ขอโทษที่มาช้าอีกแล้วค่ะ พอดีไฟนอลยังไม่เสร็จเลย ฮื่อ
จารย์แกเลื่อนส่งมาพุทธนี้
แล้วยังมีคอมมิชชั่นงานวาดจากพี่หรั่งอีก
คนเห็นแก่เงินอย่างเราก็ต้องรีบคว้าไว้อยู่แล้ว เลยมาต่อสายไปหน่อย
ปล.เรารับวาดภาพปลากรอบราคาย่อมเยาว์อยู่นะคะ ดูตัวอย่างอื่นๆ ได้ในเพจค่ะ >
https://www.facebook.com/RamunonArt/ตัวอย่างงาน
ตอนที่11 นวดคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด
ผมรู้สึกว่ามันเป็นแผนที่ตัวเองเสียเปรียบที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้ แต่จะอย่างไรก็ดีถ้าไม่เสี่ยงกับแผนนี้ อีกสักพักก็ต้องวิ่งหนีซอมบี้กันอยู่ดี ดังนั้นเสี่ยงโดนไอตัวนี้กัดแล้วไม่รับรู้อะไรก็ดีกว่าต้องไปถูกซอมบี้กว่าร้อยตัวรุมแทะแน่นอน
แผนบัดซบที่ว่าก็ไม่มีอะไรมาก แค่ให้ผมไปยืนจ้องตาเจ้าขนปุยนั่นไว้แล้วพยายามสะกดจิตและหลอกล่อมัน ส่วนคนที่เหลือก็แค่หาที่วางระเบิดมันแล้วไปหลบในที่ปลอดภัย ง้ายง่ายเนอะว่าไหม?
อ้าวแล้วงี้ผมก็โดนระเบิดกระจุยไปด้วยนะสิ?
แน่นอนว่าผมไม่ยอมเสียสละตัวเองแน่ๆ โชคยังดีที่ดอมมีเจ้าโล่ที่สามารถกันระเบิดระดับรุ่นแรงได้อยู่ แต่สามารถใช้ได้แค่สิบวิเท่านั้น มันเป็นวัตถุทรงกลมเท่าลูกปิงปองและมีปุ่มให้กดตรงกลาง และเมื่อกดเจ้าปุ่มนั้นก็จะมีบาเรียสีฟ้าใสออกมาครอบตัวผมไว้ไม่ให้กลายเป็นดวงดาวบนฟากฟ้าจากแรงระเบิดไปเสียก่อน
แต่อนิจจา ความไม่แน่นอนคือความแน่นอน…….แน่นอนว่ามักจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันเสมอ
เพราะหลังจากทดลองกับลีฟจนมันใจว่าทำได้แน่นอนแล้ว ผมก็ทำใจกล้าทำตามแผนทันที ซึ่งก็’เหมือน’จะราบรื่นดีอยู่หรอก ถ้าเจ้าแมงมุมน่าตายนี่ไม่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาเกาะหน้าผมจนสมาธิกระเจิดกระเจิงไปเสียหมด ส่งผลให้เจ้าปุยนั่นรู้สึกตัวแล้วกระโจนเข้ามาเพื่อจะกัดผมด้วยความแค้น
ผมหลับตาลงเตรียมรับความเจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า…..
แผละ!
หืม? เสียงอะไร คงไม่ใช่เสียง ‘มัน’ พุ่งมาแหวกท้องผมใช่ไหม
“อ๊ะ”
ผมจ้องไปที่ ‘อดีต’ เจ้าขนปุยซึ่งตอนนี้กลายเป็นอะไรที่เละๆ ไปแล้ว ยิ่งเจ้าเท้าสีดำมะเมื่อมที่มีกรงเล็บแหลมคมนั่นยกขึ้นมา มันยิ่งเหมือนหมากฝรั่งยืดๆ ที่มีเศษขนและเนื้อมากเลยทีเดียว
“เจคราท!”
ผมรีบวิ่งไปกระโดดกอดเจ้าเอเลี่ยนสีดำมะเมื่อมนั่นทันที ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เห็นหน้าเจคราทโดยเฉพาะร่างนี้แล้วจะรู้สึกดีใจเท่านี้มาก่อน
และไม่ใช่แค่เจคราทเท่านั้น ยังมีคนใส่ชุดบอดี้สูทอีกสิบกว่าคนและคนอีกเกือบยี่สิบคนในชุดกราวติดตราสัญลักษณ์ที่ผมมักจะเห็นบ่อยๆ ตอนอยู่ในโรงแรมและระหว่างทางเดินในห้องโถงตอนที่พวกเรากำลังไปขึ้นลิฟท์พร้อมอาวุตกับอุปกรณ์แปลกๆ อีกมากมาย
“เที่ยวเล่นจนพอใจแล้วหรือยังล่ะที่รัก หืม” ไม่ว่าเปล่า หมอนั่นดันเอาหนวดสองเส้นมาหยิกแก้มผมจนยืดเป็นแป้งโมจิอีกด้วย ผมเลยจัดการงับหนวดหมอนั่นแบบเต็มแรงไปทีนึงซึ่งก็ไม่ได้สะเทือนเขานักหรอก
“มาช้า! ลูกหิวจะแย่แล้ว”
“น่าๆ เดี๋ยวกลับไปป้อนลูกเสร็จแล้วจะพาไปกินร้านxxx”
ชิ เห็นว่าร้านนั้นเข้าไม่ได้ง่ายๆ แถมขนมขึ้นชื่อลือชาปานอาหารเทวดาลงมาทำเองหรอกนะผมถึงได้ยอมง่ายๆ น่ะ และเมื่อผมตอบตกลงเจคราทก็(แสยะ)ยิ้มหน้าบานเชียว
“เอ่อ อะแฮ่ม!”
ยังไม่ทันที่เราจะได้คุยกันต่อก็มีเสียงขัดขึ้นมาเสียก่อน เป็นดอมนั่นเอง แถมพ่วงมาด้วยเพื่อนร่วมกลุ่มของผมที่ทำหน้างงเป็นไก่ตาแตกยืนอยู่ข้างๆ เขา เจคราทจึงทิ้งผมไว้กับพวกลีฟ ส่วนตัวเองก็ไปคุยกับดอมอีกที่หนึ่งซึ่งค่อนข้างไกลเนื่องจากไม่อยากให้พวกลีฟได้ยิน แต่แน่นอนมันไม่ไกลเกินไปสำหรับหูของผมแน่ๆ
และจากที่ได้ยินคร่าวๆ ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากระบบผิดพลาดแต่เป็นเพราะมีพวกไม่หวังดีเข้ามาปั่นป่วนเพื่อจะได้โขมยบางอย่างไป และในทีแรกพวกมันคิดจะลักพาตัวเอเดนไปด้วย แต่ก็ไม่สำเร็จ แถมครั้งนี้ของที่ได้ไปยังเป็นของปลอมอีกด้วย
“เอ่อ เซน เอเลี่ยนตนนั้น……”
“อืม ‘ผัว’ ฉันเอง” ผมหันไปตอบลีฟที่ถามขึ้นมา
ลีฟ เจ และยานอฟได้แต่ทำหน้าตกใจแล้วร้องห๊ะ ยาวๆ ออกมาคนละทีเหมือนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมเพิ่งบอกพวกเขาไป ส่วนผมก็ได้แต่กลั้นหัวเราะไว้หลังจากได้แกล้วพวกเขาไปยกหนึ่ง
หลังจบเรื่องผมก็ได้แต่บอกลากับพวกลีฟอย่างรู้สึกเสียดายแบบสุดๆ เพราะอยากอยู่ ‘สนุก’ ต่อนั่นเอง แต่เนื่องจากนี่ไม่ใช่การมารวมกลุ่มเล่นสนุกแต่พวกเขามาสอบเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษของนาซ่า ซึ่งมีงานหลักๆ คือจัดการกับเอเลี่ยนต่างด้าวที่มาอย่างไม่ถูกกฏหมายดาวโลก(?)และยังมาก่อความวุ่นวายอีกด้วย ส่วนงายลองลงมาคือจัดการกับมนุษย์กลายพันธุ์บ้าง พวกมีพลังจิตแต่ชอบใช้ผิดๆ บ้าง องค์กรชั่วร้ายที่ชอบทำอะรแปลกๆ เช่นเอาคนตาดำๆ และไม่ดำไปทดลองบ้าง ซึ่งงานลองๆ ที่ว่านี้ก็มักจะมีหน่วยงานของอีกที่จัดการอยู่แล้ว แต่บางทีก็ต้องส่งคนของทางนี้ไปร่วมมั่งเพราะคนน้อย
ฟังดูแล้วตื่นเต้นเป็นบ้า นี่มันอาชีพในฝันของเด็กผู้ชายเกือบทั่งโลกชัดๆ!
ติดก็แต่ผมกำลังท้องเอเลี่ยนตัวนึงอยู่ แถมพ่อมันหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอมให้ผมมาทำงานเสี่ยงอันตรายแบบนี้อย่างเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม
เฮ้อ!
และเนื่องจากเจคราทไม่ต้องการเปิดเผยตัวรวมทั้งไม่อยากให้ผมเผยตัวด้วยเช่นกัน งานนี้ความดีความชอบทั้งหมดจึงตกใส่หัวพวกลีฟเต็มๆ แม้จะน่าหงุดหงิดเล็กน้อยที่ไม่ได้มีส่วนร่วม แต่ก็ยังยินดีกับพวกนั้นที่ไม่ทันไรก็ได้เลื่อนขั้นซะแล้ว
โชคยังดีที่ทุกคนได้รับวักซีนทันจึงไม่มีใครกลายเป็นซอมบี้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะเป็นไหมเพราะเจ้าตัวหัวหน้าดันถูกเจคราทเหยียบซะเละเป็นขี้เปียกข้างถนนไปซะแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม การสอบบรรจุเข้าหน่วยรบพิเศษนี้ก็ต้องถูกเลื่อนไปก่อนอยู่ดี และมีเพียงแค่กลุ่มของเราเท่านั้นที่ผ่านการสอบ
และเมื่อกลับมาที่เกาะ สิ่งแรกที่ผมก็คือการนอนอืดเป็นหมูอยู่หลายวัน เพราะเสียพลังงานไปค่อนข้างเยอะ อีกทั้งกำลังท้องกำลังไส้ด้วย
พอครบเดือนผมก็มีอาการคลื่นไส้เล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้รุนแรงเท่าท้องแรก แต่เพลียมากกว่าครั้งแรกอยู่มาก หมอเอเว่นว่าน่าจะเป็นเพราะเพิ่งโดนวางไข่ไปสามฟองและคลอดได้ไม่ทันไรก็ตั้งท้องอีกแล้ว แถมยังไป ‘เล่นซน’ มาอีก ไม่แปลกที่จะโดนดูดสารอาหารมาเลี้ยงครรแล้วไม่พอที่จะหล่อเลี้ยงร่างกาย แม้ว่าจะได้รับสารอาหารจากเจคราทด้วยก็ตาม
“อะ อือ”
นี่ก็สามเดือนแล้วใกล้ได้เวลาคลอดแล้ว ตอนนี้ท้องผมมีขนาดโตกว่าคนท้องเก้าเดือนอยู่เล็กน้อยเท่านั้นเอง เพราะคราวนี้มีไข่แค่ฟองเดียว
สวบ….สวบ….
เสียงเหนอะหนะและเสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นเมื่อเจคราทขยับรยางค์ที่มีตุ่มนูนๆ นั่นในช่องทางของผมไปมา เขาบอกว่าเป็นการ ‘นวด’ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดครั้งนี้ ซึ่งมีหมอเอเว่นทำหน้าแปลกๆ ช่วยยืนยันอยู่ข้างๆ และแม้จะแอบสงสัยไปบ้างแต่ก็ยอมให้เขาทำแต่โดยดี
เจ้ารยางค์สายนั้นขยับควงไปมาอย่างหนักแน่น พาตุ่มไต้บนนั้นขยับครูดช่องทางของผมจนข้างในนั้นต้องเต้นตุบๆ ตอบรับมัน
“อ๊า!”
ผมร้องออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อถึงจุดสุดยอดเป็นรอบที่ห้าของวัน และปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นออกมาโดยมีหนวดเส้นหนึ่งของเจคราทที่มีปลายแหลมสอดเข้าไปในเซนน้อยของผมแล้วดูดมันจนเกลี้ยง
เมื่อเห็นว่าผมคงไม่ไหวแล้วเจคราทจึงหยุดและดึงหนวดของเขาออกมาจนเกิดเสียงดัง ‘โบ๊ะ’ ขึ้น พาให้รู้สึกอับอายแปลกๆ สัมผัสได้ว่าช่วงล่างต้องเป็นรูโบ๋มากแน่ๆ เพราะรู้สึกเย็นไปถึงข้างในเมื่อมีลมพัดผ่าน แต่ด้วยความเหนื่อยผมจึงหลับไปทั้งๆ ที่ยังนอนแบะอ้าขากว้างอยู่นั่นเอง
ตกดึกคืนนั้นผมก็รู้สึกเหมือนปวดท้องขึ้ขึ้นมาและมีน้ำที่ร้อนและมันๆ ลื่นๆ ไหลออกมาจากช่องทางด้านหลังเป็นจำนวนมาก อันเป็นสัญญานว่าได้เวลาเอเลี่ยนน้อยลืมตาออกมาดูโลกแล้ว
อันนี้ผมไม่แน่ใจนักว่าเป็นเพราะการ ‘นวด’ ของเจคราทเมื่อตอนกลางวันหรือมันถึงกำหนดเวลาคลอดแล้วจริงๆ กันแน่ แต่ที่รู้ๆ คือคราวนี้ผมคลอดได้อย่างคล่องตูดขึ้นมากเลยทีเดียว
เจ้าลูกเอเลี่ยนน้อยตัวนี้ก็มีลักษณะเหมือนพี่ๆ มันทั้งสามตัวก่อนหน้า คือหัวเหมือนปลาโลมาสีชมพูแต่ลำตัวยาวเกือบเมตรดวงตากลมโต และแขนขาแนบลำตัวที่ค่อนข้างยาวจนดูเก้งก้าง ผิดก็แต่ว่ามันมีสีเข้มกว่าและตัวดูอวบและยาวกว่าเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งหมอเอเว่นสันนิฐานว่าน่าจะเป็นเพราะคราวนี้มีไข่แค่ฟองเดียว เจ้าตัวนี้จึงได้รับสารอาหารเต็มที่แถมตอนนี้มดลูกผมก็สมบูรณ์แล้วด้วย
เจ้าพวกสามตัวก่อนหน้านี้สามารถออกไปวิ่งเล่นนอกตู้ปลากันได้แล้ว ตอนนี้จึงเหลือแต่ผมกับเจ้าเอเลี่ยนน้อยตัวที่สี่ที่อยู่ในนี้และกำลังดูดนมผมเสียงดังจ๊วบๆ อยู่
ซึ่งการดูดนมของพวกมันก็ค่อนข้างแปลก เพราะนอกจากจะเอาปากที่ฟันยังไม่ขึ้นนั่นมาดูดๆ แล้ว มันยังใช้ลิ้นที่มีปลายเล็กแหลมนั่นแทงเข้ามาในนมผมอีกด้วย แม้มันจะไม่เจ็บเท่าไหรแต่ก็เสียวซ่านพอดู และโชคยังดีที่พวกมันอาศัยนมผมแค่สามวันเท่านั้น
หลังจากผมคลอดลูกได้เพียงสิบกว่าวันก็มีจดหมายร่อนมาถึงมือเจคราท ว่าด้วยการประชุมระหว่างดวงดาวครั้งที่ 13 ซึ่งจัดทุกๆ 5 ปี และจัดครั้งแรกเมื่อ 65 ปีก่อน
แน่นอนว่าผมต้องขอไปด้วยอยู่แล้ว ถึงแม้เจคราทจะห้ามด้วยเหตุผลอันตรายร้อยแปด แต่รอบนี้ผมยังไงก็ไม่ยอมเหมือนกัน เจคราทจึงได้แต่ต้องใจอ่อน ยอมให้ผมตามไปแต่โดยดี
พวกเด็กๆ ที่สามารถกลายร่างเป็นคนได้แล้ว แถมยังฉลาดเกินวัยพวกนั้นก็อยากตามเรามาด้วยเหมือนกัน และแน่นอนว่าทั้งผมกับเจคราทไม่มีใครยอมให้มาแน่ๆ แม้ว่าพวกเขาจะเบะปากทำตาหวานๆ ใส่แค่ไหนก็ตาม หรือแม้กระทั้งขู่พ่อของมันว่าจะจับแกะในฟาร์มมากินให้หมดเจคราทก็ไม่หวั่น เขาตอกกลับพวกเด็กๆ ว่าอยากกินเท่าไหรก็เชิญ พ่อมีปัญญาสั่งมาอีกจนเต็มเกาะ ทำเอาพวกเด็กๆ จอมแสบเบะปากมองบนไปเลย
เมื่อถึงกำหนดเวลาขึ้นเครื่อง พวกเราก็ไม่เห็นเด็กๆ สักคนเดียว สงสัยจะยังงอนกันไม่หาย เดือดร้อนพี่เลี้ยงจำเป็นอย่างหมอเอเว่นและผู้ช่วยหมออย่างคุณนีทต้องออกตามหากันวุ่นวาย
จนแล้วจนรอดพวกเด็กๆ ก็ไม่ได้มาส่งเราขึ้นเครื่อง ผมแอบรู้สึกใจหายเล็กน้อยเพราะช่วงก่อนนี้คลุกตัวอยู่กับเด็กๆ ตลอดเวลา พอต้องแยกจากกันแม้สักพังก็รู้สึกแปลกๆ ได้เหมือนกัน
เพิ่งคิดถึงพวกเด็กๆ ได้ไม่ทันไรก็รู้สึกได้ว่ามีเสียงเหมือนเด็กผู้ชายสามคนคุยกันงุ้งงิ้งๆ อยู่ตรงไหนสักแห่ง และแน่นอนว่าถ้าผมได้ยิน เจคราทนั้นก็ไม่พลาดแน่นอน…
“เมคิน! เมฆา! เมคีย์!”
เพี้ย!ๆๆๆๆๆๆๆๆ
ได้ยินเสียงตวาดเรียกชื่อลูกทั้งสามตามมาด้วยเสียงฟาดหนวดลงบนเนื้อนุ่มๆ นั่นก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น คงเป็นพวกสามเด็กแสบแฝดสยองแอบขึ้นเครื่องตามพ่อกับแม่มันมาแน่ๆ
แต่รู้แล้วแทนที่จะโกรธ ผมกลับรู้สึกดีใจขึ้นมาที่ทริปนี้มีเด็กๆ มาเป็นเพื่อน ‘เล่น’ ด้วย
อ๊ะ แต่จะว่าไปก็ยังไม่ได้ถามเจคราทเลยแฮะ ว่าไอเจ้างานชุมนุมเหล่าเอเลี่ยนนั่นมันจัดขึ้นที่ไหนกันแน่น่ะ
และเมื่อเจคราทจัดการกับพวกเด็กๆ เสร็จ ผมก็รีบถามทันที แต่คำตอยที่ได้กลับทำให้ผมอยากหยิบร่มชูชีพแล้วโดดลงมันซะตรงนี้เสียเหลือเกิน ในเมื่อมันจัดที่ไหนไม่จัด ดันมาจัดที่บ้านเกิดพ่อของผมอย่างมอสโคซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัสเซีย!
จะกลับลำตอนนี้ก็คงไม่ทัน แถมเจคราทยังช่วยยืนยันอย่างหนักแน่นว่าตนเองมีอำนาจมากกว่าอาของผมหลายเท่า จึงได้แต่พยายามทำใจให้สงบร่มเย็นทั้งๆ ที่ในใจกระวนกระวายจะแย่
แต่เมื่อได้คุยและเล่นกับพวกเด็กๆ อยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ ของเจคราทไปสักพักก็รู้สึกเหมือนว่าความกังวลพวกนั้นได้หายไปจนหมดสิ้น เพราะนึกได้ว่าตอนนี้ผมไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้ว แถมยังมีผัวเส้นใหญ่มากๆ อีกด้วย
บนเกาะ……
“พวกเด็กๆ หายไปไหนกันหมดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”
ได้มีหมอกับผู้ช่วยจากดาวอันแสนห่างไกลใกล้สติแตกสองคนวิ่งวุ่นหาลูกๆ หัวหน้าเอเลี่ยนของตนจนหัวฟูไปหมด เพราะหากเกิดอะไรกับพวกเด็กๆ ที่ตายก่อนเพื่อนน่าจะเป็นพี่เลี้ยงอย่างพวกเขานั่นเอง
ช่างหน้าสงสาร…….