พิมพ์หน้านี้ - - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 19-09-2016 07:39:37

หัวข้อ: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 19-09-2016 07:39:37
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************

(https://upic.me/i/j9/0plogo.jpg)

สุดท้ายนี้ขอขอบพระคุณทุกการติดตาม


...แค่คุณ… by แป้นพิมพ์



ปฐมบท – จุดเริ่มต้น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3474313#msg3474313)
ตอนที่ 1 – เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3474553#msg3474553)
ตอนที่ 2 – ติ่ง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3475913#msg3475913)
ตอนที่ 3 – สมุดหาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3477706#msg3477706)
ตอนที่ 4 – ของหายได้คืน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3478726#msg3478726)
ตอนที่ 5 – ก็จีบสิ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3479490#msg3479490)
ตอนที่ 6 – เขาเป็นอะไรกัน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3480194#msg3480194)
ตอนที่ 7 – สิทธิพิเศษ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3482883#msg3482883)
ตอนที่ 8 – ความกลัว
[1] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3485070#msg3485070)[2] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3485911#msg3485911)
ตอนที่ 9 – สายประหลาด
[1] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3486687#msg3486687)[2] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3487993#msg3487993)
ตอนที่ 10 – ติดอยู่กับตัวเอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3488788#msg3488788)
ตอนที่ 11 – ปลดล็อกความกลัว
[1] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3489647#msg3489647) [2] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3490148#msg3490148) [3] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3492747#msg3492747)
เปิดบันทึกแทนคุณ 1 ตอน อีกด้านของความรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3494283#msg3494283)
เปิดบันทึกแทนคุณ 2 ตอน ความรู้สึกของคนถูกรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3495324#msg3495324)
ตอนที่ 12 – ปล่อย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3496950#msg3496950)
ตอนที่ 13 – พ่อทูนหัว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3500323#msg3500323)
ตอนที่ 14 – เรื่องของเรา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3517637#msg3517637)


ตอนพิเศษ
ตอนพิเศษคั่นเวลา - Missin’U (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55709.msg3510966#msg3510966)





 :mew1:
หัวข้อ: Re: - ONLY YOU - ....แค่คุณ..... : ปฐมบท
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 19-09-2016 07:44:34
ปฐมบท
จุดเริ่มต้น


ผมไม่รู้ว่า ความรู้สึกนี้มันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนไหน
อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนนั้น ที่เขาทำให้ผมตัดสินใจเลือกเรียนคณะนี้ คณะที่ขึ้นชื่อว่า อาร์ตตัวพ่อตัวแม่ขนานแท้

เขา...ที่เป็นจุดเริ่มต้นและเป็นแรงบันดาลใจ

ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าชื่นชอบสิ่งที่เขาสรรสร้าง สิ่งที่เขาถ่ายทอด สิ่งที่เขาแบ่งปัน ทั้งความคิด ภาพวาด ภาพถ่าย แม้กระทั่งท่วงทำนอง เหล่านั้นมากขนาดไหน และจุดเริ่มต้นของมันคืออะไร

อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนที่ผมบังเอิญไปได้ยินมันเข้า  อาจจะใช่แบบนั้นก็ได้

ตอนนั้นผมเรียนอยู่ ม.5 และวันนั้นเป็นวันที่ผมกำลังเดินทางกลับบ้าน ด้วยการโดยสารบีทีเอส ระหว่างที่กำลังยืนรอขบวนรถไฟมาเทียบที่ชานชาลา กลุ่มนักเรียนหญิงประมาณ 3 คนที่ยืนอยู่เบื้องหน้าผมกำลังคุยกันอย่างออกรส พร้อมหยิบยื่นโทรศัพท์ให้กัน ผมไม่ได้จะเสียมารยาทแอบฟังอะไรหรอก แต่เพราะพวกเธอคุยกันเสียงดังเกินไปต่างหาก


“แกดูนี่ ภาพนี้คุณวาดลายเส้นโคตรคมอะ กรี๊ด” สาวผมสั้นทรงบ็อบตัดหน้าม้าเอ่ยขึ้นพร้อมยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนของเธอดู
“เออ ฉันนี่อยากจะถวายตัวเป็นนางแบบให้สักครั้ง” สาวร่างท้วมระยะสุดท้ายที่ถักเปียสองข้างกล่าวสมทบ
“อีเปรี้ยว ดูสารรูปตัวเองด้วยค่ะ ก่อนจะพูด” สมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มที่ใส่แว่นกรอบสีแดง เกล้าผมยกสูงเอ่ยแซว ทำให้เพื่อนที่นามว่าเปรี้ยวนั้นสะบัดหางเปียใส่ เกือบจะฟาดโดนหน้าผมที่ยืนอยู่ข้างหลัง


บทสนทนาถูกหยุดไว้ชั่วคราวเมื่อรถไฟฟ้าจอดเข้าเทียบที่สถานีสยาม ผมเดินตามสาวๆสามคนเข้าไปในขบวน คนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเป็นช่วงที่พนักงานบริษัทยังไม่ค่อยเลิกงาน ผมเข้ามายืนใกล้กับประตูอีกฝั่ง ในขณะที่สาวๆก็มายืนอยู่ไม่ไกลจากผมนัก แล้วพวกเธอก็เสวนาพาเพลินกันต่อในขณะที่ผมเอาแต่ทอดสายตามองไปนอกหน้าต่างดูวิวที่ผ่านสายตาตลอดทาง


“คุณนี่เก่งรอบด้านจริงๆเลยอ่ะ คนอะไรเพอร์เฟ็คชะมัด”
“ฉันอยากเจอคุณตัวจริงอ่ะแก”
“ไปตามที่โรงเรียนม้ะ”
“บ้า ฉันไม่กล้าไปยืนส่องที่หน้าโรงเรียนชายล้วนหรอก หญิงแม่ว่ามันจะไม่งาม”
“กล้าพูดนะคะ”
“แกๆๆ...คุณอัพไอจีอีกแล้วเนี่ย”
“กรี๊ดด  ภาพนี้สวยมาก”
“นี่แก คุณอัพเฟซ บอกว่าคืนนี้จะลงเพลง ขอให้โหวตเพลงก่อน อร๊ายยย ฉันจะได้ฟังคุณร้องเพลงก่อนนอน”
“ฉันเข้าไปโหวตเพลงก่อนนะ อิอิ”

เอี๊ยด…

“โอ๊ะ!”
“ขอโทษค่ะ”

เพราะความที่รถไฟฟ้าเบรกกะทันหัน ทำให้หญิงสาวหนึ่งในสามที่ไม่ทันทรงตัวเอียงมาชนผม ซึ่งคนที่ชนเป็นสาวผมสั้นที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม แต่ถึงกระนั่น ผมกับเธอก็มีความสูงไล่เลี่ยไม่ต่างกัน

“เอ่อ ไม่เป็นไร” ผมขยับแว่นสายตาของตัวเองเข้าที่ พลางผงกหัวให้กับเธอ สายตาเหลือบไปเห็นจอโทรศัพท์ของเธอเข้า สิ่งที่ผมเห็นเป็นภาพถ่ายของท้องฟ้าที่ทอประกายแสงสีส้มของอาทิตย์ที่กำลังตกดิน มันสวยสะดุดตาผมมาก จนทำให้ผมต้องยืนตัวตรงแล้วแอบเหลือบมองกลุ่มสาวๆเล่นโทรศัพท์พลางซุบซิบ กรี๊ดกร๊าดถึงเจ้าของแอคเค้าท์


เธอเลื่อนภาพในโปรแกรม Instagram ไปเรื่อยๆพลางจิ้มสองทีให้ขึ้นไลค์ แล้วเลื่อนนิ้วไล่ภาพต่างๆของแอคเค้าท์นั้น ผมละสายตาไม่ได้ต้องคอยลอบมองราวกับพวกขี้เผือก


สถานีต่อไป อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ...


สาวแว่นแดงกับสาวร่างท้วมโบกมือลาผู้หญิงผมสั้น แล้วเดินออกจากขบวนรถไป ประจวบกับที่นั่งข้างกระจกที่ผมยืนพิงนั้นว่างพอดี สาวผมสั้นคนนั้นเดินไปนั่งที่ที่นั่งสีเหลืองทันที มันเลยทำให้ผมเผือกได้ง่ายขึ้น

เจ้าของภาพเหล่านั้นที่เธอกำลังดูอยู่ ใช้ชื่อแอคเค้าท์ว่า ‘Just-U’ พอเธอเลื่อนดูภาพของคนๆนั้นจนพอใจ กดรัวไลค์ภาพที่เธอยังไม่ได้ไลค์แล้ว เธอก็เปลี่ยนไปเข้าแอพพลิเคชั่นอื่นอย่าง twitter แล้วรัวรีทวิตข่าวของนักร้องเกาหลี นั่นถึงทำให้ผมละความสนใจในการเผือกทันที ก่อนตัดสินใจหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วจิ้มเข้าแอพพลิเคชั่นที่เธอคนนั้นเพิ่งเลิกเล่นบ้าง

ผมค้นหาแอคเค้าท์ของคนๆนั้น พร้อมไล่ดูแล้วก็ได้แต่อิจฉาในฝืมือของคนๆนี้ รวมถึงชื่นชมในผลงานที่เขาแบ่งปัน ผมย้อนกลับไปอ่านบนไบโอของแอคเค้าท์นี้อีกครั้ง เขาเขียนว่า

Tankhun#570014
FB: TK Krittidumrong

ผมจำตัวอักษรเหล่านั้น แล้วเปลี่ยนแอพพลิเคชั่นไปยังไอค่อนตัว F สีน้ำเงินแทน แล้วรัวนิ้วพิมพ์ลงในช่องค้นหา

ผลลัพธ์เป็นหน้าเฟซบุ๊คของเจ้าของไอจีที่ผมไปส่องพร้อมกดติดตาม ภาพโปรไฟล์เป็นภาพของชายคนหนึ่งที่กำลังก้มหน้าเล่นกีต้าร์ที่อยู่ในมือ เสียดายที่โปรไฟล์เขาถูดปิดไว้ในที่สาธารณะ ผมกำลังจะกดออกแล้วล่ะ เพราะไม่กล้าแอดเพื่อน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

สถานีต่อไปสถานีปลายทาง หมอชิต….

ผมยัดมือถือลงกระเป๋ากางเกงพร้อมกับเดินออกจากขบวนรถเมื่อเทียบท่าเรียบร้อยและไปต่อรถตู้ที่สามารถพาผมไปถึงบ้านที่ตั้งอยู่แถวรามอินทราได้ ผมใช้เวลาเดินทางพอสมควรจนถึงบ้าน เผลอหลับไปด้วยในช่วงที่นั่งรถมา ดีที่สะดุ้งตื่นก่อนจะถึงป้ายบ้านตัวเองอีก 2 ป้าย

ผมกลับมาถึงบ้านเป็นคนแรก ส่วนคนอื่นๆนั้นจะมาถึงประมาณหนึ่งทุ่มซึ่งตอนนี้ก็ใกล้หกโมงครึ่งแล้ว
ผมขึ้นมาบนห้องพร้อมกับจัดการตัวเองเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดธรรมดา

ติ๊ง! ครืด…

เสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่ผมวางบนโต๊ะเขียนหนังสือดังขึ้น ให้ผมหยิบมันมาดู แล้วดวงตาหลังแว่นของผมก็ต้องเบิกโตขึ้นด้วยความตกใจ

TK Krittidumrong ได้รับคุณเป็นเพื่อน

ผมเผลอไปกดแอดเขาตอนไหน แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็เลยตามเลย เข้าไปส่องเฟซฯของเขา แล้วก็พบว่าเขานั้นค่อนข้างเป็นที่รู้จักด้วยจำนวนเพื่อนที่ทะลุไป 2 พัน แล้วยังคนติดตามอีก 3 พัน เหมือนว่าบนหน้าเฟซบุ๊คจะมีความเคลื่อนไหวเยอะ เนื่องด้วยมีคนเข้ามาโพสลงบนหน้าวอลล์ของเขาค่อนข้างเยอะ  ผมไล่นิ้วดูโพสของเขาไปเรื่อยๆ จนเจอวิดีโอที่เขาลงไว้ล่าสุดเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว

ผมกดเข้าไปดู ภาพกล้องสั่นเล็กน้อยก่อนจะชัดเจนขึ้น เมื่อคนที่กำลังจับกล้องเขยิบตัวเองไปนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกีต้าร์โปร่งที่ยกขึ้นมาตั้ง ไม่มีการพูดพร่ำทำลีลาใดใดเมื่อเขาเกากีต้าร์จับคอร์ดให้ทำนองเพลงขึ้น พอเขาเงยหน้าขึ้นมามองกล้องพร้อมเปล่งเสียงร้องออกมา

จังหวะนั้นหัวใจของผมก็เต้นแรงอย่างไม่รู้สาเหตุ.....



มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผมก็กลายเป็นหนึ่งในแฟนคลับของเขาไปแล้ว
ต่อจากนั้นหลังช่วงปิดเทอมแรก ผมก็ขอที่บ้านเรียนพิเศษทุกแขนงที่ใช้สำหรับการสอบเข้าศิลปกรรมศาสตร์

ทำไมน่ะหรือ...

ก็เพราะผมเห็นว่า แทนคุณ เขากดร่วมกิจกรรม ค่ายสิน-กำ สอนศิลป์เพื่อน้อง  เป็นค่ายแนะแนวก่อนเรียนต่อคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหา’ลัย รัฐแห่งหนึ่ง

ตั้งแต่นั้นมาผมก็มุ่งมั่นที่จะเข้าเรียนคณะนั้น มหาวิทยาลัยนั้นให้ได้ ผมเชื่อมาตลอดว่าผมจะได้เจอกับเขา

แต่แล้ว...เขาก็หายไปจากเฟซบุ๊ค ทุกคนรอคอยการกลับมาของเขา จนกระทั่ง วันสุดท้ายของการเป็นนักเรียนม.ปลาย วันแรกที่มีการยื่นคะแนนเพื่อเข้าต่อมหาวิทยาลัย

แทนคุณก็กลับมาที่เฟซบุ๊คอีกครั้ง พร้อมภาพและข้อความที่ทำให้ผมว้าวุ่นใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจาก พิมพ์ข้อความให้กำลังใจเขา ซึ่งนั่นเป็นข้อความเดียวที่ผมได้คุยกับเขา


TK Krittidumrong ได้แชร์รูปภาพจากอินสตาแกรม เมื่อ 15 นาทีที่แล้ว
ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นของเราจริง .... แม้กระทั่งความฝัน #หัวใจสะลาย


ผมมองภาพกีต้าร์ที่ส่วนคอร์ดหักออกเป็นสองท่อน ถ้าผมเป็นเจ้าของคงเสียใจมาก เข้าใจทันทีว่าหัวใจสะลายนั้นคืออะไร

บะหมี่ เกี๊ยว สู้ๆนะ เราจะทำความฝันให้นายเอง  40 วินาทีที่แล้ว

ผมไม่รู้ว่าผมคิดยังไงถึงพิมพ์ข้อความไปแบบนั้น แต่พอข้อความที่เด้งขึ้นมาเป็นข้อความที่เขาตอบกลับ ผมก็รู้สึกว่า ....


TK Krittidumrong ขอบคุณครับ ผมฝากด้วยนะ @บะหมี่เกี๊ยว


ดีแล้วล่ะ มันดีกับใจจริงๆ



จบตอน




หัวข้อ: Re: - ONLY YOU - ....แค่คุณ..... : ปฐมบท
เริ่มหัวข้อโดย: usguinus ที่ 19-09-2016 08:37:55
น่าติดตามมากเลยค่าาา สู้ๆนะคะ รอตอนต่อปาย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - ONLY YOU - ....แค่คุณ..... : ปฐมบท
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 19-09-2016 10:00:46
รอ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - <ตอนที่ 1>
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 19-09-2016 17:14:24
ตอนที่ 1
เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่



เสียงกรี๊ดวี๊ดว๊ายดังกระหึ่มลั่นหอประชุมใหญ่ประจำมหาวิทยาลัยที่ตอนนี้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสถานที่สำหรับประกวดดาวเดือนที่มีมาตลอดทุกปีของการรับนิสิตเข้าใหม่

ตอนนี้ผู้คนกำลังหลั่งไหลเข้าไปมอบดอกกุหลาบ (ปลอม) ที่ถูกวางขายอยู่หน้าหอประชุมเพื่อเป็นคะแนนสำหรับป็อบปูล่าโหวตให้กับเวทีการประกวด รวมถึงหารายได้เพื่อนำไปบริจาคสร้างโรงอาหารให้น้องเอาไปสมทบทุนกับชมรมค่ายอาสาของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ถ้าถามว่าทำไมถึงเป็นกุหลาบปลอมด้วย เหตุผลก็คือมันสามารถเอามาใช้ซ้ำได้อีก ก็ถ้าหากผู้ประกวดไม่อยากหอบดอกไม้กลับไปเป็นของที่ระลึกก็สามารถบริจาคคืนให้กองประกวดไว้ใช้ต่อในปีถัดไปได้อีกน่ะสิ

และในมือของผมเองตอนนี้ก็เช่นกัน มีดอกกุหลาบ(ปลอม)ในมืออยู่ 22 ดอก เนื่องจากเป็นโปรโมชั่นซื้อ 10 แถม 1 เลยควักเงินทำบุญไป 200 แต่ยังยืนนิ่งอยู่โซนหน้าประตูไม่ได้เข้าไปต่อแถวอย่างคนอื่นเขา

“เฮ้ย จะขวางทางอีกนานมั้ยวะ” ผมสะดุ้งเมื่อเสียงทุ้มแหบดังขึ้นอยู่ข้างหลัง จนต้องรีบเขยิบหลีกทางให้เจ้าของเสียงคนนั้น แต่กลับไปชนเข้ากับใครอีกคนแทน

“โอ๊ะ  ขอโทษครับ” ผมก้มหัวแล้วเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณีแล้วต้องให้ตกใจ

“ไอ้เชี่ยเกี๊ยว!”
“วุ้นเป็ด เฮ้ย!”
“มึงติดนี่หรอวะ แม่ง โคตรบังเอิญอ่ะ” ใช่ บังเอิญมาก ก็วุ้นเป็ดที่ผมทักเป็นเพื่อนสมัยเรียนประถมจนถึงม.ต้น ก่อนที่มันจะย้ายโรงเรียนไป ความจริงมันไม่ได้ชื่อวุ้นเป็ดหรอก ชื่อเล่นจริงๆมันชื่อว่าน แต่วุ้นเป็ดมาจากการที่มันชื่นชอบขนมชนิดนี้เป็นพิเศษ เพราะเห็นมันกินได้เกือบทุกวันไม่มีเบื่อ

“แล้วนี่มึงแม่งไม่โตขึ้นเลย หยุดสูงตั้งแต่ขึ้นม.4หรอวะ” ไอ้ว่านมันว่าพลางทำเป็นมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า
“หยาบคาย ไอ้สัด” ผมชกเข้าที่ไหล่มันเบาๆ ก่อนจะแซวมันกลับไปบ้าง
“ว่าแต่กู มึงเองก็ไม่ต่างกันปะวะ” สูงกว่าไม่ถึงคืบทำมาเป็นเบ่ง
“เออๆ กูยอมไอ้ห่า” มันว่าพลางหัวเราะ ความจริงตอนสมัยเรียนเวลาผมกับมันเดินคู่กันจะถูกเรียกว่าคู่หูไซส์มินิ ตอนนั้นผมสูง 160 ส่วนมันสูง 163 แล้วตอนนี้ความสูงผมขยับขึ้นมาเป็น 165 แล้ว ก็ยังถือว่าเตี้ยมากอยู่ดี (ร้องไห้แป้บ)
“แล้วนี่...โอโห จะเอาไปโหวตให้ใครเนี่ย” ผมมองกุหลาบที่ไอ้ว่านมันหอบไว้ในอ้อมกอดด้วยสายตาตะลึง กะจากสายตาคร่าวๆน่าจะเกิน 50 ดอก
“มีคนเขาไหว้วานกูให้เอาไปโหวตให้เดือนคณะบริหาร ถ้าไงกูรีบก่อนดีกว่าเดี๋ยวหมดเวลา เอาไว้คุยกันมึง” มันตอบแล้วทำท่าจะจากไป แต่ผมรั้งมันไว้ก่อน

“เดี๋ยวมึง!”
“อะไรมึง กูยิ่งรีบๆอยู่ เดี๋ยวโดนแดกหัว” มันพูดพลางมองเหลียวหลังเมื่อเห็นว่าผู้คนบริเวณหน้าเวทีเริ่มร่อยหรอ เสียงพิธีกรบนเวทีประกาศเหลืออีก 5 นาทีสุดท้ายสำหรับการโหวต

ผมตัดสินใจในที่สุด ก่อนจะยัดดอกกุหลาบในมือให้ไอ้ว่านไปอีก

“กูฝากด้วยแล้วกัน กูไม่รู้จะโหวตให้ใครแค่อยากทำบุญ”
“เออๆ แล้วเจอกันมึง”
“เออ เดี๋ยวกูไปรอที่หน้าหอประชุม” ว่านพยักหน้าเบาๆก่อนจะรีบวิ่งไปยังหน้าเวทีในขณะที่ผมเดินออกมายืนรอมันข้างนอกตามที่บอก

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นยอดนิยมที่ชื่อว่า Facebook ก่อนจะพิมพ์ข้อความลงสเตตัสของตัวเอง พร้อมกับใส่แฮชแท็กที่มีแค่ผมเท่านั้นที่รู้ว่าคืออะไร

บะหมี่ เกี๊ยว เมื่อ 10 วินาทีที่แล้ว
โหวตไปแล้วนะ : )  #YOU

ไม่ถึง 1 นาทีดีเพื่อนในเฟซฯพ่วงด้วยเพื่อนสมัยขาสั้นก็เริ่มเข้ามาแสดงความคิดเห็น

ถัง แป้ง โหวตอะไรของแกวะเกี๊ยว
ณ จ๊ะที่รัก โหวตไรอะแก
We worathida ยูวววววว คิดถึงจังเลย
พี่สายชล คนแมน โหวตอะไรครับน้องเกี๊ยวของพี่สายชล
ไอยูวี พี่ชายคนโต  เหี้ยชลอย่าเต๊าะน้องกู @บะหมี่ เกี๊ยว คิดถึงว่ะตัวเล็ก
พี่สายชล คนแมน พี่ไอโหดร้าย
ไอยูวี พี่ชายคนโต ไปเล่นตรงนู้นครับ เหี้ยชล

ผมอ่านข้อความเหล่านั้นก่อนจะกดออกจากหน้าวอลล์ตัวเองแล้วเปลี่ยนไปเข้ากลุ่มแฟนคลับของคนที่ผมติดตามเขามาตลอด 2 ปี จนตอนนี้ความชื่นชมชื่นชอบนั้นมันกลายเป็นความรักในตัวคนๆนี้ไปเสียแล้ว


รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก TK Krittidumrong เมื่อ 20 นาทีที่แล้ว
คนอะไรไม่รู้ ยิ่งโตยิ่งดูน่ารัก โหวตให้หมดหน้าตักเลย #รักคุณครับ #แทนคุณ แอด AA
4,576 Likes

Natadee น่าตาดี กรี๊ดดดด เดือนบริหารปีนี้ต้องควบตำแหน่งเดือนมหา’ลัยชัวร์ #ทุ่มหมดหน้าตัก #รักคุณครับ
ป้าสมร ดอนอีแก่ ว๊ายยย น้องคุณของป้าสมร หล่อวันหล่อคืน หล่อไม่บันยะบันยัง #รักคุณครับ #แทนคุณ
เจ๊ โร ซ่า อกสั่นระรัว น้ำเดินจริงจัง ฮืออออ อนาคตพ่อของลูกเจ๊เลย #รักคุณครับ
ป้าสมร ดอนอีแก่ ใจเย็นนะอีเจ๊ @เจ๊โรซ่า ข้ามศพเดี๊ยนก่อนนะคะ จองมาตั้งแต่ละอ่อนแล้วค่ะ #แทนคุณ มาเป็นของป้าเถิด
อยู่บนคาน มันหนาวจริง ไม่ต้องเถียงกันค่ะ คุณเป็นของเราค่ะ ไม่รู้หรือไง #เบ้ปากรัวๆ #รักคุณครับ
Mr. BadBad มีแต่สาวๆรุมกันแย่งคุณ อย่าแย่งกันครับ ต้องแบ่งให้ทั่วถึง
น้องอ้อย คัน เราโหวตไปแล้วแอดดดด ทุ่มหมดตัวเลย คุณหล่อมากกกดีใจที่เราได้เรียนที่เดียวกับคุณ #แทนคุณ
Sirirat Tabtim ทับทิมก็โหวตแล้วเหมือนกันค่ะแอด ตัวจริงคุณหล่อมากกกกกกกก #รักคุณครับ
์Nid Anusaniya พี่นิด วิดยา ปีสาม ก็ทุ่มโหวตให้น้องคุณเหมือนกันค่ะ

ผมไล่อ่านหลายๆคอมเม้นต์ก็หลุดขำออกมาถึงความน่ารัก ตลกโปกฮา และใจป้ำของเหล่าแฟนคลับของคุณ ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปมองภาพของคุณ ซึ่งเป็นภาพวันซ้อมใหญ่ก่อนวันประกวดจริง เป็นภาพคุณที่ยืนยิ้มกว้างโชว์ฟันที่เรียงตัวสวยพร้อมลักยิ้มบุ๋มข้างแก้มซ้าย ตาที่ทอดมองมาที่เลนส์กล้องดูเป็นประกายระยิบระยับและป้ายห้อยคออันใหญ่ที่เขียนว่า แทนคุณ กฤติดำรง เดือนคณะบริหาร บอกตามตรงว่าใจของผมมันเต้นสะดุดทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มแบบนี้

และไม่พลาดที่ผมจะเป็น 1 ในจำนวนคนที่ถูกใจภาพนั้น แต่ไม่ใช่ 1 ใน 4,000 คนที่กดไลค์แต่เป็น 1 ใน 400 กว่าคนที่กด Love
ตั้งแต่ที่แอพพลิเคชั่นชื่อดังนี้มีการพัฒนาการกดปุ่มถูกใจใหม่สำหรับการใช้ Reaction แทนผมก็เริ่มเปลี่ยนการกดถูกใจภาพหรือคลิปของคุณเป็นกด Love แทนเสมอ ไม่ต้องบอกว่าทุกครั้งไหม แน่นอนว่า มันต้องทุกครั้งอยู่แล้ว ไม่ใช่แค่ในแฟนเพจของคุณแต่ในเฟซฯของคุณเองก็เช่นกัน

ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าคุณได้กลับมาเล่นเฟซฯอีกครั้งหลังจากที่มีการประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย และนั่นทำให้ผมได้รู้ว่าผมกับคุณเราสอบติดที่เดียวกัน แต่แค่เราอยู่คนละคณะเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ถือเป็นสิ่งดีที่ผมจะได้แอบตามคุณอยู่เงียบๆ ทำตัวเป็นแฟนคลับเงาและคนๆนึงที่แอบรักใครสักคนอยู่นั่นเอง

“รอนานไหมวะ” ผมสะดุ้งเมื่อมีมือมาแตะลงที่ไหล่ก่อนจะรีบกดล็อกหน้าจอโทรศัพท์แล้วยัดลงกระเป๋าสะพายข้างลวกๆ
“ไม่เท่าไหร่ แล้วทันไหมวะ” ผมถามว่านกลับไปมันก็พยักหน้ารับให้รู้ว่า ดอกกุหลาบที่มันเอาไปนั้นไม่สูญเปล่าเพราะได้มอบถึงมือเดือนคณะบริหารแล้ว

“ว่าแต่ใครเขาฝากมึงเอากุหลาบไปให้วะ” ผมถามด้วยความสงสัยและอยากรู้ว่ากุหลาบที่มันเอาไปให้นั้นเท่าไหร่
“น้องของพี่รหัสกูน่ะ ท่าทางจะชอบไอ้เดือนคนนั้นมาก ไม่งั้นไม่ทุ่มซื้อไปถึง 500 บาทอ่ะมึง แถมเจ๊เอิญพี่รหัสกูยังช่วยสมทบอีก 300 เป็น 91 ดอก พอมีของมึงมายัดไปอีกก็เยอะเข้าไปใหญ่ คงไม่แคล้วแม่งได้ ป็อบปูล่าโหวตอะกูว่า” ว่านมันตอบกลับมาแบบที่ผมไม่ต้องเปลืองน้ำลายถามต่อว่ามันมีทั้งหมดกี่ดอก ผมก็พยักหน้ารับคำพูดของมันก่อนจะชักชวนเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ไปกินข้าวมื้อดึกฉลองที่ได้กลับมาเจอกันอีก

“ไหนๆก็มาเจอกันทั้งทีไปหาไรแดกเพื่อฉลองหน่อยแล้วกัน”
“กูก็ว่างั้น หลังมอเป็นไงวะ”
“ก็ดี โต้รุ่งหลังมอกูว่าก็ไม่เลวเท่าไหร่” แต่ยังไม่ทันที่เราจะได้เดินไปถึงหลังมอดี โทรศัพท์ของว่านก็ดังขึ้นมาให้เราต้องหยุดเท้าเอาไว้ก่อน

“ฮัลโหลเจ๊...อ่อ เรียบร้อยเจ๊ บอกน้องเจ๊ได้เลยว่าถึงมือน้องเขยเจ๊แล้ว...เฮ้ย ผมกำลังจะไปกินข้าวกับเพื่อนอ่ะ บังเอิญเจอกัน...อ่อ งั้นเดี๋ยวนะเจ๊” ว่านมันลดไอโฟนในมือลงแล้วหันมาทางผม

“มึง เจ๊เอิญบอกว่าอยากเลี้ยงตอบแทนว่ะ เอาไง”
“แล้วแต่มึง” ผมตอบมันไปพลางรู้คำตอบอยู่แล้วว่าโต้รุ่งหลังมอคงเป็นหมัน เพราะไอ้ว่านมันนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องชอบแดกวุ้นเป็ดแล้ว มันยังขึ้นชื่อเรื่องเค็มเป็นญาติกับทะเลอีกด้วย

“โอเคเจ๊ ให้เจอกันที่ไหน...อ่อ ได้ๆ งั้นผมพาเพื่อนไปด้วยคน เดี๋ยวไปรอที่หน้าคณะแล้วกัน....คร๊าบบบ เจอกันคร๊าบบ” ว่าจบมันก็กดตัดสายเก็บไอโฟนของมันเข้ากระเป๋าดังเดิม

“ไปมึง มือนี้แดกฟรีครับเพื่อน” มันกอดคอลากผมเดินตาม ส่วนหน้านี่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีที่มันไม่ต้องเสียเงินค่าข้าว
“ว่าแต่มึงติดคณะอะไรวะเกี๊ยว”
“สินกำ” พูดจบไอ้ว่านก็หยุดชะงักก่อนจะมองผมหัวจรดเท้าเท้าจรดหัว จนผมต้องโบกหัวมันไปที

“ทำไม มึงมีปัญหากับการเลือกเรียนของกูหรอวะ”
“ไม่ขนาดนั้น กูแค่สงสัยว่าเด็กเรียนท็อปเท็นที่ตอนก่อนกูย้ายมึงก็เลือกว่าจะเข้าเรียนสายวิทย์ แล้วทำไมมาตกม้าตายที่คณะนี้ได้อะดิ” ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะบอกมันไป

“กูไม่ได้คิดอะไรมากไงมึง ความจริงมึงก็รู้นิว่ากูชอบเล่นดนตรีจะตาย วาดรูปกูก็ชอบแค่ไม่ได้จริงจังอะไร เอาจริงๆ กูไม่มีอะไรที่ชอบแบบจริงๆจังๆสักอย่าง แม้แต่วิชาทั่วไปที่กูเรียนมาตั้งแต่ประถมยันมัธยม”
 
“มันก็ใช่ แต่คะแนนสอบของมึงแต่ละครั้ง มันส่อแววมาตั้งแต่เด็กๆแล้วนี่หว่า ไหนจะแม่มึงที่เป็นนักเทคนิคการแพทย์กับพ่อมึงที่เป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์โรงเรียนสาธิตฯ พี่มึงที่เป็นถึงนักเรียนแพทย์ กูไม่เห็นว่ามันจะมีทางไหนที่มึงจะมาลงเรียนคณะนี้เลยจริงๆ”
 
“นี่มึงรู้เรื่องครอบครัวกูเยอะจังนะ”
“เอ้า ไอ้นี่ กูกับมึงเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ประถม จู๋เท่านิ้วก้อยจนจู๋เท่า...”
“หยุดเลยมึง หุบตูดมึงไว้เลย ไอ้วุ้นเป็ด”
“ฮ่าๆๆ” ไอ้ว่านมันอ้าปากหัวเราะจนไม่เกรงใจว่าจะมียุงบินเข้าปากมัน เราคุยกันจนมาหยุดอยู่หน้าคณะศึกษาศาสตร์ที่ไอ้ว่านมันเรียนอยู่
 
“แล้วมึงจะตอบกูได้ยังว่าเพราะอะไรถึงมาเรียนสินกำ”
“มึงนี่เซ้าซี้จริงว่ะ ตั้งแต่เด็กยันโตยังไม่เลิกอีก” ไอ้ว่านยักไหล่ใส่อย่างกวนๆ
 
“กูก็แค่อยากนอกคอกอ่ะมึง ไม่มีอะไรหรอก พอกูได้ลองปรึกษากับพ่อแม่แล้ว เขาถามว่ากูชอบอะไรที่สุด แบบทำแล้วกูรู้สึกว่ากูมีอารมณ์ร่วมด้วย ทำแล้วกูไม่เครียด สบายใจ กูก็เลยว่า เออ วาดรูป ถ่ายรูป ร้องเพลงเนี่ยแหละ กูชอบมากที่สุดแล้วเลยเลือกลงอันนี้ แล้วที่บ้านกูเขาก็ง่ายๆไง ไม่บังคับอะไรมากเพราะเขาไม่อยากให้กูรู้สึกฝืนหรืออึดอัดถ้าทำอะไรที่ไม่ชอบ”

แน่นอนว่าที่ผมตอบมันไปนั้นเป็นเรื่องโกหกเกือบทั้งหมด เพราะถ้าไอ้แค่ความชอบเฉยๆไม่ได้ทำให้ผมเลือกที่จะเรียนในคณะนี้ได้หรอก ถ้าไม่มีเรื่องของคนนั้น ผมก็คงได้เรียนคณะในสายวิทย์ไม่ต่างกัน

“เออ จะยังไงก็ช่าง แต่มันทำให้เพื่อนได้กลับมาเจอกันก็ดีแล้ว” ผมรีบกล่าวขึ้นอีกเพื่อเปลี่ยนความสนใจของว่านวุ้นเป็ดที่นอกจากจะงกจนเป็นญาติน้ำทะเลแล้วยังขี้เผือกอีกต่างหาก

“เออ ก็จริง” ไอ้ว่านพูดแล้วตบไหล่ผมเบาๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มีรถฮอนด้าแจ๊สมาจอดเทียบที่หน้าคณะ

“ขึ้นมาเร็วว่าน” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับที่เดาได้ว่าน่าจะเป็นพี่รหัสของมันลดกระจกมาเรียกพวกเราก่อนที่ว่านจะดันหลังผมให้ออกเดิน เปิดประตูข้างหลังสองฝั่งขึ้นไปนั่งเรียบร้อยก็เห็นว่ามีผู้หญิงอีกคนที่ผมซอยสั้นนั่งอยู่ก่อนซึ่งเดาได้ไม่ยากว่าคงเป็นน้องของพี่รหัสที่ไอ้ว่านมันพูดถึง

“เดี๋ยวค่อยไปแนะนำตัวกันที่ร้านแล้วกันนะ” ไอ้ว่านที่กำลังจะอ้าปากก็ได้แต่หุบปากฉับ

เรานั่งรถออกจากมหาวิทยาลัยไม่ถึงยี่สิบนาที พี่รหัสไอ้ว่านก็พารถมาจอดเทียบข้างฟุตบาทไม่ไกลจากร้านข้าวต้มกุ๊ยที่ติดป้ายร้านว่า สมศรีโต้รุ่ง ที่เปิดเป็นตึกคูหาสองห้องแถวต่อกัน คนดูคึกคักเนืองแน่นอยู่ในร้านแต่ก็พอมีที่นั่งว่างรองรับให้กับลูกค้ามาใหม่อยู่เหมือนกัน ด้วยความที่เวลานี้เพิ่งจะสามทุ่มนิดๆเลยทำให้คนไม่ทันเต็มร้าน

“ร้านนี้อร่อยมากเจ๊คอนเฟิร์ม” พี่รหัสไอ้ว่านบอกกับพวกเราก่อนจะปลดล็อกรถให้พวกเราลงไปยืดเส้นสายนอกรถ เมื่อลงมาจากรถแล้วผมก็ได้แต่ตกใจกับหน้าตาของน้องสาวพี่รหัสเพื่อน และก็ได้แต่คิดว่าโลกนี้มันกลมและเรื่องบังเอิญแม่งเกิดขึ้นได้มากกว่า 1 ครั้งใน 1 วัน

พอเราเดินไปนั่งตามที่พนักงานร้านจัดแจงแล้วสั่งอาหารเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่แนะนำตัวกันเสียที

“นี่เพื่อนผมนะเจ๊ เรียนอยู่สินกำ ไอ้เกี๊ยว นี่เจ๊เอิญพี่รหัสกู แล้วก็นั่นน้องสาวเจ๊แกที่ฝากกูเอากุหลาบไปให้แทนคุณ เดือนบริหารอ่ะ” เจ๊เอิญหรือพี่รหัสของไอ้ว่านนั้นเป็นผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งที่มีความสูงพอๆกันกับไอ้ว่านหรือนั่นก็คือสูงกว่าผมเกือบคืบ ผมยาวที่ดัดลอนตรงปลายพร้อมทำไฮไลท์สีเขียวหม่น ใส่คอนแท็กเลนส์สีน้ำตาลบิ๊กอายจนดูบ๊องแบ๊วอย่างกับตุ๊กตา

“สวัสดีค่ะน้องเกี๊ยว ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ” เจ๊เอิญว่าพลางฉีกยิ้มโชว์เขี้ยวมาให้ผม
“นี่อันอัน น้องสาวพี่เรียนอยู่คณะมนุษย์ฯนะ” ผมหันไปมองผู้หญิงที่นั่งข้างๆเจ๊แล้วยิ้มให้บางๆ

“สวัสดีครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” อันอันผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามผมนั้น ถ้าผมไม่ได้จำคนผิด เธอคือผู้หญิงผมสั้นที่ผมมักจะเจอบนบีทีเอส คนที่มักจะกลับบ้านพร้อมเพื่อนอีกสองคนพร้อมคุยเรื่องของแทนคุณ และก็เธอที่ทำให้ผมได้รู้จักกับแทนคุณนั่นเอง

“เราว่า...เราคุ้นหน้าเกี๊ยวนะ” อันอันพูดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้อ้าปากพูด ไอ้ว่านก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน
“อ่าๆ ลืมไปเลย ความจริงไอ้เกี๊ยวมันไม่ได้ชื่อเล่นว่าเกี๊ยวนะครับ ความจริงมันชื่อ ยู แต่มันชอบกินบะหมี่เกี๊ยวมาก รวมไปถึงเกี๊ยวทุกรูปแบบ เพื่อนก็เลยเรียกมันว่าเกี๊ยว”

“น่ารักดีออก พี่ว่าก็เหมาะกับเกี๊ยวนะชื่อนี้ หน้าตาดูหน้ากินเชียว อิอิ” เจ๊เอิญว่าเล่นเอาผมอดเขินไม่ได้
“ดูสิ แซวนิดนึงแก้มกลมๆเป็นสีชมพูอย่างกับลูกพีชแน่ะ ฮ่าๆ” เจ๊เอิญยังคงสนุกที่ได้แซวผม จนอาหารมาทยอยเสิร์ฟจนครบเราจึงหยุดบทสนทนาลงชั่วคราว

“เออ ว่าแต่เมื่อกี้ อันอันว่าคุ้นหน้าเกี๊ยวหรอ” เจ๊เอิญเจ้าเก่าเปิดประเด็นขึ้นมาเมื่อเราเริ่มลงมือทานข้าวต้มกุ๊ยไปได้สักพัก
“อ๋อ ก็รู้สึกเหมือนเคยเจอ เคยเห็นที่ไหนแต่นึกไม่ออกอ่ะ” อันอันว่า ผมถึงได้ขยับแว่นตาที่สวมอยู่ให้เข้าที่อีกครั้งก่อนจะกลืนอาหารที่เคี้ยวอยู่ลงคอก่อนจะพูดบ้าง

“อันที่จริง ผมก็คุ้นหน้าอันอันนะ อันอันเหมือนเด็กนักเรียนคอนแวนต์ที่ชอบขึ้นบีทีเอสกลับบ้านพร้อมเพื่อนอีกสองคนแล้วผมมักเจอบ่อยๆน่ะ”
“ใช่ ใช่เลย นั่นเราล่ะ ก็ว่าคุ้นๆ” นั่นไง...แล้วผมก็จำคนไม่ผิดจริงๆเมื่ออันอันตอบกลับมาแบบนั้น

“โห โคตรบังเอิญจริงๆอ่ะ” ไอ้ว่านพูดขึ้นมาบ้าง
“ดีเลย แบบนี้ก็เป็นเพื่อนกันไว้ล่ะ แลกไลน์กันไว้ติดต่อกันเลย” เจ๊เอิญเสนอความคิด อันอันจึงรีบหยิบไอโฟนของตัวเองมาสไลด์แล้วเปิดเข้าแอพฯไลน์ทันที

“เอาไอดีเกี๊ยวมาสิ” เธอว่าทำให้ผมต้องหยิบกาแล็คซี่โน๊ตของตัวเองขึ้นมาเปิดเข้าแอพฯสีเขียวนั้นบ้าง

“เสิร์ชจากเบอร์โทรเลยก็ได้นะ 08977148XX เจอไหมอะ”
“เจอแล้ว นี่ใช่ป่ะ” อันอันว่าพลางยื่นจอไอโฟนมาให้ผมดูรูปโปรไฟล์ ที่เป็นภาพของผมที่วาดเป็นตัวการ์ตูนเลียนแบบ เป็นภาพเด็กผู้ชายตัดผมหน้าม้าทรงเห็ดใส่แว่นตากลมๆ
“ใช่ๆ”

นั่นคือจุดเริ่มต้นระหว่างมิตรภาพของผมกับเพื่อนใหม่ต่างคณะในรั้วมหาวิทยาลัย







((ต่อด้านล่างค่ะ))
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - <ตอนทึ่ 1>
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 19-09-2016 17:15:08
พอหมดมื้ออาหารนั้น เจ๊เอิญก็พาพวกเราไปส่งที่หอพักซึ่งภายในรถจากที่ขามาเรานั่งกันมาอย่างเงียบๆ ขากลับเรากลับพูดคุยกันเฮฮา ก่อนเสียงของอันอันจะร้องกรี๊ดออกมาเบาๆราวกับดีใจอะไรสักอย่าง

“เจ๊เอิญ คุณได้ป็อบปูล่าโหวต กับเดือนมหาวิทยาลัยแหละ ดีใจอ่า”
“แหม น้องเขยเจ๊เจ๋งจริง”
“บ้าเจ๊ น้องเขยอะไร อันไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย เจ๊ก็รู้”
“จ๊ะ แม่แอดมินเพจ” ผมสะดุดหูกับประโยคนี้ของเจ๊เอิญมาก แต่ก็ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยขี้เผือก เลยได้แต่เก็บงำความสงสัยเอาไว้และภาวนาว่าไอ้เพื่อนขี้เผือกมันจะถามให้แทน

“แอดมินเพจอะไรวะเจ๊”  นั่นไง....

“เอ้า ก็แอดมินเพจของแทนคุณน่ะสิ ถามมาได้ ยัยนี่น่ะชอบคุณมากจนรวมตัวกันกับเพื่อนบ้างรุ่นพี่บ้างมาตั้งเพจให้คุณ ตอนแรกนางก็แค่ตามธรรมดาน่ะแหละ แต่ไปๆมาๆก็คิดกันสร้างเพจ แยกมาจากเพจ Thai Shares Cute Boys นะเห็นว่า”

“โห ถึงว่าทุ่มทุนซื้อกุหลาบตั้งเยอะ แล้วทำไมไม่เอาไปให้เองอะอัน”
“ก็แหม ไม่กล้าน่ะสิ แค่เข้าไปคุยเรายังไม่กล้าเลย นี่ก็ให้เพื่อนอีกคนที่อยู่คณะเดียวกับคุณมาช่วยแชร์ข่าวแอบถ่ายรูปอะไรแบบนี้ด้วยแหละ อิอิ”
“อ่ะนี่ ถึงหอแกแล้วว่าน ลงไปได้แล้ว พรุ่งนี้หยุดก็พักผ่อนล่ะ เจอกันวันมะรืนห้ามลืมเลี้ยงสายรหัสนะเว้ย”

“คร๊าบบบเจ๊ นี่ตั้งเตือนในโทรศัพท์ไว้แล้วเนี่ย” ไม่พูดปล่าว มีโชว์ไอโฟนส่ายไปหมาข้างๆหูเจ๊เอิญอย่างกวนๆอีก

“ย่ะ ถ้าลืมและสายล่ะน่าดู”
“ไปล่ะเจ๊ ขับรถดีๆล่ะ ไว้เจอกันนะอันอัน ไอ้เกี๊ยว”
“อืม เจอกันมึง” ผมว่า
“ราตรีสวัสดิ์นะว่าน”

จบประโยคนั้น ฮอนด้าแจ๊สของเจ๊เอิญก็เคลื่อนตัวออกจากบริเวณหอพักของไอ้ว่านที่อยู่ก่อนถึงมหา’ลัยไม่เท่าไหร่ ก่อนที่จะมาส่งผมซึ่งอยู่หอในมหาวิทยาลัยเพราะทางมหาวิทยาลัยไม่ได้บังคับให้เด็กปีหนึ่งพักที่หอในทั้งหมด แล้วแต่ใครจะอยากพักก็ได้ แต่พอจบปีหนึ่งแล้วก็ต้องย้ายออกให้รุ่นน้องได้เข้ามาพัก เพราะว่าทางมหา’ลัยมีหอพักรองรับนิสิตในจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นพวกปีสองขึ้นไปเลยได้พักอยู่หอนอกหรือไปเช่าบ้านอยู่กันเสียส่วนใหญ่ เลยทำให้หอในกลายเป็นอาณาจักรของนิสิตปีหนึ่งที่ยังไม่คุ้นเคยในพื้นที่ หรือยังไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่หอนอกแค่คนเดียวนั่นเอง
   
รถเคลื่อนตัวมาอีกแค่ไม่ถึงสิบนาทีก็จอดลงที่หอพักของผม หลังจากร่ำลากันแล้วก็ลงจากรถของเจ๊เอิญไป แต่ยังไม่ทันที่รถจะเคลื่อนตัว กระจกฝั่งอันอันก็เลื่อนลงพร้อมที่เจ้าของผมซอยสั้นเรียกชื่อผมเอาไว้

“เกี๊ยว เราขอเฟซฯเกี๊ยวได้ป่าว” ผมชะงักเล็กน้อยแต่ก็ตอบรับกลับไปหลังจากคิดว่า ในเฟซฯของผมไม่มีอะไรมากมายจะกังวลก็แค่อันอันอาจจะรู้ว่าผมเป็นแฟนคลับของแทนคุณเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนี่ ถ้าหากว่าอันอันจะรู้เพราะแฟนคลับของแทนคุณไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเสียหน่อย

“ได้สิ”
“มาๆเดี๋ยวเราแอด...แล้วเล่นอินสาแกรมมั้ย” ผมพยักหน้าก่อนจะบอกไอดีเฟซบุ๊คกับอันอันก่อน

“อันนี้เฟซฯเรา บะหมี่เกี๊ยว” อันอันก้มหน้าจิ้มนิ้วพิมพ์ตามที่ผมบอกก่อนจะทำการกดเพิ่มเป็นเพื่อนกับผม ทำให้โทรศัพท์ในมือของผมสั่นเป็นการรับรู้ว่ามีการแจ้งเตือน ผมเลยเข้าไปกดตอบรับเธอเป็นเพื่อน

“ส่วนอินสตาแกรม Nathakun2U”
“เรียบร้อยละ เอาไว้ไปกินข้าวกันอีกนะ” ผมพยักหน้า พร้อมก้มตัวลงไปโบกมือลาเจ๊เอิญอีกที

“กลับดีๆนะครับ วันนี้ขอบคุณมากครับ”
“จ้ะ ฝันดีนะจ๊ะหนุ่มน้อย” เจ๊เอิญว่าพร้อมกับที่กระจกฝั่งอันอันเลื่อนขึ้น ผมถึงได้หันหลังเดินกลับหอของตัวเอง

พอเข้ามาในห้องก็พบว่าเพื่อนร่วมห้องอีกสามคนสามคณะมาถึงห้องกันแล้ว หอในที่ผมพักเป็นห้องพักที่สามารถอยู่รวมกันได้สี่คนต่อห้อง ในห้องเป็นเตียงสองชั้นสองเตียงที่วางอยู่คนละมุมห้อง และมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่หนึ่งตัววางอยู่ ห้องน้ำมีเป็นทั้งในตัวและห้องน้ำรวมถ้าถึงเวลาที่อาบในห้องตัวเองไม่ทัน มีตู้เสื้อผ้าสองฝั่งติดกับเตียง และนอกระเบียงมีราวตากผ้าแบบล้อเลื่อนอยู่อีกหนึ่งอัน มีพวงไม้หนีบแขวนไว้ที่ราวเหล็กที่ใช้สำหรับตั้งคอมเพลสเซอร์แอร์อยู่อีกพวง

“หายไปไหนมาอ่ะยู” เสียงทักมาจากเตียงชั้นล่างอีกฝั่งของห้องซึ่งมีเจ้าของจับจองเป็นผู้ชายที่ตัวเล็กพอๆกับผม ชื่อนัท เรียนอยู่คณะวิทยาฯ เจ้าตัวไว้ผมทรงหยักศกตัดสั้นระต้นคอ กำลังเอนหลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอ่านการ์ตูนวันพีชอยู่

“พอดีเจอเพื่อนสมัยเรียนม.ต้นด้วยกันน่ะเลยไปกินข้าวกันมา แล้วนัทไม่ได้ไปงานประกวดเฟรชชี่หรอ?”
“ไป แต่ไปแค่แป้บเดียวก็กลับ มาอ่านการ์ตูนสนุกกว่าอีก”
“แล้วเก็ตมันกลับมานานล่ะหรอ นอนคลุมโปงขนาดนั้นมันไปอดหลับอดนอนจากไหนมาน่ะ” ผมถามนัทที่ตอนนี้ละความสนใจจากการ์ตูนมาคุยกับผมชั่วคราว พลางเอี้ยวตัวมาเงยหน้ามองคนที่นอนอยู่เตียงข้างบน

เก็ตคือผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งประมาณ 175 เซนฯ ย้อมผมสีเทาหม่นควับบุหรี่ ผิวสีน้ำผึ้งเนียนกริบแต่ตอนนี้เริ่มไหม้นิดๆจากการกรำแดดเพราะรับน้องกลางแจ้ง

“ก็ประมาณนั้นแหละ อย่างที่รู้ๆวิศวะรับน้องหนักจะตาย พอกลับมามันก็รีบวิ่งผ่านน้ำแล้วไต่ขึ้นเตียงสลบไปอย่างที่เห็น” ผมอืออารับอย่างเห็นด้วยก่อนจะเดินเลยไปนอกระเบียงหยิบเอาผ้าเช็ดตัวของตัวเองมาพาดบ่าเพื่ออาบน้ำชะล้างคราบเหงื่อไคลของตัวเองบ้าง

เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทนั้นเปิดออก ปรากฏเพื่อนร่วมห้องอีกคน ผู้ชายที่ผมดำตัดซอยไล่ระดับอย่างเป็นระเบียบไม่ต่างจากการไว้รองทรงสมัยเรียนมัธยม ผิวขาวอย่างกับแป้งสาลี ตาชั้นเดียวรียาวดูเจ้าอารมณ์ไม่น้อย ปากบางสีส้มระเรื่อมีผ้าขนหนูพาดคอสวมเสื้อกล้ามเข้ารูปกับกางเกงนอนขายาว ส่วนสูงถือว่าสูงสุดในกลุ่มพวกเราสี่คนรูปร่างผอมบางแต่ไม่ได้เก้งก้างด้วยส่วนสูง 178 บอกได้เลยว่า ดูปราดเปรียวสะดุดตามากๆ

“อ้าว ยู”
“กลับมานานยังอ่ะ โรม” โรมเป็นนิสิตปีหนึ่งของคณะเภสัชศาสตร์ เขาเป็นเพื่อนคนแรกที่ผมเจอในวันที่มาถึงหอพัก ตอนแรกดูจากลักษณะท่าทางแล้วเขาดูหยิ่งมาก เพราะหน้าตาดูบอกบุญไม่รับเท่าไหร่ แต่พอได้คุยด้วยแล้วถึงได้รู้ว่าไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายอะไร ที่เจอกันแล้วทำหน้าบอกบุญไม่รับนั่นเพราะว่า ถูกขัดใจจากที่บ้าน เนื่องจากโรมนั้นไม่ได้อยากอยู่หอใน แต่ถูกที่บ้านบังคับให้อยู่หอในก่อนในเทอมแรกถึงจะให้ย้ายออกไปข้างนอกได้

เอาจริงๆนะ โรมเนี่ยคุณชายโคตรๆเลยล่ะ ดูก็รู้ว่าสำอางขนาดไหนแม้แต่คำพูดคำจาก็เช่นกัน

“สักพักแล้วล่ะ จะอาบน้ำใช่มั้ย เชิญเลย” ว่าจบก็เบี่ยงตัวหลีกทางให้ก่อนเจ้าตัวจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งที่เตียงชั้นล่าง แน่นอนว่าชั้นบนต้องเป็นที่นอนของผมนั่นเอง


หลังจากที่อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยผมก็หยิบโทรศัพท์คู่ใจปีนขึ้นเตียงของตัวเอง มองนาฬิกาข้างผนังห้องก็เห็นว่าตอนนี้ห้าทุ่มพอดีเป๊ะ โรมยังคงนั่งเลื่อนไอแพดในมือไปมาโดยที่สวมแว่นตากรองแสงเลนส์บางอยู่ ในขณะที่นัทกำลังนอนตีขาไปมากับที่นอนพลางเปิดการ์ตูนอ่านไปเรื่อย

ผมถึงได้มีเวลาในการจมจ่อในโลกของตัวเองบ้าง นั่นคือการเข้าไปส่องในเพจของแทนคุณ และทุกๆช่องทางที่ผมสามารถเข้าถึงแทนคุณได้ แค่นั้นก็ทำให้ผมหัวใจอิ่มเอิบได้แล้ว

รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก TK Krittidumrong เมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
ข้างเดือนมีดาว ส่วนข้างเรามีแต่คุณ ยินดีด้วยกับรางวัลป็อบปูล่าโหวตและตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยปีนี้ #รักคุณครับ #แทนคุณ  แอดมิน จ.จาน

8,057 Likes

แน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะกด Love ให้กับภาพของแทนคุณไปเหมือนทุกครั้ง กับภาพที่ตอนนี้ทำเอาผมใจเต้นโครมคราม แม้ว่าจะเป็นภาพที่แทนคุณยืนอยู่ข้างดาวมหาวิทยาลัยในปีนี้ก็ตาม

รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แชร์ภาพ เด็กบริหารหล่อบอกต่อด้วย เมื่อ 45 นาทีที่แล้ว
อย่าเอาแต่เมาเหล้า ลองมาเมารักกับเราบ้างก็ได้ ฮิ้วววว... อย่าดื่มหนักนะแทนคุณ แอดมิน จ.จาน

ภาพแทนคุณกำลังหัวเราะอยู่ในวงเหล้ากับก๊วนคณะเด็กบริหาร คงกำลังฉลองตำแหน่งใหม่ของตัวเองอยู่ ผมคิดในใจพลางกดถูกใจเหมือนอย่างเคย

นะนะนิด นิดหน่อยหน่อย เราก็อยู่ร้านเดียวกับคุณนะตอนนี้
Nid Anusaniya ตามมาเจอคุณเหมือนกันค่ะ แอบเห็นน้องชนไปหลายแก้ว
เจ๊ โร ซ่า อยากได้เด็กนั่งดริ๊งไหมจ๊ะ เจ๊พร้อม
น้องอ้อย คัน ร้านนี้นักดนตรีก็แซ่บน้า แต่พ่อเดือนแทนคุณแซ่บกว่า ฮิ้ววววว
อยู่บนคาน มันหนาวจริง เมื่อกี้เดินผ่านโต๊ะคุณ แอบสบตากันมาด้วย ฝันดีหลาวววว

กำลังไล่อ่านไปเรื่อยเปื่อย ก็มีข้อความเตือนเด้งจากแอพพลิเคชั่นสีเขียว ให้ผมกดเข้าไปดู ทีแรกก็ว่าจะสิงในเฟซฯให้หนำใจก่อนค่อยเข้าไปอ่านข้อความของเพื่อนๆในไลน์เพราะเห็นตัวเลขแจ้งเตือนที่เยอะถึงหลักร้อย แต่เพราะคนที่กำลังไลน์หาผมอยู่ตอนนี้ทำให้ผมต้องรีบเข้าไปอ่านโดยทันที

AunAun: เกี๊ยว
AunAun: sent a photo
AunAun: กรี๊ดอ่ะ เกี๊ยวชอบคุณเหมือนกันหรอ
AunAun: เราแอบเห็นเกี๊ยวกด Love ในเพจด้วยนะ

ข้อความขึ้น Read แล้วแน่ๆ อันอันรู้แล้วแน่นอนว่าผมอ่านข้อความของเธอแล้ว ผมมองภาพที่เธอส่งมาเป็นภาพแคปจากเฟซฯของแทนคุณที่มีขึ้น mutual friend ระหว่างเขากับเธอเป็นเฟซฯของผม ผมกลืนน้ำลายลงคอรู้สึกว่ามันเหนียวจนกลืนลำบากก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ตอบเธอไป

YOU: อืม เราเป็นแฟนคลับคุณน่ะ
YOU: ตอนแรกก็ว่าจะบอกอันอันเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะบอกยังไง
AunAun: โอ้ย เราดีใจอ่ะ อย่างนี้เกี๊ยวก็มาเข้ากรุ๊ปกับพวกเรามั้ย กรุ๊ปไลน์รักคุณครับอ่ะ
YOU: อย่าดีกว่า เราอยู่แบบนี้ดีกว่า
AunAun: งั้นเอางี้ จำเพื่อนเราที่เจอบนบีทีเอสมั้ย เรามีก๊วนลับอีก
AunAun: แล้วจะบอกให้นะว่าเพื่อนเรา น้ำหวานน่ะ อยู่คณะเดียวกันกับคุณด้วย น่าจะมีข่าวอะไรมาอัพเดทได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
AunAun: เดี๋ยวเราลากเลยแล้วกัน

ผมขมวดคิ้วกำลังสงสัยว่าน้ำหวานคือใคร และไม่ทันที่จะพิมพ์ข้อความตอบปฏิเสธอันอันไป แจ้งเตือนการชวนเข้ากลุ่มก็เด้งขึ้นมา ผมมองชื่อกลุ่มแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ แต่ก็มาถึงขั้นนี้แล้วก็....


สมาคมเมียลับของแทนคุณ


YOU joined the group



 

จบตอน




หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 2>
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 21-09-2016 12:14:46
ตอนที่ 2
ติ่ง


ขณะนี้เป็นเวลา 12.30 น.


“ที่นี่แหละ ไม่ผิดแน่นอน”
“แกมั่นใจ?”
“ที่สุดอ่ะ เพราะฉันแอบดูมาจากใบสมัครค่ายอาสาที่พวกดาวเดือนต้องไปน่ะสิ และนี่ใบสมัครสำหรับคนที่จะไปร่วมกิจกรรมด้วย เขารับจำนวนจำกัด”
“เยี่ยมมากเลยน้ำหวาน”

บทสนทนาข้างต้นทั้งหมดนั้นเป็นการพูดคุยระหว่างสองเพื่อนซี้อดีตเด็กคอนแวนต์ที่ตอนนี้ ผมกลายมาเป็นสมาชิกร่วมกลุ่มของพวกเธอไปโดยปริยาย

และเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนให้กับเด็กปี 1 หลังจากจบกิจกรรมเฟรชชี่ไนท์ไปเมื่อคืน พร้อมกับได้เดือนและดาวของมหาวิทยาลัยประจำปี สมาคมเมียลับของแทนคุณจึงสบโอกาสมีทติ้งขึ้น รวมถึงฉลองต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างผมไปในตัว ส่วนสถานที่มีทติ้งของเรานั้นก็คือ ร้านกาแฟแอนด์เบเกอรี่ที่อยู่ตรงข้ามคอนโดของแทนคุณน่ะสิ

“เสียดายที่อิเปรี้ยวมันเรียนคนละที่กับพวกเราไม่งั้นล่ะก็ครบแก๊ง”
“วิดีโอไลน์หานางกัน” อันอันเสนอความคิดในขณะที่ผมได้แต่นั่งเงียบเก็บรายละเอียดราวกับเลขาฯจดรายงานการประชุม

“ไฮฮ้ายย พวกแก” เสียงของเปรี้ยวสาวท้วมที่ตอนนี้ความท้วมของเธอไม่ใช่อุปสรรคในการทำตัวให้ซี๊ดซ๊าดสมชื่อ ด้วยผมสีเพลิงและบิ๊กอายสีเทาที่เธอสวมอยู่ ส่วนฉากหลังเป็นห้องนอนที่แปะภาพโปสเตอร์ของนักร้องเกาหลีอยู่เต็มพื้นที่

“แต่งงามไปไหนยะ”
“สยามค่ะคุณขา อุ๊ย นั่นใครอ่ะ เกี๊ยวหรอ” พอได้ยินชื่อตัวเองผมก็รีบเงยหน้าจากจอมือถือมายกมือขึ้นเซย์ไฮทักทายเจ้าหล่อน

“ว้ายกรี๊ด หนุ่มแว่นโมเอ้” ผมเกาแก้มด้วยความเขิน
“เห็นโปรไฟล์ขึ้นรูปการ์ตูนไม่คิดว่าตัวจริงจะน่ารักน่าหยิกแก้มขนาดนี้ ยินดีต้อนรับสู่สมาคมเมียลับนะหนูเกี๊ยว”
“อ่า...เรียกเราว่าเกี๊ยวเฉยๆดีกว่า”
“งื่อออ เสียงมุ้งมิ้งจัง”

“เฮ้ย แจ๊คพ็อตแตก” น้ำหวานร้องเสียงหลงพลางมองเลยออกไปนอกร้านให้พวกผมมองตาม และแจ๊กพ็อตที่ว่านั่นก็คือ ร่างสูงสมส่วนของเดือนมหาวิทยาลัยหมาดๆอย่างแทนคุณ กฤติดำรง ที่อยู่ในชุดไปรเวทแบบบ้านๆด้วยเสื้อยืดและกางเกงบอล กำลังก้าวข้ามถนนมายังฝั่งที่พวกเราทั้งสามคนสถิตอยู่

“อิเปรี้ยวๆ แกดู” น้ำหวานว่าพลางพลิกไอโฟนในมือออกไปนอกถนน ได้ยินเสียงเปรี้ยวกรีดร้องออกมา จนอันอันต้องรีบเอามือปิดลำโพงเอาไว้

“แก....คุณเดินมาทางนี้ว่ะ เอาไงดี”
“ฉันทำตัวไม่ถูก”

อย่าว่าแต่พวกคุณทั้งสองเลยผมก็วางตัวไม่ถูกเหมือนกัน
และทันทีที่ประตูร้านเปิดพร้อมกับที่ร่างสูงสมส่วนของแทนคุณเดินก้าวเข้ามา พวกเราทั้งสามก็ได้แต่นั่งเกร็งก้มหน้าก้มตาสุมหัวสนใจของที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างตั้งอกตั้งใจ

แทนคุณเดินเลยโต๊ะที่พวกผมนั่งไปแล้ว และหยุดอยู่ที่เค้าท์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม 

“อิเปรี้ยวแค่นี้ก่อนนะ ต้องทำภารกิจแหละแก” ปิ๊บ! และน้ำหวานก็ทำการกดตัดสายไปเสียดื้อๆ

“เกี๊ยวจ๊ะ เขยิบมานั่งนี่มา” ผมได้แต่ทำตามคำสั่งโดยที่สลับที่นั่งกับน้ำหวาน และคุณเธอก็ปีนป่ายอยู่ที่เก้าอี้ผมแทน ทำตัวลับๆล่อๆดูแล้วตลกชะมัด กับท่าทางที่เธอกำลังหามุมแอบถ่ายภาพของแทนคุณ แม้จะเห็นแค่เบื้องหลังก็ตาม

แต่สำหรับผมแล้วที่นั่งเดิมของน้ำหวานก็มองตรงไปยังเค้าเตอร์ได้ดี แค่มุมมันไกลกว่าตรงที่ผมนั่ง และอีกอย่างตรงที่ผมนั่งมันสะดวกในการแอบถ่ายมากเนื่องจากมันเป็นโซฟาทรงสูง

ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมื่อมีเสียงครืดครืด แจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า ปรากฏว่าเป็นข้อความจากศูนย์เครือข่ายโทรศัพท์ที่ผมใช้งานอยู่ เลยละความสนใจและมองไปยังแทนคุณที่น่าสนใจกว่า


แชะ!
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้น ไม่ต้องบอกว่าจากใคร ก็เจ้ากล้อง(สมาร์ทโฟน) ในมือน้ำหวานน่ะสิ
เจ้าของเสียงดังนั้นรีบก้มหลบหลังเก้าอี้ของผม ส่วนผมน่ะหรือ

ตอนนี้กำลังอ้าปากค้างมองภาพที่แทนคุณหันมายังเสียงปริศนานั้น ผมได้สบสายตากับเขาชั่วครู่ เจ้าของตำแหน่งเดือนมหาวิทยาลัยขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเพ็งสายตามองของในมือผม

ผมก้มลงมองมือตัวเองแล้วก็ต้องรีบวางของในมือลงราวกับเป็นของร้อน พอเงยหน้าขึ้นมองแทนคุณอีกครั้ง เขาก็ทำแค่ยกยิ้มพลางโบกมือให้ ก่อนเขาจะหันไปรับของที่สั่งไว้


โอ้ย พ่อนางงามมิตรภาพ

แทนคุณกำลังเดินจากไป ในมือมีแก้วเครื่องดื่มที่เจ้าตัวสั่ง โดยที่เขาไม่ได้หันมาสนใจอะไรพวกผมอีก

“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ฮือออออ..... คุณยิ้มอ่ะเมื่อกี้” อันอันกระซิบกระซาบ เธอเขย่าไหล่ผมจนหัวสั่นหัวคลอน
“แฮ่...” ส่วนน้ำหวานก็ได้แต่ส่งยิ้มแหยๆมาให้ผม
“เกี๊ยววว เห็นหรือเปล่า แทนคุณยิ้มให้น่ะเห็นมั้ย”
“เห็นสิ เต็มสองตาเลย”
“เจ๋งอ่ะ เจ๋งที่สุด”
“ตกใจจะตาย ถ้าเขามาเอาเรื่องที่เราแอบถ่ายล่ะ” ผมตั้งคำถามขึ้นมาทันที
“บ้าน่า คุณไม่ใจร้ายขนาดนั้น ถ้าจะเอาเรื่องคงเอาเรื่องไปตั้งนานแล้วเถอะ นี่ไม่ใช่ภาพแรกที่เขาถูกแอบถ่ายเสียหน่อย” น้ำหวานตอบกลับมา ก่อนจะย้ายตัวเองมานั่งเบียดกับผม

ก็เข้าใจอะนะว่าผมตัวเล็กพอๆกับผู้หญิงทั้งสองคน แต่ว่านะ...นั่งเบียดแบบนี้มันก็อึดอัดอยู่ดีป่ะครับ

“เมื่อกี้ขอโทษอีกทีนะเกี๊ยว แต่ก็นะ...อย่างน้อยก็มีโมเม้นต์กับคุณอ่ะ ฮึ่ย อิจเบาๆอ่ะ”
“ช่างเหอะๆ ว่าแต่ เราจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน”
“เออใช่! เราจะเสียเวลาอีกไม่ได้....ไปกัน” หัวหน้าแก๊งอย่างเจ้าแม่น้ำหวานเอ่ยขึ้นทันที ไม่พอเท่านั้นเธอยังจัดการรวบของบนโต๊ะเก็บเข้ากระเป๋าและลุกขึ้นยืน

“ไปไหนอ่ะ?” ผมถามด้วยความสงสัย ต้องเข้าใจนะว่าผมเป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่ม ไม่รู้หรอกว่าวันว่างของสาวๆนี่เขาไปทำอะไรกันบ้าง

“ถามมาได้นะคะ ก็ตามต่อน่ะสิ อันอัน ไป!”
“รับทราบ” ว่าจบอันอันก็เตรียมวิ่งไปที่ฮอนด้าแจ๊สที่วันนี้เธอยืมเจ๊เอิญออกมาขับ ส่วนผมก็ถูกน้ำหวานดันขึ้นไปนั่งที่ข้างหลังส่วนตัวเธอนั้นก็นั่งข้างคนขับทันที

ผมขอตั้งชื่อวันว่างของพวกเธอว่า
#ติ่งออนเดอะโรด ตามติดชีวิตแทนคุณ









หากเป็นเมื่อก่อน ย้อนไปสักปีครึ่งก็ได้ ช่วงที่ผมรู้สึกว่าตัวเองนั้นชอบในความเป็นแทนคุณมากจนกระทั่งมันเปลี่ยนเป็นความรู้สึกตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ ตอนนั้นผมยังไม่มีความคิดที่จะมาวิ่งไล่ตามแทนคุณเลยด้วยซ้ำ ผมก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไปเรียนพิเศษ เดินเล่น ช็อปปิ้ง บางทีก็เช่าห้องคาราโอเกะร้องเพลง หรือเดินเที่ยวกันเพื่อนๆไปตามประสาวัยรุ่นทั่วไป

แต่ตอนนี้ผมกำลังได้เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างมากก็เคยเห็นคนอื่นทำผ่านตาทางเฟซบุ๊คหรือสื่อบันเทิงทีวีบ้าง

บอกใครจะมีใครเชื่อผมบ้างว่าผมกำลังจะเป็น ติ่งเองบ้างแล้ว

น้ำหวานพาพวกเรามายังพิกัดที่เธอได้รับแจ้งจากไลน์กรุ๊ปแอดมินเพจรักคุณครับ ซึ่งตอนนี้ผมได้รู้แล้วว่า รักคุณครับ แฟนเพจมีแอดมินประจำบ้านอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ชีวิต เป็นรุ่นเดียวกับผม 3, รุ่นน้อง 1 และ รุ่นพี่อีก 2

ในสามคนที่เป็นรุ่นเดียวกับผมนั้นคงไม่ต้องบอกว่าประกอบไปด้วยใครบ้าง ก็เจ้าแม่สามสาวเจ้าของสมาคมเมียลับแทนคุณนั่นแหละ แต่ที่เด็ดดวงสุดคงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก รุ่นน้องที่เป็นแอดมินเพจ 1 เดียวคนนั้น

เป็นแอดมินกิตติมศักดิ์ด้วยนะ เพราะเธอเป็นถึง น้องสาวแท้ๆของแทนคุณ
และพิกัดที่ได้มาก็มาจากเธอคนนี้นี่แหละ

“นั่นไง รถของคุณ” น้ำหวานชี้นิ้วไปยังรถยนต์สัญชาติยุโรปสัญลักษณ์สี่ห่วงสีขาวจอดเทียบอยู่ในลานจอดรถใต้เงาต้นไม้ใหญ่ ของสนามกีฬามหา’ลัย

จากคำบอกกล่าวของน้องเจ้าน้องสาวของคุณบอกว่า วันนี้คุณมาออกกำลังกายที่นี่ ซึ่งพ่อเดือนมหา’ลัยเขานัดแนะกับเพื่อนไว้แล้ว โดยปกติเขาชอบเล่นกีฬาทุกชนิดแต่ที่ชอบมากที่สุดก็คือ...ว่ายน้ำ

เราเดินมาจนถึงจุดทางเข้าของพื้นที่สระว่ายน้ำในสนามกีฬาแห่งนี้ บอกตามตรงว่าอดตื่นเต้นไม่ได้ มันเป็นการติ่งออนเดอะโรดทริปครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามันยิ่งกว่าคุ้ม

มีบางครั้งที่คุณลงรูปตัวเองในสภาพที่สวมแค่กางเกงว่ายน้ำขาสามส่วนอวดกล้ามเนื้อเรียงตัวสวยพร้อมผิวขาวและหัวนมชมพู แค่นั้นก็เล่นเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว แต่นี่ ในอนาคตอันใกล้นี้จะได้เห็นมันจากตาของตัวเองเชียว

ไม่ตื่นเต้นก็บ้าแล้ว...

“เราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ผมพูดขึ้นเมื่อรู้สึกว่าตัวเองตื่นเต้นมากไปจนปวดฉี่
“ได้ๆ เดี๋ยวเรากับน้ำหวานไปจองที่ไว้ให้ ตรงมุมนั้นแล้วกัน” ผมพยักหน้ารับแล้วรีบก้าวยาวๆไปทางป้ายห้องน้ำทันที

ไม่ไหวแล้วฉี่จะราด ตื่นเต้นมากแล้วเลือดพลุ่งพล่านสูบฉีดไปทั่วร่างกาย พอถึงโถฉี่ที่ตัวเองได้ครอบครอง ความรู้สึกโล่งโปร่งสบายก็เข้ามาทันที

“ฮู่ววว” ผมผ่อนลมหายใจออกมาด้วยใบหน้าอิ่มสุข ก่อนจะล้างมือหลังเสร็จกิจธุระ แต่พอเดินออกจากห้องน้ำเท่านั้น ผมจำต้องรีบหลีกกายตัวเองเข้ามาแอบหลังประตูห้องน้ำในทันที


แทนคุณตัวเป็นๆยืนอยู่ไม่ไกลจากหน้าห้องน้ำเลย

“คุณลงสระไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวผมเข้าห้องน้ำก่อนแล้วจะตามไป” เสียงพูดของใครสักคนแว่วมาให้ได้ยิน ผมทันเห็นแผ่นหลังเขาแค่แว่บเดียวนั่นแหละ

“โอเค งั้นผมไปสมทบกับพวกไอตั้มก่อนแล้วกัน” แทนคุณตอบคนๆนั้นผมจำน้ำเสียงเขาได้

พ่อเดือนมหา’ลัยเดินออกไปจากบริเวณนี้แล้ว ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะออกมาจากที่ซ่อน ไม่แน่ใจหรอกว่าแทนคุณจำผมได้ไหม แต่เหตุการณ์น่าอายที่เกิดขึ้นในไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น ผมเชื่อว่าเขาต้องคุ้นหน้าผมบ้างแหละ

“อ้าว ยู”

แต่พอผมออกจากห้องน้ำมาแล้ว คุณรู้ไหมผมเจอใคร
รูมเมทผมไง...


“มาว่ายน้ำเหมือนกันหรอ ยู”
“ห๊ะ...อ่อ ใช่ แต่ เอ่อ เราลืมเอากางเกงว่ายน้ำมาน่ะ นี่ก็เลยว่าจะกลับก่อนค่อยมาวันหลัง แล้วโรมล่ะ”
“นัดเพื่อนไว้ที่นี่แหละ จริงๆผมมีให้ยูยืมนะ ถ้าไม่รังเกียจ” โรมไม่แค่พูดเฉยๆ แต่ทำท่าจะหยิบเอากางเกงว่ายน้ำที่เจ้าตัวมีสำรองในกระเป๋ามาให้ผมอีกด้วย

“เฮ้ย...ไม่ต้อง ไม่เป็นไร คือพอดีนึกได้ว่ามีธุระ ไว้วันหลังแล้วกันนะ” ผมรีบปฏิเสธทันควัน ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากว่ายน้ำเพื่อได้ใกล้ชิดคนที่ผมชอบนะ ถึงจะยังไม่ทันเตรียมตัวเตรียมใจที่จะได้ลงสระ

แต่ความจริงที่ว่า ผมว่ายน้ำไม่เป็น ต่างหากที่ทำให้ผมต้องปฏิเสธ


 โรมไม่ได้เร้าหรืออะไรแค่พยักหน้าก่อนจะเดินผ่านผมเข้าห้องน้ำไป และภารกิจติ่งออนเดอะโรด ตามติดชีวิตแทนคุณของผมนั้น คงต้องพับไว้เพียงเท่านี้  ทำได้แค่เพียงไลน์ไปหาสองสาวว่ามีธุระด่วน ก่อนจะพาตัวเองออกจากสระว่ายน้ำสนามกีฬา

พอออกมาแล้ว ความโดดเด่นของรถยนต์คันหรูที่มีเจ้าของเป็นเดือนมหา’ลัยก็สะดุดตาผมเข้าอย่างจัง อดไม่ได้ที่จะหยิบกาแล๊คซี่โน๊ตคู่ใจออกมาแชะภาพเอาไว้ หามุม หาแสงที่ลงตัวแล้วกดถ่าย ก่อนจะเข้าแอพพลิเคชั่นสำหรับแชร์รูปภาพอย่าง Instagram หาฟิลเตอร์ที่เหมาะสมแล้วลงแคปชั่นด้วยประโยคสั้นๆว่า


อยากเป็นตุ๊กตาหน้ารถ


ติดแฮชแท็กสักนิด
#ได้สักครั้งจะตั้งใจเรียน




จบตอน



มาคุยกันเถอะ !
เอาตอนสองมาลง ไม่พูดไรมาก จะพยายามไปปั่นตอนที่ 3 คึคึ (ทำตัวเหมือนว่าง อู้งานชัดๆ....เยาวชนไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง กร๊าก)

 :mew3:

หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 2>
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 21-09-2016 17:53:33
กลายเป็นติ่งน้อย ๆ โดยไม่รู้ตัว น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 3>
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 23-09-2016 23:20:29
ตอนที่ 3
สมุดหาย




ผมกำลังนั่งสไลด์หน้าจอมือถือตัวเองวนอ่านข้อความในไลน์กรุ๊ปสมาคมเมียลับของแทนคุณไม่ต่ำกว่าสามรอบ แม้ตอนนี้มันจะเงียบลงไปแล้วเพราะสาวๆกำลังแยกย้ายกันไปอ่านนิยายเพราะเห็นว่ามีนิยายเรื่องโปรดอัพเดท ทิ้งให้ผมนั่งเหงาๆอยู่ในหอสมุดเพียงคนเดียว


เมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว ผมได้รับภารกิจใหม่มาจากกลุ่มสมาคมเมียลับหรืออีกนัยหนึ่งก็คือแอดมินของรักคุณครับ แฟนเพจ ในฐานะแฟนคลับกิตติมศักดิ์ของเพจ โดยเนื้อหน้าของภารกิจนั้นไม่ได้มีอะไรที่ยากเกินความสามารถของผมเลย


Sweet Water: เราอยากได้แฟนอาร์ต
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: แฟนอาร์ตของคุณอะนะ
Sweet Water: ถูกต้องค่ะ
AunAun: เกี๊ยวจ๋า ทำให้หน่อยได้มั้ยอ่า
AunAun: Sent a sticker

รูปสติ๊กเกอร์น้องกระต่ายที่ส่งตาวิ๊งๆอ้อนวอนมาให้ พาให้จิ้มนิ้วสไลด์หาสติ๊กเกอร์น่ารักๆที่ตัวเองพอมีอยู่บ้าง

YOU: Sent a sticker

สติ๊กเกอร์รูปพ่อหนุ่มผมทองปลิวไสวทำท่าโอเคใส่น่าจะพอได้แหละ

YOU: อยากได้แฟนอาร์ตแบบไหนอ่ะ
YOU: แต่เราวาดไม่เก่งหรอกนะ
Sweet Water: อย่าถล่มตัวค่ะ เราแอบไปสืบมาแล้วในเฟซฯ เกี๊ยววาดรูปเก่งจะตาย
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: เออใช่เลย...หนูเกี๊ยวเป็นเด็กอาร์ต เราเห็นในโปรไฟล์เฟซฯ

อีแอพพลิเคชั่นอันนี้เริ่มน่ากลัวล่ะ เอะอะไรก็สืบจากมันได้หมด

YOU: ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก แล้วรีบใช้มั้ย?
AunAun: เราอยากได้รูปเซ็ตวันนี้
YOU: เซ็ตวันนี้? ที่สระว่ายน้ำน่ะหรอ?
AunAun: ใช่ๆ
Sweet Water: เกี๊ยวว่างเมื่อไหร่ค่อยวาดก็ได้
YOU: ได้สิ

นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมได้รับมอบหมายมา แต่เรื่องที่ทำให้ผมมานั่งทอดอารมณ์อยู่ในหอสมุดไม่ใช่เรื่องวาดแฟนอาร์ตหรอก แต่เป็นบทสนทนาในกรุ๊ปต่อจากนั้นต่างหาก

Sweet Water: วันนี้น่าเสียดายแทนมาก ที่เกี๊ยวกลับไปก่อน
AunAun: ใช่ๆ เนี่ยเราฟินมากเลยนะ
Sweet Water: กลุ่มเพื่อนคุณที่คณะก็หน้าตาดี แถมยังมีโรมที่เป็นเพื่อนสนิทสมัยกางเกงน้ำเงินมาร่วมด้วยอีก
Sweet Water: ฉันจิ้น ฟินลืมหายใจเลย
AunAun: นี่นั่งบิดจนลำไส้เกือบพันกัน
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: อิจฉา อยากเจอคุณโรมมมมม ฮืออออ
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: Sent a sticker
Sweet Water: หุหุ ดูรูปไปก่อนนะ นี่เลยๆ
Sweet Water: Sent a photo
AunAun: มีคลิปด้วยค่ะ
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: โอ้ย กรี๊ดดด คุณโรมของบ่าว ฮืออออ
AunAun: Sent a video
Sweet Water: โมเม้นต์จริงคือตายค่ะ คู่นี้คือเรียลลล
AunAun: อะไรคือแค่เพื่อน แต่มา คุณ ผม โรม โอ้ยๆ
Sweet Water: เขามีเช็ดผมให้กันด้วยนะเว้ยแก....ฟินทะลุกาแล็คซี่อ่ะ
AunAun: เกี๊ยวเงียบเลย สงสัยจะตามไม่ทัน
YOU: ทันๆ ว่าแต่คุณโรมคืออะไร
Sweet Water: แฟนคลับหลังเขามากนะคะยู ที่ไม่รู้จักคุณโรม
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: อย่าว่าหนูเกี๊ยวนะยัยหวาน
Sweet Water: ล้อเล่นหรอก แบร่ หยอกๆนะยูนะ
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: ฟังนะคะ
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: คุณโรม คือ คู่จิ้นค่ะ คู่จิ้นที่ดูเรียลมาก เกี๊ยวไม่รู้หรอ
YOU: เราไม่รู้อ่ะ เรารู้แค่ว่าโรมเป็นเพื่อนในกลุ่มที่คุณสนิทด้วย
AunAun: ก็ใช่ แต่เวลาที่เขาอยู่ด้วยกัน ออร่าสีม่วงจะฟรุ้งฟริ้งเอามากๆ เราๆสาววายน่ะฟินจิกหมอนกันบ่อยเลย
Sweet Water: Sent a photo
Sweet Water: Sent a photo
Sweet Water: Sent a photo
Sweet Water: Sent a photo
Sweet Water: มีฟิกด้วยนะ อยากอ่านมั้ยคะ
YOU: เฮ้ย ไม่เป็นไร อย่าเลย
YOU: เราตามแค่คุณก็พอ
AunAun: เออจริงสินะ ก็เกี๊ยวไม่ใช่หนุ่มวายนี่เนาะ
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: เฮ้ยแก เราแว๊บก่อนนะ ฟิกไคโฮอัพเดทว่ะ เดี๋ยวไว้ค่อยเม้าท์กัน
Sweet Water: ไปด้วยๆ จะไปส่องยูทูบเหมือนกัน
AunAun: แล้วฟิกไคฮุนอัพมั้ยเปรี้ยว ไปอ่านบ้างดีกว่า

และนั่นก็คือการสลายตัวของสาวๆเขาแหละ


ไม่มีอะไรที่น่าสนใจแล้วก็วางมือถือของตัวเองลงแล้วล้วงเอาสมุดขนาดเอห้าออกมาจากกระเป๋าแทน มันเป็นสมุดที่ผมมักจะพกติดตัวไว้สำหรับสเก็ตรูปต่างๆตามแต่ที่ผมจินตนาการ และส่วนใหญ่รูปที่มีก็มักจะเป็นรูปของแทนคุณในมโนนึกของผมเอง

“เหลือสองหน้าเองหรอวะเนี้ย” พูดไปก็หยิบดินสอออกมาจากกระเป๋าผ้าใบเล็กอีกใบ

“คงต้องหาเวลาไปซื้อมาเพิ่ม” แล้วก็เริ่มลงลายเส้นไปบนกระดาษขาวๆนั้น


เวลาผ่านไปเรื่อยๆผมก็ร่างภาพแฟนอาร์ตของแทนคุณที่แก๊งสามสาวเขาต้องการจนเสร็จ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์ของผมสั่นครืดครืด

“เออว่าไง”

(เกี๊ยว แดกข้าวเย็นกันมั้ย)

ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูพบว่าตอนนี้หกโมงครึ่งแล้ว ก่อนจะตอบปลายสาย

“เอาดิ”
(แล้วมึงอยู่ไหน)
“หอสมุด มึงเข้ามาหากูนะ กูจะไปรอที่โรงอาหารกลาง”
(เออๆ ไปจองที่รอกูเลย)
“แล้วเจอกัน”
(ไม่เกิน 20 นาที)
“เออ”

พอวางสายจากไอ้ว่านวุ้นเป็ดแล้วผมก็ลงหมึกดำตัดภาพให้แล้วเสร็จก่อนจะทำการแชะลงมือถือ เพื่อมาแต่งต่อในโทรศัพท์คู่ใจ ผมกวาดทุกอย่างลงกระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วเดินออกจากหอสมุดที่วันหยุดมักจะเงียบเป็นพิเศษ

พอออกมาจากหอสมุดแล้วก็เดินตรงมายังโรงอาหารกลางที่นัดไว้ในทันที โรงอาหารวันหยุดก็ไม่ต่างจากหอสมุดเท่าไหร่เพราะนิสิตไม่พลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะเป็นนิสิตที่พักอยู่หอในกับพวกที่มาทำกิจกรรมในคณะเสียมากกว่า

ระหว่างนั่งรอไอ้ว่านผมก็ทำงานที่ค้างต่อ เอาภาพที่วาดเข้าแอพแล้วเริ่มปรับสีความคมชัด ก่อนจะลงสีด้วยปากกาโน๊ตที่มากับมือถือ พอเสร็จแล้วก็ลงลายเซ็นไว้ข้างท้าย แล้วส่งเข้าไปในห้องแชทให้สาวๆ


“รอนานมั้ยวะมึง” เสียงของเชี่ยว่านดังขึ้นมาให้ผมรีบหย่อนมือถือลงในกระเป๋า พร้อมเงยหน้าไปตอบมัน
“ไม่นาน มึงไปซื้อก่อนเลยเดี๋ยวกูจองที่ไว้ให้”
“เออ มึงแดกไร”
“เหมือนเดิม”
“ห่า แดกแม่งอยู่ได้ไม่เบื่อหรือไง”
“ทีมึงยังแดกวุ้นเป็ดได้ไม่เบื่อ”
“เออ กูเข้าใจว่ามึงกับกูมันเป็นพวก รักแรง รักมั่น คงมั่น ฮ่าๆ” ว่าจบมันก็เดินออกไปซื้อของตามที่บัญชา


บะหมี่เกี๊ยวน้ำ ไม่ปรุงของผมถูกวางอยู่ตรงหน้า ส่วนของไอ้ว่านเป็นข้าวหน้าเป็ด ก่อนที่พวกเราจะจ้วงของกินตรงหน้าอย่างไม่สนใจใคร

“เออมึง ปกติเสาร์อาทิตย์มึงกลับบ้านมั้ย” ไอ้ว่านถามผมหลังจากที่มันกลืนข้าวคำที่ห้าลงคอ ให้ผมที่กำลังซดน้ำบะหมี่ลงคอพร้อมก้มหน้าซูดเส้นบะหมี่รีบกลืนลงคอเพื่อตอบคำถามมัน

“แล้วแต่ว่ะ ความจริงช่วงเทอมแรกแม่ไม่อยากให้กลับด้วยซ้ำ แกอยากให้คุ้นชินพื้นที่มากๆ”
“เออ ดีว่ะ”
“ทำไมวะมึง”
“คืองี้เว้ย...มึงจำตอน ม.ต้นที่เราไปรวมวงกับพี่เต้ได้มั้ย” ผมพยักหน้าพลางตักเกี๊ยวหมูก้อนเหลืองๆเข้าปาก

“เนี้ยเฮียแกก็เป็นปู่รหัสกู พอแกเห็นหน้ากูก็เลยชวนกูไปเล่น พอกูบอกว่ามึงก็ติดที่นี่ เขาก็เลยให้กูมาชวนมึงด้วยอ่ะ”

พี่เต้ที่เรากำลังพูดถึงอยู่เป็นรุ่นพี่พวกเรา 3 ปี ตอนนั้นผมกับว่านอยู่ ม. 3 พี่เขาก็อยู่ ม. 6 มีโอกาสได้รวมวงเล่นกันตอนงานโรงเรียนและงานปัจฉิม เลยเห็นฝีไม้ลายมือกันมาบ้าง ซึ่งพอพี่เขาจบออกไปก็กระจายตัวกันไปคนละทิศรวมถึงคู่หูผมที่ย้ายไปเรียนม.ปลายอีกโรงเรียน

“มึงสนใจมั้ย”
“พี่เขาขาดคนหรอวะ”
“ก็ไม่เชิง เห็นเฮียแกว่า อยากได้คนไว้สลับแทนคนอื่นๆที่อาจจะติดธุระอะไรแบบนี้ ได้มีเวลาพักกันด้วย พวกพี่เขาก็ปี 4 แล้วอีกอย่างพอปี 5 ก็ต้องไปฝึกสอนคงไม่ได้เล่นบ่อย”
“เดี๋ยวกูขอคิดอีกทีได้ป่ะ”
“ได้ๆ ถ้ามึงโอเคยังไงก็บอกกูมาแล้วกัน เฮียแกอยากมีนักร้องชายในวงมาสลับกับนักร้องหญิงหรือบางทีก็ฟีทเจอริ่งอะ”
“อือ”


พวกผมใช้เวลาอีกไม่เท่าไหร่ก็จัดการอาหารจนหมดเกลี้ยง พร้อมกับที่ไอ้ว่านไปสรรหาวุ้นเป็ดมากินเป็นของหวานตบท้ายมื้ออาหารอีก ไม่รู้ไปหาได้จากที่ไหนกัน

“มึงจะไปไหนต่อ หรือกลับหอเลย”
“กูว่าจะไปห้างอ่ะ ไปดูสมุดที่ B2S สักหน่อย”
“เออดีๆ กูจะไปดูปากกาเหมือนกัน”

ตกลงกันเสร็จสรรพ ผมก็แปลงกลายเป็นสก๊อยซ้อนท้ายฮอนด้าสกูปปี้ไอของไอ้ว่านไปยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากมอสักเท่าไหร่ มาถึงห้างก็ใช้เวลาไปเกือบยี่สิบนาที พอจอดรถเสร็จเรียบร้อยก็เดินมุ่งตรงไปยัง B2S ทันที ผมกับมันแยกย้ายกันไปดูของที่ตัวเองต้องการ


เลือกของไม่ถึง 15 นาทีดี ไอ้ว่านก็วิ่งเข้ามาหาผมหน้าซีดเซียวเหงื่อแตกพลั่ก

“เชี่ยเกี๊ยว ด่านกูจะแตกมึงไปรอกูที่ทางช้างเผือกนะ” ว่าจบมันก็วิ่งปรู๊ดออกไป แต่ทิ้งกลิ่นหอมหวนชวนอาเจียนเอาไว้ให้
“ไอสัดว่าน ไอเหี้ย! แม่งไส้เน่าหรือไงวะ” ผมบ่นด่ามันไล่หลังพลางปัดมือว่อนในอากาศ ยังดีที่แถวนั้นไม่มีคนอยู่ ผมรีบเดินหนีออกมาก่อนจะขาดอากาศหายใจตาย


โชคดีที่เลือกของเสร็จแล้วเลยเดินไปจ่ายของที่ต้องการ เสร็จแล้วก็ตั้งใจว่าจะเดินไปรอไอว่านที่หน้าห้องน้ำ ระหว่างทางก็รื้อของในกระเป๋าควานหาโทรศัพท์เอามาเช็คข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแทนคุณสักหน่อย



พลั่ก!!

“เอ่อ...ขอโทษครับ”

เสียงละล่ำละลักขอโทษขอโพยที่ชนผมกระเด็นล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมของในกระเป๋ากระจัดกระจาย

“ไม่..ไม่เป็นไร ผมไม่ดูทางเอง” ผมว่าพลางจัดแว่นของตัวเองที่หล่นลงมาให้เข้าที่ พร้อมกับตั้งใจว่าจะต้องขอโทษอีกฝ่ายเพราะเป็นผมเองที่เดินไม่ดูทางไปชนเขาชัดๆ แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ ช็อกสิ!

“.....แทนคุณ”
“ครับ?”

เราสบตากันเกือบสิบวินาที ก่อนที่ผมจะได้สติรีบกวาดของแบบมั่วๆแล้วลุกพรวดขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมหันหลังแล้วใส่เกียร์หมาวิ่งออกจากจุดนั้นทันที

“อ้าว..เฮ้ย คุณ คุณ...”

ไม่สนใจแล้วเสียงที่ตามหลังมาก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้าง โบกสองแถวป้ายเหลืองตรงป้ายรถเมล์แล้วกระโดดขึ้นไปอย่างไม่สนใครหน้าไหน

รู้เลยว่าตอนนี้อัตราการเต้นของหัวใจมันหนักหน่วงขนาดไหน หน้านี่แทบไหม้ไม่ใช่เพราะร้อนนะ แต่กูอายอ่ะ...เขินยังไงก็ไม่รู้

แทนคุณ... ในระยะประชิด
สบตากันด้วย
หล่อทะลุเรติน่า

โอ้ย...จะหัวใจวาย


ผมรีบหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาแล้วจิ้มเข้าแอพพลิเคชั่นตัว F สีน้ำเงินทันที ไม่รีรออะไรแล้วรัวนิ้วลงบนโพสต์ของตัวเอง พิมพ์ไปอย่าเพ้อๆ เหมือนคนสติหลุด


บะหมี่ เกี๊ยว
รู้สึกตกหลุมรักอยู่ซ้ำๆ #YOU


พอพิมพ์เสร็จก็ได้แต่เอาโทรศัพท์โขกหัวตัวเอง ก่อนจะรู้สึกตัวได้ว่า นี่กูอยู่บนรถสาธารณะ เลยต้องรีบทำเนียนเป็นมองออกไปข้างทาง




((ต่อข้างล่างค่ะ))
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 3>
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 23-09-2016 23:26:16
ครืด ครืด


Wan EDUสายรหัส1584:  มึงอยู่ไหนไอสัด กูมาหาที่ B2S ไม่เห็น
Wan EDU สายรหัส1584: sent a sticker   

ผมมองสติ๊กเกอร์ที่ไอว่านส่งมาเป็นรูปโคนี่ทำหน้างง

YOU: เฮ้ย โทษทีมึง กูลืม
Wan EDU สายรหัส1584: ไอฟายยยยยยยยยยยยยยยเกี๊ยว โอ้ยย เหี้ยจริง แล้วนี่มึงหนีกูกลับไปตอนไหน
YOU: กูขอโทษๆ กูใกล้ถึงหอแล้ว มึงอย่าโกรธกูนะ
Wan EDU สายรหัส1584: ช่างแม่งเหอะ งั้นกูกลับหอเหมือนกันละ ไว้เจอกันที่มอ
YOU: Sent a sticker

ผมส่งสติ๊กเกอร์รูปหมีน้ำตาลกอดกระต่ายสีขาวไปให้มัน

Wan EDU สายรหัส1584: Sent a sticker

ส่วนมันก็ส่งกลับมาด้วยสติ๊กเกอร์ชินจังโชว์ตูด ไอเสลดเป็ด

คุยกับมันเสร็จก็เป็นจังหวะที่รถสองแถวมาจอดอยู่ที่หน้ามหา’ลัยพอดี พอลงจากรถได้ก็ต้องเดินเท้าเข้าไปที่หอแทน และตอนนี้ก็มืดสลัวเนื่องจากว่ามันเกือบสองทุ่มครึ่งแล้ว การเดินเท้ากลับมาถึงห้องก็ใช้เวลาไปร่วมสิบห้านาทีเพราะหออยู่เกือบหลังมอ ส่วนใหญ่เขาก็จะมีจักรยานกันไว้ใช้ส่วนตัวแต่อย่าลืมนะวันนี้ผมโดยสารรถคนอื่นเขาทั้งวัน และปกติก็ใช้รถรางของมหา’ลัย แต่มันหมดรอบตั้งแต่ 1 ทุ่มแล้ว

พอถึงห้อง ร่างกายมันก็เลยจะพังเอาเสียให้ได้อาจเป็นเพราะว่าวันนี้ผมเจอะอะไรมาเยอะ แถมอัตราการเต้นของหัวใจก็ทำงานหนักกว่าวันไหนๆเสียด้วย ผมคงต้องฝึกวิทยายุทธให้แข็งแกร่งมากกว่านี้แล้ว


แต่พออาบน้ำเสร็จแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งห้องเวลานี้เหลือแค่ผมเพียงคนเดียว เพราะโรมยังไม่กลับหรืออาจจะไม่กลับเพราะบางทีเขาก็ไปพักกับเพื่อนซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนแทนคุณนั่นเอง แต่ส่วนใหญ่แล้วโรมจะชอบกลับมานอนที่หอมากกว่า ด้วยเหตุผลที่ว่า มันแปลกกลิ่น หมายถึงติดกลิ่นของตัวเองนั่นแหละ

ส่วนเก็ตเพื่อนจากคณะวิศวะฯเห็นบอกว่าจะกลับบ้านที่กรุงเทพฯแล้วจะมาอีกทีวันจันทร์เช้า และนัทเพื่อนจากคณะวิทยาฯเห็นว่ากลับบ้านที่อยู่อีกอำเภอ  ห้องนี้เลยกลายเป็นของผมอย่างสมบูรณ์แบบ

เกลือกกลิ้งบนเตียงพลางเช็คข่าวคราวของแทนทคุณแต่ก็ไม่เห็นว่าอีกคนจะอัพเดทอะไร รีเฟรชหน้าฟีดข่าวมาสามรอบก็เจอแต่ภาพแชร์เดิมๆที่สระว่ายน้ำที่กด Love ไปให้หมดทุกรูป เลยเข้าไปเช็คภาพแฟนอาร์ตที่ส่งให้สาวๆเพื่อดูเรทติ้งสักหน่อย


รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก TK Krittidumrong ในโพสต์ เมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว

แทนคุณฉบับการ์ตูน ก็เซ็กซี่ใช่เล่น แฟนอาร์ตสวยๆจากเพื่อนคนเก่งของแอดเองค่ะ AA

TK Krittidumrong และอีก 6,593 คนถูกใจสิ่งนี้


ชื่อที่โชว์อยู่นั้นทำเอาผมใจเต้นตึกตัก แทนคุณกดไลค์ภาพแฟนอาร์ตของผม อ๊างงงงงงง.....กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างลืมตัวจนเกือบตกเตียงก่อนจะลุกขึ้นมาแล้วเปลี่ยนท่าเอนหลังให้สบาย

ผมเข้าไปเลื่อนอ่านคอมเม้นต์เผื่อจะเจอของแทนคุณบ้างและก็ไม่ผิดหวัง

TK Krittidumrong: สวยมากเลยครับ ดูหล่อกว่าตัวจริงตั้งเยอะ 2,597 Likes
น้องอ้อย คัน: ทำไมแอดไม่ลงเครดิตคนวาดอะ
รักคุณครับ แฟนเพจ: เพื่อนบอกว่าไม่ให้ลงค่ะ สงสัยจะกลัวดัง 5555
เจ๊ โร ซ่า: หว่า เสียดายอ่ะ เจ๊กะจะทักไปให้วาดแฟนอาร์ตเจ๊บ้าง คริๆ
TK Krittidunrong: น่าเสียดายนะครับ เลยไม่ได้รู้จักคนฝีมือดีๆ แต่ก็ขอบคุณมากนะครับ : ) 1,971 Likes

ใจผมอยากจะพิมพ์ตอบกลับแทนคุณมากเลยล่ะ แต่ทำไงดีมือไม้มันแข็งไปหมด ผมคิดแล้วคิดอีก คิดไปคิดมาทำไมจากมือไม้แข็งๆมันเริ่มอ่อน

รู้สึกตัวอีกทีก็....



กุกกักๆ
แกร๊ก!  (เสียงเปิดประตู)


ตุ๊บ!
กึก กัก กึก แอ๊ดดดดด...(เสียงเปิดตู้เสื้อผ้า)


“ฮ้าวววววววว”
“ตื่นแล้วหรอ ยู”

หืม.....เสียงใคร

ปึก! (เสียงปิดตู้เสื้อผ้า)

“จะอาบน้ำเลยมั้ย แต่ขอใช้ห้องน้ำก่อนแล้วกัน จะเปลี่ยนชุดน่ะ”

ใครมาบ่นอะไรในห้องวะ อึ๊บ ฮึบ อื้อออออ (เสียงบิดขี้เกียจ)

ปัง! (เสียงปิดประตูห้องน้ำ)

โจรบุกห้อง!
พอความคิดนี้หลุดเข้ามาในสมอง ผมก็ตื่นขึ้นมาเต็มตา ก่อนจะมองไปรอบๆห้องอีกครั้งจากที่นอนชั้นบนของตัวเองก็ไม่พบว่ามีอะไรที่ผิดปกติ แล้วนี่ผมเผลอหลับไปตอนไหนเนี้ย คิดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา

แปดโมงเช้า!!

ดีนะที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ผมถึงยังสามารถชิลได้ ก่อนที่ประตูห้องน้ำจะเปิดออก
“กลับมาแล้วหรอโรม”
“อืม โทษทีนะที่ปล่อยให้อยู่ห้องคนเดียว”
“อ่อ ไม่เป็นไร” ผมว่าพลางปีนลงจากเตียงด้านบน รื้อเอาเสื้อผ้าออกมาพร้อมคว้าผ้าเช็ดตัวเดินผ่านเข้าห้องน้ำไปบ้าง



“วันนี้ไม่ไปไหนหรอโรม” ผมถามเพื่อนร่วมห้องที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะใหญ่ในห้องที่แบ่งชั้นวางตำราของแต่ละคนเอาไว้หลังจากที่ผมจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อย
“อืม ว่าจะเตรียมบทเรียนสำหรับสัปดาห์นี้น่ะ”
“ขยันจัง”
“ไม่ขยันได้ไง ปีหนึ่งเราต้องเข้าคลาสวิชาพื้นฐานรวมกับพวกสายวิทย์สุขภาพนะ เดี๋ยวเกรดออกมาไม่ดีน่ะ” ผมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหยิบกระเป๋าคู่ใจแล้วรื้อของออกมาจัด

วันนี้ตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นที่หอศิลป์ของคณะเผื่อได้แรงบันดาลใจอะไรใหม่ๆขึ้นมาบ้าง เพราะไม่ได้มีนัดที่ไหน ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าผมมาเรียนที่นี่โดยที่ไม่มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่าติดตามมาด้วยสักคน เพราะส่วนใหญ่เรียนอยู่ในกรุงเทพฯเกือบทั้งนั้น แล้วผมเองก็ไม่ใช่คนที่อัธยาศัยดีขนาดที่จะมีคนรู้จักเยอะ

คนภายนอกจะมองว่าผมดูเงียบๆ มีโลกส่วนตัวสูง แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่หรอก ผมแค่ไม่รู้ว่าจะต้องเข้าไปทำความรู้จักกับคนอื่นยังไงดี ถ้าเขาทักมาผมก็ทักกลับ ยิ้มมาก็ยิ้มกลับ ก็แค่นั้นแหละ ผมเลยมีเพื่อนในวงแคบๆ และกับเพื่อนวงกว้างๆที่อยู่ในโลกโซเชียล

“หายไปไหนวะ” ผมบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อหาสมุดคู่ใจของตัวเองไม่เจอ จะเห็นก็แต่สมุดเล่มใหม่ที่ยังอยู่ในถุงพลาสติกตรา B2S

“อะไรหรอ ยู” โรมละความสนใจจากตำราแล้วหันมาถามผม
“สมุดน่ะ เล่มประมาณเอห้าอ่ะ หน้าปกเป็นสีน้ำตาลม่นๆ เขียนข้างหน้าว่า YOU #24 โรมเห็นบ้างไหม” อีกคนส่ายหัวให้แทนคำตอบ

“ไปลืมไว้ที่ไหนหรือเปล่า?”
“ไม่น่านะจะมีก็แต่....ตอนนั้น” ผมนึกไปถึงตอนที่ชนกับคุณที่ห้างสรรพสินค้า

“เราว่าพอจะนึกออกแล้วล่ะ สงสัยจะหายไปแล้วด้วย”
“หรอ แล้วให้ช่วยอะไรไหม ดูท่าว่าจะเป็นของสำคัญนิ”
“คงต้องทำใจอย่างเดียวน่ะโรม มันคงหายไปจริงๆแล้วแหละ ช่างเถอะ ขอบใจนะ” โรมไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับไปอ่านหนังสือของตัวเองต่อ

ผมตัดใจและทำใจกับของที่หายไปแล้ว ก่อนจะเก็บของลงกระเป๋าแล้วตบเท้าออกจากห้องอย่างเงียบๆเพราะไม่อยากกวนสมาธิของโรม

วันนี้ผมเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆ ทอดอารมณ์ให้รู้สึกว่าความหดหู่ในใจมันหายไปสักนิดก็ยังดี ภาพของคุณที่ผมวาดไว้เต็มสมุดเล่มนั้นหายไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้จะไปทวงที่ใคร พอเดินมาจนถึงสระบัวใหญ่ข้างคณะมนุษย์ฯ ผมจึงหยุดยืนทอดสายตาไปยังบัวที่กำลังบานอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนอยู่

RRrrrrrr

“ฮัลโหล” ผมหยิบโทรศัพท์ที่ดังอยู่ในกระเป๋าขึ้นมากดรับแบบน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน

“เกี๊ยววววววววววววววว อยู่ไหนน่ะ”
“อันอันหรอ เราอยู่แถวคณะมนุษย์ฯน่ะ”
“นี่ได้แตะโทรศัพท์หรือยังตั้งแต่ตื่นนอน” ผมส่ายหน้า แต่คิดว่าอีกฝั่งคงไม่เห็นเลยส่งเสียงไปตามแบบคนเป็นหวัด
“หึ”
“โอ้ยๆ ทำไมทำน้ำเสียงเหมือนคนจะร้องไห้”
“ป่าว” ปากบอกว่าป่าวนะ แต่ผมกลับรู้สึกถึงน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ตรงขอบตา

“นี่ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไร” ไม่มีอะไรจริงๆ แต่ปากกูเบะเตรียมสะอื้นและ
“เกี๊ยว น้ำเสียงแปลกๆอ่ะ”
“ฮึก...เรา...ไม่มีอะไรจริงๆ” ผมไม่ไหวแล้ว โรคเซนซิทีฟกำลังกำเริบ น้ำตาเริ่มหยดแหมะ จะว่าเป็นเด็กไม่รู้จักโตที่ร้องไห้โยเยเพราะของรักของหวงหายก็ได้ แต่ใครจะไปทำใจได้อ่ะ

นั่นมันสมุดที่มีภาพที่ผมตั้งใจวาดมาตั้งเป็นเดือนๆ มันเป็นคอลเล็กชั่นแฟนอาร์ตของแทนคุณเล่มที่ 24 เลยนะ

“เอ้าๆ นี่ร้องไห้เลยหรอ เราไม่ได้ว่าอะไรเลยนะ”
“ไม่ใช่อันอันหรอก พอดีเราทำของหายน่ะ ของที่หวงมากๆ”
“อึ๊บก่อนๆ งึบๆ” ผมทำตามที่อีกฝ่ายบอก

“หยุดร้องแล้วใช่มั้ย งั้นถามก่อนทำอะไรหาย”
“สมุดวาดรูป”
“ใช่สมุดเล่มสีน้ำตาลหรือเปล่า?”
“อันอันรู้ได้ไง” ผมถามด้วยความสงสัย
“โอ้ยเกี๊ยววว ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นหรอกที่รู้ คนอีกเป็นพันๆก็รู้ รีบเข้าไปเช็คเฟซฯของแทนคุณด่วนเลย เดี๋ยวนี้”
“ทำไมอ่ะ”
“เออน่ะ บอกให้เช็คก็เช็ค พวกเราน่ะทั้งไลน์หาทั้งอินบ็อกซ์หา ก็ไม่ยอมอ่าน นี่เลยตัดสินใจโทรมานึกว่ารู้เรื่องแล้วเสียอีก เข้าไปดูเอาเองนะ แล้วก็รออยู่แถวนั้นก่อนเดี๋ยวเราไปหา แค่นี้นะจ๊ะ”

ปิ๊บ!
อันอันร่ายยาวแล้ววางสายไปในทันที ผมเกาหัวงงๆเล็กน้อย แต่ก็ทำตามที่อันอันบอก กดเข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของแทนคุณแล้วสิ่งแรกที่เห็นก็ทำให้ผมตามโต


นี่มัน..... ภาพสมุดสีน้ำตาลที่ผมตามหาทำไมมันไปอยู่บนหน้าวอลล์ของคุณได้อ่ะ



TK Krittidumrong ได้โพสต์เมื่อวานนี้ เวลา 22.04 น.
ตามหาเจ้าของครับ ใครรู้จักเจ้าของสมุดเล่มนี้ ช่วยบอกให้เจ้าตัวมารับได้ที่ผมนะครับ ผมจะไปรอที่โรงอาหารคณะบริหาร ตอนเที่ยง วันพรุ่งนี้  แล้วเจอกันครับ

5,588 Likes 649 Shares






จบตอน



มาคุยกันเถอะ !
ขอเวลาปั่นตอนที่ 4 ต่อนะคะ
 :katai4:
นายเอกเรื่องนี้จริงๆเป็นคนติ๊งต๊อง 5555555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 3>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-09-2016 09:28:13
แทนคุณกับโรมมีซัมติ้งกันจริงไหม
คิดว่าเกี๊ยวคงไม่ไปเอาสมุดคืนแน่ๆ หรืออาจให้คนอื่นไปเอามาให้
เหมือนกับดอกไม้ที่ยังฝากเพื่อนเอาไปให้แทนคุณแทนที่จะเอาไปให้เอง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 3>
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 24-09-2016 12:46:05
โห น่ารักอ่ะครับเรื่องนี้
สนุกมากๆ เลย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 3>
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-09-2016 15:27:58
ตื่นเต้นๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 3>
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-09-2016 21:12:24
น้องยูน่ารัก
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 4> 25/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 25-09-2016 14:14:00
ตอนที่ 4
ของหายได้คืน



“เกี๊ยว”
“อันอัน”

ผมหันไปตามเสียงเรียกและเห็นว่าอันอันเดินมาหาผมพร้อมกับเจ๊เอิญ ก่อนหน้าที่อันอันจะมาผมก็อ่านคอมเม้นต์ในโพสต์ที่แทนคุณลงภาพสมุดของผมเอาไว้ ผมไม่รู้ว่าจะมีใครรู้บ้างว่านั่นคือสมุดของผม แล้วก็ต้องโล่งอกเพราะไม่มีใครรู้ มีแต่คนบอกให้ผมไปเอาสมุดคืนเท่านั้นและก็ถามแทนคุณว่าในสมุดมีอะไรที่จะบอกถึงเจ้าของได้บ้าง แต่แทนคุณก็ไม่ได้บอกอะไรมากกว่านั้น อีกอย่างเขาก็ไม่ได้อัพเดทอะไรอีก

“เป็นไงบ้างเรา” เจ๊เอิญถามผมทันทีที่เดินมาถึงตัวก่อนจะวางมือลงบนหัวผมแล้วโยกไปมา

“ก็ดีขึ้นครับ ที่รู้ว่าตอนนี้สมุดของผมมันอยู่ที่แทนคุณ”
“สมุดนั่นมันมีอะไรหรอเกี๊ยว ถึงได้ร้องไห้หนักขนาดนี้”

“เอางี้แล้วกันเราไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่ามั้ย พี่ว่าอันเองก็มีอะไรอยากจะถามเกี๊ยวอีกเยอะเลยนิ”
“ก็ดีค่ะ ไปกันเถอะ”

แล้วผมก็ถูกอันอันลากให้เดินไปขึ้นรถฮอนด้าแจ๊สของเจ๊เอิญ ก่อนที่คนอายุมากสุดจะขับรถพาพวกเรามาที่ร้านนมปั่นหลังมอ

“เอาล่ะ ทีนี้เกี๊ยวจะตอบคำถามเราได้ยัง” หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มกันไปแล้ว อันอันก็ไม่รอช้าที่จะซักฟอกผมทันที

“สมุดเล่มนั้น เป็นสมุดที่เราใช้วาดแฟนอาร์ตของแทนคุณน่ะ แล้วมันก็เป็นเล่มที่ 24 แล้ว”
“เล่มที่ 24 ทำไมเยอะขนาดนั้นน่ะ”
“ก็เราวาดมาเกือบ 2 ปีแล้วอ่ะ มันก็เหมือนที่อันอันเซฟภาพ ถ่ายภาพตอนติ่งแทนคุณหรือนักร้องเกาหลีนั่นแหละ”
“แล้วเกี๊ยวล่ะเซฟมั้ย”
“ก็....”
“เซฟล่ะสิ”
“บางรูปน่ะ”

อันอันหัวเราะออกมาเบาๆ

“เกี๊ยวมีอะไรอยากบอกเรามั้ย เกี่ยวกับแทนคุณ”
“ไม่มี ก็แค่เราเป็นแฟนคลับ”
“แน่ใจหรอ?” ผมพยักหน้าแต่ไม่กล้าสบตาของอันอัน

ให้ตายเถอะ ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ทำไมต้องกดดันกันด้วย

บทสนทนาเราหยุดชั่วคราวเมื่อเครื่องดื่มที่สั่งไว้มาเสิร์ฟที่โต๊ะ

“เด็กๆคุยกันไปก่อนนะ เดี๋ยวเจ๊ไปซื้อของขวัญต้อนรับสายรหัสก่อน เสร็จแล้วโทรหานะจ๊ะเดี๋ยวเจ๊มารับ” เจ๊เอิญพูดแค่นั้นก็หยิบเครื่องดื่มของตัวเองออกจากร้านไป คาดว่าที่เจ๊แกออกไปแบบนี้ไม่ใช่แค่หาของขวัญหรอก แต่คงให้พวกเราได้คุยกันอย่างสะดวกใจมากกว่า

“เข้าเรื่องต่อเลยนะเกี๊ยว เรารู้ว่าเกี๊ยวคงยังไม่ไว้ใจเรามาก แต่ถ้าเกี๊ยวเห็นว่าเราเป็นเพื่อนก็บอกเราเถอะนะ”
“........”
“ถึงเราจะรู้จักกับเกี๊ยวมาไม่นาน แต่เรารู้สึกชอบเกี๊ยวมากเลยนะ เราสัญญาว่าจะไม่บอกใครเด็ดขาด ถ้าเกี๊ยวไม่อนุญาต”
“........”
“เกี๊ยว...” ผมมองหน้าอันอัน สบตากับเธอก่อนจะหลบตาเสมองแค่แก้วน้ำตรงหน้า

“คือเรา ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดีน่ะ”
“เอางี้ เกี๊ยวแค่ตอบคำถามเรา” ผมพยักหน้ารับ พลางคนหลอดในแก้วนมปั่นของตัวเองอย่างพยายามควบคุมอาการประหม่า

“เกี๊ยวรู้ใช่มั้ย ว่าโลกโซเชี่ยลจริงๆแล้วมันแคบมาก”
“อืม เรารู้ ไม่งั้นวันแรกอันอันจะรู้เหรอว่าเราเป็นแฟนคลับคุณน่ะ”
“ก็จริง แต่รู้มั้ยว่าเรารู้มากกว่านั้น”
“อันอันเป็นแฮกเกอร์หรอ”
“บ้าสิ เราแค่เป็นติ่ง” ผมหัวเราะกับคำตอบของอันอัน เธอก้มลงดูดน้ำในแก้วไปอึกใหญ่ก่อนจะตบโต๊ะเบาๆแล้วเข้าเรื่องต่อ

“เราน่ะ แอบเข้าไปส่องทั้งไอจีและเฟซฯของเกี๊ยวมา แล้วเราก็สงสัยทุกครั้งที่เวลาเกี๊ยวโพสต์สเตตัสพร้อมแฮชแท็ก ถ้าคนอื่นๆอาจไม่รู้แต่เรารู้นะเกี๊ยว ว่าคำว่า YOU ที่เกี๊ยวพิมพ์น่ะมันหมายถึงแทนคุณ ไม่ได้หมายถึงตัวเกี๊ยวอะไรเลย”
“เราก็ไม่ได้จะปิดบังนี่น่า”
“จริงหรอ”
“โธ่ อย่ากดดันกันสิ” พูดแล้วก็คอแห้ง เลยยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มบ้าง
“ถามจริงๆนะ เกี๊ยวเป็นเกย์หรือเปล่า?”

แค่กๆๆ...
โอ้ย ถึงกับสำลัก ต้องตบอกตัวเองเบาๆ

“ว่าไง”
“ตอบจริงๆนะ เราไม่เคยตั้งคำถามนี้ให้ตัวเองเลย”
“งั้นแสดงว่าเกี๊ยวก็อาจจะเป็นไบ”
“ให้ตายสิ อันอัน มาพูดอะไรแบบนี้ไม่คิดว่าเราจะอายบ้างหรอ” อันอันไหวไหล่ ผู้หญิงนี่บางครั้งก็มีมุมที่น่ากลัวนะ ว่าปะ

“ดูนี่นะเกี๊ยว เราแอบแคปฯไว้เยอะเลย นี่ไม่ได้จะเอามาเป็นหลักฐานมัดตัวเกี๊ยวนะ เราก็แค่...” อันอันหยุดดูดน้ำเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ
“รู้ใช่มั้ยว่าเราเป็นสาววาย และเราก็จิ้นคู่คุณโรมมาก”
“รู้สิ ก็เพิ่งจะบอกเราไปเมื่อวานในไลน์กรุ๊ป เราไม่ได้ความจำเสื่อมนะ” อันอันหัวเราะออกมาเบาๆ
“แต่ตอนนี้ เกี๊ยวรู้ไหม ว่าเราน่ะ แอบนอกใจคุณโรมด้วยนะ”
“ยังไง”
“ก็แค่ มาจิ้น 2YOU เพิ่มไง แทนคุณกับยูน่ะ”
“เฮ้ย!” ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ
“จริงๆ เราว่าเคมีดูเข้ากันนะ แล้วไหนจะนี่อีก ที่เกี๊ยวชอบแอบไปเพ้อในไอจี ไหนจะในเฟซฯเมื่อวานอีกล่ะ”
“......”
“อีกคำถามนะเกี๊ยว”
“อะไรอีกหรอ”
“สัญญาว่าจะไม่โกหกเรา ไม่โกหกความรู้สึกตัวเองด้วย”

แค่เกริ่นมาอย่างนี้ หัวใจผมก็เต้นด้วยบีทหนักๆแล้วล่ะ อย่ากดดันกัน รู้สึกตื่นเต้นจนปวดฉี่อีกแล้วเนี่ย

“เกี๊ยวคิดกับแทนคุณมากกว่าแฟนคลับใช่มั้ย”
“อันอัน...”
“ตอบสิ”
“แล้วอันอันจะเกลียดเรามั้ยถ้าเราตอบ”
“จะบ้าหรอ ก็บอกอยู่ว่าแอบจิ้นเป็นคู่รองจากคุณโรมไง”
“แล้วถ้าเราบอกว่า เราแอบรักมาเกือบ 2 ปีแล้ว อันอันจะว่าเราบ้าหรือเปล่า”
“เกี๊ยว...” ผมก้มหน้าลงเล็กน้อยพลางบีบมือตัวเองแน่นๆ

“เราเชื่อใจอันอันนะ สัญญานะว่าจะไม่บอกใคร เราไม่เคยพูดกับใครเรื่องนี้นะอันอัน”
“ได้สิ เราสัญญา”

“เราน่ะ ได้ยินอันอันคุยเรื่องคุณในรถไฟฟ้า เรารู้สึกสนใจมากก็เลยแอบส่องตอนอันอันเล่นมือถือ พอได้เข้าไปรู้จักกับแทนคุณในพื้นที่ของเขาแล้ว เราก็รู้สึกชอบ เขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราในหลายๆอย่าง กลายเป็นแรงกระตุ้นให้เราอยากทำในสิ่งที่เรารู้สึกชอบ จนนานวันเขาความรู้สึกชื่นชอบ ปลาบปลื้มมันก็กลายเป็นเรา....ตกหลุมรัก” ผมหยุดพูดชั่วคราว พอได้ระบายสิ่งที่คับแน่นในอก สิ่งที่เก็บไว้กับตัวเองมาตลอดออกไปแบบนี้ก็รู้สึกดีขึ้น และก็อยากพรั่งพรูมันออกมาให้หมด

“เราตกหลุมรักแทนคุณตั้งแต่นั้นมา ก็เกือบ 2 ปีได้ พอรู้ตัวเราก็เริ่มวาดภาพแทนคุณเก็บไว้ บางภาพก็เป็นภาพที่เราคิดว่ามีแทนคุณอยู่ข้างๆเรา มันก็แค่ความเพ้อฝันของคนๆนึง เรารู้ว่าเราไม่มีทางไปอยู่ข้างเขาได้จริงๆ เขาไม่รู้จักเรา เราก็แค่คนคนนึงที่บังเอิญเป็นเพื่อนกันบนเฟซบุ๊ค แต่ก็ไม่เคยคุยกันเลย”

รู้สึกคอแห้งเล็กน้อยขอดื่มน้ำสักอึก อันอันเองก็นั่งฟังอย่างตั้งใจมองผมตาแป๋ว

“และที่เราเข้ามาเรียนที่นี่ ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ ไม่ใช่เพราะเราอยากเรียนด้วยตัวเอง ความจริงเราวางแผนไว้แล้วว่าอาจจะเรียนแพทย์เหมือนพี่ หรืออาจจะเรียนเป็นครูฟิสิกส์เหมือนพ่อ อะไรก็ได้เหมือนที่บ้านเราเป็น แต่เรากลับเลือกที่จะไม่ทำ เพราะว่าแทนคุณ....ถ้าอันอันจำได้ แทนคุณอยากเรียนคณะนี้มาก แต่เขาทำไม่ได้ เราเลยบอกแทนคุณว่า เราจะทำแทนเขาเอง”

“เกี๊ยว...ความรู้สึกแบบนี้มันยิ่งใหญ่เกินไปแล้วนะ เกี๊ยวทนได้ยังไง” อันอันถามผมพลางขมวดคิ้วมุ่นด้วยความอึดอัดแทนผม เธอคงจะอินกับความรู้สึกของผมมาก เข้าใจว่าสาววายส่วนใหญ่เป็นพวกที่เซนซิทีฟ

“มันไม่ใช่เรื่องที่น่าอึดอัดขนาดนั้นหรอก เราก็มีความสุขดี คงเพราะตอนนั้นเราไม่ได้อยู่ใกล้แทนคุณขนาดนี้ พอเราได้เข้ามาใกล้เขามากขึ้น เรารู้สึกว่าความรู้สึกของเรามันกำลังทะลักออกมา เราถึงเล่าให้อันอันฟังนี่ไง”

“แล้วเกี๊ยวจะทำยังไงต่อไป” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

“เดินหน้าหรือจะหยุด”
“ไม่ทำอะไรเลย เราจะอยู่แบบนี้ เป็นคนที่รักแทนคุณแบบนี้แหละ” อันอันยู่หน้าอย่างขัดใจ

เรานั่งคุยกันเป็นชั่วโมงจนสั่งนมปั่นกันมาอีกเป็นครั้งที่สองแล้วถึงได้โทรบอกให้เจ๊เอิญมารับ พอมองนาฬิกาก็เห็นว่าสิบเอ็ดโมงแล้วเลยไปหาอะไรกินกันง่ายๆที่ร้านอาหารตามสั่ง

ผมตัดสินใจบอกอันอันว่าไม่อยากไปเอาสมุดที่แทนคุณ ถ้าแทนคุณอยากได้เก็บไว้ก็ถือว่ามันเป็นของที่ระลึกแล้วกัน หลังจากมื้ออาหารนั้นแล้วผมกับอันอันก็แยกกับเจ๊เอิญไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า แล้วตัดสินใจดูหนังกันในวันหยุด เรื่องที่ดูเป็นหนังแนวแอ๊คชั่นคอมเมดี้ ที่เพิ่งเข้าโรงมาเมื่ออาทิตย์ก่อน

หนังฉายเสร็จก็เป็นเวลาบ่ายสามนิดๆ เราเลยลงมติว่าจะไปกินไอติมกันต่อ ก่อนจะกลับกันตอนสี่โมงครึ่ง โดยที่ผมไปส่งอันอันที่บ้านก่อนแล้วค่อยพาตัวเองกลับมาที่หอพัก

ใช้เวลาทั้งวันไปจนหกโมงเย็นถึงได้กลับมาถึงหอ พอลงจากรถรางของมหา’ลัยแล้วกำลังจะเดินเข้าประตูหอก็เห็นโรมเดินสวนออกมาพร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่พอดี

“วันนี้ไม่นอนนี่หรอโรม”
“อืม ว่าจะไปยืมห้องเพื่อนอ่านหนังสือต่อน่ะ วันนี้นัทกลับห้องใช่มั้ย”
“เห็นว่างั้นนะ”
“ดีแล้วล่ะ นึกว่าจะได้ปล่อยยูอยู่คนเดียวแบบเมื่อคืนอีก”
“ไม่เป็นไรๆ ถึงคนเดียวเราก็อยู่ได้” ผมตอบกลับพร้อมกับที่โรมยกยิ้มให้ผม

“แล้วนี่โรมไปยังไง”
“เดี๋ยวเพื่อนมารับน่ะ นั่นไงว่าแล้วก็มาพอดี ไปก่อนนะ” โรมว่าแล้วเดินผ่านผมไป พอหันหลังไปมองรถเพื่อนที่โรมว่า ผมก็ต้องตาโตเพราะไม่คิดว่าจะเป็นรถยนต์ที่ผมอยากไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ

โชคดีที่ตอนนี้มันเริ่มมืดแล้วแสงเลยไม่มากเท่าช่วงกลางวัน และฟิล์มรถของแทนคุณเองก็มืดสนิท โรมเปิดประตูไปนั่งในรถแล้ว ออดี้สีขาวคันหรูนั้นก็ทะยานออกไปบนถนนทันที

“น่าอิจฉาจังเลย” ผมบ่นพึมพำก่อนจะหันกลับขึ้นห้องบ้าง

จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่นัทกลับมาถึงห้องพัก ผมกำลังหมกหมุ่นอยู่กับโน๊ตบุ๊คที่โต๊ะหนังสือ อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจอะไร พอเอาของเก็บเข้าที่แล้วก็กระโดดลงนอนคว่ำแผ่ไปบนเตียง ห้องเลยตกอยู่ในความเงียบและผมก็นั่งคลิกเม้าส์นั่งส่องเฟซบุ๊กไปเรื่อยๆ


TK Krittidumrong ได้แสดงความรู้สึกผิดหวัง เมื่อเวลา 14.59 น.

นั่งรอมาสามชั่วโมง เจ้าของไม่มารับสมุดคืน

7,650 Likes 467 Shares 150 Comments

‘เสียดายเนอะ หรือว่าเจ้าของยังไม่เห็นคะคุณ’
‘ต้องแชร์วนไปให้ถึงเจ้าของ’
‘คุณรอนานเลยล่ะสินะ อดทนจังเลย’
‘มึงก็รอนะห่า ไม่เอาไปแจ้งความพิสูจน์ลายลักษณ์อักษรเลยล่ะ เผื่อตำรวจตรวจลายนิ้วมือให้ได้’


TK Krittidunrong ได้โพสต์บน รักคุณครับ แฟนเพจ เมื่อเวลา 17.30 น.

ผมเปิดข้างในสมุดแล้วนะครับ ภาพวาดสวยดีนะครับ  แถมภาพนี้ดูคุ้นๆนะครับว่าไหม

8,094 Likes

แทนคุณได้ทำการโพสต์ภาพร่างที่ผมวาดเมื่อวานนี้บนหน้าเพจ ทำให้คนเริ่มเข้ามาแสดงความคิดเห็นและกดดันให้ผมเปิดเผยตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งในอินบ็อกซ์ที่มาจากเปรี้ยวกับน้ำหวานที่บอกให้ผมไปบอกแทนคุณ แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรมากนอกจากพิมพ์ตอบสองสาวไปว่าเดี๋ยวผมอินบ็อกซ์หาแทนคุณเองและขอร้องไม่ให้ทั้งสองไปแสดงความคิดเห็น

แต่กระนั้นผมก็ยังคงเฉย แบบที่ผมได้บอกกับอันอัน

ตึดึดึ่ง!

เสียงอินบ็อกซ์อีกอันเด้งขึ้นมาเป็นของอันอัน พร้อมกับที่แจ้งเตือนของเฟซฯจะโชว์ขึ้นบนโลโก้ลูกโลกให้รู้ว่ามีสิ่งที่ผมกำลังติดตามมีความเคลื่อนไหว

AunAun Aunchita: เกี๊ยว ไปหน้าไทม์ไลน์ของคุณด่วน
บะหมี่ เกี๊ยว: เกิดอะไรขึ้นอะ

อันอันไม่ตอบ ทำให้ผมลองจิ้มไปบนตัวเลขสีแดงแจ้งเตือนและเห็นว่า เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วแทนคุณอัพเฟซบุ๊ค

TK Krittidumrong ได้แสดงความรู้สึก ดีใจ เมื่อ 5 นาทีที่แล้ว

ผมรู้ตัวเจ้าของสมุดแล้วนะครับ อีกไม่นานคงได้เจอกัน

549 Likes

แค่ห้านาทีคนไลค์มาเป็นร้อยแล้ว ก็อย่างว่าคนดังที่จำนวนเพื่อนบนเฟซฯเต็มไปแล้วเมื่อปลายปีแถมยอดคนติดตามที่ขยับขึ้นอย่างน้อยวันละ 4-5 คน จนทะลุหลักหมื่นไปแล้ว

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นของมันอยู่ที่ แทนคุณบอกว่ารู้แล้วว่าใครคือเจ้าของสมุดต่างหาก

บะหมี่ เกี๊ยว: ทำยังไงดี
AunAun Aunchita: โชคดีนะ เกี๊ยว

ทำไมคำอวยพรของอันอันเหมือนลางร้ายบอกเหตุยังไงก็ไม่รู้
แต่ไม่นานหน้าฟีดบนไทม์ไลน์เฟซฯของผมก็เปลี่ยนไปเมื่อหลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง แทนคุณได้โพสต์สเตตัสใหม่ขึ้นมาพร้อมกับแนบรูปภาพที่ทำให้แฟนคลับถล่มคอมเม้นต์จนแจ้งเตือนเฟซบุ๊คผมทะลุหลักร้อยไปแล้ว

TK Krittidumrong
มายืมใช้ห้อง แต่ไม่คิดจะคุยกับเจ้าของห้องเลยครับ #โรมผู้ไม่เล่นเฟซบุ๊ค

พร้อมกับลงภาพเบื้องหลังของโรมที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือบนโต๊ะหน้าทีวี
แล้วจากนั้นทั้งเพจเล็กเพจน้อย ทั้งเพจหลักแฟนคลับคุณหรือเพจคุณโรมชิปเปอร์ก็ทำการแชร์ภาพออกไป มาพร้อมกับคอมเม้นต์และแฮชแท็กคุณโรมให้ร้อนแรงทั้งหน้าฟีด

ถ้าเป็นแต่ก่อนผมก็คงอดยิ้มไปกับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ ผมคงจะมีความสุขไปเหมือนแฟนคลับคนอื่นๆ แค่เห็นคุณสนุกสนานไปกับชีวิตแบบนี้ ผมก็ดีใจและสนุกไปกับเขาแล้ว

แต่หลังจากที่ผมได้ระบายความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่เต็มอกจนมันระเบิดกลายเป็นละอองความรู้สึกเกาะกุมไปทั่วพื้นที่ทั้งสมองและหัวใจของผมแล้ว ผมกลับยิ้มได้ค่อนแค่นมากกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า

ผมอาจจะรู้เรื่องของแทนคุณเกือบทุกเรื่องเท่าที่เขาจะบอกผ่านบนโลกโซเชี่ยล แต่เรื่องความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวว่าเขาคบใครตอนนี้ มีแฟนมาแล้วกี่คน อันนี้คือสิ่งที่แฟนคลับทุกคนไม่รู้ เพราะแทนคุณไม่เคยบอก มันถึงได้มีแต่การจิ้นเสมอมา ตั้งแต่จับแทนคุณกับเด็กคอนแวนต์โรงเรียนใกล้เคียง แทนคุณกับรุ่นพี่มหา’ลัย แทนคุณกับเพื่อนในโรงเรียนชายล้วนด้วยกัน

และที่ดูจะมีแฟนคลับหนาแน่นที่สุดก็ คุณโรมนี่แหละ

“ปวดใจจัง” ผมบ่นพึมพำก่อนตัดสินใจออกจากหน้าเฟซบุ๊คหยุดทุกกิจกรรมที่ตัวเองทำลงซะ จะได้ไม่รู้สึกเจ็บปวด





ถึงเมื่อคืนผมจะเลิกเล่นเฟซฯเป็นการชั่วคราว แต่ไม่ได้หมายความว่าความเคลื่อนไหวบนหน้าฟีดจะหมดไป ผมเลยได้แต่กดรีเฟรชหน้าฟีดแล้วปิดแจ้งเตือนไว้ชั่วคราวเพื่อความสงบสุขของจิตใจตัวเอง

วันนี้ผมมีเรียนตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึงบ่าย 3 โมง

รุ่นพี่กำชับเรื่องของกีฬาเฟรชชี่ที่จะจัดขึ้นหลังหมดเทศกาลสอบมิดเทอม ผมเข้าใจความรู้สึกของพี่ไอพี่ชายของผมที่ตอนเข้ามหาวิทยาลัยปีแรกแล้วบ่นผ่านไลน์ให้ฟังบ่อยๆว่าเหนื่อยแสนเหนื่อย ก็กิจกรรมมันมีติดต่อกันขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกถึงคนที่มีตำแหน่งพ่วงอย่างพวกดาวเดือนทั้งหลายจะต้องรับภาระมากขนาดไหน

เปิดเทอมมาได้เดือนกว่าๆแล้วสายรหัสของผมก็รู้จักหมดทุกคน ความคุ้นเคยในรั้วมหา’ลัยก็มีมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไปอีกสามอาทิตย์ก็จะมีสอบมิดเทอมที่กินเวลาอีกประมาณสองอาทิตย์เศษๆ แล้วเราจะได้หยุดกัน 2 วันก่อนจะถึงเทศกาลกีฬาเฟรชชี่ ซึ่งหน้าที่ของผมนั้นคือส่วนของสวัสดิการ

ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์ผมสั่นทันทีที่เลิกเรียนวิชาสุดท้ายราวกับนกรู้ พอหยิบโทรศัพท์ออกดูถึงเห็นว่าเป็นสายเข้าจากโรมรูมเมทของผมเอง

“ฮัลโหลโรม”
(ยู เลิกเรียนแล้วหรือยัง)
“อ๋อ เลิกพอดีนะ ทำไมหรอ”
(ดีเลย กำลังหาเพื่อนกินข้าวด้วยน่ะ เบื่ออาหารที่คณะเภสัชฯแล้ว ไปกินข้างนอกก่อนกลับหอไหม) ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่โรมโทรมาหาและยังมาชวนกินข้าวด้วยอีก 

แปลก...แต่ก็คงไม่มีอะไร

“เอาสิ ให้ไปเจอที่ไหน”
(รอที่หน้ามหา’ลัยตรงศาลาเขียวก็ได้) ผมตอบตกลงก่อนวางสายแล้วเดินไปโบกรถรางของมหา’ลัยเพื่อไปรอโรมตามที่นัดกัน

ระหว่างยืนรออีกฝ่ายผมก็ยังคงเล่นมือถือเหมือนเดิม กดถ่ายรูปรถสองแถวสีแดงที่มาจอดรับผู้โดยสารแล้วอัพลงอินสตาแกรม ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้าไลน์ดูข้อความที่เด้งแจ้งเตือนมาจากเพื่อนกลุ่มมัธยมร่วมห้องที่สนิทบ้างไม่สนิทบ้างกำลังบ่นเรื่อยเปื่อย ก่อนจะออกไปดูกรุ๊ปไลน์สมาคมเมียลับของแทนคุณ

Sweet Water: ที่รักทุกคนขา ส่งใบสมัครค่ายอาสาไปแล้วนะคะ
Sweet Water: อาทิตย์หน้าเตรียมตัวเดินทางนะคะ
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: เก็บภาพแทนคุณมาฝากด้วย ฮือออ อิจ!


ตายล่ะ เกือบลืมเรื่องนี้ไปเลยเพราะสองวันที่ผ่านมามีเรื่องให้ผมคิดเยอะแยะไปหมด นี่อีกไม่กี่วันผมต้องออกเดินทางไปค่ายอาสาของมหา’ลัยกับพวกดาวเดือน

ทำยังไงดี จะต้องวางตัวยังไง ถ้าแทนคุณเข้ามาใกล้ๆ ถ้าเกิดเขาทักล่ะ
ถ้าตอนทำกิจกรรมอยู่กลุ่มเดียวกัน
ถ้า.....


ปริ๊น ปริ๊น

“ยู”

เฮือก! ผมสะดุ้งตกใจพร้อมกับหันไปมองตามเสียงเรียก ภาพของโรมที่ลดกระจกลงพร้อมส่งยิ้มมาให้ จนผมต้องยกยิ้มกลับไป พอจะก้าวขาเข้าไปใกล้ก็ต้องชะงักเมื่อกวาดสายตามองรถที่โรมนั่งมาดีๆแล้ว

นี่มัน รถแทนคุณนี่นา!

“เป็นอะไรน่ะ ขึ้นมาสิ” ผมส่ายหน้าไปมา ลีลาไม่อยากขึ้นไม่ใช่อะไร ขาแข็งและตกใจอยู่


ปริ๊นนนนนนนน!!!

เสียงรถที่ต่อท้ายบีบแตรใส่รถของแทนคุณ ต้นเหตุก็มาจากผมนี่แหละที่โอ้เอ้ พอเห็นว่าผมยังไม่กระดิก โรมเลยเปิดรถลงมาแล้วลากผมไปขึ้นรถก่อนที่เขาจะกลับไปนั่งประจำที่เดิมข้างคนขับ


พอขึ้นมานั่งเรียบร้อยแล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไปตามถนน โรมหันมามองผมจากเบาะหน้า ก่อนจะหันกลับไปมองถนนข้างหน้าต่อ ความเงียบในห้องโดยสารมันยิ่งทำให้ผมประหม่าหนักขึ้นไปอีก นั่งเกร็งจนจะเป็นตะคริว ไม่รู้จะทิ้งสายตาไปที่จุดไหนดีเลยลองมองไปรอบๆรถของแทนคุณ

รถที่ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสได้นั่ง บุญตูดแท้ๆเลยล่ะ
ถึงแม้จะผิดจากที่เคยวาดฝันว่าอยากนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถก็เถอะ

เลื่อนสายตาไปเรื่อยๆจนหยุดที่เบาะที่นั่งคนขับ แทนคุณในระยะประชิด เส้นผมที่คลอเคลียอยู่กับพนักที่นั่ง เสี้ยวหน้าด้านข้างที่เห็นสันจมูกคม ขนตาที่เรียงตัวตัดตรง ริมฝีปากบางสีส้มอมชมพู คางได้รูป คอยาวที่เห็นลูกกระเดือกชัดเจน ไหล่กว้างภายใต้เสื้อนิสิต เลื่อนสายตาขึ้นข้างบนอีกครั้ง ก่อนเบนไปที่ช่วงแขนยาว มือเรียวที่จับมั่นอยู่ที่พวงมาลัย

นั่นคือแทนคุณที่เขาสามารถทอดสายตามองได้เกินสิบวินาที

ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจดวงเล็กๆในอกไม่ถึงสามศอกของตัวเองเต้นโครมครามให้ได้ยินจนรู้สึกหูอื้อ พอเลื่อนสายตาออกจากอีกฝ่ายก็ให้ต้องสะดุ้งจนไหล่กระตุก เมื่อสบตาเข้ากับเจ้าของรถผ่านกระจกมองหลังจนต้องก้มหน้างุด

ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆมาพอมองไปยังต้นเสียงก็พบว่าไหล่ของแทนคุณกำลังสั่น

ฮึ่ย! สนุกหรอวะทำคนตกใจน่ะ
ใจนี่อยากจะยกมือขึ้นไปทุบลงบนหัวของอีกฝ่ายแต่ที่ทำได้แค่นั่งก้มหน้ามองมือตัวเองที่ขยุ้มขากางเกงจนยับ

“มีอะไรน่าขำหรอคุณ”
“ป่าวๆ ผมแค่คิดอะไรตลกๆขึ้นมาน่ะ มันเลยขำ”

จบบนทสนานั้น รถของแทนคุณก็เลี้ยวเข้าลานจอดของห้างสรรพสินค้าที่ประจำที่ผมเพิ่งจะมาติดกันสองวัน

“คิดได้ยังว่าอยากกินอะไร” เสียงของแทนคุณดังขึ้นอีกครั้ง ขณะที่กำลังถอยรถเข้าจอด
“ยังน่ะ ยูอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย”
“เอ่อ..แล้วแต่โรมเถอะ” ผมตอบกลับพลางส่งยิ้มให้โรมที่หันมามองอยู่






((ต่อด้านล่างค่ะ))
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 4> 25/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 25-09-2016 14:16:56
รถจอดสนิทแล้วพอเราออกจากรถได้ผมก็บิดขี้เกียจยืดแขนคลายความเมื่อยขบที่ตัวเองนั่งเกร็งมาตลอดทาง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามันน่าอายไปหรือเปล่า เลยรีบมายืนสงบเสงี่ยมอยู่ข้างเสาใกล้ๆกับจุดที่รถจอดอยู่

ปิ๊บ!

เสียงล็อกรถเรียบร้อยพร้อมกับที่โรมหันมาบอกผมให้เดินไปด้วยกัน ผมเดินตามโรมกับแทนคุณที่เดินนำหน้าพลางลอบมองเบื้องหลังของคนตัวสูงที่กำลังเดินเคียงข้างอีกคน ส่วนสูงที่ต่างกันแบบพอเหมาะ ไม่มากเกินไปไม่น้อยจนเกินไป ออร่าความเป็นคุณชายของโรมก็เข้ากับออร่าความหล่อของแทนคุณไม่ใช่น้อย

ผมเข้าใจคำว่าออร่าสีม่วงฟรุ้งฟริ้งของสามสาวเขาแล้วล่ะ อดไม่ได้ที่จะแอบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเอาไว้

ในหัวสมองน้อยๆก็พยายามวิเคราะห์ว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์อะไรที่มากกว่าเพื่อนหรือเปล่า เพราะดูจากที่นั่งรถมาด้วยกันการพูดคุยของทั้งคู่ดูแปลกอย่างที่สาวๆว่าไม่มีผิด แล้วดูตอนนี้สิที่แทนคุณช่วยโรมถือหนังสือเล่มหนานั่นอีก

มันมากเกินไปหรือเปล่า ยิ่งคิดตามหัวใจก็ยิ่งรู้สึกหน่วง

“งั้นเรากินที่นี่แล้วกัน โอเคมั้ย” โรมหันมาถามผมพลางพยักเพยิดไปทางร้านอาหารที่พวกเรามาหยุดยืน ผมก็ได้แต่พยักหน้ารับตามประสาคนกินง่าย ดังนั้นเราเลยเดินเข้าฟูจิตามที่โรมเลือก


พอเข้ามาแล้วแทนคุณก็ให้โรมเข้าไปนั่งที่ด้านในแล้วตัวเองนั่งต่อมา ผมเลยได้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรม อีกฝ่ายยื่นเมนูอาหารมาให้ผมเลือก พอเลือกได้แล้วเราถึงได้กลับมานั่งมองหน้ากันไปมาก่อนที่เสียงกระแอมของแทนคุณจะทำลายความเงียบชั่วครู่คราวที่เกิดขึ้น

“อ่าใช่ สองคนคงยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน”
“หืม..ผิดแล้ว ผมฝ่ายเดียวที่ไม่รู้จักเขา” คำพูดของแทนคุณเล่นเอาผมอ้าปากค้าง

“อ่อ ลืมไปว่าคุณเป็นคนดัง ใช่มั้ยยู” ผมงับปากพลางกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะตอบโรมกลับไป
“ใช่” แทนคุณหัวเราะออกมาเบาๆ

“เพื่อนโรมนี่ตลกดีจริง” ผมยิ้มแหยแอบเหลือบมองอีกฝ่ายแล้วรีบหลบตาลงมองที่จานเปล่าตรงหน้าแทน
“ตกลงจะแนะนำตัวได้หรือยัง”
“คุณอย่าแกล้งยู”
“มะ...ไม่เป็นไร” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆรวบรวมความกล้าของตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองแทนคุณให้เต็มๆตา ผ่านเลนส์กระจกแว่นอีกที แล้วส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเพื่อเป็นการทำความรู้จัก

คำถามของอันอันที่ถามผมไปก่อนหน้านี้ ดังวนอยู่ในหัว
ผมจะหยุดหรือเดินต่อ ตอนนั้นผมเลือกแล้วว่าผมจะไม่ทำอะไร จะเป็นแค่คนที่ตามมองอยู่ข้างหลัง จะเป็นแค่คนที่รู้จักแทนคุณแค่ฝ่ายเดียว แต่ตอนนี้เมื่อเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้

ผมต้องยอมรับและผมก็เลือกที่จะต้องเดินต่อไป

“กะ...กู เอ้ย ผมชื่อยู เรียนอยู่สินกำ ยะ...ยินดีที่ได้รู้จักนะแทนคุณ”

กว่าจะเค้นเสียงและคำพูดออกมาได้ ผมก็เกือบเผลอหยาบคายใส่แทนคุณตามความเคยชินเวลาคุยกับเพื่อนผู้ชายเสียแล้ว จะมีก็แค่โรมนี่แหละที่เขาดูสุภาพกับผมและมาดคุณชายของเขาทำให้เราคุยกันแบบสุภาพชน และจากที่รู้จักกันมาเดือนเศษๆก็ไม่เคยเห็นโรมแสดงท่าทางหยาบคายออกมาสักครั้ง

ผิดกับผมเลย ยิ่งเวลาอยู่กับไอ้ว่านยิ่งแล้วใหญ่

จบคำแนะนำตัวของผมอาหารก็ออกมาทยอยเสิร์ฟพอดี  พวกเราเลยนั่งคุยไปกินไป มีบางครั้งที่แทนคุณหันมาถามผมบ้างแต่ส่วนใหญ่ดูเขาจะชอบกวนประสาทผมเสียมากกว่า

ไม่คิดเลยว่าตัวจริงของแทนคุณจะเป็นคนแบบนี้

“กะ..เอ่อ...ผมไม่กินผักชี ไม่ต้องคีบมาให้ก็ได้”
“อ่าวหรอ” อีกฝ่ายทำหน้าตาเหรอหรา แต่ดูก็รู้ว่าตอแหลชัดๆ นี่ผมควรเป็นแฟนคลับของแทนคุณต่อดีไหม ถ้าจะรู้ว่านิสัยแบบนี้

“นิสัยชอบแกล้งเพื่อนใหม่นี่มันเลิกไม่หายจริงๆเลยนะ”
“โรมก็พูดไป ผมใช่แบบนั้นที่ไหน”
“แล้วที่คุณกำลังแกล้งยูอยู่นี่ ไม่ใช่หรือไง”
“ก็เพื่อนโรมดูน่าแกล้งจริงๆนี่” ผมยู่หน้าทำปากมู่ทันทีที่ได้ยินคุณพูดแบบนั้น โรมเองก็ทำได้แค่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะคีบปลาซาบะย่างมาใส่จานของผม

“ขอบคุณ แต่เราจัดการเองได้โรมกินเถอะ”  โรมพยักหน้ารับพร้อมกับที่ผมเหลือบมองแทนคุณที่กำลังคีบปลาดิบแล้วจิ้มลงไปบนวาซาบิในโชยุเสียชุ่ม

“อ๊ะ เห็นจ้องใหญ่เลย”
“เอ้ย คือมัน...“
“มันไม่ใช่ผักชีนะ หรือไม่กิน แต่อันนี้ยูสั่งไม่ใช่ไง” ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจคีบปลาดิบที่อีกฝ่ายเอามาวางใส่ในจาน

พอเอาเข้าปากและเคี้ยวไม่ถึงสามวิด้วยดำ ความจี๊ดก็พวยพุ่งขึ้นสมองและฉุนออกจมูกจนไอค่อกแค่ก แต่ต้องพยายามกลืนมันลงคอไปให้ได้

“โอ้ๆ สงสัยมือหนักไปโทษทีๆ” ผมได้แต่ส่งค้อนวงใหญ่ไปให้แทนคุณ กลับไปจะขอลาออกจากการเป็นแฟนคลับ

ไอ้คนนิสัยไม่ดี
วได้แค่ด่าอยู่ในใจพลางยกแว่นขึ้นแล้วเช็ดน้ำตาและยื่นมือไปรับทิชชู่จากโรมที่ส่งมาให้เพื่อเช็ดน้ำมูกที่กำลังไหลออกมา หน้าตาตอนนี้คงดูไม่ได้อ่ะ

“เลิกแกล้งยูสักทีเหอะน่า ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง” แต่คนถูกต่อว่าทำแค่ไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

นี่อยากจะถามจริงๆว่าไปทำอะไรให้ถึงแกล้งกันอยู่ได้ ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ
ในหัวตอนนี้เลยกำลังวาดภาพว่าตัวเองกำลังต่อยหน้าแทนคุณซ้ายทีขวาที เผลอไปชอบคนขี้แกล้งแบบนี้ได้ยังไงว่ะ

RRrrrr

เสียงโทรศัพท์ของใครสักคนดังขึ้นแล้วก็พบว่ามันเป็นของโรม

“ว่าไง...อ๋อ กินข้าวอยู่น่ะ แต่ใกล้เสร็จแล้ว...อ้าวจริงดิ...ได้ซิ แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่มอนะ...อยู่ฟูจิ รีบกันหรือเปล่า...งั้นเดี๋ยวไปรอที่หน้าห้างแล้วกัน จะได้ไปพร้อมกันเลย...โอเค แล้วเจอกัน”

“มีอะไรหรือเปล่า” แทนคุณถามทันทีที่โรมวางสาย
“ติดธุระนิดหน่อย พอดีรายงานที่จะส่งอาจารย์วันพุธนี้ไฟล์มีปัญหาเลยต้องไปแก้งานกันใหม่”
“อ้าว งั้นไปเลยไหมล่ะ ให้ไปส่งที่ไหน”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวผมไปกับเพื่อนในกลุ่มเอง อีกเดี๋ยวก็จะมารับ เลยว่าจะไปรอที่หน้าห้าง...ยู อิ่มหรือยัง”

ถามแบบนี้ ไม่อิ่มผมก็ต้องอิ่มล่ะนะ เลยได้แต่พยักหน้าทั้งที่ปากยังคาบตะเกียบอยู่เลย
พอจ่ายค่าอาหารทั้งหมดแล้ว ด้วยฝีมือจากพ่อบุญทุ่มแทนคุณ ที่แรกก็จะช่วยออกหรอกแต่เขาบอกว่าเลี้ยงต้อนรับที่รู้จักกัน ผมก็เลยเออออแล้วเก็บกระเป๋าตังของตัวเองไว้เหมือนเดิม

เราเดินออกมาส่งโรมที่หน้าห้างสรรพสินค้ารอไม่นานโตโยต้าแคมรี่ของเพื่อนโรมก็มาจอดเทียบ

“ถ้ายังไง ผมฝากคุณไปส่งยูที่หอหน่อยแล้วกัน...แล้วเจอกันนะยู” ไม่รอให้ผมหรือแทนคุณได้พูดปฏิเสธ โรมก็วิ่งไปที่รถของเพื่อนแล้ว

“งั้น เดี๋ยวแยกกันตรงนี้ก็ได้”
“ไม่ได้”
“ทำไมอะ” ผมเงยหน้ามองแทนคุณที่ปฏิเสธ นี่คอจะเคล็ดเลยอะ เพิ่งรู้ว่าตัวเองเตี้ยมากจริงๆก็ตอนนี้ สงสัยเพราะเพื่อนรอบตัวที่ผมคบด้วยจะมีไซส์ความสูงที่ไม่ต่างกันมาก ผมบอกไปหรือยังนะว่าแทนคุณเป็นผู้ชายที่สูงประมาณ 185 รู้มาจาก 20 คำถามที่มีคนแท็กไปหาแทนคุณ ซึ่งนั่นหมายความว่าผมมีความต่ำเตี้ยห่างจากแทนคุณตั้ง 20 เซนฯ

“ถามแปลก ก็เมื่อกี้โรมเพิ่งจะบอกให้ไปส่ง อีกอย่างเรามีเรื่องต้องคุยกัน”

คำพูดนั้นของแทนคุณและสายตาที่มองมาทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าเรื่องที่จะคุยมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร




ตอนนี้ผมได้มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของแทนคุณอย่างที่เคยวาดฝันเอาไว้ จนเผลออดที่จะเอามือลูบไปที่คอนโซลหน้ารถไม่ได้

“ระวังเป็นรอยนะ”
“ไม่เป็นหรอกน่ะ” ผมเองก็สวนกลับไปตามความเคยชิน

“แล้วอันนี้ล่ะ ทำเป็นรอยได้ไหม” ผมหันไปตามเสียงที่ถาม และเห็นว่าแทนคุณกำลังโบกสมุดของผมอยู่ในมือ
“อันนี้ของนายสินะ” ผมกลับมานั่งตัวตรงพลางมองของในมือแทนคุณอย่างขบคิดว่าควรจะตอบอีกฝ่ายว่าอะไร ถ้าโกหกแล้วอีกฝ่ายจะรู้ไหม

“มะ..”
“ไม่ต้องปฏิเสธ ที่วันนี้โรมโทรหานายชวนมากินข้าวไม่แปลกใจหรือไงว่าทำไม...โรมบอกเองว่านี่น่ะเป็นของเพื่อนเขา นายจะปฏิเสธมั้ยล่ะว่าไม่ใช่อีก”

ผมเม้มปากแน่นก่อนจะเอื้อมมือไปเอาสมุดจากอีกฝ่ายคืน แต่แทนคุณกลับหลบมือไปอีกทาง

“ทำไมในสมุดถึงมีรูปกูเต็มไปหมด” ผมตกใจกับคำพูดของแทนคุณ เขาแทนตัวเองด้วยคำๆนั้นทั้งที่ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ยินมันหลุดออกจากปากแทนคุณเลย

“ขอโทษ”
“ขอโทษ?...ขอโทษทำไม ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ใช่หรือไง”
“ก็มึง...เอ้ย...นายกำลังโกรธที่ผมวาดรูปนายอยู่ไม่ใช่ไง”
“บอกหรอว่าโกรธ ยังไม่ได้พูดเลยนะ” ผมมองหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆ ตกลงจะเอายังไงกับกูฟ่ะเนี่ย

“โอ้ยยย แล้วจะให้ทำยังไงอ่ะ นู่นก็ไม่ใช่นั่นก็ไม่ถูก เดาใจไม่ออกแล้วนะ”


แชะ!!

“เฮ้ย ถ่ายรูปกูทำไม...ง่ะ” ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากทันที ลืมตัวอีกแล้ว ก่อนที่แทนคุณจะหัวเราะออกมาแล้วโยนสมุดลงมาบนตักผม

“คืนไป”

เขาไม่พูดอะไรอีกนอกจากสตาร์ทรถแล้วเคลื่อนตัวออกจากลานจอดรถไป โดยไร้ซึ่งการสนทนาใดใดทั้งสิ้น จนรถยนต์คันหรูของแทนคุณมาจอดเทียบที่หน้าหอพักในมหา’ลัย

“ขอบคุณนะ”
“เดี๋ยว...”
“อะ...อะไรหรอ”
“ไม่ปลดเบลท์แล้วจะลงยังไง” ผมก้มหน้ามองเข็มขัดที่คาดพุงคาดอกเอาไว้แล้วก็ได้แต่รีบลนลานปลดสายเข็มขัดออกแล้วลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว

ทำไมถึงได้เอ๋อแบบนี้ว่ะเนี้ยกู พอลงจากรถได้ก็ขยี้หัวตัวเองแรงๆก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไปอย่างไม่มองว่าแทนคุณยังคงอยู่ตรงนั้นหรือว่าออกรถไปแล้ว

พอขึ้นมาถึงห้องก็ได้แต่หอบแฮ่ก เล่นเอาเข่าแทบทรุดก็วิ่งขึ้นมาถึงชั้นสี่ อย่าถามว่าทำไมไม่ใช้ลิฟท์ ก็ถ้ามันมีลิฟท์ก็คงจะดีแถมยังมาอยู่ชั้นบนสุดแบบนี้อีก

“อ้าว เก็ต” เปิดประตูเข้ามาก็เห็นเก็ตกำลังถอดเสื้อนิสิตอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า
“ไงมึง ไม่ค่อยได้คุยกันเลย”
“เออ ก็ช่วงรับน้องถ้ามึงไม่หลับก่อนก็เป็นกูที่หลับก่อนทุกที” ไอ้เก็ตหัวเราะกับคำตอบของผม

“แล้วนี่มึงจะแต่งหล่อไปไหน”
“นัดเลี้ยงสายรหัสน่ะ อยากไปด้วยมั้ย”
“ไปทำไมว่ะคนละคณะกันเลย แล้วมึงจะกลับมานอนนี่ป่าว”
“ดูก่อนถ้าเมามากก็คงมีใครสักคนลากกูกลับไปด้วย” ไอ้เก็ตมันตอบพร้อมหัวเราะออกมา แต่งตัวเสร็จมันก็บอกลาผมแล้วออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมนอนกลิ้งไปมาบนเตียงจนเผลอหลับ

ตื่นมาอีกทีตะวันทับตา แบบที่ยายผมชอบบอกว่าไม่ให้นอนช่วงนี้เพราะมันเป็นช่วงผีตากผ้าอ้อม แต่จริงๆแล้วคือถ้านอนตอนนี้จะมีอาการมึนและปวดหัวได้ง่ายต่างหากและตอนกลางคืนก็จะไม่อยากนอน

ผมล้างหน้าล้างตาแล้วมองไปรอบๆห้องยังคงพบว่าไม่มีใครกลับมา พอหยิบมือถือคู่ใจมาดูก็เห็นข้อความไลน์จากนัทว่าวันนี้จะไปนอนที่หอเพื่อน สงสัยว่าคืนนี้ผมได้ครอบครองห้องเพียงคนเดียว

ว่าแล้วก็เปิดโน๊ตบุ๊ครอเพื่อเล่นอินเตอร์เนตอย่างที่ชอบทำและอาจจะได้หาเนื้อหาสำหรับทำรายงานที่อาจารย์เพิ่งสั่งเป็นการบ้านส่งก่อนสอบมิดเทอมนั่นอีก ผมลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้ารอระหว่างที่วินโดว์หน้าจอกำลังรัน  พอกลับมานั่งประจำที่ก็เข้าไปที่หน้าเฟซบุ๊คก่อนเป็นอันดับแรก เห็นฟีดข่าวแรกเป็นใครสักคนมาโพสต์ลงบนหน้าวอลล์ของเพจรักคุณครับ


์Nid Anusaniya ได้โพสต์บน รักคุณครับ แฟนเพจ เมื่อเวลา 17.03 น.
พอดีมารับน้องที่คณะเอาของที่หอแล้วบังเอิญเจอเข้า พี่นิดว่ารถมันคุ้นๆนะคะ #ซูมที่ป้ายทะเบียน แต่ใครคะที่ลงมามันไม่ใช่โรมอ่ะ #ซูมที่หน้า

1,278 Likes

และภาพที่เห็นเป็นภาพของผมที่ลงจากรถของแทนคุณ มันเป็นภาพแอบถ่ายจากมุมไม่ใกล้ไม่ไกลหน้าหอพักนัก ยังดีที่ภาพจับได้ตอนผมกำลังวิ่งลงจากรถ

‘ใครกันอ่ะ แทนคุณนอกใจโรมหรอ’
‘ไม่นะ ฉันจะไม่ยอมเห็นภาพนี้คนเดียว Jum Nursing ปิยะ คุณโรมชิปเปอร์
‘ซูมแรงค่ะ ซูมจนรูปจะแหก เขาเป็นใคร’

น้องอ้อย คัน ไม่นะ โรมไปกับคุณไม่ใช่หรอ ยังมีภาพในร้านฟูจิอยู่เลย

พร้อมรูปอีกเม้นต์ที่เป็นภาพของแทนคุณกับโรมในร้านฟูจิซึ่งตัวผมคงถูกครอปออกหรือเจ้าของรูปจงใจไม่ถ่ายให้ติดผม มันเลยเหมือนว่าคุณมากับโรมแค่สองคน

เจ๊ โร ซ่า มีคนเห็นว่าคุณไม่ได้ไปกับโรมแค่สองคนค่ะ

และก็มีภาพที่แอบติดข้างหลังของผมมาด้วย

แฟนคลับเริ่มขุดคุ้ยและแชร์ภาพจากในร้านฟูจิ แต่ยังไม่มีภาพไหนที่เห็นหน้าผมชัดเจนแต่ก็มีบ้างบางคอมเม้นต์ที่บอกว่าเดินผ่านร้านและเห็นว่าคุณไม่ได้ไปกับโรมแค่สองคนจริงๆเป็นการยืนยันข้อความของผู้ใช้นามแฝงว่าเจ๊โรซ่าอีกที แต่แค่ยังไม่มีใครรู้ว่าอีกคนเป็นใครแค่นั้น

เสียงเตือนจาก Messenger ดังขึ้นพร้อมโชว์กล่องอินบ็อกซ์ให้เห็น ในขณะที่แจ้งเตือนเฟซฯเด้งตัวเลขให้ผมเห็นว่ามีการอัพเดท แต่ผมเลือกอ่านข้อความที่อินบ็อกซ์มาจากอันอันก่อน


ตึดึดึ่ง!

AunAun Aunchita: เกิดเรื่องแล้วเกี๊ยว
AunAun Aunchita: นายกำลังจะกลายเป็นคนดังแล้วนะ

ผมกวาดสายตาอ่านข้อความของอันอันอย่างพยายามประติดประต่อเรื่อง

AunAun Aunchita: ไปตอบคำถามของเปรี้ยวกับน้ำหวานด้วยล่ะ
บะหมี่ เกี๊ยว: เกิดอะไรขึ้นอีกอะ?

แต่ไม่ได้รับคำตอบจากอันอัน ผมเลยเลือกที่จะเปิดดูแจ้งเตือนและเห็นว่าแทนคุณเป็นคนอัพเดทความเคลื่อนไหว พอเข้าไปที่หน้าโปรไฟล์ของเขาแล้ว ผมก็เข้าใจคำพูดของอันอันขึ้นมาทันที



TK Krittidumrong
หน้าตาเจ้าของสมุดครับ ผมเจอกับเขาแล้ว ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะ ยู ศิลปกรรมศาสตร์

พร้อมด้วยภาพถ่ายของผมหน้าตาเอ๋อๆเหวอๆจากการถูกแอบถ่ายโดยไม่ทันตั้งตัว



ผมรู้สึกได้เลยว่า งานเข้าผมแล้ว!




จบตอน




ตอนนี้ยาวมากเลย พิมพ์จนเหนื่อย ฮ่าๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 4> 25/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 25-09-2016 14:41:12
ร้ายกาจมากค่ะเเทนคุณ
ผิดจากที่คิดไว้นะเนี่ยยย5555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 4> 25/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 25-09-2016 15:21:34
โดนเล่นแล้วน้องเกี๊ยว
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 4> 25/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-09-2016 17:31:04
เอาอีกๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 4> 25/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-09-2016 18:51:44
แทนคุณมีความกวนทรีน
ว่าแต่แทนถ่ายรูปยูไปลงช่วยรอเคลียร์แฟนคลับคุณโรมด้วยนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 4> 25/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: we.jinkyu ที่ 25-09-2016 20:05:49
ชอบค่ะ ติดตาม :katai4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 26-09-2016 16:48:58
ตอนที่ 5
ก็จีบสิ



เหมือนมีคนตามมา

ผมกำลังสับขาก้าวไวๆแต่ด้วยช่วงขาสั้นเพราะเกิดมาเตี้ยทำให้ตอนนี้ทางเดียวที่จะหนีได้เร็วที่สุดคือวิ่ง แต่ยังไม่ทันที่ผมจะออกสตาร์ทความรู้สึกที่ว่ามีคนเดินตามนั้นก็ชัดเจนขึ้นเมื่อบุคคลที่ผมกำลังจะวิ่งหนีมาถึงตัวเสียก่อน

“หยุด!”

เฮือก!! ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อใครคนนั้นเอามือมาจับที่ไหล่ของผมทั้งสองข้าง

“มึงจะรีบเดินไปไหน ไอ้ห่า” คำทักทายกับน้ำเสียงที่คุ้นหูด้วยภาษาที่มีสถุนรุนชาติแบบนี้เล่นเอาผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ไอ้ว่าน”
“เออ ก็กูน่ะสิ มึงคิดว่าณเดชน์หรือไง” ขออนุญาตกรอกตาเบาๆ

“มึงตามกูมาทำไมวะ”
“มึงเป็นเชี่ยไร ไข้ขึ้นตัวร้อน สมองเสื่อมหรอ กูไลน์บอกมึงแล้วนะว่าวันนี้จะมาแดกข้าวเที่ยงด้วย”
“อ่าหรอ โทษทีกูลืมโทรศัพท์ไว้ที่หอ”  ไม่ได้ลืมธรรมดานะ แต่กูจงใจลืมเลยอ่า

“ถึงว่าไม่ตอบไลน์กูเลยมาดักรอที่ใต้ตึก แล้วมึงเป็นไร พอมึงลงมาจากตึกกูก็เห็นมึงมองซ้ายมองขวาเหมือนเจอผีแล้วรีบเดินอย่างกับควายหาย”

“ป่าวๆ ไม่ได้เป็นไร กูสบายดี” ผมแก้ตัวแต่เหมือนไอ้ว่านจะไม่เชื่อ เพราะมันกำลังหรี่ตามองผมอย่างจับผิด แต่เพื่อตัดรำคาญผมถึงได้รีบพูดขึ้นมาก่อน

“จะไปกินข้าวไม่ใช่ไง ไปดิ”
“เปลี่ยนเรื่องเชียวนะมึง”

ผมเงียบไม่ตอบอะไรพร้อมกับรีบลากไอ้ว่าน ก่อนเป็นมันที่เปลี่ยนมาลากผมไปยังบริเวณลานจอดรถข้างคณะแทนเพื่อแว๊นซ์สกูปปี้ไอของมันไป



เราแวะกินมื้อเที่ยงกันที่หลังมอ เป็นร้านอาหารตามสั่งที่บริเวณหน้าร้านจะเป็นลานโล่งๆสำหรับครัวทำอาหารส่วนที่นั่งของลูกค้าจะเป็นห้องกระจกที่จะไม่มีกลิ่นควันอาหารเข้ามารบกวนพร้อมด้วยแอร์ปรับอากาศที่ทำให้อากาศไม่ร้อนเกินไป ผมสั่งข้าวผัดหมูไข่ดาว ส่วนไอ้ว่านสั่งข้าวกระเพราหมูกรอบไข่เจียว

ระหว่างที่กำลังรออาหารไอ้ว่านก็เริ่มทำการซักไซ้ผมตามปรอทความเผือกของมันที่แตะจุดเดือด

“บอกกูมาว่ามึงทำท่าลุกลี้ลุกลนหนีอะไร”
“ไม่มีอะไรไงกูบอกแล้วมึงไม่เชื่อวะ”
“น่าเชื่อตายล่ะสัด อ่ะนี่เอาไป เดี๋ยวหาว่ากูล้าหลัง” วุ้นเป็ดจอมเผือกยื่นไอโฟนของมันมาให้ผม ผมรับมาแล้วก็ทำหน้างงใส่มัน

“อะไร?”
“ไอโฟนไง มึงคิดว่าเป็นของเล่นหมาหรอ”
“กูรู้ครับ แต่ที่ถามคือมึงจะเอาให้กูทำไม”
“ก็เปิดสิครับ แล้วก็แหกตาหลังแว่นมึงดูเอาซะ”
“มึงจะให้กูดูอะไรในเมื่อมึงใส่รหัสเอาไว้น่ะ” เกือบจะปาไอโฟนแสกหน้ามันแล้วดีที่มันคว้าไปจิ้มจึ่กๆๆ แล้วยื่นมาให้ผมใหม่

“เอ้า...คราวนี้ได้แล้ว”

ผมเลยทำตามที่มันบอกมองดูสิ่งที่มันเปิดค้างเอาไว้ พอมองดูแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วมุ่น แล้วยิ่งพอไถนิ้วสไลด์หน้าจอไอโฟนมันก็ยิ่งก้มหน้าแทบติดจอมือถือ แล้วตาใต้กรอบแว่นก็เริ่มโตขึ้น โตขึ้น พร้อมกับคำว่า Shipหาย ตัวเท่าฝาบ้านแปะกลางหน้าผาก

รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก TK Krittidumrong เมื่อวานนี้เวลา 23.02 น.
ดึกๆไม่หลับไม่นอน ความเผือกทะลุจุดเดือด  งานแอบถ่ายระดับ HD ก็มา แอด จ.จาน

10,023 Likes 805 Comments

พร้อมแนบภาพ 4 ภาพ ซูมระดับ HD ยิ่งกว่าที่เจ๊นิดวิทยาฯโพสต์ไว้เสียอีก
ภาพแรกเป็นภาพที่แทนคุณคีบปลาดิบวางในจานของผม
ภาพสองเป็นภาพที่เราส่งโรมขึ้นรถเพื่อนหน้าห้าง
ภาพสามเป็นภาพที่เราเดินไปที่ลานจอดรถ
ภาพสุดท้ายคือภาพที่ผมเปิดประตูลงจากรถของแทนคุณ

‘แอดคะ เรามีความหลงรักหนุ่มแว่น จิตใจไม่ดีเลยคุณขา’
‘หน้าจิ้มลิ้มมากเลยค่ะ เราพลาดไปได้ยังไง’

เจ๊ โร ซ่า กรีดร้องงงงงง ภาพคู่หน้าห้างคือดีย์ #ตัวเล็กตัวโต
เจ้าขา กฤติดำรง ขุ่นแม่โรซ่า มาจิ้นกันมั้ยคะ
เจ๊ โร ซ่า วรั้ยยย น้องเจ้า หนูเป็นแม่ยกคุณโรมอยู่ไม่ใช่หรอคะ
AunAun Aunchita #ตัวเล็กตัวโต ขออยู่ทีมนี้ด้วยคนนะคะ คริๆ
เจ้าขา กฤติดำรง คุณโรมอยู่ในใจค่ะ ขุ่นแม่ อย่างที่เรารู้ๆ #แค่เพื่อนจริงอะ


Thai Shares Cute Boys ได้แชร์โพสต์ของ TK Krittidumrong เมื่อเวลา 8.49 น.
เมื่อคืนมีประเด็นเจ้าของสมุดของแทนคุณ ใครอยากรู้จักมากกว่านี้ ขอให้ยกมือขึ้น #เจ้าของสมุด
3,504 Likes 417 Comments

พร้อมภาพที่ผมถูกแอบถ่ายโดยฝีมือของแทนคุณ เห็นแล้วก็อยากจะกด report ให้ลบทิ้งแต่ก็ไม่ทำ


‘อยากมากค่ะแอด เรามองเห็นเค้าความโมเอ้ของเจ้าของสมุด’
‘เราสืบอยู่ แต่ไม่รู้จักใครที่เรียนสินกำเลย เสียดายมาก’
‘เราได้ภาพมาใหม่แอด เราไปส่องจากเพจเด็กสินกำมา’


Thai Shares Cute Boys ได้แชร์โพสต์ของ F&AA ตามติดชีวิตเด็กอาร์ต เมื่อเวลา 9.15 น.
ภาพตอนเจ้าของสมุดรับน้องจ้ะ ขอบคุณ Plamy Pichaya สำหรับข้อมูลด้วยค่ะ  #ยูเจ้าของสมุด

5,983 Likes 539 Comments



‘น่ารักเชียวคุณเจ้าของสมุด #ยูเจ้าของสมุด’
‘เด็กแว่นโมเอ้ ขนาดโดนแอบถ่ายยังน่ารัก #ยูเจ้าของสมุด’
‘ต่อมเผือกทำงานระริกๆเลยค่ะ’

อยู่บนคาน มันหนาวจริง แอดคะ ได้ข้อมูลมาใหม่ เผือกไม่หลับไปนอนต้องไปส่องนะคะว่าใช่หรือเปล่า นี่ค่ะเฟซฯ บะหมี่ เกี๊ยว แต่เราว่าใช่นะคะแอด #ยูเจ้าของสมุด


“เหี้ย!!” ผมรีบยื่นไอโฟนคืนไอ้ว่านไปราวกับว่ามันเป็นของร้อน
“อ่ะ ทีนี้บอกกูได้ยังว่าอะไรยังไง”


แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบคำถามอะไรของไอ้ว่าน อาหารที่สั่งไว้ก็มาวางตรงหน้าเสียก่อน ทำให้เราหันมาจัดการอาหารตรงหน้าให้แล้วเสร็จก่อน พอดูดน้ำจนหมดแก้วไอ้ว่านก็ตวัดน้ำแข็งหลอดเข้าปากเป็นการตบท้าย

“เอิ๊ก อิ่มสัด” ไอ้ว่านผู้สถุนขัดกับหน้าตาและอนาคตของความเป็นครูเรอเสียงดังเป็นการบ่งบอกอาการอิ่ม

“ไอ้ยู” นานทีปีหนไอ้ว่านจะเรียกชื่อเล่นจริงๆของผมสักทีทำให้ผมเงยหน้ามองมันแทนการพิจารณาน้ำแข็งที่กำลังละลายในแก้วพลาสติก

“กูว่าโต๊ะข้างหลังกับโต๊ะซ้ายมือเขามองมึงแปลกๆ”
“งั้นกูว่า เรารีบออกจากร้านเหอะ” ไอ้ว่านพยักหน้าหงึกหงักรับคำ พอจังหวะที่เราลุกขึ้นจากเก้าอี้เท่านั้นแหละ เสียงลุกจากเก้าอี้ก็ดังขึ้นตามมาอีกสองถึงสามตัว

ผมแอบเหลือบมองไปทางซ้ายทางขวาก่อนจะรีบเดินก้มหน้าก้มตานำหน้าไอ้ว่านออกไปนอกร้าน แต่อย่าคิดว่าผมจะหนีพ้น พอออกมาหน้าร้านระหว่างรอจ่ายตังให้เจ๊เจ้าของร้าน ผมก็ถูกสะกิดเบาๆที่ไหล่


“น้องยูใช่มั้ยจ๊ะ” ผมหันไปตามเสียงเรียกเพื่อพบว่าคนที่เรียกผมเป็นรุ่นพี่ปีสามสังเกตได้จากสีของหัวเข็มขัดที่จะไม่เหมือนกันสักชั้นปี และอาจจะเป็นเด็กมนุษย์ฯเกาหลี สังเกตจากติ้งที่เป็นรูปธงชาติเกาหลีใต้ตรงปกเสื้อ

“คะ..ครับ”
“น่ารักอ่ะแก” พี่เขาไม่พูดธรรมดาแต่หันไปกรี๊ดกร๊าดเบาๆกับเพื่อน

“น้องยูมากับใครหรอคะ” พี่อีกคนดูรู้ทันทีว่าเป็นเกย์สาวน้อยเอ่ยถามผมบ้างพร้อมมองไปทางไอ้ว่านที่ยืนไร้บทบาทอยู่ข้างๆผม
“เอ่อ...เพื่อนน่ะครับ ชื่อว่าน”
“สวัสดีครับ” ว่านมันยกมือไหว้ทักทายพี่ทั้งสองคน

“แล้วน้องยูจะไปไหนหรอคะ” ผมเกาแก้มเบาๆ พลางมองพี่สองคนสลับกัน  แต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไรไปพี่ผู้ชายร่างอ้อนแอ้นเจ้าของคำถามก็คว้าแขนผมไว้มั่น

“ถ้าน้องยูไม่รีบไปไหน พี่ขอรบกวนเวลาน้องยูสักครู่ได้ไหมคะ” ผมถึงกับต้องหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากไอ้ว่านที่มันกำลังทำเป็นมองทางอื่นไม่สนใจใยดีผม
“เอ่อ...พี่ๆต้องการอะไรจากผมหรอครับ”


เป้งๆๆ!!



“ว๊าย แหก!”

เสียงจากการเคาะกระทะของเจ๊เจ้าของร้านทำเอาพี่สาวในร่างชายอุทานด้วยความตกใจ

“นี่น้อง ถ้าจะคุยกันอีกนานก็ออกไปข้างๆร้านได้มั้ย มันขวางทางหน้าร้านเจ๊” แล้วป้าแกก็ตวาดแหวมาให้พวกเราสี่ชีวิตหลีกออกมายืนข้างร้านแทน แล้วพี่สองสาว(?) ก็เข้าเรื่องต่อทันที

“พี่ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ พี่ชื่อ โรส อยู่มนุษย์ฯเกาหลี ปี 3 ค่ะ” พี่ผู้หญิงเป็นคนแนะนำตัวขึ้นมาก่อน
“พี่ชื่อแชมีนะคะ พี่สองคนเป็นคณะกรรมการสภามหา’ลัยค่ะ” และพี่ผู้ชายก็แนะนำตัวบ้าง (ซึ่งผมเดาว่า แชมีคงไม่ใช่ชื่อเล่นจริงๆของพี่แกแน่นอน)

“พี่ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ คือว่าพี่ๆอยากให้น้องยูไปเดินขบวนพาเหรดในงานกีฬาเฟรชชี่ค่ะ”  พี่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างกันรีบเอ่ยขึ้นมาทันที

“คือผม......” ผมหันไปหาไอ้ว่านอีกครั้งกะขอความช่วยเหลือมัน แต่มันหยิบไอโฟนขึ้นมาเล่นโปเกม่อนโกเฉย
“นะคะ พี่ขอร้องล่ะค่ะ”

“พวกพี่ขาดคนจริงๆนะคะ”
“ใช่ค่ะตอนแรกก็วางน้องอีกคนไว้ แต่ว่าน้องดันมาเกิดอุบัติเหตุแขนหัก หายไม่ทันวันงานด้วย”
“นะคะ น้องยู นะๆ”

“แต่ผมมีหน้าที่สวัสดิการนักกีฬาอยู่แล้วครับ”
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาค่ะ”

“แล้วผมต้องทำอะไรบ้างอ่ะครับ” สิ้นสุดคำพูดนั้น พี่ทั้งสองก็มองหน้ากันแล้วฉีกยิ้มกว้าง

กูเกลียดความใจอ่อนของตัวเองโคตรอ่ะ ฮือ T___T






หลังจากที่พี่สองคนนั้นกลับไปแล้วพร้อมกับที่ผมได้ทำการแลกไลน์ไว้เรียบร้อยเพื่อที่พี่เขาจะได้ไลน์บอกกำหนดการซักซ้อม ส่วนผมกับไอ้ว่านก็ไปนั่งในร้านนมปั่นร้านเดิมที่เพิ่งจะมากับอันอันไปเมื่อไม่กี่วัน และก็มานั่งคุยกันด้วยเรื่องเดิมอีกด้วย พอผมเล่าทุกอย่างให้ไอ้ว่านที่ช็อกตาแตกตอนที่ผมบอกว่าแอบรักแทนคุณมา 2 ปีนั้นจบลง มันก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

“มึงไม่รังเกียจกูใช่มั้ยวะ”
“ปัญญาอ่อนน่ะ ถ้าจะตัดเพื่อนกันเพราะเรื่องแค่นี้ กูว่ามันไม่แนวอ่ะ”
“เอ่อ...”
“แต่ที่กูสงสัยคือ ไอ้แทนคุณมันรู้หรือเปล่าว่ามึงคิดยังไงกับมัน” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

“แล้วมึงอยากบอกมันมั้ย” ผมส่ายหน้าอีก
“ทำไมว่ะ กลัวมันปฏิเสธหรอ”
“ไม่ใช่แต่ก็ไม่เชิง”  ไอ้ว่านพยักหน้าพลางดูดโกโก้ปั่นของมันดังซู๊ด

“แล้วทำไมถึงไม่บอก”
“แล้วมึงคิดว่ากูควรบอกเขาเพราะอะไร”
“เอ้า ก็เพราะว่ามึงชอบมันแค่นี้ไงเหตุผล” ผมกรอกตามองบนแป้บนึง ก่อนจะขยับแว่นตัวเองเข้าที่ แล้วมองไอ้ว่านตรงๆ

“ไอ้ว่าน บางทีมึงอาจจะแดกวุ้นเป็ดมากเกินจนสมองมึงฝ่อเกินไป”
“มึงเองก็คิดเยอะเกินไป หัดคิดอะไรแค่ตื้นๆบ้างก็ได้นี่” มันสวนกลับมาทันควัน ทำเอาผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายที่จะคุยกับมัน

“กูพูดจริงๆนะ ยู กูว่ามึงต้องบอกมัน” ทุกครั้งเวลาจริงจัง ไอ้ว่านจะเรียกชื่อผมด้วยชื่อเล่นจริงๆแบบนี้ และผมรู้ว่าที่มันบอกแบบนี้คือการแสดงความหวังดีของมัน มันไม่อยากให้ผมเก็บความรู้สึกนั้นเอาไว้ เพราะถ้านานวันเข้ามันอาจจะหมักหมมจนผมไม่ยอมเปิดใจยอมรับคนอื่น บางทีอาจมีใครสักคนที่เขาต้องการจริงใจกับผมมากๆแล้วผมอาจจะมองไม่เห็น เพียงเพราะผมยังไม่สามารถตัดความรู้สึกที่มีต่อแทนคุณได้

ผมรู้ว่าการแอบรัก การได้ชอบใครสักคนมันดี
แต่จะดีกว่าถ้าเราบอกออกไป ได้พูดมันออกไป ในช่วงที่เขายังอยู่ไม่ไกล
ถึงแม้ผลมันจะออกมาในรูปแบบไหน แต่เราจะไม่รู้สึกเสียใจถ้าได้พูดมันออกไป

ผมได้แต่มองนมปั่นในแก้วที่ค่อยๆละลาย พร้อมความคิดที่ค่อยไหลวนอยู่ในหัว ก่อนจะยกแก้วนมปั่นมาดูดอึกใหญ่ แล้วคนหลอดในแก้วเล่นพร้อมพรั่งพรูสิ่งที่คิดนั้นให้ไอ้ว่านมันฟัง

“มึงจะให้จู่ๆกูเดินเข้าไปแล้วบอก แทนคุณ เราชอบนาย เป็นแฟนกันมั้ย แบบนี้หรอ ตลกแดกล่ะสัด”
“......”
“กูรู้ว่ามึงไม่อยากให้กูอึดอัด แต่กูกับแทนคุณไม่ใช่คนที่รู้จักกันมาก่อน มีแค่กูนี่ที่รู้จักเขาแค่ฝ่ายเดียว กูไม่หน้าด้านพอที่จะทำแบบนั้นหรอก”
“.....”
“รู้แบบนี้แล้ว มึงยังจะคิดให้กูไปบอกมันอีกหรือเปล่าล่ะ”
“.....”

พูดในส่วนที่ตัวเองคิดจนยาวเหยียดแต่ไอ้ว่านวุ้นเป็ดแม่งก็เอาแต่เงียบ ไม่สนใจที่จะตอบโต้อะไร ผมจึงเลิกสนใจคนนมปั่นในแก้วแล้วเงยหน้าขึ้นมองมัน ก่อนจะเห็นหน้าตาเหวอของเพื่อนตัวเอง ที่อ้าปากตาค้างเหมือนตกใจกับอะไรสักอย่าง

ไม่ต้องรอให้ผมหันหลังกลับไปมอง ฝ่ามือหนักๆก็กดลงที่ไหล่ของผมพร้อมตัวการที่ทำให้ไอ้ว่านวิญญาณออกจากร่าง


“ถ้าอย่างงั้นก็ลองจีบดูก่อนมั้ย”


น้ำเสียงที่ผมจำได้ดีว่าเจ้าของเสียงคือผู้ชายตัวสูง 185 เซนฯ ผู้มีตำแหน่งติดตัวเป็นถึงเดือนมหา’ลัย ผมได้แต่ตัวแข็งค้างราวกับไปสบตาเมดูซ่าเข้า แต่ไม่ใช่เลย เพราะผมไม่ได้สบตาเมดูซ่าแต่อย่างใด ผมแค่เงยหน้าขึ้นไปสบตากับ แทนคุณ กฤติดำรงต่างหาก


“มะ...มะ.....มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ตั้งแต่ที่ยูพูดว่า มึงจะให้จู่ๆกูเดินเข้าไปแล้วบอก แทนคุณ เราชอบนาย เป็นแฟนกันมั้ย แบบนี้หรอ ตลกแดกล่ะสัด ตอนนั้นเลยน่ะ”


และเสียงของอีกคนที่พอผมเบนสายตาไปมองก็ยิ่งช็อกเข้าไปอีก


“โรม”
“หวัดดี”




ใครก็ได้พากูหนีออกไปจากตรงนี้ที
ถ้าให้ดีขอแบบวาร์ปหายไปเลย


 





จบตอน

 :pig2:

มาคุยกันเถอะ !
กร๊าซซซซซซซซ มาลงตอนที่ 5 อย่างไว แต่มาแบบสั้นๆ (อยู่ในโหมดขยัน)  :hao3:
น้องยูจะทำไงล่ะทีนี้ คริๆๆ 
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 26-09-2016 17:18:09
น้องยูน่ารักมากกกกกก ไหนๆคุณนักเขียนก้ขยันละ ขออีกสักตอนได้ไหมคะมันสั้นมากอยากวาปไปอีกตอนเลย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 26-09-2016 18:37:20
เห้ยยยยย ชอบมากกกก ชอบเรื่องนี้มากๆคงติดเปิดดูทุกวันแล้วววว น่ารักมากนิสัยยู พระเอกแอบกวนทีน555555 น่าจะขี้หึงนะเนี๊ยะะะะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: ZC.PS ที่ 26-09-2016 20:07:34
ฮือออ ชอบอ่ะ เขินแทนเลยยยย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 26-09-2016 20:13:18
แทนคุณอ่อยน้องยูรึป่าวนิ ที่บอกให้ลองจีบดูก่อนน่ะ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 26-09-2016 21:40:34
ยังไงห๊ะยังไง ทำไมถึงบอกยูให้ลองจีบดูก่อนแทนอ่อยเหรอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-09-2016 23:40:11
อย่าจีบเลยแทนคุณเหมือนแค่อ่อยหว่านเสน่ห์ เราต้องรอให้เค้ามาจีบค่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 27-09-2016 00:33:18
 :mew3:รอนะครับ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: pang_mingi ที่ 27-09-2016 01:07:44
ชอบมากๆเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 27-09-2016 01:31:24
จีบเลยๆ ฟันธง ติดแน่นอน  :hao7:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 27-09-2016 01:57:31
น้องหมี่เกี๊ยวววววววว

 :katai4:  :katai4:   :katai4:  :katai4:  :katai4:


......
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 5> 26/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 27-09-2016 09:37:48
น่ารักมาก
หนูเกี๊ยวพุ่งชนเลยค่ะลูก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 27-09-2016 17:45:47
ตอนที่ 6
เขาเป็นอะไรกัน


เคยได้ยินมาว่า สิ่งที่เราไม่สามารถเรียกคืนได้มีแค่ 3 อย่างในชีวิต
นั่นคือ เวลา คำพูด และ ความรู้สึก ต่อให้อยากจะได้มันคืนกลับมาเพื่อย้อนไปแก้ไขก็ทำไม่ได้ ผมโคตรจะเข้าใจมันเลย


นี่ถ้ามีไทม์แมชชีนจริงๆบนโลกนี้ก็ดีน่ะสิ


ผมอยากจะโกรธไอ้ว่านมากที่มันไม่ยอมส่งซิกอะไรบอกผมสักนิดว่าบุคคลที่สามที่เรากล่าวถึงได้มายืนอยู่ด้านหลัง แต่ดูจากหน้าตาเอ๋อๆของมันแล้วก็พอเดาออกว่ามันคงสติหลุดคิดไม่ทัน

สุดท้ายก็เลยต้องปล่อยไปให้เหมือนกับเวลาที่เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว จนตอนนี้เจ้าของความสูงที่มากกว่าผมถึง 20 เซนฯมาทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้ข้างตัวผมโดยไม่มีใครเชื้อเชิญ


“เดี๋ยวผมรอตรงนี้แล้วกัน โรมไปสั่งเถอะ” คุณชายผิวขาวราวอาบน้ำด้วยโอโม่พยักหน้ารับแล้วเดินไปยังหน้าเค้าท์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม

ความเงียบกินพื้นที่ในโต๊ะที่ผมนั่งหลังจากโรมเดินผ่านไปไม่เกิน 10 วินาที ไอ้ว่านชิงตัดปัญหาด้วยการหยิบไอโฟนของมันขึ้นมาเล่น ส่วนผมก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยหันหน้าเอานิ้วถูกำแพงแม่งเลย

“หาหวยหรือไง”
“......” กูไม่ตอบซะอย่าง แต่เลิกขัดกำแพงชาวบ้านเปลี่ยนเป็นแงะปูนที่จะหลุดเล่นแทน
“ยังไม่ได้กินข้าวหรอ ถึงแคะปูนมาแดก”
“......” ผมหยุดการกระทำตรงหน้าแล้วหันไปค้อนอีกคนทันที  แต่พอโรมเดินกลับมานั่งลงข้างไอ้ว่านซึ่งอยู่ตรงข้ามกับไอ้หล่อเดือนมหา’ลัยคนที่กุมหัวใจผมเอาไว้ในกำมือ  มันก็เลิกสนใจที่จะแกล้งผมแล้วหันไปหาโรมทันที เล่นเอาผมอารมณ์ดิ่งวูบเหมือนตกลงจากที่สูง พอเขาเลิกสนใจตัวเอง

“สั่งเสร็จแล้วหรอ”
“อืม...ผมสั่งโอริโอ้ปั่นมาให้คุณด้วย”
“ขอบคุณครับ”

“แล้วยูไปไหนต่อหรือเปล่า” สุภาพชนคนเดียวในโต๊ะหันมาถามผมบ้าง ทำให้ผมยิ้มให้อีกฝ่ายกลับไป
“เดี๋ยวมีเรียนต่อตอนบ่ายสามน่ะ”
“อืม ผมก็มีเรียนตอนบ่ายสองครึ่ง แล้วนี่....”
“อ่อ ลืมแนะนำไปเลย นี่ว่าน เพื่อนเราเรียนอยู่ศึกษาศาสตร์” ไอ้ว่านเงยหน้าขึ้นมาจากไอโฟนของตัวเองก่อนจะส่งยิ้มให้คนรอบโต๊ะ

“คนที่หอบดอกไม้ช่อใหญ่ๆมาให้ตอนประกวดเดือนนี่ ขอบใจนะเพื่อน เพราะมึงเลยทำให้กูได้ป็อบปูล่าโหวต” แทบอ้าปากค้างกับความสถุนของแทนคุณที่ส่งไปทักทายไอ้ว่านเพื่อนผม ทั้งที่อยู่ต่อหน้าโรม

“อ่อ นั่นน่ะไม่ใช่ของกูหรอก ของมันน่ะ” มันที่ว่า คือการส่งสายตามาให้ผมที่นั่งตรงข้ามคนพูด เล่นเอาทั้งโรมและแทนคุณหันมามองทางผม

“หืม...จริงหรอนี่”
“แสดงว่ายูชอบคุณมากๆเลยนะนั่น”

“มะ...ไม่ใช่” ผมรีบละล่ำละลักตอบ แต่เสียงที่ออกมาดันติดขัดอย่างกับคนติดอ่าง

“อย่างนี้ต้องให้บัตรคิวในการจีบแบบระดับวีไอพีแล้วล่ะ”
“ไปกันใหญ่แล้ว เพราะมึงเลยเชี่ยว่าน” ผมรีบแก้ตัว พร้อมหันไปแยกเขี้ยวใส่เพื่อนตัวเอง ซึ่งไอ้ว่านแค่ยักไหล่ไอด้อนแคร์ แล้วหันไปสไลด์มือถือต่อ พอจะอ้าปากพูดต่อ เสียงคนมาใหม่ก็ดังแทรกขึ้นมา

“นมปั่นหวานน้อยกับโอริโอ้ปั่นครับ” เครื่องดื่มที่โรมสั่งไว้มาวางลงตรงหน้า ก่อนพี่เจ้าของร้านที่เดินมาเสิร์ฟจะเดินจากไป

“ได้แล้ว ไปกันเลยมั้ย”
“อืม ไปเลยก็ได้ ยูจะไปด้วยกันมั้ย”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปกับว่านน่ะ” ผมว่าแล้วหันไปมองไอ้ว่านที่เงยหน้าขึ้นมาจากไอโฟนแว่บนึง แล้วก็ฉีกยิ้มแหยๆให้ผม

“กูไปส่งมึงไม่ได้แล้ว”
“อ้าว ไมวะ”
“ก็เนี่ย พี่เต้ไลน์มาหากู จะให้ไปซ้อมกับวงแก ที่กูเคยบอกไง เห็นว่าจะให้ลองเล่นจริงวันเสาร์นี้แต่ไปซ้อมให้ชินก่อน” ผมพยักหน้ารับเออออ แต่ตาก็พยายามจับผิดว่ามันโกหกเพื่อจะทิ้งผมหรือเปล่า

“งั้น ยูไปด้วยกันสิ เดี๋ยวให้คุณไปส่งที่คณะ” ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่ไอ้ว่านตัวดีก็ชิงตัดหน้าผมก่อน
“ดีเลยๆ เราฝากเพื่อนเราด้วย ขอบคุณมาก” ผมแยกเขี้ยวใส่ไอ้ว่านที่มันก็ยังคงเหมือนเดิมคือไม่ใยดี

“งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวโรมจะเข้าคลาสช้า” จบคำพูดของแทนคุณ ร่างสูงก็ลุกขึ้นจากโต๊ะก่อน ตามด้วยโรมที่หันไปส่งยิ้มให้ว่านที่กำลังโบกมือบ๊ายบายให้พร้อมยิ้มตาปิด

“มึงกำลังเล่นเชี่ยไรเนี้ยว่าน” ผมกระซิบกระซาบรอดไรฟันเมื่อโรมเดินพ้นโต๊ะไป
“ป่าวนิ กูไม่ได้เล่น แต่กูกำลังให้มึงเอาจริง ไหนๆ ไอ้แทนคุณมันก็บอกให้มึงจีบแล้วนี่”
“เขาพูดเล่นเฉยๆมั้ย”
“ก็เพราะมึงคิดแต่แบบนี้ไง มันถึงย่ำอยู่กับที่” ไอ้ว่านรีบตอบกลับก่อนมันจะวางไอโฟนลงหลังจากที่มันพิมพ์อะไรจึ่กๆลงไป

“กูไม่รู้หรอกนะว่า หวานใจมึงน่ะมันกำลังเล่นอะไร แต่ในเมื่อเขาทอดสะพานมาให้มึงขนาดนี้แล้ว ก็ลองดูไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
“แต่กู....”
“เชี่ยยู กูไม่รู้หรอกนะว่ามึงจะจีบมันติดหรือไม่ติด แต่อย่างน้อยมึงก็ได้โอกาสนั้นมาแล้ว มันก็ดีกว่ามึงทิ้งโอกาสนั้นไปไม่ใช่หรอวะ”     
“..........”
“ถ้าสุดท้ายแล้ว มันมีแต่ทำให้มึงแย่ลงก็แค่ถอยมา กูยินดีเป็นส้วมให้มึงขี้ใส่” ไอ้ว่านว่าพร้อมกับตบลงมาที่แขนผมเบาๆ
“ไปเถอะ แม่งหันมามองมึงตาเขียวละ”
“เออ.....ขอบคุณนะเชี่ยว่าน” มันแค่ส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะโบกมือไล่ใส่ผมอย่างกับไล่หมา






แทนคุณวนรถอ้อมมหา’ลัยมาส่งโรมที่คณะเภสัชฯก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่าโรมมีเรียนก่อนผม ซึ่งมันไม่ได้ทำให้โรมเข้าคลาสสายเลยสักนิดถ้าพ่อเดือนมหา’ลัยจะไปส่งผมก่อน ทั้งที่คณะของผมอยู่ไกลจากหลังมอไม่เท่าไหร่

“ตอนเย็นให้ผมมารับไหม”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมให้เพื่อนไปส่ง” โรมบอกแค่นั้นก่อนจะเปิดประตูลงจากรถของแทนคุณไป ส่วนเจ้าของรถก็มองตามเพื่อนตัวเองที่เดินเข้าตึกไปจนลับสายตา

ผมมองภาพนั้นตรงหน้าพร้อมกับความคิดที่วิ่งวนอยู่ในหัว ผมจับเค้าลางของความสัมพันธ์นี้ได้ เป็นเพราะสายตาของแทนคุณที่มองตามหลังของโรมไป มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อวันที่ส่งโรมหน้าห้างแล้ว สายตาแห่งความห่วงใย หลงใหล

หัวใจผมปวดหนึบ แต่ผมก็เฝ้าหลอกตัวเองว่าไม่เป็นไร
แค่ได้รักผมก็มีความสุขแล้ว

บางที สิ่งที่ไอ้ว่านมันพูดอาจจะถูก ถ้าผมได้ลองทำสิ่งที่หัวใจสั่ง มากกว่ามัวแต่กังวลถึงความผิดหวัง ตะกอนที่เกาะอยู่ก้นบึ้งลึกๆของจิตใจ มันอาจจะกวนขึ้นมาให้ผมว้าวุ่นก็จริง แต่สุดท้ายแล้วเมื่อผมสลัดคราบตะกอนเหล่านั้นทิ้งได้ ผมจะไม่รู้สึกกับมันอีก มันจะเป็นแค่เพียง เศษเสี้ยวของความทรงจำเท่านั้น


เอาล่ะ ดราม่ากับตัวเองเล็กน้อยแล้วผมก็ตั้งใจแล้วว่า....


“ยู....มึง......มึงอะ”
“ห๊ะ!” ผมสลัดตัวเองออกจากห้วงความคิด พร้อมกับมองหน้าคนเรียก ที่เริ่มแสดงออกถึงความสถุนให้ผมเห็น

“กูเรียกตั้งนาน นึกว่าหลับในตายไปแล้ว”
“ปากเสีย” ผมตอกกลับอย่างลืมตัว ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเอาไว้ แล้วมองอีกฝ่ายนิ่งๆ

“ย้ายก้นมานั่งข้างหน้าได้แล้ว กูไม่ใช่สารถี” ผมเบ้ปากกรอกตามองบนเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูลงจากที่นั่งด้านหลังแล้วย้ายไปนั่งข้างคนขับ

ช่วยบอกทีเถอะว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของแทนคุณ ไอ้ภาพลักษณ์สุภาพบุรุษจุฑาเทพที่เห็นบนโลกอินเตอร์เนตนี่คือสร้างภาพทั้งนั้นใช่มั้ย ตอบ!



รถยุโรปสีขาวสัญลักษณ์สี่ห่วงของแทนคุณมาจอดเทียบที่หน้าตึกคณะของผมเรียบร้อยด้วยความเร็ว 40 กม. ต่อ ชั่วโมง ในเวลาไม่ถึง 10 นาที

“ขอบคุณที่มาส่ง”
“อือ”

อีกฝ่ายรับคำในลำคอ แต่ไม่ได้หันมามองอะไรผมเหมือนคนกำลังใช้ความคิด ส่วนผมกำลังปลดเบลท์ออกจากตัวเพื่อเตรียมลงจากรถ แต่ทันทีที่มือแตะประตูเตรียมเปิด อีกฝ่ายก็รั้งแขนผมไว้ก่อน

“เดี๋ยวก่อน”  แทนคุณพูดออกมาพร้อมกับละมือออกจากแขนผมแล้วหยิบเอาไอโฟนของตัวเองมาส่งให้ผมแทน

“อะไร”
“เมมเบอร์กับไลน์มึงให้ด้วย” ผมขมวดคิ้วมุ่นแต่ยังไม่รับมือถือที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ เจ้าตัวถึงได้จิ๊ปากอย่างขัดใจแล้วจับยัดใส่มือผมแทน

“ให้ว่องครับ อย่าลีลา” ผมอ้าปากหวอ ก่อนจะงับปากเมื่อสมองประมวลผล แล้วก้มลงมองไอโฟนในมือตัวเอง

แต่คุณรู้ไหม พอผมกดปุ่มเพื่อที่จะสไลด์หน้าจอปลดล็อก ภาพสกรีนวอลล์ของไอโฟนในมือผมมันขึ้นเป็นภาพของคุณและโรมที่ถ่ายคู่กัน ในภาพเหมือนโรมถูกบังคับให้ถ่ายรูป ที่เป็นฝีมือเซลฟี่ของเจ้าของเครื่อง หน้าโรมมีความเหวและ ตาตี่นั้นโตขึ้นด้วยความตกใจเพียงเพราะว่า ถูกใครอีกคนหอมแก้ม

ภาพที่เห็นนั้นทำให้ผมกลานเป็นคนที่ลืมวิธีหายใจ

หลังจากเรียกสติคืนเข้าร่างได้แล้ว นิ้วอันสั่นเทาก็เลื่อนหน้าจอเข้าสู่เมนูโทรศัพท์ แล้วพิมพ์ตัวเลขสิบหลักเซฟลงเครื่องให้อีกฝ่ายก่อนยื่นไอโฟนกลับคืนให้เจ้าของ


“แค่เซฟเบอร์ไลน์ก็ขึ้นแล้ว”
“อือ”
“ไปนะ ขอบคุณอีกทีที่มาส่ง” ผมเปิดประตูจะลงจากรถอีกครั้ง

“เดี๋ยว” อีกคนก็รั้งเอาไว้ด้วยคำสั้นๆ ทำให้ผมต้องหันไปมองหน้าอีกฝ่ายที่ยังคงมองที่ผมอยู่

“ที่กูพูดในร้านน่ะ”
“......”
“เรื่องที่ให้มึงจีบ”
“จะบอกว่า...ล้อเล่นใช่มั้ย” ผมถามออกไปพลางฝืนฉีกยิ้มให้อีกฝ่าย ตอนนี้อยากหนีจากสถานการณ์น่าอึดอัดนี้เต็มทน


ถ้าแทนคุณบอกว่า ใช่ กูล้อเล่น ผมจะขอลาออกจากการเป็นแฟนคลับมันจริงๆ....ความรู้สึกกูไม่ใช่ของเล่นนะโว้ย!!
เห็นมั้ยน้ำตากูกำลังจะไหล เขื่อนใกล้แตกแล้วไอ้หล่อ!


“เปล่า ที่กูจะบอกก็คือ....”
“..........”

“มึงเป็นคนแรกนะ ที่กูอนุญาตให้จีบ อย่าทิ้งโอกาสล่ะ”
“ห๊ะ!”


“นี่กูกำลังอ่อยมึงอยู่นะ” 


จบประโยคนั้น แทนคุณก็ส่งยิ้มให้ผม จนรอยยิ้มที่โชว์ลักยิ้มบุ๋มสองข้างโดยเฉพาะข้างซ้ายที่ชัดเจนกระแทกตาทะลุแว่นเข้ามาเต็มๆ

“ไปเรียนได้แล้วครับ” ไม่พูดเฉยๆ ยังตีเพี๊ยะเข้าที่หน้าผากผมเรียกสติอีก

“เจ็บนะเว้ย”
“ก็ตีให้เจ็บไง ทำหน้าเอ๋อเป็นเด็กดาวน์เชียว”

“อะ...ไอ้บ้า!”

แม่เง้ยยย ทำอะไรไม่ได้ก็ด่าไปก่อนแล้วกัน เสร็จแล้วก็หันหลังเปิดประตูลงจากรถอีกคนอย่างว่องไว แต่ยังเดินไม่ถึงสิบก้าว เสียงตะโกนเรียกชื่อผมจากข้างหลังก็ทำให้ต้องหันกลับไปมอง

“ยู!”

ไอ้หล่อเดือนมหา’ลัยมันลงจากรถมาเรียกชื่อผมครับ อือหือ...ไม่ต้องบอกว่าเสียงดังแค่ไหน เพราะบริเวณหน้าคณะที่นิสิตพลุกพล่านช่วงบ่ายสองกว่าๆนี่ หันมามองกันให้รึ่ม

“ตั้งใจเรียนนะครับ”

พูดจบมันก็โบกมือให้ผม ก่อนจะมุดเข้ารถแล้วขับออกไป ทิ้งให้ผมยืนเด๋อด๋าอยู่ตรงนั้น ก่อนจะได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดพร้อมเสียงซุบซิบ และสายตาอีกหลายสิบมองตรงมาที่ผม



ไอ้หล่อเล่นกูอีกแล้วมั้ยล่ะ
ถามหนังหน้ากูบ้างว่าหนากี่เซน

ตอนนี้เลยได้แต่ก้มหน้างุดๆ เดินขึ้นตึกให้ไวที่สุด


และอย่างน้อยหัวใจที่ฟีบเหมือนถูกปล่อยลมก็พองขึ้นมาได้ แถมยังเต้นแรงอย่างมีชีวิตชีวา
เล่นอ่อยขนาดนี้
ก็ไม่ขัดศรัทธาคุณเขาละกัน

ผมจะทำตามเสียงของหัวใจ ผมจะลองดูสักตั้ง

ผลลัพธ์ของมันออกมาเป็นยังไง ผมก็จะยอมรับมัน


กูใส่เกียร์เดินหน้าจีบจริงๆแล้วนะเว้ย!
สู้!!!








ผมกลับมาถึงหอพักแล้ว และพบว่าพักนี้หอในของผมมันจะกลายเป็นของผมไปคนเดียวอยู่แล้ว เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเพื่อนร่วมห้องสักเท่าไหร่ ส่วนหนึ่งก็มาจากตารางเรียนที่เราไม่ค่อยตรงกัน กับอีกส่วนใหญ่คือการที่พวกนั้นไปพักหอเพื่อนในคณะนั่นเอง


ผมวางกระเป๋าลงที่โต๊ะเขียนหนังสือ เหลือบตามองโทรศัพท์ตัวเองที่จงใจลืมเอาไว้ แล้วก็ลอบถอนหายใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้แล้วตัดสินใจหยิบมันขึ้นมาเปิดดู


โอโห! นี่ถึงขั้นต้องถอดแว่นมาเช็ดแล้วสวมใหม่อีกรอบ นึกว่าตาฝาด


45 สายไม่ได้รับ คละกันจาก ไอ้ว่าน 2 สาย ที่คาดว่าจะเป็นการโทรมาชวนไปกินข้าว อีก 10 สายจาก แม่  5 สายจากพ่อ  3 สายจากพี่ไอพี่ชายสุดหล่อของผม 8 สาย จากวีน้องสาวผม และที่เด็ดสุด 17 สายจากอันอัน

มีข้อความมาอีกหลายฉบับแต่พอผมเปิดเข้าไปดูก็เป็นแค่แจ้งเตือนว่าเบอร์เหล่านั้นติดต่อผมไม่ได้

ผมตัดสินใจโทรกลับไปหาแม่ก่อน พร้อมบอกว่าลืมมือถือไว้ที่ห้องก่อนจะคุยสารทุกข์สุขดิบกับท่านไป ซึ่งจริงๆท่านแค่โทรมาถามว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะกลับบ้านหรือเปล่า เพราะพี่ไอกลับมาบ้านนั่นเอง แต่ผมก็บอกไปว่าผมติดไปค่ายอาสากับมหา’ลัย ท่านเลยไม่ได้ว่าอะไร ผมไม่ได้โทรกลับไปหาพ่อกับวีเพราะอยู่ด้วยกันกับแม่ พอโทรกลับไปหาพี่ไอก็ไม่มีอะไรมากเป็นเรื่องเดียวกับที่แม่โทรมานั่นเอง เลยคุยกันอีกเล็กน้อยแล้ววางไป 

ต่อจากนั้นผมก็เลยโทรไปหาอันอัน แต่คุณเธอตัดสายทิ้งผมเลยวางโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะดังเดิม เพราะผมทำการแวะซื้อเกี๊ยวกุ้งซีพีจากในเซเว่นมาด้วยเลยซัดจนแน่นท้อง แล้วทำการเปิดโน๊ตบุ๊คของตัวเอง ระหว่างนั่งรอวินโดว์รัน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นโชว์ชื่ออันอันที่โทรกลับมา

(เกี๊ยววว เราโทรหาตั้งหลายสายไม่รับเลย)
“ขอโทษที พอดีเราลืมโทรศัพท์น่ะ” ขออนุญาตอิ๊บที่พูดความจริงไม่ครบว่าจงใจลืม
“แล้วนี่อันอันโทรมาตั้งหลายสายมีอะไรหรอ”
(ก็ไม่ใช่ธุระสำคัญอะไรหรอก คือว่า....เราจะโทรมาขออนุญาตเกี๊ยว)

“ขออนุญาต? เรื่องอะไรหรอ ถึงกับต้องโทรมาขออนุญาตเราด้วย”
(ก็ตอนนี้น่ะ เกี๊ยวไม่รู้หรอกว่ามีคนหลังไมค์มาหาเราเยอะขนาดไหนว่าอยากให้ทำเพจตัวเล็กตัวโต)

ตาขวาผมกระตุกกึกๆ หลังจากที่อันอันพูดจบ

(เกี๊ยวโอเคมั้ยอะ ถ้าเกิดว่าเราจะสนองนี้ดความต้องการของแฟนคลับ)
“มันจะดีหรอ เรากับแทนคุณไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย” ผมถามกลับไป แม้ว่าในใจจะตื่นเต้นกับความดังของตัวเองอย่างไม่สามารถหลอกความรู้สึกของตัวเองได้

(อันนั้นมันคือเรื่องของอนาคตนะเกี๊ยว ปัจจุบันก็เป็นคู่จิ้นแบบคุณโรมไปก่อนได้ไง นะๆ)
“แต่คุณโรมเขาไม่เห็นจะมีเพจไม่ใช่หรือไง”
(ก็แหม...โรมเขาไม่เล่นเฟซฯอ่ะ ให้ทำไง)
“แล้วแฟนคลับคุณคนอื่นๆเขาโอเคหรอ เราอ่ะไม่ว่าอะไรหรอกนะถ้าอันอันจะทำ”
(งั้นถือว่า เราทำได้ใช่ไหม เราจะได้ไปบอกน้องเจ้า)
“อ่า.....”
(แค่นี้นะจ๊ะหนุ่มน้อย เจ๊เอิญมารับแล้ว ไว้เจอกันจ๊ะ)

ปิ๊บ!

เสร็จสรรพก็วางสายไป ผมได้แต่ส่ายหน้ากับความทะเล้นของเพื่อนสาวคนนี้  พอรู้สึกว่าอาหารย่อยได้ที่แล้วเลยเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำให้เรียบร้อย ก่อนจะมานั่งประจำที่หน้าโน๊ตบุ๊คของตัวเอง


พอเปิดเข้าไปที่เว็บไซต์อย่าง Facebook ที่มักเข้าประจำทุกวันผมก็ต้องตะลึงงันอีกครั้งเมื่อเห็นตัวเลขแจ้งเตือนขอเพิ่มเพื่อนเกินหลักร้อยภายในไม่ถึงวัน สาเหตุมาจากผู้ใช้งานเฟซบุ๊คคนนั้นที่เป็นแฟนคลับของแทนคุณ ผมจำได้แม่น คุณที่ใช้ชื่อว่า อยู่บนคาน มันหนาวจริง อย่าให้รู้นะว่าเป็นใครผมจะ......


จะทำอะไรไม่รู้ ช่างมันเถอะ



ตอนนี้ทำได้แค่กดรับเพื่อนที่ส่งคำขอมาโดยสกรีนแล้วว่า บุคคลเหล่านั้นไม่ได้ขอเป็นเพื่อนเพื่อมาขายตรง เลขจำนวนเพื่อนในเฟซฯของผมจากที่มีอยู่แค่ 200 คนนิดๆตอนนี้เลยเพิ่มพรวดเดียวมาเกือบห้าร้อยแล้ว และหลังจากที่ผมรับเพื่อนไปจนเกือบหมด ก็มีแจ้งเตือนมาจากหน้าวอลล์หรือในอินบ็อกซ์บ้าง อย่างเช่น

‘ขอบคุณที่รับแอดนะคะ’
‘ขอบคุณที่รับเป็นเพื่อนนะครับ’
‘น้องยูน่ารักจังเลย รับแอดพี่แล้วด้วย’
‘พี่ยู....หนูขอเป็นแฟนคลับนะคะ หนูหลงรักหนุ่มแว่น’
‘อ๊าย หนุ่มน้อยรับเจ๊เป็นเพื่อนด้วย น่ารักจริงๆ ม๊วฟฟฟ’


และเมื่อทำการรับคนสุดท้ายที่ส่งคำขอมาครบแล้วผมก็ทำการรีเฟรชหน้าฟีดข่าว ไล่ดูความเคลื่อนไหวของแทนคุณอย่างที่ทำจนมันกลายเป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้เสียแล้ว จะมีก็แต่ช่วงนั้นแหละที่พ่อเดือนเขาแกล้งผมให้รู้สึกว่า เฟซบุ๊คเป็นแอพพลิชั่นหรือเว็บไซต์ที่น่ากลัว

แต่ตอนนี้ ผมขอบอกเลยว่า ผมจะไม่ย่ำอยู่กับที่อีกแล้ว

เพราะผมตั้งปณิธานแล้วว่าจะเดินหน้าจีบ!!


โอเค เวิ่นเว่อล่องลอยอยู่ในเฟซฯของแทนคุณแล้วก็พบว่าเจ้าตัวยังไม่ได้อัพเดทอะไร ผมก็กดออกมา ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้า Youtube เปิดเพลงฟัง

ตึดึดึ่ง!

TK Krittidumrong: .......
บะหมี่ เกี๊ยว: ????
TK Krittidumrong: โรมกลับห้องยัง
บะหมี่ เกี๊ยว: ยัง
TK Krittidumrong: อือ


ผมมองข้อความสามข้อความจากแทนคุณที่ส่งมา ตลอดกว่าสองปี ผมไม่เคยคุยกับเขาเกิน 1 ประโยคไปจากครั้งนั้น และไม่เคยคิดด้วยว่าเขาจะทักผมมาก่อน แต่ดูตอนนี้สิ ผมมีความสำคัญที่เขาจะนึกถึงด้วย

แม้มันจะไม่ได้เกี่ยวกับผมหรอก


ฟึ่บ!

เสียงแจ้งเตือนจากสัญลักษณ์ลูกโลก พร้อมตัวเลขที่ขึ้นมา ผมเปิดเข้าไปดู แล้วเห็นว่ามีแท็กมาจากรักคุณครับ แฟนเพจ จึงกดเข้าไปดู

รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก TK Krittidumrong และ บะหมี่ เกี๊ยว ในโพสต์
ได้รับอนุญาตในการเปิดเพจให้ ทีมตัวเล็กตัวโต ฟินจิ้นให้ดิ้นตาย ที่นี่เลยค่ะ ตัวเล็กตัวโต หนุ่มแว่นมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กพ่อเดือนสุดหล่อ แถมคุณตัวเล็กยังห่วงความรู้สึกของ แฟนๆคุณโรม เราเลยสร้างพื้นที่เล็กๆให้ได้ฟินไปด้วยเพื่อความเท่าเทียม ทีมคุณโรม แค่เพื่อนจริงๆนะหรอ ขอความฟินจงสถิตในตัวคุณ เย้! แอดมิน จ.จาน

299 Likes 103 Comments

ไม่ถึง 2 นาทีก็มีไลค์เข้ามาเกินกว่าร้อย พร้อมด้วยคอมเม้นต์ของกลุ่มแฟนคลับที่เป็นสาววายหนุ่มวายเข้ามากรี๊ดกร๊าด และไม่พลาดที่ผมจะเข้าไปกดติดตามเพจทั้งสองไว้ด้วย

และไม่นานเจ้าของผู้ใช้เฟซฯนามว่า TK Krittidumrong ก็ได้ทำการไลค์เพจทั้งสองด้วยเช่นกัน ผ่านไปไม่นานก็เริ่มมีแฮชแท็กทีมตัวเล็กตัวโตกับทีมคุณโรมหลังจากที่แทนคุณได้ทำการคอมเม้นต์

TK Krittidumrong กดติดตามเรียบร้อยครับ

‘แทนคุณ ทีมอะไร เรา #ทีมคุณโรม นะ’
‘กรี๊ดดด กดทั้งสองเพจเลยหรอออ ไม่นะ ต้อง #ทีมคุณโรม อย่างเดียวสิ อ๊ากกก’
‘แทนคุณคะ สังกัดไหนคะ บอกเจ๊หน่อยน้า เจ๊ #ตัวเล็กตัวโต คริๆ’

TK Krittidumrong ^^ สังกัดยังไม่มี แต่สังกะสีมีไว้มุงหลังคาครับ

‘กรี๊ดดด คุณเล่นมุขอะไร #ไว้อาลัยสามวิ’
‘5555555555 แทนคุ๊ณณณณ ฮาไปไหน’
‘ฮากลบเกลื่อนหรอคุณ’

หลังจากนั้นแทนคุณก็หายไป ผมถึงได้เข้าไปส่องแฟนเพจของตัวที่ตอนนี้คาดว่าน้องเจ้าขากับอันอันคงทำการอัพเดทความเคลื่อนไหวในเพจแน่ๆ เพราะมันมีไลค์พร้อมแท็กมาให้ผมเยอะเสียเหลือเกิน


ก่อนที่จะมีคนโพสต์ลงในเพจของคุณโอดครวญทำนองว่า โรมไม่เล่นเฟซฯแล้วจะแท็กยังไง กระแสคุณโรมเสียเปรียบชัดๆ จนกระทั่งน้องเจ้าเข้าไปแจ้งว่า ไม่ต้องกังวลไปเพราะว่าโมเม้นต์ของคุณโรมมันมีมานานแล้วและอีกอย่างก็มีโมเม้นต์เยอะกว่าคู่จิ้นป้ายแดงอย่างตัวเล็กตัวโต เพียงเท่านั้นกระแสคุณโรมเลยเบาอารมณ์ลง


แต่แล้วกระแสตัวเล็กตัวโตก็ร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ ต้นเหตุมาจาก คนเดียวที่ตั้งแต่ได้ทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการ ผมก็ถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้งและทำงานเข้ามาตลอดเวลา

เช่นเดียวกับสเตตัสกระแทกตาจนเลนส์แว่นเกือบแตก ณ เวลานี้


TK Krittidumrong ได้แสดงความรู้สึกเขิน
เขา – บะหมี่ เกี๊ยว บอกว่าจะจีบผมครับ ผมต้องทำยังไงดี ?

1,589 Likes 411 Comments

ไม่ถึง 20 นาทีก็ไลค์ทะลุพัน แถมคอมเม้นต์จากแฟนคลับตัวเล็กตัวโต รวมไปถึงคุณโรมที่เข้ามาทะลุหลักร้อย

‘อร๊ายยย อะไรยังไง ล้อกันเล่นอยู่หรือเปล่า #ตัวเล็กตัวโต’
‘คุณพูดจริงหรือเปล่าคะ ตอบหน่อย’ พร้อมแท็กผม

เปรี้ยว ชนิสรา ฉันตกข่าวอะไรหรือเปล่าเนี้ย ทำไมแกไม่บอกกกกกกกก – AunAun Aunchita
AunAun Aunchita อันนี้ไม่รู้ ฉันจะกรี๊ดดดด

‘น้ำตาจะไหล ห้ามหวั่นไหวนะคุณ #ทีมคุณโรม สตรอง!’


คุณคิดว่าผมควรจะทำยังไงกับกระแสที่แทนคุณเล่นอยู่ตอนนี้ดี....ถ้ายังจำได้ผมบอกแล้วนะว่าผมจะเดินหน้า เพราะฉะนั้นทางเดียวที่ผมคิดออกตอนนี้คือ ผมต้องโต้ตอบ


บะหมี่ เกี๊ยว ได้โพสต์
บอกเองไม่ใช่หรอ ว่าให้จีบได้น่ะ – TK Krittidumrong







จบตอน


 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:


มาคุยกันเถอะ !
 :katai2-1: ปั่นมาลงให้จนได้  :katai4: :katai4:

แต่ว่าพรุ่งนี้คงไม่ได้ปั่นมาลงให้นะคะ เพราะว่า พรุ่งนี้เรายุ่ง ! เอิ๊กกกกกกกก  :katai3: :katai3:

และก็ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์ที่เป็นกำลังใจให้มีแรงปั่นมากๆเลยค่ะ  :pig4: :pig4: :L1:

 :กอด1: :กอด1:




หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 27-09-2016 18:56:40
กรี๊ด..... ทีมใครดีนะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: Rain ที่ 27-09-2016 19:58:37
ชอบโรมแต่มาอ่อยให้จีบได้นี่มันช่างเห็นแก่ตัวเล็กๆซะจริง
ชอบนิสัยขี้แกล้งนะ แต่ไม่อยากให้คู่กะยูอ้ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-09-2016 22:12:08
เพจร้อนเลย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 27-09-2016 22:19:14
หมั่นไส้พระเอกเรื่องนี่มากทำไงดีมีแผนอะไรเหรอถึงได้ยอมให้ยูจีบน่ะมันเกี่ยวกับความรู้สึกที่คุณมีต่อโรมรึเปล่า
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 27-09-2016 22:20:47
ดูเหมือนคุณจะชอบโรม คงไม่เหมือนล่ะชอบจริงเลยใช่มะ เพื่อนที่ไหนจะมองตามหลังกันขนาดนี้
แล้วมาอ่อยยูคือ?? ยูน่ะน่ารักนะ ถ้าเปิดตัวมาอย่างนี้คงทีคนชอบอีกเพียบ อย่ามาหวงก้างทีหลังละกัน
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 27-09-2016 23:15:59
น่ารักนะ แต่ก็มีความหน่วงจิตสงสารยูเวลาคุณดูมุ้งมิ้งกับโรม
มันจบแฮปปี้ใช่คะ ?
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 27-09-2016 23:41:17
คุณจะเอายังไงแน่ :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 28-09-2016 01:19:50
อยากจะฟินแต่ก็ห่วงเรื่องโรม หุยย สงสารตัวเล็ก
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: nu-tarn ที่ 28-09-2016 01:36:06
ทำไมคุณนิสัยแบบนี้อ่ะ ดูเหมือนจะชอบโรมแต่มาอ่อยน้องยูของเราทำไม หรือว่าจะตัดใจจากโรมหรอเลยมาอ่อยยู  :m16:
ไม่อยากให้มายุ่งกับยูเลย เล่นกับความรู้สึกคนมันไม่ดีหรอกนะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-09-2016 07:34:57
ม่ายยยยยย คุณชอบโรมจริงอ่ะ

แล้วโรมว่าไงมั่ง :3123:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: naisojill ที่ 28-09-2016 09:26:53
ชอบบบบบบบ ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 28-09-2016 10:35:09
ไม่อยากเชียร์เลย คุณยังดูมีซัมติงกับโรมอยู่ มาอ่อยน้องยูแบบนี้ต้องการอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 6> 27/09/16
เริ่มหัวข้อโดย: GGamy ที่ 28-09-2016 11:29:26
ดีดดิ้นมากกกก แต่สงสัยว่าคุณโรงนี่ยังไง ถึงขั้นตั้งรูปหอมแก้ม
ใครๆก็คิดย่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 01-10-2016 19:50:42
ตอนที่ 7
สิทธิพิเศษ




เมื่อคืนผมหลับไปตอนไหนไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ให้ทันเข้าเรียนตอนแปดโมง เตียงนอนฝั่งของนัทกับเก็ตยังคงว่างส่วนโรมนั้นผมเห็นยังคงนอนอยู่เลยไม่ได้กวนเขาและเมื่อคืนเขากลับมากี่โมงผมก็ไม่แน่ใจด้วย

วันนี้ผมมีเรียนแค่ครึ่งวันเช้าและหลังจากจบคาบเรียนที่สองที่ต้องไปเรียนรวมกับคณะอื่นเพราะเป็นวิชาพื้นฐาน ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากอันอันเพื่อนัดเจอกัน โดยที่ผมไม่ต้องเดาให้เปลืองพลังงานสมอง ผมก็รู้ว่าเรื่องที่พวกเราจะไปพูดคุยกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

ถ้าไม่ใช่ประเด็นร้อนที่ทำเอาเพจลุกเป็นไฟจากผลการกระทำของผมและแทนคุณเมื่อคืนวาน


อันที่จริงเราคุยกันบ้างแล้วทางโทรศัพท์ด้วยแอพพลิเคชั่นไลน์ ผ่าน Group Call และผมก็เบี่ยงประเด็นเลี้ยวคดไปมาจนสาวๆโมโหกดดันจนผมเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้สองสาวที่อยู่ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกับผมต้องเรียกตัวออกมาคุยกันแบบซึ่งๆหน้า

ความจริงก็ไม่ได้อยากปิดบังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่บางทีผมก็ไม่อยากเอาเรื่องของแทนคุณมาเล่าให้สองสาวที่เป็นแฟนคลับคุณโรมฟัง แม้ว่าอันอันจะประกาศตัวแล้วว่าเธอจิ้นคู่ผมกับแทนคุณไม่น้อยเช่นกัน

แต่กระนั้น ผมก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้

ต่อให้ไอ้ว่านบอกว่าถ้าไม่ไหวแล้วให้ถอยออกมา แต่ยิ่งกวนตะกอนในใจผมให้มันขุ่นหนักมากขึ้นแค่ไหน ผมกลับคิดไม่ออกว่าผมจะมีแรงแม้แต่จะก้าวถอยออกมาหรือเปล่า ความรู้สึกที่กักเก็บเอาไว้แม้จะพยายามบ้าบอกลบเกลื่อน แต่ผมรู้ตัวเองดีว่ามันไม่ใช่เลย ลึกๆแล้วผมคาดหวังมากและผมก็ทุ่มไปกับมันมากด้วยเช่นกัน



ผมปลีกตัวออกมาจากเพื่อนร่วมคณะที่ได้ลงทะเบียนเซคเดียวกันก่อนจะไลน์ไปบอกสองสาวว่าเลิกเรียนแล้วและกำลังไปรอพวกเธอทั้งสองที่โรงอาหารกลาง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตึกเรียนรวมของมหา’ลัยที่ผมอยู่ตอนนี้สักเท่าไหร่

ปริ๊น ปริ๊น!

เสียงบีบแตรสั้นๆเหมือนเรียกให้ผมที่กำลังเดินบนทางเท้าหันไปมองที่ถนน เป็นรถยนต์คันหรูสีขาวของแทนคุณที่เคลื่อนตัวมาจอดข้างทางเท้าที่ผมยืนนิ่งอยู่ กระจกฝั่งข้างคนขับเลื่อนลงให้เห็นคนที่นั่งอยู่ข้างในและพบว่าแทนคุณนั่งมาในรถแค่คนเดียว

“จะไปไหน” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นเชิงว่าถามกูหรอ
“เออ มึงนั่นแหละ”
“ไปโรงอาหารกลาง” แทนคุณพยักหน้าก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงปลดล็อกรถ

“ขึ้นมา”
“เฮ้ย ไม่เป็นไรเดินไปแป้บเดียวก็ถึง”
“มึงนี่แปลกนะ เป็นพวกชอบปล่อยโอกาสหลุดมือหรอวะ” จบคำพูดของแทนคุณ ไอ้หล่อก็กดเลื่อนกระจกขึ้น ส่วนผมนั้นไม่ประมวลผลคำพูดของมันให้มากความก็เปิดประตูกระโดดขึ้นมานั่งทันที

“ต้องให้เตือนความจำตลอดหรือไง ว่ามึงจีบกูอยู่น่ะ”
“เออน่ะ กู..เอ้ย ผมก็มีวิธีจีบของผมเหมือนกัน” แทนคุณไม่ตอบอะไรกลับมาเขาทำแค่หันกลับไปมองถนนแล้วออกรถไปข้างหน้าอีกครั้ง แต่แทนที่เขาจะขับมันพาไปที่โรงอาหารตามที่บอก แทนคุณกลับพาผมออกมานอกเขตมหา’ลัยแทน

“เฮ้ มันออกนอกมหา’ลัยมาแล้วนะ”
“.....”
“แทนคุณ ผมนัดกับเพื่อนไว้ ช่วยพาผมกลับไปที่โรงอาหารกลางด้วย”

นอกจากแทนคุณจะไม่ทำตาม เขายังขับรถออกมาไกลกว่าเดิมและเลยมายังอีกอำเภอที่มีเขตติดต่อของทะเล ผมมองตามป้ายบอกทางพร้อมกับที่โทรศัพท์ในกระเป๋าส่งเสียงดังขึ้นมา
“ฮัลโหล”
(เกี๊ยวอยู่ตรงไหน เรากับน้ำหวานมองหาไม่เห็นเจอเลย)
“คือ...เราไปไม่ได้แล้ว” ผมตอบกลับพลางมองใบหน้าด้านข้างของแทนคุณ
(ได้ไงอ่ะ ก็เรานัดกันแล้วนะ)
“เราติดธุระด่วนจริงๆน่ะ อันอันไม่โกรธดิ”
(ไม่ได้โกรธ แต่เกี๊ยวควรไลน์มาบอกนะ หรืออย่างน้อยก็โทรมาบอกก่อน แต่นี่จู่ๆก็หนีไปเฉย)
“ขอโทษ..เฮ้ย!” ผมมองตามมือถือของผมที่ถูกแย่งไปโดยเจ้าของรถหรูที่หันมามองผมเพียงแวบเดียวเท่านั้น

“สวัสดีครับ ผมแทนคุณนะครับ”
(ห๊ะ...ทะ...แทน....แทนคุณ...แทนคุณหรอคะ) เสียงของอันอันดังออกมาให้ได้ยิน เจ้าตัวตอนนี้คงกำลังตื่นเต้นมือไม้สั่นที่ได้คุยกับขวัญใจของเธอ

“พอดีผมพายูเขามาทำธุระเป็นเพื่อนน่ะครับ ถ้าเสร็จแล้วผมจะพาไปส่งให้ถึงที่ไม่ต้องห่วงนะครับ” พูดจบเขาก็ส่งโทรศัพท์คืนมาให้ผม

“อันอัน”
(ไปกับแทนคุณก็ไม่บอก กรี๊ดอ่ะ เนี้ยน้ำหวานตีแขนเราจนเจ็บไปหมดแล้ว)
“อ่านะ”
(งั้นเราไม่กวนแล้วนะจ๊ะ ไปทำธุระกันเถอะ เราว่าเราได้คำตอบเรื่องของคุณและเกี๊ยวแล้ว ไว้เจอกันวันหลังนะ บาย)

อีกฝั่งตัดสายไปแล้วทำให้รู้ว่าชีวิตของผมไม่ต้องโดนซักจนซีดจากสองสาวแล้ว เพราะเรื่องที่ว่าการหยอกเล่นบนเฟซฯที่เกิดขึ้นนั้น แทนคุณและผมแค่อำเล่นหรือเปล่า สาวๆได้คำตอบแล้วว่าท่าทางมันจะเป็นเรื่องจริง

ไม่ต้องเดาว่าเพจของตัวเล็กตัวโตจะร้อนแรงแค่ไหน เพราะตอนนี้แรงสั่นจากโทรศัพท์ในมือของผมมันรัวถี่ขนาดนี้ ผมตัดสินใจเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วนั่งมองข้างทางไปเรื่อยๆจนกระทั่งรถของแทนคุณมาจอดอยู่ในลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อใกล้ชายหาด

“อยากได้เครื่องดื่มอะไรมั้ย” เจ้าของรถหันมาถามแต่ผมแค่ส่ายหน้าเป็นคำตอบเท่านั้น เขาไม่ถามเซ้าซี้อะไรอีกนอกจากลงจากรถเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อแทน

ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเห็นว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าแล้ว ซึ่งถ้าตามตารางพวกคาบบ่ายจะเริ่มตอนบ่ายโมง ผมไม่รู้ว่าอีกคนมีเรียนไหม กำลังนั่งคิดเพลินๆประตูฝั่งคนขับก็เปิดออกอีกครั้ง แทนคุณเพียงแค่เอาถุงพลาสติกที่ใส่ของจากร้านสะดวกซื้อวางลงบนตักผมและถอยรถออกจากหน้าร้าน


“นี่อะไรน่ะ”
“เบียร์ไง”
“รู้ แต่หมายถึง มึง..เอ้ย...นายน่ะจะกินมันตั้งแต่หัววันเลยหรือไง”

และแทนคุณก็ยังคงเป็นแทนคุณไม่ตอบอะไรผมสักอย่างนอกจากทำตามใจตัวเอง ตอนนี้ก็เช่นเดียวกันที่เขาเอาแต่มองออกไปนอกรถและขับรถไปเรื่อยๆ จนเลยจุดที่นักท่องเที่ยวอยู่มากมาย

จนในที่สุด รถของแทนคุณจอดอีกครั้งเลียบทางเท้าบริเวณที่สามารถจอดได้ เป็นทางเบี่ยงสำหรับพักรถซึ่งไม่ค่อยมีรถจอดมากนัก หากจะมีก็แค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น แทนคุณดับเครื่องพร้อมปลดล็อกรถก่อนจะเดินอ้อมไปด้านหลังหยิบเอาผ้าผืนใหญ่ออกมา ในขณะที่ผมได้แต่ยืนหิ้วถุงจากร้านสะดวกซื้อรออยู่ข้างรถ

ร่างสูงสมส่วนไม่ได้หันมามองอะไรผมนอกจากเดินตรงไปยังทางลาดที่ทอดลงสู่ชายหาด บริเวณโดยรอบมีต้นมะพร้าวขึ้นอยู่เป็นทิวแถว ไม่ค่อยมีร้านขายของเรียงรายมากนักเพราะเป็นจุดที่ไม่มีไว้รับรองนักท่องเที่ยว ตามพื้นของทรายปนดินบางส่วนมีหญ้าขึ้นแซมสูงประมาณข้อเท้า พอเดินเลยลงมาถึงส่วนที่มีแต่พื้นทรายละเอียดถึงได้เห็นว่ามีเปลือกหอยเกลื่อนปนอยู่กับทรายสีขาว

เม็ดทรายดูหยาบแต่ดูสะอาดกว่าบริเวณที่นักท่องเที่ยวชุมนุมกันอยู่ แทนคุณเดินตรงไปยังจุดที่ต้นสนขึ้นเรียงสลับกับต้นมะพร้าวจนก่อเป็นร่มเงาแผ่ไปทั่วบริเวณ เขาปูผ้าผืนใหญ่ที่ถือติดมือมาลงกับพื้นแล้วทิ้งตัวลงนั่งเท้าแขนเหยียดขา ก่อนจะหันมาเร่งให้ผมนั่งลงข้างกัน


“พามาที่นี่ทำไม”
“ปิกนิก”
“ปิกนิก...ที่นี่อะนะ”
“ใช่ อย่าถามมากน่ะ” เขาว่าพลางคุ้ยหาของในถุง

“นี่ของนาย” ผมมองขนมปังในมืออีกฝ่ายก่อนจะรับมันมาแกะกินอย่างไม่มีเล่นตัว อีกฝ่ายทำแค่หยิบแซนวิชอีกอันในถุงขึ้นมากินเช่นเดียวกัน

“ถามจริงๆ มึง..เอ้ย นายน่ะ....”
“นี่.....ถ้ามันลำบากมากนัก ก็พูดธรรมดาเถอะ กูไม่ถือหรอกนะ เพราะกูเองก็ไม่ใช่คนสุภาพอะไรขนาดนั้น” ผมพยักหน้านิดหน่อย มันก็จริงที่หมอนี่พูด เพราะตัวตนที่แท้จริงของแทนคุณที่ได้สัมผัสมาสองวัน เขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่สามารถสถุนได้และสุภาพได้ตามกาลเทศะ

แต่บางทีผมก็ไม่อยากทำแบบนั้นนี่ ก็ในเมื่อเขาเป็นอะไรที่พิเศษสำหรับผมมากกว่าคนอื่น

“เป็นตัวของตัวเองมันดีที่สุดแล้วไม่ใช่หรือไง”
“ก็จริง แต่กับมึง.....”
“กูถามจริงๆนะยู ที่วันนั้นในร้านที่กูได้ยิน มึงรู้สึกแบบนั้นจริงๆหรอ” อีกฝ่ายถามแต่ไม่ได้มองหน้าผมเลยสักนิด เขาที่เพิ่งจัดการแซนวิชเสร็จไปหนึ่งชิ้น กำลังคุ้ยหาขนมปังอีกชิ้นในถุงอยู่

“อืม กูรู้สึกแบบนั้นกับมึงจริงๆ” แทนคุณเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะฉีกถุงขนมปังดังแควกแล้วยัดก้อนขนมใส่ปาก

“ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ กูจำได้ว่าไม่เคยรู้จักมึงมาก่อน”
“สองปีกว่าได้แล้วมั้งที่กูรู้จักมึง”
“หรอวะ ทำไมกูไม่รู้...เออ มึงเป็นเพื่อนกูในเฟซฯนี่หว่า แถมยังเป็นแฟนคลับกูด้วย มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสินะถ้ามึงจะหลงรักกู”
“นี่ถ้ารู้ว่ามึงหลงตัวเอง กูคงไม่หลวมตัวมารักมึงหรอก” แทนคุณยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะแกะกระป๋องเบียร์มายกขึ้นดื่ม

“แต่ก็แปลกนะ ทั้งที่มึงบอกว่าชอบกู แต่พอกูบอกว่าให้โอกาสมึงจีบกูได้ มึงกลับพยายามจะทิ้งโอกาสนั้นไป”

ผมเงียบพลางมองใบหน้าด้านข้างของแทนคุณที่ตอนนี้กำลังมองตรงไปยังท้องทะเลเบื้องหน้าที่สะท้อนแสงแดดยามบ่ายจนเป็นประกายระยิบระยับ

“หรือมึงไม่ได้อยากเป็นแฟนกู”
“แทนคุณ...” อีกฝ่ายเหลือบมามองผมเพียงนิดก่อนจะกลับไปมองจุดเดิมและยกเบียร์กระป๋องในมือขึ้นดื่มมอีกครั้ง

“การที่แทนคุณให้จีบ ไม่ได้หมายความว่าจะจีบติดไม่ใช่หรือไง”
“มันก็จริง”
“สำหรับกูอ่ะน่ะ ไม่เคยคิดหรอกนะว่าจะได้มึงมาเป็นแฟน กูน่ะ...ก็แค่คนๆนึงที่รู้จักมึงแค่ฝ่ายเดียว เป็นแค่ แทนคุณ กฤติดำรง ที่กูรู้จักแค่เพียงเปลือกภายนอกที่เขาอยากให้กูหรือแม้แต่แฟนคลับของเขาได้รู้จัก จนตอนนี้กูกับมึงได้มารู้จักกันแบบจริงจังเพียงเพราะเรื่องบังเอิญกะโหลกกะลาอะไรไม่รู้ อาจจะมาจากความเอ๋อป้ำเป๋อของกูเอง” ผมยกโค้กกระป๋องในมือขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะวนนิ้วไปรอบปากกระป๋องและทอดสายตามองพื้นทะเลเบื้องหน้าเช่นเดียวกับแทนคุณบ้าง

“จนเมื่อวานนี้ที่มึงมาบอกว่า จีบสิ กูให้โอกาสแฟนคลับตัวเล็กๆอย่างมึงจีบกูได้นะ พอมึงทำแบบนั้น ในใจกูอยากบอกว่ากูโคตรดีใจมาก แต่ลึกๆแล้วกูก็กลัว กูไม่อยากคาดหวังอะไรทั้งนั้น มึงรู้ไหมว่ามันจะเจ็บแค่ไหนถ้าเกิดว่าเราวางความหวังไว้มากเกินไป”

ผมหันมองใบหน้าด้านข้างของแทนคุณอีกครั้งพร้อมส่งยิ้มให้กับเขา แม้ว่าอีกคนจะไม่ได้หันมามองก็ตาม

“บางทีสำหรับกูแล้ว แค่ได้รักก็มีความสุขมากแล้ว แค่กูเห็นมึงยิ้มได้ มีความสุขกับชีวิตของมึงโดยที่กูยืนมองมึงจากมุมของกู แค่นั้นมันก็มีความสุขที่หัวใจกูแล้ว แต่พอมึงบอกว่าอย่าทิ้งโอกาสที่มึงยื่นมาให้ กูก็จะลองสู้ดู ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของมันจะออกมารูปแบบไหนกูก็จะไม่เสียใจที่กูได้ลองทำ กูอาจจะแค่เจ็บ ก็แค่ร้องไห้ แต่ไม่นานเวลามันก็จะเยียวยากูไปเอง”

แทนคุณไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเขาทำแค่ยกเบียร์กระป๋องขึ้นมาดื่มอีก พอพบว่ามันหมดแล้วเขาก็ทำแค่ถือมันไว้ในมือ ทำให้ความเงียบเข้ามาและได้ยินแค่เสียงของทะเลที่ซัดคลื่นเข้ากระทบฝั่ง

เป๊าะ!

“เอาอีกกระป๋องไหม” แทนคุณหันมามอง สบตาผมเพียงนิดก่อนจะลดสายตามองดูเบียร์ในมือผมแล้วรับมันไปถือไว้ พร้อมยื่นกระป๋องเปล่าคืนมาให้


“ยู....มึงชอบกูเพราะอะไร” 

“ให้ตอบแบบไหน อยากให้สร้างภาพหรือเอาแบบจริงๆ”  เขาหันมามองผมแล้วยกเบียร์กระป๋องในมือเคาะลงหัวผมเบาๆ ดีที่มันไม่กระเฉาะออกมาเลอะใส่ผม

“ชอบทำร้ายร่างกายว่ะ” ผมบ่นเบาๆพลางลูบหัวตัวเอง
“จะตอบมาได้ยัง”
“เออ ถ้าอยากรู้ก็จะบอก กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบมึงเพราะอะไร รู้ตัวอีกทีมันก็ชอบไปแล้ว นานวันเข้ามันก็กลายเป็นความรักไปแล้ว”

“แค่นั้นอ่ะน่ะ”
“ใช่ แค่นั้นแหละ ความรักสำหรับกู ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผล ฟังแค่เสียงของหัวใจ เสียงของความรู้สึกก็เพียงพอ...กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนจากมึงเลยสักนิด แค่ได้เห็นมึงยิ้มได้กูก็มีความสุขแล้ว”

“เหมือนที่มึงเอากูไปวาดเป็นภาพในสมุดเล่มนั้นใช่มั้ย”
“ก็ทำนองนั้น”

“แล้วการที่มึงเอาตัวเองมาจินตนาการว่าเป็นคนรักกับกูนั่นก็เหมือนกันสินะ”
“นี่มึง...มึงดูหมดทุกหน้าเลยหรอวะ โอ้ย!” ผมทึ่งหัวตัวเองไปมาเมื่อนึกตามคำพูดของแทนคุณ

“ดีนะที่มึงวาดเป็นภาพการ์ตูนและที่สำคัญมึงยังวาดกูหล่อกว่าตัวจริงอีก”
“จะถือว่านั่นคือคำชมแล้วกัน” ผมตอบกลับ พลางเอาถุงพลาสติกมาเทของออกให้หมดทำเป็นหาของกินเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินของตัวเอง

“ว่าแต่ มึงจินตนาการว่ากูจับมือมึงบ้าง ลูบหัวมึงบ้าง มึงไม่ลองวาดเวลากูกับมึงทำอย่างว่ากันบ้างวะ”
“บ้าดิ...ใครเขาจะไปคิดลามกแบบนั้น”

“เอ้า กูเห็นน้องสาวกูมันยังคิดให้นักร้องโอปป้ามันมีอะไรกันในฟิกเลย มันยังเอามาถามกูบ่อยๆ”
“แล้วมึงก็บอกน้องมึงหรอว่ามันต้องทำยังไง”
“มึงคิดว่าไงล่ะ” แค่เห็นแววตาทะเล้นแสนเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่าย ผมก็รู้สึกใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาดื้อๆ

“ทะลึ่งว่ะ” เสียงแทนคุณหัวเราะออกมาเบาๆ ผมไม่รู้จะทำอะไรดีเลยหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปทะเลเบื้องหน้าแล้วอัพลงอินสตาแกรมแทน

Nathakun2U ปลดปล่อยอารมณ์และฟังเสียงเกลียวคลื่นดูสิ

“เล่นอินสตาแกรมด้วยหรอ”
“อืม แต่ไม่ค่อยได้อัพหรอก นานๆที”
“ขอดูหน่อยสิ” ผมมองมือที่แบออกมาตรงหน้าผม

“เรื่องอะไรจะให้” ว่าแล้วก็รีบยัดโทรศัพท์ลงกระเป๋าสะพายข้างของตัวเอง
“แค่นี้งก”

ผมไม่แก้ตัวอะไรกลับไปหลังจากที่อีกคนค่อนแคะใส่ แต่ที่ไม่ให้แทนคุณดูอินสตาแกรมมันมีเหตุผลส่วนตัวของผมน่ะ แต่ก่อนผมก็เปิดมันเป็นสาธารณะหรอก แถมไม่ค่อยได้อัพรูปอะไรมากมายเพราะเอาไว้ไปส่องรูปคนอื่นเสียมากกว่ารวมถึงคนติดตามก็ไม่ได้เยอะอะไรมากมายมีแค่ 10 คนนิดๆเอง

หลังจากที่ผมได้เข้าไปส่องดูอินสตาแกรมของแทนคุณด้วยความบังเอิญจากการได้รู้จักผ่านทางสามสาวบนรถไฟฟ้า หลังจากนั้นผมก็ใช้อินสตาแกรมในการเพ้อถึงใครอีกคนและทำการล็อกโปรไฟล์ไว้เป็นส่วนตัว

เรานั่งเงียบโดยไม่ได้พูดคุยอะไรกันอีก ผมเดาเอาว่าเรานั่งกันเงียบๆแบบนี้มาเกือบสิบนาทีได้ หันไปทางอีกคนก็เห็นว่ากำลังนั่งคอพับมือที่ถือกระป๋องเบียร์กำลังเอียงใกล้จะหก ผมเลยคว้ามันไว้ก่อนที่จะเลอะเทอะแล้วเอามาวางไว้ที่ข้างตัวผมแทน

“นี่” ผมสะกิดแทนคุณ อีกฝ่ายสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันมามองผมพลางสะบัดหัวเล็กน้อยคลายความง่วง

“นอนสักงีบก็ได้นะ”
“ขอโทษทีนะ เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับน่ะ”
“เกิดอะไรขึ้นหรือไงถึงนอนไม่หลับ หรือว่าฝันร้าย” แทนคุณส่ายหน้าแทนคำตอบ ก่อนจะล้มตัวลงบนตักของผมที่กำลังเหยียดขาอย่างได้ที่

“ขอยืมตักหน่อยแล้วกัน รบกวนทีนะ” และไม่นานอีกฝ่ายก็หลับไปจริงๆอย่างที่เจ้าตัวแจ้งความต้องการ ผมมองใบหน้ายามหลับของแทนคุณ ไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้

ผมไล้นิ้วไปตามกรอบหน้าของอีกคนก่อนจะจิ้มลงที่ข้างแก้มซ้ายจุดที่รอยยิ้มของแทนคุณเด่นชัดที่สุด พิจารณาใบหน้าของเขาแล้วก็เห็นว่าขอบตาค่อนข้างช้ำคงเป็นผลจากการนอนไม่พอเมื่อคืน คิ้วเข้มที่เรียงตัวได้รูปนั้นขมวดเล็กน้อยจนผมอดไม่ได้ที่จะวางนิ้วลงไปแล้วคลึงเบาๆให้ปมที่ขมวดนั้นคลายออก นวดไล่จากหว่างคิ้วลงมาที่หางตาแล้วคลึงกระบอกตาให้อีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะลากนิ้วไปที่ข้างขมับแล้วคลึงวนให้เจ้าของร่างสูงสบายขึ้น

ได้ยินเสียงครางอืมในลำคอก่อนที่เขาจะพลิกตัวซุกหน้าเข้าที่หน้าท้องของผมทำให้ต้องละมือออก ผมถึงได้เท้าแขนไปข้างหลังแล้วทิ้งน้ำหนักลงไปให้รู้สึกไม่เกร็งมากเกินไป มองทอดสายตาไปยังพื้นทะเลกว้างเบื้องหน้า ปล่อยเวลาให้เดินไปข้างหน้าเรื่อยๆโดยไม่ได้สนใจอะไร



((ต่อข้างล่างค่ะ))

หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 01-10-2016 19:53:35
ไม่รู้ว่าแทนคุณหลับไปนานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีคือหัวของอีกฝ่ายละออกจากตักไปแล้ว ส่วนผมเองก็สัปหงกด้วยความง่วงที่เข้าครอบงำเช่นเดียวกัน พอสลัดความง่วงงุนออกได้หันไปมองเจ้าของร่างสูงที่ลุกขึ้นมานั่งพร้อมยกมือถือที่สั่นในกระเป๋ากางเกงมากดรับ ผมถึงได้ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู

4 โมงเย็น

“ว่าไงครับ...พี่คุณไม่ได้อยู่กับพี่โรมค่ะเจ้า...อืม กำลังจะไปรับค่ะ นี่คงใกล้เลิกเรียนแล้ว...ได้สิ พี่จะบอกพี่โรมให้นะคะ...อาทิตย์นี้พี่มีไปค่ายอาสาค่ะ แต่อาทิตย์หน้าจะกลับไปหานะ อยากได้อะไรไหม...โอเคๆ เดี๋ยวพี่ดูให้ค่ะ....หืมมม อยากรู้จริงๆหรอคะ...” เขาหันมามองผมเล็กน้อยก่อนจะยื่นไอโฟนมาตรงหน้าผม

“อะ..อะไร”
“รับดิ” แทนคุณเป็นพวกขี้บังคับจริงๆสินะ ถึงได้ไม่ยอมอธิบายอะไรมากมายแต่ชอบให้ทำนั่นนี่ตามที่สั่ง ผมถึงได้รับไอโฟนของอีกฝ่ายมาแล้วพูดกับปลายสาย

“สวัสดีครับ”
(นั่นพี่ยูหรือเปล่าคะ)
“เอ่อ ครับ”
(กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด) ผมยกไอโฟนของแทนคุณออกห่างจากหูจนเสียงเงียบแล้วถึงได้คุยต่อ
(นี่น้องเจ้านะคะ เป็นน้องสาวของพี่คุณค่ะ)
“ครับผม”
(พี่ยูต้องจีบพี่คุณให้ติดนะคะ น้องเจ้าเอาใจช่วยค่ะ)
“ขอบคุณครับ”
(ขอบคุณนะคะพี่ยู น้องเจ้าอยากให้พี่คุณมีแฟนสักที ถ้าเป็นพี่ยูจริงๆ น้องเจ้าก็ยินดีนะคะ และดีใจมากๆด้วยค่ะ พี่ยูต้องสู้นะคะ ไม่ว่าจะเจออะไรก็ต้องห้ามท้อเด็ดขาด)
“ครับ”
(พี่คุณน่ะ....) ยังไม่ทันที่ผมจะได้ฟังสิ่งที่น้องเจ้าพูดได้จบประโยค แทนคุณก็ดึงเอาไอโฟนออกไปเสียก่อน

“น้องเจ้าคะ เดี๋ยวพี่คุณจะไปรับพี่โรมแล้วค่ะ ไว้คุยกันวันหลังนะคะ...ได้ค่ะ พี่จะลองชวนดูนะคะ...พี่ก็รักน้องเจ้าค่ะ” พอวางสายจากน้องเจ้าแล้ว แทนคุณก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้วก้มลงมามองผม

“ไปกันเถอะ” เขาพูดแค่นั้นแล้วเดินไปรอผมที่รถพลางคุยโทรศัพท์ไปด้วย ปล่อยให้ผมเก็บของที่กินกันเกลื่อนลงถุงและสะบัดผ้าที่ใช้ปูแล้วพับกลับไปด้วย ผมเดินไปทิ้งขยะลงที่ถังขยะสาธารณะไม่ไกลจากจุดพักรถก่อนจะเดินกลับมาที่รถของแทนคุณ เขารับผ้าจากในมือของผมไปเก็บก่อนจะไปประจำที่นั่งตำแหน่งคนขับ


ผมนั่งเงียบมาตลอดทางจนรถของแทนคุณมาจอดอยู่ไม่ไกลจากหน้าคณะเภสัชศาสตร์ที่โรมเรียนอยู่ แทนคุณทำแค่กดโทรศัพท์มาพิมพ์ลงไปแล้วต่อสายไปหาอีกคน

“ผมถึงแล้วนะ รออยู่ที่เดิม” แทนคุณพูดแค่นั้นแล้วกดวางสาย

“วันนี้...ขอบคุณมากนะ”
“เรื่องอะไร” ผมถามด้วยความสงสัยเพราะเท่าที่พอนึกออก ผมยังไม่ได้ทำอะไรที่ดูเป็นการช่วยเหลืออีกฝ่ายเลยสักนิด

“ทุกเรื่อง ทั้งที่รู้ว่ากูเอาแต่ใจมากแต่มึงก็แทบไม่บ่นอะไร และที่สำคัญที่ช่วยนวดให้ตอนนอนนั่นด้วย รู้สึกดีมากเลยล่ะ” เขายิ้มให้ผมทำให้ผมต้องยิ้มตอบกลับไปบ้าง

“ไม่เป็นไร เต็มใจที่สุดแล้ว”

โรมในชุดนิสิตของคณะเภสัชฯเดินแกมวิ่งตรงมาที่รถทำให้ผมตั้งท่าจะเปิดประตูออกไปนั่งแทนที่ด้านหลัง แต่แทนคุณกลับคว้าแขนไว้ก่อนและโรมเองก็มาเปิดประตูด้านหลังขึ้นมานั่ง

“โทษทีนะพอดีคุยงานกับเพื่อนอยู่น่ะ...แล้วนี่กินอะไรกันมายัง”
“ยังเลย รอกินพร้อมโรมนี่แหละ” แทนคุณเป็นคนตอบคำถาม ผมถึงได้หันไปข้างหลังแล้วยิ้มให้โรมก่อนจะถามไถ่อีกฝ่ายบ้าง

“เรียนเหนื่อยไหมโรม”
“เหนื่อยทุกวันนั่นแหละยู แล้วไปไงมาไงถึงมาด้วยกันได้”

“ไปเก็บได้แถวตึกเรียนรวมน่ะ” ผมหันไปมองค้อนเล็กน้อยแต่คำตอบนั้นก็ทำให้โรมหัวเราะได้และสีหน้าของแทนคุณก็ดูดีขึ้นกว่าตอนที่เราไปที่ทะเลด้วยกันเสียอีก

หรือผมจะเปลี่ยนความคิดดีนะ จากที่เป็นผมจีบแทนคุณแต่มาช่วยแทนคุณจีบโรมแทน
แบบนั้นน่าจะดีกว่าหรือเปล่านะ

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดสะระตะในสมองแล้วนึกถึงคำพูดของแทนคุณที่ย้ำว่าให้ผมจีบเขา รวมไปถึงคำพูดของน้องเจ้าที่ให้กำลังใจผมในการจีบแทนคุณนั้นอีก แฟนคลับอื่นๆที่ยืนข้างผมในฐานะตัวเล็กตัวโตอีกล่ะ ผมจะคิดแบบนั้นไม่ได้


นั่งคิดเพลินไปหน่อยจนรถของแทนคุณมาจอดอยู่ในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าที่ช่วงนี้ผมมาติดกันเกือบทุกวันเลยด้วยซ้ำ โรมลงไปยืนรออยู่หน้ารถตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้และแทนคุณก็ดับเครื่องแล้วหันมามองผมทำนองว่าไม่ลงหรือไง

และภาพเดิมก็ตามมาตอกย้ำ มันเหมือนเมื่อวันก่อนเลยที่ผมเดินตามหลังเขาทั้งคู่ ทำให้ผมต้องหยิบมือถือขึ้นมาแล้วถ่ายภาพเขาสองคนอีกครั้ง ก่อนจะแต่งภาพเล็กน้อยแล้วส่งให้อันอัน

YOU: เอาลงในเพจคุณโรมให้ทีนะ

ผ่านไปไม่ถึงนาทีอันอันก็ไลน์กลับมาพร้อมสติกเกอร์หมีตกใจ

AunAun: เอาลงทำไม
YOU: เรียกกระแสให้คุณโรมหน่อย แต่ไม่ต้องบอกนะว่าใครฝากเอาลง
AunAun: โหยย เกี๊ยว จะมาเป็นแฟนคลับคุณโรมไม่ได้นะ เกี๊ยวกำลังจีบคุณไม่ใช่หรือไง
YOU: ก็นี่ไง เรากำลังจีบคุณ เพราะว่าคุณโรมทำให้คุณยิ้มได้ เราอยากเห็นคุณมีความสุข

อันอันไม่ตอบแค่อ่านแล้วก็เงียบไปทำให้ผมเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า พอเงยหน้ามองข้างหน้าก็หาทั้งคุณและโรมไม่เจอ สงสัยผมจะพลัดหลงกับทั้งคู่แล้ว แต่พอหันซ้ายหันขวาไม่รู้ว่าจะเดินไปทางไหนจึงตัดสินใจว่าจะไปหาข้าวกินที่ร้านไหนสักร้านในห้างก่อนแล้วค่อยโบกรถแดงสองแถวกลับมหา’ลัย


RRrrr

แทนคุณ <3

ชื่อที่ขึ้นโชว์อยู่ในมือถือที่ส่งเสียงร้องว่ามีคนโทรเข้ามาทำให้ผมต้องรีบรับมันแล้วกรอกเสียงลงไปหาอีกฝ่าย

(มึงเดินเอ๋อไปไหนเนี่ย พวกกูรออยู่หน้า MK เดินมาให้ไว) ผมฉีกยิ้มกว้างไม่ได้ตอบอะไรกลับเพราะปลายสายวางไปเสียก่อน ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินแกมวิ่งไปยังจุดหมายที่อีกคนบอก




ท้องอิ่ม จนอยากจะเลื้อยไปกับโต๊ะ โรมขอตัวเดินไปเข้าห้องน้ำได้สักพักแล้วแต่ยังไม่กลับมาสงสัยจะคนเยอะหรือไม่ก็สายตรงแน่ๆ จนกระทั่งพนักงานมาเก็บเงินเรียบร้อย พวกเราเลยย้ายไปยืนรอโรมกันที่หน้าร้านแทน ผมเห็นแทนคุณมองซ้ายมองขวาเหมือนเป็นกังวลที่โรมหายไปนาน มันทำให้ผมนึกถึงความคิดที่ผุดเข้ามาในหัวก่อนหน้านี้


“แทนคุณ ถามอะไรหน่อยสิ”
“ว่า?”
“ชอบโรมใช่มั้ย” แทนคุณหันมามองผมก่อนจะพยักหน้าให้แล้วยิ้มออกมาจางๆ

“แต่มันก็แค่รักข้างเดียว มึงอย่าสนใจเลย”
“อืม...เอางี้ไหม กูช่วยมึงจีบโรมเอาป่ะ” แทนคุณหันมามองผม สายตาคมคู่นั้นมองผมนิ่งๆแต่คิ้วขมวดจนเป็นปม

“กูจะบอกครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายนะยู...เก็บน้ำใจนั้นของมึงไว้เถอะ”
“แต่ว่า....”

“ถ้ากูจะจีบโรมจริงๆ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาช่วย มึงน่ะทำในสิ่งที่มึงควรทำเถอะ”
“ก็เพราะกูรู้ไงว่ากูทำไป มึงก็คงไม่รับรักกูอ่ะ ให้กูเห็นมึงมีความสุขไม่ดีกว่าไง” แทนคุณไม่ทันได้ตอบอะไรกลับมาเขาแค่ยืดตัวยืนตรงหลังจากยืนพิงกระจกร้านสุกี้หม้อแดงมาสักพักและเห็นโรมเดินเข้ามาใกล้ บทสนทนาเราจึงหยุดอยู่แค่นั้น

“โทษทีนะ พอดีเราเจอเพื่อนที่คณะเลยอยู่คุยกันนานไป”
“จะกลับเลยมั้ย”
“อีกแป้บได้ไหม ขอไปดูหนังสือแป้บนึง” เราสองคนพยักหน้าตอบรับ ทำให้โรมรีบหมุนตัวเดินไปทางร้านหนังสือ ผมกำลังจะก้าวเท้าเดินตามโรมไป แต่ข้อศอกกลับถูกรั้งไว้จากแทนคุณ

“ถ้ามึงอยากช่วยกู ก็ช่วยล้มเลิกความคิดที่จะช่วยกูจีบโรม แล้วจริงจังในการจีบกูสักทีครับ”
“กูไม่เข้าใจจริงๆนะว่ามึงต้องการแบบนี้จริงหรอ”
“ไม่ต้องเข้าใจ ไม่ต้องหาคำตอบ แค่ทำตามที่กูบอก...ถือว่ากูขอร้องนะ ยู”

ผมมองสบตาของอีกฝ่ายนิ่งๆ ก่อนจะพยักหน้าอีกครั้ง

“งั้นก็จะไม่คิดอะไรอีกแล้ว”
“แล้วเลิกเซ้าซี้เรื่องกูกับโรม คิดแค่เรื่องมึงกับกู เหมือนที่มึงเอาไปจินตนาการวาดลงบนสมุดแบบนั้นก็ได้” พอคิดตามคำพูดของโรมก็อดแก้มแดงขึ้นมาไม่ได้ เพราะถ้าให้ทำแบบนั้นผมคงกระอักความสุขตายแน่ๆ

“ถ้าอย่างนั้น กูสามารถเห็นแก่ตัวได้ใช่มั้ย”
“..........”
“ถ้ามึงอยากให้กูจีบมึงขนาดนี้ กูสามารถเอาแต่ใจตัวเองกับมึงได้หรือเปล่า”
“................”

“แทนคุณ....กูสามารถรักมึงอย่างเปิดเผยได้จริงๆนะ”

แทนคุณปล่อยมือออกจากแขนของผมแล้วย้ายมือใหญ่ของเขามาวางลงบนหัวผมแล้วโยกไปมา

“ตามใจมึงเลยครับ”

ผมฉีกยิ้มกว้างจนตาปิด แล้วคว้าจับไปบนข้อมือของอีกคนที่วางอยู่บนหัว

“อยากจะทำอะไรก็ทำ มันเป็นสิทธิ์ของมึงนิ”
“แล้วถ้า กูจีบมึงไม่ติดล่ะ”

“เราก็จะยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั้ย” ผมถามย้ำเมื่อแทนคุณไม่ยอมตอบอะไร ก่อนที่อีกฝ่ายจะก้มหน้าลงมาแล้วพูดเสียงเบาราวกระซิบที่ข้างหูแต่มันดังให้ผมได้ยินอย่างชัดเจน


“ถ้าอยากเป็นแค่เพื่อนก็อย่าจีบให้ติด...แต่ถ้าอยากเป็นมากกว่านั้นก็พยายามให้มากๆสิ กูไม่ใช่คนใจแข็งขนาดนั้น”


มือผมหมดแรงขึ้นมาดื้อๆ ทิ้งลงที่ข้างตัวแล้วปล่อยให้น้ำหนักที่วางอยู่บนหัวนั้นหายไป ก่อนที่ผมจะยกมือขึ้นมาตบแก้มตัวเองเบาๆเรียกสติและเห็นว่าแทนคุณเดินหนีไปยังร้านหนังสือแล้ว พอมองไปรอบๆตัวเองก็พบว่ามีคนเดินผ่านไปผ่านมา เมื่อกี้คงมีคนเห็นที่ผมมาจับมือถือแขนเล่นหัวกับแทนคุณเป็นแน่

และผมเชื่อว่ามันต้องมีภาพของผมกับแทนคุณเมื่อกี้ลงไปอยู่ที่หน้าเพจในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

ทำไมผมถึงรู้น่ะหรอ

ก็เพราะน้องนักเรียนหญิงคู่หนึ่งที่กำลังกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ผมยืนและในมือเธอก็ถือมือถือเอาไว้ด้วย
เพจกำลังจะร้อนอีกแล้วสินะ

 



จบตอน
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:


มาคุยกันเถอะ !
มาต่อแล้วค่ะ หลังจากที่งานล้นมือจนไม่มีเวลาปั่นเลย  :katai4:

ขอพูดถึงนิยายนิดแล้วกันเนอะ...
สำหรับความสัมพันธ์ของคุณโรมนั้นมีอะไรในกอไผ่มั้ย ขอตอบว่า มีค่ะ แต่จะค่อยๆเฉลยออกมาแล้วกันนะคะ ส่วนที่พ่อแทนคุณอ่อยให้หนูเกี๊ยวหรือน้องยูเขาตามจีบคุณชายนั้นมันมีเหตุผลค่ะ แต่เพราะอันใดนั้นก็ต้องอ่านไปเรื่อยๆแต่ไม่ดราม่าค่ะ จะดราม่าก็เพราะความคิดเยอะของนายเอกนี่แหละ กร๊ากกก  :hao3:

คือต้องบอกหน่อยว่า น้องยูนางเป็นคนที่ค่อนคิดแบบซ้ำไปซ้ำมาและไม่มั่นใจอะไรในตัวเองเลยค่ะ นางเลยไม่รู้ว่าควรเดินหน้าควรถอยหลัง พอมีแรงฮึดนางก็แบบฉันจะสู้ๆแต่สักพักนางก็จะเริ่มหาคำตอบไปก่อนแล้วพอคิดว่ามันไม่โอเคนางก็จะไม่เอาแล้ว อะไรทำนองนี้ แต่เชื่อเถอะน้องยูไม่ผิดหวังค่ะ  :mew3:

เพราแป้นพิมพ์ทีมตัวเล็กตัวโตค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหญิง ที่ 01-10-2016 20:13:24
เราชอบยูค่ะ ชอบความคิด ชอบความไม่มั่นใจเล็กๆน้อยๆของน้อง
คือดูจากมุมมองน้องแล้วรู้สึกว่าเป็นเด็กน่ารักจัง จิตใจดีอ่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 01-10-2016 20:46:04
รู้สึกสงสารยูแปลกๆ ต้องจีบคนที่มีคนอื่นในใจอยู่แล้วมันดูเจ็บดีอ่ะ เหมือนมันแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มไงไม่รู้ เข้าใจเลยว่ายูต้องมีความสับสนบ้าง ขอให้จีบให้ติดละกัน
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 01-10-2016 21:44:41
อ่อยแรงมาก พูดมาได้ว่าไม่ใช่คนใจแข็งขนาดนั้นนะแทนคุณ
ถึงจะบอกว่าไม่ดราม่า แต่ที่แทนคุณทำหลายๆอย่างมันเหมือนจะดราม่าเลยค่ะ ถ้าให้เดาคิดว่า โรมอาจมีคนที่รักอยู่แล้ว คิดกับแทนคุณแค่เพื่อน
แทนคุณเลยอยากจะรักกับใครซักคนจะได้หลุดจากอาการแอบรักเพื่อนซักทีรึเปล่า
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 01-10-2016 21:48:44
อ่านแล้วใจมีความเจ็บแปล๊บๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 01-10-2016 22:18:24
ถ้าคิดในแง่ร้ายหน่อยก้คือคุณก้อยากตัดใจแต่ทำเองไม่ได้เลยอยากให้ยูมาช่วยเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อโรม หรืออาจจะมีอะไรมากกว่านั้นเพราะน้องเจ้าเองก้เหมือนมีอะไรที่จะบอกแต่ไม่ทันได้พูด
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-10-2016 23:18:29
คนหนึ่งคิดเยอะส่วนอีกคนก็แอบรักเพื่อนสนิท
ทั้งยังเหมือนยืมมือยูมาทำให้เลิกชอบโรม :เฮ้อ:

 :pig4:  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-10-2016 23:56:32
สงสัยแทนคุณโรมจริง ทำไมแทนคุณถึงทำแบบนี้??
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-10-2016 00:55:26
ทำไมอ่านละหน่วงละ มันมีอะไรบางอย่างที่เป็นพลังงานเจ็บปวด


แต่ชอบมาก มาต่อบ่อยๆนะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 02-10-2016 01:23:39
โรมนิมีคนที่ชอบอยู่เเล้ว??
เเทนคุณเลยอยากเลิกชอบสักทีงี้??
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 02-10-2016 04:10:02
#ทีมตัวเล็ก
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 02-10-2016 12:25:05
แทนคุณดูได้ทั้งขึ้นทั้งล่องนะ ได้ตัดใจจากโรมได้แฟนใหม่ที่รักแทนคุณปานนั้น...อันนี้พูดในกรณียูจีบติดนะ ไม่รู้ว่าแทนคุณมีความหลังกับโรมอะไรยังแต่มันก็แบบ! ชัดเจนซะจนท้อใจแทนยูเลย

แล้วถ้ายูจีบไม่ได้ล่ะ....มองแบบไม่โลกสวยเลย ถึงแม้แทนคุณจะบอกว่าไม่ได้ใจแข็งแต่คนเราอะถ้าลึกๆแล้วไม่ใช่พยายามยังไงก็ไม่ใช่ เปอร์เซ็นต์เจ็บของยูมันสูง เดิมพันครั้งนี้มันเสี่ยง เฮอะ! เกลียดแทนคุณว่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 02-10-2016 16:05:47
อยากฟังจากมุมแทนคุณบ้าง
อยากรู้ว่าคิดยังไงกับโรมกันแน่
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 02-10-2016 19:30:10
เชียร์ยูนะการจีบคนที่ชอบคนอื่นมันหนักจริงๆ
ว่าแต่อยากให้มีคนมาจีบยูบ้างจัง ให้คุณมันร้อนบ้างดิ หมั่นไส้มัน
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 02-10-2016 21:27:04
เหมือนคุณจะเอายูมาเป็นตัวช่วยให้ลืมโรม ถ้าทำได้ก็ดีไปแต่ถ้าไม่ได้ยูน่าสงสารมาก
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Mylovelysunshine ที่ 03-10-2016 00:15:40
น่ารักมากกกกกกกค่ะ ก ล้านตัวเลยย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: miikii ที่ 03-10-2016 00:51:05
แอบสงสารยู
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 7> 01/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: naja-kitase ที่ 04-10-2016 09:50:38
หมั่นไส้พระเอกเรื่องนี้ อ่านแล้วหน่วงเบาๆ
สงสารยู
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 04-10-2016 17:53:36
ตอนที่ 8
ความกลัว



ตัวเล็กตัวโต หนุ่มแว่นมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กพ่อเดือนสุดหล่อ ได้แท็ก TK Krittidumrong และ บะหมี่ เกี๊ยว ในโพสต์ เมื่อวานนี้ เวลา 19.33 น.

เขาวัดส่วนสูงกันกลางห้างหรอคะเดี๋ยวนี้ น่ารักไป เราไม่ทน #ตัวเล็กตัวโต Cr: สาววาย หัวใจมุ้งมิ้ง 

7,746 Likes 365 Comments


ผมกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับภาพที่โพสต์โดยเพจของผมและแทนคุณในฐานะคู่จิ้นตัวเล็กตัวโต ภาพที่แทนคุณเอามือมาวางไว้บนหัวและผมกำลังยิ้มตาปิด ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ทั้งคำพูดที่แทนคุณได้บอกกับผมมันก็ลอยคว้างเป็นฉากๆอยู่ในหัวราวกับใครมากดปุ่มรีพีท

ผมนั่งอ่านคอมเม้นต์แต่ละคอมเม้นต์ที่มาบอกว่าฟินและเชียร์ให้เป็นแฟนกันจริงๆ บางคนก็เป็นแฟนคลับโรมเข้ามาคอมเม้นต์บอกว่าแอบแปรพรรคเนื่องจากความฟินกุ๊กกิ๊กที่ดูเรียลไม่แคร์ใคร บางคนบอกไม่ได้แปรพรรคแต่แค่คุณคู่กับใครก็อร่อย และยังมีคอมเม้นต์อีกมากมาย ซึ่งก็ใช่ว่าจะมีกระแสด้านนี้อย่างเดียว กระแสจำพวกคุณไม่เหมาะกับการเป็นเกย์ก็มีให้เห็นเช่นเดียวกัน แต่ช่างเถอะ ก็ในเมื่อแทนคุณบอกเองว่าไม่ให้ผมคิดเยอะ คิดแค่ว่าจะจีบเขายังไงก็พอ

ก่อนอื่นผมจะต้องรวบรวมพลังกายพลังใจของตัวเองให้กล้าแกร่ง ผมสูดหายใจเข้าลึกๆและเก็บมือถือของตัวเองลงกระเป๋าพร้อมลุกออกจากห้องเรียนรวมของคณะตัวเองที่ตอนนี้ทั้งห้องเหลือแค่ผมคนเดียวแล้ว

ผมหยิบเอาตารางเรียนของแทนคุณที่ได้มาจากน้องเจ้า ซึ่งน้องเจ้ามีไลน์ผมได้ก็เพราะอันอันเลย เธอไลน์มาถามผมเมื่อคืนนี้ว่าเธอให้น้องเจ้าแอดไลน์ผมได้หรือเปล่า ซึ่งผมไม่ได้ขัดข้องอะไรอยู่แล้ว พอได้คุยกับน้องเจ้าผมก็พบว่าเธอเป็นคนที่คุยเก่งมากไม่รู้หาสาระพัดเรื่องมาชวนผมคุยได้ยังไง จนผมไม่มีเวลาเข้ามาเช็คความเคลื่อนไหวในเฟซฯเลยด้วยซ้ำ หลังจากนั้นเราก็คุยกันยาวจนเกือบห้าทุ่มผมถึงได้บอกให้น้องไปนอน เด็กน้อยงอแงใส่เล็กน้อยแต่ก็ยอมทำตามโดยดี


เธอเป็นผู้ช่วยหลักในการช่วยผมจีบแทนคุณ ข้อมูลหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับแทนคุณก็ได้มาจากน้องเจ้า โดยเบื้องต้นแล้วแทนคุณไม่ค่อยพูดถึงเรื่องส่วนตัวสักเท่าไหร่ จะมีแค่วันเกิดเท่านั้นที่เป็นเรื่องพื้นฐานที่แฟนคลับของแทนคุณจะรู้ แต่ตอนนี้ผมรู้อะไรที่มันมากกว่าแฟนคลับคนอื่นๆแล้ว


อีก 10 นาทีคลาสเรียนของแทนคุณจะใกล้เลิก ตอนนี้ผมนั่งรออยู่ที่ใต้ตึกเรียนรวมของคณะบริหารฯ ตามตารางเขาจะเลิกเรียนตอน 4 โมงครึ่ง และไม่มีเรียนต่อ ซึ่งปกติแล้วแทนคุณมักจะไปเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อนทุกวันพุธ ว่ายน้ำทุกวันเสาร์ นอกนั้นเขาจะใช้บริการฟิตเนสที่คอนโดในบางวัน

ผมรื้อของในถุงเซเว่นฯอีกครั้งแล้วเช็กว่าตัวเองได้เตรียมของไว้ครบเรียบร้อย ก่อนจะชะเง้อคอมองแทนคุณอีกครั้ง และในที่สุดการรอคอยของผมก็สิ้นสุดลง เมื่อมีเสียงฝีเท้าของนิสิตหลายคนเดินลงมาจากบันได เนื่องจากอาคารนี้มีแค่ 3 ชั้นจึงไม่มีลิฟท์บริการนอกจากลิฟท์ขนส่งของเท่านั้น

ไม่นานร่างสูงเจ้าของหัวใจผมก็ปรากฏกายขึ้น เขากำลังเดินลงมาพร้อมคุยกับเพื่อนอย่างออกรสออกชาติด้วยท่าทางจริงจัง ผมฉีกยิ้มกับภาพที่เห็นก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตัดสินใจโบกมือให้อีกฝ่าย ไม่พอเท่านั้นยังเปล่งเสียงเรียกออกไปด้วย

“แทนคุณ!!”

 ไม่ใช่แค่เจ้าของชื่อเท่านั้นที่หันมา แต่คนรอบข้างที่อยู่ในบริเวณนั้นกำลังจับจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว ผมหดมือลงมาพร้อมเกาแก้มตัวเองอย่างเก้อเขิน ในขณะที่แทนคุณหันไปพูดอะไรกับเพื่อนสักอย่างก่อนเดินแกมวิ่งมาหาผม

“มาได้ยังไง”
“เดินมา” ผมตอบแบบไม่ได้กวนประสาทสักนิด แต่เขากลับเขกมะเหงกลงมาบนหน้าผากในผมลูบมันเบาๆ
“อะไรอ่ะ ก็เดินมาจริงๆ”

“แล้วมาทำอะไร” อีกฝ่ายเอ่ยถามต่ออย่างไม่สนใจในคำพูดของผมเท่าไหร่ ผมฉีกยิ้มใส่เขาอีกครั้งพร้อมหยิบถุงเซเว่นฯมาตรงหน้าเขา


“จะไปเล่นบาสฯกับเพื่อนใช่ไหม กูซื้อมาให้” เขามองของในมือผมเล็กน้อย พลางวางมือเหนือหัวผมแต่ยังไม่รับของไปถือเอง

“กูว่าจะถามหลายครั้งแล้ว แต่ลืม”
“อะไรหรอ”
“ทำไมมึงเตี้ยจังวะ” สิ้นสุดคำถาม ผมก็เตะเข้าที่ขาแทนคุณเบาๆด้วยความหมั่นไส้

“ก็ไม่ชอบกินนม ไม่ชอบออกกำลังกายไง เลยไม่โต โอเคนะ รับของไปดิ” ตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจใส่ พร้อมยื่นถุงในมือให้แทนคุณอีกครั้ง แต่เขาก็ทำแค่หัวเราะใส่ผมก่อนจะรับของไปถือเอาไว้

“ไปดูกูเล่นบาสฯไหม”
“ไม่บอกก็ไป...กำลังจีบอยู่ ไม่รู้หรอ” แทนคุณเลิกคิ้วนิ้วหน่อย ก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างมาขยี้หัวผมอย่างแรง

“ทำดีมาก”

คำพูดแค่นั้นของแทนคุณก็ทำให้ผมฉีกยิ้มกว้าง ก่อนที่เราจะเดินไปหาเพื่อนของแทนคุณที่ยืนรออยู่ตรงทางเข้าตึก แทนคุณแนะนำผมให้กับเพื่อนของเขารู้จัก ซึ่งผมไม่ต้องเอ่ยแนะนำตัวให้มากความเพราะเพื่อนของพวกเขารู้จักผมหมดแล้ว ผ่านทางโซเชี่ยลที่ชื่อว่าเฟซบุ๊คนั่นแหละ ก็นะต้องเข้าใจนิดหนึ่งว่าผมกำลังกลายเป็นคนดัง

พวกเรา 6 คนนั่งรถมาสองคัน แบ่งกันโดยที่ผมนั่งมากับแทนคุณและเพื่อนอีก 1 คน ส่วนเพื่อนอีก 3 คนไปด้วยกันโดยรถของเพื่อนแทนคุณที่ชื่อตั้ม ซึ่งพวกเขาทั้งหมดเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของปี 1 ด้วย แน่นอนว่ากีฬาเฟรชชี่พวกเขาก็ลงแข่ง โดยที่แทนคุณและตั้มลงควบ 2 กีฬาคือว่ายน้ำอีก 1 ประเภท


ความจริงวันนี้พวกเขาก็มีนัดซ้อมกันให้ครบทีมแต่ด้วยเพื่อนที่เหลือในทีมติดธุระทำให้มาซ้อมกันไม่ครบ ซึ่งเอาตามจริงแทนคุณกับเพื่อนๆก็บอกว่าไม่ได้หวังที่จะชนะอะไรเลย เขาเล่นเพื่อสุขภาพเท่านั้น แต่ถ้าเกิดว่าได้เข้าไปถึงรอบชิงฯก็ถือเป็นโอกาสที่ดีเช่นกัน ซึ่งเจ้าของแชมป์ปีที่แล้วเป็นของคณะศึกษาศาสตร์


ผมนั่งประจำอยู่ตรงข้างสนามที่เก้าอี้ไม้แถวยาวสำหรับนักกีฬานั่ง แทนคุณกับเพื่อนๆจัดการถอดเสื้อนิสิตออกอย่างไม่อายแล้วเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดบ้างเสื้อกล้ามบ้างแล้วแต่ว่าใครเตรียมมา ผมลอบมองหุ่นของแทนคุณอย่างระวังว่าเขาจะจับได้ เห็นลอนกล้ามเนื้อตรงช่วงท้องกำลังเรียงตัวเป็นแผงช็อกโกแลต แม้จะยังไม่ชัดเจนมากนักแต่ก็ดูดี ยิ่งช่วงสะโพกที่สอบเป็นตัววีเห็นขอบกางเกงในยี่ห้อ Calvin Klein ที่โผล่พ้นกางเกงนิสิตมาแล้ว เล่นเอาหน้าผมร้อนเห่อขึ้นมา

เพื่อนของแทนคุณวิ่งลงไปวอร์มอยู่ในสนามแล้วยกเว้นเขาที่ยังคงยืนยืดเส้นยืดสายอยู่ไม่ไกลจากผมเท่าไหร่ ก่อนเขาจะบิดแขนซ้ายทีขวาทีแล้วหันมาหาผมที่กำลังมองเขาอย่างตั้งอกตั้งใจมอง

เป๊าะ!

“โอ้ย มันเจ็บนะเว้ย” ผมค้อนใส่เขาพลางลูบลงที่กลางหน้าผากบริเวณที่แทนคุณดีดนิ้วลงมา

“ก็ดูทำหน้าเขาสิ เห็นนะว่าแอบมองกู”
“ไม่ได้ตั้งใจมองสักหน่อย”

“หรอ ไม่ได้ตั้งใจมองแต่ตั้งใจจ้องเลยสินะ” เถียงไม่ออก ผมได้แต่ทำเป็นมองไปทางอื่นไม่สนใจอีกคน ทว่าเสียงกระซิบข้างหูที่ดังขึ้นกลับทำให้ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที

“คิดอะไรหื่นๆกับกูอยู่สินะ”

“ใครเขาจะไปลามกแบบมึงวะ!” ผมพูดออกไปเสียงดังมองแทนคุณที่กำลังหัวเราะชอบอกชอบใจ
“แกล้งมึงนี่ สนุกดีจริงๆว่ะยู”

ไม่รู้จะตอบกลับอีกฝ่ายยังไงดี เลยทำได้แค่ขบริมฝีปาก แม้ท่าทางที่ออกมาดูเหมือนโกรธอีกฝ่าย แต่ความจริงแล้วเปล่าเลย ผมกำลังแค่อายที่ถูกจับได้ เขินจนไม่รู้จะพูดจะทำตัวยังไง สุดท้ายก็ได้แต่สบถคำแสนหวานใส่แทนคุณที่กำลังเดินลงสนามไปว่า


“ไอ้เหี้ย!”


เจ็บไหมล่ะ แทนคุณ....แต่หมอนั่นหันกลับมาโบกมือให้แบบนี้ คงจะไม่เจ็บเลยสินะ




ผมนั่งมองการซ้อมของนักกีฬาปี 1 คณะบริหารฯมาเกือบครึ่งชั่วโมง แทนคุณหยุดเข้ามาดื่มน้ำที่ผมซื้อมาเตรียมไว้ให้พร้อมใช้ผ้าเย็นซับหน้าเช็ดเหงื่อไคลบ้างก่อนจะวิ่งกลับเข้าสนามอีกครั้ง

ไม่รู้จะทำอะไรต่อดีเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไปพลางๆ ก่อนจะบันทึกภาพนิ่งขณะที่เขากำลังชู๊ตลูกลงห่วง ทีแรกผมตั้งใจว่าจะเอาภาพอัพลงอินสตาแกรม แต่ก็เปลี่ยนใจกดเข้าแอพฯสีน้ำเงินแทน

บะหมี่ เกี๊ยว ได้แท็ก TK Krittidumrong ในโพสต์
ขยันซ้อมขนาดนี้ ก็อยากให้ชนะนะ สู้ๆ


ผมมองผลงานของตัวเองที่ทำการอัพโหลดรูปของแทนคุณลงไปแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่นานก็เริ่มมีคอมเม้นต์เข้ามาซึ่งคนแรกที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นคือไอ้ว่านวุ้นเป็ด

ว่านEDU วุ้นเป็ดคือรักแท้ ไม่ได้โว้ยยย กูไม่ยอมให้บริหารฯมาซิวตำแหน่งแชมป์ของศึกษาฯเด็ดขาด

ต่อจากนั้นก็มีคอมเม้นต์จากแฟนคลับเข้ามาหวีดอยู่บนหน้าโพสต์ของผม

‘กรี๊ดด ตัวเล็กตัวโตเขามาแรงมากช่วงนี้’
‘แก เขาไปเป็นกำลังใจให้กันที่สนามซ้อมอ่ะ โปรดดู กิ๊บเก๋ สายวายหัวใจสีชมพู Rising SUN
‘ตัวเล็กตัวโต ฟินกว่านี้มีอีกไหม’

แต่ที่เด็ดสุดคงจะเป็นพี่รหัสผมที่ตอนนี้รู้ว่าผมกำลังจะมีแฟนเป็นผู้ชาย

เปรียวสายประหลาด ทอมแอนด์เจอรี่ พอริจะมีผัวเป็นเด็กบริหาร ก็ก่อการกบฏเลยนะ อียูเด็กทรยศ
บะหมี่ เกี๊ยว พี่เปรียว เพื่อนครับ ไม่ใช่ผัว
เปรียวสายประหลาด ทอมแอนด์เจอรี่ ตอแหลลลลลลลล

ผมหลุดขำออกมาเสียงดัง ขอเท้าความถึงสายรหัสของผมสักเล็กน้อยก่อนแล้วกัน ในสายรหัสของผมนั้นโชคดีที่มีผมเป็นน้องปี 1 คนเดียวในสาย แต่ดันมีพี่ปี 2 ในสายถึง 2 คน มีลุงและย่ารหัส 1 คน สายผมถูกเรียกว่าสายประหลาด เนื่องจากว่าเป็นการรวมความประหลาดของเพศไว้ในสาย พี่เปรียวเป็นทอมที่หล่อมากถ้าเป็นผู้หญิงก็โคตรสวย แกเป็นแฟนกับย่ารหัสผมที่อยู่ปี 4 ชื่อพี่ลูกหนู ซึ่งพี่เปรียวแกจะเรียกว่าเจอรี่ นั่นคือที่มาของคำว่า ทอมแอนด์เจอรี่ พี่ลูกหนูบอกว่าแกเป็นดี้มาตั้งแต่ ป.1 ตอนฟังแกเล่าตอนเลี้ยงต้อนรับสายรหัสก็ขำนะครับ

ต่อมาคือลุงรหัสที่ผมไม่รู้จะเรียกว่าลุงได้หรือเปล่า เพราะแกเป็นกะเทยที่เตรียมแปลงเพศหลังเรียนจบครับ เวลาเจอหน้าแกไม่สามารถทักว่าลุงรหัสได้นะ เพราะแกให้เรียกว่า มิสอิสซาเบล ทั้งที่ชื่อจริงๆของแกคือ อิสระ เอาที่แกสบายใจเถอะครับ คนสุดท้ายคือพี่รหัสคู่หูของพี่เปรียว ชื่อพี่เต็มคนนี้เป็นผู้ชายแท้ๆมีแฟนแล้วนะ แต่ว่าเป็นผู้ชายประหลาดครับ ชอบแต่งหญิงเป็นเพื่อนแฟนและพากันเต้นคัฟเวอร์สาวๆเกาหลีโดยเฉพาะ SISTAR เอากับเขาเถอะ   

กลับมาที่ปัจจุบัน ผมก็ตอบโต้กับคอมเม้นต์ของพี่เปรียวอย่างเมามัน ก่อนพี่แกจะจากไปด้วยเหตุผลที่ว่าจะพาพี่ลูกหนูไปฉี่ เหตุผลสันขวานมากครับพี่ ระหว่างที่กำลังเลื่อนหน้าไทม์ไลน์อื่นๆดูนั้น เสียงโทรศัพท์ของใครสักคนก็สั่นขึ้น ผมหันไปมองซ้ายขวาจากกองสัมภาระที่วางอยู่เกลื่อนบนเก้าอี้หรือบนพื้นก็ตามที จนมาจบลงที่กระเป๋าของแทนคุณ

เสียงโทรศัพท์เงียบลงไปแล้ว ผมจึงไม่ได้สนใจอะไร แต่มันกลับดังขึ้นมาอีกครั้ง ผมมองไปยังแทนคุณที่ยังคงวิ่งปาดซ้ายขวากับเพื่อนอย่างเมามัน ผมถึงได้ถือวิสาสะในการหยิบมันออกมา และเห็นชื่อที่ปรากฏอยู่หน้าจอพร้อมภาพเดียวกับภาพล็อกหน้าจอ


‘โรม’






50 % Loading






----  :katai5: :katai5: :katai4: :katai4:

รีบมาลงให้ก่อนกลับบ้านฝนจะตกแล้วววววว ยังไม่ได้ตรวจคำผิดเลย

ตรวจคำผิดแว้ววว วันนี้จะพยายามมาต่อที่เหลือนะ บุยบุย  :mew3:


หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 04-10-2016 18:11:10
แทนคุณเป็นพระเอกที่ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะ
แต่เหม็นขี้หน้ามากกกกกกก อยากจะเตะออกนอกโลกกก  :katai4:

ไม่ชอบคนไม่ชัดเจนอ่ะ เหมือนหลอกใช้ตัวเล็กของเค้าาา
ตัวเองยังตัดใจจากคนที่รักไม่ได้ ยังมีมาบอกให้คนอื่นไปจีบตัวเอง เหมือนตัวเองเจ็บคนเดียวไม่พอ ยังลากคนอื่นมา ทำให้มีความหวังแล้วก็พังมันลงด้วยมือตัวเอง คือถ้าได้รักกันมันก็ดีไป แต่ถ้าไม่ตัวเล็กเค้าเจ็บเจียนตายแน่ๆ


สนุกมากค่ะคนเขียน นี่อินสุดๆเจอแทนคุณในตลาดอาจมีเอาทุเรียนตบหน้า
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 04-10-2016 21:07:43
อยากรู้ว่าโรมคิดยังไงกับแทนคุณ
ดูเหมือนคิดกับแทนคุณแค่เพื่อน แต่การกระทำของทั้งสองคนมันดูไม้ใช่เลย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 04-10-2016 21:48:55
อยากจะรู้ถึงความสัมพันธ์ที่มันซับซ้อนของแทนคุณกับโรมอ้ะ
สงสารน้องยู ผู้ตัวเล็ก  :katai1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 04-10-2016 22:10:17
ถ้าแทนคุณไม่มีใครในใจแล้วเปิดโอกาสให้ยูจีบเนี่ยก้มีความเป็นไปได้สูงที่จะสมหวังนะแต่นี่มันคลุมเครือเพราะความรู้สึกระหว่างโรมกับคุณนี่ล่ะเะราะถ้าคุณชอบโรมจริงๆยูก้มีแต่จะผิดหวังอ่ะตอนนี้เราอยากอ่านพาร์ทของคุณบ้างนะมันจะดูเร็วไปถ้าจะเฉลยแต่มันก้ดีนะเพราะตอนนี้บอกตรงๆเลยว่าไม่ชอบคุณอย่างแรง
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 04-10-2016 22:22:17
โอ้ยยยย คือแทนคุณไม่ผิดนะ
เหมือนว่าอยากจะตัดใจจากโรม และคงเห็นว่าตัวเล็กน่าจะทำได้แน่ๆ
คือก้ต้องมีความสนใจหรือรู้สึกอะไรกับยูบ้างแหละ ไม่งั้นคนดามใจมีเป็นพันๆ
แต่เพราะความไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์กับโรมทำให้แบบว่าาาา
หมั่นไส้มากค่ะ ทั้งคุณทั้งโรม คือโรมก้ไม่ผิดอีกนั่นแหละ ก้เพื่อนสนิทอะ
อะไรๆที่เคยทำมันก้เป็นอยู่งั้นเป็นความเคยชิน ที่โรมอาจจะไม่ได้คิดอะไรเลย
แต่ทุกอย่างมันทำให้สงสารยู ตัวเล็กของเค้าาา อย่าเศร้านะ มากอดดๆ โอ๋ๆ
อยากรู้ปมของคู่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออะ ทำไมคุณถึงได้อยากตัดใจขนาดนี้
เรา #ทีมตัวใหญ่ตัวเล็ก #2YOU ไหนๆชื่อก้แปลออกมาเหมือนกันแล้ว ก้รักกันเร็วๆเถอะ
อย่ามัวแต่อ่อยตัวเล็กนะ เปิดใจด้วยยรู้มั้ยตัวโต!

รอค่าาา ชอบเรื่องนี้อะ พึ่งได้เข้ามาเจออ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 04-10-2016 23:55:00
แทนคุณเหมือนให้ความหวัง
แต่ก็เหมือนจะไม่ให้ใจ  :ling1:
รอๆ ตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-10-2016 00:13:37
เห่อ!! ถ้าไม่ได้รู้สึกดี ก้ออย่าใช้เปงเครื่องมือเลยนะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-10-2016 01:04:22
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: ravyy ที่ 05-10-2016 03:47:53
จะฟินก็ฟินไม่สุดอะ แงงงงงงงงง คือไม่เข้าใจความคิดคุณเลย คิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนั้น?  ทั้งๆที่ก็มีคนที่ชอบอยู่แล้วละยังมาให้ความหวังยูอีกทำไมอ่ะ ไม่เข้าจายยยยยยย
เห้ออออมมมม กำลังดีๆอยู่โรมโทรมาทำมายยยยยย ปล่อยยูฟินสักวันได้มั้ย แงงง  ;-------;
ไรต์ตัดได้ค้างมากเลยยย 55555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 05-10-2016 09:01:00
เหอๆดีใจด้วย คุณได้ประสบกับความรักสีเทาอยู่ แต่ว่าข้าอ่านไปๆหวังว่าจะเจอสีพาสเทลเร็วๆนี้
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: kail ที่ 05-10-2016 09:55:25
หน่วงหัวใจอ่ะ คุณต้องมีปมอะไรกับโรมที่ไม่สามารถเป็นแฟนกันได้แน่ๆ โรมอาจจะรักคนอื่นอยู่ คุณใช้ยูเป็นเครื่องมือชิมิ T^T ยูเข้มแข็งมากๆนะลูกกกกกก
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 05-10-2016 16:12:02
เฮอะ! อะไรไม่รู้ รู้แค่เรายังตั้งแง่กา?ตัวโตๆไว้ให้แทนคุณก่อน คือยังคลุมเครือดูไม่แน่นนอน อนาคตต้องเกิดเรื่องแน่เลย ไม่ไว้ใจอะ!
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 50% 04/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-10-2016 16:33:38
จนถึงตอนนี้แทนคุณก็ยังไว้ใจไม่ได้ :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 05-10-2016 18:46:59
8/2 (100%)





ผมลังเลว่าจะรับดีหรือไม่ ตามองภาพในมือถือนิ่งแต่ในหัวก็สับสนเพราะโทรศัพท์ยังคงสั่น แล้วถ้าผมรับมันจะกลายเป็นเสียมารยาทหรือเปล่า ยังไม่ทันได้คำตอบ เสียงรองเท้าที่วิ่งเข้ามาใกล้พร้อมแสงเงาที่พาดลงมาทำให้ผมเงยหน้าขึ้นและพบว่าแทนคุณมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า



ไอโฟนในมือผมหยุดสั่นไปแล้ว พร้อมขึ้นข้อความโชว์ว่ามี 2 สายไม่ได้รับ



“โรมโทรมาน่ะ” ผมยื่นของในมือไปให้เจ้าของที่แท้จริง แทนคุณแค่รับมันไปและจิ้มกดหน้าจออยู่สองสามครั้งก่อนยกมันขึ้นแนบหู เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างผม ในขณะที่มืออีกข้างคุ้ยหาผ้าเย็นที่ยังไม่ได้แกะและยื่นให้ผมอีกที





“ว่าไงโรม”



ผมเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ พลางแกะซองผ้าเย็นแล้วซับไปบนต้นคอของแทนคุณเบาๆ อีกฝ่ายหันมาส่งยิ้มให้ก่อนจะหันไปสนใจการสนทนากับคนในสายต่อ



“ได้สิ ผมไม่ลืมหรอก โรมจะไปซื้อตอนไหน เสาร์อาทิตย์นี้ผมมีไปค่ายอาสานะ...งั้นเอางี้แล้วกัน เราค่อยเข้าไปดูที่พารากอนวันพุธหน้า...แล้วโรมโอเคใช่ไหม...ไม่ได้โทรหาเขาแล้วใช่หรือเปล่า...ดีแล้วล่ะ...ตอนนี้ผมก็ทำตามที่โรมบอกอยู่เหมือนกัน...หืม รู้ด้วย...จริงหรอ แอดผมมาด้วยนะ...ได้สิ ไว้ผมไลน์หาอีกที...ยูอยู่กับผม...เดี๋ยวผมไปเล่นต่อแล้ว โรมจะคุยกับยูไหม”



ผมมองหน้าแทนคุณด้วยความสงสัยในสิ่งที่ได้ยิน เขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากส่งไอโฟนให้ผมพร้อมกับแย่งผ้าเย็นไปเช็ดเอง ผมถึงได้ยกไอโฟนของแทนคุณมาแนบหูแทน





“ฮัลโหล”

(ยู วันนี้ไม่ได้กลับหอนะ)



“อ้าว ทำไมหรอ”

(อาทิตย์นี้นัดทำรายงานให้เสร็จน่ะ ต้องส่งก่อนมิดเทอม)



“อ๋อ ไม่เป็นไรเราอยู่ได้ เก็ตกับนัทก็กลับห้องอยู่ ถึงจะไม่ทุกวันก็เหอะ”

(อีกสองอาทิตย์ก็ใกล้สอบมิดเทอมแล้ว คงไม่ได้กลับห้องบ่อยเหมือนกัน)



“อืม เข้าใจ ก็โรมต้องตัดคะแนนรวมกับพวกสายสุขภาพอื่นๆด้วยนี่ คงยากน่าดู”



แทนคุณลุกขึ้นยืนก่อนจะวางพาดผ้าเย็นที่ใช้แล้วลงบนเก้าอี้ที่ตัวเองนั่ง เขาหันมามองผมพลางวางมือลงบนหัวผมแล้วจับโยกไปมาอยู่สองสามทีก่อนวิ่งกลับเข้าสนามไปอีกครั้ง ปล่อยให้ผมคุยโทรศัพท์กับโรมต่อไป ผมยิ้มกับการกระทำเล็กน้อยของแทนคุณพลางมองตามแผ่นหลังกว้างที่วิ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนอีกครั้ง



(ก็คิดว่าอย่างนั้นนะ...ว่าแต่กับคุณเป็นยังไงบ้าง)

“หมายถึงอะไรหรอ”



(จีบกันไปถึงไหนแล้ว) ผมรู้สึกว่าหน้าอุ่นวาบขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อโดนโรมถามแบบนี้

“ก็เรื่อยๆนะ เพิ่งเริ่มจีบเอง ไม่รู้จะติดหรือเปล่า”



(เชื่อมั่นในตัวเองสิ ยูทำได้อยู่แล้ว)

“โรมเชื่ออย่างนั้นหรอ” ผมขบริมฝีปากล่างของตัวเองด้วยสมองกำลังคิดว่าจะพูดสิ่งที่ค้างคาในใจนี้ออกไปดีหรือเปล่า

(ใช่ เชื่อมากด้วยว่ายูต้องทำได้)



“แต่ว่าคุณ.....คุณเขาชอบโรมอยู่นะ”



ปลายสายเงียบไปจนผมคิดว่าเขาวางสายไปแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงกุกกักที่ดังออกมาทำให้รู้ว่าเขายังฟังอยู่พร้อมเสียงถอนหายใจหนักๆดังมาให้ได้ยิน



(ยูฟังนะ...เรื่องของคุณกับผมน่ะ มันไม่ใช่อย่างที่คิดหรอก ยูอาจจะมองเห็นเหมือนที่คนอื่นๆเห็นและคิดไปว่าผมกับคุณเป็นอะไรกันมากกว่าเพื่อน ทั้งที่ความจริงไม่ใช่หรอก ผมกับคุณเป็นแค่เพื่อน...เพื่อนสนิท ซึ่งต่อไปทั้งผมและคุณเรากำลังจะเป็นญาติกัน ยูอยากรู้อะไรก็ถามคุณเขาได้ อย่าคิดอะไรไปเองก่อนแบบนี้สิ)





ผมเชื่อได้มากแค่ไหนกับคำพูดของโรมกัน ในเมื่อการกระทำของแทนคุณและสายตาที่มองโรมนั้นไม่ใช่แบบที่โรมว่ามาสักนิด



“แล้วถ้าคุณเขาชอบโรม”

(เลิกพูดเรื่องนี้เถอะยู มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก)



“แต่คุณบอก.....”

(เอาเป็นว่า ระหว่างผมกับคุณไม่มีอะไรทั้งนั้นจริงๆ ไม่ต้องกังวล แล้วก็เพื่อความสบายใจของยู ผมจะพูดกับคุณเรื่องนี้เอง)



“ไม่ต้องๆ...คือ เราขอโทษ”

(อืม)



“เราจะไม่พูดเรื่องนี้อีก”

(ดีแล้ว ถ้าอยากรู้อะไรก็ให้ถาม อย่าเดาเอาเองนะ)



“อืม ขอบคุณนะโรม”

(ขอบคุณเรื่องอะไร)



“ที่เชื่อว่าเราจะจีบคุณติดน่ะ ขอบคุณนะ”

(บางทีการที่คุณมียูแบบนี้ มันน่าอิจฉาเกินไปแล้ว)



“อะไรนะ”

(ไม่มีอะไรหรอก...เดี๋ยวไปทำรายงานต่อแล้วนะ ไว้เจอกัน)



ปลายสายชิงวางไปก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรเสียอีก ผมนั่งมองไอโฟนของโรมนิ่งพลางคิดตามสิ่งที่โรมพูดให้ฟัง การที่คุณมีผมอยู่นี่มันน่าอิจฉาอย่างนั้นหรอ แล้วภาพตรงหน้าที่เขาเห็นนี่ล่ะ การที่โรมเองก็มีคุณอยู่มันก็น่าอิจฉาเหมือนกันไม่ใช่หรือไง



มันแปลก สิ่งที่โรมพูดกับผมนั้นมันมีเรื่องราวอะไรระหว่างสองคนนั้นหรือเปล่า

ผมได้แต่สงสัยและผมก็อยากหาคำตอบของมันด้วย ถ้าเกิดว่าถามแทนคุณเขาจะบอกผมไหม







การเล่นบาสเกตบอลของแทนคุณกับเพื่อนๆกินเวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง หลังจากที่พวกเขาจัดการตัวเองเรียบร้อยภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านักกีฬาของสนามกีฬา พวกเราก็ลงมติกันว่าจะหาอะไรรองท้องเป็นมื้อค่ำด้วยการเดินตลาดนัดข้างมหา’ลัย



เราทั้ง 7 คน เดินมากันเป็นกลุ่มใหญ่และกลายเป็นจุดเด่นไปโดยทันทีเพราะในกลุ่มมีหนุ่มหล่อประจำปีอยู่ด้วย มีแฟนคลับของแทนคุณมาขอถ่ายรูปกับเขาจนผมคิดว่าเขากลายเป็นเซเลปหรือดาราดังจริงๆเสียแล้ว ทำให้เพื่อนของเขาที่มาด้วยกันขอปลีกตัวไปเดินกันเอง ทิ้งให้ผมยืนมองเขาถูกรุมล้อมจากทั้งเด็กมหา’ลัยเดียวกันหรือแม้แต่เด็กมัธยมที่ยังคงอยู่ในชุดนักเรียนรอถ่ายรูปคู่กับเขาอยู่





ระหว่างที่คนกำลังกระจายตัวออกไปบ้างนั้น ผมกลับถูกสะกิดจากด้านหลัง พอหันกลับไปก็ได้เจอกับผู้ชายตัวเล็กที่ความสูงไม่ต่างจากผมกับสาวผมเปียใส่แว่นกลมๆคล้ายกับผมฉีกยิ้มมาให้



“พี่ยูใช่ไหมครับ”



“ใช่ครับ” ผมพยักหน้าตอบรับพร้อม

“พี่ยูคะ หนูขอถ่ายรูปกับพี่ได้ไหมคะ” น้องผู้หญิงที่มาด้วยกันเอ่ยถามต่อ ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ทำให้น้องทั้งสองพยักหน้า

“เขินจัง มีคนมาขอถ่ายรูปด้วย” ผมแซวตัวเองพร้อมเกาหัวเขินๆ พอน้องทั้งสองเห็นว่าผมอนุญาตแล้วจึงดำเนินการเซลฟี่ภาพหมู่ในทันที



“ขอบคุณค่ะพี่ยู”

“พี่ยูตัวจริงน่ารักมากเลยครับ”



ผมไม่ได้ตอบอะไรน้องทั้งสองไป นอกจากยิ้มกว้างโชว์ฟันที่เรียงตัวดีมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนน้องทั้งสองจะเดินจากไป



แทนคุณปลีกตัวมาจากแฟนคลับของเขาแล้ว เราจึงได้เดินดูของกันต่อโดยที่ก็มีเสียงซุบซิบให้ได้ยินบ้าง บางทีก็มีคนแอบยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป หรือว่าแทนคุณแอบไปเล่นละครมาแต่ผมไม่รู้ ผมคิดอย่างติดตลก



“กินอะไรดี” เขาหันมาถามผมพลางกวาดสายตามองร้านอาหารที่ตั้งเรียงกันเป็นแถว



“อันนั้น” อันนั้นของผมคือร้านบะหมี่เกี๊ยวเมนูโปรดของผมเอง แทนคุณพยักหน้ารับ ก่อนเราจะเดินตรงไปยังร้านบะหมี่เกี๊ยวที่มีสาขาย่อยอยู่ทั่วประเทศไทย



“พี่ครับ สั่งอย่างอื่นมานั่งกินได้ไหมครับ” แทนคุณเอ่ยถามหลังจากที่เรามาหยุดอยู่หน้าร้าน

“ได้ทุกร้านเลยน้อง ตามสบายเลย”

“งั้นมึงสั่งไปก่อนนะ กูจะไปดูของกินทางนั้น”

“อืม คุณจะกินอะไรเดี๋ยวสั่งไปให้”

“เหมือนมึง” ผมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปสั่งอาหารกับพี่เจ้าของร้าน



“บะหมี่เกี๊ยวน้ำ 2 ที่ครับ” สั่งเสร็จผมก็ไปหาที่นั่ง ไม่นานร่างสูงของแทนคุณก็เดินมานั่งที่โต๊ะ

“สั่งอะไรบ้างน่ะ” ผมถามแทนคุณเมื่อเห็นว่าเขาไม่มีอะไรติดมือ

“ข้าวผัดต้มยำน่ะ กินแค่บะหมี่กูไม่อิ่ม”

“อ่อ งั้นเดี๋ยวมานะ” ผมลุกออกมาจากโต๊ะทันทีเมื่ออีกฝ่ายแค่พยักหน้ารับรู้



จุดหมายของผมคือร้านน้ำที่ตั้งอยู่ไม่ไกล หลังจากสั่งเครื่องดื่มและรับมาถือไว้เรียบร้อยก็เดินกลับมาที่โต๊ะซึ่งพบว่าบะหมี่ที่สั่งไว้ได้เรียบร้อยแล้ว ผมวางเครื่องดื่มในมือลงตรงหน้าแทนคุณที่กำลังก้มหน้าซูดเส้นบะหมี่เข้าปาก พอผมนั่งลงเขาก็เงยหน้าขึ้นพลางมองแก้วน้ำของตัวเอง



“ของกูหรอ”

“ใช่สิ ก็วางตรงหน้ามึงจะให้เป็นของกูหรอ”

“มีย้อนนะเรา” ผมยักคิ้วใส่อย่างกวนๆ ก่อนจะยกแก้วชาเขียวปั่นของตัวเองขึ้นดื่ม



“รู้ได้ไงว่ากูชอบกินอันนี้”

“กูเก่ง”



แทนคุณไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากหยิบแก้วนมชมพูปั่นขึ้นมาดื่ม ผมอมยิ้มขำนิดๆกับภาพตรงหน้า ผู้ชายตัวโตๆกับนมสีชมพูไม่เข้ากับความแมน แต่ใครจะคิดว่าความจริงแล้ว แทนคุณจะชอบกินมาก



“ถ้าโรมเห็นกูแดกไอ้นี่นะ โดนด่าแหง”



ผมเงยหน้าขึ้นมาจากการซดน้ำบะหมี่ ในขณะที่แทนคุณทำแค่จัดการบะหมี่น้ำตรงหน้าให้เสร็จแล้วต่อด้วยข้าวผัดต้มยำที่กำลังต่อคิวรอให้จัดการ



“ทำไมโรมต้องด่าด้วย” แทนคุณกลืนข้าวคำโตลงคอ แล้วยกแก้วน้ำมาดูดอีกอึกใหญ่



“ก็โรมไม่ชอบไง เกลียดทุกอย่างที่เป็นสีชมพูบอกว่ามันเลี่ยน หวานเกินไป แต่กูว่าอร่อยและก็หอมดีออก”



ผมนึกไปถึงวันที่เจอทั้งสองคนในร้านนมปั่นและเห็นแทนคุณกินโอริโอ้ปั่นที่โรมสั่งให้ ทั้งที่ข้อมูลที่ผมได้มาจากน้องเจ้าขาคือคุณไม่ชอบกินโอริโอ้ แต่เพราะว่าเป็นโรมที่สั่งมาให้ถึงกินได้สินะ ผมสลัดความคิดนั้นออกจากหัวพลางคนตะเกียบในชามบะหมี่เล่น มองแทนคุณที่กำลังซัดข้าวผัดต้มยำอย่างเอร็ดอร่อยอยู่อย่างนั้น ในหัวมีคำพูดของโรมลอยเข้ามาวนซ้ำไปมาจนผมรู้สึกอึดอัด





“เอ่อ....”

“อิ่มแล้วหรอ” แทนคุณเอ่ยถามทำให้ผมต้องพยักหน้าทั้งที่เพิ่งจะกินไปไม่ถึงครึ่งชาม แต่กลับไม่รู้สึกอยากกินของโปรดตรงหน้าตัวเองสักเท่าไหร่



“งั้นแป้บนะ”



ผมได้แต่นั่งรอให้แทนคุณกินข้าวจนอิ่มแล้ว คำถามที่ค้างคาใจของผมนั้นก็ปล่อยมันไว้ที่เดิม เขารีบจัดการยัดข้าวลงกระเพาะจนหมดเกลี้ยงทั้งสองอย่าง ก่อนเราจะไปจ่ายเงินค่าอาหารทั้งหมด



“ดูอะไรต่อไหม”

“ไม่อะ” ผมตอบพลางส่ายหน้า แทนคุณถึงได้เดินนำผมออกไปยังลานจอดรถข้างตลาด
 เราเดินผ่านอาคารเก่าที่กำลังอยู่ในระหว่างซ่อมแซ่มจนมาถึงต้นไม้ใหญ่ข้างหลังตึก แทนคุณก็หยุดเดินแล้วหันหน้ามาหาผม



“เป็นอะไรไป”



ผมก้มหน้านิ่ง ขบริมฝีปากล่างอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี ตอนนี้รู้สึกในหัวมันมึนไปหมด ความรู้สึกอึดอัดจนจะระเบิดนี่มันคืออะไรกัน ทั้งที่ผมบอกตัวเองแล้วว่าจะเข้มแข็ง จะไม่คิดอะไรมากมาย แต่ผมกลับทำไม่ได้เลย



“ยู....” ฝ่ามือใหญ่วางลงบนหัวของผมแบบทุกครั้งที่เขาชอบทำ

“มีอะไรอยากถามไหม” เขาละฝ่ามือมาวางลงบนไหล่ของผมทั้งสองข้าวพลางบีบเบาๆ ใบหน้าของคนตัวสูงก้มลงมาอยู่ระดับเดียวกับผม ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาอย่างจำยอม

"มึงรู้ไหมตอนนี้มึงกำลังทำหน้ายังไง"
ผมส่ายหน้าเป็นการตอบคำถาม เขาหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะพูดออกมา
"กำลังทำหน้าที่ทำให้กูรู้สึกผิด ทั้งที่กูไม่รู้ว่ากูทำผิดอะไร" ผมส่ายหน้าให้เขาอีกครั้ง ก่อนตัดสินใจทำลายความเงียบที่ผมก่อขึ้นในใจเงียบๆเพียงลำพัง

"ไม่ มึงไม่ได้ทำอะไรผิด กูต่างหากที่ผิด"
"แล้วมึงทำอะไรผิดล่ะ"

ผมส่ายหน้าอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ ราวกับให้ช่วยปลดปล่อยความอึดอัดในอกออกไป

"ตอนที่โรมโทรมา เขาบอกว่าถ้ากูอยากรู้อะไรให้ถามมึง" ผมจ้องลึกเข้าไปในตาของแทนคุณที่ยังคงมองผมไม่ละสายตาไปไหน

"แล้วกูก็ลังเลว่า กูควรจะถามดีไหม กูไม่รู้ว่าถ้าถามแล้ว มึงจะตอบกูหรือเปล่า"
"ก็ลองถามมาก่อนสิ"

ผมนิ่งอย่างใช้ความคิดเล็กน้อย มองสบตาของแทนคุณที่จ้องกลับมาอยู่เช่นเดิม ก่อนที่ผมจะเสหน้าไปอีกทาง

"โรมบอกว่า มึงกับเขาเป็นแค่เพื่อนสนิทกัน"

เกิดความเงียบโรยตัวอยู่ขณะหนึ่งก่อนที่แทนคุณจะพูดขึ้นทำลายกำแพงความเงียบนั้น

"ใช่"

ผมเหลือบตามองเขาอีกครั้งก่อนจะพูดต่อ

"เขาบอกว่ามึงไม่ได้ชอบเขา มันไม่มีทางเป็นไปได้"

คราวนี้ความเงียบโรยตัวอยู่นานขึ้น เหมือนกับว่าแทนคุณไม่สามารถหาคำตอบให้กับมันได้ผมถึงได้พูดต่อ

"แต่สำหรับความรู้สึกกู กูว่ามันไม่ใช่ ทุกการกระทำ แววตาหรือแม้แต่คำพูดของมึง มันบอกว่่ มึงคิดกับเขามากกว่านั้น"

"....."

"กู....กูกลัว แทนคุณ กูกลัวว่าวันที่กูพยายามต่อไปไม่ไหวแล้วกูจะเจ็บ กูกลัวกูเลิกรักมึงไม่ได้ กูไม่รู้จะทำยังไง"

"....."

"ทั้งที่โรมบอกว่า เขาเชื่อว่ากูจะทำให้มึงรักกูได้ แต่กูกลับไม่มั่นใจเลย"

"....."

"กูเห็นภาพมึงที่หอมแก้มโรมตั้งเป็นภาพหน้าจอมันยิ่งตอกย้ำว่า กูไม่มีทางทำสำเร็จ แทนคุณ กูโคตรงี่เง่าเลยใช่ไหม"

ผมหันกลับไปมองแทนคุณอีกครั้งด้วยแรงบังคับจากมือของเขาที่วางสองมือไว้ข้างแก้มผม เขาฉีกยิ้มให้ผมเพียงนิด ก่อนจะถอดแว่นตาของผมออกแล้วไล้ปลายนิ้วปาดคราบน้ำตาบนหน้าผม

"ตอนนี้มึงโคตรขี้เหร่เลยมากกว่า"


ไม่มีคำตอบจากคำถามมากมายที่ผมพรั่งพรูออกไปนอกจากคำถามสุดท้าย

"ไอ้เหี้ย"ผมพูดเสียงเบาพลางทุบลงไปบนอกของเขาแรงๆ แทนคุณแค่รั้งผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา พร้อมกับที่ผมสะอื้นออกมาอย่างไม่อายใครอีกคน

สัมผัสเบาๆที่ลูบอยู่ที่แผ่นหลังยิ่งทำให้ผมหยุดร้องไห้ไม่ได้ และยิ่งคำพูดแผ่วเบาที่ข้างหูจากแทนคุณยิ่งกระตุ้นให้น้ำตาของผมมันไหลออกมามากกว่าเดิม


"กูขอโทษ"





จบตอน



ไหนคือการบอกไม่ดราม่า เห้ยแก  มันไม่ดราม่าจริงๆเว้ย เชื่อเราเถอะ  ไปดีฟ่าาา ฟิ้ววว~~~
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 05-10-2016 19:13:01
โรมบอกว่า แทนคุณเป็นแค่เพื่อนสนิท แต่เท่าที่เห็นแทนคุณกับโรมอยู่ด้วยกัน ก็รู้เลยว่า แทนคุณรักโรม
ดูแล้วโรมน่าจะรักคนอื่น แล้วแทนคุณรักโรม พอยูมารักแทนคุณ ก็กลายเป็นรักสามเศร้า รู้สึกอย่างนี้เลยอ่ะ ตอนนี้สงสารยูมากที่สุดล่ะ หวังว่าแทนคุณซักวันคงรักยูได้นะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 05-10-2016 19:13:36
อ่านตอนนี้จบสิ่งแรกทีพูด...อิคุ๊ณ!!!! บอกมาสิบอกมา อย่าอมพะนำสงสารน้องงงง
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Minoru88 ที่ 05-10-2016 19:22:15
สงสารยู :sad4: :o12:

โอ๊ยยยยย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-10-2016 19:28:48
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 05-10-2016 20:46:46
ใจก็สงสารยูนิดๆนะ แต่ก็แอบเชียร์อะ 555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 05-10-2016 21:07:33
 :sad4:เราว่าแทนคุณกับโรมอาจจะเป็นพี่น้องพ่อเดียวกันอะไรทำนองนี้ป่ะ. เพราะโรมดูมั่นใจมาก
ว่าไม่ทางเป็นไปได้อ้ะ. ค้างอ้ะ. อยากรู้ตอนต่อไปแล้วอ่า.
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 05-10-2016 21:15:18
ไม่ดีต่อใจเลย เจ็บแปล๊บๆที่ใจแทนยู :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-10-2016 21:25:24
สงสารยู :mew4: :mew4: :mew4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chattcha ที่ 05-10-2016 21:40:34
สงสารยูจัง....
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 05-10-2016 21:53:54
ถึงจะรู้ว่าคู่นี้คงสมหวังอย่างที่คนแต่งบอก แต่ตอนนี้ไม่ชอบแทนคุณมากๆ ลากคนอื่นเข้ามาเป็นตัวเลือก ถึงน้องยูจะเต็มใจก็เถอะ แต่มันเห็นแก่ตัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 05-10-2016 22:08:34
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกติดลบกะแทนคุณอ่ะถ้าไล่ยูตั้งแต่แรกไม่ให้ยูมาใกล้แล้วยูยังตื้ออยู่เราก้จะไม่เกลียดนายนะแต่นี่ยอมให้มาใกล้เพื่อจะลืมอีกคนแต่เวลาอยู่กับยูก้พูดถึงโรมเนี่ยนะเป็นเราๆก้ถอดใจอ่ะ ใจร้ายมากๆกับการกระทำวันนี้นะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-10-2016 22:38:46
จะสูญเปล่าไหม
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 05-10-2016 22:40:34
ยูน่าสงสาร
แทนคุณถ้าจะตัดใจจากโรม
ก้ทำให้มันชัดเจนสิ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 06-10-2016 00:45:47
จ่ะ แล้วแต่แทนคุณเลย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 06-10-2016 02:08:55
โอ๊ยยยย อมพะนำทำไมมมมมมมม (แต่เอาจริงๆดราม่าไปแบบนี้ก็เลิฟมากค่ะ ชอบอะไรที่มันทำร้ายจิตใจ 555)

หรือว่าลูกติดและพ่อกับแม่มาแต่งงานกัน
หรือเป็นแฟนพี่ชายไรงี้ เดาไปเรื่อยมาก 555

ปล.ถ้ามีคู่เเข่งนี่เชียรคู่แข่งขาดใจ อยากเตะอิคุณอีก 10รอบบ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-10-2016 02:11:15
เห้อออออออออออ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 06-10-2016 17:45:25
ชอบเรื่องแบบนี้ มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 8> 100% 05/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 06-10-2016 17:47:51
 :pig4:่
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 06-10-2016 19:12:08


ตอนที่ 9
สายประหลาด



รู้ไหมว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ไหน
นี่ถ้าแม่รู้แม่ตีตายเลยอ่ะ แต่โชคดีที่ผมเป็นผู้ชายถึงแม่รู้แม่ก็คงไม่ว่า เพราะแม่น่าจะคาดไม่ถึงว่าผู้ชายที่อยู่กับผมตอนนี้ไม่ได้เป็นเพื่อนธรรมดา แต่เป็นคนที่ผมกำลังตามจีบ

ผมเฉลยเลยนะ เพราะพวกคุณอาจจะเดาถูกกันแล้ว ว่าตอนนี้ผมอยู่ในห้องของแทนคุณ ภายในคอนโดหรูราคา 7 หลักที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัยสักเท่าไหร่ แต่สามารถมองวิวทะเลที่อยู่ไกลออกไปไม่ถึงกิโลฯได้จากวิวระเบียงของชั้น 17

หลังจากที่ผมซบอกแทนคุณร้องไห้จนตาบวม เขาก็ลากผมขึ้นรถมาทันที โดยตลอดทางที่แทนคุณขับรถมานั้นไม่มีบทสนทนาใดใดเกิดขึ้น ขนาดว่าแทนคุณขับรถเลยทางเข้ามหา’ลัยจนมาถึงลานจอดรถของคอนโด ผมก็เอาแต่นั่งเงียบ ไม่ใช่ว่าผมโกรธ โมโห หรืออะไรนะ

แต่ผมกำลังอายตัวเองที่ปล่อยโฮต่อหน้าเขา พอคิดแล้วก็ได้แต่ก้มหน้ามองเท้าเดินตามหลังแทนคุณมาตลอดทาง

ไม่เคยคิดว่าชีวิตจะต้องดราม่าอะไรขนาดนี้มาก่อน
ร้องไห้หนักสุดเท่าที่จำได้ ก็คือตอนอายุ 6 ขวบ สาเหตุมาจากไข่แดงหุ่นยนต์ไอ้มดแดงที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญถูกพี่ไอเหยียบจนขาหักคอบิดจนไม่สามารถนำกลับมาเล่นได้

แล้วดูนี่สิ ผมอายุย่างเข้า 19 ใช้คำนำหน้าว่านายมาเกือบ 4 ปี ต้องมาก็อกแตกปล่อยโฮต่อหน้าคนที่เพิ่งทำความรู้จักอย่างเป็นทางการไม่ถึงอาทิตย์ดี จะให้ทำตัวร่าเริงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็ไม่ใช่หรือเปล่า


“เอาน้ำสักแก้วไหม” ผมส่ายหน้าไปมา พร้อมกับที่แทนคุณนั่งลงข้างกันที่โซฟาหน้าทีวี

ผมจำพื้นที่ตรงนี้ได้ มันคือจุดที่โรมเคยมานั่งอ่านหนังสือที่แทนคุณเคยโพสลงในเฟซบุ๊คเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมเม้มปาก ก้มหน้าไม่กล้าสบตาแทนคุณในเวลานี้ จนเสียงเปิดทีวีดังขึ้นทำให้ผมเหลือบตาขึ้นมองเล็กน้อย

“วันนี้ค้างที่นี่แหละ สภาพมึงตอนนี้ กูไม่กล้าปล่อยให้อยู่คนเดียว” ผมหันไปมองแทนคุณหลังจากเขาพูดประโยคนั้นจบ กำลังจะอ้าปากคัดค้านเขากลับลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังเดินหายเข้าไปในห้องที่ผมเดาว่าเป็นห้องนอนของเขาเสียก่อน

ภาพจากทีวีเป็นเพลงไตเติ้ลของละครภาคค่ำหลังข่าว ผมที่ไม่ใช่คอซีรี่ย์ถือโอกาสมองซ้ายขวาแล้วหยิบรีโมทมาเปลี่ยนช่องเป็นรายการเพลงที่วีเจกำลังบอกลำดับท็อปชาร์ตของสัปดาห์นี้อยู่ ไม่นานเสียงประตูเบื้องหลังผมก็ดังขึ้น พร้อมกับที่แทนคุณเดินมาหยุดอยู่ใกล้ๆ ในมือของเขามีผ้าขนหนูสีขาวล้วนที่ยื่นส่งมาตรงหน้าผม

“ไปอาบน้ำก่อนไป เสื้อผ้ากูเอาวางไว้บนเตียง ห้องน้ำก็อยู่ในห้องนั่นแหละ”
“ขอบคุณ” ผมบอกเขาพร้อมกับรับเอาของในมือมา

“ส่วนเรื่องที่มึงสงสัย ไว้ให้สมองมึงโล่งแล้วกูจะตอบทุกคำถามให้มึงเอง”

ผมพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหมุนตัวเดินอ้อมโซฟาและตรงไปยังห้องที่แทนคุณเพิ่งเดินออกมา แล้วรีบก้าวเท้าไปยังห้องน้ำที่เปิดไฟทิ้งเอาไว้ พอเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจกเท่านั้น

โอ้ มาย ก็อดเนส!!

นี่คนหรือสัตว์ประหลาดตาปูดที่ไหนเนี่ย หน้าเหมือนลูกครึ่ง คนกับกบผสมพันธุ์กัน ตาปูดอย่างกับลูกมะนาว

ผมไม่แปลกใจเลยที่แทนคุณจะบอกว่าผมโคตรขี้เหร่
คือจริงๆก็ไม่ได้มองว่าตัวเองน่ารักอะไรหรอกนะ แค่ตาโตแก้มป่องหน้าใสไร้สิวมีไอเท็มเสริมเป็นแว่นตาเลนส์กลมใหญ่เกือบครึ่งหน้า แต่ดูตอนนี้สิ โคตรอับอายตัวเอง

ผมถอดแว่นของตัวเองออกแล้ววักน้ำลูบหน้าล้างคราบความเค็มของน้ำตา น้ำมูกที่เลอะเปรอะทั่วจนตัวเองดูแทบไม่ได้ ปกติผมไม่ค่อยใช้โฟมล้างหน้าเท่าไหร่ แต่วันนี้อนุโลมเพราะหน้าตาผ่านศึกมาโชกโชนยิ่งนัก ผมคว้าเอาเครื่องใช้ของแทนคุณที่วางอยู่ตรงเค้าน์เตอร์มาใช้แบบไม่กลัวว่าจะแพ้หรือไม่ ดูจากสภาพหน้าของแทนคุณที่เกลี้ยงเกลาแล้ว ผมเชื่อว่าเขาคงไม่ใช้ของหมดอายุไม่น่าเชื่อถือแน่นอน

หลังจากจัดการใบหน้าตัวเองให้ดูเป็นคนแล้ว ผมก็ทำการเปลื้องเสื้อผ้าแล้วตรงดิ่งไปยังฟักบัวในโซนอาบน้ำ เห็นอุปกรณ์ราคาแพงสมฐานะค่าห้องแล้วก็อยากจะใช้ให้คุ้มค่า กดปุ่มนั่นนี่ปรับระดับความแรงน้ำแล้วก็เริ่มรู้สึกสนุก การอาบน้ำของผมครั้งแรกในห้องของแทนคุณถึงได้กินเวลานาน ไม่ใช่ว่าผมมัวแต่ขัดสีฉวีวรรณนะ แต่กำลังเพลิดเพลินกับฟักบัวในห้องน้ำของแทนคุณต่างหาก

ผมมองขวดครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวดผม ที่วางเรียงอยู่บนตระแกรงข้างผนังแบ่งชั้นอย่างเป็นสัดส่วน ไล่สายตาอ่านข้อความบนขวดในชั้นที่วางครีมอาบน้ำแล้วก็ได้แต่ผิวปากหวือ เพราะนอกจากจะมีครีมอาบน้ำทั่วไปแล้วยังมีสครับไว้ขัดผิวรวมถึงครีมสปาให้ความรู้สึกผ่อนคลายด้วย ผมหยิบมันออกมาใช้ด้วยความอยากรู้อยากลอง

กลิ่นหอมเย็นเหมือนดอกไม้ป่าผสมมิ้นต์ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นจากครีมอาบน้ำที่อ่านชื่อยี่ห้อไม่ออกเพราะไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ต่อจากนั้นก็ไปรื่นเริงกับแชมพูและครีมนวดผมของแทนคุณที่ไม่รู้ว่าพอใช้แล้วเส้นผมจะนุ่มลื่นจัดทรงง่ายอย่างที่คุยไว้ในโฆษณาไหม

พอจัดการตัวเองเสร็จแล้วก็พาดผ้าขนหนูไว้ที่คอพันตัวด้วยผ้าผืนใหญ่แล้วเดินออกจากห้องน้ำมา มองเห็นชุดนอนที่แทนคุณเตรียมไว้ให้เป็นเสื้อยืดกับกางเกงขายาวยางยืด พอมาอยู่บนตัวของผมก็ดูโคร่งเป็นฮิพฮอพบอยไปเลยทีเดียว สภาพเสื้อที่ยาวลงมาปิดต้นขากับกางเกงขายาวที่พับขึ้นมาสามทบใหญ่ เป็นสภาพที่ชวนให้ขำไม่น้อย

แกร๊ก!

แทนคุณหันมามองผมทันทีที่ประตูห้องเปิดออก เขาปล่อยระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นห้อง ผมหน้ามุ่ยเดินเข้าไปใกล้คนตัวโตกว่าแล้วฟาดลงกลางหลังไปเต็มแรง

“ขำเหี้ยไรหนักหนาวะ”

“โทษทีๆ” เขาโบกมือไปมาก่อนจะลากผมอ้อมโซฟาแล้วกดไหล่ลงนั่งที่ระหว่างโต๊ะตัวเล็กกับโซฟาจุดที่โรมเคยนั่งมาก่อนหน้านี้
“เดี๋ยวเช็ดผมให้” แทนคุณว่าแบบนั้น แล้วนั่งซ้อนหลังผมอยู่บนโซฟา

ผ้าขนหนูผืนเล็กที่พาดอยู่บนบ่าผมถูกคลุมลงบนศีรษะพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ของแทนคุณลงน้ำหนักเช็ดขยี้ผ้าลงบนผมที่เปียกอยู่ ยังไม่มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นนอกจากเสียงทีวีที่ฉายอยู่ตรงหน้าเป็นรายการฟุตบอลจากช่องกีฬาพร้อมเสียงคนพากษ์อย่างออกอารมณ์


“แทนคุณ”
“หืม”

ผมตัดสินใจพูดขึ้นมาก่อน ในขณะที่มือใหญ่ยังคงทำหน้าที่อยู่เช่นเดิม

“ห้องน้ำมึงสวยดีนะ”
“หึหึ” แทนคุณหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหยุดเช็ดผมแล้วคลึงนิ้วลงข้างขมับของผมแทน

“สบายไหม”
“อืม”  ผมครางรับในลำคอเป็นการตอบรับ พลางเอนศีรษะพิงโซฟาจนรู้สึกเคลิ้ม ทว่านิ้วที่คลึงข้างขมับให้ผมคลายความตึงเครียดนั้นกลับหยุดลงเสียก่อน

“มึงรู้ไหมว่ากูเคยมีแฟนมาก่อน” ผมลืมตาขึ้นพลางยืดตัวขึ้นมานั่งหลังตรง ก่อนจะหันไปมองแทนคุณอย่างต้องการให้อีกฝ่ายพูดยืนยันสิ่งที่ผมคิดอีกครั้ง

“คงไม่รู้มาก่อนสินะ”
“แล้วมีใครเคยรู้มาก่อนบ้างล่ะ” แทนคุณเพียงแค่ยิ้มก่อนจะตบลงที่นั่งว่างข้างๆ ผมเห็นดังนั้นเลยรีบลุกจากพื้นที่ข้างล่างไปนั่งขัดสมาธิบนโซฟาแล้วหันหน้าเข้าหาแทนคุณทันที

“ก็ไม่เคยบอกใคร เขาไม่อยากให้ใครรู้”
“ทำไม”

“เพราะเขาไม่ได้อยากคบกูจริงจัง เขาแค่ต้องการทดสอบอะไรบางอย่างเท่านั้นแหละ” ผมเห็นแววตาวูบไหวของแทนคุณแล้วก็พอจะเดาได้ว่าแทนคุณยังฝังใจกับรักครั้งนั้น

“กูกับเขาเป็นแฟนกันแค่ 2 อาทิตย์ก็เลิก เพราะไม่อยากโกหกความรู้สึกของตัวเองอีก แถมเรื่องที่เขาอยากหาคำตอบนั้นก็ล้มไม่เป็นท่า”

“แฟนมึงคนนั้น....คือ โรม ใช่ไหม”

แทนคุณหันมามองหน้าผมก่อนจะยิ้มให้แล้วพยักหน้าเป็นคำตอบ ใจของผมกระตุกวูบเหมือนมีใครเอาเชือกมาผูกแล้วดึงมันแรงๆ ผมยื่นมือไปแตะลงที่ต้นขาของแทนคุณแล้วตบเบาๆ

“เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วล่ะ ตอนนี้กูกับโรมเป็นแค่เพื่อนสนิท เพื่อนที่พิเศษกว่าคนอื่นๆ”
“แต่มึงยังรักเขา”

“กูแค่เป็นห่วงเขา รักของกูที่มีให้โรมมันเป็นคนที่ห่วงใยกัน ผูกพันกันเท่านั้นแหละ”
“เจ็บไหมแทนคุณ”

“ไม่แล้ว...ถึงกูจะลืมความเจ็บครั้งนั้นไม่ได้ แต่มันก็จางลงไปเยอะแล้ว” แทนคุณหันมาส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง พร้อมกับแสดงความเอ็นดูที่เขาชอบทำกับผมไม่ต่างจากขยี้หัวให้ผมเสียทรง

โป๊ก!

“โอ้ย! ทำไมชอบเขกหัววะ แม่ง” ผมลูบหัวตัวเองปอยๆ เบะปากใส่อีกฝ่ายให้ว่าไม่พอใจ

“ก็ดูทำหน้าเข้า อินกับเรื่องกูเกินไปหรือเปล่า ปากนี่จะยื่นลงมาจนจะถึงอกแล้ว”
“อะไรที่เกี่ยวกับมึงกูก็อินทั้งนั้นแหละ วุ้ย ขัดใจ” ผมสะบัดหน้ากอดอกหน้าเชิดใส่อีกฝ่าย แสดงท่าทางอาการเมินอย่างเห็นได้ชัด

“งอนหรอวะ”
“................” ผมไม่ตอบ แต่นั่งหันหลังให้อีกฝ่าย

“นี่ขนาดยังจีบกูไม่ติด ยังงอนขนาดนี้ ถ้าเกิดจีบติดแล้ว กูไม่ต้องง้อจนแก่เลยหรือไง”
“เรื่องของมึงดิ” ผมว่ากลับ แต่หน้านี่อมยิ้มแก้มตุ่ยพอใจกับประโยคนี้ของแทนคุณยิ่งหนัก

“มีเล่นตัวด้วยวุ้ย”
“เรื่องของกู” แทนคุณหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับที่ผมเองก็ฝืนยิ้มไม่ไหว เพราะแก้มจะแตกแล้วตอนนี้


“นี่...” แรงสะกิดที่ไหล่ทำให้ผมหันไปมองอีกคนที่มองสบตาผมอยู่ก่อนแล้ว
“มีแรงฮึดที่จะจีบกูต่อหรือยังครับ” 

 “อื้ม” ผมสบตามองตอบแทนคุณพร้อมยิ้มกว้างโชว์ฟันจนเกือบครบสามสิบสองซี่

“ว่าแต่ กูถามอะไรอีกได้หรือเปล่า”
“อยากรู้อะไรอีกล่ะ”
“ทำไมวันนั้น ถึงบอกให้กูจีบมึงหรอ...มึงไม่ได้กำลังหลอกเล่นกับความรู้สึกกู หรือใช้กูเป็นเครื่องมือในการลืมใครในใจมึงใช่ไหมวะ”

“ถ้ากูทำแบบนั้น ก็โคตรเลวเลยใช่ไหม” ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“กูยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่า กูลืมโรมไม่ได้หรอก เขาเป็นรักแรกของกู เป็นแฟนคนแรก เป็นเพื่อนคนแรก เป็นคนที่กูไว้ใจมาก ห่วงมาก แต่เขาก็เป็นคนบอกกูในวันที่เราเลิกกันว่าให้กูเปิดใจ อย่าปิดกั้นตัวเอง แต่จะให้กูทำมันเดี๋ยวนั้นเลยกูทำไม่ได้หรอก กูไม่ใช่เพิ่งเริ่มรักเขาได้วันสองวันนะ”
“..............” ผมเงียบรับฟังสิ่งที่อีกฝ่ายเล่าอย่างตั้งอกตั้งใจ จนแทบลืมหายใจ

“สี่ปียู กูรักโรมมาสี่ปีเต็มๆ แต่พอกูบอกเขา มันก็เหมือนกูทำลายความเป็นเพื่อนของเราลง แต่เขากลับบอกกูว่า ขอบคุณที่กูรักเขา แต่เขารับความรู้สึกนั้นยังไม่ได้ ตอนนั้นกูแทบบ้า กูไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลยหาวิธีระบายความรักที่กูมีต่อเขาด้วยการเปิดแอคเค้าท์อินสตาแกรมขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ”

ผมนึกไปถึงแอคเค้าท์ของแทนคุณในอินสตาแกรม Just-U และนึกถึงภาพในอินสตาแกรมที่เขาโพส มักจะเป็นภาพสถานที่ ของกิน ของใช้ โดยที่ไม่มีบรรยายใต้ภาพอะไรมากมาย

“กูมักจะลงรูปในนั้นเพื่อเก็บเป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่งกูอยู่ที่นั่นกับเขา ทำอะไรบางอย่างด้วยกัน กิน เที่ยว เล่น ให้รู้ว่านั่นคือที่ที่กูมีเขาอยู่ได้ จนเมื่อปิดเทอมก่อนขึ้นม. 5 โรมก็บอกกูว่าจะลองคบกับกูดู ซึ่งตอนนั้นกูดีใจมากตอบรับในทันที เวลา 2 อาทิตย์ตอนนั้นกูยอมรับว่ามีความสุข กูเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่มองข้ามความผิดปกติของโรม จนสุดท้ายเขาทนไม่ไหวก็เลยบอกเลิกกู แล้วก็บอกให้กูกลับไปเป็นเพื่อนเหมือนเดิม เพราะเขาโกหกความรู้สึกตัวเองไม่ได้”

“แล้วมึงก็ยอมหรอ”
“ไม่เลย กูรั้งเขา เกือบทำร้ายเขา แต่เพราะคำพูดที่เขาบอกว่า ถ้ากูไม่หยุดเขาจะหนีไปจากกู แล้วความเห็นแก่ตัวของกูอีก ที่ขอร้องให้เขาอยู่กับกู เขาตกลงเพราะเขาไม่อยากเสียเพื่อนอย่างกูไป  เขาบอกว่าความจริงแล้วกูเป็นคนดีแต่แค่กูคงสับสนระหว่างความรักกับความหลง เขาว่าที่กูเป็นอยู่ไม่ใช่ความรักที่กูมีให้เขา มันคือความผูกพันกันเสียมากกว่า เพราะกูไม่ยอมเปิดใจให้กับใครเลย”

“กูไม่ค่อยคุยกับใคร ไปไหนมาไหนกับใคร เขาบอกให้กูลองก้าวออกมาจากโลกของตัวเองดูบ้าง กูเลยใช้เฟซบุ๊คในการหาเพื่อน ก่อนหน้านั้นกูเคยสมัครไว้แต่แทบไม่ได้เล่น กูเลยเปิดโปรไฟล์แบบสาธารณะไว้แล้วเริ่มเคลื่อนไหวบนเฟซฯที่เกือบร้างของกู แล้วกูก็เริ่มมีเพื่อนบนโซเชี่ยลมากขึ้น จนกูกลัวว่าตัวกูจะหายไปเพราะโลกที่กูสร้างขึ้น กูถึงเริ่มล็อกเฟซฯ แต่ก็ยังมีคนอยากรู้จักกูมากขึ้นจนกูเริ่มมีฐานแฟนคลับ และโลกกูก็เปลี่ยนไปจริงๆ แต่กูก็ลืมโรมไม่ได้ เพราะลึกๆแล้วกูไม่ได้อยากลืมเขาเลย กูยังคงปิดกั้นตัวเองอยู่ดี”

แทนคุณหันมามองผมที่นั่งฟังเขาตาแป๋ว เขาฉีกยิ้มให้ผมนิดๆ วางมือลงบนหัวของผมแล้วขยี้แรงๆ จนผมเริ่มรำคาญถึงได้ปัดมือเขาออก

“แล้วไงต่อ”
“ขี้เผือกเหมือนกันนะมึงนี่” ผมจิ๊ปากใส่เขา แทนคุณเลยใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากผมด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเล่าต่อ

“จนกูมาเจอมึง ยู ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่พอกูเก็บสมุดเล่มนั้นแล้วเห็นภาพตัวเองมันทำให้กูนึกถึงกูเองที่แสดงความรักของตัวเองกับโรมผ่านทางรูปภาพพวกนั้นในอินสตาแกรม แล้วตอนที่กูได้ยินมึงคุยกับเพื่อนมึงในร้านกูก็รู้สึกว่ากูควรทำแบบที่โรมเคยบอกกู ทีแรกกูก็คิดนะว่ามันถูกหรือเปล่า กูกำลังเล่นกับความรู้สึกของมึงหรือเปล่า แต่กูก็อยากจะลองเสี่ยง ยิ่งพอมึงบอกว่ามึงชอบกูมาสองปีแล้ว กูก็ยิ่งนึกถึงตัวเอง การที่แอบชอบใครสักคนมันทรมานกูเข้าใจมันดี กูถึงไม่อยากให้มึงทิ้งโอกาสที่กูให้ มึงเข้าใจกูยัง”

“เหตุผลที่กูอ่อยมึงขนาดนี้”

“เพราะกูอยากให้มึงจีบกูติดนะ ไอ้ตัวเล็ก”


ความรู้สึกพองฟูในอกของผมตอนนี้มันคืออะไร ร่างกายเหมือนจะระเบิดราวกับตัวเองเป็นโกโก้ครั้นช์ ผมบิดขากางเกงนอนที่สวมอยู่ตอนนี้จนมันยับยู่ยี่เพราะไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ตรงไหน และควรจะตอบอะไรกลับไปดี

“เอาล่ะ นี่ก็ดึกแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวมึงนอนในห้องไปนะกูจะนอนที่โซฟานี่เอง”
ผมส่ายหน้าจนผมกระจายเป็นคำตอบ

“ไม่เอาดิ มึงเป็นเจ้าของห้องต้องไปนอนข้างใน กูนอนตรงนี้เอง”
“เอางั้นหรอ”
“เอาแบบนี้แหละ โซฟาแค่นี้กูนอนได้ แต่มึงอ่ะตัวใหญ่จะตาย นอนทีขาก็เลยไปนู้น เดี๋ยวตื่นมาก็เมื่อยไปทั้งตัว”
“แต่กูว่าไม่ดี มึงเป็นแขก จะให้มานอนบนโซฟาแบบนี้มันเหมือนกูเป็นเจ้าบ้านที่ใช้ไม่ได้” ผมขบปากพลางมองไปรอบตัวอย่างใช้ความคิด

“งั้นเอาฟูกมาปูหน้าทีวีก็ได้ เลื่อนโต๊ะออกหน่อยกูก็นอนได้แล้ว”
“กูไม่มีที่นอนสำรอง เพราะไม่ค่อยรับแขก”
“อ้าว แล้วเวลาเพื่อนมาที่ห้องมึงให้นอนไหน”
“เพื่อนกูไม่เคยมาค้างที่นี่”
“โรมไง” ผมพูดสวนไปอย่างรวดเร็ว แทนคุณหัวเราะออกมาก่อนจะชี้นิ้วไปทางห้องนอน
“ก็นอนเตียงกับกูไง”

ผมเม้มปากเล็กน้อย รู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นมาบนหน้า พลางสะกดคำว่า หน้า ด้าน เข้า ไว้
“งั้นก็นอนบนเตียงด้วยกัน”
“จะดีหรอ”
“ดีสิ...นอนด้วยกันบนเตียงนั่นแหละ” พูดจบผมก็รีบลุกจากโซฟาแล้ววิ่งหายเข้าไปในห้องนอนของแทนคุณทันที ได้ยินเสียงหัวเราะของแทนคุณดังตามมาข้างหลังแต่ผมไม่สนใจจะฟังมันหรอก

กระโดดขึ้นเตียงได้ก็ดิ้นไปดิ้นมาก่อนจะลุกขึ้นมานั่งแล้วห่อตัวเองเป็นมัมมี่อยู่ใต้ผ้าห่มก่อนจะกลิ้งออกมาเล่นเป็นเด็กจนเกือบตกเตียง พอได้ยินเสียงประตูเปิดผมเลยรีบมุดตัวลงใต้ผ้าห่มแล้วลากหมอนข้างจากเตียงอีกฝั่งมาวางไว้ตรงกลางแล้วคลุมโปงโผล่มาแค่ครึ่งหน้าที่มีแว่นบดบังอำพรางไว้ได้อยู่

“มึงนี่โคตรตลกอ่ะ ไม่ถอดแว่นนอนหรือไง”
“เดี๋ยวค่อยถอด กูยังไม่ค่อยง่วง”
“อืมฮึ” เขาพยักหน้าทีเล่นทีจริงใส่ผม พร้อมเดินไปยังตู้เสื้อผ้าที่อยู่เยื้องไปทางปลายเตียงฝั่งที่ผมนอน เขาเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเอากางเกงนอนโยนลงบนเตียง ผมเองก็มองการกระทำของเขาไม่วางตา

“ไม่ใช่ว่าใส่แว่นไว้แอบมองกูโป๊หรอกหรอ”
“กูไม่ได้หื่นเหมือนมึงนะ” ผมแหวกลับเสียงดัง ก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมขึ้นมาปิดทั้งหัว

ได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำและเสียงน้ำเปิดทำให้ผมรู้ว่าแทนคุณไม่อยู่ตรงนี้แล้วผมถึงมุดตัวเองออกจากผ้าห่ม แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

มองนาฬิกาเรือนใหญ่ข้างผนังภายในห้องนอนก็เห็นว่าเกือบจะห้าทุ่มแล้ว ผมอ้าปากหาวออกมาเล็กน้อย พอได้เอนหลังลงบนเตียงนุ่มๆ หัวสมองไม่มีอะไรให้คิดมากวุ่นวายอีก เหมือนพลังงานที่หายไปต้องการเติมเต็ม ตาก็เริ่มอ่อนแรงเปลือกตาหนักจนฝืนไม่ไหว

หูผมได้เสียงประตูห้องน้ำเปิดแต่สติของผมกำลังลดลง เสียงกดปิดสวิตช์ไฟให้ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด เหลือเพียงแสงจากโคมไฟที่ข้างหัวเตียงเอาไว้เท่านั้น

“หมดฤทธิ์เลยนะ ไอ้ตัวเล็ก” สัมผัสที่ลูบลงมาบนหัวทำให้ผมยิ้มออกมา ก่อนที่แว่นตาที่สวมอยู่ถูกดึงออกทำให้ผมฝืนลืมตาขึ้น มองเห็นหน้าแทนคุณที่อยู่ไม่ไกลได้อย่างชัดเจน

“มึง”

อีกคนวางแว่นไว้ตรงโต๊ะข้างเตียงฝั่งเดียวกับที่ผมนอนโดยไม่ได้ตอบอะไร แต่ผมรู้ว่าเขาได้ยิน

“ที่มึงเคยบอกว่า กูสามารถเอาแต่ใจตัวเอง เห็นแก่ตัวใส่มึงได้ ถ้ากูจะขอใช้สิทธินั้นได้ไหม”

“อยากขออะไรล่ะ”

ผมฉีกยิ้มใส่เขา แล้วบอกในสิ่งที่ผมอยากเอาแต่ใจให้กับแทนคุณได้รู้

“เปลี่ยนภาพพักหน้าจอไอโฟนมึงได้ไหม”

เขาเงียบ ก่อนจะถอนหายใจออกมา

“กูขอเหตุผล”


“ถ้ากูบอกว่า กูหวงมึง เป็นเหตุผลพอไหม”


และไม่ลืมที่จะขอเห็นแก่ตัวอย่างที่บอกไว้เหมือนกัน





40% Loading






ขออนุญาตมาต่อแบบกระปิดกระปอย  อย่าว่ากันนะตัว นี่คือโหมดขยัน 555555

ปล.เราบอกแล้วว่าไม่ดราม่า อิอิ




หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 06-10-2016 19:41:49
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-10-2016 21:10:01
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-10-2016 21:15:16
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 06-10-2016 21:23:27
ถ้าแทนคุณจะอ่อยขนาดนี้ ก็หวังว่า ยูจะสมหวังนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chattcha ที่ 06-10-2016 21:39:03
แทนคุณเริ่มใจอ่อนแล้วสินะ o18
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 06-10-2016 22:03:22
ยูรีบๆทำให้แทนคุณทั้งรักทั้งหลงเลย เอาให้หนักๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: kail ที่ 06-10-2016 22:04:00
ยูเข้มแข็งไว้นะลูกกกก สักวันแทนคุณขี้อ่อยจะหลงหนูแบบหัวปักหัวปำ 5555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 06-10-2016 23:10:13
ก้อยากจะให้ยูอ่อยบ้างไรบ้างอะ5555555
จีบแทนคุณให้ติดเรวๆน้าาา
รอค่าา
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 06-10-2016 23:11:18
ก้อยากจะให้ยูอ่อยบ้างไรบ้างอะ5555555
จีบแทนคุณให้ติดเรวๆน้าาา
รอค่าา
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 06-10-2016 23:56:48
ก้อยังคงกลัว
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Minoru88 ที่ 07-10-2016 01:10:02
ลุ้นเอาใจช่วยยู

จีบให้ติดนะ คุณก็อ่อยเยอะๆ เปิดใจให้ยูทีเถอะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 07-10-2016 06:27:49
ต้องฟังเพลง"แค่คุณ"ไปด้วยเลยนะเนี่ยเข้ากันดีมาก
ถ้าเมื่อไหร่ที่ยูจีบติดแทนคุณคงจะหวงไอ้ตัวเล็กน่าดู
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 07-10-2016 22:33:04
สงสารแทนคุณเหมือนกันนะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 07-10-2016 22:55:10
ไม่แฟร์อยู่ดีพระเจ้าข้าาา ข้าไม่อินกะการจีบในมนต์ดำเยี่ยงนี้เลย ได้โปรดเอาความชัดเจนด้วยเถิด
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 60% 06/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 08-10-2016 09:50:21
เป็นเรา เราก็ท้ออะ

เห็นภาพพักหน้าจอที่ไร ใจก็ฝ่ออะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 08-10-2016 14:42:16
40% Loading >>>



แทนคุณมาส่งผมที่หอพักนิสิตตอนช่วงเก้าโมงเช้า เพราะเขามีเรียนตอนเก้าโมงครึ่ง ผมเดินยิ้มสบายอารมณ์อย่างคนอารมณ์ดีจนมาถึงหน้าห้องของตัวเอง ยังไม่ทันได้เปิดประตูคนในห้องก็เปิดผลัวะออกมาจนผมสะดุ้งด้วยไม่ทันตั้งตัว

“อ้าว เก็ต”
“เออ กูเอง ไมเมื่อคืนไม่กลับห้องวะมึง” เก็ตในสภาพชุดนิสิตเรียบร้อยที่ผูกเนคไทอย่างถูกระเบียบเป๊ะทั้งที่เทศกาลรับน้องจบลงไปแล้วตั้งแต่คืนวันเฟรชชี่ไนท์ ซึ่งปีหนึ่งหลายคนเลยไม่จำเป็นต้องใส่เนคไทไปเรียน

“อ๋อ วันนี้หลังเลิกเรียนมีพิธีผูกข้อไม้ข้อมือของคณะกูน่ะ แล้วก็ทำพิธีปลดไทใส่ช็อปของวิศวะด้วย กูเลยต้องแต่งเต็มยศ” ผมพยักหน้ารับในระหว่งที่เก็ตเบี่ยงตัวให้ผมเข้าห้อง

“เออ กูมีเรื่องจะถามว่ะ” ผมวางของในมือลงบนโต๊ะเขียนหนังสือฝั่งตัวเอง พลางหันไปมองเก็ตที่ยังไม่ออกจากห้องแต่จับลูกบิดประตูค้างเอาไว้อยู่

“กูเห็นเพจมหา’ลัยในเฟซฯ กับสาวๆในคณะกูเขาเม้าท์กันเรื่องมึง”
“เรื่องกู” ผมชี้นิ้วใส่ตัวเอง ไอ้เก็ตพยักหน้ารับแล้วพูดต่อ

“ก็เรื่องมึงกับคู่จิ้นตอนนี้ที่กำลังดังมากๆเลยไง เห็นว่ามีเพจส่วนตัวด้วยนิ”
“ขนาดนั้นเลยหรอวะ”
“เออ พอผู้หญิงคณะกูแม่งรู้ว่ากูเป็นรูมเมทมึง พวกมันเลยฝากกูมาชวนมึงไปแดกข้าวที่โรงอาหารวิศวะบ้าง” ผมหัวเราะกับคำพูดของเก็ต

“ถ้าวันไหนมึงว่างก็แวะไปบ้างละกัน ไลน์มาบอกกูก่อนนะแล้วกูได้บอกพวกนั้นให้เตรียมตัว”
“เออ ขอบใจนะมึงที่มาบอก”

ไอ้เก็ตเดินออกจากห้องไปแล้วทิ้งให้ผมอยู่ในห้องแค่คนเดียว วันนี้ผมมีเรียนแค่ช่วงบ่ายตั้งแต่บ่ายโมงถึงสี่โมงเย็น ตอนนี้เลยมีเวลานอนต่อ ผมเลยไม่รอช้าที่จะปีนขึ้นบนที่นอนตัวเอง ตื่นมาอีกทีก็เกือบบ่าย ผมถึงรีบอย่างกับไฟลนก้นเพื่อไปให้ทันเข้าคาบเรียนแบบฉิวเฉียด

หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างแทนคุณกับโรมไปแล้ว สำหรับผมแล้วถือว่าโอเคขึ้นมาก อย่างน้อยผมก็ได้รับรู้ในสิ่งที่แทนคุณไม่เคยคิดจะบอกใคร ผมเข้าใจในเรื่องที่โรมพยายามบอกผมทั้งหมด นั่นเพราะไม่ว่าแทนคุณจะรู้สึกดีกับโรมมากขนาดไหน ต่อให้อยากกลับไปอยู่เคียงข้างในฐานะคนเคยคบกัน แม้จะแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่สำหรับโรมแล้วฐานะของแทนคุณเป็นได้แค่เพื่อน โรมถึงได้พยายามให้ผมเข้าใจว่าเรื่องของโรมและคุณมันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน

มองจากมุมของผมแล้ว ก็รู้สึกสงสารทั้งคุณและโรมนะ แต่ปัญหาของใครคนนั้นก็ต้องแก้ เหมือนกับปัญหาของผมที่กำลังเผชิญอยู่ ผมอาจจะไม่มั่นใจในตัวเอง แต่เมื่อทุกคนเชื่อว่าผมทำได้ ผมก็จะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด

อย่างน้อย ผมก็จะถือว่าผมได้พยายามทำแล้ว


หลังเลิกเรียนผมยังคงเป็นยูผู้โลกส่วนตัวสูง หนึ่งในสมาชิกสายประหลาดที่สามารถคุยกับทุกคนได้แต่ไม่ไปไหนมาไหนด้วยถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ผมถึงได้โบกมือลาเพื่อนร่วมคณะหลังเลิกวิชาสุดท้ายแล้วปลีกตัวออกมาเดินคนเดียว

“อีเด็กยู!”
“อีเด็กทรยศ!”

เสียงประสานสองเสียงที่ดังก้องอยู่ใต้อาคารเรียนทำให้เท้าของผมชะงักหยุดอยู่กับที่ ก่อนจะหันไปเผชิญกับต้นเสียงที่ดังมาจากโต๊ะประจำของรุ่นพี่ปี 2 ที่มีสมาชิกสายประหลาดรวมตัวอยู่

“ไม่คิดจะทักทายพี่รหัสของมึงเลยรึไง”
“ย่ารหัสก็นั่งหัวโด่อยู่นี่เช่นกันนะคะ”

ผมรีบสาวเท้าเข้าไปใกล้โต๊ะที่ทั้งพี่เปรียวและพี่ลูกหนูนั่งอยู่ ไม่พอเท่านั้นพี่เต็มพี่รหัสที่นานทีผมจะเห็นหน้าก็กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาจ้องไอแพดในมือแกไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสักนิดโดยที่สุมหัวอยู่กับพี่ดาด้าแฟนสาวของแกที่เรียนอยู่คนละเอก

“สวัสดีครับพี่ๆ”

“กองไว้ตรงนั้นเลยย่ะ” พี่ลูกหนูพูดพลางเชิดหน้าสะบัดปลายผมย้อมสีแดงเพลิงของเธอใส่ผมเป็นแอ๊คติ้งเสริม
“มานั่งนี่เลยอีเด็กยู” พี่เปรียวทอมหนึ่งเดียวในสายที่บอกแล้วว่าแกหน้าตาดีมากแต่เสียอยู่อย่างคือความสถุนที่ไม่มีใครเกิน

“พี่เปรียวเรียกยูเฉยๆดีกว่าครับ”
“ไม่ กูพอใจจะเรียกมึงแบบนี้ อียูเด็กทรยศ”
“พี่เปรียวอ่า”
“มึงเงียบหน่อยดิ กูแกะท่าไม่ถูก” เสียงพี่เต็มร้องขึ้นมา พร้อมกับพี่ดาด้าเงยหน้ามามองผมกับพี่เปรียวสลับกัน

“พวกมึงนี่ก็บ้า งวดนี้จะเต็มคัฟเวอร์อะไรล่ะ” พี่เปรียวถามแต่กลับไม่ได้คำตอบจากพี่เต็มและพี่ดาด้าเพราะกำลังจดจ่อกับการดูไลฟ์ในไอแพด พี่เปรียวถึงได้ละความสนใจในการเผือกแล้วหันมาทางผมแทน

“แล้วมึงน่ะ จะไปไหนเห็นเลิกเรียนแล้วก็รีบกลับตลอด”
“กลับหอพี่ ไม่ได้ไปไหนหรอก”
“กูนึกว่าจะรีบไปเฝ้าผัวเสียอีก”

“พี่เปรียว” ผมร้องเสียงหลงหลังจากได้ยินสิ่งที่พี่เปรียวพูดออกมา
“ผมกับแทนคุณยังไม่ได้เป็นอะไรกันนะพี่” พี่เปรียวแค่ไหวไหล่ ก่อนจะหันไปหาเมียแกที่นั่งอยู่ข้างกัน
“เจอรี่ มึงเอาให้มันดู”

พี่ลูกหนูหยิบมือถือที่วางอยู่ตรงหน้าแล้วส่งมาที่ผม ทำให้เห็นว่าหน้าจอของโทรศัพท์เปิดไฟล์วิดีโอทิ้งเอาไว้ พอกดปุ่มเพลย์ภาพมืดๆที่เห็นก็เริ่มสั่นและเป็นเงารางก่อนจะชัดขึ้นจนเห็นเป็นภาพเมื่อมีแสงลอดออกมาพอให้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“พี่เปรียว พี่ลูกหนู....นี่มัน”

ภาพวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ประมาณเกือบสามนาทีจบลง ผมส่งโทรศัพท์คืนให้กับพี่ลูกหนูอีกที พี่เขาส่งยิ้มมาให้ราวล้อเลียนทำให้รู้เลยว่าผมกำลังถูกซักฟอกอีกแล้ว

“เป็นไง อีเด็กยูน้องรัก ยืนกอดกันแน่นขนาดนี้จะโกหกว่าไม่ใช่ผัวอีกไหม”
“พี่เปรียว! พี่ ผมพูดจริงๆว่าไม่ใช่ผัว เพื่อนกันพี่”
“เพื่อนกันไม่กอดกันกลมขนาดนั้นป่าววะ แล้วดูที่มึงซบอกมัน แล้วมันลูบหัวดิ มึงบอกกูมาเลยว่าเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น”

ผมเม้มปากมองพี่สองคนสลับกัน ก่อนจะเลยไปยังพี่เต็มและพี่ดาด้าที่เงยหน้าจากการดูไลฟ์ในไอแพดแล้ว

“เมื่อวานพี่กับเปรียวจะไปหาอะไรกินที่ตลาด พอจอดมอ’ไซค์เสร็จ พี่ดันทำสร้อยข้อมือหลุดตอนถอดหมวกกันน็อค เลยก้มหากันอยู่นานสองนาน จนได้ยินเสียงคนคุยกัน พี่กับเปรียวเลยไปหลบอยู่หลังรถยนต์ที่จอดแถวนั้น พอเห็นว่าหน้าคุ้นๆแล้วสังเกตดีๆก็เห็นว่าเป็นยูกับแทนคุณกำลังคุยกัน พี่กับเปรียวเลยแอบอัดวิดีโอไว้อย่างที่เห็น”

“แสดงว่าพี่ได้ยินหมดเลยหรอ”
“ก็ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง”

“พอๆไม่ต้องอธิบายมันแล้ว มึงตอบกูมาเลย ว่ามึงกับแทนคุณนี่ขั้นไหนยังไง”
“ดาเห็นในเพจเขาจิ้นกันเยอะมากกกกก ไม่คิดว่า...”

“ยังพี่ยัง ไม่ถึงขั้นไหนหรอก เราเป็นเพื่อนกันจริง”
“เลิกตอแหลอียู มึงเคยไลน์มาถามกูอยู่ว่าถ้าจีบผู้ชายนี่ยากกว่าจีบผู้หญิงมั้ย พอกูเค้นถามมึงก็บอกกูว่ามึงชอบไอ้เดือนมหา’ลัย”

“กรี๊ดด จริงหรอเปรียว” เสียงพี่ดาด้าร้องลั่น
“ชะนีอย่ากรีดร้อง”
“อีเต็ม มึงด่ากูหรอ” แล้วพี่ดาด้าก็หั่นไปตบตีกับพี่เต็มต่ออีกที แต่ดูพี่เต็มจะชอบใจนะเพราะหัวเราะกรี๊ดๆวิ่งหนีไปเรื่อย

“ปล่อยอีคู่ประหลาดนั่นไป มึงตอบกูมาเลยอย่าอมพะนำ”
“พี่เปรียวอ่า....”

“กูนับหนึ่งถึงสาม ถ้ามึงไม่บอก กูจะโทรฟ้องอีมิสเบล”
“หนึ่ง”

ผมอ้าปากค้าง ถ้าการที่เรื่องนี้เขาหูพี่อิสระหรือมิสอิสซาเบลล่ะก็...

“สอง”
ชีวิตอันแสนเสรีของผมที่จะได้ไปไหนมาไหนอย่างสะดวกจะถูกริดรอนไปขนาดไหน เพราะมิสอิสซาเบลแกอยากให้ผมเป็นเชียร์ฯตัวยอดคู่กับหญิงปลิวที่เป็นดาวคณะฯในงานกีฬาเฟรชชี่ แต่ผมยืนกรานปฏิเสธและได้เป็นแค่ทีมสวัสดิการ แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนพี่แชมีซึ่งผมไม่คิดว่าแกจะเป็นเพื่อนกับมิสอิสซาเบลมาบอกว่าได้ทาบทามผมไปเดินพาเหรด

มิสอิสซาเบลถึงได้ตามจ้องล้างแค้นผมอยู่ตลอดเวลา
เพราะฉะนั้นแล้ว...

“สะ...”
“ยอมแล้วๆ พี่เปรียว ผมเล่าให้ฟังก็ได้”

“ต้องให้กูขู่นะมึง”
“แล้วพี่จะอยากเผือกเรื่องผมอะไรนักหนา”

“อ่อ นี่มึงด่ากูหรออีเด็กยู ได้เลย กูโทรหาอีมิสเบลเดี๋ยวนี้แหละ”

“ขอโทษค๊าบบบบบบบบบบบบบบ” ผมรีบยึดมือแกไว้ทันที พอเห็นแกมองปราดมาด้วยหางตาพร้อมยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเหมือนเดิมผมก็หายใจได้ทั่วท้อง พร้อมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ไม่ต้องลีลา เล่ามากูรอฟัง”

ผมไม่มีทางเลือกให้เลือกอีกถึงได้แต่มองหน้าพี่ลูกหนูที่มองผมตาแป๋วอย่างรอตั้งใจฟังและพี่เปรียวที่มองอย่างกดดัน

“ตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงจีบกันอยู่แค่นั้นแหละ”
“อะไรคือแค่นั้นแหละ เอาให้เคลียร์”

“ก็มันมีแค่นี้แหละพี่ คือแทนคุณบอกว่าอ่อยผมอยู่ แล้วอยากให้ผมจีบติด”
“อะไรของพวกมึง มีแบบนี้ด้วยหรอวะ” พี่เปรียวดูอารมณ์เสียเล็กน้อยเหมือนว่าคำตอบที่ผมบอกนั้นไม่เป็นที่ถูกใจ

“แล้วตอนนี้จีบติดยัง”
“ยังครับ” ผมตอบพี่ลูกหนูไป

“มันเล่นตัวหรอ”
“ไม่ใข่แบบนั้นพี่ คือ...ผมกับแทนคุณเพิ่งทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการไม่ถึงอาทิตย์ดี แถมเพิ่งมีกระแสเริ่มจิ้นคู่ผมอีก ถ้าเราจะตกลงเป็นแฟนกันเลยมันก็เร็วไป อีกอย่างแทนคุณเขาก็ไม่ได้ชอบผมแบบนั้นด้วย”

“ห๊ะ ไม่ชอบมึง แต่อ่อยให้มึงจีบเนี่ยนะ” ผมพยักหน้า
“มันเป็นผู้ชายแบบไหนวะ”

ผมไม่ได้ตอบอะไรพี่เปรียวกลับไป ได้แต่มองพี่เปรียวที่กำลังนั่งขบคิดอะไรสักอย่างด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“แล้วมึงชอบมันมากแค่ไหน” พี่เปรียวหันมาถามผมอีกครั้ง ผมอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบยังไงดี ในเมื่อเรื่องที่พี่เปรียวรู้จากผมมันแค่ผิวเผินเท่านั้นไม่ได้รู้ลึกเหมือนที่ผมเล่าให้อันอันกับว่านฟังเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจพี่เขานะ แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องเป่าประกาศให้รู้กันทั่วไม่ใช่หรือไง

“เออ ไม่ต้องตอบกูก็ได้ คำถามมันตอบยากนักหรอวะ แต่ช่างเหอะ เมื่อวานจากสิ่งที่กูเห็นและได้ยินคร่าวๆกูพอเดาออกว่ามึงคงรักมันมาก”

“ครับ”

“แล้วจะเอาไง มึงมีวิธีเด็ดๆจีบมันแล้วยัง” ผมส่ายหน้าไปมา ก่อนจะตอบคำถามเรื่องนี้
“ความจริง ก็ใช้วิธีทั่วๆไป ไปวนเวียนใกล้ๆ หาของที่ชอบไปให้แบบนี้อ่ะพี่”

“เชยมาก” เสียงพี่ลูกหนูพูดขึ้นมา
“จริง เจอรี่มึงมีวิธีเด็ดๆไหม”

“เอาวิธีเดียวกับที่กูใช้จีบมึง ดีป่ะ” พี่ลูกหนูพูดตอบพี่เปรียว เล่นเอาผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน ผมเข้าใจมาตลอดว่าพี่เปรียวตามจีบพี่ลูกหนูนะแล้วทำไมมันถึง...

“มึงว่าอีเด็กนี่มันกล้าทำหรือไง เขาไม่แรดเหมือนมึงนะ”
“ห่าเปรียว กูจะถือว่านั่นคือคำชม”

“พะ...พี่ลูกหนูจีบพี่เปรียวก่อนหรอ” ผมถามออกมาด้วยความไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน พี่ลูกหนูปิดปากหัวเราะอย่างมีจริต

“มันหมดยุคผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายตั้งรับแล้วนะคะ เดี๋ยวนี้บุกได้ต้องบุกค่ะ คว้าได้ต้องรีบคว้า” พี่ลูกหนูคว้าคอพี่เปรียวมากอดไว้แน่นแล้วกดจมูกหอมแก้มแกฟอดใหญ่ เล่นเอาผมที่มองภาพตรงหน้าขนแขนลุกเกรียว

จั๊กจี้ที่หัวใจชะมัด

“พี่ลูกหนูทำยังไงหรอครับ”

“ไม่ยากเลย เอาหูมาใกล้ๆสิ” คุณย่ารหัสคนสวยของผมกวักมือเป็นเชิงให้ผมโน้มตัวไปใกล้ๆ แล้วพี่ลูกหนูก็พูดเสียงเบาราวกระซิบเมื่อผมยืดตัวข้ามหน้าพี่เปรียวไปใกล้เธอ





“สามขั้นตอนสั้นๆ  แค่มอมเหล้า ลากเข้าห้อง แล้วจับปล้ำ”





 :katai5: :katai5:
จบตอน



มาคุยกันเถอะ !

สายประหลาดเปิดตัวแล้ว ฮ่าๆๆๆ  :katai2-1: ตอนหน้าไปค่ายอาสากันนะ เอาใจช่วยหนูยูจีบแทนคุณพ่อเดือนมืดด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ

 :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 08-10-2016 15:04:04
หมดเรื่องจะคุย! 555 พี่ลูกหนูแซบ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 08-10-2016 15:15:35
อยากไปค่ายอาสาแล้วววว
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 08-10-2016 15:35:47
คำแนะนำพี่ลูกหนู ยูคงไม่กล้าทำมั้งนิ :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-10-2016 16:17:49
 :-[ :-[ :-[  ยูเจอพี่ๆแนะนำแบบนี้จะทำไงอะ ทำตามป่าว 55555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 08-10-2016 17:12:12
พีคคค
55555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 08-10-2016 18:38:41
น้องยู ป้ารู้ว่าหนูแอบสนใจเคล็ดลับที่ย่ารหัสแนะนำ  :katai3: :katai3:
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: ravyy ที่ 08-10-2016 19:28:38
  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
น้องยูทำตามคำแนะนำเลยค่ะ เชียร์ 555555555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-10-2016 22:31:42
สายประหลาดจิงๆ 55555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-10-2016 01:24:20
สุดยอดสายรหัสจริงๆ มีอย่างที่ไหนสอนน้องไปปล้ำผู้ชาย 555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 9> 100% 08/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-10-2016 07:06:44
แต่นี่อยากให้ตัดใจนะ อ่านละเครียดเกร็งตลอดเลย


น้องยูหายเครียดยิ้มร่าอิป้าคนอ่านนี่หน้าเครียดคิ้วขมวดแน่นขึ้นทุกบรรทัด

คือเอ็นดูยู แต่แบบ ไม่อยากเชียร์ให้พยายาม ความรู้สึกแบบหนูดีเกินไปที่จะมาอยู่ตรงนี้

ไม่ใช่อะไร ออร่าหนูพระรองมากลูก จนป้ากลัวหนูช้ำตายก่อนสำเร็จ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 09-10-2016 18:40:28
ตอนที่ 10
ติดอยู่กับตัวเอง




“สามขั้นตอนสั้นๆ แค่มอมเหล้า ลากเข้าห้อง แล้วจับปล้ำ”
“..............แค่มอมเหล้า ลากเข้าห้อง แล้วจับปล้ำ”
“.......................ลากเข้าห้อง แล้วจับปล้ำ”
“................................แล้วจับปล้ำ”
“....ปล้ำ.....ปล้ำ......ปล้ำ”


“อ๊ากกกกกกกกกกกก ใครมันจะไปทำแบบนั้นได้เล่า”
“มึงเป็นอะไร ไอ้เกี๊ยว”

ผมหยุดทึ้งหัวแล้วหันไปมองคนพูดซึ่งเป็นเจ้าของห้องที่ผมกำลังอยู่ในตอนนี้ ผมบังเอิญเจอไอ้ว่านกำลังขี่สกู๊ปปี้ไอลูกรักของมันผ่านมาทางหน้าคณะผม ทำให้ผมที่หลุดออกมาจากวงสายประหลาดสายรหัสของตัวเอง วิ่งตัดหน้ารถมันแล้วกระโดดเกาะมันจนมาถึงหอที่มันพักอยู่

“ตั้งแต่มึงมา ก็เอาแต่เดินหมุนไปหมุนมา แล้วก็ทำตัวบ้าๆขยี้หัวบ้างทึ้งผมบ้าง มึงเป็นอะไร”
“กู...ก็แค่....เออ กูมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” ผมทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงมันอย่างแรง
“เรื่องอะไร”  ไอ้ว่านลากเก้าอี้มานั่งจ้องหน้าผมเค้นเอาคำตอบ

“ก็เรื่องจีบแทนคุณน่ะแหละ จะมีเรื่องอะไรได้”
“โห นี่มึงยังจีบไม่ติดอีกหรอ กูนึกว่าติดแล้วเสียอีก”
“บ้าดิ เขาเพิ่งบอกให้กูจีบได้เมื่อสามวันก่อนเองนะ”
“กากสัด มึงไม่เคยดูข่าวดาราหรอวะ คบกันไม่กี่อาทิตย์แต่งงานกันเลยยังมี” ผมมองหน้าไอ้ว่านตาโต

“จริงหรอวะ”
“เออดิ บางคู่แม่งคบกันได้หนึ่งวัน อีกวันประกาศแต่งงานก็มีนะเว้ย”
“มันไม่เร็วไปหรอวะ”
“เอ้า แล้วต้องรอให้เหนียงยานก่อนแล้วค่อยจับกินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวหรือไง นี่มันสมัยไหนแล้วครับ” ผมมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา และไม่เชื่อว่าไอ้วุ้นเป็ดมันจะคิดอะไรแบบหัวสมัยใหม่ได้ขนาดนี้ หรือว่าผมจะหัวโบราณเกินไป หรือว่าเดี๋ยวนี้เรารับค่านิยมตะวันตกมาเยอะเกินไป

ยิ่งคิดก็ยิ่งมึน ยิ่งมึนก็ยิ่งเครียด ผมถึงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างแรง

“ก็กู......ไม่รู้เว้ย”
“มึงแม่งโคตรเด็กน้อยอ่ะ อ่อน”
“เหี้ยว่าน มึงเอาแต่ด่ากูอยู่ได้ ไหนมึงบอกกูหน่อยดิว่ามึงเคยจีบใครติดบ้าง ต้องให้กูสาธยายไหมว่าตอนเด็กมึงอกหักมากี่ครั้ง ร้องไห้มากี่หน โดนด่าแซกหน้ามากี่รอบ”
“โอเค กูขอโทษ”
“ก็กากเหมือนกันแหละ” ไอ้ว่านแยกเขี้ยวใส่ผมก่อนจะลากเก้าอี้กลับไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของมันเหมือนเดิม

“แล้วนี่มึงจะมาสิงห้องกูเลยใช่มั้ยครับ” ไอ้ว่านมันเคาะนิ้วลงบนโต๊ะในระหว่างที่เปิดชีทในมือมันไปด้วย
“เออ คืนนึงขี้เกียจกลับเข้าไปในมอแล้ว” ผมบอกพลางบิดขี้เกียจทิ้งตัวลงบนเตียงของไอ้ว่าน

“แต่วันนี้กูมีไปฟอร์มวงครั้งแรกกับพวกพี่เต้”
“หรอ กูเฝ้าห้องให้ได้”

ไม่มีคำตอบรับจากไอ้ว่าน ผมจะถือว่านั่นคือคำตอบตกลงของมัน มองเห็นมันกำลังทำหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารในมือก็เดาว่าอาจจะเป็นการบ้านของมันก็ได้ เห็นมันดูรั่วๆบ้าบอไปวันๆ แต่ไอ้ว่านมันมีความรับผิดชอบสูง ผมเลิกสนใจมันแล้วกลับมานั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียง หยิบเอาโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาเล่นแทน

ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวทำให้ผมกดจิ้มไปมาอยู่กับโทรศัพท์ เดี๋ยวยกแนบเข้าออกจากหูเป็นพักๆ เสร็จแล้วก็ส่งข้อความไลน์ไปหาแทนคุณ แต่อีกคนยังไม่ได้อ่าน

YOU: ถึงห้องยัง
ผมมองนาฬิกาที่บอกว่าเพิ่งจะหนึ่งทุ่มตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงห้องหรือเปล่า ผมคิดนั่นนี่ไปเรื่อยเสียงไอโฟนของไอ้ว่านก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“ครับพี่...อ๋อครับๆ...งั้นอีกยี่สิบนาทีเจอกันครับ” ไอ้ว่านวางสายพร้อมวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่รีบวิ่งหายเข้าห้องน้ำแล้ววิ่งผ่านหน้าผมไปที่ตู้เสื้อผ้า

“มึงจะไปแล้วหรอวะ”
“เออ พอดีพี่เต้โทรมาว่าที่ร้านเขาเลื่อนคิวเร็วขึ้น”
“อ๋อ”

ผมเลิกสนใจไอ้ว่านที่วิ่งหายเข้าห้องน้ำไปอีกรอบพร้อมเสื้อผ้าของมัน ก่อนมันจะออกมาด้วยชุดเต็มยศชุดใหม่ เสื้อยืดสกรีนลายกราฟฟิกและยีนส์เดฟเข่าขาด มันเซ็ทผมตัวเองเล็กน้อยแล้วใส่ต่างหูที่ข้างซ้ายสามรู ข้างขวาอีกหนึ่งรู

“มึงอยู่ได้จริงนะเว้ย”
“เออ กูโตแล้วไม่ต้องห่วง” ไอ้ว่านสวมคอนเวิร์สสีแดงหุ้มข้อเรียบร้อยก็หันมากำชับผมอีกครั้งก่อนออกจากห้อง

“ชุดนอนที่จะเปลี่ยนก็คุ้ยๆเอาในตู้กูนะ ถ้าง่วงก็นอนไปเลยไม่ต้องรอกู ไม่รู้จะเลิกกี่โมง”
“เออ โชคดีมึง”

เสียงปิดประตูห้องดังขึ้นให้รู้ว่าไอ้ว่านออกจากห้องไปแล้ว ผมยังคงเมามันกับการไลน์คุยกับพวกสามสาว หัวข้อที่คุยตอนนี้คือเรื่องที่เราจะไปค่ายอาสากันในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ คนที่ดูจะตื่นเต้นมากสุดดูจะเป็นเปรี้ยวที่เรียนคนละที่กับพวกเรา

ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: ตื่นเต้นแทนพวกแกอ่ะ โดยเฉพาะหนูเกี๊ยวของเรา
Sweet Water: ไปยัดใต้โต๊ะไหมยู จะได้นอนกับคุณ
AunAun: ใช่เลย ว่าแต่ตอนนี้ไปถึงไหนบ้างเกี๊ยว
Sweet Water: ไม่ต้องห่วงพวกเรานะยู เราได้ยินจากอันอันแล้วว่ายูชอบเป็นห่วงแฟนคลับคุณโรม
Sweet Water: เอาจริงๆ ยูเป็นเพื่อนเราเราก็ต้องเชียร์ยูมากกว่าอยู่แล้ว
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: ใช่ค่ะ ถูกที่สุด
YOU: ขอบคุณนะทุกคน เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก
YOU: แล้วนี่ไปค่ายอาสามีกำหนดการอะไรบ้าง รู้ไหม
AunAun: เออใช่ ลืมไปเลย ขอโทษนะเกี๊ยว พอดีหวานฝากใบรายละเอียดค่ายอาสาไว้ที่เราแต่ลืมเอาให้อ่ะ
YOU: ไม่เป็นไรๆ
Sweet Water: ขอให้ได้นั่งรถไปคันเดียวกับคุณด้วยเถอะ
ด.ญ.เปรี้ยวจัดจ้าน: แกอย่าลืมถ่ายรูปมาลงเยอะๆนะเว้ย

ระหว่างที่กำลังคุยกับสาวๆ เสียงไลน์อีกอันก็เด้งขึ้นมาให้ผมออกจากห้องแชทของสาวๆไปก่อน เพราะคนที่ส่งข้อความใหม่มานั้นคือแทนคุณ

TK-KHUN: ว่าไง
YOU: ถึงห้องแล้วหรอ
TK-KHUN: ยัง พอดีไปคุยเรื่องค่ายอาสากับพวกพี่ๆเขาเลยเพิ่งเห็นไลน์
YOU: อ๋อ แล้วนี่อยู่ไหนอะ
TK-KHUN:: กำลังไปรับโรมที่คณะ
YOU: อืม
YOU: เออนี่ เดี๋ยวลองโทรมาหน่อยได้ป่ะ
TK-KHUN:: โทรทำไม

ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปและวางโทรศัพท์ไว้ตรงหน้า ไม่นานนักหน้าจอโทรศัพท์ก็ขึ้นชื่อของแทนคุณขึ้นมาพร้อมภาพที่ผมแอบเซฟมาจากเฟซฯ ผมไม่รู้ว่าแทนคุณจะกำลังทำหน้าตาแบบไหน แต่ผมกำลังยิ้มให้กับโทรศัพท์ที่สั่นอยู่โดยไม่คิดจะรับ เพราะผมเพิ่งทำการสมัครเสียงรอสายและเลือกใช้เพลงนี้เพื่อคนพิเศษของผมโดยเฉพาะ


ถ้าฉันมีใครคนหนึ่งให้รัก จะไม่ขอให้เขารักคืนมา
แค่ได้รักฉันก็คงจะสุขใจ กว่าที่จะไปคาดหวังอะไร
รู้มั้ยใจฉันมีเธอที่รัก เพียงพอแล้ว
ไม่ว่าเธอรักฉันหรือไม่
แค่วันนี้ได้รักเธอ ก็ทำให้ฉันสุขใจ

แต่มันก็ไม่ผิดใช่ไหม ก็เราจะเชื่อในรักบ้าง

   
(ไม่ว่าเธอจะรักฉันหรือไม่ – Friday)


หน้าจอโทรศัพท์ดับไปแล้วพร้อมกับที่ไลน์ของแทนคุณเด้งขึ้นมาทำให้ผมเปิดเข้าไปดู

TK-KHUN:ให้คะแนนความพยายามในการหาเพลงนะ
TK-KHUN: ขอบคุณ : )
TK-KHUN:Sent a sticker

ผมมองสติกเกอร์ไลน์รูปหมายิ้มที่แทนคุณส่งมาให้แล้วก็ต้องเผลอยิ้มตาม หัวใจตอนนี้เลือดกำลังสูบฉีดอย่างรุนแรงเลยล่ะ ตื่นเต้น ดีใจ อารมณ์เบิกบานมันผสมปนเปกันไปหมด แค่เพราะแทนคุณ มันเพราะเขาคนเดียวจริงๆ ผมดิ้นไปมาบนเตียงไอ้ว่านได้พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบมือถือแคปภาพสกรีนหน้าจอของตัวเองที่เป็นหน้าบทสนทนาไลน์แล้วก็เข้าไปยังแอพฯตกแต่งรูปเล็กน้อย แปะไอค่อนหัวใจไปทั่วแชท ใส่ตัวกระต่ายเคลิ้มฟินไปดาวอังคารจนเป็นที่พอใจแล้วก็แชร์เข้าแอพฯอินสตาแกรม

ความสุขเล็กๆในพื้นที่ส่วนตัวของผมที่น้อยคนนักจะรู้

Nathakhun2U สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า ‘คุณ’ #อยากให้รู้ว่ารัก #มีความฟินเล็กๆ





ผมเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้สะดุ้งตื่นมาอีกทีตอนเที่ยงคืน 5 นาที ไอ้ว่านยังไม่กลับมาที่ห้อง ก้มมองสภาพตัวเองก็พบว่ายังไม่ได้อาบน้ำเลยด้วยซ้ำ ผมบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นลากตัวเองที่ยังงัวเงียด้วยเมาขี้ตาเข้าห้องน้ำ พอได้อาบน้ำแล้วก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก ผมหยิบมือถือที่วางอยู่กลางเตียงขึ้นมาเปิดดู เห็นแจ้งเตือนจากไอ้ว่านบอกว่ากำลังกลับเมื่อตอนเที่ยงคืนเป๊ะๆ แต่แจ้งเตือนในเฟซฯนี่มีเยอะมากจนขึ้นตัวแดง 99+ อยู่ที่หน้าไอค่อนแอพฯ

ผมไม่ได้เข้าไปเช็คเฟซบุ๊คแค่วันเดียวมีความเคลื่อนไหวอะไรมากมายบนหน้าไทม์ไลน์ พร้อมกับคำร้องขอเป็นเพื่อนที่เพิ่มขึ้นด้วย แต่ที่ทำให้ผมรู้สึกแปลกใจคงเพราะคำร้องขอเป็นเพื่อนที่เข้ามาเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว

Ratirom Ronnasith ได้ส่งคำร้องขอเป็นเพื่อน

นี่โรมเล่นเฟซฯหรอ

รติรมย์ รณสิทธิ์ คือชื่อของโรม ผมจำได้จากใบรายชื่อที่ติดอยู่หน้าห้องวันที่รายงานตัวเข้าหอ ผมไม่รอช้ากดเข้าโปรไฟล์ของผู้ใช้เฟซบุ๊คคนนั้นทันที และความคิดของผมก็ถูกต้องจากโพสต์ที่ถูกแท็กล่าสุดในหน้าไทม์ไลน์ของเขา แม้ว่าภาพประจำตัวเป็นภาพกรุงโรมของอิตาลีก็ตาม


รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก Ratirom Ronnasith ในโพสต์

โรมมีเฟซบุ๊คแล้วนะคะ คอนเฟิร์มว่าของจริงเพราะแทนคุณเขาโปรโมทให้เอง ติดตามกันได้นะจ๊ะ


ผมเลื่อนนิ้วขึ้นเพื่อดูโพสต์อื่นๆบนหน้าไทม์ไลน์ของโรมต่อ จนมาเจอโพสต์ของแทนคุณเข้า

TK Krittidumrong ได้โพสต์
ฝากเฟซฯ – Ratirom Ronnasith ด้วยนะครับ ในที่สุดก็ยอมเล่นเฟซบุ๊คสักที #โรมผู้ที่เมื่อก่อนไม่คิดเล่น

ผมรู้สึกนิ้วมือตัวเองสั่น ก่อนจะตัดสินใจอ่านคอมเม้นต์ที่ได้แสดงความคิดเห็นบนโพสต์ของแทนคุณมากกว่า 500 คอมเม้นต์

‘อ๊ากก ดีต่อใจ คุณโรมบนเฟซบุ๊ค’
‘โรมน่ารักมาก ในที่สุดก็ยอมเล่นเฟซบุ๊คแล้ว’
‘อะไรทำให้โรมยอมสมัครเฟซฯเนี้ย เพราะกระแสตัวเล็กตัวโตหรือเปล่า – Jum Nursing ปิยะ คุณโรมชิปเปอร์
ปิยะ คุณโรมชิปเปอร์ หวีดดดดดดดดดดด ฉันรู้สึกกระอักความสุขค่ะคุณขา
Jum Nursing ตุ๊ดคะ ใจเย็นค่ะ #ทีมคุณโรม

คอมเม้นต์หวีดใส่คุณโรมเต็มหน้าไทม์ไลน์ ทั้งหน้าเฟซฯแทนคุณ หน้าเพจรักคุณครับ หน้าเพจของคุณโรมเอง รวมไปถึงเพจอื่นๆที่เป็นสังคมชาววาย

ผมกดปิดหน้าแอพฯนั้นออกไปแล้ววางโทรศัพท์ที่หัวเตียง ก่อนจะมุดตัวเองเข้าไปในผ้าห่มขอตัดขาดจากสังคมบนเฟซฯชั่วคราวและพยายามข่มตาหลับอีกครั้ง ทั้งที่ในหัวตอนนี้กลับมีเรื่องให้คิดวุ่นวายอยู่เต็มไปหมด ทำไมโรมถึงเล่นเฟซฯล่ะ ทำไมเมื่อก่อนโรมไม่คิดเล่น ทำไม ทำไม และ ทำไม



เสียงกุกกักที่หน้าประตูทำให้รู้ว่าไอ้ว่านกลับมาแล้ว ผมทำเป็นนอนนิ่งๆให้มันคิดว่าผมหลับ มันทำอะไรไม่รู้ตึงตังที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะมีเสียงปิดประตูห้องน้ำตามมา แล้วเตียงข้างกันกับผมก็ยวบลงให้รู้ว่าไอ้ว่านมันล้มตัวลงนอนแล้ว ไม่นานนักเสียงกรนเล็กๆก็ดังขึ้นให้รู้ว่าไอ้ว่านมันหลับไปแล้ว อาจจะจากการที่เหน็ดเหนื่อยทำให้มันเพลียจนหลับลงไปได้ในเวลาไม่นาน

ผมพลิกตัวนอนหงายลืมตามองไปบนเพดานห้องมืดๆ ในหัวตอนนี้มีแต่ข้อความของเหล่าแฟนคลับคุณโรมวนเวียนอยู่เต็มไปหมด พยายามสลัดทิ้งเพื่อไม่ให้มันมาก่อกวนจิตใจและเตือนตัวเองซ้ำๆว่าต้องเชื่อมั่น ผมหันไปมองไอ้ว่านที่นอนนิ่งอยู่ข้างกันพอเห็นว่ามันน่าจะหลับลึก ผมจึงขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะพยายามลุกออกจากเตียงให้เบาที่สุด ผมกดปุ่มให้ไฟหน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นเพื่อเป็นแสงนำทาง เดินไปที่โต๊ะของไอ้ว่านแล้วเขียนโน๊ตไว้ให้มันรู้ว่าผมออกจากห้องมันแล้ว


ผมเดินออกมาจากห้องไอ้ว่านตอนเกือบตีสอง ความมืดที่โรยตัวอยู่ภายในซอยที่อยู่ของหอพักหลายแห่งดูเงียบสงัด มีเพียงแสงนำทางจากเสาไฟข้างถนน และร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่มีสาขาเป็นพันสาขาทั่วประเทศไทย ผมเดินลากเท้าไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าถนนใหญ่จากตรงนี้ไปถึงมหา’ลัยไม่ไกลนัก ฝั่งตรงข้ามของถนนเป็นปั๊มน้ำมันที่มีแม็คโดนัลด์ 24 ชม. เช่าพื้นที่อยู่ไม่ไกล ถ้ากลับไปที่หอตอนนี้ก็คงเข้าไม่ได้เพราะหอในปิดประตูตั้งแต่เที่ยงคืนแล้ว

ผมตัดสินใจมองซ้ายขวาไม่มีรถวิ่งผ่านจึงข้ามถนนไปขอใช้พื้นที่ในร้านแม็คฯ เพื่อนั่งรอเวลาตอนตีห้าที่ประตูหอพักจะเปิดอีกครั้ง นอกจากเวลาที่มีกิจกรรมมหาวิทยาลัยเท่านั้นหอพักในของนิสิตถึงจะเปิดประตูไว้ตลอด 24 ชม.
 
ผมสั่งเครื่องดื่มเป็นโกโก้ร้อนมาหนึ่งที่แล้วกวาดสายตาดูโต๊ะในร้านมีอยู่ประมาณ 4 โต๊ะ ผมเลือกที่นั่งตรงมุมร้านด้านใน ซึ่งยังไม่มีคนจับจอง ปกติคนที่แวะเข้ามาซื้อแม็ค 24 ชม.จะเป็นนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาทางนี้ เพื่อไปยังทะเลที่อยู่เลยมหาวิทยาลัยไปไม่ไกลนักราวๆห้ากิโลฯได้

ผมฟุบหน้าลงกับโต๊ะหลังจากที่โกโก้มาเสิร์ฟ จริงๆก็แค่สั่งมาเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไปที่มาขอใช้พื้นที่เขาเท่านั้น มือหยิบเอามือถือออกมาอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ได้เอามาเช็คเฟซฯหรืออะไร เสียบสายชาร์จกับแบตสำรองที่พกไว้ตลอดพร้อมกับเสียบหูฟังเปิดเพลงที่มีลงในเครื่องไว้หนึ่งเพลงถ้วน เป็นเพลงโปรดที่ผมชอบฟังมันซ้ำๆตั้งแต่ผมรู้ตัวว่าชอบแทนคุณ

อึดอัดเกินไปแล้ว ในตอนนี้ได้แต่ฝันถึงเธอแค่เพ้อไปวันๆ
ได้แค่นั้น เพียงเท่านี้ ไม่มากไปกว่านั้นที่ต้องเป็นแบบนี้

เพราะว่าสายตาเธอมันหวานเกินไป เพราะว่ารอยยิ้มเธอทำร้ายหัวใจ
ให้ฉันแทบละลาย ให้ฉันแทบบ้าตาย ฉันเลยต้องเก็บมันเอาไว้

ได้แค่แอบรัก เธอ กลัวเธอไม่สนใจถ้าฉันพูดออกไป
แล้วเธอจะรักฉันไหม ไม่มีใครรู้ แล้วฉันต้องทำอย่างไร

ต้องเก็บเอาไปฝันอยู่ทุกวัน นั่งดูรูปของเธอแต่ไม่กล้าทักไป
ได้แค่นั้น เพียงแค่นี้ พยายามเท่าไหร่แต่ไม่ได้เลยซักที

เพราะว่าสายตาเธอมันหวานเกินไป เพราะว่ารอยยิ้มเธอทำร้ายหัวใจ
ให้ฉันแทบละลาย ให้ฉันแทบบ้าตาย ฉันเลยต้องเก็บมันเอาไว้

ได้แค่แอบรัก เธอ กลัวเธอไม่สนใจถ้าฉันพูดออกไป
แล้วเธอจะรักฉันไหม ไม่มีใครรู้ แล้วฉันต้องทำอย่างไร

ต้องพยายามแค่ไหน แต่ไม่กล้าเลยซักที

เพราะว่าสายตาเธอมันหวานเกินไป เพราะว่ารอยยิ้มเธอน่ารักเกินใคร
ให้ฉันแทบละลาย ให้ฉันแทบบ้าตาย ฉันเลยต้องเก็บมันเอาไว้

ได้แค่แอบรัก เธอ กลัวเธอไม่สนใจถ้าฉันพูดออกไป
แล้วเธอจะรักฉันไหม ไม่มีใครรู้ ถ้าฉันนั้นอยากจะบอกรักเธอ
แล้วเธอไม่สนใจฉันต้องทำอย่างไร แล้วเธอจะรักฉันไหม ไม่มีใครรู้
แล้วก็ไม่กล้ารู้ ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ


(แอบรักเธอ – Thank you please)




ผมกลับมาที่ห้องหลังจากที่ถึงเวลาประตูหอพักเปิด พยายามเปิดประตูให้เบาที่สุดเพราะกลัวว่าเพื่อนร่วมห้องจะตื่น แต่พอเปิดเข้าไปกลับไม่พบใครนอนอยู่เลย คาดว่าคงไปหมกตัวอยู่ที่หอเพื่อนในคณะกัน นึกย้อนไปถึงวันก่อนที่คุยกับโรมเห็นบอกว่าช่วงนี้ต้องไปทำรายงานกับเพื่อน แต่จากที่คุยกับแทนคุณเห็นว่าไปรับกันที่คณะ เขาเลยไม่อยากเดาว่าไปด้วยกันหรือไปส่งอีกคนที่หอเพื่อน แต่ช่างเถอะ เพราะเขาจะพยายามไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ และเดินหน้าจีบแทนคุณต่อไป

วันนี้ผมไม่มีเรียนผมเลยเลือกที่จะนอนเอาแรงที่พอได้กลับขึ้นมาเอนหลังบนเตียงก็รู้สึกว่ามันล้าไปทั้งตัว และเปลือกตาก็เริ่มหนัก หลังจากที่สมองเริ่มโล่งจากเรื่องที่เอาแต่กังวลคิดมากนั้น ผมก็รู้สึกถึงความง่วงงุนเป็นอย่างมากทั้งวันนั้นถึงได้หลับจนเกือบลืมตื่นเลยทีเดียว


ครืด ครืด ครืด

เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่ไม่ใกล้แต่ก็ไม่ไกลนักเมื่อมันวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ติดกับเตียงชั้นล่าง อาการสั่นครูดไปกับโต๊ะดังพอให้ผมที่รู้สึกอิ่มกับการนอนค่อยๆลุกขึ้นมานั่งก่อนจะปีนลงมารับโทรศัพท์ที่สั่นอยู่ตอนนี้

“ฮัลโหล”
(อันอันเองนะเกี๊ยว ตอนนี้อยู่ไหนอ่ะ เรากับหวานจะชวนไปซื้อของใช้นิดหน่อยก่อนไปค่ายพรุ่งนี้)
ผมหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ข้างห้อง เห็นว่าเกือบสี่โมงเย็นแล้ว

“เอาสิ เราอยู่หอน่ะพอดีวันนี้ไม่มีเรียน”
(งั้นเดี๋ยวไปรับ อ่อ เราไปรถเพื่อนน้ำหวานนะ เดี๋ยวถึงแล้วจะโทรหานะจ๊ะ)

แล้วปลายสายก็วางสายลงไปทันที ผมถึงได้จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนที่สาวๆจะมาถึง ไม่นานนักเมื่อผมลงมารอที่หน้าหอพัก โทรศัพท์ก็สั่นอีกครั้ง

(ใกล้ถึงแล้วนะเกี๊ยว สังเกตวีออสสีเทาไว้นะ)
“อืม เห็นแล้ว”

ผมวางสายเมื่อรถวีออสสีเทากำลังขับมาจอดเทียบข้างฟุตบาทใกล้ทางเข้าหอพัก พอเปิดประตูไปนั่งข้างหลังก็เห็นว่าอันอันนั่งอยู่ ส่วนข้างหน้าเป็นน้ำหวานที่นั่งข้างคนขับ และเพื่อนของน้ำหวานที่เป็นเจ้าของรถ เขาเป็นผู้ชายที่รูปร่างค่อนข้างท้วม ย้อมผมสีเขียวหม่นมีไฮไลท์สีส้มแซมประปราย ดูจากลักษณะท่าทางแล้วคาดว่าจะไม่ใช่ผู้ชายแท้

“นี่เอกราชเพื่อนเรานะยู”
“กรี๊ด อีน้ำเน่าอย่าเรียกชื่อนั้น สวัสดีจ้ะยู เรียกเราว่า เอร่า นะคะ”
“เอร่า หรือ เอร่าน กันคะ”
“เอ๊ะ อีนี่ เดี๋ยวกูถีบลงรถให้เดินลากขาไปเองเลย” เสียงหัวเราะจากน้ำหวานดูก็รู้ว่าเป็นการเล่นขำๆของเพื่อนที่มักจะเล่นกันแบบนี้บ่อยครั้ง ก่อนที่พวกเราจะรีบไปซื้อของและกลับมาเตรียมของสำหรับวันพรุ่งนี้ พวกเราใช้เวลาในการซื้อของไม่นานพร้อมหาของกินกันก่อนกลับเป็นมื้อค่ำ และการได้พบเพื่อนใหม่ในครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ชื่อว่า อยู่บนคาน มันหนาวจริง ก็คือ เอร่าเพื่อนของน้ำหวานนี่เอง




((ต่อด้านล่างค่ะ))
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 09-10-2016 18:42:11
แสงสีส้มกำลังแตะขอบฟ้าบอกเวลาเช้าตรู่ ผมสะพายเป้ที่ยัดของใช้สำหรับออกค่ายเป็นอย่างดีแล้วออกจากห้องพักที่เพื่อนร่วมห้องยังคงหายไปไม่มีใครกลับมาตั้งแต่คืนวาน ก่อนออกมาผมถึงได้เขียนป้ายแปะไว้ที่ประตูห้องเผื่อใครสักคนกลับมาจะได้รู้ว่าผมหายไปไหน

ผมไม่ได้คุยกับแทนคุณหรือโรมเลยเมื่อวานนี้ รวมถึงความเคลื่อนไหวบนเฟซฯที่ผมไม่ได้เข้าไปเช็ค ขอย้อนไปเมื่อวานระหว่างที่เดินดูของสักหน่อย พอดีผมได้มีโอกาสแวะร้านหนังสือในห้าง และเจอกับหนังสือเล่มหนึ่งเขา ผมมองมันอย่างลังเลว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดี ท้ายที่สุดหนังสือเล่มนั้นก็มานอนอยู่ในกระเป๋าเป้ที่ผมสะพายอยู่ตอนนี้

เวลาหกโมงเช้าเป็นเวลานัดหมายให้นิสิตทุกคนที่ร่วมกิจกรรมค่ายอาสาของทางมหา’ลัยมารวมตัวกันที่หน้าลานกิจกรรมของหอประชุมใหญ่ ผมสังเกตเห็นว่ามีรถบัสขนาดชั้นเดียวแบบฉิ่งฉาบทัวร์จอดอยู่ประมาณ 4 คัน มีรถตู้จอดอยู่หนึ่งคันคาดว่าเป็นรถสำหรับคณะอาจารย์ที่ไปร่วมกิจกรรมด้วย เสียงพี่ๆคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัยพูดผ่านโทรโข่งเรียกน้องๆให้ไปรายงานตัวตรงจุดที่ตั้งโต๊ะลงทะเบียนเอาไว้

ผมเดินเข้าไปเห็นพี่ปีสามคนหนึ่งที่แขวนป้ายStaff มีชื่อกำกับบนป้ายว่า หงส์ นั่งคุมโต๊ะอยู่ ผมรายงานตัวที่โต๊ะลงทะเบียนเสร็จก็กวาดตามองหาเพื่อนอีกสามคนที่ควรจะมาถึงแล้ว กำลังตั้งใจว่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอันอันหรือไม่ก็น้ำหวาน ทว่ามีใครบางคนมายืนตรงหน้าผมเสียก่อน

“ไม่เห็นบอกว่าจะมาค่ายนี้ด้วย”
“แทนคุณ”
“เออ กูเอง แล้วมากับใครเนี่ย”
“เพื่อนน่ะ พอดีเพื่อนชวนแล้วกูว่างก็เลยมา” แทนคุณพยักหน้าเข้าใจ
“งั้นกูไปรายงานตัวก่อนนะ” พูดจบเขาก็เดินไปยังโต๊ะลงทะเบียนทันที

“เกี๊ยววววววว นั่นแทนคุณนิ” เสียงมาก่อนตัว ก่อนที่เธอจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม
“ไปลงทะเบียนดิ แทนคุณก็ไปลงทะเบียนอยู่”
“งั้นเดี๋ยวมานะ”

หลังจากที่อันอันและแทนคุณเดินไปลงทะเบียน เปรี้ยวกับเอร่าก็มาลงทะเบียนต่อจากนั้น พวกเราไปต่อแถวตามที่พี่ๆเขาจัดเอาไว้ แทนคุณไปรวมตัวกับกลุ่มเดาวเดือนคณะอื่นพร้อมกับที่ผมเองก็ไปยืนในกลุ่มของนิสิตที่มาเข้าร่วมกิจกรรมด้วย เราถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ตามจำนวนของรถบัส ป้ายชื่อแต่ละคนจะมีสีแตกต่างกันทั้งหมด 4 สี

โชคดีที่พวกผมสี่คนได้สีเดียว ผมแอบสังเกตว่าแทนคุณได้ป้ายสีอะไรแล้วก็แอบยิ้มด้วยความดีใจเมื่อพบว่าเขาอยู่สีเดียวกับผม ก่อนที่พวกเราไปนั่งเรียงแถวตามที่พี่สต๊าฟตั้งป้ายเอาไว้ ผมเห็นว่าพี่ที่เป็นสต๊าฟประจำกลุ่มผมนั้นคือพี่โรสกับพี่แชมีที่ผมรู้จักมาก่อน พอแกเห็นผมก็รีบโบกมือทักทายทันทีก่อนจะหันไปซุบซิบอะไรกันไม่รู้

“สวัสดีค่ะน้องๆทุกคน ตอนนี้เป็นเวลา 6.45 น. แล้วนะคะ อีกสิบห้านาทีเราจะขึ้นรถและออกเดินทางกันนะคะปิดลงทะเบียนรายงานตัวตอน 6.50 น. เพื่อนใครยังไม่มารบกวนเร่งด้วยนะคะ เอาล่ะมาจับเวลาถอยหลังหาคนช้ากันดีกว่า” พี่สต๊าฟหนึ่งคนที่แขวนป้ายชื่อว่าส้มพูดขึ้น พร้อมกับบางคนเริ่มหยิบโทรศัพท์โทรตามเพื่อนที่ยังมาไม่ถึง

ผมมองพี่สต๊าฟของแต่ละจุดที่มีป้ายสีไม่เหมือนกัน แบ่งเป็น สีม่วง สีแดง สีชมพู และสีเหลือง โดยแต่ละสีก็มีชื่อเรียกกำกับแยกกัน โดยสีม่วงที่ผมอยู่แทนตัวด้วยอัญชัน สีแดงแทนด้วยชบา สีชมพูแทนด้วยกุหลาบ และสุดท้ายสีเหลืองแทนด้วยดาวเรือง พี่ๆสต๊าฟทำการแจกข้าวและน้ำให้พวกเราเป็นข้าวเหนียวไก่ทอดที่ดูจะกินง่ายสุด

“พี่ๆสต๊าฟคะ เช็คน้องด้วยค่ะมาครบหรือยัง” เสียงพี่ส้มคนเดิมดังขึ้น ผมเห็นแทนคุณที่นั่งอยู่แถวหน้าถูกเรียกให้ไปถือป้ายกลุ่ม และพอมองไปยังกลุ่มอื่นๆก็เห็นว่าเป็นเดือนของคณะเหมือนกัน โดยที่พวกดาวเดือนจะมีสติ๊กเกอร์รูปหัวใจแปะอยู่ที่ป้ายชื่อด้วย พอเห็นว่าผมจ้องเขา แทนคุณก็ส่งยิ้มกลับมาให้พร้อมยักคิ้วข้างเดียวอย่างเท่ๆเล่นเอาสาวแท้สาวเทียมที่นั่งอยู่ข้างหน้าผมสองสามแถวกรี๊ดออกมา

“อีแชมป์ มึงอย่ามัวแต่แต่งสวยไม่ได้ไปเดินแฟชั่นโชว์ค่ะตุ๊ด เก็บตลับแป้งมึงแล้วรีบมาคุมน้องได้แล้วค่ะ” เสียงพี่ส้มเจ้าเก่าดังผ่านโทรโข่งเล่นเอาพวกผมที่นั่งกันอยู่หันไปมองและเห็นว่าเจ้าของชื่อแชมป์คือพี่แชมีนั่นเอง

“อีดอกส้ม กูชื่อแชมี ไม่ใช่แชมป์” พี่แชมีแกเดินบิดตูดมาหาพวกผมเพราะเป็นสต๊าฟประจำสีม่วงอัญชัน พวกเราเดินเรียงแถวขึ้นรถแล้วจับจองที่นั่งทันที ผมเห็นแทนคุณถูกจับนั่งข้างหน้าคู่กับดาวมหา’ลัย ที่กำลังเชิดหน้าคอตั้งอยู่ ผมเพิ่งรู้ว่าน้ำหวานกับเอร่าไม่ชอบหน้าดาวมหา’ลัยด้วย

“ยูนั่งกับอันอันนะ เดี๋ยวเปรี้ยวจะนั่งกับอีร่า”
“เอร่า ไม่ใช่อีร่า”
“เออ มันก็คล้ายๆกันนั่นแหละ” เปรี้ยวหันไปต่อปากด้วยความรวดเร็ว เรียกเสียงหัวเราะจากผมกับอันอันได้เป็นอย่างดี ผมนั่งอยู่แถวกลางๆ โดยที่ให้อันอันเข้าไปนั่งริมหน้าต่างส่วนผมมานั่งริมทางเดิมแทน ด้านหลังเป็นที่นั่งของเปรี้ยวกับเอร่าที่กำลังซุบซิบนินทาดาวมหา’ลัย โดยเฉพาะเอร่าที่ดูใส่อารมณ์อย่างมาก

“เทสๆ หวีดดดดดดดดดด”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด แสบแก้วหูมากค่า อีโรส” พี่แชมีรีบแย่งโทรโข่งในมือของพี่โรสไปถือเองก่อนจะปิดแล้ววางไว้ตรงที่วางของหน้ารถ

“เขามีไมโครโฟนให้ใช้ค่ะ อย่าเสร่อ” และพี่โรสก็โดนจิกกัดไปที
“ขอบคุณที่บอกนะคะ พี่แชมป์” และพี่แชมีก็โดนกัดไปรอบเช่นกัน ก่อนที่เสียงหัวเราะจะลั่นทั้งรถ

พี่โรสเคาะไมโครโฟนอีกรอบก่อนจะกระแอมแล้วพูดใส่ไมค์ทักทายพวกเรานิสิตปีหนึ่ง
“สวัสดีนะคะน้องๆปีหนึ่งที่น่ารักทุกคน”
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ” 

“พี่ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่ค่ายอาสาปันยิ้มเพื่อน้อง ซึ่งปีนี้เราจะไปทำการสร้างโรงอาหารให้กับน้องๆ โรงเรียนบ้านโนนคำร่วมกับพี่ๆทหารจากกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ซึ่งกำหนดการกิจกรรมที่เราจะได้ทำนั้นน้องๆอาจจะทราบรายละเอียดกันแล้ว พี่ไม่ขออธิบายเพิ่มเติมอะไรมากนะคะ แต่ก่อนอื่นพี่ทั้งสองในฐานะผู้ดูแลน้องๆกลุ่มอัญชัน ก็ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการก่อนนะคะ พี่ชื่อ โรส รสคุคนธ์ มนุษยศาสตร์ฯ ปีสามค่ะ คำจำกัดความสามคำสั้นๆ โสด แซ่บ ซ่า สวัสดีค่ะ” พี่โรสแนะนำตัวพร้อมท่าทางตอบสุดท้ายกับสามคำ

“อันยองฮาเซโยพี่ชื่อ แชมี ค่ะ ชื่อจริงไม่ต้องสนใจ แค่รู้ไว้ว่าห่วงใยทุกคนนะคะ” สั้นๆกับพี่แชมีพร้อมกับที่มีเสียงปรบมือจากพวกผม ต่อจากนั้นพี่แชมีก็เดินถือไมค์ลอยของแกมาที่ท้ายรถ พร้อมกับที่พี่โรสยืนอยู่ข้างหน้า

“พวกพี่สองคนแนะนำตัวกันแล้วทีนี้ก็ถึงทีน้องๆนะคะ แต่ก่อนอื่นเราขอแจ้งก่อนว่าสำหรับกลุ่มอัญชันของเรามีหนุ่มหล่อสาวสวยจาก 4 คณะเป็นตัวแทนหน้าตาของกลุ่มนั่งประจำอยู่ด้านหน้า ที่สำคัญเรามีทั้งเดือนและดาวมหา’ลัยอยู่ในกลุ่มด้วย งั้นพี่ขอเริ่มที่เดือนมหา’ลัยปีนี้ก่อนเลยค่ะ ปรบมือให้เพื่อนด้วยนะคะ” เสียงปรบมือพร้อมกับผิวปากหวีดว้ายดังลั่นรถ เมื่อแทนคุณลุกขึ้นยืนหันหน้ามาทางพวกผม

“สวัสดีครับ แทนคุณ จากคณะบริหารและการจัดการครับ”
“แนะนำตัวสั้นไปไหมคะ พี่อยากได้ยาวกว่านี้มีมั้ยเอ่ย” พี่โรสเอ่ยถามนำ แทนคุณยิ้มเพียงนิดก่อนจะคว้าไมค์ไปถือ

“สวัสดีครับแทนคุณ กฤติดำรง จากคณะบริหารฯ เจ้าของตำแหน่งเดือนมหา’ลัยปีนี้ แต่ที่ยังไม่มีคือคนรู้ใจครับ”
เสียงกรี๊ดจากสาวแท้สาวเทียมลั่นรถ ทำเอาพี่แชมีที่ยืนอยู่ทางท้ายรถรีบพูดใส่ไมค์แชวไปทันที

“แน่ใจหรอคะว่ายังไม่มี แล้วกับคู่จิ้นที่เป็นข่าว ไม่ว่าจะโรมเภสัชฯ กับยูสินกำ หมายความว่ายังไงล่ะคะ” ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินชื่อของตัวเองหลุดออกมา

“เรื่องนี้ขอไม่ตอบนะครับ เก็บไว้เป็นเรื่องของอนาคตสำหรับเรานะครับ” พูดจบก็ขยิบตาให้อย่างขี้เล่น ไม่แปลกใจที่เขาจะได้ตำแหน่งเดือนเพราะความทะเล้นของเขานี่เอง

“งั้นเราไปต่อกันที่ดาวมหา’ลัยกันเลยค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ชื่อ ดีว่า วาณิชญาค่ะ มาจากคณะมนุษยศาสตร์ อยากบอกเดือนมหา’ลัยข้างๆว่า ขอใบสมัครคนรู้ใจสักใบได้ไหมคะ” เสียงกรี๊ดดังกว่าเดิมออกมาพร้อมกับเสียงโห่จากเอร่าและน้ำหวานที่นั่งอยู่ข้างหลังผม

“เราจะไม่จีบกันบนรถนะคะ สงบไว้สักครู่นะลูกขา” พี่แชมีตบท้าย เรียกเสียงหัวเราะให้ลั่นรถ พร้อมกับที่พี่โรสเลื่อนไมค์ไปยังเดือนและดาวอีกสองคนที่นั่งอยู่เบาะถัดไป

“สวัสดีครับ ชื่อติน ทินกร จากวิศวะฯ สร้างบ้านเป็นงานหลัก สร้างรักเป็นงานเสริม หลักสูตรเพิ่มเติมคือสอนงานใช้เกียร์ครับ” เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกระลอกก่อนที่ผู้หญิงที่นั่งข้างกันจะลุกขึ้นยืนและรับไมค์ไปถือบ้าง

“ชื่อส้มโอ พิมรดา จากคณะวิทยาฯค่ะ ความสวยไม่เป็นสอง แต่ที่เป็นรองคือจอแบน สวัสดีค่ะ”
“ไม่เป็นไรคะส้มโอ เดี๋ยวรอไปทำพร้อมกันกับอีพี่แชมป์นะคะ”   
“แชมีค่ะ อีโรส” คราวนี้เสียงหัวเราะลั่นรถไปหมด

และถึงคราวพี่แชมีเป็นคนยื่นไมค์ให้น้องๆแนะนำบ้างสลับจากข้างหน้ามาข้างหลัง เมื่อสองแถวหน้าจบก็มาสองแถวหลัง จนมาถึงเบาะของเอร่ากับน้ำหวาน

“สวัสดีค่ะ เอร่า จากคณะบริหารฯค่ะ อยากฝากบอกเดือนวิศวะว่า ขอสมัครคอร์สใช้เกียร์ด้วยนะคะ”
“ลูกขา แม่บอกแล้วว่าอย่าจีบกันบนรถค่ะ”
“อุ้ย ขอโทษค่ะคุณแม่” เอร่านั่งลงแล้วส่งไมค์ให้น้ำหวาน พร้อมกับที่เสียงหัวเราะลั่นรถ

“คนต่อไปเลยค่ะ”
“สวัสดีค่ะ น้ำหวานจากคณะบริหารฯค่ะ ชีวิตนี้อุทิศให้ความวาย ชายได้ชายสาววายนิพพาน ขอบคุณค่ะ” แล้วก็มีทั้งเสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะดังลั่นรถ ก่อนจะโยนไปทางด้านหน้าที่เป็นแถวหน้าของผม แล้วถึงมาตบท้ายที่แถวของผมโดยที่ อีกฝั่งแนะนำตัวเสร็จพี่แชมีก็ยื่นไมค์ข้ามผมไปให้อันอันก่อน

“เชิญเลยค่ะลูกสาว”
“สวัสดีค่ะ อันอัน อัญชิตา จากคณะมนุษย์ฯค่ะ แฟนไม่มีไม่เป็นไร แต่เชียร์ขาดใจให้ผู้ชายได้กัน ขอบคุณค่ะ”
“โซนนี้ได้ใจเจ๊แชมีไปทั้งแถบเลยค่ะ” เสียงหัวเราะดังลั่นออกมาเกรียวกราว พร้อมกับที่พี่แชมียิ้มแก้มปริกับคารมของสาววายที่รู้ได้จากการแนะนำตัว

“เพื่อนโรสไม่ต้องกลัวขึ้นคานแล้วจะขาดเพื่อนนะคะ เพราะสาววายเขาออกตัวแรงจะไม่มีผัวกันเป็นแถบเลยค่ะ”
“แหม รู้สึกดีใจมากเลยค่ะ” พี่โรสก็รับมุกเป็นอย่างดี ก่อนที่ไมโครโฟนจะมาหยุดที่ผม

“เอาล่ะค่ะ เรามาถึงน้องคนสุดท้ายที่จะแนะนำตัวแล้ว เชิญเลยค่ะ”

“สวัสดีครับ ยู ณัฐคุณ จากศิลปกรรมศาสตร์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนมากครับ” ผมส่งไมค์คืนให้พี่แชมีแต่แกไม่รับ เสียงพี่โรสเลยดังขึ้นมาแทน

“ไม่ได้ค่ะน้องยู การแนะนำตัวยังไม่ผ่านนะคะ”
“เอ่อ...” ผมหันไปมองพี่แชมีอีกที พี่แกก็มองกดดันให้ผมแนะนำตัวอีกครั้ง พอมองไปทางอันอันเธอก็เอาแต่ส่งยิ้มหวานมาให้ไม่ได้ช่วยเหลืออะไรเลย มองไปทางหน้ารถเห็นแทนคุณกำลังจ้องมาอยู่ อีกฝ่ายยักคิ้วให้ผม ทำให้ผมสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกกำลังใจและความเชื่อมั่นให้ตัวเอง


“สวัสดีครับ ยู ณัฐคุณจากสินกำ เด็กอาร์ตไม่ได้มีแค่กระดาษกับกรรไกร ไม่ได้มีแค่พู่กันกับสี ไม่ได้มีแค่กล้องกับภาพถ่าย เพราะสี่ห้องในหัวใจมีไว้แค่คุณ ขอบคุณครับ” เสียงกรี๊ดหวีดลั่นรถไม่เว้นแม่แต่อันอันที่นั่งข้างกันกับผม

“แนะนำตัวได้ยาวสะใจมากค่ะ” เสียงพี่โรสดังขึ้น
“แต่เด็ดสุดที่ประโยคสุดท้ายนะคะคุณผู้โชมมมมม” พี่แชมีแซวทันทีที่รับไมโครโฟนไป ผมได้แต่นั่งก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองใครอีก แม้แต่อันอันที่หวีดไม่หยุดแล้วหันไปซุบซิบกับสองคนที่เบาะข้างหลังด้วย


และเหตุการณ์ในรถช่วงการแนะนำตัวก็สงบลง หลังจากที่พี่ๆให้เวลาในการพักกินข้าวที่แจกกันก่อนขึ้นมาบนรถหลังจากกินอิ่มแล้ว ก็มีการแจกสติกเกอร์ให้ทุกคนบนรถโดยที่เป็นสติกเกอร์ตัวอักษรภาษาอังกฤษ A B มาแปะไว้ที่ป้ายชื่อของแต่ละคน ผมได้ตัว B ส่วนอันอันได้ตัว  A พอหันไปที่เพื่อนด้านหลังเห็นว่าน้ำหวานได้ A ส่วนเอร่าได้ B แสดงผมได้อยู่กลุ่มเดียวกับเอร่า ผมเดาเอาว่าพี่ๆเขาน่าจะจัดให้ทำกิจกรรมเป็นกลุ่มย่อยอีกที


“น้องๆคะ ตอนนี้เราก็ใกล้ถึงพื้นที่ของโรงเรียนบ้านโนนคำแล้วนะคะ พอลงไปถึงข้างล่างแล้วขอให้น้องๆเรียงแถวตามกลุ่ม A และ B นะคะ เราจะเรียนว่า อัญชัน A กับ อัญชัน B นะคะ”

ไม่นานหนักรถก็ตีโค้งเลี้ยวเข้าไปยังส่วนของเขตที่เป็นลานกว้างๆ พร้อมกับที่รถจอดสนิทเรียงกัน รถตู้ของอาจารย์มาถึงแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมกับที่มีรถทหารมาจอดอยู่ก่อนแล้วหนึ่งคัน เห็นพี่ทหารยืนรออยู่ในลานจอดรถ พวกผมทยอยกันลงจากรถพร้อมไปจัดแถวตามที่พี่ๆเขาบอกให้จัดแถวตามที่แบ่งกลุ่มไว้บนรถ



ที่ลานอเนกประสงค์กว้างๆนั้นติดป้ายผ้าดิบสีขาวเอาไว้เป็นการต้อนรับพวกผม พร้อมชื่อโครงการปันยิ้มเพื่อน้อง ร่วมกับกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ที่มาให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ด้วย เรียกได้ว่าการมาออกค่ายครั้งนี้เหมือนไม่ใช่ค่ายอาสาที่จัดในนามคณะฯแบบทั่วไป คงมีกิจกรรมอะไรให้ได้ร่วมสนุกอีกแน่

และผมก็ได้พบว่าผมอยู่กลุ่มเดียวกับแทนคุณที่ตอนนี้ยืนต่อแถวอยู่หัวแถวที่ผมยืนอยู่ พี่แชมีเห็นว่าแถวที่พวกเรายืนมันยาวเกินไป แกเลยตัดให้เป็นสี่แถว แกเข้ามาลากผมไปยืนข้างกับแทนคุณแล้วปัดให้คนอื่นๆมาต่อท้ายอีกที ทำให้ผมและแทนคุณได้มายืนข้างกัน ผมหันไปยิ้มให้เขาในขณะที่แทนคุณก้มหน้ามากระซิบใกล้หูของผม


“แนะนำตัวได้ดีนะ” ผมหันไปหาเขาแล้ววพูดตอบกลับทันทีว่า
“ก็อ่อยให้จีบอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง”


ผมยักคิ้วให้เขาอย่างดูเหนือกับพัฒนาการด้านการจีบของผมอีกขั้น แทนคุณหัวเราะเบาๆก่อนจะเดินนำไปยังลานอเนกประสงค์ที่มีเพื่อนจากกลุ่มอื่นทยอยกันเดินไปนั่งเป็นแถวแล้ว


ต้องขอบคุณหนังสือเล่มนั้นที่ยังนอนอยู่ในกระเป๋าเพราะกะเอามาอ่านต่อให้จบหลังจากที่อ่านค้างไว้เมื่อวานนี้ หนังสือเล่มที่ผมซื้อติดมือมาตอนที่ไปซื้อของใช้ที่ห้างกับอันอัน น้ำหวานและเอร่านั่นแหละ

หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า
‘จีบยังไงให้ได้แฟน’
เกิดมาครั้งเดียว อย่าให้เสียชาติเกิด แอบรักใครต้องหน้าด้าน ไม่งั้นก็โหนคานไปเถอะ

ผมจำสโลแกนตัวสีแดงบนหน้าปกกราฟฟิกขอบดำนั้นได้ขึ้นใจ นั่นเลยทำให้ผมฮึดกล้าแนะนำตัวแบบนั้น ซึ่งไม่รู้หรอกว่ามันจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน แต่ดูจากที่แทนคุณพูดแบบนั้นแล้ว ก็คงหวั่นไหวอยู่ใช่ไหม

ยังไม่ต้องตอบตอนนี้หรอก
ขอคิดเข้าข้างตัวเองแป้บนึงนะ

 

 


จบตอน

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 09-10-2016 19:36:47
ชอบสโลแกนมากกกกอะ
หวั่นไหวสิคะหวั่นไหวววว
ไม่หวั่นได้หรออ เดินหนีก้แอบเขินใช่มั้ยละ
//ทีมมโน 55555555
รอค่าา
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 09-10-2016 19:43:42
ตอนที่แล้วเราให้บวกแทนคุณแต่ตอนนีเอาคืนนะ
ยิ่งอ่านยิ่งไม่แฟร์อ่ะอ่อยให้เค้าจีบแล้วไง
แต่ตัวเองไม่เปิดใจอ่ะ ไม่คิดตัดใจจากโรมด้วยมัง
ปากก็ว่าแค่เพื่อนแต่การกระทำทันไม่ใช่ป่ะ
เราเป็นคนอ่านอ่านแล้วอึดอัดมากๆอ่ะ
ตอนแรกคนเขียนบอกไม่ดราม่า
แต่ตั้งแต่อ่านมาตอนที่ไม่ดราม่าคือตอนที่ยูไม่ได้อยู่กะคุณน่ะค่ะ
พระเอกเรื่องนี้ค่าตัวแพงจังนะคะออกมาสามสี่บรรทัดตลอด
อ่านแล้วก้นึกถึงเม้นท์ก่อนหน้าของตอนที่แล้ว
คนเขียนทำให้เรารู้สึกว่ายูเป็นแค่พระรองจริงๆนะ
ตอนหน้าจะมีบทพระนายเยอะกว่านี้ไหมคะ
ตอนนี้เค้าคุยกันสิบบรรทัดได้มัง
ขอโทษคนเขียนนะคะถ้าแสดงความคิดเห็นไม่ดี
แต่เรารู้สึกแบบนี้เรารออ่านอยากเห็นความพัฒนา
ของยูแต่กลายเป็นว่าไม่มีไรเลยค่ะมีแต่เรื่องที่ทำให้เราท้อใจแทนอ่ะ ยูกำลังวิ่งตามแทนคุณเพราะเค้าให้ตามแต่ตัวเองก้ไม่ได้หยุดรอสักหนอย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-10-2016 19:55:26
ยูทุ่มเทกับการจีบแทนคุณจนเหมือนเทน้ำใสภาชนะที่มันมีรูรั่ว
เพราะต่อให้ยูเทมากแค่ไหนแทนคุณยังคงวาดหวังอยู่กับโรม :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 09-10-2016 20:13:16
ทำไมยังรู้สีกอีดอัดนะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 09-10-2016 20:37:11
ตอนที่แล้วเราให้บวกแทนคุณแต่ตอนนีเอาคืนนะ
ยิ่งอ่านยิ่งไม่แฟร์อ่ะอ่อยให้เค้าจีบแล้วไง
แต่ตัวเองไม่เปิดใจอ่ะ ไม่คิดตัดใจจากโรมด้วยมัง
ปากก็ว่าแค่เพื่อนแต่การกระทำทันไม่ใช่ป่ะ
เราเป็นคนอ่านอ่านแล้วอึดอัดมากๆอ่ะ
ตอนแรกคนเขียนบอกไม่ดราม่า
แต่ตั้งแต่อ่านมาตอนที่ไม่ดราม่าคือตอนที่ยูไม่ได้อยู่กะคุณน่ะค่ะ
พระเอกเรื่องนี้ค่าตัวแพงจังนะคะออกมาสามสี่บรรทัดตลอด
อ่านแล้วก้นึกถึงเม้นท์ก่อนหน้าของตอนที่แล้ว
คนเขียนทำให้เรารู้สึกว่ายูเป็นแค่พระรองจริงๆนะ
ตอนหน้าจะมีบทพระนายเยอะกว่านี้ไหมคะ
ตอนนี้เค้าคุยกันสิบบรรทัดได้มัง
ขอโทษคนเขียนนะคะถ้าแสดงความคิดเห็นไม่ดี
แต่เรารู้สึกแบบนี้เรารออ่านอยากเห็นความพัฒนา
ของยูแต่กลายเป็นว่าไม่มีไรเลยค่ะมีแต่เรื่องที่ทำให้เราท้อใจแทนอ่ะ ยูกำลังวิ่งตามแทนคุณเพราะเค้าให้ตามแต่ตัวเองก้ไม่ได้หยุดรอสักหนอย

ไม่เป็นไรค่ะ เราโอเคกับทุกคอมเม้นต์ค่ะ แต่งนิยายก็ต้องยอมรับได้ทุกฟีดแบ๊คนี่คือคติของเราค่ะ ถ้ายังไงก็ขอตอบคอมเม้นต์สักหน่อย เพราะปกติไม่ค่อยได้ตอบ อิอิ

ขอแตกเป็นประเด็นแล้วกันนะคะ สำหรับตัวละคร แต่จะพยายามไม่ทำให้เป็นการสปอยล์นะคะ

1 ความดราม่า
สำหรับเราตีความคำว่าดราม่าคือต้องเจ็บปวดเข้าขั้นรันทด แต่เรื่องนี้เราพยายามให้มันแฝงความรู้สึกหน่วงที่ความรู้สึกของคนที่แอบรัก มีปมในความรัก ทำนองนี้ค่ะ และพยายามสอดแทรกคาแรคเตอร์อื่นๆของตัวละครลงไป ให้ตัวละครมีความเป็นสีเทาในตัวเอง
2 คาแรคเตอร์ตัวละคร
เราไม่ได้วางตัวให้ยูเป็นนายเอกที่โดดเด่นค่ะ อยากให้เหมือนเป็นแค่คนๆนึงที่รักใครสักคน มีมุมที่พูดกับตัวเองคิดกับตัวเอง อยากพยายามด้วยตัวเอง แต่คือเขาไม่ได้มีความกล้ามากขนาดที่ว่าจะแสดงออกไปเลยโต้งๆ ยูไม่ได้มีความมั่นใจขนาดนั้นน่ะ และอีกอย่างเขาเคยบอกอยู่ว่ายูเขามีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง คาแรคเตอร์เลยไปคล้ายพระรองเกาหลีที่ทุ่มเทให้นางเอก แทนคุณจริงๆเป็นพระเอกที่มีปม เขาเล่าทุกอย่างให้ยูรูแต่ก็ไม่ทั้งหมด ปมอะไรก็จะเฉลยออกมาเรื่อยๆค่ะ ซึ่งยังคงยืนยันค่ะว่า ยังไงก็ยบแฮปปี้ และคุณก็รักฝังใจมาสี่ปีจะให้จู่ๆเปิดใจเลยเขาก็ไม่อยากหลอกตัวเอง แต่เขาก็ยังยึดติดค่ะ ก็ต้องมาช่วยให้ยูช่วยคุณหลุดออกมาจากอดีตเพื่อมองหาทางเลือกอื่นดูค่ะ
3. ค่าตัวคุณ
คืออันนี้เข้าใจค่ะว่าอยากเห็นเขามาคุยกันมากกว่านี้ อันนี้ต้องขอโทษจริงๆที่มันออกมาให้ตัวละครเสริมมีบทเยอะกว่าแทนคุณเสียอย่างนั้น แต่ที่เราวางเค้าโครงไว้เราอยากให้มันมีที่มาที่ไปที่ทำให้แทนคุณกับยูอยู่ด้วยบ่อยๆ คุยกันบ่อยๆ ซึ่งมันจะค่อยพัฒนาไปค่ะ  ซึ่งมันจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปตามการแก้ปมในใจของแทนคุณค่ะ
4.ความสัมพันธ์ที่พัฒนา
มันกำลังจะออกมาเรื่อยๆในบทต่อๆไปตามข้อสามเลยค่ะ

หวังว่าคำตอบของเราจะช่วยกระจ่างเรื่องความดราม่าลงได้บ้างนะคะ หวังว่าจะยังช่วยเป็นกำลังใจให้หนูยูต่อไปนะคะ

ปล. ยืนยันคำเดิมค่ะ ไม่ดราม่า จบแฮปปี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 09-10-2016 21:12:59
ตอนที่แล้วเราให้บวกแทนคุณแต่ตอนนีเอาคืนนะ
ยิ่งอ่านยิ่งไม่แฟร์อ่ะอ่อยให้เค้าจีบแล้วไง
แต่ตัวเองไม่เปิดใจอ่ะ ไม่คิดตัดใจจากโรมด้วยมัง
ปากก็ว่าแค่เพื่อนแต่การกระทำทันไม่ใช่ป่ะ
เราเป็นคนอ่านอ่านแล้วอึดอัดมากๆอ่ะ
ตอนแรกคนเขียนบอกไม่ดราม่า
แต่ตั้งแต่อ่านมาตอนที่ไม่ดราม่าคือตอนที่ยูไม่ได้อยู่กะคุณน่ะค่ะ
พระเอกเรื่องนี้ค่าตัวแพงจังนะคะออกมาสามสี่บรรทัดตลอด
อ่านแล้วก้นึกถึงเม้นท์ก่อนหน้าของตอนที่แล้ว
คนเขียนทำให้เรารู้สึกว่ายูเป็นแค่พระรองจริงๆนะ
ตอนหน้าจะมีบทพระนายเยอะกว่านี้ไหมคะ
ตอนนี้เค้าคุยกันสิบบรรทัดได้มัง
ขอโทษคนเขียนนะคะถ้าแสดงความคิดเห็นไม่ดี
แต่เรารู้สึกแบบนี้เรารออ่านอยากเห็นความพัฒนา
ของยูแต่กลายเป็นว่าไม่มีไรเลยค่ะมีแต่เรื่องที่ทำให้เราท้อใจแทนอ่ะ ยูกำลังวิ่งตามแทนคุณเพราะเค้าให้ตามแต่ตัวเองก้ไม่ได้หยุดรอสักหนอย

ไม่เป็นไรค่ะ เราโอเคกับทุกคอมเม้นต์ค่ะ แต่งนิยายก็ต้องยอมรับได้ทุกฟีดแบ๊คนี่คือคติของเราค่ะ ถ้ายังไงก็ขอตอบคอมเม้นต์สักหน่อย เพราะปกติไม่ค่อยได้ตอบ อิอิ

ขอแตกเป็นประเด็นแล้วกันนะคะ สำหรับตัวละคร แต่จะพยายามไม่ทำให้เป็นการสปอยล์นะคะ

1 ความดราม่า
สำหรับเราตีความคำว่าดราม่าคือต้องเจ็บปวดเข้าขั้นรันทด แต่เรื่องนี้เราพยายามให้มันแฝงความรู้สึกหน่วงที่ความรู้สึกของคนที่แอบรัก มีปมในความรัก ทำนองนี้ค่ะ และพยายามสอดแทรกคาแรคเตอร์อื่นๆของตัวละครลงไป ให้ตัวละครมีความเป็นสีเทาในตัวเอง
2 คาแรคเตอร์ตัวละคร
เราไม่ได้วางตัวให้ยูเป็นนายเอกที่โดดเด่นค่ะ อยากให้เหมือนเป็นแค่คนๆนึงที่รักใครสักคน มีมุมที่พูดกับตัวเองคิดกับตัวเอง อยากพยายามด้วยตัวเอง แต่คือเขาไม่ได้มีความกล้ามากขนาดที่ว่าจะแสดงออกไปเลยโต้งๆ ยูไม่ได้มีความมั่นใจขนาดนั้นน่ะ และอีกอย่างเขาเคยบอกอยู่ว่ายูเขามีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง คาแรคเตอร์เลยไปคล้ายพระรองเกาหลีที่ทุ่มเทให้นางเอก แทนคุณจริงๆเป็นพระเอกที่มีปม เขาเล่าทุกอย่างให้ยูรูแต่ก็ไม่ทั้งหมด ปมอะไรก็จะเฉลยออกมาเรื่อยๆค่ะ ซึ่งยังคงยืนยันค่ะว่า ยังไงก็ยบแฮปปี้ และคุณก็รักฝังใจมาสี่ปีจะให้จู่ๆเปิดใจเลยเขาก็ไม่อยากหลอกตัวเอง แต่เขาก็ยังยึดติดค่ะ ก็ต้องมาช่วยให้ยูช่วยคุณหลุดออกมาจากอดีตเพื่อมองหาทางเลือกอื่นดูค่ะ
3. ค่าตัวคุณ
คืออันนี้เข้าใจค่ะว่าอยากเห็นเขามาคุยกันมากกว่านี้ อันนี้ต้องขอโทษจริงๆที่มันออกมาให้ตัวละครเสริมมีบทเยอะกว่าแทนคุณเสียอย่างนั้น แต่ที่เราวางเค้าโครงไว้เราอยากให้มันมีที่มาที่ไปที่ทำให้แทนคุณกับยูอยู่ด้วยบ่อยๆ คุยกันบ่อยๆ ซึ่งมันจะค่อยพัฒนาไปค่ะ  ซึ่งมันจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปตามการแก้ปมในใจของแทนคุณค่ะ
4.ความสัมพันธ์ที่พัฒนา
มันกำลังจะออกมาเรื่อยๆในบทต่อๆไปตามข้อสามเลยค่ะ

หวังว่าคำตอบของเราจะช่วยกระจ่างเรื่องความดราม่าลงได้บ้างนะคะ หวังว่าจะยังช่วยเป็นกำลังใจให้หนูยูต่อไปนะคะ

ปล. ยืนยันคำเดิมค่ะ ไม่ดราม่า จบแฮปปี้  :mew1:
ขอบคุณที่มาตอบให้หายอึดอัดนะคะ โอเคเราจะคอยตามให้กำลังใจตัวเล็กต่อไป ขอโทษอีกครั้งนะคะถ้าเม้นท์เราทำให้ไม่สบายใจ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 09-10-2016 21:44:11
กลัวน้องยูจะเหนื่อยกับการจีบจัง  :serius2:
สู้ๆ นะ เหนื่อยก็ถอยออกมา แล้วก็ทิ้งแทนคุณไว้ตรงนั้นแหละ  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chattcha ที่ 09-10-2016 21:45:12
เอาใจช่วยให้ใจตรงกันเร็วๆจ้า
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 09-10-2016 22:08:56
ก็ยังสงสารยูอยู่ดี พยานามเข้านะลูก เหนื่อยก็พัก เปลี่ยนพระเอกกกก
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-10-2016 22:42:00
บางทียูก็พยามไปนะ เยอะเกิ๊น คือถ้าเหนื่อยมากก็น่าจะหยุดบ้างนะ ถ้าเขาไม่มีใจเลย ทำยังไงก็ไม่มีใจอะ เมือนพยายามให้รกจนเกินไป ถึงจะได้คู่กันแล้วแทนคุณจะรักยูได้เท่าที่ยูรักแทนคุณบ้างไหม  จะหึงยูบ้างไหมนะ อยากให้มีคนมาจีบยูบ้างจัง
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-10-2016 22:59:08
แนะนำตัวได้น่ารักทุกคน โดยเฉพาะน้องยูนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 09-10-2016 23:10:30
รอวันที่แทนคุณรับรักยู แต่มันจะคุ้มที่ได้มาหรือเปล่าหนา สงสารยูมาก
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-10-2016 00:10:58
เห้อ กลัวใจจิงๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 10-10-2016 01:32:24
อ่านไปยังคงอึดอัด  อยากบริจาคหลอดไฟให้ยู เอาไว้ส่องทางมั้ยน้องงง #มืดอีหลีอีหลอ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 10-10-2016 14:04:12
อึดอัดแทนยูอ่ะ ใครไม่รักเรานะตัวเล็กกก
ช่วยกันลงขันจ้างพระเอกใหม่ดีไหม แต่ตามความเป็นจริงคุณก็ไม่ได้เป็นพระเอกอยุ่แล้วนี่นะ 555

คนเขียน เขียนได้ดีมากเลยค่ะ เรารู้สึกอึดอัด เศร้าใจ กับยูได้ตลอดเลย
เหมือนยูกำลังสร้างประสาททรายให้คุณ และคุณก็กระโดดลงทะเลไปหาโรม น้ำทะเลที่กระเซ็นขึ้นมาก็ทำลายปราสาททราย หลงเหลือแต่เศษซาก แล้วยูก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ ซ้ำไปซ้ำมา  :mew4:

เราอยากให้ยูรักตัวเองมากกว่ารักคุณได้แล้ว

ปล.แอบอยากให้วันนึ่งที่คุณมารักยู อยากให้ยูไม่ได้วิ่งตามคุณอีกต่อไปแล้วว *หมั่นไส้เบาๆ*
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 10> 09/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-10-2016 20:53:16
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 10-10-2016 21:25:38

...แค่คุณ… by แป้นพิมพ์


ตอนที่ 11
ปลดล็อกความกลัว



จีบอย่างไรให้ได้แฟน บททดสอบก่อนเริ่มจีบ
วัดค่าความกลัวของคนแอบรัก

‘คะแนนของคุณคือ 0-15 คะแนน ค่าประเมินเท่ากับ คุณยังคงมีความกลัวและกังวลเป็นอย่างมาก
คำอธิบาย - รักของคุณนั้นแสนบริสุทธิ์ รักโดยที่ไม่จำเป็นต้องครอบครอง แต่ถ้าคุณคิดซื้อหนังสือเล่มนี้แล้ว แสดงว่าความความรู้สึกส่วนหนึ่งในใจของคุณอยากได้จับจองพื้นที่ในหัวใจของเขาเช่นเดียวกัน บางครั้งคุณคิดว่าสิ่งที่เป็นอยู่มันก็ดีอยู่แล้ว แต่ลึกๆคุณยังคงคาดหวัง แต่คุณไม่สามารถหลุดออกมาจากความกลัวที่มีได้
วิธีการบำบัดความกลัว  - ในเมื่อคุณไม่สามารถไปบังคับใครได้ ก็ลองบังคับจิตใจตัวเอง เปลี่ยนความคิดมุมมองของตัวเอง แล้วก้าวออกมาทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ความเสี่ยงอาจไม่ใช่ผลดี แต่ผลลัพธ์ของการเสี่ยงนั้นจะเป็นบทเรียนสอนคุณในภายภาคหน้าได้ ชนะอะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่ากับชนะใจตัวเองได้ ลองดูค่ะ’






เสียงเพลงสันทนาการดังขึ้น เมื่อพวกเรานั่งเรียงตัวกันอย่างพร้อมเพรียง พร้อมกับที่คณาจารย์ที่มาอยู่ในลานอเนกประสงค์แห่งนี้จะออกมากล่าวต้อนรับเหล่าพี่ทหารของกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 ที่มาให้ความร่วมมือกับกิจกรรมอาสาของมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโนนคำออกมากล่าวต้อนรับพวกเราทั้งหมดก่อนจะพาเหล่าพี่ทหารกับคณะอาจารย์ของมหาวิทยาลัยไปยังอาคารรับรองที่อยู่ทางด้านซ้ายของลานแห่งนี้ พร้อมกับสำรวจพื้นที่รอบๆโดยทิ้งพวกเรานิสิตปี 1 ไว้กับรุ่นพี่คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย


“สวัสดีค่ะ น้องปีหนึ่งที่น่ารักของพี่ทุกคน”
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”

“วันนี้พวกเราจะมาทำความดีกันในโครงการปันยิ้นเพื่อน้อง สร้างสุขอิ่มท้อง ณ โรงเรียนบ้านโนนคำ แต่ก่อนที่เราจะแยกย้ายกันไปเก็บข้าวของของตัวเองที่บ้านพัก พี่ส้มในฐานะหัวหน้าสต๊าฟดูแลน้องทุกคนในวันนี้ มีกิจกรรมมาให้น้องๆได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นกว่าเก่า เราคงได้แนะนำตัวกันไปแล้วตอนเดินทางมา แต่มันยังไม่ทำให้เราไว้ใจซึ่งกันและกัน มีความสามัคคีกลมเกลียวกัน นั่นเพราะเรามาจากคนละทิศละทาง  ถูกไหมคะพี่หงษ์”

“ใช่ค่ะ พี่ส้ม เพราะฉะนั้นพี่จะขอให้น้องนั่งหันหน้าเข้าหาเพื่อนเพื่อทำการจับคู่กันก่อนเลยค่ะ”

ผมฟังคำสั่งที่พี่ๆเขาบอกแล้วจึงได้หันหน้าไปยังคนที่นั่งอยู่ข้างกันซึ่งไม่ใช่ใครเลย เพราะผมถูกพี่แชมีลากมาตั้งแถวข้างแทนคุณตั้งแต่ต้น ผมยิ้มให้อีกฝ่ายที่มองผมอยู่ก่อนเช่นเดียวกัน

“เดี๋ยวเราจะสาธิตวิธีการแนะนำตัวก่อนนะคะ โรส แชมี เชิญค่ะ” พี่โรสกับพี่แชมีออกมายืนที่ด้านหน้าเตรียมพร้อมเพื่อทำการสาธิต

 “อันดับแรกนะคะ ให้น้องๆโยกไปซ้ายขวาและยิ้มให้เพื่อนตามจังหวะเพลง และพอเพลงจบลง ให้น้องยกมือสวัสดีพร้อมกล่าวทักทาย สวัสดีฉันชื่อ....แล้วจับมือแบบฝรั่ง โค้งให้กันแบบญี่ปุ่นเป็นอันจบ” พี่โรสกับพี่แชมีทำการสาธิตให้ดูตามที่พี่ส้มอธิบาย

“น้องๆคงเข้าใจกันแล้วนะคะ งั้นทั้งหมดยืนขึ้นค่ะ”

เสียงเพลงและเสียงปรบมือของพี่ๆเขาดังขึ้น พวกผมก็ทำการโยกไปตามจังหวะอย่างที่พี่ๆเขาบอกไว้ก่อนหน้า

“สวัสดี สวัสดี สวัสดี วันนี้เรามาพบกันเธอกับฉันพบกันสวัสดี” ผมยิ้มให้แทนคุณและโยกตามจังหวะเพลง  พร้อมกับเสียงพูดดังขึ้นหลังเพลงจบเป็นเสียงแนะนำตัวของแต่ละคน

“สวัสดี ผมชื่อยู / สวัสดี ผมชื่อคุณ” แล้วเราก็จับมือทักทายกัน จากนั้นก็โค้ง เป็นอันจบตามที่พี่ๆเขาบอก

รวมเงิน รวมเงินวันนี้ รวมเงินดูให้ดีอย่าให้เกินอย่าให้ขาด ผู้หญิงมีค่า 1 บาท ผู้ชายเก่งกาจ 50 สตางค์ รวมเงิน 8 บาทค่ะ

ยังไม่ทันที่พวกเราได้ตั้งตัว พี่สันทนาการก็ทำการร้องเพลงขึ้นมาอีกรอบ ผมถูกกระชากแขนอย่่างแรงและเห็นเป็นแทนคุณที่ลากผมมาด้วย ส่วนผมคว้ามือเอร่าติดมาอีกคนด้วยความตกใจเช่นกัน พร้อมกับที่เอร่าคว้าแขนเดือนคณะวิศวะติดมาตอนไหนไม่ทันรู้ เสียงกรี๊ดของสาวๆดังไปทั่ว เมื่อเกิดการชุลมุนจากการจับกลุ่มตามเพลง


“ใครจับกลุ่มครบแล้วนั่งลงนะคะ”
มีผู้หญิงคนหนึ่งจากสีอื่นที่พวกเราวิ่งเข้ามารวมกลุ่มด้วยกำลังชี้นิ้วไล่นับจำนวน

“ครบแล้วๆ นั่งเลย” ผมกวาดสายตาดูแล้วเห็นว่ากลุ่มผมมี ผู้ชายทั้งหมด 6 คน และหญิง 5 คน รวมเป็น 11 คน

“ทีมไหนเป็นผู้หญิงล้วนหมดเลยมีไหมคะ” มีอยู่สองกลุ่มที่ยกมือขึ้น พี่ๆเขาถึงได้ทำการจับแยกกลุ่มที่มีผู้ชายเยอะไปสลับตัวจนได้กลุ่มที่มีจำนวนสมาชิกพอๆกัน

“ตอนนี้ทุกคนจะไม่ได้อยู่เป็นกลุ่มที่ถูกจัดมาเหมือนตอนแรก พี่จะให้น้องๆ ตั้งชื่อกลุ่มกัน จดจำชื่อสมาชิกไว้นะคะ แล้วกลุ่มที่เราเห็นตรงหน้าจะเป็นเพื่อนที่เราจะร่วมงานด้วย โดยพี่ๆจะแจกหน้าที่ของแต่ละกลุ่มให้อีกทีค่ะ”

“หลังจากนี้ให้น้องๆไปรับสัมภาระของตัวเองที่พี่สต๊าฟประจำกลุ่มที่มา และไปเก็บที่ห้องพักตามบ้านพักที่แบ่งกลุ่มไว้บนรถนะคะ”

“เก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วให้มารวมตัวกันเป็นกลุ่มของตัวเองที่นี่ค่ะ"

แทนคุณหันไปรับใบรายละเอียดจากพี่สต๊าฟคนหนึ่งที่เดินมาแจก ก่อนเขียนชื่อตัวเองแล้วส่งต่อให้ทุกๆคนเขียนใบรายชื่อจนครบ เหลือเพียงชื่อกลุ่มเท่านั้นที่ยังไม่ได้ตั้ง

“ตั้งชื่อกลุ่มอะไรดี” ผมมองคนนั้นทีคนนี้ทีโดยไม่ได้ออกความคิดเห็นอะไร เห็นสาวต่างคณะคนเดิมมองจ้องมาที่ผมที แทนคุณทีก่อนจะยิ้มออกมา

“เอาชื่อนี้ได้มั้ย ตัวเล็กตัวโต เพราะในกลุ่มเราก็มีทั้งคนตัวโตและก็คนตัวเล็ก”
“ได้สิ” แทนคุณพูดออกมาทำให้ผมหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อ

“จะดีหรอ ไอ้นี่มันตัวไม่เล็กนะ” ไอ้นี่ที่พ่อเดือนวิศวะนามว่าติน พูดถึงคือเอร่าที่นั่งกอดแขนเขาไม่ปล่อย
“แหม แซวกันขนาดนี้อยากเป็นผัวเอร่าหรอคะ” เดือนวิศวะไม่ตอบอะไรนอกจากสะบัดแขนเอร่าออก

“ว่าไง ยู ชื่อกลุ่มตัวเล็กตัวโตได้มั้ย” ผมมองสาวคนนั้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ แต่สุดท้ายก็พยักหน้า
“โอเค งั้นชื่อนี้นะ คนอื่นว่าไง” เมื่อไม่มีเสียงตอบอะไร ผู้หญิงที่ป้ายชื่อเธอพลิกอยู่นั้นก็ทำการจรดปลายปากกาเขียนชื่อกลุ่มลงไปว่า ตัวเล็กตัวโต  พวกเราทั้ง 11 คนได้หน้าที่ทาสีโรงอาหารด้านนอก พอรับทราบรายละเอียดแล้วก็เอาเอกสารรายชื่อนั้นไปส่งให้กับพี่สต๊าฟและรับของสัมภาระของตัวเอง

ผมเดินตามแทนคุณที่เดินนำหน้าเพื่อไปรับของที่พี่แชมีกับพี่โรส พี่แชมีบอกว่าที่พักอยู่เลยเข้าไปด้านในเป็นอาคารเรียนใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จแต่ยังไม่ได้เปิดทำการ ซึ่งพวกเขาได้ทำการติดป้ายแบ่งไว้แล้วสำหรับห้องนอนของแต่ละกลุ่ม

ระหว่างที่เดินผมไม่ได้มองทางเลยด้วยซ้ำมองแต่แผ่นหลังของแทนคุณ แต่ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าผมเดินตามมาข้างหลังถึงได้เดินช้าๆ เหมือนว่ารอผมที่ช่วงขาสั้นกว่า

“นี่”

จู่ๆเขาก็หยุดเดินทำให้ผมที่เดินตามต้องหยุดเท้าที่กำลังก้าวไปข้างหน้า

“มาเดินข้างๆก็ได้” แทนคุณว่าแบบนั้นแต่ไม่ได้หันมามอง ผมรู้ว่าเขากำลังคุยกับผมก็ในเมื่อบริเวณรอบข้างตอนนี้ไม่มีใครเลยนอกจากเขากับผม

“มีอะไรอยากถามมั้ย” ผมหันไปมองหน้าเขา คิ้วขมวดด้วยความสงสัยว่าแทนคุณรู้ได้ยังไง
“หน้ามึงฟ้องขนาดนั้น รู้ตัวบ้างไหมว่าเป็นคนที่แสดงออกทางสีหน้าชัดเจนมาก”
“จริงหรอ”
“กูโกหก”
“อ้าว”
“ล้อเล่น มึงนี่น้า พูดอะไรก็เชื่อไปหมดเลย" ผมหันไปมองหน้าแทนคุณแล้วพูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าพูดมันออกแล้ว

“แล้วคำพูดมึงมันเชื่อถือได้แค่ไหนล่ะ”

แทนคุณหันมามองผมนิ่ง เขามองลึกเข้ามาในตาของผมจนเป็นผมเสียเองที่ต้องเสหลบตาเขา ก่อนเราจะเดินต่อไปยังสถานที่รับรองที่ทางโรงเรียนจัดไว้ให้


อาคารรับรองที่ทางโรงเรียนจัดไว้เป็นอาคารใหม่สองชั้นที่มีห้องเรียนทั้งหมด 10 ห้อง แบ่งเป็นชั้นละ 5 ห้อง โดยห้องน้ำหญิงจะอยู่ปีกขวาของชั้นและห้องน้ำชายอยู่ทางปีกซ้ายซึ่งถ้าห้องน้ำไม่เพียงพอ ทางโรงเรียนก็มีโซนอาบน้ำที่สร้างขึ้นชั่วคราวไว้รองรับที่ด้านหลังอาคาร รวมถึงถ้าอยากอาบน้ำกลางแจ้งก็มี ซึ่งเป็นบ่อดินที่ทางโรงเรียนขุดไว้สำหรับสูบน้ำมาใช้รดน้ำต้นไม้ โดยได้จากการขุดลอกธารน้ำใหญ่ที่มีต้นน้ำจากน้ำตกที่อยู่ลึกไปในป่าหลังโรงเรียนเช่นเดียวกัน

ผมยืนกวาดตามองพื้นที่ภายในห้องที่ถูกปูฟูกเอาไว้ให้อย่างเป็นระเบียบ ซึ่งได้ความอนุเคราะห์จากกองบัญชาการทหารเรือภาคที่ 1 ที่เอื้อเฟื้อที่นอนและหมอนให้ทางโรงเรียนไว้บริการต้อนรับผู้มีจิตอาสาทุกคน ผมเห็นว่าแทนคุณเดินไปหยุดตรงริมกำแพงฝั่งหนึ่ง ผมที่ไม่รู้ว่าจะไปนอนตรงไหน ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

“หาที่ลงไม่ได้หรอจ๊ะยู” ผมหันไปมองข้างหลังเห็นว่าเอร่าเดินมาอยู่ด้านหลัง เขามองไปรอบห้องพร้อมรอยยิ้ม

“ไม่เห็นยากเลย” แล้วก็ลากผมไปหยุดอยู่ข้างแทนคุณที่กำลังคุกเข่าจัดผ้าปูนอนของตัวเองอยู่
“นี่แทนคุณ ข้างๆกันนี่ยังไม่มีคนนอนใช่มั้ยคะ” แทนคุณหันมามองหน้าผม ก่อนจะเลยไปยังเอร่า

“ยังหรอก”
“โอเค งั้นยูนอนตรงนี้นะ เดี๋ยวเอร่าจะนอนฝั่งนี้” เอร่าจัดการเสร็จสรรพ ผมถึงได้นั่งลงในจุดที่เป็นที่นอนของผม ซึ่งมันก็คือข้างกันกับแทนคุณ

ผมวางของเรียบร้อยหันไปมองแทนคุณที่กลับไปง่วนอยู่กับสัมภาระของเขา เห็นเขาหยิบไอโฟนมาหย่อนใส่กระเป๋ากางเกง แล้วลุกขึ้นยืน ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่พร้อมใช้ความคิดอย่างหนัก


ไหนว่าผมเข้าใจเขาแล้วไง ไหนว่าผมจะสู้ไง ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองยังขี้ขลาดอยู่เลย
ผมไม่แน่ใจจริงๆเลยว่าตัวเองพยายามเพื่อความรักครั้งนี้เต็มที่แล้ว
ผมหวังแต่จะให้แทนคุณเปิดใจบ้าง แล้วผมล่ะ ผมเปิดใจตัวเองให้หลุดจากความกลัวนั้นหรือยัง


เงาที่พาดผ่านผมไป ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองตามทางที่แทนคุณเดินผ่าน แผ่นหลังของอีกคนหายลับไปจากกรอบประตูห้องแล้ว แวบหนึ่งที่คำพูดของแทนคุณลอยเข้ามาในหัวของผม


“ตอนที่กูได้ยินมึงคุยกับเพื่อนมึงในร้านกูก็รู้สึกว่ากูควรทำแบบที่โรมเคยบอกกู ทีแรกกูก็คิดนะว่ามันถูกหรือเปล่า กูกำลังเล่นกับความรู้สึกของมึงหรือเปล่า แต่กูก็อยากจะลองเสี่ยง ยิ่งพอมึงบอกว่ามึงชอบกูมาสองปีแล้ว กูก็ยิ่งนึกถึงตัวเอง การที่แอบชอบใครสักคนมันทรมานกูเข้าใจมันดี กูถึงไม่อยากให้มึงทิ้งโอกาสที่กูให้ มึงเข้าใจกูยัง”


“ถ้าอยากเป็นแค่เพื่อนก็อย่าจีบให้ติด...แต่ถ้าอยากเป็นมากกว่านั้นก็พยายามให้มากๆสิ กูไม่ใช่คนใจแข็งขนาดนั้น”

“ยู....มึงชอบกูเพราะอะไร” 



ภาพในเฟซบุ๊คที่เขาโพสต์ถึงคนที่ทำสมุดหายครั้งนั้น การที่เขานั่งรอผม การที่เขาเอาตัวมาคลุกคลีกับผม ทั้งที่ความจริงเขาแค่เอามันฝากโรมมาคืนก็ได้แต่เขากลับไม่ทำ...นั่นเพราะ คุณเองก็อยากรู้จักผมและเขาก็พยายามเปิดใจรับผมอยู่ไม่ใช่หรือไง

จะมีก็แต่ผมที่เอาแต่คิดเองไปตลอด ต้องเป็นเขาทุกครั้งที่คอยถามว่าผมมีอะไรในใจ หรืออยากถามอะไรเขา

ทำไมถึงได้ขี้ขลาดและงี่เง่าขนาดนี้นะไอ้ยู


ผมตัดสินใจลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งตามแทนคุณไปทันที ผมรู้ว่าเขาจะไปที่ไหน ก็ในเมื่อพวกพี่ๆบอกแล้วว่าให้ไปรวมกันที่ลานอเนกประสงค์เหมือนเดิม


แต่พอออกมาจากตึกผมกลับพบว่าแทนคุณยืนอยู่ เหมือนว่าเขายืนรอผมอยู่อย่างนั้นแหละ

“กว่าจะมา”
“รอกูอยู่ จริงๆหรอ”
“ขี้แยว่ะมึง” 

แทนคุณผลักหัวผมเบาๆ เมื่อเห็นว่าผมกำลังเบะปากและน้ำตาก็กำลังไหล แต่ผมห้ามมันไม่ได้นี่นา มันไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้เลยจริงๆ




เขาลากผมออกมาจากบริเวณอาคารเรียน เดินเลยมาจนถึงสระน้ำกว้างที่ด้านหลังที่มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมเขียวขจี มองไกลเลยไปเป็นภูเขาที่เรียงรายทำเป็นไร่ขั้นบันไดดูสวยงาม แทนคุณหยุดยืนอยู่ใต้ต้นหูกวางที่แผ่กิ่งให้ร่มเงาเป็นขนาดกว้างและลำต้นสูงใหญ่

"ที่มึงถามกูว่าคำพูดกูเชื่อถือได้ขนาดไหน กูขอบอกมึงนะยู กูไม่ชอบโกหก กูเกลียดการหลอกลวง เพราะฉะนั้นทุกคำที่กูพูดมันคือความจริง"

ผมมองแทนคุณตาไม่กระพริบ น้ำตาที่ไหลเมื่อสักครู่นี้หายไปแล้ว เขายื่นบางอย่างมาตรงหน้าผม พอมองตามมือเขาถึงเห็นว่ามันคือไอโฟนของแทนคุณ

"เปิดดูสิ"

ผมรับมันมาและทำตามที่เขาบอก พอกดปุ่มหน้าจอ ภาพพักหน้าจอที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ามันไม่ใช่ภาพที่ผมเคยเห็น แต่มันกลับกลายเป็นภาพที่ผมวาดไว้ในสมุดที่เคยทำหาย

"กูชอบภาพนี้ที่มึงวาด"

ผมมองภาพการ์ตูนฉบับแทนคุณ เป็นภาพแทนคุณกำลังเล่นกีต้าร์ในวันที่เขาประกวดดาวเดือนเมื่อคืนวันเฟรชชี่ไนท์ กีต้าร์คือเครื่องดนตรีที่เขาชอบ เขาดูมีเสน่ห์มากยามที่เขาได้เล่นและร้องเพลง


"มึง...."

ผมนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่ผมเคยขอเขาอย่างเอาแต่ใจในคืนก่อนนั้น ไม่คิดว่าเขาจะตามใจผม

"ยู กูไม่ใช่คนดี ไม่ใช่คนเพอร์เฟ็คอะไร กูก็แค่คนธรรมดา กูยังคงโหยหาความรัก ยังคงต้องการใครสักคนที่เข้าใจในตัวกู พอกูคิดว่ากูเจอเขาแล้วแต่เขากลับไม่ได้ต้องการกูอย่างที่กูต้องการเขา กูพยายามวิ่งตามเขาแต่วิ่งเท่าไหร่ ก็เหมือนกูวิ่งวนอยู่ในที่เดิมๆ วิ่งไปอย่างที่กูไม่รู้ว่าปลายทางมันคือตรงไหน กูถึงลองหยุดและรับฟังว่าเขาต้องการอะไร จนสุดท้ายกูก็ยอมแพ้ แต่กูแค่ไม่ได้ถอยหลัง กูแค่หยุดยู กูอาจจะทำอะไรลงไปโดยที่มันทำร้ายความรู้สึกมึง แบบที่กูไม่รู้ตัว การกระทำ คำพูดบางอย่างกูคงไม่ชัดเจน กูขอโทษ"

คำพูดยาวเหยียดของแทนคุณมันทำให้ผมต้องขบคิดตาม มองเขาผ่านเลนส์แว่นตาแต่รู้สึกว่ามันไม่ค่อยชัด มันเลอะคราบน้ำตาเล็กน้อย ผมถึงถอดมันออกมาเช็ดแล้วสวมใหม่

"มึงยังมีอารมณ์มาเช็ดแว่นนะ นี่กูเคลียร์กับมึงให้เข้าใจอยู่นะเว้ย"
"ก็มันขึ้นฝ้านิหว่า"

แทนคุณส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับที่ยกมุมปากยิ้มนิดๆ มันตลกตรงไหนกัน แต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้

"งั้นมึงก็ยืนยันว่า มึงกับโรมไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ"
"จะให้ย้ำอีกกี่รอบ สถานะของกูกับโรมก็เป็นได้แค่นั้น กูมีโรมเป็นเพื่อนสนิทที่คุยได้ทุกเรื่องแค่คนเดียว"

ผมขบริมฝีปากเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบนั้น พลางนึกไปถึงอีกเรื่องที่โรมเคยพูดไว้

"แล้วทำไมมึงต้องคอยโทรหา ตามรับตามส่งแบบนั้นทุกครั้ง ทำอย่างกับคนเป็นแฟนกัน แล้วที่โรมบอกว่า มึงกับเขากำลังเป็นญาติกันอีก"

แทนคุณเสมองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากตอบคำถามนี้

"คุณ....มึงรู้ไหมว่าความรู้สึกของกูมันไม่ต่างกับมึงเลย การที่กูรับข้อเสนอมาจีบมึง มันก็เหมือนกูกำลังวิ่งตามมึง บางครั้งกูก็รู้สึกเหมือนจะวิ่งทันมึง บางครั้งก็เหมือนมึงกำลังวิ่งหนีกูไปอีก กูเหมือนคนวิ่งๆหยุดๆ  มันเหนื่อยนะเว้ย ให้พักได้แค่นิดนึงแล้ววิ่งต่อ แล้วพอกูรู้สึกเหมือนใกล้ถึงเส้นชัย แต่ความจริงกลับไม่ใช่ เส้นชัยอยู่ตรงไหนกูยังไม่รู้"

ผมยื่นมือออกไปจับแขนแทนคุณกระตุกเบาๆให้เขาหันมามอง

"มันจะดีกว่ามั้ยวะ ถ้าเกิดว่ามึงหยุดรอให้กูได้จับมือมึงแล้ววิ่งไปด้วยกัน  ไม่ต้องสนว่าจุดหมายปลายทางอยู่ตรงไหน แค่กูรู้ว่าคนที่วิ่งอยู่ข้างกูคือมึง กูก็ไม่กลัวเหนื่อยแล้ว"

แทนคุณมองผมนิ่งๆ ความเงียบโรยตัวอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เสียงของเขาจะดังขึ้นทำลายความเงียบนั้น

"พี่สาวของโรมกับพี่ชายกูกำลังจะหมั้นกัน หลังจากที่พวกเขาเรียนจบก็จะแต่งงานกันทันที วันพุธที่จะถึงนี้เรามีนัดคุยกันถึงฤกษ์วันหมั้นและการเตรียมงาน แล้วกูมารู้ทีหลังว่าโรมกับพี่กูชอบกัน พวกเขาแอบคบกันก่อนจะเลิกกันตอนจะจบม. 6 โรมเลยตัดสินใจสอบเข้าที่นี่ตามกูมาเพราะต้องการทำใจ กูไม่รู้รายละเอียดมากไปกว่านี้ แต่ที่กูรู้คือ โรมยังตัดกับพี่กูไม่ขาดพวกเขายังแอบติดต่อกันอยู่ กูถึงต้องตามติดกับเขา มึงเข้าใจกูหรือยัง"

สิ่งที่รับรู้ทำเอาผมอ้าปากค้างด้วยความตะลึง ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนี้มาก่อน เคยได้ยินประโยคที่ว่า เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ผมว่ามันก็ไม่ผิดไปจากคำพูดนั้นเลย

"ยู!!"

เสียงเรียกของเอร่าดังขึ้นมา พร้อมกับที่ร่างท้วมของเขาจะวิ่งมาทางที่พวกผมอยู่

"มาอยู่นี่กับคุณน่ะเอง  รีบไปรวมเร็วเข้าพี่ๆเขาตามแล้ว ไปช้าเดี๋ยวโดนทำโทษ"

ผมหันไปมองแทนคุณเห็นเขายิ้มพร้อมพยักหน้าให้

"ไปกันก่อนเถอะ"

เอร่าวิ่งกลับไปแล้ว พอแทนคุณพูดแบบนั้น ผมก็รีบหันหลังเตรียมวิ่งตามเอร่าเช่นกันเพราะไม่อยากโดนทำโทษ แต่แรงกระตุกที่มือทำให้ผมหันกลับมามองแทนคุณอีกครั้ง แรงกระชับที่ฝ่ามือชวนให้ก้มลงมองตามและเห็นว่าเขากำลังจับมือผมอยู่
 

ผมเงยหน้ามองแทนคุณอีกครั้ง เขาส่งยิ้มโชว์รอยบุ๋มข้างแก้ม เสน่ห์ในตัวของแทนคุณที่ทำให้ผมยกยิ้มตาม



"ไม่วิ่งไปพร้อมกันหรือไง"




Loading >>>
 :katai5: :katai5:

แอร๊ แอร๊
เจอกันตอนหน้า 11.2 นะ ตอนที่  11 ขอย่อยเป็น 3 พาร์ทนะ มันยาววว 5555

พอจบตอน 11/3 แล้ว เราจะไปดูมุมของแทนคุณกันค่า

บะบุย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 10-10-2016 21:48:38
ตอนนี้เริ่มเข้าใจเหตุผลของคุณและ
รักโรมข้างเดียวไม่พอยังต้องมารับรู้ว่าเค้ารักพี่ตัวเองอีก
จับมือตัวเล็กแล้วอย่าปลอยล่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 10-10-2016 22:06:43
ว่าแล้วว่าโรมต้องชอบใครสักคนที่เกี่ยวกับแทนคุณ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 10-10-2016 22:08:21
รักหลายเศร้า สู้ๆ นะน้องยู
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-10-2016 22:11:48
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 10-10-2016 22:16:15
สรุปคือ แทนคุณรักโรมก็จริง ยังตัดไม่ขาดก็จริง แต่ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็แค่เพื่อนสนิทมากๆ ที่แทนคุณตามติดโรมส่วนนึงคงเป็นเพราะความหวังดีของเพื่อนสนิทที่ไม่อยากให้เพื่อนทำผิด แต่ส่วนนึงต้องโทษพี่ชายของคุณนะ ที่ตัดโรมไม่ขาด แต่ดันจะมาแต่งงานกับพี่สาวของโรม
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 10-10-2016 22:16:43
เราว่าตอนนี้อะไรหลายๆอย่างค่อนข้างชัดและเคลียมากๆแล้วในมุมของทุกๆคนอะ
โรมชัดเจนมากมาตั้งแต่แรกแล้วจุดยืนของโรมมันชัดมากๆตั้งแต่วันที่รู้ว่ายูชอบแทนคุณ
แม้จะยังไม่รู้ว่าแค่ปลื้มเฉยๆหรือชอบจริงจังแบบที่มารู้ทีหลัง
แต่โรมอยู่ในจุดของคนที่พร้อมจะผลักแทนคุณออกไปให้มีความสุขกับใครซักคนที่ไม่ใช่ตัวเองมานานแล้วอะ
แทนคุณถึงตอนแรกจะเหมือนกั๊กๆ แต่เราค่อนข้างจะเข้าใจการกระทำก่อนหน้านี้
ที่คอยรับส่งโรม อยู่แต่กับโรม คอยดูแล ทั้งๆที่ปากก้บอกให้ยูจีบ ทั้งอ่อยยู
มันอาจจะเหมือนว่าแทนคุณอ่อยยูโดยที่ไม่คิดจะตัดใจจากโรมนะ
แต่ในมุมนึงนั่นคือสิ่งที่แทนคุณทำมาตลอด ทำมาจนชินและคนได้รับก้ชินกับมัน โดยที่อาจจะไม่ำด้คิดอะไรไปกว่านั้นอะ
แทนคุณรักโรมมา4ปี แปลว่าคอยดูแลแบบนี้มา4ปีแล้ว จะให้เปลี่ยนทันทีไม่มีใครทำได้หรอก
เอาแค่แทนคุณคิดจะหยุดกับโรมแล้วยอมเปิดใจให้ยูนี่ก้เยอะแล้วนะ
เราว่ามันดีซะอีกที่เค้ามั่นคงในความรักและดูแลคนที่รักได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ไม่เคยได้ความรักตอบกลับมา
เพราะมันแผปลว่าเมื่อไหร่ที่ยูจีบติด แล้วเค้ารักกัน ยูจะเป็นคนที่น้าอิจฉามากจริงๆโดยสมบูรณ์เลย
แทนคุณอาจจะเหมือนกั๊กๆ แต่เราว่าเค้าแค่อยู่ในช่วงพยายามตัดใจและเปิดใจมากกว่า
จะทิ้งอะไรไปซักอย่างก้ไม่ได้ คนนึงก้ยังทิ้งไม่ลง แต่อีกคนก้ไม่อยากจะปล่อยไปไหน ซึ่งเคสหลังนี่ดีต่อใจกว่ากันเยอะอะ
ในส่วนของยูนั้นนนน ไม่แปลกใจที่มุกคนจะสงสารและก้เห็นใจยูมาก
เพราะเราอ่านแต่ในด้านในความคิดในมุมมองของยูคนเดียว เรารับรู้ความคิดและความรู้สึกของยูในแต่ละเหตุการณ์มาตลอด
หลายครั้งที่ยูจะถอดใจ จะยอมแพ้ และหมดหวังเรื่องแทนคุณ
ยูสงสัย มีคำถามมากมายแต่ก้ไมาเคยกล้าจะถามออกไปตรงๆให้สมกับสิทธิพิเศษที่เค้าได้มา
กลับกลายเป็นแทนคุณกับโรมที่เป็นคนคอยกระตุ้นไม่ให้ยูเลิกที่นะจีบแทนคุณคอยถามคลายข้อสงสัยให้เคลียเองมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้เป็นตอนที่แบบทุกคนเคลีย และชัดเจนมาก
แทนคุณรู้ตัวและยอมเปิดเผยเรื่องโรมกับยู ทำให้ยูเลิกระแวงไปได้เยอะ
ส่วนยูก้เริ่มรู้ตัวว่าที่ผ่านมาตัวเองทำอะไรไปบ้างเมื่อเทียบกับคนอื่นพยายามทำ

ชอบเรื่องนี้มากกก มันเป็นฟิลของคนธรรมดาที่แอบรัก มีความกลัวกังวลและความหวังเป็นปกติ
รอค่าาาารออ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-10-2016 22:30:59
 :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-10-2016 22:57:43
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 10-10-2016 23:15:42
 :ling2: :ling1: :ling2: :ling1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 11-10-2016 00:01:16
 :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-10-2016 00:34:33
เห้อ หน่วงไปหมด
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 11-10-2016 00:37:27
ตกลงคนน่าสงสารกลับเป็นโรมซินะ.

แอบรัก....อย่างไม่มีทางสมหวัง...

 :hao5:  :hao5:  :hao5:  :hao5:

....

หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 11-10-2016 00:54:25
แอบมาเม้นท์เอาใจช่วยตัวเล็ก  :hao3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: CIndY59 ที่ 11-10-2016 12:44:23
แล้วถ้าเกิดโรมอยากตัดใจจากพี่ชายคุณ โดยหันมาหาคุณแทนคุณจะทำยังไง
โหยยยย...ต้องมีปม  :oo1:  นี่เรารักยูใช่ไหม อยากให้น้องเศร้า เจอมาม่า 555


ปล.เรื่องเฟสบุ๊คยังมีเงื่อนงำ...
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 11-10-2016 13:00:53
 :a5: ว่าแล้วโรมต้องมีซัมติง จนได้สิน่า เปลี่ยนไปเชียร์โรมกับพี่ชายแปปนึงได้ไหม 5555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11> 10/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 11-10-2016 13:05:48
แอบซับซ้อนนะเนี่ย
เป็นกำลังใจให้น้องยูนะ  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 11-10-2016 15:26:17
ตอน 11.2

จีบอย่างไรให้ได้แฟน ประเมินทักษะในการจีบ
‘คะแนนของคุณคือ 0-15 คะแนน อยู่ในเกณฑ์ เด็กทารก
ความหมาย – คุณยังคงไร้ความสามารถในการที่จะจีบใครสักคน ไม่รู้จักในการใช้คำพูด การแสดงออก หรือแม้แต่การสร้างสถานการณ์
วิธีพัฒนาทักษะ – คุณเหมือนเด็กทารกแรกเกิดที่จะมีพัฒนาการตั้งแต่ คลาน เดิน วิ่ง อย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรใจร้อนที่จะรุกอีกฝ่ายมากเกินไป ควรแสดงออกในมุมที่สดใส น่ารักและไร้เดียงสา ให้อีกฝ่ายได้เห็นถึงความรักอันแสนบริสุทธิ์ของคุณ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ เด็กมักไม่โกหกผู้ใหญ่ชอบกล่าวแบบนั้น
คำแนะนำเพิ่มเติม –หากมีเวลาอยู่กับคนที่ชอบคุณต้องรู้จักหยิบชวยโอกาสในช่วงเวลานั้นให้เกิดประโยชน์มากที่สุด’



ตอนนี้พวกเรากำลังช่วยกันนับของที่ได้มาแล้วจัดวางเป็นกลุ่ม พร้อมติดป้ายชื่อกลุ่มคำว่าตัวเล็กตัวโตที่พี่เขาเขียนด้วยปากกาเคมีใส่กระดาษเอสี่มาให้ เห็นกลุ่มอื่นๆก็มีกระดาษป้ายชื่อกลุ่มมาแปะของใช้ตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเช่นเดียวกัน ซึ่งผมขออธิบายคร่าวๆก่อนว่า สมาชิกที่มาร่วมค่ายอาสาในครั้งนี้มีปีหนึ่งที่ลงทะเบียนไว้ 160 คน แต่ก็มาไม่ครบตามจำนวน ที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งในจำนวนนั้นก็เป็นดาวเดือนของทั้ง 15 คณะ ให้เป็นหน้าเป็นตากับมหา’ลัยได้ดีจริงๆ

ซึ่งตอนที่พี่เขาทำการแบ่งกลุ่มพวกเราด้วยการสันทนาการเมื่อช่วงเช้าทำให้เราแตกออกเป็น 13 กลุ่ม เฉลี่ยกันไปกลุ่มละ 10-12 คน โดยที่มีการแบ่งหน้าที่เป็นกลุ่มทาสีทั้งหมด 6 กลุ่ม ทำความสะอาดพื้นที่รอบๆ 3 กลุ่ม ซ่อมแซมโต๊ะ เก้าอี้ 4 กลุ่ม โดยที่พี่ทหารช่วยพวกเราซ่อมแซ่มอาคารก่อนที่จะลงมือจัดการในส่วนต่างๆตามหน้าที่ที่ได้รับ

โรงอาหารเก่าที่ทรุดโทรมของโรงเรียนบ้านโนนคำอยู่ห่างจากลานอเนกประสงค์ของพวกเราประมาณ 200 เมตร ซึ่งถือว่าไม่ไกลนัก หลังจากที่พวกเราเรียงของที่จะต้องใช้เรียบร้อยถึงได้มาช่วยพี่ทหารเตรียมอุปกรณ์สำหรับซ่อมหลังคาที่มีรอยรั่ว พวกเราช่วยเหลือกันอย่างขมักขเม้น ในขณะที่พวกพี่สต๊าฟเกณฑ์ผู้หญิงบางคนไปช่วยแม่บ้านของโรงเรียนจัดเตรียมเรื่องอาหาร

ผมกับแทนคุณเองก็กำลังช่วยกันยกเก้าอี้และโต๊ะออกมาจากในโรงอาหารเหมือนกับเพื่อนๆ พอวางของที่ช่วยกันยกมาเสร็จ ดาวมหา’ลัยปีนี้ก็รีบเดินเข้ามาหาแทนคุณทันที

“แทนคุณ ดื่มน้ำก่อนนะคะ”
“อุ๊ย คอแห้งพอดีเลยอ่า” แต่ยังไม่ทันที่แทนคุณยื่นมือออกไปรับหรือกล่าวขอบคุณอะไร เอร่าเพื่อนใหม่แสนดีของผมก็ยื่นมือมาขวางตัดหน้าไปเสียก่อน
“ขอบคุณนะคะ ดีว่า” พูดจบก็ดื่มน้ำอึ่กๆ ทำให้ดีว่าได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนจะสะบัดหน้าหนี
“อิอิ แกล้งชะนีได้แล้ว สะใจ ไปดีกว่า” แล้วเอร่าก็เดินจากไปด้วยอีกคน ซึ่งไม่ได้ไปไหนไกลหรอก กำลังไปก่อกวน ตินเดือนวิศวะฯที่นั่งพักเหนื่อยอยู่

“ยู คุณ น้ำมั้ย” เสียงของอันอันที่เดินถือถาดน้ำตรงมาทางนี้ดังขึ้น ให้ผมหันไปมองแล้วหยิบน้ำส่งให้แทนคุณ ก่อนจะหยิบของตัวเองมาอีกแก้ว แล้วอันอันก็เดินจากไป ปล่อยผมกับแทนคุณไว้แค่สองคน

“เหนื่อยมั้ย”
“สนุกดี” ผมตอบกลับพร้อมส่งยิ้มกว้างให้
“แต่เหงื่อมึงออกเต็มเลยนะ หน้าแดงด้วย ไหวหรอวะ”
“ไหวสิ มีมึงเป็นกำลังใจอยู่แบบนี้ ยังไงกูก็ไหว” ผมหยอดอีกฝ่ายกลับไป พลางลอบมองว่าแทนคุณแสดงท่าทางแบบไหนออกมา แต่เขาแค่เลิกคิ้วใส่ สงสัยจะตกใจที่ได้คำพูดแบบนี้จากผม

“เข้าใจพูดนะ” เขาว่าแต่แอบหันหน้าไปทางอื่น ผมถึงได้แอบเอี้ยวตัวมองแล้วเห็นว่าแทนคุณกำลังยิ้มอยู่ ผมกำลังจะเอ่ยปากแซว แต่กลับมีมารผจญอีกแล้ว เมื่อนายติน เดือนวิศวะตะโกนเรียกคนตรงหน้าผมให้ไปช่วยแบกของ

“เฮ้ ไอ้คุณ ช่วยทางนี้ที”
เขาตอบรับแล้วเดินไปทางตินทันที ทิ้งให้ผมยืนอยู่ที่เดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือผมยิ้มมองตามหลังแทนคุณ แสดงว่าวิธีจีบแบบนี้ได้ผลเหมือนกันแหะ

ผมกำลังจะเดินไปสมทบกับเพื่อนคนอื่น หากไม่ใช่เพราะโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงสั่นครืดๆ ผมหยิบมันออกมาแล้วต้องตกใจเมื่อพบว่ามันคือไอโฟนของแทนคุณ เพราะผมยังไม่ได้เอาคืนเขาตอนที่เรายืนคุยกันข้างสระน้ำหลังโรงเรียน

ข้อความแจ้งเตือนที่โชว์อยู่ตอนนี้มาจากแอพฯไลน์ของแทนคุณ คนส่งมาคือน้องเจ้าขา และมันก็เด้งขึ้นมาอีกสองสามข้อความ ผมมองหาแทนคุณแต่ร่างสูงนั้นหายไปไหนไม่รู้

ถ้าเกิดว่าผมจะขอแอบดูหน่อยจะเสียมารยาทไหมนะ
แต่แทนคุณเคยให้สิทธิผมในทุกๆเรื่องเลยนี่ ผมคิดกับตัวเองก่อนตัดสินใจสไลด์นิ้วปลดล็อกหน้าจอที่แทนคุณไม่ได้ตั้งรหัสไว้ และทำการเผือกในไลน์เจ้าของเครื่องกับน้องสาวทันที

JaoKha: พี่คุณดูความเพ้อของพี่ยูสิ
JaoKha: Sent a photo
JaoKha: น่าร๊ากกก อ่า
JaoKha: Sent a sticker

ผมมองภาพที่น้องเจ้าขาส่งมาให้แทนคุณ มันเป็นภาพจากอินสตาแกรมของผม คำถามคือ น้องเจ้าเอามันมาจากไหน ไม่รอช้าผมรีบพิมพ์ข้อความถามกลับไปทันที
TK-KHUN: ไปเอามาจากไหนคะ
แอบสวมรอยเป็นแทนคุณเสียเลย เพราะผมเคยได้ยินเวลาเขาคุยกับน้อง เขามักจะใช้คำว่า คะ มากกว่า ครับ
JaoKha: พี่อันอันแคปมาให้ค่ะ มีอีกนะ เดี๋ยวเจ้าส่งให้
แล้วน้องเจ้าก็รัวส่งภาพมาในไลน์ ทำเอาผมอ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าน้องเจ้าจะส่งมันมาให้แทนคุณ และไม่คิดว่าอันอันจะทำแบบนี้ แต่ถามว่าโกรธไหม ไม่มีความรู้สึกนั้นเลย มีแต่ความรู้สึกเขินอายมากกว่า

“ทำอะไร”
เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมสะดุ้งสุดตัว พอหันหลังไปมองก็เห็นว่าเป็นแทนคุณ แต่ผมไม่สามารถซ่อนของกลางในมือได้ และไม่สามารถโกหกอะไรได้ด้วย นอกจากยอมจำนนด้วยหลักฐานว่าถือวิสาสะแอบอ่านไลน์ของคนอื่น
“ซนจริงๆนะมึง” แทนคุณไม่ได้มีท่าทีโมโหหรือโกรธอะไรที่ผมแอบเล่นไอโฟนของเขา นอกจากหยิบเอาของกลางออกจากมือผมแล้วไปดูเอง

“หือออ  มึงสมัครไอจีไว้เพ้อหรอเนี่ย”
“ก็...ก็ใช่น่ะสิ” ไม่รู้จะแก้ตัวทำไม ก็ยอมรับไปไปตรงๆนั่นแหละ
“ไม่ต่างกับกูเลยเนอะ ที่สร้างไอจีไว้เพ้อเหมือนกัน แต่แค่ระดับความเพ้อของมึงนี่กูยอมแพ้เลย”
“แต่กูว่าต่างนะ”

แทนคุณเงยหน้ามองผมแทนการดูภาพแคปจากไอจีของผมในไอโฟนตัวเอง
“เพราะว่าความเพ้อของมึง มีโรมในความทรงจำจริงๆ แต่ความเพ้อของกูมันเป็นเพ้อข้างเดียว”

แปะ!

“โอ้ย ชอบทำร้ายร่างกาย” ผมลูบหน้าผากตรงที่โดนแทนคุณตีลงมาเบาๆ แต่ไม่ได้เจ็บมากนักหรอก
“เลิกพูดอะไรที่ทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ได้แล้ว”
“ก็มันเรื่องจริงนี่” ผมยู่ปากนิดๆ มือยังคงถูหน้าผากตัวเองไปมา
“แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ กูจะเป็นยูคนใหม่” ผมมองหน้าแทนคุณ สบตาเขาไม่มีหลบ ซึ่งอีกฝ่ายก็มองอยู่เช่นกัน และรอฟังในสิ่งที่ผมกำลังพูด

“กูจะเป็นแบบเด็กทารกที่ให้มึงมาช่วยฝึกพัฒนาการให้ คลาน เดิน วิ่ง” แทนคุณเลิกคิ้วมองผมด้วยสีหน้าที่บอกว่าเขากำลังไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมพูด
“กูจะให้มึงได้ประคับประคองกู ดูพัฒนาการของกู อยู่กับกูนานๆไง”
แทนคุณทำท่าพยักหน้าเข้าใจ พร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะ
“หมายถึงมึงอยากได้กูเป็นพ่อ อย่างนั้นสินะ”  ผมแยกเขี้ยวใส่พร้อมชกเข้าที่อกของอีกคน เพราะขี้เกียจยืดแขนมากมันเมื่อย

“ความจริงก็คล้ายอยู่นะ มึงเตี้ยขนาดนี้ กูก้มหน้าคุยด้วยจนปวดคอ”
“กวนตีน”
“หยาบคายนะเรา พูดกับพ่อแบบนี้ได้ไง”
“ไอ้บ้า ไม่คุยด้วยแล้ว” ผมว่าแล้วหันหลังให้ เจอกับน้ำหวานและอันอันที่กำลังยืนกระซิบกระซาบกันอยู่ไม่ไกล พลางชี้นิ้วมาตรงที่ผมกับแทนคุณยืนอยู่

“อู้งานกันหรอ พวกมึง” พร้อมกับเสียงมารที่ดังมาอีกครั้งจากนายตินเดือนวิศวะเจ้าเก่า แต่พอเห็นเอร่าเดินเข้ามาใกล้ เขาก็รีบวิ่งหนีไปอีกทาง ซึ่งคำพูดของตินนั้นทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองพักนานกว่าคนอื่นเขาไปแล้ว ยังไม่ทันก้าวเท้าออกจากจุดที่ยืน แทนคุณกลับวางมือลงบนไหล่ผมแล้วโน้มตัวมาใกล้ๆ 

ผมยื่นนิ่งๆรับฟังเสียงกระซิบข้างหูที่เล่นเอาจั้กจี้ไปถึงในใจให้รู้สึกคันยุบยิบ

“วันหลังถ้าอยากจะเพ้อ ไม่ต้องพึ่งไอจีแล้วก็ได้นะ มีตัวจริงรอให้เพ้อใส่อยู่”
“ไปทำงานได้แล้ว”
เขาพูดจบก็ขยี้หัวผมแรงๆเหมือนทุกครั้งที่แทนคุณชอบทำ สัมผัสที่วางลงมาบนหัวของผมหายไปแล้วเมื่อเจ้าของมือใหญ่นั้นเดินไปรวมกลุ่มกับเพื่อน ปล่อยให้ผม ยืนยิ้มแก้มแตกอยู่คนเดียว

แทนคุณเป็นคนนิสัยไม่ดีจริงๆ
ชอบให้ความหวังกันอยู่เรื่อย
ขี้อ่อยก็ที่หนึ่ง

แบบนี้ไงถึงไม่กล้าตัดใจสักที

แต่ดีแล้วล่ะที่ไม่ตัดใจไปเสียก่อน ไม่งั้นก็คงไม่รู้ว่าแทนคุณน่ะ จริงใจแค่ไหน




Loading >>>>


มาต่อ จุด 2 ให้ เหลืออีก 1 จุด คือ 11.3 ก่อนต่อตอนต่อไปนะ
จุด 2 สั้นไปนิด ต้องขออภัยด้วยค่า แฮ่  :mew3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 11-10-2016 15:42:25
 :katai1:   :katai1:  ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-10-2016 16:34:26
อัดอั้นซะเหลือเกิน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-10-2016 18:13:23
ตอนนี้อ่านแล้วไม่อึดอัด รอดูพัฒนาการนะคะ

สองตอนก่อนหน้านี่อ่านแล้วหัวคิ้วเราผูกกันเป็นเนื้อเดียวเลยค่ะ คำว่านกแน่หนูลอยว่อนเต็มไปหมด
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-10-2016 18:34:22
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 11-10-2016 18:36:31
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 11-10-2016 19:12:06
แทนคุณรู้สึกจริงๆ หรือแค่ให้ความหวัง
รอดูต่อไป :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-10-2016 23:28:38
รอกันต่อไป
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 12-10-2016 12:17:41
รอค่าาาา
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.2> 11/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: tkung ที่ 13-10-2016 00:35:16
รอ รอ รอ  :z13: รีบมาต่อนะคะ  :z13: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 16-10-2016 00:00:32
ตอนที่ 11.3

เราหยุดพักกินข้าวเที่ยงกันหลังจากที่แม่ครัวเตรียมกับข้าว หุงข้าวเสร็จเรียบร้อย ใช้เวลาพักกัน 1 ชั่วโมงก่อนจะมาลุยงานต่อ ระหว่างกินข้าวเอร่าก็คอยก่อกวนเดือนวิศวะตลอดเวลา อีกทั้งดาวมหา’ลัยอย่างดีว่าก็ดูจะเดินมาวนเวียนตรงกลุ่มที่พวกผมนั่ง และก็ได้เอร่าที่ดูจะไม่ชอบดีว่าสักเท่าไหร่จิกกัดจนเธอสะบัดหน้าคอแทบหลุดไม่มาวอแวที่โต๊ะอีก

ในระหว่างมื้ออาหารนั้นไม่มีบทสนทนาเกิดขึ้นระหว่างผมกับแทนคุณ เราสองคนเป็นผู้ฟังที่ดีในการรับฟังเอร่าหยอดมุกใส่ตินและฟังตินตอกกลับให้เอร่าเจ็บช้ำน้ำใจ มันกลายเป็นละครตลกช่วงสั้นๆในช่วงเวลานั้นไปแทน

พวกเราช่วยพี่ทหารเก็บรายละเอียดในการซ่อมแซ่มหลังคาและกำแพงของโรงอาหารจนเรียบร้อยก่อนสี่โมงเย็น พี่ทหารถึงได้เตรียมตัวกลับและเป็นการเก็บรายละเอียดที่พวกเราได้แบ่งหน้าที่กันไว้เรียบร้อย พวกผมกลุ่มตัวเล็กตัวโตต่างพากันไปช่วยยกถังสีมาไว้ใกล้ๆแล้วปูกระดาษหนังสือพิมพ์รองไว้รอบๆกำแพงกันสีเปรอะเปื้อนพื้นดิน แล้วแบ่งกันไปอยู่คนละมุมเพื่อทาสี

ผมไม่รอช้าที่จะเกาะติดแทนคุณมาทำงานอยู่ใกล้ๆเขา พร้อมกับที่มีผู้หญิงอีกคนในกลุ่มมายืนทำงานอยู่ด้วยไม่ไกล เธอเป็นคนเดียวกันกับที่ขอให้ตั้งชื่อกลุ่มว่าตัวเล็กตัวโตและชอบมองผมกับแทนคุณด้วยสายตาแปลกๆ

“แทนคุณ มึงว่าเขาดูแปลกๆไหม”
แทนคุณเหล่มองไปยังผู้หญิงคนนั้นที่ผมกำลังนินทา เขาเอาลูกกลิ้งทาสีจุ่มลงในถังสีก่อนกลิ้งมันลงกำแพง เอี้ยวตัวมาใกล้ผมนิดๆแล้วกระซิบกระซาบตอบ

“นินทาระยะเผาขนเชียวนะมึง”
“กูเปล่า” แทนคุณหัวเราะหึลงคอแล้วใช้มือข้างที่ว่างผลักหัวผมนิดๆ

กรี๊ด!

ผมกับแทนคุณชะงักแล้วหันไปยังทิศต้นทางของเสียง เห็นเธอคนนั้นกำลังดึงเสื้อขึ้นมากัดทั้งที่มือยังถือแปรงทาสีอยู่ไม่สนว่ามันจะเลอะเปรอะตัวเองหรือเปล่า

“เป็นอะไรหรือเปล่า” แทนคุณถามเธอออกไปแต่มือยังค้างอยู่ที่หน้าผากของผม ส่วนเธอคนนั้นส่ายหน้าไปมาพลางบิดเสื้อยืดที่สวมอยู่เสียจนกลัวว่าจะขาด

“กูว่าเขาเพี้ยน” แล้วแทนคุณก็กระซิบที่ข้างหูให้ผมพยักหน้าเห็นด้วย เธอคนนั้นบิดตัวไปมาแล้ววิ่งไปหาเพื่อนเธอที่กำลังถอนหญ้าอยู่ไม่ไกล

ผมเลิกสนใจเธอแล้วหันไปรีบทำงานให้เสร็จ หากว่าเราทำการปรับปรุงซ่อมแซ่มโรงอาหารแห่งนี้เสร็จเร็ว ก็จะมีเวลาพักและเที่ยวในวันพรุ่งนี้มาขึ้น

พวกเราช่วยกันทาสีจนเกือบหกโมงเย็น พี่ๆก็เรียกให้วางมือแล้วหยุดไว้ทำต่อในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้เลยเป็นเวลาที่พวกเราได้ไปทำภารกิจส่วนตัวก่อนจะมารับมื้อเย็นไปกิน ผมเดินตามหลังแทนคุณไปติดๆ บอกแล้วว่าผมจะไม่ห่างจากเขา ผมจะเป็นยูคนใหม่ และผู้ชายตัวสูงที่ตอนแรกเดินนำก็หยุดยืนให้ผมเดินทัน

“ขาสั้นจริง”
“มึงก็ขายาวเกิน”
แทนคุณหัวเราะออกมาหลังจากผมเถียงกลับ ผมถึงได้ยิ้มตาม ไม่คิดว่าการที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้และเริ่มปรับความคิดเปิดใจใหม่ มันจะทำให้ผมได้เห็นอะไรในตัวของแทนคุณมากขึ้น เขาไม่ใช่คนเงียบขรึม ไม่ใช่คนหยาบคาย สิ่งที่ผมสัมผัสได้จากผู้ชายคนนี้ในเวลานี้คือ แทนคุณก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆที่ขี้แกล้ง กวนตีนเหมือนตอนแรกที่เราทำความรู้จักกัน แต่ทุกการกระทำของเขามันแผงไปด้วยความอบอุ่น

เราเดินมาล้างมือที่ก็อกน้ำตรงอ่างสำหรับล้างจานก่อนจะเดินไปทางโรงนอนในอาคารเรียนที่เตรียมพื้นที่ไว้ให้ ผมเงยหน้ามองแทนคุณเป็นพักๆ ในขณะที่เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
“มึง” ผมคว้าแขนเขาเอาไว้ให้หยุดเดินก่อน
“กูถามอะไรอย่างสิ” เขาเลิกคิ้วใส่เป็นทำนองว่าอะไร
“คือ...กูอยากรู้น่ะ”
“พูดมาเถอะไม่ต้องคิดเยอะ” เขาว่าพลางกดนิ้วลงตรงหว่างคิ้วของผม
“ตอนนี้...”
“ตอนนี้....” เขาพูดตามผม
“มึง....” ผมเงยหน้าสบตาเขา รู้สึกหัวใจในอกมันเต้นแรงขึ้น ใบหน้าเห่อร้อนอย่างที่รู้ตัวดีว่าเลือดมันมาล่อเลี้ยงมากเกินไป
“กูทำไม”
“หวะ...หวะ....หวั่นไหวบ้างยัง”

ในที่สุดก็ตัดสินใจหลับหูหลับตาพูดออกไป อายนิดหนึ่งแต่เขาบอกว่าต้องหน้าด้าน ความเงียบโรยตัวอยู่เพียงชั่วครู่ ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าหนักๆที่หัวเพราะมือของแทนคุณวางลงบนหัวของผมเหมือนที่ชอบทำ

“นึกว่าเรื่องอะไร”
“........” ผมเงยหน้ามองแทนคุณพลางกระพริบตาปริบๆอย่างรอคอยคำตอบ
“อยากรู้มากเลยหรอวะ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก
“งั้น........” ผมจ้องตาเขา เขาจ้องตาผม เราจ้องตากัน แล้วแทนคุณก็....
“กูไม่บอกมึงหรอก” เขาขยี้หัวผมแรงๆก่อนจะก้าวเท้ายาวๆจากไป ผมวิ่งตามแล้วตีลงไปกลางหลังเขาอย่างหมั่นไส้ แต่แทนคุณไม่ได้โมโหอะไรใส่ผม เขาทำแค่หัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะทำท่าวิ่งไล่จับผม

ผมไม่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบนี้เกิดขึ้นรวดเร็วไปไหม แต่ที่แน่ๆผมมีความสุขกับมัน แทนคุณหวั่นไหวไหม ผมไม่รู้แต่ผมไม่ยอมแพ้ที่จะหาความจริง แค่ตอนนี้ผมยิ้มได้ผมก็รู้สึกโอเค แค่ผมได้วิ่งออกมาจากความกลัว ความไม่กล้าที่ผมเคยมีนั้น แล้วทำให้ผมได้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของแทนคุณเป็นการตอบแทน ผมก็รู้สึกว่ามันคุ้มแล้ว

สำหรับของตอบแทนให้คนที่แอบรักมาตลอด 2 ปี


.
.
.

เมื่อคืนนี้หลังจากที่พี่ๆให้พวกเรากินข้าวเสร็จ ก็ปล่อยให้พวกเราได้พักผ่อนตามสบาย ผลจากการทำงานตลอดตั้งแต่ช่วงสิบโมงถึงหกโมงเย็นทำให้พวกเราหัวถึงหมอนก็หลับกรนกันครอกๆ ไม่เว้นแม้แต่แทนคุณ ผมนอนมองเขาจนเผลอหลับไปทั้งที่แว่นยังไม่ถอดออกเลยด้วยซ้ำ แต่เมื่อเช้าตื่นมากลับพบว่าแว่นตาถูกถอดออกวางไว้อีกฝั่งของแทนคุณ พอลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกก็เห็นแทนคุณนอนลืมตามองผมอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นนั่งบิดขี้เกียจแล้วผมเองก็เด้งตัวลุกขึ้นมานั่งลูบหน้าจัดผมจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เห็นหลายคนตื่นแล้วเช่นกันเราจึงได้รีบไปใช้ห้องน้ำก่อนที่จะต้องต่อคิวกันยาวแบบเมื่อวานนี้

พอทานข้าวเช้ากันเสร็จเราก็ลุยงานในส่วนที่เหลือกันต่อ ยิ่งพอได้ยินพี่ๆเขาบอกว่าถ้างานเสร็จเร็วจะพาไปเที่ยวทะเลก่อนกลับ พวกเด็กปีหนึ่งอย่างพวกผมถึงได้กระตือรื้อร้นกันอย่างมาก

“ถ้าวาดรูปลงไปด้วยจะโอเคป่าววะ” เสียงของตินตะโกนถามมาจากอีกมุมหนึ่งของกำแพง
“ดีนะ มันจะได้มีสีสัน” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มตะโกนคุยบ้าง
“มึงว่าไงแทนคุณ” ตินตะโกนกลับอีกครั้ง
“ก็โอเคนะ มีเด็กสินกำอยู่ด้วยมันคงออกมาเจ๋งอยู่”
“เอร่าก็ว่าดีค่ะ”
“วาดรูปไรดี” เพื่อนอีกคนตะโกนถามอีก
“เอาที่อยากวาดเลยก็ได้นะ มันได้ดูเป็นศิลปะแบบไม่มีขีดจำกัด” ผมเสนอความคิดเห็น
“แต่กูวาดรูปไม่สวย” เสียงเพื่อนอีกคนพูดขึ้นมา
“กูก็ไม่เก่ง”
“กูด้วย กลัวเละ”
“ไอ้ห่า ไม่ต้องกลัวหรอก วาดๆไปเหอะ เดี๋ยวมันก็เวิร์ค” เสียงตินตะโกนขัดขึ้นมา

พวกเราเลยสรุปกันว่าถ้ามันทุเรศเกิน ผมกับแทนคุณจะไปช่วยแก้ เราถึงได้ลงมือทำการวาดภาพลงไป ผมเลือกวาดภาพการ์ตูนน่ารักๆแทรกลงไปบนภาพธรรมชาติ มีวิวทะเล ภูเขา ต้นมะพร้าวประกอบฉาก และมีเหล่าบรรดาโปเกม่อน วิ่งเล่นอยู่บนชายหาดให้เข้ากับกระแสโปเกม่อนโกเล็กน้อย

จนในที่สุดการสร้างจิตรกรรมบนผนังโรงอาหารก็เสร็จเรียบร้อย

“หูยย น่ารักอ่ะ” เสียงพี่โรสดังขึ้นข้างหลังผมที่กำลังปัดมือไปมาดูผลงานของตัวเอง
“น้องคุณกับน้องยูช่วยกันวาดหรอเนี้ย”
“ครับ” พี่โรสฉีกยิ้มกว้าง พลางยื่นมืออกไปหมายจะจับ
“อย่าเพิ่งครับ สียังไม่แห้ง” พี่โรสละมืออกมาก่อนจะฉีกยิ้มส่งมาให้
“ลืมตัวน่ะ” เธอว่าแล้วก็เดินจากไป
 
พวกผมทำการเก็บถังอุปกรณ์สีทั้งหลายไปรวมไว้ให้กับพี่ๆเขาได้ขนขึ้นท้ายรถกระบะที่ขนอุปกรณ์มา พอตกบ่ายพวกเราก็ทำภารกิจสำหรับโครงการค่ายอาสาปันยิ้มเพื่อน้อง ที่โรงเรียนบ้านโนนคำเสร็จเรียบร้อย

“หลังจากที่เราทานข้าวเที่ยงกันเรียบร้อยแล้ว พี่จะให้พวกเราเก็บของและมารวมตัวกันที่นี่นะคะ เราจะออกเดินทางกันตอนบ่ายสามโมงตรง ข่าวดีก็คือน้องๆจะได้เที่ยวทะเลกันอีก 1 ชั่วโมงเต็มเป็นรางวัลความดีครั้งนี้ค่ะ” พี่ส้มบอกกับพวกเราก่อนที่ปีหนึ่งอย่างพวกผมจะร้องไชโยดีใจกันอย่างออกนอกหน้า



จากโรงเรียนบ้านโนนคำเดินทางต่อมาอีกไม่ถึงสี่สิบห้านาที รถบัสที่โดยสารมาก็มาถึงจุดที่จอดรถนักท่องเที่ยว เวลาเกือบสี่โมงเย็นแดดยังคงเปรี้ยงอยู่แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำหรับการวิ่งเข้าหาน้ำทะเล พี่ๆเขาให้เวลาพักผ่อนอย่างอิสระกันหนึ่งชั่วโมงเต็ม ใครอยากซื้อของก็ซื้อ เดินเตะทรายก็เดิน เล่นน้ำทะเลก็เล่น หรือจะนั่งพักบนเตียงผ้าใบก็ตามแต่จะชอบ

ผมขอยอมแพ้กับแดดที่จัดจ้าขนาดหนัก เลยเลือกที่จะไปนั่งพักที่เตียงผ้าใบยอมจ่ายค่าเช่าไป 80 บาทแล้วเปิดหนังสือที่เอามาด้วยออกอ่าน เพราะว่าตอนก่อนจะลงจากรถแทนคุณถูกแม่ดาวมหา’ลัยลากหายไปไหนก็ไม่รู้ ผมเลยไม่ได้ตามไป

จีบอย่างไรให้ได้แฟน แนะนำวิธีการจีบอย่างมีประสิทธิผล
ข้อแนะนำ: กรุณานำวิธีไปใช้ตามความถนัดส่วนบุคคล ทั้งนี้การแสดงผลของวิธีการจีบนั้นๆขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของเป้าหมายและความพยายามของคุณเป็นหลัก
วิธีที่ 1 การสร้างโอกาส – คุณต้องรู้จักเรียกร้อง ยื่นข้อเสนอให้กับเป้าหมายเพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวคุณในการได้ใกล้ชิดเขา รู้จักเขาให้มากขึ้น ไม่ใช่เอาแต่เขิน อาย กลัว เดี๋ยวนี้มันหมดยุคของการสวยอยู่นิ่งๆเดี๋ยววิ่งมาหาแล้วนะ มันต้องมีคารมคมคายกล้าได้กล้าเสี่ยง ไม่งั้นคุณก็โหนคานต่อไปเถอะ
วิธีที่ 2 การสร้างสถานการณ์ – เมื่อใดก็ตามที่คุณเจอเป้าหมาย ไม่ว่าจะบังเอิญเจอหรือจงใจไปเจอ คุณต้องสร้างสถานการณ์ที่จะได้เข้าไปอยู่ใกล้เขา หรือทำให้เหมือนว่าเขามาเจอคุณเอง คุณอาจจะใช้สถานการณ์นั้นให้เป็นประโยชน์เพื่อคลุกคลีกับเขาให้มากขึ้น
วิธีที่ 3 การสร้างความคุ้นเคย – อย่ามัวแต่จะรอเป็นผู้รับ ต้องรู้จักเป็นผู้ให้เสียก่อน คุณลองทำอะไรสักอย่างให้เป้าหมายของคุณจนเขารู้สึกเคยชิน เมื่อเดินความคุ้นเคยกับสิ่งนั้นแล้วเขาจะลืมมันได้ยาก
วิธีที่ 4 การสร้างความคิดถึง – ข้อนี้คุณต้องทำควบคู่ไปกับข้อที่แล้ว คุณต้องเริ่มทำทีเป็นไม่สนใจเขา ห่างเหินจากเขาให้เขาเกิดความโหยหา คิดถึงความคุ้นชินนั้นที่คุณได้สร้างไว้กับเขา
วิธีที่ 5  การสร้าง….


“อ่านอะไรอยู่น่ะ” เงาที่พาดทับมาตรงหน้าบดบังแสงพร้อมกับเสียงคุ้นหูที่เอ่ยถามทำให้ผมรีบปิดหนังสือในมือแล้วคว่ำหน้ามันลง

“หนังสืออ่านเล่นน่ะ”
“นิยายหรอ” ผมพยักหน้าตอบแทนคุณด้วยความรวดเร็ว แต่เขาทำแค่หรี่ตามองเล็กน้อยเหมือนจับผิด
“แล้วดีว่าล่ะ”
“เอร่าจัดการแล้ว นู้น” แทนคุณตอบพร้อมพยักเพยิดหน้าไปทางทะเล ผมหันไปมองก็เห็นว่าดีว่ากำลังโดนเอร่าลากลงทะเลส่วนเธอก็ร้องกรี๊ดๆ สะบัดตัวไปมาเพราะไม่อยากเปียก โดยมีน้ำหวานกับอันอันยืนหัวเราะอยู่บนฝั่ง

“ไปเดินเล่นมั้ย”
“ไม่อ่ะ ร้อน” ผมตอบกลับส่วนแทนคุณแค่พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเอนหลังพิงไปกับเตียงผ้าใบ
“งั้นของีบก่อนนะ ถ้าเขาเรียกก็ปลุกกูด้วยล่ะ”
“ได้” ผมตอบพลางมองแทนคุณที่กำลังหลับตาเอาแขนรองหัวไว้

ผมมองภาพนั้นอยู่นาน ก่อนจะเก็บหนังสือในมือยัดลงกระเป๋าแล้วหยิบมือถือขึ้นมาแทน แอบถ่ายคนนอนหลับเอาไว้แล้วลังเลว่าจะโพสต์ลงที่ไหนดีระหว่างแอพฯรูปกล้องกับรูปตัวเอฟ ผมตัดสินใจได้ในที่สุดหลังจากที่ใช้เวลาคิดไม่นานก็ในเมื่อผมบอกว่าจะทำการเปลี่ยนแปลงตัวเองและแทนคุณบอกว่าเพ้อใส่เขาได้ เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่ผมจะเก็บไปฟินคนเดียว

บะหมี่ เกี๊ยว ได้แท็ก TK Krittidumrong ในโพสต์
ขนาดนอนยังเท่ห์เลย ว่าไหม #YOU

พอใส่ภาพของแทนคุณไปแล้วผมก็ตัดสินใจจิ้มไปที่ปุ่มส่งข้อความ ระหว่างนั้นก็ไล่ดูไทม์ไลน์อื่นๆไปด้วยจากที่ไม่ได้เข้ามาเช็กวันสองวันแล้ว

รักคุณครับ แฟนเพจ ได้แท็ก บะหมี่ เกี๊ยว และ TK Krittidumrong ในโพสต์
ไปค่ายอาสาหรือฮันนี่มูน บอกที  #ตัวเล็กตัวโต แอดมิน AA
7,899 Likes
พร้อมรูปในค่ายที่ผมกับแทนคุณอยู่ด้วยกันสองคน จำนวน 5 รูป

‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดด น่ารักอะไรกันเบอร์นี้คะ คู่นี้จะเรียลใช่มั้ย’
‘ฉันจะไม่ทนๆ #ตัวเล็กตัวโต’
ปิยะ คุณโรมชิปเปอร์ แอดควรเอาไปลงที่บ้านตัวเล็กตัวโตนะ แบบนี้ทีมคุณโรมก็ช้ำใจสิ
เจ๊ โร ซ่า @ปิยะ ใจเย็นค่ะลูก คุณกินกับใครก็อร่อยนะคะลูก ไม่งอแงนะคะ #ตัวเล็กตัวโต

หนุ่มแว่นมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กพ่อเดือนสุดหล่อ ได้โพสต์
เดี๋ยวนี้เวลาแนะนำตัวเขาไม่ได้ใช้เพื่อทำความรู้จักนะ เขาเอาไว้บอกรักกันนาจา
TK Krittidumrong - สวัสดีครับแทนคุณ กฤติดำรง จากคณะบริหารฯ เจ้าของตำแหน่งเดือนมหา’ลัยปีนี้ แต่ที่ยังไม่มีคือคนรู้ใจ
บะหมี่ เกี๊ยว - สวัสดีครับ ยู ณัฐคุณจากสินกำ เด็กอาร์ตไม่ได้มีแค่กระดาษกับกรรไกร ไม่ได้มีแค่พู่กันกับสี ไม่ได้มีแค่กล้องกับภาพถ่าย เพราะสี่ห้องในหัวใจมีไว้แค่คุณ

หวานกว่านี้ก็น้ำตาลแล้ว #ตัวเล็กตัวโต

5,099 Likes

อยู่บนคาน มันหนาวจริง ได้โพสต์บน รักคุณครับ แฟนเพจ

เขานอนข้างกันด้วยนะคะ มาแจ้งเพื่อให้ทราบ #ตัวเล็กตัวโต
(แนบรูปผมกับแทนคุณที่นอนอยู่ข้างกัน เดาว่าเอร่าตื่นก่อนพวกผมทั้งสองคน)

8,771 Likes

ผมไล่ดูโพสต์ในเฟสบุ๊คไปเรื่อย โดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังยิ้มแก้มแตกตั้งแต่ตอนไหน หัวใจที่ห่อเหี่ยวก่อนมาค่ายนั้นมันพองฟูจนคับแน่นในอกไปหมด ผมเพิ่งค้นพบว่าความจริงแล้ว ที่ผมเอาแต่คิดนั่นนี่ไปเองนั้นเพราะผมเสพสื่อเกินไปและให้มันมีอิทธิพลกับผมตลอดเวลา ผมไม่เคยถามหาความจริงจากมันเอาแต่คิดไปก่อนว่าดีไหม ไม่ดีไหม อยู่แบบนั้น พอเขากระหน่ำโพสต์เรื่องแทนคุณกับโรมผมก็เอามาคิดมากบั่นทอนกำลังใจให้ตัวเอง แล้วดูตอนนี้เขากำลังกระหน่ำโพสต์เรื่องการมาค่ายของผมกับแทนคุณผมก็กำลังดีใจ ตื่นเต้น



“น้องๆคะ เตรียมตัวกลับกันได้แล้วนะคะ”

เวลาความสุขจบลงด้วยความรวดเร็วเมื่อพี่ส้มใช้โทรโข่งเรียกนิสิตปีหนึ่งที่กระจายไปทั่วพื้นที่ให้ขึ้นรถ แทนคุณลุกขึ้นมานั่งโดยที่ผมยังไม่ทันได้ปลุก คงเพราะพี่ส้มแกมายืนแหกปากอยู่ไม่ไกลสักเท่าไหร่


พวกเราเดินทางกลับมาถึงมหาวิทยาลัยกันตอนเกือบหกโมงเย็น ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีส้มสลับฟ้าจากการที่พระอาทิตย์กำลังจะเลิกงาน ผมลงจากรถเป็นกลุ่มท้ายๆ เห็นแทนคุณยังคงยืนอยู่ไม่ไปไหน พี่สภากรรมการนิสิตต่างแบ่งกันส่งน้องๆไปขึ้นรถเพื่อแยกย้ายกันกลับที่พัก น้ำหวาน อันอันและเอร่า มาบอกลาผมที่ยืนอยู่ข้างๆแทนคุณ เห็นว่าพี่เอิญจะมารับแล้วไปส่งอีกสองคนที่หอ จนคนเริ่มหายไปหมมดผมกับแทนคุณหันไปลาพี่ๆเขาบ้าง แล้วเดินออกมาจากบริเวณนั้น

“กลับไง”
“รถรางสองบาท แล้วมึงอ่ะ” ผมถามแทนคุณบ้างหลังจากเดินมาจนถึงหัวมุมฟุตบาทเพื่อรอรถราง
“รถกูจอดที่คณะน่ะ”
“งั้นแยกกันตรงนี้ไหม” ผมถามเขาอีกครั้งเมื่อเห็นว่ารถรางสองบาทกำลังมา แต่แทนคุณกลับจับมือผมเอาไว้ก่อน

“ให้กูไปส่ง”
ไม่ต้องตอบรับหรือปฏิเสธ เมื่อแทนคุณลากผมให้เดินไปตามทางฟุตบาท ลัดเลาะจนมาถึงลานจอดรถข้างคณะบริหารฯที่เขาเรียน รถยนต์สัญชาติยุโรปของเขาจอดอยู่คันเดียวในลานกว้าง
“จอดแบบนี้ไม่กลัวหายหรือไง” เขาส่ายหน้าแทนคำตอบเมื่อเรามาถึงรถแล้ว
พอได้ยินเสียงรีโมทเปิดประตูรถ ผมเลยหันไปเพื่อเปิดประตูจะเข้าไปนั่ง แต่ท่าทางแปลกๆของแทนคุณนั้นก็ทำให้ผมตัดสินใจปิดประตูไว้ตามเดิมแล้วหันมามองเขา

“มึงมีอะไรจะถามกูไหม” ผมถามเขา เป็นครั้งแรกที่ผมถามแบบนี้เลยมั้ง ปกติจะมีแต่เขาที่ถามผมด้วยประโยคนี้

“ป่าวนิ ทำไมคิดแบบนั้น”
“มึงดูแปลกๆ เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่” แทนคุณยิ้มหลังจากที่ผมพูดจบ
“มึงหัดสังเกตคนอื่นเขาบ้างแล้วหรอ” เขาถามกลับมา แต่ไม่รอให้ผมได้พูดอะไร แทนคุณก็วางมือลงบนไหล่ของผมทั้งสองข้างแล้วพูดต่อทันที

“มึงรู้ไหมว่ามึงเป็นคนที่ดูออกง่ายมาก มึงคิดอะไรอยู่สายตามึงมันจะฟ้องตลอดเวลา แล้วมึงรู้มั้ยว่าท่าทางแบบนี้ของมึง มันทำให้กูอยากรู้จักมึงเพิ่มมากแค่ไหน”
“ยังไง”
“ยู มึงไม่ต้องกลัวโลกภายนอกก็ได้นะ มึงอยากทำอะไรคิดอะไรมึงก็แสดงออกบ้าง อย่าเอาแต่อยู่ในโลกของตัวเอง คุยและคิดแต่กับตัวเอง กูเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน มันเลยทำให้กูไม่กล้าที่จะเชื่อใจคนอื่น...มึงมีเพื่อนเยอะมั้ย”
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ เพราะถ้าให้นับจริงๆ ผมแทบไม่มีเพื่อนสนิท เพื่อนที่ผมไว้ใจก็จะมีไม่กี่คนหรอก
“บางทีกูก็รู้สึกว่า มึงกำลังทำตัวร่าเริงเพื่อไม่ให้คนรู้ความลับของมึง ทั้งที่ในใจมึงมีความลับอยู่เต็มไปหมด ภายในโลกที่มึงตีกรอบความเป็นตัวของมึงเอาไว้มันเป็นสีเทาที่เหมือนควันบดบังความสวยงามในนั้น อึดอัดไหมวะ”
“กู....เป็นแบบนั้นหรอ” แทนคุณยิ้มให้ผมพร้อมกับกดบีบหัวไหล่ผมเบาๆ

“มึงเหมือนเงาของกูเลยนะยู มึงรู้ตัวหรือเปล่า”
“คงเพราะ...กูกำลังเดินตามเงาของมึงจริงๆล่ะมั้ง”
“แล้วเหนื่อยมั้ย” ผมพยักหน้า แล้วก็ส่ายหน้า

“กูถามมึงหนึ่งคำถาม แล้วตอบกูอย่าโกหกนะ” ผมพยักหน้า
“มึงมาเรียนที่นี่ทำไม” ผมเม้มปาก เสหลบตาไปทางอื่น

“มองหน้ากูแล้วตอบ....ยู” ผมตัดสินใจเงยหน้ามองเขา จ้องเข้าไปในแววตาของเขาที่มองผมมาด้วยสายตาที่จ้องลึกอย่างค้นหาความจริง

“เพราะมึง...ความลับของกูทุกอย่างก็คือมึง”

ความเงียบโรยตัวชั่วอึดใจ ก่อนที่จะเห็นว่าแทนคุณส่งยิ้มให้ผม เขาละมือออกจากไหล่ของผมพร้อมกับยกมันขึ้นมาวางบนหัวของผมอย่างที่ชอบทำ

“ขอบคุณนะยู”
“กูเต็มใจ...จริงๆ”
“อืม...งั้นเลิกเล่นแบบนี้กันเถอะ ไม่ต้องจีบกูแล้ว”

คำพูดของแทนคุณทำผมตาโต เงยหน้ามองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ทำไมถึงเป็นแบบนี้ หรือว่านี่คือคำตอบของความพยายามของผม ความจริงใจที่เขาบอกว่าต้องการเปิดใจให้ผมนั้นคือสิ่งนี้หรอ

“อย่าเพิ่งตีโพยตีพายจนหน้ายุ่งสิว่ะ ฟังให้จบ” มือใหญ่สองข้างประคองอยู่สองข้างแก้มผมบังคับให้เงยหน้าขึ้นไปมองกัน
“ฟังนะยู...ที่กูบอกให้ไม่ต้องจีบกูแล้ว เพราะกูเองก็มีความลับจะบอกมึงเหมือนกัน”
“ความลับ?” แทนคุณพยักหน้ารับ

“ความลับของกูก็คือมึง.....”
“......................”
“มาลองคบกันไหม”
“...........คบ...กัน”
“ใช่”

ผมกระพริบตาถี่ๆอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น แทนคุณที่อยู่ตรงหน้าใช่แทนคุณจริงๆหรือเปล่า เขากำลังจะแกล้งอะไรผมอีกไหม

“แล้วถ้าคบกัน...จะต้องเลิกกันเหมือนที่โรมขอคบกับมึงครั้งนั้นไหม” ผมถามออกไปหัวใจก็กระตุกไหวไปด้วยเมื่อแทนคุณส่งยิ้มให้พร้อมส่ายหน้า

“ไม่เหมือนเลยยู...เพราะครั้งนี้กูเป็นคนเริ่ม”

ผมคิดตามที่แทนคุณพูด เขาบอกว่าครั้งนี้เขาเป็นคนเริ่มไม่เหมือนครั้งนั้นที่เขาไม่ใช่คนเริ่มเกม แต่เป็นโรมที่เริ่มเกมสัมพันธ์นั้น  ผมจะเสี่ยงดีหรือเปล่า แต่เมื่อหลับตาแล้วฟังเสียงของหัวใจตัวเองดีๆ ผมก็ขอเลือกที่จะลองก้าวเข้าไปในเกมของแทนคุณอีกครั้ง

“ตกลง...งั้นเรามาลองคบกันดู”

แทนคุณยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของผม ก่อนที่เขาจะปล่อยมือออกจากแก้มของผมแล้วเดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับ ปล่อยให้ผมตามความคิดของเขาไม่ทัน นึกจะทำอะไรก็ทำอย่างไม่ดูเลยว่าคนอื่นเข้าใจหรือเปล่า


รถคันหรูของแทนคุณพาผมมาถึงหอพักในเวลาไม่นาน แทนคุณโน้มตัวมาปลดเข้มขัดนิรภัยให้แล้วเอี้ยวตัวไปหยิบของข้างหลังมาส่งให้ผม

“ถึงห้องแล้วบอกด้วยนะ”
“ได้สิ” แทนคุณตอบกลับพร้อมกับขยี้หัวผม ดูจะชอบเล่นหัวผมเสียเหลือเกิน

ลงจากรถได้ก็หันไปโบกมือให้อีกคนที่ลดกระจกลงมาโบกมือให้เช่นกัน ก่อนที่รถของแทนคุณจะวิ่งหายไป ผมกลับมาถึงบนห้องแล้วพบว่าไม่มีใครอยู่สักคน แต่ผมก็เริ่มชินแล้วเพราะว่าอยู่คนเดียวเสียบ่อย พอวางกระเป๋าเก็บของอาบน้ำเรียบร้อยก็เหมือนว่าจะนึกอะไรออก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วพิมพ์เข้าไปในแชทไลน์ของแทนคุณ

YOU: ที่มึงบอกว่า ความลับของมึงคือกูหมายความว่าไง

ไม่เกินสองนาทีแทนคุณก็ตอบกลับมา แต่คำตอบของเขามันไม่ได้ดั่งใจผมเลย

TK-KHUN: บอกได้ไง มันคือความลับ
TK-KHUN: Sent a sticker

ผมมองสติกเกอร์มูนแลบลิ้นใส่แล้วก็ได้แต่ขัดใจ วางโทรศัพท์แล้วขยี้หัวตัวเองแรงๆ

YOU: อยากรู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

แล้วแทนคุณก็รัวสติกเกอร์มูนแลบลิ้นมาให้อีกสามสี่ครั้ง

แม่งเอ้ย ขัดใจ!




จบตอน

^^
เจอกันตอนหน้าค่ะ เป็นพาร์ทของแทนคุณนะคะ

หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 16-10-2016 00:10:35
อ๊ากกกกกกกกกกกก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง อย่าค้างตรงนี้ เฮ้ยยยเขาคบกันแล้ว

 :ling1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-10-2016 00:25:15
อ่อยยยย!!
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 16-10-2016 00:29:19
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ที่ 16-10-2016 00:37:20
ฮือออ แม่ขา หนูมีนิยายแล้วค่ะ
มันดีต่อใจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 16-10-2016 01:36:21
เขาคบกันแล้วค่าาาา เอาให้แทนคุณหลงมากๆเลยยูยู
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 16-10-2016 08:17:29
อั้ยย่ะ. เค้าคบกันแล้ว.
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-10-2016 08:53:48
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 16-10-2016 14:32:38
 :กอด1:   :กอด1:   :กอด1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 16-10-2016 16:29:48
อยากอ่านตอนของคุณพระเอกไวๆเลยอยากรู้ความลับง่ะ ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 16-10-2016 17:12:40
คบกันแล้วเหรอ อืมมมมม มีความรู้สึกว่านี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นความวุ่นวายในอนาคตยังไงก็ไม่รู้ เหอๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 16-10-2016 21:08:17
เพิ่งจะเข้ามาตามอ่าน
ค่อยๆเข้าใกล้กัน มีบรรยากาศอึนๆเบาๆ แบบรับได้ (ไม่ดราม่าแบบหน่วงตับ)
เราชอบ :o8: คอยลุ้นให้น้องยูมัดใจคุณได้อยู่หมัด +1
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-10-2016 21:23:45
เร็วจัง... ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 16-10-2016 21:28:58
ทำไมรู้สึกสงสารอยู่จัง T-T
กลัวใจแทนคุณงะ
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 11.3> 16/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 17-10-2016 00:40:44
เราหยุดงานทุกอย่างและไม่ยอมนอนเพื่อตามเรื่องนี้ให้ทันค่ะ มันแอบหน่วงอยู่ทุกตอนเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 18-10-2016 21:05:16
เปิดบันทึกแทนคุณ
ตอนที่ 1 – อีกด้านของความรัก





“ขอโทษนะ แต่เราเลิกกันเถอะ”
“ทำไมล่ะ ผม...ผมทำอะไรผิด”


“ไม่หรอก คุณไม่ได้ผิด คนผิดคือผมเอง”
“.....................”
“ผมแค่หลอกตัวเองว่าผมรักคุณมากกว่าเพื่อนไม่ได้ ผมขอโทษ”



สองประโยคที่เฉือนหัวใจของผมออกเป็นเสี่ยงๆ อยากร้องไห้แต่น้ำตาผมไม่ไหลออกมาเลยสักนิด มันจุกอยู่ในอกได้แต่มองคนตรงหน้าด้วยดวงตาพล่ามัว ซึ่งเขาก็เอาแต่ก้มหน้าไม่เงยหน้ามาสบตาผมสักนิด
 
“ถ้าแค่ไม่รักก็เจ็บพออยู่แล้ว แต่มาให้ความหวังกันแบบนี้...แม่งโคตรเจ็บเลยโรม” ผมพูดแค่นั้นแล้วหันหลังเดินจากมา


โรม รติรมย์ รณสิทธิ์ คือผู้ชายตัวผอมบาง รูปร่างสูงโปร่งผิวขาว รูปหน้าสวยตาเรียวรีดูเอาแต่ใจตัวเอง คนๆนั้นคือเพื่อนของผม เพื่อนสนิทที่ผมคิดกับเขาเกินความสัมพันธ์นั้น

เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเจ้าตัวเดินเข้ามาบอกกับผมว่าเรามาคบกันไหม ผมตกใจมากเพราะก่อนหน้านั้นผมเคยบอกเขาไปว่าผมรักเขาแต่เขาปฏิเสธผม ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ยังคงความเป็นเพื่อนเหมือนเดิมอยู่ แม้ผมจะสงสัยในสิ่งที่โรมทำแต่ความดีใจมันก็บดบังทุกอย่าง ผมถึงได้ตอบตกลงเขาไป


โรมปฏิบัติกับผมเหมือนปกติจะมีแต่ผมที่คอยเซ้าซี้ คอยซื้อนั่นนี่มาให้แม้จะไม่ใช่โอกาสสำคัญอะไรก็ตาม หยอดมุกให้เราดูสวีทหวานแหวว ไปดูหนัง เที่ยว ออกเดทเหมือนคู่รัก แต่เขาไม่เคยให้ผมจับมือหรือทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

จนครั้งหนึ่งที่เขาเผลอ  ผมแอบหอมแก้มแล้วถ่ายรูปเอาไว้ ตอนนั้นเขาโกรธมากแต่ผมกลับมองว่าโรมน่ารัก เขาทำอะไรก็น่ารักไปหมดในสายตาผม ทำไมผมถึงได้รู้สึกกับเขามากขนาดนั้น


คงเพราะเขาคือความประทับใจแรกของผมในช่วงนั้นล่ะมั้ง

 
ก่อนวันเปิดเทอมขึ้น ม. 1 แม่ของผมเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ผมเศร้ามากเสียใจมาก แต่พ่อของผมกลับไม่เสียใจอะไรเลย ตอนนั้นผมโกรธพ่อมากที่พ่อทำเหมือนว่าแม่ไม่สำคัญ และผมก็เริ่มที่จะไม่พูดคุยกับพ่อ หยุดโรงเรียนหนึ่งอาทิตย์โดยการโกหกว่าป่วย แต่จริงๆผมไม่ได้เป็นอะไร ผมเริ่มเกเรและทะเลาะกับพ่อหนักขึ้น โดดเรียนจนมีจดหมายเตือนมาถึงบ้าน ครั้งนั้นเราทะเลาะกันหนักกว่าทุกๆครั้ง ทำให้ผมตัดสินใจหนีออกจากบ้าน ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าผมหนีออกมาไกลแค่ไหน ผมเหนื่อยและหิวมาก แต่ไม่มีเงินติดตัวสักบาทเลยได้แต่นั่งอยู่ตรงขั้นบันไดหน้าเซเว่นเป็นเพื่อนเจ้าตูบที่นอนหลับอยู่ไม่ไกล



ทุกครั้งที่มีเสียงประตูเซเว่นเปิดเข้าเปิดออกผมจะหันไปมองตลอด บางทีเวลาที่มีใครสักคนถือของกินออกมาแล้วยืนกินมันหน้าเซเว่นผมจะลูบปากลูบท้องตัวเองพร้อมกลืนน้ำลายหนืดลงคอด้วยความหิว ผมเริ่มแสบท้อง ตาเริ่มลาย ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่บ้านจะออกมาตามหาผมไหม ปู่ ย่า พ่อจะเป็นห่วงผมหรือเปล่า


“นายๆ” เสียงเรียกพร้อมแรงสะกิด ประกอบกับเงาที่ทาบทับอยู่ด้านหน้าทำให้ผมเงยหน้าขึ้น เห็นเด็กผู้ชายรูปร่างผอมสูง ผิวขาวจัดยืนอยู่ตรงหน้า ดวงตารีสวยดูดุของเขานั้นมองตรงมาที่ผม

“อ่ะนี่ เราให้” ผมมองตามมือของคนแปลกหน้าที่กำลังยื่นมือพร้อมถุงตราโลโก้ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11

“หิวไม่ใช่หรอ รับไปสิ” เขาคะยั้นคะยอด้วยการเขย่ามือไปมา ผมถึงได้รับของนั้นมาโดยไม่กลัวหรอกว่าจะเป็นของที่กินไม่ได้

พอคุ้ยของในถุงก็เห็นว่าเป็นขนมปังก้อน น้ำเปล่าและนม ผมไม่ลังเลที่จะหยิบมันขึ้นมาแกะห่อแล้วกัดคำโต พร้อมกับดื่มน้ำอย่างกระหาย หลังจากที่กลืนทุกอย่างเรียบร้อยก็หันไปขอบใจเขา แต่เมื่อสังเกตดีๆก็เห็นว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกันกับผม เพราะอักษรย่อที่ปักและตัวเลขรหัสนักเรียนที่โชว์อยู่ทำให้รู้ว่าเขาเรียนอยู่ชั้นเดียวกับผมแน่นอน


“หนีออกจากบ้านมาหรอ” เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างผม แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรนอกจากกินขนมปังในมือ
“หรือว่าหลงทาง”

“เรื่องของกู”
“พูดไม่เพราะเลย” เขาสวนกลับทันทีที่ผมตอบเขาไปแบบนั้น

ผมหันไปมองอีกฝ่าย เห็นเขาทำหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวหรืออะไรใส่ แต่เขายังคงจ้องผมเหมือนเดิมไม่หลบสายตาไปไหน

“จ้องหน้ากูทำไม”
“พูดไม่เพราะ”

ผมเม้มปาก มองของในมือที่เขาเป็นคนซื้อมาให้ แล้วก็มองคนตรงหน้าที่ยังคงจ้องอยู่ ถึงได้ถอนหายใจออกมาเบาๆ
“เออๆ ขอโทษ”

แล้วผมก็ได้รอยยิ้มของเขากลับมาตอบแทนหลังจากที่ผมพูดคำนั้นออกไป หัวใจของผมเต้นตึกตักอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ผมก็สะบัดหัวไล่ความรู้สึกนั้นก่อนจะหันมาสนใจของตรงหน้าที่ยังเหลืออยู่

“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้หรอ” เขาถามขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคราวนี้มันเป็นจุดที่ทำให้ข้างในอกของผมบีบตัว เมื่อนึกถึงเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ ผมหยุดมือที่กำลังจะส่งขนมปังเข้าปาก แล้วหันไปมองเขาที่นั่งข้างๆ แววตาที่ดูอยากรู้ สงสัยนั้นทำให้ผมตัดสินใจพูดมันออกมา

“ทะเลาะกับพ่อ”
“ทะเลาะกันหนักมากเลยหรอ” ผมพยักหน้ารับ พลางบีบขนมปังในมือแน่น

“กูเกลียดเขา”
“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ” ผมหันไปมองอีกฝ่ายที่ยังมีกระจิตกระใจอบรมผม

“ขอโทษ”
“ช่างเถอะ”
“แล้วจะอยู่ที่นี่แบบนี้หรอ”
“................”
ผมไม่ได้ตอบอะไรเขา นอกจากก้มหน้ามองแค่หัวเข่าตัวเอง ผมใส่เสื้อยืดกับกางเกงบอลขาสั้นออกมาจากบ้านโดยไม่มีเงินติดตัว รู้แต่ว่าตอนที่ทะเลาะกันเสร็จผมก็วิ่งออกมาโดยไม่ได้มองทาง เดินมาเรื่อยๆ ข้ามคลอง ข้ามสะพานลอย ตัดสวนสาธารณะ ข้ามถนน มากี่แยกไม่ได้จำ


“ไปบ้านเราก่อนก็ได้ แล้วก็ค่อยโทรกลับไปที่บ้าน”
 
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืน ผมเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างลังเล แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นยืนตามเขา พอยืนขึ้นก็รู้ว่าผมสูงกว่าเขานิดหน่อยและติดจะตัวหนากว่าเขาด้วย



ระหว่างทางที่เดินเข้าไปในซอยบ้านเขา เขาก็แนะนำตัวกับผมทำให้ผมรู้จักกับเขาในนามของ โรม รติรมย์ รณสิทธิ์ และเมื่อผมแนะนำตัวเองบ้างและพอเขารู้ว่าเราอยู่โรงเรียนเดียวกัน เขาถึงได้หันมาดุผมที่ไม่ยอมไปเรียน ผมถึงได้รู้ว่าเขาอยู่ห้องเดียวกับผม พอผมมาถึงบ้านของเขา ก็รับรู้ได้ทันทีว่าบ้านของโรมนั้นใหญ่อย่างกับวัง แต่พอได้เข้ามาในบ้านแล้วจริงๆถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่แค่ความคิด เพราะมันคือวังจริงๆ

บ้านรณสิทธิ์หรือครอบครัวของโรมนั้นอาศัยอยู่ในรั้วของวังเทพากร ทันทีที่โรมกดกริ่งแล้วมีคนเดินออกมาเป็นคุณน้าผู้หญิงที่วิ่งมาเปิดประตูให้ พอเขาเห็นโรมก็ร้องเรียกคุณลุงอีกคนที่วิ่งกระหืดกระหอบมา

“คุณโรมครับ ทำไมหนีกลับมาก่อนล่ะครับ ลุงหาจนทั่วเล่นเอาตกใจแทบแย่ นี่คุณผู้ชายกับหม่อมแกเป็นกังวลมากเลยนะครับ”
“ขอโทษครับลุงจั่น พอดีโรมอยากลองกลับเอง”

การสนทนาที่ได้ยินทำให้ผมรู้เหตุผลที่โรมดุเวลาที่ผมพูดไม่เพราะแล้ว มันเป็นเพราะพื้นฐานครอบครัวของเขานี่เอง ผมมารู้ตอนหลังว่า แม่ของโรมมีเชื้อเจ้าเป็นถึงหม่อมราชวงศ์ แต่มาแต่งงานกับคุณพ่อของโรมที่เป็นเพียงนายแพทย์ในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเท่านั้น


ผมนั่งเกร็งอยู่ภายในบ้านของโรมเมื่อเจอกับแม่ของเขา ท่านซักถามผมเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้ผมได้คุยเล่นกันกับโรมตามลำพัง โรมพาผมไปเดินดูนั่นนี่รอบๆบ้าน แต่ไม่ได้ข้ามไปถึงบ้านหลังอื่นที่เป็นส่วนของวังเทพากร

“แล้วคุณไม่คิดจะหายโกรธพ่อบ้างหรอ” โรมถามในขณะที่เรามาหยุดนั่งพักอยู่ในสวนกล้วยไม้ที่พ่อของโรมชื่นชอบเป็นพิเศษ

“ไม่”
“ทำไมล่ะ” ผมเงียบไม่ตอบ  โรมถึงได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

“เราจะเล่าอะไรให้ฟัง ตอนประมาณ 8 ขวบเราเล่นกับพี่สาวของเราอยู่ แล้วทีนี้พี่ก็ทำของเล่นของเราพังโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ เราโกรธพี่มาก แล้วเราก็ตบหน้าพี่เราไปอย่างแรงแต่เราก็ไม่ยอมขอโทษเพราะเราไม่ตั้งใจ ตอนนั้นเราเลยขังตัวเองในห้องเพราะโกรธพี่ที่ทำของเราพัง และโกรธตัวเองที่ตบหน้าพี่ไป ตอนนั้นท่านตาเรามาหาพอดีเลยรู้เรื่องเข้า ท่านก็มาหาเราที่ห้องเราร้องไห้แล้วบอกว่าเราไม่ได้ตั้งใจที่ทำกับพี่ไปแบบนั้น ท่านตาก็เลยสอนเราว่าต้องให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา รับฟังในสิ่งที่อีกคนต้องการบอก หัดเป็นคนใจเย็นคิดให้มากๆอย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งและถ้าพอจะให้อภัยกันได้ก็ทำถ้าเรายังเห็นว่าเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่”

ผมถอนหายใจออกมาหลังจากฟังโรมพูดจบ

“กู....เอ่อ  ผม.....ไม่รู้จะเริ่มยังไง”
“ไม่ต้องเล่าให้ฟังก็ได้นะ ถ้าไม่อยากเล่า” เขายิ้มให้พร้อมกับตบเบาๆบนมือของผม



วันนั้นก็คือจุดเริ่มต้นความรู้สึกเล็กๆในใจของผมที่มีต่อโรม ผมเล่าเรื่องของผมให้โรมฟังเกือบทุกเรื่อง ทุกครั้งที่ไม่สบายใจผมก็มักจะเล่าให้เขาฟัง โรมจะกลายเป็นคนแรกเสมอที่ผมจะนึกถึงในยามที่มีปัญหา สำหรับวันนั้นผมกลับบ้านโดยที่ลุงจั่นคนขับรถที่บ้านโรมไปส่งผมที่บ้าน ไปๆมาๆก็กลายเป็นว่าบ้านผมกับบ้านโรมสนิทกันขึ้นมาเสียอย่างนั้น


สาเหตุที่ผมทะเลาะกับพ่อในครั้งนั้นมันมีจุดมาจากการที่พ่อกล่าวหาว่าแม่คบชู้ บ้านผมมีพี่น้องสามคน ผมเป็นลูกคนกลางและค่อนข้างสนิทกับแม่มาก แม่ผมจะชอบเล่นดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ แกจบมาจากดุริยางคศิลป์และเคยเป็นนักร้องอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะมาเจอกับพ่อ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปทำงานเพราะมาดูแลกิจการโรงแรมและนำเข้าอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์แทน

วันนั้นหลังจากที่แม่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตทางรถยนต์ ผ่านไปได้ไม่ถึงสองอาทิตย์ผมก็ไปได้ยินพ่อคุยกับน้าฤดีน้องสาวของแม่ผม แล้วมันเป็นวันเดียวกันกับการที่ผมไม่ไปโรงเรียน ผมแอบฟังอยู่นานได้ยินทุกประโยคที่ทั้งพ่อและน้าฤดีคุยกัน


“พี่ฤทัยไม่น่ามาเจอคนอย่างคุณเลยจริงๆ กล้าได้แม้กระทั่งจัดฉากฆ่าเมียตัวเอง”
“หยุดพูดจาพล่อยๆกล่าวหาผมนะ ฤดี ผมจะไปทำแบบนั้นได้ยังไง”
“ทำไมจะไม่ได้ ก็คุณคิดจะหุบโครงการที่พี่สาวฉันเพิ่งจะลงทุนให้มาเป็นชื่อของคุณคนเดียวน่ะสิ”
“ฉันจะทำแบบนั้นทำไม ในเมื่อเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ฤทัยใช้มันก็เงินของกฤติดำรง”
“ก็เพราะคุณมันโลภไง”
“ใครกันแน่ที่โลภ ไม่ใช่พี่สาวเลวๆของเธอกับชู้ของมันหรือไง”
“คุณก้องเกียรติ คุณอย่ามาใส่ความพี่สาวฉันนะ พี่ฉันไม่ได้คบชู้”
“แล้วเธอมีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าพี่เธอไม่คบชู้ฤทัย ฉันให้คนตามสืบมาหมดแล้ว”
“โกหก แกมันหน้าตัวเมีย ใส่ความพี่สาวฉันเสียๆหายๆ ฉันจะฟ้องร้อง!”
“เชิญ อยากจะทำอะไรก็เชิญ และอย่าคิดจะมากอบโกยอะไรจากครอบครัวฉันอีก”
“แล้วจะได้เห็นดีกัน”



น้าฤดีหุนหันออกจากบ้านไปโดยไม่ได้สังเกตเห็นผมที่ยืนเกาะราวบันไดอยู่ไม่ไกลจากห้องรับรองแขกที่แยกส่วนออกมาจากห้องทำงานของพ่อ พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้ว ผมก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องนั้นทันที เห็นพ่อกำลังนั่งกุมขมับอยู่แต่ผมไม่ได้สนใจท่าทางนั้นของพ่อเลยสักนิด

“เกิดอะไรขึ้นครับพ่อ”

“แทนคุณ...ทำไมวันนี้ไม่ไปโรงเรียน”
“พ่อบอกมาก่อนว่าที่พ่อคุยกับน้าฤดีคืออะไร”

“เรื่องของผู้ใหญ่เด็กไม่เกี่ยว” พ่อพูดเสียงแข็งพร้อมมองมาด้วยสายตาคมดุ
“แล้วทำไมแกไม่ไปโรงเรียน”
“ผมไม่สบาย” ผมโกหกทันควัน ก่อนที่พ่อจะลุกขึ้นตบโต๊ะดังปัง

“แกอย่ามาโกหก เมื่อวานนี้มีจดหมายจากทางโรงเรียนบอกว่าแกไม่ไปเรียนเกือบทั้งอาทิตย์ เขาจะเชิญฉันไปคุยที่โรงเรียนอยู่วันมะรืน”

“ผมไม่อยากไปนิ ผมเบื่อ ผมจะไม่เรียน”
“แกอย่ามางี่เง่า แทนคุณ”
“ทำไมผมจะงี่เง่าไม่ได้ ผมคิดถึงแม่ ผมไม่มีกระจิตกระใจจะไปเรียนหรอก” ผมตอบกลับพร้อมกับมองพ่อตาเขียว

“คนตายไปแล้วเขาไม่รู้หรอกว่าแกคิดถึง ถ้าเขารักแกจริงเขาก็คงไม่หนีตามชู้ไปจนตายพร้อมกันหรอก”
“พ่อโกหก แม่ไม่ได้หนีตามชู้ พ่อใส่ร้ายแม่”
“ฉันไม่เคยโกหก”
“ผมไม่เชื่อ ไม่เชื่ออะไรพ่อทั้งนั้น”
“เออ ไม่เชื่อก็เรื่องของแก แต่ฉันจะบอกแกไว้เลยว่าที่แม่แกตายน่ะ เพราะมันหนีไปกับชู้”

“พ่อเกลียดแม่ พ่อเลยใส่ร้ายแม่ ผมเกลียดพ่อ เกลียดพ่อ!!”

“เสียงดังเอะอะอะไรกันตาก้อง ดังไปถึงเรือน.......”


ผมวิ่งออกจากห้องทำงานของพ่อทันที โดยไม่ได้มองว่าปู่กับย่ากำลังเดินเข้ามา ผมไม่สนว่าจะมีเสียงดังโวกเวกตะโกนเรียกชื่อหรืออะไรทั้งนั้น ความรู้สึกทุกอย่างมันมืดมัวสำหรับผมไปหมด จนผมได้เจอกับโรมก็เหมือนว่าหัวใจของผมมันดีขึ้นมา


สำหรับเรื่องของแม่ผมมารู้ความจริงเอาตอนม. 2 พ่อของผมพูดถูกทุกอย่าง แม่ผมมีชู้ ท่านแอบคบกับนักดนตรีกลางคืนคนหนึ่งหลังจากที่มีน้องเจ้าขาได้แค่ 5 ขวบ และก็แอบมีความสัมพันธ์ลับๆ ช่วงนั้นพ่อไม่ค่อยอยู่เมืองไทยเพราะเอาแต่ทำธุรกิจที่กำลังเติบโตอยู่ในต่างประเทศ จนเมื่อแม่เริ่มรู้สึกว่าชีวิตของแม่ไม่มีความสุขเอาเสียเลย

แม่ถึงได้ขอไปทำการลุงทุนธุรกิจที่อื่นหลังจากนั้น โดยที่พาชู้ของแม่ไปด้วย แม่กำลังทำการลงทุนที่ทางใต้ กำลังตั้งใจอยากจะเปิดธุรกิจร้านอาหาร สปาและแหล่งบันเทิงอื่นๆ เขาเริ่มคุยกันเรื่องที่ทางและโครงการ ตอนที่พ่อกลับมาล่าสุดช่วงที่ผมอายุ 11 และอีกไม่นานจะขึ้นม. 1 พ่อก็เริ่มให้คนออกตามสืบเรื่องของแม่เพราะแม่เริ่มขาดการติดต่อ

หลังจากนั้น อาจจะเป็นคราวซวยจริงๆ ในคืนหนึ่งหลังจากเลิกงานปาร์ตี้ช่วงกลางดึก แม่ผมที่ไปกับชู้รักของท่าน รถเกิดเบรกแตกพุ่งชนกับรถพ่วงทำให้แม่และชู้รักของเธอเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุพร้อมกับลูกในท้องของแม่

ตอนนั้นแม่เตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว แม่ตั้งใจที่จะหย่ากับพ่อ น้าฤดีเลยเข้าใจว่าพ่อเป็นคนจัดฉากฆาตกรรมแม่ แต่ผลสรุปไม่เป็นไปตามที่น้าฤดีตั้งข้อสงสัย เมื่อตำรวจทำการสืบสวนจนพบหลักฐานและคนร้ายตัวจริงว่าทุกอย่างไม่ใช่ฝีมือของพ่อ แต่เป็นฝีมือของแฟนสาวของชู้ที่แม่กำลังคบหาอยู่ด้วยที่เกิดแค้นในตัวของผู้ชายคนนั้นหลังถูกบอกเลิก

มันเป็นโศกนาฏกรรมความรักที่ผมไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตครอบครัวของผม ถามว่าผมให้อภัยแม่ไหม ก็ไม่ทั้งหมดหรอกแต่ก็ไม่อยากจะผูกเวรผูกกรรมกัน ผมเลยอโหสิกรรมให้แม่ แต่กับพ่อผมก็ไม่ได้คุยด้วยเท่าไหร่ เพราะพ่อก็ยังคงเหมือนเดิม งานมักจะมาก่อนครอบครัวเสมอ



และผมก็คิดว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคงกำลังดีขึ้นแล้ว แต่ผมก็คิดผิด

ผมมีพี่ชายหนึ่งคนอายุห่างกัน 4 ปี เขาเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันกับผม เป็นคนเรียนเก่ง กิจกรรมก็ดี หน้าตาก็หล่อ เป็นที่รักและที่ภาคภูมิใจของตระกูลมาก พี่ผมชื่อเป็นหนึ่ง หรือพี่หนึ่งของน้องๆ พี่หนึ่งเป็นพี่ชายใจดี พูดเพราะและอ่อนโยนกับน้องๆเสมอ ตอนเด็กๆผมติดพี่หนึ่งมากไม่ต่างกับน้องเจ้าขาที่อายุห่างกับผม 2 ปี ทั้งผมและเจ้าขามักจะชอบแข่งกันอ้อนพี่หนึ่ง บางทีก็แข่งกันเอาใจพี่หนึ่งตลอดเวลา

จนเมื่อเริ่มโตขึ้น ผมที่มักจะถูกเปรียบเทียบกับพี่หนึ่งอยู่บ่อยๆก็เริ่มมีอคติในใจ ผมเริ่มที่จะไม่ชอบพี่หนึ่ง ไม่อยากเป็นเหมือนเขา ยิ่งมีเรื่องที่ทะเลาะกับพ่อเข้ามาเกี่ยวข้องอีกผมก็ยิ่งเริ่มต่อต้าน แม้ว่าผมจะเรียนดีแค่ไหน ผมก็จะพยายามไม่ทำมัน พี่หนึ่งบอกว่าจะเรียนทางด้านวิศวะเครื่องมือแพทย์ เพราะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ทางบ้านทำอยู่ แต่พ่อบอกว่าอยากให้เรียนเป็นหมอมากกว่า พี่หนึ่งก็ไม่ขัด ส่วนผมเขาวางไว้ให้อยากเรียนบริหารเพื่อมาดูแลธุรกิจทางด้านโรงแรม แต่ผมไม่ได้สนใจสักนิด ผมถึงได้พยายามแหกคอกตลอด

โรมบอกว่า ถ้าผมชอบทำอะไรแล้วสบายใจให้ผมทำ ผมถึงได้ชอบที่จะว่ายน้ำ เล่นบาสฯ เตะบอล หรือเล่นดนตรี โดยเฉพาะกีต้าร์ที่ผมชอบมาก ผมอาจจะได้เชื้อแม่มาเยอะผมถึงได้ชอบที่จะเป็นศิลปินมากกว่านักธุรกิจ ตอนเด็กๆแม่มักจะชวนผมร้องเพลงและเล่นเปียโน  บางทีก็พาไปถ่ายรูปก่อนที่จะมีเรื่องนั้นที่แม่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน

หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 18-10-2016 21:05:58
ส่วนเรื่องนั้นมันเกิดขึ้นตอนไหนไม่รู้ ผมมารู้เอาหลังจากวันที่ผมกับโรมมีปากเสียงกันในวันที่เขามาบอกเลิกจากการเป็นแฟนระหว่างผมกับเขา ผมโมโหตัวเองมากที่ไม่เคยสังเกตมาก่อนหน้านี้ โรมที่มักจะชอบถามเรื่องพี่หนึ่งกับผม แต่ผมก็มักจะเงียบบ้างตอบบ้างแต่ไม่ได้เอะใจอะไร หรือโรมที่มักจะมองตามพี่หนึ่งเวลาที่เขาเดินผ่าน และไม่รู้ว่าโรมชอบหายไปช่วงหลังพักทุกครั้งเพราะอะไร จนกระทั่งพี่หนึ่งเรียนจบออกไปแล้ว

จากวันนั้นมันผ่านไปเกือบอาทิตย์ ในช่วงเย็นหลังเลิกเรียนวันหนึ่ง ผมเห็นโรมทำตัวแปลกๆ เหมือนกังวลอะไรสักอย่าง เขาคุยโทรศัพท์กับลุงจั่นได้ยินแว่วๆว่าไม่ต้องมารับ และโรมก็รีบเดินออกจากโรงเรียนทันทีที่หมดคาบสุดท้าย

ผมแอบสะกดรอยตามโรมไปจนพบว่าเขา แอบนัดเจอกับพี่หนึ่ง โดยที่พี่หนึ่งมารับ ตอนนั้นพี่หนึ่งได้รถยนต์เป็นของขวัญที่สอบติดคณะแพทย์จากคุณปู่และได้คอนโดใกล้มหาวิทยาลัยจากคุณพ่อ ผมโบกแท็กซี่ให้ขับตามรถของพี่หนึ่งไปจนมันมาหยุดลงที่คอนโดของพี่หนึ่ง ผมเริ่มเดาอะไรได้เรื่อยๆมากขึ้น

เมื่อเห็นโรมลงมาจากรถของพี่หนึ่งและกำลังยิ้มให้กับอีกคน มือทั้งสองคนกำลังจับจูงกันและโรมก็กำลังหัวเราะขำเมื่อพี่หนึ่งพูดอะไรสักอย่างออกมา ผมได้แต่ยืนกำหมัดแน่น ตัวสั่นไปด้วยความรู้สึกโกรธ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับผม โรมหลอกใช้ความรู้สึกของผมเพื่อเรื่องนี้อย่างนั้นหรอ


ผมไม่รอช้ารีบเดินตามเขาเข้าไปข้างใน แจ้งความประสงค์ที่เค้าน์เตอร์ เมื่อรู้ว่าผมเป็นน้องชายของพี่หนึ่งก็ปล่อยผมขึ้นไปข้างบน ผมเคยมาที่นี่อยู่ครั้งสองครั้งจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาห้องของพี่หนึ่งเจอ พอมาถึงผมก็กดกริ่งที่หน้าห้องและคนที่มาเปิดประตูก็คือพี่หนึ่ง

“มาได้ยัง...”

ผลัวะ!!

“แทนคุณ” เสียงโรมดังขึ้นมาข้างหลังพี่หนึ่งที่ลงไปนั่งกองที่พื้น ผมมองโรมด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา แต่มันกลับไม่ไหลออกมา ผมหันหน้าหนี แล้วเดินออกมาจากห้องพักของพี่หนึ่ง ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมา

“แทนคุณ หยุดนะ...หยุดเดี๋ยวนี้”

ผมไม่สนและเดินไปเรื่อยๆ จนโรมวิ่งมาตัดหน้าผม เขาผลักอกผมแรงๆให้หยุดเดิน ผมเซไปนิดหน่อย พลางมองเขาด้วยความสับสนปนเสียใจ

“ฟังกันก่อนสิ”
“จะหลอกอะไรกูอีก”

“แทนคุณ”  ตาคู่สวยที่ผมชอบมองว่ามันไม่ได้ดุอย่างที่เห็นแต่มันแฝงไปด้วยความอบอุ่นและใจดีของโรมกำลังคลอไปด้วยน้ำตา ผมอยากจะดึงเขาเข้ามากอดแต่ว่าผมก็ไม่ทำ ในใจของผมกำลังบีบรัดรุนแรง พร้อมที่จะระเบิดอารมณ์ออกมาได้เสมอ

“คุยกันก่อนนะ” โรมไม่รอฟังคำตอบ เขาลากผมไปทางบันไดหนีไฟทันทีหลังจากพูดจบ

“ผมขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจหลอกคุณจริงๆ”
“งั้นก็คงเห็นว่าผมโง่มากเลยสินะ” ผมถามเขากลับไป แค่ตอนที่เขาบอกว่าขอเลิกกับผม มันก็เจ็บพอแล้วแค่การไม่รักกันและมาให้ความหวังกันแบบนั้น แต่นี่เหมือนผมเป็นไอ้โง่ตัวหนึ่งที่สั่งให้หันซ้ายก็ไปสั่งให้หันขวาก็ทำ

“ไม่ใช่....ผมผิดเอง คุณ....ผมไม่น่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้น”
“บอกให้ไอ้โง่คนนี้ฉลาดทีสิโรม....มันตั้งแต่เมื่อไหร่”
“คุณ....”
“โรมไปคบกับมันตั้งแต่เมื่อไหร่!” ผมตะคอกออกไปเสียงดัง โรมสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมน้ำตาไหลพราก

“ผมรักพี่หนึ่งมานานแล้ว แต่พี่หนึ่งบอกว่าผมไม่ได้รักเขา ผมเลยหาทางพิสูจน์ว่ามันจริงหรือเปล่า”
“ด้วยการมาหลอกคบกับกูน่ะหรอ” ผมชกไปข้างกำแพงเต็มกำลัง ตัวสั่นไปด้วยอารมณ์ที่สุมรอการระเบิด

“มึงทำได้ยังไง โรม มึงทำกับกูแบบนี้ได้ยังไง”
“ผม......”
“ตอบกูทีโรม ถ้าไม่มีมันมึงจะรักกูไหม”
“...............” โรมเงยหน้ามองผม น้ำตาของเขาไหลออกมาเป็นทาง ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ

“ขอโทษ”

ปัง! ทุบกำแพงอีกครั้งด้วยความโมโห

“ทำไมว่ะ ทำไม!”
“ผมขอโทษ”

ผมเงยหน้ามองโรมอีกที ในหัวตอนนี้ของผมมีความคิดสับสนปนเปกันไปหมด คนที่ผมไว้ใจมากอย่างโรมทำไมต้องหักหลังผมด้วย ทำไมต้องทำร้ายผมขนาดนี้


“ผมขอโทษคุณ”
“.................”

ผมจ้องลึกไปในตาเขา แววตาที่เอ่อล้นเต็มไปด้วยน้ำตา มันจริงใจแค่ไหนกัน

“ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“..............”

ผมไม่อยากได้ยินเสียงของเขาเลย ผมไม่อยากเชื่อเขาอีกต่อไปแล้ว

“คุณ........อุ๊บ!”


ผมกระชากโรมเข้ามาหาตัวพร้อมประกบปากแนบลงไป ริมฝีปากของโรมเม้มแน่นป้องกันไม่ให้ผมรุกราน พร้อมกับที่เขาดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการกอดรัดของผม

“อย่า....คุณ! หยุดนะ” ผมไม่ฟังเสียงนั้น นอกจากซุกหน้าขบกัดลงไปที่ซอกคอของโรมอย่างคนขาดสติ

“คุณ.................”

แควก!

ผมฉีกเสื้อของโรมจนกระดุมขาดแล้วเลื่อนตัวลงต่ำทำร้ายร่างกายเขา โรมได้แต่ทุบลงมาที่ไหล่ของผม ตัวสั่นเทิ้มก่อนที่เขาจะหยุดอยู่นิ่งๆ แล้วปล่อยให้ตัวเองสะอื้นจนตัวโยน

“ถ้า...ถ้ามันทำให้หายโกรธจริงๆ ก็ทำเถอะ แต่หลังจากนั้นเราคงเป็นได้แค่คนเคยรู้จักกันเท่านั้น”

จบคำพูดของโรม เหมือนเขาดึงสติของผมกลับมา ผมปล่อยเขาที่ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ผมมองภาพนั้นแล้วก็ได้แต่หันหลังให้ เงยหน้าขึ้นมองเพดานหวังให้น้ำตามันไหลคืนกลับไปแต่ก็เปล่าประโยชน์

“ผมรักโรมนะ รักมากด้วย”
“ขอโทษจริงๆ คุณ.....แต่ผมไม่อยากหลอกคุณอีกแล้ว”



นั่นคือคำพูดสุดท้ายของโรมในวันนั้นก่อนที่เราจะห่างกันไปเกือบอาทิตย์ ผมยังคงไปโรงเรียนเพียงแต่เราไม่ได้พูดคุยอะไรกันเหมือนเก่า จนหลังจากนั้นผมก็เห็นว่าโรมดูเศร้าลงอย่างผิดปกติ มารู้ตอนหลังว่าพี่หนึ่งบอกเลิกกับโรม ผมโกรธพี่หนึ่งมากที่ทำให้โรมเสียใจ แต่ก็โกรธตัวเองไม่ต่างกัน ผมถึงได้ทำตัวหน้าด้านเดินเข้าไปหาโรม ซึ่งเขาก็ร้องไห้ให้ผมเห็นอีกครั้ง

เรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม และโรมก็ไม่อยากให้ผมรอคอยเขาแบบไร้จุดหมาย โรมถึงได้พยายามให้ผมเปิดใจที่จะรับคนอื่นพิจารณาดูบ้าง เขาไม่อยากให้ผมตัดโอกาสในชีวิตตรงนั้น ผมอยากจะบอกกับโรมเหมือนกันว่า เขาควรจะบอกตัวเองแบบนั้นเหมือนกัน แต่ผมก็ทำตามที่โรมบอกถ้ามันจะทำให้เขาสบายใจและยิ้มขึ้นมาได้

ผมเริ่มคุยกับคนอื่นมากขึ้น เข้าสังคมในอีกโลกหนึ่งที่ผมไม่คิดว่ามันจะช่วยให้ผมเปิดใจได้แต่ผมก็ลองทำดูเพราะมันทำให้ผมหายเหงาได้จากอาการคิดถึงโรมได้บ้าง หลังจากนั้นอีก 2 เดือนโรมดูดีขึ้นเป็นลำดับ เขายิ้มมากขึ้นเมื่อเห็นว่าผมมีเพื่อนมากขึ้นและพอขึ้น ม. 6 ช่วงที่เราต้องเลือกว่าจะเรียนต่อที่ไหน ผมก็คุยกับโรมเรื่องนี้ เราก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนบรรยากาศจากที่เดิมมาอยู่ต่างจังหวัดแทน ซึ่งโรมเองก็ให้เหตุผลกับผมว่าเขาจะได้ทำใจด้วยเหมือนกัน



ในโลกโซเชี่ยล ผมมีเพื่อนที่ไม่รู้จักมากมายช่วงเวลานั้นทำให้ผมสนุกกับตัวเองได้อย่างเต็มที่ เป็นตัวเองในแบบที่เป็น และผมก็ยังสามารถสร้างโลกของผมกับคนที่ผมรักได้อีกด้วย ผมเพิ่งรู้จากน้องเจ้าขา น้องสาวของผมว่าสมัยนี้เขาไม่รังเกียจเรื่องรักร่วมเพศแล้ว น้องเจ้าขาชอบมาแซวผมทุกครั้งเวลาที่ผมอยู่กับโรม ไม่รู้หรอกนะว่าน้องสาวผมรู้อะไรมากน้อยแค่ไหน แต่การจิ้นในรูปแบบนั้นก็ทำให้ผมมีความสุขได้เหมือนกัน

ผมยอมรับว่าผมยังไม่เปิดใจให้ใคร เพราะผมรู้สึกเจ็บช้ำกับเรื่องความรักมาอย่างหนัก ผมบอกตรงๆว่าผมกลัว ผมเลยเลือกที่จะรอโรมต่อไปแบบนี้ อย่างที่รู้ว่าโรมไม่มีทางเลือกผม เขาพร้อมเสมอที่จะยกผมให้กับใครก็ได้ที่ก้าวเข้ามาในชีวิตของผม ซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มรับกับโชคชะตานั้นของตัวเอง



และจุดเปลี่ยนนั้นมันก็มาอย่างที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน


ในวันที่พ่อเข้ามาในห้องผม นานมากแล้วที่พ่อเข้ามาหาผมเองถึงที่ห้อง พ่อที่เอาแต่ทำงานไม่ได้สนใจว่าผมต้องการอะไร ชอบหรืออยากทำอะไร พ่อที่คอยแต่จะขีดเส้นให้ลูกเดินไปตามทางที่เขากำหนด


ผมที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เห็นพ่อกำลังยืนอยู่ที่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เปิดค้างเอาไว้ กีต้าร์โปร่งของรักของผมวางพิงอยู่ข้างโต๊ะคอมฯ พ่อหันมาหาผมพร้อมชี้นิ้วไปที่หน้าจอคอม


“นี่อะไร”
“คณะที่ผมจะเรียน” ผมตอบพ่อไปด้วยท่าทางสบาย เพราะผมไม่จำเป็นต้องโกหกอะไรในเมื่อพ่อเห็นอยู่แล้วว่าผมเปิดหน้าคณะของมหาวิทยาลัยที่ผมจะสอบเข้า

“แกต้องลงบริหาร”
“แต่ผมไม่ได้อยากเป็นเหมือนพ่อ” ผมสวนกลับไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ พลางทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียง

“แล้วไง แกอยากออกไปเต้นกินรำกินเหมือนชู้แม่แกหรือไง”
“พ่อจะพูดถึงคนที่ตายไปแล้วแบบนี้ได้ไง ให้เกียรติคนอื่นเขาบ้างสิ”

“แล้วที่แกทำอยู่ตอนนี้ให้เกียรติคนที่ยังอยู่แบบฉันบ้างไหม” ผมไหวไหล่ ก็ในเมื่อผมแทบไม่ค่อยได้คุยกับพ่อเลยด้วยซ้ำ

“แทนคุณ ฉันสร้างทุกอย่างเอาไว้ก็เพื่อให้พวกแกทั้งสามคน แกจะมองไม่เห็นคุณค่ามันบ้างหรือไง”
“พ่อเคยถามบ้างไหมว่าผมต้องการสิ่งที่พ่อสร้างหรือเปล่า”

“ได้ ถ้าแกต้องการแบบนี้” พ่อพยักหน้า ดูเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างแต่ไม่ใช่ ผมประเมินพ่อตัวเองต่ำไป

“ฉันไม่เคยบังคับให้แกเลิกเล่นดนตรีบ้าบออะไรพวกนี้ แกอยากทำอะไรฉันตามใจทุกอยากขอแค่ให้แกมาสานต่อสิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมาก็เท่านั้น แต่ในเมื่อแกสนใจมันมากนัก ฉันก็ไม่เห็นความจำเป็นที่แกจะต้องพึ่งพามัน”


พ่อหันหลังแล้วหยิบกีต้าร์ตัวโปรดของผมขึ้นมาก่อนจะฟาดมันลงกับพื้นแรงๆ

“พ่อ!!!”

“แกจะต้องลงเรียนบริหารเท่านั้นแทนคุณ” พูดจบพ่อก็เดินออกจากห้องปิดประตูตามหลังดังปัง


ในเวลานั้นผมไม่รู้จะทำยังไงดี ผมเจ็บใจแต่ทำอะไรไม่ได้ อยากจะหนีออกจากบ้านแต่มันจะมีประโยชน์อะไรในเมื่อมันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลย  ผมได้แต่มองกีต้าร์ตัวโปรดที่พังลงต่อหน้าต่อตาจากฝีมือของคนที่ให้กำเนิดผม ผมได้แต่กัดฟันแน่นระงับอารมณ์ที่เดือดพล่านอยู่ในอก ก่อนจะถอนหายใจออกมา

ผมตัดสินใจหยิบไอโฟนขึ้นมาถ่ายรูปกีต้าร์ตัวนั้น และเลือกที่จะแชร์ความเจ็บปวดของผมให้กับคนอื่นๆ เป็นการระบายความอัดอั้นที่ผมมีอยู่ในตอนนี้ ผมไม่อยากเอามันไปลงที่ใครก็ตามอีกแล้ว ผมถึงเลือกที่จะพึ่งโซเชี่ยลแทน ในเมื่อชีวิตของผมก็ไม่มีอะไรที่เป็นของผมจริงสักอย่าง ไม่ว่าจะความรักจากแม่ ความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่ได้จากโรม แม้กระทั่งความฝันของผมที่กำลังโบยบิน


ทางออกสุดท้ายเลยมีเพียงโลกที่ผมสร้างมันขึ้นมา

ผมอัพโหลดภาพนั้นลงในอินสตาแกรมที่ผมมักจะใช้เก็บความทรงจำระหว่างผมกับโรมโลกที่ผมจะมีโรมอยู่ในนั้น และแชร์ไปยังเฟซบุ๊คโลกที่ผมจะได้ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ


ผมนั่งจมอยู่ในความเจ็บปวดมองหน้าจอคอมพิวเตอร์หลังจากที่วางไอโฟนไว้ข้างๆกัน ผมเลื่อนเม้าส์กดปิดหน้าต่างเว็บไซต์ของคณะที่อยากจะเข้า ใบสมัครสอบตรงที่ได้มาจากตอนไปค่ายสอนศิลป์เพื่อน้องก็คงต้องพับเก็บไว้แล้วเลือกดูรายละเอียดของคณะบริหารที่พ่ออยากให้เข้าแทน

หลังจากเรียนจบผมจะเลือกเดินในทางของผมโดยที่ไม่ให้ใครมาบ่งการได้อีก ผมจะต้องยืนด้วยตัวเอง ต้องแข็งแกร่งมากกว่านี้ พอได้ศึกษารายละเอียดต่างๆของคณะที่จะต้องเรียนเรียบร้อย ผมก็ทำการปิดหน้าจอแล้วเปิดเข้าเว็บเฟซบุ๊คแทน มีคนเข้ามากดไลค์และคอมเม้นต์มากมายบนสเตตัสของผม


ผมไล่อ่านไปเรื่อยๆ มีแต่คนเข้ามาถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็เลือกที่จะไม่ตอบอะไร กำลังจะปิดหน้าต่างเฟซบุ๊คแล้วหากไม่มีคอมเม้นต์หนึ่งเด้งขึ้นมาเสียก่อน

บะหมี่ เกี๊ยว สู้ๆนะ เราจะทำความฝันให้นายเอง

ผมมองข้อความนั้น ก่อนที่จะรู้สึกว่าตัวเองกำลังยิ้ม เขาคนนี้เป็นคนเดียวที่ไม่ได้คอมเม้นต์ถามอะไรผม นอกจากให้กำลังใจและยังจะเอาความฝันของผมไปเป็นของตัวเองเสียแบบนั้น

เขาเป็นคนแบบไหนกัน

ผมเลื่อนเม้าส์จิ้มไปที่การตอบกลับคอมเม้นต์นั้นพร้อมพิมพ์ไปว่า

TK Krittidumrong ขอบคุณครับ ผมฝากด้วยนะ

แต่ก่อนที่จะปิดเฟซบุ๊คออกจากระบบ ผมทำการจิ้มเข้าไปที่หน้าเฟซฯของเขา แต่ไม่ได้อะไรมากมายเนื่องจากเขาไม่ค่อยอัพเดทอะไรเท่าไหร่ มีสเตตัสเพ้อๆอะไรสักอย่างที่มาพร้อมกับแฮชแท็กคำว่า YOU บางทีก็เป็นวิดีโอเพลงที่แชร์มาจากยูทูบบ้าง เขาไม่มีรูปถ่ายอะไรที่บ่งบอกถึงตัวของเขา เพื่อนก็มีไม่มากเหมือนมีเฟซฯไว้แค่ติดตามข่าวคราวเท่านั้นแต่ไม่ได้เล่นเป็นจริงเป็นจัง

ถึงอย่างนั้นผมก็แอบกด Bookmark หน้าเว็บเฟซฯของเขาเอาไว้บนแถบ Google Chrome ในคอมพิวเตอร์ของผม


ผมจะรอดูว่าเขาจะทำอย่างที่พูดจริงหรือเปล่า

บะหมี่เกี๊ยว







จบตอน



เจอกันตอนหน้ายังเป็นพาร์ทของแทนคุณนะคะ
หวังว่าตอนนี้จะเคลียร์ประเด็นของคุณโรมไปได้เยอะอยู่นะ ชีวิตของคุณพระเอกเศร้าเนอะ TT   
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-10-2016 21:12:56
 :mew4: :mew4: :mew4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ที่ 18-10-2016 21:26:47
สงสารแทนคุณณณ   ไม่ชอบโรมเลยอ่ะ ทำแบบนี้ได้ยังไง
ก็รู้อยู่ว่าคุณรู้สึกยังไงกับตัวเอง มันเหมือนเอาความรู้สึกคนอื่นมาเล่น ไม่น่ารักเลย
แย่ที่สุด อยากพิสูจน์ก็วิธีให้พิสูจน์เยอะแยะไปที่ไม่ใช่วิธีนี้
เชอะ โป้งโรม ไม่โอเค
อยากให้โรมไม่สมหวังกับพี่หนึ่ง จะได้รู้สึก อืม ทำไมรู้สึกตัวเองเลวมาก 555
เล่นกับความรู้สึกคนอื่นแบบนี้ ก็ขอให้ความรู้สึกตัวเองเจ็บช้ำบ้างล่ะกัน
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 18-10-2016 21:34:53
ยิ่งอ่านตอนนี้คุณโรมยิ่งน่าเคืองไปอีก :m16:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 18-10-2016 21:46:28
อดีตของแทนคุณกับโรมนี่มัน...... :/ เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 18-10-2016 21:48:53
คุณพระเอกน่าสงสารง่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-10-2016 22:03:48
อุ้ต้ะ!! มันเริ่มต้นจิงจังล้าววว
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 18-10-2016 22:17:22
ไม่ชอบโรมเลย ทำแบบนี้ ความรู้สึกคนอื่นมาใช้เพื่อตัวเองจะสมหวัง  ไม่ใช่มาเสียดายแทนคุณอีกนะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 18-10-2016 23:03:07
ที่แทนคุณเลือกยูเป็นเพราะรู้ว่ายูคือบะหมี่เกี๊ยวรึป่าว
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-10-2016 23:49:10
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: tungz ที่ 19-10-2016 02:45:55
เคืองโรมมากกกกก รักคนพี่ มาพิสูจน์กันน้องเขา แถมรู้อยู่ว่าเพื่อนชอบ ยังจะทำ ชิ!!! ไม่อยากให้สมหวังกับพี่หนึ่งเลย โอ้ยยยยย  :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 19-10-2016 12:11:07
#ทีมตัวเล็กตัวโต   :-[ :-[
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Abella ที่ 19-10-2016 19:41:39
แล้วทำไมคุณถึงยังดูใกล้ชิดโรมอยู่ ทำใจได้ไง เฮ้อ ยิ่งอ่านก็ยิ่งสงสารเกี๊ยว
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 19-10-2016 22:52:11
คุณโชคดีจริงๆที่มียู
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: polkadot ที่ 20-10-2016 00:17:04
เปลี่ยนใจชอบคนใหม่เถอะยูเอ้ย ความหวังริบหรี่เหลือเกิน คุณในตอนนี้เหมือนกักไว้ทั้งที่ตัวเองยังตัดใจจากโรมไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าคิดจะเริ่มต้นความรักใหม่ มันควรจะเปลี่ยนใจตัวเองให้ได้ก่อนไหม
 รู้สึกเหนื่อยแทนยูที่ต้องวิ่งตามเงาอยู่ตลอดเวลา ตามทันแต่ก็จับต้องไม่ได้อยู่ดี :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 1 > 18/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 20-10-2016 02:37:39
รู้สึกเหมือนที่คุณมีให้ยูมันไม่ใช่ความรักเลย../กุมหัว
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 20-10-2016 17:32:02
เปิดบันทึกแทนคุณ
ตอนที่ 2 – ความรู้สึกของคนถูกรัก


หลังจากที่ผมห่างหายจากโลกโซเชี่ยลของผมเพื่อมาเตรียมตัวสอบในการเรียนต่อ วันที่มีการประกาศผลสอบก็มาถึง ผมทำการแคปหน้าจอแล้วโพสลงในเฟซบุ๊คทันที หลังจากที่ลงได้ไม่ถึงนาทีก็มีหลายคนเข้ามายินดีและหลายคนเข้ามาดีใจที่ได้เรียนมหา’ลัยเดียวกัน แต่ที่ผมต้องการรู้คือใครอีกคนที่เคยให้สัญญาไว้มากกว่า

ผมจัดการเลื่อนเม้าส์จิ้มไปบนแถบบุ๊คมาร์กของกูเกิ้ลโครม หน้าจอเปลี่ยนเป็นหน้าเฟซฯของเขา แต่ยังคงไม่มีการเคลื่อนไหว ผมเลยเปลี่ยนมาโทรศัพท์หาโรมแทน

พูดถึงเรื่องของโรม ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเรายังคงเป็นเพื่อนสนิท ส่วนความรู้สึกของผมยังคงเหมือนเดิม ไม่เพิ่มขึ้นและไม่ได้ลดลง โรมยังคงเป็นความรักและความประทับใจในความทรงจำของผมอยู่ แม้ว่าเขาจะทำร้ายความรู้สึกของผมไป แต่พอมาคิดทบทวนแล้วมันอาจจะเป็นความคิดชั่ววูบของโรมที่คิดทำแบบนั้น ลึกๆแล้วโรมไม่ใช่คนจิตใจไม่ดีแต่คงเพราะความรักที่ทำให้เขาหลงลืมความรู้สึกคนอื่นไป เหมือนที่ผมเองก็เป็น

สัญญาณรอสายหายไปเมื่อโรมรับโทรศัพท์จากผม เราคุยกันแค่นิดหน่อยเพื่อสอบถามว่าเขาสอบติดอะไร โรมเลือกมหา’ลัยเดียวกับผมไว้แต่ลงอันดับแรกเป็นแพทย์ อันดับสองเภสัชฯ ซึ่งเขาก็ติดที่อันดับสองพอดี ทำให้เราได้มีโอกาสเรียนที่เดียวกันอีก

พอวางสายจากโรมแล้วผมก็รีเฟรชหน้าเฟซฯของคนที่ใช้ชื่อว่าบะหมี่เกี๊ยวดูอีกครั้งและพบว่าเจ้าตัวอัพสเตตัสแล้ว

บะหมี่ เกี๊ยว สำเร็จแล้ว #YOU

เขาโพสต์ไว้แค่นั้น แต่ไม่รู้ว่ามันมีความหมายว่ายังไง ผมยิ้มให้กับข้อความบนสเตตัสของเขา ไม่ว่ามันจะหมายถึงความสำเร็จของอะไรก็ตามที่เขาทำมันได้ ผมก็ยินดีกับเขาด้วยแล้วกัน ก่อนที่ผมจะตัดสินใจเลื่อนเม้าส์ปลดแถบบุ๊คมาร์คหน้าเฟซฯของเขาออก


นั่นคือครั้งสุดท้ายที่ผมได้เข้าไปส่องในหน้าเฟซของบะหมี่เกี๊ยว







ผมได้ของขวัญจากคุณปู่เป็นรถยนต์สัญชาติยุโรปจากการที่สอบติดและกุญแจคอนโดที่ได้มาจากพ่อ ซึ่งวันที่พ่อรู้ว่าผมสอบติด ไม่มีคำชื่นชมหรืออะไรทั้งนั้น พ่อแค่ทานข้าวต่อไปและทำงานของตัวเองต่อ แต่อีกสัปดาห์ต่อมาก็มีกุญแจคอนโดมาวางอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือของผมพร้อมการ์ดใบหนึ่งที่มีข้อความความ....สำหรับความพยายามของแก....

 
เมื่อถึงกำหนดการที่ผมต้องไปใช้ชีวิตเพียงลำพัง ผมทำการย้ายข้าวของบางส่วนออกมาจากบ้าน โดยมีแค่ย่าปู่และน้องเจ้าขาเท่านั้นที่มาส่ง น้องเจ้าขาน้ำตาซึมแต่พยายามไม่ร้องไห้ออกมา เพราะตั้งแต่ที่พี่หนึ่งย้ายออกจากบ้านเพื่อไปพักในคอนโดใกล้มหาวิทยาลัย ก็มีแค่ผมที่อยู่เป็นเพื่อนเล่นเพื่อนคุยกับเธอ น้องเจ้าขาถึงได้สนิทกับผมมากแต่ก็ตามประสาเด็กที่จะมีงอนบ้างตอนรู้ว่าพี่ชายจะไม่อยู่ด้วย

“ไม่เอานะคะ โตเป็นสาวแล้วต้องไม่ร้องไห้ตามผู้ชายแบบนี้สิ”
“ตลกแล้วพี่คุณ เจ้าขาไม่ได้ร้องตามผู้ชายที่อื่นสักหน่อย” เจ้าขาว่าพลางทำปากยื่นปากงอนใส่ผม


วันนั้นย่าได้ให้ของขวัญกับผมอีกหนึ่งชิ้นเป็นกีต้าร์โปร่งตัวใหม่ ซึ่งผมดีใจมากเพราะมันเป็นเครื่องดนตรีที่ผมชอบเล่นที่สุดรองจากเปียโน เราร่ำลากันอยู่นานพอสมควรก่อนที่พวกเขาจะกลับไป

ผมต่อสายไปหาโรมที่เห็นว่าจะย้ายของเข้าหอวันนี้ด้วยเช่นกัน พอรู้ว่าเขาอยู่ที่หอในและกำลังจัดของอยู่ผมก็ขับรถไปที่หอพักนิสิตในมหา’ลัยทันที

พอจอดรถไว้เลียบข้างฟุตบาทไม่ไกลจากทางเข้าเท่าไหร่ ผมเลยโทรหาโรมอีกครั้งเผื่อว่าเขาต้องการให้ช่วยเหลืออะไรแต่อีกฝ่ายยังไม่รับสาย ระหว่างนั้นก็ลงมายืนรออยู่ใต้ต้นใหม่ใกล้ทางเข้า มองเห็นผู้ชายคนหนึ่งตัวเล็กๆใส่แว่นตาอันใหญ่ยื้อยุดแย่งของกับเด็กผู้หญิงอีกคนที่ตัวสูงกว่าเล็กน้อย จนในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็ชนะแล้วแบกของในกระเป๋าเดินขึ้นตึกไปอย่างทุลักทุเล

“พี่ไอดูดิ ยูโคตรดื้อเลยอ่ะ” เสียงเด็กผู้หญิงคนนั้นบอกกับผู้ชายตัวใหญ่อีกคนที่เดินหิ้วของเต็มสองมือมาจากรถฟอร์จูนเนอร์ที่จอดอยู่ไม่ไกล

“หยุดบ่นแล้วไปเอากระเป๋าอีกใบไป ยัยวี” เด็กผู้หญิงคนนั้นแลบลิ้นใส่คนเป็นพี่ชายก่อนจะวิ่งหนีเมื่อคนตัวโตกว่าทำท่าเตะขาใส่

“เล่นกันอยู่นั่นแหละพี่น้องสองคนนี้” แล้วก็มีผู้ใหญ่อีกคนที่เดินมาพร้อมกับผู้หญิงที่กำลังยิ้มส่ายหน้าไปมาแต่แววตาเอ็นดูพวกเขา ผมเดาว่าคงจะเป็นครอบครัวของนายแว่นคนนั้นแน่ๆ


ผมยิ้มกับภาพตรงหน้า ความสุขเล็กๆของสิ่งที่เรียกว่าครอบครัว
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่น่าอิจฉามากสำหรับผมที่มีปัญหาด้านครอบครัว

หลังจากที่พวกเขาเดินขึ้นไปข้างบนแล้ว ไอโฟนในมือของผมก็ดังขึ้นมาก่อนและเห็นว่าเป็นโรมที่โทรกลับมา เขาบอกว่ากำลังจะลงมาข้างล่างเพราะเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเลยไม่ได้ขึ้นไปข้างบนและไม่รู้ว่าใครบ้างที่เป็นรูมเมทของโรม



.
.


เปิดเทอมมาได้สัปดาห์ ผมถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของคณะเพื่อเข้าประกวดเดือนมหาวิทยาลัย มีอยู่วันหนึ่งที่ผมถูกตามตัวให้ไปรายงานตัวเพื่อประกวดเดือน พี่เลี้ยงประจำตัวรีบมาลากผมออกไปในขณะที่กำลังรับน้องอยู่ ผมไม่ได้เอารถมาในวันนั้นและพี่เลี้ยงของผมก็ไม่มีรถ เราเลยยืมรถประจำคณะเป็นจักรยานแม่บ้านคนละคันปั่นไปที่หอประชุมใหญ่เพื่อรายงานตัว

ระหว่างทางผมผ่านคณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะที่ผมใฝ่ฝันอยากจะเรียน และตอนนั้นก็กำลังมีกิจกรรมรับน้องอยู่เช่นกัน ทำให้ผมจอดรถดูภาพตรงหน้า เสียงเพื่อนๆที่นั่งกำลังหัวเราะกันออกมาเมื่องจังหวะกลองขึ้นเป็นทำนองเพลง เมียงู มีผู้ชายที่กำลังหลับตาแล้วดิ้นไปดิ้นมาตามจังหวะเพลง ผู้รู้สึกคุ้นหน้าเขาเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง ผมเค้นความคิดจนนึกออกว่าเป็นหนุ่มแว่นที่ผมเคยเจอที่หอพักนิสิตก่อนหน้านี้ เวลานี้ใบหน้าเขาเปื้อนสีด้วยการวาดลวดลายเป็นแมวเหมียว มีหนวดสามขีด จมูกสีแดง มัดผมสามจุก พร้อมกับมีป้ายห้อยคออันใหญ่เขียนไว้ว่า น้องยู แค่นั้นก็เรียกเสียงหัวเราะของผมออกมาได้แล้ว


“แทนคุณมัวทำอะไร เร็วๆ!” พี่เลี้ยงเรียกผมอีกครั้งเสียงดัง ทำให้ผมต้องรีบปั่นจักรยานต่อเพื่อไปให้ทันเวลารายงานตัว





วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการรับน้องที่เราเรียกว่า เฟรชชี่ไนท์ โดยที่ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำมีกิจกรรมการประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็ต่อด้วยคอนเสิร์ตให้นิสิตปีหนึ่งทุกคนได้ปลดปล่อยอารมณ์และแดนซ์กระจาย แม้ว่าผมจะรู้สึกเหนื่อยกับกิจกรรมที่ต้องทำแต่ผมก็สนุกกับมัน อีกอย่างการที่ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆทำให้ผมลืมความรู้สึกอื่นๆไปบ้าง กับโรมผมก็ยังคงตามไปรับไปส่งเหมือนปกติ เขาเองก็ไม่ได้ว่าอะไร คงเป็นเพราะความเคยชินตั้งแต่สมัยเรียนด้วยมั้ง ผมไม่เคยรื้อฟื้นอดีตขึ้นมา โรมเองก็เช่นกัน เราทั้งคู่ต่างเอาสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนั้นมาเป็นบทเรียนให้กับชีวิตแทน

โรมเองก็ยังเป็นโรมที่เคยพูดว่าไม่คิดกับผมเกินเพื่อน เขาก็ยังคงหนักแน่นเช่นกัน ครั้งหนึ่งโรมเคยถามผมว่าผมตัดใจจากเขาได้หรือยัง ผมก็ตอบกลับไปว่า ไม่ได้ตัดแต่แค่ไม่ได้ต่อ ซึ่งผมก็แค่ทำทุกอย่างเหมือนเดิมไม่เดินหน้าไปมากกว่านี้ โรมยิ้มให้กับผมนิดๆก่อนที่เขาจะถามต่อว่า แล้วทำไมยังเก็บภาพของเขาไว้บนภาพพักหน้าจอ ตอนนั้นผมจำคำตอบที่ให้กับโรมได้แม่น

“ถ้าเจอคนที่ผมพร้อมจะเปิดใจให้จริงๆ ผมจะเปลี่ยน” 



ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอคิวเพื่อขึ้นไปทำการแสดงของตัวเอง ผมเลือกที่จะเล่นกีต้าร์และร้องเพลงแบบเบสิคทั่วไปที่เขาทำกัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้วและผมก็คิดว่าทำมันได้ดีสุดๆด้วย พอจบการแสดงก็จะเป็นการลงคะแนนป็อบปูล่าร์โหวต

“แทนคุณ จากบริหาร เตรียมตัวนะคะ” พี่สตาฟคนหนึ่งมาเรียก ผมพยักหน้ารับพร้อมกับที่พี่เลี้ยงของผมชูนิ้วโป้งให้กำลังใจอยู่ไม่ไกล

ผมเดินขึ้นเวทีไปพร้อมกีต้าร์โปร่งในมือ เพลงที่ผมเลือกมานั้นเป็นเพลงของวง Musketeers ซึ่งผมได้ทำการเรียบเรียงใหม่ในแนวอคลูสติก ทันทีที่พิธีกรแนะนำการแสดง พร้อมชื่อของผม เสียงกรี๊ดก็ดังลั่นหอประชุม ผมไปหยุดอยู่หน้าเก้าอี้ทรงสูงกลางเวที จัดไมโครโฟนิดหน่อยก่อนจะกรอกเสียงพูดลงไป

“ผมไม่มีอะไรจะมอบให้ทุกคน นอกจากเสียงเพลงกับความจริงใจของผมที่มีให้ แค่คุณ ครับ”

 ผมเกากีต้าร์ขึ้นทำนองเพลงหลังจากพูดจบ พลางกวาดสายตาไปทั่วทั้งหอประชุม แสงไฟที่ส่องมาทำให้ผมมองแทบไม่เห็นหน้าคนข้างล่าง ผมเลยต้องหาโฟกัสที่ทำให้สายของผมชินกับแสง จุดที่ผมมองเป็นบานประตูที่หน้าหอประชุมที่พอมีแสงลอดออกมา

ผมขยับปากร้องเพลงไปตามเนื้อ พร้อมกับที่เกากีต้าร์ไปด้วย พอม่านตาชินกับแสงในหอประชุม จุดที่ผมมองก็เห็นเป็นผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ผมรู้สึกคุ้นหน้า หัวคิ้วผมขมวดเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มขึ้นมาเมื่อนึกออก พอนึกถึงท่าเต้นปลาไหลไฟลนก้นในทำนองเมียงูแล้วก็ยิ่งให้รู้สึกฉีกยิ้มกว้างกว่าเดิมจนเกือบหลุดขำ

เสียงกรี๊ดและเสียงร้องตามเพลงที่ผมเล่นไม่ได้ทำให้ผมละสายตาไปจากเขาได้เลย แม้ว่าจะเห็นเขายืนอยู่ไกลๆแต่ผมก็เห็นว่าเขากำลังยิ้มและโยกตัวไปมาเบาๆ แต่พอเพลงใกล้จบผมก็เห็นเขารีบวิ่งออกไปนอกหอประชุม


คืนนั้นผมประสบความสำเร็จอย่างมากที่คว้ามา 2 ตำแหน่งพร้อมกันทั้งป็อบปูล่าร์โหวตและเดือนมหา’ลัย สำหรับตำแหน่งป็อบปูล่าร์โหวตคงต้องขอบคุณเจ้าของดอกไม้ช่อใหญ่ที่เอามาให้ ตอนแรกคนที่เอามาเป็นผู้ชายทำเอาผมตกใจแย่ แต่เจ้าตัวปฏิเสธพัลวันว่าไม่ใช่ของตัวเองแต่ก็ไม่ได้บอกว่าใครฝากมา 


หลังจบจากงานวันนั้นก็มีกินเลี้ยงกันตามธรรมเนียมเป็นการฉลองตำแหน่งและความสำเร็จที่สร้างชื่อให้กับคณะด้วยเช่นกัน พอตอนเช้าตื่นมาผมถึงได้ปวดหัวจากอาการแฮงค์เลยต้องหากาแฟดำมากินแก้อาการมึน แค่พอได้กลิ่นกาแฟกระทบจมูกก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ผมหยิบไอโฟนมาเช็คข่าวคราวหลังจากที่ไม่ค่อยได้แตะ

หน้าฟีดเต็มไปด้วยภาพที่ถูกแท็กจากงานประกวดหรือเมนชั่นที่มาแสดงความยินดี ผมไล่ไปเรื่อยๆจนมีอีกหนึ่งสเตตัสที่เด้งขึ้นมา

บะหมี่ เกี๊ยว โหวตไปแล้ว : ) #YOU

ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย ทุกครั้งที่เห็นสเตตัสของคนๆนี้จะต้องมีแฮชแท็กคำว่ายูกำกับอยู่เสมอ ผมไม่รอให้ความสงสัยนั้นเคลือบแคลงใจอีกนาน ผมเช็คหน้าวอลล์ของตัวเองแล้วไล่ดูคนที่มากดไลค์หรือคอมเม้นต์ และต้องตกใจเมื่อเห็นว่าบะหมี่เกี๊ยวคนนี้มากดเลิฟให้ผมทุกสเตตัส ซึ่งพอขุดไปเรื่อยๆก็เริ่มสนุก ผมเลยเริ่มหาต่อไปจนพบว่าเขาเพิ่งเริ่มเปลี่ยนการกดไลค์หลังจากเฟซบุ๊คได้ทำการปรับปรุงเมื่อปีก่อน ผมยิ้มกับสิ่งเล็กๆที่เกิดขึ้น และผมก็หยุดที่จะตามสืบต่อไม่ได้

ผมจิ้มเข้าไปที่หน้าเฟสบุ๊คของเขาจนพบกับเบาะแส มีภาพเมื่อช่วงรับน้องประมาณสักสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เขาถูกแท็กจากรุ่นพี่ในคณะศิลปกรรมศาสตร์และภาพนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าบะหมี่เกี๊ยวเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกับผม  ผมไล่ไปเรื่อยๆเพราะภาพนั้นเป็นภาพเขาก้มหน้าและป้ายชื่อก็พลิกด้านอยู่

ผมเลื่อนลงมาย้อนหลังไปอีกเป็นเดือนจนพบกับภาพที่เหมือนถูกถ่ายมาจากหนังสือรุ่น ภาพเด็กวัยรุ่นชายในชุดนักเรียนที่สวมแว่นตาใหญ่เกือบครึ่งหน้าในกรอบสี่เหลี่ยมที่ถูกแท็กมาในอัลบั้มที่ชื่อเพื่อนกันตลอดไป 6/11

และวันนั้นก็ทำให้ผมรู้ว่าบะหมี่เกี๊ยวคือใคร


ณัฐคุณ อมรรัตนกุล หรือยู ปีหนึ่ง ศิลปกรรมศาสตร์  ม.XXX



ผมนั่งไล่อ่านสเตตัส ดูรูปต่างๆในเฟซบุ๊คของยูไปเรื่อยจนลืมเวลา กระทั่งโทรศัพท์สั่นแล้วตัดภาพขึ้นมาเป็นหน้าไอ้ตั้มเพื่อนร่วมคณะ ถึงได้นึกออกว่าเมื่อคืนก่อนแยกกันกลับมันชวนผมไปว่ายน้ำที่ยิมในมอและผมก็ไลน์บอกโรมเอาไว้ด้วย ผมเลยต้องจัดการตัวเองแล้วออกไปตามนัด โดยที่โรมบอกผมว่าจะไปเจอกันที่ยิมเลยไม่ต้องไปรับเขา

ผมแวะซื้อเครื่องดื่มไปฝากโรมด้วย เห็นว่าเขาชอบกินโกโก้ร้อนก่อนลงสระ ระหว่างที่ยืนรอรับเครื่องดื่มที่สั่ง ผมก็กวาดตามองไปรอบๆร้านจนมีเสียงดังแชะขึ้นมาแหวกความเงียบภายในร้านที่เปิดเพลงบรรเลงเบาๆเท่านั้น ผมมองไปตามต้นเสียงแล้วก็เห็นว่าเจ้าของเสียงเป็นคนที่กำลังหน้าเหวออยู่ ผมจำเขาได้ ยูหรือบะหมี่เกี๊ยวน่ะเอง ผมส่งยิ้มแล้วก็ผงกหัวทักทายเขาไป ไม่ลืมที่จะแกล้งเขาว่าผมจับได้นะว่าเขาแอบถ่าย อีกฝ่ายถึงได้รีบทิ้งมือถือในมือทันที (ตอนนั้นผมคิดว่าเขาเป็นคนถ่ายแต่จริงๆไม่ใช่)



.
.



หลังจากว่ายน้ำเสร็จ ผมก็แยกตัวกับพวกไอ้ตั้มแล้วพาโรมไปกินข้าวที่ห้างใกล้ๆมหา’ลัย พอกินกันอิ่มแล้วเราก็หารเงินกันโดยที่ผมเป็นคนเอาเงินไปจ่าย ซึ่งโรมขอตัวไปเข้าห้องน้ำแต่เหมือนว่าเขาจะหายไปนาน ผมเลยเดินมารอแถวหน้าห้องน้ำ ระหว่างทางก็ก้มหน้าพิมพ์ไลน์หาโรมไปด้วย

พลั่ก!

ผมชนเข้ากับใครสักคน ทำให้คู่กรณีล้มไปกองกับพื้น ของในกระเป๋าอีกฝ่ายกระจัดกระจายไปทั่ว สงสัยจะชนกันแรงเกินไป ผมรีบละล่ำละลักขอโทษเขา ในขณะที่เขาก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ความผิดผมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา เขาชะงักมือที่กำลังเก็บของพร้อมกับหลุดเรียกชื่อผม หน้าตาเหวอของเขาทำให้ผมเกือบหลุดหัวเราะ แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยทักทายอะไร เขาก็รีบลุกพรวดแล้วหันหลังวิ่งหนีผมไปดื้อๆ


“อ้าว..เฮ้ย คุณ คุณ...”

ผมได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมากับท่าทางของเขา กำลังจะลุกขึ้นยืนสายตากลับสะดุดกับอะไรบางอย่างใกล้ๆเท้าของผม มันเป็นสมุดเล่มหนึ่งที่ดูเรียบๆ หน้าปกเขียนกำกับว่า YOU #24 ที่เหมือนว่าเจ้าของจะเป็นคนเขียนมันเอง โรมเดินออกมาพอดี ผมเลยเลิกสนใจสมุดในมือ ก่อนที่ผมจะพาเขาไปส่งในหอพักและกลับมาที่คอนโด

ผมทำการโพสต์ภาพสมุดที่ผมเก็บมาลงในเฟซบุ๊คและรอให้เจ้าของเขามาเอาคืน

ผมรู้แล้วว่าเจ้าของสมุดเป็นใครแต่ผมอยากแกล้งเขา ไม่สิ ความจริงคือผมอยากรู้จักเขามากกว่า เวลาอยู่กับเขาแล้วผมรู้สึกสบายใจ ไม่มีเรื่องให้รู้สึกเครียดคงเพราะบรรยากาศที่อยู่รอบๆตัวเขาที่ดูเรียบง่ายนั่นล่ะมั้ง ยิ่งพอผมเปิดสมุดเล่มนั้นดูแล้ว ก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างเกิดขึ้นในใจคล้ายกับฟองอากาศที่รอวันแตก

ผมยิ้มบ้างหัวเราะบ้างกับภาพวาดในสมุดเล่มนั้น จินตนาการของเขากับตัวการ์ตูนที่มีผมและเขาเป็นคนดำเนินเรื่อง มันสร้างความรู้ให้หัวใจผมเหมือนต้นไม้เฉาๆที่ถูกคนดูแลอีกครั้ง


ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่ผมเจอตอนนี้มันคือความฝันจริงๆไม่ใช่เรื่องโกหก
หวังว่าพรุ่งนี้เขาจะมาตามที่ผมนัดผ่านหน้าเฟซบุ๊ค



แต่ผมก็คาดการณ์ผิดไป


บางทีผมอาจจะเป็นคนที่ไม่สมหวังกับอะไรเลยก็ได้ เมื่อผมต้องเจอกับความผิดหวังที่เขาไม่มาตามนัด แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ยอมแพ้ ผมพยายามกดดันทุกทางให้เขามาเจอกับผม ผมเลือกอัพสเตตัสตัดพ้อแต่ก็ล้มเหลวเมื่อเขาไม่สนใจ ผมเลยไปโพสในหน้าเพจของผมที่มีน้องเจ้าขาเป็นแอดมินอยู่แต่ก็คว้าน้ำเหลวอีกตามเคย


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้รู้ว่าโรมมาถึงหน้าคอนโดผมแล้ว วันนี้โรมขอมาค้างที่ห้องเพราะต้องการความสงบในการอ่านหนังสือ พอเขาขึ้นมาถึงห้อง ผมก็เลี้ยวไปทางครัวเพื่อหาน้ำมาให้เขากินตามความเคยชินของผมที่เคยดูแลเอาใจใส่เขา ในขณะที่โรมเองเอาของไปวางบนพื้นหน้าทีวี พอถือน้ำออกมาวางให้โรม อีกคนก็กำลังสนใจพลิกหน้าพลิกหลังกับสมุดเล่มสีน้ำตาลในมืออยู่

“ของคุณหรอ”
“ป่าวหรอก ผมเก็บได้น่ะ”
“มันเหมือนของรูมเมทผมเลย เห็นเขากำลังบ่นอยู่ว่าทำสมุดหาย ไม่แน่ใจว่าใช่อันนี้ไหม”
“แล้วโรมคิดว่าใช่ไหม”
“อืม ผมว่าใช่นะ”


ในหัวสมองของผมตอนนั้นเหมือนคิดแผนอะไรดีๆได้ ผมจึงเลือกที่จะบอกอะไรสักอย่างกับโรมเพื่อดูท่าทีของเขาก่อน

“โรม ถ้าเกิดว่ามีใครสักคนบอกว่าจะทำความฝันที่เราทำเองไม่ได้แทนเรา โรมคิดว่าเขารักโรมจริงหรือเปล่า”
“ก็คงรัก เพราะถ้าไม่รักก็คงไม่ทำอะไรแทนขนาดนี้มั้ง นึกยังไงถึงถาม”
“พอดีผมเจอใครคนหนึ่งที่เขาบอกว่าจะทำความฝันแทนผม แล้วผมคิดว่าเขาเป็นเจ้าของสมุดเล่มนี้”


โรมตาโตทันทีที่ฟังคำบอกเล่าของผมจบ

“คุณแน่ใจหรอ”
“ผมยังไม่แน่ใจเท่าไหร่ ถ้ายังไงโรมช่วยอะไรผมหน่อยได้มั้ย”
โรมมีท่าทีลังเลนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้ารับฟังสิ่งที่ผมบอกกับเขา

วันนั้นผมจงใจอัพสเตตัสเพื่อให้เจ้าของสมุดนั้นร้อนตัว ซึ่งผมก็พร้อมจะเฉลยให้เขารู้ว่าทำไมผมถึงหาเขาเจอ ผมถึงได้อัพโหลดภาพของโรมลงไปด้วย  ตอนนี้สำหรับผมคำว่าคู่จิ้นคุณโรมมันเป็นความทรงจำดีๆมากกว่า ผมอาจจะยังรู้สึกดีๆกับโรม แต่มันคงไม่พัฒนาไปไกลกว่านั้นได้อีก และยิ่งพอโรมรู้ว่ายูมีความรู้สึกดีๆกับผมเขาก็ยิ่งสนับสนุนช่วยเหลือให้ผมได้เดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในทันที



กลางดึกในคืนเดียวกันนั้นผมรู้สึกปวดฉี่ แต่พอลุกออกจากเตียงก็พบว่าโรมไม่ได้นอนอยู่ที่ข้างเตียง ผมมองไปทั่วห้องแล้วไม่พบ ที่ห้องน้ำก็ไม่พบ จนได้ยินเสียงแว่วๆมาจากริมระเบียงห้องนอนที่ปิดไม่สนิทดี

“ก็ได้ เมื่อไหร่ดี....ครับ...ผมคิดถึงพี่นะ....ฝันดีครับ”
“คุยกับใครน่ะโรม”


ผมถามเขาทันทีที่โรมหมุนตัวจะเข้ามาในห้อง เขาสะดุ้งที่เห็นผมยืนอยู่ ท่าทีลุกลี้ลุกลนที่โดนจับผิดได้ของโรมทำให้ผมรู้ว่าเขามีเรื่องปิดบังผมอยู่

“คุยกับพี่มิลานน่ะ”

โกหก...ท่าทางที่เสหน้ามองไปทางอื่นก่อนจะมองตอบผมมันบอกได้ทันทีว่าโรมกำลังโกหก แต่ผมไม่คิดที่จะซักไซ้อะไรเขา

“งั้นหรอ เข้ามานอนเถอะข้างนอกอากาศชื้นเดี๋ยวก็เป็นหวัด”
“อืม”


ผมมองโรมที่เดินกลับไปล้มตัวนอนบนเตียงเดียวกับผมด้วยความสงสัย บางอย่างมันสะกิดในใจผมว่าเรื่องที่โรมกำลังปิดบังนั้นมันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ แต่ผมจะรู้ได้อย่างไรถ้าโรมไม่คิดจะบอก ผมสลัดความคิดที่กังวลในใจออกไปก่อนจะเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวแล้วกลับมานอนที่เดิม

.
.
.

วันต่อมา

โรมทำตามที่เราได้นัดแนะกันเอาไว้ เขาโทรตามยูออกมากินข้าว พอเจ้าตัวมาถึงที่นัดหมาย ท่าทางตกใจของเขาตอนเห็นรถผมทำให้ผมต้องกลั้นยิ้มเอาไว้ จนโรมเองที่ทนไม่ไหวต้องลงไปลากเขามาขึ้นรถ ยิ่งพอได้มาอยู่ในรถผมก็ยิ่งตลกกับท่าทางของเขาที่แอบมองผม โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าผมเองก็แอบลอบมองเขาอยู่เหมือนกัน


พอได้มาอยู่ใกล้กันมากขึ้นก็ยิ่งเห็นว่ายูเป็นผู้ชายซื่อๆที่ดูจะเข้าสังคมไม่เก่งเท่าไหร่ เขาดูวางตัวไม่ถูกว่าจะทำอะไร จะพูดยังไง นั่นอาจจะเป็นเพราะผมด้วยส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ยิ่งเห็นอย่างนั้นผมก็ยิ่งอยากแกล้งเขา

จนกระทั่งมีสายเข้ามาในโทรศัพท์ของโรม ผมแอบเหล่มองว่าใครโทรมาแต่มองไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ จนมารู้ว่าเป็นเพื่อนของโรมที่โทรมาหาเขา เราถึงได้แยกย้ายกันซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้ผมได้อยู่กับยูสองคน

หลังจากที่ส่งโรมขึ้นรถเพื่อนไปแล้วผมก็ไปส่งยูต่อจากนั้น ผมคืนสมุดให้เขาพร้อมกับแกล้งเขาให้เขินเล่นๆ ซึ่งมันก็ได้ผลมาก ยูเป็นคนที่เก็บอาการไม่เก่ง คิดอะไร รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาทางสีหน้าหมด ยิ่งอยู่กับเขาผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นใครอีกคนที่ไม่ใช่แทนคุณ กฤติดำรงที่มีแต่ความเจ็บปวดอยู่ในหัวใจ ยูทำให้ผมยิ้มได้ หัวเราะได้ทั้งที่เขาแทบไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ


พอกลับมาที่ห้องของตัวเอง ผมก็เช็คข่าวคราวในเฟซบุ๊คพร้อมกับเปิดทีวีทิ้งเอาไว้แต่ไม่ได้ดู มีภาพเกี่ยวกับผมและยูวันนี้ที่ร้านอาหารบ้างหน้าห้างบ้างหรือแม้กระทั่งตอนที่มาส่งที่หอ ซึ่งเริ่มมีคนสนใจมากขึ้น แม้กระทั่งน้องเจ้าขาก็ไลน์มาหาผมแล้วถามถึงคนที่ผมไปส่งยกใหญ่ ผมก็นึกได้ว่ามีรูปเอ๋อๆของยูที่ถ่ายไว้วันนี้ เลยทำการอัพโหลดภาพลงในเฟซบุ๊คเพื่อแบล็กเมล์เจ้าของสมุดที่ผมตามหาเพื่อปลุกกระแส และกระแสโซเชี่ยลก็รวดเร็วสมใจจนมันเกิดเป็นคู่จิ้นคู่ใหม่อย่างตัวเล็กตัวโต



หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 20-10-2016 17:32:50
.
.
.

วันต่อมาทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนปกติ วันนี้ผมมีเรียนตอนแปดโมง แต่เพราะเมื่อคืนมัวแต่ไล่อ่านคอมเม้นต์เพลินไปหน่อย ตื่นมาอีกทีก็เกือบแปดโมงไปแล้ว ผมถึงรีบวิ่งกระหืดกระหอบเพื่อมาเรียนให้ทัน ตอนมาถึงอาจารย์ก็กำลังเช็กชื่อพอดี ผมกวาดตามองที่ว่างแล้วเห็นว่าไอ้ตั้มมันจองไว้เสียไกล บวกกับอาจารย์แม่จิกตามองมาจนผมไม่กล้าเดินผ่านหน้าแก เลยได้แต่ส่ายหน้าให้ไอ้ตั้มแล้วหย่อนก้นลงนั่งแถวหน้าสุดใกล้ๆกับกลุ่มผู้หญิงในห้อง

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ผมก็ปลีกตัวออกไปรับโรมกินข้าวกลางวัน โรมบ่นว่าอยากกินนมปั่นหลังมอผมก็เลยพาเขาไปและไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรเข้า

“มึงจะให้จู่ๆกูเดินเข้าไปแล้วบอก แทนคุณ เราชอบนาย เป็นแฟนกันมั้ย แบบนี้หรอ ตลกแดกล่ะสัด”

เพื่อนของยูที่นั่งอยู่ด้วยเงยหน้าขึ้นมาเห็นผม เขาอ้าปากเหวอแล้วทำท่าจะสะกิดยูให้รู้ตัว แต่ผมส่ายหน้าไปมาพร้อมแนบนิ้วชี้ปิดปากให้เพื่อนเขาเงียบๆเข้าไว้

“กูรู้ว่ามึงไม่อยากให้กูอึดอัด แต่กูกับแทนคุณไม่ใช่คนที่รู้จักกันมาก่อน มีแค่กูนี่ที่รู้จักเขาแค่ฝ่ายเดียว กูไม่หน้าด้านพอที่จะทำแบบนั้นหรอก”
“รู้แบบนี้แล้ว มึงยังจะคิดให้กูไปบอกมันอีกหรือเปล่าล่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นก็ลองจีบดูก่อนมั้ย”


ผมพูดออกไปพร้อมกับที่ยูสะดุ้งไหล่กระตุก เขาเงยหน้าขึ้นมามองผมพร้อมหน้าตาหลังแว่นนั้นโตขึ้นด้วยความตกใจ หน้าตาเขาเอ๋อกว่าครั้งไหนๆที่ผมได้เห็น จนต้องพยายามเก๊กหน้าขรึมไม่ให้หลุดขำออกมาก่อน

พอโรมไปสั่งนมปั่นมาเรียบร้อยพร้อมกับเผื่อแผ่โอริโอ้ปั่นที่ผมโคตรไม่ชอบแต่ก็กินเพราะไม่อยากทำลายน้ำใจของเพื่อนก็ตั้งท่าออกจากร้านทันที เพราะโรมมีเรียนต่อ ซึ่งผมเองก็มีเรียนต่อเหมือนกัน โชคดีที่เพื่อนของยูไม่ว่างไปส่งยูผมถึงได้ไปส่งเขาแบบที่ไม่ต้องอ้าปากพูดอะไรมากมาย ดูท่าเพื่อนเขาเองก็พร้อมจะช่วยเหลือให้ยูจีบผม รวมถึงโรมเองที่พยายามให้ผมกับยูลงเอยกัน

ผมอ้างกับยูว่าไปส่งโรมก่อนเพราะเขามีเรียนเร็วกว่าแต่ความจริงคือผมต้องการยืดเวลาที่จะอยู่กับยูมากกว่า ผมมองตามหลังโรมที่เดินลงจากรถไปด้วยความครุ่นคิดว่าโรมมีบางอย่างปิดบังผมอยู่ก่อนที่จะดึงสติมาแล้วเห็นว่ายูกำลังเหม่อ สีหน้าดูมีอะไรมากวนใจ

ผมเรียกเขามานั่งข้างหน้าและสังเกตจากสีหน้าของยูบวกกับการที่ได้ฟังยูคุยกับเพื่อนที่ผ่านมา ผมรู้ได้ทันทีว่ายูไม่มีความมั่นใจในตัวเองเท่าไหร่ รวมถึงจากการที่ได้ใกล้ชิดกับเขาในช่วงนี้ก็ทำให้ผมรู้ว่ายูไม่คิดที่จะเข้ามาหาผมแน่นอนถ้าผมไม่ทำอะไรบ้าง พอมาส่งเขาที่คณะ ผมก็บีบบังคับขอไลน์และเบอร์ฯของยูมาจนได้ รวมถึงไม่ลืมที่จะย้ำให้ยูจีบผม แต่ผมไม่รู้ว่ายูจะทำมันจริงๆไหม 

ผมวนรถไปที่คณะของโรมอีกครั้งเพราะมันอยู่ไม่ไกลจากคณะของผมเท่าไหร่ เห็นเพื่อนของโรมคนหนึ่งกำลังจะวิ่งเข้าตึก ผมรีบวิ่งลงจากรถไปตัดหน้าเขาก่อน

“เดี๋ยว! ขอถามอะไรหน่อย”
“มีอะไร กูรีบ” ผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาว่องไว
“ช่วงนี้มีรายงานอะไรของเภสัชที่ต้องทำส่งป่าว”
“อืม...เท่าที่จำได้ไม่มีนะ มันใกล้สอบมิดเทอมแล้วไง เฮ้ย กูไปก่อนนะเดี๋ยวสาย”


ผมขบคิดในหัวอย่างหนักหลังจากได้ยินสิ่งที่คนๆนั้นบอก ประกอบกับที่น้องเจ้าเล่าว่าพี่หนึ่งมาที่จังหวัดนี้ เห็นบอกว่ามาออกหน่วยกับที่คณะซึ่งอยู่ต่างอำเภอกับที่ผมเรียนอยู่

ไม่มีทางหรอกที่โรมจะไปเจอกับพี่หนึ่งในเมื่อโรมบอกว่าจะตัดใจ แต่ผมก็อดที่จะสงสัยในตัวโรมไม่ได้อยู่ดี ผมเป็นห่วงเขาไม่อยากให้เขาต้องจมกับความรักที่มันไม่มีวันเป็นไปได้ ทั้งที่โรมเป็นคนที่ให้คำแนะนำกับผมตลอดเวลา คอยผลักดันผมให้เปิดโอกาสกับตัวเอง แต่เขากลับกำลังถอยหลังลงไปในบ่อมืดที่หาทางขึ้นไม่ได้ ผมเข้าใจว่าโรมรู้สึกผิดกับผมและอยากไถ่โทษกับความผิดนั้น แต่ผมเองก็ไม่อยากให้โรมต้องมาเจ็บช้ำอยู่คนเดียวเสียหน่อย

ถ้าจะให้ผิดจริงๆตอนนั้นคงต้องบอกว่าเราผิดด้วยกันทั้งหมด



เย็นนั้นหลังจากที่กลับมาที่ห้อง  ผมถึงได้พยายามหาอะไรที่ทำให้คลายความตึงเครียดได้ ซึ่งในช่วงเวลานี้สิ่งที่จะทำให้ผมรู้สึกดีได้ก็มีแค่ยู ผมเข้าไปดูความเคลื่อนไหวที่เป็นเรื่องของผมกับตัวเล็ก มันทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ผมจมอยู่ในโลกโซเชี่ยลนั้นจนเกือบสามทุ่ม ผมถึงได้ลองทักยูไปดูเพื่อเช็กว่าโรมกลับมาหรือยัง ความจริงหาเรื่องคุยนั่นแหละและกำลังคิดว่ายูจะหยอดมุกเพื่อจีบบ้างไหม แต่ไม่เลยผมประเมินยูผิดไปมาก

ผมต้องหาวิธีกระตุ้นเขาใหม่ด้วยการโพสสเตตัสแกล้งเขาซึ่งไม่คิดว่าเขาจะเล่นไปกับผมด้วย

บะหมี่ เกี๊ยว ได้โพสต์
บอกเองไม่ใช่หรอ ว่าให้จีบได้น่ะ – TK Krittidumrong
 


มีความสุขได้ไม่เท่าไหร่ไอโฟนผมก็แผดเสียงร้องออกมาอย่างดัง มองเห็นเป็นเบอร์ของไอ้ตั้มพอกดรับก็ได้ยินเสียงเพลงดังกระหึ่ม

“แดกเหล้ากันไหมมึง”
“ไม่ว่ะ กูขอบาย”
“โหยไรวะ แฟนมึงยังมานั่งดริ๊งได้เลย”
“แฟนกู?”
“ก็เด็กเภสัชเพื่อนสนิทมึงไง”
ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินดังนั้น ก่อนจะถามไอ้ตั้มว่ามันอยู่ที่ไหน พอได้พิกัดแล้วผมก็รีบไปยังจุดหมายทันที
ร้านที่ว่าเป็นร้านอาหารกึ่งผับที่ห้อยท้ายป้ายชื่อร้านว่า Bar & Restaurant ซึ่งอยู่ไกลจากมอไปเกือบ 2 กิโลเมตร ผมโทรหาไอ้ตั้มเพื่อเรียกมันออกมาหา คุยกับมันเล็กน้อยได้ใจความว่าก่อนหน้านี้เมื่อชั่วโมงก่อนมันเห็นโรมนั่งคุยกับผู้ชายคนหนึ่งและพอคนนั้นออกไป โรมก็ยังคงนั่งกินต่อ ไอ้ตั้มพาผมมายังจุดที่โรมนั่งอยู่ ท่าทางตอนนี้กำลังเมาได้ที่เลยทีเดียว

“โรม” เขาหันมาตามเสียงเรียก พอเห็นว่าเป็นผมน้ำตาเขาก็ไหลออกมาทันที
“เดี๋ยวผมไปส่งที่ห้อง” ไอ้ตั้มช่วยผมประคองโรมไปที่รถโดยที่เขาไม่ได้อิดออดอะไร



เราเข้ามานั่งอยู่ในรถของผมที่สตาร์ทเครื่องเปิดแอร์ทิ้งไว้แต่ยังไม่เคลื่อนตัวออก โรมฟุบหน้าลงบนคอนโซลรถแล้วร้องไห้ออกมา ปกติเขาไม่ใช่คนที่ชอบมาในที่แบบนี้สักเท่าไหร่ เหล้าก็แทบไม่กินเลยด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ไม่นานผมก็ได้คำตอบ เมื่อโรมเล่าทุกอย่างทั้งน้ำตาให้ผมฟัง


“มันจบแล้ว คุณ”
“ผมแอบมาเจอกับพี่หนึ่ง ผมดูโง่ไหมคุณ ที่ผมตัดใจจากเขาไม่ได้สักที แต่ตอนนี้มันจบแล้ว เขากับผมเรากลายเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันมาเจอกันได้อีก...ฮึก...พี่หนึ่ง.....พี่หนึ่งจะแต่งงานกับพี่มิลาน.....เขาบอกว่าเขาขอโทษ...แต่....แต่จะให้ผมทนเห็นเขากับพี่มิลานอยู่ด้วยกันได้ยังไง...ในเมื่อผม...ผมยังรักเขาอยู่.....ผมโคตรโง่เลยใช่ไหมคุณ”


วันนั้นผมไปส่งโรมที่หอพักนิสิต ก่อนที่จะต่อสายหาพี่หนึ่งซึ่งอีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะรอการติดต่อจากผมอยู่แล้ว เรานัดเจอกันที่คอนโดของผม ในขณะที่ผมกำลังรออยู่บริเวณล็อบบี้อย่างร้อนใจ พี่หนึ่งก็โผล่มาด้วยสีหน้าที่ดูอิดโรย


“ขึ้นไปคุยบนห้อง” 

เราเดินขึ้นมาถึงห้องได้ก็เปิดประเด็นในสิ่งที่ต่างคนต่างรู้อยู่แล้ว พี่หนึ่งทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาหน้าทีวีก่อนจะพูดขึ้นมาเป็นคนแรก

“พี่ขอโทษคุณ พี่ไม่คิดว่าเรื่องมันจะมาจบแบบนี้”
“พี่หนึ่ง ผมถามจริงๆ พี่รักโรมจริงๆหรือเปล่า”
น้ำเสียงของผมไม่ได้กระโชกเกรี้ยวกราด ผมถามออกไปด้วยท่าทางสบาย ให้รู้ว่าเวลานี้ความรู้สึกของผมที่มีต่อโรมมันไม่ได้เกินเลยไปไกลกว่าเพื่อนแล้วแน่นอน


“รัก แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกคุณ พี่เป็นความหวังของครอบครัว พี่แบกทุกอย่างเอาไว้ พ่อเองก็อยากให้พี่แต่งงานกับมิลานด้วย พี่รู้ว่ามันมีเรื่องของผลประโยชน์ทางธุรกิจแอบแฝงอยู่ด้วย แต่พี่เต็มใจ”

“แล้วพี่จะกลับมาหาโรมอีกทำไม ในเมื่อเลิกกันไปแล้วจะติดต่อกันเพื่ออะไร”
“พี่แค่อยากจะมาบอกกับโรมด้วยตัวเอง อีกอย่างพี่กับโรมเรายังไม่ได้เลิกกันทีเดียว ครั้งนั้นที่พี่บอกเลิกเขาก็เพื่อนายนะคุณ พี่เห็นนายเสียใจแบบนั้นพี่ทนไม่ได้”
“พี่ไม่ต้องทำอะไรเพื่อผม ผมไม่ได้ร้องขอ”
“พี่ขอโทษ แต่พี่คิดว่าทางออกนี้คือทางออกเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้น”
“แต่ทางที่พี่เลือกตอนนี้ มันทำให้โรมเสียใจมาก...”
“แล้วคุณคิดว่าพี่ไม่เสียใจกับเรื่องที่เกิดนี้เลยหรือไง”

“...พี่รู้ไหมว่าความรู้สึกคนเรามันเหมือนสิ่งก่อสร้าง เวลาที่จะทำให้มันเป็นรูปเป็นร่างได้มันใช้เวลานานแต่เวลาที่ทำลายน่ะแค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ต่อจากนี้ไปผมหวังว่าพี่ไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับโรมอีก ถ้าพี่เลือกแล้วพี่ก็ต้องตัดให้ขาด”
“อืม....พี่ฝากโรมด้วยนะ”
“ผมไม่รับฝาก โรมไม่ใช่สิ่งของที่จะพี่นึกจะโยนทิ้งให้คนอื่นแบบนี้”


พี่หนึ่งมองหน้าผมนิ่งอย่างไม่เชื่อว่าผมจะตอบเขาออกไปแบบนั้น

“ผมอยากจะบอกให้พี่รู้เอาไว้ เรื่องของผมกับโรมมันไม่มีอะไรพิเศษ ผมกับเขาเราเป็นแค่เพื่อนสนิทที่หวังดีต่อกันเท่านั้น พี่เลิกทำตัวเป็นพระเอกผู้เสียสละได้แล้ว ผมไม่มองว่าพี่เป็นฮีโร่ในสายตาของผมหรอกนะ พี่เป็นหนึ่ง”



หลังจากที่พี่หนึ่งกลับไปแล้ว ผมก็นอนไม่หลับทั้งคืน ผมพอรู้มาว่าพี่มิลานพี่สาวของโรมแอบชอบพี่หนึ่ง ตอนนั้นโรมอยู่ม. 2 พี่หนึ่งอยู่ม. 6 พวกเขานัดกันไปเดินเที่ยวห้างโดยที่ผมไม่รู้เพราะมีซ้อมกีฬาสี และพี่มิลานก็บังเอิญมาเจอเข้าพอดี ตอนนั้นพวกเขายังไม่ได้คบกันแต่ก็สนิทกันในระดับหนึ่ง หลังจากวันนั้นพี่มิลานก็เอาแต่ถามถึงเรื่องพี่หนึ่งกับโรมซึ่งโรมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนเมื่อพี่หนึ่งไปเรียนต่อและติดที่เดียวกันกับพี่มิลานแต่อยู่คนละคณะ พี่มิลานก็เริ่มตามติดพี่หนึ่ง แต่พี่หนึ่งยังไม่มีทีท่าเล่นด้วยอะไร จนเมื่อขึ้นปี 3 ที่เริ่มเกิดเรื่องนั้นขึ้นและพี่หนึ่งก็มาบอกเลิกโรมพร้อมไปคบกับพี่มิลานแทน

ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองบ้าน ซึ่งพวกผู้ใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยกับเรื่องที่พวกเขาคบกัน โดยเฉพาะพ่อของโรมที่เอ็นดูพี่หนึ่งเป็นพิเศษเพราะอนาคตเป็นหมอเหมือนกัน จนเมื่อปีที่แล้วที่พวกเขาคุยกันถึงเรื่องงานแต่งของทั้งคู่หลังเรียนจบ ตอนนั้นพี่หนึ่งยังคงปฏิเสธ แต่ผมก็ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วเรื่องมันจะมาลงเอยแบบนี้



.
.

ผมเป็นห่วงโรมแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ นอกจากการคอยตามดูอยู่แบบนี้ ซึ่งวันนี้เขามีเรียนทั้งวันผมถึงไม่กังวลว่าโรมจะแอบไปเจอพี่หนึ่งอีกหรือเปล่า หลังจากไปรับส่งเขาแล้วผมก็มาเรียนตามปกติในช่วงเช้า พอเลิกเรียนก็ตั้งใจที่จะไปรับโรมกินข้าว แต่ระหว่างที่ขับรถจะไปนั้นผมกลับเจอยูเข้า ความคิดที่จะไปกินข้าวกับโรมเลยพับไว้แค่นั้น ก่อนจะลากยูออกไปด้วย


ผมพาเขามาที่ทะเล ตรงพื้นที่ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านเพราะต้องการความสงบ ให้จิตใจของผมได้รู้สึกผ่อนคลายไปบ้าง ดูเหมือนยูจะไม่มีความกระตือรือร้นหรืออะไรก็ตามในการรุกจีบผม ผมอยากรู้มากว่าเขารักผมจริงๆหรือแค่ความรู้สึกชอบแบบผิวเผินเหมือนที่หลายๆคนเป็น บางทีเขาอาจจะแค่เป็นแฟนคลับตัวเล็กๆที่ไม่ได้อยากจะเป็นแฟนผมจริงๆก็ได้

แต่พอได้ฟังสิ่งที่เขาพูด มันก็ทำให้หัวใจที่คิดว่ามืดบอดของผมนั้นพบแสงสว่าง
มันเหมือนว่าสิ่งที่ผมกำลังตามหานั้น ผมได้เจอกับมันแล้ว

“สำหรับกูอ่ะน่ะ ไม่เคยคิดหรอกนะว่าจะได้มึงมาเป็นแฟน กูน่ะ...ก็แค่คนๆนึงที่รู้จักมึงแค่ฝ่ายเดียว เป็นแค่ แทนคุณ กฤติดำรง ที่กูรู้จักแค่เพียงเปลือกภายนอกที่เขาอยากให้กูหรือแม้แต่แฟนคลับของเขาได้รู้จัก จนตอนนี้กูกับมึงได้มารู้จักกันแบบจริงจังเพียงเพราะเรื่องบังเอิญกะโหลกกะลาอะไรไม่รู้ อาจจะมาจากความเอ๋อป้ำเป๋อของกูเอง”

“...จนเมื่อวานนี้ที่มึงมาบอกว่า จีบสิ กูให้โอกาสแฟนคลับตัวเล็กๆอย่างมึงจีบกูได้นะ พอมึงทำแบบนั้น ในใจกูอยากบอกว่ากูโคตรดีใจมาก แต่ลึกๆแล้วกูก็กลัว กูไม่อยากคาดหวังอะไรทั้งนั้น มึงรู้ไหมว่ามันจะเจ็บแค่ไหนถ้าเกิดว่าเราวางความหวังไว้มากเกินไป

“...บางทีสำหรับกูแล้ว แค่ได้รักก็มีความสุขมากแล้ว แค่กูเห็นมึงยิ้มได้ มีความสุขกับชีวิตของมึงโดยที่กูยืนมองมึงจากมุมของกู แค่นั้นมันก็มีความสุขที่หัวใจกูแล้ว แต่พอมึงบอกว่าอย่าทิ้งโอกาสที่มึงยื่นมาให้ กูก็จะลองสู้ดู ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของมันจะออกมารูปแบบไหนกูก็จะไม่เสียใจที่กูได้ลองทำ กูอาจจะแค่เจ็บ ก็แค่ร้องไห้ แต่ไม่นานเวลามันก็จะเยียวยากูไปเอง”

“......ความรักสำหรับกู ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผล ฟังแค่เสียงของหัวใจ เสียงของความรู้สึกก็เพียงพอ...กูบอกแล้วไงว่ากูไม่ได้ต้องการอะไรตอบแทนจากมึงเลยสักนิด แค่ได้เห็นมึงยิ้มได้กูก็มีความสุขแล้ว”


ผมรู้แล้วว่าฟองอากาศในหัวใจของผมที่รอวันแตกมันคืออะไร...มันคือการรอคอยและความหวังของผม ที่ตอนนี้มันระเบิดตัวออกมาว่าผมจะไม่ผิดหวังอีกแล้วกับความรักครั้งนี้

ถ้าหากผมโอบอุ้มและรักษามันไว้ให้ดี


จากคำตอบของยูวันนั้น ผมได้เรียนรู้ว่ายูเป็นคนที่ค่อนข้างคิดมาก แม้ว่าเขาจะเป็นคนแสดงออกอย่างเปิดเผยแต่เขามักจะชอบคิดอะไรต่างๆไปเอง คิดแบบที่ไม่ยอมหาคำตอบด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็พยายามบอกเขาเสมอว่าเขาคือคนที่ผมเปิดทั้งโอกาสและพร้อมในการสานสัมพันธ์ แต่ก็มีบ้างที่ยูทำท่าจะถอดใจในโอกาสที่ผมให้อยู่หลายครั้ง เขาทำท่าวิ่งเข้าหาผมแล้วก็วิ่งหนีผมเหมือนกลัวอะไรอยู่ ผมมารู้ในทีหลังเพราะบังคับให้เขาพูด จนผมรู้ว่าเขากลัวเรื่องของผมกับโรมว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น ผมถึงได้เล่าให้เขาฟังทุกอย่าง แต่เหมือนว่ามันคงทำให้ยูยังไม่สบายใจเขาถึงได้ขออะไรบางอย่างกับผม

“ที่มึงเคยบอกว่า กูสามารถเอาแต่ใจตัวเอง เห็นแก่ตัวใส่มึงได้ ถ้ากูจะขอใช้สิทธินั้นได้ไหม”
“อยากขออะไรล่ะ”
“เปลี่ยนภาพพักหน้าจอไอโฟนมึงได้ไหม”
“กูขอเหตุผล”
“ถ้ากูบอกว่า กูหวงมึง เป็นเหตุผลพอไหม”


หลังจากที่ฟังประโยคนั้นก็ทำให้ผมนึกอะไรบางอย่างได้ ผมมองยูที่นอนหลับไปแล้วเพราะลมหายใจที่เข้าออกจากสม่ำเสมอ เขาคงเหนื่อยและเพลียมาก ผมหันกลับไปหยิบไอโฟนขึ้นมา แวบหนึ่งที่ผมนึกขึ้นได้ว่าผมเคยบอกอะไรกับโรมไว้ ผมหันไปมองยูอีกครั้งก่อนจะเปลี่ยนภาพพักหน้าจอของตัวเองเป็นรูปอื่น พร้อมทั้งลบภาพเก่าทิ้งไปด้วย พอวางไอโฟนคืนที่เดิมผมก็หันมามองยูอีกครั้ง

ภายในความมืดที่มีเพียงแสงสว่างจากโคมไฟข้างหัวเตียง ผมเห็นเขากระชับกอดหมอนข้างแน่นเหมือนเด็ก อย่าหาว่าผมฉวยโอกาสเลย แต่ภาพที่เห็นตอนนี้ยูน่ารักมากจนผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ ผมเกลี่ยวนิ้วลงไปที่ข้างแก้มของยูแล้วทัดปอยผมข้างหูให้เขา ก่อนจะโน้มตัวลงไปกดจมูกฝังลงที่แก้มนิ่มๆ พร้อมกระซิบข้างหูเขา

“ฝันดีนะ ตัวเล็ก”




สองวันต่อจากนั้น หลังจากที่ผมไปส่งยูที่หอแล้ว ผมก็ไม่ได้ไปเจอกับเขาเลย มีพูดคุยกันผ่านไลน์บ้างแค่เล็กน้อย ผมเอาแต่ตามติดโรมเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้แอบไปไหนอีก เมื่อผมมั่นใจว่าโรมไม่ได้ติดต่อกับพี่หนึ่งแล้วผมก็เบาใจ โรมบอกกับผมว่าเขาคิดทางออกของเรื่องนี้ไว้แล้วที่จะทำให้เขาตัดใจจากพี่หนึ่งได้จริง แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร

วันต่อมาผมต้องไปค่ายอาสาและผมดีใจมากที่เห็นว่ายูก็มาที่นี่ด้วย แต่ผมมีความรู้สึกว่ายูดูแปลกๆ จนผมทนไม่ไหวต้องถามเขาออกไป ซึ่งคำตอบที่ได้รับทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายคิดมากแทน


“แล้วคำพูดมึงมันเชื่อถือได้แค่ไหนล่ะ”

 ผมยอมรับว่าความรู้สึกแรกที่ผมได้ยินยูพูดแบบนั้น ผมน้อยใจเขาแต่ผมไม่อยากให้เราต้องทะเลาะกันเลยเดินหนีเขามา ส่วนในใจของผมมันกำลังว้าวุ่นไปหมด พอเก็บของเรียบร้อยผมก็ลงมารอเขาที่ข้างล่าง เดินวนไปวนมาแบบที่คิดไม่ตกว่ายูจะตามมาไหม ผมคิดว่าผมทำทุกอย่างชัดเจนแล้ว แต่มันอาจจะเป็นการชัดเจนแค่ในมุมของผม แต่กับยูมันคงเป็นความรู้สึกคลุมเครืออยู่ก็ได้

จนผมได้ยินเสียงฝีเท้าที่วิ่งลงมาตามทางบันได มันทำให้ผมหยุดเดินไปมาแล้วมองไปยังต้นเสียง ผมกำลังภาวนาอยู่ในใจว่า หากคนที่เดินลงมาเป็นยูผมจะเดินหน้าทำทุกอย่างให้ชัดเจนมากกว่านี้ แต่ถ้าหากไม่ใช่ยู....


“กว่าจะมา”
“รอกูอยู่ จริงๆหรอ”



หากว่าคนที่วิ่งลงมาตอนนั้นไม่ใช่ยู ผมก็จะวิ่งขึ้นไปหาเขาแทน


ทุกอย่างคลีคลายลงเมื่อผมได้รู้ว่ายูเป็นอะไรไป มันมาจากการที่ผมหายไปนั่นเอง ผมไม่คิดว่าเรื่องของคุณโรมในกระแสโซเชี่ยลจะสร้างความแคลงใจให้ยูจนเดินเป๋ออกนอกเส้นทางการพัฒนาความสัมพันธ์ของเราได้ แต่ผมก็รู้สึกดีมากที่ยูรักผมขนาดนี้ เพราะสุดท้ายเขาก็ไม่ละทิ้งความพยายามที่จะเข้าใกล้ผมอยู่ดี




การมาเข้าค่ายสองวันนี้ทำให้ผมได้คิดอะไรบางอย่างออก ระหว่างที่เราได้พักผ่อนก่อนกลับไปที่มอ ผมพักสายตาและปล่อยความคิดทบทวนกับเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด


หากว่าผมต้องการโอบอุ้มและรักษาความรักที่ยูมีให้กับผม

ผมก็ควรเลือกที่จะตัดความรู้สึกบางอย่างทิ้ง ความรู้สึกที่มันทำให้ก่อเกิดแต่ปัญหาและกลายมาเป็นพันธะติดอยู่ในใจผม ซึ่งมันไม่มีผลดีต่อคนที่จะเดินเคียงคู่ในอนาคตไปกับผมอย่างยูเลยสักนิด คนที่เอาแต่คิดมาก ติดอยู่กับความไม่มั่นใจของตัวเอง และชอบเก็บทุกปัญหาไว้ในใจตัวเองคนเดียว


เพราะอย่างนั้นแล้ว ผมถึงต้องเลือกที่จะปล่อยปัญหาที่มันได้กลายเป็นพันธะภาระของผม
ผมจะปล่อยให้เรื่องโรมมันเป็นเรื่องของโรมที่ต้องแก้ไขเอาเอง ซึ่งเขารับปากแล้วว่าเขามีทางออกกับเรื่องนั้นแล้วและผมในฐานะเพื่อนก็ควรที่จะเชื่อใจเขา


พร้อมกับหันมาสร้างพันธะใหม่ขึ้นมาแทน



“มาลองคบกันไหม”
 “แล้วถ้าคบกัน...จะต้องเลิกกันเหมือนที่โรมขอคบกับมึงครั้งนั้นไหม”
“ไม่เหมือนเลยยู...เพราะครั้งนี้กูเป็นคนเริ่ม”
“ตกลง...งั้นเรามาลองคบกันดู”



พันธะที่ไม่ใช่ปัญหาและพันธะที่ไม่ใช่ภาระ แต่เป็นความสุขที่ผมเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง


นี่แหละ ความลับทั้งหมดของผม



จบตอน


ไม่มีอะไรจะกล่าว  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 20-10-2016 18:06:18
สมหวังสักทีนะแทนคุณ เจอคนที่มาเพื่อรักแทนคุณ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-10-2016 18:31:03
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: magic-moon ที่ 20-10-2016 19:49:37
ให้อภัยนิดนึง
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 20-10-2016 20:29:57
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 20-10-2016 20:46:04
ถ้าเค้าคบกันไปเรื่อยๆคุณจะต้องรักยูมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 20-10-2016 21:16:52
ดีใจกับยูนะ ที่อย่างน้อยแทนคุณเข้าหายูเพราะสนใจยูจริงๆ ไม่ได้มองยูเป็นแค่ใครที่จะมาเพื่อทำให้ลืมโรม
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-10-2016 21:32:13
ถ้าคะแนนพระเอกเต็มสิบเราให้แทนเอาไปครึ่งเดียวก่อน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-10-2016 22:02:09
ขอให้เปงเรื่องราวดีๆต่อปาย #ตัวเล็กตัวโต
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Rain ที่ 20-10-2016 22:33:03
พี่หนึ่งก็อ่อนแอ คิดถึงตัวเอง อ้างแต่ชื่อคนอื่น
โรมก็เอาแต่ลักกินขโมยกิน
แทนคุณก็เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง จะตัดใจไม่จำเป็นต้องรอใครแสดงความรักและวิ่งเข้าหา แค่เราแข็งใจออกวิ่งเองเรื่องก็จบละ
ยูก็ไม่มั่นใจในตัวเองจนไม่มีคาแรกเตอร์ ทำตามแต่แทนคุณ ความเป็นยูอยู่ตรงไหน? คือการแอบรักข้างเดียว คอยรอแต่โอกาสที่คนอื่นยื่นให้

อ่านละปวดตับ... แต่ละคน
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 21-10-2016 07:47:03
โอเค มาเริ่มกันใหม่นะคะแทนคุณ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <เปิดบันทึกแทนคุณ ตอนที่ 2 > 20/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin ที่ 21-10-2016 15:20:22
ทุกคนดูเละเทะไปหมด ไม่ไว้ใจ ตอนนี้ชักไม่ไว้ใจสักตัวละครเลย :(
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 22-10-2016 23:00:21
ตอนที่ 12 – ปล่อย




Rrrrrr

ผมกวาดมือไปมาบนที่นอน เพื่อหามือถือที่ส่งเสียงร้องก่อนจะกดรับแล้วกรอกเสียงหาปลายสายทั้งที่ตายังไม่ลืม
“ฮัลโหล” ผมปิดปากหาวหวอด
“ขี้เซา ตื่นได้แล้ว”
“แทนคุณ!” ทันทีที่ได้ยินเสียงจากปลายสาย ผมก็สะดุ้งเฮือก ก่อนจะลืมตามองไปรอบห้องพักของตัวเองก็เห็นว่าอยู่คนเดียวอีกตามเคย แล้วมองหน้าจอมือถือของตัวเองอีกครั้งเป็นการยืนยันว่าแทนคุณโทรเข้ามาจริงๆไม่ได้ฝัน
“มาเปิดประตูให้หน่อยสิ”

“ห๊ะ ว่ายังไงไงนะ”
“กูบอกว่าเปิดประตูห้องให้หน่อย”

ผมรีบไต่ลงจากเตียงแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูห้องทันที แต่ต้องชะงักมือที่คาอยู่ตรงลูกบิด ก้มมองตัวเองที่อยู่ในสภาพเสื้อยืดย้วยๆกับกางเกงบ็อกเซอร์แล้วต้องรีบวิ่งกลับไปที่ตู้เสื้อผ้ารื้อเอากางเกงขาสั้นตัวอื่นมาใส่ก่อน


ผลัวะ!
แต่เมื่อเปิดประตูออกไป ผมกลับพบแต่ความว่างเปล่า

“มึงโกหกกูอ่ะ” ผมพูดเสียงดังใส่โทรศัพท์ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้งที่อีกฝ่ายไม่มีทางเห็น ก่อนที่จะปิดประตูห้องตามเดิมแล้วไปทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงของนัทแทน
อีกฝ่ายหัวเราะกลับมาเสียงดัง ในขณะที่ผมหายใจฟึดฟัดอย่างหงุดหงิดที่ถูกหลอก

“โอ๋ๆ กูแค่แกล้งเล่นน่ะ ตื่นแล้วใช่มั้ยตอนนี้”
“ไม่ตื่นมั้ง กูกำลังละเมอมาเปิดประตู”
“งั้นก็ละเมอมาเปิดอีกครั้งสิ”
“กูไม่เชื่อแล้ว อย่ามาหลอก”

พูดจบผมก็กดตัดสาย แถมด้วยแลบลิ้นใส่โทรศัพท์ไปอีกที รู้หรอกว่าอีกฝ่ายไม่เห็นแต่อดหมั่นไส้ไม่ได้ ทว่าเสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง ก้มมองมือถือในมืออีกทีก่อนจะพุ่งตัวไปที่หน้าประตู

ผมนับหนึ่งถึงสามก่อนจะหมุนลูกบิดแล้วเปิดประตูออกอย่างเบาๆ พร้อมกับเห็นว่าแทนคุณกำลังยืนส่งยิ้มมาให้ พร้อมกับมือที่ยกค้างเตรียมเคาะประตูอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วกำปั้นนั้นก็มาเขกเบาๆลงบนหน้าผากของผมแทน

“ไปอาบน้ำไป ได้ไปกินข้าวเช้ากัน”
ผมลูบหัวตัวเองป้อยๆ ก่อนจะเบี่ยงตัวให้แทนคุณเข้ามาข้างในห้อง ผมรีบวิ่งไปหยิบเอาเสื้อผ้าไว้สำหรับเปลี่ยนในห้องน้ำ


หลังจากวันนั้นที่กลับมาจากค่ายอาสาและแทนคุณขอคบกับผม วันนี้ก็เข้าสู่วันที่ 4 แล้วที่เราได้ขยับสถานะความสัมพันธ์ขึ้นมาพิเศษกว่าคนอื่นๆ ขอย้อนเล่าไปเมื่อช่วงสามวันที่ผ่านมาหน่อยก็แล้วกัน

พอหลังจากที่เราตัดสินใจคบกัน ผมก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงตามที่แทนคุณเคยบอกเอาไว้ว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ไม่ใช่เกมทดสอบความรู้สึก เพราะเขาเป็นคนเริ่ม ซึ่งการเริ่มของเขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ว่าให้ผมรุกจีบเหมือนอย่างที่เคย ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายรุกเข้าหาผมแทน แทนคุณมาคอยรับส่งผมตลอดทั้งสองวัน ไม่ว่าจะพาไปเรียน พาไปกินข้าวแบบครบทั้งสามมื้อ หรือพาไปเดินเที่ยวตามตลาดนัดบ้าง และที่สำคัญแทนคุณเป็นคนขี้แกล้งมาก เหมือนครั้งแรกที่ผมเคยได้เจอกับเขาเลย แต่เขาก็เอาใจใส่ผมตลอดเวลาเช่นเดียวกัน  โดยที่ตลอดทั้งสองวันนั้นมีแค่ผมกับเขาแค่สองคนเท่านั้น

แต่ที่น่าสงสัยคือ ผมไม่เจอโรมเลยตลอดทั้งสองวันที่ผ่านมา จนวันพุธที่แทนคุณจะกลับไปกรุงเทพฯ เขาบอกผมว่าจะกลับมาอีกทีวันศุกร์ช่วงค่ำๆ แต่นี่เพิ่งจะเช้าวันพฤหัสตอนหกโมงครึ่ง เขากลับโผล่ตัวเป็นๆมาที่หอพักนิสิตในชุดที่พร้อมจะไปเรียนแล้วแบบนี้ เมื่อคืนตอนที่คุยกันจนผมหลับคามือถือเขาก็ไม่ได้บอกว่าจะกลับมาวันนี้ด้วยซ้ำ

ผมใช้เวลาในการอาบน้ำแต่งตัวไม่นานก็ออกมาจากห้องน้ำ เห็นแทนคุณกำลังนั่งอยู่บนเตียงของโรมพลางก้มหน้ารัวนิ้วจิ้มไปมาบนไอโฟน

“ไหนบอกจะกลับวันศุกร์” แทนคุณเงยหน้ามองผม พร้อมกับหยุดมือเล่นไอโฟน
“เปลี่ยนใจไง”
“แล้วโรมล่ะ” ผมถามในสิ่งที่สงสัย เพราะช่วงนี้โรมหายหน้าหายตาไปจริงๆ  แต่ต้องผิดหวังกับคำตอบเมื่อแทนคุณเลือกเปลี่ยนประเด็น

“หิวล่ะ เมื่อเช้ากูรีบออกจากบ้านมาตั้งแต่ตีสี่ เหยียบจนมิดเพราะจะมากินข้าวเช้ากับมึงเลยนะ”
“เปลี่ยนเรื่องนะมึง”
“เออน่า ช่างเรื่องของโรมเถอะ สนใจแค่เรื่องของกูก็พอ” แทนคุณว่าพร้อมส่งยิ้มโชว์รอยบุ๋มข้างแก้มใส่ผมด้วยใบหน้าทะเล้น ที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นในระยะใกล้ตัวแบบนี้

“อยากกินอะไร”
“บะ..”
“หยุด! กูเลือกดีกว่า แดกต้มเลืดหมูกัน” ผมทำปากยื่นใส่อีกคนที่ขัดการเลือกอาหารเช้าของผมทั้งที่ตะกี้ยังให้ผมเป็นคนเลือกอยู่แท้ๆ

“ไม่แดกสักวันไม่ตายหรอก”
“พูดมากว่ะ ไปดิ หิวไม่ใช่ไง” ผมว่าแล้วหันไปหยิบกระเป๋าของตัวเองตั้งท่าจะออกจากห้อง แต่คนตัวสูงที่นั่งอยู่นั้นยังคงนิ่ง ผมหันมองอีกฝ่ายก่อนจะยักไหล่ใส่แล้วเดินไปที่ประตู

“กูขังไว้ในห้องจริงๆนะ” ผมกวนตีนใส่อีกคน แต่แทนคุณยังนั่งนิ่ง ผมเลยแกล้งเขาด้วยการทำท่าจะงับประตูปิด
“เป็นอะไรไปอ่ะ” ผมถามออกไปเมื่อแทนคุณยังไม่ยอมลุกไปไหน

“ตะคริว”
“..........”
“สงสัยเมื่อเช้ารีบขับรถมาที่นี่  ขามันเลยเกร็ง พอมาถึงก็รีบวิ่งขึ้นมาหามึง ขากูเลยตะคริวแดก” แทนคุณพูดจบก็เงยหน้ามามองผมพร้อมทำตาปริบๆ

“มันก็ใกล้หายแล้วล่ะ แต่กูลุกยังไม่ไหว ดึงกูยืนขึ้นทีดิ”
“ค่อยๆลุกนะ”

ผมค่อมตัวเล็กน้อยพยุงแทนคุณให้ลุกขึ้นจากการนั่งอยู่บนเตียงของโรม และคอยระวังหัวเขาไม่ให้โขกโครงเหล็กของเตียงด้วย อย่าลืมนะว่าเตียงที่หอพักผมเป็นเตียงสองชั้น

“ขอบคุณนะยู”
“อืม”

แทนคุณบอกกับผมพร้อมรอยยิ้มหลังจากที่เรายืนขึ้นแล้ว เขายังคงพาดแขนยาวลงบนไหล่ของผม
“แบบนี้ต้องตบรางวัลให้”

ไม่ทันได้สงสัยว่าของรางวัลที่แทนคุณพูดถึงคืออะไร ใบหน้าของคนตัวสูงก็ก้มลงมาเสียต่ำแล้วจรดปลายจมูกลงกลางหัวของผมพร้อมเสียงสูดหายใจเข้า

ฟืด!

ผมอ้าปากค้างเมื่อแทนคุณเงยหน้าขึ้น 
“หัวเหม็นนะเรา”
“บ้า ไม่เหม็นสักหน่อย” แม้จะเขินแต่ก็ต้องแก้ตัวก่อน แทนคุณหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะขยี้หัวผมแรงๆอีกที

“ล้อเล่นน่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ” เขาว่าแล้วจูงมือผมเดินออกจากห้อง ผมมองตามมือที่กอบกุมกันเอาไว้แล้วให้อมยิ้มกับสิ่งที่เห็น ก่อนที่แทนคุณจะปล่อยให้ผมหันไปล็อกห้องให้เรียบร้อยก่อนที่เราจะเดินไปที่รถ





ตัวเล็กตัวโต หนุ่มแว่นมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กพ่อเดือนสุดหล่อ ได้แท็ก TK Krittidumrong และ บะหมี่ เกี๊ยว ในโพสต์
ช่วงนี้เขาไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยยนะคะ วันนี้ก็มากินข้าวเช้าด้วยกันอีกแล้ว
(แนบรูป)

6,958 Likes

‘เราเห็นค่ะ บังเอิญไปกินที่นั่นเหมือนกัน เขาหยยอกกันน่ารักด้วยนะเธอ’
‘#ทีมตัวเล็กตัวโต มันดีกับใจ’

เจ๊ โร ซ่า เจ๊น้ำตาจิไหล คบกันแล้วจริงๆใช่มั้ยคะ เป็นปลื้มค่ะ #จงได้กัน #ทีมตัวเล็กตัวโต
เจ้าขา กฤติดำรง พี่คุณรีบกลับมอ กลัวพี่ยูเหงาอ่ะดิ นิสัย
TK Krittidumrong ไม่งอแงนะคะ เจ้าขา
เจ้าขา กฤติดำรง แบร่!

ผมหัวเราะออกมาเมื่ออ่านข้อความหยอกล้อของสองพี่น้องเสร็จ ตอนนี้ผมกำลังนั่งรอแทนคุณอยู่ข้างล่างอาคารเรียน เพราะตัวเองมีเรียนช่วงบ่าย ตอนแรกแทนคุณจะลากผมเข้าไปนั่งเรียนด้วยแต่ผมไม่ยอมเลยบอกจะไปรอที่หอสมุด แทนคุณไม่ยอมอีก เลยสรุปจบที่ผมมานั่งรอเขาที่ใต้คณะแทนแบบนี้

ระหว่างนั่งรอไม่มีอะไรทำก็เลยนั่งเช็คความเคลื่อนไหวในโซเชี่ยล ตอนนี้ผมทำการปลดล็อกอินสตาแกรมแล้วนะ จากแต่ก่อนคอยล็อกไอจีเป็นแค่ส่วนตัว แต่พอแทนคุณรู้ความลับของผมแล้ว แถมยังบังคับขอไอดีไปฟอลโล่วอีก ผมเลยตั้งค่าเป็นสาธารณะเสียเลย

เหลือบมองนาฬิกาในจอมือถือก็เห็นว่าอีกไม่นานแทนคุณใกล้จะเลิกแล้ว ท้องผมก็เริ่มที่จะหิวแล้วเหมือนกันเพราะต้มเลือดหมูเมื่อเช้าย่อยไปหมดแล้ว ระหว่างมองซ้ายมองขวาไปเรื่อยๆ เสียงโทรศัพท์ก็สั่นครืด ครืด อีกครั้ง พอหยิบขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นข้อความจากแอพพลิเคชั่นไลน์

Wan EDU สายรหัส 1584: ไอ้เกี๊ยว
Wan EDU สายรหัส 1584: มึงอยู๋ไหนวะ
YOU มอ
Wan EDU สายรหัส 1584: ส่วนไหนของมอครับเพื่อน อย่ากวน
YOU รอคุณอยู่ที่ใต้ตึกบริหาร
Wan EDU สายรหัส 1584: แหมมมม เปิดตัวแล้วสินะ
Wan EDU สายรหัส 1584: จีบกันติดตอนไหนไม่มีบอก
YOU กูต้องรายงานมึงตลอดเลยรึไง
Wan EDU สายรหัส 1584: โอ้โห นี่เพื่อนมึงนะครับ
Wan EDU สายรหัส 1584: เดี๋ยวกูโทรหามึงแล้วกัน ไลน์คุยแม่งไม่ทันใจ

ไม่ทันตอบอะไรกลับไป หน้าจอผมก็ขึ้นเบอร์ไอ้ว่านวุ้นเป็ดมาก่อน

“เออว่ามา”
“เกี๊ยว วันศุกร์มึงว่างไหม”
“ทำไม?” ผมถามมันพลางคิดไปด้วยว่าวันศุกร์มีไปไหนหรือเปล่า
“คือ มึงจำที่กูบอกเรื่องพี่เต้ได้ไหม ที่เขาอยากหาคนไปร้องเพลงให้วง” ผมนึกตามที่มันบอก ก่อนจะร้องอืออาตอบกลับไป
“พอดีว่านักร้องหญิงแกลาออกจากวงกะทันหันเว้ย ไม่รู้ว่ามีปัญหาอะไร พี่เขาเลยไม่มีคนขึ้น เขาก็เลยให้กูมาขอให้มึงช่วยหน่อยจนกว่าจะหาคนได้ หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้มึงมาร่วมวงด้วยเลย ถ้ามึงโอเคอะนะ”

ผมฟังที่ไอ้ว่านว่า พร้อมกับมองทางบันไดที่เห็นว่าแทนคุณกำลังเดินลงมา
“เดี๋ยวกูให้คำตอบได้ไหมวะ”
“มึงอ่า ช่วยแค่วันพรุ่งนี้ก่อนวันนึงก็ได้” ไอ้ว่านยังคงตื๊อ ผมเลยได้แต่ถอนหายใจ จังหวะเดียวกับที่แทนคุณเดินมาถึงโต๊ะพอดี

“เออๆ แล้วกูต้องทำไรบ้าง”
“ไม่ต้องทำไรเลยเว้ย พรุ่งนี้มึงแค่เตรียมตัวมาร้องอย่างเดียว ถ้าไงกูจะส่งลิสต์เพลงที่เขาจะเล่นพรุ่งนี้ไปให้มึงอีกที”
“เออ ถ้ายังไงก็บอกรายละเอียดมาทางไลน์อีกทีแล้วกัน”
“ได้มึง ขอบคุณมากนะเว้ย เดี๋ยวกูไปบอกพี่เต้ก่อน” พูดจบมันก็กดตัดสายทันที ก่อนจะหันไปมองแทนคุณที่มองอยู่ก่อนแล้ว พร้อมส่งสายตาอยากรู้มาที่ผมอีกด้วย
“ไอ้ว่านโทรมาน่ะ” ผมบอกแทนคุณให้หายสงสัย อีกคนจึงแค่พยักหน้ารับรู้แต่ไม่ได้ซักถามอะไรเพิ่มเติม



เราไปกินข้าวกลางวันกันที่โรงอาหารกลางของมหา’ลัย มีหลายคนมองมาอย่างสงสัยที่เห็นว่าผมเดินมากับแทนคุณ บ้างก็มีเสียงซุบซิบมาให้ได้ยินเป็นพักๆ แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรกับเสียงเหล่านั้น ปกติแทนคุณจะพาออกไปกินข้างนอก แต่เพราะวันนี้ผมเห็นเขาเหนื่อยจากการขับรถมาจากบ้านที่กรุงเทพฯ แถมต้องรีบมาเรียนช่วงเช้าต่ออีก ผมเลยไม่อยากให้เขาต้องวนรถไปไหนไกล

“เดี๋ยวกูไปซื้อเอง มึงนั่งรอเถอะ” ผมรีบพูดขึ้นมาทันทีที่เราได้ที่นั่งแล้ว เพราะแทนคุณทำท่าจะไปซื้อของกินมาให้ แต่จากสีหน้าท่าทางที่ดูเหนื่อยเมื่อยล้าของแทนคุณแล้ว ผมเลยรีบอาสาก่อน
“มึงเอานมเย็นไหม”
“ไม่อ่ะ ขอน้ำแดงโซดาดีกว่า”

เรากินข้าวกันไปเงียบๆ มีคนหันมามองเป็นพักๆ แต่ผมไม่ได้รู้สึกเกร็งอะไรมากหรอกเพราะเข้าใจว่ามากับคนดัง จนเมื่อแทนคุณรวบช้อนแล้วยกน้ำขึ้นดูดจนหมดแก้ว เขาก็พูดทำลายบรรยากาศเงียบๆที่รายล้อมเราอยู่

“มึงสอบมิดเทอมกี่วัน”
ผมนึกถึงกำหนดการสอบที่กำลังจะมีในอีกอาทิตย์ข้างหน้าแล้วก็ตอบแทนคุณไป
“สามวัน มึงอ่ะ”
“สี่” แทนคุณตอบพร้อมกับเขี่ยน้ำแข็งเข้าปากไปเคี้ยวจนเกิดเสียงกรวบ
“หลังสอบเสร็จหยุดยาวสามวัน ไปเที่ยวกัน” แล้วเขาก็พูดขึ้นมาต่อทันที ผมเงยหน้าขึ้นจากชามก๋วยจั๊บตรงหน้า เลิกคิ้วมองแทนคุณเหมือนบอกให้เขาพูดอีกที

“กูอยากไปพักผ่อน มึงไปเที่ยวกับกูนะ”
“กูว่าจะกลับบ้าน” พอฟังคำตอบของผม แทนคุณก็ขมวดคิ้วทันที
“กูไม่ได้กลับบ้านมาหลายอาทิตย์แล้ว ป่านนี้แม่กับพ่อลืมแล้วมั้งว่ามีลูกชื่อยูอีกคน” ผมสังเกตเห็นว่าสีหน้าของแทนคุณดูเศร้าลงผิดปกติ ก่อนที่เขาจะพยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจที่ผมพูด

“แล้วมึงไม่กลับบ้านหรอ”
“ขี้เกียจ”
“งั้น....ไปเที่ยวบ้านกูมั้ย” พูดไปแล้วก็อยากจะย้อนเวลากลับไปเอาคำพูดนั้นคืน แทนคุณตาโตทันทีเหมือนว่าได้พบอะไรแปลกใหม่ ก่อนที่เขาจะฉีกยิ้มแล้วตอบกลับมา

“เป็นความคิดที่ไม่เลว”

ผมมีความรู้สึกว่าวันหยุดช่วงสั้นๆหลังสอบมิดเทอมจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น พอสลัดความคิดที่กวนใจนั้นออกแล้วหันมาจัดการอาหารของตัวเองจนเสร็จ เห็นแทนคุณหยิบไอโฟนขึ้นมาจิ้มไปมาแล้วก็เงยหน้ามาส่งยิ้มให้ผมไปด้วย ก็สงสัยนะแต่ไม่อยากจะถาม



((ข้างล่างจ้ะ))
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 22-10-2016 23:01:28

แทนคุณมาส่งผมที่คณะหลังจากที่หมดพักเที่ยง เขาเองก็มีเรียนช่วงบ่ายแต่เลิกเร็วกว่าผมที่มีเรียนยาวจนถึงสี่โมง เขาบอกผมว่าจะมารับหลังจากที่เขาเลิกเรียนเสร็จ ซึ่งผมไม่ได้ขัดข้องอะไรที่เขาจะมาคอยรับคอยส่งอยู่แล้ว แต่ตอนที่ลงจากรถของแทนคุณแล้วเดินเข้าตึกมานี่สิที่ทำให้ผมรู้สึกอยากมีคาถาหายตัวได้

“ตู้หูวววว รถหรูมาส่งด้วยเหวยยยย” เสียงเห่าแซวมาแต่ไกลจากโต๊ะประจำของสายรหัสผม คราวนี้นั่งกันครบทั้งกลุ่มเลยด้วย ส่วนคนแซวไม่ใช่ใคร พี่เปรียวทอมแอนเจอรี่เจ้าเดิม

“ต๊าย อียู นี่แกคาบเดือนมหา’ลัยไปกินจริงหรอวะ กูนึกว่าอีเปรียวมันอำกูเล่น” เสียงมิสอิสซาเบลพูดขึ้นมาเมื่อเห็นหน้าผม
“มึงนี่ อย่าทำตัวโลวเทคค่ะ เดี๋ยวนี้ข่าวสารเขาว่องไวด้วยยุคโซเชี่ยลครองเมือง ไม่รู้จักอัพเดท”
“อย่าว่าเจ๊อิสสิ พี่หนู เจ๊แกไม่ได้พกสมาร์ทโฟนเสียหน่อย วันก่อนเห็นจิ้มเกมงู 3310 อยู่เลย” อันนี้พี่เต็มแกมาเป็นแนวเสริม การได้แซะเจ๊อิสซาเบลถือเป็นความสุขของพี่เต็มแกเลย
“อีเต็ม กูขอแก้ข่าว กูไม่ได้ใช้ 3310 กูใช้ ซัมซุงฮีโร่ต่างหาก ตลกมั้ยอีเด็กเวร” แล้วเจ๊อิสซาเบลก็ไล่ตีพี่เต็มที่วิ่งหนีไปรอบโต๊ะ

“โอ้ย อีเหี้ยกูเวียนหัว จะวิ่งไล่จับกันทำไม” พี่เปรียวแวดขึ้น ส่วนผมที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ก็ได้แต่เกาหัวงงๆ ตกลงพวกพี่มันแซวกูทักกูเพื่ออะไรวะ พอคิดได้ผมก็ตั้งท่าไปเข้าเรียนรีบหนีจากความวุ่นวายตรงนี้แทน

“อ้าว อียู...มึง หนีไปเสียแล้ว เพราะมึงเลยอีเต็ม กูเลยอดแซะมัน……” เสียงสิบแปดหลอดของเจ๊อิสซาเบลลุงรหัสของผมดังไล่หลังมาแต่ผมไม่ได้สนใจ นอกจากรีบวิ่งไปเข้าเรียนให้ทันเวลา

มัวแต่ไปเสียเวลากับพวกสายประหลาดเกือบทำตัวเองสายเสียแล้ว ผมถอนหายใจเมื่อเห็นว่าตัวเองมาทันเวลาพอดี


การเรียนของผมวันนี้ไม่มีอะไรมาก อาจารย์ก็มีเน้นย้ำในส่วนที่จะใช้ออกสอบ และมีนัดแนะสำหรับชั่วโมงหน้าในสัปดาห์ถัดไปที่จะเก็งข้อสอบที่จะออกให้อีกครั้ง ถือว่าการเรียนของปีหนึ่งนั้นยังไม่มีอะไรที่ยากจนเกินเหตุเพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องพื้นฐาน เหมือนยึดพื้นให้แน่นๆ มีข้อมูลที่พร้อมจะต่อยอดในปีถัดไปที่เจาะลึกทั้งทฤษฎีและปฏิบัติกว่าเดิม



ผมเดินลงมาจากห้องเรียนเมื่อหมดคาบเรียนแล้ว พอหันไปมองทางโต๊ะของกลุ่มสายประหลาดก็ไม่เห็นใครอยู่สักคน สงสัยจะหายตัวแยกย้ายกันไปหมด พอมองไปทางถนนพร้อมเสียงคนคุยกันเซ็งแซ่ ผมถึงได้เจอกับคำตอบว่าแก๊งของพี่รหัสผมหายไปไหน

นั่นคือสิ่งที่เป็นคำตอบอย่างดี
แทนคุณที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากรถ ถูกพี่อิสระหรือมิสอิสซาเบลเกาะแขนออเซาะอยู่ ในขณะที่พี่เปรียวกำลังเดินไปรอบตัวของแทนคุณ มองจ้องอีกฝ่ายจนแทนคุณได้แต่ทำหน้าหวาดๆด้วยกลัวพี่เปรียววที่กำลังเขย่งขายืดตัวสบตาแทนคุจะณเข้าสิง พี่ลูกหนูถึงขั้นต้องจิกหัวพี่เปรียวออกมาอีกที

ส่วนพี่เต็มน่นะหรอ กำลังไปลูบๆคลำๆรถของแทนคุณอยู่ เสร็จแล้วแกก็เต้นท่าประหลาดๆอะไรอยู่ข้างรถก็ไม่รู้  พอแทนคุณสบตาหันมาเจอผม ทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นก็หันมามองตาม

“อีเด็กยู ผัวมึงมารอนานแล้ว”

จบคำพูดของพี่เปรียว รอบตัวที่มีนิสิตอยู่ประปรายก็หันมามองที่ผมเป็นจุดเดียวกัน ผมรีบก้าวเท้าไวๆแล้วพุ่งเข้าหาแทนคุณโดยไม่มองคนอื่นๆเพราะรู้สึกอายจนเกินต้านทาน

“ผมไปก่อนนะครับพี่ๆ บายครับ” แล้วก็รีบลากแทนคุณขึ้นรถฝั่งคนขับพร้อมยัดตัวเองนั่งเบาะข้างๆ

ได้ยินเสียงพี่เต็มบ่นออกมาว่ายังเต้นไม่จบเพลงเลย แต่ผมก็ไม่สนใจหรอกนะ พอแทนคุณขับรถออกมาจากคณะฯของผมแล้ว เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นรถ

“โคตรวุ่นวายอ่ะพี่ๆมึง” ผมหันไปมองแทนคุณ พร้อมฟาดลงที่ไหล่ของเขาไปหนึ่งที
“หยุดหัวเราะได้แล้ว...และก็ ขอโทษแทนพี่ๆกูด้วย มึงคงตกใจแย่” แต่แทนคุณแค่ส่ายหน้าแล้วหันมาตอบผมก่อนจะหันไปมองทางต่อ

“แค่ตั้งตัวไม่ทันเฉยๆ แต่พวกเขาก็น่ารักกันดี”
“ดูประหลาดกันมากกว่า มึงรู้ป่ะว่าสายรหัสกูนี่มีฉายาว่า สายประหลาดนะเว้ย” แทนคุณเลิกคิ้ว แล้วก็พยักหน้า
“อือ ก็เหมาะสมดีนะ ความจริงมึงได้สายรหัสนี้ก็ถูกนะ เพราะมึงก็ประหลาด” ผมสะบัดหน้าไปทางแทนคุณ พร้อมจ้องอีกฝ่ายเขม็ง

“กูปกติ”
“มึงประหลาด หน้าตามึงอ่ะ” ผมฟาดเข้าที่ไหล่แทนคุณอีกไม่ยั้ง จนเขาต้องยกแขนขึ้นมาแล้วบอกว่าขับรถอยู่ผมถึงหยุด

“มึงอ่ะชอบแกล้งกู”
“กูยังพูดไม่จบเลย...ที่กูว่าหน้าตาประหลาดคือ มึงชอบทำหน้าตลก เดี๋ยวหน้ามู่ เดี๋ยวก็ปากยื่น เดี๋ยวก็ทำปากเป็ด มีอะไรก็แสดงออกทางหน้าหมด จนหน้ามึงตลกมากอ่ะ”
“นิสัยไม่ดีว่ะ”
ผมว่าเชิดหน้าใส่พร้อมเสียงดังหึ ถึงเพิ่งได้รู้ตัวตอนมองออกไปตามถนนแล้วพบว่าแทนคุณขับรถมาที่คณะเภสัชฯ ก่อนที่รถจะชะลอตัวและหยุดลง

“แต่ก็น่ารักมากกว่าตลกนะ” เสียงของแทนคุณต่อกลับมาอีกครั้ง ดูเหมือนว่าพูดอยู่ใกล้ๆ ผมเลยหันหน้ากะจะถามเขาด้วยว่ามาทำอะไรที่นี่

“อ๊ะ...”
แต่เมื่อหันไปแล้ว ก็พบว่าหน้าของแทนคุณอยู่ใกล้มาก จนจมูกของผมเฉียดกับจมูกของเขา โชคดีที่ว่ามีแว่นสายตาของผมกั้นอยู่ระหว่างกลาง ผมเบียดตัวถอยหลังจนชิดประตู ในขณะที่แทนคุณยังคงมองผมนิ่งๆ จนเมื่อสายตาเขาเบนออกไปนอกรถ คนตัวสูงถึงได้ถอยหลังกลับไป

ใจผมเต้นแรงจนกลัวว่าแทนคุณจะได้ยินมันเข้า หน้าก็ร้อนวูบอย่างนึกรู้ว่าเลือดคงมารวมตัวกันอยู่ที่สองข้างแก้ม ลามไปถึงใบหูแหง ไม่ทันได้หายใจให้ทั่วท้อง ประตูรถข้างหลังก็เปิดออกพร้อมกับคนที่ผมไม่ได้เจอหน้ามาหลายวันก็เข้ามานั่งในรถ

“หวัดดียู ขอโทษนะที่ให้อยู่ห้องคนเดียวอีกแล้ว” ขึ้นรถมาได้โรมก็พูดกับผมทันที ผมหันไปหาโรมแล้วตอบปฏิเสธไปว่าไม่เป็นไร
   


รถของแทนคุณมาจอดที่ร้านอาหารนั่งกินริมทะเล ในช่วงเย็นๆแบบนี้อากาศไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ แต่ยังคงมีแดดยามเย็นที่ให้ความสว่างอยู่ก่อนที่จะลาลับขอบฟ้าเข้าสู่ช่วงเวลาค่ำ

เราเลือกนั่งกันที่โต๊ะริมระเบียงที่มองเห็นวิวทะเล กับพระอาทิตย์ก้อนกลมๆที่ลอยอยู่เหนือขอบน้ำทะเลไม่มากนัก แทนคุณให้ผมเข้าไปนั่งข้างในตามด้วยตัวเขาที่นั่งถัดมาและโรมที่นั่งฝั่งตรงข้ามผมอีกที พวกเราสั่งอาหารไม่กี่อย่างโดยไม่เน้นปูเพราะโรมแพ้ แต่แทนคุณกลับชอบกินปูเขาถึงได้สั่งข้าวผัดปูมากินแยกคนเดียว 1 จานเล็ก

พออาหารมาเสิร์ฟ พวกเราก็นั่งกินกันไป ชมบรรยากาศริมทะเลไปด้วย ผมสังเกตดูโรม เห็นว่าเขาค่อนข้างซูบลง ขอบตาทั้งสองช้ำเหมือนอดนอนและใต้ตาคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด แต่กระนั้นออร่าความดูดีของโรมก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลยสักนิด

“กินนี่สิ ผมว่ามันอร่อยดีนะ” โรมตักกุ้งทอดผัดมะขามสามรสให้ผม รสชาติออกเปรี้ยวหวานสอดแทรกความเผ็ดจางๆกินกับข้าวสวยกำลังดี
“อืม อร่อยดี” ผมตอบกลับไปหลังจากกลืนอาหารลงคอแล้ว
“ว่าแต่ โรมหายไปไหนมาหรอ”
“กลับบ้านน่ะ” โรมตอบพร้อมรอยยิ้ม ผมเห็นแววตาของโรมเจือความเศร้าเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะวางช้อนแล้วยกน้ำขึ้นมาดื่ม

“พอกินอิ่มแล้ว ไปเดินเล่นกันไหมยู” ผมหันไปมองแทนคุณที่ยังเพลิดเพลินกับข้าวผัดอย่างขอความคิดเห็นแต่อีกฝ่ายกลับไม่ตอบรับท่าทีของผมสักนิด

“ขอยืมตัวยูแป๊บนึงนะคุณ”
“อืม”

และด้วยความที่อยากรู้ว่าโรมมีอะไรจะคุยกับผม ผมจึงตัดสสินใจรวบช้อนบอกเป็นนัยว่าอิ่มแล้ว แทนคุณหันมาเห็นก็ได้แต่ส่ายหน้า ก่อนเขาจะหยิบช้อนผมไปตักไข่เจียวปลาหมึกมาใส่จานผม แล้วบังคับให้ผมกินต่อ

“กินให้อิ่มก่อนเถอะยู ผมไม่ได้รีบไปไหนสักหน่อย”

ผมอยากจะบอกออกไปเหลือเกินว่าก็ใครใช้ให้พูดแบบนั้นก่อน คนก็อยากรู้น่ะสิ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เงียบแล้วนั่งกินข้าวต่อไปจนอิ่มจริงๆ

“เดี๋ยวผมเคลียร์ตรงนี้ โรมไปกับยูเถอะ” แทนคุณบอกหลังจากที่เห็นว่าผมนั่งย่อยได้สักพักแล้ว โรมลุกขึ้นก่อนเป็นสัญญาณให้ผมลุกขึ้นตาม ส่วนแทนคุณหันไปเรียกบริกรมารับออเดอร์ของหวานต่อ เห็นแบบนั้นแล้วผมก็ทำตาละห้อยอยากกินบ้าง แต่ว่าเรื่องที่โรมจะคุยด้วยก็อยากรู้ ผมถึงได้ต้องตัดใจ ไว้ค่อยกินของหวานคราวหน้าแล้วกัน



โรมพาผมมาเดินห่างออกมาจากร้านอาหารไม่ไกลมากนัก แถบนั้นมีโขดหินที่ขึ้นเรียงตัวกันเหมือนแนวสะพาน โรมพาผมปีนขึ้นไปบนนั้นแล้วนั่งลงบนโขดหินสักก้อน ผมถึงได้นั่งตามแล้วมองทอดสายตาไปยังจุดที่โรมกำลังมองเห็นเป็นแนวเส้นขอบฟ้าสีส้มทองและพระอาทิตย์ก้อนสีส้มลูกโตๆที่กำลังเคลื่อนตัวลงต่ำทีละนิด

“ยู ที่ผ่านมาคงอึดอัดน่าดูเลยสินะ” เขาพูดขึ้นมาก่อน ผมถึงได้หันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของโรม
“เรื่องอะไรหรอ”
“เรื่องของคุณกับผมน่ะสิ ยูคงไม่สบายใจมากเลยใช่มั้ย”

ผมเม้มปากนิดๆ ก่อนจะเห็นโรมหันมามองผมพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ต้องเครียด คำถามผมมันยากขนาดนั้นเลยหรอ” แล้วโรมก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหุบยิ้มลง
“คุณน่ะ โชคดีแล้วล่ะที่เจอยู”
“โรม...เป็นอะไรหรือเปล่า” เขาหันกลับไปมองทะเลพร้อมกับชันเข่าขึ้นมากอดเอาไว้
“ยูอาจจะรู้เรื่องของผมกับคุณมาบ้างแล้ว ผมดูน่ารังเกียจไหมยู บางทีผมก็รู้สึกว่าผมไม่สมควรได้ความรักจากใครเลยก็ถูกแล้ว คนเลวแบบผมที่เล่นกับความรู้สึกของคุณ มันก็ควรจะต้องได้รับบทลงโทษ ใช่มั้ย”
“...............”

ผมเลือกที่จะเงียบและรอฟังว่าโรมกำลังต้องการบอกอะไรผม

“ยูช่วยรักคุณให้มากๆนะ อย่าทิ้งให้เขาต้องเจ็บปวดตามลำพัง ผมเชื่อว่ายูไม่มีทางปล่อยมือคุณแน่ๆ....ความจริงแล้วผมก็แอบอิจฉาคุณเขานะ ที่ได้รับความรักยิ่งใหญ่จากยู แต่มันก็สมควรแล้วล่ะ ก็คุณเขาเจ็บปวดมาเยอะก็ควรจะได้รับอะไรดีๆบ้างได้แล้ว”
“................”
“ความจริง ผมไม่จำเป็นต้องมาพูดอะไรแบบนี้ด้วยซ้ำ เพราะถึงยังไง เรื่องความรักมันก็เป็นเรื่องของคนสองคน”
“................”
“ยู...ผมขอบคุณจริงๆนะ ที่คุณเดินเข้ามาในชีวิตของพวกเรา ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นเพราะโชคชะตา หรืออะไรที่ทำให้ได้มาเจอกัน แต่ต่อจากนี้ไป ผมขอให้ยูมีความสุขมากๆ” โรมหันมายิ้มให้ผม พร้อมกับที่ดวงตาของเขาแดงก่ำเหมือนกำลังพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้

“ถึงเราจะรู้จักกันไม่นาน แต่เรารู้ว่ายูเป็นคนดี เป็นเพื่อนที่น่ารัก...แต่เสียดาย ที่ผมคงต้องบอกลายูวันนี้เสียแล้ว”
“ทำไมล่ะ” ผมรีบถามลับทันที น้ำเสียงของโรมที่สั่นเครือก่อนอีกฝ่ายจะร้องไห้ออกมาให้ผมเห็นจนได้ โรมยกมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะเงยหน้าขึ้นฟ้าแล้วสูดน้ำมูกดังซืด

“วันนี้เรามาเดินเรื่องลาออกให้เสร็จน่ะ นี่เดินวุ่นทั้งวันเลยนะ เพราะต้องไปติดต่อเรื่องออกจากหอด้วย”
“โรมจะไปไหน” ผมยืดหลังนั่งตัวตรงพร้อมหันมามองโรมเต็มๆ
“เรากำลังจะไปเรียนต่อที่อื่นน่ะ และก็อาจจะไม่กลับมาที่นี่อีก หรือถ้ามีโอกาสก็อาจจะแวะมาบ้าง”
“โรม” ผมเรียกชื่อของอีกฝ่าย โรมหันมายิ้มให้ ผมถึงได้กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่ผมจะเข้าสวมกอดโรมแน่นๆ
“ไม่ต้องไปก็ได้นิ”
“ไม่ได้หรอก เพราะถ้ายังอยู่ ผมก็ทำไม่ได้สักที บางทีผมก็เกลียดตัวเองนะที่อ่อนแอแบบนี้ ยูรู้ไหม ว่ายิ่งรักมากแค่ไหน เราก็จะยิ่งจำและรู้สึกกับมันมากเท่านั้น”
“แล้วเราจะเจอกันอีกมั้ย ถ้าโรมไม่กลับมาที่นี่แล้ว เราจะเจอกันยังไง..” ผมถามเขา โรมถึงได้จับไหล่ผมทั้งสองข้างแล้วดันตัวผมออก เขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วยื่นมาตรงหน้าผม

“นี่ไง ยังมีอีกวิธีที่ทำให้เราใกล้กันได้ ผมอุตส่าห์สมัครเฟซฯไว้เพื่อคุยกับยูเลยนะ โชคดีนะที่ยูยอมรับเป็นเพื่อน” ผมฉีกยิ้มกว้างเมื่อโรมพูดจบ

“นั่นสินะ”
และนี่ก็คือเหตุผลที่โรมสมัครเฟซฯไว้สินะ ทั้งที่แต่ก่อนโรมไม่เคยเล่นมันเลย แสดงว่าเรื่องที่โรมจะไปจากที่นี่ก็คิดมาสักพักแล้วสินะ

“แล้วต้องรีบไปเลยหรอ”
“อืม เราอยากไปพักผ่อนก่อนด้วยน่ะ ว่าจะเที่ยวไปเรื่อยๆก่อนแล้วค่อยเรียนต่อ รู้ไหมว่าตอนบอกที่บ้าน เขาตกใจขนาดไหน แต่ก็โชคดีที่พวกเขาเข้าใจ....ยู.....ไม่ต้องคิดมากเรื่องผมกับคุณนะ” โรมคว้ามือผมไปกุมไว้ พร้อมกับตบบลงไปเบาๆ

“โอกาสของยูได้มาแล้วก็ใช้มันให้คุ้มค่าไปเลยนะ ผมดีใจด้วยที่ยูกับคุณปลดปล่อยความกลัวในจิตใจได้แล้ว ต่อจากนี้ก็สร้างอนาคตไปด้วยกันเถอะนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อยากจะขอให้ยูเชื่อมั่นในตัวเอง ในความรักของยูที่มีต่อคุณ รู้ไหม”

“อืม ขอบคุณนะโรม...ขอบคุณที่เข้ามาเป็นบททดสอบในความรักของเราด้วยเหมือนกัน”
“ยินดีที่สุดเลย” โรมว่าพร้อมกับยิ้มกว้างให้ผม

“อะแฮ่ม....ปล่อยมือกันได้แล้วมั้ง”

ผมกับโรมหันไปมองต้นเสียงที่ยืนอยู่ข้างล่าง เห็นแทนคุณกำลังจ้องเขม็งที่มือของผมกับโรม แต่แทนที่พวกเราจะทำตามที่คุณบอก ผมกลับแลบลิ้นให้เขาส่วนโรมก็ดึงผมเข้าไปกอดโชว์ จนแทนคุณทนไม่ได้รีบปีนโขดหินขึ้นมา พวกผมสองคนเห็นแบบนั้นเลยรีบผละออกจากกันแล้ววิ่งหนีแทนคุณไปอีกทาง แทนคุณรีบวิ่งตามลงมา ไปไล่ตีโรมก่อนแล้วถึงวิ่งมาไล่จับผม

หมับ!
แทนคุณจับผมได้ เขารวบเอวผมเข้ามาใกล้ตัวแล้วหมุนเหวี่ยงผมไปรอบๆ ก่อนจะปล่อยผมลงพื้นให้ยืนเอียงไปเอนมา ได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งโรมและแทนคุณที่ขำท่าทางเหมือนปูเดินเอียงๆของผม

เสียงหัวเราะของพวกเราดังล้อไปกับเสียงเกลียวคลื่นที่กระทบเข้าฝั่ง ทิ้งรอยจางๆของน้ำทะเลเอาไว้ไม่พอยังกวาดเอาซากหอยที่เกลื่อนอยู่ลงไปด้วยแล้วเอาเศษซากใหม่มาทิ้งไว้


ผมว่าชีวิตคนเราก็คล้ายๆกัน ที่จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย พอผ่านไปก็จะกลายเป็นอดีตที่ติดอยู่ในความทรงจำ ใส่ใจมากก็จำมากปลดวางอยาก แต่ถ้ารู้จักปล่อยมันไปไม่คิดอะไรมาก เราก็จะไม่เจ็บปวดอะไรกับมันเลย

ให้มันเป็นไปตามที่มันอยากจะเป็น แต่คนที่กำหนดหนทางของมันต่อไปก็คือตัวเราเองนี่แหละ


ซึ่งอนาคตมันจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างผมไม่รู้
แต่ผมจะใช้โอกาสที่ผมมีในปัจจุบัน อย่างเช่นวันนี้ ให้เป็นวันที่มีแต่ความทรงจำดีๆ

โชคดีนะโรม

 
จบตอน
   

สวัสดีค่ะ ในที่สุดอุปสรรคความรักของคุณและยูก็หมดลงไปหนึ่งแล้ว อนาคตจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างก็ต้องรอดูต่อไปนะคะ
สำหรับเรื่องของโรม คงเคลียร์ไปบ้างแล้ว แต่เราจะไม่หยิบเรื่องของโรมออกมาอีกแล้วนะคะ
วันนี้ขอพูดถึงเรื่องตัวละครหน่อยแล้วกันเนอะ สำหรับเรื่องแค่คุณนี้ ตัวละครในเรื่องเราวางให้ทุกคนมีบทบาทที่ดูมัวๆค่ะ มันเป็นความสีเทาของมนุษย์ เราอยากถ่ายทอดออกมาให้เห็นว่า คนเรามีความคิดที่ติดอยู่ในใจกันทุกคนน่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความไม่มั่นใจ ความลังเล สับสน เห็นแก่ตัว หรืออีกมากมาย ซึ่งถ้าเราถ่ายทอดออกมาไม่ค่อยดีก็สามารถติมาได้นะคะ เราจะได้นำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ สำหรับตอนต่อๆไป ฉากมุ้งมิ้งของพระนายก็จะออกมาเยอะขึ้นแน่นอนค่ะ และยืนยันคำเดิมนะคะว่าเราไม่ทำนิยายเรื่องนี้ดราม่าแน่นอนค่ะ มันเป็นแค่ความหน่วงของความรู้สึกมืดมนในจิตใจของตัวละครเพียงช่วงหนึ่งเท่านั้น อย่างที่โรมบอกค่ะ ถ้าปลดปล่อยสิ่งนั้นออกไปได้ ก็ดี ซึ่งบางคนก็ต้องใช้เวลา เร็วช้าขึ้นอยู่กับจิตใจล้วนๆ เหมือนที่โรมกำลังเผชิญ

พล่ามยาวไปนิด ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกคะแนนบวก ทุกการติดตาม และนักอ่านเงาทุกคนด้วยเช่นกันค่ะ 

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L1: :3123: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 22-10-2016 23:06:50
น้องโรมจะคู่กับใครอะ  เราสงสารน้องโรม
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-10-2016 23:13:30
สงสารโรม :mew6: :mew6:

อุปสรรคคู่แทนยูคงจะเป็นคุณพ่อของแทน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-10-2016 23:39:27
มันเปงสีเทาๆอ่าเนาะ ชอบจังเรื่องแบบนี้ ชอบอ่านนิยายแนวนี้ที่สุดละ

รีบมาต่อน้า
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 22-10-2016 23:56:10
สงสารโรมมม
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 23-10-2016 00:35:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Littlefox ที่ 23-10-2016 01:33:42
ย้ายมาตั้งทีมโรมยูได้มั้ย :mew1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 23-10-2016 07:36:32
แอบสงสารน้องโรม  :ling3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 23-10-2016 09:23:03
แทนคุณเริ่มหวงของ ขอให้โรมโชคดีเจอรักที่ดีบ้าง
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 23-10-2016 10:42:14
สงสารโรมมาก :ling2:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 23-10-2016 14:09:31
 :serius2: :serius2: :serius2:  สงสารโรมมมมมม ฮือออ สู้ๆนะโรม

เอาใจช่วยแทนคุณกับน้องยูต่อไปป
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 23-10-2016 14:35:25
ขอให้โรมมีความสุขมากๆนะคะ เจอคนที่รักโรมมากๆไวๆ ส่วนคุณกับยูก็ขอให้ใช้ชีวิตคู่อย่างมีความสุขนะคะ
ปล.เราสังหรณ์ว่า พอยูไปเป็นนักร้องจะมีคนเห็นความน่ารักของยูเพิ่มขึ้นนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 12> 22/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 27-10-2016 14:34:25
กำลังเป็นเรื่องราวดีๆ แต่คราวนี่คนแต่งหายไปหลายวันจังค่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 27-10-2016 20:55:15
ตอนที่ 13 – พ่อทูนหัว




เมื่อคืนแทนคุณขับรถไปส่งโรมที่โรงแรมในตัวเมือง ถึงทำให้ผมรู้ว่าที่ไม่เจอโรมที่หอพักเพราะเขามาเปิดห้องอยู่ที่นี่นั่นเอง โรมบอกกับผมว่าเขาจะเข้ามาเก็บของตอนช่วงเช้ากับคนที่บ้าน และตั้งใจว่าจะออกเที่ยวไปทั่วๆก่อน เขาถึงไม่ได้กลับไปนอนที่ห้อง ผมถามเขานะว่ามันคือทางออกที่ดีที่สุดแล้วหรือไง โรมส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตอบคำถามนั้น

“มันไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดก็จริง แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราลืมบรรยากาศเก่าๆได้ นานวันเข้าความรู้สึกที่มีมันจะเริ่มจางลงจนกลายเป็นความทรงจำ ยู ผมรู้ว่ายูเป็นห่วง แต่ว่า มันมีไม่กี่ทางหรอกนะที่ผมสามารถเลือกได้ และวิธีนี้ผมคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับผมแล้ว”

หลังจากที่ไปส่งโรมแล้ว คุณก็ขับรถมาส่งผมที่หอพัก เขาจอดรถไว้ไม่ไกลจากหน้าหอมากนักก่อนจะดับเครื่อง

“กูขึ้นไปเองก็ได้นะ”ผมพูดขึ้นทันทีที่เห็นแทนคุณตั้งท่าถอดเบลท์และเตรียมลงจากรถ
“ไม่อ่ะ กูอยากไปส่ง”

นอกจากแทนคุณจะขี้แกล้งแล้วยังดื้ออีกต่างหาก ผมถึงได้ปล่อยให้เขาทำตามใจ อยากจะทำอะไรก็ปล่อยเขาไปไม่อยากเถียง แทนคุณเดินตามหลังผมมาติดๆโดยปล่อยให้ผมเดินนำหน้า พอมาถึงหน้าห้องก็ได้ยินเสียงเพลงเล็ดรอดออกมาจากห้องเบาๆถึงรู้ว่ามีคนอยู่ในห้องก่อนแล้ว

ผมไขประตูเปิดเข้าไปเห็นเก็ตกำลังนั่งเล่นคอมฯพร้อมเปิดเพลงฟังไปด้วย

“มาส่งแล้วก็กลับสิ” ผมหันไปบอกแทนคุณ แต่เขาไม่ฟังกลับเบียดเข้ามาในห้องแล้วส่งเสียงทักทายเก็ตที่นั่งหันหลังให้อยู่

“หวัดดี...มึง” เก็ตสะดุ้งไหล่กระตุกเมื่อแทนคุณตบลงไปบนไหล่ เจ้าของผิวสีน้ำผึ้งหันหน้ากลับมาพร้อมขมวดคิ้วมุ่นก่อนเลื่อนสายตามามองที่ผม

“หวัดดี” แทนคุณพูดขึ้นอีกครั้ง ในฐานะคนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่บอกเลยว่าแทนคุณแม่ง...กวนตีน....

“เออ หวัดดี...” เก็ตตอบกลับพร้อมเกาหัวงงๆ
“กลับมานานยังอะเก็ต” ผมถามเขา แต่เก็ตยังดูแปลกใจที่เห็นแทนคุณในห้องมากกว่า
“ก็เออ สักพัก...ว่าแต่...หมอนี่” เก็ตตอบพร้อมกับส่งสายตาไปทางแทนคุณ ผมก็ได้แต่ส่งยิ้มเท่านั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี
“กูแทนคุณ อยู่บริหารฯ มึงอะ”
“เออกูรู้...กูชื่อเก็ต อยู่วิศวะฯ” แทนคุณพยักหน้ารับคำนั้น แล้วหันมาหาผม

“เดี๋ยวกูกลับละนะ พรุ่งนี้เช้ามารับเหมือนเดิม” เขาพูดแค่นั้นแล้วหันมาขยี้หัวผมแรงๆจนผมต้องปัดมือเขาออก เจ้าตัวไม่ได้มีสีหน้าหงุดหงิดอะไรแต่หัวเราะออกมาเบาๆแล้วหันไปหาเก็ตเพื่อบอกลาอีกครั้ง


แทนคุณเดินออกไปแล้ว ผมถึงได้หันมามองเก็ตที่กำลังหรี่ตาจ้องจับผิดผมอยู่
“บอกมาเลย”
“บอกอะไร” ผมสวนกลับไป พร้อมกับเดินหนี พร้อมกับวางของไว้ที่โต๊ะฝั่งตัวเองแล้วรีบคว้าผ้าเช็ดตัวรื้อตู้เสื้อผ้าหาชุดนอนอย่างลวกๆ

“มึงอย่ามา....นี่ตกลงระหว่างมึงกับไอ้เดือนมหา’ลัยนี่ ขั้นไหนวะ”
“กูไม่รู้”
“อย่ามาโนเนะ มึงแค่ตอบว่าเรื่องจิ้นหรือเรื่องจริงก็พอ” ไอ้เก็ตกดดันผมด้วยการยืนขวางไม่ให้ผมหนีไปได้ ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าในห้องเนี่ย ผมกับนัทเตี้ยสุด ไอเก็ตมันสูงกว่าผมสิบเซนฯมันก็เลยได้เปรียบ

“เออ..อย่างที่มึงคิดอะ”
“อย่างที่กูคิด งั้นก็........แม่ง เรื่องนี้ต้องขยาย”
“อย่านะเว้ยเก็ต” ผมรีบขัดไอ้เก็ตทันทีที่เห็นมันวิ่งไปที่หน้าคอมฯอีกครั้ง

“แหม กูล้อเล่นหรอกน่ะ มึงจะคบกับใครอะไรยังไงมันก็เรื่องของมึงปะวะ อีกอย่างกูไม่ใช่โทรโข่งจะต้องมาทำหน้าประกาศเรื่องของมึงให้โลกรับรู้ แต่ว่า.....” ไอ้เก็ตมองผมพร้อมรอยยิ้ม

“มึงอย่าลืมไปแดกข้าวที่คณะกูนะ พวกสาวๆแม่งตื๊อกูบ่อยจนกูรำคาญล่ะ”
“เออ ไม่ลืม”
“แล้วพาไอ้เดือนนั่นไปด้วยล่ะ” ผมพยักหน้าแค่เล็กน้อย ไอ้เก็ตหันกลับไปเล่นคอมของมันต่อ ผมเลยเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเอง

สำหรับวันนี้ห้องพักของผมก็ไม่ได้มีแค่ผมอยู่คนเดียวแล้ว เมื่อไอ้เก็ตไม่ได้หายไป แต่ว่านัทนี่สิ หายไปบ่อยเกินไปแล้ว ผมเดินออกจากห้องน้ำก็เห็นว่าเก็ตมันปิดคอมแล้ว ขึ้นไปเกลือกกลิ้งคุยโทรศัพท์อยู่บนเตียงของมันเสียงหงุงหงิงมุ้งมิ้ง สงสัยจะคุยกับแฟน ผมถึงได้ปีนไปบนเตียงของตัวเองบ้าง

ผมยังไม่ง่วงหรอกตอนนี้ เลยหยิบหมอนมาพิงที่กำแพงหัวเตียงแล้วกึ่งนั่งกึ่งเอน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กข่าวสารเหมือนอย่างเคย มีข้อความเข้ามาในไลน์หลายสิบข้อความอยู่ ผมเข้าไปดูก็เห็นแทนคุณส่งข้อความเมื่อยี่สิบนาทีที่แล้ว

TK-KHUN: เสียดายจัง
TK-KHUN: ที่ขึ้นไปส่งมึงเนี้ย กูหวังอยู่นะเว้ย
TK-KHUN: แต่ก็ต้องผิดหวัง

ผมขมวดคิ้วนิดๆด้วยความไม่เข้าใจในข้อความของแทนคุณ เลยส่งสติกเกอร์บราวน์งงที่เครื่องหมายคำถามบนหัวไปให้ แค่แป๊บเดียวข้อความก็ขึ้นว่าอีกฝ่ายอ่านแล้ว

TK-KHUN: ก็ที่กูขึ้นไปส่งมึงบนห้องเนี้ย
TK-KHUN: กูกำลังคิดว่า ถ้าขึ้นไปแล้วเห็นมึงอยู่คนเดียว
TK-KHUN: กูก็จะลากมึงมานอนที่คอนโดด้วยอ่ะ
TK-KHUN: เพื่อนมึงไม่น่าอยู่ห้องเลยเนอะ

ผมยิ้มให้กับคำตอบที่ได้รับ ก่อนจะเลือกส่งสติกเกอร์มูนแลบลิ้นทะเล้นๆไปให้อีกฝ่าย

YOU: ดึกแล้ว นอนได้แล้ว
YOU: พรุ่งนี้ตื่นสายไม่รู้ด้วย
TK-KHUN: ก็โทรมาปลุกสิ
YOU: ไม่
TK-KHUN: มึงแม่ง ใจร้ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหาวออกมา

YOU: ถ้าเจ็ดโมงไม่โผล่มาจะโทรหาแล้วกัน
TK-KHUN: โอเค มึงก็นอนได้แล้วนะ
YOU: ฝันดี
TK-KHUN: Sent a sticker

ผมมอง ภาพสติ๊กเกอร์โคนี่กับบราวน์กอดกันมีหัวใจดวงน้อยๆลอยอยู่เหนือทั้งคู่พลางฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะกดล็อกโทรศัพท์แล้วก้มกราบหมอนสามครั้ง พอเอนหัวลงหมอนแล้วถึงได้รู้ว่าหนังตาตัวเองมันหนักเหลือเกิน คืนนั้นผมฝันอะไรไม่รู้แหละ รู้แต่ผมนอนหลับสบายมากทีเดียว


.
.

วันศุกร์ที่แล้วผมไม่มีเรียนก็จริง แต่นั่นเพราะอาจารย์แกแจ้งยกเลิกคลาส 2 อาทิตย์ แล้วจะมีการเรียนชดเชยเพิ่มในวันอื่น ซึ่งวันนี้คือวันศุกร์ที่ไม่มีเรียนอีก 1 ครั้ง ผมเลยถูกแทนคุณลากมานั่งเรียนเป็นเพื่อนเขาจนได้ โชคดีที่ว่าวิชานี้อาจารย์ไม่เช็กชื่อและที่นั่งของผมก็อยู่แถวหลังสุดในมุมข้างเสา ผมถึงได้เสียบหูฟังเพลงที่ไอ้ว่านส่งมาให้เป็นเพลงที่มันบอกว่าจะใช้ร้องคืนนี้

ผมนั่งไล่ดูเนื้อเพลงในมือถือพร้อมกับฟังไปด้วย โยกหัวเบาๆ ไปด้วยตามจังหวะดนตรี โดยไม่ได้สนใจแทนคุณที่กำลังตั้งใจเรียนอยู่ข้างๆ 

“ฟังอะไร” หูฟังข้างหนึ่งถูกดึงออกโดยฝีมือคนที่นั่งข้างกัน พอหันหน้าไปมองก็ต้องผงะถอยไปข้างหลังจนชนกำแพง ก็แทนคุณเล่นยื่นหน้าเข้ามาเสียใกล้รู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นหัวใจที่แรงขึ้นอย่างไม่ต้องหาสาเหตุ

“ฟังเพลงไง”
“ไม่สนใจกูเลยนะ”
“ก็มึงเรียนอยู่” ผมสวนกลับทันที แต่พอลองมองไปรอบๆห้องถึงเห็นว่ามีนิสิตบางคนลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ บางคนก็ลุกออกไปนอกห้อง

“เบรก 10 นาทีครับ หิวมั้ย” แทนคุณว่าพลางส่งยิ้มยิงฟันมาให้ ผมส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ
“ยังอิ่มอยู่เลย”
“แล้วฟังเพลงอะไร ขอฟังบ้างดิ” พูดจบแทนคุณก็เสียบหูฟังข้างที่ดึงออกไว้ที่หูของเขา เป็นจังหวะที่เพลงเก่าจบกำลังรันเพลงอื่นต่อพอดี

♪อยากบอกกับเธอ ว่าฉันรู้สึก
ต่างไปแน่นอน จากวินาทีก่อน
อยากบอกให้รู้ แบบไม่ต้องมีขั้นตอน
และคิดจนอ่อนใจ
ก่อนที่ข้างใน จะเริ่มร้อนรน
และก่อนที่ตัวเธอจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้อะไร
ฉันเลยต้องมา
อยากบอกว่ารัก มันก็เท่านั้น
ก็เพราะว่าฉันรักเธอมากมาย
และไม่ได้หวังว่าต้องการอะไร
อะไรจากเธอ

(อยากบอกว่ารัก – SIN)

แทนคุณถอดหูฟังคืนผม แล้วหันเข้าหาหน้าห้องอีกครั้งเมื่ออาจารย์เคาะไมโครโฟนเตรียมเข้าเรื่องการสอนที่ค้างอยู่ต่อ ผมแอบเห็นว่าแทนคุณอมยิ้มเพราะมุมปากของเขายกขึ้น  ผมเองก็ยิ้มกับภาพที่เห็นไม่รู้ว่าเพราะอะไรหรอกนะแต่แค่รู้สึกว่า ช่วงเวลาตอนนี้มันมีความสุขจริงๆ


ครืด ครืด
เสียงเตือนจากเฟซบุ๊คดังขึ้น พอหันไปมองแทนคุณก็เห็นว่าเขากดล็อกไอโฟนแล้ววางไว้ข้างหนังสืออีกครั้ง เห็นว่ามีข้อความเตือนขึ้นโชว์ที่หน้าจอว่ามีคนกดไลค์และคอมเม้นต์ผ่านเฟซบุ๊คด้วย ผมเลยสไลด์หน้าจอเข้าเฟซฯบ้าง แล้วก็พบว่าแทนคุณแท็กผมมา

TK Krittidumrong ได้แชร์วีดีโอจาก Youtube
เพลงเพราะมาก ขอบคุณครับ : ) – บะหมี่ เกี๊ยว
(Music Video Official อยากบอกว่ารัก – SIN)

‘กรี๊ดด เขาต้องการสื่ออะไรกัน #ตัวเล็กตัวโต’
‘โอ้ยย *จิกหมอน* #ตัวเล็กตัวโต’
‘ต้องจีบกันขนาดนี้เลยหรอ #ตัวเล็กตัวโต’

บะหมี่ เกี๊ยว หลงตัวเองก็เป็นเว้ย
‘เขาแซวกัน กิ๊วๆ #ตัวเล็กตัวโต’
เจ้าขา กฤติดำรง พี่ยูขา พี่คุณไม่ได้หลงตัวเองแต่หลงพี่ยูต่างหาก #ขอเข้มๆ #ชงได้ต้องชง #ตัวเล็กตัวโต

ผมกำลังจะรัวนิ้วตอบกลับไป แต่คอมเม้นต์ของใครอีกคนก็เด้งขึ้นมาก่อน

TK Krittidumrong เจ้าขาอย่ามารู้ใจพี่สิคะ

หน้าผมร้อนวูบทันทีที่เห็นคอมเม้นต์ของอีกคน ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ ก็เห็นว่าเขาหันมามองผมอยู่ก่อนแล้ว พร้อมที่ในมือของเขาก็ถือไอโฟนค้างไว้อยู่ หัวใจของผมเหมือนจะกระเด็นหลุดออกมานอกอกเลยทีเดียว

ให้ตายสิ... แทนคุณเวอร์ชั่นนี้
ผมไปต่อไม่เป็นเลยจริงๆ

.
.
.

หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 27-10-2016 20:56:09
“กูมีนัดคืนนี้”
“ไปไหน”

ตอนนี้เราสองคนกำลังนั่งเถียงกันอยู่ในรถที่ลานจอนรถคอนโดของแทนคุณครับ และสาเหตุที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ก็เพราะคนเจ้ากี้เจ้าการอย่างพ่อเดือนมหา’ลัยนี่แหละ ที่พอเลิกเรียนเสร็จก็บอกว่า อยากทำอาหารกินที่ห้องและบอกให้ผมค้างด้วยกันอีกต่างหาก ผมก็ปฏิเสธไปตามระเบียบเพราะคืนนี้ผมมีนัดไปร้องเพลงให้วงของพี่เต้ แต่ประเด็นคือผมไม่ได้บอกแทนคุณ

“ไอ้ว่านมันนัดกูให้ไปทำธุระให้มัน”
“ธุระอะไร”
“แทนคุณ ทำไมมึงทำตัวเหมือนพ่อซักลูกจังว่ะ”

ผมจิ๊ปากเบาๆไม่ใช่ว่ารำคาญเขาหรอกนะแต่ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมแค่บอกว่าจะไปร้องเพลงที่ร้านอาหารแค่นี้ถึงบอกออกไปไม่ได้

“เออ ก็กูเป็นพ่อมึงไง มึงเคยบอกกูนี่ ว่าจะตามติดกู ให้กูคอยดูพัฒนาการเจริญเติบโตของมึงอ่ะ”
“มึงบ้าหรอ ตอนนั้นกูแค่เปรียบเปรยเฉยๆ อีกอย่างตอนนั้นก็ยังจีบไม่ติดด้วย”
“แหม พอตอนนี้คบกันแล้วก็จะทำตัวเหินห่างงั้นดิ กูไม่ยอมหรอก”

ผมมองหน้าแทนคุณที่ทำกัลงทำหน้าบึ้งใส่ผม เพิ่งจะเคยเห็นมาดนี้ของแทนคุณครั้งแรกเลยนะ เล่นเอากลั้นขำแทบไม่ทัน

“มึงแม่ง ทำหน้าตลกอะ”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ไม่รู้ล่ะ มึงบอกกูมาเลยว่าไปไหน ไปทำอะไร และ ไปทำไม”
“กูสงสัยแล้วว่ามึงอยากเป็นพ่อกูจริงๆ”

“ตอนนี้ก็ใช่นะ กูเป็นพ่อทูนหัว ของมึงอยู่เนี่ย เพราะงั้น บอก กู มา ดี ดี”

ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ มองหน้าและสายตา บวกกับน้ำเสียงที่แสนจริงจังของแทนคุณแล้วผมเลยตัดสินใจบอกออกไปในที่สุด

“กูจะไปร้องเพลง” แทนคุณเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำตอบของผม
“พอดีว่าพี่ที่คณะไอ้ว่าน เขามีวงเล่นตามร้านอาหารอยู่ ความจริงพี่เขาก็เป็นพี่ที่โรงเรียนเก่ากูนี่แหละ แล้วทีนี้ นักร้องประจำเขาเกิดลาออกกะทันหัน เขาก็เลยให้ไอ้ว่านมาชวนกูไปร้องแทนให้ก่อนเพราะหาคนไม่ทัน มันก็แค่นี้แหละ”

พอได้บอกออกไปแล้วผมก็รู้สึกหายอึดอัดขึ้นมานิดหน่อย แทนคุณเงียบไปสักพักก่อนจะพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่ผมได้บอกเขาออกไป

“อืม เพิ่งรู้ว่ามึงร้องเพลงเป็น” จบคำพูดนั้นแทนคุณก็เข้าเกียร์ถอยหลังรถออกจากช่องจอด

“มึงจะไปไหนอีกอ่ะ”
“ก็พามึงไปเปลี่ยนชุดไง ผิดแผนนิดหน่อยแต่ไม่เป็นไร เราก็ไปกินข้าวที่ร้านนั้น แล้วเสร็จจากมึงทำงานก็กลับไปที่ห้องกู”
“ยังไงก็จะให้นอนกับมึงให้ได้เลยสิ”
“แค่ไปนอนเป็นเพื่อน ไม่ทำอะไรหรอกนะ....หรือว่า...”
“พอเลย ขับรถไป”

ผมตัดบททันทีก่อนจะหันหน้าหนีออกไปมองข้างหน้าต่างรถแทน เมื่อรู้สึกว่าแทนคุณกำลังจะพาเข้าเรื่องที่ไม่ดีต่อการเต้นของหัวใจผม แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

ก็ตอนนี้ผมรู้สึกดีเป็นบ้าเลยอ่ะ


.
.

ร้านที่ไอ้ว่านนัดผมมานั้นอยู่ห่างจากมหาวิทยาลัยมาเกือบสิบกิโลฯ เป็นร้านนั่งชิลติดทะเลแบบพลูวิลล่าที่มี 2 ชั้น โดยที่ชั้นบนจะเปิดโล่งมุงด้วยลังคาไม้ที่เทลาดลงเหมือนสี่เหลี่ยมคางหมู มีบันไดเวียนอยู่ด้านข้างสำหรับการเดินขึ้นมาบนชั้นสอง ส่วนพื้นที่ข้างล่างเป็นห้องอาหารแบบห้องกระจกที่มีบาร์เหล้าอยู่ภายในนั้น อีกส่วนหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของร้านนี้คือสระว่ายน้ำที่เขาทำยื่นออกไปให้น้ำไหลลงคล้ายน้ำตกที่ตกแต่งเป็นสวนขนาดย่อมลาดด้วยหินทำเป็นทางที่เดินไปยังชายหาด แถมสามารถจัดเป็นพลูปาร์ตี้ได้ด้วย ในมุมนี้เขาจะมีโซฟากลมๆหลากสีตกแต่งให้นั่งกินลมชมบรรยากาศโดยรอบสำหรับการพักผ่อนอีกรูปแบบหนึ่ง

จุดที่พวกผมจะร้องเพลงนั้นถูกวางไว้บนชั้นสอง ซึ่งมุมของชั้นสองจะทำให้มองเห็นวิวทะเลโดยรอบด้วยเช่นกัน ซึ่งในความคิดของผม ผมคิดว่าทะเลช่วงกลางวันกับกลางคืนมีความสวยที่แตกต่างกัน แต่ผมก็ชอบมันแม้ว่าตอนกลางคืนทะเลจะดูลึกลับน่ากลัว แต่ถ้าพอได้ทอดสายตามองแล้วกลับรู้สึกว่าภายในใจนั้นสงบเสียเหลือเกิน

“มาแล้วหรอมึง นึกว่าจะหลง” เสียงไอ้ว่านทักผม หลังจากที่เราเดินขึ้นบันไดทางด้านหลังร้านมาถึงห้องพักนักร้องที่ทางเจ้าของจัดไว้ให้ ก่อนจะออกไปทำการแสดงจริง

“มึงมานานยังวะ”
“เพิ่งมาไม่นาน” ไอ้ว่านตอบกลับ ก่อนจะมองเลยไปข้างหลังผมแล้วยกมือขึ้นทักทาย
“หวัดดีแทนคุณ”
“หวัดดี” แทนคุณพยักหน้ารับพร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ

“มึงออกไปหาที่นั่งรอกูก่อนก็ได้” ผมหันไปบอกเขา แทนคุณเองก็ดูจะเห็นด้วยถึงได้หันหลังเดินออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันจะออกไป ประตูข้างนอกก็เปิดเข้ามาเสียก่อน ทำให้แทนคุณต้องเบี่ยงตัวหลบ

“มากันแล้วหรอวะ” คนที่เปิดประตูเข้ามาเอ่ยทักทันทีที่เห็นหน้า ผมถึงได้ยกมือขึ้นไหว้แก
“พี่เต้ สวัสดีครับ”
“เฮ้ย ไม่เจอกันนานมาก สบายดีไหมมึง”
“เรื่อยๆพี่”  ผมตอบพี่เต้ที่ตอนนี้ดูเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนมาก พี่เต้เมื่อสมัยก่อนก็เป็นผู้ชายที่หน้าดุเหมือนตอนนี้แหละ เพียงแต่สมัยหัวเกรียนนั้นแกไม่ได้ไว้หนวดคล้ายบอยปกรณ์แบบนี้ ผมเลยรู้สึกว่าหน้าแกดูโหดขึ้นไม่เหมาะกับคนที่เรียนเป็นครูเลยสักนิด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้แกดูหล่อน้อยไปกว่าแต่ก่อนเลย

“นี่มันไอ้เดือนมหา’ลัยนี่หว่า มากับมึงหรอวะ” พี่เต้พยักเพยิดไปทางแทนคุณที่ยืนอยู่นิ่งๆ
“เอ่อ..ครับ”
“ชื่ออะไรนะมึง” พี่เต้หันไปถามแทนคุณในขณะที่แกเดินมาใกล้ผม
“แทนคุณ”
“เออ กูเต้นะ เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเก่าของไอ้เตี้ยนี่” พี่เต้ว่าพร้อมพาดแขนเกี่ยวคอผมเข้าไปใกล้ แล้วขยี้หัวผมแรงๆ

“เฮ้ย พี่เต้ หัวผมเสียทรงหมด”
“มึงแม่งเตี้ยมาแต่ไหนแต่ไรจริงๆเลย”
“กูออกไปรอข้างนอกนะ ยู”

 เสียงแทนคุณดังขึ้นมาแหวกเสียงหัวเราะของพี่เต้ และนั่นก็ทำให้แกหยุดทำร้ายร่างกายผมด้วยเช่นกัน ผมผละตัวออกจากพี่เต้แล้วมองหน้าแทนคุณที่ตอนนี้หน้าบึ้งอย่างชัดเจนบวกกับเมื่อสักครู่ที่น้ำเสียงเขาดูแข็งผิดปกตินั่นอีก ทำให้ผมเดาได้ว่ามีบางอย่างที่ทำให้แทนคุณไม่พอใจ

ไม่ทันที่ผมจะได้พูดอะไรออกไป แทนคุณก็เปิดประตูห้องออกไปเสียก่อน ผมเลยได้แต่เกาหัวงงๆ หันไปมองพี่เต้ที่ยืนอยู่ข้างๆก็เห็นแกมองตามแทนคุณที่เดินออกไปก่อนพี่แกจะหันไปหาไอ้ว่านแล้วบอกให้ทั้งผมทั้งว่านเตรียมตัวให้พร้อมเพราะจะขึ้นเวทีแล้ว เสร็จแล้วพี่เต้แกก็เดินออกไป

“กูว่าแทนคุณแม่งต้องขี้หึงมากแน่ๆอ่ะ เจองานช้างแล้วล่ะมึง” ไอ้ว่านวุ้นเป็ดเดินมากระแซะไหล่ผมแล้วเดินออกจากห้องไปเช่นเดียวกัน

“พูดอะไรของแม่งว่ะ” ผมพึมพำคนเดียวก่อนจะเดินตามออกไปบ้าง

วงของพี่เต้นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 ชีวิต รวมผมที่เป็นนักร้องนำก็เท่ากับมี 5 ชีวิตด้วยกัน โดยมีพี่เต้เป็นมือกลอง พี่โอมมือเบส พี่ฟางคีย์บอร์ดและไอ้ว่านกีต้าร์ แต่ก่อนที่ไอ้ว่านจะมาเล่นกีต้าร์ให้นั้น พี่โอมแกมาเล่นให้ก่อนแต่พอพี่เต้มาเจอกับไอ้ว่านเข้าก็เลยขยับพี่โอมไปเป็นมือเบสแทน เอาจริงๆพวกพี่ทั้งสามเขาเก่งดนตรีกันหลายชนิดนะ ซึ่งมีอะไรบ้างก็จำไม่ค่อยจะได้หรอก

“สวัสดีครับทุกคน พบกับพวกเราเจ้าเก่าหน้าเดิม เดอะแซมเปิ้ล วันนี้เรามีความยินดีที่จะให้พวกคุณได้รู้จักกับนักร้องนำรับเชิญของเรา น้องยูครับ” เสียงพี่โอมพูดบอกกับทุกคนพร้อมกับที่มีเสียงปรบมือดังมา

“ไม่ต้องเสียเวลา เรามาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นเลยแล้วกันครับ วัน ทู ทรี”

พี่เต้เคาะไม้กลองเข้าหากันก่อนจะรัวกลองรับต่อจากเสียงกีต้าร์ของไอ้ว่านเข้าทำนองเพลงแรกของค่ำคืนนี้ ผมคว้าไมค์แล้วร้องเพลงตามคิวที่ได้รับมา

(ยินดีต้อนรับ – Spoonfluz)
เป็นคืนอีกคืนที่แสนวุ่นวาย
แต่ภายในใจ ฉันว่างเปล่า
และนี่คือคืนที่รักของเรา จะไม่มีทางย้อนมา
มองเห็นบางคนเพิ่งร้องไห้ผ่านไป
และคนนั้นเพราะความห่างไกลจึงร้างลา

บางคนรักแต่คนไม่ดี ทิ้งกันไปทุกที
บางคนไม่เคยจะมีใครเข้ามา


ผมกวาดตามองไปทั่วพื้นที่เพื่อหาว่าแทนคุณนั่งอยู่ตรงไหน ก่อนจะพบว่าเขานั่งอยู่มุมสุดของร้านทางด้านซ้ายมือของผม ติดกับระเบียง ตอนนี้เขากำลังนั่งมองผม พร้อมยกแก้วในมือขึ้นกระดกเป็นพักๆ

ยินดีต้อนรับทุกคนในคืนอกหัก คำคืนที่ไม่มีใคร
ยินดีต้อนรับสู่ความผิดหวังที่เธอมาทิ้งกันไป
ร้องเพลงให้ดังสนั่น มีเราเท่านั้นที่เข้าใจ กันและกัน

ยินดีต้อนรับทุกคนในคืนเจ็บปวด ค่ำคืนที่ทรมาน
ยินดีต้อนรับสู่ความผิดหวังที่เจ็บและช้ำมานาน
เรามาฉลองรวมกัน ให้วันที่เสียใจ


ผมเองก็จ้องมองเขาไม่ละสายตาเช่นกัน ก่อนจะเบนสายตามองไปรอบๆที่เห็นคนโยกตัวไปมาตามจังหวะบ้างก็ร้องตามเพลงที่ผมร้องบ้างก็กำลังนั่งคุยอย่างออกรสชาติ ผมเห็นมีผู้หญิงโต๊ะหนึ่งมองไปทางแทนคุณบ่อยๆด้วยเช่นกัน และก็แอบเห็นบางคนยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปหรืออัดวีดีโอด้วย

เพลงแรกจบลงก็ต่อด้วยเพลงที่สองและสามตามมาอย่างที่ไม่ให้ได้พักกันเลย พอจบเพลงที่สามผมเห็นมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปขอชนแก้วกับแทนคุณ ผมขมวดคิ้วมุ่นแล้วจ้องแทนคุณตาแทบไม่กระพริบ

“ใครอยากขอเพลงอะไรขอกันมาได้นะครับ สำหรับเพลงต่อไปขอเปลี่ยนแนวมาโจ๋งครึ้มกันหน่อยครับ” ไอ้ว่านพูดจบ ก็เป็นจังหวะเคาะไม้ให้สัญญาณเตรียมพร้อม ผมเองก็พูดกรอกไมค์เพื่อเข้าเพลง

“ยุ่งได้แต่อย่าเยอะนะครับ”

เสียงเพลงขึ้นมาทำเอาแขกในร้านหยุดทุกสิ่งอย่างเพื่อมองมาที่หน้าเวที เพราะตอนนี้พวกผมกำลังเล่นเพลงรีมิกซ์ โดยคัดเพลงลูกทุ่งมันๆมา มีบางโต๊ะถึงขั้นลุกขึ้นมาเต้น

(สกัดดาวยั่ว – ใบเตยอาร์สยาม)
เตือนมาเตือนให้ทราบกันหน่อย มาพักนี้มันเริ่มเจอบ่อย ก็ประมาณว่าฉันใส่สร้อย
เจอะบางคนจ้องจะเอาสร้อย เล่นดึงจากคอทั้งที่ห้อยอยู่
เคยควงแฟนไปเที่ยวในผับ พอลุกปั๊บ she เริ่มมาอ่อย ทอดสะพานกันหน้าละห้อย
แต่ในใจจ้องจะมาสอย เอาแฟนฉันไปใช้สอยที่บ้าน
งั้นต้องระวัง งั้นต้องระวัง เตรียมตัวระวัง ตรวจเช็คตั้งด่าน
ใช้มาตรการ ใช้มาตรการ ใช้อำนาจจัดการ พวกทอดสะพาน ด้วยการตัดไฟ
เจอะดาวยั่ว ต้องรีบสกัด ให้มันชะงัด ให้ She สะท้าน ถ้ายังตามมารังควาน ให้จัดการตอกหน้ากลับไป
เจอะดาวยั่ว ต้องรีบขจัด ให้มันชะงัด ต้องเอาให้อาย อย่าไปมัวเกรงใจ ถ้าเกิดเสียแฟนไป ช่วยไม่ได้นะ


แล้วดนตรีก็เปลี่ยนมาเข้าเพลง ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ตามด้วยชิมิชิมิ   มีหลายโต๊ะลุกขึ้นมาเต้นตามจังหวะ และมีเสียงหัวเราะสนุกสนานที่ได้เจอกับความแปลกใหม่ จบจากชิมิชิมิ ก็เข้าเพลงคันหู และปิดท้ายด้วยเพลงคนบ้านเดียวกันที่ไม่รู้ว่ามันเข้ากันกับเพลงอื่นๆตรงไหน แต่ผมก็เห็นว่าแทนคุณกำลังหัวเราะอย่างหนัก จนผู้หญิงที่เดินเข้าไปหาเขานั้นต้องกลับไปนั่งลงที่โต๊ะตามเดิม


คืนนั้นผมได้เสียงตอบรับที่เรียกว่าดีมากเลยทีเดียวจากคนในวงและคนดู ผมถูกรีเควสให้ร้องเพลงอยู่หลายแนวแต่เราก็อยู่บนเวทีได้แค่สองชั่วโมงตามตกลงกับทางร้าน ก่อนที่จะเบรกให้วงอื่นมาเล่นคั่น ถ้าวันศุกร์พวกพี่เขาจะถูกให้เล่น 1 รอบ ส่วนวันเสาร์จะถูกขอให้เล่น 2 รอบด้วยกัน ซึ่งรอบที่สองจะเล่นตั้งแต่เที่ยงคืนถึงร้านปิด รอบแรกเริ่มเล่นตอนสองทุ่มถึงสี่ทุ่ม แล้วก็พัก ซึ่งถือว่าวันนี้เป็นการชิมเวทีของผมที่ค่อนข้างโอเค

“ไปๆ มึงแดกข้าวกันโคตรหิวเลย”
“เพื่อนผมจองโต๊ะไว้แล้วพี่”

ผมตะโกนบอกพี่ๆเขา แต่ดูเหมือนว่าพี่โอมพี่ฟางจะขอบายเพราะแกบอกว่าวันนี้แกเหนื่อยมากอยากจะรีบกลับไปนอนมากกว่า พวกเขาเลยตั้งใจว่าจะไปโซ้ยตามสั่งที่ตลาดโต้รุ่งแล้วกลับหอ เลยเหลือแค่พี่เต้และไอ้ว่านที่เดินตามผมมาที่โต๊ะที่แทนคุณนั่งอยู่


“มีไรกินบ้างวะ” ผมหย่อนก้นลงนั่งข้างแทนคุณแล้วก็ถามเขาทันที
“อ้าว กูเพิ่งสั่งเขาเช็กบิล” แทนคุณตอบกลับพลางมองผ่านผมไปที่พี่เต้ แล้วหันกลับมามองผมพร้อมพูดอีกครั้ง
“ก็กูนึกว่ามึงเล่นเสร็จก็จะกลับ กูเลยเรียกเขาคิดเงินเลยอ่ะ ขอโทษว่ะ” 

“งั้นไปแดกโต้รุ่งกันเถอะ” ไอ้ว่านออกความคิดเห็นผมก็เลยพยักหน้าเห็นด้วย 
“พี่ไปหาร้านรอก่อนแล้ว ไอ้ว่านมึงจะไปกับกูมั้ย”
“ไปพี่”

ผมมองไอ้ว่านที่เดินตามพี่เต้ออกไป ก่อนจะหันกลับมามองแทนคุณอีกครั้ง ก็เห็นว่าเขากำลังจ้องพี่เต้ไม่วางตา

“มึงมีอะไรกับพี่กูป่าววะ” แทนคุณหันมาหา พร้อมกับจ้องผมอยู่แบบนั้น
“เป็นอะไรวะ จ้องกูแบบนี้มีปัญหาอะไร”

“มึงแม่ง!” แทนคุณว่าแล้วตีลงมาบนหน้าผากผมดังแปะ
“มึงตีกูทำไมเนี่ย”
“กูหงุดหงิด กูไม่ชอบขี้หน้าพี่มึงเลย กูไม่ให้มึงมาร้องกับวงมันอีกแล้ว”
“ไม่มีเหตุผลว่ะ”
“กูเป็นพ่อทูนหัวมึง กูมีสิทธิ เหตุผลแค่นี้ได้มั้ย”
“กูไม่คุยกับมึงแล้ว แม่ง” ผมเองก็หงุดหงิดที่แทนคุณทำตัวไม่มีเหตุผล เลยลุกหนีออกมาแล้วมารอเขาที่รถแทน

ไม่นานแทนคุณก็เดินตามมา เขาปลดล็อกรถผมเลยขึ้นไปนั่งรอบนรถ หน้าตาของผมตอนนี้คงบอกบุญไม่รับเลยทีเดียว แทนคุณขึ้นมานั่งประจำที่พร้อมกับสตาร์ทรถแต่ยังไม่ขับออกไป เขาหันมามองหน้าผมที่ยังทำตัวเป็นปลาทูหน้างอคอหัก

“ขอโทษ กูแค่ไม่สบอารมณ์ไปหน่อย”
“............”
“ก็ใครใช้ให้พี่มึงมาถูกเนื้อต้องตัวมึงแบบนั้นว่ะ กูก็แค่.......”
“.............”
“หวงมึง กูขอโทษนะ”

ผมหันไปมองหน้าแทนคุณหลังจากที่เขาพูดมันออกมา คำว่าหวงของแทนคุณนั้นเล่นเอาผมอมยิ้ม แต่ก็ต้องแสร้งเก็กหน้าขรึมไว้ก่อนเพราะไม่เคยเห็นแทนคุณในโหมดนี้มาก่อนต้องตักตวงเอาไว้ให้มากๆ

“กูแม่งงี่เง่า กูไม่เคยบอกมึงหรอวะว่ากูอ่ะขี้หึงมาก แม่งเอ้ย! ตอนเห็นเชี่ยพี่เต้นั่นกอดคอมึงนะ กูอยากจะเข้าไปกระชากมึงออกมา แต่กูก็กลัวมึงเจ็บ โคตรหงุดหงิดเลยแม่ง”

ผมยิ้มออกมาจนได้ ก่อนจะหลุดเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ แทนคุณถึงได้หันมามองผมตรงๆ เขายกมือขึ้นมาแตะลงที่แก้มของผมก่อนบิดแก้มผมไปมา

“โอ้ยย กูเจ็บ” ผมร้องออกมาแทนคุณเลยปล่อยมือออกแล้วเปลี่ยนมาถูที่แก้มผมเบาๆ

“กูเพิ่งรู้ว่ามึงน่ารักขนาดไหนก็วันนี้อ่ะ ยู แต่ก่อนกูก็มองว่ามึงแม่งตลกอ่ะ หน้าตาดูเด๋อๆเอ๋อๆ ใส่แว่นตากลมๆอย่างกับแฮร์รี่ แก้มก็ป่อง ผิวก็โคตรขาวจนแก้มมึงเป็นสีชมพู ปากก็แค่เนี้ย” เขาว่าพลางบีบปากผมไปด้วย

“ตาโตๆใต้แว่นมึงมันก็แบ๋วเกินไป แล้วดูตัวมึงดิ ผอมไม่พอยังเสือกเตี้ยอีก โคตรคล้ายหนูแฮมเตอร์เลยสัด”
“กูรู้ว่าเตี้ย ไม่ต้องตอกย้ำกูก็ได้ม้ะ”
“สงสัยต้องขุนมึงให้โตกว่านี้”
“เออ งั้นก็รีบไปขุนเลยเพราะตอนนี้กูหิวมากกกกกกกก” จบคำพูดผมเสียงท้องก็ร้องออกมาดังโครกครากให้ชวนอายแต่ต่อมความหน้าด้านของผมทำงานอย่างหนัก ผมเลยสู้ตาแทนคุณที่มองมาอย่างล้อเลียน

“โอเคครับผม จะรีบพาไปกินเดี๋ยวนี้เลย”

แทนคุณเอามือกลับไปจับพวงมาลัยและอีกข้างเข้าเกียร์ก่อนจะพารถออกตัวไปยังท้องถนน มุ่งหน้าสู่ตลาดโต้รุ่งที่มีอาหารรอให้ผมเลือกสรรอยู่มากมาย

สุดท้ายแล้วคืนนั้นผมก็พลัดกันกับไอ้ว่าน เลยต้องโทรไปบอกมันว่าแทนคุณขับรถเลยตลาดเพราะคิดว่าเป็นตลาดโต้รุ่งหลังมอ ซึ่งผมไม่ได้บอกความจริงว่า แทนคุณจงใจไม่พาผมไปที่ตลาดโต้รุ่งที่อยู่ถนนถัดไปไม่ไกลจากร้านที่ทำงาน ซึ่งไอ้ว่านก็ไม่ได้ว่าอะไร มันบอกผมตอนก่อนจะวางว่าพี่เต้แอดไลน์ผมไป เขาขอมาจากมันซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรมันเช่นกัน แต่เลือกที่จะไม่บอกแทนคุณ ไม่ใช่ว่าอยากปิดบังอะไรหรอก ผมก็แค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรที่ต้องรายงาน

ผมมีพ่อคนเดียวก็พอแล้ว ไม่ได้อยากมีพ่อเพิ่มหรอก
แม้แทนคุณจะบอกว่า เขาเป็นพ่อทูนหัว ของผมก็เถอะนะ


 


 
จบตอน
   

 สวัสดี เรามาแล้ว หายไปสามวันมีคนคิดถึงเราไหม 5555  :hao3:
อุปสรรคที่ 2 โผล่มาแล้ว เรามาดูกันต่อเถอะค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต เอิ๊กกกก
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 27-10-2016 21:09:26
อย่ามีดราม่าเรื่องมือที่สามเลย อึดอัดมากถ้าแบบนี้ แต่ยูกับแทนคุณสู้ๆฝ่าฟัน
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-10-2016 22:26:42
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 27-10-2016 22:31:29
น้องยูไม่ระวังตัวเลย  แถมคิดจะปิดยังอีก
ระวังตะมีเรื่องตามหลังน๊า
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-10-2016 22:59:30
ปัญหากำลังจะมา 555555
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 27-10-2016 23:26:23
สรุปคือ แทนคุณขี้หึงนะคะน้องยู เพราะงั้นอย่าให้ใครมาจับต้องง่ายๆนะ แล้วก็แทนคุณน้องยูน่ารักมานานแล้ว ยิ่งขึ้นเวทียิ่งเปล่งประกายนะ ระวังดีๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 28-10-2016 02:28:23
เป็นอุปสรรคที่น่าจะเข้ามาทำให้ทั้งคู่ได้เรียนรู้และรู้จักกันและกันมากขึ้นนะ ยูไม่บอกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาเล็กๆน้อยไม่ได้เสียหายอะไรแต่แทนคุณดูแล้วคงทั้งขี้หึงและหวงแฟนน่าดู อาจจะมีปัญหาตามมาแต่เราเชื่อว่าจะไม่ดราม่าเพราะคนแต่งบอกไว้แบบนั้น รอตอนต่อไปค่ะ ไม่เอาหายไปหลายวันแบบนี้นะคะ กดเข้ามาดูทุกวันเลยรออยู่ตลอด
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-10-2016 06:29:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 28-10-2016 08:25:38
แทนคุณคนขี้หวง
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 28-10-2016 12:43:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-10-2016 14:35:55
งานเข้ายูแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-10-2016 15:36:48
อ่านทันแล้ว

ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 03-11-2016 01:05:24
งานเข้าอีกแน่ๆ  เจ้าแทนคุณ คนขี้หวงเอ๊ยยย
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 05-11-2016 00:02:57
เรื่องน่ารักดี o13
แทนคุณหึงได้งี่เง่ามากจ้าาาา :m16:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 08-11-2016 21:16:24
อยากให้คุณนักเขียนช่วยแจ้งหน่อยน่ะค่ะว่าจะมาอัพอีกทีเมื่อไหร่เราติดตามอ่านเรื่องนี้อยู่ ตอนแรกมาสม่ำเสมอมากแต่ตอนนี้หายไปหลายวันจังค่ะ
หวังไว้เล็กๆว่าเรื่องนี้คงจะไม่โดนเทหรอกนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 11-11-2016 08:04:21
ตอนพิเศษคั่นเวลา
❤ MISSIN’ U


Note: เนื้อหาในตอนนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคต ตัวละครบางตัวจึงยังไม่ปรากฏในเนื้อเรื่องหลักปัจจุบัน





แสงแดด สายลม กลิ่นหอมของดอกไม้
ทุกอย่างกำลังโอบล้อมผมอยู่  แต่ทุกอย่างที่รายล้อมผม มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลยสักนิด






ผม....
อยากเจอเขา
อยากโอบกอดเขา
อยากสัมผัสถึงความอบอุ่นระหว่างเรา






แต่ผมทำได้แค่.........



.
.
.




ไอโฟนในมือถูกแกว่งไปมาพร้อมกับที่ดวงตาคมจ้องมองไปที่เบื้องหน้าดูความวุ่นวายของท้องถนนที่กำลังมีรถวิ่งสวนกันไปมา ผู้คนเดินบนทางเท้าเดินกันพลุกพล่าน ความวุ่นวายและเสียงที่ดังเซ็งแซ่ภายในที่ทำงานจากเพื่อนร่วมงานหลายคนวิ่งเข้าโสตประสาทแค่ผ่านหูซ้ายและทะลุออกไปเพียงเท่านั้น




แทนคุณ เหงา...
เขากำลังรู้สึกเหงาและวูบโหวงในหัวใจอย่างประหลาด ดวงตาคมฉายแววอ่อนล้าให้เห็นเด่นชัดยามที่อยู่คนเดียวเพียงลำพัง มือหนาที่กอบกุมโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่เอาไว้หยุดหมุนมันเล่นไปมาแล้วจ้องมันเพียงแค่นั้นอยู่หลายสิบนาที


ยูกำลังทำอะไรอยู่นะ...จะคิดถึงกันบ้างหรือเปล่า?





“เฮ้! แทนคุณ” เสียงแหบห้าวดังขึ้นพร้อมความหนักที่บ่าเมื่อถูกแขนยาวพาดผ่านมาวางทับ เจ้าของชื่อหันมองคนมาใหม่ด้วยรอยยิ้มจางๆที่ประดับตกแต่งอยู่เป็นนิจเวลามีคนเอ่ยทักตน

“คิดถึงยูอยู่ล่ะซิ”
“.......” ไม่มีคำตอบมอบกลับให้แก่พระลักษณ์แต่อย่างใด นอกจากรอยยิ้มจางๆของแทนคุณพร้อมกับที่ชายหนุ่มจับจ้องอยู่แค่ไอโฟนในมือตัวเองเพียงเท่านั้น


“ถ้าคิดถึงก็โทรหาสิวะ”
“กูไม่อยากรบกวนเวลาพักผ่อน”

ในที่สุดแทนคุณก็เอ่ยตอบออกมา พระลักษณ์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะหมุนตัวเท้าศอกไว้กับราวระเบียงเหล็กของตัวอาคารทั้งสองข้างพร้อมทอดสายตามองความวุ่นวายภายในตัวตึก


“แล้วจะทรมานหัวใจตัวเองแบบนี้อีกนานเท่าไหร่ล่ะ ถ้ามึงโทรไปยูเค้าก็ไม่ว่าอะไรมึงหรอก”
“รู้...แต่...”

“แทนคุณ เพราะมึงเอาแต่คิดว่ามันจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายยังไงล่ะ ถึงได้ไม่ได้คุยกันแบบนี้...บางที ฝ่ายนู้นเองก็อาจคิดเหมือนกันกับมึงและอาจรอให้มึงโทรไปหาเหมือนกันก็ได้นะ”

แทนคุณมองมือถือตัวเองอีกครั้ง ชื่อที่แสดงอยู่ในหน้าจอตอนนี้ก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากยู


หากเขาจะแค่เพียงตัดสินใจกดปุ่มโทรออก แทนคุณก็รู้ดีว่าต่อให้อีกฝ่ายนั้นหลับแล้วหรือยุ่งวุ่นวายแค่ไหนพอเห็นว่าใครโทรเข้าก็จะรับมันและกรอกเสียงหวานหูให้ความรู้สึกวูบโหวงในหัวใจของเค้ามันหายไป

แต่....


ถ้าไม่ใช่เพราะเวลาที่มันไม่ตรงกัน แทนคุณก็คงจะโทรไปหาแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะสาเหตุที่ยูไปอยู่คนละซีกโลกนั้นเป็นเพราะต้องเรียนต่อแล้ว
แทนคุณก็อยากจะรบกวนอีกฝ่ายทุกวัน...


แต่เพราะเมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่ได้ฟังน้ำเสียงอิดโรยของยู พร้อมคำบอกเล่าที่ว่าคนรักของตนกำลังทำโปรเจ็คใหญ่และจากที่คุยกันจนยูเผลอหลับไปทั้งที่เขายังพูดกันไม่รู้เรื่องดีด้วยซ้ำ

วันนี้ แทนคุณก็อยากจะโทรไปหาเหมือนกัน

และถ้าหากเมื่อสามวันก่อนที่ ส่งข้อความไปแล้วได้รับข้อความตอบกลับมาหลังจากถามว่า...

เหนื่อยมั้ย? เรียนหนักหรือเปล่า?
แล้วคำตอบจะไม่ใช่....ทั้งเหนื่อย ทั้งเรียนหนัก
แทนคุณก็อยากที่จะโทรไปอยู่เหมือนกัน




“มัวรออะไรอยู่ละวะ โทรไปดิ”
“ไม่ดีกว่าว่ะ”
“เออนะ งั้นมึงก็ทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนี้ต่อไปเถอะ” ลักษณ์ไหวไหล่เล็กน้อยก่อนจะทิ้งเพื่อนของตนไปโดยไวเมื่อสายตาพลันเห็นใครบางคนเดินผ่านสายตาไปแว่บๆ

เรื่องของเพื่อนคงปล่อยให้เป็นเจ้าตัวเองที่ต้องแก้ไข
เหมือนกับของพระลักษณ์เองที่กำลังจะไปทำทุกวิถีทางให้ตัวเองสมหวังในความรักด้วยเช่นกัน




แทนคุณเพียงแค่หันหน้ามามองเพียงนิดหางตาพลันเห็นว่าเพื่อนตัวเองรีบถลาไปทิศทางใดก็ได้แต่ส่ายหน้าพลางอมยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันมาสนใจกับหน้าจอมือถือที่มีรูปคนรักของตนฉีกยิ้มกว้างชูสองนิ้วให้อยู่ในนั้น


ภาพล่าสุดก่อนที่ยูจะบินไปเรียนต่อไกลถึงอีกทวีปหนึ่ง

“ยู โคตรคิดถึงเลยว่ะ”

เสียงแหบห้าวเอ่ยกับสายลมที่พัดผ่านไปมา เอ่ยผ่านให้สายลมหอบเอาคำพูดนั้นไปยังคนที่อยู่ต่างแดนที่พื้นฟ้าเป็นคนละสีตัดกันกับท้องฟ้าที่แทนคุณเห็นอยู่ในเวลานี้








.
.
.

.





ดวงจันทร์กำลังลอยเด่น ดวงดาวกำลังส่องแสงระยิบระยับ
ลมกำลังโชยพัด กระทบใบหน้าให้รู้สึกสดชื่น.....แต่เวลานี้ ผมกำลังรู้สึกว้าเหว่

ผมเหงา........และผม
ก็คิดถึงเขา




.
.


ผ้าคลุมถูกกระชับให้โอบไหล่ลาดภายใต้เสื้อยืดสีน้ำตาลเข้มมากยิ่งขึ้น ดวงตากลมโตภายใต้แว่นเลนส์บบางมองผ่านความมืดไปบนท้องฟ้าเห็นหมู่ดาววาวแสงล้อเล่นกับดวงจันทร์ลูกกลมๆสีเหลืองนวลอย่างน่าสนุกสนาน แม้กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกดีที่กำลังรายล้อมตัวเค้าอยู่นั้น มีความรู้สึกอบอุ่นเจือแฝงอยู่ด้วยสักนิด


ยูต้องการคนๆนั้น....
ต้องการสัมผัสความอบอุ่นที่เลือนหายมานานเกินปี
ต้องการแม้กระทั่งได้ยินน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ห่างหายมาเกือบสองอาทิตย์


กำลังทำอะไรอยู่นะ แทนคุณ...
จะกำลังคิดถึงกัน เหมือนอย่างที่คนทางนี้คิดถึงหรือเปล่า?



โปรเจ็คต่างๆที่มันควรจะดำเนินต่อไปในเวลานี้ถูกวางทิ้งเอาไว้บนโต๊ะอย่างเดิมเมื่อเวลานี้จิตใจของยูไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หัวก็ตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออกนอกจากใบหน้าของคนที่คิดถึงเหลือเกิน


ก็อกๆๆ

เสียงเคาะประตูจากภายนอกทำให้ยูดึงตัวเองออกมาจากโลกส่วนตัวก่อนจะขานรับออกไปให้ผู้บุกรุกยามวิกาลได้รับรู้

“ครับ”
“ทำงานอยู่หรอ ยู?” เสียงของพี่ชายเจ้าของบ้านที่ยูมาอาศัยอยู่ด้วยเอ่ยถามพร้อมกับที่ในมือมีนมอุ่นถือติดมาด้วย ก่อนจะแทรกตัวเองเข้ามาภายในห้องเมื่อยูเบี่ยงตัวหลบให้ แล้ววางแก้วในมือลงบนโต๊ะที่มีโน๊ตบุ๊คเปิดค้างเอาไว้

แต่ข้อความที่ปรากฏอยู่ในสายตาของพระรามมันทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า ยูเห็นว่าอีกฝ่ายล่วงรู้อะไรเข้าสักอย่าง จึงรีบปราดมาปิดพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คลงเสีย เป็นผลให้รามส่งสายตาวาวอย่างล้อเลียนมาให้อย่างเต็มที่

“อะไรกันเล่าพี่”
“เปล่านิ พี่ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร” ยูหลุบสายตาลงต่ำเมื่อแววตาล้อเลียนจากพี่ชายเจ้าของบ้านมันเด่นชัดเสียเหลือเกิน แถมรอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ทำเอายูรู้สึกอยากมุดแทรกพื้นบ้านหนีนั่นอีก


เค้าไม่น่าพิมพ์อะไรแบบนั้นไว้ในคอมที่กำลังพิมพ์รายงานค้างไว้เช่นนั้นเลย




ไอ้บ้าแทนคุณ
คิดถึงจะตายอยู่แล้วโว้ย
อยากเจอ
อยากได้ยินเสียง

ทำไมไม่โทรมาสักที




“ถ้าคิดถึงขนาดนั้น ทำไมไม่โทรไปหาเองเลยล่ะ” รามเอ่ยขึ้น พลางให้ยูพรูลมหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้แรงๆ

“ผมไม่อยากรบกวนเวลาเขาทำงาน”
“ทำไมล่ะ? เวลาพักก็มีไม่ใช่รึไง”

“ก็....”
“ตามใจนะยู อยากทรมานตัวเองแบบนี้ก็ได้นะ พี่ก็ไม่รู้จะแนะนำอย่างไรดี” แรงตบลงบนไหล่เบาๆ เป็นสัญญาณว่าพี่ชายคนนี้ให้คำปรึกษาได้ดีที่สุดก็เท่านี้ เรื่องแบบนี้ตัวเองเท่านั้นที่จะตัดสินใจ

 
“แค่กดปุ่มโทรออกมันจะยากเย็นอะไรนักหนา” รามเปรยเป็นประโยคบอกเล่าธรรมดาก่อนจะปิดประตูห้องให้อีกฝ่ายอย่างเงียบเชียบ


เสียงบอกเล่าที่แผ่วเบาแต่ดังชัดให้ยูได้ยิน พาเอาลูกแก้วแวววาวทิ้งนิ่งไปยังสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่บนโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างโน๊ตบุ๊คของตน


“แล้วทำไมกูต้องโทรไปหาก่อนด้วย”

ปากเล็กงุบงิบงึมงำพลางเชิดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะฟุบหน้าลงบนโต๊ะทำงานพลางทอดถอนหายใจ แล้วให้เท้าคางกับแขนที่วางนาบไว้กับโต๊ะ มืออีกข้างจับวัตถุอิเล็กทรอนิกสีดำขึ้นตั้งแล้วใช้ปลายนิ้วเลื่อนไล่ไปตามชื่อแล้วหยุดนิ่งอยู่ที่ชื่อใครคนนั้น


คนที่ยูคิดถึงเหลือเกิน


“แล้วทำไมไม่โทรมาหาอะ กูตะโทรไปหามึงทำไมกัน”
“หรือไม่คิดถึงกันเลยไม่โทรมา”


ยูพึมพำคนเดียวพลางนึกถึงเมื่อสามวันก่อนที่ได้รับข้อความจากแทนคุณ คำถามสั้นๆแค่ 2 ประโยค คำถามเรียบๆที่ไม่มีคำหวานเอ่ยติดมาด้วย แต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงใยของแทนคุณ

ทว่าพอตอบกลับไป แทนที่จะได้รับข้อความกลับมาอีก
ปรากฏว่าไม่มี

ไอ้เราก็นึกว่าอีกฝ่ายจะพิมพ์กลับมาเมื่อเห็นคำตอบแล้วอย่างเช่น พยายามเข้านะกูเอาใจช่วยอยู่ หรือ กูรออยู่นะ สู้ๆ อะไรทำนองนั้น

แต่นี่....คนๆนั้นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรักของเค้ากลับหายเงียบไปเสียเฉยๆ


เกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่แทนคุณ
หรือ.......จะไม่รักกันแล้ว


แค่คิดยูก็พาลจะน้ำตาไหล แต่เพราะรู้ว่าแทนคุณไม่ใช่คนแบบนั้น
เค้าเชื่อ แทนคุณไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่ ถ้าทำจริง....แทนคุณก็จะบอกกันตรงๆไม่ใช่หายไปแบบนี้



เพราะฉะนั้นตอนนี้....ทางเดียวที่จะรู้ว่าแทนคุณกำลังทำอะไร


โทรศัพท์ในมือถูกแกว่งไปมาอีกรอบก่อนที่ยูจะนั่งตัวตรงหลังพิงพนักเก้าอี้พร้อมชักสีหน้าเคืองใจนิดๆ ปากเล็กขมุบขมิบจับใจความได้สั้นๆว่า...




“เสียฟอร์มชะมัด”








.
.
.




ความวุ่นวายภายในแผนกเริ่มเบาบางลงเมื่อเข็มนาฬิกากำลังชี้บ่งบอกใกล้เวลาเลิกพักของพนักงานบริษัทกินเงินเดือน ชายหนุ่มเสยผมตัวเองลวกๆก่อนจะเก็บเครื่องมือสื่อสารเข้ากระเป๋ากางเกง แต่ไม่ทันที่จะได้ก้าวเท้าเข้าไปถึงบริเวณของแผนก แรงสั่นที่หน้าขาจากวัตถุที่เพิ่งจะยัดใส่ไปเมื่อสักครู่ก็ร้องบอกว่ามีคนโทรเข้า

และเบอร์โทรเข้าที่โชว์อยู่หราก็ทำให้แทนคุณฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ




‘Only YOU♥’




END..... ?

แถมนิดนึง



พระลักษณ์เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนรักที่กำลังยื่นซองกระดาษสีขาวมาให้ตรงหน้าด้วยความฉงนสงสัย เหลือบตามองนาฬิกาก็พบว่ามันยังไม่ถึงเวลาเลิกงานเสียด้วยซ้ำ แล้วเพื่อนขี้เก๊กที่อยู่ตรงหน้าก็แต่งตัวเต็มยศเตรียมกับบ้านเสียด้วย


“อะไรของมึง?”
“ใบลาพักร้อน”
“ห๊ะ!?”
“เออ อย่างที่มึงได้ยินนั่นแหละ กูลาพักร้อนนะ 2 อาทิตย์ เดี๋ยวกลับมา”
“มึงจะไปไหน?”
“ไปหายู”


บทสนทนาเรียบๆง่ายๆ ก่อนที่แทนคุณจะก้าวเท้าเดินจากไปโดยไม่รอคำตอบรับว่าได้หรือไม่ได้จากพระลักษณ์เลยสักนิด พาให้เพื่อนที่ถูกโยนก้อนขี้ก้อนโตๆมาตรงหน้าให้เป็นภาระได้แต่กุมขมับหนักจิตและคิดไม่ตกว่าจะเอาคำแก้ตัวเรื่องใบลาพักร้อน 2 อาทิตย์ของแทนคุณบอกแก่คุณป๊าของมันอย่างไรดี



ก็ในเมื่อทั้งเขาและแทนคุณเป็นเพียงพนักงานบริษัทที่ถูกคุณป๊าให้มาฝึกงานก่อนจะไปขึ้นแท่นผู้บริหารเพื่อสานต่อกิจการของที่บ้านที่ทั้งสองครอบครัวถือหุ้นร่วมกันอยู่น่ะสิ


“ให้มันได้งี้สิวะ...แล้วนี่มันจะไปหายู กูต้องโทรบอกพี่รามด้วยหรือเปล่านี่” ลักษณ์ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเมื่อรับรู้หน้าที่และภาระของตัวเองที่มีอยู่ในเวลานี้แล้วพลางถอนหายใจหนักๆ



“เป็นอะไรน่ะลักษณ์” เก็ตที่บังเอิญเดินผ่านหลังจากเอาเอกสารไปให้หัวหน้าแผนกเรียบร้อย หยุดถามชายหนุ่มที่ทำหน้าราวกับคนกำลังปวดขี้ เพราะเห็นแล้วดูน่าทรมานเลยอดเป็นห่วงนิดๆไม่ได้ ทั้งที่ไม่ได้อยากจะเสวนาด้วยเท่าไหร่ เพราะพระลักษณ์เป็นเจอหน้าเค้าไม่ได้ ต้องหยอดอะไรสักอย่างให้เค้ารู้สึกว่า


อย่าไปเสวนากับมันเลย เปลืองน้ำลาย!


พระลักษณ์เงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูที่เอ่ยถาม รอยยิ้มจึงวาดกว้างพร้อมกับที่มือหนาจะถือวิสาสะกอบกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้ เก็ตชักมือกลับพร้อมมุมปากกระตุกกับความเนียนปลาหมึกของพระลักษณ์


แต่เมื่อไม่ได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยตอบจึงถามย้ำไปอีกครั้ง

“ทำท่าเหมือนคนอมขี้ ตกลงเป็นอะไร?”
“ผม?” ลักษณ์ชี้นิ้วใส่ตัวเองพร้อมกับที่เก็ตพยักหน้าให้เป็นคำตอบย้ำอีกครั้ง

“ผมก็เป็นคนที่รักเก็ตน่ะสิครับ”

“...!!!....”



กูไม่น่าเป็นห่วงมันเลยสิ ให้ตาย!!




Real END !




ขออนุญาตเอาตอนพิเศษ (ที่แต่งไว้นานแล้วดัดแปลงมาจากเรื่องสั้น) มาลงคั่นเวลาให้ก่อนนะคะ
ช่วงนี้ภารกิจเยอะมากค่ะ พอดีที่ทำงานจะย้ายออฟฟิศแล้วชนช่วงตรวจคุณภาพเลยทำให้ต้องทำงานเลิกดึกมาเป็นอาทิตย์ๆไม่มีเวลามาต่อ (แต่ไม่ได้หายไปไหนนะ กำลังเขียนแต่มันยังไม่เสร็จเฉยๆ) แล้วไว้เจอกันในเนื้อเรื่องหลักค่ะ

ปล. เป็นไปได้จะรีบปั่นตอนหลักมาวันอาทิตย์นะคะ ^^ ขอโทษที่หายไปค่ะ

See you!

 :katai5: :katai4:





หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 13> 27/10/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 11-11-2016 08:05:56
อยากให้คุณนักเขียนช่วยแจ้งหน่อยน่ะค่ะว่าจะมาอัพอีกทีเมื่อไหร่เราติดตามอ่านเรื่องนี้อยู่ ตอนแรกมาสม่ำเสมอมากแต่ตอนนี้หายไปหลายวันจังค่ะ
หวังไว้เล็กๆว่าเรื่องนี้คงจะไม่โดนเทหรอกนะคะ



ไม่เทค่ะ
เรารักเรื่องนี้มากค่ะ แต่ด้วยภารกิจประจำวันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยทำให้ไม่ได้มาต่อ

นี่มาลงตอนพิเศษคั่นเวลาเพื่อแสดงตัวก่อนแล้วนะคะ

ขอบคุณที่เป็นกำลังใจและติดตามอยู่ตลอดมากๆเลยค่ะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-11-2016 09:01:15
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-11-2016 13:44:55
ทำอะไรตามใจคือแทนคุณสินะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-11-2016 14:16:57
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 11-11-2016 18:54:01
ขอบคุณที่มาแจ้งข่าวและตอนพิเศษค่ัะ จะรอตอนหลักนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 13-11-2016 20:10:53
แจ้งเพื่อทราบค่ะ
ก่อนอื่นต้องขออถัยที่ไม่ได้เอาตอนหลักมาลงให้อ่านตามที่แจ้งนะคะ เนื่องจากเปื่อยเสียก่อน เหตุเพราะพักผ่อนไม่พอ  พยายามจะเอามาลงแล้วแต่สมองตื้อเกินจะปั่นให้ครบตอนได้ (เพิ่งเขียนได้สามหน้า  :ling2:)

ขออนุญาตแจ้งอัพเดทลงนิยายต่อวันเสาร์ที่ 19 แทนนะคะ อาทิตย์นี้ไม่สามารถใช้คอมทำงานได้ด้วยเหตุที่เคยแจ้งเบื้องต้นเรื่องย้ายออฟฟิศค่ะ

หวังว่าจะไม่ลืมกันเสียก่อนนะคะ  :katai1:

ขออภัยจริงๆค่ะ  :ling3:  :mew6:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 13-11-2016 20:41:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 13-11-2016 20:46:40
รอได้ค่ะขอให้หายป่วยเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนพิเศษคั่นเวลา Missin'U> 11/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 13-11-2016 23:00:38
รอค่ะ
ยังไงก็รอออ  o13
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 20-11-2016 17:11:27

ตอนที่ 14 – เรื่องของเรา





“ห๊าววววว....อึบ”
ผมอ้าปากหาวจากอาการเมาขี้ตาในช่วงเช้าแล้วลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจคลายอาการเมื่อยขบตามร่างกาย สายตาไล่มองลงตรงบริเวณหน้าตักที่รู้สึกหนักถึงได้เห็นว่าบนกองผ้าห่มนั้นมีท่อนแขนของแทนคุณพาดผ่านอยู่พอมองไปด้านข้างก็เห็นแทนคุณนอนคว่ำสวมเสื้อกล้ามสีขาวบางๆโชว์กล้ามเนื้อหัวไหล่พาดแขนยาวมาบนตักของผมเล่นเอาหัวใจเต้นตึกตักก่อนจะตบแก้มตัวเองเบาๆ รับรู้ว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริง

ผมยกมือขึ้นลูบลงไปบนกลุ่มผมสีดำของแทนคุณสัมผัสลื่นๆของเส้นผมทำให้ผมนึกไปถึงแมวที่บ้านเลี้ยงเอาไว้แทนคุณขยับตัวเล็กน้อยทำให้ผมละมือออกก่อนจะยกแขนของเขาออกจากตัวเบาๆแล้วลุกจากเตียงไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟันเรียบร้อยออกมาก็เห็นว่าแทนคุณลุกขึ้นมานั่งขยี้หัวขยี้ตาอย่างคนยังไม่ตื่นดีนัก

“วันนี้มีนัดไปว่ายน้ำกับเพื่อนไม่ใช่หรอ” ผมถามในขณะที่แทนคุณหันมาพยักหน้าเป็นคำตอบ

“เดี๋ยวกูไปเตรียมอาหารเช้าให้นะ อยากกินไร”
“ได้หมด” แทนคุณตอบกลับพร้อมอ้าปากหาวแล้วสะบัดผ้าห่มออกจากตัว ผมเลยเดินออกจากห้องนอนไปยังส่วนครัวในห้องชุดคอนโด

ในตู้เย็นมีของสดอยู่บ้าง จำพวกไข่ เนื้อหมู เนื้อไก่ ไส้กรอก และผักเล็กๆน้อยๆ มีผลไม้อย่างส้มกับแอปเปิ้ล รวมไปถึงเครื่องดื่มหลากหลายประเภทไม่เว้นแอลกอฮอล์ แต่ที่น่าแปลกใจคือในตู้เย็นของแทนคุณมีไอศกรีมเป็นถ้วยๆอยู่หลายรสเต็มช่องฟรีซไปหมด ทำให้นึกถึงข้อมูลที่ได้มาจากน้องเจ้าขาว่าแทนคุณชอบกินไอศกรีมมาก

ผมหยิบเอาไส้กรอกออกมาทอด และทำไข่ดาวง่ายๆเป็นอาหารเช้า เพราะความจริงแล้วผมก็ทำอะไรไม่ค่อยเป็นหรอก อาศัยซื้อกินเอาเสียส่วนใหญ่เห็นน้ำผลไม้ในตู้เย็นก็ออกมาเทใส่แก้วไว้ให้พร้อมกับปิ้งขนมปังอีกสองแผ่นเป็นอันเสร็จ อาหารเช้า 1 ชุดสำหรับแทนคุณ ส่วนผมก็กินแค่ขนมปังทาเนยกับนมสดง่ายๆ

“หืม...นี่ทำยากไหมวะ” คำทักทายแรกที่แทนคุณเดินออกมาเห็นอาหารเช้าของตัวเอง
ผมเงยหน้ามองเขาพร้อมพยักหน้าตอบในมือยังถือขนมปังปากก็ยังเคี้ยวไม่หมด

“ขี้โม้ฉิบ”
“ไม่โม้” ผมกลืนขนมปังก้อนโตลงคอแล้วพูดต่อ
“การทอดไส้กรอกให้สุกกับไข่ดาวให้สวยไม่ใช่เรื่องง่ายนะเว้ยถ้าทำพลาดมันอาจจะไหม้ได้”
“ขี้อวดชะมัด” แทนคุณยังคงแซะไม่เลิก ผมเลยเลิกที่จะต่อปากต่อคำ เอาจริงๆมันก็ไม่ได้ยากอะไรหรอกแค่หาเรื่องเถียงกันสนุกๆไปงั้นแหละ


พอสิบเอ็ดโมง เราก็ย้ายตัวเองออกจากห้องเพื่อไปสมทบกับพวกตั้มที่รออยู่สนามกีฬามหาวิทยาลัยแล้ว ซึ่งตลอดการเดินทางแทนคุณก็พยายามรบเร้าให้ผมว่ายน้ำด้วยให้ได้ แต่ผมก็ปฏิเสธด้วยคำตอบเดิมคือ

“ไม่เอา กูว่ายน้ำไม่เป็น”
“กูสอนให้ได้นะ”
“ไม่เอาอ่ะ มึงไปเหอะ”
“เออก็ได้ งั้นมึงต้องรอกู ห้ามหนีไปไหนนะ”
“รู้แล้วครับพ่อ”  ผมตอบรับแทนคุณพลางหัวเราะออกมา แทนคุณเลยส่งมะเหงกเขกลงหน้าผากผมเบาๆด้วยความหมั่นไส้

“เป็นเด็กดีนะไอ้ลูกหมา”
“แง่ง” ผมทำท่าแยกเขี้ยวใส่เรียกเสียงหัวเราะของแทนคุณ ก่อนที่เขาจะดันหลังผมให้เดินไปทางเก้าอี้ไม้ยาวที่วางอยู่ข้างสระใกล้กับเตียงสีขาวที่มีผ้าขนหนูวางพาดอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นของพวกตั้มที่มาถึงและลงไปว่ายน้ำอยู่ก่อนแล้ว

“เดี๋ยวกูไปเปลี่ยนชุดก่อน นั่งรออยู่ตรงนี้นะ” ผมพยักหน้าตอบไปพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นไปพลางๆ


สมาร์ทโฟนในมือทำหน้าที่กลายเป็นกล้องถ่ายรูปชั่วคราวเมื่อผมยกขึ้นมากดชัตเตอร์ไปหลายภาพ ภาพของสระน้ำสีฟ้าที่มีคนกำลังว่ายวนไปมาในสระถูกผมอัพลงโซเชียลยอดนิยมอย่างเฟซบุ๊คในเวลาถัดมา

ทันทีที่ภาพถูกโพสต์ลงไปแล้วนั้น ก็มีคนกดถูกใจและคอมเม้นต์เข้ามาด้วยความรวดเร็ว โดยที่คอมเม้นต์แรกเป็นของอันอันนั่นเอง

AunAun Aunchita แน่ะๆ ไปนั่งเฝ้าใครหรือเปล่า
เจ้าขา กฤติดำรง อุ้ย พี่คุณก็อยู่ที่นั่นด้วยใช่มั้ยคะตอนนี้  TK Krittidumrong

ตัวเล็กตัวโต หนุ่มแว่นมุ้งมิ้งกุ๊กกิ๊กพ่อเดือนสุดหล่อ ได้แชร์ภาพของ บะหมี่ เกี๊ยว
ตัวเล็กเขาไปทำอะไรที่นั่นคะคุณขา อิอิ #ตัวเล็กตัวโต

‘รีบตามไปเกาะสถานการณ์ดีกว่า’
‘ไปเฝ้ากันแบบนี้ นี่คือกะเปิดตัวเลยใช่มั้ย’



“ฝากหน่อย”
เสียงทุ้มของแทนคุณดังขึ้นพร้อมกับเงาที่พาดทับลงมาตรงหน้าของผม เมื่อละสายตาจากหน้าจอมือถือแล้วมองเลยขึ้นไปยังคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ผมก็ได้แต่กลืนน้ำลายหนืดลงคอ

ภาพคมชัดระดับ 4D ที่อยู่ตรงหน้าคือเรือนร่างของแทนคุณในระยะประชิดที่มีเพียงกางเกงว่ายน้ำหนึ่งตัวปกปิด แล้ววันนี้แทนคุณยังเลือกที่จะใส่กางเกงว่ายน้ำอีกตัวที่ไม่ใช่ตัวประจำที่เขาชอบใส่ ขากางเกงว่ายน้ำตัวนี้สั้นกว่าอีกตัวมาก มันโชว์โคนขาอ่อนของแทนคุณที่มีมัดกล้ามสวยงามอย่างชัดเจน

“มองมากๆ เดี๋ยวก็เป็นตากุ้งยิงหรอก”
“ไม่ได้มองสักหน่อย” ผมเถียงกลับไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอีกฝ่ายก็ทำหน้าไม่เชื่อตอบกลับมา พร้อมกับวางมือลงบนไหล่ผมทั้งสองข้างแล้วก้มหน้าลงมาเสียใกล้

“แต่หน้ามึงแดงมากเลยนะรู้ตัวหรือเปล่า”
“อากาศมันร้อนต่างหากเล่า” ผมสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง หัวใจเต้นแรงจนใกล้ระเบิด รู้สึกถึงความร้อนที่พวยพุงอยู่สองข้างแก้มบวกเสียงหัวเราะขบขันของแทนคุณด้วยอีกทำให้ผมรู้สึกเหมือนคนพ่ายแพ้ต่อคำพูดของแทนคุณจริงๆ

“นั่งรออยู่นี่นะ ห้ามไปไหน”
“เออ รู้แล้วน่ะ”

แล้วพอเมื่อแทนคุณเดินผ่านไปล้างตัวให้เปียกน้ำก่อนลงสระผมก็พรูลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก จับหน้าอกตัวเองก็รู้ว่ามันยังคงเต้นแรงไม่มีทีท่าลดอาการหวั่นไหวลงได้

“อ่อยเกินไปแล้วมั้ง” ผมพึมพำออกมา ก่อนจะละสายตาจากแทนคุณที่เดินลงสระไปแล้ว

การแจ้งเตือนจากมือถือยังคงสั่นไม่หยุด ผมเลยนั่งไล่ดูแจ้งเตือนทั้งหมดไปพลางๆระหว่างรอแทนคุณ เลื่อนไปเรื่อยจนเจอเข้ากับคลิปร้องเพลงที่ผมไปรับทำพิเศษให้เมื่อคืน มีหลายคอมเม้นต์ที่พูดถึงคนอื่นๆในวงและมีหลายคอมเม้นต์ที่พูดถึงผม

กำลังนั่งไล่ตอบคอมเม้นต์อยู่ดีๆ แจ้งเตือนไลน์ก็เด้งขึ้นมาเป็นข้อความจากพี่เต้

Tae EDU: ยู
YOU: ครับพี่
Tae EDU: ว่างคุยมั้ย
YOU: ว่างครับ
Tae EDU: วันนี้มาเล่นให้วงอีกได้ใช่มั้ย
YOU: วันนี้ถ้าไม่ติดอะไร ผมไปเล่นให้ได้ครับ
Tae EDU: ขอบใจนะ
YOU: ไม่เป็นไรครับพี่   

ผมตอบกลับไปพร้อมกับเงยหน้ามองไปยังสระว่ายน้ำเมื่อเห็นว่ามีเสียงเอะอะมาจากทางสระน้ำ เลยเห็นว่าแทนคุณกำลังแข่งว่ายน้ำกับตั้มอยู่ โดยมีเพื่อนที่เหลือคอยจับเวลา รวมถึงมีสาวๆจากบางคณะมาส่งเสียงเชียร์ พอโทรศัพท์ในมือสั่นอีกครั้งผมถึงได้หันความสนใจมายังของในมือต่อแทน

Tae EDU: ถามอะไรหน่อยสิ
YOU: ??
Tae EDU: ยูกำลังคบกับแทนคุณอยู่หรอ

ผมขมวดคิ้วมองข้อความจากพี่เต้ ชั่งใจว่าควรจะตอบคำถามนี้ยังไงดี เพราะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นผมกับแทนคุณก็ไม่ได้บอกใครนอกจากโรม และผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องที่เราคบกันนั้นจำเป็นต้องบอกคนอื่นๆอีกมากน้อยแค่ไหน ผมกำลังจะพิมพ์ตอบกลับไปแต่พี่เต้กลับพิมพ์ข้อความขึ้นมาก่อน

Tae EDU: ช่างเถอะ ไม่ต้องตอบแล้ว พี่ว่าพี่น่าจะเดาไม่ผิด
YOU: พี่เต้ ถามทำไมหรอครับ
Tae EDU: ไม่มีอะไรหรอก ไว้เจอกันเย็นนี้นะ


ผมมองข้อความด้วยหัวคิ้วที่แทบจะผูกเป็นโบว์  กำลังใช้ความคิดเพลินๆก็รู้สึกได้ถึงเงาที่พาดผ่านมาทางด้านหลัง พอจะหันไปมองก็มีมือมาปิดตาเสียก่อน

“ทายสิใครเอ่ย”
“อันอัน!”

“ใช่แล้ว!” อันอันตอบกลับพร้อมกับปล่อยมือออก แล้วเธอก็โผล่หน้าอ้อมหลังอ้อมไหล่มาหาผม

“มาได้ไง”
“พิกัดเฟซบุ๊คไงจ๊ะ” เธอว่าแล้วเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ พร้อมกับชี้นิ้วไปทางอัฒจันทร์ให้ผมเห็นกลุ่มคนที่กำลังโบกมือมาให้ ผมเลยโบกมือตอบกลับไป

“ไม่พาเอร่ากับน้ำหวานมานั่งนี่ด้วยกันหรอ”
“พวกนั้นบอกว่าอยากมองบรรยากาศรอบๆ เราเลยเดินมาหาเกี๊ยวคนเดียว” อันอันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างดูรู้ว่ากำลังมีเรื่องอะไรบางอย่างที่จะพูดกับผม

“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนี้เลย มีอะไรอยากถามก็ถามมาเลย”
“สัญญาว่าจะตอบแต่ความจริง”

ผมพยักหน้าตอบรับไปแทน อันเลยหันไปสนใจไอโฟนในมือของเธอแล้วกดๆเลื่อนๆอยู่สักพักก่อนจะส่งมือถือมาให้ผม

“เนี่ย ภาพพวกนี้มีคนส่งเข้ามาในไลน์กลุ่มรักคุณครับ บางภาพเกี๊ยวก็อาจจะเห็นในเพจบ้างแล้ว”

 ผมเลื่อนภาพในมือถือของอันอัน มีทั้งภาพแอบถ่ายจากในโรงอาหาร ภาพในห้าง ภาพที่ร้านอาหารเมื่อคืน ภาพที่ลานจอดรถในวันที่กลับจากค่ายอาสา ภาพไปทะเลที่ผมอยู่กับโรมและแทนคุณ ไม่เว้นแม้แต่ภาพของผมที่กำลังเดินเข้าคอนโดของแทนคุณด้วยเช่นกัน
“ตอนนี้ในไลน์ร้อนมาก กำลังถกเถียงกันใหญ่เลย ส่วนในเพจเราก็พยายามที่จะไม่ให้มันเป็นประเด็นมาก”
“เพราะเราไม่ใช่โรมใช่มั้ย”
“ไม่เกี่ยวหรอก มันไม่ใช่เพราะใครเลย มันก็แค่ความไม่ยอมกันเท่านั้น แล้วยิ่งตอนนี้มีข่าวว่าโรมลาออกแล้วด้วย คนก็เลยโยงว่ามันเป็นเพราะคุณมาคบกับเกี๊ยว”

ผมเม้มปากเมื่อฟังที่อันอันพูดจบ ไม่คิดว่าเรื่องแค่การจับคู่จิ้นมันจะทำให้มีกระแสตอบรับทั้งด้านบวกและลบได้ขนาดนี้

“ความจริงมันไม่ใช่....” ผมพูดออกมา อันอันยื่นมือมาบีบที่มือผมเบาๆ
“เรารู้ เกี๊ยวไม่ใช่คนที่จะไปแย่งคนของใคร แต่เราห้ามคนอื่นให้คิดแบบเดียวกับเราไม่ได้ แล้วตอนนี้เกี๊ยวมีความสุขมากมั้ย” ผมมองลงไปในสระว่ายน้ำที่แทนคุณยังคงว่ายน้ำอยู่

“มีสิ”
“แสดงว่าตอนนี้คบกันแล้วจริงๆใช่มั้ย”
“ก็.....อืม”
“เราดีใจด้วยนะเกี๊ยว” อันอันว่าพร้อมกับส่งยิ้มจริงใจมาให้
“เราก็ต้องขอบคุณอันอันเหมือนกัน ที่อยู่ข้างๆเรา ถึงแม้ว่าเราจะเพิ่งรู้จักกันไม่นาน”
“เพื่อนกันมันไม่ได้วัดที่เวลาที่คบกันหรอกนะ มันวัดจากตรงนี้ต่างหาก” อันอันจิ้มจึกลงมาบนหน้าอกของผม ทำให้ผมยิ้มกว้างออกมา

“ส่วนเรื่องที่ใครจะคิดยังไงกับคู่ตัวเล็กตัวโต ก็ไม่ต้องไปสนใจนะ เรื่องนั้นให้เป็นหน้าที่แฟนคลับอย่างเราก็พอ” พูดจบอันอันก็ลุกขึ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่แทนคุณขึ้นจากสระและเดินตรงมาทางผม

อันอันหันไปโบกมือให้แทนคุณก่อนจะหันมามองผมแล้วพูดรัวเร็วว่า

“ฝากถ่ายรูปแทนคุณให้ด้วยนะ เราจะเอาลงเพจ ไปก่อนล่ะ” แล้วเธอก็รีบเดินจากไปเพื่อไปรวมตัวกับเอร่าและน้ำหวานที่กำลังยกกล้องส่องทางไกลมองมาทางนี้ ผมส่ายหัวพลางหัวเราะออกมา


พอแทนคุณเดินมาหยุดตรงหน้า ผมเลยยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปตามที่อันอันได้ขอเอาไว้ ชายหนุ่มเจ้าของตำแหน่งเดือนมหา’ลัยทำหน้าเหวอแล้วหยิบมือถือในมือผมไปดูภาพของตัวเอง

“ขอดีๆก็ได้นะ ให้ถ่ายอยู่แล้ว”
“งั้นขอเด็ดๆสักภาพสิ” ในเมื่อพูดออกมาแล้วก็ต้องกล้าขอสักหน่อย แทนคุณเลยยืนเท้าสะเอวนิ่ง แล้วมองตรงมาที่ผมที่กำลังยกมือถือเตรียมถ่ายรูปไว้อยู่ สายตาที่ส่งมามองผ่านเลนส์กล้องทำให้ผมหน้าร้อนวูบวาบรวมถึงรอยยิ้มกดลึกที่มุมปากนั่นอีก


แชะ!

“ไหนเอามาดูหน่อยสิ” หลังจากกดชัตเตอร์ไปแล้วแทนคุณก็คว้ามือถือไปดูอีกครั้ง เขาพยักหน้าดูพอใจกับภาพที่เห็น ก่อนจะดึงผมลุกขึ้นไปยืนใกล้ๆ

“มาถ่ายด้วยกันบ้างดีกว่า”
“เฮ้ย ไม่เอา” ผมปฏิเสธเมื่อแทนคุณล็อกคอผมแล้วก้มลงมาเอาแก้มแนบกัน ก่อนกดปุ่มรัวชัตเตอร์ไปได้สามสี่ภาพ โดยที่ผมนั้นหน้าเอ๋อยิ่งกว่าอะไร

พอถ่ายเสร็จเขาก็ทำอะไรกับมือถือของผมต่อไม่รู้เห็นแวบๆว่าเจ้าตัวกดเข้าไลน์ไปส่งรูปภาพนั้นให้ตัวเอง

“หืม นี่อะไร” แทนคุณว่าแล้วขมวดคิ้วแน่น ผมเขย่งเท้า กระโดดซ้ายทีขวาทีเมื่อเขาเอาตัวเบี่ยงบังไม่ให้ผมแย่งมือถือคืนไปได้ และเห็นว่าแทนคุณกำลังรัวนิ้วจิ้มไปมาก่อนที่เจ้าตัวจะหันมาส่งมือถือคืนผม

“เดี๋ยวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บ แล้วไปหาอะไรกินกัน”

แทนคุณพูดจบก็เดินจากไปทันที ทำให้ผมมองมือถือในมือสลับกับมองแทนคุณที่เดินหน้านิ่งออกไป

“อ้าวยู ไอ้คุณล่ะ”
“เห็นบอกว่าจะไปอาบน้ำ” ผมหันไปตอบเต้ที่มาทิ้งตัวนั่งลงที่เตียงสีขาวข้างๆ พร้อมยกน้ำขึ้นมาดื่ม
“อะไรของมันวะ ตะกี้แค่บอกจะขึ้นมาพัก”
“ไม่รู้เหมือนกัน” ผมตอบกลับเสียงเบา พลางปลดล็อกมือถือตัวเองแล้วเข้าไปยังแอพพลิเคชั่นไลน์ในทันที


สิ่งที่เห็นผมไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกของตัวเองในตอนนี้ยังไงดี ไอ้อาการที่พองฟูอยู่ในอก เหมือนตัวจะลอยได้แล้วก็แก้มบวมเหมือนใกล้จะแตกอยู่เต็มที่  นี่คือคำตอบของคำถามที่พี่เต้ได้ถามผมไว้แต่ผมไม่รู้จะตอบแกว่าอะไร และตอนนี้แทนคุณก็ตอบแทนผมไปแล้วด้วย


YOU: ผมแทนคุณนะครับ ขอตอบคำถามแทนยูแล้วกันนะ
YOU: ใช่ครับพี่ ตอนนี้ผมกับยูเราคบกันอยู่


ข้อความที่ถูกส่งไปนั้นขึ้นว่าอีกฝ่ายอ่านแล้ว แต่ไม่มีการตอบกลับมา ผมเลยออกจากหน้าแชทนั้นแล้วเข้าไปยังหน้าแกลอรี่ดูภาพที่แทนคุณถ่ายเมื่อครู่นี้ แล้วเลือกภาพมาหนึ่งภาพเพื่อตั้งเป็นภาพพักหน้าจอ

ตึ่ง!
มีเสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊คเด้งขึ้นว่าผมถูกแท็กจากใครบางคน


พอเข้าไปดูแล้วถึงได้เห็นว่าคนที่โพสต์ข้อความลงนั้นเป็นผู้ชายที่เดินหายไปเมื่อครู่ ผมอมยิ้มจนปวดแก้มกับข้อความในโพสต์นั้น

TK Krittidumrong ได้แท็ก บะหมี่ เกี๊ยว ในโพสต์
อย่าบอกให้รู้ ว่าเรารู้สึกต่อกันเช่นไร แค่เรามองตากันก็สั่นสะท้านไปทั้งหัวใจ ♥

พร้อมกับแนบรูปภาพที่เพิ่งถ่ายเมื่อสักครู่นี้สดๆร้อนๆ และไม่นานยอดไลค์ก็เข้ามาถล่มทลายรวมถึงคอมเม้นต์ที่เด้งขึ้นมาไม่ขาด ที่มีคนเข้ามาหวีดกับภาพบ้าง หวีดกับแคปชั่นบ้าง ซึ่งตอนนี้ไม่ว่าจะมีเรื่องแย่ๆมาสักแค่ไหน ผมก็พร้อมที่จะสู้และทนต่อสิ่งๆนั้น

แต่มันต้องไม่ใช่กับ.....


ไอยูวี พี่ชายคนโต หมายความว่ายังไง – บะหมี่ เกี๊ยว








ผมนั่งนิ่งมาตลอดทางที่แทนคุณพากลับมายังคอนโดฯ ความจริงแทนคุณชวนผมไปเที่ยวต่อ แต่ผมไม่มีกระจิตกระใจในการไปเที่ยวเลยสักนิด ในหัวของผมตอนนี้มีแต่คำถามที่ว่า จะเล่าให้พี่ไอฟังว่ายังไงมากกว่า

พอขึ้นมาถึงห้องได้ ผมก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง คนอื่นจะมาซักถามผมถึงเรื่องนี้ยังไงก็ได้ ผมเชื่อว่าผมจะจัดการกับมันได้ แต่ผมลืมคิดถึงคนในครอบครัวไปเสียสนิท พอเจอพี่ไอถามแล้วทักมาในแชทไลน์ด้วยอีก ผมก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่ไอกำลังจมกับตำราที่จะต้องเตรียมสอบพี่ไอคงรีบขับรถมาหาผมแล้วแน่ๆ

นี่ผมก็ได้แต่แก้ตัวกับพี่ไอไปว่า มันเป็นการจับคู่จิ้นเฉยๆไม่มีอะไร แต่ดูเหมือนพี่ไอจะไม่ได้ปักใจเชื่ออย่างเต็มร้อย แต่ถึงอย่างนั้นพี่ไอก็แค่บอกกับผมไว้ว่า “ไว้ค่อยคุยกันอีกที ช่วงนี้พี่ยุ่ง” มันอาจจะโล่งใจไปได้เปราะหนึ่งแต่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น หากว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับบ้านในช่วงวันหยุดสั้นๆที่ผมต้องเผชิญหน้ากับพี่ชายแล้ว


ผมจะกล้าตอบคำถามพี่ไอยังไงกัน



“เป็นอะไรไป” แทนคุณยื่นโค้กกระป๋องมาให้แล้วเบียดตัวลงมานั่งข้างกัน
“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” ผมตอบกลับพร้อมกับแกะกระป๋องโค้กยกขึ้นซดดับกระหาย

“เรื่องที่กูโพสต์น่ะหรอ ขอโทษนะพอดีกูหึงหน้ามืดไปหน่อย”
“ช่างเถอะ”

แทนคุณวางกระป๋องโค้กในมือไปบนโต๊ะกระจกเบื้องหน้า พร้อมกับแย่งกระป๋องโค้กในมือผมไปวางลงข้างกัน ผมหันไปมองหน้าแทนคุณด้วยความสงสัย แทนคุณมองหน้าผมกลับก่อนจะจับไหล่ให้ผมนั่งหันมาทางเขาทั้งตัว เรานั่งหันหน้ามองกัน แล้วฝามือเย็นๆที่มีความความชื้นจากกระป๋องโค้กติดอยู่ก็วางลงที่สองข้างแก้มของผม

“ฟังนะยู ไม่ว่ามึงจะเจออะไรก็ตาม จะความกดดันจากพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน หรือคนรอบข้าง กูอยากจะบอกว่า กูไม่ทิ้งมึงไปไหนแน่นอน กูจะไม่ยอมให้สิ่งมีค่าของกูหลุดมือไปอีก มึงเชื่อใจกูนะ”

“แทนคุณ กูเชื่อใจมึง แต่....กูไม่เชื่อใจตัวเองเลย”
“แต่กูเชื่อมึงนะยู เหมือนที่มึงเชื่อในหัวใจของมึงมาตลอดเวลานั่นแหละ” ผมยิ้มหลังจากที่แทนคุณพูดจบ เขาดึงผมเข้าไปกอดแน่นๆ


“ขอบคุณนะ ไม่คิดเลยว่าความสุขที่ได้รักมันจะรุนแรงขนาดนี้”
“กูด้วย เกือบจะเสียมึงไปแล้วด้วยซ้ำ ดีนะที่รู้ตัวทัน”

ผมหัวเราะออกมาเมื่อแทนคุณพูดจบ เราผละออกจากกัน แต่ระยะห่างยังคงไม่ไกลมากนัก ใบหน้าแทนคุณที่จ้องมองมานั้น ชัดเจนเต็มสองตา เจ้าของฝ่ามือใหญ่ที่ประคองหลังอยู่นั้นเลื่อนขึ้นมาถอดแว่นตาของผมออกแล้ววางลงที่โต๊ะกระจกอย่างเคย


“พอไม่มีแว่นแล้ว ตามึงสวยมากเลยนะรู้มั้ย”

แทนคุณจ้องลึกเข้ามาในตาของผม ที่ความจริงแล้วไม่ได้สายตาสั้นเท่าไหร่หรอก ผมถึงได้เห็นแทนคุณชัดเจนมากขนาดนี้ และยิ่งรู้สึกว่ามันชัดมากขึ้นเมื่อใบหน้าของเขาขยับเข้ามาใกล้จนปลายจมูกเราแตะกัน

“แทนคุณ...” ผมเรียกชื่อเขา อีกคนก็เรียกชื่อผมกลับมา
“ยู..”

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะก่อนที่เขาจะพูดขึ้นมา

“จูบได้ไหม”


คำขอที่อีกฝ่ายถามนั้น เล่นเอาหัวใจของผมกระตุกไหวอย่างรุนแรง ผมได้แค่ครางรับในลำคอเบาๆ แล้วหลับตาลงเมื่อสัมผัสได้ว่า องศาของใบหน้าเราทั้งสองคนกำลังปรับเข้าหากัน ลมหายใจที่อยู่ใกล้ร้อนระอุเหมือนเลือดในกายของผมที่กำลังเดือดพล่าน

ความนุ่มหยุ่นของริมฝีปากถูกทาบลงมาเป็นจุมพิตบางเบาที่มีความรู้สึกมากมายเกิดขึ้นในหัวใจ ร่างกายของผมรู้สึกเบาเหมือนมันกำลังลอยได้ เมื่อสัมผัสนั้นผละออกไปผมค่อยๆขยับเปลือกตาขึ้น ลืมตามองคนตรงหน้าที่ยังไม่ได้ถอยห่างไปไหน อีกฝ่ายกลับจ้องตอบมาเหมือนรอคอยให้ผมมองเขาเช่นเดียวกัน

นัยน์ตาของแทนคุณสะท้อนเป็นภาพของผมก่อนเขาจะหลุบตาลงมองริมฝีปากของผมอีกครั้ง มือที่ประคองอยู่สองข้างแก้ม เลื่อนมาไล้นิ้วโป้งอยู่ที่ริมฝีปากล่างของผม จนผมต้องเผยอปากออกเหมือนรอคอยให้อีกฝ่ายได้จู่โจม  ก่อนที่แทนคุณจะเลื่อนมือลงเชยคางผมให้เชิดขึ้น พร้อมก้มหน้าลงมาอีกครั้งเพื่อมอบจุมพิตแสนละมุนให้อีกครา





โครกกก!!


ทุกสิ่งหยุดชะงักลงเมื่อเสียงที่ดังขึ้นทำลายบรรยากาศสุดโรแมนติก ผมกระพริบตาปริบๆเหมือนสติจะคืนกลับเข้าร่าง รีบผลักแทนคุณออกแล้วลุกขึ้นยืนหน้าโซฟาแทน

“ขอโทษที...” ได้แต่พูดคำนั้นออกเป็นประโยคแรก แล้วรีบคว้าแว่นตาขึ้นมาสวมแก้เก้อ

“ช่างเถอะ เพราะถ้าท้องมึงไม่ร้องก่อน กูว่ามึงเสร็จกูแน่เลยว่ะ” ผมอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน

“ไปทำอาหารกินกันเถอะ” แทนคุณเสยผมลวกๆแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินผ่านหน้าผมไปทางห้องครัว ในขณะที่ผมได้แต่ทำปากพะงาบๆ จะพูดอะไรออกมาสักอย่างก็พูดไม่ออก

ตอนนี้เลยทำได้แค่สูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อระงับความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นให้หัวใจกลับมาเต้นในอัตราที่ปกติ ผมตบแก้มตัวเองเบาๆอีกสักทีสองที แต่พอคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดเมื่อครู่นี้แล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้


“คนบ้าอะไรวะ มือไว ปากไว....แต่.....” ผมยิ้มอีกครั้ง แตะนิ้วลงที่ริมฝีปากก่อนจะสะบัดหัวตัวเองแรงๆ ไล่ความรู้สึกเหมือนผีเสื้อมาบินวนอยู่ในหัวนั้นออกไป

“รู้สึกดีเป็นบ้าเลย”


“ยู มาช่วยกันทำดิว่ะ หิวไม่ใช่หรือไง”
“คร๊าบบบ พ่อ” ผมตอบกลับแล้วรีบเดินไปทางห้องครัวโดยไว



เรื่องที่กวนใจอยู่นั้น ก็พักมันไว้ก่อนแล้วกัน ในเมื่อมันยังมาไม่ถึงผมก็ขออยู่กับปัจจุบันที่ทำให้ผมมีความสุขตรงนี้ก่อนก็พอ



จบตอน
 

ขออภัยที่มาต่อช้าค่ะ แถมอาจจะไม่ค่อยจุใจ ตอนต่อๆไปอาจจะมาเร็วขึ้นแต่ไม่ถี่เหมือนแต่ก่อนนะคะ ช่วงนี้งานค่อนข้างเยอะค่ะ ถ้าเคลียร์ได้เร็วก็จะมาต่อได้เร็วตามช่วงจังหวะตารางชีวิตนะคะ

ขอบคุณที่ยังไม่ลืมกันค่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 20-11-2016 18:15:59
ขอเป็นอาทิตละตอนก็ยังดีนะคะ
แทนคุณกำลังตกหลุมรักยูเอามากๆเลยนะ
ถึงยูจะบอกกับพี่ไอว่าเป็นแค่คู่จิ้นแต่เราว่าพี่ไอก็คงดูออกอยู่ดีน่ะแหล่ะเราว่าถ้าไปถึงบ้านแล้วถึงยูจะไม่บอกแทนคุณก้คงบอกอยู่ดีเหมือนที่บอกพี่เต้นั่นล่ะรอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-11-2016 19:24:08
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 20-11-2016 19:55:21
พี่ไอต้องเข้าใจ อย่าเพิ่งเครียดไปนะน้องยู
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: lazysheep ที่ 20-11-2016 20:08:05
ฮื้ออออ น่ารักมาก หวังว่าพี่ไอจะไม่โหดมากนะคะ ♡
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-11-2016 20:09:09
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 20-11-2016 20:31:36
อย่าขัดขวางน้องเลยนะพี่ไอ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวไหมอ้วนกลม ที่ 20-11-2016 21:36:48
 :mew1:   :mew1:  คิดถึง ๆ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 20-11-2016 23:06:07
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 20-11-2016 23:59:15
ถัดจากนี้แทนคุณกับยู คงต้องเดินหน้าให้ครอบครัวยูยอมรับล่ะนะ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 04-12-2016 10:12:36
สองอาทิตแล้วจ้าที่ยูกับแทนคุณหายไปคิดถึง
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 04-12-2016 13:13:53
มันดีต่อใจอะไรจะขนาดเน้~
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: aunszMT ที่ 10-12-2016 22:36:58
รอตอนต่อไป เขินตัวบิดดดด :t3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 12-12-2016 03:20:10
 :-[
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: MmBb ที่ 17-12-2016 19:01:45
 :m15: :z13:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: kail ที่ 19-01-2017 12:00:34
เข้ามารอออออ
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 19-01-2017 17:40:16
จงมา :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 24-01-2017 21:03:55
รอนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> 20/11/16
เริ่มหัวข้อโดย: แป้นพิมพ์ ที่ 11-02-2017 19:11:42
ฮัลโหลลล มีใครอยู่ไหม
เข้ามาบอกว่า ยังอยู่นะ แต่ติดงานจ้าเลยไม่ได้เข้ามาแต่งให้เลย

ไม่สัญญาว่าจะเข้ามาต่อตอนไหนแต่จะมาต่อให้แน่ๆ
ถ้ามาแบบขาดๆ นิดๆหน่อยอย่าว่ากันน้าตัว

ที่ทำงานปั่นไม่ได้เพราะไอทีบล็อกจ้าาาา
 :mew6: :mew6:


ยังมีคนรออยู่มั้ยน้า   :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: treenature ที่ 11-02-2017 20:57:53
ยังรออยู่ค่า
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-02-2017 23:47:31
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 12-02-2017 11:38:14
แทนคุณกับยูน่ารักกกกกกกกก รอค่าาา :mew2:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำแข็งปิ้ง ที่ 01-03-2017 10:26:35
ยังรออยู่นะคะ ฮือออ อ่านรวดเดียวมาถึงตอนปัจจุบันแล้ว ก็ได้แต่หวังว่าคนเขียนจะกลับมาน้า 
สู้ๆกับงานนะคะ แล้วกลับมาแต่งไวๆไเน้อ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :katai4:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำแข็งปิ้ง ที่ 01-04-2017 19:59:55
เดือนใหม่แล้วน้า จำได้ว่าอ่านเรื่องนี้จนถึงตอนปัจจุบันเมื่อวันที่1เดือน3 แต่ตอนนี้วันที่1เดือน4 ก็ได้แต่หวังอีกแล้วว่าคนเขียนจะกลับมาต่อนะคะ อย่าทิ้งเรื่องนี้น้า คอยเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ จะยังรอคอยการกลับมานะคะ :L1:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-04-2017 22:10:31
 :katai5:
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: little_dugong ที่ 09-04-2017 22:57:34
เรายังรออยู่น้าา เมื่อไหร่จะมาาาา
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำแข็งปิ้ง ที่ 13-10-2017 01:26:12
ฮือๆ เดือน10แล้วน้า เรายังรอการกลับมาของคุณยูอยู่น้าา รออ่านนะคะ ขอให้สู้ๆกับงานนะคะ  :-[ o13
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: little_dugong ที่ 29-10-2017 10:13:29
เรายังรออยู่น้าาาา รีบกลับมานะคะ คิดถึงยู~~~
หัวข้อ: Re: - Only YOU...แค่คุณ - update <ตอนที่ 14> --ตอนใหม่ยังไม่มา แต่มารายงานตัว
เริ่มหัวข้อโดย: little_dugong ที่ 01-10-2019 00:22:19
ยังรออยู่นะคะ ไม่อยากให้เรื่องนี้หายไป