บทที่ 22.2
“รถไฟขบวนพิเศษที่...ถึงชานชะลาสถานีกรุงเทพฯ...” เสียงประกาศจากนายสถานีพร้อมกับรถไฟที่ลดความเร็วลงเรื่อยๆ จนจอดสนิทเทียบชานชะลาพอดิบพอดี
ผู้โดนสารบนรถค่อยๆทยอยเก็บของเพื่อลงจากรถไฟ พวกจันทร์เจ้าก็ตื่นกันหมด บิดขี้เกียจแก้เมื่อย ความร้อนจากอากาศและความเมื่อยล้าจากการนั่งรถไฟนานทำให้พวกเขาดูเหนื่อยอ่อนกว่าปกติ
ยิ่งพี่นาฏยที่ดูก็รู้ว่าขี้ร้อนเพราะว่าแผ่นหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อจนแนบไปกับเนื้อ
“โอยยยย ล้ามาก” เอ็ดมันด์บิดต้นคอ ยืดแขนจนได้ยินเสียงกระดูกดังกรอบแกรบ ตัวสูงใหญ่ของเขาไม่เหมาะกับการนั่งที่แคบๆนานๆ ยิ่งต้องมาแบ่งเก้าอี้คนละครึ่งแล้วยิ่งไปกันใหญ่
“กูลาละวันนี้ ไม่ไหวละ” หนุ่มลูกครึ่งพูดด้วยเสียงยานคาง เตเตส่ายหน้ามองมันอย่างอ่อนใจ คนที่ต้องลำบอกไปส่งมันที่บ้านมันก็คือเขาอีกนั่นแหละเพราะว่าไอ้ฝรั่งขี้นกมันไม่ชอบขับรถในเมือง มันบอกว่ามันเป็นฝรั่งมันไม่ชินกับรถติดๆในบ้านเรา
ถรุยยยย ไอ้ตอแหล
จันทร์เจ้าขยี้ตาหนุบหนับเพราะว่านอนมาเกือบตลอดทางขากลับ
“ไอ้เจ้ากลับไง?” ไอ้อัชถาม เขาไม่เอารถมาและว่าจะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปต่อไฟฟ้าลอยฟ้าเอา แต่ดูเหมือนว่าคงไม่ต้องรอคำตอบจากเพื่อนแล้วมั้ง
“ผมไปส่งเอง” ออกตัวแรงกว่านี้มีใครอีกไหมครับพี่
อชิระสบตาคมกริบของรุ่นพี่ประมง แววตาสุขุมลึกทำให้เขามั่นใจว่าเจ้าตัวจริงจังกับเรื่องของเพื่อนเขามากแค่ไหน
...เขาวางใจ…
ที่จะฝากเพื่อนเขาไว้ในความดูแลของอีกฝ่ายสักที
แยกย้ายกันกลับบ้านคนละทาง ใครมากับใครก็กลับกับคนนั้น จันทร์เจ้าเดินต้อยๆตามร่างสูงใหญ่ไปขึ้นรถที่จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถตั้งแต่เมื่อเช้า พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าในอีกไม่นาน สถานีกรุงเทพฯยามเย็นแต่ไม่ได้ลดความคึกคักไปแม้แต่น้อย
รถยนต์คันหรูจอดทิ้งอยู่มุมหนึ่ง นาฏยปลดล็อคก่อนจะเอากระเป๋าเป้วางไว้ด้านหลัง เปิดแอร์เบอร์แรงสุดเพื่อให้รถมีอากาศถ่าเทเนื่องจากจอดตากแดดมาทั้งวัน
“ง่วงก็หลับไป” เห็นกระต่ายแคระอ้าปากหาวหวอดๆ ตากลมๆจะปิดๆหลังเจอแอร์เย็นฉ่ำเข้าไป กอดหมอนอิงในมือแน่น แก้มกลมๆขึ้นสีจาง “ตัวรุมๆหรือเปล่า?”
ฝ่ามือใหญ่แตะที่หน้าผากมน ความอุ่นที่สูงขึ้นเล็กน้อย นาฏยขมวดคิ้ว เพราะวันนี้อากาศค่อนข้างร้อนจัดและตากแดดเลยอาจจะเป็นไข้แดดหรือเปล่า
“อืม...น่าจะอะครับ ครั่นเนื้อครั่นตัว” เขารู้สึกเป็นมาสักพักแล้วระหว่างขากลับ เขาป่วยง่ายตอนที่โดดแดดหรืออากาศร้อนจัด มันจะเป็นไข้แดดตลอดเลย เลยไม่ค่อยชอบตากแดดเท่าไร สงสัยกลับไปต้องอัดพาราสักเม็ด
“หลับซะ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วผมปลุก” นาฏยลูบกลุ่มนุ่มเบาๆเหมือนกล่อมเด็ก พอเห็นลมหายใจสม่ำเสมอของอีกฝ่ายเป็นสัญญาณว่าหลับเรียบร้อยจึงค่อยๆออกรถ
“คุณตื่น” เขย่าร่างเล็กที่นอนมาตลอดทาง ดูท่าคงเพลียมาก
นัยน์ตากลมลืมขึ้นตามแรงเขย่าเบาๆ รถยนต์มาจอดที่หน้าบ้านเขาพอดิบพอดี เขาขอบคุณพี่นาฏยที่มาส่ง
“พี่นาฏยจะดื่มอะไรก่อนมั้ยครับ?”
“ไม่เป็นอะไร ฝากสวัสดีที่บ้านคุณด้วย” มือใหญ่ลูบหัวทุย ยิ้มจางๆ จันทร์เจ้ายิ้มตอบให้
“ไปละครับ” เปิดประตูลงจากรถเดินไปที่ประตู หันมาโบกมือให้คนขับด้วย
นาฏยเปิดกระจก กวักมือเรียก จันทร์เจ้าก้มหน้าเข้าไปใกล้ งุนงงว่าพี่นาฏยลืมอะไรหรือเปล่า
“ครับ?”
“เอาไว้คราวหน้าผมค่อยมาสวัสดีบ้านคุณใหม่...” ยิ้มมุมปากเล็กน้อย “แต่ไม่ใช่ในฐานะรุ่นพี่”
จบประโยค เจ้าตัวก็ดึงแก้มป่องๆอีกครั้งแล้วออกรถไป กระต่ายแคระยืนเอ๋ออยู่สักพัก จนหน้าขาวๆขึ้นสีจัดเมื่อเข้าใจหมายอีกฝ่ายว่าหมายถึงอะไร
“พี่นาฏย...บ้า” บ่นอุบอิบแต่แก้มกลมๆแดงจนสุก
หลังจากทริปรถไฟวันนั้นเขากับพี่นาฏยก็ยังเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง พี่นาฏยมารับบ้างถ้าเจ้าตัวว่าง ไปกินข้าวที่โรงอาหารบ้างซึ่งแน่นอนว่าจันทร์เจ้าทำข้าวกล่องให้อีกฝ่ายเหมือนเดิม
แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ...คนรอบข้างต่างหาก
บางครั้งจันทร์เจ้าก็เจอกลุ่มรุ่นพี่ผู้หญิงเอาขนมนมเนยมาฝาก มีการบอกว่าเอาไปฝากเผื่อพี่นาฏยด้วย บางทีก็มีคนมาขอถ่ายรูป
ด้วยบ้าง บางกลุ่มก็เข้ามาถามว่าไม่ได้อยู่กับพี่นาฏยหรอ แล้วพี่นาฏยไปไหน เขาก็ได้แต่ตอบว่าพี่นาฏยอยู่คณะเรียนอยู่
ที่เพิ่มขึ้นเรือยๆคือจำนวนขนมนมเนยต่อวันที่รู้สึกจะเริ่มเยอะจนกินคนเดียวไม่ไหว แบ่งแจกจ่ายเพื่อนๆในคณะบ้าง
ที่ไม่เหมือนเดิมอีกอย่างคือ…
‘NathyaChanchao_FC’
เพจเฟสบุ๊คที่เปเปส่งมาให้ดู บอกว่าเป็นเพจที่กำลังบูมมากในโลกออนไลน์ คนกดไลค์เพิ่มขึ้นๆเรื่อยๆ มีการเอาไปแชร์วนในเพจมหาลัยด้วย คือมันก็มีเพจของคนอื่นๆด้วยแต่ว่าเพจนี้กำลังมาแรงสุด
“เอ่อ...ถ้าฝากให้พี่นาฏยเอาไปให้เจ้าตัวเลยไม่ดีกว่าหรือครับ?” เขาถามตาปริบๆระหว่างที่เจอคนกลุ่มหนึ่งดักหน้า แต่ละคนถือขนมใส่ถุงน่ารักคนละถุงสองถุง
“ก็ให้น้องเจ้ากับพี่นาฏยพี่ละจ้า” สาวแว่นคนหนึ่งตอบ คงเป็นรุ่นพี่ปีสองละมั้ง
“พี่นาฏยหน้าดุ ไม่กล้าให้ ให้น้องเจ้านี่แหละ”
จันทร์เจ้าหัวเราะตาม จริงๆก็หน้าดุนั่นแหละ คนอื่นๆถึงกลัวอยู่เนี่ย
“พี่นาฏยใจดีครับ” เขายิ้มแก้มตุ่ย พี่นาฏยใจดีที่สุด
“กรี๊ดดด เขาแก้ตัวแทนกัน” เสียงสาวๆในกลุ่มนั้นกรีดร้องขึ้นมา แต่ละคนมองเขาด้วยสายตา...เอ่อ...ที่ดูจะเรียกว่า...ฟิน?...
“ทำไมมายืนตรงนี้?” เขาสะดุ้งเมื่อเสียงมีเสียงทัก
“กรี็ดดดดดด พี่นาฏย”
กลุ่มเธอตายสงบแล้ว พี่นาฏยมาค่ะ พี่นาฏยตัวเป็นๆมาถึงที่เลย
“พี่นาฏย?” น้องทักทาย ยิ้มจนแก้มกลมๆตุ่ย ความเขินยังมีอยู่แต่ก็ลดลงมาบ้าง
“มาทำอะไรกันตรงนี้?” นาฏยเห็นเด็กตัวเล็กโดนล้อมไปด้วยกลุ่มผู้หญิงอยู่นานสองนาน ตอนแรกนึกว่าคุยกันไม่นานเลยไม่ได้
เดินมา แต่ว่าเห็นทีจะไม่ใช่
“พวกเราเอาขนมมาให้น้องค่ะ” คือกลัวก็กลัวนะ แต่ตัวจริงมาอยู่ตรงหน้าทั้งที ขอหน่อยเถอะ “มีฝากพี่นาฏยด้วยนะคะ”
นาฏยพยักหน้าให้ทั้งที่ยังทำหน้านิ่ง เป็นปกติสำหรับคนที่ไม่ได้สนิทด้วย “ขอบใจนะ” เลยได้แต่เอ่ยคำสั้นไปให้แทน
เขารู้ดีว่าคนพวกนี้ไม่ได้มีอะไร แค่เหมือนแฟนคลับตามดาราซึ่งถ้าไม่ได้เกินขอบแขตอะไรมากมายเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ถ้าเมื่อไรที่มันเกินกว่าที่เขารับได้เขาคงไม่อยู่เฉยแน่นอน
“พี่นาฏย” มือเล็กกระตุกแขนเสื้อ จันทร์เจ้าทำปากขมุบขมิบ
“อย่าทำหน้าบึ้งสิครับ” ถึงพี่นาฏยจะใจดีแค่หน้าดุ แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ชอบบอกว่าพี่นาฏยหยิ่งยะโส แต่เขาว่ามันเป็นนิสัยของพี่
นาฏยมากกว่าเพราะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยจะพูดอะไรทำให้คนอื่นลือไปต่างนานา จันทร์ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าพี่นาฏยเป็นคนแบบนั้น
นาฏยทำห้านิ่งตาดุเหมือนเดิม แต่เหมือนกระต่ายจะอัพเลเวลเล็กน้อยเพราะนอกจากไม่ค่อยจะกลัวแล้วยังย่นจมูกใส่อีก
“งั้นพวกเราขอตัวก่อนนะค่า ไม่รบกวนแล้วค่า” สาวๆที่รู้สึกเหมือนตัวเองเริ่มเป็นส่วนเกินแถวๆนี้เลยจะขอหลบฉากออกไปดีกว่า
คนตัวเล็กยิ้ม ขอบคุณอีกหลายครั้งที่อุตส่าห์เอาขนมมาฝาก รับปากว่าจะทานให้หมดรวมถึงจะแบ่งพี่นาฏยด้วย
พอคนกลุ่มใหญ่หลบฉากไป นัยน์ตาคมดุก็มองกระต่ายแคระที่หอบถุงขนมเอาไว้เต็มมือ
“กินหมดหรือ?”
“เจ้าขากินหมดนะ” พี่นาฏยสั่งให้แทนตัวเองแบบนี้ พอเขาลืมหรือไม่ได้พูดล่ะก็...จะโดนทำโทษทุกครั้งเลย ไม่เห็นยุติธรรมเลย
....แต่ว่าทำโทษอะไรนั้นขอไม่บอกนะครับ…
“อ้วนนะ” จริงๆกระต่ายไม่ได้อ้วนอะไรหรอก เป็นเด็กที่มีเนื้อหนังกำลังพอดี ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไป แต่ว่าช่วงนี้เห็นจะเริ่มกินเยอะ
ขึ้นเพราะมีคนเอาขนมมาฝากเกือบทุกวัน บางครั้งกินจนแก้มนุ่มนิ่มย้วยไปหมดเพราะขนมเต็มปากเห็นแล้วอยากดึงในยืด
“ฮื้อ ไม่อ้วนสิ พี่นาฏยชอบว่าเจ้าขา” เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าพี่นาฏยปากร้ายอะ ชอบว่าว่าเดี๋ยวอ้วน เดี๋ยวแก้มย้วย จนกลัวเลยว่าหรือเขาอ้วนขึ้นจริงๆ แต่ช่วยไม่ได้นี่นาเพราะว่าขนมมาแต่ละทีอร่อยๆทั้งนั้น
อย่างวันนี้มีทาร์ตไข่ร้านที่เขาชอบด้วย ไม่รู้ว่าพวกพี่รู้ได้ไงว่าเขาชอบกินอะไร ส่วนของพี่นาฏยเขาแอบส่องๆดูละ เป็นเมล็ดกาแฟคั่วจากร้านนางเงือกสีเขียวชื่อดัง พี่นาฏยไม่ได้ชอบกินกาแฟแต่เขาเดาว่าคนซื้อไม่รู้จะซื้ออะไรให้มั้ง ฮ่าๆ
“นี่ครับของพี่นาฏย” ยื่นถุงให้เจ้าของ
นาฏยเอื้อมไปรับ คว้าถุงทั้งหมดมาถือเอาไว้ พยักเพยิดให้กระต่ายไปเอากระเป๋ามาได้แล้ว จันทร์เจ้าววิ่งดุกดิกกลับไปเอาสัมภาระตัวเอง
“วันศุกร์ตอนเย็นว่างไหม?”
จันทร์เจ้าหันไปมองคนถาม “ก็ว่างครับ ไม่ได้ไปไหน”
คนขับรถพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
พอรถคันหรูมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าแถวมหาลัย คือวันนี้ที่มาก็คือจันทร์เจ้าอยากได้หนังสือนิยายเล่มใหม่ แต่ว่าหาซื้อแถวบ้านไม่ได้เลยต้องถ่อมาถึงห้าง
“พี่นาฏย วันศุกร์ทำไมหรือครับ?” เขายังสงสัย
“ผมจะพาไปฟิตเนท” นาฏยดึงแก้มกลมๆจนย้วยออกมาข้างหนึ่ง
หา!!!
จันทร์เจ้าจับแก้มตัวเองทำตาโตอ้าปากใส่แผ่นหลังที่เดินนำหน้าไปแล้ว
เดี๋ยวก่อนนะ!!!
อ้าว เฮ้ย!
ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า…
พี่นาฏยกลับมาอธิบายก่อนเลยนะว่าเจ้าขาอ้วนถึงขนาดต้องไปลดพุง กระชับหน้าท้องแล้วหรออออออ
โฮฮฮฮฮ เจ้าขาไม่ได้อ้วนน้าาาาาาาาาาาาาาา
TBC.
+++++++++++++++++++++100%+++++++++++++++++
มาแล้วจ้ามาแล้วววววว อีกครึ่งตอนที่เหลือมาแล้วจ้าาา
ตอนนี้พี่มันอ้อยระดับแม็กซ์ น้องระเหิดตัวเองหายไปในอากาศเลยจ้า ตอนนี้
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านจริงๆที่เอ็นดูน้องต่ายแคระและหมั่นไส้อีหมีไปพร้อมกับเรา
ขอบคุณทุกการแนะนำในคอมเม้นจริงๆ ทั้งเรื่องคำผิดหรืออื่นๆ เราจะทำการแก้หลังจากเราเขียนเสร็จทั้งหมดค่า
ขอบคุณทุกท่านจริงๆที่รักเรื่องนี้จนอยากให้มีการรวมเล่มเกิดขึ้น
อีพี่หมีและต่ายแคระอยากให้ทุกคนอ่านเรื่องรักตามสั่งแล้วยิ้มตามไปด้วยกันนะค่า เพราะฉะนั้นอยู่กับเราไปนานๆเนอะ
รักน้องเจ้าบวกเป็ด ปลื้มพี่นาฏยคอมเม้นโลดค่า
ปล. เยิฟฟฟฟฟฟฟฟ
ปล. อีกหนึ่งเรื่องของคนเขียน วณิพกพเนจร ไปตามได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55317.0
ปล.สอง. แวะเวียนไปคุยกันได้นะค่า
ขอฝากไปกดไลค์เพจเฟสบุ้คกันได้นะครับบบบ เพราะว่าส่วนใหญ่เราจะอัพเดทเวลาที่เรา
หายไปนานๆ หรือว่าติดธุระอะไร เราจะไปอัพเดทไว้ในเฟส หรือว่าบางครั้งจะมีเขียนโมเม้นน่ารักของอีพี่กะน้องเอาไว้เล่นๆที่ไม่
ได้เอามาลงหน้านิยายนะครับ เลยอยากให้ไปพูดคุยในเฟสกันเลยยยย ถ้าคนเขียนหายไปตามจิกในเฟสจะเจอเราเร็วมากเพราะ
เราเล่นประจำ
https://www.facebook.com/airin.arpo/?fref=ts
ปล.สาม. เรื่องรักตามสั่งเป็นเรื่องสบายๆคลายเครียด ฟีลกู๊ด น่ารักๆ การดำเนินเรื่องอาจจะเรื่อยๆเอื่อยๆไปบ้าง ขอต้องขออภัย
คนอ่านที่ชอบความตื่นเต้นหรือเรื่องที่ซับซ้อนนะค่า เรื่องนี้เราตั้งพลอตไว้แบบเป็น สไลด์ออฟไลฟ์ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสถึง
ชีวิตตัวละครจริงๆ เวลาเขียนเราค่อนข้างใส่ความรู้สึกของมนุษย์จริงๆเข้าไป
คืออยากให้ลองนึกว่าพี่นาฏย น้องเจ้าและตัวละครทุกตัวเป็นคนจริงๆ ใช้ชีวิตอยู่เหมือนพวกเรานี่ละค่ะ เวลาเราเขียนเรานึกถึงว่าถ้าพี่นาฏยเป็นเพื่อนเรา น้องเจ้าเป็นน้องชายเรา เขาจะรู้สึกแบบไหนกันนะตอนนี้ เราเขียนให้ตัวละครเราค่อนข้างเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นเนื้อเรื่องเลยจะเป็นการดำรงชีวิตของคนคนหนึ่งนะค่า
ปล.สี่. อยากจะให้ทุกท่านติดตามชีวิตของพี่นาฏยกับน้องเจ้าไปด้วยกันกับเรานะค่า