แฟนวิศวะ #29 (90%)
“อึก! อือ” สัมผัสเย็นๆ บนที่กำลังไล้ไปตามตัวทำให้ผมรู้สึกตัว อื้อ สบายจัง
“...”
เดี๋ยวนะ! สบายเหรอ
เฮือก!ผมลืมตาตื่น หันหน้าขวาซ้ายก่อนจะเห็นผู้ชายคนข้างๆ ที่กำลังจับมือผมไปเช็ดด้วยผ้าเย็นอยู่ เขาคงไม่รู้ว่าผมตื่นแล้ว มือหนาที่จับมือผมอยู่จึงยังไม่ปล่อยออก คนข้างกายผมกำลังก้มตาก้มตาบรรจงเช็ดทีละนิ้วเหมือนกำลังเช็ดเพชรแท้ มันจั๊กจี้ ผมเลยชักมือออกตอนนั้นเองที่อีกฝ่ายได้รู้ว่าผมตื่นแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้น ส่วนผมมอง
เราสบตากันเงียบๆ จนกระทั่งผมพูดขึ้นมาก่อน
“ใครอะ แค่กๆ” เสียงแหบพร่าซะจนเลตกใจ ทำไมมันแหบแบบนี้ล่ะ
“ดื่มน้ำ” เขาคนนั้นยื่นขวดน้ำมาให้ ผมรับมา ยังไม่ไว้ใจ แต่ยอมดื่มน้ำลงไปเพื่อให้คอได้ชุ่มชื้นขึ้น “ดีขึ้นไหม”
“ฮือ เลอยู่ไหน” ผมเบ้ปาก ไม่ดีเลย ตอนนี้น่ะ ไม่ดีเลย
“อยู่ปั้ม”
“ปั้มไหน”
“ปั้มที่น้องสลบ พี่เห็นเลยอุ้มน้องมานอนในรถก่อน” ผมมองรอบตัว ตอนนี้ตัวเองกำลังนั่งอยู่ในรถจริงๆ
“เลสลบเหรอ” ทำหน้างง ตอนนอนผมนึกว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนรถทัวร์ คำตอบคือการพยักหน้าจากอีกฝ่าย “เลสลบไปนานเท่าไหร่”
“2 ชั่วโมงครับ”
“2 ชั่วโมง! แล้วรถทัวร์ล่ะ!” ไม่ได้การ ผมเปิดประตูลงจากรถแล้วกวาดสายตามองไปทั่ว ไม่มี! รถทัวร์หายไปแล้ว
“ตอนพี่มามันก็ไม่อยู่แล้วนะ” ร่างสูงที่เดินลงจากรถตามหลังผมเป็นคนบอก
“ฮือ แล้วเลจะไปค่ายยังไง”
“ใช้โทรศัพท์พี่โทรหาใครก่อนไหม” ผมมองโทรศัพท์ที่ถูกยื่นมาให้ เม้มปากแล้วรับมากดโทรหาพี่วิน รอไม่ถึงสิบวินาที พี่วินก็รับสาย
(ใคร)
“พี่วิน ฮืออออ เลนะ” ผมร้องไห้ ร้องไห้ออกมาแบบน้ำตาไหลพรากๆ เลย “ช่วยเลด้วย!”
(เล! อยู่ไหน! น้องอยู่ไหน ทำไมพึ่งโทรมา!)
คำถามถูกรัวมาเป็นชุด ผมสะอื้นแล้วใช้มือปาดน้ำตาออกแบบลวกๆ
“เลเวียนหัว เลอ้วก เลเป็นไข้! อึก! เลสลบไปตั้ง 2 ชั่วโมง! เลจะตายแล้ว ไม่อยากไปค่ายแล้ว อยากกลับบ้าน! ฮืออออออ แค่กๆ”
“ใจเย็นๆ” เขาลูบหลังผมทันทีที่เห็นว่าผมพูดรัวจนหายใจไม่ทัน
(สลบ! อยู่ไหน อยู่กับใคร!)
“ไม่รู้! สมองเบลอแล้ว”
(ครับๆ งั้นตอบก่อนว่าอยู่กับใคร)
อยู่กับใครเหรอ ผมหันไปมองหน้าอีกฝ่ายแล้วถาม “พี่เป็นใครอะ”
“พี่เป็นเด็กปั้มครับ” พี่เด็กปั้มตอบ ผมรีบบอกพี่วิน
“เลอยู่กับพี่เด็กปั้มอ่ะ เขาช่วยเลไว้”
(แล้วอยู่ไหน ยังอยู่ปั้มเดิมไหม)
“ปั้มเดิม ปั้มไหนอะ เลไม่รู้เรื่อง ฮือออออ”
“ปั้มแถว xxx ครับ” เสียงทุ้มว่า ผมเลยหันไปหาอีกฝ่าย สะอื้นแล้วยื่นโทรศัพท์ให้
“คุยกับพี่วินให้หน่อย”
ร่างสูงยื่นมองโทรศัพท์ตัวเองที่ถูกยื่นมาให้แบบงงๆ เขายอมรับมันมาแนบใส่หู กรอกเสียงตามลงไป
“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไป แต่หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงตอบกลับมา
(มึงเป็นใคร)
“เป็นเด็กปั้ม”
(ปั้มไหน)
“แถว xxx”
(เลเป็นยังไง)
“แย่นิดหน่อย” เขากะจากสายตาตัวเองแล้วหันไปมองคนที่ร้องไห้น้ำตานองหน้า ปากแดงที่กำลังเบ้ออกดูน่ารักมากกว่าน่าชัง
(กูฝากดู)
“เออ” เขารับปาก ถึงไม่ได้รับแต่ก็ดูมาแล้วตั้ง 2 ชั่วโมง จนกระทั่ง...
(อย่าทำไรน้องกู ไม่งั้นกูเอามึงตาย)
นั่นปากมึงเหรอ
ใบหน้าหล่อเหลานิ่งขรึม ร่างสูงเงียบไป เขาไม่ชอบให้คนมาสั่ง กับคนที่ไม่รู้จักยิ่งไม่ชอบ
นัยน์ตาคมหันไปมองคนปากแดงข้างกาย เลียริมฝีปากแล้วนึกในใจ ความประทับใจแรก ดังนั้นครั้งนี้เขาจะยอมให้
แต่ถ้ามีครั้งที่สองอีก
มึงเสร็จตีนกูแน่“เออ” จำใจพูด
(อีกประมาณยี่สิบนาทีจะมีคนไปรับ ฝากบอกเลด้วย) มือหนากดตัดสาย หันไปพูดกับอีกคน
“อีก 40 นาทีถึงจะมีคนมารับนะครับ”
คนฟังมีปฏิกิริยากับคำว่า 40 นาทีอย่างเห็นได้ชัด ปากแดงเริ่มเบ้ออกมากกว่าเดิม เลโวยวาย “ทำไมนาน”
ร่างสูงมีแผน“เขาบอกว่าค่ายมันอยู่ไกลจากที่นี่”
“แต่เลไม่อยากรอแล้ว!” ถึงจะเจอกันแค่ 2 ชั่วโมงและพึ่งได้คุยกันแค่ 5 นาที แต่ดูจากนิสัยของอีกฝ่ายเขาคิดเอาไว้แล้วว่าคนฟังต้องโวยวาย “เลเหนื่อยแล้วเลก็ปวดหัว”
ดังนั้น...
“ให้พี่ไปส่งที่บ้านไหม”
แต่การเจอกันแค่ 2 ชั่วโมงมันคงจะน้อยเกินไป ฟังจากประโยคที่เลพูด ร่างสูงคิดว่าน้องเป็นคนซื่อ แต่นึกไม่ถึงว่าจะซื่อขนาดนี้
“พี่ไม่ต้องทำงานเหรอ”
“...”
“ตอบเลนะ!”
“พี่เลิกงานแล้วครับ” เขายิ้ม “บ้านน้อง…”
“ชื่อเลนะ” อีกฝ่ายแนะนำตัวขณะยกมือเช็ดตาแบบลวกๆ
“บ้านน้องเลอยู่ไหนครับ”
“เลอยู่คอนโดกับเพื่อน ใกล้มหา’ลัย K” คนฟังชะงักไป เขารู้จักคอนโดนั้น คงมีเพื่อนฐานะดีพอสมควร แต่จากที่เขามองน้อง ทั้งรองเท้าทั้งนาฬิกาที่ใส่ เจ้าตัวก็น่าจะฐานะดีมากเช่นกัน
“พี่ไปส่งได้นะ”
“บ้านพี่เด็กปั้มอยู่ในกรุงเทพฯ เหรอ” ที่ปั้มนี้ มันอยู่ไกลจากกรุงเทพฯ พอสมควร คนฟังไม่รู้ควรจะตอบว่ายังไง เลยพยักหน้า “ทำไมพี่มาทำงานไกลจัง”
“วันนี้พี่ทำงานเป็นวันสุดท้าย” เขาไม่ได้ตั้งใจจะบอกว่าตัวเองเป็นเด็กปั้ม แต่ถ้าจะให้บอกว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาที่บังเอิญผ่านมาเจอน้องสลบ แทนที่จะส่งโรงพยาบาล แต่ตัวเองกลับอุ้มขึ้นรถแล้วยังให้เลนอนต่อไปโดยที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ มันก็ดูออกจะแปลกไปสักหน่อย
อันที่จริงร่างสูงก็เป็นเด็กปั้ม แค่ความหมายของคำว่า ‘เด็กปั้ม’ ของเขามันไม่เหมือนกับคนอื่น
เลคิดอยู่นาน แต่สุดท้ายน้องก็ทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้แล้วส่ายหน้า “เลต้องไปค่าย”
“สำคัญมากเหรอ” ดูน้องไม่อยากไป แต่ก็ต้องจำใจไป
“อื้อ เลเป็นหลีดวิศวะ ถ้าไม่ไปค่ายก็ต้องซ่อม เลไม่อยากซ่อม”
“เลเรียนคณะวิศวะ” เขาเลิกคิ้วขึ้น อีกฝ่ายดูไปสายนิเทศน่าจะรุ่งกว่า “มหา’ลัยไหนครับ”
“มหา’ลัย K” ชื่อมหา’ลัยทำให้เจ้าของเสียงทุ้มเงียบไป “ทำไมพี่เด็กปั้มเงียบ”
“เปล่าครับ”
“อีกตั้ง 40 นาที” น้องบ่น “เลจะไปนั่งรอ แต่ร้อนจังฮือ ยุ่งยาก!”
“เดี๋ยวพี่นั่งรอเป็นเพื่อน อยากกินอะไรไหม” ใบหน้าสวนหันไปมองเซเว่นทันตาเห็น
“เลไม่มีเงิน”
“เดี๋ยวพี่เลี้ยง”
“พี่เด็กปั้มใจดีจัง”
“เรียกชื่อพี่เถอะ”
“พี่ชื่ออะไร”
“ดีน พี่ชื่อดีน ไหนเรียกซิ”
“พี่ดีน” แม่ง… โดนดาเมจ น้องยิ้มใส่ และพูดจากใจ
ดูเหมือนว่าเขาจะชอบคนตรงหน้าเข้าให้แล้ว
“พี่ดีนดูไม่เหมือนเด็กปั้มเลย”
“น้องเลก็ดูไม่เหมือนคนเรียนวิศวะ” เรานั่งอยู่หน้าเซเว่น รอบกายผมเต็มไปด้วยของกินและขนมหลากหลายชนิด ทั้งหมดนี่พี่ดีนเป็นคนซื้อให้ เขาใจดี หล่อแล้วก็ยังใจดีอีก
ผมกัดแซนด์วิชเข้าปากในขณะที่เจ้าของมือหนาขยี้หัวผมทีนึง “อย่าทำผมเลเสียทรงนะ!”
“อร่อยไหม”
“อร่อย”
“ไม่แบ่งพี่บ้างเหรอ”
“นี่ของเลนะ!”
“ขอคำนึง” ผมมองตาโต รีบดึงแซนด์วิชเข้าหาตัว “ใจร้ายนะเนี่ย”
“เอาไว้เดี๋ยวเลเลี้ยงตอบแทนทีหลังนะ”
“โอเค” พี่ดีนตอบ ส่วนผมหันไปมองรถหลายคันที่กำลังวิ่งเข้าออกภายในปั้มแทน ทันใดนั้นเอง
เอี๊ยด!Bugatti chiron รถสปอร์ตคันหรูคุ้นตาแล่นเข้ามาจอดในลานจอดรถอย่างรวดเร็ว หัวใจผมเต้นตึกตัก คิดว่าคงจะไม่ใช่ เพราะพี่ดีนบอกว่าต้องรอตั้ง 40 นาที นี่มันพึ่ง 20 นาทีกว่าเอง จนกระทั่ง…
“พี่ฮิม” ผมเผลอพูดชื่อเขาออกมา ตอนที่ร่างสูงก้าวเท้าลงจากรถแล้วตรงดิ่งมาหาใครสักคนที่น่าจะเป็น… ผม
ขายาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขามาหาผมจริงๆ
“พี่มารับ”
มือหนายกขึ้นอังหน้าของอีกฝ่าย ตัวเลร้อนนิดหน่อย จากนั้นจึงไล่ไปตามใบหน้า ตั้งแต่หน้าผาก ลากผ่านจมูก สิ้นสุดที่แก้มนิ่ม เสียงทุ้มถาม “เวียนหัวเหรอ”
ตอนที่วินโทรมาบอกว่าเลตกรถกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว ให้ไปดูที่ปั้มแถว xxx ให้หน่อยเผื่อน้องยังอยู่
เขาโกรธมากตอนนั้นฮิมขับรถเลยไปไกลพอสมควร ก็เลยขับรถวกกลับมาใหม่ ส่วนครั้งที่ 2 วินโทรมายืนยันว่าเลยังอยู่ปั้มเดิม น้องสลบไปยังดีที่มีเด็กปั้มช่วยเลเอาไว้ และบอกเพิ่มเติมว่าเลเวียนหัว จะอ้วก แล้วก็มีไข้ ฮิมฟังอาการแล้วเร่งขับให้เร็วกว่าเดิม
ยังดีที่เขามาถึงแล้วเลยังอยู่ที่ปั้มนี้ เพราะถ้าเขาหาเลไม่เจอ…
มันต้องมีคนรับผิดชอบ
“ฮึก! ฮือ ปวดหัว เลตัวร้อนด้วย” คนดีของเขาบ่อน้ำตาแตกทันที เลมีไข้ และถ้าน้องเป็นไข้จะงอแงผิดปกติ “เลสลบไปตั้ง 2 ชั่วโมง ถ้าพี่ดีนไม่ช่วยเลต้องตายแน่!”
นิ้วเรียวที่กำลังเกลี่ยน้ำตาให้อีกฝ่ายต้องชะงัก รอยยิ้มที่มุมปากหุบลงทันทีที่ชื่อของใครสักคนหลุดออกมาจากปากเล็ก
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่ข้างเล อันที่จริงฮิมสังเกตเห็นมันตั้งแต่ตอนที่เขาเดินลงมาจากรถแล้ว เขาแค่เลี่ยงที่จะไม่พูดถึง เพราะว่ามองสถานการณ์ก็พอจะเดาออกว่ามันคงช่วยเลเอาไว้ ก่อนจะชะงัก ช่วยเหรอ วินบอกว่าเด็กปั้มช่วยเลเอาไว้
เด็กปั้มเหรอ“เหอะ” เขาแสยะยิ้มให้กับอีกฝ่าย จากนั้นจึงหันไปสนใจน้องแทน “เลตัวร้อน เข้าไปซื้อเจลลดไข้ก่อนแล้วค่อยกลับ”
มือหนาหยิบแบงค์พันยื่นให้แต่คนรับทำหน้าไม่พอใจ “ทำไมต้องใช้เล! ทำไมฮิมไม่เข้าไปซื้อให้เล”
“เดี๋ยวพี่ตามเข้าไป” ฮิมถอนหายใจ
“...”
“นะครับ”
“ก็ได้” คนงอแงยอมรับแบงค์พันก่อนจะเดินเข้าเซเว่นไปอีกครั้ง ฮิมมองตามจนน้องเดินเข้าเซเว่น ร่างสูงจึงหยิบแบงค์พันออกมาอีกสามใบยื่นให้คนที่ยังนั่งอยู่ตรงหน้า
“ค่าดูแล”
มันปรายตามองเงินที่เขายื่นให้แล้วตอบเสียงเรียบ “กูไม่เอา”
ฮิมไม่พูดอะไร เขาให้มันแต่ถ้ามันไม่เอา เขาก็ไม่เอาคืนเหมือนกัน แบงค์พันสามใบจึงถูกโยนลงถังขยะที่อยู่ใกล้ตัวทันที
“ใช้เงินทิ้งๆ ขว้างๆ ว่ะ”
“กูรวย”
อันที่จริงถึงเลจะไม่บอกว่ามันชื่อดีน เขาก็รู้จักมันอยู่ก่อนแล้ว
รู้จักดีเลยล่ะ“หึ!” มันลุกขึ้นไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะเดินเข้าไปเซเว่นตามเลไป ฮิมเดินตาม แต่เขาช้าไป เพราะตอนที่เขาหาตัวเลในเซเว่นเจอก็เป็นจังหวะเดียวกันที่มันเดินออกจากน้อง ในมือถือโทรศัพท์แล้วยังมีหน้ายกขึ้นโชว์ให้เขาดูก่อนที่มันจะเดินออกจากเซเว่นไป
มือหนากำหมัดแน่น
แม่ง มันได้เบอร์น้องไป
นัยน์ตาคมหันไปถอนหายใจให้กับคนที่ถูกจีบแต่ยังไม่รู้ด้วย ทำไมเลไม่เอะใจบ้างเลยนะว่า ตัวเองสลบ แทนที่จะถูกส่งไปโรงพยาบาล แต่กลับมีคนมานั่งเฝ้าตัวเองที่ไม่รู้จะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่แทน
ฮิมได้แต่ทำใจ ขายาวเดินไปโซนเครื่องดื่มแล้วหยิบเครื่องดื่มแก้แฮ้งให้น้องก่อนจะเดินไปจ่ายตังค์พร้อมกัน หลังจากนั้นเขาจึงจูงมือเลไปที่รถ ทันใดนั้นเอง Reventon คันหรูก็ขับผ่านหน้าแล้วออกจากปั้มไป เลมองตามตาปริบๆ เจ้าตัวเริ่มคิดขึ้นได้
ถึงเขาจะไม่ฉลาดมากแต่เรื่องเรียน แต่เรื่องรถนี่ไม่เป็นสองรองใคร พอจะเห็นแวบๆ ว่ารถที่ตัวเองนอนสลบอยู่กว่าสองชั่วโมงเป็นรถสปอร์ตก็ตอนที่วิ่งลงมาจากรถเพื่อมองหารถทัวร์ ทว่าตอนตื่นมาเมื่อกี้ยังเบลอๆ อยู่เลยไม่ได้ให้ความสนใจ เลพึ่งได้สังเกตเต็มตาว่ามันรุ่นอะไรก็ตอนที่รถสปอร์ตคันหรูสีดำขับผ่านไปเมื่อสักครู่ งดงามเสียจนคนที่พึ่งรู้ตัวว่าได้นั่งรถหรูสุดยอดต้องอ้าปากค้าง
เลรู้จักรถรุ่นนี้ดี Lamborghini Reventon ถึงมันจะยังแพงสู้ Bugatti Chiron ของพี่ฮิมไม่ได้ แต่มันมีความพิเศษมากๆ อยู่อย่างหนึ่ง...
พี่ดีนบอกว่าตัวเองเป็นเด็กปั้ม
แต่เด็กปั้มที่ไหนเขาจะขับ Reventon ที่มีแค่ 20 คันในโลกกันเล่า!
ดีนหงุดหงิด ขายาวเหยียบคันเร่งให้รถเร็วขึ้นแต่ยิ่งเร็วเขาก็ยิ่งหงุดหงิด
ร่างสูงถอนหายใจ ใบหน้าหล่อเหลาหันไปมองโทรศัพท์กดรายชื่อที่มีอยู่ พอเห็นชื่อเลก็พอทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง
ครืดทว่าชื่อของคนโทรเข้าที่เด่นหราขึ้นทำให้ดีนต้องหุบยิ้มลง เขากดรับ
“มีไร”
(นี่มึงขับรถเลยไปถึงขอนแก่นแล้วเหรอวะ กูนั่งรอมึงมาสามชั่วโมงแล้วนะเว้ย!)
ดีนถอนหายใจ “กูพึ่งออกจากปั้ม”
(ปั้มไหน ปั้มที่มึงโทรคุยกับกูตอนสองชั่วโมงก่อนน่ะนะ)
“เออ”
(โอ้ย! ไอ้เหี้ย กูไม่รอมึงแล้ว กูจะกลับคอนโด)
“แล้วแต่มึง”
(แม่ง ไม่ได้อีก กูโง่ว่ะ ทำไม่เป็น รอมึงต่อก็ได้)
“เออ”
(ทำไมมึงต้องอยู่ปั้มนานถึง 2 ชั่วโมง เกิดไรขึ้น)
“ช่วยเด็ก เด็กสลบกูเลยให้นอนในรถ” ดีนตอบเสียงเรียบ
(ส่งโรงพยาบาลไม่เป็นเหรอวะ) เขาเงียบ (กูมีเซ้น เด็กมึงต้องเด็ดแน่เลย)
“เสือกว่ะฟา”
(มึงยอมให้นอนบนรถสุดรักสุดหวงของมึงได้เนี่ย มันต้องไม่ธรรมดาแล้ว)
“หุบปากมึงไป”
(อ่ะๆ โอเค แต่โทษฐานที่มึงต้องทำให้กูรอต่อไป อย่างน้อยขอชื่อเด็กหน่อย)
ดีนเงียบ เขากำลังคิด ฟามันเป็นคนขว้างกว้าง รู้จักคนเยอะโดยเฉพาะคนที่หน้าตาดีๆ มันเร่งเมื่อเห็นเขาเงียบ (เร็วๆ ดิวะดีน อย่างกไอ้เหี้ยแค่ชื่อ!)
ดีนถอนหายใจ “ชื่อเล”
เป็นทางนั้นที่เงียบแทน ดีนขมวดคิ้ว “มึงเงียบทำไม งั้นกูจะวางสาย”
(ดีน น้องเลมึงนี่ คงไม่ใช่หลีดวิศวะ มอ K หรอกใช่ไหม)
“ใช่” เขาขมวดคิ้ว “ทำไมวะ”
(เวร มึงจำตอนที่กูโดนซ้อมปางตายแต่กูไม่เอาเรื่องพวกที่ซ้อมกูได้ไหม)
“จำได้” ไอ้ฟาเคยโดนซ้อม สภาพอย่างเละ แต่มันกลับไม่เอาเรื่อง พวกเพื่อนคนอื่นๆ เลยหัวร้อนแทนเพราะมันโดนหนักพอสมควร ทั้งๆ ที่ปกติแค่ปากแตกนิดหน่อย พวกเขาก็สั่งลูกน้องให้เล่นงานกลับไปแล้ว
(อันที่จริงแล้วมันเพราะกูไปยุ่งกับน้องเลนั่นแหละ)
“มึงหมายความว่าไง” เขาขมวดคิ้ว
(เรื่องแม่งยาว คือกูก็เหี้ยเห็นน้องเมาก็เลยอยากหลอกกินเด็ก แต่เลดันเป็นน้องไอ้ฮิม อิทธิพลมันครองส่วนกลางเลยนะเว้ย ลูกน้องโคตรเยอะ กูเลยไม่อยากมีเรื่อง เดี๋ยวมันจะใหญ่)
ดีนสะดุดคำว่า ‘น้อง’ เขาดูวี่แววแล้วเลไม่น่าจะเป็นน้องมันได้เลย บอกว่าเป็นเด็กไอ้ฮิมยังดูน่าเชื่อถือว่า ส่งสายตาอ่อนโยนให้กันขนาดนั้น
แม่ง คิดแล้วหงุดหงิด ร่างสูงดันกระพุ้งแก้ม ชื่อของมันทำให้เขาไม่สบอารมณ์ ดีนไม่ได้บอกว่าตัวเองเจอคนที่เพื่อนกำลังพูดถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “แล้วไง”
(แล้วไงของมึงคืออะไรวะ อยากตอแหลนะว่ามึงไม่รู้จักมัน บ้านมึงยังทำธุรกิจร่วมกันกับมันอยู่เลย)
เพราะบ้านเขาทำธุรกิจร่วมกับมันนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าฮิมเป็นลูกคนเดียวเหมือนเขา โอกาสที่มันจะมีน้องชายแท้ๆ แล้วอายุเท่าเลน่ะเป็น 0
“กูไปถามเลแล้วน้องบอกโสด” ถึงเลจะทำหน้าเศร้าๆ นิดหน่อยตอนที่บอกว่าตัวเองโสด ดีนก็ไม่รู้ว่าทำไมน้องพูดแบบนั้น เพราะเปอร์เซ็นที่น้องจะเป็นเด็กไอ้ฮิมมันมีสูงมาก แต่จะมีปัญหาอะไรกันเขาไม่สนหรอก โสดก็คือโสดดิวะ ร่างสูงเลยขอเบอร์อีกฝ่ายอ้างว่าจะได้ติดต่อให้มาเลี้ยงตอบแทนทีหลัง แล้วน้องก็ให้ ว่าง่าย น่ารักจริงๆ
(น้องเลร้ายว่ะ) เขารู้ว่าเพื่อนประชด ดีนแสยะยิ้ม คิดในใจ
ร้ายเหี้ยไรล่ะ โคตรซื่อ
(น้องเขาไม่สงสัยเหรอวะว่าทำไมคนแปลกหน้าอย่างมึงยอมนั่งเฝ้า)
“กูบอกเลไปว่ากูเป็นเด็กปั้ม”
(มึงเนี่ยนะเด็กปั้ม! โถ่ ไอ้ควาย มึงอ้างได้เหี้ยมาก เด็กปั้มที่ไหนขับ Reventon วะ ที่บ้านค้าน้ำมันล่ะสิไม่ว่า เลเชื่อเหรอวะ)
“ไม่รู้ ก็เห็นเออออตามแล้วก็ทำหน้างงๆ นะ” ดีนยิ้ม เขานึกถึงใบหน้าของอีกฝ่าย แม่ง น่ารักอีกล่ะ
(ดูเหมือนมึงจะชอบมากๆ เลยนะ น้องเลน่ะ)
“เออกูชอบ” ไม่ใช่แค่ชอบ ชอบมาก แม่งอยากได้เป็นเมีย
(สรุปคือมึงจะจีบ)
“อาจจะ…”
(มึงจะจีบน้องยังไง มหา’ลัยก็ใช่ว่าจะใกล้กันมาก)
“เบอร์ก็ได้มาแล้ว วิศวะสัมพันธ์ก็ใกล้จะถึง” เขาไม่ได้บอกเลว่าตัวเองก็เรียนอยู่วิศวะ และโชคดีอะไรขนาดนี้ที่เลเป็นหลีดวิศวะ
ฟาเงียบไปทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เสียงทุ้มเลยเป็นฝ่ายถามก่อน
“มึงว่ากูจะสู้มันได้ไหม”
(สู้ใคร)
“ไอ้ฮิม”
(เห้ย! สู้ทำไมวะ มึงต้องไปขอไอ้ฮิมดิ มันเป็นพี่น้องเลนะ)
“เผื่อมันไม่ให้”
(นี่มึงจริงจังเหรอ)
“เออ”
(แม่ง ถามยากว่ะ บ้านฮิมทำไรวะ ค้ารถ บ้านมึงค้าน้ำมัน แต่บ้านมันก็ค้าน้ำมันธุรกิจร่วมกันกับมึง แต่บ้านมึงนอกจากค้าน้ำมันแล้วก็ยังขุดทอง ขุดเพชร แล้วก็ลงทุนด้านอิเล็กทรอนิกส์ด้วยนี่หว่า เชี่ยยากว่ะ เอาเป็นว่าฐานะทางบ้านก็เท่าๆ กัน อิทธิพลมึงก็ใหญ่ ฮิมมันก็ใหญ่ ก็ใหญ่เท่าๆ กันอีกไหมวะ)
“สรุปยังไง”
(กูว่าจะสู้ได้ คงต้องดูใจน้องเลว่าเอนเอียงไปทางไหน แต่กูว่าเลเลือกพี่ก่อนว่ะ)
ดีนเงียบ เพื่อนเขายังเข้าใจว่าเลเป็นน้องไอ้ฮิม แต่ถึงจะเข้าใจอย่างนั้น เขาก็คิดว่าฟาพูดถูก ยังไงน้องก็ต้องเอนไปทางไอ้ฮิมอยู่แล้ว มันอ่อนโยนกับเลถึงขนาดนั้น (แล้วมึงจะทำยังไง)
“ก็พิสูจน์ว่ากูดูแลน้องเขาได้ดีไม่ต่างจากครอบครัวเขา” พิสูจน์ว่าเขาดูแลเลได้ดีไม่ต่างไปจากมัน หรืออาจจะดีกว่ามัน
(แล้วถ้ามึงพิสูจน์ตัวเองแล้วพี่ชายเลยังไม่โอเคล่ะวะ)
“ก็ถ้าเลชอบกู...” ดีนไม่ต่อประโยคให้จบ เขารู้ว่าเพื่อนสามารถรู้คำตอบได้ด้วยตัวเอง ความคิดเขาถูกต้องเมื่อฟาพึมพำผ่านโทรศัพท์เสียงเบา
(เชี่ย วิศวะสัมพันธ์ปีนี้กูว่าต้องมีคนตายแน่เลยว่ะ)
(90%)
ไปค่ะ ไปลงเรือพี่ดีน พระรองฉันมาแล้วว ส่วนฟา ถ้าจำได้นางเป็นคนที่ทำให้น้องเลต้องเสียตัวให้พี่ฮิมจ้า55555555
สปอยอีก 10% ที่เหลือ
"จะไปนอนแล้ว!"
"น้องเล"
"อะไร!"
"จะไม่ Kiss ก่อนนอนอีกหน่อยเหรอ

"
สปอยดูย้อนแย้งกับการเปิดตัวพระรองจังเลยฮือออ5555555555555555
ติดแท็ก
#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์ (ใช้สระแอนะคะ โปรดอย่าใช้สระเอสองตัว)
Twitter @_mdreds