เกิดใหม่ทั้งทีดันมีคู่หมั้นเป็นสไลม์ ตอนพิเศษ p4 27/10/59 ย้ายได้ค่าจบแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เกิดใหม่ทั้งทีดันมีคู่หมั้นเป็นสไลม์ ตอนพิเศษ p4 27/10/59 ย้ายได้ค่าจบแล้ว  (อ่าน 43266 ครั้ง)

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่8
   
ผมตัดสินใจไม่ได้เสียทีว่าจะทำอะไรกันแน่ ระหว่างยอมแต่งงานกับท่านพี่แล้วอยู่ดูแลท่านพ่อท่านแม่ที่นี่ หรือหนีไปอาณาจักรสไลม์ขอความช่วยเหลือจากราชามาริก
   
ระหว่างที่นั่งครุ่นคิดผมก็อดลอบมองเจ้าโจรประหลาดที่ยึดเตียงของผมราวกับเป็นเตียงของตัวเองไม่ได้ สามสี่วันมานี้เจ้าโจรประหลาดนี่กินอยู่กับผมโดยไม่ยอมไปไหน เขาอ้างว่าในเมื่อได้ค่าจ้างมาแล้วก็จะรอจนกว่าผมจะตัดสินใจได้
   
แปลก ตามปกติแล้วใครๆก็อยากได้ทรัพย์สินมาโดยไม่ต้องลงแรงทั้งนั้น แต่เจ้าโจรนี่ผิดวิสัย หากเป็นคนอื่นถ้าผมยังลังเลอยู่แบบนี้คงตัดสินใจหลีกหนีทิ้งให้ผมเผชิญความลำบากด้วยตัวเอง
   
ในความแปลกและประหลาดใจ ผมกลับรู้สึกขอบคุณเจ้าโจรคนนี้ที่อุตส่าห์อยู่รอการตัดสินใจของคนเอาแต่ใจอย่างผม แต่ว่าผมสงสารเจ้าโจรนี่ผมจึงตัดสินใจอะไรบางอย่าง
   
“เจ้าไปเถอะ”
   
“หา” เจ้าโจรขมวดคิ้วเข้าหากัน โจรประหลาดนี่ทำหน้าเหมือนผมพูดจาไร้สาระอะไรออกมาอีก
   
“พูดอย่างนี้คงตัดสินใจจะแต่งงานกับราชาเอียนแล้วล่ะสิ” เจ้าโจรทำหน้าบึ้ง ไม่เข้าใจจริงๆว่าไม่พอใจอะไรขึ้นมาอีก
   
“เปล่า ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้ามาเสี่ยงชีวิตเอากับความไม่แน่ใจของข้า”
   
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบคิดเข้าสิ” ผมเม้มปากเข้าหากันแน่น เขาก็พูดได้สิ ถึงแม้ว่าท่านพี่จะก่อกบฏแต่เขาก็ไม่ได้ลงมือทำร้ายท่านพ่อท่านแม่ ในความคิดของผมท่านพี่เอียนไม่ได้เลวร้ายจนกู่ไม่กลับ ดังนั้นผมจึงลังเลที่จะไปขอความช่วยเหลือจากราชามาริก
   
“เจ้าดูเหมือนมีอะไรคิดไม่ตก ถามจริงๆเถอะเจ้าอยากแต่งงานกับราชาเอียนนักหรือถึงได้รีรออยู่แบบนี้ เจ้ามีใจให้เขาใช่ไหม”
   
ผมเบ้ปาก นี่ผมกับเจ้าโจรวนมาพูดเรื่องนี้กันอีกแล้วหรือ อะไรก็ไม่รู้เจ้าโจรนี่คอยแต่จะวนถามว่าผมชอบหรืออยากแต่งงานกับท่านพี่เอียนใช่ไหม เขาทำเหมือนกับว่า…… ไม่สิ ไม่มีทางแน่ๆอ่ะ คนเพิ่งพบหน้ากันประเดี๋ยวประด๋าวเจ้าโจรนี่จะหึงผมนะหรือ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
   
“ข้าแค่คิดว่าท่านพี่เอียนไม่ได้เลวร้าย แค่ไม่อยากให้ท่านพี่จบลงด้วยความตายภายใต้เงื้อมือของราชามาริก”
   
“เจ้าก็เอาแต่ห่วง ท่านพี่ของเจ้า เจ้าไม่ห่วงเจ้าชายนาดีลคู่หมั้นเจ้าบ้างหรือไง”
   
“ห่วงสิ คนที่เป็นคนอื่นอย่างเจ้าไม่มีวันเข้าใจข้าหรอก คู่หมั้นอย่างนาดีลข้าก็เป็นห่วง กับคนที่เป็นพี่น้องกันมาโดยตลอดข้าเองก็ปรารถนาให้เขาพบเจอสิ่งที่ดีเหมือนกัน ข้ารู้ดีว่าจุดจบของกบฏต้องพบเจอกับสิ่งไหนดังนั้นข้าจึงได้เป็นห่วงท่านพี่เอียน” เจ้าโจรฟังแล้วถอนหายใจแรง เขาเอาแต่ส่ายหน้า คงจะเหนื่อยหน่ายในพฤติกรรมของผมมาก แต่ก็นั่นแหละเขาคงไม่เข้าใจความห่วงใยระหว่างพี่น้องหรือเยื่อใยที่ตัดไม่ขาด ก็เขาเป็นคนอื่นนี่นา
   
“เอาเป็นว่าเจ้าอยากแต่งงานกับพี่ชายของเจ้าหรือไม่ข้าอยากรู้แค่นั้น” ผมต้องถอนหายใจด้วยความเหนื่อยใจบ้าง คำถามนี้ผมตอบเขาไปหลายครั้งแล้วและจะตอบเหมือนเดิม
   
“ข้าไม่ได้รักท่านพี่เอียน ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขาหรอก”
   
“ก็นั่นนะสิ ถ้าอย่างนั้นเราก็รีบไปจากที่นี่กันเถอะอย่าช้าอยู่เลย” ในตอนที่เจ้าโจรจะเข้ามาจับมือผมเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นที่หน้าห้อง เจ้าโจรรีบเข้าไปหลบใต้เตียงอีกครั้ง
   
“ท่านฟีล่าเสนาบดีคาลอสขอพบเจ้าค่ะ”
   
“เสนาบดีคาลอส” ผมพึมพำกับตัวเอง ผมจำเขาได้ดี เขาคือคนที่เป็นท่านตาที่แท้จริงของท่านพี่ แปลกปกติท่านพี่จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาในห้องของผมเพราะกักบริเวณผมอยู่ แต่นี่เสนาบดีคาลอสกลับได้รับอนุญาตให้มาพบผมต้องมีอะไรอยู่แน่ๆ
   
“ให้เข้ามาได้” ผมบอกสาวใช้ ไม่นานนักเสนาบดีคาลอสก็เปิดประตูเข้ามาในห้อง
   
“เป็นอย่างไรบ้างท่านฟีล่า” เสนาบดีคาลอสเริ่มพูดกับผมเขาทำความเคารพผมตามธรรมเนียม
   
“ท่านฟีล่าขอข้านั่งได้หรือไม่”
   
“เชิญท่านนั่งเถอะ” พอผมอนุญาตเขาก็ขยับไปนั่งตรงชุดเก้าอี้รับแขกของผม ผมยืนตัวเกร็งเพราะไม่ไว้วางใจในตัวคาลอส
   
“ท่านฟีล่ามานั่งด้วยกันสิ” ผมลังเลนิดหน่อย แต่ก็ยอมนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
   
“ข้านำใบชาคัดพิเศษของข้าติดตัวมาด้วยมามาข้าจะชงให้ท่านดื่ม” ไม่รอช้าคาลอสเริ่มต้นชงชาอย่างคล่องแคล่ว ไม่นานนักชาอุ่นกำลังพอดีก็ถูกวางอยู่ตรงหน้าผม
   
“เอ้า….ท่านฟีล่าดื่มสิ” ถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มผมจึงต้องดื่มชาลงไปอย่างเสียไม่ได้
   
“อา…..ดีดี เอาอีกถ้วยนะ” คาลอสรินชาให้ผมอีกถ้วยผมรับมาอย่างงงๆ
   
“ท่านเสนาบดีคงไม่ได้มาเพื่อที่จะดื่มช้ากับข้าเฉยๆใช่หรือไม่” ผมเริ่มเข้าประเด็น ต่อให้ไม่ใช่ผมคนปกติก็ย่อมต้องเข้าใจอยู่แล้วว่าคนอย่างเสนาบดีจะเข้ามาเยี่ยมผมก็น่าจะมีเรื่องสำคัญอะไรแน่ๆ
   
“อา…..ถ้าอย่างนั้นมาเข้าเรื่องกันเลย ยังไงท่านก็ดื่มชาของข้าเข้าไปแล้วนี่” คาลอสหัวเราะหึหึก่อนจะพูดต่อ
   
“ท่านตัดสินใจแต่งงานกับเอียนแล้วหรือยัง”
   
“ถ้าเป็นไปได้ข้าจะไม่แต่ง” ผมตอบชัดถ้อยชัดคำ ส่งผลให้คาลอสหัวเราะชอบใจยกใหญ่ ทำไมนะผมรู้สึกไม่ไว้วางใจเขาเอาเสียเลย
   
“ท่านไม่อยากแต่งท่านตัดสินใจเองได้หรือ” คาลอสยิ้มหยันให้ผม ให้ตายสิเขามาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่
   
“ข้าคิดนะว่าตอนแรกจะปล่อยให้ท่านแต่งงานกับเอียนตามที่เอียนต้องการ……” คาลอสเว้นจังหวะเขาครุ่นคิดไปพร้อมกับเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ ผมรออยู่ว่าเขาจะพูดอะไร
   
“แต่การให้เอียนแต่งงานกับเชื่อพระวงศ์ของพวกมนุษย์น่าจะมีประโยชน์กว่า ท่านเองก็รู้จักอาณาจักรทางตะวันออกซึ่งเป็นศูนย์รวมของพวกมนุษย์ใช่ไหม ท่านไม่คิดหรือว่าตำแหน่งราชินีสำคัญถึงเพียงนั้น”
   
“ถ้ามันสำคัญนักทำไมไม่ไปบอกท่านพี่เอียนเสียล่ะ”
   
“เฮ้อ ก็ถ้าหุ่นเชิดมันเอาแต่หลงใหลได้ปลื้มเอากับตุ๊กตาจนไม่คิดถึงอนาคต ผู้นำที่แท้จริงอย่างข้าก็ต้องลงมือจัดการเองนี่สิ”
   
หุ่นเชิด นี่ผมไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม คาลอสเห็นท่านพี่เป็นแค่หุ่นเชิดเท่านั้นหรือ หรือว่าการที่เขายุยงให้ท่านพี่ก่อกบฏมาโดยตลอดเพียงเพื่อให้เขามีอำนาจ
   
“ท่านเอาความจริงอันแสนต่ำช้าของท่านมาพูดแบบนี้ท่านไม่กลัวข้านำเรื่องไปบอกท่านพี่หรอกหรือ”
   
“ฮ่าฮ่าฮ่า” จู่ๆคาลอสก็หัวเราะชอบใจ ผมขนลุกอย่างบอกไม่ถูกแค่คิดว่าเขามีแผนการร้ายอะไรอยู่ผมก็แทบทนนั่งเฉยไม่ได้
   
“ท่านฟีล่ายังคิดว่าข้าจะไว้ชีวิตให้ท่านนำเรื่องนี้ไปพูดกับหลานชายข้าหรือ ท่านก็น่าจะรู้ดีว่าข้าต้องกำจัดตัวไร้ประโยชน์ให้พ้นจากราชาหุ่นเชิดของข้าอยู่แล้ว”
   
ตอนนี้ผมผุดลุกขึ้นยืนอย่างระวังระไว หากเขาจะฆ่าผมตอนนี้มันคงง่ายกว่าพลิกฝามือ ทว่าจังหวะนั้นผมปวดที่หน้าอกโดยไม่ทราบสาเหตุ ผมทรุดลงกับพื้น ปวดตุบๆเหมือนมีใครเอามือมาบีบหัวใจ
   
“ออกอาการแล้วสิ”
   
“เจ้าวางยาข้าหรือ” ผมเค้นเสียงถามเขาตอนนี้ผมหอบแฮ่กๆหมดเรี่ยวหมดแรงแม้แต่จะพูดออกมาเป็นคำ
   
“ไม่ต้องห่วงนะศพเจ้าจะสวยงามเชียวล่ะเจ้าจะเหมือนแค่นอนหลับฝัน” คาลอสหัวเราะเสียงดัง น่าแปลกที่ไม่มีสาวใช้คนไหนเข้ามาดู คงจะเป็นพวกเดียวกันไม่ผิดแน่ ในตอนนั้นเจ้าโจรก็โผล่พรวดออกมาจากใต้เตียง
   
“แกเป็นใคร ทหา….” คาลอสถูกเจ้าโจรเล่นงานจนสลบก่อนที่จะได้ตะโกน ถึงแม้จะอึกกะทึกน่าดูแต่กลับไม่มีใครเข้ามาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซักคน
   
“ข้าคงจะตายแน่ๆ” ผมบอกเจ้าโจรที่ประคองผมเอาไว้ในอ้อมกอด ตอนนี้ผมเจ็บที่หัวใจอย่างมากรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย
   
“เจ้าจะต้องไม่ตายฟีล่า จะต้องไม่ตายข้าขอสาบาน”
   
“อย่าปลอบใจข้าเลย” ผมพยายามหัวเราะ นึกขอบคุณที่เจ้าโจรยังอยู่กับผมในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
   ตอนนี้เจ้าโจรทำอะไรบางอย่างเขาเอาจี้คริสตัลที่นาดีลเคยให้ผมบดละเอียดแล้วผสมกับน้ำ
   
“อะไรหรือ” ผมถาม
   
“เงียบ แล้วดื่มนี่ซะ” เมื่อถูกสั่งผมก็ทำตามอย่างไม่มีข้อสงสัย ไหนๆก็จะตายอยู่แล้วจะกังวลอะไรอีกล่ะ
ผมดื่มเข้าไปจนหมดถ้วย ก่อนจะค่อยหลับตาลง ผมรู้สึกว่าเปลือกตาของผมหนักอึ้ง อา….นี่ผมคงสิ้นลมแล้วแน่ๆใช่ไหม
ผมคิดอย่างเลื่อนลอย   

ท่ามกลางสติที่เลือนรางผมได้ยินเสียงเรียกชื่อผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมพยายามอย่างที่สุดที่จะต่อต้านการหลับลึกตลอดกาล ให้ตายสิเจ้าโจรประหลาดร้องไห้ เขากำลังร้องไห้ไห้ผม
   
ท่าทางแบบนี้มันทำให้ผมนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง ทำไมเจ้าโจรนี่ถึงไม่เป็นนาดีลนะ ในเมื่อมีอะไรหลายๆอย่างช่างคล้ายกับนาดีลเหลือเกิน
   
เอ๊ะ!!!หรือว่าเขาจะคือนาดีลกันนะ ผมแอบหัวเราะกับสมมุติฐานของผม ถ้าเขาเป็นนาดีลจริงผมจะดีใจอย่างที่สุด ตอนนี้ผมเหมารวมไปแล้วว่าเจ้าโจรนี่จะต้องเป็นนาดีลแน่ๆ
   
“นาดีล” ผมเผลอเรียกชื่อคนที่คิดถึงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหลับไปจริงๆ

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ

ให้ได้พอลุ้นกันบางเดี๋ยวจะเอามาลงอีกระลอกหนึ่ง

เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ :hao5:

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
รออ่านต่อ คงไม่เป็นไรนะฟีล่า :ling3:
เพิ่งเข้ามาอ่าน อัพไวมากคะ สนุกมาก รออ่านต่อ  คนแต่งสู้ๆ นะคะ :pig4:

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ heroves

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 38
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

อยากอ่านอีกกกกกกกกกก. อิอิ

ออฟไลน์ kiolkiol

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :hao5:ไม่นะฟีน่าา

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
นาดีล เวอร์ชั่นคน?

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
แปลก สนุกดีค่ะ รอติดตามตอนหน้า  :pig4:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
อยู่ๆก็ดราม่า ฮือออ

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
โธ่  อุตส่าห์อยากดู nc
ระหว่างคนกับสไลม์
ไม่นึกว่าจะมีร่างคน
เวลาจิ๊จ๊ะก็ไม่แปลกอ่ะดิ TT
อิอิ  เรานี่รสนิยมแปลกเหมือนฟีล่าจริงๆ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่9
   
พอผมลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าถูกใครบางคนนอนกอดเอาไว้แน่น อาใช่แล้วเจ้าโจรนี่เองที่นอนกอดผมเอาไว้แน่น ผมไม่แน่ใจว่านอนหลับไปนานกี่วัน แต่ระหว่างที่นอนหลับกลับรู้สึกว่าตัวเองฝันอยู่ตลอดเวลา ผมฝันว่าเจ้าโจรคอยดูแลเอาใจใส่ผมที่เอาแต่นอนอยู่บนเตียง
   
“มันไม่ใช่ฝันสินะ” พูดกับตัวเอง ตอนนี้ผมขยับร่างกายไม่ได้ ไม่ใช่แค่ไม่มีแรงเพราะเพิ่งพ้นจากความตาย แต่ถูกคนตัวใหญ่กว่ามากๆนอดกอดรัดเสียแน่น ให้ตายสิเขาทำให้ผมคิดถึงนาดีลขึ้นมา
   
พูดถึงว่าถ้าตอนนี้นาดีลอยู่เขาคงจะดูแลและนอนกอดผมเอาไว้อย่างนี้เช่นกัน ไม่สิน่าจะเรียกว่าอมเอาไว้มากกว่า เมื่อคิดถึงความทรงจำที่แสนอบอุ่นที่คุ้นเคยผมก็หัวเราะออกมาได้ ในตอนนั้นผมก็นึกถึงข้อเท็จจริงขึ้นมาได้
   
เจ้าโจรนี่บดจี้คริสตัลที่นาดีลเคยให้มาให้ผมกินเสียแล้ว อันที่จริงตอนนี้ก็เพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าจากบทเรียนซึ่งเคยเรียนมา เจ้าคริสตัลพิเศษนี้เป็นยาอายุวัฒนะและต้านยาพิษทุกชนิด ถ้าเอาไปขายคงได้เงินจำนวนมากอยู่
   
แต่เจ้าโจรกลับเอามาใช้รักษาผมเสียนี่ มันชวนให้คิดอยู่นะ กับคนที่พบกันครั้งแรกมาลงมือช่วยกันขนาดนี้ แถมยังอุตส่าห์ใช้ค่าจ้างของตนเพื่อนายจ้างอย่างสูญเปล่า
   
ให้ตายสิหรือว่าเขาก็คือนาดีลจริงๆ แต่ทำไมเขาต้องโกหกผมด้วยนะ ที่แปลกไปกว่านั้นผมไม่ยักรู้ว่าเขามีร่างมนุษย์กับเขาด้วย ก็ตั้งแต่รู้จักกันมาเจ้าชายนาดีลไม่เคยเผยร่างมนุษย์ให้ผมเห็นเลยซักครั้ง
   
จะใช่นาดีลหรือเปล่าผมเฝ้าเอาแต่คิดวนไปวนมาอยู่นานนับตั้งแต่ตื่นขึ้นมา จังหวะนั้นคนที่นอนกอดผมก็ทำท่าจะตื่นผมรีบแกล้งหลับกลัวว่าเขาจะรู้ว่าผมแอบบมองดูหน้าเขาตอนหลับ

   ระหว่างที่แกล้งหลับก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของเจ้าโจร ตอนนี้เจ้าโจรนั่งอยู่บนเตียงข้างๆผม และกำลังใช้มือลูบไล้ใบหน้าของผมเบาๆ
   
“ฟื้นซักทีสิฟีล่า เจ้าเอาแต่หลับอยู่แบบนี้รู้ไหมว่าข้าทรมานใจนะ”
   ทรมานใจ ทำไมเจ้าโจรต้องทรมานใจ ด้วยเหตุผลข้อนี้ทำให้ผมมั่นใจกว่าครึ่งว่าเขาอาจจะเป็นเจ้าชายนาดีลก็เป็นได้
   
“นาดีล”

   “ฟีล่า” เจ้าโจรทำหน้าดีใจและทำท่าจะโผเข้ากอดผมแต่เขาก็ชะงักแล้วใช้มือเกาที่คอไปมา เขาเบ้หน้าด้วยท่าทางกวนโมโหอย่างที่สุด
   
“เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเป็นข้ากัน” คนที่ยอมรับออกมาแล้วว่าเป็นใครหรี่ตามองดูผม ท่าทางของเขาเหมือนเด็กเกเรที่ถูกแย่งของเล่นไป
   
“แปลกแฮะก่อนหน้านั้นยังทึกทักเอาเองว่าข้าเป็นโจรอยู่เลย”
   
แทนคำตอบผมโผเข้ากอดรัดเขา นาดีลทำอะไรไม่ถูกตอนแรกเขาลังเลว่าจะเอามือวางไว้ที่ไหนแต่สุดท้ายเขาก็กอดรัดผมตอบ
   
“ข้าคิดถึงเจ้าที่สุดเลย”
   
“ข้าก็เช่นกันฟีล่า” เขาใช้มือลูบหลังผมไปมา น่าแปลกแทนที่ผมจะโกรธที่ถูกเขาหลอกตอนนี้กลับมีแต่ความโล่งใจอย่างที่สุด พอโล่งใจสิ่งที่ผมนึกถึงเป็นสิ่งที่สองรองจากนาดีลก็คือท่านพี่

   “นาดีลเราต้องกลับไปบอกท่านพี่เรื่องคาลอสนะ” แทบจะในทันทีนาดีลดีดนิ้วเข้าทีหน้าผากของผมดังป๊อก
   
“เจ้าโง่หรือเปล่า ท่านพี่ของเจ้าน่าเป็นห่วงตรงไหน ตัวเจ้าต่างหากที่น่าเป็นห่วง” ผมพริบตาปริบๆมองดูนาดีลทำสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจ ตอนนี้ก็เพิ่งนึกขึ้นได้ นาดีลเล่นงานคาลอสจนสลบแล้วพาผมหนีมาและผมเป็นคนรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของคาลอส เขาจะยอมปล่อยให้ผมมีชีวิตต่อไปอีกหรือ
   
“ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้วสิ” ดูเหมือนเจ้าชายนาดีลจะเดาความคิดจากสีหน้าของผมได้ เขายังคงฉลาดเป็นกรดเหมือนเดิม
   
“แต่ว่า…..” ผมยังคงลังเล บอกตามตรงผมไม่อยากปล่อยท่านพี่เอาไว้ตามลำพังกับเจ้าคาลอสอะไรนั้น
   
“ฟังนะฟีล่า” นาดีลทำหน้าขรึมเขาใช้มือทั้งสองข้างจับบนบ่าทั้งคู่ของผม
   
“ตราบใดที่ท่านพี่ของเจ้ายังมีประโยชน์ เจ้าเสนาบดีอะไรนั่นไม่มีทางฆ่าเขาอย่างเด็ดขาด…..กลับกันหากเจ้ากลับไปเพื่อบอกความจริง เจ้าจะถูกบังคับให้แต่งงาน ถูกจับขัง และไม่แน่ว่าเอียนจะเชื่อที่เจ้าพูดด้วย และสุดท้ายเจ้าอาจจะถูกลอบฆ่าอีกหลายครั้งจนกว่าเจ้าจะตาย อันตรายถึงขนาดนั้น ต่อให้เจ้าอยากกลับไปแต่ข้าจะไม่ให้เจ้าไปอย่างเด็ดขาด”
   
“แต่ว่า” ผมยังไม่ยอมแพ้
   
“ฟีล่าที่รัก เจ้าเคยบอกว่าเอียนเป็นคนฉลาด และข้าก็คิดว่าเขาฉลาดเหมือนกัน เขาโตแล้วอย่างน้อยคงไม่หลงกลใครง่ายๆ”
   
“แล้วท่านพ่อท่านแม่ล่ะเราจะปล่อยให้ท่านพ่อท่านแม่แข็งเป็นคริสตัลอยู่อย่างนั้นหรือ”

   “นั่นต้องไม่ใช่แน่นอนอยู่แล้ว หลังจากเรากลับไปแต่งงานกันที่อาณาจักร ในฐานะชายาของข้า ข้าต้องช่วยเจ้ายกกองทัพมาช่วยท่านพ่อท่านแม่เจ้าอย่างแน่นอน”
   
“ยังไงก็เลี่ยงสงครามกับท่านพี่ไม่ได้จริงๆนะหรือ” รู้สึกอยากจะร้องไห้ แล้วตอนนั้นขอบตาผมก็ร้อนผ่าวน้ำตาเอ่อล้นที่ดวงตาอย่างไม่อาจห้าม เดือดร้อนนาดีลต้องมาคอยเช็ดน้ำตาให้
   
“ฟีล่าอย่าลืมนะว่าพี่เจ้าเป็นกบฏ หากว่าเขาไม่ยอมสำนึกผิดก็มีแต่จะต้องสู้กัน และผลจากการสู้กันจะทำให้ผู้คนกี่ร้อยกี่พันคนตาย สุดท้ายเมื่อเขาพ่ายแพ้ถึงไม่ต้องตายแต่ก็ต้องถูกลงโทษอยู่ดี เจ้าควรทำใจเสียเถอะนะ”
   
“ข้าเข้าใจ” ผมปาดน้ำตาไปพร้อมกับผงกหัวหงึกๆ จังหวะนั้นนาดีลก็รวบผมเข้าไปกอดรัดแล้วหอมแก้มผมฟอดใหญ่ แต่ก็นั่นแหละด้วยเพราะไม่คุ้นชินกับร่างมนุษย์ของเขาพบจึงผลักเขาออกโดยแรง
   
“ท…ทำอะไรของเจ้ากันหะ”
   
“ก็อะไรเสียอีกล่ะก็ปลอบโยนว่าที่เจ้าสาวของข้าไง…..อะไรกันเมื่อกี้ยังทำหน้าเรียกร้องให้ข้าหอมแก้มเจ้าอยู่เลย คนซื่อบื้อ” ผมมองดูนาดีลยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ ผมนี่นะหรือทำหน้าเหมือนเรียกร้องให้เขาหอมแก้ม ให้ตายสิผมกำลังเสียใจต่อชะตากรรมของท่านพี่อยู่ต่างหาก
   
“อย่ามาตู่นะข้าไม่ได้….ไม่ได้จะทำหน้าตาเรียกร้องให้เจ้าหอมแก้มเลย” ผมเถียงเขาด้วยคำพูดตะกุกตะกัก
   
“ถ้าอย่างนั้นก็เรียกร้องให้จูบแหละตอนนี้เจ้าเรียกร้องให้ข้าจูบอยู่ใช่ไหมนี่” นาดีลหัวเราะชอบใจก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหาอย่างช้าๆที่แน่แน่เขาทำปากจู๋ น่ากลัว!!!น่ากลัวมาก!!!ตอนเป็นสไลม์ต่อให้เขาทำเจ้าชู้ยักษ์แบบนี้ยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่

   แต่นี้พอมาเป็นคน บอกตามตรงรู้สึกหวั่นใจกลัวเกรงอนาคตข้างหน้ายังไงบอกไม่ถูก อ๊ะ!!! ให้ตายสิๆ ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขามีร่างกายอย่างมนุษย์นั่นหมายความว่า ผมกับเขาก็……
   
ไม่นะ ตอนนี้ผมนึกถึงการร่วมรักของชายกับชายขึ้นมาเสียแล้ว แน่นอนล่ะไม่ว่าจะยุคสมัยไหนหรือเกิดชาติที่เท่าไหร่ การร่วมรักระหว่างชายกับชายก็มีหลักการเหมือนกันหมดอย่างแน่นอน
   
ตอนนี้ผมนึกถึงราชามาริกกับท่านฟรานซิส พวกท่านร่วมรักกันแบบไหนตอนนี้ผมไม่ต้องเดาแล้ว เหลือเพียงอย่างเดียว ทำยังไงถึงให้ผู้ชายคลอดลูกได้ ผมยังต้องอาศัยให้นาดีลบอก แต่ผมไม่อยากรู้ซักนี๊ดดดดดด ซักนิดก็ไม่อยากรู้อ่ะ ชั่วพริบตาที่รู้สึกหวาดกลัวต่ออันตรายผมยกเท้าขึ้นแล้วถีบเข้าที่ยอดอกนาดีลเต็มๆ

   “ทำอะไรน่ะฟีล่า” นาดีลเอียงคอถามให้ตายสิเขาทำหน้าตาใสซื่อดูแล้วน่ารักน่าชัง แต่ในทางกลับกันผมกลับขนลุกขนพองอย่างหนัก เข้าใจว่าถีบเขาไปเต็มแรง แต่นาดีลก็ยังคงคืบหน้าเข้าใกล้ผมตอนนี้เขาใช้มือคว้าเอาข้อเท้าของผมเอาไว้แล้วจุมพิตลงมาเบาๆ
   
“จูบที่เท้าก็ดีเหมือนกันน้า เท้าของเจ้าข๊าวขาว” ไม่น้าๆๆๆๆๆ เขาไม่แค่จูบที่เท้าของผมแต่กำลังเริ่มต้นไล้เลียมันอีกด้วย เลวร้ายสถานการณ์นี้เลวร้ายที่สุด หากผมไม่ทำอะไรซักอย่าง ผมคงเสียพรหมจรรย์ก่อนที่จะได้แต่งงานแน่ๆ
   
“น…นาดีล”
   
“ว่าไง” เขาตอบรับคำผมสั้นๆแต่ยังไม่เลิกไล้เลียปลายเท้าของผม ตอนนี้ใบหน้าของผมแดงก่ำสติสตางค์ชักไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันจักกะจี้ ไม่สิ มันอธิบายไม่ถูกเมื่อถูกปลายลิ้นนุ่มนิ่มสัมผัสไปทั่วเท้าแบบนี้
   
“ขะ…..ข้าอยากรู้ว่าทำไมเจ้าถึงกลายร่างเป็นคนได้”  ได้ผลเขาหยุดเลียเท้าผมแล้ว แต่ยังไม่วายใช้มือของเขาหยอกเย้าปลายเท้าผมเล่นไปมา
   
“เรื่องปกตินี่นามังกรยังมีร่างมนุษย์ทำไมสไลม์อย่างพวกเราจะมีไม่ได้”
   
“แต่ข้าไม่เคยเห็นพวกสไลม์ในอาณาจักรเจ้ากลายร่างเป็นคนเลย”
   
“ก็เวลาอยู่ในร่างมนุษย์ความเก่งกาจของพวกเราจะลดลงฮวบฮาบเลยนี่นา แถมอยู่ในร่างสไลม์มันก็สะดวกกว่า เลยไม่มีใครเขาชอบอยู่ในร่างมนุษย์กัน”
   
พูดจบเขาก็ขยับร่างกายทาบทับร่างของผม ให้ตายสิผมไม่รู้จะต่อต้านเขาด้วยวิธีไหน ในที่สุดเข้าก็ประกบจูบลงมา นาดีลใช้ปลายลิ้นเข้ามาพัวพันกับลิ้นของผม เป็นจูบที่แตกต่างกับจูบของเขาตอนที่เป็นสไลม์อย่างมาก และแตกต่างกับตอนที่จูบกับท่านพี่
   
“นาดีล…..อย่าได้โปรด” ผมฉวยโอกาสร้องห้ามเขาขณะที่เขาเปลี่ยนมุมประกบจูบนับครั้งไม่ถ้วน ให้ตายสิผมยังไม่พร้อมที่จะเสียตัวให้ใครตอนนี้ ผมยังไม่เรื่องอีกมากให้ต้องครุ่นคิด นอกจากนั้นยังกลัวมาก เพราะการร่วมรักของผู้ชายด้วยกันผมรู้ได้จากความทรงจำในการเสพสื่อบันเทิงเมื่อชาติก่อนของผม มันน่าจะเจ็บมาก
   
“อย่าทำหน้าเหมือนข้ารังแกเจ้าอย่างนั้น….พับผ่าสิเหมือนข้าเป็นผู้ร้ายเลยนะ”
   
“ก็ผู้ร้ายจริงๆนี่” พอถูกผมต่อว่าเขาก็ค่อยๆผละออก ตอนนี้เขานั่งเกาหัวแกรกๆอยู่ข้างๆผม รู้รับได้ว่านาดีลรู้สึกผิด แต่ยังไม่วายไม่ไว้วางใจเขาขยับหนีให้ห่างจากรัศมีการถูกจับกด
   
“เจ้าบอกว่าร่างมนุษย์ไม่สะดวก ทำไมไม่กลับเป็นสไลม์เสียล่ะ” ผมถามเขาตอนนี้ผมขยับไปอยู่อีกฝากของเตียง แล้วก็สะดุ้งอีกครั้งเมื่อนาดีลแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้
   
“ก็น้าอยู่ในร่างนี้ น่าจะทำให้เจ้ามีความสุขได้มากกว่านี่นา” มีความสุขกับผีนะสิ ผมถลึงตาใส่ พอถูกมองค้อนมากๆเข้านาดีลก็ยักไหล่
   
“ล้อเล่นน่า ที่อยู่ในร่างนี้ก็เพราะว่าพวกมังกรกำลังตามล่าข้าในร่างสไลม์อยู่ ไอ้จะให้ปะทะกันซึ่งๆหน้าก็ไม่กลัวหรอก แต่ขี้เกียจให้มาตามตอแย แถมตอนนี้ข้ายังมีเจ้าเดินทางมาด้วยอีกคน”
   
พอนึกถึงว่าถูกตามล่า ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้พลังเวทย์ทั้งหมดถูกแหวนที่ท่านพี่เอียนสวมให้ผนึกเอาไว้ ตอนนี้ผมเริ่มจะกังวล
   
“ข้าคงจะเป็นภาระให้นาดีลแน่ๆ เพราะว่าไม่สามารถกลายร่างได้แถมพลังเวทย์ยังถูกผนึกเอาไว้เสียอีก”
   
ผมยื่นมือให้นาดีลดูแหวนพร้อมทั้งเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับมันให้เขาฟัง
   
“หมอผีของเผ่าเราน่าจะแก้คำสาปนี้ได้ เจ้าไม่ต้องห่วงนะฟีล่า” ผมพยักหน้าหงึกหงึก หากนาดีลพูดว่าทำได้ ผมก็ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
   
“นี่…ข้าหลับไปกี่วันแล้ว”
   
“สามวัน” ไม่ต่างจากที่ผมคิดเท่าไหร่นักโดนยาพิษร้ายแรงขนาดนั้นหลับไปแค่สามวันนับว่าโชคดีแล้ว
   
“ถึงว่าร่างกายข้าถึงไม่ค่อยมีแรง”
   
“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวข้าจะไปหาของกินมาให้ เจ้านอนพักเสีย เราจะอยู่ที่นี่ซักพักดูอาการเจ้าแล้วเราค่อยเริ่มเดินทางต่อกัน”

   กล่าวจบนาดีลก็จุมพิตที่หน้าผากของผมก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป น่าแปลกทั้งที่หมู่นี้เจอแต่เรื่องร้าย แต่เพียงมีนาดีลอยู่ด้วยเท่านั้นผมรู้สึกสบายใจอย่างไม่อาจอธิบายได้ นีมันไม่ใช่ว่าผมรู้สึกกับเขาเกินกว่าคำว่าเพื่อนไปแล้วหรอกหรือ
คิดมาถึงตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าใบหน้าของผมเห่อร้อน สุดท้ายเพื่อไม่ให้เอาแต่คิดถึงเรื่องของเจ้าชายนาดีล ผมจึงต้องขุดเอาเพลงซึ่งเป็นที่นิยมจากความทรงจำในชาติที่แล้วหลายต่อหลายเพลงออกมาร้องติดต่อกันเป็นเมดเล่ย์

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่ออีกตอนค่ะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่10
   
ผมรู้จากนาดีลมาว่ากระท่อมที่เราใช้กบดานอยู่ตอนนี้เป็นกระท่อมกลางป่านอกเมืองหลวงของเผ่ามังกรซึ่งน่าจะเป็นที่พักชั่วคราวขอตอนนี้ตรงหน้าผมนาดีลง่วนอยู่กับการทำอาหารให้ผมทาน อันที่จริงผมเองก็สามารถทำได้อยู่สองสามอย่างและช่วยเป็นลูกมือให้เขาได้ แต่เจ้าชายนาดีลกลับบอกให้ผมนั่งดูเฉยๆ
   
ผมมองเสี้ยวหน้าของเจ้าชายนาดีล ใบหน้าที่ดูตั้งอกตั้งใจทำอะไรบางอย่างของเขาช่างดูน่ารัก คิดๆดูแล้วตอนที่เขาอยู่ในร่างสไลม์ก็น่ารักมาก ร่างกลมๆสีทองมีปีกทั้งหยุ่นและนุ่มแค่คิดก็รู้สึกหมันเขี้ยวแล้ว
   
“ให้ตายสิ” จู่ๆนาดีลก็ใช้มือขยี้หัวตัวเองไปมาก่อนจะหันมาแล้วส่งยิ้มร้ายให้
   
“เจ้าเอาแต่จ้องหน้าข้า แถมยังอมยิ้มอยู่แบบนี้ ตั้งใจจะยั่วยวนข้าหรืออย่างไรกันฟีล่า”
   
“ข้าเปล่านะ” ผมรีบปฏิเสธ บอกได้เลยว่าลนลานอย่างมาก แค่จ้องหน้าแล้วคิดว่าเขาน่ารักก็เป็นการยั่วยวนด้วยหรือให้ตายสิเขาอ่านใจผมได้หรืออย่างไรนะ
   
“อยากบอกให้รู้ไว้นะฟีล่า ว่าข้ากำลังอดทนอยู่ ถ้าเป็นไปได้อย่าแสดงท่าทางยั่วยวนให้มากนัก”
   
อย่างนี้ก็ได้หรือ? เขาห้ามไม่ให้ผมแสดงท่าทางยั่วยวน แต่ขอให้เชื่อเถอะว่าผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมไปยั่วยวนเขาที่ตรงไหน ไม่ยุติธรรมเขาพูดอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง
   
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะว่าการแสดงออกแบบไหนของข้าที่มันยั่วยวนเจ้า”
   
“แค่เจ้าเสนอหน้ามาให้ข้าเห็นก็เป็นการยั่วยวนอย่างหนึ่งแล้ว” นาดีลใช้นิ้วบีบจมูกผมหยอกเย้าแล้วหันไปจัดการปรุงอาหารต่อ ผมหน้าบึ้งและใช้มือถูจมูกไปมา
   
“เอาล่ะเสร็จแล้ว ไปรอที่โต๊ะทานอาหารได้เลย” นาดีลบอกผมและเขาไม่ยอมให้ผมทำแม้แต่จะช่วยเตรียมจานชาม สุดท้ายผมต้องมานั่งรออยู่หน้าโต๊ะอาหาร รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนไร้ประโยชน์ชอบกลแฮะ
   
“ทานเยอะๆเลยนะ” นาดีลวางถ้วยซึ่งมีสตูว์เนื้ออยู่เต็มลงตรงหน้า กลิ่นหอมของเครื่องปรุงทำให้ผมน้ำลายสอ ผมรีบลงมือกินทันทีเมื่อเขาอนุญาต
   
“กินเยอะๆนะ ตัวเจ้าผอมบางไปหน่อย ข้าอยากให้เจ้ามีน้ำมีนวลกว่านี้ ไม่งั้นเวลากอดข้าก็กลัวว่าเจ้าจะหักกลางเสียก่อน”
   
“เอ๊ะ” ผมชะงักนิดหนึ่งที่จริงแค่สงสัยว่าเมื่อกี้เขาพูดอะไรเพราะว่าผมนั้นไม่ทันได้ฟัง
   
“กินสิ” นาดีลยิ้มกว้างเขาคะยั้นคะยอให้ผมกินมากๆแต่ด้วยขนาดตัวของผมแค่เขาตักมาพูนชามแค่ชามเดียวผมก็เต็มตื้อแล้ว
   
“กินอีกหน่อยไหม” เขาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าเพราะอิ่มมากแล้วจริงๆ
   
“ข้าอยากให้เจ้ากินอีกหน่อย กินเยอะๆจะได้แข็งแรงไวไว พอเจ้าแข็งแรงเราจะได้รีบออกเดินทาง”
   
พูดถึงออกเดินทางผมก็เริ่มกังวลอีก สงครามกับท่านพี่ สงครามระหว่างเผ่ามังกรและเผ่าสไลม์ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะยืดเวลาออกไปให้มันเกิดขึ้นช้าลง
   
“คิดอะไรของเจ้าอีกล่ะ” นาดีลถามพร้อมกับใช้มือดึงแก้มทั้งสองข้างของผมร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ
   
“ทำอะไรของเจ้าหาเจ้าบ้านาดีล” พอผมโวยวายเจ้าชายนาดีลก็เลิกดึงแก้มผม ผมลูบแก้มเบาๆด้วยยังชาไม่หาย
   
“ก็เจ้านั่นแหละที่ผิด นี่คงไม่ได้คิดจะถ่วงเวลาหรอกใช่ไหม” เขารู้ทุกอย่างราวกับเป็นพยาธิในท้องของผมอย่างนั้นแหละ
   
“หากเจ้ายังทำเหมือนลังเลอยู่แบบนี้อีกข้าจะโกรธแล้วนะ” นาดีลกอดอกแล้วสะบัดหน้าหันไปอีกทาง เขาทำแก้มป่องพร้อมกับแอบปลายตามองมาเป็นระยะๆ
   
ให้ตายสิเขาทำท่าแบบนี้แทนที่ผมจะรู้สึกผิดมันกลับทำให้ผมรู้สึกขำมากกว่าอ่ะ ในที่สุดผมก็หัวเราะออกมาจริงๆ
   
“ขำอะไรกันฮึ อย่าบอกนะว่านี่เจ้ากำลังยั่วยวนข้า” นาดีลแสยะยิ้มร้ายให้ผม ผมเลิกหัวเราะในทันที ให้ตายสิหัวเราะนี่ก็เป็นการยั่วยวนด้วยหรือ ชักจะบ้ากามเกินไปแล้ว
   
“ทำไมเจ้าถึงได้เป็นคนลามกแบบนี้หะ ทำอะไรก็หาว่าข้ายั่วยวนไปหมด” ด่าว่าไม่ขาดคำดีนาดีลก็คว้ามือของผมไป เขาจุมพิตลงบนแต่ละนิ้วของผมไปด้วยส่งสายตาเป็นประกายวาววับมาให้ไปด้วย
   
“ก็ข้ารักเจ้า ในสายตาข้าไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรมันก็ดูน่ารักเย้ายวนไปหมดแหละ”
   
“ถ้าข้านั่งถ่ายท้องอยู่เจ้าจะยังคิดว่าข้าน่ารักไหมล่ะ” ผมเลือกที่จะพูดถึงเรื่องที่ใครๆเขาไม่พูดกัน แต่ก็นั่นแหละนั่นมันเป็นเรื่องธรรมชาติอ่ะ แค่อยากรู้จริงๆว่าเขาจะยังคิดว่าผมยังดูยั่วยวนอยู่ไหม
   
“แหม….อยากเห็นเหมือนกันนะเจ้าทำให้ดูหน่อยสิ” เขาตรงเข้ามาอุ้มผม ไม่นะบ้าไปแล้ว จะหยอกกันเล่นแบบนี้ก็แรงไปผมไม่เอาด้วยนะ
   
“ปล่อยๆข้านะนาดีล”
   
“อ้าวทำไมล่ะ ข้าเองก็ยังไม่เคยเห็นเจ้าตอนนั่งถ่ายเหมือนกันนะ ไม่เห็นแล้วจะรู้ได้ไงว่ามันดูเป็นไง”
   
เขาหัวเราะฮ่าฮ่า แต่ตอนนี้ผมหน้าซีดเผือดไปหมด ให้ตายสิเจ้าคนไร้ยางอาย ใครมันจะไปอยากถ่ายท้องให้คนอื่นดูล่ะ ในที่สุดผมก็รู้สึกว่ายิ่งผมโวยวายเขาก็ดูจะชอบอกชอบใจ ผมจึงตีหน้านิ่งมองดูนาดีลด้วยสายตาเย็นชา เอาสิถ้าเขายังไม่รู้ตัวอีกผมก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร
   
“ข้าล้อเล่นน่า” นาดีลยิ้มเจื่อน ท่าทางที่ดูสำนึกผิดของเขาทำให้ผมรู้สึกดีขึ้น
   
“นี่ข้าอยากอาบน้ำ” ผมบอกเจ้าชายนาดีลที่อุ้มผมอยู่ ตอนนี้ผมรู้สึกเหนียวตัวมาก
   
“จะแอบไปถ่ายท้องรึ” นาดีลยังไม่เลิกพูดเรื่องเดิม ผมจึงทุบหมัดเข้าที่อกเขาเต็มแรง เจ้าชายนาดีลหัวเราะชอบอกชอบใจ
   
“เอาล่ะ ข้าจะเลิกแกล้งเจ้าแล้วมาข้าจะพาเจ้าไปอาบน้ำ”
   
ในที่สุดนาดีลก็พาผมมายังน้ำตกที่ห่างออกไปจากกระท่อมกลางป่าอีกนิด
   
“ว้าว น้ำใสดีจัง” ผมวักน้ำขึ้นมาล้างหน้า รู้สึกสดชื่นจนลืมเรื่องที่นาดีลแกล้งผมไปจนหมด ตอนนี้ผมเริ่มเปลื้องผ้าออกทีละชิ้น หากว่าไม่ได้ยินเสียงผิวปากของเจ้าชายนาดีลผมคงแก้ผ้าออกจนหมดไปแล้ว
   
“มัวมองอะไรอยู่รีบไปสิ” ผมไล่คนที่ยืนยิ้มกรุ้มกริ่มให้ไปที่อื่น แต่เจ้าชายน่าดีลเหมือนจะไม่เข้าใจ
   
“ให้ข้าอาบด้วยคนสิ”
   
“ไม่ ข้าอยากอาบคนเดียว” ผมกอดอกยืนกราน
   
“อย่างนั้นข้าจะอยู่เฝ้าเจ้าตรงนี้แล้วกัน”
   
“ไม่ เจ้ากลับไปที่กระท่อมสิ” ผมยังยืนยันคำเดิม ให้ตายสิตอนนี้ผมชักกลัวแล้ว ยังไงผมก็ไม่อยากจะถอดเสื้อผ้าเผยร่างเปลือยให้เจ้าชายนาดีลเห็น ก็ผมไม่รู้นี่ว่าเขาจะทำอะไรบ้าๆกับผมหรือเปล่า
   
“กลัวอะไรผู้ชายด้วยกัน” ก็เพราะว่าเป็นผู้ชายด้วยกันนะสิถึงได้กลัว
   
“เราเป็นคู่หมั้นกันไม่ใช่หรือ ร่างเปลือยเจ้าข้าก็เคยเห็นมาแล้ว อาบน้ำด้วยกันก็ยังเคยเลยนะ” ไม่พูดเปล่าตอนนี้นาดีลสาวเท้าเข้ามาใกล้ กดดันผมจนต้องเดินถอยหลัง ให้ตายสิผมถอยมาจนสุดทางเดินแล้วนะ
   
“เจ้ารังเกลียดข้าหรือว่ากลัวอะไรกันแน่” ตอนนี้เขาเข้ามาประชิดจนผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจ นาดีลโน้มใบหน้าลงมาใกล้ใบหน้าของผมแล้วเล่นจ้องตา ให้ตายสิผมกลัวเขาอ่ะผมทนจ้องตากับเขาได้ไม่นานผมก็หลบตา
   
“ข….ข้า…กลัว…;ว่า”
   
“หือ” ผมก้าวเท้าถอยหลังอีกแล้ว ลืมไปเลยว่าผมถอยหลังมาจนสุดทางแล้ว ผมล่วงลงไปแต่โชคยังดีที่นาดีลคว้าเอาไว้ได้ทันผมจึงไม่ล่วงลงไปในน้ำทั้งยังสวมใส่เสื้อผ้า
   
“ระวังตัวหน่อยสิ” เขาดุผมในขณะที่ผมถลึงตาเข้าใส่เขา ผมไม่ได้เป็นคนผิดนี่ เขาเองต่างหากที่แกล้งไม่เลิก
   
“เอาล่ะ หากเจ้าอยากอาบคนเดียวข้าจะไม่กวน ข้าจะกลับไปรอเจ้าที่กระท่อมนะฟีล่า” ในที่สุดเขาก็ไปได้เสียที ผมโล่งใจอย่างที่สุด
   
“เอาล่ะ” ผมพูดกับตัวเองแล้วเริ่มถอดเสื้อผ้า เมื่อถอดเสื้อผ้าจนหมดก็หย่อนตัวลงไปในน้ำ รู้สึกสดชื่น ตามปกติผมแทบไม่ได้อาบน้ำในน้ำตกอย่างนี้หรอก ตอนนี้ผมจึงดำผุดดำว่ายแบบรื่นเริงสุดๆ
   
เมื่ออาบน้ำจนพอใจแล้วผมก็ขึ้นจากน้ำรอจนตัวแห้งแล้วเริ่มแต่งตัว ผมเดินกลับไปยังกระท่อมอย่างสบายอกสบายใจ แต่ทว่าเมื่อเห็นกระท่อมผมก็เห็นทหารของเผ่ามังกรด้วย นั่นทำให้ผมตัดสินใจแอบอยู่หลังต้นไม้รอดูสถานการณ์
   
“นาดีลล่ะ” ผมไม่เห็นนาดีล ตอนนี้พวกทหารกำลังค้นภายในกระท่อม พวกทหารมีไม่มากมีจำนวนแค่สิบสองคน แต่กระนั้นหากพวกเขาเจอผมที่ตอนนี้ปกป้องตัวเองยังไม่ได้เห็นที่ผมจะโดนจับหรือโดนฆ่าเอาง่ายๆ
   
“หาให้เจอ ท่านคาลอสบอกว่าถ้าหาเจอก็ให้ฆ่าได้เลย”
   
ผมใจหายวาบ เป็นอย่างที่เจ้าชายนาดีลคิดเอาไว้ คาลอสส่งคนมาตามฆ่าผม ให้ตายสิตอนนี้นาดีลไปไหนนะ ในตอนที่คิดเช่นนั้นผมก็ถูกกอดรัดจากด้านหลัง ผมแทบหวีดร้องหากคนที่กอดผมเอาไว้ไม่ใช่เจ้าชายนาดีล
   
“เจ้าบ้าอย่าทำให้ตกใจสิ” ผมเอ็ดนาดีลเบาๆ แต่นาดีลจรดปลายนิ้วลงบนริมฝีปากของผมแล้วส่งเสียงชู่เป็นสัญญาณบอกให้ผมเงียบก่อน
   
“ก็นึกอยู่แล้วว่าเราหยุดอยู่ที่ป่านี่นานไป” นาดีลหัวเราะหึหึ ผมไม่รู้ว่าเหตุการณ์ตอนนี้มันจะน่าขำตรงไหน อดที่จะทุบเขาไม่ได้ล่ะแล้วก็ทุบลงไปจริงๆ
   
“มันน่าหัวเราะตรงไหน”
   

“ก็นะ…..แค่คิดว่าตอนนี้เจ้าคาลอสคงลำบากน่าดู ส่งทหารมาน้อยแบบนี้ คงเป็นปฏิบัติการลับที่สวนทางกับเอียนแน่ๆ” เฮ้อที่แท้ก็สนุกกับความเดือดร้อนของคาลอสนี่เอง แต่ผมก็ยังไม่คิดว่ามันน่าขำอยู่ดี
   
“ไม่เห็นน่าขำยิ่งคาลอสลำบาก เขาจะยิ่งส่งนักฆ่าที่เก่งๆมา เจ้ามีข้าเป็นตัวถ่วงแบบนี้เจ้าจะไม่ลำบากหรือไง”
 นาดีลฉีกยิ้มกว้างให้ผมแทนคำตอบ
   
“แค่ฆ่าให้หมดก็หมดเรื่องใช่ไหม” กล่าวจบเจ้าชายนาดีลก็ย่างสามขุมออกจากที่กำบัง ให้ตายสิผมไม่ห่วงเขาซักนิดตอนนี้ผมสงสารพวกทหารที่ตามฆ่าผมมากว่า
   
“เฮ้ยแกเป็นใครวะ”
   
“อาจจะเป็นพวกนายพรานก็ได้” พวกทหารพากันถกเถียงกับการปรากฏตัวของนาดีล ผมได้แต่แอบลุ้นว่าการต่อสู้จะเริ่มต้นเมื่อไหร่
   
“เฮ้ย แกเห็นเด็กหนุ่มผมสีฟ้าบางหรือเปล่า” ที่เขาพูดนั่นหมายถึงผม แต่เมื่อเจ้าชายนาดีลยังยืนนิ่งไม่ตอบคำ เจ้าพวกทหารก็เริ่มหัวเสีย
   
“ฆ่ามันทิ้งไปเสียดีกว่า” ในที่สุดทหารคนที่พูดก็ชักดาบเข้าโจมตีนาดีล แต่พอดาบกระทบถูกนาดีลเท่านั้นดาบก็หักเป็นสองท่อน พวกหทารตกใจกันน่าดูที่ดาบหัก ผมเองก็ตกใจเหมือนกัน ไหนล่ะที่ว่าพออยู่ในร่างมนุษย์แล้วความเก่งกาจจะลดลงฮวบฮาบ
   
“เอาล่ะ” นาดีลหักข้อมือตัวเองเสียงดังกรอบ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนจะเป็นมิตร
   
“เรามาเริ่มกันเสียทีดีไหม”
   
พลันนาดีลโจมตีคนที่อยู่ใกล้สุดด้วยการชกเข้าที่ท้อง คนซึ่งถูกชกคนแรกกระเด็นหวือไปกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่จนหักแล้วตายคาที่ทันที พวกทหารที่เหลือเห็นดังนั้นก็ตกใจสุดขีด แต่ก็ยังมีความกล้าดาหน้าเขาไปจัดการกับเจ้าชายนาดีลพร้อมๆกัน ดาบที่ถูกฟันและแทงนาดีลทั้งหมดหักสะบั้น สร้างความตื่นตะหนกให้กับพวกทหารทั้งสิบเอ็ดคนที่ยังเหลืออยู่

   “อย่าได้คิดว่าจะหนีพ้นนะ ข้าไม่ปล่อยให้พวกเจ้าคาบข่าวไปบอกเจ้านายตัวเองแน่ๆ” นาดีลหัวเราะหึหึ สำหรับพวกทหารมังกรระดับต่ำที่ส่วนใหญ่เป็นลูกครึ่งมนุษย์และกลายร่างเป็นมังกรไม่ได้คงน่ากลัวอย่างที่สุด
   
นาดีลใช้ความเร็วสูงสุดตามจัดการกับพวกหทารที่พากันวิ่งหนี พวกนั้นทั้งหมดตายด้วยการออกหมัดเพียงหมัดเดียวแทบจะทุกคน ฟีล่าได้แต่สงสารพวกทหารที่ทำได้แค่หนีตายโดยไม่มีทางสู้ แต่สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตด้วยกันทั้งหมด ไม่มีใครหนีจากเงื้อมือของนาดีลได้พ้น

 


ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
นาดีลโหดมาก หึหึว่าที่เจ้าสาวข้าใครอย่าแตะ

 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
นาดีลทำฟีล่าเขินอีกแล้ว
แต่เราก็ฟินนาดีลตอนหยอดฟีล่า
ในร่างสไลม์มากกว่า
น่ารักดี555

ออฟไลน์ namnuer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ทำไมรู้สึกว่านาดีลเท่อ่าาาาาา :-[ :-[ :-[ :impress2: :impress2: :impress2:
แต่็ก็ชอบตอนที่อยู่ในร่างสไลม์เหมือนกันนะดูน่ารักนุ่มนิ่มไปหมดดดดดด555 :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
อยากให้ฟีล่าปกป้องตัวเองได้มากกว่านี้จัง แต่ก็โดนกักเวทอยู่นี่สิ

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ท่าจะเป็นหมอนข้างที่ดี 55555

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่11
   
หลังจากออกจากป่ามาได้ผมกับเจ้าชายนาดีลก็พบกับถนนซึ่งเป็นทางตรงไปยังหมู่บ้านเราตัดสินใจจะเดินตามทางเข้าไปยังหมู่บ้านนั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของผมยังไม่กลับมาเป็นปกติเท่าที่ควร
   
"เดินไหวไหม" นาดีลถามผมด้วยประโยคนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ตามปกติถ้าผมจะเดินทางไกลอย่างนี้มักจะอยู่ในร่างมังกร การที่ต้องออกมาเดินไกลๆในสภาพนี้บอกได้เลยว่าไม่ชินซักนิด
   
"ถ้าไม่ไหวให้ข้าอุ้มเจ้าไหม" ผมส่ายหน้าไปมา ผมไม่อยากจะเป็นภาระนาดีลไปมากกว่านี้
   
"นั่นอะไรน่ะ"  ผมชี้ให้นาดีลเห็นคนกลุ่มหนึ่งถืออาวุธครบมือและกำลังทำการล้อมเกวียนคันหนึ่งเอาไว้
   
"พวกโจรหรือเปล่า"
   
"อาจจะใช่" นาดีลตอบเสียงเย็นชา ผมตีความว่าเขาคงไม่อยากเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นวาย แต่ผมทนเห็นคนเดือดร้อนไม่ได้จึงได้ออกปากขอร้องนาดีลทั้งๆที่รู้ว่าสถานการณ์ของตัวเองก็ย่ำแย่เช่นกัน
   
"ช่วยเขาเถอะนะนาดีล" นาดีลเกาหัวแกรก เจ้าฃายสไลม์ดูยุ่งยากใจ
   
"แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ"
   
"อื้อ" ผมผงกหัวขึ้นลง

   "เฮ้ยแกเป็นใครวะ" หนึ่งในกลุ่มโจรร้องถามเมื่อนาดีลกับผมเดินเข้าไปใกล้ ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นพวกมนุษย์ทั้งหมด ตอนนี้ชายกลางคนเจ้าของเกวียนซึ่งเป็นเป้าหมายมองตรงมาที่พวกเราเช่นกัน

   "หากยังรักตัวกลัวตายก็ไปให้พ้นเสีย" นาดีลเตือนพวกโจร แต่พวกมันกลับหัวเราะกันยกใหญ่

   "พูดบ้าอะไรของแกวะ"

   "ดูก็รู้ว่าพวกข้าคนเยอะกว่าแถมแกยังมีผู้หญิงมาด้วยไม่ใช่หรือ"

   ให้ตายสิชักโกรธแฮะนี่เห็นผมเป็นผู้หญิงหรอกหรือนี่ แต่ถึงจะดูอ่อนแอและตอนนี้ก็ค่อนข้างป่วย กระนั้นก็เชื่อแน่ว่ากับพวกโจรกระจอกพวกนี้ไม่น่าจะทำอะไรผมได้
   
"เฮ้ยน้องหนูน่ารักจังน้า" โดยไม่ทันตั้งตัวก็ถูกหนึ่งในกลุ่มโจรกอดรัดเข้าที่ด้านหลัง ให้ตายสิผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ไวเท่าความคิดผมกระทืบเท้าลงบนปลายเท้าของเจ้าโจรที่อยู่ด้านหลังตามด้วยโขกศีรษะกลับหลังเข้าที่หน้ามันเต็มๆ ตอนนี้มันผละจากผมด้วยความเจ็บปวดแล้วร้องโอดโอย ผมจึงฉวยโอกาสคว้าเจ้าโจรตัวดีเหวี่ยงทุ่มไปยังต้นไม้ต้นใหญ่ เจ้าโจรกระแทกกับต้นไม้แล้วสลบแน่นิ่งไป
   
"แก" พวกโจรโกรธมาก ในขณะที่นาดีลผิวปากด้วยท่าทางอารมณ์ดี
   
"จัดการนังผู้หญิงนั้น" พวกโจรพร้อมอาวุธครบมือกรูกันเข้ามาหาผม ผมได้แต่ยักไหล่คว้าเอาดาบของเจ้าโจรคนแรกที่ล่วงอยู่บนพื้นรับมือพวกโจรอีกสามสี่คนที่ดาหน้าเข้ามา

   พวกมันอ่อนหัดกว่าที่คิด หลังจากพวกโจรกรูกันเข้ามาทีละคนสองคนผมก็จัดการปลดอาวุธทีละคนไปตามระเบียบ สีหน้าของพวกมันล้วนตกตะลึง ให้ตายสิอย่าดูถูกผมไปนัก ยังไงผมก็เป็นถึงเจ้าชายของเผ่ามังกรที่เฉี่ยวชาญการต่อสู้นะ กับโจรกระจอกถ้าผมสู้ไม่ได้ คงอับอายขายหน้าอย่างยิ่ง
   
ในที่สุดเมื่อแต่ละคนเข้ามาทำร้ายผมไม่ได้แถมอาวุธในมือก็ถูกผมยึดไว้เสียหมด พวกมันก็ได้แต่ล่าถอยไปจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว นาดีลปรบมือให้ผม
   
"อะไรกันให้ข้าออกแรงอยู่คนเดียวเลย" ผมทำท่ากระเง้ากระงอด แต่ก็แค่แกล้งทำเท่านั้นแหละ ใจจริงแล้วผมค่อนข้างภูมิใจที่สามารถจัดการกับพวกโจรได้ทั้งที่ยังไม่ค่อยแข็งแรงดี
   
"แต่เจ้าก็ทำได้ดีไม่ใช่หรือ ทำได้ดีสมกับเป็นว่าที่ภรรยาของข้าเลยน้า" นาดีลไม่พูดเปล่าเขาขยี้มือลงบนศีรษะของผม ผมยิ้มจนแก้มปริรู้สึกดีที่มีคนเอ่ยชม
   
"เอ่อ ขออภัยครับ" พวกเราสองคนหันไปหาคนพูด คนพูดคือชายวัยกลางคนซึ่งเป็นเจ้าของเกวียนที่ถูกโจรล้อมปล้น ท่าทางเขาดูสับสนและไม่ค่อยไว้วางใจเราเท่าไหร่

   "ท่านต้องการเงินค่าช่วยเหลือเท่าไหร่หรือครับ" 

   "ไม่เป็นไรหรอกครับผมไม่ได้ต้องการเงินตอบแทน" ผมรีบพูดแทนนาดีล เจ้าชายเผ่าสไลม์ทำสีหน้าเหมือนกลืนยาขม เขากระซิบที่ข้างหูของผม
   
"ไม่เอาเงินเลยจะดีหรือ"

   "ดีแล้วน่า" ผมบอกเขาเบาๆแต่ดูเหมือนชายเจ้าของเกวียนจะได้ยิน เพราะตอนแรกชายเจ้าของเกวียนก็ทำหน้าเหมือนกินยาขมเช่นกัน เอ....หรือว่ากลัวผมจะเรียกค่าจ้างแพงกันนะ แต่พอผมบอกไปอีกครั้งว่าไม่เอาเงินชายเจ้าของเกวียนก็ยิ้มกว้างจนแทบแก้มปริ

   "ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวนะครับ" ชายเจ้าของเกวียนถูมือเข้าหากันไปมา ตอนนี้นาดีลเดาะลิ้นเสียงดัง อา....นาดีลคงจะโกรธชายเจ้าของเกวียนแน่ๆ เพราะแม้แต่ผมยังสังเกตเห็นลักษนะนิสัยที่ค่อนไปในทางไม่ดีของชายคนนั้น

   "ท่านพ่อคะ" ในตอนนั้นเด็กหญิงวัยสิบสองก็ออกมาจากด้านในของเกวียน

   "เพื่อตอบแทนบุญคุณให้พวกเขาเดินทางไปกับเราก็ได้นี่คะ"

   พอได้ฟังคำของเด็กหญิง เจ้าชายนาดีลก็ทำท่าครุ่นคิดชั่วครู่ แต่ผมเห็นนะชายเจ้าของเกวียนที่น่าจะเป็นพ่อทำสีหน้าเหมือนไม่เห็นด้วยกับลูกสาว เอาเถอะเห็นสีหน้าแล้วผมก็ไม่อยากไปรบกวนแล้วล่ะ แต่เจ้าชายนาดีลนี่สิ
   
"ถ้าอย่างนั้นก็ขอติดรถเข้าเมืองด้วยก็แล้วกัน" ผมหันควับไปหานาดีลแล้วพยายามบอกใบ้ว่าไม่เอาแต่นาดีลกระซิบบอกกับผมว่า

"เจ้าออกแรงมากจนเหงื่อแตกอ่อนล้าขนาดนี้จะเดินไหวได้อย่างไร อีกอย่างเราเดินถ่อมๆเข้าหมู่บ้านอาจจะเป็นจุดสังเกตได้"

   อดเห็นด้วยกับนาดีลไม่ได้ อีกอย่างผมเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้ผมเริ่มจะอ่อนล้าจริงอย่างที่เจ้าชายเผ่าสไลม์ว่า ผมจึงต้องทำตามที่นาดีลบอกทั้งที่รู้สึกลำบากใจที่จะพึ่งพาชายเจ้าของเกวียนที่ดูท่าทางไม่เต็มใจที่จะให้เราร่วมเดินทางด้วย
   
"พี่สาวชื่ออะไรหรือคะ" พอพวกเราขึ้นไปบนเกวียนเด็กหญิงก็ตั้งคำถามทันที
   
"ข้าชื่อโรสนะคะ" เด็กหญิงยิ้มจนตาหยี
   
"พี่ชื่อ....."
   
"นางเป็นภรรยาข้าชื่อเดียน่าน่ะ ส่วนข้าชื่อดีน" ผมหันไปมองเจ้าชายนาดีลอย่างงงไม่เข้าใจว่าเขาจะโกหกทำไม แต่ก็ตามน้ำไปเพราะเข้าใจว่าเจ้าชายเผ่าสไลม์น่าจะมีเหตุผลแน่ๆ
   
"พี่ชายกับพี่สาวมีบุตรหรือยังคะ" จู่ๆก็ถามถึงลูกของเราเสียอย่างนั้นผมรีบปฏิเสธผัลวันในขณะที่เจ้าชายนาดีลหัวเราะชอบใจ ผมอดจะมองค้อนเขาไม่ได้

   "จริงด้วยสินะ ข้าไม่เห็นพวกท่านอุ้มลูกของท่านข้าไม่น่าถามโง่ๆ" โรสตีหัวตัวเองเบาๆแล้วแลบลิ้นออกมาดูแล้วท่าทางน่าเอ็นดู ผมชักชอบเด็กคนนี้เสียแล้วสิ
   
"ข้าเองก็กำลังเดินทางไปหาคู่หมั้นของข้าค่ะ"

   "จะไปเยี่ยมคู่หมั้นหรือ" ผมถาม
   
"เปล่าคะจะไปแต่งงานแล้วไปอยู่ที่นั้นถาวรเลย" โรสยิ้มเจื่อนๆดูท่าทางเธอโศกเศร้ากว่าที่คิดยามที่พูดเรื่องนี้ออกมา ในทางกันผมเองก็ตกใจอย่างมาก
   
"เจ้าเพิ่งอายุสิบสองจะแต่งงานแล้วหรือ"

   "ค่ะ" ยิ่งพูดยิ่งมีสีหน้าเศร้าโรสตอนนี้ดูย่ำแย่ชอบกล

   "บอกตมตรงนะคะข้ากลัวค่ะ ข้าไม่รู้ว่าว่าที่สามีของข้าจะดีกับข้าหรือเปล่า" ประโยคนี้โรสกระซิบให้ผมกับเจ้าชายนาดีลฟัง แต่เหมือนผู้เป็นพ่อจะได้ยินชัด
   
"จะไม่ดีได้อย่างไรเล่าโรส กัสเป็นลูกชายพ่อค้าใหญ่เจ้าแต่งงานกับเขาจะช่วยให้สถานการณ์ที่บ้านเราดีขึ้น เจ้าไม่อยากให้พ่อสบายหรือ"
   
ผมชักไม่ชอบใจพ่อของโรสขึ้นมานิดๆ ไม่เข้าใจว่ามันสถานการณ์ไหนกันถึงต้องบังคับให้ลูกสาววัยสิบสองรีบแต่งงาน
   
"กิจการของครอบครัวข้าไปได้ไม่ดีเลยค่ะ แต่เดิมเราเคยเป็นพ่อค้าที่ร่ำรวยมากนะคะ" โรสยิ้มเศร้าๆ พาให้บรรยากาศอึมครึมไปด้วย คงจะมีแต่นาดีลเท่านั้นที่นั่งผิวปากเป็นทองไม่รู้ร้อน หมั้นไส้นักผมจึงใช้มือหยิกเข้าที่แขนเขาเต็มแรง ได้ผลเจ้าชายเผ่าสไลม์สะดุ้งกระพริบตาปริบๆมองดูผมอย่างงงๆ
   
"ว่าแต่ท่านพี่เดียน่า ไม่ใช่เผ่ามนุษย์ใช่ไหมคะ"
   
"ใช่" ผมตอบไปโดยไม่คิด ตอนนั้นนาดีลบีบข้อมือผมแน่นผมจึงต้องปิดปากเงียบโดยไม่พูดอะไรต่อ

   "พวกเราเป็นเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในป่าน่ะ"
   
"ว้าวข้าเพิ่งเคยเห็นเอลฟ์เป็นครั้งแรก" โรสปรบมือชอบอกชอบใจ
   
"พวกท่านสวยหล่ออย่างที่ข้าจินตนาการเอาไว้" ผมพยักหน้าอือออ ตอนนี้สมองผมเริ่มจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว นาดีลคงต้องการปกปิดฐานะของพวกเราผมลืมไปเลยจว่ากำลังหนีการตามล่าอยู่
   
"แต่ช้าได้ยินว่าพวกเอลฟ์มีผมสีทองเจิดจ้า ท่านพี่ดีนยังพอเข้าใจเพราะท่านมีผมสีทอง แต่ท่านพี่เดียน่ามีผมสีฟ้านี่คะ"
   
"จริงด้วยท่านมีผมสีฟ้า ท่านต้องไม่ใช่เผ่าเอลฟ์แน่ๆ" ตอนนี้พ่อของโรสตั้งข้อสงสัยออกมาบ้าง เจ้าชายนาดีลถึงกับเดาะลิ้นเสียงดัง
   
"เอ่อคือข้า" ผมอึกอัก ด้วยไม่รู้ว่าจะตอบอะไร ในตอนนั้นพ่อของโรสก็อุทานดังอ๊ะออกมาเสียงดัง
   
"มีอะไรหรือคะท่านพ่อ" โรสถาม
   
"เปล่า....เปล๊า..." พ่อของโรสหัวเราะเสียงดัง
   
"โรสที่สีผมของเดียน่าเป็นสีฟ้าเพราะว่าย้อมผมนะ เจ้าคงเข้าใจรสนิยมของพวกผู้หญิงสินะในเมื่อเจ้าเองก็เป็นผู้หญิง"
   
"อ้อ อย่างนี้นี่เอง พวกพี่สาวในหมู่บ้านของข้าพวกนางก็ชอบย้อมผมเป็นสีต่างๆเหมือนกันคะ"
   
"นี่...โรสเจ้าพอจะมีผมย้อมผมสีดำให้เดียน่ายืมใช้ไหมละ" นาดีลถามโรส
   
"มีคะมี เป็นสินค้าที่ยังพอเหลือของเราค่ะ" ผมมองดูโรสค้นหาผงย้อมให้กองสัมภาระ เมื่อหาเจอเธอก็ยื่นส่งให้เจ้าชายนาดีล
   
"ที่รักข้าเบื่อผมสีฟ้าของเจ้าแล้ว ลองย้อมผมเป็นสีดำดูบ้างนะ" ผมรับผงย้อมมาจากเจ้าฃายนาดีล ได้แต่ถอนหายใจปิดปลง หากจะหนีให้พ้นผมคงต้องลงมือปลอมตัว
   
"เออจริงสิแล้วเสื้อผ้า โรสพอจะมีเสื้อผ้าขนาดพอดีกับเดียน่าบ้างซักชุดไหม"เจ้าชายนาดีลถาม ตอนนี้ผมนึกขึ้นได้ว่าเสื้อผ้าผมเลิศหรูอลังกาลและเป็นจุดเด่นมาก เฮ้อ...เปลี่ยนก็ดีเหมือนกัน
   
"พอมีค่ะ"  ไม่นานนัก โรสก็หาเสื้อผ้าผู้หญิงเจอจนได้เธฮยื่นให้ผม
   
"เฮ้ พวกเราถึงหมู่บ้านกันแล้วนะ" พ่อของโรสร้องบอก ผมและนาดีลยับงติดเกวียนของโรสเข้าไปในหมู่บ้านจนถึงโรงแรมเล็กซึ่งเป็นที่พัก แต่ทว่า
   
"ดูเหมือนที่พักจะเต็ม เราคงต้องไปหาที่อื่น" พ่อของโรสบอก เจ้าชายนาดีลได้แต่ยักไหล่
   
"อาการเป็นอย่างไรบ้าง" เขาหันมาถามผม
   
"เฮ้อเหงื่อเจ้าออกมากนักคงจะนอนกลางป่าไม่ได้เสียล่ะมั้ง" ประโยคนี้เขากระซิบให้ผมฟัง ให้ตายสิทำเอาผมรู้สึกผิดเลยที่เป็นตัวถ่วงเจ้าชายนาดีล
   
"เอาล่ะไปพักที่โรงแรมข้างหน้านั้นกันดีกว่า" เจ้าชายนาดีลชี้นิ้วไปยับงตึกที่ค่อนข้างหรูหรา ตอนนี้เองที่โรสทำหน้าเจื่อน ในขณะที่พ่อของโฏรสทำหน้าไม่พอใจ
   
"ให้ตายสิครับอย่างนั้นเราคงต้องแยกกัน ข้ากับโรสไม่มีเงินพอจะพักที่นั่นหรอก"
   
ตอนนี้โรสกับพอกลับขึ้นไปบนเกวียนโรสโบกมือลาพวกเราด้วยสีหน้าเหกมือนยังไม่อยากจากพวกเราไป
   
"เอ่อนี่...." ผมเขย่ามือเจ้าชายนาดีล
   
"เรายังมีเงินมากน้อยเท่าไหร่" นาดีลได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของผม

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

มีต่อค่ะ


ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่12
   
ในที่สุดโรสและพ่อของเธอก็ได้มาพักที่โรงแรมเดียวกันกับพวกผมจนได้ โรสดูดีใจมากที่มีโอกาสได้อยู่ร่วมกับพวกเราอีกหน่อย
   
“เสียดายจริงๆค่ะทีพี่เดียน่ากับพี่ดีนจะแยกเดินทางกับพวกเราหลังจากนี้” โรสทำหน้าผิดหวังจากใจจริงนั่นยิ่งทำให้ผมนึกเอ็นดูเธอมากขึ้นไปอีก

   “โรสรีบเข้ามาพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้เช้าจะต้องรีบเดินทาง อย่าไปรบกวนคนอื่นเขาเลย” พ่อของโรสพูด โรสทำหน้าเหมือนมีเรื่องอยากจะพูดกับผมอีกหน่อย

   “ไปเถอะโรสพี่กับดีนเองก็จะพักผ่อนเหมือนกัน”
   
“ค่ะ” โรสรับคำก่อนจะเดินไปยังห้องของเธอ ดังนั้นผมจึงหมุนตัวกลับเตรียมจะเข้าห้อง
   
“เอ๊ะท่านพ่อจะไปไหนคะ” ผมได้ยินเสียงของโรสเพราะยังไม่ได้เข้าห้อง อดไม่ได้ที่จะหันไปมองดูว่าพ่อของโรสกับโรส
   
“ธุระของผู้ใหญ่น่า” ผมมองดูพ่อของโรสเอ็ดเด็กน้อย พอเขาเดินผ่านผมเราสบตากันแวบหนึ่ง พ่อของโรสหลบตาผม แปลกเหมือนมีอะไรชอบกลๆอยู่นะ ถึงจะคิดเช่นนั้นแต่ผมก็ไม่ได้เอามาเป็นสาระสำคัญ ผมกลับเข้าไปในห้องของผมในนั้นนาดีลรอผมอยู่แล้ว
   
“มาแล้วหรือจ๊ะที่รัก” เจ้าชายนาดีลส่งยิ้มหวานมาให้ผม เจ้าชายบ้าบ้านั่นนอนตะแคงรอผมบนเตียงหลังใหญ่ที่มีเพียงหลังเดียว
   
“รีบๆมานอนด้วยกันสิจ๊ะ” นาดีลตบมือลงบนเตียงดังปุปุ ให้ตายสิลืมไปเลยว่าผมต้องนอนกับเขา ผมเดินตัวเกร็งๆแล้วไปนั่งลงตรงริมเตียง ในตอนนั้นนาดีลก็ใช้ท่อนแขนรวบเอวผมเข้าไปกอด
   
“เอวเล็กจังเลยน้า” นาดีลหัวเราะคิกคักทำเอาผมขนลุกขนพองแล้วเริ่มต้นดิ้นสลัดตัวให้หลุดจากการกอดรัด พอดิ้นหลุดผมก็ไปยืนตัวแข็งอยู่กลางห้อง
   
“อ่าวไม่มานอนละจ๊ะที่รัก”

   “ข้าจะไม่นอนเตียงเดียวกับเจ้าเด็ดขาดนาดีล”
   
“อ้าวทำไมล่ะ”

   “ก็ข้า…..ข้าอึดอัดนี่น่านอนไม่สะดวกเลย” ผมโกหก สาเหตุที่แท้จริงที่ไม่ยอมนอนด้วยก็เพราะว่าตอนนี้เจ้าชายนาดีลอยู่ในร่างมนุษย์ แล้วก็ตั้งแต่เขาอยู่ในร่างนี้ผมรู้สึกว่าความบริสุทธิ์ของผมไม่ปลอดภัย
   
“แต่เมื่อก่อนเราก็นอนด้วยกันออกบ่อยไปนี่นา” นาดีลยังคงยิ้มกว้างเขาพยายามตะล่อมผมให้ยอมนอนเตียงเดียวกับเขา

   “แต่ต้องไม่ใช่เจ้าในร่างนี้”

   “ทำไม” ผมอายที่จะบอกว่ากลัวเขาล่วงเกินผม และผมกลัวว่าหากบอกความในใจไปเขาจะแกล้งผมด้วยการลงมือทำจริงๆ

   “เจ้าทำเหมือนรังเกลียดข้าอย่างนั้นล่ะฟีล่า” ตอนนี้เจ้าชายนาดีลทำหน้าเศร้า โธ่อยู่ๆมาทำหน้าตาน่าสงสารแบบนี้ผมก็ลำบากใจสิ
   
“ข้าไม่ได้รังเกลียดเจ้าเสียหน่อยนะ” ผมแก้ตัว

   “ถ้าอย่างนั้นก็นอนด้วยกันได้สิ” นาดีลยังคงตีหน้าเศร้า
   
“มะ….ไม่ดีกว่า”

   “เข้าใจล่ะถ้าอย่างนั้นข้าจะไปนอนที่พื้นก็ได้” ผมอุทานดังเอ๊ะ ไม่นึกว่าเจ้าชายนาดีลจะเข้าใจอะไรง่ายๆอย่างนี้ ตอนนี้เจ้าชายนาดีลลงจากเตียงมานอนคุดคู้อยู่ด้านล่าง แถมยังปลายตามองมาที่ผมอย่างเศร้าๆ ดูแล้วเป็นภาพที่น่าเวทนาชอบกล
   
อา………ให้ตายสิผมสงสารเขาทำไมกันนะ
   
“เข้าใจแล้ว เจ้ามานอนบนเตียงกับข้าก็ได้” ในที่สุดผมก็ยอมจำนน พอได้รับอนุญาตเจ้าชายนาดีลก็โดดขึ้นเตียงแทบจะในทันที เขายิ้มกว้างอย่างผู้มีชัย

   “ให้ตายสิหรือว่าจะเปลี่ยนใจดีนะ” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเอือมระอาพร้อมกลับขยับกายไปยังเตียงแล้วค่อยๆเอนตัวลงนอนข้างๆเจ้าชายนาดีล
   
“จะเปลี่ยนใจไม่ได้น้า คำพูดลูกผู้ชายคืนคำไม่ได้นะ” เจ้าชายนาดีลทำหน้าตาขึงขัง ผมหมั้นไส้เขาจริงๆถึงได้ตีลงไปที่แขนของเขา นาดีลแกล้งร้องโอดโอยด้วยท่าทางดัดจริตที่สุด

   “ที่รักตีข้าทำไม”
   
“ก็น่าหมั้นไส้นี่นา” มองมองค้อนเขา
   
“อย่างนี้ต้องล้างแค้นคืนเสียล่ะมั้ง” ไม่พูดเปล่านาดีลใช้มือทั้งสองข้างจี้เอวของผม บ้าที่สุดผมบ้าจี้มากเสียด้วย
   
“หยุดๆนะเจ้าบ้า” ผมดิ้นพล่านไปมาในอ้อมแขนของนาดีล เขาไม่ยอมหยุดจี้ผมง่ายๆ ให้ตายสิน้ำตาไหลพรากเลยครับ

   “ข้ารักเจ้านะ” ถูกกระซิบบอกรักพร้อมกับจูบลงมาที่ซอกคอผมตัวแข็งทื่อ ตอนนี้นาดีลหยุดจี้ผมแล้ว ผมค่อยๆขยับกายออกห่างจากตัวเขาไปที่ริมเตียงอย่างระแวดระวัง

   “เจ้า…..เจ้าคงจะไม่ทำอย่างที่ข้าคิดสินะ” ผมถามเสียงตะกุกตะกัก
   
“อยากทำใจแทบขาด” นาดีลแสยะยิ้มร้ายทำเอาผมสะดุ้งคว้าแจกันที่ข้างเตียงขึ้นมาเป็นอาวุธ

   “จะทำอะไรหรือฟีล่า” เจ้าชายนาดีลถามเสียงยานคางฟังแล้วกวนโมโหที่สุด

   “ก็จะใช้แจกันเผ่นกบาลเจ้านะสิ”
   
“ใจร้าย” นาดีลหัวเราะคิกคักด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ผมขนลุกขนพองไปหมด ตอนนี้นาดีลขยับเข้ามาใกล้ผมอย่างช้าๆ ผมจึงกวัดแกว่งแจกันไปมาในอากาศข่มขู่เขา แต่นาดีลก็แย่งแจกันไปจากมือผมง่ายๆแล้วโยนทิ้งออกนอกหน้าต่างไป
   
“อย่านะ” ผมดันใบหน้าของเจ้าชายนาดีลที่โน้มเข้ามาใกล้พร้อมกับตะโกนห้าม โชคยังดีที่นาดีลยอมหยุดตามที่ผมร้องห้าม
   
“เรายังไม่ได้แต่งงานกันนะ” ผมบอกเขา แต่ก็นั่นแหละผมหยุดเขาไม่ให้ล่วงเกินได้เพียงแค่ก่อนถึงวันแต่งงานเท่านั้น ผมรู้ดีว่าไม่อาจหยุดเขาได้ตลอดไป ซึ่งระยะเวลานี้เป็นระยะเวลาที่ผมพยายามทำใจรับสภาพของหน้าที่คู่แต่งงานที่ดีอยู่
   
“นี่หมายความว่าถ้าเราแต่งงานกันแล้วเจ้าจะยอมสินะ” นาดีลถามเสียงเจ้าเล่ห์

   “เจ้าก็รู้นี่ว่าข้ามีทางเลือกเสียที่ไหน” ผมบ่นแต่นาดีลกลับหัวเราะฮาฮา เข้าคว้าผมเข้าไปกอดรัดแล้วหอมแก้มผมดังฟอด ไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆจึงทำได้แต่กระพริบตาปริบๆ

   “ถ้าอย่างนั้นข้าจะรอน้า” นาดีลทำเสียงหวานพอเขาปล่อยผมผมก็กระถดไปยังริมเตียงอีกฝาก

   “ไม่ต้องหนีไปไกลขนาดนั้นหรอก ข้าไม่ทำอะไรเจ้าแล้วถ้าหากว่ากลัวล่ะก็…..” แทนคำตอบควันจำนวนมากก็ระเหยออกมาจากร่างของเจ้าชายนาดีลตอนนี้ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยควันสีขาว ผมได้ยินเสียงระเบิดเบาๆดังป๊อบ พอควันหายไปผมก็พบว่าเจ้าชายนาดีลอยู่ในร่างสไลม์สีทองทรงกลมมีปีกซึ่งเป็นร่างต้นของเขา
   
“นาดีล” บอกได้เลยว่าผมดีใจมาก ผมคิดถึงร่างสไลม์ของเขาสุดหัวใจ ดังนั้นจึงโผเข้ากอดรัดร่างนิ่มๆนั้นแล้วจูบลงไปฟอดใหญ่ๆ

   “แหม….ช่างลำเอียงเสียจริงนะ” นาดีลทำเสียงงุ้งงิ้งเหมือนไม่พอใจ ก็ช่วยไม่ได้นี่ที่ผมจะลำเอียงก็ในร่างสไลม์นี่ผมจะมั่นใจได้ว่าตนเองจะปลอดภัยจากการล่วงเกินของเขา

   “ฟีล่า”

   “หืม” ผมยังคงเอาแก้มของผมถูไถกับสไลม์สีทองไม่เลิก ก็ร่างกายของเขามันนุ่มนิ่มน่ากอดและชวนคิดถึงนี่นา
   
“ข้าจะรอให้ถึงวันอภิเษกสมรสของเรานะ” ผมชะงักแล้วยิ้มเจื่อนๆ ให้ตายสิทำไมต้องพูดย้ำบ่อยๆนักนะเจ้าชายบ้า

   “ฟีล่า”
   
“อะไรอีกล่ะ” ผมชักหงุดหงิดแล้วนะ

   “เจ้าอย่าลืมย้อมผมเสียใหม่ด้วยนะ มันจะช่วยให้เราเดินทางผ่านชายแดนอาณาจักรไปได้ง่ายอีกหน่อย”
   
พอเจ้าชายนาดีลเตือนผมก็เพิ่งนึกขึ้นได้ เราวางแผนกันไว้ว่าจะปลอมตัวด้วยการย้อมสีผมของผมแล้วแต่งตัวเป็นผู้หญิง

   “รีบทำเข้าสิข้าอยากเห็นเร็วๆ” ผมงงไม่เข้าใจว่าเขาอยากดูอะไรแต่ก็ทำตาม
   
“อย่าลืมใส่ชุดผู้หญิงด้วยน้า” นาดีลกำชับ

   “เข้าใจแล้วน่า”

   ดังนั้นผมจึงเริ่มต้นใช้ผงย้อมกับเส้นผมของผมทันที ผมไม่เคยใช้มาก่อนโชคดีที่มีใบอธิบายการใช้แนบมากับห่อผงย้อมด้วย ใช้เวลานับชั่วโมงในที่สุดผมของผมทั้งหมดก็กลายเป็นสีดำสนิท

   เป็นสีผมที่เคยคุ้นมาก่อน ในความทรงจำในอดีตชาติที่มีอยู่ครึ่งๆกลางๆ ผมจำได้ว่าผมเคยมีสีผมดำสนิทแบบนี้   “ข้าดูเป็นไงบ้างนาดีล” ผมถาม

   “ดูดีมาก เอ้ารีบใส่ชุดผู้หญิงสิ” ผมพยักหน้าหงึกหงึก แล้วค่อยๆเปลืองผ้าออก ผมลืมไปเลยว่าเจ้าชายนาดีลอยู่ในห้องด้วยรู้ตัวก็ตอนที่เขาผิวปากแล้วเด้งขึ้นเด้งลงเบาด้วยท่าทางลั๊นลา

   “เจ้า….อย่ามองข้าเปลือยนะ” ผมชี้หน้าเจ้าชายนาดีลมือไม้สั่น ตั้งแต่รู้ว่าเขามีร่างมนุษย์ด้วยผมก็มียางอายขึ้นมาทันที

   “บู้…..ขี้งก” เจ้าชายนาดีลพองตัวแล้วปริ้นปาก เขาไม่ยอมทำตามที่ผมบอกง่ายๆ แต่ก็นั่นแหละเมื่อผมยืนกรานไม่ยอมทำอะไรเสียทีเขาก็ยอมหลับตาปล่อยให้ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยสะดวก

   “เสร็จแล้ว” พอผมบอกเขา เจ้าชายนาดีลก็ค่อยๆลืมตาขึ้น
   
“ว้าว” เจ้าสไลม์ร่างสีทองทำดวงตาเป็นประกายปากที่ฉีกยิ้มได้กว้างอยู่แล้วฉีกยิ้มได้กว้างกว่าเดิมอย่างน่าอัศจรรย์
   
“น่ารัก สวย อย่างที่ข้าจินตนาการเอาไว้เลย” เจ้าชายนาดีลโดดเด้งไปมารอบๆตัวผมทำเอาผมตาลายไปหมด ท่าทางเขาดูดีใจเหลือเกินที่เห็นผมในชุดผู้หญิง
   
“เสียดายจริงๆถ้าเป็นที่อาณาจักรสไลม์บ้านเกิดข้า คงหาชุดที่สวยงามกว่านี้ให้เจ้าได้ใส่ ตัดสินใจแล้วในงานอภิเษกของเราข้าจะให้เจ้าใส่ชุดเจ้าสาว”
   
เจ้าชายนาดีลทำตาเป็นประกายแล้วโดดมาไปโดดมารอบตัวผมไม่หยุด ผมทำได้แต่หัวเราะเฮอะๆด้วยความปลงกับอนาคตที่อยู่ในเงื้อมือของเจ้าชายนาดีล


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
นาดีลเป็นพระเอกที่น่ารักดี บางทีง้องแง้เป็นเด็กๆ บางทีก็โหดดด  :laugh:

พ่อโรสน่าจะสงสัยแล้วไปตามพวกทหารมาหรือเปล่า?

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
ขอเม้นท์ตามความรู้สึกจริงๆ
ถ้าคนเขียนไม่ชอบก็ขอโทษด้วยน้าค่ะ
คนเขียนเขียนดีค่ะ   แต่ติดที่ว่า
เราไม่ฟินฉากที่เจ้าชายกลายร่างเป็นคนเลย
ไม่ว่าจะตอนหยอด  ตอนหอม  ตอนกอดฟีล่า
ถึงจะหล่อเหลา เท่ห์แค่ไหนก็เถอะ  มันดูดาษดื่นกลืนไปกับนิยายเรื่องอื่นๆ
แต่เราชอบร่างที่เป็นสไลม์มากๆๆๆๆๆๆ
คนเขียนเขียนดีมากๆๆๆ  เราฟิน   เรายิ้ม  เราชอบ
เรามีความสุขที่ได้เห็นฉากฟีล่ากับเจ้าชายในร่างสไลม์
มันดูมีเสน่ห์มากๆๆๆๆ   แต่เรารู้ว่าคนเขียนเปลี่ยนบทไม่ได้
เปลี่ยนพล็อตไม่ได้   และคงมีคนอ่านบางส่วนที่ชอบร่างคน
แต่เราแค่บอกในสิ่งที่ออกมาจากใจจริงๆน่ะคะ
และยังคงแอบหวังว่าจะได้เห็นฉาก NC ของฟีล่า
กับเจ้าชายในร่างสไลม์อยู่   เพราะเราเขินและชอบมาก
ไม่คิดว่ามันจะวิตถาร  วิปริตเลย(ความคิดเห็นส่วนตัวน่ะคะ)
เพราะหากเป็น NC ฉากเจ้าชายนาดีลในร่างมนุษย์มันก็กลืนไปกับนิยายเรื่องอื่นๆที่หาอ่านได้ง่ายๆ
ปล.ขอบคุณมากๆที่เขียนฟีล่าที่น่ารักน่าชังกับเจ้าชายสไลม์สุดน่ากอดมาให้อ่านกันค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
เราก็ชอบนาดีลร่างสไลม์ค่ะ แต่เนื้อเรื่องตอนนี้มีเหตุผลรองรับเรื่องที่นาดีลต้องใช้ร่างมนุษย์อยู่นะคะซึ่งเราก็โอเค

ไม่ไว้ใจพ่อโรสเลย ต้องไปแจ้งทางการแน่ๆ

ออฟไลน์ zakimi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
โอว  กำลังมัน รอตอนต่อไปค่ะ 

ออฟไลน์ junpa

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
พ่อของโรสน่าสงสัยสุดๆ เลย

รู้สึกว่าฟีล่ากับนาดีลน่าจะหวานกันได้มากกว่านี้อีกน้า รู้สึกไม่ค่อนฟินกับนาดีลร่างมนุษย์เลยอ่าา

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ Maiiz Ellfiez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เราก็ชอบตอนร่างสไลม์เหมือนกัน  น่ารักมาก ๆ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ดุ๋งๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
เอียนรักฟีล่ามากจนทำให้มองข้ามความผิดชอบชั่วดีไป บวกกับความแค้นที่พวกสไลม์ฆ่าพ่ออีก เลยโดนชักจูงง่ายสินะ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่13
   
เช้าตรู่ของวันใหม่ก่อนที่จะเดินทางผมกับเจ้าชายนาดีลที่ตอนนี้อยู่ในร่างมนุษย์ เดินลงมายังชั้นล่างของโรงแรมเพื่อที่จะรับประทานอาหารเช้าที่นั่นพวกเราพบกับโรสและพ่อนั่งรออาหารเช้าอยู่
   
"พี่เดียน่า พี่ดีน" โรสโบกมือหยอยๆ
   
"มานั่งด้วยกันสิคะ" ผมไม่รอช้าทำตามคำชวนของโรส ผมพาเจ้าชายนาดีลไปร่วมโต๊ะกับโรสและพ่อ
   
"อรุณสวัสดิ์ครับ" ผมเอ่ยทักพ่อของโรสพอเป็นพิธี คนถูกทักส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้ ให้ตายสิเหมือนเขาไม่เต็มใจจะให้พวกผมมานั่งด้วยอย่างไรชอบกล
   
"โรสสั่งอะไรไปบ้าง" ผมถาม
   
"เราสั่งซุปกับขนมปังไปค่ะ" ผมพยักหน้าแล้วคิดว่าเช้าๆอย่างนี้ทานอาหารเบาๆก็ดีเหมือนกันจึงเรียกบริกรมาสั่งอาหารเลียนแบบโรสบ้าง
   
"ข้าอยากทานเนื้อนะที่รัก" เจ้าชายนาดีลกระซิบบอกผม ผมจึงสั่งอาหารกับบริกรให้เขาเพิ่ม
   
"ท่านพี่เดียน่าอยู่ในชุดนี้สวยมากเลยค่ะ" ผมยิ้มให้โรส ถึงแม้ว่าลึกๆจะไม่ค่อยชอบนักที่ต้องแต่งตัวแบบนี้แต่ทำอย่างไรได้ก็กำลังปลอมตัวเพื่อหลบหนีอยู่นี่นา
   
"แล้วตกลงพี่เดียน่ากับพี่ดีนจะเดินทางไปที่ไหนกันคะ"  พอถูกล้วงลึกผมก็อดไม่ได้ที่จะลอบส่งสายตาขอความเห็นกับเจ้าชายนาดีล พอเห็นเขาพยักหน้าผมก็บอกออกไปตามตรง
   
"เราจะเดินทางผ่านชายแดนทางทิศใต้ไปน่ะ" ผมตอบแค่พอให้เข้าใจแต่เลี่ยงตอบสถานที่ที่จะไปจริงๆ
   
"ถ้าอย่างนั้นเราก็เดินทางไปด้วยกันได้อีกหน่อยสิคะ"  โรสที่ค่อนข้างกระตือรือร้นหันไปขอร้องพ่อของเธอ ผมตั้งตัวไม่ติด

   "นะคะท่านพ่อท่านพ่อบอกเองนี่นาว่าจะเดินทางไปทางลัดแล้วก็ต้องผ่านชายแดนทางใต้เหมือนกัน"
   
"ก็ถ้าลูกอย่างให้พวกเขาเดินทางไปกับเราพ่อก็ไม่ว่าอะไรหรอก อีกอย่างต้องตอบแทนบุญคุณที่อุตส่าจ่ายค่าที่พักให้อีกด้วย"
   
"อย่างนี้ก็ต้องตอบแทนบุญคุณกันไปมาไม่จบไม่สิ้นสิ" จู่ๆเจ้าชายนาดีลก็เอ่ยขึ้นมา ผมชักเห็นด้วยกับเขานะว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างยุ่งยาก แต่โรสนี่สิมองมาที่พวกเราด้วยสายตาเว้าวอน
   
เฮ้อ.....ผมได้แต่ถอนหายใจ ผมเข้าใจว่าโรสคงจะเหงาและกลัวที่ต้องไปแต่งงานกับคนแปลกหน้าทั้งที่อายุยังน้อย เอาเถอะเดินทางไปกับโรสด้วยอีกหน่อยก็แล้วกัน
   
"ถ้าโรสอยากให้พี่กับดีนเดินทางไปด้วยล่ะก็ พี่ก็ขอรบกวนอีกนิดแล้วกัน" โรสยิ้มจนแก้มปริ หลังจากพวกเรารับประทานอาหารเรียบร้อย ทั้งหมดก็เริ่มต้นออกเดินทาง
   
"พี่เดียน่าคะดูนั่นสิดอกไม้สวยจังเลยนะคะ"  ผมได้แต่ยิ้มเพราะตลอดการเดินทางในครั้งนี้โรสดูจะร่าเริงเป็นพิเศษ เธอชี้ชวนให้ผมดูทัศนียภาพและของสวยงามไปตลอดทาง
   
"อยากลงไปเก็บดอกไม้ตรงนั้นจังเลยค่ะ ถ้าเอาประดับผมพี่เดียน่าคงจะงดงามมากขึ้นแน่ๆ" ผมยิ้มน้อยๆให้กับความต้องการแบบเด็กสาวของโรส นึกไม่ถึงว่าโรสจะขอให้พ่อของเธอหยุดรถแล้วลงไปเก็บดอกไม้จริงๆ

   "ท่านพ่อคะช่วยหยุดก่อนได้ไหมคะข้าอยากเก็บดอกไม้ตรงนั้น" ตอนแรกนึกว่าพ่อของโรสจะไม่อนุญาตแต่ก็ยอมหยุดระหว่างทางปล่อยให้ลูกสาวทำตามใจ ก็นะพ่อลูกกันจะตามใจกันแบบนี้ผมก็ไม่แปลกใจ
   
"ท่านพี่เดียน่าไปด้วยกันนะคะ" ถูกโรสจูงมือแล้วพาไปยังทุ่งดอกไม้ที่พวกเราเดินทางผ่าน อดตามใจโรสไม่ได้เพราะลึกๆแล้วผมเอ็นดูเธออยู่
   
"ท่านดีนดื่มชาซักนิดไหมครับ" ผมได้ยินคำเชิญชวนจากพ่อของโรสผมหันไปมองดูเจ้าชายนาดีลเมื่อเห็นเขาพยักหน้าแทนคำตอบผมจึงเดินลึกเข้าไปในทุ่งดอกไม้ปล่อยให้ เจ้าชายเผ่าสไลม์นั่งดื่มชากับพ่อของโรส
   
"พี่เดียน่าคะ ข้าจะทำมงกุฏดอกไม้ให้นะคะ" หลังจากรวบรวมดอกไม้ได้จำนวนมากโรสก็เริ่มลงมือประดิดประดอยนำดอกไม้หลากสีมาทำตามใจต้องการ เมื่อเธอสร้างมงกุฏดอกไม้สำเร็จเธอนำมันมาประดับบนหัวของผม
   
"ลั๊นลา" โรสฮัมเพลงไปเรื่อยแล้วเริ่มต้นทำมงกุฏดอกไม้อันต่อไป ผมไม่อยากจะขัดใจเธอแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หากชักช้าไม่รีบเดินทางโรสจะเข้าหมู่บ้านถัดไปไม่ถัดค่ำ เธออาจจะต้องนอนกลางดินซึ่งตรงนี้ผมรู้สึกเป็นห่วงเธอ
   
"โรส เรารีบกลับไปดีกว่าไหม" โรสยังคงฮัมเพลงเบาๆและทำเป็นไม่สนใจ แต่ไม่นานนักเธอก็ยิ้มเศร้าๆแล้วหยุดการทำมงกุฏดอกไม้
   
"ขอโทษนะคะพี่เดียน่า"
   
"ขอโทษทำไม"
   
"ข้าแค่อยากจะยืดเวลาเดินทางให้นานอีกหน่อย คือข้ากลัวนะค่ะ" ถึงเธอไม่บอกผมก็เดาได้ โรสคงไม่อยากแต่งงานกับลูกชายพ่อค้าที่พ่อแนะนำแน่ๆ คงจะกลัวอนาคตจึงได้พยายามยืดเวลาออกไป
   
"แต่ว่าข้าควรจะทำใจให้ได้สินะคะ" โรสพยายามยิ้มผมได้แต่ลูบศีรษะเธอไปมาเป็นการปลอบโยน ในตอนนั้นผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองดูเจ้าชายนาดีล
   
เขาหลับ เจ้าชายนาดีลกำลังนอนหลับ ให้ตายสินี่เขายังนอนไม่พออีกหรือไงนะ ตอนนี้พ่อของโรสเดินตรงเข้ามาหาพวกเรา
   
"โรสไปกันเถอะ" เมื่อมาถึงพ่อของโรสก็จับมือโรสแล้วลากจูงเหมือนเร่งรีบ ผมตั้งใจจะเดินตามพวกเขาไปทว่าในตอนนั้น ชายแ ปลกหน้าก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าพวกเรา
   
"อ้าวให้ตายสิ นี่พวกแกยังอยู่อีกหรือ" ชายแปลกหน้าถามด้วยท่าทางยโส ตอนนี้ผมเริ่มประมวลความคิดอย่างรวดเร็วและเริ่มจะเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
   
"ข้ากับลูกสาวกำลังจะไปขอรับ ท่านเองก็อย่าลืมเงินรางวัลของเรานะขอรับ" คำตอบชัดเจนขึ้นเมื่อได้ฟังบทสนทนาของทั้งคู่ ผมอดส่งสายตาตั้งคำถามไปยังโรสไม่ได้ อยากจะรู้เหลือเกินว่าเธอรู้เห็นเป็นใจด้วยไหม
   
"ไปสิลูกพ่ออย่าดื้อ" แทบจะได้รับคำตอบในทันทีโรสมีสีหน้างุนงงอย่างที่สุด
   
"พ่อคะคนแปลกหน้านี่เป็นใคร"
   
"อย่าอยากรู้นักเลยน่าไปเร็ว"
   
พ่อของโรสพยายามดันร่างโรสให้เดินไปตามทาง จังหวะนั้นโรสก็สลัดหลุดจากพ่อของเธอแล้ววิ่งมาหาผม คงจะสงสัยว่าทำไมผมไม่เดินตามไปด้วย แต่ในจังหวะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสายตาของผมกลายเป็นเหมือนภาพเคลื่อนไหวอย่างช้าๆขณะที่โรสวิ่งเข้ามาหาชายแปลกหน้าก็ซัดมีดตรงมาที่ผมเช่นกัน มันรวดเร็วจนผมขยับเข้าหาเธอไม่ทันการ
   
"โรสหลบไป" ผมพยายามบอกเธอ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้มีดที่ถูกซัดมาจำนวนมากปักเข้าตามร่างกายของเธอจนมิดด้าม และมีดพวกนั้นก็พุ่งผ่านเฉียดร่างผมไปจนผมได้บาดแผลเช่นกัน
   
"โรส" ผมถลาเข้าไปรับร่างของโรสที่ร่วงไปกองกับพื้น เธอหมดลมหายใจไปแล้วดวงตาคู่สวยของเธอยังคงลืมอยู่บอกชัดว่าเธอตายอย่างกระทันหัน
   
"โธ่โรส ไม่น่าโง่เลย" พ่อของโรสเริ่มต้นร้องไห้ แต่เมื่อเห็นสีหน้าเหี้ยมเกรียมของชายแปลกหน้าพ่อของโรสก็วิ่งหนีไปทิ้งผมให้เผชิญหน้ากับศัตรูตามลำพัง
   
"เอ้าดิ้นรนเสียหน่อยสิ ข้าไม่ชอบฆ่าคนที่ไม่มีทางสู้หรอกนะ" ศัตรูของผมโยนดาบลงมากองตรงหน้า ผมปลายตามองสิ่งนั้น ยอมรับว่ายังอาลัยที่ต้องปล่อยมือจากร่างไร้วิญญาณของโรส แต่ผมก็เก็บดาบที่พื้นขึ้นมา
   
"ได้ข่าวว่าเจ้าชายถูกผนึกพลังเอาไว้ อย่างนั้นข้าจะสู้กับเจ้าด้วยเชิงดาบล้วนๆก็แล้วกัน"
   
ตอนนี้ผมกับศัตรูล้วนตั้งท่าพร้อมปะดาบ แทบจะในทันทีฝ่ายตรงข้ามตวัดดาบลงบนแขนของผม เรียกเลือดแรกจากผมได้
   
"ถามอะไรหน่อยเจ้าคือเจ้าชายฟีล่าใช่ไหม" ศัตรูถามผม ผมอดเหยียดยิ้มเย้ยหยันมันไม่ได้
   
"เจ้าเล่นงานข้าทั้งที่ไม่แน่ใจนี่นะ" ศัตรูของผมหัวเราะฮาฮาพร้อมกับกระโดดข้ามหัวผมแล้วตวัดดาบย้อนกลับมายังแผ่นหลังที่ไร้การคุ้มกัน ด้วยคาดเอาไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนั้นผมหันกลับแล้วปัดเอาดาบออกได้ทันท่วงที
   
"แหมถึงจะไม่แน่ใจ แต่สัญชาติญาณมันบอกว่าเจ้าต้องใช่คนที่ข้าตามฆ่าแน่ๆ" กล่าวไปพร้อมกระหน่ำแทงดาบเข้ามามากมายผมพยายามหลบอย่างเต็มที่แต่ก็ไม่วายได้รับบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ
   
เร็ว ผมคิดได้ว่าผู้ชายคนนี้มีความเร็วเหนือกว่าผมมาก เขาไม่น่าจะใช่คนธรรมดา
   
"เจ้าเป็นชาวมังกรสินะ" ผมถาม
   
"อา.....เป็นนักฆ่าที่ท่านเสนาบดีเลี้ยงดูมากับมือเลยล่ะ...อุ๊บในเมื่อเจ้ารู้แล้วก็สมควรจะตายได้แล้วนะ" นักฆ่าของคาลอสเข้าโจมตีผมเต็มกำลังด้วยแรงที่มากกว่า เขากระหน่ำฟันลงมาจนผมต้องตั้งรับและเอาแต่หลบ แต่ก็นั้นแหละเล่นโถมเข้าหาขนาดนี้ ผมจึงฉวยจังหวะที่เข้าถลันเข้าหาซัดทรายเข้าใส่ดวงตา
   
"อ๊ากกกกกก" เจ้านักฆ่าร้องโหนหวนผมไม่รอช้าแทงดาบไปที่มันจนทะลุกลางอก
   
"ฮ่าๆๆๆๆๆ" คนถูกแทงหัวเราะร่วน ผมได้แต่เดาะลิ้น ลืมไปเลยว่าสำหรับเผ่ามังกรอย่างเราแค่นี้คงไม่ตายง่ายๆ
   
ตอนนี้ต่อหน้าต่อตาผมเจ้านักฆ่าค่อยๆกลายร่างทีละนิด ผมก้าวเท้าถอยหลังพยายามคิดว่าจะต่อสู้อย่างไร้กับมังกรตัวใหญ่ทั้งที่ตนเองถูกผนึกความสามารถเอาไว้ทั้งหมด
   
แต่แทบไม่มีใครคาดคิดเจ้าชายนาดีลที่ผมคิดว่าเขาหลับเพราะถูกวางยาก็พุ่งพรวดเข้ามาใช้ดาบที่อยู่บนพื้นตัดคอของเจ้านักฆ่าขณะที่กำลังพยายามกลายร่างขาดสะบั้นในดาบเดียว หัวของเจ้านักฆ่าที่กลายเป็นมังกรไปแล้วกลิ้งขลุกๆมาตรงหน้าของผม ผมมองดูมันด้วยสายตาเย็นชา
   
สาสมแล้ว ผมไม่มีความเห็นใจมันซักนิด เพราะว่าเจ้านี่เป็นคนฆ่าโรสที่ผมเอ็นดูนักหนา
   
"ทำไมมาช่วยช้าจัง" ผมถามเจ้าชายนาดีลที่ตอนนี้ส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้
   
"ข้าขอโทษนะฟีล่า ตอนแรกข้าคิดว่าจะยอมตามน้ำดื่มชาที่สงสัยแล้วค่อยขับพิษออกทางผิวหนัง แต่ว่าจำนวนพิษที่มีมันมากไปหน่อยเลยต้องเสียเวลานาน เจ้าคงจะไม่โกรธข้าสินะ" เจ้าชายนาดีลทำหน้าเศร้าๆ ผมรู้ว่าเขาสำนึกผิดมากแค่ไหน ผมจะโกรธเขาได้อย่างไร ต้องโกรธตัวเองสิที่ทำให้โรสต้องมาผัวพันจนถึงแก่ความตาย
   
"เป็นความผิดของข้าที่ทำให้โรสต้องมาตาย" ผมกล่าวโทษตัวเองแต่นาดีลเหมือนไม่เห็นด้วย
   
"จะใช่ได้อย่างไร ข้าไม่เห็นเหตุการณ์ก็จริง แต่คนผิดคือเจ้าพ่อบ้านั่นที่ขายเราต่างหาก"
   
"แต่ว่านาดีล....ข้า" ขอบตาผมร้อนผ่าว คำพูดต่อมาของผมจุกอยู่ที่อก สะอื้นโดยไร้เสียงจนไม่สามารถกล่าวคำพูดต่อไปได้
   
"ข้าผิดเองที่ไม่ได้คิดล่วงหน้าหรือเตือนเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้" เจ้าชายนาดีลเข้ามากอดรัดผม
   
"ข้าควรจะเตือนเจ้าว่าระหว่างหลบหนีเราไม่ควรให้ความสนิทสนมกับใคร"
   
"ไม่ เจ้าไม่ผิด ข้าต่างหากที่ผิด หลายครั้งที่ข้าควรจะเข้าใจได้ด้วยตัวเอง แต่ข้าก็ยังเอาแต่ทำตัวไร้เดียงสา สุดท้ายเหตุการณ์เลวร้ายก็เกิดขึ้นจนได้"
   
"ฟีล่า" เจ้าชายนาดีลเชยคางผมให้เงยหน้าขึ้นไปสบตา เขาโน้มใบหน้าลงมาหมายจะจูบผม เขาคงอยากปลอบโยนแต่ผมไม่มีอารมณ์เช่นนั้นผมจึงเบือนหน้าไม่ยอมรับจูบของเจ้าชายนาดีล
   
"เราต้องฝังศพให้โรสนะ" ผมบอกเจ้าชายนาดีลแล้วเดินเข้าไปหาศพโรสที่นอนอยู่บนพื้น
   
"ให้ข้าช่วยเถอะ" นาดีลอาสา ในวันนั้นเราสองคนช่วยกันสร้างหลุมศพให้กับโรสที่จากไปด้วยวัยอันไม่สมควร และตอนนี้ผมก็เริ่มที่จะตระหนักถึงสถานการณ์ซึ่งน่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆได้หลังจากที่ตนเองนั้นคิดน้อยจนเกินไป


 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai


วันนี้เอามาลงตอนเดียวคะแถมค่อนข้างจะดราม่าอีกต่างหากหวังว่าจะมีคนเม้นเราบ้างน้า5555 กลัวไม่มีคนเม้น

อ๋ออีกนิดค่ะ เรามีข้อความถึงคุณคนอ่าน

เรื่องncก่อนที่คุณคนอ่านจะมาชี้แนะเรา เรามีncอยู่ในใจหลายฉากค่ะ เนื่องจากเราเป็นคนเขียนncไม่ค่อยเก่ง

และเรื่องนี้เรายังลังเลว่าจะจัดเต็มncดีไหม เพราะเราพยายามเขียนให้มันมุ้มมิ้งไปตลอดทั้งเรื่องกลัวจะไม่เข้ากับเนื้อหา

แต่ก็นั่นแหละพอคุณคนอ่านมากระตุ้นเรา เราก็ปรึกษากับน้องสาวเราอย่างคร่ำเคร่งถึงความเป็นไปได้

คือต้องบอกว่าเราคิดไว้หลายอย่างมาก แต่ก็เขียนออกมาแล้วค่ะ และได้เอาลงที่ธัญวลัยแล้ว ไม่รู้ว่าจะถูกใจคุณคนอ่านหรือเปล่า

ตอนนี้หลักๆคือเราเองยังไม่แน่ใจเลยว่าncอันนี้คนอ่านจะถูกใจกันหรือเปล่า เพราะไม่ใช่ncแบบจัดเต็มอะไร ออกแนวพยายามให้มันเบาๆลงด้วยซ้ำ 555555

อยากให้คุณคนอ่านไปลองอ่านดูแล้วคอมเม้นให้จังเลยค่ะ แต่ถ้าจะรอเราลงเรื่อยๆที่เล้าเป็ดจนถึงตอนนั้นก็ได้นะคะ

ขอบคุณที่ชี้แนะแนวทางค่ะ


ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
โรสตายโหดมาก   โหดแบบนึกไม่ถึงเพราะเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างมุ้งมิ้งมาตลอด555
แต่ชอบน่ะคะมันเป็นจุดเปลี่ยนหลายอารมณ์ดี  มีน่ารัก  มีดราม่า
ทำให้เป็นนิยายที่มีพล็อตซับซ้อนมากขึ้น
ส่วนเรื่อง NCที่จะให้ไปอ่าน   ได้เลยค่ะ
แต่คนเขียนต้องบอกก่อนน่ะว่าอยู่ตอนที่เท่าไหร่  เดี๋ยวหาไม่เจอ^^
แล้วเราก็เม้นท์ที่ธัญวลัยไม่เป็นอ่าค่ะ   สะดวกเม้นท์ที่นี่มากกว่า
ถ้าอย่างไรจะลองอ่านดูแล้วจะมาวิจารณ์ให้กระทู้นี้น่ะคะ :)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
โถ่โรสลูกไม่น่าเลย เพราะมีพ่อแบบนั้นแท้ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด