13.
การตื่นเช้าติดต่อกันหลายวันทำร้ายจิตใจอันบอบบางของผม ความตึงเครียดผสมปนเปไปกับความขาดแคลน ขาดการสัมผัส ร่างกายไม่ได้กระทบกับร่างกายคนอื่นมานานแสนนาน เหมือนผ่านมาเป็นล้านปี งุ่นงานพอสมควร สมองที่เชื่องช้าอยู่แล้วตอนนี้ทำงานด้วยความเร็วประมาณเต่าบกพิการ มือจากนั่งจดนู่นจดนี่ไปเรื่อยตามคำสั่งคุณเลขา ตอนนี้เริ่มวาดรูปเล่น นี่ไงรูปก๊อตซิลล่า..
“เอ็มครับ ตั้งใจหน่อย” แบมสะกิดผมให้ไ ด้สติ ผมหันไปโชว์รูปก๊อตซิลล่าให้ดู หลังจากนั้นก็ได้รับสายตาดูถูกสติปัญญากลับมา
“ทายสิครับว่ารูปอะไร...”
“เอ็มไหวไหม?” ธีนพถามเมื่อเห็นผมดูไม่มีสติสตัง ผมหยักหน้าโดยที่สายตาไม่สามารถโฟกัสหน้าเขาได้ พี่ธีลุกขึ้นมาหา เขานั่งลงแล้วยังยื่นหน้ามาไกล้ เลขาหนุ่มจิกผมด้วยหางตา ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ แล้วเปิดประตูออฟฟิสออกไปด้วยความหงุดหงิด
“นอนดึกล่ะสิท่า...” เขาพูด
“เปล่าครับ” ปฏิเสธหน้าด้านๆ
“โกหกอีกและ” ธีนพไม่ยอมปล่อยไป
“จับได้แล้ว....จะทำไมอ่ะครับ?” ผมแกล้งแหย่ต่อ เอาสิใครจะไปก่อนใคร อย่าเล่นกับคนเหงานะมันอันตราย
“..........” พี่ธีเงียบใส่ ใบหน้าของเราอยู่ไกล้กันแค่คืบ เขาจ้องตาผมไม่ลดละจนผมอดใจไม่ไหว
“พี่ไม่บอกผมจะคิดเองและนะ...”
“เอ็.....” ผมไม่รอให้เขาพูดจบ เลื่อนหน้าตัวเองเข้าไปประกบจูบเบาๆพอให้คิดถึง
“ผมเอาคืน...คราวก่อนพี่ไม่ให้ผมตั้งตัว”
ธีนพยืดตัวขึ้นขยับแจ็คเก็ทของสูทให้เข้าที่ ยิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วกวักนิ้วชี้ให้ผมลุกขึ้นมาบ้าง “คราวก่อนไม่ใช่แบบนี้สักหน่อย จำไม่ได้เหรอ?”
“ครา...” ยังไม่ทันได้จบประโยค พี่ธีดึงผมเข้าไปทั้งตัวในอ้อมแขน ประจบจูบรุกเร้าลงมาแบบไม่ทันได้ตั้งตัวจนเกือบเซ มันพาเสียววูบไปจนถึงท้องน้อย รวมเข้ากับฝามือใหญ่ที่บีบเค้นไปทั่วทั้งร่าง และเริ่มละลาบละล้วงเข้าไปใต้ชายเสื้อที่ถูกดึงออกมาแบบลวกๆ ผมตอบสนองเป็นอย่างดีตามเคย ไม่ยอมให้เขาต้องเปลืองแรงอยู่คนเดียวหรอก
อาจเป็นเพราะความเมา ผมจดจำรายละเอียดของครั้งก่อนไม่ค่อยได้ มาคราวนี้เพิ่งรู้สึกอย่างชัดเจน ธีนพแอบซ่อนบางอย่างไว้ภายใต้มาดสุขุม มันคือความดิบเถื่อนที่แม้แฉล้มออกมาเพียงน้อยนิด แต่มีประสพการณ์ย่อมสัมผัสได้ ผมว่าผมเห็นสัตว์ป่า...
เราสองคนผละออกจากกัน ไม่สิ มันเหมือนพี่ธีผลักผมออกมากกว่า....
“คราวก่อนเป็นแบบนี้ต่างหาก” เขายิ้มร้ายให้หนึ่งที แล้วหันไปทำธุระของตัวเอง ปล่อยให้ผมเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ
“เอางี้เลยเหรอพี่?”
“พี่ออกไปประชุมก่อนนะ” แล้วเขาก็เดินจากไป
ทิ้งผมไว้กับเสียงแอร์
ผมกลับไปง่วนอยู่กับบัญชี ค่าบัตรเครดิต และสลิปนับร้อยใบในกล่องส่วนตัวของพี่ธี แล้วตั้งสติอยู่หน้าคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊ค ค่อยๆบันทึกมันลงไปในโปรแกรมแบบช้าๆ จะไดไม่ผิดพลาดแบบครั้งก่อนให้โดนเลขาด่าเล่นๆอีก สมาธิของผมนั้น ไม่ได้ก่อกำเนิดขึ้นมาง่ายๆ แถมยังอยู่ได้ไม่ได้นานอีก พิมพ์ได้ไม่ถึงครึ่งกล่องผมก็หมดแรง เดินลงไปหาอะไรกินดีกว่า คิดไปพลางยกมือถือขึ้นมาดูยอเงินคงเหลือ เห็นแล้วก็อนาถใจ แต่แซนด์วิชไก่เพสโต้ของโรงแรมก็อร่อยเสียเหลือเกิน
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าแทรก ผมก้มมองหมายเลขด้วความตื่นเต้นระคนประหลาดใจ..
“ฮัลโหลลล พี่แทน! กลับมาเร็วจังครับ” รับสายด้วยความคิดถึง ถึงจะแอบเสียวแว๊บๆก็เถอะ
“เอ็ม...ขึ้นไปรอพี่ที่ห้อง” น้ำเสียงเขาราบเรียบกว่าปกติ
“ห้อง? ห้องพี่เหรอครับ ผมขึ้นไปเองไม่ได้อ่ะ”
“ขอการ์ดจากธีนพสิ เจอกันตอนค่ำก็แล้วกัน” น้ำเสียงพี่แกเหมือนไม่อยากคุยเท่าไหร่
“ครับ...ได้ครับ เจอกันครับพี่ คิดถึงนะครับ”
ผมขอยืมคีย์การ์ดจากธีนพมาด้วยความลำบากยากเย็น จนสุดท้ายต้องขอร้องให้เลขาแบมเดินมาส่งผมถึงหน้าห้อง แล้วเอาการ์ดกลับลงลิฟท์ไป แถมยังต้องทำหูทวนลมกับคำพูดดูถูกเหน็บแนมเล็กๆระหว่างทาง ไม่นานหลังจากนั้นพี่แทนตามมาจนถึงบริเวณห้องโถงที่ผมนั่งรออยู่ เขาแตะบัตรเข้ากับประตูแล้วเดินเข้าไป ผมตามไปติดๆ
พี่แทนดูเย็นชากว่าปกติ เขาเดินไปตรงบาร์แล้วรินเหล้าลงใส่แก้วเปล่าๆ นานๆทีจะเห็นเขาดื่มหนัก ไม่แม้กระทั่งบอกว่าคิดถึงกันหรือทักทายสักนิด ผมเดินเข้าไปหา แล้วกอดเขาจากข้างหลัง พี่แทนหยุดเดิน
“คิดถึงจังครับ....”
“ปากหวานตลอดนะเรา....” เขากระดกเหล้าเข้าปากแบบไม่ใส่ใจ พูดขึ้นมาทำเอาผมชะงักไป “พี่เหนื่อยมากเลย ขอพี่พักก่อน” ก่อนจะเดินไปเอนหลังลงบนเตียง ผมตามไปอย่างคนรู้งาน เขาแทบจะไม่สบตาหรือตอบสนอง ผมทั้งพิงทั้งงสะกิด แทบจะเอาตัวขึ้นไปนอนทับเพื่อเรียกร้องความสนใจจนเหนื่อย
“พี่เบื่อผมแล้วเหรอ....” ผมออดอ้อนทุกวิถีทาง แหย่เขาเล่นขณะที่วางหน้าลงไปบนหน้าอกกว้าง
“อย่าอ้อล้อได้ไหม...”
“พี่ชอบแบบนี้ไม่ใช่เหรอ...ผมรู้นะ” ผมแปลกใจนิดหน่อย ไม่ใช่กับคำพูด แต่เป็นอาการและน้ำเสียง แต่ก็ยังแถไปต่อ
“เติมหน่อยสิ” เขาเมินผม เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เคยสานสัมพันธ์กันมา แล้วยื่นแก้วเหล้าเปล่าให้ ผมลุกไปรินเหล้าตามปกติ เราสองคนเงียบงัน มีแต่เสียงแก้วของพี่แทนถูกวางลงกระทบกับโต๊ะเป็นครั้งคราว น่าอึดอัด...
“เยอะไปแล้วนะพี่” ผมเอ่ยปากเตือน พี่แทนไม่มีท่าทีว่าจะหยุด ผมเลยดึงมือเขาให้ยั้ง ไว้ “เอ็ม....ปล่อย” พี่แทนออกคำสั่ง เขามองผมไม่เหมือนเดิม
“พี่เป็นอะไรเหรอครับ?”
ชายหนุ่มตรงหน้ายังไม่หยุดมือ ผมเริ่มใจคอไม่ดี เหล้าในขวดพร่องลงไปรวดเร็วจนน่าใจหาย
“จะไม่พูดดีๆกับผมหน่อยเหรอ?”
พี่แทนวางแก้วลงกับโต๊ะเสียงดัง
“ทำไมต้องเป็นธีนพ?” ในที่สุดความในใจนั่นก็หลุดออกมา ว่าแล้วเชียว
“โถ่...เรื่องนี้เองเหรอครับ” ผมยิ้มออกเมื่อรู้ว่าเป็นเรื่องอะไร โถ่ ถ้าแค่งอนล่ะก็ งานถนัดผมเลย
“ทำไมต้องไปทำงานกับมัน? แค่เซ็นผ่านแล้วก็น่าจะจบแล้วนี่?”
“ผมต้องใช้เงินนี่พี่ อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จบแล้ว แค่เงินเดือนขำๆเอง” ผมกลับลงไปนอนซุกข้างๆ
“ไม่มีก็กลับบ้านสิ....อยากไปเป็นเด็กของคนอื่นเหรอไง?” พี่แทนขึ้นเสียงใส่ ผมรู้ว่าเขาเริ่มเมา ต้องรีบทำอะไรสักอย่าง
“ผมกลับบ้านได้ที่ไหนล่ะ....พี่ก็รู้ แล้วอีกอย่างพี่จะกลัวอะไรแค่พี่ธีนพ” ผมพลิกตัวขึ้นคร่อมคนตัวโตกว่า แล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเองออกทีละเม็ด จับจ้องสายตาโกรธเคืองนั้นแล้วข่มมันด้วยรอยยิ้มยั่วเย้า มันได้ผลเสมอแหละ
“ยังไงผมก็เป็นของพี่....” ก้มลงแตะริมฝีปากเข้ากับซอกคอ หอยใจรดเบาๆให้บรรยกาศร้อนรุ่มขึ้น แล้วละลงไปที่แผงอกกว้าง โดยที่มือข้างหนึ่งเลื่อนลงไปตรวจสอบความถูกต้องของสิ่งที่ตัวเองทำผ่านส่วนที่ค่อยๆแข็งตัวอวบขึ้นมา พี่แทนหายใจแรงขึ้น เขาดูไม่ชอบใจนัก แต่ร่างกายไม่ได้พูดแบบเดียวกัน ผมไปต่อที่ท้องน้อยและเอว ค่อยๆปลดกระดุมออกช้าๆ คนตัวโตเอื้อมมือมาหยุดมันไว้ก่อน
“อย่าเพิ่ง...พี่ยังไม่อยาก....” โกหกกันชัดๆ ก็ไอ้ดุ้นแข็งๆนี่แทบจะทิ่มหน้าผมอยู่รอมร่อ
“แต่ผมอยาก....” ไม่ต้องรีรอให้เสียเวลาคิด ผมปลดกางเกงนั่นลง
“เอ็ม...พอ...” พี่แทนซี๊ดปากหนักๆ คว้ามือผมให้หยุด แล้วดันผมออกแรงๆ หยาบคายชะมัด
“พี่!” ผมหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ “พี่ก็อยากเหมือนผมนั่นแหละ...”
“คิดว่าแค่แก้ผ้าให้เอาแล้วจะจบได้ทุกเรื่องเหรอวะ!” เขาเสียงดัง คราวนี้ผมตกใจจริงจัง “มึงนอกใจกูกี่ครั้งแล้วคิดว่ากูไม่รู้เหรอ!!” พี่แทนกระชากให้ผมลงมานอนที่เตียง แล้วเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมแทน ความโกรธเกรี้ยวผสมเข้ากับน้ำเมาออกมาเป็นบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็นจากชายผู้นี้เป็นมาก่อน
“อย่าให้มันมากไปนะ...กูยอมให้เพราะกูเห็นว่ามึงยังเด็ก! แต่ถ้ามึงทำกูเสียหน้าเมื่อไหร่ล่ะก็ กูไม่เอามึงไว้แน่!!”
ผมกลัว กลัวความรุนแรง ผมเอาเขาไม่อยู่อีกต่อไป ผมไม่รู้มาก่อนว่าเขารู้เรื่องผมกับคนอื่นๆ พูดอะไรไม่ออกเพราะเป็นคนผิด แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ เหตุผลบางอย่างมันก็ใช้ได้แค่กับคนเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอวะ
“พี่แทนครับ...พี่เมาแล้ว”
“เออกูเมา แต่กูไม่ได้โง่ รู้ไว้ด้วย!” เขาหยาบคายใส่ไม่หยุด
“พี่พูดจากับผมดีๆไม่ได้เหรอ!”
“มึงยังกล้าขอให้กูพูดดีๆอีกเหรอ? มึงฟังไว้นะเอ็ม! เด็กอย่างมึงได้ผู้ชายแบบกูไปก็ดีแค่ไหนแล้ว กูจะหยาบคายกว่านี้อีกกี่เท่ามึงก็สมควรจะได้รับมัน!” พี่แทนล้วงไปหยิบมือถือในกระเป๋าผมออกมา ผมดิ้นขัดขืนแต่ไม่เป็นผล
“ไหน...มาดูกันดีกว่า ว่ามึงไปร่านกับใครไว้บ้าง…”
“พี่!! ของผมนะ!!” ผมเริ่มสู้กลับ ยังไงก็ให้ดูไม่ได้ ตายแน่ๆไอ้เอ็ม ตายอยู่ตรงนี้แหละ!
“ของมึงเหรอ!! ของกูทั้งนั้นแหละ มีอะไรบนตัวมึงเป็นของมึงบ้าง!” เขาเริ่มตะคอกใส่ ผมไม่สนใจ ผมเป็นห่วงความปลอดภัยในชีวิตมากกว่า ผมคว้ามือถือตัวเองไว้แล้วดึงกลับ พี่แทนยื้อแย่งกลับไปได้ “เยอะล่ะสิท่า ถึงได้ลนขนาดนี้!”
พี่แทนรู้รหัสผ่านทุกอย่างในมือถือ เพราะผมใช้ตัวเลขเดียวกับบัตรเอทีเอ็มที่เขาเป็นคนออกให้ ผมนอนกำผ้าห่มไว้แน่น ไม่กล้าเงยหน้าไปมอง พี่แทนออกเสียงค่อนแคะให้ได้ยินปนกับเสียงหัวเราะเยาะเย้ย ผมกลัวเขาจะเป็นบ้าไปซะก่อน
เพราะมันก็เยอะจริงๆนั่นแหละ...
“ผมแค่คุยเล่นๆเองนะครับพี่....” ผมหลุดคำแก้ตัวออกมาเบาๆ
“ห๊ะ? อะไรนะ?” เขาถาม “ไหนพูดใหม่ดิ๊?”
ผมไม่กล้าตอบ ไม่กล้าสบตาเขาด้วยซ้ำ กลัวจนเริ่มรู้สึกว่าปากสั่น มือสั่น ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นอยู่ในหู
“น่าเอาจังครับ... อยู่แถวไหนเหรอ?” เขาอ่านออกเสียงข้อความน่าอายออกมา ผมหลับตาก้มหน้า ไม่อยากฟัง
“ไม่มีอะไรจะพูดเหรอ?” พี่แทนถามผมที่ก้มหน้านิ่ง แล้วก็รูดซิบกางเกงตัวเองลง ควักเอาไอ้ท่อนเอ็นที่ยังแข็งตัวอยู่ขึ้นมา “ไหนๆก็จะไม่พูดแล้ว อย่าให้ปากว่างสิ” เขาใช้มือยื่นมันมาใส่หน้า ผมเบี่ยงหลบเพราะยังไม่พร้อม แต่พี่แทนไม่ยอม “ทีอย่างนี้จะมาเล่นตัวเหรอวะ อมเข้าไป เร็วๆ!” เสียงเขาดังขึ้นอีกรอบ จนผมต้องผมรับมันมาสอดเข้าไปในปาก พี่แทนกระแทกมันเข้ามาทันทีจนเกือบสำลัก มือกดหัวผมให้ชิดแนบกับหน้าท้องเขาเอง ผมพยายามเอามือยันไว้แต่ไม่เป็นผล พี่แทนยังอ่านข้อความเหล่านั้นต่อไป
“อยากโดนจังครับ....ใหญ่มากไหม....ผมอร่อยนะ....หึหึ ใช้ได้เลยนี่หว่า” เขาสาวเอวเข้าออกไปพร้อมกัน ขนาดของมันขยายใหญ่จนคับปาก ส่วนหัวของมันลงลึกไปทิ่มคอจนน้ำตาจะไหล “ดูหนังกันไหมครับ…อยากดูหนังสดมากกว่า...” คราวนี้น้ำตาจะไหลเข้าจริงๆ ไม่ใช่แค่เพราะเจ็บคอ “คราวก่อนยังเจ็บอยู่เลย...ใหญ่มากทำไมไม่บอก...มาสองคนผมก็ไหวนะ...” ผมไม่ไหว! อีกต่อไป ผมดันตัวเองออกมา พยายามจะพูดแต่กลายเป็นอาการไอด้วยความเจ็บคอแทน “แค่ก! พี่! พอเถอะครับ...ผม...แค่ก....ขอโทษ..” พี่แทนยังเหยียดหยามกันไม่หยุด ด้วยสายตา คำพูด และรอยยิ้มเยาะนั่น ผมกลืนคำขอโทษของตัวเองกลับไป แล้วพูดตามที่ใจตัวเองคิด
“พี่ไม่ใช่แฟนผมซักหน่อย!”
เขาอึ้งไป
“พี่มาหึงผมได้ยังไง!”
พี่แทนขว้างโทรศัพท์ผมทิ้งไป...
“เออใช่ กูไม่ใช่แฟนมึง! ถ้าอย่างนั้น กูจะแคร์ความรู้สึกมึงไปทำไมวะ?” คนตัวโตจับผมพลิกหันหลัง มือข้างหลังกดหัวไว้กับเตียง ส่วนอีกข้างก็ใช้มันเพื่อกดของแข็งของตัวเองเข้ามามิดด้าม ผมร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด ยิ่งเกร็งยิ่งเจ็บ ยิ่งดิ้นยิ่งเจ็บ พี่แทนไม่สนใจเสียงร้องขอความเห็นใจของผมแม้แต่นิด มันทั้งน่ากลัวและทรมาณ เจ็บจนน้ำตาซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว เสียงครางหนักๆของคนขาดสตินั่นคงกำลังจมอยู่กับความเมามัน ผมไม่มีอารมณ์ร่วม ไม่ได้สุขสมไปกับมันเลยสักนิด ได้แต่ภาวนาให้มันจบลงไวๆเสียที....
________________________
มาต่อแล้วนะค้าา หลังจากหายหน้าไปนานม๊ากกก ไรท์เอาความโหดของพี่แทนมาฝากให้หายคิดถึงไปก่อนนะคะ
555
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามไรท์เฉื่อยๆคนนี้น้า