Boyfriendเพื่อนรัก...รักเพื่อน♡ : : Ep.17#By : Cencer[01/07/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Boyfriendเพื่อนรัก...รักเพื่อน♡ : : Ep.17#By : Cencer[01/07/60]  (อ่าน 16870 ครั้ง)

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




=================================================================


Boyfriendเพื่อนรัก...รักเพื่อน
[/size]



Intro..



Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน

 

“ข้าว..”

 

“...”

 

“ข้าวเว้ย”

 

“...”

 

“ไอ้เชี้ยข้าว!”

 

“อ่ะ อะไรๆ ตกใจหมดเลย”

 

“เหม่อเชี้ยไรของมึงกูเรียกตั้งนาน...แล้วถ่ายรูปอะไรอยู่วะ กูเห็นมึงถ่ายมุมนี้นานแล้วนะ”

 

“ถ่ายไปทั่วแหละ”

 

“ทั่วไรวะ  กูเห็นมึงถ่ายอยู่มุมเดียว  ไหนๆเอามาดูสิ”

 

“ไม่เอาไม่ให้ดู”

 

“เอ๊ะ ไอ้นี่ เอามากูอยากจะรู้นักสนามบอลที่มึงถ่ายมันมีอะไรสวย”

 

“ยุ่ง!”

 

“อ้าวแล้วมึงจะไปไหน”

 

“ไปให้พ้นๆมึงไงไอฟาย”

 

 

 

“จะใช่น้ำเหนือหรือเปล่านะ” ร่างบางพรึมพรำกับตัวเองหลังจากที่เดินออกมาจากเพื่อนสนิท   เขาไม่แน่ใจว่าจะใช่กับคนที่เขารู้จักหรือเปล่า เพราะนี่ก็ผ่านมาหลายปีที่ไม่ได้ติดต่อคนๆนั้น “น้ำเหนือ”  เพื่อนสนิทในวัยเด็กของ “ข้าวหอม”    เขาเปิดดูรูปภาพที่ถ่ายบุคคลที่อยู่ในสนามฟุตบอลของมหา’ลัย  เขาเองก็ไม่มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นว่าจะเป็นคนๆเดียวกับที่คิด  ถึงแม้รูปร่างจะเปลี่ยนไปจากเดิมเพราะคงโตตามอายุ  แต่หน้าตา  ผิวพรรณ  ที่ดูโดดเด่นนั้นยังคงเหมือนเดิม  ถ้าหากว่าได้เข้าไปมองดูใกล้ๆกว่านี้อาจจะฟันธงได้ว่าใช่หรือไม่   

 

“อ่ะ .. โอ๊ย!”

 

“เดินระวังหน่อย” น้ำเสียงเรียบนิ่งนั้นทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่เดินชนเขา  แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตรงหน้าเป็นคนที่อยู่ในรูปที่เขาเป็นคนถ่ายมันเมื่อไม่นานมานี้   

 

“...”

 

“ลุกไหวมั้ย”

 

“อ่อ .. อืม”  พยักหน้ารับแล้วลุกขึ้นปัดฝุ่นตัวเอง

 

“กล้อง”

 

“อ่ะ ขอบคุณ” เขาไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า  เขาแค่ยื่นมือไปรับกล้องจากมืออีกคนเท่านั้น  แต่เขามั่นใจเต็มร้อยแล้วว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นคนที่เขาเฝ้าคอยคิดถึงมาตลอดหลายปีที่ไม่ได้พบ  ก่อนที่อีกคนจะเดินผ่านตัวเข้าไปเข้ากลับรั้งแขนไว้แล้วเอ่ยชื่ออีกคนออกมา

 

“นะ น้ำเหนือ”

 

“...” อีกคนแค่หันมามองสบตากับเขาเท่านั้นแต่ไม่ได้เอ่ยคำพูดใดออกมา   นัยน์ตาอีกคนดูเรียบนิ่ง  เย็นชา  ดูว่างเปล่า  ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ร่างหนาเลื่อนสายตามองมือที่จับแขนแล้วกลับมามองหน้าเขาเป็นเชิงบอกให้ปล่อย

 

“เอ่อ..คือ” เขาอ้ำๆอึ้งๆทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยอมปล่อยแขน

 

“ไม่ชอบ”

 

“อ่า..ขอโทษ” เขาได้แต่เอ่ยประโยคขอโทษอีกคนไป   เขาได้แต่คิดว่าตัวเองทักผิดคนหรือเปล่า

 

“อืม..” ว่าจบอีกคนก็เดินออกไป  เขายืนมองแผ่นหลังนั้นห่างออกไปเรื่อยๆจนลับสายตา   เขาไม่รู้จักผู้ชายคนเมื่อกี้เลยสักนิด  ผู้ชายที่มีสายตาเย็นชา  มองเขาเหมือนอากาศนั่นมันอะไร  สายตาที่มองตอนที่เขาเผลอจับแขนนั่นมันอะไร  มันดูน่ากลัว  จนเขารู้สึกอึดอัดและทำตัวไม่ถูก ลืมคำพูดที่จะถาม...

 

.

.

.

 

 

“น้ำเหนือ...นายจำฉันไม่ได้หรอ”

 

 

[/size]


TBC.


ฝากติดตามและติชมด้วยนะคะ  เราเอาอินโทรมาลงเล็กๆน้อยๆเน้อ
 :mew1: :mew3:

========================================
เพจแจ้งสำหรับอัพนิยายจิ้มเข้าไปในลิงค์ใต้ล่างนี้นะคะ :pig4:
https://web.facebook.com/CencerYaoi/?ref=aymt_homepage_panel
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-07-2017 14:50:59 โดย Cencer »

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
1

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


“เสียงกลองรบดังสนั่น   เหล่าชายฉกรรจ์ปกปักษ์ปฐพี   ยามรบเราเต็มที่  แม้ไม่มีช้างขี่ไล่จับตั๊กแตน   ตกดึกข้านั้นเปลี่ยวหนัก     คิดถึงยอดรักที่งามวิไล       ข้าต้องระบายทันใด ลุกขึ้นมาสาวววว     เอาดาบมาขัด ขัดขัด...แฮ่!”

 

 เสียงเพลงกองพันดังผ่านหน้าจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ในห้องปฎิบัติการวิทยุโทรทัศน์เหล่านิเทศ  ปี2 กำลังนั่งดูภาพยนตร์เรื่องพี่มาก..พระขโนง  ภาพยนตร์ดังของประเทศไทยที่ทำรายได้เป็นจำนวนมาก(เขาจ้างมาโฆษณา)

 

สวัสดีครับ  ผมชื่อ ข้าว  ไม่ใช่ข้าวจ้าว ข้าวเหนียว ข้าวสาลี ข้าวบาเล่ ข้าวบลาๆๆ แต่ผมชื่อ “ข้าวหอม  หิรัญธร    นิวัฒนกิจ”  ผมเรียนคณะนิเทศ  ปี2  มหาลัย... ผมเป็นคนต่างจังหวัดสอบชิงทุนได้  ทำให้ผมต้องระเห็จจากบ้านเกิดเข้ามาอยู่ในกรุงศรีวิไลแห่งนี้  ผมอยู่ที่นี่ได้สองปีกว่าแล้วครับ  ตั้งแต่ที่รู้ผลสอบว่าได้ทุน(บ้านผมพอมีพอกินนะครับไม่ได้จนมาก  พ่อกับแม่รับข้าราชกาลทั้งคู่) แต่ที่เลือกสอบทุนก็ช่วยประหยัดไปอีกแบบครับ  ลูกที่ดีไง  คิดได้  พ่อแม่ควรภูมิใจ ว๊ากกก!!!  ผมก็บอกอีพ่ออีแม่ว่าจะเข้ามาอยู่ในเมืองกรุงแห่งนี้  พ่อแม่ผมแกก็เป็นห่วงกลัวผมจะอยู่ไม่ได้  เพราะนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เดินทางมาเหยียบเมืองกรุงแห่งนี้  วะฮ่า ฮา ผมเป็นเด็กนอกนะครับ  นอกเมืองเนี้ย  ก๊ากกก  อะไรของกูฟ่ะ  ผมจะเล่าให้ฟังก็ได้  อยากฟังหรือไม่ผมไม่สนแต่ต้องฟังนะครับ ...  ช่วงแรกๆนะครับ  ผมลงจากรถทัวร์  แบกเป้ใบใหญ่หนึ่งใบ  กระเช้าผลไม้ที่อีแม่กลัวผมจะอดตายมาให้ผมเก็บไว้กินด้วย  กล่องลังเบียร์ใส่อาหารแห้งมาเผื่อๆอีกเยอะ  ที่อีพ่อแพ็คมาให้อีกจำนวนมากอัดกันอยู่ แหมม บ้านนอกเข้ากรุงครับ  ช่วยเข้าใจผมด้วย คนก็เยอะ  ทางก็ไม่รู้ครับ  เดินเตร่ไปเรื่อยๆจนเห็นแท็กซี่  สวรรค์ครับ... เพราะผมไม่รู้จักทาง  ผมรู้แค่ชื่อมหาลัยนี่แหละครับ  ผมบอกกับแท็กซี่ให้มาส่งที่มหาลัย  กว่าจะถึงมหาลัยปาไปเกือบเย็น  หมดเงินค่าแท็กซี่ไปหลายบาทเลยครับ ทีแรกไอ้เราก็คิดว่าเออเส้นทางมามหาลัยมันไกล  ที่ไหนได้โดนหลอก... ผมนี่ดิ้นเลย  ฮา คิดว่าเป็นเด็กนอก(เมือง)ใช่ไหมถึงหลอกกันได้  โถ่ววชีวิต  เทอมแรกผมพักอยู่หอในของมหาลัยครับ  พอเทอมสองก็ย้ายออกมา  เอ้อๆผมทำงานพิเศษระหว่างเรียนด้วยนะครับ  เป็นร้านนั่งชิวครับ  เจ้าของร้านใจดี  แถมหล่อบรรลัยเลยครับ   เงินก็โอเคดี เลี้ยงปากท้องผมในเมืองนี้ได้สบายๆเลย  ส่วนหอนั้นผมหารครึ่งกับเพื่อนสนิทของตัวเอง  สนิทกันตอนเข้าปี1  เรียนคณะวิศวะครับ  สงสัยละสิสนิทได้ไง  ก็ช่วงตอนปฐมนิเทศนี่แหละครับแถมได้พักหอห้องเดียวกันไม่สนิทก็บ้าแล้วววว   อีกอย่างบ้านนอกเหมือนกันเลยคุยกันได้ ฮ่าๆๆ  ทำไมผมแนะนำตัวเองยาวขนาดนี้ว่ะ  อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ  ถึงผมจะฝอยหนักไปหน่อย  น้ำลงน้ำลายกระเด็นใส่หน้าใครก็ประทานโทษด้วยนะครับ

 

 

“มึงว่าเราเอาเพลงนี้ไปเล่นกับน้องปีหนึ่งดีป่ะว่ะ  กูอยากเห็นน้องสาว ฮ่าๆๆ”

 

“สาวน้อยสาวใหญ่ว่ะมึง”

 

“ระดับกูสาวน้อยสิว่ะ  วัยละอ่อนน่าเจี๊ยะ”

 

“ไอ้เวฟ  ทะลึ่ง”

 

“แหม  คุณข้าวครับมึงว่ากูทะลึ่ง  คุณมึงก็ไม่ต่างจากกูเล้ยยย” ไอ้เวฟจีบปากจีบปากคอพูด

 

“อะไรๆ กูทะลึ่งตรงไหน? เด่ะๆ” ผมเตรียมปาหนังสือใส่มัน

 

“อย่าๆ  กูเห็นมึงแอบดูหนังโป๊ใต้โต๊ะเวลาอาจารย์สอน”

 

“มึงก็นั่งดูกับกูเถอะ..”

 

“เออวะ  ตอนนั้นเล่นน้ำเดินกันเลยทีเดียว”

 

“กร้ากกก !!” ผมแทคมือกับไอ้เวฟ  เพื่อนสนิทในคณะอีกคน  วันๆพวกผมไม่ทำอะไรหรอกครับ สาระอะไรก็ไม่มี ขนาดเวลาเรียนยังใช้ทำเรื่องที่คุยกันไปเมื่อกี้เลยครับ  ผมไม่ได้หื่นอะไรขนาดนั้น ผมเป็นคนใสๆนะครับ  อาจจะขุ่นบ้างเป็นบางที ฮิย๊า !

 

ป๊าบ !

 

“จะไม่คิดอะไร18+ซักวันไม่ได้เลยนะพวกมึง” ไอ้เพียวมันตบหัวผมกับไอ้เวฟ

 

“แหม..คุณเพียวริคุครับ  คุณมึงดีตายละ  วันๆกูเห็นมึงลากผู้หญิงไปแดกในน้ำประจำ  เอดส์แดกยังครับมึง  กูจะได้พาไปบำบัด” ไอ้เวฟได้ทีสวนกลับ  ไอ้เวฟปากมันไวครับ  ใครว่ามันมันว่ากลับคืน   คนอะไรจ้อได้ไม่หยุด  พูดมากกก(ก้อไก่ล้านตัวเลย)

 

“กูชื่อเพียวเฉยๆ อย่าเสือกเติมให้ครับไอ้ฮอนด้าเวฟ” ไอ้เพียวก็ใช่ย่อยตอกกลับไป  ผมชอบชื่อมันนะ ฮอนด้าเวฟ ฮ่าๆๆ ไว้ใช่ขับขี่ไปนู้นไปนี่  บ้านผมก็มีนะคันหนึ่ง

 

“เรียกชื่อแบบนี้อยากจะลองมาขี่ดูไหมจ้ะน้องเพียวริคุคิ”

 

“กูไม่นิยมขี่ฮอนด้าเวฟว่ะ  อย่างกูต้องบีเอ็มเว้ย”

 

“...”  ผมนั่งมองเพื่อนสนิทของตัวเองคุยกัน  แรกๆก็เหมือจะคุยเรื่องเดียวกันนะครับ  หลังๆนี่มันคนละเรื่องกันเลย  แต่มันก็สามารถคุยกันได้รู้เรื่อง  กูยอมครับ..

 

“บีเอ็มหรอ  เออๆๆกูมีแนะนำ...ไอ้เอ็มๆไอ้เพียวริคุมันบอกว่าอยากขี่มึงว่ะ”

 

“ส้นตีน!” ไอ้เพียวยกตีนถีบไอ้เวฟที่หัวเราะสนุกสนาน  ส่วนไอ้เอ็มหันหน้ามามองแบบ งง  ก่อนที่มันจะสับไพ่แจกกันต่อ ผมเองก็หัวเราะไปกับไอ้เวฟไม่ต่างกัน  บีเอ็มที่ไอ้เพียวหมายถึงรถ  แต่ไอ้เวฟมันกลับไปคิดถึงคนชื่อเอ็ม  คือมันคนละความหมายกันเว้ย  แต่มันก็เชื่อมโยงกันได้  ยอมครับยอม  สาระไม่มีเล้ยคณะกูเนี้ย

 

“ฮ่าๆๆๆ”

 

“ขำไรไอ้ข้าวบูด” นั่น..กูโดน

 

“ข้าวหอมเว้ย  ข้าวหอม”

 

“หอมหรอ?” แล้วมันก็มาดมฟุดๆฟิดเหมือนหมา

 

“...”

 

“กูว่าเหม็นว่ะ  บูดหลายปีซะด้วย  อาบน้ำบ้างป่ะ” หน๊อย ! บังอาจมาว่าข้าไม่อาบน้ำ ฮึ่ยๆ  แบบนี้ต้องเอาซักดอก

 

“ทีมึงละ  เมาอย่างกับหมาเต้นรูดเสากลางสี่แยกไฟแดง  อย่าให้กูต้องแฉ”

 

“ไหนหลักฐาน”

 

“หลักฐานพี่มีนะน้องเพียวริคุ..จะเอาไหมจ้ะ” ผมเปิดวิดีโอในมือถือของผมให้มันดู  ผมชอบถ่ายแบล็กเมลเพื่อนเวลาแดกเหล้าเมาอย่างกับหมา หรือ นอนท่าประหลาดๆ ยื่นให้มันดู

 

“ไอ้ข้าวมึง!”

 

“อยากให้สาวๆที่หลงใหลในรูปลักษณ์หล่อปาน ณเดช มาให้เห็นสภาพนี้จริ๊งจริงงง”  ผมดัดเสียงสูงออกทางกระแดะหน่อยพูดกับมัน

 

“ลองมึงทำสิ  กูจะเอาเรื่องที่มึง..” ผมปิดปากมันไว้ก่อนที่ไอ้เวฟจะได้ยิน

 

“อะไรๆ  ทำไมมึงต้องปิดปากมันด้วยไอ้ข้าว”ไอ้เวฟโวยเมื่อเห็นปฎิกิริยาของผม  ไอ้เพียวแค่ยักคิ้วกวนๆส่งให้ผม  วันนั้นไม่น่าเมาเลยกู  ความลับพรั่งพรูออกหมดเลย  ดีหน่อยที่ไอ้เวฟมันเมาจนหลับ ผมเลยนั่งอยู่กับไอ้เพียวแค่สองคน  สาบานว่าจะไม่แดกเหล้าจนเล่าเรื่องอะไรที่น่าอายออกไปให้มันรู้อีกเด็ดขาดด อ๊ากกกกก   เครียดอยากแดกเหล้าเว้ย ! เอ้ย  ไม่ใช่ๆ

 

“ไม่เสือกได้มั้ยครับคุณเวฟ” ไอ้เพียวมันว่า

 

“เรียนนิเทศเว้ย  ถ้าไม่เสือกจะได้ข่าวไปเขียนขายไหมครับคุณเพื่อน”

 

“แต่เรื่องของเพื่อนมึงไปขายมันชั่วนะไอ้คุณเพื่อน”

 

“เอ้อ..เรื่องไอ้ข้าวไม่น่าจะขายได้ตังหรอกว่ะ ฮ่าๆๆ”

 

“เออกูว่าจริง  แต่เรื่องนี้ไม่แน่นะ หึๆ”

 

“ไอ้เพียว!!!” ผมแหกปากลั่นห้องเลยครับ  อย่าแม้แต่จะคิดนะมึง  เพราะเป็นมันผมถึงไม่ห่วงเรื่องจะรั่วไหลไปไหน  แต่ถ้าเป็นไอ้เวฟปากไวนี่ไม่รับประกันใครจะกล้าบอกละว่าผม...ชอบน้ำเหนือ

 

 

 

“เสียงกลองรบดังสนั่น   เหล่าชายฉกรรจ์ปกปักษ์ปฐพี   ยามรบเราเต็มที่  แม้ไม่มีช้างขี่ไล่จับตั๊กแตน   ตกดึกข้านั้นเปลี่ยวหนัก     คิดถึงยอดรักที่งามวิไล       ข้าต้องระบายทันใด ลุกขึ้นมาสาวววว     เอาดาบมาขัด ขัดขัด...แฮ่!”

 

แล้วมันก็เป็นดั่งที่หวัง  ไอ้เวฟมันสั่งให้รุ่นน้องปีหนึ่งลุกขึ้นมาสาวกัน  ผู้ชายสาวมันส์มากครับ  สาวจนผมกลัวว่าเอวมันจะพัง ฮ่าๆๆ ส่วนน้องผู้หญิงก็รู้ๆกันอยู่ สาวแบบเอียงอาย  ผมเข้าใจ  ผู้หญิงต้องรักษาภาพลักษณ์ตัวเองไว้  แต่มีคนหนึ่งเว้ยแม่งสาวได้ใจผมมาก  ตัวสูงๆ  หน้าสวยนะครับ  แต่ท่าว่าจะเป็นสาวห้าวหน่อย

 

“แม่งน้องคนนั้นสาวได้ใจกูว่ะ” ผมชี้บอกให้ไอ้เพียวดู  มันเงยหน้าจากโทรศัพท์ขึ้นมาดูตามที่บอก  ไอ้นี่ก็แชทแต่กับสาวๆไม่สนกิจกรรมที่รับผิดชอบเลย

 

“กูเพิ่งรู้ว่าสเปคมึงเป็นแบบนี้” มันพูดไม่มองหน้าผมแต่กำลังมองน้องผู้หญิงที่ผมชี้บอกอยู่

 

“กูไม่ได้ชอบน้องเขาเว้ย  มึงนี่”

 

“อ่าหะ  กูก็ลืมไปมึงชอบไอ้เดือนคณะวิศวะ  ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งนี่เนอะ อืมๆ” มันพยักหน้าคิด แล้วหันมายิ้มกวนให้ผม  ผมเบะปากใส่มัน  หลุดปากไปแค่ครั้งเดียวโดนล้อทั้งชาติ...

 

“หุบปากมึงไปเลย ฮึ่ย” ผมนั่งกอดอกพองแก้มไม่พอใจที่โดนล้อ มันนะหรอขำจนแทบตกเก้าอี้

 

“ฮ่าๆ ถามจริงนะไอ้ข้าว  มึงไปเจอมันตอนไหนว่ะ  ตึกเรากับวิศวะห่างกันเป็นโยคเลยนะ”

 

“สนามบอล”

 

“สนามบอล?”

 

“ก็ไม่เชิงสนามบอลหรอก”

 

“อะไรของมึงวะจะสนามบอลหรือไม่กันแน่”มันเกาหัว งงๆ กับคำพูดผม

 

“เจอกันยังไงก็ช่างเหอะนา” ผมตอบส่งๆไป

 

“อ้าวใครจะไปคิดว่าผู้ชายอย่างมึงจะไปหลงเสน่ห์ไอ้เจ้าชายน้ำแข็งแห่งคณะวิศวะนั่นได้   นี่ถ้ามึงไม่เมาวันนั้นกูคงไม่รู้นะ ฮ่าๆๆๆ  เป็นไงเจอกันครั้งแรก  หลงเลยสิ  เขาเรียกว่าไรนะ  เอ้  รักแรกพบไรงี้ป่ะมึง ฮ่า”

 

“ก็คงจะเป็นแบบนั้นมั้ง  มึงว่ามันเป็นคนยังไงว่ะ”  ผมถามความเห็นจากไอ้เพียว   มีแค่มันเท่านั้นที่ผมจะสามารถพูดเรื่องน้ำเหนือกับมันได้  จริงสิ..ผมไม่ได้เล่าให้มันฟังว่าผมเคยรู้จักน้ำเหนือมาก่อนนะครับ  เอ้ แล้วผมเล่าเรื่องน้ำเหนือให้ฟังรึยัง?  ถ้ายังผมจะเล่าให้ฟังนะครับ

 

เรื่องมีอยู่ว่า...น้ำเหนือถูกย้ายมาเรียนในโรงเรียนในจังหวัดที่ผมอยู่  และผมก็ได้เจอกับน้ำเหนือที่นั่น ตอนที่น้ำเหนือย้ายเข้ามาอยู่ในช่วงม.3 เทอม2  เราเรียนห้องเดียวกัน นั่งโต๊ะเรียนใกล้กัน หรือแม้แต่งานกลุ่มเรามักจะได้อยู่ด้วยกันเสมอ  ทำให้ผมสนิทกับน้ำเหนือที่สุด  ผมมักไปเล่นบ้านน้ำเหนือเพราะมันมีเครื่องเล่นเกมส์และน้ำเหนือเองก็ชอบมานอนเล่นบ้านผมอยู่บ่อยๆ   น้ำเหนือเป็นคนร่าเริง  ยิ้มง่าย  ผมชอบเวลาน้ำเหนือยิ้มมันดูสดใส  เวลาผมเห็นรอยยิ้มนั่นทำให้ผมหวั่นไหวและตกหลุมรักในที่สุด  แต่...ตอนนี้ทำไมมันช่างแตกต่าง  ผู้ชายที่ผมพบในวันนั้น  ผมจำได้ว่าคือน้ำเหนือ  แต่เขาเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน  นิ่ง  เย็นชา  จนไม่สามารถเข้าถึงได้เหมือนมีกำแพงมากั้นขวางเอาไว้  ขนาดผมที่คิดว่าเขาน่าจะจำได้กลับถูกลืม  คงเพราะห่างกันถึง3ปีที่เราไม่ได้เจอกัน  ครอบครัวของน้ำเหนือย้ายมาอยู่ในเมืองหลวงในช่วงที่เขาอยู่ม.5  เขาย้ายมาที่นี่โดยที่ผมเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าเพราะอะไร  เขาย้ายมาแบบไม่บอกลาผมเลย  ผมมารู้อีกทีตอนกลับจากโรงเรียน  แม่เล่าให้ฟังว่าครอบครัวน้ำเหนือย้ายบ้าน  ช่วงนั้นน้ำเหนือเองก็ไม่ค่อยได้ไปโรงเรียน คงจะเคลียร์เรื่องการย้ายบ้านนั่นแหละ  แต่ผมโกรธที่เขาไม่บอกลาผมสักคำ  ผมไม่มีที่อยู่  เบอร์โทรศัพท์ที่จะติดต่อได้ก็ไม่มี  นี่ก็ผ่านมา3ปีแล้ว  ผมได้กลับมาเจอน้ำเหนืออีกครั้ง  แต่ครั้งนี้...เขาไม่ใช่น้ำเหนือที่ผมรู้จักซักนิดเลย

 

“จากที่กูได้ยินปากต่อปากมานะ อืม..”

 

“...” ผมกำลังตั้งใจฟังจากปากเพื่อนสนิทของตัวเอง  ผมเพิ่งจะเคยเจอน้ำเหนือครั้งแรกในมหาลัย  ผมไม่คิดว่าจะได้พบเขาด้วยซ้ำ  เมืองหลวงตั้งใหญ่นี่นา มหาลัยก็มาก  โลกมันกลมจริงๆนะว่าไหม

 

“เย็นชา นิ่ง เงียบ เข้าถึงยาก  แต่ก็แอบเสือผู้หญิงอยู่ไม่น้อยนะมึง  เห็นว่ามีควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ากันซักราย  คบใครไม่ถึงอาทิตย์ด้วย  กูว่ามันก็แอบร้ายอยู่นะเว้ย  ถึงกูจะไม่เคยเจอมันตรงๆก็เถอะ  แต่เล่นควงหญิงไม่ซ้ำหน้าแบบนั้นกูว่าเสือซ้อนเล็บเลยว่ะ” ไอ้เพียวมันยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ จากที่มันได้ยินมา

 

“...” ผมได้แต่ฟังมันเงียบๆ

 

“กูว่าเพราะนิสัยแบบนี้ของมันละมั้งถึงทำให้หญิงชอบ  ขนาดตัวผู้ทั้งแท่งแบบมึงยังไปหลงมันได้เลย  ฮ่าๆๆๆ”

 

“ไหงวนกลับมาที่กูอีกแล้วห้ะ” ผมผลักหัวมันที่เอาแต่หัวเราะเยาะผมไปที

 

“ก็จริง  เห็นมึงเคยชอบใครบ้างละ  แฟนซักคนก็ไม่มี  ปี2แล้วนะเว้ย  ยังไม่มีแฟนอย่างเขาระวังจะขึ้นคานนะครับน้องข้าว..บูด”

 

“พ่อแม่ส่งมาให้เรียน  ไม่ใช่ให้มามีแฟน  ไอ้ลูกชั่ว!”

 

“สีสันชีวิตในรั้วมหาลัยน่ามึง  ไม่มีอะไรน่าสนใจก็ไม่น่าเรียนหรอก  จริงมั้ยว่ะ”  ไอ้เลววว  อยากจะตะโกนคำนี้ใส่มันจริงๆ  พ่อแม่ส่งมาเรียนนะครับ จะรีบมีแฟนไปทำไม  จริงม่ะ?

 

“เหอะ  ถ้ามีสีสันแบบปกติไม่ว่าหรอก  แต่มึงเล่นมั่วไปหมดจนสับรางไม่ทันเดือดร้อนกูกับไอ้เวฟนี่ไม่ไหวจริงๆว่ะ”  ผมส่ายหน้าไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง  มีครั้งหนึ่งครับเกือบไม่ทัน  ตึกคณะเนี้ยแหละครับ แม่นางบัญชีและแม่นางบริหาร  คิดไงไม่รู้ครับมาหาไอ้เพียวถึงที่ทั้งๆที่ปกติไอ้เพียวจะเป็นคนไปหาเอง  แต่วันนั้นมาไอ้เพียวนั่งเรียนไม่ติดตูดเลยครับ  มันได้แต่กดโทรศัพท์บอกสาวบัญชีให้กลับไปก่อนเดี๋ยวมันไปหา  แม่นางบอกไม่เป็นไรรอได้  เหงื่อซึมเลยครับ  ส่วนสาวอีกคนมานั่งรอมันอยู่หน้าห้องเลยครับ  มันก็บอกสาวบริหารให้กลับไปก่อนไม่ต่างกัน  แต่แม่นางไม่กลับไปเช่นกัน  เพื่อนผมนี่แทบฆ่าตัวตายตรงนั้น  มันหันมามองพวกผมบอกให้ช่วยมันหน่อย  ไอ้พวกผมก็เป็นเพื่อนที่ดีไงครับ ก็เออช่วยๆ  ไอ้เวฟรับอาสาไปบอกน้องบัญชีให้กลับไปก่อนเพราะไอ้เพียวต้องไปทำงานกลุ่มกับพวกผม  แม่สาวบัญชีก็ถามทำไมไม่มาบอกเอง  ไอ้เวฟมันไวครับบอกไปว่าไอ้เพียวต้องไปซื้อของทำงาน  แหลได้แบบเนียนจริงๆ  ส่วนไอ้เพียวมันก็ต้องไปกับสาวบริหาร  เพราะแม่นางไม่ลุกไปไหนเลยนั่งรอไอ้เพียวจนจบคลาสนับถือความพยายามของแม่นางจริงๆ

 

“นั่นแหละที่มันคือสีสัน  มึงไม่เข้าใจหรอก ไม่ไหวๆ” มันทำหน้าเอื้อมๆ  ส่ายหัวไปมา ก้มแชทกับโทรศัพท์ต่อ

 

“เอ้า!!น้องสาวให้มันแรงๆหน่อย   เห็นเพื่อนสาวไหมครับ” เสียงไอ้เวฟยังคงสั่งน้องสาวต่อเนื่อง  ดูท่ามันจะชอบเพลงนี้ซะจริงๆ เล่นไม่หยุด

 

“อ่ะ ! แม่มึงร่วง!!” ผมสะดุ้งเมื่อมีใครไม่รู้มากอดคอผมที่กำลังนั่งดูน้องๆทำกิจกรรมอย่างเพลินๆ

 

“เก็บแม่มึงด้วยไอ้ข้าว  กูละสงส๊ารสงสารแม่ที่ร่วงไป คงเจ็บน่าดูเลย”

 

“ไอ้ฮาร์ท!!!”  กวนๆแบบนี้มีมันคนเดียวชอบเขาด้านหลังผมเสมอ อะแหนะๆคิดไรกันครับ  ชอบแกล้งผมจากข้างหลังอย่าคิดไปไกลละ   เสื้อช็อปวิศวะมาอยู่ตรงนี้ใครๆก็สนใจ  เพราะวิศวะขึ้นชื่อพวกหน้าตาดีเยอะ หนึ่งในนั้นก็มีไอ้ฮาร์ทด้วยนะครับมันเคยเอาผลโพลที่โหวตมาให้ผมดู  มันติด1ใน3ของคนน่าตาดี  สงสัยละสิว่าไอ้ฮาร์ทที่ผมพูดถึงเป็นใคร  ก็เพื่อนสนิทอีกคนที่เรียนวิศวะเด็กนอกเมืองเหมือนกับผมนี่ไง  ฮ่าๆๆ  ผมจะไม่ยอมเป็นเด็กบ้านนอกอยู่คนเดียวแน่นอน

 

“ทำไมต้องตะโกนวะไอ้ข้าว” มันเอามืออุดหูตัวเอง

 

“ก็ใครให้มึงเล่นมาข้างหลังแบบนี้วะ  กูตกใจหมด”

 

“ขวัญอ่อนจริ๊งจริงเลยแม่คูณณณ”

 

“แม่คุณพ่อง”

 

“ไงมึง  ไมวันนี้มาแถวนี้ได้ว่ะ” ไอ้เพียวทักทายไอ้ฮาร์ท  ไอ้ฮาร์ท ไอ้เพียว ไอ้เวฟมันสนิทกันครับ  อาจจะเพราะพวกนี่มันไปหอที่ผมอาศัยอยู่กับไอ้ฮาร์ทบ่อย  คุยกันถูกคอเลยทำให้สนิทกันง่าย  อย่างว่าละครับสันดานเดียวกัน

 

“กะจะมาส่องเด็กนิเทศซักหน่อยว่ะ  ได้ข่าวว่ามีสาวๆน่ารักเยอะเลย”

 

“ไปได้ข่าวมาจากไหนวะ?” ผมถามมัน

 

“ไอ้เวฟมันบอกมา  เออแล้วเชี้ยเวฟละ”

 

“นู้น  อยู่นู้นสอนน้องสาวอยู่  กูเห็นมันสาวจนเอวจะพังแล้วนั่น” ผมบุ้ยปากไปทางเวฟที่กำลังมันกับการสาว  อะไรจะติดใจขนาดนั้น

 

“แล้วคณะมึงไม่มีให้ดูหรือไง ถึงได้แจ้นมาถึงนี่” ไอ้เพียวมันถาม

 

“ก็ไม่มีสิวะ  มึงไปดูเองสิ แม่งสาวๆสวยๆซักคนจะโผล่มาให้กูได้ชื่นหัวใจก็ไม่มี  มีแต่บึกบึน  ผู้ชายอย่าให้พูดถึงเลยแม่งมาอย่างกะฝูงมด เยอะชิบหาย  ถึงต้องมาส่องที่คณะมึงนี่ไง”  มันทำหน้าสยองเมื่อพูดถึงคณะตัวเอง

 

“เอาน่า  แต่คณะมึงก็เป็นแหล่งรวมสาวๆดีนี่หว่า  ผู้หญิงแม่งก็แห่ไปถวายตัวให้พวกมึงถึงที่เลยนิ”

 

“ถึงงั้นก็เถอะ..”

 

“พวกไม่เคยพอ..โอ๊ย!” ผมพูดแทรกขึ้นมาทำให้ไอ้ฮาร์ทมันส่งมะเงกมาเขกหัวผม  ผมผิดอะไรพูดเรื่องจริงก็โดนทำร้าย  ไอ้นิสัยไม่ดี

 

“ปากมึงนี่เงียบๆไปเลย  ไม่มีใครถามก็ไม่หาว่าเป็นใบ้หรอกไอ้ข้าว”

 

“๑+๓ถ*&8-%” ผมขมุบขมิบปากด่าทอมันเบาๆ

 

“ตบปากให้แตกดีไหมเนี้ย” ไอ้ฮาร์ทมันง้างมือจะตบปากผม  ผมยู่ปากใส่มัน  มันจึงบีบปากผม

 

“อื้ออ” ผมตีมือมันที่บีบปากผมไว้

 

“กูละอยากจะเอามีดมาตัดปากมึงจริงๆ”

 

“โหดไปป่าวว่ะ  มึงจะทำร้ายสัตว์สงวนได้ลงคอหรอไอ้ฮาร์ท”  ไอ้เพียว ไอ้เพื่อนเหี้ย ไม่ช่วยกูยังจะว่าอีก  ไอ้นี่ก็ไม่ปล่อยปากผมสักที  ผมเลยจัดการฟาดหน้ามันไปทีหนึ่ง

 

“โอ๊ยย ไอ้เหี้ยข้าวตบหน้ากูทำไม”ไอ้ฮาร์ทโวย

 

“เปล๊าน๊า มือมันไปเอ๊งงงงง” ผมพูดเสียงสูงทำหน้าซื่อๆใส่มัน  คือกูไม่ได้ทำไรเลย

 

“เดี๋ยวมึงจะโดนกระทืบไอ้ข้าว” มันชี้หน้าคาดโทษผม  ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

 

“อ้าวไอ้ฮาร์ทมาไงว่ะมึง” ไอ้เวฟเดินเข้ามาหาพวกผม

 

“หายตัวมาว่ะ” ไอ้นี่ก็กวนจริง

 

“เจ๋งดีว่ะ ว่างๆก็สอนกูหายตัวบ้างละกัน  เวลารถไฟจะชนกันกูจะได้หนีทันไม่ต้องเดือดร้อนให้เพื่อนช่วยเหมือนใครบางคน” ประโยคแรกพูดกับไอ้ฮาร์ทแต่ประโยคหลังพูดให้ไอ้เพียวได้ยิน

 

“ไอ้ฟาย”

 

“ฮ่าๆๆๆ”

 

“เงียบเลยนะพวกมึง”

 

“มึงก็อย่าไปแกล้งมันไอ้เวฟ  มันน่าสงสารออก สับรางไม่ทัน ฮ่าๆๆ”

 

“ไอ้ห่าฮาร์ท  เดี๋ยวเหอะมึง” ไอ้เพียวเริ่มพาล  ฮ่าๆๆ

 

“พอเลยพวกมึง  ตีกันได้ตลอด”  ผมต้องห้ามทัพไว้ก่อน

 

“เออแล้วมึงไม่ไปทำงานหรอ  ใกล้ถึงเวลาแล้วนิ” ไอ้เวฟถามผมก็ลืมไปว่ามีงานต้องทำ

 

“จริงสิ  งั้นกูไปก่อนนะ” ผมบอกลาพวกมัน

 

“ไอ้ข้าวเดี๋ยวกูไปส่ง” ไอ้ฮาร์ทอาสา

 

“ไม่เป็นไร  เดี๋ยวกูไปเองได้ มึงไปทำธุระมึงเถอะ   ไปละ”

 

“ไม่เอาน่ายังไงก็ทางผ่านร้านก่อนไปถึงหออยู่แล้ว  แวะส่งมึงแปบเดียวจะเป็นไร” ไอ้ฮาร์ทมันลากแขนผมไปขึ้นรถที่จอดอยู่หน้าตึกใกล้ๆ

 

“แล้วมึงไม่มีธุระไปไหนต่อหรือไง” ผมถามมันเมื่อรับหมวกกันน็อกจากมันมาสวม  ไอ้ฮาร์ทมันขับบิ๊กไบค์ครับ

 

“ไม่ว่ะ  วันนี้ขี้เกียจ เอ้า! ขึ้นได้แล้วเดี๋ยวไปสายก็โดนด่าหรอก”

 

“เออๆๆ”

 

“เกาะพี่แน่นๆนะน้องเดี๋ยวตกมาศพไม่สวย”

 

“ปากเสียนะมึง  เออๆๆ”ผมจึงเกาะเอวมันไว้   มันสตาร์ทเครื่องก่อนที่จะบึ่งรถออกไป...

 

 

“แตงค์เว้ย”ผมยื่นหมวกกันน็อกส่งให้ไอ้ฮาร์ทเมื่อมาถึงร้านที่ผมทำงานพิเศษอยู่



“อืมๆ จะให้มารับก็โทรไปบอกละกัน  วันนี้กูว่าง”

 
“อืม”ผมพยักหน้าส่งไปก่อนจะเดินเข้าร้าน  ร้านที่ผมทำงานพิเศษเป็นร้านกาแฟนั่งชิลครับ  ผมทำงานที่นี่พอๆกับที่อยู่ในกรุงเทพเลย  เพราะพี่เจ้าของร้านใจดี  เป็นกันเอง  อีกอย่างเงินเดือนก็ดีด้วย  แต่ผมจะทำงานในช่วงเย็นทุกวันหลังเลิกเรียนและ วันหยุดเสาร์ ร้านปิดทุกวันอาทิตย์ครับ  เป็นงานที่ผมคิดว่ามันสบายสุดๆแล้ว

 
“สวัสดีครับพี่บาส” ผมทักทายพี่บาสที่กำลังตรวจเช็คบัญชีรายได้ของร้านอยู่ พี่บาสเป็นเจ้าของร้านครับ  ใจดีมากก  พี่บาสพยักหน้ายิ้มรับคำทักทายผม

 
“มาช้านะข้าว”

 
“ก็ผมติดรับน้องนะพี่  ไม่หักเงินผมนะเว้ย ฮ่าๆ”  ผมเข้าไปเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของทางร้านออกมาก็ยังเห็นพี่บาสอยู่ที่เดิม

 
“พี่เข้าใจ  ปี2แล้วนิเนอะ” พี่บาสพูดกับผมทั้งๆที่ยังก้มดุบัญชีอยู่


“ว่าแต่ไมวันนี้พี่เข้าร้านได้ละ” พี่บาสแกมีธุรกิจที่ทำต่อจากครอบครัวอยู่ครับ  เป็นบริษัทนำเข้าเครื่องยนต์  แต่ร้านกาแฟนี่เป็นสิ่งที่พี่แกฝัน  เพราะพี่แกอยากเป็นบาริสต้า  จึงเปิดก่อนที่จะไปรับช่วงต่อจากครอบครัว  นานถึงเข้าร้านที

 
“ก็ต้องมาตรวจดูความเรียบร้อยในร้านหน่อยสิ  ไม่งั้นจะเห็นคนมาทำงานสายรึไง” พี่บาสมันเหล่มองผม

 
“ง่ะ  พี่ก็ไหนบอกเข้าใจผมไง”

 
“ฮ่าๆๆเออ ไปทำงานได้แล้วไป อย่าอู้ๆ”พี่มันผลักหลังผมเบาๆ ให้ไปทำงาน

 
“ยินดีต้อนรับครับ..” เสียงทักทายลูกค้าที่ผมต้องทำเป็นประจำ  ผมหยิบกระดาษ  ปากกา  และเมนูเดินไปรับออเดอร์แขกที่พึงเข้ามาใหม่

 
“ขออนุญาตวางเมนูนะครับ” ผมวางเมนูไว้บนโต๊ะเพื่อให้คุณลุกค้าดูรายการและสั่ง  ผมเตรียมจดเมนูที่ลูกค้าจะสั่งแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินชื่อของคนที่ผมไม่เจอตั้งแต่วันนั้น

 
“เหนือคะ  เนยอยากกินเค้กส้ม”

 
“อืม” เสียงคานรับเหมือนไม่ได้สนใจที่หญิงสาวพูดเลย  แค่ตอบส่งๆไป  ผมเลือบมองมันเล็กน้อย ผู้หญิงที่มากับมันสวยมาก  กอดแขนมันไม่ปล่อย  แม้ว่าจะดูเมนูอยู่ก็ตาม

 
“ไหนบอกว่าไม่ชอบให้ใครถูกตัวไง เหอะๆ” ผมพูดขมุบขมิบกับตัวเองเบาๆ  แต่เหมือนอีกคนจะได้ยิน  ผมคิดว่างั้นเพราะมันหันมามองผม  ผมก็ทำไม่รู้ไม่ชี้

 
“สรุปจะรับอะไรดีครับ”ผมถาม

 
“ฉันเอาน้ำส้มกับเค้กส้มแล้วเหนือละคะ” หญิงสาวพูดออดอ้อนเสียงหวาน

 
“อะไรก็ได้” เสียงนิ่งๆตอบกลับหญิงสาวไปเหมือนรำคาญ

 
“งั้นเอากาแฟอีกแก้วจ้ะ”

 
“สรุปรายการที่สั่งนะครับ  กาแฟ น้ำส้มและเค้กส้มนะครับ..ขออนุญาตเก็บเมนูนะครับ”ผมที่กำลังจะหยิบเมนูมาถือไว้กลับต้องเงยหน้ามองคนที่ดึงมันอยู่

 
“...”

 
“ครับ?”ผมถาม

 
“เปล่า”  ผม งง กับมันมากเหมือนจะถามอะไรแต่ก็ไม่และพอถามก็บอกเปล่า ผมดึงเมนูกลับมาโค้งหัวให้เป็นมารยาทอย่างหนึ่งครับ แล้วเดินออกมา

 
“อะ พี่ออเดอร์โต๊ะ12” ผมยื่นรายการให้พี่บาสที่ทำหน้าที่อยู่ส่วนหน้าเคาเตอร์  ผมมันรับไปแล้วส่งต่อให้อีกคนทำแทน

 
“โดนลูกค้าลวนลามหรอ” พี่มันพูดติดตลก

 
“เปล่าพี่  ไม่ใช่” ผมบอกไป

 
“เอ้า แล้วเมื่อกี้เป็นไรละ”

 
“ก็ไม่ได้เป็นไรหรอกครับ”

 
“แน่ใจ?”

 
“ก็เหมือนมันจะถามอะไรแต่ก็ไม่”ผมไหวไหล่

 
“พูดถึงลูกค้าไม่เพราะเลย”

 
“ผมว่าผมพูดเพราะออกนะพี่ ฮ่าๆๆ”

 
“หรอ  ไอ้เด็กหยาบคาย” พี่บาสโยกหัวผมเล่นเหมือนปกติที่ชอบทำ  พี่มันก็แกล้งว่าผมแบบนี้ละครับ


 “ฮ่าๆๆ”


“ไปทำงานได้แล้วไป..”


“ครับๆ”  ผมนำเครื่องดื่ม เค้ก มาเสริฟที่โต๊ะของน้ำเหนือ ผมวางเค้กเป็นสิ่งสุดท้ายแล้วก้มหัวเล็กน้อย มารยาทครับ เตรียมเดินออกมา

 
“เดี๋ยว” เสียงทุ้มนิ่งๆสะกดให้ผมหยุดเดิน ผมหันกลับไปมอง


 “ครับ ต้องการอะไรเพิ่มหรอครับ”

 
 “เราเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า” ผมยิ้ม..

 
“ไม่ครับ..ไม่เคย”

 

 ครั้งนั้นจะนับว่าเคยรู้จักกันมั้ยหรือเปล่า ผมไม่รู้ ตราบใดที่น้ำเหนือยังจำผมไม่ได้ ก็เท่ากับว่าเราไม่เคยรู้จักกันหรอก

 

 

 

 


TBC.


ตอนแรกก็เรื่อยๆนะค่ะ  ติชมกันได้ สนุกรึไม่จะได้ปรับปรุงค่ะ :-[
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2016 18:39:19 โดย Cencer »

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอค่าา

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ไม่ใช่น้ำเหนือจำได้แต่แอ๊บใส่เปล่า
คนเป็นเพื่อนสนิทกันน่าจะจำบุคลิกกันได้บ้างนะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อืม.....

คาดว่าน้ำเหนือไม่น่าแกล้งลืม

เพราะอะไรหนอ?

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

2

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


“อีเย็น..” หืม ใครอีเย็น  นี่มันเสียงไอ้เวฟปากปีจอนิ  ผมหันไปยังเสียงเรียกชื่ออีเย็น

 
“...” กระพริบตาปริบๆ


“เหตุไฉนเจ้ามิยอมรับสายข้า” ยังครับยังไม่หยุด  มันไปดูละครย้อนยุคตั้งแต่สมัยไหนมาวะนั่น


“...”


“ยัง  ยังคงเงียบ  เจ้าไม่มีปากหรือไรอีเย็น” มันชี้นิ้วทำท่าดัดจริตชี้มาทางผม ผม? อีเย็น? คือมึงงง


“ผีเข้า?” ผมถาม


“ปากดีนัก  เช่นนี้ข้าคงต้องลงโทษเจ้าด้วยหวายเสียแล้ว” คือ..ผีเข้ามันแน่ๆ คนอะไรวะพูดเองเออเอง  กู งง


“ยาหมดแดกรึไง  พาไปโรงบาลเอาป่ะ”


“เอ่ะอีนี่  ปากเจ้าดีจริงๆ  ไอ้เอ็มเอานังนี่ไปโบยห้าสิบที”


“ขอครับนายท่าน” โฮ้ยยย  ปวดประสาทแต่เช้าเลย  ไอ้เอ็มก็อะไรไปเล่นกับมันอีก 


“เข้ามาสิโดนตีนกูยัดปากแน่” ผมยกตีนขึ้นขวางเอ็มที่เดินเข้ามาหาผม  แม่งบ้า


“ไอ้ข้าว  ให้ความร่วมมือกับกูหน่อยไม่ได้” ร่วมมือเล่นอะไรแบบนี้หรอ หึ ไม่เอาอ่ะ


“กูไม่บ้าแบบไอ้เอ็มเว้ย”


“ถ่อวววคุณเพื่อนน”


“เดี๋ยวกูโบยด้วยตีนไอ้เวฟ   แล้วไอ้เพียวหายหัวไปไหน”


“จะรู้ไหม  กูก็เพิ่งมาถึง  คงส่งเด็กมันมั้ง” ไอ้เวฟตอบพร้อมกับหยิบสมุด ชีท ในกระเป๋า ขึ้นวางบนโต๊ะ


“บอกมันเพลาๆบ้างเหอะ  เอดส์จะแดกแล้วกูละเป็นห่วง”


“บอกมันเองโลดดด”


“เซไฮฮัลโหลสาวๆที่น่ารัก  สัสดีไอ้เวฟ ไอ้ข้าว” ไอ้เพียวเดินส่งยิ้มพิมพ์ใจส่งให้สาวๆในห้อง  แล้วก็หันมาทักทายคำสุภาพกับพวกผม  จะเรียกสุภาพก็ไม่เชิง


“มึงดิสัสไอ้เพียว” ไอ้เวฟครับ


“แหมคุณเพื่อนกูทักมึงอย่างสุภาพเว้ย..ไอ้ข้าวเหยิบดิกูจะนั่ง”  อ้าวมาแย่งที่กูเฉย  สันดานจริงๆ


“ที่อื่นไม่นั่งวะ  มาแย่งกูไม อยากมีเรื่อง?”


“ตัวก็แค่นี้ยังจะมาท้ากูนะไอ้ข้าวเหยิบไป เร็วๆ” ไอ้ฟาย ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดี  ผมได้แต่ฮึดฮัด สุดท้ายก็ยอมเหยิบให้มันนั่งที่ผม  ผมหรอ?


“ไอ้เวฟเหยิบดิ  เร็วๆ  อย่าให้มีน้ำโห” ผมก็แย่งที่ไอ้เวฟดิ ฮ่าๆๆ

 
“พวกมึงนี่แม่ง” แต่สุดท้ายมันก็ยอมเหยิบครับ    พอคุยกันจนหอมปากหอมคอ อาจารย์วิชาก็เข้าสอน  วันนี้พวกผมมีเรียนแค่เช้าเท่านั้น  บ่ายหรอครับกะจะหาที่สถิต  แล้วตอนเย็นก็เหมือนเดิม  รับน้องครับ  มหาลัยผมมีมาตราการห้ามรับน้องรุนแรง  พวกผมจึงจัดเบาๆแต่เน้นหนักๆในบางส่วนให้หน่อย  น้องจะได้กลัว ฮ่าๆๆ  ระหว่างที่นั่งเรียน

 

ครืด ครืด

 
“เที่ยงนี้แดกไรดีวะพวกมึง” ไอ้เพียว


“กินเตี๋ยวเว้ย  อยากกินเตี๋ยวไก่” ไอ้เวฟ


“ไม่เอา  กูอยากแดกส้มตำไปนอกมอกัน” ไอ้เพียว


“ไม่  กูขี้เกียจ  แดกในมอเนี้ยแหละ” ไอ้เวฟ


“แต่กูหิวส้มตำ” ไอ้เพียว


“เตี๋ยวไก่” ไอ้เวฟ


“ส้มตำ!”ไอ้เพียว

 
“เตี๋ยวไก่!” ไอ้เวฟ

 
“ไอ้หำ เรียน!” ผม

 
ผมเห็นพวกมันเถียงกันในแชทกลุ่ม   ผมจึงห้ามมัน เวลาเรียนยังจะอุตสามานั่งถกเถียงกันเรื่องของกิน  อีกอย่างนั่งใกล้กันแค่เนี้ย  มีแค่ผมคั่นกลางเอง  มันจะหันมาคุยกันไม่ได้เลยรึไง  ก้มหน้าแชทอย่างเดียว    ไอ้พวกสังคมก้มหน้าเอ้ย

“F*u”ไอ้เวฟ


“ฮ่าๆๆๆ”ไอ้เพียว


“ฟายยยย”  ผมทำได้แค่ด่ามันเท่านี้  ฮึ่ย  ด่ากูมาได้ บักหำนิ  -_-

 

 
“เลิกคลาสคะ” เย้ ! ในใจครับ  เลิกแล้ว  ง่วงก็ง่วง อาจารย์ก็บ่นอะไรให้ผมฟังไม่รู้   ผมเก็บชีท สมุดเก็บใส่กระเป๋า  เตรียมไปกินข้าวเที่ยง  ไม่รู้ว่าสองตัวนั้นมันตกลงกันได้ยังว่าจะกินอะไร


“สรุปได้ยังว่าจะแดกอะไรครับคุณเพื่อน” ผมหันไปถามไอ้เวฟกับไอ้เพียว  มันหันมามองทำหน้าคิดแล้วตอบพร้อมกันว่า


“เตี๋ยวไก่!” ไอ้เพียว


“ส้มตำ!” ไอ้เวฟ


“- -!” ผม    รู้สึกเหมือนกันไหมครับว่ามันสลับคำพูดกันหรือเปล่า เพลียกับเพื่อนที่ไม่เต็มจริ๊งจริงงงง


“งั้นเรามาโหวตกัน” ไอ้เวฟมันบอก

 
“โหวตไร  กูหิวแล้วไม่เล่นกับพวกมึงหรอก” ผมบอกแล้วลุกออกจากโต๊ะเรียน  ให้โหวตกันไปเถอะสองคน  หิวจนไส้กิ้วแล้ว


“เดี๋ยวดิไอ้ข้าว มึงนี่ก็รีบร้อนเจรงงงง” ไอ้เวฟ


“ไอ้หำ มึงหยุดเลย  ดูเวลาด้วย” ผม


“เอาน่าๆ  ไงบ่ายก็ไม่มีเรียนออกไปกินข้างนอกดีกว่า  เตลิดไปดูหนังด้วย เคป่ะ” ไอ้เพียว


“เออไงก็ได้แต่ตอนนี้รีบไปเถอะวะ  กูหิวว”  ผมบอกพวกมัน พวกมันพยักหน้า โอเค     ผมจะสรุปให้เลยนะครับ  เราสามคนจะกินส้มตำ ตำส้มกันนั่นเอง  มันสองตัวเคลียร์กันได้แล้ว คือผมยังไงก็ได้ขอให้ของมันกินได้ ผมกินหมดครับ ฮ่าๆๆๆ


 

ณ ร้านส้มตำ

 

“รับอะไรดีครับ” พ่อค้าหนุ่มร่างกายกำยำ จากที่ผมมองอ่ะนะ  มารับออเดอร์ที่โต๊ะเรา  ร้านนี้เป็นร้านไม่เล็กไม่ใหญ่  ลูกค้าก็เยอะ แสดงว่าของเขาเด็ดจริงไรจริง   
 

“มาร้านส้มตำก็เอาส้มตำสิครับ  ถามแปลก” ไอ้เวฟปากมันนี่นา นี่ถ้าเขาเอาสากมาแปะหนามันนะจะซ้ำเติมพร้อมสมน้ำหน้าด้วยเลย


“ไอ้หำ  ปากมึงระวังโดนสากนะ” ผมว่า

“เอาตำไทย ตำเขมร ตำญี่ปุ่น ตำเกาหลี  ตำอเมริกา  ตำอังกฤษ ตำ..”จบจากไอ้เวฟก็เป็นไอ้เพียว  พวกมึงนี่จะเก็บปากไว้แดกเฉยๆๆไม่ได้หรือไงว่ะ


“ลองตำตีนดูไหมครับ  เดี๋ยวผมจัดให้” อ้าว  ซวยแล้ว  ผู้ชายที่รับออเดอร์ตอกกลับมา  พวกมันงี้เงียบกริบ ถ่อววพ่อคุณแม่คุณยายคุณตาคุณ  ไม่ใช่แหละ  ผมเลยต้องเป็นคนสั่งซะเองไม่งั้นจะได้ ตำตีน  จากเขามาแทน แฮ่ๆ


“เอาเป็นตำไทย  ตำปูปลาร้า ตำซั่ว  ข้าวเหนียวสาม ไก่ย่าง  แคปหมู  แล้วก็เป๊ปซี่ขวดใหญ่ครับ” ผมสั่งเสร็จสับเรียบร้อย  เขาก็เดินออกไป  ผมจึงหันมาสนใจหมาสองตัวที่ร่วมโต๊ะ
 

“เป็นไงละมึงเกือบได้แดกตีนแทนไหมละ” ไอ้เวฟว่า


“แหมมึงเป็นคนเริ่มเลย”ไอ้เพียว


“พอกันทั้งคู่แหละพวกมึงอ่ะ  กวนตีนชาวบ้านเขามากๆระวังจะได้ตายก่อนได้เมีย”


“มึงสิไอ้ข้าว  หญิงซักคนกูยังไม่เห็นมึงคบเลย  อยู่กันมาตั้งสองปีละ  คนก็เข้ามาจีบมึงเยอะนะ  ไมไม่เล่นด้วยวะ”


“กูไม่สันดานแบบพวกมึงหรอกเว้ย” ใครจะไปทำแบบพวกมันกัน   ควงไม่เลือกขนาดนั้น  ใครเข้ามาเอาหมด  คิดสิครับ


“โอ้ยไอ้เวฟมึงก็อย่าไปถามมันเลย  มันคงรอใครซักคนอยู่แหละมึง หึๆ” มันหันขวับไปจ้องเขม็งไอ้เพียวทันที  มึงจะขายกูใช่ไหมไอ้เพื่อนเวร


“ไอ้เพียวหุบปากมึงเลย” ผมกัดฟันพูด


“อ้าวไอ้ข้าว ไอ้เวฟ ไอ้เพียวววว...ริคุ”  เมื่อมีคนเรียกชื่อ พวกกระผมก็ทำการหันไปพร้อมกัน แท็น แท่น แทนนนน  ...  ช็อปวิศวะเต็มร้านเลยครับท่านผู้อ่านนน เสียงนั่นจะเป็นใครไปไม่ได้  ก็ไอ้ฮาร์ทหนุ่มหล่อ1ใน3ของมนุษย์น่าตาดีในคณะวิศวะสิครับผม


“อ้าวไอ้ขี้เหร่”ไอ้เวฟพูดไรไม่ดูตัวเองเลยจริงๆ 

 
“ไอ้เวฟปากมึงนี่ยังหมาเหมือนเดิม”


“พวกมึงพูดกันเหมือนแบบไม่เจอกันนานเนอะ” ผมว่า

 
“ใครจะไปเจอได้ทุกวันเหมือนมึง  เช้า เย็น ก็เจอหน้ากัน   ผัวเมียกันดีๆนี่เอง”


“นั่นปากหรอไอ้เพียว  เดี๋ยวกูฟาดด้วยตีน เหอะๆ”

 
“เมียรัก  เพื่อนแซวแค่นี้ทำไมต้องเขินรุนแรง” ไอ้ฮาร์ทมันเดินเข้ามากอดคอออเซาะผม   ไอ้นี่ก็บ้าจี้เล่นตามมัน

 
“ไอ้ฮาร์ทเพื่อนมึงหรอวะ” ผู้ชายในกลุ่มช็อปวิศวะคนหนึ่งโพล่งขึ้น ผมละสายตาจากการแกะแขนไอ้ฮาร์ทออกจากคอหันไปมอง 

 โว้วว วิศวะมันน่าตาดีทุกคนจริงๆหรอวะเนี้ย  สูง ขาว (มีเข้มบางคน) จมูกโด่งสัน (เกือบทิ่มตากู) ปากคล้ำนิดๆ ดูมีเสน่ห์ ชิบหาย  อ้าวแล้วไมกุบรรยายผู้ชายหล่อน่าตาดีวะเนี้ย    แต่ที่สะดุดตาผมที่สุดคงหนีไม่พ้นคนๆนั้น...น้ำเหนือ


“เออเพื่อนเรียนนิเทศ” ไอ้ฮาร์ทบอกกับกลุ่มมัน


“มาแดกส้มตำหรอ” ไอ้เพียวนี่ก็ถามแปลกๆ ร้านส้มตำเว้ย  คงมาแดกไอติม


“เออดิ  พวกมึงก็เหมือนกันหรอ”  ไอ้นี่ก็แปลกอีกคน  คงไม่มั้งนั่งอยู่ในร้านจะเป็นชั่วโมงละเนี้ย


“ไอ้ข้าว..” ไอ้เพียวมันเรียกผม  ผมหันไปเลิกคิ้วถามว่ามึงมีไร?  มันบุ้ยปากไปทางน้ำเหนือยืนอยู่ ผมกรอกตาไปมา


“กูเห็นแล้ว” ผมทำปากขมุบขมิบบอกมันไป  มันหัวเราะชอบใจที่ได้แซวผม  อย่า..อย่าให้ถึงตากู


“ขำไรของมึงไอ้เพียว” ไอ้เวฟผู้ซึ่งไม่รู้อะไรอยากเสือก

“ไม่มีไร  แค่ไอ้ข้าว..” มันพูดลากเสียงยาวๆ
 

“ไอ้ข้าวไรวะ” ไอ้ฮาร์ทก็เสือกอีกคน  ลองมึงพูดสิไอ้เพียวกูจะกระทืบมึงให้จมพื้นซีเมนเลย


“ไอ้ข้าวมันแคะขี้มูกแดกอ่ะ ฮ่าๆๆ”


“อี๊ไอ้ข้าว ไอ้ซกมก” กูยังอี๊เลยครับ  กูไปทำตอนไหน  ไอ้หอกหักเพียว  ผมถีบมันไปทีหนึ่ง


“กูไม่คิดเลยอยู่กินกันมาตั้งสองปีมึงมีนิสัยซกมกแบบนี้หรอว่ะไอ้ข้าว” ไอ้ฮาร์ททำหน้ายี๊เต็มที่  เฮ้ย นี่มึงเชื่อ?


“ใครเชื่อไอ้เพียวแม่งโคตรโง่อ่ะ”


“ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เพียวรู้สึกจะสนุกที่ได้แกล้งผม ฮึ่ย  !

 
“นั่งด้วยกันไหมว่ะ” ไอ้เวฟชวน


“มึงก็ให้มันนั่งแดกกับเพื่อนมันไปสิ  มาทำไมให้แออัดกัน” ผมว่า  อย่ามาเลยกูไม่อยากเจอน้ำเหนือตอนนี้


“ไอ้ข้าวนี่มันยังไง  อย่ามาเห็นแก่ตัว คนรู้จักกันต้องมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันนะ” น้ำหน้าอย่างมึงไม่น่าจะคิดได้นะไอ้เวฟ

 
“ก็ดีนะเว้ยข้าว  กินกันเยอะๆสนุกดีออก หึๆ” ไอ้เพียว  หน้ามึงชั่วร้ายมาก  ผมจ้องเขม็งมัน  เดาได้ไม่ยากว่ามันกำลังสนุก

 
“ก็ดีนะเว้ย .. เฮ้ยพวกมึงมานี่ๆ  ไอ้จิม ไอ้เหนือ ไอ้โดม” ไอ้ฮาร์ทเรียกเพื่อนมัน  พวกนั้นก็เดินเข้ามา  ผมมองพวกมันส่งยิ้มน้อยๆให้เป็นการทักทายและเป็นมิตรเมื่อพวกมันยิ้มมาให้  แต่กับน้ำเหนือ  ไม่เลย  แม้แต่ยิ้มยังไม่มี  ใบหน้านิ่งตลอดเวลา คือมึงโบกปูนซีเมนรึไงวะ

 
“ป้าครับที่สั่งไปเมื่อกี้  มาเสริฟโต๊ะนี้นะครับ” ไอ้ฮาร์ทมันตะโกนบอกแม่ค้า  แล้วมันก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างผม  อีข้างหนึ่งของผมเป็น  เป็น.. เฮ้ย  น้ำเหนือมานั่งตรงนี้ได้ไงว่ะ  มันต้องเป็นไอ้เพียวไม่ใช่หรอ


“หึๆ” เสียงหัวเราะอันน่ากลัวนี่มาจากคนนั่งเยื่องไปจากน้ำเหนือ  ไอ้เพียวมันสลับที่  ไอ้ชั่ววTT กูไม่ได้ต้องการแบบนี้เฟ้ย

“เอ่ออ คือ” ผมทำตัวไม่ถูกในทันที   น้ำเหนือแค่เหล่มองเท่านั้น  ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรกับผม  อึดอัดเว้ย  อะไรวะเนี้ย  ก็รู้ว่าน้ำเหนือเรียนคณะกับไอ้ฮาร์ทแต่ไม่คิดว่าจะเดินกลุ่มเดียวกัน  อีกอย่างผมเพิ่งเจอน้ำเหนือเมื่อวานตอนทำงานเอง  ฮืออ  อยากร้องไห้เป็นภาษาอังกฤษ(ร้องไงว่ะ) ผมยังจำคำพูดที่คุยกันได้เลย  ...  เราไม่เคยรู้จักกัน  แต่นาทีนี้คงจะได้รู้จักกันจริงๆแล้วละ  หวังว่าน้ำเหนือจะจำชื่อผมได้นะ  ถึงแม้หน้ามึงมันจะจำไม่ได้ก็ตาม...

 
“รู้สึกพวกมึงมาความหล่อกูหายหมด” ไอ้เวฟพูดขึ้น  ทำให้ในโต๊ะหัวเราะขำกับมุกของมัน มีเพียงบุคคลเดียวหน้านิ่งตลอดกาล  คือมึงมีหน้าเดียวรึไงว่ะ

 
“มองอะไร?”


“เปล๊านิ” ผมเสมองไปทางอื่นเมื่ออีกคนรู้ว่าผมมองน้ำเหนืออยู่


“หึ” มาหงมาหึอะไร  ผมหันกลับไปมองหน้าน้ำเหนืออีกครั้ง  กูมองแค่นี้ไม่ได้หรือไงว่ะ

 
“อะแฮ่ม.” เสียงกระแอมดังขึ้น  ผมหันไปมองคนนั่งถัดไปจากน้ำเหนือ  ไอ้เพียวนั่นเอง  มันแสยะยิ้มชั่วร้ายมาให้ผมด้วย


“ส้นตีนติดคอหรอครับคุณเพียวริคุ” ไอ้เวฟครับ

 
“จะติดคอมึงเนี้ยละเอาม่ะๆ”


“ไม่ตีกันสักครู่ไม่ได้เลยนะพวกมึงเนี้ย” เป็นไอ้ฮาร์ทที่ห้ามทัพไว้

 
“ฮ่าๆๆ  กูไม่คิดว่าไอ้ฮาร์ทจะรู้จักกับเด็กนิเทศด้วย” เพื่อนในกลุ่มไอ้ฮาร์ทพูดขึ้น


“ไมว่ะ  ไม่เห็นแปลกเลย คนเหมือนกัน” ไอ้เวฟ


“เปล่า  ก็คณะมึงกับคณะกูห่างกันเป็นโยค  กูก็แปลกใจรู้จักกันได้ไงเท่านั้น”

 
“อ่อง่ายๆที่กูสนิทกะไอ้ขี้เหร่เนี้ย  เพราะไอ้ข้าว”ไอ้เวฟ  พวกนั้นจึงหันมามองหน้าผม


“เมียไอ้ฮาร์ท?” ห้ะ! อะไร เหตุไฉนคิดว่ากูเป็นเมียไอ้ฮาร์ท บ้าล้าว บ้าแล้วว  ส่วนไอ้คนที่ถูกพูดถึงก็ขำคิกๆอยู่ข้างผม  แหม  สนุกๆ  ไอ้เพียวไอ้เวฟก็เช่นกัน  หน้าแมนๆแบบกูทำไมต้องไปตกเป็นเมียไอ้ฮาร์ทด้วย


“จะบ้าหรอ!!” ผมโพล่งขึ้น


“อย่าเขินดิเมีย  ไม่เอาไม่เหวี่ยง” เหวี่ยงพ่องมึงดิไอ้ฮาร์ท  เดี๋ยวปัดฟรีคิกใส่


“ขำๆๆ  พวกมึงหยุดขำเลยไอ้เพื่อนชั่ว” ผมพาลใส่ไอ้เพื่อนสองตัวที่ยังขำไม่หยุด  มันน่าตลกตรงไหนว่ะ


“เมียมึงหรอฮาร์ท” น้ำเสียงเนื่อยๆนิ่งๆพูดขึ้น  ทำให้คนทั้งโต๊ะหันไปมองธาตุอากาศ  ต้องใช้คำนี้ครับ เพราะแม่งเงียบสนิทชนิดไม่ได้ยินลมหายใจ  ไอ้ฮาร์ทมันแค่ไหวไหล่ก่อนตอบ


“คงงั้นมั้ง”

 
“ระวังแมงวันต้อม” น้ำเหนือพูดแล้วเหล่สายตามาทางผม   อะไรแมงวัน  กูไม่ใช่ขี้ไม่ต้องมาต้อม  แล้วไอ้เหยียดยิ้มนั้นมันคือไร

ว่ะ   


“ไม่มีหรอก  กูว่าแบบไอ้ข้าวไม่มีคนเอา ฮ่าๆๆ” ผมหันขวับไปมองไอ้ฮาร์ท  ดูถูกกูนะมึง


“หึ” แล้วอะไรของมึงอีก  หึอยู่นั่นละ

 
“แล้วมึงไม่คิดจะแนะนำตัวเองกันเลยรึไงว่ะ”  เออมึงพึ่งนึกได้หรอไอ้เวร  เพื่อนในกลุ่มไอ้ฮาร์ทพูดขึ้น

 
“เออวะ  กูชื่อจิม  ไอ้นี่..”คนชื่อจิมแนะนำตัวเองแล้วกำลังจะแนะนำเพื่อนแต่ก็ต้องเก็บปากไปเมื่อเพื่อนมันพูดเอง
 

“ชื่อกู กูพูดเองสัส  กูชื่อโดม ส่วนนั้น” โดมแนะนำตัวเสร็จก็ชี้นิ้วมาทาน้ำเหนือ

 
“น้ำเหนือ เรียกเหนือพอ” เออจบการแนะนำเด็กวิดวะไปแล้ว  เด็กนิเทศอย่างเราต้องเอาบ้าง

 
“กูมีนามว่า  พี่เวฟคนหล่อเพิ่มเติมเดี๋ยวบอกอีกที ฮ่าๆๆ”

 
“กูชื่อเพียว”ไอ้เพียวแนะนำตัวเองสั้นๆ  ต่อไปก็ผมแล้วสิ


“กูข้าว..หอม” ผมแนะนำตัวเองไปพรางเหล่มองคนข้างกายที่นั่งกดโทรศัพท์มือถือตัวเองอยู่  เหมือนว่าอีกคนจะชะงักไป  แต่แค่แปบเดียวเท่านั้น  ก็เป็นปกติเหมือนเดิม

 
“แล้วสรุปเป็นเมียไอ้ฮาร์ทจริงดิ”  ยัง ยังไม่หยุด

 
“เหอะ  ไม่อ่ะกูเลือก” ผมตอบจิม


“โอ้ววหน้าอย่างไอ้ฮาร์ทมีคนไม่เอาด้วยเว้ย ฮ่าๆๆ” โดมพูดขึ้น  พากันฮาอีกละ  พวกมึงนี่อารมณ์ดีกันจริง  แดกยาบ้ามาป่ะว่ะ

 
“เงียบปากไปเลยพวกมึง  เด่ะๆ”ไอ้ฮาร์ทว่า

 
“แค่อยู่หอเดียวกันเอง  พักอยู่ด้วยกัน  หารครึ่งอ่ะ” ผมอธิบายพวกมันก็เออออพยักหน้าเข้าใจๆ  ไม่นานส้มตำที่เราสั่งก็ได้และไม่ใช่แค่ของผมมันยังมีของกลุ่มวิดวะพวกนี้เพิ่มด้วย  เราก็กินกันเฮฮาไปเรื่อย  คุยนู้นนี่นั่น  สนิทกันเร็วอะไรจะปานนั่น  เพื่อนๆไอ้ฮาร์ท ทั้งจิมและโดม ฮามากๆ  พวกมันเล่าเรื่องที่เจอกันตอนปี1ให้ฟัง  ว่าพวกมันเจอและสนิทกันได้ยังไง  มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มันเขม็งน้ำเหนืออยู่ครั้งหนึ่ง  ด้วยใบหน้านิ่ง  ไม่แสดงอาการอะไร  จะสุข จะทุกข์ มันเลยเกือบเอาตีนไปโปะหน้า  ก็สมควรอยู่หรอก  ขนาดโดนพูดถึงขนาดนี้ยังหน้านิ่งอยู่เลย  ผมละอยากรู้สาเหตุนักทำไมน้ำเหนือที่ผมรู้จักถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้


“เออไอ้เหนือ” หืม  ไอ้เพียวจู่ๆก็โพล่งขึ้น


“อืม”  ไอ้นี่ก็คานรับแบบไม่เต็มใจ
 

“ได้ข่าวว่ามึงควงสาวไม่ซ้ำหน้านี่จริงป่ะ”  เอียงหูรอฟังเลยครับ  ไม่เสือกนะ  ไม่เลย...

 
“งั้นมั้ง”  ไอ้นี่ก็ตอบกำกวมจริง


“หรอ  แล้วมึงมีตัวจริง  แบบเป็นแฟนเลยอ่ะ  ไม่ใช่ควงเล่นๆนะ” ไอ้เพียวยังคงไม่หยุดถาม  รู้สึกน้ำเหนือมันคงรำคาญ เห็นกรอก

ตาก่อนตอบด้วย

 
“ไม่!” ชัดๆ  น้ำเหนือยังไม่มีตัวจริง  แอ่ววดิ้นโลดด  ใจผมเต้นตึกตักเลยครับ  มันรู้สึกโล่งใจที่น้ำเหนือยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนจริงๆ

 
“ยิ้มไรไอ้ข้าว  บ้าป่ะนั่งยิ้มคนเดียว” หุบยิ้มอัตโนมัติ  นี่กูยิ้มหรอเนี้ย  ผมหันไปมองคนที่ทักผม  ไอ้ฮาร์ทนั่นเอง

 
“เปล่าใครยิ้ม บ้า” ผมพูดเสียวแผ่วเสมองทางอื่น หลบตาไอ้ฮาร์ท แต่ไปป่ะเข้ากับสายตานิ่งๆ นั่นเต็มๆ  มันมองหน้าผมเฉยๆ

 
“มองไร”  ผมถาม

 
“หึ”  หึอีกแล้ว  ...  แล้วมันก็หันไปกินส้มตำต่อ  เออดีมาหึใส่กูคงรู้เรื่อง


“ไอ้ข้าว”  ผมทำหูทวนลมไม่ได้ยินไอ้เพียวเรียก  ไม่หันหรอก  หันไปมันก็จะแกล้งผมเรื่องน้ำเหนืออีก

 
“...” ไม่หันๆ กินๆ หิวๆ


“ข้าวหอม..”

 
“มันเรียกมึงอ่ะไอ้ข้าวนั่งใกล้กันแค่นี้  ไม่ได้ยินรึไง”

 
“เสือกนะมึงไอ้เวฟ”


“อ้าวไอ้นี่  เดี๋ยวกูจับข้าวเหนียวยัดปาก”

 
“กลัว” ผมทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ไอ้เวฟไป

 
“ไอ้ข้าว ไม่ได้ยินกูเรียกจริงอ่ะ  ไม่งั้นก็..”ไอ้เพียวมันเหล่สายตาไปทางน้ำเหนืออีกครั้ง  ไอ้นี่นิเอาจุดอ่อนกูมาล่ออีกละ


“หุบปากมึงเดี๋ยวนี้” ผมกัดฟันพูด

 
“เออข้าว”

 
“ห้ะ!?!” ผมหันไปตามเสียงเรียก  เป็นเสียงของโดมเพื่อนน้ำเหนือกับไอ้ฮาร์ท  เรียกกูไม


“พวกมึงเรียนนิเทศใช่ป่ะ” เออไอ้นี่ก็แปลกถามทั้งๆที่พึ่งรู้ไป

 
“ก็ใช่  ทำไม?” ผมถาม



“งั้นช่วงนี้พวกมึงว่างป่ะ  ช่วงเย็นๆ” ผมขมวดคิ้ว  พรางหันไปหาไอ้เพื่อนสองตัวอีกที

 
“ก็ถ้าไม่ติดรับน้องก็ว่าง  มีอะไร” ผมถามกลับ

 
“ถ้าพวกมึงว่างช่วยไปเก็บภาพกิจกรรมรับนองให้คณะกูหน่อย  แม่งไม่มีใครถ่ายรูปให้เลยว่ะ  ใช้ไอ้พวกนี่ก็ไม่ได้เรื่อง”

 
“เฮ้ยๆๆ  กูถ่ายได้นะเว้ย” ไอ้ฮาร์ทโวย

 
“ได้กะผีมึงสิ  แต่ละรูปไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง” จิมว่า

 
“ไอ้ข้าวมันสอนกูเองนะ  ทำไมจะไม่ได้” ใช่ครับผมเคยสอนมันถ่ายภาพจริง  เห็นมันบอกอยากถ่ายได้ก็เออสอนไป  สอนอยู่นาน

กว่ามันจะเข้าใจ



“สรุปจะให้พวกกูไปถ่ายภาพกิจกรรมให้?”ไอ้เวฟถาม จิมกับโดมพยักหน้า

 
“ถ้ากูรู้ว่าไอ้ฮาร์ทมีเพื่อนเรียนนิเทศ กูจะไม่ยอมให้มันถ่ายเองเลย”
 

“ดูถูกฝีมือกูจริงไอ้เพื่อนเวร  กูมือโปรเว้ย” ไอ้ฮาร์ทยังคงมั่นหน้า
 

“ก็ได้นะ  แต่ต้องมีค่าจ้างให้พวกกูนะเว้ย  ไม่ทำงานฟรี หึๆ” ไอ้เพียวบอก

 
“เพื่อนกันเขาทำให้ฟรีๆไม่ใช่หรอว่ะ” โดม

 
“สำหรับกูต่อให้เพื่อนกูก็ไม่เว้นเว้ย”  หน้าเลือดพอไหมละเพื่อนกู ฮ่าๆๆ
 

“งั้นจะไปทำให้ป่ะเนี้ย” จิม
 
“เออไปได้  กูกับไอ้ข้าวว่างอยู่แล้ว น้องก็ไม่ได้ดูไรมาก  เพราะไอ้เวฟมันต้องคุมน้อง”

“กูไม่ไปได้ป่ะ” ผมบอกกับไอ้เพียว

 
“ทำไม”มันถาม

 
“นั่นสิไอ้ข้าว  ช่วยพวกกูหน่อยนะๆ” ไอ้โดมเสริม

 
“กูไม่ว่างมึงก็รู้นะไอ้เพียวว่ากูต้องทำงาน”  ผมบอกตามจริง  อีกอย่างถ้าผมไปคณะวิศวะก็ต้องเจอน้ำเหนืออีก  ไอ้เพียวเองก็จ้องที่จะแซวผมอยู่เรื่อย

 
“มึงก็ไปแค่แปบเดียวไอ้ข้าว  ไปถ่ายแค่มุมสองมุมก็คอยไปทำงานก็ได้”  ไอ้เพียวยังคงพูดต่อ

 
“แต่ว่า..” ผมเหล่มองน้ำเหนือ  ไอ้เพียวมันแสยะยิ้มน้อยๆ

 
“หรือว่ากลัวใจ” อะ ไอ้ เพียว มึงงง ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่มันพูด

 
“อะไร ๆ  กลัวใจอะไร  ไอ้ข้าวมึงชอบใคร  นี่มึงมีแฟนแล้วไม่บอกกูหรอ”ไอ้ฮาร์ท

 
“จะบ้าหรอ  พอๆพูดไรไม่รู้เรื่อง” ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

 

“ไอ้เหนือไมมึงเงียบจังว่ะ”  เออเงี๊ยบเงียบ  สงสัยตายแล้ว

 

“อืม”  มีคานรับเล็กน้อย  ก็ก้มเล่นโทรศัพท์ต่อ  รู้สึกว่าจะแชทตลอดเลยนะเหมือนไอ้เพียวเลย  คุยไรหนักหนาว่ะ  ผมชะเง้อมองมันจะด่าผมไหมเนี้ย  ความเสือกมาเต็มครับ

 

“รู้ว่าสาวเยอะ  แต่คุยกับเพื่อนบ้างเหอะสัส  เพื่อนมึงนั่งนี่ สาวๆเก็บไว้ก่อนเว้ย” ไอ้จิมโวย

 

“เปล่าคุยกับแม่” แม่? อ่อคุณป้าสินะ  ผมจำได้ๆ  เวลาผมไปเล่นบ้านน้ำเหนือคุณป้ามักจะเรียกผมทานข้าวด้วยประจำ  ว่าแต่คุณป้าจะสบายดีป่าววะ อยากถามมันจัง  แต่น้ำเหนือมันจำผมไม่ได้เนี้ยสิ  น่าน้อยใจชะมัด

 
“กูก็คิดว่าคุยกับสาวในสต็อกมึง”

 
“ข้าวหอม” น้ำเหนือไม่ได้ตอบคำถามที่เพื่อนถาม  แต่กลับเรียกชื่อผมขึ้น ผมตกใจเล็กน้อยที่น้ำเหนือเรียกชื่อผม  ผมเลิกคิ้วสงสัย

 
“ว่า?”

 
“ข้าวหอม  หิรัญธร    นิวัฒนกิจ  นิเทศ ปี2 มหาลัย.. ลูกคุณป้าอำไพ คุณลุงศรัณ...” ผมมองอีกคนอึ้งๆ  ไม่ได้อึ้งที่มันพูดยาว  แต่อึ้งที่น้ำเหนือพูดชื่อจริง ชื่อเล่น  แม้แต่ชื่อพ่อแม่กูมาเต็มเลยครับ    จะ จำ ได้แล้วหรอว่ะ

 
“ระ รู้ชื่อกู พ่อแม่กูได้ไง”  ผมถามเสียงตะกุกตะกัก  มัน ยะ ยิ้ม เฮ้ย  ผมฝันไป  มันยิ้มแล้ว  ใบหน้าที่เคยนิ่งตอนนี้ยิ้มแล้ว ถึงจะยิ้มแค่มุมปากก็เถอะ


“จำได้สิ  เคยไปเล่นบ้านบ่อยๆ” ผมได้แต่พยักหน้า ยังอึ้งอยู่ครับ  เชื่อว่าคนในโต๊ะก็อึ้งไม่ต่างจากกู  น้ำเหนือจำกูได้แล้ววววว โอ้วเย้ กระโดโลดเต้นกันไปสิ  ใจผมเต้นตึกตักจนแทบจะระเบิด  อย่างน้อยน้ำเหนือก็จำผมได้


“เฮ้ย อะไรยังไง  ไอ้เหนือกับไอ้ข้าวรู้จักกันมาก่อนหรอ”  ไอ้ฮาร์ทมันถาม  หน้ามันยังอึ้งอยู่เลยครับ

 
“แล้วข้าวจำเหนือไม่ได้หรอ?” อึ้งหนักกว่าเก่า อีประโยคนี่ผมจำได้  ผมกับน้ำเหนือเราจะไม่ใช่มึงกูเวลาคุยกันจะแทนชื่อเล่นมากกว่า  ประโยคนี้มันกลับมาแล้ว

 
“เอ่อคือ..”

 

“น้ำเหนือ  น้ำเหนือ  พิชญนุกุล


 

 

 

 

TBC.

ตอนที่2มาเสริฟแล้ว เป็นยังไงก็เม้นนะคะ
 :z2:

ออฟไลน์ หมูราชา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เเพ้ผู้ชายเเทนชื่อตัวเอง ฮอลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล

ออฟไลน์ lazysheep

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-2
ใจสั่นแทนข้าว อั๊ยยะ อยากอ่านต่อแล้ว น่ารักมาก ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
อิ๊ มาแทนตัวเองว่าเหนือ ทำคะแนนใช่ไหม เออ ยอม!

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :mew2:

น้ำเหนือจำได้ แล้วทำไมถึงเย็นชากว่าเมื่อก่อนจังคะ  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
หูวววว เค้าจำกันได้แล้ววว
รอดูปฏิกิริยาของเหนือต่อไป

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

3

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน



“เงียบแล้วตั้งใจฟัง!” เสียงโหวกแหวกโวยวายดังขึ้น ณ  ลานกว้าง หน้าตึกคณะวิศวะ  ทำให้ผู้คนที่เดินกวักไกวหันมามอง  เพราะน้ำสียงที่ตะโกนดังลั่นพื้นที่นั่นดูมีอิทธิพลละน่ากลัว..


“มีไรกันวะ” ไอ้เพียวที่เดินเข้ามาพร้อมกับผมกระซิบถาม


“จะรู้ไหมมาด้วยกัน” ผมขมวดคิ้วมองเพื่อน  ถามมาได้  กูก็เพิ่งมาถึงพร้อมมึงเนี้ยแหละ  ไอ้หำเอ้ย!


“เออเว้ยกูก็ลืมปายยย”  ลืมพ่องดิ


“อ่านะ  แก่แล้วก็เงี้ย...โอ๊ย!!”  ไอ้เพียวมันเขกหัวผมครับ  ผมหลุดเสียงดังออกไปทำให้พื้นที่ตรงนั้นหันมามอง  เอาแล้วๆๆ  กูจะมาจบชีวิตที่คณะวิศวะที่มีแต่ผู้ชายบึกบึนหรอวะ  ไอ้ข้าววรับไม่ด้ายยยยย


“ทำหน้าตลกอะไรของมึงไอ้ข้าว  ... แล้วอะไรแหกปากซะดังลั่นเลย”  ไอ้ฮาร์ทครับ  สงสัยจะได้ยินเสียงผมที่แหกปากลั่นเมื่อกี้   มันถึงได้เดินมาหา  แต่เดี๋ยวนะ  อะไรคือผมทำหน้าตลกหรอ?  ผมจึงกระพริบตาปริบๆ  มองไอ้ฮาร์ทกับไอ้เพียว  ไอ้เพียวทำเพียงแค่ส่ายหน้า  ส่วนไอ้ฮาร์ทนะหรอ  ทำหน้ามึนกลับมา  เอ้า ! นี่ผมต้องการคำตอบป่ะ?


“ยัง  ยังเอ๋ออีก”  ไอ้เพียวมันผลักหัวผมไปอีกทาง


“มึงว่าใครเอ๋อ เด่ะๆ”ผมชี้หน้ามัน  มันก็เชิดหน้า ถามอะไรๆ


“อะไรๆ  มึงจะทำไรกูไอ้ข้าวไอ้สูงน้อย”  นั่น  เล่นของสูงนะมึง


“...เดี๋ยวกูจะเจาะยางมึง”   อะไรๆ  ทำไมต้องกุมขมับส่ายหน้าขนาดนั้น


“กูทำกรรมไรไว้วะ  มีเพื่อนไม่เต็มบาทสักตัว” อ้าวไอ้เวรนี้  ว่าผมอ่ะ   ผมฮึดฮัด  ทำท่าจะสวนกลับมัน  แต่ไอ้ฮาร์ทขว้างไว้ก่อน


“พวกมึงนี่ยังไง  ไอ้เวฟไม่อยู่  มึงก็จะกัดกันกับไอ้ข้าวนะเชี้ยเพียว”


“ใช่ฮาร์ทมึงว่ามันเลย  ว่ามันๆๆ มันชอบแกล้งกู”  พอมีคนเข้าข้างผมต้องรีบฟ้องครับ  หาคนช่วยก่อนไม่งั้นจะโดนหนัก ฮ่าๆๆ


“มึงก็ด้วย  ทำตัวยังกะเด็ก12”


“อ้าว..” ผมหันไปมองไอ้ฮาร์ททันที  กูโตแล้วเว้ย  นี่โตแล้วว  ประท้วงครับ  ต้องประท้วง  เรื่องนี้ต้องไปถึงนายก(ขยะ)ให้ได้ -_-


“ไปได้แล้ว  จะมาช่วยงานพวกกูไม่ใช่รึไง  ไปเลยชักช้าเดี๋ยวน้องเลิกก่อน”


“ครับๆเจ้านาย  ตามประสงค์ครับ” ผมพูดประชดมัน  จนมันหันมาเขกหัวผมทีหนึ่ง  ก่อนจะกอดคอลากให้เดินเข้าไปในพื้นที่พวกเด็กวิดวะ  นักอยู่  หู้วว ไม่อยากจะเล่าเลยครับ  ผู้ชายเยอะจริงๆ  มีแต่ทึกๆ  แต่หน้าตาก็...อือหือครับ  สมชื่อที่โด่งดังจริงๆๆ   ทั้งปีหนึ่ง ปีสอง(ที่ผมไม่รู้จัก) และเหมือนจะมีปีสามยืนอยู่ด้วย  ก็จับจ้องมองมาที่ผมกับไอ้เพียว


“กูประหลาดหรอวะ  แม่งมองกูอย่างกับของแปลก” ผมกระซิบถามไอ้ฮาร์ทที่ยืนข้างๆผม  มันแค่ปรายตามอง  ทำไมต้องทำขรึม? ผมมองหน้ามันอย่างงุนงง  เมื่อกี้มันยังไม่ขรึมขนาดนี้เลย  พอเข้ามานอาณาเขตนี้ขรึมทันที  ...  อย่าบอกนะแถวนี้มีของ  กูต้องทำขรึมด้วยใช่ไหม  ?


“ทำหน้าตลกอีกละไอ้ข้าว” ไอ้เพียวที่ยืนข้างๆผมเอ่ยทักขึ้น  ไม่เห็นหรือไง  กูทำขรึมอยู่  ผมหันไปขมุบขมิบปากบอกมัน


“ห้ะ!?!” มันทำหน้าสงสัยหนักกว่าเก่าอีกครับ  เบื่อจริงพวกหูไม่ดี


“กู-กำ-ลัง-ทำ-ขรึม-อยู่” ผมกัดฟันพูดย้ำชัดคำบอกมันไปให้ได้ยินกันแค่สองคน  มันขมวดคิ้ว


“เฮ้ออ  มึงอยู่คณะนี้รึไง”


“...” ผมส่ายหน้า  กูอยู่นิเทศไง  ไอ้ฟั่นเฟื่อง


“เออแล้วมึงจะไปทำตามพวกนี่ทำไม  พวกมันเก็กไปงั้นให้น้องกลัวเกรงเท่านั้น”  ไอ้เพียวถึงกับส่ายหน้ากับสิ่งที่ผมกำลังทำ   ผมจึงขำนิดๆ


“แหะๆ งั้นหรอกรึ ฮี่ๆ”


“ไปทำงานเราได้ละ  จะได้รีบกลับมึงเองก็จะได้ไปทำงานด้วย”  เออจริงด้วยสิ  ผมต้องไปทำงานด้วย  ถึงจะบอกเหตุผลที่ไปทำงานสายก็เถอะ  แต่ถ้าสายบ่อยๆคงไม่ดีแน่  ผมกับไอ้เพียวจึงแบ่งส่วนกันเก็บภาพกิจกรรมให้มัน


“มึงไปถ่ายส่วนนั้น  กูจะถ่ายส่วนนี้ เคนะ”


“เคๆ” ผมพยักหน้าเข้าใจ  ถ่ายๆไปก็เหมือนมีอะไรจ้องอยู่  พอลดตัวกล้องลงก็เหมือนเห็นสายตานับสิบคู่กำลังจ้องผมอยู่  มองกูทำไม  นู้นพี่มึงอยู่นู้น  ฟังไปเส่ไอ้พวกเด็กน้อย


“กลุ่มนั้นอ่ะ  ช่วยสนใจพี่ด้วยครับ!” เสียงว้ากดังขึ้น  ทำเอาผมสะดุ้งไปด้วย  คิดๆไปก็เจ็บคอแทน  เอาน้ำมะนาวไหมครับคุณพี่   ผมจึงเบนกล้องไปถ่ายพี่ว้ากคนนั้น  โอ้ววแม่เจ้าโว้ยยย หล่อลากไส้... เดี๋ยวนะ  ทำไมผมต้องได้บรรยายผู้ชายหล่อกว่าตัวผมอยู่เรื่อย  ใครก็ได้กรุณาถามคุณไรท์ให้ทีครับ  นี่มึงต้องการให้กูเป็นเคะแรดใช่ไหม?


“...ข้าว” ผมลดกล้องลงแล้วหันไปมองบุคคลที่เอ่ยทักผม  เสียงเนื่อยๆนิ่งๆ  ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร


“ว่าไงเหนือ” ผมยิ้มบางให้คนทักแล้วหันมากดชัตเตอร์เก็บภาพต่อ


“มาตอนไหน?”


“สักพักแล้ว”  ผมตอบโดยไม่ได้หันมามองอีกคน


“...” แล้วก็เงียบ  ไม่มีเสียงใดหลุดออกมาอีกตลอด  มีเพียงเสียงรุ่นพี่ว้ากเท่านั้น   น้องๆทุกคนก็ดูจะตั้งใจฟังและเงียบดี ต่างจากคณะผม  บ้าๆบอๆ พาน้องทำอะไรฮาๆ  ก็นะครับ  คนคุมคือไอ้เวฟนี่เนอะ  พอพี่ท่านว้ากน้องจนต้องพึ่งน้ำมะนาวหลายอึก  พี่ท่านก็เดินจากไปอย่างกับพระเอกหนังจีน(?)  ปีสองจึงดำเนินการต่อ  ...

 


“ขอบคุณพวกมึงนะเว้ยที่มาถ่ายงานให้” ไอ้จิมมันบอก


“ไม่เป็นไรๆๆ  ค่าจ้างพวกกูละ” ไอ้เพียว


“ไอ้เชี้ยย  เพื่อนกันฟรีไม่ได้หรอวะ” ไอ้จิมโอดครวญ  ไอ้เพียวยกนิ้วชี้ส่ายไปมาต่อหน้ามัน


“ไม่ได้ๆๆ ถ้าเพื่อนกูเยอะแล้วใช้งานขอฟรีแบบนี้  ไม่ใช่กูอดตายหรอวะ”


“ถ่อวว  ช่วยกูหน่อยเถอะ  ... ไอ้ข้าว นะๆ  ฟรีเถอะ”  เมื่อมันขอไอ้เพียวไม่ได้ก็หันมาหาผม  ผมหันไปมองหน้าไอ้เพียว  ส่งซิกผ่านสายตาถามมันว่าเอาไง


“ครึ่งราคาก็ได้”  ไอ้โดมเสนอมา  ไอ้เพียวทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนตอบ


“ไม่ได้ๆๆ  ราคาเต็มเว้ย  ไม่มีลด”  หน้าเลือดไหมครับเพื่อนผม ฮ่าๆๆ


“ไอ้ฮาร์ท...” ไอ้จิมมันร้องโหยหวนทันทีเมื่อเห็นไอ้ฮาร์ทเดินเข้ามาในกลุ่มพร้อมกับน้ำเหนือ


“มีไร?” ไอ้ฮาร์ทเลิกคิ้วถามไอ้จิม


“เพื่อนมึงไม่ยอมถ่ายงานให้ฟรี   เพื่อนนะเพื่อน  ขอลดก็ไม่ได้  ช่วยเคลียร์เพื่อนมึงหน่อยย”


“ลดให้หน่อยก็ได้” ไอ้ฮาร์ทว่า


“ได้ไงวะ  เสียค่าเวลากูนะเว้ย”


“มึงจะหน้าเลือดไปไหนไอ้เพียว”  ไอ้โดมมันว่า  ไอ้เพียวเพียงแค่ไหวไหล่


“ไอ้ข้าว”ไอ้ฮาร์ทมันหันมาเล่นทางผมบ้าง


“ไม่ต้องมามองอ้อน .. ถามไอ้เพียวเลย  กูให้มันตัดสินใจ” ผมบอก


“หึๆ” ไอ้เพียวมันหัวเราะหึ  เหมือนผู้ชนะ  เข้าใจครับเงินทองนั้นหายาก  ต้องแลกมาด้วยแรงกายกว่าจะได้มา


“...เลี้ยงเหล้า” เสียงทุ้มนิ่งดังแทรกบทสนทนาขึ้น  พวกผมหันไปมองธาตุอากาศ  เออนั้นแหละใช้คำนี้ถูกแล้ว  ก็เล่นเงียบตั้งแต่เดินมาร่วมกลุ่มแล้ว


“โอเคตกลง!”


“ห้ะ!?!”  ผมถึงกับ  ห้ะ  คืออะไรจะง่ายปานนั่น  ไอ้พวกนั่นก็เงียบกริบ


“แค่เอาเหล้ามาล่อกูแต่แรกก็จบแล้ว”  ยัง  ยังไม่พอยังเสือกพูกอีก  เห็นเหล้าดีกว่าเงินหรอไอ้เพื่อนเวร  กูอยากได้เงินใช้เว้ย  จะฟ้อง จะฟ้อง...แม่


“อืม” กลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปากรึไงวะ  พูดน้อยนักเชียว  ผมก็อยากได้ยินเสียงทุ้มๆเพราะๆของมันนะ  แต่น้ำเหนือคนนี้พูดน้อยจนผมไม่รู้ว่าจะคุยอะไรด้วยได้แต่มองหน้าเท่านั้น


“ไอ้เวรรู้งี้กูเอาเหล้ามาล่อตั้งแต่ประโยคแรกละ  ไอ้เห็นแก่เหล้า”ไอ้จิมยังคงโวยไม่หยุด


“กูเห็นเหล้าดีกว่าเพื่อนเว้ย ฮ่าๆๆ” ไอ้เพียวระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี


“ไอ้ฟาย” ไอ้โดมจึงทำการถีบมันไปสองสามทีด้วยความหมั่นไส้


“อะไรยังไงก็บอกด้วยละกัน  กูต้องไปละ  เดี๋ยวสาย” ผมบอก


“เออๆๆ  รีบไปเลยมึง เหม็นขี้หน้า” ไอ้ฮาร์ทครับ  กวนส้นตีนผม ผมจึงทำการยกนิ้วอันสวยงามของผม  นิ้วกลาง ส่งไปให้มัน


“ใหญ่นะมึง  อย่ามาล้อเลียนกู”


“ใหญ่เท่าไม้ขีดไฟอ่ะนะ” ผมว่า


“ไอ้สัส ไปไหนก็ไปเลยไอ้ข้าว” มันไล่ผม  ใช่สิพอใช้งานเสร็จก็ไล่  ไอ้พวกนิสัยไม่ดี


“เออไปก็ได้ไม่อยากเสวนากับพวกสัตว์สี่เท้า” ผมบอกจบก็รีบเผ่นแนบ  อยู่ไม่ได้ครับเดี๋ยวโดนหลายตีนที่อยู่ตรงนั้น  ไม่วายหันไปแลบลิ้นใส่พวกมันด้วย ฮ่าๆๆ


“ข้าว! เดี๋ยว..” ผมหยุดชะงักกับที่เมื่อเสียงน้ำเหนือเรียก  ผมหันไปมองเห็นน้ำเหนือวิ่งมาทางผม


“มีอะไรหรอเหนือ”


“เดี๋ยวไปส่ง”


“เฮ้ย ไม่เป็นไรไปเองได้  ไปอยู่กับเพื่อนเถอะ” ผมบอกอีกคน


“...” น้ำเหนือส่ายหน้าแล้วลากแขนผมไปทางลานจอดรถหน้าตึก  ผมหันไปมองทางเพื่อนที่มองมาทางนี้พอดี  เห็นไอ้เพียวมันแสยะยิ้มส่งทางผมด้วย  ไม่พ้นคงโดนมันแซวอีกแน่ๆๆ


“เอ่อคือ...”  เมื่อมานั่งในรถได้  ผมก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มบทสนทนายังไงกับคนที่กำลังขับรถไปส่งผมดี


“ร้านกาแฟ” ห้ะ อะไรร้านกาแฟ  ผมทำหน้า งง กระพริบตาไม่เข้าใจคำถาม


“...”


“ที่ทำงาน”


“อ่อ..ใช่ๆๆ” ผมพยักหน้ารัว  คำถามที่ไม่เหมือนคำถาม  พวกคุณเข้าใจไหมครับ  ไม่ งง  แบบผมให้มันรู้ไป


“...”


“...”


เกิดความเงียบปกคลุมขึ้นอีกครั้ง  มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด  ทำไม่รู้ว่าควรทำยังไงในสถานการณ์แบบนี้  คืออยากจะพุดคุยอย่างเพื่อนคนอื่นๆ  แต่น้ำเหนือมันนิ่ง  มันเงียบ  มันไม่พูด  มันไม่เชี้ยไรเลยครับ  เอาแต่มองทางอย่างเดียว จะคุยกับผมซักคำก็ไม่มี  ทำให้ไอ้คนพูดมาก(น้อยกว่าไอ้เวฟไอ้เพียว)อย่างผมต้องเงียบไปด้วย


“เหนือ..”  ผมทนความอึดอัดไม่ไหว  เอาว่ะ  ลองหาเรื่องคุยด้วยดีกว่า


“อืม” ขอซื้อได้ไหมคำนี้  กูเกลียดดดด...


“สบายดีนะ” คำถามอะไรของกูวะนั่น


“อืม..” ตอบแบบนี้กูจะถามไงต่อดีวะ  คิดสิไอ้ข้าว คิด!!


“อ่า..นึกไงเรียนวิดวะหรอ”


“ชอบ”


“อ่องั้นหรอ แหะๆ” ผมหัวเราะเบาๆ  ไม่มีไรจะถามต่อละเฟ้ย! ผมจึงมองข้างทางแทนมองหน้าอีกคน


“ข้าวละ”


“หืม?” ผมหันกลับไปมองอีกคน


“ทำไมเรียนนิเทศ”  ผมนิ่งกับคำถามของอีกคน  ไม่คิดว่าจะถามกลับแหะ เห็นเงียบไปนาน  แต่ก็ดีแล้วที่ถามผมจะได้รู้สึกว่าตัวเองสำคัญขึ้นมานิด


“อืม  ไงดีอ่ะ  เราชอบถ่ายภาพอ่ะ  เห็นที่สวยๆอยากถ่ายเก็บไว้  สนุกดี ” ผมยิ้มกว้างตอบไป


“อ่า..”


“อือ แฮ่ๆ” ผมพยักหน้าน้อยๆ ยิ้มขำนิดๆ  รู้สึกประหม่ายังไงก็ไม่รู้ เมื่อเห็นอีกคนแค่พยักหน้าขานรับเท่านั้น



 

ร้าน กาแฟพี่บาส



“สวัสดีคร้าบบ พี่หนิง พี่แวว พี่ต้น  พี่มิค”  พอผมเปิดประตูร้านเข้ามาก็ยกมือสวัสดีทักทายพี่ๆที่ร่วมงานกับผม  พวกพี่เขายิ้มรับก่อนจะหันกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อ


“แล้วไม่คิดจะทักทายเจ้าของร้านเลยรึไง” นั่นไง  เจ้าของร้านท้วงขึ้น ฮ่าๆๆ กะจะแกล้งพี่มันเล่น


 “...” ผมจึงทำทีเดินผ่านไปยังห้องแต่งตัวซึ่งต้องผ่านเคาเตอร์ที่พี่บาสกำลังนั่งอยู่


“หักเงินเดือน..” ชะอุ้ย! กำลังจะเดินผ่านต้องรีบหยุดยกมือพนมก้มลงกราบทันทีครับ


“สวัสดีครับเจ้านาย  วันนี้เจ้านายดูหล่อมากเลยครับ  แหมม หล่อไม่มีคนเทียบเคียงได้เลยครับผม  ถ้าหล่อขนาดนี้ก็ต้องไม่หักเงินเดือนกระผมเนอะๆ  กระผมจะไม่ทำอีกแล้วครับ”


“หึๆ  รู้ซะบ้างว่าใครใหญ่”


“ครับๆๆ”


“ไปเปลี่ยนชุดแล้วทำงานเลยข้าว”  ผมเข้าเอากระเป๋าและเปลี่ยนชุดจากนักศึกษาเป็นชุดยุนิฟอร์มของร้านออกมาหน้าร้านเพื่อจะทำงาน


“น้องข้าว..”  พี่แววเดินมาหยุดอยู่ข้างผม  ผมยิ้มเมื่อเห็นพี่เขายิ้มให้


“ครับพี่แวว”


“คนนั้นใช่เพื่อนน้องข้าวรึเปล่า” ผมมองตามนิ้วชี้พี่แววที่ชี้ไป  ยังไม่กลับอีกหรอว่ะ  ผมคิดว่าน้ำเหนือจะแค่มาส่งผมแล้วกลับเลย


“ครับ  มีอะไรรึเปล่า” ผมถาม  พี่แววยิ้มเขินอาย


“เขาหล่อมากอ่ะ  สเปคพี่เลย นิ่งๆ เงียบๆ  เย็นชาๆ”  แล้วพี่แววก็ทำท่าเพ้อฝันเหมือนในซีรี่ย์เกาหลีหลายๆเรื่องที่ผมชอบดู


“เหอๆ”


“เพื่อนน้องข้าวแต่ละคนมีแต่หล่อๆทั้งนั้น  ก็มีแต่น้องข้าวเนี้ยละที่ออกแนวน่ารัก..” ผมชิ้หาตัวเอง


“ผมเนี้ยนะน่ารัก” ผมถามอย่างไม่มั่นใจ


“อือๆๆ น้องข้าวเนี้ยละ”  ไม่จริงม้างง  ผมออกจะหล่อ


“ผมหล่อเถอะครับพี่แวว”


“ฮ่าๆๆ” ขำเสร็จพี่แววก็เดินไปรับออเดอร์ลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาใหม่ต่อ  ผมเองก็ไปรับลุกค้าท่านอื่นเหมือนกัน  แต่สายตาผมก็ยังคงจับจ้องอยู่ที่น้ำเหนือเป็นบางครั้ง  ...

 .

.

.

“ขอบคุณทุกคนมากนะ  เหนื่อยกันแล้วกลับไปพักผ่อนเยอะๆนะครับ  พรุ่งนี้เจอกัน”  พี่บาสบอกกับพวกเราทุกคน  ตอนนี้ผมเลิกงานแล้วครับ  ทำความสะอาด เก็บโต๊ะ เก้าอี้   เปลี่ยนชุดเป็นนักศึกษาเหมือนเดิม


“ค่ะ/ครับคุณบาส”   บอกลากันเสร็จก็พากันเดินออกไปนอกร้าน


“ช่วงนี้แวะเขาร้านบ่อยวะพี่  ว่างหรอ  หรือบริษัทเจ็งแล้ว”  ผมหยอกพี่บาสที่อาสาจะไปส่งผมที่หอวันนี้  พี่แกใจดีครับ  ผมเคยบอกแล้วใช่ไหม


“ปากมึงนี่นะข้าว  เดี๋ยวก็ไล่ออกซะหรอก  ถ้าเจ็งจริงสงสัยพี่ต้องลดแรงงานร้านนี้แหละและคนที่จะไล่ออกคนแรกก็...” พี่มันปรายตามาทางผม


“ถ่อววพี่  ไม่มีทางเจ็งหรอก  คนบริหารเก่งจะตายเนอะๆ”  ต้องพูดเอาใจครับ  หากว่าวันใดวันหนึ่งธุรกิจพี่บาสเจ็งจริง  ผมจะได้รอดพ้นจากการลดแรงงาน ฮ่าๆๆๆ


“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย  เมื่อกี้ได้ยินชัดนะ”


“ไหนหลักฐาน  อย่ามาปรักปรำครับพี่”


“ไอ้เด็กนิสัยไม่ดี!” แล้วพี่มันก็เข้ามารัดคอผม


“โอ๊ยๆๆ พี่บาสเจ็บๆ  ผมเจ็บ อ้ากกก!!”


“เจ็บหรอๆ ฮ่ะๆ”  ขนาดผมบอกว่าเจ็บนะพี่มันยังไม่ยอมปล่อยเลย  ยิ่งรัดคอผมมากกว่าเดิมอีก  ฮือออ  ทำไมคนหล่อแบบไอ้ข้าวต้องโดนทำร้ายย


“พอแล้วๆๆ  ยอมแล้ว”  ผมเป็นต้องขอยอมแพ้  มิเช่นนั้นผมได้ไปเฝ้ายมบาลแน่นอน


“หึๆ”  ผมยู่ปากเมื่อพี่มันหัวเราะเยาะผม  เห็นแต่ตัวใหญ่กว่าเถอะ ฮึ่ย!   ทำไมตูไม่เกิดมาเตี้ยกว่าวะ


“..ข้าว..”  ผมหันไปตามเสียงเรียก  ก็เจอกับเจ้าของร่างสูงที่กำลังเดินมาทางผมกับพี่บาส  ผมขมวดคิ้วมุนเมื่อเห็นว่าน้ำเหนือยังอยู่ที่นี่


“เหนือทำไมยังอยู่นี่อ่ะ  คิดว่ากลับไปแล้วซะอีก”


“...”น้ำเหนือไม่ตอบแค่ปรายตาไปมองพี่บาสที่ยืนอยู่ด้านหลังผม  ผมยังรอคำตอบแต่อีกฝ่ายไม่ตอบคำถามผมกลับฉุดดึงแขนผมให้เดินไปตาม


“จะพาข้าวไปไหน?” พี่บาสเดินมาฉุดรั้งแขนผมไว้  ทำให้น้ำเหนือหยุดเดินแล้วหันกลับมามอง   ดูท่าว่าน้ำเหนือจะหงุดหงิดแหะ


“ปล่อย..”เสียงนิ่งๆเอ่ยขึ้น  สั่งใครว่ะ  กูหรอ  เฮ้ย  แต่กูไม่ได้จับแขนใครเลยนะ  มีแต่กูถูกจับเอง


“ไม่!”  อ้อ  รู้แล้วว่าสั่งใคร...  คนกลางแบบผมได้แต่เงียบครับ  รู้สึกเหมือนถูกพระเอกกับพระรองกำลังแย่งนางเอกกันอยู่เลย  แต่เดี๋ยวนะ !


“ปล่อยทั้งคู่นั่นแหละ  ปล่อยๆๆเลย  พี่บาสปล่อย  เหนือด้วยปล่อยข้าว” ทั้งคู่จึงยอมปล่อยผม  ผมมองสองคนสลับกันไปมา  ให้ตายสิ !  จ้องกันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ


“มึงจะพาข้าวไปไหน”  พี่บาสถาม


“...”  แต่อีกคนกลับเงียบไม่ยอมตอบ


“เอ่อ..เหนือมีไรรึเปล่า”  ผมจึงเป็นฝ่ายถามแทน


“กลับ”


“ห้ะ!” 


“ไปส่ง..”  พูดจบก็ลากผมไป  พี่บาสมองมาอย่างมึนงง  เออไม่ งง ให้มันรู้ไป ขนาดกูยัง  งง เลยเฟ้ย  มันมาอารมณ์ไหนไม่รู้


“พี่บาสผมกลับละเว้ย  เจอกันพรุ่งนี้” พอมาถึงรถน้ำเหนือผมที่กำลังจะขึ้นรถก็ต้องโบกมือส่งไปให้พี่บาสที่ยังมองมาอยู่  พี่มันพยักหน้าเข้าใจผมถึงเข้ามานั่งในรถที่สตาร์ทเครื่องรออยู่แล้ว


“...”


“...” และก็เกิดความเงียบปกคลุมตัวเราอีกรอบ   เฮ้ออ  ผมอยากจะถอนหายใจดังๆกว่านี้จริงๆ  อึดอัดวะ  คืออยากรู้คำตอบที่น้ำเหนือยังรอผมและยังอุตส่าขับรถมาส่งผมที่หออีก


“เหนือ ข้าวคิดว่าเหนือกลับตั้งนานแล้ว”


“รอ..” ผมขมวดคิ้วกลับคำตอบของน้ำเหนือ


“รอทำไม  กว่าเราจะเลิกก็ตั้งหลายชั่วโมงแน่ะ”


“กินข้าว..”


“ห้ะ!?!”  ผมไม่รู้ว่าวันนี้ผมหลุดคำๆนี้ไปกี่รอบ


“กินข้าวกับแม่”


“แม่..คุณป้าหรอ”


“...”  อีกคนแค่พยักหน้ารับ


“แล้วทำไมไม่บอกแต่ที่แรกละ”


“ไม่ว่าง..”


“ห้ะ?”


“ก็ข้าวไม่ว่าง”


“...”


“ทำงาน”


“แล้วที่บอกจะไปส่งละ”


“...กินก่อน”


“โอเค”  ผมพยักหน้าเข้าใจ  เป็นตุ๊กตาหน้ารถเงียบๆ มองข้างทางที่ตอนนี้มีไฟริมถนนเต็มไปหมด  ร้านค้ายามค่ำคืนเรียงราย  เห็นร้านบะหมี่แวบๆเมื่อกี้  ท้องผมก็พากันร้องระงม  อายมั้ยข้างๆมีคนอยู่นะ  ถ้าเป็นไอ้อาร์ทหรือไอ้เพียวไอ้เวฟ  ผมจะไม่รู้สึกอายอะไรเลย  แต่นี่น้ำเหนือเว้ย   คนที่ชอบมาได้ยินเสียงน่าเกลียดแบบนี้  ต่อให้ด้านขนาดไหนกูก็อายยย -//////-


โครกครากกก ~


“แฮะๆ”  ผมยิ้มเจื่อนเมื่อน้ำเหนือหันมามองผม


“หิว?”


“อืม  หิวมากกก แฮ่ๆ”  โอ้ยอายยย  มาดังอะไรตอนนี้


“จะถึงบ้านแล้วทนหน่อย”  ผมเห็นรอยยิ้มบางๆเผยอยู่บนหน้าน้ำเหนือด้วยแหละ  ถึงจะหันข้างอยู่ก็เถอะ  ไอ้อายก็อาย  แต่ใจเจ้ากรรมกลับเต้นระรัว  ตั้งแต่ที่อยู่ที่คณะวิศวะ  ถึงจะยืนอยู่ด้วยกัน  อยู่กับเพื่อน  ต่อให้พวกผมเถียงกัน ฮายังไง  รอยยิ้มแบบนี้ก็ไม่มีเกิดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลานี่ซักนิด  แต่ตอนนี้มันกลับปรากฏต่อหน้าผมถึงจะแค่เสี้ยวหน้าและแปบเดียวก็เถอะ

 


“แปบนะ”


“อือๆๆ”  ผมพยักหน้า   น้ำเหนือจึงเปิดประตูรถออกไป  ตอนนี้ผมมาถึงบ้านน้ำเหนือแล้วครับ  เป็นบานขนาดกลางไม่ใหญ่มาก  พอดีๆ  ผมมองน้ำเหนือที่กำลังเลื่อนเปิดประตูบานใหญ่เพื่อที่จะนำรถเข้าบ้าน  แต่เอ่ะ  เดี๋ยวนะ  !  ทำไมไม่จอดไว้ข้างนอกก่อนวะ  ยังไงก็ต้องไปส่งผมที่หออยู่แล้ว  หรือว่าแถวนี้มีขโมยบ่อยถึงต้องเอารถเข้าบ้านเลย  ใช่  ต้องใช่แน่ๆ  สังคมทุกวันนี้มันน่ากลัวว


“กลับมาแล้วหรอลูก”  เสียงหวานนุ่มหูเอ่ยทักขึ้นเมื่อเราสองคนเดินเข้ามาในบ้าน  ผมมองหญิงสาววัยกลางคนที่ยังสวยและยังสาวอยู่ด้วยรอยยิ้ม  ท่านไม่เปลี่ยนจากตอนนั้นเลย  ยังสวยเหมือนเดิม


“คุณป้าสวัสดีครับ”  ผมยกมือสวัสดีท่าน  ท่านเองก็เช่นกัน


“ไหว้พระเถอะลูก  หนูข้าวหอมใช่ไหมจ้ะ”


“ครับ”  ผมขานรับพร้อมยิ้มกว้างให้ท่าน


“หิวกันรึยังจ้ะ  ป้าทำกับข้าวเสร็จพอดีเลย..เหนือพาหนูข้าวไปนั่งรอก่อนเดี๋ยวแม่ขอจัดโต๊ะก่อน”  คุณป้าท่านพูดเสร็จก็เดินออกไป  ย้ำเหนือจึงพาผมมานั่งรอที่ห้องนั่งเล่นที่อยู่กลางบ้าน  แล้วก็จากไปอีกคน  ผมจึงนั่งอยู่คนเดียว ..


“..น้ำ”


“ขอบคุณนะ” ผมยิ้มให้แล้วรับน้ำขึ้นมาจิบ  สายตาก็สอดส่องการตกแต่งภายในบ้านไปด้วย


“หิวมากมั้ย” ผมละสายตาจากสิ่งที่มองมามองหน้าคนข้างๆแทน


“มากกกก” ผมลากเสียงยาวให้รู้ว่าผมหิวมากจริงๆ


“อืม  รอแปบ” 


“อื้อๆๆ” ผมพยักหน้าน้อยๆ  แล้วน้ำเหนือก็เดินออกไปทิ้งผมไว้คนเดียวอีกแล้ว


“เหนือไม่ต้องเดี๋ยวแม่ทำเอง  ไปอยู่เป็นเพื่อนหนูข้าวไป”  เสียงคุณป้าดังขึ้นให้ได้ยิน  ผมจึงลุกเดินตามเสียงไปว่ามีอะไรรึเปล่า  เห็นคุณป้ากำลังดันหลังน้ำเหนือให้เดินออกมาจากห้องครัว


“ข้าวหิวแล้ว”


“งั้นก็ไปอยู่เป็นเพื่อนหนูข้าว  ยิ่งเรามาช่วยแม่จะยิ่งช้านะ”


“ข้าวบอกหิวมากกกก” ผมมองสองแม่ลูกคุยกัน  เป็นภาพที่น่ารักสำหรับผม  ฮ่าๆๆ มองๆไปแล้วก็รู้สึกคิดถึงอีแม่ที่บ้านนอกทันที  ไม่ได้กลับไปเยี่ยมท่านหลายเดือนแล้วด้วย  สงสัยต้องหาเวลาว่างไปเยี่ยมซะแล้ว  แต่เอ้..ตั้งแต่เข้าบ้านมาก็ยังไม่พบกับคุณลุงเลย  ไม่อยู่หรอ?


“อย่าดื้อสิลูก  เดี๋ยวจะไม่ได้กินนะ” ผมเห็นน้ำเหนือยู่ปากใส่คุณป้าด้วย เฮ้ยตาผมฝาดรึเปล่า  ?


“มีอะไรให้ข้าวช่วยไหมครับคุณป้า”


“ไม่มีหรอกจ้ะ  หนูเป็นแขกอยู่เฉยๆพอนะ   เดี๋ยวป้าจัดการเอง”ท่านบอกยิ้มๆ


“ให้ผมช่วยดีกว่า  จะได้ทานเร็วๆ  ผมหิวมากกก”  ผมบอกท่านพร้อมทำท่าประกอบว่าหิวมากจริงๆ


“บอกแล้ว..” น้ำเหนือว่า


“จ้ะๆ แม่เชื่อแล้วค่ะพ่อลูกชาย...งั้นก็มาช่วยกันเนอะจะได้ทานเร็วๆ”


“ครับ!”




TBC.

ตอน3มาเสริฟแล้วน๊าา  พี่เหนือพาว่าที่สะใภ้เข้าบ้านแล้ว555

 :-[ :laugh:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เอ๋ ป๋าเหนืออยุ่ไหนนี่ ???

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
พ่อดอกพิกุลลลลลล พูดน้อยยิ่งนักคะพี่!

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
ข้าวน่ารักจัง :katai5:

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เพียว เชียร์เพื่อนดีมาก
ข้าวหอม ตลกมาก
 :เฮ้อ: เหนือ พูดน้อยไปปะ แต่เหนือน่ารักกับข้าวหอมนะ
ดูหวงๆ ไม่อยากให้ใครมาจับต้องเนื้อตัวข้าวหอม
ห่วงใยข้าว เห็นหิวข้าวไปช่วยแม่เพื่อให้ข้าวหอมได้กินไวๆ
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
4

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


“หนูข้าวสบายดีนะลูก”  ตอนนี้ผม น้ำเหนือ คุณป้ากำลังนั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกันอยู่ครับ  ท่านเอ่ยถามเมื่อเริ่มรับประทานอาหารกันได้ไม่นาน

“สบายดีครับ..คุณป้าละครับ  แต่จากที่ข้าวดูแล้วคุณป้ายังสาวอยู่เลยนะ  ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” ผมเอ่ยชมท่าน  ท่านยิ้มเขินอายเล็กน้อย 

“แหม  ปากหวานจริงๆเลยนะ  ไม่เจอกันแค่แปบเดียวเองลูก ไม่นานหรอก” ผมยิ้มพยักหน้า  มันอาจจะไม่นานสำหรับท่านแต่กับผมที่ต้องห่างจากน้ำเหนือซึ่งจากกันแบบไม่ลามันนานนะครับ  เราไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไง  เขาจะคิดถึงเราไหม  เขาจะกลับมาเยี่ยมเรารึเปล่า

“ครับไม่นาน..”

“ว่าแต่เหนือกับหนูข้าวเจอกันได้ยังไงละลูก”

“...ขอบคุณครับ” ผมบอกขอบคุณท่านที่ท่านตักอาหารให้ผม

“ร้านส้มตำ..” เหนือตอบ

“ร้านส้มตำหรอลูก?”

“ครับ  เหนือเขาเจอข้าวร้านส้มตำ  แต่ข้าวเจอเหนือที่มหาลัย” ผมบอกท่านยิ้มๆ

“อ้าว.. อะไรยังไงละลูก  แล้วหนูข้าวไม่ได้ทักเหนือหรอ” ท่านถาม

“ทักครับ  เอ้? หรือไม่ได้ทัก” ผมเกาหัวพรางนึก  ตอนที่เจอกันครั้งแรกผมว่าผมทักนะ  แต่อีกคนจำไม่ได้มากกว่า

“สรุปยังไงจ้ะ หื้อ” ท่านยิ้มขำกับท่าทีของผม  ส่วนคนที่นั่งตรงข้ามผมเพียงแค่มองมานิ่งๆ

“ทักครับ  แต่เหนือจำข้าวไม่ได้”

“จริงหรอจ้ะ !” ท่านทำตาโตอย่างนึกไม่ถึง 

“ใช่ครับ  มันน่าน้อยใจจริงๆเลยนะครับคุณป้า” ผมพูดเสียงกระเง้ากระงอน ท่านจึงหันไปมองลูกชายอย่างตำนิ หึๆ 

“ทำไมถึงจำเพื่อนไม่ได้เจ้าเหนือ  น่าตีหนักเชียว” ท่านตีแขนน้ำเหนือเบาๆ 

“ตีแรงๆเลยคุณป้า ..คุณป้ารู้ไหมครับ  เจอกันครั้งแรกเหนือเป็นยังไง”

“ยังไงหรอหนูข้าว”  ท่านหันมาสนใจผมอีกรอบ  ผมจึงส่งยิ้ม  ยักคิ้ว ไปให้น้ำเหนือที่นั่งขมวดคิ้วมองมา หึๆ  ได้ทีผมต้องฟ้องครับ  ท่านจะได้รู้ว่าลูกชายท่านทำผมไว้แสบมา 

“คืองี้นะครับคุณป้า..”

“...” ผมเหล่มองน้ำเหนือเล็กน้อยก่อนจะเล่าต่อ

“ครั้งแรกที่เจอเหนือเดินชนข้าวครับคุณป้า  แล้วไม่คิดจะขอโทษข้าวด้วยดูลูกชายคุณป้าสิครับ  ยังครับยัง..ไม่มีการขอโทษข้าวใดๆทั้งสิ้น คุณป้าคิดดูสิครับ  แล้วรู้ไหมครับเหนือพูดยังไง  เหนือบอกว่าข้าวเดินไม่ระวัง  ดูเขาสิครับคุณป้า  ยังมีต่อครับ  เหนือไม่ยอมช่วยข้าวลุกขึ้น  เหนือแค่หยิบกล้องให้ข้าวเท่านั้น  ไอ้เราก็บอกขอบคุณไปที่เก็บให้  แต่เหนือไม่สนใจกลับจะเดินหนีข้าว  จนข้าวต้องเรียกเขาไว้  แล้วก็ทำหน้านิ่งๆ สายตาแบบนี้ใส่ข้าว..” ผมทำหน้านิ่ง ทำตาให้เหมือนคราวที่เจอกันครั้งแรกให้คุณป้าดู  ท่านมองผมอย่างตั้งใจ

“แล้วยังไงต่อจ้ะ”ท่านถามต่อ

“อ้อ  ตอนนั้นข้าวจับแขนรั้งไว้  แต่เหนือบอกไม่ชอบ  ข้าวจึงต้องละออก  แต่ที่น่าเสียใจครับคุณป้า..”  ผมเว้นวรรคไว้ก่อนจะตอบ

“...” ท่านเงียบรอฟัง

“...น้ำเหนือจำข้าวไม่ได้” ผมมองไปที่น้ำเหนือก่อนจะตอบประโยคนี้ออกมา  ผมละสายตาจากน้ำเหนือมามองท่านแทน

“ทำไมถึงทำตัวไม่น่ารักเลยพ่อลูกชาย”  ท่านหันไปเอ็ดน้ำเหนือ 

“...” น้ำเหนือไม่ได้พูดอะไร แค่มองมาที่ผมนิ่งๆตามสไตล์ เจ้าชายน้ำแข็ง คณะวิดวะ อ่ะนะ

“จริงๆเลย”ท่านทำเพียงแค่ส่ายหน้าแล้วหันมายิ้มให้ผม

“แต่ครั้งที่สองน้ำเหนือเขาทักผมนะครับคุณป้า” ผมบอกท่าน 

“เจอกันยังไงละหนูข้าว  คงไม่ได้เดินชนกันอีกนะ” ผมส่ายหน้า

“ไม่ครับ  แต่เจอกันที่ร้านกาแฟที่ผมทำงานต่างหาก..ใช่ไหมเหนือ” ผมพูดกับคุณป้าก่อนแล้วจึงหันไปถามอีกคน

“...” น้ำเหนือขมวดคิ้วมุน  คงกำลังคิดอยู่ละสิ

“นี่จำไม่ได้?” ผมเลิกคิ้วถาม

“อืม..” ผมจึงกรอกตาไปมา  สมองมึงเสื่อมหรอน้ำเหนือ   เพลียกับท่าทางมึงจริ๊งงง  อยากจะเอาจานข้าวเขวี้ยงใส่หัวให้จำอะไรในชีวิตสักนิดได้บ้าง

“วันนั้นที่เหนือมากับผู้หญิงที่สวยๆ หุ่นดีๆอ่ะ” ผมยังคงอธิบายต่อ บรรยายแม้กระทั่งรูปร่างของผู้หญิงคนนั้นให้อีกคนดุ  แต่ก็เหมือนเดิมครับ

“จำไม่ได้  ผู้หญิงไหน?”

“เอ่อ..” ผู้หญิงมึงคงเยอะจริงอ่ะน้ำเหนือ  ผมถึงกับไปไม่ถูก ถ้าน้ำเหนือจำแม้แต่ผู้หญิงที่ไปด้วยไม่ได้  วันนั้นที่ทักผมคงจำไม่ได้จริงๆ

“ลูกชายฉันขนาดจำผู้หญิงไม่ได้เลยรึไง  คบหลายคนหรอจ้ะพ่อลูกชายสุดหล่อ” ท่านถามหยอกๆ  แต่กลับได้การพยักหน้ารับกลับมา ผมที่ดื่มน้ำรอฟังคำตอบถึงกับสำลัก

“คะ..แค่กๆๆ”

“หนูข้าวเป็นอะไรมากรึเปล่าลูก” ท่านลุกขึ้นมาลูบหลังให้ผมอย่างเป็นห่วง

“เช็ดปาก” น้ำเหนือยื่นทิชชูส่งมาให้ผม  และมองผมด้วยสายตาตำหนิ

“อึก..ขะ ขอบคุณ” ผมรับมาแล้วเอ่ยขอบคุณ

“พูดมาก..”น้ำเหนือว่า

“...”ผมได้แต่กระพริบตาปริบๆ  น้ำเหนือว่าผมอ่ะ  มึงว่ากู  กูงอน กูเคือง กูโป้ง!!

“ทำไมว่าเพื่อนแบบนั้นเหนือ”

“..ขี้ฟ้อง”

“...” ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก  สายตาที่มองมามันนิ่งมากจนผมไม่รู้ว่าเหนือคิดอะไร

“..นิสัยไม่ดี”

“...” ผมเบนหน้าหันไปอีกทางที่จะไม่ต้องสบตากับคนตรงข้าม  น้ำตาเริ่มคลอเบ้าแล้วครับ  อย่านะเว้ย  อย่าไหลนะ ไอ้น้ำตาเวร

“หยุดพูดเลย เหนือ!” คุณป้านท่านขึ้นเสียงใส่ลูกชาย  แต่ท่านก็ยังลูบแขนลูบหลังผมเป็นการปลอบ

“..ไม่น่ารักเลย”

“...” ผมเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกในตามันร้อนผ่าวขึ้นมา  น้ำใสๆเริ่มไหลลงมาตามผิวแก้ม  รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจ

“หนูข้าว ! ..ทำเพื่อนร้องไห้เห็นไหมน้ำเหนือ” คุณป้าท่านกดเสียงต่ำจ้องมางลูกชายอย่างตำหนิ  แต่น้ำเหนือก็ยังนิ่งอยู่  เขาแค่มองมาที่ผมนิ่งๆ  ไม่เอ่ยอะไรออกมาอีกหลังจากจบประโยคนั้น  ความน้อยใจของผมพุ่งสูง

“...”   ผมยกมือปาดน้ำออก  แต่ยิ่งปาดออกมันก็ยิ่งไหล ฮืออ อยากกลับบ้าน..

“ขอโทษหนูข้าวเดี๋ยวนี้เลยน้ำเหนือ  ทำไมถึงทำตัวไม่น่ารักแบบนี้นะ  แม่ไม่เคยสอนเราให้ทำตัวแบบนี้”

“...ฮึก..” ผมกัดปากตัวเองไว้กลั้นเสียงสะอื้นที่กำลังจะเล็ดลอดออกมา

“...” น้ำเหนือยังคงนิ่ง

“แม่ผิดหวังในตัวเราจริงๆเหนือ” ท่านพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ  กอดปลอบผมไว้   

“ข้าวไม่เป็นไรครับคุณป้า” น้ำเหนือลุกออกไปแล้ว   ผมยิ้มบางให้ท่าน  บอกกับท่านให้ท่านสบายใจ

“ป้าขอโทษแทนลูกชายป้าด้วยนะลูก  อย่าโกรธเหนือเขาเลย”

“ครับ  ข้าวไม่โกรธหรอก” ผมพยักหน้ารับ กุมมือท่าน ส่งยิ้มให้ท่านสบายใจ  ท่านจึงยิ้มตอบกลับมาให้ผม 

“กร่อยเลยไหมละ  เอาซะไม่อยากอาหารเลย เฮ้ออ” ท่านถอนหายใจ

“ข้าวขอโทษนะครับ” ผมยกมือขอโทษท่าน ท่านส่ายหน้ายิ้มๆ

“ไม่เป็นหรอกจ้ะ ไม่ใช่ความผิดของหนูข้าว  คนที่ต้องขอโทษคือลูกชายป้ามากกว่า”


 ผมช่วยท่านเก็บโต๊ะ เก็บจาน เข้าห้องครัว  มากินฟรีก็ต้องช่วยค่าอาหารกันหน่อย  ผมจัดการเช็ดโต๊ะเสร็จแล้วจึงเข้าไปช่วยคุณป้าท่านล้างจาน

“ข้าวช่วยล้างครับ”

“ไม่เป็นไรลูกเดี๋ยวป้าทำเอง  ไปนั่งพักเถอะจ้ะ”

“ไม่เป็นไรครับ  ข้าวมากินฟรีขอช่วยเถอะครับ”

“จ้ะ  หนูข้าวนี่เป็นเด็กดีจริงๆเลยนะ” ผมทำเพียงยิ้มรับคำชมของท่าน  ล้างจานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมกับท่านก็พากันออกมานั่งเล่นที่ห้องนั่งเล่นพูดคุยกัน  ตั้งแต่ตอนนั้นที่น้ำเหนือเดินออกมาก็ไม่เห็นเลยครับ  ไม่อยู่บนห้องก็คงออกไปข้างนอกแล้ว  แต่ว่ายังไม่ได้ยินเสียงรถคงอยู่บนห้องละมั้ง  ผมไม่โกรธเรื่องเมื่อครู่หรอกครับ  คงเป้นอย่างที่น้ำเหนือว่านั่นแหละ  ผมพูดมาก  ขี้ฟ้อง  เพราะผมดันไปพูดเรื่องของเขาที่คุณป้าอาจจะไม่รู้ก็ได้

“ข้าวขอตัวกลับก่อนนะครับ  ดึกแล้ว” ผมบอกกับท่าน

“จะกลับแล้วหรอลูก”

“ครับ  มันดึกแล้วเดี๋ยวแถวรถที่ข้าวนั่งไปจะหมดก่อน” ผมบอกกับท่าน 

“ให้เหนือไปส่งดีกว่าไหมลูก”

“ไม่เป็นไรครับ  ข้าวเกรงใจ”

“เกรงใจอะไรกันลูก  ยังไงเหนือจะต้องมาขอโทษข้าวด้วยที่พูดไม่ดีใส่” ผมส่ายหน้าส่งยิ้มให้ท่าน

“ไม่เป็นไรหรอกครับ  ข้าวกลับนะครับคุณป้า  วันหลังจะมาเยี่ยมใหม่” ผมยกมือสวัสดีท่าน  หยิบเป้สะพายขึ้น  ก้มหัวให้ท่านเล็กน้อยแล้วเดินจากบ้าน..

ฟึบ !

“เฮ้ย !!” ผมร้องเสียงดังลั่น  เมื่อจู่ๆมีคนเข้ามากอดคอผมไว้

“ชู่วว~ เงียบ..” ผมหันขวับไปมองคนที่กอดคอผมอยู่  เล่นอะไรวะเนี้ย  ตกใจหมด !!

“...” ผมเงียบตามที่อีกคนบอก

“จะกลับแล้ว..”

“อืม”

“ไปส่ง..”

“ไม่ต้องกลับเองได้” ผมสะบัดแขนออกจากมือของน้ำเหนือ  ครับน้ำเหนือนี่แหละ ตัวเป็นๆเลย ที่ลอบมาข้างหลังผมเมื่อครุ่

“..อย่าดื้อ” น้ำเหนือส่ายหน้ามองดุผม

“ใครดื้อ ห้ะ!” ผมขึ้นเสียงใส่ 

“..ดื้อ”

“...” หงุดหงิดครับ  อะไรของมันไม่รู้ เดาอารมณ์ยากจริงๆเมื่อกี้ยังว่าผมไม่น่ารัก นิสัยไม่ดีแล้วมายุ่งกับผมทำไม

“ข้าวดื้อ..”

“มันก็เรื่องของข้าว  จะกลับแล้วถอยไปด้วย” ผมไล่ให้น้ำเหนือถอยออกไปเพราะขวางทางเดินผมอยู่

“โกรธ?”

“อะไร!?!” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ

“ข้าวโกรธเหนือหรอ” เออ กูโกรธ โกรธมากด้วยถ้ามึงไม่เสด็จออกไป ผมทำหน้าบึ้งใส่อีกคน

“เปล๊า~” เสียงสูงเชียวกู

“..โอ๋ๆๆ” จู่ๆผมก็ถูกดึงเข้าไปกอดไว้  ผมอึ้งกับการกระทำของน้ำเหนือ  น้ำเหนือลูบผมของผมเบาๆเหมือนปลอบเด็ก

“...”

“ขอโทษนะ”

“อือ..” ผมขานรับ  ผมบอกแล้วไงไม่ได้โกรธ  ผมคิดว่าน้ำเหนือจะโกรธผมเสียมากกว่าอีก

“ที่พูดไม่ดีใส่..”

“ไม่ได้โกรธ”

“ข้าวร้อง..” น้ำเหนือยังคงไม่ปล่อยตัวผม  แถมยังกอดแน่นขึ้น

“แค่น้อยใจที่โดนว่า..” ผมพูดกระซิบแล้วฝังหน้าเข้ากับอกของอีกคน 

“เหนือหยอกเล่น..” แล้วน้ำเหนือก็โยกตัวเบาๆ  เหมือนปลอบเด็กเวลาร้องไห้  แต่ตอนนี้ผมไม่ได้ร้องป่ะวะ

“นี่!” ผมดันหน้าออกมาจ้องหน้าอีกคน  ถึงจะไม่อยากออกจากอกอุ่นนั่นก็เถอะ  อยากอยู่นานๆ  แต่ไม่ได้

“หืม?” น้ำเสียงทุ่มนุ่มขานรับ 

“ขอโทษที่พูดมากนะ” ผมก้มหน้างุดสำนึกผิด   ผมอึ้งหนักกว่าเก่าเมื่อน้ำเหนือเสยคางผมให้หันมาจ้องตากัน  ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ  มันเต้นรัว
แรงมาก  จนผมคิดว่ามันคงเป็นอาการที่ผิดปกติแน่  แทบทะลุออกมานอกอก

“ข้าวไม่ผิด..”

“...”

“เหนือผิดที่พูดไม่ดีใส่..”

“หึ” ผมส่ายหน้า  น้ำเหนือยิ้มบางแล้วลูบแก้มผมเบาๆ  ผมมองการกระทำของเขาเงียบๆ  หัวใจผมก็ทำงานหนักขึ้น

“...ดีกันนะ” น้ำเสียงทุ้มนุ่มหูเอ่ยขึ้น  พร้อมกับนิ้วก้อยยื่นมาตรงหน้าผม  รู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมา 

“อืม..” ผมพยักหน้ายื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกัน  น้ำเหนือยิ้มบางมาให้  ผมก้มหน้า ไม่กล้าสบตากับอีกคน เขินครับ  เขินหนักมาก กรี๊ดได้ไหม? ช่างเถอะ กูจะกรี๊ดดดด กรี๊ดดด!! >//////////////////////////////////////////////<

“ขอบคุณที่มาส่งนะ..” ผมบอกขอบคุณน้ำเหนือเมื่อรถจอดหน้าหอพักที่ผมอาศัย

“ครับ..”

“งั้นไปนะ” ผมบอกลาน้ำเหนือก่อนจะเปิดประตูรถลงไป

“ข้าว” น้ำเหนือเลื่อนกระจกรถลงเล็กน้อย  ผมจึงก้มตัวยื่นหน้าเข้าไปมองคนที่อยู่ในรถ

“ว่าไง” ผมถาม

“ไปเที่ยว..”

“ห้ะ?”

“พรุ่งนี้เที่ยวกัน”  ผมมองน้ำเหนือตาปริบๆ คือพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์และผมก็ต้องทำงานร้านพี่บาสทั้งวัน  จะว่างก็แต่วันอาทิตย์เท่านั้นซึ่งก็คือร้านปิด

“ขอโทษนะพอดีข้าวไม่ว่างอ่ะเหนือ  ข้าวต้องทำงาน”  ผมบอก

“..ลา”

“ห้ะ?” ลงลาไรวะ น้ำเหนือลงจากรถแล้วเดินดุ่มๆเข้ามาหยุดต่อหน้าผม  ผมจึงยืดตัวขึ้นมอง  ลงมาไมวะ  ?

“ไม่ต้องทำ” เอ่อ... แดกจุดสิครับท่านผู้อ่าน 

“จะบ้าหรอ  ไม่ทำแล้วจะมีเงินที่ไหนจ่ายค่าห้อง” ผมมองน้ำเหนือที่ทำหน้าบึ้งใส่ผมเมื่อผมพูดประโยคนั้นจบ 

“...”

“ถ้าวันอาทิตย์ไปได้  เปลี่ยนเป็นวันอาทิตย์ได้ม่ะ?” ไอ้อาการส่ายหน้าไปมานี่อะไร  ก็กูไม่ว่างไง  บักหำน้อยนิ 

“..ไม่”

“คุณน้ำเหนือครับ  กระผมไม่ว่างจริงๆ เป็นวันอาทิตย์นะๆ” ผมบอกอ้อนๆ

“...” เงียบ..

“นานะๆ  วันอาทิตย์นะเหนือ  ข้าวไม่ว่างจริงๆ  ลางานโดนหักเงินไม่พอใช้แน่ๆ” ผมส่งตาปื๊งๆไปหา  อย่างอ้อนๆ  กรี๊ดด (?) ไม่เคยทำไรแบบนี้มาก่อนเลย  เสียความเป็นชายไปเก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์เลย  -////-

“เหนือเลี้ยง..” หือ? เลี้ยง?

“ว่าไงนะ?”  รู้สึกผมจะไม่ค่อยเข้าใจคำพูดของน้ำเหนือเลยนะ    ขอเถอะช่วยกรุณาพูดประโยคยาวๆครั้งเดียวให้กูเข้าใจด้วยครับ   แบบนี้กูใช้คำว่า “ห้ะ” เปลืองบรรลัยเลยยย...

“ตัวข้าวเล็ก” 

“แล้ว?” ผมเลิกคิ้วถาม

“เหนือเลี้ยงไหว..” มึงพูดอะไรออกมาห้ะน้ำเหนือ  มึงพูดอารายยยยย  จะทำให้ข้าวหอมคนแมนคนนี้เสียความเป็นชายไปอีกเท่าไร  แค่หนึ่ง
เปอร์เซ็นจะไม่เก็บไว้ให้กูเลยหรอออ  ผู้ชายคนนี้อันตราย  อันตรายต่อ...หัวใจ

“พูดอะไรก็ไม่รู้  ไม่คุยด้วยแล้ว  กลับบ้านไปเลยไป” ผมไล่อีกคน  ดูยังทำหน้ามึนใส่อีก  เอ้าๆๆ ไล่แล้วยังไม่ไปอีก 

“ไล่เหนือ?”

“เออกูไล่  ไปเลย ชิวๆ” ผมทำท่าไล่แบบไล่หมาอ่ะครับ  ฮ่าๆๆ  ดูทำหน้าเข้า

“..ไม่ใช่หมานะ!”  มีขึ้นเสียงใส่ด้วยเว้ย  เอาสิๆ  จะเล่นกับกูต่อรึไงวะ 

“เอ่ะ  ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องใช่ไหม  ต้องพูดด้วยภาษาหมาใช่ไหม ได้ๆ บ็อกๆ เอ๊าๆ”   ผมทำเสียงเห่าเหมือนลูกหมาน้อยๆ  ดัดเสียงให้ดูน่ารักนิดๆ 

“..หมาน่ารัก” น้ำเหนือเข้ามาลูบหัวเกาคางผม  ยิ้มขำกับท่าทางของผม

“...” ผมมองรอยยิ้มขำของอีกคน  รู้สึกไม่เหมือนกับวันแรกที่เจอกันเลย  ผมรู้สึกว่าน้ำเหนือมันจะเริ่มพูดมากขึ้น(แค่นิดเดี๊ยววว)  ช่วงนี้ก็ยิ้มบ่อยขึ้น(แค่นีสสสเดียว)  เช่นกัน ฮ่าๆๆ

“ไหนแลบลิ้นสิหมาน้อย”

“แฮ่ๆ” ผมก็แลบลิ้นตามคำสั่ง

“ขอมือด้วย..” เอากับมันสิ  ครับตามใจ  ผมก็ยื่นมือไปวางไว้บนมือที่แบรอ 

“แฮะๆ”

“ข้าว...น่ารักมาก” แล้วน้ำเหนือก็ยีหัวผมจนยุ่งเหยิง

“พอแล้ว  พาเล่นอะไรไม่รู้  กลับบ้านไปได้แล้วไป  ดึกแล้วเดี๋ยวคุณป้าเป็นห่วง” ผมจับมือที่ละเลงบนหัวผมออก  ไม่เข้าใจทำตัวเป็นหมาแล้วมันน่ารักตรงไหนวะ 

“อืม  กลับนะ”

“อือๆ” ผมพยักหน้าน้อยๆ

“..กลับแล้วนะ” บอกว่ากลับแล้วๆไม่เห็นจะขยับตัวเลยพ่อคุณ 

“อือ กลับดีๆ”

“กะ...”

“น้ำเหนือ! จะกลับไปได้ยัง  ข้าวหอมจะได้เข้าห้องแล้ว  บอกว่าจะกลับแล้วไม่กลับซักที  ถ้าบอกว่าอยากอยู่ต่อจะเชื่อมากกว่านะ!” ผมเท้าสะเอวมองคนที่จะกลับไม่กลับซักที

“อยู่ได้หรอ?” น้ำเหนือถามเสียงใสแจ๋ว

“ไม่ได้!”

“...” น้ำเหนือยู่ปาก   

“เหนือกลับบ้านได้แล้ว  ข้าวง่วงแล้ว” ผมบอกพร้อมกับจับอีกคนหันเดินไปทางประตูฝั่งคนขับ  ผมเปิดประตูให้น้ำเหนือส่งสายตาบอก  ขึ้นรถได้ละ

“...”  มองหน้าอยากมีเรื่อง? พูดคิดในใจนะครับ ฮ่าๆๆๆ

“เข้าไปได้แล้ว  ต้องให้จับยัดเข้าไปไหมเหนือ” ผมว่า  น้ำเหนือส่ายหน้า  กว่าจะยอมขึ้นรถได้ เฮ้ออ

“เหนือไปนะ..” เออไปได้แล้ว  อยู่นานๆมันไม่ดีต่อภาวะหัวใจกู 

“ขับรถดีๆ”  ผมบอกพร้อมกับปิดประตูรถให้  ไม่วายมันยังเลื่อนกระจกลงอีก  จะได้กลับบ้านไหมละเนี้ย  ให้เวลา60วิ  ถ้ายังไม่ไปกูจะไม่ให้มึงกลับละนะบ้าน  จะจับปล้ำแม่งตรงนี้แหละ ชะอุ้ย! ผมล้อเล่นนะครับบบบ อย่ามองผมด้วยสายตาแบบนั้น... อย่าปาสิ่งของของท่านมานะครับ  ผมเก็บหมด ฮ่าๆๆๆ

“...” ไม่พูด...

“มีอะไรอีกครับคุณน้ำเหนือ” ผมถาม

“..ฝันดีครับข้าว” แล้วน้ำเหนือก็โปรยยิ้มมาให้ผม  เกลียด... ชอบมาทำให้หลง  แค่นี้ก็ถอนตัวไม่ขึ้นแล้วเว้ย !

“อืมๆ”  ผมโบกมือลาส่งท้าย  รถของน้ำเหนือเคลื่อนตัวออกไปแล้ว  ผมมองจนลับตาถึงได้เดินเข้าหอพักของตัวเอง  ผมเปิดประตูเข้าห้องก็พบกับความว่างเปล่า อ่าว อ่าว.. เสียงแอคโคนะครับ ฮ่าๆๆๆ ในห้องอ่ะว่างเปล่า  แต่ในห้องน้ำมีสัตว์สี่ขาอาศัยอยู่  ผมคงไม่ต้องบอกเนอะว่ามันเป็นใคร...



“กลับมาละหรอไอ้ข้าว” ไอ้ฮาร์ทเดินออกมาจากห้องน้ำ  บนตัวมีผ้าขนหนูสองผืน  ผืนแรกปิดท่อนล่างของมันไว้  และอีกผืนแปะอยู่บนหัว

“ยังม้างงงง”  ผมตอบกวนๆ  มันจึงเดินเข้ามาถีบผมทีหนึ่งก่อนจะเดินเลยไปเปิดตู้เสื้อผ้า 

“ทำไมวันนี้มึงเลิกงานดึก” มันถาม ทั้งๆที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่

“ก็เลิกปกตินั้นละ” ผมบอกมันไปส่งๆ  แล้วหยิบผ้าขนหนูที่อยู่บนราวเตรียมเข้าไปอาบน้ำ

“แล้วไมกลับมาตอนนี้?” มันขยี้หัวตัวเองสองสามทีแล้วก็เอาผ้าไปตากไว้บนราว

“ก็กูไปกินข้าวที่บ้านเหนือมา”

“บ้านไอ้เหนือเนี้ยนะ?”

“เออ  ถามมากจริง  กูไปอาบน้ำละเหนียวตัวชิบ” ผมตอบก่อนจะเข้าไปอาบน้ำชำระล้างตัวให้หอมฉุย  ออกมาก็เห็นไอ้ฮาร์ทนอนคุยโทรศัพท์อี๋อ๋อ  สงสัยคุยกับเด็กมัน  ประจำครับ  รบกวนการนอนของผมมากก คุยกันทีเป็นชั่วโมง  ผมละรำคาญเสียงที่มันดัดจริต คะ ขา  หู้ววว ขนตูดผมลุกเลยครับ  แต่งตัวเสร็จผมก็มานั่งเปิดคอม  จะเล่นเกมส์ซักชั่วโมง สองชั่วโมงก่อนนอน  ทีแรกก็ง่วงนะครับแต่พออาบน้ำเสร็จตามันสว่าง...เวลาตอนนี้ก็ห้าทุ่มนิดๆแล้ว 

“เช็คเฟสหน่อยแล้วกัน..” ผมเปิดเข้าเฟสบุ๊คที่ล็อกอินค้างไว้อยู่แล้ว  มีการแจ้งเตือน ทั้งข้อความและคำขอเป็นเพื่อนในแต่ละวัน  เปิดดูคำขอเป็นเพื่อนมีน้องๆในคณะและนอกคณะแอดเข้ามา  น้องๆจะต้องมารายงานตัวให้พี่ๆในคณะได้รู้จักครับ  ผมจำเป็นต้องกดรับแบบไม่มีข้อยกเว้น  ผมรับน้องๆในคณะไปเรื่อยๆ  เลือกรับเฉพาะคนเท่านั้น  ผมไม่ชอบรับคนมั่วครับ  เพราะบางรายแอดมาเพื่อขายของ  เสนองานตามอินเตอร์เน็ต ทำงานสองสามชั่วโมง เหอะๆ ไม่อ่ะ  ผมมีงานประจำเงินดีกว่าด้วย ฮ่าๆๆๆ เลื่อนดูรายชื่อที่แอดมาเรื่อยๆก็เห็นชื่อที่คุ้นเคยกันดี...น้ำเหนือ  พิชญนุกุล(เจ้าชายน้ำแข็ง)

“ฮ่าๆๆๆ” ผมหลุดขำออกมาเมื่อเห็นชื่อในวงเล็บที่ว่าเจ้าชายน้ำแข็ง  คนบ้าอะไรวะเอาฉายาที่ได้มาตั้งใส่ในวงเล็บด้วย

“เป็นบ้าไรไอ้ข้าว  เสียงดังกูคุยโทรศัพท์อยู่เห็นไหม!” ไอ้ฮาร์ทมันว่า   

“ไม่เห็น” ผมกวนมัน  มันจึงปาหมอนมาใส่ผม  ผมหันไปชี้หน้าอย่างคาดโทษ  มันเสมองไปทางอื่นเหมือนกูไม่ได้ทำ  แล้วมันก็หันไปคุยโทรศัพท์กับสาวต่อ  ผมกอดหมอนที่ไอ้ฮาร์ทโยนมาเมื่อครู่ไว้  แล้วกดรับน้ำเหนือเป็นเพื่อนในเฟส  อ้อยังมีอีกสองคน  คือโดมกับจิม ผมเลือกรับแต่คนรู้จักนะครับ 

ตึ่ง ! เสียงแชทเฟสดังขึ้น

น้ำเหนือ : คิดว่าจะไม่รับ..

ข้าวหอม :  ทำไมจะต้องไม่รับละ?

น้ำเหนือ : ไม่รู้

น้ำเหนือนั่นแหละครับที่เป็นคนทักผมมา  พอรับปุ๊บแชทเด้งปั๊บ...

ข้าวหอม : ถึงบ้านปลอดภัยนะ   

น้ำเหนือ : ปลอดภัยครับ..

แล้วเราก็คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย  รู้สึกว่าน้ำเหนือมันจะถนัดพิมพ์มากกว่าพูดนะ 

“ข้าวคุยกับใครวะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” ไอ้ฮาร์ทมันเอ่ยทักขึ้น

“เสือก!” ผมตอบมัน

“สัส  นอนได้ละ พรุ่งนี้มึงไม่ไปทำงานรึไง  ดูเวลาด้วยครับคุณข้าวหอม” พอมันบอกแบบนั้นผมก็มองนาฬิกากับหน้าจอคอมทันที  ตะ ตีสอง
!! ชิบหายละ  !!

ข้าวหอม : เหนือข้าวต้องนอนแล้ว

น้ำเหนือ : อ่า...ฝันดี

ข้าวหอม : ฝันดี

เห็นดังนั้นผมจึงบอกกับน้ำเหนือว่าผมจะนอนแล้ว  ผมกำลังจะออกออกจากเฟสก็มีแจ้งเตือนโพสขึ้นที่หน้าวอลของผม

น้ำเหนือ พิชญนุกุล > ข้าวหอม  นิวัฒนกิจ
      [ Goodnigth นะหมาน้อยน่ารัก]
[/color]

ผมถึงกับอมยิ้มเมื่อเห็นโพสของน้ำเหนือที่โพสหาผม.. หมาน้อยบ้าไรวะ 

“อาการหนักละไอ้ข้าว รีบมานอนจะได้ปิดไฟโว้ยย กูง่วงงง!!” ไอ้ฮาร์ทโวย  ผมจึงปิดคอม เดินไปปิดไฟห้องก่อนจะล้มตัวนอนบนเตียงของตัวเอง   

“หมาน้อยอะไร  ไอ้บ้า” ผมพึมพำเบาๆกับตัวเอง   
.
.
.
“เขินเว้ย!” แล้วจู่ๆภาพที่ผมทำตัวเป็นหมาก็แวบเข้ามาทั้งรอยยิ้ม ทั้งเสียงหัวเราะ  ประโยคคำพูด น่ารักๆ  มันดังวนในโสตประสาทของผม  ผมคลุมโปงดิ้นพล่านอยู่บนเตียงด้วยความเขิน >////< โอ๊ยย ยิ่งคิดก็ยิ่งเขิน  งื้มมม 

“ไอ้ข้าว!! มดรุกตูดมึงรึไง  รำคาญจะนอนเว้ย!!”  หมดอารมณ์เขินเลยเว้ย  ผมกรอกตาอย่างนึกรำคาญ  กูดิ้นบนเตียงกูไหมวะ  ไม่ได้ไปดิ้นบนเตียงมึง  ไอ้หำเท่าไม้ขีดไฟ!!





TBC.
เค้าเอามาเสริฟให้อีกตอน ... พี่เหนือของเรามีความขี้แกล้งในแบบฉบับตัวเอง
 :katai3:  :katai5:

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
น่ารักก เหนือเเอบชอบข้าวป่ะเนี่ยย

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
น่ารัก! น่ารักมากครับ! ทั้งสองตัวละครพออยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมากๆเลยอะ เป็นคู่พระนางในฝันเลยนะครับเนี่ย

แปลกไหมครับ ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นนิยายทั่วๆไป แต่เรากลับรู้สึกว่ามันให้ฟีลลิ่งที่ดี มันให้ฟีลลิ่งที่น่ารักเมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เป็นโมเมนท์ที่ทำออกมาได้ดี เรียล และมีมิติ อ่านแล้วต้องอมยิ้มครับ แม้จะไม่ได้บรรยายอ่อนหวาน ไม่ได้ใช้คำหรูหรา แต่เป็นที่บรรยากาศของนิสัยตัวละครทั้งสองตัว ที่ทำออกมาได้เข้ากันและรับส่งอารมณ์กันได้ดีเยี่ยม ฉากที่ไปทานข้าวในบ้านก็ดูอบอุ่นน่ารักไม่น่าเชื่อ

นั่นเพราะคาแรกเตอร์ของทั้งคู่มีความเข้ากันได้ครับ มีความเข้มแข็งและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน รู้จักให้และรู้จักรับ การที่เหนือพูดน้อยก็จะทำให้เรารู้สึกว่าเขามี Alpha Male Characteristic แต่เช่นเดียวกันก็มีมุมหยอกล้อน่ารักๆ เช่นเดียวกันข้าวหอม ที่บุคลิกค่อนข้างเฮฮาหน้างง แต่ก็มีความน่ารักอยู่ในตัวเอง และเมื่อมาอยู่กับน้ำเหนือก็ทำให้กลายเป็นโมเมนต์ที่น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ชอบการสร้างบรรยากาศของคู่นี้มากครับ

ในส่วนของการบรรยายอย่างอื่น ผมคิดว่าใส่บทพูดเยอะไปนิดนึงนะครับ ฉากยังไม่ค่อยลื่นไหล แล้วก็บุคลิกของตัวละครอื่นยังมีมิติไม่มากพอ อาจจะเพราะใส่มาเร็วไปครับ ภายในเวลา 3 ตอน ถือว่ามีตัวละครที่เปิดตัวมาค่อนข้างเยอะ เลยทำให้อาจดูขาดๆเกินๆไปบ้าง อาจต้องปรับปรุงนิดหน่อย แต่เรื่องของคู่พระนางถือว่าทำได้ดีมากๆครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
นี่นึกว่าฮาร์ทเเอบชอบหนูข้าวสงสัยจะคิดมากไป5555555

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

ขอบพระคุณ คุณGrey Twilight ที่บอกถึงข้อบกพร่องบางส่วน  ในส่วนที่เรายังไม่ดีพอเราจะนำมาปรับปรุงแก้ไขและจะพัฒนามันไปเรื่อยๆนะคะ  คือเพิ่งเคยแต่งแนวใสๆ น่ารักๆ แบบนี้  ฮ่าๆๆ และขอบคุณทุกคนที่ติดตามและสามารถติชมกันมาได้เรื่อยๆนะคะ  เราจะนำคำติชมของท่านมาปรับปรุงและพัฒนาคะ  :pig4:   :pig4:  :pig4:



น่ารัก! น่ารักมากครับ! ทั้งสองตัวละครพออยู่ด้วยกันแล้วน่ารักมากๆเลยอะ เป็นคู่พระนางในฝันเลยนะครับเนี่ย

แปลกไหมครับ ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นนิยายทั่วๆไป แต่เรากลับรู้สึกว่ามันให้ฟีลลิ่งที่ดี มันให้ฟีลลิ่งที่น่ารักเมื่อทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน เป็นโมเมนท์ที่ทำออกมาได้ดี เรียล และมีมิติ อ่านแล้วต้องอมยิ้มครับ แม้จะไม่ได้บรรยายอ่อนหวาน ไม่ได้ใช้คำหรูหรา แต่เป็นที่บรรยากาศของนิสัยตัวละครทั้งสองตัว ที่ทำออกมาได้เข้ากันและรับส่งอารมณ์กันได้ดีเยี่ยม ฉากที่ไปทานข้าวในบ้านก็ดูอบอุ่นน่ารักไม่น่าเชื่อ

นั่นเพราะคาแรกเตอร์ของทั้งคู่มีความเข้ากันได้ครับ มีความเข้มแข็งและอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน รู้จักให้และรู้จักรับ การที่เหนือพูดน้อยก็จะทำให้เรารู้สึกว่าเขามี Alpha Male Characteristic แต่เช่นเดียวกันก็มีมุมหยอกล้อน่ารักๆ เช่นเดียวกันข้าวหอม ที่บุคลิกค่อนข้างเฮฮาหน้างง แต่ก็มีความน่ารักอยู่ในตัวเอง และเมื่อมาอยู่กับน้ำเหนือก็ทำให้กลายเป็นโมเมนต์ที่น่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ชอบการสร้างบรรยากาศของคู่นี้มากครับ

ในส่วนของการบรรยายอย่างอื่น ผมคิดว่าใส่บทพูดเยอะไปนิดนึงนะครับ ฉากยังไม่ค่อยลื่นไหล แล้วก็บุคลิกของตัวละครอื่นยังมีมิติไม่มากพอ อาจจะเพราะใส่มาเร็วไปครับ ภายในเวลา 3 ตอน ถือว่ามีตัวละครที่เปิดตัวมาค่อนข้างเยอะ เลยทำให้อาจดูขาดๆเกินๆไปบ้าง อาจต้องปรับปรุงนิดหน่อย แต่เรื่องของคู่พระนางถือว่าทำได้ดีมากๆครับ

ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
5

Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน


วันเสาร์

ผมมาทำงานในช่วงเช้าของวันรับออเดอร์ลูกค้าโต๊ะนู้นโต๊ะนี้  เก็บตงเก็บโต๊ะหลังจากที่ลูกค้ารับประทานเสร็จเพื่อต้อนรับลูกค้าใหม่เข้ามา    จนเวลาล่วงเลยมาเป็นบ่ายสามโมง...

“นี่ๆน้องข้าวจ้ะ” พี่แววเรียกผมครับ

“ครับพี่แวว”

“เพื่อนน้องข้าวคนเมื่อวานใช่ไหมคะ” ผมหันไปมองยังโต๊ะที่พี่แววชี้บอก 

“ครับ” ผมพยักหน้า

“พี่คิดว่าเขาจะกลับไปแล้วซะอีก  นี่ก็นั่งมาหลายชั่วโมงแล้วตั้งแต่ร้านเปิดเลย”

“เหอๆครับ”   น้ำเหนือไงจะใครละ  ไม่ต้องสงสัยอะไรให้มาก  ไม่มีเพื่อนคนไหนจะมาสถิตร้านที่ผมทำงานได้ทั้งเกือบทั้งวันแบบนี้หรอกครับ  เห็นนั่งหลายชั่วโมงแล้ว  จริงๆคิดว่ามาแค่แปบเดียวจะกลับแต่เปล่าครับยังอยู่

“แต่ก็ดีนะ  พี่จะได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ  แอร๊ยย  มีคนหล่ออยู่ในร้านพี่พร้อมทำงานเสมอๆ”  พี่แววยังคงเพ้อฝันต่อไป สาวๆในร้านเองก็เช่นกันมองน้ำเหนือแล้วพากันกรี๊ดกร๊าดใหญ่เลยครับ  บางคนก็เข้าไปนั่งคุยด้วย  บางก็ทำทีเป็นของหล่นต่อหน้าน้ำเหนือ  ผมเห็นละอยากจะตะโกนใส่หน้า  ‘รีบไปให้พ้นๆร้านเลย  อยู่อ่อยชาวบ้านเขารึไง’ แต่ก็ทำไม่ได้ ผมไม่กล้าพอ ฮ่าๆๆๆ

“..ข้าว”  ผมหลุดจากภวังค์เมื่อมีคนเรียก  หันไปก็พบน้ำเหนือที่เดินตรงมายังผม

“มีไรหรอเหนือ?” ผมถาม

“กลับแล้ว”

“ห้ะ?”

“กลับบ้าน” อ้อ กลับบ้าน เออไปดิ  มาบอกทำไม

“เคๆกลับดีๆนะ” ผมบอก  รีบกลับไปเล้ยไป ชิ้วๆ อยู่อ่อยชาวบ้านเขาอยู่ได้  ไม่รู้รึไงว่าตัวเองหล่อ หึ่ย! นึกถึงแล้วขึ้น แต่เดี๋ยวนะไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยมาหวงเขาทำไม  ... ผมจึงสลัดความคิดนั้นทิ้งไป

“เป็นไรรึเปล่า?”

“อ๋อ  ไม่ๆพอดีผมมันปิดตา” ผมบอก

“..งั้นตัด”

“อืม  เดี๋ยวข้าวว่างก่อนคอยตัด  เหนือกลับบ้านได้แล้วไป”

“ไล่?” เปล่าเฟ้ย  เห็นสายตาคนมองไหม  แกนี่มันจะเด่นไปไหน  รู้สึกจะทนไม่ไหวแล้วเว้ย

“เปล่าไปได้แล้ว  จะทำงานต่อแล้ว” ผมบอกแล้วผลักหลังน้ำเหนือให้เดินไปยังประตูร้าน

“..ครับๆ” กว่าจะไปได้ เฮ้ออ  ผมหันไปมองสาวๆที่อยู่ในร้านตอนนี้ทุกคนมองตามน้ำเหนือตาละห้อย หึๆ อย่าหวังจะได้แอ้มน้ำเหนือละ  ฮ่ะๆ ทำงานต่อดีกว่า...

‘นี่ๆเด็กเสริฟคนนั้นกับผู้ชายที่หน้าหล่อๆคนเมื่อกี้เป็นอะไรกันน่ะ’

‘แกว่าเขาสองคนเป็นแฟนกันป่ะ’

‘ฉันว่าไม่เห็นควรกันเลย’

‘เป็นเกย์หรอเสียดายจัง’

‘กรี๊ดด..เป็นแฟนกันชัวร์!’

‘โอ๊ยย ฟินนน><’

บลาๆๆ

เสียงซุบซิบ หรือ แม้แต่พูดให้ได้ยินดังแว่วมากระทบเส้นประสาทหูผม  บ้างก็มองผมหัวจรดเท้าเหมือนดูถูกเหยียดหยาม  ทำไมว่ะ  หน้าอย่างกูจะมีแฟนหล่อไม่ได้รึไง โด่วว

“น้องคะ”

“ครับ  ต้องการสั่งอะไรเพิ่มรึเปล่าครับ” ผมถามเมื่อมาหยุดยังโต๊ะของผู้หญิงสามคนที่เรียกผมเมื่อครู่นี้

“ไม่ได้จะสั่งค่ะ” ไม่ได้สั่งแล้วจะเรียกกูเพื่อ?

“ครับ?” ผมเลิกคิ้วถาม  แล้วเรียกกูไม

“ผู้ชายที่คุยกับน้องเมื่อกี้นี้อ่ะคะ”

“ทำไมหรอครับ”ผมถามอย่างสงสัย  ถามถึงน้ำเหนือทำไม  สนใจ?

“เขาเป็นอะไรกับน้องหรอคะ  เห็นคุยกันเหมือนสนิทสนม”

“คุณอยากรู้ไปทำไมหรอครับ?” ผมไม่ตอบแต่ถามกลับ  ผู้หญิงคนนั้นชักสีหน้าใส่เล็กน้อย  แต่ก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มเหมือนเดิม

“ก็แค่ถามดูอ่ะคะ”

“งั้นผมคงตอบไม่ได้  เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว ขอโทษด้วยนะครับ” ผมบอกพร้อมโค้งอย่างมีมารยาทให้เล็กน้อยแล้วก็เดินจากมา  ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นตามหลังมาด้วย

“เหอะ ! คิดว่าฉันอยากรู้มากรึไง”

“...” เออมึงไม่อยากรู้เลยยายป้า  แล้วที่ถามกูเมื่อกี้มันอะไร  ไหนหน้าอยากจะรู้คำตอบนัก  ไม่บอกเว้ยปล่อยให้คิดเอาเอง  บอกไปเดี๋ยวกูมีคู่แข่งเพิ่มทำไง  ไม่ได้ๆ 




“ขอบคุณสำหรับวันนี้ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัยครับ  พรุ่งนี้พักผ่อนให้เต็มที่เจอกันวันจันทร์ครับ” พี่บาสเจ้าของร้านสุดหล่อใจดี  ช่วงนี้งานบริษัทคงว่างเห็นมาสถิตที่ร้านบ่อยขึ้น  ไอ้ผมที่คิดจะอู้หน่อยก็ไม่ได้  มันเซ็งตรงนี้แหละครับ

“ไอ้ข้าวกลับไงวะ” พี่บาส

“เดินกลับม้างงง” ผมตอบกวนๆ

“อย่ากวน  จะไปส่ง”

“เฮ้ยจริงดิพี่  ผมไม่เกรงใจนะ” ว่าแบบนั้นก็กระโดดขึ้นรถพี่เขาทั้งทีเลย  มีคนใจดีไปส่ง ประหยัดตังดีครับ วะฮ่าฮา

“เฮ้ออ” ถอนหายใจไมไหนบอกจะไปส่ง  เดะๆ ผมมองพี่บาสที่มานั่งประจำที่คนขับรถแล้วเรียบร้อย  ชะอุ้ยลืมบอกลาพี่ๆที่ทำงานด้วย ผมจึงเลื่อนกระจกรถลง

“ไว้เจอกันวันจันทร์ครับพี่ๆ  ฝันดีเน้อ จุ๊บๆ” ผมบอกพร้อมส่งจุ๊บฝันดีส่งท้ายให้  พี่ๆเขาแค่โบกมือลาแล้วก็หัวเราะผมเท่านั้น  ผมเลื่อนกระจกปิดแล้วพี่บาสจึงเคลื่อนรถออกไป  ผมจึงเปิดเพลงฟังคลอๆระหว่างทาง   ผมทำเหมือนเป็นรถตัวเองครับ  สบายๆ  พี่บาสก็ไม่ได้ว่าอะไร  ผมหลับตาฟังเพลงเพราะๆของคลื่นวิทยุไปเรื่อยๆ  ความเงียบในรถไม่ทำให้ผมอึดอัดอะไร

“..ข้าว”

“ครับพี่” ผมคานรับ

“เพื่อนแกดูเหมือนจะติดใจกาแฟร้านพี่จังนะ  เห็นนั่งทั้งวัน”

“งั้นมั้ง” ผมตอบอย่างขอไปที  รู้สึกง่วงจริงๆ  แอร์เย็นๆ  เพลงชิลๆ

“หรือว่าจะมาเฝ้าแกวะ หึ”

“จะมาเฝ้าผมทำไม” ผมขมวดคิ้วมองพี่บาสที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  ฮัมเพลงตามคลื่นวิทยุที่กำลังเปิด

“ใครจะไปรู้” พี่มันเพียงแค่ไหวไหล่

“ขับรถไปเงียบๆเลยไม่ต้องพูดมาก” ผมว่า  นึกถึงคำพูดพี่บาสเมื่อกี้ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น  อาจจะแค่มานั่งกินกาแฟเฉยๆก็ได้  อย่างตอนที่น้ำเหนือยังจำผมไม่ได้ยังเคยมาเลย  พี่บาสมันบ้าคิดไรก็มีรู้  แต่...ถ้าเป็นแบบพี่บาสพูดจริง ผมก็รู้สึกดี อย่างน้อยน้ำเหนือก็คงจะมีใจให้ผมบ้างละวะ  เฮ้ย ! คิดไรวะ พอๆๆ พอเลยไอ้ข้าว

“ขอบคุณที่มาส่งนะพี่  ขับรถดีๆ บาย” ผมบอกลาพี่บาสก็เปิดประตูลงรถ  พี่บาสก็ขับรถออกไปทันที

“เฮ้ออ เหนื่อย ง่วงด้วย” แทบจะยืนหลับแล้วครับ  ปกติผมทำงานแต่ช่วงเย็นแต่เฉพาะวันเสาร์เท่านั้นทำทั้งวัน  เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้ลูกค้าก็เยอะกว่าปกติ  จึงเหนื่อยเป็นเท่าตัว  อาบน้ำนอนดีกว่า...

ไลน์ !(เสียงข้อความไลน์)

ใครส่งข้อความมาวะ  ผมเปิดดูเป็นข้อความจาก..น้ำหนือ

‘พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันนะ  เดี๋ยวไปรับ ฝันดีครับ’ ผมจึงตอบกับไป

‘ฝันดีเช่นกัน’

ผมเก็บโทรศัพท์เปิดเข้าไปในห้องเห็นไอ้เพื่อนร่วมห้องกำลังนั่งดูทีวีกินข้าวอยู่

“กลับมาแล้วหรอไอ้ข้าว”

“เออออ” ผมลากเสียงยาวว  อยากนอนแล้ว แต่ต้องอาบน้ำก่อน

“กินไรมายัง”  ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินไร  พอคิดแบบนี้ชักหิว

“ยังวะ  มึงกินไรกินด้วยดิ” ผมว่าแล้วเดินไปนั่งข้างๆมัน  มันยกชามขึ้นมาตรงหน้าผม

“อาหารเด็กหอ...มาม่า”

“กินตามาม่าตัวกูเหลืองละเนี้ย” แต่ถึงแบบนั้นผมก็กิน  แย่งไอ้ฮาร์ทด้วย ฮ่าๆๆ  พออิ่มก็นั่งเล่นเกมส์กับมันให้มาม่าย่อยก่อนที่จะลุกอาบน้ำเตรียมเข้านอน

“เออข้าว พรุ่งนี้ไปดูหนังกัน วันหยุดมึงใช่ไหม?”  ผมกำลังนั่งเช็ดผมให้แห้งก็ต้องหันไปสนใจเพื่อนร่วมห้องที่นอนแชทกับสาวๆมันอยู่

“อืมหยุดแต่มีนัดแล้ววะ” ผมบอกพรางขยี้หัวไปด้วย

“นัด? นัดไรวะ ไมกูไม่รู้เรื่อง” จะรู้เรื่องได้ไงกูไม่ได้บอก 

“นัดกับเหนือ” ผมบอก

“ไอ้เหนืออะนะ”

“เออ” ผมแห้งซักที  ผมเอาพาไปตากแล้วกลับมาล้มตัวลงนอน  ง่วงครับ  พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าน้ำเหนือจะมารับตอนไหนยังไงคอยโทรถามพรุ่งนี้อีกที




ออฟไลน์ Cencer

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

วันอาทิตย์

ก๊อก ๆๆ

“อื้ออ..”

ก๊อก ๆๆ

“เชี่ยฮาร์ทไปเปิดประตูดิ” ผมงัวเงียบอกมัน

“...” เงียบ  ไม่มีเลขหมายปลายทางจากหมายเลขที่ท่านเรียกกรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ

ก๊อก ๆๆ

“ไอ้ฮาร์ทโว้ย!!” ผมลุกขึ้นนั่งพร้อมปาหมอนใส่มันที่นอนยังไม่ตื่น  ประเด็นผมขี้เกียจลุกวันหยุดก็อยากจะตื่นสายๆ  ใครมันมากวนแต่เช้าวะ

“เหี้ยไรไอ้ข้าว” ตื่นแล้วครับ มันตื่นแล้ว

“ไปเปิดประตูดิ๊..” ว่าจบผมก็ล้มตัวลงนอนคลุมโปงต่อ

“แม่งตัวเองตื่นก่อนยังใช้กู..แล้วใครเสือกมาแต่เช้าวะ” ได้ยินเสียงไอ้ฮาร์ทบ่นงึมง่ำฟังไม่ได้ศัพท์

ก๊อก ๆๆ

“โว้ย รู้แล้วเคาะหาพระแสงอะไรไหนหนาวะ!...อ้าวไอ้เหนือ”  โว้ยย มึงจะโว้ยทำไมเสียงดังไอ้เหี้ยฮาร์ทกูจะนอน ฮึ่ย!

“เงียบหน่อยได้ไหมจะนอน!!!” ผมตะโกนลั่นห้องทั้งๆที่ตายังปิดอยู่  แต่เดี๋ยวนะประโยคท้ายของไอ้ฮาร์ทเหมือนได้ยินชื่อคุ้นๆ  อะไรเหนือๆนะ  ผมลืมตาเพื่อความแน่ใจ และแล้วก็เป็นอย่างที่คิด...น้ำเหนือมาอยู่นี่ได้ไงวะ?

“อรุณสวัสดิ์ข้าว”

“อ..อะ อรุณสวัสดิ์” มึน งง  นี่มันอะไร  เคยรู้สึกใช่ไหมครับตื่นขึ้นมาด้วยความมึน  ผมกระพริบตาปริบๆมองบุคคลที่สามของห้อง 

“มาไมแต่เช้าวะ” ไอ้ฮาร์ทเป็นคนถามครับ มันเปิดประตูให้น้ำเหนือเข้ามาในห้องแล้ว  ส่วนผมยังอยู่ที่เดิม..บนเตียง

“มารับข้าว”

“ตั้งแต่เจ็ดโมงเนี้ยนะ!” ไอ้ฮาร์ทมันถาม   เออผมก็คิดว่ามันเช้าไปเล้ย  นี่ปกติไม่บ่ายผมไม่ตื่นนะเว้ย

“อืม..” เอ่อ..กูยังไม่อยากห่างจากเตียงอันเป็นที่รักเลย มาเช้าไปไหมพ่อคูณณณณณณ

“แล้วจะไปไหนกัน  กูไปด้วยดิ  ไปดูหนังกันป่ะพวกมึงจะไปกันสองคนกูไม่ยอมหรอกเว้ยกูจะไปด้วย  ไอ้ข้าวกูไปด้วยนะ”  อ้าวมาถามกูทำไมถามเพื่อนมึงนู้นนนน

“ถามเหนือดิ  กูแล้วแต่คนขับรถ” ผมบอก  น้ำเหนือหันมามองผมสลับกับไอ้ฮาร์ท  คงกำลังคิดว่าจะเอาไง

“..แล้วแต่ข้าว” เอ้า มาแล้วแต่กูอีก  เกลียดอะไรที่ต้องมาให้ตัดสินใจจริงๆ อุตสาโบ้ยไปทางนั้นแล้ว  โอเคกูตอบเองก็ได้

“จะไปก็ไปดิ  แต่มึงต้องเลี้ยงกูกับเหนือนะ”

“ไอ้งก!”

“เหม็นปากวะไอ้ฮาร์ทไปอาบน้ำแปลงฟันไป” ผมไล่มันไปอาบน้ำ  จริงๆก็ไม่ได้กลิ่นอะไรหรอกครับ  มันยืนห่างจากที่ผมนอนตั้งเยอะแค่อยากกวนมันเฉยๆ

“สัส !”  ผมไหวไหล่ไม่สนใจล้มตัวลงนอนต่อรออาบน้ำต่อจากมัน

“...” พอไอ้ฮาร์ทเข้าห้องน้ำห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งจากที่ผมนอนก็ต้องลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงจ้องคนในห้อง

“เอ่อ..ชวนพวกไอ้เวฟกับไอ้เพียวไปด้วยได้ไหม”

“..อืม”

“โอเค” ผมกดโทรศัพท์ไปหาไอ้เวฟคนแรก  รอสายซักพักมันก็รับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย

(โหล!!) ฟังจากเสียงก็รู้ว่าหงุดหงิดแค่ไหน  กูไม่ได้ตั้งใจจะโทรไปหามึงแต่เช้านะเว้ยย  ขอโต๊ดดด

“กูเองนะข้าว  วันนี้มึงว่างป่ะไปดูหนังกัน” ผมบอก

(เออๆๆกี่โมง)

“เออแล้วกี่โมงวะ  แปบนะ”

(เชี้ยไรของมึงเนี้ย เออเร็วๆ) ผมละมือจากโทรศัพท์ลงแล้วหันไปถามน้ำเหนือที่นั่งอยู่บนเตียงผม  บนเตียงผม  มาตอนไหนวะ  แล้วมานั่งนี่ตอนไหนไมกูไม่รู้เรื่อง  ช่างเถอะๆ

“คือข้าวจะถามว่าเราจะออกไปตอนกี่โมง” ผมถาม

“..ข้าวอาบน้ำเสร็จ”

“...” ผมนั่งนึกถ้าผมอาบน้ำเสร็จก็ไม่น่าจะนาน  นี่มันเพิ่งจะเจ็ดโมงไอ้ฮาร์ทออกมาผมก็เข้าต่อ  ไม่น่าจะเกินแปดโมงครึ่ง  แต่เวลานี้ห้างมันจะเปิดแล้วหรอว่ะ

(ไอ้ข้าวยังไง  เร็วๆกูง่วงจะนอนต่อ) เสียงไอ้เวฟดังลอดออกมาให้ได้ยิน

“ซักสิบครึ่งแล้วกัน เจอกันที่ห้างXX” ผมนัดแนะเวลาพร้อมสถานที่มันเรียบร้อยมันก็ตัดสายไป

“..สิบครึ่ง?” น้ำเหนือถาม

“อืม  ตอนนี้เช้าไปห้างคงยังไม่เปิด” ผมบอก

“...” แล้วก็เงียบ  เดาอารมณ์ไม่ได้จริงๆ  คือน่าจะพูดอะไรให้มันมากกว่านี้หน่อยได้ไหม  คืออยากรู้ว่ากำลังคิดอะไรเว้ย

“โหลไอ้เพียวตื่นยัง” ไม่อยากให้เงียบผมจึงโทรหาเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้ไม่รู้ทำอะไร  นอนยังไม่ตื่น หรือว่ายังไม่นอน

(มีไรไอ้ข้าว  กูกำลังขับรถอยู่) ไอ้เพียวตอบ

“มึงขับรถไปไหนแต่เช้าว่ะ”  ผมถาม

(พอดีเพิ่งเสร็จกิจวะ กำลังจะกลับคอนโด) เพิ่งเสร็จกิจ เหอะๆ  นี่มันเล่นกันยันเช้าเลยหรอ

“เอ้ออ ระวังเหอะโรคจะถามหามึง”

(กูป้องกันดีเว้ย  ว่าแต่โทรมาแต่เช้ามีไร)

“จะชวนไปดูหนัง  ไอ้เวฟก็ไป ไอ้ฮาร์ทและน้ำเหนือ” 

(จะไปเดทกันสองคนไม่น่าเอาพวกนั้นไปด้วยนะ) มันว่าเสียงกลั้วหัวเราะ  แซวกูได้แซวกูดีนะไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดี

“เรื่องของกู  เจอกันสิบครึ่งที่ห้างXX ห้ามเลทนะมึง แค่เนี้ยเปลื้องตังกู” ผมตัดสายมันทิ้งทันที  ไม่อยากเสวนากับมันมากเดี๋ยวแม่งหาเรื่องแซวไม่เลิก
.
.

สิบโมครึ่งห้างXX

ตอนนี้เราอยู่กันที่ห้างแล้วครับ  ผม น้ำเหนือและไอ้อาร์ทนั่งกินไก่เคเอฟซีรอพวกไอ้เพื่อนที่นัดแนะให้มาเจอกันที่นี่  มีมาเพิ่มคือเพื่อนของน้ำเหนือกับไอ้ฮาร์ท คือจิมและโดม

“ชิ้นนี้ของกูอย่ามาแย่ง”

“ของกูไอ้ข้าวของจองแล้ว”

ตอนนี้เกิดศึกชิงหน่องไก่กันครับ  ผมกับไอ้ฮาร์ททำสงครามกันอยู่  ผมมองชิ้นนี้ตั้งนานแล้วกะจะเอาไว้กินตอนท้ายแต่ไม่ฮาร์ทสิครับอยู่ๆ
ก็จะมาแย่งไก่ผม  ไม่ยอมหรอกเฟ้ยย  ฆ่ากูให้ตายกูก็ไม่ยกไก่ชิ้นนี้ให้มึงเด็ดขาด

“มีตั้งหลายชิ้นมาแย่งกูทำไม”ผมว่าพร้อมกับเอาส้อมจิ้มตัวหน่องไก่ชิ้นนั้นไว้

“มึงสิแย่งกู  เอาชิ้นอื่นไปเส่!” ใช่เรื่องหรอ กูจิ้มก่อนกูควรได้

“มึงก็แดกชิ้นอื่นไปเส่!”

“ชิ้นนี้อร่อยกว่ากูรู้ ไอ้ข้าวปล่อย!”

“ไอ้ฮาร์ทมึงสิต้องปล่อยของกู”

“..จะแย่งกันทำมายยย  กูกินเองชิ้นนี้”

“อ๊ะ ! ไอ้เหี้ยเวฟ!!”

“แม่ง!” ผมกับไอ้ฮาร์ทถึงกับสบถพร้อมกันเมื่อหน่องไก่ที่เราสองคนยื้อยุดกันอยู่นานได้เข้าไปในปากไอ้เวฟเรียบร้อยแล้ว 

“โอ๊ย! ไอ้ข้าวตบหัวกูทำไมวะ” ผมพูดทั้งๆที่ยังเคี้ยวไก่ในปากอยู่  รู้ไหมกูต้องตีกันกะไอ้ฮาร์ทเพื่อชิ้นนั้น

“อยาก!” ผมตอบมันกอดอกมองเคืองๆ มันยังมีหน้ามายิ้มหน้าระรื่นอีก

“ดีไอ้ข้าว ไอ้เหนือ ไอ้ฮาร์ท” ไอ้เพียวเอ่ยทัก

“..อืม” น้ำเหนือ

“ไม่ดีเว้ย!” ยังเคืองเรื่องไก่อยู่ครับ

“เออๆๆดีๆๆ” ไอ้ฮาร์ท

“ไงสหาย..” และก็มีจิมกับโมมาสมทบ  มาครบก๊วนแล้วครับ  ก็นั่งกินคุยกันซักพักก็พากันขึ้นไปยังชั้นบนที่เป็นส่วนของโรงหนัง  เราเลือกดูหนังผีครับ  สดๆร้อนๆเลย คอนเจอริ่ง2  ผมนั่งกลางนะครับ  ไม่ยอมนั่งข้างเด็ดขาด ฮ่าๆๆ กลัวครับ แต่ก็ชอบดูหนังผี  ไม่รู้ทำไม  สงสัยผมจะโรคจิต  คนที่นั่งริมจะมีสองคนใช่ไหมครับ  ริมฝั่งขวาจะเป็นไอ้เวฟเพราะมันจะเต๊าะหญิงที่มาคนเดียว  ดุความคิดมันสิครับ  ถัดมาจะเป็นไอ้เพียวก้อารมณ์คล้ายๆกับไอ้เวฟเลยครับเต๊าะสาวที่นั่งข้างไอ้เวฟ  และเดี๋ยวอีกซักแปบมันก็จะตีกัน  ถัดมาอีกก็เป็นไอ้ฮาร์ท  ผม  น้ำเหนือ จิม  และริมฝั่งซ้ายนั่นจะเป็นโดม

“เหี้ย!” ผมสะดุ้งเมื่อมีฉากที่ผีปู่แก่ๆพุ่งมา  ขงขานี่ยกขึ้นมาอยู่บนเก้าอี้เลยครับ เสียงซาวเอฟเฟ็คก็น่ากลัว  สังเกตคนข้างกายไม่มีอาการตื่นกลัวแบบผมเลย  ทำไมมีแค่ผมคนเดียว  ไอ้ฮาร์ทนี่นั่งขำผมครับ  ส่วนน้ำเหนือนั่น  ตายอย่างสงบ เอ้ย ! ไม่ใช่คือนั่งนิ่งมากกครับ  เหมือนกับหุ่นที่ไม่มีชีวิต

“เชี้ย!” และเสียงผมก็เกิดอีก  หนังเรื่องนี้ทำผมหลอนแรงมาก  ผมหลอนตรงผีแม่ชีนี่สิ  เจ้แกมานิ่งๆแต่เล่นหลอนไปตามๆกัน  ... จนหนังจบ  ทุกคนลุกขึ้นเดินออกจากโรง  ผมว่าผมดูไม่คุ้มเงินที่เสียไปเลยครับ  ปิดตาแทบทั้งเรื่อง ฮ่าๆๆ แต่ถึงแบบนั้นภาพมันก็ยังติดตาผมนะครับ


“สนุกไหมข้าว?” น้ำเหนือที่เดินข้างผมถาม  ผมยิ้มเจื่อนเมื่อพูดถึงหนังที่เพิ่งดูจบไปเมื่อครู่

“สนุก..มั้ง”ผมตอบ

“โอ๊ยยไอ้เหนือมึงก็ถามมันได้ กูเห็นแม่งนั่งปิดตาทั้งเรื่อง ฮ่าๆๆ”  ไอ้ฮาร์ทเสือกจริงนะมึง  น้ำเหนือถามกูเฟ้ย

“ไอ้ข้าวมันก็เป็นแบบนี้แหละมึง  กลัวแต่ก็ชวนดุหนังผีตลอด” ไอ้เพียวเสริม

“เออแม่งรู้ว่ากลัวแล้วยังเสือกดู” ไอ้เวฟถมต่อ ใช่เส่! ไอ้พวกไม่กลัวอะไรเลย เหอะๆ  อย่าให้กูรู้จุดอ่อนพวกมึงนะจะล้อสามชาติสิบชาติ
เลย

“เหนืออย่าไปฟังพวกหมามันเห่าหอนเลยเราไปร้องเกะกันดีกว่า” ผมเหล่มองพวกมันก่อนที่จะจับแขนน้ำเหนือลากไปยังโซนคาราโอเกะ

“อิข้าวอย่ามาแย่งไมค์ฉันสิย๊ะ!” ไอ้เวฟมันจีบปากจีบคอทำท่าเป็นตุ๊ดอีกแล้วครับ  ตลอดดเลยครับ  มาคาราโอเกะที่ไรผมจับไมค์ได้ไม่ถึงสองเพลงก็ถูกแย่งจากไอ้เพื่อนเวรนี่ตลอด  เป้นอันว่าผมต้องไปนั่งฟังเพลงที่มันจะหอนให้ฟัง

“เอาเพลงนี้มึงๆๆ รักน้องปีหนึ่ง  ไอน้ำๆ” ไอ้จิมบอกไอ้เวฟ

“เก่าไปป่ะมึง บ่งบอกอายุมาก” ไอ้ฮาร์ท 

“เออน่ากูชอบ  เข้าบรรยากาศตอนนี้ดีไม่ใช่หรอว่ะ  เราปีสองไปเต๊าะเด็กปีหนึ่งเอาเพลงนี้ไปจีบติดชัวร์” ไอ้จิมยังคงพูดต่อ มึงมั่นใจว่าจะติด  แต่ก็ไม่แน่  วิศวะแหล่งรวมผู้ชายหน้าตาดี ไอ้จิมเองก็ใช่ว่าจะไม่ดีอะไร  แต่ที่สุดคงเป็นน้ำเหนือ รองมาก็ไอ้ฮาร์ทละวะ  นี่ไม่ได้อวดเพื่อนตัวเองนะครับ

“โอเคจัดปายยย  ไอ้เพียวมิวสิค!” ไอ้เวฟมันบอกพร้อมทำท่าขอมิวสิคมัน  ตามคำขอดนตรีเพลงรักน้องปีหนึ่งดังขึ้นก็เริ่ม

“โอ้แม่นวลน้องเนื้อทองจ๊ะ เธอคือนางฟ้าหรือนางไม้
หล่นมาจากทิพย์วิมานไหน ทำไมช่างโสภี
ทรวดทรงองค์เอวงามบาดตา โอ้ยหยาดจากฟ้ามาสู่ดิน
ถ้าเฉียดพระอินทร์คงเพ้อรำพันว่าโดน
ได้สบตาซึ้งแค่หนึ่งครั้ง ดั่งถูกมนต์ขลังให้ชะงัก
อยากไปแจ้งความที่โรงพัก เจอคำรักพุ่งชน
บาดเจ็บข้อเท้าระบมนัก เพราะตกหลุมรักยี่สิบหน
เหลืออดเหลือทน ต้องเผยความในหัวใจ”  ไอ้เวฟเริ่มสเต๊ปแร๊ปท่อนพี่ใหม่ครับ  อย่างฮา ฮ่าๆๆ  ส่วนท่อนฮุคนั้นจะเป็นจิมครับ มันแบ่งเนื้อร้องกันเรียบร้อยครับ

“อยากบอกคนดีว่าพี่ปีสอง รักน้องปีหนึ่งจังเลย
โฉมงามทรามเชย ได้โปรดเฉลยว่าถ้าพี่จีบจะถีบพี่ไหม
อยากบอกคนดี ว่าต่อไปนี้ถึงใครยิงพี่ก็คงไม่ตาย
เพราะว่าดวงใจ พี่ฝากเอาไว้ให้มันอยู่ที่น้องคนเดียว” และมันสองตัวก็เต้นด้วยร้องด้วย  จนไม่ได้ฮาร์ทมันบอกไม่ไหว  มันเลยไปแจมด้วย  ต่อไปก็ไอ้โดม  ไอ้เพียว  ส่วนผมหรอนั่งกับน้ำเหนือสองคนครับแต่ก็ร้องตามไปด้วย  จริงๆอยากจะลุกไปร่วมด้วยนะครับแต่เกิดอาการอายถ้าผมไปเต้นท่าประหลาดอย่างพวกไอ้เวฟ  ก็ถ้าอยู่กับไอ้เพียวไอ้เวฟไอ้ฮาร์ทผมไม่อายหรอก  แต่ตอนนี้น้ำเหนืออยู่ด้วย  หน้าเลยบางนีสหนึ่งงง!!  จนมาถึงท่อนสุดท้ายก่อนจบเพลงมันคันปากยิกๆ  ไม่ได้ลุกก็ร้องร่วมแม่งตรงนี้แล้วกัน

“อยากบอกคนดีว่าพี่ปีสอง รักน้องปีหนึ่งจังเลย
โฉมงามทรามเชย ได้โปรดเฉยว่าถ้าพี่จีบจะถีบพี่ไหม
อยากบอกคนดี ว่าต่อไปนี้ถึงใครยิงพี่ก็คงไม่ตาย
เพราะว่าดวงใจ พี่ฝากเอาไว้ให้มันอยู่ที่น้องคนเดียว

พี่ปีสองรักน้องปีหนึ่ง พี่ปีสองรักน้องปีหนึ่ง
พี่ปีสองรักน้องปีหนึ่ง” ท่อนนี้เราร่วมกันร้องเสียงดังทุกคน ยกเว้นน้ำเหนือที่นั่งตบมือตามเฉยๆ เอออย่างน้อยมันก็มีส่วนร่วมหน่อย ฮ่าๆๆ

“ข้าว”

“ว่าไง?” ผมหันมาสนใจน้ำเหนือแทนพวกนั้นที่กำลังแย่งไมค์จะร้องเพลงต่อไป

“ไม่ร้องหรอ?” เหนือถาม

“อยากนะ  แต่คงแย่งไมค์จากพวกนั้นไม่ได้ ฮ่ะๆ” ผมตอบแล้วมองพวกมันทั้งห้ากำลังเป่ายิงชุ๊บกันว่าใครจะได้ไมค์  คือมีไมค์แค่สองตัวครับ  มันต้องสลับกันร้อง

“ไอ้เหี้ยเพลงนี้เลย  อารมณ์กูตอนนี้”ไอ้เวฟบอก

“เพลงไรวะเวฟ”

“เด็กพี่มีชู้  สัส! ตรงกูตอนนี้เลย” ไอ้เวฟยังคงพูดต่อ

“มึงใช่ไหมที่เป็นชู้  ผัวน้องเขาจับได้อ่ะดิ” ผมว่า

“อีข้าวมึงนี่นะรู้ดีจริงๆ” ไอ้เวฟโดนตุ๊ดเข้าสิงอีกแล้วครับ

“กูฉลาดไงอิตุ๊ดเวฟ”

“ฮ่าๆๆๆ” จากนั้นก็เกิดเสียงฮาลั่นห้องเมื่อผมพูดจบประโยค

“ต๊าย! ว่าใครตุ๊ดย๊ะ แล้วขำอะไรกันเนี้ยห้ะ  เดี๋ยวก็จับเป็นผัวซะหรอก ผัวขา” แล้วไอ้เวฟมันก็วิ่งเข้าไปกอดไอ้ฮาร์ททำท่าจะจูบด้วย  หยอกกันเสร็จก็กลับมาร้องเพลงเหมือนเดิม  เชื่อไหมครับมันร้องเพลงของไอน้ำทั้งอัลบัมเลย

“ไอ้ข้าวมึงมาร้องเป็นเจ้ตั๊กแตนคู่กูหน่อย” ไอ้ฮาร์ทครับมันลากผมให้ไปร้องคู่มัน เพลงที่ร้องคือเพลงภูมิแพ้กรุงเทพ  แต่ทำไมผมถึงได้ร้องเสียงผู้หญิงวะ  เอาเถอะอย่างน้อยผมก็ได้จับไมค์  ผมจึงลุกไปร้องกับมัน

“ไอ้ข้าวดัดเสียงด้วย  มึงร้องท่อนเจ้เขาแมนไป  เอาใหม่ๆ” ไอ้เวฟมันบอก  ดุจะสนุกที่ได้แกล้งผมจริ๊งง  มันนั่งขำเสียงผมที่ดัดกัน

“ไอ้ข้าวเสียงเหมือนควายออกลูกเลยวะ อ่าๆๆ” ไอ้เวรเพียวเดี๋ยวมึงจะโดน พวกมันขำผมอ่ะครับ  ไม่เว้นแม้แต่น้ำเหนือยังหลุดมาดขำผมไปตามมันเลย  แล้วก็ตามเพลงสนุกๆไปอีกหลายเพลง  อย่างโสดกะปริบกะปรอย  ร้องโดยไอ้เวฟ  และแดนเซอร์ร่วมวงก็พวกผมหกคนนี่แหละ  ท่านผู้ชมมีเพียงคนเดียว  น้ำเหนือไงจะใครละ  ตามด้วยเพลงแว้นฟ้อหล่อเฟี้ยว  แค่ดนตรีขึ้นก็มันส์แล้วครับ  เพลงนี้ร้องโดยไอ้จิมแอนไอ้เวฟ  รู้สึกไอ้เวฟจะจับไมค์ทุกเพลงและเสือกร้องได้ทุกเพลงด้วยนะครับ  พอท่อนผู้หญิงมันก็ยื่นไมค์มาให้ผมร้อง  ไอ้ผมจะขัดมันก็กระไรอารมณ์กำลังมา

“ใหญ่จริงไหมคะพี่ขา ถึงเร็วจริงๆอะป่าว อ่ะ! สะใจน้องจะอยู่ยาว  เป็นสก๊อยสาวของพี่คนเดียวนะ !! ” ผมร้องพร้อมกับดัดเสียให้ดูกระแดะตามต้นฉบับ

“ไอ้เหนือร้องบ้างดิ  กูเห็นมึงนั่งสงบนานละ เอ้าไมค์ เพลงไรเดี๋ยวกูเลือกให้เอง” แล้วมึงจะพูดเพื่อไรไอ้โดมถ้ามึงบอกจะเลือกเพลงให้มันเองนะห้ะ

“...” น้ำเหนือ

“งั้นเอาเพลงนี้ละกันร้องนะเว้ย  ไม่งั้นกูเลิกคบ”แล้วไอ้โดมมันก็กดเลือกเพลงให้  พอดนตรีขึ้นมาเท่านั้นแหละแทบกลั่นขำไว้ไม่อยู่

“...”น้ำเหนือยังคงเงียบ

“ร้องตามเนื้อเพลงเลย  มันไม่ยากหรอกเพลงนี้” ไอ้จิมพูดเสริม  แล้วเนื้อร้องก็ขึ้นมาน้ำเหนือจึงร้องตาม

“ไก๊ไก่ ไก๊ไก่ ไก๊ไก่...”  เสียงนิ่งๆร้องค่อมจังหวะ  จะดูผิดๆถูกๆ  บางคำก็เพี้ยน

“วะฮ่าๆๆ กูไม่ไหวแล้ว  เหี้ย!”ไอ้เวฟ

“โอ๊ยยแค่ท่อนแรกกูก็ขำแล้ว”ไอ้เพียว

“ท้องกูแข็งแล้วไม่ไหว ฮ่ะๆ” ไอ้จิม

“ไก๊ไก่ ไก๊ไก่...ฮ่าๆๆ”ไอ้ฮาร์ทเลียนแบบเสียงและท่าทางของน้ำเหนือ

“ไอ้เหนือมันมีพรสวรรค์จริงๆ ฮ่าๆๆ กูช๊อบบ!!” ไอ้โดมมันบอกปรบมือรัวๆ

“ฮ่าๆๆ โอ๊ยยเหี้ยย กูจุกท้องชิบ !” ผมถึงกลับนอนกลิ้น  ไม่ไหวครับขำมาก  แล้วดูหน้าน้ำเหนือตอนที่พวกผมกำลังขำนะครับ  นิ่งมาก  แต่ก็ดูจะมึนๆงงๆอยู่บ้าง  พวกผมก็ขำจนเหมือนกับคนบ้าอยู่ศรีธัญญาประมาณนั้นเลย

“ตลก!” น้ำเสียงกดต่ำเย็นชาพูดขึ้น   คราวนี้ขำกันไม่ออกเลยครับ  น้ำเหนือเปิดประตูแถมปิดมันดังด้วย  ท่าทางจะโกรธจริงครับ  พวกผมจึงหันมามองหน้ากัน  ตอนนี้ทั้งห้องเงียบกริบ..ชนิดได้ยินเสียงหายใจของกันและกันเลยครับ

“มึงนั้นแหละเลือกเพลงไรให้มันร้องเห็นไหมมันโกรธเลย”ไอ้จิม

“เชี้ยไร  มึงบอกให้กูเลือกห่า”ไอ้โดม

“พวกมึงจะเถียงกันทำไมวะ  ไปดูมันดิ” ไอ้ฮาร์ท

“กูขอไม่ไปวะ  เวลาไอ้เหนือโกรธแม่งน่ากลัว” ไอ้จิมว่าพร้อมทำท่าขนลุก

“กูไม่สนิทกับมันนะ” ไอ้เพียว

“กูด้วย!” ไอ้เวฟเสริม

“เป็นไอ้ข้าวไง  รู้จักกันมาก่อนไม่ใช่หรอ” อ้าวโยนขี้มาให้กูวะงั้น  ไอ้เพียวนะมึง  จำไว้

“เออกูเห็นด้วย  ไอ้ข้าวไปเลยๆๆ” 

“ไอ้พวกเหี้ยโยนขี้มาให้กูเฉย!”  ผมจำใจต้องเดินออกไปตามน้ำเหนือที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน  ผมเดินออกมาห่างจากส่วนคาราโอเกะก็เห็น
หลังแวบๆของน้ำเหนือ  ผมจึงเดินเข้าไปหาก็เห็นว่าเป็นน้ำเหนือจริงๆแต่ว่าน้ำเหนือไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว...

“..เหนือ” ผมเรียกอีกคนเสียงเบา  น้ำเหนือหันมามองผมเล็กน้อยแล้วก็หันไปพูดกับผู้หญิงคนนั้นก่อนที่จะเดินมาหาผม

“...” ผมมองน้ำเหนือที่มายืนอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะเบนสายตาไปมองผู้หญิงคนที่คุยกับน้ำเหนือเมื่อกี้ที่ตอนนี้ก็ยังไม่ไหน

“เมื่อกี้ขอโทษนะ  โกรธหรอแค่ขำๆเอง” ผมบอกอย่ารู้สึกผิด

“...” น้ำเหนือไม่ตอบเพียงแค่มองหน้าผมนิ่งๆ  นิ่งมากจนผมหวั่นใจ

“เอ่อ..กลับไปข้างในเถอะ  พวกนั้นรออยู่” ผมบอก

“...” หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...  อย่าเงียบดิวะ  กูทำตัวไม่ถูกนะเนี้ย

“..เหนือ” ผมเรียกอีกคนเสียงแผ่ว โกรธจริงหรอวะเนี้ย  ขอโทษแล้วไง หรือไม่ก็บอกว่าโกรธดิวะ  ไม่ใช่เอาแต่เงียบแบบนี้

“เข้าข้างในกัน” ผมว่าจบก็จับแขนน้ำเหนือพาเดิน  แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวมือที่จับก็ถูกสะบัดออก ผมชะงักกึกค่อยๆหันไปมองหน้าน้ำเหนือที่นิ่งกว่าตอนแรกมาก  ผมรู้สึกอึดอัดกับสายตาของน้ำเหนือตอนนี้  สายตาเหมือนครั้งแรกที่เจอกัน

“...”

“นะ เหนือ..” ผมเรียกอีกคนไม่เต็มเสียง

“เหนือคะ  คุยกันเสร็จยังคะหวายรอนานละนะ” ผู้หญิงคนที่ยืนกับน้ำเหนือเมื่อครู่เดินเข้ามาพร้อมกับควงแขน

“อืม”  อะไรวะที่กับกูไม่พูดแม่ง  เหอะ ! แล้วยัยนี่ใครว่ะ

“ใคร?” ผมถามน้ำเหนือสายตาก็จ้องผู้หญิง

“...” เงียบ   ผมจึงหันมามองน้ำเหนืออีกครั้ง

“ไปเถอะคะเหนือ  หวายหิวแล้ว”

“อืม”   ผมมองน้ำเหนือที่กำลังเดินจากไปกับผู้หญิงคนนั้น  ทิ้งกันแบบนี้เลยหรอวะ  มากับเพื่อนแต่พอมีผู้หญิงก็ไปกับผู้หญิงแบบนี้หรอวะ  อย่างจะกระชากน้ำเหนือกับผู้หญิงคนนั้นออกจากกันจริงๆ  แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะผมไม่ได้เป็นอะไรกันกับน้ำเหนือ  ผมเป็นแค่เพื่อนที่พ่วงมาด้วยคำว่าสนิท  คิดแบบนี้ทีไร  แม่ง!! ... เจ็บวะ! 



TBC.

ตอนที่5 มาแล้ววว เป็นยังไงก็คอมเม้นมานะคะ :pig4:

ออฟไลน์ kamontipsaii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
อ่าวเห้ย เหนือทำงี้ได้ไง มีสะบัดด้วยเดี๋ยวเหอะ

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เหนือจะนิ่งไปไหนคะ นิ่ง นิ่ง นิ่ง เป็นอะไรก็ไม่พูด เหอะ !!  ให้เหนือคะ  :z6:
สงสารนู๋ข้าวววว

ออฟไลน์ superkim2

  • ซักกำบ๋อ!
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 24
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เหนือเอ้ย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ มาต่อไวๆนะครับ สนุกดี   :laugh:

ออฟไลน์ Pimjean

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
มันสนุกอ่ะ ชอบมารออ่านต่อจ๊ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พี่บาส ชอบข้าวแล้ว :hao3:
เหนือ มาเฝ้าข้าวที่ร้านกาแฟหลายชั่วโมง คิดยังไงกับข้าว?
เหนือ ชวนข้าวเที่ยวคนเดียว แถมมารับแต่เช้า :katai2-1:
แต่ไปๆ มาๆ เป็นโขยงเลย
ดูว่าใกล้กันแล้วนะ เหนือ ข้าว
แล้วจะดีกันยังไง? :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด