2
Boyfriend เพื่อนรัก...รักเพื่อน
“อีเย็น..” หืม ใครอีเย็น นี่มันเสียงไอ้เวฟปากปีจอนิ ผมหันไปยังเสียงเรียกชื่ออีเย็น
“...” กระพริบตาปริบๆ
“เหตุไฉนเจ้ามิยอมรับสายข้า” ยังครับยังไม่หยุด มันไปดูละครย้อนยุคตั้งแต่สมัยไหนมาวะนั่น
“...”
“ยัง ยังคงเงียบ เจ้าไม่มีปากหรือไรอีเย็น” มันชี้นิ้วทำท่าดัดจริตชี้มาทางผม ผม? อีเย็น? คือมึงงง
“ผีเข้า?” ผมถาม
“ปากดีนัก เช่นนี้ข้าคงต้องลงโทษเจ้าด้วยหวายเสียแล้ว” คือ..ผีเข้ามันแน่ๆ คนอะไรวะพูดเองเออเอง กู งง
“ยาหมดแดกรึไง พาไปโรงบาลเอาป่ะ”
“เอ่ะอีนี่ ปากเจ้าดีจริงๆ ไอ้เอ็มเอานังนี่ไปโบยห้าสิบที”
“ขอครับนายท่าน” โฮ้ยยย ปวดประสาทแต่เช้าเลย ไอ้เอ็มก็อะไรไปเล่นกับมันอีก
“เข้ามาสิโดนตีนกูยัดปากแน่” ผมยกตีนขึ้นขวางเอ็มที่เดินเข้ามาหาผม แม่งบ้า
“ไอ้ข้าว ให้ความร่วมมือกับกูหน่อยไม่ได้” ร่วมมือเล่นอะไรแบบนี้หรอ หึ ไม่เอาอ่ะ
“กูไม่บ้าแบบไอ้เอ็มเว้ย”
“ถ่อวววคุณเพื่อนน”
“เดี๋ยวกูโบยด้วยตีนไอ้เวฟ แล้วไอ้เพียวหายหัวไปไหน”
“จะรู้ไหม กูก็เพิ่งมาถึง คงส่งเด็กมันมั้ง” ไอ้เวฟตอบพร้อมกับหยิบสมุด ชีท ในกระเป๋า ขึ้นวางบนโต๊ะ
“บอกมันเพลาๆบ้างเหอะ เอดส์จะแดกแล้วกูละเป็นห่วง”
“บอกมันเองโลดดด”
“เซไฮฮัลโหลสาวๆที่น่ารัก สัสดีไอ้เวฟ ไอ้ข้าว” ไอ้เพียวเดินส่งยิ้มพิมพ์ใจส่งให้สาวๆในห้อง แล้วก็หันมาทักทายคำสุภาพกับพวกผม จะเรียกสุภาพก็ไม่เชิง
“มึงดิสัสไอ้เพียว” ไอ้เวฟครับ
“แหมคุณเพื่อนกูทักมึงอย่างสุภาพเว้ย..ไอ้ข้าวเหยิบดิกูจะนั่ง” อ้าวมาแย่งที่กูเฉย สันดานจริงๆ
“ที่อื่นไม่นั่งวะ มาแย่งกูไม อยากมีเรื่อง?”
“ตัวก็แค่นี้ยังจะมาท้ากูนะไอ้ข้าวเหยิบไป เร็วๆ” ไอ้ฟาย ไอ้เพื่อนนิสัยไม่ดี ผมได้แต่ฮึดฮัด สุดท้ายก็ยอมเหยิบให้มันนั่งที่ผม ผมหรอ?
“ไอ้เวฟเหยิบดิ เร็วๆ อย่าให้มีน้ำโห” ผมก็แย่งที่ไอ้เวฟดิ ฮ่าๆๆ
“พวกมึงนี่แม่ง” แต่สุดท้ายมันก็ยอมเหยิบครับ พอคุยกันจนหอมปากหอมคอ อาจารย์วิชาก็เข้าสอน วันนี้พวกผมมีเรียนแค่เช้าเท่านั้น บ่ายหรอครับกะจะหาที่สถิต แล้วตอนเย็นก็เหมือนเดิม รับน้องครับ มหาลัยผมมีมาตราการห้ามรับน้องรุนแรง พวกผมจึงจัดเบาๆแต่เน้นหนักๆในบางส่วนให้หน่อย น้องจะได้กลัว ฮ่าๆๆ ระหว่างที่นั่งเรียน
ครืด ครืด
“เที่ยงนี้แดกไรดีวะพวกมึง” ไอ้เพียว
“กินเตี๋ยวเว้ย อยากกินเตี๋ยวไก่” ไอ้เวฟ
“ไม่เอา กูอยากแดกส้มตำไปนอกมอกัน” ไอ้เพียว
“ไม่ กูขี้เกียจ แดกในมอเนี้ยแหละ” ไอ้เวฟ
“แต่กูหิวส้มตำ” ไอ้เพียว
“เตี๋ยวไก่” ไอ้เวฟ
“ส้มตำ!”ไอ้เพียว
“เตี๋ยวไก่!” ไอ้เวฟ
“ไอ้หำ เรียน!” ผม
ผมเห็นพวกมันเถียงกันในแชทกลุ่ม ผมจึงห้ามมัน เวลาเรียนยังจะอุตสามานั่งถกเถียงกันเรื่องของกิน อีกอย่างนั่งใกล้กันแค่เนี้ย มีแค่ผมคั่นกลางเอง มันจะหันมาคุยกันไม่ได้เลยรึไง ก้มหน้าแชทอย่างเดียว ไอ้พวกสังคมก้มหน้าเอ้ย
“F*u”ไอ้เวฟ
“ฮ่าๆๆๆ”ไอ้เพียว
“ฟายยยย” ผมทำได้แค่ด่ามันเท่านี้ ฮึ่ย ด่ากูมาได้ บักหำนิ -_-
“เลิกคลาสคะ” เย้ ! ในใจครับ เลิกแล้ว ง่วงก็ง่วง อาจารย์ก็บ่นอะไรให้ผมฟังไม่รู้ ผมเก็บชีท สมุดเก็บใส่กระเป๋า เตรียมไปกินข้าวเที่ยง ไม่รู้ว่าสองตัวนั้นมันตกลงกันได้ยังว่าจะกินอะไร
“สรุปได้ยังว่าจะแดกอะไรครับคุณเพื่อน” ผมหันไปถามไอ้เวฟกับไอ้เพียว มันหันมามองทำหน้าคิดแล้วตอบพร้อมกันว่า
“เตี๋ยวไก่!” ไอ้เพียว
“ส้มตำ!” ไอ้เวฟ
“- -!” ผม รู้สึกเหมือนกันไหมครับว่ามันสลับคำพูดกันหรือเปล่า เพลียกับเพื่อนที่ไม่เต็มจริ๊งจริงงงง
“งั้นเรามาโหวตกัน” ไอ้เวฟมันบอก
“โหวตไร กูหิวแล้วไม่เล่นกับพวกมึงหรอก” ผมบอกแล้วลุกออกจากโต๊ะเรียน ให้โหวตกันไปเถอะสองคน หิวจนไส้กิ้วแล้ว
“เดี๋ยวดิไอ้ข้าว มึงนี่ก็รีบร้อนเจรงงงง” ไอ้เวฟ
“ไอ้หำ มึงหยุดเลย ดูเวลาด้วย” ผม
“เอาน่าๆ ไงบ่ายก็ไม่มีเรียนออกไปกินข้างนอกดีกว่า เตลิดไปดูหนังด้วย เคป่ะ” ไอ้เพียว
“เออไงก็ได้แต่ตอนนี้รีบไปเถอะวะ กูหิวว” ผมบอกพวกมัน พวกมันพยักหน้า โอเค ผมจะสรุปให้เลยนะครับ เราสามคนจะกินส้มตำ ตำส้มกันนั่นเอง มันสองตัวเคลียร์กันได้แล้ว คือผมยังไงก็ได้ขอให้ของมันกินได้ ผมกินหมดครับ ฮ่าๆๆๆ
ณ ร้านส้มตำ
“รับอะไรดีครับ” พ่อค้าหนุ่มร่างกายกำยำ จากที่ผมมองอ่ะนะ มารับออเดอร์ที่โต๊ะเรา ร้านนี้เป็นร้านไม่เล็กไม่ใหญ่ ลูกค้าก็เยอะ แสดงว่าของเขาเด็ดจริงไรจริง
“มาร้านส้มตำก็เอาส้มตำสิครับ ถามแปลก” ไอ้เวฟปากมันนี่นา นี่ถ้าเขาเอาสากมาแปะหนามันนะจะซ้ำเติมพร้อมสมน้ำหน้าด้วยเลย
“ไอ้หำ ปากมึงระวังโดนสากนะ” ผมว่า
“เอาตำไทย ตำเขมร ตำญี่ปุ่น ตำเกาหลี ตำอเมริกา ตำอังกฤษ ตำ..”จบจากไอ้เวฟก็เป็นไอ้เพียว พวกมึงนี่จะเก็บปากไว้แดกเฉยๆๆไม่ได้หรือไงว่ะ
“ลองตำตีนดูไหมครับ เดี๋ยวผมจัดให้” อ้าว ซวยแล้ว ผู้ชายที่รับออเดอร์ตอกกลับมา พวกมันงี้เงียบกริบ ถ่อววพ่อคุณแม่คุณยายคุณตาคุณ ไม่ใช่แหละ ผมเลยต้องเป็นคนสั่งซะเองไม่งั้นจะได้ ตำตีน จากเขามาแทน แฮ่ๆ
“เอาเป็นตำไทย ตำปูปลาร้า ตำซั่ว ข้าวเหนียวสาม ไก่ย่าง แคปหมู แล้วก็เป๊ปซี่ขวดใหญ่ครับ” ผมสั่งเสร็จสับเรียบร้อย เขาก็เดินออกไป ผมจึงหันมาสนใจหมาสองตัวที่ร่วมโต๊ะ
“เป็นไงละมึงเกือบได้แดกตีนแทนไหมละ” ไอ้เวฟว่า
“แหมมึงเป็นคนเริ่มเลย”ไอ้เพียว
“พอกันทั้งคู่แหละพวกมึงอ่ะ กวนตีนชาวบ้านเขามากๆระวังจะได้ตายก่อนได้เมีย”
“มึงสิไอ้ข้าว หญิงซักคนกูยังไม่เห็นมึงคบเลย อยู่กันมาตั้งสองปีละ คนก็เข้ามาจีบมึงเยอะนะ ไมไม่เล่นด้วยวะ”
“กูไม่สันดานแบบพวกมึงหรอกเว้ย” ใครจะไปทำแบบพวกมันกัน ควงไม่เลือกขนาดนั้น ใครเข้ามาเอาหมด คิดสิครับ
“โอ้ยไอ้เวฟมึงก็อย่าไปถามมันเลย มันคงรอใครซักคนอยู่แหละมึง หึๆ” มันหันขวับไปจ้องเขม็งไอ้เพียวทันที มึงจะขายกูใช่ไหมไอ้เพื่อนเวร
“ไอ้เพียวหุบปากมึงเลย” ผมกัดฟันพูด
“อ้าวไอ้ข้าว ไอ้เวฟ ไอ้เพียวววว...ริคุ” เมื่อมีคนเรียกชื่อ พวกกระผมก็ทำการหันไปพร้อมกัน แท็น แท่น แทนนนน ... ช็อปวิศวะเต็มร้านเลยครับท่านผู้อ่านนน เสียงนั่นจะเป็นใครไปไม่ได้ ก็ไอ้ฮาร์ทหนุ่มหล่อ1ใน3ของมนุษย์น่าตาดีในคณะวิศวะสิครับผม
“อ้าวไอ้ขี้เหร่”ไอ้เวฟพูดไรไม่ดูตัวเองเลยจริงๆ
“ไอ้เวฟปากมึงนี่ยังหมาเหมือนเดิม”
“พวกมึงพูดกันเหมือนแบบไม่เจอกันนานเนอะ” ผมว่า
“ใครจะไปเจอได้ทุกวันเหมือนมึง เช้า เย็น ก็เจอหน้ากัน ผัวเมียกันดีๆนี่เอง”
“นั่นปากหรอไอ้เพียว เดี๋ยวกูฟาดด้วยตีน เหอะๆ”
“เมียรัก เพื่อนแซวแค่นี้ทำไมต้องเขินรุนแรง” ไอ้ฮาร์ทมันเดินเข้ามากอดคอออเซาะผม ไอ้นี่ก็บ้าจี้เล่นตามมัน
“ไอ้ฮาร์ทเพื่อนมึงหรอวะ” ผู้ชายในกลุ่มช็อปวิศวะคนหนึ่งโพล่งขึ้น ผมละสายตาจากการแกะแขนไอ้ฮาร์ทออกจากคอหันไปมอง
โว้วว วิศวะมันน่าตาดีทุกคนจริงๆหรอวะเนี้ย สูง ขาว (มีเข้มบางคน) จมูกโด่งสัน (เกือบทิ่มตากู) ปากคล้ำนิดๆ ดูมีเสน่ห์ ชิบหาย อ้าวแล้วไมกุบรรยายผู้ชายหล่อน่าตาดีวะเนี้ย แต่ที่สะดุดตาผมที่สุดคงหนีไม่พ้นคนๆนั้น...น้ำเหนือ
“เออเพื่อนเรียนนิเทศ” ไอ้ฮาร์ทบอกกับกลุ่มมัน
“มาแดกส้มตำหรอ” ไอ้เพียวนี่ก็ถามแปลกๆ ร้านส้มตำเว้ย คงมาแดกไอติม
“เออดิ พวกมึงก็เหมือนกันหรอ” ไอ้นี่ก็แปลกอีกคน คงไม่มั้งนั่งอยู่ในร้านจะเป็นชั่วโมงละเนี้ย
“ไอ้ข้าว..” ไอ้เพียวมันเรียกผม ผมหันไปเลิกคิ้วถามว่ามึงมีไร? มันบุ้ยปากไปทางน้ำเหนือยืนอยู่ ผมกรอกตาไปมา
“กูเห็นแล้ว” ผมทำปากขมุบขมิบบอกมันไป มันหัวเราะชอบใจที่ได้แซวผม อย่า..อย่าให้ถึงตากู
“ขำไรของมึงไอ้เพียว” ไอ้เวฟผู้ซึ่งไม่รู้อะไรอยากเสือก
“ไม่มีไร แค่ไอ้ข้าว..” มันพูดลากเสียงยาวๆ
“ไอ้ข้าวไรวะ” ไอ้ฮาร์ทก็เสือกอีกคน ลองมึงพูดสิไอ้เพียวกูจะกระทืบมึงให้จมพื้นซีเมนเลย
“ไอ้ข้าวมันแคะขี้มูกแดกอ่ะ ฮ่าๆๆ”
“อี๊ไอ้ข้าว ไอ้ซกมก” กูยังอี๊เลยครับ กูไปทำตอนไหน ไอ้หอกหักเพียว ผมถีบมันไปทีหนึ่ง
“กูไม่คิดเลยอยู่กินกันมาตั้งสองปีมึงมีนิสัยซกมกแบบนี้หรอว่ะไอ้ข้าว” ไอ้ฮาร์ททำหน้ายี๊เต็มที่ เฮ้ย นี่มึงเชื่อ?
“ใครเชื่อไอ้เพียวแม่งโคตรโง่อ่ะ”
“ฮ่าๆๆๆ” ไอ้เพียวรู้สึกจะสนุกที่ได้แกล้งผม ฮึ่ย !
“นั่งด้วยกันไหมว่ะ” ไอ้เวฟชวน
“มึงก็ให้มันนั่งแดกกับเพื่อนมันไปสิ มาทำไมให้แออัดกัน” ผมว่า อย่ามาเลยกูไม่อยากเจอน้ำเหนือตอนนี้
“ไอ้ข้าวนี่มันยังไง อย่ามาเห็นแก่ตัว คนรู้จักกันต้องมีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันนะ” น้ำหน้าอย่างมึงไม่น่าจะคิดได้นะไอ้เวฟ
“ก็ดีนะเว้ยข้าว กินกันเยอะๆสนุกดีออก หึๆ” ไอ้เพียว หน้ามึงชั่วร้ายมาก ผมจ้องเขม็งมัน เดาได้ไม่ยากว่ามันกำลังสนุก
“ก็ดีนะเว้ย .. เฮ้ยพวกมึงมานี่ๆ ไอ้จิม ไอ้เหนือ ไอ้โดม” ไอ้ฮาร์ทเรียกเพื่อนมัน พวกนั้นก็เดินเข้ามา ผมมองพวกมันส่งยิ้มน้อยๆให้เป็นการทักทายและเป็นมิตรเมื่อพวกมันยิ้มมาให้ แต่กับน้ำเหนือ ไม่เลย แม้แต่ยิ้มยังไม่มี ใบหน้านิ่งตลอดเวลา คือมึงโบกปูนซีเมนรึไงวะ
“ป้าครับที่สั่งไปเมื่อกี้ มาเสริฟโต๊ะนี้นะครับ” ไอ้ฮาร์ทมันตะโกนบอกแม่ค้า แล้วมันก็ลากเก้าอี้มานั่งข้างผม อีข้างหนึ่งของผมเป็น เป็น.. เฮ้ย น้ำเหนือมานั่งตรงนี้ได้ไงว่ะ มันต้องเป็นไอ้เพียวไม่ใช่หรอ
“หึๆ” เสียงหัวเราะอันน่ากลัวนี่มาจากคนนั่งเยื่องไปจากน้ำเหนือ ไอ้เพียวมันสลับที่ ไอ้ชั่ววTT กูไม่ได้ต้องการแบบนี้เฟ้ย
“เอ่ออ คือ” ผมทำตัวไม่ถูกในทันที น้ำเหนือแค่เหล่มองเท่านั้น ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรกับผม อึดอัดเว้ย อะไรวะเนี้ย ก็รู้ว่าน้ำเหนือเรียนคณะกับไอ้ฮาร์ทแต่ไม่คิดว่าจะเดินกลุ่มเดียวกัน อีกอย่างผมเพิ่งเจอน้ำเหนือเมื่อวานตอนทำงานเอง ฮืออ อยากร้องไห้เป็นภาษาอังกฤษ(ร้องไงว่ะ) ผมยังจำคำพูดที่คุยกันได้เลย ... เราไม่เคยรู้จักกัน แต่นาทีนี้คงจะได้รู้จักกันจริงๆแล้วละ หวังว่าน้ำเหนือจะจำชื่อผมได้นะ ถึงแม้หน้ามึงมันจะจำไม่ได้ก็ตาม...
“รู้สึกพวกมึงมาความหล่อกูหายหมด” ไอ้เวฟพูดขึ้น ทำให้ในโต๊ะหัวเราะขำกับมุกของมัน มีเพียงบุคคลเดียวหน้านิ่งตลอดกาล คือมึงมีหน้าเดียวรึไงว่ะ
“มองอะไร?”
“เปล๊านิ” ผมเสมองไปทางอื่นเมื่ออีกคนรู้ว่าผมมองน้ำเหนืออยู่
“หึ” มาหงมาหึอะไร ผมหันกลับไปมองหน้าน้ำเหนืออีกครั้ง กูมองแค่นี้ไม่ได้หรือไงว่ะ
“อะแฮ่ม.” เสียงกระแอมดังขึ้น ผมหันไปมองคนนั่งถัดไปจากน้ำเหนือ ไอ้เพียวนั่นเอง มันแสยะยิ้มชั่วร้ายมาให้ผมด้วย
“ส้นตีนติดคอหรอครับคุณเพียวริคุ” ไอ้เวฟครับ
“จะติดคอมึงเนี้ยละเอาม่ะๆ”
“ไม่ตีกันสักครู่ไม่ได้เลยนะพวกมึงเนี้ย” เป็นไอ้ฮาร์ทที่ห้ามทัพไว้
“ฮ่าๆๆ กูไม่คิดว่าไอ้ฮาร์ทจะรู้จักกับเด็กนิเทศด้วย” เพื่อนในกลุ่มไอ้ฮาร์ทพูดขึ้น
“ไมว่ะ ไม่เห็นแปลกเลย คนเหมือนกัน” ไอ้เวฟ
“เปล่า ก็คณะมึงกับคณะกูห่างกันเป็นโยค กูก็แปลกใจรู้จักกันได้ไงเท่านั้น”
“อ่อง่ายๆที่กูสนิทกะไอ้ขี้เหร่เนี้ย เพราะไอ้ข้าว”ไอ้เวฟ พวกนั้นจึงหันมามองหน้าผม
“เมียไอ้ฮาร์ท?” ห้ะ! อะไร เหตุไฉนคิดว่ากูเป็นเมียไอ้ฮาร์ท บ้าล้าว บ้าแล้วว ส่วนไอ้คนที่ถูกพูดถึงก็ขำคิกๆอยู่ข้างผม แหม สนุกๆ ไอ้เพียวไอ้เวฟก็เช่นกัน หน้าแมนๆแบบกูทำไมต้องไปตกเป็นเมียไอ้ฮาร์ทด้วย
“จะบ้าหรอ!!” ผมโพล่งขึ้น
“อย่าเขินดิเมีย ไม่เอาไม่เหวี่ยง” เหวี่ยงพ่องมึงดิไอ้ฮาร์ท เดี๋ยวปัดฟรีคิกใส่
“ขำๆๆ พวกมึงหยุดขำเลยไอ้เพื่อนชั่ว” ผมพาลใส่ไอ้เพื่อนสองตัวที่ยังขำไม่หยุด มันน่าตลกตรงไหนว่ะ
“เมียมึงหรอฮาร์ท” น้ำเสียงเนื่อยๆนิ่งๆพูดขึ้น ทำให้คนทั้งโต๊ะหันไปมองธาตุอากาศ ต้องใช้คำนี้ครับ เพราะแม่งเงียบสนิทชนิดไม่ได้ยินลมหายใจ ไอ้ฮาร์ทมันแค่ไหวไหล่ก่อนตอบ
“คงงั้นมั้ง”
“ระวังแมงวันต้อม” น้ำเหนือพูดแล้วเหล่สายตามาทางผม อะไรแมงวัน กูไม่ใช่ขี้ไม่ต้องมาต้อม แล้วไอ้เหยียดยิ้มนั้นมันคือไร
ว่ะ
“ไม่มีหรอก กูว่าแบบไอ้ข้าวไม่มีคนเอา ฮ่าๆๆ” ผมหันขวับไปมองไอ้ฮาร์ท ดูถูกกูนะมึง
“หึ” แล้วอะไรของมึงอีก หึอยู่นั่นละ
“แล้วมึงไม่คิดจะแนะนำตัวเองกันเลยรึไงว่ะ” เออมึงพึ่งนึกได้หรอไอ้เวร เพื่อนในกลุ่มไอ้ฮาร์ทพูดขึ้น
“เออวะ กูชื่อจิม ไอ้นี่..”คนชื่อจิมแนะนำตัวเองแล้วกำลังจะแนะนำเพื่อนแต่ก็ต้องเก็บปากไปเมื่อเพื่อนมันพูดเอง
“ชื่อกู กูพูดเองสัส กูชื่อโดม ส่วนนั้น” โดมแนะนำตัวเสร็จก็ชี้นิ้วมาทาน้ำเหนือ
“น้ำเหนือ เรียกเหนือพอ” เออจบการแนะนำเด็กวิดวะไปแล้ว เด็กนิเทศอย่างเราต้องเอาบ้าง
“กูมีนามว่า พี่เวฟคนหล่อเพิ่มเติมเดี๋ยวบอกอีกที ฮ่าๆๆ”
“กูชื่อเพียว”ไอ้เพียวแนะนำตัวเองสั้นๆ ต่อไปก็ผมแล้วสิ
“กูข้าว..หอม” ผมแนะนำตัวเองไปพรางเหล่มองคนข้างกายที่นั่งกดโทรศัพท์มือถือตัวเองอยู่ เหมือนว่าอีกคนจะชะงักไป แต่แค่แปบเดียวเท่านั้น ก็เป็นปกติเหมือนเดิม
“แล้วสรุปเป็นเมียไอ้ฮาร์ทจริงดิ” ยัง ยังไม่หยุด
“เหอะ ไม่อ่ะกูเลือก” ผมตอบจิม
“โอ้ววหน้าอย่างไอ้ฮาร์ทมีคนไม่เอาด้วยเว้ย ฮ่าๆๆ” โดมพูดขึ้น พากันฮาอีกละ พวกมึงนี่อารมณ์ดีกันจริง แดกยาบ้ามาป่ะว่ะ
“เงียบปากไปเลยพวกมึง เด่ะๆ”ไอ้ฮาร์ทว่า
“แค่อยู่หอเดียวกันเอง พักอยู่ด้วยกัน หารครึ่งอ่ะ” ผมอธิบายพวกมันก็เออออพยักหน้าเข้าใจๆ ไม่นานส้มตำที่เราสั่งก็ได้และไม่ใช่แค่ของผมมันยังมีของกลุ่มวิดวะพวกนี้เพิ่มด้วย เราก็กินกันเฮฮาไปเรื่อย คุยนู้นนี่นั่น สนิทกันเร็วอะไรจะปานนั่น เพื่อนๆไอ้ฮาร์ท ทั้งจิมและโดม ฮามากๆ พวกมันเล่าเรื่องที่เจอกันตอนปี1ให้ฟัง ว่าพวกมันเจอและสนิทกันได้ยังไง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มันเขม็งน้ำเหนืออยู่ครั้งหนึ่ง ด้วยใบหน้านิ่ง ไม่แสดงอาการอะไร จะสุข จะทุกข์ มันเลยเกือบเอาตีนไปโปะหน้า ก็สมควรอยู่หรอก ขนาดโดนพูดถึงขนาดนี้ยังหน้านิ่งอยู่เลย ผมละอยากรู้สาเหตุนักทำไมน้ำเหนือที่ผมรู้จักถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
“เออไอ้เหนือ” หืม ไอ้เพียวจู่ๆก็โพล่งขึ้น
“อืม” ไอ้นี่ก็คานรับแบบไม่เต็มใจ
“ได้ข่าวว่ามึงควงสาวไม่ซ้ำหน้านี่จริงป่ะ” เอียงหูรอฟังเลยครับ ไม่เสือกนะ ไม่เลย...
“งั้นมั้ง” ไอ้นี่ก็ตอบกำกวมจริง
“หรอ แล้วมึงมีตัวจริง แบบเป็นแฟนเลยอ่ะ ไม่ใช่ควงเล่นๆนะ” ไอ้เพียวยังคงไม่หยุดถาม รู้สึกน้ำเหนือมันคงรำคาญ เห็นกรอก
ตาก่อนตอบด้วย
“ไม่!” ชัดๆ น้ำเหนือยังไม่มีตัวจริง แอ่ววดิ้นโลดด ใจผมเต้นตึกตักเลยครับ มันรู้สึกโล่งใจที่น้ำเหนือยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนจริงๆ
“ยิ้มไรไอ้ข้าว บ้าป่ะนั่งยิ้มคนเดียว” หุบยิ้มอัตโนมัติ นี่กูยิ้มหรอเนี้ย ผมหันไปมองคนที่ทักผม ไอ้ฮาร์ทนั่นเอง
“เปล่าใครยิ้ม บ้า” ผมพูดเสียวแผ่วเสมองทางอื่น หลบตาไอ้ฮาร์ท แต่ไปป่ะเข้ากับสายตานิ่งๆ นั่นเต็มๆ มันมองหน้าผมเฉยๆ
“มองไร” ผมถาม
“หึ” หึอีกแล้ว ... แล้วมันก็หันไปกินส้มตำต่อ เออดีมาหึใส่กูคงรู้เรื่อง
“ไอ้ข้าว” ผมทำหูทวนลมไม่ได้ยินไอ้เพียวเรียก ไม่หันหรอก หันไปมันก็จะแกล้งผมเรื่องน้ำเหนืออีก
“...” ไม่หันๆ กินๆ หิวๆ
“ข้าวหอม..”
“มันเรียกมึงอ่ะไอ้ข้าวนั่งใกล้กันแค่นี้ ไม่ได้ยินรึไง”
“เสือกนะมึงไอ้เวฟ”
“อ้าวไอ้นี่ เดี๋ยวกูจับข้าวเหนียวยัดปาก”
“กลัว” ผมทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ไอ้เวฟไป
“ไอ้ข้าว ไม่ได้ยินกูเรียกจริงอ่ะ ไม่งั้นก็..”ไอ้เพียวมันเหล่สายตาไปทางน้ำเหนืออีกครั้ง ไอ้นี่นิเอาจุดอ่อนกูมาล่ออีกละ
“หุบปากมึงเดี๋ยวนี้” ผมกัดฟันพูด
“เออข้าว”
“ห้ะ!?!” ผมหันไปตามเสียงเรียก เป็นเสียงของโดมเพื่อนน้ำเหนือกับไอ้ฮาร์ท เรียกกูไม
“พวกมึงเรียนนิเทศใช่ป่ะ” เออไอ้นี่ก็แปลกถามทั้งๆที่พึ่งรู้ไป
“ก็ใช่ ทำไม?” ผมถาม
“งั้นช่วงนี้พวกมึงว่างป่ะ ช่วงเย็นๆ” ผมขมวดคิ้ว พรางหันไปหาไอ้เพื่อนสองตัวอีกที
“ก็ถ้าไม่ติดรับน้องก็ว่าง มีอะไร” ผมถามกลับ
“ถ้าพวกมึงว่างช่วยไปเก็บภาพกิจกรรมรับนองให้คณะกูหน่อย แม่งไม่มีใครถ่ายรูปให้เลยว่ะ ใช้ไอ้พวกนี่ก็ไม่ได้เรื่อง”
“เฮ้ยๆๆ กูถ่ายได้นะเว้ย” ไอ้ฮาร์ทโวย
“ได้กะผีมึงสิ แต่ละรูปไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง” จิมว่า
“ไอ้ข้าวมันสอนกูเองนะ ทำไมจะไม่ได้” ใช่ครับผมเคยสอนมันถ่ายภาพจริง เห็นมันบอกอยากถ่ายได้ก็เออสอนไป สอนอยู่นาน
กว่ามันจะเข้าใจ
“สรุปจะให้พวกกูไปถ่ายภาพกิจกรรมให้?”ไอ้เวฟถาม จิมกับโดมพยักหน้า
“ถ้ากูรู้ว่าไอ้ฮาร์ทมีเพื่อนเรียนนิเทศ กูจะไม่ยอมให้มันถ่ายเองเลย”
“ดูถูกฝีมือกูจริงไอ้เพื่อนเวร กูมือโปรเว้ย” ไอ้ฮาร์ทยังคงมั่นหน้า
“ก็ได้นะ แต่ต้องมีค่าจ้างให้พวกกูนะเว้ย ไม่ทำงานฟรี หึๆ” ไอ้เพียวบอก
“เพื่อนกันเขาทำให้ฟรีๆไม่ใช่หรอว่ะ” โดม
“สำหรับกูต่อให้เพื่อนกูก็ไม่เว้นเว้ย” หน้าเลือดพอไหมละเพื่อนกู ฮ่าๆๆ
“งั้นจะไปทำให้ป่ะเนี้ย” จิม
“เออไปได้ กูกับไอ้ข้าวว่างอยู่แล้ว น้องก็ไม่ได้ดูไรมาก เพราะไอ้เวฟมันต้องคุมน้อง”
“กูไม่ไปได้ป่ะ” ผมบอกกับไอ้เพียว
“ทำไม”มันถาม
“นั่นสิไอ้ข้าว ช่วยพวกกูหน่อยนะๆ” ไอ้โดมเสริม
“กูไม่ว่างมึงก็รู้นะไอ้เพียวว่ากูต้องทำงาน” ผมบอกตามจริง อีกอย่างถ้าผมไปคณะวิศวะก็ต้องเจอน้ำเหนืออีก ไอ้เพียวเองก็จ้องที่จะแซวผมอยู่เรื่อย
“มึงก็ไปแค่แปบเดียวไอ้ข้าว ไปถ่ายแค่มุมสองมุมก็คอยไปทำงานก็ได้” ไอ้เพียวยังคงพูดต่อ
“แต่ว่า..” ผมเหล่มองน้ำเหนือ ไอ้เพียวมันแสยะยิ้มน้อยๆ
“หรือว่ากลัวใจ” อะ ไอ้ เพียว มึงงง ผมเบิกตากว้างเมื่อได้ยินสิ่งที่มันพูด
“อะไร ๆ กลัวใจอะไร ไอ้ข้าวมึงชอบใคร นี่มึงมีแฟนแล้วไม่บอกกูหรอ”ไอ้ฮาร์ท
“จะบ้าหรอ พอๆพูดไรไม่รู้เรื่อง” ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“ไอ้เหนือไมมึงเงียบจังว่ะ” เออเงี๊ยบเงียบ สงสัยตายแล้ว
“อืม” มีคานรับเล็กน้อย ก็ก้มเล่นโทรศัพท์ต่อ รู้สึกว่าจะแชทตลอดเลยนะเหมือนไอ้เพียวเลย คุยไรหนักหนาว่ะ ผมชะเง้อมองมันจะด่าผมไหมเนี้ย ความเสือกมาเต็มครับ
“รู้ว่าสาวเยอะ แต่คุยกับเพื่อนบ้างเหอะสัส เพื่อนมึงนั่งนี่ สาวๆเก็บไว้ก่อนเว้ย” ไอ้จิมโวย
“เปล่าคุยกับแม่” แม่? อ่อคุณป้าสินะ ผมจำได้ๆ เวลาผมไปเล่นบ้านน้ำเหนือคุณป้ามักจะเรียกผมทานข้าวด้วยประจำ ว่าแต่คุณป้าจะสบายดีป่าววะ อยากถามมันจัง แต่น้ำเหนือมันจำผมไม่ได้เนี้ยสิ น่าน้อยใจชะมัด
“กูก็คิดว่าคุยกับสาวในสต็อกมึง”
“ข้าวหอม” น้ำเหนือไม่ได้ตอบคำถามที่เพื่อนถาม แต่กลับเรียกชื่อผมขึ้น ผมตกใจเล็กน้อยที่น้ำเหนือเรียกชื่อผม ผมเลิกคิ้วสงสัย
“ว่า?”
“ข้าวหอม หิรัญธร นิวัฒนกิจ นิเทศ ปี2 มหาลัย.. ลูกคุณป้าอำไพ คุณลุงศรัณ...” ผมมองอีกคนอึ้งๆ ไม่ได้อึ้งที่มันพูดยาว แต่อึ้งที่น้ำเหนือพูดชื่อจริง ชื่อเล่น แม้แต่ชื่อพ่อแม่กูมาเต็มเลยครับ จะ จำ ได้แล้วหรอว่ะ
“ระ รู้ชื่อกู พ่อแม่กูได้ไง” ผมถามเสียงตะกุกตะกัก มัน ยะ ยิ้ม เฮ้ย ผมฝันไป มันยิ้มแล้ว ใบหน้าที่เคยนิ่งตอนนี้ยิ้มแล้ว ถึงจะยิ้มแค่มุมปากก็เถอะ
“จำได้สิ เคยไปเล่นบ้านบ่อยๆ” ผมได้แต่พยักหน้า ยังอึ้งอยู่ครับ เชื่อว่าคนในโต๊ะก็อึ้งไม่ต่างจากกู น้ำเหนือจำกูได้แล้ววววว โอ้วเย้ กระโดโลดเต้นกันไปสิ ใจผมเต้นตึกตักจนแทบจะระเบิด อย่างน้อยน้ำเหนือก็จำผมได้
“เฮ้ย อะไรยังไง ไอ้เหนือกับไอ้ข้าวรู้จักกันมาก่อนหรอ” ไอ้ฮาร์ทมันถาม หน้ามันยังอึ้งอยู่เลยครับ
“แล้วข้าวจำเหนือไม่ได้หรอ?” อึ้งหนักกว่าเก่า อีประโยคนี่ผมจำได้ ผมกับน้ำเหนือเราจะไม่ใช่มึงกูเวลาคุยกันจะแทนชื่อเล่นมากกว่า ประโยคนี้มันกลับมาแล้ว
“เอ่อคือ..”
“น้ำเหนือ น้ำเหนือ พิชญนุกุล”
TBC.ตอนที่2มาเสริฟแล้ว เป็นยังไงก็เม้นนะคะ