป็นทรงโค้งแตะกันคล้ายหลังคา “ไปหาโกลนแบบที่ใช้เหยียบเวลาขึ้นขี่ม้า เอาที่มีด้ามจับยื่นออกมาด้วยนะ ผมจะเอามาผูกกับตรงปลายของหน้าไม้เอาไว้เหยียบน่ะ อ้อ แล้วก็หาตะขอมาด้วยนะ”

“ขอรับ ท่านลูคัส โปรดรอสักครู่” รูฟถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาหันไปสั่งกับนายทหารแล้วพากันรีบรุดออกไป

ที่ในลานนั้นเหลือเด็กหนุ่มกับเจ้าของปราสาทเพียงลำพัง มีทหารเวรยามเดินไปเดินมาเป็นระยะๆ เขาชำเลืองมองอีกฝ่ายบ่อยๆ ระหว่างที่รอให้พวกทหารกลับมา หากก็ไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไรดี

“ข้าได้ยินว่าพวกชาวเมืองโม่ข้าวกันสนุกเลยทีเดียว เมื่อเช้าพวกทหารที่ไปตรวจรักษาการณ์ได้รับขนมปังมากินกันมากมาย”

ลูคัสยิ้มกว้าง แววตาสดใสเป็นประกาย “ดีจังเลยนะครับ”

“เจ้า...” ลอร์ดหนุ่มชะงักกับรอยยิ้มนั้นไปชั่วครู่ เขาถอนหายใจยาว ก่อนจะยกมือขึ้นประกบแก้มนิ่มสีแดงเรื่อไว้ “อย่ายิ้มแบบนี้ให้ใครอีก นอกจากข้า เข้าใจไหม”

“ทำไมล่ะครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงแผ่ว นัยน์ตาสีเข้มหลุบต่ำมองตามฝ่ามืออีกฝ่าย “มือคุณอุ่นดีจัง”

“ข้าไม่ชอบ”

หัวใจเต้นแรงอีกแล้ว ใบหน้าก็ร้อนไปหมด ลูคัสเม้มปาก จากนั้นจึงยกมือขึ้นวางซ้อนทับมือกร้านพร้อมกับหันหน้าไปทางฝ่ามือนั้นช้าๆ

แขนแกร่งโอบเอวของเด็กหนุ่มแล้วดึงให้เข้ามาแนบชิด จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน มือที่ประกบพวงแก้มนวลค่อยๆ เคลื่อนมาช้อนคางอีกฝ่ายขึ้น แล้วจึงโน้มใบหน้าเข้าไปแนบจูบอย่างแผ่วเบา

หากคนในอ้อมแขนกลับขืนตัวออก

“ลูคัส...”

“ตรงนี้ไม่เอา คนอยู่เยอะแยะไปหมดเลย ผมอาย”

“หมายความว่าถ้าไม่มีใครอยู่ เจ้าจะไม่อาย แล้วข้าก็จะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นใช่ไหม” คาร์ลยิ้มกริ่ม

ใบหน้าของลูคัสเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก “ทำอะไรของคุณนี่คือจะทำอะไร”

“ก็อย่างเช่น... ทำแบบที่สอนค้างไว้ ที่เจ้าขอให้สอนเมื่อวันก่อน”

นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง ทั้งเขินทั้งอาย มือเรียวทั้งผลักทั้งดันตัวเองออกห่างจากร่างสูง หากอีกฝ่ายกลับยิ่งกอดรัดแน่นขึ้น “ท่านลอร์ด ปล่อยผมเถอะ”

“ทำไม”

“คุณจะจูบผมทำไมกัน ผมน่ะ... เป็นผู้ชายนะ”

“ข้ารู้ ก็เห็นอยู่”

“รู้แล้วจูบทำไม” ลูคัสถามเสียงอ่อย

“ข้าก็เป็นชาย เจ้ายอมให้ข้าจูบทำไมกันล่ะ”

ไม่มีคำตอบจากเด็กหนุ่ม ในเมื่อไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุดจากอ้อมแขนแกร่ง เขาจึงซุกใบหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้างเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าที่แดงเป็นลูกสตรอว์เบอร์รีแบบนี้ ท่านลอร์ดคงจะอ่านคำตอบจากใจเขาได้หมดแน่ๆ

ที่ยอมให้จูบ ก็เพราะชอบน่ะสิ

ฮะ!?

เดี๋ยวก่อน... ชอบ? ชอบอะไร!

ลูคัสได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตนเองชัดเจน มันเต้นแรงเช่นนี้ทุกครั้งที่ได้เห็นลอร์ดหนุ่ม ยิ่งได้อยู่ใกล้ก็ยิ่งเต้นถี่รัวหนักขึ้น แม้จะไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน หากก็คิดว่าใช่... เขาคงจะตกหลุมรักท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์เข้าเสียแล้ว

ลอร์ดหนุ่มก้มลงกระซิบ “ลูคัส เจ้าตัดสินใจได้หรือยังว่าจะอยู่ที่นี่กับข้าตลอดไปได้หรือไม่”

“ผม...” ในใจของเด็กหนุ่มสับสน จริงอยู่ที่ว่าเขาอยากอยู่ใกล้ชิดกับอีกฝ่าย แต่ความคลางแคลงในใจนี่คืออะไร ราวกับมีเมฆหมอกหนาบดบัง ทำให้เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ชัดเจน

“ยังตัดสินใจไม่ได้อีกหรือ”

ลูคัสเงยหน้าขึ้นช้าๆ “จะให้ผมตัดสินใจอยู่กับคุณที่นี่... ทั้งที่ผมยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเต็มๆ ของคุณเลยน่ะหรือ ผมแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณเลย รู้แค่ว่าคุณเป็นผู้ปกครองเมืองแบร์กไฮม์นี้ แล้วคอนราดกับเออร์วินก็เรียกคุณว่าคาร์ลเท่านั้นเอง”

“ข้าคือ คาร์ล ฟรีดริช แห่งไฮเดลแบร์ก มาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์ พ่อของข้าคือวิลแฮล์ม ฟรีดริช อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก ผู้ปกครองแคว้นไฮเดลแบร์กทั้งหมดนี่”

นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง

ท่านลอร์ดคือมาควิส! แล้วถ้าอย่างนั้น... “อาร์ชดยุกอย่างงั้นหรือ ถ้างั้น... ที่คุณเคยบอกว่ามีน้องชายสองคน ก็แปลว่าคุณเป็นลูกชายคนโตอย่างนั้นสิ”

“ใช่”

นั่นหมายความว่าคนตรงหน้าของเขานี่ ในอนาคตจะเป็นอาร์ชดยุกผู้ปกครองแคว้นไฮเดลแบร์กทั้งหมด

“น้องของข้าคือ ไฮน์ริช ลอร์ดแห่งเคิร์ชไฮม์ กับยาคอป ลอร์ดแห่งนอยเออไฮม์ เราทั้งสามแยกกันไปปกครองเมืองรอบนอกของแคว้นไฮเดลแบร์ก เพื่อช่วยท่านพ่อดูแลปกป้องแคว้นจากศัตรูที่คิดร้าย”

ลูคัสแทบไม่ได้ฟังอีกฝ่ายอีกแล้ว เขารู้เพียงแค่ว่าสถานะของตนเองกับลอร์ดหนุ่มต่างกันราวกับฟ้าเหว ซึ่งส่งผลให้ภายในหัวใจเจ็บปวด พวกเขาต่างกันมากเสียจนไม่น่าจะมาพบกันได้เลยด้วยซ้ำ

“เจ้ายังมีอะไรอยากรู้อีก”

เด็กหนุ่มส่ายหน้าไปมา “ไม่มีแล้วครับ”

“ถ้าเช่นนั้นจะให้คำตอบข้าได้แล้วใช่หรือไม่”

ใบหน้าน่ารักเบือนหนี เขาตอบกลับไปด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวกับลมหายใจ “ท่านลอร์ด ที่นี่ไม่ใช่ที่ของผม ความจริงผมไม่ได้มีตัวตนอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน ลูคัส”

“ปล่อยผมก่อนเถอะ พวกทหารคงใกล้จะกลับมาแล้วล่ะครับ” ลูคัสขืนตัวออก พอได้ยินเสียงฝีเท้าก็ผลักตัวเองออกจากอ้อมแขนแกร่งอย่างแรง แล้วรีบหันหน้าหนีจากลอร์ดหนุ่ม เป็นเวลาที่หัวหน้านายกองทหารกับพวกทหารวิ่งเข้ามาหาพอดี

เด็กหนุ่มทำเป็นไม่สนใจคาร์ล เขาหยิบชิ้นโกลนโลหะที่พวกทหารไปหามาขึ้นมาพิจารณาดู “โอเค ช่วยผมหน่อยได้มั้ย เอาโกลนนี่ไปติดไว้ตรงปลายหน้าไม้ที เอาให้แน่นเลยนะ”

“ขอรับ” สิ้นคำตอบรับพวกทหารก็รุมจัดการหน้าไม้ตามที่เด็กหนุ่มสั่ง

ลูคัสลอบมองคนที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังตน เขารู้สึกได้ถึงสายตาที่ยังคงจับจ้องมาที่ตัวเขาเขม็ง “คุณไม่มีงานแล้วหรือ”

“ข้าจะรอดูหน้าไม้ของเจ้า” ลอร์ดหนุ่มตอบเสียงเรียบ

สักพักทหารก็นำหน้าไม้มาส่งให้เด็กหนุ่ม “อืม แน่นดีแล้ว... ขอตะขอที่ให้ไปหามาหน่อยสิ” มือเรียวผูกตะขอเข้ากับปลายเชือกข้างหนึ่ง แล้วผูกปลายอีกข้างไว้ที่เข็มขัดหนังที่เอว เขาก้มลงสอดเท้าเข้าไปเหยียบโกลนโลหะตรงปลายหน้าไม้ไว้ แล้วใช้ตะขอที่ห้อยลงมาจากเอวน้าวสายธนูขึ้นแทนการใช้นิ้ว แรงจากลำตัวมีมากกว่านิ้วมาก เขาจึงน้าวสายธนูมาเกี่ยวสลักไว้ได้โดยง่ายและรวดเร็ว

“ง่ายขึ้นเยอะเลย เห็นมั้ย” ลูคัสยกหน้าไม้ขึ้นเล็ง ยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วเหนี่ยวไกปล่อยลูกธนูออกไป

"เย้!"

ลูกธนูพุ่งตรงเข้าเป้าฟางพอดี เด็กหนุ่มชูแขนขึ้นร้องเฮราวกับเด็กเล็กๆ พวกทหารก็ปรบมือให้อย่างชื่นชม “หน้าไม้นี่ยิงง่ายกว่าธนูจริงๆ ด้วย”

รูฟรับหน้าไม้คืนจากลูคัส เขาลองก้มลงเหยียบโกลนโลหะส่วนปลายหน้าไม้ไว้แล้วเหนี่ยวสายธนูบ้าง “แบบนี้เราจะใช้สายธนูแข็งขึ้นได้อีก เพื่อให้ลูกธนูเร็วและแรงขึ้น”

“แต่ต้องติดโกลนให้แน่นนะ ไม่งั้นเดี๋ยวหงายหลังกันหมด” ลูคัสพูดกลั้วหัวเราะ

“ดีเหลือเกินท่านลูคัส” พวกทหารเอ่ยปากชมกันไม่หยุด

ในขณะเดียวกันนั้น ลูคัสก็เหลือบไปเห็นองครักษ์หนุ่มวิ่งเข้ามาในลานฝึกยิงธนู ตรงไปหาผู้เป็นนายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คงจะมีข่าวไม่ค่อยดีนัก เขาจึงพยายามเงี่ยหูฟัง

คอนราดก้าวเข้าไปหาผู้เป็นนายแล้วพูดเสียงขรึม “มีจดหมายด่วนมาจากท่านไฮน์ริชและท่านยาคอป แล้วก็ท่านอาร์ชดยุกสั่งให้นำจดหมายจากเลดี้บาธิลดากับท่านบาร์ดอฟมาส่งให้ถึงมือท่านด้วยขอรับ”

คาร์ลชักสีหน้า “เลดี้บาธิลดากับบาร์ดอฟรึ มีธุระกงการอะไรกับข้า”

เสียงของลอร์ดหนุ่มฟังดูหงุดหงิด เขาหันไปสบสายตากับลูคัสก่อน แล้วจึงรีบรุดเดินออกไปจากลานฝึกธนู

ดวงตาสีเข้มมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนสุดสายตา เขาถอนหายใจหนักๆ หัวใจเจ็บเพียงเพราะได้ยินชื่อเลดี้จากปากของลอร์ดหนุ่ม

“เลดี้บาธิลดากับบาร์ดอฟ เป็นใครกันน่ะ”

รูฟเลิกคิ้วขึ้น เขาหันไปมองนายทหารคนอื่นๆ ก่อนจะตอบ “ท่านบาร์ดอฟเป็นท่านอาของท่านลอร์ดขอรับ เลดี้บาธิลดาเป็นลูกสาว”

“ท่านอา?”

“ท่านบาร์ดอฟคือมาควิสแห่งโรเซนไฮม์ เป็นผู้ปกครองเมืองโรเซนไฮม์ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากแบร์กไฮม์นัก” รูฟพูดไปพลางถอนหายใจ “ข้าคงบอกท่านได้เพียงเท่านี้”

“แค่นี้ก็พอแล้ว ขอบคุณนะ” ลูคัสยิ้มบาง ไม่จำเป็นต้องบอกเขาก็น่าจะเดาได้ล่ะ บุตรสาวเขียนจดหมายมาหาชายหนุ่มโดยที่บิดาทั้งสองฝ่ายรู้เห็น หล่อนคงจะเป็นคนสำคัญของท่านลอร์ดไม่ใช่น้อย เขาหันไปทางที่พวกนายทหารกำลังทดลองใช้หน้าไม้อันใหม่กัน หากสายตาเหม่อลอย ในใจเจ็บหน่วงอย่างบอกไม่ถูก

“ท่านลูคัสขอรับ...”

“ผมว่าในระยะใกล้ ลูกธนูจากหน้าไม้นี่น่าจะยิงทะลุเสื้อเกราะได้สบายๆ ท่านลอร์ดบอกว่าหน้าไม้เอาไว้ใช้ยิงตัวบุคคลในสนามรบ ถ้าจะเลือกยิงทั้งทีก็น่าจะต้องเป็นคนสำคัญหน่อยใช่มั้ย พวกคนสำคัญก็ต้องใส่เสื้อเกราะ ถ้าอย่างนั้นเราน่าจะลองเอาชุดเกราะเก่าๆ มาทำเป็นเป้ายิงดูบ้าง” เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยเสียดื้อๆ

รูฟค้อมศีรษะลงต่ำ “ขอรับ”

“ลองถอยเป้าฟางออกไปอีกสักหน่อยสิ จะได้รู้ว่ายิงหน้าไม้ได้ไกลแค่ไหน”
 
“ขอรับ”

ลูคัสยืนดูพวกทหารทดลองยิงหน้าไม้ไปอีกสักพัก แล้วจึงเปรยกับหัวหน้ากองทหารที่ยืนอยู่ข้างกัน “ระยะขนาดนี้ น่าจะใช้ยิงลงมาจากกำแพงปราสาทได้สบายๆ”

“คงจะยากสักหน่อยขอรับ บนกำแพงปราสาทไม่มีที่ยืนและไม่มีที่กำบัง ที่ๆ พอจะยืนได้ก็มีเฉพาะบนป้อมเท่านั้น”

“ถ้าอย่างนั้นก็มีช่องโหว่เยอะน่ะสิ ป้อมมีแค่สี่ป้อม อยู่ห่างกันมากเสียด้วย” คิ้วเรียวขมวดมุ่น เพราะกำแพงม่านล้อมปราสาทที่ในยุคปัจจุบันที่เขาได้เห็นเป็นกำแพงสองชั้น ภายในกำแพงมีช่องว่างให้ทหารเดินตรวจเวรยามทั้งด้านบนกำแพงและภายในกำแพง แสดงว่านั่นคงจะเป็นกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทีหลัง “ว่าแต่ผมเห็นมีการฝึกอาวุธอยู่เรื่อยๆ แบบนี้ เป็นเพราะกำลังจะมีสงครามหรือ”

“ต้องเตรียมพร้อมขอรับ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ท่านบาร์ดอฟ...” รูฟรีบยกมือขึ้นปิดปาก

“หือ คนคนนั้นเป็นท่านอาของท่านลอร์ดไม่ใช่หรือ”

รูฟก้มหน้าหลุบตาต่ำ ไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไรอีก หากลูคัสก็พอจะเดาได้ ในยุคโบราณเช่นนี้ คนบางคนก็เห็นแก่อำนาจและความมั่งมีเสียจนลืมไปว่าคนที่ตนเองคิดแย่งชิงสิ่งเหล่านั้นมามีสายเลือดเดียวกัน

“แย่จังเลยนะ” เขาพึมพำเบาๆ


*~TBC~*


มีตัวละครชื่อยากๆ โผล่มาอี๊กกกกกก  :ling1:

แต่บาร์ดอฟเป็นตัวละครค่อนข้างจะสำคัญต่อจากตอนนี้ไปนะคะ ทั่นหลอดดด ระวังให้ดีๆๆๆ

ว่าด้วยอายุของทั่นหลอด 555555 ก็ยังหนุ่มแน่นน่าบีบล่ะค่ะ ฮัสกี้คิดเองเออเองว่าคนสมัยก่อนน่าจะโตไวกว่า เดาจากที่กษัตริย์บางพระองค์มีอายุแค่สิบกว่าปีเท่านั้น >.< ทั่นหลอดถูกเลี้ยงดูมาเพื่อเป็นชนชั้นปกครอง มีทหารต้องดูแลเป็นกองทัพ แต่ก็เพิ่งจะได้ปกครองเมืองแบร์กไฮม์เป็นเมืองแรก เลดี้(เรียกง่ายๆ ว่าเมีย) ก็ยังไม่มี ถ้าอายุมากกว่านี้อาจจะดูไม่เข้าสักเท่าไหร่ค่ะ ที่สำคัญเลดี้ของทั่นหลอดต้องเป็นน้องลูไร่อ้อยเท่านั้นใช่ม้อยยยย /น้องลูถีบ 55555 ส่วนน้องลูไร่อ้อยอายุสิบเก้า อาจดูไม่ต่างกับทั่นหลอดมาก แต่ด้วยยุคสมัยที่ต่างกัน น้องลูเป็นน้องเล็ก ที่บ้านโอ๋ เพื่อนที่เรียนด้วยกันก็เอ็นดู๊เอ็นดู เพราะงั้นเลยอาจจะดูเหมือนต่างกันเยอะค่ะ 55555 (ขอบคุณคุณj123 คุณneverland ค่ะ) :mew1:

และแล้วววว~ ตอนนี้เราก็ได้รู้กันว่าทั่นหลอดเป็นลูกใครมาจากไหนนะคะ สรุปง่ายๆ ว่าเหนือทั่นหลอดยังมีพ่อทั่นหลอดอีกที  :impress2: อนาคตน้องลูไร่อ้อยจะได้นั่งตำแหน่งไหนกันน้าาา~

หน้าไม้ที่ใช้ในเรื่องยังเป็นหน้าไม้โล้นๆ ยังไม่มีอุปกรณ์เสริมใดๆ ค่ะ อาจจะนึกภาพลำบากไปนิด แต่เดี๋ยวฮัสกี้หารูปไว้ให้ดูในเพจน้า~

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ฮืออออออ ช่วงนี้ปั่นสองเรื่อง มึนตึ้บไปหมดเหลย อีกเรื่องก็อยากจะเอามาลงให้อ่านกันแล้วววว แต่ยังเขียนไม่ถึงไหนสักที โฮรวววว  :ling1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: เอฟเอฟ ที่ 23-12-2016 20:24:26
:z2: จิ้มมม
รักคนเขียน รอเด้ออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-12-2016 20:26:57
ถถถถถ ดูท่าทางแล้ว ว่า น้องลูของเรา กว่าจะผ่านด่านบ้านทรายทองได้ มีทั้ง ท่านพ่อ และน้องชายอีก 2 คน หึหึ ท่านอา และ เลดี้อีก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 23-12-2016 21:10:55
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:รีบแต่งนะฮัสกี่รออยู่คราฟฟฟฟฟรออ่านตอนต่อไปนะคราฟ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-12-2016 21:14:25
มีสาวโผล่มาอีก 1
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 23-12-2016 21:19:47
ท่านหลอดคะ แสดงตัวเป็นเจ้าของไร่อ้อยเต็มที่เลยนะคะ
อยากจิตัดอ้อยก้ตัดเลยค่ะ ตัดมาชิมซักหน่อยว่าหวานขนาดไหน

หนูลูคัสรุ้ตัวแล้วว่าชอบ แต่จะทำยังไงต่อละ บ้านจะได้กลับมั้ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 23-12-2016 21:29:22
พจลูจะใช้ชีวิตในประสาททรายทองยังไงต่อนะ 555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 23-12-2016 21:33:27
ลูคัส สู้ ๆ ๆ ๆ ๆ
ทีมลูคัส
 o7
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-12-2016 21:38:40
งานยากนะน้องลู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-12-2016 21:48:55
ยังไม่ทันจะรบก็จะยอมแพ้แล้วเหรอน้องลู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-12-2016 21:52:31
เป็นท่านลอร์ด เป็นทั้งลูกชายคนโต น้องลูจะเจอสกัดไร่อ้อยจากพ่อท่านลอร์ดไหมล่ะเนี่ย :mew2: :mew2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 23-12-2016 22:21:54
เจออุปสรรคเยอะเลยนะลูคัส ไหนจะความต่างทางฐานะ ไหนจะมาจากคนละมิติ และอุปสรรคอีกเยอะแยะ สู้เขานะลูเอ๋ยยย   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-12-2016 22:29:36
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 23-12-2016 23:30:28
หนลูคัสหงอยไปเลย สู้เขาลูก หนูเป็นนายเอกหนูต้องได้ท่องไว้ๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 24-12-2016 00:30:13
น้องลูคงสับสนอยู่มาก บ้านก็อยากกลับ แต่อยู่ที่นี่ก็กลับบ้านไม่ได้ กลับบ้านก็อาจจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก
แต่น้องลูจำไว้นะลูก อย่าลืมไร่อ้อยที่หนูเพียรปลูก คิค  :hao7:
ทั่นหลอดดดดดเราว่าทั่นชัดเจนแล้วนะ แต่ต้องมากกว่านี้!  o18 ตอนนี้ก็พยายามเอาตัวรอดจากญาติๆแล้วกันนะ หุหุ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-12-2016 06:59:18
ทั่นหลอดนี่จ้องจะเคี้ยวอ้อยอ่อนตลอด ๆ

ไปจัดการหญิงให้จบเรื่องก่อนนะจ๊ะ ไม่จบก็อดอ้อยไป
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-12-2016 07:48:44
นึกภาพหน้าไม้แบบที่ลูคัสให้ทำไม่ค่อยออกเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-12-2016 09:14:38
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 24-12-2016 13:14:43
เย้!! มาแล้ววววว เลดี้ท่านนั้นคือใครร !! อย่านะๆ สู้ๆนะลูคัสสส   :sad4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 24-12-2016 17:19:22
ลุคสร้างกำแพงเมืองอีกชั้นเลย


กันชะนีและศัตรู


 :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 24-12-2016 19:15:46
ในเมื่อเด็กก็อยากให้ชิมอ้อย จะรอช้าอยู่ใย กินเลยดีกว่าทั่นหลอดดดด เดี๋ยวก็กอดเดี๋ยวก็หอม
ทหารคงรู้กันทั้งปราสาทแล้วท่าน
น้องลูฝึกยิงหน้าไม้ไว้ก็ดีนะจ๊ะ
เอาไว้เล็งเลด้งเลดี้อะไรนี่แทนFCน้องลูนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 24-12-2016 19:17:27
ถ้านี่เป็นน้องลู นี่น่าจะนอนไหลไปกับพื้นตอนโดนจุ๊บมือ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-12-2016 20:35:37
ลูคัส พอรู้ความแตกต่าง เลยหงอยไป
แต่ลูคัส ก็รู้ว่าลอร์ดชอบตัวเอง
ถีงชวนให้อยู่ด้วยกัน
ในเมื่อตัวเองหลงยุคเข้ามา
ไม่รู้ว่าจะได้กลับไป หรือไม่ได้กลับ
ทำอย่างที่ใจต้องการดีกว่าระทมทุกข์นะ
มีความสุขกับมันเถอะ
สงสัยที่อามาหาลอร์ดนี่ คงมายื่นข้อเสนอ
ให้แต่งงานกับลูกสาวตัวเองละมั้ง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 24-12-2016 20:57:30
นิยายย้อนยุคนี่ชอบทำให้เราเสียน้ำตาตลอดเลย เรื่องนี้ก็คงไม่พลาดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 24-12-2016 21:14:54
ลูคัสอ่อยมา ท่านลอร์ดอ่อยกลับ ไม่โกงเนอะ  o18
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 25-12-2016 00:07:05
ท่านหลอดขอกันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ

ลูคัสเก่งอีกแล้ว

เชื่อว่าอุปสรรค์ต่างๆจะผ่านไปได้

ด้วยความเก่ง ความน่ารักของลูคัส
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 25-12-2016 09:48:28
สนุกมากกชอบบอร๊ายยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 25-12-2016 20:26:42
หวานกันแปปเดียว หน่วงๆเริ่มมา  :hao4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-12-2016 09:48:55
แวะมาจิ้มจ้า กำลังไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรก

ลูคัสน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 28-12-2016 21:29:21
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วจ้า
น้องลูคัสมีแววเจ็บปวดมาแล้ว
เลดี้อะไรนั่นต้องเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-12-2016 00:01:23
มารอ

มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 29-12-2016 10:39:05
น้องลูอย่าพึ่งคิดไปไกลฟังท่านคาร์ลก่อน :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 29-12-2016 11:23:11
สนุกทุกตอน ตัวร้ายท่าทางจะออกมาแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-12-2016 00:15:33
อย่าคิดมากนะลู ฟังท่านหลอดก่อนนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 30-12-2016 01:07:17
โอย....โอด โอย มาเมนท์ :hao5: :hao5: ที่จริงอ่านแต่วันโพสท์ละนะ แต่อยู่ในช่วงสอบกลางภาค เลยไม่มีเวลามาเมนท์ นี่ก็กว่าจะหาเวลามาได้ พรุ่งนี้ก็สอบอีกวัน :really2: :really2: เทจ้าเทฟิสิกส์เทไปเลย อ่านไม่เข้าหัวเลย~~~ 555 :hao7: :hao7: เอาเป็นว่ารอตอนต่อไปเนอะ ไม่ว่างไปอ่านอีกรอบอ่ะขอโทษน้าคร้าบพี่ฮัสกี้ 555  :o8: :o8: บั้ยบัย  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-12-2016 23:33:47
อำนาจนี่ทำไมคนต้องอยากได้ด้วยนะ เห่อ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 03-01-2017 11:09:52
ลูน้อยน่ารักอ่าาา

ท่านลอดก็เหมือนจะซึน 55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 14 : หน้าไม้][231216]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 05-01-2017 07:40:10


Chapter 15 : โรเซนไฮม์


ณ คฤหาสน์ชายป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตรงจุดเชื่อมเขตแดนของเมืองสามเมืองในปกครองของท่านลอร์ด บุตรชายของอาร์ชดยุกแห่งแคว้นไฮเดลแบร์กทั้งสามคน คาร์ลต้องใช้เวลาขี่ม้าเป็นเวลาถึงสองวันเพื่อให้มาถึงคฤหาสน์แห่งนี้ ส่วนอีกสองคนที่นัดแนะกันไว้เดินทางมาถึงก่อนหน้าแล้ว เขาเลือกเดินทางด้วยม้ามาที่แห่งนี้ด้วยกันกับองครักษ์สองนายและนายทหารกลุ่มเล็กๆ อีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ละคนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าธรรมดาคล้ายพวกชาวบ้านชาวเมืองเพื่อไม่ให้ดูโดดเด่นเป็นที่น่าสงสัย

ลอร์ดหนุ่มแห่งแบร์กไฮม์เดินผ่านทหารนับสิบที่เข้าแถวยืนรออยู่ ตรงไปยังห้องหนังสือที่ชั้นบนของคฤหาสน์ เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง ลอร์ดหนุ่มอีกสองคนที่นั่งรออยู่ก็รีบลุกขึ้นต้อนรับ

“ท่านพี่!”

คาร์ลเดินเข้าไปสวมกอดน้องชายทั้งสอง จากนั้นพวกเขาก็นั่งลงบนโซฟาด้วยกัน

“ท่านพี่จะพักผ่อนก่อนหรือไม่”

“ไม่ล่ะ ขี่ม้ามาก็ไม่ได้เหนื่อยอะไร”

หลังได้รับจดหมายจากน้องชายทั้งสอง ลอร์ดหนุ่มก็เร่งมาที่คฤหาสน์ลับๆ ของบิดาแห่งนี้ทันที ซึ่งสามคนพี่น้องตกลงใจจะใช้สถานที่นี้ในการประชุมวางแผนรับมือศึกจากภายนอกแคว้นไว้ตั้งแต่ตอนที่แยกย้ายกันออกไปปกครองเมืองรอบนอก เมืองหลวงทั้งสามเมืองแล้ว

ไฮน์ริชไม่รอช้า เขาส่งสัญญาณมือบอกให้พวกทหารและสาวใช้ไปรอข้างนอกห้องให้หมด ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหาพี่ชายและน้องชายแล้วพูดขึ้น “มีข่าวการเคลื่อนไหวของบาร์ดอฟแล้วนะท่านพี่ สายข้ารายงานมาว่า บาร์ดอฟพยายามจะไปผูกมิตรกับแคว้นเทรีย ถึงกับส่งของไปบรรณาการหลายคันรถเลยทีเดียว”

ยาคอปสบถเบาๆ พลางส่ายหน้าไปมา “หึ ไอ้คนเลี้ยงไม่เชื่อง ท่านพ่ออุตส่าห์ยอมตัดพื้นที่ของแคว้นไฮเดลแบร์กให้มันไปแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จักพอ”

คาร์ลวางจดหมายฉบับหนึ่งลงบนโต๊ะแล้วคลี่ออก “จดหมายจากเลดี้บาธิลดากับบาร์ดอฟ มีทูตนำไปส่งให้ข้าที่เมืองหลวง ท่านพ่อจึงจำใจต้องส่งต่อมาให้ข้าที่แบร์กไฮม์อีกต่อ แล้วก็แนบจดหมายมาให้ข้าด้วย”

น้องชายทั้งสองคนชะโงกหน้าเข้าไปอ่านข้อความในจดหมายแล้วหัวเราะเสียงขึ้นจมูก “บาร์ดอฟจะขอเข้าเยี่ยมท่านพี่? แล้วนี่อะไร ให้ตายข้าก็ไม่มีวันเชื่อว่านี่เป็นจดหมายจากเลดี้บาธิลดา มีเลดี้ดีๆ ที่ไหนบ้างจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอให้ชายหนุ่มไปรับมาเป็นภรรยา”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น ตอนนี้บาร์ดอฟคงกำลังวางแผนอะไรอยู่เป็นแน่ ในจดหมายของท่านพ่อบอกว่าได้จัดส่งกำลังทหารมาที่แบร์กไฮม์อีกพันนายแล้ว อีกสักสัปดาห์คงจะมาถึง ท่านกำชับมาว่าให้ระวังให้ดี”

“แล้วท่านพี่จะจัดการกับบาร์ดอฟอย่างไร”

“ข้าจะรอดูท่าทีเขาก่อน”

“เมื่อได้ข่าวบาร์ดอฟ ท่านพี่จงรีบส่งข่าวมา พวกข้าจะพาทหารไปสมทบ” ไฮน์ริชเอ่ยอย่างเป็นกังวล “ข้ารู้สึกหวั่นใจอย่างไรก็ไม่รู้ มันจะมาไม้ไหนกันนะ”

“ท่านพี่ไม่ควรไปปกครองแบร์กไฮม์แต่แรก มันควรเป็นหน้าที่น้องเล็กเช่นข้า” ยาคอปส่ายหน้าไปมา “แบร์กไฮม์อยู่ใกล้กับเมืองโรเซนไฮม์ของบาร์ดอฟมาก ข้าเป็นห่วงท่านเหลือเกิน”

“เจ้าจะให้พี่ของเจ้าปล่อยเจ้าไปเสี่ยงอันตรายอย่างนั้นหรือ” คาร์ลส่งสายตาดุๆ ใส่น้องชาย “ถ้าหากข้าปกครองแบร์กไฮม์ไม่ได้ อนาคตข้าจะปกครองทั้งแคว้นไฮเดลแบร์กได้อย่างไรกัน”

แต่แรกเริ่มการปกครองในแคว้นไฮเดลแบร์กรวมอยู่ที่จุดศูนย์กลางคือเมืองหลวงเพียงแห่งเดียว มีวิลแฮล์ม ฟรีดริช อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กเป็นประมุข โดยมีบารอนบาร์ดอฟ ฟรีดริชซึ่งเป็นน้องชายอยู่ในตำแหน่งผู้สืบทอดคนต่อไป สองพี่น้องต่อสู้ พัฒนาเมืองไฮเดลแบร์กจนเป็นเมืองหลวงที่ร่ำรวย ขยายอาณาเขตแคว้นให้กว้างใหญ่ไพศาล ทว่าต่อมาเมื่ออาร์ชดยุกมีทายาทของตนเอง ตำแหน่งผู้สืบทอดจึงตกไปอยู่กับบุตรชายคนแรกแทน

วิลแฮล์มรู้ดีว่าทำให้น้องชายไม่พอใจมากเพียงใด ด้วยความเป็นกังวลว่าบาร์ดอฟจะทำร้ายบุตรชาย เขาจึงตัดสินใจแบ่งอาณาเขตของแคว้นไฮเดลแบร์กออกไปอีกส่วน ส่วนนั้นเป็นเมืองใหญ่อุดมสมบูรณ์ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ เขาตั้งชื่อเมืองนั้นว่าโรเซนไฮม์ แล้วมอบตำแหน่งมาควิสแห่งโรเซนไฮม์ให้น้องชายไป

ช่วงแรกบาร์ดอฟก็ยังสงบเสงี่ยมดีอยู่ หากเมื่อกาลเวลาผ่านไป บาร์ดอฟเข้าพิธีแต่งงานกับเลดี้โรเซตตาคนงาม บุตรสาวของดยุกแห่งซาร์แลนด์ ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป

มีหลายครั้งที่บาร์ดอฟส่งกองทัพมาปักหลักอยู่ที่ชายแดนแคว้นไฮเดลแบร์กแล้วก็ถอยทัพกลับไปง่ายๆ เพียงเพื่อจะแสดงให้พี่ชายได้เห็นแสนยานุภาพของตน ทว่าจู่ๆ ก็หยุดไป ปล่อยให้ชายแดนกลายเป็นแหล่งซ่องสุมโจรร้ายโดยไม่จัดการอะไร ส่งผลให้ชาวเมืองแบร์กไฮม์ตกอยู่ในความหวาดกลัวและทุกข์ใจ

นอกจากนั้นบาร์ดอฟก็ยังส่งของบรรณาการไปยังซาร์แลนด์และเมืองข้างเคียงอยู่บ่อยๆ ทว่าไม่เคยส่งมาให้ไฮเดลแบร์กเลยแม้สักครั้งเดียว ในขณะที่วิลแฮล์มส่งของบรรณาการไปให้น้องชายอยู่เป็นประจำ

สิ่งที่ทำให้อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กหมดความอดทนมากที่สุด คือการที่อีกฝ่ายไปประจบแคว้นของศัตรู เขาไม่อาจทำเป็นมองข้ามเจตนารมณ์ของน้องชายไปได้อีกแล้ว

บาร์ดอฟพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ได้แคว้นไฮเดลแบร์กกลับไปเป็นของตน ดังนั้นไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีการสู้รบปรบมือกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน

ด้วยเหตุนี้ บุตรชายทั้งสามของอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กจึงยกทัพเข้ามาปกครองเมืองรอบนอกทั้งสามของแคว้น เพื่อดูแลไม่ให้ชาวเมืองแปรฝ่ายและเป็นกำแพงไม่ให้บาร์ดอฟเข้าถึงเมืองหลวงได้โดยง่าย

หากเมื่อไม่นานมานี้ จู่ๆ บาร์ดอฟก็ส่งทูตพร้อมบรรณาการและจดหมายเข้าไปหาอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก จดหมายฉบับหนึ่งเป็นของเลดี้บาธิลดาถึงมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์ ส่วนอีกฉบับเป็นของบาร์ดอฟถึงพี่ชาย ใจความบอกว่า เลดี้บาธิลดาได้ยินคำร่ำลือของลอร์ดหนุ่มจากตัวเขามานาน หล่อนรู้สึกประทับใจมาก ฝ่ายตนเองก็เห็นดีงามอยากจะให้สองแผ่นดินกลับมารวมกันอีกครั้ง ทางซาร์แลนด์ของเลดี้ของเขาเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย จึงอยากถามความคิดเห็นของอาร์ชดยุกและลอร์ดหนุ่ม

วิลแฮล์มรู้อยู่แก่ใจว่าน้องชายเป็นคนอย่างไร และไม่มีทางเปลี่ยนไปได้แน่ ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะยินยอมให้บุตรชายตกเป็นเหยื่อของงูพิษพวกนั้นโดยเด็ดขาด

เนื้อความทิ้งท้ายในจดหมายของบิดาถึงบุตรชายทั้งสาม บอกให้พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือบาร์ดอฟไว้ให้พร้อมที่สุด

ยาคอปถอนหายใจหนักๆ “ท่านพ่อก็คือท่านพ่อ ทำไมเราไม่ยกทัพไปตีเอาแผ่นดินที่เสียไปของเรากลับคืนมาซะเลย จะนั่งรอไปเพื่ออะไร”

ลอร์ดหนุ่มตบไหล่น้องชายหนักๆ “เราควรหลีกเลี่ยงสงคราม ถ้าจะบุกเข้าไปในโรเซนไฮม์ เราจะต้องเสียเลือดเนื้อทหารของเราไปอีกสักเท่าไหร่”

“ข้าได้ยินว่าปราสาทของบาร์ดอฟในโรเซนไฮม์มีกำแพงสูงหนาถึงสามชั้น มีแม่น้ำล้อมอีกด้วย ไม่ใช่ง่ายเลยที่จะบุกเข้าไปถึงตัวบาร์ดอฟได้ ฝ่ายเราเสียเปรียบมากเกินไป”

คาร์ลขมวดคิ้วครุ่นคิดพลางเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ “ตอนนี้พวกเรายังทำอะไรไม่ได้มาก จงใช้เวลาในช่วงที่ยังสงบเตรียมกองทัพให้พร้อมที่สุด”

“ขอรับท่านพี่”

ลอร์ดหนุ่มยิ้มบางพลางเอนหลังพิงพนักโซฟา “พวกเจ้าสบายดีนะ ข้าเห็นแบบนี้ก็สบายใจ”

“ท่านพี่ก็ดูมีความสุขดีนะขอรับ” ไฮน์ริชเอื้อมมือออกไปกุมมือพี่ชาย “ข้าได้ยินว่าท่านจัดการพวกโจรที่เข้ามาก่อกวนแบร์กไฮม์เสียจนเกลี้ยง ช่างสมกับเป็นท่านพี่ที่ข้าภูมิใจ”

“ข้ากำลังวางแผนพัฒนาเมือง เมื่อเสร็จแล้วจะส่งให้พวกเจ้าได้นำไปใช้ ไม่ว่าพวกเจ้าจะทำอะไร อย่าลืมนึกถึงทุกข์สุขของชาวเมืองให้มากๆ”

“ขอรับท่านพี่”

“แล้วเด็กที่ชื่อลูคัสเล่าขอรับ จะไม่เล่าเรื่องของเขาให้พวกข้าฟังหน่อยหรือ” ยาคอปพูดขึ้นบ้าง “พวกทหารพูดถึงกันไม่หยุดปากเลยทีเดียว เห็นว่าเป็นคนโปรดของท่านพี่”

สีหน้าของลอร์ดหนุ่มเปลี่ยนไปจนทำให้น้องชายทั้งสองเลิกคิ้วขึ้น นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนแสงลง แล้วยังรอยยิ้มละมุนเช่นนั้น ขนาดเป็นน้องชายยังไม่มีโอกาสได้เห็นอยู่บ่อยๆ

“เขาเป็นคนพิเศษของข้า”

“ข้าชักอยากจะเห็นซะแล้วซี” ยาคอปหัวเราะ “เห็นว่าท่านพี่แต่งตั้งให้เขาเป็นมือขวาเสียด้วย”

“ดูท่าพวกข้าต้องหาโอกาสบุกเข้าไปเยี่ยมท่านพี่บ้างเสียแล้ว” ไฮน์ริชพลอยหัวเราะตามไปด้วย

ลอร์ดหนุ่มส่ายหน้าไปมา “พวกเจ้านี่น้า ไม่เปลี่ยนไปเลย มีตำแหน่งเป็นขุนนางใหญ่กันแล้วแท้ๆ”

“ถึงพวกข้าจะมีตำแหน่งอะไร พวกข้าก็เป็นน้องท่านอยู่ดีนั่นล่ะ”

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นขัดจังหวะสามพี่น้อง ก่อนคนที่ยืนอยู่หน้าประตูจะพูดขึ้น

“ท่านคาร์ล ข้าเออร์วินเองขอรับ”

“เข้ามาสิ”

องครักษ์หนุ่มเปิดประตูออกแล้วค้อมศีรษะลงต่ำ “เมื่อครู่มีจดหมายจากท่านอาเธอร์มาที่นี่ ท่านบอกว่าจะเดินทางไปถึงแบร์กไฮม์เร็วๆ นี้เพื่อนำลูห์กับลาห์ไปส่งให้ท่าน พวกมันคิดถึงท่านมาก”

“ท่านอาเธอร์คงจะนำกองทัพของท่านพ่อไปเสริมให้ท่านพี่สินะ” ยาคอปเปรย “รีบเร่งเช่นนี้ข้ารู้สึกไม่ดีเลย”

ไฮน์ริชโอบไหล่น้องชาย “อย่างน้อยพวกบาร์ดอฟคงไม่ลงมือในฤดูหนาวแน่ พวกเรายังพอมีเวลาน่ะ”

อาเธอร์ที่ว่าคือมือขวาของอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก แล้วก็เป็นอาจารย์ที่สั่งสอนลอร์ดทั้งสามมาตั้งแต่วัยเยาว์ ในจดหมายที่บอกว่าจะนำลูห์ลาห์ สุนัขของคาร์ลไปส่งให้เป็นการบังหน้าเท่านั้น เผื่อว่าสาสน์จะไปตกอยู่ในมือของคนอื่น แท้จริงแล้ว ลูห์กับลาห์หมายถึงสุนัขผู้ซื่อสัตย์ได้ด้วย นั่นก็คือกองทัพเสริมของลอร์ดหนุ่มนั่นเอง

คาร์ลเอนศีรษะพิงพนักโซฟา การประชุมที่เคร่งเครียดนี้ทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้ายิ่งกว่าการขี่ม้าสองวันเต็มๆ เสียอีก ในเวลาเช่นนี้ เขาอดนึกถึงลูคัสไม่ได้เลย ถ้าหากมีเด็กหนุ่มอยู่ใกล้ๆ รอยยิ้มน่ารักคงจะช่วยให้เขากลับมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง เขานึกถึงเด็กหนุ่มแทบจะตลอดเวลา ห่างกันมาแค่สองวัน เขาก็คิดถึงอีกฝ่ายแทบแย่แล้ว

“วันนี้พอก่อนก็แล้วกัน ข้ากลับล่ะ”

“ท่านพี่ จะรีบไปไหน ไม่พักที่นี่สักคืนหรือ”

“ผู้ปกครองเมืองไม่ควรจะอยู่ห่างปราสาทนานๆ พวกเจ้าก็เช่นกัน” ลอร์ดหนุ่มลุกขึ้นจัดเสื้อผ้า ก้าวเข้าไปสวมกอดน้องชายทีละคนแล้วหันไปสั่งองครักษ์ให้เตรียมการเดินทางให้พร้อม

“ไม่ควรจะอยู่ห่างคนโปรดที่รออยู่ในปราสาทนานๆ มากกว่าหรือเปล่าขอรับ” ไฮน์ริชยิ้มกริ่ม

คาร์ลหัวเราะเบาๆ “ไม่มีใครรู้ใจข้าเท่าน้องชายของข้าอีกแล้ว”

...

.....

...

ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นภายในสนามฝึกซ้อมยิงธนู  ในยามนี้พวกทหารที่ใช้หน้าไม้นำโกลนมาติดกับส่วนปลายของหน้าไม้กันหมดแล้ว พวกเขากำลังทดสอบการยิงใส่เป้าทดลองที่ใส่ชุดเกราะไว้

เสียงฮือฮาดังลั่นทุกครั้งที่มีการยิงลูกธนูออกไป หากเด็กหนุ่มคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไม่ได้สนใจ เขาทอดสายตาออกไปไกลอย่างเหม่อลอย

หลังจากวันที่ลอร์ดหนุ่มมาบอกลาในตอนเช้ามืดก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ตอนนั้นเขาสะลึมสะลือ ยังไม่ทันตื่นดีเลยด้วยซ้ำ จำได้เพียงแค่สัมผัสของมืออุ่นๆ กับริมฝีปากที่แตะลงบนกลีบปากของเขาอย่างแผ่วเบา

“ข้าจะต้องไปธุระข้างนอกหลายวัน”

ลูคัสปรือตาขึ้นเล็กน้อย “...อือ”

“อยู่ที่นี่รอข้า เป็นเด็กดีนะ อย่าเข้าไปในเขตปราสาทฝั่งซ้ายเป็นอันขาด แล้วก็อย่าออกไปซนที่ไหน”


ที่จริงตอนตื่นขึ้นมาก็ยังนึกว่าตัวเองฝันไป จนพวกสาวใช้บอกอีกรอบนั่นล่ะ ถึงพอนึกขึ้นมาได้รางๆ

“ท่านลอร์ดไปที่ไหนหรือ ทุกคนรู้มั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยถามบรรดาสาวใช้ ซึ่งพวกหล่อนก็พากันส่ายหน้ายิก

“พวกข้าไม่รู้หรอกเจ้าค่ะ”


แล้วพอเขาเดินออกจากห้อง พวกทหารก็เดินตามกันเป็นฝูง ที่ตรงทางเชื่อมไปยังปราสาทฝั่งซ้ายมีทหารเฝ้ามากมายเป็นพิเศษ แล้วก็ยังมีทหารคอยเฝ้าทั้งข้างในและข้างนอกปราสาททุกตารางเมตรเลยทีเดียว หากเมื่อถามพวกทหารว่าท่านลอร์ดไปไหน ทุกคนก็ตอบแค่ว่าไปธุระข้างนอกเท่านั้น

เขาถูกทิ้งให้เฝ้าปราสาทซะแล้ว แต่ก็ยังดีที่รูฟมาคอยเขาแต่เช้าทุกวัน ชวนเขามาดูการฝึกซ้อมยิงธนูอยู่เรื่อยๆ พาไปขี่ม้าเล่น แล้วก็ยังพาไปรู้จักกับทหารในกองอื่นๆ ระหว่างนั้นก็ได้ดูการฝึกดาบกับหอกอีกด้วย

ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร เพียงแต่เขาอดคิดไม่ได้ว่าท่านลอร์ดไปทำธุระอะไรที่ไหน ไปพบกับน้องชายสองคนที่ส่งจดหมายมา หรือว่าเลดี้บาธิลดาคนนั้นกันนะ

“ท่านลูคัสขอรับ หัวธนูแบบที่ท่านแนะนำเมื่อคราวก่อน ข้าสั่งช่างโลหะทำแล้วนะขอรับ” รูฟรายงานเด็กหนุ่ม ทว่าอีกฝ่ายนั่งนิ่ง เขาจึงลองเรียกดูอีกครั้ง “ท่านลูคัส”

“ท่านลูคัสขอรับ!”

เจ้าของชื่อเรียกหันขวับไปทางคนถาม “อ๊ะ รูฟ เสียงดังทำไมน่ะ”

“ท่านเหนื่อยแล้วหรือ”

“เปล่า...” เขารีบกวาดสายตามองไปโดยรอบ ดูเหมือนว่าพวกทหารจะหยุดซ้อมกันแล้ว “เสร็จแล้วหรือ ทำไมวันนี้เลิกซ้อมเร็วจังล่ะ”

หัวหน้านายทหารหัวเราะ “โธ่ ท่านลูคัส พวกข้าก็ต้องพักผ่อนบ้างสิขอรับ ฝึกหนักติดกันมาหลายวันแล้ว”

“นั่นสินะ” ลูคัสเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับรูฟพร้อมกับย่นคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย แต่แล้วก็ยิ้มกว้างคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ “รูฟ เข้าไปในเมืองกันเถอะ”

รูฟเบิกตาโพลง “ไปทำไมขอรับ!”

“ผมอยากไปดูความเรียบร้อยของกังหันน้ำน่ะ ไม่รู้ว่าโม่ข้าวกันใกล้เสร็จแล้วหรือยัง”

รูฟอ้ำอึ้ง ครั้นจะปฏิเสธก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าถ้าพาอีกฝ่ายเข้าไปในเมืองแล้วจะโดนท่านลอร์ดว่าอะไรเอาหรือเปล่า

“ผมชวนคนอื่นไปก็ได้นะ ถ้าไม่มีใครไปเดี๋ยวไปคนเดียวก็ได้”

“ไม่ได้นะขอรับ ถ้าขืนท่านลูคัสไปคนเดียว ข้าต้องแย่แน่”

“ทำไมต้องแย่” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดเสียงดัง “อ้อ! นี่ท่านลอร์ดสั่งให้เฝ้าผมไว้ใช่มั้ย มิน่าล่ะ มาหาผมแต่เช้าทุกวันเลย!”

หัวหน้านายกองยิ้มเจื่อนๆ ไม่รู้จะแก้ตัวว่าอย่างไรดีก็เลยยอมเออออไปกับเด็กหนุ่ม “ถ้าท่านลูคัสจะเข้าไปในเมืองก็ต้องใส่เสื้อคลุมอุ่นๆ ก่อนนะขอรับ ท่านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ข้าจะไปเตรียมม้าให้”

หลังจากนั้นรูฟกับนายทหารอีกสามนายก็นำม้ามายืนรอที่ด้านหน้าปราสาท ไม่นานเด็กหนุ่มวิ่งปรู๊ดออกมาโดยมีพวกสาวใช้ติดตามมาทางด้านหลัง ส่งเสียงดังโวยวายลั่น

“ท่านลูคัส! อย่าไปเลยเจ้าค่ะ! เดี๋ยวท่านลอร์ดจะดุเอานะเจ้าคะ!”

“รอท่านลอร์ดกลับมาก่อนเถอะเจ้าค่ะ!”

“จะว่าอะไรได้เล่า เขาไม่อยู่สักหน่อย จะกลับมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้!” ลูคัสหันไปเถียง เขาวิ่งไปกระโดดขึ้นหลังม้าแล้วเตะสีข้างมันอย่างแรงเพื่อให้เจ้าม้าวิ่งออกไป “เดี๋ยวผมจะรีบกลับน่า! อยากไปดูว่าทุกคนใช้งานกังหันน้ำได้ดีก็เท่านั้นเอง!”

“พวกเจ้าดูแลท่านลูคัสดีๆ นะ!” พวกสาวใช้ตะโกนบอกทหารไล่หลัง จากนั้นก็ยืนมองจนเด็กหนุ่มกับเหล่าทหารขี่ม้าห่างออกไปไกลจนพ้นสายตา

ม้าของเด็กหนุ่มวิ่งนำหน้าทหารทั้งสี่นาย ผ่านป่าสนและทุ่งข้าวที่ดูวังเวง สายลมที่ระใบหน้าเย็นเยือกจนเด็กหนุ่มต้องดึงเสื้อคลุมขึ้นมาปิดจมูกและริมฝีปากด้วย ใช้เวลาอยู่พักใหญ่จึงไปถึงหมู่บ้านริมแม่น้ำที่ตั้งของกังหันน้ำ

สิ่งแรกที่ลูคัสสังเกตเห็นคือถนนหินที่เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว พวกทาสและชาวบ้านกำลังเร่งทำงานกันโดยมีเหล่าที่ปรึกษาของท่านลอร์ดและทหารคอยควบคุม เขากระโดดลงจากม้าแล้วจูงม้าเดินเข้าไปดูอย่างสนใจ

เมื่อพวกทหารกับที่ปรึกษาทั้งหลายเห็นเข้าก็ค้อมศีรษะทำความเคารพ “ท่านลูคัสมาถึงที่นี่ มีอะไรให้พวกข้ารับใช้หรือ”

“ไม่มีหรอก ผมแอบหนีมาเที่ยวน่ะ” เด็กหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดี พวกชาวบ้านและทาสที่กำลังทำงานหันมาทำความเคารพเป็นระยะๆ ตามที่เด็กหนุ่มเดินผ่าน แม้จะดูเหน็ดเหนื่อย เหงื่อผุดพรายทั้งที่อากาศเย็น หากทุกคนก็ดูจะมีความสุขกับการทำงานดีจนเขารู้สึกประหลาดใจ “สร้างถนนได้เร็วมากๆ เลย ตอนแรกผมนึกว่าจะสร้างถนนจากปราสาทเข้ามาในเมืองก่อนซะอีก”

“ตามกำหนดการตอนแรกก็เป็นเช่นนั้นขอรับ แต่ท่านลอร์ดบอกว่าถนนนี่จะเป็นประโยชน์กับชาวเมืองมากกว่า ก็เลยเริ่มสร้างจากกังหันน้ำเชื่อมไปยังหมู่บ้านทั้งเจ็ดก่อน”

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าน่ารัก เขาไม่แปลกใจเลยที่ท่านลอร์ดจะสั่งแบบนี้ ช่างเป็นผู้ครองเมืองที่น่าชื่นชมจริงๆ

ระหว่างนั้นก็มีหญิงชาวบ้านนำขนมปังและน้ำมาส่งให้กลุ่มคนที่กำลังทำงานกันอย่างขันแข็ง เมื่อทหารเห็นเช่นนั้นก็ให้เวลาพักชั่วครู่ แต่ก็ยังยืนเฝ้าอยู่แถวนั้น เมื่ออิ่มท้องพวกเขาก็ลุกขึ้นทำงานต่อโดยไม่บ่ายเบี่ยง

ช่างต่างกับภาพที่เคยเห็นในโทรทัศน์มากมาย ลูคัสนึกอยู่ในใจ เขาเคยเห็นแต่พวกทหารใช้แส้เร่งให้คนงานทำงาน แล้วก็ไม่ให้ดื่มกินอะไรจนกว่าจะถึงเวลาหยุดพัก

“ข้าไม่เคยเห็นทาสที่ไหนมีความสุขเท่าทาสในแบร์กไฮม์เลย” รูฟเปรยเสียงเบา

“คิดอย่างนั้นเหมือนกันหรือ” เด็กหนุ่มหันกลับไปถาม

“พวกเขาทำงานเช้าจรดเย็นเหมือนกับทาสที่อื่น แต่ท่านลอร์ดสั่งไว้ว่าต้องให้มีอาหารอิ่มท้อง มีเวลาพักผ่อน แล้วก็มีที่พักอบอุ่นด้วยขอรับ” ที่ปรึกษาคนหนึ่งที่เดินตามมาเอ่ยขึ้น “ส่วนพวกชาวบ้านที่มาช่วยทำงานก็จะได้เงินตอบแทน”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก ขณะที่ก้าวเท้าเดินต่อไปก็ก้มลงมองถนนหินไปด้วย ในยุคปัจจุบันยังพอมีถนนหินเช่นนี้หลงเหลืออยู่ในเมืองไฮเดลแบร์กบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกแทนที่ด้วยคอนกรีตไปแล้ว มาจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าตนเองจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่คิดสร้างถนนแห่งนี้ขึ้น

“ถึงจะเพิ่งสร้างถนนหินไปได้เพียงระยะทางสั้นๆ แต่ชาวเมืองก็พอใจมาก โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกแล้วทางดินไม่กลายเป็นโคลนเหมือนทุกทีขอรับ”

“ดีจังเลยนะครับ” พอเดินไปถึงที่หน้าโรงโม่ก็เห็นว่ามีชาวเมืองมารวมตัวกันมากมาย มีโต๊ะตั้งเต็มไปหมด ส่งเสียงพูดคุยสลับร้องเพลงกันดังลั่น ดูราวกับว่ามีงานฉลองขนาดย่อมๆ กัน

“ท่านลูคัส!” เมื่อชาวเมืองหันมาเห็นเด็กหนุ่มกับเหล่าทหารก็ร้องทัก แล้วรีบรุดเข้ามาต้อนรับ

มารี เลนและทุกคนในครอบครัวก็อยู่ที่นั่นด้วย “ท่านลูคัส คิดถึงจังเลย!”

ลูคัสพูดเสียงดุ “ท่านอะไร เรียกท่านทำไม ไม่คุ้นเลย”

เลนโบกไม้โบกมือไปมา “เรียกท่านน่ะดีแล้ว ถ้าหากข้าเรียกแต่ชื่อเฉยๆ มีหวังโดนท่านลอร์ดลงโทษแน่ๆ”

“ท่านลอร์ดจะลงโทษทำไม เขาไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก”

“ท่านลูคัส เชิญนั่งก่อน พวกท่านทหารด้วย เดี๋ยวข้าจะนำเบียร์มารินให้” ชายสูงวัยที่ดูจะเป็นที่เคารพของคนในที่นั้นผายมือไปที่โต๊ะ เบื้องหน้ามีกองไฟขนาดใหญ่ให้ความอบอุ่น จากนั้นก็เรียกให้ชาวเมืองแถวนั้นนำม้าไปผูกและจัดการให้น้ำ

เด็กหนุ่มกับทหารเดินไปนั่งลงตรงที่นั่งนั้นอย่างว่าง่าย เลนกับมารีก็ตามไปอยู่ใกล้ๆ กันด้วย สักพักก็มีคนนำเบียร์ในถ้วยโลหะขนาดใหญ่มาเสิร์ฟ “มีงานฉลองอะไรกันหรือ”

“ไม่ได้ฉลองหรอกขอรับ พวกข้าก็มารวมกันที่นี่ทุกวัน มาดูกังหันน้ำโม่ข้าวขอรับ”

ลูคัสหัวเราะ “กำลังเห่อกันงั้นสินะ แล้วโม่ไปได้เยอะหรือยังล่ะ”

“เยอะมากขอรับ ข้าอยู่มาจนอายุปูนนี้ ไม่เคยเห็นโม่ใหญ่ขนาดนี้ แล้วก็การโม่ข้าวที่โม่ได้เยอะแล้วก็รวดเร็วเช่นนี้มาก่อนเลย”

“แต่ก็ยังไม่หมดใช่มั้ย”

“เกือบหมดแล้วขอรับ อีกสามวันสามคืนก็น่าจะหมด”

เด็กหนุ่มหันไปถามมารีกับครอบครัว “แล้วข้าวในยุ้ง ได้โม่หมดหรือยัง”

“หมดแล้วเจ้าค่ะ หมักเบียร์ไว้ได้อีกสิบถังเลยทีเดียว”

แววตาของชาวเมืองในที่นั้นฉายแววแห่งความสุข  เป็นผลให้ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้มอย่างพอใจ หัวใจเขาพองโตที่ได้เห็นพวกชาวเมืองมีอาหารอุดมสมบูรณ์เช่นนี้ และไม่ต้องมีความหวาดกลัวหรือวิตกกังวลกับพวกโจรร้ายอีกต่อไป

“ท่านลูคัสลองชิมขนมเจ้าค่ะ พวกข้าเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ กำลังอร่อยทีเดียว” ชาวเมืองผลัดกันนำอาหารมาจัดให้ ซึ่งเด็กหนุ่มก็ไม่ปฏิเสธน้ำใจ

“ซุปร้อนๆ เจ้าค่ะ”

“เนื้อย่างขอรับ”

นั่งไปได้ไม่นานทั้งลูคัสและพวกทหารก็อิ่มแปล้ จนต้องร้องบอกว่าไม่เอาอีกแล้ว

“เดี๋ยวเมื่อหิมะตก อากาศหนาวจนแม่น้ำเป็นน้ำแข็งเมื่อไหร่ ผมได้ยินว่าจะมีคนมาจัดการปิดประตูน้ำเอาไว้ก่อน แล้วจะเปิดให้ใช้งานกันได้อีกเมื่อหมดฤดูหนาว” เขาหันไปบอกกับชายสูงวัย

“ขอรับ จริงสิ! ท่านลูคัสสนใจจะตกปลาบนน้ำแข็งหรือไม่ ช่วงกลางฤดูหนาว ถ้าหากแม่น้ำเป็นน้ำแข็งหนาพอแล้ว พวกข้าจะเจาะรู แล้วเอาเบ็ดหย่อนลงไป ปลาใต้น้ำแข็งรสชาติดีมากเลยทีเดียวขอรับ”

นัยน์ตาสีเข้มเป็นประกาย “จริงหรือ สนใจสิ!”

รูฟรีบพูดขัด “แต่ต้องรอท่านลอร์ดอนุญาตนะขอรับ แม่น้ำก็ไม่รู้จะเป็นน้ำแข็งหรือเปล่าเลย”

เด็กหนุ่มหันไปส่งสายตาขุ่นๆ ใส่ “ผมรู้หรอกน่า!”

“ท่านลูคัส” เลนก้าวเข้ามายืนตรงหน้าโต๊ะที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่ “พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว ไปเดินเล่นริมแม่น้ำไหม จะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงโตๆ ตกน้ำด้วยนะ”

ลูคัสยิ้มรับพลางยืดแขนบิดขี้เกียจ “เอาสิ ไปเดินย่อยอาหารหน่อยก็ดี” พอลุกขึ้นปุ๊บ นายทหารอีกสี่คนก็ลุกตามปั๊บ คอยเดินติดตามเด็กหนุ่มราวกับลูกไก่เพิ่งออกจากไข่

ขาเรียวพาเจ้าของเดินไปบนทางดินริมแม่น้ำช้าๆ อากาศค่อนข้างจะเย็นเพราะแรงลมและแสงจากดวงอาทิตย์อ่อนแรงลงไปมากแล้ว หากก็คุ้มค่าที่จะอดทน เพราะภาพของดวงอาทิตย์สีเหลืองส้มที่กำลังค่อยๆ จมลงในแม่น้ำ มีเงาทอดบนพื้นน้ำระยิบระยับ ดูสวยงามดีเหลือเกิน

“อยู่ในปราสาทเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีใช่ไหม” เลนเอ่ยถามระหว่างที่เด็กหนุ่มหยุดมองดูพระอาทิตย์ตกน้ำกัน

“สบายดี แต่ก็คิดถึงที่นี่อยู่บ่อยๆ นะ”

“ถ้างั้นข้าก็สบายใจ ว่าแต่ท่านลอร์ดก็ใจดีกับท่านมากใช่ไหม”

“อื้ม ใจดีมาก” ลูคัสยิ้มกว้าง “เขารับฟังความคิดเห็นของผมด้วยนะ”

เลนถอนหายใจอย่างโล่งอก “พวกข้าโชคดีจริงๆ ที่ได้ท่านลอร์ดมาเป็นผู้ครองเมือง แล้วยังได้ท่านมาเป็นมือขวาให้ท่านลอร์ด” จากนั้นจึงหัวเราะออกมาเบาๆ “เดี๋ยวนี้น่ะ ทุกคนก็เอาแต่พูดถึงท่านกับท่านลอร์ดกันตลอดเลย”

“พูดถึงผมด้วยหรือ พูดว่ายังไงบ้างน่ะ” เด็กหนุ่มถามอย่างสนใจ

“ก็เช่นว่า เมื่อไหร่จะมีพิธีการแต่งตั้งยศให้มือขวาของท่านลอร์ดสักที พวกเราจะหาอะไรเป็นของขวัญให้ท่านกัน แล้วจะฉลองกี่วันดี”

ลูคัสหัวเราะบ้าง ก่อนจะถามต่อ “แล้วพูดถึงท่านลอร์ดว่ายังไงหรือ”

“อืม... ก็มี จะฉลองอย่างไรในงานแต่งงานของท่านลอร์ด จะฉลองกี่วัน อยากจะเห็นเลดี้ของท่านอย่างนั้นอย่างนี้ เลดี้ของท่านคงจะสูงส่งแล้วก็สวยงามเหมือนนางฟ้า บางบ้านก็เริ่มหาเสื้อผ้าไว้ใส่ในงานกันแล้ว”

รอยยิ้มของเด็กหนุ่มค่อยๆ จางลง เขาขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยพลางหลุบตาลงต่ำ “งั้นหรือ”

ก็นั่นสินะ พวกชาวเมืองก็ย่อมจะอยากเห็นความเป็นไปของผู้ปกครองเมืองเป็นธรรมดา สักวันหนึ่งท่านลอร์ดก็จะต้องมีเลดี้ มีทายาทผู้สืบทอดตำแหน่งต่อ แล้วเมื่อเวลานั้นมาถึง ตัวเขาจะเป็นเช่นไร จะทนมองภาพท่านลอร์ดกับภรรยาได้หรือ

ลูคัสทอดสายตาไกลออกไป เขาไม่ได้ฟังที่เลนพูดอีกแล้ว

“ทำไมทำหน้าเศร้าอย่างนั้นล่ะ มีอะไรหรือ” เลนจับมือนุ่มแล้วกระตุกเบาๆ

ใบหน้าน่ารักหันไปทางคนถามพลางยิ้มบาง หากก็ไม่ได้พูดอะไร

“คิดถึงบ้านใช่ไหม”

เด็กหนุ่มยังคงไม่ตอบ เพียงแค่พยักหน้าช้าๆ เท่านั้น


*~TBC~*


กรีซซซ หลังจากหายหัวไปข้ามปี ในที่ฝุดดดด คิดถึงเก๊ามั้ยยยย  :m15:

พอดีช่วงปลายปีฮัสกี้ป่วยค่ะ อากาศเปลี่ยนทีไร จับไข้ทู๊กกกที แล้วช่วงนี้ก็ติดเขียนอีกเรื่องค้างๆ คาๆ อยู่ด้วย  :mew2: ของเก่าก็อืด ของใหม่ก็ไม่ขยับ จะบ้าตรัยยย 5555555 โลภมากก็งี้

สวัสดีปีใหม่ทุกคนด้วยนะคะ แฮร่ ดีเลย์ไปหลายวัน แต่ก็ยังมีกลิ่นใหม่ๆ อยู่น้า

พูดถึงตอนนี้กันม่าง น้องลูไร่อ้อยหนีเที่ยว ต้องโดนทั่นหลอดจับถอดกุงเกงตีตูดแน่ๆ ทำไมซนแบบนี้นะ! แล้วไปอ้อยหนุ่มชาวบ้าน เดี๋ยวเจอหึงหรอก อิอิอิ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ  :mew1:

ปล. เรื่องนี้ไม่เศร้า ไม่ต้องห่วงค่ะ 555555 แฮปปี้เอนดิ้งแน่นวล~
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 05-01-2017 08:18:56
ให้ท่านลอร์ดแต่งงานกับนองลุคได้คนเดียวน้าา คนอื่นห้ามๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-01-2017 08:36:00
เดี๋ยวท่านลอร์ดกลับมาเด็กดื้อที่หนีเที่ยวจะโดนลงโทษอะไรบ้างหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 05-01-2017 08:44:58
วันเหงาๆ ของน้องลูในวันที่ไม่มีท่านลอร์ด แลัวยังจะมีเรื่องเลดี้อีก
อย่างคิดมากจ้า ยังไงท่านลอร์ดรักเดียวใจเดียวอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: AmPnie ที่ 05-01-2017 09:05:47
เลดี้หรือจะสู้มือขวาคนพิเศษ  :katai3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 05-01-2017 09:18:30
ท่านลอร์ดกลับมาไม่เจอลูคัสจะเป็นไงน้อ555

ทหารติดตามเป็นพรวนเชียว พี่น้องช่างรู้ใจกันจริ๊งงง :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 05-01-2017 09:26:27
บรรยากาศเหงาๆ จัง
ลูคัส หัวใจเข้มแข็งไว้
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-01-2017 09:40:56
รอท่านลอร์ดกลับถึงปราสาท (ที่กันนักหนาไม่ให้ไปปีกซ้ายนี่คือกลัวว่าน้องลูจะหายไปใช่มะ)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 05-01-2017 10:17:49
ฮือออ น้องลู อย่าเศร้าไปเลยน้าาา  :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 05-01-2017 10:18:52
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-01-2017 10:32:16
โถลูน้อย...ยังไงท่านลอร์ดก็เลือกลูน้อย เชื่อสิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-01-2017 10:53:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-01-2017 12:06:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 05-01-2017 13:29:40
อยู่แบบหนาวๆเหงาๆ ไม่เศร้านะเด็กน้อย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 05-01-2017 15:31:18
เรื่องอะไรจะต้องรอท่านลอร์ด ท่านลอร์ดไม่อยู่นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เที่ยวชมเมืองต่างหากหล่ะเนอะ ลูคัส ว่าแต่จะโดนท่านลอร์ดโกรธอะไรไหมเนี่ย จากมือขวาเป็นคนพิเศษของท่านลอร์ด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-01-2017 17:55:10
ลูคัส พอนึกถึงงานแต่งงานของลอร์ด
ทำไมเศร้าใจ ใจหาย เพราะอะไรกัน
เพราะลอร์ดจะมีคนสำคัญของตัวเองสินะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-01-2017 18:54:05
ผู้ปกครองไม่อยู่น้องลูเลยหนีเที่ยว
แต่บทลงโทษด้วยการถอดกางเกงตีตูดนี่น่ากลัวจุง#ปูเสื่อรอ

สวัสดีปีใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 05-01-2017 19:42:54
แค่มีลูคัสท่านลอร์ดก็ไม่ต้องการเลดี้คนไหน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 05-01-2017 20:48:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 05-01-2017 20:51:24
หนีเทียวสนุกเลยน่ะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-01-2017 20:58:49
มีความห่างกัน คิดถึงกัน >\\\\\\<
น้องลูคัสไม่ต้องเศร้านะลูก เฮียคาร์ลนี่หลงลูคัสหัวปักหัวปำ 55555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 05-01-2017 21:25:05
สู้ๆนะคะ อ้อยหายไม่เป็นไร อย่ามีมาม่ามาแล้วกัน
รักลูคัสนางน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 05-01-2017 21:43:40
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 05-01-2017 21:48:54
ไร่อ้อยแห้งเฉามาก คนตัดอ้อยไม่อยู่ คิดถึงกันละซี่
กลับมาไวๆนะท่านพี่หลอด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 05-01-2017 21:58:32
ลูคัสไม่เอาไม่เศร้าเนาะ

อันนี้ยังชิวๆ แต่ถ้าลูคัสกลับไปโลกปัจจุบันแล้วท่านลอร์ดก็ยังคงอยู่ยุคนั้น
อหหห คราวนี้น้ำหูน้ำตาเราไหลแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 05-01-2017 23:25:39
ท่านลอร์ดกลับมาลูคัสแย่แน่เลย :oo1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 06-01-2017 00:35:53
มาแย้ววววว :hao7: :hao7:
จะบอกว่าไรดีเนี่ย ที่อยากพูดก็โดนพี่ฮัสกี้ตัดหน้าไปก่อนละด้วย ฮึก ฮึก เศร้า....ว่าไปนั่น ก็นะ "ไม่มีดราม่าจริงๆชิมิฮะฮัสกี้ แบบหวา ท๋านหลอดโดนยิงตอนทำศึกสงคราม ลูคัสก็เห็นก็กรี๊ดดดดด พุ่งเข้าไปหาแล้วร้องให้โศกเศร้าเสียใจแล้วตะรอมใจตาย!!"(ดัดเสียงพูด)  :ling3: :ling3: แต่จบ ณ จุดที่ดูพระอาทิตย์ตก แล้วพี่ลูซึม บวกกับหนีออกมาเที่ยวนอกปราสาทแล้ว(โดนท่านหลอดลงโทษแล้วจับทำเครื่องรางแน่!!) สถานการณ์อย่างนี้...หรือว่า!! จะโดนลักพาตัว!!! ไปข่มขื--//โดนท่านหลอดลากไปเก็บแว้วว เอาเป็นว่าบายย :mew5: :mew5:
ปล.งานนี้กาวหมดไป 1 กระปุกแน่เยย :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-01-2017 00:48:32
งะ จะเปงไงน้ออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 06-01-2017 01:11:39
น้องลูอยากกลับบ้านแล้วนาาท่านลอร์ด มัวไปอยู่ไหนทำอะไรอยู่ หืออ  :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 06-01-2017 02:15:24
น่ะ จะทำอะไรไปไหนก็ไม่บอก เดี๋ยวให้น้องลูหนีกลับบ้านซะหรอกนิ :katai3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 06-01-2017 06:50:21
ไอ้น้องชายเลี้ยงไม่เชื่อง!

ทั่นหลอดจัดการให้อยู่หมัดเลย

อ้อ! รีบกลับมาตีก้นเด็กด้วย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 06-01-2017 21:31:32
โอ้ยยยย อ่านแล้วติด มาต่อไวๆน้าา   :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 06-01-2017 21:59:45
เสียใจกับชาวบ้านด้วยที่คงจะไม่ได้เห็นเลดี้ของทั่นหลอดนะฮะ อะคิอะคิ  :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 07-01-2017 10:12:41
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 08-01-2017 01:41:30
 :katai2-1: :katai2-1: ดัน ดัน ดัน เรามาดันโพสท์กัน ดัน ดัน ดัน ดันกันมันส์ดี :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 08-01-2017 04:21:22
ชอบลูคัสจัง เหมือนเด็กเลย แต่ฉลาดจริงจัง น่ารักดีค่ะ
คาร์ลก็เกินคาดนะ 555+
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-01-2017 12:40:36
เลดี้ที่ไหนก็สู้ลูคัสไม่ได้หรอก 55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 15 : โรเซนไฮม์][050117]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 10-01-2017 08:06:22


Chapter 16 : หึง


หลังจากการเดินทางเกือบสองวันผ่านไป ลอร์ดหนุ่มกลับมาถึงปราสาทแห่งแบร์กไฮม์ในที่สุด ตลอดการเดินทางนั้น เขานึกถึงแต่ลูคัส อยากจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะต่อว่าต่อขานมากมายขนาดไหนที่ไม่ได้พบหน้ากันนานหลายวัน อยากจะเห็นใบหน้าและรอยยิ้มน่ารักแทบแย่ เขาส่งม้าเร็วเข้าไปแจ้งข่าวที่ปราสาทล่วงหน้าเพื่อให้พวกสาวใช้ได้ตระเตรียมอาหารและห้องอาบน้ำไว้ แล้วหวังว่าเมื่อมาถึงปราสาทเด็กหนุ่มคงจะปราดออกมาหาในทันที

หากเมื่อมาถึงกลับพบแต่พวกสาวใช้กับทหารออกันอยู่ที่ห้องโถงของปราสาท ทุกคนมีสีหน้าเป็นกังวล เดินวนไปวนมากันพัลวัน

“ท่านลอร์ด” พวกทหารและสาวใช้รีบทำความเคารพ

คาร์ลขมวดคิ้ว “ลูคัสอยู่ที่ไหน”

“ไปดูกังหันน้ำที่ในเมืองขอรับ”

ลอร์ดหนุ่มชักสีหน้า รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เขารีบเดินทางกลับมาก่อนกำหนด จนไม่ได้หยุดพักเลยเช่นนี้ แทนที่เด็กหนุ่มจะอยู่รอ กลับเข้าไปในเมืองเสียอย่างนั้น ทั้งที่เขาสั่งให้อยู่รอที่นี่แท้ๆ

“ท่านลูคัสออกไปก่อนที่ม้าเร็วจะเข้ามาแจ้งขอรับ” นายทหารรีบรายงาน

“ออกไปนานแล้วหรือยัง นี่ตะวันจะตกดินแล้ว ทำไมยังไม่กลับมา”

“เอ่อ ตั้งแต่ฝึกซ้อมธนูเสร็จเมื่อบ่ายขอรับ”

คาร์ลพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ อย่างอารมณ์เสีย “ไปเตรียมม้าให้ข้า”

องครักษ์ทั้งสองเบิกตากว้าง “ท่านคาร์ลจะไปไหนขอรับ ท่านเพิ่งจะเดินทางมาถึง...”

“ข้าจะไปตามลูคัส”

“ให้ข้าไป...” เออร์วินต่อรอง หากผู้เป็นนายไม่ฟังเสียง

“ไปเตรียมม้าให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

ลอร์ดหนุ่มและองครักษ์ขี่ม้าออกไปจากปราสาทอีกครั้งด้วยความเร็วสูง วิ่งตัดสายลมเย็นเยียบตรงไปยังบ้านของครอบครัวมารี เขาพอจะเดาได้ไม่ยากนักว่าถ้าหากลูคัสจะเข้าไปในเมืองละก็ จะไปหาใคร

ไม่นานเจ้าม้าก็พาผู้เป็นนายไปถึงที่ริมแม่น้ำ ดวงอาทิตย์ใกล้จะมุดหายลงไปใต้ผืนน้ำแล้ว หากแม้ในแสงสลัวก็ยังพอมองเห็นกลุ่มคนที่ริมแม่น้ำได้

คาร์ลกระโดดลงจากหลังม้า จากนั้นจึงสาวเท้ายาวๆ ตรงไปยังที่เด็กหนุ่มยืนอยู่ทันที

ส่วนพวกทหารที่ยืนอยู่ด้านหลังลูคัสนั้น พอได้ยินเสียงฝีเท้าก็หันขวับ มือเตรียมพร้อมคว้าอาวุธ หากก็ต้องชะงักพร้อมกับเบิกตาโพลง “ท่าน!”

ลอร์ดหนุ่มไม่ใส่ใจ เขาตรงเข้าไปหาลูคัส ทว่าต้องหยุดกึกเมื่อได้ยินคำถามจากเลนเข้าเสียก่อน


“คิดถึงบ้านใช่ไหม”


เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วก้มลง ส่วนคนถามก็ยกมือขึ้นคล้ายจะโอบไหล่เพื่อปลอบโยน “เวลาเหงาก็มาหาข้า...”

คาร์ลคว้าแขนเลนไว้ทันที “เจ้าจะทำอะไร”

“ท่านลอร์ด!” เลนตกใจเสียจนหน้าซีด รีบถอยออกห่างจากลอร์ดหนุ่มทันที เขาค้อมศีรษะลงต่ำ

ลูคัสเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง “ท่านลอร์ด กลับมาแล้วหรือ”

“ข้าสั่งเจ้าไว้ว่าอย่างไร!” คาร์ลพูดเสียงดุ “ทำไมไม่อยู่รอข้าที่ปราสาท”

เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง เขาไม่นึกว่าจะทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียถึงขนาดนี้ “ผมแค่ออกมาดูกังหันน้ำ แล้วก็มาเดินเล่นที่ริมแม่น้ำนี่”

“กลับเดี๋ยวนี้” มือกร้านคว้าแขนเรียวแล้วกึ่งลากกึ่งจูงให้เดินกลับไปยังม้าที่องครักษ์หนุ่มถือบังเหียนรออยู่

“โอ๊ย ช้าๆ หน่อยก็ได้ครับ ผมเจ็บนะ!” ลูคัสยื้อแขนตัวเองไว้ ส่งผลให้อีกฝ่ายยิ่งฉุนเฉียว หากเด็กหนุ่มก็ยังรั้นหันกลับไปบอกลาเลน “เอาไว้จะมาใหม่นะ”

“ลูคัส” เลนมองตามเด็กหนุ่มไปอย่างเป็นห่วง ก็ดูท่าทางของท่านลอร์ดสิ อย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ท่านลอร์ด ปล่อยเถอะ ผมเดินเองก็ได้!”

คอนราดก้าวเข้าไปกล่อมผู้เป็นนาย “ท่านคาร์ล ใจเย็นเถอะขอรับ ลูคัสไม่ได้หนีไปที่ไหน”

หากคาร์ลอารมณ์พลุ่งพล่าน การที่เห็นเด็กหนุ่มอยู่กับชายอื่นแล้วปล่อยให้จับเนื้อต้องตัวได้ง่ายๆ เช่นนั้น ทำให้เขาโมโหยิ่งกว่าการที่อีกฝ่ายไม่อยู่รอเขาในปราสาทเสียอีก

ลอร์ดหนุ่มกระชากลากถูเด็กหนุ่มไปจนถึงม้าของตนที่เออร์วินจูงไว้ “ไปขึ้นม้า”

“แต่ผมขี่ม้ามา” ลูคัสเถียง

“ข้าบอกให้เจ้าขึ้นม้า!”

น้ำเสียงดุดันส่งผลให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก เขาหันไปสบสายตากับเออร์วิน ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำบุ้ยใบ้บอกให้รีบขึ้นม้าตามคำสั่ง เขาจึงจำใจต้องทำตาม เพื่อไม่ให้ลอร์ดหนุ่มอารมณ์เสียไปมากกว่านี้อีก

ม้าตัวเขื่องพุ่งตัววิ่งฝ่าสายลมหนาวเหน็บในยามค่ำคืนไปอย่างรวดเร็ว สองมือนุ่มขยุ้มขนแผงคอเจ้าม้าไว้แน่นพร้อมกับหลับตาปี๋ หลังจากวิ่งไปได้ครึ่งทางเด็กหนุ่มก็หมดความอดทน เขาตะโกนเสียงดัง “คุณจะรีบไปแข่งม้าที่ไหน! เดี๋ยวผมก็ตกลงไปตายพอดี! มือผมชาไปหมดแล้วนะ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นลอร์ดหนุ่มจึงกระตุกบังเหียนม้าเบาๆ เพื่อให้มันลดความเร็วลง

ลูคัสหันไปมองใบหน้าคมสันภายใต้หมวกเสื้อคลุมที่ดูนิ่งเฉย จากนั้นจึงหันกลับมามองทางพลางถอนหายใจ ลอร์ดหนุ่มกระฟัดกระเฟียดเสียจนเขารู้สึกว่าตัวเองทำความผิดมหันต์ “ขอบคุณครับ” หากอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีกจนกลับไปถึงปราสาท

ทันทีที่ไปถึง คาร์ลก็ออกคำสั่งกับพวกสาวใช้เสียงเข้ม “พาเขากลับห้องไปซะ” แล้วสาวเท้าเดินออกไป

พวกสาวใช้วิ่งหน้าตาตื่น “ท่านลอร์ดจะอาบน้ำหรือรับอาหารก่อนเจ้าคะ”

“อาบน้ำ พวกเจ้าเตรียมน้ำไวรึยัง”

“เตรียมแล้วเจ้าค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูคัสก็เดินเข้าไปคว้าแขนแกร่งไว้อย่างรวดเร็ว “ท่านลอร์ด” เด็กหนุ่มชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสบสายตากับนัยน์ตาที่ดุดันราวกับตาเสือ ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ไม่มีรอยยิ้มให้เขาเหมือนเคย เขาจึงรีบดึงมือกลับ อ้ำอึ้งเล็กน้อยแล้วพูดออกไปเสียงเบา “เอ่อ กินมื้อเย็นด้วยกันนะครับ”

คาร์ลไม่ตอบอะไร หากรีบรุดเดินจากไปด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ลูคัสจึงได้แต่ยืนนิ่งอย่างไม่เข้าใจ

หญิงสาวใช้แตะแก้มนิ่มสีระเรื่ออย่างแผ่วเบา “ท่านลูคัสรีบไปอาบน้ำเถอะเจ้าค่ะ เนื้อตัวท่านเย็นเจี๊ยบเลย เดี๋ยวจะไม่สบาย”

เด็กหนุ่มพยักหน้า “อืม ไปก็ไป”


ดวงจันทร์เจิดจริสบนท้องนภายามรัตติกาล สายลมพัดพาเอาความหนาวเย็นให้แผ่กระจายไปครอบคลุมทุกหนแห่ง พวกสาวใช้ผลัดเปลี่ยนเวรกันมาเติมฟืนในเตาผิงตามจุดต่างๆ ภายในปราสาทไว้ให้สำหรับพวกทหารเฝ้ายาม และคอยจุดเทียนให้ความสว่างในโคมไฟบนเพดานกันตั้งแต่ย่ำค่ำ

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ คาร์ลก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยความหงุดหงิดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ

“ท่านคาร์ล”

“ยังอยู่กันอีกรึ” ลอร์ดหนุ่มเอ่ยกับองครักษ์ทั้งสองคน

“ข้าบอกให้พวกสาวใช้นำมื้อเย็นของท่านไปที่ห้องของลูคัส”

“เจ้าจุ้นจ้านเกินไปแล้วนะ เออร์วิน” คาร์ลดุเสียงเข้ม

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะบอกให้พวกหล่อนนำอาหารมาให้ท่านใหม่ก็ได้ แล้วข้าจะไปกินกับลูคัสเอง”

“เจ้า!”

คอนราดยิ้มมุมปาก “ลูคัสไม่ได้พบท่านมาหลายวัน ถ้าหากไม่คิดถึงท่านคงไม่ชวนกินมื้อเย็นด้วยกัน จริงไหมขอรับ”

ลอร์ดหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ

คิดถึงเขาอย่างนั้นหรือ พอเขาไม่อยู่ก็รี่ไปที่หมู่บ้านนั่น
 
“ท่านคาร์ลจะรับอาหารที่ไหนดีขอรับ” เออร์วินทวงถามอีกครั้ง

“พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว!”

พอองครักษ์ทั้งสองออกจากห้องไปได้สักพัก คาร์ลนั่งสงบใจอยู่อีกครู่หนึ่งจึงค่อยลุกเดินออกจากห้อง เขาก้าวไปตามทางเดินในปราสาท ตรงไปยังห้องของเด็กหนุ่มที่ชั้นสองในปราสาทฝั่งขวา เมื่อไปถึงพวกทหารที่ยืนเฝ้าหน้าห้องก็ค้อมศีรษะทำความเคารพแล้วรีบเปิดประตูให้

“ท่านลอร์ด” เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลางห้องหันขวับ เสื้อตัวที่เขาสวมอยู่ยังไม่ทันได้ติดกระดุม เส้นผมก็ยังเปียกชื้น มีหยดน้ำร่วงหล่นลงมา เนื่องจากพอเขาได้ยินพวกสาวใช้บอกว่าลอร์ดหนุ่มจะมาร่วมรับประทานอาหารที่ห้องด้วยจึงรีบออกมาจากห้องอาบน้ำทันทีที่อาบเสร็จ

พวกสาวใช้ที่ถือผ้าเช็ดเช็ดตัวรายล้อมเด็กหนุ่มอยู่รีบถอยออกไปหลบตรงมุมห้อง

“ใส่เสื้อผ้าให้เสร็จเรียบร้อยเถอะ” คาร์ลเดินไปนั่งลงบนโซฟา เขาเท้าแขนลงบนที่วางแขนแล้วเบือนหน้าไปอีกทาง

เมื่อแต่งตัวให้ลูคัสเสร็จแล้วพวกสาวใช้จึงทยอยออกจากห้องไป เป็นผลให้ภายในห้องเงียบกริบลงทันที

เด็กหนุ่มเดินไปนั่งลงบนโซฟาอีกตัว “ท่านลอร์ด”

“กินสิ เดี๋ยวจะชืดเสียหมด”

มือเรียวเอื้อมไปหยิบขนมปังมากัดแล้วเคี้ยวช้าๆ ขณะที่ลอบมองลอร์ดหนุ่มไปด้วย เขาไม่ชอบบรรยากาศอึดอัดเช่นนี้เลย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ตัวว่าทำอะไรผิดไปมากมายจนอีกฝ่ายโกรธเอาขนาดนี้

สถานการณ์หลังเสร็จจากมื้ออาหารก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น เขาลอบถอนหายใจเบาๆ

“คุณไปไหนมาตั้งหลายวันหรือครับ”

“ไปธุระต่างเมือง”

นัยน์ตาสีเข้มหลุบมองต่ำ การตอบคำถามของอีกฝ่ายนั้นไม่ได้ให้ความกระจ่างใดๆ เลยแม้แต่น้อย ใจกลัวว่าจะเป็นอย่างที่กังวล บางทีลอร์ดหนุ่มอาจจะไปหาเลดี้บาธิลดา คนที่ส่งจดหมายมาเมื่อตอนนั้น

ปวดแปลบในอกอีกแล้ว

“ธุระเรื่องเลดี้บาธิลดาคนนั้นสินะครับ”

ลอร์ดหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “มันไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องใส่ใจ แต่จะว่าใช่ก็ได้”

ลูคัสชะงัก รู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งติดค้างอยู่ในลำคอ คำตอบที่ได้ยินมาส่งผลให้เขาทั้งเจ็บและจุกจนพูดไม่ออก ปลายนิ้วเย็นเยียบ ร่างกายราวกับกำลังจมลงสู่ก้นแม่น้ำที่มืดสนิทและหนาวยะเยือก แววตาใสค่อยๆ เปลี่ยนเป็นขุ่นมัว

นี่ตัวเขา... พลั้งใจให้ท่านลอร์ดไปแล้วอย่างนั้นใช่ไหม ถ้าขืนปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ความรู้สึกของเขาคงจะยิ่งถลำลึกจนถอนตัวได้ลำบาก

เขาจะต้องรีบหยุดความรู้สึกนี้ให้ได้เสียแล้ว

“เจ้าคิดอะไรอยู่”

“ผม... ผมแค่สงสัยว่าตัวเองจะได้กลับไปยังที่ที่จากมาหรือไม่”

ลอร์ดหนุ่มถามเสียงขรึม “เจ้ายังคิดเรื่องจะกลับบ้านอีกหรือ”

“ผมควรจะกลับ” ลูคัสถอนหายใจ สายตาจ้องมองไปที่พื้นห้องสักพัก ก่อนจะเปรยเบาๆ “ผมมาถึงที่ห้องหนังสือ บางทีถ้าจะกลับก็ต้อง...” เขายังพูดไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้น

“ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไปที่นั่น”

ลูคัสเงยหน้าขึ้นทันที “ท่านลอร์ด”

“ในห้องนั้นมีเอกสารสำคัญมากมาย ครั้งแรกที่เจ้าหลงเข้าไป ข้ายกโทษให้ แต่จะไม่มีอีกเป็นครั้งที่สอง”

แวบแรกเด็กหนุ่มหลงคิดไปว่าอีกฝ่ายต้องการจะรั้งเขาไว้ แต่มันก็คงเป็นได้เพียงแค่การคิดเข้าข้างตัวเองเท่านั้น แท้จริงแล้วท่านลอร์ดก็ไม่ได้ไว้ใจเขาอย่างที่เคยพูดเลย

ไม่อยากเจ็บปวดแบบนี้อีกแล้ว พอกันที

“แต่ผมไม่ใช่คนของที่นี่ อีกอย่าง ผมก็บอกคุณไปแล้วว่าเมื่อจับโจรพวกนั้นได้ ผมจะกลับ”

“ข้าไม่ให้กลับ”

“ผมไม่ใช่คนของคุณนะ” ลูคัสเถียงกลับไปทันที นัยน์ตาฉายแววแข็งกร้าว “คุณอาจจะเป็นเจ้าชีวิตของทุกคนที่นี่ แต่ไม่ใช่ผม!”

ลอร์ดหนุ่มลุกขึ้นพรวด มือหยาบคว้าคอเสื้อของอีกฝ่ายแล้วดึงเข้าหาตัว “ลูคัส! เจ้า!”

ดวงตาทั้งสองคู่ประสานกันนิ่ง หากภายในหัวใจหวั่นไหว เด็กหนุ่มเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้กับสายตาคมกริบดุดันของอีกฝ่าย เขาหลงคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป นัยน์ตาสีฟ้าคู่นี้ ไม่ได้มีความรู้สึก รัก ให้เขาเลยแม้แต่น้อย... สำหรับคนที่แบกรับตำแหน่งใหญ่โตอยู่บนบ่า ความรับผิดชอบย่อมมาก่อนสิ่งอื่นใดเสมอ ที่เขามีโอกาสได้อยู่เคียงข้างท่านลอร์ดก็เพียงเพราะว่าตัวเขาพอที่จะเป็นประโยชน์กับชาวเมืองแบร์กไฮม์ได้บ้างก็เท่านั้น อีกฝ่ายไม่ได้...


รัก


นั่นสินะ นี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาได้เข้ามาอยู่ในปราสาททุกวันนี้ ที่จริงตั้งแต่พบกันมา ตัวเขากับท่านลอร์ดก็ไม่เคยคุยกันเรื่องอื่นเลย นอกจากเรื่องที่จะเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองเท่านั้น

ที่อีกฝ่ายอยากให้อยู่ที่นี่ต่อไป... ก็เพราะยังพอใช้ประโยชน์ได้ แล้วถ้าวันหนึ่งที่ตัวเขาหมดประโยชน์ ส่วนท่านลอร์ดก็มีครอบครัวและ... เลดี้ วันนั้นตัวเขาจะเป็นเช่นไร

เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะพูดเสียงดัง “ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!”

“เจ้ากล้าสั่งข้ารึ!”

ลูคัสผลักคนตรงหน้าออกจากตัวอย่างแรง “ทำไมผมถึงจะไม่กล้า ต้องให้ผมพูดอีกกี่ครั้งว่าผมไม่ใช่คนของคุณ แล้วก็ไม่ใช่ทาส! คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมาสั่งผม!”

“ก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น!” มือหยาบขยุ้มหัวไหล่ของเด็กหนุ่มอย่างแรงแล้วเหวี่ยงไปที่เตียงนอน จากนั้นจึงขยับขึ้นไปคร่อมทับพร้อมกับกดข้อมือตรึงไว้กับผืนเตียง “ข้าจะทำให้เจ้าเป็นของข้า!”

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกโพลง เพียงเพื่อจะเก็บตัวเขาไว้ใช้ประโยชน์ จะต้องทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ “ไม่! ปล่อยผม!”

ลอร์ดหนุ่มโน้มตัวลงหมายฉกจูบริมฝีปากสีแดง ทว่าคนใต้ร่างหันหน้าหนีไปเสียก่อน เขาจึงเปลี่ยนมากดจูบตรงซอกคอพร้อมกับกระชากเสื้อของเด็กหนุ่มออกอย่างแรงจนขาดวิ่น

เมื่อมือเรียวเป็นอิสระก็ทั้งทุบทั้งผลักคนบนร่างออก แต่พอดิ้นมากเข้าอีกฝ่ายก็ใช้เศษผ้าจากเสื้อที่ฉีกออกมามัดข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน “ผมเจ็บ อย่าทำแบบนี้ ท่านลอร์ด ผมขอร้อง” ลูคัสร้องลั่น เจ็บที่หัวใจยังไม่พอ หากแต่บนร่างกายที่ลอร์ดหนุ่มเคลื่อนริมฝีปากผ่านเช่นกัน

คาร์ลขบจูบบนผิวขาวเนียนอย่างแรงราวกับจะเสือร้ายที่กำลังขย้ำเหยื่อ ยิ่งเด็กหนุ่มดิ้นสู้ เขาก็ยิ่งบันดาลโทสะ มือหยาบกดลำคอขาวตรึงไว้กับเตียง

“ฮึก...” ทั้งเจ็บและหายใจไม่ออก เขาสู้แรงท่านลอร์ดไม่ได้... ปฏิเสธความจริงตรงหน้าไม่ได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าชีวิตของเขา ตัวเขาไม่ต่างกับเป็นทาสเลยจริงๆ

หยดน้ำตาเอ่อคลอหน่วยตา ก่อนจะรินไหลผ่านผิวแก้มสีแดงเรื่อไปอย่างเชื่องช้า ลงไปหยุดอยู่ที่บนฝ่ามือที่กอบกุมลำคอระหง

สัมผัสของน้ำอุ่นๆ บนมือกร้านทำให้ลอร์ดหนุ่มชะงัก เขาค่อยๆ ดึงมือออก นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมองร่องรอยสีแดงช้ำที่เขาทิ้งไว้บนลำคออีกฝ่าย

คาร์ลพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ จากนั้นจึงลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องไป

บานประตูถูกผลักให้ปิดลงอย่างแรงส่งเสียงดังกึงก้อง ทว่าร่างโปร่งบนเตียงยังคงนิ่งไม่ขยับไปไหน มีเพียงหยดน้ำตาที่หลั่งไหลพรั่งพรู

นอนนิ่งอยู่นานเท่าไหร่เด็กหนุ่มไม่อาจรู้ได้ หากพอได้ยินเสียงเคาะประตูห้องกับเสียงของพวกสาวใช้ เขาจึงค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น

“ท่านลูคัส ท่านลูคัสเจ้าคะ เกิดอะไรขึ้น!”

“อย่าเข้ามานะ!” ลูคัสตะโกนลั่น เขาไม่อาจปล่อยให้ใครมาเห็นตัวเองในสภาพนี้ได้ ทั้งเสื้อผ้าที่ขาดวิ่น ข้อมือที่ถูกมัด แล้วยังร่องรอยบนเนื้อตัวเช่นนี้ ไม่ต่างกับถูกข่มขืนเลยแม้แต่น้อย “ผมอยากอยู่คนเดียว”

“ท่านลูคัส...”

“ผมไม่เป็นอะไร ไม่เป็นไรจริงๆ” เด็กหนุ่มพูดย้ำราวกับกำลังบอกกับตัวเองอยู่ด้วย “ผมง่วง จะนอนแล้ว... ราตรีสวัสดิ์”

เมื่อตอบไปแบบนั้นสาวใช้จึงยอมถอยกลับไปได้ ภายในห้องจึงกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง


*~TBC~*


กรีซซซซ :m15: สงสารน้องลู ไร่อ้อยเหี่ยวหมดก็คราวนี้ ฮือๆๆๆ

ทั่นหลอดนี่แย่จิม ทำอะไรไม่เคลียร์น้องก็คิดมากน่ะสิ แถมปล้ำก็ไม่เสร็จอีก ครั้งหน้าอย่าให้พลาดนะ เอ๊ย!

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามคร่า~ ชุ๊ฟ ชุ๊ฟ :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 10-01-2017 08:32:22
นี่แน่ะ ๆๆๆๆ
ตบท่านลอร์ดให้หน้าบวมเลย

ทำกับน้องอย่างนี้ได้ไง!

คิดถึงก็ไม่พูด แล้วยังมารุนแรงใส่อีก

นิสัยไม่ดี! ไม่น่ารักเลย!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-01-2017 08:48:32
ท่านลอร์ดนิสัยเสียขอให้ลูคัสงอนให้หนักเลย
ทำน้องลูเจ็บตัว เสียใจ  :beat: :beat:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-01-2017 08:59:34
ขอบคุุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-01-2017 09:24:43
ยังไม่ทันได้เป็นอะไรกันก็แสดงความโหดร้ายป่าเถื่อนออกมาซะแล้ว ขอยึดน้องลูคืนนะคะท่านลอร์ด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 10-01-2017 09:41:01
ท่านลอร์ดนะท่านลอร์ด หึงก็บอกว่าหึง หวงก็บอกว่าหวง พูดไรก็ไม่พูดแล้วแบบนี้กับลูคัส เดี๋ยวเถอะๆ ชิ!  :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-01-2017 09:55:31
โมโหเพราะหึงแบบนี้ไม่เข้าท่านะทั่นหลอด ไปจัดการความรู้สึกตัวเองก่อนดีไหม ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย
แม้แต่ขอเป็นแฟนยังไม่เคย คนรักก็เรียกไม่ได้ ยังมีหน้ามาแสดงอาการหึงหวงอีก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 10-01-2017 10:40:35
ท่านลอร์ดทำไมรุนแรงกับลูคัสจังน้องเจ็บนะเว้ย เจ็บที่ใจแล้วยังต้องมาเจ็บตัวอีก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 10-01-2017 10:42:00
ก็ท่านลอร์ดทำเหมือนมีใจให้เลย อ่อนโยน ดูแลอย่างดีลูคัสจะไม่เผลอใจได้เหรอ พรุ่งนี้เช้าคงมองหน้ากันไม่ติด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 10-01-2017 10:48:01
ท่านลอร์ดทำไมทำงี้ หึงแรงหวงแรงจริง

ลูคัสเอ้ยยย น่าสงสารจริง จะเป็นไงต่อละทีนี้ :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 10-01-2017 10:51:56
เข้าใจลูคัสเลยตอนนี้ คนที่ตัวเองรัก แต่คนที่รักไม่ได้แสดงออกว่ารัก เออ เขียนเอง งง เอง
มันเจ็บนะ ในโมเม้นท์นี้
 :m15:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 10-01-2017 11:33:35
ทั่นหลอดดดดดดด!!!!!!! มีความโมโห
อยากให้เค้าอยู แต่ทำตัวไม่ชัดเจน เข้าใจว่าเรื่องมันเป็นความลับ กับคนที่เพิ่งเจอกันไม่นาน
แต่ยังไงช่วยชัดเจนกับน้องลูหน่อยได้ไหม แล้วยังทำร้ายน้องลูอีก  :beat: :beat: :beat: :beat:
 :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 10-01-2017 11:41:56
หลอดดดดทำไมใจร้อนแบบนี้ :ling1:
ค่อยๆคุยกับน้องสิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 10-01-2017 11:48:16
ท่านลอร์ดหึงจนหน้ามืด ผลที่ออกมาเป็นไงล่ะะะะ :m16:
อยากให้ลูคัสอยู่ต่อ ก็พูดกับลูคัสดีๆสิ ใครจะไปรู้ว่าในใจท่านคิดอะไรอยู่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-01-2017 11:56:30
อาการออกซะขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกว่า รัก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-01-2017 11:57:28
ต่างก็ชอบกันแท้ๆ
แต่มีปากไว้กิน ออกคำสั่ง
กับประชดกันเท่านั้นรึไง
จะพูดอ้อนบอกกันว่าต่างก็คิดถึงกันก็ไม่มี  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ปากแข็งกันจนเป็นหินไปและ
แล้วเป็นไง ทำร้ายจิตใจ ร่างกายกันอีก
ถ้าลคัสไปแล้ว คาร์ลจะไปตามหาที่ไหน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-01-2017 12:01:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 10-01-2017 12:53:40
เนื้อหาอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนมาม่าต้มโคล้ง พอเลื่อนมาอ่านทอล์คเรางี้ขำก๊ากเลย 5555555  :m20:
จู่ๆเพลงนี้ก็ลอยเข้ามาในหัว ~ไร่อ้อยแห้งเฉาเพราะเจ้าไม่อยู่~  :laugh:
หวังว่าสองคนจะรู้ใจกันและกันเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 10-01-2017 13:02:59
โกรธ!!!! ท่านลอร์ดแล้วววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 10-01-2017 14:59:52
หลอด...หลอดนายไมใจร้ายงี้อ่ะ ค่อยๆคุยกันเด้!ไปบีบคอเขาเเบบนั้นเขาจะอยากอยู่ด้วยไหมหาาา?!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 10-01-2017 15:17:16
ยุให้ลูคัสหนีกลับบ้านซะหรอก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 10-01-2017 17:56:53
แค่การคิดไปเองของลูคัส

ทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดำด้ขยาดนี้เลย

เพิ่งรู้น้องลูคัสก็ขี้มโนเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-01-2017 19:15:53
มันจะเกินไปแล้วน้าาาาาาาาา   :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-01-2017 19:58:03
อะไรเนี่ยะ ผีเข้าท่านลอร์ดรึไง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 10-01-2017 20:57:10
อิท่านหลอดทำยังงี้กะน้องได้ไง รัก คิดถึง หึง อะไรก็อธืบายดีๆจิ เอะอะปล้ำๆ มันใช่ม้าย ทำปวดใจแล้วยังไม่สำนึก
เดวยุให้ลูคัสหนีกลับเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 10-01-2017 21:08:09
หึงหน้ามืดตา :m16:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 10-01-2017 22:20:06
เริ่มนิสัยเสียแล้วกลับบ้านเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-01-2017 22:37:51
นี่จะหึงโหดไปไหนคะท่านลอร์ด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 10-01-2017 23:40:03
ท่านลอร์ดทำเกินไปแล้วนะ!?
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 11-01-2017 00:27:08
เนอะใช่ไม่ได้เลยทั่นหลอดเนี่ย ปล้ำก็ไม่เสร็จ 55555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 11-01-2017 01:23:54
มาช้าาาา....อีกแล้วววววว....//โดนพี่ฮัสกี้ตบอีกเพียะ :beat: :beat:
รู้สึกเรื่องราวมันค่อยๆอิโรติกขึ้นเรื่อยๆยังไงไม่รู้สิ :mew5: :mew5: ท่านหลอดนี่ก็แหมมมม ขี้หึงจริงๆ แถมยังไม่รู้ใจตัวเองอีก(รึเปล่า แต่ดูท่าจะไม่) พี่ลูเค้ารู้ใจตัวเองแล้วน้า~~หมาดๆตอนนี้เลย 555 ท่านหลอดนี่ก็ ไปปล้ำพี่ลูได้งานนี้พี่ลูต้องตบ ตบค่ะ ตบให้หน้าท่านหลอดแดงเลยค่ะ  :angry2: :angry2: โทษฐานปล้ำไม่เสร็จ..อุ้ย!! ผิด 555  :o8: :o8: อาวล่ะ เดาว่าตื่นเช้ามาพี่ลูไม่กล้าออกจากห้องแน่เลยเพราะต้องปกปิดรอย(แดงจากการสะไร้คอ)และต้องการหลบหน้าท่านหลอดด้วย
งั้นพอเท่านี้ก่อนละกัน ในเฟสครั้งนี้ขอไม่เมนท์นะครับพี่ฮัสกี้ ผมง่วงงงงงงงแย้วววววววว.....ครอก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 11-01-2017 04:27:40
อิท่านหลอดดดดดดด  :fcuk:
อย่างนี้ต้องส่งน้องลูกลับบ้านนนนนน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 11-01-2017 10:19:10
 :z3: :z3: ทำไมทำกับลูคัสแบบนี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 11-01-2017 20:52:51
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ชอบบบบบบบบบ พล๊อตในฝันเลย :กอด1:

บรรยายได้ดีมากอ่ะ เอาจินตนาการมาจากไหนคะถึงเขียนได้แบบนี้ ทึ่งมากๆ :3123:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 12-01-2017 05:58:16
5555
สงสารใครดีคะเข้าใจไปกันคนละทางน้องลูคิดไปทางท่านหลอดดูดก็คิดไปทาง
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 12-01-2017 08:05:18
ฮือออออสงสารลูคัสแงงงง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 12-01-2017 15:35:01
ทั่นหลอดนิสัยเสียยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 12-01-2017 21:37:40
ทั่นหลอดหึงโหดจัง หนีกลับบ้านเลยหนูลู ชิๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-01-2017 04:02:16
เห้อออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 14-01-2017 19:57:02
ท่านคาร์ลข้ามขั้นตอนไป๊  จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้นะ จะมาเด็ดมาดอมกันอย่างนี้ไม่ได้
น้องลูคัสยิ่งคิดมากๆอยู่น๊า อย่าเพิ่งหนีท่านลอร์ดกลับบ้านนะค่า แต่โกรธให้นาน งอนให้หนักเลยค่ะ

ทีมน้องลูคัสค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 15-01-2017 22:33:16
มาดันกระทู้ยามดึกจ้าาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 16 : หึง][100117]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 16-01-2017 09:21:24


Chapter 17 : ห้องหนังสือ


ลูคัสพยายามสงบใจและค่อยๆ ใช้ฟันแกะเศษผ้าที่ผูกข้อมือไว้ออก เขาเสียเวลาอยู่นาน เพราะนอกจากปมจะแน่นมากแล้วแสงสว่างภายในห้องก็ยังริบหรี่ลงทุกที บนข้อมือมีร่องรอยสีแดงช้ำไม่ต่างกับรอยจูบบนแผ่นอก เมื่อลองสัมผัสดูก็รู้สึกเจ็บ บ่งบอกว่าเรื่องร้ายๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ความฝัน

นัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยที่เขาชอบมอง มันไม่ได้มีความรักเจือปนอยู่เลยแม้แต่น้อย ท่านลอร์ดทำได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมือง แต่ตัวเขายังเป็นมนุษย์มีหัวใจ เขาไม่อาจทนรับสภาพการเป็นทาสของใครๆ ได้

เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงแล้วหยิบผ้าคลุมสีดำผืนหนาที่สาวใช้แขวนไว้ให้ในห้องมาสวม ในใจคิดเพียงแค่ว่า ในเมื่อเข้าใกล้ห้องหนังสือไม่ได้ กลับบ้านไม่ได้ เขาก็จะต้องไปจากที่นี่ ไปที่ไหนก็ช่าง ขอให้ไกลที่สุด ไกลจากความเจ็บปวดทั้งร่างกาย... และหัวใจ

ลูคัสรอเวลาฟ้าสาง แม้จะมีหมอกหนาแต่ก็คงช่วยในการพรางตัวได้ดี และก็น่าจะยังพอมีแสงสว่างให้มองเห็นทางได้บ้าง พอถึงเวลาสายที่หมอกสลายไปเขาก็น่าจะได้ใช้ประโยชน์จากแสงอาทิตย์ในยามที่โผล่พ้นปลายฟ้าขึ้นมาด้วย ส่วนวิธีที่จะผ่านประตูกำแพงปราสาทก็ไม่น่ายากสักเท่าไหร่ เพราะช่วงหลังๆ มานี่พวกทหารไม่ได้ระแวงว่าเขาจะคิดหนีเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

แต่เขาก็กำลังจะทรยศต่อความไว้ใจของทุกคน 

“ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ”

ทันทีที่มองเห็นแสงบางเบาที่ปลายฟ้า ลูคัสก็ปีนลงไปจากระเบียงห้อง เขาค่อยๆ เดินเลียบตัวปราสาทไปยังคอกม้า เมื่อเข้าไปในคอกได้แล้วก็เลือกจูงม้าตัวที่ดูสงบนิ่งที่สุดออกมา

ส่วนวิธีที่จะผ่านประตูกำแพงปราสาทออกไปได้... ก็คงมีวิธีเดียวเท่านั้น

เด็กหนุ่มปีนขึ้นหลังม้า เตะสีข้างให้มันวิ่งออกไปพร้อมกับดึงผ้าคลุมศีรษะออก

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ พวกทหารที่เฝ้าประตูจำเขาได้

“ท่านลูคัส! จะไปไหนแต่เช้าขอรับ”

“มีธุระในเมืองน่ะ ผมได้ยินว่ามีช่างโลหะฝีมือดี เลยว่าจะไปดักพบเขาสักหน่อย”

“ทำไมไม่ให้ทหารไปพาตัวมาเล่าขอรับ”

“เมื่อคืนผมเพิ่งนึกเรื่องช่างได้น่ะเลยไม่ทันบอกใคร แต่ไม่เป็นไร ผมต้องรีบไปก่อน เพราะได้ข่าวว่าช่างเขาจะไปธุระต่างเมืองตอนสายๆ” เด็กหนุ่มตอบไปด้วยสีหน้าจริงจัง “ถอยไปได้แล้ว เปิดประตูด้วย เร็วเข้า”

“ขอรับ” พวกทหารค้อมศีรษะลง

พอผ่านประตูไปได้ ลูคัสก็เตะสีข้างม้าอย่างแรง มันวิ่งพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

หากเมื่อพวกทหารปิดประตูปราสาทไปสักพัก องครักษ์หนุ่มก็ควบม้าเข้ามาสอบถาม “เมื่อกี้ใครออกไปข้างนอกหรือ”

“ท่านลูคัสขอรับท่านคอนราด ท่านว่าจะไปธุระในเมือง”

คอนราดขมวดคิ้ว “ลูคัสน่ะรึ แปลกจริง” เขากระตุกบังเหียนม้าให้มันกลับหลังแล้วเตะสีข้างให้มันวิ่งออกไป

พอมาถึงตัวปราสาท องครักษ์หนุ่มก็กระโดดลงจากหลังม้าแล้วรีบรุดไปยังห้องนอนของผู้เป็นนาย ระหว่างทางที่เดินไปก็พบกับเออร์วินซึ่งกำลังตรวจตราความปลอดภัยในปราสาทฝั่งขวาอยู่พอดี

“รีบไปไหนน่ะคอนราด”

“ท่านคาร์ลอยู่ที่ไหน เจ้ารู้ไหม”

“ที่ห้องหนังสือ ดูเหมือนท่านจะไม่ได้กลับไปที่ห้องนอน อ้าว! คอนราด!” เออร์วินยังพูดไม่จบอีกฝ่ายก็วิ่งออกไป เขาจึงรีบวิ่งตาม “มีอะไรรึ!”

“ลูคัสออกไปข้างนอกปราสาทแล้ว!”

“ฮะ!?”

องครักษ์หนุ่มทุบบานประตูห้องสมุดอย่างแรงแล้วเปิดผางเข้าไป “ท่านคาร์ล!”

“มีอะไร” ลอร์ดหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่ง เขามานั่งสงบอารมณ์อยู่ในห้องหนังสือนี่ แล้วก็หยิบหนังสือมาอ่านจนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้   

“ท่านได้อนุญาตให้ลูคัสออกไปข้างนอกปราสาทหรือไม่”

คาร์ลยืนขึ้นพรวด “ลูคัสออกไปข้างนอกรึ!”

“ขอรับ ไปเมื่อกี้”

“ไปเอาม้าออกเดี๋ยวนี้!” ลอร์ดหนุ่มหันไปคว้าเสื้อคลุมมาสวม แล้วรีบรุดออกจากห้องไปทันที

“ข้าจะไปเตรียมทหาร”

“ไม่ต้อง! พวกเจ้าไปกับข้าก็พอ ไม่ต้องให้ใครรู้”

“ขอรับ”

บานประตูปราสาทเปิดออกกว้างอีกครั้ง ก่อนม้าทั้งสามตัวจะพุ่งทะยานออกไป ลอร์ดหนุ่มอยู่บนหลังม้าสีดำสนิท มันเป็นม้าพันธุ์ดีที่มีฝีเท้าเป็นเลิศ จึงสามารถพาเจ้าของไปได้รวดเร็วกว่าม้าอีกสองตัวที่วิ่งตามอยู่ข้างหลัง

คาร์ลกัดฟันกรอด เขานึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มจะพยศกับเขาได้ถึงเพียงนี้ “ร้ายเหลือเกินนะ เจ้าเด็กดื้อ!”

เมื่อผ่านจากแนวป่าไปแล้วก็เป็นเวลาที่แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องแสงให้ความสว่างไปทั่ว บนทางดินอัดแน่นมีรอยเท้าของม้าปรากฏอยู่มากมายจนแยกไม่ออกว่ารอยไหนเป็นของใหม่ เออร์วินจึงตะโกนถาม “ท่านคาร์ล จะไปทางไหนดีขอรับ”

“ลูคัสต้องเลือกเดินทางย้อนแสงแน่ ไปทางนั้น!” ลอร์ดหนุ่มชี้ไปทางทิศตะวันออก

“ลูคัสจะไม่ไปบ้านที่เขาเคยอยู่หรือขอรับ”

“เขารู้ว่านั่นจะเป็นที่แรกที่ข้านึกถึง” คาร์ลตอบพลางควบม้าออกไป

องครักษ์ทั้งสองควบตาม ก่อนจะนึกขึ้นได้ “แต่ท่านคาร์ล ถ้าไปทางนี้น่ะ ลูคัสก็จะเห็น...”

ลอร์ดหนุ่มไม่ตอบ เขาเตะสีข้างม้าแรงขึ้นอีก “เร็วเข้ายาสเพอร์!”

ควบม้าไปอีกสักพักก็ถึงทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ หากบนทางดินอัดแน่นไม่มีรอยเท้าของม้าเลย แม้กระทั่งรอยเท้าของคนก็ไม่มี

“ท่านคาร์ล ไม่มีรอยเท้าเลยขอรับ”

“ลูคัสต้องมาทางนี้แน่” คาร์ลหันมองไปรอบๆ “หญ้าที่แหวกเป็นทางนั่น เขาคงลงเดินจูงม้าไป” จากนั้นจึงเตะสีข้างม้าให้วิ่งออกไปพร้อมกับสังเกตพงหญ้าไปด้วย แล้วก็เป็นอย่างที่ลอร์ดหนุ่มคิด ขี่ม้าไปสักพักก็พบว่าร่องรอยในพงหญ้าหายไป แต่เขาสังเกตเห็นใบหญ้าขยับซ่อกแซ่ก

“ลูคัส! ออกมาเดี๋ยวนี้!”

ฮี้~ เสียงม้าแว่วมาจากในพง

เด็กหนุ่มในพงหญ้าสะดุ้งเฮือก ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นหิน มือที่กุมบังเหียนม้าไว้เหงื่อออกจนชุ่ม เขาจะทำอย่างไรดี โดนตามทันเสียแล้ว

ฟันซี่เล็กกัดลงบนกลีบปากสีแดง เขาได้ยินเสียงเรียกของท่านลอร์ดใกล้เข้ามาทุกที เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจปล่อยมือจากบังเหียนแล้วตบก้นม้าอย่างแรงให้มันวิ่งนำออกไป

คาร์ลส่งสัญญาณมือให้องครักษ์ทั้งสองม้าไล่ตามไป ส่วนตัวเขานั่งนิ่งรออยู่บนหลังม้า ไม่นานพงหญ้าก็เริ่มขยับอีกครั้ง ลอร์ดหนุ่มจึงควบม้าตามไปช้าๆ

สักพักลูคัสก็โผล่ศีรษะออกมาจากพงหญ้า เขาประสานสายตากับดวงตาสีฟ้าเข้าอย่างจัง “ท่านลอร์ด!” เด็กหนุ่มวิ่งกลับเข้าไปในพงหญ้าอีกครั้ง

หากครั้งนี้คาร์ลไม่ปล่อยให้เขาเล็ดลอดไปจากสายตาได้ง่ายๆ ลอร์ดหนุ่มควบม้าตามเข้าไปในพงหญ้าทันที “ลูคัส! หยุดเดี๋ยวนี้!”

“ไม่!” ลูคัสหลับหูหลับตาวิ่งไปโดยไม่สนใจว่าหญ้าจะบาดตามท่อนแขนกับใบหน้า เขารู้เพียงแค่ว่าจะไม่ยอมกลับไปกับท่านลอร์ดอีกแล้ว ทว่าจู่ๆ ก็หลุดออกจากพงหญ้าและถลาล้มไปบนทางดิน “อะ!” ที่ตรงหน้าเขานั้นองครักษ์ทั้งสองคนนั่งนิ่งอยู่บนหลังม้ารอคอยการมาของเขาอยู่แล้ว

หากไม่ใช่แค่นั้น เบื้องหลังองครักษ์ทั้งสองมีกำแพงไม้สูงที่ตรงยอดเป็นไม้แหลม เอาไว้ใช้บ่งบอกเขตแดนของเมืองแบร์กไฮม์ มีทหารเวรยามยืนประจำอยู่ตลอดแนว และที่เด่นกว่านั้น คือมีร่างไร้วิญญาณแขวนไว้เรียงรายห้อยลงมาจากไม้แหลมบนยอดกำแพง

เด็กหนุ่มชะงัก เบิกตาโพลง ก่อนจะหันไปเห็นศีรษะของใครบางคนถูกเสียบอยู่บนเสาไม้ เขาตกใจกลัวจนหน้าซีดเผือด สองขาอ่อนแรงลงเสียอย่างนั้น

“นี่... นี่มัน...”

“พวกโจรที่เข้ามารังควานเมืองแบร์กไฮม์ขอรับ” คอนราดตอบเสียงขรึม “หัวนั่นเป็นของหัวหน้าพวกมัน”

หยดน้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาสีเข้ม ในชีวิตไม่เคยคิดว่าต้องมาพบเห็นภาพน่าสยดสยองเช่นนี้มาก่อน และนี่... ตัวเขากำลังจะมีชะตากรรมเช่นเดียวกันกับพวกโจรใช่หรือไม่ ก็ในเมื่อเขา...

“ลูคัส”

น้ำเสียงคุ้นเคยส่งผลให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก ใจนึกถึงบิดามารดาและพี่ชาย พวกเขาคงจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหรี่ปิดลงอย่างจำใจต้องยอมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ปล่อยให้ความรู้สึกที่สั่งสมอยู่ในอกหลั่งไหลออกมากับน้ำตา

“จะทำอะไรก็ทำเถอะครับ”

คาร์ลควบม้าเข้าไปหาแล้วคว้าตัวเด็กหนุ่มขึ้นมาบนหลังม้าด้วย “ข้ามาพาเจ้ากลับ”

ลูคัสส่ายหน้าไปมา สองมือทั้งทุบทั้งผลักลอร์ดหนุ่มออก หากอ้อมแขนที่กอดรัดตัวเขาไว้ก็แน่นหนามากเช่นกัน “ผมไม่กลับ คุณจะฆ่าผมก็ฆ่า หรือไม่ก็ปล่อยผมไว้ที่นี่แหละ”

ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาส่งผลให้หัวใจของคาร์ลเจ็บปวดไม่แพ้กัน เขาเองก็ไม่เข้าใจความคิดของลูคัส ทั้งที่ทำเหมือนจะมีใจให้กัน แต่ทำไมจึงคิดแต่จะหนีไปจากเขา

“เจ้าไม่อยากอยู่กับข้ามากเพียงนี้เชียวหรือ”

เด็กหนุ่มชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบเสียงสั่น “ผมอยากไปจากที่นี่... อยากกลับบ้าน”

คาร์ลกำมือแน่น... นั่นสินะ เขาไม่อาจเป็นเจ้าของอีกฝ่ายได้จริงๆ หากแต่ยังจะขอรั้นพยายามรั้งเด็กหนุ่มไว้อีกสักครั้ง

มือกร้านยกขึ้นเช็ดน้ำตาบนแก้มที่มีร่องรอยใบหญ้าบาดจนเลือดซึมออกมาเล็กน้อยอย่างอ่อนโยนที่สุด “เจ็บไหม”

ทว่าลูคัสก็เอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเท่านั้น

“ลูคัส ลืมตาขึ้น” ลอร์ดหนุ่มจับคางเรียวเงยขึ้น “มองตาข้าสิ”

ในยามนี้นัยน์ตาที่เคยสดใสขุ่นมัวไปด้วยม่านน้ำตา และบนลำคอขาวก็ยังคงมีร่องรอยของฝ่ามือเขาชัดเจน

คาร์ลใช้ปลายนิ้วลูบไล้กลีบปากสีแดงอย่างอ่อนโยน คล้ายจะเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายลองคิดทบทวนดูอีกสักที จากนั้นจึงก้มลงแนบจุมพิตบนหน้าผากมนแล้วกระซิบถาม “บอกข้าสิ เจ้าต้องการอะไรกันแน่”

สองมือที่สั่นเทาและเย็นเฉียบยกขึ้นกุมฝ่ามือหยาบกร้านไว้ ขณะที่เด็กหนุ่มเอ่ยปากขอร้องด้วยเสียงที่แหบแห้ง “ผมอยากกลับบ้าน ผมคิดถึงครอบครัวของผม ได้โปรด... ถ้าคุณจะกรุณา... ให้ผมไปที่ห้องหนังสือ...”

คาร์ลเสตาหลบ หัวใจเจ็บเสียดราวกับมีหอกแหลมพุ่งเข้าแทง เขาพูดเสียงแผ่วอย่างสิ้นหวัง พลางถอนหายใจยาว “ก็ได้ ถ้าเจ้าต้องการเช่นนั้น”

ลอร์ดหนุ่มควบม้าตัวสีนิลของเขากลับไปยังปราสาท ตลอดทางเขาไม่พูดอะไรกับเด็กหนุ่มอีก หากก็รู้ว่าอีกฝ่ายเกาะเสื้อคลุมตนเองไว้แล้วสะอื้นฮักๆ ตลอดเวลา

อย่างน้อย... ลูคัสไม่ได้รังเกียจเขาก็พอแล้ว

เมื่อไปถึงปราสาท ลอร์ดหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้า แล้วอุ้มร่างโปร่งพาดบ่า เขาสาวเท้าตรงไปยังชั้นสองของปราสาทฝั่งซ้าย

“ท่านคาร์ล!” เออร์วินควบม้าตามมาถึงก็รีบรุดตามผู้เป็นนายเข้าปราสาทไป ส่วนคอนราดนำม้าตัวที่ลูคัสขี่ออกไปกลับมาด้วย เขาจึงมาถึงช้าที่สุด

“คุณจะพาผมไปไหน!” มือเรียวขยุ้มเสื้อคลุมของลอร์ดหนุ่มไว้แน่น ศีรษะโคลงเคลงไปตามจังหวะการเดินของอีกฝ่าย

“เจ้าอยากจะไปที่ห้องหนังสือไม่ใช่รึ” คาร์ลตอบก่อนจะวางเด็กหนุ่มลงที่ข้างหน้าประตูห้อง

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้าง เขายกมือขึ้นปาดทางน้ำตาบนใบหน้า “ห้องหนังสือ” ทว่าพอถึงเวลาที่ได้มายืนหน้าห้องหนังสือจริงๆ ใจเขากลับลังเลและว้าวุ่น รู้สึกอาลัยอาวรณ์อย่างประหลาด เพราะถ้าหากบานประตูนี้พาเขากลับสู่โลกปัจจุบันได้จริงอย่างที่คิด ก็หมายความว่า... เขากับท่านลอร์ดจะต้องจากกันไปชั่วนิรันดร์

ลูคัสส่ายหน้าไล่ความรู้สึกสับสนออกไป

ไม่ได้! เขาไม่ใช่คนที่นี่ เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกลับ!

ความรักก็ไม่มีทางสมหวัง ตัดใจเสีย ลูคัส!

มือนุ่มยกขึ้นจับที่จับบานประตูค้างไว้ ก่อนจะหันหน้าไปทางลอร์ดหนุ่ม “ท่านลอร์ด”

ห้ามผมสิ ถ้าหากมีใจให้กันสักนิด... แวบหนึ่งใจคิดเช่นนั้น

ดวงตาทั้งสองคู่สบประสานกันเพียงชั่วครู่ ก่อนคาร์ลจะเบือนหน้าไปอีกทาง เขาไม่ใช่เจ้าของเด็กหนุ่มอย่างที่อีกฝ่ายว่า ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจรั้งสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเองเอาไว้ได้

และในเมื่อไม่มีใจให้กัน สักวัน... เด็กหนุ่มก็คงจะหาทางไปจากเขาได้ในที่สุด ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะฉะนั้นเขาก็ควรจะตัดใจตั้งแต่ตอนนี้ สวรรค์คงต้องการส่งลูคัสมาเพื่อช่วยเขากับชาวเมืองแบร์กไฮม์ แล้วก็นำตัวกลับไป...

ไม่ได้ส่งมาเพื่อให้อีกฝ่ายเป็นของเขาเพียงลำพัง

“ไปซะ”

ลูคัสเม้มปากแน่น หัวใจไหววูบ แววตาใสไหวระริก เขาบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าต้องตัดใจ ที่บ้านนั้น บิดามารดาและพี่ชายคงจะเป็นห่วงมากแล้ว ทุกคนกำลังรอเขาอยู่ มือขาวกดก้านโยกประตูลงแล้วผลักเข้าไปสุดแรง

ได้โปรด... พาเขากลับไปสู่โลกปัจจุบันด้วยเถอะ ส่วนหัวใจของเขาจะขอทิ้งไว้เบื้องหลัง

ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าคือห้องที่เขามาถึงในคราวแรก ทุกสิ่งทุกอย่างคงเดิม ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ โซฟา เก้าอี้หรือหนังสือบนชั้น

มือเรียวเย็นเฉียบ เด็กหนุ่มประสานมันเข้าไว้ด้วยกันขณะก้าวขาเข้าไปภายในห้อง เดินวนไปรอบๆ ก่อนจะทรุดกายลงนั่งบนพื้นอย่างอ่อนแรง เขาไม่ได้กลับไปสู่โลกปัจจุบัน ห้องหนังสือแห่งนี้... ไม่ใช่บานประตูเชื่อมสองยุคอย่างที่คาดหวังไว้

“ไม่... ไม่จริง... กลับไม่ได้” เขาต้องอยู่ที่นี่ ติดอยู่ในยุคนี้ตลอดไปอย่างนั้นหรือ

“พ่อ! แม่! ไอแซ็ก!” ลูคัสร้องลั่น จากนั้นก็ร้องไห้จนตัวโยน ถึงจะคิดว่าโอกาสที่จะได้กลับบ้านอีกครั้งมีน้อยมากเหลือเกิน หากก็ยังมีความหวังเล็กน้อยอยู่ในใจเสมอ ดังนั้นเมื่อความจริงมาถึงไวเกินกว่าที่จะตั้งตัวได้ทัน เขาก็ทำใจยอมรับลำบาก

ลอร์ดหนุ่มรีบเข้าไปประคองร่างโปร่งก่อนที่อีกฝ่ายจะทรุดลงบนพื้นห้อง “ลูคัส!”

“ฮือ ผมกลับไม่ได้ กลับไม่ได้อีกแล้ว” สองมือขยุ้มเสื้อคลุมของคาร์ลเอาไว้แน่น นัยน์ตาสีเข้มมีม่านน้ำตาบดบัง “ผมจะทำยังไงดี”

คาร์ลลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยนก่อนจะโอบกอดเด็กหนุ่มไว้ เขารู้ว่ามันเป็นการเห็นแก่ตัว หากก็ห้ามไม่ให้ตัวเองรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ ไม่ได้ เขาก้มลงจูบบนศีรษะเล็กอย่างแผ่วเบาแล้วกระซิบบอก “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะลูคัส ข้าจะดูแลเจ้าเอง”

ใบหน้าของเด็กหนุ่มเปื้อนไปด้วยน้ำตา เขาส่ายหน้าไปมา “แต่อีกไม่นานคุณก็ต้องแต่งงาน แล้วผมล่ะ ผมจะอยู่กับใคร”

หัวใจของลอร์ดหนุ่มราวกับถูกลวดหนามทิ่มแทง เขากระชับอ้อมแขนแน่น “ข้าไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า ลูคัส ข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องเสียใจ”

ลูคัสพยายามปรือตาขึ้น ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวเพราะถูกน้ำตาบดบังไว้ “ผม... ผมจะเชื่อคุณได้งั้นหรือ ถ้าหากวันหนึ่งผมหมดประโยชน์ คุณยังจะสนใจผมอีกอย่างนั้นหรือ”

“ลูคัส ทำไมเจ้าคิดเช่นนั้น”

“ฮือ...” ลูคัสไม่ฟังคำพูดใดๆ อีกแล้ว เขาสะอึกสะอื้นไห้อยู่ในอ้อมแขนลอร์ดหนุ่ม ไม่นานก็หมดสติไป

เออร์วินยืนมองเหตุการณ์อยู่ทางด้านนอกห้อง คำพูดของลูคัสไม่ต่างจากการสารภาพความในใจกับลอร์ดหนุ่ม เขาเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองคนดี แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกเจ็บหน่วงในอก ไม่นานคอนราดก็วิ่งเข้ามาสมทบ ภาพตรงหน้าทำให้เขารู้สึกสงสารเด็กหนุ่มจับใจ

“ท่านคาร์ล”

คาร์ลอุ้มร่างโปร่งขึ้นแนบกาย “ข้าจะพาลูคัสกลับไปที่ห้องของข้า พวกเจ้าไปเรียกสาวใช้มา แล้วเตรียมทหารไว้เฝ้าเขาด้วย”


บนเตียงนอนขนาดใหญ่แบบสี่เสา ม่านหนาถูกรวบเก็บไว้ ร่างโปร่งถูกนำไปวางลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง ก่อนคนที่อุ้มเข้ามาจะนั่งลงเคียงข้างกัน เขาลูบสัมผัสรอยบาดของใบหญ้าที่ปรากฏขึ้นมากมายตามท่อนแขนและใบหน้าที่ยังเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ในหัวใจเจ็บแปลบขณะที่นึกย้อนไปถึงสีหน้าของเด็กหนุ่มในยามที่พยายามวิ่งหนีไปให้ไกลจากตนสุดแรง

“ทำไมเจ้าถึงอยากไปจากข้ามากถึงขนาดนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี่ ไม่รู้สึกผูกพันกับข้าบ้างสักนิดเลยหรือ”

มือหยาบค่อยๆ ถอดผ้าคลุมของเด็กหนุ่มออก ยิ่งได้พบว่าอีกฝ่ายสวมใส่เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นอยู่ข้างใน แล้วยังหนีไปในยามที่อากาศเย็นเยือกขนาดนั้นก็ยิ่งเจ็บร้าวในอก เขาพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ

สักพักพวกสาวใช้ก็ทยอยกันเข้ามาในห้อง คาร์ลปล่อยให้พวกหล่อนทำความสะอาด ใส่ยาบาดแผลและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แก่ลูคัส ส่วนตัวเขากลับไปยังห้องหนังสืออีกครั้ง

..

.....

..

นัยน์ตาสีเข้มลืมขึ้นช้าๆ เมื่อภาพเบื้องหน้าชัดเจนขึ้นก็ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะยกสองมือขึ้นกุมใบหน้า เนื่องจากรู้สึกปวดศีรษะ ตามร่างกายและดวงตา

“ท่านลูคัสเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”

เจ้าของชื่อเรียกลดมือลงพลางหันไปยังต้นเสียง ก่อนจะสังเกตว่าตัวเขาไม่ได้อยู่ในห้องของตนเอง และห้องนี้... เขาเคยมาที่ นี่ครั้งหนึ่งแล้ว

“ที่นี่คือห้องของท่านลอร์ดเจ้าค่ะ”

เพียงแค่ได้ยินชื่อหัวใจก็กระตุกวูบ สีหน้าแย่ลงไปอีก เขานึกย้อนถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ จนกระทั่งถึงตอนที่ได้เข้าไปในห้องหนังสือ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบไป

สิ่งเดียวที่จำได้แม่นและชัดเจนในใจก็คือ... เขากลับบ้านไม่ได้อีกแล้ว จะต้องลาจากบิดามารดาและพี่ชายตลอดกาล และจะต้องทนเห็น...

ท่านลอร์ดกับเลดี้ของท่านในอนาคต

แม้เจ็บปวดในอกเจียนตาย หากน้ำตาก็ไม่รินไหลออกมาอีกแล้ว เขาสิ้นหวังจนไม่อยากจะเขยื้อนกายเลยสักนิดเดียว

“ท่านลูคัสเจ้าคะ” พวกสาวใช้จ้องมองเด็กหนุ่มอย่างเป็นกังวล “ท่านลูคัส...”

หลังจากนั่งนิ่งเป็นก้อนหินอยู่นาน เด็กหนุ่มจึงถาม “ท่านลอร์ดไปไหน”

“เมื่อก่อนหน้านี้ข้าเห็นท่านคุยงานกับหัวหน้าทหารอยู่ข้างล่างเจ้าค่ะ”

“งั้นหรือ” ลูคัสค่อยๆ ก้าวลงจากเตียง หากยังไม่ทันลุกยืนพวกสาวใช้ก็ปราดเข้ามารั้งไว้

“จะไปไหนเจ้าคะ”

“ไปจากที่นี่”

“จะไปไหนเจ้าคะ ท่านเดินไหวหรือ”

“ไหวสิ” เด็กหนุ่มลุกขึ้นพรวด แต่แล้วก็เซถลา เป็นผลให้พวกสาวใช้ตกใจร้องลั่นพร้อมกับรีบเข้าไปช่วยประคองไว้

“ท่านควรจะนอนพักอีกสักหน่อย” พวกหล่อนจับให้ลูคัสเอนหลังลงนอนอีกครั้ง “ท่านออกไปข้างนอกโดยที่ใส่แค่เสื้อขาดๆ กับเสื้อคลุมเท่านั้นตั้งครึ่งวัน ข้าเกรงว่าท่านจะเป็นไข้ และเมื่อวานท่านก็ไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน เพราะงั้นดื่มซุปแล้วดื่มยาสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ จะได้มีแรง”

“ผม... ไม่อยากกิน”

“ถ้าอย่างนั้นจะรอกินพร้อมท่านลอร์ดไหมเจ้าคะ เดี๋ยวข้าไปตาม...”

“ไม่! ไม่... ไม่ดีกว่า” เด็กหนุ่มส่ายหน้ารัว “งั้นเอามาตอนนี้เลยก็ได้ ผมหิวแล้ว”

สาวพยักหน้ารับ “เจ้าค่ะ”

ที่ด้านหน้าประตูห้องนั้น เจ้าของห้องได้ยินและรับรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างภายในห้อง เขาพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ จากนั้นจึงหันหลังกลับแล้วเดินจากไป


ภายในห้องหนังสือ

ลอร์ดหนุ่มวางปากกาขนนกในมือลงแล้วยกมือขึ้นคลึงขมับ เขานั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือมาตั้งแต่เมื่อคืน ไม่อยากอยู่นิ่งเฉย ไม่อยากพักผ่อน เพราะเมื่อใดที่ว่างก็จะนึกถึงแต่ใบหน้าเปื้อนน้ำตา และคำพูดของลูคัสที่เอาแต่บอกว่าต้องการจะไปจากเขา

“ท่านคาร์ล” องครักษ์หนุ่มเคาะประตูห้องหนังสือ ก่อนจะก้าวเข้าไปภายใน

“มีอะไรหรือ เออร์วิน”

“ท่านอาเธอร์ส่งจดหมายมาบอกว่าอีกสี่วันจะมาถึงขอรับ”

สักพักเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นคอนราดที่รีบรุดเข้ามาหาผู้เป็นนาย “ท่านคาร์ล ทหารลาดตระเวนของเราพบกองทัพของท่านบาร์ดอฟแล้ว คงเดินทางจะมาถึงที่แบร์กไฮม์นี่ภายในสัปดาห์นี้ อาจจะล่าช้ากว่าท่านอาเธอร์สักสองวัน”

ลอร์ดหนุ่มชักสีหน้า “กองทัพงั้นรึ? เขาพาทหารมาด้วยเยอะไหม”

“ประมาณสามร้อยนายขอรับ”

“อืม...” คาร์ลกัดกรามแน่น

“ทหารสามร้อยนาย พวกข้ารับมือได้สบายๆ ท่านคาร์ลโปรดอย่ากังวล”

“ข้ารู้ เขาคงตั้งใจมาดูลาดเลามากกว่า” ลอร์ดหนุ่มเอนตัวพิงพนักโซฟาพลางถอนหายใจ “ส่งข่าวไปบอกไฮน์ริชกับยาคอปด้วย”

“ข้าส่งไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้วขอรับ”

เออร์วินสบถออกมาอย่างหัวเสีย “มีแผนอะไรอีกนะ!”

“ไม่เป็นไรหรอกเออร์วิน บาร์ดอฟไม่ได้งี่เง่าขนาดที่จู่ๆ ก็จะบุกมาตีแบร์กไฮม์ด้วยทหารแค่สามร้อยนายหรอก และเขายังต้องเป็นพันธมิตรกับท่านพ่ออยู่... แต่ภายในสามวันนี้ พวกเจ้าจงไปเตรียมทหารให้พร้อม เราจะต้องแสดงให้เขาเห็นว่าแบร์กไฮม์ไม่ใช่เมืองที่อ่อนแอ และข้า คาร์ล ฟรีดริช มาควิสแห่งไฮเดลแบร์ก ยังเป็นศัตรูคนที่สำคัญที่สุดของเขา”


*~TBC~*


กรี๊ดด สงสารน้องลู  :hao5: ไม่เป็นไรนะลูก ชะตาชีวิตต้องมีสามียุคโบราณก็งี้แหละ /ตบตูดปลอบใจ

ตอนนี้อึมครึมนิดหน่อยนะคะ แต่ก็แบบ...ต้องมีเหตุการณ์ให้น้องลูตัดใจเนอะ จะได้หันมาเดินหน้าจับสามีให้อยู่หมัดไรงี้ 555555555555

 :mew5: ช่วงนี้ยุ่งมั่กๆ ค่า ปั่นนิยายแล้วยังอ่านหนังสือสอบไปล่วย หมดแรงวันละหลายๆ หนเลย /อ้อน

แต่ก็ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อดทนรอติดตามน้องลูกับทั่นหลอดนะคะ รักนะ ม้วฟฟฟฟ  :กอด1:

ปล. ขอบคุณสหายสาขาดันกระทู้ด้วยค่ะ น่ารักจริงๆ ฮืออออ จะรีบปั่นนิยายมาลงไวๆ นะคะ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 16-01-2017 09:35:24
 :hao5:  :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-01-2017 09:42:55
 :mew4: :mew4: :mew4: :mew4: :mew4:
สงสารลูคัส คุยกันดีๆก่อนได้ไหมมมมมมม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 16-01-2017 09:57:07
ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้ชอบตัวเอง  :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 16-01-2017 10:09:53
ง่าาา ต่างคนต่างเข้าใจผิดอ่ะ :mew4: :mew4: สงสารท่านหลอด...ดีไหมนะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-01-2017 10:11:49
ถ้ามีคนพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป
ก็จะเข้าใจกัน ไม่เวิ่นเว้อเจ็บช้ำทั้งคู่
นี่ต่างคนต่างคิดไปเอง
นี่ขนาดลูคัส พูดให้รู้นะว่าก็คาร์ลจะแต่งงาน
เขาจะอยู่ยังไง เขาถึงอยากกลับบ้าน
ทำไมคาร์ล ไม่บอกลูคัสล่ะ ว่าเขาไม่ได้จะแต่งงาน
แล้วบอกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ลูคัสฟัง
เกลียดคาร์ลและ ไอ้พวกปากหนัก  :fire: :fire: :fire:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 16-01-2017 10:28:34
สงสารทั้งคู่ เหตุผลก็ถูกทั้งคู่ แต่ที่ไม่ถูกคือทำไมแกสองคนไม่คุยกันแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเปิดใจคุยกันง่ายๆ หล่ะเนอะ เด็กหนุ่มจากอนาคตกับท่านลอร์ดผู้มีฐานะอันสูงส่งอีก ถ้าหันไปชอบท่านองครักษ์ก็น่าจะดีอุปสรรคท่าทางจะน้อย  555+
 :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-01-2017 10:31:45
ประดังประเดกันมาใหญ่เลยทั้งศึกรบศึกรัก เฮ้อ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-01-2017 10:41:32
ยังไม่เข้าใจกันสักที
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-01-2017 10:52:16
ก็สงสารท่านลอร์ดนะ แต่ยังโกรธที่จะใช้กำลังหักหาญน้ำใจน้องลู

จงทรมานต่อไป!

น้องลูลูก...อีกเดี๋ยวสามีโบราณเขาก็ระลึกได้เองแหละว่า ใช้ความรุนแรงไปก็ไม่ได้อะไร
มันต้องอ่อนโยน ปลอบประโลม ลูบ ๆ คลำ ๆ เดี๋ยวหนูก็ใจอ่อนเองเนอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 16-01-2017 10:59:45
ตอนนี้บีบหีวใจจัง จะร้องไห้ตามเลย สงสารน้องลู และก็แอบสงสารพี่ลอร์ดเหมือนกัน ฮื่ออ :hao5:
ก็เรื่องนี้มันเข้าใจผิดกันทั้งสองคนอ่ะ พี่ลอร์ดเข้าใจน้องลูผิด น้องลูก็เข้าใจพี่ลอร์ดผิด แล้วเมื่อไหร่สองคนนี้จะเข้าใจกัน ลองปรับความเข้าใจกันใหม่ดูไหม แต่เราคิดว่าตอนนี้น้องลูก็พูดชัดแล้วนะว่าน้องมันกังวลอะไร เหลือแต่พี่ลอร์ดนี่แหละจะพูดยังไงหายน้องลูหายกังวล
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: iNcamisang ที่ 16-01-2017 11:02:53
มาม่าาา :ling3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 16-01-2017 11:08:53
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันเนี่ย ท่านลอร์ด ลูคัส

เออร์วินนายชอบลูคัสรึเปล่าเนี่ย ตัดใจๆซะ

รอตอนต่อไปปป :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 16-01-2017 11:32:21
 :เฮ้อ:
ต่างคนต่างคิด และเก็บไว้ในใจนะ
การกระทำเลยเป็นมีดมากรีดหัวใจทั้ง 2 ฝ่าย
ก็อย่างว่า จะไปบอกว่าฉันชอบเธอ ก็กะไรอยู่
 :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 16-01-2017 12:19:44
ต่างคนต่างคิดกันไปเอง เฮ้อ!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-01-2017 12:51:14
แงงงงง หน่วงงง เมื่อไหร่จะเข้าใจกันสักที
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 16-01-2017 13:35:12
หน่องลูของเจ๊  :sad4:
ฟีลลิ่งตอนอ่านเหมือนน้องเป็นโสรยาเลยค่ะ ฮ่าาา แต่ทั่นหลอดไม่โหดร้ายขนาดนั้นเนอะ

คิดถึงคุณฮัสกี้  :กอด1: ขอให้สอบได้คะแนนเยอะๆนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: dragon123 ที่ 16-01-2017 14:48:14
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-01-2017 14:57:24
มาต่อบ่อยๆน่ะครับ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 16-01-2017 16:17:19
ไม่ใช่ว่ามีคนอยู่หน่าห้องเลยกลับไม่ได้หรือน้องลู ลองอีกซักครั้งไหมถ้ากลับไม่ได้ก็จับทั่นหลอดให้อยู่ดีไหมน้องลู นะลูกนะ (ว่าที่)สามีโบราณเขาก็คิดเหมือนหนูนะลูก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 16-01-2017 19:51:18
ต่างคนต่างไม่พูด คิดไปเองทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-01-2017 20:07:02
ลูคัสจ๋าาาา ไม่เป็นไรนะ
อยู่กับท่านลอร์ดนี่แหละ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-01-2017 20:15:21
นี่มันเข้าตำราพ่อแง่แม่งอนชัดๆ ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายไม่รัก น้อยใจกันไปมา เมื่อไรจะคุยกันให้เข้าใจสักทีจ๊ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-01-2017 20:47:01
โถท่านลอร์ด ข้าศึกก็มาประชิดเมือง เด็กก็ดื้อจะหนีลูกเดียว เหนื่อยหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 16-01-2017 20:54:19
สงสารน้องลู่ ต่างคนต่างคิดไปคนละทางแบบนี้จะเข้าใจกันได้ยังไง
อิท่านหลอดนี่พูดมากกว่านี้จะตายรึไง น้องยังเด็กแถมโดนทำร้ายร่างกายมาท่านก็นะ
อยากจิยุให้หนีไปให้ได้จริงๆ แต่ก็อีกหนีไปก็คงเข้าใจผิดกันไปตลอดกาลแน่
แอบหวังว่าน้องลูจะได้กลับบ้านซะอีก กลับไม่ได้ซะงั้น
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 16-01-2017 21:56:30
 อิท่านหลอดดดดด ขนาดเออร์วินยังดูออกเลย ทำไมท่านมันทึ่มนัก ทำไมไม่พูดให้ชัด จะดูแลในฐานะอะไรล้า พูดไปซี่ ไม่ได้ดังใจเลย
#ทีมน้องลู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 16-01-2017 23:49:35
                                                 :hao5: :hao5:สงสารลูคัส :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-01-2017 00:04:49
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 17-01-2017 01:09:39
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 17-01-2017 06:20:13
ท่านคาร์ลไม่เอะใจที่น้องลูพูดบ้างเลยหรออ
ทำไมคิดแค่ว่าน้องไม่อยากอยู่กับตัวเองอย่างเดียวว :ling3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-01-2017 09:00:55
ขอบคุุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 17-01-2017 20:08:43
เฮ้อออ อ่านไปก็ได้แต่ถอนหายใจไป    :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-01-2017 10:34:18
เฮ้อ...มีไรไม่คุยกัน

ต่างคนต่างคิดกันไปเอง

ลูคัสมีไรเอะอะก็จะหนีท่าเดียว

แบบนี้มันน่าจับตีก้นนัก

ท่านลอร์ดนี่ก็ปากหนักเหลือเกิน

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-01-2017 11:42:29
อยู่เปงกำลังใจให้เค้าก่อนมั้ย อย่าพึ่งกลับ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 18-01-2017 14:07:28
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 18-01-2017 19:49:33
เริ่มเข้มข้น
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 17 : ห้องหนังสือ][160117]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 20-01-2017 14:16:40


Chapter 18 : ง้อ


ลอร์ดหนุ่มกลับไปที่ห้องนอนของเขาอีกครั้งในยามที่ท้องฟ้ามืดมิด เขาเปิดประตูเข้าไปภายในห้องที่เงียบเชียบ มีเพียงแสงไฟสลัวจากตะเกียงน้ำมันที่บนโต๊ะหนังสือกับแสงไฟริบหรี่จากเตาผิง บนเตียงนอนที่ควรจะมีร่างโปร่งนอนอยู่กลับว่างเปล่า แต่คนที่ควรจะนอนอยู่บนนั้นกลับไปนอนขดตัวอยู่บนโซฟา

คาร์ลก้าวเข้าไปหา เขาลูบศีรษะเล็กอย่างแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงจูบบนหน้าผากที่ยังอุ่นอยู่น้อยๆ เพราะพิษไข้ ลูคัสรู้ตัวว่าไม่สบายหากก็ยังไม่ยอมนอนบนเตียง แล้วยังมานอนไม่ห่มผ้าอยู่บนโซฟาเช่นนี้ ลอร์ดหนุ่มส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ

“เจ้าไม่อยากแม้แต่จะนอนบนเตียงของข้าเลยหรือ” ในขณะที่เดินไม่ไหว แต่แค่โซฟาก็ยังอุตส่าห์ขอให้ได้เดินมา นี่ถ้าหากอีกฝ่ายแข็งแรงดี คงจะพยายามไปให้ไกลจากเขามากที่สุด

ลอร์ดหนุ่มอุ้มร่างโปร่งไปวางลงบนเตียงแล้วห่มผ้าห่มให้ นิ้วหยาบไล้แก้มสีชมพูระเรื่อช้าๆ ใบหน้าในยามหลับใหลของลูคัสช่างน่ารักและไร้เดียงสา

การที่ต้องตัดใจปล่อยมือจากเด็กหนุ่มไป ทำให้เขารู้ตัวว่าหัวใจอยู่ในกำมืออีกฝ่ายเสียแล้ว


“แต่อีกไม่นานคุณก็ต้องแต่งงาน แล้วผมล่ะ ผมจะอยู่กับใคร”


คำพูดของเด็กหนุ่มราวกับมีใจให้เช่นกัน เขาไม่เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายคิดไปเช่นนั้น ทั้งที่เขาก็น่าจะแสดงออกมาชัดเจนว่าต้องการเป็นเจ้าของเด็กหนุ่มทั้งตัวและหัวใจ อยากให้ยืนเคียงข้างกันในการปกครองดูแลแบร์กไฮม์และแคว้นไฮเดลแบร์กในภายหน้า


“ผม... ผมจะเชื่อคุณได้งั้นหรือ ถ้าหากวันหนึ่งผมหมดประโยชน์ คุณยังจะสนใจผมอีกอย่างนั้นหรือ”


เพราะลูคัสคิดว่าเขาต้องการจะใช้ประโยชน์จากเด็กหนุ่มเท่านั้นหรือ ตลอดเวลาที่อยู่เคียงข้างกันมา ลูคัสเห็นว่าเขาเป็นคนที่แย่มากขนาดนั้นเชียวหรือ ลอร์ดหนุ่มถามตนเองอยู่ในใจ

อาจจะเป็นเพราะการที่เขาพยายามกักขังเหนี่ยวรั้งเด็กหนุ่มไว้ให้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา เพียงเพราะกลัวว่าจะต้องสูญเสียอีกฝ่ายไป ทว่าก็จริงอย่างที่ทุกคนเคยพูดไว้ ถ้าหากลูคัสจะไม่ยอมอยู่กับเขาแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็คงจะเหนี่ยวรั้งเด็กหนุ่มไว้ไม่ได้

แต่ถ้าหากต้องปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ...

หัวใจของลอร์ดหนุ่มเจ็บแปลบ เขาเอื้อมมือไปที่โต๊ะไม้แกะสลักตรงหัวเตียง เปิดลิ้นชักหยิบกล่องใบหนึ่งออกมาแล้วเปิดฝาออก มือหยาบหยิบสร้อยคอห้อยล็อกเกตสีเงินซึ่งด้านหน้าฝังมรกตน้ำงามเม็ดใหญ่ไว้ ด้านหลังฉลุเป็นลวดลายมังกรซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์ที่อยู่ภายในกล่องออกมาสวมให้กับเด็กหนุ่ม

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะอยากได้สิ่งนี้ไหม แต่ข้าก็อยากให้เจ้าเก็บไว้”

สิ่งแทนตัวเขา เด็กหนุ่มเป็นคนฉลาดคงจะเข้าใจความหมายของมันดี และถ้าหากลูคัสตกอยู่ในที่นั่งลำบาก อย่างน้อยตราประจำตัวของเขาคงจะช่วยเหลือเด็กหนุ่มได้

คาร์ลก้มลงจูบกลีบปากสีแดงอย่างแผ่วเบาพลางกระซิบบอก “ราตรีสวัสดิ์” จากนั้นจึงลุกขึ้นช้าๆ แล้วเดินออกจากห้องไป

องครักษ์ทั้งสองยังคงยืนพูดคุยกับทหารที่ตรงหน้าห้อง พวกเขาขมวดคิ้วอย่างงุนงงที่ผู้เป็นนายเดินกลับออกมาอีกครั้ง

“ท่านคาร์ล”

“ข้าจะไปนอนห้องข้างๆ” ผู้เป็นนายตอบแล้วเดินออกไป

คอนราดก้าวตามหลังผู้เป็นนายไปด้วย “ท่านคาร์ล ถ้าเช่นนั้นข้าจะพาลูคัสกลับไปที่ห้องของเขา”

“ไม่ต้อง” ลอร์ดหนุ่มตอบแล้วเปิดประตูเข้าห้องไป ปล่อยให้คอนราดยืนงงอยู่ที่หน้าห้อง

ใช่แล้ว ที่จริงเขาควรจะปล่อยให้ลูคัสกลับไปนอนที่ห้องตัวเอง แต่... ในช่วงเวลาที่เด็กหนุ่มยังบาดเจ็บและมีไข้ เขาก็อยากจะอยู่ใกล้ๆ กับอีกฝ่าย ถึงแม้จะมีผนังห้องกั้นกลางก็ตามที

คาร์ลเดินไปหยุดยืนที่บานหน้าต่าง เขาเปิดออกกว้างให้ลมหนาวพัดเข้ามาภายในห้องแล้วทอดสายตามองออกไปยังท้องฟ้าแห่งรัตติกาล หากความหนาวเย็นนั้นไม่ได้ช่วยทำให้ความร้อนรุ่มในหัวใจลดลงไปได้เลย


ในตอนสายของวันใหม่ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆหมอกหนาตา ต้นไม้รอบๆ ปราสาทในยามนี้เหลือเพียงแค่กิ่งก้านสีน้ำตาลเข้ม ชวนให้บรรยากาศดูเศร้าและหมองหม่น

เสียงฝีเท้าของทหารที่เดินเวรยามผ่านไปมาส่งผลให้นัยน์ตาสีเข้มค่อยๆ ลืมขึ้น ลูคัสผงกศีรษะขึ้นมองไปรอบๆ ห้องช้าๆ

เขามานอนบนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่?

เด็กหนุ่มยันตัวลุกนั่ง ก่อนจะรู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างที่คล้องอยู่บนลำคอระหง มือนิ่มประคองมันขึ้นมาพิจารณาดูอย่างระมัดระวัง “ล็อกเกต... สร้อยนี่” ตราที่จารึกอยู่เบื้องหลังล็อกเกตช่างคุ้นตา เขาจำได้ว่าเคยเห็นมันบนบันไดกลางในห้องโถง “มังกร”

ใบหน้าน่ารักหันไปมองลวดลายบนผ้าม่านและที่สลักอยู่ที่โต๊ะ เก้าอี้กับหัวเตียงซึ่งเป็นลวดลายมังกรเช่นเดียวกัน ไม่ผิดแน่แล้ว สร้อยและล็อกเกตนี้คงจะเป็นของท่านลอร์ด

ท่านลอร์ดให้เขาอย่างนั้นหรือ ของที่มีตราของท่านลอร์ดแบบนี้ น่าจะเป็นของสำคัญมากไม่ใช่หรือ

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เด็กหนุ่มสะดุ้งตัวเล็กน้อย เขาหันขวับไปที่บานประตูห้อง หัวใจเต้นสั่นรัว ใจคิดว่าคงจะเป็นเจ้าของห้องที่ไม่ได้กลับมาที่นี่ตลอดคืน คนที่เขากำลังนึกถึง...

ทว่าคนที่เปิดประตูเข้ามาคือเออร์วิน “เป็นยังไงบ้าง ลูคัส ไหนขอข้าดูแผลหน่อยสิ”

“เออร์วินน่ะเอง” เจ้าของชื่อเรียกผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา

“ผิดหวังหรือ”

“ฮะ!? ผิดหวังอะไรครับ! อื้อ! เจ็บ!” มือขาวทุบองครักษ์หนุ่มไปเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสถูกรอยบาดลึกบนท่อนแขน ก่อนจะถูกจับให้เงยหน้าขึ้น

“โชคดีที่รอยบาดบนใบหน้าไม่ลึกเท่าที่แขน เจ้าคงเอาแขนบังไว้สินะ”

ลูคัสเบือนหน้าหลบสายตา “......”

“อยากกลับห้องมั้ย ข้าจะพาไป”

“กลับห้อง?” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะหันหน้ากลับไปสบสายตากับองครักษ์หนุ่ม “ห้องผมน่ะหรือ”

“ใช่”

“กลับได้หรือ”

“ได้สิ ท่านลอร์ดเป็นคนสั่งให้ข้ามาพาเจ้ากลับไป ถ้าเจ้าต้องการ” เออร์วินถอนหายใจหนักๆ “ที่จริง... ถ้าหากเจ้าต้องการจะกลับไปที่ในเมือง ท่านก็อนุญาต”

หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ความหมายของคำพูดเหล่านั้น คือท่านลอร์ดปล่อยให้เขาเป็นอิสระแล้ว แต่ทำไมกลับไม่รู้สึกดีใจเลยล่ะ ความเจ็บเสียดในอกกลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก

ลูคัสก้มหน้าลงมองมือของตนเองที่ประสานกันไว้ ปลายนิ้วเย็นเฉียบ

“เจ้าไม่กลับไปในเมืองได้ไหม ข้าขอร้อง”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น “เออร์วิน...”

“ข้าอยากให้เจ้าอยู่ที่นี่” องครักษ์หนุ่มยิ้มบาง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น “ลูคัส ที่คอเจ้า...”

มือขาวกุมล็อกเกตไว้ทันที “นี่ผมไม่ได้ขโมยมานะ ผมตื่นมามันก็อยู่บนคอผมแล้ว!”

“ข้าเชื่อ” เออร์วินเม้มริมฝีปากแน่น เขานิ่งไปสักพักจึงเอ่ยขึ้น “รักษามันให้ดีล่ะ”

ลูคัสพยักหน้ารับ “นี่... เป็นของสำคัญมากอย่างนั้นสินะครับ”

“ใช่ มันคือเครื่องประดับของมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์”

“ไม่จริง... ทำไม...” หัวใจดวงน้อยเต้นระรัว แม้จะเข้าใจความหมายของการมอบของแทนตัวให้ หากก็ยังอยากได้ยินจากปากของเจ้าตัวให้มั่นใจ “แล้ว... แล้วท่านลอร์ด ตอนนี้... เอ่อ...”

“ทำไมหรือ”

“คือผม...” เขาสับสนไปหมดแล้ว ทั้งที่เคยอยากมีอิสระ อยากกลับไปหาครอบครัวของมาเรีย อยากกลับบ้านในยุคปัจจุบัน ทว่าในตอนนี้ ทั้งที่ก็ยังไม่กล้าสู้หน้าท่านลอร์ด แต่ก็อยากพบ... อยากพบมากเหลือเกิน อยากจะรออีกฝ่ายอยู่ที่ในห้องนี้

องครักษ์หนุ่มทอดถอนใจ สีหน้ากับท่าทางของลูคัส เขาก็พอจะดูออกว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ “เจ้าคิดดูก่อนแล้วกัน แล้วข้าจะแวะมาใหม่ พักผ่อนอีกสักนิดเถอะนะ” พูดจบก็ลุกขึ้นยืน

“ขอบคุณครับ”

“เจ้าจะไปที่ไหนในปราสาทก็ได้ แต่ต้องให้ทหารตามไปด้วย อย่าไปไหนตามลำพัง มันไม่ดีกับเจ้าและกับใครๆ ทั้งนั้น เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ” ลูคัสตอบอย่างเชื่อฟัง จากนั้นจึงยิ้มบางพร้อมกับจับแขนเสื้ออีกฝ่ายไว้ “ขอบคุณมากครับเออร์วิน”

องครักษ์หนุ่มยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็ก “ข้าต้องไปล่ะ”

เมื่อเออร์วินออกจากห้องไป เด็กหนุ่มจึงลุกเดินไปยังระเบียง จากระเบียงห้องของลอร์ดหนุ่มสามารถมองเห็นสวนและลานโล่งหน้าปราสาทไปจนถึงกำแพงปราสาท เสียงฝีเท้าม้าและทหารดังแว่วมาเป็นระยะๆ เขาเอนตัวพิงราวระเบียงอย่างสนใจ ดูเหมือนว่าพวกทหารกำลังฝึกฝนงานพิธีอะไรสักอย่าง คอนราดเองก็อยู่ที่นั่นด้วย ท่าทางดุดันขึงขังกว่าทุกที คงจะมีงานอะไรสำคัญแน่ๆ

ทหารม้าเบื้องล่างตั้งแถวสองฝั่ง เว้นที่ตรงกลางไว้ให้เดินผ่าน สักพักลอร์ดหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับเออร์วิน

พอลูคัสเห็นเข้าก็ย่อตัวหลบหลังราวระเบียง หัวใจเต้นตึกตักเพียงแค่เห็นอีกฝ่ายอยู่ไกลๆ

เดี๋ยวสิ เขาจะหลบทำไมเนี่ย ท่านลอร์ดอยู่ตั้งไกลขนาดนั้น

เด็กหนุ่มยืดตัวขึ้นช้าๆ นัยน์ตาสีเข้มจ้องไปที่ลอร์ดหนุ่มในเสื้อคลุมสีดำสนิท ส่งผลให้เส้นผมสีบลอนด์เด่นชัดขึ้น ท่วงท่าที่สง่างามในการขยับตัวและก้าวเดินสะกดสายตาเขาไว้นิ่ง

มือขาวยกขึ้นวางบนแผ่นอก แรงสะเทือนของหัวใจบ่งบอกได้ชัดเจนว่าตัวเขารู้สึกเช่นไร

“โอย อยากจะบ้า ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ” ลูคัสโอดครวญ “แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปดีเนี่ย” เขาโน้มตัวเท้าแขนกับราวระเบียง มือนุ่มประคองล็อกเกตขึ้นมาดู

“ทำไมคุณถึงให้ของสำคัญแบบนี้กับผม” เด็กหนุ่มยกล็อกเกตขึ้นแนบแก้มแล้วไล้ไปมา ถ้าหากอยากรู้คำตอบของความหมายสร้อยเส้นนี้ เขาก็ควรจะต้องรอถามเอาจากเจ้าของเอง

เขาตั้งใจว่าเมื่ออีกฝ่ายกลับมาที่ห้องในคืนนี้ เขาจะไม่หลบหน้าอีกแล้ว

หากคืนนั้นคาร์ลก็ไม่ได้กลับมาที่ห้อง ทั้งที่เด็กหนุ่มนั่งหลับๆ ตื่นๆ รออยู่ตลอดทั้งคืน

เมื่อถึงเวลาเช้าของวันใหม่ ลูคัสจึงนอนหลับเป็นตาย เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในตอนบ่าย จะออกจากห้องไปก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่าจะไม่ได้กลับเข้ามาอีก ถ้าหากต้องกลับห้องของตัวเอง ตัวเขาก็จะยิ่งห่างไกลจากท่านลอร์ดน่ะสิ

เด็กหนุ่มนั่งรับประทานอาหารที่สาวใช้สองคนนำมาส่งให้ พวกหล่อนถอยไปยืนรออยู่ที่มุมห้องเพื่อคอยรับใช้และนำถาดใส่อาหารไปเก็บ เขาชำเลืองมองพวกหล่อนอยู่หลายครั้งจึงเอ่ยถาม “เอ่อ... ท่านลอร์ดไปไหน ทำไมไม่กลับมาสักที”

“ท่านลอร์ดกำลังเตรียมงานต้อนรับแขกคนสำคัญเจ้าค่ะ อืม... เมื่อเช้าท่านเออร์วินก็แวะมาที่นี่นะเจ้าคะ แต่ท่านลูคัสหลับอยู่เจ้าค่ะ”

“แขกคนสำคัญ?” คงไม่ใช่...

“พรุ่งนี้ท่านอาจารย์ของท่านลอร์ดกับน้องชายของท่านลอร์ดทั้งสองท่านจะเดินทางมาถึงที่นี่เจ้าค่ะ”

ลูคัสถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะนึกเอะใจ ทำไมอาจารย์กับน้องชายมาเยี่ยมต้องเตรียมทหารด้วยล่ะ

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น สาวใช้อีกสองคนก้าวเข้ามาพร้อมกับห่อผ้าขนาดใหญ่ พวกหล่อนนำมาวางลงตรงหน้าเด็กหนุ่ม เล่นเอาเขาตกใจว่าตัวเองกำลังจะต้องหอบผ้าผ่อนออกจากปราสาทหรือไม่

“ท่านลอร์ดสั่งให้เตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ท่านเจ้าค่ะ สำหรับใส่ในช่วงที่แขกของท่านมาพักที่นี่”

“ให้ผม?” มือขาวรับห่อผ้ามาคลี่ออก เนื้อผ้าของพวกผ้าที่อยู่ในห่อนั้น ไม่ต้องสัมผัสก็รู้ได้ว่าเป็นผ้าที่ถูกถักทอมาเพื่อใช้ในงานสำคัญ แต่เดี๋ยวก่อน... “ผมต้องไปพบแขกของท่านลอร์ดด้วยหรือ ผมไม่ได้เป็นทหาร ไม่ได้มียศอะไรเลยนะ” แล้วที่สำคัญ เขาไม่อยากจะออกไปจากห้องนี้จนกว่าจะได้พบท่านลอร์ดด้วย

“เอาไว้เผื่อเถอะเจ้าค่ะ เพราะว่าจะมีงานเลี้ยงสำคัญด้วยนะเจ้าคะ” สาวใช้ยิ้มหวาน “เอ้า พวกเจ้าเร่งวัดตัวท่านลูคัสสิ”

“งานเลี้ยงงั้นหรือ” งานเลี้ยงในยุคโบราณ... จะเป็นยังไงนะ ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกสนใจ เขาจึงปล่อยให้พวกสาวใช้วัดตัวกันอย่างสะดวก “ทุกคนงานหนักแย่เลยสินะครับ”

“วุ่นวายกันจนแทบไม่ได้หลับได้นอนเลยเจ้าค่ะ ทั้งเตรียมอาหาร ทำความสะอาด จัดการเครื่องแก้ว จานชาม ไม่ใช่แค่พวกข้า แต่พวกทหารงานหนักกว่ามาก ไหนจะฝึกซ้อม ไหนจะต้องคอยรักษาการณ์ทุกซอกทุกมุม” ในขณะที่วัดตัวไป พวกหล่อนก็ชวนเด็กหนุ่มพูดคุยกันไปด้วย “แต่งานเลี้ยงใหญ่ครั้งนี้น่ะ สำคัญมากเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่เพื่อต้อนรับท่านอาเธอร์ อาจารย์ของท่านลอร์ด ท่านไฮน์ริชกับท่านยาคอป น้องชายของท่านลอร์ด แต่ยังมี...”

“มีใคร?”

“ท่านบาร์ดอฟน่ะสิเจ้าคะ”

ลูคัสหันขวับ “ท่านอาของท่านลอร์ดน่ะหรือ”

“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”

“เขา... จะมาเมื่อไหร่ มากับใคร”

“ข้าได้ยินมาแค่ว่าท่านบาร์ดอฟมากับกองทัพทหารที่ไม่ได้ใหญ่มากน่ะเจ้าค่ะ จะมาถึงทีหลังท่านอาจารย์กับน้องชายท่านลอร์ดสักเล็กน้อยเจ้าค่ะ”

เด็กหนุ่มผ่อนลมหายใจออกมาอีกครั้งอย่างโล่งใจ เวลานี้เขายังไม่พร้อมจะพบกับเลดี้บาธิลดาคนนั้นหรอกนะ


อีกหนึ่งคืนผ่านพ้นไปอีกโดยที่ไม่มีแม้แต่เงาของเจ้าของห้อง เด็กหนุ่มเดินหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ภายในห้อง อยากจะบุกไปหาอีกฝ่ายเสียเองแต่ก็ไม่กล้า จึงได้แต่ยืนเกาะราวระเบียงมองหาลอร์ดหนุ่มจากข้างบน

“ลูคัส มายืนบนระเบียงแบบนี้ไม่หนาวหรือ”

เสียงนั้นเรียกให้เด็กหนุ่มหันขวับ “เออร์วิน มาพอดีเลย ท่านลอร์ดน่ะ ทำไมไม่กลับมาที่ห้องเลย ผมรอท่านมาสองคืนแล้ว”

“ท่านคาร์ลงานยุ่งมากน่ะ”

“แต่... ถึงกับไม่หลับไม่นอนเลยหรือ”

“นอนสิ”

มือขาวคว้าแขนองครักษ์หนุ่มทันที “ท่านลอร์ดไปนอนที่อื่นงั้นหรือ”

“......”

เจ็บในอกอีกแล้ว... ลูคัสทิ้งตัวลงนั่งบนพื้นระเบียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี

“ลูคัส เจ้าเข้าไปนั่งข้างในสิ ไม่หนาวรึ”

หากเด็กหนุ่มก็ยังไม่ยอมขยับ “ผมจะทำยังไงดี ท่านลอร์ดจงใจไม่พบผมใช่มั้ย”

เออร์วินพ่นลมหายใจออกหนักๆ ก่อนจะย่อตัวลงข้างเด็กหนุ่มแล้วยกมือขึ้นกุมหัวไหล่อีกฝ่าย “เจ้าต้องการอะไรหรือ”

แววตาใสสั่นไหว เขา... ต้องการอะไรงั้นหรือ ที่จริงก็ชัดเจนอยู่ในใจ เขาอยากพบ อยากใกล้ชิดกับลอร์ดหนุ่มอีกครั้ง อยู่ห่างกันเพียงแค่ไม่กี่วันเขาก็คิดถึงอีกฝ่ายจนไม่เป็นอันทำอะไร

สักพักก็มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ครั้งนี้เป็นหัวหน้านายทหารกองธนูเข้ามาขอพบเด็กหนุ่ม

“หัวธนูที่ท่านลูคัสสั่งให้ทำเสร็จแล้วขอรับ ข้าเลยนำมาให้ท่านพิจารณา”

 เออร์วินก้มลงมองลูกธนูในห่อผ้า “แบบหัวสามแฉกงั้นรึ”

มือนุ่มหยิบขึ้นมาพิจารณาดู หัวธนูทรงเรียวคล้ายกระสุน แต่มีแฉกสามแฉกที่ถูกลับให้คมบางคล้ายคมมีดตามแบบที่เขาเคยบอกรูฟไปเมื่อหลายวันก่อน มันเป็นหัวธนูที่ใช้ได้ทั้งกับธนูและหน้าไม้ แล้วก็ยังน่าจะยิงทะลุเกราะได้ดีกว่าหัวธนูทั่วไป “ได้ลองยิงบ้างรึยังน่ะ”

“ยังขอรับ เพิ่งทำเสร็จวันนี้ก็รีบนำมาให้ท่านดูก่อน”

คิ้วเรียวขมวดมุ่น “ผมว่าบางทีเราอาจยังต้องปรับขนนกที่ส่วนปลาย แต่ลองเอาไปยิงดูก่อนดีกว่า”

“ข้ากำลังจะไปดูทหารซ้อมธนูกันอยู่พอดี ไปพร้อมกันเลยสิ” เออร์วินเอ่ยชวน

“อะ...” เจ้าของชื่อเรียกหันขวับ “คือผม...”

“มีอะไรรึ”

“ถ้าผมออกไป แล้วจะกลับเข้ามารอท่านลอร์ดที่นี่อีกได้มั้ย”

เออร์วินขมวดคิ้ว “เจ้า...”

“ผมยังไม่อยากกลับไปที่ปราสาทฝั่งขวา ยังไม่อยากกลับไปไหนทั้งนั้น เออร์วิน ผม...”

“ข้าเข้าใจแล้ว” องครักษ์หนุ่มถอนหายใจ ดูเหมือนว่าความคิดของเด็กหนุ่มจะมีแต่ผู้เป็นนายของเขาอยู่ตลอดเวลา “ข้าจะรายงานกับท่านคาร์ลให้ว่าเจ้าประสงค์ที่จะรอท่านอยู่ที่นี่”

ริมฝีปากสีสดคลี่ยิ้ม “ขอบคุณครับ” เป็นรอยยิ้มครั้งแรกที่ไม่ได้เจือความเศร้าไว้นับตั้งแต่วันที่เด็กหนุ่มหนีออกจากปราสาทไป หากทำให้คนที่จ้องมองต้องสะอึก

“ลูคัส”

“ครับ”

เออร์วินอ้ำอึ้ง ทั้งที่จริงเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าลูคัสรู้สึกอย่างไร “...เปล่า ไม่มีอะไร”

“งั้นเราไปทดลองยิงธนูนี่กันเถอะ เออร์วิน” เด็กหนุ่มเดินไปขอเสื้อคลุมจากพวกสาวใช้ จากนั้นจึงก้าวนำออกจากห้องไปโดยมีเออร์วินกับหัวหน้านายทหารกองธนูเดินตามไปทางด้านหลัง

ลานที่ใช้ซ้อมฝึกธนูอยู่ฝั่งขวาของปราสาท พวกทหารกำลังตั้งเป้าฟางไว้ในระยะห่างใกล้ๆ กันเพื่อใช้ในการทดสอบยิงธนู เมื่อเด็กหนุ่มไปถึงพวกเขาก็ทดลองยิงลูกธนูใหม่กันทันที เออร์วินเองก็ร่วมทดลองยิงกับทุกคนด้วย

เสียงพูดคุยปรึกษากันดังขึ้นเป็นระยะ ยิ่งเมื่อพบว่าลูกธนูที่ฝังลึกเข้าไปในเป้าฟางดึงออกได้ยากลำบาก แล้วยังทิ้งร่องรอยชำรุดไว้ชัดเจนก็ยิ่งชอบใจ

“ถ้าใช้ยิงข้าศึก แผลจะต้องใหญ่และสาหัสอย่างที่ท่านลูคัสบอกแน่ๆ ลองเอาเกราะมาเป็นเป้ายิงบ้าง”

เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกเมื่อผลลัพธ์ออกมาอย่างที่คิด หัวธนูผ่านเกราะเข้าไปได้แล้วฝังลงไปในเป้าฟาง แม้จะไม่ลึกมากแต่ก็น่าจะทำให้เกิดบาดแผลใหญ่ ทำให้เสียเลือดมากจนถึงแก่ชีวิตได้

“ท่านคาร์ลต้องพอใจมากแน่” เออร์วินตบไหล่หัวหน้านายทหารหนักๆ “ไปเชิญท่านคาร์ลมาดูสิ” จากนั้นก็หันไปยิ้มให้เด็กหนุ่ม

แก้มนิ่มซับสีเลือด หัวใจเต้นระรัวเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาอมยิ้มน้อยๆ ขณะที่ยืนรอคอยการมาถึงของท่านลอร์ด เขาจะได้พบอีกฝ่ายใกล้ๆ สักที

ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าตรงเข้ามายังบริเวณที่พวกทหารฝึกธนูกัน ลอร์ดหนุ่มที่นั่งอยู่บนหลังม้าสีดำสนิทช่างสง่างาม นัยน์ตาสีเข้มจับจ้องอย่างไม่วางตา

คาร์ลมาพร้อมกับคอนราดและหัวหน้านายทหารอีกสองนาย เมื่อมาถึงก็ก้าวลงจากม้าและยืนดูการทดสอบยิงธนูอย่างเงียบๆ

“ถ้าท่านบาร์ดอฟได้เห็นธนูที่เจาะผ่านชุดเกราะแบบนี้ได้ล่ะก็ต้องตาร้อนแน่” เออร์วินและคอนราดพูดกลั้วหัวเราะ

“ธนูนี่...” ลอร์ดหนุ่มพิจารณาลูกธนูในมือ “อย่าเพิ่งใช้งานจนกว่าบาร์ดอฟจะกลับไป เราจะเก็บไว้ให้บาร์ดอฟได้แปลกใจทีหลัง”

“ขอรับท่านลอร์ด” น้ำเสียงของหัวหน้านายทหารกองธนูผิดหวังเล็กน้อย “น่าเสียดายนะขอรับ ข้าอยากเห็นสีหน้าของท่านบาร์ดอฟเสียจริง”

“แค่ฝีมือการยิงของพวกเจ้าก็เพียงพอที่จะทำให้บาร์ดอฟระทึกใจบ้างแล้วล่ะ” คาร์ลบอกกับทหารของตน

แต่จนแล้วจนรอด ลอร์ดหนุ่มก็ยังไม่ยอมหันไปสบสายตากับดวงตากลมใส แม้ลูคัสจะพยายามยืดคอขึ้นให้อีกฝ่ายสนใจ แต่ก็ไม่เป็นผล เขากัดริมฝีปากพร้อมกับกำมือแน่น

“ถ้าอย่างนั้น ลองเปลี่ยนเป้ามั้ยล่ะครับ” ลูคัสเอ่ยขึ้น ครั้งนี้ได้ผล คาร์ลยอมหันมาทางที่เขายืนอยู่ “เป้าฟางนี่ ทำเป็นรูปคนซะ เวลาที่ยิงโดนจุดสำคัญอย่างตรงหัวกับอก คนที่มองมายังไงก็ต้องรู้สึกเสียววาบบ้างล่ะ”

“อืม เป็นความคิดที่ดี” ลอร์ดหนุ่มยิ้มบาง “ขอบใจ”

หากก็เพียงแค่นั้น คาร์ลหันกลับไปสั่งงานพวกทหาร แล้วก็เดินไปขึ้นหลังม้าสีดำตัวเดิม ก่อนจะควบมันออกไป

ลูคัสยืนนิ่ง มองตามลอร์ดหนุ่มกับคอนราดและหัวหน้านายทหารขี่ม้าไปจนสุดสายตา สีหน้าของเขาสลดลงกว่าเดิมเสียอีก

ในขณะเดียวกันเออร์วินก็มองเด็กหนุ่มอยู่อย่างรู้สึกสงสาร “ลูคัส”

เจ้าของชื่อเรียกยิ้มบาง “ผมจะกลับไปรอท่านลอร์ดที่ห้อง” จากนั้นจึงเดินนำออกไป

“ข้าจะไปส่งท่านลูคัสเองขอรับ” หัวหน้านายทหารบอกกับเออร์วินพร้อมกับวิ่งตามหลังเด็กหนุ่มไป

เมื่อกลับถึงห้อง ลูคัสก็เดินไปนั่งลงบนโซฟา ตั้งหน้าตั้งตารอคอยการกลับมาของลอร์ดหนุ่ม ตั้งแต่เมื่อยามดวงสุริยันเริ่มคล้อยลงต่ำ มุดลงใต้ปลายฟ้าไป จนกระทั่งท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมนอนธการ ทว่าไม่ว่าอย่างไรคนที่เฝ้ารอก็ยังไม่กลับมาสักที


*~TBC~*


สรุปใครง้อใครกันล่ะเนี่ย 555555 เด็กหนอเด็ก เด็กป๋าคาร์ลนี่งกนะคะ ป๋าคล้องสร้อยให้แค่นี้ หายงอลป๋าเลยอ่ะ 555555

เดี๋ยวตอนหน้าเขาก็ดีกันแล้วแหละค่ะ #สปอยล์เบาๆ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ จุ๊บฟฟ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 20-01-2017 14:46:08
เค้าจะดีกันแย้ว เย้ๆๆๆ คาดว่าน้ำตาลจะต้องถอยแน่ๆ เดะไปหายาฉีดมดเตรียมไว้ พร้อมกับหมอนสักใบไว้จิก  :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-01-2017 14:50:15
มาให้กำลังใจจ้า

ทำงานก่อนเดี๋ยวเลิกงานมาอ่าน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: Natsuki-ChaN ที่ 20-01-2017 15:01:45
ตกลงงใครง้อใคร  555555
รอเค้าคืนดีกันค่ะ เมื่อไหร่ทั่นหลอดจะพาน้องลูเข้าคอร์สดีพคิสคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 20-01-2017 15:06:07
คล้องสรอยให้แล้วทำเมินคืออัลไลค้าาา ทั่นลอร์ด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-01-2017 15:35:46
น้องลูคัสพยายามง้อท่านหลอดแต่ดูเหมือนท่านหลอดจะไม่ให้ความร่วมมือเลยนะ :hao4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 20-01-2017 15:44:21
เดี๋ยวๆพี่ลอร์ด ให้ล็อกเกตกับน้องแล้ว ของสำคัญด้วยนะ นี่ไม่ใช่ว่าง้อหรอกหรอ หรือยังไง ทำไมยังไม่สนใจน้องลูอีกเนี่ย มีความย้อนแย้งนัก :mew5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 20-01-2017 16:09:34
ท่านลอร์ดปล่อยลูคัสรอตั้งหลายคืน นิสัยไม่ดีเลยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 20-01-2017 17:08:10
 :hao7: มาแย้วววววววว :hao7:
ง้อไปเรื่อยๆๆๆๆๆ แต่เออร์วินนี่....คิดไรกับลูคัสปล่าวเนี่ย....ไปคู่กับคอนราดนู่นไป เอิ้ก เอิ้ก  :hao7: :hao7:
คราวนี้ลูกธนูเจาะแล้วยึด ต่อไปเป็นแบบเจาะ ยึด แล้วแยก กระจายเลยมั้ยครับพี่ฮัสกี้~~ :katai5: :katai5: ครั้งหน้า ตอนหน้า ง้อเสร็จก็พาไปเปิดตัวกับอาจารย์และน้องทั้ง 2 ต่อเลยสินะเนี่ย 555  :laugh: :laugh: ขอให้เลดี้บาธิลด้าไม่มาด้วยเถ้อะ ไม่งั้นได้งอนกันอีกแน่เลยเนี่ย  :laugh:
เอาเป็นว่า รอตอนต่อไปจ้า~~
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 20-01-2017 17:40:09
คิดว่าท่านคาร์ลจะง้อซะอีก ไปๆมาๆ ลูคัสง้อซะงั้น

ท่านคาร์ลรีบกลับมาหาหนูลูคัสได้แล้ววว รอหลายวันแล้วนะ อิอิ :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-01-2017 18:13:36
สรุปใครต้องง้อใครเนี่ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-01-2017 18:20:32
อืม....ผลัดกันน้อยใจ ผลัดกันง้อเนอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-01-2017 18:31:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-01-2017 18:34:06
งอนกันไป งอนกันมา
เดี๋่ยวก็เข้าใจผิดกันอีก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-01-2017 19:41:17
อะไรเนี่ยสองคนนี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 20-01-2017 19:54:17
หมั่นอิท่านหลอด คิดมาตลอดว่าตัวเองชัดเจน ๆตรงไหน มาสอนจูบนิดๆหน่อยๆแล้วจากไปนี่เรียกชัดเจนเหรอ
ทำมาคล้องสร้อยให้แล้วหลบหน้า กลายเป็นน้องต้องมาตามรอตามง้ออีก

แต่เอาเถอะใครง้อไปสำคัญขอให้ดีกันก็พอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 20-01-2017 20:56:39
ไม่ๆๆๆ น้องลูอย่าพึ่งใจอ่อนสิ
ตอนนี้หมั่นไส้อิท่านหลอดมากๆๆ จะหลบหน้าน้องทำไมเนี่ย
ยกน้องลูให้เออร์วินเลยดีมั้ย ดูเป็นคนเข้าอกเข้าใจคนอื่นดี
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 20-01-2017 21:01:22
อะไรกันนี่ เล่นเกมส์วัดใจกันเหรอ
 :ruready
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 20-01-2017 21:16:14
เด็กน้อย มัวแต่คอยเขาก็ไม่มาหรอก

บุกสิจ๊ะ! ฝ่าประตู เจอหน้าจับกดเล้ย!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 20-01-2017 21:36:06
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 20-01-2017 22:45:38
พูดกับน้องหน่อยสิหลอดด :z3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-01-2017 22:53:15
งอนกันไปงอนกันมา สงสารเออร์วินมั่งเหอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 20-01-2017 22:58:37
ไม่ต้องง้อหลอก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 21-01-2017 01:02:26
ไม่เข้าใจกันซักที ><
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 21-01-2017 15:10:26
โอ้โหม ท่านหลอดดูดน้ำคะ เล่นตัวมากๆระวังห้องสมุดจะเป็นประตูขึ้นมานะจ้ะ ขำตรงที่บอกว่าสวรรค์ไม่ได้ส่งลูคัสมาให้เป็นของเขา สวรรค์ที่ว่าก้พี่ฮัคกี้ไม่ใช่เรอะ 555555 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 21-01-2017 22:17:03
ทั่นหลอดนี่ยุ่งอะไรเบอร์นี้เดี๋ยวไล่ออกเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 21-01-2017 22:42:33
 :mew4: ตอนแรกคิดว่ารักใสๆ
แต่อึมครึมาหลายตอน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 21-01-2017 23:00:04
เมื่อไหร่มาม่าหม้อนี้จะหมดดดดดดดดด

ลูคัสจะไปง้อทำม้ายยยย ต้องให้ท่านลอร์ดง้อซิ๊!!!!!!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 21-01-2017 23:10:41
ลูคัสนิสัยน่ารักอยู่แล้ว

เอาน่า...ง้อท่านลอร์ดหน่อย

จะเป็นไรไป

ลูคัสสู้ๆ ท่านลอร์ดก็อย่าเย็นชากับ

ลูคัสนักเลย เดี๋ยวงอลต่อนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-01-2017 16:51:29
ขอบคุณ :)

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 18 : ง้อ][200117]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 26-01-2017 16:59:44


Chapter 19 : ผู้มาเยือน


ในที่สุดก็ถึงวันตามกำหนดการที่ผู้มาเยือนจะเดินทางมาถึง พวกทหารตื่นมาประจำการกันตั้งแต่เช้าตรู่ สวมใส่เสื้อผ้าเต็มยศ หมวกโลหะบนศีรษะเป็นเงามันวาบ ดูเป็นกองทัพที่น่าเกรงขามไม่ใช่น้อย ที่บนกำแพงปราสาทมีธงสองแบบปักไว้ สายลมพัดให้มันปลิวไสว ธงสีแดงซึ่งตรงขอบและลวดลายมังกรตรงกลางปักด้วยดิ้นทองอยู่ฝั่งซ้าย และธงสีน้ำเงินมีลายสิงโตปักด้วยด้ายสีขาวที่ตรงกลางอยู่ฝั่งขวา

ลูคัสนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาตัวเดิมภายในห้องของลอร์ดหนุ่ม เขาถอนหายใจหนักๆ อย่างอ่อนใจ เมื่อคืนอีกฝ่ายก็ไม่ยอมกลับมาที่ห้องอีกแล้ว ช่างเป็นการรอคอยที่ราวกับไม่มีวันสิ้นสุดเลยจริงๆ

มือเรียวประคองล็อกเกตที่วางอยู่บนแผ่นอกขึ้นดู ก่อนจะก้มลงจูบอย่างแผ่วเบา ทั้งที่ท่านลอร์ดให้ของสำคัญขนาดนี้กับเขา แต่ทำไมจึงเลี่ยงไม่มาพบกันเล่า

“คุณคิดอะไรอยู่กันแน่นะ” ลูคัสพึมพำกับตัวเอง “จะทำให้ผมวุ่นวายใจอีกแค่ไหนกัน”

พอถึงเวลาสายๆ เด็กหนุ่มได้ยินเสียงทหารจากข้างล่างตะโกนโหวกเหวก เขาจึงรีบรุดไปยังระเบียง ดูเหมือนว่าผู้มาเยือนจะมาถึงแล้ว พวกหัวหน้านายทหารจึงออกคำสั่งให้เตรียมตัวตั้งแถวต้อนรับ

ขบวนของผู้มาเยือนมีสามขบวน แต่ละขบวนนำกองทัพทหารมาด้วย ซึ่งแยกได้จากสีธงที่แตกต่างกันไป หากทุกขบวนก็มีธงสีน้ำเงินลายสิงโตสีขาวด้วย หมายความว่าทั้งสามขบวนนั้นมาจากแคว้นเดียวกัน

ลูคัสยืนรอดูทหารของแต่ละขบวนทยอยกันเข้ามาในเขตปราสาทอยู่พักใหญ่ กว่าจะหมดทั้งสามขบวนก็ยืนเสียจนเมื่อยขา ขนกันมามากมายอย่างกับว่าจะมาบุกยึดปราสาทอย่างนั้นล่ะ เขามองดูทหารตั้งแถวกันอีกสักพักก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วนั่งลงบนโซฟาตัวเดิม สักพักสาวใช้ก็ยกสำรับอาหารเช้าเข้ามาให้

แต่เพราะวันนี้มีสาวใช้เข้ามาหาเขาเพียงคนเดียว เด็กหนุ่มจึงเอ่ยถาม “อ้าว ทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะ”

“คนอื่นไปช่วยเตรียมงานเลี้ยงหมดเจ้าค่ะ ท่านลูคัสรอนานไหมเจ้าคะ”

ลูคัสส่ายหน้าไปมา “ตกลงจะมีงานเลี้ยงวันไหนน่ะ”

“อีกสองวันเจ้าค่ะ”

“ท่านบาร์ดอฟคนนั้น เขายังมาไม่ถึงใช่มั้ย ผมเห็นมีขบวนเข้ามาในปราสาทแค่สามขบวน”

“ยังเจ้าค่ะ น่าจะมาถึงวันมะรืนเจ้าค่ะ”

เด็กหนุ่มหันมองออกไปทางระเบียง พอได้ยินเสียงทหารเริ่มต้นเตรียมตัวฝึกซ้อมอาวุธกันทันทีที่มาถึงก็ขมวดคิ้ว รู้สึกแปลกใจอย่างไรชอบกล... การมาเยี่ยมของท่านอาจารย์กับน้องชายท่านลอร์ด ไม่น่าจะต้องนำทหารมามากมายถึงขนาดนี้ แล้วก็ไม่น่าต้องเร่งฝึกซ้อมกัน ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเป็นการนำกองทัพมาเพื่อเตรียมรับมือการมาถึงของบาร์ดอฟแน่ๆ

“เขาเป็นคนอันตรายมากเลยหรือ”

สาวใช้ก้มหน้าหลุบตาต่ำ หล่อนพยักหน้าช้าๆ จากนั้นจึงถอยออกไปรออยู่ที่มุมห้อง

ลูคัสจัดการอาหารของตัวเองไปช้าๆ คิดไปพลางว่าวันนี้ท่านลอร์ดคงจะยุ่งมาก อย่างไรก็คงไม่ได้กลับมาที่ห้องเป็นแน่ เพราะอย่างนั้นเขาจึงคิดว่าจะออกไปเดินเล่นในสวนแก้เบื่อสักหน่อย อยู่แต่ในห้องแบบนี้อึดอัดเหลือเกินแล้ว

“เดี๋ยวผมออกไปเดินเล่นในสวนหน่อยดีกว่า”

“เจ้าค่ะ”

เมื่อเสร็จจากมื้ออาหาร ร่างโปร่งเดินออกจากห้องไปพร้อมกับทหารหนึ่งนายและสาวใช้อีกหนึ่งคน เขาเลือกใช้บันไดที่อยู่ในปราสาทฝั่งซ้ายซึ่งเป็นบันไดสำหรับข้ารับใช้กับทหารเท่านั้น พอลงไปถึงชั้นล่างสุดก็ตรงเข้าสวนกุหลาบไปทันที

ดอกกุหลาบร่วงโรยไปจนหมดแล้ว กิ่งก้านถูกตัดแต่งจนสั้นและใช้ฟางกลบโคนต้นเพื่อเตรียมรับความหนาวจัดในฤดูเหมันต์ ต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบนอกเหลือเพียงกิ่งก้าน ทำให้สวนแห่งนี้ดูเหงาหงอย แต่จะว่าไปก็ดีอยู่เหมือนกัน เขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครเข้ามาที่สวนแห่งนี้

เด็กหนุ่มเดินไปเรื่อยๆ ตรงไปยังศาลาภายในสวน ตามเสาของศาลามีเถากุหลาบเลื้อยพัน เมื่อถึงเวลาออกดอกในฤดูร้อนคงจะสวยงามไม่ใช่น้อย คิดไปพลางก้าวเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ในศาลาแห่งนั้น

“ท่านลูคัสหนาวไหมเจ้าคะ วันนี้อากาศเย็นจังเลย”

“ก็หนาวนะ แต่ไม่เป็นไร ผมอยากสูดอากาศบริสุทธิ์บ้าง” เขาตอบพร้อมกับยืดแขนยืดขาบิดขี้เกียจ

โฮ่ง!

สาวใช้สะดุ้งเฮือก รีบหันกลับไปทางต้นเสียง “แย่แล้ว ท่านลูคัสอยู่นิ่งๆ นะเจ้าคะ!” สีหน้าของหล่อนซีดเผือด ขณะที่บอกกับนายทหาร “ไปตามใครมาช่วยสิ เร็วเข้า!”

ลูคัสลุกขึ้นพรวด “เกิดอะไรขึ้น”

“สุนัขของท่านลอร์ดเจ้าค่ะ มันดุมาก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า!”

“ฮะ! แล้วผมต้องทำยังไง”

แต่ว่าไม่ทันการเสียแล้ว สุนัขเกรทเดนตัวเบ้อเริ่มสองตัววิ่งด้วยความเร็วตรงเข้ามายังศาลาที่เด็กหนุ่มอยู่กับสาวใช้ หล่อนกรีดร้องเสียงดังลั่น

นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง “ลูห์! ลาห์!”

ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกสุนัขทั้งสองก็หยุดกึก “ลูห์ลาห์นี่นา!” เด็กหนุ่มอ้าแขนกว้าง “มานี่สิ”

เจ้าสุนัขทั้งสองตัวกระโจนเข้าสู่อ้อมกอดราวกับว่าพวกมันห่างเหินจากอีกฝ่ายมาแสนนาน พากันเลียหน้าเลียตาของเด็กหนุ่มจนเปียก

น้ำอุ่นๆ เอ่อคลอหน่วยตา แขนเรียวโอบกอดสุนัขทั้งสองตัวไว้แนบกาย “คิดถึง คิดถึงพวกแกเหลือเกิน”

“โฮ่ง” พวกมันส่ายหางรัว ร้องงี้ดง้าดเสียงแหลมราวกับจะขาดใจ สร้างความแปลกใจให้แก่ทุกคนที่ยืนอยู่ในที่แห่งนั้น สักพักพวกทหารก็มาดึงตัวพวกมันออกไป แต่ก็ยื้อกันอยู่สักพักใหญ่

“เจ้าเป็นใครกัน”

ลูคัสหันขวับไปยังต้นเสียง ซึ่งที่ตรงนั้นมีชายสูงวัยยืนอยู่ เส้นผมของเขาเป็นสีดอกเลา ริ้วรอยบนใบหน้าบ่งบอกถึงประสบการณ์มากมายที่ผ่านมาในชีวิต ดูจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็น่าจะเป็นคนที่มียศสูงไม่ใช่น้อย ที่ด้านหลังอีกฝ่ายมีทหารยืนอยู่อีกสองนาย

เด็กหนุ่มหันไปทางสาวใช้กับนายทหารที่มากับเขาอย่างงุนงง “เอ่อ...” เขายกมือขึ้นเกาศีรษะ ก่อนจะตอบกลับไป “ผมชื่อลูคัสครับ”

“รู้จักลูห์ลาห์ได้อย่างไร”

“เอ้อ... คือที่บ้านผมมีหมาสองตัว รูปร่างหน้าตาและชื่อเหมือนกัน... คงจะบังเอิญ...”

“ลูห์ลาห์เกิดในปราสาทแห่งไฮเดลแบร์ก นอกจากท่านคาร์ลแล้วข้ายังไม่เคยเห็นพวกมันแสดงท่าทีเชื่องกับใคร ช่างน่าแปลกนัก” ชายสูงวัยย่นคิ้วเข้าหากันพลางพิจารณาเด็กหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “เจ้าอยู่ที่นี่อย่างนั้นหรือ”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก “แล้วคุณ เอ๊ย ท่าน... คือ...”

ผู้มาเยือนสบสายตากับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งทำให้เด็กหนุ่มดูไร้เดียงสาอย่างไม่น่าเชื่อ และก็น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกโกรธเมื่อโดนถามย้อน

สาวใช้ขยับไปกระตุกผ้าคลุมของร่างโปร่ง “ท่านลูคัสเจ้าคะ ท่านนี้น่ะ...”

ชายสูงวัยยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร “ข้าชื่ออาเธอร์ เป็นคนที่สั่งสอนท่านคาร์ลมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย เจ้าคงเคยได้ยินเรื่องของข้ามาบ้างแล้ว”

“ครับ ท่านอาจารย์ของท่านลอร์ด”

“บอกชื่อเต็มของเจ้ามาหน่อยซิ”

ดวงตากลมใสกะพริบปริบ “ลูคัส อารามิส วินเซนต์ครับ”

“ลูคัส อารามิส ชื่อเพราะดีนะ” อาเธอร์จับจ้องอีกฝ่ายอย่างสนใจ “อืม... ลูคัส ชื่อนี้คุ้นหูเหลือเกิน”

“ก็เด็กที่พวกทหารบอกว่าระเบิดคุกจนเป็นรูเบ้อเริ่มอย่างไรกันล่ะท่านอาเธอร์”

เจ้าของชื่อเรียกหันไปทางลอร์ดหนุ่มทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาจากทางด้านหลัง “อ้าว ท่านไฮน์ริช ท่านยาคอป”

“แล้วก็เป็นคนคิดสร้างถนนกับกังหันน้ำในเมือง”

ไฮน์ริชก้าวเข้าไปยืนประจันหน้าเด็กหนุ่ม แล้วพิจารณาอีกฝ่ายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “ไม่น่าเชื่อ เจ้ายังดูเด็กมากเลยนะ”

ขาเรียวพาเจ้าของถอยหลังออกไปเองโดยอัตโนมัติ ทั้งสองคนนี้ จากชื่อเรียกที่ได้ยินเมื่อครู่ก็น่าจะเป็นน้องชายของท่านลอร์ด แต่ทำไมต้องจ้องมองกันแบบแปลกๆ ด้วย เขาไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวสักหน่อย เด็กหนุ่มหันรีหันขวาง  “เอ่อ...”

“ดูแปลกจริงอย่างที่ได้ยินมา จริงไหมท่านพี่” ยาคอปสะกิดพี่ชายเบาๆ ก่อนจะเดินวนไปทางด้านหลังของร่างโปร่ง “เจ้าอายุเท่าไหร่น่ะ”

ลูคัสหันหน้าไปทางคนถาม แล้วหันกลับมาทางอีกสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า “เอ่อ สิบเก้าครับ”

“ก็ไม่เด็กเท่าไหร่นะ ข้าได้ยินว่าเจ้ามาจากต่างแคว้น แคว้นไหนรึ”

แคว้นหรือ? เอาชื่ออะไรดีล่ะ เขามาจากมิวนิค ถ้างั้นก็... “แคว้นบาเยิร์น”

คนถามขมวดคิ้ว “ท่าจะไกลมาก ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย”

อีกคนพยักหน้าเป็นเชิงว่าเห็นด้วย “พูดจาแปลกๆ แต่คุยกันรู้เรื่องก็ยังดี”

“อืม... หน้าตารูปร่างก็ไม่ต่างจากคนปกติทั่วไปสักเท่าไหร่ พวกทหารเล่าถึงเสียข้าคิดว่าเจ้าจะมีเขาหรือมีปีก”

“แต่ก็ตัวเล็กไปหน่อย เหมือนจะกินอาหารไม่เพียงพอ แคว้นของเจ้าอดอยากรึไงน่ะ”

“ผมสีดำเหมือนถ่าน ดูสกปรกนะ แต่ก็แปลกดี”

ลูคัสชักสีหน้า ก็ทั้งสองคนนี่ จู่ๆ ก็มาวิพากย์พิจารณ์ตัวเขาตรงๆ ต่อหน้า ถึงจะเป็นผู้มียศถาบรรดาศักดิ์ แต่ทำไมช่างไร้มารยาท “พวกคุณมีปัญหาอะไรกับผมกันแน่”

“เจ้ากล้าถามย้อนข้างั้นรึ”

“ผมก็ถามอยู่นี่ไง” นัยน์ตาสีเข้มฉายแววแข็งกร้าว “พวกคุณไม่ควรพูดจาแบบนี้กับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก”

“อืม... นั่นสินะ” ยาคอปหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจ เขากับน้องชายแกล้งพูดจาไร้มารยาทใส่อีกฝ่ายเพื่อทดสอบอะไรบางอย่างเท่านั้น ก่อนจะยกมือขึ้นสัมผัสปลายคางพลางเม้มริมฝีปากไปด้วย เขาเริ่มก้าวขาเดินวนรอบตัวเด็กหนุ่มไปพร้อมๆ กับพี่ชาย “ท่านพี่คิดเหมือนข้าไหม”

ไฮน์ริชสบสายตากับน้องชายแล้วยิ้มมุมปาก ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรก็มีเสียงดุๆ ของใครบางคนดังขึ้น

คาร์ลก้าวเข้ามาสมทบพร้อมกับองครักษ์ทั้งสองของเขา “พวกเจ้ามีอะไรกับลูคัสงั้นรึ”

“ท่านลอร์ด” พอเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น เห็นลอร์ดหนุ่มเดินเข้ามา เขาก็รีบวิ่งเข้าไปหลบทางด้านหลังอีกฝ่ายทันที เพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับแขกผู้มาเยือนเอาเสียเลย

“พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเจ้าใช่ไหม” คาร์ลถามอย่างอ่อนโยน

เพียงแค่นั้นหัวใจของเด็กหนุ่มก็พองโต เขายิ้มพลางส่ายหน้า “เปล่าครับ” เมื่อลอร์ดหนุ่มหันกลับไปทางที่น้องชายและอาจารย์ยืนอยู่ เขาก็ยังคงจับจ้องแผ่นหลังกว้างเขม็ง นานเหลือเกินแล้วที่ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกันขนาดนี้ หากอีกฝ่ายก็ยังอ่อนโยนกับเขาเช่นเดิม

“ท่านพี่ล่ะก็ ทำเป็นหวงไปได้ พวกข้าก็แค่อยากรู้จักคนโปรดของท่าน”

คนโปรดงั้นหรือ

ใบหน้าน่ารักซับสีเลือดทันทีที่ได้ยิน หัวใจเต้นระรัว

คาร์ลถอนหายใจหนักๆ “มันใช่เวลารึ”

“พวกข้าเห็นว่าท่านพี่กำลังสั่งงานพวกนายกองกับนายทหารใหม่ๆ วุ่นวาย ก็เลยแยกออกมาเดินเล่นรอในสวนฆ่าเวลา”

“งั้นรึ แต่ทหารของข้าบอกว่าพวกเจ้าตามหาลูคัสเป็นพัลวัน”

น้องชายทั้งสองคนหัวเราะกลบเกลื่อน ก่อนจะกระแอมเบาๆ แล้วเปลี่ยนเป็นตีหน้าขรึม “ช่างเถอะน่าท่านพี่ เรามาคุยเรื่องสำคัญกันก่อนดีกว่า พวกข้ามีแผนดีๆ ที่ท่านจะปฏิเสธไม่ได้”

คาร์ลถอนหายใจยาว “แผนอะไร”

“ข้าว่าบาร์ดอฟต้องเซ้าซี้ท่านเรื่องเลดี้บาธิลดาแน่ๆ” ยาคอปเปิดประเด็นขึ้นก่อน ซึ่งพอเขาหันหน้าไปขอกำลังเสริมจากอาเธอร์และไฮน์ริช ทั้งสองก็พยักหน้าหงึกหงัก

“เรื่องนี้ข้าก็พูดคุยกับท่านวิลแฮล์มมาเช่นกัน ข้าคิดว่าจุดประสงค์ที่ท่านบาร์ดอฟมาในครั้งนี้ นอกจากจะมาดูลาดเลาแล้ว ก็น่าจะมาคาดคั้นท่านเรื่องเลดี้บาธิลดา”

คาร์ลส่ายหน้าไปมา “เลดี้บาธิลดางั้นรึ ข้าไม่ขาดเหลือขนาดที่จะต้องไปรับเด็กอายุไม่ถึงสิบปีมาเป็นภรรยาหรอกนะ”

“แต่ถึงท่านพี่ปฏิเสธ บาร์ดอฟก็ยังจะตื๊อท่านแน่นอน ข้ามั่นใจ ดีไม่ดีอาจจะตู่เอาว่าท่านพี่รังเกียจ ทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างสองเมือง แล้วก็ใช้เป็นข้ออ้างในการยกทัพเข้ามา”

“ใช่แล้ว เพื่อตัดปัญหานี้ไป ท่านพี่จึงจำเป็นจะต้องมีเลดี้ที่คู่ควรตลอดเวลาที่บาร์ดอฟอยู่ที่นี่” สองพี่น้องพูดเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

อาเธอร์พยักหน้าเห็นด้วย “หากท่านบาร์ดอฟเซ้าซี้จะยกลูกสาวให้ชายที่มีคู่ครองแล้ว ก็ดูจะเกินไป ข้าเห็นด้วยกับพวกท่าน”

“แล้วเลดี้ที่ว่า...” ไฮน์ริชยิ้มมุมปาก “พวกข้าก็พบคนที่เหมาะสมแล้ว” เมื่อพูดจบ เขา ยาคอปและอาเธอร์ก็พยักเพยิดหน้าไปทางด้านหลังลอร์ดหนุ่ม

คาร์ลขมวดคิ้ว จากนั้นจึงเบี่ยงตัวไปอีกทางพร้อมกับหันกลับไปสบสายตากับลูคัส “พวกเจ้าหมายถึง...”

“เด็กคนนี้นี่แหละ”

ลูคัสเบิกตาโพลง “เดี๋ยวๆ ผมเป็นผู้ชายนะ!”

“เจ้ามีใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดู แต่งเป็นหญิงก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่สำคัญคือเจ้าเป็นคนฉลาด ช่างต่อปากต่อคำอย่างไม่กลัวเกรง ไม่มีใครเหมาะที่จะรับบทเลดี้ของท่านพี่ที่จะต้องเผชิญหน้ากับบาร์ดอฟเท่าเจ้าอีกแล้ว”

“อาจจะต้องฝึกเรื่องคำพูดกับมารยาทอีกสักหน่อย แต่เรายังมีเวลา” อาเธอร์เห็นดีเห็นงามไปด้วย

“เจ้าเต้นรำเป็นไหม” ยาคอปเอ่ยถาม

“รูปร่างผอมบางเช่นนี้ เสื้อผ้ากับเครื่องประดับก็ไม่น่าจะหายาก”

เด็กหนุ่มชี้ไปที่ตัวเองแล้วถามย้ำ “พวกคุณจะให้ผมเนี่ย แต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วก็ทำตัวเป็นเลดี้เนี่ยนะ!”

“เดี๋ยวก่อน” คาร์ลก้าวเข้ามาขวางข้างหน้าเด็กหนุ่ม “ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้”

วินาทีที่ได้ยินเช่นนั้น หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ เขาจ้องมองแผ่นหลังกว้างอย่างไม่เข้าใจ ทำไมกันล่ะ เขายังไม่ได้ปฏิเสธสักหน่อย

“ทำไมเล่าท่านพี่”

ลอร์ดหนุ่มอึกอัก เขาไม่ต้องการให้ลูคัสเข้ามาพัวพัน เพราะไม่อยากให้เด็กหนุ่มเข้าใจว่าเขาต้องการเพียงแค่ผลประโยชน์จากอีกฝ่าย และอีกอย่าง... “มันอันตรายเกินไป”

“โธ่ ท่านจะห่วงไปทำไมกัน ทหารของเรามีเป็นพันๆ บาร์ดอฟจะกล้าทำอะไรร้ายกาจเชียวหรือ”

ท่านลอร์ด... เป็นห่วงเขาอย่างนั้นหรือ

“ไม่ได้ อีกอย่าง... ข้าไม่อยากให้ลูคัสทำอะไรที่เขาไม่อยากทำ”

“ท่านลอร์ด” เด็กหนุ่มพึมพำเสียงเบา เขาเริ่มจะเข้าใจลอร์ดหนุ่มบ้างแล้ว เป็นเพราะว่าเป็นห่วง และเพราะอีกฝ่ายให้อิสระกับเขาแล้วจึงไม่ต้องการบังคับอย่างนั้นสินะ

ลูคัสเอื้อมมือออกไปจับท่อนแขนแกร่งไว้ “ท่านลอร์ด ผมจะทำ”

“ไม่ได้ มันอันตราย บาร์ดอฟเป็นคนที่ร้ายกาจมาก ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าต้องเข้าไปเสี่ยง!”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นเถียง “ถ้าคุณตกอยู่ในอันตราย ผมก็จะเผชิญหน้ากับอันตรายนั่นไปพร้อมกับคุณ” ก่อนริมฝีปากสีแดงจะคลี่ยิ้มบาง “อีกอย่าง คุณคงไม่ปล่อยให้มีอะไรเกิดขึ้นกับผมได้หรอกใช่มั้ย”

“เจ้า...” คาร์ลราวกับถูกรอยยิ้มน่ารักนั้นตรึงไว้ชั่วครู่ ก่อนจะเบือนหน้าหนี

“เขาตกลงใจแล้ว ท่านพี่ก็อย่าขัดเขาเลยน่ะ” ไฮน์ริชสรุปเอาเองเสร็จสรรพ จากนั้นจึงส่งยิ้มให้กับเด็กหนุ่ม เขาเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกมือขึ้น

ลูคัสมองฝ่ามือนั้นอย่างงงๆ เขาส่งมือให้ไฮน์ริชเพราะเข้าใจว่าจะเชคแฮนด์กัน ทว่าอีกฝ่ายกลับประคองมือเขาขึ้นแล้วโน้มใบหน้าลงมาแนบจูบ

“เพื่อเป็นการขอโทษที่ข้าพูดจาไม่ดีกับเจ้าไป ข้าขอสัญญาว่าในสองวันนี้ เจ้าจะกลายเป็นเลดี้ที่เหมาะสมกับท่านพี่ที่สุด”

“เห!” เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง

“ไฮน์ริช!” คาร์ลดุน้องชายเสียงดัง หากไม่ทันได้พูดอะไรต่อ น้องชายทั้งสองก็กึ่งลากกึ่งจูงเด็กหนุ่มเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

อาเธอร์หัวเราะ “ข้าไม่ได้เห็นความวุ่นวายเช่นนี้มานานเหลือเกินแล้ว ท่านคาร์ลไม่ต้องกังวลไป ข้าจะช่วยดูแลลูคัสให้อีกแรง แต่ข้าว่าตอนนี้เข้าไปข้างในกันก่อนเถิด ข้าต้องการปรึกษาท่านเรื่องงานเลี้ยงสักหน่อย”

นัยน์ตาสีฟ้ามองตามหลังเด็กหนุ่มไป ก่อนเขาจะหันกลับมาหาอีกฝ่ายแล้วพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจนัก “อืม”


*~TBC~*


บรรยากาศระหว่างทั่นหลอดกับน้องลูเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแล้วน้า~

งานนี้ต้องมีคนสำลักน้ำอ้อยจากไร่น้องลูแน่นวล /โปรดอย่าคิดลึก

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-01-2017 17:37:08
โอ๊ะ...ต้องขอบคุณน้องชายท่านลอร์ดนะ ^^
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 26-01-2017 18:56:11
ฮืออออออ ค้างต่อเลยได้มั้ยคะ :hao5: :hao5:
เอ้อ อีกอย่างทั่นหลอดดูดน้ำกระเจี๊ยว อย่าเล่นตัวนักได้ม่ะ เดี๊ยะๆ เห็นน้องนุ่งกระโปรงแล้วจะวิ่งมาถกไม่ทัน  :hao6: :hao6:
รีบมาต่อน้าาาาา  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-01-2017 18:56:30
ตอนหน้าจะได้เห็นน้องลูในรูปลักษณ์เลดี้แล้วสินะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 26-01-2017 19:23:23
 :really2: :really2:
น้านน ท่านหลอดดูดน้ำ มีน้องชายมาช่วยเสริมอีกแรง
คราวนี้ คงหนีตัวเองไม่พ้นเป็นแน่ รีบมาต่อเร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-01-2017 19:31:12
มันจะต้องดีมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 26-01-2017 19:56:37
น้องไร่อ้อยนี่มีสเน่ห์กับทุกคนจริง ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 26-01-2017 20:01:50
พอแต่งเปนเลดี้แล้ว ท่านหลอดต้องตะลึงในความงามแน่นวล
ตอนนี้มีความดีงาม เหมือนจะเข้าใจกันบ้างแล้ว ดี๊ดี
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 26-01-2017 20:34:12
ลูคัสต้องออกมาแซ่บแน่ๆเลยค่ะ สู้เขาค่ะ จิกได้จิกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 26-01-2017 20:59:44
สุ้ๆนะลูคัส
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 26-01-2017 21:20:42
ท่านลอร์ดก็...อย่าใจร้ายเกินไปนักสิ!!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 26-01-2017 21:46:57
จะคิดลึกก็ตรงทิ้งท้ายของคนเขียนนี่แหละ
เราก็ยิ่งอยากอ่านตอนเขากินน้ำอ้อยกันอยู่ด้วย  :o8:
ท่าทางท่านลอร์ดตอนนี้จะปีนจากหลุมอ้อยน้องลูไม่ได้และ แต่ก็ยังจะมีมาดนะ หมั่นไส้
คอยดูเถอะ น้องลูกลายเป็นเลดี้เมื่อไหร่ระวังหัวกระไดปราสาทจะไม่แห้ง
น้องหมารู้จักน้องลู เหมือนเป็นตัวเดียวกันกับของน้องลูด้วย เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 26-01-2017 21:51:17
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-01-2017 21:59:20
ลูคัสเป็นคนฉลาดเข้าใจอะไรได้ง่าย

เข้าใจกันดีแล้วดีใจด้วย

ตอนหน้าขอตอนหวานๆนะคนแต่ง

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 26-01-2017 22:07:37
น้องของท่านลอร์ดโคตรป่วนอ่ะ ชอบบบ อยากได้ เอ๊ะ ยังไง 5555  :impress2:
อยากเห็นลูคัสแต่งหญิงแล้ว ใจท่านลอร์ดคงปั่นป่วนเพิ่มแน่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-01-2017 22:28:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 26-01-2017 23:11:36
นังหนูต้องแต่งออกมาได้น่ารักน่าเอ็นดูมากแน่ๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-01-2017 23:20:49
รอลุ้นว่าน้องลูจะแต่งตัวออกมาทำให้ท่านหลอดตะลึงได้ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 27-01-2017 00:30:45
ว๊ายๆ เหมือนจะดีกันแล้ววว อิอิ

รอดูหนูลูคัสแต่งหญิง  :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 27-01-2017 00:31:55
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 27-01-2017 00:44:21
โอ้ยยยยย มาช้าาาาาาาา กลัวแล้วจ้าพี่ฮัสกี้~~ :ling3: :ling3:
โอย โอ่ย โอ้ย ไล่ปลูกไร่อ้อยซะ..แบบว่า...จะเก็บทั้งพี่ทั้งน้องเลยสินะเนี่ยพี่ลู :เฮ้อ: :เฮ้อ: งานนี้ได้มีคนสำลักน้ำอ้อยอย่างที่พี่ฮัสกี้บอกจริงๆนั่นแหละน้า~~~ แต่ตอนนี้ดึกมากก(สุดๆ)แล้ว ขอเมนท์แค่นี้เนอะ  :bye2: :bye2:  บายยยยย :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 27-01-2017 01:14:48
ท่านลอร์ดแพ้ยิ้มหวานๆของน้องลูคัสล่ะสิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 27-01-2017 02:09:38
วรัยส์! น้ำอ้อยหกแล้ว หิวนะ!!//ผิด :z6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 28-01-2017 23:12:15
 :ling3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 29-01-2017 10:47:43
ผู้ชายคงติดตรึมแน่ที่แน่ๆทั้งหลอดทั้งองครักษ์มองน้ลายหกแน่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 29-01-2017 23:08:23
 o13  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-02-2017 14:50:09
ดีใจจังเข้าใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 19 : ผู้มาเยือน][260117]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 02-02-2017 20:09:09


Chapter 20 : แผนการ


เสียงฟืนจากภายในเตาผิงลั่นเปรี้ยะ ไฟในเตาลุกโชนให้ความอบอุ่นภายในห้องในตอนย่ำค่ำหลังมื้ออาหารเย็นของวันเดียวกัน เด็กหนุ่มร่างโปร่งนั่งหลังตรงอยู่บนโซฟาในห้องว่างห้องหนึ่งภายในปราสาทฝั่งซ้าย มือข้างหนึ่งประคองจานรอง นิ้วมืออีกข้างเกี่ยวหูถ้วยชาที่ว่างเปล่า แล้วค่อยๆ ยกขึ้นทำท่าจิบ

อาเธอร์ยิ้มอย่างใจดีพลางพยักหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องกังวลกับมารยาทของว่าที่เลดี้เท่าไรนัก เพียงแค่ต้องคอยเตือนให้เคลื่อนไหวช้าลงอีกสักหน่อย แล้วก็ให้มีจริตจะก้านแบบผู้หญิงอีกสักนิด “ครอบครัวของเจ้าคงจะเป็นครอบครัวที่มั่งคั่งไม่ใช่น้อย”

“หืม” ลูคัสขมวดคิ้ว

“ดูเอาเถิด หน้าตาผิวพรรณ การวางตัวของเจ้า อย่างกับเลดี้จริงๆ เลยทีเดียว”

“ผมควรจะดีใจดีมั้ยเนี่ย”

“แต่ก็ควรจะมีจริตมากกว่านี้สักหน่อย แล้วบีบเสียงให้เล็กลงอีกนิด”

“ท่านอาเธอร์ ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ จะให้มีจริตอะไรมากมายครับ เสียงผมก็บีบได้แค่นี้แหละ” เด็กหนุ่มบ่นพึมพำ

“พยายามอีกหน่อยเถอะน่ะ แล้วเวลาอยู่ต่อหน้าท่านบาร์ดอฟ เจ้าต้องเปลี่ยนคำพูดคำจาเสียใหม่ เจ้าต้องเรียกชื่อท่านคาร์ล แทนตัวเองว่าข้า และแทนคนอื่นว่าเจ้า เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ” ลูคัสผงกศีรษะ

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ก่อนคนที่ลูคัสคาดไม่ถึงจะก้าวเข้ามาช้าๆ

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “ท่านลอร์ด”

ลอร์ดหนุ่มอยู่ในชุดลำลองแบบสบายๆ สำหรับเตรียมเข้านอน มีเสื้อคลุมสวมทับไว้อีกชั้น “วันนี้พอแค่นี้ก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับลูคัสสักหน่อย ท่านอาเธอร์”

“ขอรับ” อาเธอร์ลุกขึ้นค้อมศีรษะรับ “ถ้าเช่นนั้นก็ราตรีสวัสดิ์” เขาเอ่ยพลางเดินออกจากห้องไป

เมื่อบานประตูปิดลงสนิท ภายในห้องเหลือเพียงความเงียบงัน ลอร์ดหนุ่มก้าวเข้าไปนั่งลงบนโซฟาเคียงคู่กับร่างโปร่งที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว

“เหนื่อยไหม”

เด็กหนุ่มส่ายหน้าไปมา “ไม่ครับ สนุกดี”

ดวงตาสีฟ้าฉายแววอ่อนโยน เขายิ้มให้เด็กหนุ่มเล็กน้อย “แล้วพวกเขาวุ่นวายอะไรกับเจ้าบ้างล่ะ”

“ไม่วุ่นวายหรอกครับ ท่านไฮน์ริชกับท่านยาคอปเล่าถึงท่านอาของคุณมากมายเพื่อให้ผมเตรียมพร้อมไว้ แล้วก็สอนเต้นรำนิดๆ หน่อยๆ ด้วย ส่วนตอนเย็นนี่ ท่านอาเธอร์สอนมารยาทในงานให้”

ลอร์ดหนุ่มผ่อนลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา “ข้าขอโทษนะ ที่ทำให้เจ้าต้องมาลำบากไปด้วย”

“ท่านลอร์ด ผมเต็มใจ ไม่ลำบากเลยสักนิดเดียว” ลูคัสกัดริมฝีปาก เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึกพลางเอื้อมมือออกไปแตะท่อนแขนแกร่ง นี่เป็นโอกาสดีที่จะเปิดใจคุยกัน เพราะไม่บ่อยนักที่จะได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเช่นนี้ เขาต้องใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด “ผมขอโทษที่พูดไม่ดีออกไปตอนนั้น ขอโทษที่แอบหนีไปจากที่นี่ ขอโทษที่คิดจะไปจากคุณ เพราะผมคิดว่า...”

คาร์ลหลุบสายตาลงมองมือนุ่มที่เย็นเฉียบ ก่อนจะประสานสายตากับดวงตาสีเข้มพร้อมกับยกมือขึ้นประกบแก้มสีระเรื่อ “ข้าไม่อาจปฏิเสธได้ว่าข้าหวังผลประโยชน์จากเจ้า แล้วก็ไม่ใช่แค่นั้น ข้าอยากได้ทุกสิ่งที่เป็นของเจ้า ทั้งใบหน้า เส้นผม ริมฝีปาก ทุกส่วนของร่างกายนี้ และหัวใจของเจ้า”

“คุณ...” ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

“ข้ายังคงยืนยันคำเดิม ลูคัส ข้าไม่มีวันทอดทิ้งเจ้า และข้าจะไม่ทำให้เจ้าต้องเสียใจ” มือกร้านเคลื่อนผ่านสันกรามลงมายังลำคอระหง จากนั้นจึงเกี่ยวเอาสร้อยคอที่ซ่อนอยู่ในเสื้อออกมา เขาประคองจี้มรกตขึ้นไว้ในฝ่ามือก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปแนบจูบ “ข้าสัญญา”

“แต่... แต่วันหนึ่งคุณก็ต้องแต่งงานมีครอบครัว” ลูคัสพูดเสียงแผ่ว

“ทำไมเจ้าจึงคิดเช่นนั้น”

ดวงตาสีเข้มร้อนผ่าว มีน้ำตาอุ่นๆ ขึ้นมาเอ่อคลอ “ก็เป็นปกติของคนที่มีตำแหน่งเป็นผู้ครองเมืองไม่ใช่หรือครับ แล้วอีกหน่อย... คุณก็ต้องปกครองแคว้นนี้ทั้งแคว้นด้วย”

“ใช่ เพราะฉะนั้นข้าจึงต้องการคู่ครองที่จะยืนเคียงข้างข้า รักและคิดจะปกป้องชาวเมืองในแคว้นไฮเดลแบร์กนี้ไปพร้อมกับข้า” คาร์ลขยับเข้าไปแต้มจูบหน้าผากมน

“แต่ผมเป็นผู้ชาย ผม...  ไม่สามารถมีลูกได้”

“อย่ากังวลไปเลย ถึงข้าไม่มีลูก ไฮน์ริชกับยาคอปก็ทำหน้าที่ต่อจากข้าได้” ลอร์ดหนุ่มไล้ปลายจมูกไปช้าๆ บนแก้มใส เมื่อลูคัสไม่ขัดขืน เขาก็จุมพิตลงไปอย่างแผ่วเบา “ลูคัส ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าจะอยู่ที่นี่กับข้าตลอดไปได้หรือไม่”

เสียงทุ้มต่ำที่กระซิบชิดพวงแก้มส่งผลให้ลมหายใจขาดห้วง ลูคัสไม่กล้าสบสายตากับนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวย หากก็พยักหน้าหงึกหงัก “ที่จริง... ผมรู้ว่ามันผิดต่อครอบครัวของผม แต่ลึกลงไปผมก็ดีใจที่ตอนนั้นผมกลับบ้านทางห้องหนังสือนั่นไม่ได้”

“ข้าดีใจยิ่งกว่า” รอยยิ้มของลอร์ดหนุ่มทำให้หัวใจดวงน้อยเกือบหยุดเต้น

“ทำไมคุณถึงสวมสร้อยนี่ให้ผม” เด็กหนุ่มถามออกไปเสียงแผ่ว

“ก็ชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นคนฉลาด จะบอกว่าไม่เข้าใจความหมายหรืออย่างไร” คาร์ลกระซิบ มือกร้านเชยคางเรียวขึ้นพลางพาเรียวปากเข้าไปคลอเคลียกับกลีบปากนุ่ม ลมหายใจของทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่ง

“แล้วครั้งนี้ คุณจะสอนผมต่อจากตอนนั้นได้หรือยัง”

คาร์ลยิ้มกริ่ม “ข้าจะสอนเจ้าทุกอย่าง”

เมื่อเรียวปากอุ่นบดเบียดเข้าหา ลูคัสก็เผยอริมฝีปากออกเล็กน้อย เขาค่อยๆ หรี่ตาลง สองแขนยกขึ้นช้าๆ เพื่อจะกอดเกี่ยวลำคออีกฝ่ายไว้

ทว่าจู่ๆ ลอร์ดหนุ่มก็หยุดชะงัก เขาพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ผละออกจากเด็กหนุ่มแล้วลุกขึ้นพรวด

“ท่านลอร์ด” เด็กหนุ่มตั้งตัวไม่ทัน ยังไม่ทันรั้งท่านลอร์ดไว้ อีกฝ่ายก็ก้าวฉับๆ ตรงไปยังบานประตูห้องแล้วกระชากให้เปิดออก

“พวกเจ้า! ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่ไปพักผ่อนกันอีก!”

ไฮน์ริชและยาคอปหัวเราะลั่น “เห็นท่านอาเธอร์ว่าลูคัสกับท่านพี่อยู่ที่นี่ พวกข้าก็เลยจะมานั่งคุยเป็นเพื่อนด้วย” ทั้งสองพูดพลางชะเง้อหน้าเข้าไปมองเด็กหนุ่มที่นั่งหน้าแดงอยู่บนโซฟา “เอ๊ะ พวกข้ามาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า”

ลอร์ดหนุ่มส่งสายตาดุใส่น้องชาย “ไม่ใช่ว่าพวกเจ้ามายืนฟังอยู่นานแล้วหรือ”

“พูดอะไรน่ะท่านพี่ แต่ไม่เป็นไร ดูเหมือนว่าพวกท่านจะคุยกันเสร็จแล้ว ถ้าเช่นนั้นพวกข้าก็จะไปนอนละ” ทั้งสองพูดเองสรุปเอาเอง แล้วรีบรุดเดินจากไป

ในขณะเดียวกันลูคัสก็ลุกขึ้นจากโซฟา เขารีบเก็บสร้อยคอใส่ไว้ในเสื้อ แล้วจึงเดินไปที่ประตู “เอ้อ ผมก็ควรจะกลับห้องไปนอน”

คาร์ลคว้าแขนเรียวไว้ “เจ้าจะไปนอนที่ไหน”

เด็กหนุ่มหันกลับไปหาคนถาม “ผมจะกลับไปที่ห้องผม คุณจะได้กลับมานอนที่ห้องของคุณด้วย ผมยึดห้องคุณไว้นานมากแล้ว”

“ข้าจะย้ายห้องเจ้ามาอยู่ติดกับห้องข้า แต่คืนนี้นอนกับข้าไปก่อนได้ไหม”

“หะ... หา” พวงแก้มนิ่มซับสีเลือด ยังไม่ทันปฏิเสธเขาก็ถูกอีกฝ่ายทั้งลากทั้งจูงให้เดินตามไป

“มาเถอะ”

เมื่อเข้าไปถึงห้องนอนลอร์ดหนุ่ม ลูคัสก็ยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ที่ใกล้ๆ ประตู ส่วนเจ้าของห้องถอดเสื้อคลุมออกพาดเก้าอี้ไว้ ก่อนจะเดินวนไปนั่งลงบนเตียง จากนั้นจึงถอดรองเท้าออกแล้วเอนหลังลงนอน

“เจ้ายืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น”

“เอ่อ...”

“มานอนเถอะ” คาร์ลดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกาย เขาดึงผ้าห่มฝั่งเด็กหนุ่มขึ้นแล้วตบมือลงบนเตียงเบาๆ “มาเร็ว”

ลูคัสก้าวเข้าไปยังเตียงตามที่อีกฝ่ายบอก เขาสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้วทำตัวแข็งเป็นท่อนไม้

ลอร์ดหนุ่มห่มผ้าห่มให้ร่างโปร่ง ขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วกระซิบบอก“ราตรีสวัสดิ์”

ใบหน้าน่ารักหันขวับไปทางคนที่นอนอยู่ข้างๆ กัน “จะนอนแล้วหรือครับ”

“ผิดหวังหรือ” คาร์ลยิ้มกริ่ม

นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง เขารีบแก้ตัว “ผิดหวังอะไรกันครับ! นอน...​นอนแล้ว! ราตรีสวัสดิ์” ก่อนจะมุดตัวลงในผ้าห่ม 

คาร์ลหัวเราะเบาๆ เขาดึงร่างโปร่งเข้ามากอดไว้หลวมๆ แล้วก้มลงจูบบนศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน “พรุ่งนี้ยังมีอะไรต้องเตรียมพร้อมอีกมาก พักผ่อนเถอะ”

..

....

..

ลูคัสถูกปลุกขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ของวันใหม่ เพื่อไปฝึกซ้อมการขี่ม้ากับทหารม้าในพิธีส่งแขก ปกติแล้วเมื่อมีแขกสำคัญมาเยือน ในวันกลับจะมีพิธีการส่งแขกที่ว่านี้ โดยเขาจะเป็นคนถือดาบ ขี่ม้านำกองทัพทหารม้าเข้ามาในลานกว้าง จากนั้นก็นำดาบไปส่งมอบให้กับลอร์ดหนุ่ม เพื่อให้ใช้เป็นสัญญาณในการบอกกับเหล่าทหารม้าให้เริ่มต้นแสดงความสามารถและความพร้อมเพรียงของการควบคุมม้าให้กับแขกผู้มาเยือนได้ชม

การฝึกซ้อมไม่ได้มีอะไรยากสำหรับลูคัส แล้วหน้าที่ของเขาก็มีเพียงนิดเดียว แค่ถือดาบขี่ม้าในชั่วเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อซ้อมเสร็จแล้วเด็กหนุ่มจึงก้าวลงจากหลังม้าแล้วยืนลูบหัวเจ้ามาอยู่อีกสักพัก ในขณะเดียวกันพวกสาวใช้ก็พาลูห์ลาห์ออกมาเดินเล่นด้วย

“เจ้าขี่ม้าเก่งไม่ใช่เล่น” อาเธอร์เอ่ยชม

หากคนถูกชมไม่ทันได้ใส่ใจ เขาร้องเรียกเจ้าสุนัขทั้งสองเสียงดัง “ลูห์ลาห์ มานี่เร็ว” จากนั้นทั้งคน สุนัขและม้าก็พากันวิ่งเล่นไปในลานกว้าง เด็กหนุ่มนอนลงกับพื้นให้สุนัขทั้งสองเลียหน้าเลียตา เขากลิ้งเกลือกไปมาโดยมีเจ้าม้าร้องฮี้ๆ เสียงดังอยู่ข้างกาย

“ว่าที่เลดี้ของท่านคาร์ลเป็นอย่างไรบ้างขอรับท่านอาเธอร์” คอนราดก้าวเข้ามายืนเคียงข้างแล้วถามกลั้วหัวเราะ

“......” อาเธอร์พูดไม่ออก

“ลูคัสเป็นความสดใสเดียวในปราสาทของเราเลยนะขอรับ ถึงเวลานี้เขาอาจจะดูเหมือนเด็กๆ ทั่วไป แต่ความคิดของเขาน่านับถือยิ่งกว่าคนมีอายุบางคนเสียอีก”

“ข้าหวังว่าบาร์ดอฟจะทำอะไรความสดใสนี้ไม่ได้”

“ท่านอย่าห่วงไปเลย ลูคัสเข้มแข็งกว่าที่พวกเราคิดไว้มาก แล้วอีกอย่าง พวกเราไม่ยอมให้ท่านบาร์ดอฟทำอะไรไม่ดีกับเขาได้ง่ายๆ แน่”

อาเธอร์ยิ้มกว้าง “ดูเหมือนเขาจะเป็นที่รักของทุกคนที่นี่มาก”

“ไม่ใช่แค่ที่ในปราสาท แต่ชาวเมืองก็เช่นกัน”

ชายสูงวัยพยักหน้าช้าๆ จากนั้นจึงหันมองไปทางเด็กหนุ่มอีกครั้ง เขาถอนหายใจเบาๆ กับสภาพเลอะเทอะมอมแมมของอีกฝ่าย “วันนี้พวกสาวใช้คงต้องเหนื่อยหนักแน่ๆ”

เมื่อถึงยามบ่าย เสียงเอะอะโวยวายดังแว่วออกมาจากห้องใหม่ของลูคัสซึ่งอยู่ข้างๆ ห้องของลอร์ดหนุ่มในปราสาทฝั่งซ้าย เป็นตามที่อาเธอร์คาดเดาไว้

“ผมเจ็บอ้ะ จะขัดให้หนังหลุดออกมาเลยมั้ย!”

โฮ่ง!

“ก็ท่านลูคัสไปเล่นอะไรมาซะเนื้อตัวมอมแมม แล้วท่านยังเอาลูห์ลาห์มาอาบน้ำด้วยในอ่างอีก เลอะเทอะไปหมดแล้วเจ้าค่ะ!” สาวใช้พูดเสียงดุ

“ลูห์ลาห์ช่วยด้วย”

โฮ่ง! แฮ่... เจ้าสุนัขสองตัวแยกเขี้ยวทันที

หล่อนจึงจำใจต้องหยุด ถอยออกไปตามกำลังเสริมมาช่วยพาสุนัขทั้งสองตัวออกไป ส่วนเด็กหนุ่มก็เอาแต่หัวเราะใส่ “แบบนี้ท่านบาร์ดอฟจะเชื่อว่าท่านเป็นเลดี้ไหมนี่ ข้าละอ่อนใจ”

“โธ่ ก็วันนี้ยังไม่ต้องรับบทนั้นนี่นา”

“จริงสิ ท่านคิดชื่อของหญิงสาวไว้หรือยังเจ้าคะ”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิด “ใช้ชื่อกลางของผมก็น่าจะได้ อารามิส เพราะดีออกใช่มั้ย” จากนั้นก็ยิ้มให้สาวใช้อย่างน่ารัก

หล่อนพลอยยิ้มไปด้วยอย่างเอ็นดู “เจ้าค่ะ”

 หลังจากนั้นพวกสาวใช้ก็กรูกันเข้ามากันเต็มห้อง หอบเอาชุดกระโปรงเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มที่จะสวมใส่ในช่วงที่บาร์ดอฟมาพักอยู่ด้วยเข้ามาหลายต่อหลายชุด รวมทั้งรองเท้า เครื่องประดับและวิกผม

แต่ละชุดที่จะต้องสวมใส่มีทั้งหมดสามชั้น ชั้นในสุดเป็นชุดสีขาวตัวบาง ชั้นที่สองเป็นชุดแขนสั้นกุด มีชายกระโปรงยาวจรดพื้น ส่วนชั้นนอกสุดเป็นเสื้อคลุมที่มีแขนเสื้อยาวกรุยกราย ตรงชายลากยาวไปบนพื้น มีเชือกร้อยผูกช่วงเอวไว้พอให้เห็นทรวดทรง รวมทั้งหมดแล้วก็มีน้ำหนักไม่ใช่น้อย ทำให้ลูคัสชักจะเป็นกังวลว่าตัวเขาจะร่วงลงมาจากหลังม้าเพราะลมพัดเสียก่อนงานจะเริ่ม ยิ่งเมื่อสวมผ้าคลุมทับอีกชั้นแล้วก็ยิ่งนึกสงสัยว่าเลดี้สมัยโบราณจะต้องแข็งแกร่งขนาดไหนกัน

“ที่หน้าอกใส่อะไรไว้ดี เอาผ้ายัดไว้ดีไหม”

“ขนมปังดีกว่า เป็นก้อนๆ ห่อผ้าไว้”

เด็กหนุ่มยกมือขึ้นสัมผัสแผ่นอกแบนราบของตน ครั้นจะเป็นเลดี้ที่ไม่มีหน้าอกก็คงจะแปลก “เป็นขนมปังก็ดี เผื่อผมหิวจะได้หยิบขึ้นมากิน” จากนั้นจึงลองมองกระจกแล้วก้มลง “โชคดีที่คอเสื้อไม่กว้างไม่ลึกมากเหมือนที่ผมเคยเห็น ไม่อย่างนั้น เวลาผมก้ม นมร่วงแน่ๆ”

“ว้าย ท่านลูคัส พูดอะไรอย่างนั้นเจ้าคะ” พวกสาวใช้หวีดร้องแล้วก็หัวเราะกันเสียงดัง “พวกข้าไม่ปล่อยให้ร่วงลงมาง่ายๆ แน่ๆ เจ้าค่ะ”

กว่าจะลองและแก้ไขชุดกันเสร็จก็ดึกดื่น ยาวนานจนต้องมีการหยุดพักรับประทานอาหารแล้วลองชุดกันต่อ เนื่องจากชุดหนึ่งต้องใช้เวลาในการใส่ แก้ไขและถอดออกจึงต้องใช้เวลามาก

ลูคัสทิ้งตัวลงนอนเป็นเตียงอย่างอ่อนแรง แม้จะย้ายมาห้องใหม่แต่ก็ยังไม่มีเวลาได้สำรวจห้องด้วยซ้ำ และวันนี้ทั้งวันเขาก็ไม่ได้พบลอร์ดหนุ่มเลย จวนจะหมดวันอยู่แล้ว อีกฝ่ายก็คงยุ่งมากเช่นกัน

นัยน์ตาสีเข้มหรี่ลงทีละน้อย แต่ก่อนจะปิดสนิทเขาก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงคล้ายบานประตูเปิดออก เด็กหนุ่มหันมองไปทางบานประตูห้องทันที หากบานประตูยังคงปิดสนิท พอหันกลับไปมองอีกทาง ตัวเขาก็ถูกรวบเข้าไปในอ้อมกอดอันคุ้นเคย

“ท่านลอร์ด! มาได้ยังไงกันน่ะ”

“ชู่ว อย่าเสียงดังสิ” คาร์ลยิ้มมุมปากพร้อมกับชี้ไปที่ผืนพรมซึ่งแขวนไว้บนผนัง ด้านหลังมีบานประตูเชื่อมระหว่างสองห้องซ่อนอยู่

“ในห้องคุณมีทางลับอีกกี่ทางกัน!”

“มีทางลับสำหรับหนี แล้วก็ต้องมีทางลับเอาไว้เข้าหาเลดี้ของข้าด้วยสิ”

พวงแก้มนิ่มเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ เขาพึมพำเสียงเบา “ใครเป็นเลดี้ของคุณกัน”

“อ้าว เมื่อวานเจ้ายังอาสาจะเป็นเลดี้ของข้าอยู่เลย” ลอร์ดหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ ปลายนิ้วหยาบเกลี่ยเส้นผมที่ปรกตามหน้าผากของเด็กหนุ่มออก ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปแต้มจูบเบาๆ “พรุ่งนี้บาร์ดอฟจะมาถึงตอนบ่ายๆ หลังจากนั้นไม่นานงานเลี้ยงก็จะเริ่มขึ้น เจ้าพร้อมแล้วหรือยัง”

“ก็คิดว่าพร้อม” ลูคัสตอบเสียงอ่อย “ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เขาจับได้เด็ดขาด”

“ข้าจะอยู่ใกล้ๆ กับเจ้าเสมอ อย่ากังวลไปเลย”

เด็กหนุ่มซุกใบหน้าเข้าหาแผ่นอกกว้าง “ครับ”

“เจ้าคงเหนื่อยมากแล้ว นอนเถอะ”

ใบหน้าน่ารักเงยขึ้น “ไม่เหนื่อย... อะ!” ดวงตาสีนิลเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึงเมื่อลอร์ดหนุ่มแนบเรียวปากลงบนกลีบปากของตน

มือกร้านจับคางเรียวไว้ไม่ให้ขยับไปไหนในขณะที่เขาบดเบียดริมฝีปากสีแดงสด ซึ่งมันนุ่มหวานราวกับผลเชอร์รีสุก แค่เพียงสัมผัสจากภายนอกยังทำให้เขาแทบคลุ้มคลั่ง ลอร์ดหนุ่มกระชับริมฝีปากหนักหน่วงขึ้นอีก ก่อนจะสอดปลายลิ้นอุ่นเข้าไปในโพรงปากนุ่มแล้วตวัดไล้ลิ้นเล็กอย่างกระหาย สองแขนโอบรัดร่างโปร่งแน่น

จุมพิตลึกซึ้งครั้งแรกทำให้ทั้งร่างของเด็กหนุ่มซึ่งไร้ประสบการณ์ร้อนผ่าวราวกับถูกเปลวไฟโลมเลีย นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มปิดลงสนิท เขาขยุ้มเสื้อของเจ้าของอ้อมกอดไว้แน่น หากสักพักลมหายใจก็เริ่มติดขัด   

เมื่อคาร์ลถอนริมฝีปากออก ร่างโปร่งก็ทรุดลงหอบหนักๆ ในอ้อมแขน ส่งผลให้ลอร์ดหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆ กับความไร้เดียงสานี้ “ไหนเจ้าว่าไม่เหนื่อย”

“ท่านลอร์ด ผม...” แววตาปรือปรอยของเด็กหนุ่มบ่งบอกชัดเจนถึงความปรารถนาที่ก่อเกิด แขนเรียววาดโอบลำคออีกฝ่ายไว้ขณะที่ยืดคอขึ้นจูบปลายคางสาก เขารู้สึกถึงหัวใจอีกดวงที่เต้นรัวแรงไม่แพ้กัน

“ลูคัส” ใจของคาร์ลนึกอยากจะกดร่างโปร่งลงกับเตียงเสียเดี๋ยวนั้น ทว่าพรุ่งนี้ยังมีงานสำคัญ ทั้งเขาและเด็กหนุ่มควรจะพักผ่อน ลอร์ดหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างพยายามอดกลั้น จากนั้นจึงผละออก “พรุ่งนี้เป็นวันสำคัญ...” เขากลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก เพราะสีหน้าเย้ายวนของอีกฝ่าย ลูคัสจะรู้ตัวบ้างไหมนะว่าเวลานี้กำลังแสดงสีหน้าเช่นไร

“ถ้างั้น... นอนกับผมได้มั้ย”

“ถ้านอนกับเจ้า ข้าคงนอนไม่หลับแน่” ลอร์ดหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ

ลูคัสรั้งท่อนแขนแกร่งไว้ “แต่ผมเหงา ไม่อยากนอนคนเดียว”

มือกร้านเชยคางเรียวให้เงยขึ้น “ลูคัส เจ้าไม่เข้าใจหรือ ถ้าหากนอนกับเจ้าคืนนี้ ข้าคงไม่อาจนอนเฉยๆ ได้เหมือนทุกครั้ง”

เด็กหนุ่มกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะชักมือกลับ ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “เอ่อ...” ใจหนึ่งคิดว่าไม่เห็นเป็นไร แต่อีกใจ... เขายังไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งไปถึงขนาดนั้น

แต่ว่าท่านลอร์ดจะกอดเขาซึ่งเป็นผู้ชายได้หรือ

ลูคัสนิ่งเงียบไปด้วยความรู้สึกสับสน “.....”

คาร์ลลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน “เจ้านอนเสียเถอะ ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ราตรีสวัสดิ์”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับอีกฝ่ายพลางยิ้มบาง “ครับ ราตรีสวัสดิ์”


*~TBC~*


กรีสสสสส สำลักน้ำอ้อยยย~ 5555555555

แหม ทั่นหลอดนี่ ได้ทีรุกใหญ่เลยนะ เด็กมันช่างอ้อยใช่ม้อย /พยักหน้าเข้าอกเข้าใจทั่นหลอด

ตอนหน้าจะได้พบกับเลดี้ของทั่นหลอดแล้วค่า อิอิอิอิ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะค้า  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: harumi ที่ 02-02-2017 20:13:11
 :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-02-2017 20:37:34
เขินนนนนน น้องลูคัส จะเป็นเลดี้จอมแก่นมั้ยน้าาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 02-02-2017 20:55:21
อยากเจอลูคัสเวอร์ชั่นเลดี้แล้วค่าาาา  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 02-02-2017 21:11:42
เอาใจช่วยเลดี้จอมแก่นค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 02-02-2017 21:20:10
หมั่นไส้ความยั่วเยของนางมาก 55555
หลอดหนุ่มตอดได้ตอดเอา คู่นี้มันเข้ากันได้สุดๆจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 02-02-2017 21:20:30
ขอตัวไปอ่านก่อน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-02-2017 21:25:06
หวานหยด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 02-02-2017 21:54:50
ชอบในความพูดตรงๆแบบไร้เดียงสา

ของลูคัสมากๆ

บางประโยคไม่คาดคิดว่าลูคัสจะพูดมันออกมา

แต่ก็น่ารักดี รอๆรอวันที่ลูคัสจะแสดงเป็นเลดี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 02-02-2017 21:55:16
ชวนบ่อย เดี๋ยวท่านลอร์ดอดใจไม่ไหวนะนะ อิอิ

เลดี้ของท่านลอร์ด  :impress2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 02-02-2017 21:57:34
อื่อออออ หือออ ลูน้อยยั่วซะ รักนวลสงวนตัวหน่อยลู๊กกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-02-2017 21:58:28
นี่มันน้ำอ้อยกับมดยักษ์ชัด ๆ!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 02-02-2017 22:06:25
แหมๆๆๆ พอเข้าใจกันแล้วก็สาดความหวานใส่กันไม่หยุดไม่หย่อนเลยนะคะ แล้วที่ไอ้อึมครึมแต่ก่อนนี่คืออะไรกันนนนน อยากเห็นท่านลอร์ดกินน้องลูแล้ววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-02-2017 22:20:55
แหม่ พอสารภาพความในใจแล้วเดี๋ยวจูบ ๆ  :m3: :m3: :m3: :m3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 02-02-2017 22:24:34
เธอไม่ได้ไร้เดียงสาแบบที่พวกเราคิดไว้จิงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 02-02-2017 22:31:32
ไฮน์ริชกับยาคอปโคตรขัดจังหวะเลย แต่เราชอบ 55555 อะไรที่ได้มาง่ายๆมันไม่มีหรอกท่านลอร์ด หึหึ
เริ่มเห็นลูคัสเป็นเลดี้มากขึ้นๆแล้วนะ เชื่อว่าน้องจะทำหน้าที่นี้ได้ดีเชียวล่ะ แอบเขินจูบตอนสุดท้าย ไม่ไหวแล้ว ฮื่ออออออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-02-2017 22:35:48
โหย ช่วงนี้รถขนอ้อยคว่ำที่เล้าแน่าหวานจริงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-02-2017 23:13:33
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-02-2017 23:27:31
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 02-02-2017 23:33:24
หวังว่าคืนนี้ท่านหลอดคงไม่ทำร้ายตัวเองนะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-02-2017 23:38:09
น้องลูก็อ้อยเล็กๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-02-2017 00:42:05
พอจะใจตรงกันก็ง่ายนะคะท่านหลอด :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 03-02-2017 01:00:22
มาต่อไวๆนะค้าาา ทั่นหลอดเอาให้เต้มที่จะกินน้องทั้งทีต้องใต้แสงเทียนเท่านั้น /เดินไปจุดเทียน  :o8: :o8: :jul1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-02-2017 01:12:17
แม่เลดี้จอมเซี้ยว 5555

ชุ่มฉ่ำจริงๆตอนนี้ น้ำอ้อยหวานสุดๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2017 04:43:49
ลูคัส ต้องเป็นเลดี้น้อย ที่งดงามน่ารัก
ควักใจหนุ่มๆหลายคนแน่ๆ
โดยเฉพาะท่านลอร์ด คงยิ่งหลง
และหึงหวงลูคัสหนักข้อกว่าเดิม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-02-2017 06:14:35
ลูคัสอ้อยหนักมาก อ้อยแบบไร้เดียงสา อ้อยแบบน่าเอ็นดู >\\\\\<
คือเห็นใจทั่นลอร์ดที่ต้องเผชิญกับการอ้อยระดับนี้จิงๆ เด๋วรอแขกกลับบ้านก่อนนะทั่นนนน -.,-
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 03-02-2017 21:17:48
 :heaven สงสารทั่นหลอด
อ้อยอยู่ตรงหน้าแต่ยังกินไม่ด้ายยยย
บาดอฟกลับไปเมื่อไหร่ฟาดให้หมดไร่เลยท่าน  :-[
ข้ามช็อตไปตอนนั้นเลยได้ม้อยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 03-02-2017 21:55:57
สู้ๆนะลูคัส
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 03-02-2017 22:44:40
อ่อยยยมากน้องลูคัส :z1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: lilowria ที่ 04-02-2017 08:59:30
เลดี้ FC เลยยยยย ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-02-2017 01:33:19
เส้ดแน่ๆละ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 05-02-2017 08:05:56
น่ารักเกินไปแล้วววววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 20 : แผนการ][020217]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 09-02-2017 09:17:00


Chapter 21 : เลดี้อารามิส


ลูคัสตื่นขึ้นมาในตอนสายๆ เนื่องจากเมื่อคืนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่นานกว่าจะหลับสนิทไปได้ พอก้าวออกมาจากห้องก็พบว่าทุกคนภายในปราสาทกำลังเตรียมงานกันวุ่นวาย เขาไม่อยากเกะกะใครจึงคิดว่าจะไปหาอะไรทำฆ่าเวลาสักหน่อย หลังจากยืนคิดอยู่สักพักก็รีบรุดไปยังคอกม้าที่ด้านนอกปราสาท

ภายในคอกม้า นายทหารผู้ดูแลคอกม้ากำลังทำความสะอาด นำฟางใหม่ๆ ไปจัดวางในแต่ละคอกและให้อาหารม้าอยู่พอดี เขาค้อมศีรษะทักทายเด็กหนุ่ม “ท่านลูคัสมาหาเจ้าชาโรนหรือขอรับ”

เจ้าของชื่อยิ้มรับ “อืม เอาแปรงมาหน่อยสิ ผมจะแปรงขนให้มันเอง”

ขณะที่มือนุ่มใช้แปรงแปรงขนให้กับชาโรน เจ้าม้าสีขาวตัวที่เขาใช้งานอยู่บ่อยๆ และจะใช้ในงานสำคัญที่กำลังจะมาถึงด้วย เขาได้ยินเสียงตึงตังมาจากคอกที่อยู่ไม่ไกลออกไปนัก เจ้าม้าตัวสีดำในคอกนั้นกระทืบเท้าไปมา ดูจะหงุดหงิดไม่น้อย คอกข้างๆ มันก็ว่างเปล่า แปลว่าน่าจะเป็นม้าที่เอาใจยากสักหน่อย

ลูคัสเดินเข้าไปหาเจ้าม้าสีดำ เมื่อมันเห็นเขาในคราวแรกก็พ่นลมหายใจออกมาฟืดฟาด กระทืบเท้าหน้าไปมา หูลู่ไปทางด้านหลังทั้งสองข้าง

เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปช้าๆ “ชู่ววว เป็นอะไรไป อารมณ์ไม่ดีหรือ” จากนั้นจึงแตะลงบนหน้าของมันแล้วค่อยๆ ลูบอย่างอ่อนโยน “นายเป็นม้าที่สวยมากเลยนะรู้มั้ย ขนเงาวับขนาดนี้ พวกทหารคงดูแลดีมากเลยล่ะสิ”

หูข้างหนึ่งของมันกลับมาตั้งตรง ดูเหมือนว่าจะรับฟังคำพูดของอีกฝ่าย

“เหงาใช่มั้ย อยู่ตัวเดียวตรงนี้” ลูคัสพูดพลางลูบสัมผัสไปบนใบหน้าของมัน “ฉันจะเข้าไปหานายนะ อย่าเตะกันล่ะ เข้าใจไหม”

ราวกับว่าเจ้าม้าฟังเข้าใจ หูของมันตั้งตรงทั้งสองข้าง เด็กหนุ่มจึงเดินเข้าไปภายในคอกช้าๆ มือนุ่มลูบแผงขนบนคอของมันเบาๆ แล้วโอบกอด “น่ารักจังเลย คุยกันรู้เรื่องด้วย” จากนั้นก็ใช้แปรงที่หยิบติดมือมาแปรงขนให้มัน

เจ้าม้ายืนนิ่งให้ลูคัสได้ทำตามใจชอบ มันอาจจะดูหยิ่งไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับม้าตัวอื่นๆ แต่อย่างน้อยมันก็ยอมให้เขาเข้ามาสัมผัสตัว ท่าทางการยืนช่างงามสง่า เขาคิดว่ามันต้องเป็นม้าพันธุ์ดีที่มีราคาแพงมากแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นแล้ว...

“นายคือม้าตัวที่ท่านลอร์ดใช้งานอยู่บ่อยๆ ใช่มั้ย” พอเอ่ยออกไปก็ทำให้เขานึกถึงภาพเลือนรางที่เคยเห็นบนผืนพรมในตอนที่เข้าไปภายในปราสาทครั้งแรกในยุคปัจจุบัน “นาย... อย่าบอกนะว่าคือม้าตัวนั้น”

“ท่านลูคัส!” นายทหารผู้ดูแลคอกม้าเบิกตาโพลง ทิ้งส้อมตักฟางในมือลงบนพื้นด้วยความตกใจ

“มีอะไรหรือ”

“ออกมาก่อนเถอะขอรับ”

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็หันไปบอกกับเจ้าม้า “ต้องออกไปก่อนนะ เอาไว้จะแวะมาเล่นด้วยใหม่ จะพาลูห์ลาห์มาให้นายรู้จักด้วย” แล้วเดินออกมาจากคอกอย่างง่ายดายโดยที่เจ้าม้ายังยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

พอเด็กหนุ่มออกมาจากคอกได้ นายทหารก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ท่านลูคัส โอย... ข้าออกไปเอาฟางแป๊บเดียว ท่านจะทำให้ข้าคอขาดแล้วไหมล่ะ”

“ทำไมล่ะ ม้าตัวนี้ห้ามจับหรือ”

“มันพยศน่ะสิขอรับ! เจ้ายาสเพอร์เป็นม้าของท่านลอร์ด ปกติแล้วคนอื่นไปแตะต้องตัวมันไม่ได้ง่ายๆ โดนถีบกระเด็นกันไปหลายราย ข้าเป็นคนดูแล มันยังทั้งกัดทั้งถีบ”

ลูคัสเลิกคิ้วขึ้น “ยาสเพอร์? ที่แปลว่านิลน่ะหรือ” เขาหันไปหาเจ้าม้าอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปสัมผัสมันอย่างไม่กลัวเกรง “ชื่อเพราะสมกับนายดี”

คราวนี้มันโน้มคอลงมาเล็กน้อย พอให้เด็กหนุ่มกอดคอมันได้ เด็กหนุ่มจึงโอบคอมันแล้วซบใบหน้าลงไป “น่ารักที่สุด!”

“ท่านลูคัส!” นายทหารยื่นมือเข้าไปเพื่อจะห้าม

หงับ!

แต่กลับถูกมันกัดมือเข้าอย่างจัง “โอ๊ย เจ้ายาสเพอร์!”

ลูคัสหัวเราะเสียงดัง หากสักพักก็มีสาวใช้มาตามให้ไปเตรียมตัวสำหรับงานเลี้ยงในตอนเย็น

“นี่มันยังไม่เที่ยงเลยนะ จะให้ผมเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้เลยหรือ”

“เจ้าค่ะ”

เด็กหนุ่มหันไปบอกลาเจ้าม้าสีนิล จากนั้นจึงเดินตามสาวใช้กลับไปที่ห้องของตน

ที่ภายในห้องมีสาวใช้มารออยู่แล้วสี่คน ไม่มากเท่าเมื่อวานเพราะพวกหล่อนต้องแบ่งไปช่วยเตรียมงานเลี้ยงในตอนเย็นด้วย เมื่อเด็กหนุ่มกลับมาถึงห้องพวกหล่อนก็พาเขาไปอาบน้ำขัดตัวทันที เสร็จแล้วก็ตามด้วยการทาน้ำมันหอมให้ทั่วตัว

ลูคัสยกหลังมือขึ้นดม “หอมจัง น้ำมันกลิ่นอะไรน้า”

“ลาเวนเดอร์เจ้าค่ะ”

“แล้วผมจะไม่หลับก่อนงานเลี้ยงหรือเนี่ย” เพราะเขาเคยได้ยินว่ากลิ่นของลาเวนเดอร์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและหลับสบาย

สาวใช้หัวเราะคิกคัก “ท่านลูคัสนี่ล่ะก็”

หลังจากทาน้ำมันหอม พวกสาวใช้ก็นำอาหารมื้อเที่ยงเข้ามาจัดให้ในตอนบ่ายกว่าๆ พอเสร็จจากมื้ออาหารแล้วก็เริ่มต้นใส่วิกผมสีน้ำตาลเป็นลอนยาวให้กับเด็กหนุ่ม จากนั้นก็ม้วนบางส่วนขึ้นทำมวยผมเพื่อใส่เครื่องประดับ

สาวใช้อีกคนจัดการแต่งหน้าให้ ใช้แป้ง สีทาแก้มกับริมฝีปากเพื่อแต่งแต้มให้ใบหน้าดูสดใสอิ่มเอิบและมีสีสันชัดเจนขึ้น ริมฝีปากที่อวบอิ่มอยู่แล้วเป็นสีแดงชุ่มฉ่ำสวยงาม

เมื่อเด็กหนุ่มลืมตาขึ้นก็กะพริบตาปริบๆ มองภาพตัวเองในกระจกเงาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

“งามใช่มั้ยเจ้าคะ ท่านลูคัสงามกว่าเลดี้จริงๆ เสียอีก”

เขาไม่รู้จะดีใจดีหรือไม่ ใบหน้าในกระจกราวกับไม่ใช่ตัวเขา “ผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้” ในขณะเดียวกันก็ได้ยินเสียงอึกทึกแว่วมาจากทางด้านล่าง ดูเหมือนว่าท่านบาร์ดอฟอะไรนั่นจะมาถึงแล้ว เด็กหนุ่มรู้สึกเกร็งขึ้นมาทันควัน หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำอยู่ในอก

“รีบสวมชุดเถอะเจ้าค่ะ ใกล้เวลาแล้ว”

มือนุ่มเย็นเฉียบ เขามองตัวเองในกระจกเงาอีกครั้งพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึก มือขาวยกขึ้นกุมจี้มรกตบนแผ่นอกพลางเงยหน้าขึ้น “อืม”


เมื่อท้องฟ้ามืดลง ไฟจากคบเพลิง ตะเกียงน้ำมันและเทียนก็ถูกจุดขึ้นให้สว่างไสวไปทั่วปราสาท เช่นเดียวกันกับโคมไฟระย้าในห้องโถงขนาดใหญ่ ตรงกลางของห้องโถงถูกเว้นว่างไว้สำหรับการเต้นรำ มีเก้าอี้จัดวางไว้บนพื้นยกสูงสำหรับเจ้าของงานเลี้ยงและแขกคนสำคัญ ถัดจากห้องโถงไปมีบานประตูเชื่อมต่อไปยังห้องอาหารซึ่งถูกเปิดไว้กว้าง บนโต๊ะอาหารในห้องนั้นมีอาหารจัดวางไว้มากมาย

แขกเหรื่อที่ได้รับเชิญมาในงานเป็นพวกขุนนางจากในเมืองและเมืองใกล้ๆ พวกที่ปรึกษาของลอร์ดหนุ่ม กับพวกหัวหน้ากองทหาร มีทหารยามเฝ้าระแวดระวังแทบจะทุกซอกทุกมุมภายในปราสาท

เมื่อมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์ก้าวเข้าไปภายในห้องอาหาร แขกเหรื่อที่มียศต่ำลงมาก็ค่อยๆ ทยอยกันเข้าไปนั่ง ลอร์ดหนุ่มนั่งลงตรงหัวโต๊ะ ที่นั่งแรกด้านขวามือของเขาถูกเว้นว่างไว้ ถัดจากที่ว่างนั้นไปเป็นที่นั่งของยาคอปและอาเธอร์ ส่วนที่นั่งแรกซ้ายมือเป็นของบาร์ดอฟและไฮน์ริช

ลอร์ดแห่งโรเซนไฮม์ก้าวตรงเข้าไปยังที่นั่งว่างข้างคาร์ลอย่างไร้มารยาท เขาหันไปสั่งให้ทหารดึงเก้าอี้ออกก่อนที่เจ้าของงานเลี้ยงจะนั่งลงเสียอีก

“เดินทางเหนื่อยจริงๆ อาแก่แล้ว นั่งรถม้านานๆ ก็เมื่อย” บาร์ดอฟพูดไปเรื่อยโดยไม่สนใจใคร เขากวาดสายตามองไปรอบๆ รอให้แขกเหรื่อเข้ามานั่งกันครบหมดสักที จากนั้นจึงหันไปเห็นที่ว่างข้างๆ หลานชาย “นั่นที่ว่างของใครหรือหลาน”

“เลดี้ของข้า” คาร์ลตอบเสียงเรียบ

“เลดี้ของเจ้า?”

ในเวลาเดียวกัน ทหารที่ตรงประตูก็ประกาศก้องให้ทุกคนได้รับทราบ “เลดี้อารามิส วินเซนต์ แห่งบาร์เยิร์นมาถึงแล้ว”

ลูคัสก้าวเข้ามาภายในห้องอย่างเชื่องช้า เด็กหนุ่มอยู่ในชุดผ้ากำมะหยี่สีเขียวอ่อน ชุดตัวในเป็นสีทองระบายเป็นชั้นๆ บนศีรษะสวมเทียร่าขนาดเล็กไว้เหนือผ้าคลุมศีรษะสีเดียวกันกับชุดตัวใน บนลำคอมีสร้อยห้อยจี้มรกตคล้องไว้ เขาเดินเข้าไปหาลอร์ดหนุ่ม จับกระโปรงยกขึ้นแล้วค้อมศีรษะลงต่ำ “ท่านคาร์ล ขออภัยที่ข้ามาช้า”

นัยน์ตาสีฟ้าเบิกกว้าง เขานิ่งงันอย่างตกตะลึงกับความงดงามของเลดี้ตรงหน้า นึกไม่ถึงเลยว่าเด็กหนุ่มที่น่ารักคนนั้นจะกลายเป็นสาวงามไปได้ ไม่ใช่เพียงแค่เขา ทว่าทุกคนก็มองตรงมาที่ลูคัสกันเป็นตาเดียว

“เลดี้อารามิสงั้นรึ” บาร์ดอฟขมวดคิ้ว

ยาคอปสะกิดพี่ชายเบาๆ “ท่านพี่”

คาร์ลรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วผายมือไปที่ข้างตัว “นั่งลงสิ”

ทหารที่ยืนอยู่ด้านหลังก้าวเข้ามาดึงเก้าอี้ออก ก่อนเด็กหนุ่มจะนั่งลงช้าๆ แล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อส่งยิ้มให้กับทุกคน

“ขอต้อนรับท่านอา ไฮน์ริช ยาคอปและท่านอาเธอร์สู่แบร์กไฮม์ ทุกคนคงหิวมากแล้ว เชิญ” เมื่อลอร์ดหนุ่มกล่าวอนุญาต มื้ออาหารจึงเริ่มต้นขึ้นได้

ขณะที่ทุกคนรับประทานอาหารไป บาร์ดอฟยังคงนั่งนิ่ง จ้องมองเด็กหนุ่มอย่างไม่วางตา สายตาของเขาจาบจ้วงไร้มารยาท

“มีอะไรกับเลดี้ของข้าหรือท่านอา”

“เลดี้ของเจ้า ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน”

“ข้าไม่จำเป็นต้องรายงานใครต่อใครไม่ใช่หรือ อีกอย่างข้าเพิ่งย้ายมาที่แบร์กไฮม์ ยังไม่ได้มีพิธีแต่งตั้งอะไร” ลอร์ดหนุ่มตอบ

“น่าเสียดาย บาธิลดาคงจะเสียใจ ข้าคิดว่าจะได้เกี่ยวดองกับเจ้าแท้ๆ ถ้าหากเจ้าเลือกบาธิลดา โรเซนไฮม์กับแคว้นไฮเดลแบร์กก็จะได้รวมเป็นหนึ่ง” บาร์ดอฟยิ้มร้ายพลางปรายตาไปที่เด็กหนุ่ม แล้วโน้มตัวไปกระซิบกับคาร์ลเสียงเบา “ถ้าหากยังไม่ได้แต่งตั้ง เจ้าจะเปลี่ยนใจก็ยังทันนะ”

เออร์วินกับคอนราดที่ยืนอยู่ด้านหลังลอร์ดหนุ่มถึงกับส่ายหน้าไปมากับความหยาบคายนี้ ทั้งที่เลดี้ของผู้เป็นนายนั่งทนโท่อยู่แท้ๆ ยาคอปและไฮน์ริชก็พาลหมดอารมณ์จะรับประทานอาหารต่อ หากเลดี้ที่ทุกคนพูดถึงยังคงนิ่งเฉย

ลอร์ดหนุ่มหันไปทางลูคัส แล้วประคองมือนุ่มขึ้นมากุมไว้ “เจ้าไม่ต้องกังวลไป ท่านอาชอบพูดเล่นไม่เป็นเวลาเช่นนี้ละ เลดี้ของข้ามีเจ้าคนเดียวเท่านั้น” จากนั้นจึงยกขึ้นมาจูบต่อหน้าบาร์ดอฟและทุกคน

ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้มอย่างน่ารัก “ข้ารู้” ก่อนจะหันไปประสานสายตากับบาร์ดอฟ เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มน่ารักเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแค่ตรงมุมปาก “การจะรวมแคว้น ไม่จำเป็นต้องมาจากการแต่งงานก็ได้ ท่านคงลืมนึกไปว่ายังมีอีกหลายวิธี”

“หึ มันคงไม่ง่ายนัก”

“แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ จริงไหม ท่านลอร์ด”

คาร์ลอมยิ้ม ทั้งที่จริงอยากจะหัวเราะออกมาดังๆ “กับเจ้า อะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น”

บาร์ดอฟกัดฟันกรอด เขาไม่รู้ว่าคาร์ลไปคว้าหญิงอวดดี ปากกล้าเช่นนี้มาจากที่ไหน แต่เพราะตำแหน่งว่าที่เลดี้ของมาควิสที่หนึ่งนั้นไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าตำแหน่งตนเองเลย เขาจึงทำอะไรไม่ได้อย่างใจต้องการนัก

“ท่านอาไม่กินอาหารหรือ” ไฮน์ริชเอ่ยถาม ตามด้วยน้องชาย “หรือท่านอากลัวว่าพวกข้าจะวางยาพิษกัน”

บาร์ดอฟใช้ส้อมจิ้มอาหารใส่ปากแล้วลอยหน้าลอยตาถาม “พวกเจ้าจะกล้ารึ ข้าอาจจะพาทหารมาที่นี่แค่สามร้อยนาย แต่ที่ชายแดนยังมีอยู่อีกเป็นพัน รอเพียงแค่ข้าสั่งการเท่านั้น”

ไฮน์ริชยิ้มมุมปาก “ถ้าท่านอาทำได้ล่ะก็นะ”

“ข้าไม่ได้อ่อนแออย่างที่เจ้าคิดหรอก ไฮน์ริชเอ๋ย” คนพูดยิ้มร้าย ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ เขาหยิบดาบสั้นที่แขวนอยู่กับเข็มขัดหนังที่เอวขึ้นมาวางบนโต๊ะ “พวกเจ้าเห็นดาบนี้ไหม มันทำมาจากเหล็กกล้าชั้นดี ฝังเพชรพลอยล้ำค่าที่สุดในโรเซนไฮม์ และแม้จะเป็นแค่ดาบสั้น แต่ก็กุดหัวคนที่คิดร้ายกับข้ามาแล้วนับร้อย”

องครักษ์ที่ยืนอยู่ทางด้านหลังเบ้ปาก อยากจะเดินหนีออกไปอาเจียนให้รู้แล้วรู้รอด นอกจากบาร์ดอฟจะหยาบคายมากแล้วก็ยังทั่งอวดทั้งเบ่ง พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าคนคนนี้จะมีสายเลือดเดียวกันกับอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก

“กุดหัวคนที่คิดร้ายกับท่านอามาได้แค่ร้อยเองหรือ ถ้าอย่างนั้นก็ยังเหลืออีกเยอะสิขอรับ” ยาคอปพูดกลั้วหัวเราะ

ลูคัสขมวดคิ้ว เขาชักรู้สึกไม่ชอบมาพากล จะว่าไปก็น่าแปลกที่คนเราจะบุกเข้ามานั่งในถิ่นศัตรูให้โดนกัดเสียจนเหวอะวะ เขาชำเลืองมองคนที่มีศักดิ์เป็นท่านอาของลอร์ดหนุ่มพลางคิดในใจ...

หรืออาจจะแค่โง่จริงๆ ก็ได้

รับประทานอาหารกันไปอีกสักพัก แขกเหรื่อก็เริ่มอิ่มหนำ ลอร์ดหนุ่มจึงเอ่ยชวนให้ทุกคนย้ายไปยังห้องโถง เขานั่งลงบนเก้าอี้ที่จัดไว้ด้วยกันกับลูคัส น้องชายทั้งสอง อาเธอร์และบาร์ดอฟ ส่วนแขกเหรื่อที่เหลือก็ยืนพูดคุยกันในขณะที่รอให้ดนตรีเริ่มขึ้น

หากจู่ๆ บาร์ดอฟก็ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวเข้าไปหาลูคัส เขาค้อมศีรษะลงแล้วส่งมือให้ “เลดี้อารามิส ท่านจะให้เกียรติเต้นรำกับข้าหน่อยได้หรือไม่”

ลูคัสรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้หวังดีแน่ แล้วการเต้นรำก็ต้องใกล้ชิดกัน แค่คิดเขาก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว เด็กหนุ่มเม้มปากแน่น “......”

“ทำไมหรือ กลัวข้าหรืออย่างไร”

คาร์ลยกแขนขึ้นคั่นกลาง แล้วพูดเสียงเข้ม “เลดี้ของข้าได้ให้สัญญาต่อหน้าทุกคนไว้ว่าจะเต้นรำกับข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ขอโทษท่านอาด้วย” เขาลุกขึ้น ก้าวเข้าไปยืนข้างหน้าเด็กหนุ่ม แล้วจึงส่งมือให้ “เลดี้อารามิส ท่านจะให้เกียรติข้าสักหน่อยได้หรือไม่”

เด็กหนุ่มวางมือลงบนฝ่ามือหยาบพลางลุกขึ้น “ด้วยความยินดี”

ลอร์ดหนุ่มทำสัญญาณมือบอกให้เพลงเริ่มขึ้น จากนั้นจึงก้าวไปข้างในลานเต้นรำพร้อมกับเด็กหนุ่มช้าๆ

“ท่านลอร์ด... ผมจะไหวมั้ย”

“ไฮน์ริชกับยาคอปสอนเจ้าเต้นรำแล้วไม่ใช่หรือ”

“สอนนิดเดียว”

คาร์ลหัวเราะ “คอยก้าวตามข้าก็พอ” พูดจบก็โอบเอวเด็กหนุ่มเข้ามาใกล้ มืออีกข้างประคองมือนุ่มขึ้นแล้วก้าวนำไปช้าๆ

ช่วงแรกลูคัสก็เอาแต่สนใจการก้าวเท้า หากเมื่อเงยหน้าขึ้นสบสายตากับดวงตาสีฟ้าคู่หวาน หัวใจก็แทบจะหยุดเต้นไปเสียดื้อๆ เวลานี้หูอื้อจนแทบไม่ได้ยินเสียงเพลง

“วันนี้เจ้าทำให้ข้าประหลาดใจอีกแล้วรู้ไหม”

“รู้สิ คุณเล่นจ้องผมขนาดนี้ ดูแปลกมากเลยใช่มั้ย”

“เปล่า แต่ข้าคิดว่าเจ้างดงามยิ่งกว่าเลดี้คนไหนๆ ที่ข้าเคยพบมาเสียอีก”

ใบหน้าน่ารักซับสีเลือด “ไม่ต้องยอกันหรอก”

แขนแกร่งกระชับร่างโปร่งให้แนบชิดเข้ามาอีก จนระหว่างทั้งสองไม่มีช่องว่างระหว่างกัน “บาร์ดอฟกำลังมองอยู่นะ กอดคอข้าแล้วซบหน้าเข้ามาสิ”

“อะ... หา!” ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือ ตอนนี้น่ะ ไม่ใช่แค่บาร์ดอฟคนเดียวที่มอง แต่ทุกคนในห้องเลยนะ จะให้เขาทำแบบนั้นต่อหน้าทุกคน...

“เขินหรือ”

ลูคัสพยักหน้า แต่ก็ยกแขนขึ้นโอบลำคออีกฝ่ายพร้อมกับซบใบหน้าลงตามที่สั่ง

ลอร์ดหนุ่มก้มลงกระซิบ “เลดี้ของข้าน่ารักจริงๆ”

“ท่านลอร์ดหยุดแกล้งผมสักที!”

“เรียกคาร์ลสิ” เรียวปากอุ่นไล้สัมผัสใบหูนิ่มไปอย่างแผ่วเบา

เด็กหนุ่มย่นคอแล้วห่อไหล่เข้าหากัน เขาคิดว่าตอนนี้ทั้งใบหน้ายาวไปจนถึงใบหูคงจะเปลี่ยนเป็นสีแดงหมดแล้วแน่ๆ “ถ้าไม่เลิกแกล้งกันผมก็ไม่เรียกหรอก”

ลอร์ดหนุ่มหัวเราะอย่างพอใจ “เจ้าเด็กดื้อ!”

เมื่อเจ้าของปราสาทเต้นรำไปสักพัก แขกเหรื่อก็พากันลงมาร่วมเต้นรำด้วย หากทั้งสองก็ยังคงอยู่ในโลกส่วนตัวของพวกเขา ไม่ได้สนใจแขกเหรื่อในงานอีก

ฝ่ายไฮน์ริชและยาคอปเองก็มองตามลอร์ดหนุ่มไปด้วยความประหลาดใจ ร้อยวันพันปีพวกเขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายสนใจการเต้นรำเลย ทั้งที่เป็นประเพณีและเมื่อก่อนท่านพ่อก็บังคับอยู่บ่อยๆ แล้วนี่อะไรกัน ลงไปเปิดลานเต้นรำด้วยตนเอง ซ้ำยังเต้นรำนานเสียจนลืมพวกเขาไปเลย

บาร์ดอฟนั่งนิ่ง หากแสดงความไม่พอใจออกมาทางสายตา เขาจ้องมองลอร์ดหนุ่มอยู่นาน แต่แล้วก็กระตุกยิ้มมุมปาก ท่าทางเหมือนกับว่ากำลังคิดแผนการร้ายอะไรอยู่ในใจ

“มีอะไรดีๆ หรือท่านบาร์ดอฟ” อาเธอร์สังเกตท่าทีอีกฝ่ายอยู่พักใหญ่แล้ว ทำให้เขาอดถามออกไปไม่ได้

บาร์ดอฟหัวเราะพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ “แล้วท่านก็จะรู้เอง ข้าเหนื่อยละ ขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะ” จากนั้นจึงเดินออกจากห้องโถง ขึ้นบันไดกลางไปยังห้องพักที่เจ้าของปราสาทสั่งให้จัดไว้ให้ในปราสาทฝั่งขวา โดยมีทหารติดตามไปเป็นพรวน

เมื่อเห็นเช่นนั้น ลอร์ดหนุ่มจึงจูงมือลูคัสออกมาจากลานเต้นรำ เขาพยักหน้าเป็นเชิงส่งสัญญาณกับองครักษ์ น้องชายและท่านอาจารย์ จากนั้นก็ก้าวขึ้นบันไดตรงไปยังห้องหนังสือในปราสาทฝั่งซ้าย

ใช้เวลาไม่นานทุกคนก็เข้ามารวมกันอยู่ในห้องหนังสือ

“ข้าว่าบาร์ดอฟต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ” อาเธอร์พูดขึ้นอย่างไม่สบายใจ “ต้องมีอะไรสักอย่างที่สำคัญพอที่จะทำให้เขายอมเสี่ยงเข้ามาถึงที่นี่”

“เรื่องบาธิลดาก็ดูจะยอมถอยง่ายดาย ผิดวิสัยของเขา”

“ข้าก็คิดอย่างนั้น บางทีเขาอาจจะมาดูว่าการป้องกันปราสาทของข้าแน่นหนาแค่ไหน” ลอร์ดหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิด “แต่ถ้าหากบาร์ดอฟยกทัพมาตอนนี้ละก็ ปราสาทของข้าคงจะต้านทานได้ลำบาก ถึงตอนนี้กองทัพข้าจะมีทหารมากมายก็ตามที”

“เสี่ยงเหลือเกินท่านพี่ พวกข้าจะอยู่ที่นี่ดูลาดเลาต่อไปอีกสักพัก”

“ทหารของเราแจ้งว่ากองทัพของบาร์ดอฟตามมาหยุดปักหลักที่ตรงเชิงเขาก่อนถึงชายแดนจริง โดยอ้างว่ามารอรับท่านบาร์ดอฟกลับ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีการเคลื่อนไหวใดๆ อีกนะขอรับ” คอนราดรายงานกับผู้เป็นนาย

ลูคัสนิ่งฟังทุกคนพูดคุยปรึกษากัน เขาเองก็เห็นด้วยว่าบาร์ดอฟมีแผนอะไรสักอย่าง หากก็เดาไม่ถูก บรรยากาศตึงเครียดทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกง่วง ประกอบกับที่พักผ่อนน้อย ดวงตาสีเข้มจึงค่อยๆ หรี่ปิดลง พอเอนตัวซบไปซบไหล่กว้างก็สะดุ้งตื่น ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีลูกสตรอว์เบอร์รี “ขอโทษครับ!”

“อ้าว ท่าทางลูคัสจะง่วงมากเสียแล้ว” อาเธอร์หัวเราะ

“ดึกมากแล้วสินะ ถ้าเช่นนั้นเราก็ควรจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ยังมีพิธีส่งแขกของทหารม้าอีก” สายตาอ่อนโยนของเขาที่จ้องมองเด็กหนุ่มทำให้น้องชายทั้งสองหันหน้ามาสบสายตาอย่างรู้กันแล้วอมยิ้ม

“ขอรับ ราตรีสวัสดิ์”


*~TBC~*


ท่านหลอดตอนนี้เป็นปลาเหรอ ตอดจั๊งงงง~ /กลอกตามองบน

ตอนนี้หวานแบบสำลักน้ำตาลกันไปเรยม้อยคะ อิอิอิ

ส่วนเจ้าบาร์ดอฟ มีแผนอะไรรึเปล่าหนอ อันนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปนะคะ <-- ฟิลโฆษณาชวนเชื่อมั่กๆ  :o8:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 09-02-2017 10:04:38
โอ๊ย! ฉวยทุกโอกาสเลยทั่นหลอดดดดดด

มันจะกำไรเกินไปแล้ว

เลดี้ลู อารามิส มีสเตีห์แม้กระทั่งกับม้า! น่ากลัวยิ่งนัก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 09-02-2017 10:29:03
 :mew1: เลดี้มีเสน่ห์เกินห้ามใจ ตะลึงกันเป็นแถบๆ
แต่มาลุ้นแผนชั่วอิท่านอานี้แหละ ต้องเกี่ยวกะเลดี้ของเราแน่ๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 09-02-2017 10:34:25
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-02-2017 10:41:48
 :-[ :-[ :-[
ท่านอามีแผนร้ายอะไรก็ไม่น่าจะรอดฝีมือน้องลูไปได้หรอก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-02-2017 12:12:17
บาร์ดอฟมีแผนอะไรนี่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 09-02-2017 12:41:08
หวานเรื่อยๆแบบไม่มีปัญหาไม่ได้หรืออ :ling3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 09-02-2017 13:27:23
 :3123: :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 09-02-2017 13:33:16
ลูคัสก็กลายเป็นเลดี้ของท่านลอร์ดแล้วว :mew3:
บาร์ดอฟนี่ยังไง แผนเยอะนักหรอ เดี๋ยวก่อนๆ เดี๋ยวเจอความฉลาดของเลดี้อารามิส วินเซนต์ เดี๋ยวจะหาางกลับเมืองไม่เจอ
แต่จริงๆก็แอบกลัวว่าบาร์ดอฟจะรู้ว่าลูคัสเป็นผู้ชายไม่ใช่เลดี้ กลัวปัญหามันจะตามมาอีก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 09-02-2017 14:07:02
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 09-02-2017 14:57:26
ตลึงเลยหรือจ๊ะ ท่านหลอดกาแฟ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2017 18:22:51
แผนร้ายของบาร์ดอฟ
ไม่ใช่ลักพาตัวเลดี้อารามิสไปนะ  :z3: :z3: :z3:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-02-2017 18:54:06
ตะลึงกันเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-02-2017 19:35:57
จะมีเรื่องมั้ยเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 09-02-2017 19:42:51
ท่านลอร์ดเริ่มกิจการปลูกอ้อยให้ชาวเมืองหรือคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 09-02-2017 21:35:46
ท่านบราดอฟตาแก่เจ้าเลย์

วางมาดบาดใหญ่ไม่เจียมตัวซะเลย

ตลกตอนที่ลูคัสคิดว่า"หรือท่านโง่จริงๆ"

ลูคัสสู้ๆหนูทำดีแล้ว

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-02-2017 21:54:18
ขำที่ลูคัสคิดตอนแรก หรือว่าโง่จริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 09-02-2017 22:01:10
อิบาร์ดอฟนี่มีแผนร้ายกับน้องลูแน่นวลลลลลล
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 09-02-2017 22:29:22
สู้ๆนะลูคัส
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 09-02-2017 23:27:07
ฮืออออชอบมากกกกกกกกกกก อยากอ่านอะไรที่มันต่างจากที่เคยอ่านโอ้ยยยชอบมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 10-02-2017 02:24:37
ค้างง้าาาาา  :sad4:
เค้าหวานกันแค่นิสเดียวเอง ตอนสั้นจังเลยค่างืออ แต่ก็ดีใจนะคะที่มาต่อ ตอนหน้ายากเห็นทั่นหลอดดูดน้ำตอดน้องลูเน้นๆจัง.  :mew2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 09:54:50
ชอบบบท่านคาร์ล กับท่านลูคัสสสสส อยากจะเม้นให้ทุกตอนเลยค่ะ ดีงามมาก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 10:10:35
โอ้ยยยยยยย น้องลูคัสหายไปไหนนท่านคาร์ลพาน้องไปไหนคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-02-2017 10:11:53
อิตาท่านอานั่นต้องมุแผนร้ายแน่เลย
เป็นห่วงลูคัสจังเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 11:11:59
ลูคัสนี้นายเอกที่ตามหา ฉลาดมากกกกกก ชอบอ่ะ แลื้มเรื่องนี้มากจริงค่ะ ท่านคาร์ลก้ดีงามม เชื่อน้องเถอะนะน้องออกจากซื่อตาใส ใช้ดินปืนเป็น กรี๊ดดด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 11:22:23
เก่งจริงเลยลูคัส ฮือออออน้ำตาจะไหลตอนหนูโดนทำร้าย ฮือออออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 11:32:06
เดี๋ยวคุณเออร์วินจะหลงเด็กไปอีกคนนะคะ งื้อออน่ารักมากเลยยยยย ทำไมขี้อ้อนได้น่ารักขนาดนี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 11:46:30
หวงหนูลูคัสหรอคะ ท่านคาร์ล ฮืออออออออ ตายๆๆๆๆ ช๊อตหยิกแก้ม กับอยู่ต่ออีกสักพักนี้มันนนน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 11:57:28
จะตายแล้วววววววทำไมอ้อนได้น่ารักขนาดนี้ค่ะลูกกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 12:11:58
#11 ทำไวน์ได้มิ้งมากกกกกกน้องลูนี้อ่อยท่านคาร์ลหรือเปล่าครับ โอ้ยยยยจับมือเต้นรำ ตายแล้วววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 12:25:48
รีบมาทำไมมมมมมมมม ฮือออออหัวใจเต้นแรงมากกกกกก ตายๆ เขินอ่ะ ลูคัสน่ารักมากกกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 10-02-2017 18:23:47
อยากเห็นลูน้อยยยยย ><
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 20:37:05
ทำไมต้องเย็นชาขนาดนั้นนนนี้รักกันนะ ฮือออออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 20:49:09
เขาคุยกันแล้วววววววว ><
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 21:16:19
โอ้ยยยยยยยยยยยน่ารักอ่ะ ท่านนคาร์ลกับนุ้งลู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 10-02-2017 21:48:46
ดีงามมมมมมมมมมมมมมมมมม เขินน่ารัก ท่านคาร์ลดีงามมาก กรี๊ดดด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-02-2017 23:18:23
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-02-2017 10:30:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 21 : เลดี้อารามิส][090217]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 16-02-2017 11:29:42


Chapter 22 : คลุมเครือ


คาร์ลเดินไปตามทางเดินในปราสาทฝั่งซ้าย โดยมีลูคัสและทหารติดตามไปทางด้านหลัง เมื่อถึงห้องนอนลอร์ดหนุ่มก็ก้าวเข้าห้องไป

ลูคัสรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขานึกว่าอีกฝ่ายจะตามเข้ามาในห้องด้วยเสียอีก อย่างน้อยหันมาบอกราตรีสวัสดิ์กันก็ยังดี หากก็เข้าใจว่าพรุ่งนี้ยังมีงานและท่านลอร์ดก็ต้องพักผ่อน พอก้าวเข้าไปในห้องนอนแล้ว เขาก็นั่งรอให้สาวใช้มาช่วยถอดเสื้อผ้าออกให้ ระหว่างนั้นก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

“อือ... กำแพงปราสาท... ในยุคโบราณแบบนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก แล้วปืนใหญ่ก็หาได้ยากมากด้วย ถ้างั้นเวลาเขาจะยึดปราสาทกัน จะต้องทำยังไงนะ” เด็กหนุ่มลุกไปที่โต๊ะหนังสือ หยิบดินสอขึ้นมาจดสิ่งที่คิดลงไป “กำแพงปราสาทแบร์กไฮม์ อืม... ตอนที่เข้าไปตรวจสอบกับโปรเฟสเซอร์...”

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น จากนั้นสาวใช้อีกสองคนก็ก้าวเข้ามา “ท่านลูคัสเจ้าคะ”

“อื้ม จะถอดชุดใช่ไหม เอาเลย” เขาพูดโดยไม่หันกลับไปมองพวกหล่อน ใจจดจ่ออยู่กับแผ่นกระดาษตรงหน้า ไม่ได้ยินเสียงประตูเปิดปิดด้วยซ้ำ หากเมื่อนั่งไปสักพักก็มีมือยื่นมาถอดเครื่องประดับบนศีรษะออกให้ จากนั้นก็ไล้มือผ่านใบหูลงไปตามลำคอระหง หยุดคลึงหัวไหล่อย่างแผ่วเบา แล้วเอื้อมลงไปดึงปมเชือกของชุดที่เด็กหนุ่มสวมอยู่ออก

“ถอดไม่สะดวกใช่มั้ย เดี๋ยวนะ” ลูคัสพูดพลางลุกขึ้นยืนให้อีกฝ่ายถอดชุดตัวนอกสุดออก “เอาล่ะ เสร็จแล้ว”

พอหันหน้ากลับไปทางด้านหลังเด็กหนุ่มก็เบิกตาโพลง เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าคือ... “ท่านลอร์ด!” เขาหันมองไปภายในห้อง “คนอื่นหายไปไหนหมดแล้ว”

“ข้าสั่งให้พวกเขาออกไปเอง”

“ผมนึกว่าคุณจะนอนแล้วซะอีก”

คาร์ลโอบไหล่เด็กหนุ่มเข้าหาตัว เขายิ้มมุมปากพลางโน้มใบหน้าไปกระซิบ “ยังไม่ได้บอกราตรีสวัสดิ์เจ้าเลย จะนอนได้อย่างไร” ก่อนจะไล้ริมฝีปากผ่านแก้มนิ่ม “ผมยาวก็เหมาะกับเจ้าดี ชุดที่พวกสาวใช้เลือกให้ก็เช่นกัน แต่ข้าว่า...”

ลอร์ดหนุ่มใช้ปลายนิ้วไล้ผ่านผิวเนียน แกะปมเชือกของชุดตัวกลางออกแล้วเกี่ยวเอาแขนเสื้อลงไปทางหัวไหล่ทีละข้างอย่างเชื่องช้า จากนั้นจึงกระตุกชุดที่อีกฝ่ายสวมไว้ให้ร่วงลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า เหลือเพียงแค่ชุดกระโปรงสีขาวบางๆ ข้างในเท่านั้น

“ไม่ใส่น่าจะดีกว่า”

“หวา เดี๋ยวก่อน” แก้มนวลซับสีเลือด เขาทำท่าจะถอยหนี หากอีกฝ่ายรวบเอวเข้าไปแนบกาย มือเรียวจึงทุบลงบนไหล่หนาเบาๆ “ทำไมคุณถอดเก่งจังเนี่ย”

“เก่งอะไรกัน นี่ยังไม่ทันใจข้าเลย หืม... ไหนดูซิ เจ้ายัดอะไรไว้ตรงนี้กันนะ” คาร์ลพูดพลางดึงคอเสื้อชุดกระโปรงออกดู

ลูคัสตีมือหยาบอย่างไม่เบาแรงนัก “ท่านลอร์ด! แค่ผ้าธรรมดาจะดูไปทำไม! มันไม่เหมือนของจริงหรอกน่ะ”

“หืม เจ้าเรียกข้าว่าอย่างไรนะ” ลอร์ดหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ริมฝีปากคลอเคลียอยู่บนกลีบปากนุ่ม หากยังไม่ยอมจูบลงไป

นัยน์ตาสีเข้มมองตามเรียวปากของลอร์ดหนุ่ม ลมหายใจติดขัดอยู่นานอีกฝ่ายก็ไม่ยอมจูบสักที เขาพูดเสียงอ่อย “แกล้งผมอีกแล้ว”

“ทำไมอยู่ต่อหน้าคนอื่นเรียกชื่อข้าได้ แต่อยู่กันสองคนถึงเรียกไม่ได้”

“เรียกก็ได้” ลูคัสเสตาหลบ “ท่านคาร์ล! ท่านคาร์ล! ท่านคาร์ล! พอใจรึยัง อื้อ!”

มือกร้านจับคางเรียวไว้ไม่ให้เด็กหนุ่มขยับหนีได้ในขณะที่เขาบดเบียดริมฝีปากกับเรียวปากอวบอิ่มแล้วสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัด ความนุ่มหยุ่นของกลีบปากชักชวนให้ลุ่มหลง ความหวานล้ำในโพรงปากที่พอได้ลิ้มลองแล้วก็ยิ่งทำให้หิวกระหายมากขึ้น

คาร์ลเคลื่อนมือไปประคองท้ายทอยเด็กหนุ่มไว้ เขากระชับเรียวปากหนักหน่วงขึ้นอีก

ลูคัสรู้สึกราวกับว่าจุมพิตนี้ดูดกลืนวิญญาณเขาไปด้วย มือนุ่มขยุ้มเสื้อของลอร์ดหนุ่มแล้วดึงทึ้งเบาๆ เมื่อลมหายใจติดขัด

ลอร์ดหนุ่มถอนริมฝีปากออกช้าๆ ในขณะที่สองสายตายังประสานกันนิ่ง เขาลดสายตาลงมองกลีบปากที่เจ่อบวมเล็กน้อยซึ่งกำลังเผยอหอบหายใจ จากนั้นจึงย่อตัวลงอุ้มร่างโปร่งขึ้นแนบกายแล้วพาไปวางลงบนเตียงกว้าง

“เรียกชื่อข้าอีกสิ” เขาใช้ปลายนิ้วไล้แก้มสีสตรอว์เบอร์รี แล้วไปหยุดกดคลึงบนกลีบปากอวบอิ่ม

“ท่านคาร์ล”

ลอร์ดหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปคลอเคลีย กัดกลีบปากสีสดเบาๆ ก่อนจะบดจูบ จุมพิตของเขารุกล้ำ เร่งเร้า จนทำให้คนใต้ร่างแทบหลอมละลาย

แขนเรียวยกขึ้นโอบไหล่หนา เขาเงยหน้าขึ้นรับจุมพิตหวานที่คนบนร่างมอบให้ แล้วพาตัวเองจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความปรารถนา

เรียวปากร้อนเคลื่อนออกไปพรมจูบบริเวณลำคอ ไล่ลงมาจนถึงอกช่วงบน มือหยาบถลกชายกระโปรงขึ้นแล้วลากไล้ไปตามเรียวขา

เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง เขารู้สึกตึงๆ ที่ตรงส่วนไวสัมผัสกลางร่าง มือเรียวรีบผลักลอร์ดหนุ่มออกห่าง ลุกขึ้นนั่งแล้ววางมือลงปิดส่วนที่ร้อนผ่าวเอาไว้

“ลูคัส เป็นอะไรไป”

เจ้าของชื่อเรียกก้มหน้าหลบสายตา ก็เพราะคิดว่าลอร์ดหนุ่มอยากจะกกกอดตัวเขาทั้งยังอยู่ในชุดผู้หญิงเช่นนี้ แล้วถ้าหากไปสัมผัสโดนส่วนนั้นเข้า... ก็อาจจะทำให้เสียอารมณ์ไปได้ง่ายๆ

“ลูคัส”

ปวดหนึบที่ตรงนั้น หากก็ไม่กล้าพูดออกไป หัวไหล่ของเด็กหนุ่มสั่นน้อยๆ ขณะที่หลับตาและเม้มริมฝีปากไว้แน่น

ลอร์ดหนุ่มดึงร่างโปร่งเข้าไปโอบกอด ค่อยๆ ลูบแผ่นหลังอย่างอ่อนโยน เขาคงจะเร่งเร้าอีกฝ่ายมากเกินไป หากก็เพราะเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน เขาก็เอาแต่ปรารถนาที่จะได้ครอบครองร่างกายนี้ “ข้าทำให้เจ้ากลัวหรือ เด็กน้อย”

ลูคัสส่ายหน้าไปมา “เปล่าครับ”

เด็กหนุ่มตอบเช่นนั้น ทว่าพอคาร์ลก้มลงจูบตรงซอกคอ เขาก็ย่นคอลงแล้วขยับหนี

“ไหนว่าไม่กลัวไง”

“ไม่กลัว แต่...”

“แต่...”

“ผมง่วงแล้ว”

คาร์ลยิ้มบาง เมื่อเขาเอื้อมมือไปแตะแขนเรียว อีกฝ่ายก็สะดุ้งเฮือก ลอร์ดหนุ่มถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจึงยิ้มบาง “ถ้าเช่นนั้นก็พักผ่อนเถอะ ข้าจะกลับห้องของข้าล่ะ”

ลูคัสเงยหน้าขึ้น สบสายตากันเพียงชั่วครู่เขาก็รีบเสตาหลบ ถ้าเป็นทุกครั้งเขาคงจะรั้งให้อีกฝ่ายนอนด้วยกัน หากคืนนี้... “ครับ ราตรีสวัสดิ์”

ลอร์ดหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ เขาลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน “ราตรีสวัสดิ์” จากนั้นจึงเดินกลับไปยังห้องตนเองด้วยทางลับที่เชื่อมระหว่างทั้งสองห้อง

เด็กหนุ่มนั่งชันเข่าอยู่สักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นจากเตียง เขาถอดวิกผมยาวสีน้ำตาลออก ตามด้วยชุดกระโปรงสีขาวตัวบาง แล้วสอดตัวกลับเข้าไปขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ที่ตรงส่วนกลางร่างยังคงปวดหนึบ รสสัมผัสของลอร์ดหนุ่มยังคงชัดเจนอยู่ในความคิด เขาพยายามข่มตาให้หลับลง แต่ดูท่าจะเป็นไปได้ยากโดยเฉพาะเมื่อร่างกายร้อนรุ่มถึงขนาดนี้

มือนุ่มเลื่อนลงไปลูบสัมผัสส่วนที่ตื่นตัวในกางเกงชั้นใน พยายามกัดฟันไว้ไม่ให้มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาได้ ระหว่างนั้นก็นึกถึงริมฝีปากร้อนที่ลากไล้ไปบนผิวกาย และฝ่ามือกร้านที่อบอุ่น

เมื่อเร่งจังหวะการขยับมือเร็วขึ้น เขาก็หอบถี่  “ท่านคาร์ล อะ!” และปลดปล่อยความร้อนรุ่มในกายออกมาในที่สุด

ลูคัสลุกขึ้นพรวด รีบรุดเดินไปล้างมือให้สะอาด จากนั้นจึงกลับมานอนบนเตียง ใบหน้าน่ารักซุกลงบนหมอน ริมฝีปากเผยอหอบ หัวใจเต้นระรัว

“ท่านคาร์ล” มือเรียวขยุ้มผ้าปูที่นอนไว้แน่น เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้วกับความรู้สึกแปลกๆ ในกายเช่นนี้

...

......

...

เด็กหนุ่มตื่นมาแต่งตัวในตอนสายของวันใหม่ ชุดที่ต้องใส่ในวันนี้มีน้ำหนักมากกว่าเมื่อวานเสียอีก เนื่องจากความหนาของเนื้อผ้าสำหรับใส่ข้างนอกในฤดูหนาวแล้วยังมีผ้าคลุมขนสัตว์ทับอีกชั้น

ชุดสีดำตัวในปักลายสีทองอย่างละเอียด สวมทับด้วยชุดตัวนอกสีแดงแขนยาวกรุยกราย ส่วนกระโปรงยาวทอดไปทางด้านหลัง มีผูกผ้าพันเอวสีทองพันทบไว้อีกชั้น เมื่อสวมวิกแล้วก็สวมผ้าคลุมศีรษะทับ ปิดท้ายด้วยผ้าคลุมขนสัตว์

“ผมควรจะลองใส่ชุดนี้ขี่ม้าดูก่อน” ลูคัสพึมพำ “ลมพัดทีผมจะตกจากหลังม้ามั้ยเนี่ย”

“ม้าเดินช้าๆ มีทหารคอยระวัง ท่านลูคัสไม่ต้องกังวลไปหรอกเจ้าค่ะ”

ถึงสาวใช้จะยืนยันเช่นนั้น หากเด็กหนุ่มก็ยังถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ

เมื่อถึงเวลาบ่าย เออร์วินก็มารับเด็กหนุ่มที่ห้องเพื่อพาไปเตรียมตัวในสนาม เขายิ้มให้อีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ค้อมศีรษะลงต่ำแล้วผายมือเชิญให้เดินนำออกไป

“เออร์วิน ทำแบบนี้ผมไม่คุ้นเลยนะ”

เออร์วินหัวเราะ “เจ้าเป็นเลดี้ ข้าก็สมควรจะปฏิบัติเช่นนี้กับเจ้าไม่ใช่หรือ”

ลูคัสขมวดคิ้ว หากก็เดินนำออกไป

“เจ้างามมากเหลือเกิน รู้ไหม”

เด็กหนุ่มหยุดกึก หันหลังกลับไปสบสายตากับคนพูด “ผมเป็นผู้ชายนะ คิดว่ามีคนชมแบบนี้ผมจะดีใจมั้ย”

“เอาน่ะ มีคนชมก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ”

ลูคัสก้าวเดินไปตามทางเดินในปราสาทอย่างเงียบเชียบ เมื่อถึงประตูทางออกปราสาทก็หยุดนิ่ง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกและทำสมาธิ

เออร์วินให้เวลากับอีกฝ่ายชั่วครู่ ก่อนจะค้อมศีรษะลงอีกครั้ง “ท่านพร้อมหรือยัง เลดี้อารามิส”

นัยน์ตาสีเข้มปิดลงสนิท แล้วลืมขึ้นช้าๆ “ข้าพร้อมแล้ว”


ร่างโปร่งในชุดสีแดงเด่นสง่าบนหลังอาชาสีขาว ใบหน้าน่ารักเชิดขึ้น มีรอยยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปาก ในมือถือดาบขณะที่บังคับม้าให้เดินนำกองทหารเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าเพิงที่นั่งของลอร์ดหนุ่ม เขาวางมือลงบนฝ่ามือของนายทหารที่ช่วยจูงม้าเข้ามาเพื่อใช้ในการประคองตัวลงจากหลังม้า จากนั้นก็เดินไปย่อตัวทำความเคารพตรงหน้าที่นั่ง

สายตาของบาร์ดอฟที่มองมาดูไม่ค่อยเป็นมิตรนัก พอสบสายตากันกับเด็กหนุ่มก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย

ลูคัสพยายามไม่ใส่ใจ หลังจากส่งดาบยาวให้กับลอร์ดหนุ่มได้ก็ถือว่าหน้าที่ของเขาเสร็จสมบูรณ์

คาร์ลรับดาบมาไว้ในมือ เขาดึงออกจากฝักแล้วชูขึ้นสูง เป็นการส่งสัญญาณบอกกับเหล่าทหารม้า เมื่อหัวหน้านายกองขานรับ เขาจึงนั่งลงเพื่อรอดูการแสดง

ลูคัสก้าวไปนั่งลงเคียงข้างลอร์ดหนุ่มตามที่อาเธอร์ได้บอกไว้ แล้วทอดสายตามองความพร้อมเพรียงของเหล่าทหาร

เมื่อการแสดงจบลง ทุกคนต่างพากันปรบมือ ยกเว้นบาร์ดอฟเพียงคนเดียว เขาหันไปหาคาร์ลแล้วพูดขึ้น “อันที่จริง ดูความสามารถของทหารเจ้า ข้าว่ามันน่าเบื่อจะตายไป ข้าอยากจะเห็นฝีมือในการขี่ม้าของเลดี้อารามิสมากกว่า ได้ยินพวกทหารพูดกันว่าเก่งกาจมิใช่น้อย”

“นั่นมิใช่หน้าที่ของเลดี้ข้า ต้องขอโทษท่านอาด้วย” หากก่อนลอร์ดหนุ่มจะค้อมศีรษะลง ลูคัสก็รั้งแขนเขาไว้

เด็กหนุ่มเชิดหน้าขึ้น สิ่งเดียวที่เขาทนไม่ได้คือการที่คาร์ลจะต้องพ่ายให้กับคนคนนี้ “ท่านบาร์ดอฟมีความประสงค์จะให้ข้าทำอย่างไร”

“ลองขี่ม้าแล้วบังคับมันให้กระโดดข้ามรั้วที่ล้อมลานตรงนั้นสักหน่อยเป็นไร”

ลูคัสไม่ตอบ หากเดินไปยังชาโรน ม้าตัวสีขาวของเขา

“เดี๋ยวก่อนสิ เลดี้อารามิส ช่างใจร้อนเสียจริง” บาร์ดอฟยิ้มกริ่ม “กิตติศัพท์ของยาสพาล ม้าตัวโปรดของท่านลอร์ดเป็นที่เลื่องลือ ถ้าหากข้าจะได้เห็นเลดี้อารามิส ขี่หลังมันกระโดดข้ามรั้วคงจะเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่น้อย”

“เจ้า!” ลอร์ดหนุ่มชักสีหน้า ยาสพาลเป็นม้าที่สวยงามและหยิ่งผยอง ไม่ใช่ว่าจะยอมให้ใครต่อใครขึ้นขี่หลังมันได้ง่ายๆ แล้ว ลูคัสก็ยังไม่เคยได้ฝึกซ้อมขี่หลังมันมาก่อนเลย การเอ่ยปากเช่นนี้ บาร์ดอฟต้องการหาเรื่องกับเด็กหนุ่มอย่างชัดเจน

ทว่าในฐานะของเลดี้ของมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์แล้ว เขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ หรอก “ข้าจะลองดู”

“อารามิส ข้าไม่อนุญาต”

“ท่านคาร์ล ข้าเป็นเลดี้ของท่าน เรื่องแค่นี้ท่านไม่ต้องกังวล” ลูคัสยิ้มพลางจับมือของลอร์ดหนุ่มไว้ เขาหันไปบอกกับทหารให้ไปพาตัวยาสพาลมา จากนั้นจึงเอ่ยกับบาร์ดอฟ “ถ้าหากข้าทำได้สำเร็จ ท่านจะมีรางวัลให้ข้าหรือไม่”

บาร์ดอฟแสยะยิ้ม “นั่นสินะ เจ้าอยากได้สิ่งใดกันล่ะ เงิน ทอง?”

“ของแค่นั้นคงไม่เหมาะหรอกท่านบาร์ดอฟ” ยาคอปพูดแทรก

ไฮน์ริชยิ้มมุมปาก “ดาบสั้นของท่านท่าจะเหมาะสมดี”

บาร์ดอฟชักสีหน้า หากถ้าปฏิเสธก็จะเสียหน้าเช่นกัน “ก็ได้” เขากัดฟันกรอด หยิบดาบสั้นซึ่งอยู่ในฝักหนังที่ประดับด้วยดิ้นทองและเพชรพลอยนานาชนิด  มีตราของมาควิสแห่งโรเซนไฮม์จารึกไว้และยังฝังพลอยหลากสีตรงด้ามจับอย่างสวยงามขึ้นมาวางลงตรงหน้า

ยาสพาลส่งเสียงร้องลั่นมาแต่ไกล ขนสีดำเป็นเงาสะท้อนกับแสงแดดในยามบ่าย ความสง่างามของมันเป็นที่หนึ่ง หากความดื้อรั้นก็เช่นกัน มันสะบัดหน้าไปมาจนนายทหารที่จูงอยู่เซไปตามแรงเหวี่ยง เมื่อเดินมาถึงหน้าที่นั่ง เห็นลอร์ดหนุ่มผู้เป็นนายของมันหูก็ตั้งขึ้นพลางกระทืบเท้าไปมาด้วยความดีใจ

คาร์ลก้าวเข้าไปลูบหัวมันเบาๆ “ยาสพาล เจ้าจงเชื่อฟังเลดี้อารามิส ดูแลเลดี้ของข้าด้วย”

ลูคัสเดินเข้าไปยืนเคียงข้างลอร์ดหนุ่ม เขาเอื้อมมือไปลูบตามใบหน้าของเจ้าม้าตัวสวย “เจอกันอีกแล้วนะ ยาสพาล” ก่อนจะโอบลำคอของมันแล้วซบใบหน้าลง

เจ้าม้าสีดำนิ่งเสียจนทั้งยาคอป ไฮน์ริช อาเธอร์และแม้แต่คาร์ลก็ยังแปลกใจ หนำซ้ำมันยังยอมให้ลูคัสขึ้นขี่หลังมันได้ง่ายๆ

มือนุ่มลูบไล้แผงขนอย่างอ่อนโยนที่สุด เขามักจะใช้วิธีนี้สร้างความคุ้นเคยกับม้าเสมอ แขนเรียวโอบลำคอมันหลวมๆ อีกครั้งแล้วกระซิบบอก “เรามาพยายามด้วยกันเพื่อท่านคาร์ลนะ” จากนั้นก็จับบังเหียนม้าไว้พร้อมกับเตะสีข้างมันเบาๆ ให้ เดินออกไป

ลูคัสพาเจ้าม้าสีนิลวิ่งเหยาะๆ ไปรอบๆ สองสามรอบ ก่อนจะเตะสีข้างให้ยาสพาลเพิ่มความเร็วขึ้นทีละน้อย และเมื่อคิดว่าพร้อมก็พามันวิ่งตรงไปยังรั้วกั้น รอให้ระยะห่างเหมาะสมจึงให้สัญญาณในการกระโดด

เจ้าม้าสีดำขลับกระโดดสูงขึ้นไปในอากาศ ข้ามพ้นรั้วไปอย่างสง่างาม เรียกเสียงปรบมือดังก้อง

ลอร์ดหนุ่มยิ้มออกมาอย่างพอใจ ในขณะที่อาเธอร์ก้าวเข้าไปหาบาร์ดอฟ

“ท่านจะไม่เอ่ยชมเลดี้อารามิสสักหน่อยหรือ”

บาร์ดอฟกัดฟันกรอด “อืม เก่งกาจสมกับที่ได้ยินมา”

เมื่อลูคัสขี่ม้ากลับมาถึงที่หน้าเพิงที่นั่ง คาร์ลเดินไปรับเด็กหนุ่มด้วยตัวเอง เขาบอกขอบใจยาสเพอร์ แล้วส่งมือให้อีกฝ่าย

มือนุ่มวางลงบนฝ่ามืออบอุ่น หากพอจะก้าวลงจากม้า ลอร์ดหนุ่มก็ชิงอุ้มเขาตัวลอย “ท่านคาร์ล”

เจ้าของชื่อวางร่างโปร่งลงอย่างระมัดระวัง “เจ้าเก่งมาก อารามิส”

“สมเป็นเลดี้ของท่านใช่ไหม” เด็กหนุ่มหัวเราะ

คาร์ลยิ้มกริ่ม เขาเชยคางเรียวขึ้นแล้วจุมพิตริมฝีปากสีแดงสดต่อหน้าทุกคน “ใช่ สมเป็นอารามิสของข้า” จากนั้นจึงจูงมือเรียวพาเดินเข้าไปข้างในเพิงด้วยกัน “ข้าคิดว่าท่านอาคงไม่มีข้อกังขาใดๆ ในตัวเลดี้ของข้าอีกแล้ว”

ไฮน์ริชกับยาคอปยิ้มเยาะ ชอบอกชอบใจกับสีหน้าที่ดูหงุดหงิดของบาร์ดอฟเป็นอย่างมาก “แล้วรางวัลของเลดี้อารามิสเล่าขอรับ”

บาร์ดอฟกระชากดาบสั้นขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด จำใจต้องส่งมันให้กับเด็กหนุ่มตามที่ได้เอ่ยปากไว้โดยที่ไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ

ลูคัสยิ้มมุมปากพลางย่อตัวลง “ขอบคุณ” จากนั้นก็รับดาบสั้นนั้นมา แล้วสอดเข้าไปในผ้าซึ่งผูกอยู่ที่เอว

“ข้าควรจะกลับสักที” บาร์ดอฟเชิดหน้าขึ้น

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปส่งท่านถึงที่กำแพงเมือง”

“กลัวข้าจะไม่กลับไปจริงงั้นรึ”

“ข้าเกรงว่าท่านจะพาทหารของท่านกลับไปไม่หมด จึงต้องไปส่งให้แน่ใจ เพราะตอนนี้ข้าปกครองทหารหลายพันนายก็มากมายเท่าทหารของทั้งเมืองท่านอาแล้ว” ลอร์ดหนุ่มพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง

บาร์ดอฟชักสีหน้า สายตาแฝงไว้ด้วยความเกลียดชัง แต่แล้วก็กลับมาพูดด้วยน้ำเสียงปกติอีกครั้ง “บางทีการมีทหารมากมายในกำมือ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรได้อย่างใจคิด ช่างน่าเสียดาย” เขายิ้มร้าย “จริงไหม”

คาร์ลไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายพยายามจะสื่อถึงอะไร เขาเมินเฉยต่อคำพูดนั้นเสีย แล้วหันไปออกคำสั่งทหารให้เตรียมขบวนพาแขกผู้มาเยือนไปส่งที่ชายแดน


*~TBC~*


หยอดกันเข้าไป คนนึงก็อ้อยสุด คนนึงก็เต๊าะเด็กสุด อีกไม่นานคงได้กัล /เอ๊ะ พิมพ์อัลรัยลงป๊ายยย

แต่บาร์ดอฟทำไมพูดจาแปลกจั๊ง จะมีแผนอัลรัยอีกรึเปล่าเนี่ยยยย  :hao5:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 16-02-2017 12:05:12
ระแวงบาร์ดอฟนี่ล่ะ คนเค้ากำลังอ้อยกัน โอ้ยยย เครียดแทนท่านลอร์ด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 16-02-2017 12:42:46
ภูมิใจในความสามารถของน้องลู ไม่มีใครทำอะไรนางได้เลย แม้กระทั่งท่านลอร์ด ก็ยังทำไม่ได้ คลุมเครือของจริง :mew5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-02-2017 13:12:55
อูยยย......คาร์ล ทำให้ลูคัส ระส่ำระส่าย จนต้องปลดปล่อยตัวเอง
แล้วคาร์ล ล่ะ เกิดอารมณ์เหมือนลูคัส มั้ยนะ
บาร์ดอฟ นี่น่ารำคาญ นิสัยร้ายกาจ
โลภมาก กระหายอำนาจ อยากได้สมบัติของคนอื่น
นี่คงจะวางแผนร้ายๆ อีกแน่เลย
คาร์ ลูคัส สั่งสอนบาร์ดอฟ ให้สาสมน่าจะดี
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-02-2017 13:36:06
ดูท่าลูน้อยจะเข้าใจผิดเรื่องที่ท่านอยากมีอะไรด้วยเพราะลูแต่งหญิงนะทั่นหลอด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-02-2017 13:47:15
เก่งกาจ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-02-2017 14:09:04
 :3123: :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 16-02-2017 14:12:36
 :interest:
เก่งกาจมาก เลดี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 16-02-2017 14:26:37
ตบมือดังๆเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 16-02-2017 16:21:31
บาร์ดอฟ ทำให้เสียบรรยากาศตลอดเลย 55+
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-02-2017 17:42:42
ฆ่าไปก้อสิ้นเรื่อง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 16-02-2017 19:03:15
โถ่ น้องลูก็คิดมากไป ท่านหลอดก็บอกอยู่ว่าชอบมากกกถ้าไม่ใส่เลย  อิทั่นหลอดหื่น  :o8:
เดือดร้อนน้องนางทั้ง5ไปอีก  ท่านหลอดก็คงจะไม่ต่างกันแน่  :z1:
มองข้ามอิตาบาดอฟไปก่อน ตอนนี้พระนายเค้าจะโชว์สวีทกัน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-02-2017 19:05:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 16-02-2017 19:44:48
โอ้ยยยยหนูลูคัสคิดมากไปทำไมค่ะ คราวก่อนที่เขาจะสอนหนูหนูก้ยังไม่แต่งหญิงนะคะ  ทีานเลดี้นี้เก่งจริงๆเล้ยยยยยย กรี๊ดฉากจุมพิต ต่อหน้าทุกคนมากกกกกกกกก เขินนท่านคาร์ล ทำิารายยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 16-02-2017 20:10:03
ลูคัสเก่งมากๆเลย

ต่อไปก็วางแผนการจู่โจมของตาแก่ดีๆ

เชื่อว่าท่านลอร์ดและลูคัสทำได้

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 16-02-2017 20:22:23
รอเขาได้กันค่ะ อุ้ยยยย55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 16-02-2017 20:26:17
บาดอฟเหมือนเด็กๆ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ขี้อิจฉาขี้อวดอีก..
เดี๋ยวเร็วๆนี้ทั่นหลอดและน้องอ้อยคงจะได้กันแน่ๆ แหมมมม คนนึงก็น้ำมัน อีกคนพร้อมเติมเพลิง คิคิ  :m20:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 16-02-2017 20:41:36
บริการถอดชุดให้ขนาดนี้ ทำไมถอยหนีไปง่ายๆล่ะท่านหลอด
น้องลูก็นะคิดมากอีกแล้ว แล้วเป็นไงค้างคาจนต้องพึ่งตัวเองเลย มันน่าตีนัก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-02-2017 20:55:47
น้องลูเก่งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ หวังว่าจะไม่แพ้ให้แผนการต่างๆของบาดอฟนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 16-02-2017 21:18:51
หนูลูคัสก็ช่างคิดมากกกก :mew2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 17-02-2017 00:42:35
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-02-2017 08:14:11
หมดกังวลเรื่องตาแก่เมื่อไร คาร์ลได้กินอ้อยแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-02-2017 09:31:45
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-02-2017 21:09:44
เก่งมากหนูลู งานนี้อิท่านอาวางแผนชั่วไว้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 18-02-2017 00:32:44
 :-[  :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: plugie ที่ 18-02-2017 20:45:17
สนุกมากๆเลย :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 18-02-2017 23:40:08
สู้นะลูคัส พยายามเข้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 22 : คลุมเครือ][160217]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 23-02-2017 11:43:07


Chapter 23 : ตัดสินใจ


ขบวนของบาร์ดอฟเคลื่อนออกไปจากปราสาทโดยที่มีกองทหารของแบร์กไฮม์ขนาบด้านหน้าและหลัง ไฮน์ริชกับยาคอปเดินทางไปพร้อมกับทหารกองหน้า คาร์ลอยู่ในกองหลัง ส่วนอาเธอร์กับลูคัสไม่ได้ไปด้วย หลังจากทุกขบวนออกไปพ้นเขตปราสาทแล้วทั้งสองจึงไปนั่งพักผ่อนกันที่ศาลาในสวนกุหลาบ

“อากาศเย็นไปสักหน่อย แต่หลังจากท่านบาร์ดอฟกลับไปได้ ข้าก็อยากจะสูดอากาศบริสุทธิ์เยอะๆ” อาเธอร์พูดกลั้วหัวเราะ “เจ้าทำหน้าที่ได้ดีมากนะลูคัส สมแล้วที่ท่านคาร์ลเลือกเจ้า”

“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มยังคงอยู่ในชุดของหญิงสาว เขายังไม่ทันได้เปลี่ยนอีกฝ่ายก็เอ่ยปากชวนออกมาเดินเล่น และชุดนี้ถึงจะหนักแต่ก็อุ่นดีไม่น้อย เขาจึงไม่ปฏิเสธ

“มีเจ้าอยู่ใกล้ๆ ท่านคาร์ล ข้ากับท่านวิลแฮล์มจะได้สบายใจ อีกสักสองสามวันข้าก็ควรจะเดินทางกลับได้ละ”

“ท่านวิลแฮล์ม” ลูคัสเปรย “ท่านอาเธอร์เดินทางมาหลายวัน ส่วนท่านคาร์ล ท่านไฮน์ริชกับท่านยาคอปก็ไม่อยู่ อย่างนี้ท่านวิลแฮล์มคงเหงาแย่เลยนะครับ”

อาเธอร์พยักหน้า “ใช่  ไม่เพียงแค่เหงา แต่ท่านยังเป็นห่วง เป็นกังวลตลอดเวลา เกรงว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับท่านคาร์ล เพราะแบร์กไฮม์อยู่ใกล้กับโรเซนไฮม์ของท่านบาร์ดอฟมากที่สุด ข้าจึงต้องนำกองทหารมาเสริมให้”

“แต่ว่าท่านพาทหารมามากมาย แล้วอย่างนี้ทหารที่อยู่กับท่านวิลแฮล์มก็เหลือไม่มากน่ะสิครับ”

“ทหารในกองก็มีลดลงไปบ้าง แต่ถึงอย่างไรเมืองไฮเดลแบร์กก็อยู่ในอาณาเขตล้อมที่ไว้ด้วยพันธมิตร ถ้าหากจะมีข้าศึกบุกเข้ามาก็ต้องผ่านเมืองอื่นก่อนอยู่ดี การกระจายกำลังทหารก็เป็นสิ่งสำคัญ แคว้นของเราก็เหมือนบ้าน เมืองชายแดนก็เหมือนกำแพง ต้องมีกำแพงที่ดีเพื่อปกป้องตัวบ้านอย่างไรกันล่ะ”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก “เข้าใจแล้วครับ แต่พอพูดถึงกำแพง...” เขาหยุดแล้วหันมองไปยังกำแพงหินของปราสาท “ผมว่ากำแพงปราสาทแบร์กไฮม์ยังไม่แน่นหนาสักเท่าไหร่”

“เจ้าก็คิดเช่นนั้นหรือ ท่านคาร์ลกับข้าก็คิดเช่นเดียวกัน นี่ท่านบาร์ดอฟคงจะหัวเราะเยาะอยู่ในใจ เพราะกำแพงปราสาทของท่านบาร์ดอฟแข็งแกร่งเป็นที่เลื่องลือ ทั้งสูงใหญ่แล้วก็มีถึงสามชั้น แทบจะไม่มีทางบุกฝ่าเข้าไปได้เลยทีเดียว”

“แทบจะไม่มีทางแต่ก็ยังมีทางใช่ไหมครับ กำแพงน่ะ ต่อให้แน่นหนาแค่ไหน ถ้าหากมีปืนใหญ่ก็พังได้”

“เจ้ารู้จักปืนใหญ่ด้วยหรือ” อาเธอร์เลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ “ข้าเคยได้ยินคำเล่าลือมาบ้าง มันเป็นอาวุธที่พระเจ้าประธานมาให้ใช้ปกป้องเมืองศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น”

“ท่านหมายถึง... กรุงโรมสินะ”

“โอ้ เจ้านี่ไม่ธรรมดาเลย”

ลูคัสนิ่งคิด ถ้าหากไม่มีปืนใหญ่ การทลายกำแพงหินสูงๆ ก็คงจะเป็นเรื่องยาก ทหารที่จะบุกเข้าไปก็ต้องปีนกำแพงปราสาท ต้องต่อสู้กับหอกดาบและธนูจากข้าศึกบนกำแพง ทหารที่จะรอดข้ามกำแพงไปได้คงจะเหลือน้อย แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปสู้กับข้าศึกในกำแพงอีก

“แคว้นของท่านบาร์ดอฟคงจะเข้มแข็งมากสินะครับ”

“ลำพังทหารในกองทัพก็ไม่เท่าไหร่ แต่การที่จะบุกเข้าไป กว่าจะผ่านปราการของปราสาทเข้าไปได้ก็ไม่รู้จะเหลือทหารสักกี่นาย ฝ่ายรุกเสียเปรียบกว่ามากน่ะ เพราะอีกฝ่ายมีที่กำบัง ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะเอาชีวิตของพวกทหารเข้าไปเสี่ยง”

ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้ม “สมแล้วที่ท่านเป็นคนสั่งสอนท่านคาร์ลมา และผมก็คิดว่าท่านคาร์ลคงได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมาจากท่านวิลแฮล์มด้วย พวกท่านไม่เหมือนพวกขุนนางที่ผมเคยได้ยินมาเลย ชาวเมืองในแคว้นนี้โชคดีมากๆ”

อาเธอร์หัวเราะ “เจ้านี่ช่างฉลาดพูด” เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน “เมื่อบ้านเมืองสงบ ท่านคาร์ลคงจะได้พาเจ้าไปพบท่านวิลแฮล์ม ท่านคงจะโปรดเจ้ามากเลยทีเดียว”

รอยยิ้มน่ารักค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเจื่อนๆ เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านคาร์ลจะแนะนำตัวเขากับผู้เป็นบิดาว่าอย่างไร จะว่าไปทั้งน้องชายและอาจารย์ของอีกฝ่ายก็คงคิดว่าเขาเป็นมือขวาของท่านคาร์ลอย่างที่ลอร์ดหนุ่มเคยบอกกับพวกทหารและพวกชาวเมืองไว้

“มีอะไรรึ หรือว่าเจ้าหนาวแล้ว”

“เปล่า... เปล่าหรอกครับ”

“จริงสิ ดื่มชาร้อนๆ กันสักหน่อยดีกว่า” อาเธอร์หันไปกวักมือเรียกสาวใช้มาสั่งชากับอาหารว่าง ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นก็มีนายทหารคนหนึ่งนำจดหมายเข้ามาส่งให้

ระหว่างที่รอให้อาเธอร์อ่านจดหมายเสร็จ เด็กหนุ่มจึงคิดว่าจะไปพาลูห์กับลาห์มาเล่นด้วยสักหน่อย “ถ้างั้นเดี๋ยวผมมานะครับ ขอไปพาลูห์กับลาห์มาที่นี่ด้วย”

อาเธอร์พยักหน้า “เอาสิ รีบไปรีบมาล่ะ”

...

.....

...

กองทัพของลอร์ดหนุ่มหยุดอยู่ที่ตรงประตูกำแพงเมือง และก่อนกองทัพของบาร์ดอฟจะข้ามเขตแดนออกไป เขาก็ก้าวลงมาจากรถม้าเพื่อบอกลา

บาร์ดอฟเดินเข้ามายืนประจันหน้ามาควิสแห่งแบร์กไฮม์ ก่อนจะยื่นมือมาสัมผัส เขายิ้มร้าย “ไม่มีอะไรที่ข้าต้องการแล้วจะไม่สมหวัง อะไรที่สวรรค์ประทานมาให้ข้า ก็ต้องเป็นของข้าอยู่วันยังค่ำ ขอให้ท่านคาร์ลจงจำคำข้าไว้ให้ดี”

คาร์ลขมวดคิ้ว นึกสังหรณ์ใจขึ้นมาแปลกๆ หากก็ยังพยายามทำสีหน้าให้เรียบเฉย เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยืนรอให้กองทัพของบาร์ดอฟข้ามผ่านเขตเมืองไป

“ข้าว่ามันแปลกๆ นะท่านพี่”

“ลูคัส” คาร์ลกัดฟันกรอด “ลูคัสกำลังตกอยู่ในอันตราย ดาบสั้นอันนั้น!” ลอร์ดหนุ่มก้าวขึ้นหลังม้า พร้อมกับตะโกนสั่งน้องชายทั้งสองที่มาด้วยกัน “พวกเจ้าจงนำทหารกลับปราสาทด้วย”

“ขอรับท่านพี่!”

คาร์ลเตะสีข้างม้าอย่างแรงให้มันพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีองครักษ์ทั้งสองติดตามไปอย่างกระชั้นชิด

..

.....

..

ลูคัสรีบรุดตรงไปยังประตูทางเข้าทางด้านข้างของปราสาท โดยมีทหารนายหนึ่งติดตามไปด้วย ขณะที่เดินไปก่อนจะถึงทางเข้าประตู เด็กหนุ่มสังเกตเห็นใครบางคนนอนอยู่บนพื้นในดงของพุ่มกุหลาบ เขาจึงหยุดมองดู “ใครมานอนอยู่ตรงนี้น่ะ”

“นั่นสิขอรับ” นายทหารก้าวเข้าไปใกล้ เขาก้มลงพิจารณาคนที่นอนอยู่ ส่วนลูคัสเองก็สงสัย เขาจึงเดินตามเข้าไปดูใกล้ๆ

“เป็นลมหรือ อะ!” เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง เพราะจู่ๆ คนที่นอนนิ่งก็ลุกขึ้นพรวด แล้วใช้ดาบสั้นแทงนายทหารที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

“ท่าน... ลูคัส... หนี...” นายทหารพูดไม่ทันจบประโยคก็ทรุดกายลงบนพื้น เลือดสีแดงฉานหลั่งไหลออกมามากมาย

ลูคัสอ้าปากค้าง เขาหันหลังขวับแล้ววิ่งหนี ทว่าชุดของหญิงสาวที่ทั้งยาวรุ่มร่ามและหนักอึ้งทำให้ขยับได้ไม่ทันใจนัก ยังไม่ทันไรชายคนร้ายก็คว้าตัวเขาไว้ได้ มันใช้ผ้าที่มีกลิ่นแปลกประหลาดปิดจมูกของเด็กหนุ่ม ทำให้เขาอ่อนแรงจนไม่สามารถขยับได้อีก หากก็ยังมีสติสัมปชัญญะอยู่ครบ

ชายคนร้ายอุ้มร่างโปร่งขึ้นพาดบ่า จับเด็กหนุ่มใส่ลงในถังเบียร์เปล่าแล้วนำไปวางรวมกับถังเบียร์อื่นๆ บนหลังรถม้า จากนั้นก็เคลื่อนรถออกจากปราสาท หากที่ประตูทางออกพวกทหารสั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยจึงเสียเวลาไปอีกพักใหญ่ ทว่าก็ไม่มีใครนึกเปิดถังเบียร์ดู

เมื่อรถม้าเคลื่อนออกไปพ้นเขตปราสาท ลูคัสเริ่มขยับตัวได้เล็กน้อย เขาสูดกลิ่นแปลกประหลาดนั่นเข้าไปไม่มากนัก เพราะพอได้กลิ่นแปลกๆ ก็รีบกลั้นหายใจ หากก่อนหน้าก็สูดเข้าไปเฮือกหนึ่งแล้ว

อึดอัด... คลื่นไส้ชะมัด

เด็กหนุ่มหันมองไปภายในถังเบียร์อย่างเชื่องช้า มันแคบเสียจนแทบขยับตัวไม่ได้แล้วก็มืดมาก เขาได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเองชัดเจน

ความหวาดกลัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลองเอามือดันตัวถังเบียร์จากภายในอยู่หลายครั้งแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหอบหายใจหนักๆ

“ท่านคาร์ล ช่วยผมด้วย” ลูคัสครางเสียงแผ่ว ก่อนจะลดมือลงกอดลำตัวไว้ “พ่อแม่ ไอแซ็ก ผมจะทำยังไงดี” น้ำตาอุ่นๆ รื้นขึ้นมาเอ่อคลอหน่วยตา หากเด็กหนุ่มยับยั้งตัวเองไว้ไม่ให้ร้องไห้

มือเรียวยกขึ้นสัมผัสลำคอช้าๆ เมื่อคลำจนพบล็อกเกตก็กุมไว้ในฝ่ามือ “ท่านคาร์ล” เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ริมฝีปากสีสดเม้มแน่น พยายามสงบสติอารมณ์แล้วคิดหาวิธีเอาตัวรอด

ดูเหมือนคนร้ายจะต้องการพาเขาไปส่งต่อให้ใครเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นก็คงปลิดชีวิตเขาไปแล้ว แต่ถ้าให้เดาว่าจะนำไปส่งให้ใครก็ไม่น่าจะยาก คงจะเป็นคนที่เพิ่งจะกลับไปไม่นาน

เขาไม่ยอมแพ้ไอ้บ้านั่นแน่นอน

ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองเหนือศีรษะ ในเมื่อตัวเขาอยู่ในถัง ฝาเปิดก็น่าจะอยู่ด้านบน

เด็กหนุ่มกัดริมฝีปากอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ มือเรียวพยายามผลักฝาถังเบียร์ออกด้วยกำลังทั้งหมดที่มี บนหลังรถม้าก็โคลงเคลงจนมึนงงไปหมด ใช้เวลาอยู่พักใหญ่จึงผลักฝาถังเบียร์ออกไปได้ เขาเผยอริมฝีปากหอบหายใจหนักๆ พอมองออกไปข้างนอกฟ้าก็มืดเสียแล้ว และรถม้านี่ วิ่งมาถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ เขามองไม่เห็นอะไรเลย

ลูคัสหันมองซ้ายขวาหาอะไรที่พอจะนำมาใช้เป็นอาวุธได้ ก่อนจะนึกออก มือเรียวคลำไปที่ผ้าผูกเอว แล้วหยิบดาบสั้นที่ได้รับมาจากบาร์ดอฟขึ้นมา มันคมกริบเลยทีเดียว เขาหันไปทางหน้ารถม้า ใช้ดาบกรีดผ้าให้เป็นช่องว่างแล้วจึงเห็นว่ามีชายคนร้ายเพียงคนเดียวนั่งอยู่ตรงที่คนคุมม้า มีตะเกียงน้ำมันห้อยลงมาจากหลังคารถม้าอยู่ข้างตัว

ภายในรถม้ามีถังเบียร์ตั้งวางเรียงกัน แต่ละถังผูกเชือกยึดติดกันไว้ ส่วนด้านหลังรถม้ามีไม้กั้นแล้วปิดทับด้วยผ้าอีกชั้น

เด็กหนุ่มถอดเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวหนาออกเพื่อให้ขยับตัวได้สะดวกขึ้น ก่อนจะขยับไปดึงไม้กั้นที่ปิดหลังรถม้าออก ใช้มีดกรีดผ้าคลุมทับให้ขาด แล้วเอื้อมมือไปตัดเชือกที่ผูกถังเบียร์ไว้ด้วยกัน จากนั้นก็ถีบถังเบียร์ออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี

ได้ผล รถม้าหยุดทันควัน ลูคัสรอให้คนร้ายลงจากตรงที่นั่งเพื่อเดินวนมาตรวจดูทางด้านหลังรถก่อนจึงค่อยกรีดผ้าที่ด้านหน้าให้ขาดพอที่ตัวเขาจะคลานออกไปตรงที่นั่งคนคุมม้าได้ มือเรียวคว้าตะเกียงมาแล้วจัดการถอดเชือกคล้องม้าออก เขาปีนขึ้นไปนั่งบนม้าตัวหนึ่ง ตีก้นม้าอีกตัวก่อนจะเตะสีข้างม้าตัวที่นั่งอยู่ให้วิ่งออกไปพร้อมกัน

“วิ่งเร็ว วิ่งไปเลย!” เด็กหนุ่มกุมบังเหียนม้าไว้แน่น เขาได้ยินเสียงคนร้ายตะโกนไล่หลังมา ส่วนตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าอาชาจะพาไปที่ไหน แต่ก็ขอให้ห่างไกลจากคนร้ายมากที่สุด

หลังจากควบม้าวิ่งไปได้พักใหญ่ ลูคัสจึงสั่งให้ม้าลดความเร็วลง เขายกตะเกียงขึ้นหันมองไปรอบๆ เบื้องหน้ามีแต่ต้นไม้แล้วก็ต้นไม้เท่านั้น

เกล็ดหิมะร่วงหล่นลงมาช้าๆ สัมผัสผิวแก้ม เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ปกคลุมด้วยเมฆหนาพลางยกมือขึ้นรองรับ อากาศหนาวจับใจจนลมหายใจที่พ่นออกมาเป็นควัน และในความมืดเช่นนี้ เขาไม่สามารถเดาทิศทางได้เลย

“ฉันจะทำยังไงดี” ลูคัสหันรีหันขวาง เขาลูบแผงคอเจ้าม้าแล้วบอกให้มันเดินต่อไปเรื่อยๆ

สักพักก็พบเข้ากับเพิงที่พวกชาวบ้านสร้างไว้สำหรับเป็นที่พักในยามล่าสัตว์ เด็กหนุ่มจึงรีบพาม้าเข้าไปด้านใน มันเป็นเพิงที่สร้างไว้ง่ายๆ มีแค่เสากับหลังคาสูง หากมีกองไม้ไว้สำหรับก่อกองไฟด้วย เขาจึงใช้ไฟจากตะเกียงน้ำมันมาก่อกองไฟ จากนั้นก็นั่งลงพิงเจ้าม้าไว้เพื่อให้ความอบอุ่นแก่กันและกัน

ลูคัสยกแขนขึ้นกอดลำตัว ทั้งหนาวและหวาดกลัว แต่ร่างกายก็อ่อนล้าเต็มที “ท่านคาร์ล... ช่วยผมด้วย” เด็กหนุ่มเอนศีรษะซบลำตัวเจ้าม้า มือกุมล็อกเกตที่เจ้าของชื่อให้มาไว้แนบอก เมื่อรู้สึกอุ่นขึ้นดวงตาก็หรี่ปิดลง


ฝ่ายคาร์ลนั้น เมื่อกลับมาถึงปราสาทก็พบว่าพวกทหารกำลังออกตามหาตัวลูคัสกันให้วุ่น ส่วนอาเธอร์ก็รอเขาอยู่อย่างร้อนใจ ลอร์ดหนุ่มสบถเสียงดัง เขานึกอยากจะฆ่าบาร์ดอฟให้ตายไปกับมือ

“ไปพาลูห์ลาห์มา! เตรียมทหารออกตามหา!”

สุนัขแสนรู้ทั้งสองมีเชือกคล้องปลอกคอไว้ พวกมันวิ่งออกไปทันทีที่ผู้เป็นนายออกคำสั่ง ส่งเสียงร้องงี้ดง้าดราวกับจะขาดใจ

หิมะเม็ดกลมร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้ายามราตรีกาล อากาศที่หนาวเหน็บทำให้ลอร์ดหนุ่มวิตกกังวลหนักขึ้น เป็นห่วงเด็กหนุ่มจับใจ เขาเร่งฝีเท้าเจ้าม้าให้ไวขึ้นอีก

ระหว่างทางเขาก็พบเข้ากับพวกทหารที่กลับมาพร้อมกับตัวชายคนร้าย พวกเขารายงานว่าเจอชายคนร้ายที่ในป่า มันสารภาพเรียบร้อยว่าใครเป็นผู้สั่งงานมา

“ท่านบาร์ดอฟสั่งให้พาตัวเลดี้อารามิสไปให้ขอรับ”

“เขาต้องการอะไรจากเลดี้ของข้า” ลอร์ดหนุ่มถามเสียงเย็น

“ข้าไม่รู้”

“เจ้าพาอารามิสไปไว้ที่ไหน”

“ข้าไม่รู้”

คาร์ลดึงดาบออกจากฝัก ใช้ปลายของมันจี้ลำคอของคนร้ายไว้แล้วถามอีกครั้ง “ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย อารามิสอยู่ที่ไหน” หากไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย เขาจึงกดปลายดาบลงไปในผิวเนื้อช้าๆ โดยที่แววตาสีอ่อนไม่สั่นไหวเลยแม้แต่นิดเดียว

“ข้าไม่รู้! ข้าไม่รู้จริงๆ ข้านั่งคุมรถม้าอยู่ดีๆ ถังเบียร์ด้านหลังก็ร่วงลงมา พอข้าจอดรถม้า เด็กนั่นก็ขโมยม้าข้าหนีไป!”

“งั้นรึ” ลอร์ดหนุ่มดึงดาบกลับ จากนั้นจึงหันไปสั่งพวกทหาร “ส่งร่างมันกลับไปให้บาร์ดอฟที่ชายแดน” แล้วรีบรุดพาลูห์ลาห์และพวกทหารขี่ม้าออกไป

ลูห์ลาห์เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น ส่งเสียงเห่าดังระงม พวกมันได้กลิ่นของลูคัสชัดเจนขึ้นทุกที

เด็กหนุ่มผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนล้า หากเมื่อได้ยินเสียงสุนัขก็สะดุ้งตื่น เขาตะโกนลั่น “ลูห์ ลาห์ ท่านคาร์ล!”

“ลูคัส!”

“ท่านคาร์ล ผมอยู่นี่!”

“ลูคัส ข้าจะไปหาเจ้าเดี๋ยวนี้!”

คาร์ลปล่อยเชือกคล้องลูห์ลาห์ให้พวกมันวิ่งนำออกไปก่อนแล้วจึงเร่งม้าให้วิ่งตามเสียงไป ไม่นานก็เห็นแสงไฟสลัว เมื่อเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าเด็กหนุ่มยืนอยู่ที่นั่น

ลอร์ดหนุ่มกระโดดลงจากหลังม้า ในเวลาเดียวกันกับที่เด็กหนุ่มโผเข้าสวมกอด เจ้าลูห์ลาห์ก็ส่งเสียงงี้ดง้าดอยู่ข้างกาย

“ท่านคาร์ล ท่านคาร์ล ฮือ ผมกลัวมากเลย” ลูคัสซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแกร่ง ความหวาดกลัวและความโล่งใจพรั่งพรูออกมากับน้ำตา “ทหารคนนั้น ถูกฆ่าต่อหน้าผม ผมนึกว่ามันจะฆ่าผมไปด้วยซะแล้ว”

แขนแกร่งโอบกอดร่างโปร่งไว้แน่น เขาก้มลงจูบศีรษะเล็ก ค่อยๆ ปลอบจนเด็กหนุ่มหยุดสะอึกสะอื้นไห้อย่างใจเย็น “ข้าขอโทษ ข้าไม่ควรวางใจบาร์ดอฟเช่นนั้นเลย ดีเหลือเกินที่เจ้าไม่เป็นอะไร”

“ผมนึกถึงแต่คุณ กลัวว่าจะไม่ได้เจอคุณอีก” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่น

“ข้าอยู่ที่นี่ เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว” คาร์ลเชยคางเรียวขึ้นแล้วจูบซับน้ำตาให้

คำปลอบประโลมและสัมผัสอันอ่อนโยนส่งผ่านความอบอุ่นลึกเข้าไปถึงหัวใจดวงน้อย นัยน์ตาสีเข้มที่ยังมีน้ำตาเอ่อคลออยู่ ลืมขึ้นสบประสานกับดวงตาสีฟ้าคู่สวย “คาร์ล... ท่านคาร์ล”

เจ้าของชื่อเรียกยิ้มบาง เขาถอดเสื้อคลุมของตนเองออกแล้วเอามาคลุมศีรษะให้เด็กหนุ่ม “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่ปราสาทของเรา”


องครักษ์ทั้งสองหยุดม้าอยู่ห่างๆ พวกเขาก้าวลงจากหลังม้าแล้วสั่งให้ทหารไปเดินตรวจตรารักษาความปลอดภัยในบริเวณนั้น ก่อนจะหยุดยืนนิ่งเมื่อหันไปเห็นภาพของเด็กหนุ่มที่ใบหน้าน่ารักเปื้อนไปด้วยน้ำตา สองแขนกอดรัด ริมฝีปากพร่ำร้องเรียกชื่อของลอร์ดหนุ่ม ฝ่ายผู้เป็นนายของพวกเขาเองก็ไม่ต่างกัน ถ้าหากเป็นเรื่องของลูคัสแล้วก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่ลอร์ดหนุ่มจะอยู่นิ่งเฉยได้

สีหน้าและท่าทางของทั้งสองแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าพวกเขาสำคัญสำหรับกันและกันมากเพียงไหน เออร์วินจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลายปะปนกัน แม้จะปวดหนึบในอก แต่ก็สุขใจและดีใจกับทั้งสองคนด้วย 

คอนราดบีบไหล่เพื่อนองครักษ์เบาๆ ก่อนอีกฝ่ายจะหันมาสบสายตาแล้วยิ้มบาง

“เตรียมกลับปราสาทกันเถอะ” คอนราดเอ่ย จากนั้นจึงหันไปสั่งให้พวกทหารตรียมม้าที่จะพาผู้เป็นนายและเด็กหนุ่มกลับปราสาทให้พร้อม แล้วก็ให้ไปจับม้าตัวที่ลูคัสพาหนีมาจากโจรกลับไปด้วย

ไม่นานลอร์ดหนุ่มก็อุ้มร่างโปร่งมายังม้าที่เตรียมไว้ แล้วรีบรุดเดินทางกลับไปยังปราสาททันที


ฝ่ายบาร์ดอฟและกองทัพของเขาเดินทางไปพบกับกองทหารที่มารอรับตรงเชิงเขาแล้ว เขาพักอยู่ในเต็นท์เพื่อรอฟังข่าวจากทางแบร์กไฮม์ จนรุ่งเช้าจึงมีทหารนำข่าวมาแจ้ง

“ท่านลอร์ดขอรับ งานที่ท่านสั่งไป...”

“ดาบข้าล่ะ”

“ไม่สำเร็จขอรับ”

“หึ งานแค่นี้ก็ไม่สำเร็จ แล้วมันอยู่ไหน เจ้าไปจัดการปิดปากมันเสีย”

“ทางนั้นจับตัวไว้ได้เสียก่อน พวกเขานำร่างของมันมาทิ้งไว้ที่ชายแดนขอรับ”

“ก็ดี” บาร์ดอฟยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก “ดาบไว้เอาคืนทีหลังก็ได้ ครั้งนี้ข้าก็แค่อยากจะทำให้เจ้าคาร์ลปั่นป่วนเล่นเท่านั้นล่ะ เรื่องสนุกกว่านี้ยังมีอีกเยอะ”

..

.....

..

หิมะโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสายตลอดการเดินทางฝ่าความมืดมนอนธการกลับไปยังปราสาท ลอร์ดหนุ่มบังคับม้าด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างคอยตระกองกอดร่างโปร่งไว้แนบกาย อากาศหนาวเหน็บจนลมหายใจที่พ่นออกมากลายเป็นควัน ส่งผลให้เขาเป็นห่วงเด็กหนุ่มในอ้อมแขนจับใจ

เด็กหนุ่มไม่ได้นั่งคร่อมบนหลังม้าเหมือนอย่างเคย เขานั่งหันข้าง ทิ้งสองขาไปทางเดียวกัน สองแขนโอบกอดร่างกายอบอุ่นกำยำไว้ไม่ยอมออกห่าง

“เจ้าหนาวหรือ” คาร์ลก้มลงถามเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายกอดตัวเขาแน่น

ลูคัสเงยหน้าขึ้นตอบ “ไม่ครับ ผมควรจะถามคุณมากกว่า”

“ข้าไม่หนาวหรอก เจ้ากอดข้าแน่นขนาดนี้จะหนาวได้อย่างไร”

คิ้วเรียวขมวดมุ่น พอจะผละออกแขนแกร่งที่กอดรัดตัวเขาอยู่ก็กระชับแน่นขึ้นอีก

“เจ้าไม่กลัวข้าหนาวหรือ”

“เอ่อ...”

“กอดไว้ให้แน่นๆ สิ”

“ก็ได้ เพราะกลัวคุณหนาวหรอกนะ” ใบหน้าน่ารักที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำซุกซบบนแผ่นอก เขาได้ยินเสียงหัวใจเต้นหนักๆ ผ่านเสื้อตัวหนาของเจ้าของอ้อมกอด ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ที่ตรงนี้ ในอ้อมกอดอบอุ่นนี่ คือที่ที่ใจเขาปรารถนามากที่สุดแล้ว

คาร์ลหัวเราะเบาๆ ถ้าหากไม่ได้ขี่ม้าอยู่เขาคงจะกอดฟัดลูคัสให้หายมันเขี้ยว แต่แค่ท่าทางของเด็กหนุ่มในตอนนี้ก็ทำให้เขาพอใจมากแล้ว เขาก้มลงจูบศีรษะเล็กเบาๆ แล้วกระซิบบอก “อีกเดี๋ยวก็ถึงปราสาทแล้ว” 

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก “ครับ”


*~TBC~*


กรีซซซซ อิตาบาร์ดอฟช่างร้ายกาจ! นี่แค่การกวนประสาทครั้งแรกเท่านั้น แล้วครั้งต่อๆ ไปอีกล่ะ  :hao5:

น้องลูกับทั่นหลอดต้องสู้นะ!!

ขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ ช่วงนี้ฮัสกี้เครียดดดดด ทั้งเรื่องสอบและอีกหลายๆ เรื่อง หัวหงอกหมดแว้ว  :m15:

ฮรือออ /อ้อนขอกำลังใจ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 23-02-2017 12:05:37
โอ้ยยยย บาร์ดอฟโคตรเลว!!!!! ทำแบบนี้กับน้องลูได้ไง :z6:
น้องลูเข้มแข็งไว้นะลูก การจะเป็นเลดี้ของท่านลอร์ดไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หนูต้องเจอแผนการคนชั่วอย่างบาร์ดอฟอีกเยอะ ท่านลอร์ดกับหนูต้องผ่านมันไปให้ได้ แนะนำให้ท่านลอร์ดฆ่ามันที โกรธจนหัวร้อนไปหมดล่ะ
กอดๆๆ เราจะส่งกำลังใจให้คุณฮัสกี้เยอะๆเลยนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-02-2017 12:17:25
 :เฮ้อ: นึกว่าจะไม่ทันการณ์
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 23-02-2017 12:47:27
หูย ท่านหลอดพูดออกมาได้ ไม่กลัวข้าหนาวเหรอ มีงี้ด้วย
 :freeze:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-02-2017 13:01:08
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-02-2017 14:11:23
มาให้กำลังใจก่อนคับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 23-02-2017 15:07:23
ในเมื่อพี่เครียดนี่ค่ะพี่ฮัสกี่ >> ยาปิดผมขาวเวอร์ชั่นเฉินหลงพรีเซนเตอร์ แล้วมาต่อเร็วๆน้ารอทั่นหลอดกับน้องลูทู้กกกกวันเลย :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 23-02-2017 15:08:05
กวนประสาทงี้ จับเชือดเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-02-2017 15:56:24
ดีนะที่ลูคัสฉลาดถึงหนีออกมาได้

แบบนี้ต้องสั่งสอนตาแก่บาร์ดอฟแล้วนะ

ชอบมากเหมือนเดิมยิ่งอ่านยิ่งชอบ

ว่าแต่พระนายเมื่อไรจะได้เสียกันซะที

รอๆรอถึงวันนั้น555

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 23-02-2017 16:30:53
ทำไมน้องมันอ้อยทุกสถานการณ์เลยนะ!
จับบาดอฟไปโบยยยยย หมั่นไส้! อยากถีบ  :z6: เป็นตัวร้ายที่น่าโมโหจริงๆ  :katai1:
ส่งกำลังใจให้คุณฮัสกี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 23-02-2017 16:32:35
อ้อยมาอ้อยกลับไม่โกง

งูยยยยยย หมันไส้ทั่นหลอด!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 23-02-2017 18:56:23
บาร์ดอฟมีแผนอะไรอีกเนี่ย ขนาดป่วนครั้งแรกยังขนาดนี้ ครั้งต่อไปล่ะ สู้ๆ

มีความหวานเจือปนนน ท่านลอร์ดกับลูคัสเนี่ย :mew1: :o8: :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-02-2017 19:39:15
คาร์ล ลูคัส  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ต้องสั่งสอนบาร์ดอฟ คนอวดดี โลภมาก แล้ว
ลูคัส เอาความรู้ วิทยาการไปใช้ ให้คนเลวซีดเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 23-02-2017 19:55:27
ดีนะที่ลูคัสไม่เป็นอะไร
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-02-2017 20:27:40
อิบาร์ดอฟไม่จบใช่ไหม!!!! อยากปั่นหัวคนโดยจี้ที่จุดอ่อนคนอื่นเค้า....
ระวังเห๊อะ จะโดนจุดอ่อนเล่นงาน!!!! หึหึหึ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-02-2017 20:28:15
เห็นชื่อตอนแล้วคิดว่าเป็น ตัดสินใจ!!! เปิดศึกกับมันนนนน (อะไรแบบนี้) ตามจริงก็อยากให้สู้กันซึ่งหน้าให้รู้แล้วรู้รอดไปนะ ดีกว่าต้องมาคอยระแวงแผนสกปรกของอีกฝ่าย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 23-02-2017 20:43:05
ชีวิตน้องลูช่างลำบาก อยู่สวยๆยังจะมีคนปองร้าย ดีนะเก่งและฉลาดเลยรอดมาได้
จากนี้ไปทั่นหลอดคงไม่ปบ่อยให้คลาดสายตาแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 23-02-2017 21:20:05
น้องลูคัสดีนะมีสติเอาตัวรอดได้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 23-02-2017 22:45:38
น้องลูทำปืนใหญ่ไปถล่มมันเลย
 :ped151: :5779:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 23-02-2017 23:19:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 23-02-2017 23:26:40
งืออออ ฉากอ้อนของน้องลูนั้นทำไมช่างน่าหมั่นเขี้ยววว สมแล้วที่เป็นน้องลูของท่านหลอด ฉลาดจิมๆ บาดอฟอย่าหวังจะเอาชนะให้ยาก!  นี่ถ้าน้องลูจบวิดวะมาสงสัยจะมีช็อตกันไว้ใช้ยิงตั้งแต่ยุคกลาง 55555 รอตอนต่อไปนะคะะะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 24-02-2017 00:05:54
น่ารัก ฮืออออออแต่สงสารหนูลู โอ้ยยยความเก่งของหนูนี้ดีจริงๆเลยนะ งื้ออออ ความหล่อความเท่ของท่านคาร์ลด้วยฮือออออดีงาม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-02-2017 00:23:02
อิบาร์ดอฟเลววว

เก่งมากเลยหนูลู ดีนะที่หนีทัน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 24-02-2017 00:37:11
นี้ป้าอ่านตำนานน้ำอ้อยเมืองแบกไห ใช่ไหมเคอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 24-02-2017 00:45:12
สร้างปืนใหญ่น้องลูคัส :fire:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 24-02-2017 00:55:19
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-02-2017 08:16:43
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 24-02-2017 15:58:34
ขอให้หายเครียดนะฮะ เพี้ยง...  :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: lilowria ที่ 25-02-2017 17:12:41
ขอบคุณจ้า สู้ๆ น้า เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: therappizdrum ที่ 25-02-2017 23:44:49
ชอบมากกกกกก

ท่านคาร์ลกับน้องลู อ่าน23ตอนรวดคือแทบสำลักตาย


ตอนเขางอนกันดิชั้นปวดใจไปด้วยเลย

บทจะหวานก็ซาบซ่านสะ รอตอนใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-02-2017 23:26:45
ยังมีเวลาหวานกันเนาะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 23 : ตัดสินใจ][230217]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 02-03-2017 11:51:40


Chapter 24 : คืนแรก


เมื่อลอร์ดหนุ่มกลับไปถึงปราสาท เขารีบกระโดดลงจากหลังม้าแล้วอุ้มร่างโปร่งตามลงมา จากนั้นก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งพาอีกฝ่ายตรงไปยังห้องนอนของตน

“เตรียมน้ำอุ่นไว้รึยัง ไปเพิ่มฟืนในห้องเร็วเข้า!”

หลังจากได้ยินคำสั่งพวกสาวใช้ก็วิ่งวุ่น พวกหล่อนต้มน้ำกับจุดเตาผิงไว้พร้อมแล้ว เหลือเพียงแค่ผสมน้ำลงในอ่างเท่านั้น

“ท่านคาร์ล ปล่อยผมลงเถอะ ผมเดินเองไหว”

“ตัวเจ้าเย็นขนาดนี้ อยู่นิ่งๆ ให้ข้าพาไปเถอะ”

ลูคัสเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขรึมพลางอมยิ้ม ปล่อยให้ลอร์ดหนุ่มอุ้มไปโดยไม่ขัดขืน

คาร์ลพาเด็กหนุ่มไปจนถึงในห้องอาบน้ำ ค่อยๆ วางตัวเด็กหนุ่มลงแล้วช่วยถอดเสื้อผ้าออกให้ “เจ้าควรรีบแช่น้ำอุ่นก่อน”

เสียงน้ำดังแว่ว กระไออุ่นปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง เมื่อผสมน้ำเสร็จแล้วพวกสาวใช้ก็เข้ามาช่วยผู้เป็นนายถอดเสื้อผ้าให้เด็กหนุ่ม

หากเมื่อถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือชุดสีขาวบางตัวใน ลูคัสก็นึกขึ้นได้ เขาผละออกจากลอร์ดหนุ่มทันที “เดี๋ยวก่อนครับ เอ้อ...” จากนั้นก็หันไปปัดมือสาวใช้ออก “ผม... ผมอาบเอง”

“เป็นอะไรไป”

“ท่านคาร์ลออกไปก่อนสิ”

“หือ? ทำไมต้องออกด้วยล่ะ”

เด็กหนุ่มถอยหลังไปช้าๆ เขาจะตอบไปตรงๆ ได้อย่างไรกันล่ะว่าเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็นร่างกายที่เป็นชายอยู่ในชุดผู้หญิงแบบนี้ เขากลัวว่าจะทำให้ลอร์ดหนุ่มผิดหวังแล้วไม่กอดจูบตนอีก

แก้มที่เป็นสีระเรื่ออยู่แล้วเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้น ใบหน้าร้อนผ่าว พอเห็นว่าคาร์ลเอื้อมมือเข้ามาหาก็ตกใจ ถอยหลังจนไปชนขอบอ่างอาบน้ำแล้วหงายหลัง “อะ!”

“ลูคัส!”

เสียงน้ำกระเซ็นตูมใหญ่ ทั้งลอร์ดหนุ่มและสาวใช้เปียกกันไปคนละเล็กละน้อย แต่คนที่นั่งแช่อยู่ในอ่างน้ำทั้งเสื้อผ้านี่สิ เปียกปอนไปทั้งตัว

คาร์ลส่ายหน้าไปมา “พวกเจ้าออกไปเถอะ เดี๋ยวข้าจัดการเจ้าเด็กดื้อนี่เอง”

พวกสาวใช้ทยอยกันออกจากห้องไปหมดแล้ว เหลือสองหนุ่มอยู่เพียงลำพัง หากพอชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของห้องก้าวเข้าไปใกล้อ่างน้ำ อีกฝ่ายก็รีบถาม

“ท่านก็ออกไปด้วยสิ!”

“ไม่ล่ะ ข้าหนาว อยากแช่น้ำอุ่น” ลอร์ดหนุ่มไม่พูดเปล่า ทว่าถอดเสื้อผ้าที่สวมอยู่ออกด้วย

นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง “ท่านคาร์ล! ไม่เอา” ครั้งนี้ได้เห็นร่างกายกำยำเต็มๆ ตา พาลให้หัวใจเต้นตึกตัก เขาไม่ควรจะรู้สึกอายเมื่อได้เห็นร่างกายเปล่าเปลือยของผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่รู้ทำไม “ท่านคาร์ล!” เมื่อลอร์ดหนุ่มถอดชิ้นสุดท้ายออกเขาก็ เบือนหน้าหลบ

“เขยิบไปนิดนึงสิ” คาร์ลก้าวลงไปนั่งซ้อนอยู่เบื้องหลังเด็กหนุ่ม โอบร่างโปร่งกลับเข้ามาแนบกาย แล้วก้มลงกระซิบชิดใบหู “เจ้าเป็นอะไรไป”

ลมหายใจอุ่นๆ ที่พ่นรดผิวแก้มชวนให้ขนลุกซู่ ร่างกายร้อนรุ่มขึ้นมาแบบแปลกๆ ลูคัสรีบวางมือลงปิดส่วนกลางร่าง

“เขินหรือ” ไม่เพียงถาม หากไล้ปลายจมูกไปบนแก้มนิ่ม แล้วเคลื่อนลงมายังลำคอระหง

“ท่านคาร์ล หยุดเถอะ”

“ไม่” เรียวปากอุ่นไล้เล็ม ขบเม้มลงไปเบาๆ บนหัวไหล่ขาวเนียน

“อื้อ!” ลูคัสห่อไหล่เข้าหากัน เขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว ไอ้ตรงนั้นก็ดูจะตอบรับกับทุกสัมผัสดีเหลือเกิน เด็กหนุ่มนั่งชันเข่า หนีบหัวเข่าทั้งสองข้างเข้าหากัน “ผมไม่อยากให้คุณเห็นผมในสภาพนี้”

มือหยาบลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน “สภาพไหนหรือ”

“แต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบนี้...”

“ถ้าอย่างนั้นก็ถอดออกเสีย” ลอร์ดหนุ่มถอดวิกผมออกแล้วโยนลงไปบนพื้นห้อง จากนั้นจึงดึงปมเชือกของชุดออก หากพอจะรั้งกระโปรงขึ้นอีกฝ่ายก็ยังไม่ยินยอม “เจ้ากลัวอะไรหรือ”

“ผม... ผมเป็นผู้ชายนะ”

“ข้ารู้น่ะ ที่จริงร่างกายของเจ้าข้าก็เคยเห็นมาหมดทุกส่วนแล้ว มีอะไรที่เจ้ายังต้องห่วงอีกหรือ”

ลูคัสหันขวับ “เคยเห็น! เมื่อไหร่กันครับ!”

“ก็เมื่อตอนที่เจ้าเข้ามารับคมมีดแทนข้ายังไงล่ะ” ฝ่ามืออุ่นดันแก้มนิ่มเบาๆ ให้เด็กหนุ่มหันหน้ามาทางด้านหลังเล็กน้อย แล้วแต้มจูบ “ร่างกายบริสุทธิ์เช่นนี้ ยังมีอะไรต้องอายอีก”

คำหวานชวนให้คล้อยตามไปได้โดยง่าย เด็กหนุ่มยินยอมให้อีกฝ่ายถอดชุดออกไปได้ในที่สุด ในยามนี้มีเพียงสองร่างที่เปล่าเปลือยในอ่างน้ำอุ่น ผิวกายบดเบียดเสียดสีกัน

ลูคัสรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวแรงอยู่ภายในอกตนและจากคนที่นั่งชิดอยู่กับแผ่นหลัง ส่วนล่างที่แนบชิดกันร้อนเสียยิ่งกว่าน้ำในอ่างเสียอีก เขาสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากอุ่นพรมจูบตรงลำคอและหัวไหล่ ฝ่ามือกร้านที่เคล้นคลึงไปบนผิวกายเร่งเร้าให้ทุกอณูในร่างตอบรับสัมผัส “ท่านคาร์ล...”

มือกร้านประคองแก้มนิ่มแล้วดันให้หันมารับจุมพิตอ่อนโยน มืออีกข้างลูบไล้บนแผ่นอก สะกิดติ่งไตเล็กสีชมพูอย่างแผ่วเบา

กลีบปากอวบอิ่มเผยอรับลิ้นอุ่นให้เข้ามารุกล้ำอย่างเต็มใจ พร้อมกับแอ่นอกรับการหยอกล้อ เขาส่งเสียงครางเบาๆ ในลำคอ ในยามนี้ภายในศีรษะมึนงงไปหมด

“ข้าจะพาเจ้าไปที่เตียง”

ร่างที่อ่อนปวกเปียกเป็นขี้ผึ้งลนไฟถูกพาไปยังเตียงกว้าง ทันทีที่แผ่นหลังสัมผัสกับผืนเตียงร่างกายกำยำก็ขยับขึ้นมาคร่อมทับ ริมฝีปากทั้งสองหลอมรวมกันอีกครั้งแล้วครั้งเล่า

ฝ่ามือกร้านสอดประสานกับมือเรียวพร้อมกับกดลงบนเตียง ลิ้นชื้นลากไล้จากลำคอขาว ผ่านไหปลาร้าลงไปยังเมล็ดทับทิมที่ประดับอยู่บนแผ่นอก

ลูคัสเผยอริมฝีปากหอบ ความปั่นป่วนก่อเกิดในอกหากก็ให้ความรู้สึกดีไปพร้อมกันด้วย เมื่ออีกฝ่ายใช้มือปรนเปรอส่วนที่ร้อนราวกับไฟให้ ไม่นานเขาก็ปลดปล่อยออกมา

เด็กหนุ่มเผยอริมฝีปากหอบ ดวงตาปรือปรอย “ท่านคาร์ล”

นัยน์ตาสีฟ้าฉายแววปรารถนาอย่างชัดเจน หากคาร์ลก็ยังยิ้มให้กับคนใต้ร่าง “ถ้าเจ้าประสงค์ข้าหยุด ก็ขอให้บอกเสียเดี๋ยวนี้ ข้ายังพอห้ามใจได้”

ลูคัสส่ายหน้าไปมา “ผม... อยากให้คุณกอด ทำให้ผมเป็นของคุณ”

คาร์ลยิ้มอย่างพอใจ เขาลุกขึ้นจากเตียงไปหยิบขวดใส่น้ำมันหอม จากนั้นจึงจับเด็กหนุ่มให้พลิกคว่ำ ค่อยๆ เทน้ำมันหอมลงตรงร่องสะโพก แล้วตระเตรียมความพร้อมให้อีกฝ่ายอย่างใจเย็น

“ท่าน... อะ!” ร่างโปร่งสั่นสะท้านเมื่อลอร์ดหนุ่มฝังกายเข้ามาทีละน้อย มือเรียวขยุ้มหมอนไว้แน่น ความรู้สึกช่างแปลกประหลาด เจ็บแต่ก็สุขในคราวเดียวกัน

มือหยาบประคองสะโพกเล็กขึ้นพลางโน้มตัวไปทาบทับ เขาพรมจูบหัวไหล่และแผ่นหลังขณะที่ขยับสะโพกช้าๆ เมื่อเด็กหนุ่มลดความเกร็งลงจึงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น

“เรียกชื่อข้าสิ ลูคัส”

“อา คาร์ล... ท่านคาร์ล” ร่างโปร่งสั่นไหวไปตามแรงกระแทก ภายในศีรษะขาวโพลน ทั้งร่างร้อนจนเหมือนจะละลาย

คาร์ลจับให้คนใต้ร่างพลิกตัวอีกครั้ง ในจังหวะสุดท้ายเขาต้องการที่จะเห็นใบหน้าน่ารักที่เปี่ยมไปด้วยความปรารถนาและความสุขสม มือหยาบกดข้อมือของเด็กหนุ่มลงกับเตียง บดจูบกลีบปากที่นุ่มหยุ่นและหวานฉ่ำด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน ขณะที่ขยับกายถี่กระชั้น รอจนอีกฝ่ายข้ามผ่านจุดสูงสุดของอารมณ์ไปอีกครั้งจึงค่อยปลดปล่อยตามมา

ลอร์ดหนุ่มกอดรัดร่างโปร่งไว้แนบกาย ยิ่งเมื่อได้เป็นเจ้าของก็ยิ่งหวงแหนมากขึ้น เสียงหอบหายใจหนักๆ ของทั้งสองประสานกัน หากริมฝีปากยังคงคลอเคลียกันอยู่ไม่รู้ห่าง

“เจ้าเป็นของข้าแล้วนะ ลูคัส ต่อไปนี้เจ้าจะต้องอยู่เคียงข้างข้าเท่านั้น”

ลูคัสยิ้มบางพลางยกมือขึ้นประกบแก้มสาก “ผมจะอยู่กับคุณ ไม่ไปไหนอีกแล้ว”

คาร์ลยกมือขึ้นประกบหลังมือนุ่ม แล้วจับไปวางบนแผ่นอกด้านซ้ายของตน “ลูคัส ข้ารักเจ้า”

คำว่ารักช่างมีอิทธิพลมากมาย หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวอยู่ในอก “คำๆ นี้จะเป็นของผมคนเดียวใช่ไหม”

ลอร์ดหนุ่มหัวเราะ “มีเจ้าเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของข้าทั้งตัวและหัวใจ”

“สัญญานะครับ”

“ข้าสัญญา”

“ถ้าอย่างนั้นผมจะบอกอะไรดีๆ กับคุณบ้าง” เด็กหนุ่มยิ้มมุมปากแล้วยกศีรษะขึ้นกระซิบ “ผมก็รักคุณนะ คาร์ล”

ในคืนหิมะแรกของแบร์กไฮม์ ลอร์ดหนุ่มและคนรักของเขาได้เอ่ยคำสัญญารักให้แก่กัน ร่างกายที่สอดประสานครั้งแล้วครั้งเล่าร้อนราวกับมีเปลวไฟโลมเลีย หยาดเหงื่อผสมผสาน ผิวกายแนบสนิทจนไร้ช่องว่าง ริมฝีปากที่เคล้าคลอเคลียกันของทั้งสองคนเผยอหอบหายใจ สลับแต้มจูบและกระซิบบอกคำหวานกันตลอดทั้งคืน


ที่ชั้นล่างของปราสาท ภายในห้องพักชั่วคราวที่อยู่ติดกับห้องครัว ไฟในเตาผิงลุกโชติช่วง องครักษ์หนุ่มทั้งสองคนนั่งดื่มเบียร์อยู่ด้วยกันอย่างเงียบเชียบ

เวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง คอนราดจึงเอ่ยถาม “เจ้ายังไม่ง่วงหรือ”

เออร์วินส่ายหน้าไปมา แล้วยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดก

“เสียใจมากเลยหรือ”

คนถูกถามที่กำลังยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากชะงัก “...เสียใจเรื่องอะไรกัน”

“ข้าอยู่กับเจ้ามากี่ปีแล้ว อย่าพยายามปิดบังเลย”

เออร์วินประสานสายตากับคอนราดนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ที่จริง... ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข้าก็ดีใจกับท่านคาร์ล กับลูคัสด้วย”

คอนราดโอบไหล่เพื่อนองครักษ์แล้วดึงเข้าหาตัว มืออีกข้างที่ว่างยกเหยือกเบียร์ขึ้นรินเบียร์ลงในแก้วให้จนฟองฟูล้นขอบแก้ว “ก็สมกับเป็นเจ้าดี เอ้า ดื่มๆ ข้าจะดื่มเป็นเพื่อนเจ้าจนกว่าเจ้าจะพอใจเลย”

ดื่มกันต่อไปอีกพักใหญ่เออร์วินก็เริ่มโงนเงน เขาเอนศีรษะซบลงบนไหล่ของคอนราด ก่อนจะหลับไป

คอนราดยกมือขึ้นขยี้ศีรษะอีกฝ่ายเบาๆ “เมาแล้วก็เป็นอย่างนี้ทุกที” เขาหัวเราะ แล้วประคองเพื่อนองครักษ์กลับไปที่ห้องพัก

ค่ำคืนที่เหน็บหนาว กองหิมะปกคลุมไปทุกหนแห่ง บรรยากาศชวนให้รู้สึกเหงาหงอย แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครต้องอยู่อย่างเดียวดายเพียงลำพัง

..

.....

..

เสียงฝีเท้าที่เดินผ่านไปมาตามทางเดินในปราสาทแต่เช้าตรู่ปลุกให้ลอร์ดหนุ่มตื่นขึ้น หากเมื่อมองผ่านช่องว่างของผ้าม่านออกไปยังเห็นว่าท้องฟ้ามืดครึ้ม เพราะในฤดูหนาวเช่นนี้ไม่มีแสงอาทิตย์มากนัก เขาก้มลงมองศีรษะเล็กที่ซุกซบอยู่บนแผ่นอก มือกร้านค่อยๆ ลูบไล้ไปตามเรือนกายเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน

“อรุณสวัสดิ์ ลูคัส”
 
เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นเล็กน้อยแล้วปิดลงอีกครั้ง “อือ...”

“เจ้านอนพักเถอะนะ” คาร์ลกระชับอ้อมกอด จับผ้าห่มยกขึ้นเล็กน้อยแล้วก้มลงจูบแก้มนิ่ม จากนั้นจึงขยับออกจากเตียงอย่างระมัดระวัง เขาเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่สาวใช้จัดไว้ให้ตั้งแต่เมื่อคืนขึ้นมาสวม ก่อนจะก้าวออกจากห้องไป

หลังมื้ออาหารเช้า ลอร์ดหนุ่ม น้องชายทั้งสองและอาเธอร์มานั่งรวมกันที่บนโซฟาในห้องหนังสือ องครักษ์ทั้งสองไปดูแลการฝึกทหาร ส่วนอาเธอร์เพิ่งได้รับจดหมายจากทางไฮเดลแบร์ก เขาจึงนำมารายงานให้ทั้งสามได้รับรู้

“ท่านวิลแฮล์มส่งจดหมายนี้มาเมื่อห้าวันก่อน ตอนนี้ท่านเดินทางไปที่ไมนซ์ เมืองทางเหนือของแคว้นเราตามคำเชิญของลอร์ดแห่งไมนซ์ ไมนซ์อยู่ในแคว้นเฮสเซน เขาเป็นพันธมิตรกับเรา เพราะฉะนั้นคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ท่านว่าอีกสักสองสัปดาห์ท่านคงกลับมาถึงไฮเดลแบร์ก”

“ทำไมลอร์ดแห่งไมน์จึงเลือกเชิญช่วงนี้ หากหิมะตกคงยิ่งเดินทางลำบาก” ยาคอปเปรย

“เพราะเลดี้ของท่านลอร์ดเพิ่งจะคลอดบุตรน่ะ เลยจัดงานฉลองกัน”

ไฮน์ริชชำเลืองมองพี่ชายซึ่งเมื่อมองเผินๆ ก็เหมือนจะฟังความคิดเห็นอยู่นิ่งๆ หากดวงหน้าฉายแววสดใส ดูอารมณ์ดีจนผิดปกติ “มีอะไรดีๆ หรือท่านพี่”

ยาคอปยิ้มกริ่ม “ท่านถามผิดแล้ว ต้องถามว่า ลูคัสเป็นอย่างไรบ้างท่านพี่ ต่างหาก”

“เขาสบายดี หลับอยู่ที่ห้องของข้า” ลอร์ดหนุ่มยิ้มมุมปากเล็กน้อย เวลานี้แม้จะพยายามตีหน้าขรึม หากก็ปิดบังความสุขที่ฉายชัดอยู่ในแววตาไม่ได้ “คุยเรื่องท่านพ่อต่อเถอะ”

อาเธอร์พยักหน้า “ข้าได้ส่งรายงานเรื่องท่านบาร์ดอฟไปให้ท่านวิลแฮล์มแล้ว แต่ถึงจะยังไม่ได้คำตอบ ข้าก็พอจะรู้ว่าท่านจะตอบกลับมาว่าอะไร พวกท่านทั้งสามควรจะเริ่มต้นวางแผนป้องกันเมืองไว้ได้แล้ว  ท่านบาร์ดอฟอาจจะยกทัพมาได้ทุกเมื่อ”

“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น แต่ถ้าจะบุกมาในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้คงจะลำบากสักหน่อย อาจเมื่อหมดหนาว” ลอร์ดหนุ่มถอนหายใจ
“เมืองก็ต้องพัฒนา กำแพงเมือง กำแพงปราสาทก็ต้องปรับปรุงแก้ไข ข้าไม่ต้องการให้ชาวเมืองต้องมาตกอยู่ในภาวะหวาดกลัวเหมือนเมื่อครั้งมีโจรผู้ร้ายชุกชุมอีก”

“ท่านพี่... ข้าเข้าใจ”


นัยน์ตาสีเข้มลืมขึ้นช้าๆ เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็กะพริบตาปริบๆ พร้อมกับหันมองไปภายในห้อง ที่ช่องว่างระหว่างผ้าม่านมีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาบางเบา เขาจึงเดาว่าน่าจะเป็นเวลาสายๆ แล้ว

พอเด็กหนุ่มจะลุกยืน แข้งขากลับอ่อนแรงจนต้องทรุดตัวนั่งลงไปอีกครั้ง สะโพกก็ปวดแปลบๆ เมื่อยตามเนื้อตัวราวกับเพิ่งกลับมาจากสนามรบหมาดๆ

“โอย... อะ!” ใบหน้าน่ารักแดงวาบเมื่อสังเกตเห็นร่องรอยสีแดงช้ำบนแผ่นอก ทำให้ฉุกคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

เขากับท่านคาร์ล...

ยังคงรู้สึกได้ถึงสัมผัสอบอุ่นที่โอบล้อมร่างกายอย่างอ่อนโยน เด็กหนุ่มอมยิ้มอย่างสุขใจ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ลูคัสสะดุ้งตัวเบาๆ แล้วคว้าผ้าห่มขึ้นมาพันร่างกาย

“ท่านลูคัสตื่นหรือยังเจ้าคะ อาหารเช้าเจ้าค่ะ”

“ตื่นแล้ว” เด็กหนุ่มรีบตอบ เมื่อสาวใช้เข้ามาในห้องก็เอ่ยถาม “ท่านคาร์ลล่ะ”

“ท่านอยู่ที่ห้องหนังสือกับท่านไฮน์ริช ท่านยาคอปและท่านอาเธอร์เจ้าค่ะ”

“อืม ขอบคุณครับ” เขาจัดการกับมื้อเช้าไปเงียบๆ สักพักจึงหันไปบอกกับสาวใช้ “เดี๋ยวผมขอผ้าหมาดๆ มาเช็ดตัวสักหน่อย แล้วก็หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ผมด้วยนะ”

“เจ้าค่ะ” พวกหล่อนหายออกไปจากห้องสักพักก็กลับเข้ามาพร้อมกับอ่างน้ำและผ้าสะอาด ก่อนจะพากันเข้ามารุมล้อมเด็กหนุ่มไว้ “พวกข้าจะเช็ดตัวให้นะเจ้าคะ”

ลูคัสรีบโบกมือห้าม “ไม่ๆ วันนี้ผมขอทำเองนะ”

“ทำไมหรือเจ้าคะ ก็มันเป็นหน้าที่ของพวกข้า ท่านควรจะชิน...” สาวใช้คนหนึ่งพูดพลางดึงผ้าออก “อุ๊ย!” ใบหน้าหล่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

หากใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงยิ่งกว่า “คือ...”

หล่อนอมยิ้ม ไม่ถามอะไรต่อ หากหยิบผ้านุ่มที่ชุบน้ำบิดหมาดไว้มาเช็ดให้อย่างอ่อนโยน “เจ็บไหมเจ้าคะ เดี๋ยวเช็ดตัวแล้วข้าจะใส่ยาให้”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก แต่ไม่กล้าสบสายตาของพวกหล่อนอีกเพราะรู้สึกเขิน

เมื่อเช็ดตัวและใส่เสื้อผ้าให้เสร็จแล้ว พวกสาวใช้ก้อถอยไปยืนรวมกัน พวกหล่อนย่อตัวทำความเคารพก่อนพากันออกจากห้องไป ไม่ใช่เสร็จงานแล้วก็ถอยออกไปเลยเฉกเช่นทุกที

ทว่าลูคัสไม่เคยใส่ใจกับพิธีรีตองอะไรมากมายอยู่แล้ว พอลุกไหวก้อเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง เขานั่งลงที่โต๊ะหนังสือพลางกางแผ่นกระดาษที่เขียนบันทึกเรื่องกำแพงปราสาทไว้ออกดู

ในยุคที่การต่อสู้ใช้หอก ดาบและธนูเป็นหลัก มีเพียงการต่อสู้ด้วยธนูหรือหน้าไม้ที่สามารถทำได้จากระยะไกล ดังนั้นถ้าหากพวกทหารสามารถโจมตีข้าศึกจากบนกำแพงปราสาทได้ก็จะเป็นการได้เปรียบ กำแพงม่านที่เขาเคยศึกษาจะมีทางเดินเชื่อมกันระหว่างป้อมทั้งข้างบนและภายในกำแพง และมีช่องว่างสำหรับให้สำหรับนายขมังธนูได้หลบซ่อนตัวแล้วยิงธนูลงมาจากบนกำแพง

“กำแพงเป็นหินอยู่แล้ว ถ้าหากจะสร้างเพิ่ม... โดยใช้อิฐกับปูน อืม... ตรงฐานกับความสูง...” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วพร้อมกับโคลงศีรษะไปมา

“คิดไม่ออกแฮะ ไปดูของจริงดีกว่า” ลูคัสลุกขึ้นยืดตัวบิดขี้เกียจ ร่างกายมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมากหลังจากได้รับประทานอาหารเช้าไป เขาคว้าเสื้อคลุมกับรองเท้ามาสวม แล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

สาวใช้สองนางกับทหารอีกสามคนวิ่งตามหลังไปติดๆ “ท่านลูคัสจะไปไหน!”

“ไปดูกำแพงสักหน่อย”

“ท่านลุกไหวแล้วหรือเจ้าคะ”

“ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนี่” เด็กหนุ่มหันกลับไปตอบ เขาเลือกใช้บันไดสำหรับทหารและข้ารับใช้เพื่อลงไปยังชั้นล่างสุด จากนั้นก็เดินตรงไปยังป้อมปรากรป้อมหนึ่ง

อากาศในวันนี้อุ่นขึ้นเล็กน้อย มีแสงอาทิตย์เบาบาง หิมะที่ตกลงมาเมื่อวานละลายหายไปหมดแล้ว ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้สำรวจกำแพง

พวกทหารเปิดทางให้เขาเข้าไปสำรวจภายในป้อมได้อย่างสะดวก หลังจากไต่บันไดวนขึ้นไปในระยะความสูงประมาณตึกสามชั้นก็ถึงจุดยอด ข้างบนสุดของป้อมมีทางเดินวนโดยรอบ ใช้สำหรับตรวจตราความปลอดภัยได้รอบทิศทาง มีระยะห่างจากป้อมที่อยู่ถัดไปไม่ใช่น้อย

“ไปเอาเชือกมาหน่อยสิ ยาวๆ เลยนะ แล้วก็เอาไม้วัดมาด้วย” ลูคัสสั่งพวกทหาร เสร็จแล้วก็กางแผ่นกระดาษออก ใช้ดินสอที่หยิบติดมาจดข้อมูลลงไป


ฝ่ายลอร์ดหนุ่มกับอาจารย์และน้องชายยังคงพูดคุยกันอยู่ในห้องหนังสืออย่างเคร่งเครียด ไฮน์ริชรู้สึกเมื่อยจึงลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสาย เขาเดินตรงไปเปิดประตูระเบียงออก ก้าวออกไปยืนรับอากาศบริสุทธิ์พลางทอดสายตามองไกลออกไป ก่อนจะชะงัก แล้วชะโงกหน้ากลับเข้ามาภายในห้อง

“ท่านพี่ ท่านว่าตอนนี้ลูคัสจะทำอะไรอยู่นะ”

“รอข้าอยู่ในห้องของข้ายังไงล่ะ” คาร์ลตอบไปโดยไม่เงยหน้า

“ข้าว่า... สงสัยจะไม่ใช่แล้วล่ะ”

ลอร์ดหนุ่มขมวดคิ้วพลางเงยหน้าขึ้น “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

“คือ...” ไฮน์ริชชี้ไปทางป้อมปราสาท

คาร์ลลุกขึ้นพรวด กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ระเบียง นัยน์ตาสีฟ้าเบิกโพลง “ลูคัส! ทำไมเจ้าซนอย่างนี้นะ!” จากนั้นก็รีบรุดออกจากห้องหนังสือไป

อาเธอร์ตะโกนไล่หลัง “เมื่อสมัยที่ท่านยังเยาว์ก็ซนแบบนี้ละ ตอนนี้ท่านคาร์ลคงรู้แล้วสินะ ว่าทำให้ข้าปวดหัวมากแค่ไหน!” แล้วหัวเราะออกมาเสียงดัง


*~TBC~*


ตอนนี้เป็นตอนที่ทุกคนรอคอยยยยยมั้ยนะ  :o8:

ทั่นหลอดในที่สุด ก็ได้กินเด็กสมใจ อร่อยมั้ยยยยยย 555555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า ฟินมั้ยตอนนี้ย์~

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: nunuchhh ที่ 02-03-2017 12:04:31
เขินเลยฟิน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 02-03-2017 12:06:19
แหม่ ทั้นหลอด เคี้ยวอ้อยทั้งคืน หมันไส้!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 02-03-2017 12:13:06
โอ๊ะโอ....
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 02-03-2017 12:23:50
ลูคัสยังคงมีความดื้อ รู้เลยนะคะว่าต่อไปทั่นหลอดต้องห่วงมากกว่าเดิมเป็นสองเท่าตัว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-03-2017 12:25:47
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-03-2017 12:45:52
ซนแต่ก็รักใช่ไหมล่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 02-03-2017 12:47:17
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 02-03-2017 13:27:36
ท่านลอร์ดดดดดดดด ในที่สุดท่านก็ตีเมืองลูคัสได้สักที หลังทำศึกยืดเยื้ออยู่นาน :haun4:
น้องลูของเราก็เฟี้ยวเกิน ครั้งแรกปกติต้องนอนซมป่ะ แต่นี่ทำเหมือนเมื่อคืนไม่มีไรเกิดขึ้น โอ้ยย ยอมใจความซนของหนูเลย ท่านลอร์ดใจจะวาย 55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 02-03-2017 14:00:01
55555 ปีนกำแพงซะแหล่ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-03-2017 14:22:36
 :man1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 02-03-2017 14:43:49
ท่านหลอดสมใจแล้วสินะ
สำหรับเออร์วิน ก็ให้คอนราด ดูแลละกัน
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 02-03-2017 14:44:33
ขำท่านหลอด แหม๊ นึกว่าลุคจะนอนรอเป็นอิหนูอยู่ที่ห้องหรอ ไม่มีทาง!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-03-2017 14:48:58
อา......ตอนที่รอคอย มาถึงแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ช่างดีงามต่อใจซะจริงๆ  :hao5:
ท่านลอร์ดได้กินเด็กแล้ว
คงอร่อยแหละเนาะ มีความสุขที่ฉายชัดอยู่ในแววตา
ลูคัส ดูเหมือนซุกซน ปีนกำแพงเล่น
แต่กำลังทำประโยชนให้แผ่นดินของท่านลอร์ดอยู่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 02-03-2017 15:17:07
เหอๆ เค้าลางมาทำไมเรารู้สึกว่าดราม่าจะอีกไม่ไกล ทั่นหลอดหวงน้องลูมาก นี่ยิ่งได้ทั้งตัวและหัวใจน้องลูแล้วนะ น้องเป็นอะไรหรือหายไปทั่นหลอดคงเสียสูญไปเลย :katai5:
ปอลิง มาต่อเร็วๆนะต้ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 02-03-2017 15:50:48
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 02-03-2017 15:53:31
น้องลูอ้อยร้อยไร่ในที่สุดดดดด  :hao7:  :hao6:
จะได้กันก็ได้เลย บ๊ะ ฮ่าาาๆ นึกว่าจะนานกว่านี้ซะอีก
แต่เจ็บตูดขนาดนั้นก็ยังอุตส่าห์ไปปีนกำแพงทำงาน ทั่นหลอดคนดีย์ดูน้องด้วย!
ปล.ทั่นหลอดคงฟินมาก จมูกบานหน้าตารื่นเริงล่ะซี~  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-03-2017 16:03:12
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: สมใจนัก น้องลูโดนกินแล้ว 

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 02-03-2017 16:51:56
ลอร์ดกินเด็ก 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-03-2017 16:59:01
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-03-2017 18:27:41
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 02-03-2017 19:09:14
นี่รอคอยให้ลูคัสสร้างกังหัน  สร้างกำเเพง แปลกมั้ยคะเนี่ย 55555  ชอบให้ลูคัสโชว์ของอะ    :katai3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 02-03-2017 20:14:32
ท่านลอร์ดในที่สุดก็สมหวังแล้ววว ได้กินหนูลูคัสสักที อิอิ

เอ้าๆ ท่านลอร์ดวิ่งอย่างเร็ววว 555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 02-03-2017 20:54:40
 น้องลูไม่ค่อยอ้อยเท่าไหร่เลยนะคะ บอกให้เค้าบอก บอกรักเค้าอีก ฟินไปเลยละสิท่านหลอด
มีเรียวมีแรงปีนกำแพงอย่างนี้ คืนนี้ระวังท่านหลอดจะจัดหนักนะน้องลู

ใต้เตียงพอมีที่ว่างมั้ยขอมุดเข้าไปหน่อย :z1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 02-03-2017 22:17:36
ลูคัสกำลังทำหน้าที่ภรรยาที่ดีอยู่นะท่านลอร์ด

ชอบที่ลูคัสแก้ไขปัญหาต่างๆได้ดี

ชอบที่ทุกคนเห็น..ทึ่ง..และประหลาดใจ..ในความเก่งของลูคัส

ปล. อัยยะได้เสียกันแล้ว  ได้เสียกันแบบทั้งคืนด้วย

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 02-03-2017 22:26:39
คบเด็กสร้างบ้าน (กำแพง) นะคะท่านคาร์ล
เด็กน้อยก็ซนเหลือเกิน รถอ้อยคว่ำมาก
 :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 02-03-2017 23:07:28
น้องน้อยลูคัสนี่ซนจริงๆ ให้ท่านคาร์ลจับตีก้นซะดีมั้ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-03-2017 00:00:24
นางมาเพื่อเปลี่ยนแปลงอ่าเนาะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 03-03-2017 01:14:34
ฟินจิกหมอนกันไป  :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 03-03-2017 09:05:48
สุ้ๆนะคะคุณฮัสกี้ ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-03-2017 13:52:30
หุๆๆๆ ในที่สุดทั่นหลอดก็ได้แอ้มลูคัส

อ้อยมาทั้งไร่เลย ชุ่มชื่นหัวใจ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 03-03-2017 21:34:15
งือออออออออออออ :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 03-03-2017 21:49:14
ยังออกไปวิ่งเล่นได้
แสดงว่าหนักกว่านี้ก็ยังได้นะทั่น
งั้นครั้งหน้าต้องจัดหนักๆลงโทษเด็กซนซะแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 04-03-2017 11:01:57
นีมันคือการคืนความสุขอย่างแท้จริง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-03-2017 19:52:14
แสบซนสมกับเป็นเลดี้ของท่านคาร์ล อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 05-03-2017 02:41:52
ตามอ่านถึงตอนปัจจุบันแล้ววววววววว ฮิ้ววววว
ไม่รู้จะบอกว่า  ดีใจที่ปล่อยมสหลายตอนแล้วอ่านยาวๆดีไหม เพราะสรุปสุดท้ายนี่ก็ค้างอยู่ดี 55555
ขอโทษที่ไม่ได้มาให้กำลังใจทุกตอนนะคะ  เข้าเรื่องๆ

ไม่ค่อยได้อ่านงานแนวพีเรียดของทางฝั่งยุโรปเท่าไหร่ ได้มาอ่านแบบนี้ก็คิดถึงงานเก่าไอยู่สองเรื่องเลยค่ะ
การเขียนแนวพีเรียดมีค่อนข้างเครียดกับการหาข้อมูลและและความเชื่อมโยงของเส้นเวลามากกกก  แต่คุณดาวเก่งมากอ่ะ  นี่อ่านไปก็นึกภาพในหัวตามนะคะ ว่าบรรยากาศในนั้นเป็นอย่างไร  อ่านงานของคุณดาวมาสี่ห้าเรื่อง(ยังตามไม่หมด)แล้ว คือ แบบนี่อ่ะ ฝีมือคุณดาวจริงๆ  อ่านแล้วอมยิ้ม  อ่านแล้วหัวเราะ  อ่านแล้วอินเข้าไปในบรรยากาศในเรื่องได้  ขอบคุณที่ทุ่มเทกับนิยายเรื่องนี้นะคะ  รู้สึกมีความสุขที่ได้อ่าน  ที่จริงอยากบอกเยอะกว่านี้  แต่ตอนนี้มึนมากค่ะ  เรียงเรียงคำพูดไม่ค่อยถูกละ  อ่านจนถึงตีสาม 5555
เอาเป็นว่าสู้ๆนะคะ

ปล.น้องลูอร่อยไหมคะทั่นหลอดดดด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 05-03-2017 19:18:36
น้องลูคัสแสนซน กับท่านคาร์ลเข้าหอกันแล๊วววววค่า
คืนแรกหนูลูคัสยังออกไปวิ่งเล่นไหว ท่านลอร์ดมีหวง
รอคืนต่อไปนะคะ อิอิ  :mew3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: mirage ที่ 05-03-2017 20:30:06
ที่คิดอยู่ตอนนี้คือ คอนxเออร์ ดูมุ้งมิ้ง น่ารัก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-03-2017 22:08:26
5555 ไม่ไหวจะเพลีย ลูคัสหนูทำได้ดีมากค่ะ ห่วงงานการมากกว่าสังขารตัวเองนะ

สงสารลูคัส เหมือนพาย้อนไปแก้ปมอะไรสักอย่าง จะได้หลุดบ่วงจากกันหรือเปล่าคะ

คนจะรักไม่ว่าภพใดชาติใด ก็ไม่อาจห้ามได้
คาร์ลหวงลูคัสมาก ชอบโหมดมุ้งมิ้ง มีความอ้อนหนักมาก แล้วรุกเนียนมาก

บ้านนี้เค้าชงกันดีค่ะ ชอบ อบอุ่นดี

เออร์วินทำใจนะ ไว้รอคนที่ใช่ต่อไป

อยากเอาดาบที่ได้มาไปบั่นบาร์ดอฟจริงเลย แม้แต่ญาติมิตร ยังไม่นำพา

ลูคัสจะโดนดุไหมล่ะนั่น 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 06-03-2017 16:05:55
เขาได้กันแล้วข่าาาาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 08-03-2017 00:58:59
หวานนนนนมากเลยยยยยกรี๊ดดดน้องลูเดินไหวได้ยังไงคะนั้นนน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 09-03-2017 13:45:59
ซนแต่ก็รักใช่มั้ยล่าาาาา 
เค้าได้กันแล้ว แอร๊ยยยย
 :o8: :o8: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 09-03-2017 15:18:35
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 13-03-2017 00:25:52
หุยยย สนุกมาก ตอนแรกคิดว่าเป็นพีเรียดไทยซะอีก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-03-2017 00:44:04
 :katai5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: หมีมง ที่ 16-03-2017 14:17:45
ตามมาจากกระทู้นิยายแนะนำค่ะ

สนุกมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 17-03-2017 09:55:40
คิดถึงน้องลูกับทั่นลอร์ดจังเลยยย งื้ออออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน [Chapter 24 : คืนแรก][020317]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 17-03-2017 20:01:33


Chapter 25 : ความสุข


จากบนป้อมกำแพงม่าน ลูคัสใช้เชือกผูกเอวไว้แล้วโรยตัวลงมายังกำแพงหิน เขาเงยหน้าขึ้นมองตัวป้อมด้านบน ก่อนจะก้มลงตรวจสอบความสมบูรณ์ของกำแพงหินจากภายนอก หากเสียงเอะอะโวยวายจากพวกทหารบนป้อมและสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างล่างช่างน่ารำคาญ เขาจึงดุเสียงดัง “นี่ อยู่เงียบๆ กันหน่อยได้มั้ย ผมกำลังใช้ความคิดนะ”

“ท่านลูคัส โอย ลงมาเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะเป็นลม”

นายทหารอีกสองสามคนกำลังโรยตัวตามลงมา “ท่านลูคัส อยู่นิ่งๆ นะขอรับ!”

“จะลงมากันทำไมน่ะ เดี๋ยวผมก็จะลงไปข้างล่างแล้ว!”

ยิ่งพอลมพัดมาแล้วเด็กหนุ่มยืนโอนเอน เสียงร้องเรียกก็ยิ่งดังระงม “ท่านลูคัส!”

เด็กหนุ่มส่ายหน้าไปมา เขาเมินเสียงเอะอะโวยวายพลางย่อตัวลงวัดความกว้างของกำแพง ทว่าอีกสักพักก็มีเสียงดุๆ ของคนคุ้นเคยดังขึ้น

“ลูคัส! เจ้าขึ้นไปทำอะไร!”

เพราะว่าเสียงนี้เมินไม่ได้ เจ้าของชื่อเรียกจึงหันขวับ “ท่านคาร์ล ผมขึ้นมาดูอะไรนิดหน่อย”

“แล้วดูเสร็จหรือยัง”

“เสร็จแล้วครับ”

“ถ้างั้นก็รีบลงมา!”

“รีบเลยหรือ”

คาร์ลส่งสายตาดุๆ ใส่ “ลงมาเดี๋ยวนี้!”

เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม ดูจากความยาวของเชือกก็น่าจะพอที่จะใช้โรยตัวลงไปถึงพื้นดินได้ มือเรียวจับเชือกพร้อมกับลองกระตุกดูเพื่อตรวจสอบความแข็งแรงหลายๆ ครั้ง แล้วจึงโรยตัวลงไปตามกำแพงหิน

“ลูคัส!” ลอร์ดหนุ่มร้องเสียงดังลั่น เขาถลาเข้าไปยืนอยู่ตรงกำแพงที่เด็กหนุ่มกำลังโรยตัวลงมาด้วยความเป็นห่วงจับใจ

เมื่อลูคัสเห็นท่าทางของลอร์ดหนุ่มแล้วก็ยิ้มกว้างอย่างชอบใจ เขาแกะเชือกที่ผูกเอวออก แต่สองมือยังจับเชือกไว้แน่น “ท่านคาร์ล รับน้า~”

“เจ้าอย่าเล่นอะไรบ้าๆ” พูดไปแบบนั้นแต่ก็อ้าแขนรอรับ

เด็กหนุ่มปล่อยมือจากเชือกเมื่ออยู่ห่างจากคาร์ลประมาณหนึ่งช่วงแขน เขาร่วงลงไปในอ้อมแขนแข็งแกร่งพอดิบพอดี แล้วหัวเราะเสียงดังอย่างพอใจ

คาร์ลอยากจะโกรธคนในอ้อมกอดเหลือเกิน หากพอเห็นรอยยิ้มกว้างก็โกรธไม่ลงเสียอย่างนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ต้องดุกันสักหน่อย “ทำไมเจ้าทำแบบนี้น่ะ มันอันตรายรู้ไหม”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะท่านคาร์ล จะสำรวจกำแพงก็ต้องขึ้นไปตรวจดูบนกำแพงสิ”

“ไม่ใช่เด็กงั้นรึ” ลอร์ดหนุ่มชักอยากจะลงโทษคนช่างเถียง เขาอุ้มลูคัสพาดบ่าแล้วตบสะโพกเบาๆ “อืม ก็คงไม่ใช่แล้วจริงๆ”

ใบหน้าน่ารักร้อนวาบ มือเรียวทุบแผ่นหลังกว้างพลางโวยวาย “ปล่อยผมลงนะ” พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าพวกทหารกับสาวใช้พากันอมยิ้ม ทำให้รู้สึกอายมากขึ้นไปอีก

ไฮน์ริชกับยาคอปที่ยืนรอดูอยู่ห่างๆ ยังอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ท่านพี่ได้คู่ปรับที่สูสีกันดีเหลือเกินนะ”

 คาร์ลพาลูคัสกลับไปที่ห้องหนังสือ เมื่ออาเธอร์เห็นสีหน้าของทุกคนเข้าก็อมยิ้ม แต่ก็ยังไม่พูดอะไร

ลูคัสนั่งลงบนโซฟาพลางส่งสายตาขุ่นๆ ใส่ลอร์ดหนุ่ม ก็ดูเข้าสิ ตีก้นเขาต่อหน้าคนมากมาย ท่านคาร์ลนะท่านคาร์ล ทำกันได้!

คาร์ลเอื้อมมือไปหยิกแก้มสีระเรื่ออย่างมันเขี้ยว “ดูทำหน้าเข้าสิ”

“อื้อ!” เด็กหนุ่มสะบัดหน้าหนี

อาเธอร์ส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ “สรุปว่าเจ้าขึ้นไปบนกำแพงทำไมหรือ”

“คือ...” ลูคัสโคลงศีรษะไปมาเพื่อเรียบเรียงคำพูด “ผมเห็นว่าทุกคนคุยกันเรื่องกำแพง ก็เลยอยากจะลองเอามาคิดดูบ้างว่ามีวิธีไหนที่จะช่วยให้กำแพงปราสาทแข็งแรงขึ้นมาได้”

เด็กหนุ่มกางแผ่นกระดาษที่เขาจดบันทึกและวาดภาพโครงร่างกำแพงไว้ลงบนโต๊ะ “จากการตรวจดูคร่าวๆ ตรงกำแพงบริเวณป้อมนี้ ผมคิดว่ากำแพงเดิมก็น่าจะแข็งแรงดี แต่เพื่อให้ใช้ประโยชน์ของกำแพงได้มากขึ้นควรจะต้องเพิ่มความสูงและความแข็งแรงของฐานกำแพงอีกสักหน่อย แรกสุดควรสร้างกำแพงด้านในขึ้นมาอีกชั้นให้ห่างจากกำแพงเดิมสักสามช่วงแขน ส่วนช่องว่างระหว่างกำแพงหินและกำแพงอิฐ ก็ผสมหิน ทรายกับปูนใส่เข้าไปจะทำให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ต่อจากนั้นก็ค่อยก่อกำแพงต่อจากกำแพงเดิมให้สูงขึ้นไปอีกชั้น แต่ชั้นนี้เว้นช่องว่างข้างในไว้เป็นทางเดินเชื่อมระหว่างป้อม ทหารจะได้เดินตรวจการณ์ได้ทั้งจากข้างบนกำแพงและในกำแพงด้วย ภายในช่องทางเดินในกำแพงนี้จะเจาะช่องกำแพงเป็นช่องแคบๆ หลายๆ ช่องเอาไว้ให้นายขมังธนูซุ่มยิงศัตรูได้”

คาร์ลก้มลงมองบนแผ่นกระดาษไปพลางขณะที่รับฟังความคิดเห็นของเด็กหนุ่ม

“ส่วนชั้นบนใช้อิฐก่อเป็นรั้วเตี้ยๆ เป็นกำบังให้ทหารข้างบนกำแพง แล้วเจาะรู้ไว้สำหรับยิงธนูเช่นกัน คราวนี้ไม่ว่าจะซุ่มยิงด้วยธนูหรือหน้าไม้จากข้างในหรือข้างบนกำแพงปราสาทก็ทำได้ง่ายแล้ว ส่วนกำแพงหินด้านนอก ถ้าหากเป็นไปได้ผมคิดว่าควรจะฉาบปูนขาวให้เรียบ ไม่อย่างนั้นจะปีนเข้าออกได้ง่ายเกินไป”

“นั่นสินะ เจ้าเคยปีนข้ามมาแล้วคงรู้ดีกว่าใคร”

ลูคัสขมวดคิ้ว “ท่านคาร์ล! เรื่องแบบนี้ทำไมจำแม่นเหลือเกิน! ผมกำลังพูดจริงจังอยู่นะเนี่ย!”

“ข้าก็ฟังจริงจังเหมือนกัน” ลอร์ดหนุ่มตอบเสียงเรียบ เป็นผลให้อีกฝ่ายทำหน้ายุ่ง

น้องชายทั้งสองนิ่งอึ้ง พวกเขาเพิ่งเคยได้ยินคำเล่าลือของเด็กหนุ่มมาแล้วก็จริง แต่พอได้เห็นชัดๆ ตรงหน้าก็ยิ่งทั้งประหลาดใจและทึ่งในคราวเดียว ส่วนอาเธอร์ก็เช่นกัน เขารู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นคนฉลาดมาก แต่สิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาเมื่อครู่ ปกติแล้วพวกที่ปรึกษาและผู้ชำนาญงานต้องมารวมตัวกัน ช่วยกันออกความคิดเห็นนานเป็นเดือนๆ

“ส่วนกำแพงเมืองก็เช่นกัน แต่ว่าตอนนี้เป็นกำแพงไม้ ถ้าหากก่อสร้างเป็นหินได้ก็จะเป็นด่านป้องกันได้อีกชั้น ข้าศึกจะเข้าถึงเขตปราสาทได้ยากขึ้น” เด็กหนุ่มยังคงพูดจ้อ “แต่ผมคิดว่านะ ไม่ว่ากำแพงจะแข็งแรงมากแค่ไหน มนุษย์อย่างพวกเราก็คิดหาวิธีทำลายจนได้แหละครับ”

“เจ้าคิดว่ากำแพงที่เลื่องลือของปราสาทโรเซนไฮม์ก็อาจจะถูกทำลายได้อย่างนั้นหรือ” อาเธอร์เอ่ยถามอย่างสนใจ

ลูคัสพยักหน้า “ไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้หรอกครับ ถ้าหากต้องการ ขนาดยักษ์อย่างโกไลแอธยังมีจุดอ่อน แล้วยังถูกเด็กผู้ชายธรรมดาอย่างดาวิดฆ่าให้ตายได้เลยนะครับ”

“เจ้าเคยอ่านหนังสือของซามูแอลด้วยงั้นรึ หนังสือหายากขนาดนั้น” อาเธอร์อ้าปากค้าง เขาสงสัยเหลือเกินว่าเด็กหนุ่มจะมีอะไรให้เขาแปลกใจได้มากกว่านี้อีก

“อ่า...” เด็กหนุ่มหัวเราะเจื่อนๆ

ยาคอปซึ่งนั่งนิ่งอยู่นานเอื้อมมือไปสัมผัสแขนเด็กหนุ่ม “เจ้านี่... เป็นคนจริงๆ ใช่ไหม”

“เห!? ท่านยาคอปทำไมถามแบบนี้ล่ะ!”

“ก็เจ้าช่างแปลกเด็กเหลือเกินนี่” ไฮน์ริชเอื้อมมือไปหยิกแก้มใสเบาๆ “ข้าเชื่อที่ท่านพี่บอกแล้วล่ะว่าสวรรค์ส่งเจ้ามา”

“ผมก็แค่ชอบอ่านหนังสือเท่านั้น” ลูคัสแก้ตัว

ในขณะเดียวกันอาเธอร์ก็หันไปคุยกับลอร์ดหนุ่ม “ข้าเห็นดีด้วยกับความคิดของลูคัส ท่านคาร์ล ท่านควรเรียกที่ปรึกษาและพวกช่างทั้งหลายมาเตรียมการ จะได้หาแรงงานกับวัตถุดิบไว้แต่เนิ่นๆ”

“การป้องกันเมืองควรทำควบคู่ไปกับการพัฒนาเมืองด้วย เรายังมีแผนงานขุดอ่างเก็บน้ำและทำถนนในเมืองอยู่ คงจะต้องใช้แรงงานไม่ใช่น้อย”

“นอกจากจะสร้างถนนหนทางในเมืองแล้ว พวกข้ายังวางแผนจะทำถนนเชื่อมแบร์กไฮม์ เคิร์ชไฮม์กับนอยเออร์ไฮม์ไว้ด้วยกัน ต่อไปการขนย้ายวัตถุดิบและเคลื่อนย้ายแรงงานจะได้ทำได้สะดวกขึ้น”

“กังหันน้ำที่เคิร์ชไฮม์กับนอยเออร์ไฮม์มีกำหนดการจะสร้างขึ้นเมื่อฤดูหนาวหมดไป”

ลูคัสเอียงหูฟังลอร์ดทั้งสามและอาจารย์ของพวกเขาปรึกษากัน แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งเครียด ระหว่างนั้นก็นึกถึงยักษ์โกไลแอธที่เขาเพิ่งพูดถึงเมื่อครู่ไปด้วย รู้สึกสะกิดใจกับวิธีการที่ดาวิดใช้อย่างไรชอบกล... แต่ยังนึกไม่ออกว่าเพราะเหตุใด

เด็กหนุ่มขมวดคิ้วจนแทบเป็นปม คราวนี้ไม่ได้ฟังทุกคนพูดคุยกันแล้ว เขาพาตัวเองจมดิ่งลงในห้วงแห่งความคิด

เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ ลูคัสยังคงนั่งนิ่งเป็นรูปปั้น

“ลูคัส”

มือกร้านวางลงบนศีรษะเล็กแล้วจับโคลงไปมา “ลูคัส!”

“อะ ครับ” เจ้าของชื่อเรียกหันขวับ

“เจ้าคิดอะไรอยู่หรือ”

“คิดไปเรื่อยเปื่อยแหละครับ”

“คิดถึงข้างั้นรึ” ลอร์ดหนุ่มอมยิ้ม หากมือยังขยี้เส้นผมสีดำไม่ยอมหยุด

“คิดถึงทำไมกัน คุณก็นั่งอยู่ตรงนี้” ลูคัสขมวดคิ้ว ศีรษะโคลงเคลงไปมาตามแรงขยี้ “ท่านคาร์ล ทำไมผมรู้สึกเหมือนว่าคุณกำลังแกล้งผมกัน”
 
“เจ้าคงคิดไปเอง” แขนแกร่งโอบลำคอเด็กหนุ่ม ดึงเข้าหาตัวแล้วขยี้ผมหนักขึ้นอีก

“ท่านคาร์ล!” เด็กหนุ่มโวยวายพร้อมกับดิ้นให้หลุด เขายกมือขึ้นดึงแก้มลอร์ดหนุ่มเพื่อเอาคืนบ้าง “นี่ๆ แกล้งกันนักใช่มั้ย”

สองหนุ่มมัวแต่แกล้งกันไปแกล้งกันมาจนลืมสนใจอีกสามคนในห้องไปเสียสนิท

“เป็นวิธีการแสดงความรักที่น่ารักดีนะ” อาเธอร์หัวเราะ

“ตั้งแต่เกิดมาข้าก็เพิ่งเคยเห็นท่านพี่เล่นเป็นเด็กเช่นนี้”

“ก็ท่านพี่อยู่กับเด็กนี่นะ”

“ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะ!” ลูคัสหันมาเถียง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้น้องชายทั้งสองของท่านลอร์ดหัวเราะไม่หยุด เด็กหนุ่มจึงหันไปเบ้ปากใส่ลอร์ดหนุ่ม “โอ๊ย” ทว่าอีกฝ่ายยื่นมือมาบีบปลายจมูกเสียอย่างนั้น

อาเธอร์นั่งมองความปั่นป่วนในห้องต่อไปอีกชั่วครู่จึงหันไปเรียกนายทหาร เมื่อนายทหารรับฟังคำสั่งแล้วก็หายออกไปจากห้อง สักพักก็กลับเข้ามาพร้อมกับคอนราดและเออร์วิน

องครักษ์ทั้งสองไม่ได้แปลกใจอะไรกับความวุ่นวายภายในห้องนัก หรือจะเรียกว่าชินเสียแล้วก็ว่าได้ “ท่านอาเธอร์มีอะไรให้พวกข้ารับใช้หรือ”

“ข้ามีธุระจะฝากฝังกับพวกเจ้าสักหน่อย” อาเธอร์พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปบอกกับลอร์ดหนุ่ม “หวังว่าท่านคาร์ลคงไม่ขัด”

“ข้าก็ไม่อยากขัดหรอก แต่ว่าท่านมีธุระอะไร ใช้งานหัวหน้ากองไม่ได้หรือ ปกติคอนราดกับเออร์วินก็งานยุ่งมากอยู่แล้ว”

“ธุระนี้คงต้องฝากคอนราดกับเออร์วินเท่านั้น” ท่านอาจารย์พูดพลางเรียกชื่อเด็กหนุ่ม “ลูคัส เรื่องนี้เกี่ยวกับเจ้าโดยตรง ฟังให้ดี”

“เอ๋!?”

“ต่อไปนี้ เออร์วินจะเป็นอาจารย์สอนมารยาทการปฏิบัติตัวในงานสำคัญกับเจ้า ส่วนคอนราดจะเป็นอาจารย์ฝึกดาบและการวางตัวกับเหล่าทหาร สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าควรต้องเรียนรู้” อาเธอร์ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เพื่อที่เจ้าจะได้ยืนเคียงข้างท่านคาร์ลได้อย่างสง่างาม”

ยืนเคียงข้างท่านคาร์ลได้อย่างสง่างามงั้นหรือ

เด็กหนุ่มยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารัว “ครับ” 

“ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ลำบากใจ...”

“ไม่ครับ ผมยินดี ยินดีที่สุด!” เด็กหนุ่มยืนขึ้นแล้วค้อมศีรษะให้ทหารองครักษ์ทั้งสอง “ผมขอฝากตัวด้วยนะครับ”

คอนราดและเออร์วินค้อมศีรษะลงต่ำ “เป็นเกียรติของพวกข้า”

ลอร์ดหนุ่มผงกศีรษะลงเล็กน้อย “ข้าขอฝากฝังลูคัสกับพวกเจ้าหน่อยก็แล้วกัน”

อาเธอร์เอื้อมมือไปตบหลังมือของคาร์ลเบาๆ จากนั้นจึงเอนหลังพิงพนักโซฟา “เอาล่ะ ข้าคิดว่าหลังจากประชุมที่ปรึกษาของท่านในวันพรุ่งนี้แล้วก็จะเดินทางกลับไฮเดลแบร์กสักที เรื่องการเตรียมหาแรงงานกับช่างผู้ชำนาญการ ข้าจะคุยกับท่านวิลแฮล์มแล้วช่วยจัดหาให้อีกแรง”

“พวกข้าก็เช่นกัน ท่านพี่ พวกข้าจะทิ้งกองทหารไว้ที่นี่ครึ่งหนึ่ง เมื่อมั่นใจว่าบาร์ดอฟจะไม่ทำอะไรแล้วข้าจะเรียกพวกเขากลับ”

“อืม ขอบใจพวกเจ้ามาก ข้าหวังว่าหิมะจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของพวกเจ้า”

“จะกลับกันหมดแล้วหรือครับ” ลูคัสพูดเสียงอ่อย

“ฝากเจ้าดูแลท่านพี่ให้พวกข้าด้วย” ไฮน์ริชบีบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ “แล้วเอาไว้เมื่อหมดหนาว ก็หาเวลาแวะมาเที่ยวที่เมืองพวกข้าบ้าง”

เด็กหนุ่มยิ้มบาง “ครับ”


อุณหภูมิลดลงจนต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในยามค่ำคืน ท้องฟ้าที่ไร้เมฆหมอกปกคลุมส่งผลให้หนาวจนสั่นสะท้าน แม้ภายในห้องจะได้รับความอบอุ่นจากเตาผิง หากที่บานหน้าต่างมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะหนา เป็นรูปร่างต่างๆ คล้ายขนนกบ้าง คล้ายดาวบ้าง ดูแล้วช่างน่าสนใจ

หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วลูคัสก็มายืนจ้องบานหน้าต่างเขม็ง เนื่องจากในยุคปัจจุบันบ้านเรือนส่วนใหญ่ใช้กระจกสองชั้น การเกิดน้ำแข็งบนกระจกจึงไม่มีให้พบเห็นได้บ่อยนัก

“ท่านลูคัสไม่หนาวหรือเจ้าคะ” สาวใช้เอ่ยถามเมื่อเห็นเขายืนชิดบานกระจกหน้าต่างอยู่นานสองนาน

“หนาวครับ ผมดูลายน้ำแข็งเพลินไปหน่อยน่ะ”

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ก่อนลอร์ดหนุ่มจะก้าวเข้ามา พอพวกสาวใช้เห็นเข้าก็ทยอยกันออกจากห้องไป

ทั้งที่ก็อยู่ด้วยกันมาตลอดทั้งวัน หากเมื่อถึงเวลาอยู่ด้วยกันตามลำพังในยามราตรี เด็กหนุ่มกลับรู้สึกเขิน แก้มใสเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ “ท่านคาร์ล”

เจ้าของชื่อเรียกเดินไปนั่งลงบนโซฟา “พรุ่งนี้พอประชุมเสร็จข้าจะออกไปส่งท่านอาเธอร์ที่ชายแดน คงจะกลับมาในอีกสามวัน”

“เอ๋!” นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง เขารีบเดินไปยืนหน้าลอร์ดหนุ่ม “งั้นให้ผมไปด้วยนะ”

คาร์ลส่ายหน้าช้าๆ “อย่าเลย เจ้าอยู่ที่นี่ล่ะ”

“ไม่เอาอะ ผมจะไป”

มือหยาบดึงแขนเรียวให้อีกฝ่ายเข้ามาใกล้ “อย่าดื้อสิ การเดินทางช่วงนี้ไม่ค่อยราบรื่น อากาศหนาวเย็นมาก เจ้าอย่าไปให้ลำบากเลย”

“แต่ผมไม่อยากอยู่คนเดียว”

“คอนราดจะอยู่ที่นี่กับเจ้า”

“ผมไม่อยากอยู่ห่างจากคุณนี่นา!”

คาร์ลยิ้มบางพลางกระตุกให้เด็กหนุ่มนั่งลงข้างกัน จากนั้นจึงใช้หลังมือไล้แก้มนิ่ม “ข้าเองก็ไม่อยากอยู่ห่างเจ้า แต่ท่านอาเธอร์เป็นผู้ดูแลสั่งสอนข้ามาตั้งแต่ยังเยาว์ ข้าจึงต้องไปส่งท่าน ส่วนไฮน์ริชกับยาคอปจะรับช่วงต่อจากข้าเพื่อไปส่งท่านให้ใกล้เขตเมืองไฮเดลแบร์กมากที่สุด แล้วข้าจะรีบกลับมา”

“ทำไม... ทำไมถึงไม่ให้ผมไปด้วยล่ะ” ลูคัสถามเสียงอ่อย

“เพราะข้ารักเจ้า ทั้งหวงและห่วง การเดินทางในความหนาวเหน็บสำหรับคนที่ไม่เคยชินมันอันตรายเกินไป และถ้าหากเป็นไปได้ ข้าก็อยากจะเก็บเจ้าไว้แต่ภายในห้องนี้ด้วยซ้ำ” 

ในที่สุดก็ต้องจำยอมด้วยเหตุผล หากใบหน้าของเด็กหนุ่มยังคงบึ้งตึง นัยน์ตาสีเข้มหลุบมองต่ำ

คาร์ลเชยคางเรียวขึ้นให้สองสายตาประสานกัน ก่อนจะขยับเข้าไปแต้มจูบกลีบปากนุ่ม “ข้าจะไม่อยู่หลายวัน ขอกอดเจ้าให้เต็มอิ่มก่อนได้ไหม”

เรื่องแบบนี้ต้องถามด้วยหรือไง! ลูคัสเม้มปากแน่น

“ลูคัส”

“ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ คุณอยากไม่อยู่หลายวันเอง”

“ถ้าเจ้าบอกว่าไม่ ข้าก็จะกลับไปนอนที่ห้อง” ลอร์ดหนุ่มพูดแล้วรอคำตอบจากอีกฝ่ายชั่วครู่ เมื่อเด็กหนุ่มไม่ยอมพูดอะไรเขาจึงลุกขึ้นพรวด ทำทีเป็นว่าจะกลับห้องจริงๆ

เฮ้ย! จะไปจริงๆ หรือ!

ลูคัสเบิกตากว้าง รีบคว้าแขนแกร่งไว้อย่างรวดเร็ว “เดี๋ยวสิท่านคาร์ล!”

คาร์ลยิ้มกริ่ม “หืม”

พอเห็นรอยยิ้มของลอร์ดหนุ่มเข้าก็รู้ว่าตัวเองตกหลุมอีกฝ่ายเสียแล้ว เขารีบปล่อยมือแล้วเบือนหน้าหลบ ทำแก้มป่องพองลมอย่างไม่พอใจ

คาร์ลหัวเราะ เขานั่งลงบนโซฟาอีกครั้งพร้อมกับดึงแขนเรียกให้เด็กหนุ่มขึ้นมานั่งบนตัก “เจ้าเด็กดื้อแสนงอนคนนี้นี่ช่างน่ารักเสียจริง” ฝ่ามือหยาบประคองมือเรียวขึ้นมาจูบแล้วนำไปวางไว้แนบอก

ลูคัสสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นหนักๆ ใต้ฝ่ามือตน ดวงตาสีฟ้าฉ่ำหวานราวกับมีมนตร์สะกด เขาก้มลงให้หน้าผากของพวกเขาจรดกัน “บอกรักผมอีกทีสิ”

“ข้ารักเจ้า ลูคัส” มือหยาบสอดเข้าไปในชายเสื้อของร่างโปร่งแล้วรั้งขึ้นเหนือแผ่นอก จากนั้นจึงโน้มใบหน้าเข้าไปพรมจูบ

เด็กหนุ่มดึงเสื้อออกไปทางศีรษะ เขาวางมือลงบนไหล่หนา ปล่อยให้คนตรงหน้าขบเม้มทับรอยสีชมพูบนผิวเนื้อที่หลงเหลือจากเมื่อวานได้ตามใจ แผ่นอกขาวขยับเข้าออกถี่ขึ้นตามจังหวะการหายใจ มือข้างหนึ่งขยุ้มเส้นผมสีบลอนด์ไว้ เมื่ออีกฝ่ายใช้ปลายลิ้นหยอกล้อติ่งไตที่รัดตัวแข็ง

มือหยาบปลดเชือกผูกกางเกงแล้วดึงออกไปจากขาเรียว เขายิ้มอย่างพอใจเมื่อลูคัสเร่งถอดเสื้อของเขาออกบ้าง มือเรียวของเด็กหนุ่มสั่นน้อยๆ ท่าทีประหม่าช่างดูน่ารัก

ลูคัสขยับไปคร่อมทับบนตัก เขาแนบริมฝีปากลงบนเรียวปากหยักบางพลางเบียดร่างที่เปล่าเปลือยเข้าหา เรือนกายถูกปลุกให้ร้อนรุ่มด้วยฝ่ามือที่กดเคล้นไปบนแผ่นหลัง เด็กหนุ่มค่อยๆ กดสะโพกลง ให้เจ้าของตักที่ตนนั่งอยู่แทรกกายเข้ามาในร่างอย่างเชื่องช้า

กลีบปากสีแดงเผยอครางเสียงเบา แขนเรียวโอบลำคอหนาขณะที่ขยับตัวขึ้นลง สะโพกเล็กกดลงบนหน้าขาลอร์ดหนุ่มหนักหน่วงขึ้นตามแรงของอารมณ์ที่อีกฝ่ายช่วยปลุกปั่น

ลอร์ดหนุ่มขยำก้อนเนื้อสะโพกอย่างมันเขี้ยวไปพร้อมๆ กับช่วยประคองตัวเด็กหนุ่มไว้ ร่างโปร่งที่โยกไหวอยู่บนตักแทบจะทำให้เขาคลุ้มคลั่ง เขายกสะโพกขึ้นสวนเมื่ออีกฝ่ายกระแทกกายลงมา

สองขาเรียวตวัดเกี่ยวลำตัวหนา ใบหน้าแหงนเงยไปทางข้างหลังขณะที่จิกเล็บลงบนหัวไหล่กว้าง เขาเผลอร้องเสียงดังด้วยความสุขสม ดวงตาปิดแน่น

คาร์ลปลดปล่อยอารมณ์รักหลั่งล้นไว้ในร่างกายเด็กหนุ่มที่แสนรัก ทั้งสองหอบหายใจหนักๆ พลางส่งยิ้มหวานละมุนให้แก่กัน

“คาร์ล ผมรักคุณ”

มือหยาบโน้มศีรษะลูคัสเข้าหาตัวแล้วบดจูบ เขาอุ้มเด็กหนุ่มขึ้นแล้วพาไปวางลงบนเตียง อ“เป็นเด็กดีรอข้าอยู่ที่นี่ เข้าใจไหม”

“ครับ”

เปลวไฟในเตาผิงภายในห้องยังคงลุกโหม เช่นเดียวกันกับไฟรักของทั้งสองคน ร่างกายเคลื่อนไหวสอดประสาน กระซิบบอกคำรักให้แก่กันไม่รู้เบื่อ จนกระทั่งพวกเขาหลับไปในอ้อมแขนของกันและกัน


*~TBC~*


ไม่ทันไรก็ออนท็อปซะแร้ว ก๋ากั่นจริงเด็กคนเน้! /ผิดประเด็น

(เกือบจะตั้งชื่อตอนว่า เด็กก๋ากั่น แล้วเชียว 555555)

หวานๆ เบาๆ ก่อนนะคะ เดี๋ยวคงจะค่อยๆ เข้มข้นขึ้นอีก ช่วยนี้กินอ้อยกันไปก่อนนนน~

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า ขอโทษที่เอามาลงช้า ยังแก้ไม่เสร็จเลยง่ะ อ่านช้าๆ น้า กร๊ากก

รักคนอ่านนะจุ๊บ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 17-03-2017 20:20:25
ฉลาดจนคนสงสัย 55555555 อ่านเรื่อยๆหวานๆฟินมาหลายตอน อยู่ดีๆก็เหลือบตาไปมองชื่อเรื่องเลยนึกขึ้นได้ว่าลูคัสย้อนอดีตมาแล้วคิดไว้แล้วว่าน่าจะมีดราม่าที่ต้องกลับไปปัจจุบันอีกรึเปล่า กลัวเหลือเกิน กลัวอ่านเพลินๆมาอีกทีโบ้มมมม /ล้ม ลูคัส ท่านคาร์ลไม่อยู่ อย่าดื้อนะคะ 555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-03-2017 20:34:19
ลูคัสเอ้ยยยยยยยยย มีความติดท่านคาร์ลนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-03-2017 20:41:56
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 17-03-2017 20:53:54
โถๆๆ เด็กน้อยติดท่านลอร์ดซะแล้ววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-03-2017 21:14:35
ฉลาดมากลูคัส

เป็นนิยายเรื่องเดียวตั้งแต่อ่านนิยายมา

ที่ย้อนอดีตกลับมาแล้วใช้ความก้าวหน้าของปัจจุบัน

พัฒนา...ใช้ประโยรช..

ได้ดีและคุ้มค่ามากๆ


หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 17-03-2017 21:15:17
ลูคัสทำชีวิตท่านหลอดมีสีสันขึ้นมากมาย หวานใส่กันเข้าไป น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-03-2017 21:27:03
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-03-2017 21:44:16
หวานกัน(?)จนลืมสามคนในห้องไปเลยนะท่านคาร์ลลูคัส  :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 17-03-2017 21:58:53
น้องลูก๋ากั่นมากจะทำให้ท่านลอร์ดหลงจนไปไหนไม่ได้ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-03-2017 22:01:59
โถ่ๆก๋ากั่นจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2017 22:16:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-03-2017 22:17:01
ทำเอาต้องไปค้นเรื่องที่ลูคัสว่าเลย (หัวเราะ)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: qDraftman ที่ 17-03-2017 22:39:37
ติดตามมม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-03-2017 22:41:59
รอบนี้น้องลูเป็นน้ำตาลโรยหน้า #onTop
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 17-03-2017 23:25:02
ไม่ขออะไรมากตอนนี้ ขอแอบอยู่ข้างผ้าม่านละกัน ฟิน ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 18-03-2017 00:11:56
คุ้มค่าที่รอคอย :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 18-03-2017 00:14:29
หวานซะจนกลัวตอนจากกันเลยอ่ะ ยังไงซะน้องลูก็คงต้องกลับ ฮรือออออ ร้องไห้ล่วงหน้าแปป
ปล.มาต่อเร็วๆนะค้าาา :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 18-03-2017 00:33:12
ว้ายยเกมนี้น้องลูคัสจัดเองง :haun4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 18-03-2017 01:10:14
ถาเราเป็นทั่นหลอดก็จะตีก้นยัยลูค่ะ *หมั่นเขี้ยววว*
ว่าแต่ตอนนี้ น้องลูควบเองเลยนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-03-2017 02:37:37
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 18-03-2017 02:51:15
ทำไมรู้สึกเหมือนจะมาม่าไงไม่รู้><
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-03-2017 08:41:48
ความสุขจริงๆค่ะ

ลูคัสน่ารัก มีความซน ออกแบบกำแบบเหมาะแล้วที่เรียนมา
คาร์ลแพ้ทางลูคัสหนักมาก ห่างกันแบบนี้ คิดถึงแย่เลย

ขอให้สุขนานๆนะคะ ไม่รู้ว่าที่ย้อนอดีตไป จะมีอะไรให้แก้ไขรออยู่หรือเปล่า

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-03-2017 11:26:08
แหม่ ไอ้เด็กคนนี้นี่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 18-03-2017 20:38:03
ทั่นหลอดเอ๋ย หนีไปไหนไม่รอดแน่ๆงานนี้
ครบเครื่องขนาดนี้จะหาได้ที่ไหน ต้องน้องลูเท่านั้น
หัวไวไปซะทุกเรื่อง ถูกใจกองเชียร์มากน้องลู  :z1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: tonnum18 ที่ 18-03-2017 23:27:05
แม้ท่านคาร์ลพอรู้ว่าใจตรงกัน  นะไม่ค่อยจะห่วงหวงน้องลูคัสเลยนะ

แม้มีการจะจับขังในห้องล่ะมั้ง   อย่างว่าล่ะน้องลูคัสออกจะน่ารักอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 19-03-2017 00:01:58
จะเกิดอะไรกับลูตัสไหมเนี้ยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-03-2017 16:08:56
หื่นจิงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: therappizdrum ที่ 19-03-2017 21:28:19
ลูคัส!! สมกับเด็กยุค2000 จริงๆ

ครั้งที่สองน้องก็ออนท็อปดขาละ 555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-03-2017 10:23:30
สกิลหนูลูอัพแล้วสินะ หุๆๆๆๆ
มีการออนท็อปด้วยนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 20-03-2017 14:00:15
อะไรจะร้อนแรงขนาดนี้เจ้าหนูลูคัส กะจะให้ท่านลอร์ดตายคาอกเลยหรือไง :haun4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 20-03-2017 19:24:37
มาแล้วๆๆ คิดถึงน้องลูที่สุดเลยค่ะ
ตอนนี้น้องลูใจกล้าเหลือเกินนนน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 21-03-2017 18:24:19
สำลักน้ำตาล
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 22-03-2017 08:48:57
คิดถึงหนูลูที่สุดดดดดดด คนเก่งมาแล้ววววว โอ้ยยท่านคาร์ลแกล้งเด็กอ่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 22-03-2017 12:48:56
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 23-03-2017 22:11:45
ทั่นหลอดกับน้องลูรีบกลับมาสร้างกำแพงต่อเร็วค่ะ  มาๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 25 : ความสุข][170317]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 24-03-2017 19:19:11

** คำเตือน การฟันดาบในตอนนี้หมายถึงการใช้ดาบฟันกันจริงๆ นะเออ  :hao6:


Chapter 26 : ฝึกฝน


ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บแม้ในเวลากลางวัน เด็กหนุ่มที่อยู่ในเสื้อคลุมขนสัตว์หนานั่งสั่นอยู่บนหลังม้า ลมหายใจเป็นควันพวยพุ่ง เขาเข้าใจดีแล้วว่าทำไมท่านคาร์ลถึงได้ไม่ให้ตนเองไปด้วย นี่ขนาดเขาไม่ได้ขี่ม้าวิ่งนะ แค่เดินเหยาะๆ ไปรอบๆ สนามยังแทบจะแข็งตาย

“ลูคัส! เจ้ายังไหวไหม” คอนราดถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นว่าใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีแดงไปหมด โดยเฉพาะตรงจมูก สีแดงราวกับลูกเชอร์รีเลยทีเดียว

“ไหวครับ แต่ทำไมหอกนี่มันหนักจังล่ะ”

“ถ้าไม่หนักจะแทงเป้าเข้าหรือ”

วันนี้คอนราดสอนการใช้หอกบนหลังม้าให้ลูคัสมาตั้งแต่เมื่อตอนสาย หลังจากพักเที่ยงแล้วก็พามาฝึกซ้อมในสนามหญ้า จุดประสงค์ก็เพื่อให้รู้จักการใช้อาวุธเท่านั้น เนื่องจากเป็นความรู้เบื้องต้นที่ชายสูงศักดิ์ควรจะรู้ไว้

“เจ้าถือหอกไว้ให้มั่น ขี่ม้าตรงไปที่เป้าแล้วแทงหมวกให้หล่นลงไปเท่านั้น ข้าจะทำให้เจ้าดูก่อน” องครักษ์หนุ่มอธิบาย มือชี้ไปที่เป้าฟางซึ่งมีหมวกเก่าๆ วางซ้อนไว้ข้างบน เขาเตะสีข้างม้า บังคับให้มันวิ่งตรงไปยังเป้าหมาย แล้วใช้ปลายหอกแทงหมวกเบาๆ ก็ร่วงหล่นลงบนพื้นได้อย่างง่ายดาย

หากสำหรับลูคัสแล้วกลับไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะการประคองหอกยาวให้อยู่นิ่งบนหลังม้าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปลายหอกไหวไปมาตามจังหวะการเคลื่อนไหวของม้า เขาพาเจ้าม้าวิ่งวนห้ารอบแล้วหมวกที่วางอยู่บนเป้าฟางก็ยังไม่ขยับเขยื้อน

“ท่านลูคัสพยายามเข้า!” พวกทหารที่ผ่านมาแถวนั้นหยุดให้กำลังใจ ตอนแรกก็มายืนดูแค่ไม่กี่คน แต่ไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นทหารกลุ่มใหญ่

“ไม่มีงานทำกันเหร้อ~” เด็กหนุ่มโวยวายเสียงหลง เขาอายนะ มารอดูกันแบบนี้น่ะ!

“ตั้งสติดีๆ ลองอีกครั้ง”

“ครับ!” ลูคัสขานรับ เขาเตะสีข้างเจ้าม้าให้มันวิ่งพุ่งตรงไปที่เป้าหมาย มือเรียวกำด้ามหอกไว้แน่น สายตานิ่งอยู่ที่หมวกใบนั้น

ท่วงท่าที่ดูกระฉับกระเฉงมากขึ้นส่งผลให้พวกทหารส่งเสียงเรียกชื่อให้กำลังใจดังก้อง “ท่านลูคัสเอาเลย!”

ฉึก!

“ว้าก! คอนราด ช่วยด้วย!”

หอกแทงเข้าตรงเป้าใต้หมวกแล้วคาอยู่ตรงนั้น ส่วนลูคัสปล่อยมือไม่ทันจึงร่วงจากหลังม้าไปเกาะบนเป้าไว้แทน

คอนราดขี่ม้าพุ่งเข้าไปอุ้มร่างโปร่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “เป็นอะไรรึเปล่า! วันนี้พอก่อนก็แล้วกัน” เขาพาเด็กหนุ่มไปที่ข้างสนามเพื่อให้พวกทหารได้ใช้สนามฝึกซ้อมกันบ้าง

“ได้เท่านี้ก็เก่งแล้วล่ะ” องครักษ์หนุ่มลูบศีรษะปลอบใจ

“ไม่ต้องห่วงขอรับ เดี๋ยวพวกข้าจะแก้แค้น จะแทงไอ้หมวกนั่นให้ร่วงแทนท่านลูคัสเอง” พวกทหารก็มาร่วมวงด้วย

นี่ทุกคนเห็นว่าเขาอายุเท่าไหร่กัน!

คอนราดหัวเราะ เขาพาเด็กหนุ่มกลับเข้าไปในปราสาท พอส่งต่อให้พวกสาวใช้ เขาก็โดนดุจนหูชา “ท่านคอนราดพาท่านลูคัสไปทำอะไรมานี่!”

แล้วพวกหล่อนก็พากันไปโอ๋ลูคัส “ท่านลูคัส ดูสิ เนื้อตัวเปื้อนหมดเลย มีแผลหรือเปล่าเจ้าคะ เจ็บตรงไหนไหม”

หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ พวกสาวใช้ก็นำสำรับอาหารมาส่งให้ พวกหล่อนเอาอกเอาใจเด็กหนุ่มเป็นพิเศษเพราะกลัวว่าจะรู้สึกเหงา และคืนนี้เป็นคืนที่สองแล้วที่ท่านลอร์ดไม่อยู่

ยามราตรีที่ต้องอยู่เพียงลำพังทำให้ความคิดถึงลอร์ดหนุ่มเพิ่มเป็นทวีคูณ ลูคัสนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงครู่ใหญ่แล้ว หากก็ยังนอนไม่หลับ เขาจึงตัดสินใจลุกเดินออกจากห้อง ตรงไปยังห้องที่จัดวางเมืองจำลอง ซึ่งมีช่างเข้ามาต่อเติมแผนที่ของแคว้นไฮเดลแบร์กและเมืองใกล้เคียงไว้ หากยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี กลิ่นสีลอยฟุ้ง

เด็กหนุ่มก้มลงมองเมืองจำลองบนโต๊ะ เดินวนรอบๆ อยู่หลายรอบ จากนั้นจึงเดินไปมองดูภาพวาดแผนที่ขนาดใหญ่บนผนัง

ที่บนโต๊ะข้างๆ ภาพวาดแผนที่ซึ่งยังไม่เสร็จดี มีกระดาษจดรายละเอียดและภาพร่างวางซ้อนๆ กันไว้  เขาหยิบเอกสารเหล่านั้นขึ้นมาพิจารณาดู ในกระดาษแผ่นที่อยู่ล่างสุดมีภาพวาดระยะไกลของปราสาทบนเกาะในแม่น้ำแห่งหนึ่งกับเมืองที่อยู่ติดแม่น้ำ เด็กหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิด เขารู้สึกคุ้นๆ กับภาพวาดตรงหน้า ก่อนจะนึกได้ว่าคล้ายคลึงกันกับภาพโครงสร้างปราสาทโรเซนไฮม์ที่ตนเคยวาดเป็นโพรเจ็กต์จบปีหนึ่งส่งศาสตราจารย์

“นอนไม่หลับหรือ ลูคัส”

เจ้าของชื่อเรียกหันขวับไปทางต้นเสียง “คอนราด... คุณก็นอนไม่หลับเหมือนกันหรือ”

องครักษ์หนุ่มไม่ตอบ หากก้าวเข้าไปยืนเคียงข้างกันแล้วเงยหน้าขึ้นมองแผนที่ซึ่งยังวาดไม่สำเร็จตรงหน้า

ลูคัสชำเลืองมองอีกฝ่ายแล้วยิ้มมุมปาก “เออร์วินไม่อยู่ คุณคงเหงาสินะ”

“เจ้าก็คงเหงาเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ลุกมาเดินเล่นตอนกลางดึกเช่นนี้” คนถูกถามหัวเราะเจื่อนๆ ที่จริง ตั้งแต่ติดตามท่านคาร์ลมาก็เพิ่งมีครั้งนี้นี่ละ ที่ตัวเขากับเออร์วินต้องแยกจากกันหลายวัน

เปลวไฟจากเทียนบนเชิงเทียนตั้งตรง ทั้งสองนิ่งเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจ

“นี่ คอนราด” เด็กหนุ่มหันหน้ากลับไปที่แผนที่ในมืออีกครั้ง “นี่คือแผนที่เมืองโรเซนไฮม์สินะ”

“หืม เจ้าดูรู้ด้วยหรือ เคยไปโรเซนไฮม์มาแล้วรึ”

“จะเรียกว่าเคยไปก็ได้” เขาไม่เคยไปที่อื่นในโรเซนไฮม์ แต่ดูเหมือนว่าปราสาทจะยังคงอยู่ที่เดิม หากในปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพังบนพื้นที่เกาะโล่งกว้างเท่านั้น

เขาชักจะเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมตอนที่ยืนอยู่ท่ามกลางซากปราสาทนั้นถึงได้รู้สึกแปลกๆ ไม่ชอบที่ตรงนั้นเอาเสียเลย ก็คงเพราะเป็นของบาร์ดอฟนี่เอง

“แล้วคอนราดล่ะ เคยไปโรเซนไฮม์มั้ย”

“ข้าเคยอยู่ที่นั่นเมื่อสมัยเด็ก ตั้งแต่เมื่อครั้งแยกเมืองออกไปใหม่ๆ”

“หือ? เคยอยู่เลยเหรอ”
 
“ที่จริงข้าควรจะบอกว่าข้าเคยไปอยู่มาหมดทุกเมืองในแคว้นไฮเดลแบร์กแล้ว” คอดราดพูดกลั้วหัวเราะ “ครอบครัวของข้ายากจน เราต้องย้ายไปรับจ้างจากเมืองสู่เมือง แล้วแต่ว่าที่ไหนพอจะมีงาน มีอาหารให้กิน แต่ส่วนใหญ่ก็อดๆ อยากๆ จนต้องเป็นขโมย พอชาวเมืองเขาจำหน้าได้ก็ต้องหนีไปอีกเมือง”

ลูคัสอ้าปากค้าง “ผมนึกว่า...”

“เจ้าคิดว่าข้ามีเชื้อสายขุนนางอย่างนั้นสินะ ตามปกติแล้วก็น่าจะเป็นเช่นนั้น ทหารองครักษ์โดยเฉพาะที่ใกล้ชิดกับมาร์ควิส ทายาทของผู้ปกครองแคว้น ควรจะได้รับการคัดเลือกมาจากบุตรขุนนางภายใต้การปกครอง”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก เพราะที่เคยอ่านมาก็เป็นเช่นนั้น ขุนนางคนไหนๆ ก็อยากจะส่งบุตรหลานเข้ามาทำงานใกล้ชิดกับผู้ปกครองแคว้นกันทั้งนั้น เนื่องจากเป็นหนทางที่จะได้รับตำแหน่งใหญ่ๆ ได้รับรางวัลเป็นที่ดิน สัตว์เลี้ยง เงินทองมหาศาล 

“แล้วคอนราดมาเป็นองครักษ์ของท่านคาร์ลได้ยังไงน่ะ”

“ข้าโดนทหารจับได้ในตลาดน่ะสิ เกือบจะโดนตัดมือสองข้างนี่แล้ว โชคดีที่ท่านคาร์ลออกมาเที่ยวเล่นนอกวังกับเออร์วินพอดี ท่านช่วยข้าไว้ แล้วยังพาเข้ามาอยู่ในปราสาทกับท่านด้วย ตอนนั้นท่านเพิ่งจะอายุได้แปดปีเท่านั้น”

เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น เบิกตากว้างด้วยความสนใจ

“ความจริงถ้าหากข้าถูกตัดมือ ก็คงไม่มีชีวิตรอดมาถึงวันนี้ ท่านคาร์ลเป็นผู้มอบชีวิตใหม่ให้ข้า” คอนราดยิ้มบาง “ข้าเองเคยถามท่านอยู่หลายครั้งว่าทำไมถึงช่วยข้าในตอนนั้น ท่านตอบเพียงแค่ว่า ท่านรู้สึกถูกชะตา”

“ท่านคาร์ลใจดีเนอะ ที่จริงผมเอง...โผล่เข้ามาในปราสาทของท่านแบบนี้ ยังรอดตายเลย จริงสิ แต่เออร์วินเป็นลูกขุนนางสินะ”

“ใช่แล้ว เขากับข้าต่างกันราวกับฟ้าเหวเลยล่ะ  เมื่อครั้งที่ได้รับตำแหน่งนี้ ข้าเองก็ยังแปลกใจ ที่ปรึกษาของท่านอาร์ชดยุกไม่มีใครเห็นด้วยเลยสักคน แต่ท่านคาร์ลยืนยันว่าจะต้องเป็นเออร์วินกับข้าเท่านั้น”

“ผมเข้าใจท่านคาร์ลนะ คอนราดกับเออร์วินอยู่ใกล้ชิดกับท่านมานาน อายุไม่ต่างกันกับท่านมากเมื่อเทียบกับพวกที่ปรึกษาที่ส่วนใหญ่คงจะรุ่นเดียวกับท่านอาเธอร์ซะมากกว่า เรื่องควบคุมทหารก็สบาย เชี่ยวชาญอาวุธด้วย แถมยังเป็นเพื่อนก็ได้ เป็นที่ปรึกษาก็ดี แล้วเพราะความแตกต่างของเออร์วินกับคุณ ก็เหมือนกับว่าได้ฟังเสียงจากทั้งฝั่งชาวเมืองและฝั่งขุนนางด้วยยังไงล่ะ ถึงท่านจะมีที่ปรึกษามากมาย แต่เสียงใครก็ไม่เท่ากับคนที่ท่านไว้ใจและอยู่ใกล้ชิดกับท่านมาตลอด จริงมั้ย ถ้าหากผมเป็นท่านคาร์ล ผมก็คงเลือกเหมือนท่าน”

คอนราดประสานสายตากับนัยน์ตาสีเข้ม ก่อนจะยิ้มกว้าง “ขอบใจเจ้ามาก ข้าจะทำหน้าที่ให้ดีสมกับที่ท่านคาร์ลวางใจ”

ลูคัสยิ้มรับ เขาวางม้วนแผนที่ลงบนโต๊ะที่เดิม ปลายนิ้วมือลากไปเบาๆ ตามขอบกระดาษ  “นี่คอนราด คุณเคยเห็นไอ้กำแพงที่เขาร่ำลือกันนักหนานี่มั้ย”

“ไม่เคยหรอก เมื่อครั้งที่อยู่ที่นั่น ได้ยินว่าบาร์ดอฟกำลังเร่งก่อสร้างกำแพงปราสาท แต่ข้าไม่เคยได้เฉียดเข้าไปใกล้”

“อืม แล้วนี่... ได้ข่าวท่านอาของท่านคาร์ลบ้างมั้ย”

“เห็นว่ากองทัพถอยกลับไปเมืองหลวงแล้วล่ะ ข้าคิดว่าพวกเขาคงจะสงบไปสักพัก ในช่วงฤดูหนาวเช่นนี้คงทำอะไรไม่สะดวกนัก”

“ถ้าอย่างนั้น หมดหน้าหนาวเมื่อไหร่ก็อาจจะมีสงครามได้น่ะสิ”

“อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่เราก็ต้องเตรียมพร้อมให้ตลอด เพราะงั้น พรุ่งนี้ข้าจะสอนการใช้ดาบให้เจ้านะ”

ลูคัสเบ้ปากเมื่อพูดคุยอยู่ดีๆ อีกฝ่ายก็พาวกมาเรื่องการเรียนเสียอย่างนั้น “ต้องฝึกข้างนอกไหม”

คอนราดหัวเราะ “ฝึกข้างในก็ได้”

เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกมายาวอย่างโล่งใจ อย่างน้อยก็ไม่ต้องหนาวเหมือนวันนี้ล่ะ

“เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ที่ฝึกไป ท่านคาร์ลคงไม่ยอมให้เจ้าได้ลงสนามจริง แต่รู้จักไว้มันก็ดีน่ะ”

“ผมรู้ ถ้าขืนให้ผมลงไปสู้ก็แพ้หมดน่ะสิ นี่ คอนราด ท่านคาร์ลจะกลับมาวันพรุ่งนี้ใช่ไหม คุณว่าจะกลับมาตอนไหนน่ะ”

“น่าจะสักบ่ายๆ”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก เขาเดินวนดูภาพแผนที่สลับกับเมืองจำลองบนโต๊ะใหญ่อยู่อีกสักพัก “คนที่รับผิดชอบดูแลเมืองจำลองกับแผนที่นี่ ทำได้แม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อเลยเนอะ น่าเสียดายที่ไม่มีเมืองจำลองของโรเซนไฮม์” ร่างโปร่งค้อมตัวลงมองกังหันน้ำที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ในเมือง ซึ่งก็ปรากฏขึ้นในเมืองจำลองและบนแผนที่ด้วยเช่นกัน

“นี่ก็ดึกมากแล้ว ข้าว่าเจ้าควรจะเข้านอนได้แล้วนะ”

ลูคัสเงยหน้าขึ้น “นั่นสินะ”

คอนราดเดินไปเปิดประตูห้องออก “ไปเถอะ ข้าจะไปส่ง” รอให้เด็กหนุ่มเดินออกไปก่อนจึงค่อยเดินตามออกจากห้องไป

เสียงฝีเท้าของทั้งสองดังสลับกันในความเงียบงัน ระหว่างทางที่เดินไปอากาศเย็นเยือก มีเพียงแสงสลัวจากตะเกียงน้ำมันที่จุดวางไว้เป็นระยะๆ “อากาศหนาวแบบนี้ ท่านคาร์ลคงไม่เป็นไรนะ” เด็กหนุ่มพึมพำ

“ไม่ต้องห่วงหรอก พวกสาวใช้เตรียมเสื้อผ้าอุ่นๆ ให้ท่านไปมากมาย แล้วกลางคืนเช่นนี้พวกทหารก็จะก่อกองไฟไว้ตลอดคืน” องครักษ์หนุ่มยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็ก พอเดินมาหยุดที่หน้าห้องของเด็กหนุ่มก็พูดกลั้วหัวเราะ “เจ้าเตรียมตัวไว้ต้อนรับท่านคาร์ลกลับมาดีกว่านะ นอนให้เต็มอิ่ม พรุ่งนี้ก็เตรียมอาบน้ำแต่งตัวไว้หอมๆ ท่านจะได้ชื่นใจ”

ใบหน้าน่ารักร้อนวาบ “คอนราด!”

“ข้าไปล่ะ” องครักษ์หนุ่มรีบก้าวเดินออกไปพลางหัวเราะเสียงดัง
 

ในตอนสายของวันใหม่ คอนราดพาลูคัสไปเลือกดาบในห้องเก็บอาวุธก่อน แล้วจึงพาไปที่ห้องโล่งกว้างในชั้นใต้ดิน เขาเริ่มสอนเด็กหนุ่มตั้งแต่พื้นฐานการขยับข้อมือและเท้า ไปจนถึงวิธีการตวัดดาบแบบต่างๆ

ลูคัสดูจะทำได้ดีกว่าธนูและหอกมาก เขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว พอมาถึงช่วงบ่ายองครักษ์หนุ่มจึงให้ทดลองการต่อสู้แบบง่ายๆ

“เจ้าต้องเดาทิศทางของดาบจากการขยับข้อมือและเท้าของศัตรู ตาต้องไว” คอนราดพูดพลางเหวี่ยงดาบอย่างรวดเร็ว

“หวา! ยังไม่ต้องออกแรงมากก็ได้ ผมเพิ่งหัดวันแรกเองนะ!”

เสียงโวยวายสลับเสียงดาบกระทบกันดังสะท้อนก้อง พวกสาวใช้พอได้ยินเข้าก็มายืนออกันอยู่ที่หน้าประตูห้อง ส่งเสียงเชียร์ลูคัสกันระงม

ในคราวแรกลูคัสเอาแต่วิ่งหลบ สักพักก็เริ่มตวัดดาบต่อสู้ไปบ้าง หากไม่ว่าอย่างไรก็ดูเหมือนจะสู้ไม่ไหว ประสบการณ์ ขนาดตัวและเรี่ยวแรงพวกเขาแตกต่างกันเกินไป

“ถ้าเจ้าเอาชนะข้าได้ล่ะก็ พรุ่งนี้ข้าจะให้เจ้าหยุดพักหนึ่งวันเลย”

เด็กหนุ่มหอบหนัก แต่ก็ยังเบ้ปากใส่ “ไม่เห็นอยากพักสักหน่อย!”

“เพราะรู้ว่าเอาชนะข้าไม่ได้ใช่ไหม” คอนราดยิ้มเยาะ

“หนอย!” ถ้าแบบนี้ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลซะแล้ว ลูคัสรอจังหวะที่องครักษ์หนุ่มจะเหวี่ยงแขน ย่อตัวลงแล้วเตะข้อพับให้อีกฝ่ายล้มลงหงายหลัง จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งทับ เอาปลายดาบไปจ่อปลายจมูกคนใต้ร่างไว้ “ผมชนะแล้ว!”

“เจ้าขี้โกงนี่ สู้ฟันดาบก็ต้องสู้ด้วยดาบสิ!”

“ไม่รู้ล่ะ คุณก็ขี้โกงนี่ ตัวใหญ่กว่าผม แรงเยอะกว่าผม เก่งกว่าผมด้วยอะ!”

หากจู่ๆ เสียงโห่ร้องกับเสียงหัวเราะของพวกสาวใช้ก็เงียบไป เงียบเสียจนผิดปกติ แล้วก็มีเสียงทุ้มต่ำแฝงไว้ด้วยความหงุดหงิดของใครบางคนดังขึ้นแทน

“พวกเจ้าทำอะไรกัน” ลอร์ดหนุ่มทำหน้าขรึม หากสีหน้าของคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาขมึงทึงยิ่งกว่า เออร์วินส่งสายตาขุ่นๆ ใส่คอนราด

“ท่านคาร์ล! เออร์วิน!” สองหนุ่มเงยหน้าขึ้น แล้วผละออกจากกันทันที

คาร์ลหันไปบอกกับองครักษ์หนุ่มที่ยืนอยู่ด้วยกัน “เจ้าไปพักเถอะ ข้าจะกลับห้องละ” จากนั้นก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว

“ท่านคาร์ล!” ลูคัสรีบวิ่งตามหลังไปด้วยกลัวว่าลอร์ดหนุ่มจะเข้าใจผิด พอถึงตัวก็เดินตามไปเงียบๆ จนอีกฝ่ายเข้าห้องไป ทว่าจะตามเข้าไปก็ไม่กล้า เขาจึงหยุดเคาะประตูก่อน “ท่านคาร์ล ผมเข้าไปนะ”

ไม่มีเสียงตอบกลับมา เด็กหนุ่มยืนรออยู่ชั่วครู่จึงตัดสินใจผลักบานประตูแล้วก้าวเข้าไป

“ท่านคาร์ล อะ!”

สองแขนแกร่งกักร่างโปร่งไว้พร้อมกับผลักบานประตูให้ปิดลงดังปังใหญ่ สองสายตาประสานกันนิ่ง ใบหน้าของลอร์ดหนุ่มฉายแววดุดัน หากเขาก็ยังไม่ได้พูดอะไร

เมื่ออีกฝ่ายดูจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ลูคัสจึงพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ “ท่านคาร์ล ยินดีต้อนรับนะครับ ผมคิดถึงคุณ...”

“คิดถึงงั้นรึ ข้าเห็นเจ้ากำลังสนุกอยู่กับคอนราด”

“เอ๋! ผมซ้อมฟันดาบต่างหากล่ะ! อย่าเข้าใจผิดสิครับ”

“ฟันดาบอะไรถึงเนื้อถึงตัวเช่นนั้น เจ้าไม่เข้าใจรึ! เจ้าเป็นของข้า ไม่ควรปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับใคร!”

เด็กหนุ่มเถียงกลับไปทันควัน “ท่านคาร์ล! ผมเป็นผู้ชายนะ แล้วคอนราดก็เป็นผู้ชาย เราต่อสู้กันก็ต้องมีโดนตัวกันบ้างสิ”

“แต่ข้าไม่ชอบ!”

“คุณไม่มีเหตผ... อุ๊บ!” ยังพูดไม่ทันจบริมฝีปากสีสตรอว์เบอร์รีก็ถูกประกบปิด บดเบียดอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ เขาเม้มปากไว้ไม่ให้ลิ้นเรียวแทรกซอนเข้ามาในโพรงปากได้ หากเมื่อทำเช่นนั้นอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปซุกไซ้ซอกคอแทน “ท่านคาร์ล ปล่อยก่อน!” มือนุ่มผลักคนตรงหน้าออก

คาร์ลสบถด้วยความหงุดหงิด เขาหันหลังเดินออกไป “เจ้าจะไปไหนก็ไป”

“ท่านคาร์ล” ลูคัสวิ่งเข้าไปสวมกอดทางด้านหลัง “เดี๋ยวก่อนสิครับ ฟังผมก่อน”

“....”

พอลอร์ดหนุ่มยอมหยุดยืนอยู่นิ่งๆ เด็กหนุ่มจึงก้าวไปยืนประจันหน้า แล้วยิ้มอย่างน่ารักที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ผมเหงื่อออกทั้งตัวเลย เพิ่งออกกำลังฝึกดาบมานะ เหม็นจะตายไป”

นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนแสงลงเมื่ออีกฝ่ายดึงแขนเข้าไปกอดไว้ แล้วก็ไม่บ่อยนักที่ลูคัสจะแสดงท่าทีน่ารักเช่นนี้ ส่งผลให้ลอร์ดหนุ่มอ่อนไปทั้งใจ

“คุณเองก็กลับมาเหนื่อยๆ เราไปอาบน้ำกันก่อนดีกว่า” เด็กหนุ่มช้อนตาขึ้นมองอย่างออดอ้อน “นะครับ”

ถ้าหากจะปฏิเสธได้ลงเขาก็คงต้องไปบวชแทนที่จะเป็นผู้ปกครองเมือง คาร์ลปล่อยให้เด็กหนุ่มจูงไปยังห้องอาบน้ำและถอดเสื้อผ้าของเขาออกให้

เสียงน้ำกระเซ็นดังขึ้นเป็นระยะตามจังหวะการขยับตัวของสองร่างที่เปลือยเปล่าในอ่าง นัยน์ตาสีฟ้าจับจ้องเรือนร่างขาวเนียนที่มีหยดน้ำเกาะซึ่งเคลื่อนไหวช้าๆ อยู่บนกายตน เส้นผมที่เปียกชื้นลู่ตามกรอบหน้า หยดน้ำกลิ้งผ่านใบหน้าลงมายังลำคอ ริมฝีปากสีแดงสดที่เผยอหอบหายใจทำให้เขาอดใจไว้ไม่ไหว จำต้องดึงเด็กหนุ่มเข้ามาแนบกายแล้วบดจูบอย่างกระหาย

“ท่านคาร์ล ผมน่ะ คิดถึงคุณตลอดเวลาเลยนะครับ คุณล่ะคิดถึงผมบ้างรึเปล่า”

“คิดถึงสิ ข้ารีบกลับมาแทบแย่”

ลูคัสยิ้มอย่างพอใจ เขาเร่งจังหวะการขยับสะโพกพร้อมกับแอ่นอกให้ลอร์ดหนุ่มหยอกล้อติ่งไตสีชมพู ริมฝีปากเผยอครางเสียงหวาน มือเรียวขยุ้มเส้นผมสีบลอนด์ไว้ขณะที่ทิ้งตัวลงในจังหวะสุดท้าย ก่อนจะทรุดกายลงในอ้อมแขนอีกฝ่าย

“ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าคิดถึงข้ามาก” ลอร์ดหนุ่มหัวเราะ “แต่ว่า... เราไปต่อกันที่เตียงเถอะนะ ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นบ้างว่าข้าคิดถึงเจ้าแค่ไหน”

สองแขนเรียวเกี่ยวกอดร่างกำยำไว้แนบกาย เด็กหนุ่มปล่อยให้คาร์ลอุ้มไปที่เตียงนอน แล้วทอดกายให้เชยชมจนกว่าอีกฝ่ายจะพอใจ 


ฝ่ายคอนราดและเออร์วินนั้น เมื่อลอร์ดหนุ่มกับลูคัสรีบรุดออกไปก็เหลือพวกเขาเพียงลำพัง คอนราดรู้สึกว่าเพื่อนองครักษ์อารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก หากจู่ๆ อีกฝ่ายก็ชักชวนให้ฝึกซ้อมฟันดาบกัน

“เจ้าไม่เหนื่อยหรือ เพิ่งกลับมาแท้ๆ”

“หยิบดาบของเจ้าขึ้นมา” เออร์วินไม่ฟังเสียง เขาดึงดาบของตนเองออกจากฝักแล้วพุ่งเข้าไปหา

“เจ้าไปโกรธใครมาเนี่ย!” คอนราดได้แต่รับดาบที่ฟาดฟันเข้ามาพลางถอยหลังกรูด เมื่อคว้าแขนอีกฝ่ายได้ก็เหวี่ยงให้แผ่นหลังกระแทกไปกับกำแพงแล้วจับข้อมือทั้งสองข้างกดไว้เหนือศีรษะ ทั้งสองหอบหายใจหนักๆ นัยน์ตาประสานกันนิ่ง “ไม่พอใจข้า หรือลูคัสกันแน่”

เออร์วินชะงัก ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่น “.....” เขาเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน รู้เพียงแค่ว่าพอเห็นภาพที่เด็กหนุ่มนั่งทับอยู่บนตัวคอนราดแล้วรู้สึกหงุดหงิดจนควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่

“ข้าแค่ฝึกดาบกับลูคัสเท่านั้น” คอนราดคลายข้อมืออีกฝ่ายออก “หลังจากพรุ่งนี้ไปก็ถึงคราวเจ้าต้องเป็นอาจารย์เขาบ้างล่ะ” เมื่อพูดจบก็ก้มลงหยิบดาบส่งคืนให้กับเจ้าของ เขาเก็บดาบของตนเองใส่ลงในฝักแล้วเดินออกจากห้องไป

กลางดึกคืนนั้น บานประตูห้องนอนของคอนราดเปิดออกช้าๆ ก่อนคนที่เดินเข้ามาอย่างเงียบเชียบจะถือวิสาสะเข้าไปซุกตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันด้วย

“ข้าขอโทษ” เออร์วินพูดเสียงอ่อย “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหงุดหงิดอะไร”

“หลงรักข้าแล้วก็บอกมาตามตรง”

“เจ้าฝันอยู่หรือ”

คอนราดหัวเราะ ดูเอาเถอะ เข้ามานอนอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันในห้องนอนของเขา ยังไม่ยอมรับอีก “การเดินทางเป็นอย่างไรบ้าง”

“ก็หนาว แล้วก็เหนื่อยมาก”

“นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้ากับข้าต้องอยู่ห่างกันหลายวัน” คอนราดผงกศีรษะขึ้นมองคนที่นอนขดอยู่ข้างกัน “คิดถึงข้าไหม” หากอีกฝ่ายนิ่งเงียบ เขาจึงได้แต่ถอนหายใจ แล้วพอหลับตาลงพยายามข่มใจให้หลับ เออร์วินก็เอ่ยขึ้น

“คิดถึง”

คอนราดยิ้มอย่างพอใจ “ข้าก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน”


*~TBC~*


ฟันดาบกันโช้งเช้งเลย ปู้จายพวกเน้~

เรื่องความแอดวานส์ของน้องลูเราจะมาเบ้ปากกรอกตามองบนด้วยกันนะคะ

เด็กอาร้ายยยย ร้ายยยยยย 55555555 ท่านหลอดไม่รักไม่หลงไม่ไหวแล้วมั้ย!

ส่วนเรื่องของเออร์วินกับคอนราดนี่ เอาเบาๆ แค่พอกรุบกริบนะคะ เดี๋ยวแย่งซีนพระนาย 5555555
(ไหนๆ เขาก็ต้องออกรบ เดินทางด้วยกันแบบมีแต่ผู้ชายอะเนาะ รักกันเองนี่แหละ เหมาะดี กร๊าก)

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ  :mew1:

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-03-2017 19:30:07
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 24-03-2017 19:34:37
ฝึกฟันดาบทั้งกลางแจ้งและในร่มเลยนะคะลูคัสสส ทั่นหลอดมีความหึงแล้วเดินหนี งอนเหมือนสาวน้อย 555555555555 อีกคู่นี่ก็ยังมีคนปากแข็งอยู่ เอาใจช่วยทุกๆคนค่ะ  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 24-03-2017 19:45:39
ลุคัสน่ารักมากกกกอ้อนซะน่ากินเชียว
ส่วนเออวินก็รุ้ใจตัวเองทีเถอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 24-03-2017 19:53:00
ฟันดาบบบบบบ ง้อกันซะขนาดเน้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-03-2017 20:02:12
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 24-03-2017 20:04:30
น้องลูทั่นหลอดน่ะช่างเถอะค่ะ คือพัฒนาเกินกว่าจะหาคำมาบรรยายแล้ว  :laugh:
เออรฺวินกับคอนราดสิ น่อววววว อยู่ด้วยกันมานานเพิ่งจะมาจุ๊จิ๊กุ๊กกิ๊กกันตอนนี้ น่อววววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-03-2017 20:18:51
จ้าาาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: ploysure ที่ 24-03-2017 20:27:31
อะไรคือหลังจากตะมุตะมิกันแล้วก็ตะมุตะมิกันทุกตอนคะ ตอบบบ  :haun4:
ลูคัสไม่ใสนะคะ ขึ้นคร่อมก่อนตลอด เข้าทางท่านลอร์ดไปอี้ก ได้กินจนอิ่ม
คอนราดกับเออร์วินนียังไงดี เพื่อนรักรักเพื่อนกันหยอ55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 24-03-2017 21:11:45
มาให้กำลังใจจ้า

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 24-03-2017 21:20:26
อะไรกันมีความหึง ก็ดีเหมือนกันที่ทำให้เปิดใจนะ
ว่าแต่อย่าฟันกันมากนะเป็นห่วงสุขภาพ อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 24-03-2017 21:26:56
น้องลูร้ายขึ้นทุกวัน ท่านลอร์ดจะไปไหนได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 24-03-2017 21:35:39
โอ๊ย ๆ มีความคิดถึงงง  :impress2:

หวงอะไรคอนราด อ่ะ เออร์วิน :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-03-2017 21:37:36
ตอนนี้แล้วมองบนใส่ลูคัสเบาๆ น้อยๆ หน่อยเทออออออออ แค่นี้ท่านลอร์ดก็ไปไหนไม่รอดละ 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-03-2017 21:45:14
อู้ว....น่ากลัว ฟันดาบกันจริงๆ
ทั้งดาบจริง ดาบปลอม  :pighaun: :haun4: :jul1:
อยากอ่านพาร์ทของคอนราด เออร์วิน บ้าง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 24-03-2017 22:06:06
น้องลูคัสเก่งและฉลาด

เสมอต้นเสมอปลายเลย

คิดถึงกันไปคิดถึงกันมา

หวานซะไม่มี

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 24-03-2017 22:20:27
น้องลูร้ายกาจมากกกก เด็กใสๆห้าวๆแต่ก่อนตอนนี้ไปอยู่ไหนแล้วคะ o18
นี่ไม่ขออะไรมาก ขอแค่ตอนคอนราดกับเออร์วินสักหนึ่งตอน เหมือนจะมาแรงแซงโค้งคู่หลักแล้วค่าาา 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 24-03-2017 22:56:47
ท่านหลอดหึงโหดตลอด แต่พอเจอน้องลูอ้อนเข้าไปไม่เป็นเลยใช่มะ แสดงความคิดถึงกันขนาดนี้
โกรธลงก็พอแล้วเนอะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-03-2017 23:00:41
เออร์อย่าปากแข็งนักสิ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 24-03-2017 23:19:38
น้องลูคะ หนูจะชวนผู้ชายก่อนอย่างนี้ไม่ดีนะลูก ไม่งามค่ะไม่งาม55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: therappizdrum ที่ 24-03-2017 23:37:40
ลูคัส!!! ไม่สำรวมเลยยยย

ออนท๊อปอีกแล้วนะ ตีตายยยยยย

โซฮอตมากจ้าาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 25-03-2017 00:24:08
เห็นตอนแรกมาดูใสๆเนิร์ดๆที่ไหนด้ายยย เด็กมันร้ายยยค่ะ เอะอะก็ออนท็อปๆ นี่หล่อนกะจะให้ท่านหลอดหลงน่ามืดตามัวเลยล่ะสิ  :hao6: :katai5: รอตอนต่อไปนะคะะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 25-03-2017 01:47:19
เย้ยยยยยยยยยย~~~ หายไปนานแสนนานนนนน ข้าน้อย...เอ้ย!! ตัวข้านั้นต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูง ข้าไม่อยากยอมรับ..แต่ก็ต้องยอมรับว่า....อ่านพวกนิยายที่จบแล้วอยู่แถมมีคิวอ่านยาวเกือบ 10 เรื่อง :a5: :a5: เลยเพลียยยยย จะมาอ่านทั่นหลอดก็ผลัดวันประกันพรุ่ง ยอมให้ตบแต่โดยดีจ้ะ  :beat: :beat: :beat:
พอๆ ไม่นอกเรื่องละ ตอนนี้.......ก็นะ.....หึหึหึ..  o8 o8 เออร์วิน คอนราด เจ้าสองคนพูดอัลไลกัลอ่าาาา แล้วทำอัลไลกัลอ่า มาตามง้อกัลอ๋อออ:hao3: :hao3: ถ้าไม่อยากให้คู่นี้เด่นออกหน้าออกตาก็ทำเป็นตอนพาร์ทพิเศษแบบว่า....เออร์วิน - คอนราด 1 อะไรแบบนี้เป็นต้นด้วย อาวล่ะโม้เยอะละ บายยยยย รอตอนต่อไปจ้า~~
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 25-03-2017 02:46:00
น่ารักก
ตอนนี้ท่านหลอดกับลูคัสไม่ได้เเจ้งเกิดนะคะ
เออร์วินกับคอนราดแย่งซีนซะละ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 25-03-2017 09:18:55
แหมม ตอนฝึกก็ทำเหนื่อยบ้าง ไม่อยากฝึกบ้าง พอเจอท่านคาร์ลแค่นั้น พลังมาเต็มนะ ลูคัส
ลูคัสน่ารัก ชอบความออดอ้อน ช่างพูด

ท่านคาร์ลขี้หึงมากกกก มากจริงๆ 5555

เออร์วินไม่รู้เนาะ ยังไม่รู้ตัวเล้ยยย คอนราดเจ้าเล่ห์ ชอบๆโมเมนท์เข้าหา  :mew3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 25-03-2017 10:28:18
ลูคัสไม่เคยทำให้ผิดหวังงงง :haun4:

เออร์วินน้อยยรีบตามลูคัสมานะลูกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 25-03-2017 10:52:57
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 25-03-2017 11:05:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 25-03-2017 11:57:16
คอนราดกะเออร์วิน......ลุ้นๆเมื่ไรจะเลิกปากแข็ง 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 25-03-2017 17:49:34
ตกลงน้องลูฝึกอะไร?
ฝึกหอก ฝึกดาบ ฝึกออนท็อป

อืม.....ไร่อ้อยคงไม่พอ นี่คงกินพื้นที่ทั้งประเทศแล้ว
กร๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-03-2017 20:49:35
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 25-03-2017 23:53:01
น้องลูช่างง้อได้เยี่ยมมาก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 26-03-2017 04:21:24
หวายยยย เออร์วิน ท่าทางจะเป็นรองคอนราดเสียแล้ว  :z1:
ส่วนน้องลูกับท่านหลอด หมั่นไส้คู่ข้าวใหม่ปลามันจริงๆค่ะ นังน้องลูท่าทางจะถนัดฟันดาบมากๆ หมั่นไส้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-03-2017 22:46:35
น้องลูๆๆๆๆไม่งามเลยลูกอ่อย อ่อย หนักมากกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 27-03-2017 09:56:11
แงงงงง มาสั้นนิดเดียว เค้าคิดถึงน้องลูคนร้อนแรงมากๆอ่ะ
นับวันน้องจะยั่วเก่งไปแล้วนะคะืแต่คนอ่านชอบบบบ5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-03-2017 17:41:38
อ้อนเยอะๆเลยหนูลู ท่านหลอดนี่ขี้งอนจริงๆเลยนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 27-03-2017 22:17:30
มีการแย่งซีนกันเล็กๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 26 : ฝึกฝน][240317]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 30-03-2017 19:41:03


Chapter 27 : ครุ่นคิด


หิมะโปรยปรายลงมาปกคลุมทุกแห่งให้เป็นสีขาวสะอาดตา นับจากลอร์ดหนุ่มกลับมาถึงปราสาทก็เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้ว หากก็ไม่ได้มีข่าวคราวการเคลื่อนไหวของบาร์ดอฟในแถบชายแดนเลย เงียบเชียบไปเสียจนน่าสงสัย

วันนี้เป็นคราวของเออร์วินที่ต้องสวมบทอาจารย์จำเป็นของเด็กหนุ่ม เสียงของอาจารย์และศิษย์ถกเถียงกันดังลั่นไปทั้งห้อง

“เจ้าจำที่ท่านอาเธอร์สอนไม่ได้หรือ เจ้าควรเลิกใช้ ผม คุณ อะไรนี่สักที”

“แต่มันแปลกๆ นี่นา”

“ที่เจ้าพูดมันก็แปลกเหมือนกัน”

“แต่ผมไม่ชินอ่ะ”

“ใช้ๆ ไปเดี๋ยวก็ชินเองล่ะน่ะ”

“เออร์วินก็ฟังผมบ่อยๆ ยังไม่ชินอีกหรือ”

ในขณะที่ถกเถียงกันอยู่ก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ของคนหลายคนวิ่งผ่านข้างหน้าห้องไป ส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกฟังไม่ได้ศัพท์ ดูท่าแล้วก็ไม่น่าจะเป็นการพูดถึงเรื่องอะไรดีๆ เป็นแน่

เออร์วินจำต้องหยุดการสอนไว้ชั่วคราวแล้วเปิดห้องออกไปดู สีหน้าตื่นๆ ของพวกทหารที่ยืนอยู่แถวนั้นทำให้เขารู้สึกแปลกๆ “ลูคัส ข้าจะไปหาท่านคาร์ลก่อน”

เด็กหนุ่มรีบลุกตาม “ผมจะไปด้วย!”

ทั้งสองวิ่งไปจนถึงห้องหนังสือ หากยังไม่ทันเปิดประตูก็ได้ยินเสียงทุบโต๊ะดังก้อง ตามมาด้วยเสียงสบถอย่างเกรี้ยวกราด

“บัดซบ! ไอ้บาร์ดอฟ! ท่านพ่อยกโรเซนไฮม์ให้มันไปยังไม่พอใจ ท่านดีกับมันสารพัดยังคิดแว้งกัดได้ ไอ้คนชั่ว!”

เมื่อได้ยินชื่อเออร์วินก็เปิดประตูเข้าไปทันที “มีอะไรหรือท่านคาร์ล!”

ลอร์ดหนุ่มสบสายตากับองครักษ์และลูคัส เขายกมือขึ้นลูบใบหน้าแรงๆ แล้วหันหนีไปทางบานหน้าต่าง

คอนราดจึงอธิบายแทน “ท่านวิลแฮล์มถูกทหารของบาร์ดอฟลักพาตัวไปในระหว่างที่เดินทางกลับจากไมนซ์ พวกมันกำลังคุมตัวท่านไปที่โรเซนไฮม์” พร้อมกับส่งจดหมายซึ่งมีตราของมาควิสแห่งโรเซนไฮม์ประทับไว้ให้ดู

ในจดหมายระบุว่ามาควิสแห่งโรเซนไฮม์ได้ควบคุมตัวอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กไว้แล้ว ซึ่งนั่นก็หมายความว่าได้กุมอำนาจเหนือแคว้นไฮเดลแบร์กไว้ด้วย และโรเซนไฮม์ต้องการให้ส่งของไปเป็นบรรณาการทันทีที่หมดฤดูเหมันต์

“ไอ้... ไอ้สารเลว” เออร์วินกัดฟันกรอด “นี่สินะ เหตุผลที่มาแบร์กไฮม์”

“ใช่ ที่บาร์ดอฟบุกเข้ามาถึงแบร์กไฮม์ด้วยตัวเองก็เพื่อที่จะดึงความสนใจและกำลังทหารไปที่มัน ในขณะที่พวกเรามัวแต่เตรียมรับมือกับมันก็ทำให้มีช่องว่าง”

“แต่ไมนซ์เป็นพันธมิตรกับแคว้นเราไม่ใช่หรือ แล้วทำไม...”

“ลอร์ดแห่งไมนซ์ต้องมีส่วนรู้เห็นแน่ ถึงได้เชิญท่านวิลแฮล์มไปเยี่ยมในเวลาเดียวกันพอดี”

ลอร์ดหนุ่มยังคงยืนเงียบอยู่ที่หน้าบานหน้าต่าง ลูคัสจึงหันไปบอกกับองครักษ์ทั้งสองให้ออกไปก่อน จากนั้นจึงเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างกล้าๆ กลัวๆ

มือเรียวที่เย็นเฉียบแตะลงบนแขนแกร่ง “ท่านคาร์ล”

คาร์ลวางมือประกบหลังมือของเด็กหนุ่ม “ข้าเป็นผู้ครองเมืองที่แย่มากเหลือเกิน ท่านพ่อข้าก็ปกป้องไม่ได้ ทั้งที่เรามีเมืองหน้าด่านที่แข็งแกร่ง กลับพ่ายให้กลยุทธ์ง่ายๆ ของมัน”

ลูคัสก้าวเข้าไปสวมกอด “คนดีมักจะคิดตามคนร้ายไม่ทันหรอกครับ ไม่มีใครล่วงรู้ล่วงหน้าได้ว่าเขาวางแผนไว้แบบไหน ต่อให้ท่านอาร์ชดยุกไม่ส่งทหารมาป้องกันหน้าด่าน พวกมันก็บุกเข้ามาได้อยู่ดี ไม่ว่าทางไหนก็ทางหนึ่ง”

“บาร์ดอฟมันขลาดนัก การใช้ทหารกองโจรเช่นนั้น ไม่ได้มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย” ลอร์ดหนุ่มพูดพลางกัดฟันกรอด “ข้าอยากจะเคลื่อนพลทหารออกไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่ทำได้อย่างมากก็คงแค่ล้อมข้างนอกไว้ กำแพงสูงนั่นทำให้เราเสียเปรียบ บุกเข้าไปก็มีแต่จะเสียเลือดเนื้อเปล่าๆ อีกอย่าง พวกมันมีท่านพ่อเป็นตัวประกันเสียด้วย”

“ถ้าจัดการกับกำแพงนั่นได้ เราก็จะบุกเข้ายึดปราสาทได้ง่ายขึ้นใช่มั้ยครับ”

“แต่จะจัดการกับกำแพงนั่นได้อย่างไรกันเล่า”

“ที่เมืองของผมน่ะ มักพูดกันว่ามนุษย์เกิดมาเพื่อทำลาย เพราะงั้นปราสาทนั่น ในเมื่อมันสร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือมนุษย์ มันก็ถูกทำลายได้ด้วยน้ำมือมนุษย์เช่นกัน”

ลอร์ดหนุ่มถอนหายใจหนักๆ “ก็จริงของเจ้า”

“มันต้องมีวิธีแน่ครับ”

“ขอบใจ” คาร์ลโอบไหล่ของเด็กหนุ่มพร้อมกับดึงเข้ามาแนบกาย “ข้าส่งข่าวไปหาไฮน์ริชกับยาคอปแล้ว เราคงต้องเตรียมวางแผนเรื่องกำลังพลกันให้เร็วที่สุด เจ้าคงต้องอยู่คนเดียวสักพัก”

ลูคัสเงยหน้าขึ้นมอง “คุณจะไปไหน”

“ข้าจะไปพบพวกเขาที่คฤหาสน์ชานเมือง ที่นั่นเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างสามเมือง เดินทางจากที่นี่ไปประมาณสองวันน่ะ”

เด็กหนุ่มเม้มปากแน่น อยากจะขอติดตามไปด้วย หากก็รู้ว่าเวลานี้ไม่ควรดื้อรั้นเอาแต่ใจ อีกอย่าง เขายังมีหน้าที่ที่ต้องหาวิธีจัดการกับกำแพงปราสาทนั่น

“แล้วครั้งนี้จะไปนานมั้ยครับ”

“ครั้งนี้คงไม่นาน เราคงแค่ปรึกษากันก่อนน่ะ” คาร์ลลูบศีรษะคนรักอย่างอ่อนโยน ก่อนจะแนบริมฝีปากจูบเบาๆ บนหน้าผาก “ข้าจะให้คอนราดอยู่ดูแลเจ้า แต่อย่าใกล้ชิดกันให้มากนัก เข้าใจไหม”

ลูคัสทำหน้ายู่แล้วพึมพำ “ถ้ากังวลนักก็ให้เออร์วินอยู่แทนสิ”

“เออร์วินชำนาญการต่อสู้ระยะไกลเป็นอย่างมาก ข้าจำเป็น...”

“ผมรู้แล้ว ผมจะไม่ใกล้ชิดกับคอนราดมากเกินไป สบายใจได้ครับ”

ลอร์ดหนุ่มยิ้มบางพลางยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็ก “เป็นเด็กดีรอข้าอยู่ที่นี่นะ”

ลูคัสพยักหน้าหงึกหงัก เขาเองก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วง และถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากทำให้ลอร์ดหนุ่มต้องเป็นกังวลมากไปกว่านี้อีก


วันถัดไปลอร์ดหนุ่มออกเดินทางแต่เช้าตรู่ มีเออร์วินติดตามไปพร้อมกับที่ปรึกษาและทหารกลุ่มหนึ่ง พวกเขาต้องเดินทางฝ่าอากาศหนาวเหน็บ โชคดีที่หิมะหยุดตกไปแล้ว แต่สายลมที่พัดผ่านมาแต่ละครั้งก็ทำให้รู้สึกถึงเย็นเยือกเข้าไปถึงแก่นกระดูก

ลูคัสยืนส่งขบวนของคนรักอยู่ที่ข้างหน้าปราสาท เขายืนรอจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินผ่านออกประตูปราสาทไป แล้วถอนหายใจยืดยาว เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีหม่น ก่อนจะมองขึ้นไปบนหลังคาซึ่งมีแท่งน้ำแข็งย้อยลงมาเป็นทิวแถว ก่อนจะเดินเข้าปราสาทไป

“คอนราด เราไปฝึกฟันดาบกันเถอะ”

“หืม ทำไมวันนี้เกิดขยัน”

“ได้ออกกำลังบ้าง บางทีอาจจะคิดอะไรได้ดีขึ้นน่ะ”

“ครั้งนี้อย่าขี้โกงเหมือนครั้งที่แล้วก็ละกัน”

ลูคัสทำหน้ายู่ใส่ “คุณก็ระวังเถอะ อย่าแพ้เด็กอย่างผมก็แล้วกัน”

เสียงโลหะจากคมดาบกระทบกันดังแว่วอยู่สักพักใหญ่ก็ถูกแทนที่ด้วยเสียงหอบหายใจและเสียงบ่มพึมพำของเด็กหนุ่ม ลูคัสทิ้งตัวลงนั่งบนขั้นบันได ขณะที่พวกสาวใช้นำผ้านุ่มมาช่วยซับเหงื่อให้

คอนราดส่ายหน้าไปมาช้าๆ “ออกกำลังอะไรน่ะ ออกแรงเท่าไม่เท่าไหร่เจ้าก็หอบแฮกเสียแล้ว ทันได้คิดอะไรออกไหม”

“โธ่ ก็ดาบใหญ่ขนาดนี้ เหวี่ยงไม่กี่ทีก็จะหมดแรงแล้วมั้ย” ลูคัสมองค้อน

“แล้วโม้ว่าจะทำให้ข้าแพ้”

ลูคัสอ้าปากจะเถียง หากก็เถียงไม่ออก เขาหันไปสบสายตาพวกสาวใช้ แต่ละคนก็อมยิ้มกลั้นขำกันทั้งนั้น เด็กหนุ่มจึงล้มเลิกที่จะเถียง ทว่าเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนท่าจะดีกว่า เขาคิดไปพลางเอื้อมมือไปดึงชายเสื้อคนที่ยืนอยู่ให้นั่งลงข้างกัน “นี่ คอนราด นั่งลงคุยกันก่อน”

“เจ้าจะอู้อย่างนั้นสิ”

“เปล่าสักหน่อย!”

องครักษ์หนุ่มนั่งลงข้างกัน “มีอะไรรึ”

“คือ เมื่อคืนก่อนนู้นน่ะ ที่ผมพูดถึงแผนที่เมืองโรเซนไฮม์ในห้องแผนที่ ผมว่าแผนที่ฉบับนั้นมันไม่ค่อยละเอียดเลย คุณช่วยไปหาแผนที่ชัดๆ มาหน่อยสิ”

คนถูกถามขมวดคิ้ว “จะให้ละเอียดกว่าในห้องแผนที่คงหาได้ยาก จะมีก็แต่แผนที่เก่าสมัยโรเซนไฮม์ยังอยู่ในแคว้นเราให้พอดูเปรียบเทียบกันได้ น่าจะมีอยู่ในห้องแผนที่นั่นล่ะ พวกช่างน่าจะเอามาเปรียบเทียบกันดูอยู่”

“ผมอยากเห็นอะ เราไปดูกันเถอะ”

หลังจากนั้นทั้งสองคนจึงย้ายจากห้องที่ใช้ฝึกซ้อมดาบกันไปยังห้องแผนที่ ซึ่งในห้องนั้นมีช่างไม้ ช่างทาสีกับนักปราชญ์ที่ปรึกษาของลอร์ดหนุ่มอีกสองสามคน ดูเหมือนจะกำลังปรึกษากันเรื่องแผนที่เมืองโรเซนไฮม์อยู่เช่นกัน เมื่อหันมาเห็นเด็กหนุ่มกับองครักษ์ก็รีบค้อมศีรษะทักทาย

“ท่านลูคัสมีอะไรให้พวกข้ารับใช้หรือ”

“ผมแค่อยากดูแผนที่เมืองโรเซนไฮม์สักหน่อยน่ะ มีทั้งฉบับเก่าใหม่เลยใช่มั้ย”

“ขอรับ เชิญทางนี้ขอรับ”

แผนที่ทั้งเก่าและใหม่ถูกกางออกวางเทียบกัน ในส่วนของตัวเมืองไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมาก ทว่าส่วนของปราสาทนั้นในฉบับใหม่มองเห็นเพียงแค่กำแพงสูงและยอดหอคอยของปราสาท

“มีแผนที่ของปราสาทมั้ยครับ”

ทุกคนในห้องส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจอย่างอ่อนใจ “ไม่มีใครสามารถเข้าไปใกล้ได้มากพอจะเก็บรายละเอียดภายในปราสาทมาได้หรอกขอรับ มองจากสองฝั่งแม่น้ำก็เห็นเพียงแค่กำแพงสูง”

“แต่ไอ้กำแพงสามชั้นที่ว่ามันเป็นยังไง ห่างกันขนาดไหนน่ะ”

“เอ่อ...”

“ถ้าไม่มีทหารเคยเข้าไปใกล้ถึงขนาดนั้น อย่างน้อยพวกพ่อค้าก็น่าจะเคยเข้าไปบ้าง”

“นั่นสินะ ลองถามคนในเมืองดูดีไหม” คอนราดเสนอ

“พวกพ่อค้าน่าจะเคยผ่านตา อาจจะจำอะไรที่สะดุดตาได้บ้าง แล้วก็...” เด็กหนุ่มพยักหน้า  “ผมอยากให้สร้างเมืองจำลองขึ้นมาสักหน่อยได้มั้ย”

“ได้ขอรับ แต่คงไม่ได้ละเอียดเท่าเมืองของเรา”

“ไม่เป็นไร เอาเท่าที่ได้ก่อนนะ”

“พวกข้าจะรีบจัดการขอรับ”

คอนราดหันขวับไปทางเด็กหนุ่ม “ลูคัส เจ้าคิดอะไรอยู่น่ะ”

“รู้เขารู้เราไว้ก่อนไงล่ะ” เจ้าของชื่อเรียกเดินไปก้มลงมองแผนที่ซึ่งกางอยู่บนโต๊ะ “แม่น้ำนี่ กว้างเท่าแม่น้ำของเรามั้ย”

“พอๆ กันขอรับ แต่บางฤดูกระแสน้ำแรงพอควร”

“อืม... แล้วฝั่งตรงข้ามปราสาท ส่วนที่ไม่ใช่เมืองทั้งสองฝั่งนี่เป็นอะไรล่ะ” 

“เป็นทุ่งหญ้ากับป่าโปร่งขอรับ”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก “ถ้าจะหาวิธี ไม่ว่าจะบุกเข้าไปโต้งๆ หรือลอบเข้าไปในปราสาท ไม่ว่าอย่างไรก็จำเป็นต้องรู้ทางหนีทีไล่ ผมว่าเราควรจะลองหาข้อมูลมาให้ได้มากที่สุด ทั้งตัวปราสาทและก็ในเมือง แล้วก็ให้เร็วที่สุดด้วย อีกไม่นานท่านคาร์ลก็จะกลับมาแล้ว เราจะได้หาทางวางแผนพาตัวท่านอาร์ชดยุกกลับคืนมา”

“ขอรับท่านลูคัส”

องครักษ์หนุ่มมองลูคัสพลางอมยิ้ม เด็กหนุ่มจากต่างแดนในวันนี้กลายเป็นที่รักและเคารพของทุกคนไปแล้ว ดูเอาเถอะ สั่งอะไรก็พยักหน้ารับคำสั่งกันหมด ช่างสมกับที่เป็นคนที่ท่านคาร์ลเลือกจริงๆ

“ไปกันเถอะคอนราด”

“หือ ไปไหนขอรับ”

“เข้าไปในเมืองสักหน่อย ผมจะไปช่วยสอบถามพวกพ่อค้าอีกแรงด้วย”

ใช้เวลาสอบถามชาวเมือง พ่อค้าและทหารมาได้เกือบสามวันแล้ว ได้รายละเอียดภายในตัวเมืองมามากพอควร ทว่าก็ยังไม่มีรายละเอียดของปราสาทมากนัก พวกพ่อค้าที่เคยนำสินค้าเข้าไปส่งถึงภายในปราสาทมีเพียงพ่อค้าเบียร์กับพวกพ้องไม่กี่คน พวกเขาจำได้แค่ว่ากำแพงปราสาทสูงตระหง่าน ทหารมากมาย น่าหวาดกลัว จนทำให้ไม่กล้าเงยหน้าสักเท่าไหร่ พอข้ามสะพานชัก ผ่านกำแพงปราสาทเข้าไปก็ยังเจอกำแพงอีก พวกเขาหยุดส่งเบียร์ที่ตรงนั้น เมื่อส่งของเสร็จแล้วก็รีบกลับออกมาทันที

“ทำไมถึงมีแค่พ่อค้าเบียร์ที่เข้าไปส่งของถึงในปราสาทล่ะ เบียร์ของเมืองเรารสดีมากเลยหรือ”

“ขอรับท่านลูคัส เบียร์เมืองเราเป็นที่เลื่องลือ แม้โรเซนไฮม์จะผลิตเบียร์เองได้ แต่ก็ยังขอซื้อจากเมืองเราอยู่บ่อยๆ”

ลูคัสขมวดคิ้ว “ผมต้องลองชิมเบียร์เราอีกรอบซะแล้ว”

เมืองจำลองเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง พวกช่างเร่งมือกันสร้างทั้งกลางวันกลางคืนเพื่อให้เสร็จทันเวลาที่ท่านลอร์ดเจ้าของปราสาทจะกลับมา หากในส่วนของปราสาทถูกเว้นว่างไว้ มีแค่เพียงกำแพงล้อมด้านนอกสุดเท่านั้น

“ปราสาทอยู่บนเกาะในแม่น้ำ มีป้อมรอบกำแพงม่านมีทั้งหมดแปดป้อม แปดทิศ ป้อมทางทิศตะวันออกเป็นป้อมคู่ เพราะเป็นป้อมตรงประตูทางเข้าปราสาท”

“ตัวปราสาทมีหอคอยสี่ทิศ รอบตัวปราสาทมีพื้นที่ว่างล้อม ทหารคงใช้เป็นที่ฝึกปรืออาวุธ ได้ยินว่าข้างในนั้นมีทั้งโรงเลี้ยงสัตว์ แบล็กสมิธ โรงไม้ บ้านพักทหารพร้อมสรรพ”

“ทางเข้าข้างหน้าใช้สะพานแบบยกขึ้น มีป้อมตรงหน้าสะพานชักบนแผ่นดินใหญ่อีกสองป้อม”

แม้จะยังไม่สามารถทำปราสาทจำลองได้ แต่ภาพวาดบนแผ่นกระดาษก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

ลูคัสชี้ไปที่หอคอยฝั่งแม่น้ำทางทิศตะวันออก “ตามคำบอกเล่ามา หอคอยนี้สูงกว่าหอคอยอื่นงั้นเหรอครับ”

“ใช่แล้วขอรับ ได้ยินเขาลือกันว่าห้องใต้ดินเป็นคุกใหญ่”

“อืม...” เด็กหนุ่มเม้มปากแน่น ขณะนึกย้อนกลับไปยังแผนผังปราสาทโรเซนไฮม์ซึ่งครั้งหนึ่งตัวเขาเคยวาดไว้


เมื่อความมืดมนอนธการปกคลุมทุกหนแห่ง เทียนและตะเกียงน้ำมันภายในปราสาทถูกจุดขึ้นให้แสงสว่าง ไฟในเตาผิงลุกโชนต่อสู้กับความเหน็บหนาว ลูคัสพาตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องที่ตั้งเมืองจำลองและแผนที่พักใหญ่แล้ว นัยน์ตาสีเข้มจับจ้องอยู่บนแผนที่ของเมืองโรเซนไฮม์สลับกับเมืองจำลองที่เพิ่งสร้างส่วนของเมืองเสร็จ

เมืองโรเซนไฮม์ใหญ่กว่าแบร์กไฮม์พอควร มีป้อมทหารที่ตรงประตูเมืองคอยตรวจตราผู้คนที่ผ่านเข้าออกเมืองตลอดเวลา การจะเข้าไปถึงตัวปราสาทต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปก่อน

ก็ถือว่าบาร์ดอฟวางแผนป้องกันปราสาทไว้อย่างดีล่ะนะ

“อืม... กำแพงสูง มีสามชั้น... มีแม่น้ำล้อม... สองฝั่งของแม่น้ำที่ไม่ใช่ส่วนของเมืองเป็นป่ากับทุ่งหญ้า...” เด็กหนุ่มเปรยกับตนเอง

เขานึกย้อนไปถึงคำพูดที่เคยใช้พูดคุยกับอาเธอร์


“เจ้าคิดว่ากำแพงที่เลื่องลือของปราสาทโรเซนไฮม์ก็อาจจะถูกทำลายได้อย่างนั้นหรือ”

“ไม่มีอะไรที่มนุษย์เราทำไม่ได้หรอกครับ ถ้าหากต้องการ ขนาดยักษ์อย่างโกไลแอธยังถูกเด็กผู้ชายธรรมดาอย่างดาวิดฆ่าให้ตายได้เลยนะครับ”



เรื่องของโกไลแอธยังคงคาใจมาตั้งแต่ตอนนั้น...

ในหนังสือพันธสัญญาใหม่เขียนไว้ว่า อาวุธที่ดาวิดใช้ในการจัดการกับโกไลแอธคือเชือกหนังกับก้อนหินเพียงก้อนเดียว เขาใช้เชือกหนังคล้องก้อนหินแล้วเหวี่ยงก้อนหินนั้นออกไปกระแทกหน้าผากโกไลแอธ ทำให้ยักษ์ใหญ่ล้มได้ในคราวเดียว จากนั้นจึงใช้ดาบบั่นคอออก

“อืม... นึกให้ออกสิ ที่พิพิธภัณฑ์...” มือขาวยกขึ้นทุบศีรษะตัวเองหนักๆ “ใช่แล้ว!” เขารีบวิ่งไปกางแผ่นกระดาษบนโต๊ะว่างแล้ววาดรูปลงไปตามภาพที่ปรากฏขึ้นในความทรงจำ


“เทรบูเชต์ (trebuchet)”


(เทรบูเชต์เป็นอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ใช้เหวี่ยงหินจากระยะไกล ลักษณะเป็นคานคล้ายไม้กระดก ข้างหนึ่งถ่วงน้ำหนักไว้และอีกข้างคล้องก้อนหินขนาดใหญ่ เมื่อยกข้างที่ถ่วงน้ำหนักขึ้นและปล่อยลงก้อนหินจะถูกเหวี่ยงออกไปอย่างแรง ในยุคกลางใช้อุปกรณ์ชิ้นนี้ในการทำลายกำแพงปราสาท ก่อนจะมีปืนใหญ่เข้ามาแทนที่)


เสียงฝีเท้าหนักๆ ของทหารยามเดินผ่านหน้าห้องไปมาเป็นระยะ หากก็ไม่ได้ทำให้เด็กหนุ่มวอกแวกไปจากแผ่นกระดาษบนโต๊ะตรงหน้า ขีดเขียนไปได้สักพักบานประตูไม้ของห้องก็เปิดออกกว้าง

ลูคัสเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมอง “คอนราด”

“ลูคัส”

“รู้แล้วๆ อีกเดี๋ยวจะไปนอนแล้วล่ะ ผมขอวาดตรงนี้เสร็จก่อน เดี๋ยวลืม”

คอนราดยืนหันซ้ายหันขวาอยู่ที่ประตูครู่หนึ่ง จากนั้นจึงก้าวเข้ามายืนฝั่งตรงข้ามเด็กหนุ่มแล้วหันไปมองตามแผ่นกระดาษที่วางเรียงๆ กันบนโต๊ะ เขาหยิบแผ่นที่วาดแผนผังปราสาทโรเซนไฮม์ที่อีกฝ่ายวาดไว้คร่าวๆ ขึ้นดู

“แผนผังนี่...”

“ผมวาดขึ้นมาเอง เดาจากที่ฟังเขาเล่าๆ มาน่ะ” ...แล้วก็วาดจากความทรงจำของเขาด้วย โครงสร้างปราสาทแห่งนี้คล้ายกับที่เขาเคยวาดไว้เป็นงานส่งศาสตราจารย์มาก แต่อย่างหลังนี้บอกใครไม่ได้ “นี่ คอนราด”

“หืม”

“ผมอยากไปดูลาดเลาที่เมืองโรเซนไฮม์อ่ะ”

แผ่นกระดาษในมือองครักษ์หนุ่มหลุดมือร่วงลงบนโต๊ะที่เดิม เขาเบิกตากว้าง “ฮะ!?”

“ไม่ต้องทำท่าตกใจเหมือนเห็นผีขนาดนั้นก็ได้” ลูคัสพึมพำ “ข้อมูลมีแค่นี้เท่านั้นเอง จะคิดทำอะไรสำคัญก็ต้องมีข้อมูลของเมืองมากกว่านี้มั้ย”

“ไม่ได้หรอก! มันเสี่ยงเกินไป!”

“ไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือหรือ!” เด็กหนุ่มเถียง “ก็แค่ปลอมตัวเป็นพ่อค้า...”

“เลิกคิดได้เลย พ่อค้าอะไรจำเป็นจะต้องเดินทางในฤดูหนาวเช่นนี้กันเล่า”

“เอ๊า! คุณไม่ได้ฟังที่ชาวเมืองเล่าเหรอ เบียร์ไงล่ะ มีเฉพาะพ่อค้าเบียร์ที่เดินทางและเข้าถึงปราสาทได้เชียวนะ แสดงว่าพวกเขาต้องชื่นชอบเบียร์ของเมืองเรามาก แล้วอีกอย่าง ฤดูหนาวต้องดื่มเบียร์เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เบียร์น่าจะเป็นที่ต้องการมาก ถ้าอ้างว่าขายได้ราคาดีซะก็เรียบร้อย”

“ไม่ได้ขอรับ ยังไงท่านคาร์ล...”

“ยังไงท่านคาร์ลก็ไม่ยอมใช่มั้ย ผมรู้น่า เพราะงั้นเราถึงต้องรีบไปกันก่อนที่ท่านคาร์ลจะกลับมา...” เด็กหนุ่มพูดเจื้อยแจ้ว ก่อนจะหยุดชะงัก เพราะท่าทางตื่นตระหนกของคอนราด เขายิ้มแหยๆ แล้วพูดขึ้น “ท่านคาร์ลกลับมาแล้วใช่มั้ย”

องครักษ์หนุ่มพยักหน้ารัว

“อยู่ข้างหลังผมแล้วด้วยใช่มั้ย”

“กว่าจะรู้ตัวได้นะ!”

“ท่านคาร์ล! อ๊า!” ลูคัสร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายสาวเท้าเข้ามาอุ้มตัวเขาขึ้นพาดบ่า “กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย!” พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าเออร์วินยืนกอดอกพิงบานประตูห้องแถมยังส่ายหน้าไปมาอยู่อีกคน

“เออร์วิน!” เด็กหนุ่มหันขวับไปทางคอนราด “ทำไมไม่บอกก่อน!”

“ก็ข้าจะมาบอกว่าท่านคาร์ลมาถึงแล้ว เจ้าก็เอาแต่ขีดเขียนแล้วก็พูดไม่ยอมหยุด” คอนราดพูดกลั้วหัวเราะ

“พวกเจ้าไปพักเถอะ” คาร์ลสั่งองครักษ์ทั้งสองพลางเดินฉับๆ ออกไป แล้วยกมือขึ้นตีสะโพกของเด็กหนุ่มอย่างแรง “เจ้าตัวแสบ! วางแผนซนอะไรฮึ! ไหนว่าจะเป็นเด็กดีอย่างไรกันล่ะ!”

“ท่านคาร์ล! ผมก็เป็นเด็กดีไง ยังไม่ได้ไปไหนใช่มั้ยล่ะ!”

“ถ้าข้าไม่กลับมาพอดี มิต้องไปตามเจ้าถึงโรเซนไฮม์แล้วรึ!” ลอร์ดหนุ่มดุเสียงดัง

องครักษ์หนุ่มทั้งสองคนได้แต่ยืนมองลอร์ดเจ้าของปราสาทอุ้มเด็กหนุ่มเดินไกลออกไปจนลับสายตา ก่อนจะหันหน้าเข้าหากัน

“เดินทางเหนื่อยไหม” คอนราดยิ้มกว้าง

“คงเหนื่อยไม่เท่าเจ้าที่ต้องดูแลลูคัสตลอดเวลา”

ทั้งคู่หัวเราะเบาๆ จากนั้นคอนราดจึงยกแขนขึ้นโอบไหล่อีกฝ่าย “ไปเถอะ ไปหาที่เอนหลังกันดีกว่า”


*~TBC~*


บาร์ดอฟมีแผนร้ายกาจจิมๆ ล่วย

คราวนี้น้องลูได้บทหนักอีกแล้ว~ (ก็ได้มาทั้งเรื่องแล้วนี่นะ กร๊าก) แต่หนุ่มไร่อ้อยซะอย่าง แค่นี้จิ๊บๆ ไร่อ้อยก็ทำมาหลายร้อยไร่แล้วเนี่ย

ตอนหน้าเราจะไปทัวร์โรเซนไฮม์กันค่ะ ซื้อตั๋วแล้วชิดในเลยเพี่ยยยย~

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะค้า ภาพของเทรบูเชต์เดี๋ยวฮัสกี้จะหามาแปะไว้ในเพจให้ดูอีกทีนะคะ  :katai4:

รักนะ จุ๊บๆ

ปล. ใครไปเดินงานสัปดาห์หนังสือ แวะไปสอยนิยายฮัสกี้หน่อยน้า~ ขออนุญาตแปะโพยเลขบูทในงานค่ะ--> โพย (https://www.facebook.com/huskyhund/posts/1896839867235320)

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-03-2017 19:54:20
ขอตามไปเอนหลังด้วยคนได้ไหมคอนราด 555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 30-03-2017 20:11:02
 :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 30-03-2017 20:46:12
เด็กดื้อก็คือเด็กดื้อ 5555555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 30-03-2017 20:47:07
ลูคัสเก่งจัง ท่านหลอดให้รางวัลด้วยน้าาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-03-2017 20:58:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-03-2017 21:07:13
ความโลภของคนนี่หนอ... แค่ตัวเองลำบากไม่พอยังจะเป็นเหตุให้พล่าผลาญชีวีชาวบ้านตาดำ ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-03-2017 21:07:24
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 30-03-2017 21:15:05
ที่เขวี้ยงหินชื่อเทรบูเชหรอคะ คือเราชอบดูหนังยุคกลางมากแต่ไม่เคยรู้ชื่อมันเลย เห็นมากี่เรื่องกี่เรื่องก็เรียกที่เขวี้ยงหิน 55555
น้องลูร้อยแผนมาแล้ววว  :mc4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 30-03-2017 21:20:56
น้องลู น่ารักเกินไปแล้ววว ฉลาดด้วย ท่านลอร์ดกล้าทำเสียใจล่ะน่าดู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 30-03-2017 21:37:47
ซื้อตั๋วรอติดตามเลยยยยย :mew1:

พูดซะจนไม่ฟังอะไรเลยยย คนอื่นแทรกไม่ได้555 :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 30-03-2017 21:45:49
ลุ้นๆ น้องลูจะทำยังไง คิกแผนการได้ท่านหลอดก็หวงซะเหลือเกืน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 30-03-2017 22:04:32
น้องลูช่างคิดแล้วก็แสบจริงๆ ท่านคาร์ลคงปวดหัวน่าดู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-03-2017 22:28:21
บาร์ดอฟคนชั่วคนโลภ

ลูคัวคิดวิธีจัดการให้ได้นะ

สู้ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-03-2017 22:31:51
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 30-03-2017 22:45:42
พี่คอนกะพี่วินจะไปเอนหลังกันตรงไหนอะ จะ  :katai5: ไปดู อิอิ
ส่วนเด็กซนก็ให้ท่านคาร์ลจัดการไป  :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 30-03-2017 22:50:30
แหม่ เลี้ยงเด็กซนก็ต้องตามให้ทันนะคาร์ล
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 30-03-2017 23:03:51
สู้นะลูช่วยพ่อสามีให้ได้น้าาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-03-2017 23:15:36
เครื่องเหวี่ยงหินของลูคัส คงช่วยคาร์ลได้แน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-03-2017 23:25:19
เอาใจช่วยน้องลูหาวิธีวางแผนช่วยพ่อสามีเผื่อความรักจะได้ราบรื่นไม่โดนกีดกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 31-03-2017 00:12:36
555 น้องลู น่ารักอ และ น่าตีจริงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 31-03-2017 02:11:18
แงงงงงงง ไม่ว่างไปงานหนังสืออ่าาาาา ว่าจะไปสอยเหนือเมฆกับตะวันเคียงเดือนซะหน่อย :ling1: :ling1: :ling1:
อาววววล่ะ พูดถึงตอนนี้ก็นะ.....ฮุฮุฮุ ในที่สุด trebuchet เครื่องโยนหินก็จะได้ออกโรงแล้ว เย้~~~~~~ :mc3: :mc3: :mc2: :mc2: แล้วเราก็จะรอวันที่ลูคัสบอกวิธีหลอมและสร้างปืนหย่ายยยยยยนยยยย :hao6: :hao6: :hao6: แต่ก่อนหน้านั้น!!!!! ..............อะไรคือการปลอมตัวเข้าปราสาท......พี่ลูบ้าไปแย้วววววววว :katai4: :katai4: ขอพอเท่านี้ก่อนละกัลนะ ไปรับยาก่อน :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: therappizdrum ที่ 31-03-2017 07:23:54
ลูคัสพอออยู่กับท่านคาร์ลกลายเป็นเด็กสามขวบเลยค่ะ

โดนตัก้นด้วย 55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-03-2017 10:50:09
 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 31-03-2017 10:56:16
 :L2: :L2: :L2:
น้องลูน่ารักกกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 31-03-2017 12:06:27
ให้ท่านคารล์ลงโทษหนัก ๆ เลย ส่งคนอื่นไปดีกว่า
ถ้าลูคัสไปเองก็จะเสี่ยงมากยิ่งถ้าโดนจับได้ คาร์ลจะเสียเปรียบอีกฝ่ายอย่างแรง น่าตีนัก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 31-03-2017 19:14:57
ไม่ทันแล้วลูคัสคอาลได้ยินหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 31-03-2017 20:50:23
^^
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 31-03-2017 21:12:35
มาตามความซนและความฉลาดของน้องลูไร่อ้อย
มีเมียเด็กต้องคอยเช็คนะคะท่าคาร์ล  :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 31-03-2017 23:12:42
ชอบลูคัสในความตะมุตะมิและความซน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 31-03-2017 23:43:03
น้องลูคนเก่งงงง แสบจริงๆทั้งขำทั้งลุ้นฮือออชอบมากๆๆๆจริงค่ะ เรื่องนี้รอเล่มเลยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: lilowria ที่ 01-04-2017 08:53:55
ขอบคุณจ้า ทีมน้องลู อิๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-04-2017 09:32:57
โลภจนหน้ามืดเนาะ ขนาดพี่ดีด้วยมาก ยังทำ

55555 ลูคัสโดนแน่ ยังไม่ซน แต่พร้อมจะซนแล้วนะ
คาร์ลมาได้ถูกเวลามาก ไม่งั้นใครก็ห้ามไม่อยู่

ลุ้นมากค่ะ จะสร้างกันทันไหม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 01-04-2017 11:29:39
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 01-04-2017 11:54:09

เพิ่งเข้ามาขอรับ

แต่อยากอ่านต่อแล้ว

รอขอรับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 01-04-2017 14:11:48
เก่งอีกแล้วนะเจ้าหนูลูคัส :katai2-1:
เนื้อเรื่องชักจะเข้มข้นขึ้นมาอีกนิดแล้วววววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 02-04-2017 18:47:39
ลูคัสนี่เก่งเกินเด็กแถมขี้อ้อนอีกต่างหาก
แอบกระซิบนิดนึงนะเราอ่านไปบ้างครั้งก็ลืมว่าแอ๊ะชื่อใครนะอะไรยังไงแต่ยังดีที่ฮัสกี้รีเฟอร์ถึงตลอดเลยอ่านได้ไม่งง
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 02-04-2017 19:37:10
น้องลูผู้น่าสงสารรรร หวังช่วยท่านหลอดแท้ๆๆๆ  :katai3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 27 : ครุ่นคิด][300317]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 07-04-2017 19:07:09


Chapter 28 : ลาดเลา


ในตอนสายของวันใหม่ ท้องฟ้าครึ้มเมฆสีเทา มีหมอกลอยต่ำปกคลุมไปทั่ว มีเกล็ดหิมะร่วงหล่นลงมาบางเบา หากเมื่อตกถึงพื้นดินเพียงชั่วครู่ก็ละลายหายไป

นัยน์ตาสีฟ้าราวกับไพลินเม็ดงามจับจ้องใบหน้าคนรักในยามหลับใหล เด็กหนุ่มขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ท่อนแขนเรียวโอบกอดตัวเขาไว้แล้วซุกหน้าลงบนแผ่นอก จะว่าคล้ายลูกแมวก็คงไม่ใช่ น่าจะเป็นลูกเสือเสียมากกว่า ถึงได้ทั้งดื้อทั้งซน จนเขาไม่รู้จะจัดการอย่างไรดี

ลอร์ดหนุ่มค่อยๆ ลูบเส้นผมอ่อนนุ่มอย่างแสนรัก พลางถอนหายใจ

“อือ... ท่านคาร์ล อื้อ!” เมื่อลูคัสผงกศีรษะขึ้น อีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นบีบจมูก เป็นผลให้เขาลุกขึ้นพรวด “แกล้งผมแต่เช้าเลยอ่ะ”

“เช้าที่ไหนกัน สายแล้ว”

พออีกฝ่ายทำท่าจะลุกออกจากเตียง เด็กหนุ่มก็รีบคว้าแขนไว้ “จะไปไหนหรือครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา...”

“รู้แล้ว เรื่องจะไปดูลาดเลาที่โรเซนไฮม์ใช่ไหม”

“ท่านคาร์ล ผมคิดว่ามันจำเป็นจริงๆ นะ ไม่ว่าอย่างไรคุณก็ต้องหาวิธีไปช่วยท่านอาร์ชดยุกอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ”

“......”

“ท่านไฮน์ริชกับท่านยาคอปว่าอย่างไรบ้าง”

“พวกเขาจะเร่งรวบรวมกำลังทหารและอาวุธ อีกสักสามสัปดาห์กองทัพเสริมของทั้งคู่คงมาถึง แล้วจะวางแผนให้แน่นอนกันอีกที เราคงต้องหาวิธีการที่ดีที่สุดเพราะมันมีท่านพ่อเป็นตัวประกัน” คาร์ลยกมือขึ้นวางบนศีรษะเล็ก “แต่ว่าเรื่องดูลาดเลาหรือสอดแนม ให้ทหารทำก็ได้ไม่ใช่หรือ”

ลูคัสส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้ครับ ผมต้องไปดูเอง” เขาตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เชื่อผมเถอะ ผมจะหาวิธีจัดการกับกำแพงปราสาทนั่นได้แน่ๆ แต่ผมจำเป็นที่จะต้องเห็นสถานที่จริงก่อน”

“มันอันตรายมาก ข้าไม่อยากให้เจ้าไปเสี่ยง”

เด็กหนุ่มขยับไปนั่งตรงหน้าแล้วจับแขนอีกฝ่ายแน่น “ท่านคาร์ล ผมก็เป็นผู้ชายคนนึงนะ แล้วยังเป็นคนรักของมาร์ควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์ด้วย ถ้ากลัวเรื่องอันตรายแค่นี้ ผมจะเป็นคนรักที่ดีของคุณได้ยังไงกัน”

คาร์ลประสานสายตากับดวงตาสีเข้มอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ “ข้าเข้าใจแล้ว” เขาลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ พร้อมกับหยิบเสื้อคลุมมาสวม “เดี๋ยวกินอะไรก่อนสักหน่อย แล้วค่อยไปคุยกันที่ห้องแผนที่อีกที”

ภายในห้องแผนที่ ลอร์ดหนุ่ม ลูคัส และองครักษ์ทั้งสองยืนนิ่งล้อมเมืองโรเซนไฮม์จำลอง บานประตูห้องปิดแน่นหนา มีทหารยืนเฝ้าที่ด้านหน้าประตูห้องไม่ให้ใครผ่านไปมาได้

“ขอบใจที่ช่วยจัดการเรื่องเมืองจำลองนะ”

ลูคัสยิ้มกว้างรับ “ผมเป็นเด็กดี เห็นมั้ยล่ะ”

“เอาล่ะ ไหนเล่าแผนของเจ้ามา...”

“การเดินทางต้องเป็นความลับตั้งแต่ที่นี่ ด้วยการปลอมตัวเป็นพ่อค้าเบียร์...” เด็กหนุ่มบรรยายแผนการตามที่คิดไว้เป็นฉากๆ เมื่อเสร็จแล้วจึงหันไปหยิบแผ่นกระดาษที่วาดแผนผังโครงสร้างปราสาทโรเซนไฮม์ขึ้นมาให้ทุกคนดูประกอบ

“เจ้าวาดเองหรือ ไม่น่าเชื่อ” เออร์วินเลิกคิ้วขึ้น

“ไม่น่าเชื่อยังไง ผมเรียนมานะเออร์วิน!”

“เรียน? ที่เมืองของเจ้าสอนสร้างปราสาทด้วยหรือ” คอนราดถามบ้าง

“ไม่ได้สอนสร้าง แต่สอนให้รู้จักวิธีการสร้าง... เอ้อ... มันก็คงคล้ายๆ กันมั้ง แต่ผมยังไม่เคยสร้างปราสาทจริงๆ นะ คือที่จะไปโรเซนไฮม์เนี่ย ผมแค่อยากเห็นปราสาทใกล้ๆ อยากเห็นกำแพงสามชั้นที่ว่านั่นว่ามันเป็นยังไง ไม่ต้องเข้าไปข้างในก็ได้ ส่วนตัวปราสาท ถ้ามองเห็นจากข้างนอกได้ก็คงเดาได้ว่าตรงไหนเป็นอะไรบ้าง”

“ข้าเข้าใจ” คาร์ลถอนหายใจหนักๆ “การจะโจมตีศัตรูตัวฉกาจที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในกำบังแข็งแรง ถ้าหาวิธีล่อออกมาไม่ได้ ก็จำเป็นที่จะต้องหาวิธีทำลายกำบังแล้วบุกเข้าไปล่ะนะ”

“นั่นสินะขอรับ แต่ว่าตอนนี้ ถึงแม้จะผ่านกำแพงปราสาทเข้าไปได้ ก็ยังต้องเจอกองทหารของโรเซนไฮม์อีกชั้นอยู่ดี แบบนี้เราจะต้องใช้กำลังทหารสักเท่าไหร่กัน”

“ถ้าไม่บุกเข้าไป แต่ยกทัพไปล้อมเมืองไว้แล้วรอให้อาหารขาดแคลนล่ะ”

“ตัดทิ้งไปได้เลย เมืองริมแม่น้ำอย่างนั้น อย่างไรก็มีอาหารมีน้ำสมบูรณ์ อีกอย่างท่านอาร์ชดยุกอยู่ข้างในนั้น ถ้าล้อมเมืองไว้เฉยๆ มันก็จะหาทางเอาท่านมาต่อรองจนได้” เออร์วินและคอนราดเถียงกันไปมา

“ต่อให้พ่อค้าเบียร์เข้าไปข้างในปราสาทได้ ถึงอย่างไรก็คงไม่ได้เข้าไปถึงปราสาทชั้นใน แต่แค่นั้นก็พอให้ประเมินได้ว่าจะต้องพบเจออุปสรรคอะไรบ้างหลังจากผ่านกำแพงเข้าไปได้” ลอร์ดหนุ่มย่นคิ้วเข้าหากันขณะที่พิจารณาภาพวาดกำแพงปราสาท “อืม... ข้าเคยได้ยินเรื่องยาสมุนไพรที่ทำให้หลับ”

“ข้าก็เคยได้ยินขอรับ ในหมู่บ้านที่ข้าเคยอยู่สมัยเด็ก หลายคนก็พูดถึงกันว่าหญิงชราตัวคนเดียวในหมู่บ้านน่ะ มียาที่ทำให้หลับเหมือนตายได้เลยทีเดียว”

“หมายถึงแม่มดหรือครับ” ลูคัสเลิกคิ้วขึ้น

“เขาว่าหล่อนเป็นผู้ใช้เวทมนตร์ คุยกับซาตานได้จึงทำยาประหลาดๆ ได้หลายอย่าง ถ้าใครไปทำให้โกรธก็จะโดนคำสาปด้วยนะ เพราะงั้นเจ้าอย่าคิดไปตามหาหล่อนเชียว”

เด็กหนุ่มเบ้ปาก “นี่หลอกผมใช่มั้ยเนี่ย เห็นว่าผมอายุกี่ขวบกัน!”

คอนราดหัวเราะ “ข้าก็เล่าไปตามที่ได้ยินมา”

“ข้าอยากได้ยานั่น คอนราด เดี๋ยวเจ้าไปบอกหมอยาให้จัดการ เตรียมไปเผื่อมีโอกาสได้ใช้”

“ขอรับ”

“เราแค่จะสำรวจภายนอกตัวปราสาทใช่ไหม” คาร์ลหันไปถามลูคัส “เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินกว่าสำรวจรอบนอกเท่านั้น”

“เรา?” ลูคัสและองครักษ์ทั้งสองหันขวับ

“ใช่ ข้าจะไปด้วย เออร์วิน เจ้าจัดการคัดเลือกทหารไปกับเราอีกสักแปดนาย ให้คนเตรียมรถขนเบียร์สองคันรถ เตรียมเบียร์ไว้สักสี่ถัง กับถังเปล่าสำหรับซ่อนตัว”

“ท่านคาร์ล จะดีหรือ!”

ลอร์ดหนุ่มยกมือขึ้นเป็นเชิงไม่รับฟังคำค้าน “คอนราด เจ้าบอกให้สาวใช้จัดเสื้อผ้าที่ดูธรรมดาที่สุดกับเสบียง เราจะออกเดินทางกันเช้าวันพรุ่งนี้ เก็บเรื่องนี้ให้เป็นความลับมากที่สุด ให้คนรู้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้


ในตอนก่อนรุ่งสาง รถม้าสามคันรถเคลื่อนออกจากปราสาทไปช้าๆ สองคันใช้บรรจุถังเบียร์ อีกคันที่เหลือใส่เสื้อผ้าและเสบียงสำหรับการเดินทาง

อากาศในช่วงนี้อุ่นขึ้นเล็กน้อย ไม่มีฝนหรือหิมะ ท้องฟ้าโปร่งให้แสงจากดวงอาทิตย์ส่งลงมาถึงพื้นดินได้ อากาศในเวลากลางวันจึงไม่หนาวมากนัก ทว่าเมื่อถึงกลางคืนก็หนาวถึงขั้วหัวใจ พวกเขาต้องหยุดพักและก่อกองไฟให้ความอบอุ่นบ้าง ก่อนจะออกเดินทางกันต่อ

ใช้เวลานานเกือบสัปดาห์ก็เดินทางไปถึงที่หมาย คาร์ลสั่งให้ปักหลักหยุดพักกันตรงที่ชายป่าโปร่งริมฝั่งแม่น้ำ ไม่ไกลจากประตูเมืองโรเซนไฮม์มากนัก จากนั้นพวกเขาก็ไปสำรวจพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำกัน จากริมฝั่งแม่น้ำสามารถมองเห็นกำแพงปราสาท หลังคาและหอคอยของปราสาทอันเลื่องชื่อที่อยู่บนเกาะกลางแม่น้ำได้ ส่วนทางขวามือเป็นที่ตั้งของเมืองโรเซนไฮม์

“จุดนี้ท่าจะใช้ปักหลักได้ดีนะขอรับ มีต้นไม้ใหญ่ประปราย ใกล้แม่น้ำดีเสียด้วย” เออร์วินเปรย “พรุ่งนี้เข้าเมือง ลองหาเรือไปดูลาดเลาฝั่งตรงข้ามสักนิดท่าจะดี”

คอนราดพยักหน้าเห็นด้วย “พวกชาวบ้านน่าจะมีเรือให้เช่าได้”

“ไหนกันกำแพงสามชั้นที่ว่า ผมเห็นแค่ชั้นเดียวเอง” ลูคัสพึมพำ

“แต่เท่าที่มองเห็นตอนนี้ ข้างบนของปราสาทนี่ก็คล้ายกับที่เจ้าวาดไว้เลยนะ” คาร์ลหันไปบอกกับเด็กหนุ่ม

“ผมว่าหอคอยด้านในสุดนั่น ข้างล่างต้องเป็นคุกใต้ดินแน่ แล้วก็ต้องมีทางเข้าทางเรือด้วยแหงๆ แต่มองจากตรงนี้ไม่เห็น คงต้องอ้อมไป”

“เจ้าคิดว่ามันจะขังท่านพ่อไว้ที่ไหนหรือ”

“เอาจริงๆ ผมไม่คิดว่าท่านจะถูกขังในคุก ตามประวัติศาสตร์แล้วสถานที่คุมขังจะแปรผันไปตามตำแหน่งยศของผู้ที่ถูกขัง”

“แต่กับบาร์ดอฟ ท่าจะเอาแน่เอานอนอะไรไม่ค่อยได้นะขอรับ” คอนราดเสนอความคิดบ้าง

“ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกขังท่านไว้ที่เข้าถึงได้ยากที่สุด ก็คือบนหอคอยที่สูงที่สุดนั่น”

คาร์ลพยักหน้าหงึกหงัก “เดี๋ยวพักสักนิดก่อน รอให้ท้องฟ้ามืดอีกนิดค่อยเอาม้าไปสำรวจปราสาทจากชายฝั่งแม่น้ำนี่กัน”

หลังจากไปสำรวจพื้นที่กันแล้ว พวกเขาก็ก่อกองไฟย่างปลาที่จับได้จากแม่น้ำกินกัน ทำแบบที่พ่อค้าเร่ร่อนทั่วไปเพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย

“ท่านลูคัส ลองปลานี่สิขอรับ ย่างบนสมุนไพร สูตรของแม่ข้า” กุนเทอร์เป็นนายทหารคนหนึ่งที่มาด้วยกัน เขาอายุมากกว่านายทหารคนอื่นๆ นิดหน่อย ตลอดทางเขามักจะชวนลูคัสพูดคุยถึงบุตรชายอยู่บ่อยๆ แล้วบอกว่าบุตรชายฝันไว้ว่าจะได้เป็นทหาร ได้ทำงานใกล้ชิดท่านลอร์ดและลูคัส เขานั่งแกะปลาแยกก้าง ใส่จานดินเผาให้เด็กหนุ่ม

ลูคัสยิ้มรับน้ำใจจากอีกฝ่าย “อื้อ อร่อยจริงๆ ด้วย”

“กุนเทอร์เอาใจท่านลูคัสอีกแล้ว ระวังเถิด ท่านลอร์ดจะปลดเจ้า” ทหารคนอื่นๆ พูดกลั้วหัวเราะ

“ข้าไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก” คาร์ลรีบแก้ตัว ทั้งที่คอยมองอยู่ตลอด หากเขาก็ดีใจที่คนรักเป็นที่ยอมรับ เป็นที่รักและเคารพของเหล่าทหาร “กุนเทอร์ เจ้าห่างครอบครัวแบบนี้ เห็นลูคัสแล้ว คงคิดถึงลูกชายสินะ”

นายทหารยิ้มแก้เขิน “ขอรับ”

“เห! หมายความว่าไงเนี่ย!”

เสียงหัวเราะดังไปทั่ว แต่ลูคัสไม่หัวเราะด้วย ก็ดูเอาเถอะ ก่อนหน้ายังบอกอยากให้ลูกชายโตขึ้นมาเก่งกาจอย่างเขา ไปๆ มาๆ กลับเห็นเขาเป็นลูกชายเสียอย่างนั้น

หลังมื้ออาหารพวกทหารก็สลับกันไปนอนพักเอาแรง เพื่อที่จะตื่นขึ้นมาสลับเฝ้าเวรกัน

ลูคัสใช้แสงไฟจากกองไฟในการวาดภาพและจดข้อมูลลงบนแผ่นกระดาษที่นำติดมาด้วย ขีดเขียนไปพักใหญ่ก็เงยหน้าขึ้น มองลอร์ดหนุ่มในเสื้อผ้าแบบชาวบ้านๆ หากก็ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายดูดีน้อยลงไปเลย

เสียงฟืนลั่นเปรี๊ยะๆ เปลวไฟสั่นไหวเล็กน้อยตามแรงลม สายลมที่พัดผ่านมาแต่ละครั้งทำให้เด็กหนุ่มต้องห่อไหล่เข้าหากัน ตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความหนาว เมื่อมองออกไปยังตัวปราสาท บนป้อมกำแพงปราสาทนั้นมีไฟจุดไว้สว่างไสว ทำให้มองเห็นจากฝั่งแม่น้ำได้ชัดเจน

“บรื๋อ เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำแน่ๆ เลย ถึงได้หนาวแบบนี้”

“มานั่งนี่สิ” ลอร์ดหนุ่มกวักมือเรียก เมื่อลูคัสขยับเข้ามาใกล้ก็โอบกอดอีกฝ่ายไว้ในผ้าห่มผืนเดียวกัน

“ท่านคาร์ล...” แก้มของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อ

“อุ่นขึ้นไหม”

“ครับ” ลูคัสพยักหน้า หากพอจะขยับออกลอร์ดหนุ่มกลับโอบกอดไว้แน่น

คาร์ลก้มลงกระซิบชิดใบหู “แบบนี้ข้าก็อุ่นดีเหมือนกัน”

เด็กหนุ่มอมยิ้ม เขานั่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่าย ทว่าไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของทหารตรงเข้ามาหา เขาจึงผงกศีรษะขึ้นมอง

“มีทหารของโรเซนไฮม์สองคนกำลังตรงมาที่นี่ขอรับ”

ลอร์ดหนุ่มพยักหน้าแล้วออกคำสั่ง “พวกเจ้าไปหลบในรถ บอกให้พวกที่หลับอยู่เงียบไว้ แล้วอยู่ข้างนอกกันแค่สี่ห้าคนพอ”

“ท่านคาร์ล”

“ชู่ว ไม่เป็นไร อยู่นิ่งๆ ก็พอ”

ลูคัสพยักหน้า ก่อนจะซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง

สักพักทหารของโรเซนไฮม์ก็ขี่ม้าตรงเข้ามาหา พวกเขาก้าวลงจากม้าแล้วเดินตรงมายังหน้ากองไฟ “พวกเจ้าเป็นใครกัน”

คาร์ลเงยหน้าขึ้น “ข้าเป็นพ่อค้าเบียร์จากแบร์กไฮม์ พรุ่งนี้จะนำเบียร์ไปขายในโรเซนไฮม์น่ะท่าน”

“พ่อค้างั้นรึ ทำไมจึงเดินทางในฤดูหนาวเช่นนี้”

“ช่วงนี้เบียร์เป็นที่ต้องการ เดินทางลำบากสักหน่อยแต่ก็ขายได้ราคาดี”

“แล้วคนที่นั่งอยู่กับเจ้านั่น ทำไมต้องหลบอยู่ในผ้า ไหนหันหน้ามาซิ”

ดวงตาสีเข้มเบิกโพลง แต่เพราะลอร์ดหนุ่มใช้ปลายนิ้วสะกิดเบาๆ เขาจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นพร้อมกับหันไปทางทหาร หากลดสายตาลงมองพื้นเพื่อซ่อนสีของนัยน์ตาไว้

“นี่เมียข้าเอง น่ารักมากใช่ไหม” คาร์ลยิ้มพลางก้มลงจูบแก้มนิ่ม “ข้าเพิ่งแต่งงาน ต้องการเงินทองไว้สร้างบ้าน”

“อ่อ อย่างนั้นเองรึ ข้าก็พอเข้าใจ” นายทหารยิ้มกริ่ม

ระหว่างที่ทหารทั้งสองหันหน้าปรึกษากัน ลอร์ดหนุ่มก็พูดขึ้น “พวกท่านอยากลองชิมเบียร์สักนิดไหม”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกทหารก็แสดงความดีอกดีใจออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน ลอร์ดหนุ่มยิ้มมุมปากพลางหันไปทางคอนราด “เอาเบียร์มาให้ท่านทหารชิมสักหน่อยสิ”

คอนราดพยักหน้า รีบลุกขึ้นไปเทเบียร์ใส่ชามดินเผามาส่งให้ทหารทั้งสอง “เชิญขอรับ”

“ขอบใจๆ” ทหารทั้งสองยิ้มร่า พอได้จิบเบียร์เข้าไปก็อารมณ์ดี “รสดีจริงๆ สมกับเป็นเบียร์ของแบร์กไฮม์”

“ขอบคุณพวกท่านที่ชื่นชม เห็นทีปีหน้าข้าคงต้องทำมาขายเพิ่ม”

“ทำมาเยอะๆ เลย ที่ในวังก็ชื่นชอบเบียร์ของแบร์กไฮม์มาก”

ลูคัสนั่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขนลอร์ดหนุ่มนานแล้วก็เริ่มเมื่อย พวกทหารก็ไม่ไปกันสักที เขาเริ่มขยับตัวยุกยิก

“หืม ง่วงนอนแล้วหรือ” คาร์ลเชยคางเด็กหนุ่มขึ้นเล็กน้อยแล้วแนบจูบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นบอกกับพวกทหาร “ข้าขออภัยที่คงอยู่พูดคุยกับพวกท่านไม่ได้นาน เมียข้าง่วงนอนแล้ว”

“อ้อ เจ้าเพิ่งแต่งงานนี่นะ” พวกทหารหัวเราะ “งั้นพวกข้าไม่กวนละ เดี๋ยวจะบอกทหารที่ป้อมไว้ให้ว่าจะมีพ่อค้าเบียร์เข้ามา”

“ขอบคุณพวกท่านเหลือเกิน” ลอร์ดหนุ่มก้มหน้าลง เขารอให้ทหารทั้งสองเดินกลับไปขึ้นม้า จากนั้นจึงลุกขึ้นช้าๆ พร้อมกับอุ้มลูคัสขึ้นมาด้วย ขณะที่เดินกลับไปยังรถม้าก็ชำเลืองมอง จนมั่นใจว่าพวกทหารกลับไปแล้วจึงค่อยๆ วางเด็กหนุ่มลง

ลูคัสเงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนรัก “โอ้โห ตีบทพ่อค้าเพิ่งแต่งเมียแตกกระจาย”

“ตีอะไรแตกกระจายกัน” คาร์ลทุบศีรษะเด็กหนุ่มไปเบาๆ

“ผมหมายถึงคุณเป็นพ่อค้าได้เหมือนมากต่างหากเล่า”

“ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่ พวกทหารนี่เป็นแค่ทหารปลายแถว ไม่ได้มีพิษสงอะไร แค่มาตรวจดูลาดเลาเท่านั้น รับมือไม่ยากหรอก”

ลูคัสเบ้ปาก “ครับๆ”

“เอาล่ะ นอนพักกันสักนิดเถอะ พรุ่งนี้เราจะเข้าเมืองกันแต่เช้า”

“นอนข้างกองไฟดีกว่า อุ่นดี” เด็กหนุ่มหันไปหยิบผ้ากระสอบจากข้างหลังรถม้าเอาไปปูใกล้ๆ กองไฟ ก่อนจะนอนลงห่อตัวในผ้าห่ม

เมื่อเออร์วินเห็นเช่นกันก็หัวเราะ “อย่ากลิ้งเข้าไปในกองไฟนะ” แล้วเงยหน้าขึ้นบอกกับผู้เป็นนาย “ท่านคาร์ลก็พักผ่อนสักหน่อยเถอะขอรับ พวกข้าจะเปลี่ยนเวรกันเฝ้าเอง”

“อืม ข้าจะนอนข้างลูคัสนี่ล่ะ ฝากพวกเจ้าหน่อยก็แล้วกัน” ลอร์ดหนุ่มตอบพร้อมกับเอนตัวลงนอน เขาโอบเอวลูคัสไว้แล้วดึงเข้ามาแนบกาย จากนั้นจึงห่มผ้าห่มคลุมไว้ด้วยกัน

เออร์วินนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาจับจ้องผู้เป็นนายกับคนรักเอาไว้นิ่ง เขารู้สึกว่าท่านคาร์ลอ่อนโยนขึ้นมากตั้งแต่ได้พบกับลูคัส มองๆ ไปแล้วก็นึกถึงลอร์ดหนุ่มเมื่อครั้งยังเยาว์ ช่างน่าเอ็นดูเหมือนในยามนี้เลย

 แต่แล้วจู่ๆ ก็มีมือยื่นมาปิดตาเขาไว้ ก่อนเจ้าของมือนั้นจะก้มลงมากระซิบ

“อิจฉาก็อย่ามองมากนัก”

เออร์วินหันขวับ “เจ้าคิดมากไปแล้วคอนราด ข้าจะอิจฉาเรื่องอะไร”

คอนราดยิ้มมุมปาก “ไม่อิจฉาหรือ”

“เจ้าว่างมากรึ”

“อืม” คนตอบนั่งลงให้หลังชนกัน “อิจฉา”

“ข้าไม่ได้อิจฉา”

“แต่ข้าอิจฉา”

เออร์วินหัวเราะพลางส่ายหน้าไปมา “เจ้านี่น้า...” เขาลุกขึ้นให้อีกฝ่ายเกือบหงายหลัง ก่อนจะขยับไปเติมฟืนลงในกองไฟ แล้วจึงเดินกลับมานั่งลงข้างกัน พร้อมกับหยิบผ้าห่มมาคลุมพวกเขาทั้งสองคนด้วย

คอนราดยิ้ม หากก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พวกเขาทอดสายตามองไกลออกไปในความมืด รอเวลาผลัดเปลี่ยนเวรกับทหารที่เหลือ


ในตอนสายของวันใหม่ หลังจากที่ได้ล้างหน้าล้างตากันแล้ว ขบวนรถขนเบียร์สองคันก็เคลื่อนเข้าไปในเมือง ทิ้งรถอีกคันกับทหารอีกสองนายให้รออยู่ที่เดิม

ขบวนรถม้าผ่านประตูเมืองเข้าไปได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าทหารลาดตระเวนทั้งสองนายจะทำอย่างที่พูดไว้เมื่อคืนจริงๆ

หากสภาพเมืองโรเซนไฮม์ตรงหน้าไม่เป็นอย่างที่คาร์ลและองครักษ์ทั้งสองเคยได้ยินมาก่อน โรเซนไฮม์ควรจะเป็นเมืองร่ำรวย ชาวเมืองมีอันจะกิน ไม่ใช่เป็นเมืองที่ทรุดโทรม ชาวเมืองดูผ่ายผอม ราวกับต้องตรากตรำทำงานหนักไม่ได้พักผ่อนอย่างไรอย่างนั้น

พวกชาวบ้านมองตามรถม้าขนเบียร์ตาละห้อย จนกระทั่งรถเคลื่อนไปหยุดในตลาดก็เดินมามุงกันอยู่ห่างๆ ไม่นานก็แยกย้ายกันกลับไป

เมื่อรอบตัวสงบลง เออร์วิน คาร์ล ลูคัส และทหารอีกสองนายก็เดินออกมาจากรถเพื่อไปสำรวจพื้นที่กัน ปล่อยให้คอนราดทำหน้าที่พ่อค้าขายเบียร์กับทหารที่เหลือ จากนั้นก็เช่าเรือให้ชาวเมืองพาข้ามไปตรวจดูริมฝั่งแม่น้ำอีกฝั่ง ซึ่งพวกเขาก็พบเห็นแต่ป่าโปร่งตลอดแนว ใช้เวลาไม่นานก็พายเรือกลับ

“ข้าบอกแล้วว่ามีแต่ป่า แต่ถ้าฝนตกจะมีเห็ดเยอะอยู่นะ พวกข้าจะข้ามฝั่งมาเก็บเห็ดกันบ่อยๆ”

“น้ำเชี่ยวไม่อันตรายหรือ” นายทหารคนหนึ่งถาม

“อันตรายสิ แต่ก็ดีกว่าอดๆ อยากๆ นะ ในป่านั้นบางทีก็เจอหมูป่า ไก่ป่าด้วย”

ระหว่างทางที่พายเรือกลับ เด็กหนุ่มหันไปเห็นอุโมงค์ที่ตรงกำแพงปราสาท เอาไว้สำหรับให้เรือลอด เขารีบสะกิดบอกกับลอร์ดหนุ่ม “อ๊ะ นั่น... ตรงนั้นมีทางเข้าปราสาท”

ชาวเมืองที่พายเรืออยู่ตอบ “ทางเข้าตรงนั้นจะเปิดเมื่อน้ำลงนะ ใช้สำหรับขนส่งนักโทษเท่านั้น เห็นว่าพอเข้าไปก็เจอคุกเลย”

“เจ้าเคยเข้าไปข้างในปราสาทไหม” เออร์วินลองถาม

“ชาวเมืองธรรมดาๆ อย่างข้าจะเคยได้อย่างไร นอกเสียจากจะถูกจับไปขังคุกน่ะสิ”

เมื่อเรือเข้าเทียบท่าเรือของชาวเมืองซึ่งทำจากไม้เก่าๆ และทรุดโทรม พวกเขาก็บอกลาชาวเมืองแล้วเดินกลับเข้าเมืองกันต่อ

หลังจากหาลู่ทางกันอยู่นาน คาร์ล ลูคัส เออร์วินและทหารที่ติดตามมาก็ยังไม่สามารถเข้าไปใกล้ป้อมที่ตั้งอยู่เบื้องหน้าสะพานชักได้ เนื่องจากพื้นที่ตรงหน้าป้อมเป็นป่า ตรงกลางมีทางที่ทำจากดินอัดแน่นยาวมาจากในเมือง จุดที่พวกเขายืนอยู่เห็นได้แค่เพียงกำแพงสูงตระหง่าน หากนั่นก็ใกล้ที่สุดแล้วที่ชาวเมืองจะเข้าไปถึงได้

บนยอดป้อมของกำแพงสูงมีทหารยืนอยู่ทุกมุม พวกเขาไม่สามารถมองเห็นข้างในปราสาทได้เลยสักนิด 

“เป็นอย่างไรบ้าง ลูคัส เจ้าคงไม่คิดหาทางฝ่าเข้าไปในนั้นหรอกนะ” เออร์วินพูดดัก

“แหม ถ้าเข้าไปได้มันก็ดีนะครับ จากตรงนี้มองไม่เห็นอะไรข้างในเลยอ่ะ”

“ไหนเจ้าว่าจะดูแต่กำแพงไง”

“ครับๆ ก็ดูอยู่นี่ไง แต่ผมก็ยังสงสัยว่ากำแพงสามชั้นที่ว่ามันอยู่ตรงไหนบ้างอยู่ดี นี่ผมส่องแทบตายก็ยังเห็นแค่ชั้นเดียวเองอ่ะ”

“อืม นั่นสินะ” ลอร์ดหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก

เสียงท้องร้องของลูคัสดังขึ้น ทำให้เขาต้องรีบยกมือขึ้นกุมท้อง จะว่าไป ตอนนี้น่าจะบ่ายกว่าๆ แล้ว ตั้งแต่เช้ามาก็รับประทานขนมปังไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น “อ่า...”

คาร์ลสังเกตเห็นเข้าพอดี “หิวแล้วงั้นหรือ ถ้าเช่นนั้นก็กลับไปที่รถกันก่อนเถอะ ป่านนี้คอนราดคงขายเบียร์หมดคันรถแล้ว”

ทว่าผิดคาด เมื่อกลับไปถึงรถม้าที่จอดไว้ในตลาดก็พบว่าถังเบียร์ยังอยู่เต็มคันรถ ส่วนคอนราดก็นั่งอ้าปากหาวหวอดๆ พอเขาเห็นผู้เป็นนายกับพรรคพวกเดินมาก็ยิ้มรับ “ข้าใกล้จะหลับแล้ว น่าเบื่อเหลือเกิน”

“ไม่มีใครเข้ามาซื้อเบียร์เลยหรือ เจ้ามัวแต่ทำหน้าตาไม่รับแขกน่ะสิ” เออร์วินพูดกลั้วหัวเราะ

“ช่างเถอะ หาอะไรกินกันก่อนดีกว่า”

พวกทหารไปจัดการซื้อขนมปังใหม่ๆ กับปลาย่างมาให้ ระหว่างที่นั่งรับประทานร่วมกันก็พูดคุยกันไปพลาง

“เจ้าพอใจหรือยังล่ะนี่” คอนราดหันไปถามเด็กหนุ่ม

ลูคัสเบ้ปากพลางส่ายหน้าไปมา “ในเมืองนี่ เดินดูจนพรุนหมดแล้ว ยกเว้นก็แต่กำแพงนั่นล่ะ ผมยังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่”

ขณะเดียวกันก็มีหญิงชาวเมืองกับเด็กหนุ่มอีกคนเดินเข้ามาชะเง้อมอง องครักษ์หนุ่มจึงรีบหันกลับไปทำหน้าที่ของตน “มาซื้อเบียร์หรือ”

หญิงชาวเมืองส่ายหน้า “เปล่าหรอก ข้าไม่มีเงินซื้อหรอกพ่อค้า แต่เห็นพ่อค้ามาปักหลักอยู่นานยังขายไม่ได้ พ่อค้าลองไปขายให้โบสถ์สิ โบสถ์อยู่ตรงโน้นน่ะ ที่นั่นอย่างน้อยก็ต้องขายได้สักถังแน่”

“งั้นหรือ ขอบใจนะ แต่ช่างน่าแปลก หรือว่าเบียร์ของแบร์กไฮม์ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบอย่างที่ข้าคิด”

หล่อนยิ้มบาง “ชอบสิ ใครกันจะไม่ชอบ แต่พวกข้าไม่มีเงิน พวกเจ้ามองดูสภาพผู้คนในตลาดนี่แล้วเดาไม่ออกหรือ ต่อให้พวกเจ้านั่งขายทั้งวันก็ไม่มีใครมาซื้อหรอก”

“ข้าได้ยินว่าโรเซนไฮม์เป็นเมืองร่ำรวย...”

“เมื่อก่อน... สมัยข้ายังเด็กน่ะใช่”

คาร์ลเห็นท่าทางของหล่อนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ทั้งยังสงสัยไม่น้อย “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ เล่าให้พวกข้าฟังหน่อยได้หรือไม่”

หญิงชาวเมืองหันมองไปรอบๆ อย่างหวาดๆ ทว่าเด็กหนุ่มที่มาด้วยปราดเข้าไปกระซิบ “เพราะต้องท่านลอร์ดต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อสร้างปราสาทแข็งแรง แม่ข้า คนในเมืองต้องจ่ายภาษี ส่งส่วยจนอดๆ อยากๆ”

“ชู่ว! เจ้าอย่าพูดไป” หล่อนตบไหล่บุตรชายเบาๆ

“ก็ข้าพูดความจริง”

คาร์ลยิ้มบาง “ขอบใจที่เล่าให้ฟัง” เขาหันไปบอกกับหญิงชาวเมือง “ไปเอาเหยือกมาเถอะ ข้าจะให้เบียร์เจ้าหนึ่งเหยือก เอาไว้แบ่งกันในครอบครัว”

“จริงหรือ!” หล่อนเบิกตาโพลง

“อืม”

หญิงชาวเมืองวิ่งหายไปสักพักก็กลับมาพร้อมกับเหยือกดินเผา หล่อนกล่าวขอบอกขอบใจแล้วอวยพรให้ “ขอให้ขายได้เยอะๆ ไปที่โบสถ์เถิด เชื่อข้า”

หลังจากกรอกเบียร์ใส่เหยือกให้หล่อนแล้ว ขบวนรถม้าก็เคลื่อนออกจากบริเวณตลาดไปยังโบสถ์ที่ว่า แวบแรกที่เห็นรอบรั้วของโบสถ์คาร์ลก็รับรู้ได้ทันทีว่าบาทหลวงในโบสถ์แห่งนี้ต้องสนิทชิดเชื้อกับบาร์ดอฟมากแน่ๆ เพราะนอกจากจะมีรั้วที่หรูหรา ยังมีดวงตราของบาร์ดอฟสลักไว้บนรั้วด้วย

คอนราดกับนายทหารอีกสองนายรับหน้าที่ลงไปติดต่อบาทหลวงในโบสถ์ เพราะพวกเขารู้จักการวางตัวแบบชาวบ้านทั่วไปมากที่สุด จะได้ไม่เป็นที่ต้องสงสัย

ใช้เวลาเพียงไม่นาน บิชอปซึ่งมีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในโบสถ์ก็เดินดุ่มๆ ตรงมาที่รถ แล้วพูดเสียงดังอย่างผู้มีอำนาจ “ข้าซื้อเบียร์ทั้งหมดเลย เอาสองถังไว้ที่นี่ อีกสองถังจงเอาเข้าไปส่งในปราสาทให้ด้วย บอกว่าเป็นของกำนัลจากข้า”


*~TBC~*


อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือเนาะ งานนี้หนูลูคัสจะได้เห็นกำแพงที่จะต้องจัดการอย่างที่ตั้งใจมั้ยเนี่ย โปรดติดตามมมม /รัวกลองเป็น BG มิวสิค

ตอนนี้กับตอนหน้าเป็นตอนที่แก้ไข รื้อเขียนใหม่เยอะมาก แทบจะทั้งตอนเลยค่ะ เหนื่อยโพดๆ 55555

แล้วพบกันต่อตอนหน้าเด้อค่ะเด้อ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-04-2017 19:30:08
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-04-2017 19:44:45
น่าสงสารชาวเมืองจัง

มีผู้ปกครองที่ไม่ดีก็เป็นแบบนี้แหละ

เห็นแล้วก็อยากให้รีบๆจัดการกับ

ตาแก่เจ้าเล่ย์เร็วๆเหลือเกิน

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-04-2017 19:45:11
หึหึ คนดีต้องมีลู่ทาง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 07-04-2017 19:47:11
จะได้เห็นกำแพงมั้ยยย ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนหนังแนวโจรกรรม 555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 07-04-2017 19:54:55
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 07-04-2017 20:23:27


ชาวเมืองน่าสงสาร

รอต่อขอรับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 07-04-2017 20:29:49
ทำไมต้องรู้สึกตื่นเต้นมากขนาดนี้ลุ้นตามเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 07-04-2017 20:30:28
จะเล่นบทพ่อค้าหรือจะตัวจริง ท่านหลอดก็เป็นคนเห่อเมียค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 07-04-2017 20:34:53
แทบกลั้นใจอ่านลุ้นมากกลัวเจ้านูลูคัสทำอะไรเสี่ยงๆอีก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-04-2017 20:42:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-04-2017 20:44:26
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-04-2017 20:45:06
โอ้โห บาทหลวงท่าจะรวย
แบบนี้เข้าทางเลย ขอให้น้องลูทำได้นะ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 07-04-2017 20:52:37
สงสารชาวเมือง
ขอให้ลูคัสเห็นกำแพง 3 ชั้นนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 07-04-2017 20:55:13
บาทหลวงรวยมาจากไหนน๊าาาาา ทั้งๆที่ชาวเมืองยากจนขนาดนั้น -0-
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 07-04-2017 20:58:59
จะได้เข้าปราสาทวังแล้ววว อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเล้ยยยย

ท่านคาร์ลเล่นได้ดีจริงๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 07-04-2017 21:12:26
แหม.. ขนาดคนอยู่เยอะกอดกันไม่เกรงใจเลยนะ
จนคอนราดออไม่ได้ที่จะอิจฉา อิอิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 07-04-2017 21:14:02
สงสารชาวบ้านตาดำๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 07-04-2017 21:40:45
จะได้เข้าไปในปราสาทแล้วววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 07-04-2017 21:44:32
พ่อค้าเพิ่งแต่งเมีย ออดอ้อนกันซะเบียร์กลายเป็นน้ำเขื่อมเลยมั้ย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 07-04-2017 21:46:19
กลัวลูคัสโดนจับได้จริงๆเลย หวังว่าลูกับท่านลอร์ดจะหากำแพงสามชั้นได้เร็วๆ
กำจัดตาเฒ่าเจ้าเล่ห์จะได้ช่วยชาวเมืองด้วย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-04-2017 21:46:50
 :3123: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 07-04-2017 22:46:49
มาแล้ว..... :mew2: :mew2:
ชาวเมืองน่าสงสารมากเลยอ่พ  :mew6: :mew6: แต่พอรู้สาเหตุแห่งความยากจนแล้วนี่มัน.... :katai1: :katai1: ....เกลียดบาร์ดอฟอ่ะ เรียกเก็บภาษีและส่วยจำนวนมากเพื่อมาสร้างกำแพงขนาดใหญ่ ไอคนเห็นแก่ตัว!!! :m31: :m31: แต่พี่ลูโชคดีสินะ บาทหลวงของโบสถ์นี้เดินมาให้โชคสุดๆจริงๆ :hao7: :hao7: ให้ 2 ถังไว้ที่โบสถ์และ อีก 2 ถังเอาไปส่งเข้าปราสาท!!!! :hao7: :hao7: ดี้ด้าๆๆๆ แผนผังเมืองและปราสาทโรเซนไฮม์ใกล้เสร็จสมบูรณ์แว้วววววว :really2: :really2: รอตอนต่อไปม่ายหวายแย้วววววววว :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 07-04-2017 22:47:12
แหม.. ท่านหลอดนี่ก็นะ แสดงบทปั๋วต่อหน้าสาธารณะชนอย่างแนบเนียนเชียว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: lilowria ที่ 08-04-2017 00:38:55
ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 08-04-2017 01:48:04
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:สนุกสุดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 08-04-2017 02:05:02
ขนาดมาพร้อมกับความเสี่ยงก็ยังมีเวลาให้หวานนะ

ลูคัสเซี้ยวมากค่ะ และโชคดีมากที่ผู้หญิงคนนั้นมาทัก ไม่งั้นก็คงได้อยู่แค่ตลาด
ท่านคาร์ลเนียนมากค่ะ เมียข้า

คอนราดอิจฉาหรอ 5555 เออร์วินก็ไม่อะไรแล้วน้า

เข้าทางแล้วค่ะ ขอให้ฉลุย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-04-2017 02:39:00
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-04-2017 03:16:47
จะโดนจับได้ไหมหนอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 08-04-2017 07:53:02
อ้าวว โชคดีจะได้เข้าปราสาทเฉยเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 08-04-2017 11:03:50
ท่านคาร์ลเล่นบทคนเพิ่งแต่งเมียได้เนียนมาก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 08-04-2017 14:34:40
โชคเข้าข้างแล้ว อิอิ ได้เข้าไปในปราสาท
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 08-04-2017 21:29:42
ปราสาทมีกำแพงสามชั้นเป็นแค่ข่าวลือป่าวน๊าาาาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 08-04-2017 21:40:37
สนุกมากๆเลย

รอตอนต่อไปนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-04-2017 17:48:18
น่าสงสารชาวเมืองจัง มีผู้นำเลวๆแบบนี้
งานนี้หนูลูจะทำสำเร็จไหมนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: THANZ ที่ 09-04-2017 22:37:12
โอมจงมา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 10-04-2017 08:53:54
เพิ่งเข้าเป็นแฟนคลับลูคัสค่า เด็กอัลไลน่าหยิก !!!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 10-04-2017 10:52:11
มาแล้วววว ท่านลอร์ดกับลูคัสจอมซน นึกว่าจะไม่ได้อะไรกลับไปซะแล้ว ได้เข้าไปในประสาทด้วย เย่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 10-04-2017 20:36:05
สงสารผู้คนในเมืองนี้ ที่มีผู้นำเลวๆแบบบาร์ดอฟปกครอง :m16:
ขอให้ไม่โดนจับได้ ขอให้ไม่มีอะไรผิดพลาด เจ้าหนูลูเก่งอยู่แล้ว เราเชื่อใจเจ้าหนู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-04-2017 12:08:20
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากเลย เนื้อเรื่องน่าติดตาม หนูลูเก่ง ฉลาด น่ารัก ท่านคาร์ลขี้หึง ขี้หวง ขี้หื่น

รอตอนต่อไปจะได้เข้าไปดูในปราสาทแล้ว :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 28 : ลาดเลา][070417]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 17-04-2017 18:26:28


Chapter 29 : ความสูญเสีย


“เข้าไปในปราสาทหรือ” ทั้งคันรถอ้าปากค้าง ไม่นึกว่าโอกาสจะมาถึงแบบไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้

คอนราดรีบถามซ้ำ “พวกข้าจะเข้าไปได้หรือท่าน”

“เอ๊า ได้ซิ เดี๋ยวถือจดหมายของข้าไป เอาไปให้หัวหน้าทหารที่ชื่อฮาเกน ไปตอนเย็นหน่อยนะ คืนนี้ทหารในหน่วยของเขาเข้าเวร จะได้มีดื่มกัน”

“หัวหน้าทหารชื่อฮาเกนนะขอรับ”

“ใช่ เขาเป็นคนใกล้ชิดท่านบาร์ดอฟมากที่สุด”

“แล้วพวกข้าจะไปถูกหรือขอรับ”

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะมีทหารมาพาเข้าไป แต่รอให้ตะวันตกดินเสียก่อนจึงจะเป็นเวลาอยู่เวรของพวกเขา”

คอนราดค้อมศีรษะลงต่ำ “ขอรับ ขอบคุณท่านบิชอปมากขอรับ”

บิชอปยิ้มกว้างรับ “ปีหน้าถ้าพวกเจ้านำเบียร์มาขาย ก็อย่าลืมมาหาข้า แต่ไม่ต้องถามหาบิชอป เพราะตอนนั้นข้าคงเป็นคาร์ดินัลเรียบร้อย”

โอ้โห... จะเป็นคาร์ดินัลไม่ต้องปรึกษาพระสันตะปาปาก่อนเรอะ

องครักษ์หนุ่มนึกหมั่นไส้อยู่ในใจ หากก็ค้อมศีรษะไว้จนกระทั่งบิชอปเดินกลับเข้าโบสถ์ไป สักพักก็มีบาทหลวงนำจดหมายประทับตรามาส่งให้

“เอาจดหมายให้ทหารที่ป้อมดู แล้วเขาจะพาเข้าไปเอง”

ยังมีเวลาอีกสักพักก่อนตะวันจะตกดิน ลอร์ดหนุ่มจึงใช้เวลาที่มีอยู่นั้นเพื่อวางแผนให้รอบคอบมากที่สุด

“ยาที่ท่านคาร์ลให้นำติดมา เมื่อผสมกับเบียร์แล้วจะทำให้หลับไปได้เพียงระยะหนึ่งเท่านั้น หมอยาท่านว่าครึ่งหนึ่งของครึ่งคืนขอรับ”

ลอร์ดหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก “เวลาเท่านี้ก็น่าจะพอให้ดูลาดเลาภายในกำแพงปราสาทได้ อย่างน้อยก็น่าจะได้เห็นกำแพงสามชั้นที่ว่า เราจะใช้รถม้าคันเดียวเข้าไปข้างใน เมื่อส่งเบียร์เสร็จแล้วก็ให้ตามทหารออกไป ข้าจะอยู่ในนั้นกับลูคัส เออร์วิน คอนราดและพวกเจ้าสองคน”

“พวกเจ้าอีกสองคน หลังนำรถม้าออกมาจากปราสาทก็เอารถม้าออกจากเมืองไปเสีย จะได้ไม่เป็นที่น่าสงสัย ส่วนพวกเจ้าที่เหลือไปจัดการขอซื้อเรือชาวบ้านมาสองลำ เอาเรือไปรอรับพวกข้าที่ป้อมทิศใต้ แล้วหาเชือกที่แข็งแรงที่สุดมาไว้ด้วย”

“ขอรับท่านลอร์ด”

“ลูคัส เจ้าต้องอยู่กับข้าตลอด แล้วก็ต้องระวังให้มากที่สุด เราพลาดไม่ได้เด็ดขาด เข้าใจไหม”

เด็กหนุ่มตอบรับอย่างแข็งขัน “ครับ!” เขาก็หวั่นๆ ใจอยู่เหมือนกันนะ แต่อยากเห็นกำแพงสามชั้นที่ว่านั่นเช่นกัน

ดวงตะวันคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ ไม่นานก็ลาลับปลายฟ้าไป เมื่อท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว รถม้าจึงเคลื่อนตัวออกไปช้าๆ โดยมีนายทหารสองนายเป็นคนบังคับ ส่วนคาร์ล ลูคัส องครักษ์ทั้งสองและทหารอีกสองนายหลบซ่อนอยู่ด้านหลังรถม้า พวกเขาคอยแอบดูจากช่องว่างของผ้าคลุม อดใจรอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยหัวใจตุ้มต่อม ส่วนรถม้าอีกคันหนึ่งจอดรออยู่ในเมือง ส่วนทหารที่เหลือก็ไปจัดการติดต่อขอซื้อเรือจากชาวบ้าน แล้วปักหลักรอเวลาอยู่ที่ท่าน้ำ

รถม้าเคลื่อนไปบนทางเดิน ผ่านป่าที่อยู่ระหว่างเมืองกับปราสาท ก่อนจะไปหยุดที่หน้าป้อมเบื้องหน้าสะพานชักเพื่อส่งจดหมาย พอพวกทหารเห็นดวงตราบนจดหมาย พวกเขาก็สั่งให้ลดสะพานลงทันที จากนั้นทหารนายหนึ่งก็ขี่ม้านำเข้าไปช้าๆ

สะพานชักทำจากไม้ แต่ดูแข็งแรงทนทานไม่ใช่น้อย เมื่อรถม้าเคลื่อนผ่านไปได้ก็พบกับประตูลูกกรงเหล็ก มันถูกชักขึ้นช้าๆ ก่อนนายทหารจะขี่ม้านำรถม้าเคลื่อนผ่านเข้าไปต่อ

ลูคัสจับจ้องทุกขั้นตอนไว้เขม็ง หลังจากผ่านกำแพงปราสาทเข้ามา ก็พบกับลานโล่งกว้าง ซึ่งเมื่อรถม้าวิ่งต่อไปอีกสักพักก็หยุด

นายทหารที่นำเข้ามาหันกลับมาสั่ง “พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าจะไปตามท่านฮาเกน”

หลังจากนายทหารคล้อยหลังไป ทหารสองนายของแบร์กไฮม์ก็จัดการตรวจดูลาดเลา ก่อนจะส่งสัญญาณบอกกับคนบนหลังรถ พวกเขาทยอยออกมาจากที่ซ่อนช้าๆ แล้วตรงไปหลบกันที่มุมมืดไม่ไกลจากจุดที่รถม้าจอดอยู่

สักพักนายทหารคนเดิมก็กลับมาพร้อมกับทหารพวกเดียวกันอีกสี่คน ดูเหมือนว่านายใหญ่จะไม่ได้มาด้วย พวกเขามาขนเบียร์สองถังนั่นกลับเข้าห้องครัวไป จากนั้นนายทหารก็ขี่ม้านำรถม้ากลับออกประตูไป

จากจุดที่ซ่อนอยู่พวกเขาสามารถมองเห็นความเป็นไปภายในกำแพงปราสาทได้ และในที่สุดลูคัสก็ได้เห็นกำแพงสามชั้นที่เลื่องลือนั่น

กำแพงสองชั้นสร้างขนานกัน โดยที่กำแพงชั้นที่สองอยู่ต่ำกว่าเล็กน้อย เหนือกำแพงชั้นที่สองขึ้นไปเป็นเพิงไม้ยาวตลอดแนว ให้ทหารสามารถเดินตรวจตราบนกำแพงและเดินไปมาระหว่างป้อมได้ นอกจากนั้นก็ยังสามารถซุ่มจู่โจมศัตรูที่เข้ามารุกรานปราสาทผ่านช่องแคบๆ สำหรับยิงธนู ที่เห็นได้ชัดก็เพราะมีคบเพลิงจุดไว้ตลอดแนว
 
ลูคัสคิดว่ากำแพงชั้นที่สามคือกำแพงที่เชื่อมต่อกับปราสาทชั้นใน เพราะเห็นว่ามีห้องครัวและหอคอย เท่าที่เห็นก็คล้ายคลึงกับแผนผังโครงสร้างที่เขาเคยวาดไว้มากเลยทีเดียว

เสียงฝีเท้าทหารเดินไปเดินมาอยู่ตลอด พวกเขานำเบียร์ไปส่งต่อให้ทหารตามป้อมกำแพงด้วย ลอร์ดหนุ่มและพวกพ้องจึงได้แต่รอเวลาอยู่เงียบๆ

ไม่นานก็เห็นว่าพวกทหารบนเพิงไม้เหนือกำแพงยืนโงนเงน บางคนทิ้งตัวลงนั่ง บางคนก็ยืนหลับพิงกำแพง พอเห็นว่ายานอนหลับออกฤทธิ์แล้ว ลอร์ดหนุ่มจึงขยับออกจากที่ซ่อน

“ไปทางนี้ ตรงไปจะเจอลานปราสาทชั้นใน ผมขอดูให้มั่นใจสักหน่อย” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับรีบรุดออกไป

“ลูคัส!” ยังไม่ทันไรก็ขัดคำสั่งเขาเสียแล้ว คาร์ลรีบคว้าแขนเรียวไว้ ทว่าไม่ทัน เขาจึงต้องสาวเท้าตามอีกฝ่ายไป

ลูคัสหันมองซ้ายขวาขณะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปด้วย “ห้องครัวอยู่ทางซ้าย ห้องเก็บของอยู่ทางขวา ข้างหน้านั่นต้องเป็นลานปราสาทแน่”

เมื่อสุดทางเดินเด็กหนุ่มจึงยอมหยุดได้ เบื้องหน้าของเขาเป็นลานปราสาทชั้นใน

“ลูคัส! เจ้านี่นะ!” คาร์ลโอบเอวเด็กดื้อไว้แล้วดึงเข้ามาแนบกาย

“ท่านคาร์ล ดูสิ” ลูคัสชี้ไปยังตึกใหญ่ “นั่นไง ปราสาทชั้นใน บาร์ดอฟต้องอยู่ในตึกนั้นแน่ ข้างหลังนั่นที่มีไฟเล็กๆ คือหอกลาง ข้างล่างคือคุก บ้านพักทหารกับพวกช่างทั้งหลายคงอยู่ทางด้านนู้น อีกฝั่งของปราสาทชั้นใน”

“พอแล้ว! เรามีเวลาไม่มากนะ ถ้าพวกทหารตื่นขึ้นมาล่ะก็ยุ่งแน่ รีบหาทางออกก่อน!” ลอร์ดหนุ่มพูดเสียงดุ

ได้เห็นเท่านี้เขาก็พอใจแล้ว ลูคัสจึงยอมให้คาร์ลพาตัวกลับทางเดิมไปได้ เมื่อไปถึงทหารของแบร์กไฮม์สองคนที่คอยระวังทางอยู่ก็เดินนำไปยังป้อมริมแม่น้ำตามที่นัดกันไว้ พวกเขาต้องคอยหลบในเงามืดเป็นระยะๆ เพราะไม่แน่ใจว่าทหารในบริเวณนั้นหลับไปทุกคนหรือไม่

พอไปถึงป้อมทิศใต้ได้ นายทหารสองคนก็เดินนำขึ้นไป ส่วนเออร์วินและคอนราดอยู่รั้งท้ายคอยระวังหลัง พวกเขาวิ่งขึ้นบันไดวนไปอย่างรวดเร็ว แม้จะเหนื่อยจนหอบก็ยังไม่หยุดวิ่ง จนกระทั่งขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ทุกอย่างดูจะราบรื่นดี จนกระทั่ง...

ทหารที่เฝ้ายามบนป้อมนั้นไม่ได้ดื่มเบียร์เข้าไป เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจึงชะโงกหน้ามองลงไปดูที่บันได

“ใครน่ะ!”

ลอร์ดหนุ่มชักดาบออกจากฝัก แขนแกร่งตวัดโอบเด็กหนุ่มไปทางด้านหลัง

“พวกข้าจัดการเองขอรับ!” นายทหารสองนายยกธนูขึ้นเล็งแล้วยิงออกไปทันที

เสียงร้องโอดโอยของทหารที่อยู่ข้างบนดังแว่ว ดูเหมือนลูกธนูจะเข้าเป้าพอดิบพอดี หากยังมีเสียงอื้ออึงจากทหารคนอื่นๆ อยู่

“บนป้อมจะมีทหารกี่คนกันนะ”

“แย่แล้วขอรับ เสียงฝีเท้าจากด้านล่าง! พวกมันรู้ตัวแล้ว!”

ทหารสองนายที่นำหน้าอยู่ชักดาบออกแล้ววิ่งนำขึ้นไป เสียงโลหะกระทบกันดังแว่ว เออร์วินจึงก้าวออกมานำลอร์ดหนุ่มและลูคัสแทน เหลือให้คอนราดระวังหลังคนเดียว

ลูคัสหันรีหันขวาง หัวใจเต้นสั่นรัว กลัวจับใจจนมือเย็นเฉียบ แต่เขาทำอะไรไม่ได้เลย ช่วยอะไรใครก็ไม่ได้

“ออกมาได้แล้วขอรับ”

ทหารบนป้อมมีอยู่ห้าคน บัดนี้กลายเป็นศพนอนเกลื่อน เลือดสีแดงฉานหลั่งไหลนองพื้น

เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว “อา...”

เออร์วินรีบเดินไปที่หน้าต่าง เขาหยิบคบเพลิงมา พร้อมกับชะโงกหน้ามองลงไป แล้วเหวี่ยงคบเพลิงในมือเป็นสัญญาณ จากนั้นก็ถอยกลับไปยืนหลบข้างหน้าต่าง ไม่นานลูกธนูก็ถูกยิงขึ้นมาพร้อมกับเชือกเส้นโต

องครักษ์หนุ่มคว้าเชือกไว้แล้วโยนให้นายทหาร “มัดไว้กับลูกกรงนั่น เร็วเข้า”

เชือกถูกยิงส่งขึ้นมาสี่เส้น เพื่อที่จะได้ปีนลงกันได้โดยเร็ว เออร์วินรีบหันไปบอกผู้เป็นนาย “ท่านคาร์ล ลูคัส รีบลงไปก่อนเร็ว”

“ไปก่อน ลูคัส” คาร์ลผลักไหล่เด็กหนุ่มออกไป เขาชักดาบยาวออก เพื่อช่วยคอนราดและพวกทหารระวังหลัง

ลูคัสรีบก้าวเท้าออกไป หากจู่ๆ นายทหารที่มาด้วยกันก็ถลาเข้ามาโอบกอดเขาไว้ “อะ!” พอหันกลับไปมองก็เบิกตาโพลง อ้าปากค้าง “กุนเทอร์!”

บนแผ่นหลังนายทหารมีลูกธนูปักคาอยู่ เมื่อมองออกไปก็เห็นว่าทหารจากบนเพิงไม้เหนือกำแพงใกล้ๆ กันเป็นคนยิงมา

สองแขนเรียวประคองนายทหารของแบร์กไฮม์ไว้ “กุนเทอร์ อดทนนะ เดี๋ยวลงไปแล้วค่อยหาวิธีทำแผล”

นายทหารยิ้มบางพลางส่ายหน้าไปมา “ท่านลูคัส ข้าเสียใจ... ข้าคงปกป้องท่านได้... เท่านี้”

“ไม่! ไม่นะ! เรามาด้วยกัน ต้องกลับด้วยกันสิ! ลูกของนายรออยู่นะ!”

ลอร์ดหนุ่มตะโกนเรียก “ลูคัส! เจ้าทำอะไรอยู่! รีบลงไปเร็ว!”

“ท่านคาร์ล! ช่วยกุนเทอร์ที”

คาร์ลรีบวิ่งเข้ามาดูอาการ เขาช่วยเด็กหนุ่มพยุงนายทหารไว้ “กุนเทอร์”

“ท่านคาร์ล ท่านลูคัส ข้าเสียใจ... ฝาก... ดูแล...”

“ไม่ต้องห่วง ข้าขอบใจเจ้ามากที่ช่วยลูคัส ข้าจะดูแลครอบครัวเจ้าให้ดี ข้าสัญญา”

กุนเทอร์พยักหน้า ก่อนจะทรุดตัวลงแน่นิ่ง ขณะที่เลือดหลั่งไหลออกมาจากรอยแผลมากมาย

เด็กหนุ่มตกใจจนแทบสิ้นสติ เขาไม่เคยต้องการให้ใครต้องเอาชีวิตเข้ามาเสี่ยงเพื่อตัวเองเลย “กุนเทอร์!”

“พวกทหารขึ้นมาถึงแล้ว!” คอนราดตะโกนบอก

“ลูคัสรีบลงไปเร็ว” คาร์ลหันไปบอกกับเด็กหนุ่ม

ทหารจากด้านล่างกรูกันขึ้นมาแล้ว หากสำหรับคาร์ล คอนราด เออร์วินและนายทหารอีกคนที่เหลือไม่ใช่เรื่องยากที่จะรับมือ เสียงปลายดาบกระทบกันดังก้องบริเวณนั้นไปทั่ว

“อา...” ลูคัสยืนนิ่งค้างอยู่ชั่วครู่ ทั้งตกใจและเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก หากพอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งไปที่หน้าต่าง

ลูกธนูจากเพิงไม้พุ่งตรงเข้ามาอีก ครั้งนี้เออร์วินสังเกตเห็น เขาจึงรีบถลาเข้าไปดึงตัวเด็กหนุ่มหลบ ลูกธนูจึงปักเข้าที่ตรงท่อนแขนเขาแทน “ลูคัส! ทำไมเจ้าวิ่งไม่มองอะไรเลย!”

เออร์วินกัดฟันดึงธนูออก เขาก้มลงหยิบธนูของศัตรูจากศพที่นอนอยู่ขึ้นเล็ง จัดการกับพวกทหารสามสี่นายบนเพิงไม้ได้ในชั่วพริบตา “เอาล่ะ รีบไปเร็ว!” หากเพราะมัวแต่ระวังให้ลูคัส เขาจึงไม่ทันมองศัตรูที่ถือดาบพุ่งตรงเข้ามาจากทางด้านหลัง

“ไม่! เออร์วิน!” เด็กหนุ่มก้มลงคว้าดาบศัตรูที่หล่นอยู่แล้วนั้น เขาถลาเข้าไปกอดเออร์วินไว้พร้อมกับหลับหูหลับตาใช้ดาบแทงไปตรงหน้า ปลายดาบพุ่งตรงเข้าตรงส่วนท้องของศัตรูพอดี ทำให้มันชะงัก ทรุดตัวลงนั่งเอามือกุมบาดแผลพลางร้องโอดโอย

“ลูคัส...” เออร์วินอ้าปากค้าง

ดวงตาสีเข้มปริ่มน้ำตา “เออร์วินจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ เราต้องกลับแบร์กไฮม์ด้วยกันทั้งหมด”

“ไม่ต้องห่วง” เออร์วินหยิบดาบจากในมือเด็กหนุ่ม เขาหันกลับไปปลิดชีพศัตรูก่อนที่มันจะลุกขึ้นมาได้อีก

“รีบไปเร็ว ก่อนทหารจะขึ้นมาอีก!” คอนราดตะโกนลั่น

คาร์ลก้าวเข้ามาคว้าตัวเด็กหนุ่ม “เจ้าจับเชือกให้แน่น” จากนั้นก็อุ้มขึ้นไปยังขอบหน้าต่าง “เร็ว!”

ลูคัสพยักหน้า เขาพยายามไต่ลงไปตามแนวกำแพงโดยเร็วที่สุด

สี่คนที่เหลือทยอยตามกันลงมา พวกเขาเห็นเรือที่มารออยู่ใกล้ๆ แล้ว

ทว่าจู่ๆ เชือกของเด็กหนุ่มก็สั่นคลอนแล้วยังเหวี่ยงไปมา เขาจึงเงยหน้าขึ้นมองไปข้างบน “ท่านคาร์ล! พวกมันกำลังตัดเชือก!”

“กระโดดลงเรือไปเลย เร็วเข้า” คาร์ลตะโกนบอก

“ผมมองไม่เห็นเรือ!”

“กระโดดลงมาเลยขอรับ เร็ว!”

ลูคัสตั้งท่าเตรียมกระโดด หากสายเกินไป เชือกของเขาขาดผึง... “ท่านคาร์ล!”

“ลูคัส!” คาร์ลกระโดดกอดเด็กหนุ่มไว้ ก่อนทั้งสองจะร่วงหล่นลงสู่ผืนน้ำเย็นยะเยือกเบื้องล่างไปด้วยกัน

สามคนที่เหลือกระโดดลงเรือ พวกเขารีบคว้าเชือกที่เหลืออยู่เหวี่ยงลงน้ำตรงจุดที่ทั้งสองคนตกลงไป

น้ำที่เย็นเฉียบทำให้รู้สึกราวกับมีเข็มนับพันรุมทิ่มแทง ร่างกายชาจนขยับไม่ได้ เขามองอะไรไม่เห็น หัวใจราวกับหยุดเต้นไปชั่วครู่

“ท่านคาร์ล! จับเชือกไว้ขอรับ!”

คาร์ลโอบกอดเด็กหนุ่มไว้ เขาควานหาเชือกด้วยแขนอีกข้างที่เหลือ แม้จะหนาวจนแทบขาดใจ หากไม่ว่าอย่างไรก็ต้องปกป้องดวงใจของเขาไว้ให้จงได้ ลอร์ดหนุ่มใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพาตัวเด็กหนุ่มเข้าไปยังลำเรือ เมื่อพวกทหารเห็นตัวพวกเขาก็ฉุดขึ้นบนลำเรือได้ในที่สุด

“ถอดเสื้อผ้าออกเร็วเข้า!”

คอนราดและทหารช่วยกันถอดเสื้อผ้าคาร์ลและลูคัสออก ลอร์ดหนุ่มกอดร่างที่เย็นราวกับน้ำแข็งของคนรักไว้แล้วเอาผ้าหนาคลุมพวกเขาเอาไว้ด้วยกัน

“รีบไปเร็ว”

เสียงทหารดังจากด้านบนกำแพงโหวกเหวก หากไม่อาจมองเห็นเรือลำเล็กที่อยู่ด้านล่างได้ สักพักพวกเขาก็เงียบไป

เรือลำเล็กสองลำจ้วงฝีพายอย่างเร่งรีบ ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวไปอย่างไม่ง่ายนัก สายลมพัดพาความหนาวเย็นมาตลอดเวลา

ร่างกายของลูคัสสั่นเทา ริมฝีปากซีดไร้สีเลือด เขาพยายามฝืนลืมตาไว้ พลางยกมือที่เย็นเฉียบขึ้นสัมผัสใบหน้าลอร์ดหนุ่ม “คาร์ล”

เจ้าของชื่อเรียกกระชับอ้อมแขนแน่น แล้วเอียงใบหน้าซบลงบนฝ่ามือของเด็กหนุ่ม “ข้าอยู่นี่”

“ขอบคุณที่ไม่ทิ้งผม”

คาร์ลยิ้มบาง “ข้าจะทิ้งเจ้าได้อย่างไร หนาวมากไหม”

ลูคัสพยักหน้า “หนาวครับ... แล้ว เออร์วิน...”

องครักษ์หนุ่มที่พายเรืออยู่รีบชะโงกหน้าเข้ามาตอบ “ข้าอยู่นี่”

เด็กหนุ่มหันไปทางคนตอบช้าๆ “ดีแล้วที่ไม่เป็นไร... คอนราดล่ะ”

“คอนราดก็อยู่บนเรือนี่แล้ว”

“ทุกคนล่ะ” หยดน้ำตาร่วงหล่นลงมาจากนัยน์ตาสีเข้ม เขาสะอึกสะอื้นไห้ “กุนเทอร์... ผมขอโทษ...”

“ท่านคาร์ล ดูท่าท่านลูคัสน่าจะเพ้อแล้วขอรับ”

คาร์ลพยักหน้า ใจเขาร้อนรนเหลือเกินแล้ว “รีบพายเรือเร็วเข้า ต้องพาลูคัสไปที่อุ่นๆ ก่อน”

เมื่อเข้าใกล้ฝั่งพวกทหารก็พายเรือเลียบฝั่งไปเรื่อยๆ จนถึงจุดที่หยุดพักและจอดรถม้าขนเสบียงทิ้งไว้เมื่อคืน

คอนราดรีบพาผู้เป็นนายและลูคัสขึ้นฝั่ง เร่งนำเสื้อผ้าอุ่นๆ มาสวมให้ สั่งทหารให้เร่งใส่ฟืนในกองไฟจนลุกโชน จากนั้นจึงไปช่วยประคองเออร์วินมานั่งลงหน้ากองไฟด้วยกัน

คอนราดใช้มีดตัดแขนเสื้อของเออร์วินออก “ทำแผลก่อน ดูท่าเจ้าจะเลือดออกไม่น้อย”

“เลือดหยุดแล้วล่ะ เจ้าไปดูลูคัสกับท่านคาร์ลก่อนเถอะ”

“ไม่เป็นไร รีบทำแผลให้เออร์วินเถอะ” คาร์ลตอบ เขาโอบกอดเด็กหนุ่มซึ่งเวลานี้สลบไสลไม่ได้สติไว้แนบกาย

โชคดีที่บาดแผลของเออร์วินไม่ลึกมากและเริ่มประสานกันบ้างแล้ว คอนราดใช้เบียร์ราดลงบนบาดแผล ซึ่งทำให้อีกฝ่ายเจ็บจนต้องกัดฟันกรอด

“ฮื่อ...”

“เจ็บก็ร้องออกมาบ้างก็ได้”

“รีบๆ ทำให้เสร็จเถอะน่ะ”

“ขอรับๆ” คอนราดค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดแล้วพันแผลให้แน่น

นายทหารนำเบียร์มาส่งให้คาร์ลดื่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เขารีบดื่มแล้วป้อนให้เด็กหนุ่มทางปากอึกแล้วอึกเล่าจนหมดถ้วย นายหทารจึงรีบนำถ้วยใหม่มาส่งให้

“ท่านก็ดื่มบ้างเถอะขอรับ”

ลอร์ดหนุ่มป้อนเบียร์ให้ลูคัส สลับกับดื่มเองบ้าง จนกระทั่งตัวเด็กหนุ่มเริ่มอุ่นขึ้น

ลูคัสปรือตาขึ้น “....”

“อดทนก่อนนะ เราจะต้องรีบเดินทางกันต่อแล้ว”

“ครับ”

คาร์ลสั่งให้ทิ้งรถม้าสองคันที่นำออกมาจากในเมืองไว้ที่ในป่า พวกเขานำม้าทั้งหมดมาพ่วงไว้กับรถม้าสำหรับเสบียงคันเดียว จากนั้นจึงเร่งเดินทางกลับสู่แบร์กไฮม์

..

.....

..

ในยุคปัจจุบัน

บิดามารดาของครอบครัววินเซนต์เดินทางจากมิวนิคมาพักที่ไฮเดลแบร์กอยู่บ่อยๆ เพื่อติดตามการสืบสวนคดีของบุตรชายคนเล็กซึ่งหายตัวไปอย่างไรร่องรอย

ทางตำรวจและหน่วยฟอเรนซิกส์ของเยอรมนีทำงานกันอย่างเต็มกำลัง ค้นหาจนครบทุกซอกทุกมุมภายในปราสาทแล้ว หากก็ยังคงมืดแปดด้าน

ในกลางดึกของคืนหนึ่ง มารดาของเด็กหนุ่มฝันเห็นบุตรชายยืนอยู่ท่ามกลางซากปราสาทปรักพัง รอบๆ ตัวเขามีเพียงก้อนหินกับตอเสาใหญ่ๆ มากมาย ทว่าเมื่อหล่อนร้องเรียกและวิ่งเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าบุตรชายไม่ได้อยู่ที่นั่นตามลำพัง ข้างกายเขามีชายหนุ่มรูปร่างท่าทางสง่างาม ผมสีทองสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ดูจากการแต่งกายแล้วน่าจะเป็นคนสูงศักดิ์สมัยโบราณ ห่างออกไปเล็กน้อยมีชายหนุ่มในชุดทหารโบราณยืนอยู่ หล่อนถลาเข้าไปโดยไม่กลัวเกรง พลางตะโกนเรียกบุตรชายอีกครั้ง

“ลูคัส! ลูคัสลูกแม่!”

บิดาที่นอนหลับอยู่ข้างกันสะดุ้งตื่นขึ้น “มีอะไรรึ!”

“คุณคะ! ลูคัสไปที่ปราสาทนั่นค่ะ!”

“คุณพูดอะไรน่ะ ใจเย็นๆ ก่อน ปราสาทไหนกัน ปราสาทไฮเดลแบร์กน่ะรึ”

หล่อนลุกขึ้นนั่งนิ่ง ยกมือขึ้นประกบใบหน้าแล้วนึกย้อนไป เมื่อตอนบุตรชายเรียนปีหนึ่ง เขาเคยพูดถึงโพรเจ็กต์การวาดภาพโครงสร้างปราสาทจากปราสาทที่ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่ซากเท่านั้นให้ฟัง

“ลูคัส... เคยเล่าถึงปราสาท... ที่เขาทำโพรเจ็กต์ อยู่ที่ไหนนะคะ”

“โรเซนไฮม์หรือเปล่า”

“ใช่ๆ ที่นั่นมีซากปราสาท มีแม่น้ำล้อม ฉันฝันว่าลูกอยู่ที่นั่นกับใครก็ไม่รู้ค่ะ”

“เดี๋ยวก่อนนะคุณ ลูคัสหายไปที่ปราสาทไฮเดลแบร์ก ทำไมจู่ๆ ถึงจะไปโผล่ที่ปราสาทโรเซนไฮม์กันเล่า”

“นั่นสินะ” มารดาหลุบตาลงต่ำพลางทอดถอนใจ จากนั้นก็ยิ้มบาง “ตลอดเวลาฉันมีความรู้สึกว่าเขายังอยู่ที่ในไฮเดลแบร์กนี่ แต่ไม่รู้สิคะ... ทำไมฉันถึงฝันเห็นเขาในเมืองโรเซนไฮม์ได้”

บิดายกมือขึ้นกุมหัวไหล่ที่สั่นอยู่เล็กน้อยแล้วบีบเบาๆ “ถ้างั้นเอาไว้เราไปที่นั่นกันไหม ไปดูซากปราสาทแล้วก็แวะไปมิวเซียมสักหน่อย ชวนอเล็กซ์ไปด้วย”

“ก็ดีค่ะ”


*~TBC~*


วันนี้หยุดกันวันสุดท้ายของสงกรานต์แล้วชิม้อยยย ตักตวงความสุขกันให้เต็มที่เลยค่ะ /ได้ข่าวว่าจะหมดวันแย้ว :hao5:

ตอนนี้แอบเครียดนิดนุงนะคะ แต่น้องลูคัสก็ได้เห็นกำแพงแล้วล่ะ รีบหาวิธีทำลายให้ไวๆ นะหนูนะ ฮรือ~

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้นะคะ ปลื้มใจจจ  :mew1:

ปล. นิยายเรื่องนี้ฮัสกี้อ้างอิงจากยุคกลาง มีบางส่วนที่จกประวัติศาสตร์จริงมาใช้ในเรื่อง และมีบางส่วนที่แต่งเสริมขึ้นมาตามใจฮัสกี้เองนะคะ 555555

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-04-2017 18:41:08
น้ำตาซึมอีกแล้ววววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 17-04-2017 19:06:14
โอ้ยยย ลุ้นมากกก ถ้าทำได้นี่กระโดดเข้าไปในเรื่องแล้วช่วยสู้กับทหารแล้วเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 17-04-2017 19:12:01

แอบใจหายตอนเห็นชื่อตอน

ตอนนี้ก็ยังเศร้าอยู่

สู้ๆจ้าหนูลูคัส

มาต่อไวๆนะขอรับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-04-2017 19:18:24
 :katai2-1:      :3123: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 17-04-2017 19:36:22
ทำไมลูคัสถึงดื้อจนทำให้คนอื่นเดือดร้อนแบบนี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 17-04-2017 20:15:18
รู้ว่าคงไม่มีทางไม่สูญเสีย แต่ก็เสียใจอยู่ดี
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-04-2017 20:18:16
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-04-2017 20:24:35
เศร้าเลยยย ทั้งลุ้น ทั้งเศร้า คุณหญิงแม่จะมาตามแม่มณีลูคัสแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-04-2017 20:31:38
 :katai1: :katai1: :katai1:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-04-2017 20:35:38
 :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-04-2017 20:41:17
สงสารลูคัส รีบทำลายกำแพงเร็วนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 17-04-2017 20:49:24
สงสารกุนเทอร์
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 17-04-2017 21:18:56
เห็นชื่อตอนแล้ว ทำใจกับเนื้อหาข้างในลุ้นว่าจะต้องเสียใครไป สงส่รกุนเทอร์นะ ลูคัสต้องรู้สึกมากแน่ๆ
ฝั่งปัจจุบันก็น่าสงสารพ่อกับแม่ โอ๊ย มันจะยังไงกันละนี่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-04-2017 21:38:32
 :o12:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-04-2017 22:01:21
มาให้กำลังใจจ้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 17-04-2017 23:09:39
เศร้า+สงสารครอบครัวของกุนเทอร์  :o12:
และสงสารครอบครัวของลูคัสมากๆ คิดถึงน้องมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 17-04-2017 23:31:59
 :katai1: ลุ้นนน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 17-04-2017 23:44:56
 :L2:      :L2:      :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-04-2017 00:13:08
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 18-04-2017 11:04:21
เศร้าใจจัง สูญเสียคนใกล้ชิด แถมยังมาเจอเลือด เจอการต่อสู้แบบประชิด ลูคัสคงหลอนไปอีกสักพัก
เค้าถึงบอกเนาะ ในสงครามอย่าเห็นใจคนอื่น ไม่งั้นเราอาจจะไม่รอดเอง

ท่านลอร์ดคงไม่ปล่อยให้ห่างตัวอีกนาน

พ่อแม่ลูคัสน่าสงสาร ตามหาลูกให้วุ่นเลยค่ะ แม่ฝันแบบนี้ คือน้องจะได้กลับมาแล้วหรอ หรือแค่แวบๆ

ถ้าลูคัสถูกพากลับมาจริง คงเฮิร์ทกันถ้วนหน้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 18-04-2017 12:21:08
ในสงครามการสูญเสียเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เศร้า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 18-04-2017 13:27:14
เห็นชื่อตอนแล้วแบบ  :mew2:

ลูคัสจะได้เจอกับครอบครัวมั้ยน้ออ :hao4:

ลูคัสรีบๆหายนะ จะได้มาร่างกำแพงปราสาท สู้ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 18-04-2017 16:39:17
สงสารคุณพ่อกับคุณแม่ T^T สงสารกุนเทอร์ งื้ออออลูคัสต้องรู้สึกผิดแน่ๆเลยกับเรื่องของกุนเทอร์
ลุ้นมากกกกกก อยากอ่านต่อสุดๆค่ะ รอคุณฮัสกี้มาอัพๆๆ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 18-04-2017 22:57:30
ลูคัสคงต้องเศร้าๆไปสักระยะ :sad4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 23-04-2017 19:03:59
ทำใจแล้สแท้ๆ แต่ก็อดใจหายไม่ได้  :mew4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 25-04-2017 09:13:56
ตอนนี้เต็มไปด้วยความสงสาร :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: มะฮอกกานี ที่ 25-04-2017 17:11:11
 :m15:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-04-2017 17:57:15
สู้ๆนะลูคัส
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: Minnions ที่ 28-04-2017 21:14:17
ติดงอมแงมเลยจ้าาา :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 28-04-2017 22:31:05
รอๆ

มาให้กำลังใจ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 29-04-2017 19:59:40
ลูคัสคงช้อคคมสกกอะ
ท่านคาร์ลปลอบดีๆนะ
สงสารกุนเทอร์
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 29 : ความสูญเสีย][170417]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 03-05-2017 18:19:57


Chapter 30 : เทรบูเชต์


การเดินทางจากโรเซนไฮม์กลับมาถึงแบร์กไฮม์ใช้เวลาไม่ถึงสามวัน พวกเขาสามารถเดินทางได้เร็วกว่าเมื่อตอนขาไปมาก เพราะมีม้าหลายตัวสำหรับรถม้าที่มีน้ำหนักเบาเพียงแค่คันเดียว

เนื่องจากลูคัสมีไข้สูงจนนอนซม ทำให้ลอร์ดหนุ่มและทุกคนใจร้อน เร่งเดินทางจนแทบไม่ได้หยุดพักกันตลอดวันตลอดคืน

เมื่อเข้าใกล้เขตเมืองแบร์กไฮม์ กองทัพทหารก็มายืนรอต้อนรับอยู่แล้ว พวกเขาพาผู้ครองเมืองและเด็กหนุ่มกลับสู่ปราสาทอย่างรวดเร็ว

ข่าวที่ลูคัสไม่สบายแพร่กระจายไปราวกับไฟลามทุ่ง พอพวกชาวเมืองรู้เข้าก็รีบนำสมุนไพรเท่าที่จะหาได้มาส่งให้ที่ข้างหน้าปราสาท ความวิตกกังวลส่งผลให้เกิดโกหาหลไปทั่ว จนกระทั่งลอร์ดหนุ่มเจ้าของปราสาทต้องออกมาพบปะชาวเมืองด้วยตนเอง พวกเขาจึงเบาใจลง

“ขอบใจพวกเจ้าทุกคนมาก ตอนนี้หมอหลวงให้ยาและคอยดูแลลูคัสจนไข้ลดแล้ว อีกไม่นานเขาจะออกมาพบกับทุกคนเอง วันนี้กลับไปพักผ่อนกันก่อนเถิด”

ในระหว่างที่เด็กหนุ่มยังสลบไสล คาร์ลเรียกให้ครอบครัวของกุนเทอร์เข้ามาพบเพื่อแจ้งข่าวร้ายด้วยตนเอง ทุกคนในครอบครัวร่ำไห้เสียใจ หากก็ภูมิใจที่กุนเทอร์ได้ทำหน้าที่ของทหารเป็นอย่างดีจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต

ลอร์ดหนุ่มให้เงินทองจำนวนหนึ่งในกับครอบครัว แม้พวกเขาจะปฏิเสธเพราะถือว่าเป็นหน้าที่ เขาบอกกับบุตรชายของกุนเทอร์ว่า เมื่อโตขึ้นอีกสักหน่อยจะให้เข้ามาฝึกทหารที่ในปราสาท เพื่อเจริญรอยตามบิดา ซึ่งทำให้ครอบครัวดีใจยิ่งกว่าได้รับเงินทองเสียอีก

หลังจากนั้นอีกสามวัน ลูคัสอาการดีขึ้นมาก เขาลุกเดินไปเดินมาได้คล่องแล้ว คาร์ลจึงพาเด็กหนุ่มเข้าไปเยี่ยมชาวเมืองในเมือง เพื่อให้ทุกคนสบายใจ พวกเขาแวะไปเยี่ยมบ้านของมารี แล้วไปที่บ้านของกุนเทอร์ต่อ

เมื่อบุตรชายของกุนเทอร์ได้พบกับลูคัส เขาก็วิ่งเข้ามาทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้า เด็กหนุ่มจึงย่อตัวลงนั่งแล้วสวมกอด เป็นภาพที่ทำให้ทั้งครอบครัวอดน้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้มไม่ได้

“กุนเทอร์เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยชีวิตฉัน ฉันจะตอบแทนความดีของเขาให้เต็มกำลังที่ฉันมี ฉันจะช่วยท่านคาร์ลดูแลเมืองนี้ให้ดีที่สุด ฉันสัญญา” ลูคัสลูบศีรษะเด็กชายอย่างอ่อนโยน “เอาไว้โตขึ้นแล้วมาเป็นทหารให้ฉันนะ”

“ขอรับ”

“สัญญาแล้วนะ”

เด็กชายยิ้มกว้าง “สัญญาขอรับ”


คืนนั้น หลังกลับมาจากในเมือง เด็กหนุ่มก็ไปนั่งเก็บตัวเงียบอยู่ภายในห้องแผนที่ เขาหยิบแผนที่และแผนผังเมืองโรเซนไฮม์มาทบทวนดู ก่อนจะวาดผังปราสาทจากความทรงจำในการเดินทางที่ผ่านมาลงไปบนแผ่นกระดาษแล้วนำมาเปรียบเทียบกับของเก่าที่เคยวาดไว้ เพื่อให้ได้ผังที่สมบูรณ์ที่สุด จากนั้นจึงหยิบภาพวาดของเทรบูเชต์ อุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำลายกำแพงปราสาทขึ้นมาพิจารณาดู

กำแพงปราสาทในยุคก่อนจะมีการคิดค้นเทรบูเชต์ขึ้น เน้นที่การสร้างให้สูงตระหง่าน ดูน่าเกรงขาม ทำให้มองไม่เห็นตัวปราสาทที่อยู่ภายใน และข้าศึกปีนผ่านเข้าไปได้ยาก หากก็มีช่องโหว่ตรงที่... เมื่อกำแพงสูงมาก หากไม่ได้เพิ่มความหนาของกำแพงไปด้วย ความแข็งแรงทนทานก็ย่อมลดน้อยลง ซึ่งเขาได้เห็นมาด้วยตนเองแล้วว่ากำแพงปราสาทที่โด่งดังนี้ไม่ได้หนาเหมือนกำแพงปราสาทยุคหลังมีการสร้างเทรบูเชต์ เพียงแต่สร้างขนานกันไว้สองชั้นเท่านั้นเอง เมื่อทลายกำแพงชั้นนอกแล้วก็ไม่ได้ยากอะไรนักที่จะทำลายกำแพงชั้นที่สาม

หากเขาคิดว่าการจู่โจมด้วยเทรบูเชต์ นอกจากจะทำลายกำแพงได้แล้ว ยังจะทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลภายในจนตั้งตัวรับไม่ทันแน่นอน ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อการบุกโจมตีของเหล่าทหารไม่ใช่น้อย

ไม่มีเทรบูเชต์หลงเหลืออยู่มาถึงยุคปัจจุบัน ดังนั้นที่เด็กหนุ่มเคยเห็นในพิพิธภัณฑ์คือของจำลองขนาดย่อส่วนเท่านั้น การจะสร้างเทรบูเชต์ของจริงให้ทำงานได้คงจะไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ควรจะลองทำแบบจำลองดูก่อน ลูคัสจัดการวาดแบบอย่างละเอียด พอเสร็จแล้วเดินวนหาอุปกรณ์ที่พวกช่างวางกองไว้ในห้อง เมื่อได้ครบแล้วก็เริ่มลงมือทำทันที

เสียงฝีเท้าดังก้องจากทางด้านนอก หากเด็กหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจ เขาใจจดจ่ออยู่แต่กับชิ้นส่วนในมือ จนกระทั่งบานประตูห้องเปิดออก

“ลูคัส”

เสียงขรึมของลอร์ดหนุ่มเรียกให้เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้น “ท่านคาร์ล ประชุมเสร็จแล้วหรือ”

“เจ้ามานั่งทำอะไรอยู่ที่นี่ เพิ่งหายไข้แท้ๆ เดี๋ยวก็นอนซมอีกหรอก”

ลูคัสยิ้มบาง “ผมหายดีแล้ว อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ไวๆ”

คาร์ลยกมือขึ้นลูบศีรษะเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน “มีจดหมายมาจากอาเธอร์ เขาจะส่งกองทัพมาสมทบ และอีกไม่นานไฮน์ริชกับยาคอปก็คงจะพากองทัพมาถึงที่นี่แล้ว สงครามใกล้เข้ามาทุกที ไม่ว่าอย่างไรเราก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่”

“เมื่อถึงเวลาที่จะยกทัพไปโรเซนไฮม์ ขอผมไปด้วยนะ”

คาร์ลถอนหายใจ หากก็คิดว่าคงห้ามเด็กหนุ่มไม่ได้ “แต่เจ้าต้องสัญญาว่าจะเชื่อฟังคำสั่งของข้า”

“สัญญาครับ” ลูคัสรีบรับปาก มือเรียวหยิบเลื่อยมาเลื่อยท่อนไม้ตามแบบที่วาดไว้ พอเลื่อยเสร็จก็เงยหน้าขึ้นสบสายตากับนัยน์ตาสีฟ้า “ว่าแต่... คุณจะไม่ไปพักผ่อนสักหน่อยหรือ”

“ไม่ล่ะ ข้าจะอยู่กับเจ้า” คาร์ลจ้องมองเด็กหนุ่มซึ่งกำลังวุ่นอยู่กับการประกอบชิ้นส่วนที่ได้เตรียมไว้อย่างเงียบๆ โดยไม่ได้ถามอะไรอีก

เวลาผ่านไปอีกครู่ใหญ่ เทรบูเชต์จำลองขนาดตั้งโต๊ะแบบง่ายๆ ของเด็กหนุ่มก็เสร็จสิ้น เหลือแต่ทดลองใช้งานดู บนคานของเทรบูเชต์ข้างหนึ่งถ่วงน้ำหนักไว้ด้วยถุงทราย อีกข้างห้อยเชือกหนังสำหรับเหวี่ยงหิน

“เสร็จแล้วหรือ” ลอร์ดหนุ่มโน้มใบหน้าไปมองดูอย่างสนใจ “สรุปว่ามันคืออะไรน่ะ”

“มันคือเทรบูเชต์ เอาไว้เหวี่ยงก้อนหินหนักๆ ในระยะไกลน่ะครับ อันนี้เป็นแค่ของจำลอง ของจริงจะต้องมีขนาดใหญ่กว่านี้มาก เพื่อที่จะได้เหวี่ยงหินก้อนใหญ่ๆ ที่มีน้ำหนักมหาศาลได้” เด็กหนุ่มอธิบายไปพลางทดลองใช้เทรบูเชต์เหวี่ยงก้อนหินขนาดย่อมๆ จากที่หาได้ในห้องดู ก้อนหินที่ถูกปล่อยออกไปเคลื่อนที่แบบโพรเจกไทล์ กระทบบนผนังกำแพงเกิดเป็นเสียงดังสะท้อนก้อง

“อุ่ย...” ลูคัสย่นคอแล้วหัวเราะแหะๆ “ขอโทษที จะตื่นกันทั้งปราสาทมั้ยเนี่ย”

“เหวี่ยงหินก้อนใหญ่ๆ ในระยะไกล...”

“ใช่ครับ ปราสาทโรเซนไฮม์มีกำแพงสูง สร้างซ้อนกันไว้ถึงสามชั้น แล้วยังมีแม่น้ำเป็นกำแพงตามธรรมชาติอีก เพราะฉะนั้นการจู่โจมจากระยะไกลจึงดีที่สุด สมมติว่านั่นคือปราสาทโรเซนไฮม์” เด็กหนุ่มเข็นโต๊ะไปติดผนังตรงที่ก้อนหินตกกระทบเมื่อครู่ หยิบกองไม้ไปวางสุมกัน จากนั้นก็เดินกลับมาที่เทรบูเชต์จำลอง ลดน้ำหนักที่ใช้ถ่วงลงเพื่อให้ยิงได้ไม่ไกลเท่าทีแรกแล้วทดลองยิงอีกครั้ง

ก้อนหินถูกเหวี่ยงไปในอากาศ แม้มันจะไม่ได้ตกลงบนกองไม้เสียทีเดียว แต่แรงกระแทกของมันก็ทำให้ไม้ในกองกระจายกระเด็นร่วงลงบนพื้น 

“เป็นไงครับ เจ๋งไปเลยใช่มั้ย”

คาร์ลหันไปมองแผนที่ของเมืองโรเซนไฮม์แล้วกระตุกยิ้ม “ถ้าหากเจ๋งของเจ้าแปลว่าความคิดของเจ้าเป็นเลิศมากล่ะก็ เจ๋งไปเลย”

ลูคัสหัวเราะ “แต่ว่า... เราคงต้องการความช่วยเหลือเพิ่มจากท่านอาเธอร์ ท่านไฮน์ริชและท่านยาคอปด้วย เพื่อที่จะสร้างเทรบูเชต์ขนาดใหญ่หลายๆ เครื่อง ผมต้องการช่างผู้ชำนาญการเป็นจำนวนมาก แล้วก็... นอกจากนั้นก็อยากได้ดินปืนแบบที่ผมเคยใช้ทำระเบิดในคุก หามาได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”

“ข้าจะรีบส่งจดหมายไปบอกท่านอาเธอร์ ที่เมืองหลวงคงจะพอมี ส่วนเรื่องกำลังคน ข้าจะจัดการให้”

“ผมอยากจะลองสร้างเทรบูเชต์ของจริงที่นี่ก่อน ส่วนที่จะใช้จริงๆ เราจะยกเป็นชิ้นส่วนไปประกอบตรงจุดนี้ ตรงที่เราเคยไปค้างคืนกัน กับฝั่งตรงข้ามแม่น้ำที่ไปสำรวจกันตอนนั้นด้วย” เด็กหนุ่มเดินไปชี้บนแผนที่ตรงบริเวณป่าโปร่งบนฝั่งแม่น้ำทั้งสองฝั่ง

“เทรบูเชต์นี่ จะยิงได้ไกลขนาดนี้เชียวหรือ”

“ได้ไกลกว่านี้อีกครับ”

“ถ้าพังกำแพงปราสาทไปได้ ทหารก็จะบุกเข้าถึงตัวปราสาทชั้นในได้อย่างง่ายดาย” ลอร์ดหนุ่มนิ่งคิด “เราจะต้องวางแผนให้รัดกุม ไม่ให้มีอะไรผิดพลาดได้”

ลูคัสก้าวเข้าไปโอบกอดลอร์ดหนุ่ม “เราต้องทำได้แน่ครับ”

คาร์ลกอดตอบพร้อมกับกระชับอ้อมแขนแน่น “ขอบใจเจ้ามาก”

ลูคัสซบใบหน้าลงในอ้อมแขน ฟังเสียงหัวใจเต้นหนักๆ ของลอร์ดหนุ่มแล้วยิ้มอย่างพอใจ เขาสัญญากับตัวเองว่าจะใช้ความรู้ความสามารถทั้งหมดที่มีช่วยเหลืออีกฝ่าย จะไม่กลัวและไม่ท้อถอยเด็ดขาด จะทำหน้าที่ซึ่งทุกคนไว้วางใจให้ดีที่สุด


การดำเนินการสร้างเทรบูเชต์เครื่องแรกภายในลานปราสาทแห่งแบร์กไฮม์เริ่มต้นขึ้นหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น ในขณะที่กองทัพและช่างผู้ชำนาญงานจากทั่วทั้งแคว้นยังเดินทางมาไม่ถึง หากชาวเมืองแบร์กไฮม์ที่พอจะมีความรู้ความสามารถได้รวมตัวกันมาช่วย การทำงานท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสายไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครปริปากบ่น

การประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันก็เป็นเรื่องยากไม่ใช่น้อย เพราะชิ้นส่วนแต่ละชิ้นมีน้ำหนักมาก ลูคัสจึงนำรอกผ่อนแรงและเครนแบบที่ใช้กังหันหมุนมาสอนให้ทุกคนใช้งาน กว่าจะประกอบเทรบูเชต์เครื่องแรกเสร็จสิ้นไปได้ กองทหาร ช่างและแรงงานจากทั่วทั้งแคว้นไฮเดลแบร์กก็เดินทางมาถึงพอดี

หลังจากไฮน์ริชและยาคอปเดินทางมาถึง ยังไม่ทันได้เอ่ยปากทักทาย พวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อได้เห็นอุปกรณ์ชิ้นใหญ่ยักษ์อยู่ในลานกว้างของปราสาท

ลูคัสยืนอยู่กับแรงงานกลุ่มใหญ่ เขากำลังออกคำสั่งให้ทุกคนช่วยกันดึงเชือกที่ผูกไว้กับปลายคานฝั่งที่จะคล้องหินลง และให้ปลายคานข้างที่ถ่วงน้ำหนักไว้ขึ้นไปสูงสุด เมื่อเสร็จแล้วก็ให้เอาสลักเข้าไปวางขัดไว้ รอจังหวะดึงสลักออก น้ำหนักที่ถ่วงไว้จะดึงคานลงอย่างเร็วและแรง เป็นผลให้คานอีกข้างเหวี่ยงหินที่คล้องอยู่กับเชือกออกไป

ก่อนหน้านั้น เด็กหนุ่มได้สั่งให้ทหารไปก่อกำแพงหินขนาดเล็กที่อีกฝั่งของกำแพงปราสาทในระยะห่างที่คำนวณไว้แล้ว เมื่อทุกอย่างพร้อมเขาจึงออกคำสั่ง “ดึงสลัก!”

ก้อนหินขนาดใหญ่ถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศ ลอยข้ามกำแพงปราสาท พุ่งไปในทิศทางที่ตั้งของกำแพงอิฐ ตกลงกระทบพื้นดินอย่างแรงจนจมลงไปเกือบมิดก้อน เกิดเป็นแรงสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว ทว่าก็ยังไม่เข้าเป้าเสียทีเดียว ลูคัสจึงเรียกช่างมาช่วยปรับคาน แล้วสั่งให้ทดลองใหม่อีกครั้ง

ครั้งที่สองนี้ ก้อนหินพุ่งกระทบเป้าหมายพอดิบพอดี กำแพงอิฐแตกเป็นเสี่ยงกระจัดกระจาย แรงสั่นสะเทือนและเสียงดังก้องราวกับมีฟ้าผ่าลงมาที่ตรงนั้น

ไฮน์ริชยกแขนขึ้นกอดลำตัว “ข้าควรจะกลัวเขาดีไหมนี่ ” 

“ข้าสงสัยทุกครั้งที่ได้พบเขา ท่านพี่ไปเสาะหาเขามาจากไหนกัน” ยาคอปเปรยหลังจากยืนนิ่งค้างอยู่นาน

“เขามาหาข้าเองต่างหาก” ลอร์ดหนุ่มอมยิ้ม ก่อนจะหันไปบอกกับน้องชายและเหล่าหัวหน้ากองทหาร “เอาล่ะ จากนี้ไปพวกเราก็เริ่มวางแผนชิงตัวท่านพ่อกลับมาได้แล้ว สงครามในครั้งนี้ พวกเราจะต้องมีแต่ชัยชนะเท่านั้น”

เสียงขานรับตอบกลับมาอย่างหนักแน่น ตามมาด้วยเสียงโห่ร้องเรียกขวัญกำลังใจให้แก่กัน จากนั้นพวกหัวหน้านายกองจึงพาทหารในการดูแลของพวกตนไปฝึกซ้อมและตระเตรียมอาวุธ โดยไม่หวาดหวั่นต่ออากาศที่หนาวเหน็บกันเลยแม้แต่น้อย

ส่วนคาร์ล ลูคัส น้องชายของลอร์ดหนุ่มและเหล่าที่ปรึกษาทางการทหารไปรวมตัวกันอยู่ภายในห้องแผนที่เพื่อวางแผนกัน

“นี่คือผังปราสาทที่ผมวาดขึ้นมาเอง ส่วนนี่คือผังเก่าเมื่อครั้งโรเซนไฮม์ยังเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นไฮเดลแบร์ก”

ไฮน์ริชก้มลงพิจารณาผังปราสาทอย่างครุ่นคิด “พวกมันจะขังท่านพ่อไว้ที่ตรงไหนกันนะ ในคุกใต้ดิน...มันง่ายเกินไป ไม่น่าจะใช่”

“ผมคิดว่าน่าจะบนหอคอยสูงที่อยู่ด้านในสุด” เด็กหนุ่มพูดพลางชี้ไปบนแผนที่ “เพราะที่ตรงนี้เข้าถึงยากที่สุด เหมาะสำหรับขังผู้สูงศักดิ์ที่มีอำนาจและมีความสำคัญมากพอ”

ยาคอปพยักหน้า “ข้าเห็นด้วยกับลูคัส ถ้าเป็นข้าก็จะขังไว้ที่นั่นเช่นกัน”

“ลูคัส เจ้าคิดว่าจะต้องใช้เวลาพังกำแพงสักเท่าไร”

“ถ้าหากสร้างเทรบูเชต์ได้เท่ากับจำนวนที่ผมคำนวณไว้ โดยเน้นทำลายที่ป้อมทั้งแปดก่อน จากนั้นก็กำแพงปราสาทชั้นใน ผมว่าน่าจะไม่เกินครึ่งวันครับ”

คาร์ลขมวดคิ้ว นิ่งขรึมครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่จึงพูดขึ้น “เราจะต้องแบ่งออกกลุ่มโจมตีออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกใช้เทรบูเชต์จัดการกับกำแพงปราสาท กลุ่มที่สองจะบุกเข้าไปในปราสาททางเรือ และกลุ่มที่สามทางบก”

“ข้าจะไปกับกลุ่มทางบก ไปจับตัวบาร์ดอฟ ส่วนพวกเจ้าไปช่วยท่านพ่อ”

“ไม่ ข้าจะให้ท่านพี่ไปเสี่ยงคนเดียวไม่ได้ ไอ้บาร์ดอฟมันร้ายกาจมากนะขอรับ ข้าจะไปกับท่านพี่ด้วย” ไฮน์ริชกับยาคอปพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนคนสูงวัยกว่าจะหันไปบอกกับน้องชาย

“ยาคอป เจ้าไปช่วยท่านพ่อ”

ยาคอปส่ายหน้ารัว “แต่ว่า ท่านพี่...”

“ผมจะไปกับท่านยาคอปเอง” เด็กหนุ่มพูดแทรก เขาทำให้ทั้งห้องเงียบกริบแล้วหันมามองเขาเป็นตาเดียว

“ไม่ เจ้ามีหน้าที่ควบคุมเทรบูเชต์อยู่ด้านนอกเท่านั้น” ลอร์ดหนุ่มสั่งเสียงเข้ม

“แต่ผม....”

“ไม่มีแต่ การจะบุกเข้าไปในปราสาทควรเป็นหน้าที่ของทหารที่ได้รับการฝึกฝน มันอันตรายเกินไปสำหรับเจ้า!”

“แต่ท่านคาร์ลกับทุกคนอยู่ข้างในนั้น จะให้ผมอดทนรออยู่ข้างนอกได้ยังไง” ลูคัสพูดเสียงอ่อย

คาร์ลถอนหายใจหนักๆ “เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ ลูคัส อย่าดื้อสิ”

“จริงของท่านพี่นะลูคัส ถ้าหากเจ้าเข้าไปข้างใน ท่านพี่และพวกข้าก็จะเอาแต่เป็นห่วงเจ้า”

ลูคัสนิ่งเงียบ “.....”

“เจ้าบอกว่ายังมีอีกอย่างจะแสดงให้ข้าดูไม่ใช่หรือ”

เด็กหนุ่มช้อนสายตาขึ้นมอง เขาพ่นลมหายใจออกยาว ก่อนจะหยิบโถดินเผาขนาดสูงประมาณหนึ่งคืบและมีเชือกยาวออกมาจากในโถเล็กน้อยขึ้นมาให้ทุกคนดู

“นี่เป็นวิธีที่ทุกคนจะเข้าไปในปราสาทได้โดยไม่ให้ทหารตั้งรับทัน ถึงจะใช้เทรบูเชต์พังกำแพงได้แล้ว แต่ทหารในปราสาทก็ยังอยู่ พวกเขาอาจตกใจเสียขวัญ เกิดความโกลาหล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต่อสู้ไม่ได้ เพราะงั้น... เราจะทำให้พวกเขามองไม่เห็น”

“ดูนะครับ” พอพูดจบก็นำโถไปวางข้างนอกห้อง จุดไฟแล้วหลบข้างหลังประตู

เมื่อไฟที่จุดตรงปลายเชือกลามเข้าไปข้างในโถก็เกิดเป็นควันสีเทาพวยพุ่งไปทั่วทั้งบริเวณด้านหน้าห้อง ใช้เวลาสักพักจึงค่อยๆ จางหายไป

“นี่เรียกว่าระเบิดควันครับ กว่าควันจะจาง นายขมังธนูของเราก็พร้อมจะจัดการทหารในปราสาทแล้ว ไม่ต้องรอให้ประชิดตัวด้วยซ้ำ”

ลอร์ดหนุ่มเลิกคิ้วขึ้น เขาเม้มปากอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถาม “เจ้าทำระเบิดแบบที่เจ้าใช้พังคุกไว้ด้วยใช่ไหม”

“ใช่ครับ แต่ว่ามันอันตรายมาก เพราะงั้นเราจะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น”

“อืม ข้าเข้าใจ เอาล่ะ หลังจากพังกำแพงปราสาทแล้ว ทหารชุดแรกจะบุกเข้าไปวางระเบิดควันที่ตัวปราสาทข้างในก่อน ข้าจะพาทหารเข้าไปสมทบเพื่อล้อมจับตัวบาร์ดอฟ ส่วนยาคอป เจ้าแยกไปช่วยเหลือท่านพ่อ แต่ข้าต้องการให้ทุกคนมีระเบิดติดตัวกันไว้ด้วย เผื่อเวลาฉุกเฉินจริงๆ”

พวกที่ปรึกษาพยักหน้าเห็นด้วย แล้วเริ่มต้นแบ่งหน้าที่กัน “ระหว่างนี้ ข้าจะเร่งช่างให้เตรียมแกะสลักก้อนหินไว้ให้ได้มากที่สุด”

“ข้าจะช่วยท่านลูคัสดูแลการเตรียมชิ้นส่วนเทรบูเชต์เอง”

“ส่วนพวกข้าจะดูแลการทำระเบิดควัน”

“พวกข้าจะเตรียมเสบียงและแรงงานในการเดินทาง”

ลอร์ดหนุ่มยิ้มบาง “ขอบใจพวกเจ้าทุกคน”


*~TBC~*


ตอนหน้าจะออกรบกันแร้วค่าทุกคลลลล~

คว้ากระทะ ตะหลิว สาก ครก ตามน้องลูกับทั่นหลอดมาเยย  :hao7:

ฮัสกี้หนีไปเที่ยวมา เพิ่งมานั่งจิ้มนั่งแก้ตอนนี้หมาดๆ เมื่อคืนเอง 55555

ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามด้วยค่ะ รักนะ จุ๊ฟฟฟฟ  :mew1:



หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-05-2017 18:39:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-05-2017 18:48:41
ใกล้บุกตีเมืองแล้ว ตื่นเต้นแทน กลัวมีอะไรผิดพลาด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-05-2017 18:57:13
เตรียมออกศึก ฮูเร
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-05-2017 18:58:28
รอตอนต่อไปค่ะ

(ถึงกับต้องไปเซิร์ชหาเทรบูเชต์เลยทีเดียว)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 03-05-2017 19:04:42
 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-05-2017 19:05:01
พร้อมเพรียง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 03-05-2017 19:26:52
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 03-05-2017 19:52:31
อ่านฉากบู๊บ้างสนุกดีนะคะเหมือนดูหนังฝรั่งยุคกลางกำลังออกรบกันอยู่
บาเอฟจะตายมั้ยเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 03-05-2017 20:13:41
อยากให้ถึงตอนหน้าไวๆ

ทึ่งมากใช่ไหมทุกคน

ทึ่งในความฉลาดของลูคัสใช่ไหม

ชอบมากๆรอๆ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 03-05-2017 20:15:26
น้องลูเก่งมากๆ ท่านหลอดอย่าลืมให้รางวัลหลายๆ รอบนะ
ว่าแต่ คอนราดกับเออร์วิน นี่ยังไม่ออกจากห้องนอนเหรอ
ถึงไม่มีบทในตอนนี้เลย หุหุ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 03-05-2017 20:57:38
ปลาบปลื้มในความฉลาดของน้องลูมากๆ อิจฉาท่านหลอดจริงๆดูมีความภาคภูมิใจ แหมๆน้องลูมาหาเอง
แอบขำท่านน้องชายนิดหน่อย ถึงขนาดแอบกลัวน้องลูเลย

รอตอนหน้าค่ะ ต้องตื่นเต้นมากแน่ๆ
แต่ลูเหมือนไม่มีความคิดจะกลับปัจจุบันเลยอ่ะ แอบจองตัวลูกกุนเทอร์ไว้ด้วย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 03-05-2017 20:58:13
น้องลูคนเก่ง

น้องชายทั่นหลอดเป็นคนตลก

"ไปเก็บลูมาจากไหน?" 555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 03-05-2017 21:05:02
 :pig4: :pig4:
อยากอ่านตอนหน้าแล้ววววว :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-05-2017 21:05:23
น้องลูเก่ง ตอนหน้าสนุกแน่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 03-05-2017 21:25:13
ลูคัสสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 03-05-2017 21:55:35
ถึงลูคัสจะดื้อแต่ลูคัสก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-05-2017 21:57:43
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-05-2017 22:26:42
ภาวนาให้ครั้งนี้ฝ่ายน้องลูไม่มีใครตายด้วยเถอะ


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 03-05-2017 23:52:35
น้องลูจะออกศึกแล้ววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-05-2017 06:48:39
น้องลูคัสนี่ สุดนอดเสนาธิการจริงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 04-05-2017 07:37:53


ให้อภัยขอรับ

เตรียมพร้อม

ลุยได้


หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 04-05-2017 08:21:49
สู้ ๆ นะทุกคน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: manamon ที่ 04-05-2017 08:26:46
ตื่นเต้นเหมือนได้อยู่ในสงครามด้วยเลย 5555  o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-05-2017 09:50:31
เก่งสุดๆไปเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 04-05-2017 10:27:47
ลุ้นๆกับตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-05-2017 10:46:22
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: jinholmemin ที่ 04-05-2017 17:57:27
ยุทธศาสตร์ยิ่งใหญ่ ความตั้งใจเด็ดเดี่ยว มื้อนี้เราจะเคี้ยวข้าวแล้วทุบหม้อข้าว
ตีแหกฝ่าวงล้อม... หมอไหพร้อมแล้ววววว บุกกกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 04-05-2017 18:06:19
ชาวเมืองนี่รักและเอ็นดูลูคัสสุดๆอ่ะ

ตอนหน้าจะบุกแล้วสินะ. .  :mew1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 04-05-2017 21:17:01
ลูคัสคือหัวใจของกองทัพจริงๆ :angry2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 05-05-2017 03:28:21
จะรบกันแล้ววว
ลูคัสเก่งมากกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 05-05-2017 04:39:21
ลูคัสน่ารัก ทุกคนเลยเป็นห่วง จนต้องพาไปให้ชาวบ้านชาวเมืองเห็น
ลูคัสเก่งมาก เก่งจนเค้ากลัว 55555 ทำไงได้เนาะ น้องย้อนไปหานะ

คาร์ลอบอุ่นมาก ดูแลดี เป็นห่วงไปหมด แถมให้โอกาสน้องด้วย

ศึกนี้ใหญ่หลวงนัก ลูคัสต้องไม่ดื้อนะ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 05-05-2017 11:48:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-05-2017 17:22:37
พร้อมรบสุดๆ ทั้งยุทธการ และยุทธภัณฑ์
สู้!! >๐<//
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 05-05-2017 23:14:09
ไม่ว่าจะตอนไหนก็นับถือลูคัสมาก น้องฉลาดจริงๆ แต่เรื่องเดียวที่กลัวใจน้องคือ น้องชอบชอบเสี่ยงอันตรายอ่ะ กลัวววว :hao5:
สงครามกำลังจะเกิด คงได้แต่เอาใจช่วยขอให้ทุกคนปลอดภัย ยกเว้นอีท่านบาร์ดอฟ เงาแค้นมากบอกเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-05-2017 20:51:03
ตอนหน้าน้องลูคงไม่ฝืนคำสั่งท่านหลอดนะ
กลัวใจน้องลูจริงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 08-05-2017 10:39:00
รอตอนหน้าแล้วก็รอหนังสือเรื่องนี้ต้องซื้อเก็บไว้อ่านอีกกกกกรี๊ดมากกกชอบในทุกๆบทเลยค่ะ สู้ๆนะน้องลู ตอนหน้าจะรบแล้ว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: kratair ที่ 10-05-2017 18:41:27
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 11-05-2017 19:36:33

Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก


เมื่ออากาศเริ่มอุ่นขึ้นเล็กน้อย กองทัพทหารที่เตรียมพร้อมอยู่นานแล้วก็เริ่มออกเดินทาง ทหารส่วนหนึ่งเดินทางไปด้วยม้าและรถม้า ทหารอีกส่วนเดินทางไปด้วยเรือและคอยควบคุมดูแลชิ้นส่วนขนาดใหญ่ของเทรบูเชต์ซึ่งทำจากไม้ให้ลอยมาตามแม่น้ำไปพร้อมกันด้วย

ลูคัสและคาร์ลเดินทางไปด้วยกัน พวกเขาไปหยุดปักหลักตรงจุดที่จะใช้ตั้งเทรบูเชต์ที่ป่าโปร่งริมฝั่งแม่น้ำตามที่วางแผนไว้ ส่วนยาคอปและไฮน์ริชคุมกองทัพมาทางเรือ พวกเขาปักหลักอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ เมื่อเดินทางไปถึงก็เริ่มประกอบชิ้นส่วนของเทรบูเชต์กันทันที

พอพวกทหารสอดแนมเห็นเข้า ด้วยความที่ไม่เคยเห็นเทรบูเชต์มาก่อนจึงไม่อาจรู้ได้ว่ากองทัพของลอร์ดหนุ่มกำลังทำอะไร หากก็คาดเดากันว่าน่าจะสร้างสะพานหรือต่อบันไดข้ามมายังตัวปราสาท ซึ่งการสร้างสะพานหรือว่ายข้ามแม่น้ำก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เพราะกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ประกอบกับความมั่นใจในความแข็งแกร่งของปราสาทจึงชะล่าใจ คิดว่าสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำคงจะไม่เป็นผล

บาร์ดอฟไม่ยี่หระต่อกองทัพที่ยกมาประชิดเลยแม้แต่น้อย “ข้าก็อยากจะรู้ว่าพวกมันจะทำอะไรได้ เดี๋ยวอาหารหมดพวกมันก็ยกทัพกลับไปเอง”

บรรยากาศบนสองฝั่งแม่น้ำเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ประกอบเทรบูเชต์ไปไม่มีการพูดคุยเล่นหัวหรือเสียงหัวเราะเลยแม้แต่น้อย เวลาผ่านไปไม่กี่วันเทรบูเชต์ขนาดใหญ่มหึมาจำนวนสิบเครื่องก็ตั้งตระหง่านเรียงอยู่ที่ริมสองฝั่งแม่น้ำ กระสุนหินขนาดใหญ่วางเรียงราย ส่วนกองทัพทั้งทางบกและทางเรือก็พร้อมที่จะบุกเข้าโจมตีเมืองโรเซนไฮม์กันแล้วในวันรุ่งขึ้น

หลังประชุมกันเป็นครั้งสุดท้าย ลอร์ดหนุ่มก็กลับเข้ามาพักในกระโจมที่พักของเขา แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนขนสัตว์ที่ปูทับอยู่บนพรมผืนหนา

ในยามที่ตึงเครียดเช่นนี้เขานึกอยากจะกอดร่างโปร่งไว้ในอ้อมแขนมากที่สุด หากก็ลังเลที่จะไปหาเด็กหนุ่มที่อีกกระโจม เนื่องจากเป็นเวลาดึกดื่นมากแล้ว

ทว่าจู่ๆ ก็มองเห็นเงาคนที่ด้านหน้ากระโจม เขาหยิบดาบขึ้นมาถือไว้ในมือแล้วเดินตรงไปเปิดผ้าคลุมกระโจมออก

“ลูคัส!”

“ท่านคาร์ล” ลูคัสถือวิสาสะก้าวเข้าไปในกระโจมแล้วกระโจนเข้าสวมกอด

คาร์ลยิ้มบางพลางกอดตอบ “เหมือนเจ้าจะรู้ว่าข้ากำลังคิดถึงเจ้า... หลายวันมานี่เจ้าคงมีเรื่องให้คิดวิตกกังวลมากสินะ”

“ผมรู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวผมเลย” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นสบสายตากับนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวย “ต้องคุมคนมากมาย การทำงานที่เคร่งเครียด ชีวิตของทหารนับพันขึ้นอยู่กับการวางแผนในครั้งนี้ แล้ววันพรุ่งนี้...”

ลอร์ดหนุ่มก้มลงจูบริมฝีปากนุ่มอย่างอ่อนโยนที่สุด ใช้ปลายลิ้นไล้เลียกลีบปากบนล่างอย่างแผ่วเบา จากนั้นจึงยิ้มมุมปาก “ชีวิตของข้าและทุกคนอยู่ในมือเจ้าแล้วล่ะนะ”

“คุณอย่าพูดแบบนี้สิ” สองแขนเรียวกอดกระชับร่างกายกำยำไว้แน่น “ผมกลัว...”

“อย่ากลัวไปเลย เป็นตัวของเจ้าเองก็พอ”

ลูคัสซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนแกร่ง จากนั้นจึงพ่นลมหายใจออกมาหนักๆ เรื่องที่เขาวิตกกังวลมีมากมายจนไม่รู้จะยกเรื่องไหนขึ้นมาพูดก่อน แม้จะยังไม่ได้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากวันพรุ่งนี้ ทว่าก็อดนึกถึงไม่ได้ “ท่านคาร์ล ท่านวิลแฮล์ม... ใจดีมั้ย”

“หืม ทำไมจู่ๆ ก็ถามถึงท่านพ่อ”

“...แค่สงสัย”

“กังวลอะไรอยู่หรือ”

“ถ้าหากว่าเราทำสำเร็จ... ต่อไปจะเป็นยังไง แล้วถ้าหากไม่สำเร็จล่ะ...”

“เรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เราไม่มีทางรู้ได้หรอก เจ้าอย่าเพิ่งคิดมากเลย ทำวันพรุ่งนี้ให้ดีที่สุดก็พอ”

“ผม...”

คาร์ลเชยคางเรียวขึ้น จ้องมองเข้าไปในแววตาใสที่ไหวระริก ร่างโปร่งสั่นน้อยๆ เขาไม่เคยเห็นเด็กหนุ่มมีท่าทีแบบนี้มาก่อนเลย “ลูคัส”

“ท่านคาร์ล คืนนี้... กอดผมหน่อยได้มั้ย”

ลอร์ดหนุ่มไม่ตอบ หากอุ้มอีกฝ่ายขึ้นแนบกายแล้วพาไปวางลงบนขนสัตว์ซึ่งใช้ปูเป็นที่นอน ริมฝีปากทั้งสองแนบชิด สองลิ้นเกี่ยวกระหวัด มือหยาบปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเด็กหนุ่มออกอย่างใจเย็นแล้วจึงถอดเสื้อผ้าของตนเองออกบ้าง

ร่างกายที่ไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ กางกั้นบดเบียดเสียดสี ส่งผ่านความอบอุ่นให้แก่กัน เม็ดเหงื่อผุดพรายทั้งที่อากาศในยามค่ำคืนยังคงหนาวเย็น

ริมฝีปากของพวกเขายังไม่ยอมแยกจากกัน มือเรียวลูบไล้ไปบนแผ่นหลังกว้างขณะที่คนบนร่างเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า

“อา คาร์ล อะ!” ลูคัสครางพลางดิ้นเร่าในขณะที่สองขาเรียวถูกจับขึ้นพาดบ่า เขารีบยกมือขึ้นปิดปากไว้เพราะกลัวว่าจะทำให้พวกทหารตื่นนอนกันเสียหมด

ลอร์ดหนุ่มยิ้มอย่างพอใจกับใบหน้าน่ารักที่บ่งบอกว่ามีความสุขกับร่างกายเขามากแค่ไหน เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากกลีบปากอวบอิ่มช่างรื่นหู เขาจับมือเรียวที่ปิดปากอยู่ออกแล้วกดลงข้างลำตัว ก่อนจะโถมกายใส่คนใต้ร่างอย่างหนักหน่วง เสียงหอบหายใจกระเส่าดังชิดใบหูนิ่ม

ลูคัสปรือตาขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มของคาร์ลส่งผลให้เลือดในกายพลุ่นพล่านยิ่งขึ้น และก่อนที่ภาพภายในศีรษะจะกลายเป็นสีขาวโพลนไปหมด เขายกศีรษะขึ้นกระซิบบอก “คาร์ล ผมรัก... คุณ”

เจ้าของชื่อเรียกเร่งจังหวะกระแทกสะโพกหนักๆ จนกระทั่งคนใต้ร่างก้าวข้ามจุดสูงสุดของอารมร์ไป เขาแทรกกายลึกอีกสองสามครั้ง จากนั้นจึงฝากอารมณ์รักทั้งหมดไว้ในร่างโปร่ง

“ข้ารักเจ้าเช่นกัน ลูคัส” ลอร์ดหนุ่มกระซิบบนกลีบปากที่เขาบดจูบจนเห่อบวม จากนั้นจึงเอนกายลงเคียงข้างกันแล้วดึงเด็กหนุ่มเข้ามากอด

ลูคัสซบใบหน้าลงในอ้อมแขนแข็งแรง “ท่านคาร์ล...”

“เมื่อกี้ยังเรียกคาร์ลเฉยๆ อยู่เลยไม่ใช่หรือ”

ใบหน้าน่ารักเงยขึ้น “คือ เมื่อกี้มัน...”

มือกร้านเชยคางเรียวขึ้น “เวลาที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพัง เจ้าเรียกชื่อข้าแบบนี้ก็พอ”

“ได้... ได้หรือครับ”

คาร์ลยิ้มอย่างอ่อนโยน “สำหรับเจ้าข้ามีข้อยกเว้นให้ได้ทุกอย่าง”

เด็กหนุ่มยืดคอขึ้นจูบคางสาก “น่ารักแบบนี้ ผมรักคุณจะแย่แล้วนะ”

แขนแกร่งกระชับร่างโปร่งไว้แนบกาย แล้วซบใบหน้าลงบนศีรษะเล็ก ทั้งสองนอนกอดกันนิ่งในความเงียบงัน ต่างคนต่างคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น หากเด็กหนุ่มร่างกายอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยมาตลอดวัน พอรู้สึกผ่อนคลายก็เริ่มสะลึมสะลือ สักพักก็ปิดตาลงแล้วผล็อยหลับไป ไม่ทันได้ฟังคำพูดของลอร์ดหนุ่ม

“เมื่องานนี้สำเร็จ เรื่องของเรา...”

“....”

“หลับแล้วหรือ เด็กน้อย... เอาเถอะ เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน”

..

.....

..

ในยุคปัจจุบัน

มารดาของลูคัสตื่นขึ้นมากลางดึก หล่อนลุกขึ้นนั่งนิ่งอยู่นาน จนสามีของหล่อนที่พลิกตัวหันมาสังเกตเห็นเข้า เขาลุกขึ้นนั่งเคียงข้างกันแล้วเอื้อมมือไปกุมมือของหล่อนไว้

“นอนไม่หลับหรือ คิดถึงลูกใช่มั้ย”

“ฉันฝันอีกแล้วค่ะ” หล่อนพูดเสียงสั่น “ลูคัสอยู่ที่เมืองนั้นอีกแล้ว...”

“อา จริงสินะ ตั้งแต่ที่เธอฝันเมื่อคราวนั้น เราก็ยังไม่ได้ไปที่โรเซนไฮม์กันเลย”

“ลูกอยู่กับผู้ชายคนเดิม เขาดูสง่างามมาก... รอบๆ ตัวพวกเขามีทหารมากมาย” มารดาเอ่ยพลางส่ายหน้าไปมา “ทำไมถึงฝันอย่างนี้ก็ไม่รู้สิคะ”

บิดาของลูคัสบีบมือภรรยาเบาๆ “ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เราไปโรเซนไฮม์กันเลยไหม เผื่อเธอจะสบายใจขึ้นด้วย”

หล่อนยิ้มบาง “ดีค่ะ... แต่ก่อนไปแวะโบสถ์ในไฮเดลแบร์กก่อนสักหน่อย ฉันอยากไปขอมิสซาให้ลูก”

“ได้สิ เอาล่ะ นอนพักผ่อนนะ พรุ่งนี้จะได้มีแรง”

“ค่ะ ราตรีสวัสดิ์”

..

.....

..

เมื่อแสงแรกในยามเช้าฉาบปลายฟ้า กองทัพทหารก็ตั้งขบวนพร้อมตามที่ได้วางแผนการไว้ ลอร์ดหนุ่มอยู่ในชุดเต็มยศ เสื้อตัวในถักทอจากโซ่เหล็กขนาดเล็กปิดช่วงคอและต้นแขน สวมทับด้วยเสื้อเกราะสลักลายมังกรเพื่อป้องกันแผ่นอกและช่องท้อง เขายืนนิ่งอยู่เบื้องหน้าทุกคน ในมือถือถือดาบยาว ก่อนจะชูขึ้นสูงแล้วตะโกนก้อง

“แคว้นไฮเดลแบร์กอยู่ในมือของทุกคน จงสู้เพื่อดินแดนบ้านเกิด และแสดงให้ทุกคนเห็นว่าพวกเราจะไม่ยอมตกอยู่ในอำนาจของกบฏหน้าไหนทั้งสิ้น!”

หมู่ทหารขานรับอย่างหนักแน่น จากนั้นลอร์ดหนุ่มจึงให้ทหารส่งสาส์นเข้าไปในเมืองพร้อมกับของบรรณาการหนึ่งคันรถเพื่อเจรจาแลกเปลี่ยนตัวบิดา

ประตูเมืองโรเซนไฮม์เปิดออกกว้างตอนรับขบวนผู้ส่งสาส์น เดินทางต่อไปอีกสักพักก็ถึงสะพานชักสำหรับเดินข้ามเข้าไปในกำแพงปราสาทซึ่งพวกทหารทอดลงมาไว้ให้

จากประตูทางเข้าปราสาทและบนกำแพงมีทหารมากมายออกมาตั้งแถวรอเพื่อแสดงแสนยานุภาพ ขณะที่ขบวนของผู้ส่งสาส์นเคลื่อนผ่าน จนไปถึงห้องโถงซึ่งมาควิสแห่งโรเซนไฮม์นั่งอยู่บนบัลลังค์อย่างสง่างาม

นายทหารผู้ส่งสาส์นค้อมศีรษะลงต่ำ “ท่านลอร์ดแห่งโรเซนไฮม์”

บาร์ดอฟยิ้มเยาะ “นายเจ้าช่างขลาดนัก ทำไมไม่เข้ามาเสียเองล่ะ”

นายทหารไม่ต่อปากต่อคำด้วย เขารายงานตามที่ผู้เป็นนายสั่งมา “ข้านำสาสน์และของบรรณาการล้ำค่ามามากมาย หวังว่าคงจะทำให้ท่านพอใจ” เขาผายมือไปยังเครื่องทองและเครื่องประดับเพชรนิลจินดาที่พวกทหารถือตามเข้ามา

บาร์ดอฟรับสาส์นมาอ่านแล้วหัวเราะเสียงดังก้อง เขาขยำสาส์นนั้นทิ้งต่อหน้านายทหาร “ของบรรณาการข้าจะรับไว้ เจ้ากลับไปแล้วบอกให้นายเจ้าถอยทัพกลับไปได้ ท่านอาร์ชดยุกอยู่กับข้าสุขสบายดี”

“ถ้าเช่นนั้นขอให้ข้าพบท่านอาร์ชดยุกสักหน่อยได้หรือไม่”

“ขี้ข้าจากเมืองขึ้นอย่างเจ้ามีสิทธิ์ต่อปากต่อคำกับข้าด้วยงั้นรึ” บาร์ดอฟตะโกนก้องอย่างหยาบคาย เขาหยิบแก้วไวน์ที่วางอยู่ข้างๆ สาดใส่ผู้ส่งสาส์น

“ลากตัวพวกมันออกไป!”

“ท่านลอร์ดของข้าจะไม่อยู่เฉยแน่”

“ข้าจะรอดู” บาร์ดอฟยิ้มเยาะ “ทหารของข้ารอปลิดชีพนายของเจ้าอยู่ ไปบอกมันด้วย”


ใช้เวลาไม่นานนายทหารผู้ส่งสาส์นก็กลับมาถึงลอร์ดหนุ่มแห่งแบร์กไฮม์เพื่อรายงานความเป็นไป

“ข้าก็คิดไว้อยู่แล้ว เอาล่ะ” คาร์ลออกคำสั่งเสียงดังก้องกับพวกทหารตั้งทัพไว้พร้อมแล้ว “พวกเจ้าทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม! ลูคัส!”

ลูคัสพยักหน้า เขาสูดหายใจเข้าปอดลึกแล้วชูดาบในมือขึ้น “ถอดสลัก!”

ทันทีที่สิ้นเสียงของเด็กหนุ่ม ทหารทั้งสองฝั่งก็ส่งสัญญาณถึงกัน จากนั้นจึงดึงสลักเครื่องเทรบูเชต์ออกอย่างพร้อมเพรียง พอเครื่องเหวี่ยงหินออกไปแล้วก็รีบกลิ้งหินก้อนใหม่เข้าไปวาง ดึงคานฝั่งที่ถ่วงน้ำหลักลง ก่อนจะดึงสลักออกเพื่อยิงก้อนหินออกไปอีกครั้ง ย้อนทำกระบวนการเดียวกันนี้ซ้ำไปซ้ำมา ยิงก้อนหินออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า

ก้อนหินขนาดใหญ่นับร้อยๆ ก้อนที่ถูกเหวี่ยงขึ้นไปในอากาศติดๆ กันจากทุกทิศทาง พุ่งตรงไปยังป้อมบนกำแพงปราสาททั้งแปดป้อมซึ่งเป็นเป้าหมายแรกอย่างแม่นยำ เสียงก้อนหินพุ่งเข้ากระแทกกำแพงดังสนั่นราวกับท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา

ตัวป้อมและกำแพงปราสาทสูงใหญ่ซึ่งเป็นที่ภาคภูมิใจของมาควิสแห่งโรเซนไฮม์พังทลายลงไม่เป็นท่า ทหารทั้งที่อยู่บนป้อม บนกำแพงและที่ตั้งหลักรออยู่ด้านหลังกำแพงก็ถูกชิ้นส่วนของกำแพงถล่มลงมาทับ ส่วนที่รอดมาได้ก็เสียขวัญ พากันวิ่งหนีด้วยความตกอกตกใจ เกิดความโกลาหลวุ่นวายไปหมด

เสียงก้อนหินกระทบกำแพงยังคงดังกึกก้อง ปราสาทสั่นไหวไปทั้งหลัง ผู้คนในนั้นที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ต่างหวีดร้องด้วยความตระหนกตกใจ เศษกำแพงน้อยใหญ่ร่วงหล่นลงกระทบผืนน้ำเสียงดังลั่น

แรงสะเทือนทำให้โซ่ที่ยึดสะพานชักไว้หลุดออก เป็นผลให้สะพานทิ้งตัวลงพาดเชื่อมทางเข้าปราสาท ซึ่งภายในมียังประตูลูกกรงเหล็กอีกชั้น หากก็ล้มลงไปพร้อมกับกำแพงปราสาทที่พังทลายไป

การโจมตีขยับเข้าไปถึงกำแพงชั้นสุดท้าย ใช้เวลาไม่นานมันก็พังทลายลงจนเหลือเพียงแค่ตัวปราสาทชั้นในกับหอคอยสูงตระหง่าน

เออร์วินและคอนราดตั้งทัพรออยู่ที่ข้างนอกกำแพงเมือง พวกเขารอดูสัญญาณจากเด็กหนุ่มอีกต่อ เมื่อได้รับสัญญาณแล้วก็ส่งทหารเข้าไปยึดตัวเมือง พร้อมกับส่งทหารม้าเข้าไปวางระเบิดควันที่ในตัวปราสาทตามที่ได้วางแผนไว้ จากนั้นยาคอปจึงนำทหารบุกตามเข้าไปทางเรือ พร้อมกับที่คาร์ลและไฮน์ริชนำกองทัพบุกตามเข้าไปทางบก

ควันสีเทาลอยโขมง ปกคลุมทั่วทั้งเกาะที่ปราสาทตั้งอยู่ ลูคัสยืนมองอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำอย่างร้อนใจ

เด็กหนุ่มคว้าถุงผ้าที่เตรียมระเบิดใส่ไว้ขึ้นมา เฉพาะตัวเขา ท่านลอร์ดทั้งสามและหัวหน้านายกองทหารเท่านั้นที่จะมีระเบิดติดตัวเข้าไปในปราสาทด้วยเผื่อต้องใช้ในยามฉุกเฉิน เขารีบปีนขึ้นบนหลังม้าพร้อมกับจับบังเหียนไว้ “ผมจะเข้าไปในนั้นด้วย”

“ท่านลูคัส! แต่ท่านคาร์ลสั่งไว้...”

“เวลานี้ท่านต้องการความช่วยเหลือจากทุกคน ผมยืนรออยู่ที่นี่เฉยๆ ไม่ได้หรอก”

“ถ้าเช่นนั้นพวกข้าจะไปด้วย!”

ลูคัสขี่ม้านำทหารที่เหลือตรงเข้าไปในเมือง หากเมื่อผ่านกำแพงเมืองเข้าไปก็ชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นบ้านเรือนหลายหลังที่พังทลายราบเป็นหน้ากลองเพราะแรงสั่นสะเทือนจากการโจมตีของเทรบูเชต์ ทหารของแคว้นไฮเดลแบร์กยืนถือดาบล้อมชาวเมืองซึ่งมีทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนชราไว้ พวกเขาหวาดกลัวจนตัวสั่น นั่งกอดกันร้องไห้อยู่บนพื้นเสียงดังระงม

ลูคัสดึงบังเหียนม้าให้หยุด แล้วเอ่ยกับทหารในบริเวณนั้น “ไม่ทำร้ายพวกเขาได้ไหม”

พวกทหารค้อมศีรษะรับ “ขอรับ”

เด็กหนุ่มเตะสีข้างม้าให้มันออกวิ่งต่อ ตรงไปยังปราสาทซึ่งในยามนี้กำแพงปรักหักพัง ยังมีควันจากระเบิดและเศษฝุ่นลอยโขมง เมื่อไปถึงที่หน้าปราสาทชั้นในก็พบกับทหารของไฮเดลแบร์กที่กำลังควบคุมตัวทหารของโรเซนไฮม์แล้วจับมัดรวมกันไว้ เขารีบกระโดดลงจากหลังม้าแล้ววิ่งเข้าไปภายในปราสาท

ทุกพื้นที่ที่เดินผ่านมีทหารของไฮเดลแบร์กคอยควบคุม ส่วนบนพื้นมีศพของศัตรูนอนระเกะระกะ กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งชวนให้รู้สึกสะอิดสะเอียน

ขณะที่กำลังหันซ้ายหันขวาก็พบกับยาคอปซึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับทหารอีกกลุ่มหนึ่ง

ยาคอปตรงเข้ามาจับหัวไหล่ของเด็กหนุ่มเขย่าแรงๆ ใบหน้าซีดเผือด “ลูคัส เจ้าเข้ามาทำไม! ถ้าหากท่านพี่รู้...”

มือเรียวยกขึ้นจับข้อมือของคนตรงหน้าไว้ “เอาไว้ก่อนเถอะครับ ยังไงผมก็เข้ามาแล้ว สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ท่านคาร์ลล่ะ”

“ท่านพี่ทั้งสองกำลังตามหาบาร์ดอฟ ส่วนข้ากำลังหาทางไปหอคอย แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ถามไอ้พวกทหารนี่ก็ไม่มีใครยอมบอก!”

ลูคัสหันมองไปรอบๆ ซึ่งมีแต่ความโกลาหล คิ้วเรียวขมวดมุ่นอยู่ชั่วครู่พลางนึกย้อนไปถึงอุโมงค์ทางเข้าปราสาทจากทางเรือ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ทางลงล่ะครับ ลงใต้ดิน น่าจะอยู่ทางทิศเหนือ...”

“มีทางลงใต้ดินอยู่ถัดจากห้องอาหารใหญ่ไปขอรับ” นายทหารคนหนึ่งรีบตอบ

“งั้นเราไปที่นั่นกันก่อน ไปเร็ว!”

พวกเขารีบรุดไปที่ห้องอาหารขนาดใหญ่ซึ่งเจ้าของปราสาทใช้ต้อนรับแขกสำคัญ ซึ่งเมื่อเดินเลยไปเล็กน้อยก็พบกับประตูสำหรับลงบันไดวนไปใต้ดิน เสียงฝีเท้าลงบันไดดังสะท้อนก้อง เมื่อลงไปถึงก็พบกับทางเดินที่มืดและชื้น พวกทหารต้องจุดคบเพลิงจึงจะมองทางเห็น

“ทางนี้จะใช่ทางไปหอคอยหรือลูคัส” ยาคอปหันมองซ้ายขวาซึ่งมีเพียงผนังชื้นๆ ที่ว่างเปล่าเท่านั้น

“ทางนี้น่าจะเชื่อมไปยังคุกใต้ดิน ปราสาทนี้มีทางเข้าออกทางน้ำเอาไว้สำหรับพาตัวนักโทษเข้ามา แล้วก็จะได้ส่งเข้าห้องขังข้างใต้ปราสาทได้เลย หรือไม่ก็...”

“ส่งไปขังบนในหอคอยอย่างนั้นสินะ” ยาคอปรู้สึกทึ่งในตัวเด็กหนุ่มมากเสียจนเขาไม่รู้จะบรรยายออกมาอย่างไรดีแล้ว “อะ! ข้าได้ยินเสียงน้ำละ”

“จริงด้วย” ลูคัสหันขวับ ขาเรียวพาเจ้าของวิ่งไปตามทิศทางของเสียงน้ำ เบื้องหน้าของเขาเป็นห้องโล่งกว้างมีแสงสว่างรำไร แต่พอเข้าไปถึงห้องนั้นก็ต้องชะงัก เพราะที่นั่นมีทหารอยู่นับสิบนาย

“ลูคัส อย่าขยับ!” ยาคอปตะโกนเสียงดัง เขาง้างมือข้างที่ถือมีดสั้นขึ้นแล้วเหวี่ยงออกไป

มีดเล่มนั้นพุ่งแหวกอากาศ แทงเข้าตรงลำคอของทหารที่กำลังยกธนูขึ้นพอดี

มือของลอร์ดหนุ่มเอื้อมออกไปดึงแขนของร่างโปร่งแล้วเหวี่ยงให้ไปหลบอยู่ข้างหลังเสา “เจ้าหลบอยู่ที่นี่ก่อน!” จากนั้นจึงสั่งให้พวกทหารยกธนูในมือขึ้นยิง เมื่อเข้าประชิดตัวจึงหยิบดาบขึ้นมาฟาดฟันกัน

ลูคัสย่อตัวลงนั่ง สองมือยกขึ้นปิดหูด้วยความกลัว เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดและเสียงดาบกระทบกันดังลั่นไปทั่ว ใจเขาอยากจะเข้าไปช่วย แต่ด้วยฝีมือดาบย่ำแย่ก็เกรงว่าจะกลายเป็นศพเสียก่อนใครเพื่อน

ทว่าจู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ พุ่งเข้ามาตรงที่เขานั่งยองๆ อยู่ พอเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มก็ใจหายวาบ

นายทหารของโรเซนไฮม์ร่างยักษ์ยืนอยู่ตรงหน้า เงื้อดาบในมือขึ้นสูง “แก ตายซะ!”

“ช่วย...” ลูคัสยังพูดยังไม่ทันขาดคำ ของเหลวอุ่นๆ ก็กระซ่านเซ็นกระทบใบหน้า นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลงขณะที่จ้องมองร่างชุ่มเลือดของนายทหารทรุดลงต่อหน้าต่อตา

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม!” ยาคอปถาม ดาบในมือของเขาอาบสีเลือดแดงฉาน

“อะ”

“เสียงฝีเท้า! ที่นี่ต้องมีทหารอีกแน่ รีบหาทางไปหอคอยก่อนเร็ว!”

“คะ... ครับ” ลูคัสตั้งสติ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วหันมองไปรอบๆ ภายในห้องกว้างใหญ่มีเสาอยู่นับสิบต้น มีแสงไฟสลัวจากตะเกียงน้ำมันที่ห้อยลงมาตามเสา ฝั่งซ้ายมือของเขาเป็นท่าน้ำเอาไว้สำหรับเรือจอดเทียบ มีรูปปั้นเทวดาสององค์ถือธนูเล็งไปทางทิศตะวันออก “ไปทางทิศตะวันออกครับ”

ยาคอปชะโงกหน้าจากหลังเสาที่หลบอยู่ออกไปสำรวจ เขาคว้าแขนเรียวพาเด็กหนุ่มวิ่งไปตามทิศที่บอกอย่างรวดเร็วโดยมีทหารที่เหลือคอยระวังหลังให้ สักพักก็ถึงประตูทางขึ้นบันไดวน

“เจอแล้ว!” ยาคอปกระชากประตูออก จากนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงไต่บันไดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว


ขณะที่กองทัพของคาร์ลและไฮน์ริชบุกเข้าไปถึงภายในห้องโถงยังมีควันสีเทาลอยอยู่จางๆ พวกขุนนางที่ปรึกษาของบาร์ดอฟและเลดี้ทั้งหลายรวมตัวกันอยู่ที่นั่นด้วยความหวาดกลัว บางคนถึงกับเป็นหมดสติไป เมื่อเห็นกองทัพของคาร์ลก็พากันทรุดตัวลงนั่งร้องขอชีวิต

“บาร์ดอฟอยู่ไหน” คาร์ลถามเสียงเข้ม

พวกขุนนางหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก จนกระทั่งไฮน์ริชถามย้ำอีกครั้งด้วยเสียงดังก้อง

“พวกเจ้าอยากจะเป็นศพอยู่ตรงนี้หรือไง บาร์ดอฟอยู่ที่ไหน!”

ลอร์ดหนุ่มหันไปส่งสัญญาณให้กับทหารของตน “จับทุกคนมัดไว้”

ทหารสาวเท้าเข้าไปฉุดแต่ละคนลุกขึ้นแล้วมัดมือไพล่หลัง จากนั้นก็กดให้คุกเข่าลง

“ท่านพี่ ในเมื่อยังไม่มีใครยอมพูดก็เอาอย่างนี้ดีกว่า ตัดลิ้นเสียทีละคน จนกว่าจะมีใครยอมพูดก็แล้วกัน”

คาร์ลพยักหน้าพร้อมกับออกคำสั่งกับพวกทหาร “เริ่มจาก...” เขาชี้ไปที่ขุนนางซึ่งประโคมใส่ตรายศและเครื่องประดับเต็มตัว

ชายขุนนางวัยกลางคนเบิกตาโพลง “ข้า... ข้า...” เขาค้อมศีรษะลงต่ำ แล้วชี้ไปที่พรมผืนใหญ่บนผนัง “ทางลับเชื่อมไปห้องหนังสือขอรับ”

ลอร์ดหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก บาร์ดอฟช่างเลือกขุนนางได้นิสัยคล้ายคลึงกับตัวเองเสียจริง “จับพวกมันไปรวมกันข้างนอก” เขาออกคำสั่งกับทหารกลุ่มหนึ่ง ส่วนอีกกลุ่มเดินไปกระชากพรมผืนที่ว่าออก

ด้านหลังผืนพรมมีบานประตูทาสีเดียวกับผนังห้อง เมื่อเปิดออกก็พบกับทางแคบๆ มืดๆ พวกทหารจึงถือคบเพลิงนำลอร์ดทั้งสองเข้าไป

หลังจากเดินไปสุดทางก็พบกับบันไดวน พอขึ้นไปจนสุดบันไดจึงพบกับประตูอีกบาน เชื่อมไปยังห้องหนังสือ

ห้องหนังสือมีขนาดกว้างใหญ่ ที่เตาผิงยังมีไฟลุกโชน ในขณะที่พวกทหารแยกย้ายกันไปตรวจดูทุกซอกมุม คาร์ลเดินไปที่โต๊ะหนังสือไม่ไกลจากเตาผิงนัก

ไฮน์ริชเดินตามไปช้าๆ “ท่านพี่...”

ทว่าจู่ๆ ก็มีลมพัดวูบใหญ่ไปที่เตาผิง ทำให้ขี้เถ้าลอยโขมงบดบังทัศนวิสัย คาร์ลกับไฮน์ริชรีบยกเสื้อขึ้นปิดจมูกไว้ ก่อนจะได้ยินเสียงสบถของบาร์ดอฟแว่วมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับเสียงฝีเท้าห่างออกไป

ลอร์ดหนุ่มหรี่ตามองตามเงาตะคุ่มในกลุ่มควัน “มันหนีไปแล้ว! ที่นี่ต้องมีทางลับอีกแน่ ไฮน์ริช ข้าจะรีบตามมันไป!”

“ท่านพี่! เดี๋ยวก่อน!” ไฮน์ริชเอื้อมมือออกไปไขว่คว้าในอากาศ หากเสียงฝีเท้าหนักๆ ของลอร์ดหนุ่มห่างออกไปเสียแล้ว เขาจึงรีบวิ่งตามไปด้วย “ท่านพี่รอข้าด้วย!”


(มีต่อนะคะ)

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 30 : เทรบูเชต์][030117]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 11-05-2017 19:37:00


ยาคอปเงยหน้ามองขึ้นไปยังบันไดที่หมุนเป็นเกลียวสูงราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด เขาเดินสลับวิ่งขึ้นมาสักพักแล้วก็ยังไม่ถึงยอดของมันสักที

เด็กหนุ่มเผยอริมฝีปากหอบ “ปกติแล้วหอคอยก็น่าจะมีบันไดราวๆ สามหรือสี่ร้อยขั้นน่ะครับ”

วิ่งขึ้นบันไดวนไปอีกครู่ใหญ่ก็มาหยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่ง เมื่อเปิดออกไปก็พบกับห้องกว้างใหญ่อีกห้อง ภายในห้องมีทหารยามเฝ้าอยู่หลายนาย อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นทางขึ้นบันไดวนอีกต่อ

“เจ้าหาทางขึ้นไปช่วยท่านพ่อ ข้าจะจัดการไอ้พวกนี้เอง”

“ระวังตัวนะท่านยาคอป”

“เจ้าก็เช่นกัน” ยาคอปคว้ามือเรียวไว้แล้วบีบหนักๆ “ช่วยท่านพ่อให้ได้นะ ข้าฝากด้วย”

เด็กหนุ่มพยักหน้า เขาวิ่งไปหลบหลังเสาในขณะที่ยาคอปนำทหารเข้าต่อสู้กับทหารยามในห้องนั้น ก่อนจะวิ่งตรงไปยังบันไดทางขึ้นอีกฝั่งอย่างรวดเร็วที่สุด

สองขาเรียวพาเจ้าของวิ่งขึ้นไปบนบันไดวนสูงชันซึ่งมีขนาดกว้างประมาณหนึ่งเมตรกว่าๆ เท่านั้น แม้จะเหนื่อยแทบขาดใจ หากก็ไม่มีเวลาหยุดพัก เขาเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนสลับหันกลับไปมองข้างหลังอย่างเป็นกังวล ทั้งกลัวและหวาดระแวงว่าจะมีทหารตามขึ้นมาได้

ในที่สุดเด็กหนุ่มก็ขึ้นไปถึงชั้นบนสุดของหอคอย เบื้องหน้าของเขามีเพียงกำแพงอิฐที่มีช่องลูกกรงขนาดแค่พอมองเห็นใบหน้าคนที่อยู่ข้างในและส่งอาหารได้เท่านั้น

“ใครน่ะ”

“ท่านวิลแฮล์ม” ลูคัสเดินไปหยุดยืนหอบอยู่ที่หน้าลูกกรง “ท่านวิลแฮล์มใช่มั้ย”

ชายวัยกลางคนในห้องนั้น แม้จะมีเครารุงรังแต่ก็ยังมีท่วงท่าที่สง่างาม เขาลุกขึ้นเดินตรงเข้ามาหาเด็กหนุ่ม “ข้าคือวิลแฮล์ม ฟรีดริช แห่งไฮเดลแบร์ก”

“ท่านคาร์ล ท่านไฮน์ริชและท่านยาคอปอยู่ที่นี่แล้ว ผมจะช่วยท่านออกไป”

อาร์ชดยุกเบิกตากว้าง เวลานั้นเป็นห่วงบุตรชายทั้งสามยิ่งกว่าสิ่งใด “พวกเขาอยู่ที่นี่รึ! แล้วพวกเขาปลอดภัยหรือเปล่า! หรือว่าเสียงดังนั่น!”

“ผมหวังว่าพวกเขาจะปลอดภัย แต่ตอนนี้ต้องพาตัวท่านออกมาให้ได้ก่อน” ลูคัสใช้มือเคาะไปตามกำแพง พยายามจะหาช่องทางเข้าไปในห้อง “ประตูอยู่ไหนเนี่ย”

“ไม่มีประตูหรอกเจ้าหนู ไอ้บาร์ดอฟ... มันตั้งใจจะขังข้าไว้ที่นี่จนตาย”

“นี่... นี่คือกำแพงอิฐหรือครับ” มือเรียวลูบไปมาบนกำแพงนั้น ก่อนจะก้าวกลับไปยืนที่ข้างหน้าลูกกรง “ท่านมีที่หลบมั้ย ผมจะระเบิดกำแพงนี่”

“หือ!? ระเบิดรึ!”

“ใช่แล้วครับ เร็วเข้า หาอะไรก็ได้มาเป็นกำบัง เอาหลายๆ ชั้นเลย”

อาร์ชดยุกหันมองไปในห้อง เขารีบรุดไปยกขาเตียงนอนเอียงตั้งด้านข้าง ยกโต๊ะมากั้นไว้อีกชั้นแล้วหลบอยู่ข้างหลังนั้น

“ท่านเอาผ้าคลุมตัวไว้ด้วย เร็วครับ แล้วอย่าออกมาจนกว่าผมจะเรียก” เด็กหนุ่มชะเง้อมอง เขาหยิบถุงผ้าที่มัดติดเอวมาด้วยขึ้น หยิบโถดินเผาขนาดเท่าลูกบอลออกมาวางไว้ใต้ลูกตรง จากนั้นจึงเอาไฟจากตะเกียงน้ำมันที่แขวนอยู่ข้างหน้าลูกกรงมาจุด แล้ววิ่งลงบันไดไปหลบ

เสียงระเบิดดังตูมใหญ่ เศษอิฐกระเด็นกระจัดกระจาย ฝุ่นควันลอยโขมง เขารออยู่พักหนึ่งจึงวิ่งกลับขึ้นไป

แรงระเบิดทำให้กำแพงเป็นรูใหญ่ หากยังไม่พอที่จะลอดผ่านได้ เด็กหนุ่มจึงใช้เท้าถีบให้ช่องว่างใหญ่ขึ้นแล้วจึงมุดเข้าไปภายใน “ท่านวิลแฮล์ม!” เขาถลาเข้าไปดึงผ้าห่มที่คลุมตัวอาร์ชดยุกออกแล้วพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น

"โอ นี่หรือฤทธิ์ของระเบิด” วิลแฮล์มเบิกตาโพลง

“รีบไปจากที่นี่กันเถอะครับ ท่านเดินไหวมั้ย อะ ท่านบาดเจ็บนี่!” ลูคัสก้มลงมองขาที่พันผ้าพันแผลไว้หลายทบ

“ไหวอยู่ แผลนี่ข้าได้มาตอนต่อสู้กับทหารของเจ้าบาร์ดอฟน่ะ”

“ผมจะช่วยพยุงอีกแรงนะ” เด็กหนุ่มจับแขนอีกฝ่ายพาดคอ แล้วประคองลงบันไดวนไปอย่างทุลักทุเล

อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กชำเลืองมองเด็กหนุ่มที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ตัวผอมนิดเดียวแต่ก็แรงเยอะไม่ใช่เล่น “ข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย”

“ผมชื่อลูคัส”

วิลแฮล์มยิ้มบาง “ข้าขอบใจเจ้ามากนะ ลูคัส”

ลงบันไดไปสักพักก็มีเสียงเรียกจากทางด้านล่าง “ท่านพ่อ! ลูคัส!”

“ยาคอป!”

ลอร์ดหนุ่มรีบวิ่งขึ้นไปช่วยประคองบิดา ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยน้ำตา “ดีเหลือเกินที่ท่านพ่อปลอดภัย”

“พี่ๆ เจ้าล่ะ ยาคอป”

“ท่านพี่ทั้งสองไปตามจับตัวไอ้บาร์ดอฟขอรับ ทหารของเราบุกเข้ามาในปราสาทนี้แล้ว เหลือแค่จับตัวมันเท่านั้น”

“ระวังมันให้ดี ไอ้สุนัขลอบกัดนั่น”

“ท่านพ่ออย่าห่วงไปเลย รีบออกไปจากที่นี่ก่อนเถอะขอรับ”

ทั้งสองช่วยกันประคองอาร์ชดยุกไปอีกสักพักพวกทหารก็ตามมาช่วย อาการบาดเจ็บและระยะทางที่ต้องเดินลงบันไดทำให้เขาอ่อนแรงลง พวกทหารจึงต้องให้ขี่หลังลงไปจนถึงชั้นใต้ดินแล้วพากลับขึ้นมาทางเดิมที่ด้านหลังห้องรับประทานอาหารอีกครั้ง


*~TBC~*


ดื้อพอกันทั้งปั๋วทั้งเมรีย /ส่ายหน้าไปมา แต่อย่างน้อยน้องลูก็ช่วยพ่อปั๋วได้ละน้า~

ตอนหน้ามารอดูกันว่าปั๋วยุค Medieval คนนี้ จัดการตัวร้ายยังงอยนะคะ

ก่อนออกรบยังอุตส่าห์จะมีปักธงชัยเอาฤกษ์เอาชัยกัน ความอึดนี้ 5555555

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่า ใกล้จบแย้ววววว สู้ๆ! (ฮัสกี้นี่แหละ! สู้นะ ฮรือออออ)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 11-05-2017 19:53:45
เย้ๆๆๆ สู้ๆๆๆ น้าาา ทั้ง2 คนเลย ลุ้นทุกตอนจริงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 11-05-2017 20:20:43
สู้เขาๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 11-05-2017 20:25:53

สร้างความประทับใจไว้ก่อนใช่ไหมหนูลูคัส

หวังว่าจะมีแต่เรื่องดีๆ

รอขอรับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 11-05-2017 20:38:07
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 11-05-2017 20:40:40
คือเค้า  :oo1: กันแล้วน้องลูยังมีแรงวิ่งอีกนะลูกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 11-05-2017 20:41:04
ลุ้นทุกตอนเลยสำหรับนิยายเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 11-05-2017 20:42:08
ลุ้นยิ่งกว่าตอนหวยออกอีก
สู้เขานะลูคัส
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-05-2017 20:43:23
เอาละ เหลือแค่จัดการบาร์ดอฟ สู้ๆๆๆ นะทุกคน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 11-05-2017 20:44:13
ลุ้นอ่ะ ท่านคาร์ลจะตามบาร์ดอฟทันมั้ยย

ยังไงลูคัสก็ไปช่วยท่านพ่อได้แล้วล่ะนะ

ลุ้นต่อไปปป  :mew1: :katai5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-05-2017 20:47:50
ชนะแน่นอนเพราะก่อนออกรบได้เสริมกำลังใจเรียบร้อย ความอึดนี้ :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-05-2017 20:53:37
สู้ ๆ ค่าคุณฮัสกี้  :katai4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 11-05-2017 21:33:50
เฮ้อ...อ่านจบตอนแล้วโล่งอก

ดีที่ทึกคนปลอดภัยดี

แต่ยังวางใจไม่ได้ตราบใดที่ยัง

จับตาแก่บาร์ดอฟยังไม่ได้

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-05-2017 21:44:10
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 11-05-2017 22:19:31
ที่ดื้อก็เพราะอยากช่วยท่านพ่อขอสามีนะคะ แรงเยอะอยู่แล้วค่ะ ไม่ต้องห่วง  :o8:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 11-05-2017 22:19:57
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 11-05-2017 22:44:47
กำลังใจก่อนออกรบ ลูคัสหาเรื่องตลอดแต่ถ้าไม่มีลูคัสก็หาทางขึ้นไม่เจออีก ท่านคาร์ลใจร้อนไปนะ ผิดวิสัยจริง ๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 11-05-2017 22:45:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-05-2017 22:47:15
ลุ้น!!!
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-05-2017 22:48:07
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 11-05-2017 23:20:11
 :katai2-1:  :hao7: :katai2-1:

 :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: multiver ที่ 12-05-2017 01:17:44
มาแล้วๆๆ นั่งลุ้นจนตัวโก่ง แล้วตัดจบในฉากที่กำลังมันส์ ใจร้ายจริงนะพี่ฮัสกี้  :hao5: :hao5: ใกล้จบแล้วหรอออ รู้สึกเหมือนพึ่งอ่านมาได้นิดเดียวเองงงง ยังอยากอ่านต่ออีกอ่าาา  :hao5: :hao5: ถ้าให้เดามโนฉากต่อๆไปล่ะก็....บาร์ดอฟต้องทำอะไรท่านหลอดแน่นวล รึไม่ก็ฟาดฟันดวลดาบ 1 - 1 (แอบมีคิดว่าถ้าบาร์ดอฟแพ้แล้วจะกดระเบิดทำลายปราสาท :hao7: :hao7: สมัยนั้นระเบิดยังหายากอยู่นี่เนอะ ขนาดท่านพ่อของท่านหลอดยังไม่เคยเห็นเลย แล้วบาร์ดอฟจะมีน้ำยาสร้างระเบิดรึ :hao7: :hao7:) แล้วก็หาทางออกจากปราสาท เมื่อได้รับชัยชนะ แน่นอนพี่ลูไร่อ้อยเราคงไม่พ้นให้ชาวบ้านย้ายเมืองมาอยู่ด้วยกันเพื่อชีวิตที่สุขสบายยิ่งขึ้นแน่นวลลล แล้วก็สู่ขออออ #ผิด
บอกท่านพ่อว่าลูคัสเป็นอัลไลกับท่านหลอดดดด แน่นวลว่าดูแล้วท่านพ่อยอมรับได้ง่ายดายเพราะฝีมือลูคัสมะธรรมดา ส่วนฝั่งปัจจุบันก็คงเกิดอะไรขึ้นบางอย่างซึ่งทำให้อดีตและปัจจุบันเชื่อมกันอีกครั้ง ส่วนลูคัสจะกลับมั้ยนั้นนน.....งานนี้อาจมีมาม่ามาให้กินกัน หรือไม่พวกขุ่นพ่อขุ่นแม่ลูคัสมาอยู่อดีตด้วยกัน ซึ่งเปอร์เซนต์นั้นต่ำมากมายยย ท่านหลอดจะทิ้งเมืองมาอยู่กับลูคัสก็ใช่เรื่อง อีกอย่างท่านหลอดเป็นคนในอดีต ข้ามเวลามาปัจจุบันยังไงก็ตาย เนื่องจากทฤษฎีเรื่องกระแสเวลา กฎของเวลา และ Paradox งานนี้อาจมีมาม่าไม่จากครอบครัวก็จากท่านหลอด :mew6: :mew6:
ปล.เค้าชอบมาม่า :hao7: :hao7:
ปล2.รอตอนต่อจ้าาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: Sallyfang ที่ 12-05-2017 01:24:46
 :pig4: :pig4: :call: ขอบคุนน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 12-05-2017 01:31:58
เพราะปักธงชัยนั่นแหละข่าาา ถึงชนะ 555555
 :m20:  กรี๊ดดดด แต่ใกล้จบเเล้วหรอ เดาได้เลยว่าต้องมีใครเสียน้ำตา
อ่ะ แต่ขอให้น้องลูเสียน้อยกว่านะ ก็เรารักน้องลูอ่ะ /โดนโบก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 12-05-2017 06:51:36
เย้! ลูคนเก่งช่วยพ่อสามีได้แล้ว

เข้าบาดอฟใจคดไม่รอดแน่
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-05-2017 09:27:14
ช่วยพ่อและ เหลือแค่รอสะมีกลับมาล่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-05-2017 10:23:23
คาดว่าน้องลูเราอาจจะได้เจอบาร์ดอฟแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 12-05-2017 11:15:56
น้องลูเก่งมั่ก ภูมิใจแรง
ว่าแต่พ่อแม่น้องลูยุคปัจจุบันล่าวทำไงอ่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 12-05-2017 12:32:10
ปักธงชัย 555555
ขอให้ท่านหลอดปลอดภัยด้วยนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 12-05-2017 12:36:02
เอาใจช่วยน้าาาาา ลุ้นจนตัวโก่งเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 12-05-2017 20:48:10
คารวะ1จอก ให้ปั๋วเมรียคู่นี้ แข็งแกร่งยิ่งนัก
ทั้งในสนามรัก สนามรบ
จัดสนามรักในสนามรบก็เอา คิดดูเถอะ  :haun4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 13-05-2017 03:32:02
คือกำลังสนุกเลยแต่พอเจอคำว่าไกล้จบนี้ใจหายเลยไม่ชอบคำนี้เลยใจหายรอบที่ล้าน  :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 13-05-2017 14:03:02
สนุกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 13-05-2017 15:58:32
เย่ๆๆๆช่วยพ่อสามีได้แระจัดการตัวร้ายให้หนักเลยนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 13-05-2017 16:54:59
เวลานี้ ยังมีอารมณ์สวีทกันอี้กกกก ท่านคาร์ลอยากบอกอะไรนะ จะขอให้เป็นเรื่องราวหรอ

ลูคัสบอกอะไรเลยเชื่อบ้างไหม ถ้าเป็นไรขึ้นมาจะทำไงล่ะ

เจอท่านพ่อแล้ว ลูคัสเก่งมาก

ท่านคาร์ลตามไปแบบนั้น ระวังด้วยนะ

สงสารพ่อแม่ปัจจุบัน นับวันรอแล้วรออีก แต่แม่ฝันแม่นมากค่ะ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 13-05-2017 21:56:50
เกริ่นถึงปัจจุบันไว้อย่างนี้ แปลว่าจะพาน้องลูคัสกลับมาปัจจุบันแล้วอ่ะป่าว ช่วยพาท่านลอร์ดมาด้วยน๊าา
แอบคิดให้ท่านลอร์ดมาอยู่กับน้องลูคัสที่ปัจจุบัน
น้องลูคัสทำคะแนนกับคุณพ่อสามีได้ดีมากๆ ปูทางไว้ท่านอาร์ชดยุคจะได้ยกท่านลอร์ดให้น้องลูเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 13-05-2017 22:28:49
ยอมใจความอ้อยของน้องลู  :hao6:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-05-2017 22:31:21
ไ่ม่ใช่สลับกันอยู่คนละยุคอีกเด้อ งงน่าดู 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: pinkpunk ที่ 16-05-2017 09:35:22
โอ้ยยยยยยยยเขินมากกกก น้องลูขออะไรท่านคาร์ลคะลูกกกกกก สนุปมากกกกกลุ้นระทึกแลตื่นเต้นมากค่ะ สนุก ฮือออ ตอนนี้ยาวได้ใจมากกค่ะ ~*
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 16-05-2017 17:36:09
ปักธงเอาชัยกันจนได้ชัยชนะจริงๆ ไชโย 5555+
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 17-05-2017 22:53:32
อ่านแล้วลุ้นตามทุกตัวอักษรเลย หวังว่าจะไม่มีอันตรายเกิดขึ้นกับท่านลอร์ดนะ กลัวไปหมดแล้ว :sad4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 31 : อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก][110517]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 19-05-2017 09:48:19


Chapter 32 : เลือก


ลอร์ดหนุ่มวิ่งฝ่ากลุ่มควันตามหลังบาร์ดอฟเข้าไปในห้องลับหลังชั้นหนังสือ ตามอีกฝ่ายลึกเข้าไปในตัวปราสาท จนกระทั่งเห็นว่าเงาของอีกฝ่ายวิ่งเข้าไปในห้องห้องหนึ่งจึงรีบตามเข้าไป หากเมื่อเปิดประตูออกก็ต้องชะงัก เพราะข้างในห้องนั้นมีสิงโตตัวใหญ่ที่กำลังส่งเสียงคำรามดังก้อง พอมันเห็นเขาเข้าก็พุ่งตรงเข้ามาหา

“ท่านพี่ หมอบลง!” ไฮน์ริชยกคันธนูขึ้น น้าวสายธนูแล้วยิงออกไปอย่างรวดเร็ว

ธนูปักลงบนลำตัวของสิงโตพอดี ทำให้มันดิ้นพล่าน เป็นโอกาสให้คาร์ลดึงประตูปิดสนิทอีกครั้ง เขาสังเกตเห็นเงาทหารจึงรีบหันกลับไปทางน้องชาย แล้วตะโกนเสียงดังลั่น “ไฮน์ริช ข้างหลัง!”

ผู้เป็นน้องชายคว้าดาบแล้วหันกลับไปรับคมดาบที่ฟาดฟันลงมา ก่อนจะยกเท้าถีบคนที่อาจเอื้อมเข้ามารุกรานออกไป ในเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ของทหารนับสิบคนทยอยกันเข้ามาภายในห้อง

“บ้าฉิบ! เราติดกับดักของมันแล้ว”

ไฮน์ริชยกถุงผ้าในมือขึ้นเป็นสัญญาณให้กับพี่ชาย จากนั้นลอร์ดหนุ่มทั้งสองจึงค่อยๆ ถอยไปยังบานประตูที่เพิ่งปิดไปหมาดๆ เขาหันไปหยิบตะเกียงน้ำมันที่วางอยู่ตรงหน้าประตูขึ้นมาจุดชนวนระเบิด

คาร์ลรีบเปิดประตูห้องออกทันที สิงโตที่อยู่ในห้องนั้นพุ่งออกมาอย่างกราดเกรี้ยว เขาคว้าตัวน้องชายที่เพิ่งปาระเบิดออกไปแล้วกระโดดเข้าไปภายในห้องนั้น

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดผลักบานประตูปิดดังปังใหญ่ ความสั่นสะเทือนส่งผลให้กำแพงและเพดานร้าว เศษหินร่วงหล่นกระจัดกระจาย ฝุ่นคลุ้งไปหมด

รออยู่สักพักให้ทุกสิ่งทุกอย่างสงบลง ก่อนทั้งสองจะลุกขึ้นแล้วหันมองไปรอบๆ ห้อง มันเป็นห้องโถงกว้างใหญ่ ที่ตรงกลางมีกรงซึ่งก่อนหน้าคงจะใช้ขังสิงโตไว้ ภายในกรงมีสระน้ำและสนามหญ้าขนาดย่อม เมื่อเดินสำรวจดูจึงพบว่าอีกฝั่งของห้องมีรั้วกั้นก่อนจะถึงประตูอีกบาน พอเปิดประตูออกก็เห็นบันไดวนลงไปยังชั้นล่าง พวกเขาจึงรีบวิ่งลงบันไดนั้นไป



ทหารของแคว้นไฮเดลแบร์กกระจายกันไปทั่วปราสาท เมื่อพบตัวศัตรูก็จับออกไปรวมกันที่ทางด้านนอก ใครบังอาจขัดขืนก็จะกลายเป็นวิญญาณอยู่เฝ้าปราสาทแห่งนี้ต่อไป

ลูคัสเดินขึ้นบันไดตามหลังทุกคนไปอย่างใกล้ชิด เขาเผยอริมฝีปากหอบหนักๆ พอขึ้นมาถึงห้องรับประทานอาหารก็หยุดพักพิงผนังห้อง ปล่อยให้คนอื่นๆ เดินนำออกไป

อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กลงจากหลังทหารเพื่อเดินด้วยตนเองอีกครั้งโดยให้ยาคอปช่วยประคอง ส่วนพวกทหารที่ยืนอยู่ในบริเวณนั้นก็ค้อมศีรษะลงต่ำทำความเคารพ ส่งเสียงตะโกนบอกข่าวดีถึงกันด้วยความยินดี ในระหว่างที่ทั้งสองเดินไปช้าๆ พ้นห้องครัวไปเล็กน้อย ตัวปราสาทก็เกิดสั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองโคมไฟที่ห้อยลงมาจากเพดานแกว่งไปมาอยู่สักพักแล้วก็หยุด แวบแรกเขากังวลว่าตัวปราสาทอาจจะได้รับผลกระทบจากแรงกระแทกของก้อนหินใหญ่ หรือไม่บางทีอาจจะเป็นแผ่นดินไหวก็ได้ ถึงจะยังไม่มั่นใจนักแต่ก็คิดว่าควรจะนึกถึงปลอดภัยไว้ก่อน ขาเรียวก้าวออกไปตามทางเดินพร้อมกับตะโกนเสียงดัง “ท่านยาคอ...!”

“ลูคัส!” เจ้าของชื่อเรียกหันมาแล้วเบิกตาโพลง

คนที่พุ่งออกมาจากประตูห้องรับประทานอาหารกระชากร่างโปร่งเข้าไปประชิดตัว ก่อนจะใช้ด้านคมของดาบยาวพาดลำคอระหงไว้ “แกอย่าขยับเชียวถ้าไม่อยากตาย!”

เสียงนี้!

“บาร์ดอฟ!”

“หืม?” เจ้าของชื่อหันไปมองใบหน้าของเด็กหนุ่ม ถึงจะผมสั้นแต่เขาก็จำใบหน้าเช่นนี้ได้แม่น “เจ้าคือ อารามิสคนนั้นไม่ใช่รึ”

“ปล่อย!” มือเรียวจิกปลายเล็บลงในท่อนแขนที่กอดรัดตนเองไว้ “ไอ้สารเลว ปล่อยนะเว้ย!”

“โอ๊ย! อยากตายเร็วนักรึไง!” บาร์ดอฟตะคอกเสียงดัง

เสียงฝีเท้าวิ่งลงบันไดมาถี่ๆ เมื่อลงมาถึงก็พบกับห้องรับประทานอาหารเข้าพอดี คาร์ลได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มก่อนสิ่งอื่นใด เขาผลุนผลันวิ่งตัดห้องรับประทานอาหารตรงไปที่บานประตูห้อง ส่วนไฮน์ริชก็วิ่งตามไปติดๆ กัน

“ไอ้บาร์ดอฟ! ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!” ลอร์ดหนุ่มยกดาบในมือขึ้น

บาร์ดอฟยิ้มร้าย ในตอนแรกเขาเห็นคนในชุดเกราะมีตรามังกรก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นคนสำคัญพอให้ต่อรองอะไรได้ หากไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนที่สำคัญมาก ยิ่งเมื่อได้เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายก็ยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เขาจับคางเรียวให้หันหน้ามาทางตนแล้วหันไปพิจารณาใบหน้าของเด็กหนุ่ม “อารามิส ไอ้เด็กนี่เป็นได้ทั้งหญิงและชายเลยนะ มิน่าเจ้าของถึงได้หวงนัก ต้องมีของดีแน่ ขอข้าชิมหน่อยก็แล้วกัน” จากนั้นก็ใช้ลิ้นลากไปบนลำคอระหง

“ปล่อยนะเว้ย ขยะแขยง! ท่านคาร์ล ช่วยผมด้วย!”

คาร์ลโกรธจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ หากเพราะคมดาบพาดอยู่บนลำคอคนรัก เขาจึงยังไม่อาจทำอะไรผลีผลามได้

บาร์ดอฟใช้ตัวเด็กหนุ่มเป็นกำบังและเป็นตัวประกัน เมื่อเขาเดินถอยหลังไป พวกทหารที่อยู่ในบริเวณนั้นก็ขยับตามไปห่างๆ

“เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้รึ!” อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กตะคอกเสียงดังก้อง “ทหาร!”

“ก็ลองเข้ามาสิ ข้าจะเชือดคอไอ้เด็กนี่ให้ดู” บาร์ดอฟกดคมดาบลงในเนื้อที่คอเล็กน้อย พอให้เลือดไหลซิบ “วางอาวุธให้หมด! วางเดี๋ยวนี้!”

พวกทหารเห็นเข้าก็ทิ้งอาวุธในมือลงแทบจะในทันที “ท่านลูคัส!”

วิลแฮล์มเบิกตากว้าง ไม่อยากเชื่อว่าพวกทหารจะทำเช่นนั้นก่อนที่ผู้เป็นนายจะสั่งเสียอีก เขาหันไปทางลอร์ดหนุ่ม “คาร์ล!”

คาร์ลกำดาบในมือแน่นพลางกัดฟันกรอด “......”

“ท่านคาร์ล ข้าจะปล่อยไอ้เด็กนี่ไปก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน”

“เจ้าต้องการอะไร!”

“ดาบในมือท่าน ใช้แทงตัวเองสิ แล้วข้าจะปล่อยไอ้เด็กนี่ไป” บาร์ดอฟหัวเราะเสียงแหลมราวกับปิศาจร้าย จากนั้นก็ลากถูลู่ถูกังเด็กหนุ่มตรงไปยังประตูทางลงบันไดที่อยู่ถัดจากห้องรับประทานอาหารไป

“ลูคัส! หยุดนะบาร์ดอฟ!”

“ทำไม? หรือท่านจะยอมใช้ดาบในมือนั่นแทงตัวเองจริงๆ”

“ข้าจะเชื่อเจ้าได้หรือว่าถ้าทำแล้วเจ้าจะปล่อยเขา”

“ท่านไม่มีทางเลือกอื่นใช่หรือไม่”

“ไม่นะท่านคาร์ล!” ลูคัสเบิกตาโพลง “ปล่อยสิโว้ย!” เขาดิ้นเร่าอย่างไม่เกรงกลัวต่อคมดาบ

นัยน์ตาคมกริบฉายแววดุดัน เขายกดาบในมือขึ้นช้าๆ

“ไม่!” เด็กหนุ่มกรีดร้องเสียงดัง ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นเงาของใครบางคนก้าวออกมาจากประตูห้องรับประทานอาหาร

คอนราดยืนอยู่ที่นั่น เขายกนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากแล้วทำท่าบอกให้ยืนนิ่งๆ เมื่อมองเข้าไปในห้องก็เห็นว่าเออร์วินหลบอยู่ที่ตรงประตูห้องรับประทานอาหาร ในมือถือหน้าไม้ขนาดย่อม เขาขยับริมฝีปากโดยไม่ออกเสียง

“เชื่อใจข้า”

เพียงชั่วพริบตาเดียวลูกธนูก็พุ่งออกมา ทะลุแขนของเสื้อเกราะ ปักเข้าที่หัวไหล่ของบาร์ดอฟพอดี

“โอ๊ย!” ความเจ็บปวดทำให้บาร์ดอฟคลายแขนออก

ตัวปราสาทเกิดสั่นไหวขึ้นมาอีก ครั้งนี้แรงสั่นสะเทือนมากเสียจนโคมไฟถูกเหวี่ยงอย่างแรงแล้วร่วงหล่นลงบนพื้น ผู้คนทรงตัวแทบไม่อยู่ บ้างก็เซไปกระแทกผนังปราสาท

“ลูคัส!”

จู่ๆ ร่างของเด็กหนุ่มก็ดูราวกับจะเลือนหายไป คาร์ลร้องลั่นพร้อมกับพุ่งตรงเข้าไปหา เขาเงื้อดาบในมือขึ้นฟันลงไปเพื่อให้บาร์ดอฟยกดาบขึ้นรับและปล่อยเด็กหนุ่มให้เป็นอิสระ หากทั้งสองก็ต้องชะงักเมื่อฝุ่นผงจากเพดานร่วงหล่นลงมาหนักหน่วงขึ้น แรงสั่นสะเทือนเป็นผลให้พวกเขาเซออกไปคนละทาง

เพดานกำลังจะพังลงมาแล้ว!

ขณะเดียวกันนั้นเอง แวบหนึ่งเด็กหนุ่มมองเห็นภาพซ้อนทับกัน บิดามารดากับพี่ชายของเขายืนอยู่ที่ซากปรักหักพังของปราสาทในจุดเดียวกันนี่ “พ่อแม่ ไอแซ็ก... ไม่จริง...”

ไอแซ็กหันมาทางเด็กหนุ่ม ผู้เป็นพี่ชายยิ้มกว้างพลางรีบเดินเข้ามาหา “ลูคัส!” เบื้องหลังของพี่ชายคือบิดามารดา พวกเขารีบก้าวตามหลังไอแซ็กมา “ลูคัส! กลับบ้าน...”

“พ่อแม่ ไอแซ็ก... ผม...” ลูคัสอ้าปากค้าง

“ลูคัส! มาหาข้าเร็วเข้า!” คาร์ลตะโกนลั่น
เจ้าของชื่อเรียกหันไปทางลอร์ดหนุ่ม “คาร์ล...”

ลอร์ดหนุ่มอ้าแขนออก “มาหาข้าสิ ลูคัส”

เสียงของคนรักเรียกสติให้กลับคืนมาอีกครั้ง เขาหันกลับไปสบสายตากับพี่ชายและบิดามารดา ส่ายหน้าแล้วยิ้มบาง “ขอโทษครับ”

เวลานี้ลำคอเด็กหนุ่มเป็นอิสระแล้ว เขาจึงก้มลงมองท่อนแขนที่โอบเอวตนเองไว้แค่หลวมๆ  ก่อนจะเบี่ยงตัวออกโดยเร็ว มือเรียวหยิบดาบสั้นที่เคยได้รับมาจากอีกฝ่ายออกจากฝัก ย่อตัวลงแล้วแทงไปที่เท้าซึ่งมีเพียงรองเท้าหนังสวมไว้อย่างแรงจนตรึงเท้านั้นไว้กับพื้นได้ เสียงของบาร์ดอฟร้องโอดโอย ทว่าเด็กหนุ่มไม่ได้หันไปมองอีก เขาวิ่งตรงเข้าไปหาลอร์ดหนุ่มผู้เป็นที่รัก

“คาร์ล!”

แรงสั่นสะเทือนหนักหน่วงขึ้น ลอร์ดหนุ่มคว้าแขนเรียวแล้วกระชากร่างโปร่งเข้าหาตัว ก่อนเพดานจะถล่มลงมาตรงที่บาร์ดอฟยืนอยู่พอดี

เมื่อฝุ่นควันจางหายไป เบื้องหน้าของทั้งสองคนมีเพียงกองหินและอิฐกองใหญ่ มีเพียงด้ามจับของดาบสั้นที่มีตราของมาควิสแห่งโรเซนไฮม์โผล่พ้นออกมาเท่านั้น

ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ความสั่นสะเทือนเมื่อครู่หายไปสิ้นราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากทุกคนในที่นั้นยังคงตะลึงงึงงัน

“รีบออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า!” คาร์ลอุ้มลูคัสขึ้นแนบกาย แล้วรีบรุดออกไปให้พ้นจากตัวปราสาทอย่างรวดเร็วที่สุด

ที่ด้านหน้าปราสาท พวกทหารเตรียมม้าไว้รออยู่แล้ว ลอร์ดหนุ่มให้ลูคัสขึ้นไปนั่งก่อนจึงตามขึ้นไปนั่งซ้อนข้างหลัง จากนั้นจึงออกคำสั่งให้พวกทหารถอยทัพออกไปจากเขตปราสาท แล้วพาพวกของศัตรูที่จับกุมมาได้ไปรวมกับชาวเมืองที่ในเมือง

อาร์ชดยุกขี่ม้าตามหลังลูกชายคนโตออกไปพร้อมกับยาคอป ส่วนไฮน์ริชขี่ม้าตามหลังมาติดๆ ตลอดระยะทางในเมืองพวกทหารค้อมศีรษะต้อนรับพลางส่งเสียงเฮรับชัยชนะที่ได้รับ

ม้าสีนิลตัวเขื่องวิ่งนำกองทัพกลับไปปักหลักในบริเวณที่ตั้งกระโจมริมฝั่งแม่น้ำ เมื่อไปถึงอาร์ชดยุกจึงลงจากหลังม้ามาทักทายพูดคุยกับพวกทหาร เขาหันมองไปรอบๆ เห็นเทรบูเชต์หลายเครื่องตั้งตระหง่านที่ริมฝั่งแม่น้ำก็เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “นั่นคือ...”

“มันคือเทรบูเชต์ สิ่งที่พวกเราใช้ทำลายกำแพงปราสาทขอรับท่านพ่อ” ยาคอปอธิบาย

“โอ... สิ่งนี้น่ะหรือ” วิลแฮล์มทำท่าจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ทว่าบุตรชายรั้งไว้

“เอาไว้ก่อนเถอะขอรับ ข้าว่าตอนนี้ท่านควรให้หมอตรวจดูแผลที่ขาสักหน่อย” เขากวักมือเรียกหมอหลวงที่เดินทางมาพร้อมกับกองทัพให้พาอาร์ชดยุกเข้าไปในกระโจมเพื่อตรวจดูบาดแผลก่อน

ฝ่ายลอร์ดหนุ่ม ตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่ยอมปล่อยลูคัสออกจากอ้อมแขน เมื่อลงมาจากหลังม้าแล้วก็ยังโอบกอดร่างโปร่งเอาไว้แนบกาย

“ท่านคาร์ล ปล่อยผมก่อนเถอะ ทุกคนมองใหญ่แล้ว”

“เจ้าจะไม่หายไปไหนใช่ไหม” เสียงกระซิบของเขาสั่นเล็กน้อย

เด็กหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ พลางยิ้มบาง เขาคิดว่าแผ่นดินไหวเมื่อครู่กับการที่เขามองเห็นบิดารมารดาและพี่ชาย อาจเป็นการเชื่อมโยงระหว่างสองยุคอีกครั้ง นั่นอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะกลับบ้านได้ หากเขาตัดสินใจแล้ว ที่สำหรับเขา คือในอ้อมแขนของลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์คนนี้เท่านั้น

ขอโทษนะครับ พ่อแม่ ไอแซ็ค

“ไม่หายไปไหนหรอกครับ ผมสัญญาแล้วว่าจะอยู่กับคุณไงล่ะ”

คาร์ลซบใบหน้าลงบนหัวไหล่อีกฝ่าย ใจเขายังคงหวาดหวั่นกับภาพเลือนรางของเด็กหนุ่มเมื่อครู่ เขามั่นใจว่าไม่ได้ตาฝาดไปแน่ๆ

“ท่านพี่ พวกทหารกำลังรอคำสั่งอยู่นะครับ” ไฮน์ริชขยับเข้ามาเรียก

ลูคัสทุบไหล่หนา ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ “ทำหน้าที่ของคุณก่อนสิ”

“นั่นสินะ” ลอร์ดหนุ่มผละออกแล้วหันไปบอกกับทุกคน “ไฮน์ริช ยาคอป ข้าขอบใจเจ้ามาก คอนราด เออร์วิน และทหารทุกคน พวกเจ้าทำดีมาก ชัยชนะเป็นของพวกเราแล้ว แต่จงอย่าชะล่าใจเป็นอันขาด จัดให้มีการผลัดเปลี่ยนเวรกันไปรักษาการในเมืองตลอดเวลา เรื่องการฉลองเอาไว้เมื่อกลับไปถึงแบร์กไฮม์ค่อยคุยกัน ส่วนคำสั่งหลังจากนี้ ข้าจะคุยกับท่านพ่อก่อน”

เสียงขานรับดังก้อง ก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง หลังจากถอดเสื้อเกราะ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วสามพี่น้อง องครักษ์ทั้งสองและลูคัสจึงเข้าไปรวมกันอยู่ในกระโจมหนึ่งเพื่อรอพบอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์ก

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ดวงอาทิตย์กำลังจะจมหายไปในปลายฟ้า อากาศในยามค่ำคืนหนาวเย็น พวกทหารผลัดเปลี่ยนเวรยามกันและก่อกองไฟไว้หน้ากระโจมทุกกระโจมเพื่อให้ความอบอุ่น ระหว่างนั้นก็รับประทานอาหารกันไปด้วย

ลูคัสเอนศีรษะพิงลอร์ดหนุ่ม เขาผล็อยหลับไปทั้งขนมปังยังคาอยู่ในมือ

คาร์ลจับให้อีกฝ่ายนอนลงแล้ววางศีรษะเล็กไว้บนตัก มือหยาบลูบเส้นผมสีดำขลับอย่างอ่อนโยน

สักพักผ้าคลุมกระโจมก็ถูกตลบเปิดออก จากนั้นอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กก็เดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า แล้วนั่งลงบนผ้าขนสัตว์ที่ปูไว้บนพื้น

“ท่านพ่อเป็นอย่างไรบ้าง”

“ข้าสบายดีแล้ว ขอบใจพวกเจ้าทุกคนมาก” ผู้เป็นบิดายิ้มกว้าง ก่อนจะถอนหายใจยาว “จนถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่อยากเชื่อว่าพวกเจ้าจะบุกเข้ามายึดโรเซนไฮม์นี่ได้ในเวลาสั้นๆ กำแพงปราสาทที่สูงใหญ่นั่น... เหลือเพียงแค่ซากเท่านั้น ถ้าไม่ได้เห็นกับตาอย่างไรข้าก็คงไม่เชื่อ” เขาส่ายหน้าไปมา “แล้วระเบิดนั่น ข้าก็เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก”

“พวกข้าคงต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้เจ้าเด็กดื้อนั่นล่ะ” ไฮน์ริชชี้ไปที่เด็กหนุ่มซึ่งนอนหนุนตักพี่ชายตนเองอยู่

ยาคอปเอ่ยเสริม “เจ้าของความคิดวิธีทำลายกำแพงปราสาท เครื่องเทรบูเชต์ใหญ่โตที่ท่านพ่อเห็น แล้วคนทำระเบิดก็คือเขานี่แหละขอรับ”

วิลแฮล์มมองไปที่เด็กหนุ่ม คนที่ทำให้ทหารยอมวางอาวุธโดยไม่รอฟังคำสั่ง แปลว่าจะต้องมีความสำคัญ เป็นที่รักและเคารพมากเลยทีเดียว “ดูท่าพวกทหารจะรักเขามาก”

“ไม่เพียงแค่ทหาร แต่ชาวเมืองแบร์กไฮม์ด้วยขอรับ” คาร์ลบอกกับบิดาอย่างภูมิใจ “เมื่อกลับไปถึงแบร์กไฮม์ ท่านพ่อจะได้เห็น”

“เขาเป็นใครมาจากไหนกันรึ หน้าตาท่าทาง การพูดจาไม่เหมือนใคร”

คราวนี้ทุกคนในห้องหันไปมองลอร์ดหนุ่มกันเป็นตาเดียวเพื่อรอฟังคำตอบ

“...ข้ารู้เพียงแค่ว่าสวรรค์ส่งเขามาให้ข้า” คาร์ลยิ้มบาง “เขาเป็นคนสำคัญของข้า ของทหารและชาวเมืองแบร์กไฮม์”

“เขายังดูเด็กมากเหลือเกิน แต่ความฉลาดเกินใคร” นัยน์ตาของผู้เป็นบิดาอ่อนแสงลง “ลูคัส”

“ลูคัส ตื่นเถอะ”

เมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำเรียกชื่อตนก็สะดุ้งเฮือก เขารีบลุกขึ้นทั้งยังงัวเงีย “อะ ผมหลับไปหรือ! ขอโทษครับ”

“หลับไปครู่เดียวเท่านั้น” คาร์ลยิ้มบางพลางช่วยเกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าออกให้ จากนั้นจึงโอบไหล่เด็กหนุ่มเข้ามาแนบกาย เขาเงยหน้าขึ้นประสานสายตากับบิดา “ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญจะต้องบอกกับท่าน”

“จะต้องบอกตอนนี้เลยหรือ”

“ขอรับ”

อาร์ชดยุกพยักหน้า ดูจากท่าทางเขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าบุตรชายต้องการจะบอกอะไรกับตน “ข้าฟังอยู่”

“ลูคัสเป็นคนรักของข้า”

เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง หายง่วงทันควัน “ท่านคาร์ล!”

“เขาเป็นคนที่ข้าเลือก นอกเหนือจากเขา ข้าก็ไม่ต้องการใครอีก”

ผู้เป็นบิดานิ่งขรึม เขาปิดตาลงพลางถอนหายใจหนักๆ นอกเหนือจากที่มีบุตรไม่ได้แล้วเขาก็ไม่มีอะไรจะคัดค้านหรอก เรื่องผู้สืบต่อบัลลังค์ต่อจากคาร์ลนั้น... ถึงอย่างไรก็ยังมีไฮน์ริชกับยาคอปอยู่ อาร์ชดยุกผู้ยิ่งใหญ่ลืมตาขึ้นแล้วหันไปเอ่ยกับเด็กหนุ่ม “ถ้าหากข้าไม่เห็นด้วยกับความรักของพวกเจ้า เจ้าจะพังปราสาทของข้าไหม”

ลูคัสขมวดคิ้ว ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ “ผมคง...ไม่บังอาจ”

“แบร์กไฮม์เป็นแค่เมืองเล็กๆ คนเก่งมากความสามารถเช่นเจ้า ไม่ว่าเมืองไหนๆ ก็ย่อมต้องการตัว แม้กระทั่งกรุงโรม ที่นั่นจะมีเงินทองมากมายและยศตำแหน่งสำคัญให้เจ้า รู้ตัวไหม”

“แต่เมืองไหนๆ ก็ไม่มีท่านคาร์ล” 

“แปลว่ารักมากอย่างนั้นสินะ”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นทันควัน นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง “เอ่อ...” ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ เขาหันไปสบสายตากับคาร์ล จากนั้นจึงพยักหน้าหงึกหงัก “รักมากครับ ผมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ที่นี่ก็เพื่อท่านคาร์ลเท่านั้น”

สีหน้ากับท่าทางของลูคัสทำให้วิลแฮล์มหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง “เอาล่ะ เอาเป็นว่าเรื่องของพวกเจ้าข้ารับรู้แล้ว ที่เหลือเอาไว้ถึงแบร์กไฮม์ก่อนแล้วค่อยคุยกันก็แล้วกัน ส่วนตอนนี้...”

อาร์ชดยุกค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้น เมื่อบุตรชายคนเล็กเห็นเข้าก็ถลาเข้ามาช่วยพยุง “ลูคัส เจ้ามานี่ซิ”

เจ้าของชื่อเรียกลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปหาแบบงงๆ “ครับ”

“ไม่ใช่ซี่ ลูคัส คุกเข่าลง” ไฮน์ริชกระซิบ

อาร์ชดยุกหัวเราะ “เรื่องมารยาทการวางตัวคงต้องฝึกหนักสักหน่อย แต่ไม่เป็นไร” เขาหยิบดาบยาวออกจากฝักแล้วแตะลงบนไหล่ซ้าย ขวา และบนศีรษะของเด็กหนุ่ม “นับแต่นี้ต่อไป เจ้าคือบารอนแห่งโรเซนไฮม์ในมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์  เมืองโรเซนไฮม์นี้จะถูกผนวกเข้ากับแบร์กไฮม์และกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของไฮเดลแบร์กเฉกเช่นในอดีต ซึ่งข้าจะให้เจ้าและคาร์ลช่วยกันดูแล”

ลูคัสกะพริบตาปริบๆ ยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน

“ลูคัส ขอบคุณท่านพ่อสิ”

“อะ ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มค้อมศีรษะลง

วิลแฮล์มวางมือลงบนศีรษะเล็กแล้วลูบอย่างอ่อนโยน “ข้าเป็นหนี้ชีวิตเจ้า ขอบใจที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยเหลือข้า” จากนั้นจึงค้อมศีรษะลงเล็กน้อย

เมื่อเห็นว่าอาร์ชดยุกค้อมศีรษะลง ทุกคนในห้องจึงค้อมศีรษะลงด้วยเช่นกัน

ใบหน้าน่ารักซับสีเลือด จู่ๆ ทุกคนก็ทำแบบนี้ เขาเขินจนทำอะไรไม่ถูกเลย

“เอาล่ะ พวกเจ้าไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เรายังมีอะไรต้องทำอีกมากมาย”

“ขอรับท่านพ่อ”

ทุกคนแยกย้ายไปพักในกระโจมของตนเอง ส่วนลอร์ดหนุ่มยกกระโจมของตนให้บิดา แล้วถือโอกาสไปพักกระโจมเดียวกับลูคัสแทน

ภายในกระโจมแคบๆ สองหนุ่มเอนตัวลงนอนเคียงกันอยู่บนขนสัตว์ผืนหนา ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน

เสียงฟืนในกองไฟข้างหน้ากระโจมลั่นเปรี้ยะ เปลวไฟสั่นไหวไปตามแรงลม เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มนอนนิ่งและเงียบไปสักครู่ใหญ่ๆ แล้ว คาร์ลจึงเอื้อมมือไปบีบปลายจมูกโด่งเบาๆ “ง่วงแล้วหรือ”

คนถูกถามพยักหน้าน้อยๆ “ง่วงด้วย เหนื่อยด้วยครับ”

ปลายนิ้วหยาบสัมผัสรอยดาบบนลำคอขาวอย่างแผ่วเบา “เจ็บไหม”

“เจ็บครับ”

“เพราะเจ้าขัดคำสั่งข้า บุกเข้าไปในปราสาทเช่นนั้นมันอันตรายมากรู้ไหม”

“ก็เพราะรู้น่ะสิครับถึงได้บุกเข้าไป ผมเป็นห่วงคุณใจแทบขาด”

แม้ใจอยากจะแกล้งโกรธให้อีกฝ่ายสำนึกผิดเสียบ้าง หากคำตอบที่ได้รับกลับทำให้เขาอดยิ้มออกมาไม่ได้

“แล้วจู่ๆ คุณก็บอกเรื่องของเรากับท่านอาร์ชดยุกแบบนั้น ผมนึกว่าจะไม่รอดเสียแล้วสิ”

คาร์ลหัวเราะ “ข้าตั้งใจไว้แล้ว หากเอาชนะบาร์ดอฟได้ ข้าจะบอกเรื่องของเราให้ท่านพ่อรับรู้เป็นอย่างแรก” เขาโน้มใบหน้าเข้าไปหาเด็กหนุ่มจนหน้าผากสัมผัสกัน “เจ้าเองก็ต้องการเช่นนั้นไม่ใช่หรือ”

“ผมแค่ต้องการจะอยู่กับคุณ ต้องการให้เรารักกันได้”

“ข้าก็เช่นกัน” ลอร์ดหนุ่มแต้มจูบกลีบปากสีสดอย่างอ่อนโยน แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นจุมพิตที่ลึกซึ้งมากขึ้น มือหยาบกดหัวไหล่อีกฝ่ายลงพลางขยับตัวขึ้นคร่อมทับ เสียงของสองลิ้นที่ชื้นแฉะเกี่ยวกระหวัดกันชัดเจนในความเงียบงัน

ฝ่ามืออุ่นสอดเข้าไปในตัวเสื้อเพื่อเคล้นคลึงผิวเนียน ปลายนิ้วสะกิดติ่งไตซึ่งมันรัดตัวแข็งทันทีที่ถูกสัมผัส เป็นผลให้เด็กหนุ่มสะดุ้งแล้วหลุดครางออกมาเสียงเบา

“คาร์ล หยุดก่อนเถอะ”

“ทำไม”

“ตัวผมเหม็น เลอะทั้งเลือดทั้งฝุ่นทั้งเหงื่อ”

“ข้าไม่ถือ”

“แต่ผมถือนี่นา”

คาร์ลผงกศีรษะขึ้น คิ้วขมวดอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “ทีเมื่อคืนเจ้ายังขอให้ข้ากอดอยู่เลย ก็ไม่ได้อาบน้ำเหมือนกันไม่ใช่หรือ”

“ก็เมื่อคืนตัวไม่เลอะเทอะเหมือนตอนนี้ แล้วนี่แต่กระโจมผมก็แคบ ส่วนกระโจมข้างๆ นี่...”

“ฮัดเช้ย” เสียงจามแว่วมาจากกระโจมข้างๆ กัน ตามมาด้วยเสียงชู่ว...

ใบหน้าของลูคัสเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “คอนราดกับเออร์วินต้องแอบฟังอยู่แน่ๆ เลย!”

“เปล่านะขอรับ!” เออร์วินตอบ

“ฮื้ย!” มือนุ่มผลักคนบนร่างให้หงายหลังลงไปนอนข้างกัน

“ข้าควรจะส่งพวกเจ้าไปคุมทหารในเมืองเสีย!” ลอร์ดหนุ่มพูดกลับไป

“พวกข้าหลับแล้วขอรับ ท่านคาร์ลจะทำอะไรก็ทำเถอะขอรับ” ครั้งนี้คอนราดเป็นคนตอบกลับมาบ้าง

คาร์ลส่ายหน้าไปมา จำใจต้องหยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้แค่นั้น เขาพ่นลมหายใจออกหนักๆ พลางส่งสายตาดุเด็กหนุ่มที่กำลังหัวเราะ “เอาไว้กลับไปแบร์กไฮม์ก่อนเถอะ ข้าจะไม่ให้เจ้าออกจากห้องสักสัปดาห์เลย”


*~TBC~*


โธ่ ชนะสงครามทั้งที จะปักธงชัยฉลองก็มีก้างขวางคอซะอีก
เออร์วินกับคอนราดก็ช่างขัดเนอะคะ ทีเมื่อคืนก่อนละเงียบ สงสัยแอบฟังแบบตั้งใจฝุดๆ  :hao6:

ส่วนน้องลูนั้น น้องก็เลือกได้นานแล้วแหละว่าจะอยู่ที่ไหนกับใคร แต่งานนี้แอบทำให้ท่านลอร์ดหวิวเล่นๆ ซะงั้น

/เด็กมันร้ายนะคะทุกคล

ตอนหน้าคงเป็นตอนสุดท้ายหลาวววว~ เป็นบทสรุปแบบแฮปปี้ๆ แหละค่ะ  :mew4:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาโดยตลอดนะคะ เยิฟๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 19-05-2017 10:00:33
ลูคัสสสสส โอ้ยยย ไล่เออร์วิน ออกไป เฝ้ากองไฟ 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-05-2017 10:26:04
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆในที่สุดน้องลูก็เลือกท่านหลอด
แถมพ่อท่านหลอดก็ยอมรับน้องลูแล้วด้วย :mc4: :mc4: :mc4:

เจอคำผิดค่า  >> “แต่ผมถือที่นา”

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 19-05-2017 10:28:57
ขำคนโดนขัดจังหวะ555

ว่าแต่ทางฝั่งพ่อแม่พี่ชายลูคัสเป็นไงบ้างน้ออ ถ้าเห็นแวบๆบ้างแหละใช่มั้ยย

 :hao3: :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-05-2017 10:55:22
ทางบ้านน้องลูจะว่าไงหนอ ทั่นหลอดยังไม่ได้แนะนำตัวเลยอ่ะ (นึกถึงฉากหนึ่งของทวิภพเลย อิอิ)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 19-05-2017 11:11:16
 :mc4: เย้ๆ ชนะแล้ว ผ่านฉลุย แต่จะจบแล้วอะ :mew4:
 :กอด1: เด็กแสบ แสนยั่ว ท่านลอร์ดก็ใช่ย่อย แหมะจะไม่ให้เขาออกจากห้องเลยรึนั้น  :z1:  o13
 :pig4:  :L1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 19-05-2017 11:24:20
จะจบซะแล้ว น้องลูคัส แฮปปี้ซักที บาร์ดอฟตายเพราะมีดสั้นตัวเอง 555+
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-05-2017 11:32:47
ตอนหน้าจบแล้วเหรอ

ยังยืดได้อีกนะคนแต่ง

แบบว่าคนอ่านไม่อยากให้จบเลย

เป็นกำลังใจให้เสมอคับ

รอๆรอตอนจบ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 19-05-2017 11:53:21
นึกว่าน้องลูจะทิ้งทั่นหลอดซะแล้ววว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-05-2017 12:38:18
จะเร็วแล้วหรอเวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-05-2017 13:40:22
เกือบได้ดูแล้วเชียว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 19-05-2017 13:44:00
เจ้าคือบารอนแห่งโรเซนไฮม์ในมาควิสที่หนึ่งแห่งแบร์กไฮม์ เหมือนแต่งตั้งพระชายาเลยอ่าาา  :-[
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-05-2017 13:55:15
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 19-05-2017 16:06:37

เกือบได้ดูแล้ว

ไม่น่าเลย

รอต่อขอรับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-05-2017 16:32:47
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 19-05-2017 18:55:49
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 19-05-2017 19:06:07
คอนราดกับเออร์วินนี่ส่องกันไม่เนียนเลยนะ 55555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-05-2017 19:23:23
สงครามก็ชนะ
ใจพ่อสามีก็ชนะ
สบายละหนูลูคัส อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-05-2017 19:35:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 19-05-2017 19:54:39
ฉากที่นองหันหน้าไปเจอพี่ชายกับพ่อแม่แล้วเลือกที่จะอยู่กับท่านคาร์ล เราแอบเศร้านิดนึง มันทำให้เรานึกถึงประโยคที่ว่า คนเราไม่ได้ทุกอย่างที่เราต้องการหรอก  :hao5:
แต่ตอนสุดท้ายเนี่ย แอบดูไม่เนียนเลยนะ 55555555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 19-05-2017 20:31:29
เจ้าเด็กนี่ิ เห็นปู้จายดีกว่าพ่อแม่เรอะ น่าลงโทษซะให้เข็ด
ท่านหลอดต้องลงโทษหนักๆเลย เด็กไม่ดี เด็กแก่แดด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 19-05-2017 20:32:31
อ่าตอนหน้าจะจบแล้ว ไม่อยากให้จบเลย
แอบเศร้านิดนึงนะ ตอนเห็นพ่อแม่อ่ะ น่าสงสารน้องลู ได้เห็นหน้ากันแค่แป้บเดียว
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 19-05-2017 20:50:12
ลุ้นซะน้ำลายแทบแห้ง 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 19-05-2017 23:01:43
อดใจไว้ท่านลอร์ด

ส่วนลูกน้องผู้ภักดีก็น่าจะนอนเงียบ ๆ นะ

ดูสิ อดกันหมดเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 19-05-2017 23:23:48
อดปักธงชัยเลยเนอะ ขัดคอซะได้ ชิส์ 
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 20-05-2017 00:08:16
ลุ้นมากก กลัวลูคัสโดนพาตัวไป

ลูคัสดื้อมาก แต่ก็เก่งมาก ทุกคนรัก หลอนมากตอนร่างเลือน แต่คิดว่ายังไงลูคัสก็ไม่กลับไป
แต่อยากรู้ว่า ทำไมถึงได้กลับมา ผูกพันกันมาก หรือสัญญาอะไรกันไว้ ติดค้างอะไรกันแบบนี้หรือเปล่า

ท่านคาร์ลไม่ห่วงใครเท่าลูคัสแล้ว คงกลัวไม่ต่างกัน แถมเจอภาพซ้อนอีก
แต่ท่านคะ ตอนหลังศึกนี่ต้องคึกด้วยหรอ ยังเกี้ยวน้องได้อีก

น่ารักมากเลยค่ะลูคัส สมควรแล้วที่ทุกคนจะชอบน้อง แล้วท่านคาร์ลไหนจะรอด

555555 เออร์วินกับคอนราด คงฟังตั้งแต่รอบก่อน รอบนี้เลยมาติดตาม ตลกอะ

ไม่ได้อยากโหด แต่บาร์ดอฟสมควรโดน

พ่อแม่พี่ชายลูคัส อยู่อีกฝั่งจริงไหมคะ เค้าเห็นกันด้วย คงเสียใจกันน่าดู
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 20-05-2017 03:37:42
ใบหน้าของลูคัสเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ “คอนราดกับเออร์วินต้องแอบฟังอยู่แน่ๆ เลย!”

“เปล่านะขอรับ!” เออร์วินตอบ
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 20-05-2017 07:52:59
ลูคัสนี้น่ารักเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-05-2017 09:19:28
กลับเมืองเมื่อไหร่หนูลูโดนจัดหนักแน่ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 20-05-2017 14:05:42
ตอนหน้าจบแล้วหรอเนี่ยะ!!! ไวมากกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 20-05-2017 16:23:30
จะจบแล้วเหรอ  :o12: เพิ่มตอนหน่อยได้มั๊ย

ตอนนี้แอบเศร้าสงสารน้องลูคัส ท่านคาร์ลจะรู้ไหมว่าน้องต้องทิ้งอะไรมาบ้างเพื่อจะอยู่กับท่าน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-05-2017 00:46:44
เลือกแร้วสินะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 21-05-2017 10:27:52
เจ้าเด็กร้ายกาจจจ 5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: nottto ที่ 22-05-2017 03:16:55
อ่านทันแบ้วววว สนุกมากๆครับ จะรอติดามนะครับ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 22-05-2017 09:42:22
 :hao7: :hao7: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: THANZ ที่ 22-05-2017 14:01:04
แงๆ ไม่อยากให้จบเลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 22-05-2017 15:02:25
อะไรกันนี่ ตื่นเต้นลุ้นมาตั้งนาน พอจะหายใจโล่ง
กลับกลายเป็น คอนราดกับเออร์วิน ทำให้ขำก๊าก
ไอ้ที่เครียดๆ ข้างต้น หายไปหมดเบยยย
 :z2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 24-05-2017 21:57:02
มันสหยดนึกว่าดูหนังแอคชั่น :laugh:

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 25-05-2017 08:34:57
ลูคัสวินมากกกตอนนี้
เก่งมากกกจริงๆ
ท่านคาร์ลนี่น่าสงสารนะ
จะฉลองชัยชนะทั้งทีก้นก5555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 32 : เลือก][190517]
เริ่มหัวข้อโดย: huskyhund ที่ 29-05-2017 09:43:27


Chapter 33 : ความสุขกลับคืน


ลำแสงอบอุ่นในยามเช้าฉาบปลายฟ้า ปลุกให้ลอร์ดหนุ่มและคนในอ้อมแขนของเขาตื่นขึ้น เด็กหนุ่มยืดแขนขาไล่ความเกียจคร้าน ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง แล้วอ้าปากหาวกว้าง

“โอย ปวดเมื่อยไปทั้งตัวเลย”

ลอร์ดหนุ่มลุกตาม จากนั้นจึงใช้หลังมือสัมผัสแก้มสีระเรื่อ “เจ้าอยากจะพักต่ออีกสักหน่อยไหม”

“ไม่ล่ะครับ ต่อหน้าท่านอาร์ชดยุกผมต้องทำตัวดีๆ หน่อย เดี๋ยวท่านไม่ยกลูกชายให้ผมล่ะแย่เลย”

คาร์ลหัวเราะพลางส่ายหน้าไปมา “ไปล้างหน้าล้างตาสักหน่อยไป แล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย เดี๋ยวเราจะเข้าไปในเมืองกัน”

เด็กหนุ่มพยักหน้าแล้วลุกออกจากกระโจมนอนไป ระหว่างทางที่เดินไปยังริมแม่น้ำก็พบกับคอนราดและเออร์วินพอดี ทั้งสองรีบค้อมศีรษะทำความเคารพ

“อรุณสวัสดิ์ ท่านลูคัส”

เจ้าของชื่อเรียกเลิกคิ้วขึ้น “ยังเมาขี้ตาไม่หายหรือคอนราด เออร์วิน”

“ขี้ตาเมาได้ด้วยหรือขอรับ” คอนราดถามกลับไปอย่างงุนงง

“ผมหมายถึงพวกคุณพูดจาแปลกๆ สุภาพเกิ๊น!”

คอนราดหัวเราะ “ท่านเป็นบารอนแล้วนะ พวกข้าจะเรียกท่านเหมือนเดิมไม่ได้”

“แต่ผมก็เป็นลูคัสคนเดิมนี่” เด็กหนุ่มเบ้ปาก

“เอาเถอะน่ะ อย่างอแงสิ” เออร์วินตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ “จะไปล้างหน้าใช่ไหม รีบไปเถอะ พวกข้าจะไปด้วย”

ที่ริมแม่น้ำ องครักษ์ทั้งสองใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามใบหน้า ลำคอและแขนขาของเด็กหนุ่มให้ บนผิวเนียนมีร่องรอยขีดข่วนบ้าง แต่แผลที่น่ากลัวที่สุดคงจะเป็นรอยดาบที่บนลำคอ

เออร์วินใช้ผ้าแตะลงไปอย่างเบามือที่สุด ถึงอย่างนั้นก็ยังทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งโหยง

“เจ็บหรือ”

“นิดนึงน่ะครับ” ลูคัสก้มหน้าลงแล้วเอื้อมมือไปจับมือขององครักษ์ทั้งสองไว้ “ผมยังไม่ได้ขอบคุณพวกคุณเลย ถ้าไม่ได้พวกคุณช่วยผมไว้...”

“มันเป็นหน้าที่ของพวกข้า” เออร์วินตอบหน้านิ่ง แต่แก้มเปลี่ยนสีเล็กน้อย “ท่านเองก็ช่วยข้าไว้ไม่ใช่หรือ เมื่อครั้งที่แล้ว ในโรเซนไฮม์นี่”

“เออร์วินต่างหากที่คอยช่วยผมตลอดเวลาเลย”

คอนราดชำเลืองมอง ก่อนจะพูดขึ้นแทรก “ถ้าหากพวกข้าช่วยท่านไม่ได้ล่ะก็ คงต้องโดนท่านคาร์ลปลดจากองครักษ์ไปเป็นนายทหารเก็บขี้ม้าแน่ๆ”

ลูคัสหันไปทางคนพูดพลางเบ้ปาก “โธ่! คอนราด! คนกำลังจะซึ้ง หมดมู้ดเลย!”

“ลูคัส!”

เด็กหนุ่มหันขวับไปทางคนเรียก “ครับ”

“เสร็จหรือยัง มาช่วยข้าแต่งตัวด้วย”

“ครับๆ”

“ท่านคาร์ลเรียกหาท่านแล้ว” เออร์วินพูดพลางหยิบผ้าสะอาดผืนใหม่ออกมาชุบน้ำ บิดหมาดๆ แล้วส่งให้อีกฝ่าย “รีบไปเถอะขอรับ”

ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้ม “อื้ม ขอบคุณครับ” จากนั้นก็รีบวิ่งออกไป ทิ้งให้องครักษ์ทั้งสองอยู่ด้วยกันตามลำพัง

คอนราดหันขวับไปจ้องใบหน้าคนที่ยืนอยู่ด้วยกัน แล้วยกมือขึ้นสัมผัสแก้มอีกฝ่าย

“ฮื้ย! เจ้าทำอะไรน่ะ!”

“แก้มแดงเชียวนะ”

“ฮะ!?” เออร์วินรีบยกมือขึ้นประกบแก้มตน แต่แล้วอีกฝ่ายก็ก้มลงวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าก่อนจะเดินหนีไปดื้อๆ “เจ้าจะรีบไปไหนน่ะ คอนราด!”

ฝ่ายเด็กหนุ่มถือผ้าชุบน้ำวิ่งกลับไปยังกระโจม พอมุดเข้าไปก็พบกับลอร์ดหนุ่มนั่งหน้ามุ่ย เขาจึงคลานเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วใช้ผ้าเช็ดใบหน้าและลำคอให้ “น้ำเย็นหน่อยนะครับ” เมื่อเช็ดเสร็จก็หยิบเสื้อเกราะมาช่วยสวมให้ เขาเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่หลายครั้ง ทว่าอีกฝ่ายเอาแต่นิ่งขรึม

“หน้าบึ้งจัง ผมทำอะไรผิดอีกแน่ๆ”

“รู้ตัวก็ดี”

“ไม่รู้หรอกครับ แล้วผมทำอะไรผิดล่ะ คุยกับเออร์วินกับคอนราดก็ไม่ได้หรือ”

“เจ้าไม่ได้คุยเฉยๆ”
 
ลูคัสหัวเราะ พอใส่เสื้อเกราะให้อีกฝ่ายเสร็จแล้วก็ขยับขึ้นไปนั่งบนตัก เอาแขนโอบรอบลำคอไว้ จากนั้นจึงจูบแก้มสาก “ผมแค่ขอบคุณพวกเขาที่ช่วยผมเท่านั้น หายหงุดหงิดได้แล้วเนอะ”

“ถ้าจูบอีกทีจะลองพิจารณาดู”

เด็กหนุ่มอมยิ้ม ก่อนจะแต้มจูบเรียวปากของลอร์ดหนุ่ม แล้วพอจะถอนริมฝีปากออกมามือหยาบก็ยกขึ้นกดท้ายทอยไว้ หากเมื่ออีกฝ่ายวางมือลงแล้วริมฝีปากของทั้งสองก็ยังบดเบียดเข้าหากัน สองลิ้นกอดเกี่ยว ผลัดกันรุกไล้อยู่เนิ่นนาน

และครั้งนี้พอคาร์ลผละริมฝีปากออก นัยน์ตาสีเข้มก็เผลอมองตามไปอย่างอาลัยอาวรณ์ กลีบปากอวบอิ่มเผยอหอบ

“เจ้าเป็นของข้า”

“ขอรับๆ รู้แล้ว” เสียงนั้นไม่ได้มาจากคนที่นั่งอยู่บนตักลอร์ดหนุ่ม แต่มาจากคนที่ยืนอยู่หน้ากระโจม “ท่านพ่อเรียกแล้วขอรับ”

“อ๋า ท่านยาคอป” เด็กหนุ่มลุกขึ้นพรวด แก้มนิ่มซับสีเลือด

ไฮน์ริชชะโงกหน้าเข้ามาอีกคน “เอาไว้กลับถึงแบร์กไฮม์ พวกท่านจะอยู่ในห้องกันตามลำพังสักสัปดาห์ก็ตามใจขอรับ แต่ตอนนี้รีบไปหาท่านพ่อก่อนเถอะ”

ใบหน้าน่ารักเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เรื่องเมื่อคืน ทุกคนได้ยินกันหมดเลยหรือเนี่ย!

คาร์ลกระแอมเบาๆ “ข้าจะออกไปก่อน เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบตามมาก็แล้วกัน”

หลังจากจัดการกับอาหารมื้อเช้าอย่างง่ายๆ กันแล้ว อาร์ชดยุกก็ขี่ม้านำบุตรชายทั้งสาม ลูคัส องครักษ์ทั้งสองและทหารส่วนหนึ่งกลับเข้าไปในเมือง

บรรยากาศในเมืองเศร้าสลด ชาวเมืองทั้งหมดถูกจับให้นั่งรวมกันในเขตที่ทหารยืนล้อมไว้ พวกเขาต้องนอนกันกลางแจ้ง แม้จะยังโชคดีที่ยังได้นั่งผิงไฟ หากก็ไม่ได้รับประทานอะไรกันเลยนอกจากน้ำเปล่าเท่านั้น ส่วนพวกทหารและขุนนางของศัตรูถูกจับมัดมือมัดเท้าแยกไว้

ลูคัสเพิ่งเห็นเคยเห็นสภาพหลังพ่ายแพ้สงครามเป็นครั้งแรก ถึงชาวเมืองจะไม่โดนทำร้าย บ้านช่องจะไม่โดนเผาทำลายทั้งหมดเหมือนอย่างที่เขาเคยเห็นในโทรทัศน์ แต่สงครามก็คือสงคราม เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมจะทิ้งบาดแผลร้ายไว้ในใจทุกคน

อาร์ชดยุกออกคำสั่งเสียงดัง “นำตัวเลดี้โรเซตตากับเลดี้บาธิลดามาให้ข้า”

พวกทหารเดินตามหามารดาและบุตรสาว หากค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ “ไม่ได้อยู่ที่นี่ขอรับท่าน”

“หรือว่าจะหนีไปได้ขอรับ” ไฮน์ริชเอ่ยอย่างเป็นกังวล

ยาคอปขมวดคิ้ว “หรือบางทีอาจจะยังอยู่ในปราสาทก็ได้นะท่านพี่”

“ถ้าเช่นนั้นจงรีบเข้าไปตามหาตัวพวกเขาในปราสาท ไม่ว่าจะยังมีชีวิตหรือไม่ พวกเจ้าจงหามาให้พบ” อาร์ชดยุกบอกกับพวกทหาร จากนั้นจึงหันไปทางที่ลูคัสยืนอยู่

“ลูคัส มานี่ซิ”

เด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง ยืนอยู่ดีๆ ก็งานเข้าเสียแล้ว! เขาหันไปมองลอร์ดทั้งสาม ก่อนจะถูกผลักหลังเบาๆ ให้เดินเข้าไปหาคนเรียก

“บารอนแห่งโรเซนไฮม์ ชีวิตทุกคนในที่นี่เป็นของเจ้า จะตัดสินใจอย่างไรดีล่ะ” อาร์ชดยุกพูดเสียงดังก้อง

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้าง “หา ผมหรือ!” เขาหันมองไปรอบๆ ได้ยินแต่เสียงร่ำไห้ พวกชาวเมืองกอดกันแน่น เนื้อตัวสั่นเทา ส่งผลให้เขารู้สึกหดหู่ใจอยู่ไม่น้อย

“ทุกคนกำลังรอคำสั่งจากเจ้าอยู่”

“เอ่อ...” ลูคัสเม้มริมฝีปากอยู่สักพักจึงพูดขึ้น “ผม เอ๊ย ข้า... ข้าต้องการอาหาร พวกเจ้าจงส่งตัวแทนออกมา แล้วไปนำอาหารมาให้ข้าเดี๋ยวนี้” เมื่อไม่มีใครยอมขยับเขยื้อน เขาจึงพูดเสียงดังขึ้นและดุขึ้น “เร็วสิ! ไปเอาอาหารมา!”

สิ้นคำสั่งพวกทหารก็ชักดาบออกมาเร่งเร้า พวกชาวเมืองหวาดกลัวจนตัวไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า ทว่าสักพักก็มีเด็กชายกับหญิงคนหนึ่งลุกขึ้น ทั้งสองจำคาร์ล ลูคัสและองครักษ์ทั้งสองได้ พวกเขาหันไปพูดกับพวกชาวเมืองที่นั่งอยู่ด้วยกัน “ไปเอาอาหารกันเถอะ ไปเถอะ” หลังจากนั้น คู่หนุ่มสาวกับหญิงวัยกลางคนอีกสองสามคนจึงลุกตามไปช่วย

“ไปรื้อเอาอาหารมาจากทุกบ้าน!” นายทหารตะโกนสั่งไล่หลัง

ทุกคนรีบรุดออกไปโดยมีพวกทหารตามไปติดๆ สักพักก็กลับมาพร้อมกับขนมปัง นม เนยและพวกเนื้อสัตว์รมควัน พวกเขานำมาวางลงบนผ้าตรงหน้าเด็กหนุ่ม

“เอาไปแจกให้ทุกคนได้กิน”

สิ้นคำพูดของลูคัส พวกชาวเมืองก็เงยหน้าขึ้นช้าๆ อย่างไม่เชื่อหู พวกเขารับอาหารมาแล้วรับประทานกันอย่างหิวโหย

“แล้วพวกเชลยศึกนี่ล่ะ เจ้าจะทำอย่างไรกับพวกเขา”

เด็กหนุ่มหันไปทางอาร์ชดยุก “บ้านเมืองหลังสงครามต้องการแรงงาน จะต้องมีคนช่วยชาวเมืองซ่อมแซมบ้านที่เสียหาย แล้วก็เก็บกวาดซ่อมแซมปราสาทด้วย”

“จริงของเจ้า ถ้าเช่นนั้นก็เลือกทหารของแบร์กไฮม์มาทำหน้าที่เป็นผู้คุมหน่อยสิ”

ลูคัสเลือกรูฟ หัวหน้านายกองธนูมาเป็นหัวหน้าหลัก และอีกหลายคนที่เขาคุ้นเคยออกมา เพราะอย่างน้อยเขาก็รู้จักนิสัยของคนเหล่านี้ดี จากนั้นจึงออกคำสั่ง “ถึงพวกเขาจะเป็นเชลยศึกแต่ก็เป็นคนเหมือนกัน ให้พวกเขาทำงาน ใครขัดคำสั่งก็ลงโทษ แต่ว่าก็ต้องให้พวกเขาได้พักผ่อนและกินอาหารด้วย ส่วนชาวเมือง...” เด็กหนุ่มหันมองไปยังพวกชาวเมือง หลังจากได้รับอาหารพวกเขาก็พอจะคลายความหวาดกลัวลงได้บ้าง และยอมเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดูผู้ปกครองเมืองคนใหม่ของพวกตน “ชาวเมืองโรเซนไฮม์ในอดีตก็เป็นคนในแคว้นไฮเดลแบร์ก เป็นพี่น้องกันกับพวกเจ้า เพราะฉะนั้นอย่าทำร้ายพวกเขา ให้พวกเขาได้กลับไปใช้ชีวิตตามเดิม พวกเจ้ามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยแล้วก็ดูแลพวกเขาให้อยู่ในกฎระเบียบ”

“ขอรับ ท่านลอร์ด” พวกทหารรับคำ

แต่การถูกเรียกแบบนี้ไม่ชินเอาเสียเลย พอเขามองไปทางที่พวกชาวบ้านนั่งอยู่ก็เห็นว่าสายตาทุกคู่จับจ้องมาที่ตน หากเมื่อสบสายตากันทุกคนก็ค้อมศีรษะลงอย่างนอบน้อม ทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ซับสีเลือด มือนุ่มทั้งสองข้างประสานกันขณะที่ขาเรียวพาเจ้าของถอยหลังไปช้าๆ

“เจ้าจะถอยไปไหนน่ะ” อาร์ชดยุกขมวดคิ้วขณะเอ่ยถาม

“เอ้อ...” เด็กหนุ่มบิดตัวไปมาพร้อมกับเหวี่ยงแขนไปด้วย เขาเหลือบมองไปทางที่คาร์ลยืนอยู่ ก่อนจะก้าวเข้าไปหลบข้างหลังแล้วโผล่หน้าออกมา “ท่านอาร์ชดยุกมีอะไรอีกหรือขอรับ”

วิลแฮล์มส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ความฉลาด ความคิดอ่านของลูคัสนั้นเป็นเลิศ ถูกใจเขามาก แต่คงเพราะอีกฝ่ายยังอายุน้อยไปสักหน่อยและไม่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อให้ควบคุมคนหมู่มาก ขรึมได้ไม่นานก็กลับเป็นเด็กน้อยอีกแล้ว ดูทำท่าเข้าสิ... และยังคำพูดจาที่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังฟังดูแปลก ตอนนี้เขาก็คงได้แต่เป็นห่วงว่าบารอนเมืองนี้ จะทำหน้าที่ไหวไหม

ทว่าถึงแม้ลูคัสจะเป็นบารอนที่อ่อนด้วยประสบการณ์ หากชาวเมืองกลับดูจะให้ความสนใจและเคารพเด็กหนุ่มมาก พวกทหารก็เช่นกัน

ต่อไปคงต้องฝึกให้หนักอีกหลายเท่าตัวเลย วิลแฮล์มคิดไปพลางหันไปส่งสายตาให้กับเออร์วินและคอนราด

องครักษ์หนุ่มทั้งสองคนเสียวสันหลังวาบ หากพวกเขาก็ค้อมศีรษะรับอย่างรู้ชะตากรรม 

อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กยิ้มมุมปาก จากนั้นจึงหันไปทางบุตรชายคนโต “คาร์ล เจ้าคงต้องฝึกฝนอบรมบารอนของเจ้าเพิ่มอีกสักหน่อย”

คาร์ลหัวเราะเบาๆ “ขอรับท่านพ่อ”

ลูคัสย่นคิ้วเข้าหากัน ทำไมทุกคนมองหน้ากันแปลกๆ เขาทำอะไรผิดอีกล่ะนี่ คำพูดเขาก็พยายามจะใช้ให้เหมือนคนอื่นๆ แล้วนะ!

อาร์ชดยุกก้าวเข้าไปหาเด็กหนุ่มแล้วยกมือขึ้นตบไหล่ “แต่เจ้ามีความคิดสมเป็นผู้นำ ข้าดีใจที่คาร์ลเลือกคนไม่ผิด”

เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “ขอบคุณครับ เอ๊ย ขอรับ!”

“เมื่อกลับไปแบร์กไฮม์ แคว้นของเราคงต้องจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่” วิลแฮล์มมองคนรักของบุตรชายด้วยสายตาอ่อนโยน เขายิ้มมุมปากเล็กน้อย “เมื่อคืนข้าได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับเจ้ามากมาย ทั้งเรื่องที่เมืองแบร์กไฮม์เปลี่ยนแปลงไปไม่ใช่น้อย ข้าคงต้องรบกวนให้เจ้าพาข้าชมเมืองสักหน่อยล่ะนะ”

“ขอรับ ด้วยความยินดี”

อาร์ชดยุกพยักหน้า เขาหันไปออกคำสั่งกับพวกหทารให้นำม้ามาให้ จากนั้นจึงขี่นำไปยังปราสาทพร้อมกับไฮน์ริช ยาคอปและกองทัพทหาร

ลอร์ดหนุ่มยกมือขึ้นลูบศีรษะคนรักเบาๆ “ท่านพ่อเอ็นดูบารอนของข้ามากเหลือเกิน”

ลูคัสเบ้ปากใส่ “ท่านแน่ใจหรือ ท่านอาร์ชดยุกยังบอกว่าต้องอบรมเพิ่มอยู่เลย”

“ก็จะเป็นภรรยาข้า ก็ต้องอบรมเพิ่มถูกแล้วไม่ใช่หรือ จะได้รู้วิธีเอาใจข้าอย่างไรกันล่ะ”

“ท่านคาร์ล!” เด็กหนุ่มเบิกตาโพลง เขารีบหันไปมองรอบๆ ตัว โชคดีที่ไม่ได้มีใครสังเกตเห็น นอกเสียจาก... “คอนราด เออร์วิน! หัวเราะอะไรกันน่ะ!”

“เปล่านะขอรับ!” องครักษ์ทั้งสองรีบหันหน้าหนี

คาร์ลเดินไปโอบไหล่เด็กหนุ่ม “ไปเถอะ ไปช่วยท่านพ่อจัดการเรื่องในปราสาท เสร็จแล้วเราจะได้กลับเมืองแบร์กไฮม์ของเรากันสักที”

“อือ ผมคิดถึงห้องอุ่นๆ กับเตียงนุ่มๆ จะแย่แล้ว”

“คิดถึงห้องนอนของข้าสินะ”

“ท่านคาร์ลฟังผมพูดไม่เข้าใจหรือไงเนี่ย!”

ทั้งสองถกเถียงกันไปเรื่อย ขณะพากันไปขึ้นบนหลังม้า เมื่อขึ้นหลังม้า ควบออกไปแล้วก็ยังถกเถียงกันไม่หยุด องครักษ์หนุ่มทั้งสองจึงได้แต่ติดตามไปห่างๆ และคอยมองด้วยความเป็นห่วง

เรื่องความรักของผู้เป็นนายทั้งสอง พวกเขาไม่ห่วงหรอก ห่วงก็แต่ตัวเองนี่ละ

“กว่าท่านลูคัสจะเป็นบารอนเต็มตัว เจ้ากับข้าก็คงงานหนักน่าดู”

“ข้าก็ว่าอย่างนั้น”

“ไหนๆ เป็นพี่เลี้ยงให้ท่านคาร์ลมาแล้ว...”

“ก็คงต้องเป็นพี่เลี้ยงคนรักของท่านต่อ”

องครักษ์ทั้งสองหัวเราะเบาๆ ขณะที่ควบม้าตามผู้เป็นนายไปช้าๆ


...

.....

...


เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในอพาร์ตเมนต์ที่อยู่อาศัยของพี่น้องวินเซนต์ พอเห็นชื่อคนที่โทรมาไอแซ็กก็รีบหยิบขึ้นมากดรับสายทันที

“อเล็กซ์ ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง”

“คุณรีบมาที่มหาลัยเถอะ คริสเพิ่งจะได้ผลวิเคราะห์จากแล็บมา คุณต้องไม่เชื่อสายตาแน่”

ไอแซ็กทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง รีบไปเรียกบิดามารดาแล้วบึ่งไปที่มหาวิทยาลัยทันที เมื่อไปถึงอเล็กซ์ก็พาเขาไปที่ห้องแล็บ คริสรออยู่ที่นั่นแล้ว เบื้องหน้าของหล่อนมีหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่หลายเครื่องตั้งเรียงไว้ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญถูกเก็บไว้ในตู้กระจกภายในห้องนั้นด้วย มันคือพรมแขวนผนังซึ่งพวกเขาพบในปราสาทไฮเดลแบร์ก

“ทีมงานเราได้ทดลองฉายแสงหลายๆ สเปกตรัม เก็บภาพไว้แล้วนำภาพมารวมกัน ให้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์ภาพออกมาให้ได้ใกล้เคียงภาพจริงมากที่สุด ดูนี่สิคะ” คริสชี้ไปที่ภาพซึ่งปรากฏบนจอ “ฉันไม่อยากเชื่อเลย นี่คือลูคัสไม่ใช่หรือ”

ไอแซ็กเบิกตาโพลง “ลูคัส... แล้วอีกคนคือใครกัน”

“แม่เคยเห็นเขาในฝัน กับลูคัส ที่ซากปราสาทโรเซนไฮม์นั่น” มารดาเปรยเสียงเบา ในขณะเดียวกันบิดาก็เอื้อมมือมากุมมือหล่อนไว้

“เขาคืออาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กค่ะ ส่วนคนที่หน้าคล้ายกับลูคัส ตอนนี้ทางเรารู้แค่ว่าเขาคือขุนนางใหญ่คนหนึ่ง เป็นคนที่ปกครองแคว้นไฮเดลแบร์กร่วมกับท่านอาร์ชดยุก เขาเป็นคนฉลาดหลักแหลมและเป็นผู้นำความเจริญมากมายมาสู่แคว้น ในยุคนั้นถือว่าแคว้นไฮเดลแบร์กเจริญรุ่งเรืองมาก เกือบจะเทียบเท่ากรุงโรมได้เลยนะคะ มีอาวุธสำคัญๆ  มีสิ่งก่อสร้างที่ใช้ความรู้พื้นฐานคล้ายกับในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว อืม... สิ่งก่อสร้างที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันก็อย่างเช่นถนนที่ทำจากหินในไฮเดลแบร์กไงคะ ข้อมูลที่มีตอนนี้ก็มีเพียงเท่านี้ล่ะค่ะ”

บิดาถามบ้าง “อาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กกับขุนนางที่คล้ายลูคัสคนนั้น พวกเขามีชื่อจริงว่าอะไรหรือ”

“คงต้องใช้เวลาค้นหาอีกสักหน่อยค่ะ ที่จริงยังมีหนังสือกับเอกสารอีกมาก แต่มันเสียหายไปเยอะ หมึกจางหายไปตามกาลเวลาบ้าง ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาจัดการ” คริสยิ้มบาง “ทางเรากำลังเร่งตรวจสอบข้าวของภายในปราสาทแห่งไฮเดลแบร์กด้วย ถ้าหากพบข้อมูลใหม่ๆ จะรีบแจ้งให้ทุกคนทราบนะคะ”

มารดาก้มลงมองภาพที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ “อย่างกับว่าลูคัสย้อนอดีตไปพบกับท่านอาร์ชดยุกเลยนะ” หล่อนพูดพลางหัวเราะเจื่อนๆ หากดวงตาเศร้าสร้อย มีน้ำตาเอ่อคลอ

ไอแซ็กเบือนหน้าหลบไปอีกทางเพราะสงสารมารดาจับใจ ก่อนจะสังเกตเห็นภาพซากปราสาทแห่งโรเซนไฮม์บนกองเอกสารที่กองๆ ทับกันไว้ ซึ่งทำให้เขานึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วจึงเอ่ยขึ้นบ้าง  “เชื่อไหม ตอนที่ผมกับพ่อแม่ไปที่เมืองนี้ แวบหนึ่งที่ซากปราสาท... พวกเรารู้สึกเหมือนได้เห็นลูคัสที่นั่น ได้ยินเสียงเขาเรียกพวกเรา” นัยน์ตาสีเข้มฉายแววโศกเศร้า เช่นเดียวกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเขา “พวกเราคงคิดถึงเขามากเกินไป”

“คนในภาพทั้งสองคนดูมีความสุขมากเลยนะครับ อย่างกับเป็นคนรักกันเลย... มันอาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าหากเขาเป็นลูคัสจริง อย่างน้อยพวกคุณก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง” อเล็กซ์บีบไหล่ไอแซ็กเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ

“พวกเราก็หวังเช่นนั้น ขอให้เขามีความสุขในสิ่งที่เขาเลือก... เท่านั้นก็พอ”


END


กรี๊ดดดด จบแย้ววววว :sad4:

เป็นเรื่องหนึ่งที่เขียนยากและใช้เวลานานสุดๆ ไปเร้ยยยย~  :ling1:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านจนจบเรื่องได้นะคะ ฮืออออ...

ช่วงนี้ฮัสกี้ไม่ค่อยว่าง ติดสอบค่ะ เดี๋ยวสอบเสร็จจะพยายามเค้นตอนพิเศษของคอนราดกับเออร์วินมาฝากสักตอนนะคะ ขอให้รอดปลอดภัยจากการสอบก่อน หงุง~

เรื่องนี้มีรวมเล่มแน่น้อน!! แต่ตอนพิเศษยังไม่เสร็จค่ะ ฮัสกี้เลยไม่อาจสปอยล์อะไรได้มาก อย่างว่าแหละ ติดสอบ แงงงงง

แต่คาดว่าน้องลูต้องได้สำแดงเดชในตอนพิเศษอีกแน่นวล แล้วจากคำใบ้ในตอนจบที่ยุคปัจจุบัน แปลว่าท่านลอร์ดและน้องลูต้องมีผลงานยิ่งใหญ่ ได้เลื่อนขั้นอีกแน่ๆ อันนี้เป็นตอนพิเศษที่คาดไว้ในเล่มนะคะ ใครอยากอ่านอะไรเพิ่มบอกกันไว้ได้น้า ถ้าเขียนใส่เข้าไปได้จะเขียนให้ค่ะ

ส่วนเล่มจะออกเมื่อใดนั้น.... ยังไร้กำหนด ก็ฮัสกี้ติดสอบบบบ แง้~

แต่รับรองว่าตอนพิเศษต้องฟินฝุดๆ แน่นอนค่ะ /โฆษณาชวนเชื่ออย่างแรงๆ

แล้วเจอกันใหม่เร็วๆ นี้นะคะ เรื่องใหม่รอหลังสอบเสร็จน้าาาา~
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 29-05-2017 10:01:49
ดีงาม

ในที่สุดน้องลูไร่อ้อย กับท่านลอร์ดขี้หวงก็ได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข

ขอบคุณมาก ๆ ที่แต่งนิยายอ่านสนุกเรื่องนี้มาให้อ่านจ้ะ


ส่งกำลังให้ในการสอบนะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-05-2017 10:02:47
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 29-05-2017 10:11:23

จบจริงๆเหรอขอรับ

ขอต่อเวลาพิเศษเพิ่มได้ไหมขอรับ

อยากได้ตอนพิเศษอีกสักหน่อย

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-05-2017 10:37:24
เก็บเงินหยอดกระปุกรอท่านหลอดกับน้องลู :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 29-05-2017 10:43:02
ขอบคุณค่า นิยายมีครบรสเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 29-05-2017 10:45:20
อ้าวจบแล้วหรอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-05-2017 10:51:02
 :katai2-1: :man1: :katai2-1:
 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-05-2017 11:04:50
 :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1: :3123: :3123: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 29-05-2017 11:11:02
คิดถึงลูคัส  :sad4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมสัมปันนี ที่ 29-05-2017 11:15:04
พอรู้ว่าถึงตอนจบรีบเข้ามาอ่านเลย ไม่อยากให้จบเลย o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 29-05-2017 11:23:28
 ท่านคาล์ลปับลูคัสจบแล้ววว
ชอบเรื่องนี้มากกค่ะ สนุกมากก
ปกติชอบแนวย้อนอดีตอยู่แล้ว
แต่ไม่ค่อยมีเรื่องที่เป็นย้อนอดีตทางฝั่งยุโรปแบบนี้เท่าไหร่
ส่วนใหญ่จะเป็นแนวจีนโบราณ ไม่ก้ไทย
อ่านแล้วอินกันบรรยากาศมากกกค่ะ
ท่านคาล์ลกับลูคัสก้น่ารักมากก หวานมากก
อ่านแล้วยิ้มตามตลอดเลยค่ะ
ส่วนคู่ขององค์รักษ์ทั้งสองจะรอติดตามนะคะ
จะได้มีซีนสวีทกับเค้าบ้างไหมเนี่ย55555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-05-2017 11:39:06
เอ้าจบแล้วเหรอ

งง ยังไม่ฉากหวานๆเลย

รอๆรอตอนพิเศษคับ

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-05-2017 11:51:34
แง้ๆๆ จบแล้ววว ไม่อยากให้จบเลยยย ลูคัสน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 29-05-2017 12:18:34
จบแล้ว  :ling1:

เสียดายยังไม่อยากให้จบเลย

ดีใจกับท่านหลอดที่มีลูคัสแต่ก็แอบเสียใจนิดๆกับครอบครัวน้องลูนะ
อย่างน้อยๆได้ร่ำลากันก็ยังดี
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 29-05-2017 12:39:50
เป็นนิยายอีกเรื่องที่มาอ่านตั้งแต่เริ่มแรกและชอบมากตามอ่านทุกๆตอนที่ลง
ใจหายอีกแล้วซินะพออ่านจบมันเหมือนเรารอตลอดว่าวันไหนจะมาต่อตอนต่อไปแต่พอทุกอย่างดำเนิน
มาจนจบเรื่องแอบใจหายไม่น้อยคงคิดถึงทุกๆตัวละครไปอีกนานทั้งความน่ารักๆของลูคัสและความรักที่ท่านหลอดมีต่อลูคัสถึงขนาดมีเสียงเรียกจากอดีตตอนที่ลูคัสไปทำงานวิจัยที่ปราสาทตอนนั้นได้ใจมาก
รออ่านตอนพิเศสนะค่ะ
เป็นไปได้อยากให้ลูคัสได้กลับมาปัจจุบันสักครั้งมาเพื่อลาทุกคนคงเป็นอีกมุมที่จะดีมากๆแอบสงสารแม่ลูกคัส
ยิ่งตอนจบบอกว่าพวกเค้าคงคิดถึงลูกคัสจนได้ยินเสียงและภาพไปเองอ่านแล้วอินไปหน่อยน้ำตาซึมเฉยเลยอิอิ
ปล.รออ่านผลงานต่อไปของฮัสกี่นะค่ะ
                                                   :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: k2blove ที่ 29-05-2017 13:04:54
 :L2: :L2: :L2:
ขอบคุณนะ ชอบเรื่องนี้มาก
เฝ้ารอที่จะได้อ่านทุกวัน
จบแบบเอาใจคนอ่านไปเลยจ้า
 :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 29-05-2017 13:12:33
อยากอ่านอีกกกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 29-05-2017 13:54:11
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 29-05-2017 14:09:08
จบซะแล้วอ่าาาา

รู้กันหมดแล้วล่ะลูคัสเอ้ยยย :hao3: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-05-2017 14:19:52
  :pig4::pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กเลี้ยงแมว ที่ 29-05-2017 14:33:25
จบแล้วหรออออ ไม่น้า ยังไม่จุใจเลย มีตอนพิเศษใช่มั้ยคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 29-05-2017 17:04:16
ฮืออ น้องลูกับท่านหลอดจบซะแล้วว รอเล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-05-2017 18:06:00
 :L2: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 29-05-2017 18:26:28
 :กอด1:  ขอบคุณค่าสนุกมากๆเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: GOLDMIND ที่ 29-05-2017 19:34:05
จบแล้วววว ลูคัสสส ท่านคาร์ลลลล รอเล่มมมมมมม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 29-05-2017 20:04:22
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-05-2017 20:08:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-05-2017 20:37:36
น้องลูก็มีความสุขกับทางที่เลือกแล้วน่ะนะ อวยพรให้ เราก็มีความสุขที่ได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากอ่านไม่มีสะดุดเลย :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-05-2017 22:02:51
จบได้ดี ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: duck-ya ที่ 29-05-2017 22:03:20
เข้ามาอ่านครั้งแรกแล้วติดยาวจนจบเลยยย
สนุกมากกกกกก
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 30-05-2017 01:02:37
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ นี้นะคะ
สั้น กระชับ น่ารัก อ่านแล้วยิ้มตามได้ตลอดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ม่านหมอก ณ ปลายฝัน ที่ 30-05-2017 03:59:37
จบแบบค้างคาาาาา อยากเห็นชีวิตน้องลูต่ออีกสักกะติ๊ดนึง แต่ว่า ถ้าถามตอนพิเศษ อยากเห็นตอนที่สองคนนี้งอนง้อกันน่ะค่ะ เพราะเรื่องที่ผ่านมาก็มีบทหวานๆด้ไม่เท่าไหร่เลย หงานแปปๆไม่จุใจก็เกิดเรื่องและ ฮาาาา
ขอตอนพิเศษเยอะๆนะคะ จะเก็บตังค์รอ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-05-2017 06:48:37
จบแล้ว อย่างมีความสุข
คาร์ล  ลูคัส  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ีขอมีตอนพิเศษอีกนะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ขอบคุณไรท์ ให้ความสุขกับคนอ่าน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-05-2017 08:11:02
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 30-05-2017 12:38:22
จบแล้วววววววววว ขอตอนพิเศษ พลีสสสสสสส.   :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: YADA ที่ 30-05-2017 13:07:30
เน้ จบแล่ว สนุกมากกกกก ชอบตั้งแต่เริ่มยันจบ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: eiweiw ที่ 30-05-2017 15:14:01
 :mew1: o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 30-05-2017 18:51:12
จบแล้วหรอออออออออ ไม่อยากเอ่ยคำจากลาเลย :hao5:
จะรอตอนพิเศษและรวมเล่มอยู่นะคะ เป็นกำลังใจใหัค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 31-05-2017 06:51:44
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 31-05-2017 19:16:03
สงสารครอบครัวน้องลู
แต่ถ้าท่านลอร์ดไม่มีน้องลูก็น่าสงสารเหมือนกัน
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 01-06-2017 06:26:09
จบแบบรวบยอดมากเลยค่ะ แต่ก็ถือว่าไม่ขาดมากไป
ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ เก็ท A ค่ะ

ลูคัสเลือกแล้วจริงๆ ครอบครัวก็รอคอยต่อไป
ลูคัสน่ารัก ทะเล้น ก็ยังวัยรุ่นอะเนาะ แถมไม่ได้ใช้ชีวิตแบบจะมานำใคร
ต้องฝึกอีกยาว ปวดหัวกันระนาวแน่ ขนาดแค่คุยท่านคาร์ลยังบึ้งขนาดนี้ 55555

ท่านคาร์ลทำให้ชาวโลกเค้ารู้กันทั้งขบวนเลยจ้า เรื่องหวาน เรื่องอ้อน ไม่ต้องให้บอก จัดเต็มตลอด

เออร์วินทำเขินนะ คอนราดแอบหึงเบาๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 01-06-2017 11:07:13
ลูคัสเก่งมากเลย อยากให้มีตอนพิเศษด้วยจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: แกมแก่มแก้มแก๊มแก๋ม ที่ 01-06-2017 14:45:02
สนุกมากก ฟินกับแนวนิยายแบบนี้ คนเขียนบรรยายตัวละครได้เก่งมากๆ เหมือนพวกเขามีชีวิตในโลกนั้นจริงๆ

ชอบลูคัสมากก ฉลาดสุดๆ อ่านไปก็คิดถ้าเป็นเราคงนอนตายในคุกแน่ๆเพราะทำระเบิดไม่เป็น 5555

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ตามอ่านนิยาย แต่มีเรื่องนี้ถ้าเข้าเล้าก็จะมาเสิร์ชหาอ่านทุกครั้ง ขอบคุณที่มาแบ่งปันนิยายดีๆนะคะ

จะติดตามผลงานอื่นๆด้วยค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 01-06-2017 16:58:02
น้องลูน่ารักมาก บารอนของท่านคาร์ล
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 01-06-2017 18:15:57
ดีงามมาก สนุกสุดๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 02-06-2017 08:34:37
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 02-06-2017 20:33:14
คือไม่อยากให้จบเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 04-06-2017 10:42:26
จบแล้วเหรอ กำลังสนุกเลย รอตอนพิเศษนะคะ ชอบแนวย้อนยุคแบบนี้สนุกดีค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: FiRMMiE ที่ 04-06-2017 17:40:42
โอ้ยยย สนุกอ่า สนุกมากจริง ๆ
เป็นคนชอบอะไรที่ย้อนยุคอยู่แล้ว
แล้วได้มาอ่านนิยายวายที่เป็นย้อนยุคแบบนี้
สนุกมาก ๆ เลยค่ะ
อินมาก เหมือนไม่ได้อ่าน ภาพในหัวมาเป็นฉาก ๆ เลย
ขอบคุณมาก ๆ ที่แต่งนิยายสนุก ๆ แบบนี้นะคะ
ชอบน้องลูมาก ๆ น่ารักอะไรอย่างนี้
ชอบฉากซ้อมหอกแล้วทหารจะแก้แค้นให้มากเลย
น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตอนแรกกังวลกับถ้าน้องลูต้องเลือก
เมื่อน้องเลือกแล้วเราก็เข้าใจและดีใจมาก ๆ
ขอบคุณอีกหลาย ๆ ครั้งค่ะ รัก
 :pig4: :pig4: :pig4:
 :กอด1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 04-06-2017 19:03:43
อ่านแล้วต้องคอมเม้นเลยย
ติดตามมาทุกเรื่อง เรื่องนี้พลาดไปได้
ยังไง แอบลุ้นไปกับคาล์ล คิดว่า
ลูคัสจะกลับไปกับครอบครัวซะแล้ว
จบเร็วมากเสียดายเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 08-06-2017 14:32:43
สนุกมากกกก ชอบมากเลย ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 10-06-2017 00:11:08
ชอบมากๆเลยค่ะ ฮืออ  :ling1: :ling1: :ling1:
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 10-06-2017 12:43:08
จบค้างคามากกกกกก รีบมาต่อตอนพิเศษน๊าาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 10-06-2017 16:55:26
 :mew1:
โหยยย ยังไมาอยากให้จบเลยเราติดตามน้องลูเกมือนตัวเองเป็นนางกำนัลในปราสาท
น้องน่ารักมากมาย อยากให้มีอีกหลายๆตอนเลยค่ะ
อย่างเช่นตอนที่ทั่นหลอดตามง้อน้องลูบ้าง
 :กอด1:
อ่านตอนจบแล้วแอบเห็นใจสงสารครอบครัวน้องลู
แต่ด็เนอะ"เส้นทางที่น้องลูเลือกเอง" Happy แล้ว
 :mew1:
ขอบคุณคุณฮัสกี้นะคะ รอตอนพิเศษนะคะ :3123:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 10-06-2017 18:09:14
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะะะ รักกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจังไม่กินหัวหอม ที่ 11-06-2017 11:47:46
เป็นเด็กดื้อของคาร์ลตลอดไปนะลูคัส
ชอบบรรยากาศนิยายแบบนี้มากครับ
ย้อนยุค บุกปราสาท ขอบคุณนักเขียน
มากนะครับ ที่เขียนนิยายสนุกๆ มาให้เราได้อ่านกับ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 11-06-2017 21:12:10
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 12-06-2017 00:04:59
โอ๊ยยยยย ชอบมากกก. ชอบพล็อตเรื่อง ชอบการบรรยาย ชอบทุกอย่าง อ่านแล้วสนุก อ่านแล้วอิน คิดภาพตามได้เลยอะ

ยังอยากอ่านชีวิตหลังจากนี้ของทั้งคู่ไปเรื่อยๆนะ อยากอ่านตอนสร้างเตาทำพิซซ่า :)



หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Praykanok ที่ 12-06-2017 10:05:47
โอยยยยย ชอบแนวนี้มากกกกกก
ลูคัสน่าร้ากกกกกก ขอบคุณนะคะะะ ><
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 18-06-2017 14:56:07
 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 21-06-2017 04:14:41
สนุกมากกกกกกกก o13
นี่เรานั่งอ่านทั้งคืนเลยทีเดียว(ได้ข่าวว่าเข้างานเช้า :hao5: )
รอหนังสือค่าาาาาาาาา :L1: :L1: :L1:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 22-06-2017 00:14:01
สนุกมาก ก.ไก่ล้านตัว น้องลูน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 29-06-2017 21:38:57
ดันไว้ๆ รอตอนพิเศษน้องลูคัสกับท่านลอร์ดค่า  :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 30-06-2017 08:24:08
เอ้า จบแล้วง่ะ
ไม่อยากให้จบเลย สนุกมาก มีตอนพิเศษมั้ยคะ รอนะคะ อิอิ
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบนิยายแนวย้อนยุคมากๆ
แล้วเรื่องนี้ก็แต่งได้สนุกมาก ชอบทุกตัวละครที่อยู่ในเรื่องนี้เลย o13 o13
โดยเฉพาะลูคัส น่ารักมาก
ขอบคุณนิยายดีๆค่ะ  :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Marri ที่ 15-07-2017 22:48:06
อ่านรวดเดียวจบเลยยย ชอบเรื่องแนวนี้มากเลยค่ะ คืออ่านแล้วนี่ไปดูทวิภพต่อ 555  สนุกค่ะ ไม่อยากให้จบเลย อยากอ่านมากกว่านี้อีก ฮืออ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: NooMary ที่ 24-07-2017 12:51:33
สมุกมากๆเลยค๊า   ครั้งแรกเปิดอ่านดูเกือบท้อเปลี่ยนเรื่องล่ะ  เพราะเป็นแนวฝรั่งๆท่านลอร์ดๆที่ปกติเราไม่อ่านเลย  แต่พอลูคัสเริ่มเอาความเก่งความสามารถมาใช้ มันเริ่มสนุกจนไม่อยากนอนเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: jomyingg ที่ 25-07-2017 09:24:42
อ่านจบแล้ววชอบมากกกก  :z3:  :z3:
ชอบฟีลของเรื่องมากเลยค่ะ รู้สึกว่ามันสวยงามมากๆตอนแรกคิดว่าจะดราม่าหนัก เพราะคิดว่าจะจบแบบลูคัสกลับมาปัจจุบันแล้วก็มาเจอท่านคาร์ลที่ปัจจุบันอะไรแบบนี้55555 แต่จบแบบนี้ก็ดีไปอีกแบบค่ะ แต่ก็สงสารครอบครัวลูคัสอะ ฮือออ
ขอบคุณคุณฮัสกี้สำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ เลิฟๆ  :mew1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 25-07-2017 12:08:06
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากๆ ฟินมากๆค่ะ  o13 เราเรียกเอกประวัติศาสตร์  ชอบประวัติศาสตร์ตะวันตกมากค่ะ เจอเรื่องนี้เลิฟมากค่ะ  :mew1:  ชอบความละมุนของท่านลอร์ด และความน่ารักของน้องลูมากค่ะ  :hao7: ขอตอนพิเศษด่วนค่า คู่องครักษ์น่าจิ้นใช่น้อย ออกเล่มเร็วๆนะคะ เตรียมซื้อค่าาาา  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 09-08-2017 21:42:55
สนุกมากๆ  อยากได้ตอนพิเศษ  ^___^
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 03-09-2017 21:47:50
สนุกมากๆค่ะ ชอบลูคัสมาก ฉลาด มุ้งมิ๊ง ท่านคาร์ลก็โรแมนติก และชอบเรื่องนี้ไม่มีตัวอิจฉามือที่สาม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: พัดลม ที่ 02-10-2017 20:55:29
เก่งจังเลย อินเนื้อเรืองมากค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: frayfay ที่ 09-10-2017 13:36:48
ไม่อยากให้จบเลยย ชอบมากประทับใจมากค่ะ ชอบนิยายที่เหตุเกิดในต่างประเทศของคุณฮัสกี้ทุกเรื่องเลย แล้วเรื่องนี้สนุกมีทุกรสชาติ ใช้ภาษาดี บรรยายแต่ละฉากสุดยอด เหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเลย ชอบลูคัสมาก ฉลาด แสนซน น่ารักกก ท่านลอร์ดก็อบอุ่นมาก ๆ ชอบคนเมืองแบร์กไฮม์ทุกคนเลย ลูห์ลาห์น่ารักมาก ตอนเจอกันอีกครั้งในสวนนี่ประทับใจมาก (ตอนแรกไม่รู้จักเกรทเดนแหละ เคยเห็นรูปมาบ้างแต่ไม่รู้ว่าพันธุ์นี้มโนในหัวเลยคิดถึงโกลเด้น2ตัวที่บ้าพลังมาก ๆ  :laugh:) ฮึ่ยย ชอบอะ เนื้อเรื่องดูลื่นไหลไปหมด สาระความรู้แน่นมาก เห็นถึงความโปรของคุณฮัสกี้  :katai2-1: ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ (ที่ดราม่าไม่หนักหน่วง555) เป็นกำลังใจให้กับเรื่องต่อ ๆ ไปนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pwstz ที่ 10-10-2017 17:05:28
ท่านคาร์ล ดีงามมาก รอตอนพิเศษนะคะ ><
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 15-11-2017 00:08:14
ทำไมพึ่งมาเจอ สนุกมากเลยค่ะ  :sad4:
แต่งดีมากๆๆๆค่ะ ทุกอย่างดูสมจริงมากๆ ลูคัสฉลาดมาก เรานับถือคนเขียนตรงนี้เลยข้อมูลแน่นมาก
รู้สึกดีที่เรื่องไม่ดราม่าเลย ดำเนินไปเรื่อยไปต่น่าติดตามมาก
รอดูตลอดว่าลูคัสจะทำอะไรอีก เอ็นดูในความเด๋อๆด๋าๆของนาง5555555
ส่วนคู่องค์รักษ์ก็น่าสนใจนะคะไม่น่าจบแค่นี้เลย :hao3:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 18-11-2017 08:37:04
ชอบมากเลยเริ่องนี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: KuMaY ที่ 03-12-2017 09:33:27
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกก อ่านรวดเดียวจบเลย
รอรวมเล่มนะ อยากอ่านตอนพิเศษด้วย อยากอ่านตอนน้องลูพาท่านอาร์ชดยุกไปเยี่ยมชมเมือง
แล้วงานเลี้ยงฉลองชัยชนะก็ยังไม่มีน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 03-12-2017 19:18:14
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ
ชอบมากๆ และสนุกมากๆเลย
 :3123:
 :pig4:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 05-12-2017 23:16:37
 o13 เรารอรวมเล่มอยู่น้าา อยากให้เพิ่มส่วนของเอกสารลูคัสที่อาจจะสื่อถึงครอบครัวในปัจจุบันบ้าง เพราะลูคัสเองก็รู้อยู่แล้วว่า ครอบครัวและรุ่นพี่ อาจารย์ต้องศึกษาจากประวัติศาสตร์และเอกสารที่หลงเหลืออยู่ บ้าง

ขอบคุณมาก เราติดเรื่องนี้มาก  :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 12-12-2017 15:51:55
ปกติแล้วเราไม่ค่อยเลือกอ่านแนวย้อนยุคกลับไปกลับมาสักเท่าไรเพราะกลัวจะงงเวลาอ่าน แต่เรื่องนี้ไม่เลยค่ะน่ารักและสนุกมากยิ้มได้ทั้งเรื่องเลย :-[ :-[ :-[ ตัวละครน่ารักทุกคนเลย จะนึกสงสารและเห็นใจครอบครัวลูคัสอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้หน่วงสักเท่าไรอาจเป็นเพราะว่าคนเขียนเน้นความน่ารักของลูคัสยามอยู่กับคาร์ลสะมากกว่าซึ่งสำหรับเราแล้วมันดีมากเลย และอีกอย่างเราว่ามันเป็นเรื่องที่ดีนะที่ลูคัสเลือกที่จะอยู่ในยุคของคาร์ลเพราะลูคัสมีความสำคัญมีคุณค่าและเป็นที่รักกับคนทั้งเมืองไม่ใช่เฉพาะคาร์ลคนเดียว และสุดท้ายก็ยังทำให้ครอบครัวได้รับรู้ว่าลูคัสยังมีความสุขยังมีรอยยิ้มแม้จะอยู่ไกลออกไปจนก้าวข้ามไปหาไม่ได้ก็ตาม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Nbear ที่ 14-12-2017 14:06:11
ชอบเนื้อเรื่องมาก ตามอ่านไม่หยุดเลย สนุกมากกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 24-12-2017 01:28:33
พึ่งได้มาอ่าน ดีใจที่เจอนิยายดีๆแบบนี้ แต่ยังรู้สึกอึดอัดกับตอนจบอยู่หน่อยๆ เหมือนยังคลายไม่สุด
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 27-12-2017 01:53:54
เย้  ในที่สุดก็ตามมาอ่านจนจบได้แล้วววว
น้องลูเจ้าของไร่อ้อยทำผลงานใหญ่เชียว

รอเล่มนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Readyaoi ที่ 30-12-2017 18:12:53
พึ่งเจอนิยายดีๆ ชอบเนื้อเรื่องอย่างนี้ บรรยายเห็นภาพเลย
อ่านรวดเดียวจบ สนุกจริงๆ
เราจิรอรวมเล่ม~~ อยากอ่านตอนพิเศษอิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: eat2tea ที่ 01-01-2018 20:39:10
ตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 9 แล้ว ชอบท่านลอร์ดมากๆ (ท่านคาร์ลเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่น ดูแลลูคัสได้)  :o8:

ส่วนคอนราดกับเออร์วินก็น่ารัก (อยากให้ทั้งสองคู่กัน จะเป็นอย่างที่คิดรึเปล่าก็ไม่รู้) :give2:

+เป็ด ให้กำลังใจเรื่อยๆ จะตามอ่านเรื่องนี้จนจบครับ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 02-01-2018 20:20:01
เมื่อเจอคำว่า จบ คือรู้สึกเลยว่า หา! จบแล้วเหรอ สนุกมากจบดีอยู่ น่ารักมากเลย ชอบที่ให้แง่ในหลายมุม ได้ความรู้ด้วย คุณคนเขียนคงต้องทำการบ้านหนัก ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: eat2tea ที่ 09-01-2018 17:36:03
อ่านตอนที่ 16 รู้สึกว่าท่านคาร์ลจะหึงมากไปแล้วน่ะ ทำไมต้องทำรุนแรงกับลูคัสแบบนั้นด้วย (ท่านลอร์ดก็รักลูคัสไม่ใช่หรอ)  :sad4:

พออ่านถึงตอนที่ 17 รู้สึกหน่วง มาม่าชามใหญ่มากๆ ลูคัสน่าสงสารกลับยุคปัจจุบันไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้นท่านคาร์ลห้ามทิ้งลูคัสเด็ดขาด  :serius2:

ส่วนเออร์วินจะได้คู่กับคอนราดซะที

+ เป็ดให้กำลังใจคุณฮักกี้ครับ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 10-01-2018 12:20:05
สนุกสุดๆ น่าจะมีบทส่งท้ายอีกนิด..อิอิ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 31-01-2018 21:01:04
สนุกมากจริงๆๆๆๆๆๆ

รอซื้อรวมเล่มอยู่นะค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 02-02-2018 12:02:21
สนุกมากค่ะ ลูคัสฉลาดน่ารัก ท่านคาร์ลก็เท่และใจดี เรื่องแนวยุโรปย้อนยุคอย่างนี้เคยอ่านเป็นพวกนิยายแปลช-ญ แต่ไม่เคยเจอแบบวายเลย ได้รสชาติแปลกใหม่ไปอีกแบบค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
บวกๆค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: wifesuju ที่ 28-02-2018 04:25:07
สนุกมากเลยค่ะ ชื่อเรื่องเหมือนแนวพีเรียดไทย แต่เนื้อเรื่องกลิ่นผู้ดีอังกฤษซะงั้น 555555 มันดีมากเลยค่ะ ทั้งพลอต การดำเนินเรื่อง ภาษา และความรู้ที่อัดแน่น ได้ความรู้เยอะเลย แต่ตอนจบเหมือนยังไม่สมบูรณ์ มันไม่ปังเท่าเนื้อเรื่องที่ดำเนินมา แต่ยังไงก็เป็นนิยายที่ดีอีกเรื่องนึง ขอบคุณมากๆเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: wifesuju ที่ 28-02-2018 04:27:04
จะมีสเปเชียลมั้ยคะ รอนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 04-03-2018 22:24:11
อ่านรวดเดียวจบเลย
สนุกมากกกกก
มีความละมุนละไมเหมือนเดิม
รออ่านตอนพิเศษคู่องครักษ์นะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 12-03-2018 04:34:35
สนุกมากค่ะ  ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ :3123:

ต้องขอบคุณกระทู้นิยายแนะนำเลย เราถึงได้มาเจอเรื่องนี้

แง้ อยากอ่านตอนพิเศษจังค่ะ 
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 15-04-2018 18:02:02
ขอบคุณคร๊าบบ สนุกมากก
นี่มันแม่นายการะเกด แห่งยุดกลางง ชัดๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Killian ที่ 20-04-2018 22:07:49
อยากอ่านอีก ยังไม่อยากให้จบเลย สนุกมาก ขอบคุณนักเขียนนะครับ อ่านเรื่องของคุณหลายเรื่องสนุกทั้งนั้นเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 22-04-2018 19:33:11
น้องลูน่ารักมากกกกก อยากจับฟัด :z3: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 12-05-2018 13:02:14
แปะไว้รออ่านจ้า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 04-06-2018 09:45:31
เป็นเรื่องที่สนุกมากก กลับมาอ่านหลายรอบแล้ว ชอบมาก  o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 19-06-2018 14:36:42
สนุกดีจ้า ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 06-08-2018 19:10:12
แง้ จบแล้ว อุตส่าห์พยายามอ่านช้า ๆ แล้วนะเนี่ย สงสัยต้องไปหาเล่มมาอ่านแล้ววว   :o12:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 09-08-2018 09:01:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ
ชอบบบบบบบบบบบบ
น้องลูคัสและท่านลอร์ดคาร์ล
 :กอด1:
 :กอด1:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 10-08-2018 00:17:21
ขอบคุณมากๆนะคะ สนุกมากๆค่ะ ชอบค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ItIsMe ที่ 11-09-2018 15:56:04
ขอบคุณนิยายสนุก ๆ น้า
ชอบความฉลาดของลูคัส ชอบตัวละครทุกตัวเลย

อยากอ่านตอนพิเศษจังง
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: palmsawich ที่ 14-10-2018 16:28:56
สนุกที่สุดเลย คล้ายทวิภพนิดๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 24-10-2018 13:17:33
รวดเดียวจบ วางไม่ลงเลย
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-11-2018 11:30:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: zeasonal ที่ 16-01-2019 23:42:13
ตอน22 รึเปล่านะ ที่ลูคัสในคราบเลดี้ต้องขี่ม้าโชว์ ชื่อม้าของคาร์ล พิมพ์ผิดเป็น ยาสพาล ตั้งหลายครั้ง สรุปม้าชื่อ ยาสเพอร์ หรือ ยาสพาล ??? (แล้วก็มีคำผิดอีกหลายคำ ตั้งแต่อ่านมา เท่าที่จำได้มีคำว่า ถมึงทึง ซึ่งนักเขียนใช้ ขมึงทึง คำนี้ไม่มีในภาษาไทยค่ะ คำผิดอื่นๆลืม ถ้านึกได้หรือเจออีกจะแจ้งให้ทราบค่ะ)

Sent from my CPH1611 using Tapatalk
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 16-02-2019 20:31:18
เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ชอบมากกกก
สนุกมากๆเลย
  o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 24-03-2019 10:27:06
สนุกมาเลย ลูคัสเก่งมากกก
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 23-05-2019 16:49:40
เรื่องนี้สนุกสุดๆๆๆเลยค่ะ อ่านวันเดียวจบ อินมากกกก ตกลงมีรวมเล่มยังคะ อยากได้
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 24-05-2019 01:40:40
กลับมาอ่านซ้ำสองรอบตอนที่ประทับใจซ้ำๆตอนคิดกลยุทธ์ใหม่ๆสร้างอัไรใหม่อุปกรณ์ ถนนหนทางต่างๆนานาประทับใจไม่หายและดีใจที่เขาได้อยู่ด้วยกันรักกัน มันดีมากกกก แต่ก็สงสารครอบครัวนะเข้าใจเลยเหมือนสูญเสียแบบไม่เห็นตัวตนใดๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 03-06-2019 10:24:01
หากจากนิยายไปพักใหญ่

ที่กลับมาอ่านคือหาอะไรทำระหว่างที่อกหัก

เรื่องนี้น่ารักทีเดียว ขอบคุณมากครับ :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Carina ที่ 17-07-2019 17:15:52
สนุกมาก ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-07-2019 21:35:06
ไม่เคยอ่านแนวยุคกลาง เพลินๆดีค่ะ
ชอบท่านลอร์ด ขี้หึงตลกดี555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 21-07-2019 13:15:12
 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 25-07-2019 22:14:46
อ่านจนจบ ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 24-09-2019 09:19:31
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
คิดถึง
เลยกลับมาอ่านอีก
อ่านแล้วชอบบบบบบบบบบ
เหมือนเดิม
 :L2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 26-09-2019 09:07:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 19:43:48
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 19:59:06
สู้ๆค่ะลูก ด้วยความดีงามและน่ารัก เดี๋ยวหนูก็เอาชนะใจทุกคนได้แน่นอน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 20:24:56
แหม แหม แหมมมมมม
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 20:40:32
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 20:53:25
 o13 o13
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 21:05:27
5555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 21:23:28
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 21:38:31
ถึงคราวที่ท่านหลอดต้องพิสูจน์ให้น้องเห็นนะคะ ว่ารักว่าชอบว่าเหมาะสม ไม่งั้นมีคนหนีกลับบ้านนะเออ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 04-11-2019 21:52:11
โอ๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: RiyaKwon ที่ 06-11-2019 18:41:32
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: ohuii ที่ 17-11-2019 22:03:00
ชอบแนวนี้มากค่ะ ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 19-08-2020 00:48:25
จบอย่างซึ้ง โอ๊ยยยสนุกกเว่อร์ อ่านแบบวางไม่ลงเลย ลูคัสน่าร๊ากก ฉลาดมาก ทำตัวมีคุณค่าและมีประโยชนน์สูงสุด ไม่ใช่เก่งแค่ในตำรา แต่ลงมือทำทุกอย่างในทุกสถานการณ์ ฉากไปชิงตัวท่านพ่อมาก็โคตรลุ้นเลย มันส์ สมแล้วคู่ควรกับท่านลอร์ดจริงๆ ฉากที่ให้เลือกระหว่างครอบครัวกับท่านคาร์ล โคตรซึ้งอ่ะ ลูคัสน่ารักไม่ไหวแล้ว เก่งรอบด้าน บนเตียงก็ใช่ย่อย อ่อยเก่งสุด 5555 สนุกๆว้อย ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายดีๆให้อ่าน  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: nano ที่ 07-03-2021 11:31:57
กลับมาอ่านอีกรอบ ยังสนุกเหมือนเดิม
ชอบนิยายรุ่นนี้มาก มีสาระ และ ความเพลิดเพลิน
หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 26-04-2021 22:48:09

ชอบ​ ชอบ​ ชอบ​มาก....
สนุก​ น่ารัก​ อ่านแล้ว​ มีความสุข..
ท่านคาร์ล​ เป็นพระเอกผู้ใจดีอีก​หนึ่ง​อัตรา...
รักเลย... รักเลย..

ขอบคุณ​นักเขียน​ให้กำลังใจ​+1​ 

 :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 28-04-2021 18:51:07
สนุกค่ะชอบแนวพีเรียดแบบนี้ด้วย ลูคัสน่ารัก คาร์ลพระเอกสุดๆ :pig4: