ตอนที่๑๗-๗๐%
เธรามองคนที่ถูกจับมาขายที่ทยอยถูกจับเข้าไปขังไว้ในกรงบนเกวียนขนของขนาดใหญ่ ตอนนี้พ้นเขตป่าศักสิทธิ์ออกมาแล้ว พวกลูกครึ่งและอมนุษย์เริ่มมีการแข็งขืนมากขึ้น แม้จะมีอาการเซื่องซึมจากยาแต่เมื่อไม่มีป่าศักสิทธิ์ความสามารถพิเศษต่างๆจึงเริ่มสามารถใช้ได้เต็มที่
“ไอ้พวกนี้ไม่ต้องเข้ากรงเดินต่อไป” เสียงพวกพรานตะโกนลั่นชี้มาทางพวกเธราและพวกมนุษย์ที่ถูกจับมา เพราะมนุษย์ไม่ได้มีความสามารถพิเศษไมว่าจะอยู่ในป่าศักสิทธิ์หรือไม่จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มการควบคุมโดยการขังเกรง
การเดินทางที่ยาวนานนั้นหยุดพักเมื่อพระอาทิตย์เริ่มตกดิน พวกที่ถูกจับมาถูกนำไปมัดรวมกันไม่มีแม้กระทั่งอาหารหรือน้ำดื่ม เธราได้ยินพวกที่จับมาพูดกันว่าให้พักตรงนี้เพื่อรอหัวหน้า เธรานั่งพักเหนื่อยเงียบๆไม่มีคำพูดอะไรออกมาสายตาที่กวาดมองไปทั่วราวจะเก็บรายละเอียดทั้งหมดเอาไว้ทั้งหมด
“ไหวไหม” ธันเลือกที่จะถามขึ้นสั้นๆเขาไม่อยากหลุดเรียกชื่อหรือตำแหน่งของเธราออกไป
“ไหวสิ” เธราหันมาตอบก่อนขมวดคิ้วเมื่อเห็นหญิงที่ถูกมัดรวมกันอยู่ท่าทางไม่ดี
“เป็นยังไงบ้าง” เธราพยายามขยับตัวเข้าไปถามแม้จะไม่ถนัดเท่าไร ท่าทางของหญิงวัยกลางคนดูแย่ ความจริงพวกค้าทาสไม่น่าจับคนที่ใช้แรงงานไม่ได้อย่างผู้หญิงหรือเด็ก หรือคนที่เริ่มมีอายุมาเลยสักนิดเธรามองไปรอบๆตัว มีคนที่เริ่มมีอายุและเด็กปะปนมาไม่น้อยเลย
“คนพวกนี้ไม่น่าใช้แรงงานได้ ทำไมถึงจับมา” เธราถามธันอย่างไม่เข้าใจ ธันเองก็นึกสงสัยอยู่หากไม่ได้เอ่ยออกมา
“ข้าไม่แน่ใจว่าพวกพรานค้าทาสจะพาพวกเราไปขายให้ใคร” คำตอบของธันทำเอาเธราขมวดคิ้ว
“หมายความว่ายังไง”
“ตลาดค้าทาสไม่ได้มีแค่มนุษย์ที่เป็นผู้ซื้อ คนขายมันไม่เลือกคนซื้อหรอก”
“ข้าไม่เข้าใจ”
“ท่านเคยได้ยินนิทานพื้นเมืองไหม” เธราพยักหน้าเขาเคยได้ยินมาบ้างนิทานพื้นเมืองนั้นมีมากมายหลายเรื่อง “ตามเรื่องเล่าที่ว่าเมื่อก่อนอมนุษย์นั้น เผ่าพันธุ์นักล่ามักกินเลือดเนื้อเป็นอาหารและอาหารหลักของพวกนั้นคือมนุษย์” ธันบอกก่อนหันมามองเธรานิ่งๆ “อย่างพวกที่ท่านเลี้ยงไว้น่ะ กินคนกันทั้งนั้นแหละ”
คำตอบของธันทำเอาเธราเริ่มกังวล หากยังมีแก่ใจหันไปทำหน้าดุใส่ธัน “ไม่ สหัสไม่กินคนหรอก โชบุกับชุนด้วย” พูดพลางเชิดหน้าไปทางอื่นหากในใจกลับยังคงวนเวียนคิดแต่เรื่องที่ธันบอก
ดึกสงัดกลางป่าที่มีเพียงกองไฟของพวกพรานค้าทาสที่ก่อขึ้นเพื่อให้แสงสว่าง เสียงเอะอะเริ่มดังเพิ่มขึ้นตามฤทธิ์ของสุรา อาหารมากมายเท่าที่หาได้ถูกนำมากินแกล้มกับสุราอย่างมีความสุขโดยที่ไม่มีใครคิดที่จะแบ่งมาให้พวกที่ถูกจับมาสักนิด
แต่แล้วอยู่ดีๆพวกพรานค้าทาสคนนึงก็ลุกขึ้นไปเปิดกรงของพวกอมนุษย์ ก่อนลากเอาปักษาสาวออกมาโดยไม่สนใจอาการขัดขืนของเจ้าตัว เธรามองปักษาสาวที่ตอนนี้อยู่ในร่างมนุษย์รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นนั้นขืนตัวอย่างสุดความสามารถ แต่เพราะยาบางอย่างที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อควบคุมพวกอมุษย์นั้นมีพิษร้ายแรงจนไม่สามารถขัดขืนได้
ธันหันไปมองเธราเป็นเชิงห้ามไม่ให้ยุ่งทันที เพราะรู้ว่าคนอย่างเธราคงทนดูเรื่องอะไรแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ “อย่ายุ่งนะ”
“ปล่อยข้า ปล่อยสิ” ปักษาสาวขืนตัวอย่างสุดความสามารถ
“ธันแต่ว่า....” เธราเริ่มกระสับกระส่าย
“อย่ายุ่งท่านเธรา” ธันเอ่ยห้ามออกมาอย่างกังวล
เพี๊ยะ!!! เสียงฝ่ามือหน้าฟาดเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างแรงจนร่างบอบบางเสียหลักล้มลงมาตรงที่หน้าเธราที่ถูกมัดอยู่ ร่างบอบบางตรงหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาใบหน้าที่สวยงามตามเผ่าพันธุ์ปักษาช้ำบวมทันทีตามแรงฟาดของฝ่ามือ
“ฮือออ ช่วยข้าด้วย” เหมือนหมดหนทางจะเรียกร้องให้ใครช่วยแล้ว มือบอบบางของปักษาแสนสวยเอื้อมมาจับเธราราวอับจนทางจะรอดพ้น
“ไม่เป็นไร นะ” เธราเอ่ยออกไปราวปลอบใจก่อนพยายามเอื้อมมือออกไปแตะที่มือของคนตรงหน้า
แล้วร่างบอบบางตรงหน้าก็ถูกลากออกไปต่อหน้าต่อตา เธราหลับตาลงก่อนถอนหายใจให้ลึกที่สุดเท่าที่ทำได้ ปักษาเผ่าพันธุ์แสนสง่ากลางเวหา โดดเด่นด้วยรูปโฉมที่งดงามและความอำมหิต กรงเล็บที่แหลมคมสามารถฉีกร่างสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่โตกว่าตัวเองได้ในพริบตา จะงอยปากที่แข็งแรงราวเหล็กกล้าสามารถแทงทะลุร่างมนุษย์ได้ในการโจมตีครั้งเดียว หากปักษาในร่างมนุษย์นั้นกลับงดงามจนน่าหลงใหล
“อ๊ากกกกกกกก” เสียงกรีดร้องนั้นดูเจ็บปวด หากน้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับฟังดูทุ้มใหญ่ราวเสียงของผู้ชาย
พรึ๊บ!! เฮ๊ยย อ๊ากกกก ภาพตรงหน้านั้นดูวุ่นวายเมื่อร่างของปักษาที่อยู่ในร่างของอมนุษย์ ปรากฎขึ้นมา ปีกอันใหญ่โตสะบัดพัดไปมาราวอวดอ้างอำนาจที่ถูกลิดรอนไปชั่วคราว ปากที่แข็งราวเหล็กกล้าปักลงบนอกของพรานผู้ชะตาขาด
ธันมองภาพตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจก่อนหันไปมองเธราที่นั่งหลับตานิ่งราวไม่อยากเห็นภาพตรงหน้าแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นของบางอย่างในมือของเธราที่เจ้าตัวแอบเอาไว้ในเสื้อราวต้องการปกปิด เกล็ดอสรพิษ เธราคงอาศัยช่วงเวลาที่เอื้อมมือไปแตะปักษาตนนั้นเอาเกล็ดอสรพิษกรีดลงไปที่ตัวปักษาตนนั้นเป็นแน่ เกล็ดอสรพิษที่สามารถแก้พิษได้ทุกอย่างคงแก้พิษยาที่พวกพรานใช้จนปักษาสามารถคืนร่างได้ และกลับมามีฤทธิ์ดังเดิม ธันมองร่างที่ยังคงนั่งหลับตานิ่ง ราวไม่อยากเห็นภาพพวกพรานที่กำลังจะถูกฆ่าอย่างนึกรู้ว่าเมื่อปักษาคืนร่างจะเกิดอะไรขึ้น
แต่แล้วเสียงดังราวฟ้าผ่าก็เกิดขึ้น พร้อมกับร่างของชายบนหลังม้าสีน้ำตาลตัวเขื่องในมือของชายผู้นั้นถือโซ่เส้นเขื่อง ที่เพียงแค่ฟาดออกไปก็ปรากฏเสียงราวสายฟ้าฟาด
“โซ่สายฟ้างั้นรึ” ธันอุทานทำเอาเธราลืมตาขึ้นมามองผู้มาใหม่อยากแปลกใจ
เหมือนปักษาสาวตนนั้นจะรู้ตัวว่าตนคงจะสู้ผู้มาใหม่ไม่ได้ จึงตัดสินใจบินหายไปในท้องฟ้าสีดำสนิทของยามค่ำคืนปล่อยทิ้งไว้เพียง ร่างที่บาดเจ็บสาหัสของเหล่าพรานค้าทาส
_-----------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------
-----------------
สหัสยังคงขยับตัวไม่ถนัดนัก ร่างบอบบางขยับตัวลุกนั่งก่อนรับยาจากโชบุมากิน “อาการเป็นยังไงบ้าง” โชบุถามอย่างเป็นห่วงตัวเขาเองดีขึ้นมาแล้ว แม้จะไม่ได้อยู่ร่วมต่อสู้กับนักรบปีศาจแต่อาการของสหัส และคำบอกเล่าชองคุชกับชุนก็ทำเอาใจเสียไม่น้อย
“ดีขึ้นแล้ว ข้าไม่คิดจริงๆว่าองค์วิรัลจะช่วยข้า” สหัสเอ่ยออกมา
“เขาไม่ได้ช่วยเจ้า เขาแค่อยากรู้ว่าพระสนมของเขาเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าไม่ฟื้นมาเห็นองค์วิรัลที่หงุดหงิดงุ่นง่านยังกะหนุ่มน้อยเชียว” โชบุพูดติดตลก
“เจ้าตอบแทนบุญคุณดยการนินทาข้าสินะ” เสียงนิ่งๆของวิรัลดังขึ้นก่อนเจ้าตัวจะเดินเข้ามาในห้องคนป่วย
สหัสเลิกคิ้วราวไม่สนใจ “ท่านจะไปรับท่านเธราเมื่อไร”
“ข้าอยากให้เจ้ากลับนันทานคร เมื่อหายดี” วิรัลเอ่ย
“ทำไม!!” สหัสขมวดคิ้วราวไม่พอใจแต่พยายามข่มเอาไว้ ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบหน้าองค์วิรัลเท่าไรแต่เขาเองก็พอรู้ว่าคนตรงหน้าทำอะไรย่อมมีเหตุผลเสมอ
“ข้าอยากให้เจ้าไปสืบบางอย่างให้ข้า” วิรัลเอ่ย
“ทำไมต้องข้า”
“เพราะเจ้าเป็นคนเดียวที่สื่อสารกับเธราได้ ได้ข่าวอย่างไรข้าอยากให้เจ้าสื่อกับเธราโดยตรงอย่าเอ่ยออกจากปาก” วิรัลเอ่ยเรื่อยๆ “เจ้าไม่ได้ทำเพื่อข้าสหัส เจ้ากำลังทำเพื่อนายของเจ้า”
---------------------------------------------------------------------
------------------------------
เธรากำลังเก็บบรรดาชิ้นส่วนของพวกพรานโยนลงหลุมที่เพิ่งขุดขึ้นมาหมาดๆ ผลพวกของปักษาที่แผลงฤทธิ์เมื่อคืนทำเอาพวกพรานค้าทาสเสียคนไปหลายคนทีเดียว คนที่รอดก็มีอาการน่าห่วงไม่น้อย
“เอ๊าเร็วๆอย่าชักช้า เอาศพลงหลุมแล้วกลบให้เรียบร้อย” เสียงตะโกนสั่งดูไม่ยินดียินร้ายกับพวกพ้องที่ตายไป
เธราก้มหน้าก้มตาทำจนเสร็จก่อนถูกจับมามัดรวมกันดังเดิม ธันที่สังเกตว่าเธรามีอาการนิ่งไปไม่เหมือนเคยจึงเอ่ยปากถามขึ้นด้วยความสงสัย
“เป็นอะไรรึเปล่า” ธันเลือกที่จะพูดจาธรรมดากับเธราเพื่อป้องกันการถูกจับได้
เธราหันมามองธันก่อนถอนหายใจท่าทางที่แปลกตาทำเอาธันสงสัย
“ข้าไม่รู้ว่าทำถูกไหม คนพวกนี้ตายเพราะข้า” ธันมองหลุมศพที่ตัวเองเพิ่งกลบไปหมาดๆ แม้คนพวกนี้จะไม่ใช่คนดี แต่เขาก็ทำใจให้ยินดีกับการตายของใครไม่ได้จริงๆ
“ถ้าท่านไม่ทำปักษาสาวตนนั้นจะตายทั้งเป็น” ธันเอ่ยออกมา
เธราได้ฟังคำของธันก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนหันมาส่งยิ้มอ่อนๆให้ธันราวขอบคุณ “ขอบใจที่ปลอบใจข้า” รอยยิ้มที่ทำเอาคนมองรู้สึกสั่นไหว ถ้าไม่ถูกมัดอยู่ธันคิดว่าคงเผลอตัวยกมือขึ้นสัมผัสคนตรงหน้าเป็นแน่ รอยยิ้มแบบนี้สินะที่ทำเอาองค์วิรัลแห่งนันทานครไม่อาจละสายตาได้
“ทำไมปักษาถึงกลับร่างอมนุษย์ได้” เสียงตวาดดังขึ้น ชายผู้มากับม้าสีน้ำตาลและโซ่สายฟ้าเอ่ยขึ้น ท่าทางองอาจผิดกับพรานค้าทาสทั่วไปใบหน้าที่ถูกปกปิดด้วยผ้านั้นเผยเพียงแค่แววตาที่แกร่งดุจหินผา
คำถามของผู้เป็นหัวหน้าทำเอาเหล่าบรรดาลูกน้องต้องก้มหน้างุด เพราะไม่มีใครรู้คำตอบ “แล้วไปเอาปักษาออกมาจากกรงทำไม ข้าบอกแล้วใช่ใหมว่าพวกอมุษย์อันตราย ใครเป็นคนเอาออกมา” คำถามนี้หันไปถามชายคนนหนี่งราวต้องการคำตอบ
“พวกมันเมาน่ะท่าน แล้วปักษาตนนั้นก็มีรูปโฉมงด..ง”
“บ้าตัณหาจนฉิบหายกันหมด”
“โอ๊ยยยยย” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังมาจากคนเจ็บที่นอนอยู่
เธราที่นั่งมองเหตุการณ์ต่างๆอยู่ขยับตัวก่อนเอ่ยปากเรียกชายที่ดูเป็นหัวหน้าคนนั้น
“นายท่าน นายท่าน”
“มีอะไรไอ้คนป่า” เป็นพรานป่าอีกคนที่หันมาตวาดเธรา หากชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้ากลับหันมามองนิ่งๆ
“ข้า...พอมีความรู้เรื่องยา ข้าช่วยดูอาการของลูกน้องท่านได้นะ”
“หุบปากไปไอ้,,,,” พรานค้าทาสที่หันมาตวาดเงื้อมือขึ้นสูง ธันขยับตัวมาบังเธราทันที
“เดี๋ยว” ชายที่เป็นหัวหน้าเดินเข้ามาหาเธรา เมื่อเข้ามาใกล้ๆเธราจึงสังเกตเห็นใบหน้าของเขาชัดๆชายผู้มีโซ่สายฟ้าที่สามารถจับอมนุษย์ได้ทุกชนิด ดวงตาสีเข้มนั้นเฉียงขึ้นราวคนถือดีริมฝีปากที่บางราวปีกนกใบหน้าเรียวได้รูปนั้นสวยงามราวปั้น ทำไมบุคคลที่ดูดีขนาดนี้ถึงมาเป็นพวกนอกรีตหัวหน้าพรานค้าทาสได้นะ
“เจ้าจะรักษามันรึ” ชายคนนั้นถามขึ้นก่อนชี้ไปที่คนเจ็บที่นอนโอดโอยอยู่
“ข้าไม่ใช่หมอ แต่แผลพวกนั้นพอรักษาได้สมุนไพรหาได้ไม่ยากในป่านี้” เธราบอกแววตาดูร้อนรนเมื่อมองคนเจ็บที่ดูอาการแย่ลงเรื่อยๆ
ชายตรงหน้าเลิกคิ้วราวได้ฟังเรื่องตลกก่อนเดินไปที่ชายที่ได้รับบาดเจ็บ “แผลขนาดนี้กว่าจนหายดีคงใช้เวลาไม่น้อย” พูดพร้อมกับหยิบดาบขึ้นมาและทำสิ่งที่เธราแทบพุ่งตัวห้ามหากติดเชือกที่มัดเอาไว้
ฉึก!! อั๊ก! ร่างคนเจ็บกระอักเลือดทันทีเมื่อคนดาบกดผ่านร่างจนทะลุ เขากระตุกอยู่สองสามทีก่อนสิ้นใจ “แบบนี้ง่ายกว่า พรุ่งนี้เจ้าก็ขุดหลุมฝังมันด้วยแล้วกัน”
“ทำไมทำแบบนี้ ฆ่าเขาทำไม” เธราตะโกนออกไป สายตายังมองร่างของชายที่โดนฆ่าตายโดนคนที่ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าตัวเอง
“ทำไมข้าจะฆ่ามันไม่ได้ มันเป็นคนของข้าข้าจะทำอะไรก็ได้”
“ใช่ เพราะเขาเป็นคนของท่าน ท่านจึงสมควรดูแลเขาไม่ใช่รึไง” เธราพูดออกไปตอนนี้เขาโมโหจนไม่ได้สนใจธันที่พยายามห้าม ชายคนนั้นยังพอรักษาให้หายได้ทำไมถึงต้องฆ่าด้วย
ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าหันมามองคนป่าที่ถูกจับมาขาย แต่กลับมาตะโกนป่าวๆใส่เขาราวไม่รักชีวิตตัวเอง คนตรงหน้าดูธรรมดาถ้าจะขายก็คงได้ไม่เท่าไร แต่ดวงตาสีน้ำตาลนั้นกลับแวววาวและมีบางอย่างที่จับตาไม่น้อย ท่าทางที่คนตรงหน้าเผลอแสดงออกมานั้นไม่น่าจะใช่ท่าทางของคนป่าหรือชาวบ้านตาสีตาสาแน่นอน
“ดูแล หึข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปเอาความคิดนี้มาจากไหน แต่พวกข้าเป็นโจร เป็นพวกนอกรีตเป็นพรานค้าทาส สิ่งสูงส่งอย่างที่เจ้าบอกน่ะข้าทำไม่เป็นหรอก เก็บเอาไว้ให้พวกราชาที่นั่งสบายอยู่บนบัลลังก์ป่าวประกาศคำหวานพวกนี้หลอกชาวบ้านเถอะ”
“ข้าขอโทษแทนน้องข้าด้วยท่าน” ธันรีบเข้ามาขวางก่อนก้มหัวราวหวาดกลัว พลางดึงเธราให้นั่งลงเธราที่ดูฮึดฮัดหันมามองธันอย่างขัดใจ แต่ก็ยอมนั่งลงโดยดี
“น้องชายรึ” ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าเดินเข้ามาใกล้ๆธันและเธรา ก่อนเลิกคิ้วขึ้นราวกำลังฟังเรื่องขบขัน “พี่ชายกับน้องชายงั้นรึ อืมมม” เขาพูดพลางจับคางของเธราดึงเข้ามาใกล้ก่อนเหลือบมองธันที่มีท่าทางไม่พอใจทันที เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอยิ่งทำเอาธันขัดใจ
“หน้าตาแบบนี้ จะขายออกรึเปล่าก็ไม่รู้ เก็บชีวิตไว้ตอนโดนขายให้ซ่องใต้ดินเถอะ” พูดจบก็พลักหน้าเธราออกห่าง ก่อนเดินจากไปโดยไม่หันมามองเธรากับธันอีก
-----------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------
วิรัลเตรียมกำลังจัดขบวนเสต็จกลับนันทานครอย่างยิ่งใหญ่ผิดกับตอนมาลิบลับ ร่างสุงใหญ่ของวิรัลทรงเครื่องเต็มยศ มีทหารของเมืองอันราตั้งขบวนเต็มกำลัง ใบหน้าได้รูปเรียบนิ่ง
“ทางวูธจะส่งราชทูตไปกับเราด้วยกระหม่อม อ้างว่าจะไปดูการสืบสวนสอบสวน” คุชรายงาน วิรัลพยักหน้าราวรับรู้ก่อนเดินขึ้นรถม้าที่เตรียมไว้ วิรัลกำลังจะกลับนันทานครเขาต้องการให้ใครๆต่างโจทษ์จันว่าเป็นเยี่ยงนั้น ให้ข่าวไปถึงหูใครก็ตามที่กำลังรอฟังอยู่ เขากำลังจะกลับไปแล้ว
เมื่อขบวนเสด็จออกเดินทาง วิรัลที่นั่งนิ่งอยู่บนรถม้าก็ขยับตัวราวอึดอัดก่อนร่างขององค์วิรัลจะค่อยๆกลายเป็นสหัสเข้ามาแทนที
“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้นข้าจะจัดการเอง แก้วพรางร่างที่กษัตย์แห่งอันราให้มาสามารถเปลี่ยนได้แค่รูปลักษณ์ภายนอกเสียงไม่สามารถเปลี่ยนได้เจ้าต้องระวังให้ดี” สหัสพยักหน้ารับคำก่อนนั่งนิ่งแล้วร่างก็กลับกลายเป็นวิรัลอีกครั้ง เขาจะต้องทำให้ได้เขาต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของท่านเธราให้ได้
“แล้วองค์วิรัลล่ะ” สหัสเอ่ยถามขึ้น
“ออกเดินทางไปมาลันเคียตั้งแต่เช้ามืดแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกองค์วิรัลต้องไปรับพระสนมกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน” คุชบอก
สหัสพยักหน้ารับคำก่อนเหม่อมองออกไปข้างนอก เขาไม่รู้ว่าท่านเธรากำลังจะทำอะไรความรู้สึกโกรธเมื่อคืนที่ได้รับทำให้รู้ว่าน่าจะเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น แต่คงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงและอย่างน้อยก็ยังมีธัน แม้เขาจะไม่ชอบหน้านักแต่ธันก็มีฝีมือไม่น้อย สหัสถอดถอนหายใจราวต้องการให้ความกังวลลดน้อยลง

มาต่อแล้ววมาช้าไปหน่อยแต่มาแล้วค่าาาา
เคยสปอยไว้ในเพจว่าให้จับตาธันไว้
เอ็าบอกอีกครั้ง จับตาธันไว้ค่าาา 55555555
มีคนเข้ามาอ่านใหม่เรื่อยๆ ยินดีต้อยรับนะคะ
ฝาก #วิรัลลืมเมีย ด้วยน้า
อยู่กันไปจนจบเลยเนอะ