(จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (จบแล้วจ้า) He is the Star เขาวานให้ผมเป็น "ดาว" อัพบทส่งท้าย (07/03/60)  (อ่าน 59630 ครั้ง)

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
มะนาวเป็นเพื่อนที่ดีได้นะ แบบ คงไม่แทงข้างหลังแล้วอ่ะ แต่จะสู้ในการแข่งขันแบบซึ่งๆหน้า

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
อ้าวๆ ไม่มีกล้องวงจรปิดติ หาค่ะหา พ่อพระเอกกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ใครแว้บงการ

ออฟไลน์ Frankdar

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 67
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ไฟมะนาวแล้วกัน  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0





ตอนที่ 16
หักห้ามใจ

 
“ว่ายังไงนะ!  พูดจริงเหรอมะนาว”
ผมร้องถามมะนาวอย่างดีใจหลังจากฟังเรื่องที่เธอเล่าจบ
“จริงสิ  ฉันจะโกหกทำไม”
ในที่สุด…ในที่สุดวันที่ไอ้ไฟรอคอยก็มาถึง!
อีกสองวันจะถึงวันคัดเลือกรอบต่อไป  ซึ่งหมายความว่าจะต้องมีแปดคนที่ไม่ได้ไปต่อในการประกวดคราวนี้  และทุกครั้งในรอบคัดเลือก  ทางกองประกวดจะเปิดให้ผู้ชมลาติพี่น้องของผู้เข้าประกวดเข้ามาหาได้  และนั่นหมายถึง…
ผมจะได้เจอน้ำ!  จะได้เจอไอ้ตูมตาม!
ช่างน่ายินดีอะไรเช่นนี้  โอ๊ยยยย  ดีใจจนอยากตะโกนดังๆ
“ว่าแต่ฉันถามจริงๆนะ  เธอกับบาร์บี้มีปัญหาอะไรกันเหรอ  วันนี้ทั้งวันฉันไม่เห็นพวกเธออยู้ด้วยกันเลยนะ  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตัวติดกันอย่างกับตังเม”
“เปล่านี่  ไม่มีอะไร”
ผมปฏิเสธ  ความจริงเมื่อคืนพอกลับขึ้นไปบนห้อง  บาร์บี้ก็พยายามชวนผมคุย  พยายามจะเข้าหาและอธิบาย แต่เป็นผมเองที่หลบเลี่ยงเธอตลอด  และทำเหมือนเธอเป็นเพียงธาตุอากาศ  ส่วนไอ้หน้าหนวดก็ได้ยินว่าถูกไอ้เสี่ยตัณหากลับเรียกไปพบตั้งแต่เช้า  ไม่รู้ว่าเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นกันถึงไหนแล้ว   บางทีอาจจะถูกถอนสปอนเซอร์ออกก็เป็นได้
“อ๊ะ  คุณเปลวนี่นา  ไปพบสปอนเซอรตั้งแต่เช้า  เพิ่งจะออกมาเหรอเนี่ย  มีเรื่องอะไรไหมนะ”
พูดถึงก็มาพอดี  ตายยากเหมือนกันนะไอ้เวรนี่
ผมแอบเหล่มองมันเล็กน้อยเพราะแอบอยากรู้ว่าสรุปแล้วเรื่องจบลงยังไง  สีหน้าของไอ้หน้าหนวดยังดูอารมณ์ดีเหมือนเดิม  เพิ่มเติมคือความปลิ้นปล้อน  กะล่อน ตอแหล! ทำเป็นยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้คิดอะไรกับบาร์บี้  แต่สุดท้ายก็กลืนน้ำลายตัวเอง!
การกระทำสวนทางกับคำพูดทุกอย่าง
เฮอะ!
ละ…แล้วนี่กูจะมาโกรธทำตัวเป็นสาวน้อยไปทำไมฟะเนี่ย!  แมนๆอ่ะแมนๆ  สะกดให้เป็นหน่อยไอ้ฟายเอ๊ยยย!
“!!!”
เกิดอาการลนลานขึ้นมาทันทีเมื่อสายตาเจ้าเล่ห์ตวัดมาทางผม
ไม่ต้องมามองกูหรอกไอ้คนทุเรศ!   กลับไปมองแม่ตุ๊กตาบาร์บี้ของมึงโน่นนนนน!
“เป็นอะไรมากไหมยะ  ทำหน้าผีเข้าผีออกอยู่ได้  ให้ฉันตามหมอจิตเวชให้เอาหรือเปล่า”
มะนาวที่ยืนอยู่ข้างกายตลอดเวลาเอ่ยถามพลางยกมือขึ้นแตะหน้าผากผมเพื่อวัดไข้   การกระทำของเธอทำให้ไอ้หน้าหนวดที่ยังคงยืนจ้องผมอยู่ตลอดเวลาถึงกับหัวเราะพรืดจนผมต้องแยกเขี้ยวใส่มันเป็นการขู่
แล้วคิดว่าคนอย่างมันจะกลัวไหม?
คำตอบคือไม่!
เพราะหลังจากเจอผมแยกเขี้ยวใส่  ไอ้หนวดเวรตะไลก็ทำท่าส่งจูบมาให้ผมตามสไตล์กะล่อนของมัน  ถ้าไม่ติดว่ากูกลัวคนอื่นเห็น  พ่อจะจับเอารอยจูบที่ลอยละลิ่วมาตามลมเอามากระทืบให้จมดินเลย!
“เสร็จกิจกรรมของวันนี้แล้วใช่ไหม  ฉันขอตัวไปเดินเล่นก่อนนะ  ไม่อยากอยู่ในนี้เลย  บรรยากาศไม่ดี”
“บรรยากาศไม่ดีตรงไหนยะ  แค่คุณเปลวปรากฏตัวออกมา  โลกทั้งใบก็เป็นสีชมพูแล้วย่ะ”
คุณพระช่วย!
แม้แต่มะนาวก็ยังหลงเสน่ห์ไอ้หน้าหนวดนั่นเรอะ!
แต่เอาเถอะ  จะไปว่าเขาก็ไม่ได้  ตัวผมเองยังมาตายน้ำตื้นเลยเหมือนกันนี่นา  ถึงจะยังงงๆว่าทำไมถึงไปชอบคนอย่างมันได้ก็เถอะ
เพศแม่งก็เพศเดียวกัน
กวนตีนก็กวนตีน
ลามกก็ลามก
มือก็ไวยิ่งกว่าโคตรพ่อโคตรแม่ปลาหมึก
ไม่มีเหี้ยไรดีสักอย่าง  แล้วทำไมกูถึงไปชอบมันได้ล่ะเนี่ย
ทำไม!  ทำไม!  ใครก็ได้ตอบกูที!
ผมคิดว่าตัวเองควรไปหาที่สงบจิตสงบใจก่อนที่จะคิดอะไรฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้    อีกอย่าง  ผมไม่อยากให้ไอ้หน้าหนวดมันมารู้ความรู้สึกในใจของผมด้วย  ถ้าหากมันรู้ว่าตอนนี้ผมหลงคารมแอบชอบมันไปเรียบร้อยแล้วล่ะก็…
มีหวังได้กลายเป็นลูกไก่ในกำมือแหงๆ!
ใครจะยอมศิโรราบให้คนอย่างมันง่ายๆกันเล่า
ชาติหน้าตอนบ่ายๆไอ้ไฟคนนี้ก็ไม่มีวันหงอให้หรอกโว้ย  กูจะพยศจนกว่ามึงจะเป็นฝ่ายศิโรราบให้กูเอง  ไม่เชื่อคอยดู!
ผมสะบัดหน้าเชิดใส่ไอ้หน้าหนวดที่ยืนทำปากขมุบขมิบส่งยิ้มหวานให้ผมไม่เลิก  เรียกได้ว่าสะบัดหน้าทีเดียวคอเคล็ดไปสามชาติ…
ชักสงสัยแล้วสิว่าพวกผู้หญิงที่ชอบเชิดใส่ผู้ชาย...หัวของพวกเธอไม่หลุดออกจากคอบ้างเหรอ?
“อ๊ะ!”
หนีเสือปะจระเข้จริงๆให้ดิ้นตาย!
ผมชะงักเมื่อตรงหน้าคือไอ้เสี่ยตัณหากลับที่ออกมาจากประตูลิฟต์พอดี  มันเองก็ชะงักไปเหมือนเมื่อเห็นผม  อะ…เอาไงดีวะ  จะถูกลากไปปู้ยี่ปู้ยำอีกไหมล่ะเนี่ย
“ไอ้แก่!  มัวทำอะไรอยู่  จะกลับไหมบ้านน่ะ!”
เสียงแปร๋นยิ่งกว่าเสียงช้างดังขึ้นจากด้านหลัง  ผมรีบมูฟตัวเองเข้าไปหลยอยู่หลังเสา เ ปิดทางให้คุณผู้หญิงท่านหนึ่งที่ลักษณะลำตัวใกล้เคียงกับแม่ช้างเป็นอย่างมาก  เธอเดินดุ่มๆเข้าไปหาไอ้เสี่ยตัณหากลับก่อนจะดึงหูมันจนแทบจะยานติดพื้น
โอ้พระเจ้า!
มนุษย์เมียชัดๆ!
“กะ…กลับจ้า  กลับแล้วจ้าที่รัก”
“ไม่ต้องมาที่รงที่รัก!  รู้ไหมว่าวันนี้ฉันมีประชุมกี่ที่  อย่าให้ต้องมาเสี่ยเวลาตามจับผัวเจ้าชู้อย่างแกบ่อยๆจะได้ไหมฮะ!”
“โอ๊ยๆๆ  ที่รักจ๋า  เบาๆจ้ะเบาๆ  คนมองกันใหญ่แล้ว”
ภาพไอ้เสี่ยมหาอำนาจเมื่อคืยหายไปไหนหมดแล้วล่ะ…
ผมยืนมองไอ้เสี่ยถูกเมียดึงหูลากออกจากโรงแรมไปอย่างงงๆ  นอกจากมันจะไม่แม้แต่เหลือบมองผมแล้ว  ผมยังรู้สึกว่าตัวเองโคตรจะปลอดภัยและไม่มีวันตกเป็นเป้าหมายของไอ้เสี่ยนี่อีกแน่นอน
เพราะอะไรกันนะ?  จะบอกว่าแค่เมียมาก็เลยไม่สนใจผมแล้วงั้นเหรอ?
มันจะดูง่ายไปหน่อยไหม?
“มาอยู่ตรงนี้เอง”
“เฮ้ย!”
ร้องลั่นพลางกระโดดถอยห่างออกจากไอ้หน้าหนวดที่ไม่รู้มุดรูไหนโผล่ออกมา  มันทำเป็นชะโงกหน้าลงมาพูดใกล้ๆหูของผมจนลมหายใจเป่ารดที่ต้นคอเบา
สะ…สยิวกิ้วเป็นอย่างมาก
ไอ้ไฟอยากตายโว้ยยย!  อยู่ใกล้แล้วใจสั่นฉิบหาย  แทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว!
“มี’ไร”
“ว้า  ทำไมพูดกับผมไม่เพราะเลยล่ะครับ  งอนอะไรเหรอ  หืม?”
มึงไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานกับกูเลยไอ้คนเจ้าชู้!
“ไปไกลๆเลย  ไม่อยากเห็นหน้าเว้ย”
“เดี๋ยวสิครับ  โกรธเรื่องเมื่อคืนเหรอ”
มือหนารั้งแขนผมเอาไว้แล้วลากให้กลับไปหลบหลังเสาตามเดิม  เสาแม่งก็เสือกใหญ่มากจนจุดที่ผมกับมันยืนอยู่แทบจะกลายเป็นมุมบอดไปเลยทีเดียว
แบบนี้ถ้ามันหน้ามืดขืนใจผมขึ้นมาก็คงไม่มีใครเห็นหรอก!
“เปล่า”
“ไม่จริง  ก็คุณไฟไม่ยอมมองหน้าผมเลยนี่นา  หรือถ้ามองก็คอยแต่จะแยกเขี้ยวใส่ตลอดเลย”
ว่าพลางทำท่าแยกเขี้ยวแบบที่ผมทำใส่มันให้ดูจนเกือบหลุดขำ แต่ก็ต้องเก๊กเอาไว้สุดพลัง
ไม่ได้นะไม่ได้  ห้ามใจอ่อนเด็ดขาดเลยไอ้ไฟ  ห้ามแพ้ทางรอยจิ้มเจ้าเล่ห์ของมันนะเว้ยเฮ้ย!
“ใช่สิ  ผมมันไม่ได้ส่งยิ้มหวานให้คุณตลอดเวลาเหมือนบาร์บี้นี่  ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องมอง  จบ!”
“ทำไมชอบเอาคุณบาร์บี้เข้ามาเกี่ยวตลอดเลยล่ะเนี่ย”
“อ๋อ  แตะต้องไมได้เลยสินะ  แล้วทำเป็นบอกว่าไม่ได้ชอบ  ทุเรศ!”
“คุณไฟ  คุณเริ่มจะไม่มีเหตุผลจริงๆแล้วนะครับ”
ไอหน้าดุเอ่ยเสียงเรียบ  นัยน์ตาไม่มีแววล้อเล่นอยู่เลยแม้แต่น้อย
โธ่เว้ย!  เกิดอะไรขึ้นกับกูวะเนี่ย  ทำไมปากชอบไปไวกว่าความคิดเสมอเลย  ตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบมัน  ผมก็มักจะเก็บอารมณ์หึงหวงไม่ได้ทุกที
จะหึงอะไรเบอร์นั้นวะไอ้ฟ๊ายยยย!
“ถ้าผมไม่มีเหตุผล  คุณก็อย่ามาคุยกับผมสิ  จะมาคุยกับคนไม่มีเหตุผลให้เหนื่อยใจทำไม”
“ก็อยากคุย”
“…”
“คิดถึง  อยากได้ยินเสียง  อยากอยู่ใกล้ๆ”
“…”
“อย่าโกรธกันแบบนี้เลยนะครับ  ผมไม่ชอบเวลาถูกคุณเมินเลย”
ร่างสูงก้มหน้าลงมาจนอยู่ในระดับสายตาเดียวกัน  พร้อมกับชูนิ้วก้อยไปมาตรงหน้าผม  ช่างเป็นง้อขอคืนดีได้น้ำเน่าสุดๆไปเลย!
แต่ว่า…
“ยิ้มแล้ว”
ผมกลับยิ้มออกมาเพราะกลั้นความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นในหัวใจเอาไว้ไม่อยู่จริงๆ!
ไอ้หน้าหนวดจิ้มเข้าที่แก้มของผมเบาๆเมื่อเห็นผมยิ้มออก  จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยโกรธมันได้นานสักทีเลยสินะ  แค่เขามาง้อนิดง้อหน่อยก็อ่อนระทวยเป็นเทียนโดนไฟลน
ตายๆๆ  แบบนี้ดูท่าผมจะไปไหนไม่รอดเสียแล้ว
มึงต้องหักห้ามใจตัวเองให้มากกว่านี้นะไอ้ไฟ!
“ไปคุยกันบนห้องผมดีกว่านะ  ไม่มีใครเห็นด้วย”
“เอะอะชวนขึ้นห้องตลอดเลยนะ  คิดอะไรไม่ดีแน่ๆ”
“ไม่ดีตรงไหน  การที่ผมอยากเป็นหนึ่งเดียวกับคุณมันเรียกว่าเรื่องดีๆต่างหากล่ะ”
ขยิบตาทิ้งท้ายแบบที่ชอบทำก่อนจะจับมือผมพาเดินไปทางลิฟต์อย่างรวดเร็ว  โรงแรมแม่งก็กว้างไปเนอะ  กูแอบย่องขึ้นห้องไอ้หนวดนับไม่ถ้วนแล้วยังไม่ยักกะมีใครเคยเห็นเลยสักคน  แต่ก็ดีแล้วล่ะ  เพราถ้ามีคนเห็นผมคงเสียเวลาอธิบายน่าดู
บางครั้งการแอบทำอะไรลับๆที่รู้กันสองคนก็ตื่นเต้นดีเหมือนกันนะ  หึๆๆ
 
หมับ…
“ได้อยู่กันสองต่อสองสักที”
“นี่  ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ!”
บางทีมือมึงก็ไวไปนะไอ้หนวด!  เพิ่งเข้ามาในห้องยังไม่ถึงสามวินาทีก็มาทำรุ่มร่ามกับร่างกายของกูแล้ว!
“คุณไม่อยากให้ผมปล่อยหรอก”
“ทำไมจะไม่อยาก  ผมโคตรอยากให้คุณปล่อยเลย!”
“แปลว่าโคตรไม่อยากให้ปล่อยสินะครับ”
“เรียนจบเอกมโนศาสตร์มาหรือไงวะ  บอกให้ปล่อยก็ปล่อยสิ”
ดูท่าด่าไปก็คงไม่สะเทือนหนังหน้าของมันแน่ๆ
ไอ้หน้าหนวดทำยักไหล่ไม่สนใจแม้ผมจะดีดดิ้นเพื่อเอาตัวรอดจากอ้อมแขนของเขาแค่ไหนก็ตาม  สุดท้ายก็จบลงที่ดิ้นเองเหนื่อยเอง ก็เลยยืนเฉยปล่อยให้มันสวมกอดจากด้านหลังอยู่อย่างนั้น
เอาจริงๆอยู่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน…
เฮ้ย!  ไม่ชะสิ  เอาอีกแล้วไอ้ไฟ  บอกแล้วไงว่าให้หักห้ามใจของตัวเองเอาไว้!  มึงเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน  ถ้ามึงมาชอบผู้ชายแบบนี้แล้วใครจะสืบพันธ์ต่อนามสกุลให้ครอบครัวล่ะโว้ยยย!
ตะ…แต่เอาไว้คราวหน้าแล้วกัน  คงไม่สายเกินไปที่จะไปกลับตัวเป็นไอ้ไฟคนเดิมในตอนนั้น
คะ…คิดว่านะ
ฟืด…
เสียงหอมแก้ม  หอมซอกคอ  หอมเส้นผมดังสลับกันไปมา  มือหนาลูบไล้หน้าท้องผมไปราวกับว่าต้องการจะปลุกอารมณ์บางอย่างในตัวของผม  โชคดีชะมัดที่ปิกาจู้ยังจำศีลอยู่  ไม่อย่างนั้นคงผงาดง้ำรอการปลดปล่อยเป็นแน่
“จะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะครับ”
เสียงกระซิบปร่าข้างหูชวนให้ขนลุกขนพองอย่างบอกไม่ถูก  ราวกับว่ากระเพาะอาหารถูกขโมยไปเพราะในท้องมันโหวงเหวงเหลือเกิน
“ทะ…ทนอะไร”
“คุณน่ารักเกินไปแล้ว”
หน้าร้อนฉ่ากับประโยคนี้…
ผมหลับตาปี๋เมื่อใบหน้าถูกจับให้หันกลับไปหาเขา  ลมหายใจร้อนๆกระทบกับแก้มเป็นสัญญาณบอกว่าริมฝีปากของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้เหลือเกินแล้ว
ตึกๆ!  ตึกๆ!  ตึกๆ!
“อื้อ…”
จูบอันแสนหวานเกิดขึ้นในเวลาต่อมา  มือหนาบีบแก้มผมเล็กน้อยเพื่อให้เปิดปากออกพอที่เขาจะสอดลิ้นเข้ามาชิมความหวานจากผมได้   ปลายลิ้นของเราสัมผัสกันไปมา  หนำซ้ำยังถูกร่างสูงดูดดุนเอาไปสร้างความเสียวซ่านเกินจะบรรยาย
จะ…จูบเก่งชะมัด!
 
‘ไฟ!  ฝากด้วยนะ  น้ำเป็นกำลังใจให้’
 
“!!!”
เสียงของน้ำที่แวบเข้ามาในหัวทำให้ผมรีบผลักไอ้หน้าหนวดออกห่างแทบไม่ทัน
จริงสิ  ที่เราสวมรอยมาเป็นน้ำตอนนี้ก็เพื่อประกวดนางงามแทนน้ำ  ทำทุกอย่างก็เพื่อน้ำ  เพื่อความฝันของน้องสาว  แต่นี่ผมกลับ…
เกือบลืมจุดประสงค์ทั้งหมดแล้วปล่อยตัวปล่อยใจให้กับความรู้สึกที่เกิดขึ้น
ความรู้สึกที่ตัวผมเองยังไม่มั่นใจเลยว่ามันเรียกว่าอะไร
ใช่ความรักหรือเปล่า?
“คุณไฟ…”
“ขอโทษครับ  พอดีผมหายใจไม่ออก”
แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆแล้วเดินไปนั่งลงบนโซฟา  ผมต้องมีสติให้มากกว่านี้  จะทำให้น้ำผิดหวังอีกไม่ได้เด็ดขาด  ถ้าน้ำรู้ว่าพี่ชายคนเดียวของเธอดันมาชอบผู้ชายด้วยกัน  น้ำจะต้องเสียใจและอับอายมากแน่ๆ
ผม…ไม่อยากให้น้ำต้องเสียใจเพราะผมอีก
“จริงสิ  วันนี้คุณคุยกับไอ้เสี่ยนั่นว่ายังไงบ้างเหรอครับ  เมื่อกี้ตอนเจอกัน  เขาแทบจะไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ”
ผมเปลี่ยนเรื่องและหาเรื่องมาชวนเขาคุยเพื่อทำลายบรรยากาศชวนให้อึดอัดทิ้งไป  จูบกันอยู่ดีๆก็โดนผลักออกแบบนั้น  เป็นใครก็คงคิดมากแหละวะ
“เรื่องนั้นน่ะเหรอครับ”
ไอ้หน้าหนวดคลี่ยิ้มกว้างออกมาประหนึ่งว่าการจัดการไอ้เสี่ยตัณหากลับที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ให้กับกองประกวดนี้เป็นแค่เรื่องหมูๆ
“ผมจัดการเรียบร้อยแล้วล่ะ”
“จัดการ?  ยังไง?”
“ก็แค่…เอาจุดอ่อนของพ่อเสือมาใช้  แล้วจัดการถอดเขี้ยวเล็บออกซะ  ง่ายนิดเดียวครับ”
“??”
 
‘มาแล้วเหรอคุณเปลว  หวังว่าคุณจะรู้นะว่าผมเรียกคุณมาพบทำไม!’
เสียงตวาดกร้าวของตรีภพไม่ได้สร้างความหวาดกลัวหรือกังวลใจให้ชายหนุ่มเลยแม้แต่น้อย  เขายิ้มกริ่มก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้า  พาดแขนไปบนขอบพนักพิงอย่างสบายอารมณ์
ตรีภพกำหมัดแน่น  เดือดดาลกับท่าทีของคนอายุน้อยกว่าที่ไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
‘เมื่อคืนคุณทำแสบมากนะ  อยากให้ผมถอนการเป็นสปอนเซอร์กองประกวดนี้ออกหรือไง!’
‘แต่เอ…  ถ้าผมจำไม่ผิด  บริษัทที่คุณบริหารอยู่ตอนนี้  เป็นมรดกจากทางพ่อตาของคุณไม่ใช่เหรอครับ  หรือจะพูดให้ถูกกคือ…คุณก็แค่ประธานในนาม  ส่วนคนที่อยู่เบื้องหลังจริงๆก็คือ…คุณกิมเล้ง  ภรรยาคนสวยของคุณต่างหาก’
ชายหนุ่มเน้นคำว่าสวยเป็นพิเศษ  เพราะเป็นที่ล่วงรู้กันดีว่ากิมเล้ง  ภรรยาของตรีภพนั้นแตกต่างจากสาวสวยที่เขาเคยแอบควงลับหลังภรรยาขนาดไหน  นอกจากรูปร่างที่อ้วนท้วมใหญ่ยักษ์ประหนึ่งนักมวยปล้ำแล้ว  เธอยังชอบสร้างความอับอายให้สามีด้วยการตามด่าและตามหึงหวงแบบออกสื่ออีกด้วย
‘คุณจะพูดอะไรกันแน่’
‘ไม่เอาน่า  ผมว่าเราค่อยๆจิบไวน์ไปคุยกันไปดีกว่านะครับ’
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับผู้ชนะของร่างสูงทำให้ตรีผมไม่สบายใจเอาเสียเลย   เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกไล่บี้ทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ได้พูดอะไร
 
“หยุดดดดด!”
ผมขัดขึ้นขณะที่ไอ้หน้าหนวดกำลังเล่าเรื่องทั้งหมดอย่างออกรสออกชาติ
“อะไรเหรอครับคุณไฟ”
“คุณกับมันจิบไวน์กันนานไหม?”
“ก็…ประมาณสามชั่วโมงครับ”
“ถ้างั้นตัดตอนเหอะ  ข้ามไปเล่าไคลแม็กซ์เลยได้ไหมครับ  ถ้าให้ผมนั่งฟังช่วงเวลาจิบไวน์ของคุณกับมันต่อไปมีหวังผมหลับก่อนแน่ๆ!”
“เอาแบบนั้นก็ได้ครับ  งั้นผมข้ามเลยนะ”
“เออ!”
 
‘อะไร?’
ตรีภพเอ่ยถามหลังจากที่จิบไวน์เสร็จ  ชายหนุ่มก็ล้วงเอาบางอย่างออกมาจากในเสื้อสูท เป็นซองสีน้ำซองเล็กขนาดเท่าซองจดหมาย
‘ลองเปิดดูสิครับ’
เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีทีท่าจะยอมบอกแน่ๆว่าข้างในคืออะไร  ตรีภพจำต้องหยิบซองขึ้นมาเปิดดูเอง  ทันทีที่เห็นของข้างใน  เขาก็โกรธจนตัวสั่น  ปารูปภาพแอบถ่ายเหล่านั้นทิ้งลงพื้นทันที
‘นี่มันอะไรกัน!’
‘อะไรล่ะครับ  จำรูปตัวเองกับบรรดาสาวๆที่คุณเลี้ยงไว้ไม่ได้เหรอ?’
‘คุณเปลว!  คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?!’
‘รูปภาพพวกนี้จะจบลงที่ผมกับคุณเท่านั้น  หากคุณรับปากมาว่าจะไม่แตะต้องนางงามไม่ว่าคนไหนก็ตามในกองประกวดของผมอีก’
‘ฮะ?’
‘ยื่นหมูยื่นแมวไงครับ  ถ้าคุณยอมรับปาก  ผมก็จะไม่ส่งรูปพวกนี้ให้คุณกิมเล้ง’
ตรีภพหน้าซีดเมื่อชายหนุ่มเอ่ยชื่อภรรยาบังเกิดเกล้าของเขาออกมา  จากที่มีท่าทางใหญ่คับฟ้าก็ค่อยๆหดเล็กลงตามลำดับความกลัวเมีย
‘คะ…แค่ไม่แตะต้องบรรดานางงามของคุณก็พอใช่ไหม’
‘และที่สำคัญ…ต้องห้ามถอนสปอนเซอร์ออกด้วยนะครับ  เพราะการประกวดของผมไม่ได้ทำอะไรผิด  ถ้าจู่ๆมาโดนถอนสปอนเซอร์ไปผมคงแย่’
‘ดะ  ได้สิ  ได้แน่นอน  ฉันจะไม่ยุ่งกับนางงามของเวทีประกวดนี้อีกเลย  แล้วก็จะไม่ถอนสปอนเซอร์ด้วย  คะ…คุณอย่าส่งรูปพวกนี้ให้เมียผมนะ  ไม่อย่างนั้นผมต้องตายแน่ๆ’
‘ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความระพฤติทั้งหมดของคุณนั่นแหละครับ  แต่ในเมื่อคุณอุตส่าห์ขอร้องมาดีๆ  ผมก็จะยอมช่วยเหลือคุณสักครั้ง’
ตรีภพยิ้มกว้าง  ใจชื้นขึ้นมาหน่อยแม้ว่าตามใบหน้าจะมีเหงื่อผุดออกมาไม่หยุดก็ตาม
‘จริงสิ  ผมลืมบอกไปว่า…ที่คุณทำร้ายนางงามของผมเมื่อคืนมันทำให้ผมโกรธจนขาดสติ  ก็เลยเผลอโทรไปบอกคุณกิมเล้งเมื่อเช้านี้ว่าคุณแอบมาที่กองประกวด’
‘อะไรนะ!  คุณโทรบอกกิมเล้งเรอะ!’
‘แต่ดูเหมือนว่าคุณกิมเล้งจะคิดว่าคุณไปดูงานอยู่ที่ต่างประเทศนะครับ  เพราะอะไรกันนะ?’
‘ตายๆๆ กูต้องตายแน่ๆ  มีหวังโดนริบบัตรเครดิตและระงับวงเงินชัวร์ๆ’
ตรีภพว้าวุ่นใจอย่างถึงที่สุด  ส่วนชายหนุ่มผู้สร้างความวุ่นวายนี้ให้แก่เขาก็ได้แต่นั่งยิ้มเยาะอย่างผู้ชนะไปแบบสบายๆ
 
“เรื่องก็เป็นแบบนี้แหละครับ”
“ที่แท้ก็เอาแม่เสือมาขู่พ่อเสือนี่เอง  ไอ้เราก็นึกว่าใช้กำลังในการข่มขู่เสียอีก”
“ยังไงผมก็จัดอยู่ในหมวดพวกชอบใช้สมองมากกว่ากำลังนะครับ  จะเอาแรงที่ไหนไปสู้อดีตนักยูโดอย่างคุณตรีภพกันล่ะ”
ก็จริง  ขนาดกูที่สู้มาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมยังไม่รอดเลย
กริ๊ง…กริ๊ง…
“ครับ”
ไอ้หน้าหนวดกดรับโทรศัพท์ที่ต่อสายตรงภายในห้องของโรงแรม
[คุณเปลวคะ  มีคนมาขอพบคุณน้ำค่ะ  แต่ดิฉันตามหาคุณน้ำไม่เจอ  ไม่ทราบว่าจะให้บอกคนที่มาคุณน้ำว่าอะไรดีคะ?]
“ไม่ต้อง  บอกแค่ว่าเดี๋ยวคุณน้ำจะไปพบ  ว่าแต่…ใคร?  ได้ถามชื่อเขาหรือเปล่า”
[ถามค่ะ  เขาบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทคุณน้ำ  ชื่อตูมตามค่ะ]
ตูมตาม!
ผมลุกพรวดจากโซฟาวิ่งตรงไปที่ลิฟต์ทันที  จะอะไรก็ไม่รู้แหละ  ไหนมะนาวบอกว่าอีกสองวันทางกองประกวดถึงจะเปิดให้ผู้ชมและญาติพี่น้องของผู้เข้าประกวดเข้ามาในงานไง  แล้วทำไมไอ้ตูมตามถึงโผล่มาวันนี้ได้ล่ะวะ?
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออก  ผมรีบพุ่งไปที่เคาน์เตอร์อย่างรวดเร็ว  มองจากตรงนี้เห็นร่างสูงของไอ้ตูมตามยืนอยู่ไม่ไกล  ผมจำท่ายืนเอาสองมือล้วงกระเป๋าไปจับไข่ของมันได้ดี  ไอ้ตูมตามเพื่อนผมไม่ผิดแน่!
“ไอ้ตูมตาม!”
“ไอ้ฟะ…เอ๊ย  น้ำ!”
ทั้งผมและมันต่างก็โผเข้ากอดกันราวกับว่าไมได้เจอกันมาหลายชาติ  ผมอยากจะร้องไห้จริงๆ  ไม่ได้เจอมันมาเดือนกว่าแล้วมั้งเนี่ย
“มึงเป็น…”
หมับ!
“ต้องขออนุญาตที่ขัดจังหวะ  แต่ช่วยกรุณาถอยห่างจากคนของผมหนึ่งเมตรเป็นอย่างต่ำด้วยครับ”
เสียงพร้อมร่างของไอ้หน้าหนวดปรากฏขึ้น  มันแยกผมออกมาจากไอ้ตูมตามแถมยังเหวี่ยงให้ไปหลบอยู่ข้างหลังอีกด้วย
อะไรของมึงวะเนี่ย  กูจะกอดเพื่อนกู  มึงมาเกี่ยวอะไรไม่ทราบ!
“เอ่อ  น้ำ…คนนี้คือ?”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ  ผมเป็นแฟนของคุณน้ำ”
“หา?!!!”
“ไม่สิ  ผมเป็นแฟนของคุณไฟ”
พูดอะไรของมึงเนี่ยไอ้หน๊วดดดดดด!
ใครก็ได้  เอาไอ้ตัวชอบสร้างปัญหาคนนี้ไปเก็บในตู้ให้ผมที  กราบล่ะ!!!
 
 
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  ตอนนี้เร่องราวดำเนินมาจนใกล้จะถึงบทสรุปของการประกวดแล้วน้า  แต่การประกวดจบ  ใช่ว่าเรื่องราวความรักของพี่ไฟกับคุณเปลวจะจบเสียเมื่อไหร่  ต้องตามไปลุ้นไปเอาใจช่วยกันเยอะว่าคู่นี้เขาจะลงเอยกันได้ยังไง?!  ตอนต่อไปพบกันพรุ่งนี้จ้า   จุ๊บๆๆๆ



ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
นั่นเพื่อน หวงแม้กระทั่งกับเพื่อนสนิทของไฟเองอ่ะนะ แถบโมเมว่าเปฌ็นแฟนอีก
แล้วบาร์บี้นี่ยังไง สรุปใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนั้น

ต่อๆๆๆๆ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0




ตอนที่ 17
คำถาม?

 
“นะ…นี่มันอะไรวะ  เขารู้?”
“เออ  ความแตกแล้วไอ้งามไส้”
ผมกระซิบกระซาบกับไอ้ตูมตาม   แต่เพียงแค่ยื่นหน้าไปใกล้มันเพียงแค่ปลายขนแขนกระทบกันก็ถูกไอ้คนตัวสูงข้างตัวมันกระชากให้ออกห่าง
เดี๋ยวนะ  เพื่อนกูไม่ได้ติดเชื้ออีโบล่าเหอะ  มึงไม่ต้องระวังขนาดนี้ก็ได้!
“มีอะไรไปคุยกันที่ห้องของผมดีไหมครับ  ยืนคุยตรงนี้คงไม่ดีนัก”
“ไม่ดีตั้งแต่ที่คุณมายืนโอบผมแล้วเหอะ  ปล่อยสิวะ  จะโอบหาซากแมวอะไร”
ผมรีบสะบัดตัวให้หลุดออกมาจากอ้อมแขนที่ชวนให้รู้สึกแปลกๆนี่  ก่อนจะหันไปปะทะกับสายตาอันเต็มไปด้วยคำถามมากมายร้อยแปดจากไอ้ตูมตาม…
สรุปผู้ชายสองคนที่อยู่ข้างตัวกูตอนนี้…
แม่งมีใครทำให้กูสบายใจบ้างไหมเนี่ย!
 
“อะไรนะ? น้ำมาไม่ได้  ทำไมวะ?”
ผมเขย่าตัวไอ้ตูมตามถามด้วยความเป็นห่วงน้องสาว
ความจริงผมก็รู้อยู่แล้วล่ะนะว่าขาน้ำคงยังไม่หายเพราหมอบอกเอาไว้ว่าต้องใส่เฝือกสามเดินเต็ม  แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงขั้นขยับไปไหนไม่ได้เลยนี่หว่า!
“ใจเย็นๆ  ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงหรอก  น้ำสบายดี  เพียงแต่หมอไม่ไว้ใจกลัวจะเกิดการกระทบกระเทือนทำให้ขาหายช้า  ก็เลยไม่อนุญาตให้มาน่ะ  แต่น้ำฝากความคิดถึงมาหามึงด้วยนะเว้ย  นี่ไงๆ  กูอัดคลิปน้ำตอนพูดถึงมึงมาด้วย”
ไอ้ตูมตามยืนยันว่าน้ำสบายดีด้วยการเปิดคลิปของน้ำให้ผมดู
ทันทีที่ภาพบนจอมือถือขึ้นเป็นใบหน้าของน้ำ  ผมก็แย่งเอามาถือไว้เพื่อจะได้ดูน้ำแบบเต็มๆอย่างใกล้ชิด
น้ำของพี่…
คิดถึงที่สุดเลย
[ไงไฟ  สบายดีนะ  น้ำคิดถึงไฟมากๆเลย  อยากไปหาใจจะขาดอยู่แล้ว  แต่หมอไม่ให้น้ำออกไปไหน  ไฟไม่โกรธน้ำนะ]
จะไปโกรธได้ยังไงกันเล่ายัยเด็กบ้า  แค่ได้เห็นหน้าเธอผ่านคลิปพี่ก็ดีใจแล้ว
[ตอนนี้ไฟคงต้องลำบากเลยสินะ  น้ำเป็นห่วงไฟจังเลย  ต้องมาทำอะไรแบบนี้เพื่อน้องสาวไม่เอาไหนแบบน้ำ  น้ำขอโทษจริงๆนะ  หนึ่งเดือนกว่าๆที่ไม่ได้เจอกันทำเอาน้ำนอนแทบไม่หลับเลย  เพิ่งรู้ว่าความจริงแล้วตัวเองเป็นคนติดพี่ชายก็ตอนที่พี่ชายไม่อยู่นี่แหละ]
น้ำหัวเราะแต่ทว่าบนใบหน้ากลับเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมา
ผมใช้นิ้วโป้งลูบหน้าจอมือถือของไอ้ตูมตามตรงจุดที่เป็นแก้มของน้ำพอดีเพราะอยากจะเช็ดน้ำตาให้
นั่นสินะ  นี่เป็นครั้งแรกที่ผมกับน้ำแยกจากกันนานขนาดนี้  ที่ผ่านมาเราห่างกันมากสุดก็แค่สามวันเวลาต่างคนต่างไปเข้าค่ายของชมรม  แต่เราก็ยังติดต่อกาหันได้  ไม่ว่าจะเป็นโทรคุย  หรือว่าวิดีโอคอล  ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจริงๆที่พวกเราไม่ได้ติดต่อกันเลย
คงจะแปลกล่ะถ้าจะไม่รู้สึกอะไรเลย
[ไฟฟังน้ำนะ  ถ้ารู้สึกอึดอัดจนทนไม่ไหวจริงๆก็ไม่ต้องทน  ออกมาเลย  นางงงนางงามอะไรน้ำไม่อยากเป็นแล้ว  น้ำคิดถึงไฟมากกว่า  อยากให้ไฟกลับมาอยู่กับน้ำเร็วๆ ]
ไฟก็อยากกลับไปหาน้ำจะแย่อยู่แล้ว
แต่ทำไม่ได้…
จะให้ไฟละทิ้งความฝันอีกอย่างหนึ่งของน้ำทั้งที่ไฟเคยทำลายความฝันของน้ำไปแล้วครั้งหนึ่งน่ะเหรอ  ไฟทำไม่ได้หรอก…
“เอ้าๆ  คนน้องก็ร้องตอนอัดคลิป  คนพี่ยังมาร้องตอนดูคลิปอีก  สรุปกูต้องปลอบทั้งน้ำทั้งพี่เลยใช่ไหมเนี่ย”
หมับ…
มือหนาสากๆหยาบๆของไอ้ตูมตามจับหมับเข้าที่หัวของผมก่อนจะจับโอนไปเอนมาคล้ายกับจะปลอบ  แต่เดี๋ยวก่อน…
เมื่อกี้มึงพูดว่าไงนะ?
“มึงบอกว่าน้ำร้องไห้เหรอ”
“อื้อ  ใช่  ทำไมวะ”
“แล้วมึงก็ปลอบน้ำด้วยใช่มะ?”
“เยสสส  ก็น้องมึงร้องไห้อยู่ตรงหน้ากู  กูก็ต้องปลอบดิวะ”
“แล้วมึงปลอบยังไง”
“ก็เหมือนที่ทำกับมึงนี่ไง”
“…”
“…”
“…”
“…”
“เอ่อ…คิดอีกทีกูแค่หยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้น้ำเฉยๆว่ะ  ไม่ได้แตะตัวเลยนะเว้ย  ไม่ได้สัมผัสโดนน้ำแม้แต่ปลายเส้นผมเลย”
“ไม่ทันแล้ว  ไอ้สัตว์!”
พลั่ก!
“อ๊ากกก!”
ไอ้ตูมตามถูกผมถีบเต็มแรงจนตกโซฟาข้อหาบังอาจมาแตะต้องตัวน้องสาวผม  ถึงจะแค่เส้นผมแต่ผมก็หวงเว้ย!
“โฮ๊ย!  ไอ้เหี้ย  ใจเย็นดิวะ  กูแค่ลูบหัวน้ำเฉยๆเองนะเว้ย  ไม่ได้ทำห่าไรเลย”
“แค่เส้นผมก็ไม่ได้เว้ย  น้องสาวกู  กูหวง!”
“งั้นกูจับมึงแทนก็ได้ใช่ป่ะ”
หมับ!
“ไม่ได้หรอกครับ  คนนี้น่ะ  ของผม”
ไอ้หน้าหนวดที่ขอตัวไปเอาเครื่องดื่มที่ห้องครัวมาให้ตั้งแต่มาถึงเดินเข้ามาคว้าคอผมแล้วดึงเข้าหาตัวแสดงความเป็นเจ้าของแบบสุดๆ
ประทานโทษนะ  กูไม่ใช่สัตว์เลี้ยง!  ที่มึงจะมาแสดงความเป็นเจ้าของตามอำเภอใจแบบนี้  อีกหน่อยสงสัยคงหาโซ่มาลากผูกผมไว้กับเสาเตียงแหงๆ!
“ใจเย็นครับใจเย็น  ผมคบกับไอ้ฟายมาตั้งแต่อนุบาล  ไม่มีทางคิดอะไรกับมันแน่นอน  คุณเลิกหวงมันเวลาอยู่กับผมทีเหอะ  คิดแล้วขนลุก”
“ยิ่งเพื่อนสนิทยิ่งต้องกังวลครับ  อีกอย่าง…คุณไฟของผมออกจะน่ารักขนาดนี้  ใครอยู่ใกล้ก็ต้องหวั่นไหวแน่นอน”
ไม่พูดเปล่า  มือปลาหมึกของมันก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมตามเคยด้วยการเลื้อยมากอดเอวผมไว้  เดี๋ยวจับแก้ว  เดี๋ยวจับหัว  เดี๋ยวจับแขน  จับแม่งแทบจะทุกส่วน
ถ้าไม่ติดว่ามีไอ้ตูมตามนั่งเสร่ออยู่บนพื้น  ผมว่ามันคงล้วงกระโปรงผมไปแล้วล่ะ!
“ไอ้ฟาย  กูถามจริงๆนะ  มึงกับคุณเปลว…”
“เฮ้ย!  ไม่ใช่อย่างที่มึงคิดนะเว้ย  กูกับเขา…”
“ไม่เอาน่าคุณไฟ  กับเพื่อนสนิทก็ยังจะปิดบังเหรอครับ  บอกเขาไปเถอะว่าพวกเราน่ะ  เป็นอะไรกัน”
ไม่ต้องมาทำตามหวานซึ้งใส่กูเลย!
ผมสะบัดหน้าหนีไอ้หนวดแล้วหันไปมองไอ้ตูมตามที่กำลังทำหน้าเหมือนฟ้าจะถล่มในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า  มึงคงไม่ได้เชื่อมันหรอกใช่ไหม!
“ไอ้ฟาย  เพราะกูสินะ  เพรากูให้มึงทำเรื่องบ้าๆแบบนี้  มึงก็เลยเบี่ยงเบน…”
“กูบอกว่าไม่ใช่ไงโว้ยยย!”
“แล้วแบบนี้กูจะบอกน้ำว่ายังไงดีล่ะ  พี่ชายคนเดียว  ลูกชายคนเดียวของครอบครัว…”
“อย่าบอกน้ำเด็ดขาดนะไอ้ตาม!  ถ้ามึงบอกกูฆ่ามึงแน่”
“อ้าวๆ  ไหนมึงบอกไม่ใช่ไง  แล้วทำไมบอกไม่ได้วะ”
คำถามของมันทำเอาผมชะงัก
เออว่ะ  ในเมื่อผมยืนยัน นอนยัน  ตีลังกาหมุนวนบนอากาศยันอยู่แบบนี้แล้วผมจะห้ามไม่ให้มันบอกน้ำไปทำไม
“ก็…ก็…”
“หรือว่ามึง…”
“ระ…เรื่องนั้นช่างมันเหอะ  ว่าแต่มึงมาวันนี้ได้ไงวะ  เขาเปิดให้ญาติเข้าพรุ่งนี้ไม่ใช่หรือไง”
“กูมาในฐานะคนของมหา’ลัยต่างหาก  ก็เลยสามารถเข้าเยี่ยมผู้เข้าประกวดได้ก่อนคนอื่นๆหนึ่งวัน”
ทำไมฟังมันพูดเหมือนผมติดคุกอยู่แล้วมันก็รอเวลาที่จะเข้าเยี่ยมผมได้เลยล่ะ…
“แล้วนอนห้องไหน”
“กูโทรจองห้องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  แต่อยู่อีกตึกแยกจากตึกของนางงามอ่ะ มึงไปนอนกับกูไหม  จะได้คุยกันด้วย  กูมีเรื่องเม้ามากมายเลย”
ผมรีบพยักหน้าทันทีที่ถูกชวน
แอบย่องออกไปเหมือนเวลาย่องมาห้องไอ้หน้าหนวดก็คงไม่มีปัญหาอะไร  อีกอย่างผมอยากคุยเรื่องน้ำกับเรื่องที่มหา’ลัยจะแย่อยู่แล้ว
เอาง่ายๆคือกูอยากคุยกับเพื่อนที่สามารถคุยเรื่องของกูในฐานะไฟได้อ่ะ  จบป่ะ!
“งั้นเดี๋ยวคืนนี้กูแอบย่องไปหามึงตอนห้าทุ่มละกัน  มึงก็เปิดประตูห้องรอ…”
ตุ้บ!!!
บทสนทนาถูกขัดขวางด้วยหอบผ้าอะไรสักอย่างที่ถูกโยนตุ้บลงคั่นกลางระหว่างผมกับไอ้ตูมตาม  มันคือผ้านวมผืนยักษ์และหมอนอีกหนึ่งใบ  คนโยนยืนทำหน้าถมึงทึงบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างชัดเจน
“ไอ้ฟาย  กูว่าผัวมึงหึงแน่เลยว่ะ”
“ไม่ใช่ผัวเว้ย!”
“ไม่ใช่เหี้ยไร  ดูทำหน้าดิ  จะแดกหัวกูอยู่แล้ว”
“เห็นแก่เพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นเดือน  ผมจะช่วยให้ได้คุยกันทั้งคืนโดยการยอมสละห้องนี้ให้คุณตูมตามนอนด้วยแล้วกันนะครับ  อยากจะคุยอะไรกันก็คุยมันในห้องผมนี่แหละ  ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
งใบหน้าจะยังยิ้มอยู่  แต่จะผิดไหมถ้าผมกับไอ้ตูมตามไม่มีใครกล้าตอบอะไรกลับไปเลยนอกจากผงกหัวรับคำสั่งอย่างหมาเชื่องๆสองตัว
“ดีมากครับ  ถ้าอย่างนั้นไอ้ที่จะนัดไปนอนด้วยกันตามลำพังนั่นก็…ยกเลิกซะนะครับ  คุณตูมตามก็เหมือนกัน  โทรแคนเซิลห้องได้เลย   สองคืนที่อยู่ที่นี่ผมยินดีให้คุณใช้ห้องร่วมกับผม”
“เอ่อ…รู้สึกเป็นเกียรติจังเลยนะครับ”
ต้องเป็น ‘เกลียด’ สิถึงจะถูก
สรุปแล้วทั้งผมและไอ้ตูมตามก็ไม่มีใครทักท้วงความต้องการของไอ้หน้าหนวด  เพราะเป็นอันรู้กันว่ายังไงมันก็ถือไพ่เหนือกว่าพวกผม  ความลับสุดยอดที่มันกุมไว้นั้นสามารถแตกโพละได้ตลอดเวลาถ้าไปขัดใจมันเข้า…
 
แต่…!
มึงจำเป็นต้องทำขนาดนี้เลยเหรอไอ้หนวด  ตอบ!!!
“เพื่อกันคุณไฟนอนดิ้นตกเตียง  เอาล่ะ  เชิญคุยกันได้ตามสบายเลยครับ”
สบายพ่องมึงสิไอ้หน๊วดดดดดด!!!
หลังจากที่ผมแยกกลับลงไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้อง  รอจนบาร์บี้หลับไปแล้วจึงย่องกลับขึ้นมาใหม่  แต่ว่าพอมาถึง  ผมก็โดนเจ้าของห้องลากมาที่เตียงก่อนจะเอาผ้าห่มสำรองมาพันตัวผมไว้เหมือนแป้งขนมโตเกียวต่อด้วยเอาเข็มขัดมารัดจนขยับไปไหนไม่ได้
และปิดท้ทายด้วยกุญแจมือ!
มันเอากุญแจมือข้างหนึ่งมาห้อยไว้กับห่วงเข็มขัด  ส่วนอีกข้างก็ล็อคกับข้อมือของตัวเองไว้
คือก่อนหน้านี้กูก็แค่คิดในใจเล่นๆนะไอ้เรื่องที่ว่าอาจจะถูกมึงล่ามโซ่น่ะ  แต่มึงไม่จำเป็นต้องทำจริงๆก็ได้ป่ะวะ  คือกูแก่คิดดดด!
หนำซ้ำจุดที่ผมนอนยังเป็นเตียงฝั่งที่ติดกับกำแพง  ดิ้นให้ตายยังไงก็ไม่มีวันตกเตียงได้อย่างแน่นอน  ส่วนไอ้ตูมตามก็นอนข้างล่างข้างเตียง  โดยที่คนที่นอนอยู่ฝั่งนั้นก็คือไอ้หน้าหนวดต่างหากไม่ใช่ผม  แล้วมันจะกลัวผมตกเตียงไปเพื่ออะไรเนี่ยยยย
“คุณจะบ้าเหรอคุณเปลว   คุณเล่นมัดผมไว้แบบนี้แล้วผมจะคุยกับเพื่อนยังไงล่ะครับ!”
“ก็คุยไปสิครับ  ผมไม่ได้มัดปากคุณสักหน่อย”
จะบอกให้กูนอนตะโกนคุยกับมันอยู่แบบนี้โดยไม่ต้องมองหน้ากันเรอะ!
“ไอ้ตาม  มึงปล่อยใยได้ไหม”
“ใยอะไรวะ”
“ปล่อยใยแบบสไปเดอร์แมนแล้วมาห้อยหัวตรงหน้ากูเนี่ย  จะได้คุยกัน”
“มึงจะบ้าเหรอ!  กูจะไปเอาใยจากไหนมาปล่อย”
อยากจะบ้าตาย
ผมเหลือบตามองคนข้างกายที่นอนหลับตาพริ้มท่าทางสบายใจโอ้ลัลล้าเป็นที่สุด  ทุ่มขี้ใส่หัวกูแล้วก็นอนอย่างสบายใจเฉิบเลยนะไอ้หน้าหนวดเอ๊ย!
“ไอ้ตาม  หลับยังวะ”
“ยัง”
“น้ำสบายดีใช่ไหม”
“เออ  วันนี้ก็ฝึกกายภาพเหมือนเดิม  น้ำเริ่มขยับขาได้บ้างแล้วถึงจะยังเดินไม่ได้ก็เหอะ  แต่หมอบอกว่าน้ำฟื้นตัวเร็ว  ยังไงก็กลับมาเดินเหินได้เป็นปกติแน่นอน”
“งั้นเหรอ  ดีแล้วล่ะ”
ผมยิ้มอย่างมีความสุข
ตอนแรกก็แอบกังวลกลัวว่าน้ำจะไม่กายเป็นปกติ  แต่รู้แบบนี้ผมก็ใจชื้นขึ้น  มีแรงที่จะสู้รบบนสงครามนางงามนี้ต่อไปเพื่อรอจนกว่าจะถึงวันที่น้ำจะมาเปลี่ยนตัวกลับ
“แล้วมึง…ไหวหรือเปล่าวะ”
“เรื่อง?”
“ที่ต้องปลอมตัวเป็นน้ำ  มึงลำบากไหม”
แทบร้องไห้เมื่อเจอมันถามแบบนี้
ไอ้วันที่ขอให้กูสวมรอยเป็นน้ำมึงก็ยัดเยียดให้แบบไม่ปรึกษากูสักคำ  วันนี้มึงมาถามคำถามแบบนี้ใส่  บอกเลย…
ซึ้งใจเหี้ยๆอ่ะเพื่อน!
“จะว่าไงดีล่ะ   ก็ลำบากเหมือนกันแหละ  เกิดมากูเคยเป็นผู้หญิงที่ไหน  บราก็ไม่เคยใส่  ไข่ก็ไม่เคยแต๊บ  ส้นสูงก็ไม่เคยใส่เดิน  แต่จู่ๆกูต้องมาทำเรื่องที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตทั้งหมด  มึงคิดว่ากูจะสบายหรือไงล่ะ  ถามควายๆ”
“กูขอโทษแล้วกันที่ถาม”
“แต่ว่า…มันก็แค่แรกๆเท่านั้นแหละ  หลังๆก็กูไม่ได้ลำบากอะไร  พอเริ่มชินมันก็ปรับตัวได้เอง  อีกอย่าง…”
ผมหยุดคำพูด  ค่อยๆหันไปมองหน้าคนข้างตัวที่หลับไปแล้ว
ไม่รู้ว่าหลับจริงหรือว่าแกล้งหลับกันแน่  แต่ว่า…ความลำบากที่ผมเคยเจอตอนเริ่มเก็บตัวใหม่ๆ  มันค่อยๆหายไปทีละอย่างสองอย่างก็เพราะเขา
เพราะมีไอ้หน้าหนวดคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด  เพราะยังมีที่พึ่งพิงข้างกาย…
“ทำไมเงียบไปวะ  อีกอย่างอะไร”
เสียงไอ้ตูมตามตะโกนถามกลับมา   ผมสะบัดหัวตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับมาหลังจากที่บรรยากาศรอบตัวเริ่มจะฟรุ้งฟริ้งมากขึ้น
ถั่วงอกบนตัวกูต้นที่หนี่งร้อยแล้วไง
แค่มองหน้ามันรอบข้างก็เปลี่ยนเป็นสีชมพูมุ้งมิ้งหวานแหววเสียแล้ว!
เป็นเอามากนะไอ้ฟายยยย!
“อีกอย่างกูเป็นคนที่มาพร้อมกับดวงอยู่แล้ว  ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก  นอนเหอะ  พรุ่งนี้กูต้องตื่นแต่เช้าไปแต่งตัวแต่งหน้าเตรียมขึ้นเวทีประกาศผลรอบคัดเลือกอีก”
“กี่โมงวะ”
“ตีห้า”
“ประกาศผลตอนตีห้าเลยเรอะ!  แบบนี้มึงไม่ต้องตื่นแต่งตัวตั้งแต่ตีสองเหรอวะ”
“ไอ้โง่!  กูหมายถึงกูต้องตื่นตีห้า!  ไอ้ประกาศผลนั่นมันต้องบ่ายเว้ย!”
“ประกาศผลบ่าย?  แต่ตื่นแต่งหน้าตั้งตาตีห้า?  ตื่นมาเพื่ออะไร”
ถามกูแล้วกูจะไปถามใครเล่า!  ทุกวันนี้ยังสงสัยเลยว่ากะอีแค่แต่งหน้าแต่งตัวของผู้หญิงทำไมมันถึงกินเวลาหลายชั่วโมงนัก
แต่พอมาแต่งเองมันก็หลายชั่วโมงจริงๆนะครับ  นานจนผมยังตกใจเลย  แต่ก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าเพราะอะไรถึงนาน  รู้แค่ว่าแค่คิ้วข้างเดียว  กว่าจะเขียนเสร็จแม่งใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมง…
เมื่อผมไม่ตอบอะไรกลับไป  ไอ้ตูมตามก็ไม่ได้ถามอะไรมาอีก  ต่างคนต่างเงียบ  อีกอย่างผมรู้สึกไม่สะดวกใจถ้าจะต้องตะโกนคุยกับมันโดยมีไอ้หน้าหนวดนอนคั่นกลางเป็นไส้เบอร์เกอร์อยู่แบบนี้   ไอ้เรื่องที่อยากจะถามอยากจะปรึกษาก็เป็นอันต้องพับโครงการเก็บเข้ากรุไปเลย
เฮ้อ!
นอนดีกว่าวุ้ย  เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาหน้าโทรมจะโดนช่างแต่งหน้าดุเอาอีกว่าต้องมานั่งโบ๊ะขอบตาให้
 
ขยุก…ขยิก…
“อื้อ…”
ขยุก..ขยิก…
สวบ…
“หือ…อะไร…!   อุ๊บ!”
ปากที่กำลังจะส่งเสียงถูกอุดไว้แน่นจนแม้แต่ลมหายใจก็ยังเล็ดลอดออกไปไมได้
เดี๋ยวๆๆ  หายใจไม่ออกแบบนี้กูตายได้นะเว้ย!
“เบาๆนะครับ  เดี๋ยวเพื่อนคุณจะตื่น”
ผมหยักหน้ารับในความมืด  รู้สึกร่างกายโล่งสบายแปลกๆ  ทั้งที่ก่อนจะนอนมันยังแน่นไปหมดเพราถูกรัดอยู่เลย
“ผมได้ยินคุณหายใจเสียงดังมาก  คิดว่าคุณคงหายใจไม่ออกและนอนไม่ถนัดที่ถูกมัดแบบนั้น”
“เพิ่งจะรู้เรอะ”
“ขอโทษนะครับ ผมแค่กลัวว่าคุณจะแอบออกไปกับเพื่อนคุณตามลำพัง”
“แล้วถ้าผมจะออกไปกับเพื่อนจริงๆมันแปลกตรงไหนล่ะฮะ  ก็นั่นมันเพื่อนผมนะ   เพื่อนสนิทด้วย”
ผมเถียงกลับ  เราต่างก็กระซิบกระซาบคุยกันราวกับชู้รักที่แอบมาผมกับตอนผัวเผลอ…
“ผมรู้  แต่…”
ไอ้หน้าหนวดพลิกตัวเป็นนอนตะแคงหันมาทางผม  ทำเอาผมต้องเขยิบถอยหนีไปจนติดกำแพงแต่อีกฝ่ายก็ยังเขยิบตามมา
เฮ้ยยย!  กูไม่มีที่ไปแล้วเว้ย  มึงไม่ต้องเข้ามาใกล้ขนาดนั้นก็ได้  กระซิบไกลๆกูก็ได้ได้ยิน  หูกูยังไม่ตึง  เชื่อกูเหอะ  เขยิบออกป๊ายยยย!
หมับ…
“คุณไฟ…”
มันฟังเสียที่ไหนล่ะ
ผมผวาเฮือก  กลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากเพราะจู่ๆแม่งก็เหนียวปานหมากฝรั่งขึ้นมากะทันหัน  ค่อยๆหันไปมองไอ้หน้าหนวดที่ส่งเสียงเรียกชื่อผมมาอย่างแผ่วเบาปนเซ็กซี่  มือหนาจับแขนผมเอาไว้พลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“ผมมีคำถามอยากจะถามคุณ”
“ถะ…ถามอะไร”
คำถามของมึงจำเป็นต้องใกล้ขนาดนี้ด้วยเหรอวะ!  เห็นใจหัวใจดวงน้อยๆของกูบ้างเหอะ  ตั้งแต่รู้ตัวว่าชอบมึงมันก็ทำงานหนักมากในแต่ละวัน  ดีไม่ดีอาจจะหัวใจวายตายได้ในสักวันเลยนะ!
“คุณรู้ไหม”
“…”
“ว่าผมคิดยังไงกับคุณ”
เป็นคำถามที่ยากยิ่งกว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกันอีก!
หมับ!
“ฮะ…”
“ชู่  ถ้าเสียงดังแล้วเพื่อนคุณตื่นมาเห็นพวกเราในสภาพนี้คงไม่ดีแน่”
ผมกลืนเสียงร้องกลับลงไปในคอทันที  ไอ้หน้าหนวดยิ้มเผล่เพราะมันชนะผมอีกแล้ว  แต่ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่าไอ้เวรนี่มันกำลังคร่อมผมอยู่โดยที่แขนทั้งสองข้างของผมถูกจับล็อคกันไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวของมันอยู่เหนือศีรษะ
“คุณจะทำอะไร  ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ”
“ยังไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะตอบคำถามของผม”
“ไม่ตอบ”
“ทำไม”
“เพราะผมไม่รู้”
“แน่ใจเหรอครับว่าไม่รู้?  คุณไม่รู้จริงๆเหรอว่าผมคิดยังไงกับคุณ”
ถึงจะอยู่ในความมืด  แต่ผมก็พอจะเดาได้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังมองผมด้วยสายตาแบบไหน…
สายตาที่ทำให้ผมสับสนและคิดมากอยู่เสมอ  สายตาที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่มองผมก็จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปทุกครั้ง
“ถ้าวันนี้ผมไม่ได้คำตอบที่น่าพอใจ…”
“…”
“เห็นทีคงต้องฉายหนังสดให้เพื่อนคุณดูสักรอบแล้วล่ะมั้ง”
เดี๋ยวก่อน  ฉายหนังสดอะไรของมึง!
คิดจะทำอะไรกันแน่วะเนี่ยไอ้หน๊วดดดดดด!
 
 
 
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  ขอโทษที่หายไปนานนะคะ  อย่างที่แจ้งว่ามีงานยุ่งมากๆ  แล้วงานของบิวต้องเดินทางออกต่างจังหวัดตลอดด้วย  ทำให้ตารางการอัพนิยายรวนไปหมด  แต่ถ้าว่างก็พยายามจะมาอัพให้ได้อ่านนะคะ  ไม่อยากให้นักอ่านรอนานเหมือนกัน  ฮืออ TOT
ตอนนี้พี่ไฟกับคุณเปลวของเราเปิดพรีออเดอรแล้วน้า  ใครสนใจก็ทักแชทเพจบิวมาได้เลย  หรือจะกรอกแบฟอรมตามรายละเอียดที่แจ้งอยู่ในโพสปักหมุดหน้าเพจก็ได้ค่า  แต่ว่าไม่ต้องกังวลนะคะ  บิวยังอัพให้อ่านจนจบในเว็บตามปกติค่า  แต่อาจล่าช้านิดหนึ่งเพราะงานยุ่งมว๊ากกกกก  เพราะงั้นใครที่ตามอ่านอยู่ไม่ต้องกลัวค้างน้า  อัพจนจบแน่นอนจ้า  จุ๊บๆๆๆ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตลกอ้ะ อ่านแล้วขรรมมาก 555555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ zeeL

  • ข้าน้อยนามว่าเสี่ยวหลิงลี่เจ้าค่ะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
หนวด ยังไม่ทำไรให้เคลียร์อย่าริมาดน้องฟายนะเฮ้ย

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เปลวหื่นตลอดเวลาเลย  :hao7:

ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
รอนะค้าา :hao7: :กอด1:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 18
สิ่งที่กลัว?

 
“ว่ายังไงครับ  ขอคำตอบที่น่าพอใจด้วยนะ”
แล้วกูจะไปตรัสรู้ได้ยังไงว่าคำตอบไหนมึงจะพอใจ!
ผมชักสีหน้ามองมันอย่างเหลืออดเหลือทน  ถ้าไม่ติดว่ามีไอ้ตูมตามนอนกรนเหมือนเสียงเรือหางยาวอยู่ข้างล่างนี่ผมคงได้ใช้เสียงตวาดให้ปล่อยไปแล้ว
เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ตูมตาม!
“คำตอบแบบไหนล่ะที่คุณพอใจ”
“นั่นสิ  จะมีอะไรที่ผมพอใจมากไปกว่าตัวคุณกันนะ  มีด้วยเหรอ?”
มาถามกูแล้วกูจะรู้หรือไงเล่า!
แสงไฟริบหรี่จากด้านนอกส่องเข้ามาพอให้เห็นใบหน้ากันอย่างเลือนราง  อีกฝ่ายเอียงคอเล็กน้อย  ริมฝีปากเหยียดยิ้มแบบที่ชอบทำนั่น  สายตาไล่มองร่างกายของผมขึ้นลงๆจนเริ่มจะประหม่า
“มะ…มองอะไร”
“มองสิ่งที่ทำให้ผมพอใจ”
เกลียดรอยยิ้มมึงจริงๆ!
รู้สึกได้ว่าใบหน้าของไอ้หน้าหนวดกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้  ผมหันขวับไปทางไอ้ตูมตามก่อนเป็นอันดับแรกด้วยกลัวว่ามันจะตื่นมาเห็นช็อตบ้าๆแบบนี้เข้า  คงไม่ติดจะฉายหนังสดให้เพื่อนผมดูจริงๆหรอกนะ!  ไม่เอาๆๆ กูยังไม่พร้อม!  กูยังไม่เคย!
“หยุดเลยนะ”
“คิดว่าผมจะหยุดเหรอ?”
ไม่…  กูไม่คิดว่ามึงจะหยุดตามที่กูบอกหรอก  แต่กูก็พูดกันไว้ก่อนเผื่อฟลุ๊คอ่ะมีไรป่ะ!
“ผมว่าคุณน่าจะไปทำแบบนี้กับบาร์บี้มากกว่านะครับ  ดูจะชอบพอกันดี  เข้ากันได้ไม่น้อยเลยนี่”
“คุณบารบี้อีกแล้ว  ทำไมถึงชอบพูดชื่อคนอื่นนักนะ  หืม?”
“จะไปรู้เหรอ  ผมแค่คิดว่าคุณน่าจะชอบ”
คิดแล้วยังเจ็บใจไม่หาย  มือถือสากปากถือศีล  กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง!  ปากว่าตาขยิบ! อะ…อะ…อะไรอีกวะ  ช่างมันเหอะ  เอาเป็นว่าผมโคตีไม่พอใจและเกลียดการกระทำประเภทนี้ที่สุดแล้วกัน!  ยิ่งเป็นไอ้หน้าหนวดผมยิ่งเกลียด!
“ต้องให้ผมบอกอีกกี่ครั้งล่ะครับว่าผมไม่ได้ชอบเธอ”
“โกหก”
“เปล่านะ  ผมพูดความจริง”
“ถ้างั้นคุณเข้าข้างบาร์บี้ทำไม”
จู่ๆก็เอ่ยปากถามในสิ่งที่ค้างคาใจ
ผมจ้องมันในความมืด  ข้อมือที่ถูกอีกฝ่ายบีบไว้คลายออก  เพราะมันต้องการใช้มือนั้นมาลูบไล้แก้มผมไปมา
“ถึงจะเข้าข้างเขา  แต่ไม่ได้แปลว่าผมจะชอบเขานะครับ”
“…”
“ผมเข้าข้างเขา  เพราะนั่นคือความจริง  คุณบาร์บี้ไม่ได้หลอกคุณ  และไม่มีทางที่เธอจะหลอกคุณหรือทำร้ายคุณแน่ๆ”
“คุณแน่ใจเหรอ”
“ครับ  ผมแน่ใจ”
“อะไรทำให้คุณมั่นใจขนาดนั้น ในเมื่อตัวเธอเองก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้  คุณจะให้ผมเชื่อคนที่ทำให้ผมรู้สึกระแวงเหรอครับ  ในเมื่อคุณบอกเองว่าที่ที่ผมอยู่ตอนนี้มันไม่ใช่เวทีการประกวด  แต่มันคือสงคราม”
ผมเถียงหัวชนฝา
ในเวลานี้ผมเชื่อใจใครในกองประกวดไม่ได้เลยจริงๆ  ทุกคนล้วนอันตรายและกระหายตำแหน่งกันทั้งนั้น จากนางฟ้าแสนสวยสามารถกลางร่างเป็นนางมารร้ายได้ในชั่วพริบตาเพียงเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตัวเองหวัง  บอกตามตรงเลยว่าเหตุการณ์ล่าสุดนี้ทำให้ผมระวังตัวขึ้นมาก  เพราะถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา  ไม่ใช่แค่ผมที่จะเดือดร้อน  ยังมีไอ้ตูมตามและน้ำอีก
ผมต้องการปกป้องคนสำคัญทั้งสองคนของตัวเอง
“เอาเป็นว่าคุณจะคิดยังไง ตัดสินใจแบบไหนเกี่ยวกับเรื่องคุณบาร์บี้  ปมจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว  แต่ว่า…เชื่อผมได้ไหมครับ”
“…”
“ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณบาร์บี้จริงๆ”
“…”
“คนที่ผมชอบน่ะก็คือ…”
“ฮ้าวววว!  ผมง่วงแล้วอ่ะ  ไว้คุยต่อวันหลังได้ไหม  ตาจะปิดแล้ว”
สองมือดันร่างสูงให้ออกห่างแล้วรีบพลิกไปนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากำแพงทันที
ผมไม่อยากฟังหรือได้ยินอะไรทั้งนั้น  ทุกสิ่งที่เขากำลังจะพูดมามันส่งผลต่อความมั่นคงในหัวใจผมทั้งสิ้น  ถึงแม้ว่าผมจะรู้ตัวดีว่าตอนนี้ตัวเองคิดยังไงกับเขากันแน่  แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นระหว่างเรา
…ความรัก
..การคบกัน
อะไรก็ตามที่เป็นตัวทำให้ผมยอมรับว่าตัวเองไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป  ผมจะไม่มีวันทำมันเด็ดขาด  เอาแค่ที่ผ่านมามันก็มากเกินพอกับสิ่งที่ผมทำลงไป  ไม่ว่าจะเป็นกอด  จูบ  หรืออะไรก็ตามที่เคยเผลอตัวเผลอใจไปก่อนหน้านี้  มันก็ไกลจนผมกลัวว่าตัวเองอาจจะย้อนกลับไปสู่จุดเดิมไม่ทันแล้วก็ได้…
แต่ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก  ผู้ชายกับผู้ชายก็ไม่มีทางเป็นที่ยอมรับได้แน่นอน  ทั้งน้ำ  ทั้งพ่อ  ทั้งเพื่อนฝูงและสังคม
ผมกลัว…
สิ่งที่ผมกลัวคือสายตาของทุกคนบนโลกนี้
จะเป็นอย่างไรถ้าหากผมกลายเป็นพวกรักร่วมเพศ  ผมไม่กล้าพอที่จะยอมรับเรื่องทั้งหมด  ไม่กล้าที่จะพัฒนาอะไรมากกว่าทีเป็นอยู่
ไม่กล้า…
ไม่กล้าเลยสักนิด
“คุณไฟ…”
“ผมอยากนอนพักแล้ว  อย่ากวนผมเลยนะ”
ตอบพลางซุกหน้าลงกับหมอนข้างที่แอบจิ๊กเอามาเป็นของตัวเอง
ไอ้หน้าหนวดเงียบไม่ตอบอะไรกลับมาอีก สิ่งที่เขาทำคือการกลับไปล้มตัวลงนอนข้างผมเหมือนเดิม  แต่ว่า…เพียงแค่มีเขานอนอยู่ข้างๆเท่านั้น
แค่นอนข้างๆกัน
ผมก็…ใจเต้นแรงมากแล้ว
 
“นะ…น้ำ  คือว่า…”
“โทษทีนะ  ฉันต้องรีบไป”
ผมตัดบทบาร์บี้ที่ถลาเข้ามาหาทันทีหลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำ
ผมต้องย่องออกจากห้องไอ้หน้าหนวดก่อนบาร์บี้จะตื่นเพื่อกลับมานอนเตียงตัวเอง  เพราะตอนตีห้าจะต้องไปรวมตัวกับทุกคนที่เพื่อแต่งแต่งหน้าเตรียมฟังประกาศผลการคัดเลือกรอบแรกที่จะมีผู้ผ่านเข้ารอบเพียงสิบคนเท่านั้น
คิดแล้วก็ตื่นเต้น
จะไม่ให้ตื่นเต้นยังไงไหว  ถึงคนที่ทุกคนคิดว่าเป็นคนประกวดอยู่จะเป็นน้ำ  แต่เอาเข้าจริงมันก็คือผม  ยังไงก็ต้องตื่นเต้นอยู่แล้ว  ถ้าเข้ารอบนี่พ่อจะวิ่งแก้บนทั่วโรงแรมสักร้อยรอบ!
หมับ…
“เดี๋ยวสิน้ำ  ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับเธอนะ”
บาร์บี้คว้าแขนผมเอาไว้
ระยะหลังมานี้เธอดูไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่  แถมระหว่างผมกับเธอก็แปลกๆไปจนเพื่อนเข้าประกวดด้วยกันพากันสังเกตเห็นและรู้ว่าพวกเรากำลังทะเลาะกันอยู่
“แต่ฉันไม่มี”
“เธอกำลังเข้าใจผิดนะ  ฉันไม่รู้เรื่องนั้นจริงๆ”
“ปล่อย”
“ต้องให้ฉันทำยังไงเธอถึงจะเชื่อกันล่ะ  ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ  มีทีมงานมาบอกฉันแบบนั้นจริงๆนะน้ำ”
บาร์บี้เขย่าแขนอ้อนวอนทั้งน้ำตา
แวบหนึ่งหัวใจผมตกวูบไปที่ตาตุ่ม   ไม่คิดไม่ฝันว่าการที่ผมไม่คุยกับเธอจะทำให้เธอถึงขั้นร้องไห้ออกมา  แต่เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าคนที่บาร์บี้กำลังเสียน้ำตาให้อยู่ตอนนี้คือน้ำค่างหากไม่ใช่ผม  ความรู้สึกปลื้มปิติก็เป็นอันลดฮวบไปทันตา
เมื่อไหร่กูจะมีโมเม้นผู้หญิงมาร้องไห้อ้อนวอนแบบนี้ในชีวิตจริงสักทีวะ
ในชีวิตจริงตอนนี้ที่เห็นก็มีแค่…
 
‘คุณไฟครับ’
 
‘คุณไฟของผม’
 
‘คุณไฟ’
 
‘คุณไฟ’
 
อ๊ากกกกก
ไอ้เหี้ยเอ๊ยยยย  หลอกหลอนกันเป็นเดจาวูเลย!
“น้ำ  น้ำ   ฟังฉันอยู่หรือเปล่า”
“อ๊ะ…”
หลุดออกจากภวังค์ในทันใดเมื่ออุ้งมือเล็กๆมาเขย่าแขนผมไปมา  โอเค  กลับมาที่ใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยน้ำจาเจิ่งนองทั่วใบหน้าอยู่ในตอนนี้…
ผมควรเชื่อเธอดีไหม?
“เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลานะบาร์บี้”
“…”
“เธอจะให้ฉันทำใจเชื่อง่ายๆทั้งที่เธอเองก็ไม่มีหลักฐานน่ะเหรอ  มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ  เพราะถ้าวันนั้นมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ  เธอรู้ไหมว่าฉันจะเป็นยังไง”
ความลับแตก…
ถูกพาดหัวข่าวว่าเป็นพี่ชายจิตวิปริตที่ชอบสวมรอยเป็นน้องสาว!
ตกนรกอย่างไม่ต้องสงสัย
“รู้สิ  เพราะรู้ฉันถึงได้รีบตามไปช่วยเธอไงล่ะ  หลังจากที่เธอไป  ฉันก็บังเอิญไปได้ยินแม่บ้านของโรงแรมคุยกันว่าห้องที่ทีมงานมาบอกให้เธอขึ้นไปเป็นห้องของไอ้เสี่ยนั่น  ฉันคิดว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแน่ๆ  แล้วคุณเปลวก็กลับเข้ามาในโรงแรมพอดี  ฉันก็เลยเอาเรื่องทั้งหมดไปเล่าให้เขาฟัง  เราสองคนถึงได้ตามไปช่วยเธอยังไงล่ะน้ำ”
เราสองคน…
ฟังแล้วจุกไปถึงม้าม!
“เธอแน่ใจนะว่าเธอไม่รู้เรื่องจริงๆ  กล้าสาบานหรือเปล่า”
ถามพลางหรี่ตาลงมองสาวน้อยตรงหน้าเพ่อจับผิด
แต่เธอกลับจ้องตาผมกลับอย่างแน่วแน่ไร้การสั่นไหวในดวงตาคู่นั้นก่อนจะพยักหน้ารับ
“ฉันสาบาน!   สาบานให้ฟ้าผ่าเลยเอ้า!  ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆ  และฉันก็ไม่มีทางทำร้ายเธอด้วย”
“เพราะอะไรเธอถึงไม่มีวันทำร้ายฉันล่ะ  อย่าลืมสิว่านี่คือการประกวดที่มีความฝันของพวกรุทุกคนเป็นเดิมพัน  การกำจัดคู่แข่งย่อมเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”
“แต่น้ำไม่ใช่คู่แข่งสำหรับฉันนะ”
“ฮะ?”
“ฉันไม่เคยมองน้ำเป็นคู่แข่ง  เรา…เรา…”
“…”
“เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ”
“…”
“เพื่อนน่ะ  ไม่ทำร้ายกันแบบนั้นหรอกนะ  ฉันเองก็ไม่มีวันทำร้ายน้ำแบบนั้นเหมือนกัน  เพราะฉันเชื่อว่าถ้าเป็นน้ำ”
“…”
“น้ำก็จะไม่ทำร้ายฉัน  ใช่ไหมล่ะ”
เราต่างก็จ้องตากันอย่างไม่ลดละเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ
ผมอยากรู้จังว่า…ถ้าเป็นน้ำ  น้ำจะทำยังไง  มิตรภาพของผู้หญิงมันดูหวานแหววเสียจนผมไม่อาจเข้าถึง
น้ำจะเชื่อเธอไหม?
จะให้โอกาสและกลับไปเป็นเพื่อนกันตามเดิมหรือเปล่า?
แบบไหนกันล่ะน้ำ   พี่ควรเลือกแบบไหนดี…
“ใช่  ฉันไม่มีทางทำร้ายเธอแน่นอน”
จะผิดไหม  ถ้าพี่เลือกที่จะให้โอกาสเธอคนนี้ได้พิสูจน์ตัวเองสักครั้ง
ผม…ไม่ได้เอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงเกินไปใช่ไหม
 
“เป็นอะไรวะไอ้ตาม  กูเห็นมึงนั่งทำหน้าเหมือนตูดตั้งแต่ตื่นมาแล้วนะ”
ผมสะกิดถามเพื่อนรักที่มายืนเฝ้าอยู่หลังเวที  อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาที่ผู้เข้าประกวดทุกคนต้องออกไปเดินโชว์สื่อมวลชนเพื่อฟังประกาศผลแล้ว  ช่วงนี้ทางทีมงานจึงปล่อยให้ญาติหรือสปอนเซอรของผู้เข้าประกวดแต่ละคนเข้าพบที่หลังเวทีได้  วันนี้ผมเลยไม่ได้เจอหน้าไอ้หน้าหนวดเลยเพราะมันถูกอันเชิญให้ไปนั่งตรงโต๊ะของกรรมการเรียบร้อยแล้ว
“เปล่า  กูแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
“เรื่องอะไรวะ”
“ก็เรื่องคุณปะ…”
“ปะ?”
“ไม่มีอะไร  คือกูแค่คิดเรื่องที่บ้านน่ะ  มึงอย่าสนใจเลย”
ไอ้ตูมตามส่งยิ้มแห้งๆอันน่าผิดสังเกตมาให้
ตั้งแต่เข้ามาหลังเวที ผมก็เห็นมันเอาแต่จิ้มโทรศัพท์  ซ้ำยังมีเสียงไลน์เด้งรัวๆราวกับมีใครสักคนตาย  ท่าทางของมันเคร่งเครียดมาก
ผมว่าต้องมีอะไรสำคัญแน่ๆ
แต่มึนปิดบังผมเอาไว้!
“ไอ้ตาม”
“อะ…อะไร…”
“มึงแน่ใจนะไม่มีอะไร”
“แน่สิวะ   กูจะหลอกมึงทำไม”
“แล้วมึงเหงื่อแตกทำด๋อยอะไรไอ้เหี้ย!”
เพี๊ยะ!
ผมตบกบาลมันไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้แบบสุดๆ  คิดจะโกหกอย่าหัดเหงื่อแตก!  ไม่งั้นมึงจะโดนจับได้
“กูบอกแล้วไงว่าไม่มีอะไรจริงๆ!”
“ไอ้เหี้ยตาม”
“มะ…หมายถึงตอนนี้น่ะนะ”
“แปลว่าต่อไปจะมี?”
“ก็…ก็ไม่รู้เว้ย!  กูยังไม่ชัวร์  เอาเป็นว่ารอให้กูชัวร์ไม่ได้มั่วนิ่มก่อนแล้วกัน  กูสัญญาว่ากูจะบอกมึงคนแรก”
“กูไม่…”
“คุณน้ำคะ  ได้เวลาขึ้นเวทีแล้วค่ะ”
ตั้งท่าจะแย้งมันเสียหน่อย  แต่ทีมงานก็เดินเข้ามาตามเสียก่อน  ผมชี้หน้าตูมตามอย่างคาดโทษ  ขณะที่มันลอบถอนหายใจด้วยท่าทางโลกอกแบบสุดๆ
น่าสงสัย  ไม่ว่ายังไงก็น่าสงสัย!
“ค่า”
เมื่อทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้  ผมก็รีบเดินไปสมทบกับผู้เข้าประกวดคนอื่นๆที่กำลังทยอยกันเดินขึ้นไปโชว์ตัวบนเวที  บาร์บี้ที่หมายเลขอยู่ห่อนหน้าผมเลยต้องเดินนำไปก่อนหันมาชูสองนิ้วให้  ผมเลยส่งยิ้มกลับไปให้เธอ
กึกกึก กึกกึก
ฉิบหายล่ะ  มาสั่นอะไรตอนนี้วะกู!
กะอีแค่เวทีใหญ่ยักษ์  แสงสีเสียงตระการตา  และคนดูนับพันเท่านั้นเอง  มึงจะเกร็งไปทำไม!
ผมสูดลมหายเข้าปอด  มองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย  ทั้งที่กำลังยืนมองตัวเองอยู่แท้ๆ  แต่ผมกลับรู้สึกเหมือนว่ามันไม่ใช่
นี่ไม่ใข่ผม…
แม้ว่าจะคิดแบบนี้สักเท่าไหร่ก็ไม่อาจช่วยให้อะไรเปลี่ยนแปลงได้เลย  นอกจากผมที่ต้องสู้และเดินหน้าต่อไปเพื่อน้ำเท่านั้น
“เพื่อน้ำ  เพื่อน้ำ”
มันเป็นคาถาวิเศษที่ทำให้ผมสามารถทำได้ทุกอย่างไปแล้วกับการท่องคำว่า ‘เพื่อน้ำ’ 
วันนี้ผมจะต้องผ่านมันไปให้ได้  ทุกอย่างจะต้องออกมาดีที่สุด
ผม…
จะเข้ารอบให้ได้!
“ตาคุณน้ำเดินแล้วค่ะ”
น้ำ…
เป็นกำลังใจให้พี่ด้วยนะ
ดูให้ดีด้วยตาทั้งสองข้างของเธอ  พี่จะต้องเจิดจรัสบนเวทีนี้เพื่อเธอ…
ทำให้ดาวดวงน้อยที่ชื่อว่าน้ำดวงนี้…สุกสกาวส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้าให้ได้!
ตึก…ตึก…ตึก…
ตึก…
แปะๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราวเมื่อผมก้าวเท้าขึ้นไปยืนโพสท่าอยู่บนเวที  สายตากวาดมองไปยังผู้ชมทุกคน  เยิ้มและเล่นหูเล่นตาใส่กล้องทั้งหลายที่ระรัวชัตเตอร์ไม่ยั้ง  ท่าโพสที่เฝ้าฝึกฝนมาหลายเดือนถูกงัดออกมาใช้จนหมด  แสงแฟลชมากมายทำเอาแสบตาใช่เล่น  แต่ผมกลับรู้สึกยินดีและพอใจกับการตอบรับจากทุกคนในตอนนี้
สว่างพอไหม…
พี่ทำให้น้ำมีแสงในตัวเองมากพอหรือยัง?
เสียยงปรบมือเริ่มซาลงเมื่อผมหมุนตัวเตรียมจะเดินไปยืนประจำตำแหน่งของตัวเอง  ซึ่งจังหวะนี้จะมีผู้เข้าประกวดคนอื่นเดินสวนขึ้นมา  ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและผมคิดว่าตัวเองได้ทำอย่างสุดความสามารถแล้วในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องมาประกวดนางงาม
เกร๊ง!
ผมหยุดกึกเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างตกลงมาตรงหน้าระหว่างผมกับผู้เข้าประกวดอีกคนที่กำลังจะเดินสวนกันพอดี  น็อตขนาดใหญ่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่ปลายเท้าของผม
ผมและผู้เข้าประกวดต่างก็มองหน้ากันอย่างแปลกใจว่าน็อตตัวนี้หล่นมาจากไหน  จนกระทั่งเสียงผู้ชมด้านล่างเวทีเริ่มดังขึ้นมา
“คุณน้ำ  ระวัง!”
ต่อด้วยเสียงของไอ้หน้าหนวด  สัญชาตญาณสั่งให้ผมเงยหน้าขึ้นมองด้านบน  ไฟขนาดใหญ่ของเวทีที่ก่อนหน้านี้มันถูกสร้างให้อยู่ด้านบนสุกติดกำเพดานกำลังจะร่วงลงมา!
“กรี๊ด!!!”
ผู้เข้าประกวดที่อยู่ตรงหน้าผมกรีดร้องลั่นเพราะจุดที่เธอยืนอยู่คือจุดที่ตรงกับไฟนั้นพอดี  เสี้ยววินาทีนั้นผมรีบพุ่งเข้าไปผละกร่างของเธอให้กระเด็นออกไป  และ…
พลั่ก!!!  โครม!!!
“คุณน้ำ!!!”
“น้ำ!!!”
“กรี๊ด!!!!”
ผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย…
 
 
บับเบิ้ลบิวชวยคุย :
มาอัพแล้วจ้า  เรื่องราวเริ่มน่าตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว  อุบัติเหตุคราวนี้เป็นเพียงแค่อุบัติเหตุจริงๆหรือว่ามีใครจงใจกันแน่นะ?  แล้วพี่ไฟของเราจะปลอดภัยหรือเปล่า  ทำไมถึงได้ทำเท่จนตัวเองเจ็บตัวแบบนี้เล่า  ไหนจะท่าทางแปลกๆของตูมตามอีก  ตูมตามกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ?  มาช่วยเอาใจช่วยพี่ไฟกับคุณเปลวกันด้วยนะค้า  จุ๊บๆๆ
ตอนนี้เปิดพรีฯแล้วเน้อ  ใครสนใจอ่านรายละเอียดได้ที่โพสปักหมุดในเพจบิวเลยค่า



ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
มันไม่น่าใช่อุบัติเหตุธรรมดาซะแล้ว
เกิดอะไรขึ้นกับน้ำหรือเปล่า ตูมตามถึงไม่กล้าพูดอะไร

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ค้างงงงงงงงง

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
รีบมาต่อนะ กำลังสนุกเลย

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
หนุกๆรีบมาต่ นะะะะ

ออฟไลน์ 14th-friedegg

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เจ็บตัวแบบนี้ ขอให้อย่าความลับแตกเลยนะคะ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0




ตอนที่ 19
ไข่ปลาหมึก

 
“คุณน้ำ!”
ความชุลมุนเกิดขึ้นทันทีเมื่อร่างบางที่ผมเฝ้าทะนุถนอมถูกหลอดไฟขนาดใหญ่ร่วงมับลงมาทั้งแผง  ผมรีบกระโดดข้ามโต๊ะกรรมการขึ้นไปบนเวทีเพื่อช่วยคุณไฟออกมาทันที
“คุณน้ำ  คุณน้ำ”
หมับ… หมับ…
ไม่ใช่แค่ผมที่พุ่งเข้ามาเพื่อจะประคองคุณไฟ  หากแต่ยังมีอีกคนที่พุ่งเข้ามาด้วยท่าทางเป็นห่วงไม่น้อยไปกว่าคน
เพื่อนสนิทของคุณไฟ…
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมดีกว่า  ผมมาที่นี่ในฐานะญาติ  แต่คุณเป็นกรรมการ  มาแสดงท่าทีเป็นห่วงผู้เข้าประกวดขนาดนี้อาจทำให้คนอื่นสงสัยได้”
“ผมไม่สน”
“แม้กระทั่งว่าอาจทำให้ความแตกแล้วไอ้ฟายจะเดือดร้อนงั้นเหรอ?”
เขาเลิกคิ้วสูงมองหน้าผมตรงๆอีกครั้ง
ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว  ผมรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้จะชอบส่งสายตาแปลกๆมาที่ผมตลอดเวลา  ราวกับเขากำลังสงสัยอะไรอยู่   ยอมรับเลยว่าสายตาของเขาทำให้ผมกังวล
“เชิญครับ”
ผมจำใจต้องถอยห่างออกมาแล้วปล่อยให้คุณตูมตามอุ้มคุณไฟไปทางห้องพยาบาลที่มีทีมงานมารอรับอยู่  ตรงบริเวณที่คุณไฟสลบอยู่เมื่อกี้รอยเลือดอยู่เล็กน้อย
แปลว่าไม่ได้บาดเจ็บหนักเท่าไหร่สินะ
“คุณเปลว…”
“เรื่องฝ่ายเทคนิคทุกคนให้ไปพบผมที่ห้องประชุมเดี๋ยวนี้”
ผมออกคำสั่งกับทีมงานคนหนึ่งที่เดินละล่ำละลักเข้ามาหาอย่างกลัวๆ  ก่อนจะรับคำรีบวิ่งไปตามพวกฝ่ายเทคนิคของกองฯทั้งหมดตามคำสั่ง
ขณะที่กำลังจ้ะเนออกจากที่เกิดเหตุเพื่อไปจัดการกับฝ่ายเทคนิคที่ทำงานสะเพร่า  สายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด  สายไฟของหลอดไฟที่จะห้อยติดอยู่กับเพดานเพื่อยึดหลอดไฟเอาไว้มีลักษณะคล้ายกับถูกของมีคมตัดเอาไว้!
รีบหยิบสายไฟที่ว่าขึ้นมาดูอย่างพินิจ  ไม่ผิดแน่ๆ  สายไฟเส้นนี้ถูกตัดด้วยของมีคมจนเกือบขาด  แบบนี้ก็หมายความว่า…มีคนจงใจทำให้หลอดไฟอันนี้ตกลงมางั้นเหรอ?!
ผมเหลือบมองขึ้นไปด้านบนซึ่งเป็นจุดที่อยู่ของหลอดไฟขนาดใหญ่หลอดนี้ในตอนแรก  ด้านบนจะเป็นทางเดินเฉพาะของฝ่ายเทคนิคเท่านั้น  แต่ก็มีการอนุโลมให้สตาฟคนอื่นๆสามารถเดินได้เช่นกันถ้ามีเหตุจำเป็นในการต้องตรวจเช็คความพร้อมก่อนเริ่มงาน  บุคคลภายนอกหรือผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องไม่มีทางเข้าไปได้แน่ๆ  ถ้าอย่างนั้น…
ไม่อยากจะคิดแบบนี้เลยจริงๆ  แต่ทุกสิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าจะต้องเป็นฝีมือคนในอย่างแน่นอน  ใครสักคนในกองประกวดพลิกฟ้าหาดาว!
แบบนี้จะเรียกว่าเป็นการกระทำที่ไม่เจาะจงได้หรือเปล่า  เพราะการทำให้สายไฟเกอบขาดโดยไม่สามารถเลือกเวลาได้แบบนี้  ไม่น่าจะเป็นการตั้งใจทำร้ายคุณไฟโดยตรง  แต่ถ้าคิดแบบนี้มันก็จะดูเหมาะเกินไป  ที่ตัวเก็งของการประกวดต้องมาเจอเรื่องโชคร้าย
“คุณเปลวคะ  ฝ่ายเทคนิคไปรอที่ห้องประชุมแล้วนะคะ”
ผมหลุดออกจากห้วงความคิดของตัวเองเมื่อคุณพิมมาสะกิดเรียก
เธอเป็นผู้หญิงบ้างานวัยสี่สิบสี่ที่ยังโสด  ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาผมยังไม่เคยเห็นครอบครัวของเธอหรือว่าคนรักของเธอเลย  จะได้ยินก็จากพวกทีมงานเท่านั้นที่บอกว่าเธอเป็นสาวสวยที่เพียบพร้อมทุกด้านแต่ยังไม่ยอมแต่งงานหรือมีแฟนเลยสักคน
แม้บางครั้งผมจะรู้สึกเหมือนว่าเธอมีบางอย่างปิดบังเอาไว้ก็ตาม
“ครับ  ยังไงคุณช่วยจัดการเรื่องทางนี้ด้วย  กำชับนักข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นให้ดี  เราจะให้ข่าวนี้แพร่ออกไปไม่ได้เด็ดขาด  แล้วก็โทรตามทนายของผมมาด้วย  เขาน่าจะช่วยทำให้เรื่องนี้มันง่ายขึ้น”
“รับทราบค่ะ
เมื่อฝากฝังงานไว้กับคุณพิมเสร็จแล้ว  ผมก็รีบเดินไปทางห้องประชุมเพื่อจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นต่อทันที  คุณบาร์บี้ที่ยืนรวมอยู่กับผู้เข้าประกวดคนอื่นๆด้วยท่าทางตกใจหันมามองผมพอดี  แต่เพราะไม่มีเวลามากเท่าไหร่ผมจึงทำได้แค่พยักหน้าให้เธอกลับไปเท่านั้น
ผู้เข้าประกวดทุกคนต่างมีสีหน้าหวาดกลัวระคนตกใจด้วยกันทั้งนั้น  ดูราวกับพวกเธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลยจริงๆ
ใครกัน…
จะต้องมีใครสักคนในนี้ที่คิดทำร้ายคุณไฟอย่างแน่นอน!
 
คล้อยหลังร่างสูงที่เดินออกจากห้องประกวดไป  ใครบางคนก็แสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจที่แผนการดำเนินไปด้วยดี
ใครบางคนที่แสงสว่างรอบตัวอำพรางความดำมืดในจิตใจ!
 
[ไฟ  ไฟ  ไฟได้ยินน้ำไหม  ไฟ  ตื่นสิ  ทำไมไฟไม่ตื่นล่ะตาม  ไหนบอกว่าไฟไม่เป็นอะไรไง  ไฟ  ตื่นสิ  ฮึก…]
สะ…เสียงใครน่ะ?
เหมือนเสียงของน้ำเลย  เหมอนว่าน้ำของผมกำลังร้องไห้
[ไฟ  ได้ยินน้ำไหม  นี่น้ำนะไฟ  ไฟ  ตาม  ตามเรียกไฟสิ  ช่วยน้ำเรียกไฟเร็วเข้า]
“ใจเย็นๆนะน้ำ  ไอ้ฟายมันไม่เป็นไรหรอก  ที่หัวก็มีแผลเท่าควายขวิดเอง”
[จะบ้าเหรอตาม  ควายขวิดมันถึงตายได้เลยนะ]
ผมย่นคิ้วเข้าหากันเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังได้ยินบทสนทนาความปากหมาของไอ้ตูมตามที่ชอบกวนตีนน้ำเป็นประจำดังอยู่ข้างหู
“น้ำเหรอ”
ส่งเสียงออกไปก่อนเป็นอันดับแรก  ค่อยๆเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งราวกับมีไดโนเสาร์มาถ่วงเอาไว้  ทันทีที่ลืมตาขึ้นผมก็เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของน้ำเป็นสิ่งแรก  แต่พอเพ่งมองดีๆก็พบว่ามีบางอย่างกั้นระหว่างผมกับน้ำเอาไว้อยู่
กระจก…
น้ำอยู่ในกระจก!
“ใจเย็นๆ   กูรู้ว่ามึงกำลังมโนอะไร  แต่ขอโทษ กูแค่วิดีโอคอลหาน้ำเท่านั้น  น้องสาวมึงไม่ได้อยู่ในกระจก”
ข้อสงสัยถูกไขโดยไอ้เพื่อนตัวดีที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียงเพื่อคอยถือโทรศัพท์และหันหน้าจอให้น้ำได้มองผมเต็มๆตา
ผมยังไม่ตอบอะไรใครกลับไปทั้งนั้นเพราะในหัวกำลังประมวลว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้  ภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นย้อนกลับเข้ามาในหัว
อ่า…จริงสิ
กูเพิ่งทำตัวประหนึ่งซูเปอร์แมนช่วยเหลือสาวน้อยคนนั้นไปนี่หว่า  แล้วตัวเองก็เกือบจะฉิบหายเพราะความแมนของตัวเองไปเช่นกัน…
“กูยังไม่ตายสินะ”
“ยัง  แค่เกือบๆ”
“…”
“มึงใช้สมองหรือส้นตีนคิดฮะ  ถึงได้พุ่งหลาวเข้าไปช่วยคนอื่นจนตัวเองเกือบตายแบบนี้  นี่ดีนะที่โคมไฟเวรนั่นไม่ได้ทับโดนมึงเต็มๆ  ไม่อย่างนั้นป่านนี้มึงได้ไปเฝ้ายมบาลแล้วไอ้เพื่อนโง่!”
[ใช่  น้ำเห็นด้วยกับตามนะ  ทำไมไฟทำแบบนี้ล่ะ]
น้ำที่อยู่ในจอมือถือเสริมทับ  เล่นเอาผมตัวหดเหลือสองนิ้วไปเลย
ก็เข้าใจนะว่าเป็นห่วงกัน  แต่อย่ารุมแบบนี้ได้ไหม  สำนึกผิดไม่ทันแล้วเว้ย!
“ไฟขอโทษนะน้ำ  แต่ตอนนั้นไฟคิดอะไรไม่ออกจริงๆ  จะให้ยืนเฉยๆรอดูผู้หญิงคนนั้นบาดเจบ่อหน้าไฟก็ทำไม่ได้…”
“แมนจังเลยนะมึง!”
“หุบปากเลยไอ้เหี้ยตาม  ไม่ช่วยแล้วมาสอด!”
ผมถลึงตาใส่มันที่แทรกขึ้นมากลางวง  มึงอย่ามาจุดชนวนโหมไฟในใจน้ำให้น้ำโกรธกุมากไปกว่านี้เลย  แค่นี้กูก็รู้ชะตาตัวเองแล้วเหอะ!
[รู้ตัวไหมว่าผิด]
“รู้จ้า”
ผมยิ้มอ่อนมองน้องสาวที่หน้าบึ้งมองผมผ่านจอโทรศัพท์
นี่ถ้าอยู่ใกล้กันป่านนี้ผมคงโดนดึงหูจนหูยานถึงพื้นไปแล้วแน่ๆ
[ไม่เอาแล้วนะไฟ  ห้ามทำแบบนี้เด็ดขาด  ถ้าไฟเป็นอะไรขึ้นมาแล้วน้ำจะอยู่ยังไง]
“ไฟไม่ยอมเป็นอะไรไปหรอกน่า  ไฟจะอยู่ดูแลน้ำตลอดไปนะ”
[ถ้าอยากดูแลน้ำตลอดไปก็ห้ามทำแบบนี้อีกนะ  รู้ไหมว่าน้ำแทบขาดใจตอนตามโทรมาบอกว่าไฟเกิดอุบัติเหตุ  น้ำแทบจะช็อกตายเลยนะ]
พูดไปพลางร้องไห้ไป  น้ำร้องไห้สะอึกสะอ้นใช้หลังมือปาดน้ำตาออกครั้งแล้วครั้งเล่า  มันทำให้ผมรู้สึกผิดเหลือเกินที่ทำให้น้ำองเป็นกังวลมากขนาดนี้
“ไฟขอโทษ  ไฟสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว  ต่อให้มีคนท้องกำลังจะโดนรถชนอยู่ตรงหน้า  ไฟก็จะไม่ช่วย”
[ใจร้าย!  ไฟต้องช่วยสิ  ถ้าไม่ช่วยไฟจะกลายเป็นผู้ชายใจดำที่สุดในโลกเลยนะ!]
เอิ่ม…
งั้นเอาที่น้องสาวสุดที่รักของพี่สบายใจก็แล้วกันนะ
หลังจากนั้นผมก็ต้องทนฟังน้ำบ่นต่ออีกเป็นชั่วโมงๆทั้งที่หัวก็ยังเจ็บจี๊ดๆอยู่เป็นระยะ  ไอ้ตูมตามบอกหัวผมแตกด้านหลังเล็กน้อยไม่ถึงกับต้องเย็บ  แต่หัวก็โนและบวมปูดออกมาเป็นลูกส้มโอ  ซึ่งนับว่าโชคดีที่ผมไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง  ไม่อย่างนั้นเรื่องที่เป็นผู้ชายคงแดงออกมาแน่ๆ  เพราะพอมาถึงห้องพยาบาลของโรงแรม  ไอ้ตูมตามก็ตามติดหมอแจเพื่อคอยป้องกันไม่ให้หมอถอดเสื้อ ปั๊มหัวใจหรืออะไรกับร่างกายของผมมากไปกว่าการตรวจบาดแผลภายนอก  แต่ถึงภายนอกผมจะไม่เป็นอะไร  หมอก็บอกว่ายังไงพรุ่งนี้ผมก็ต้องไปเอ็กซเรย์ศีรษะที่โรงพยาบาลอยู่ดี
ซึ่งผมยังคิดไม่ตกเลยว่าจะไปเอ็กซเรย์ได้ยังไงในเมื่อร่างกายผมมันเป็นผู้ชาย!
“กูจะออกไปหาอะไรกินหน่อย  มึงจะเอาอะไรไหม”
ไอ้ตูมตามที่เอาแต่นั่งหน้าเครียดกดโทรศัพท์อยู่นานสองนานเอ่ยขึ้น  ผมรีบส่ายหัวปฏิเสธเพราะไม่มีอารมณ์จะยัดอะไรลงท้องตอนนี้
สายตามันคอยจะเหลือบไปทางประตูเพื่อหาใครสักคน…
“ประตูห้องพยาบาลที่นี่มันฝังเพชรมูลค้าพันล้านไวหรือไง  มึงถึงได้จ้องเอาๆแบบนั้น”
“เรื่องของกู”
บอกปัดอย่างชัดเจน  กูเจ็บขนาดนี้มึงยังไม่คิดมาเยี่ยมเลยสินะไอ้หน้าหนวด!  ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาหนวดของมันเลย
“อารมณ์แปรปรวนเหมือนคนเป็นเมนส์เลยนะมึง  งั้นเดี๋ยวกูมา  อยากแดกอะไรก็โทรไปละกัน”
“เออ”
ตอบกลับไปแค่นั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงทันที
ในห้องพยาบาลของโรงแรมจะแบ่งเป็นห้องเล็กๆอีกทีทำให้คนที่ป่วยและมานอนพักมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเอง  โดยจะมีหมอเวรคอยเฝ้าอยู่ที่ด้านนอก  เสียงประตูปิดดังเบาๆ  แสดงว่าไอ้ตูมตามคงออกไปแล้ว  ได้อยู่คนเดียวสักที…
ผมนึกย้อนไปถึงเหตุการณก่อนหน้านี้  ถึงแม้ว่าตอนนั้นผมจะสลบไปด้วยความตกใจในทันที  แต่ผมก็รู้สึกเหมือนโสตประสาทยังทำงานอยู่ตลอดเวลา  ผมมั่นใจว่าผมได้ยินเสียงของเขา…
เสียงของคุณเปลว
แต่เมื่อตื่นมามันกลับไม่เป็นอย่างที่ผมคิด  ไอ้ตูมตามบอกมันเป็นคนอุ้มผมมาส่งที่ห้องพยาบาลเองและก็ไม่ได้พูดถึงไอ้หน้าหนวดนั่นเลยสักคำ  แน่นอนล่ะว่าผมเองก็ไม่กล้าถามด้วยว่าเขาอยู่ที่ไหน  ทำไมถึงไม่มาหาผม  ถ้าขืนถามไปมันก็รู้หมดน่ะสิว่าผมคิดอะไรกับไอ้เวรนั่นอยู่
“ไอ้คนใจร้าย”
ได้แต่ก่นด่าออกมาด้วยความน้อยใจ
ลองถ้าคนที่บาดเจ็บเป็นบาร์บี้  ขี้คร้านจะตามมานั่งเฝ้าที่ปลายเตียง!
ความหงุดหงิดงุ่นง่านในใจทำให้ผมยิ่งเกลียดตัวเองมากขึ้นไปอีกที่ไม่อาจหักห้ามใจได้เลย   นับวันความรู้สึกที่พยายามเก็บซ่อนเอาไว้มันจะยิ่งทะลักออกมา  โดยที่ตัวผมชักไม่มั่นใจแล้วว่าตัวเองจะสามารถเก็บความรู้สึกที่น่าอึดอัดนี้เอาไว้ได้อีกนานเท่าไหร่
มันอึดอัด…
อึดอัดจนไม่อยากเก็บเอาไว้อีกต่อไป
อยากจะพูดให้มันจบๆ  เผื่อมันจะช่วยให้ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง  แต่ว่า…ความกล้ามันก็ยังไม่มากพอ  ผมยังไม่กล้าที่จะยอมรับกับตัวเองเสียด้วยซ้ำว่ากลายเป็นคนรักร่วมเพศไปแล้ว
ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองผู้คนหากความรู้สึกในใจมันถูกเปิดเผยไปหมดแล้ว
ผมจะทำยังไงดี  ผมควรจัดการกับความรู้สึกที่มีให้ไอ้หน้าหนวดนั่นอย่างมากล้นยังไงดี!
แอ๊ด…
เสียงประตูเปิดออกหลังจากทีไอ้ตูมตามเพิ่งออกไปได้แค่เพียงสิบนาที  ผมรีบเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงแกล้งหลับเพราะขี้เกียจคุยกับมันต่อ
อุตส่าห์นึกว่าจะไปแดกข้าวนานๆ  ที่ไหนได้…สงสัยซื้อขึ้นมากินกะเฝ้าผมไปพร้อมๆกันตามคำสั่งของน้ำแหง!
ตุ้บ…
ขมวดคิ้วมุ่นอย่างแปลกใจเมื่อที่ว่างข้างเตียงซึ่งเหลืออยู่เพียงน้อยนิดมันยวบลงราวกับว่ามีใครขึ้นมานอนด้วย  แต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากหันไปถามไอ้ตูมตาม  วงแขนของคนที่ขึ้นมานอนข้างๆตอนนี้ก็ตวัดกอดเอวผมเอาไว้แทน  พร้อมกับใบหน้าของใครบางคนที่ซุกลงมาตรงซอกคอ!
“คิดถึงจัง…”
ไอ้หน้าหนวด!
กูว่าแล้วเชียว  เพราะไอ้ตูมตามไม่มีทางทำอะไรแบบนี้แน่ๆ  แถมคนเดียวที่มือไวกับร่างกายของผมได้ทุกสถานการณ์ก็มีแต่มันเท่านั้น!
“โชคดีจริงๆที่คุณไม่เป็นอะไรมาก  ผมตกใจแทบแย่เลยนะครับ”
“ขนาดตกใจนะครับ  ยังมาเยี่ยมเอาป่านนี้”
อ๊ากกกกก!
อยากจะตบปากตัวเองให้ฟันร่วงจริงๆ!  มึงจะประชดเป็นสาวน้อยงอนผัวแบบนี้ทำไมวะไอ้ไฟ!  กลัวเขาไม่รู้หรือไงว่าตกหลุมรักจนหมดใจไปแล้วน่ะไอ้เวรเอ๊ยย!
“ผมมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย  ขอโทษนะครับที่มาเยี่ยมช้า”
ลมหายใจร้อนๆที่เป่ารถต้นคอตอนนี้สร้างความรู้สึกวาบหวิวจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น  มือหนาที่กอดผมอยู่ก็กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น  แทบจะทุกส่วนในร่างกายของเราแนบชิดกันจนเกิดเป็นความอบอุ่นลึกๆในหัวใจ  และทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“คุณไฟ…”
“…ครับ”
ความอบอุ่นที่ได้รับทำให้ผมเผลอตอบรับเสียงอ่อน  หัวใจแทบไม่ฟังคำสั่งจากสมองเลยแม้แต่นิดเดียว
อุ่นจริงๆนะ
อ้อมกอดของเขา…
หมับ…
“คุณน่ารักจังเลย”
“ไอ้คุณเปลว…”
กัดฟันเรียกชื่อมันออกไปย่างคับแค้นในอุรา
มือหนาที่เมื่อสามวินาทีก่อนหน้านี้ยังกอดผมอยู่ได้เลื่อนลงต่ำกว่านั้นเพื่อเปลี่ยนเป้าหมาย  และเป้าหมายของไอวิตถารคนนี้ก็คือ…
บั้นท้ายของผม!
“ว่าไงครับ”
ยังมาทำเสียงระรื่นใส่กูอีกเรอะ!
เอามือของมึงออกไปจากก้นกูเดี๋ยวนี้เลยไอ้เหี้ย!
“เอามือออกไป”
สั่งเสียงเขียว ทว่ามันก็ไม่ได้ผลเลยสักนิด เพราะมือของมันยังคงบีบเคล้นและนวดคลึงก้นของผมไม่หยุด  ส่วนจมูกก็ซุกซนไม่แพ้กัน  ไซร้คอผมไปมาจนร่างกายเริ่มจะระทวยไร้แรงต้านทาน
“อีกนิดนะครับ   ลงโทษที่คุณทำให้ผมเป็นห่วงจนแทบบ้าไง”
“มะ…ไม่เกี่ยวสักหน่อย  ปล่อยนะเว้ย”
“ไม่เอา   ยังไม่พอ”
“ไม่พอบ้าอะไรเล่า  ปล่อยนะ”
“ยังกินของหวานไม่อิ่มเลย”
แต่ละประโยคของเขาฟังดูอู้อี้เพราะกำลังเล่นสนุกกับต้นคอของผมอยู่  ไม่ได้การละ  ขืนปล่อยให้มันทำต่อต้องเลยเถิดถึงขั้นได้เสียกับมันแน่ๆ
ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงถลำลึกจนยากที่จะถอนตัว
แบบนั้นล่ะบรรลัยของจริง!
“ไม่เจ็บหรอกนะครับ  ผมมีตัวช่วยให้เข้าได้ง่ายๆนะ”
เข้าได้ง่ายๆอะไรของมึ๊งงงงงง!
ผมหุบตูดรีบเปลี่ยนท่าเป็นนอนหันหน้าเข้าหามันแทบไม่ทัน  อีกง่ายกำลังผมยิ้มกลั้นขำอย่างเต็มที่  ดูก็รู้ว่าที่พูดและทำไปทั้งหมดนั้นมันกำลังแกล้งผม!
แกล้งเรื่องอะไรไม่แกล้ง  มาแกล้งเรื่องเอกราชประตูหลังกูเนี่ยนะ!
ไอ้เหี้ยยย!  กูจะด่ามึงว่าอะไรดีเนี่ยยย!
“เมื่อไหร่คุณจะเลิกทำแบบนี้สักฮะ  ไอ้นิสัยปากว่ามือถึง  มือไวเป็นปลาหมึกแบบนี้น่ะ!”
“ทำไงได้ล่ะครับ  มือมันไปเองทุกครั้งเวลาผมอยู่กับคุณนี่นา”
“มือปลาหมึก!  หน้าหนวดไม่พอมือยังเป็นหนวดปลาหมึกอีก!”
ช่างเป็นการด่าที่จิ้มลิ้มอะไรแบบนี้นะไอ้ไฟ  กูอยากร้องไห้  ฮือออออ
“ตอนเด็กๆผมเคยได้ฉายาว่ามือปลาหมึกด้วยนะ  อยากลองเป็นเมียปลาหมึกดูไหมล่ะ”
“พะ…พูดบ้าอะไรเนี่ย  เมียเมออะไร  ผมเป็นผู้ชายนะ!”
หน้าเห่อร้อนไปหมด  ส่วนไอ้คนพูดก็ระริกระรี้ขำอย่างออกนอกหน้าที่ไดแกล้งให้ผมเขินเล่น  เดี๋ยวเหอะมึง  รู้จักไอ้ไฟน้อยเกินไปแล้ว
กูไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครมาปั่นหัวได้ง่ายๆหรอกนะเว้ย!
“งั้นคุณรู้ไหมว่าตอนเด็กๆผมได้ฉายาว่าอะไร”
“อะไรเหรอครับ”
“ไอ้ตัวกินหมึก!”
“…”
“ตอนเด็กๆผมเป็นแชมป์กินปลาหมึกสามสมัยซ้อนตอนงานวันเด็ก  เป็นไงล่ะ  รู้แล้วอึ้งไปเลยล่ะสิ  เพราะงั้นถ้าคุณเป็นราชาปลาหมึก  ไอ้ตัวกินหมึกอย่างผมก็จะกินคุณให้หมดไม่ให้เหลือซากเลย!”
ผมหัวเราะลั่นที่ได้ดักทางราชาปลาหมึกอย่างเขา  ขณะที่อีกฝ่ายนิ่งไปไม่ยอมตอบโต้อะไรกลับมา  หรอมุกตัวกินหมึกของผมจะทำให้เขาอึ้งจนไม่รู้จะตอบอะไรกลับมาดี?
“งั้น…คุณไฟ”
ในที่สุดมันก็เปิดปากพูดออกมาหลังจากที่เงียบไปพักใหญ่ๆ  ผมไม่ตอบแต่ก็จ้องหน้ามันกลับเพื่อรอฟัง
“คุณ...ชอบกินส่วนไหนของปลาหมึกมากที่สุดเหรอครับ”
“ส่วนไหนเหรอ  ก็กินทั้งหมดนั่นแหละ  อร่อยจะตาย”
“ทั้งหมดเลยเหรอครับ”
“ใช่  ถามไปทำไม”
“งั้น  คุณลอง…”
“…”
“กินไข่ปลาหมึกหน่อยไหม?”
“ไข่ปลาหมึก?  ที่ไหนล่ะ  คุณซื้อปลาหมึกมาด้วยเหรอ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผมโคตรเกลียดผุดขึ้นบนใบหน้าของอีกฝ่ายทันทีที่ผมถามจบ  คล้ายกับมีรังสีหื่นกามอันมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากคนตรงหน้า
กะ…กูพลาดอะไรตรงไหนไปหรอเปล่า?
หมับ! หมับ!
ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรมากไปกว่านี้  ร่างสูงก็เปลี่ยนวิถีมาขึ้นคร่อมผมอย่างรวดเร็ว  สองแขนถูกตรึงเอาไว้เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียว  ขณะที่มืออีกข้างของมันก็กำลังใช้ปลดเข็มขัดกางเกงที่สวมอยู่
เฮ้ยเดี๋ยวววววววววว!
มึงจะทำอะร้ายยยยย     
“จะ…จะ…จะ…จะทำอะไร!”
เสียงติดเป็นแผ่นซีดีใกล้เจ๊งเลยมึง!
“ก็จะเอาไข่ปลาหมึกให้คุณกินไงครับ”
“ใครปลาหมึกบ้านคุณมันอยู่ตรงนั้นเรอะ!”
“แล้วเมื่อกี้คุณเรียกผมว่าอะไรล่ะ?”
“ปลาหมึก”
“ใช่  เพราะงั้นตอนนี้ผมคือปลาหมึก  อาหารที่คุณชอบกินมากที่สุด”
“ดะ…เดี๋ยวนะ  คุณคงไม่คิดจะให้ผมกิน…”
สายตามองเลยไปที่เป้าตุงๆของไอ้หน้าหนวดซึ่งตอนนี้เข็มขัดและซิบกางเกงถูกปลดจนเห็นขอบกกน.สีดำเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยความอกสั่นขวัญแขวน
“อย่างที่คุณคิด”
“…”
“นี่แหละ  ไข่ปลาหมึกของผม”
ไม่ต้องมายิ้มแป้นแล้นเลยไอ้เหี้ย  ไข่ปลาหมึกบ้านพ่อมึงสิ  นี่มันไข่มึงชัดๆ!
ลุกออกไปเดี๋ยวนี้!!!
 
 
 
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  รอบนี้หายไปนานจริงๆ  เป็นสิบวันเลย T^T  ต้องขอโทษนักอ่านที่ติดตามด้วยนะคะ  ด้วยงานหลักของบิวเป็นงานที่ต้องออกตจว.และต้องเร่งทำเพื่อไปจังหวัดอื่นต่อเรื่อยๆ  ตอนนี้บิวอยู่กาญฯ  พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไปสุพรรณต่อแล้ว  เสร็จจากสุพรรณก็ขึ้นอีสานยาวหลายจังหวัด  ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาอัพเดตอะไร  อีกอย่างก่อนหน้านี้ก็ยุ่งอยู่กับการแพ็คและจัดส่งหนังสือเรื่องวายร้ายที่รักด้วย  ทำให้ยิ่งไม่มีเวลาเข้าไปอีก  แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็จะรีบอัพให้ได้อ่านกันนะคะ  ตอนนี้ขอเชิญทุกคนมากินไข่ปลาหมึกไปพร้อมๆกันค่ะ 5555+
แจ้งเตือนล่วงหน้า : อีกไม่กี่ตอนก็จะมีดราม่าแล้วนะคะ  เป็นดราม่าที่หนักที่สุดในเรื่องนี้แล้ว  พร้อมๆกับการประกวดที่ใกล้จะจบลงด้วย  มาเอาใจช่วยพี่ไฟและคุณเปลวด้วยกันนะคะ
 
ปล. นิยายเรื่องนี้เป็นพรีแล้ว  สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจ Bubble-Bew แล้วดูที่โพสปักหมุดเลยจ้า


ออฟไลน์ insunhwen

  • FREEDOM!!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
เริ่มจะเข้มข้นขึ้นแล้ว

ใครกันที่ทำร้ายไฟอยากรู้จริงๆ :katai1:

ออฟไลน์ natt teng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-3
รอ รอ จ้า อ่านรวดเดียวจนตีสองครึ่งเลย ตามต่อจ้า

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด