ตอนที่ 6 คุณพ่อจอมหวง VS ไอ้อ้วนจอมหวง
ได้เวลาเลิกงานผมเก็บของลงโต๊ะอย่างรวดเร็วเพื่อจะไปรับตุลย์ แต่ผมไม่ทันคนในห้องหรอกครับรายนั้นออกไปก่อนผมครึ่งชม.แล้ว เหอะถือว่าตัวเองเป็นประธานบริษัทรึไง ก็แน่ละครับเขาเป็นประธานจะไปจะมาตอนไหนจะมีใครกล้าว่าอะไรได้ ส่วนผมนะเหรอพนักงานระดับล่าง ต้องรอเวลาเลิกงานจริง ๆ เท่านั้นแหล่ะครับถึงจะออกได้
มือคว้าสายกระเป๋าพาดไหล่แล้วเดินไปที่ลิฟท์เพื่อรอลิฟท์ไปชั้นจอดรถ มีพนักงานหลายคนรออยู่ด้วยหลายคนหันมามองผม ซึ่งผมก็ยิ้มให้ตามมารยาท ผมเพิ่งมาแค่ 2 วันนี่ครับแล้วพนักงานที่นี่ก็เยอะมาก เดี๋ยวค่อยทำความรู้จักกันไปก็ได้แหล่ะ
ออกจากลิฟท์ได้ก็เดินมาขึ้นรถเพื่อขับออกไปโรงเรียนของตุลย์ วันนี้คงต้องพาตุลย์ไปทานข้าวนอกบ้านเพราะว่าวันนี้ของสดในตู้เย็นหมดแล้วคงไม่ได้ทำอาหารเย็นทานเองเหมือนทุกวัน ผมชอบทำอาหารเองไม่อยากซื้อข้างนอกเพราะของทุกอย่างเราเลือกได้เอง ทั้งความสดใหม่ ความสะอาดซึ่งดีกับสุขภาพของตุลย์กว่ามาก แถมตุลย์ยังชอบอาหารทำเองมากกว่าซื้อมาจากข้างนอก ซึ่งนาน ๆ ครั้งผมถึงจะพาหลานชายไปทานตามร้านอาหาร
รถเลี้ยวเข้ามายังลานจอดรถโรงเรียนนานาชาติของผมมองหาที่ว่างเมื่อได้ที่จอดเรียบร้อยก็ลงจากรถล็อครถเดินไปทางตึกเรียนของตุลย์ พอไปถึงผมกับชะงักขาที่กำลังก้าวเข้าไปหาหลานชาย ก็จะอะไรล่ะครับที่ตรงนั้นมีเด็กผู้ชายอยู่สองคนกับอีกหนึ่งชายหนุ่มผู้หล่อเข้มนั่งอยู่ แต่เมื่อคิดได้ว่าอาจจะนั่งรอเป็นเพื่อนของตุลย์ผมก็เลือกที่จะเดินต่อไป เข้าไปในระยะสายตาพอให้รู้ว่าผมเดินมาถึงแล้วนะ คนทั้งสามก็หันมายังกับนัดกันไว้ มีเพียงสองหนุ่มน้อยเท่านั้นที่ยิ้มให้ผม ส่วนอีกหนึ่งคนตัวโต ๆ หันมามองหน้าผมนิ่ง ๆ แล้วหันไปสนใจกับลูกชายของเขาต่อ
“น้ากันต์ มาแล้วๆ” เสียงใส ๆ ของตุลย์ดังขึ้นมาก่อนจะวิ่งมากอดขาผม
“ครับมารับแล้วรอนานมั้ย”
“ไม่นานเลยน้ากันต์ แล้ววันนี้เราจะไปกินไอติมกับน้องฟ้ากันครับ” น้ำเสียงหลานผมระรื่นมาก
“หือ ใครจะไปไหนนะครับ” ผมทวนคำถามนั้น ไม่แน่ใจว่าเจ้าอ้วนบอกออกมานั้นจริงหรือเปล่า
“ก็ ตุลย์ น้ากันต์ น้องฟ้า กับพ่อน้องฟ้าไงล่ะ”
“ไม่กวนคุณพ่อน้องฟ้ากับน้องฟ้าดีกว่า เดี๋ยวน้ากันต์พาไปทานข้าวเย็นนอกบ้านดีกว่าเนอะ” หันไปบอกหลานชายตัวกลม
“อ้าว ก็น้องฟ้าชวนตุลย์นี่ครับ” หน้ากลม ๆ หันมาทางผมแล้วทำหน้ายู่น้อย ๆ
“ไม่เป็นไร ไปด้วยกันนี่แหล่ะ น้องฟ้าชวนไว้แล้ว เดี๋ยวแวะทานข้าวก่อนค่อยไปทานไอติมร้านโปรดน้องฟ้า” เสียงเข้มที่ออกจากปากของร่างสูงใหญ่ของคุณภู เป็นการตัดสินใจให้เสร็จสรรพ
ผมได้แต่หันไปมองหน้าคนตัวโตแล้วก็หันกลับมามองหน้างลูกชายของเขาที่มาพร้อมรอยยิ้มกับใบหน้าน่ารักพยักขึ้นลงน้อย ๆ เหมือนกับว่าให้ผมทำตามที่พ่อของน้องฟ้าบอกนั่นแหล่ะดีที่สุดแล้ว
“ครับ งั้นเก็บของแล้วไปกันเลยแล้วกันครับ เดี๋ยวรถจะติดเด็ก ๆ จะหิวก่อน” ผมจะทำยังไงได้ล่ะครับทุกคนตัดสินใจกันเรียบร้อยแล้วนี่
“เดี๋ยวไปเจอกันที่ห้างหน้าหมู่บ้านแล้วกัน ใกล้ดี มีร้านอาหารเยอะให้เลือกทาน” คุณภูสั่งอีกครั้งก่อนที่จะลุกขึ้นอุ้มน้องฟ้าแล้วเดินออกไปจากห้อง ผมเลยต้องหันไปหาไอ้อ้วนของผมแล้วพยักหน้าชัดชวนกันเดินตามหลังร่างสูงนั้นไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ตุลย์ไม่ได้ขอตามน้องฟ้าไปใช่ไหม” ผมถามตุลย์อย่างสงสัย
“ตุลย์เปล่าขอตามนะน้ากันต์ น้องฟ้าชวนต่างหากเล่า”
“แล้วตุลย์เรียกน้องฟ้าว่าน้องฟ้าด้วยหรอ ไม่ใช่ว่าอายุเท่ากันรึไง”
“เรียกน้องฟ้าแหล่ะน่ารักแล้ว ก็น้องฟ้าตัวเล็กกว่าตุลย์นี่ ตุลย์โตกว่าจะต้องปกป้องน้องฟ้าไง” ตุลย์ตอบอย่างภูมิใจที่ได้เป็นพี่ หึหึ เจ้าตัวจะรู้ไหมนะว่าเวลาทำหน้าอย่างนี้มันน่าหมั่นไส้ชะมัด ทำอย่างกับตัวเองโตกว่าน้องฟ้ามากนักนี่
“โอเค ๆ งั้นเดินไว ๆ ดีกว่าเดี๋ยวพ่อน้องฟ้าจะหันมาดุเราอีกว่าชักช้า” ผมเร่งไอ้อ้วนให้เดินไว ๆ
ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงห้างหน้าหมู่บ้าน เวลาเย็น ๆ แบบนี้คนจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะต่างก็มาหาร้านอาหารทานก่อนกลับเข้าบ้าน ผมได้ที่จอดรถไม่ไกลจากรถคุณภูมากนัก ผมเดินลงจากรถแล้วจูงมือตุลย์เดินเข้าไปหาสองพ่อลูกที่ยืนรอหน้าประตูทางเข้าห้าง
“น้องฟ้าอยากทานอะไรครับ” ผมถามร่างเล็ก ๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนของคนตัวโตหน้าเข้ม
“ฟ้าอยากทานชาบูครับ เราไปทานชาบูกันนะ” เสียงเล็ก ๆ บอกออกมาเบาๆ พร้อมรอยยิ้ม ทำไมผมถึงหลงรอยยิ้มน้องฟ้านะเนี่ย
“คุณพ่อให้ฟ้าเดินเองก็ได้นะครับเดี๋ยวคุณพ่อหนัก ฟ้าโตแล้ว” เสียงเล็กประท้วงร่างสูงให้ปล่อยตัวเองลงเดินกับพื้นด้วยตัวเอง เพราะคงเกรงว่าคุณพ่อร่างยักษ์จะเมื่อยที่อุ้มมานาน
“น้องฟ้าอยากเดินเองเหรอครับ ไม่ให้พ่ออุ้มเหรอ” เสียงทุ้มกระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของน้องฟ้า แต่ทำหน้าเหมือนไม่อยากปล่อยร่างน้อย นั้นลงเอง ผมได้แต่หันหน้าหนีทำหน้าเอือมกับคุณภู
“ครับฟ้าเดินได้ นะ นะ” ว่าเสร็จพร้อมกับที่ร่างสูงก็ปล่อยให้น้องฟ้าได้ลงมาเดินด้วยตัวเอง พอถึงพื้นเท่านั้นแหล่ะน้องฟ้าหันมาทางตุลย์แล้วเดินไปจูงมือของไอ้อ้วนทันทีจากนั้นเดินนำหน้าเราสองคนไปที่ร้านชาบูที่เล็งไว้แต่แรก ไอ้ผมเลยได้แต่หันหน้าไปมองคุณภูที่ตอนนี้กำลังอึ้งกับการที่โดนลูกชายทิ้งไว้ข้างหลัง ผมจะหัวเราะก็หัวเราะไม่ได้ ได้แต่อมยิ้มแก้มตุ่ย แล้วหัน
หน้าหนีไปอีกทาง แต่ผมกลั้นเสียงหัวเราะไม่ได้นี่สิ เผลอหลุดออกมาทำให้ใบหน้าเคร่งของคุณภูหันมาจ้องผมตาเขม็งเลย
“นายหัวเราะอะไร หุบยิ้มไปเลยนะ” เสียงเขียวมาเชียว คิดว่าผมกลัวรึไง หันไปมองจึงได้เห็นว่าตาเขียวปัดมาเลยทีเดียว เลยได้แต่กระแอมสองสามครั้งในลำคอ แล้วกลับมาทำสีหน้าปกติ เพราะกลัวว่าจะโดดขย้ำเสียก่อนที่จะได้ทานข้าวเย็น
“รีบเดินสิ เด็ก ๆ ไปโน่นแล้วเดี๋ยวก็คลาดสายตากันพอดีชักช้าอะไรอยู่ได้”
“ครับ ๆ รีบแล้วครับ คุณภูก็เดินไว ๆ สิครับเดี๋ยวน้องฟ้าหายไปนะ” ผมได้ทีแกล้งเย้าร่างสูงไปด้วย
สองหนุ่มน้อยเดินมาหยุดที่หน้าร้านชาบูเพื่อรอผมกับคุณภู พอเราเดินไปถึงหน้าร้าน คุณภูจึงเดินนำเข้าไป พร้อมกับพนักงานเข้ามาต้อนรับ พลางเดินนำเข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านในติดกระจกที่ว่างอยู่
คุณภูขยับให้น้องฟ้านั่งด้านในติดกระจกแล้วเจ้าตัวก็ตามเข้าไปนั่งประกบ ส่วนผมก็ดันให้ตุลย์เข้าไปด้านในเหมือนกัน ตอนนี้ผมเลยนั่งตรงข้ามกับคุณภู
“น้องฟ้าสั่งเลยครับอยากทานอะไร ตุลย์ด้วยนะ” ร่างสูงก้มหน้าไปบอกน้องฟ้า แล้วหันมาทางหลานชายของผมบอกให้สั่งได้เลย น้องฟ้าสั่งอาหารไปหลายอย่าง ส่วนไอ้อ้วนของผมนะเหรอครับ ร่ายยาวเป็นหางว่าวเลยล่ะ น้องฟ้าได้แต่มองมาอย่างอึ้ง ๆ กับการสั่งอาหารแบบรัว ๆ ของตุลย์ ซึ่งพนักงานก็จิ้ม แท็ปเล็ตเพื่อสั่งหาอารมือระวิง
“ตุยล์จะทานหมดเหรอ มันเยอะมากเลยนะ” เสียงใส ๆ ทนไม่ไหวเลยเอ่ยถามออกมา
“หมดสิน้องฟ้า แค่นี้เองสบายมาก พี่ตุลย์ตัวโตต้องทานเยอะ ๆ จะได้แข็งแรงและปกป้องน้องฟ้าได้ไงครับ” โอว หยอดได้หยอดอีก เอากะเขาสิครับพ่อหลานชายของผม
แต่ด้านคุณภูที่เมื่อได้ยินตุลย์เรียกตนเองว่าพี่แล้วเรียกน้องฟ้าว่าน้อง ก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาให้ตุลย์เห็น อาจจะแค่ขัดใจนิดหน่อยก็ได้ที่มีคนอยากปกป้องน้องฟ้า
อาหารมาแล้วตอนนี้หลานผมเนี่ยไม่สนใจอะไรแล้วครับ ผมเลยต้องจัดการใส่เนื้อ ใส่ผัก ลงไปในหม้อ ก่อนจะปิดฝา ทิ้งไว้ไม่เกิน 5 นาที พอเปิดฝาออกมาควันก็พวยพุ่ง กลิ่นหอมของชาบูหม้อนี้ก็ทำเอาน้ำลายสอ กระเพาะเนี่ยส่งเสียงร้องออกมาเลยทีเดียว
ร่างสูงหันไปตักบรรดาเนื้อหมู กุ้งที่สุกแล้วใส่ถ้วยให้น้องฟ้า น้องหันมายิ้มรับพร้อมคำขอบคุณ แล้วลงมือทานอาหารในถ้วยที่คุณพ่อรูปหล่อส่งให้ทันที ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรกับผมที่ตักทุกสิ่งอย่างในหม้อให้กับตุลย์ด้วยเหมือนกัน ซึ่งรายนั้นแค่ได้เห็นอาหารตรงหน้าก็ยิ้มรับหน้าบานแล้วครับ
ส่วนผมก็ทานเงียบ ๆ ปล่อยให้หลานชายจัดการอาหารเอง โดยถ้วยที่สองเนี่ยตักเองครับ ไม่รอให้ผมตักให้หรอกแต่คุณภูที่ทานไปด้วย ก้มหน้าไปเช็ดปากให้น้องฟ้าไปด้วยนี่สิ ดูแลดีมาก ได้แต่สงสัยนะว่าคุณภูเนี่ยสอนให้น้องฟ้าทำอะไรเองมั่งเปล่า เพราะที่เห็นทำให้น้องเกือบทุกอย่างเลย แต่ดีนะที่น้องไม่เอาแต่ใจเหมือนลูกคนรวยทั่วไปที่เลี้ยงลูกแบบตามใจทุกอย่าง
ทานกันไปสักพักผมก็สังเกตว่ามีสายตาจับจ้องมาที่โต๊ะที่พวกเรานั่งกันอยู่ จึงหันไปมองรอบ ๆ เห็นผู้หญิงโต๊ะข้าง ๆ มองร่างสูงอย่างไม่วางตา โต๊ะนั้นมีผู้หญิงมากันสองคน แล้วทั้งสองคนก็มองมาทางนี้บ่อยมาก พอคุณภูรับรู้ได้ถึงการจับจ้อง เลยเงยหน้าจากการดูแลน้องฟ้าหันมามองบ้างก็เห็นว่าผู้หญิงสองคนนั้นส่งสายตาหวานเชื่อมพร้อมรอยยิ้มหวานมาให้อย่างเปิดเผย ร่างสูงเห็นแล้วก็ไม่ได้ยิ้มตอบ กลับเมินรอยยิ้มเชิญชวนนั้น แล้วหันไปดูน้องฟ้าทานต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผู้หญิงสองคนนั้นยิ้มเก้อไปเลยทีเดียว เมื่อเห็นว่าผู้ชายที่ตนส่งยิ้มให้ไม่เพียงไม่ยิ้มตอบเท่านั้นกลับมองเมินเธอทั้งสองคนไปด้วย ผมแอบมองทั้งสองคนอย่างเงียบ ๆ พวกเธอสวยนะครับ ผมยาว ตาโต ผิวขาวแถมมีรูปร่างสะดุดตาไม่น้อยแต่ทำไมคุณภูถึงได้เมินสาวสวยแบบนี้ไปได้ หรือว่าเป็นเพราะมากับน้องฟ้าจึงไม่ได้สนใจ
“อิ่มแล้วน้องฟ้าจะไปทานไอศกรีมอีกไหมครับลูก” ทีพูดกับลูกชายละเสียงอ่อนเสียงหวาน ดวงตาดูอ่อนโยนขึ้นมาเชียว
“ครับ ฟ้าจะไปทานไอติมที่ร้านเดิมของเรา” ไอ้ร้านเดิมนะร้านไหนครับน้องฟ้า บอกน้ากันต์หน่อยสิ น้ากันต์จะได้ดูเงินในกระเป๋าด้วยว่าพอเลี้ยงเด็ก ๆ หรือเปล่า
คุณภูเรียกพนักงานมาเช็คบิลอาหาร บอกว่ามื้อนี้เขาเลี้ยงเองเพราะน้องฟ้าเป็นคนชวนตุลย์มาทานด้วย ผมไม่ขัดศรัทธาหรอกครับ ฟรีนี่แต่ไอศกรีมผมคงต้องขอออกตัวเลี้ยงมั่ง เราเดินออกมาเดินตามเด็กน้อยสองคนไปยังร้านไอศกรีมชื่อดังในห้างซึ่งราคาเนี่ยไม่ต้องพูดถึง สกู๊ปเป็นร้อย น้ำตาจะไหล
“น้องฟ้าสั่งเลยครับ น้ากันต์เลี้ยงไอศกรีมเองเนอะ”
“ทำไมน้ากันต์ต้องเลี้ยงด้วยครับก็ให้คุณพ่อจ่ายเงินเหมือนเดิมก็ดีแล้วนี่ครับ” ใบหน้าน้อย ๆ หันมาทางผมพร้อมกับคำถามที่ทำให้ผมต้องแอบกลืนน้ำลายนิดนึง
“ก็เมื่อกี้คุณพ่อน้องฟ้าเลี้ยงชาบูแล้วนี่ต่อไปก็ถึงคิวน้ากันต์เลี้ยงน้องฟ้ากับคุณพ่อสิครับถึงจะถูก”
“ไม่ต้อง !!! เดี๋ยวฉันออกเอง ก็บอกแล้วว่าน้องฟ้าเป็นคนชวนแล้วจะให้นายมาออกเงินได้ยังไง” เสียงเข้มดุออกมาจนผมต้องทำหน้าแหย ๆ
“ครับ งั้นขอบคุณมากครับ” ผมยกมือไหว้ ตุลย์ก็ไหว้ด้วย เราสั่งไอศกรีมมาคนละถ้วยยกเว้นคุณภูทีไม่ได้ทานแต่สั่งกาแฟมาแทน
เรานั่งไปได้สักพัก ก็มีครอบครัวอีกครอบครัวนึงเดินมานั่งข้าง ๆ โต๊ะของเรา ทางนั้นมากันสามคน พ่อ แม่ลูกชาย ผมได้ยินพวกเขาสั่งไอศกรีมมาให้ลูกชายแล้วก็นั่งคุยกันเบา ๆ แต่ว่าตัวลูกชายของทางนั้นมองมาทางโต๊ะของเราบ่อยมากผมเลยมองตามสายตาของเด็กชาย สายตานั้นไปหยุดอยู่ที่ใบหน้าน้องฟ้าผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องอะไรเลยว่ามีคนแอบมองอยู่
สักพักเด็กคนที่ว่าก็ลุกมาจากโต๊ะของตัวเอง เดินมาหาน้องฟ้าแล้วยื่นดอกไม้ให้น้องฟ้า เฮ้ย ดอกไม้ในแจกันบนโต๊ะของทางร้านด้วย ผมได้แต่ยิ้ม น้องฟ้ามองมือเล็ก ๆ ที่ยื่นดอกไม้ให้พลางทำหน้างงนิด ๆ แต่ก็ยื่นมือออกไปรับพร้อมรอยยิ้ม แต่ว่าร่างสูงข้างกายน้องฟ้าพอเห็นว่ามีเด็กผู้ชายที่ไหนไม่รู้มายื่นดอกไม้ให้ลูกของตัวเอง ก็ทำหน้าเคร่งมองเด็กคนนั้นตาดุ แต่เด็กนั่นหาได้สนใจไม่ เอาแต่จ้องน้องฟ้า พร้อมกับยิ้มให้ ไม่ใช่แค่คุณพ่อรูปหล่อนะที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ไอ้อ้วนของผมก็เช่นกัน ลุกจากที่นั่งข้างผม เดินมาบังน้องฟ้าแล้วยื่นมืออวบอูมของตัวเองไปดึงดอกไม้ออกมาจากมือน้องฟ้าเรียบร้อยแล้ว
ร่างสูงเห็นดังนั้นเลยวางตัวนิ่ง ๆ แต่ผมเนี่ยลอบมองอยู่ว่าคุณภูจะจัดการยังไงแต่ยังไม่ได้ออกโรงเลยหลานชายผมแสดงตัวออกไปเป็นองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงซะแล้ว เห็นนะว่าแอบยิ้มนิด ๆ ด้วยตอนที่ไอ้อ้วนของผมที่เดินมาบังน้องฟ้า แล้วยังส่งสายตาดุดันไปให้เด็กชายที่ตัวไม่ได้โตไปกว่าตัวเองเท่าไร
พ่อกับแม่ของเด็กชายหันมาเห็นก็ตกใจเดินมาที่โต๊ะเราพร้อมกับขอโทษกันใหญ่ พลางดึงมือลูกชายกลับไปที่โต๊ะตัวเอง แต่เด็กนั้นก็ยังไม่ยอมเดินตามไป
“เราชื่อนาย เธอชื่ออะไร เธอน่ารักเราชอบเธอ” เสียงออกมาจากปากเด็กที่แนะนำตัวเองว่าชื่อน้องนาย
“เราชื่อ อื้ออออ” อ้าวโดนมือป้อม ๆ ของตุลย์ปิดปากไปเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าอ้วนเนี่ยหันไปมองหน้าอีกฝ่าย
“ไม่ต้องรู้จักหรอก นายกลับไปกับพ่อแม่ของนายเลย น้องฟ้าไม่อยากรู้จัก แล้วเราก็ไม่ให้ใครมาเข้าใกล้น้องฟ้าด้วย เข้าใจไหม” เสียงตุลย์บอกออกมาพร้อมกับไล่ให้เด็กชายไปที่โต๊ะตัวเอง
“เราถามน้องฟ้าไม่ได้ถามนายสักหน่อย ถอยไปเลยนะ” อีกคนก็ไม่ยอมเช่นกันพยายามผลักตุลย์ให้พ้นจากสายตาที่ยืนบังคนน่ารักอย่างน้องฟ้าออกไปให้พ้นทาง
“เอ๊ะ นี่นายพูดไม่รู้เรื่องหรือไงว่าน้องฟ้าไม่อยากรู้จักนาย น้องฟ้าเป็นแฟนเรา นายรู้แล้วก็ไปได้แล้วอย่ามายุ่ง เกะกะจริงเชียว” โอ แรงจริงอะไรจริงครับหลานผม ตุลย์น้อยหน้าที่ไหน ยืนปักหลักไม่ยอมถอยแถมยังโม้อีกนะว่าน้องฟ้าเป็นแฟนของเจ้าตัว ทำเอาเด็กชายนาย ตาโตมองอย่างไม่เชื่อ
แต่คนที่ได้ยินคำอ้างของตุลย์ทั้งผม ทั้งคุณภูหันขวับไปมองไอ้อ้วนพร้อมสลับมองหน้าน้องฟ้าไปมา ภาพที่เห็นในสายตาผมคือใบหน้าน้องฟ้านั้นเริ่มเป็นสีแดงระเรื่ออย่างน่ามอง จนคุณภูส่งเสียงฮึดฮัดขึ้นมาเลยทีเดียว พร้อมกับเอื้อมมือไปกอดเอาน้องฟ้ามาไว้กับอกแกร่งของตัวเอง คงไม่อยากให้ใครเห็นใบหน้าน่ารักของน้องฟ้าแน่เลย
การกระทำเช่นนั้นหาได้รอดพ้นสายตาของผมไม่ แต่อีกด้านศึกระหว่างสองเด็กชายก็ยังไม่จบทั้งสองส่งสายตาฟาดฟันกันอย่างไม่มีใครยอมละสายตาเลย ส่งผลให้พ่อกับแม่น้องนายมีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจยิ่ง เมื่อเห็นว่าลูกชายของตนเองไม่ยอมไปนั่งที่โต๊ะตัวเองสักทีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วก็มีเสียงประกาศิตดังขึ้น
“ไม่ต้องกินแล้วกลับบ้านกันดีกว่านะครับน้องฟ้า” คุณภูตัดสินใจเด็ดขาดมาก คงกลัวเหตุการณ์จะเลยเถิดหรือไม่ก็กลัวว่าจะเกิดศึกชิงนายน้อย ซึ่งก็คือน้องฟ้านั่นเอง พลางเรียกพนักงานมาคิดเงิน แล้ววางเงินอุ้มน้องฟ้าเดินตัวปลิวออกไปจากร้าน ทำให้ทั้งผมแล้วก็ตุลย์ต้องรีบตามไปอย่างไว
แต่ยังพอทันที่จะหันไปมองหน้าเหวอ ๆ ของเด็กชายนายที่ยืนอึ้งอยู่กับที่ พร้อมการหายตัวไปอย่างไวของน้องฟ้าที่เจ้าตัวเข้ามาจีบและเหตุการณ์ที่มีเด็กมาจีบน้องฟ้าก็จบลงด้วยการแอบอ้างเป็นแฟนน้องฟ้าของเด็กชายตุลย์กับการอุ้มน้องฟ้าหนีศึกชิงนายของคุณภูดิส
ผมก็ได้แต่หวังว่าน้องนายจะคิดได้นะว่าเด็กที่น้องนายเข้ามาจีบพร้อมยื่นดอกไม้ให้นั้นก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน...
**********************************************
ขอโทษที่หายไปวันนี้มาลงน้องตุลย์ให้แล้วค่ะ สัญญาว่าไม่หายแน่นอน แต่ช่วงนี้ห่างไปนิดอย่าโกรธกันนะ เพราะว่าต้องพาพ่อไปหาหมอด้วย ต้องเตรียมย้ายห้องด้วยค่ะ