(จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)  (อ่าน 59631 ครั้ง)

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 11
ลึกๆในใจ

“เป็นผีหรือไงวะ!”
คำถามแรกที่พุ่งออกจากปากผมเรียกเสียงหัวเราะจากอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี  ไอ้หน้าหนวดโยนผ้าสีดำผืนใหญ่ที่ใช้คลุมตัวไว้ในตอนแรกทิ้งก่อนจะลุกขึ้นมาหาผม
“ไปคุยกันที่ห้องผมดีกว่านะ”
มือไวพอๆกับสายตา  มันดึงมือทั้งสองข้างของผมไปจับไว้แล้วก้มหน้าลงมาเลกน้อยตอนพูด
ทำราวกับแฟนหนุ่มกำลังออดอ้อนแฟนสาวยังไงยังงั้น
กูจะอ้วก!
“ปล่อยเลยๆ”
ผมแกะมือออกมา  สายตากวาดมองไปรอบๆเพื่อดูว่ายังมีใครอยู่แถวนี้อีกไหม  หาไม่ความลับผมจะโพละเพราะความประมาทของตัวเอง
“ไปได้หรือยัง”
ไอ้หน้าหนวดยิ้มอย่างชอบใจในคำถามของผม  มึงอย่ามาคิดอะไรเหี้ยๆเด็ดขาดเลยนะ  ที่กูถามเนี่ยกูหมายถึงไปคุยเรื่องที่เกิดขึ้นต่างหากเฟ้ย!
ไม่ได้มีนัยยะหื่นๆแอบแฝงเหมือนมึง!

กว่าจะขึ้นมาถึงห้องสวีตสุดวีไอพีของเขาได้ผมนี่แทบรวมร่างกับกำแพง  เพราะต้องคอยหลบกันคนอื่นมาเห็นเข้า  คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆหากมีใครมาเห็นผู้เข้าประกวดตัวเก็งอย่างผมแจ้นขึ้นห้องผู้จัดการงานประกวดดึกๆดื่นๆแบบนี้
“นอนที่นี่เลยก็ได้นะครับ  เตียงผมกว๊างกว้าง  สปริงก็เด้งดึ๋งดั๋งดีกด้วย”
ไม่พูดเปล่า  ร่างสูงยังพิสูจน์สรรพคุณของเตียงนอนด้วยการกระโดดลงไปนอนเด้งไปมา  ก่อนจะกวักมือเรียกผมให้ขึ้นตามไป
ฝันไปเหอะมึง!
กูไม่สิ้นคิดถึงขนาดจะทำให้ตัวเองกลายเป็นอ้อยเข้าปากช้างหรอกเว้ย!
“ช่วยเป็นการเป็นงานด้วยครับ”
“ไม่ตกหลุมพรางแฮะ”
แหงสิ!
ผมได้แต่ท่องนะโมในใจนับร้อยจบเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้เผลอพลั้งมือฆ่ามันไป  คนห่าอะไรวะ  กับผู้ชายด้วยกันมึงก็ยังไม่เว้นที่จะทำลามกใส่  เก็บกดมาจากไหนหรือไงกูถามจริง! 
เมื่อเห็นว่าผมไม่มีทางไปนั่งบนเตียงกับมันแน่ๆ  ไอ้หน้าหนวดก็ลุกขึ้นมานั่งคุยกันที่โซฟาแต่โดยดี  หากแต่ใบหน้ามุ่ยๆเหมือนถูกขัดใจนั่นยังคงฉายแววอกมาชัดเจน  มึงช่วยเก็บอารมณ์และหน้าตาแห่งความผิดหวังของตัวเองไว้ในเหอะ
เอาตรงๆนับวันเวลาเข้าใกล้มันผมยิ่งเสียวตูด….
ไม่รู้ทำไมต้องเสียวด้วย  แต่ความรู้สึกมันบอกให้ผมระวังหลังเอาไว้เวลาอยู่กับมันสองคน!
“คุณได้ยินเรื่องที่คุยกันทั้งหมดแล้วสินะ”
“ใช่ครับ”
“คุณคิดว่ายังไง”
“อืม…”
“…”
“คิดว่าคุณนี่ทั้งสวยและใจดีจังเลยนะ”
“นี่คุณ!  ผมไม่เล่นนะเว้ย  ช่วยจริงจังด้วย!”
กูคิดถูกหรือผิดกันแน่นะที่มาปรึกษาและขอความช่วยเหลือจากมึงเนี่ย 
“โอ-เค  ผมยอมแพ้แล้วๆ”
“ดีมาก  ช่วยเก็บความลามกของตัวเองเอาไว้จนกว่าจะแก้ปัญหาได้ด้วยนะครับ”
“เท่ากับว่าถ้าผมสามารถแก้ปัญหาให้คุณได้  ผมก็จะ…”
“…”
“ทำเรื่องลามกกับคุณได้ใช่ไหมครับ”
พ่อมึงสิไอ้หน้าหนวดดดดด!
กูล่ะอยากรู้จริงๆว่าผู้ชายไม่มีนม  ปิกาจู้ตั้งโดเด่เหมือนมึงอย่างกูมันทำให้มึงมีอารมณ์ลามกได้ยังไง!
“ไม่ตอบ  แสดงว่าไม่ปฏิเสธ”
“อยากตายมากใช่ไหมครับ  ผมจะได้ช่วยสงเคราะห์ให้”
กร๊อบ  กร๊อบ
ผมหักนิ้วตัวเองประกอบการขู่อีกฝ่ายที่เอาแต่ทำทีเล่นทีจริงไปเสียหมด  ไอ้หน้าหนวดหัวเราะอย่างอารมณ์ดีราวกับว่าการโดนผมด่าคือความสุขของมัน
กูกำลังด่ามึงนะ  ไม่ได้อวยพร!
มึงช่วยทำหน้าสำนึกผิดด้วยไอ้เวร!
“ผมจะจริงจังแล้วนะครับ”
“รอเวลานั้นมานานมาก!”
แค่นตอบกลับไปเสียงดัง 
กว่าจะเข้าสู่โหมดจริงจังได้ต้องรอให้กูแทบคุมสติตัวเองไม่อยู่พุ่งเข้าขย้ำมึงตายคาที่สินะ  ไอ้หน้าหนวดยังไม่เลิกยิ้มที่เห็นผมโมโหและโกรธมันจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง
“ถ้าเป็นอย่างที่มะนาวบอกมาจริงๆ  ก็เป็นไปได้ตามที่เธอพูดว่าคนๆนั้นคงเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวด  ว่าแต่…คุณสงสัยใครบ้างไหมครับ”
“ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ก็คงจะตอบได้เต็มปากว่ามะนาวนั่นแหละ  แต่ตอนนี้…”
“นึกไม่ออกเลยสินะ”
“ทำไมคุณกับมะนาวถึงคิดว่าเป็นหนึ่งในผู้เข้าประกวดล่ะ?”
“แล้วมันจะมีคนอื่นที่ได้อะไรจากการทำให้คุณตกรอบหรอถอนตัวออกจากการประกวดไปเองนอกจากผู้เข้าประกวดด้วยกันล่ะครับ?”
“แต่ว่า…”
“หรือถ้าจะลองเอาผมมาเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย  คุณคิดว่าถ้าผมทำให้คุณกระเด็นออกไปจากการประกวดครั้งนี้ได้  แล้วผมจะได้อะไร?  เงินเหรอ?  รางวัลเหรอ?”
“มันก็ไม่แน่หรอก  เพราะคุณเองก็พยายามให้ผมถอนตัวตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือไง”
คำพูดของผมทำเอาอีกฝ่ายสะดุ้งรีบส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“ไม่ใช่ผมนะครับ  ผมไม่มีทางปล่อยข่าวว่าคุณเป็นอีหนูของสปอนเซอร์แน่นอน!”
“…”
“ถ้าเป็นอีหนูของผมล่ะก็ไม่แน่”
“ขอบคุณที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้นเยอะ!”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
กูประชด!
ตกลงวันนี้จะได้เรื่องอะไรบ้างไหมล่ะเนี่ย  รู้สึกเสียเวลาเปล่ายังก็ไม่รู้  เหมือนมาเพื่อให้มันแทะโลมเล่นทั้งทั้งสายตาและคำพูดมากกว่า
“แต่ว่านะครับคุณไฟ  ถ้าเป็นอย่างที่มะนาวบอกจริงๆคุณก็ต้องระวังตัวให้มากกว่านี้  อย่าไว้ใจใครทั้งนั้น”
“คำว่าใครที่คุณกำลังบอกผม…หมายถึงใครบ้างเหรอครับ”
“ทุกคน”
“ยกเว้นคุณ”
ไอ้หน้าหนวดไม่ตอบเป็นคำพูดแต่ส่งยิ้มยียวนมาเป็นคำตอบแทน  การที่เขาบอกว่าทุกคนแบบนี้ก็หมายความว่า…

‘น้ำ!’

‘นี่ๆๆ  น้ำ!’

‘น้ำ’

‘น้ำ’

เสียงของบาร์บี้ลอยเข้ามาในหัวนับไม่ถ้วน  ถึงใครจะไม่น่าไว้ใจมากแค่ไหนก็ตาม  แต่กับเธอคนนี้…ผมมั่นใจว่าต้องไม่ใช่เธออย่างแน่นอน
ไม่มีวันเป็นเธอ
บาร์บี้จะไม่หักหลังผม…
เธอไม่มีวันคิดร้ายกับคนที่เธอยอมบอกความลับที่ตัวเองแอบชอบไอ้หน้าหนวดนี่แน่!
“คิดอะไรอยู่เหรอครับ?”
“ปะ…เปล่า  ผมแค่กำลังนึกว่าใครบ้างที่ผมไม่ควรไว้ใจและอยู่ให้ห่างมากที่สุด”
“ยังไงก็อย่าคิดมากเกินไปนะครับ  ยังเหลือเวลาอีกสองเดือนกว่าจะหมดช่วงเก็บตัว  ผมอยากให้คุณมีความสุขกับทุกวินาทีที่ได้อยู่ที่นี่นะ”
ไอ้หน้าหนวดพูดพลางท้าวคางมองหน้าผม
ไม่สิ…
ต้องใช้คำว่า ‘จ้องหน้า’ ถึงจะถูก!
“น่าเสียดายจังเลยนะครับ”
“เสียดายอะไร?”
“ถ้าจ้องตากันแล้วท้องได้ก็คงจะดี  คุณจะได้ท้องลูกของผมไง”
มึงเห็นกูมีมดลูกหรือว่าช่องคลอดหรือไงฮะไอ้หนวดดด!
ผมล่ะจนปัญญาจะสรรหาคำมาด่ามันจริงๆ  คุยแบบเป็นการเป็นงานได้ไม่ถึงห้านาทีก็วกกลับมาเรื่องใต้สะดืออีกแล้ว
“ผมว่าวันนี้มันดึกมากแล้ว  ขอตัวกลับห้องก่อนดีกว่า  เดี๋ยวถ้ารูมเมทตื่นมาไม่เจอผมมันจะเป็นเรื่อง”
“ไม่อยากให้ไปเลย”
“เพราะ?”
“ผมอยากอยู่กับคุณ”
อึก!
สะอึกไปเลยสิไอ้ไฟ!  ก่อนจะพูดอะไรออกมาตรงๆหัดส่งสัญญาณความหวั่นไหวมาให้กูบ้าง!  พูดห่าไรไม่เกรงใจคนไร้คู่มาตลอดชีวิตอย่างกูบ้างเลย!
“พูดบ้าอะไรวะ  สยอง!”
“จริงๆนะครับ”
“ผมไม่เล่นกับคุณแล้ว  ขอตัวล่ะ!”
ตัดบทสนทนาแล้วรีบลุกหนีขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
แต่ยังไม่ทันที่ขาจะก้าวไปถึงลิฟต์  วงแขนแกร่งก็ตวัดรวบเอวผมเข้าไปกอดจากด้านหลัง  การกระทำของมันทำให้ผมรู้ตัวแล้วว่า…
ตัวเองตัวเล็กแค่ไหน…
มิน่าล่ะ  กูปลอมเป็นผู้หญิงมาเดือนหนึ่งแล้วถึงยังไม่มีใครจับได้สักที  ที่แท้ก็เพราะขนาดตัวกูมันไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าผู้ชายเลย!
“ทำอะไรวะ!  ปล่อยนะเว้ยยย!”
ผมดิ้น   พยายามที่จะเอาเอาตัวเองออกมาจากอ้อมแขนของไอ้ลามก  แต่ทำไปทำมากลายเป็นว่ามันยิ่งรัดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆ
แขนคนหรือหนวดปลาหมึกวะกูถามจริง!
“บอกให้ปล่อยไงโว้ยยยยย”
ตอนนี้ไม่ใช่แค่ตัวแล้วที่ดิ้น  ขาและแขนผมก็ดิ้นไปด้วยเช่นกัน
ไอ้หน้าหนวดออกแรงยกผมขึ้นจนตัวลอย  ขาดิ้นพล่านๆอยู่กลางอากาศเหมือนปลาถูกน้ำร้อนลวกโดยมีเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานของไอ้คนข้างหลังดังอยู่เนืองๆ
สนุกมากใช่ไหมไอ้หนวดดดดด!
“กอดจากด้านหลังแบบนี้โรแมนติกดีนะครับว่าไหม?”
กอดพ่อมึงสิ!
มึงยกตัวกูเลยเหอะ  หัดแหกตาดูเสียบ้างว่าสภาพแบบนี้มึงยังสะกดคำว่าโรแมนติกลงได้ยังไง!
“ปล่อยผมเดี๋ยวนะคุณเปลว”
“ถ้าอยากให้ปล่อยก็ลองเรียกพี่เปลวก่อนสิ”
“หือ!”
ผมเบิกตากว้าง  อยากจะหันไปมองหน้ามันมากแต่ก็ทำไม่ได้  กูหูฝาดไปใช่ไหม  มึงสั่งให้กูเรียกมึงว่าอะไรนะ!
“เร็วๆสิครับ  เรียกพี่เปลวก่อนแล้วผมจะปล่อย”
“ฝันไปเหอะ!”
“ถ้างั้นก็นอนฝันมันด้วยกันที่นี่เลยนะครับ”
ไมพูดเปล่า  มันยังเปลี่ยนทิศทางพาผมเดินไปทางเตียงนอนแสนนุ่มนิ่มสปริงเด้งดึ๋งที่มันพรีเซนต์ก่อนหน้านี้
ฉิบหายล่ะ!
แบบนี้เห็นท่าจะไม่ดีและไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพประตูหลัง…
“หยุด!  ผมยอมแล้ว!”
“หึๆ  ยอมแล้วเหรอครับ  ทำไมยอมง่ายจัง  ยังเดินไม่ถึงเตียงเลยนะ”
“บอกว่ายอมก็ยอมสิเว้ย! จะถามอะไรมากมายวะ”
ไอ้ไฟนะไอ้ไฟ  เกิดเป็นมึงนี่ซวยซ้ำซวยซ้อนซวยซ่อนเงื่อนจริงๆให้ดิ้นตาย
เป็นผู้ชายเสียเปล่าแต่มีแรงอยู่เท่ามด  หรือว่าผมต่างหากที่ปกติ  แต่ไอ้หน้าหนวดนั่นแหละไม่ปกติ!
“ไหนลองพูดซิครับ  พี่เปลว…ปล่อยไฟลงหน่อยนะครับ”
“มากไปหรือเปล่า!  ไหนบอกให้เรียกพี่เปลวเฉยๆไง”
ไอ้หน้าหนวดไม่ตอบ  แต่เดินตรงดิ่งไปทางเตียงนอนอีกครั้ง
ไอ้เหี้ย!  มึงไม่คิดจะเจรจากับกูสักหน่อยเรอะ!
“พะ…พี่เปลว  ปล่อยไฟลงหน่อยนะครับ!”
อยากจะกัดลิ้นตาย  อ๊ากกกกกก!
“อะไรนะครับ  พี่เปลวไม่ได้ยินน้องไฟเลย”
“คุณ!”
ตึกๆๆๆๆ
“เฮ้ยๆๆ พูดแล้วๆๆ พูดแล้วเว้ย!”
ผมร้องลั่น  อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงเตียงนอนอยู่แล้ว  คืนนี้มึงจะรอดพ้นเงื้อมมือไอ้หน้าหนวดจอมลามกนี่ไปได้ไหมเนี่ยไอ้ไฟ
มึงคงไม่สิ้นไร้ไม้ตอกจนต้องยอมเสียเอกราชที่ฟูมฟักมาทั้งชีวิตให้มันหรอกนะ!
“พี่เปลว…ปล่อยไฟลงหน่อยนะครับ!”
“ไม่เอาแบบนี้สิครับ  พี่เปลวขอนุ่มนวลกว่านี้หน่อยนะ”
เอาตีนกูไปถูหน้ามึงแทนดีไหม?
รับประกันความนุ่มถึงใจ!
“พี่เปลว…ปล่อยไฟลงหน่อยนะครับ…”
“…”
“นะครับ...”
“…”
“นะ…”
ผมใช้ไม้ตายสุดท้ายที่จำมาจากน้ำเวลาที่ชอบอ้อนขอนู่นขอนี่จากผม  ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจะใช้ได้ผลกับไอ้เวรนี่ไหม  แต่นาทีอะไรลองได้ก็ต้องลองแหละวะ
ผมไม่อยากเสี่ยงให้มันพาไปถึงเตียงเลยจริงๆ
เรื่องที่สระว่ายน้ำมันยังฝังใจผมไม่ลืมนะจะบอกให้
กูเกือบต้องเสียครั้งแรกให้กับมันก็เพราะความเคลิบเคลิ้ม  เพราะงั้นกูจะไม่ประมาทปล่อยให้ตัวเองกลับเข้าไปสู่จุดนั้นอีกเด็ดขาด!
ตุ้บ…
ทว่าความกังวลทั้งหมดของผมก็มลายหายไปในนาทีต่อมา  เมื่อไอ้หน้าหนวดยอมปล่อยผมลงแต่โดยดี  ไม่มีแม้แต่คำพูดแทะโลมลามกจกเปรตอย่างที่คิดเอาไว้
ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ  ก่อนจะตัดสินใจหันกลับไปมองอีกฝ่ายที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรหลังจากเจอผมงัดท่าไม้ตายมาใช้
“ทำไมเงียบ…”
คำพูดที่ตั้งใจจะพูดออกมาสลายกลับลงคอไปจนหมด
ผมรีบถอยห่างจากเขามาสองถึงสามก้าวพลางเสมองไปทางอื่นเพราะรู้สึกว่าตอนนี้ผมไม่ควรจะมองหน้าเขา…
มองใบหน้าที่แดงแปร๊ดลามไปจนถึงใบหูและลำคอนั่น…
มึงจะมาเขินทำซากอีกัวน่าอะไรล่ะเว้ย!
เจอแบบนี้แล้วกูควรทำหน้ายังไงเล่า
“ผะ…ผมขอตัวกลับก่อนดีกว่า  ราตรีสวัสดิ์ครับ”
พูดออกไปโดยไม่มองหน้าคนฟังก่อนจะรีบก้าวขาฉับๆชนิดที่ว่าสามก้าวถึงประตูลิฟต์  ไม่มีเสียงตอบกลับจากไอ้คุณเปลวเลยแม้แต่คำเดียว
ซึ่งนั่นมันถือเป็นเรื่องดีสำหรับผม  เพราะตัวเองก็ยังไม่พร้อมจะฟังเสียงเขาตอนนี้เช่นกัน
ตึกๆ  ตึกๆ  ตึกๆ
“มะ…เหมือนเพิ่งวิ่งมาราธอนมาเลยแฮะ”
ผมพิงตัวเข้ากับผนังลิฟต์  มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมากุมหน้าอกข้างซ้ายที่เต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเอาไว้  รวมถึงใบหน้าของผมในตอนนี้เองก็…
ขึ้นสีแดงไม่ต่างจากไอ้หน้าหนวดจอมลามกนั่นเลย
ลึกๆในใจของผมแล้ว…
กำลังรู้สึกอะไรอยู่กันแน่นะ?

หลังจากไฟเข้าไปในลิฟต์แล้ว  ร่างสูงก็เดินไปทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียง  ความร้อนฉ่ายังคงระอุอยู่บนใบหน้า  คล้ายกับว่าเขาเพิ่งผ่านการเอาหน้าตัวเองไปอังกับเตาไฟที่ไหนมา
“น่ารักเกินไปแล้ว…”
ชายหนุ่มยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้เมื่อนึกถึงใบหน้าน่ารักๆตอนที่อ้อนขอให้เขาปล่อยเมื่อกี้
น้ำเสียงออดอ้อน  แววตาเว้าวอน  และริมฝีปากสีชมพูที่เชิดรั้นขึ้นเล็กน้อย…
ทำเอาเขาแทบอดใจไม่ไหวจับอีกฝ่ายเข้ามาฟัดให้หายมันเขี้ยว
“จริงสิ…”
ทำหน้าเหมอนนึกอะไรขึ้นมาได้  ก่อนจะตะเกียกตะกายตัวเองไปทางหัวเตียง  หยิบหมอนหนุนใบใหญ่พลิกกลับด้านแล้วเอาบางสิ่งที่ซ่อนไว้ในนั้นออกมา…
รูปถ่ายของไฟตอนอยู่ในทะเล  ซึ่งเป็นรูปหลังจากที่ชุดชั้นในหลุดหายไปแล้ว  มีกล้องตัวหนึ่งของช่างภาพถ่ายติดจังหวะก่อนที่ไฟจะรู้ตัวและนั่งลง  ซึ่งแน่นอนว่าภาพนั้นเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าไฟไม่มีหน้าอก!
 เสี้ยววินาทีนั้นเขาจึงแก้ไขปัญหาด้วยการยึดเอาเมมโมรี่การ์ดทั้งหมดมา  เพราะคิดว่าอาจจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น  และเขาก็คิดไม่ผิด  ถ้าหากวันนั้นร่างสูงไม่ได้ฉุกขึ้นคิดมา  ป่านนี้ความจริงที่ว่าไฟเป็นผู้ชายและปลอมตัวมาเป็นน้องสาวฝาแฝดก็คงแพร่ออกไปแล้ว
“ผมจะปกป้องคุณเอง  ไม่ต้องกลัวหรอกนะครับ”
“…”
“จนกว่าน้องสาวของคุณจะมาเปลี่ยนตัว  ผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณได้เด็ดขาด”
“…”
“คุณไฟของผม”
สิ้นคำ  ชายหนุ่มก็บรรจงจุมพิตลงที่รูปถ่ายของไฟอย่างรักใคร่และหวงแหน…


บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  ช่วงนี้มาอัพติดๆกันสามวันแล้วน้า  ให้คะแนนความขยันของบิวด้วยการคอมเม้นต์ได้ไหมเอ่ย 5555+  ตอนนี้ฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งกระดิ่งแมววนไป  ทั้งคุณเปลวและพี่ไฟ  เอ๊ะ? หรือพี่เปลวกับร้องไฟดีล่ะเนี่ย  ที่เหลือก็ได้แต่รอว่าเมื่อไหร่พี่ไฟของเราจะเปิดใจรับคุณเปลวหรือยอมรับหัวใจของตัวเองสักที  คนอ่านลุ้นให้ได้กัน  คนแต่งเองก็ลุ้นเช่นกันนะจะบอกให้  5555+

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 12
เปิดโอกาสให้เขา  แต่เราเจ็บเอง?

“น้ำ  เสร็จหรือยัง  วันนี้พวกเรามีไปเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้ากันนะ”
บาร์บี้ตะโกนเรียกผมที่เข้ามาสิงอยู่ในห้องน้ำนานเป็นชั่วโมงแล้ว  นับวันๆเธอจะยิ่งเหมือนผู้จัดการส่วนตัวมากกว่ารูมเมทและผู้เข้าประกวดด้วยกัน เธอคอยจัดการนู่นนี่นั่น  คอยบอกตารางานต่างๆในแต่ละวันให้กับผม
บางทีที่เอาใจขนาดนี้น่าจะเป็นเพราะเรื่องของไอ้หน้าหนวดมากกว่า
“เสร็จแล้วๆ”
“ชักช้าตลอดเลยนะเธอเนี่ย  เข้าไปทำอะไรในห้องน้ำตั้งนานสองนานฮะ  อาบน้ำทีก็เป็นชั่วโมง  ฉันเคยตกใจขึ้นว่าเธอล้มหัวฟาดพื้นตายในห้องน้ำไปแล้วรู้บ้างหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ชอบน้ำเท่านั้นเอง”
“ไม่เกิดเป็นนางเงือกไปเลยล่ะยะ”
นางเงือกอะไรล่ะ  จะให้บอกว่าเข้าห้องน้ำนานเพราะแต๊บไข่ก็ไม่ได้อีก  เฮ้อ!
หลังจากที่เจอกับไอ้หน้าหนวดครั้งล่าสุดบนห้องมันสองต่อสองคราวนั้นก็ผ่านมาสามวันแล้ว  ไอ้หน้าหนวดไม่ได้อยู่ที่โรงแรมด้วยเพราะมีงานต้องไปสะสางและเพื่อรอรับสปอนเซอร์หลักของการประกวดครั้งนี้มาที่โรงแรมเพื่อดูการเก็บตัวนางงามครั้งนี้เหมือนทุกปี  ซึ่งไม่รู้ทำไมพอไม่ได้เจอกันหน้ากันผมถึงได้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป
“จริงสิน้ำ  วันนี้คุณเปลวจะกลับมาแล้วใช่ไหม  ฉันได้ยินคนอื่นๆคุยกันว่าเขาจะตามไปสมทบที่บ้านเด็กกำพร้าทีเดียว”
“เหรอ  ฉันไม่รู้หรอก”
“ดีใจจัง  ฉันจะได้เจอเขาสักที”
แล้วก็ทำท่าเพ้อฝันอย่างที่ชอบทำ
ผู้หญิงเป็นแบบนี้กันหมดเลยหรือเปล่านะ  เมื่อไหร่ที่พวกเธอตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก  ก็มักจะมีความคิดเพ้อฝันและจินตนาการสวยหรูไปไกลกกว่าความจริงเสมอ…
“ฉันขอถามเธอตามตรงได้ไหม  เธอ…ชอบเขาตรงไหนเหรอ?”
“…”
“คือฉันหมายถึงเธอมองเห็นข้อดีอะไรในตัวเขาหรือไง?”
เท่าที่ผมรู้และผมเห็น  ไอ้เวรนั่นไม่เห็นจะมีอะไรดีนอกจากความลามกและมือไว
“ความรู้สึกมันบอกล่ะมั้ง”
“ความรู้สึก?”
“ใช่  เริ่มต้นจากภายนอก  ค่อยๆไปสู่ภายใน  คุณเปลวคล้ายกับคุณพ่อของฉันมากๆเลยนะ  ฉันน่ะ…คิดมาตลอดว่าถ้าฉันจะรักใครสักคน  ฉันก็อยากได้ผู้ชายที่เหมือนกับคุณพ่อของฉัน”
“…”
“ฉันไม่มีคุณแม่  คุณพ่อทำงานหาเลี้ยงฉันด้วยตัวคนเดียวมาตลอด  พวกญาติๆฝั่งพ่อเล่าให้ฟังว่าคุณแม่ทิ้งคุณพ่อไปตอนฉันอายุได้แค่ขวบเดียว  พวกเขาบอกว่าเพราะคุณแม่ของฉันทนลำบากกับศิลปินแบบคุณพ่อไม่ไหว  ก็เลยหนีไปกับผู้ชายรวยๆคนหนึ่งและไม่กลับมาอีกเลย”
บาร์บี้เล่าพลางยิ้มเศร้า  จะว่าไปเธอเคยบอกเหมือนนี่นาว่าเมื่อก่อนคุณพ่อเคยวาดรูปขายก่อนจะหันมาทำธุรกิจด้านส่งออกปลาสวยงามพันธุ์หายากต่างๆจนร่ำรวยขึ้นมา
“เธอคงคิดถึงคุณแม่มากสินะ”
“ก็มีบ้างนั่นแหละ  แต่ตอนนี้ไม่แล้ว  เพราะคุณพ่อของฉันทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่ได้ดีมากๆเลย   อีกอย่าง…ตัวฉันเองก็ไม่มีความทรงจำอะไรเกี่ยวกับคุณแม่เลยด้วย  คงเพราท่านทิ้งฉันไปตั้งแต่ขวบหนึ่งเลยล่ะมั้ง  เพราะแบบนี้ฉันเลยคิดว่า…ผู้ขายที่เหมือนกับคุณพ่อ  จะต้องเป็นคนดีมากๆ  และจะต้องรักฉันมากๆด้วยเหมือนกันไงล่ะ”
พอได้มาฟังแบบนี้แล้วผมก็อดรู้สึกผิดกับเธอไม่ได้จริงๆ
บาร์บี้เชื่อใจและไว้ใจผมมาก  แต่ผมกลับทำเรื่องที่เหมือนเป็นการหักหลังเธอด้วยการทำอะไรแปลกๆกับไอ้หน้าหนวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า…
ขอโทษนะบาร์บี้…
ฉันขอโทษ
“อะไรกันน้ำ  ทำไมต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นด้วยเล่า  เธอเองก็เสียแม่ไปแล้วเหมือนกันไม่ใช่เหรอ  ไม่ต้องมาทำเหมือนสงสารฉันก็ได้  เราสูญเสียเหมือนกันนะ ต้องเข้าใจกันสิถึงจะถูก”
“นะ…นั่นสิ”
อีกฝ่ายยิ้มร่า  ตั้งแต่ที่ผมบอกเธอวันนั้นว่าจะสนับสนุนเธอกับคุณเปลวเอง  บาร์บี้ก็คงจะตั้งความหวังเอาไว้มาก  ถ้าหากผมไม่หยุดความคิดบ้าๆของตัวเองตอนนี้
สักวัน…
ผมจะต้องเป็นคนที่ทำให้บาร์บี้เสียใจที่สุดแน่ๆ
“ยืนทำอะไรกันตรงนี้”
“!!!”
เราสองคนสะดุ้งโหยงเมื่อเสียงยัยแม่มดดังขึ้นที่ด้านหลัง  พอหันไปก็พบกับสายตาอำมหิตราวกับพวกเราไปฆ่าใครตายมา
“ปะ…เปล่าค่ะ  กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แล้วค่า  ไปเถอะน้ำ”
“เดี๋ยวก่อน!”
“คะ?”
ผมและบาร์บี้ขานรับพร้อมกัน   แต่ยัยแม่มดกลับทำท่าทางอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดอะไรออกมาเสียที   ผมชะงัก  มองยัยแม่มดกับท่าทีที่แปลกไปของเธออย่างสงสัย
“มีอะไรเหรอคะคุณพิมพ์”
เอ้า!  เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าชื่อคุณพิมพ์  ปกติเรียกแต่ยัยแม่มดในใจมาตลอดเลย
“มะ…ไม่มีอะไร  ไปกันได้แล้ว  พวกเธอกำลังทำให้ทุกคนสายนะ”
“ค่า”
บางทีผมคงจะคิดมากไปเอง  ยัยแม่มดยังไงก็เป็นยัยแม่มดวันยันค่ำนั่นแหละ!

รถของกองประกวดเคลื่อนขบวนพาทุกคนมาถึงบ้านเด็กกำพร้าที่จะต้องมาทำกิจกรรมในวันนี้  ทุกคนดูจะตื่นเต้นดีใจกันมากถึงได้ออกมาทำกิจกรรมนอกสถานที่  ต่างจากผมที่หน้ามุ่ยตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้ว  สาเหตุที่ผมไม่สบอารมณ์แบบนี้น่ะเหรอ…
กูเกลียดเด็ก!
กูไม่ได้รักเด็ก!
กูไม่ใช่นางงาม!
นี่แหละความเป็นจริงสำหรับผม…
ถามว่าสงสารเด็กพวกนี้ไหมที่ถูกพ่อแม่ทิ้ง  ก็สงสารนะ  ทุกครั้งที่พวกเพื่อนๆในคณะพากันรวบรวมเงินหรือทำกิจกรรมอะไรสักอย่างเพื่อหาเงินไปทำบุญผมถึงได้ร่วมด้วย  แต่ถ้าจะให้มาเจอและพูดคุยกับเด็กๆตัวต่อตัวแบบนี้ล่ะก็ขอบายเด็ดขาดเลย
ผมไม่ถูกโรคกับเด็กๆจริงๆนะ
จำได้ว่าเมื่อก่อนพอเข้าไปเล่นกับเด็กน้อยคนหนึ่งบนรถเข็นที่ห้างฯ  ไอ้เด็กบ้านั่นก็ร้องไห้จ้าราวกับว่าผมไปควักไส้มันออกมากิน  ทำเอาพ่อแม่มันที่มัวแต่ยืนเลือกของกันอยู่ตอนนั้นหันมาโวยวายใส่ผมยกใหญ่เพราะคิดว่าผมไปแกล้งลูกของตัวเอง
ตั้งแต่นั้นมาผมเลยเกลียดเด็กมาตลอด  จะวัยไหนยังไงก็เหอะ  ถ้าไม่พ้นประถมนี่อย่าได้มายุ่งกับกูเด็ดขาดเลย!
“ยิ้มสิน้ำ  ยิ้มมมม”
บาร์บี้หันมาฉีกปากผมออกเมื่อเห็นว่าผมกำลังแยกเขี้ยวใส่เด็กคนหนึ่งที่ทำท่าจะพุ่งเข้ามาหา  ตายๆๆ  กูตายวันนี้นี่แหละ!
“เอาล่ะ  เดี๋ยวแยกย้ายกันไปเล่นกับเด็กๆนะ  เราจะแจกของก็ต่อเมื่อคุณเปลวมาถึง  คงจะอีกสักชั่วโมงนั่นแหละ”
ยัยแม่มดออกคำสั่ง  ทุกคนเลยกระจายตัวกันออกไปเพื่อเล่นกับเด็กๆเพราะวันนี้จะมีนักข่าวจากหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์มาทำข่าวด้วย  ผมรีบปลีกตัวไปยังอีกมุมที่ไกลห่างออกมาจากผู้คน  บาร์บี้และผู้เข้าประกวดคนอื่นๆพากันเข้าไปเล่นกับเด็กผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่นั่งเรียงแถวกันอย่างเรียบร้อย  ต่างจากอีกฝั่งที่มีเด็กผู้ชายนั่งเกาะกลุ่มกันอยู่ประมาณหกเจ็ดคน
มึงเล่นนั่งทำหน้าเหมือนจะหาเรื่องเขา  คงมีนางงามสักคนเดินเข้าไปหาพวกมึงหรอกนะ  สู้นั่งเล่นตุ๊กตาเล่านิทานให้พวกเด็กผู้หญิงฟังยังดูน่าปลอดภัยกว่าเลย
ผมทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นหญ้าแถวนั้น  มองคนอื่นๆที่เข้าไปทำคะแนนกับเด็กๆอย่างเบื่อหน่าย  หลังจากเสร็จกิจกรรมการแจกของ  ทางคณะกรรมการจะทดสอบดูว่าใครคือคนที่พวกเด็กๆอยู่ด้วยแล้วมีความสุขมากที่สุด  โดยคนตัดสินก็คือเด็กๆเหล่านี้นั่นแหละ  ที่นี่มีเด็กกำพร้าอยู่ทั้งหมด 25 คน  เป็นผู้ชายไปแล้ว  7 คน  แสดงว่าที่นั่งเรียงแถวกันอยู่ตรงนั้นคือผู้หญิงอีก 18 คนสินะ   เท่ากับจำนวนผู้เข้าประกวดพอดีเลยแฮะ
แต่ตัดกูออกไปได้เลย  ไม่มีเด็กคนนั้นเลือกกูแน่ๆล่ะ  แค่มาถึงก็แยกเขี้ยวใส่จนวิ่งหางจุกตูดไปแล้วหนึ่งคน  เฮ้อ!
“หืม?”
สายตาเหลือบไปเห็นอะไรกลมๆซุกซ่อนอยู่ใต้พุ่มไม้  ผมเหลียวซ้ายแลขวาดูว่ามีใครมองมาทางนี้หรือไม่ ปรากฏว่าทุกคนกำลังให้ความสนใจกับผู้เข้าประกวดคนอื่นๆและบรรดาเด็กผู้หญิงทั้งหลายอยู่  ได้โอกาสล่ะ!
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจผมแม้แต่คนเดียว  ก็รีบมูฟตัวเองไปยังจุดที่เจ้าลูกกลมๆแอบอยู่  มันก็คือลูกฟุตบอลนั่นเอง!   ดีใจราวกับถูกหวยเลยทีเดียว  ผมเป็นพวกติดฟุตบอลมาก  ปกติจะต้องไปเตะที่สนามของมหา’ลัยกับไอตูมตามเป็นประจำทุกเย็น  แต่นี่ไม่ได้เตะมาหนึ่งเดือนแล้วเพราะมาขลุกอยู่กับการประกวด
ขอสักหน่อยพอให้ไอ้ไฟได้ชื่นใจเหอะวะ!
ผมจัดการเตะฟุตบอลไปอีกทางซึ่งเป็นที่โล่งและไม่มีใคร  ก่อนจะใช้เท้างัดลูกบอลขึ้นมาเดาะเล่น  ทิ้งภาพลักษณ์นางงามกลับไปเป็นชายหนุ่มธรรมดาๆชั่วคราว  โชคดีมากที่วันนี้ผมเลือกใส่กางเกงยีนส์มา  ถ้าใส่กระโปรงมาแบบบาร์บี้คงอดเล่น
“ว้าว!  เล่นด้วยคนได้ไหมพี่!”
ความสงบสุขอยู่กับผมได้ไม่ถึงห้านาที  เสียงเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้น  มันคือไอ้เด็กกลุ่มเมื่อกี้ที่นั่งเกาะกลุ่มกันโดยไม่มีนางงามคนไหนหันมาเหลียวแล
“ไม่เอา  ไปไกลๆเลยไป  จะเล่นคนเดียวเว้ย”
“โห  ไรวะ  นั่นลูกบอลพวกผมนะนั่น”
เด็กอ้วนตุ๊ต๊ะคนหนึ่งชี้พลางแสดงความเป็นเจ้าของ  เดี๋ยวเหอะมึงๆ  เดี๋ยวเจอลูกเตะไอ้ไฟแล้วจะหนาวถึงไขสันหลัง!
“เขียนชื่อติดไว้เหรอฮะ  ไหนๆ มีชื่อติดไว้เรอะ  ก็เปล่า”
ผมยักไหล่ยักคิ้วให้พวกมัน  คาดว่าคงเรียกความหมั่นไส้จากพวกมันได้ไม่น้อยเลยแหละ
“กวนตีนว่ะพี่ ไม่เห็นพี่สาวคนอื่นๆเลย  ออกจะพูดเพราะ”
“เฮ้ๆ  พูดให้มันดีๆนะ  ใช้คำว่ากวนตีนกับผู้ใหญ่ได้ไง  เดี๋ยวตบฟันร่วงเลย!”
ผมง้างมือพลางทำหน้าดุใส่ไอ้เด็กผอมแห้งคนหนึ่งอย่างจริงจัง 
“แล้วทีพี่เอาลูกบอลพวกผมไปเล่นแล้วไม่แบ่งให้พวกผมเล่นล่ะ  ผู้ใหญ่เขาทำกันแบบนี้เหรอ”
“อ้าวไอ้อ้วน  กวนละๆ  เป็นเด็กก็ต้องเสียสละให้ผู้ใหญ่สิวะ”
“ได้ไงอ่ะพี่!”
พวกมันพากันประท้วงเสียงดัง  เพราะแบบนี้แหละผมถึงได้เกลียดเด็ก!  วุ่นวายกับชีวิตกูไม่รู้จักจบจักสิ้นสักทีนะพวกมึง!
“เออๆ  ก็ได้เว้ย  ถ้าอยากจะเล่นมากนักนะ  มาแย่งไปให้ได้ดิ”
ผมยักคิ้วหลิ่วตาก่อนจะเลี้ยงบอลหนีพวกมันไปอีกฝั่ง  พวกมันรีบวิ่งกรูกันเข้ามาหาผมเพื่อแย่งลูกบอลทันที
“ห้ามโกงนะเว้ย  ห้ามหมาหมู่ด้วย  ลูกผู้ชายเขาต้องเล่นตามกฎกติกา เข้าใจหรือเปล่า!”
“เข้าใจครับ!”
“ดีมาก!  ต้องอย่างนี้สิวะ”
ผมหัวเราะก่อนจะเลี้ยงบอลไปเรื่อยๆโดยมีเด็กทั้งเจ็ดคนวิ่งตามหลังมาติดๆเพื่อจะแย่งเอาบอล  กว่าจะรู้ตัวอีกทีคนเกลียดเด็กเข้าไส้เข้าเส้นเลือดอย่างผมก็…
เล่นฟุตบอลกับพวกมันไปเสียแล้ว

“แฮ่ก!  แฮ่ก!  ดะ…เดี๋ยวนะ  ขอพักก่อน  เหนื่อยมาก  ไม่ไหวแล้ว”
ผมนั่งหอบแฮ่กอยู่บนสนามหญ้า  ไอ้เด็กเจ็ดคนตามมานั่งล้อมเอาไว้ด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัวไม่ต่างกัน
ตายห่าล่ะกู  ลืมไปเสียสนิทว่าวันนี้มาในฐานะนางงาม!  ไปหมดละผมเผ้าที่ทำมา  หน้าที่ตื่นมาแต่งตั้งแต่ตีสี่…
“พี่ๆ  ผมถามจริงๆนะ  พี่ไปฝึกเล่นบอลมาจากไหนเหรอ  เล่นเก่งมากๆเลย”
“ก็แค่ชอบมากๆ  ก็เลยเล่นบ่อยๆ  ฝึกฝนบ่อยๆ  พวกนายก็เหมือนกัน  ถ้าอยากเก่งแบบพี่ก็ต้องตั้งใจฝึกห้ามวอกแวกไปหาอะไรทั้งนั้น  เข้าใจไหม”
“ถ้าพวกผมเล่นเก่งเท่าพี่แล้ว  พี่จะมาเล่นกับพวกผมอีกได้หรือเปล่า”
“ก็ต้องดูคิวก่อนอ่ะนะ  พอดีคนมันฮอต  คิวเลยยาวมาก”
“อ้าว”
“แต่ว่า!  ถ้าพวกนายทุกคนตั้งใจเรียนจนจบมัธยมปลายได้  พี่จะลัดคิวทุกคิวแล้วมาเล่นบอลกับพวกนายเลย  โอเคหรือเปล่า”
ผมชี้หน้าพวกมันทีละคนเพื่อรอคำตอบ  ต่างคนต่างทำหน้าคิดหนักก่อนที่ไอ้อ้วนเจ้าของลูกบอลจะพยักหน้าเป็นคนแรก
“โอเคพี่!  ผมจะจบม.6 ให้ได้  แล้วพี่อย่าลืมมาสอนผมยิงลูกโทษอีกนะ”
“ได้เลย!”
ผมแท็กมือกับไอ้อ้วน  เมื่อเด็กคนอื่นๆเห็นว่าผมรับปากไอ้อ้วนแล้วก็เลยพากันยอมรับข้อเสนอของผมเป็นแถว  มาคิดๆดูแล้ว  เด็กพวกนี้ก็ไม่ได้น่ารำคาญอะไรมากมายเหมือนกันแฮะ  กลับกัน…ผมรู้สึกสนุกมากกว่าที่ได้ถ่ายทอดสิ่งที่ผมชอบและถนัดให้กับพวกเขา
“สนุกเต็มที่หรือยังครับคุณน้ำ”
เสียงไอ้หน้าหนวดดังขึ้นจากด้านหลัง  ผมรีบลุกขึ้นยืนและหันไปหาเขา  มาตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย?
“คุณมานานแล้วเหรอ?”
“มาตั้งแต่คุณเดินแยกออกมาเล่นบอลคนเดียวแล้วล่ะ”
“หา?”
ตั้งแต่ต้นเลยนี่หว่า…
“ผมเพิ่งเห็นคุณยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุขเป็นครั้งแรกเลยนะครับ  ต้องทำพิธีขอบคุณเด็กๆเจ็ดคนนั้นหรือเปล่านะ?”
“เว่อร์ไปละ  ผมก็แค่ชอบฟุตบอลเท่านั้นเอง”
“ครับๆ  ผมเชื่อแล้วว่าชอบจริงๆ”
ไอ้หน้าหนวดส่งยิ้มหวาน  ผมรีบเปลี่ยนทิศทางมองไปที่อื่นที่ไม่ใช่หน้าของมันแทน  เพราพอมองหน้ามันทีไร  หน้าของบาร์บี้ก็ลอยแทรกเข้ามาทุกที
และผมก็จะรู้สึกผิดอยู่ร่ำไป…
“ดูท่าวันนี้จะได้ผู้ชนะเสียแล้วสิ”
มะนาวเอ่ยขึ้น  เธอเดินเข้ามาพร้อมกับนางงามคนอื่นๆ  ดูเหมือนว่าทุกคนจะถูกเรียกมารวมตัวกันทางนี้แฮะ
“หมายความว่ายังไงเหรอ?  เขากั๊กคนชนะไว้หรือไง”
“จะบ้าเหรอยะ  นี่ไม่ได้รู้ตัวเลยสินะเนี่ย”
มะนาวเอ็ด  ผมเลยได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆไปให้เธอเพราะไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไร  แต่ยังไม่ทันที่บทสนทนาต่อไปจะเริ่ม  บาร์บี้ที่เดินมาทีหลังสุดก็ลากผมออกมาจากทุกคน
“มีอะไรเหรอ?”
“ฉันมีเรื่องอยากให้เธอช่วยหน่อย  ได้ไหมน้ำ”
“ว่ามาสิ”
“คือว่านะ  เดี๋ยวหลังจากแจกของให้เด็กๆเสร็จ  ก่อนที่จะมีการให้พวกเด็กๆเลือกคนที่อยู่ด้วยแล้วสนุกที่สุด  จะมีเวลาพักให้พวกเราสองชั่วโมง  ตอนนั้น…ฉันอยากจะอยู่กับคุณเปลวสองต่อสอง  เธอช่วยนัดเขาออกมาให้ฉันได้ไหม?”
“ฮะ?”
“ฉันจะไปรอเขาที่สวนหย่อมฝั่งนู้น  เพราะแถวนั้นไม่ได้อยู่ในเขตของการถ่ายทำเลยค่อยไม่ค่อยมีคน  ฉันอยากอยู่กับเขาเพื่อทำคะแนนบ้าง  เธอช่วยฉันหน่อยนะ  นะ”
บาร์บี้เขย่าแขนผมเบาๆพลางอ้อนวอน
นั่นสินะ  ถ้าทำให้เธอได้อยู่กับไอ้หน้าหนวดนั่นสองต่อสองบ้าง  มันอาจจะเห็นความน่ารักของบาร์บี้อย่างที่ผมเห็นแล้วเริ่มชอบเธอขึ้นมาบ้างก็ได้
ต้องทำสินะ  ผมสัญญากับตัวเองไว้แล้วนี่ว่าจะช่วยให้เธอได้สมหวังกับไอ้หน้าหนวด…
…เพราะงั้น
“อื้ม  ได้สิ”
ผมต้องทำ…

 เวลาในการแจกของมาถึง  ผู้เข้าประกวดทุกคนแยกย้ายกันแจกขนมและของเล่นให้กับพวกเด็กๆโดยมีนักข่าวคอยถ่ายรูปและสัมภาษณ์มากมาย  ส่วนผมก็กำลังรอจังหวะดีๆที่จะเข้าไปชวนไอ้หน้าหนวดให้ไปพบกับบาร์บี้ที่สวนหย่อมตามที่เธอขอ  แต่ปัญหาก็คือ…
ไอ้นักข่าวบ้าพวกนี้แม่งตามถ่ายรูปผมแจเลย!  แถมยังเอาแต่เรียกผมว่าสโนว์ไวท์อีกด้วย  ไม่รู้เหมือนกันว่าหมายความว่ายังไง?
“แล้วคุณน้ำรู้สึกยังไงบ้างครับที่ตัวเองได้เป็นตัวเก็งในการประกวดครั้งนี้เลย”
“เอ่อ  คือเดี๋ยวน้ำมาตอบได้ไหมคะ  ขอเวลาสักครู่”
ผมตัดบทแล้วเดินแยกออกมา  เป้าหมายคือเดินเข้าไปหาไอ้หน้าหนวดที่กำลังพูดคุยอยู่กับเด็กๆด้วยใบหน้าของพ่อพระ
ลามกอย่างมึงทำสีหน้าใจดีแบบนี้เป็นด้วยเรอะ!
“คุณเปลว”
“ครับ?”
มันขานรับทันที  ผมรีบเขย่งเท้าขึ้นป้องปากข้างหูมันแล้วกระซิบบอกสถานที่นัดทันที
“ช่วงพักไปเจอที่ส่วนหย่อมฝั่งนู้นด้วย”
“ครับ?”
“อย่าลืมล่ะ”
ย้ำอีกทีก่อนจะเดินกลับมาที่เดิมและให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอีกครั้ง  บาร์บี้ที่แจกของอยู่ไม่ไกลหันยกนิ้วให้ราวกับรู้ว่าผมเข้าไปนัดไอ้หน้าหนวดให้เธอเรียบร้อยแล้ว
แบบนี้แหละดีแล้ว…
มึงทำดีแล้วไอ้ไฟ!

ช่วงเวลาพักที่บาร์บี้รอคอยมาถึง  เธอเดินแยกไปรอไอ้หน้าหนวดที่สวนหย่อมฝั่งตรงข้ามตั้งแต่ก่อนถึงเวลาพัก  ส่วนผมก็ปลีกวิเวกออกห่างมาจากผู้เข้าประกวดเพื่อหลอกอีกฝ่ายว่าผมไปตามสถานที่นัดแล้ว  เพราะตามความเข้าใจของเขา  เขาคงคิดว่าคนที่นัดไปสวนหย่อมก็คือผม  ไม่ใช่บาร์บี้…
“คุณเปลว  ขอบคุณมากนะคะที่มาตามนัด  ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะมาจริงๆ”
แล้วทำไมสถานที่ที่กูปลีกวิเวกมาจะต้องเป็นแถวสวนหย่อมนี่ด้วยล่ะเว้ย!
ผมล่ะอยากจะตะบันหน้าตัวเองจริงๆ!
ต้นไม้เป็นที่กำบังของผมในเวลานี้  ผมค่อยๆชะโงกหน้าออกไปเล็กน้อยเพื่อดูว่าตอนนี้สองคนนั้นเป็นยังไงกันบ้าง  แต่ท่าทางผมคงจะคิดมากเกินไปเอง  บาร์บี้เป็นผู้หญิงน่ารักและมีเสน่ห์อยู่แล้ว  ไม่ว่าใครได้เข้าใกล้ก็ต้องมีความสุขทั้งนั้น
ใช่…
ไอ้หน้าหนวดเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ท่าทางที่เหมือนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานเหลือเกินบีบหัวใจผมจนแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ  ทำไมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย 
เปิดโอกาสให้เขา  แต่เราเจ็บเอง?
นี่มันไม่ใช่ตัวผมเลยสักนิด…


บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  พี่ไฟนะพี่ไฟ  ทำอะไรลงป๊ายยยย  ไปเปิดโอกาสให้พวกเขาแล้วตัวเองมานั่งเจ็บเองคนเดียวเนี่ยนะ  จะสงสารหรือสมน้ำหน้าดีล่ะเนี่ย  ถ้าคุณเปลวกับบาร์บี้เกิดสปาร์คติดกันขึ้นมาแล้วจะมานั่งเสียใจทีหลังนะเออ  อีกสองวันจะได้เห็นร่างปกคุณเปลวกับพี่ไฟกันแล้วนะคะ  มารอชมด้วยกันน้า  จะอัพให้ดูในเพจ Bubble-Bew จ้า

ติดแฮชแท็ก #เขาวานให้ผมเป็นดาว ในทวิตเตอร์มาเม้ามอยกันได้น้า  หลังหนังสือเสร็จแล้วจะสุ่มแจกหนังสือ 1 เล่ม จ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-12-2016 20:04:06 โดย WwW »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไฟ  ทำตัวไม่ถูกแล้ว:katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
ไฟอาจจะโดนเปลวโกรธก็ได้นะที่ริอาจเป็นพ่อสื่อ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
แอบระแวงบาบี้

ออฟไลน์ khunpisda

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai3:
อ่อนไปอี้กก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 13
ต้องลงโทษ
 

“เอาล่ะ  ต่อไปคือช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอย  ช่วงเวลาแห่งการเลือกพี่สาวที่เด็กๆอยู่ด้วยแล้วมีความสุขมากที่สุดนั่นเอง”
พิธีกรจำเป็นหรือก็คือหนึ่งในทีมงานที่ถูกถีบส่งให้ไปทำหน้าที่อย่างไม่เต็มใจเอ่ยใส่ไมค์โครโฟน  บรรดานักข่าวตั้งกล้องรอถ่ายรูปกันเรียบร้อย
กูล่ะอยากหายตัวไปจากตรงนี้เสียเหลือเกิน  ไม่ได้เข้าไปตีสนิทกับเด็กน้อยคนไหนเลยสักคน  แล้วเด็กที่ไหนจะเลือกกูล่ะเนี่ย
ขณะที่ผมกำลังหนักใจอยู่นั้น  สายตาก็เหลือบไปทางไอ้หน้าหนวดที่นั่งอยู่ตรงมุมพิเศษที่ทางบ้านเด็กกำพร้าจัดเตรียมไว้ให้กำลังมองผมอยู่พอดี  แต่สายตานั้นช่างนิ่งสนิทและน่ากลัวราวกับว่าในหัวลามกๆของมันกำลังคิดแผนอะไรบางอย่างอยู่
มองกูไม่วางตาแบบนี้  แสดงว่าแผนของมันคงไม่พ้นเรื่องเกี่ยวกับผมสินะ
“ตื่นเต้นจังเลยนะน้ำ  เธอว่าพวกเด็กๆจะชอบฉันกันไหม”
“ต้องชอบสิ  เธอใจดีจะตาย”
“แต่ก็คงสู้สโนว์ไวท์อย่างเธอไม่ได้หรอก”
“ฉันงงมาพักหนึ่งแล้วนะ  ทำไมทุกคนถึงพากันเรียกฉันว่าสโนว์ไวท์ล่ะ?”
ผมถามบาร์บี้ออกไปตรงๆ  ผมกูก็ไม่ได้สั้นแบบสโนว์ไวท์  ไม่ได้พูดกับนกหรือสัตว์ได้ด้วย  แล้วทำไมทุกคนถึงเรียกผมแบบนั้นหว่า?
“เดี๋ยวก็รู้”
บาร์บี้จุ๊ปากเป็นเชิงให้ผมเงียบ  เพราะทางกรรมการกำลังจะให้เด็กๆเลือกผู้ชนะแล้ว  ผู้เข้าประกวดทุกคนถูกจัดให้ยืนกระจายๆกันออกไป  โดยมีเด็กๆยืนอยู่ตรงกลางห้อง
“เอาล่ะนะครับ  เด็กๆทุกคน  เดี๋ยวพอผมนับถึงสาม  ก็เดินเข้าไปหาพี่สาวที่อยู่ด้วยแล้วสนุกและมีความสุขที่สุดได้เลยนะครับ”
“…”
“1”
“…”
“2”
“…”
“3!”
สิ้นเสียงนับเลข 3  บรรดาเด็กๆก็กรูกันวิ่งเข้าหาพี่สาวที่ตัวเองชอบ  และแน่นอนว่าทางผมนั้นไม่มีเด็กน้อยคนไหนวิ่งเข้ามาเลยสักคน  จนกระทั่งไม่มีเด็กผู้หญิงเหลออยู่แล้ว  ที่ยืนอยู่ก็มีแค่ไอ้เด็กเจ็ดคนที่เล่นบอลกับผมเท่านั้น
กูทั้งด่า ทั้งตบหัวพวกมัน  ต่อให้เอาไดนาเสาร์มาฉุดมันก็ไม่มีทางเลือกผมกันแน่ๆ
“ตอนนี้เหลือเด็กๆอยู่เพียงเจ็ดคนเท่านั้นนะครับ  นางงามเกือบทุกท่านต่างก็มีเด็กเลือกกันคนละหนึ่งคนทั้งนั้น  มีเพียงคุณบาร์บี้หมายเลข 21 ที่มีเด็กเลือกถึงสองคนด้วยกัน  ส่วนคุณน้ำหมายเลข 13 นั้นยังไม่มีเด็กเลือกเลยสักคนนะครับ!  ชักตื่นเต้นขึ้นมาเสียแล้วสิ”
ฆ่าปิดปากไอ้คนพากย์ก่อนเลยดีไหม  มึงจะย้ำเรื่องทีกู่ไม่มีคนเลือกไปถึงไหนวะ!
“น้องๆทั้งเจ็ดคนครับ  เดี๋ยวเลือกพี่สาวที่ชอบที่สุดได้เลยนะครับ”
ผมว่าผมค่อยๆย่องออกไปดีกว่า  ถ้าขืนอยู่ต่อมีหวังได้หาปี๊บมาคลุมหัวแน่ๆ
ระหว่างที่ไอ้เด็กเจ็ดคนกำลังปรึกษาหารือกัน  ผมก็ค่อยๆหันหลังกะจะมูฟตัวเองออกไปจากตรงนี้สักหน่อย  เพราะเดี๋ยวเขาก็คงจะกรูกันเข้าไปขอสัมภาษณ์ผู้ชนะ  และผมก็จะอยู่นอกสายตาในทันที  เอาวะ!  ไว้กิจกรรมหน้าค่อยหาทางตีตื้นคะแนนขึ้นมาก็ได้  แต่งานนี้ขอบายก่อน  กูไม่ไหวจะเคลียร์กับเด็กจริงๆ!
หมับ!
ทันทีที่พลิกตัวกลับไปอีกทางและขาแรกก้าวออกเตรียมจะชิ่ง  ก็มีมือของใครบางคนมาดึงชายเสื้อของผมเอาไว้จากด้านหลังทำให้การย่องหนีต้องเป็นหมันไป  ฉิบหายล่ะ  โดนจับได้แล้วเหรอเนี่ย  สงสัยงานนี้กูต้องเอาปี๊บคลุมหัวกลับโรงแรมจริงๆเสียล่ะมั้ง
“พี่ครับ”
ผมชะงักเมื่อเสียงเล็กๆของไอ้เด็กพวกนั้นดังขึ้นในระยะประชิด  พอหันไปดูก็พบว่าคนที่ดึงชายเสื้อผมเอาไว้คือหนึ่งในเจ็ดคนนั้น   ก่อนที่พวกมันจะเข้ามาล้อมผมไว้เป็นวงกลม
“ทะ…ทั้งเจ็ดคนเลือกพี่น้ำเหรอครับ!”
พืธีกรเอ่ยถามสีหน้าแปลกใจ  เสียงชัตเตอร์ระรัวพร้อมแสงแฟลชมากมายที่พุ่งตรงเข้ามา  ส่วนผมก็ทำได้แค่มองหน้าพวกมันทีละคนๆด้วยไม่เข้าใจว่าทำไมพวกมันถึงเลือกผม
“ทำไม…”
“เล่นบอลกับพี่สนุกแล้วก็มีความสุขจะตาย”
ไอ้อ้วนเจ้าของลูกบอลบอกพร้อมกับเข้ามากอดผม  ตัวสูงแค่เอวกูเองเรอะ
“ขนุลกเว้ย  ออกไป”
ผมดันพวกมันออก  หากแต่ไอ้เด็กเจ็ดคนนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธเลยสักนิด  กลับกัน  พวกมันเอาแต่ส่งยิ้มอย่างไร้เดียงสามาให้
ตอนเด็กๆแม่เคยบอกผมเสมอว่าเด็กเปรียบเสมือนผ้าสีขาว  ที่ผู้ใหญ่จะค่อยแต่งแต้มเติมสีให้เป็นไปตามที่ต้องการ…
ตุ้บ…
ผมทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น  มือที่พยายามแงะไอ้เด็กอ้วนออกลดต่ำลงอย่างหมดแรง  ใบหน้าใสซื่อที่คิดร้ายต่อใครไม่เป็น  รอยยิ้มจริงจังที่ไม่แอบแฝงความเจ้าเล่ห์ใดๆ
นี่ผม…
มองข้ามเรื่องพวกนี้ไปได้ยังไงกันนะ
“ขอบคุณนะ  ที่พวกนายสนุกและมีความสุขเวลาอยู่กับฉัน”
มือทั้งสองข้างไล่ยีหัวพวกมันทีละคนพร้อมรอยยิ้ม  รอยยิ้มแรกที่ผมตั้งใจมอบให้กับพวกเขาทุกคน  หวังว่าพวกเขาจะรับรู้ได้นะ
รับรู้ได้ถึงความเอ็นดูในตัวพวกเขา
“ท่าทางพวกเราจะได้ผู้ชนะกันแล้วล่ะนะครับ  นั่นก็คือ…คุณน้ำหมายเลข 1 นั่นเอง!  พี่สาวที่เด็กๆอยู่ด้วยแล้วมีความสุขที่สุดในวันนี้…อี๊…อี๊!”
ความซึ้งของกูจะหายไปก็เพราะเสียงเอคโค่อี๊อี๊ของมึงนี่แหละ!
 
“เข้าใจหรือยังล่ะ!”
บาร์บี้ยิ้มพราวหลังจากที่เล่าที่มาของคำว่าสโนว์ไวท์ให้ผมฟังจนจบ
พวกเรามาถึงโรงแรมกันเมื่อสามสิบนาทีก่อน  กว่าจะได้กลับผมนี่ให้สัมภาษณ์จนลูกกระเดือกแทบกระเด็นออกมาจากคอ  ที่แท้คำว่าสโนว์ไวท์  ผมได้มาก็เพราะตอนที่เล่นบอลอยู่กับไอ้เด็กเจ็ดคนนั้น  พวกนักข่าวรวมถึงผู้เข้าประกวดคนอื่นๆต่างก็เห็นเข้าพอดี  ภาพที่ผมกับพวกเด็กๆเล่นด้วยกันเลยไปซ้อนกับภาพของสโนว์ไวท์และคนแคระทั้งเจ็ดเข้า  ทุกคนเลยพากันเรียกผมว่าสโนว์ไวท์กันหมด
แบบนี้ก็หมายความว่า…
ไอ้เด็กเจ็ดคนนั้นคือคนแคระสินะ
“ไม่เห็นจะเหมอนตรงไหนเลย”
ถ้าบอกว่ากูเหมือนแม่มดที่ตามฆ่าสโนว์ไวท์ล่ะก็ไม่แน่!
“อ๊ะ  น้ำๆ  ปลดตะขอให้หน่อยสิ  ฉันปลดไม่ออก”
บาร์บี้ที่ตอนแรกเปิดประตูตู้เสื้อผ้าบังตัวเองเอาไว้ปิดประตูตู้ลงแล้วเดินเข้ามาหาผมในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว  เธอเอาส่วนหลังลงเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวเนียนจนถึงสะโพก  ส่วนด้านหน้าก็ใช้ผ้าเช็ดตัวปิดเอาไว้แบบไม่ค่อยมิดชิดเท่านั้น  ร่างบางเดินลงมานั่งข้างๆผมบนเตียง  หันหลังให้พร้อมกับตวัดเอาผมไปไว้ด้านหน้า  นั่นยิ่งทำให้ผมมองเห็นความขาวน่าฟัดของเธอได้มากขึ้น
อูย  สติ! สติ!  เรียกสติกลับมาด่วนเลยไอ้ไฟ!
“เร็วๆสิน้ำ  ฉันอยากอาบน้ำจะแย่แล้วนะ  เหนียวตัวไปหมดแล้วเนี่ย”
“ระ…รู้แล้ว!”
ถ้าตอนนี้กูเป็นไอ้ไฟล่ะก็  พ่อจะจับถอดให้หมดเลย!
มืออันสั่นเทาค่อยๆเลื่อนขึ้นไปปลดตะขอเสื้อในออกให้บาร์บี้อย่างใจเย็น  เผลอยื่นหน้าเข้าไปสูดดมกลิ่นหอมหวานตามแบบฉบับผู้หญิงจากตัวเธออย่างลืมตัว
ฟืด!!!
“ทำอะไรน่ะน้ำ”
“!!!”
สะดุ้งสุดตัวเมื่ออีกฝ่ายร้องทัก  ผมรีบหันไปหยิบหมอนมากอดเอาไว้แน่น  แต่ความจริงแล้วก็เพื่อปิดบังปิกาจู้ของตัวเองที่เริ่มจะดันตัวออกจากการแต๊บ  ทำให้ตรงนั้นของผมมันนูนขึ้นมาเล็กน้อย
งานเข้าแล้วไงไอ้ไฟ!  แค่ปลดตะขอเสื้อในให้ผู้หญิงเท่านั้นก็ของขึ้นเสียแล้ว  จะทำยังไงดีล่ะที่นี้!
“เป็นอะไรไปน้ำ  หน้าเธอดูแดงๆนะ”
“ปะ…เปล่า  ไม่มีอะไร  เธอไปอาบน้ำเถอะ”
“แต่ว่า…”
“ไม่เป็นไรจริงๆ  ไปอาบน้ำเถอะนะ  ฉันจะได้อาบน้ำต่อ”
ผมพยายามดันบาร์บี้ที่พยายามจะเข้ามาใกล้ให้ออกห่าง  เพราะอะไรต่อมิอะไรที่ใหญ่ล้นผ้าเช็ดตัวออกมามันจะยิ่งทำให้ปิกาจู้ของผมคลั่ง!
ทรมานจริงๆการเป็นกูเนี่ย!
“ก็ได้ๆ  ฉันไปอาบน้ำก็ได้”
ดีๆ  ไปเลยนะ  ก่อนที่ปิกาจู้ของผมมันจะทนไม่ไหวแล้วจับร่างบางกลิ่นตัวหอมๆมาปล้ำเสียตอนนี้!
ผมนั่งตัวงอรอจนบาร์บี้เข้าก้องน้ำไปถึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก  ก่อนจะนิ่วหน้าเครียดด้วยกังวลเรื่องความกำหนัดที่เกิดขึ้นในตัวตอนนี้…
ผมจะหาทางปลดปล่อยมันยังไงดี?!
ทรมานจนร่างกายแทบจะฉีกออกจากกันอยู่แล้ว!
“ให้ผมช่วยคุณเอาไหมครับ?”
“เฮ้ยยยย!”
ร้องลั่นอย่างตกใจพลางหันหลังจนหงายหลังล้มตึงตกเตียง!
ไอ้หน้าหนวดยิ้มพราว  ผมหันซ้ายหันขวาเพื่อหาดูว่ามันเข้ามาจากรูไหน  นี่มึงเล่นเข้าออกได้อย่างสบายๆราวกับเป็นบ้านของตัวเองแม้แต่ในห้องพักนางงามเรอะ!  ความปลอดภัยของการประกวดครั้งนี้มันอยู่ตรงไหนวะเนี่ย!
โดยเฉพาะของกู!
“น้ำ! เป็นอะไรเหรอ   ร้องลั่นเชียว”
“ปะ…เปล่า  ฉันแค่ลื่นนิดหน่อยน่ะ”
ผมตอบกลับไป  จะให้บาร์บี้ออกมาเห็นไอ้หน้าหนวดไม่ได้เด็ดขาด!
“เข้ามาได้ยังไง  ไม่สิ  เข้ามาทำไมเนี่ย!”
ไอ้หน้าหนวดไม่ตอบ  แต่มืออีกข้างยกกุญแจมาหมุนคว้างเล่น…
กุญแจสำรอง…
พ่อมึงเป็นเจ้าของโรงแรมนี่ใช่ไหมบอกกูมา  ดูมึงจะมีอภิสิทธิ์มากมายเหลือเกิน!
“ไปกับผม”
“ไปไหน?”
“เดี๋ยวก็รู้ครับ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่โคตรไม่น่าไว้ใจปรากฏบนใบหน้าของอีกฝ่าย
ผมลังเล  หากแต่ตัวเองก็ไม่ได้มีทางเลือกมานัก ความลับก็ถูกแม่งกุมเอาไว้  ถ้าไปขัดใจมันเข้าจนมันไม่พอใจเปิดเผยความจริงขึ้นมาผมก็งานงอกน่ะสิ
“เออๆ  ไปก็ได้”
ตอบกลับไปแบบนั้นก่อนจะมานึกขึ้นได้ทีหลังว่า…
กูยังมีคดีติดตัวอยู่นี่หว่า…
คดีที่เสือกไปทำตัวเป็นพ่อสื่อให้บาร์บี้ไงล่ะ
 
ที่ที่มันพาผมมาก็คือห้องสวีตสุดหรูของมันนั่นเอง  บรรยากาศโคตรเงียบวังเวงจนผมอยากจะถอยหลังกลับแต่ก็ทำไม่ได้  ไอ้หน้าหนวดไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่มาถึง  ผมว่าให้มันแทะโลมทางสายตาหรือคำพูดแบบทุกทียังจะดีกว่าการที่มันเงียบแบบนี้อีก
รู้สึกได้ถึงความจริงจังจนใจไม่ดี…
“คุณมีอะไรจะคุยกับผมเหรอ”
“…”
“ไม่ได้ยินที่ถามหรือไง  ผมถามว่าคุณมีอะไรจะคุยกับผม”
“…”
เงียบ…
ไอ้หน้าหนวดเอาแต่ยืนหันหน้าเข้าหาเตียงแล้วเงียบไม่ยอมตอบอะไรกลับมาสักคำ  เอา ไอ้เหี้ย!  มึงเรียกกูออกมาเพื่อให้มายืนดูมึงทำสมาธิหรือไงวะ!
“ถ้าไม่มีอะไรจะคุยงั้นผมขอตัวนะครับ”
หมับ!
ทันทีที่หันหลังกลับไปทางลิฟต์  ข้อมือก็ถูกคว้าหมับก่อนที่ร่างกายจะถูกเหวี่ยงลงไปนอนอ้าซ่าอยู่บนเตียงแบบเต็มแรงจนเจ็บที่หลังนิดๆ  ผมเบิกตากว้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้  แต่ไม่ทันที่จะได้อ้าปากถาม  ร่างสูงก็ทาบทับแทรกตัวผ่านเข้ามาทางหว่างขาทำให้ผมต้องนอนอ้าขาออกอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่ปัญหาคือการที่มีมันอยู่ตรงกลางโดยที่ปิกาจูของแม่งกดทับอยู่ตรงก้นผมนี่แหละ!
ไอ้เหี้ยยยยยย  มึงช่วยเล็งเป้าไปทางอื่นได้ไหมวะ!
“ผมไม่ให้คุณไปไหนทั้งนั้น  คุณต้องถูกลงโทษ”
“ลงโทษอะไร?  จะทำอะไรของคุณวะเนี่ย!”
“แล้วทีคุณล่ะ  ทำอะไร”
น้ำเสียงจริงจังที่เอ่ยออกมาไม่แตกต่างไปจากสีหน้าถมึงทึงของมันตอนนี้เลย
ผมรีบหลบสายตาด้วยรู้ดีว่ามันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่
“ผะ…ผมทำอะไร  เปล่าสักหน่อย”
“เปล่างั้นเหรอ   ต้องการให้ผมช่วยเตือนความจำไหมล่ะครับ  คุณไฟ”
“เฮ้ย!  ปล่อยนะเว้ย  ทำอะไรของคุณฮะ!”
ร้องลั่นออกมาอีกครั้ง  เมื่อแขนทั้งสองข้างถูกตรึงและยึดเอาไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา  ส่วนมือที่เหลือก็ทำหน้าที่เลิกเสื้อของผมขึ้นจนถึงบรา  มือหยาบสอดแทรกเข้าไปด้านหลังแล้วปลดมันออกอย่างง่ายดาย  เพียงเสี้ยววินาที บราก็ถูกเลือนขึ้นไปกองอยู่เหนือเนินอกรวมกับเสื้อ
ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่  มองสภาพของตัวเองตอนนี้ที่เกือบจะใช้คำว่าแก้ผ้าอยู่รอมร่อ  อะไรก็ไม่เท่าสายตาอันแสนหื่นกามของไอ้หน้าหนวดที่กำลังมองร่างกายผมอยู่!
มึงคงไม่คิดจะสวนทวารกูทั้งแบบนี้หรอกนะไอ้หนวดดด!
“ปล่อยผมนะ  เล่นอะไรแบบนี้กัน  ผมไม่ขำด้วยหรอกนะเว้ย!”
“ใครบอกคุณว่าผมเล่น”
“แล้วที่ทำอยู่นี่เล่า!”
“ผมไม่เคยเล่นๆกับคุณ”
“อย่านะไอ้เหี้ย!  อื้อ!”
ผมสบถคำด่าออกไปยกใหญ่  แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงของคนตัวใหญ่กว่านั้น ริมฝีปากร้อนพรหมจูบไปทั่วท้องน้อยจนผมบิดเกร็งไปทั้งตัว  ปิกาจู้ที่สงบไปแล้วกลับมาตื่นตัวอีกครั้ง
งานเข้ากูอีกแล้วไง  มึงจะมาตื่นตัวทำซากฟอสซิลอะไรตอนนี้!
“บอกให้พอได้แล้วไง  ปล่อยนะไอ้คุณเปลว!”
คำพูดของผมไม่ได้เข้าหูอีกฝ่ายเลยแม้แต่คำเดียว  ไอ้หน้าหนวดลากลิ้นเลียตั้งแต่สะดือเลื่อนขึ้นมาจนถึงรอบๆยอดอก  ผมเสียววาบในช่องท้อง  สองมือกำเป็นหมดแน่น   ไม่สามารถบรรยายได้ว่าตอนี้ตัวเองกำลังรู้สึกอะไรอยู่กันแน่
แผล่บ~
ทันทีที่ปลายลิ้นร้อนสัมผัสกับยอดอกด้านซ้าย  ผมก็ผวาเฮือก  พยายามจะเอาขาเข้ามาชิดกัน  แต่ไอ้เวรนี่ก็ดันออกอยู่เรื่อย  น่าแปลกที่ผมกลับไม่รู้สึกรังเกียจสัมผัสนี้  สิ่งที่ผมรู้สึกได้เต็มๆคือความนุ่มนวลที่คนๆนี้กำลังมอบให้ต่างหาก
ทุกจุดที่ริมฝีปากนี้ประทับลง…
มันนุ่มนวลและหอมหวานเหมือนไอศกรีม
“อื้อ…”
เผลอปลดปล่อยเสียงแห่งความสุขออกมาเมื่อยอดอกถูกดูดดื่มสลับกับขบเม้ม  ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากำลังรู้สึกดีมากแค่ไหน
ราวกับตัวเองขี่ยูนิคอร์นเล่นอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์…
“อื้ม…”
แรงบีบที่ข้อมือเริ่มคลาย  ขณะที่ผมก็เผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้ร่างสูงเชยชมอย่างไม่ขัดขืน  ซอกคอถูกซุกไซร้  สองมือถูกปล่อยให้เป็นอิสระ  ผมรีบกอดก่ายเขาเอาไว้อย่างลืมตัว  เอียงคอให้อีกฝ่ายได้ลิ้มรสร่างกายของตัวเองได้ง่ายขึ้น
“คุณไฟ…”
เสียงแหบพร่าอันมีเสน่ห์กระซิบที่ข้างหูเบาๆ  สองมือของเขาบีบเคล้นหน้าอกผมไปมา  ปลายนิ้สะกิดหยอกล้อกับยอดอกสีหวานที่ตั้งชูชันสู้มือ
ผมกอดเขาแน่นขึ้น…
แน่นขึ้นจนไม่อยากให้ช่วงเวลานี้ผ่านเลยไปแม้แต่วินาทีเดียว
“…ครับ”
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“…”
“อย่าคิดจะเป็นพ่อสื่อผมให้กับใคร  เพราะผมไม่ชอบ”
“…”
“ถ้าคุณทำอีก คุณจะต้องโดนลงโทษหนักกว่านี้”
“ลงโทษ?  คุณจะทำอะไรผม”
ผมดันตัวอีกฝ่ายให้ออกห่างเล็กน้อยเพื่อมองหน้ากัน  ไอ้หน้าหนวดระบายยิ้ม  เป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบที่ผมเกลียดที่สุด
แต่ก็หลงใหลที่สุดเช่นกัน…
“ผมก็จะ…”
“…”
“กินคุณให้หมดทั้งตัว”
“…”
“กินไม่ให้เหลือแม้แต่นิดเดียว  ไม่ว่าจะเป็น…”
“…”
“ตรงนี้”
แขนขวาถูกจับขึ้นมาก่อนที่อีกฝ่ายจะงับมันเบาๆ  ก่อนจะเลื่อนไปจับอีกแขนหนึ่งขึ้นมาแล้วทำเหมือนกัน
“ตรงนี้”
ใบหน้าคมคายเลื่อนต่ำกลับไปที่ยอดอก  ปลายลิ้นตวัดหยอกล้อเรียกความรู้สึกแปลกๆกลับมาให้ผมอีกครั้ง
“ตรงนี้”
ต่ำลงไปที่หน้าท้อง  ผมกลืนน้ำลายลงคอ  หัวใจเต้นแรงราวกับว่าตัวเองกำลังหวังอยากให้มีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านี้
ผมกำลัง…
…หวังเรื่องแบบนั้นกับเขาอยู่งั้นเหรอ!
หมับ!
มือหนาและใบหน้าเลื่อนต่ำไปจนถึงจุดอ่อนไหวที่สุดของร่างกาย  สองมือของเขาสอดเข้าไปใต้ข้อพับตัวหัวเขาก่อนจะแยกขาผมออกจากกัน  ตอนนี้รู้สึกได้เลยว่าใบหน้าของผมร้อนฉ่ามาก  ยิ่งเขาเข้าใกล้จุดนั้นมากเท่าไหร่  หัวใจผมก็ยิ่งเต้นระรัวมากขึ้นเท่านั้น
“ตรงนี้ก็ด้วย”
“…”
“ผมจะกินทั้งหมดที่เป็นคุณ   ทั้งหมดที่คุณมี”
“คิดว่าผมจะยอมให้คุณกินได้ง่ายๆหรือไง”
“งั้นเรามาลองดูไหมล่ะครับ”
“…”
“ผมจะกินคุณตอนนี้เลย”
 
 
 
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  ต้องขออภัยด้วยที่หายไปหลายวัน  พอดีบิวมีงานค่า  ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่เชียงราย  ไม่ได้กลับบ้านสักที  กว่าจะเสร็จงานคงอีกหลายวันเลย แต่ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ จะรีบปั่นรีบอัพให้อ่านนะคะ   ตอนนี้แต่งไปก็อมยิ้มไป  พยายามคิดว่าทำยังไงให้นักอ่านรู้สึกอินไปกับตัวละคร  ประมาณว่า…เมื่อไหร่อีพี่ไฟมันจะยอมได้เสียเป็นผัวเมียกับคุณเปลวสักทีฟะ 5555 มาเป็นกำลังใจให้คุณเปลวกินพี่ไฟสำเร็จเร็วๆกันเถอะ!
**อัพเดตความคืบหน้า  ตอนนี้ได้ร่างปกเรื่องนี้มาแล้วนะคะ  สามารถหาดูไดในเพจ https://www.facebook.com/bewjuliet/  ค่ะ และรบกวนคนที่สนใจรูปเล่มเรื่องนี้ ( ขอคนที่สนใจจริงๆเท่านั้นนะคะ ) เข้ามากรอกแบบสอบถามกันหน่อยน้า  https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSd538RM6XkZ2G9uxoaDi5PAS0TKBGJEZ85BidQ0NvQ779jE-Q/viewform  จุ๊บๆๆๆ

** ติดแฮชแท็ก #เขาวานให้ผมเป็นดาว  ในทวิตเตอร์มาเม้ามอยกันไดนะคะ  สุ่มแจกนิยายเรื่องนี้ 1 เล่มเน้ออ



ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ชอบจริง  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ช่วงนี้อาจไม่ค่อยได้มาอัพถี่แบบเมื่อก่อนนะคะ  แต่จะพยายามหาเวลามาอัพให้ได้อ่านบ่อยๆค่ะ  ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามคุณเปลวกับพี่ไฟนะคะ


 :mew1:

ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
บาร์บี้ร้ายแน่เลย    ใจสั่นกับผู้ชายแบบเปลว  :-[

ออฟไลน์ FayZaZa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่อยากให้เป็นบาร์บี้เลย    :เฮ้อ:
มะนาวนี่ดีแน่ๆแล้วใช่มั้ยนะ

ออฟไลน์ Dark_Sky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ละลายแล้วคร่าาาาา :mew3: บาร์บี้อ่อยเบอร์แรง

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
กินเลยสิ ไฟเคลิ้มขนาดนี้แล้ว รออะไร

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 14
หน้าที่ของตัวเก็ง

พลั่ก!
“โอ๊ย!”
ร่างสูงที่ถูกถีบอัดท้องไปเต็มแรงร้องโอดโอย  สองมือกุมท้องเอาไว้อาจจะเพราะจุก  หากแต่ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มพร้อมเสียงหัวเราะสนุกสนาน
ผมลุกขึ้นนั่งท้าวคางมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอือมระอา  มึงจะเล่นสนุกกับร่างกายและหัวใจของกูมากเกินไปแล้วนะไอ้หน้าหนวด!
เดี๋ยวกูก็จับถอนหนวดแม่งเลย!
“คุณนี่นะ  ฮ่าๆๆๆ อุตส่าห์คิดว่าจะเคลิ้มแล้วเชียว”
“ไม่ต้องมาหัวเราะเลยนะ!”
ตวาดใส่มันอีกครั้งก่อนจะเริ่มจัดการกับสภาพของตัวเองใหม่  ต้องกลับไปเป็นน้ำก่อนที่จะมีคนมาเห็นน้ำในสภาพนมหลุดแบบนี้
“แต่ว่าคุณไฟครับ  ผมพูดจริงๆนะ”
“เรื่องอะไร”
“อย่าเป็นพ่อสื่อแบบนี้อีก  อย่าผลักไสผมไปให้ใคร”
“ผมไม่ได้ผลักไสคุณเสียหน่อย  บาร์บี้เธอชอบคุณ  แล้วก็แค่ขอให้ผมช่วยนัดคุณให้ก็เท่านั้น”
“แต่ผมไม่ได้ชอบคุณบารบี้”
น้ำเสียงของไอ้หน้าหนวดจริงจังขึ้นมา  มันยันตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียงตรงหน้าผมที่เพิ่งจะใส่บราเสร็จอีกครั้ง  นั่นทำให้ผมรีบเอาเสื้อลงและหันไปดึงหมอนมากอดไว้ทันที
เสื้อในแม่งใส่ยากยิ่งกว่าถุงยางฯอีกนะเว้ย!
อย่าคิดจะถอดมันออกเป็นรอบที่สองเด็ดขาด  กูขี้เกียจใส่!
“ช่วยไปยืนพูดตรงนั้นได้ไหม  ไม่ได้หูหนวก  ไม่ต้องเข้ามาใกล้ขนาดนี้ก็ได้!”
“แต่ผมอยากมองตาคุณใกล้ๆเวลาพูดนี่นา”
“ตาผมเสียไปพร้อมกับยายตั้งแต่ยังไม่เกิด  เพราะงั้นให้ตายคุณก็มองไมเห็นหรอก”
“ขนาดเวลายิงมุกแป้กก็ยังน่ารักเลยแฮะ”
น่ารักพ่องมึงสิไอ้หนวด!
ปวดกบาลอย่างแสนสาหัส  ถ้าไม่ติดว่ากลัวตายจะกรอกยาพาราเข้าปากสักล้านเม็ด  คนเหี้ยอะไรทำมึนกับคำด่าของกูได้อย่างหน้าตาเฉยสุดๆ!
“ผมกลับห้องได้หรือยัง  ออกมานานเดี๋ยวบาร์บี้จะสงสัย”
“สัญญากับผมก่อนสิว่าคุณจะไม่ทำแบบนี้”
ไม่ต้องสัญญากูก็ไม่คิดจะเสือกเรื่องของมึงอีกแล้วโว้ย!
หวิดเสียตัวซะขนาดนี้  ใครมันยังจะกล้าเสือกต่ออีกล่ะวะ
“สัญญา”
“มองตาผมตอนพูดด้วยสิ”
“ตาคุณ…”
“ตาผมยังไม่เสีย  เพราะงั้นคุณมองเห็นแน่นอน”
ไอ้หน้าหนวดยิ้มร่า  จ้องมองผมนัยน์ตาหวานเยิ้ม  รอยยิ้มมุมปากที่ดูทีเล่นทีจริงราวกับทุกสิ่งเป็นเรื่องสนุกไปเสียหมดมันน่าหงุดหงิดชะมัด
แต่ว่า…
ผมกลับ…
“ยิ้มแล้ว”
ร่างสูงชี้มาที่ผมซึ่งกำลังส่ายหัวไปมาอย่างระอา  หากแต่ใบหน้ากลับแต้มไปด้วยรอยยิ้ม  ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผมต้องยิ้มแบบนี้ด้วย!
ทั้งที่ไม่เข้าใจแต่มึงก็ยังไม่หุบยิ้มเนี่ยนะไอ้ไฟ  มึงเป็นบ้าอะไรไปแล้ว!  ไอ้หน้าหนวดจอมลามกที่คิดจะจับมึงกดครั้งแล้วครั้งเล่าคนนี้มันมีอะไรดี  ทำไมทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกันมึงต้องรู้สึกมีความสุขจนอดยิ้มไม่ได้แบบนี้ด้วยล่ะ
ไม่เข้าใจตัวเองเลยโว้ย!
“ยิ้มแบบนี้แหละครับดีแล้ว  เพราะสิ่งที่คุณต้องทำอยู่ตอนนี้มันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทำให้คุณเครียดไม่น้อย  ผมไม่อยากเห็นคุณทำหน้าไม่มีความสุขหรอกนะ”
“เรื่องของผมน่า”
“เรื่องของคุณก็เหมือนเรื่องของผมนั่นแหละ”
“…”
“ไม่อยากจะรู้หน่อยเหรอครับ  ว่าถ้าผมไม่ได้ชอบคุณบาร์บี้  แล้วผม…”
“…”
“ชอบใคร”
ใบหน้าหล่อคมคายยื่นเข้ามาใกล้  ดวงตาหวานยิ่งกว่าน้ำตาลจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม  เราต่างก็สบตากันและกันอย่างเนิ่นนาน  กว่าจะรู้ตัว…
สองมือของผมก็ประคองใบหน้าของเขาเอาไว้
ปลายนิ้วสัมผัสกับแก้มร้อนนั้น  ก่อนที่หัวใจจะค่อยๆเต้นแรงขึ้นมา…
“คุณเปลว”
“ครับผม”
“เรา…”
“…”
“เคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าครับ”
“!!!”
“ผมรู้สึก…คุ้นเคยเวลาที่ได้สัมผัสคุณ  หรือเวลาถูกคุณสัมผัสเหลือเกิน”
อีกฝ่ายไม่ตอบ  เขาใช้มือข้างหนึ่งจับมือผมไว้อีกทอด  พลิกฝ่ามือผมที่ประคองใบหน้าของเขาอยู่ให้หงายออกแล้วบรรจงจุมพิตลงไปอย่างแผ่วเบา
เพียงแค่นั้นก็ทำให้ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นระรัวขึ้น…
พองโตจนแทบจะระเบิดออกมา
“อย่าถามผมแบบนี้อีกนะ”
“ทำไม?”
“เพราะมันจะทำให้ผมทนไม่ไหวอีกต่อไป”
“ทน?  ทนอะไร  คุณอดทนอะไรอยู่งั้นเหรอ?”
หมับ!
คำถามไม่ถูกตอบ  ร่างของผมถูกเขาดึงเข้าหาแล้วกอดเอาไว้แนบแน่น  ศีรษะถูกกดลงให้ซบกับอกกว้าง  วงแขนแกร่งตวัดโอบผมเอาไว้สร้างความอบอุ่นที่ไม่เคยพานพบให้เกิดขึ้น…
ตึกๆ!  ตึกๆ!  ตึกๆ!
ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ผมคนเดียวเสียแล้วสิ  ที่หัวใจเต้นเร็วและแรง…
“สักวันคุณจะรู้เอง  ว่าผมกำลังอดทนเรื่องอะไร”
“…”
“คุณไฟครับ”
“…”
“ผม…”
กริ๊ง…กริ๊ง…
โทรศัพท์ในห้องดังขึ้นขัดบทสนทนา  ผมรีบผละตัวออกจากอ้อมกอดของไอ้หน้าหนวดเมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองชักจะปล่อยตัวและปล่อยใจเวลาอยู่กับมันมากเกินไปแล้ว
ถึงไม่อยากจะยอมรับก็เถอะ
แต่ผมคิดว่า...
ผมกำลังคิดอะไรที่มันน่ากลัวอยู่ในใจ!
อะไรบางอย่างที่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับผม!
ผะ…ผู้ชายด้วยกัน…
ผู้ชายด้วยกันเนี่ยนะไอ้ไฟ  อ๊ากกกกกก!
ติ๊ด!
“ว่าไง”
ไอ้หน้าหนวดหันไปกดปุ่มรับสายที่โทรศัพท์ของโรงแรมโดยไม่ยกหูขึ้น  ผมเลยได้ยินเสียงหวานๆของพนักงานฝ่ายต้อนรับที่หน้าฟร้อนท์ของโรงแรมตอบกลับมา
[คุณเปลวคะ  คุณตรีภพต้องการพบค่ะ]
“เดี๋ยวผมไปครับ”
[ค่ะ]
คุณตรีภพ…
ชื่อเหมือนสปอนเซอร์รายใหญ่ของการประกวดครั้งนี้เลยแฮะ
ผมมองไอ้หน้าหนวดที่จู่ๆสีหน้าก็เปลี่ยนไป  จากแรกๆดูมีความสุขอารมณ์ดีที่ได้ตอดนิดตอดหน่อยกับร่างกายของผม  ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่
กูตามอารมณ์มึงไม่ทันอย่างรุนแรง
“คุณไฟช่วยกลับไปก่อนได้ไหมครับ”
ไม่ต้องบอกกูก็จะกลับอยู่แล้วเถอะ!
“ได้แน่นอน”
“จริงสิ  ผมลืมบอกอีกอย่าง”
“อะไรครับ?”
“ถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้พยายามอย่าอยู่คนเดียวนะครับ  จะให้ดีอยู่กับกลุ่มผู้เข้าประกวดตลอดเวลา  และอย่าไปไหนมาไหนโดยไม่มีใครไปเป็นเพื่อนเด็ดขาด”
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ไม่มีหรอกครับ  ก็แค่…”
“…”
“ผมกลัวว่าพวกพนักงานโรงแรมผู้ชายจะมาจีบคุณไฟของผมต่างหาก”
กูก็อุตส่าห์รอฟังนึกว่ามีเรื่องคอขาดบาดตายอะไร!
ผมแยกเขี้ยวใส่ไอ้จอมลามกระดับพระกาฬก่อนจะลุกขึ้นเดินตรงไปที่ลิฟต์เพื่อกลับห้องของตัวเอง  ผมว่าแทนที่จะไประวังพวกพนักงานโรงแรม  ระวังไอ้ตัวข้างหลังที่นั่งกระหยิ่มยิ้มอยู่บนเตียงยังจะดีเสียกว่า!  อยู่ด้วยทีไรนอกจากจะหวิดเสียตัวแล้วยังหวิดเสียหัวใจอีก!
ว่าแต่…
เมื่อกี้ไอ้เวรนั่นมันจะพูดอะไรกับผมกันนะ?

วันนี้ทั้งวันผมตัวติดกับบาร์บี้เป็นตังเมตามคำเตือนของไอ้หน้าหนวด  ถึงจะคิดอยู่ในใจว่าแม่งโคตรไม่จำเป็นเลยก็เถอะ  แต่ก็ไม่อยากจะขัดคำสั่งมันสักเท่าไหร่  ถ้าวันดีคืนดีมันหึงหวงห่าเหวอะไรจนน่ามืดลักพาตัวผมไปปล้ำขึ้นมาผมจะทำไงล่ะ
ยิ่งระทวยทุกครั้งที่ถูกมันสัมผัสอยู่ด้วย
งานนี้มีหวัง…เสียตัวจริงๆไม่อิงนิยายชัวร์!
ไอ้ไฟฟันธง!
“น้ำ  เธอคิดเหมือนฉันไหม  ฉันไม่ค่อยชอบหน้าอีตาตรีภพสปอนเซอร์หัวล้านนั่นเลยอ่ะ  เวลามันมองพวกเราแต่ละคนนะ  ตางี้เป็นประกายอย่างกับพวกเราเป็นนางงามตู้กระจกที่มาเดินให้มันเลือกงั้นแหละ”
บาร์บี้กระซิบกระซาบพลางเหลือบมองไปทางไอ้ตรีภพที่กำลังมองผมอยู่
เหอะๆ  ไอ้หัวล้านนี่มันไม่ได้แค่มองผมนะ  แต่มันส่งจูบทำสายตาหวานเลี่ยนมาให้เป็นล้านรอบแล้วเหอะ  เอาซะตัวกูแทบจะชุบไปด้วยน้ำตาลอยู่แล้วเนี่ย!
“เขาอาจจะมองพวกเราด้วยสายตาเอ็นดู๊เอ็นดูก็ได้นะบารบี้”
“เอ็นดูบ้านเธอสิ  มันจ้องจะงาบพวกเราทุกคนมากกว่า  โดยเฉพาะเธอที่เป็นตัวเก็งของการประกวดคราวนี้!”
แต่กูเป็นผู้ชายนะ
ถ้ามันรู้มันคงไม่คิดจะงาบผมแน่นอน
“อี๋  ดูสิ  มันมองเธอจนน้ำลายหกใส่ถ้วยกาแฟแล้ว”
“เอาน่า  ยังไงเขาก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้อยู่แล้ว  ถ้าไม่มีใครคิดจะไปเล่นด้วยกับเขาน่ะนะ”
“ถ้าหล่อเหมือนกัปตันยู  หุ่นดีเหมือนเรน  ฉันจะรีบพลีกายถวายตัวให้เลย   แต่นี่ลงพุง  หัวล้านสะท้อนแสง  แถมยังหน้ามันเยิ้มจนฉันนี่อยากจะไปเอาขวดแก้วมารองใต้คางมากๆเลยแบบนี้  กราบขอร้องแถมเงินพันล้านฉันยังไม่เอาเลย!”
เอาขวดแก้วมารองใต้คาง…
เธอคิดว่าน้ำมันจากตัวมันจะสามารถเอามาทำน้ำมันพรายได้เรอะ!
“อย่าไปมองเขาเลย  เสีย…”
“มารยาท?”
“เสียสายตา!”
“อุ๊บ!”
บาร์บี้ปิดปากกลั้นขำแทบไม่ทัน  ผมเลิกสนใจไอ้ตรีภพอะไรนั่นแล้วหันไปให้ความสนใจกับคุณครูช่อผากที่ทางกองประกวดให้มาติวเข้มสอนเรื่องการเดินแบบ การโพสท่านู่นนี่นั่นเวลาถ่ายรูป
มาคิดๆดูแล้ว…
ไอ้หน้าหนวดหายไปไหนนะ  ผมไม่เห็นมันอีกเลยตั้งแต่หมดช่วงพักรอบบ่าย  ปกติป่านนี้จะต้องมานั่งจ๋องอยู่ตรงเก้าอี้ประจำแล้วจ้องผมตาไม่กระพริบแล้วสิ
ช่างมันเหอะ  ผมจะไปสนใจทำไม  ตอนนี้สิ่งที่ต้องสนใจคือการเอาตัวรอดให้ได้จากทุกสถานการณ์คับขัน  เผื่อเวลาเกิดเรื่องแล้วอัศวินมันดันไม่อยู่ขึ้นมา  ผมจะได้หาทางออกด้วยตัวเอง  คอยพึ่งพามันตบอดเวลาแบบนี้ก็อดกังวลไม่ได้เหมือนกันว่าพอถึงเวลาที่มันทวงบุญคุณคืน  มันจะเอาอะไรจากผม
เรื่องเมื่อคืนย้อนกลับมาในหัวอีกครั้ง…
นะ…นี่ผมกำลังมโนภาพอะไรบ้าๆอยู่ในหัววะเนี่ย!
หยุดคิด!  มึงหยุดคิดอะไรพิสดารแบบนั้นได้แล้วไอ้ไฟ  ถ้าพ่อรู้เข้ามีหวัง…มึงโดนตัดออกจากกองมรดกแหง!

กว่าจะจบครอสเดินแบบมาได้ก็ทำเอาแทบจะลากขาตัวเองออกมาจากห้องซ้อมกันเลยทีเดียว  กูเดินไปกลับเป็นร้อยรอบได้กว่าจะถูกใจครูช่อผกา  แถมยังต้องฝึกหมุนตัวเพื่อโพสท่าอยู่นานกว่าจะได้ที่ดีที่สุด  เล่นเสียมึนหัวจนแทบอ้วก!
การเป็นนางงามแม่งโคตรทรมานเลย  ไม่เข้าใจว่าทำไมน้ำถึงได้อยากเป็นนางงามนัก!
“กลับห้องดีกว่า  เมื่อจนจะยืนไม่ไหวอยู่แล้ว”
บ่นกระปอดกระแปดกับตัวเอง  เดินตรงไปที่ลิฟต์เพื่อจะกลับขึ้นห้องไปพักผ่อน  แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาไปทางไหนทั้งสิ้น  เสียงของบาร์บี้ก็ดังขึ้น
“น้ำ!  เดี๋ยวก่อนน้ำ!”
“อะไรเหรอ”
ถามกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า  ต่างจากบาร์บี้ที่ยังดูร่าเริงสุดๆ  คงเพราะการได้ฝึกอะไรแบบนี้มันเป็นเร่องของผู้หญิงล่ะมั้ง  พวกเธอถึงได้ไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อนกันเลย  ต่างจากผมที่สภาพเหมือนเพิ่งผ่านสมภูมิรบมา
แหงล่ะ…
ฟาดฟันกับรองเท้าส้นเข็มอยู่เป็นชั่วโมงเลยกว่ามันจะยอมเดินตรงๆโดยที่ผมไม่ล้มหน้าทิ่ม!
“คุณพิมเรียกให้ไปพบที่ห้องน่ะ”
“คุณพิม?  ยัยแม่มดน่ะเหรอ”
“ใช่  ไปที่ห้อง…อืม… 1701 นะ  คุณพิมรออยู่ที่นั่น”
“มันชั้นห้องหรูรองจากชั้นวีไอพีสุดสวีตของคุณเปลวเลยนี่  คุณพิมพักห้องนั้นเหรอ?”
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  เอาเป็นว่าเธอรีบไปเถอะ  ให้ยัยแม่มดรอนานๆมันจะไม่ดี”
“จ้าๆ  ขอบใจนะที่อุตส่าห์วิ่งมาตาม”
ผมหยิกแก้มบาร์บี้อย่างมันเขี้ยวก่อนจะขอตัวไปหายัยแม่มดที่ห้อง  จะว่าไปตอนช่วงที่ซ้อมเดิมเธอก็มองผมเป็นพิเศษเสียด้วยสิ  จ้องอย่างเอาเป็นเอาตายจนผมเผลอคิดไปว่าไอ้หน้าหนวดมาสิงร่างเธออยู่หรือเปล่าด้วยซ้ำ
หรือเธอจะจับผิดอะไรขึ้นมาได้!
อาจจะสงสัยว่าผมไม่ใช่ผู้หญิงอะไรเทือกนั้น?
ฉิบหาย  งานฉิบหายเข้ามารัวๆเลย!
เมื่อคิดแบบนั้น  ผมก็รีบตรงดิ่งไปยังห้อง 1701  ทันทีราวกับเหาะไป  แต่เอ๊ะ?  ไอ้หน้าหนวดมันบอกไว้นี่นาว่าห้ามอยู่คนเดียว  ห้ามแยกตัวไปไหนคนเดียว  อีกอย่างตอนนี้ไม่ร็ว่ามันไปมุดหัวอยู่ที่ไหนด้วยสิ  เอาไงดีวะ  จะไปหรือไม่ไปดี?
“แล้วถ้ายัยแม่มดเกิดสงสัยเรื่องนั้นขึ้นมาจริงๆจะทำไงล่ะ”
อย่างน้อยถ้าถูกจับได้จริง  การไปพบกันเป็นการส่วนตัวก็น่าจะมีเวลาพอให้ผมได้ขอร้องยัยแม่มดนั่น  เอาวะ!  เป็นไงเป็นกัน
ไม่นานก็มาถึงหน้าห้อง 1701 ทั้งชั้นเงียบกริบเหมือนไม่มีใครอาศัยอยู่เลย  ผมสูดหายเข้าเต็มปอด  สองมือกำชายกระโปรงไว้แน่น  คิดในแง่ดีไว้สิเว้ย  มึงอาจจะถูกเรียกขึ้นมาชมว่าวันนี้โพสท่าสวยหลังจากที่หมุนตัวอยู่เป็นร้อยรอบก็ได้!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ผมเคาะประตูห้องสามครั้งตามมารยาท  ทว่ากลับไม่มีเสียงใครตอบกลับมา  อ้าวเฮ้ยๆ  เรียกมาแล้วเงียบแบบนี้หมายความว่าไงฟะ  อย่ามาทำให้กังวลจะได้ไหม!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“…”
เงียบ…
ผมขมวดคิ้ว  นิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าคนข้างในยังไม่มีท่าทีจะออกมเปิดประตูให้เลย  ถ้ากูเปิดเข้าไปเองมันจะเสียมารยาทมากเกินไปหรือเปล่านะ  แต่ยัยแม่มดเป็นคนเรียกผมขึ้นมาเองนี่นา  เท่ากับว่าเป็นการเสียมารยาทแค่ครึ่งเดียวใช่ไหม…
แกร๊ก…
มือไปไวกว่าความคิด  เมื่อลองบิดลูกบิดแล้วปรากฏว่าดันเปิดออก  ผมค่อยๆเปิดประตูออกเล็กน้อยแล้วสอดตัวเดินเข้าไป  ภายในห้องเงียบไร้วี่แววของมนุษย์อาศัยอยู่  หรือบาร์บี้จะบอกเลขห้องผิด?  ว่าแล้วเชียว  ตงิดๆอยู่แล้วว่ากะอีแค่กรรมการคนหนึ่งจะได้อยู่ห้องหรูหราขนาดนี้เชียวเหรอ
 “คุณพิมคะ?”
ยังไม่วายส่งเสียงเรียกไปสักหน่อย  ผมเดินทิ้งห่างจากประตูห้องออกมาเรื่อยๆจนมาถึงโซนรับแขกด้านใน  แต่ก็ยังเห็นใครอยู่ดี
ท่าทางจะผิดห้องจริงๆเสียแล้วล่ะ
เคร้ง!
 จังหวะพลิกตัวหมายจะเดินกลับออกไปก็มีเสียงบางอย่างดังมาจากทางห้องอีกห้องหนึ่งที่อยู่ด้านซ้าย  ผมชะงัก  หันไปมองอย่างสงสัย  ค่อยๆสาวเท้าเดินทางห้องนั้นตามประสาคนอยากรู้อยากเห็น  คงไม่ใช่คุณพิมล้มหัวฟาดพื้นอะไรแบบนั้นหรอกนะ!
พอจินตนาการเตลิด  ตัวก็เตลิดไปด้วยเช่นกัน  ผมรีบบึ่งไปที่ห้องดังกล่าวนั้นด้วยความตกใจเพราะคิดว่าอาจจะเป็นคุณพิมที่ลื่นล้มหัวฟาดพื้นอยู่ก็เป็นได้  แต่ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง  ร่างกายก็ถูกจู่โจ่มจากด้านหลัง  ใครบางคนเข้ามารวมตัวกอดรัดผมเอาไว้แน่น
หมับ!
“เฮ้ย!”
“มาแล้วเหรอจ๊ะคนสวย”
สะ…เสี่ยงนี้มัน…
“คุณตรีภพ!”
ไอ้หัวพระอาทิตย์หน้ามันเยิ้มยิ้มหื่นทันทีที่ได้ยินผมเรียกชื่อมันด้วยความตกใจ  นี่มันเรื่องอะไรกันวะเนี่ย!  ทำไมห้องที่คุณพิมเรียกผมมาพบถึงมีไอ้เวรนี่สถิตอยู่ได้เล่า!
“ปล่อยนะ  คุณจะทำอะไร”
ถามเสียงเข้มพลางออกแรงสลัดไอ้เวรนี่ให้หลุด  แต่ก็ไม่ได้ผล  ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะได้ยินประวัติมันจากบาร์บี้มาคร่าวๆว่าสมัยมหาวิทยาลัย  มันเรียนยูโดมาด้วยนี่หว่า
งามไส้แล้วสิไอ้ไฟ!
สถานการณ์ชักอันตรายขึ้นแล้วสิ!
“ไม่เอาน่า  อย่าทำเหมือนไม่รู้เรื่องหน่อยเลย  จะเล่นตัวหรือไงจ๊ะ”
“พูดบ้าอะไรของคุณ  รู้เรื่องอะไร  ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ!”
“แน่ะ  ยังจะทำเล่นอีก”
กูบอกว่าไม่ได้เล่นไงโว้ยยยย!
“ไม่เอาน่า  ถ้าวันนี้หนูน้ำบริการเสี่ยได้ถึงใจเหมือนรุ่นพี่ตัวเก็งคนอื่นๆ  เสียรับรองเลยว่าตำแหน่งนางงามเวทีนี้จะเป็นของหนูน้ำอย่างแน่นอนจ้ะ”
ไม่พูดเปล่า  มือมันยังเลื้อยลงไปที่ต้นขา  พยายามจะสอดเข้ามาใต้กระโปง  หากแต่ผมก็ออกแรงปัดป้องอย่างสุดชีวิต
สิ่งที่มันพูดหมายความว่ายังไง  รุ่นพี่ตัวเก็งคนอื่นๆ?
เรื่องอะไรกันวะ!
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!  บอกให้ปล่อยไงเล่า!”
หงับ!
เมื่อพูดดีๆแล้วไม่ยอมฟัง  ผมก็จัดการดึงแขนมันขึ้นมาแล้วกัดไปเต็มปากเต็มคำราวกับกำลังแทะขาหมู  อีกฝ่ายร้องอ๊ากขึ้นมาเสียงดังลั่นก่อนจะปล่อยตัวผมให้เป็นอิสระ  แต่ยังไม่ทันจะได้วิ่งหนี  ข้อมือก็ถูกคว้าพร้อมกระชากให้หันกลับไปอย่างแรง
เพี๊ยะ!!!
ฝ่ามืออวบหนาปะทะเข้ากับใบหน้าแบบเต็มแรงจนรับรู้ได้ถึงรสเลือดในปาก  ร่างของผมล้มลงไปนอนจุ้มปุ้กอยู่บนเตียงอย่างพอดิบพอดี
“พูดจาดีๆไม่ชอบใช่ไหมหนูน้ำ  ชอบให้เสี่ยใช้กำลังหรือไง!”
“ทำแบบนี้มันผิดกฎหมายนะ  ฉันเอาเรื่องคุณได้นะจะบอกให้!”
“เอาเรื่องเหรอ   หนูน้ำจะเอาเรื่องอะไรเสี่ยจ๊ะ  ก็ในเมื่อนี่มันคือธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมานานแล้ว  หน้าที่ของตัวเก็งในทุกๆปีคืออะไร  หนูไม่รู้จริงเหรอ?”
“หน้าที่ของตัวเก็ง?”
“หึๆ  การประกวดนี้นอกจากจะไดรับเงินสนับสนุนจากเสี่ยอย่างมากมายแล้ว  ก็ยังมีคนในผลประโยชน์จากเสี่ยอีกมหาศาลเลย  หากส่งตัวเก็งของแต่ละปีมาทำให้เสี่ยพอใจ”
“หมายความว่ายังไง  คนที่ได้ผลประโยชน์?”
“หนูน้ำคิดว่าใครที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดล่ะจ๊ะ”
ไอ้เสี่ยหื่นกามแสยะยิ้มร้าย  ผมนิ่งคิดว่าคนๆนั้นคอใคร  ก่อนที่ใบหน้าของคนที่ผมไม่อยากให้เป็นเขาที่สุดจะปรากฏขึ้นมาในความคิด
“คุณเปลว…”
“ใช่ไหมล่ะ  เรื่องเงินทองมันไม่เข้าใครออกใคร  เพราะงั้น  ถึงหนูน้ำจะแจ้งความไปก็ทำอะไรเสี่ยไม่ได้หรอก  เพราะเรื่องมันจะไปจบลงที่หนูน้ำเข้าหาเสี่ยเองเพราะอยากได้ตำแหน่ง  แต่พอเสี่ยไม่เล่นด้วย  หนูน้ำเลยกุเรื่องหาว่าเสี่ยทำมิดีมิร้ายเพื่อเรียกคะแนนสงสารยังไงล่ะจ๊ะ”
“ไอ้เลว!”
ผมกำหมัดแน่น  ขบฟันกรามจนเส้นเลือดขึ้นไปด้วยความโกรธ
ไม่อยากจะเชื่อเลย  ไอ้หน้าหนวด  ไอ้เวรนั่นคิดจะขายผมให้กับไอ้เสี่ยตัณหากลับนี่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองงั้นเหรอ!
“อย่าให้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะจ๊ะหนูน้ำ  แค่ยอมเสี่ยเท่านั้น  แล้วหนูน้ำจะได้ทุกอย่าง”
ว่าพลางค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตัวเองออทีละชิ้นแล้วเข้ามาใกล้ผม  ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกโกรธ  ถ้าหากคนที่อยู่ตรงนี้เป็นน้ำตัวจริงไม่ใช่ผม  เธอจะมีชะตากรรมยังไง  ต้องทนตกนรกทั้งที่ยังเป็นมนุษย์แบบนี้ต่อไปอีกกี่ปี…
สงครามนี้มันน่ากลัวเกินกว่าที่ผมจะยอมให้น้องสาวมาเผชิญมันด้วยตัวเองแล้ว!
หมับ!
“หนีไปไหนไม่รอดหรอกจ้ะ  ชั้นนี้ทั้งชั้น  เสี่ยเหมาไว้หมดแล้ว”
ข้อเท้าสองข้างถูกจับแน่น  ผมพยายามตะเกียกตะกายหนีแต่ก็ไม่อาจจะสู้แรงช้างสารของมันได้  ไอ้เสี่ยตัณหากลับดึงขาผมอย่างแรงในครั้งเดียวก็สามารถลากผมกลับเข้าไปใกล้ได้แล้ว  โกรธก็โกรธ  เจ็บใจก็เจ็บใจ  อยากฆ่าไอ้หน้าหนวดก็อยากฆ่า  แต่เวลานี้…
เอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะไอ้ไฟ!
“มามะ  มาเป็นของเสี่ยนะจ๊ะเด็กดี”
“ฝันไปเหอะ!”
ถุ้ย!
ผมถุยเลือดในปากใส่หน้ามันเต็มๆ  พยายามหาช่องทางที่จะหนีแต่ก็ยากเสียเหลือเกิน  ทางเดียวที่จะหนีออกไปได้คือต้องจัดการกับตัวบอสอย่างไอ้เสี่ยนี่ก่อนนั่นแหละ!
แต่แค่ยืนข้างๆมัน  ตัวกูก็เท่าไม้จิ้มฟัน  ส่วนมันก็เสาไฟฟ้าแล้วเหอะ
จะเอาแรงที่ไหนไปสู้วะเนี่ย!
“อีนี่!  กูพูดดีๆไม่เข้าใช่ไหม!”
เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!  ตุ้บ!
“อ๊ะ!”
สองทีแรกโดนเข้าที่ใบหน้า  หากแต่ทีสุดท้ายเข้าเต็มๆท้องจนจุกขยับตัวไม่ได้อีกเลย
สองมือเลื่อนขึ้นกุมท้อง  หมดแรงที่จะตะแกยียกตะกายนี้ให้พ้นเงื้อมือมัจจุราชนี้…
บัดซบเอ๊ย!  เวลาแบบนี้…เวลาแบบนี้ทำไมผมยังนึกถึงไอ้เวรนั่นอีก  ไอ้ชาติชั่วที่เป็นคนขายผมให้กับไอ้เสี่ยนี้ด้วยตัวเอง!
“ปล่อย…”
ต้นคอถูกซุกไซร้  หากแต่ผมไม่มีเรี่ยวแรงใดๆจะปัดป้องอีกแล้ว  ทำยังไงดี… 
ช่วยด้วย…
“ช่วย…”
ช่วยผมด้วย…
“คุณเปลว…”


บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  หลังจากหายไปอีกหลายวัน  วันนี้ก็มาอัพแล้วน้า  ตอนนี้พี่ไฟของเรางานเข้าแบบุสดๆ  ใครจะเป็นอัศวินมาช่วยพี่ไฟกันน้า  จะใช่คุณเปลวหรือเปล่า?  แต่เอ๊ะ!  คุณเปลวเป็นคนขายพี่ไฟให้กับเสี่ยตัณหากลับเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองจริงๆเหรอเนี่ย?  มาเอาใจช่วยพี่ไฟกันด้วยน้า
อัพเดต : หน้าปกแบบตัดเส้นเสร็จแล้วนะคะ  สามารถหาดูได้ในเพจของบิวเลยเน้อ  คุณเปลวกับพี่ไฟงานดีมากมายยยยย


ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
บาร์บีี้รู้เห็นเป็นใจรึเปล่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
น้ำแย่แล้ววววว อิพี่เปลวหายไปไหนเนี่ยยย  :katai1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
จริง ๆ แล้วเป็นแผนของใครกันแน่

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ค้างอีกล่ะ อีห่าปาขี้แหละตัวเมี่ยงเลย

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ oiruop

  • เ รื่ อ ง โ ง่ โ ง่ นี่ ฉ ล า ด นั ก ⊙﹏⊙∥
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 470
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
    • https://www.facebook.com/book.yaoi?fref=ts

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
คุณเปลวช่วยด้วย  :ling3:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0






ตอนที่ 15
เพราะชอบถึงอิจฉา

 
“ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะหนูน้ำ  เสี่ยจะอ่อนโยนกับหนูน้ำกว่าทุกคนที่ผ่านมาเลยล่ะจ้ะ”
มือหยาบกร้านลูบไล้ต้นขาผมชวนให้สะอิดสะเอียนจนแทบจะอาเจียนออกมา  ไหนใครมันเคยบอกว่าเป็นอัศวินของผมไม่ใช่หรือไงวะ  แล้วผมกำลังตกอยู่ในอันตรายถึงขนาดนี้มัวไปมุดหัวอยู่ที่ไหนกัน!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ก่อนที่มือของไอ้เสี่ยตัณหากลับจะล้วงเข้าไปจับช้างน้อยของผมจนความแตก  เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นช่วยชีวิตผมเอาไว้เสียก่อน  ไอ้เสี่ยขมวดคิ้วมุ่นอย่างแปลกใจก่อนจะยอมผละออกไปจากตัวผม  แต่ก็ยังไม่ยอมเดินไปเปิดประตูให้กับผู้ที่มาเคาะ
“ใครน่ะ!”
“เอาอาหารมาส่งค่ะ”
“แต่ฉันไม่ได้สั่ง!”
“มีคนโทรไปสั่งจริงๆนะคะ  แล้วก็เป็นการเรียกเก็บเงินแบบทันทีที่มาส่งอาหารด้วย  ยังไงก็ช่วยออกมาดูรายการยืนยันก่อนได้ไหมคะ  ถ้าไม่ใช่ดิฉันจะได้กลับไปบอกที่ห้องอาหารให้ค่ะ”
คนด้านนอกตะโกนตอบกลับมาอีกครั้ง  ไอ้เสี่ยขยุ้มหัวอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะมองผมสลับกับทางไปหน้าประตูห้องอย่างครุ่นคิด
“รอเสี่ยเดี๋ยวเดียวนะจ๊ะหนูน้ำ  เดี๋ยวเราก็จะได้ไปสวรรค์ด้วยกันแล้ว”
ไปลงนรกเหอะไอ้ชาติชั่วเอ๊ย!
ผมรอจนไอ้เสี่ยเดินออกจากห้องไปแล้ว  พยายามเรียกพละกำลังที่ยังพอหลงเหลืออยู่ให้กลับมา  แม้จะมีเหลืออยู่เพียงน้อยนิด  แต่ก็ดีกว่านอนอยู่เฉยๆรอให้มันปล้ำ
โครม!
สังขารอันไม่เที่ยงพาผมเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าว  ก่อนจะมีเสียงดังโครมเหมือนอะไรบางอย่างกระแทกกับกำแพงดังตามมา  ไม่นานนัก  ร่างของคนที่คุ้นเคยถึงสองคนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า
“น้ำ!”
บาร์บี้ในชุดพนักงานของโรงแรมพุ่งเข้าพยุงผมไว้ด้วยสีหน้าตกใจ  ข้างหลังเธอคือไอ้หน้าหนวดที่กำลังมองผมด้วยแววตายากจะอธิบาย
“เธอไม่เป็นไรนะน้ำ  ไอ้เลวนั่นยังไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม”
“อืม   ไม่เป็นไร”
ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกนัก  แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ผมจะรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกามาได้แล้ว  สิ่งที่ผมสนใจมากที่สุดในตอนนี้  ไม่ใช่ไอ้หน้าหนวดที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับคนนั้น  แต่เป็น…
ผู้หญิงที่กำลังลูบหน้าลูบตาผมด้วยความเป็นห่วงคนนี้ต่างหาก
 
“ดื่มน้ำก่อนนะครับ”
ร่างสูงส่งแก้วน้ำให้  ผมรับมาถือไว้ตามมารยาทก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินมานั่งปุลงตรงที่ว่างข้างตัวผม
ตอนนี้ผม  คุณเปลว  และบาร์บี้มากระจุกรวมกันอยู่ที่ห้องของเขาเพื่อคุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  โดยที่ไอ้เสี่ยตัณหากลับนั่นยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ในห้องของตัวเองเพราะถูกไอ้หน้าหนวดอัดเข้าเต็มแรงจนสลบคาที่
“ไม่ใช่คุณใช่ไหม”
เปิดประเด็นถามเรื่องที่คาใจอยู่ออกไป  ไอ้หน้าหนวดขมวดคิ้วมุ่น  เลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้างเป็นเชิงให้ผมขยายความในคำถามของตัวเอง
“ไอ้เสี่ยนั่นบอกว่าทุกปีของการประกวด  ตัวเก็งทุกคนจะต้องถูกจับใส่พานถวายมันเพื่อล็อครางวัลเอาไว้  โดยคนที่ทำเรื่องทั้งหมดนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองก็คือคุณ”
“อ่า…ถามตรงจังเลยนะครับ”
“ก็ตอบมาสิ  ว่าคุณทำมันจริงๆหรือเปล่า”
“แล้วคุณไฟคิดว่าผมทำหรือเปล่าล่ะครับ”
“…”
“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน  ว่าคุณเชื่อใจผมบ้างไหม?”
ไอ้หน้าหนวดจ้องหน้าผมอย่างจริงจัง  นัยน์ตาที่เวลามองผมจะทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกมองอย่างทะลุปรุโปร่งไปถึงความคิดในใจไม่หลบสายตาเลยแม้แต่วินาทีเดียว
“ก่อนจะเรียกร้องความเชื่อใจจากผม  คุณเคยอธิบายในสิ่งที่ผมสงสัยบ้างหรือยัง  ถ้าตัวคุณเองยังมีหลายๆเรื่องที่ทำให้ผมไม่เชื่อใจ  แล้วผมคุณจะเชื่อใจคุณหรือเปล่าล่ะ”
“ช่างยอกย้อนจริงนะครับ”
มือหนาบีบปลายจมูกผมอย่างมันเขี้ยวจนผมต้องย่นจมูกใส่เขา
อย่ามาทำเหมือนกูเป็นเด็กอนุบาลนะเว้ย  จะมามันขงมันเขี้ยวอะไรฟะ
“เจ็บหรือเปล่าครับ  ไอ้เวรนั่นมันต่อยท้องคุณด้วยใช่ไหม”
ถามพลางปะกบฝ่ามือลงกับหน้าท้องแล้วลูบไปมาเบาๆ  สร้างความรู้สึกเสียววูบวาบให้ผมดีแท้  ต่างจากตอนที่โดนไอ้เสี่ยตัณหากลับนั่นสัมผัสอย่างสิ้นเชิง
“ทำไมถึงมาช่วยช้า”
“หืม?  ผมเหรอครับ”
“ใช่  ผมรอคุณมาช่วย  รอจนวินาทีสุดท้าย…”
อีกฝ่ายคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน  มือที่ลูบท้องอยู่เปลี่ยนเป็นรั้งเอวผมเข้าไปใกล้จนตัวเองแทบจะขึ้นไปนั่งบนตักเขาอยู่รอมร่อ  ใบหน้าหล่อเจ้าเล่ห์ยื่นเข้ามาใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจร้อนระอุของกันและกัน
“พระเอกก็ต้องปรากฏตัวในวินาทีสุดท้ายก่อนความหวังของนางเอกจะหมดลงไม่ใช่เหรอครับ  ถ้าไม่อย่างนั้นก็ไม่ประทับใจน่ะสิ”
อ๋อเหรอ!
กูประทับใจมากไอ้เวร!
มึงไม่รอให้มันปู้ยี่ปู้ยำก็เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยโผล่มาช่วยล่ะเว้ย  ไหนๆก็ปล่อยให้มันต่อยท้องกูจนลำไส้แทบแหลกละเอียดไปแล้ว!
“นี่  ใกล้ไปแล้วนะครับ”
หมับ!
พอจะถอยหน้าหนีใบหน้าของมันที่เลื่อนเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแตะกับแก้มผมนิดๆ  ก็กลายเป็นว่าถูกมืออีกข้างของเขากดท้ายทอยไม่ให้ถอยหนีได้เอาไว้แทน
ผมหลับตาปี๋เมื่อไอ้หน้าหนวดไล้ปลายจมูกไปตามแก้มผมอย่างแผ่วเบา   สองมือกำแน่น  หัวใจเต้นระรัว  แค่กลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจสัมผัสนี้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว  กลับกัน มันทำให้ผมรู้สึกดีจนหัวใจค่อยๆพองโตออกมา
อยากจะอยู่แบบนี้ไปนานๆ…
อยากจะถูกเขาสัมผัสแบบนี้ไปเรื่อยๆ…
“ขอโทษนะครับ  ที่ผมมาช้าจนทำให้คุณต้องเจ็บตัว”
น้ำเสียงทุ้มน่าหลงใหลเอ่ย  ก่อนจะกดปลายจมูกของตัวเองลงบนจมูกของผมราวกับกำลังหยอกล้อเล่น   อีกเพียงนิดเดียวริมฝีปากของเราก็จะสัมผัสกัน  น่าแปลกที่ผมกลับอยากให้มันสัมผัสกันเร็วๆ
“ถ้างั้นวันหลัง…ห้ามปล่อยให้ผมคลาดสายตาคุณไปอีกนะ”
“แน่นอนครับ  ผมจะไม่ปล่อยให้คุณคลาดสายตาอีกเด็ดขาด  จะจับล่ามโซ่เอาไว้เชยชมคนเดียวในห้องนี้เลย”
แบบนั้นก็เกินไปไหมไอ้หนวด!
ผมหัวเราะให้กับความคิดของเขา  เราต่างก็หัวเราะออกมาก่อนที่ความใกล้กันจะทำให้ต่างฝ่ายต่างหยุดชะงัก  ปลายจมูกที่สัมผัสกันอยู่ค่อยๆเคลื่อนออกจากกัน  โดยที่ริมฝีปากขยับเข้ามาใกล้กันแทน…
“…”
ไม่มีคำพูดใดๆเอื้อนเอ่ยออกมาได้อีก   ความหวานหอมที่ถูกส่งผ่านเรียวลิ้นนุ่มละมุนดูดความคิดไปจากหัวสมองของผมจนไม่เหลือ  สิ่งที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงแค่สวมกอดเขาเอาไว้แน่นราวกับต้องการจะอยู่แบบนี้ตลอดไป
“ให้ตายสิ  อย่าน่ารักแบบนี้บ่อยๆสิครับ  ผมหลงจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วนะ”
หลังจากจูบกันไปอย่างเนิ่นนานจนอากาศเริ่มจะหมด  คุณเปลวก็ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งแล้วพูดประโยคนี้ออกมา  ผมหน้าร้อนผ่าวกับคำพูดนั้น  รวมถึงอายในสิ่งที่เพิ่งทำลงไปเมื่อครู่ด้วย!
กะ…กูทำอะไรลงไป!
ทำไมถึงปล่อยตัวปล่อยใจให้ไอ้หนวดจอมลามกมันเชยชมได้ขนาดนี้เนี่ย!
ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย  แถมไอ้หน้าหนวดยังล็อคคัวผมไว้ไม่ให้หนีไปไหนอีกด้วย  มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมกันแน่  ยิ่งนับวันยิ่งรู้สึกว่าตัวเองต้องการสัมผัสจากผู้ชายคนนี้มากกว่าการได้ฟิชเชอริ่งกับบาร์บี้หรือพี่สาวไอ้ตูมตามเสียอีก  อย่าบอกนะว่า…
ทั้งใจและกายของผม…
ชะ…ชะ…ชอบ…
ไม่ๆๆๆ!  มึงหยุดคิดเรื่องน่ากลัวแบบนั้นเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ไฟ!  ลูกผู้ชายอกสามนิ้วอย่างมึงไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกันแน่ๆ!
ก็แค่การปลอมตัวเป็นผู้หญิงนานๆทำให้มึงสับสนเท่านั้นแหละ  เรียกสติกลับมาด่วนไอ้ไฟ!  เจ้าโลกของมึงยังใช้การในฐานะเพศชายได้อยู่นะเฟ้ย!
หมับ!
หัวสมองที่กำลังตีรวนกันวุ่นวายไปหมดถึงกับชะงักเมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสแปลกๆที่บั้นท้าย  ผมตวัดสายตาคมกริบหันไปมองเจ้าตัวปัญหาทันที
มึงนี่มันเผลอไมได้เลยจริงๆ!  มือไวปานปลาหมึกสมฉายาไอ้หนวดเลย!
พลั่ก!
ไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ  ผมจัดการยกสองขาถีบไอ้คุณเปลวจนปลิวตกโซฟาไปโทษฐานที่มันทำเนียนมานวดคลึงบีบเคล้นบั้นท้ายของผมในขณะที่กำลังใช้สมองคิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วง
“ฮ่าๆๆๆ”
“ขำอะไรของคุณ!”
“ขำตัวเองน่ะครับ  กะแล้วว่าถ้าจับปุ๊บต้องโดนคุณถีบกระเด็นแน่ๆ  แต่ก็ยังทำ”
“เพราะคุณมันลามกเกินเยียวยาไง”
หรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างเหนื่อยใจ  ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปต้องมีสักวันที่ผมเผลอไผลจนยอมเสียตัวให้มันจริงๆแน่นอน  ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็…
ผมจะไม่มีวันกลับมายืดอกอย่างภาคภูมิในฐานะผู้ชายอกสามนิ้วได้อีก!
ต้องหาทางทำอะไรสักอย่างก่อนวันนั้นจะมาถึงแล้วล่ะ
ติ๊ง!
ความคิดถูกหยุดเมื่อเสียงลิฟต์ดังขึ้น  บาร์บี้เดินหน้าถอดสีเข้ามาในห้อง  จริงสิ  ก่อนหน้านี้เธอขอตัวไปตามหาใครสักคนนี่นา  แล้วก็หายไปเลย  ทิ้งไว้แค่ผมกับไอ้หน้าหนวดนี่สองคน
จะว่าไป…
ผมยังไม่ได้ถามเธอถึงเรื่องที่สงสัยเลยนี่นา
“เป็นอะไรเหรอครับคุณบาร์บี้  ทำไมสีหน้าดูไม่ดีเลย”
“คะ…คือว่า…”
“ทำไมทำแบบนี้ล่ะบาร์บี้”
ผมแทรกบทสนทนาของทั้งสองคนแล้วลุกขั้นยืนประชันหน้ากับบาร์บี้ตรงๆ  เธอเบิกตากว้างหน้าซีด  ส่ายหน้าไปมา
“ไม่ใช่นะน้ำ  ฉันไม่ได้หลอกเธอไปให้ไอ้เสี่ยนั่นนะ”
เธอเอ่ยทั้งน้ำตา  เดินเข้ามาจับแขนผมแล้วเขย่าเบาๆเพื่ออ้อนวอน  แต่ผมก็สะบัดออกทันทีอย่างไม่ใยดี
ผมเชื่อแล้วล่ะว่าผู้หญิงมีน้ำตาเป็นอาวุธ  และยามที่เธอมีความโกรธบวกกับความริษยาอยู่เต็มหัวใจ  มันทำให้พวกเธอสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่สนใจว่าเรื่องที่ทำนั้นจะสร้างความเจ็บปวดให้ใครบ้าง
“งั้นบอกมาสิว่าเธอไปหาใครมา”
“ฉัน…”
“…”
“ฉันไปหาทีมงานที่เป็นคนมาบอกฉันเพื่อพามายืนยันกับเธอ  แต่ว่า…”
“ไม่เจอใช่ไหมล่ะ”
“อะ…อืม”
“ที่เธอไม่เจอก็เพราะทีมงานคนนั้นไม่ได้มีตัวตนอยู่ตั้งแต่แรก  แต่เธอโกหกเพ่อหลอกฉันไปให้ไอ้เสี่ยบ้านั่นต่างหาก!  นี่ไงคือความจริงของเรื่องนี้!”
ผมเขย่าตัวบาร์บี้อย่างบ้าคลั่ง  เพียงแค่คิดว่าถ้าคนในวันนี้เป็นน้ำตัวจริงไม่ใช่ผม  ผมก็แทบจะบ้าแล้ว  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนเดียวที่ผมเชื่อใจและไว้ใจมาตลอดในการประกวดคราวนี้จะกลายเป็นคนที่ร้ายที่สุดไปได้
“ไม่ใช่นะน้ำ  ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ  มีทีมงานมาบอกฉันจริงๆ  เชื่อฉันเถอะน้ำ  ฉันไม่มีทางทำร้ายเธอแน่นอน  ฉันไม่มีทางทำร้ายเธอ  ฮือ…”
บาร์บี้สะอื้นไห้ออกมาอย่างหนัก  แต่หัวใจของผมมันด้านชาไปหมดแล้ว  ความร้ายกาจของผู้หญิงพวกนี้ทำให้ผมต้องใจแข็งขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
หมับ…
“พอได้แล้วครับคุณน้ำ”
ไอ้หน้าหนวดที่ไม่มีบทอยู่นานเอ่ยขึ้นพร้อมกับกระชากตัวผมออกห่างจากบาร์บี้  เขาเดินเข้าไปดึงเธอให้หลบอยู่ข้างหลังของตัวเอง
“ถอยไป  คุณจะปกป้องคนผิดทำไม  ผู้หญิงคนนี้หลอกฉันไปให้ไอ้เสี่ยนั่นนะ!”
“ไม่ใช่คุณบาร์บี้หรอกครับ”
“คุณรู้ได้ยังไง”
“ผมเชื่อว่าไม่ใช่เธอ  คุณบาร์บี้ไม่ใช่คนแบบนั้น”
ให้ตายสิ…
ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนถูกไม้หน้าสามตีแสกหน้าลงมา  ในอกมันเต้นตุ้บๆ  รู้สึกผิดหวังและเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก
“หมายความว่าคุณเชื่อบาร์บี้”
“ครับ”
“แต่ไม่เชื่อฉัน…”
“…”
“ได้   โอเคค่ะ  ฉันเข้าใจแล้ว  ฉันเป็นคนโกหกเองแหละ  ฉันไปหาไอ้เสี่ยนั่นเพื่อเอาตัวเข้าแลกกับรางวัลชนะเลิศ  ไม่ได้มีคนมาหลอกฉันไปให้มันเลยแม้แต่คนเดียว  ฉันเป็นคนเสนอหน้าเข้าไปให้มันเชยชมเอง  ฉันเอง!  พอใจหรือยังล่ะ!”
“คุณน้ำ  ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ  ผมไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อคุณ”
“ฉันไม่อยากฟัง!”
ผมตวาด   รู้สึกได้ว่าขอบตามันร้อนผ่าว  มือเล็กๆของบาร์บี้ที่กอดแขนไอ้หน้าหนวดไว้แน่นในตอนนี้กรีดหัวใจผมให้เจ็บยิ่งกว่าตอนโดนไอ้เสี่ยมันต่อยท้องเสียอีก
“เอาเป็นว่าตั้งแต่นี้ต่อไป  คุณไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก  ฉันจะไม่มีทางไว้ใจคนที่ไม่เชื่อคำพูดของฉันเด็ดขาด”
“คุณน้ำ”
“ปล่อย”
“ผมไม่ปล่อย  เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง  คุณกำลังไม่มีเหตุผล”
“เออ!  ฉันไม่มีเหตุผล  คุณก็ไปอยู่กับผู้หญิงที่เต็มไปด้วยเหตุผลข้างหลังคุณก็แล้วกัน!”
บิดข้อมือออกจากการเกาะกุมของเขาได้ในที่สุด
ผมมองไอ้หน้าหนวดและบาร์บี้ด้วยสายตาผิดหวังอย่างถึงที่สุด…
คนหนึ่งก็เพื่อนในการประกวดที่ผมไว้ใจ
อีกคนก็คนที่ผมเชื่อใจมาตลอด…
วันนี้มันวันเส็งเคร็งอะไรกันวะเนี่ย!
 
ท้ายที่สุดแล้วผมก็ปลีกวิเวกตัวเองมานั่งที่สระว่ายน้ำคนเดียว  เพราะกลับห้องไปก็ต้องเจอบาร์บี้ในห้องอีก  ผมยังไม่พร้อมเจอหน้าเธอในตอนนี้   ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องทำเรื่องร้ายกาจขนาดนี้ด้วย  ทั้งที่เธอเองก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน  เธอน่าจะเป็นคนที่เข้าใจมากที่สุดว่าหากผู้หญิงถูกพรากความบริสุทธิ์ไปโดยไม่เต็มใจ  จะต้องเหมือนตกนรกทั้งเป็นขนาดไหน  แล้วทำไม…
ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น?
ผมนึกว่าที่ผ่านมาเราเข้ากันได้ดีและจะเป็นเพื่อนกันได้เสียอีก  แต่เหนือสิ่งอื่นใด  คนที่ทำให้ผมผิดหวังและเจ็บปวดมากที่สุดไม่ใช่บาร์บี้  แต่เป็น…
หน้าตาลามกของไอ้หน้าหนวดลอยขึ้นมาเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืน  ภาพที่เขาเข้ามาแยกผมที่กำลังบ้าคลั่งให้ออกห่างจากบาร์บี้  ภาพที่เขาปกป้องเธอมันยังชัดเจนในความทรงจำ
ทำไมเขาถึงไม่เชื่อผม  ทำไมเขาถึงไม่เชื่อว่าบาร์บี้เป็นคนหลอกผมไปให้ไอ้เสี่ยเวรนั่น!
“ไหนบอกไม่ชอบไงวะ”
คนไม่ชอบกันเขาปกป้องกันอย่างออกนอกหน้าแบบนี้หรือไง  ให้ตายสิ  ทำไมต้องกลายเป็นผมที่มานั่งคิดมากอยู่คนเดียวแบบนี้ด้วย!
ยิ่งกว่านั้น  หัวใจที่ร้อนรุ่มตอนที่เห็นเขาเข้าข้างบาร์บี้  มันคือความรู้สึกอะไรกันแน่  ผมไม่เคยรู้สึกแบบนั้นมาก่อนก็เลยไม่เข้าใจ  กะอีแค่คนลามกคนหนึ่งที่ไม่เข้าข้างผมเท่านั้น  ไม่เห็นจำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจถึงขนาดนี้เลย!
“โธ่เว้ย!  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่วะเนี่ย  ไม่เข้าใจแล้วโว้ย!”
ถ้าไม่ติดว่ากลัวเจ็บจะวิ่งเอาหัวพุ่งชนกำแพงสักสองสามทีเผื่อจะหยุดคิดมากเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“กรี๊ด!  ตกใจหมดเลย  นึกว่าผีแม่ม่ายที่ไหนมานั่งทึ้งหัวตัวเองอยู่ริมสระ!”
เสียงแว้ดๆของมะนาวดังขึ้นจากด้านหลัง  ตกใจเล็กน้อยเพราะคิดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอกับเธอที่นี่ในเวลาแบบนี้
มะนาวไม่พูดอะไรต่อ  เธอเดินมาหย่อนขาลงไปในสระน้ำข้างๆตัวผมก่อนจะชูแขนขึ้นบิดขี้เกียจไปมา  เสื้อคุลมระบายลูกไม้สีขาวบางๆที่เธอใส่มามันไม่ได้ช่วยปิดบังอะไรต่อมิอะไรที่โคตรใหญ่โตของเธอเลยสักนิด
แม้เจ้าโว้ย…  ใหญ่โตมโหฬารปานดาวอังคาร
“บรรยากาศเงียบสงบดีแฮะ”
“ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“ถ้านอนจะเห็นฉันมานั่งอยู่ตรงนี้เหรอยะ”
“ฉันผิดเองที่ถาม”
ผมตอบกลับเรียบๆ  ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะมาต่อปากต่อคำกับใครทั้งนั้น  รู้สึกแค่ว่าอยากจะกลับขึ้นไปบนห้องไอ้หนวดแล้วกระทืบๆมันให้จมดินฐานที่ไปเข้าข้างคนอื่นที่ไม่ใช่ผม!
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ดูออกด้วยเหรอ”
“สีหน้าเธอมันแสดงออกราวกับต้องการให้คนอื่นถามว่าเป็นอะไรเสียขนาดนั้น  ใครดูไม่ออกก็บ้าแล้วย่ะ!”
“เฮ้อ!”
ไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายแต่ถอนหายใจยาวอีกครั้งแทน
แม้แต่ตัวเองยังไม่เข้าใจตัวเอง  แล้วผมจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนนี้ให้คนอื่นฟังได้ยังไงกันล่ะ?
แค่ทำความเข้าใจกับหัวใจและระบบความคิดยังยากเลย…
“ท่าทางแบบนี้…”
“…”
“ปัญหาเรื่องหัวใจชัวร์ๆ!”
ผมเบิกตากว้าง  หันขวับไปมองมะนาวอย่างแปลกใจที่เธอทำเหมือนอ่านความคิดของผมออก
“ธะ….เธอรู้ได้ยังไง!”
“มีไม่กี่เรื่องหรอกย่ะที่จะทำให้มนุษย์เราทำหน้าซังกะตายได้ขนาดนี้น่ะ”
“งั้นเหรอ…”
“ฉันจะไม่ถามอะไรเธอมากหรอกนะ  แต่อยากจะแนะนำว่า  อะไรก็ตามที่ทำให้เธอกังวลอยู่น่ะ  มันจะง่ายกว่าไหมถ้าแค่พูดหรือถามออกไปให้มันจบๆ”
“…”
“ไม่ว่าคำตอบที่ได้กลับมาจะเป็นยังไงก็ตาม”
“แล้วถ้าสิ่งที่ฉันต้องการจะรู้ไม่ใช่คำตอบจากอีกฝ่าย  แต่เป็น…คำตอบจากตัวของฉันเองล่ะ”
“…”
“ฉันไม่เข้าใจว่าตอนนี้ตัวฉันกำลังคิดหรือรู้สึกยังไง  การไม่เข้าใจตัวเองมันทำให้ฉันอยากจะเป็นบ้ายิ่งกว่าการไม่เข้าใจคนอื่นเสียอีก”
ยิ่งพูดก็ยิ่งงง  ผมไม่เคยต้องมาวุ่นวายใจขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต  ทั้งหมดมันเกิดขึ้นก็เพราไอ้หน้าหนวดคนเดียว!
เพราะมึงเข้ามาในชีวิตกู  ทำให้กูสับสนไปทุกอณูความคิดแล้วเนี่ย!
จะขี้จะเยี่ยวก็ยังสบสน  ชีวิตแม่งบัดซบฉิบหายเลยโว้ย!
“ช่วยอธิบายพอสังเขปให้ฟังได้หรือเปล่า  มาแบบนี้ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  เธอเคยเป็นแบบนี้ไหม  รู้สึกไม่หงุดหงิด  รู้สึกโกรธ  รู้สึกเหมือนถูกหักหลัง  เวลาคนที่เราเชื่อใจไปเข้าข้างหรือปกป้องคนอื่น  ฉันอยากจะกระทืบเขาให้หายแค้นเวลาที่เขาไมได้อยู่ข้างฉันเหมือนทุกที”
ผมอธิบายสิ่งที่ทำให้งุ่นงานใจอยู่ตอนนี้ให้มะนาวฟัง  ซึ่งหลังจากฟังจบเธอก็หัวเราะร่วนออกมาด้วยท่าทางขำขันสุดๆ
ประทานโทษนะครับคนสวย  ผมกำลังเครียดแล้วคุณมาหัวเราะแบบนี้คืออะไร!
“หัวเราะอะไรเหรอ”
“ก็หัวเราะเธอน่ะสิถามได้  ความรู้สึกชัดเจนขนาดนี้แล้วยังจะมาบอกว่าไม่เข้าใจเนี่ยนะ  ถามจริงเหอะ  ไม่เคยมี่ความรักเลยหรือไง  ฮ่าๆๆๆ”
“คะ…ความรัก!  เธอหมายความวายังไงน่ะมะนาว  ความรักอะไร!”
“นี่  ฉันจะบอกอะไรให้ฟังนะแม่คนซื่อบื้อ  ไอ้อาการทั้งหลายทั้งแหล่ที่เธอเล่ามาทั้งหมดน่ะ  มันเป็นอาการของคนที่…อิจฉา”
“อิจฉา?”
ผมทวนคำ  มะนาวพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มต้นอธิบายอีกครั้ง
ถ้าขอเวลานอกวิ่งไปหากระดาษมาจดสิ่งที่เธออธิบายเอาไว้ประกอบการเรียนรู้ในภายภาคหน้าจะเป็นไรไหมนะ?
“ใช่  อิจฉา เธออิจฉาที่คนที่เขาทำดีด้วยไม่ได้มีแค่เธอ  เพราะเธออยากให้เขาทำดีกับเธอคนเดียว  เธอโกรธที่เขาไม่เชื่อเธอแต่ไปเชื่อคนอื่นนั่นก็เพราะเธอตั้งความหวังกับเขาไว้มาก  ความรู้สึกทั้งหมดนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นเลยถ้าหากว่าตัวเธอน่ะ…”
“…”
“ไมได้ชอบเขา”
“…”
“ทั้งหมดเป็นเพราะว่าเธอชอบ”
“…”
“เพราะชอบถึงอิจฉา”
“…”
“พูดแบบนี้เข้าใจง่ายกว่าไหม”
มะนาวยิ้มอย่างใจดี  คำพูดของเธอฉายซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว  ภาพเหตุการณ์ตอนที่ขอบตาผมร้อนผ่าวเมื่อไอ้หน้าหนวดมีท่าทีปกป้องบาร์บี้มากกว่าผมย้อนกลับเข้ามาในหัว…
 
‘เพราะชอบถึงอิจฉา’
 
นี่ผม…
…ชอบเขาสินะ


 
 
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  หลังจากหายไปนานอีกหลายวัน  วันนี้กลับมาอัพแล้ว  ได้หยุดปีใหม่ประมาณ 5-6 วัน  ก็จะมาอัพให้ได้อ่านกันทุกวันเหมือนเดิมก่อนหายไปทำงานอีกนะคะ T^T  ตอนนี้ดูเหมือนว่าพี่ไฟของเราจะรู้ใจตัวเองขึ้นมาบ้างแล้ว  แต่ดูเหมือนจะมีอุปสรรคความรักอยู่แฮะ  บาร์บี้เธอร้ายจริงหรือไม่?  แล้วคุณเปลวทำไมถึงเชื่อใจบาร์บี้ขนาดนั้น  มีความลับอะไรระหว่างทั้งสองคนหรือเปล่านะ?
 
อัพเดตความคืบหน้า  หน้าปกเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ  สามารถตามไปส่องได้ที่เพจของบิวเลยจ้า  https://www.facebook.com/bewjuliet/



ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
มะนาวกลายมาเป็นที่ปรึกษาที่ดีเลยนะเนี้ยะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด