ตอนที่ 28
เช้าวันใหม่ ร่างบางตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ไม่มีความรู้สึกง่วงนอนเหลืออยู่เลย ตาสว่างแบบสุดๆ มีแรงและพร้อมทำงานได้อย่างเต็มที่
ศตคุณเข้าไปในห้องพ่อเลี้ยงเพื่อปลุกอย่างที่เคยทำ แต่ก็พบว่าเจ้าของห้องกำลังแต่งตัวอยู่ เห็นเสื้อผ้าที่อีกคนใส่ก็รู้ได้เลยว่าต้องไปข้างนอก เลยโพล่งถามออกไป
“จะไปไหนเหรอครับ ตื่นเช้าเชียว”
“ไปทำธุระข้างนอกน่ะ”
“ธุระอะไรครับ ทำไมผมไม่เห็นรู้เลย” ศตคุณถามต่ออย่างลืมตัว
ปกติแล้วเขาจะไม่ซักไซ้อะไรพ่อเลี้ยงมากนัก แม้ว่าอีกคนจะมีงานข้างนอกที่ไม่เกี่ยวกับตารางงานก็ตาม แต่นั่นเขามักจะได้ไปด้วยทุกครั้ง แต่ครั้งนี้เหมือนว่าจะออกไปคนเดียว…
มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“คุยงานน่ะ”
“ครับ” แม้ว่าจะอยากรู้ต่อว่างานอะไรกับใครแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าพ่อเลี้ยงไม่คิดจะบอกกันแบบนี้ นั่นก็หมายความว่าไม่ต้องการให้เขารู้เรื่อง
งานอะไร...ทำไมถึงมีความลับกัน
“ไม่มีผู้หญิงมาเกี่ยวหรอกน่า อย่าคิดมาเลยเด็กดี” พ่อเลี้ยงเห็นว่าสีหน้าของศตคุณดูยุ่งๆ เหมือนกำลังคิดมากอยู่ก็เลยพูดบออกมาให้อีกคนสบายใจด้วยน้ำเสียงที่น้ำเสียงทะเล้นๆ เหมือนจะกวนประสาท
“เปล่าคิดเรื่องนี้สักหน่อย”
“จริงเหรอ? ไม่คิดจะหึงเลยเหรอ”
“ไม่เลยครับ” เชิดหน้าตอบอย่างมั่นใจ ทำให้พ่อเลี้ยงมองใบหน้าสวยด้วยความหมั่นเขี้ยว
“งั้นถ้าฉันจะไปคุยงานกับผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณน้ำฟ้านี่ก็ไม่รู้สึกอะไรใช่ไหม” ร่างบางเผลอชักสีหน้าใส่ทันทีอย่างไม่พอใจ เรียกเสียงหัวเราะต่ำๆ ในลำคอจากร่างสูงได้อย่างดี
“แล้วแต่พ่อเลี้ยงสิครับ”
“หน้านายตอนนี้น่ารักมากเลยหมู...ฉันกำลังคิดว่านายหึงฉันอยู่นะ”
“ห๊ะ!! ป่ะ...เปล่าสักหน่อย อื้อ...”
พ่อเลี้ยงอาทิตย์ปิดปากคนปากแข็งด้วยอวัยวะเดียวกันทันที ส่งปลายลิ้นร้อนเข้าไปเกาะเกี่ยวกับปลายลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน ศตคุณเองก็หลับตาตอบรับจูบเป็นอย่างดี ยกแขนเรียวขึ้นคล้องคอหนา ทำเอาพ่อเลี้ยงเลิกคิ้วด้วยความสงสัยแต่ก็ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
ใบหน้าสวยเอียงไปมาเพื่อปรับมุมองศาในการจูบตามการชักนำของคนตัวใหญ่กว่า เมื่อเริ่มหายใจไม่ออก ก็ประท้วงด้วยการจิกกลุ่มผมของพ่อเลี้ยงเบาๆ
“ฮื้อ...”
“ช่างเป็นเช้าที่ดีจริงๆ” ร่างสูงผละออกมากระซิบชิดริมฝีปากบางก่อนจะกดจูบลงไปอีกสองสามทีแบบหนักๆ แต่ไม่มีการแลกลิ้น...
“พอครับ อื้อ...”
“ให้ตายสิ อยากนอนฟัดนายต่อจริงๆ นะหมู”
“มีงานไม่ใช่หรือครับ อื้อ...อย่า พอแล้ว” เบี่ยงหน้าหลบเมื่อร่างสูงทำท่าจะจูบตนอีกครั้ง อาทิตย์ก็เลยฝังปากับจมูกที่ซอกคอขาวแทน จูบ ซุกไซ้เบาๆ ไปตามแนวยาวของคอ ร่างเล็กเองก็ใช่ว่าจะยืนนิ่งๆ ให้ร่างสูงลวนลาม ทั้งผลักทั้งดัน เบี่ยงหลบซ้ายขวาก็ไม่สามารถหนีพ้นร่างสูงได้เลย
“พ่อเลี้ยงครับ! ถ้ายังไม่หยุดนี่จะโกรธจริงๆ แล้วนะครับ”
“โอเคๆ หยุดแล้ว” พ่อเลี้ยงผละออกมาจากซอกคอขาวอย่างเสียดาย แต่ก็ต้องจำยอม ไม่ได้กลัวว่าคนสวยตรงหน้าจะโกรธหรอกนะ เพราะเขาง้อได้ แต่มันใกล้จะถึงเวลานัดแล้วนี่สิ
“จะกลับกี่โมงครับ”
“เย็นๆ นั่นแหละ มีคุยหลายที่”
“ถามจริงๆ นะครับ คุยงานอะไรกัน ทำไมไม่ให้ผมไปด้วย” ศตคุณถามอย่างอดไม่ได้
อาทิตย์ยิ้มพึงพอใจที่ศตคุณเริ่มที่จะกล้าซักถามเขาเข้ามาอีกนิดแล้ว ทั้งๆ ที่แต่ก่อนศตคุณจะไม่อยากรู้เลยถ้าเขาไม่บอกออกไปเอง
แล้วแบบนี้...จะปฏิเสธความรู้สึกของตัวเองอีกไหม หมูน้อย...
“จะไปคุยกับผู้รับเหมาเรื่องทำโรงบ่มไวน์น่ะ แล้วก็จะไปหาไอ้วัฒน์ด้วย”
“โรงบ่มไวน์?”
“ใช่...ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้นะ ไวน์ที่นายทำก็ใช้ได้เลย คิดว่าน่าจะเป็นสินค้าอีกตัวของทางไร่ได้ แล้วที่นี่ก็ยังพอมีพื้นที่ว่างอีกเยอะ ก็เลยจะทำโรงบ่มไวน์ขึ้นมา เพื่อจะได้รองรับการผลิตที่มากขึ้นด้วย”
“เอาจริงหรือครับ”
“เอาจริงน่ะสิ ไม่ต้องห่วงน่า ฉันจะจ้างมืออาชีพมาดูแลเอง หมูจะได้ไม่ต้องเหนื่อยขึ้น ขอบคุณนะที่ช่วยคิดเรื่องไวน์ขึ้นมา” มือใหญ่ลูบเบาๆ ที่กลุ่มผมสวย เรียกรอยยิ้มอย่างมีความสุขจากคนสวยได้ทันที
“มันจะไปได้ดีใช่ไหมครับ”
“ในเรื่องไหนล่ะ ชื่อเสียงของศักดินนท์ก็การันตีคุณภาพทุกอย่างแล้วหมู จะออกสินค้ากี่ตัวๆ มันก็ขายได้ ขึ้นอยู่ที่การตลาดล้วนๆ เลย”
“ครับ...งั้นพ่อเลี้ยงไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา”
“ไปส่งฉันหน่อยสิ”
“ได้ครับ”
ศตคุณเดินมาส่งร่างสูงถึงรถของพ่อเลี้ยงที่จอดเอาไว้...เขามีอะไรบางอย่างอยากจะพูด แต่ตอนนี้ก็ยังคงไม่ใช่เวลาที่ดีเท่าไหร่
“ไปล่ะนะ”
“พ่อเลี้ยงครับ” เสียงหวานเรียกอีกคนเบาๆ ทำให้พ่อเลี้ยงที่กำลังจะเดินไปที่รถถึงกับชะงัก หันมามองหน้าคนที่เรียก เลิกคิ้วนิดๆ อย่างเป็นการบอกให้คนตัวเองพูด
“หืม...”
“คือว่า...รีบกลับนะครับ”
“ทำไมล่ะ”
“ผม...ผมมีเรื่องจะบอก”
“งั้นก็พูดมาตอนนี้เลยก็ได้ ยังมีเวลาอยู่” พ่อเลี้ยงว่าพลางมองนาฬิกาที่ข้อมือตัวเองก็เห็นว่ายังมีเวลาเหลืออยู่เลยรอที่จะฟัง แต่พอเห็นสีหน้าอึดๆ อัดๆ แดงซ่านไปไม่เป็นของศตคุณก็เริ่มตื่นเต้นบ้างแล้ว
เรื่องอะไรกันที่ทำให้ลูกหมูของเขาเป็นได้ขนาดนี้...
“เอาไว้ตอนเย็นนะครับ”
“หึหึ...นายทำฉันตื่นเต้นนะหมู”
“ไปเถอะครับ ผมไม่มีอะไรแล้ว”
“เดี๋ยว…”
“ครับ?”
“เรื่องดีหรือเปล่า”
“เอาไว้รู้ทีเดียวเลยนะครับ”
“ฉันจะโทรไปเลื่อนนัดดีไหมนะ ทำให้อยากแล้วจากไปเนี่ย” ร่างสูงพูดอย่างทะเล้นๆ
“พ่อเลี้ยง!! อยากอะไรกันครับ พูดให้ดีๆ” ศตคุณดุทั้งหน้าแดงๆ
“อยาก...รู้ไง คิดอะไรล่ะ ฮะๆ ฉันไปแล้ว จะรอมาฟังตอนเย็นนะ หวังว่าจะเป็นเรื่องที่ดี”
“โชคดีนะครับ”
ศตคุณมองใบหน้าที่แสนยิ้มแย้มของพ่อเลี้ยงอาทิตย์แล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ความรู้สึกอบอุ่นใจที่ได้อยู่กับผู้ชายคนนี้
ต่อให้ในอนาคตจะเจอเรื่องราว อุปสรรคมากกมายเพราะความแตกต่างกัน ศตคุณก็พร้อมที่จะสู้ จะไม่หนีความจริงแล้ว จะไม่หนีความรู้สึกของตัวเอง...อีกแล้ว
“เจอกันครับ...”
…
…
…
ศตคุณกลับมาจากทำงานก็รีบวิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะได้มาทำอาหารเย็นรอพ่อเลี้ยง ซึ่งร่างบางรู้สึกตื่นเต้นและก็คิดหาคำพูดดีๆ ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนถ้าพ่อเลี้ยงถาม
“อารมณ์ดีจังเลยนะจ้ะ”
“ก็...นิดหน่อยน่ะครับย่าจันทร์” ศตคุณตอบคนอายุมากกว่าที่สังเกตเห็นอาการที่มีความสุขมากจนไปของเขา
“มีเรื่องอะไรดีๆ ล่ะลูก”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ...ผมแค่มีความสุขนิดหน่อย”
“หืม? ทำหน้าเหมือนมีความรักเลย”
มือสวยชะงักมืดที่กำลังหั่นเนื้อหมูอยู่ ก่อนจะหั่นต่อเมื่อตั้งสติได้ ใบหน้าขาวใสแดงซ่าน ไม่สบตาผู้หลักผู้ใหญ่จนย่าจันทน์ผามองด้วยสายตาเอ็นดู
“ย่าจันทร์ก็...”
“ฮะๆ ย่าดูออกหรอกน่า ย่าอาบน้ำร้อนมาก่อนเรานะ หนูหมูคิดอะไร รู้สึกยังไงก็แสดงออกมาทางสีหน้าและแววตาหมดเลย...”
ศตคุณเลือกที่จะเงียบดีกว่าเพราะกลัวว่าจะพูดอะไรที่เปิดโปงตัวเองไปมากกว่านี้
“เอาล่ะๆ ย่าไม่แซวแล้วๆ ทำอาหารต่อเถอะลูก เดี๋ยวย่าจะไปดูแกงทางนู้นหน่อย”
“ครับ”
ระหว่างที่ศตคุณกำลังตั้งใจทำอาหารอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นพร้อมกับสั่นอยู่ที่กระเป๋ากางเกง เลยวางอุปกรณ์ทำอาหารมาหยิบโทรศัพท์ เห็นเบอร์ที่โชว์อยู่ก็ยิ้มออกมาทันที
“ครับพ่อเลี้ยง”
ร่างบางรับสายโดยไม่ปล่อยให้ปลายสายรอนาน
(หมู...อาวัฒน์เองนะ) แต่ปลายสายดันเป็นเพื่อนสนิทของพ่อเลี้ยงเสียงั้น
“สวัสดีครับอาวัฒน์ มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
(เอ่อ...ไอ้พ่อเลี้ยง มันถูกยิง ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล…อาการปลอดภัยแล้ว) ศตคุณรู้สึกไร้เรี่ยวแรงขึ้นมาทันที หูอื้อ ตาลายไปหมดแล้ว สมองไม่รับรู้ ไม่ประมวลผลอะไรทั้งนั้น สิ่งที่ดังก้องไปมาอยู่ในหัวมีแต่คำว่า...
ไอ้พ่อเลี้ยง มันถูกยิง...
ถูกยิง...
ถูกยิง...
ถูกยิง...
“ฮึก...อาวัฒน์ ต่ะ ตอนนี้...อึก พ่อเลี้ยง อยู่โรงพยาบาล อะไร...นะครับ” เมื่อตั้งสติได้ ร่างบางก็ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงร้อยรนและสั่นเครือ
เดินออกจากห้องครัวเพื่อจะไปหาคนขับรถ...
(ใจเย็นๆ หมู อาทิตย์มันปลอดภัยแล้ว กระสุนไม่โดนสุดสำคัญ แต่ยังไม่ฟื้นเพราะยาสลบน่ะ)
“ฮึก...โรงพยาบาลไหน ฮือ บอกผมมานะ!!!” ร่างเล็กตะโกนทั้งน้ำตา
(ถ้าหมูยังไม่มีสติแบบนี้ อาก็ไม่บอกหรอก เอาไว้มากับเจ้าเขตก็แล้วกัน) ปลายสายตัดไปไม่ให้ร่างบางได้ซักถามอะไรอีก ศตคุณทรุดนั่งกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ถ้าไม่ได้เห็นกับตา...เขาก็ไม่เชื่อหรอกว่าพ่อเลี้ยงจะปลอดภัย
“ฮือ...”
หมับ!!!
“หนูหมู เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม” ย่าจันทน์ผาเดินมาทรุดตัวนั่งก่อนจะวาดแขนกอดปลอบศตคุณแล้วถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน....
เธอเห็นตั้งแต่ร่างบางเดินออกจากห้องครัวทั้งน้ำตาก็เป็นห่วงเลยตามมา ไม่คิดว่าจะมาเห็นคนที่สดใส ร่าเริงร้องไห้หนักขนาดนี้
“พ่ะ...พ่อ ฮึก พ่อ...ฮือ”
คนอายุมากกว่าออกแรงกอดแน่นขึ้น...
พ่องั้นเหรอ...พ่อของหนูหมูเป็นอะไรหรือเปล่า
“ย่าจันทร์ครับ” เสียงของคนมาใหม่เรียกผู้สูงอายุที่สุดในบ้าน เธอหันไปมองก็เจอกับคณินที่ยืนนิ่งสีหน้าดูเฉยชามาก ไม่ใช่คณินแบบปกติแน่นอน
“คุณเขต...”
“เดี๋ยวผมดูแลหมูเองครับ ย่าจันทร์ไปพักผ่อนเถอะ ส่วนอาหารที่เตรียมก็ให้พวกเด็กๆ กินไป ผมจะพาหมูไปโรงพยาบาล...”
“ได้จ้ะ...ว่าแต่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีหรอกครับ”
“จ้ะ...งั้นย่าขอตัวก่อนนะ”
“ครับ”
คณินมองย่าจันทร์ผาเดินออกไปจนกว่าจะแน่ใจว่าท่านไม่อยู่ตรงนี้แล้ว เขาก็เดินเข้ามาหาร่างบอบบางของเพื่อนที่กำลังนั่งร้องไห้จนร่างสั่นสะท้านอย่างน่าสงสาร
ร่างสูงวางกระเป๋าในมือลงที่พื้นแล้วนั่งคุกเข่าลง ก่อนคว้าเพื่อนตัวเล็กมากอดปลอบ...
“ชู่ววว...ใจเย็นๆ ดิวะ พ่อกูปลอดภัยดี ไม่ได้เป็นอะไรเลยหมู ถ้ามึงไม่หยุดร้องกูจะไม่พามึงไปนะ หน้าตาทุเรศพ่อกุต้องไม่ชอบแหง” ศตคุณนึกโทษเพื่อนอยู่ในใจที่ไม่รู้ว่าจะปลอบหรือจะขู่หรือจะหลอกด่ากันแน่ แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้
ศตคุณค่อยๆ หยุดร้องไห้ ยกมือปาดน้ำตาทิ้งไป แต่ก็ยังสะอึกสะอื้นอยู่บ้าง นึกตลกตัวเองเหมือนกันที่ร้องไห้หนักขนาดนี้ทั้งๆ ที่ผ่านมาตัวเองแทบจะไม่ร้องไห้เลย ถ้าเรื่องที่เจอมันไม่มีผลต่อหัวใจจริงๆ
ศตคุณแค่กลัว...กลัวจะเสียพ่อเลี้ยงไปตลอดกาล
เขายังไม่ได้พูด...คำสำคัญออกไปเลย...
“พา...ก่ะ กูไปนะ”
“หายหรือยังล่ะ”
“อือ...ห่ะ หายแล้ว”
“งั้นก็ไปกัน มึงนี่น้า ร้องไห้เป็นเด็กเลย ถ้าพ่อกูรู้ต้องรู้สึกผิดแน่ๆ ที่ทำให้มึงร้องไห้น่ะ” คณินพยุงเพื่อนตัวเล็กให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะหยิบกระเป๋ามาถือเอาไว้ด้วย
“กูกลัว...”
“กูก็กลัวหมู...กลัวจะเสียพ่ออีกคนไป ด้วยเหตุการณ์แบบเดียวกัน” เสียงของคณินสั่น แต่ก็ไม่ได้จะร้องไห้ สีหน้าเรียบเฉยมาก แต่สายตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ศตคุณรับรู้ได้ถึงความรู้ของเพื่อนก็กลายเป็นฝ่ายปลอบบ้าง...
“กูเข้าใจ...ไปหาพ่อเลี้ยงกันเถอะ”
“ทำไมวะหมู...ทำไมพวกมันถึงจองล้างจองผลาญครอบครัวกูไม่เลิกวะ...ถ้ากูไม่มีพ่อแล้ว กูไม่เหลือใครแล้วนะเว้ย...” น้ำเสียงเจ็บปวดของคณินมันช่างบาดลึกเข้าไปในหัวใจของเขาเหลือเกิน
ที่เขารู้สึกกลัวและเจ็บปวด...อาจจะยังไม่ถึงครึ่งของความรู้สึกที่คณินกำลังรู้สึกก็ได้
ต้องเข้มแข็งขนาดไหน...ถึงไม่ร้องไห้ออกมา
“พ่อเลี้ยงเป็นคนดี ไม่ว่ายังไงก็ต้องปลอดภัย ส่วนคนเลว ยังไงก็ต้องได้รับผลของกรรม”
ใช่...พ่อเลี้ยงเป็นคนดี พ่อเลี้ยงแคล้วคลาดปลอดภัย
พ่อเลี้ยงจะต้องอยู่กับเขาไปนานๆ
เป็นยังไงกันบ้างจ้ะ อ่านแล้วอย่าลืมคอมเม้นท์ส่งฟีดแบคบอกกันบ้างน่อ หรือจะให้กำลังใจกัน ติชมกันก็ว่าไปค่ะ ยูกิรับหมดแหละ ^^
หากต้องการสอบถาม พูดคุยหรือทวงนิยายก็ไปที่แฟนเพจเลยนะคะ