แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แต่กาลก่อน *~Erstwhile~* [Chapter 33 : ความสุขกลับคืน][END]  (อ่าน 361198 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
«ตอบ #30 เมื่อ31-10-2016 22:28:24 »

มีความลุ้นนนนนนน ลูคัสแว๊บไปอยู่กับคาร์ลใช่ไหม นั่นแน่ๆๆๆ

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
«ตอบ #31 เมื่อ31-10-2016 23:17:25 »

ฝุ่นที่อยู่ที่พื้นอาจจะมาจากแผ่นดินไหวเมื่อกี๊ป่ะคะ 55555555
แต่น้องลูเราข้ามเวลาไปแล้วววว อยากอ่านตอนต่อไปแล้วค่ะ จะได้เปิดตัวคุณคาร์ลพระเอกของเรารึยังน้า >____<

ออฟไลน์ multiver

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
«ตอบ #32 เมื่อ01-11-2016 01:41:25 »

^
^
^
จิ้มทะลุทะลวง 7 เม้นบน อิอิ
ตอนนี้ตัดจบได้ดีขึ้นแล้วจ้าท่านเซอร์ฮัสกี้
แต่ว่าน้า....พี่ลูคัสของผมหายปายหนายยย หรือว่า...
ถ้าตามการคาดเดาของผมละก็...อืม...อืม...ถูกย้อนเวลาไปแล้วสินะ!!!《สะดุ้ง เฮือกกก!!!》(○□○)~ :a5:  :a5: แถมถูกผีอำ(หรือผีสะกดจิต??)เรียกไปซะด้วย!! :sad5: :sad3:
จากการคาดเดาแล้ว...ตอนต่อไปมาภายใน 1-3 วันที่จะถึงนี้สิน้า~~ :m12: :m12:
โบกแท่งไฟรอตอนต่อไปอีกเช่นเคย เยเย่เย้~~~ :bye2: :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-11-2016 01:48:22 โดย multiver »

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
«ตอบ #33 เมื่อ01-11-2016 06:40:27 »

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: คือตัดจบได้แบบนะร้องแปปลุ้นตัวกลมจบเฉยเลย o13 o13
  อ่อถ้างั้นก็ประมาณกลับมาเกิดแค่ลูคัลส่วนท่านคาร์ลยังไม่ได้กลับมาเกิดแบบนี้คือ คุณหลวงแม่มณีในทวิภพอ่ะดิคุณฮัสกี :impress2: :impress2:
รอติดตามนะชอบอ่านแนวนี้มากรอดูฝีมือการเขียนนะจ๊ะเป็นกำลังใจให้สู้และรีบมาต่อนะอย่าปล่อยให้รอนานนะจร๊ะสู้ๆๆๆ
                                                                  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1425
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
«ตอบ #34 เมื่อ01-11-2016 20:44:15 »

อ้าว เค้าเรียกก็ตามเค้าไปเฉย ไม่ห่วงรถใหม่ที่เพิ่งได้มาเลยอ่ะ
ย้อนอดีตไปจะกลับมาได้มั้ยอ่ะ
แต่ว่าเค้าจะได้เจอกันแล้วววววว
หุหุ


ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
«ตอบ #35 เมื่อ02-11-2016 00:31:56 »

ย้อนกลับไปสิน้า

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 2 : สู่อดีต][311016]
«ตอบ #36 เมื่อ03-11-2016 09:53:55 »



Chapter 3 : แรกพบ


“อือ...”

เด็กหนุ่มใช้มือยันตัวเองให้ลุกขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกะพริบปริบให้เข้ากับแสงสว่างอยู่สักพักก่อนจะเปรยออกมาเบาๆ “เหอ ที่นี่มัน...” เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอย่างเชื่องช้า

“โอ้โห ที่นี่คือห้องหนังสือหรือ สุดยอดไปเลย”

เบื้องหน้าตัวเขาเป็นชั้นหนังสือสูงถึงเพดานห้อง มีหนังสือเต็มแน่นทุกตารางนิ้ว ชั้นหนังสือนั้นแบ่งเป็นชั้นๆ โดยมีบันไดให้ใช้ไต่ขึ้นไปยังที่พักแต่ละชั้นได้ ที่ตรงกลางห้องมีโต๊ะตัวใหญ่กับโซฟา ถัดไปเป็นโต๊ะทำงานที่มีหน้าต่างบานใหญ่อยู่เบื้องหลัง บานหน้าต่างเปิดแง้มไว้เล็กน้อยพอให้สายลมเย็นสบายพัดเข้ามาในห้องได้

“ว่าแต่ฉันเข้ามาในนี้ได้ยังไงเนี่ย” ลูคัสขมวดคิ้วพลางยกมือขึ้นกุมศีรษะ เขาพยายามนึกย้อนกลับไป...

“ฉันกำลังเก็บรายละเอียดโครงสร้างบันไดกลางในห้องโถงอยู่กับอเล็กซ์ แล้วทำไมมาโผล่ที่ห้องนี้ได้ล่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยกับตัวเองอย่างงุนงง “ว่าแต่... ห้องนี้มันใหม่เกินไปรึเปล่า” เขาเดินไปสัมผัสโต๊ะไม้ตรงกลางห้องด้วยความสงสัย “ไม่มีฝุ่นเลยด้วยแฮะ เป็นไปได้ยังไงน่ะ”

บนโต๊ะมีม้วนเอกสารกับหนังสือวางอยู่มากมายทำให้ลูคัสอดไม่ได้ที่จะหยิบมันขึ้นมาเปิดดู

ตัวอักษรที่ปรากฏในภาพเป็นแบบที่คนโบราณเขียนกันทำให้อ่านเข้าใจได้ยาก หากหมึกยังดูสดใหม่ แล้วกระดาษถึงจะไม่ขาวเหมือนกระดาษในยุคปัจจุบัน แต่ก็ดูเหมือนเป็นของที่เพิ่งจะทำขึ้นไม่นาน

“จำนวนทาสที่ส่งมาจากเมืองหลวง จะมาถึงในอีกห้าวัน”

“รายชื่อที่ปรึกษา นักปราชญ์ ผู้เชี่ยวชาญการคำนวณและทำนายดวงดาว ช่างผู้ชำนาญการก่อสร้าง ช่างเหล็ก... โอ้โห ของจริงรึเปล่าเนี่ย ถ้าคริสได้เห็นเอกสารพวกนี้ต้องอ้าปากค้างแน่” เขาอมยิ้ม ก่อนจะนึกขึ้นได้ “แย่แล้ว ปล่อยให้อเล็กซ์ทำงานอยู่คนเดียว ต้องรีบออกไปก่อน!”

หากเมื่อเด็กหนุ่มเดินไปถึงบานประตูห้องก็ได้ยินเสียงผู้คนมากมายจากทางด้านนอก สำเนียงและการพูดจาแบบแปลกๆ ทำให้เขาหยุดชะงักแล้วแง้มบานประตูออกดู

ทางเดินด้านนอกแตกต่างจากที่เขาเดินผ่านมาโดยสิ้นเชิง พื้นเป็นกระเบื้องลวดลายสวยงาม ผนังทาสีใหม่เอี่ยม โคมไฟทองเหลืองที่ห้อยลงมาจากเพดานสูงโค้งถูกขัดจนเป็นมันวาว นอกจากนั้นก็ยังมีคนในชุดทหารโบราณ มีทั้งที่เดินไปเดินมาและยืนพูดคุยกันอยู่

แต่แล้วดวงตาเจ้ากรรมก็สบประสานกับนายทหารเฝ้ายามคนหนึ่งเข้า

“เฮ้ย ใครน่ะ!” ไม่พูดเปล่าหากชักดาบยาวออกมาจากฝักพร้อมกับวิ่งตรงเข้ามายังเด็กหนุ่มด้วย

ลูคัสหน้าถอดสี เขารีบปิดประตูแล้วใส่กลอนทันควัน

“เปิดประตู!” พวกทหารตะโกนพลางกระแทกบานประตูอย่างแรง

“อะไรเนี่ย! ท่าทางเหมือนจะฆ่าแกงกันเลย!” เด็กหนุ่มหันรีหันขวาง วินาทีนี้สัญชาตญาณบอกว่าให้หนีเอาตัวรอดก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง เขาวิ่งตรงไปที่บานหน้าต่างซึ่งเปิดแง้มอยู่แล้วชะโงกหน้ามองลงไปสำรวจ พอเห็นว่ากำแพงด้านนอกที่เป็นหินพอมีที่ให้เกาะและใช้เหยียบได้บ้างก็รีบปีนลงไป

เมื่อเท้าสัมผัสพื้นลูคัสก็ออกตัววิ่ง ใจคิดเพียงแค่ต้องหนีไปให้ไกลจากตัวปราสาทมากที่สุด กว่าจะรู้ตัวก็มายืนงงอยู่ในสวนกุหลาบที่มีดอกกุหลาบนานาชนิดบานสะพรั่ง แต่ดูเหมือนจะถูกทิ้งๆ ขว้างๆ มาเป็นเวลานาน เพราะไม่มีการตัดแต่งหรือจัดเป็นพุ่มตามอย่างสวนทั่วไป

“สวนนี่มาจากไหนอีกเนี่ย เมื่อวานยังไม่มีเลยนี่หว่า” 


“ใครน่ะ”


ลูคัสสะดุ้งเฮือกแล้วหันขวับไปทางต้นเสียง

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าอยู่ในชุดเสื้อแขนยาวสีดำ ปักลวดลายสีทองบริเวณลำคอ ช่วงอก ชายเสื้อและตรงปลายแขน ตรงส่วนลำตัวยาวคลุมสะโพก มีเข็มขัดหนังรัดเอว ท่อนล่างสวมกางเกงผ้าสีดำและรองเท้าบูทหนังสูงเกือบถึงหัวเข่า มีดาบยาวอยู่ในฝักคล้องอยู่ที่เข็มขัดหนัง  การแต่งกายเหมือนคนสูงศักดิ์ในสมัยก่อนที่เขาเคยเห็นในหนังสือ

“เจ้าเป็นใคร”

“อะ... เอ่อ ผมเป็นนักศึกษาที่ทำงานอยู่ในโพรเจ็กต์ของที่นี่ครับ แต่จู่ๆ ก็โดนคนในปราสาทวิ่งไล่ออกมาเนี่ย” ลูคัสตอบกลับไปอย่างงงๆ นัยน์ตาสีเข้มจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ชายหนุ่มที่มีผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า แต่งตัวแบบนี้... ใช่แน่แล้ว

“นี่คุณ... แต่งคอสเพลย์เป็นเจ้าชายดิสนีย์มางานในปราสาทหรือ จะมีปาร์ตี้หรือครับ”

ชายหนุ่มทำหน้าฉงน “พูดอะไรแปลกๆ เหมือนไม่ใช่ภาษาคน”

เด็กหนุ่มคิ้วกระตุก “อ้าว หน้าตาดีๆ ทำไมไม่พูดจาให้เหมือนหน้าตาหน่อยล่ะครับ แล้วตกลงคุณเป็นใครกันเนี่ย มาทำอะไรที่นี่”

อีกฝ่ายไม่ตอบ เขายืนนิ่ง สายตาจับจ้องพิจารณาเด็กหนุ่มตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นถี่ๆ ตามมาด้วยเสียงตะโกนดังก้องไปทั่วบริเวณ “ท่านลอร์ด! มีคนลอบเข้ามาในปราสาท!”

ลูคัสเบิกตาโพลง จะว่าไปพวกที่แต่งตัวเป็นทหารแล้ววิ่งตามเขามากับคนตรงหน้านี่ก็แต่งตัวอยู่ในธีมเดียวกัน เพราะงั้นอาจจะเป็นพวกเดียวกันก็ได้ แล้วดาบยาวที่คล้องอยู่ตรงเอวนั่น คงไม่ได้ใช้สำหรับตัดกุหลาบแน่  หลังจากตรึกตรองดูแล้วก็คิดว่าเขาควรจะรีบหนีไปให้ไกลจากคนคนนี้เช่นกัน

บางทีคนพวกนี้อาจจะแกล้งแต่งตัวแบบโบราณเพื่อหลอกเข้ามาทำอะไรสักอย่างในปราสาทแล้วขโมยของมีค่าก็ได้

แล้วตัวเขาเห็นหน้าพวกมันตั้งหลายคน มีหวังต้องโดนฆ่าปิดปากแหงๆ

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองตัวปราสาทก่อนจะหันหลังขวับ เขาออกตัววิ่งไปทางทิศเฉียงเหนือของปราสาทให้เร็วที่สุดในชีวิต เพราะจำได้ว่ามีถนนที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่นั่น พอผ่านสวนกุหลาบไปก็พบกับพื้นที่ว่างซึ่งมีหญ้ารก เขาหันกลับไปมอง ได้ยินเสียงคนอยู่ไกลๆ คิดว่าน่าจะเป็นพวกทหารที่ไล่ตามมาจึงตัดสินใจวิ่งฝ่าทุ่งหญ้ารกต่อไปอีก จนกระทั่งถึงกำแพงหินสูงซึ่งสูงประมาณตึกสองชั้น และมันไม่เหมือนกับกำแพงปราสาทที่เขาเคยเห็นสักเท่าไหร่

“ทำไมกำแพงม่านกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ” เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง ก่อนจะลองปีนข้ามไป และเมื่อกระโดดลงอีกฝั่งของกำแพงก็กลิ้งหลุนๆ ลงไปตามเนินที่ไม่สูงมากนัก พอลุกขึ้นได้ก็ต้องหยุดอ้าปากค้าง

“โอย ที่นี่มันที่ไหนกันเนี่ย ฉันหลุดมาอีกโลกนึงรึไง”

เบื้องหน้าเขาเป็นป่าโปร่งที่มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ บนพื้นเต็มไปด้วยมอส มีต้นไม้เล็กๆ ขึ้นประปราย แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็ไม่เห็นมีทางเดินใดๆ “มีป่าผุดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วลานจอดรถกับถนนหายไปไหน”

หากเด็กหนุ่มจำได้ว่าถัดจากที่ตั้งปราสาทออกไปไม่ไกลจะพบกับตัวเมือง เขาจึงคิดว่าอย่างไรก็ควรจะไปที่นั่นก่อน

สองขาพาเจ้าของก้าวเดินต่อไปเรื่อยๆ ริมฝีปากเผยอหอบ เขายังอยู่ในชุดหมีที่ใส่ตอนทำงาน ข้างในยังคงเป็นเสื้อสเวตเตอร์และกางเกงยีน รองเท้าผ้าใบที่ใส่มีพื้นหนาเป็นแบบที่ใช้สวมใส่เพื่อความปลอดภัยในสถานที่ก่อสร้างหรือโรงงานโดยเฉพาะ “หนาวชะมัด” ลูคัสพึมพำพร้อมกับควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง “อ้าว แย่แล้ว ทำหล่นไปตอนไหนกันเนี่ย”

ในเมื่อติดต่อใครไม่ได้จึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ก็หลุดจากเขตป่ามาพบกับทุ่งข้าวสาลี ข้าวบาร์เล่ย์สีเหลืองทอง หากนั่นไม่ทำให้เขาประหลาดใจเท่าบ้านคนที่เห็นอยู่ลิบๆ

ลูคัสยืนนิ่งเป็นเสาหิน งุนงงจนทำอะไรไม่ถูก เมืองที่เขาอยู่อาศัย ถนนหินที่เคยเดินผ่าน รถหรือตึกรามบ้านช่อง ทุกสิ่งทุกอย่างหายไปสิ้น เหลือเพียงป่าและทุ่ง

“ฉันฝันอยู่รึเปล่า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นกุมศีรษะก่อนจะทรุดตัวลงนั่งอยู่ในทุ่งข้าว “ฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี” เขาส่ายศีรษะไปมาแล้วพ่นลมหายใจออกหนักๆ

ถ้ามีทุ่งข้าว ก็น่าจะมีบ้านคน

ริมฝีปากสีแดงเม้มแน่นอย่างครุ่นคิด ในเมืองนี้มีแม่น้ำ ถ้าจะหาบ้านคนก็ควรจะต้องเริ่มจากแม่น้ำก่อน

ลูคัสหันหลังกลับไปมองปราสาทบนเนินเขาที่เพิ่งจากมาเพื่อคาดเดาทิศทางของแม่น้ำโดยใช้ปราสาทที่เห็นเทียบกับเมืองในความทรงจำ จากนั้นจึงเริ่มเดินออกไปอีกครั้ง

ดวงอาทิตย์คล้อยลงต่ำ เด็กหนุ่มเดินบ้างหยุดพักบ้างมาครู่ใหญ่แล้ว ท้องก็เริ่มหิว ปวดขาและเจ็บเท้า ใกล้หมดแรงไปทุกที หากไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหาแม่น้ำให้พบก่อนตะวันจะลาลับไป ไม่อย่างนั้นเขาต้องหนาวตายอยู่กลางทุ่งแน่ๆ

ระหว่างที่นั่งพักอย่างอ่อนแรงก็ได้ยินเสียงน้ำแว่วเข้ามาในโสตประสาท ลูคัสลุกขึ้นพรวดแล้ววิ่งตรงไปยังต้นกำเนิดเสียง ไม่นานก็พบกับแม่น้ำกว้างใหญ่ เมื่อหันมองซ้ายขวาก็เห็นว่าไม่ไกลออกไปมีบ้านคนหลังเล็กๆ อยู่หลายหลัง

“ฉันหลงมาที่ไหนกันเนี่ย... อย่างกับหลงมาอีกยุค แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกันเรื่องแบบนั้น” เขาพึมพำพลางเดินตรงไปยังแม่น้ำ จากนั้นจึงย่อตัวลงวักน้ำขึ้นมาดื่มและล้างหน้าหลายๆ ครั้ง

“น้ำเย็นชะมัด!” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มลืมขึ้นแล้วมองไปรอบๆ ตัวอีกครั้ง ทุกอย่างยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป


“ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!”


เสียงคน!

ลูคัสวิ่งพรวดพราดไปยังต้นเสียง ก่อนจะพบกับผู้หญิงชาวบ้านวัยกลางคนในชุดกระโปรงยาวสีตุ่นๆ สีหน้าของหล่อนซีดเผือด สายตามองตรงไปในแม่น้ำ เด็กหนุ่มจึงมองตามหล่อนไป

ในแม่น้ำที่เย็นเยือกไม่ไกลจากฝั่งนัก มีเด็กชายเกาะขอนไม้ร้องไห้อยู่ ลูคัสไม่รอช้า เขารีบถอดชุดหมี เสื้อสเวตเตอร์และรองเท้าออก จากนั้นจึงวิ่งลงไปในน้ำแล้วว่ายน้ำตรงไปยังเด็กชาย

วินาทีนั้นลูคัสลืมความหนาวเย็นไปเสียสนิท พอคว้าคอเสื้อเด็กชายได้ก็ว่ายน้ำพากลับขึ้นฝั่ง

หญิงวัยกลางคนถลาเข้ามากอดเด็กชาย หล่อนมองตามลูคัสที่เดินไปหยิบเสื้อสเวตเตอร์ขึ้นมาใส่ ตามด้วยชุดหมีอีกชั้น เด็กหนุ่มนั่งลงกอดเนื้อตัวที่สั่นเทา

“เกิดอะไรขึ้น!” เด็กหนุ่มชาวบ้านในชุดซอมซ่ออีกคนวิ่งเข้ามาหยุดหอบอยู่ใกล้ๆ กับหญิงวัยกลางคนและเด็กชาย พอหันไปเห็นลูคัสเข้าก็เบิกตาโพลง “ไอ้โจรนี่มันทำร้ายเอาหรือแม่” เขาหันไปคว้าท่อนไม้แล้วเดินตรงเข้าไปหา

“แก! ไอ้โจร! จะรังแกพวกข้าไปถึงเมื่อไหร่!”

ร่างกายรู้สึกชาและสั่นด้วยความหนาว อยากจะขยับหนีก็ขยับไม่ได้ สองแขนกอดลำตัวค้างไว้แน่น เขาเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่มชาวบ้าน จะพูดแก้ตัว ริมฝีปากก็สั่นเสียจนพูดจาไม่รู้เรื่อง “ไม่... ผม...”

เด็กหนุ่มชาวบ้านคนนั้นเงื้อมือข้างที่ถือท่อนไม้ขึ้นสูง

“เดี๋ยวก่อนเลน! อย่าทำร้ายเขานะ” หญิงวัยกลางคนเอาผ้าคลุมไหล่ของหล่อนพันตัวเด็กชายแล้วอุ้มขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้ามาขวาง “เขาเป็นคนช่วยวิลไว้!”

เจ้าของชื่อเรียกชะงัก “ฮะ!”

“เขาเป็นคนพาวิลขึ้นมาจากน้ำ!”

“จริงหรือแม่ ไอ้หมอเนี่ยน่ะหรือ” เด็กหนุ่มมองหน้ามารดาสลับกับน้องชายที่หน้าซีดตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของหล่อน

“ใช่! เจ้าอย่าทำอะไรเขาเชียวนะ!”

เลนหันกลับไปมองลูคัสอีกครั้ง ในสายตาของเขา อีกฝ่ายดูไม่เหมือนชาวเมืองทั่วไปทำให้เขาคิดว่าเป็นโจร แต่ถ้าเป็นคนที่เสียสละช่วยน้องชายเขาแล้ว...

เด็กหนุ่มชาวบ้านย่อตัวลงนั่งข้างๆ “ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อนเลย มาจากไหนรึ”

“จาก... มิว... นะ... นิค...”

“ที่ไหนกันนี่ ไม่เห็นเคยได้ยิน” เลนขมวดคิ้วพร้อมกับยกมือขึ้นเกาศีรษะ เขาถอดผ้าคลุมไหล่ตนเองออกแล้วนำไปคลุมให้เด็กหนุ่ม “แต่เอาไว้ก่อนเถอะ ลงไปในน้ำเย็นแบบนั้นเจ้าคงหนาวมากสินะ ไปที่บ้านข้ากันก่อนดีกว่า นี่ฟ้าก็จะมืดแล้วด้วย”

ลูคัสส่ายหน้า ไม่ใช่ว่าไม่อยากกลับไปด้วย แต่เพราะหนาวสั่นจนลุกขึ้นไม่ไหว “ไม่... ไหว...”

เลนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ไม่เป็นไร งั้นขี่หลังข้าไปก็แล้วกัน”

บ้านของเลนตั้งอยู่ไม่ไกลนัก ละแวกนั้นมีบ้านนับสิบๆ หลังตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน ที่หน้าบ้านของเลนมีคู่ชายหญิงชรายืนรอการกลับมาของพวกเขาอยู่

“มารี เลน วิล เกิดอะไรขึ้นรึ!”

“ตายาย เข้าบ้านก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน” เลนหอบเด็กหนุ่มแปลกหน้าวิ่งเข้าไปในบ้าน นำไปวางลงข้างหน้าเตาผิงแล้ววิ่งไปรับน้องชายต่อจากมารดามาวางลงข้างๆ กัน

ภายในบ้านไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางอะไรนัก บนพื้นปูไว้ด้วยต้นข้าวแห้งๆ มีโต๊ะกับเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง

“ดูแลเขาที เดี๋ยวข้าดูแลวิลเอง” มาเรียบอกกับบิดามารดาของหล่อน

“เกิดอะไรขึ้นกันนี่” ชายชรารีบรุดไปหยิบฟืนใส่เตาผิง ส่วนหญิงชราตักซุปร้อนๆ ใส่ชามมาส่งให้

ลูคัสรับชามซุปมาถือไว้ มือของเขายังคงสั่นอยู่น้อยๆ จึงต้องค่อยๆ ยกชามขึ้นจิบ วินาทีแรกที่ลิ้นได้สัมผัสซุปเขาถึงได้รู้ว่าตนเองหิวโหยมากขนาดไหน เขาพยายามเป่าซุปให้เย็นลงแล้วยกขึ้นซดฮั่กๆ

“ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็สำลักหรอก”

“แค่กๆ” ไม่ทันขาดคำ เด็กหนุ่มก็สำลัก ไอโขลกจนตัวโยน

เลนช่วยลูบหลังให้เบาๆ “ดูท่าจะหิวมาก”

“งั้นกินซุปกับขนมปังหน่อยดีไหม” หญิงชราจ้องมองเด็กหนุ่มอย่างสงสาร หล่อนลุกไปตักซุปและหยิบขนมปังมาส่งให้ จากนั้นจึงขยับไปดูหลานชาย

วิลฟื้นตัวได้ไวกว่าลูคัสมากเพราะเป็นเด็กที่เติบโตขึ้นมาในละแวกนั้น หลังจากดื่มซุปเข้าไปสักพักก็ดีขึ้นจนเกือบเป็นปกติ เขาลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่มารดาสั่ง

“ไหนบอกข้าหน่อย เจ้าลงไปทำอะไรในน้ำน่ะวิล”

“ข้าจะไปจับปลาให้ยาย เห็นยายบ่นอยากกินปลา แต่เบ็ดมันติด ข้าเลยลงไปดู แล้วขาก็ชา เจ็บไปหมด ขยับไม่ได้เลย ปลาก็หลุด เบ็ดก็หาย” เด็กชายตอบเสียงสลด

“เกือบตายแล้วไหม โชคดีของเจ้าที่เขามาเห็นทัน”

“ขอบคุณ” เด็กชายหันไปบอกกับผู้มีพระคุณของตน

“ที่แท้ก็คนที่ช่วยวิลไว้นี่เอง ขอบใจเจ้ามากนะ” ตายายพยักหน้าอย่างเข้าใจ

ลูคัสผงกศีรษะ ในปากยังมีขนมปังเต็มไปหมด เขายกชามซุปขึ้นซดตามอีกหลายๆ อึกใหญ่

ท่าทางของเด็กหนุ่มทำให้เลนหัวเราะออกมาเบาๆ “อร่อยหรือ”

“ครับ อร่อยมาก”

“เอาอีกไหม”

“เอาครับ”

หญิงชรายิ้มชอบใจ หล่อนรีบรุดไปตักซุปใส่ชามและหยิบขนมปังมาให้เด็กหนุ่มอีกก้อน “กินเสียให้อิ่มนะเจ้าหนู”

“เจ้ากินไปก่อน เดี๋ยวข้าจะไปหาเสื้อผ้าให้เปลี่ยน”

เสื้อผ้าที่เลนนำมาให้ใส่เหมือนกับตัวที่เขาใส่อยู่ เป็นเสื้อแขนยาวลำตัวยาว ไม่มีลวดลายใดๆ เนื้อผ้าหยาบๆ มีผ้าผูกเอวกับกางเกงผ้า รูปแบบคล้ายกับผู้ชายที่ลูคัสพบในปราสาท แต่ความหรูหราต่างกันลิบลับ

ลูคัสรับมาสวมแต่ก็ยังสวมสเวตเตอร์ทับไว้ จากนั้นจึงมานั่งลงที่หน้าเตาผิงร่วมกับทุกคน

“เอาล่ะ เจ้าชื่ออะไร”

“ลูคัส”

“ข้าชื่อเลน นี่มาเรียแม่ข้า คนที่เจ้าช่วยไว้เป็นน้องของข้าชื่อวิล แล้วนั่นก็ตากับยาย”

ลูคัสฟังคำพูดอีกฝ่ายไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เขาควรจะต้องยอมรับว่าตัวเองหลงมาอยู่ในยุคโบราณใช่ไหมนะ นี่คงไม่ใช่การเล่นตลกของใคร

“เจ้ามาจากเมืองอะไรนะ”

“บ้านเกิดผมอยู่ที่มิวนิค อยู่ไกลจากที่นี่มาก”

ทุกคนในบ้านหันไปมองหน้ากัน “ไม่เคยได้ยิน คงจะไกลมากจริงๆ คนที่นั่นหน้าตาเป็นแบบเจ้ากันหรือ”

“หน้าตา?” ลูคัสขมวดคิ้ว “อ๋อ ไม่หรอก ผมเป็นลูกครึ่งน่ะ”

“ลูกครึ่ง? คืออะไรน่ะ”

“ก็พ่อผมเป็นชาวยุโรป แม่ผมเป็นชาวเอเชียไงครับ”

คำตอบของเด็กหนุ่มทำให้ทุกคนงุนงงหนักเข้าไปใหญ่ แต่พวกเขาก็เดาเอาว่า ยุโรป กับ เอเชีย ที่อีกฝ่ายพูดถึงคงจะเป็นชื่อเมืองที่อยู่ไกลๆ เฉกเช่นมิวนิคกระมัง

“พอผมมาถึงที่นี่ก็ดันหลงเข้าไปในปราสาท แล้วก็เจอพวกทหารไล่กวดออกมา”

“เจ้าเดินอีท่าไหนกันถึงหลงเข้าไปที่นั่นได้น่ะ ไม่ถูกทหารฆ่าตายก็ดีนักหนาแล้ว” เลนตบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ “ก่อนหน้าที่ปราสาทนั่นมีทหารเฝ้ายามอยู่แค่ไม่กี่คน แต่เมื่อไม่กี่วันมานี่ ท่านลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์กับกองทัพของท่านเพิ่งเดินทางมาถึง ได้ยินว่าองครักษ์ของท่านเป็นทหารฝีมือดีอันดับต้นๆ ของแคว้น เจ้าโชคดีมากที่รอดมาได้นะ”

นัยน์ตาสีเข้มเบิกโพลง “ลอร์ด... ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์”

“ใช่ ผู้ครองเมืองแบร์กไฮม์อย่างไรกันล่ะ”

“ถ้างั้นปราสาทนั่นชื่อ...”

“ปราสาทแห่งแบร์กไฮม์ ข้าได้ยินว่าแต่เดิมเป็นของท่านอาร์ชดยุกแห่งไฮเดลแบร์กนะ ท่านคงยกให้เป็นที่พักของท่านลอร์ด”

ลูคัสนึกย้อนไปถึงคริส เพื่อนร่วมงานนักโบราณคดีของเขา หล่อนเคยพูดไว้ว่าปราสาทนี้แต่เดิมชื่อปราสาทแห่งแบร์กไฮม์ แล้วมาเปลี่ยนชื่อเป็นปราสาทแห่งไฮเดลแบร์กทีหลัง

แล้วมีอาร์ชดยุก มีลอร์ด มีผู้ครองเมือง... “นี่มันคือยุคกลางหรือเปล่า ศตวรรษที่เท่าไหร่กันเนี่ย”

“เจ้าพูดอะไรน่ะ” เลนขมวดคิ้ว “ภาษาแบบบ้านเกิดเจ้าหรือ”

“เอ่อ จะว่าอย่างนั้นก็ได้”

“มิน่าเล่า เจ้าถึงได้พูดจาแปลกๆ”

“แล้วเจ้าจะไปไหนต่อ” มาเรียซักบ้าง

“ผม...” ลูคัสก้มหน้าลงมองพื้น เขานิ่งไปสักพักจึงตอบเสียงเศร้า “ผมไม่รู้ครับ” เขาไม่รู้เลยจริงๆ ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี “จะกลับบ้านก็ไม่รู้จะกลับยังไง” ป่านนี้บิดามารดาและพี่ชายจะรู้ข่าวของเขาแล้วหรือยัง จะออกตามหากันวุ่นวายไหม

ชายชราลูบศีรษะเด็กหนุ่มด้วยความสงสาร “เจ้าจะอยู่ที่นี่ไปสักพักก็ได้ บ้านคับแคบไปสักหน่อย แต่ก็พอมีที่ว่างให้อีกสักคน”

“จริงหรือ ผมอยู่ที่นี่ได้หรือ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมาก”

“แต่เจ้าต้องระวังตัวด้วยนะ แถวนี้มีโจรบุกเข้ามารังควานอยู่บ่อยๆ”

“โจร?”

“ใช่ พวกมันบุกมาปล้นเงินทอง เสบียงอาหารบ้าง เครื่องประดับบ้าง มีของดีอะไรพวกมันก็ขโมยไปหมด”

สีหน้าของเด็กหนุ่มเจื่อนลงเล็กน้อย ก็นั่นสินะ ไม่ว่ายุคไหนๆ ก็มีคนร้าย คนที่เอาเปรียบคนที่อ่อนแอกว่าด้วยกันทั้งนั้น “...ครับ ผมจะระวัง”

ภายในบ้านมีห้องแคบๆ อยู่อีกสองห้อง ใช้เป็นที่หลับนอนของครอบครัว ห้องหนึ่งเป็นของตายายกับมาเรีย ดังนั้นอีกห้องจึงเป็นของเลน วิลและลูคัส

สภาพห้องนอนที่ไม่เหมือนห้องนอนเอาเสียเลยส่งผลให้เด็กหนุ่มทอดถอนใจออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ต่างจากที่คาดไว้มากนัก พวกเขาใช้ฟางปูพื้น มีผ้าปูทับเป็นที่นอน มีผ้าห่มเก่าๆ หลายผืนไว้ให้ห่มซ้อนๆ กัน อากาศในเวลากลางคืนเย็นจัด ก่อนจะนอนต้องใส่ฟืนในเตาผิงเพิ่มไว้ เมื่อเอนหลังลงนอนแล้วเขาก็ปิดตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน

 
*~TBC~*


ว้ายๆ ปู้จายเขาได้เจอกันแหล่วคร่าาา ตอนนี้เจอกันแป๊บเดียว เอาไว้ตอนหน้าๆๆๆๆๆๆ จะเจอกันเยอะๆ นะคะ กรั่กกก

จริงๆ ความแตกต่างของภาษาของสองยุคคงจะต้องมีมากกว่านี้แหละค่ะ แต่เอาแค่นี้ละกันนะคะ 55555 ถือว่าเขาเขียนอ่านภาษาเดียวกันก็พอ ฮัสกี้จะได้ไม่งงล่วย 55555 /เล่นง่ายจิมๆ

หนูลูคัสถูกพามายุคอดีตแล้ว จำไม่ได้ซะด้วยมาใครเรียกมาพามา อิทั่นหลอดที่เรียกมาก็ไม่รู้ น่าสงสารชิมิคะ  :mew6:
ยังไงก็รอติดตามกันต่อนะคะ ว่าหนูลูคัสจะพิชิตใจทั่นหลอดยังงอยยย 5555

ขอบคุณทุกคนมากค่า จุ๊ฟฟฟฟ



ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #37 เมื่อ03-11-2016 10:18:13 »

นั่นสิ ใครเรียกมากันนะ พอเรียกเขามาแล้วก็ไม่มาดูแล ฮา

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #38 เมื่อ03-11-2016 11:22:35 »

เจอกันแล้วววว อิอิ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #39 เมื่อ03-11-2016 12:51:18 »

         :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
« ตอบ #39 เมื่อ: 03-11-2016 12:51:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ multiver

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #40 เมื่อ03-11-2016 14:23:49 »

^
^
^
จิ้มกลางทวารทะลุ 3 เม้น!!  :a9: :a9:
มากลางวันแสกแสก!! แห่ๆๆๆ  :angry2: :angry2: แถมมาน้อยอีก!! แห่ๆๆๆ :m31: :m31: ไม่ให้อภัยท่านหรอกท่านเซอร์ฮัสกี้ ตอนหน้าต้องมาเยอะๆด้วย!!! o11 o11 แต่นี่ผมทายถูกสินะเนี่ย ลูคัสย้อนอดีต เซอร์ฮัสกี้มาต่อใน 2 วัน 5555
:a1: แล้วข้าจะรอตอนต่อไปของเจ้า Sir Huskyhund... :a1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #41 เมื่อ03-11-2016 16:05:35 »

ลูคัสจะทำไงต่อละเนี่ย

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #42 เมื่อ03-11-2016 17:10:52 »

จริง ๆ ไม่ใช่ว่าท่านลอร์ดจะไม่ดูแลนะ
แต่ลูคัสวิ่งเร็วเกิ๊น! ท่านลอร์ดแก่แล้ววิ่งตามไม่ทัน
ฮ่าฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #43 เมื่อ03-11-2016 20:41:30 »

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ jinholmemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #44 เมื่อ03-11-2016 22:12:17 »

แต่เราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่คอยเธอมา.... เพลงนี้รอยเข้ามาในหัว 5555555
แหม ตัวเองเรียกเขามาแท้ๆ ทำมาเป็นถามเจ้าเป็นใคร


ออฟไลน์ ploysure

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #45 เมื่อ04-11-2016 09:48:33 »

จิ้มมาตามชื่อคนเขียน  :z13:
อ๋อยยยเพิ่งเริ่มเรื่องเอง จะเป็นยังไงต่อไปนะลูคัส
อีกกี่ตอนกว่าเค้าจะได้อยู่ด้วยกันคะ ทนรอไม่ไหวแล้วววว อยากรู้จักคุณคาร์ลค่า :-[

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #46 เมื่อ04-11-2016 13:29:21 »

ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #47 เมื่อ04-11-2016 15:42:42 »

เพิ่งเห็น คราวนี้มาแบบย้อนยุคเลย

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #48 เมื่อ04-11-2016 22:43:27 »

สู้ๆน้า

ออฟไลน์ Bellze12

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #49 เมื่อ06-11-2016 21:11:15 »

ติดตามน๊า สนุกดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
« ตอบ #49 เมื่อ: 06-11-2016 21:11:15 »





ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #50 เมื่อ06-11-2016 21:30:22 »

สนุกจังครับ
ยังไม่เคยอ่านเรื่องที่ย้อนมาโผล่ยุคกลางแบบนี้

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 3 : แรกพบ][031116]
«ตอบ #51 เมื่อ07-11-2016 11:41:43 »



Chapter 4 : โจรร้าย


สองวันผ่านไป ลูคัสเริ่มทำใจกับการหลงมาอยู่ผิดยุคของตนได้บ้าง เลนกับมาเรียพาเขาไปแนะนำให้เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ ได้รู้จัก ซึ่งทุกคนก็ดูเป็นมิตรดี

ช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวและสะสมอาหารไว้สำหรับฤดูหนาว แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่จะต้องคัดเลือกพืชพรรณหรือสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดส่งให้กับผู้ครองเมือง คล้ายการจ่ายภาษีเฉกเช่นในปัจจุบัน

พื้นที่ปลูกข้าวสาลีของบ้านเลนเก็บเกี่ยวไปจนหมดแล้ว ช่วงนี้เด็กหนุ่มกับมารีจึงออกไปช่วยเหลือเพื่อนบ้าน ปล่อยให้ลูคัสอยู่บ้านกับวิลและตายาย

ในคราวแรกลูคัสเสนอตัวจะไปช่วยด้วย หากตัวเขายังไม่หายไข้จากการที่ลงไปในน้ำเย็นเมื่อคราวก่อน แล้วตอนกลางคืนก็หนาวไม่ใช่น้อย ยารักษาโรคก็ไม่มี ทำให้อาการไข้หายช้ามากขึ้นไปอีก เลนจึงให้พักอยู่กับบ้านไปก่อน เขาขี้เกียจจะแบกเด็กหนุ่มขึ้นหลังกลับบ้านอีก ทุ่งของเพื่อนบ้านก็อยู่ไกลเสียด้วย

เด็กหนุ่มนั่งซึมกระทืออยู่ที่หน้าบ้าน มองชายชราตระเตรียมการถนอมเนื้อสัตว์เก็บไว้สำหรับฤดูหนาวไปพลางๆ เขารู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ประโยชน์เสียเหลือเกิน ช่วยอะไรใครก็ไม่ได้

พอวิลเห็นเข้าก็เดินเข้าไปหา “ลูคัส ออกมานั่งตากลมแบบนี้ เดี๋ยวก็ไข้ขึ้นอีกหรอก แม่บอกให้เจ้านอนพักในบ้านไม่ใช่หรือ”

“นอนจนเจ็บหลังไปหมดแล้วน่ะวิล”

“อดทนอีกหน่อย วันนี้พวกบ้านข้างๆ ออกไปหาสมุนไพรจากในป่ามาให้เจ้าได้แล้วน่ะ ยายเขากำลังต้มอยู่” ชายชราหัวเราะ

“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเท้าคาง

สายลมเย็นพัดวูบ พัดพาขนเป็ดขนห่านจากตรงที่ชายชรายืนอยู่มาร่วงหล่นตรงหน้า มือเรียวหยิบขนเป็ดขึ้นมาดู ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ เขาหันไปมองกองขนเป็ดขนห่านที่ถูกถอนทิ้งไว้กองใหญ่แล้วลุกขึ้นพรวด

“ตาครับ ขนพวกนั้นไม่ใช้แล้วใช่มั้ย”

“อื้ม มันกินไม่ได้นี่”

“งั้นขอผมนะ” ลูคัสยิ้มกว้าง รีบรุดเข้าบ้านไปขอเข็ม ด้ายกับผ้าห่มเก่าๆ จากยาย เขาเรียกวิลให้มาช่วยกันด้วย เด็กหนุ่มจัดการเย็บผ้าห่มสองผืนให้ติดกัน เหลือช่องว่างไว้ข้างใน จากนั้นจึงยัดขนเป็ดขนห่านใส่เข้าไปแล้วเย็บปิด

“เจ้าทำอะไรน่ะลูคัส” ตายายถามอย่างสงสัย

“ทำผ้าห่มของพวกเราไงครับ พวกเป็ดห่านเนี่ย มันมีขนไว้ปกป้องตัวเองจากความหนาวเย็น เพราะงั้นเราก็น่าจะเอาขนมันมาใช้ให้ความอบอุ่นกับเราได้”

คืนนั้นทุกคนในบ้านได้ทดลองใช้ผ้าห่มผืนใหม่ แม้จะแปลกๆ เมื่อจับโดนส่วนแข็งของปีก แต่ก็ให้ความอบอุ่นแล้วก็มีน้ำหนักเบามากกว่าการใช้ผ้าห่มหลายๆ ผืนหรือฟางสุมทับ พวกเขาต่างชื่นชมความคิดของลูคัสจึงนำไปแนะนำให้เพื่อนบ้านลองทำตาม หลังจากนั้นก็ได้ขนมปังกับอาหารติดมือกลับมาฝากเด็กหนุ่มมากมาย


วันถัดมาเมื่อลูคัสอาการดีขึ้นมากแล้ว เขาชวนวิลไปริมแม่น้ำพร้อมกับนำกระสอบติดมือไปด้วย

“ลูคัส เจ้าทำอะไรน่ะ” วิลเอ่ยถามเด็กหนุ่มที่กำลังก้มหน้าก้มตาเก็บก้อนหินขนาดเท่ากำมือมาจากในแม่น้ำ

“เก็บหินไง เดี๋ยวคืนนี้จะสอนทำอะไรดีๆ มาช่วยกันขนไปที่บ้านก่อนนะ”

หลังจากเดินไปเดินมากันอยู่หลายรอบก็ได้หินมากองโต พอตกเย็นเด็กหนุ่มก็จัดการนำหินเข้าไปจัดเรียงในเตาไฟ ซึ่งทุกคนก็รอดูกันอย่างสนใจ

“พอหินร้อนแล้วก็เอาออกมาใส่ห่อผ้า เอาใส่ไว้ใต้ผ้าห่มตอนกลางคืนจะได้อุ่นๆ คล้ายๆ กระเป๋าน้ำร้อนไงครับ”

“กระเป๋าน้ำร้อน?”

ลูคัสหัวเราะเบาๆ “เอาน่ะ ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าคืนนี้อุ่นแน่ๆ เชื่อผม”

ความคิดของเด็กหนุ่มเป็นที่นิยมของชาวบ้านในละแวกนั้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูคัสเป็นที่รู้จักและชื่นชมของคนในหมู่บ้าน เมื่อหายไข้ดีเขาก็คิดหาวิธีใหม่ๆ ที่จะทำให้ตัวเองเป็นประโยชน์กับทุกคนได้อีก เพื่อตอบแทนที่ให้เขาซุกหัวนอนและมีอาหารรับประทาน แล้วก็เพื่อตอบแทนคนในหมู่บ้านที่แบ่งปันอาหารกับสมุนไพรมาให้เขาอยู่บ่อยๆ

การเริ่มต้นชีวิตในยุคโบราณของลูคัสเกือบจะเป็นไปอย่างราบรื่น ถ้าหากไม่มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นเสียก่อน


ในคืนที่เงียบสงัด ลูคัสนอนหลับสบายอยู่ในที่นอนอบอุ่น หากจู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะมีเสียงกรีดร้องดังก้อง คละเคล้ากับเสียงม้าและเสียงฝีเท้าหนักๆ ของมัน เด็กหนุ่มลุกขึ้นพรวด ทำท่าจะเดินออกไปดู หากถูกเลนคว้าแขนไว้ก่อน

“อยู่นิ่งๆ อย่าออกไป”

“เกิดอะไรขึ้นน่ะเลน”

เสียงหวีดร้องและร่ำไห้แว่วเข้ามาในโสตประสาท ลูคัสหน้าซีดเผือก เขาประสานสายตากับเลนอย่างไม่เข้าใจ

แววตาของเลนฉายแววเศร้าสลด สีหน้าโกรธแค้น เขากัดฟันกรอด มือกร้านกำท่อนแขนลูคัสไว้แน่นอย่างลืมตัว

“เลน”

“ครั้งหน้าคงถึงคราวบ้านข้า”

“อะไรน่ะ ถึงคราวอะไร”

“พวกโจร... มันบุกมาปล้นเงินทองกับเสบียง”

ลูคัสอ้าปากค้างอยู่สักพัก “พวกมันจะฆ่าใครมั้ย”

“ถ้าขัดขืนมันก็ฆ่า แต่ถ้าไม่ขัดขืน พวกมันเอาเงินไปพวกข้าก็อดตาย เอาเสบียงที่ต้องส่งให้ทางการไป พวกข้าก็ตายอยู่ดี เจ้าก็เห็นว่าคนในหมู่บ้านข้าเหลือน้อยมากแค่ไหน”

เด็กหนุ่มนิ่งอึ้ง ลืมตัวไปเสียสนิทว่าตนเองหลงมาอยู่ในยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน แล้วมีดดาบอะไรที่พอจะใช้ป้องกันตัวได้ก็ใช้ไม่เป็น

“นอนเถอะลูคัส พรุ่งนี้ยังมีเรื่องเศร้ารออยู่อีก”

“เรื่องเศร้าอะไร”

“เดี๋ยวเจ้าก็จะได้เห็น” เลนเอนหลังลงนอนแล้วพลิกตัวหันหน้าออกจากอีกฝ่าย เป็นเชิงบอกว่าเขาไม่อยากพูดถึงอะไรอีกแล้ว

..

....

...

ในตอนเช้าตรู่ของวัน นายทหารคนหนึ่งรีบรุดเข้ามาหาหัวหน้ากองของเขาในขณะที่กำลังประชุมอยู่กับลอร์ดหนุ่ม “ม้าเร็วรายงานเข้ามาว่าพวกทหารลาดตระเวนพบกลุ่มกองโจรแถวชายแดนทางใต้ และจับตัวไว้ได้ทั้งหมดห้าคน ตอนนี้กำลังพาตัวมาที่นี่”

หัวหน้าทหารพยักหน้า “ดีมาก เอาพวกมันไปขังไว้ในคุกก่อน อาจจะใช้ประโยชน์อะไรจากพวกมันได้”

ทหารอีกคนหนึ่งกล่าวขึ้น “ท่านว่าไอ้คนที่ลอบเข้ามาในปราสาทจะเป็นพวกเดียวกันไหม มันอาจมาดูลาดเลาแล้วไปบอกพวกพ้องมัน”

“เป็นไปได้ มันหนีไปได้รวดเร็วขนาดนั้น น่าจะรู้ที่ทางดี คงเคยมาสอดส่องหลายครั้งแล้ว”

“ส่งทหารไปตามหาตัวมัน ถ้าเจอก็ฆ่าเสีย! มันบุกรุกเข้ามาในปราสาท โทษของมันคือประหาร!”

ลอร์ดหนุ่มที่นั่งนิ่งฟังรายงานอยู่บนเก้าอี้ไม้ยกมือขึ้นลูบปลายคางอย่างครุ่นคิด เด็กหนุ่มที่เขาได้พบ จะว่าไปก็ท่าทางคล่องแคล่วมากจริงๆ พูดจาก็แปลกๆ ดูน่าสงสัยไม่ใช่น้อย หากดวงตาที่เขาได้สบประสานคู่นั้น... ดูไร้เดียงสาเกินกว่าจะเป็นดวงตาของโจรผู้ร้าย

“จับตัวมาก็พอ”

“ท่านลอร์ด?” หัวหน้านายทหารหันขวับ

“ท่านคาร์ล” องครักษ์ทั้งสองก็เช่นกัน “มันจะไม่อันตรายไปหรือ ถ้าหากมันรู้ที่ทางภายในปราสาทนี่ ”

คาร์ลนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาได้พบกับเด็กหนุ่มแปลกหน้า เขาคิดว่าถ้าเป็นโจรอย่างน้อยก็ต้องมีอาวุธติดตัวบ้าง แล้วตอนที่พบกับเขาดูท่าทางเหมือนกระต่ายตื่นคน ดูยังเป็นเด็กที่ไม่ประสีประสา ไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมาย ใจเขาเพียงแค่ไม่ต้องการพรากชีวิตคนบริสุทธิ์ก็เท่านั้น ถ้าหากเขาเห็นชีวิตคนเป็นเหมือนผักปลา เขาก็ไม่ต่างอะไรกับพวกโจรเลยแม้แต่น้อย

“ข้าต้องการคุยกับเขา”

คำพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบของผู้เป็นนาย หากนายทหารรับรู้ได้ถึงความเฉียบขาด พวกเขาไม่กล้าคัดค้านหรือขัดคำสั่งอย่างแน่นอน “ขอรับ ท่านลอร์ด”

“เตรียมม้าหน่อยซิ”

คอนราดหันขวับ “ท่านจะไปไหนหรือ”

“ข้าจะไปตรวจดูในเมืองสักหน่อย”

...

......

...


เมื่อยามเช้ามาถึง ลูคัสก็เข้าใจสิ่งที่เลนบอกกับตนเองเมื่อคืน

เพื่อนบ้านคนที่เคยนำสมุนไพรมาส่งให้ยามที่เขาป่วยถูกโจรฆ่าตาย เหลือเพียงชายชรากับเด็กเท่านั้น หากโชคชะตายังกลั่นแกล้งไม่พอ เนื่องจากพวกทหารมารับเสบียงตามกำหนด หากเสบียงที่จัดเตรียมไว้สำหรับส่งให้กับผู้ครองเมืองถูกพวกโจรขนเอาไปจนหมดแล้ว เงินทองก็ไม่เหลือไว้ให้สักเหรียญเดียว

เด็กหนุ่มนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกับทุกคนในบ้าน เขารับประทานอะไรไม่ลง ได้ยินแต่เสียงร่ำไห้ของเพื่อนบ้านตลอดเวลา “เราจะไม่ออกไปดูเขาหน่อยหรือครับ”

ทุกคนมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ “ออกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อีกแล้ว”

ลูคัสได้ยินเสียงตะคอกของพวกทหารชัดเจนทุกคำพูดทุกประโยค ในเมื่อไม่มีเสบียงส่งให้กับผู้ครองเมือง โทษก็คือตาย มันสมควรแล้วหรือ

มือเรียวกำแน่นจนเกร็งไปทั้งท่อนแขน เขาลุกขึ้นแล้ววิ่งพรวดออกไปโดยที่ไม่มีใครห้ามทัน

ภาพเบื้องหน้าชวนให้รู้สึกสลด ศพของเพื่อนบ้านชายหญิงยังนอนจมกองเลือดอยู่ที่หน้าบ้าน เหลือเพียงชายชรากับหลานอีกสามคนที่กอดคอกันร้องไห้อยู่ตลอดเวลา หากพวกทหารก็ยังตะคอกต่อว่า เร่งให้ไปหาเสบียงมาส่งให้ ในมือก็ถือดาบตวัดไปมาเพื่อขู่ชายชราอยู่ตลอด

“พวกคุณจะบ้ารึไง ไม่เห็นหรือว่าเกิดอะไรขึ้น” ลูคัสถลาเข้าไปขวาง ในขณะเดียวกันที่บ้านของลูคัสก็วิ่งเข้ามาสมทบ เลนรั้งแขนของเด็กหนุ่มไว้ ทว่าไม่เป็นผล ลูคัสตะโกนใส่พวกทหารเสียงดัง “พวกเขาถูกปล้น มีคนตายนอนอยู่ตรงนั้นทนโท่ ตาบอดรึไงน่ะ”

“ไอ้เด็กนี่! มันเป็นหน้าที่ของพวกเจ้าที่ต้องส่งเสบียงให้กับท่านลอร์ดไม่ใช่รึ!”

“แล้วมันไม่ใช่หน้าที่ของท่านลอร์ดหรือ ที่จะต้องปกป้องพวกเราจากโจรน่ะ!” เด็กหนุ่มเถียงกลับไปเสียงดัง

วินาทีนั้นพวกทหารเงียบกริบไปชั่วครู่ เพราะไม่เคยมีใครต่อกรด้วยเช่นนี้ พอตั้งหลักได้ก็เงื้อดาบในมือขึ้น “ไอ้เด็กเวรนี่! ปากดีนักก็อย่าอยู่เลย”


“หยุด!”

พวกทหารชะงัก หันขวับไปทางต้นเสียงแล้วค้อมศีรษะลง “ท่านเออร์วิน”

องครักษ์หนุ่มพูดเสียงเข้ม “ท่านลอร์ดสั่งพวกเจ้าไว้ว่าอย่างไร ท่านไม่ให้ทำร้ายชาวบ้านไม่ใช่รึ!”

“แต่พวกมันทำผิด ไม่มีเสบียงส่งให้ตามกำหนดขอรับ”

เออร์วินกวาดสายตามอง เขาพอจะคาดเดาสถานการณ์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในที่แห่งนี้ “ไอ้พวกโจรมาที่นี่หรือ”

ชายชราพยักหน้าตอบอย่างหวาดกลัว เสียงร้องไห้ของพวกเด็กๆ ดังระงมไปหมด

ลูคัสจ้องมององครักษ์หนุ่มบนหลังม้าเขม็ง คนคนนี้ดูเป็นคนมีเหตุผล พวกทหารให้ความเคารพเชื่อฟังก็น่าจะมียศสูง ทำให้เขานึกไปถึง...

“มีอะไรหรือเออร์วิน”

เสียงนี้... ถึงจะเคยได้ยินแค่ไม่กี่ประโยค แต่เขาจำได้แม่นเลย! ลูคัสก้มหน้าลงแล้วถอยไปหลบหลังเลนทันที

ลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์อยู่ในเสื้อคลุมที่มีหมวกคลุมศีรษะสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาถูกซ่อนจนเกือบมิดชิด เขาขี่ม้าสีดำเดินเข้ามาช้าๆ พร้อมกับองครักษ์อีกคนและทหารกลุ่มใหญ่ ลอร์ดหนุ่มมาตรวจตราดูความเรียบร้อยของหมู่บ้านนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่อยู่ไกลจากปราสาทมากที่สุด

“มีพวกโจรบุกเข้ามาที่นี่เมื่อคืนขอรับท่านคาร์ล”

ท่าทางของลอร์ดหนุ่มบนหลังม้ายังคงสงบนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง เขาหันมองไปทางชายชรา ซึ่งอีกฝ่ายยังไม่ทันได้สบสายตาก็รีบก้มหน้าลงมองพื้น หวาดกลัวเขาจนตัวสั่น

“ข้าจะจัดการกับโจรพวกนี้ให้ได้ ข้าสัญญา”

ชายชราชะงัก ก่อนจะผงกศีรษะหลายๆ ครั้ง คำพูดของลอร์ดแห่งแบร์กไฮม์ราวกับต้องการจะปลอบใจครอบครัวของเขาและพวกชาวบ้านในละแวกนั้น

“แล้วเรื่องเสบียง... จะทำอย่างไรดี” เออร์วินหันไปถาม

“ครั้งนี้ข้าจะละเว้นให้” คาร์ลตอบพลางกระตุกบังเหียนม้าให้มันเดินออกไป ทว่าสายตากวาดมองไปพบกับคนที่มีสีผมคุ้นตา สีดำราวกับสีของรัตติกาล ชาวไฮเดลแบร์กส่วนใหญ่ไม่มีผมสีเข้มเช่นนี้

“เจ้า”

ลูคัสสะดุ้ง แต่ก็ยังนิ่งเฉย

“เจ้าคนที่มีผมสีดำนั่น มาหาข้าหน่อยสิ”

สายตาทุกคู่มุ่งตรงไปยังเด็กหนุ่ม เขาก้มงุดซุกแผ่นหลังของเลน สองมือขยุ้มเสื้ออีกฝ่ายไว้แน่น

“ท่านลอร์ดสั่งไม่ได้ยินรึไง”

ทหารคนหนึ่งเดินตรงเข้าไปกระชากแขนเด็กหนุ่มออกมา “ไปหาท่านลอร์ดเดี๋ยวนี้!”

“เฮ้ย ไอ้เจ้านี่” ทหารอีกคนชี้มาที่ลูคัสแล้วร้องลั่น “ไอ้โจรที่ลอบเข้ามาในปราสาทนี่”

“จับตัวมันไว้!”

“ลูคัส!” มารีหวีดลั่น หล่อนถลาเข้าไปกอดเด็กหนุ่ม ส่วนเลนก็วิ่งเข้าไปขวางหน้า “เขาเป็นแค่คนต่างเมืองเท่านั้น! ไม่ใช่โจร!”

“ลูคัสเป็นแค่เด็กหลงทาง! ท่านลอร์ดได้โปรดกรุณาด้วย”

“เขาเข้าไปในเขตปราสาท มีความผิดมากนัก พวกเจ้ารู้ใช่หรือไม่” คอนราดตอบแทนนายของตน

“แต่ลูคัสไม่ได้ตั้งใจนะเจ้าคะ เขาเป็นคนต่างเมืองที่หลงทางมาเท่านั้น”

ชายชราเพื่อนบ้านพูดบ้าง “ท่านผู้สูงศักดิ์ ลูคัสเป็นเด็กดี เขาช่วยเหลือพวกข้าไว้หลายอย่าง ได้โปรดเมตตาเขาเถิด”

“หลงเข้ามาในปราสาทเนี่ยนะ เชื่อก็บ้าแล้ว” นายทหารหัวเราะพร้อมกับฉุดกระชากแขนเด็กหนุ่มเข้าไปหาผู้เป็นนายตน

“อย่า!” เลนดึงแขนเรียวอีกข้างไว้ เมื่อทหารเห็นก็ง้างเท้าขึ้นถีบให้เด็กหนุ่มชาวบ้านหงายหลัง

“เลน!” ลูคัสร้องลั่น เขาสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของนายทหาร “ปล่อย! ผมไปก็ได้!”

ลูคัสเดินไปหยุดยืนก้มหน้านิ่งอยู่ที่ข้างหน้าม้าสีดำสนิท ใจนึกถึงบิดามารดาและพี่ชาย เขาคงจะไม่ได้พบกับทุกคนอีกแน่แล้ว

“ข้ามีเรื่องต้องการคุยกับเจ้า”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น แววตาฉายแววแข็งกระด้าง “ก็คุยมาสิครับ”

ลอร์ดหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก เขารู้สึกชอบใจ ถูกชะตากับเด็กหนุ่มอย่างประหลาด “พาเขาไปที่ปราสาท”

“ทำไมต้องไปที่นั่น คุยที่นี่ก็ได้”

“เจ้าบังอาจนัก!” นายทหารใช้ฝักดาบในมือฟาดลงบนหลังของลูคัสอย่างแรงจนเด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง

“โอ๊ย! มันเจ็บนะโว้ย!”

“ปากดีนัก!”

“หยุด” คาร์ลพูดเสียงเรียบ “หน้าที่ของพวกเจ้าคือพาเขาไปที่ปราสาท” จากนั้นจึงขี่ม้าออกไปพร้อมกับองครักษ์และทหารของตน

มารีและตายายร้องไห้ระงม พวกเขาไม่รู้จะทำเช่นไร ได้แต่บอกลูคัสว่าอย่าขัดขืน เดี๋ยวจะโดนทำร้ายอีก

เด็กหนุ่มไม่มีทางเลือก เขากัดริมฝีปากจนห้อเลือด เจ็บกายที่ถูกทำร้าย เจ็บใจที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีน้ำตาใดๆ ร่วงหล่นลงมาจากดวงตาสีเข้ม

พวกทหารมัดมือมัดเท้าเขาแล้วจับโยนใส่รถม้าขนเสบียง ทำเหมือนตัวเขาเป็นสิ่งของไม่มีชีวิต จากนั้นก็มุ่งตรงกลับไปยังปราสาทตามคำสั่ง


*~TBC~*


สวัสดีวันจันทร์ค่าาา ฮัสกี้พาหนูลูคัสมาส่งแล้วว

สองหนุ่มได้พบกันครั้งที่สองแล้วนะคะ แต่อิตาทั่นหลอดนี่ใจร้ายจิมๆ ทำน้องเจ็บ! เดี๋ยวจะโดนฮัสกี้จัดการแน่นวล!

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ ฮืออออ  ดีใจจจจ :mew6:

ออฟไลน์ multiver

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #52 เมื่อ07-11-2016 12:15:16 »

^
^
^
จิ้มๆๆ วันนี้จิ้มทัน เย้ๆ
ท่านหลอดกับทหารใจร้าย บังอาจนักที่มาทำร้ายลูคัสผู้ใสซื่อ ท่านเซอร์ฮัสกี้โปรดลงโทษมนุษย์พวกนั้นด้วยเถอะขอรับ :fire:
แล้วข้าจะคอยติดตามอนาคตของลูคัส ท่านหลอด ชาวเมือง และผู้เกี่ยวข้องต่างๆต่อไป  :bye2:

ออฟไลน์ jinholmemin

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #53 เมื่อ07-11-2016 13:43:07 »

กรี้ดดด ทำไมต้องทำรุนแรงด้วยถึงกับต้องมัดมือมัดเท้า นี่ว่าที่เมียหลอดนะ!! เดี๋ยวเจอสั่งประหาร(?)

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #54 เมื่อ07-11-2016 13:55:26 »

อย่าใจร้ายมากนักน้าา ท่านลอร์ดดด

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #55 เมื่อ07-11-2016 14:07:08 »

ทำกันรุนแรงแบบนี้ท่านลอร์ดระวังเจอเอาคืน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #56 เมื่อ07-11-2016 15:20:35 »

ใจเย็นนะลูคัส ท่านลอร์ดยังไม่รู้จัก
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #57 เมื่อ07-11-2016 20:29:41 »

อีท่านหลอดดูดน้ำใจร้ายไปไหนเจ้าค้าาาา :ling1: :ling1:
ลูคัสจำไว้นะพออีตาหลอดดูดหลงรักแล้วแกล้งให้ตายให้เหมือนโสรยาในจำเลยรักเลยนะ
แหมๆๆพอเค้าอยู่อีกโลกก็ร้องเรียกให้เค้ากลับมาพอเค้ากลับมาแล้วทำไมทำแบบนี้เพค้าาท่านหลอดดูด
#รออ่านอีกนะเป็นกำลังจายให้น้าาา :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #58 เมื่อ07-11-2016 21:02:09 »

เคืองทหารท่านลอร์ดอ่ะ !!!!

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: แต่กาลก่อน [Chapter 4 : โจรร้าย][071116]
«ตอบ #59 เมื่อ07-11-2016 21:08:14 »

ตกลงโจรร้ายคือท่านลอร์ดที่มาปล้นน้องลูคัสสินะ  :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด