(จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)  (อ่าน 59636 ครั้ง)

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ




==========================================================


บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

สวัสดีค่า  ชื่อบิวนะคะ  เรื่องนี้เป็นนิยานเรื่องแรกที่นำมาลงในเล้า  หากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยล่วงหน้าเลยนะคะ  เรื่องนี้เป็นแนวเลิฟคอเมดี้  ขำๆ  ฮาๆ  มีซึ้งบ้างเล็กน้อย  แต่เน้นฟีลกู๊ดจ้า  ใครที่เข้ามาอ่านเร่องนี้ก็ขอบคุณมากๆเลยนะคะ  จะพยายามอัพบ่อยๆไม่หายไปไหน  และขอสัญญาว่าอัพจนจบแน่นอนค่าาา


ตามมาเม้ามอยกันได้ที่เพจเลยนะคะ    https://www.facebook.com/bewjuliet/


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2017 19:50:09 โดย WwW »

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


บทนำ
คำขอร้องจากเพื่อนฝูง

“กูขอร้องล่ะ  ตอนนี้มีแค่มึงเท่านั้นที่จะทำเพื่อมหา’ลัยของพ่อกูได้!”
การอ้อนวอนจนแทบจะก้มกราบตีนผมอยู่รอมร่อของเพื่อนสนิทยังคงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง
ผมใช้มือทั้งสองข้างผลักมันจนกระเด็นก่อนจะเดินไปนั่งแหมะบนโซฟา  ส่ายหัวปฏิเสธคำขอร้องของมันแบบไม่ใยดี
ต่อให้เอาเงินหนึ่งล้านมาวางกองอยู่ตรงหน้า  ผมก็จะไม่ช่วยมันเรื่องนี้เด็ดขาด!
“น่านะ  แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว  ช่วยกูหน่อยเหอะเพื่อน!”
“ไม่!”
“มีมึงคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้ปัญหานี้มันผ่านพ้นไปนะเว้ย  ชื่อเสียงมหา’ลัยที่พ่อ  ไม่สิ  ที่คุณทวดของกูอุตส่าห์สร้างมา  มึงจะยอมให้มันเสียหายเรอะ!”
“เออ!  คุณทวดมึงไม่ใช่คุณทวดกู!”
“ไอ้ฟายยยยยยย”
“ไฟเว้ยไอ้สัตว์!”
ผมท้วงทันที  มันชอบเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงยานคางทำให้ความหมายชื่อของผมผิดไปประจำ 
“อย่าทำแบบนี้สิวะไอ้ฟาย  มึงต้องช่วยกูนะเว้ย  ถ้ามึงไม่ช่วยกูพ่อต้องบินกลับจากเมกามาฆากูแน่ๆ  กูขอร้องเหอะ  นะๆๆๆ”
“ไม่!”
“กูกราบล่ะ  ให้กูทำอะไรก็ได้  กูยอมหมดเลยยยยย”
‘ไอ้ตูมตาม’ ทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นพลางกอดขาผมไว้แน่น  แกล้งทำปากเบะและกะพริบตาปริบๆทำท่าเหมือนคนจะร้องไห้
แต่!  คำว่า ‘ให้กูทำอะไรก็ได้’ ของมันนี่น่าสนใจไม่น้อยเลยแฮะ
“แน่ใจนะว่าให้ทำอะไรก็ได้น่ะ”
“แน่ใจ!  มึงอยากได้อะไรเชิญบัญชามาเลย  จะเป็นดวงดาวหรือว่าจันทรา  หยดน้ำบริสุทธิ์จากป่าพิมพานต์  ท่านตูมตามผู้นี้ก็จะไปหามาให้!”
“หึๆๆ  ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
“พูดแบบนี้แสดงว่ามึงยอมช่วยกูแล้วใช่ไหม”
คำถามของมันทำเอาผมชะงัก
เอายังไงดีนะ  ถ้ายอมช่วยมัน  ผมก็อาจจะได้ในสิ่งที่ผมต้องการ  แต่ว่า….
สิ่งที่มันขอเนี่ยสิ  ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะสามารถทำกันได้ง่ายๆเลยนะ!
“ว่าไงวะ  ไม่มีเวลาแล้วนะเว้ย!”
“เอ่อ…คือ…”
“ขอร้องล่ะ  แล้วมันอยากได้อะไรมึงบอกกูมาเลย  กูพร้อมจัดให้มึงุทกอย่าง!”
“กู…”
“…”
“กูชอบพี่สาวมึง”
“ฮะ…?”
“ถ้ามึงอยากให้กูช่วยมึงเรื่องนี้  มึงก็ต้อง…เป็นพ่อสื่อให้กูกับพี่สาวของมึง”
“ไอ้เชี่ย!”
ไอ้ตูมตามสบถดังลั่นพลางลุกขึ้นชี้หน้าผมด้วยท่าทางโมโห
เป็นอันรู้ดีกันทั่วทุกสารทิศว่าไอ้เวรนี่มันหวงพี่สาวตัวเองมากแค่ไหน  ทั้งหวงทั้งห่วง  ตัวผู้ใดๆนี่ห้ามเข้าใกล้เด็ดขาด  ก่อนหน้านี้ผมเคยชมพี่สาวมันตอนเห็นรูปถ่ายว่าน่ารักดี  ยังโดนมันโกรธแม่งข้ามคืน
“ถ้ามึงไม่โอเค  กูก็ไม่ช่วย  จบ  แยกย้ายได้”
หมับ!
อีกฝ่ายคว้าแขนผมไว้แล้วผลักให้นั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง  สีหน้าจริงจังจ้องมองผม  ถ้ามึงจะจริงจังขนาดนี้…มึงก็ไม่ควรมาขอร้องกูเลยเหอะ
ชีวิตกูเคยจริงใจอะไรกับใครเขาที่ไหนล่ะ!
“ถะ…ถ้า…ถ้ากูยอมช่วย  มึงก็จะยอมช่วยเรื่องนี้ใช่ไหม”
“เออ  ว่าแต่…มึงแน่ใจเหรอ?”
“แน่ใจกับผีอะไรล่ะ!  มึงก็รู้ว่ากูหวงของกูแค่ไหน  แต่…เรื่องนี้มันก็โคตรจำเป็นกับชีวิตกูเลย  เพราะถ้ากูจัดการโปรเจกต์นี้ไม่ได้  พ่อก็จะส่งกูไปทำงานกับลุงที่เยอรมัน  แต่กูไม่อยากไป!”
“แล้ว?”
“อ๊ากกกก  ทำไมมึงต้องให้กูเลือกอะไรยากๆแบบนี้ด้วยวะ  ผู้หญิงมีเป็นล้านบนโลกทำไมมึงไม่ชอบ!”
“ก็พี่สาวมึงน่ารักอ่ะ”
“น้องสาวมึงก็น่ารักเหอะ!”
“อย่ามาแต่จะคิดถึงน้องสาวกูเชียวนะ”
ผมชี้หน้ามันอย่างข่มขู่  ไอ้ตูมตามถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยสุดๆก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆผม
“เอาวะ  กูยอมแล้ว  แต่กูจะแค่ช่วยให้มึงได้เจอกันเท่านั้นนะ  ที่เหลือมึงต้องสานต่อเอาเอง”
“แค่นั้นก็ได้”
อย่างน้อยก็ยังมีโอกาสได้เจอเพื่อสานความสัมพันธ์ต่อ
ก่อนหน้านี้ใครก็ไม่มีสิทธิ์ได้เจอพี่สาวมันทั้งนั้น  ผมเลยไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ทำความรู้จักกับเธอ  ได้เห็นเธอผ่านรูปและนิตยสารบางเล่มเท่านั้นเอง
“งั้นสรุป…มึงจะยอมช่วยกูแล้วใช่ไหม  สามเดือนต่อจากนี้  มึงจะ…”
“…”
“กลายเป็นน้ำ  น้องสาวฝาแฝดของมึงเพื่อมหา’ลัยสินะ!”

ใช่แล้ว  นี่แหละคำขอของมัน…
สามเดือนต่อจากนี้  ผม…นายไฟ…
จะต้องกลายเป็นนางสาวน้ำแล้วล่ะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-11-2016 22:08:22 โดย WwW »

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 1
ฝึกฝนความเป็นหญิง

“งั้นตกลงว่าไฟจะช่วยน้ำสินะ”
น้องสาวตัวดียิ้มร่าเมื่อฟังเรื่องราวจากผมจบ
เรื่องของเรื่องก็คือ…เมื่อสี่เดือนก่อนตอนที่ผมและน้ำเพิ่งขึ้นมหา’ลัยปีหนึ่ง  น้ำได้รับการโหวตให้เป็นดาวของมหา’ลัยเพื่อเป็นตัวแทนไปประกวดในเวที “พลิกฟ้าหาดาว”  เวทีเฟ้นหาดาวมหา’ลัยที่สวยที่สุด  เพียบพร้อมที่สุด เพื่อไปแข่งเวทีระดับโลก  โดยที่ตลอดสี่เดือนที่ผ่านมานั้น  นอกจากการเรียนแล้ว  น้ำก็ยังเตรียมตัวอย่างดีสำหรับการประกวดครั้งนี้  ทั้งดูแลผิวหน้าและผิวกาย  ดูแลหุ่น  ดูแลสุขภาพ  ฝึกการเย็บปักถักร้อยทุกชนิด  เรียกได้ว่าตอนนี้น้องสาวของผมคือผู้หญิงที่เพียงพร้อมที่สุดคนหนึ่ง  ทว่า…
สามวันก่อนระหว่างน้ำกำลังขับรถกลับจากไปทำสปาผิวที่ร้านประจำ  ดันมีคนเมาแล้วขับขับรถผ่าไฟแดงมาชนเข้ากับรถของเธอที่กำลังขับออกมาพอดีเข้าอย่างจังทำให้แขนขาหักจนต้องเข้าเฝือก  แม้อาการจะไม่ได้หนักหนาสาหัส  แต่การที่ต้องนอนเข้าเฝือกแบบนี้ก็ทำให้เธอไม่สามารถไปประกวดได้  เพราะหมอบอกว่าอย่างน้อยต้องพักฟื้นร่างกายเป็นเวลาสามเดือน!  ซึ่งมันประจวบเหมาะพอดีกับระยะเวลาในการประกวดเข้า  หวยแม่งเลยมาลงล็อคที่ผมนี่แหละ
ผม…ซึ่งเป็นพี่ชายฝาแฝดที่เบ้าหน้าเหมือนกันเป๊ะ  ต่างกันก็แค่ผมมีปิกาจู้  แต่ของน้ำเป็นโดเรมีเท่านั้นเอง
และเพราะความที่มีใบหน้าและหุ่นใกล้เคียงกัน  ไอ้เพื่อนเฮงซวยลูกชายเจ้าของมหา’ลัย “อาคเนย์” ที่ผมและน้ำเรียนอยู่ก็เลยมาขอร้องให้ผมสวมรอยเป็นน้ำเข้าประกวดแทน  เพราะที่ผ่านมามหา’ลัยชวดตำแหน่งดาวระดับประเทศมาตลอดตั้งแต่ก่อตั้ง  แต่ปีนี้มีกรรมการของการประกวดหลายคนบอกว่ามหา’ลัยมีสิทธิ์ได้ตำแหน่งสูงเพราะน้ำมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่าง  พ่อมันเลยฝากฝังทุกอย่างไว้ในมือของลูกชายก่อนไปดูงานที่อเมริกา  กว่าจะกลับก็หลังประกวดเสร็จพอดี  ซึ่งได้คาดโทษเอาไว้ล่วงหน้าด้วยว่าหากไม่สามารถทำให้มหา’ลัยไปแข่งดาวระดับโลกได้  ก็จะส่งไอ้ตูมตามเพื่อนผมไปทำงานกับลุงสุดโหดของมันที่เยอรมัน
เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้แหละ
“ไฟไม่ได้ช่วยน้ำนะ  ก็แค่…”
“…”
“ไฟจำได้ว่าน้ำเคยบอกว่าว่าอยากจะเป็นนางงาม”
“…”
“มันคอความฝันตั้งแต่เด็กของน้ำใช่ไหมล่ะ”
“ไฟ…จำได้ด้วยเหรอ”
น้ำมองหน้าผมด้วยแววตาซาบซึ้ง
ผมยีหัวน้องสาวเบาๆด้วยความรักและเอ็นดู  มองน้ำทีไรก็เหมือนส่องกระจกมองตัวเองทุกครั้ง  ที่ผ่านมาเลยมีพวกผู้ชายเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นน้ำแล้ววิ่งเข้ามาทักบ่อยๆ  พอผมรู้ว่าพวกมันตั้งใจจะมาม่อน้องสาวผมก็เลยอัดมันกลับจนวิ่งหางจุดตูดตลอด 
ทำไงได้ล่ะ  แค่จินตนาการภาพน้ำเป็นแฟนกับใครสักคนผมก็แทบจะอ้วกออกมาอยู่แล้ว
มันให้ความรู้สึกเหมือนตัวผมที่เป็นผู้ชายดันไปเป็นแฟนกับผู้ชายด้วยกันน่ะสิ  บรื๋ออออออ!
“ไฟจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้ำได้หมดนั่นแหละ  เพราะไฟรักน้ำไง”
“งื้ออออ  น้ำก็รักไฟ  รักมากๆๆๆๆที่สุดเลย พี่ชายที่แสนใจดีของน้ำ”
รอยยิ้มของน้ำทำให้ผมมีความสุขขึ้นหลายสิบเท่า  ความกังวลที่เคยมีก่อนหน้านี้หายไปจนหมด
จะต้องไม่เป็นไรแน่นอน  ผมแค่ปลอมตัวเป็นน้ำเข้าไปประกวดและทำกิจกรรมในกองประกวดทั้งหมดแทน  รอจนกว่าน้ำจะพักฟื้นจนหายดีแล้วกลับไปเปลี่ยนตัวกับผม
แค่อดทนและพยายามเท่านั้น
เพียงเท่านี้…ผมก็จะได้ช่วยทั้งสานฝันให้น้ำ  ช่วยทั้งไอ้ตูมตาม  และ…
ได้เข้าใกล้เธอคนนั้น
นางในฝันที่ผมเฝ้ารอ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
โหมดมุ้งมิ้งระหว่างพี่น้องถูกขัดจังหวะ  ประตูห้องพักฟื้นในโรงพยาบาลถูกเปิดออก  คนที่มาคือไอ้ตูมตามนั่นเอง  อีกแค่สี่วันก็จะถึงวันที่ผมต้องเดินทางไปเก็บตัวเพื่อทำกิจกรรมของกองประกวดแล้ว  จากนี้คงต้องฝากให้ไอ้ตูมตามมาคอยดูแลน้ำให้เพราะพ่อทำงานอยู่ที่ไต้หวัน  ส่วนแม่ก็เสียไปนานแล้ว  ถึงจะรู้สึกกังวลเหมือนว่าฝากปลาย่างไว้กับแมว  แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกแล้วล่ะ
“มาทำอะไรวะ”
“มาหามึงนั่นแหละ  แล้วก็มาเยี่ยมน้ำด้วย  เป็นยังไงบ้างน้ำ  ดีขึ้นบ้างไหม”
“ไม่เจ็บตรงไหนแล้วล่ะ แต่ก็อย่างที่เห็น…”
น้ำเหลือบมองไปที่แขนและขาของตัวเอง
“เข้าเฝือกเป็นมัมมี่รีเทิร์นเลย  ฮ่าๆๆๆ”
ก่อนจะหัวเราะร่วนออกมา  แม้ภายนอกจะดูกุลสตรีก็เถอะ  แต่เอาเข้าจริงๆน้ำของผมเป็นผู้หญิงที่ตลก  ร่าเริง  และเฮฮามาก  ใครอยู่ใกล้เป็นต้องหลงรักเธอทั้งนั้น 
“เห็นน้ำหัวเราะได้แบบนี้เราก็สบายใจ  ว่าแต่…รู้เรื่องที่ไอ้ฟายจะสวมรอยเป็นน้ำเข้าไปประกวดแทนแล้วใช่ไหม”
“อื้อ  ไฟบอกน้ำแล้วล่ะ”
“ที่เรามาก็เพราะเรื่องนั้นด้วย”
“ทำไมวะ?”
ผมรีบโพล่งถามขึ้นแทน  อย่าบอกนะว่าจากอีกสี่วันเลื่อนมาเป็นวันนี้เลยน่ะ!
ถ้าเป็นอย่างนี้กูขอบาย!  แค่สี่วันที่ว่าก็ยังไม่รู้เลยว่าจะทำใจได้ไหม  ต้องไปใส่กระโปรง  แต๊บไข่  เพื่อประชันความงามแข่งกับผู้หญิงอีกตั้งเกือบยี่สิบคน!
กูจะอดใจไม่ให้ตัวเองไล่ปล้ำสตรีเพศเหล่านั้นไหวหรือเปล่าเหอะ
“การประกวดนี้ใส่ส้นสูงตอนประกวดบนเวทีทุกครั้ง  แล้วมึงอ่ะใส่ส้นสูงเป็นหรือเปล่า”
“สะ…ส้นสูงเหรอ?”
“จริงด้วย  เป็นการแข่งประกวดนางงามนี่นา  น้ำลืมเรื่องนี้ไปเลย  ทำยังไงดีล่ะไฟ  ไฟไม่เคยใส่ส้นสูงมาก่อนเลยนะ”
อยากจะบ้าตาย  ทำไมต้องมีกฎใส่ส้นสูงประกวดนางงามด้วยวะ!
ผมส่ายหน้าไปมาเพราไม่ร็จะแก้ปัญหายังไงดีเหมือนกัน  หากแต่ไอ้ผู้มาเยือนกลับเอื้อมมือแตะบ่าผมแล้วยิ้มกว้างด้วยสีหน้าสบายใจสุดๆ
“เรื่องนั้นมึงกับน้ำไม่ต้องเป็นห่วง  ทีกู่มาก็เพื่อจะบอกว่ากูเตรียมแก้ปัญหาเรื่องนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว”
“ยังไงเหรอตาม?”
น้ำรีบถาม
“ไม่มีอะไรมากหรอกน้ำ  ก็แค่สี่วันนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป  ไอ้ฟาย…”
“…”
“มึงต้องฝึกความเป็นผู้หญิง!”
นี่มันเรื่องเชี่ยอะไรกันครับพี่น้อง!

เพี๊ยะ!
“ก็บอกว่าให้เชิดหน้ามองตรงยังไงล่ะคะ!”
เสียงตวาดแว้ดแสบแก้วหูดังขึ้นเป็นรอบที่ร้อย  ผมเบนสายตาพิฆาตไปทางไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่นั่งยิ้มแห้งๆมองผมอยู่ข้างน้ำซึ่งนอนมองอยู่บนเตียง
เจ้าของเสียวแว้ดๆนี้คือ “ครูลิลลี่”  หรือพี่ลิลลี่กะเทยรุ่นดึกดำบรรพ์ผู้ฝึกสอนวิชาเสริมบุคลิกภาพให้กับนางงามมานักต่อนัก  โชคดีที่เธอเป็นญาติกับไอ้ตูมตาม  มันเลยไปขอให้พี่ลิลลี่มาช่วยฝึกให้ผมเป็นกรณีพิเศษ  แน่นอนว่าจะต้องรู้เรื่องที่ผมกำลังจะสวมรอยเป็นน้ำเข้าไปประกวดแทนและยินดีที่จะช่วยปิดเป็นความลับด้วยหวังว่ากะเทยไทยจะชนะชะนีไทยในการประกวดเถอะ  ไม่ว่าผมจะยืนกรานไปล้านรอบว่าตัวเองเป็นผู้ชายแท้ๆก็ตาม
อยู่ดีไม่ว่าดี  ต้องไปประกวดนางงามแทนน้องสาวไม่พอ  ยังมากลายเป็นกะเทยไปอีก
โอ้…ชีวิต
“จะไหวเหรอคะน้องตูมตาม  แม่นี่หัวช้ามากเลย!”
เดี๋ยวๆๆ  ทำไมใช้คำว่า “แม่นี่” กับผมล่ะโว้ยยยย  บอกแล้วไงว่าผู้ชายทั้งแท่ง  แม่นอ่ะแมน  เข้าใจไหมเนี่ย!
“เอาน่าพี่ลิลลี่  ถือว่าช่วยผมนะ  มันไม่เคยเรียนรู้อะไรแบบนี้มาก่อน  ใจเย็นหน่อยนะครับ”
“เฮ้อ  นี่ถ้าไม่เห็นแก่น้องตูมตามพี่ลิลลี่ไม่มาเสียเวลาด้วยจริงๆนะเนี่ย  เสียภาพลักษณ์กะเทยไทยหมด  เป็นกะเทยนอกจากจะสตรองแล้วต้องมีสมองด้วยค่ะ!  ไม่อย่างนั้นพวกชะนีมันจะมาดูถูกพวกเราได้  เข้าใจไหมคะน้องฟาย!”
“ไฟครับพี่”
“นั่นแหละค่ะ!  เอาใหม่ค่ะ  เริ่มใหม่ตั้งแต่ต้น  แล้วก็นี่!  อย่าให้หล่นลงมาจากหัวเด็ดขาดเลยนะคะ”
หนังสือเล่มหนาจำนวนสามเล่มถูกวางลงบนหัวเต็มแรง
เล็บสีชมพูเรืองแสงได้ของพี่ลิลลี่นี่น่ากลัวๆพอกับความนิสัยเลยวุ้ย  ผมฝึกเดินให้เหมือนผู้หญิงมาสามชั่วโมงเต็มจนขาแข็งไปหมดแล้วยังไมได้พักเลย  น้ำเองก็เลยไม่ได้พักผ่อนตามไปด้วยเพราะอยากดูผมฝึกซ้อม  อีกอย่างไอ้ตูมตามก็ดันเสทอกนัดพี่ลิลลี่ให้มาฝึกผมที่ห้องพักฟื้นของน้ำซะงั้น
คงกะว่าถ้าผมมีน้ำคอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆผมจะต้องทำมันออกมาได้ดีล่ะมั้ง
แต่มึงคงลืมอะไรไปอย่างหนึ่งนะไอ้เพื่อนเวร ว่ากูเป็นผู้ชายมาสิบเก้าปีเต็ม!
กะอีแค่เวลาสี่วันมึงคิดว่ากูจะเปลี่ยนเป็นผู้หญิงได้เรอะ!  ใช้ต่อมลูกหมากผสมก้อนขี้ในหัวสมองคิดหรือไงฟะ  กูอยากจะบ้า
“สู้ๆนะไฟ  น้ำเป็นกำลังใจให้”
น้ำส่งยิ้มหวาน  หากแต่แววตากำลังเต็มไปด้วยความกังวลและความเป็นห่วงผมอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ได้การละ  ถ้าขืนผมยังเป็นแบบนี้ต่อไป  หลังจากเข้าไปร่วมเก็บตัวและทำกิจกรรมแล้ว  น้ำคงเอาแต่กังวลเรื่องของผมจนไม่ได้พักฟื้นแน่ๆ
ให้ตายสิ  มีแต่ต้องตั้งใจและจริงจังสุดๆเท่านั้นแล้วสินะ
เพื่อน้ำ…
“ไม่ต้องห่วงนะน้ำ  ไฟซะอย่าง”
“อื้อ  ไฟของน้ำเก่งอยู่แล้ว”
ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นน้องสาวเริ่มยิ้มออกแล้ว
เอาวะ!  ลองดูสักตั้ง  มาถึงขนาดนี้แล้วก็มีแต่ต้องเดินหน้าให้สุดเพื่อไม่ให้น้ำผิดหวัง  สำหรับผมแล้ว…ต่อให้เป็นดวงดาว ถ้ามันเป็นสิ่งที่น้ำอยากได้ผมก็พร้อมที่จะมาให้
พี่ชายคนนี้…
จะขอทำทุกอย่างเพื่อน้ำเอง!

สี่วันต่อมา
สถานที่เก็บตัวของกองประกวด
“พยายามเข้านะมึง  จากนี้ไปกูหรือใครก็จะติดต่อมึงไม่ได้แล้วจนกว่าจะถึงวันคัดเลือกรอบต่อไป  เพราะช่วงที่อยู่ในที่เก็บตัว  ทางกรรมการที่จัดงานจะไม่ให้เหล่าดาวมหา’ลัยทุกคนติดต่อใครได้ทั้งนั้น”
ไอตูมตามหันมาย้ำกับผมอีกครั้งหลังจากขับรถพาผมมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่เก็บตัวสำหรับดาวมหา’ลัยที่มาประกวดทุกคน
สามเดือนหลังจากนี้…ผมจะต้องอยู่ที่นี่
“กูรู้แล้วน่า  มึงย้ำกูหลายรอบแล้ว”
“กูกังวลนี่หว่า!  ถ้าโดนจับได้ขึ้นมามีแต่ตายกับตาย”
“ถ้างั้นกูกลับ  เพราะกูก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าความลับจะแตกหรือเปล่า”
“เฮ้ยยยย  ไม่ได้นะเว้ยๆๆ ถ้าเความลับแตกขึ้นมาอย่างน้อยก็ตายทีหลัง  แต่ถ้ามึงกลับตอนนี้กูก็จะตายตอนนี้เลย  เพราะพ่อต้องมาฆ่ากูแน่ๆ”
ไอ้ตูมตามดึงตัวผมเอาไว้
ความโชคดีอีกอย่างในการสวมรอยเป็นน้ำครั้งนี้คือผมไว้ผมยาวสีดำประบ่า  เลยบ่าไปนิดหนึ่งด้วยซ้ำ  เพราะความที่เรียนด้านศิลปะและมีความติสท์ในตัวค่อนข้างสูง  การไว้ผมยาวๆเซอร์ๆจึงกลายเป็นเอกลักษณ์ของผมไป  หากแต่พอต้องมาสวมรอยเป็นน้ำแล้ว  ความเซอร์ที่เคยมีเลยถูกลบไป  ผมที่เคยไว้แบบยุ่งๆมัดรวบคือจบก็ถูกบำรุงจนเงางามวาววับนุ่มนิ่มดูสุขภาพดีสุดๆ
“ถ้างั้นมึงก็เลิกกังวลได้แล้ว  หน้าที่ของมึงคือกลับไปดูแลน้ำให้กู  แล้วก็เตรียมตัวติดต่อพี่สาวมึงให้กูด้วย”
“เออๆ กูรู้แล้ว”
“อ้อ  ส่วนเรื่องน้ำ  กูแค่ให้มึงดูแลชั่วคราว  อย่าแม้แต่จะคิดจีบน้องสาวกูนะมึง”
“มึงนี่คิดมากว่ะ  กูรู้จักน้ำมาพอๆกับที่รู้จักมึง  กูเคยคิดอะไรแบบนั้นกับน้ำด้วยหรือไง”
“จะไปรู้เหรอ  เผื่อมึงแอบคิด”
คำพูดของผมทำเอาอีกฝ่ายชะงักไปจนผมต้องหรี่ตาลงมองมันอย่างจับผิด
“เงียบทำไมวะ  หรือว่ามึง…!”
“บ้าๆๆ  กูเงียบเพราะกูไม่รู้จะพูดอะไรเฉยๆเว้ย  พอๆๆ  เลิกคุยได้แล้ว  ใกล้เวลารายงานตัวก่อนเก็บตัวแล้ว  มึงรีบเข้าไปเหอะ”
“มึงแน่ใจนะว่ามึงไม่ได้คิดไม่ซื่อกับน้องกู”
“แน่ใจเว้ย!”
“อย่าให้กูรู้ทีหลังนะ  เพราะมึงเป็นเพื่อนรักกู  กูถึงไม่อยากให้น้ำคบกับมึง  เข้าใจไหม”
“กูรู้แล้วน่า!  เลิกพูดมากสักที  รีบไปได้แล้วเดี๋ยวจะสาย”
ไอ้ตูมตามจัดการปลดสายเบลท์ออกให้  ผมนั่งนิ่งจ้องหน้ามันต่อเกือบนาที  เมื่อไม่เห็นพิรุธอะไรก็เลยยอมเปิดประตูลงจากรถแต่โดยดี
“ฝากน้ำด้วยนะ  ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมึงต้องรีบมาบอกกู  รู้หรือเปล่า”
“รู้แล้วคร้าบบบบ  รีบเข้าไปได้แล้ว  กูเห็นมึงสภาพนี้นานๆแล้วอดนึกไมได้ว่ากำลังพูดจาหยาบคายกับน้ำ”
“ทำไมวะ”
“เหมือนกันฉิบหายน่ะสิถามได้!”
สิ้นคำ  ไอ้ตูมตามก็เลื่อนกระจกขึ้นปิดก่อนจะขับรถพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว  ทิ้งให้ผมยืนเคว้งลมพัดผ่านจนผมปลิวสยายอยู่คนเดียว
ข้าวของทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้ถูกส่งมาตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว  เพราะทางกองประกวดจะเป็นคนเอาของไปเก็บที่ห้องให้  วันนี้ผมเลยมาแบบตัวเปล่าๆไม่ต้องแบกอะไรมาทั้งสิ้นนอกจาก…
ผมหันหน้าเข้าหาประตูโรงแรมที่กำแพงเป็นกำแพงกระจกพอให้มองเห็นเงาตัวเองทอดผ่านอยู่ในนั้น  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจากนายไฟจะกลายเป็นนางสาวน้ำแล้วจริงๆ  ผมในตอนนี้แทบไม่เหลืออะไรที่บ่งบอกว่าเป็นนายไฟมาก่อนเลย  ด้วยความที่ร่างกายของผมมีฮอร์โมนเพศหญิงอยู่เยอะพอสมควร  ก็เลยบอบบ่างและอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง  แต่เรื่องพละกำลังและจิตใจของผมน่ะชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นเลยนะ!
“น้ำ…”
พึมพำชื่อน้องสาวขึ้นมาเบาๆ  พอยิ้มให้ตัวเองก็เหมือนกับว่าน้ำกำลังยิ้มให้  เอาล่ะ…ผมจะต้องทำได้  แค่พยายามไม่ให้ความลับเรื่องที่เป็นผู้ชายแตก  รอเวลาน้ำหายดีแล้วมาสลับเปลี่ยนตัวคืนเท่านั้นทุกอย่างก็จบ
ก็แค่อย่าให้ความลับแตก…
แต่ว่า…
ผมเลื่อนสายตาลงไปมองเป้าของตัวเองที่บัดนี้ปิกาจู้ได้ถูกบังคับให้จำศีลอย่างไม่มีกำหนด  หายใจออกไหมนะลูกพ่อ  ยังไม่ทันได้ใช้งานเลยด้วย
“สูดลมหายใจเข้าลึกๆ  แล้ว…”
“…”
“สู้โว้ยยยยย!”
ตะโกนออกมาเต็มเสี่ยงพร้อมกำหมัดชูขึ้นฟ้า  กางขาออกเล็กน้อยด้วยลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองใส่กระโปรงอยู่  ฉิบหายล่ะ!
มีใครเห็นไอ้ท่าเมื่อกี้ของผมไหมเนี่ย
ผมรีบกรอกตามองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่ามีใครอยู่แถวนี้หรือไม่  ถึงรูปกายภายนอกจะเหมือนผู้หญิงแบบเต็มสูบแล้ว  แต่เสียงของผมก็ยังห้าวเหมือนผู้ชายอย่างดี  ข้อควรระวังที่สุดในการปลอมตัวครั้งนี้ก็คือการดัดเสียงนี่แหละ!  แต่ว่าเมื่อกี้ผมดัน…
“ว้าว…เสียงห้าวใช้ได้เลยนะ”
ขวับ!
พลิกตัวหันกลับไปหาต้นเสียงที่ก้มลงกระซิบใกล้หูจนลมหายใจร้อนๆกระทบกับแก้มเบาๆด้วยความตกใจ  ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่ออีกฝ่ายยืนชิดผมเกินไป  ทำให้จังหวะหมุนตัวกลับมาของผมเป็นการชนกันแบบเต็มๆแทน  ข้อมือถูกคว้าเอาไว้ก่อนที่จะล้มกลิ้งลงไปบนพื้น!
โครม! ตุ้บ!
ซวยกว่านี้มีอีกไหม!
ผมหลับตาปี๋  หลากหลายอารมณ์เกิดขั้นจนตั้งรับไม่ทัน  ทั้งที่เป็นการล้มลงแบบเต็มแรงแต่ร่างกายกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว
ด้วยความสงสัยจึงค่อยๆลืมตาขึ้น  สิ่งแรกที่สายตามองเห็นคือปลายคาของใครบางคนที่มีไรหนวดขึ้นนิดหน่อย  ผิวสองสีที่ไม่ได้ดูดำสกปรก  กลับกัน  มันดูสะอาดสะอ้านและสุขภาพดี
“ติดใจเหรอ?”
เสียงแหบห้าวตั้งคำถาม  ทำให้ผมได้สติรีบยันตัวลุกขึ้นนั่ง
ฉิบหาย  ฉิบหาย  ฉิบหาย!
พูดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วจริงๆ
น้ำตาแทบไหลออกมาเป็นสายเลือดเมื่อรู้ว่าช่วงวินาทีชุลมุนเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง  ข้อมือข้างหนึ่งถูกผู้ชายที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นซีเมนต์แข็งๆตอนนี้จับเอาไว้  และเมื่อกี้ที่ผมไม่รู้สึกเจ็บตอนล้มลงก็เพราะผมดันล้มทับเขาพอดีในสภาพคร่อมเขาด้วยเหอะ
“เอ่อ…คือ…”
วิชาดัดเสียงที่ได้ร่ำเรียนมาจากพี่ลิลลี่ถูกงัดมาใช้ทันที  ขณะที่อีกฝ่ายอมยิ้มมองผมด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์สุดๆ  นัยน์ตาทะเล้นมองผมขึ้นลงไปมาก่อนจะมาหยุดอยู่ที่…
เป้า!
ไอ้ห่า!  เจอกันครั้งแรกก็มองเป้าเสียแล้ว  ไอ้โรคจิตเอ๊ย!
และเพราะเขามองเป้า  มองเลยเลื่อนสายตาไปมองตามบ้าง  วินาทีแรกที่เห็นสาบานได้เลยว่าอยากจะแกล้งตายให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ  ทีแรกนึกว่าแค่ล้มทับลงมาคร่อมไว้เฉยๆ  ที่ไหนได้…
จุดที่ผมคร่อมทับเขาเอาไว้เป็นจุดยุทธศาสตร์ของเขาพอดี!
ใช่แล้ว…
ปิกาจู้ของเขากับปิกาจู้ของผมที่จำศีลอยู่มันกำลังทักทายกันยังไงล่ะ!
หมับ!
มือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายจับเอาผมไว้แน่นพลางกดลงจนปิกาจู้ผมบดขยี้กับปิกาจู้ของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้  ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างมองการกระทำของชายแปลกหน้าคนนี้ด้วยความตกใจ
“คุณจะทำอะไร!”

‘ข้อสำคัญเลยสำหรับการปลอมตัวเป็นน้ำก็คือ…มึงต้องไม่ใช้กำลัง  และห้ามแสดงความแข็งแรงในแบบผู้ชายเด็ดขาด!’

งั้นกูต้องปล่อยให้มันทำลามกแบบนี้ต่อไปเหรอวะไอ้ตูมตาม!
“คุณน่ะ…ยังไม่ได้เฉาะสินะครับ”
สิ้นคำ  รังสีความเจ้าเล่ห์ก็แผ่ออกมาทุกอณูขุมขนจากคนใต้ร่าง  สายตาแหลมคมมองที่เป้าของผมราวกับว่ากำลังมองทะลุเนื้อหาเข้าไปข้างในจนได้เห็นในสิ่งที่ไม่สมควรจะเห็น
แต่เดี๋ยวก่อน…
เมื่อกี้ไอ้เวรนี่พูดว่าอะไรนะ! 
หรือว่าความลับของผมจะ…
“หึๆ…”
เฮ้ยยยยยย!  ไม่นะ!

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2016 18:08:52 โดย WwW »

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 2
กรณีพิเศษ

“คะ…คุณพูดอะไรน่ะ  ฉันไม่เข้าใจค่ะ”
“หืม?  ไม่เข้าใจจริงๆเหรอครับ”
“จริงค่ะ แล้วก็กรุณาปล่อยฉันได้แล้ว  เกิดมีใครมาเห็นเข้าจะกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดได้”
ว่าพลางมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง
นาทีนี้ต้องแกล้งหาเรื่องอย่างอื่นมากลบเกลื่อนเรื่อง “เฉาะ” นี่เสียก่อน
“ก็ได้ครับ  ปล่อยก็ได้”
ไอ้หน้าหนวดยอมปล่อยมือออกจากเอวของผมแต่โดยดี  เมื่อเป็นอิสระก็รีบยันตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้ามาในโรงแรมทันที
ไม่เป็นไรน่า  ก็แค่คนที่เจอกันโดยบังเอิญเท่านั้น  ไม่มีทางได้เจอกันอีกอย่างแน่นอน  เพราฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปไอ้ไฟ  ยังไงความลับก็ยังไม่แตก!
ปัง!
“เฮ้อ…เฮ้อ…”
หอบหายใจแฮ่กๆราวกับเพิ่งวิ่งสี่คูณร้อยรอบโลกมา
ไอ้หน้าหนวดนั่นเป็นใครกันนะ  พนักงาฯของโรงแรมเหรอ?  หรือเป็นแขกที่มาพัก?  หรือเป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่แถวนี้?  จากการแต่งตัวที่โคตรเซอร์บวกกับทรงผมยุ่งเหยิงไปมานั่นคิดว่าคงไม่น่าจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกับกองประกวดได้  ถ้าอย่างนั้นคงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลจริงๆนั่นแหละ  ผมแค่ต้องใจเย็นกว่านี้  พยายามทำตัวให้เป็นปกติเข้าไว้
“ตอนนี้เราคือน้ำ…คือน้ำ…”
ผมพูดกับตัวเอง  มือที่ใช้ดันประตูห้องน้ำไว้ในตอนแรกค่อยๆลดต่ำลงเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจเริ่มคงที่ 
จะว่าไป…
เมื่อกี้มัวแต่ตกใจก็เลยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำที่สายตามองเห็นก่อนโดยไม่ทันดู  แถมห้องน้ำก็ดูเงียบผิดปกติด้วยสิ  มันไม่ใช่การเงียบแบบไม่มีใครอยู่  แต่เป็นการเงียบที่…
วังเวงยังไงชอบกล
ด้วยความสงสัยปนหวาดระแวง  ผมค่อยๆหันหน้าไปมองข้างหลังช้าๆ  ขนแขนนี่พร้อมใจกันลุกชันล่วงหน้าเหมือนรับรู้ชะตากรรมในอนาคตอันใกล้ได้เป็นอย่างดี
“!!!”
ถั่วงอก!  เอ๊ย  งานงอก!
ห้องน้ำชาย!
“เอ่อ… แหะๆ”
ส่งยิ้มแห้งพร้อมทำท่ากำปั้นเขกหัวตัวเองเบาๆ  เอียงคอนิดๆ แบบคิขุอาโนเนะตามที่พี่ลิลลี่สอนมาเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน  ผู้ชายจำนวนสามคนที่กำลังยืนปลดปล่อยตัวเองอยู่ต่างก็มองผมเป็นตาเดียวด้วยใบหน้าอึ้งกิมกี่สุดจะบรรยาย
“คะ…คือว่าน้ำ…น้ำเข้าห้องผิดน่ะค่ะ  ขอโทษนะคะ!”
พูดแค่นั้นก็เปิดประตูวิ่งออกจากห้องน้ำมาทันที  จะรอดไหมเนี่ยกู   ยังไม่ทันจะถึงชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ  สร้างวีรกรรมเอาไว้เสียมากมาย!
“ห้องรายงานตัวๆ”
ผมวิ่งวุ่นตามหาห้องรายงานตัวจ้าละหวั่น  ทั้งที่คิดว่าจำทุกอย่างที่ไอ้ตูมตามบอกได้เป็นอย่างดีแล้วเชียว  แต่เพราะเกิดเรื่องให้ตกใจติดๆกันถึงสองเรื่องก็เลยทำให้ลืมมันแทบจะทุกอย่าง  จำได้อย่างเดียวว่าต้องรักษาความลับนี่เอาไว้ยิ่งชีพ  ถ้าผมตาย  ผมก็ต้องตายไปกับตัวผม
“อ๊ะ!  เหลืออีกสิบนาที  ฉิบหายละ เอ๊ย  ซวยแล้ว”
ต่อให้ภายนอกจะเหมือนผู้หญิง  แต่ยังไงผมก็เป็นผู้ชายอยู่ดี  ไอ้วิธีการพูดห่ามๆนี่แก้ยังไงก็ไม่หายสักที  เฮ้อ…!
ผมออกตัววิ่งเร็วขึ้น  สองมือถลกกระโปรงสีชมพูอ่อนขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้วิ่งได้ถนัดกว่าเดิม  ขืนไม่รายงานตัวไม่ทันไอ้ที่พยายามมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า  และน้ำจะต้องเสียใจแน่ๆถ้าผมทำให้ความฝันทั้งชีวิตของเธอต้องพังทลายลง  ตำแหน่งพี่ชายยอดเยี่ยมประจำปีก็จะสลายหายไปในพริบตา!
ตึกๆๆๆๆๆ
สเต็ปการวิ่งขั้นเทพสมกับเป็นนักกรีฑาสมัยมัธยมถูกงัดมาใช้  ส้นสูงที่ใส่อยู้ไม่ได้เป็นอุปสรรคเลยเพราผมฝึกมาอย่างดีจนเดินได้คล่องประหนึ่งว่าใส่รองเท้าผ้าใบเสียด้วยซ้ำ  ต้องขอบคุณพี่ลิลลี่จริงๆที่สอนผมด้วยหลักสูตรรวบรัด  คือถ้าทำพลาดจะต้องเป็นผัวพี่แก!  เล่นเอาผมทุ่มสุดตัว  ซ้อมมันทั้งวันทั้งคืนแบบไม่หลับไม่นอนจนแทบจะกลายเป็น Professional ด้านนี้อยู่แล้ว
ปึก!
“อ๊ากกก เอ๊ย  ว้ายย!”
อยากจะบ้าตาย  เปลี่ยนเสียงร้องเกือบไม่ทัน
รอบที่สองของวันแล้วที่ผมต้องล้มลงไปกองกับพื้น  ห่างจากรอบแรกไม่ทันจะถึงครึ่งชั่วโมง  กูจะรอดไหมเนี่ย  กูจะรอดไหม!
“เจอกันอีกแล้วนะครับ”
น้ำเสียงที่พอจะคุ้นเคยกับหูอยู่บ้างดังขึ้นเหนือหัว  เมื่อเงยหน้าดูก็พบว่าเป็นไอ้หน้าหนวดที่เจอหน้าโรงแรม  ไอ้โรคจิตที่ทำทุเรศกับปิกาจู้ของผม!
“มึ… เอ่อ…คุณ!”
สติหนอสติ  ช่วยสิงสถิตอยู่ในร่างกูนานๆหน่อยเถอะ  อย่าให้กูหลุดแอ๊บ หลุดแต๊บ บ่อยนักเลย  แค่นี้เปอร์เซ็นต์ที่ความลับจะแตกก็พุ่งเฉลี่ยขึ้นมาเกือบ 30% แล้วโว้ย!
“มาทำอะไรแถวนี้เหรอครับ”
กูสิสมควรถามมึง  อย่าบอกนะว่าติดใจปิกาจู้จำศีลของกูก็เลยตามมา!
คิดได้อย่างนั้นผมก็เผลอเอาสองมือมากุมเป้าตัวเองไว้ด้วยความหวงแหนทันที  การกระทำของผมอยู่ในสายตาของไอ้หน้าหนวดตลอดเวลา  ท่าทางเหมือนจะขำอยู่ในทีของเขามันน่าโมโหชะมัด
“ฉัน…ฉันมาเก็บตัวทำกิจกรรมของกองประกวดพลิกฟ้าหาดาวค่ะ”
“อ้อ…คุณเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดงั้นเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
ต้องยิ้มเข้าไว้  ต้องอ่อนหวาน  ต้องอ่อนโยน  ถ้าเป็นน้ำตัวจริงก็ต้องเป็นแบบนี้แน่นอนอยู่แล้ว
“แต่ว่าตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงห้านาทีก็จะหมดเวลารายงานตัวแล้วไม่ใช่เหรอครับ  ทำไมยังมาวิ่งเล่นอยู่ที่นี่ล่ะ”
“คุณรู้ได้ยังไงคะว่าเหลือเวลาอีกแค่ห้านาที?  ระ…หรือคุณเป็นทีมงาน!”
ขอบคุณสวรรค์!  ถึงผมจะไม่ค่อยอยากเจอหน้าไอ้โรคจิตนี่เท่าไหร่  แต่ถ้าเขาเป็นทีมงานของกองประกวดจริงๆอย่างน้อยเขาคงสามารถบอกทางไปห้องรายงานตัวกับผมได้
“ทีมงาน?  อ่า…นั่นสิ   ผมเองก็เป็นทีมงานเหมือนกัน”
“จริงเหรอคะ  แล้ว…ห้องรายงานตัว…ไปทางไหนเหรอคะ?”
“หืม?  มาประกวดแต่ไม่รู้เหรอครับว่าห้องรายงานตัวอยู่ที่ไหน”
ถ้ารู้กูจะมาวิ่งเล่นอยู่แถวนี้เรอะ!  แถมอะไรควายๆอีกแล้ว
“พอดีฉันรีบมากก็เลยลืมน่ะค่ะ”
“ว้า…งั้นก็แย่หน่อยนะครับ  เพราะว่าห้องสำหรับรายงานตัวน่ะ  อยู่อีกฝั่งหนึ่งของตึกนี้เลย  คุณต้องลงไปที่ชั้นสามเพื่อข้ามทางเชื่อมไปที่ชั้นห้าของอีกฝั่ง  แต่ตอนนี้เหลืออีกแค่สี่นาทีแล้ว  ผมคิดว่า…”
พรวด!
“ขอบคุณมากนะคะ!”
ผมลุกขึ้นแล้วถลกกระโปรงขึ้นอีกรอบก่อนจะรีบวิ่งไปยังทางหนีไฟเพื่อลงบันไดไปที่ชั้นสามแบบลืมตาย  ผมเผ้าที่อุตส่าห์สระ ไดร์ อบไอน้ำ และจัดทรงมาอย่างดีบัดนี้แทบไม่ต่างอะไรจากทรงเอฟโฟรเลย  ไม่อยากเชื่อว่าขนาดไม่ได้วิ่งมาหลายเดือน  ฝีเท้าของผมยังเร็วไม่มีตกเหมือนเดิมเลย
“เฮ้ยยยย!  หลบเว้ย เอ๊ย หลบค่ะหลบ  โล๊บบบบบบ!”
ผมตะโกนลั่นทางเดินไปหมด  ตอนนี้ตรงหน้ามีพนักงานชายสองคนกำลังช่วยกันเข็นอะไรสักอย่างมาจนเต็มทางเดินไม่เหลือทางให้วิ่งต่อ  แต่สกิลการวิ่งมาแบบเต็มสปีดของผมมันไม่สามารถเบรกได้อย่างกะทันหันเนี่ยสิ!
ถั่วงอกกูอีกแล้วไง 
ฟิ้ววววว~
เมื่อไม่สามารถเบรกได้อย่างที่ใจคิด  และไอ้พนักงานทั้งสองคนก็ทำได้แค่ยืนนิ่งมองผมด้วยความตกใจ  ท่าไม้ตายสุดท้ายจึงถูกงัดมาใช้  ในช่วงเวลาที่เหลือเพียงเสี้ยววินาที  ผมจัดการรวบกระโปรงแล้วเอาชายไปยัดใส่ขอบกระโปรงที่ด้านหลังเหมือนโจงกระเบนก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างจับตรงขอบรถเข็นแล้วกระโดดข้ามของที่พวกพนักงานขนมาไปได้อย่างเฉียดฉิว
ช่างเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ  นักยิมนาสติกระดับโลกยังต้องก้มกรายผมเหอะ!
แปะๆๆๆๆ
เสียงปรบมือดังตามหลังมาทันทีที่ผมถึงพื้นของอีกฝั่งได้อย่างสวยงาม  พนักงานชายทั้งสองคนต่างก็มองผมด้วยสายตาชื่นชม  เลยต้องยิ้มรับสักหน่อย  ตายห่าล่ะ  ไม่ใช่เวลามายินดีที่มีคนชื่นชมนี่หว่า  ผมต้องรีบไปรายงานตัวให้ทัน!
“อีกหนึ่งนาที!”
ความเร็วที่ขาถูกเพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ  ในที่สุดผมก็มาถึงทางเชื่อมตึกของชั้นที่สาม  โชคดีมากๆที่ไมได้มีใครมาขนอะไรเหมือนเมื่อกี้ก็เลยวิ่งผ่านไปได้แบบฉลุย  ต่อไปก็ต้องขึ้นไปชั้นที่ห้าสินะ  ถึงจะบอกว่าเป็นนักกรีฑามาก่อนก็เถอะ  แต่วิ่งทั้งๆที่ใส่ส้นสูงแบบนี้นี่เป็นครั้งแรกเลย!
พลั่ก!
“ว๊ากกกก!”
ชาตินี้ทั้งชาติกูจะสามารถสบถแบบผู้หญิงได้ไหม!
และแล้วก็ได้ล้มเป็นรอบที่สามของวัน  นึกถึงส้นสูง  ส้นสูงก็ทำพิษ  ผมยกขาขึ้นดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับรองเท้า  ทำไมจู่ๆมันถึงแผลงฤทธิ์ทำผมล้มหน้าทิ่มพื้นได้ขนาดนี้
อ่า…ถั่วงอกรอบที่สาม
ส้นหัก!
จะมีอะไรบรรลัยกว่านี้อีกไหม  มีไหม!  แค่วันแรกก็ไม่มีอะไรเป็นไปตามที่ใจคิดสักอย่างเลย  ทำไมเป็นผู้หญิงมันถึงได้ยากแบบนี้วะ
“ไม่สงไม่ใส่มันแล้วเว้ย!”
ผมจัดการถอดรองเท้าส้นสูงออกทั้งสองข้างเมื่อข้างหนึ่งส้นมันดันหักไปแล้วก่อนจะออกตัววิ่งต่อ  ถึงจะเสียรองเท้าไปแต่ก็วิ่งได้ถนัดขึ้น  แบบนี้ผมต้องไปทันรายงานตัวก่อนหมดเวลาแน่ๆ
ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ชั้นที่สี่แล้ว!
“แฮ่ก…แฮ่ก…”
อีกยี่สิบวินาทีกับอีกหนึ่งชั้น!
ตึกๆๆๆๆๆๆ
“นั่นไง!  ป้ายห้องรายงานตัว!”
ผมยิ้มกว้างอย่างดีใจ  ในที่สุดก็มาถึงสักที  สาบานได้ว่าตั้งแต่เกิดมาไม่เคยดีใจอะไรเท่านี้มาก่อนเลย  ความรู้สึกมันปลื้มปริ่มเสียยิ่งกว่าตอนได้เหรียญทองระดับจังหวัดในการแข่งขันวิ่งเดี่ยวรอบสุดท้ายเสียอีก
“อีกสองวินาที!”
ขอให้ทันด้วยเถอะ!
แอ๊ดดดดด!
ปี๊ดดดดดด!
เสียงเป่านกหวีดดังขึ้นพร้อมกับจังหวะที่ผมเปิดประตูเข้าไปพอดี  ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างพากันเงียบและมองมาทีผมด้วยความตะลึงงัน  คามเงียบยิ่งกว่าป่าช้าทำให้ตัวผมแทบจะหดเหลือแค่สองนิ้ว  สาวงามเกือบยี่สิบคนที่ยืนเรียงกันอยู่ด้านซ้ายมือสร้างความตื่นเต้นให้แก่หัวใจเป็นอย่างมาก
นะ…หน้าอก…
หน้าอกจะทะลักกันไปถึงไหนครับเนี่ย!
“เธอ…”
ผู้หญิงวัยสี่สิบต้นๆใส่แว่นกรอบดำท่าทางโคตรจะดุส่งเสียงขึ้นพลางชี้นิ้วมาที่ผม  ข้างๆฝั่งซ้ายของเธอมีผู้ชายวัยน่าจะประมาณสามสิบนั่งอยู่อีกคน  หน้าตาจัดได้ว่าดูดีเลยทีเดียว  ส่วนฝั่งขวาเป็นผู้หญิงที่สวยมาก  ถ้าผมจำไม่ผิดเธอคือดาวมหา’ลัยตัวแทนของประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว  ข้างๆเธอเป็นเก้าอี้ว่างที่ไม่มีคนนั่ง  หากแต่ตรงหน้าเก้าอี้มีป้ายติดไว้ว่า “ผู้จัดงานการประกวด” 
“สวัสดีค่ะ!”
ผมยกมือขึ้นไหว้ป้าแว่นทันทีที่พอจะเดาออกได้ว่าเธอคงเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ  ก่อนจะต้องตกใจสุดขีดเพราะมือที่ยกขึ้นไหว้นั้นมีรองเท้าส้นหักถืออยู่ด้วย
ผลุบ!
รีบยกมือลงแล้วเอารองเท้าซ่อนไว้ด้านหลังทันที
ตายแน่ๆ  ไม่รอดแน่ๆวันนี้ไอ้ไฟเอ๊ย!
“เธอคือ…”
“น้ำค่ะ!  นางสาวธารทิพย์  ธรรมสุวรรณ…”
ตอบเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน  แค่เริ่มต้นก็พังไม่เป็นท่าเสียแล้ว  ถ้าหากผมโดนคัดออกตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มเก็บตัวล่ะ  น้ำจะว่ายังไง
“เธอเองสินะธารทิพย์”
“ค่ะ  ขอโทษนะคะที่มาสาย  พอดีมีอุ…”
“เชิญกลับไปได้”
“คะ?”
“หมดเวลารายงานตัวแล้ว  เชิญกลับไปได้  เธอถูกตัดสิทธิ์”
“ดะ…เดี๋ยวก่อนสิคะ  คือเรื่องนี้ฉันอธิบายได้นะคะ”
ผมร้องท้วง  แต่ป้าแว่นกลบปัดมือไล่ก่อนจะก้มลงเขียนอะไรสักอย่างในกระดาษต่อ  กรรมการที่เหลืออีกสองคนได้แต่ส่งยิ้มให้กำลังใจแต่ก็ไม่สามารถคัดค้านอะไรได้
เฮ้ย!  แบบนี้ไม่ได้นะ!  ผมเปิดประตูเข้ามาในจังหวะเดียวกับที่นกหวีดหมดเวลาถูกเป่าขึ้นก็น่าจะหยวนๆให้ได้สิ  แบบนี้มันกีดกันกันชัดๆ!
“ขอร้องล่ะค่ะ  ขอโอกาสให้ฉันเถอะ  มันมีอุบัติเหตุจริงๆนะคะ  ฉันชนกับผู้ชายโรคจิตคนหนึ่งที่หน้าโรงแรม  เขาทำรุ่มร่ามกับฉันด้วยก็เลยทำให้ฉันมาช้า  อ๊ะ!  จริงสิ  เขาบอกว่าเขเป็นทีมงานของกองประกวดด้วยนะคะ  ลองไปเรียกเขามาถามดูก็ได้  ฉันมาถึงที่นี่นานแล้วจริงๆ  แต่เพราะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลยทำให้ฉันมารายงานตัวสาย  ขอร้องล่ะค่ะ  ให้โอกาสฉันเถอะ!”
“…”
เงียบ…
ไม่มีการตอบรับจากป้าแว่นหรือใครทั้งนั้น พวกสาวๆที่มาประกวดด้วยต่างก็หันหน้าหนีไปคนละทางราวกับไม่มีใครอยากยุ่งเรื่องพวกนี้
อะไรกันวะ!  ทุกอย่างจะมาพังลงตั้งแต่วันแรกแบบนี้ไม่ได้!  ผมจะเอาหน้าที่ไหนกลับไปหาน้ำกันเล่า!
“ผู้ชายโรคจิตที่คุณว่าเนี่ย  หมายถึงผมใช่หรือเปล่า”
“อ๊ะ!  คุณ”
จะเรียกว่าดีใจก็ได้  ผมแทบจะพุ่งเข้าไปกอดไอ้หน้าหนวดที่เปิดประตูเดินเข้ามาเลยด้วยซ้ำ  เขาอมยิ้มเหมือนคนกำลังเจอเรื่องสนุกๆก่อนจะเดินเข้ามายืนข้างๆผมและ
พรึ่บ!
“เฮ้ย!”
กะ…กูร้องเสียงแมนๆอีกแล้ว   อ๊ากกกกก!
“ถึงผมจะไม่เคยใส่กระโปรง แต่ผมก็มั่นใจว่ากระโปรงรูปทรงแบบนี้ไม่เหมาะทำโจงกระเบนหรอกนะครับ”
อีกฝ่ายขยิบตาให้  ส่วนผมนี่แทบจะเอาหน้ามุดพื้นหนีอาย  ลืมไปเสียสนิทว่าเอากระโปรงทำเป็นโจงกระเบนตอนกระโดดข้ามของพวกนั้น  นี่แสดงว่าผม…เดินเข้ามาในห้องรายงานตัวด้วยสภาพ…
ผมเผ้ายุ่งเหยิง…
หน้ามันเยิ้ม…
กระโปรงกลายร่างเป็นโจงกระเบน…
ไม่ใส่รองเท้า…
ถือรองเท้าส้นหักไว้ในมือพร้อมยกไหว้คณะกรรมการ…
เขาไม่เอายามมาลากกูออกไปนอกโรงแรมก็บุญแค่ไหนแล้ว!
“คุณเปลว  มาแล้วเหรอคะ  สวัสดีค่ะ”
คณะกรรมการทั้งสามคนลุกขึ้นยกมือไหว้ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างผมตอนนี้  ก่อนที่เขาจะเดินผิวปากเข้าไปอย่างอารมณ์ดีและ…
ครืด…
เลื่อนเก้าอี้สำหรับผู้จัดการงานประกวดออกนั่งหน้าตาเฉย!
ยะ…อย่าบอกนะว่า…ผู้ชายคนนี้คือ…
คนจัดการประกวดนี้ขึ้นมา!
“เอ้า  ยืนทำอะไรล่ะครับผู้เข้าประกวด  รายงานตัวสิ  ผมรอฟังอยู่นะ”
“แต่คุณเปลวคะ  เธอมาสาย  ดิฉันก็เลยตัดสิทธิ์…”
“กรณีพิเศษน่า  คนนี้ผมขอ”
ไอ้หน้าหนวดขยิบตาให้ป้าแว่นก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้ผมพร้อมกับกวักมือเรียกผมเข้าไป
จะอะไรก็ไม่รู้หรอกนะ  แต่ว่า…
หมอนี่ช่วยชีวิตผมไว้พอดิบพอดี!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2016 18:08:28 โดย WwW »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คุณเปลวนี่ใช่พระเอกไหม เป็นคนที่ได้เห็นตอนนายเอกหลุดตลอดเลยอ่ะ ฮา

ออฟไลน์ rinny

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อ่านแล้วฮา ถั่วงอกมาทั้งสวนแล้วมั้งเนี่ย? คู่พระนางเปิดตัวมาได้อีโรติกมากค่ะ
คุณเปลวดูท่าทางหื่นแถมยังดูออกอีกว่าไฟแต๊บมา นายไฟงานเข้ายาวๆแน่นอน

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0

ตอนที่ 3
ดินแดนหนองโพ

“ในประวัติบอกว่าคุณเรียนคณะบริหารอยู่ที่มหา’ลัยอาคเนย์สินะครับ”
“ใช่ค่ะ”
คณะที่น้ำเรียนน่ะใช่  แต่คณะที่ผมเรียนจริงๆมันศิลปะต่างหาก  เน้นการวาดรูป  การปั้น  มันเป็นสิ่งเดียวที่เมื่อผมได้ทำแล้วผมจะจดจ่ออยู่กับมัน   ทำให้อารมณ์ที่กำลังร้อนเป็นไฟของผมเย็นเหมือนน้ำได้อย่างน่าเหลือเชื่อ
“เอ…แต่น่าแปลกนะครับ  ผมรู้สึกเหมือนจะเคยเจอคุณที่คณะศิลปกรรมศาสตร์เลย”
“!!!”
คำพูดของไอ้หน้าหนวด  ไม่สิ  คุณเปลวทำเอาหัวใจตกวูบไปที่ตาตุ่ม  รีบเพ่งมองหน้าเขาอย่างจดจ่อเพื่อนึกว่าผมกับเขาเคยเจอกันมาก่อนจริงๆหรือเปล่า
แต่ว่า…สารรูปแบบนี้ผมมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยเจอมาก่อนแน่ๆ
“คุณคงจำผิดแล้วล่ะค่ะ  ฉันไม่ได้เรียนคณะนั้นแล้วคุณจะเจอฉันที่คณะนั้นได้ยังไง”
“ฮะๆ นั่นสินะครับ  สงสัยผมจะจำคนผิดไปจริงๆ”
“ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอนค่ะ”
ผมฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้ดูน่าสงสัย
ถึงผมจะไม่เคยเจอหน้าเขามาก่อน  แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเจอผม  บางทีเขาอาจจะเคยไปมหา’ลัยอาคเนย์และไปที่คณะของผม  เราอาจจะเคยเดินสวนกันแล้วเขาเกิดจำผมได้
แต่เดี๋ยวก่อน  คนเราจะมาจำหน้าตาคนที่แค่เดินสวนกันได้ขนาดนั้นเชียวเหรอ?
“โอ๊ะ!  ในประวัติบอกว่าคุณมีพี่น้องด้วยนี่ครับ”
“พะ…พี่น้อง?”
“เหมือนว่าจะมี…พี่ชายอยู่หนึ่งคน”
อีกฝ่ายยิ้มกว้างขณะที่กำลังพลิกใบสมัครซึ่งมีข้อมูลทั้งหมดที่น้ำเขียนเอาไว้ไปมา  คำว่า “พี่ชาย”  หากผมไม่ได้คิดไปเองผมรู้สึกว่าไอ้บ้านี่มันจะเน้นมากเป็นพิเศษ
หรือเขาจะรู้?
ให้ตายสิ  ตอนนี้คำว่า “ยังไม่ได้เฉาะ”  วนไปเวียนมาในหัวผมไม่หยุดเลย
“พี่ชายของคุณ…ยังเรียนอยู่หรือเปล่าครับ”
“ระ…เรียนค่ะ”
มันจะถามเรื่องผมหาพระแสงอะไรวะ!  กองประกวดนางงามก็ควรจะถามแต่เรื่องเกี่ยวกับตัวผู้สมัครสิเว้ย  จะมาถามเรื่องครอบครัวเขาทำไม
ไอ้บ้านี่มันคิดจะทำอะไรของมันกันแน่!
“คณะอะไรเหรอครับ”
“เอ๋?”
“หรือบางทีคนที่ผมเห็นที่คณะศิลปกรรมศาสตร์  ถ้าไม่ใช่คุณก็อาจจะเป็น…พี่ชายของคุณ”
“…”
“…”
“คือ…ฉันคิดว่าคุณควรจะถามเรื่องที่เกี่ยวกับตัวฉันหรืองานประกวดครั้งนี้มากกว่านะคะ  เรื่องพี่ชายของฉันคงไม่น่าสนใจขนาดที่จะเอามาเป็นประเด็นในการรายงานตัววันนี้”
ผมจ้องหน้าไอ้คุณเปลวอย่างตรงไปตรงมา  เขาเองก็สบตาผมกลับเช่นกัน  แววตาเจ้าเล่ห์นั้นเหมือนกำลังกลั้นขำอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่
ขำอะไร?
มีอะไรให้ขำ?
หรือว่า…รู้อะไรมากันแน่?
ถ้าเขารู้ว่าผมเป็นผู้ชาย  แล้วทำไมเขาถึงไม่แฉหรือเปิดโปงตรงนี้แล้วไล่ผมออกจากการประกวดไปซะ  มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำเป็นไม่รู้แล้วเก็บผมเอาไว้แบบนี้  แต่ถ้าจะให้คิดว่าเขายังไม่รู้เรื่อง  การกระทำที่เหมือนกำลังเล่นสนุกนั่นมันก็ขัดกันเกินไป
อ๊ากกกกก  แค่วันแรกผมก็อยากจะบ้าแล้ว!
“นั่นสินะครับ  ต้องขอโทษที่ผมถามอะไรที่ไม่เกี่ยวกับการประกวด  เอาล่ะ  การรายงานตัวของสาวงามทั้งสิบแปดคนจบลงแค่นี้  เชิญพักผ่อนกันตามอัธยาศัย  แล้วหกโมงเย็นไปเจอกันที่ห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารนะครับ”
“เอ๊ะ?  จบแล้วเหรอคะคุณเปลว  ปกติผู้เข้าประกวดต้องแนะนำตัวเป็นภาษาอื่นที่ถนัดที่สุดมาหนึ่งภาษานะคะ”
ป้าแว่นท้วงขึ้นมา
ดะ…เดี๋ยวนะเว้ย!  แนะนำตัวเป็นภาษาอื่นที่ถนัดที่สุด!
จะบ้าเรอะ  เกิดมาชาตินี้กูฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาไทยได้นี่ก็นับว่าบุญมากแล้วเหอะ  ภาษาอื่นอย่าได้หวังเข้ามาในสารบบสมอง
“จริงด้วยสิ  ผมลืมไปเลย  แต่ว่านี่มันก็เลยเวลาตามตารางที่ทีมงานจัดไว้แล้ว  งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า  พวกคุณไปเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมในคืนนี้ก่อน  ส่วนผู้เข้าประกวดคนอื่นๆก็แยกย้ายไปพักผ่อนได้  จะอาบน้ำหรือเดินกินลมชมทิวทัศน์ในโรงแรมนี้ก็ได้ทั้งนั้น  ส่วนคุณน้ำ…”
“…”
“ผมจะสัมภาษณ์คุณแบบตัวต่อตัวเอง”
“หา?!!!”
งะ…เงิบแดกเลยไหมไอ้ไฟ!
“เอาตามนั้นก็ได้ค่ะ  พวกเธอทุกคนตามฉันมา  คืนนี้เป็นคืนแรก  พวกเธอจะต้องนอนด้วยกันเพื่อทำความรู้จักก่อนที่จะแยกห้องนอนแบบสองคน  ทำใจด้วยนะว่ายังไงก็ไม่มีทางได้นอนห้องเดียว  พวกเธอทุกคนต้องมี…รูมเมท”
“ค่า”
บรรดาผู้เข้าประกวดคนอื่นๆขานรับก่อนจะเดินตามป้าแว่นและกรรมการคนอื่นๆออกจากห้องไป  ผมหันไปมองหน้าผู้เข้าประกวดที่ยืนอยู่ใกล้กันมากที่สุดด้วยอยากจะขอร้องให้เธออยู่ต่อ  แต่เธอก็ทำได้แค่ส่งยิ้มแห้งๆและกำหมัดสู้ๆให้ผมเท่านั้น
ขอบคุณนะ…
ช่วยได้เยอะเลย!
ปัง!
เสียงปิดประตูห้องและความเงียบในตอนนี้ยิ่งตอกย้ำว่าผมได้อยู่กับคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้มากที่สุดตามลำพังเรียบร้อยแล้ว…
“เอาล่ะครับคุณน้ำ”
อีกฝ่ายพูดขึ้นทำลายความเงียบ  เขาลุกจากเก้าอี้เดินอ้อมมานั่งบนโต๊ะสีขาวตัวยาวแทน  ไอ้ท่าทางสบายๆเหมือนอยู่บ้านนั่นมันคืออะไร  หมอนี้เป็นผู้จัดการงานประกวดนี้ได้ยังไงกันเนี่ย!
เซอร์ซะขนาดนี้แต่กลับมาทำงาเนกี่ยวกับเรื่องความงาม
บ้าชัดๆ
“คะ…คะ?”
“มานี่สิครับ”
กวักมือเรียกผมเข้าไปใกล้  ยังมิวายยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์เหมือนเคย
กูไว้ใจมึงได้มากน้อยแค่ไหนกันวะ  เรื่องที่มึงทำไว้ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ออกไปจากหัวกูเลยนะโว้ยยยย
“ไม่ต้องกลัวผมหรอกครับ  ผมแค่จะถามอะไรนิดหน่อย”
“ถะ…ถามตรงนี้ก็ได้มั้งคะ”
“จะดีเหรอ  ถ้าผมถามคุณจากตรงนี้  ผมคงต้องใช้เสียงที่ดังมากๆ  และไม่แน่ว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่หน้าห้องตอนนี้อาจจะได้ยินนะครับ”
ไอ้เวรนี่  จะถามห่าอะไรกันแน่ฟะ!  มึงทำกูเครียดจนไข่หด  ส่วนมึงก็นั่งยิ้มแป้นแล้นเหมือนได้ของเล่นชิ้นใหม่ที่แสนสนุกมาไว้ในมือ
ถ้าไม่ติดว่าต้องรักษาความฝันของน้ำเอาไว้ล่ะก็…ผมจะไม่ชอบทำแบบนี้เด็ดขาดเลย!
ตึก…ตึก…ตึก…
ท้ายที่สุดแล้วผมก็ต้องเดินเข้าไปหาเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้   คุณเปลวมองหน้าผมแบบไม่ละไปไหนเลยแม้แต่วินาทีเดียว  มึงหันหน้าไปหายใจทางอื่นบ้างก็ได้นะ  กูรู้ว่ากูสวย เอ๊ย  ไม่สิ  น้ำสวย  อ๊ะ…แต่เราก็หน้าเหมือนกันเพราเป็นแฝดกันนี่นา  แล้วตอนนี้ผมยังสวมรอยเป็นน้ำอยู่อีก  สรุป…
ใครสวยกันแน่วะ?
ข่างมันเหอะ  ยังไงก็ไม่ใช่ประเด็น  ปัญหาอันใหญ่หลวงที่ผมกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้คือไอ้หน้าหนวดต่างหาก  ไม่รู้เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
“ว่ามาสิคะ”
ผมหยุดยืนห่างจากเขาประมาณหนึ่งช่วงแขน  ดวงตาคมกริบตวัดขึ้นมองผม  จ้องแบบนั้นอยู่นานนับนาทีจนผมเริ่มเป็นฝ่ายเกร็ง
การที่มีคนมาจ้องเราใกล้ๆแบบนี้ใครมันจะไม่เกร็งบ้างฟะ!
“คำถามข้อแรก”
นี่มันการรายงานตัวหรือสอบสัมภาษณ์งานกันแน่
“ทำไม…สวยจัง”
“หา?”
“สวย…”
“นะ…นี่คุณ…”
“คุณน่ะ  สวยมากเลย”
“ถ้าคุณไม่คิดจะถามอะไรที่เกี่ยวกับการประกวดงั้นฉันขอตัวนะคะ”
ผมตัดบทพร้อมกับยกมือไหว้ในฐานะที่เขามีตำแหน่งใหญ่โตก่อนจะพลิกตัวกลับเตรียมออกจากห้องเพื่อจบบทสนทนาบ้าบอคอแตกนี่  ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีที่หันหลังให้  ร่างสูงใหญ่ของคุณเปลวก็ถลาเข้ามาโอบกอดผมจากด้านหลัง!
“ปล่อยนะเว้ย! เอ๊ะ  ปล่อยนะคะ”
“ใจเย็นๆสิครับ  ผมแค่จะบอกว่า…”
“…”
“พรุ่งนี้…จะมีการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำด้วยนะ”
“ชะ…ชุดว่ายน้ำ!”
“ใช่ครับ”
“แต่ในตารางที่ได้มาไม่เห็นมีบอกไว้…”
“เขาเพิ่งเพิ่มเข้ามา  และผู้เข้าประกวดทุกคนก็รับรู้หมดแล้วด้วย  เหลือแค่คุณที่ยังไม่รู้  ผมถึงได้บอกนี่ไง”
“แต่ว่าฉัน…!”
จะไปใส่ชุดว่ายน้ำได้ยังไงกันเล่า!  ปิกาจู้ก็ใหญ่เท่าไฟฟ้าเลยเหอะ!  แต๊บยังไงก็คงแต๊บไม่อยู่  โอ๊ยยย  อยากจะบ้าตายจริงๆ
“แต่ว่าอะไรครับ?  หรือคุณมีปัญหาอะไรที่ทำให้ใส่ชุดว่ายน้ำไม่ได้”
“ไม่ใช่…!”
ผมเบิกตากว้างจนลูกตาแทบถลนออกมาจากเบ้า  ลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้กำลังถูกไอ้หน้าหนวดกอดเอาไว้จากทางด้านหลัง  และอีกฝ่ายก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้  พอตั้งท่าจะหันไปบอกปฏิเสธเลยกลายเป็นว่าปลายจมูกของเราชนกันอย่างจัง  อีกเพียงแค่นิดเดียวริมฝีปากก็จะประกบกันอยู่แล้ว
เขาเองก็ตกใจไม่น้อย  วัดได้จากดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นพอๆกัน
“ขอโทษครับ”
คุณเปลวรีบปล่อยผมให้เป็นอิสระแล้วถอยกลับไปนั่งตามเดิม  ส่วนผมก็เดินถอยหลังหนีไปจนเกือบจะถึงประตูทางออก
อะไรกัน…ไอ้ฉากเมื่อกี้ทีเหมือนจะเคยเห็นในละครทีวีนี่มันอะไร  ผมไม่ใช่นางเอกสักหน่อย  ที่สำคัญคือผมเป็นผู้ชาย  มันต้องไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตผมสิ  หรือถ้าจะมีผมก็ต้องอยู่ในฐานะของพระเอกและมีนางเอกเป็นของตัวเอง 
ใช่แล้ว…จะต้องเป็นฉากหวานแหววของผมกับพี่สาวไอ้ตูมตามเท่านั้น!
“ขะ…;ขอตัวก่อนนะคะ”
ไม่รอฟังคำตอบ  ผมเปิดประตูวิ่งออกจากห้องมาด้วยความเร็วแสง  โดยสถานที่ที่พุ่งไปก็คือห้องน้ำหญิง  ในห้องน้ำมีเพื่อนผู้เข้าประกวดยืนอยู่ที่หน้ากระจกสองสามคน  พวกเธอหันมายิ้มให้ผมเลยต้องยิ้มกลับก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำห้องแรกแล้วเข้าไปหมกตัวอยู่ในนั้น
ตึกๆ!  ตึกๆ!  ตึกๆ!
ถึงจะบอกตัวเองว่าไม่ต้องคิดอะไรก็เถอะ  แล้วทำไม…
หัวใจผมถึงเต้นแรงได้ขนาดนี้ล่ะ?
ไม่เข้าใจเลย…

กว่าจะสงบจิตสงบใจของตัวเองได้  ผมก็ขังตัวเองอยู่ในส้วมนานเกือบครึ่งชั่วโมง  จนกระทั่งผู้เข้าประกวดคนอื่นมาเคาะประตูห้องน้ำเรียกผมนั่นแหละ  ถึงได้ดึงเอาสติของตัวเองกลับมาได้  สามคนที่ยืนอยู่หน้ากระจกในตอนแรกเห็นว่าผมหายเข้าไปในส้วมนานมากก็เลยเป็นห่วงคิดว่าผมเป็นอะไรไปแล้ว  เลยไปตามผู้เข้าประกวดคนอื่นๆให้มาช่วยกันเรียกผมเพราพวกเธอเรียกแล้วผมไม่ขาน
คิดว่าคงเป็นช่วงที่สติกระเจิดกระเจิงไปพอดี…
“ฉันเข้าใจนะว่าเธอคงเครียดและกดดันมาก  เพราะแค่วันแรกก็ดูเหมือนว่าเธอจะถูกหมายหัวจากยัยแม่มดเสียแล้ว”
“ยัยแม่มด?”
“ก็ป้าแว่นหนึ่งในคณะกรรมการไง  รุ่นพี่มหา’ลัยฉันที่เคยมาประกวดเมื่อปีที่แล้วบอกว่าใครก็ตามที่โดนยัยแม่มดหมายหัวไว้  ไม่เคยได้อยู่เก็บตัวอย่างสงบเลย  ต้องมีเรื่องให้ได้เดือดร้อนตลอด”
“จริงเหรอ?”
“จริงสิ  เธอโชคร้ายมากเลยนะที่โดนยัยแม่มดเล็งตั้งแต่วันแรกแบบนี้”
หญิงสาวผมเป็นลอนสีทองสว่างเพราเป็นลูกครึ่งอังกฤษ-ไทยชื่อว่า “บาร์บี้” เอ่ยขึ้นพลางทำสีหน้าสยดสยอง  เธอคือคนที่กำหมดสู้ๆให้ผมในห้องรายงานตัวและเป็นคนที่แทบจะพังห้องน้ำเข้ามาเพราคิดว่าผมเป็นลมตายอยู่ในนั้นตอนคนอื่นๆไปตามนั่นแหละ  แต่ว่า…
จุดที่เด่นที่สุดบนใบหน้าราวกับตุ๊กตานี้ไม่ใช่ดวงตาสีฟ้าของเธอหรอกนะ  แตเป็น…
หน้าอกตู้ๆมนี่ต่างหากล่ะ  เป็นปอดบวมหรือเปล่าวะเนี่ย  ใหญ่อะไรเบอร์นี้!
“ถ้างั้นรีบๆตามมานะทุกคน  ไปอาบน้ำด้วยกัน”
เสียงหวานใสอีกเสียงเรียกสติของผมให้กลับมาจากหน้าอกของบาร์บี้อีกครั้ง  และเมื่อเงยหน้ามองรอบๆให้ดีอีกครั้งก็ทำเอาเลือดกำเดาแทบพุ่งออกจากรูจมูก!
สะ…สวรรค์!
ดินแดนหนองโพที่ผมเฝ้าฝันถึงมาตลอดสิบเก้าปี!
อึก!
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก  รอบตัวมีแต่หญิงสาวใบหน้างดงามและร่างกายก็น่าฟัดในชุดผ้าขนหนูผืนเดียว  อกอูมๆโผล่พ้นเนื้อผ้ามาคนละนิดคนละหน่อย  ต้นขาอวบๆขาวเนียนก็ช่างล่อตาล่อใจเหลือเกิน  ให้ตายสิ  เผลอไปแค่ไม่กี่นาที  เปลี่ยนไปนุ่งผ้าเช็ดตัวกันหมดแล้วเหรอเนี่ย
โอ้วววว
“น้ำ  เป็นอะไรไปน่ะ  ทำไมมองพวกเราด้วยสายตาแปลกๆล่ะ”
“นั่นสิ  ถ้าเธอไม่ใช่ผู้หญิงด้วยกัน  พวกเราคงคิดว่ามีผู้ชายโรคจิตกำลังนั่งจ้องแน่ๆเลย”
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ  น้ำออกจะสวยขนาดนี้”
และอีกหลากหลายบทสนทนาที่เกิดขึ้น  หากแต่ในสายตาและสมองของผมตอนนี้โฟกัสไปที่จุดๆเดียวเท่านั้น…
อกโตๆ  หนองโพแท้ๆร้อยเปอร์เซ็น
ผมกำลังจะได้ใช้ชีวิตอยู่กับเหล่านางฟ้าทั้งหมดนี้สามเดือนเชียวเหรอเนี่ย!
ชักรู้สึกว่าการมาประกวดแทนน้ำก็ไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆแล้วสิ
หมับ!
“ไปอาบน้ำกันเถอะ  เดี๋ยวฉันที่หลังให้เธอเอง  แล้วจะได้สนิทกันมากขึ้นไง”
บารบี้ดึงแขนผมไปกอดไว้แน่น  พร้อมกับเอาหน้าอกอันใหญ่โตมาถูๆไถๆกับแขน  คงเป็นเพราะเธอคิดว่าผมเป็นผู้หญิงนั่นแหละถึงได้ทำอะไรแบบนี้
โอ๊ยยย  จะไม่ไหวแล้วโว้ยย  อย่ายั่วกันแบบนี้สิคุณผู้หญิงทั้งหลาย!
“นั่นแน่ะ  จ้องหน้าอกฉันใหญ่เลยนะ  อิจฉาล่ะสิ  เพราะมันตู้มๆกว่าของเธอใช่ไหม”
บาร์บี้หัวเราะร่า  มิวายแอ่นหน้าอกโตๆใส่หน้าผมจนแทบจะทิ่มเบ้าหน้าอยู่รอมร่อ  มันช่างบีบและน่าขยำเหลือเกิน  เพิ่งรู้ว่าเรือนร่างของผู้หญิงมีเสน่ห์เย้ายั่วอลังการดาวล้านดวงมาก!
“พวกเราก็ใหญ่เหมือนกันนะ  ใหญ่กว่าของเธออีกบาร์บี้”
แล้วบรรดาสาวๆคนอื่นที่ยังไม่ได้เข้าไปในห้องน้ำก็เดินมาแอ่นหน้าอกประชันความใหญ่กันต่อหน้าผม  ปกติพวกผู้หญิงเขาเล่นกันแบบนี้เหรอ  แบบนี้ก็คล้ายๆกับผู้ชายที่แข่งกันว่าใครจะยิงกระต่ายได้ไกลกว่ากันเลยน่ะสิ
“เอาล่ะๆ  พอได้แล้ว  เดี๋ยวจะไปไม่ทันมื้อเย็นตอนหกโมง   น้ำ  เปลี่ยนชุดสิ  จะได้เข้าไปอาบน้ำกัน”
“ใช่แล้วๆ  เปลี่ยนเลย  ให้พวกเราดูหน่อยว่าหน้าอกของเธอมันขนาดเท่าไหร่กัน  คัพเอ  บี หรือว่าซี”
“วะ…ว่าไงนะ”
ผมยกมือขึ้นปิดร่างกายตัวเองทันที  ถ้าแก้ผ้าให้พวกเธอดูความก็แตกหมดน่ะสิ  ผมไม่มีหน้าอกหน้าใจอะไรไปสู้กับพวกเธอทั้งนั้นแหละ  แล้วที่สำคัญ…
ผมอาบน้ำกับพวกเธอไม่ได้ด้วย  ฮืออออออ
ลาก่อน…ฉากบาร์บี้ทรงโตถูหลังให้ผม
“เอ่อ…คือ…คือฉันกะว่าจะอาบทีหลัง….”
“อาบทีหลังอะไรล่ะ  อาบพร้อมกันนี่แหละ  ผู้หญิงเหมือนไม่เห็นมีอะไรต้องอายเลยเนอะ”
“ใช่ๆ  มามะ  พวกเราช่วยกันถอดเสื้อผ้าให้น้ำดีกว่า”
“เดี๋ยวสิ!”
“เพื่อมิตรภาพของพวกเราทุกคนน่ะน้ำ  เรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกสาเมดือน  เพราะงั้นต้องสนิทกันให้มากๆ”
“บาร์บี้พูดถูก  มาเร็ว  มาให้ฉันถอดเสื้อของเธอเสียดีๆ”
ว่าแล้วพวกเธอก็พากันล้อมวงผม  สองมือทำท่าขยำๆราวกับปอบหยิบ  แต่สิ่งที่พวกเธอกำลังหมายมั่นจะหยิบคือเสื้อผ้าที่ผมสวมอยู่ต่างหาก
“ไม่…ไม่เอา  อย่า…”
“จับน้ำไว้เร็ว  เดี๋ยวฉันจะเป็นคนถอดเสื้อของเธอเอง  อยากรู้นักว่าจะบึ้มๆสักแค่ไหน”
บึ้มอะไรล่ะเว้ย!  ถอดไปก็เจอแต่หัวนมกับนมปลอมเนี่ย!
อ๊ากกกกกกก
หมับ!
ไม่น้าาาาาาาา!


ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ตูละฮาจริมๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดูท่า เปลว คนโรคจิตรู้จักไฟ ดีเลย
อาจจะสนใจไฟมาก่อนด้วย
จะรอดไหมเนี่ย  ไอ้แก้ผ้าอาบน้ำเนี่ย  o22 o22 o22
แต่ไฟ ซะอย่าง  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รอตอนใหม่
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0

ตอนที่ 4
อัศวิน…

ก๊อก  ก๊อก  ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นได้ถูกจังหวะดีมาก  ขณะที่บรรดาสาวๆกำลังพยายามจะกระชากเสื้อผมออกสุดฤทธิ์  หนึ่งในพวกเธอจึงตะโกนตอบกลับไป
“ใครคะ?”
“คุณเปลวให้มาตามคุณธารทิพย์ไปพบค่ะ  บอกว่ามีเรื่องสำคัญยังไม่ได้แจ้งอีกหนึ่งเรื่อง”
“ธารทิพย์?  ใครชื่อธารทิพย์เหรอ”
ผมยกมือแทรกขึ้นไปกลางวงแล้วพยักหน้าว่าตัวเองนี่แหละคือธารทิพย์
แต่…ไอ้คุณเปลวมันมีเรื่องอะไรต้องคุยกับผมอีกงั้นเหรอ?
“แหะๆ  แย่หน่อยนะ  ดูเหมือนวันนี้เราคงจะไมได้อาบน้ำสร้างมิตรภาพกันแล้วล่ะ  ไว้คราวหลังละกันเนอะ”
สิ้นคำ  ผมก็ออกแรงแกะมือกาวของพวกเธอแล้วลุกพรวดออกจากห้องไปทันที  ทีมงานคนหนึ่งยืนรออยู่ก่อนแล้ว  เธอผายมือเชิญให้ผมเดินตามไป
คิดอีกที…การไปหาไอ้คุณเปลวนี่ก็น่ากลัวไม่แพ้กันเลยนี่หว่า
“จะไปไหนเหรอคะ?”
“คุณเปลวพักอยู่ที่ชั้นวีไอพีค่ะ”
พระเจ้าจอร์จ  ไม่ได้เป็นแค่ผู้จัดการธรรมดาๆเสียแล้วสิ  ถึงขั้นพักอยู่ชั้นวีไอพีในโรงแรมหรูๆได้  ถ้าไม่มีเส้นสายใหญ่ๆก็ต้องรวยมากๆ
ลิฟต์สำหรับวีไอพีเท่านั้นที่ใช้ได้มาผมมาถึงชั้นบนสุดของโรงแรม  ทันทีทีประตูลิฟต์เปิดออกก็จะเจอห้องพักเลย  ซึ่งใหญ่กินพื้นที่ไปทั้งใช้  ทีมงานผายมือเชิญให้ผมออกไป  และเมื่อผมออกมาจากลิฟต์  เธอก็จัดการปิดประตูลิฟต์กลับลงไปชั้นเดิมทันที
อ้าวเฮ้ย!  ทำไมเอาผมมาทิ้งไว้แบบนี้ล่ะพี่สาว!
ให้ตายสิ  แล้วไอ้หน้าหนวดนั่นอยู่ไหนล่ะวะ
เมื่อเห็นว่าทำอะไรไม่ได้  ผมก็ค่อยๆเดินสำรวจห้องนี้เพื่อตามล่าหาไอ้คนที่เรียกผมมาไปทีละจุด  ห้องวีไอพีนอกจากจะกินพื้นที่ไปทั้งชั้นแล้ว  กำแพงห้องยังทำด้วยกระจกทำให้มองเห็นวิวด้านนอกที่โคตรสวย  เห็นทะเลด้วยว่ะเฮ้ย
“ว้าว”
ภาพที่เห็นอดไม่ได้ที่จะต้องหยุดยืนมองมัน  ผมทาบมือไปกับกำแพงกระจกเพื่อมองดูคลื่นทะเลที่กำลังซัดเข้าฝั่งเบาๆ  ชายหาดพวกนี้คงจะเป็นพื้นที่ของทางโรงแรมหมดเลยแน่ๆ
ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะได้นอนห้องสวยขนาดนี้วะเนี่ย
“สวยดีใช่ไหมล่ะครับ”
เฮือกกก!
สติกระเจิงกับการปรากฏตัวแบบไม่ส่งเสียงบอกก่อนของไอ้คุณเปลว  ผมนี่พลิกตัวกลับมาหาเขาแทบไม่ทัน  รู้สึกร่างกายไม่ปลอดภัยทุกครั้งที่อยู่ใกล้คนๆนี้
คุณเปลวในสภาพสวมเพียงชุดคลุมอาบน้ำ  โชว์แผงอกที่มีหยดน้ำเกราะพราวอยู่เล็กน้อยและบนหัวก็มีผ้าผืนเล็กๆวางอยู่  มือข้างหนึ่งกำลังใช้ผ้าผืนนั้นเช็ดเส้นผมเบาๆ  ขะ…ขนาดเป็นผู้ชายด้วยกัน  แวบหนึ่งในหัวผมคิดว่าเขาโคตรเซ็กซี่!
ทำไมกูไม่มีหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจสาวแบบนี้บ้างวะ
“คุณเรียกฉันมาทำไมคะ”
เข้าประเด็นให้มันจบๆไปเลยดีกว่า  อยู่กับเขาสองต่อสองในสภาพที่อีกฝ่ายพร้อมรบตลอดเวลาอย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ  ดูท่าทางไอ้เวรนี่คงจะติดใจความสวยของน้ำ ( หรือผมวะ? ) ไม่ใช่น้อย  ดีนะที่คนตรงนี้คือผมไม่ใช่น้ำจริงๆ  ถ้าหากน้ำต้องถูกเรียกมาพบกับคนบ้ากามอย่างไอ้คุณเปลวตามลำพัง  ไม่อยากจะคิดเลยว่าน้องสาวผมจะมีสภาพเป็นยังไง
“อาบน้ำด้วยกันไหมครับ?”
“หา? เอ๊ย  คะ?”
“คือผมหมายถึง…ห้องอาบน้ำรวมคงไม่สะดวกเท่าไหร่  ถ้าหากคุณอยากจะใช้ห้องน้ำที่นี่ผมก็ยินดีนะครับ”
“ไม่ล่ะค่ะ”
ปฏิเสธทันควัน  เกิดในห้องน้ำมีกล้องแอบถ่ายห่าเหวอะไรติดไว้ความก็แตกหมดน่ะสิ  บางทีไอ้หมอนี่อาจจะเป็นพวกโรคจิตที่คิดจะแซ่บผู้เข้าประกวดทุกคนที่อยากจะได้รางวัลด้วยการใช้เต้าไต่ก็ได้
ดีแล้วจริงๆที่ผมมาแทนน้ำ  น้องสาวที่น่ารักของพี่จะได้ไม่ต้องโดนไอ้คุณเปลวมันแทะโลม
“ทำไมล่ะครับ  ไม่ไว้ใจผมเหรอ?”
โคตรจะไม่ไว้ใจเลยไอ้สัส!
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ  ฉันแค่ไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดี”
“เหตุผลฟังขึ้นดีนะ  ไม่อยากให้คนอื่นมองไม่ดี  มองไม่ดีเรื่องอะไรเหรอครับ  เรื่องที่ผม…”
“…”
“สนใจคุณมากเป็นพิเศษหรือเปล่า”
ว่าพลางขยิบตาเจ้าเล่ห์ใส่อีกครา 
มึงเป็นโรคชักคะเย่อที่ตาเหรอ  วันนี้ทั้งวันกูเห็นมึงขยิบตาไปหลายรอบแล้วนะ 
“ฮะๆ  เป็นมุกที่ตลกดีนะคะ”
“ไม่เอาน่า  ผมแสดงออกขนาดนี้แล้วทำไมถึงคิดว่าเป็นมุกอีกล่ะ”
อีกฝ่ายกระเว้ากระวอด  ทำสีหน้าขัดใจแต่ก็ยังแอบยิ้มขำอยู่ในที  ร่างสูงเดินเข้าประชิดตัวผมจนแผ่นหลังแนบชิดติดกับกำแพงกระจก 
“คะ…คุณจะทำอะไร”
ถ้ามึงทำบ้าๆกูจะเปิดเผยตัวตนความเป็นชายให้มึงเห็นจนช็อกตาตั้งไปเลย!
“อยู่กันสองต่อสองกับผู้หญิงสวยๆแบบคุณ  ผมควรทำอะไรดีล่ะ”
“เล่นป้อกเด้งมั้งคะ”
“คุณป้อก  ส่วนผมเด้ง…ตกลงไหม?”
ไอ้คำว่า ‘เด้ง’  สายตาของอีกฝ่ายก้มลงไปที่เป้าของตัวเองด้วยแววตากะลิ้มกะเหลี่ย  เด้งมากูก็เด้งกลับล่ะเว้ย!
อ๊ะ  นี่ไม่ใช่เวลามาคิดอะไรแบบนี้สินะ  ผมต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ก่อนจะถูกไอ้โรคจิตมันขืนใจแล้วความลับเรื่องที่ว่าผมเป็นผู้ชายจะแตก
“เลิกล้อเล่นได้แล้วล่ะค่ะคุณเปลว  ตกลงคุณให้ทีมงานตามฉันมาที่นี่มีเรื่องอะไรกันแน่คะ”
“บอกแล้วไงครับว่าชวนมาอาบน้ำด้วยกัน”
“ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับคุณหรอกนะคะ  เข้าเรื่องของคุณมาเถอะค่ะ”
“อาบน้ำด้วยกัน”
“คุณเปลว!”
“นะครับ”
“ฉันไปดีกว่า”
ผมตัดบทแล้วเบี่ยงตัวไปอีกฝั่งเพื่อจะหนีให้พ้นจากไอ้บ้ากามคนนี้
ตอนแรกนึกว่าเขาล้อเล่นเรื่องที่ชวนอาบน้ำด้วย  แต่ไปๆมาๆดูท่ามันจะจริงจังโคตรๆเสียแล้ว
หมับ!
“ไม่เอาน่า  คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอครับว่าคุณอาบน้ำร่วมกับผู้เข้าประกวดคนอื่นๆไม่ได้”
“ทะ…ทำไมจะไม่ได้คะ  ฉันก็เป็นผู้หญิงเหมือนกับพวกเธอ  ไม่มีเหตุผลที่จะอาบน้ำด้วยกันไม่ได้สักหน่อย”
“หืม?  ผมยังไม่ได้พูดถึงเรื่องเพศเลยนะ  ผมอาจจะหมายถึงว่าคุณมีโรคติดต่อที่ไม่สามารถทำอะไรร่วมกับคนอื่นได้ก็ได้  แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าผมจะหมายถึงเรื่องเพศล่ะครับ?”
เอาเลย… บรรดาถั่วๆทั้งหลายเตรียมฝั่งรากงอกบนตัวกูได้เลย!
“คือฉัน…”
“หรือว่าความจริงแล้ว  คุณมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องเพศปิดบังเอาไว้”
มะ…มึงลาออกไปเป็นหมอดูเถอะไอ้คุณเปลว!
เดาแม่นปานมองทะลุเสื้อผ้ากูได้
“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไรนะคะ  แต่ฉันไม่ได้มีความลับอะไรทั้งนั้น”
“คุณเชื่อใจผมได้นะ  ผมบอกแล้วไงว่าผมถูกใจคุณเพราะคุณสวยมาก”
“ปล่อยแขนฉันได้แล้วค่ะ”
“บอกผมมาเถอะ  ตราบใดที่คุณยังอยู่ที่นี่  ผมพร้อมจะเป็นอัศวินของคุณนะ”
คำพูดของเขาเรียกความสนใจจากผมได้เล็กน้อย  หันหน้ากลับไปมองร่างสูงที่กำลังจ้องผมอยู่  นัยน์ตาสีดำสนิทไม่ฉายแววล้อเล่นอีกต่อไป
อะไรของหมอนี่…
“ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าคุณพูดอะไร”
ผมยังยืนยันคำเดิม  เกือบไปแล้วล่ะ  เกือบจะเผลอหลุดปากบอกความจริงกับเขาไปแล้ว  ยังไงเสียไอ้หน้าหนวดก็คือผู้จัดการ  เป็นคนก่อตั้งการประกวดนี้ขึ้นมา  ลองถ้ารู้ว่าผมทำผิดกฎร้ายแรงโดยการสวมรอยเป็นผู้หญิงเข้ามาร่วมการประกวดด้วย  มีเหรอที่จะไม่เอาเรื่องหรือว่าตัดสิทธิ์ผม
ยังไงก็ไม่ได้  ถึงจะอึดอัดกับความลับนี้แค่ไหนผมก็บอกไม่ได้
“ไม่เป็นไรครับ  คุณยังไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร  เพราะผมมั่นใจว่าสักวันหนึ่ง…”
“…”
“คุณจะบอกเรื่องที่คุณปิดบังเอาไว้กับผมเอง”
“ฉันไม่มีอะไรปิดบัง  เพราะงั้นวันนั้นจะไม่มีวันมาถึงค่ะ”
“…”
“…”
“เข้าใจแล้วครับ  ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร”
ข้อมือถูกปล่อยให้เป็นอิสระ  ผมรีบก้มหัวเคารพเขาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปกดลิฟต์เพื่อกลับลงไปที่ห้องพักของตัวเอง
“แต่ว่าคุณน้ำ”
“…”
“การเก็บตัวครั้งนี้น่ะ…ไม่ใช่แค่มาทำกิจกรรมร่วมกับผู้เข้าประกวดคนอื่นๆหรอกนะครับ”
“…”
“แต่มันคือสงคราม”
“…”
“สงครามที่มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะรับมือได้”
ติ๊ง!
ลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดก่อนจะเปิดออก  ผมรีบเดินเข้าไปข้างในและกดชั้นที่ต้องการจะไป  ประตูลิฟต์ทำท่าจะปิดลงแต่ผมก็จัดการเปิดมันออกใหม่อีกครั้ง  คุณเปลวที่ยืนพิงกำแพงกระจกและกอดอกมองผมอยู่เลิกคิ้วขึ้นเลกน้อย  คงรู้ว่าผมมีบางอย่างที่อยากจะบอกเขา
“ฉัน…”
“…”
“จะเป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ให้คุณดูค่ะ”

พะ…พูดออกไปแล้ว!
พูดออกไปทั้งๆที่วันพรุ่งนี้จะใช้วิธีไหนแต๊บไข่ในการใส่ชุดว่ายน้ำยังไม่รู้เลย!  ไอ้ที่แต๊บอยู่ตอนนี้ก็แค่พอไม่ให้มีอะไรมันนูนโผล่พ้นเนื้อผ้าออกมาเท่านั้น  แต่ถ้าต้องแต๊บถึงขั้นที่จะสามารถใส่ชุดว่ายน้ำเดินโชว์ได้…
พี่ลิลลี่ไม่ได้สอนไว้
ถั่วงอกยาวทะลุชั้นบรรยากาศแล้วโว้ยยยย
แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็โชคดีที่ว่าบรรดาผู้เข้าประกวดคนอื่นๆต่างพากันออกไปเดินชมโรงแรมหมดแล้ว  ผมเลยถือวิสาสะล็อคประตูห้องน้ำรวมนี่เสียเลย  ขืนไม่ล็อค ถ้าหากมีคนกลับมาเห็นผมในร่างจริงกำลังอาบน้ำอยู่คงเป็นเรื่องแน่  ไม่สิ  เอาแค่ถูกไอ้คุณเปลวจับตามองก็เรื่องใหญ่เหนือสิ่งอื่นใดแล้วไหม!
“พี่ต้องทำยังไงกับวันพรุ่งนี้ดีล่ะน้ำ”
ผมพูดกับเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก  คนในกระจกเหมือนน้ำของผมจริงๆ
เอาวะ!  ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วกัน  วิธีการแต๊บพี่ลิลลี่ก็สอนมาแล้ว  แค่เพิ่มจำนวนเข้าไปแล้วทำให้มันแน่นขึ้นก็น่าจะพอถูๆไถๆได้ล่ะมั้ง
เลิกคิดมากแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมลงไปรวมกับทุกคนดีกว่า  เพราะนอกจากจะอาบน้ำแต่งตัวแล้ว  ผมยังต้องยัดนมปลอมและเก็บปิกาจู้ให้มิดชิดอีก  เรียกได้ว่าใช้เวลาในการอาบน้ำมากกว่าคนอื่นๆเท่าตัวเลย  เฮ้อ!

“น้ำ!  อยู่นี่เอง  เธอหายไปไหนมาน่ะ”
บาร์บี้ทรงโตวิ่งเข้ามาหาผมทันทีที่เธอหันมาเห็น  ขนาดใส่เสื้อโปโลแบบมิดชิด  ผมยังรู้สึกเหมือนตัวเองมองทะลุเสื้อผ้าเห็นหน้าอกของเธอเลย
เด้งขนาดนั้น…นมหรือลูกโบว์ลิ่งกันแน่วะ  น่าบีบน่าฟัดสุดๆ!
“ก็…หลังจากคุยธุระกับคุณเปลวเสร็จ  ฉันก็เลยไปอาบน้ำน่ะ”
“งั้นเหรอ  เสียดายเนอะที่วันนี้ไม่ได้อาบน้ำด้วยกัน”
เสียดายสิ  เสียดายมาก  ถ้าได้อาบน้ำกับบาร์บี้ในฐานะของไฟ  ผมคงดีใจไม่น้อยเลย
“แล้วเธอมีอะไรหรือเปล่า  หรือว่ารอกินข้าวพร้อมฉัน?”
“ใช่แล้ว  ทุกคนเขาจับคู่มีคู่บัดดี้กันหมดแล้วอ่ะ  เหลือแค่เราสองคนนี้แหละ”
“งั้นเราก็คู่กันสินะ”
ผมยิ้มหวานเมื่อเห็นบารบี้ทำหน้าเศร้าเพราะตัวเองยังไม่มีคู่อยู่คนเดียว  ผู้หญิงนี่เป็นเภทที่น่าทะนุถนอมจังเลยแฮะ  เวลาเห็นพวกเธอทำหน้าหม่นๆทีไร  ผมล่ะอยากจะเข้าไปดูแลปกป้องทุกทีเลย
“ดีจัง  จะได้ทานข้าวพร้อมคุณน้ำด้วย”
“คุณเปลว!  สวัสดีค่ะ”
บาร์บี้รีบยกมือไหว้ไอ้หน้าหนวดที่โผล่พรวดมาด้านหลัง  ไอ้นิสัยที่ชอบก้มลงมาพูดใกล้ๆหูคนอื่นนี่มันยังไงกันวะ  ขนลุกไปทั้งตัวแล้วเนี่ย!
“สวัสดีครับ  นี่ทานข้าวกันหรือยัง”
“ยังค่ะ  พอดีบาร์บี้รอน้ำอยู่  ว่าจะไปกินพร้อมกันน่ะค่ะ”
“งั้นดีเลย  ผมขอร่วมตะด้วยคนได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ”
“ไม่ได้ค่ะ!”
ผมและบาร์บี้ตอบกลับไปพร้อมกัน  แต่คนที่ตอบว่าไม่ได้น่ะมันคือผม
“ทำไมล่ะน้ำ  นี่คุณเปลวเลยนะ  ถ้าเราสนิทกับเขาไว้เราก็อาจจะมีสิทธิ์เข้ารอบก็ได้”
บารบี้ดึงผมเข้าไปใกล้แล้วกระซิบบอก  สีหน้าและแววตาของเธอดูจะตำหนิผมแบบสุดๆ
เฮ้ๆ  ถ้าแบบนี้มันก็ไม่ต่างกับการโกงไม่ใช่เหรอ  ใช้วิธีตีสนิทกรรมการแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนเล่า  น้ำคงไม่ยินดีแน่ๆถ้าผมจะชนะมาได้ด้วยวิธีการแบบนี้น่ะ
“ถ้าคุณน้ำไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรนะครับ  ผม…”
“เต็มใจค่ะ!”
“ฮะ?”
“เต็มใจใช่ไหมน้ำ”
บาร์บี้บีบต้นแขนผมเบาๆแล้วพยักพเยิดไปทางไอ้คุณเปลวที่กำลังตีหน้าเศร้าเรียกคะแนนความสงสาร  จากสภาพกางเกงยีนส์ขาดสะบั้นตั้งแต่หัวจรดปลายกับเสื้อยืดย้วยๆที่คงจะใส่มานานกว่าห้าปีสีดำของมันแล้ว  ผมไม่คิดว่าจะอยากมีผู้เข้าประกวดคนไหนเอาร่างกายเข้าแรกแน่ๆ
หรือว่าเพราะเห็นหมอนี่แสดงท่าทีสนใจผม  บาร์บี้ก็เลย…
เล่นกันอย่างนี้เลยเลยเรอะ!  คิดบางไหมว่าถ้าผมกับมันได้กันเองอะไรจะเกิดขึ้น!
ปิกาจู้กับปิกาจู้แซ่บกันเองมีหวังฟ้าผ่าตายโหงทั้งโรงแรม  เวรเอ๊ยยย!
“อะ…อื้ม”
พี่ลิลลี่เตือนไว้ว่าผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวและซับซ้อนที่สุด  หากขัดใจหรือทำให้พวกเธอโกรธ  พวกเธอจะมีวิธีเล่นงานเราคืนได้เจ็บแสบที่สุด  เพราะงั้น…ถ้าผมอยากจะอยู่ที่นี่แบบสบายใจจนกว่าน้ำจะหายดีล่ะก็  ผมจะต้องรู้จักเออออห่อหมกตามความต้องการของพวกเธอ  พยายามไม่สร้างศัตรูจะดีที่สุด
หรือว่าบางที…
นี่อาจจะเป็น ‘สงคราม’ ที่ไอ้คุณเปลวเตือนผมก่อนหน้านี้
“เห็นไหมคะ  บาร์บี้บอกแล้วว่าน้ำเต็มใจ  ถ้างั้นเราไปทานข้าวกันดีกว่าค่ะ”
บาร์บี้ยิ้มกว้างเมื่อผมยอมทำตามที่เธอต้องการแต่โดยดีก่อนจะเดินนำไปทางบุฟเฟ่ต์มากมายที่วางเรียงรายกันอยู่  ทิ้งผมไว้กับตัวอันตรายที่สุดอีกแล้ว
“ผมจะทำให้คุณรู้เองว่าสงครามนี้มันน่ากลัวแค่ไหน”
“คุณทำแบบนี้ทำไม”
ผมตอบกลับเสียงเบา  จ้องหน้าเขาด้วยแววตาโกรธเคือง
การที่เขาเข้ามาตีสนิทกับผมต่อหน้าทุกคนแบบนี้  มันต้องไม่ใช่จุดประสงค์ที่ดีแน่นอน
“ผมอยากให้คุณเดือดร้อน”
“คะ?  นี่คุณโรคจิตหรือยังไง  ฉันไปทำอะไรให้คุณ!”
“คุณไม่ได้ทำอะไรให้ผมหรอก  แต่ผมบอกไปแล้วนี่ครับว่าผมถูกใจคุณ”
“คุณทำกับคนที่คุณถูกใจแบบนี้เหรอคะ?  เป็นเด็กหรือไง  เด็กที่ชอบแกล้งผู้หญิงที่ตัวเองชอบ  คุณเป็นแบบนั้นเหรอ?”
“ชู่  อย่าเสียงดังสิครับ  พวกเราเป็นที่จับตามองของทุกคนมากนะ”
ก็มันเพราะใครกันเล่าที่ทำให้ทุกคนเข้าต้องเพ่งเล็งมาที่ผมแบบนี้!
แทนที่กูจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบๆรอน้ำมาเปลี่ยนตัวคืน  เห็นทีคงจะไม่เป็นแบบนั้นเสียแล้ว
“คุณมัน…”
“ผมจะทำให้คุณเดือดร้อนจนกว่าคุณจะ…”
“จะอะไร!”
“จะเรียกหาอัศวิน”
“ฮะ?”
“บอกแล้วไงครับว่าผมจะเป็นอัศวินของคุณเอง  แต่ดูเหมือนคุณจะไม่ต้องการ  ผมเลยต้องใช้วิธีนี้เพื่อทำให้คุณเรียกร้องหาผม  คุณจะได้…ต้องการผมอยู่ตลอดเวลา”
“ไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่”
“งั้นมารอดูกัน”
ร่างสูงขยิบตาพร้อมยิ้มหวานส่งท้าย  ก่อนจะแตะบ่าผมเบาๆแล้วเดินเข้าไปหาบาร์บี้ที่กวักมือเรียกอยู่ตรงมุมบุฟเฟ่ต์
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ  ต้องมาถูกผู้จัดการจับตามองตั้งแต่วันแรกของการประกวด  แถมยังไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่เขาทำเรื่องทั้งหมดนั้นเราะเขาต้องการอะไร  อยากให้ผมพูดความจริงงั้นเหรอ?  ให้สารภาพเรื่องที่กำลังปิดบังเอาไว้ใช่หรือเปล่า?  ถ้าเป็นแบบนั้นจริง  ผมคงต้องระวังตัวให้มากขึ้นเสียแล้ว  เพราะ…
…อัศวินทำร้ายคนที่ต้องการจะปกป้องเสียเองแบบนี้
มันหายนะชัดๆ!

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอดูสงครามหนองโพ เอ๊ย สงครามสาวงาม

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
คือมันต้องมีอัลไล อัลไล ก่อนหน้านั้นแน่ๆ

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ไฟจะรอดมั้ยเนี่ย อาบน้ำรวมกันงี้ แล้วตอนนอนอีก ลุ้น

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 5
สัมผัสที่แปลกใหม่…งั้นเหรอ?
 
หลังจากกล้ำกลืนฝืนทนกินข้าวร่วมโต๊ะกับไอ้หน้าหนวดเสร็จ  ก็ถึงเวลาที่ที่ทางกองประกวดนัดหมายเอาไว้  ผมไม่รู้หรอกว่าเขานัดมาทำไม  ในหัวตอนนี้กำลังคิดหาทางเอาตัวรอดจากไอ้คุณเปลวและการใส่ชุดว่ายน้ำในวันพรุ่งนี้ไปพร้อมๆกันอยู่
“น้ำ  เป็นอะไรหรือเปล่า  สีหน้าเธอดูเครียดมาตั้งแต่ตอนกินข้าวแล้วนะ”
“เปล่าหรอกจ้ะ  ไม่มีอะไรหรอก  ฉันแค่ตื่นเต้นเท่านั้นเอง”
“ทำใจให้สบายนะ  ในกองประกวดนี้ฉันว่าเราสองคนสวยแล้วก็หน้าอกใหญ่ที่สุดแล้วแหละ”
สวย…
หน้าอกใหญ่…
ยังไงผมก็ยังเป็นผู้ชายนะโว้ยยยย!
คำพูดของบาร์บี้ช่วยให้ผมใจชื่นขึ้นในเรื่องของความเนียนในการปลอมตัวเป็นผู้หญิง  แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ผมคิดได้เลยว่าพรุ่งนี้จะรอดพ้นจากการถ่ายแบบชุดว่ายน้ำได้ยังไง  ยิ่งถ้าเกิดจับฉลากได้ใส่พวกวัน ทู ทรี พีชๆ อะไรของพวกผู้หญิงนั่นผมต้องไม่รอดแน่ๆ
ทำยังไงดีวะ
จะทำยังไงดี!
“น้ำๆ  คุณเปลวเอาแต่จ้องเธอไม่เลิกเลยนะ  ฉันว่าเขาต้องชอบเธอแน่ๆเลย”
ผมหันมองตามนิ้วมือของบาร์บี้ที่ชี้ไป  ไอ้หน้าหนวดที่นั่งอยู่ตรงเก้าอี้ของกรรมการกำลังเอามือลูบคางไปมาพลางมองมาทางผมด้วยสีหน้ากวนตีนสุดพลัง
ถ้ากูอยู่ในคราบของไอ้ไฟ  สาบานได้ว่าจะกระทืบแม่งให้เลือดกบปากเลย!
สายตาที่เหมือนมองทะลุปรุโปร่งผมแบบนั้นโคตรชวนให้โมโหเลย
“ไม่มีทางหรอก  เขาจะมาชอบฉันได้ยังไง”
“จริงๆนะ  เมื่อกี้ตอนที่นั่งกินข้าวอยู่เขก็มองแต่เธอ  ขนาดฉันชวนคุยเขายังไม่สนใจเลย”
“ไม่ใช่ล่ะ  ไม่ใช่แน่ๆ”
อย่ามาพูดอะไรให้ผมขนลุกมากไปกว่านี้อีกเลย
แต่ถ้าสมมติเป็นอย่างที่บาร์บี้พูดจริงๆ  ก็คงดีแล้วใช่ไหมที่ผมสวมรอยเป็นน้ำมาแบบนี้  เพราะถ้าน้ำมาเองแล้วได้เจอกับมันเข้าคงไม่มีทางป้องกันตัวเองจากไอ้หื่นอย่างนี้ได้แน่ๆ
“โอ๊ะ!  ยัยแม่มดมาแล้ว”
การสนทนาเป็นอันต้องจบลงเมื่อป้าแว่นเดินเฉิดฉาดเข้ามา  หน้าถมึงทึงหันขวับมาทางผมเป็นคนแรก  ให้ตายสิ  เกือบลืมยัยป้านี่ไปแล้วไหมล่ะ  การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ชักจะไม่ง่ายอย่างที่ไอ้คุณเปลวมันบอกจริงๆแฮะ

‘สงครามที่มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะรับมือได้’

หรือจะจริงอย่างที่มันพูดวะ
สงครามที่มีขึ้นสำหรับผู้หญิงเท่านั้น  บนโลกนี้มันมีจริงๆด้วยเรอะ!
“เอาล่ะ  นี่คือตารางสำหรับวันพรุ่งนี้  มีรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วน  ไม่มีตารางที่พวกคุณทุกคนได้รับในตอนแรก  นั่นเป็นเพียงตารางงานคร่าวๆที่ทีมงานทำขึ้นเท่านั้น  ส่วนตารางงานอย่างละเอียดเราจะแจกให้วันต่อวันเพื่อให้พวกคุณได้เตรียมตัวก่อนถึงวันทำกิจกรรมจริงค่ะ”
ใบตารางงานถูกแจกส่งต่อมาเรื่อยๆจนถึงผมกับบาร์บี้ที่นั่งอยู่เกือบจะท้ายเท่า  อารมณ์ไม่ต่างจากเวลามาเข้าค่ายของมหาวิทยาลัยเลยวุ้ย
“นี่ไง  มีถ่ายแบบชุดว่ายน้ำจริงๆด้วยแฮะ”
บาร์บี้ชี้ไปบนตาราง  ผมรีบไล่สายตามองตามจนเจอ  กิจกรรมถ่ายแบบชุดว่ายน้ำจะมีตอนเก้าโมงที่ชายหาดของโรงแรมนี้
ตายๆๆ ตายแน่ๆ  เป็นการถ่ายแบบทีเปิดให้คนนอกเข้ามาชมได้เสียด้วย ถ้าผมทำพลาดจนความแตกขึ้นมาว่าเป็นผู้ชายอะไรจะเกิดขึ้นบ้างวะเนี่ย
คงได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งนานเป็นอาทิตย์ชัวร์ๆ!
“น้ำ  เธอหน้าซีดจริงๆนะ  ไม่สบายหรือเปล่า”
“ปะ…เปล่า  ฉันไม่เป็นอะไร”
“แต่…”
“แค่กังวลนิดหน่อยน่ะ  แบบว่า…ฉันไม่ค่อยชอบใส่ชุดว่ายน้ำสักเท่าไหร่”
“อะไรกัน  หุ่นแบบเธอใส่ชุดว่ายน้ำได้สบายๆอยู่แล้ว  ต้องน่ารักแน่ๆ”
“เหอะๆ  เหรอ  ขอบใจนะ”
กูอยากจะร้องไห้  ฮืออออออ!

“น้ำนอนตรงนี้  ส่วนฉันนอนตรงนี้  โอเคนะ”
บาร์บี้จัดแจงเรื่องการแบ่งที่นอนเรียบร้อยเสร็จสรรพ  ผลสรุปคือผมและบาร์บี้ได้เป็นรูมเมทกัน  ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เราจะกินอนอยู่ในห้องด้วนกันตามลำพังสองคนเท่านั้น  เพียงแต่คืนแรกผู้เข้าประกวดทุกคนจะต้องนอนรวมกันก่อน  เธอเลยจัดแจงให้รูมเมทแต่ละคนได้นอนใกล้กัน  โดยที่ผมถูกจัดให้นอนติดกำแพงส่วนบาร์บีก็นอนข้างๆ  ซึ่งเป็นตรงกลางระหว่างคู่ของเรากับคู่คนอื่น
“พอดีฉันกลัวผีน่ะ  เลยไม่ชอบนอนริม  แหะๆ”
เดี๋ยวป๋าไฟจะนอนกอดไว้ทั้งคืนเลย!
ผมได้แต่ยิ้มเพื่อซ่อมความหื่นกระหายของตัวเองเอาไว้   ตั้งแต่เกิดมาแม้แต่จับเนื้อต้องตัวเพศตรงข้ามที่นอกเหนือจากน้ำก็ยังไม่เคย  เพราะฉะนั้นเรื่องจูบหรอเรื่องเซ็กส์ตัดออกไปจากวงโคจรได้เลย!  อย่างมากก็ดูคลิปแล้วช่วยตัวเองสักสิบยี่สิบนาทีนั่นแหละ
นี่กูพูดเรื่องอะไรของกูวะเนี่ย!

‘อื้อ…ไม่เอาน่า’

“!!!”
ผมชะงักเมื่อจู่ๆก็มีเสียงบางอย่างแวบเข้ามาในหัว  พร้อมกับความรู้สึกประหลาดที่ริมฝีปาก  อะไรบางอย่างในหัวทำให้ผมคิดว่าตัวเองเคยผ่านการจูบอันแสนดูดดื่มมาก่อน…
มะ…มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะเฟ้ย!  แฟนก็ยังไม่เคยมีกับเขาสักคนแล้วจะไปจูบปากหมาปากแมวที่ไหนได้!
แต่…เสียงที่ดังเข้ามาในหัวเมื่อกี้นี้มัน…
เสียงเหมือนตัวเองเลยแฮะ
“น้ำ  นอนได้แล้วนะ  ถ้านอนดึกมาเดี๋ยวตื่นมาหน้าจะโทรมรู้หรือเปล่า”
“อ๊ะ!  อ๋อ  จ้ะ  นอนจ้ะนอน”
ผมทิ้งตัวลงนอนตามที่บาร์บี้บอก  ก่อนที่วงแขนเล็กๆจะตวัดมากอดผมเอาไว้  หน้าอกอวบอิ่มเบียดเสียดแผ่นหลังจนปิกาจู้แทบจะตื่นจากการจำศีล
“เอ่อ…”
“ขอนอนกอดหน่อยนะ  ฉันเป็นคนติดหมอนข้าง”
ว่าพลางชะโงกหน้ามากระซิบใกล้ๆหู
แม่คุณเอ๊ยยยย  ขยันหาเรื่องให้กูตบะแตกจริงไรจริง 
ผมได้แต่ท่องพุธโธ นะโม สังโข ในใจเพื่อระงับกิเลสที่เกิดขึ้น  เกิดเป็นไอ้ไฟนี่แม่งโคตรลำบาก  มีผู้หญิงมานอนกอดก่ายอยู่ข้างกายขนาดนี้แต่ก็ทำอะไรไมได้  หลังจากนี้คงต้องหาเวลาไปเล่นว่าวตามลำพังสักหน่อยแล้ว  ปวดหนึบไปหมดล่ะเนี่ย!
“อื้อ…”
ตุ้บ!
แขนไม่พอ  ขาตามมาอีก…  ผมหรี่ตามองยัยผู้หญิงข้างตัวที่เพียงเสื้อส่ายเดียวโชว์หน้าอกอันมโหฬารกับกางเกงผ้าร่มขาสั้นจนแก้มก้นโผล่   แต่กลับนอนไม่ระวังตัวด้วยการทั้งกอดทั้งก่ายคนข้างตัว  นี่คงคิดว่าผมเป็นหมอนข้างไปแล้วจริงๆใช่ไหม  ถึงได้พาดขาขึ้นมาบนลำตัวแล้วเบียดเสียดส่วนนั้นกับตัวผม…
ถ้าไม่ใช่เพื่อน้องสาวสุดที่รักกูจะไม่ทน!
เอ้า  ฮึบ!!!

“เฮ้อ!”
เป็นการถอนหายใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้  ผมอาศัยช่วงที่ทุกคนหลับสนิทกันทั้งห้อง  เขี่ยบาร์บี้ออกไปจากตัวแล้วย่องออกมาเงียบๆคนเดียว  ยังดีที่ถึงแม้จะไม่สามารถออกนอกตัวโรงแรมได้เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าประกวด  แต่ในโซนสระว่ายน้ำก็ยังออกมานั่งกินลมชมวิวได้อยู่  อย่างน้อยๆก็อยากจะอยู่กับตัวเองคนเดียวสักพักล่ะนะ
“ถ่ายแบบชุดว่ายน้ำพรุ่งนี้…ทำยังไงดีวะ”
ถามคำถามเดิมกับตัวเองเป็นรอบที่ล้าน  แต่ก็ยังหาคำตอบไมได้เสียที
หรอจะไปจอยืมมีดอีโต้จากห้องครัวของโรงแรมแล้วจัดการผ่าตัดปิกาจู้เองเสียเลย  ทั้งๆที่ถ้าเป็นพวกกางเกงขาสั้นอะไรเทือกนั้นก็ยังพอปิดบังไปได้แท้ๆ  แต่นี่เล่นมาเป็นชุดว่ายน้ำน้อยชิ้นประหนึ่งผ้าเตี่ยว
ทำไมไม่ให้แก้ผ้าไปซะเลยล่ะ!
“รอนานไหมครับคุณน้ำ”
จำได้ว่าผมไม่ต้องการสัมภเวสีมานั่งเป็นเพื่อนสักหน่อย!
ยิ่งไปกว่านั้นคือ…สัมภเวสีที่ว่าดันเป็นไอ้หน้าหนวดจอมลามกที่ผมอยากจะหนีไปให้ไกลสุดหล้าฟ้าเขียว…
มึงแอบติด GPS  ไว้ที่ตัวกูใช่หรือไม่  ตอบ!
“ขอตัวนะคะ”
หมับ!
“เดี๋ยวสิครับ  นั่งคุยกันก่อน”
ข้อมือถูกอีกฝ่ายคว้าเอาไว้แล้วฉุดให้นั่งลงตามเดิม
ประทานโทษเถอะ!  เก้าอี้ริมสระมีอยู่เป็นสิบตัวจนแทบจะท่วมหัวมึงตายทำไมมึงไม่นั่ง  มานั่งข้างกูทำไม!
“หนาวเหรอคะ”
ผมถามหน้าตายพลางมองไอ้หน้าหนวดที่พยายามนั่งเบียดผมเสียเหลือเกิน  ถ้าจะเบียดกูขนาดนี้แนะนำให้ขึ้นมาขี่คอกูเลยจะดีที่สุด
“หนาวสิครับ  คุณน้ำไม่หนาวเหรอ”
“รอนตับแล่บเลยค่ะ”
“งั้นผมแก้ผ้าให้ไหมครับ”
ไม่พูดเปล่า  มือปลาหมึกของไอ้หน้าหนวดยังคว้าหมับเข้าที่ชายเสื้อของผมเตรียมถลกขึ้นเต็มที่อีก 
เดี๋ยวๆๆๆ  ตอนนี้กูอยู่ในสถานะของผู้หญิงนะเว้ย  ไหงแม่งทำอะไรไม่ให้เกียรติกันแบบนี้วะ  ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นน้ำไม่ใช่ผม  ไอ้โรคจิตนี่จะทำอะไรน้องสาวผมบ้าง!
“นี่คุณ!”
“ไม่เอาน่า  อย่าโมโหสิครับ  คุณเคยน่ารักกว่านี้ตั้งเยอะนะ”
“เคย?  คุณทำเหมือนพวกเราเคยเจอกันมาก่อนอย่างนั้นแหละ  นี่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกนะที่คุณชอบพูดจาทำนองนี้”
“งั้นเหรอ  ผมพูดแบบนั้นออกไปเหรอเนี่ย”
ไอ้หน้าหนวดแสร้งทำตาโตเหมือนตกใจที่ตัวเองหลุดพูดอะไรออกมา
หรือว่าบางทีไอ้หมอนี่…มันอาจจะเคยเจอน้ำที่ไหนมาก่อน  หรือไม่น้ำก็อาจจะเคยรู้จักมัน  แต่พอผมสวมรอยมาเป็นน้ำก็เลยจำมันไม่ได้เพราะผมไม่เคยเจอกับมันมาก่อน
ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่แปลกเลยที่มันจะตามติดผมขนาดนี้  เพรามันคงสงสัยไม่น้อยว่าทำไมน้ำ ( ซึ่งตอนนี้คือผม ) ถึงทำตัวเหมือนไม่เคยรู้จักกับมันมาก่อน
แบบนี้ก็ฉิบหายวายป่วงงานงอกเงยแล้วสิ  ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าน้ำเคยเจอกับหมอนี่มาก่อนหรือเปล่า!  กว่าจะมีโอกาสได้ติดต่อโลกภายนอกอีกครั้งก็คือการตัดสินผู้เข้ารอบสิบคนสุดท้ายในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า…?
“ถึงกับต้องทำหน้าเครียดขนาดนั้นเลยเหรอครับ  ไม่เอาๆ  เดี๋ยวหน้าย่นแล้วจะไม่สวยนะ”
นิ้วโป้งของไอ้หน้าหนวดวางแหมะลงมาระหว่างกลางของคิ้วทั้งสองข้าง  ก่อนที่เขาจะนวดมันเบาๆ  ระยะห่างของผมกับมันเลยหดสั้นลงมาอีก  มันใกล้เสียจนผมรู้สึกได้ว่าลมหายใจของอีกฝ่ายที่ผ่อนออกมานั้นร้อนมากแค่ไหน
“วันนี้ผมเห็นคุณขมวดคิ้วทั้งวันเลยนะ  ไม่ปวดตาบ้างหรือไง”
“แล้วมันเพราะใครกันล่ะ”
“หืม?  จะบอกว่าเพราะผมงั้นเหรอ”
“มีคนอื่นที่คอยกวนประสาทฉันอีกหรือไง!”
ผมจิกตาใส่มันเต็มที่  แต่ก็ยังปล่อยให้เขานวดตรงระหว่างคิ้วไปให้เรื่อยๆเพราะมันทำให้ผมผ่อนคลายขึ้นเยอะจริงๆ  สงสัยก่อนหน้านี้จะเอาแต่ขมวดคิ้วมากไป  รู้สึกเหมือนตาจะหลุดออกมาจากเบ้าเลยล่ะ
“คุณผิดเองนะที่จำผมไม่ได้น่ะ”
“!!!”
“แต่ไม่เป็นไร  ผมเข้าใจ  วันนั้นผมเองก็ไม่ได้อยู่อธิบายอะไรให้คุณฟังเหมือนกัน  ก็ไม่แปลกหรอกที่คุณจะจำผมและเรื่องในวันนั้นไม่ได้”
ไอ้หน้าหนวดเลื่อนมือมาแตะที่แก้มของผมแทน  นัยน์ตาน่าค้นหากำลังจ้องลึกเข้ามาราวกับต้องการค้นบางสิ่งข้างในนั้นฝนขณะที่ผมได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ  ในหัวคิดมากกับสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งพูดออกมา
งานเข้าแล้วจริงๆ…
หมอนี่เคยเจอกับน้ำมาก่อนจริงๆ  แถมไม่รู้ว่าเคยไปเจอกันในสถานการณ์ไหนอีก!  ถ้าหาก…เขาเกิดสงสัยว่าน้ำในตอนนี้กับน้ำที่เขาเคยเจอเป็นคนละคนกันขึ้นมา
อะไรจะเกิดขึ้นนะ?
“นึกไม่ออกจริงๆเหรอครับ  คุณน้ำ”
“ฉัน…”
“แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ  จะนึกออกไหม”
“คะ?  อุ๊บ!”
ริมฝีปากถูกประกบทับลงอย่างแนบแน่น
ผมได้แต่เบิกตากว้างนั่งตัวแข็งยิ่งกว่าหุ่นยนต์กับสัมผัสที่จู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหัน  สองมือพยายามดันตัวเขาให้ออกห่างแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีแรงมากกว่า  กลายเป็นว่าข้อมือทั้งสองข้างถูกมือเพียงข้างเดียวของไอ้คุณเปลวรวบไปจับเอาไว้  ส่วนมืออีกข้างของเขาก็กดท้ายทอยผมไม่ให้ดิ้นหนี
“อื้อๆๆๆ!”
ภายในโพรงปากถูกบุกรุกด้วยเรียวลิ้นร้อน  ผมหลับตาปี๋เพราะเริ่มทำอะไรไม่ถูก  ในหัวตอนนี้ขาวโพลนไปหมด  รับรู้เพียงแค่ว่าลิ้นของตัวเองกำลังถูกดูดดุนจนแทบจะฉีกขาด
ความเจ็บปวดที่ข้อมือเริ่มจางหายเพราะอีกฝ่ายค่อยๆคลายแรงบีบลงทีละนิด  ในขณะที่ผมเองก็เลิกดิ้น  จากหลับตาปี๋ก็เปลี่ยนมาเป็นหลับตาพริ้มแทนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้  สัมผัสที่รุนแรงในตอนแรกก็นุ่มนวลขึ้นเรื่อยๆ  ลิ้นของผมกับเขาเกี่ยวตวัดกันไปมาอย่างไม่มีใครยอมใคร  มือหนาที่เคยกดท้ายทอยผมไว้เลื่อนลงไปจับที่สะโพกแทน
“อ๊ะ…”
เผลอปล่อยเสียงร้องออกมาเมื่อปลายลิ้นร้อนของเขาแตะที่ลำคอ  ริมฝีปากสากๆตามแบบฉบับของผู้ชายพรมจูบไปทั่ว  แต่ที่น่าแปลกคือ…
ร่างกายของผมแอ่นตัวขึ้นตอบรับทุกสัมผัสของเขา
คล้ายกับว่าตัวเองคุ้นเคยกับสัมผัสของเขาทั้งที่ไม่มีทางเป็นไปได้
“อื้อ…”
ผมตัวสั่นระริก  สองมือจับไปที่ศีรษะของคุณเปลว  ขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับหน้าท้องของผม  ตอนนี้ทั้งผมและเขากำลังนัวเนียกันอยู่ที่เก้าอี้ริมสระ  ชายเสื้อถูกเลิกขึ้นมาเล็กน้อยพอให้เขาลากลิ้นเลียไปทั่วหน้าท้องจนขนแขนตั้งชันขึ้นเป็นแถบๆ
“ร้อนแรงเหมือนเดิมเลยนะครับ”
“!!!”
เสียงพูดของไอ้คุณเปลวที่ดังขึ้นเรียกสติของผมกลับคืนมาในทันที!
สองตาเบิกกว้างจนแทบถลนมองร่างสูงที่กำลังไล่จูบหน้าท้องของผมเล่น  โดยที่นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ได้ละไปจากใบหน้าของผมเลย  เชี่ยเอ๊ย!  เกิดอะไรขึ้นกันวะเนี่ย!
“ไอ้ทุเรศ!”
พลั่ก!
ผมออกแรงถีบไอ้หน้าหนวดเต็มแรงจนมันหงายหลังกลิ้งลงไปจากเก้าอี้  รีบดึงเสื้อของตัวเองกลับลงมาตามเดิม  ในเวลานี้ผมยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกทั้งนั้น  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงได้ยอมให้ไอ้เวรนั่นมันกระทำย่ำยีกับร่างกายสุดรักสุดหวงได้ขนาดนี้!
“อะไรของคุณครับเนี่ย   กำลังสุนกแท้ๆเลยนะ”
“คุณเปลว!”
“อย่าทำหน้าเหมือนผมบังคับขืนใจคุณแบบนั้นสิ  เพราะถ้าใครได้เห็นฉากเมื่อกี้  ก็คงไม่มีใครคิดว่าผมขืนใจคุณหรอกนะ”
ไอ้หน้าหนวดยิ้มเยาะประหนึ่งผู้กุมชัยชนะ
ผมขบหันกรามแน่นระงับความโกรธของตัวเอง  สองมือกำเป็นหมัดเตรียมพร้อมจะกระทืบคนตรงหน้าให้ตายคาที่แต่ก็ทำไม่ได้  ถ้าผมทำอะไรลงไปตอนนี้  ความเรื่องที่ว่าแท้จริงแล้วผมไม่ใช่น้ำก็จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป
“อย่ามาเข้าใกล้ฉันอีกเด็ดขาดเลย!”
“แปลกแฮะ  เมื่อกี้คุณตอบสนองผมดีจะตาย  ทำไมตอนนี้ถึงทำเหมือนไม่ชอบซะแล้วล่ะ”
“หุบปากไปซะ!”
“โอ๊ะ!  กลับมาเสียงห้าวแล้วแฮะ”
เวรแล้วไง  ลืมตัว!
“ยะ…ยังไงก็แล้วแต่  ห้ามคุณเข้าใกล้ฉันอีกเด็ดขาดเลย!”
ตะโกนทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก็รีบวิ่งกลับเข้ามาในตัวโรงแรม
โชคดีที่ไม่มีใครเห็นตอนที่ผมกับไอ้เวรตะไลนั่นกำลัง….กัน  ไม่งั้นคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผมถึงยอมให้มันทำแบบนั้นกับร่างกายของตัวเองได้  ในเมื่อผมเป็นผู้ชาย  มันก็เป็นผู้ชาย  แล้วทำไม…ทำไมสัมผัสของมันถึงได้…
“ไม่ๆๆ เลิกคิดเดี๋ยวนี้ไอ้ไฟ!”
ผมตบหน้าตัวเองเต็มแรงเพื่อให้เลิกคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้   บอกไมได้เลยว่าหัวใจของผมเต้นแรงมากแค่ไหน
นี่มันอะไรกันวะ!
ทั้งที่เป็นครั้งแรกที่ถูกทำแบบนั้น  ไม่ว่าจะเป็นที่ปาก  ที่ลำคอ  หรือว่าที่หน้าท้อง…
แต่ทำไม…
สัมผัสพวกนั้น…
เป็นสัมผัสที่แปลกใหม่สำหรับผมจริงๆ…งั้นเหรอ?



Talk :
มาอัพตอนที่ 5 แล้วค่า  หลังจากที่หายไปเป็นเดือนๆ  ต้องกราบขออภัยคนที่ติดตามจริงๆนะคะ  หลังจากนี้จะไม่หายไปไหนแล้วค่ะ  เพราะตั้งใจจะแต่งเรื่องนี้และอัพให้อ่านจนจบก่อนปีใหม่  เพราะหลังปีใหม่ตั้งใจจะเปิดพรีออเดอร์เรื่องนี้ด้วยค่า  ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ  มาช่วยกันเป็นกำลังใจให้ไฟ  รวมถึงช่วยกันคิดว่าคนที่คุณเปลวเคยเจอนั้นแท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่?  น้ำหรือว่าไฟกันนะ? 
รักนักอ่านน้า  จุ๊บๆๆๆ

ออฟไลน์ เรารักน้องเจี้ยบ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อัพเเล้วค่ะซิส  :o8: สนุก :hao7: :hao7: :hao7: อัพต่อ :hao5: :hao5:ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
รออ่านต่อนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
สงครามนางงาม? สนุกดีๆ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เล่นไล่จับกัน
ไฟ เหมือนเคยเจอกับการจูบ แต่ทำไมจำไม่ได้
แสดงว่าเคยเกิดอะไรกับความจำของไฟ มาก่อน
ไฟ เคยเกิดอุบัตุที่กระทบกระเทือนทางสมอง? :katai1: :katai1: :katai1:
แล้วคงมีอะไรให้จำได้มากขึ้นสินะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 6
ของรักของหวง

“ฮ้าววววววว”
“ยี้!  น้ำ  ทำไมเธอถึงหาวปากกว้างน่าเกลียดเหมือนพวกผู้ชายแบบนั้นล่ะ!  อย่าลืมสิว่าทีมงานคอยจับตาดูพวกเราตลอดเวลานะ”
บาร์บี้ตีเพี๊ยะเข้าที่ปากผมหลังจากที่เพิ่งอ้าปากกว้างหาวขนาดที่หัวไดนาเสาร์ยังสามารถมุดเข้าไปอยู่ได้ 
ทำไงได้ล่ะวะ  เมื่อคืนพอหนีจากไอ้หน้าหนวดนั่นกลับมาที่ห้อง  ก็ยังต้องมาสงบสติอารมณ์และหักห้ามใจตัวเองไม่ให้จับยัยคนข้างๆปล้ำอีก  นอนก็ดิ้นจนเสื้อเปิดเห็นอะไรต่อมิอะไร  ไม่ว่าจะเอาผ้าห่มปิดให้กี่ครั้ง  สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม
กางเกงในจีสตริงสีแดงสด…
เกิดเป็นกูนี่มันลำบากจริงๆเลยโว้ย!
“โทษที  พอดีฉันง่วงน่ะ”
“เมื่อคืนก็นอนพร้อมกันนี่  เธอยังจะง่วงอีกเหรอ”
“ก็นะ  ฉันขี้เซานะ”
จะให้บอกความจริงไหมว่ามันเป็นเพราะเธอเนี่ย!
ผมเลิกสนใจยัยจอมเอ๋อข้างตัวแล้วชะโงกมองหาไอ้หน้าหนวด  เช้านี้พวกคณะกรรมการเรียกผู้เข้าประกวดมาออกกำลังกายร่วมกันที่ริมชายหาดตอนเช้าก่อนทานข้าว  หลังจากนั้นถึงจะให้แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวถ่ายแบบในวันนี้
ชุดว่ายน้ำ…
“มองหาผมอยู่เหรอครับ  ฟู่…”
“ตาเถน!!!”
อุทานออกไปเสียงห้าวจนคนอื่นๆพากันหยุดวอร์มอัพร่างกายแล้วหันมามองผมเป็นตาเดียว
ส่วนไอ้คนที่ทำให้ผมต้องตกใจจนหลุดแมนก็ยืนเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่
ไอ้หน้าหนวดปลาหมึก มึงอย่าอยู่เลย!
“ทำบ้าอะไรของคุณคะ  มากระซิบกระซาบข้างหูฉันแถมยังเป่าลมใส่แบบนั้นอีก”
“มันไม่เซ็กซี่เหรอครับ”
“เซ็กเสื่อมน่ะสิไม่ว่า!”
“ได้ลองสักครั้งแล้วจะรู้ว่าจะเสื่อมหรือจะติดใจนะครับ”
มันเอาอีกแล้ว  พากูวกเข้าเรื่องใต้สะดืออันแสนต่ำตมตลอดเลย!
“คุณ!”
“เอาล่ะครับสาวๆ  เลิกวอร์มได้แล้ว  เดี๋ยวผมจะนำเต้นเอง  พวกเราจะออกกำลังตอนเช้ากันด้วยการเต้นนะครับ”
ไอ้หน้าหนวดขยิบตาให้สาวๆ  ทำอย่างกับตัวเองหล่อตายห่าล่ะ!  ลองถ้ากูไม่ได้อยู่ในสภาพของน้ำแต่เป็นไอ้ไฟตามปกติ  กูต้องหล่อกกว่ามึงร้อยล้านเท่าแน่ๆ!
“น้ำ  ทำไมเธอชอบมองคุณเปลวเหมอนเกลียดเขามากขนาดนั้นด้วยล่ะ”
“ก็เกลียดน่ะสิ”
ผมตอบบาร์บี้กลับทันควัน  เกลียดจนอยากจะเอาตีนไปบี้หน้ามันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“ทำไมล่ะ  ฉันว่าเขาก็ดูดีออกนะ  ถึงจะเซอร์ไปนิดแต่ก็เป็นสุภาพบุรุษแล้วก็ใจดี  เขาคอยตามเธอตลอดเลยด้วย  น่าสนใจจะตาย”
“เธอก็จีบซะสิถ้าสนใจ  แต่ฉันไม่”
“ถ้าเขามาตามฉันต้อยๆเหมือนที่ตามเธอก็คงจะจีบอยู่หรอกนะ”
ก็นั่นน่ะสิ  ผู้หญิงสวยๆในนี้นอกจากน้ำ ( หรือผม ) ก็ยังมีอีกเป็นกระบุง  เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเจาะจงมาที่ผมด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีท่าทีเหมือนเคยเจอกับน้ำมาก่อนอีก  ที่สำคัญคือผมไม่รู้ว่ามันรู้หรือเปล่าวาความจริงแล้วผมคือไฟไม่ใช่น้ำ  หรือมันแค่คิดว่าน้ำ ( ซึ่งตอนนี้คือผม ) กำลังทำเป็นไม่รู้จักมันอยู่
ให้ตายสิ  ถ้าสามารถติดต่อน้ำได้ในตอนนี้คงพอจะแก้ปัญหาอะไรได้บ้างแท้ๆ  เจอแบบนี้ก็มืดสิบแปดด้านเลยสิวะ!
“ผิดแล้วครับคุณน้ำ  ท่าที่ผมสอนไปน่ะ  มันต้องทำแบบนี้”
“คะ?”
เพราะมัวแต่คิดเรื่องนู้นเรื่องนี้จนไม่ได้ดูว่ารอบข้างเขากำลังทำอะไรกัน  ไอ้หน้าหนวดเลยทำเนียนเดินเข้ามาจับเนื้อต้องตัวผมเพื่อจัดท่าให้อยู่ในท่าที่มันกำลังสอนอยู่ตอนนี้นั่นเอง
หมับ!
“!!!”
อะ….ไอ้เวรนี่จับก้นผม!
“ครับ?”
แต่สิ่งที่มันทำคือแสร้งยิ้มเอียงคอเหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด  แถมตัวมันเองก็ยืนบังตัวผมจากด้านหลังซะมิดจึงไม่มีใครเห็นหน้าๆว่ามันกำลังย่ำยีก้นน้อยๆของผมอยู่
อ๊ากกกกกก!
“ใช่แล้วครับ  แบบนี้แหละ”
ไม่ต้องมาทำเสียงแผ่วเลยไอ้ห่า!
ผมได้แต่กัดฟันกรอดฝืนยิ้มกลับไปเหมือนขอบคุณมันเสียเต็มประดาที่มาช่วยสอนให้  ทั้งที่ในใจอยากจะกระทืบไอ้ลามกจกเปรตคนนี้จะแย่อยู่แล้ว!
มึงนะมึง  อย่าให้กูหลุดจากวงโคจรนางงามนี่ไปได้เถอะ  พ่อจะจับมาเจื๋อนปิกาจู้ทิ้งให้สาแก่ใจเลย!
“เชอะ  ดูยัยน้ำสิ  พอคุณเปลวทำท่าสนใจเข้าหน่อยก็คงคิดจะใช้เต้าไต่สินะ  ทุเรศจริงๆ”
“ฉันกะไว้แล้วแหละว่าจะต้องมีใครสักคนพยายามใช้ร่างกาเข้าแลกเพื่อให้ได้ตำแหน่งในครั้งนี้”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงน่ะ!”
ผมตะโกนถามเสียงดังพลางตั้งท่าจะพุ่งเข้าหายัยอกแฟ้บสองคนที่ยืนกระซิบกระซาบกันอยู่ไม่ไกล  หากแต่บารบี้ก็ดึงผมเอาไว้สุดแรง
“อย่านะน้ำ!”
“ทำไมล่ะ  เธอก็ได้ยินที่ยัยสองคนนั้นพูดไม่ใช่เหรอ”
“แล้วยังไงล่ะ”
“แล้วยังไง?  ทำไมเธอถามแบบนี้ล่ะ  ฉันกำลังถูกสองคนนั้นพูดจาดูถูกนะ!”
“น้ำ  เธอคิดว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน  ที่นี่คือกองประกวดนะ  การถูกดูถูก  ใส่ร้าย ป้ายสีเพื่อสร้างความอิจฉาพวกนี้น่ะเป็นเรื่องปกติที่พวกเราทุกคนต้องเจอและผ่านมันไปให้ได้  ถ้าเรื่องแค่นี้เธอยังผ่านมันไปไม่ได้  ไม่สามารถรับมือกับมันได้  เธอก็จะไม่มีวันไปถึงรอบสุดท้าย”
น้ำเสียงจริงจังของบาร์บี้หยุดความโมโหในใจที่กำลังเริ่มปะทุของผม  ก็จริงอย่างที่เธอพูด  ถ้าผมตบะแตกทำอะไรยัยพวกนั้นไป  ก็มีแต่จะทำเรื่องบานปลายและความอาจจะแตกได้
แต่ก็นะ  มาหาว่าคนอย่างผมจะใช้เต้าไต่กับไอ้หน้าหนวดนั่น!
เอาสมองหรือขนจั๊กกะแร้คิดกันวะ!
“สงครามมันเพิ่งเริ่มเองนะน้ำ  ถ้าเธออยากไปให้ถึงรอบุสดท้ายและเป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้  เธอก็ต้องใช้สติแล้วก็สมองในการรับมือ  เข้าใจหรือเปล่า”
“ขะ…เข้าใจจ้ะ”
ดูท่าบาร์บี้จะไม่ได้มีดีแค่นมโตเสียแล้วสิ  เธอเข้าใจถึงสงครามของเหล่าสาวงามพวกนี้ได้ดีอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว
แบบนี้ก็เท่ากับว่า…เริ่มแล้วสินะ  สงครามที่มีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่รับมือได้ตามที่ไอ้หน้าหนวดเคยบอกไว้  เห็นทีจะจริง  เพราะแค่เมื่อกี้ผมก็เกือบจะระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่แล้ว  ซึ่งถ้าเป็นน้ำตัวจริง ผมคิดว่าเธอคงจะทำแบบที่บาร์บี้พูดแน่ๆ
น้ำ…
พี่จะเอาชนะสงครามครั้งนี้เพื่อนน้ำได้ไหมนะ?

“เอ๊ะ?  นะ…นี่ชุดว่ายน้ำที่จะถ่ายในวันนี้เหรอคะ?”
เสียงคำถามของเหล่าสาวงามเกอบยี่สิบคนดังระงมไปทั่วห้องประชุมเมื่อทีมงานเอาชุดที่ทุกคนต้องใส่ถ่ายแบบวันนี้มาให้
“ใช่แล้ว  มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”
ยัยแม่มดถามพลางมองทุกคนลอดแว่นตาหนาเตอะของตัวเอง
ผมหยิบชุดว่ายน้ำที่สภาพไม่ค่อยเหมือนชุดว่ายน้ำเท่าไหร่ขึ้นมาดู  มันเป็นเพียงกางเกงยีนส์ขาสั้นกับเสื้อยืดสีขาวรัดรูปพอดีตัวเท่านั้น 
ต่างจากที่มโนไว้โคตรเยอะอ่ะ!
แล้วที่ผ่านมากูจะเครียดเรื่องใส่ชุดว่ายน้ำถ่ายแบบทำไมวะเนี่ย  แถมยังฝคกแต๊บไข่จนปิกาจู้แทบจะสูญพันธุตั้งหลายรอบอีก
“คือ…มันค่อนข้างต่างจากที่คิดไว้น่ะค่ะ”
‘มะนาว’ หนึ่งในสองสาวเมื่อเช้าตอบเสี่ยงสั่น  เธอทำหน้าแหยมองชุดว่ายน้ำของตัวเอง  ทำไมถึงทำหน้าเหมือนผิดหวังแบบนั้นล่ะครับสาวๆ  ไม่ต้องแต่งตัวโป๊ๆล่อเสือล่อตะเข้มันก็ดีแล้วไม่ใช่เรอะ!
ผมไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงพวกนี้จริงๆให้ตายเหอะ
“แล้วเธอคิดไว้แบบนั้นเหรอ  ต้องวับๆแวมๆ  นุ่งน้อยห่มน้อยแบบไม่ต่างอะไรกับแก้ผ้าเดิน?  อย่างัน้นใช่ไหม”
“ปะ…เปล่านะคะ  แบบนี้ดีแล้วล่ะค่ะ หนูช้อบชอบ”
“งั้นเหรอ  แล้วเธอล่ะธารทิพย์  ตั้งแต่เห็นชุดว่ายน้ำ  ฉันรู้สึกว่าเธอจะยิ้มไม่หุบเลยนะ  ไม่รู้สึกผิดหวังหรือเสียดายที่มันกลายเป็นชุดแบบนี้บ้างหรือไง”
เอาแล้วไง  กูอยู่ของกูดีๆมึงจะโยนขี้มาให้ทำไมเนี่ย!
ผมวางชุดว่ายน้ำที่กอดไว้แนบอกลงบนโต๊ะก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อตอบคำถามประหนึ่งอยู่ในห้องเรียนอะไรสักอย่าง
“คือ…ที่ฉันยิ้มก็คงต้องยอมรับว่าฉันดีใจจริงๆที่มันกลายเป็นชุดแบบนี้ค่ะ”
“ทำไมล่ะ?”
“เพราะมันไม่โป๊ค่ะ”
ตอบไปตามที่ใจคิด  ก็กูชอบเพราะมันไม่โป๊จริงๆนี่หว่า  เพราะถ้าแม่งโป๊  ปิกาจู้กูก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะออกมาโบกมือให้สาธารณชน  ถึงแม้ว่าจะเจ็บใจตรงที่อดดูบาร์บี้ใส่วัน ทู ทรี พีช ก็ตาม!
“เพราะไม่โป๊งั้นเหรอ?  แล้วการไม่โป๊มันดียังไงไม่ทราบ”
“เรื่องนั้น…”
แล้วกูจะไปรู้ได้ยังไงล่ะเว้ย!  จะให้บอกว่าดีตรงที่ช่วยปกปิดไข่ของฉันไว้ได้ก็กระไรอยู่  เวรกรรมแท้ๆไอ้ไฟ  ถูกยัยแม่มดนี่ต้อนเข้าให้แล้ว!
เอาวะ!  บาร์บี้บอกมาแล้วก่อนหน้านี้ว่าการจะชนะในสงครามครั้งนี้ได้ต้องใช้สมองและสติ…
เพื่อน้ำ…
เพื่อให้ความฝันของน้ำเป็นจริง
ไอ้ไฟสู้ตาย!
“เพราะฉันคิดว่า…การประกวดในครั้งนี้เป็นการประกวดเพื่อเฟ้นหาผู้หญิงที่เพียบพร้อม  เพียบพร้อมในที่นี่ไม่ได้หมายถึงรูปร่างและหน้าตาเพียงอย่างเดียว  แต่ยังพ่วงมาด้วยกิริยา  มารยาท  ความสามารถ  และการแสดงออก  ซึ่งส่วนนี้ฉันคิดยังมีอีกหลายวิธีที่จะดึงศักยภาพของผู้เข้าประกวดทุกคนออกมา  การใส่ชุดว่ายน้ำโป๊ๆไมได้ช่วยให้เราดึงศักยภาพในด้านเหล่านั้นออกมาได้  หนำซ้ำการประกวดครั้งนี้ยังเกี่ยวโยงถึงระบบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย  ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าบรรดาเด็กมัธยมที่ใกล้จะขึ้นมหา’ลัยต่างก็ให้ความสนใจ  เพราะฉะนั้น…ทุกกิจกรรมที่ทางกองประกวดจัดขึ้น  ไม่ว่าจะเล็กหรือน้อยก็ตาม  ทุกอย่างจะต้องถูกจัดทำมาให้เหมาะสำหรับเยาวชนทุกคนที่คอยติดตามค่ะ”
“เธอกำลังจะบอกว่า…การใส่ชุดว่ายน้ำโป๊ๆเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนงั้นเหรอ”
“เปล่าค่ะ  การใส่ชุดว่ายน้ำนั้นเป็นเรื่องปกติและก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลด้วย  เพียงแต่ไม่สมควรนำมาใช้สำหรับกิจกรรมที่เชื่อมโยงไปถึงระบบการศึกษาก็เท่านั้นเองค่ะ”
“…”
“…”
“…”
“…”
แปะๆๆๆๆๆ!
ทีมงานคนหนึ่งลุกขึ้นปรบมือให้ก่อนที่ทีมงานคนอื่นๆจะปรบมือตาม  ผมนี่ยืดกลั้นหายใจด้วยความลุ้นจนความตื่นเต้นแทบจะไหลออกมาเป็นฉี่แทน  ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า…ไอ้ที่พูดออกไปเมื่อกี้นี้น่ะ  จำไมได้สักอย่างเลย  สมองคิดอะไรออกมาได้ก็พูดไปจนหมด  ตอนนี้รู้อย่างเดียว…
กูกลัวววววว
“นับเป็นคำตอบที่ใช้ได้  เอาล่ะ…ทีนี้พวกเธอก็รู้แล้วสินะว่าเพราอะไรชุดว่ายน้ำของพวกเธอถึงเป็นชุดมิดชิดแบบนี้  เอาล่ะ  ใครมีปัญหาอะไรอีกไหม”
ไม่มีใครตอบหรือยกมือขึ้นทักท้วงอะไรอีก 
ทำไมนะทำไม…
ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนกำลังถูกสายตาหลายสิบคู่จ้องมองอย่างอาฆาตนะ
อันตรายชอบกลแฮะ
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนชุดได้  ทีมงานที่จะมาถ่ายแบบพวกเธอในวันนี้รออยู่แล้ว”
“ค่า”
ขานรับเสร็จก็รีบแยกกลับไปที่ห้องของตัวเอง  ซึ่งพวกทีมงานจัดการเอากระเป๋าของทุกคนแยกย้ายไปเก็บไว้ตามห้องให้เรียบร้อยแล้ว  ห้องของผมและบาร์บี้อยู่ชั้นล่างต่อจากชั้นห้องสวีตของไอ้หน้าหนวด…
“น้ำ คำตอบเมื่อกี้มันดีมากเลยนะ  ฉันว่าเธอต้องได้คะแนนพิศวาสจากยัยแม่มดเพิ่มแน่ๆเลย”
“แต่ได้คะแนนเกลียดขี้หน้าจากเพื่อนคนอื่นน่ะสิไม่ว่า”
ผมเปรยตามองไปรอบๆซึ่งบรรดานางงามแสนสวยทุกคนต่างก็ส่งสายตาไม่พอใจมาให้  กูตายแน่ๆ   ถ้าจะทำเหี้ยอะไรก็ผิดแบบนี้
“ธรรมดาแหละ  ใครๆก็รู้ว่าน้ำเป็นตัวเก็งในการประกวดครั้งนี้  ไม่แปลกที่จะถูกเหม็นขี้หน้า”
“แล้วเธอไม่เหม็นขี้หน้าฉันเหรอ”
“หืม?  ทำไมฉันต้องเป็นแบบนั้นด้วยแหละ  ฉันเองก็พกความสวยและความสามารถมาเหมือนกันนะ ฉันไม่กลัวเธอหรอก!”
บาร์บี้ทำท่าแอ่นอกอวดหน้าอกทรงโตของตัวเองพลางหัวเราะร่วน  ผมยิ้มให้กับภาพทีเห็น
ดีจริงๆที่มีเธออยู่ตรงนี้  ถ้าไม่มีเพื่อนร่วมการประกวดที่ดีแบบเธอ  ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะสามารถรับมือกับคนอื่นๆที่ตั้งตัวเป็นศัตรูผมกับได้หรือเปล่า…

“ฉันไม่เข้าใจเลยค่ะคุณเปลว  ทำไมจู่ๆคุณถึงเปลี่ยนแบบชุดว่ายน้ำกะทันหันล่ะคะ?”
หญิงสาววัยกลางคนสวมแว่น  หนึ่งในคณะกรรมการกองประกวดที่ขึ้นมาถามเอาความจริงจากชายหนุ่มมาดเซอร์ถึงบนห้องเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“ทำไมล่ะครับ  มันไม่ดีเหรอ  ตอนแรกคุณเองก็ค้านเรื่องการที่จะให้ผู้เข้าประกวดใส่ชุดว่ายน้ำโป๊ๆเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“ก็แล้วทำไมตอนฉันค้านคุณถึงไม่โอเคล่ะคะ  แล้วนี่อะไร  จู่ๆก็มาเปลี่ยนกะทันหัน  คุณรู้ไหมว่าฉันต้องอขโทษทางทีมงานตั้งนานกว่าพวกเขาจะยอมน่ะ”
“เอาน่าๆ  ผมก็แค่เห็นด้วยกับคุณขึ้นมา  ว่าการประกวดครั้งนี้มันเชื่อมโยงถึงระบบการศึกษาซึ่งมีเยาวชนเข้ามาเกี่ยวข้อง  เราไม่ควรจะมีกิจกรรมใดๆที่มันไม่เหมาะสม”
ชายหนุ่มยกมือองข้างขึ้นเพื่อสงบศึก  รอยยิ้มของเขามันดูสนุกสนานมากกว่าจะเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายคิดเสียอีก
“ฉันไม่เห็นจะรู้สึกได้เลยว่าคุณเข้าใจตรงไหน”
“ผมเข้าใจจริงๆนะ”
“…”
“เข้าใจเลยว่า…ของรักของหวง…จะยังไงก็ไม่อยากให้ใครได้เชยชมอยู่ดี”
“พูดอะไรของคุณคะ?  ฉันไม่เห็นเข้าใจ”
“ฮ่าๆๆ  ไม่มีอะไรหรอกครับ  อย่าสนใจผมเลย  ว่าแต่ปล่อยผู้เข้าประกวดไปเปลี่ยนชุดแล้วเหรอครับ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ  ถ้าอย่างนั้นฉันไปเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมต่อไปก่อนนะคะ”
“เชิญครับ  ขอบคุณที่เหนื่อยนะครับ”
เขาโบกมือบ๊ายบายอล่างลั้นลา  ในหัวนึกย้อนไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  เนื้อตัวขาวเนียนนุ่มที่เขาได้สัมผัส  มันยังตราตรึงอยู่ในทุกความคิด
“น่าหม่ำซะขนาดนั้น  จะยอมให้ใครมาเห็นได้ยังไง”
รอยยิ้มเสือร้ายจอมเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าคม…

“น้ำ  คิวถ่ายฉันถึงก่อนเธอ  งั้นฉันไปรอก่อนนะ”
“ได้ๆ  เดี๋ยวฉันตามลงไป”
ผมตะโกนตอบบาร์บี้กลับไป
เป็นเพราะปิกาจูอันบิ๊กเบิ้มของตัวเองทำให้ผมแต่งตัวนานกว่าปกติ  เนื่องจากต้องเก็บทุกเม็ดไม่ให้มีอะไรโหนกนูนออกมาจนผิดสังเกต
“เอาล่ะ  เรียบร้อย!”
ผมหมุนซ้ายทีขวาทีเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยจากในกระจก 
ได้ข่าวว่าเสื้อสีขาวบางๆตัวนี้เป็นเสื้อรัดรูปพอดีสำหรับผู้หญิง  แล้วการที่ผมใส่เสื้อไซส์ผู้หญิงได้พอดิบพอดีแบบนี้ก็หมายความว่า…
กูตัวเท่าผู้หญิงงั้นเหรอเนี่ย!
นี่ผมผอมบางขนาดนี้มายี่สิปีเต็มเชียวเรอะ  กูอยากตาย!
“โอ๊ะ  ผูกชายเสื้อขึ้นมานิดหนึ่งดีกว่า  เมื่อกี้บาร์บี้ก็สั่งไว้นี่”
ผมหันไปเปิดประตูห้องน้ำก่อนจะเดินก้มหน้าผูกชายเสื้อขึ้นเพื่อเผยให้เห็นหน้าท้องเล็กน้อยพอน่ารัก ( บาร์บี้กล่าวไว้ )
หมับ…
“อ๊ะ!”
“อย่าร้องนะ  นี่คือการปล้น”
ไอ้หน้าหนวด!
เดี๋ยวนี้มึงอัพสกิลถึงขนาดงัดห้องพักผู้เข้าประกวดเข้ามาแล้วเรอะ!
“ส่งตัวคุณมาให้ผมเดี๋ยวนี้”
เสียงทุ่มกระซิบปร่าที่ข้างหู  พลันมือหยาบตามแบบผู้ชายก็แปะเข้าที่ห้าท้องพร้อมทั้งลูบไล้ไปมา…
เอากับมันสิ…
กูต้องเช่ายานอวกาศจากนาซ่าเพื่อใช้หนีมึงเลยไหม  ตอบบบบบบ!




Talk :
มาอัพอีกตอนตามสัญญาแล้วจ้า  บอกแล้ววจะไม่หายอีก  ช่วงนี้เลยจะมาอัพวันเว้นวันนะคะ  รับรองไม่ขาดตอนกันนานเกินรอแน่ๆ  ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้พี่ไฟกับคุณเปลวจอมลามกด้วยนะคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณเปลว ไม่เป็นอันทำการ ทำงานซะเลย
เดี๋ยวก็แอบย่องเข้าห้องผู้ประกวด
แล้วยังลวนลาม ลูบไล้ร่างกายไฟ ซะอีก
คุณเปลวนี่ มียีนปลาหมึกติดมาด้วยละมั้ง
ดีเลยที่เปลี่ยนชุดว่ายน้ำแบบโป๊ๆ ออกไป
ไฟ โล่งใจเลย แต๊บได้สบาย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์จ้า
«ตอบ #26 เมื่อ24-11-2016 21:01:52 »

ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ  ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้านี้มาอัพไว้แล้วทิ้งหาไยปเกือบสองเดือนเลย  พอดีมีปัญหาส่วนตัวนิดหน่อยที่ต้องจัดการจ้า  ตัวนักเขียนชื่อบิวนะคะ นามปากกาคือ Bubble-B[ew] ค่า ( แต่ถ้าเพจจะเป็น Bubble-Bew เฉยๆนะคะ ) จะหมั่นอัพบ่อยๆ  อัพวันเว้นวัน  ยังไงฝากติดตามด้วยค่า


 :impress2:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ไอ้หนวดก็มีดี ที่ปกป้องน้ำ(ไฟ)จากคนอื่น แต่จริงๆคือเก็บไว้ลวนลามเองคนเดียวสินะ

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
รออติดตามม

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด