ตอนที่24
หลังจากผ่านคืนแรกไปเวลาก็ผ่านไปได้หนึ่งเดือนแล้ว ผมกับเจ้าชายนาดีลนั้นเอาแต่วุ่นวุ่นอยู่กับการแวงแผนและการจัดทัพเพื่อการแย่งอาณาจักรคืนมาจากคาลอส ตามข่าวที่ได้ยินมาสองเดือนมานี้คาลอสแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้สำเร็จราชการ แล้วจัดการมอบตำแหน่งให้ญาติของพวกผมตีต้าที่เพิ่งอายุได้สิบขวบขึ้นเป็นราชาหุ่นเชิด
บอกตามตรงว่าผมเป็นห่วงตีต้ามาก ตีต้าเป็นญาติตัวน้อยที่น่ารักและสนิทกับผมมากรองมาจากท่านพี่ ผมมักจะไปเล่นกับตีต้าประจำ ท่านพ่อท่านแม่ของตีต้าที่เป็นญาติของเราก็เป็นชาวมังกรที่ดีและพวกเขาไม่ชอบยุ่งเรื่องการเมือง เห็นทีว่าคาลอสคงจะไปหว่านล้อมอะไรบางอย่างกับพวกเขาแน่ๆ วันนี้ทั้งวันหลังจากได้ยินข่าวเรื่องของตีต้า ผมถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็
ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีผมก็ถูกเจ้าชายชายนาดีลในร่างสไลม์รัดพันเอาไว้ทั้งตัว
“ไม่เอานะ นาดีล วันนี้ข้าไม่มีอารมณ์” ผมพยายามทำเสียงแข็งบอกเขา แต่เจ้าชายนาดีลหัวเราะอิอิอย่างเจ้าเล่ห์แล้วสอดรยางค์นุ่มนิ่มของเขาเข้าภายในร่มผ้าเพื่อหยอกเย้ายอดอกของผม
“อ๊ะ……นาดีล……ก็บอก…แล้วว่า……” ห้ามไปก็เท่านั้นตอนนี้รยางค์นุ่มนิ่มมากมายสอดเข้ามาตามช่องว่างของเสื้อผ้า ผมได้แต่ร้องครวญครางเมื่อเจ้าชายนาดีลเริ่มเล้าโลมส่วนต่างๆของร่างกายผมโดยเฉพาะตรงเครื่องเพศ
“อึก….เจ้าสไลม์จอมหื่น……อ้า…..”
“ไม่ใช่แค่สไลม์จอมหื่นน้า…..แต่ข้าคือสามีของเจ้าไม่ใช่หรือ….คุณภรรยาก็ต้องยอมให้คุณสามีจิ๊จ๊ะได้ตามใจชอบสิ”
“แต่ต้องไม่ใช่จิ๊จ๊ะกันทุกวันแถมวันละหลายชั่วโมงแบบนี้……เจ้าไม่เบื่อบ้างหรือไงนะ……อื้อ……” ผมบิดกายพล่านตอนนี้เสื้อผ้าของผมถูกเจ้าชายนาดีลละลายทิ้งอีกแล้ว นึกๆดูแล้วตั้งแต่เราแต่งงานกันมา เฉพาะผมเพียงคนเดียวใช้ปริมาณเสื้อผ้าเปลืองมาก เพราะเจ้าชายนาดีลเล่นละลายมันทิ้งทุกครั้งที่รุกเข้าหาผม
“จะเบื่อได้อย่างไร ในเมื่อข้ามีภรรยาที่น่ารักเย้ายวนขนาดนี้ น่ารักจนอยากจะหยุดเวลาน้ำผึ้งพระจันทร์ของเราเอาไว้แบบนี้ วันนี้ท่านพ่อท่านแม่พูดถึงเรื่องทายาทของเราอีกแล้วนะ” ผมสะดุ้งเฮือกไม่ใช่เพราะตกใจเรื่องคำพูดของท่านพ่อท่านแม่ แต่เป็นเพราะเจ้าชายนาดีลสอดรยางค์ขนาดเท้านิ้วกลางเข้ามาสำรวจในจุดลับบริเวณบั้นท้ายของผมต่างหาก
“อา…..อื้อ…….ไม่เร็ว…..เกินไป….หรือ……อื้อ…..ใน….อา……สงครามแบบ….นี้……” รยางค์นุ่มนิ่มที่สอดแทรกเข้ามาเล่นงานผมไม่หยุด ขณะเดียวกันรยางค์อื่นๆก็จู่โจมหยอกเย้าทั้งแก่นกายและยอดอกจนผมพูดออกมาไม่เป็นคำพูด
บ๊าเอ๊ย!!!สมองของผมเยิ้มไปหมดด้วยไฟราคะเพราะเขาแท้ๆยังจะมาชวนพูดเรื่องจริงจังแบบนี้ได้อีก แถมยังเป็นเรื่องสำคัญมากอีกต่างหาก เรื่องของทายาทเลยเชียวนะ ทำไมต้องมาปรึกษาในระหว่างตอนทำอย่างว่าด้วย
“ข้าก็คิดอยู่เหมือนกันนะว่ามันยังไม่เหมาะ แต่ท่านพ่อท่านแม่นี่สิอยากจะอุ้มหลานกันน่าดู เจ้าคิดเห็นเป็นอย่างไรฟีล่า” ตอนนี้รยางค์ในร่างกายของผมขยายใหญ่และเปลี่ยนรูปร่างไปแล้ว ผมไม่ตกใจเพราะคุ้นชินกับสถานการณ์นี้ดี ผมจึงปล่อยกายใจเพื่อเตรียมตัวรับความสุขที่จะรุนแรงมากกว่าเดิมแต่ก็ไม่ลืมตอบคำถามของเจ้าชายนาดีลทั้งๆที่จมอยู่กับความเสียวซ่านจนยากที่จะเอ่ย
“ข้า…..อื้อยัง……ไม่อยาก….อึก…,มีทายาท…ตอนนี้……”
“ทำไมล่ะ” เจ้าชายนาดีลทำเสียงขุ่นมัว รยางค์ที่สอดแทรกร่างกายของผมกระแทกเข้าออกหนักหน่วงมากกว่าปกติจนเรียกได้ว่าเกือบจะเป็นการลงโทษ
“อึก…..เบาๆ….หน่อย…..เจ้า…..อ้า…..เกินไปแล้ว….อื้อ”
“มันดีจนเกินจะทนเลยใช่ไหมล่ะ” เจ้าชายนาดีลทำเสียงเหี้ยม เขาไม่ชะลอหรือลดความรุนแรงของการสอดแทรกให้ผมเลย การทำรุนแรงแบบนี้มันทั้งเจ็บและดีไปพร้อมๆกัน มันทำให้ผมปั่นป่วนระหว่างความคิดที่ว่าต้องการให้หยุดหรือให้เขาทำต่อกันแน่
“บอกมานะฟีล่าทำไมเจ้าไม่อยากมีทายาทของข้าตอนนี้”
เสียงที่ดูจะดุดันของเขาทำให้ผมรู้ว่าเขาโกรธ โธ่เอ๊ยเจ้าสไลม์จอมเอาแต่ใจ หนึ่งเดือนมานี้นับแต่ผมแต่งงานกับเขามาการใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาทำผมให้รู้จักเจ้าชายนาดีลเพิ่มขึ้น ปกติเขาจะใจดีขี้อ้อนเวลาอยู่ต่อหน้าผม แต่อีกโฉมหน้าหนึ่งเขาเป็นจอมหึงหวงและช่างเผด็จการแบบที่ผมคาดไม่ถึง จนบางครั้งเขาก็รังแกผมบนเตียงเป็นการลงโทษอยู่บ่อยๆ ตอนนี้ก็เหมือนกันผมถูกลงโทษในแบบของเขาอยู่
สไลม์ทุเรศเอ๊ยไหนว่าตอนแรกก็ยังไม่อยากมีทายาทตอนนี้เหมือนกันไงเล่า แล้วทำไมพอผมบอกความในใจถึงได้ต้องมาโกรธมารังแกผมแบบนี้ด้วย
“อึก…..ข้า….มีเหตุผล……อื้อ……”
“ไหนลองบอกเหตุผลมาสิ”
ถ้าอยากจะให้บอกเหตุผลก็ช่วยหยุดรังแกกันเสียทีสิ อยากจะร้องตะโกนบอกเขาออกไป แต่ที่ผมทำได้คือการส่งเสียงครวญครางเพราะเจ้าชายนาดีลไม่ออมมือให้ผมเลยเขากระตุ้นร่างกายของผมไปทุกสัดส่วน ทั้งยังสอดแทรกเข้ามาถี่กระชั้นจนสติสตางค์ของผมวูบไปกะทันหันเพราะการร่วมรักอันรุนแรงและยาวนาน เมื่อตื่นขึ้นมาอีกที เจ้าชายนาดีลในร่างสไลม์ก็ทำสีหน้าเศร้าอยู่ข้างกายผม
“ขอโทษนะที่รุนแรงกับเจ้าไปหน่อย”
“รู้ตัวก็ดีแล้ว” ผมบอกเขาด้วยเสียงที่แหบแห้งจนน่าตกใจ คงเพราะเมือคืนผมส่งเสียงครางไม่หยุดมาตลอดทั้งคืน
“นาดีล” ผมยังไม่ทันจะพูดเขาก็เข้ามาขอโทษพร้อมกับเอาร่างกายมาถูไถ มันน่ารักก็จริงแต่อดที่จะงอนไม่ได้ เพราะเขาไม่ยอมฟังเหตุผลของผมเลย ทำรุนแรงเสียขนาดนี้อยากจะทุบๆๆเขาให้บี้แบนเสียให้เข็ด แต่พอเห็นเจ้าชายนาดีลตีหน้าเศร้าแล้วเปลี่ยนสีร่างกายเป็นสีซีดๆ ผมก็อดให้อภัยเขาไม่ได้
“ที่ข้าไม่อยากมีทายาทตอนนี้ เพราะไม่อยากให้เจ้าไปสนามรบคนเดียว ข้าอยากไปกับเจ้า”
“อา….ข้าน่าจะคิดได้….ฟีล่าข้าขอโทษนะ”
“ถ้าเจ้าสำนึกผิดจริงๆละก็ข้าจะให้อภัย” ตอนนี้เองที่เจ้าชายนาดีลฉีกยิ้มกว้าง เขาเปลี่ยนจากสไลม์สีซีดๆมาเป็นสีทองสีเดิมของเขา
“ฟีล่าฟีล่าเจ้าไม่อยากรู้หรือว่าเราจะมีลูกกันได้อย่างไร” เจ้าชายนาดีลทำเสียงระริกระรื่น ผมตื่นตัวและขนลุกขึ้นมาทันที หมดแรงจนไม่มีเรี่ยวแรงขยับนิ้วเสียด้วยซ้ำคงไม่แปลกใช่ไหมที่ผมจะกลัวเขารุกเข้าหาอีก
“เจ้าคงจะไม่สาธิตวิธีการทำเดี๋ยวนี้หรอกใช่ไหม” ผมทำเสียงพรั่นพรึง
“ไม่หรอกน่า ข้าสำนึกผิดอยู่นะ จะไม่รังแกเจ้าซ้ำในวันนี้แน่ๆ” นั่นค่อยทำให้โล่งใจหน่อย ผมพยักหน้าบอกเขาให้รับรู้ว่าพร้อมที่จะฟังแล้ว
“คืองี้นะตามปกติสไลม์อย่างเราจะมีทายาทด้วยการแบ่งตัวใช่ไหม แถมพวกเรายังไม่มีสิ่งที่เรียกว่าน้ำเชื้อเหมือนพวกมนุษย์ดังนั้นการจะมีทายาทข้ามเผ่าพันธุ์ได้จึงมีแต่ให้พวกเรากลายร่างเป็นมนุษย์” ผมพยักหน้าเบาๆ สิ่งที่เขาเล่ามาไม่ต่างกับสมมุติฐานของผมเท่าไหร่
“ที่นี้สำหรับภรรยาต่างเผ่าที่เป็นผู้ชาย เรามียาลับพิเศษที่เมื่อกินเข้าไปแล้วจะไปสร้างมดลูกเทียมในร่างเพื่อใช้เป็นที่อยู่ของทารก โดยปกติถ้าเป็นสไลม์ตั้งท้องเองเราจะมีลูกกันเป็นโขยง แต่กับพวกเป็นเผ่าอื่นเราสามารถทำให้ตั้งท้องได้เพียงครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น แต่ไม่น่าห่วงหรอกนะเพราะการตั้งท้องของเรากินระยะเวลาแค่สามเดือนเท่านั้นแล้วท้องของเจ้าจะไม่ป่องออกมาเหมือนท้องของเผ่าอื่นหรอก เจ้าแค่จะดูเหมือนอวบๆดูมีน้ำมีนวลแล้วก็จะกินเก่งมากเท่านั้น”
“แล้วตอนคลอดข้าจะเจ็บท้องเหมือนพวกผู้หญิงตอนคลอดหรือเปล่า”
“ตอนที่ท่านแม่คลอดข้า ท่านบอกว่าข้าว่าตอนจะคลอดนี้ไม่ปวดหรอก แต่จู่ๆก็รู้สึกเหมือนอยากถ่ายท้องนิดๆ แต่แทนที่จะออกมาเป็นไอ้สิ่งที่แม่คิดกับเป็นตัวข้าที่ไหลย้วยออกมาเป็นน้ำก่อนจะค่อยๆรวมตัวกันเป็นก้อนอีกครั้งหลังจากย้วยออกมาจากตรงนั้นของท่านแม่”
ประหลาดมากกกกกกกก!!! เป็นการคลอดที่พิศดาลจนผมอึ้ง เจ้าชายนาดีลเอาแต่หัวเราะฮาฮา แต่ผมคิดนะมันออกไปในแนวทางอุจาดชอบกล นี่ผมต้องคลอดลูกออกมาในรูปแบบนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้สินะ
“แต่ก็มีบางกรณีนะที่เด็กได้รับเชื้อพันธุ์ของทางฝั่งแม่มามากกว่าดังนั้นเด็กอาจจะอยู่ในท้องนานถึงเก้าเดือนแล้วคลอดออกมาตามแบบปกติ แบบนั้นจะเจ็บปวดมาก ข้าล่ะไม่อยากให้เจ้าได้รับความเจ็บปวดเช่นนั้นเลยจริงๆ” ผมได้แต่หัวเราะแหะๆ ถ้าให้ผมเลือกผมเองก็เลือกแบบที่น่าจะไม่เจ็บน่าจะดีกว่าแฮะ
“นาดีลเจ้าหากเราจะมีลูกเจ้าอยากให้เด็กที่เกิดมาเป็นมังกรหรือสไลม์มากกว่ากัน”
“จะเป็นแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ทางที่ดีเป็นสไลม์น่าจะดีกว่าเพราะหากเป็นมังกรตอนคลอดออกมาเจ้าคงเจ็บน่าดู เพราะมังกรออกลูกเป็นไข่สินะ”พอเข้าทำหน้าจริงจังปนสงสัยผมก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ ผมรีบบอกวิธีการคลอดบุตรของเผ่ามังกรให้เจ้าชายนาดีลฟัง
“เผ่ามังกรของเราเวลาจะคลอดจะกลับร่างเป็นมังกรล่ะ อาจจะเจ็บนิดหน่อย แต่ในร่างมังกรพวกเราจะแข็งแรงพอที่จะก้าวข้าวความเจ็บปวดในตอนที่คลอดบุตรได้ ท่านแม่ของข้าบอกว่าท่านใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้นในการคลอดข้าออกมา แล้วก็นะมังกรมีลูกอย่างมากสูงสุดก็แค่หนึ่งคนต่อครั้งเท่านั้นคิดว่าถึงข้าจะคลอดออกมาเป็นมังกรก็ไม่น่าจะเจ็บหรอก”
“อย่างนั้นก็ดีเลย แค่เจ้าไม่เจ็บข้าก็พอใจมากแล้ว” เจ้าชายนาดีลยิ้มกว้างพร้อมกับเด้งตัวขึ้นๆลง
“ฟีล่าเจ้าตัดสินใจที่จะไปยังสนามรบพร้อมกับข้าแล้วสินะ”
“แน่นอน ข้าย่อมไม่มีทางปล่อยเจ้าไปคนเดียว อีกอย่างข้าเป็นห่วงทั้งท่านพี่และท่านพ่อท่านแม่ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงข้านะนาดีลข้าดูแลตัวเองท่ามกลางสนามรบได้ ข้าเองก็ถูกสอนมาให้เป็นนักรบเหมือนกันนะ”
“ข้ารู้น่าว่าเจ้าเก่งฟีล่า แต่เจ้าต้องสัญญานะว่าจะไม่อยู่ห่างกายข้าเวลาอยู่ในสนามรบ ถึงจะรู้ว่าเจ้าเก่งแต่ข้าก็เป็นห่วงเจ้ามากนะ”
“ได้ข้าสัญญาว่าจะไม่ออกห่างจากเจ้าเมื่อถึงเวลานั้น มีอะไรที่อยากจะบอกข้าอีกไหมนาดีล”
“ไม่มีแล้วที่รัก เจ้ารอข้าอยู่นี่นะ ขยับไม่ไหวใช่ไหม เดี๋ยวข้าจะไปนำอาหารเช้ามาให้เจ้าทานบนเตียง” ผมพยักหน้าเบาๆ ไม่รอช้าเจ้าชายนาดีลกระพือปีกบินพับๆไปยังประตู เขาใช้มือจำลองเปิดประตูห้องก่อนจะหายไปทิ้งให้ผมนอนพักเอาแรงอยู่บนเตียงรอคอยให้เขากลับมา
มีต่อค่ะ