
มัวแต่หลับอ่ะ..เลยลืมมาลง ..... ไปอ่านกันต่อเลยละกัน
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 6“พี่หน่อยครับ พายเอามะม่วงกวนมาฝาก แม่ทำเองเลยนะ”วันนี้ผมก็มาหาพี่หน่อยเหมือนเดิม ถึงจะไม่มีอาการอะไรแล้ว แต่ก็ยังมานั่งพูดคุยเรื่องทั่วๆไป พี่หน่อยจะคอยตะล่อมถามบ่อยๆ ว่ากลัวผู้ชายอยู่มั้ย เวลาโหนรถเมล์คนเบียดแน่นๆ รู้สึกยังไง ได้คุยกับคนแปลกหน้าบ้างหรือเปล่า เป็นการเช็คสภาพจิตใจของผมน่ะครับ
“พี่ว่าพายดีขึ้นมากแล้ว เรียกว่าปกติแล้วด้วยซ้ำ พายเก่งนะ หายเร็วขนาดนี้ เพิ่งจะเดือนเศษๆ เอง”
“ก็เพราะได้พี่หน่อยช่วยนั่นแหล่ะ พายขอบคุณพี่หน่อยกับพี่นพมากๆ นะครับ ถ้าไม่ได้พี่สองคน พายไม่รู้จะเป็นยังไง”
“จ้า ช่วยได้ก็ช่วยกัน ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วยนะ ท่าทางน่ากินด้วย พี่น่ะชอบมะม่วงมากเลย”
“เหรอครับ บ้านพายมีต้นมะม่วงสี่ห้าต้น กินไม่เคยหมดเลย ถ้ากลับบ้านจะเอามาฝากอีกนะครับ”บ้านผมมีต้นมะม่วงอยู่หน้าบ้านแล้วก็หลังบ้านครับ เยอะแยะจนกินไม่ไหว แจกแล้วก็ยังเหลือ ต้องเอามาแปรรูปเก็บไว้นี่แหล่ะครับ ไม่งั้นเสียดายผลผลิตของมัน
ผมกลับจากคอนโดพี่หน่อยก็ตรงมาร้านเลย วันนี้มาเร็วหน่อย ขี้เกียจอยู่ห้องครับ ไม่มีอะไรทำ เดินเข้ามาก็ตรงไปหาพี่ธารก่อนเลยครับ
“มาเร็วนะพายวันนี้ แม่ครัวกำลังทำกับข้าวอยู่เลย ไปรอในห้องกับจิ๋วสิ มันมาสักพักแล้ว”
“พายเอามะม่วงกวนมาฝาก แม่ทำมาให้”
“อุ้ย ขอบใจจ๊ะ ไปๆ ไปนั่งรอกินข้าวในห้องก่อน”พี่ธารรับถุงจากมือผมไปได้ ก็รีบดันไหล่ผมทันที เดินเข้ามาในห้องเห็นจิ๋วกำลังเล่นกีตาร์อยู่ครับ ปกติเวลาโชว์จิ๋วเล่นคีย์บอร์ดนะครับ ศักดิ์ต่างหากที่เล่นกีตาร์ โบ้เล่นเบส ส่วนต่อตีกลองครับ
“มาเร็วจัง”
“ไม่มีอะไรทำน่ะ มานั่งเล่นที่นี่ดีกว่า จิ๋วทำไรอยู่”
“ร้องเพลงเล่น ร้องมั้ยพาย เลือกเพลงมา เดี๋ยวจิ๋วเล่นให้”จิ๋วเลื่อนสมุดเพลงบนโต๊ะมาตรงหน้า แต่..ผมก็ไม่รู้จะร้องเพลงอะไร ปกติก็ฟังมันทุกเพลงทุกแนว ผมเลยให้จิ๋วเลือกเพลงที่อยากร้อง เดี๋ยวผมช่วยร้องคลอดีกว่า อยากร้องเหมือนกัน ผมกับจิ๋วนั่งร้องเพลงกันสนุกดีครับ ส่วนมากจะร้องเพลงช้า พลังเสียงไม่ค่อยมี ให้ร้องเพลงหนักๆ ไม่ไหว เดี๋ยวเสียงหลง อายมืออาชีพเปล่าๆ
“นึกว่าเสียงใครร้องเพลง ร้องเพราะดีนี่พาย”ศักดิ์เดินนำทิวกับโบ้มาครับ
“ไม่หรอก ร้องเล่นๆ น่ะ เสียงเหมือนเป็ดมากกว่า”
“เป็ดที่ไหนเสียงเพราะแบบนี้ จิ๋วว่าพายเสียงดีนะ ยิ่งเพลงอกหักยิ่งอินโคตร เคยอกหักมาเปล่าเนี่ย”
“อย่างพายจะไปกล้าชอบใครเขา จิ๋วก็พูดไปเรื่อย”
“ใช่ๆ พายไม่เหมือนมึงหรอกจิ๋ว เที่ยวจีบให้เขาหักอกมึงเล่นไปทั่ว เตี้ยแล้วไม่เจียม จีบแต่พวกสูงยาวเข่าดีทั้งนั้น”ทิวเดินมานั่งข้างๆ ผม หยิบสมุดเพลงมาเปิดๆ เลือกเพลงที่จะแสดงคืนนี้
“พายๆ ขนมอร่อยดี มีอีกเปล่าวะ พี่ธารแม่งไม่ยอมแบ่งเลย จิ๊กมาได้แค่นิดเดียว”นิดเดียวของไอ้ต่อนี่คือหนึ่งกำมือนะครับ มะม่วงกวนแม่ผมจะม้วนเป็นแท่งกลมๆ กินง่ายหยิบก็ง่ายด้วย
“ไรอ่ะพาย ทำไมทิวไม่เห็นได้”
“นี่ไง เอามาให้เต็มเลย เอาไปแบ่งกันนะ”ผมหยิบถุงในกระเป๋าเป้ออกมา ถุงนี้ใหญ่กว่าที่ให้คนอื่นๆ เยอะเลยครับ
“รักพายจัง มาให้กูหอมทีดิ๊”ไอ้ต่อรีบคว้าถุงแถมยังยื่นหน้ามาหาผมอีก ดีว่าทิวรั้งไหล่ผมไปด้านหลัง แล้วผลักหน้าต่อออกไป ผลักแรงจนมันหน้าหงายเลยครับ
“ลามปามแล้วมึง แล้วขนมน่ะเขาให้แบ่งกัน ไม่ต้องไปถือไว้คนเดียวเลย”
“ว่ากูลามปามแล้วมือมึงน่ะอะไร ฉวยโอกาสว่ะคนเรา”ต่อมองมาที่ผม แต่สายตามันต่ำกว่านั้น ผมมองตามก็เห็นว่ามือทิวกอดเอวผมอยู่ข้างหนึ่ง อีกข้างก็กอดไหล่ รู้สึกเหมือนถูกกอดไว้ทั้งตัวเลยครับ พอทิวรู้ตัว มันรีบปล่อยมือแล้วถอยออกไปทันที ผมเองก็แค่ตกใจ แต่...ไม่ได้รังเกียจเหมือนเมื่อก่อน คงเพราะว่าเป็นเพื่อน แล้วทิวก็ไม่ตั้งใจด้วย
“....ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจนะ พายอย่าโกรธนะ”
“ฮ่าๆๆๆ ทิว จะบ้าเหรอ แค่นี้จะโกรธทำไม รู้หรอกน่าว่าไม่ตั้งใจ”ทิวมันถอยตัวไปจนเกือบตกโซฟาเลย ดูท่าทางทิวมันกลัวผมโกรธจริงๆ นะครับ แถมยังยกมือเหมือนจะไหว้อีก ดีนะว่าจับไว้ทัน ไม่งั้นคงฮากว่านี้
วันนี้ทิวร้องแค่สองสามเพลง ยังไม่หายดีก็เลยออมเสียงไว้ พอมันพักก็มาป้วนเปี้ยนอยู่กับผม เอาแต่ถามอยู่นั่นแหล่ะว่าไม่โกรธมันจริงๆ นะ ขนาดนั่งอยู่ในรถมันก็ยังไม่เลิกถาม
“ไอ้ทิว จะถามอะไรนักหนาเนี่ย บอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธจริงๆ แต่ถ้าถามอีกครั้งจะเริ่มโกรธแล้ว”
“ก็ทิวกลัวพายโกรธนี่ หลังๆ พายไม่ชอบให้คนถูกตัวไม่ใช่เหรอ”
“....เอ่อ....อืมๆ แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ไม่โกรธจริงๆ”ผมไม่ยักรู้ว่าทิวสังเกตด้วย ก่อนหน้านี้ผมคงอาการหนักจริงๆ
“แสดงว่ากอดได้”
“อืม.....เฮ้ย...ไม่ใช่สิ ไม่โกรธที่กอด แต่ไม่ใช่ให้กอดได้”
“อ้าว ไหนบอกไม่โกรธไง แสดงว่าจริงๆ แล้วโกรธแน่ๆ”
“ไม่โกรธ แต่อยู่ดีๆ จะกอดทำไมล่ะ แค่คิดก็สยองแล้ว”
“ไม่เห็นเป็นไร ทีไอ้จิ๋วโดนกอดบ่อยๆ มันยังไม่ว่าเลย”ทิวเริ่มทำตัวเหมือนเด็กอีกแล้วครับ แต่...มันจะงอแงขอกอดผมทำไมเนี่ย
“ก็นั่นมันจิ๋ว ตัวเล็กๆ น่ารัก ใครเห็นก็อยากกอด”ผมเองยังเคยแกล้งกอดจิ๋วเลย
“พายก็ตัวเล็ก เพื่อนกันกอดกันไม่เห็นเป็นไรเลย พายโกรธก็บอกมาเถอะ ทิวขอโทษจริงๆ นะ”
“เออๆ จะกอดก็กอด พอใจยัง”เบื่อเถียงกับมันแล้วครับ เถียงกันตั้งแต่ออกจากร้านจนถึงหอผมแล้วเนี่ย
“ขอบคุณครับ”นั่น ยังมีหน้ามายิ้มอีก เหมือนเด็กจริงๆ เลยมัน
ผมเดินขึ้นมาบนห้อง หน้าห้องนุยังมีถุงขนมที่ผมแขวนไว้เมื่อเช้าอยู่เลย สงสัยนุกลับบ้าน หมู่นี้กลับบ่อยจริงๆ ผมหยิบถุงกลับมาเก็บไว้ที่ห้อง ไว้นุกลับมาค่อยให้ แขวนเอาไว้กลัวคนอื่นหยิบไปเหมือนกันครับ
ผมคิดว่า...บางทีการที่ผมอนุญาติให้ทิวมันกอดได้เนี่ย เป็นความคิดที่ผิดจริงๆ เพราะหลังจากวันนั้น มันเจอหน้าผมทีไร เป็นต้องกอดทุกที
“จะกอดอะไรนักหนาเนี่ย อึดอัดว่ะ”ตอนนี้กำลังนั่งกินข้าวหลังเลิกงานอยู่ครับ ไอ้ทิวก็นั่งเบียดผม แถมยังโอบไหล่ผมเสียแน่น หนักหน่อยก็เริ่มโอบเอวแล้วรั้งไปชิดกับมัน จนตัวผมจะนั่งตักมันอยู่แล้ว
“ทำไมล่ะ ทีจิ๋วมันยังไม่เคยบ่นเลย”นี่ไง เวลาผมบ่นทีไรก็อ้างจิ๋วทุกที
“กูบ่นจนเบื่อแล้วต่างหาก บ่นไปพวกมึงแม่งก็หน้าด้านกันเหมือนเดิม”
“ไอ้จิ๋วด่ามึงหน้าด้านน่ะทิว”ต่อพูดแล้วก็นั่งหัวเราะร่วนเลย
“มึงก็ด้วยนั่นแหล่ะ ด้านกว่าเพื่อนเลย แม่งชอบหอมแก้มกู ขยะแขยงชิบหาย”จิ๋วสวนกลับก่อนทิวอีกครับ
“ออกจะเป็นบุญแก้มมึงนะ กูไม่ได้หอมแก้มใครง่ายๆ นะมึง”
“มึงไม่ต้องง่ายกับกูก็ได้นะ ยากๆ หน่อยจะเป็นพระคุณมาก”
“ไม่ได้หรอก แก้มมึงนุ่มดี เหมือนแก้มผู้หญิงเลย”ต่อพูดพร้อมกับดึงแก้มจิ๋วไปด้วย เพื่อนคนอื่นๆ ก็เลยจับแก้มจิ๋วเล่นเหมือนกัน ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แก้มมันนุ่มๆ ดีครับ แก้มยุ้ยแต่ตัวมันไม่อ้วนนะครับ เรียกว่าเป็นคนมีแก้มมากกว่า
“แก้มพายก็นุ่ม”คำพูดจิ๋วเห็นผลทันที เพราะคนอื่นเริ่มหันมาจับแก้มผมแทน
“โอ้ย! ไอ้ต่อ หยิกทำไมวะ”คนอื่นแค่ลูบๆ แต่ต่อมันหยิกเลยครับ โดนทิวตีมือไปหนึ่งทีด้วย
“ก็นุ่มดี แต่แก้มจิ๋วมันเด้งๆ ตลกกว่า”ต่อมันทดสอบแก้มผมหรอกเหรอ ก็ดี ไม่ชอบก็ดี ผมจะได้รอดพ้นปากมัน
“พายอิ่มยัง กลับหอกันเถอะ”อยู่ดีๆ ทิวก็ดึงผมไปกระซิบถาม ผมอิ่มตั้งนานแล้ว แต่อยากนั่งคุยกับพวกนี้เฉยๆ
“อิ่มแล้ว ทำไม รีบกลับเหรอ”
“อืม กลับนะ”ทิวพูดจบก็รีบลุกขึ้น แถมยังคว้ากระเป๋าผมไปถือแล้วลากผมเดินออกมาจากร้านเลย ผมตะโกนลาคนอื่นๆ แทบไม่ทัน
ขึ้นรถมาได้ทิวก็เงียบตลอดทาง ไม่พูดอะไรเลยครับ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร อยากรู้แต่ผมเองก็ไม่ใช่พวกสอดรู้ด้วย ไม่อยากถามครับ มีอะไรมันคงบอกผมเอง
“พาย...”นั่นไง ผมกะแล้วว่ามันต้องบอกผมเอง
“หือ”
“.......เปล่า”อ้าวไอ้นี่ จะพูดก็ไม่พูด ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งอึดอัดนะครับเนี่ย
“อ้าว....มีอะไรหรือเปล่า ไม่สบายเหรอ”ผมเอามือไปแตะหน้าผากมัน ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา ทิวจับมือผมที่แตะหน้าผากมันออก แต่...ไม่ปล่อยมือผม มันกำไว้หลวมๆ เหมือนมีเรื่องไม่สบายใจแต่ก็ไม่พูด ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยบีบมือกลับไปเบาๆ ทีนี้มันกำมือผมแน่นเลยครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------
ป.ล.ฉลองวันแม่ เย็นๆจะมาต่ออีกตอน
ป.ล.2 ทิวน่ารักเนอะ
