ด้ายแดง ตอนพิเศษ เรื่องของมะนาวและพี่ดอกไม้ P72 [05/04/17]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ด้ายแดง ตอนพิเศษ เรื่องของมะนาวและพี่ดอกไม้ P72 [05/04/17]  (อ่าน 1120897 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tatangth

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พี่ดีนรังแกน้อง!!!!!!!!
 :hao7: :ling1: :laugh: :katai2-1: :impress2: :-[ :o8:  :hao6: :jul1:

ออฟไลน์ wwss2220

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ทนรอม่ายไหวแล้วค่ะจะลงแดงซะก่อน#รอวนไปคะ :katai1: :katai1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
น้องภาม >< :pighaun:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อ่านทันแล้ว ทันตอนเรียกเลือดพอดิบพอดี

เรื่องสนุกมากค่ะ ภามน่ารักสุดๆ พี่ดีนก็รักภามสุดๆ

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
วันแห่งความร๊ากกกก
ไอ้เราก็นึกว่าจะได้อ่านพี่ดีนกับภาม ^^"

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
พี่ดีนน้องภามจะไม่มาฉลองวันแห่งความรักหรือคะ

ออฟไลน์ zleep

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
เหมือนได้ส่งลูกสาวเข้าหอเลยค่ะ
 :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
มีฝาชีแล้วนะภาม อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Missmu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
มารอตอนใหม่  :mew2:

ออฟไลน์ missm2c

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 86
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออยู่น้าาา

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องภาม ไปไหน รออยู่น๊า สู้สู้ค่ะ

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
เข้ามารออย่างมีความหวัง :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องภาม  ส่งข่าวพี่หน่อยค่ะ คิดถึงจะแย่แล้ว

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
ตอนที่26 ครอบครัวของพ่อ




เจ้าของห้องคอนโดนอนนิ่งอยู่บนเตียง ดวงตาเหม่อมองผ้าม่านที่มีแสงอาทิตย์สว่างจ้าลอดผ่านเข้ามา ภามขยับตัวเล็กน้อยรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แนบอยู่ด้านหลัง ลำแขนแข็งแรงรวบกอดเขาไว้จนแทบจะจมอก



ล้าไปทั้งตัวเหมือนร่างจะแหลก



“หิวไหม”



เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามอยู่ข้างหู ลมหายใจร้อนๆ รดรินติดแก้มจนเด็กหนุ่มต้องหดคอเพราะจั๊กจี้  น้องพยักหน้าน้อยๆ หลับตาปี๋เมื่อโดนหอมแก้ม ดีนสัมผัสหน้าผากกับซอกคออีกฝ่ายแล้วถอนใจ อย่างน้อยก็ไม่มีอาการป่วยอะไร



“เดี๋ยวไปซื้อโจ๊กมาให้” โชคดีที่หน้าคอนโดภามมีร้านสะดวกซื้อให้เขาไปสอยของมาประทังชีวิตก่อน ร่างสูงใหญ่ขยับลุกแต่ก็โดนดึงแขนเอาไว้ เขาเลิกคิ้วมองแก้มแดงๆแทนคำถามหากภามกลับอึกอักหลุบตาหลบไปทางอื่น น่าหมั่นเขี้ยวจนต้องก้มลงไปฟัดสักที



“อื้อ” ภามพยายามดันใบหน้าคมคายออก แต่พี่ดีนก็จูบเอาๆจนเขาหายใจหายคอแทบไม่ทัน ผิวเนื้อเปล่าเปลือยเสียดสีปลุกอะไรที่ไม่ควรตื่นให้หวั่นไหวขึ้นมา “พอ..อื้อ พี่ดีน” เบือนหน้าหนีจูบร้อนๆ เลยโดนขโมยแก้มไปอีกสองฟอด



“ให้ตาย” ชายหนุ่มสบถกับตัวเอง “เรานี่มัน.. เดี๋ยวพี่ไปซื้อโจ๊กก่อน อยากไปห้องน้ำไหม” เขาตัดใจผละตัวเองออกมา พอน้องส่ายหัวเขาก็ลุกหยิบกางเกงนอนที่หล่นอยู่แถวนั้นขึ้นมาสวม จัดการตัวเองเสร็จก็โผล่มาดูคนรักอีกทีแล้วหยิบกุญแจห้องกับกระเป๋าสตางค์ออกไป



พอลับตาคนรัก ภามก็เข้าโหมดเบลออีกครั้ง เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับหมอนซ่อนใบหน้าร้อนจัด ความทรงจำเมื่อคืนผุดขึ้นมารัวๆ สัมผัสของอีกฝ่ายยังคงค้างคาอยู่ตามร่างกาย



“น่าอายชะมัด” ขดจนตัวกลม ตีแก้มตัวเองเรียกสติ



ทำไปแล้ว ทำไปแล้ว ทำไปแล้วจริงๆด้วย โอ้ยยยยยยยยยยยย ขยำขยี้หมอนเกลือกกลิ้งจนพอใจแล้วค่อยๆดันตัวลุกขึ้นนั่ง



“อูย..ย” ลูบสะโพกตัวเองป้อยๆ ร้อนหน้าไปหมด แถมด้านหลังยังเสียดๆ อีก หวังว่าจะไม่เป็นอะไร



ภามชันเข่าขึ้นแล้วซบหน้าลงไป ดวงตาทอดมองข้างกายก่อนจะเอื้อมมือไปลูบผืนเตียงว่างเปล่าด้วยรอยยิ้ม หัวใจพองฟูความสุขอัดแน่นจนล้น ตั้งแต่อายุ15แม่คุยกับเขาอย่างจริงจังเรื่องเซ็กส์ ถ้าคิดจะมีความสัมพันธ์ก็ต้องป้องกันและไม่เหลวไหล แม่เป็นคนหัวสมัยใหม่ไม่เคยคิดจะห้ามเพราะรู้ว่าบางอย่างมันห้ามกันไม่ได้ เมื่อคืนที่เขาตัดสินใจเพราะส่วนหนึ่งมาจากตัวพี่ดีนเองที่ให้ความสำคัญกันมาตลอด ภามรู้ดีว่าถ้าไม่ยอมจริงๆ คนรักของเขาก็คงไม่ทำอะไร อีกอย่างพี่ดีนห่วงร่างกายเขามากพอที่จะเตรียมอุปกรณ์ป้องกันไปจนถึงการยั้งแรงในบางจังหวะที่เขาไม่ไหวจริงๆ



คิดถึงตรงนี้แก้มสองข้างก็ร้อนจัดขึ้นมา ภามเม้มปากแน่นคิดเองเขินเองอยู่คนเดียว






   
[เด็กดี...จำไว้นะ เราไม่ได้แค่กำลังมีเซ็กส์] เสียงทุ้มต่ำกระซิบระหว่างที่กำลังขยับกายสอดลึก


[?..] ภามปรือตามองงุนงง ขมวดคิ้วครางเสียงแผ่วเมื่อรู้สึกจุกขึ้นมาอีกครั้ง [..พี่]


[สิ่งที่เราทำเรียกว่า make love...ทำด้วยความรัก]


[อ้ะ!! พี่ พี่ดีน!]



Make love การร่วมรักที่นุ่มนวล อ่อนโยน เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกระหว่างคนสองคน




“ฮึ่ย พอๆเลิกบ้าได้แล้วไอ้ภาม” งอแงขึ้นมาอีกครั้งแล้วตะกายลากสังขารตัวเองขึ้นจากเตียง ถึงจะรู้สึกล้าขาสั่นไปบ้างแต่ก็ยังไหว คราวนี้ภามไม่ลืมสำรวจร่างกายตัวเองในกระจก รอยจูบประปรายแต่ดูเหมือนพี่ดีนจะหลีกเลี่ยงช่วงลำคอไว้ให้ ไม่อย่างงั้นได้ไปหาคุณลุงในสภาพดูไม่ได้แหง



ดูๆไปเหมือนรอยยุงกัด...เอ้ะ? คุ้นๆเหมือนรอยที่คอไอ้ทีมแฮะ



“ภาม โอเคไหม” เสียงเคาะประตูห้องน้ำปลุกคนคิดมากออกจาภวังค์ ภามรีบตะโกนตอบรับแล้วรีบเดินเป๋ไปจัดการตัวเองอย่างรวดเร็ว




กลิ่นโจ๊กร้านสะดวกซื้อหอมกรุ่น ดีนตอกไข่ลวกใส่ชามโจ๊กให้น้องเสร็จสรรพแล้วเอาขนมปังแถวที่ซื้อมาเข้าเตาปิ้ง อีกทั้งอกไก่นุ่ม แฮม ไส้กรอก วางเรียงรายเรียกว่าถุงใหญ่จัดเต็มเลยทีเดียว



“โห พี่ดีนไปเหมามาเหรอ” ภามถามพลางทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะกินข้าว วันนี้พี่ดีนบริการเขาเต็มที่ทั้งทาแยมบนขนมปังให้แล้วก็มีกาแฟเสิร์ฟเสร็จสรรพ เด็กน้อยแอบเปิดสารพัดถุงบนโต๊ะ ยิ้มกว้างเมื่อเห็นไอศกรีมรสโปรดที่คนพี่ซื้อมาให้ด้วยและกำลังจะเอาใส่ช่องแข็ง แต่พอเขาขยับไปเปิดอีกถุงก็ทำหน้างงๆ



“อะไรครับเนี่ย” หยิบแผงยาออกมาแล้วก็ต้องหน้าแดงเองเมื่อเห็นยาสอด ยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ ยาแก้เจ็บคอ



“ลดไข้คงไม่ต้องกิน แก้อักเสบกินดักไว้ก็ดี เอายาสอดด้วยไหม” คนถามหน้าตายแต่คนฟังอายแทบมุดใต้โต๊ะ ภามส่ายหัวพรืดเพราะไม่ได้เจ็บขนาดนั้น..คิดว่านะ



“พี่ดีนไปซื้อมาเหรอ” เลือกหยิบยาแก้อักเสบกับยาอมแก้เจ็บคอออกมาจากถุง ก้มหน้าก้มตาถามไม่กล้าสบสายตา



ดีนไม่ได้ตอบแต่แค่ยิ้มแล้วจิบกาแฟเงียบๆ หากในใจกำลังก่นด่ารุ่นพี่ข้างห้องที่เป็นเจ้าของถุงยาตัวจริง พี่ศิลป์แม่งกวนเสมอต้นเสมอปลาย มีการซื้อยามาแขวนไว้ที่หน้าประตูห้องพร้อมเขียนโน้ตใส่ไว้ในถุงว่า



เบาๆมือกับน้องหน่อย ไอ้สัสดีน



เขาก็ลืมไปว่าผนังห้องที่นี่มันบาง คงได้ยินหมดแน่ๆว่าทำอะไรไปบ้าง ไอ้ครั้นจะบอกน้องก็สงสารกลัวว่าจะอายจนไม่กล้าออกจากห้องเอา



ชายหนุ่มเริ่มต้นกินอาหารเช้า หากสายตาจับจ้องอาการของคนรักที่นั่งขยุกขยิกเหมือนไม่สบายตัว ขยับทีก็ขมวดคิ้วทีจนดีนชักทนไม่ไหวเอื้อมมือไปแตะหน้าผากน้องอีกครั้ง



“ไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม” เมื่อคืนเขาจำได้ว่าได้เลือดนิดหน่อยแต่หลังจากนั้นมันก็โอเคนี่นา



“ไม่เป็นอะไรครับ” รีบตอบเลิ่กลั่ก จะให้บอกได้ยังไงว่ามันขัดๆ ตรงนั้น!! โอ้ย พี่ดีนอย่าถาม!!



แก้มแดงก่ำและอาการจ้วงโจ๊กเข้าปากไม่ยอมมองหน้าทำให้คนถามหุบปาก เขาอมยิ้มคอยตักของกินให้น้อง ไหนๆแล้ววันนี้ทั้งวันเป็นเวลาของพวกเขา อย่างน้อยก็ขอใช้มันให้เต็มที่




   
กอดกัน



“พี่! วันนี้เราคบกันครบหนึ่งปีแล้ว!!”



รักกัน



“รักพี่กรณ์นะ”



ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน



“พวกแกทำอะไรกัน!!”



และ..พรากจากกัน






“พี่ดีน”



เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือก เขากระพริบตามองคนรักที่มายืนใกล้ๆตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ น้องกำลังจับแก้มเขาด้วยสีหน้าเป็นห่วง ดีนคลี่ยิ้ม อ้อมแขนอบอุ่นโอบเอวน้องเข้ากอด เขาฝังใบหน้ากับหน้าท้องอีกฝ่ายสูดกลิ่นหอมสะอาดของสบู่กลิ่นเดียวกับที่ตัวเองใช้



“ภามอย่าไปไหนนะ” คำพูดนั้นสั่นพร่าเล็กน้อย



ภามหลุบตามองคนตัวโตที่กำลังทำตัวเหมือนเด็กงอแง เขากอดคนรักกลับพลางลูบหัวเอาใจ



“ผมจะไปไหนได้..” กอดแน่นขึ้นอีก “ในเมื่อผมเป็นของพี่”



ใบหน้าคมคายเงยขึ้นสบตา เขาเผยอริมฝีปากรับจูบจากน้อง เคล้าคลอกันเบาๆเหมือนปลอบให้หายหวาดผวา



“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” มือใหญ่ไล้ไปตามแก้มเนียน หยุดสัมผัสหนักๆ ที่ขมับ “จำไว้ว่าพี่อยู่นี่ นึกถึงพี่ ตกลงไหม”



“ผมจะนึกถึงพี่คนแรกเลย” คนน้องยังตอบติดตลก ก่อนจะร้องลั่นเมื่อโดนฟัดจนแก้มแดงจัด ทั้งคู่กอดรัดกันอยู่พักใหญ่แล้วเคลื่อนย้ายตัวเองไปนั่งซุกกันที่หน้าทีวี



ภามเอนหลังพิงอกอุ่น นอนดูซีรีส์เรื่องโปรดโดยมีอ้อมกอดแข็งแรงแทนเก้าอี้นั่ง พอหิวก็ลุกไปอุ่นสารพัดของกินที่คนรักซื้อมาตุนเอาไว้ ไม่ก็นั่งป้อนไอติมให้ตัวเองกับพี่ดีน พอง่วงก็ซุกนอนกันอยู่ตรงนั้นผลัดกันจูบไปมา



เป็นบรรยากาศสบายๆ มีเพียงการเคล้าคลอซึ่งกันและกัน เป็นการกระทำที่ไม่เคยอยู่ในความทรงจำของพวกเขาสองคน กรณ์กับอินต้องรักกันอย่างหลบๆซ่อนๆ ไม่มีหรอกที่จะได้ดูหนังด้วยกัน ไม่มีหรอกที่จะนั่งป้อนของกินให้กัน สำหรับสองคนนั้นขอแค่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกันบ้างมันก็วิเศษที่สุดแล้ว




      
เช้าวันอาทิตย์ดีนพาน้องมานั่งรอที่ล็อบบี้ด้านล่างของคอนโด ภามดูกระวนกระวายตั้งแต่เมื่อคืนกว่าจะนอนก็ปาไปตีสองวันนี้ดวงตาเลยไม่สดใสเท่าที่ควรนัก คุณแม่ของภามเป็นคนนัดลูกพี่ลูกน้องให้เลยทำให้น้องยังไม่เคยเจอหน้าตัวจริงสักที ดีนเองก็อดเป็นห่วงไม่ได้เลยตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าคนที่นัดจะมา
   


“มือเย็นไปหมดแล้ว” ชายหนุ่มบีบมืออีกฝ่ายเบาๆ ภามหันมาฉีกยิ้มให้เขินๆแล้วน้องก็หลุบตาลงมองปลายเท้าตัวเองเหมือนไม่มั่นใจนัก
   


“ผมไม่เคยเจอพี่เขาเลย ไม่เคยเจอคุณลุง ไม่เคยเจอคุณปู่ แม่บอกว่าเคยเจอกันตอนผมยังเด็กมากๆจนจำอะไรไม่ได้แล้ว”
   


“ยังไงก็ญาติกัน ไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ” ดีนลูบหัวทุยแล้วก้มลงจูบหน้าผากอีกฝ่ายด้วยความลืมตัว ภามสะดุ้งโหยงตีหน้าขาเขาเป็นเชิงเตือนไม่ให้รุ่มร่ามนอกสถานที่ ซึ่งคนนิสัยไม่ดีก็ได้แค่ยักไหล่ยิ้มๆ
   


“กลัวยังไงไม่รู้” เด็กน้อยแกว่งมือคนรักเล่น อยากพกพี่ดีนไปด้วยใจจะขาดแต่มันคงใจกล้าไปหน่อยที่พาแฟนเพศเดียวกันไปเปิดตัวต่อญาติฝ่ายพ่อที่ไม่เคยเจอกันมาเป็นสิบๆปี
   


“เบอร์พี่ตั้งเป็นเบอร์ด่วนไว้ใช่ไหม ถ้าอยากให้ไปรับหรือมีอะไรก็โทรมาล่ะ พี่รออยู่บ้านทั้งวัน” ย้ำเรื่องนี้กับน้องเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เด็กคิดมากพอได้ยินแบบนี้ก็ดูอุ่นใจขึ้นมาหน่อยนึง เจ้าตัวมองนาฬิกาข้อมือรอบที่สามจนคนพี่นึกขำ
   


“เดี๋ยวปิดเทอมใหญ่คราวหน้าไปอเมริกากัน พี่บอกแม่เราเอาไว้แล้ว”
   


คราวนี้ภามหูตั้งหางกระดิกทันที “จริงๆนะพี่ดีน” หันไปหาคนรักแล้วเขย่าแขนอย่างลืมตัว
   


“จริงๆ พี่บอกพ่อกับแม่ไว้แล้วด้วย ไม่แน่ทั้งพ่อทั้งแม่ดีไม่ดียายอาจจะตามไปด้วยนะ” เขายิ้มให้น้องที่อ้าปากเหวอ
   


“พี่อันด้วยเหรอ อลิ..เอ้ย คุณแม่ด้วย??” นึกแปลกใจที่อยู่ๆ ครอบครัวคนรักจะยกโขยงไปเยี่ยมเยียนกันถึงอเมริกา
   


“ก็นะ ผู้ใหญ่บอกว่าเอาลูกเขามากกขนาดนี้แล้วต้องไปแสดงความรับผิดชอบสักหน่อย” ดีนหัวเราะน้องที่หน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที เขานึกถึงคำของยายหลังจากโทรไปเล่าว่าพ่อกับแม่มีปฏิกิริยาอย่างไรกับภาม พอรู้ว่าทางสะดวกคุณยายก็เป็นตัวตั้งตัวตีจะไปขอน้องถึงอเมริกา
   


จริงๆมีอีกเรื่องที่ดีนอยากบอกน้อง เขาตั้งใจจะเปลี่ยนไปใช้นามสกุลคุณยาย นั่นคือ “ฉัตรโภคิน” เพราะตระกูลนี้ไม่เหลือใครอีกแล้ว อย่างน้อยเขาก็ยังไม่อยากให้นามสกุลของคนที่กรณ์รักหายไป เรื่องนี้คงต้องไว้เซอร์ไพรส์น้องทีหลัง
   


“เกินเวลานัดมาสิบห้านาทีแล้ว” ภามบ่นอุบอิบ เพราะรอจนหายตื่นเต้นไปเป็นที่เรียบร้อย “แม่ไม่ได้ให้เบอร์มือถือพี่เขาไว้ด้วยสิ” ครั้งจะโทรไปถามแม่ถึงอเมริกาเวลามันไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่
   


“ถ้าเกินเวลานัดไปชั่วโมงนึง พี่จะพาภามกลับบ้านแทนนะ” คนพี่ขยับรอยยิ้มซึ่งดูร้ายมากในสายตาน้อง ภามถึงกับทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าอยากให้ญาติตัวเองมาสักทีหรือไม่ต้องมาเลยก็ได้จะได้เบนเข็มไปบ้านพี่ดีนแทน จะว่าไปก็คิดถึงพี่อันด้วย   
   


“อันนั้นก็เกินไป พี่มาถึงตั้งนานแล้วแต่เห็นคุยกันอยู่เลยไม่อยากกวน” เสียงใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง ภามสะดุ้งโหยงรีบหันไปมองบุคคลมาใหม่ด้วยสายตาแตกตื่น
   


เจ้าของร่างผอมสูงส่งรอยยิ้มมาให้ ดวงตาฉายแวววับวาวอย่างทุกครั้ง ยิ้มขำเมื่อเห็นสายตาตกตะลึงจากทั้งสองคน เขายักคิ้วให้ทั้งคู่แล้วเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี
   


“สวัสดีคุณลูกพี่ลูกน้อง ได้เวลาไปหาคุณลุงกันแล้ว”
   


“พี่ศิลป์!!!!”









   

รถสปอร์ตสองประตูเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนที่ค่อนข้างโล่ง ภามนั่งตัวแข็งอยู่ข้างคนขับไม่กล้าพูดอะไรขึ้นมา ทั้งเกร็งแล้วก็ตกใจ เขาเหลือบมองคนขับอีกครั้งพิจารณาโครงหน้าว่ามีตรงไหนที่เหมือนกันบ้าง แต่ดูๆแล้วพวกเขาแทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย
   


โดยเฉพาะเซ็กส์แอพพีลอันล้นเหลือ

   

และสงสัยว่าเขาคงแอบมองชัดไปหน่อย พี่เขาถึงหัวเราะออกมาพลางขยับแว่นสายตาให้เข้าที่

   

“ตกใจมากเหรอ?”
   


ภามพยักหน้ารัวๆ ตอนแรกพี่ดีนไม่เชื่อด้วยซ้ำแต่ดูแล้วไม่ได้ล้อเล่นกันแน่เลยต้องยอมปล่อยเขามากับพี่ศิลป์สองต่อสอง

   

“พี่ก็เพิ่งรู้ว่าภามเป็นลูกพี่ลูกน้องเหมือนกัน” ชายหนุ่มยังคงบังคับรถออกห่างนอกเมืองออกไป เป้าหมายคือร้านอาหารเล็กๆ ที่เขากับพ่อตั้งใจพาน้องไปกินเพื่อลดความกังวลเสียก่อน
   


“พี่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
   


“อืม..” อีกฝ่ายทำหน้าครุ่นคิด “บนลิฟต์ ตอนที่เราบอกว่าอยู่ห้องเบอร์อะไร เพราะนั่นเป็นห้องที่ซื้อให้น้องสาวพี่”
   


“โอ้ย ตั้งนานแล้วนี่นา ทำไมพี่ไม่บอกผมล่ะ” เด็กหนุ่มโวยวาย พี่ชายข้างห้องที่เจอหน้ากันมาตั้งหลายทีแถมยังเคยไปกวนถึงห้องกลับเป็นลูกพี่ลูกน้องตัวเองเสียอย่างงั้น

   

เจ้าของใบหน้าคมคายใต้แว่นสายตา ผมหยักศกสีดำสนิทมัดหางเล็กๆไว้ที่ท้ายทอย และช่วงคอเซ็กซี่ที่ภามเห็นยังต้องแอบกลืนน้ำลาย  พี่ศิลป์เอื้อมมือเปิดเพลงไม่ให้รถเงียบเกินไปนัก นิ้วก็เคาะพวงมาลัยเป็นจังหวะ
   


“พ่อพี่ซื้อคอนโดนี้ไว้สองห้อง ห้องใหญ่ที่พี่อยู่ตอนแรกเป็นของพี่กับน้องชาย ส่วนห้องเล็กข้างๆเป็นของน้องสาว แต่พอพี่เรียนจบพี่ขอซื้อห้องต่อจากพ่อ ส่วนน้องชายดันสอบติดมหาวิทยาลัยต่างจังหวัด น้องสาวก็เบนเข็มจะไปต่อเมืองนอก ทำให้ห้องข้างๆว่าง ทีนี้คุณอา แม่ของเรานั่นแหละติดต่อมาบอกว่าภามสอบติดมหาวิทยาลัยในเมืองกำลังหาที่พักอยู่ พ่อพี่เลยให้มาอยู่ห้องนี้ดีกว่าปล่อยทิ้งเอาไว้” เขาค่อยๆอธิบายเรื่องราวให้น้องฟัง

   

“แบบนี้..สปายของคุณแม่ก็พี่ศิลป์สิเนี่ย!!” แบบนี้ไม่แปลกใจเลยถ้าแม่จะรู้ว่าพี่ดีนมาค้างหรือเขาทำอะไรบ้าง
   


“แลกกันด้วยคอลเลคชั่นรองเท้าจากอเมริกา” ศิลป์ตอบรับอย่างภาคภูมิใจ ไม่ได้สนใจเลยว่าน้องทำหน้ายังไงแล้ว
   


“ที่ไม่บอกตอนแรกเพราะสงสารหรอกนะ” เอื้อมมือมาดีดเหม่งน้องจนภามร้องลั่นหน้าย่น “ถ้าแสดงตัวเป็นลูกพี่ลูกน้องเมื่อไหร่ ไอ้ดีนไม่มีวันได้กินเราแน่ๆ”

   

“อ๊ะ เอ๊ะ!!!!!!!!!!” ภามร้องเสียงหลงหน้าแดงจัด “พะ พี่ พี่รู้??” เขาแทบจะปีนหลบไปหลังรถเอาหน้าซุกกระเป๋าเป้
   


“คอนโดนี้กำแพงมันพอจะเก็บเสียงได้บ้าง แต่ประตูกระจกตรงระเบียงไม่ค่อยเก็บเท่าไหร่ แล้วบังเอิญพี่ชอบสูบบุหรี่ที่ระเบียงทุกคืนด้วยสิ”
   


ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เด็กน้อยร้องลั่นในใจ เขาก้มหน้างุดมองมือตัวเองที่ขยุ้มขากางเกงจนมันยับย่น รู้เลยว่าร้อนไปทั้งตัว
   


“อ้าว ดีนไม่ได้บอกเหรอว่ายาถุงนั้นมาจากพี่” ศิลป์ทำหน้าแปลกใจ เขาข้ามคำอธิบายไปหน่อยว่าคนไปซื้อคนออกเงินและคนไปแขวนคือ ศร คนรักของตัวเอง

   

“มะ ไม่ได้บอกครับ” คราวนี้ภามเอาสองมือปิดหน้าอยากจะร้องไห้ มิน่าพี่ดีนไม่ตอบอะไรเลยเขาก็เหมาไปว่าพี่เขาซื้อมาให้ โอ๊ย ตายๆๆๆ
   


“ดีนมันไม่รุนแรงกับเราเกินไปใช่ไหม มีไข้หรือเปล่า” คนถามหน้าตายสนิท ไม่พอยังยื่นมือมาจับหน้าผากน้องด้วย
   


“มะ ไม่รุนแรงครับ ไม่มีไข้ด้วย” รีบบอกเพราะกลัวพี่ศิลป์จะไปเอาเรื่องพี่ดีน
   


“งั้นก็ดีไป คืนนั้นกะว่าถ้าเราร้องไห้โวยวายแล้วมันไม่หยุดคงมีปีนระเบียงห้องแน่ๆ” พี่ศิลป์พูดด้วยท่าทางจริงจังจนภามกลืนน้ำลายเอื้อก เกิดมาเป็นพี่คนโตไม่เคยมีพี่ชายคอยหวงเลยรับมือไม่ค่อยถูก รู้สึกดีแบบแปลกๆยังไงไม่รู้
   


“พี่ศิลป์...คุณพ่อพี่เป็นคนยังไงเหรอ” พอเริ่มปรับตัวได้ภามก็เริ่มถามข้อมูลจะได้รับมือถูก เขาเดาพี่น้องพ่อตัวเองไม่ออกจริงๆ ถ้าคุณลุงเหมือนพ่อก็คงจะดี เป็นผู้ชายง่ายๆใจดีกับลูก
   


“เป็นตำรวจชั้นผู้บัญชาการ มนุษย์บ้างาน ตรงเป๊ะยิ่งกว่าไม้บรรทัด โคตรเขี้ยวเหนียวกับลูก งกข้อมูล”ศิลป์ร่ายออกมาเป็นชุด คิดแล้วก็หมั่นไส้พ่อตัวเองจริงๆ “บ้าอำนาจ ตาแก่ขี้งอน” เลี้ยวรถเข้าร้านอาหารที่เขานัดพ่อเอาไว้ พอรถจอดสนิทเขาก็หันมามองน้องที่นั่งหน้าซีดไปถึงไหนๆ
   


“แต่เป็นคนมีเหตุผล รักครอบครัวและเป็นลุงใจดี” ขยี้หัวภามแรงๆจนยุ่ง เขาหัวเราะใส่เด็กน้อยที่ทำหน้าเหรอหราดูเหมือนจะยังตามอะไรไม่ทันสักอย่าง “มาเถอะ พ่อพี่มาแล้วล่ะ”
   


ภามลูบหัวที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่ เขากำมือถือในมือแน่นแล้วหลับตาลง คิดถึงคำของคนรักวนไปวนมา ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไอ้ภาม ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพี่ดีนจะอยู่เคียงข้างเสมอ



เด็กหนุ่มลืมตาขึ้นอีกครั้งก่อนจะก้าวลงจากรถตามพี่ศิลป์เข้าไปในร้านอาหารอย่างไร้ความลังเล

   





ร้าน Forever tea ใจกลางสยามโดยปกติแล้วจะเปิดร้านราวๆ 11โมง แต่วันนี้เพียงแค่10โมงเช้าก็มีแขกมาเยือนจนเจ้าของร้านต้องปลีกตัวไปคุยด้วยที่ชั้นสอง
   


“ศิลป์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับภาม?” ศรเลิกคิ้วเพราะเรื่องนี้เขาก็เพิ่งรู้เหมือนกัน
   


“พี่ศิลป์ไม่เคยบอกพี่เหรอ” ดีนนั่งหน้าเครียด สองมือกุมกันวางไว้บนโต๊ะ ดวงตาสีสวยเต็มไปด้วยอาการครุ่นคิดสงสัย
   


“ปกติพี่ไม่ค่อยยุ่งเรื่องบ้านศิลป์สักเท่าไหร่ งั้นก็พอเข้าใจแล้วทำไมมันดูห่วงน้องนัก” คนที่เคยโดนใช้ไปซื้อยารินน้ำชาสีน้ำตาลเข้มเย็นเจี๊ยบใส่แก้วใสก่อนจะเลื่อนให้น้องชายจิบเพื่อดับความร้อนในใจ
   


ดีนมองไอน้ำที่กลั่นตัวเป็นหยดเกาะบนแก้ว เขาค่อยๆเรียบเรียงความสงสัยภายในใจ เอาจริงๆเขาเคยสงสัยว่าทางพ่อของภามอาจมีอะไรเกี่ยวข้องกับกรณ์ แต่นามสกุลไตรวินิจของน้องไม่มีอยู่ในความทรงจำเขาแม้แต่น้อย ทำให้เขาล้มเลิกความคิดนี้ไป อีกอย่างเขาก็จำนามสกุลของกรณ์ไม่ได้ เหมือนมีหมอกควันสีขาวมาขวางเอาไว้
   


ขอแค่ได้ยินนามสกุลนั่นอีกครั้ง ดีนมั่นใจว่าต้องจำได้แน่
   


“พี่ศร...พี่ศิลป์นามสกุลอะไร” ชายหนุ่มถามทั้งๆที่สายตายังไม่ละไปจากแก้วตรงหน้า ไม่อยากให้เป็นอย่างที่คิดเลย
   


ศรวางแก้วเปล่าลงบนโต๊ะแล้วรินชาให้ตัวเองอีกครั้ง “อ้าว ไม่เคยได้ยินเหรอ พ่อเจ้าศิลป์นี่ออกทีวีบ่อยนะ”
   


จะมีสักกี่คนที่จำนามสกุลคนที่ตัวเองไม่ค่อยสนิทด้วยได้..
   


“ผมไม่รู้จริงๆ”
   


“...นามสกุลของศิลป์คือ....”

   



(ต่อรีพลายถัดไปค่ะ)

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
(ต่อค่ะ)


----
   


“ไม่กลัวฉันหรือไง”
   


“กลัวทำไมล่ะ พี่เป็นผีเรอะ”
   


“ถ้านายรู้จักนามสกุลฉัน คงไม่พูดแบบนี้” กรณ์ถอนใจ เขาเบื่อเหลือเกินที่ต้องเจอปฏิกิริยาเดิมๆเมื่อรู้ว่าเขาเป็นใคร
   


คนฟังเอียงคอ “ทำไมจะไม่รู้จักล่ะ”  ก่อนจะขยับรอยยิ้มทั้งดวงตา



“ก็พี่ชื่อ กรณ์ อริยะสกุล ไง”

   

-----------

   


“นามสกุลของศิลป์คือ อริยะสกุล..”
   


เพล้ง!!
   


แก้วน้ำชาถูกปัดตกแตก น้ำสีน้ำตาลทองเอ่อนองเต็มพื้น  ศรรีบดีดตัวลุกขึ้นด้วยความตกใจ
   


“ไอ้ดีน เฮ้ย เป็นอะไร”



เพื่อนวัยเด็กของเขากำลังกุมหัวด้วยความทรมาน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปมจนเส้นเลือดข้างขมับปูดขึ้นมา
   


“ปวด..หัว”
   


ปวดเหมือนหัวจะแตก ปวดจนเขาต้องขบกรามแน่นตัวเกร็งไปหมด ความทรงจำที่ฝังลึกดิ้นรนเพื่อจะออกมา ราวกับตัวต่อกระจัดกระจายกำลังรวมตัวกันเป็นรูปเป็นร่าง ความจริงที่ตามหาอยู่ใกล้ตัวจนมองไม่เห็น 



 ในเมื่อพี่ศิลป์เกี่ยวข้องกับกรณ์ทำไมตอนสืบหาเรื่องของกรณ์กับอิน พี่ศิลป์กลับบอกว่าสืบเรื่องของกรณ์ต่อไปไม่ได้เพราะโดนปิดข้อมูลเอาไว้

   

ใครปิด? พี่ศิลป์ปิดเองงั้นเหรอ? แล้วที่น้องไปพบคุณลุงวันนี้ล่ะ?
   


“สัส กัดจนปากแตกแล้ว ไปโรงพยาบาลเหอะ” ศรรีบพยุงอีกฝ่ายขึ้น เขาตะโกนเรียกลูกน้องให้มาช่วยอีกแรง
   


“ภาม..” ดีนเค้นเสียงออกมาสั่นพร่า ความเป็นห่วงน้องพุ่งสูงจนแทบทนไม่ไหว อาการไฮเปอร์เวนฯของภามไม่ใช่เรื่องเล่นๆ โดยเฉพาะถ้าเจอเรื่องกระทบจิตใจอย่างรุนแรง
   


อินทัช..อย่าทำร้ายน้อง อย่าเอาภามไปจากชีวิตเขา
   


“ใจเย็นๆนะมึง อย่าเป็นอะไรนะเฮ้ย” พอจับคนตัวโตยัดใส่รถได้ศรก็รีบบึ่งรถไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
   


อย่าพรากพวกเราอีกเลย..

   
   



เอื้อก
   


เด็กหนุ่มกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ เขานั่งตัวแข็งหลังตรงหวาดหวั่นบุคคลที่นั่งอยู่ตรงข้าม ชายวัยราวๆ 50 ปียังดูหนุ่มแน่นกำลังจ้องมองตัวเขาอย่างสนใจ
   


“พ่อจะจ้องน้องขนาดนั้นทำไม” ศิลป์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ภามกลอกตาด้วยความเซ็ง เวลาเจอสิ่งสนใจพ่อต้องจ้องไม่วางตาแบบนี้ทุกที
   


“ฉันไม่เจอหลานมาตั้งเกือบสิบปี มองหน่อยไม่ได้หรือไง” เสียงทุ้มต่ำหากทรงอำนาจย้อนลูกชาย ดวงตาสีดำเข้มดุดันยังคงมองหลานไม่เลิก
   


“เอ่อ..” ภามชักนั่งไม่ติด “คุณ..ลุง”
   


“เรียกลุงกฤตเถอะ เฮ้อ เรานี่หน้าเหมือนแม่จริงๆ ไม่ได้ไอ้กาจน์มาเลย” คุณลุงพึมพำ เขายอมถอนสายตาออกแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้สบายอารมณ์

   

ภามหน้าเหวอ เขาเสียพ่อไปตอนอายุ10ขวบเลยไม่มีคนทักเรื่องหน้าเหมือนพ่อหรือแม่มานานมากแล้ว จะว่าไปเจ้าภูมิน้องชายเขาก็หน้าคล้ายกัน นี่สรุปไม่มีใครเหมือนพ่อเลยสักคนรึไง
   


“ผ่อนคลายหน่อย ลุงไม่กัดหรอก เรามาทำความรู้จักก่อนจะไปเจอคุณปู่กันดีกว่า” ลุงกฤตขยับรอยยิ้มเกิดเป็นริ้วรอยตามวัยขึ้นมาและนั่นทำให้คลายความดุดันลงไปได้มากโข “ครั้งสุดท้ายที่ลุงเห็นเราคืองานศพไอ้กาจน์มัน”
   


“เอ๋ คุณลุงมางานศพคุณพ่อด้วยเหรอครับ” ภามทำตาโต เท่าที่จำได้วันนั้นไม่มีญาติทางพ่อมาเลยสักคนนี่นา
   


“ไปสิ นั่นน้องทั้งคนนะ ปู่เราก็ไป ตอนเข้าไปไหว้ดูเหมือนเราจะถูกใช้ให้ไปทำอะไรสักอย่างเลยไม่ได้คุยกัน” มือใหญ่เอื้อมข้ามโต๊ะมาเสยผมหลานชายแท้ๆ ของตัวเอง ดวงตาสดใสของเจ้าภามนี่แหละที่ถอดแบบน้องชายเขาออกมา
   


“น่าเสียดาย” เด็กหนุ่มเสียใจเพราะเขาอยากรู้จักบ้านคุณพ่อมากกว่านี้  “คุณแม่ไม่เคยเล่าเรื่องทางบ้านคุณปู่ให้ฟังเลย ผมอยากรู้แต่ก็ไม่กล้าถาม” ประคองแก้วน้ำในมือแล้วหมุนมันเล่น รู้สึกแปลกๆที่ลุงเอื้อมมือมาลูบหัว แต่มันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนึกถึงพ่อที่จากไปไกล

   

กฤตหัวเราะเบาๆ “ไม่แปลกหรอก ก็พ่อเราเขาแค้นปู่เหลือเกิน ทิฐิแรงแล้วก็ดื้อ ถึงขนาดแต่งงานแล้วเปลี่ยนไปใช้นามสกุลแม่เรา คิดดูแล้วกัน”
   


“ทำไมพ่อถึงไม่ชอบคุณปู่ละครับ” ภามไม่เห็นเข้าใจ คนเราต้องมีเรื่องเจ็บปวดขนาดไหนถึงตัดพ่อตัดลูกกันได้ขนาดนี้
   


“เพราะปู่เป็นต้นเหตุให้มันเสียคนที่เคารพรักมากที่สุดไป” ดวงตาของคุณลุงหม่นแสงลงจนคนมองใจหาย เด็กน้อยเม้มปากแน่นรู้สึกผิดที่ถามเรื่องแบบนี้ออกไป

   

คนที่พ่อเคารพรักมากที่สุด...งั้นเหรอ
   


“ตะ แต่คุณแม่เคยเล่าเรื่องคุณลุงให้ฟังนะครับ” เขารีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อคลายบรรยากาศหม่นหมอง “คุณแม่บอกว่าชื่อของผม พ่อเอามาจากที่คุณลุงตั้งให้”
   


ลุงกฤตเลิกคิ้วแล้วชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ลุงตั้งงั้นเหรอ”
   


เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกๆ “ชื่อภามที่หมายถึงพลัง ส่วนน้องผมก็ชื่อภูมิที่หมายถึงแผ่นดิน”
   


คนเป็นลุงครุ่นคิด ก่อนจะเบิกตากว้างแล้วคลี่ยิ้มออกมา
   


“นึกออกแล้ว”
   


ภามแอบโล่งใจ นี่ถ้าลุงบอกจำไม่ได้งานนี้มีหน้าแตกต่อบทสนทนาไม่ได้แหงๆ
   


“ลุงเป็นคนตั้งชื่อภูมิ ส่วนภาม...ลุงอีกคนเป็นคนตั้ง” กฤตหลับตาลงทบทวนความทรงจำวัยเยาว์นั้นอีกครั้ง วันวานที่พี่น้องถกเถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระ



---
   


“ทำไมบ้านเราชอบตั้งชื่อคล้องกันเป็นพยางค์เดียว น่าอายชะมัด”
   


สองหนุ่มหันมามองน้องชายคนเล็กที่เปิดปากบ่นทันทีที่กลับเข้ามาถึงบ้าน
   


“ไมล่ะ ดีออก โคตรชัดเลยว่าเป็นพี่น้องกัน” กฤตที่กำลังนอนกลิ้งบนพื้นขยับตัวลุกขึ้นนั่ง น้องชายเขาเพิ่งอายุ15ไม่เท่าไหร่ก็เริ่มทำตัวมีปัญหาเสียแล้ว
   



“โหย ไม่เท่เลย ถ้าผมมีลูกจะไม่ตั้งชื่อคล้องกันเด็ดขาด”  กาจน์น้องคนเล็กแห่งบ้านอริยะสกุลโยนกระเป๋าไว้ที่พื้นแล้วเดินมาหาพี่ชายคนโตตรงโซฟาชะเง้อมองหนังสือที่พี่อ่านคิ้วขมวด
   


“พี่อ่านอะไรยากๆอีกแล้ว” เขาไม่เห็นเข้าใจ ไอ้หนังสือภาษาอังกฤษยึกยือมันสนุกตรงไหนกัน
   


คนพี่ไม่ได้ตอบอะไร ทำเพียงแค่ขยับมุมปากเป็นรอยยิ้มแทนคำตอบ
   


“หึ คอยดูเหอะมึงมีลูกเมื่อไหร่ ฉันนี่แหละจะตั้งชื่อหลานให้เอง” กฤตแกล้งดึงน้องเล็กให้ลงมานั่งเป็นเพื่อนกันที่พื้น แล้วขยี้หัวไอ้ตัวแสบจนยุ่งเหยิง
   


“เอ้า ได้ไงอ่ะ ลูกผมไม่เอาชื่อ ก ไก่แล้วนะ โหย เดี๋ยวๆ ต้องรีบคิดชื่อเผื่อไว้ก่อน” เด็กยุง่ายทำหน้าจริงจัง เรื่องอะไรจะให้พี่แย่งตั้งชื่อลูกในอนาคตฟะ ไม่ยุติธรรมเลย
   


“ภาม..”

   

กฤตและกาจน์เงยหน้าขวับไปยังต้นเสียง พี่ชายคนโตตอนนี้วางหนังสือลงข้างตัว ดวงตาคมคายทอดสายตามองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย
   


“หือ?” กาจน์ถึงกับทวนอีกครั้งว่าไม่ได้หูฝาด “ภามเหรอครับ”
   


“อืม ภามหมายถึงพลัง ลูกนายจะได้มีพลังที่จะต่อสู้กับทุกอย่างไง ถ้ามีลูกชายตั้งชื่อว่าภามสิ” พลังที่จะฝ่าฟันอุปสรรค พลังที่จะไม่ท้อถอย พลังที่จะทำตามความฝันให้เป็นจริง
   


“เฮ้ย พี่แย่งตั้งว่ะ ไอ้กาจน์มึงต้องมีลูกชายสองคนนะ อีกคนฉันตั้งเอง ภามเหรอ...ภ..ภ สำเภา ภูมิไง เป็นไงล่ะ ชื่อคล้องกันพยางค์เดียวด้วย ฮ่าๆ”กฤตหัวเราะงอหาย ยิ่งเห็นน้องหน้าบูดก็ยิ่งสะใจ
   


“พี่แม่ง!! คอยดูนะ ผมจะไม่ใช่ทั้งสองชื่อเลย!!”


   

จากบทสนทนาไร้สาระในวันนั้น พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่า ต่อมาทั้งสองชื่อจะกลายเป็นชื่อหลานจริงๆ อย่างที่เคยได้คุยกันเอาไว้

   



ชื่อ..ที่มีความหมายผูกพันพี่น้องเอาไว้ด้วยกัน






------------

Talk

ทิ้งห่างไปนานเลย ป่วยค่ะหยุดงานทรุดโทรมเป็นไข้เป็นหวัดโหยร้ายมาก +ไมเกรนที่จี๊ดจนอ้วก+ หมอนรองกระดูกกำเริบปวดจนเดินไม่ค่อยได้ แถมด้วยการวิ่งวุ่นเพราะทำเรื่องลาออกจากที่ทำงาน ตบท้ายด้วยเข้าห้องประชุมทั้งวัน (เป็นล่ามค่ะ)
นี่รอดมาได้ยังไง ยังสงสัยตัวเองอยู่ ลงตอนนี้เสร็จคือสลบค่ะ เพิ่งได้นอนไปสามช.ม 5555 เก็บศพคนเขียนด้วย


ป.ล มีคนอยากเห็นรอยสักพี่ดีน คนวาดเขาเลยสนองให้ มีหมอกศีลธรรมเล็กน้อยฃ




ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
มาแล้ว เดาถูกด้วยว่าศิลป์จะต้องเป็นคนจากตระกูลของกรณ์ สรุปกรณ์เป็นลุงของภาม ส่วนอินทัชก็เป็นตาเล็กของดีน

รอตอนหน้าไม่ไหวแล้วอะ อยากอ่านตอนเขาเจอกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2017 00:20:03 โดย หมอตัวเปียก »

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ dino94

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พีคไปอีกกกก ไม่คิดว่ากรณ์จะเป็นลุงของภาม โอ้ยให้ตาย  o22

ออฟไลน์ itsgonnabeme

  • It's me, not you.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
ไม่แปลกใจมี่ศิลป์มาจากตระกูลของกรณ์
ถ้างั้นกรณ์ก็เป็นคุณลุงของทั้งศิลป์ทั้งภามสินะ

ดีจังเลยนะ พี่กรณ์เป็นคนตั้งชื่อภามเองเลย

อยากรู้จังว่าวันที่กฤตและศิลป์รู้เรื่องของดีน
รู้ว่าคือกรณ์ จะเป็นยังไง
ที่แน่ๆเราน้ำตาพรากแน่ๆ

แต่ไม่เป็นไรนะพี่ดีนน้องภาม
ประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
ขอให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ตัวละครในอดีต เหลือคุณปู่อีกคนเดียวใช่มั๊ยคะ
ตื่นเต้นไปกับภามจริงๆ

ปล.พี่ดีนหายไวๆนะคะ เผื่อจะได้มาช่วยภามทัน  :hao3:

ออฟไลน์ Nattharikan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 81
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่ดีนอย่าเป็นอะไรนะ  :hao5: :hao5: :hao5:


หู้ยย ภาพประกอบอย่างแซ่บ  :haun4: :haun4: :haun4:
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:


ออฟไลน์ dear77

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :ling1:  สนุกมากกกก แต่ก็ใจไม่ดีเลย พี่ดีนนนอย่าเป็นไรนะ
เฮ้อ.....กลัวน้องช็อคเป็นอะไรถ้าเจอคุณปู่ด้วย

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:   คิดไว้แล้ว ว่า คุณแม่ต้องรู้ความเคลื่นไหวภาม ไม่จากศร ก็ ศิล   

และสิ่งที่กลัวก็เป็นจริงๆ  ที่ว่า ครอบครัวภามคือ ครอบครัวของพี่กร

แอบอบอุ่นตรงที่ พี่กร คือคนที่ตั้ง ชื่อของหลานตัวเอง และสุดท้ายก็กลายมาเป็นคนรัก  อร๊ายย มันละมุนนน

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
เรื่องมันจะมาเป็นแบบไหนนะตอนที่ทั้งสองบ้านรู้ว่าคนในบ้านรักกันอีกครั้ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด