[J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey  (อ่าน 7957 ครั้ง)

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
เรื่องนี้ปิ๊งกี้ขอมาอ่ะคับเลยเอามาสนองชีหน่อย
ปิ๊งกี้เค้าเองก็สาวกDKนะตัว หุหุ

The ghost    ผีคอลาเจน

One day   ในห้องซ้อมของDir en grey

   “นี่ๆพวกเราชั้นซื้อเครื่องสำอางมาใหม่ดูสิ”ชายหนุ่มร่างสูงเจ้าของแววตาขี้เล่นเอ่ยขึ้นหลังจากที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องซ้อม อันที่ซึ่งเป็นแหล่งใช้ทำงานและหาเงิน
“นายซื้ออะไรของนายมาน่ะ?”ชายหนุ่มร่างเล็กเอ่ยขึ้น พร้อมกับหยิบเจ้ากระปุกสีใสขึ้นมาดูอย่างพินิจพิเคราะห์
“ครีมบำรุงหน้าน่ะเป็นสารสกัดจากคอลาเจนเขาว่าดีอ่ะ กำลังฮิตในหมู่พวกสาวๆล่ะ เมื่อวานชั้นไปเดินชิบุยะกับชินยะมา เลยซื้อมาฝากดายกับคาโอรุซะหน่อย เขาว่าใช้ลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดีเชียวนา”โทชิยะบรรยายถึงสรรพคุณของเครื่องสำอางเสร็จสรรพ พร้อมกับหันหน้าไปมองสมาชิกร่วมวง ซึ่งเรียกกันว่า ’ผู้สูงอายุ’ สิ่งที่ได้รับกลับมาคือสายตาเคืองๆของผู้อายุทั้งสอง พร้อมกับสะบัดหน้าไปอีกทางปากขมุบขมิบเหมือนกำลังกร่นด่าอยู่ในใจ
“เออก็ดีนะเข้าท่าๆ พวกนายสองคนน่าจะลองใช้ดูนะ ฮ่าๆ”เคียวหัวเราะก๊ากเมื่อได้ยินคำพูดของโทชิยะ และเมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับจากคนทั้งคู่ยิ่งหัวเราะเสียงดังลั่นห้องซ้อม
“เฮอะ!!”ดายสบถเสียงดังลั่น ทำเอาโทชิยะและเคียวหัวเราะร่วนอย่างพอใจ ส่วนชินยะได้แต่ส่ายหน้ากับพฤติกรรมของคนทั้งสองอย่างระอา
“นี่ๆของนอกเชียวนา ชั้นอุตส่าห์หวังดีซื้อมาให้พวกนายเชียวนา รับไปหน่อยสิเดี๋ยวจะเสียน้ำใจ”โทชิยะพูดด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ช่างขบขันเสียเหลือเกินเมื่อถูกใจได้แหย่เพื่อนเล่น แต่ผู้พาดพิงทั้งสองกลับทำหน้าเครียดเมื่อถูกหัวเราะเยาะใส่
“มุขฮาๆแต่พาเพื่อนเครียดนะนั่น”ชินยะพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของดายกลับคาโอรุ อดสงสารไม่ได้แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีจึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างปลงๆ ลองโทชิยะและเคียวร่วมมือกันแหย่ดายกับคาโอรุเมื่อไร ยากนักที่จะห้ามกันได้จึงได้แต่ตีแขนโทชิยะดังเผียะเป็นการเตือน
“ว่าแต่เป็นของนอกที่นายว่าเนี่ยมันมาจากประเทศอะไรละนั่น”เคียวถามขึ้นมาอย่างสนใจกับคำพูดของโทชิยะเมื่อสักครู่
“เขาว่ามาจากจีนน่ะ คนขายเขาว่ากำลังนิยมในหมู่สาวๆจีน ซื้อมาใช้กันตรึมเลย ใช้ไปเถอะหน้าจะได้ตึงลดริ้วรอยบนใบหน้าของพวกนาย”โทชิยะบรรยายสรรพคุณเครื่องสำอางอีกครั้ง พร้อมกับยื่นถุงนั่นให้กับคาโอรุและดายคนละถุง ทั้งสองจึงรับของมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก
“อยู่ด้วยกันน่าจะให้แค่กระปุกเดียวก็พอไม่รู้จะซื้อมาสองให้เปลืองทำไม”เคียวบ่นอุบเสียงเบาแต่ก็เข้าหูชินยะจนได้
“อย่าทำงกไปหน่อยเลยน่าเคียวซัง โทชิยะเขาเสียเงินซื้อเคียวซังไม่ได้ซื้อซะหน่อย”คำพูดของชินยะเคียวถึงกับค้อนขวับแก้มป่อง ชินยะหัวเราะน้อยๆให้กับนักร้องนำคนเก่ง
“เอาล่ะซ้อมๆ มัวแต่พล่ามกันอยู่นั่นแหละ”เสียงประกาศิตจากหัวหน้าวง ทำให้ทุกคนแยกย้ายกันไปคนละทิศ แต่ก็ไม่วายมีเสียงบ่นตามมา
“ชิ  จู้จี้ชะมัดสมแล้วที่เมียเจ้าดาย”เคียวบ่นเสียงเบา แต่หูนรกของคาโอรุกลับได้ยินเสียงนั่นจึงตอบกลับไป
“อย่าคิดนะเคียวว่าชั้นไม่ได้ยินที่นายพูด รึนายอยากจะลองมาเป็นเมียชั้นดีล่ะ จะได้อยู่ในโอวาทให้มากขึ้นเหมือนอย่างดาย หึหึ”พูดพร้อมกับหัวเราะเสียงเย็น เล่นเอาเคียวผวารีบเดินหนีให้พ้นรัศมีโดยทันท่วงที
ทุกอย่างเป็นไปตามปรกติการซ้อมวันนี้ก็มีการอัดเสียง แล้วก็ซ้อมกันตามปรกติ ใครจะรู้จะได้ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นมา ไม่มีใครล่วงรู้ได้เลย ไม่มี

ตกค่ำของวันนั้น  เวลาประมาณ 21:00น.

“เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ก่อนเลิกซ้อมได้”สิ้นเสียงคำสั่งของหัวหน้าวง ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง ถอดเครื่องดนตรีเก็บไว้ตามมุมต่างๆ บ้างก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าและทำธุระส่วนตัว บางก็ทิ้งตัวนั่งพักพร้อมกับหาน้ำดื่มเพื่อดับกระหาย เหตุการณ์ทุกอย่างดำเนินอย่างปรกติเช่นทุกๆวันที่ผ่านมา โดยไม่รู้ว่ากำลังมีบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามา โดยที่ไม่มีใครรู้ตัวกันเลยสักนิด
“เลิกซ้อมแล้วจะไปไหนกันต่อรึเปล่า?”เคียวเอ่ยปากถามเมื่อเห็นว่าทุกคนกลับเข้ามาที่ห้องซ้อมเหมือนเดิม
“คงไม่อ่ะชั้นกะว่าจะหาซื้ออะไรกลับไปกินในห้อง แล้วจะงีบเลยเหนื่อยว่ะไม่ไหว”โทชิยะโบกมือหยอยๆ พร้อมกับใช้ผ้าขนหนูผืนนุ่มวับที่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
“นายพูดจริงอ่ะโทชิยะ งั้นคืนนี้ชั้นก็ได้นอนอย่างเต็มที่แล้วสิ”คำพูดของชินยะเคียวถึงกับเหลือบตากลับไปมองทันที พูดอะไรสองแง่สองง่ามน่าคิด(ลึก)เว่ย
“ชั้นจะปล่อยนายแค่คืนนี้เท่านั้นแหละชินยะ นอนให้เต็มที่เลยล่ะแล้วคืนต่อๆไปเตรียมใจไว้ให้ดีเถอะ หึหึ”คำพูดพร้อมเสียงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ทำให้ชินยะรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก เสียวสันหลังขึ้นมาชั่วขณะหนึ่ง
“ง่า~~~”ท่าทางคืนต่อๆไปคงจะไม่รอดแน่ล่ะชินยะเอ๋ยเตรียมใจเอาไว้เถอะ
“แล้วนายสองคนล่ะคาโอรุ ดายจะไปไหนต่อหรือเปล่า?”เคียวหันไปถามผู้สูงอายุทั้งสอง ซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการเก็บของอยู่
“พวกชั้นก็จะกลับเลย ทำไมเหรอเคียวจะหาเพื่อนดื่มรึไง เสียใจด้วยนะสำหรับราตรีนี้ ชั้นจะกลับไป... ผั๊วะ!!”พูดยังไม่ทันจบประโยคดีก็เจอลูกมะเหงกจากคุณภรรยาที่เคารพรักเสียก่อน มือที่ใช้เก็บของก็ละมากุมตรงบริเวณที่เพิ่งถูกวางระเบิดไปเมื่อสักครู่
“ง่ะ เจ็บนะคาโอรุใจร้าย”ดายส่งเสียงร้องโอดโอย ตามมาด้วยแววตาที่น่าสงสารเหมือนลูกแมวถูกทิ้งไม่มีผิด เอาวะยอมด้านเผื่อคาโอรุจะอ่อนใจ
“พูดไม่รู้จักดูสถานที่สมควรแล้วที่ถูกลงโทษ”คาโอรุพูดเสียงเย็นโดยไม่หันกลับไปมองเจ้าของแววตาเหมือนลูกแมวถูกทิ้งเลยสักนิด ดายบู้ปากทันทีเมื่อวิธีออดอ้อนไม่ได้ผล
“คืนนี้ต้องดื่มคนเดียวอีกแล้วรึเรา ว๊า~”ร่างเล็กบ่นอุบเมื่อเพื่อนทั้งหลายต่างไม่มีวี่แววจะรับคำชวนเขาเลยสักนิด
“โทษนะเคียวเอาไว้คราวหน้าแล้วกัน สัญญาเลยว่าจะไปด้วย”ชายร่างสูงพูดปลอบใจเมื่อเห็นแววตาเหงาๆของเพื่อน
“สัญญาแล้วนะโทชิยะ”เคียวยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อนร่างสูงทำให้เขายิ้มออกมาอย่างดีใจ
“เอาไว้คราวหน้าไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ เอ้า จะกลับได้รึยังดายยืนทำหน้าเง้างอดอยู่นั่นแหละ”คาโอรุหันไปพูดกับเพื่อนร่างเล็กก่อน แล้วหันไปสั่งดายที่ยืนทำหน้ายู่อยู่ที่เดิม
“หน้ายู่หมดแล้วดาย คืนนี้ก่อนนอนอย่าลืมใช้ครีมนะจ๊ะ หน้าจะได้ไม่เหี่ยว ฮ่าๆๆๆ”โทชิยะพูดสั่งเพื่อนก่อนจะหิ้วกระเป๋าเดินตามชินยะออกไป แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“เชอะ!!”พร้อมกับเสียงบ่นงึมงัมตามมาแล้วคว้ากระเป๋าเดินออกไปอีกคน เคียวเห็นแล้วหัวเราะแล้วเดินตามออกไปเป็นคนสุดท้าย ประตูห้องซ้อมปิดลงความเงียบสงบกลับมาอีกครั้ง ภายในตึกที่ตอนนี้แทบจะไม่มีใครเหลืออยู่อีกเลย เพราะพวกบรรดาสต๊าฟและทีมงานต่างแยกย้ายกลับกันไปก่อนตั้งแต่เมื่อตอน20.30น.แล้ว คงเหลือเพียงแต่พนักงานรักษความปลอดภัยที่ทำหน้าที่อยู่บริเวณหน้าตึกเท่านั้น

ตกดึกของวันนั้น เวลาประมาณ 22.30น. ที่ห้องของดาย และ คาโอรุ

หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวอาบน้ำชำระร่างกายเรียบร้อยแล้วดายเดินมานั่งลงที่หน้ากระจก ร่างบางของคาโอรุนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่เตียงหันมาถาม
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ?”
“อืม...นายก็ไปอาบมั่งสิ น้ำกำลังอุ่นได้ที่เลยเชียวล่ะ”จบคำพูดของร่างสูงร่างบางลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหยิบเสื้อผ้าอันเป็นชุดนอนและผ้าขนหนูจากมือของร่างสูงที่ยื่นส่งมาให้ เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาทีร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอน พร้อมกับกลิ่นกายที่หอมฟุ้งอันเกิดมาจากสบู่เหลวที่ใช้อาบน้ำนั่นเอง คาโอรุเดินมาทิ้งกายลงนั่งส่วนปลายของเตียงนอนมือข้างหนึ่งใช้ขยี้เรือนผมผ่านผ้าขนหนู เพื่อให้ซับน้ำที่เกิดจากการสระผมเมื่อตอนเข้าไปอาบ ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้คนรักแล้วหยิบผ้าขนหนูจากมือเรียวมาเช็ดผมให้แทน เป็นการเอาใจใส่อย่างหนึ่งของดายที่คาโอรุพอใจเป็นอย่างมาก ดายดูแลเขาทุกอย่างเวลาที่อยู่ในห้องส่วนตัว ไม่ว่าจะเตรียมอาหารเช้า ทำความสะอาด หรือแม้แต่เช็ดผมยามเมื่อเขาสระผม ทุกอย่างดายล้วนดูแลอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง เพราะเห็นว่าเขาเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวัน เขาเป็นหัวหน้าวงที่ต้องรับภาระแทบจะทุกอย่าง กลับมาบ้านก็อยากจะผ่อนคลายบ้างเป็นธรรมดา การมีคนรักอยู่ข้างกายมันสุขอย่างนี้เองเหรอ? เขาเพิ่งจะเข้าใจเมื่อย้ายมาอยู่ด้วยกันกับดายนี่แหละหลังจากที่คบกันมานาน
“นั่นครีมที่เจ้าโทชิยะซื้อมาให้วันนี้นี่นายใช้มันแล้วเหรอ?”คาโอรุถามเมื่อเห็นเจ้าประปุกครีมที่เพิ่งได้รับมาเปิดฝาทิ้งไว้อยู่บนโต๊ะ  คนใช้ลืมปิดอีกตามเคยสิน่า
“อือลองใช้ดูน่ะไหนๆก็ไม่ได้เสียตังค์ซื้ออยู่แล้ว ลองใช้สักหน่อยจะเป็นไรไป เผื่อว่าไอ้ริ้วรอยที่ขึ้นมาจะดีขึ้นมาบ้าง”ดายสาธยาย คาโอรุหัวเราะออกมาเบาๆ
“งกใช้ได้เลยนายนี่”
“แน่นอนอยู่แล้ว แฟนนายทั้งคนนี่ ฮิ ฮิ”
“นี่ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ ชั้นเป็นยังไงก็ช่างน่า ที่ทำก็เพื่อเราสองคนทั้งนั้นแหละ”ร่างบางกอดอก ร่างสูงรีบง้อทันที
“รู้อยู่แล้วล่ะครับ กระผมแค่แหย่เล่นเท่านั้นเอง”ดายยื่นนิ้วก้อยให้คาโอรุอมยิ้มพร้อมยื่นนิ้วเข้าไปเกี่ยวกับนิ้วของอีกฝ่าย
“จะลองใช้หน่อยมั้ย?”ดายถามความเห็นจากอีกฝ่าย
“ไม่ล่ะเอาไว้คราวหน้าเถอะ ดึกแล้วนอนได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้จะต้องออกแต่เช้า”ร่างบางขยับกายล้มตัวลงนอน ร่างสูงขยับกายเข้ามาใกล้หยิบมาห่มขึ้นมาคลุมกายให้ร่างที่นอนอยู่ข้างๆ ปิดไฟแล้วก็ล้มตัวลงนอนตามไปในที่สุด แถมยังดึงร่างบางเข้ามากอดแนบอกด้วย

ดึกสงัดของคืนนั้น  เวลาประมาณ 02.00น.

คืนนี้ดายรู้สึกนอนไม่หลับอย่างประหลาดแถมยังกระสับกระส่าย บอกไม่ถูกว่ามันเป็นเพราะอะไร จะดื่มกาแฟมากไปก็ไม่น่าจะใช่ วันนี้เขาดื่มกาแฟร้อนไปแค่1แก้วตอนที่ออกจากห้องเป็นมื้อเช้า แล้วก็กาแฟเย็นอีก1กระป๋อง ก็ไม่น่าจะเป็นสาเหตุได้นะแล้วมันอะไรกันล่ะ?
ตอนนี้ดายอยู่ในอาการกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ จู่ๆก็มีเงาดำผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว มันผ่านตรงบริเวณหน้าเตียงที่เขาใช้หลับนอนกับคาโอรุ เขามั่นใจว่าตัวเองตาไม่ฝาดแน่ๆ แต่มันเป็นเงาของอะไรกันล่ะ? นั่นแหละคือคำตอบที่เขาอยากได้มากเป็นที่สุดในเวลานี้  ในใจภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย แล้วสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่มันคืออะไรกันล่ะ? คงจะเป็นอะไรบางอย่างที่ตัวเขาเองก็ให้คำตอบไม่ได้ เขาเหลือบไปมองข้างตัวคาโอรุกำลังหลับสนิทเหมือนเดิม ไม่ได้มารับรู้ในสิ่งที่เขากำลังจะเริ่มกลัว ดายพยายามที่จะไม่คิดมากแล้วหลับตาลงอีกครั้ง ขณะที่เขากำลังจะหลับตาอีกครั้งนั่นเอง เงาดำที่ปรากฏให้เขาเห็นรอบแรกที่ทำให้คิดว่าตัวเองตาฝาดนั้นได้กลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันปรากฏขึ้นนานกว่าเมื่อคราวแรกเสียด้วยซ้ำ แถมยังหยุดนิ่งอยู่บริเวณปลายเตียง ดายถึงกับผวาดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้า พร้อมกับภาวนาในใจ ‘ตาฝาดชั้นต้องตาฝาดแน่ๆ ไม่มีอะไรหรอกน่าดายไม่มี ผีมันไม่มีอยู่ในโลกหรอกน่า’ พยายามทำใจไม่ให้คิดมาก แล้วค่อยๆสวดมนต์ในใจ  เวลาผ่านไปดูเหมือนทุกอย่างจะสงบลงดังเดิม ถึงกระนั้นดายก็ยังคงนอนไม่หลับอยู่ดี  ชายหนุ่มค่อยๆเปิดผ้าห่มออกอย่างช้าๆเพื่อให้พ้นตา แล้วมองไปรอบๆห้องทุกอย่างเป็นปรกติ ดายถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาก็แค่คิดมากไปเท่านั้นเอง ฟู่~~
ชายหนุ่มเตรียมจะหลับตาลงนอนอีกครั้งเมื่อเขาแน่ใจแล้วว่า มันจะไม่มีไอ้เงาดำๆวิ่งผ่านหน้าเขาเป็นครั้งที่สามอีกแน่ๆ ชายหนุ่มเชื่ออย่างนั้น เขาเริ่มย่ามใจแล้วหลับตาลงนอนอย่างอ่อนแรง เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่มีใครรู้ เมื่อน้ำหนักบนเตียงนอนเพิ่มมากขึ้น แล้วเหมือนมีบางอย่างมาทาบทับกายของเขา คาโอรุละมั้ง....ดายคิดแบบนั้นโดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมามอง มือเรียวกำลังจะไปขยับร่างที่อยู่บนตัวเขาให้ขยับลงไปนอนตามเดิม ในจังหวะนั้นเองขณะที่มือของเขากำลังจะขยับไป นิ้วของเขาสะกิดผ่านร่างเนื้อที่อบอุ่นที่อยู่ด้านข้าง ดายรู้สึกผวาขึ้นมาทันทีแต่ก็ยังไม่ยอมลืมตา แถมยังหลับตาปี๋แน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม ‘คาโอรุก็ยังนอนอยู่ข้างๆเรานี่นา แล้วใครกันล่ะที่คร่อมทับร่างของเราอยู่ในตอนนี้?’ มันเป็นคำถามที่ตัวเขาเองต้องให้คำตอบแก่ตัวเองเท่านั้น ไม่มีใครที่จะตอบคำถามนี้ได้นอกจากตัวของเขาเอง ชายหนุ่มกลั้นลมหายใจเพียงชั่วครู่ก่อนจะพ่นลมหายใจนั้นออกมา เขากำลังทำใจดีสู้เสือยอมเผชิญเหตุการณ์ข้างหน้า เขาอยากจะพิสูจน์ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ร่างที่ทาบทับเขาอยู่นั้นยังอยู่ที่เดิมไม่มีทีท่าว่าจะลงมาหรือยังคงอยู่เช่นนั้น แถมน้ำหนักตัวยังมากกว่าปรกติจนร่างกายของเขาเริ่มชา อยากให้จะมันหลุดไปพ้นๆจากร่างของเขาเสียที ชายหนุ่มคิดเช่นนั้น จากนั้นจึงค่อยๆลืมตาอย่างเชื่องช้า เพ่งพิจใบหน้าที่อยู่ด้านบน เมื่อเห็นใบหน้านั้นในความมืดอย่างชัดเจน เขาแทบจะกรีดร้องเสียงดังลั่น ในเมื่อใบหน้าของร่างที่ทาบทับเขาอยู่นั้น มันใช่ใบหน้าของคนเสียที่ไหนกัน ดวงตาแดงก่ำราวกับปีศาจแถมยังปูดโปนออกมาจากเบ้าตาทั้งสองข้าง ใบหน้าบูดเบี้ยวแถมยังมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มไปทั่วบริเวณที่มีแผลพุพอง ปากฉีกกว้างแทบจะถึงใบหูทั้งสองข้าง สิ่งที่อยู่ตรงหน้าชายหนุ่มเห็นแทบจะสิ้นสติเสียให้ได้ จู่ๆใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าห่างกันแค่คืบก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ชวนให้เสียวสันหลังวาบแก่คนฟัง
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ しろやま としんや

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +921/-157
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #1 เมื่อ01-10-2006 17:46:40 »

“อาว.....คอ....ลา....เจน....กูคืน.....มา.....เหอ....เหอ....”พร้อมกับรอยยิ้มแสยะน่าสะพึงกลัวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้ดายกลืนน้ำลายลงคอแทบไม่ไหว เมื่อความกลัวมันเกือบจะถึงขีดสุด
“อาว.....คอ....ลา....เจน....กูคืน.....มา.....เหอ....เหอ....”ร่างที่อยู่ตรงหน้าพูดซ้ำประโยคเดิมอีกครั้ง ใบหน้าของมันก้มลงมาใกล้ใบหน้าของชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
“อาว.....คืน....มา.....อาว...คอ....ลา....เจน....กู....มา”สิ้นประโยคนี้ดายทนไม่ไหวถึงกลับกรีดร้องออกมา
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!”ถึงแม้กระนั้นใบหน้าของสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ยังไม่ยอมขยับเขยื้อนไปไหน(นี่กะหลอกกุยันเช้าเลยใช่มั้ย?/ดาย) ชายหนุ่มทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามร่างตรงหน้าอย่างนึกหวาดหวั่น
“ชะ....ชั้น....ไป...เอาของๆ.....แก.....มาตั้งแต่....เมื่อไร...กัน....คอลา...เจนอะไร...ชั้นไม่รู้!”กว่าจะเรียบเรียงคำพูดให้ออกมาได้ก็ยากเย็นยิ่งนัก จะให้สู้กับผีเหรอ? เขาทำไม่ได้หรอก ร่างทั้งร่างสั่นไปหมดจะขยับตัวรึก็ทำไม่ได้ หยดน้ำใสไหลปริ่มที่ขอบตา แง๊!คาโอรุช่วยด้วยยยยยยย
“ก็ที่มัน....อยู่บนหน้าแก....นี่ไง มันคือ....ของๆข้า”ร่างตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงเหี้ยม ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งและผวาจนสุดตัว เหงื่อไคลมันชุ่มไปทั่วทั้งตัวแถมยังผุดพายไปทั่วทั้งใบหน้า ร่างทั้งร่างสั่นระริกยากที่จะควบคุมเอาไว้ ดายทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่นิ่งอึ้ง ก็เขาไม่รู้วิธีปราบผีนี่นะจะให้ทำอย่างไรกันล่ะ?
“ยะ....อยู่....บนหน้า....ชะ....ชั้น....จะบ้า....รึไง!?”แต่ก็ยังอุตส่าห์ทำใจดีสู้เสือเอ่ยปากถามออกไป ทำเป็นเก่งไปอย่างนั้นที่จริงกลัวแทบขาดใจ
“หึหึ.....อาว.....คืน....มาสิ....อาวคืน.....มา”เจ้าผีบ้านี่ยังพูดซ้ำอยู่ประโยคเดิม สร้างความงุนงงให้ชายหนุ่มถึงแม้ว่าจะยังกลัวอยู่ก็ตาม ใจคอจะมาตามทวงของเพียงอย่างเดียวใช่มั้ย? ส่วนคนที่อยู่ข้างๆยังคงหลับสนิทอยู่เช่นเคย ไม่ได้รับรู้อะไรเลยว่ามีอะไรกิดขึ้นเสียงลมหายใจยังคงเข้าออกสม่ำเสมอ จะทำยังไงที่จะให้เจ้าร่างที่อยู่บนตัวเขาหายไปเสียทีนะ จะมีวิธีไหนที่จะให้ไอ้เรื่องบ้าๆที่เขากำลังเผชิญอยู่นี้พ้นไปเสียที ชายหนุ่มพยายามควบคุมสติขับไล่ความกลัวให้หายไป ตั้งสติเอาไว้ให้คงมั่นแล้วเริ่ม.......
“นะโมตัสสะ......อรหังสัมมาสัมพุทโธ........”ทางเลือกสุดท้ายแล้ว แล้วมันก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้ แทนที่จะกลัวจนหัวหดเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาแล้วสวดมนต์ภาวนา นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไม่ดีกว่าเหรอ? (ศาสนาพุทธเหมือนกันแต่คนละนิกายคงสวดเหมือนกันแหละน่า เดาเอานะ) ในขณะที่เขากำลังสวดมนต์อยู่นั้นปฏิกิริยาตอบรับเป็นผล เมื่อเจ้าผีร้ายผุดตัวลุกขึ้นแล้วกรีดเสียงร้องโหยหวนอย่างน่ากลัวมันเข้าไปกระทบยังโสตประสาทของเขา ยังไงเขาก็ตั้งจิตให้มั่นอย่าได้ว่อกแว่กกับเสียงที่มันรบกวนอยู่ตอนนี้ ร่างเงาดำที่เคยทาบทับร่างของเขาอยู่ตอนนี้ค่อยๆแตกสลายออกไป ปากของเขายังคงพร่ำบทสวดอยู่เช่นเดิม จนในที่สุดร่างนั้นก็อันตธานหายจากไปจนสิ้นไปพร้อมกับกลุ่มควันแน่นหนา วิญญาณนั่นจากไปเสียแล้ว ชายหนุ่มค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก ตั้งแต่เกิดมากว่า30ปีเขาไม่เคยเจออะไรที่น่ากลัวอย่างนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ ตอนเด็กเวลาที่ถูกทำโทษถึงเขาจะกลัวอยู่บ้างแต่มันก็ไม่ถึงขนาดนี้  ดายหอบหายใจฮั่กเหมือนร่างกายสูญเสียพลังงานไปอย่างมาก
“บ้าเอ้ย! ไม่เคยเจออะไรที่มันน่ากลัวอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิตนี้”ร่างยังคงสั่นอยู่เช่นเดิมเปลี่ยนจากกึ่งนอนเป็นผุดลุกขึ้นนั่งตัวตรง หันไปมองด้านข้างคาโอรุยังคงหลับไหลอยู่เช่นเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับว่าเหตุการณ์นี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ประสบพบเจอ
“ให้ตายสิหลับต่อไม่ได้เลย ภาพเจ้าผีนั่นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวอยู่เลย”แค่นี้ก็ขนพองแล้ว ดายพยายามลุกขึ้นจากเตียงอย่างเชื่องช้า ก่อนจะลุกเขาหันไปมองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง จนเมื่อแน่ใจแล้วเขาจึงยอมลุกขึ้นแต่โดยดีแม้ว่าจะไม่เต็มใจเลยก็ตาม ตาเหลือบมองนาฬิกาบนผนังเวลาเช้าของวันใหม่มาเยือนแล้ว ชายหนุ่มเดินสะโหลสะเหลไปยังห้องน้ำล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น
“ลืมเราต้องลืมให้หมด”สะบัดหน้าสองสามครั้งหวังว่าภาพที่คอยหลอกหลอนจะหายไป พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะลืมเหตุการณ์นั้นทิ้งมันออกจากหัวให้หมด เดินออกมาจากห้องน้ำใจในนึกบทสวดขึ้นมาอีกบทที่เขาไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน เหมือนกับบทสวดที่เขาใช้ไล่ผีร้ายนั่นไป
“สัพเพสัพตา.......สุขีอัตตานังปริหารัณตุ” (คนแต่งก็ไม่ได้สวดนานลืมไปแล้วเหมือนกันเอาน่าหยวนๆกันนะ)กล่าวจบมือที่พนมเอาไว้ก็เปลี่ยนมาลูบที่ศรีษะแทน
“คาโอรุตื่นเถอะเช้าแล้ว”เขาเดินไปปลุกคนรักที่นอนอยู่บนเตียง ช่างน่าแปลกนักปกติคาโอรุต่างหากที่เป็นคนปลุกเขา แต่วันนี้เขากลับทำหน้าที่นั้นแทน แม้แต่คาโอรุเองก็ยังรู้สึกแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว
“เห? แปลกนะวันนี้นายตื่นแต่เช้า  ดูหน้านายซีดๆนะดายเป็นอะไรหรือเปล่า?”คาโอรุสงสัยคนรักของเขาดูแปลกไปในเช้าวันนี้ ทั้งที่เมื่อวานก็ยังดีๆอยู่เลยหรือจะมีอะไรเกิดขึ้นกันหว่า? คาโอรุนึกสงสัยอยู่ในใจ (มันเกิดไปแล้ว จบไปแล้วไม่ได้รู้ตัวเลยนะ-“-)
“อืม.....นิดหน่อยน่ะ เมื่อคืนนอนไม่หลับ ไม่สิไม่ได้นอนเลยต่างหากล่ะ”ดายตอบกลับไปเขาควรจะเล่าเรื่องนี้ให้คาโอรุฟัง จะพูดให้ถูกเขาไม่เคยมีความลับกับคนรักของเขาเลยต่างหากล่ะถึงจะถูก
“คือเมื่อคืน............”ดายเล่าเรื่องทั้งหมดให้คาโอรุฟังตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของคนฟังก็ตื่นตกใจอยู่ไม่น้อย
“โกหกน่า มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ?”คาโอรุพึมพำเรื่องที่ฟังดายเล่ามา ราวกับว่ามันเป็นความฝัน
“ชั้นก็อยากให้มันเป็นความฝันนะ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมันเรื่องจริง ภาพของเจ้าผีนั่นยังคงหลอนติดตาชั้นอยู่เหมือนเดิม ทั้งๆที่พยายามจะลืม”คาโอรุโผเข้ากอดตนรักเขาทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่กอดและปลอบประโลม
“ทำใจให้สบายนะดาย คิดซะว่ามันคือฝันร้ายก็แล้วกันนะ”คาโอรุกอดร่างของคนรักอยู่สักพัก ทั้งสองต่างแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว
“นายจะไปซ้อมจริงๆเหรอ? ชั้นว่าน่าจะพักอยู่บ้านสักวันนะ”คาโอรุหันไปถามดายที่กำลังใส่รองเท้า เขานึกเป็นห่วงอยากให้คนรักพักอยู่บ้าน แต่ดายก็ยังยืนยันคำเดิม
“ชั้นไม่เป็นไรหรอกไปซ้อมเถอะ ที่สำคัญไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวเท่าไร”
“ตามใจนายก็แล้วกัน”แล้วทั้งสองก็ออกไปด้วยกัน ภายในห้องเงียบกริบเช่นเดิม เช้านี้ก่อนออกไปดายไม่ได้ทาเจ้าครีมที่ได้เป็นของฝากจากโทชิยะเมื่อวาน

ที่ห้องซ้อมตอนสายๆ

ร่างเล็กของชายเจ้าของเรือนผมสีทองนั่งเหยียดยาวอยู่บนโซฟาตัวนุ่มอย่างถือสิทธิ์เป็นเจ้าของ วันนี้เขาเข้ามาเช้าผิดปกติซึ่งตามปกติเขายังมาไม่ถึงเลยด้วยซ้ำไป จึงเป็นเหตุทำให้หัวหน้าวงคาโอรุต้องตำหนิเกือบทุกครั้งไป วันนี้อารมณ์ดีจึงนึกมาเช้าก่อนคนอื่นหวังจะสร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน ขณะที่กำลังอยู่ว่างๆอย่างไม่มีอะไรทำพลันสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะเล่มนึง จึงหยิบมาอ่านเพื่อฆ่าเวลา ‘ดีกว่าไม่มีอะไรทำ’ มือเปิดไปเรื่อยๆอย่างไม่สนใจหน้าไหนหรือว่าคอลัมน์ไหนเป็นพิเศษ จนกระทั่งมาหยุดที่หน้านึงด้วยความรู้สักคับคล้ายคับคลา
“เฮ้ย นี่มัน.....”เขาพึมพำอย่างตกใจที่นอนอยู่กับลุกพรวดพราดขึ้นมา
‘ครีมทาหน้ายี่ห้อหนึ่งซึ่งนำเข้าจากประเทศจีน ที่มีส่วนสารสกัดจากคอลาเจนช่วยทำให้ผิวหน้าตรึงกระชับ แท้ที่จริงแล้วครีมดังกล่าวไม่ได้สารสกัดคอลาเจนจากธรรมชาติเหมือนดั่งครีมยี่ห้ออื่นเขาใช้กัน แต่ครีมยี่ห้อนี้กลับใช้สารกัดจากคอลาเจนที่มาจากมนุษย์จริงๆ ซึ่งคอลาเจนที่เป็นส่วนประกอบได้มาจากนักโทษประหารซึ่งอยู่ในประเทศจีนนั่นเอง เป็นการตรวจสอบทางด้านวิทยาศาสตร์จึงทราบได้ว่าครีมนั่นสกัดมาจากสารคอลาเจนที่ได้จากมนุษย์ตามที่ข่าวได้รายงานไว้ ทางการจะพยายามสืบสวนต่อไปถึงที่มาของครีมยี่ห้อดังกล่าว’
“เหวอออออออออออออออออออ นี่มันครีมที่เจ้าโทชิยะซื้อมาฝากดายกับคาโอรุเมื่อวานนี่นา”เขาตื่นตะลึงกับสิ่งที่ได้อ่านอยู่ตรงหน้า ไม่คิดเลยว่ามัน.....
“เจ้าพวกนั้นมันจะรู้กันรึยังเนี่ย?”ขณะที่เขากำลังบ่นงึมงำอยู่นั้นเสียงประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมกับบุคคลที่เข้ามาเยือนถึงสองคน
“มาเช้าจังนะเคียวแปลกแฮะ ทำอะไรอยู่น่ะ?”ชายร่างสูงที่ส่งเสียงทักทายเขาเป็นคนแรก เคียวรีบผุดลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่ทันที
“มาพอดีเลยมาดูนี่สิ”เคียวเดินตรงเข้าไปหาพร้อมกับเจ้านิตยสารที่เพิ่งอ่านเมื่อครู่ติดมือไปด้วย พลางยื่นให้กับชายร่างสูงได้อ่าน โดยมีชายร่างบอบบางเดินตามเข้ามาดูเจ้านิตยสารนั่นด้วยอีกคน
“เฮ่ย นี่มัน......?”ทันทีที่อ่านจบชายร่างสูงพึมพำออกมา พร้อมกับหันไปมองหน้าสองคนที่เหลือที่ยืนอยู่ข้างๆกัน
“เออสิ”คียวตอบไปเพียงประโยคสั้นๆ
“ชั้นไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลยนะเว่ย ตอนที่ซื้อมาเห็นมันน่าสนใจเลยซื้อมาฝากสองคนนั่นก็เท่านั้น”โทชิยะอธิบายให้ฟังเพราะเมื่อวันก่อนที่เขาไปซื้อเจ้าครีมนั่นมาก็เพราะนึกถึงเพื่อนหรอก ใครจะไปรู้ได้ล่ะว่ามันจะเป็นแบบนี้ข่าวมันช่างเร็วเสียจริง ถ้าเขารู้เร็วกว่านี่เขาคงไม่ซื้อมันมาหรอกของน่ากลัวแบบนี้น่ะ
“แล้วไอ้หนังสือนี่มันออกมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?”โทชิยะพลิกหน้าหนังสือเพื่อดูวันเดือนปีที่ออกหนังสือเล่มนี้
“นี่มันหนังสือของอาทิตย์ที่แล้วนี่นา แต่ทำไมเจ้าครีมนั่นยังมีขายอยู่ได้ล่ะ?”
“โดนหลอกแหงเลย เจ้าของร้านมันคงรู้เรื่องแล้วล่ะแต่มันคงงกไม่ยอมเก็บเจ้าครีมนั่นเข้าสต๊อกแล้วนำออกมาขายให้กับพวกที่ไม่รู้ข่าวนี้แหง”เคียวคาดเดาถึงความที่น่าจะเป็นไปได้ ก็นะมันน่าคิดแบบนั้นจริงๆนี่นา
“แล้วจะบอกกับสองคนนั้นยังไงล่ะ ไม่รู้ด้วยว่าใช้ไปหรือยัง?”ชินยะพูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่เขาเงียบอยู่นานเพราะมัวแต่ฟังสองคนนั้นพูดคุยกัน
“คุยกันอะไรอยู่เหรอ?อยู่กันพร้อมหน้าเชียว”คาโอรุส่งเสียงทักหลังจากที่เปิดประตูเข้ามาแล้ว เหมือนกับว่าสามคนนั่นกำลังซุบซิบอะไรกันอยู่ ดายที่ตามเข้ามามีสีหน้าหงอยๆอย่างเห็นได้ชัดเจน
“อ่ะ.....เอ่อ.....”โทชิยะอ้ำอึ้งเหมือนมีอะไรมาจุกลงที่คอกระทันหัน ได้แต่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก อีกนัยก็คือใบ้กินกระทันหันจะโยนภาระให้เพื่อน
“คือ....คือ...”เคียวเองก็ไม่ต่างกันใบ้รับประทานไปอีกคนแล้วใครจะบอกได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่ชินยะที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆกัน ชินยะจึงรับภาระไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
“คืองี้นะดาย คาโอรุเรื่องมันเป็นแบบนี้อ่ะ........”แล้วชินยะก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสองฟัง คาโอรุฟังแล้วก็ถึงกับตกใจ ส่วนดายน่ะเหรอหน้าซีดอยู่แล้วยิ่งซีดมากไปกว่าเดิม
“เฮ้ย ดายเป็นอะไรไปน่ะ”เคียวเห็นท่าทางไม่ดีของดายจึงเอ่ยปากถามขึ้น
“คือ....เมื่อคืน....เมื่อคืน.....”ดายอ้ำอึ้งเพราะอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แทบจะลมใส่ไปเลยก็ว่าได้
“เมื่อคืนดายเค้า.....”แล้วคาโอรุก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับดายให้พวกที่เหลือฟัง ทั้งสามถึงกับตาค้างที่คิดไว้ว่าจะเป็นเรื่องล้อเล่น แต่เห็นจากสีหน้าของเพื่อนแล้วเชื่อได้ว่ามันคือเรื่องจริง (โหมดคนแต่งขี้เกียจอ่ะเห่อๆขออำภัย)
“นี่ดูปฏิทินนั่นสิ วันนี้มันวันฮาโลวีนนี่นา”เคียวชี้ไปยังปฏิทินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะที่อยู่บริเวณภายในห้อง ทุกคนหันไปมองพร้อมกันแล้วหันมามองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย ดายยิ่งตะลึงนี่เขาโดนผีลอกคืนก่อนวันฮาโลวีนหรือนี่ ตอนนี้ไม่มีอะไรมาฉุดรั้งเขาอีกแล้วดายถึงกับลมใส่ลงไปกองอยู่กับพื้นทันที เพื่อนๆตามมาประคองร่างของดายแทบไม่ทัน คนที่เหลือพากันแตกตื่นไปกันใหญ่ไม่คิดว่าคนอย่างดายจะล้มลงง่ายๆอย่างนี้
สรุปวันนี้เลยต้องหยุดซ้อมกันไปสาเหตุเพราะมือกีตาร์ของวงป่วยกระทันหัน  โดนผีคอลาเจนหลอกในคืนก่อนวันฮาโลวีน แง๊ว

END


เรื่องนี้แต่งตอนช่วงฮาโลวีนของปีที่แล้วอ่ะ เห่อๆ

ปล.แอบตกใจพี่บลูให้เป็นคนดูแลฟอรั่มนี้ กับฟอรั่มข้างบน ขอบคุณค่ะจะพยายามน๊า ฝากคอมเม้นต์ด้วยน๊า

caneton

  • บุคคลทั่วไป
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #2 เมื่อ05-10-2006 12:51:05 »

เหอะๆๆๆๆ คิดได้งัยเนี่ย ผีคอลลาเจน :e6:

ออฟไลน์ no-reply

  • เซียนเป็ด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
    • blog พันทิป
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #3 เมื่อ05-10-2006 22:24:48 »

กร๊ากกๆ ขำดีครับเรื่องนี้
นึกภาพคนญี่ปุ่นท่องนะโมตัสสะ กับแผ่เมตตา คนไทยยังจำไม่ค่อยได้เลย
ฝากดูแลบอร์ดด้วยละกันนะครับ
หุหุ
 :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #4 เมื่อ17-05-2008 00:24:57 »

เหอๆๆๆๆ  o2

ว่างๆอยู่เลยหาอะไรแปลกๆอ่าน
กร๊ากกกกๆๆๆๆๆๆ

 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #5 เมื่อ03-10-2011 23:18:28 »

 น่าสงสารดาย  :monkeysad:  แต่ผีคอลลาเจน น่ากลัวมา :sad4: :sad4:

tent bodyslam

  • บุคคลทั่วไป
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #6 เมื่อ11-10-2011 16:33:44 »

อิอิ ไม่ได้อ่านฟิคของวงนี้มานานมากแล้ว  คิดถึงจัง   ชื่อตอนฮาดี ผีคอลลาเจน อิอิ   
แล้วก็ฟิคของวงนี้อยากอ่านเรื่อง "ขัตติยะมานะ"(นานมากสมัยเรียนม.ต้นเลยทีเดียว) อ่ะ  ประทับใจ
ใครมีเอามาลงหน่อยเน้อ  จะขอบพระคุณยิ่งจ้า~*

Peridot_Garnet

  • บุคคลทั่วไป
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #7 เมื่อ20-09-2014 19:43:51 »

คอลลาเจน~!!!  เก๋ไก๋มาก :hao6: ฮ่าๆๆๆ
ปล.สาวกวงนี้ด้วยคน คิดถึงแฟนฟิคเจร็อคมากมาย

ออฟไลน์ GMT101

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #8 เมื่อ24-06-2017 18:48:57 »

 :mew1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
«ตอบ #9 เมื่อ26-06-2017 22:10:58 »

น่ารักอ่ะ  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [J-rock fiction]The ghost ผีคอลลาเจน Dir en grey
« ตอบ #9 เมื่อ: 26-06-2017 22:10:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด