เรื่อง : Feel คนเจ้าอารมณ์
คู่ที่ 2 : #พี่เชนทร์ชยันต์ [คู่ยั่ว : พระอิฐพระปูน x เด็กยั่ว]
เขียนโดย : +Memew+
+CHAPTER 04 : พระอิฐเริ่มร้าว
“นี่ถามจริง แกมีแผนการร้ายอะไรอยู่ในใจหรือเปล่า” อยู่ ๆ เพื่อนผมก็พากันหันมาจ้องหน้าถาม
“แผนการร้ายอะไร” ผมถามกลับหน้าซื่อ
“นี่ หล่อนไม่ต้องมาแหล แอบชอบใครอยู่ บอกมานะ”
“บ้า มีที่ไหนเล่า ถ้ามีพวกเธอก็ต้องเห็นแล้วสิ อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาขนาดนี้” ยกเว้นที่บ้านนะ
“ท่าทางแกมันน่าสงสัยนี่” เพื่อนผมยังไม่หยุดสงสัย หรี่ตามองหาสิ่งผิดปกติ
“แต่มันก็น่าเชื่อนะ เพราะไม่เห็นมันคุยกับใครเป็นพิเศษสักคน เลิกเรียนก็กลับบ้าน ไม่เคยเห็นไปเถลไถลที่ไหนด้วย ถ้าไปก็ไปแต่กับพี่ชายมันเอง ดูสิ พวกผู้ชายอกหักกันเป็นทิวแถวเลย” เพื่อนผมอีกคนพูดพร้อมพยักหน้าไปยังกลุ่มผู้ชายที่พากันมองมาตาเชื่อม
ผมหัวเราะอยู่ในใจ แสร้งตีหน้าซื่อต่อไป
เวลาปฏิเสธผู้ชายผมไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากมายหรอกครับ แค่ตอบไปประโยคเดียวว่า 'แม่ไม่ให้มีแฟนตอนเรียนหนังสือ' แค่นั้นเอง แต่ดูเหมือนนั่นจะยิ่งเป็นการทำให้เรตติ้งในตัวผมพุ่งสูงกว่าเดิมอีก
“ไม่ได้แอบซุกใครไว้แน่นะ” มันถามต่อ
“พี่ชายดุจะตาย จะซุกใครได้” ผมแหลต่อ แต่อันนี้ผมไม่ได้โกหกนะ เพราะเวลามาโรงเรียนพี่เชนทร์ชอบตีหน้าดุ ประมาณว่า 'น้องข้า ใครอย่าแตะ' จริง ๆ จึงมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าคนที่บ้านผมดุมาก
“แต่แหม พูดถึงพี่ชายหล่อน อยากซบอกกว้าง ๆ นั้นจนตัวสั่นเลยเธ้อ หุ่นขนาดนั้นไอ้นั่นจะขนาดไหน ว้ายยย” พวกนั้นส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดจนคนอื่นหันมามอง นินทากันไม่เกรงใจน้องชายที่นั่งหัวโด่อยู่อย่างผมเลย ผมกระตุกยิ้ม
“ก็ไม่ธรรมดาหรอก ลูกเสี้ยวนี่” เพื่อน ๆ ผมพากันตาโต
“เหรอ ใหญ่ขนาดไหน”
ผมหัวเราะหึ ๆ แต่ไม่ตอบ เรื่องอะไรจะเอาเรื่องของคนที่ผมรักมานินทา
คนอื่นไม่ถือ แต่ผมถือ
“น่าอิจฉาอีตาชยันต์เนอะ ได้อยู่ท่ามกลางวงล้อมของหนุ่มหล่อ ๆ เป็นดาวล้อมเดือน นี่ขอสมัครเป็นสะใภ้สักคนไมได้เหรอ ขอไปเที่ยวบ้านบ้างก็ได้ ตั้งแต่คบกันมา มีแค่บ้านหล่อนที่แหละที่ไม่ยอมให้พวกเราไปเที่ยวสักที จะหวงอะไรนักหนา”
หวงพวกเธอนั่นแหละ กลัวจะไปวางข่ายดักพวกพี่ชายที่บ้าน แล้วอีกอย่าง ผมไม่อยากให้คนอื่นรู้ด้วย ว่าผมคบเพื่อนแบบไหนอยู่
ตอนนี้คนที่บ้านเข้าใจกันว่าผมมีเพื่อนหลายกลุ่ม เพื่อนผู้หญิงของผมก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกนี้เวลาเจอผู้ชายหล่อ ๆ บางครั้งจะแอ๊บกันไม่อยู่ แล้วบ้านผมผู้ชายหน้าตาดีอยู่กันเป็นโขลง ขืนพาไปไม่ใครก็ใคร ได้เสร็จเพื่อนผมสักคนแน่ ๆ แน่นอน ว่าผมยังไม่อยากได้เพื่อนเป็นพี่สะใภ้
ตกเย็น ผมออกไปยืนรอพี่เชนทร์ที่จุดนัดพบ ไม่นานก็เห็นรถพี่เชนทร์วิ่งเข้ามาจอด ไม่มีใครกล้ามาข้องแวะผมตอนยืนรอพี่เชนทร์หรอก เพราะผมบอกทุกคนที่เข้ามาคุยด้วยว่าถ้าพี่มาเห็นเข้า กลับไปผมจะโดนทำโทษหนักมาก ซึ่งทุกคนไม่มีใครอยากให้ผมโดนทำโทษจึงพากันมองอยู่ห่าง ๆ อย่างเป็นห่วงเท่านั้น
“พี่เชนทร์ พรุ่งนี้พาไปเที่ยวหน่อยสิ” ผมหันไปร้องขอหลังจากขึ้นรถได้
“อยากไปไหน”
ผมนิ่งคิด ดูหนังก็เบื่อ ซื้อของก็เบื่อแล้ว น่าจะไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ กันบ้าง
“ไปทะเลกัน ไปเสาร์กลับอาทิตย์”
“แค่สองคนเหรอ ชวนคนอื่น ๆ ไปด้วยสิ”
ผมอมลม
“ผมอยากไปกับพี่เชนทร์แค่สองคนนี่ มีคนอื่นไปด้วยพี่ก็ดูแลผมน้อยลง”
พี่เชนทร์มองผมอึ้ง ๆ
“นะ” ผมอ้อนด้วยท่าทางน่ารัก พี่เชนทร์นิ่งคิด ก่อนพยักหน้ารับ ผมฉีกยิ้มกว้าง
เช้าวันเดินทาง ผมเตรียมสเบียงไว้เรียบร้อยหมดแล้ว อะไรที่มีไว้สำหรับเดท ผมเตรียมมาหมด พอรถเคลื่อนตัว ผมก็กดเปิดเพลงเบา ๆ เลือกเอาเพลงที่ฟังดูโรแมนติกและผ่อนคลายที่สุด คลี่ปลดกระดุมเสื้อออกนิด ๆ หวังยั่วเสือยั่วตะเข้แถวนี้
“ติดกระดุมหน่อย มันไม่เรียบร้อย”
“ไม่เรียบร้อยตรงไหน เท่ดีออก พี่ชายทำออกบ่อย สาวติดตรึม” ผมพูดไปปรับเสื้อให้มันดูดีไป ก่อนแกล้งชะงัก เปลี่ยนสีหน้าเป็นรู้สึกแย่มองกลับ
“หรือจริง ๆ แล้วมันไม่เท่เลย ผมทำแล้วมันทุเรศเหรอ”
“ปละ เปล่า เท่มาก แต่พี่เห็นว่าแอร์มันเย็นกลัวชยันต์หนาว”
ผมฉีกยิ้มกว้าง ขยับแหวกอีกนิดจนหัวนมจะโผล่แหล่มิโผล่แหล่ พี่เชนทร์กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ผมนั่งฟังเพลงไปเรื่อย ๆ ก่อนหันไปหยิบของกินที่เตรียมมาเปิดออกกิน ผมจงใจเลือกเอาอาหารแบบคำเดียว มีชอสเยอะ ๆ เยิ้ม ๆ หน่อย หยิบกินคำไหนก็ต้องเลียนิ้วคำนั้น
“อะ” ผมรอจังหวะให้รถโล่ง ๆ หันไปยื่นให้พี่เชนทร์คำหนึ่ง คนตัวสูงหันมามองนิดหนึ่ง อ้าปากรับในขณะที่ตายังมองท้องถนนอยู่ ผมจงใจค้างนิ้วไว้แทนที่จะรีบชักกลับ พี่เชนทร์งับนิ้วผมตามแผน ผมครางออกมาเบา ๆ พี่เชนทร์รีบหันมามอง ผมหรี่ตาทำหน้าเจ็บแบบเซ็กซี่ใส่ พี่เชนทร์มองมาตาค้างนิด ๆ ผมชักนิ้วกลับมาอมไว้
“อร่อยไหม” ผมถามในความหมายสองแง่สองง่าม แกล้งตวัดปลายลิ้นออกมาเลียนิ้วตัวเอง พี่เชนทร์รีบละสายตาหนี ผมหัวเราะหึ ๆ มองต่ำลงไปที่เป้ากางเกง
มันตื่นขึ้นมาแล้วครับ
“เอาอีกไหม”
พี่เชนทร์ส่ายหน้า ผมรวบเก็บถุงของกินไปวางไว้ด้านหลัง ปรับเบาะลงนิด ๆ
“ง่วงแล้ว ขอนอนก่อนนะ” ผมยกแขนขึ้นไปไว้เหนือหัว จงใจให้หัวนมโผล่ออกมาวอมแวม พี่เชนทร์หันมามองนิด ๆ แล้วรีบหันกลับไปขับรถต่อ ผมแอบอมยิ้ม เพราะตอนนี้เป้าพระปูนของผมตุงยิ่งกว่าเดิมซะอีก
เอาแค่นี้ก่อนดีกว่า เพราะเดี๋ยวจะตื่นซะเอง
แอร์ในรถเย็นมาก แต่ร่างกายผมกำลังร้อนรุ่มเพราะความต้องการ ผมอยากให้พี่เชนทร์มาเป็นของผมเร็ว ๆ จัง ไม่ต้องห่วงเรื่องร่างกายผม เพราะผมเตรียมความพร้อมไว้เสมอ ผมรู้ไซส์พี่เชนทร์ดีอยู่แล้ว แถมยังฝึกจนต่อให้โดนครั้งแรก ผมก็จะไม่เจ็บเด็ดขาด
แล้วผมก็หลับไปจริง ๆ
กระทั่งได้กลิ่นไอทะเลลอยกรุ่นเข้ามาแปะจมูก ผมลืมตามอง พี่เชนทร์หมุนกระจกลงจนสุดเพื่อรับลม
“ว้าวว” ผมฉีกยิ้มกว้าง มาถึงกันแล้วครับ หัวหิน
พี่เชนทร์ขับตรงไปอีกกระทั่งจอดสนิทยังโรงแรมที่เราจองกันไว้ก่อนหน้า ซึ่งคนที่จองคือผมเอง เลือกเอาที่พักที่สวยที่สุด ติดทะเลมากที่สุดและโรแมนติกสุดด้วย ถึงพี่เชนทร์จะพาผมมาในฐานะน้องชายแต่ผมมากับพี่เชนทร์ในฐานะคนรัก
พอเอากระเป๋าเข้าไปไว้ในห้องเรียบร้อย(แน่นอนว่าห้องเดียวกัน) ผมก็ชวนพี่เชนทร์ไปเดินเล่นทันที เปลี่ยนชุดก่อนไปด้วย เผื่อได้เล่นน้ำ ผมจงใจเลือกใส่เสื้อขาว แถมยังบางสุด ๆ กางเกงสีเดียวกันแต่มีลายนิดหนึ่งเพื่อไม่ให้น่าเกลียดเกินไป จริง ๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก เพราะทุกคนในบ้านจะรู้ว่าผมชอบใส่เสื้อผ้าสีสว่าง โดยเฉพาะโทนขาว ถ้าเป็นสีก็ต้องเป็นสีโทนสว่างไปทางขาวเป็นหลัก
ผมจับมือพี่เชนทร์ทันทีที่ก้าวออกจากห้อง พี่แกมีสีหน้ากระอักกระอ่วน แต่ไม่มาก คงกลัวผมรู้สึกไม่ดี คนรักเขาจับมือกันแบบไหนผมก็ทำแบบนั้นแหละ
“คนมองกันใหญ่ สงสัยเพราะพี่ผมหล่อ” ผมชม พี่เชนทร์ทำหน้าอึดอัด ผมลอบยิ้ม ขยับเปลี่ยนเป็นควงแขน
“เอ่อ..เดินเฉย ๆ ก็ได้มั้งชยันต์ เดินถนัดเหรอ”
“ถนัดสิ อยากเดินกับพี่เชนทร์แบบนี้ รู้สึกอบอุ่นดี” พี่เชนทร์ไม่ค้านอะไรต่อ เดินไปได้สักพักเราก็วกกลับ
“ไปเล่นน้ำกัน” ผมชวน พี่เชนทร์พยักหน้า
ผมวิ่งลงน้ำไปก่อนทันที ทิ้งตัวลงน้ำจนเสื้อเปียก ผมแช่อยู่ในนั้นกระทั่งพี่เชนทร์ก้าวตามลงมา ผมยิ้มลอยตัวไปรอบ ๆ สภาพไม่ต่างกับเด็กน้อยเล่นน้ำทั่วไป ก่อนขยับไปใกล้ โผล่ขึ้นเหนือน้ำต่อหน้าพี่เชนทร์ รายนั้นมองมาตาค้างนิด ๆ ผมลอบยิ้ม แน่นอนสิ เสื้อผมเป็นสีขาวแถมยังบางสุด ๆ พอเปียกมันก็ลู่แนบเนื้อ
สภาพผมตอนนี้ใส่เสื้อก็เหมือนไม่ได้ใส่ แถมหัวนมยังตั้งชันเพราะความเย็นจากน้ำอีก พี่เชนทร์รีบเบนหน้าหนี ผมขยับเข้าไปใกล้ แกล้งผลักคนตัวสูงให้ถอยร่นขึ้นไปยังน้ำที่ตื้นขึ้นจนพี่เชนทร์ล้มลงไปนอนหงาย ค้ำรองร่างด้วยสองมือด้านหลัง ผมคร่อมกอดพี่เชนทร์ไว้ กึ่งเล่นกึ่งนัวเนีย แอบแต๊ะอั๋งบ้างบางจังหวะ
ผมหัวเราะเหมือนเด็กน้อยไม่คิดอะไร จนเหนื่อยนั่นแหละ(อันนี้เหนื่อยจริงครับ)ผมถึงได้หยุดเล่น คร่อมร่างพี่เชนทร์ไว้ ผมจงใจมองคนด้านล่างด้วยสายตาเชื่อมหวาน ซึ่งพี่เชนทร์เองก็มองผมกลับด้วยสายตาเดียวกัน พี่แกคงทำไปแบบไม่รู้ตัว
พี่เชนทร์ตกหลุมพรางของผมเข้าให้แล้ว
แต่สำนึกด้านดียังมีอยู่ พี่เชนทร์รีบขยับถอยชวนผมขึ้นจากน้ำ ผมรับคำอย่างว่าง่าย พากันขึ้นไปนั่งเล่นทรายแทน ผมกอดเข่าไว้หลวม ๆ มองคลื่นน้ำที่กำลังซัดสาดเคียงข้างคนตัวโต เรามีร่มอันใหญ่ ๆ ไว้กันแดด ของทางที่พักนั่นแหละ
“บรรยากาศดีเนอะ” ผมชม พี่เชนทร์พยักหน้าเห็นด้วย ผมขยับเปลี่ยนที่จากนั่งข้าง ๆ ไปเป็นนั่งอยู่ด้านหน้าพี่เชนทร์ จับแขนคนตัวสูงมาโอบผมไว้ พี่เชนทร์มองมาอึ้ง ๆ ผมหันไปยิ้มใสซื่อใส่
“ขอระลึกความหลังหน่อย จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ พี่ชอบกอดผมแบบนี้ประจำ” ผมขยับจงใจให้ก้นเบียดชิดเป้าของคนด้านหลัง อมยิ้มนิด ๆ เพราะบางสิ่งของพี่เชนทร์กำลังขยับตื่นตัว ผมพิงหลังกับอกกว้าง จ้องมองท้องทะเล
“บางครั้งก็อยากกลับไปเป็นเด็ก”
“ตอนไหนก็น่ารัก”
“จริงเหรอ” ผมหันไปส่งยิ้มหวาน พี่เชนทร์มองมานิ่งค้าง พยักหน้ารับ
เราหากิจกรรมอื่น ๆ ทำกันต่อ ตอนเด็กเคยทำอะไร ผมก็พยายามย้อนกลับไปทำ กระทั่งถึงมื้อดึก ผมโทรจองร้านอาหารแบบบรรยากาศดี ๆ ภายใต้แสงเทียนไว้ โดยให้เหตุผลพี่เชนทร์ว่าเพื่อน ๆ แนะนำให้มา
เย็นนี้ผมจงใจแต่งตัวให้ดูน่ารักกึ่งเซ็กซี่ แต่อย่างหลังจะหนักหน่อย พี่เชนทร์มองตาค้างตั้งแต่เดินออกจากห้องน้ำแล้ว ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ควงแขนคนตัวสูงเดินออกมาจากห้อง ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึง เราได้โต๊ะวิวดีที่สุดของร้าน เทียนสีแดงถูกจุดวางไว้ ดูโรแมนติกอย่างที่ผมต้องการจริง ๆ
“โรแมนติกจัง” ผมพูดเคลิ้ม ๆ เราสั่งหาอาหารไปกันแล้ว
“มันจะดีกว่านี้ถ้ามากับแฟน”
ผมแกล้งหน้าบูด
“มากับน้องไม่ดีงั้นสิ งั้นผมกลับก็ได้” ผมขยับลุก พี่เชนทร์รีบคว้าจับข้อมือผมไว้
“พี่แค่พูดเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้งอน”
“แน่นะ”
พี่เชนทร์พยักหน้า ผมยิ้ม ทิ้งตัวลงนั่งที่เดิมดี ๆ ไม่นานอาหารก็มา ผมตักกับข้าวที่พี่เชนทร์ชอบที่สุดไปวางไว้บนจานคนตัวสูง พี่เชนทร์มองอึ้ง ๆ ผมแค่ยิ้มให้ ก่อนตักอีกคำไปจ่อไว้ใกล้ปาก พี่เชนทร์มองมาตาปริบ ๆ
“ตอบแทนที่ดูแลผมดีมาตลอด ต่อไปนี้ให้ผมเป็นฝ่ายดูแลพี่บ้าง ผมหลงเพ้อถึงแต่พี่ชายมาตลอด แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าใครคือพี่ชายที่แสนเพอร์เฟคที่สุดสำหรับผม” ผมบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง พี่เชนทร์นิ่งค้างไปพัก แต่ก็อ้าปากรับ
ดวงตาคมคู่นั้นเต็มไปด้วยความสับสน ผมลอบยิ้มอยู่ในใจ ผมรู้ว่าพี่เชนทร์มีความต้องการในตัวผม และอาจมีบางสิ่งที่มากกว่านั้น แต่มันก็ตบตีกับความรู้สึกผิดในฐานะพี่ชายที่มีสายเลือดเดียวกันอยู่ครึ่งหนึ่ง และในฐานะผู้ชายแท้ ๆ คนหนึ่งด้วย
เพศเดียวกันคงไม่เท่าไหร่ แต่ความเป็นพี่น้องนี่สิ ต่อให้ร่างกายอยากขนาดไหน ก็ต้องบังคับจิตใจไว้ ผมรู้ว่าพี่เชนทร์ทรมาน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่เมื่อผมต้องการ ต่อให้มันผิด ผมก็จะทำ
วันนี้ผมขอพี่เชนทร์ทดลองดื่มไวน์ บอกพี่แกว่าทดลองดื่มเป็นครั้งแรกเพราะโตแล้ว แต่จริง ๆ แล้วผมกินกับพวกเพื่อน ๆ ในกลุ่มบ่อย
“เห็นไหม พี่บอกแล้วว่าอย่าลองอย่าลอง”
“ผมอยากเป็นผู้ใหญ่เร็ว ๆ” ผมแกล้งเมา นัวเนียพี่เชนทร์มาตลอดทางกระทั่งถึงห้อง พี่เชนทร์ค่อย ๆ ประคองผมลงบนเตียง ผมแกล้งเลิกเสื้อขึ้นสูงเหมือนคนร้อน
“ร้อนเหรอ ไปอาบน้ำก่อนไหม”
“อืม ฉุดหน่อย” ผมยื่นมือไปหา พี่เชนทร์ช่วยฉุด ผมหัวเราะเอิ๊กเหมือนคนไม่ได้สติ ดึงคนตัวสูงจนเสียหลักล้มลงมาทับ
“หา จะเล่นมวยปล้ำเหรอ ได้เลย” ผมหัวเราะรวบกอดคนตัวสูง พลิกกลิ้งไปมา
“ชยันต์ นายเมาแล้วนะ”
“ใครเมา” ผมบดเบียดท่อนล่างไปมา จับคนด้านบนพลิกลงไปนอนหงายที่พื้น
“เจ้าคือม้าของข้า จงพาข้าไปเมืองพาราณสีซะ” ผมขึ้นคร่อมคนตัวสูง จงใจเบียดชิดเนินเนื้อบนลำท่อนแข็งแรง ตัวผมสั่นขึ้นมานิด ๆ
สิ่งนี้สินะ ที่จะเข้ามาอยู่ในตัวผม
“ชยันต์ นายเมาแล้ว” พี่เชนทร์จะจับผมลง แต่ผมยึดจับไว้ แกล้งเบียดเบา ๆ พี่เชนทร์เบ้หน้า บางส่วนตื่นตัวขึ้นมานิด ๆ
“โอ้ว ผมเห็นศัตรูแล้ว” ตอนเด็ก ๆ ผมเล่นแบบนี้จริง ๆ ผิดแต่พี่เชนทร์จะเป็นม้าให้ผมขี่หลัง ไม่ใช่ขี่ด้านหน้าแบบนี้ ผมยิ้ม ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปด้านหน้า พี่เชนทร์ทำหน้าอึดอัด ส่วนนั้นตั้งชันจนชนร่อง
รู้สึกดีจัง...
“ชะ ชยันต์” พี่เชนทร์ซี้ดปาก ผมก้มมองพี่เชนทร์ตาเชื่อม
“อะไร ผมหนักมากเลยเหรอ” ผมแกล้งยกท่อนล่างขึ้นนิด ๆ เพื่อไม่ให้ทับพี่เชนทร์ แล้วทิ้งตัวลงไปใหม่ จงใจให้ร่องชนเป้าที่กำลังชูชัน พี่เชนทร์ครางอื้อในลำคออย่างทรมาน ผมแกล้งทำหน้าฉงน ขยับถอยไปด้านหลังนิด ๆ เพื่อก้มดูสิ่งที่กำลังทิ่มก้นอยู่นั้น
“พะ พี่ขอโทษชยันต์” พี่เชนทร์หน้าซีด คงกลัวผมรู้สึกแย่ที่ตื่นกับผมแบบนี้ ผมแกล้งทำหน้าฉงนยิ่งกว่าเดิม เอียงคอมอง
“นี่อะไร” ผมจับสิ่งนั้นหมับผ่านกางเกง
“ชยันต์!!” พี่เชนทร์ตัวสั่นริก
“ซ่อนอะไรไว้ข้างในเนี่ย” ผมลองคลำ ๆ ดู
“ยะ อย่า ชยันต์ อย่าจับ อื้ม...” พี่เชนทร์รีบคว้าจับมือผมไว้ ผมมองหน้า อมลมนิด ๆ
“ซ่อนของกินไว้ใช่ไหม”
“ไม่ใช่ชยันต์”
“แล้วอะไรล่ะ ขอดูหน่อย” ผมไม่ขอเปล่า จับขอบกางเกงพร้อมกางเกงในพี่เชนทร์ดึงพรืดลงมา บางสิ่งโชว์หรา ตั้งชันสั่นริก ปลายยอดเยิ้มไปด้วยหยาดน้ำแห่งความต้องการ
“ชยันต์!!” พี่เชนทร์หน้าตื่น จะดึงกางเกงกลับ แต่ผมยึดจับมันไว้ หัวใจพากันเต้นโครมคราม
สิ่งนี้แหละ คือสิ่งที่ผมต้องการมาตลอด
“ปล่อยมือชยันต์” พี่เชนทร์พยายามจะดึงกางเกงขึ้น
“ไหนว่าไม่ใช่ของกินไง ไส้กรอกอันเบ้อเร่อเลย” ผมแกล้งพูด
“มันไม่ใช่ไส้กรอกนะชยันต์ ปล่อยพี่ก่อน” ผมอมลม แทนที่จะปล่อยกลับคว้าจับสิ่งนั้นไว้ในมือหมับเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
“ชยันต์!!” พี่เชนทร์หน้าตื่น พยายามจะงัดมือผมออก แต่ผมยึดแน่น จ้องตาวาว
“น่ากินจัง”
พี่เชนทร์พยายามร้องห้ามแต่ผมไม่ฟัง ยังยึดจับแน่น แตะปลายนิ้วลงบนส่วนยอด พี่เชนทร์ตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด ตรงนั้นก็สั่นริกคงเพราะความอัดอั้น
“ราดซอสครีมด้วย”
“ไม่ใช่นะชยันต์”
ผมไม่ฟังเสียง ก้มลงไปตวัดเลียซอสครีมนั้นเข้าปากทันที พี่เชนทร์อ้าปากค้าง ผมเลิกสนใจคนด้านบน ยึดจับสิ่งนั้นด้วยสองมือมั่น ตวัดปลายลิ้นเลียปลายยอดคล้ายแมวกำลังเลียอาหาร พี่เชนทร์ครางทุ้ม มือที่พยายามผลักไสหยุดนิ่งลงชั่วขณะ ผมไล่งับเบา ๆ ก่อนพลิกลิ้นมาเป็นตวัดเลียขึ้นลงทั้งลำท่อน พี่เชนทร์ซี้ดปากผสานมือกับเส้นผมผมทันที พอผมอ้าปากรับเอาสิ่งนั้นเข้าไปภายใน มือที่ผสานอยู่แปรเปลี่ยนเป็นบดคลึง ใบหน้าได้รูปแหงนขึ้นนิด ๆ แล้วครางออกมาด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่เร่าร้อน
ผมฝึกเรื่องพวกนี้มาหมดเลย รวมถึงทุกจุดเร้าและจุดอ่อนของผู้ชายด้วย ผมกลืนของพี่เชนทร์เข้าไปแทบจะมิดอัน เทคนิคนี้ฝึกยากครับ ต้องใช้ให้คุ้ม ๆ หน่อย พี่เชนทร์ครางเรียกเสียงหนัก ๆ ลมหายใจหอบถี่ให้รู้ว่าใกล้จะไปถึงปลายทางแล้ว ผมเร่งให้ทันทีอย่างรู้งานกระทั่งมีน้ำอุ่น ๆ พรั่งพรูเข้ามาในปาก ผมตวัดกินจนหมดไม่เหลือไว้ให้เสียของแม้แต่หยดเดียว พี่เชนทร์หอบจนหน้าท้องไหวกระเพื่อม
“พี่เชนทร์ ทำไมผมรู้สึกร้อนแปลก ๆ” ผมจ้องหน้าคนตัวสูงตาเยิ้ม
“โดยเฉพาะตรงนี้” ผมกุมเป้าตัวเองไว้ตัวสั่น ๆ ไอ้ที่สั่นนี่ไม่ได้แกล้งครับ ผมต้องการจริง ๆ น้องผมตั้งชันจนพองกางเกงแล้ว
“ช่วยตัวเองสิ” พี่เชนทร์ตอบกลับ ท่าทางยังหอบอยู่นิด ๆ ผมมองกลับตาเชื่อม
“ยังไง”
”ไม่เคยช่วยตัวเองเลยเหรอ” พี่เชนทร์ขมวดคิ้วถาม
“ร้อน” ผมไม่ตอบ แต่แสดงท่าทางที่ทรมานใส่แทน พี่เชนทร์นิ่งคิดครู่หนึ่ง ก่อนรั้งเอาตัวผมลงไปนั่งบนตัก ล้วงมือดึงของผมออกมาด้านนอก ผมครางออกมาทันทีจิกเท้ากับที่นอนแน่น
“เราโตเป็นหนุ่มแล้วนะ หัดช่วยตัวเองได้แล้ว”
ตอนนี้สติด้านการรับฟังของผมมันพังทะลายไปแล้วเพราะความต้องการที่กำลังเปี่ยมล้น ผมครางเรียกพี่เชนทร์ ขยับร่างกายตามอารมณ์ อันนี้ไม่ได้ใช้มารยาอะไรแล้วครับ รู้สึกแบบไหนก็แสดงออกมาเลย ความต้องการมั่นเอ่อล้นอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นานผมก็ไปถึงปลายทาง ผมหอบแฮก แผ่นหลังยังแนบอยู่กับแผงอกกว้าง น่าจะพอแล้วสำหรับวันนี้ ผมค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง
“เดี๋ยวชยันต์!” ผมไม่สนใจเสียงเรียกนั้น สั่งตัวเองให้หลับไปจริง ๆ
ผมตื่นอีกทีตะวันก็สายโด่งแล้ว ได้ยินเสียงคลื่นซัดสาดชัดเจน อากาศดี สุด ๆ พื้นที่ข้าง ๆ ว่างเปล่า ผมลุกจากเตียงเดินออกไปนอกห้องนอน เห็นพี่เชนทร์ยืนเหม่อมองท้องทะเลอยู่นอกระเบียง ปลายสายตาเป็นระลอกคลื่นที่กำลังวิ่งกระทบฝั่งลูกแล้วลูกเล่า ผมย่องเงียบเข้าไปจ๊ะเอ๋ พี่เชนทร์หันมามองด้วยใบหน้าตกใจ
“เป็นไร ทำหน้าเหมือนเห็นผี”
พี่เชนทร์จ้องหน้าผม
“เมื่อคืน...”
“เมื่อคืนทำไม ว่าแต่ ผมกลับมาอยู่ห้องได้ไง จำได้ว่านั่งกินไวน์กันอยู่ รู้ตัวอีกที ตื่นแล้ว อะไรว้า~”
พี่เชนทร์ขมวดคิ้ว
“จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”
“จำได้สิ”
พี่แกหน้าซีด
“จำได้ว่ากินไปแก้วเดียว”
“ใครว่าแก้วเดียว ห้าแก้วต่างหาก”
“บ้า แก้วเดียว”
“ห้า” พี่เชนทร์ถอนหายใจแรง “สรุป นายลืมเหตุการณ์หลังจากแก้วแรกหมด”
ผมแกล้งทำหน้าตื่น
“ทำไมเหรอ หรือว่าผมเมาแล้วรั่ว ผมทำอะไรทุเรศไปหรือเปล่าพี่” พี่เชนทร์จ้องหน้าผมเหมือนกำลังจะค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง ผมยังทำหน้าตื่นอยู่
“ไม่หรอก ปกติดี”
“แล้วผมกลับมาไง”
“เดินกลับมาเองนี่แหละ”
“อะไรวะ จำไม่ได้เลย มิน่ารู้สึกตัวเน่า ๆ งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมเดินอมยิ้มเข้าห้องน้ำไป
To be con..
Book & ebook :
https://goo.gl/aJFpH5