ตอนที่๑๖-๔๐%
เธรานั่งจิบชาอยู่ข้างๆกองไฟที่ถูกจุดขึ้นมาเพื่อให้ความอบอุ่นยามค่ำคืน มีธันที่ยังคงนั่งนิ่งๆอยู่ด้วยกัน เอรันพยายามยกผลไม้มาให้ทั้งที่ขาก็ยังเจ็บอยู่
“ไม่ต้องหรอกข้าอิ่มแล้ว” เธราลุกไปช่วยอย่างเป็นห่วงคนเจ็บ
“อย่าขัดน้ำใจเอรันเลย บ้านเราไม่ได้รับแขกมานาน จริงๆเราไม่เคยมีแขกเลยต่างหาก” ทริสเอ่ยอย่างอารมณ์ดี ในอ้อมแขนแกรงมีร่างทารกน้อยที่นอนหลับราวกับรู้ว่าไม่มีที่ไหนปลอดภัยเท่าอ้อมอกของบิดา
“แล้วท่านจะเดินทางไปไหนกันล่ะ ข้าได้ข่าวว่าวูธออกล่าท่านเสียยกใหญ่” ทรีสเอ่ยถาม
“ข้าว่าจะตัดป่าศักสิทธ์ไปทะลุที่หมู่บ้านบันกุน่ะ” เธราเลือกตอบเพียงครึ่งเดียว เพราะเขาเองก็ยังไม่ไว้ใจทรีสเท่าไร “เอรันขาเจ้าเป็นอย่างไรบ้างอย่าเที่ยวฝืนเดินมากนะ” เธราหันไปถามเอรัน
“ทำไมท่านถึงมีความรู้เรื่องยาดีขนาดนี่ล่ะ ปกติโอรสหรือธิดาของพวกชนชั้นสูงมักสนใจฝึกปรือด้านการสู้รบ ฝึกดาบ ขี่ม้าหรือโครงกลอนกวี มากกว่าจะมานั่งเก็บสมุนไพรตามป่านะท่าน” เอรันถามออกมาอย่างข้องใจ เพราะเท่าที่รู้เธราเป็นบุตรแห่งหัวหน้าหมู่บ้านมาลันเคียหมู่บ้านที่แสนศักสิทธิ์มีและประเพณีจารีตที่ยาวนาน
“ข้าเรียนมาจากแม่ข้าน่ะ ท่านเป็นหมอสมุนไพรที่เก่งที่สุดในมาลันเคียเลยนะแถมทำขนมอร่อยที่สุดด้วย” เธราบอกออกไปพร้อมรอยยิ้ม แม่บุคคลคนเดียวที่รักเขาสุดหัวใจ
“นี่ถ้าไม่อยู่ในป่าศักสิทธิ์นะข้าจะให้ท่านทำนายสุขภาพให้เจ้าตัวเล็กนี่สักหน่อย” ทรีสพูดอย่างติดตลก
“โอ๊ยยย ทรีสต่อให้อยู่มาลันเคียข้าก็ทำนายอนาคตให้เจ้าตัวเล็กไม่ได้หรอกข้าไม่มีญาณ” เธราพูดพลางหัวเราะก่อนส่งผลไม้เข้าปากราวไม่ใช่เรื่องใหญ่
หากคำตอบนั้นกลับเรียกความเงียบได้ทันที ทรีสมองเธราอย่างไม่อยากเชื่อ เอรันขมวดคิ้วก่อนขยับไปนั่งใกล้เธราก่อนถามเสียงเบา
“หมายถึงท่านไม่มีญานบริสุทธิ์ที่สามารถคุยกับธรรมชาติหรือทำนายอนาคตได้งั้นรึ”
“ใช่” เธราตอบก่อนหันไปยิ้มให้เอรัน
เอรันพยักหน้าเบาๆ ก่อนยิ้มตอบเธรา “ข่าวลือไม่ว่าที่ไหน เมื่อไรมักจะเกินจริงเสมอสินะ ไหนกันพระสนมผู้โหดร้ายผู้มีญาณที่แม่นยำ ไหนกันพระสนมผู้เลือดเย็น ข้าเห็นแต่หนุ่มน้อยผู้มีน้ำใจมากมายและรอยยิ้มจริงใจเท่านั้น” เอรันเอ่ยออมาอย่างใจนึกทำเอาคนที่อยู่ดีๆถูกชมยิ้มเก้ออย่างทำตัวไม่ถูก
“เอ๊าๆ ดึกแล้วเอรันเอาตัวเล็กไปนอนไป อย่ากวนท่านเธรากับธันเลยจะได้พักผ่อนกันเสียที” ทรีส บอกก่อนส่งเด็กน้อยในอ้อมกอดให้เอรันและพากันเข้านอน ปล่อยให้เธรากับธันได้พักผ่อน
---------------------------------------------------------------
-----------------------------------------
-----------
ภายในห้องโถงใหญ่ของวังแห่งเมืองอันรา ตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความตึงเครียดกษัตริย์แห่งอันรานั้นชราภาพมากแล้วแต่แววตาที่เด็ดเดี่ยวของผู้นำนั้นยังฉายชัด วิรัลนั่งนิ่งมองบรรดาราชทูตของวูธด้วยท่าทีนิ่งสงบ โชบุ ชุน นั้นซ้อนตัวอยู่ในที่ปลอดภัย จึงเหลือเพียงคุชและเหล่าขุนนางของอันราเท่านั้นที่ได้เข้าร่วมฟังการเจรจาครั้งนี้
“เมืองอันราขอยืนยันว่ามิได้ช่วยพระสนมที่หลบหนีมาแม้แต่น้อย หากวูธมิเชื่อใจกันก็ขอให้ตรวจสอบวังหลวงและเมืองอันราอย่างมิตรพึงกระทำต่อมิตรเถิด” กษัตริย์แห่งอันราเอ่ยออกมาอย่างแสดงความบริสุทธิ์ใจ อันราเป็นเพียงเมืองเล็กๆเพราะฉะนั้นการที่กษัตริ์จะสามารถพาเมืองเล็กๆมาจนตลอดรอดฝั่งได้นั้นจำเป็นต้องมีเขี้ยวเล็บประดับตัวบ้าง ทำไมกษัตริย์แห่งอันราจะไม่รู้ว่ามีการพาพระสนมเข้ามาหลบซ่อน เขาเป็นกษัตย์แห่งอันราไม่มีสิ่งไหนที่เกิดขึ้นในอันราแล้วเขาจะไม่รู้ เพียงแต่องค์วิรัลไม่อยากให้รู้เขาก็จะทำเป็นไม่รู้ นันทานครนั้นยังเป็นที่พึ่งพิงที่แข็งแกร่งมั่นคงเพียงพอต่อการปิดตาเสียข้างหนึ่ง
“แต่ทางเราได้รับการยืนยันมาว่าพระสนมหนีมาทางนี้”
“ใครยืนยัน” เป็นวิรัลที่เอ่ยถามขึ้นใบหน้าเรียบนิ่งนั้นชวนขนลุก คุชเริ่มกระสับกระส่ายองค์วิรัลตอนนี้ดูพร้อมจะตัดหัวราชทูตแห่งวูธทันทีถ้าพูดไม่ถูกใจ
“ท่านอย่าคิดว่ามีเพียงนันทานครเท่านั้นที่มีพวกพ้อง วูธเราเองก็มีพวกพ้องไม่น้อยพระสนมเธรานั้นหลบหนีมาทางนี้อย่างแน่นอน” ราชทูตแห่งวูธเอ่ยอย่างไม่พอใจในท่าทีของวิรัล
“ไปเอาพวกพ้องของเจ้ามาสิ ข้าอยากถามว่าใช้ตาข้างไหนมองจะได้ควักมันออกมาถูก” วิรัลเอ่ยนิ่งๆ ทำเอาคุชรีบเดินไปห้าม
“องค์วิรัลใจเย็นก่อนกระหม่อม”
“ข้าไม่รู้ว่าวูธได้รับการแจ้งข่าวจากนันทานครรึยัง แต่ข้าหาหลักฐานได้แล้วว่าเธราไม่ใช่คนฆ่าองค์หญิงโยนา หากวูธต้องการจับตัวฆาตกรที่ฆ่าองค์หญิงโยนาจริงๆ เจ้าสมควรส่งคนไปที่นันทานครเพื่อรอฟังการสืบสวนมิใช้ยกกองทัพมาปิดเมืองอันราเพียงเพราะ พวกพ้องบอกมาว่าเธราหนีมาทางนี้”
“หากพระสนมบริสุทธิ์ใจจริง เหตุใดถึงใช้ให้เหล่าลูกครึ่งอมนุษย์ชั้นต่ำพาหนีมาล่ะกระหม่อม”
“ข้าไม่รู้เจ้าคงต้องรอถามพระสนมของข้าเอง” วิรัลบอกหน้าตาเฉย “ถ้าคิดว่าเธราอยู่ที่นี่ก็ค้นหาไปเถอะหาให้เจอนะ ข้าก็คิดถึงพระสนมของข้าเหมือนกัน” วิรัลพูดก่อนเดินกลับเข้าไปภายในเป็นการบอกกลายๆว่าไม่มีอะไรจะคุยแล้ว
คุชที่ยืนมองเหตุการณ์ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาไม่รู้จะจัดการสถานการณ์แบบนี้ได้ถึงเมื่อไร ส่งเขาไปรับคมหอกคมดาบในสนามรบเสียดีกว่าต้องมาคอยดูแลองค์วิรัลที่กำลังอารมณ์เสียแบบนี้
------------------------------------------------------------------
------------------------------------------
--------------
เธราเอ่ยลาเอรันและทรีส ก่อนแวะไปอำลาอสรพิษสาวและลูกชายเพิ่งได้สติ “เจ้าจำสมุนไพรพวกนี้ให้ดีนะ ตัวนี้ลดปวดตัวนี้ลดช้ำในหามาต้มให้ลูกเจ้ากินสักอาทิตย์ อาการจะดีขึ้น” เธราอธิบายลักษณะสมุนไพรที่ใช้ต้มยาอย่างละเอียดก่อนสอนวิธีดูแลเด็กชายให้อย่างถี่ถ้วน
“ข้าขอบคุณท่านจริงๆ ไม่ได้ท่านข้าไม่รู้ว่าลูกชายข้าจะรอดรึเปล่า” อสรพิษสาวเอ่ยขอบคุณเธราด้วยใบหน้าที่น้ำตาคลอ เธอตั้งท้องกับมนุษย์และถูกขับไล่ออกมาจากเมืองอมุษย์เพราะเธอเลือกที่จะเก็บลูกของเธอไว้ โชคยังดีที่ได้พบกับทรีสและถูกพามาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ สำหรับคนที่ถูกขับไล่จากครอบครัวเพียงเพราะตั้งท้องกับคนที่ใช่เผ่าพันธ์เดียวกันนั้น น้ำใจของเธราจึงช่างยิ่งใหญ่สำหรับดวงใจที่บอบช้ำยิ่งนัก
“อย่าคิดมากน่า ถ้าข้าไม่ช่วยข้าคงนอนไม่หลับแน่ๆ” เธราบอกพลางยิ้มให้อย่างเคย
“ข้าให้ท่าน เก็บเอาไว้สักวันคงได้ใช้ประโยชน์” อสรพิษสาวยัดบางสิ่งมาในมือเธรา เมื่อก้มลงมองก็ทำเอาเธราตาโต
“เกล็ดอสรพิษ” เธราอุทานมองวัตถุสีเหลือบเขียวขนาดเล็กกว่าฝ่ามือนั้น ก่อนส่ายหน้าและพยายามจะส่งคืนเจ้าของ “ข้ารับไม่ได้หรอก” เธราปฎิเสธ เกล็ดอสรพิษนั้นเป็นของหายากเพราะทันทีที่เหล่าอสรพิษสิ้นใจ เกล็ดก็จะมลายหายไปทันทีเพราะฉะนั้นเกล็ดอสรพิษนั้นจึงหายาก เพราะจะต้องให้เหล่าอสรพิษถอนออกมาให้เอง
“ข้าเต็มใจให้ท่าน ข้าคิดว่ามันคงสร้างประโยชน์ได้มากมายหากอยู่ในมือท่าน” อสรพิษสาวเอ่ย เกล็ดอสรพิษนั้นเป็นยาที่สามารถเป็นยาถอนพิษได้ทุกชนิดและสามารถเป็นยาพิษได้อีกด้วย และสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนไขว่คว้าอยากได้กันก็คือ มันสามารถปลุกชีพคนทีตายให้ฟื้นได้
------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------
---------------------
เธรานั่งซ้อนม้าธันเงียบๆราวครุ่นคิดอะไรตลอดทาง ตอนนี้เธราได้ผ้าพันคอผืนใหม่ที่เอรันให้มาสำหรับปิดแผลที่ลำคอ อาหารเท่าที่หาได้ถูกห่อมาให้อย่างดี การเดินทางเป็นนั้นไม่ได้เร่งรีบเพราะธันเองก็ไม่ได้คุ้นเคยเส้นทางในป่าศักสิทธิ์นัก แม้ทรีสจะบอกเส้นทางการเดินทางมาให้บ้างแต่การเดินทางก็ยังคงต้องค่อยเป็นค่อยไป
แต่แล้วการเดินทางที่ดูราบรื่นก็ต้องสะดุด เมื่อเสียงฝีเท้าม้าไม่ต่ำกว่าห้าตัวดังเข้ามาใกล้ๆ ธันเร่งฝีเท้าม้าทันที หากหนีไม่พ้นเพราะความไม่คุ้นเส้นทาง ภาพของผู้ชาบนหลังม้าที่ปิดหน้าปิดตาเสียมิดนั้นทำเอาเธราถอนหายใจ คนพวกนี้ท่าทางแบบนี้แม้จะไม่เอ่ยปากเขาก็พอรู้ว่าเป็นใคร
“พวกพรานค้าทาส” เธราเอ่ยออกมาเบาๆให้พอได้ยินกับธันสองคน
มาต่อแล้วค่าาา
อ่านให้สนุกค่าา อดใจอีกนิด เดี๊ยววิรัลกับเธราก็เจอกันแล้วค่าา
ใครเพิ่งหลงมาอ่านก็ฝาก #วิรัลลืมเมีย ด้วยน้าา
ตอนต่อไปมาไม่เกินวันพุธคะ บอกไว้กดดันตัวเองเลย55555
จะพยายามมาสปอยในเพจบ่อยๆนะคะ
ฝากวิรัลกับเธราด้วยค่า