ตอน 11.2จีบอย่างไรให้ได้แฟน ประเมินทักษะในการจีบ
‘คะแนนของคุณคือ 0-15 คะแนน อยู่ในเกณฑ์ เด็กทารก
ความหมาย – คุณยังคงไร้ความสามารถในการที่จะจีบใครสักคน ไม่รู้จักในการใช้คำพูด การแสดงออก หรือแม้แต่การสร้างสถานการณ์
วิธีพัฒนาทักษะ – คุณเหมือนเด็กทารกแรกเกิดที่จะมีพัฒนาการตั้งแต่ คลาน เดิน วิ่ง อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรใจร้อนที่จะรุกอีกฝ่ายมากเกินไป ควรแสดงออกในมุมที่สดใส น่ารักและไร้เดียงสา ให้อีกฝ่ายได้เห็นถึงความรักอันแสนบริสุทธิ์ของคุณ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ เด็กมักไม่โกหกผู้ใหญ่ชอบกล่าวแบบนั้น
คำแนะนำเพิ่มเติม –หากมีเวลาอยู่กับคนที่ชอบคุณต้องรู้จักหยิบชวยโอกาสในช่วงเวลานั้นให้เกิดประโยชน์มากที่สุด’ตอนนี้พวกเรากำลังช่วยกันนับของที่ได้มาแล้วจัดวางเป็นกลุ่ม พร้อมติดป้ายชื่อกลุ่มคำว่าตัวเล็กตัวโตที่พี่เขาเขียนด้วยปากกาเคมีใส่กระดาษเอสี่มาให้ เห็นกลุ่มอื่นๆก็มีกระดาษป้ายชื่อกลุ่มมาแปะของใช้ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเช่นเดียวกัน ซึ่งผมขออธิบายคร่าวๆก่อนว่า สมาชิกที่มาร่วมค่ายอาสาในครั้งนี้มีปีหนึ่งที่ลงทะเบียนไว้ 160 คน แต่ก็มาไม่ครบตามจำนวน ที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งในจำนวนนั้นก็เป็นดาวเดือนของทั้ง 15 คณะ ให้เป็นหน้าเป็นตากับมหา’ลัยได้ดีจริงๆ
ซึ่งตอนที่พี่เขาทำการแบ่งกลุ่มพวกเราด้วยการสันทนาการเมื่อช่วงเช้าทำให้เราแตกออกเป็น 13 กลุ่ม เฉลี่ยกันไปกลุ่มละ 10-12 คน โดยที่มีการแบ่งหน้าที่เป็นกลุ่มทาสีทั้งหมด 6 กลุ่ม ทำความสะอาดพื้นที่รอบๆ 3 กลุ่ม ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ 4 กลุ่ม โดยที่พี่ทหารช่วยพวกเราซ่อมแซ่มอาคารก่อนที่จะลงมือจัดการในส่วนต่างๆตามหน้าที่ที่ได้รับ
โรงอาหารเก่าที่ทรุดโทรมของโรงเรียนบ้านโนนคำอยู่ห่างจากลานอเนกประสงค์ของพวกเราประมาณ 200 เมตร ซึ่งถือว่าไม่ไกลนัก หลังจากที่พวกเราเรียงของที่จะต้องใช้เรียบร้อยถึงได้มาช่วยพี่ทหารเตรียมอุปกรณ์สำหรับซ่อมหลังคาที่มีรอยรั่ว พวกเราช่วยเหลือกันอย่างขมักขเม้น ในขณะที่พวกพี่สต๊าฟเกณฑ์ผู้หญิงบางคนไปช่วยแม่บ้านของโรงเรียนจัดเตรียมเรื่องอาหาร
ผมกับแทนคุณเองก็กำลังช่วยกันยกเก้าอี้และโต๊ะออกมาจากในโรงอาหารเหมือนกับเพื่อนๆ พอวางของที่ช่วยกันยกมาเสร็จ ดาวมหา’ลัยปีนี้ก็รีบเดินเข้ามาหาแทนคุณทันที
“แทนคุณ ดื่มน้ำก่อนนะคะ”
“อุ๊ย คอแห้งพอดีเลยอ่า” แต่ยังไม่ทันที่แทนคุณยื่นมือออกไปรับหรือกล่าวขอบคุณอะไร เอร่าเพื่อนใหม่แสนดีของผมก็ยื่นมือมาขวางตัดหน้าไปเสียก่อน
“ขอบคุณนะคะ ดีว่า” พูดจบก็ดื่มน้ำอึ่กๆ ทำให้ดีว่าได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนจะสะบัดหน้าหนี
“อิอิ แกล้งชะนีได้แล้ว สะใจ ไปดีกว่า” แล้วเอร่าก็เดินจากไปด้วยอีกคน ซึ่งไม่ได้ไปไหนไกลหรอก กำลังไปก่อกวน ตินเดือนวิศวะฯที่นั่งพักเหนื่อยอยู่
“ยู คุณ น้ำมั้ย” เสียงของอันอันที่เดินถือถาดน้ำตรงมาทางนี้ดังขึ้น ให้ผมหันไปมองแล้วหยิบน้ำส่งให้แทนคุณ ก่อนจะหยิบของตัวเองมาอีกแก้ว แล้วอันอันก็เดินจากไป ปล่อยผมกับแทนคุณไว้แค่สองคน
“เหนื่อยมั้ย”
“สนุกดี” ผมตอบกลับพร้อมส่งยิ้มกว้างให้
“แต่เหงื่อมึงออกเต็มเลยนะ หน้าแดงด้วย ไหวหรอวะ”
“ไหวสิ มีมึงเป็นกำลังใจอยู่แบบนี้ ยังไงกูก็ไหว” ผมหยอดอีกฝ่ายกลับไป พลางลอบมองว่าแทนคุณแสดงท่าทางแบบไหนออกมา แต่เขาแค่เลิกคิ้วใส่ สงสัยจะตกใจที่ได้คำพูดแบบนี้จากผม
“เข้าใจพูดนะ” เขาว่าแต่แอบหันหน้าไปทางอื่น ผมถึงได้แอบเอี้ยวตัวมองแล้วเห็นว่าแทนคุณกำลังยิ้มอยู่ ผมกำลังจะเอ่ยปากแซว แต่กลับมีมารผจญอีกแล้ว เมื่อนายติน เดือนวิศวะตะโกนเรียกคนตรงหน้าผมให้ไปช่วยแบกของ
“เฮ้ ไอ้คุณ ช่วยทางนี้ที”
เขาตอบรับแล้วเดินไปทางตินทันที ทิ้งให้ผมยืนอยู่ที่เดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือผมยิ้มมองตามหลังแทนคุณ แสดงว่าวิธีจีบแบบนี้ได้ผลเหมือนกันแหะ
ผมกำลังจะเดินไปสมทบกับเพื่อนคนอื่น หากไม่ใช่เพราะโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงสั่นครืดๆ ผมหยิบมันออกมาแล้วต้องตกใจเมื่อพบว่ามันคือไอโฟนของแทนคุณ เพราะผมยังไม่ได้เอาคืนเขาตอนที่เรายืนคุยกันข้างสระน้ำหลังโรงเรียน
ข้อความแจ้งเตือนที่โชว์อยู่ตอนนี้มาจากแอพฯไลน์ของแทนคุณ คนส่งมาคือน้องเจ้าขา และมันก็เด้งขึ้นมาอีกสองสามข้อความ ผมมองหาแทนคุณแต่ร่างสูงนั้นหายไปไหนไม่รู้
ถ้าเกิดว่าผมจะขอแอบดูหน่อยจะเสียมารยาทไหมนะ
แต่แทนคุณเคยให้สิทธิผมในทุกๆเรื่องเลยนี่ ผมคิดกับตัวเองก่อนตัดสินใจสไลด์นิ้วปลดล็อกหน้าจอที่แทนคุณไม่ได้ตั้งรหัสไว้ และทำการเผือกในไลน์เจ้าของเครื่องกับน้องสาวทันที
JaoKha: พี่คุณดูความเพ้อของพี่ยูสิ
JaoKha: Sent a photo
JaoKha: น่าร๊ากกก อ่า
JaoKha: Sent a sticker
ผมมองภาพที่น้องเจ้าขาส่งมาให้แทนคุณ มันเป็นภาพจากอินสตาแกรมของผม คำถามคือ น้องเจ้าเอามันมาจากไหน ไม่รอช้าผมรีบพิมพ์ข้อความถามกลับไปทันที
TK-KHUN: ไปเอามาจากไหนคะ
แอบสวมรอยเป็นแทนคุณเสียเลย เพราะผมเคยได้ยินเวลาเขาคุยกับน้อง เขามักจะใช้คำว่า คะ มากกว่า ครับ
JaoKha: พี่อันอันแคปมาให้ค่ะ มีอีกนะ เดี๋ยวเจ้าส่งให้
แล้วน้องเจ้าก็รัวส่งภาพมาในไลน์ ทำเอาผมอ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าน้องเจ้าจะส่งมันมาให้แทนคุณ และไม่คิดว่าอันอันจะทำแบบนี้ แต่ถามว่าโกรธไหม ไม่มีความรู้สึกนั้นเลย มีแต่ความรู้สึกเขินอายมากกว่า
“ทำอะไร”
เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว พอหันหลังไปมองก็เห็นว่าเป็นแทนคุณ แต่ผมไม่สามารถซ่อนของกลางในมือได้ และไม่สามารถโกหกอะไรได้ด้วย นอกจากยอมจำนนด้วยหลักฐานว่าถือวิสาสะแอบอ่านไลน์ของคนอื่น
“ซนจริงๆนะมึง” แทนคุณไม่ได้มีท่าทีโมโหหรือโกรธอะไรที่ผมแอบเล่นไอโฟนของเขา นอกจากหยิบเอาของกลางออกจากมือผมแล้วไปดูเอง
“หือออ มึงสมัครไอจีไว้เพ้อหรอเนี่ย”
“ก็...ก็ใช่น่ะสิ” ไม่รู้จะแก้ตัวทำไม ก็ยอมรับไปไปตรงๆนั่นแหละ
“ไม่ต่างกับกูเลยเนอะ ที่สร้างไอจีไว้เพ้อเหมือนกัน แต่แค่ระดับความเพ้อของมึงนี่กูยอมแพ้เลย”
“แต่กูว่าต่างนะ”
แทนคุณเงยหน้ามองผมแทนการดูภาพแคปจากไอจีของผมในไอโฟนตัวเอง
“เพราะว่าความเพ้อของมึง มีโรมในความทรงจำจริงๆ แต่ความเพ้อของกูมันเป็นเพ้อข้างเดียว”
แปะ!
“โอ้ย ชอบทำร้ายร่างกาย” ผมลูบหน้าผากตรงที่โดนแทนคุณตีลงมาเบาๆ แต่ไม่ได้เจ็บมากนักหรอก
“เลิกพูดอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ได้แล้ว”
“ก็มันเรื่องจริงนี่” ผมยู่ปากนิดๆ มือยังคงถูหน้าผากตัวเองไปมา
“แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ กูจะเป็นยูคนใหม่” ผมมองหน้าแทนคุณ สบตาเขาไม่มีหลบ ซึ่งอีกฝ่ายก็มองอยู่เช่นกัน และรอฟังในสิ่งที่ผมกำลังพูด
“กูจะเป็นแบบเด็กทารกที่ให้มึงมาช่วยฝึกพัฒนาการให้ คลาน เดิน วิ่ง” แทนคุณเลิกคิ้วมองผมด้วยสีหน้าที่บอกว่าเขากำลังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด
“กูจะให้มึงได้ประคับประคองกู ดูพัฒนาการของกู อยู่กับกูนานๆไง”
แทนคุณทำท่าพยักหน้าเข้าใจ พร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะ
“หมายถึงมึงอยากได้กูเป็นพ่อ อย่างนั้นสินะ” ผมแยกเขี้ยวใส่พร้อมชกเข้าที่อกของอีกคน เพราะขี้เกียจยืดแขนมากมันเมื่อย
“ความจริงก็คล้ายอยู่นะ มึงเตี้ยขนาดนี้ กูก้มหน้าคุยด้วยจนปวดคอ”
“กวนตีน”
“หยาบคายนะเรา พูดกับพ่อแบบนี้ได้ไง”
“ไอ้บ้า ไม่คุยด้วยแล้ว” ผมว่าแล้วหันหลังให้ เจอกับน้ำหวานและอันอันที่กำลังยืนกระซิบกระซาบกันอยู่ไม่ไกล พลางชี้นิ้วมาตรงที่ผมกับแทนคุณยืนอยู่
“อู้งานกันหรอ พวกมึง” พร้อมกับเสียงมารที่ดังมาอีกครั้งจากนายตินเดือนวิศวะเจ้าเก่า แต่พอเห็นเอร่าเดินเข้ามาใกล้ เขาก็รีบวิ่งหนีไปอีกทาง ซึ่งคำพูดของตินนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองพักนานกว่าคนอื่นเขาไปแล้ว ยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากจุดที่ยืน แทนคุณกลับวางมือลงบนไหล่ผมแล้วโน้มตัวมาใกล้ๆ
ผมยื่นนิ่งๆรับฟังเสียงกระซิบข้างหูที่เล่นเอาจั้กจี้ไปถึงในใจให้รู้สึกคันยุบยิบ
“วันหลังถ้าอยากจะเพ้อ ไม่ต้องพึ่งไอจีแล้วก็ได้นะ มีตัวจริงรอให้เพ้อใส่อยู่”
“ไปทำงานได้แล้ว”
เขาพูดจบก็ขยี้หัวผมแรงๆเหมือนทุกครั้งที่แทนคุณชอบทำ สัมผัสที่วางลงมาบนหัวของผมหายไปแล้วเมื่อเจ้าของมือใหญ่นั้นเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ปล่อยให้ผม ยืนยิ้มแก้มแตกอยู่คนเดียว
แทนคุณเป็นคนนิสัยไม่ดีจริงๆ
ชอบให้ความหวังกันอยู่เรื่อย
ขี้อ่อยก็ที่หนึ่ง
แบบนี้ไงถึงไม่กล้าตัดใจสักที
แต่ดีแล้วล่ะที่ไม่ตัดใจไปเสียก่อน ไม่งั้นก็คงไม่รู้ว่าแทนคุณน่ะ จริงใจแค่ไหน
Loading >>>>
มาต่อ จุด 2 ให้ เหลืออีก 1 จุด คือ 11.3 ก่อนต่อตอนต่อไปนะ
จุด 2 สั้นไปนิด ต้องขออภัยด้วยค่า แฮ่