ตอนที่ 22 กำลังเสริม“คุณภู!!!” ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อผมดังลั่นห้องนั่งเล่นที่ผมเดินจากมาหลังจากที่ได้กลายร่างเป็นแมลงกัดปากร่างโปร่งไปแล้ว ตอนกำลังเบลอ ๆ แก้มของกันตพิชย์แดงกล่ำ น่าก้มลงไปฟัดอีกรอบมาก แต่ต้องหักใจเดินหนีมาปล่อยให้อีกคนนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา ถ้าผมอยู่ท่านั้นนานกว่านี้อีกหน่อยผมก็ไม่รับรองนะว่าอีกฝ่ายจะเสียเปรียบผมอีกเท่าไร
“หึ หึ ไม่นึกว่าปากจะหวานเหมือนกันนะเนี่ย รู้งี้ลองตั้งนานแล้ว” ผมได้แต่พึมพำกับตัวเองเบา ๆ พร้อมมือที่แตะอยู่ที่ริมฝีปาก
“คุณพ่อยิ้มอะไรครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกครับน้องฟ้า พ่อแค่คิดว่าทานของหวานก่อนทานข้าวเย็นก็ดีเหมือนกัน” น้องฟ้าทำท่างงกับคำพูดของผมแล้วหันไปสนใจกับอาหารเย็นบนโต๊ะ
“ของหวานที่ไหนกันคุณลุง ก็คุณลุงเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น ตุลย์ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากจานขนมที่ตุลย์กินหมดแล้วนี่นา”
“แล้วน้ากันต์ล่ะครับ ทำไมยังไม่มาอีก” น้องฟ้ายังสงสัย
“เดี๋ยวก็ตามมาครับ เราสองคนทานไปก่อนได้เลย” ผมเลื่อนเก้าอี้ลงนั่งพร้อมมองออกไปทางห้องนั่งเล่นก็เห็นร่างโปร่งเดินออกมา
“น้ากันต์ช้า ตุลย์กินก่อนแล้วนะไม่รอหรอก หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวแล้ว” เสียงหลานชายตัวอ้วนของกันตพิชย์บ่นให้น้าตัวเอง แต่อีกมือก็จับช้อนตักอาหารเข้าปากตัวเองไปด้วย
“น้ากันต์ไม่สบายหรือเปล่าครับ ทำไมหน้าแดง ๆ” น้องฟ้าถามร่างโปร่งเมื่ออีกคนเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหารด้านขวามือของผม
“เอ่อ ....น้าไม่ได้เป็นไรครับ อาจจะร้อนนิดหน่อยมั้ง” ตอบน้องฟ้าเสร็จแล้วก็หันมาถลึงตาใส่ผม
“ไหนมาดูสิว่าตัวร้อนจริงหรืออย่างที่น้องฟ้าสงสัยหรือเปล่า” ไม่ทันจบประโยคมือผมก็เอื้อมมือไปอังที่หน้าผากของกันตพิชย์
“เฮ้ย!!! คุณภูผมไม่ได้เป็นไข้ ไม่ต้องมาวัดไข้ด้วย ทานข้าวไปเลยครับ ฮึ” กันตพิชย์ขยับใบหน้าหนีมือใหญ่ของผม แล้วตักกับข้าวใส่ช้อนยื่นมาให้บังคับให้ผมต้องอ้าปากรับอย่างเสียไม่ได้ นี่แก้เขินแบบนี้ก็ดีนะ
“ไม่แกล้งแล้วก็ได้ครับ ทานข้าวกันดีกว่าเนอะเด็ก ๆ”
บอกไปก็เท่านั้นแหล่ะ เด็ก ๆ ทานล่วงหน้ากันไปเกือบครึ่งจานแล้วผมกับร่างโปร่งมัวแต่ทะเลาะกันจนไม่ทันเด็กกันแล้ว ระหว่างมื้ออาหารกันตพิชย์ก็เหมือนเดิม คือเอาใจใส่ในการทานอาหารของพวกเด็ก ๆ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทานไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะระหว่างที่เรานั่งทานอาหารเย็นกันทำให้ผมมานึกว่า นานมากแล้วที่ห่างหายไปจากบรรยากาศแบบนี้ น้องฟ้าทานได้มากกว่าที่นั่งทานกับผมสองคนเสียอีก
“อย่าคุยกันมาก เดี๋ยวสำลักนะครับน้องฟ้า ตุลย์ก็เหมือนกันกินดี ๆ อย่าพูดไปด้วยกินไปด้วย ไม่ต้องรีบไม่มีใครแย่งหรอกนะ” เสียงเตือนหลานชายตัวดีที่รีบกินมากจนตอนนี้แก้มเต็มไปด้วยข้าวคำโต
“แล้วนี่ครับ ทานไปเยอะ ๆ นะครับคุณภู จะได้ไม่ว่างมาจ้องคนอื่นเวลาทาน เสียมารยาท” มือบางตักเอาพริกในต้มยำมาใส่จานข้าวของผมเต็มไปหมด
“มีแต่พริก ฉันจะกินลงไปได้ยังไง เผ็ดตายเลยแบบนี้ ขออย่างอื่นได้ไหม” ผมไม่กินเผ็ดมากนะครับมันแสบท้อง
“งั้นเอานี่ไป ทานได้แล้วครับนี่ผักมีประโยชน์ ถ้าไม่ทานน้องฟ้าจะมองไม่ดีนะครับที่คุณพ่อไม่ทานผัก” ครั้งนี้ผักทุกชนิดในจานผัดผักมาประดับบนจานข้าวของผม
“คุณพ่อ ทานกุ้งไหมเดี๋ยวฟ้าตักให้”
“ไม่เป็นไรครับ น้องฟ้าทานไปเลย เดี๋ยวพ่อให้น้ากันต์ตักให้”
“นายก็กินด้วยสิ ผักมีประโยชน์มากเหมือนที่บอกนะ” ผมตักผักทุกชนิดที่ร่างโปร่งตักมาใส่จานให้ในจานของอีกฝ่ายเหมือนกับที่กันตพิชย์ตักมาให้ผม
“ผมไม่กินแครอท ตักมาทำไมเนี่ย เอาคืนไปเลยนะ” แครอทสองสามชิ้นลอยกลับคืนมาในจานข้าวผมอีกรอบ
“ทำไมไม่กิน อร่อยออกน้องฟ้ายังกินได้เลย โตซะเปล่านายนี่”
“มันเหม็น กลิ่นมันแปลก ๆ อย่างอื่นกินได้ยกเว้นแต่แครอทนี่แหล่ะ”
“อร่อยออกน้ากันต์ ไม่เห็นว่ากลิ่นจะแปลกตรงไหนเลย ตุลย์ยังชอบกินเลย แล้วเมื่อไรน้ากันต์จะโต เลือกกินผักแบบนี้ ทีตุลย์น้ากันต์ยังให้กินทุกอย่างบอกว่ามีประโยชน์เลย” ตุลย์พูดขึ้นมาทำเอาร่างโปร่งส่งสายตาพิฆาตไปยังหลานชายตัวอ้วนทันที
“ตุลย์ก็กินทุกอย่างนั่นแหล่ะตัวถึงได้อ้วนกลมขนาดนี้ ต่อไปต้องลดอาหารแล้วนะ”
“รู้แล้ว ๆ วันหลังตุลย์จะกินให้น้อยกว่านี้ครับ”
สองน้าหลานนั่งทะเลาะกันเรื่องใครเลือกกินกว่าใครไปตลอดเวลาอาหารเย็นในวันนี้ มันทำให้ผมได้รับรู้ว่าการทานข้าวด้วยกันแบบนี้มันก็มีความสุขดีเหมือนกัน
หลังมื้ออาหารจบลง สองน้าหลานก็พากันกลับบ้านของตัวเอง โดยที่มีผมและน้องฟ้าเดินไปส่งถึงหน้ารั้วบ้านหลังเล็กข้าง ๆ กัน เด็ก ๆ เดินนำหน้า ส่วนผมเดินอยู่ข้างหลังพร้อมกับร่างโปร่งของกันตพิชย์
“นายไม่ค้างที่บ้านฉันจริง ๆ เหรอ ตุลย์ยังไม่อยากกลับบ้านเลยนะดูสิ”ผมลองถามร่างโปร่งของกันตพิชย์ ตอนแรกคิดว่าชายหนุ่มจะยอมรับปากตั้งแต่ตอนที่น้องฟ้าขอให้ค้างที่บ้านด้วยกันแล้ว แต่ยังไงกันตพิชย์ก็ยืนยันว่าจะกลับมานอนบ้านของตัวเอง ผมก็เลยได้แต่เดินหน้าบึ้งตามมาส่งสองคนน้าหลานที่บ้านหลังข้าง ๆ
“ไม่ ผมจะกลับมานอนบ้านผม นี่คุณภูพูดไม่รู้เรื่องเลยนะ หลายรอบแล้วตั้งแต่ตอนอยู่ในบ้าน อย่าเยอะขอร้อง แล้วนี่ถึงบ้านแล้วกลับไปได้ ผมจะได้อาบน้ำนอนสักที วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว คุณภูก็เหมือนกันจะได้พาน้องฟ้ากลับไปพักผ่อน แล้วอีกอย่างนะผมบอกว่าจะเดินมาเองก็ไม่เชื่อ บ้านก็อยู่แค่นี้เอง ไม่รู้จะตามมาทำไมวุ่นวาย”
โห...เป็นชุดครับ มีใครเลยบอกเจ้าตัวไหมครับว่าเป็นคนดื้อ เถียงเก่ง
“โอเค ๆ ไม่ค้างก็ไม่ค้าง ฉันก็แค่อยากให้น้องฟ้ามีเพื่อนนอนเล่นด้วยเท่านั้นเอง เพราะน้องฟ้าไม่เคยมีเพื่อนมานอนค้างที่บ้านเลย ถ้าตุลย์นอนด้วยคงดีใจมาก” เอาลูกชายมาอ้างหน่อยครับเผื่อว่าจะใจอ่อน
“อย่าเอาน้องฟ้ามาอ้าง วันหลังผมค่อยให้ตุลย์ไปค้างกับน้องฟ้าเอง แต่วันนี้ผมเหนื่อยอยากนอนบ้านตัวเอง” กันตพิชย์หันมาทำสีหน้าเบื่อหน่ายใส่ผมอีกด้วย
“ก็ได้ อย่าลืมแล้วกันว่าวันหลังนายต้องไปค้างบ้านฉันเป็นนอนเพื่อนน้องฟ้า”
“คุณภู ผมบอกว่าผมจะให้ตุลย์ไปนอนเป็นเพื่อนน้องฟ้าไม่ใช่ผมจะไปนอนบ้านโน้นเป็นเพื่อนน้องฟ้า อย่าโมเมแบบนี้” อุตส่าห์เนียนแล้วนะเนี่ยยังจับคำพูดได้ทุกคำอีก คนอะไรตีความเก่งจริง ๆ เฮ้อ ไม่ตื้อแล้วก็ได้เดี๋ยวโดดแว๊ดใส่ เดินมาจนถึงหน้าบ้าน ตุลย์ก็หันมาโบกมือลาผมกับน้องฟ้า ส่วนกันตพิชย์นะเหรอ ไขกุญแจบ้านแล้วเปิดประตูรอหลานชายร่ำลาผมกับน้องฟ้าอยู่นะสิ ไม่สนใจผมสักนิดเลยด้วย
“ขอบคุณครับคุณลุงที่วันนี้ให้ตุลย์ไปเล่นกับน้องฟ้าที่บ้าน” ตุลย์ไหว้ขอบคุณผมด้วยกริยาน่ารัก
“ครับ วันหลังก็ไปเล่นกับน้องฟ้าใหม่นะ น้องฟ้าจะได้ไม่เหงา”
ร่างอ้วนยิ้มแป้นแล้นมากเมื่อได้ยินว่าผมอนุญาตให้ไปเล่นที่บ้านได้ตลอดเวลา ผมว่าผมคงต้องทำอะไรให้มากกว่านี้แล้วล่ะครับแต่ก่อนอื่นคงต้องถามร่างเล็ก ๆ เจ้าของหัวใจผมก่อน
“ฝันดีนะครับน้องฟ้า” บอกแต่ลูกเหรอแล้วพ่ออย่างผมล่ะ
น้องฟ้าโบกมือลาทั้งน้า ทั้งหลาน แล้วเราสองคนพ่อลูกก็เดินจูงมือกันกลับบ้าน
กลับถึงบ้านผมเดินไปส่งน้องฟ้าขึ้นห้องเพื่อให้เจ้าตัวอาบน้ำเตรียมตัวนอน ส่วนตัวผมก็เข้าห้องไปอาบน้ำเหมือนกัน พร้อมกับความคิด ๆ หนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัว
ก็อก ๆ ๆ ผมเคาะประตูห้องน้องฟ้าเป็นสัญญาณแล้วจึงเปิดตามเข้าไป เห็นลูกชายตัวเล็กนั่งอยู่บนเตียงนอน พร้อมกับทีวีที่เปิดช่องการ์ตูนเอาไว้ ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงข้าง ๆ ลูกชาย
“ดูอะไรอยู่ครับทำไมยังไม่นอนอีก” ผมยกตัวน้องฟ้าขึ้นมานั่งบนตักพร้อมกับก้มลงไปหอมเบา ๆ ที่ศรีษะน้อย ๆ นั่น
“โคนันครับคุณพ่อ เนี่ยตอนใหม่ที่เป็นเดอะมูฟวี่ จะเข้าโรงหนังแล้วด้วย คุณพ่อพาฟ้าไปดูด้วยนะครับ” น้องฟ้าแหงนหน้ามาพูดกับผมด้วยรอยยิ้มอ้อนพร้อมกับขอให้ผมพาไปดูเจ้าเด็กบ้านักสืบคนนึงที่ดูกี่ทีก็ยังไม่โต อยู่ป.1 ตั้งแต่ก่อนน้องฟ้าเกิดอีกนะครับ จนตอนนี้น้องฟ้าจะขึ้นป.1 ตามแล้ว ไอ้เด็กโคนันนี่ก็ยังซ้ำชั้นเหมือนเดิม
“ครับ เดี๋ยวพ่อเช็ครอบให้ว่าเข้าวันไหนแล้วเราไปดูกันเนอะ”
“ขอบคุณครับ” ตอบขอบคุณพร้อมกับยกตัวขึ้นมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ ทำให้ผมก้มลงไปหอมแก้มนิ่มสองข้างเหมือนกัน กลิ่นแป้งเด็กที่ติดตัวน้องฟ้าหอมเหมือนกับกลิ่นที่ได้จากตัวของกันตพิชย์ หรือว่ากลิ่นกันตพิชย์เหมือนน้องฟ้ากันแน่นะ
ไอ้ที่คิดมาในหัวตอนที่อาบน้ำตั้งใจจะถามน้องฟ้า ไม่ได้กลัวว่าลูกจะไม่เห็นด้วยเพราะเท่าที่สังเกตดูก็น่าจะเข้ากันได้ดี
“น้องฟ้าพ่อถามอะไรหนูสักนิดได้ไหมครับ” ผมลองหยั่งเชิงลูกไปก่อน
“หือ เรื่องอะไรครับ”
“น้องฟ้าชอบน้ากันต์กับตุลย์ไหมครับ” คำถามที่หลุดออกจากปากผมทำให้น้องฟ้าหันหน้ามามองผมแล้วเอียงคอเล็ก ๆ เหมือนจะสงสัยว่าผมถามทำไม
“ชอบสิครับ น้ากันต์ใจดี ตุลย์ก็ด้วย ตุลย์เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดเพราะน้องฟ้าไม่เคยมีเพื่อนแบบตุลย์เลยสักคน คุณพ่อถามเรื่องนี้ทำไมครับ”
“ถ้าน้องฟ้าชอบก็ดีแล้วล่ะ พ่อแค่อยากจะรู้ว่าน้องฟ้ามีความสุขที่ได้มีเพื่อนอย่างตุลย์หรือเปล่า”
“ฟ้าว่าคุณพ่อห่วงฟ้ามากไปแล้วนะครับ ฟ้าสนุกนะที่ได้มีเพื่อนเล่น น้ากันต์ก็ใจดีให้ตุลย์มาเล่นกับฟ้า แต่ฟ้าว่าคุณพ่อเข้าประเด็นมาดีกว่าครับว่าถามทำไม” ห๊ะ!!! ลูกชายผมทำไมถึงถามผมกลับมาแบบนี้ ปกติน้องฟ้าจะไม่เคยเป็นแบบนี้นี่
“เอ่อ ...เอ่อ คือว่าพ่อ” ทำไมมันพูดไม่ออกวะ เวลางานยาก ๆ นี่ไม่เคยเป็นแบบนี้ ขนาดเตรียมตัวเตรียมใจมาถามลูกชายแล้วนะ
“พูดมาสิครับ อย่าอ้ำอึ้ง คุณพ่อสอนให้ฟ้าทำอะไรให้ชัดเจนจำได้ไหมครับ” ครับคุณลูกพ่อจำได้ เอาก็เอาวะพูดก็ได้ เดี๋ยวจะหาว่าสอนลูกแล้วตัวเองทำไม่ได้
“ถ้าน้องฟ้าชอบน้ากันต์กับตุลย์แล้ว น้องฟ้าคิดว่าพ่อจะชอบน้ากันต์ดีไหม” พูดไปแล้วก็โล่งอกพิลึกครับ
“ก็แค่นั้นแหล่ะครับคุณพ่อ ไม่รู้จะพูดยากอะไรนักหนา” อ้าว ไหงพูดงั้นละครับคุณลูก
“พ่อก็กลัวน้องฟ้าของพ่อไม่ชอบที่พ่อจะไปชอบน้ากันต์”
“ฟ้าชอบนะ ถ้าคุณพ่อชอบใครฟ้าก็ไม่ขัดหรอกแต่ต้องพามาให้ฟ้าดูตัวก่อน อ้อ แต่ถ้าเป็นน้ากันต์ฟ้าตกลงครับ” พูดจบรอยยิ้มจากใบหน้าน่ารักก็ส่งมาให้ผม ทำให้ผมยิ้มแล้วกอดลูกชายแน่นกว่าเดิมพร้อมโยกตัวเล็ก ๆ นั่นเล่นไปมาอีกด้วย
“แล้วน้องฟ้าว่าน้ากันต์ของน้องฟ้าเขาชอบพ่อมั่งป่ะ” ใจมาเป็นกองครับทีนี้เปิดอกคุยกับลูกได้แล้ว
“ถ้าน้ากันต์ไม่ชอบคุณพ่อ ฟ้าว่าคุณพ่อโดนน้ากันต์ต่อยปากตั้งแต่อยู่โรงเรียนแล้วครับ ไม่มีให้คุณพ่อลวนลามน้ากันต์ได้ตั้งสองสามรอบแบบนี้หรอก”
“ห๊ะ!!! ลวนลาม น้องฟ้าเห็นที่พ่อทำกับน้ากันต์ด้วยเหรอ” ตายครับตาย นึกว่าไม่มีใครเห็นซะอีก
“เห็นสิครับ ใครก็เห็นทั้งนั้นแหล่ะ ทั้งที่โรงเรียนก็เห็นกันหมด แล้วก็เมื่อกี้ที่ห้องนั่งเล่น อย่าคิดว่าจะไม่มีคนเห็นสิครับ”
“เฮ้ย น้องฟ้าเห็นอะไรที่ห้องนั่งเล่น” เอาล่ะสิผม ผมว่าดูดีแล้วนะว่าเห็นเด็ก ๆ เดินออกมากันหมดแล้ว
“ก็คุณพ่อทำอะไรน้ากันต์ ฟ้ากับตุลย์ก็เห็นแบบนั้นแหล่ะครับ แต่อย่าแกล้งน้ากันต์บ่อยเกินไประวังตุลย์โมโหนะ นั่นเขารักของเขา แต่ตุลย์บอกว่านี่เห็นเป็นคุณพ่อหรอกนะเลยเปิดไฟเขียวให้ ไม่งั้นตุลย์ไม่ยอมให้เข้าใกล้น้ากันต์หรอก” น้องฟ้านั่งกอดอกพร้อมอธิบายให้ผมฟัง
“แล้วฟ้าคิดว่าไงครับ ถ้าพ่อจะลองจีบน้ากันต์ น้องฟ้าว่าน้ากันต์จะยอมให้พ่อจีบไหม” ผมชักจะไม่แน่ใจแล้วสิครับ บริหารงานบริษัทใหญ่โตไม่เคยต้องมาขอความเห็นลูกชาย เรื่องจะจีบผู้ชายกลับทำให้ผมเกรง ๆ
“อืม ... ก็น่าจะได้นะครับ แต่ฟ้าว่าคุณพ่อต้องรีบหน่อยล่ะ เพราะฟ้าเห็นน้าของน้องแนนเพื่อนในห้องฟ้า เข้ามาคุยกับน้ากันต์ คงจะชอบน้ากันต์แน่เลย” ลูกชายครับอย่าบิ้วต์ เดี๋ยวพ่อเดินไปฉุดคนข้างบ้านมานอนด้วยซะเลยนี่ นึกแล้วก็เสียดายรู้งี้ไม่ปล่อยให้กลับบ้านหรอก น่าจะให้น้องฟ้าหลอกให้นอนค้างที่นี่ด้วยสักคืน เผื่อว่าอะไร ๆ จะได้คืบหน้ากว่านี้
“พ่อเห็นแล้ว หมั่นไส้อยู่เหมือนกัน ทำท่าทีเข้ามาสนิทสนมกับน้ากันต์ของพ่อ เดี๋ยวเจอกันอีกทีคอยดูพ่อจะทำให้รู้ซะเลยว่าใครเป็นของใคร”
“งั้นน้องฟ้าต้องช่วยพ่อแล้วล่ะ ถ้ามีคนเข้ามาจีบน้ากันต์น้องฟ้าต้องกันเอาไว้อย่าให้เข้าใกล้ได้เลยนะ ไม่งั้นน้องฟ้าอดมีแม่เลี้ยงเป็นน้ากันต์ พ่อไม่รู้ด้วยนะครับ” ยุลูกชายสักหน่อยให้เป็นมือขวากันผู้ชายที่พยายามเข้ามาเกาะแกะกันตพิชย์ เพราะบางเวลาผมไม่ได้อยู่ด้วยนี่ครับอาจจะมีพลาดไปบ้างก็ต้องมีผู้ช่วยมือดีไว้ก่อน
“ฟ้าช่วยคุณพ่อก็ได้ครับ เห็นแก่ความสัมพันธ์พ่อลูก แล้วตุลย์ล่ะคุณพ่อจะทำยังไง ฟ้าว่าบอกให้ตุลย์รู้ไว้ดีกว่า บางทีตุลย์อาจจะช่วยเราได้นะครับ”
“ความคิดดีมากครับลูกชาย งั้นวันพรุ่งนี้เราเริ่มแผนให้ไส้ศึกกันดีกว่า เดี๋ยวพ่อจะพาน้องฟ้าไปเล่นบ้านตุลย์วันพรุ่งนี้นะครับ ดีไหม”
“คุณพ่อครับ ทีเรื่องแบบนี้ล่ะไวมากเลยนะ แต่ก่อนไม่เห็นอยากให้ตุลย์มาเล่นกับฟ้าเลย ตอนนี้ทำไมยอมให้ฟ้าไปหาตุลย์ง่าย ๆ แบบนี้ คงไม่ใช่ส่งฟ้าไปเป็นทัพหน้าให้น้ากันต์ใจอ่อนหรอกนะ”
“น้องฟ้าฉลาดมากสมกับเป็นลูกพ่อ ก็น้ากันต์ของน้องฟ้าใจดีกับแค่น้องฟ้ากับตุลย์นี่นา ทีกับพ่อละดุเอ๊า ดุเอา บางทีพ่อยังสงสัยนะว่า พ่อเป็นเจ้านายหรือน้ากันต์ของลูกเป็นเจ้านายพ่อกันแน่” เรื่องจริงนะครับถึงแม้ว่าตอนอยู่ทำงานผมจะดูดุขนาดไหน แต่ว่าร่างโปร่งของกันตพิชย์ก็ดูเหมือนไม่กลัวผมสักนิด บางครั้งก็เถียงให้ผมได้หงุดหงิด แต่เวลาที่ชายหนุ่มจะดื้อ ก็จะเป็นช่วงที่อยู่กันแค่สองคนเท่านั้น ไม่มีครั้งไหนที่กันตพิชย์จะแสดงทีท่าไม่เคารพผมต่อหน้าพนักงานคนอื่นในบริษัท
แล้วยังท่าทีที่แสดงต่อน้องฟ้าอย่างรักใคร่เอาใจใส่ นั่นก็เป็นสาเหตุที่ผมติดใจในตัวของกันตพิชย์จนบางครั้งก็คิดว่าถ้ามีคนที่รักผมแล้วก็รักลูกของผมแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แล้วตอนนี้ผมก็ตัดสินใจแล้วว่าไม่ควรปล่อยให้กันตพิชย์หลุดมือไป คงต้องเริ่มทำอะไรบ้างแล้วอย่างน้อยตอนนี้ก็ได้ผู้ช่วยมาสองคนแน่นอน
“น้องฟ้าว่าพ่อควรเริ่มจากอะไรก่อนดี สำหรับการจีบน้ากันต์ของเรา”
“แหม ... ของเราเลยนะครับคุณพ่อ ฟ้าว่าจีบน้ากันต์ให้ได้ก่อนดีกว่าไหมครับ ถึงตอนนั้นฟ้าว่ายังไงน้ากันต์ก็ไม่ไปไหนหรอก”
“พูดดีมากครับลูกชาย เอาเป็นว่าตอนนี้พ่อเดินหน้าจีบน้ากันต์เลยแล้วกันนะ”
“ก็ตามนั้นเลยครับ ฟ้าจะคอยช่วยอีกแรง ถ้าคุณพ่อจีบน้ากันต์ไม่ได้แสดงว่า คุณพ่อไม่มีฝีมือ” แรงส์ครับลูก พ่อว่าสมัยก่อนพ่อจีบใครไม่เคยพลาดนะ ยกเว้นแต่ไม่เล่นด้วยเอง แต่ว่านั่นในกรณีผู้หญิงนะครับ แต่นี่ครั้งแรกที่กำลังจะจีบผู้ชายให้มาเป็นแม่เลี้ยงน้องฟ้า
“งั้นน้องฟ้านอนได้แล้วครับ พรุ่งนี้เช้าเราจะได้ไปเที่ยวบ้านโน้นแต่เช้า” ผมยกตัวลูกชายให้ลงจากตัวก่อนจะห่มผ้าให้ร่างเล็ก ๆ แล้วปิดทีวี ก่อนออกจากห้องผมก็มลงจูบหน้าผากน้องฟ้าก่อน
“กู๊ดไนท์ ฝันดีครับน้องฟ้า พ่อรักลูกนะครับ”
“กู๊ดไนท์ครับ ฟ้าก็รักคุณพ่อ” ผมเดินมาปิดไฟแล้วปิดประตูห้องนอนน้องฟ้า เดินกลับห้องตัวเองเพื่อที่จะได้พักผ่อน ผมว่าวันนี้ผมรู้สึกว่าเป็นวันที่ดีวันหนึ่งในชีวิตผม เพราะว่าความสุขที่มีเกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดกับผมคนเดียวมันยังทำให้น้องฟ้ามีความสุขไปด้วย ผมว่าผมคิดถูกนะครับที่ถามลูกชายก่อนเพราะอย่างน้อยตอนนี้ผมก็มีกำลังเสริม แล้วดูท่าว่ากำลังเสริมคนนี้จะสำคัญเสียด้วย กันตพิชย์รักเด็กนี่ครับแล้วลูกผมก็น่ารักมาก ๆ ด้วย อะไร ๆ มันคงง่ายขึ้นถ้าผมจะเดินหน้าเข้าไปจีบคนข้างบ้าน
****************************************************************************************
ขอโทษที่หายไปหลายวันนะคะ เรายุ่ง ๆ เรื่องงานศพที่ต่างจังหวัดค่ะ
แต่มาลงตอนใหม่ให้แล้ว หวังว่ายังรอเราอยู่ไม่หนีหายกันไปไหนนะคะ
คิดถึงทุกคนค่ะ