Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Just you and I เพราะนายคือของฉัน [ตอนพิเศษ ฮาโลวีนที่ไม่น่าจดจำ][P.43][31/10/61]  (อ่าน 628859 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************


Just you and I เพราะนายคือของฉัน



ก่อนอื่นต้องกราบสวัสดีทุกๆ ค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งลงในนี้ รู้สึกตื่นเต้นมากค่ะ

หากตรงไหนมีข้อติหรือข้อบกพร่อง ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

หวังว่าเรื่องนี้จะถูกใจทุกคนค่ะ

จากใจถึงใจ



สารบัญ




ตอนพิเศษ พี่โช x น้องกลอย



ตอนพิเศษ ซัน xจอม



ตอนพิเศษ เบ x ทู






*** หมายเหตุ เนื้อเรื่องและสถานที่ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องสมมตินะคะ***
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2018 18:42:37 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
บทนำ





         ผมไม่รู้หรอก ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันคืออะไร แต่ที่แน่ๆ มันไม่ดีต่อร่างกายผมแน่ๆ ทางที่ดีผมควรจะอยู่ในที่ของผมนี่แหละ ไม่อย่างนั้น ผมอาจจะซวยได้


   ตอนนี้ผมอยู่ไหนนะเหรอ ผมนั่งหมอบอยู่ข้างถังขยะเปียกในซอยที่แสนจะมืด แล้วผมมานั่งหมอบทำซากอะไรตรงนี้อีกนะเหรอ ก็เพราะผมมาสูบบุหรี่กับออกมาคุยโทรศัพท์กับแฟนของผมเอง ที่เลือกมาหลังไนท์คลับนี้ก็เพราะมันเงียบ ใช่แล้ว ผมแอบแฟนของผมมา ซึ่งเธอไม่ชอบให้ผมออกมาเที่ยวกลางคืน อาจเพราะเธอเป็นเด็กเรียนด้วยละมั้ง


   ผมรู้จักกับแฟนคนนี้เมื่อตอนเรียนมัธยม แม้ผมจะจบโรงเรียนชายล้วนมา แต่มีที่ๆ ผมจะต้องพบเจอสาวๆ มากมาย นั่นก็คือโรงเรียนกวดวิชา ในตอนม.ห้า เพราะถูกเพื่อนยุหรืออะไรก็ช่าง มันทำให้ผมใจกล้าเดินเข้าไปขอเบอร์สาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้ม ตอนแรกดูเหมือนจะอกหักตั้งแต่ไม่ได้เริ่ม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าอะไรโดนใจให้เธอยอมแลกพิณกัน (สมัยนั้นฮิตบีบีนะเออ)


   ผมตามจีบแฟนคนนี้ของผมนานเกือบปีจนเธอใจอ่อนยอมคบกับผม ผมเคยถามถึงอนาคตของเราสองคน เธอตอบเพียงว่า ขอเรียนก่อน จบแล้วค่อยว่ากัน ซึ่งมันก็ดีอยู่หรอก แต่เพราะเธอดูไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลก ทำให้ผมที่คบกันมาเกือบๆ จะสองปี ไม่เคยแม้แต่จะหอมแก้ม เอ่อ ผมนี้โคตรเป็นคนดีเลยเถอะ


   มาเข้าเรื่องต่อ ตรงหน้าของผม ไม่สิ ตรงหน้าของกองขยะเปียกกำลังมีคนต่อยกันอยู่ ฝ่ายที่ดูจะได้เปรียบเพราะมากันอย่างเยอะ แทบจะสิบคนทำเอาซอยนี้แคบไปถนัดตา ส่วนอีกฝ่ายก็ดูจะแพ้ตั้งแต่เห็นจำนวนคนแล้ว


   สองต่อสิบ โคตรลูกผู้ชายเถอะให้ตาย


   ส่วนผมเป็นพวกไม่ชอบใช้กำลัง เลยได้แต่แอบอยู่แบบนี้ไงเล่า    


   เสียงคุยกันเสียงดังพอจับใจความได้ว่า ไอ้สองคนนั้นมายุ่งกับเมียของหัวหน้า เลยถูกลูกน้องมาตามเก็บ เอ่อดีเนาะ หัวหน้าสั่งแล้วสั่งสบายๆ ในร้าน โดยให้ลูกน้องออกมาลำบากเอง


   “มึงจะเอายังไง ผู้หญิงนั่นมายั่วพวกกูเอง” เสียงทุ้มนุ่มชนเคลิ้มดีเหมือนกันนะ ไอ้หนึ่งในสองคนนั้นน่ะ ผมไม่เห็นหน้าพวกมันหรอก เพราะซอยนี้มีแค่ไฟกริ่งดวงเล็กๆ บรรยากาศโคตรสยองเหอะให้ตาย


   “พวกมึงเข้าหาเมียลูกพี่กูก่อน กูเห็น” หนึ่งในกลุ่มหมาหมู่ตะคอกก่อนจะพุ่งขยำคอเสื้ออีกฝ่าย


   “กูว่า พวกมึงควรตัดแว่นนะ สายตาคงจะสั้นเกินไป หึ” ผมแอบมองพวกเขาอย่างลุ้นระทึก ยิ่งพอไอ้คนถูกขยำคอเสื้อพูดจบ มันก็ยกมือขึ้นมาจับมือที่อยู่ที่คอเสื้อมัน ไม่นานก็หมุนร่างยักษ์นั่นติดกำแพงพร้อมกับเสียงโอดโอยเมื่อแขนถูกจับไพร่หลัง


   โคตรเทพอะ มองเกือบไม่ทัน


   แล้วการตะรุมบอลก็เกิดขึ้น ฝ่ายมากกว่าได้เปรียบแน่ๆ แต่พอเอาเข้าจริง ไม่ถึงนาที ร่างยักษ์ก็นอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ที่พื้นถนน


   ไอ้สองคนนั้นไม่ธรรมดา เป็นพวกเหนือมนุษย์แน่ๆ


   “กลับไปบอกลูกพี่มึงด้วยว่า ดูแลเมียให้ดี เผลอๆ เมียมันอาจกลายเป็นเมียคนทั้งผับไปแล้ว” เพื่อนไอ้คนถูกขยำคอเสื้อพูดพลางใช้เท้าเขี่ยร่างที่นอนอยู่ที่พื้นอย่างสมเพช


   “ไปเถอะ” ไอ้คนถูกขยำคอเสื้อแตะไหล่เพื่อนมันเบาๆ ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณ ทำเอาผมรีบหดหัวแทบไม่ทัน


   ขวัญเอ๊ย ขวัญมา เกือบถูกเห็นแล้วไอ้กลอยเอ้ย


   ผมยกมือขึ้นลูบอกตัวเองเบาๆ เมื่อเกือบถูกสายตานั่นเห็นหัวที่โผล่ไปมอง ดีที่ไถลลงมาทัน แม้กางเกงยีนส์แสนแพงจะถูไปกับส้มเน่าก็เถอะ ไม่นะ ยีสของพ่อ พ่อเพิ่งซักเจ้าไปเมื่อสามเดือนที่แล้ว นี่จะได้ซักอีกแล้วเหรอ โฮกก


   แต่ก่อนจะดราม่านักกว่านี้ เสียงริงโทนธรรมดาตึ๊ดๆ ก็ดังขึ้นพร้อมกับแรงสั่นในกระเป๋ากางเกง ผมเบิกตากว้างรีบล้วงเข้าไปเพื่อจะกดหยุด ตายแน่ๆ ไอ้กลอยแกตายแน่ แล้วทำไมวันนี้กางเกงมันฟิตเกินไปวะ หยุดร้องๆ โอย พอหยิบได้ผมก็รีบปิดทันที ก็ไอ้พวกเพื่อนผมข้างในมันโทรตาม สงสัยเห็นหายไปนาน แต่พวกมึงไม่ดูสถานการณ์ของกูเล้ย ว่าตอนนี้มันลำบากแค่ไหน


   แล้วแรงสั่นกับเสียงเพลงก็ดังขึ้นอีกรอบในมือทำเอาผมสะดุ้งโหยง เชี่ย ผมนี่กดปิดแทบไม่ทัน


   “ทำไมมึงไม่รับ” เสียงลอยมากับลม


   “เชี่ย ถ้ารับ ไอ้พวกนั้นก็รู้สิว่ากูอยู่นะ...นี่”


   ซวยครับ ผมที่นึกขึ้นได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ แล้วเสียงทุ้มที่ได้ยินเคยได้ยินมาจากไหน พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็เจอไอ้สองคนที่ใช้แค่มือกับเท้าล้มยักษ์ได้ถึงสิบ


   ผมกระพริบตาถี่ๆ เมื่อถูกนัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมา หนาว ต้องบอกแบบนี้ เพราะอยู่ๆ ขนแขนกลับแสตนอัพขึ้นมาเฉย นี่มันฤดูหนาวหรือเปล่าวะเนี่ย


   “เอ่อ...”


   “มึงเป็นพวกนั้นเหรอ” ผู้ชายอีกคนที่มาด้วยถามพร้อมกับชี้นิ้วไปทางคนที่ยังนอนอยู่ที่พื้นอย่างสบาย


   เอ่อ กูยังไม่อยากสบายตอนนี้


   ผมส่ายหน้าเป็นพลันวัน “ไม่เกี่ยวเลย ไม่เกี่ยวข้องเลยจริงๆ”


   “เหรอ...” ไอ้คนที่ถามพนักหน้ารับเบาๆ ดูคนนี้ไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่ไอ้คนน่ากลัวมันกำลังจ้องผมอยู่นี่ไงล่ะ จ้องอะไรขนาดนั้นวะ “ไปเถอะ พวกไอ้เบรออยู่” เชิญครับเชิญ รีบๆ ไป กูกลัว


   “เอาไอ้นี่ไปด้วย” ไอ้ตาดุบอกเพื่อนมันทั้งๆ ที่ตายังจ้องผมอยู่ นี่คุณมึงกระพริบตาบ้างหรือเปล่า


   “ห๊ะ” ผมอ้าปากเหวอ จะเอากูไปไหน


   “เอาไปไหนวะ” เออดี กูก็อยากรู้


   “เอาไปที่โต๊ะ” เสียงทุ้มบอกเรียบๆ ก่อนจะยื่นมือยาวมาจับคอเสื้อผมให้ยืนขึ้น


   เชี่ย มันเล่นดึงอย่างแรงจนคอเสื้อจุกคอแทบหายใจไม่ออก แถมยังลากผมให้เดินตามอีก ไอ้บ้านี่มันเป็นใครวะ แล้วมึงจะรีบไปตามควายหรือไง แล้วอยากได้เสื้อกูขนาดจะดึงให้ขาดเลยใช่มั้ยวะ ถ้ารู้ว่าออกมาข้างนอกวันนี้จะต้องเจอเรื่องซวยไปตลอดแบบนี้ ผมน่าจะเชื่อแฟนตัวเองว่าให้นอนตีพุงตบยุงอยู่ที่ห้องดีกว่า ไม่น่าเลยไอ้กลอย พรุ่งนี้อาจมีหัวข้อข่าวพาดหน้าหนังสือพิมพ์ว่ามึงถูกฆ่าหมกป่า ไอ้น่าเลยจริงๆ


...




ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:04:49 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 1




        ตุ้บ เสียงตัวผมถูกโยนลงบนโซฟานุ่ม แม้ไม่เจ็บมาก แต่ก็เจ็บ ไอ้บ้าพลังนี่ลากผมจากหลังร้านเข้ามาในไนท์คลับที่ผมกับเพื่อนมาดื่มเที่ยวกัน อาจเพราะมัวสนใจคอกับก้นตัวเองจนลืมสนใจรอบข้าง พอเงยหน้าขึ้นมาผมแทบผงะ ผมกำลังนั่งอยู่ในวงล้อมของพวกผู้ชายที่เหมือนถูกสต๊าฟไว้ บางคนยกแก้วค้างที่ปาก บางคนกำลังจับคางแม่สาวดาวยั่ว บางคนก็อ้าปากค้างรอแมลงวันบินเข้าไปไข่

   พวกนี้คือใครผมไม่รู้จักสักคน เอากูมานี่ทำไมกัน

   แค่ไม่นานทุกคนรอบโต๊ะก็กลับมาโวยวายเหมือนเดิม แต่ก็มีบ้างที่แอบๆ เหลือบตามองผม แปลกนะ ทำไมไม่มีใครถามอะไรสักคน ทั้งๆ ที่มีคนแปลกหน้ามาร่วมโต๊ะแบบงงๆ จนสุดท้ายพวกนั้นก็คงอดที่จะอยากรู้ไม่ได้

   “มึงไปหิ้วเด็กที่ไหนมาวะ ตัวแมร่งขาวเว่อร์” ไอ้คนที่อ้าปากค้างถามไอ้ตาดุเสียงดังตามเพลงที่กระหึ่ม

   ที่จริงผมไม่ได้ขาวมากหรอก อาจเพราะตรงนี้เป็นโซนเก้าอี้วีไอพี เลยมีแสงไฟส่องลงมา แล้วผมก็นั่งตรงแสงกระทบพอดี
 
   “แถวนี้แหละ” ไอ้ตาดุบอกเพื่อนมันก่อนจะยกแก้วเหล้าหลังเพื่อนมันชงให้ขึ้นมาจิบ พลางใช้หางตามองผมนิ่งๆ

   โคตรน่ากลัวอ่ะ   

       “กูก็ว่า พวกมึงหายไปนาน ที่แท้ก็ไปหาเด็กนี่เอง”

   กูไม่ใช่เด็กหิ้วไอ้ห่า ส่วนไอ้ตาดุที่นั่งข้างผมก็ไม่เถียงสักคำ มึงบ้าป่ะถามจริง

   ผมยืดคอมองหาโต๊ะเพื่อนตัวเองที่ดูน่าจะนั่งห่างไกลตรงนี้พอสมควร แล้วยิ่งวันนี้วันศุกร์ คนในนี้เลยแน่นอย่างกับรังปลวก เห็นแต่หัว

   “มึงมองหาอะไร” ไอ้ตาดุถามผมครับ แต่มึงช่วยขยับไปหน่อยก็ได้ กูร้อนครับ

   ‘มองหาพ่อง’ ผมพูดไร้เสียง ไอ้ตาดุมันคงอ่านออก หน้างี้ตึง ตาที่ดุแล้วยิ่งเพิ่มความเย็นชาจนผมเริ่มหนาวขึ้นมาอีก

   “ผะ ผมมองหาเพื่อน” ผมตอบแบบสุภาพเพราะกลัวถูกงับหัว

   ที่จริงพอมานั่งตรงนี้ก็เพิ่งเห็นใบหน้าชัดๆ ของไอ้ตาดุครับ มันจัดได้ว่าหล่อทีเดียว ผมคงบรรยายผู้ชายหล่อไม่ได้เพราะผมก็หล่อเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ มันหน้าตาดีที่สามารถเข้าวงการเป็นดารานักร้องได้เลย เอาจริงๆ พวกเพื่อนมันหน้าตาดีกันทุกคนครับ สงสัยจะเป็นกลุ่มนายแบบแน่ๆ แถมยังมีสาวล้อมหน้าล้อมหลังกันเกือบทุกคนยกเว้นไอ้ตาดุที่นั่งเบียดผมนี่แหละ หน้าตาดีกว่าคนอื่นแท้ๆ แต่ดันไม่มีสาวมาคลอเคลีย แต่ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่เข้าใกล้มันหรอก ดูรังสีที่แผ่ออกมารอบตัวสิ เหมือนมีไอเย็นๆ ลอยอยู่รอบตัว ยิ่งหน้าตาที่ปั้นนิ่งกับดวงตาที่โคตรดุยิ่งการพูดที่ไร้มนุษย์สัมพันธ์ด้วยยิ่งแล้วใหญ่ คนแบบนี้ผมขอบายจริงๆ 

   พอผมพูดสุภาพใส่ ดวงตาดุก็เริ่มเรียบเฉยขึ้น คิ้วที่ขมวดก็ค่อยๆ คลายออก จนผมอยากถอนหายใจ

   “มึงถอนหายใจทำไม”

   ห๊ะ นี่ผมเพียงแค่คิดนะเนี่ย

   “ปะ เปล่า” ยิ้มยิ้มแหยๆ ให้ ก่อนจะสำรวจคนที่นั่งรอบโต๊ะต่อ ก็จะให้ผมเล่นจ้องตาไอ้คนข้างๆ เหรอ มันคงไม่ใช่ แม้จะรู้ดีว่ามันกำลังจ้องผมอยู่ก็ตาม “เอ่อ ผมขอกลับโต๊ะตัวเองได้หรือเปล่า” เหมือนกลั้นใจถามเพราะเริ่มเบื่อ คือผมมานั่งนี่หลายนาที น้ำ เหล้าก็ไม่มีให้ คือผมมาที่นี่เพราะอยากเมา ถ้าให้มานั่งเฉยๆ มันไม่ใช่หรือเปล่าวะ

   “โต๊ะมึงอยู่ตรงไหน” เสียงเข้มมาเลยครับ

   ผมมองหาโต๊ะตัวเองก่อนชี้ๆ ไปมั่ว คือเอาจริงๆ ผมก็จำโต๊ะตัวเองไม่ค่อยได้หรอก เพราะตอนออกไปสูบบุหรี่มันก็เดินวนไปมาจากโต๊ะ แถมยังต้องเบียดคนออกไปอีก พอจะกลับไปนี่คิดหนัก

   “มึงตั้งใจบอกกูหรือเปล่าวะเนี่ย”

   “คือเอาจริงๆ ป่ะ คือผมจำโต๊ะไม่ได้อ่ะ”

   “มึงโคตรโง่เลยว่ะ”

   เชี่ย มันด่าผมว่าโง่อ่ะ แม้จะโดนเพื่อนด่าบ่อย แต่ไอ้นี่ผมไม่เคยรู้จัก เพื่อนก็ยังไม่ใช่ มึงกล้าดียังไงมาด่ากูวะ 

   ผมกัดฟันขบกรามกลั้นความโกรธเอาไว้ เพราะรู้ว่านี่ถิ่นมันครับ ถ้าขืนอาละวาด ผมคงเละแน่ นับจากตีนก็หลายสิบคู่อยู่

   “ขอโทษที่โง่” ผมตอบ ก่อนมือถือผมจะสั่นอีกรอบ ผมยิ้มทันทีที่เห็นชื่อเพื่อนสนิทโชว์หราอยู่ แต่พอจะกดรับ มือถือคู่ใจก็ลอยหวือไปอยู่ในมืออีกคน

   ...และมันก็กดรับ

   “เพื่อนมึงอยู่กับกู โต๊ะพวกมึงอยู่ไหน” นี่มันจะถามหรือจะหาเรื่องวะ

   ระหว่างที่มันนิ่งฟังเพื่อนผมบอก ดวงตาดุมันก็คอยจ้องกดดันผมตลอดเวลา ไม่นานมันก็ครางรับอือแล้วก็วางไป สรุปแล้วโต๊ะผมอยู่ไหนละ

   “เอ่อ...”

   “มึงนั่งนี่แหละ เพื่อนมึงกลับไปแล้ว” เสียงเรียบๆ ตอบมาทำเอาผมเบิกตากว้าง

   ไอ้เพื่อนชั่ว พวกมึงกลับไปทั้งๆ ที่กูถูกกักขังแบบนี้เรอะ

   “เพื่อนผมกลับแล้ว ผมขอกลับได้ป่ะ”

   “ทวนคำที่กูพูดเมื่อกี้”

   ผมกระพริบตามอง คือไม่เข้าใจที่ไอ้ตาดุพูด แต่ก็เผลอทวนคำพูดมันไป “มึงนั่งนี่แหละ...เฮ้ย แต่คือผม...” ผมพยายามจะอธิบายว่าเพื่อนไม่อยู่ ผมก็ต้องกลับไง แล้วผมมากับไอ้ทู มันกลับไปก่อนแล้วผมจะกลับยังไง

   “ผัวเมียคู่นี้ทะเลาะเรื่องไรกันวะ” เสียงล้อเลียนของคนในกลุ่มดังขึ้นทำเอาคนที่นั่งอยู่รอบๆ หัวเราะดังลั่น

   ผัวเมียเชี่ยไรละ ผมส่งสายตาขุ่นมองไอ้คนที่พูด อยากจะเถียงใจจะขาด แต่ไอ้คนนั่งข้างกลับยกแก้วเหล้าจิบแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว คือมึงช่วยอธิบายกับเพื่อนมึงทีเถอะ กูยังอยากมีเมีย ไม่ใช่อยากจะเป็นเมียเสียเอง

   “ไอ้ห่าแทม มึงก็ไปแซวมัน” ไอ้คนที่มีน้องโนตมเกยตักอยู่พูดไปขำไป

   “โด่ มึงก็อยากรู้ ไอ้เบขี้เสือก”

   แล้วพวกมันก็หัวเราะกันทั้งกลุ่มครับ

   “ว่าแต่เมียมึงชื่ออะไรวะไอ้โช” ไอ้ขี้เสือกที่เพื่อนมันด่าถามเพื่อนมันที่นั่งเงียบอย่างเดียว

   ไอ้ตาดุมันชื่อโชนี่เอง

   “กูไม่รู้” เสียงนิ่งๆ ตอบเพื่อนมันครับ เอ่อ ถ้ามึงรู้ก็แปลกละ

   “อ่าว”

   “ฮะๆ พวกมึงก็คิดไปไกล กูกับไอ้โชไปเจอไอ้เด็กนี่ข้างกองขยะเลยหิ้วมาด้วย” เพื่อนไอ้โชที่อยู่ในเหตุการณ์หมาหมู่อธิบายครับ

   “เชี่ย เด็กข้างกองขยะเหรอวะ” เอ่อกูเอง “แมร่ง เดี๋ยวกูต้องไปหาบ้างเผื่อจะเจอแบบนี้สักคน” แล้วเสียงหัวเราะก็ดังลั่น

   พวกมึงไปตั้งคณะตลกไป 
   
      “แล้วมึงไม่เจอแบบนี้อีกคนเหรอวะไอ้จอม”

   “ไม่เจอว่ะ” เพื่อนไอ้โชชื่อจอม หน้าตามันก็สูสีเพื่อนมันแหละครับ แต่ตาไม่ดุเท่า บรรยากาศรอบตัวดูอบอุ่นกว่าไอเย็นเยอะ

   พวกมันคุยเรื่องผมได้อีกหน่อยก็เปลี่ยนมาสนใจสาวๆ ที่เดินเข้ามาหาอีกระลอก โซฟาไม่มีแห้งจริงๆ ไอ้พวกนี้ ที่จริงผมก็แอบอิจฉาอยู่นะ ผมก็อยากมีสาวมานั่งข้างให้ลวนลามบ้าง แต่ติดตรงผมมีแฟนแล้ว ผมรักเดียวใจเดียวครับบอกเลย

   ในระหว่างที่ผมเผลอจ้องหน้าอกสาวที่กำลังเบียดอยู่ที่อกไอ้จอม หน้าผมก็ถูกมือใหญ่จับแล้วหันมาอีกทาง ซึ่งก็หันมาทางหน้าไอ้คนที่ถือวิสาสะนั่นแหละ ไอ้เชี่ยนี่ชอบใช้กำลัง ทำคอผมแทบเคล็ด

   “เชี่ยไรครับเนี่ย” ผมสถบออกมาพร้อมกับยกมือนวดต้นคอที่ถูกหมุนอย่างเร็ว

   “มองทำไม” เสียงนิ่งเย็นจนผมต้องมองหน้า คือมึงโกรธอะไรกูวะ แล้วมันถอนหายครับ “มึงชื่ออะไร”

   ผมมองหน้ามันเพราะกำลังคิดอยู่ว่า จะบอกชื่อจริงๆ หรือบอกมั่วๆ ดี แต่ถ้าบอกมั่วแล้วมันรู้ มันจะต่อยผมหรือเปล่า ชื่อจริงก็ได้วะ

   “ชื่อกลอย”

   “ไม่ได้ตั้งมามั่วๆ แล้วบอกกูใช่มั้ย” นั่นไง ผมว่ามันต้องคิดเหมือนกัน

   “เอ่อสิ ชื่อจริงๆ”

   มันพยักหน้าครับ แล้วมันก็ตะโกนแข่งเสียงโวยวายเพื่อนมันขอน้ำเปล่าให้ผม เอ่อ กูอยากกินเหล้าว่ะ ไม่อยากกินน้ำเปล่า แต่จะให้ปฏิเสธยังไงได้ เลยจำได้ยกแก้วน้ำเปล่าดื่มแทนแล้วจ้องแก้วเหล้าในมือมันแทน ก็ขวดที่ตั้งอยู่ที่โต๊ะตรงหน้ามันช่วงยั่วยวนเหลือเกิน ยิ่งราคามันเกินกว่าพวกผมจะได้แตะก็ยิ่งอยากลองสักนิด
 
   “อยาก?” มันคงเห็นผมกลืนน้ำลายจ้องแก้วเหล้ามันครับ พอมันถามผมก็พยักหน้าตอบมันไป ไอ้โชเริ่มเหยียดยิ้มจนผมสงสัย แต่ถ้าสังเกตดีๆ ไอ้รอยยิ้มแบบนี้ผมเคยเห็นตอนมันกำลังจะกระทืบไอ้พวกหมาหมู่นั่น แล้วมันก็ยกแก้วเหล้าเข้าปาก ปล่อยให้ผมมองตาละห้อย ไอ้เชี่ยนี่ถามให้อยากแล้วก็ไม่ยอมให้จริง ขี้งก

   ผมค่อนขอดในใจก่อนจะตกใจเมื่อถูกมันดันให้เอนหลังติดผนักพิงโซฟาด้านหลังแล้วมันก็ขึ้นมาคร่อมตัวผม แต่ที่ตกใจมากกว่านั้นคือตอนนี้มันก้มลงเอาปากแดงนั่นประกบกับปากผมอย่างเร็ว มือใหญ่ของมันยกขึ้นมาบีบคางผมเบาๆ ให้ผมรับจูบมันอย่างถนัด ยิ่งตอนนี้มันพยายามจะเอาลิ้นเข้ามาในปาก ผมยิ่งเม้มปากแน่นจนมันส่งเสียงฮึดฮัดแล้วเพิ่มแรงบีบคางจนผมต้องยอมให้มันสอดลิ้นเข้ามา ผมพยายามห่อลิ้นหนีแต่ก็ทำไม่ได้

        เชี่ย จูบแรกของผม....

   ถึงจะยอมรับว่ามันจูบเก่งทำเอาผมเคลิ้ม ยิ่งรสชาติหวานของเหล้าราคาแพงติดปลายลิ้นของมันทำให้ผมแทบจะเมา ขนาดไม่ได้กินสักอึก อีกทั้งหัวใจของผมเต้นแรงเหมือนถูกเครื่องกระตุ้นรัวๆ จนมันแทบอยากออกมาข้างนอก มันไม่ควรเกิดขึ้นกับผมตอนถูกผู้ชายจูบใช่มั้ยครับ คือมันไม่ควรเป็นแบบนี้ ไม่ควรที่จะเคลิ้มไปกับรสจูบของมัน 

   “แฮ่กๆ” ผมหอบเอาอากาศเข้าปอดทันทีที่ถูกถอนจูบออกไป เชี่ย ผมถูกผู้ชายจูบ แถมยังเคลิ้มอีก ผมโคตรอยากซัดหน้าไอ้คนที่ฉวยโอกาสแรงๆ สักรอบ ถ้าไม่ติดที่ภาพยักษ์นับสิบถูกสอยร่วงละก็ ไอ้โชมีเจ็บ

   “เชี่ย พวกมึงร้อนแรงว่ะ” เสียงเซงแส่ดังขึ้นทันทีที่ผมกับไอ้เหี้ยโชผละออกจากกัน คือพวกมึงช่วยดูด้วยว่ากูเต็มใจหรือเปล่า
 
   “กูละอยากบ้าง เห็นละเปรี้ยวปากสัด”

   “โชว์บ้างมึง”

   และยังมีเสียงแซวเป็นระลอกจนผมก้มหน้างุด แต่ก็แอบเสมองไอ้คนข้างๆ อย่างโมโห ยังมาทำตัวนิ่งเฉย เหยียดยิ้มให้กับเพื่อนๆ มันอย่างสบายอารมณ์ เห็นกูเป็นของเล่นหรือไงวะ ยิ่งคิดยิ่งโมโห แล้วผมจะนั่งโง่ให้มันบังคับอีกทำไม มือตีนก็มีเหมือนกันจะไปกลัวทำไม

   พอคิดได้ผมก็ยืนพรวดขึ้นแล้วใส่เกียร์หมาวิ่งหนีครับ ได้ยินเสียงเพื่อนมันโวยวายสักอย่าง แต่ผมไม่สนใจ หนีได้ก็วิ่งอย่างเดียวครับ

   ผมต้องเบียดเสียดผู้คนที่เต้นอย่างสนุกกับเสียงเพลงเป็นจังหวะ คือเหนื่อยมากครับที่ต้องบิดตัวเดินไปเดินมา แม้จะรู้สึกว่ามีหลายมือที่ยื่นมาบีบก้นบ้าง กอดบ้าง ดึงบ้าง แต่ผมก็เดินหน้าอย่างเดียวเลยครับ นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังหนีอยู่ละก็ ไอ้พวกลวนลามคงมีเจ็บตัวกันบ้าง

       ในที่สุดผมก็หนีออกมายืนเกาะราวเหล็กหอบอยู่นอกไนต์คลับได้ เหนื่อยขนาดนี้เหมือนวิ่งมาเป็นสิบกิโลเมตรให้ตาย ไนท์คลับนี้ผมจะจำไว้ว่าจะไม่มาอีก อุตส่าห์มาครั้งแรกและคิดถึงครั้งต่อไป พอเจอแบบนี้กลอยขอบาย

   ผมเดินออกมาที่ถนนใหญ่เพื่อรอโบกแท็กซี่ เพราะถูกไอ้เพื่อนตัวดีเททิ้งซะได้ ไอ้เชี่ย ไม่เคยเป็นห่วงกูเลย ยืนรออยู่นานไม่เห็นแท็กซี่ผ่านมาสักคัน นี่พวกเขาไปส่งรถกันอยู่หรือไงวะ ไนต์คลับนี้ก็ดังจะตาย คนก็มาเที่ยวเยอะมาก แต่ทำไมไม่มีรถแท็กซี่ผ่านมาสักคัน ที่จริงที่แบบนี้แหละที่จะได้เงินเยอะ เพราะเวลาคนขับรถมาแต่เมาก็ต้องเรียกแท็กซี่กลับบ้าน พลาดแล้วครับแบบนี้

   รอนานๆ ผมก็ชักเมื่อยเลยนั่งลงที่ฟุตบาทแทน ดีนะที่ไอ้คนที่ผมหนีมามันไม่ออกมาตาม ไม่งั้นก็คงซะ...ซวย เชี่ย ผมเห็นมันอยู่ไกลๆ ครับ มันกำลังเดินออกมาจากประตูแล้วเดินไปโซนที่จอดรถวีไอพีที่ถูกกั้นให้เด่นอยู่ด้านหน้า หลบสิครับจะนั่งให้มันเห็นเหรอ

   พุ่มไม้ที่ข้างทางเป็นเกาะบังเก้อที่ดีที่สุด แปบเดียวรถสปอร์ตคาร์หรูสีดำมันปราบก็วิ่งฉิวผ่านไป รถสวยสุดๆ ไปเลย ดูท่าทางคงหลักล้านขึ้นแน่ คนอย่างผมคงได้แค่เดินผ่านเท่านั้นแหละ อย่างมากก็มีแค่ฟีโน่คู่ใจที่หรูสุดของผมที่จอดอยู่ที่หอของไอ้ทู ป่านนี้แมร่งคงหลับน้ำลายยืดอย่างสบายละ

   ผมลืมผมก็มีโทรศัพท์นี่หว่า อยู่ไหนวะ ตบกระเป๋ากางเกงซ้ายทีขวาทีก็ไม่มี เหี้ยแล้ว มือถือหาย เดี๋ยวนะ ครั้งสุดท้ายที่ได้จับคือตอนนั้น...

   ชิบหาย มือถืออยู่กับไอ้เหี้ยโช

   ทำไมผมถึงโง่แบบนี้วะ ไม่เอามือถือคืนตอนมันคุยเสร็จ แล้วแบบนี้ผมจะเอาคืนได้ยังไง จะเจอมันที่ไหน เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ยิ่งมือถือนั่นผมต้องใช้แรงกายทำอาหารช่วยม๊าขายอาหารตามสั่งอยู่เป็นเดือน ที่จริงคนงานก็มีครับ แต่ม๊าผมอยากใช้เพื่อให้ลูกรู้ถึงความลำบากของสิ่งของราคาแพงที่อยากได้ แล้วอีกอย่าง ในนั้นยังมีรูปผมที่โคตรซีเคร็ทอะ ไม่ใช่รูปโป้นะ แต่เป็นรูปที่ผมถูกพี่สาวบังคับให้แต่งคอสเพลเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นอ่ะ แถมบังคับไม่ให้ลบด้วย ซวยสุดๆ

   ผมเดินคอตกไปตามฟุตบาท จำได้ว่าเห็นป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกล แต่ผมไม่รู้ว่าสายไหนมันไปไหนบ้าง เดี๋ยวค่อยถามเอาก็ได้วะ ผมเดินเอื่อยๆ รับลมเย็นๆ ในตอนดึกไปเรื่อยๆ แม้รอบข้างจะมืดซะจนวังเวง แต่ผมไม่กลัวผีหรอก เอาจริงๆ คนน่ากลัวกว่าเยอะ

   “เฮ้อ” ถอนหายใจรอบที่ล้านแล้วผม

   “มึงเดินหาเหรียญอยู่หรือไง” เสียงที่แหวกมาจากความเงียบด้านหลังทำเอาผมหันไปมองแทบจะทันที

   “ไอ้โช...” ผมครางเสียงเบาหวิวเมื่อเห็นไอ้คนที่ผมหนีมาอย่างยากลำบากยืนอยู่ด้านหลัง มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง ก็ผมเห็นมันขับรถไปไกลแล้ว แล้วรถมันก็ไม่อยู่แถวนี้

   “คิดจะหนีกูมันไม่ง่ายหรอกนะ อะไรที่กูอยากได้ ยิ่งยากกูยิ่งชอบ”

   เชี่ยนี่ต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ

   “กะ กูไม่ได้หนีเว้ย กูจะกลับบ้านต่างหาก ดึกแล้วมึงไม่เห็นเหรอ” อย่างเสียงสั่นสิไอ้กลอย สู้มันๆ “แล้วมึงมาอยู่นี่ได้ไง ก็กูเห็นมึง...” ชิบหายไอ้กลอย มึงพูดงี้มันก็รู้สิว่ามึงหลบอยู่ ไอ้โง่

   “ไม่หนีแต่ก็แอบกูงั้นสิ กลัวกูเหรอมึง”

   “ใครกลัว ไม่มี๊” ผมจะพูดเสียงสูงทำไมวะ แล้วผมต้องเดินถอยหลังเมื่อไอ้โชก้าวเท้าเข้ามาหา กดดันสุดๆ นี่มันจะต่อยผมหรือเปล่าวะ “อะ อะไร”

   “ไม่กลัวแล้วถอยหลังทำไม” ไอ้สัด จะเดินกดดันกูทำไม

   “ก็มึงเดินทำไม”

   “กูเดินก็ผิดเหรอ”

   ดูมันถามครับ น้ำเสียงนิ่งๆ แต่ฟังแล้วกวนตีนชิบหาย

   “มึงต้องการอะไรวะกูถามจริงๆ”
 
   “มึงไง”

        สั้นๆ ได้ใจความ เหี้ยสิครับ

   “มึงเป็นเกย์หรือไงไอ้เชี่ย กูมีแฟนแล้วเว้ย เป็นผู้หญิงด้วย”

   “แล้วไง” ดูมันตอบ

       “ก็ไม่แล้วไง แต่คือกูเป็นผู้ชายเหมือนมึง มีอะไรๆ ก็เหมือนมึง แล้วกูก็ชอบผู้หญิง มึงเข้าใจใช่ป่ะ” ผมถอยจนสุดแล้วครับ ด้านหลังผมเป็นเสาไฟฟ้า พอจะขยับซ้าย ไอ้โชก็ยกแขนขึ้นกั้น จะขยับขวาก็ยกขึ้นมากั้นอีก หมดทางไปต่อเลยผม

   “แต่กูอยากได้ก็ต้องได้มันคือนิสัยกู” นิสัยมึงโคตรแย่กูบอกเลย

   “คนอื่นก็มีมึงก็ไปหาสิวะ กูไม่ได้น่ารักเลยเห็นป่ะ ดูแก้มกูนี่” ผมยืดแก้มป่องให้มันดู “เป็นซาลาเปาเนี่ย ดูท้องกูนี่” ผมเปิดเสื้อโชว์พุงหลามให้มันดู “ดูพุงกูมีแต่ไขมันไม่มีกล้ามเรียบหรอกเห็นป่ะ” ผมเห็นมันมองตามเงียบๆ หวังว่ามันคงเข้าใจ เพราะมันก็ไม่ตอบอะไร “เข้าใจนะ เอ่อ กูขอมือถือคืนด้วย” แล้วหน้ามึงนี่ช่วยเอาออกไปไกลๆ หน้ากูด้วย

   “ไม่มี”

   “ไม่มีได้ไง ก็มึงรับสายเพื่อนกูแล้วเก็บใส่ในกระเป๋ากางเกง”

   “อยากได้ก็หาเอาเอง” มันท้าครับ ผมก็เลยล้วงมือเข้าไปในกางเกงยีนส์เดฟสีดำของมันครับ ซ้ายก็ไม่มี ขวาก็ไม่มี ผมเลยต้องอ้อมมือไปด้านหลังมันเพื่อนคลำกระเป๋าหลัง แล้วก็เจอจริงด้วย มือถือของผม...แต่เดี๋ยวนะ คือตอนนี้เหมือนกับว่าผมกำลัง....กอดมันอยู่

   ผมเงยหน้าขึ้นมองมันทั้งๆ ที่มือยังล้วงอยู่ที่กระเป๋ากางเกงหลังมันอยู่ คือมุมเงยแบบนี้ส่วนใหญ่ถ้าไม่หล่อจริงมีดับ แต่มันนี่หล่อทุกมุมเลยครับ ผมรีบหยิบมือถือออกมาแล้วสำรวจความเรียบร้อย เฮ้อ โล่งอก มือถือยังอยู่ในสภาพดีทุกอย่าง ดีที่ผมตั้งรหัสเปิดเอาไว้ มันคงเปิดดูรูปผมไม่ได้

   “คิดว่ากูโง่เปิดดูรูปมึงที่แต่งเป็นผู้หญิงไม่ได้เหรอ”

   ห๊ะ เมื่อกี้มันพูดว่ามันเห็นรูปผมเหรอ เชี่ย มันเห็นได้ไงวะ ก็ผมใส่รหัสพาร์ทเวิร์ดเอาไว้แล้ว

   “รหัสโคตรปัญญาอ่อน ไอ้หนึ่งสองสามสี่เนี่ย” ผมถลึงตาใส่ไอ้คนด่าผม แม้จะเสียเซลฟ์แต่ผมก็ไม่แคร์หรอก เพราะไอ้ทูก็เคยเห็น มันเคยแต่งด้วยซ้ำแต่ไอ้นั้นมันชอบครับ มันโคตรบ้าอ่ะ

   ผมเบ้ปากก้มหน้าพึมพำบ้าบออยู่คนเดียว ก่อนจะเหลือบเห็นป้ายแท็กซี่ที่วิ่งมาแต่ไกล เจ๋ง พอรถมาใกล้ ผมรีบผลักอกไอ้โชแล้ววิ่งหนีไปโบกรถ พอรถจอดผมก็รีบนั่งเลยครับ ดูไอ้โชก็ไม่คิดจะไล่ตามด้วย สงสัยมันจะเข้าใจที่ผมพูด...ซะเมื่อไหร่ เพราะในมือที่มันชูโบกไปมามันทำให้ผมแทบอยากจะกระโดดเตะมัน แถมมันยิ้มเย้ยหยันด้วย

   กระเป๋าเงินผมอยู่กับมันได้ยังไง แล้วแบบนี้ค่าแท็กซี่ใครจะเป็นคนจ่าย ไอ้เหี้ยโช!!!!!!!!!


... TBC

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:07:09 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
 :z13:


หูยยกลอยน่ารักจัง :hao6: :hao6:

พระเอกก็เท่ แต่ทำไงเนี้ยกลอยมีแฟนแล้ว555

รอตอนต่อไปจ้า มาต่อเร็วๆนะอิอิ :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เอาล่ะซิพี่โชเขาอยากได้อะไรก็ต้องได้อีกไม่นานกลอยคงได้เลิกกับแฟนแน่ๆ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 2



         เช้าวันใหม่ที่ผมไม่ค่อยจะสดชื่น จะให้สดชื่นได้ยังไงในเมื่อตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ผมยังถูกไอ้ทูบ่นตลอดเวลา แม้แต่ตอนกินข้าวมันยังบ่น เพิ่งรู้ว่าไอ้เชี่ยนี่ขี้บ่นก็ตอนนี้แหละ สาเหตุที่มันต้องบ่นก็มาจากเหตุการณ์เมื่อคืน ที่จริงผมต่างหากที่ต้องบ่นจนมันหูชา ก็มันเล่นทิ้งผมไว้ที่ไนท์คลับบ้านั่น ไหงเป็นผมที่ต้องหูชาเองวะ กะอีแค่โทรเรียกให้มาจ่ายเงินค่าแท็กซี่ให้หน่อยทำมาเป็นงก

   “มึงหยุดบ่นสักทีเถอะกูรำคาญ จะกิน จะขี้ จะเยี่ยวมึงก็บ่นๆๆ” ผมเริ่มทนไม่ไหวแล้วครับ

   “ก็มึงจะไม่ให้กูบ่นได้ยังไง มึงโทรให้กูลงมาจ่ายตังค์ให้ แล้วมึงรู้มั้ย เงินค่าแท็กซี่ที่กูต้องจ่ายให้มึง มันเป็นส่วนของค่าหอกู แล้วแบบนี้พรุ่งนี้กูจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย นั่นเงินที่กูขอแม่ด้วย” มาซะยาวเหยียด มึงไม่พักหายใจหรือเว้นช่องไฟบ้างรึไง

   “โธ่ เดี๋ยวกูไปขอม๊ามาคืนไง มึงขี้งกไปได้ นี่ถ้าเมื่อคืนมึงไม่ลืมกูไว้ที่เที่ยวนั่น มึงก็ต้องไม่ต้องมาจ่ายตังค์ให้กู แบบนี้เขาเรียกว่ากรรมตามทันเว้ย”

   “กรรมเหี้ยอะไรล่ะ ก็กูโทรถามว่ามึงจะกลับด้วยหรือเปล่า เพื่อนใหม่มึงบอกมึงอยู่กับมัน กูก็ถามว่ามันจะไปส่งมึงใช่มั้ย มันก็ตอบอือกลับมาไง แล้วแบบนี้มึงจะกูอยู่รอมึงเหรอไอ้เชี่ยกลอย” มันตะโกนโต้ลมอยู่ข้างๆ หูผมครับ ตอนนี้ผมเอามันซ้อนฟีโน่คู่ใจไปเรียน ขืนให้มันเอาไอ้บอลลูน (ชื่อรถยนต์ของไอ้ทูมันครับ) ออกไปมีหวังเข้าเรียนสายแหง ยิ่งวิชานี้อาจารย์โคตรดุ

   “ไอ้สัด มึงก็รู้ว่ากูไม่มีเพื่อนที่ไหนไปเที่ยวไอ้สถานที่ไฮโซๆ แบบนั้น ก็มีแค่พวกมึงนั่นแหละ” ผมก็ตะโกนโต้ลมตอบมันครับ แม้จะมีคนมองบ้างเป็นระยะ อาจเพราะพวกเขาคิดว่าผมกับไอ้คนซ้อนท้ายกำลังทะเลาะกันอยู่ “มึงคิดดู ค่าเหล้าขวดนึงมึงจะกินอยู่ได้ไปเป็นเดือนเลยนะโว้ย” ค่าเปิดขวดที่นั่นแพงมากจริงๆ ครับ พวกผมกะไปลองสักหน่อย เห็นค่าเปิดขวด ค่ามิกเซอร์อะไรไปนี่แทบอยากจะกลับ แต่ลองแล้วก็อยากอยู่ให้นานๆ ก็เลยสั่งที่มันถูกที่สุดมา ซึ่งมันก็แพงอยู่ดี

   “เอ่อ กูก็คิดแบบนั้นแหละ แล้วยิ่งมึงหายหัวด้วย ค่าเหล้าเลยหารแค่สาม เดือนนี้กูแทบไม่มีเงินเหลือ”

   จากนั้นผมกับไอ้ทูก็เงียบกันไป จนมาถึงมหาลัยที่เรียน รถเลี้ยวรถไปตามถนนที่สองข้างทางปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาก่อนเข้าสู่คณะของตัวเองที่ตั้งอยู่เกือบจะหลังสุดของมหาลัย

   หลังจากจอดรถเสร็จ ผมกับไอ้ทูก็เดินหน้าซุยๆ มาที่โต๊ะประจำที่มีไอ้พวกปัญญาอ่อนนั่งล้อมวงกันอยู่ ดูแล้วมันน่าจะมุงดูอะไรกันสักอย่าง ผมเลยค่อยๆ ย่องเข้าไปดู จนเห็นแบบ...อือฮือ...มาเต็มทุกหน้าครับ

   หนังสือโป้

   ไอ้พวกนี้มันไปเอามาจากไหนวะ โคตรแจ่มเถอะให้ตาย แล้วเป็นรูปสีทุกหน้า ไม่มีเซนเซอร์ เชี่ย โคตรโหดอะหนังสือเล่มนี้ ส่วนไอ้พวกล้อมวงดูก็ส่งเสียงซี๊ดซ๊าดกันใหญ่ พวกมึงมาดูในที่สาธารณะแบบนี้ เปิดเผยเหี้ยๆ

   “ไอ้เค มึงไปเอาเล่มนี้มาจากไหนวะ” ไอ้ทูถามขึ้นมาโดยที่ตอนนี้มันไปนั่งข้างไอ้เคเจ้าของหนังสือเรียบร้อยแล้วครับ
 
   ทีงี้ละไหวเชียวนะมึง

   “กูสั่งจากในเน็ตเว้ย ตอนแรกคิดว่ากูโดนต้มแน่ พอมาจริงก็แบบนี้เลยมึงเอ้ย” ไอ้เคว่าครับ มือมันก็ยังพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ

   “สุดๆ อะเพื่อน กูขอเว็บสั่งมั่งดิ่ อยากได้แบบที่มันเคลื่อนไหวได้อ่ะ” ไอ้ต๋อง เพื่อนอีกคนในคณะทำหน้าเพ้อฝัน น้ำลายไหล

   “พวกมึงนี่ว่างเนอะ งานที่ป๋าเปาให้ทำคงเสร็จกันแล้วอ่ะดิ่” ผมถามไอ้พวกหื่นทั้งหลาย พอพวกมันได้ยินก็นิ่งเงียบกันใหญ่ แล้วก็เหมือนผึ้งแตกรัง เพราะต่างก็วิ่งไปที่ห้องสตู

   นึกว่าจะแน่ ไอ้พวกนี้

   “แล้วมึงทำเสร็จแล้วหรือไงไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้สักที่ยังนั่งเอ้อระเหยถาม สงสัยไอ้นี่มันจะทำเสร็จแล้ว

   “นี่ใครครับ นี่กูเอง กูกลอย” ผมชี้ตัวเองพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย ก่อนจะวิ่งตามตูดไอ้เพื่อนหื่นเข้าไปในสตู โดยมีเสียงตะโกนด่าตามหลังจากไอ้สัก

   “นึกว่าจะแน่ ไอ้เชี่ยกลอยใจ”

   กลอยใจคือชื่อเล่นจริงๆ ของผมครับ แต่ผมไม่ค่อยชอบให้ใครเรียกเต็มๆ ให้เรียกกลอยเฉยๆ นี่แหละ ผมมีพี่สาวอีกคนชื่อ กิ่งแก้ว ชื่อคล้องกัน (หรือเปล่า) ม๊าบอกว่า ชื่อพี่สาวกับชื่อผมเป็นชื่อที่คุณปู่กับคุณย่าตั้งให้ครับ แต่ผมก็ไม่รู้หรอก ว่าปู่กับย่าอยู่ที่ไหน เพราะตั้งแต่ผมโตมา ผมก็อยู่กับม๊าแล้วก็พี่สาว ส่วนพ่อผมก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน รูปถ่ายสักใบก็ยังไม่เคยเห็น เพียงแต่ม๊าบอกว่า ครอบครัวพ่อไม่ชอบม๊าเพราะม๊าจน ท่านก็เลยต้องเลิกกัน ผมไม่เข้าใจหรอกว่าเป็นเพราะอะไรทำไมคนเราถึงตัดสินความรักจากภายนอก ผมว่า ถ้าเราจะรักใคร เราควรรักที่ตัวตนของกันและกันมากกว่า

   อย่างเช่นผมกับแฟนเป็นต้นไงครับ ผมเป็นคนไม่หล่อ ไม่รวย แต่เธอก็ยังยอมมาคบด้วย ผมเคยถามว่าเพราะสงสารหรือเปล่า เธอตอบว่าเปล่า ช่วงก่อนจะตอบผมแมร่งโคตรลุ้นอ่ะ เพราะตอนที่ผมถาม เธอคิดนานมากถึงตอบออกมา ผมจำได้ว่า หลังจากตอนที่เธอยอมคบ ผมไปกินเหล้ากับพวกไอ้ทูจนเมาค้างไปเรียนโดนครูฝ่ายปกครองเรียกม๊าไปหาเลยครับ ผมคบกับแฟนมาจะครบสามปีแล้ว ตอนนี้ใกล้ครบรอบแล้วด้วย ผมคงต้องเตรียมอะไรเซอร์ไพร์สสักหน่อย ดอกไม้ช่อโตๆ ดีมั้ย...ไม่ดีหรอก ผมไม่มีเงินขนาดนั้น ก็คนมันจน เอาไว้ถึงตอนนั้นค่อยคิด...

   ส่วนตอนนี้ผมเรียนมหาลัยอยู่ปีสอง คณะศิลปกรรม ที่ผมเรียนเพราะผมชอบวาดรูป แล้วก็ไม่ชอบภาษาอังกฤษ ก็มันโคตรยากจริงๆ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบไง จบป่ะ ชีวิตผมช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ มีเรียน วาดรูป ส่งงาน กลับบ้าน ไปเที่ยวกับแฟนบ้าง (นานๆ ที) จะว่าไปผมไม่ได้คุยกับแฟนผมเลยนะวันนี้ ไม่รู้ตอนนี้จะตื่นหรือยัง

   ผมล้วงเอามือถือตัวเองออกมาก่อนกดไปที่เบอร์สามที่ตั้งไว้เป็นพิเศษ ซึ่งเบอร์หนึ่งเป็นม๊า เบอร์สองเป็นพี่สาว ผมรอสายอยู่นานมากจนมันตัดไป แปลก ทำไมไม่รับ หรือว่ายังไม่ตื่น ผมลองกดโทรไปอีกรอบ รอฟังมันด่าว่าตุ๊ดๆๆ ไปสามครั้งก่อนปลายสายจะครับ

   “ตื่นหรือยังที่ร้ากกกกก” ผมทำเสียงน่ารักทักทายไป แต่ปลายสายกลับเงียบ หรือว่ายังไม่ตื่นจริงๆ “บลูยังไม่ตื่นเหรอครับ หืม นี่กลอยโทรมาปลุกหรือเปล่า” ปลายสายก็ยังเงียบจนผมต้องเอามือถือมาดูอีกรอบว่าวางสายไปหรือเปล่า แต่หน้าจอมันก็ยังโชว์ว่าปลายสายยังไม่ได้ปิด

   “บูล ทำอะไรยะ...”

   “ทำอะไรอ่ะ ห้ามยุ่งนะ”

   หืม ผมได้ยินเสียงบลูหรือแฟนของผมแต่มันดูจะไกลมากครับ ก่อนไอ้คำว่าอย่ายุ่งนะมันจะพุ่งพรวดเข้าเต็มสองหูแล้วสายก็ตัดไป...

   มันคืออะไร หมายความว่ายังไง ไอ้กลอยงงอย่างแรง

   ผมยืนนิ่งจ้องหน้าจอตัวเองอย่างงงงวย บลูอยู่กับใคร หรือว่าอยู่กับเพื่อน แต่เสียงปรี๊ดปรอทแตกเมื่อกี้ผมไม่เคยได้ยินจากปากบลูเลยนะครับ ปกติเธอจะพูดจาอ่อนหวาน หรือเมื่อกี้จะไม่ใช่บลู

   ทะเลาะกับตัวเองสักพักใหญ่หน้าจอก็มีแสงวาบขึ้นมา พอก้มดูก็เห็นข้อความไลน์ที่ส่งมาจากแฟนของผม เธอบอกว่า พอดียุ่งอยู่ ใกล้จะสอบ เลยมานอนหอเพื่อน...นั่นไง เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ คนที่รับคงเป็นเพื่อน อืมม

   “มึงเป็นอะไรวะ เดี๋ยวป๋าจะมาแล้วนะเว้ย ไม่เสร็จมึงโดนทำโทษแน่” ไอ้ทูเดินมาตบหลังผมดังป๊าบก่อนจะเดินเลยไปหาไอ้ต๋องเพื่อยืมดินสอบีสองแท่งใหม่ที่มันเพิ่งซื้อมายกกล่อง แถมยังโอ้อวดซะทำเอาไอ้พวกขาดแคลนจ้องตาเป็นมัน

   ผมสะบัดหัวสองสามทีก่อนจะลงมือวาดลายเส้นลงบนกระดาษที่เตรียมไว้ แม้ตอนนี้มันก็ใกล้เสร็จแล้ว แต่ผมยังต้องเก็บรายละเอียดอีกหน่อย

   ผ่านไปห้านาทีป๋าเปาที่พวกผมเรียก หรืออาจารย์ประจำวิชาก็มาครับ แกปั้นหน้าโหดมาแต่ไกล มือยังถือหนังสือเกี่ยวกับการวาดลายเส้นมาด้วย ที่จริงแกก็ไม่ได้ปั้นหรอก แต่หน้าแกดุเอง ถ้าไม่อยากให้แกอารมณ์เสีย ก็ห้ามไปแตะต้องเรื่องแฟนครับ เพราะแกยังโสดสนิท เวลาเพื่อนๆ ผมมันคุยเกี่ยวกับแฟนมัน ป๋าแกจะเดินไปคุมและด่าเนื้องานทันที แม้บางทีงานมันจะเรียบร้อยจนไม่ต้องแก้ เคยมีครั้งหนึ่งไอ้สักมันโม้ว่าแฟนมันทำกับข้าวมื้อเที่ยงมาให้ ป๋าเปาแกเดินมาด้านหลังพร้อมวิจารณ์งานลายเส้นของมันจนมันแทบอยากจะร้องไห้ พวกผมช่วยมันนั่งแก้งาน พอถึงเวลาส่ง ป๋าแกบอกให้เอารูปเดิมมาส่งแทน เพราะอันนั้นมันดีแล้ว พวกผมได้แต่กระพริบตาปริบๆ คืองานแผ่นนั้นมันถูกฉีกทิ้งแล้วไงครับ ไอ้สักเลยซวยได้คะแนนน้อยสุดให้ห้อง

   “งานที่ผมสั่ง พวกคุณทำเสร็จกันหรือยัง” ป๋าแกวางหนังสือลงบนโต๊ะก่อนจะเริ่มเดินตรวจครับ บางคนก็ได้แก้ แต่ของผมผ่านสบายๆ

   วินาทีการตรวจงานของแต่ละคนก็ค่อยๆ กินเวลาจนหมดคาบเรียน ป๋าแกก็ไม่ได้สั่งงานเพิ่มพวกผมเลยสบายตัว หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผมไม่พูดถึงผู้หญิงในคณะ หรือว่าคณะจะไม่มีผู้หญิง...คณะผมมีผู้หญิงครับ แต่นิสัยมันไม่อ่อนหวานยิ้มหวาน คือเอาตรงๆ นะ พวกมันโคตรแมนจริงๆ อย่างเช่นตอนนี้ ตรงหน้าผมนี่เลย

   “น้ามึง ช่วยกูหน่อย กูแก้แล้วแต่ป๋าแกบอกมันไม่พลิ้วอ่ะ มึงช่วยกูหน่อยดิ่ ไอ้กลอยน้า” ไอ้สวยครับ มันชื่อสวย หน้าตามันก็สมชื่อนั่นแหละ เป็นดาวคณะด้วย แต่พอพ้นปีหนึ่งมา ผมยาวสลวยของมันก็ถูกหั่นสั้นจนเป็นทรงรากไทร แล้วมันก็เริ่มแมนขึ้นเรื่อยๆ จนพวกผมแปลกใจ ไอ้สวยมันกลายพันธุ์ครับ

   “มึงไม่ต้องไปช่วยมันไอ้กลอย ไอ้เชี่ยสวยมึงไปขอร้องคนอื่นไป๊” ไอ้ต๋องมันเดินโวยวาย

   “กูรู้ว่ามึงจะให้ไอ้กลอยช่วยเหมือนกัน มึงเลยกันกูออก ไอ้สัด กูขอมันก่อนเหอะ” ไอ้สวยด่ากลับ

   “ก็ทำไม กูเพื่อนสนิทมันนะเว้ย มันเคยยืมตังค์กูไปซื้อข้าว เคยเอาโทรศัพท์กูไปโทรหาแฟนมันด้วย” ไอ้เชี่ยต๋องพูดแบบโคตรเป็นต่อ

   เรื่องพวกนี้มึงสมควรพูดมั้ยไอ้เชี่ย เอากูขายหน้าอีก

   “มันเคยขอเบอร์กูด้วย” ไอ้สวยว่า “ไอ้เชี่ยกลอย ถ้ามึงไม่อยากให้แฟนมึงรู้ มึงต้องช่วยแก้งานให้กู” น้ำเสียงและท่าทางข่มขู่ของไอ้สวยทำผมเริ่มเอนเอียงครับ

   ก็อย่างที่มันพูด ตอนปีหนึ่งผมเคยขอเบอร์มันจริงๆ ก็มันสวยโคตรๆ ตอนนั้นผมเผลอนอกความคิดจากการคิดถึงแต่แฟนไปแวบหนึ่ง มาถึงวันนี้ผมโคตรรู้สึกผิดอ่ะ แม้มันจะแค่แปบเดียวก็เถอะ ผมก็ไม่ควรทำ

   “เอาล่ะๆ พวกมึงไม่ต้องทะเลาะกัน งานไหนที่กูช่วยได้กูก็จะช่วย แต่พวกมึงไม่เอาไปให้ไอ้สักมันช่วยวะ มันตัวท็อปเลยนะเว้ย” ผมบอก เพราะไอ้สักมันได้เอวิชาดรออิ่งมา

   “มันคงอยู่ให้ขอหรอกไอ้ห่า เผ่นไปนู้นแล้ว”

   ผมมองตามนิ้วไอ้ต๋องครับ เห็นหลังไอ้สักไวๆ ไอ้เชี่ยนี่ชอบหนีแบบนี้ตลอด พอเพื่อนเดือดร้อนแมร่งไม่เคยช่วย

   “เอาตามนี้แหละ พวกมึงก็ตกลงกันก่อนว่าใครจะให้กูแก้เป็นคนแรก พอตกลงกันได้ก็บอก โอเค๊” ผมสรุป ก่อนเก็บอุปกรณ์ให้เข้าที่ พลางถอนหายใจฟังไอ้สองคนนั้นมันโวยวายเรื่องผมนี่แหละ “ไปยังไอ้เชี่ยทู กูหิวข้าว”

   “เออๆ แมร่งงานกูอุตส่าห์ว่าเป๊ะ ป๋าพูดทีกูโคตรเสียเซลฟ์อ่ะ” ไอ้ทูบ่นก่อนจะคว้าเป้มาคล้องแขน

   “มึงยังไม่ชินเหรอ ป๋าก็พูดแบบนั้นกับทุกคน” ผมบอก ผมก็เคยโดนแก้งานครับ โดนไปเกือบห้ารอบทำเอาท้อจนอยากจะร้องไห้

   “แมร่ง รู้งี้กูไปเรียนเพิ่มดีกว่า”

   “เอาดิ่ แต่ไอ้ทูเพื่อนรัก” ผมหยุดเดินจนไอ้ทูหันมามอง ผมก็ยิ้มหวานส่งให้มันทันทีจนมันต้องผลักผมเพราะมันขนลุก เออ กูก็ลุกไอ้สัด

   “อะไร มึงไม่ต้องยิ้มแบบนั้นกูกลัว”

   “มื้อนี้กูยืมตังค์มึงก่อนนะ รอกูกลับบ้านกูจะ...”

   “ขอม๊ามาคืน ไอ้เชี่ย วันนี้มึงพูดเป็นร้อยรอบละ เออๆ” ผมยิ้มหวานกอดไอ้ทูเพื่อนรักเลยครับ มันโคตรใจดีอ่ะ ที่จริงมันก็หน้าตาดีนะครับเพื่อนผมคนนี้ แต่มันตัวบางไปหน่อย ขนาดผมยังดูเนื้อแน่นกว่า ปกติมันก็กินข้าวเยอะ แต่ไม่รู้มันเอาไปเก็บไว้ไหนเพราะระบบเผาผลาญมันโคตรดี กินปุ๊บออกปั๊บ ผมโคตรนับถือ ส่วนเรื่องหน้าตามันก็ อืม ตามันก็โตนะ คิ้วมันก็เข้มนิดๆ ปากก็แดงหน่อยๆ จมูกก็พอเป็นสัน โดยรวมก็หน้าตาดีนั่นแหละ มันสูงพอผมเลยครับ ส่วนเพื่อนอีกสองคนที่ไปเที่ยวด้วยกันเมื่อคืนก็เป็นเพื่อนตั้งแต่ม.ต้น แต่ผมกับไอ้ทู สนิทกันตั้งแต่อนุบาล

   พวกผมสองคนเดินไปโรงเรียนใต้ตึก แม้ของกินจะสู้โรงอาหารกลางไม่ได้แต่มันก็คลายหิวได้ แถมไม่ต้องไปเบียดคนให้เหนื่อยอีก ร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำพอเห็นหน้าผมกับไอ้ทูก็บอกเมนูประจำทันที ซึ่งผมกับเพื่อนก็ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม รอไม่นานข้าวผัดหมูไข่ดาว (ของไอ้ทู) กับผัดกระเพาหมูกรอบไข่ดาว (ของผม) ก็เสร็จเรียบร้อย

   “ตอนบ่ายเจ้แกงดคลาสว่ะ” ไอ้ทูยัดข้าวคำใหญ่ทันทีหลังพูดจบ สงสัยจะหิว

   “จริงเหรอวะ โคตรสบาย กูจะได้กลับไปนอน โคตรง่วง”

   “กูก็ง่วงไอ้สัด เมื่อคืนกว่าจะได้นอนแมร่งก็เกือบเช้า...เพราะมึงอ่ะ”

   “เพราะกูเชี่ยไร เพราะมึงนั่นแหละกวนกูเอง”

   “กูไปกวนมึงตอนไหน มึงนั่นแหละทำตัวเองไอ้สัด”

   “ก็มึงไม่ยอมตามใจกูนี่หว่า”

   “ตามใจมึงเชี่ยไร มึงก็รู้ว่ากูชอบอะไรไม่ชอบอะไร แล้วมึงก็ยังทำ”

   “กูขอโทษเพื่อนทูสุดที่รัก ต่อไปนี้กูจะ...”

   “นี่พวกมึงกินกันเองแล้วเหรอวะ” เสียงแทรกกลางวงสนทนาทำเอาผมกับไอ้ทูข้าวติดคอเลยครับ

   “อีเข็มมึงมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง ข้าวติดคอกูเลยเห็นมั้ย” ผมเหวใส่เพื่อนผู้หญิงในคณะพร้อมกับดื่มน้ำอึกใหญ่ๆ มันชอบแซวผมกับไอ้ทูเป็นประจำ มันบอกเห็นออร่าบางอย่างจากตัวผมกับเพื่อนเลิฟ

   “ก็กูพูดอยู่นี่มันไม่ใช้เสียงเหรอวะ” ดูมันเถียงครับ “แล้วพวกมึงคุยอะไรกันอยู่ ใครกวนใคร ใครไม่ชอบอะไร” หน้าเพื่อนผู้หญิงผมมันโคตรหื่นเลย ทำรูจมูกบานด้วย เหอะๆ มันเคยบอกว่ามันเป็นสาววาย อะไรคือสาววาย

   “มึงนี่มันขี้เสือกจริงๆ” ไอ้ทูด่าครับไม่ใช่ผม

   “อ่าว เรื่องของพวกมึงคืองานเสือกของกูค่า ว่าไงเร็วๆ กูจะได้อัพเดตกับกลุ่มสายวายกู”

   “กูถามจริงๆ เถอะ สาววายมันคืออะไร สาวที่เป็นโรคหัวใจใกล้จะวายเหรอวะ” คือจะว่าผมโง่มันก็ใช่ เพราะผมไม่ค่อยได้ติดตามอะไรมากนัก

   “มึงนี่โคตรโง่เลยว่ะไอ้กลอย” มีคนด่าผมโง่อีกแล้ว “สาววายคือคนที่ชอบจิ้นผู้ชายกับผู้ชายให้เลิฟกันไง อย่างมึงกับไอ้ทูเงี้ย พวกกูกำลังฟินกันอยู่” มันทำหน้าเพ้อฝันมองผมกับไอ้ทูสลับกันไปมา

   บอกเลยขนลุกขึ้นมาเฉย บรื๋ออออ

   “กูมีแฟนแล้ว เป็นผู้หญิงด้วย” ผมว่า

   “แล้วกูก็ไม่ชอบไอ้เชี่ยกลอยด้วย ถ้ากูเป็นเกย์กูก็ขอบายไอ้เชี่ยนี่มึงเข้าใจป่ะอีเข็ม” ไอ้ทูพูดขึ้นเสียงครับ ทำไมต้องโมโหวะ

   “โหยอะไรวะ ดับฝันคู่จิ้นของกูตลอดพวกมึงอ่ะ” หน้าตามันโคตรตอแหลจนผมอยากมอบโล่ให้จริงๆ “พวกมึงยังไม่ตอบว่ากวนอะไรกัน บอกกูมาก่อนไม่งั้นกูไม่ไป” เอากับมันสิครับ

   “ไอ้เชี่ยกลอยมันกวนโมโหกูเพราะมันไม่ยอมอาบน้ำ แล้วแมร่งจะขึ้นไปนอนบนเตียงกู แต่กูไม่ชอบไง เตียงกูสะอาดแต่มันแมร่งโคตรโสโครก เป็นมึงๆ จะให้มันขึ้นไปนอนป่ะล่ะ” ไอ้ทูร่ายยาวจนผมหน้าเสีย เอากูมาประจานสัด

   “อี๋ ไอ้เชี่ยกลอยมึงสกมกอ่ะ เป็นเมะในฝันของพวกกูไม่ได้ละ ลบออกจากลิสด่วน” อีเข็มมันส่งสายตารังเกียจเต็มสตรีมครับ แต่ไอ้เมะมาอีกแล้ว ผมกำลังจะอ้าปากถามมันชิงตอบมาก่อน “มึงจะถามใช่มั้ยว่าเมะคือไร เมะคือผู้ชายที่รุก โอเค๊ กูต้องไปละ คู่หวายดีนรอกูอยู่ที่ห้องสมุด” พูดจบมันก็รีบวิ่งออกไปทันที ผมว่ามันต้องเพี้ยนไม่ก็บ้าครับเพื่อนผมคนนี้

   ผมมองเข็มจนไม่เห็นแม้แต่เงาก็หันกลับมาสนใจจานข้าวที่พร่องไปเยอะ ส่วนของไอ้ทูหมดเกลี้ยงไปแล้ว แต่ทำไมมันทำหน้าเครียดๆ หรือว่ามันไม่อิ่ม หรือว่ามันอยากกินหมูกรอบในจานผมเพราะมันจ้องหน้าผมนิ่งเลย

   “มึงจ้องกูทำไมวะ”

   “มึง...” มันพูดเสียงเครียดมาก คิ้วมันก็เริ่มขมวดเข้าหากัน แล้วมึงจะเว้นวรรคทำซากอะไร รีบพูดเซ่

   “อะไร กูทำไม”

   “ทำไมอีเข็มมองมึงแมนกว่ากูวะ กูไม่แมนเหรอ” เชี่ย ผมแทบสำลักน้ำลายตัวเอง ไอ้สัดทูเครียดเรื่องแมนไม่แมน

   “มึงจะเครียดทำเชี่ยอะไร มึงรู้อยู่แกใจว่ามึงแมนหรือเปล่าไอ้สัด” ผมหัวเราะไปพูดไป แต่ก็ต้องหุบยิ้มเพราะไอ้เพื่อนเลิฟมันนั่งขมวดคิ้ว “หรือว่ามึง...เป็นเกย์วะ” ผมเริ่มคิดหนักละครับ ผมไปนอนหอมันบ่อยโคตรๆ แถมแก้ผ้าอาบน้ำกับมันมาตั้งนานแล้วด้วย

   ไอ้ทูนั่งนิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา “กูก็ไม่รู้ว่ะ”

   อะไรวะ เป็นเกย์หรือไม่เป็นมันจะไม่รู้ตัวเองได้ยังไง ผมอ่ะเป็นผู้ชายแท้ผมยังรู้ตัวเองเลย ผมไม่เคยเห็นรูปร่างผู้ชายแล้วมีอารมณ์เลย ผมสาบาน

   “เอาน่า ถึงมึงจะเป็นหรือไม่เป็น มึงก็เป็นเพื่อนกูอยู่แล้ว อย่าคิดมาก” ผมตบบ่าปลอบใจก่อนจะจัดการข้าวในจานต่อ ส่วนไอ้ทูเดินไปสั่งรวมมิตรมากินต่อครับ ไอ้เชี่ยนี่ไม่อิ่มจริงๆ

   ผมตักข้าวเข้าปากคำที่สองมือถือในกระเป๋ามันก็สั่นพร้อมเสียงข้อความไลน์ครับ บลูน่าจะส่งอะไรมาผมเลยรีบหยิบมากดดู แต่พอเปิดรูปมาดูมันกลายเป็นกระเป๋าหนังสีน้ำตาลเก่าๆ ซึ่งผมจำมันได้ดีเพราะผมใช้มันมาตั้งแต่ม.ต้น เชี่ย กระเป๋าเงินผม ไม่นานมันก็มีข้อความเด้งมาอีกรอบ คราวนี้เป็นตัวหนังสือที่บอกว่า

   ‘...อยากได้ตัวประกันมาหากูที่มหาลัยxxx ก่อนบ่ายสาม’

   ไอ้โชมันเอากระเป๋าเงินผมไปตั้งแต่เมื่อคืนนี่หว่า จะทำยังไงดี หรือจะปล่อยไว้กับมันนั่นแหละเพราะผมไม่อยากเจอมันครับ รอยยิ้มกับคำพูดมันเมื่อคืนยังดังอยู่ในหูอยู่เลย ไอ้ที่บอกอะไรที่อยากได้มันต้องได้ แล้วสิ่งที่มันอยากได้คือผม มันโคตรโรคจิตนะผมว่า รู้ทั้งรู้ว่าผมชอบผู้หญิง แล้วมันเสือกบอกอยากได้ผม มันโง่กว่าผมอีก

   ผมชั่งใจอยู่ว่าจะเอายังไงดี แต่เพราะรูปภาพและข้อความสุดท้ายที่มันส่งมาทำให้ผมแทบเหาะไปหามันเลยครับ ไอ้เชี่ยนี่มันกำลังขู่ผม ไอ้ชั่ววววววววว



   ‘ถ้ามึงไม่มา รูปคอสเพลนี่กูจะเอาไปปล่อยในเพจมหาลัยมึง’   



... TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:08:04 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 3




       ‘ถ้ามึงไม่มา รูปคอสเพลนี่กูจะเอาไปปล่อยในเพจมหาลัยมึง’


   เพราะข้อความเหี้ยๆ นี่ทำให้ผมบิดรถแทบจะมิดไมล์ของมอเตอร์ไซค์ ถ้าเหาะได้ผมคงเหาะไปแล้ว ไอ้เหี้ยโชมันแอบเอารูปผมออกไปตั้งแต่ตอนไหน รูปที่ผมปิดเป็นความลับ รูปที่ผมโคตรอยากจะเอาหน้ามุดดินตอนถ่าย แต่ไอ้เหี้ยโชพูดออกมาเฉยว่าจะเอาไปปล่อยในเว็บเพจมหาลัย อย่าให้กูได้เจอหน้านะมึง กูจะกระโดดต่อยหน้ามึงเลยไอ้สัด!

   ตอนนี้ความรู้สึกผมมันเดือดปุดๆ ถึงขีดสุด ผมแว้นปาดซ้ายปาดขวาแซงรถที่กินน้ำมันตราเต่าจนถูกบีบแตรไล่บ้าง ตะโกนด่าบ้างผมก็ไม่แคร์ครับ เพราะตอนนี้ผมแมร่งโคตรรีบ ขนาดปวดขี้ผมยังไม่รีบขนาดนี้

   จากมหาลัยผมมาถึงมหาลัยมันก็ใช้เวลาเกือบๆ ชั่วโมง นี่ขนาดปาดแซงทุกคันแล้วนะ ผมเปิดไฟเลี้ยวเข้ามหาลัยที่มีป้ายบอกชื่อขนาดใหญ่โดดเด่นอยู่ด้านหน้า

   นักศึกษาต่างสถาบันพากันเดินไปมา แต่ผมไม่มีเวลามาสนใจหรอกนอกจากจะหาไอ้โชที่ตอนนี้มันอยู่ส่วนไหนของมหาลัยมันก็ไม่รู้.....

   เออว่ะ มันอยู่ตรงไหนของที่นี่วะ

   ผมรีบเบรกรถจนสองล้อปัดนิดๆ ดีนะที่ไม่มีรถขับตามหลัง ไม่งั้นมันชนผมแน่ครับ เพราะผมเบรกกลางถนน...แต่เดี๋ยวนะ ที่นี่มันดูคุ้นๆ เหมือนผมจะมาอยู่หลายครั้ง

   ผมไถมอเตอร์ไซค์ด้วยเท้าเข้าข้างทางก่อนจะมองรอบๆ ที่นี่มัน...มหาลัยของบลูแฟนผมนี่หว่า ทำไมมันบังเอิญแบบนี้วะ หวังว่ามันคงไม่รู้จักแฟนผมหรอกนะ ไม่ใช่กลัวมันจะแย่งแฟนผมนะครับ ผมแค่กลัวมันบอกเรื่องผมไปเที่ยวแล้วก็เอารูปบ้าๆ นั่นให้แฟนผมดู

   พอคิดอีกที เรื่องระหว่างผมกับบลูมีแค่ไอ้ทูกับเพื่อนรักอีกสองคนเท่านั้นที่รู้ ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมบลูถึงอยากปิดเป็นความลับ ทั้งๆ ที่ผมก็หล่อขนาดนี้ แต่เอาตามที่แฟนผมสบายใจเลยครับ เธอบอกไม่อยากให้เสียประวัตินักศึกษาว่าที่เกียรตินิยมจบสามปี นี่แฟนผมโคตรเก่ง ต่างจากผมสุดขั้ว

   เรื่องแฟนเอาไว้ก่อน ผมควรตามหาไอ้โชก่อน มือถือๆ ผมรีบพิมพ์ไลน์ไปถามที่อยู่มันครับ นั่งลุ้นอยู่นานกว่ามันจะตอบ

   ‘ใต้ตึกสาม คณะวิศวะ’

   เหยด เรียนวิศวะด้วยว่ะ หน้าตาโคตรไม่เข้า ที่จริงถ้าผมไม่เห็นมันกระทืบคน หน้าตาหล่อๆ ขาวๆ นั่นผมคงคิดว่ามันเรียนหมอไปแล้ว

   “แล้วตึกสามคณะวิศวะมันไปทางไหนวะ” ผมพึมพำกับตัวเองขณะขี่มอเตอร์ไซค์ที่ความเร็วเต่าแซงได้ ถึงจะเคยมาแต่ก็ไม่เคยไปคณะวิศวะสักครั้ง บลูเรียนอักษร ผมก็ไปแต่คณะอักษร แล้วแบบนี้ผมจะไปถามใครละ

   ผมจอดรถอีกครั้งและพิมพ์ถามไอ้คนที่บอกว่าอยู่ตึกสามว่ามันไปทางไหน ให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา หรือว่าต้องตรงไป ครั้นจะถามเพื่อนผมก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวมันถามว่ามาทำไม...อ้อ ผมลืมบอกไปอย่าง เพื่อนผมอีกสองคนก็เรียนที่นี่ครับ พวกมันสติปัญญาดีเลยสอบเข้าที่นี่ได้ ที่จริงเพราะผมขี้เกียจอ่านหนังสือหรอกถึงสอบไม่ติดที่นี่

   เสียงไลน์ดังขึ้นมาพร้อมกับข้อความรายละเอียดถึงที่อยู่ของมัน งงๆ แต่ก็น่าจะไปถูกนะ มันให้ผมเลี้ยวซ้ายตรงมุมสามแยก ก่อนจะตรงไปเรื่อยๆ พอเจอพุ่มดอกสีส้มก็ให้เลี้ยวซ้ายมาอีกที เลี้ยวมาจะเจอป้ายห้ามจอด ไอ้เชี่ย มึงบอกละเอียดเกินไป   
 
   ตึกสามตั้งเด่นเป็นสง่า ข้างตัวตึกมีเลขสามตัวเบ้อเริ้ม อ่อ ที่นี่เองตึกสาม ผมชะลอรถก่อนเลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานจอด นักศึกษาที่อยู่แถวนี้ส่วนใหญ่ใส่เสื้อช็อปสีกรมท่า ตรงหน้าอกมีรูปฟันเฟืองบ่งบอกว่าเรียนคณะอะไร

   ผมพยายามเดินตัวให้ลีบสุดเท่าที่จะทำได้ ก็ที่นี่ไม่ใช่ถิ่นของผม แล้วผมก็มาจากถิ่นอื่น ยังดีที่ผมสวมเสื้อแขนยาวคลุมไว้ เลยพอกลมกลืนได้บ้าง

   ใต้ตึกมีโต๊ะและม้านั่งวางอยู่เกือบๆ สิบโต๊ะ และแต่ละโต๊ะก็มีนักศึกษาเป็นกลุ่มๆ จับจอง บ้างก็ส่งเสียงเฮฮาบ้าบอ เล่นกีต้าร์แซวสาว บ้างก็จมกับตำรา บรรยากาศก็ปกติเหมือนกันมหาลัยของผมนั่นแหละ

   ระหว่างทางที่ผมเดินเข้าไป ผมแอบสังเกตทุกอย่าง โดยเฉพาะสาวๆ เอ้ย ไม่ใช่ พวกเพื่อนของไอ้โชครับ เคยเห็นจากวันที่โดนมันลากไปนั่งด้วย แต่ใต้ตึกดูแล้วไม่มี แล้วมันบอกผมทำไมว่าอยู่ที่นี่วะ หรือมันจะแกล้งผม ไอ้เชี่ย อย่าให้กูได้เจอนะมึง

   “นี่ๆ” แรงสะกิดจากด้านหลังทำให้ผมหันไปมอง โอ้ว ผู้หญิงครับ แถมยังสวยอีก ตากลมโต ผมยาวปะบ่า ตรงปลายดัดลอนนิดๆ ยิ่งตัดผมหน้าม้าอีก โคตรน่ารักอ่ะ เหมือนผู้หญิงญี่ปุ่นเลยครับ สเป็กผมเลย...

   ผมยิ้มหวานให้กับสาวหน้าญี่ปุ่น และเธอก็ยิ้มหวานตอบมา โอย หัวใจไอ้กลอยกำลังจะละลาย...

   ถ้าไม่ได้ยินประโยคนี้ที่มาพร้อมกับเสียงดังฟังชัด

   “เพื่อนเราชอบอ่ะ ขอเบอร์ได้ป่ะ” สาวหน้าญี่ปุ่นพูดพร้อมกับชี้นิ้วไปที่โต๊ะเฮฮาเล่นกีต้าร์แซวสาว ซึ่งพวกนั้นก็ส่งเสียงฮิ้วฮ้าวตามมาติดๆ

   “เอ่อ” ไปไม่เป็นเลยผม

   “น้า เพื่อนเราชอบจริงๆ” สาวหน้าญี่ปุ่นทำหน้าตาแบ๊วกระชากใจผมสุดๆ จนแทบจะควักโทรศัพท์ให้ไปเลย

   “มะ มันแบบวะ...ว่า” ผมเป็นโรคติดอ่างไปเรียบร้อยครับ

   ผมแพ้ทางสาวตัวเล็กน่ารักสุดๆ

   “เธอไม่ได้เรียนคณะนี้ใช่ป่ะ เราไม่เคยเห็นเลย เพราะถ้ามีคนน่ารักแบบนี้อยู่ เราต้องเห็น” เธอยังพูดต่อครับ ดูท่าทางเป็นมิตรสุดๆ นี่ถ้าไม่มีเสียงดีดกีต้าร์กับเสียงโห่ฮิ้วมาทุกๆ ท้ายประโยคมันคงจะดีกว่านี้

   “คะ ครับ ผมไม่ได้เรียนคณะนี้” ผมตอบแต่สายตาพยายามกวาดหาไอ้คนที่เรียกผมมา คือเอาจริงๆ ตอนนี้รู้สึกกลัว ก็สายตาทุกคู่ใต้ตึกเริ่มหันมาสนใจผมกับผู้หญิงหน้าญี่ปุ่นคนนี้ ขนาดพวกจมกับกองหนังสือยังเงยหน้ามาสนใจ

   โคตรอายบอกเลย

   “แล้วเธอเรียนคณะไหนอ่ะ เพื่อนเราจะได้ไปหาถูก ใช่มั้ยพวกมึง”

   “ใช่คร้าบบบบ ฮิ้ววววววววววว”

   ใครก็ได้มาพาผมออกจากที่นี่ที น่ากลัวเหี้ยๆ

   “เธอยังไม่ได้ให้เบอร์เราเลย” สาวหน้าญี่ปุ่นว่าก่อนจะรีบวิ่งไปเอามือถือเพื่อนที่อยากขอเบอร์ผมมาให้กดเลขลงไป

   แม้หน้าตาของไอ้คนที่ขอเบอร์ผมมันจะไม่ได้ขี้เหร่ ออกจะหน้าตาดีหน้าตี๋อินเทรน แต่คือมันเป็นผู้ชายไง ผมไม่ได้ชอบผู้ชายโว้ยยย

   ผมกำลังลังเลว่าจะกดเบอร์ตัวเองใส่โทรศัพท์ที่กำลังถืออยู่ดีหรือเปล่า มือถือที่อยู่ในมือก็ถูกยกลอยออกไปต่อหน้าจนผมสะดุ้ง พอหันไปมองด้านข้างก็เห็นไอ้ผู้ชายหน้าตาดีกำลังยิ้มให้กับสาวหน้าญี่ปุ่นก่อนมือขาวๆ นั่นจะคืนโทรศัพท์ให้ไป

   “พี่จอม” เสียงหวานของสาวหน้าญี่ปุ่นทักทายคนที่มายืนข้างผม

   “ขอเบอร์แทนคนอื่นไม่ดีนะครับน้องแป้ง” ไอ้จอมมันพูดเสียงนุ่มมากครับ

   “แป้งขอให้ไอ้เก้าค่ะ” สาวหน้าญี่ปุ่นชื่อแป้งบอก ดูตาเธอลอยๆ นะ ผมว่าคงจะหลงใหลไอ้คนข้างๆ ผมแน่

   แต่ถ้าเธอได้เห็นตอนมันกระทืบคนคงจะไม่กล้าเข้าใกล้แบบนี้หรอก ผมจำความแรงของตีนมันได้ดี

   “มันก็ไม่ดีอยู่ดี” ไอ้จอมว่า ก่อนปั้นหน้านิ่งมองไอ้กลุ่มที่เมื่อกี้ยังครื้นเครงแซวคนที่เดินผ่านไปมา ตอนนี้กลับเงียบทำตัวเรียบร้อย “อย่าส่งเสียงรบกวนคนอื่นที่เขากำลังทำงาน”

   “คร้าบบบ/ค่า” เสียงกลุ่มนั้นขานพร้อมกันจนน่าแปลกใจ

   เมื่อเห็นว่ากลุ่มนั้นทำตาม ไอ้จอมก็ยิ้มพอใจก่อนจะมองมาที่ผมนิ่งๆ ทำไมสายตาแมร่งดุวะ ติดเชื้อเพื่อนมึงมาหรือเปล่า ทีกับสาวหน้าญี่ปุ่นเมื่อกี้จ้องจนมดจะขึ้นตา

   “อะไร” ผมถาม เล่นจ้องไม่กระพริบแบบนี้มันก็แปลกๆ

   “มาหาไอ้โชไม่ใช่เหรอ แล้วมายืนให้พวกนั้นจีบทำไม” แล้วทำไมต้องดุกูวะ ผมไม่ตอบอะไรเพราะมันเดินหนีไปเฉย ผมก็เลยต้องรีบเดินตาม โดยมีเสียงนินทาระยะเผาขนว่าผมอาจจะมีซัมติงกับไอ้จอมนี่ เหอะๆ แค่คิดขนแขนก็ลุกแล้วครับ

   “มึงจะรีบไปตามควายหรือไง รอกูด้วย” คิดว่ามันจะรอเหรอครับ นู้น เดินไปไกลแล้ว

   ผมเดินตามมันผ่านตึกสามมาอีกตึกหนึ่งซึ่งมีทางเชื่อมกัน ตึกนี้ก็มีโต๊ะม้านั่งหลายโต๊ะและทุกโต๊ะก็มีคนนั่งเป็นกลุ่มเต็มไปหมด


   นี่มันงานวัดหรือใต้ตึกเรียนวะ

   เสียงพูดคุยมันโวกเวกโวยวายจนฟังไม่รู้เรื่อง บ้างก็ด่ากัน บ้างก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง แต่พอทุกคนหันมาเห็นไอ้จอมเดินเข้าไปโดยมีผมเดินตามอยู่ด้านหลัง เสียงดังๆ นั่นก็เงียบลง สายตาทุกคู่หันมามองอย่างสนใจ ผมกวาดสายตามองหาไอ้คนที่เรียกผมมาซึ่งมันนั่งอยู่โต๊ะตรงกลาง หน้าตามันดูเด่นกว่าชาวบ้าน ด้วยความขาวออร่าของมัน ผมทรงอันเดอร์คัทถูกเซ็ทมาลวกๆ แต่แมร่งโคตรดูดี

   “นั่นมันไอ้เด็กที่เจอเมื่อคืนนี่หว่า” คนพูดมันนั่งคนละโต๊ะกับไอ้โชครับ ดูเหมือนน่าจะอยู่ในเหตุการณ์เมื่อคืน

   “ติดใจเพื่อนกูหรือเปล่า เพื่อนกูลีลามันเด็ดโว้ย”

   “ฮิ้วววววววววว”

   เสียงแซวต่างๆ นาๆ ดังจนผมต้องเอามืออุดหู แล้วเมื่อกี้ไอ้จอมสั่งไอ้พวกด้านหน้าให้เงียบเพราะรบกวนชาวบ้าน กลุ่มพวกมึงนี่ดังกว่าอีก เพื่อนมันอีกคนคงเห็นผมยืนไม่ยอมเดินมันเลยเดินมาดันผมไปหาเพื่อนมัน แม้ผมจะรั้งตัวไว้ แต่ไอ้นี่มันโคตรแรงเยอะ จนตอนนี้ผมมายืนตรงหน้าไอ้โชครับ

   อย่าคิดว่าผมจะไม่ทำในสิ่งที่คิด ที่ว่าจะต่อยหน้ามัน แต่ขอติดเอาไว้ต่อยมันตอนไม่มีเพื่อนแบบนี้แล้วกัน คือผมยังไม่อยากตาย และพอผมมายืนตรงหน้ามันก็จ้องผมอย่างกับไม่เคยเห็น

   “เมื่อคืนเห็นในที่สลัวๆ ว่าน่ารักแล้ว พอเจอตอนกลางวันแบบนี้มันโคตรของโคตรน่ารักว่ะ ไอ้โชแมร่งตาถึงสัด”

   “ถูกของมึงไอ้เบ รู้งี้เมื่อคืนกูออกไปหาแบบนี้บ้างดีกว่า” ผมจำไอ้คนนี้ได้ครับ มันคือคนที่มีน้องโนตมนั่งตัก นี่พวกมันเรียนที่เดียวกันหมดเลยเหรอเนี่ย

   ผมมัวแต่มองคนนั้นพูดทีคนนี้พูดทีจนลืมมองไอ้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าผม มันจ้องจนตาจะหลุดออกจากเบ้าแล้วครับ ตามันโคตรมีเสน่ห์นะ เวลามองแล้วมันรู้สึกแปลกๆ แต่มันดูดุไปหน่อยเลยกลบความรู้สึกแปลกได้บ้าง

   “มะ มองอะไร” อย่าเสียงสั่นสิไอ้กลอย

   “มึงมาช้า” นี่มันถามผมหรือเปล่า

   “ก็...”

   ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไร ไอ้จอมมันก็โพล่งขึ้นมา

   “กูเจอไอ้เด็กนี่ยืนให้พวกไอ้เก้ามันจีบอยู่หน้าตึก ให้เบอร์ไปแล้วด้วย”

   เชี่ย กูไม่ได้ยืนให้จีบ กูยืนหามึงต่างหาก ไม่ต้องทำหน้าดุจ้องกูเลยสัด

   “มึงให้เบอร์มันแล้ว?” เสียงแมร่งโคตรเย็น

   “กูยังไม่ได้ให้เว้ย” แล้วทำไมผมต้องมาแก้ตัวด้วยวะ “ว่าแต่ มึงมานี่เลย กูมีเรื่องต้องเคลียร์” ผมลากไอ้โชออกมาจากกลุ่มเพื่อนมันครับ ไม่สนเสียงโห่แซวเรื่องลีลาบนเตียงบ้าบอนั่น กูก็เด็ดเหอะ...ไอ้โชมันเดินตามมาแรงลากมาเงียบๆ พอมาถึงที่ๆ เงียบห่างไกลกลุ่มมันผมก็หยุดเดินแล้วหันไปจ้องหน้ามันแทน “มึงลบรูปกูเดี๋ยวนี้ไอ้สัด” 

   ไอ้โชยกมือกอดอก ปากแดงมันเหยียดยิ้มออกมาจนผมขมวดคิ้ว ท่าทางของมันนี่คงไม่ทำตามแน่

   “ไอ้โช กูบอกว่าให้มึง...”

   “เรียกกูว่าพี่”

   “หา?”

   “กูแก่กว่ามึง มึงต้องเรียกกูว่าพี่”

   “ไม่ กูไม่เรียก”

   “งั้นกูจะเอารูปมึงไปปล่อยในเพจ”

   “ไอ้เชี่ย มึงจะเอายังไงวะ”

   “เรียกกูว่าพี่”

   เอากับมัน ผมโคตรปวดหัว แค่จะให้ผมเรียกว่าพี่เนี่ยนะ มันใช่เหรอวะ

   “เออๆ พี่ พอใจยัง”

   “ชื่อกูล่ะ”

   แมร่งโคตรเรื่องมาก

   “พี่โช”

   “หึๆ”

   มันหัวเราะในลำคออย่างพอใจก่อนจะเอามือถือมันออกมา ผมรีบแย่งแต่มันชักหลบเฉย จะว่าเหมือนในหนังในละครมันก็ใช่ เพราะผมพุ่งใส่เต็มแรง ตัวผมเลยชนกับอกมันเต็มๆ แล้วเราก็ล้มไปโดยที่ผมทับอยู่บนตัวของมัน นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั้นมันเหมือนมีแรงดึงดูดชวนมองให้หลงใหลจนเผลอจ้องอยู่นาน

   เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นเรียกสติของผมให้กลับมา ก่อนรีบผละออกจากร่างของไอ้โชโดยที่ปากผมกับปากมันเกือบจะแตะกันอยู่แล้ว ฟู่ววว เกือบไปแล้ว เกือบจะเสียจูบที่สองให้มันอีกแล้ว

   ผมกับมันยืนขึ้นพร้อมๆ กัน ก่อนพวกเราจะหันไปสนใจเจ้าของเสียงฝีเท้าที่เริ่มเดินเข้ามาใกล้ทุกที ดูเหมือนจะไม่ได้มาคนเดียว แต่นั่นไม่ทำให้ผมตกใจเท่าผู้หญิงที่เดินมาคือแฟนของผมเอง เชี่ยย แจ็คพอต

   ผมรีบหลบหลังไอ้โชทันทีพร้อมกับกำชายเสื้อด้านหลังมันแน่น ดีที่มันตัวหนากว่าผม เลยเป็นที่กำบังได้พอดี ผมภาวนาให้แฟนผมรีบๆ เดินผ่าน...แต่มันก็ไม่เป็นใจเหลือเกิน...

   “อ่าวไอ้โช มึงมายืนทำไมแถวนี้วะ” เสียงผู้ชายที่เดินมาข้างบลูพูดครับ

   “กูมาสูบบุหรี่ แล้วมึงไปไหนมา พวกไอ้เบตามหาอยู่” ไอ้โชถาม

   “กูพาบลูไปกินข้าวมา”

   ใช่บลูแฟนผมจริงๆ ด้วย แล้วทำไมต้องไปกินข้าวกับเพื่อนไอ้โชด้วย

   “พี่โชกินข้าวหรือยังคะ” น้ำเสียงที่ผมคุ้นเคยถามไอ้โช ผมยิ่งกำชายเสื้อมันแน่นขึ้น หัวใจก็เต้นแรงจนแทบจะระเบิด

   หมายความว่ายังไงวะ

   “ยังครับ พี่ทำงานยังไม่เสร็จ” ไอ้โชตอบเสียงนุ่มชวนฝัน ผมแอบโผล่หน้าไปดูสองชายหญิงนั้น ทำให้เห็นหน้าบลูกำลังยิ้มเขินส่งมาให้ไอ้คนที่ผมกำลังกำชายเสื้อมัน

   “ไอ้เหี้ยโชมึงเลิกทำตาหวานใส่แฟนกู ก่อนที่กูจะโมโหไอ้สัด” น้ำเสียงไม่จริงจังเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้คนมีชื่อในประโยค

   แต่ผมไม่รู้สึกขำเลยสักนิด

   “งั้นเดี๋ยวบลูกลับคณะก่อน พี่ซันรีบกลับไปทำงานเถอะค่ะ” บลูพูดเสียงหวานกว่าที่คุยกับผมซะอีก เวลาพูดกับผมเธอไม่เคยส่งเสียงฉอเลาะแบบนี้เลย มีแต่ผมที่พูดเอาใจอยู่ฝ่ายเดียว

   “ให้พี่ไปส่งมั้ย” ไอ้ซันถาม ก่อนบลูจะส่ายหน้า “งั้นตอนเย็นเรียนเสร็จโทรมาบอกด้วยนะ พี่จะได้ไปรับ”
 
   บลูส่งยิ้มหวานก่อนจะเดินหันหลังกลับไป นี่เธอคบซ้อนเหรอ ผมยืนนิ่ง น้ำตาก็จวนจะไหลออกมา โคตรเจ็บอ่ะ ได้เห็น ได้ยินแบบนี้ มันมากกว่าได้ฟังมาจากไอ้เพื่อนสองตัวนั่นอีก ใช่ครับ เพื่อนผมที่เรียนที่นี่เคยเตือนผมเรื่องบลูมาก่อน แต่ผมก็ไม่เชื่อ คิดว่าพวกมันล้อเล่น ถ้าล้อเล่นจริงสถานการณ์แบบนี้ ตอนนี้ มันคงเล่นจริงจังไปหน่อย ผมยืนสั่นหงึกๆ อยู่หลังไอ้โชจนเพื่อนมันเห็น

   “แล้วที่หลังมึงนั่นใครวะ” ไอ้ซันชะโงกหน้ามามองผมที่ยืนหลับตากั้นน้ำตาที่มันพาลจะไหลจนไม่โต้ตอบทั้งๆ ที่หมาในปากพร้อมทำงานทุกเวลา “เด็กมึงเหรอ”

   “เออ” ไอ้โชตอบพร้อมกับเอามือมาจับมือผมให้คลายชายเสื้อมัน แล้วมันก็ดึงผมมายืนข้างๆ

   “เปลี่ยนแนวนี่หว่าไอ้สัด แต่ก็น่ารักดี ตาถึงๆ เพื่อนกู” ไอ้ซันมันก้มหน้ามองหน้าผม ก่อนมันจะเดินผ่านเพื่อนมันพร้อมกับตบไหล่แปะๆ

   พอเพื่อนมันเดินไปแล้ว ไอ้โชก็หันมาสนใจผมที่ยืมก้มหน้าอย่างเดียว

   “เป็นอะไรของมึง”

   “เพื่อนมึง...” ผมถามเสียงโคตรจะเบา จนไอ้คนฟังทวนคำที่ได้ยิน

   “เพื่อนกู? ทำไม หรือมึงรู้จักไอ้ซัน”

   “ไม่รู้จัก” ผมตอบเสียงดุนั่น ก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเงยหน้าจ้องไอ้โช “เพื่อนมึงกับผู้หญิงคนนั้นคบกันมานานหรือยัง” แม้ไม่อยากถาม แต่ผมควรจะรู้ใช่มั้ยครับ

   ไอ้โชมองหน้าผมอย่างสงสัย มันคงคิดว่าผมจะอยากรู้เรื่องเพื่อนมันไปทำไม แต่เพราะผมจ้องมันนิ่งไม่มีท่าทีกวนตีน มันเลยยอมบอก

   “น่าจะสองสามปีมั้ง กูเห็นมันควงกันตั้งแต่แฟนมันยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย” คำตอบนั้นทำเอาผมเจ็บจี๊ดจนต้องจับหน้าอกตัวเอง

   “ทำไมถึงรู้จัก” คอผมมันแห้งผาดเหมือนขาดน้ำมาหลายวัน

   “ทำไมถึงอยากรู้”

   “กูถามมึงอยู่ไม่ใช่ให้มึงถามกลับ” ผมเผลอตวาดจนไอ้โชตกใจ “ขอโทษ”

   ดูหน้ามันยิ่งงงหนักแต่มันก็ยอมบอก

   “แฟนมันมาติวเข้าอักษรที่มหาลัย พอดีพวกกูรู้จักกับพวกอักษรก็เลยเจอกัน แต่กูก็ไม่รู้ว่ามันไปจีบกันเมื่อไหร่ เพราะมันก็ไม่เคยเล่า...มึงโอเคป่ะไอ้กลอย ไอ้กลอยมึงฟังกูอยู่หรือเปล่า”

   ไม่ครับ ผมไม่ได้ฟังมันเลย เพราะเสียงมันถูกตัดจากโสตประสาทของผมเรียบร้อย...งั้น แปลว่าบลูก็คบกับผู้ชายคนนั้นตั้งแต่คบกับผมปีแรกๆ แล้วทำไมตอนนั้นเธอถึงยอมมาคบกับผม ทั้งๆ ที่บอกออกมาก็ได้ว่ามีคนคุยอยู่แล้ว ทำไมต้องมาหลอกผม เห็นไอ้กลอยคนนี้โง่มากสินะ

   “พี่โช” ผมเรียกไอ้คนที่ยืนข้างๆ “ช่วยอะไรผมหน่อยสิ” บางทีเรื่องนี้ผมก็คงปิดจ๊อปความโง่คนเดียวไม่ได้ เรื่องนี้มันต้องจบแม้ผมจะเจ็บก็ตาม...



.....TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:08:41 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
อ่าวนังบลู มาหลอกน้องกลอยชั้นทำไม  :m31: :m16:

รอตอนต่อไปๆ ค้างอยากอ่านต่อแล้วว ขอบคุณคนเขียนจ้า  :katai1: :katai1: :pig4:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
นังบลูอย่างเลวอ่ะ  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 4




        ณ.เวลานี้อย่าได้ใช้คำว่าวุ่นวายครับ ต้องใช้คำว่าเหนื่อย ต้นเหตุก็เพราะผมโดนลากมานั่งที่โต๊ะของพวกเพื่อนไอ้พี่โชครับ ที่เหนื่อยก็เพราะต้องตอบคำถามซ้ำๆ จนเมื่อยปากแถมต้องคอยหลบแขนยาวๆ ของไอ้คนนั่งข้างๆ ที่มันชอบตีเนียนแอบมาจากด้านหลังโอบไหล่ผมทุกทีเวลาเพื่อนมันเดินเข้ามาถาม

   คนพวกนี้ต้องการอะไรจากผมครับเนี่ย

   “ไอ้เหี้ยโชแมร่งร้ายว่ะ กูนับถือๆ”

   มาอีกคนละครับ คราวนี้เพื่อนต่างคณะที่ถ่อมาซะหลายนาทีเพื่อนมาดูหน้าผม ที่จริงไม่ใช่แค่ไอ้พี่คนนี้หรอก ยังมีอีกหลายคนที่มาเพื่ออยากเห็นหน้าผม พอเห็นต่างก็อมยิ้มแล้วก็เดินจากไป

   รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเมียงู ที่มีแต่คนอยากดู พอเห็นก็แยกย้าย เดี๋ยวสิ ต้องเป็นผัวงูต่างหาก ผมไม่ยอมเป็นเมียหรอก ผมน่ะโคตรแมน

   “พวกมึงจะอะไรนักหนาวะ พวกกูทำงานไม่ได้เห็นป่ะ” ไอ้พี่จอมมันโวยวาย คือมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เจอหน้าผม มันบ้าหรือมันเกลียดผมหรือเปล่า หรือว่า....

   มันจะแอบชอบเพื่อนมัน...ชอบไอ้พี่โช

   “อ่าวไอ้จอม อารมณ์เสียอะไรอีกมึง เมียทิ้งเหรอ” เพื่อนต่างคณะมันพูดทำเอาไอ้พี่จอมตาวาวเลยครับ

   “ทิ้งบ้านมึงสิไอ้เหี้ย ไปไกลๆ ไปไอ้โจ้”

   “ไล่กูตลอด กูน่ารักจะตายมึงเห็นป่ะ” แล้วไอ้พี่ที่ชื่อโจ้ก็ยกฝ่ามือสองข้างแตะคางทำตาปิ๊งๆ ใส่

   ทำไมผมต้องมาเห็นอะไรแบบนี้

   “อุบาทจริงไอ้เชี่ย” พี่เบมันด่าเพื่อนมันพร้อมกับโยนยางลบใส่หัว ซึ่งโดนเต็มๆ
 
   “มึงอย่าไปว่าแบบนั้น แผลมันยังใหม่เว้ย”

   “แผลไรวะไอ้แทม”

   “เมียทิ้ง” แล้วพวกมันก็หัวเราะกันลั่นตึก ผมที่ไม่รู้อะไรยังแอบขำหน้าตาของไอ้พี่จอมที่มันทำหน้าเหม็นเบื่อ

   ...สมน้ำหน้า

   “เชี่ยจอม มึงทำยังไงให้เมียมึงทิ้งวะ หล่อขนาดเทพบุตร รวยขนาดเศรษฐี ผู้หญิงมันโคตรโง่...หรือฉลาดวะ” ไอ้พี่โจ้มันพูดไปหัวเราะไป แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นฉลาดที่ทิ้งเพื่อนมันไป ส่วนไอ้พี่จอมมันก็นิ่งอย่างเดียวไม่ตอบโต้ คงจะจุกอยู่ ฮ่าๆ

   “มันโดนทอมแย่งเว้ย ของแท้ไม่ชอบ ชอบของเทียม กูไม่เข้าใจ”

   “ไอ้เชี่ยเบ มึงไม่เข้าใจความรักเหรอวะ รักโดยไม่แบ่งเพศ จริงมั้ยไอ้โช” คนถูกถามไม่ตอบแต่ยิ้มเหยียด แล้วคุณพี่ไม่ต้องมาทำตามีเลศนัยใส่กระผมแบบนั้นเลย
 
   สงสัยกันใช่มั้ยทำไมผมถึงยอมโดนลากมานั่งด้วย ก็เพราะผมขอร้องให้ไอ้คนนั่งข้างๆ มันช่วยครับ...แต่ยังไม่ใช่วันนี้ ส่วนของวันนี้ผมคิดไว้แล้วว่าจะเอายังไง

   ที่จริงผมก็ไม่ได้โกรธบลูที่คบซ้อนหรอก อาจเพราะผมไม่ดีมากพอที่จะทำให้บลูควงผมออกไปเปิดเผยต่อเพื่อนๆ ได้ แต่มันก็ไม่ควรมาหลอกให้ผมรักแบบนี้ มาทำให้ผมรู้สึกเกลียดตัวเองที่หลงเชื่อขนาดนี้ 

   ระหว่างที่กำลังตัดพ้อตัวเองในใจ ไหล่ผมก็ถูกแขนไอ้พี่โชมันโอบครับ ไม่ใช่ว่าผมจะอยากให้มันโอบหรอกนะ แต่เพราะมันบอกว่าถ้าจะให้ช่วย ต้องทำตามที่มันบอกทุกอย่าง มันโคตรเห็นแก่ตัว นี่ถ้าไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ผมไม่มีทางยอมหรอก

   “คิดอะไรอยู่วะ ไม่สนใจกูเลย” เสียงที่ชิดรูหูจนผมต้องย่นคอหนี ลมหายใจอุ่นๆ ของมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ โอ้ย อย่าใกล้กูขนาดนั้น

   “ปะ เปล่า แต่พี่ช่วยขยับออกไปหน่อยได้ป่ะ ผมร้อน” เอาจริงๆ คือไม่ชิน

   “แต่กูหนาวว่ะ” เชี่ย หนาวบ้านมึงมีเหงื่อเหรอวะ ผมเห็นเหงื่อเม็ดเป้งเกาะตามไรผมมันอยู่

   “เอ่อพี่ ทำไมพี่จอมถึงไม่ชอบหน้าผมอ่ะ” ผมกระซิบถามไอ้คนบอกหนาว ซึ่งมันก็ขยับห่าง...นิดหน่อย แบบนี้เขาไม่เรียกขยับแล้วเว้ย

   “ตอนไหนมันไม่ชอบมึง”

   “ก็ตอนนี้แหละ”

   ไอ้พี่โชมันหันหน้าไปมองเพื่อนมันที่ทำหน้านิ่งมองผม คือรังสีความไม่พอใจแผ่อยู่เต็มจนส่งมาถึงผมนี่แหละ ตั้งแต่ผมหย่อนก้นลงนั่งแล้ว...พอมันเห็นเพื่อนมัน มันก็หันมายิ้มให้ผมพลางยกมือมาลูบผมของผมเบาๆ

   “มันไม่ได้เกลียดมึงหรอก แค่ไม่ชอบหน้ามึง”

   “ไม่ได้เกลียดกับไม่ชอบหน้า มันอันเดียวกันหรือเปล่าวะ”

   “ก็คงคล้ายๆ ก็มึงดันหน้าคล้ายทอมที่แย่งเมียมันไปนี่หว่า”

   เชี่ย ตรรกะหน้าเหมือนมันทำให้โดนเกลียดได้ด้วยเหรอวะ มิน่าล่ะ ตอนเจอครั้งแรกมันยังดูปกติ แต่พอวันนี้มันกลับเกลียดขี้หน้า แค่ข้ามวันเองนะ

   “ผมคงซวยที่หน้าเหมือนอะนะ” ผมบ่น ไอ้พี่โชมันก็ขำเบาๆ แล้วมันก็หันไปสนใจงานตรงหน้าที่ถูกเอามากอง

   ผมมารู้ว่า พวกที่เอะอะพวกนี้อยู่ปีสี่ ปีสุดท้ายแล้วครับ แต่ก็ยังต้องมาเก็บอีกตัวสองตัวเพื่อจบ อันที่จริงวันเสาร์แบบนี้ไม่มีเรียน แต่นัดกันมาทำงาน ดีเนอะ ไม่เหมือนผมที่มีเรียนวันจันทร์ถึงวันเสาร์ ดีที่มันไม่มีเรียนวันอาทิตย์ด้วย ไม่งั้นหมดโอกาสตื่นสายเลยทีเดียว

   “เอ่อพี่ ผมจะไปเข้าห้องน้ำอ่ะ” กระตุกแขนเสื้อไอ้คนที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนา ไอ้พี่โชมันหันมามองผมแปบหนึ่งก่อนพยักหน้า ผมก็เลยลุกออกมา โดยมีสายตาไม่ชอบขี้หน้าของพี่จอมตามมาด้วย

   แค้นฝั่งหุ่นสินะ แต่มันไม่เกี่ยวกับผมนะเว้ยเฮ้ย ไอ้พี่นี่แพ้แล้วพาลว่ะ




   ผมเดินผ่านทางเชื่อมออกมาทางด้านหน้าตึกครับ ด้านหน้าไอ้โต๊ะที่จีบสาวหายไปแล้ว โชคดีหน่อย ไม่งั้นต้องปวดหัวอีกแน่ ผมเดินออกมาจนถึงลานจอดรถ พร้อมกับล้วงมือถือตัวเองออกมาแล้วกดหาเพื่อนรักทันที หวังว่าวันนี้มันคงจะไม่มีเรียน...รอสายไม่นานมันก็รับครับ

        “มีไรไอ้เชี่ยกลอย”

   “พูดกับผมไม่เพราะเลยนะคุณอัธ” 

   “อย่ากวนตีน มีอะไรพูดมา กูกำลังทำงานอยู่”

   “กูเจอแล้วว่ะ”

   “เจออะไรวะ”

   “เจอบลูกับคนที่มึงเคยเตือน”

   “เชี่ย ไปเจอที่ไหนวะ แล้วมึงอยู่ไหนบอกกูมาด่วน เดี๋ยวกูไปหา”

   “มึงอยู่ไหน เดี๋ยวกูไปหา กูอยู่มหาลัยมึงนี่แหละ”

   “กูอยู่ห้องสมุดกลาง”

   “บอกทางดิ๊ กูไปไม่ถูก”

   ที่จริงผมน่าจะให้มันมาหามากกว่า แต่ผมก็เลือกที่จะขี่มอเตอร์ไซต์ไปหามันแทนตามทางที่มันบอก เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตรงไป ข้ามสี่แยก ไม่นานก็ถึงครับ ห้องสมุดกลางที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ผมเลี้ยวเข้าไปจอดในลานจอดที่มีรถไม่มาก อาจเพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ด้วยละมั้ง

   ผมจอดรถปุ๊บ ไอ้อัธก็เดินเข้ามาตบหัวผมที่คร่อมมอเตอร์ไซต์อยู่จนรถเกือบล้ม ไอ้นี่ชอบความรุนแรงตลอด มันเรียนคณะนิติครับ มันเห็นพ่อมันเป็นไอดอล คือพ่อของมันเป็นทนายที่เก่ง แถมยังอารมณ์ดี พวกผมไปบ้านมันทีไรถ้าพ่อมันอยู่มีตั้งวงเหล้าทุกครั้ง ชอบก็ตรงนี้แหละ

   “มึงเห็นหัวกูเป็นลูกวอลเล่ย์เหรอสัด”

   “ก็เหมือนดีนะ กลมๆ” มันไม่พูดเปล่า ยังเอาฝ่ามือมาลูบหัวผมวนไปวนมาจนทรงผมที่เซ็ทมาดีๆ ยุ่งไปหมด ผมปัดมือมันออกมันก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก อารมณ์ดีตามรอยพ่อครับไอ้นี่

   “ไหนมึงบอกทำงานไง แล้วนี่ไม่ทำแล้วเหรอ”

   “เพื่อนกูสำคัญกว่างานเสมอ” เกือบซึ้งละครับกับคำพูดมัน “ว่ามาๆ มึงไปเจอแฟนมึงกับคนใหม่ที่ไหน แต่เดี๋ยว กูโทรเรียกไอ้ม่านด้วยดีกว่า นอนตายซากอยู่หอไม่รู้ตื่นหรือยัง” ม่านคือเพื่อนสนิทอีกคนครับ มันเรียนเกษตร มันบอกเรียนจบมาจะเอาไปพัฒนาที่ของบ้านมัน คือพ่อกับแม่มันมีที่ดินที่เกือบๆ ร้อยกว่าไร่ ปัจจุบันทำสวนทำไร่ บ่อยครั้งที่พ่อแม่มันมา พวกผมจะได้ผลไม้สดๆ กลับบ้านคนละลังสองลัง

   “ไม่ต้องโทรหรอก กูโทรหาละแมร่งไม่รับ สงสัยยังไม่ตื่น”

   “เออๆ งั้นเดี๋ยวไปที่โต๊ะกูก่อน”

   ผมเดินตามไอ้อัธไปทางหน้าห้องสมุด แต่แยกลงด้านข้างซึ่งมีลานกว้างที่มีโต๊ะหลายสิบตัว แต่ละตัวก็มีนักศึกษานั่งอ่านหนังสือกันอยู่ สถานที่มันเงียบจนผมคิดว่า ถ้าผมได้มานั่งอ่านตรงนี้ คงต้องพกเสื่อกับหมอนมาด้วย เงียบแบบนี้น่าจะนอนสบาย
 
   ไอ้อัธเดินเข้าไปหาโต๊ะๆ หนึ่งซึ่งคงจะเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน ทั้งโต๊ะมีอยู่ห้าคน ซึ่งทุกคนก็หันมามองผมงงๆ ก่อนจะยกยิ้มทักทาย ผมเห็นเพื่อนไอ้อัธกระซิบกระซาบมันแล้วเหล่ตามามองผม คือมึงจะบอกว่ากูคนแปลกถิ่นว่างั้น เพื่อนมันพูดจบก็โดนฝ่ามือไอ้อัธเข้าเต็มหัวจนผมปลิว เจ็บละสิ กูโดนมาก่อนหน้ามึงไม่กี่นาทีนี้เอง พอเก็บของเสร็จ พวกเราก็เดินมาที่รถผมครับ

   “ว่ามาๆ”

   “ตรงนี้เนี่ยนะ” ตรงลานจอดรถเลยนะเว้ย

   “เออ”

   “คือกูเจอที่ใต้ตึกคณะวิศวะว่ะ” ผมรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอกเมื่อนึกถึงภาพที่บลูยิ้มให้ไอ้ผู้ชายคนนั้น หรือแม้กระทั่งไอ้พี่โช

   ไอ้อัธพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนคิ้วหนาๆ ของมันจะขมวดมุ่น “แล้วมึงไปทำอะไรที่ตึกวิศวะวะ”

   มันใช่เวลาที่มึงอยากรู้มั้ยไอ้เหี้ยอัธ

   ผมอึกอักไม่รู้จะตอบเพื่อนว่ายังไง จะให้เล่าเรื่องไอ้พี่โชวันนี้ก็คงจะเล่าไม่หมด แถมดีไม่ดี ไอ้อัธมันจะพุ่งไปหาเรื่องแทน ไอ้นี่เห็นอารมณ์ดีแบบนี้เลือดมันร้อนนะครับ เคยมีครั้งหนึ่งไอ้ทูโดนไอ้หัวโจกต่างโรงเรียนรุมเพราะคิดว่าไปจีบเมียมัน ไอ้อัธเห็นสภาพ มันแทบเหาะไปที่โรงเรียนไอ้พวกนั้นแล้วเรียกไอ้คนพวกนั้นออกมา แล้วคือมันต่อยต่อหน้าครูที่ยืนหน้าโรงเรียนเลยครับ ไอ้พวกนั้นถึงกับต้องไปนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์ ส่วนไอ้อัธปากแตก หัวแตก แถมยังโดนพักการเรียน ยิ่งไปกว่านั้นคือเกือบจะเข้าไปนอนในคุก ดีที่พ่อมันเป็นทนายไปต่อรองผู้ปกครองฝ่ายนั้น ซึ่งมีหลักฐานว่าเด็กพวกนั้นมาทำร้ายก่อนแถมรุมห้าต่อหนึ่ง ฝ่ายนั้นจึงไม่เอาความ เลยโดนปรับคนละห้าร้อยบาทข้อหาทะเลาะวิวาท

   “กูหลงทางไงสัด” ผมแถจนเลือดออกสีข้าง แต่ดูหน้ามันไม่มีทางเชื่อผมแน่ๆ ครับ แววตาจับผิดแบบนั้น

   “เออ กูจะเชื่อมึงไปก่อน ตอนนี้เอาเรื่องแฟนมึงก่อน...แล้วมึงรู้ได้ยังไงว่าเป็นคนนั้นจริงๆ กูไม่เคยเอารูปให้มึงดูเลยนะสัดกลอย”

   “ตากูก็มี กูเห็นบลูควงแขนแถมยิ้มให้ด้วย ยิ้มแบบที่ไม่เคยยิ้มให้กู โคตรเจ็บเลยว่ะ” ผมจับหน้าอกตัวเองที่ภายในมันกำลังบีบรัด

   “มึงเจ็บตอนนี้ อีกไม่นานมันก็หาย แล้วนี่มึงจะทำยังไง ยังจะคบอยู่มั้ย”

   “มึงไม่น่าถาม อยากเห็นเพื่อนมึงเป็นควายหรือไงไอ้สัด”

   “เชี่ย กูเจ็บสัด”

   ผมโบกหัวมันไป ความแรงบวกเพิ่มกว่าตอนมันตบหัวผม ได้เอาคืนสักหน่อยค่อยสบายใจ
 
   “กูอยากให้มึงช่วยหน่อย” ผมบอก

   “ช่วยอะไร อัธสุดหล่อคนนี้พร้อมเสมอ เพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นควายต่อไป” มันสาดคำว่าควายใส่หน้าผมเต็มๆ ครับ ไอ้เชี่ยนี่กวนตีนกู

   “พากูไปหาบลูหน่อย”
 
   “คณะอะนะ แล้วยัยนั่นจะอยู่เหรอวะ”

   “อยู่ดิ่ วันนี้บลูมีเรียนถึงบ่ายสาม” ผมก้มมองนาฬิกาตัวเองที่ใกล้จะบ่ายสามเต็มแก่ ประโยคที่ผมได้ยินตอนบลูร่ำลากับไอ้พี่นั่นผมยังจำได้ บลูนัดให้มันไปรับ

   “งั้นก็ไป เพื่อนกันไม่ทิ้งกัน กูแมร่งโคตรหล่อทั้งหน้าทั้งหัวใจว่ะ” พูดแล้วมันก็หัวเราะอย่างกับคนบ้า แม้หน้าตามันจะดูดี ขาว สูง ตาโต จมูกโด่ง แต่สัน...มันโคตรแย่เลยครับ กลอยสุดหล่อคอนเฟิร์ม

   ไอ้อัธพาผมแว้นมอเตอร์ไซต์จนมาถึงคณะอักษร คณะนี้ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะมาบ่อย ตั้งแต่ปีหนึ่งผมก็มารับบลูบ้างถ้าเธอโทรให้มา...จะว่าไป ทุกครั้งที่ผมจะมาที่นี่ บลูจะเป็นคนโทรบอกให้มา โดยที่ผมไม่เคยมาเองเลย ทำไมผมไม่เคยสังเกตเลยวะ เมื่อลงจากรถ ผมกับไอ้อัธก็เดินไปยืนรอหน้าตึกเรียน สาวๆ คณะนี้หน้าตาน่ารักเยอะครับ และตอนนี้หลายคนก็มองมาที่ผมกับไอ้อัธ ที่จริงมองแค่ไอ้อัธ ด้วยความหน้าตาดีเป็นทุน ยิ่งเป็นเดือนคณะตอนปีหนึ่งอีก คือมันเด่นจริงๆ ครับ ผมรากไทรสไตล์เกาหลีย้อมสีเทาทำให้มันโดดเด่นกว่าชาวบ้าน

   “เมื่อไหร่จะมาวะ กูร้อน” ไอ้อัธบ่น มือจับคอเสื้อกระพือไปมา ก็มึงพากูมายืนตากแดดมันก็ร้อนสิวะ อยากจะเถียงมันแต่เพราะผมเห็นบลูเดินมากับเพื่อนซะก่อน

   บลูเดินหัวเราะกับเพื่อนออกมาจนมาเห็นผมเธอก็รีบหุบยิ้มทันที หน้าสวยๆ ตอนนี้ติดบึ้งตึงจนเพื่อนของเธอยังรู้สึกได้ ขาเรียวสวยนั่นลากรองเท้าส้นแหลมมาหาผม ดวงตากลมที่ผมชอบมองจ้องดุมา ทุกทีผมจะกลัวใบหน้าแบบนี้เวลาเธอมองผม แต่ตอนนี้ผมกลับอยากเห็น

   “กลอยมาทำไม บลูไม่ได้โทรเรียกสักหน่อย” เสียงแหลมๆ โวยวายจนเพื่อนสาวที่เดินมาด้วยต้องแตะแขนเพื่อให้ลดเสียง

   “ผมก็อยากมาเซอร์ไพร์สแฟนบ้าง บลูไม่ชอบเธอ” ผมโคตรไม่ชอบน้ำเสียงตัวเองตอนนี้เลยให้ตาย นี่ผมใช้น้ำเสียงอ้อล้อแบบนี้กับผู้หญิงตรงหน้านี่มากี่ปีแล้ว

   “ไม่ชอบ และไม่มีวันชอบด้วย กลอยก็รู้ว่าบลูไม่อยากให้กลอยมายุ่มย่ามที่นี่ถ้าบลูไม่โทรไปเรียก” เสียงแหลมบอก...ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนั้น

   “เพราะรู้ไง บลูอ่า ผมก็แค่อยากพาบลูไปดูหนัง วันนี้เข้าวันแรกเลยนะ หนังโรแมนติคแบบที่บลูชอบด้วย”

   “วันนี้บลูไม่ว่าง...คือบลูต้องไปติวกับแนน ใช่มั้ย” บลูอึกอักก่อนหันไปหาเพื่อนที่ยังยืนยิ้มแหยๆ ให้

   “แน่ใจว่าติวกับเพื่อน” ทั้งผม บลูแล้วก็เพื่อนบลูที่ชื่อแนนหันไปมองหน้าไอ้อัธทันทีหลังมันพูดจบ บลูดูจะเกลียดขี้หน้าไอ้อัธพอดูครับ เคยขอให้ผมอย่าพามันมาด้วย เพราะไม่ชอบ ตอนนั้นผมก็เชื่อครับ ความรักไม่ได้ทำให้ตาบอดนะครับ แต่ผมโง่ที่เชื่อเอง

   “บลูไม่ชอบเพื่อนกลอย กลอยจะพามาด้วยทำไม” บลูพูดหางตาก็เหล่มองไอ้อัธ
 
   “ผมก็ไม่ชอบคุณเหมือนกัน ถ้าเพื่อนผมมันไม่โง่เป็นควายแบบนี้” ประโยคแรกมันพูดเสียงดังครับ ประโยคหลังมันอ้าปากพะงาบๆ เอา ผมอ่านปากมันออกเลยได้แต่ทำตาเขียวใส่ กลัวมันทำให้บลูผิดสังเกต

   “ก็ดี ส่วนกลอย...” บลูมองหน้าผมก่อนจะก้มมองนาฬิกาตัวเอง “กลอยรีบกลับเถอะ เดี๋ยวบลูจะต้องไปติวกับแนนแล้ว รีบๆ ไปเลย” บลูดันหลังให้ผมรีบไปที่รถตัวเองที่จอดอยู่ แม้จะรู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมก็เลือกที่จะคร่อมรถของตัวเองพร้อมดึงเพื่อนที่มันกำลังชะเง้อมองหาอะไรบางอย่าง

   พอผมสตาร์ทรถ บลูก็ยกมือโบกทันที ผมขี่มอเตอร์ไซต์ออกมาจนพ้นสายตาของบลู ผมก็จอดรถแล้วเดินวกกลับไปใหม่จนไอ้อัธมันบ่น แต่มันก็เดินตามผมไป

   “ทำไมมึงไม่เข้าไปหาเลยวะ ไม่ได้ดั่งใจกูเลยไอ้เชี่ยกลอย”

   ไอ้อัธบ่นเมื่อเห็นผมยืนกำมัดแน่นเมื่อเห็นผู้ชายคนที่ชื่อซันเดินเข้ามาหาบลู ถ้าผมอยู่ต่ออีกหน่อยคงเจอหน้ากันพอดี บลูปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อเห็นไอ้รุ่นพี่นั่นมา แขนที่ผมแทบไม่ได้จับยื่นไปคล้องพร้อมออกแรงดึงให้รีบเดิน ทิ้งให้คนที่ชื่อแนนมองตามอย่างละเหี่ยใจ

   “มันยังไม่ถึงเวลา กูอยากรู้ว่าบลูจะทำยังไงกับกูต่อ ดังนั้นมึงช่วยอยู่รอจนจบเกมส์ด้วย” ผมบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋ากางเกงที่สั่นจนขาผมชาไปหมด

   ไม่มองก็รู้ว่าใครโทรมา

   “ไอ้เชี่ยกลอย มึงช่วยกูด้วย กูเจ็บปวด”

   เสียงโหยหวนดังจนแสบแก้วหู ขนาดไอ้อัธยืนอยู่ห่างๆ ยังได้ยิน ไอ้เชี่ยทูมันโวยวายอะไรของมันวะ ผมได้แต่ส่ายหน้า ก่อนพาเพื่อนไปส่งที่เดิมแล้ววนรถคู่ใจมุ่งหน้าออกสู่ถนนใหญ่เพื่อไปหาไอ้คนที่มันร้องขอความช่วยเหลือ นี่ถ้าเรื่องมันไม่ใหญ่ละก็ ไอ้เชี่ยทูโดนผมอัดตายแน่


   ...ว่าแต่ ผมลืมอะไรไปหรือเปล่าวะ





......TBC


อัพวนไปค่ะ ^^

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ^_^)///
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:09:26 โดย aiaea83 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
ชอบมากค่ะ ชอบแนวนี้จังเลย มาต่อไวๆนะ :mew1:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ชอบๆๆๆๆอ่ะ
ต้องมีหลายคู่แน่ๆๆเลย
ลุ้นต่อ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
น่าสนุกค่ะ มาต่อบ่อยๆ นะคะ รอติดตาม ค่ะ

ออฟไลน์ Chise

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
กลอยลืมพี่โชไปเลย
นังบลูนี่น่าตบจริงๆ นิสัยอย่างนี้ทนมาได้ไงนะกลอย
อยากให้นางโดนเทให้หมดจริงๆ

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5

Just you and I : 5



        วันนี้วันอังคารครับ ข้ามวันอาทิตย์กับวันจันทร์เพราะมันไม่มีอะไร เรื่องบลูก็ด้วย เธอปิดโทรศัพท์ตลอด ผมโทรหาไม่ติดเลย ไลน์ไปขึ้นอ่านแต่ไม่ตอบ เธอคงโกรธที่ผมไปหาโดยที่เธอยังไม่ต้องการ ผมผิดเหรอครับที่จะไปหาแฟนตัวเอง พอย้อนกลับไปนึกดู ผมมักจะนอยด์จนกินข้าวกินน้ำไม่ได้ถ้าบลูโกรธหรืองอน แต่คราวนี้ผมยัดได้ทุกอย่าง

   “มึงไปตายอดตายอยากที่ไหนมาวะไอ้เชี่ยกลอย” ไอ้ทูมันทำตาปริบๆ มองผมกินก๋วยเตี๋ยวชามที่สองครับ

   “เรื่องของกู มึงแดกของมึงไป” ผมมองมันตาขวาง หลังจากวันนั้นถูกมันเรียกให้แว้นกลับมา

   เสียเงินในเกมส์ไปจนหมดแล้วมันโวยวายโทรให้ผมไปหา มันใช่เรื่องหรือเปล่า ผมงอนมันไปหนึ่งวันเต็มครับ จนมันยอมเลี้ยงข้าวผมหนึ่งอาทิตย์ผมถึงหายโกรธ ไม่ใช่เพราะเห็นแก่กินหรอกนะ ผมแค่ไม่อยากโกรธมันนานก็แค่นั้นเลยยอม และที่เมื่อกี้มันโวยวายก็เพราะมันเป็นคนจ่าย

   “เดือนนี้เงินกูไม่เหลือแล้วสัด เสียทั้งเงินในเกมส์ เสียทั้งเงินในกระเป๋า” บ่นครับบ่น แต่ผมไม่แคร์ “มึงจะไปไหนไอ้เชี่ยกลอย อย่าบอกจะเอาอีกนะ” ไอ้ทูตาเหลือกที่เห็นผมยืนขึ้น

   “กูจะไปซื้อของหวานสิครับไอ้ทู เงินกูเองมึงไม่ต้องเลี้ยง” พอได้ยินมันก็ถอนหายใจแล้วก้มหน้ากินข้าวของมัน

   ผมเดินมาสั่งรวมมิตรที่ร้านป้าเจ้าประจำใต้ตึกเรียน ผมว่าน้ำหนักผมคงขึ้นหลายกิโล เสื้อมันก็เริ่มคับๆ สงสัยคงต้องไปออกกำลังกายบ้าง แต่เอาไว้ก่อน ตอนนี้ขี้เกียจ...พอได้ของหวานผมก็กลับไปนั่งที่โต๊ะ แต่ไอ้ทูไม่ได้นั่งคนเดียว ข้างๆ ยังมีไอ้คนที่ผมไม่ได้เจอ ไม่ได้ยินเสียงมาสองวันเต็ม

   “พี่มาได้ไงเนี่ย” ผมถามเสียงสูง ไม่ใช่อะไรหรอกครับ แต่ผมกลัวเพื่อนผมถูกรังสีความเย็นแช่แข็งจนตายไปซะก่อน ไอ้ทูมันนั่งตัวแข็งทื่อ มือก็ถือช้อนที่มีข้าวแต่ไม่ยอมตักข้าวปาก

   คนถูกถามมองหน้าผมนิ่ง ในมือมันกำลังหมุนควงโทรศัพท์เครื่องแพงไปมา พอๆ กับเพื่อนมันที่มองซ้ายมองขวาอย่างกับสนใจ

   “กูโทรหามึงเป็นร้อยสายแต่มึงไม่รับ” เสียงนิ่งกับตาดุมาคู่กันอีกแล้ว

   “มือถือผมชาร์ตแบตไว้ที่ห้องอ่ะ” เรื่องจริงครับ ผมเล่นเกมส์มากไปหน่อย เช้ามาขีดแดงเลยจำใจต้องทิ้งไว้ในห้อง ไอ้พี่โชมันมองเหมือนไม่เชื่อแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนเพื่อนมันเดินไปที่ร้านขายข้าวแล้วครับ หลังจากถามไอ้ทูว่าข้าวแบบมันซื้อที่ร้านไหน
   ผมสอดตัวนั่งข้างไอ้พี่โช วางถ้วยรวมมิตรปุ๊บถูกมันแย่งกินปั๊บ เชี่ย อยากกินทำไมไม่ไปซื้อเองวะ ดูอย่างเพื่อนมัน ซื้อมาแล้วสองจาน จานหนึ่งข้าวผัดปู อีกจานข้าวผัดกุ้ง

   “พี่ทำไมไม่สั่งข้าวผัดทะเลเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องกินแยก” ผมถามไอ้พี่จอมครับ มันเงยหน้ามามองด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะมองข้าวสองจานไปมา

   “เออว่ะ”

   ผมควรจะด่าดีหรือเปล่า แต่ไม่ดีกว่า กลัวคอขาด ผมควรหันกลับมาสนใจถ้วยรวมมิตรตัวเองมากกว่า ตอนนี้หมดไปครึ่งถ้วยแล้ว สงสัยมันจะหิว

   “พี่กินข้าวมายัง” ผมถาม ไอ้พี่โชมันช้อนตามองผม สายตามันดูอ่อนโยนมากตอนผมถาม
 
   “กูรอให้มึงถามนี่แหละ” มันตอบพร้อมมุมปากเหยียดยิ้มออกมา

          “เอ๊า” ไปไม่เป็นเลยไอ้กลอย

   “อยากกินอะไรก็ไปซื้อดิ่”

   “มึงกินข้าวแล้วเหรอ” ผมไม่ตอบ แต่พยักพเยิดหน้าไปที่ชามก๋วยเตี๋ยวที่วางข้างๆ มันเป็นคำตอบแทน “ทำไมไม่รอกู”

   “อ่าว ก็ผมไม่รู้ว่าพี่จะมา”

   ผมกับไอ้พี่โชคุยกันไปมา โดยมีไอ้ทูจ้องอย่างสงสัยใคร่รู้ สายตามันฉายแววเสือกออกมา ผมว่ามันต้องถามอะไรสักอย่างแน่หลังจากนี้นะ เพราะถ้าให้ถามตอนนี้มันคงถูกจับหักคอ

         เถียงกันไม่นาน ผมก็ต้องลุกไปสั่งก๋วยเตี๋ยวแบบที่ผมเพิ่งยัดเข้าท้องไป โดยมันให้แบงค์สีเทามาหนึ่งใบ นี่คิดว่าก๋วยเตี๋ยวชามสี่สิบบาทจ่ายแบงค์พันไปกูจะไม่โดนเขาเอาเส้นปาหน้าใส่ใช่มั้ย

    ผมเดินซุยๆ มาที่ร้าน สั่งเสร็จก็จ่ายเงินของผมไป ส่วนแบงค์ของมันเก็บใส่กระเป๋าแทน ไม่ได้อุ๊บอิ๊บหรอกนะ แต่มันเป็นค่าเดินทางและค่าเหนื่อยยกชามไปให้ พอวางมันก็จ้วงเอาๆ สงสัยจะหิว ดูจากเพื่อนมันซัดหมดไปแล้วจานครึ่ง พี่ท่านยัดจนหมดจริงครับ ข้าวผัดพิเศษสองจาน

   “แล้วพี่มาทำไมอ่ะ” ผมถามขณะมันวางตะเกียบ ได้เคี้ยวเส้นกับลูกชิ้นบ้างหรือเปล่าวะ

   “กูก็มาหามึง”

       “มาหาผมทำไม”

   “มึงลืมที่ตกลงกับกูเหรอ” เสียงนิ่งชวนขนลุกมาอีกแล้วครับ

   “ใครลืม ไม่มี!” เสียงสูงได้อีกกู ดูเหมือนไอ้พี่โชมันจะไม่เชื่อ ผมเลยหัวเราะแห้งๆ รับ จะว่าลืมมันก็ใช่อยู่หรอก “แล้วพี่จะให้ผมทำอะไรล่ะ บอกไว้ก่อน อันไหนทำได้ผมก็ทำ อันไหนทำไม่ได้ผมก็ไม่ทำนะเออ” ดักทางมันไว้ก่อน เผื่อมันให้ผมทำอะไรแผลงๆ

   “หึ ฉลาดจริงนะ” มันชมผมทำให้ผมแอบยืดนิดๆ มีคนชมว่าผมฉลาดแล้ว

   “เอ่อ...” เสียงขัดมาจากตรงหน้าเรียกให้ผมกับไอ้พี่โชมอง เสียงพี่จอมครับ มันกำลังจ้องจานข้าวไอ้ทู

   ...นี่พี่ยังไม่อิ่มเหรอวะ

   “พะ พี่มีอะไรกับผมเหรอ” ไอ้ทูเสียงสั่น คงกลัวคนนั่งข้างมันงับหัว

   “มึงไม่กินแล้วเหรอ” มันถามพร้อมชี้ ไอ้ทูมองตามก่อนส่ายหน้า จากนั้นจานมันก็ไปเป็นของไอ้พี่จอม กินเก่งจนผมนับถือว่ะ
 
   “เพื่อนพี่เอาข้าวไปยัดไว้ไหนหมดวะ” ผมกระซิบถามคนนั่งข้างๆ ซึ่งมันก็กำลังมองเพื่อนมันอย่างระอา

   ไอ้พี่จอมตัวมันไม่หนาเท่าเพื่อนหน้าดุมัน แต่สูงพอๆ กัน ส่วนกล้ามเนื้อยังไม่เคยเห็น จะชมว่ามีกล้ามมีแพกคงต้องข้ามไปก่อน

   “แล้วสรุปพี่มาทำไมวะ”

   “กูอยากกินข้าวกับมึงก็เลยมา”

   ผมก้มหน้าเพราะไม่อยากสบตาที่กำลังทำให้ผมใจเต้นแปลกๆ ก็เพราะคำพูดฟังดูเลี่ยนของมันนั่นแหละ ผมเคยตามจีบสาวๆ ประโยคพวกนี้ผมก็เคยพูด แต่ไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งจะถูกบอกแบบนี้เหมือนกัน แถมยังเป็นผู้ชายอีก ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกผู้หญิงที่ถูกบอกถึงต้องก้มหน้าเขิน...มันทั้งเขินและอยากอ้วกไปพร้อมๆ กันจนทนมองหน้าไม่ได้

   “พูดอะไรวะ ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย”

   “มึงน่ารักว่ะ” มันว่าพร้อมกับยกมือมาขยี้หัวผมซะฟูฟ่อง

   ผมอยากหายไปจากตรงนี้สุดๆ ไอ้เชี่ย กูเขินจริงนะเว้ย ไม่ต้องมาว่ากูน่ารักด้วย มันจะทำให้กูห่างไกลจากความมั่นใจว่ากูหล่อออกไปอีก 

   “พวกมึงช่วยไปจีบกันไกลๆ ตากูหน่อย กูแดกเฉาก๊วยไม่อร่อย” ไอ้พี่จอมมันพูดขัดกลางปล้องจนโดนเพื่อนมันเอาน้ำแข็งในแก้วปาใส่หน้า

        …พี่ท่านยังยัดเฉาก๊วยได้อีก! 

   “มึงไปนั่งแดกโต๊ะนู้นเลยไป” ไอ้คนกินเฉาก๊วยไม่ตอบทำเพียงยกเฉาก๊วยเข้าปากแล้วพึมพำคนเดียว เป็นเอามากจริงๆ สงสัยโดนเมียทิ้งจนเพี้ยน

   ก่อนพวกเราทั้งสี่จะหันไปมองเสียงเอ๊ะอะที่ดังจากประตูโรงอาหาร พอกลุ่มคนพวกนั้นก้าวข้ามประตูมา สายตานับสิบคู่มองกราดจนเห็นมีปีอื่นๆ ด้วย เลยพากันเงียบและทำตัวเจี๋ยมเจี้ยม ยิ่งในนี้ยังมีพี่ปีสามที่เป็นพี่ว้ากนั่งอยู่ด้วย ถ้าเกิดมันคึกแล้วเรียกพวกปีสองทำโทษละคุณเอ้ย ต้องโทรเรียกเพื่อนมาแทบไม่ทัน

   พี่ว้ากที่ว่าก็พี่รหัสไอ้ทูครับ พี่แกหน้าโหดแต่โคตรติงต๊อง เมาทีไรพี่แกลุกขึ้นเซิ้งทันที แต่ถ้าเวลาปกติแค่เห็นหน้าแกก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ยิ่งไว้หนวดไว้เครายิ่งแล้วใหญ่ ผมจำได้ว่า ตอนผมปีหนึ่ง พี่รหัสไอ้ทูหน้ายังใสกริ๊งอยู่เลย ผ่านไปปีเดียวแปลงร่างซะแล้ว

   ผมดูเด็กปีหนึ่งเดินสงบเสงี่ยมไปสั่งอาหาร ตาก็คอยหวาดระแวงกลุ่มปีสามที่นั่งกินเงียบๆ ไม่ใช่เพราะเรียบร้อยหรอกนะครับพวกพี่เขาน่ะ แต่เพราะต้องรีบอ่านหนังสือก่อนเข้าสอบคาบที่จะถึง...ผมรู้เพราะไปทักทายมาแต่โดนไล่มานั่งนี่เนื่องจากไปกวน (ตีน) พี่เขา

   “เด็กปีหนึ่งมึงไม่น่ารักสักคนว่ะ” ไอ้พี่จอมมันพูดขึ้นมาครับ ตามันก็มองเด็กๆ ที่พากันมานั่งหลังจากได้ข้าวแล้ว

   “น่ารักๆ มันก็มีว่ะพี่ แต่มีผัวหมดละ” ผมบอก ไอ้พี่โชหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆ ไอ้ทู คนโดนหัวเราะหน้าบูดเป็นตูดไปแล้ว ผมโคตรอยากเห็นเมียของพี่แกว่ะ ว่าจะเป็นผู้หญิงแบบไหนที่ยอมคบกับคุณพี่ท่าน กินข้าวอย่างกับปอบลง อารมณ์ก็ขึ้นๆ ลงๆ ยิ่งกว่าวัยทอง มิน่าพวกเพื่อนพี่แกถึงบอกผู้หญิงคนนั้นฉลาดที่ทิ้งไป...

   “แล้วเพื่อนมึงนี่ชื่ออะไรวะ” ผมกับไอ้ทูแทบเซตกเก้าอี้เมื่อไอ้พี่จอมมันหันมาสนใจคนนั่งข้างมัน คือมานั่งข้างคนแปลกหน้าไม่พอ ยังแดกข้าวมันอีก แต่กลับไม่รู้ว่าชื่ออะไร

   “ผะ ผมชื่อทูครับพี่” ไอ้ทูมันบอก ไอ้พี่จอมเลิกคิ้วมองก่อนถาม

   “มึงเป็นลูกคนที่สองเหรอ”

   “พี่รู้ได้ไง โคตรเก่งว่ะ” ไอ้ทูมันยกนิ้วโป้งสองข้างอย่างชื่นชม ผมได้แต่ส่ายหน้าให้กับความโง่ของมัน

   “กูรู้ว่ากูเก่ง”

   “พวกมึงไปจีบกันไกลๆ กูไป รำคาญ”

   ประโยคของไอ้พี่โชทำเอาผมตาโตครับ ตรงไหนที่บ่งบอกว่าไอ้พี่จอมมันจีบเพื่อนผมอยู่วะ ใครรู้บ้างช่วยบอกผมหน่อย ผมก็ไม่ต่างจากไอ้ทูที่มันมองอย่างสงสัย

   “เพื่อนพี่จีบเพื่อนผมเหรอ...ตอนไหนวะ”

   “ไม่รู้”

   นี่ผมมึนหรือไอ้พี่โชมันมึนกันแน่ครับ ผมเริ่มจะปวดหัวตุบๆ กับไอ้พี่สองคนนี้ แล้วก็แทบจะระเบิดเมื่อน้องรหัสสุดเลิฟของผมเดินเข้ามาทักทายพร้อมกับวางดอกกุหลาบสีขาวหนึ่งดอกบนโต๊ะ พี่โชมองดอกกุหลาบนิ่งๆ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองไอ้เด็กปีหนึ่งที่ยังยืนยิ้มแฉ่งให้ผมอยู่...

        เอ่อ มึงไม่เห็นรังสีสีฟ้าที่แสนจะหนาวเย็นเหรอวะ

   “พี่กลอยทำไมมองผมแบบนั้นอ่ะ ผมให้ดอกไม้พี่ทุกวันยังไม่ชินอีกเหรอ” ไอ้คนให้ดอกไม้ทำหน้าระรื่นไม่สนใจคนข้างตัวผมสักนิด แต่ก็แอบเหล่ด้วยหางตาอยู่แวบหนึ่งผมเห็น

   “ไอ้เชี่ยรอน ทำอะไรไม่ดูตาม้าตาเรือนะมึง” ไอ้ทูพึมพำขึ้นมา แต่คนที่นั่งอยู่ได้ยินกันหมด คราวหลังมึงช่วยคิดในใจเถอะ

   ผมส่ายหน้ายื่นมือหมายจะหยิบดอกไม้ที่ผมได้เกือบทุกวันแต่ดันมีมือดีหยิบไปซะก่อนแถมยังทิ้งลงบนพื้นต่อหน้าต่อตาไอ้คนที่ให้ซะด้วย น้องรหัสผมย่นคิ้วมองหน้าไอ้พี่โชเลยครับ หว๋าๆ จะเกิดเรื่องหรือเปล่าเนี่ย

   “เอ่อรอน ขอบใจนะเว้ย แต่คราวหลังไม่ต้องก็ได้ กูเกรงใจ มึงเป็นน้องรหัสกู กูต้องเอาของให้ถึงจะถูก” ผมรีบพูดก่อนสถานการณ์จะย่ำแย่ไปกว่านี้ เพราะไอ้พี่โชมันเริ่มจ้อง ภาพมันกระทืบคนยังติดตา ผมกลัวน้องรหัสจะลงไปนอนสบายบนพื้นจนต้องหามไปโรงพยาบาล

   “ผมให้พี่ถูกแล้วครับ ส่วนที่พี่จะให้ผม ผมไม่อยากได้อะไร นอกจากพี่รับดอกไม้ผมทุกวันพอ” รอนพูดแต่ตามันจ้องคนข้างผมอย่างท้าทาย

   “เอ่อ...”

   “มึงนี่มัน...”

   “เฮ้ยพี่โช ผมว่าเราออกไปข้างนอกดีกว่า ผมอยากกินลูกชิ้นทอดหลังมออ่ะ” ผมรีบดึงแขนไอ้คนข้างตัวอย่างไวเพราะมันลุกขึ้นเตรียมคว้าคอเสื้อไอ้คนกล้าท้าทาย แถมหน้ามันบ่งบอกอารมณ์ว่าไม่ได้ทำเล่นๆ มันกำลังจะเอาจริง

   มึงไม่กลัวแต่กูกลัวไอ้เชี่ยรอน

   ผมลากแขนพี่โชมาด้านนอก โดยมีไอ้ทูกับพี่จอมเดินตามมา ดีที่สองคนนั้นยังเดินตามมาดีๆ ส่วนไอ้คนที่ผมกำลังลากมันกระฟัดกระเฟียด แรงมันเหมือนควาย ผมตัวแค่นี้เกือบเอาไม่อยู่ พอออกมาไกลมากพอ สายตาเขียวนั่นก็ส่งมาถึงผมแทบจะทันที...กูไม่เกี่ยวนะเว้ย

   “มันให้ดอกไม้มึงทำไม”

   “ก็มันเป็นน้องรหัสผม”

   “น้องรหัสเชี่ยไรให้ดอกกุหลาบ ไอ้กลอย ถ้ากูเห็นมึงรับของที่มันให้ กูจะตามไปกระทืบไอ้เชี่ยนั่นให้จมดิน” โหมดความรุนแรงมาเต็ม แล้วพี่ท่านจะโมโหอะไรขนาดนั้น

   “โหพี่ จะโมโหทำไมเล่า มันเป็นรุ่นน้องนะ” แล้วคุณพี่ก็เป็นพี่ยังไม่ได้เป็นเมีย นี่แค่คิดในใจผมยังไม่กล้าพูดหรอก

   “อยากข้ามจากน้องมาเป็นอย่างอื่นน่ะสิ”

   พูดจบไอ้คุณพี่ท่านก็จ้ำอ้าวโดยไม่รอใครเลยครับ ผมได้แต่มองตามอย่างเหนื่อยใจ นี่ผมผิดใช่มั้ยที่น้องรหัสเอาดอกกุหลาบมาให้เนี่ย แรงหนักที่แตะลงบนบ่ามาจากฝ่ามือของไอ้พี่จอม ผมมองหน้ามันเห็นมันยิ้มบางๆ มาให้

   “มันขี้หึงเกินไปมึงต้องเข้าใจมันหน่อย กูไปละ เอ่อ ไอ้ลูกคนที่สอง ไว้กูเลี้ยงข้าวคืนค่าข้าวในจานมึงก็แล้วกัน” พี่จอมบอกลาก่อนเดินตามเพื่อนมันอย่างสบายอารมณ์ คือเพื่อนพี่ร้อนเป็นไฟขนาดนั้น พี่แกยังใจเย็นเดินเอ้อระเหยอยู่อีก เป็นเพื่อนสนิทกันได้ยังไงวะ ต่างกันขนาดนี้ 

   แรงสะกิดจากแขนทำให้ผมหันไปมองเพื่อนตัวเองที่มองตาแป๋วแต่ฉายแววเสือกเต็มพิกัด

   “มึงกับไอ้พี่หน้าดุนั่นเป็นอะไรกันวะ”

   “เป็นคนรู้จัก” ผมตอบแทบจะทันทีที่ไอ้ทูถามจบ

   “กูไม่เชื่อไอ้สัด มันทำเหมือนมึงเป็นเมียมันอย่างนั้นแหละ”

   “เมียเชี่ย กูยังบริสุทธิ์ครับไอ้เชี่ยทู”

   แทบสำลักน้ำลายตอนได้ยินคำว่าเมียสาดใส่หน้า ผมต้องเป็นผัวสิ

   “เออๆ แล้วเรื่องแฟนมึงจะทำยังไง วางแผนไว้หรือยัง”

   “กูจะเล่นสงครามประสาท”

   “ยังไงวะ”

   “คอยดูละกัน ว่าแต่ กูอยากกินลูกชิ้นทอดจริงๆ มึงเลี้ยงกูด้วย โทษฐานที่มึงทำให้กูเสียเวลาวันเสาร์ตอนเย็น” ผมยิ้มร่าต่างจากไอ้ทูที่เริ่มบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ผมต้องสนเหรอ ไม่เลยสักนิด เราต้องกินเพื่อให้สมองมันทำงาน

   ...ในเมื่อเขาไม่มาหา เราก็ไปหาเองสิ ไม่เห็นจะยาก
 
   “มึงอย่าทำหน้าแบบนั้น กูเห็นแล้วกูกลัวความคิดเชี่ยๆ นั่น” ไอ้ทูว่าก่อนเดินหนีไป

   ...แล้วผมทำหน้าแบบไหนเหรอ มันก็ต้องทำหน้าแบบผู้ชนะอยู่แล้ว หึๆ ก่อนจะมุ้ยหน้าเมื่อมีกระดาษที่ถูกขยำปาใส่หน้าเต็มๆ ไอ้คนปามันปามาจากรถสปอร์ตคาร์หรูสีดำที่เคยเห็นที่เพิ่งขับผ่านหน้าไป พอคลี่กระดาษดูผมนี่ถึงกับปาลงพื้นพร้อมกระทืบซ้ำๆ




   ‘อย่าอ่อยให้มาก ถ้าไม่อยากเป็นเมียกูในเร็ววัน’



   ผมต้องกลัวมั้ย ตอบเลยว่า...กลัว


....................... TBC


ขอฝากน้องกลอย กับพี่โช ไว้ในอ้อมแขนของทุกคนด้วยนะคะ > / / <

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:10:40 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พี่โชหึงโหอ่ะ ชอบๆๆๆ อิอิ
น้องกลอยใจวางแผนดีๆๆน่ะ
คู่ต่อไปเชียร์พี่จอมน้องทูน่ะ คิกๆๆๆ
เอาอีกๆๆๆๆ ลุ้นต่อ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อั๋ยยะะะ.......สนุกมากกกกกก  ชอบบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่โช น้องกลอยใจ  :-[ :o8:
รอคอย ตอนกลอย เอาคืน บลู ฮึ่มมม  :m20:  :z6: :z6:
พี่จอม ถูกตาต้องใจ ต้องร่าง ทู ลูกคนที่สอง แล้วสิ 
รอ อย่างใจจดใจจ่อ  :L1: :L1: :L1:
ไร้ท สุดยอดเลย อ่านไปขำไป :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-07-2016 21:56:00 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
#โชกลอย  #จอมทู
รอวันกลอยหวั่นไหวกับพี่โช

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
กร๊าก ปาใส่หน้าเหรอ พี่ช่างสายS!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
พี่โชโคตรขี้หึงอ่ะ 55555
พี่จอมแอบชอบทูป่ะเนี่ย :katai2-1:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
Just you and I : 6



         หิวข้าวครับตอนนี้ แล้วทำไมไม่ไปกินน่ะเหรอ ก็เพราะไอ้คนที่นั่งข้างๆ มันไม่ยอมไปยังไงครับ ผมถูกมันลากมามหาลัยมันตั้งแต่เช้า ทั้งๆ ที่ผมได้นอนตอนเกือบๆ จะตีสามเพราะต้องทำงานส่ง แล้วไอ้บ้านี่มันฟังมั้ย...ไม่เลย คนที่รับกรรมก็ผมนี่แหละ ทั้งหิว ทั้งง่วง แล้วต้องมาทนดูมันนั่งพิมพ์รายงานอะไรไม่รู้ ทั้งที่ใช้เพื่อนมันก็ได้ ไอ้พี่จอมนั่งเล่นเกมส์ในมือถืออยู่ข้างๆ ผมนี่แหละครับ

   “มึงนั่งดีๆ ดิ่วะ กูไม่มีสมาธิ” ไอ้พี่จอมมันบ่น

   “ก็ผมหิวข้าวอ่ะ ไปกินข้าวกันก่อนไม่ได้เหรอ” ผมบอก พร้อมกับกระตุกแขนเสื้อไอ้คนที่แทบจะสิงร่างกับแลปท็อปของตัวเอง “พี่ไปกินข้าวก่อนเถอะ”

   “ไอ้กลอย มึงนั่งยังไม่ถึงชั่วโมงก็หิวอีกแล้วเหรอวะ ตอนลงจากรถกูเห็นมึงถือถุงเซเว่นไปทิ้ง นั่นยังไม่อิ่มเหรอวะ” ทำไมพี่จอมมันชอบขัดผมจัง ผมยังเป็นเด็กวัยกำลังกินไง

   “ก็มันหิวนี่หว่า เมื่อคืนผมกินมาม่าไปกระป๋องเดียวเอง ตื่นเช้ามาเพื่อนพี่ก็ไปลากมาที่นี่เนี่ย” บ่นไปเหล่ตามองคนข้างๆ ไป จนสุดท้ายไอ้พี่โชมันคงรำคาญเสียงผม พี่แกเลยปิดหน้าจอลง

   “มึงได้อิ่มถึงชาติหน้าแน่” ไอ้พี่โชพูดเสียงโคตรนิ่งอ่ะ

   มันขู่ผมด้วยนะเห็นป่ะ

   “งั้นผมไปกินคนเดียวก็ได้ พี่ก็นั่งทำงานนี่แหละ”

   “แล้วมึงจะบ่นทำซากอะไร”

   “ผมก็บ่นคนเดียว”

   “มึงพูดออกเสียงซะขนาดนั้นไอ้กลอย” ไอ้พี่จอมมันพูดขัดก่อนยัดมือถือลงกระเป๋ายีนส์ “กูก็เริ่มหิวว่ะ ป่ะ”

   พวกเราสามคนพากันเดินไปที่โรงอาหารกลางครับ (ตามป้าย) พี่จอมมันโฆษณาชวนเชื่อร้านข้าวขาหมูแสนอร่อย มันว่าเป็นเจ้าประจำแถมได้เยอะด้วยยิ่งไปกว่านั้นเพราะมันหน้าตาดีป้าแกเลยแถมเยอะกว่าชาวบ้าน โคตรขี้โม้ว่ะ แต่ผมก็เดินตามมันไปนะ

   ผมเดินตามหลังพี่จอมมาแต่พี่แกดันถูกสาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มทัก ผมเลยเดินมาต่อแถวก่อน รอคิวอยู่สองคิวผมก็ได้ข้าวขาหมูพิเศษเพิ่มไข่ต้ม แต่พอถอยออกมาผมกลับไปชนกับใครเข้า ดีนะที่จานที่ผมถืออยู่มันไม่สาดใส่เขา

   “ขอโทษครับ” ผมรีบเงยหน้าพูดเพราะมัวแต่ก้มมองจานตัวเองกลัวข้าวร่วง พอเห็นคนตรงหน้าก็เจอเลย...

   แจ็คพอตจริงๆ

   “อ่าว น้องคนนั้น” เสียงคนที่ผมชนครับ แต่อีกคนที่เดินตามหลังมากลับรีบหลบเมื่อเห็นผม

   “เอ่อ สวัสดีครับ” ผมยิ้มให้เพื่อนไอ้พี่โชที่เคยเจอเมื่อตอนนั้น

   “เอ่อหวัดดี มากินข้าวไกลนะ” พี่โชมันบอกเพื่อนมันว่าผมเรียนที่ไหน

   “พอดีมีคนอวดว่าข้าวที่นี่อร่อยผมเลยมาลองดูน่ะครับ พี่ก็จะกินร้านนี้เหรอ”

   “เจ้าประจำแฟนพี่น่ะสิ อ่าวหายไปไหนแล้ว” พี่ซันมองหาแฟนตัวเอง ผมอยากบอกเหลือเกินว่าหลบอยู่หลังเสานู้น “สงสัยจะไปซื้อผลไม้ แล้วพวกไอ้โชล่ะ” ถามได้แปบเดียวไหล่ของพี่ซันก็มีมือมาวาง
 
   “มีไรมึง”

   “ไอ้โชอ่ะ”

   “ซื้อข้าวแกงนู้น”

   “อ่อ ก็คิดว่าน้องเขามากินกับใคร”

   แล้วพวกเขาสองคนก็มองหน้าผมแปลกๆ แล้วก็พากันหัวเราะแบบโคตรจะเจ้าเล่ห์จนผมทำหน้าเลิกลัก คือแอบกลัวความคิดของพวกเขานะครับ

   ผมรีบเดินหนีมานั่งที่โต๊ะที่ว่าง ข้าวขาหมูกลิ่นหอมยั่วยวนจนผมต้องรีบจัดการ หนังหมูมันเยิ้มเวลากัดคงจะฟิน ยิ่งไข่มะตูมที่ไข่แดงสุกพอดีๆ เข้าปากคงละลายไม่ต้องเคี้ยว ผมจ้วงข้าวขาหมูเข้าปากกำลังจะงับแต่กลับมีคนเดินมานั่งตรงหน้าผมซะก่อน พอเงยหน้ามาผมเลยต้องวางช้อนลง คนตรงหน้าจ้องหน้าผมนิ่ง ใบหน้าสวยง้ำงอ ดูก็รู้ว่าไม่ชอบใจ ก่อนเธอจะพูดประโยคที่ผมโคตรไม่พอใจ

   “บลูสั่งกลอยแล้วไงว่าไม่ให้มาที่นี่ตอนที่บลูไม่ได้โทรเรียก แล้วกลอยมาทำไม”

   ผมได้แต่มองหน้าเธอ ไม่คิดจะตอบ ตอนคบกันบ่อยครั้งที่เธอจะว่าผมแบบนี้เวลาที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ แต่ตอนนั้นผมกลับง้อ ขนาดเคยลงทุนไปยืนคุกเข่าหน้าหอเธอทั้งคืนเพื่อให้หายโกรธ

   ควายนี่หว่าไอ้กลอย

   “กลอยฟังที่บลูพูดอยู่หรือเปล่า ทำไมไม่ตอบ”

   “ถ้าผมตอบไปบลูจะหายโกรธเหรอ” น้ำเสียงผมโคตรจะนิ่งจนผมแทบจะขนลุกกับตัวเอง บลูนิ่งมองก่อนส่ายหน้าตอบแทน “แล้วจะให้ผมพูดอะไร ในเมื่อพูดอะไรไปบลูก็โกรธอยู่ดี...แล้วเมื่อกี้ใครเหรอ” พอถูกถามบลูก็ทำท่าลุกลี้ลุกลนทันที

   “กลอยพูดถึงใคร บลูเห็นกลอยมานั่งที่โต๊ะนี่เลยเดินมาหานี่ไง บลูมากับแนน”

   ผมโคตรเกลียดการโกหก

   “เหรอ”

   “อืม แล้วนี่กลอยมากับใคร ไอ้คนที่เรียนนิติเหรอ บลูไม่ชอบเลยนะที่กลอยไปสนิทด้วย เพื่อนคนนี้ของกลอยไม่ชอบบลู”
 
   “มันเป็นคนดี แต่มันไม่ชอบคนโกหกน่ะ” ดูเหมือนบลูจะโดนคำพูดผมจนจุก ใบหน้าเธอบิดเบี้ยวก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเชิดหน้าเดินหนีไป นับวันผมเริ่มเห็นนิสัยจริงๆ ของเธอ และมันก็เป็นอย่างที่ไอ้อัธบอกทุกคำ

   หลังจากบลูเดินหนีไป ข้าวขาหมูในจานก็ถูกเขี่ยซะเละไปหมด คือหมดอารมณ์จะกินแล้วจริงๆ ทั้งๆ ที่ท้องมันก็ยังร้อง แต่มันกินไม่ลง

   โป๊ก เสียงโลหะกระทบกับของแข็ง ก็หัวผมนี่แหละครับ คนทำก็ไอ้พี่โชนั่นแหละ พี่แกไม่ได้ไปรอคิวซื้อข้าวนะครับ แต่มัวไปยืนคุยกับสาวหุ่นดีที่ทำตาเชิญชวนอย่างเปิดเผย พอๆ กับเพื่อนมันแหละครับ ที่ตอนนี้ไปนั่งกินกับสาวกลุ่มใหญ่กำลังหัวร้อต่อกระซิกกันอย่างสนุกสนาน

   “เป็นอะไร หิวทำไมไม่กิน”

   “กินไม่ลงว่ะพี่”

   ไอ้พี่โชมันเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย “ทั้งที่เมื่อกี้ร่ำๆ อยากให้กูพามากินน่ะนะ”

   ผมพยักหน้า “เอ่อพี่โช ผมถามอะไรหน่อยดิ่”

   “ว่ามา”

   “ถ้าพี่มีแฟน แล้วแฟนพี่โกหกพี่จะทำยังไง”

   “ก็ต้องดูว่าโกหกเรื่องอะไร ร้ายแรงหรือแค่ไม่อยากให้เป็นห่วง” ดูเป็นคนมีเหตุผลใช้ได้ครับผู้ชายคนนี้

   “ก็แบบ คบคนอื่นไปด้วยคบเราไปด้วยอะไรเทือกนี้”

   “ฆ่าทิ้งสถานเดียว”

   สายตากับคำพูดดูก็รู้ว่าทำจริง ผมนี่ขนลุกทันทีที่พี่โชมันช้อนตาขึ้นมามอง
 
   “โหดว่ะ ใครเป็นแฟนพี่นี่เหมือนเอาชีวิตมาแขวนบนเส้นด้ายชัดๆ”

   “กูไม่ใช่คนไร้เหตุผลแบบนั้น”

   ไม่อยากจะเชื่อ

   “ถ้าพี่เจอแบบนั้นพี่จะทำยังไง จะเลิกเลยมั้ย”

   “คนที่มันนอกใจ ไม่ว่าทำตัวดียังไงมันก็ไป ดูอย่างเมียไอ้จอม มันดูแลดีขนาดออกเงินค่าเช่าคอนโดเดือนเป็นหมื่นให้ทุกเดือน เมียมันก็ยังไปกับคนอื่น”

   น่าสงสารไอ้พี่จอมว่ะ ขนาดพี่แกทุ่มเทขนาดนั้นยังโดนนอกใจ มันก็ไม่ค่อยต่างจากผมเท่าไหร่...ต่างเยอะก็ได้แต่เรื่องเงินนะ ที่บลูไม่อยากไปดูหนังกับผมก็เพราะเธอต้องออกส่วนของตัวเองเนื่องจากผมไม่มีเงิน จะว่าไปก็ทุกอย่างนั่นแหละ ทั้งกินข้าว ฟังเพลง ไปเที่ยว เราหารครึ่งกันหมด อาจเพราะแบบนี้บลูเลยคบกับพี่คนนั้นที่ดูจะรวยกว่า

   “เศร้าเนอะ”

   ผมมองหาคนที่ถูกเมียทิ้งที่ยังคุยเฮฮากับกลุ่มสาวกลุ่มใหญ่ ดูท่าจะเป็นคนคุยสนุกน่าดู แต่ทำไมเวลาอยู่กับผมพี่แกถึงพูดน้อยแถมยังคอยกัดผมตลอด หรือว่า....

   “พี่จอมเขาเกลียดผมเพราะเขาชอบพี่หรือเปล่าวะ”

   พู่ววว เต็มๆ ครับ ข้าวกระจายเกลื่อนโต๊ะ ที่มาก็ไอ้พี่โชที่ยังมีเม็ดข้าวเล็กๆ ติดที่มุมปาก โชคดีผมหลบทัน ไม่งั้นเต็มหน้าแน่

   “มึงเอาสมองคิดแล้วใช่มั้ยที่ถามกูแบบนี้”

   “คิดแล้วสิ โธ่” ผมว่าก่อนกวาดเศษข้าวที่เกลื่อนโต๊ะลงจานข้าวขาหมู ซึ่งมันก็มีเศษของถั่วฝักยาวค้างเติ่งอยู่บนหนังหมู แม้จะเสียดาย แต่ผมต้องจำใจทิ้ง

   “กูกับไอ้จอมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อยู่ในท้อง โตมาด้วยกัน เคยจีบสาวคนเดียวกัน แต่ไอ้มันมาชอบกูเนี่ยคงจะไม่ใช่”

   “แล้วทำไมพี่เขาไม่ชอบผมอ่ะ”

   “อยากรู้ก็ถามมันดู มันเดินมาละ” ว่าแล้วก็ก้มกินข้าวของตัวเองต่อ

   พี่ไม่คิดจะรับผิดชอบข้าวในจานผมเลยเหรอ อย่างไปซื้อให้ใหม่แบบนี้

   ผมทำหน้ามุ้ยมองคนตรงหน้ากินข้าวอย่างอร่อย ก่อนจะรู้สึกหนักที่คอเมื่อมีแขนยาวๆ มาวางพาด แต่พอพาดได้ไม่ถึงสองวินาที น้ำแข็งปริศนาก็ปลิวโดนหัวเจ้าของแขนเรียบร้อย

   “ไอ้เชี่ยโช มึงนี่โคตรสกปรก” แม้ปากจะว่าให้เขา แต่มันก็ยื่นมือไปหยิบน้ำเก็กฮวยที่ถูกมือจุ่มลงไปหยิบน้ำแข็งมากินไปหลายอึก

   “พี่ก็สะอาดอะเนอะ” พี่โชหัวเราะทันทีที่ผมพูดจบ แล้วผมก็ได้ค้อนใหญ่ๆ จากผู้ชายคนข้างๆ “เอ่อพี่จอม ตอนพี่รู้ว่าแฟนพี่มีคนอื่น พี่ทำไงอ่ะ”
 
   “ไอ้เชี่ย มึงจะพูดขึ้นมาอีกทำไม” โวยวายลั่นโรงอาหารทันทีก่อนพี่แกจะนั่งลงตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องราวให้ฟัง “กูรู้มาสักพักละ แต่อยากลองใจ”

   “ลองใจยังไง”

   “ก็ไม่ไปหาที่ห้องหนึ่งอาทิตย์ พอกูแอบไปหาก็เต็มๆ ขนของเข้ามาอยู่ แล้วมีหน้ามาบอกว่ากูเป็นแค่พี่ชาย พี่ชายเชี่ยอะไรได้กันทุกวัน ลีลายังไงกูจำได้หมด ผู้หญิงแมร่งไว้ใจไม่ได้ บลาๆๆ” แล้วพี่แกก็สาธยายซะจนผมเริ่มเครียดตาม ชีวิตช่างน่ารันทดยิ่งนัก

   ผมตบบ่าพี่แกเพื่อปลอบใจ ผู้หญิงดีๆ ยังมีอีกมาก แค่คนที่เจอมันไม่ดีพอสำหรับเราต่างหาก พี่จอมฟูมฟายไปแปบเดียวก็ปรับหน้าเป็นปกติ แล้วเอาจานข้าวขาหมูผมไปกิน เอ่อ ข้าวในนั้นมันเป็นเศษที่กระจายเต็มโต๊ะเมื่อกี้ แถมออกมาจากปากพี่โชด้วย



   เมื่อกินอิ่ม พี่โชกับพี่จอมก็พากันเดินกลับ ส่วนผมแยกตัวไปห้องน้ำครับ พอทำธุระเสร็จก็เดินมาหาร้านขายของชำเล็กๆ ข้างตึก ขนมปังร้านนี้น่ากินมาก ดูเหมือนจะทำวันต่อวัน ผมเลยเลือกซื้อมาซะเยอะเผื่อหิว แต่พอจะหยิบพายสับปะรดกลับมีอีกมือหนึ่งมาจับด้วย

   เดจาวูจริงๆ คนที่จับอันเดียวกับผมก็พี่คนที่ผมเพิ่งเดินชนในโรงอาหาร

   “อ่าวน้องอีกแล้ว ใจตรงกันตลอดนะ” พูดแบบนี้ผมนี่จี๊ดเลย

   “ขนาดแฟนยังคนเดียวกันเลย” ผมพำพึมกับตัวเองเบาๆ ก่อนฉีกยิ้มให้กับเพื่อนของพี่โช “แฟนพี่ชอบพายสับปะรดเหรอครับ”

   “เปล่า พี่ชอบกินเอง ร้านนี้เขาทำอร่อย” พี่ซันแกก็หน้าตาดีนะครับ หล่อแบบสาวๆ ชอบ ดูเข้ากับคนได้ง่าย เป็นมิตร มิน่า บลูถึงชอบ

   “อ๋อเหรอครับ” ผมโคตรใจกว้างที่กำลังยืนคุยกับแฟนอีกคนของแฟนผมด้วยใบหน้าระรื่นแบบนี้

   “แต่ถ้าน้องชอบพี่ก็ยกให้ พี่กินเบื่อละ” แม้จะเป็นคำพูดเกี่ยวกับขนม แต่ผมโคตรไม่ชอบเลยว่ะ

   “ไม่เป็นไรพี่ ผมเอาอันอื่นก็ได้” ผมบอกพร้อมมือก็หยิบเอาขนมปังหมูหยองแทน จ่ายเงินเสร็จผมก็ยิ้มส่งท้ายแล้วรีบเดินมาใต้ตึกในตอนเช้า

    คือเอาจริงๆ นะ ผมเริ่มกลัวแล้วว่ะ ภายใต้ใบหน้าที่เป็นมิตรนั่นมันดูน่ากลัวกว่าคนที่ทำหน้านิ่งออกมาตรงๆ แบบพี่โชนั่นยังดูน่ากลัวน้อยกว่าอีก

   ผมเดินกลับมาที่โต๊ะก็ไม่เห็นพี่โช มีแต่พี่จอมที่นอนเหยียดยาวอยู่ที่เก้าอี้ไม้

   “มองหาผัวมึงเหรอ นู้น เอางานไปส่ง เดี๋ยวก็กลับมา” ไอ้พี่จอมมันคงว่างปากมากสินะ แล้วมาพูดผัวเผออะไร

   “ผัวอะไรพี่ ไม่มีอะ”

   ไอ้พี่จอมมันรีบลุกขึ้นทำตาโตมองผมครับ คือเหมือนมันตกใจมากหลังจากได้ยินคำตอบ

   “นี่มึงยังไม่โดนอีกเหรอวะ ไม่อยากจะเชื่อ กับไอ้โชเนี่ยนะ” ดูเหมือนพี่แกจะพูดอยู่คนเดียว แต่ดังจนผมได้ยินไปด้วย

   “มันน่าแปลกใจเหรอพี่”

   “เออดิ่ ปกติไอ้โชมันไม่เคยปล่อยให้เหยื่อรอดข้ามคืนหรอก เด็กของมันแทบทุกรายต้องเสร็จตั้งแต่คืนแรกแล้ว”

   นี่ผมควรจะดีใจหรือเสียใจดีครับเนี่ย

   “เพื่อนพี่แมร่งชั่วว่ะ ฟันแล้วทะ...ทิ้ง” หนาวยันไขสันหลังเลยครับ เมื่อคนที่ถูกเผายืนนิ่งอยู่ด้านหลังผม แล้วทำไมไอ้พี่จอมมันไม่ส่งซิกเลยวะ แล้วดูพี่แกล้มตัวลงนอนเล่มเกมส์เหมือนเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมก็เลยได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับคนข้างหลังแทน “พี่มานานแล้วเหรอ”

   “มาตั้งแต่มึงด่ากูว่าชั่วนั่นแหละ”

   “ผมก็พูดไปตามเนื้อผ้า แหะๆ”

   พี่โชมันไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยครับ เอาแต่เก็บของบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปร่ำลาเพื่อนที่นอนสันหลังยาวอยู่ ส่วนผมก็ได้แต่เดินตามหลังต้อยๆ ก็ไม่ได้หวังให้ไปส่งหรอกนะครับ ขอแค่ติดรถไปลงหอเพื่อนแถวๆ นี้พอ

        แต่ผิดคาดครับ พอผมสอดตัวเข้าไปนั่ง มันก็ออกรถแล้วขับอย่างไว จะรีบไปไหนครับคุณพี่ เหยียบเบาๆ ก็ได้ ผมนี่นั่งเกร็งตูดไปหมด กลัวว่ามันจะเสยท้ายคันข้างหน้า ยิ่งภายในรถแอร์ถูกปรับให้เย็นเฉียบจนทำให้คิดว่า ถ้าตายศพคงแข็งไว

   รถเคลื่อนไปก่อนเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หลายรอบมากจนในที่สุดก็มาจอดนิ่งสนิทที่ลานจอดรถคอนโดฯ หรูกลางใจเมือง ตึกสูงเงยมองจนคอแทบเคล็ด ราคาก็คงจะทำให้ขนหน้าแข้งผมร่วงหมดแน่ แสดงว่าไอ้พี่โชมันรวยจริง แม้จะเห็นรถมันที่โคตรหรูก็เถอะ แต่สมัยนี้เช่ามาก็มีออกเยอะแยะ

   ผมรีบเดินตามคนขายาวที่แมร่งจะรีบเดินไปหาเห็ดบนห้องหรือไง พอเข้าลิฟท์ได้ก็แทบจะไม่รอผมที่วิ่งกระหืดกระหอบ ใจร้ายเหี้ยๆ

   แต่ทำไมผมต้องตามมันมาด้วย ผมควรกลับห้องไม่ใช่เหรอ
 
   ได้แต่คิดล่ะครับ เพราะตอนนี้ผมมายืนอยู่หน้าห้องมันแล้ว ความสูงก็ใช้ได้ทีเดียวแม้ไม่ใช่ชั้นบนสุด ขืนอยู่บนสุดของตึกลมพัดมาก็คงมีเอนกันบ้าง คิดแล้วก็เสียว ผมเลยเลือกที่จะมองไปรอบๆ ชั้นนี้แทน ชั้นนี้น่าจะมีห้องอยู่ราวๆ สิบห้อง ดูพื้นที่ระหว่างห้องมันน่าจะกว้างขวางเชียวล่ะ ถ้าผมมีเงินเก็บก็คิดจะซื้อไว้สักห้องเหมือนกันนะ

   ผมมัวแต่มองอย่างอื่นจนเพลิน รู้ตัวอีกทีแขนก็ถูกกระชากให้เข้าไปในห้อง แล้วมันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เพราะเอาแต่จูบบดปากผมอย่างเดียว มันไม่ได้รู้สึกดีนะครับ แต่มันรู้สึกเจ็บ ไอ้เชี่ยกัดปากกู เดี๋ยวต้องเป็นร้อนในแน่ๆ ผมถูกมันกอดรัดฟัดและเหวี่ยงมานอนบนโซฟาโดยที่ร่างมันล้มทับตัวผมอยู่ มือใหญ่ก็พยายามจับมือผมที่ดิ้นสุดแรง แถมตอนนี้ปากมันละจากปากผมมากัดที่คอแทน เจ็บเชี่ย

   “อะ ไอ้เหี้ย มึงทำอะไรวะ” ผมด่าทั้งที่ยังหอบแฮก ตอนนี้ความสุภาพได้หายไปแล้ว เพราะไอ้เชี่ยนี่ไม่สมควรได้...มันจะปล้ำผมแล้วครับ!

   ไอ้เหี้ยพี่โชมันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาจ้องตาผม แม้ในนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนนั่นจะมีผมอยู่ แต่ผมเลือกที่จะหลบ ไม่อยากมองหน้ามันสักนิด

   “ก็มึงบอกว่ากูชั่ว ทั้งที่กูยังไม่เคยทำอะไรมึง นี่ไง กูก็กำลังจะชั่วให้มึงได้เห็น” พูดจบมันก็ก้มหน้าไซร้ซอกคอที่ผมพยายามบิดตัวหนี แต่แรงควายแบบมันมีเหรอที่ผมจะสู้ได้ แล้วจู่ๆ มันก็หยุด ก่อนจะจับหน้าผมให้หันไปสบตา หัวแม่มือก็ปาดหางตาของผมที่มีน้ำมาคลอเตรียมไหล

   “ปล่อยกู” ผมจ้องหน้ามัน

   “กูไม่ได้ชั่วขนาดไล่ปล้ำคนอื่น” นี่ขนาดไม่ชั่วนะ “แต่กูอยากให้มึงรู้ไว้ ว่ามึงพิเศษกว่าคนอื่น” นัยน์ตากับน้ำเสียงมันดูอบอุ่นและจริงใจจนผมต้องเบือนหน้าหนี แต่มันก็จับหน้าผมให้หันกลับไปจ้องเหมือนเดิม “กลอย กูไม่เคยบังคับมึงถ้ามึงยังไม่เต็มใจ กูรู้ว่ามึงลำบากใจ แต่กูอยากให้มึงเปิดใจมองกูบ้าง”

   “นี่ขนาดไม่บังคับยังขนาดนี้ แล้วถ้าบังคับพี่จะทำขนาดไหนวะ ผมเป็นผู้ชาย เรื่องแบบนี้มันยอมรับกันง่ายๆ ได้ซะทีไหน ไหนจะแม่ผมอีก พ่อแม่พี่อีก พี่ไม่กลัวพวกท่านเสียใจเหรอ”

   “พ่อแม่กูเขาตามใจกู”

   “แล้วถ้ารู้ว่าพี่จะคบผู้ชาย ไม่มีทายาทให้ เขาจะยังตามใจพี่อยู่เหรอเปล่า”

   “พี่สาวกูมีทายาทให้แล้ว”

   ผมละปวดหัวกับมันจริงๆ ครับ ไอ้พี่โชมันก้มมาจูบปากผมเบาๆ ก่อนมันจะกอดผมทั้งตัว แต่ก็แน่นไปจนผมต้องตีเข้าไปที่ไหล่มันหนักๆ จนมันคลายกอดให้นิดนึง

   “กูไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องเป็นมึง รู้แค่ว่า ต้องมึงเท่านั้น กูจะรอวันที่มึงเต็มใจเป็นของกู”

   ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นหรือเปล่า เพราะตอนนี้หัวใจของผมมันเจ็บจี๊ดทุกครั้งที่เห็นหน้าคนรักที่กำลังจะกลายเป็นแฟนเก่า เธอหลอกลวงผมมาหลายปีจนผมเริ่มกลัว ผมกลัวที่จะต้องเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ ยิ่งเป็นแบบผู้ชายด้วยกันแล้วผมยิ่งกลัว
 
   “ถ้าวันนั้นมาถึงแล้วผมจะบอก”

   “ขอบใจ กูจะรอวันนั้น”

   อาจเพราะความเหนื่อย เพลีย ง่วง หรืออะไรต่อมิอะไรทำให้ผมเผลอหลับในอ้อมกอดอุ่นๆ นั่นจนตะวันลับลาขอบฟ้า ต่อให้พรุ่งนี้ผมต้องเจอเรื่องแย่ๆ พอไม่นานมันก็กลับมามืดแล้วก็สว่างวนเวียนแบบนี้ไปทุกวัน แล้วไม่นานผมคงจะเปิดใจรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ได้...สักวัน



......... TBC


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2016 11:11:56 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
พี่โชตกหลุมรักกลอยง่ายจังค่ะ น้องกลอยก็ตามใจพี่มันจัง

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ไม่ใช่ว่าไอ้พี่ซันก็รู้เหรอว่าบลูคบซ้อน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เข้าใจกลอย คนมันรักมาตั้งหลายปี สู้ๆ รีบๆตัดใจและจัดการกับนังบลู เกลียดนังนี่มาก :z3: :ling1:

พี่ซันไม่ใช่ว่าชอบกลอยหรอกนะ?? หรือรู้ว่าแฟนตัวเองคบซ้อน

พี่โชเท่นะ แต่อะไรทำให้ตกหลุมรักเร็วขนาดนี้นี่ ///รอๆตอนต่อไปค้า  :L2: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
งืออออน่ารักจังโว้ยยยย5555555

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อยากให้ซันกับกลอยรวมหัวกันจัดการนาังบลูชะมัดอ่ะ อยากรู้จังว่าจะทำหน้ายังไง :m16: :m16:

ออฟไลน์ Sweettemp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ชอบอ่ะ อ่านเพลินดี ไปๆมาๆอ้าวจบแล้วหรอ? 5555+ รอตอนใหม่ค่ะ ชอบพี่โชโฉดแบบมีสติ  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
กลอย ทำสงครามประสาทกับบลู ท่าจะยาวนานกว่าจะเห็นผล :hao7:
บลู เก็บกลอยไว้เพื่ออะไร ? เพราะดูซัน เป็นตัวจริงของนาง
อยากเห็นตอน กลอย บลู ซัน ปะทะกัน :ling1: :ling1: :ling1:
พี่โช ทำตัวกับกลอย ต่างจากคนอื่น  :mew1:
แสดงว่าพี่โช เห็นกลอยเป็นคนพิเศษจริงๆ :katai2-1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
มาต่ออีกเยอะๆ นะค่ะ รอๆ ค่ะ ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด