Feel คนเจ้าอารมณ์ [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Feel คนเจ้าอารมณ์ [จบแล้ว]  (อ่าน 342471 ครั้ง)

ออฟไลน์ love noon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 63
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
เฮ้อ ดีต่อใจมากๆเลย มีความละมุน มีความหวาน อิจฉาอนุชาแพร้บ

แต่จบตัดไปหน่อยอ่ะ ค้างคา  รู้สึกช็อค

อยากได้ตอนพิเศษมาปลอบประโลมใจ

 :sad4:   :o8:   :-[   :impress2: 

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
ไร้ดราม่า ดีต่อใจจริงๆ แต่จบเร็วไปหน่อยนะคะ เหมือนได้ฟอกไต จาการกินมาม่าเยอะไปจริมๆ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
อยากได้ตอนพิเศษจัง อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจดีแท้

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว "ฟิน" มากสุดๆเรื่องนึงเลยค่ะ ถือเป็นข้อเด็ดของคนเขียนทีเดียว
ประทับใจจากเรื่อง Kiss Loveฯ มาก่อนแล้วด้วย และเรื่องนี้ก็เช่นกัน
ช็อตปากกับหน้าอกในลิฟท์นี่โดนที่สุด ชอบการแอบยั่วของนายเอก และการข่มอารมณ์ของพระเอก
รวมถึงซีนลักหลับต่างๆ ก็กรี๊ดหนักมาก ...ชอบจังหวะการใส่บทกระตุ้นความรู้สึก จนไปสู่ nc ที่แสนจะได้อารมณ์
หลายเรื่องเลยที่อ่านข้ามๆเลิฟซีนไปบ้าง แต่ของคุณ Memew นี่อ่านทุกเม็ดอ่ะ เขียนดี ไม่เฝือ มาถูกที่ถูกเวลาจริงๆค่ะ (+เป็ดรัวๆ)

ออฟไลน์ แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-14
ง่ะ เหมือนอยากจบก็จบเฉยเลย เรื่องมันยังไม่สุดสักทาง ขอตอนพิเศษเพิ่มเติมหน่อยเถอะ

 :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ Timber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ O-RA DUNGPRANG

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-5

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
เรื่อง : Feel คนเจ้าอารมณ์
คู่ที่ 1 : #พี่ชายกวินทร์ [คู่โหด : คนเจ้าอารมณ์ x ผู้รองรับอารมณ์]
เขียนโดย : +Memew+
จำนวนตอน : 8 ตอนจบ
+CHAPTER 01 : พายุอารมณ์
*คำเตือน 1: พระเอกคนนี้โหดมาก คู่นี้เอ็นซีเยอะ เนื้อหารุนแรง พระเอกเอาแต่ใจ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ^^*
.
.
.
.
.

Feel คนเจ้าอารมณ์ 
[พี่ชายกวินทร์] : 01 :
พายุอารมณ์
 
“ไปลงนรกซะเถอะไป!!”

ผมก้มหลบอะไรบางอย่างที่กำลังปลิวหวือมาใส่หัวทันทีที่เปิดประตูเข้าไปภายใน สิ่งนั้นวิ่งผ่านใบหูผมไปเพียงคืบเท่านั้น ก่อนก้มหลบอีกชิ้น

“ฉันไม่เคยบอกสักคำว่าจะจริงจังกับเธอ เข้าใจแล้วก็รีบ ๆ ไสหัวออกไป แล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ”
พอสิ้นเสียงทุ้ม ๆ เสียงหวีดแหลมอย่างหมดความอดทนของหญิงสาวก็แผดลั่นจนผมต้องรีบเอามืออุดหู

ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ ขยับไปหยิบของสองสิ่งบนพื้นมาถือไว้ เดินกลับเข้าไปในห้องใหม่ ปิดประตูลงกันเสียงผรุสวาทของหญิงสาวดังออกไปรบกวนห้องอื่น ๆ ผมเลือกยืนอยู่ไม่ห่างจากประตูเท่าไหร่เพื่อสังเกตการณ์ หญิงสาวเจ้าของเสียงกำลังก้มเก็บเสื้อผ้าที่หล่นระเกะระกะขึ้นมาสวมใส่ลวก ๆ สีหน้าท่าทางยังคงเกรี้ยวกราดรุนแรง

พอเห็นเรือนร่างของเจ้าหล่อนชัด ๆ แล้วแทบทำน้ำลายหกพื้น อกเป็นอก เอวเป็นเอว สะโพกกลมกลึง เนื้อนมไข่อะไร ๆ น่าฟัดไปหมด โครงหน้าสวย หุ่นดี ผิวขาวราวกับหยวก ผมเจ้าหล่อนยาวสลวยย้อมสีทองอ่อน ๆ ให้ดูร้อนแรง

พอชุดครบ ไม่รอปรับให้เรียบร้อย เจ้าหล่อนก็เดินไปคว้ากระเป๋าหันกลับมาฟาดไหล่เจ้าของห้องแรงไม่ยั้ง ซึ่งรายนั้นก็ไม่ได้สะทกสะท้านหรือปัดป้องอะไร ยืนนิ่งเป็นเสาอิฐเสาปูนเฉย

แล้วเธอก็เดินปั้นปึ่งผ่านผมไปราวกับผมเป็นอากาศธาตุ กระชากเปิดประตูออกแล้วกระแทกปิดแรงจนบานประตูสั่นริก เสียงปิดนั้นคงดังไปทั่วทั้งคอนโดแน่ ๆ

แล้วพายุที่กำลังโหมรุนแรงอยู่ก็สิ้นสุดลง

ผมหันกลับมามองเจ้าของห้องที่เดินเปลือยเปล่าไปหยิบบุหรี่ในซองขึ้นมาเสียบปาก หยิบไฟแช็ก ใช้นิ้วโป้งดีดเปิดฝา กดปุ่มสีดำเบา ๆ แล้วเปลวไฟที่ร้อนระอุก็ลุกพรึ่บขึ้นมาเผาไหม้ปลายบุหรี่ให้แดงวาบ ส่งไอควันที่พร้อมจะทำร้ายร่างกายของใครก็ตามที่อยู่ภายในห้องให้ตับไตไส้ปอดพัง

แต่เจ้าตัวคงไม่สะทกสะท้านหรอก เพราะทำจนเคยชินแล้ว 

“มีไร”
เขาถามเสียงเรียบ ไม่หันมามองหรืออนาทรร้อนใจอะไรกับสภาพที่เกิดขึ้น ยืนพ่นไอควันขาวให้ลอยคลุ้งขึ้นไปกลางอากาศ สภาพที่ผมเข้ามาเจอตอนแรกเป็นไง ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น

ร่างกายสีแทนอย่างคนชอบออกกำลังกลางแจ้งตึงเปรี้ยะไปด้วยมัดกล้าม ลอนหกห่อนั้นเรียงกันจากใหญ่ลงมาสู่เล็กได้ระดับไม่ต่างกับนายแบบมืออาชีพ อกผาย ไหล่ผึ่ง ช่วงไหล่กว้าง เอวสอบ เส้นผมสีดำสนิทรับกับเรียวคิ้วเข้ม ๆ และดวงตาดุดันสีเดียวกัน กลีบปากเสมอกันทั้งบนและล่าง มันถูกรังสรรค์ให้ออกมาดูดีแม้กระทั่งตอนที่มันกำลังห่ออมมวนบุหรี่อยู่

บางสิ่งยังคงสะท้อนเด่นชัดว่าก่อนพายุอารมณ์ของผู้หญิงคนนั้นจะปะทุ สองคนนี้กำลังมีความสุขด้วยกันขนาดไหน ลำท่อนแข็งแรงชี้เด่พุ่งขึ้น 45 องศา และดูเหมือนมันจะยังคงสภาพนั้น ราวกับนั่นคือหุ่นยนต์มากกว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ ผมโบกมือไล่ไอควันที่กำลังลอยคลุ้งมาปะทะจมูกออก

“เลิกสูบก่อน บอกแล้วไงว่าผมแพ้”

“แล้วมามีไร”
เจ้าตัวขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยอมขยี้ปลายบุหรี่ลงบนถาดแก้ววงกลมสีใส หันมามองผมเต็ม ๆ บางส่วนยังคงชี้โด่

“ทำอะไรกับมันสักอย่างสิ อุจาด”

“อย่ามาลีลากวินทร์ มีไรก็รีบพูดมา ฉันกำลังหัวเสีย”

“กับแม่สาวคนนั้น?”
ผมเลิกคิ้วถาม

“จะใครซะอีก มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมา!!”
คราวนี้เขาขู่ตะคอกเสียงดัง ถ้าเป็นคนอื่นคงกลัวหัวหด แต่ผมที่เคยอยู่ร่วมกันมานานชาชินซะแล้ว ก็แค่เสียงหนึ่งที่ดังเกินระดับปกติเท่านั้น

“คุณลุงให้มาตามกลับบ้าน”

“ไม่กลับ”
เขาตอบกลับทันควัน หยิบบุหรี่อันเดิมพร้อมไฟแช็กเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ผมเดินเข้าไปใกล้ คว้าออกจากปาก ขยำแล้วทิ้งลงถังขยะ คว้าที่เหลือในกล่องมาขยำๆ แล้วโยนลงถังขยะไปด้วย

“อย่ามาหาเรื่องน่ากวินทร์ ฉันกำลังหงุดหงิด”

“บุหรี่มันไม่ช่วยหรอก ยิ่งสูบยิ่งหงุดหงิด อารมณ์ตัวเองยังไม่ลง ไปทำให้มันลงซะก่อนสิ”

“ขี้เกียจ” เขาตอบกลับราบเรียบ “มือมันไม่ได้อารมณ์เท่ากับของจริงหรอก ยัยนั่นก็ดันมาเรื่องมาก เรียกร้องนู่นนี่ ตะเพิดกลับซะเลย”

“ใจร้อน” ผมต่อว่า “ให้โทรหาใครสักคนไหมล่ะ”
ผมเดินตรงไปยังโต๊ะที่มีมือถือเขาวางไว้อยู่ 

“ไม่ต้อง รำคาญ กำลังหงุดหงิด ไม่มีอารมณ์จะเอาใครตอนนี้”

“แล้วไอ้นั่นคืออะไร”
ผมพยักหน้าไปยังลำท่อนที่ยังคงเย้ยฟ้าท้าดิน เฮียแกยักไหล่

“เทคยา พอดีไม่มีอารมณ์”

ผมถอนหายใจแรง
“ไม่มีแล้วจะเรียกเขามานอนด้วยทำไม”

“ไม่ได้เรียก เสือกร่านมาหาเอง ขี้เกียจปฏิเสธ เทคยากะทำให้มันเสร็จ ๆ ไป เจ้าหล่อนก็ดันมางี่เง่าหาเหาใส่หัวให้หงุดหงิด”

“เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวแบบนี้สักที พี่สามสิบแล้วนะ หาผู้หญิงสักคน แต่งงาน มีฝั่งมีฝาได้แล้ว เพื่อนพี่เขามีลูกทันใช้กันหมดแล้ว”

“ฉันเกลียดเด็ก”

“ไม่ต้องเลี้ยงเอง ให้เมียเลี้ยงสิ ขี้เกียจเลี้ยงก็เอามา เดี๋ยวเลี้ยงให้เอง” ผมอาสา “ตอนนี้พี่ยังไม่คิด แต่อีกหน่อยก็ต้องคิด รีบไว้ดีกว่า”

“อย่ามาบ่นเป็นแม่น่า ไปบอกตาแก่นั่นว่าฉันไม่กลับ แล้วก็ถ้าจะมาด้วยเรื่องแค่นี้ ครั้งหน้าไม่ต้องเสนอหน้ามาอีก”

ผมส่ายหัวไปมา

เขาเดินไปเปิดลิ้นชักคุ้ยหาอะไรบางอย่าง ให้เดาน่าจะเป็นบุหรี่ แต่คงไม่มีเลยเดินกลับมานั่งที่เดิม ไอ้ที่ลงถังไปแล้วคงหยิบมาสูบอีกไม่ได้ เขานั่งหน้ามุ่ย ไอ้นั่นก็ยังไม่ยอมลง ผมเลิกสนใจ เดินไปก้มเก็บเสื้อผ้ามาโยนให้ หันไปเก็บข้าวของที่วางระเกะระกะให้เข้าที่เข้าทางด้วย

“ไม่ต้องเก็บหรอก ไว้ให้แม่บ้านจัดการ”

ผมไม่สนใจกับคำปรามนั้น ก้มเก็บไปเรื่อย ๆ 

“มาไง”

“มอ’ไซค์”

เขาขมวดคิ้ว
“ไหนว่าตาแก่นั่นซื้อรถให้ ไปไหนแล้ว”

“ผมไม่ชอบขับรถใหญ่ในเมือง รถติด พี่ก็รู้”

“ร้อนจะตายห่า อากาศก็เสีย”

“ผมทนได้”
ผมตอบไม่ใส่ใจ จัดของอื่น ๆ ให้เข้าที่เข้าทาง ผมหันกลับไปมองคนตัวสูงอีกที

“ไม่ทรมานรึไง ปล่อยไว้แบบนั้น”

“ไม่ทรมานจะนั่งหงุดหงิดแบบนี้รึไง”

“อ้าว คิดว่าหงุดหงิดให้ผู้หญิงคนนั้นซะอีก”

“ทั้งสองอย่าง”

ผมพยักหน้าเข้าใจ
“หิวไหม จะทำอะไรให้กิน”
ผมอาสา

“ไม่ต้อง ไม่มีอารมณ์จะกิน”

“แทนที่จะมานั่งหงุดหงิด ไปว่าวให้มันลงสักรอบสองรอบสิ”

“ขี้เกียจ”

ผมส่ายหัวไปมา ยกนาฬิกามอง

“กะจะมานั่งเล่นด้วยนาน ๆ สักหน่อย เห็นอารมณ์แล้วคงนั่งไม่ไหว งั้นนั่งหงุดหงิดไปละกัน วันหลังจะมาหาใหม่”
ผมบอก ก้าวตรงไปทางหน้าประตู

“เดี๋ยว”
เขาเบรกผมไว้ด้วยเสียง ผมหันไปมอง

“ไหน ๆ ก็มาแล้ว อย่าเพิ่งกลับ อยากคุยด้วย แต่ไอ้นี่มันจะไม่ยอมลงจนกว่าจะปล่อยไปสักสองสามน้ำ”

“ก็บอกให้ไปว่าว”

“นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบทำเอง”

“แล้วให้ทำไง หญิงก็ไม่เอา ว่าวก็ไม่เลือก นั่งมองแบบนั้นมันจะเสร็จเองไหม”
ผมกอดอกมอง คนตัวสูงขมวดคิ้วคิด

“ทำให้หน่อย”

ผมขมวดคิ้วบ้าง

“ตลก?”

“เห็นฉันเป็นคนยังไง ถ้าอยากอยู่ต่อก็ทำให้มันลง ๆ ไป”
พี่ชายย่นคิ้ว วางสองแขนราบไปกับพนักพิง แยกขาออกกว้างโชว์ความแข็งแรงอย่างชายชาตรีให้ตั้งตระหง่านเด่นชัดขึ้น

“พี่ชาย ผมว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวนะ อีกอย่างมันไม่ใช่หน้าที่ของผมที่จะมาดูแล”

“ไหนว่ามีหน้าที่คอยดูแลฉันไง แค่นี้ก็ทำไม่ได้”

“นั่นมันนอกเหนือหน้าที่”

“แค่ชัก ๆ ให้มันจบ อย่าลีลาน่า ฉันหงุดหงิด”

ผมมองคนที่นั่งคิ้วขมวดชนกัน ทำไมพระเจ้าไม่ประทานจิตใจที่ดีงามลงมาบนตัวของชายผู้นี้บ้างนะ นิสัยสวนทางกับหน้าตาจริง ๆ ผมถอนหายใจแรง ตัดสินใจเดินกลับเข้าไปหา

เอาวะ แค่มาสเตอร์เบทให้
ผมย่อตัวลงไปคุกเข่าตรงหน้า จับลำท่อนแข็งแรงไว้ในมือ กระอักกระอ่วนเหมือนกัน แต่คิดซะว่ามันคือหน้าที่ เหมือนกับการเช็ดตัวนั่นแหละ ผมขยับมันขึ้นลงเหมือนกำลังทำมาสเตอร์เบทให้ตัวเอง พี่ชายครางทุ้มในลำคออย่างพอใจ ฤทธิ์ยาคงทำให้รู้สึกดีไม่น้อย

“อย่างนั้นแหละ อื้ม ดีมาก”
เขาส่งเสียงนุ่มมากขึ้น หลับตาลงพริ้มเข้าสู่ภวังค์

“ประมาณกี่รอบเนี่ย”
ผมถามหยั่งจำนวน

“น่าจะสาม ยัยนั่นอึด”

“กล้ามขึ้นแน่”
ผมบ่น ขยับมือเร็วขึ้น ทุลักทุเลไม่เบาเพราะทำให้คนอื่นกับทำให้ตัวเองมันค่อนข้างใช้แรงและน้ำหนักต่างกัน

ผมพยายามใช้เทคนิคที่มีขยับรูดรั้งให้มันเร็วขึ้น พี่ชายเกร็งหน้าท้อง หายใจหอบเร็ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคงใกล้ถึงปลายทางแล้ว ผมเร่งจังหวะเร็วขึ้น เสียงครางในลำคอของเขาดังขึ้นเป็นลำดับ แหงนหน้าขึ้นฟ้า มือจิกพนักพิงแน่น ก่อนส่งเสียงอ๊ายาว ๆ แล้วหยาดน้ำขาวขุ่นก็พวยพุ่งออกมาจากกระบอกน้ำทางธรรมชาติของร่างกาย ไหลรินลงมาเป็นทาง สภาพไม่ต่างกับน้ำพุ แรงดันใต้พื้นพิภพค่อนข้างแรง น้ำสีขาวขุ่นพุ่งดิ่งฉีดใส่หน้าผมแบบไม่ให้ตั้งตัว ผมรีบหลับตาเพราะบางส่วนกระเด็นมาถูก รีบละมือมาเช็ดทันที

พี่ชายหอบแฮก น้ำพุสีขาวใต้บาดาลยังคงไหลไม่หยุด แต่ระดับความแรงเหลือไว้เพียงแค่สายน้ำอ่อน ๆ ไหลรินลงมาเท่านั้น ลำท่อนยังคงตั้งตรงคงสภาพไว้เท่าเดิม ผมรีบลุกไปหยิบทิชชู่มาเช็ดทำความสะอาดทั้งหน้าทั้งมือ แล้วยื่นบางส่วนไปให้เขาเช็ดของตัวเองบ้าง

แต่รายนั้นไม่สนใจ นั่งหอบจนหน้าท้องขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ ผมยืนมองนิ่ง ๆ คอยเวลาให้อีกคนพร้อมสำหรับรอบถัดไป

“เอาล่ะ เริ่มได้”
พี่ชายพยักหน้าสั่ง ผมลงไปนั่งคุกเข่าท่าเดิม กำลังจะหยิบทิชชู่มาเช็ดไอ้ที่เปื้อน ๆ รอบลำท่อนแข็งแรงออก แต่เขาสั่งห้ามไว้

“ปล่อยไว้งั้นแหละ จะได้ลื่น ๆ”

“เหนียวเหนอะหนะขยะแขยงน่า”

“มันก็ไอ้น้ำแบบเดียวกันกับของนายนั่นแหละ ต่างกันตรงไหน”

ผมยอมจำนนต่อเหตุผล จริง ๆ ถ้าจะตอบก็ตอบได้ ต่างกันตรงไหน ก็ตรงที่มันไม่ใช่ของผมเองไงล่ะ 

ผมจำต้องจับมันไว้ในมืออีกรอบ กลิ่นคาวขื่น ๆ ลอยมาปะทะจมูก กลิ่นมันก็ไม่ต่างกับกลิ่นของผมเองหรอก ลื่นมือกว่าจริง ๆ (ลื่นเกินไปด้วยซ้ำ) อุณหภูมิในร่างกายของพี่ชายต้องสูงมากแน่ ๆ เพราะน้ำที่เคลือบอยู่ยังอุ่น ๆ อยู่

ผมใช้เทคนิคเดิมขยับอีกรอบ แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่ยอมออกสักที ผมสลับไปใช้มือซ้ายทำ มันก็ยังไม่เสร็จอีก ไม่ถนัดด้วย ผมกลับมาใช้มือขวาอีกรอบ   

“แรงตกรึไง”
เขาขมวดคิ้วต่อว่า

“มันไม่ยอมออก”
ผมขมวดคิ้ว เร่งจังหวะเร็วขึ้น

เมื่อยจริง ๆ

“งั้นลองนี่”
พี่ชายปัดมือผมออกแรง คว้าจับท้ายทอยแล้วกดหัวผมต่ำลงไปหาลำท่อนแข็งแรงนั้น

ผมตาโต เพราะไม่ได้เตรียมใจไว้สำหรับเรื่องแบบนี้ ส่วนปลายของลำท่อนแข็งแรงผลุบหายเข้ามาในปาก เขาจับหัวผมไว้ด้วยมือสองข้าง กดต่ำลงไปอีกจนผมหายใจไม่ออก ผมพยายามจะดึงหัวออก แต่เขากดแน่นกว่าเดิม ผมรัวทุบคนตรงหน้าแรงทั้งต้นขาหน้าท้องและสีข้าง ผมว่าผมเป็นคนแรงเยอะแล้วนะ แต่ดูเขาไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย

“อย่าดื้อน่า ฉันใกล้แล้ว อื้อ อุ่นจัง อ๊า ดีขยับลิ้นหน่อยกวินทร์”
พี่แกบอกอย่างรื่นเริงในอารมณ์ ไม่สนสักนิดว่าผมจะขัดขืนขนาดไหน บังคับให้หัวผมเคลื่อนที่ขึ้นลงเป็นจังหวะ

“ขยับลิ้นด้วยกวินทร์ เกลี่ยไปมา เร็ว!”
เขาสั่งเสียงพร่า ผมขมวดคิ้ว จำต้องทำตาม กวาดลิ้นไปซ้ายและขวา พี่ชายแหงนหน้าครางทุ้ม “ดี อย่างนั้นแหละ ดีมาก อ๊า ดูดเร็ว ๆ แรง ๆ”

ผมส่ายหัว

“ทำตาม ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!”
พี่แกขู่เสียงดัง ผมจำต้องทำตาม ดูดเม้มที่ปลายยอด
“นั่นแหละ แรง ๆ อ๊า ปากร้อนใช้ได้เลย”
คนตัวสูงพูดอย่างวาบหวิว มือที่ตรึงท้ายทอยอยู่เริ่มนวดคลึง ปล่อยให้ผมใช้ลิ้นสร้างความสุขสมให้กับตัวเอง สลับกับบังคับผมด้วยมือให้ขยับบ้าง

พี่ชายเร่งจังหวะเร็วขึ้นเมื่อใกล้ถึงปลายทาง ผมพยายามจะดึงหน้าออก เพราะขืนอยู่ต่อจนถึงวาระสุดท้าย มีหวังน้ำพุที่เห็นเมื่อตะกี้ได้ล้นทะลักเต็มปากผมแน่ ๆ และดูเหมือนพี่ชายจะรู้ดีรีบกดหัวผมค้างไว้ ผมครางอื้อ

ไม่ทันแล้ว พี่ชายคำรามเสียงดัง กดหัวผมลงไปกับน้องตัวเองที่กำลังพุ่งลาวาร้อนออกมารุนแรง ผมรีบผลักตัวเองออกมาด้วยแรงเฮือกสุดท้ายสำลักจนตัวโยน ขยับลงไปนั่งไอโขลกที่พื้น น้ำหูน้ำตาไหล หยาดน้ำบางส่วนไหลเลอะไปทั่วทั้งปากล้นลงมาถึงลำคอและเสื้อ แต่ผมไม่สน นั่งสำลักอยู่อย่างนั้น   

“ไม่รู้จังหวะปิดหลอดลมไว้รึไง”
พี่แกต่อว่าไม่สนสักนิดว่าเมื่อกี้เกือบทำผมตายเพราะหายใจไม่ออก

ผมรีบลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังไออยู่ เช็ดปากที่เปื้อนเปรอะด้วยหลังมือลวก ๆ ไออีกรอบ ไล่ไอ้สิ่งที่ติดอยู่กับหลอดลมหยดสุดท้ายออก ใช้หัวไหล่ป้ายเช็ดน้ำตาที่กำลังไหลเพราะแรงสำลักเมื่อกี้

“รอบสุดท้ายทำเอาเอง ผมไม่ยุ่งด้วยแล้ว”
ผมบอกฉุน ๆ เดินละไปที่หน้าประตู แต่ก้าวยังไม่ทันถึงก็ถูกคว้าข้อมือไว้ พี่ชายลากผมมาทิ้งตัวลงนอนหงายบนโซฟา ยังไม่ทันได้ขัดขืนพี่แกก็คร่อมทับลงมา ขนาบคอผมด้วยสองเข่า มือหนึ่งบีบปากผมไว้ให้อ้ากว้าง อีกมือจับน้องที่ยังคงร้อนแรงและมีกลิ่นคาวรวมถึงน้ำขาวขุ่นเข้ามาใหม่

“อื้อ!!”
ผมดิ้นรนหวังลุก แต่ถูกรั้งตรึงหัวไว้จนเจ็บหนังหัวไปหมด แรงดิ้นนั้นทำเอาฟันผมครูดท่อนเนื้อไปมาแรง   

“อื้อ ดี”
แทนที่จะเจ็บอีกคนกลับครางออกมาอย่างรู้สึกดี ผมพยายามดิ้นท่อนล่าง แต่ไม่ว่าจะดิ้นขึ้นหรือดิ้นลง มันก็ไม่ยอมหลุดไปจากคีมล็อกด้านบนได้ จะพลิกหน้าก็พลิกไม่ได้เพราะถูกจับคางไว้อยู่

ผมดิ้นจนหยุดดิ้นไปในที่สุด หอบหายใจแรงเพราะความเหน็ดเหนื่อย

เอาเถอะ อดทนหน่อยละกัน อีกรอบเดียวเท่านั้น

พอผมหยุดดิ้นเขาก็หยุดบังคับ ปล่อยมือทั้งสองมาค้ำไว้กับพื้นโซฟาในท่ากึ่งวิดพื้น ให้ผมกลืนกินดี ๆ

ผมดูดเม้มด้วยเทคนิคเดิมเพื่อให้มันออกเร็ว ๆ ผมรู้ว่าพี่ชายเป็นพวกอารมณ์รุนแรง แต่ไม่คิดว่าจะเป็นถึงขนาดนี้ ผ่านไปสักพักเขาก็ขยับถอนลำท่อนแข็งแรงออกจากปากผม ดึงผมลุกนั่ง ตอนแรกคิดว่าจะพอแล้ว พี่แกนั่งหันข้างให้กับพนักพิง ขาหนึ่งทับไว้ อีกขาหย่อนลงพื้น แล้วกดหัวผมลงไปกลืนกินน้องตัวเองอีกรอบ

ผมรีบปรับสภาพประคองตัวไว้เพราะท่าคุกเข่ากะทันหันนั้นเกือบทำผมพลาดท่าตกโซฟา สองมือรีบหาที่ค้ำยันเพราะหน้ากำลังทิ่ม ปากยังไม่เป็นอิสระ หัวถูกสองมือแข็งแรงตรึงแน่นขยับตามจังหวะที่เจ้าตัวต้องการ ผมก่ายได้เป็นต้นขาแกร่ง พยายามปรับลมหายใจเพราะความคับใหญ่ไซส์ฝรั่งนั้น

อยากร้องห้ามให้เบาแรงลง แต่ก็รู้ว่าอีกคนกำลังจะเร่งให้เสร็จ ผมรอเวลาอย่างอดทน

“อื้อ”

แต่มันนานไปแล้วนะ ยังไม่เสร็จอีกเหรอ
   


to be con...
คนอ่านจะงงกันไหมคะ ลงคู่ที่ 4 จบแล้วย้อนกลับมาคู่ที่ 1 ใหม่
...
พี่ชายกับกวินทร์เป็นคู่แรกที่แต่ง แต่งวันเดียวจบในร้านกาแฟแถวคอนโด นั่งส่องหนุ่มไปแต่งไป ฟินได้อีก เอ็นซีอาจดุเดือดไปนิดตามนิสัยของพี่ชาย คู่นี้มี 8 ตอนจบ

อ่านกันให้สนุกนะคะ : )  :กอด1:

.
.
.
.
.
.
.
Other Story : Book & ebook : https://goo.gl/aJFpH5

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พุ่งมาเลยอ่ะ
ตามติด อิอิ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

ออฟไลน์ Qualmy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :katai1:j ชอบไปหมดเลยค้บบบบ ฮือออ รอคู่ชยันต์ อยากอ่านแย่เลี้ยวววว

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ชอบแนวนี้ ติดตามๆ

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
เรื่อง : Feel คนเจ้าอารมณ์

คู่ที่ 1 : #พี่ชายกวินทร์ [คู่โหด : คนเจ้าอารมณ์ x ผู้รองรับอารมณ์]

เขียนโดย : +Memew+

จำนวนตอน : 8 ตอนจบ

+CHAPTER 02 : บังคับฝืนใจ

 

“มันไม่ยอมเสร็จ” พี่แกบ่นหลังผ่านไปนานหลายสิบนาที ผมรีบดันตัวยกขึ้นมาเช็ดปากด้วยหลังมือ เมื่อยกรามไปหมด   

“งั้นพอแค่นี้แหละ” ผมไม่รอคำตอบ ดีดตัวลุกยืน แต่พี่ชายคว้าจับข้อมือไว้ พี่แกยังนั่งอยู่ท่าเดิม ผมยืนอยู่ข้าง ๆ เขาขมวดคิ้ว สีหน้าครุ่นคิด จ้องหน้าผมเขม็ง

“รออยู่นี่ก่อน” แล้วก็ลุกหายเข้าไปในห้องนอน ก่อนกลับออกมาพร้อมบางสิ่งในมือ

ผมมองงง ๆ มันเป็นขวดแก้วครับ สีชา คล้ายขวดสำหรับใส่คอนแทคเลนส์ สูงประมาณหนึ่งนิ้ว ข้างในมีน้ำอยู่เกือบเต็ม พี่ชายใช้ฟันงัดเปิดฝาขวดกระเด็นหลุด จับคางผมเงยหน้าขึ้น บีบให้อ้าปากแล้วเทสิ่งนั้นลงมา ผมกลืนสิ่งที่ตกกระทบลิ้นลงคอทันทีอัตโนมัติ พอตั้งสติได้ผมรีบปัดสิ่งนั้นทิ้ง เสียงขวดแก้วตกกระทบพื้นดังเคร้ง แล้วกลิ้งหลุน ๆ ไปปะทะกำแพง น้ำในขวดหายไปเกือบหมด 

“อะไร” ผมกลืนน้ำลายไล่รสชาติปะแล่ม ๆ ติดโคนลิ้นลงคอ

“ยาตัวเดียวกับที่ฉันเทคไปก่อนหน้า”

ผมตาโต

“แล้วเอามาให้ผมกินทำไม!” ผมรีบหันหลังกะจะวิ่งไปล้วงคออ้วก ผมยังไม่อยากโด่ไม่รู้ล้มแบบพี่ชายนะ พี่ชายรวบจับผมไว้ ดึงลงไปนอนบนโซฟา 

“ปล่อย ผมจะไปอ้วก”

พี่แกไม่โต้ตอบอะไร จับผมถอดเสื้อออก 

“ทำบ้าอะไรของพี่ จะถอดทำไม” ผมรีบยึดเสื้อคืน แต่มันถูกกระชากหลุดออกจากมือเหวี่ยงทิ้งไปไกล ห่วงเสื้อได้ไม่กี่อึดใจก็ต้องกลับมาห่วงกางเกงต่อ

“พี่ชาย!!” มือหนัก ๆ ปลดล็อกหัวเข็มขัดดึงพรืดเดียวหลุดออกจากรู ปลดกระดุมรูดซิป ผมรีบใช้สองมือห้ามเป็นพัลวัน แต่แรงต่างกันเกินไป เผลอแผลบเดียวกางเกงผมก็หลุดหายออกไปพร้อมกางเกงใน

ผมกำหมัดหวังต่อยอีกคนเรียกสติ พี่ชายหลบวูบ ผมออกอีกหมัดแต่เขาคว้าจับไว้ได้ ผมง้างมืออีกข้าง แต่เขารับไว้ง่าย ๆ เหมือนกัน ผมมองคนตรงหน้าตาขวาง

ร่างกายร้อนขึ้นเรื่อย ๆ มันคงไม่ได้เกิดจากความโมโหแน่ ๆ เพราะตอนนี้บางส่วนของผมกำลังขยับตื่นตัว หัวใจเต้นแรง ความอยากมีมากขึ้น  เรื่อย ๆ พี่ชายจับข้อมือผมไว้ข้างละมือ มองมานิ่ง ๆ คล้ายกับจะดูปฏิกิริยาจากผม

ผมพอจะเดาได้ลาง ๆ แล้ว ว่าเขาคิดจะทำอะไร

“อย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ นะ ผมน้องพี่” ผมเตือนสติ จ้องกลับตาเขม็ง

“แค่ลูกพี่ลูกน้อง” พี่แกตอบกลับราบเรียบ ผมกัดกรามแน่น พยายามระงับความต้องการที่กำลังพุ่งสูง จะดึงมือออก แต่ไม่หลุด ส่วนนั้นของผมตั้งชันขึ้นเรื่อย ๆ จนมันตื่นเต็มที่ ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

“ล้อเล่นน่า” ผมทำใจดีสู้เสือ ภาวนาขอให้เขาเปลี่ยนใจ

“เห็นฉันเป็นพวกชอบล้อเล่นรึไง” เขาพูดเสียงเรียบ ขยับตัวจนบางส่วนกระทบกันเบา ๆ ผมครางอื้ออย่างรู้สึกดี พี่ชายก้มมอง ขยับออกห่าง ปล่อยมือผมออกข้างหนึ่งไปเกลี่ยน้องผมจากโคนถึงปลาย ผมครางออกมาเบา ๆ หัวใจไหวแรง พี่ชายปล่อยมือลง จับผมพลิกคว่ำ ยกสะโพกขึ้นสูง 

“พี่ชาย!!” ผมตะโกนลั่น พยายามจะขยับหนี พี่ชายไม่พูดพร่ำทำเพลง จ่อปลายลำท่อนที่กำลังร้อนระอุกับผนังแคบ ผมตะเกียกตะกายหนีไปด้านหน้า แต่อีกคนยึดเอวไว้ พยายามยัดสิ่งนั้นเข้ามา ผมใจหายวูบ

เขาเอาจริงแน่!

“พี่ชาย!!” ผมตะโกนเตือน พี่ชายไม่ฟังเสียงอะไรทั้งนั้น พยายามจับยัดอยู่อย่างนั่น ได้ยินเสียงจิ๊เหมือนขัดใจ แน่นอนสิ ผมชอบออกกำลังกาย กล้ามเนื้อทุกส่วนของผมมันแน่นไปหมด ถึงจะไม่ขนาดพี่แกก็เถอะ   

ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ ปล่อยผมออก ลุกขึ้นเดินหัวเสียเข้าห้องนอนไป ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงกับสภาพตัวเองตอนนี้ดี ระหว่างเข้าห้องน้ำไปปลดปล่อยกับกลับบ้านไปทำเองที่บ้าน

ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไร พี่ชายก็เดินกลับมาอีกรอบพร้อมขวดเจล หล่อลื่น ผมเบิกตากว้าง รีบลุกจากโซฟาวิ่งเข้าหาเสื้อผ้า แต่ก็ช้ากว่าพี่ชายที่เดินมารวบเอวผมไว้ ดันลงไปนอนบนโซฟาเหมือนเดิม เปิดฝาเทเจลใส่มือจนชุ่ม มือหนึ่งคว้าจับน้องผมไว้ อีกมือกดแทรกเข้ามาในผนังแคบ 

ให้นรกพลิกขึ้นไปอยู่บนสวรรค์เถอะ!

ผมครางอื้อเพราะความรู้สึกดีที่ถูกสัมผัสจากทางด้านหน้า พี่ชายคงรู้สึกแบบนี้สินะตอนที่ถูกผมจับ ผมครางในลำคออย่างพอใจ หลงลืมไปเลยว่ากำลังถูกรุกรานอยู่ ผมรีบควานมือไปจับมือพี่ชายไว้ หวังช่วยกันขยับเพื่อไปให้ถึงปลายทาง

มันรู้สึกดีจริง ๆ

พี่ชายรู้จังหวะในการขยับเป็นอย่างดี ดีจนผมไม่ต้องช่วยอะไรเลย นอกจากกุมมือไว้เฉย ๆ ก่อนสะดุ้งเฮือก เพราะแรงรุกจากปลายนิ้วด้านหลัง มันไม่ใช่แค่นิ้วเดียว แต่เป็นสองหรือสาม หรืออาจมากกว่านั้น และสิ่งนั้นกำลังขยับถ่างออกจากกัน

“พี่ชาย อะ อื้ม…” กำลังจะครางท้วง แต่ต้องเปลี่ยนเป็นครางแบบอื่นแทนเพราะจังหวะเร่งเร้าจากทางด้านหน้าคล้ายกับเขาจงใจจะเบนความสนใจด้านหลังผมทิ้ง หัวใจไหวแรงยิ่งกว่าเดิม

ถึงจะรู้สึกถึงแรงแหวกด้านหลัง แต่ความหฤหรรษ์จากทางด้านหน้านั้นทำให้ผมรู้สึกดียิ่งกว่า

“อื้อ พี่ชายอย่าทำ..” ผมท้วงด้วยสติที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง

“อย่าต่อต้านกวินทร์ ผ่อนคลายสิ” พี่ชายบอกพร้อมควงนิ้วเพื่อขยายให้มันกว้างขึ้น มันรู้สึกดีจริง ๆ ผมไม่รู้ว่ามันรู้สึกดีเพราะถูกปรนเปรอจากทางด้านหน้า หรือว่าเกิดจากตัวมันเอง

ผมเลิกขัดขืนตามคำสั่ง หลับตาลงอย่างผ่อนคลาย ครางนิด ๆ ในลำคออย่างพึงพอใจ

แต่แล้วอยู่ ๆ พี่ชายก็หยุดมือที่กำลังปรนเปรอลง พอ ๆ กับถอนนิ้วออก ผมลืมตามอง เขาจับผมพลิกคว่ำ ยกสะโพกขึ้นสูงอีกรอบ ผมเบิกตากว้าง

“พี่ชาย อย่า!” ผมร้องห้ามเสียงดัง พี่ชายไม่พูดอะไร จ่อปลายความร้อนเข้ามาอีก เพราะเบิกทางไว้ก่อนหน้านั้นแล้วมันถึงได้เข้ามาง่ายขึ้น แต่ก็มาได้แค่ครึ่งทางเท่านั้น

“พี่ชาย!!” ผมรีบเขยิบไปด้านหน้าจนสิ่งนั้นหลุดออก พี่ชายยึดจับสะโพกผมไว้ ยัดกลับเข้ามาใหม่

“เจ็บนะเว้ย!!” ผมตะโกนลั่นเหวี่ยงหมัดไปด้านหลัง ทั้งทุบทั้งดึงมือที่สะโพกออก

“อย่าดิ้นสิกวินทร์” พี่แกห้ามเสียงเขียว

“ก็มันเจ็บ โอ๊ย! พอแล้ว“

“กวินทร์ บอกว่าอย่าดิ้น!!” พี่แกตวาดลั่นด้วยน้ำเสียงโมโห จับมือผมที่พยายามแกะมือพี่แกออกไปไพล่กดติดไว้บนหลัง มืออีกข้างผมทำอะไรไม่ได้เพราะต้องเอาไว้พยุงตัว ผมหายใจหอบถี่ ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ต่อต้านด้วยการหดเกร็งบีบรัดส่วนนั้นแน่น

“โอ๊ย! กวินทร์!” พี่ชายแหกปากร้องลั่น หยุดขยับทันที

“กวินทร์ ปล่อย!!” ผมไม่ฟัง กัดฟัน บีบรัดแรงยิ่งกว่าเดิม ได้ยินเสียงกัดกรามกรอด

“ไม่ฟังกันใช่ไหม!!” พี่ชายกระชากถอนตัวออกแรง ก่อนส่วนกลับเข้ามาใหม่ด้วยแรงส่งเดียวกับตอนที่ถอนออก ผมแหกปากร้องลั่น ตัวสั่นริกเพราะความเจ็บที่พุ่งปราดเข้ามาราวกับโดนต่อย

“บอกแล้วไม่ฟังเอง” พี่แกเข่นเขี้ยวใส่ ผมหยุดทุกการดิ้นรนลง หัวใจแทบหยุดเต้น มันเจ็บจนหมดแรงเอาดื้อ ๆ

พี่ชายขยับดึงลำท่อนออกช้า ๆ ผมเบ้หน้าอ้าปากครางเจ็บออกมา น้ำตาคลอเบ้า

“เจ็บ...” ผมบอกได้แค่นั้น ปวดร้าวจนถึงไขสันหลัง

“อืม ได้เลือดเลย เห็นไหม”

ผมพูดอะไรไม่ออก เพราะมันเจ็บไปหมด เขาขยับดันกลับเข้ามาใหม่ ผมครางเจ็บตามจังหวะนั้น

“พี่ ผมเจ็บ…” ผมร้องขอความเห็นใจอย่างยากเย็น แต่คนด้านหลังไม่ฟัง ขยับดึงออกแล้วใส่เข้ามาใหม่อยู่อย่างนั้น

ผมว่าผมเป็นพวกมีความอดทนสูงแล้วนะ แต่ความเจ็บที่เกิดขึ้นตอนนี้มันมากกว่าความเจ็บที่เกิดจากการต่อยตีจนปากแตกซะอีก พี่ชายขยับมากขึ้นเรื่อย ๆ ผมกัดกราม กำสองมือแน่นจนเล็บจิกเนื้อ พยายามไม่ส่งเสียงอะไรออกมาอีก

พี่ชายยังเคลื่อนไหวไม่หยุด ในจังหวะที่ลื่นไหลขึ้น แล้วความรู้สึกบางอย่างก็เข้ามาแทนที่ มันเป็นความรู้สึกวูบ ๆ วาบ ๆ ในทรวงอกลงไปถึงท้องน้อยและปลายยอดแห่งความต้องการ มันเป็นความรู้สึกเดียวกับตอนที่ถูกปรนเปรอจากทางด้านหน้า ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาหรือว่าเพราะร่างกายกำลังตอบรับสิ่งแปลกปลอมกันแน่

ความรู้สึกนั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมือที่กำไว้ของผมค่อย ๆ คลายลง แขนขาที่เกร็งแน่นก็เริ่มผ่อนคลาย ความเสียวซ่านที่จางหายไปกลับคืนมาอีกครั้ง ผมครางออกมาเบา ๆ ก่อนครางมากขึ้นตามความต้องการที่พุ่งสูง

เมื่อกี้มันทรมานเพราะความเจ็บ แต่ตอนนี้ผมกำลังรู้สึกทรมานเพราะความรู้สึกดี ๆ ที่พุ่งสูง ร่างกายผมทุกส่วนคลายแรงต้านลง ไม่เว้นแม้กระทั่งส่วนนั้น เหมือน ๆ มันจะเปิดกว้างขึ้นเพื่อให้พี่ชายเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น ได้ยินเสียงครางทุ้ม ๆ อย่างพอใจจากคนด้านหลัง เสียงครางแบบนั้นทำเอาผมรู้สึกเหมือนโดนราดด้วยน้ำมันบนตัวแล้วโยนเชื้อไฟใส่

ผมขยับสะโพกบีบรัดลำท่อนแข็งแรงภายในเบา ๆ เป็นจังหวะ พี่ชายครางออกมาอย่างพอใจมากขึ้น

“ดีกวินทร์ อย่างนั้นแหละ รัดฉันเบา ๆ อื้ม..” พี่ชายซี้ดปาก บดขยี้เข้ามาลึกขึ้น จังหวะนั้นมันไปกระทบเข้ากับบางจุดของผม ผมครางออกมาเสียงหลง และดูเหมือนพี่ชายจะรู้ว่าคือจุดอะไร เขาบดขยี้อยู่ตรงจุดนั้น ผมครางแทบไม่เป็นภาษา กวาดมือแปะป่ายไปหามือที่จับสะโพกผมไว้ บีบแรงให้รู้ว่าผมจะทนไม่ไหวแล้ว 

“เร็ว พี่ชาย เร็ว” ผมร้องขออย่างไม่อาย พี่ชายกระแทกเร็วขึ้นตามคำขอ ยิ่งทำยิ่งรู้สึกดี 

“แรง ๆ” ผมร้องขออย่างบ้าคลั่ง มือไม้ทั้งบีบทั้งดึงทั้งบังคับให้อีกคนทำแรงขึ้น ได้ยินเสียงหัวเราะหึ ๆ อย่างพอใจจากคนตัวสูง 

“แรง พี่ชาย แรง ๆ” ผมเร่งเร้า แรงขนาดไหนตอนนี้มันก็คงไม่แรงเท่าที่ใจต้องการ เขาจับผมพลิกนอนหงายทั้งที่ยังสอดประสาน ร่างกายแข็งแรงอยู่เหนือผมขึ้นไป พี่แกจับสะโพกผมไว้ จงใจบดขยี้เน้น ๆ ผมบดกรามกรอดอย่างรู้สึกถึงใจ พี่ชายจับลำท่อนผมไว้ ขยับให้เป็นจังหวะ

ทั้งที่อยากไปแทบตาย แต่ทำไมมันถึงไม่เสร็จสักที ไม่รู้เป็นเพราะยาหรือเปล่า พี่ชายจับผมพลิกขึ้นไปอยู่ด้านบนแทน

“ขึ้นไปกวินทร์” เขาผลักผมให้นั่งตรง ๆ คงหวังให้ผมออนท็อปให้ ผมไม่รู้วิธี แต่สัญชาตญาณดิบบอกไว้ว่าผมต้องทำยังไง ทันทีที่ตั้งตัวได้ ผมก็ขยับร่างกายทันทีอย่างรู้งาน ของพี่ชายจุกแน่นไปทั่วทั้งภายใน เจ็บด้วย แต่ความเสียวนั้นมีมากกว่า ผมขยับร่างกาย ท่าทางไม่ต่างกับคนกำลังควบขี่ม้า พี่ชายซี้ดปาก บีบต้นขาผมแรง กัดกรามแน่น ดวงตาเหี้ยมเกรียมมองมาอย่างสะใจผสมเร่าร้อน

“ดีนั่นแหละ ไอ้เสือ ควบไปเลย” พี่แกตีสะโพกผมแรง มันเจ็บนะ แต่แรงตีนั้นกระตุ้นเร้าให้ผมขยับเร็วขึ้นตามคำสั่ง 

“นั่นแหละ เก่งมาก อ๊า ดีกวินทร์” พี่แกครางชม ผมเบียดจนไม่รู้ว่าจะเบียดยังไง อึดอัด ทรมาน อยากปลดปล่อย แต่มันก็ไม่ยอมเสร็จสักที 

ผมหอบหนักเพราะความเหน็ดเหนื่อย เหงื่อไคลไหลย้อย เหมือนมีธารน้ำมากมายไหลมาจุกอยู่ที่ช่องท้อง แต่หาทางออกไม่เจอ ผมครางอย่างทรมาน ขยับร่างกายจนสุดกำลัง พี่ชายจับผมพลิกลงไปนอนแทนที่อีกรอบ ขยับโยกไหวด้วยตัวเอง

เมื่อกี้ผมว่าผมเร่งเครื่องเต็มที่แล้วนะ ยังไม่ได้เศษเสี้ยวของพี่ชายเลย เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังเคล้าไปกับเสียงครางของเราสองคน พี่ชายคงอยากไปแล้วเหมือนกัน ผมจับน้องตัวเองชักเพื่อให้เสร็จเร็วขึ้น

ใช้เวลาอยู่ชั่วอึดใจก็รู้สึกอุ่นวาบไปทั่วทั้งภายใน ผมบอกไม่ได้ว่าใครเสร็จก่อนกัน รู้ตัวอีกที ลาวาขาวขุ่นของผมก็พุ่งออกมาเคลือบมือผมแล้ว ผมหอบแฮก ขยับรีดเค้นเอาความอัดอั้นออกมา กระทั่งมันหมด ปกติมันต้องหดลงแล้ว แต่นี่ยังคงขนาดอยู่เท่าเดิม และยิ่งขยับ ดูเหมือนจะยิ่งรู้สึกดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ผมหลับตาลงอย่างผ่อนคลาย นวดคลึงของตัวเองไปมา ไม่สนใจว่าตอนนี้คู่ต่อสู้กำลังทำอะไรอยู่

พี่ชายค่อย ๆ ถอนน้องตัวเองออก แต่แทนที่จะดึงออกไปเลยกลับกระแทกใส่เข้ามาใหม่สุดแรง ผมเบิกตากว้าง ครางลั่นขาสั่นพั่บอย่างเสียวซ่าน พี่ชายหัวเราะหึ ๆ ก้มลงมากระซิบ   

“นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น กวินทร์”


_________________50%__________________

ผมตื่นอีกทีเพราะได้กลิ่นบุหรี่ฉุน ๆ ลอยมาแปะจมูก ผมย่นหน้า ลืมตามอง เบ้หน้าเมื่อขยับร่างกายแล้วเจ็บไปทั่วทั้งด้านล่างและบั้นเอว

ผมเงยหน้าจากท่าที่นอนคว่ำมอง พี่ชายนั่งอยู่ข้าง ๆ หลังพิงหัวเตียง สองขาราบไปกับที่นอน ร่างกายยังเปลือยเปล่า กำลังกดปลายบุหรี่ลงบนถาดใส

“โทษที”

ไม่รู้ว่าขอโทษผมเรื่องบุหรี่หรือเรื่องที่ทำไปเมื่อคืนกันแน่ ผมไม่ใส่ใจพยายามขยับลุก แต่มันเจ็บไปทั่วทั้งสรรพางค์ด้านล่างจนต้องเบ้หน้าแล้วเบ้หน้าอีก

กี่รอบวะ

นับไม่หวาดไม่ไหวจริง ๆ

“ไม่ไหวก็นอนไป จะสั่งอะไรมาให้กิน”

“ไม่ต้อง” ผมรีบโบกมือ ขยับร่างกาย แต่ถูกกดหลังแนบติดที่นอนแน่น

“เลือดออกเยอะแยะ”

“แล้วทำไมตอนทำไม่คิด”

“เทคยา”

“สันดาน” ผมด่ากลับ

“กินข้าวกินยาก่อน” แล้วพี่แกก็กดมือถือรัวสั่งข้าวแถมยังสั่งให้คนขายข้าวซื้อยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดมาให้ด้วย ผมนอนอย่างหมดแรง ได้ยาก็ดี จริง ๆ ผมไม่ใช่คนอ่อนแอทนไม่ไหวกับความเจ็บปวดหรอก

แต่คุณครับ มันตรงนั้น ถ้าไม่รีบรักษา การเข้าห้องน้ำยามเช้าของผมคงมีปัญหาแน่ ๆ

ผมผล็อยหลับไปอีกรอบก่อนจะได้กลิ่นข้าวต้มหอม ๆ ข้างตัว ผมลืมตามอง กวาดมองไปรอบ ๆ พี่ชายไม่อยู่แล้ว ผมพยายามพยุงตัวลุก เม้มปากแน่น กรอกยาเข้าปากตามด้วยน้ำ แล้วซัดข้าวต้มตามไปทีหลัง ผมใช้เวลากินไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ แล้วทิ้งตัวลงนอนอีกรอบ หลับใหลไป

 

ผมตื่นอีกทีเพราะเสียงหัวเราะคิกคักของผู้หญิง และเสียงหัวเราะที่ผมจำได้ว่าเป็นของพี่ชาย ผมค่อย ๆ ลุกยืน เสื้อผ้าคงอยู่นอกห้องนอน ผมลุกไปคว้าเสื้อพี่ชายมาใส่ตัวหนึ่งปกปิดร่างกายไว้ก่อน เดินเจ็บ ๆ ออกไปดู

บนโซฟาตัวเดิมเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังบรรเลงเพลงรักเร่าร้อนกันอยู่   

จริง ๆ ผมก็เคยเห็นมาแล้ว แต่ก็ยังอดทึ่งไม่ได้ ขนาดเมื่อคืนทำกับผมไปตั้งหลายรอบ มาเช้านี้ก็ยังมีแรงเหลืออีก

ไม่ใช่สิ พี่ชายไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นอนอยู่เฉย ๆ แล้วให้สาวเจ้าควบขี่ต่างหาก ผมละสายตาจากภาพนั้น เดินเจ็บ ๆ ตรงเข้าห้องน้ำไป หยิบเสื้อตัวเดิมมาสวม เดินออกไปด้านนอก สองคนนั้นยังไม่หยุดเล่นรัก คราวนี้พี่ชายอยู่ด้านบน เสียงเจ้าหล่อนหวีดร้องตามแรงอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ผมไม่สนใจ เดินเจ็บ ๆ ออกจากห้องนอนตรงไปหยิบเสื้อผ้า เจ้าหล่อนร้องว้ายเพราะไม่คิดว่าจะมีคนอื่นอยู่แบบผม

“ตามสบาย แค่ผ่านมา” ผมบอกเจ้าหล่อน และพี่ชายก็ยังไม่หยุดโยกไหว ไม่สนใจมองผมด้วยซ้ำ ก้มหน้าก้มตาควบขี่ต่อ ผมแต่งตัวมันตรงนั้นแหละ ปล่อยให้พี่ชายหรรษาไป เดินหวังออกจากห้อง

“กวินทร์ รอเดี๋ยว” พี่แกห้ามพร้อมเร่งจังหวะ ผมหันไปมอง เขาเร่งจังหวะหนักขึ้น

ภาพที่ผมเห็นตรงหน้า มันก็ไม่ต่างกับผมยืนมองพระเอกนางเอกเล่นหนังเอวีกันอยู่ พี่ชายกระแทกแรงห้าหกทีก็หยุดนิ่งกระตุกกายเกร็ง ลุกขึ้นยืน คลี่ถอดถุงยางอนามัยที่เต็มไปด้วยลาวาร้อนโยนลงถังขยะ

ก็ยังดีที่การนอนกับผู้หญิงทุกครั้ง พี่แกป้องกันตัวตลอด ไม่เคยใช้ถุงยางของคนอื่นด้วยนอกจากของตัวเอง เพราะเคยมีเคสผู้หญิงท้องแล้วมาบอกว่าแกเป็นพ่อเด็ก พี่ชายไม่ใส่ใจไยดีหรือรับผิดชอบอะไร พูดคำเดียวว่ารอให้คลอดก่อน ถ้าพิสูจน์ดีเอ็นเอออกมาแล้วใช่ จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ไม่ยอมรับผู้หญิงมาเป็นเมียหรอกนะ

พอผู้หญิงคนนั้นคลอด ปรากฏว่าไม่ใช่ลูกของพี่แก เป็นของใครก็ไม่รู้ ซึ่งคนที่คอยวิ่งเต้นดำเนินเรื่องตอนนั้นให้คือผมเองนี่แหละ

พี่ชายคว้าทิชชู่เปียกมาเช็ดทำความสะอาด ก้มหยิบเสื้อผ้ามายื่นให้ผู้หญิงคนนั้น

“ออกไปก่อน”

“อะไร เสร็จแล้วก็จะไล่เลยเหรอ เพิ่งรอบเดียวเองนะ” เจ้าหล่อนกระเง้ากระงอด

“ไป!!” นี่แหละพี่ชายผม ไม่เคยรักษาน้ำใจอะไรใคร ได้แล้วเฉดหัวทิ้ง หล่อนรีบลุกขึ้นแต่งตัว เดินมาจุ๊บพี่ผมทีหนึ่ง

“ไว้วันหน้าจะมาหาใหม่นะคะ” เธอขยิบตาให้พี่ชาย เดินนวยนาด ยิ้มให้ผมนิดหนึ่งเดินออกจากห้องไป

ผมหันกลับมามองเจ้าของห้องอีกครั้ง 

“มีไร” ผมถามกลับราบเรียบ พี่ชายก้มหยิบเสื้อผ้ามาใส่ เดินเข้ามาใกล้ จับก้นผมหมับ ผมสะดุ้งโหยงร้องโอ๊ยออกมาเสียงดัง

“โทษที แค่อยากเช็กว่ายังเจ็บอยู่ไหม”

ผมผลักคนตรงหน้าออกแรง 

“เจ็บ มีอะไร” ผมถามเสียงห้วน

“อยากชวนไปดูหนัง แต่ดูท่าจะเดินลำบาก”

“พี่อยากไปก็ไปเถอะ ผมไม่ไหว จะกลับบ้านไปนอน”

เขาจับแขนผมไว้

“งั้นนอนที่นี่แหละ ยังไม่ต้องกลับ”

“ไม่ต้อง จะกลับบ้าน” ผมกระชากแขนกลับ จะก้าวเดิน แต่มันปวดแปลบข้างหลังจนต้องเกาะประตูไว้ พี่ชายรีบเข้ามาพยุง

“อย่าดื้อได้ไหม เข้าไปพักก่อน”

“ผมทนได้ อยากกลับบ้านไปนอน”

พี่ชายไม่ฟัง ลากผมเดินกลับเข้าห้อง ผมร้องโอ๊ย ๆ มาตลอดทางเพราะแรงลากไม่บันยะบันยังนั้น ผมถูกดันลงบนเตียง ความเจ็บปวดจากแรงเสียดสีนั้นพุ่งปราดขึ้นไปที่ก้านสมองอีกครั้ง ผมซี้ดปาก

“นอนไป เอาให้หายเจ็บก่อนแล้วค่อยกลับ” ผมคว้าจับหมอนเหวี่ยงใส่คนที่ยืนอยู่แรง พี่ชายรับไว้แล้วปล่อยมันตกลงพื้นอย่างไม่ใส่ใจ ผมกำที่นอนแน่นมองตาขวาง เขาขยับเข้ามาใกล้ ดึงกางเกงผมลง

“จะทำอะไร!” ผมโวยวายหน้าตื่น พี่แกจับแก้มก้นผมขยับแยกออกจากกัน ผมร้องโอ๊ยเสียงดังอีกรอบ คิ้วเข้มขมวดมุ่น แหกดูเพิ่มขึ้น ผมพยายามเหวี่ยงกำปั้นไปทุบ

เจ็บจะตายยังจะมาขยับมันอีก

“มันอักเสบหนักนะ ทั้งบวมทั้งแดง คงต้องหายาทา”

“ถึงอยากกลับบ้านไง”

เขาดึงกางเกงผมขึ้น หยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก พูดคุยกับปลายสาย ผมพยายามจะดันตัวลุก

แค่นี้ต้องทนได้สิวะ คิดซะว่าเป็นริดสีดวงละกัน พี่ชายเดินมากดหลังผมอีก

“ถ้าขยับอีกรอบ ฉันจะมัดนายติดกับหัวเตียงเลย”

ผมหันไปมองด้วยสายตาเหวี่ยง ๆ เพราะนิสัยเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ของพี่แก ถึงได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นไปทั่ว ปกติผมไม่เคยใส่ใจอะไร แต่ครั้งนี้มันหนักเกินไป เรื่องเตะเรื่องต่อย หรือรับหน้าเวลามีผู้หญิงมาหาเรื่องผมไม่ว่า

“เลิกนิสัยแบบนี้สักที พี่ไม่ใช่เด็กแล้วนะ พี่มีเรื่องอะไรผมช่วยเหลือแก้ไขให้พี่ได้ แต่เรื่องนี้มันมากเกินไป” ผมขยับลุก

พี่ชายไม่พูดอะไร เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเชือกมาเส้นหนึ่ง แน่นอนว่ามันเป็นเชือกที่เขาเอาไว้เล่นกับสาว ๆ นั่นแหละ นำมันมามัดสองข้อมือผมติดกับหัวเตียงที่ถูกออกแบบให้มีห่วงสำหรับเล่นกามารมณ์ของพี่เขาโดยเฉพาะ

พี่ชายไม่ใช่คนพูดเล่น พูดคำไหนคำนั้น

“พี่ชาย!!” ผมโวยวาย

ได้ยินเสียงเคาะประตู พี่ชายหันไปมอง เดินออกไปนอกห้องนอนจนไปถึงหน้าประตู ผมมองไม่เห็นแล้ว เขากลับมาพร้อมถุงอะไรบางอย่าง วางไว้บนเตียง พี่ชายไม่พูดอะไร หยิบอะไรบางอย่างจากถุงคลี่ออกอ่าน เปิดฝา พลิกกลับหัวฝาเพื่อเจาะรูบนหลอด ยาสีขาวพุ่งออกมาตามแรงบีบ พี่ชายแต้มลงบนนิ้วเป็นทางยาว ขยับเข้ามาใกล้ ดึงกางเกงผมลงอีกรอบ

“จะทำอะไร!”

“ทายา”

“ผมทาเองได้ ปล่อยเชือกได้แล้ว”

“จะทาให้”

“ไม่ต้อง!” พี่ชายไม่สนอาการขัดขืนของผม จับแยกขาออกจากกัน ก้มดู ผมครางออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะแรงขยับแบบไม่นุ่มนวลนั้น

เขาแต้มยาลงมา ความเย็นจากยาทำเอาผมสะดุ้งเฮือก เบ้หน้าเพราะความแสบจากแผลสด ผมกำมือกัดกรามแน่น แผลปากแตกยังไม่เจ็บขนาดนี้เลย

“เจ็บมากเหรอ” ผมไม่ตอบ บดกรามแน่นรอเวลาให้ความเจ็บแสบที่บังเกิดขึ้นนั้นค่อย ๆ จางหายไป มันเจ็บจนถึงหัวใจเลย

“ปล่อย” ผมบอกอีกที พี่ชายไม่สนคำปฏิเสธผม ลุกขึ้นยืน

“พี่ชาย ปล่อยผมก่อน” พี่แกเดินไปคลี่ปลดเสื้อผ้า คว้าผ้าเช็ดตัวมาถือ เดินโทง ๆ เข้าห้องน้ำไป สักพักก็เดินออกมาแต่งตัว คว้ากุญแจรถมาถือ

“จะไปไหน ปล่อยผมก่อน” ผมตะโกนเรียก

“นอนอยู่เฉย ๆ อย่าดื้อ” พี่แกชี้หน้า เดินหายออกจากห้องไป
เวลาอ่านนิยายสายขาวของนักเขียนบางท่าน ย้อนมาดูนิยายตัวเอง ทำไมเอ็นซีเยอะงี้ พอไปอ่านนิยายสายฮาร์ดคอร์ระดับ25++กลับมาอ่านนิยายตัวเอง ทำไมเบบี๋แบบนี้เนี่ย สรุปคือ นิยายเรื่องนี้เอ็นซีเยอะหรือน้อยขึ้นอยู่กับระดับการเสพของคนอ่านว่าผ่านมาระดับไหนแล้ว

 
[color]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-01-2018 06:59:46 โดย memew »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
กวินทร์ตกกะไดพลอยโจร ไม่น่าดื้อเลยลูก
แบบนี้ต้องเอาให้ติดใจจนโงหัวไม่ขึ้นสิลูก

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
อ่านกี่ครั้งก็ยังดุเดือดไม่เปลี่ยน :jul1: :jul1: :jul1:

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
เรื่อง : Feel คนเจ้าอารมณ์

คู่ที่ 1 : #พี่ชายกวินทร์ [คู่โหด : คนเจ้าอารมณ์ x ผู้รองรับอารมณ์]

เขียนโดย : +Memew+

+CHAPTER 03 : ไข้รุมเร้ม & ตัดสัมพันธ์
 
         




 

หิวน้ำ

ผมค่อย ๆ ลืมตาตื่นจากสภาพที่ต้องนอนแซ่วเหมือนเหยื่อถูกจับ พี่ชายหายไปนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ หิวน้ำจนคอแห้ง ร้อนผากไปหมด หายใจมีไอร้อน ๆ ด้วย
 
ไข้ขึ้นเหรอ

ผมลองพ่นลมหายใจแรง ๆ ดู รู้สึกได้ถึงไอร้อน ๆ หนักกว่าเดิม ร้อนกระบอกตาด้วย

ไอ้พี่บ้านั่น จะไปแรดไหนก็ไม่ยอมปล่อยผมออกไปก่อน มือถือยังอยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมจะใช้กายกรรมอีท่าไหนถึงจะได้มันมา จะใช้ก้นไถกับที่นอนเพื่อดันให้มันออกก็ลำบาก ไหนจะเจ็บก้น ไหนจะลำบากเพราะกางเกงมันคับมาก เวลาปกติยังเอาออกลำบากแล้ว ผมพยายามอยู่สักพักก็ต้องยอมแพ้เพราะความร้าวระบมด้านล่าง

ผมนอนต่อไปอีกนิด ไม่รู้กี่โมง แต่ท้องพากันร้องเพราะความหิว ทั้งหิวน้ำทั้งหิวข้าว ไข้รุมจนแทบไม่เหลือเรี่ยวแรง ได้ยินเสียงประตูเปิดออกพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักของชายหญิงคู่หนึ่ง เดาไม่ยากว่าพี่ชายออกไปเริงร่ากับผู้หญิงอีกแล้ว ทิ้งผมให้นอนทรมานอยู่ในห้อง เสียงดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ จนมาถึงห้องที่ผมนอนอยู่

ผมพยายามเพ่งมอง ภาพตรงหน้าพร่ามัวเล็กน้อย

“อุ๊ย!” สาวเจ้าสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นผมนอนอยู่บนเตียง พี่ชายขมวดคิ้วมอง

“โทษที เธอกลับไปก่อนนะ”

“อะไรกัน เรายังไม่ได้…”

“ออกไป!!” ยังไม่ทันที่ผู้หญิงคนนั้นจะพูดจบ พี่ชายก็ออกปากไล่เสียงดัง เสียงนั้นสะท้อนก้องแปลก ๆ
 

หรือหูผมจะเพี้ยนไปแล้ว?

ผู้หญิงคนนั้นโวยวายด้วยความขุ่นมัว แต่ก็ยอมล่าถอย พี่ชายเดินออกไปส่งที่หน้าประตู สักพักก็เดินกลับเข้ามาใหม่

“โทษที พี่ก็ลืมไปว่านายอยู่นี่” อืม คงลืมจริง ๆ นั่นแหละ ลืมจนผมจะอดข้าวอดน้ำตายอยู่รอมร่อ

“ได้กินอะไรรึยัง” อยากบอกเหมือนกันว่ากินแล้ว ลุกเดินไปกินเองเมื่อกี้นี้เอง อิ่มแล้ว อร่อยมาก

“น้ำ…” ได้แค่คิดเท่านั้นครับ เพราะตอนนี้ผมต้องการน้ำมาก ๆ ผมร้องขอสิ่งที่ต้องการเสียงปร่า พี่ชายรีบขยับมาแก้มัด   

“ตัวร้อน” เปล่า ตัวผมเย็นเฉียบเลย เย็นเหมือนลาวา เขาเดินหายออกจากห้องไป ผมพยุงตัวลุกนั่ง

“อย่าลุก!” พี่แกสั่งเสียงเข้ม เดินมาพร้อมน้ำเย็นจัดในแก้ว ยื่นมาให้ ผมปัดออกเบา ๆ

“ทำไมไม่กิน” พี่แกขมวดคิ้วถาม ผมมองอย่างระอา

“ผมไม่สบาย” ผมพูดอย่างยากเย็น “คนเป็นไข้ที่ไหนกินน้ำเย็นได้ ไข้จะยิ่งหนักน่ะสิ”

“ฉันไม่รู้นี่” แล้วพี่แกก็ลุกหายไปอีกรอบ กลับมาพร้อมน้ำอุณหภูมิห้อง ผมรับมาประคองใส่ปากอย่างหิวโหย รู้สึกเหมือนอยู่ในทะเลทรายซาฮาร่าแล้วพบแหล่งโอเอซีส ท้องพากันร้องจนได้ยินเสียงชัดเจน

“ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม”

“กินแล้ว อร่อยมาก” ผมตอบประชด พี่ชายมองหน้า

“กวินทร์ ปกตินายไม่เคยดื้อกับพี่นะ”

“ถ้าปกติน่ะใช่ แต่ไม่ใช่อีกแล้ว พี่เห็นผมเป็นอะไร ทำร้ายร่างกายผม ผมจะกลับไปดูแลรักษาตัว พี่ก็กักตัวไว้ กักไว้ทำไม กักไว้ให้อาการหนักกว่าเดิมแทนที่จะรักษา ผมเหนื่อยพี่ชาย ผมอยากกลับบ้าน ผมหิว พี่ดูแลใครไม่เป็นหรอก และผมก็ยังไม่อยากตายอยู่ในห้องนี้ ผมจะกลับบ้าน”

“แต่ฉันทำนายเจ็บ ฉันต้องรับผิดชอบ”

“โดยการทำให้อาการผมหนักขึ้นเนี่ยนะ!” ผมตอกกลับเสียงแหบ “ผมหิว ผมจะกลับบ้านไปกินข้าวกินยา นอนพัก อยู่กับพี่มีแต่อาการจะแย่ลง ดีไม่ดีอาจตายเพราะอดข้าวนี่แหละ โชคยังดีนะที่พี่ยังมีกะจิตกะใจหอบผู้หญิงกลับมานอนด้วย ไม่พากันไปกกที่อื่นจนหลงลืมผมไว้ให้อดตายที่นี่…ปล่อย” ผมพยุงตัวลุกโซเซ พี่ชายประคองไว้ หน้ามืดหน่อย ๆ จนเซไปซบอกคนตรงหน้า เขาจับผมดันให้นอนอีกรอบ ผมนอนมึนอยู่กับที่ พี่ชายคว้ามือถือมากดโทรสั่งอาหาร

“ฉันดูแลคนเป็นไข้ไม่เป็น ต้องทำยังไงบ้าง”

“ส่งผมกลับบ้าน” ผมตอบเสียงแหบ

“ไม่ได้!”

ผมถอนหายใจแรง

“งั้นขอกินข้าว ขอยาแก้ไข้กับแก้อักเสบ แค่นี้ก็พอ เดี๋ยวพอมีแรงแล้วผมจะกลับเอง”

เขามีสีหน้ากังวล ผมปิดเปลือกตาลงช้า ๆ

“ให้พี่ดูแลก็เหมือนขาผมข้างหนึ่งก้าวลงนรกไปแล้ว พี่ดูแลผมไม่ได้หรอก” ผมพูดเสียงแผ่วโดยไม่เปิดเปลือกตามอง เหงื่อเริ่มไหลซึม หายใจเข้าออกลำบาก

“ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่ฉันจะทำแล้วทำไม่ได้” ได้ยินเสียงแค่นั้น แล้วสติผมก็ดับอีกรอบ

 

 

 

 

 

 

ผมสะลึมสะลือตื่นอีกทีเมื่อได้ยินเสียงเรียก สมองผมไหวเบลอ จนรู้ว่ามีอะไรอุ่น ๆ มาจ่อปาก รสชาติมันหวานหอมจนผมต้องอ้าปากรับเอาเข้าไป มันคือพลังงาน และผมต้องการพลังงานอย่างมาก ผมอ้าปากรับทั้งที่ดวงตายังเปิดไม่ได้ ไม่รู้ว่าอาหารพวกนี้มาจากไหน แต่ผมต้องการมันมากขึ้นและมากขึ้น กระทั่งอิ่ม

“กินยา” มีอะไรบางอย่างยัดเข้ามาภายในปาก ผมคาบมันไว้อย่างนั้นเพราะยังประมวลผลไม่ถูก

“กลืนเข้าไปกวินทร์”

กลืน กลืนอะไร แล้วอะไรเนี่ย ขมจัง ผมคายสิ่งที่อยู่ในปากออก มันถูกสอดใส่กลับเข้ามาใหม่ ผมคายมันออกอีกเมื่อรับรู้ถึงรสขมของมัน

“เด็กดื้อเอ๊ย” ได้ยินเสียงสบถแค่นั้น ก่อนจะรู้สึกถึงบางสิ่งที่ปิดลงมาบนปาก มันมาพร้อมน้ำรสขมจำนวนหนึ่ง จังหวะนั้นมันเหมือนถูกบังคับให้ต้องกลืน และผมก็ต้องกลืนมันลงไป

แล้วผมก็หลับไม่ได้สติต่อไปอีกรอบ
 

 

 

 

 

ผมลืมตาอีกที น้ำ คือสิ่งแรกที่ผมต้องการ ผมขยับลุก มันมืดแล้ว ผมควานหาปลั๊กไฟ เปิดมันออก รู้สึกถึงแรงขยับข้างตัว

“จะทำอะไร” พี่ชายถามมางัวเงีย

“น้ำ” ผมร้องขอ พี่ชายรีบก้าวลงจากเตียง เดินไปหยิบน้ำบนโต๊ะมายื่นให้ ผมรับมากรอกปาก

“ทำไมไข้ยังไม่ลด”

ผมไม่ได้สนใจ พยุงตัวจะลุก

“จะไปไหน นอน!”

“ห้องน้ำ” ผมบอกเสียงแหบ พี่ชายพยุงตัวผมเดินไปเข้าห้องน้ำ ผมเพิ่งสังเกตว่าชุดที่ใส่มันไม่ใช่ชุดผม แต่เป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นของพี่ชาย ผมดึงกางเกงลงเพื่อฉี่ โดยมีพี่ชายยืนพยุงอยู่ข้าง ๆ

“เลอะหมดแล้ว” เบลอครับ โฟกัสไม่ถูก แล้วพี่แกจัดการจับให้เพื่อให้มันลงร่อง “เกิดมาเพิ่งเคยดูแลใครขนาดนี้ พ่อแม่หรือผู้หญิงยังไม่เคยเลย” พี่แกบ่น

“ถึงบอกไงว่าให้ปล่อยผมกลับบ้าน ห้ามไว้ทำไม”

“ฉันบอกแล้วไงว่าจะรับผิดชอบ” พี่ชายยังคงเป็นพี่ชาย เคยดื้อดึงยังไงก็ยังรักษาความดื้อเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ผมเดินโซซัดโซเซกลับไปทิ้งตัวนอนบนเตียง

 

 

 

ผมนอนดิ้นไปมาอย่างอึดอัด หายใจไม่ออก ร้อน เหนียวเหนอะหนะ ก่อนบางสิ่งเย็น ๆ จะซับลงมาบนหน้าผาก มันเย็นจนผมเลื่อนมือไปจับไว้ กดมันราวกับจะให้ความเย็นนั้น ซึมเข้ามาในตัว จับมันเลื่อนลงมาที่หน้าและซอกคอ ก่อนหมดแรงปล่อยให้มือนั้นเคลื่อนที่ด้วยตัวเองอย่างอิสระ ผมทำได้แค่แหงนหน้า ความเย็นนั้นเคลื่อนไหวอยู่ด้านบนลงไปถึงหน้าท้องเท่านั้น แค่นั้นก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนหลุดพ้นออกมาจากขุมนรกแล้ว

ความเย็นนั้นกดลงมาที่ซอกคอผมอีกรอบ ผมไม่อยากให้ความเย็นนั้นห่างหายไปไหน ผมกดมันแน่นติดไว้กับคอตัวเอง

แต่สิ่งนั้นก็เคลื่อนหนีไปจนได้ ผมนอนเสียดาย

แต่แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว
 

 

 

 

 

ตื่นอีกรอบเพราะตะวันฉายแสงทางหน้าต่าง ผมลืมตาก็เห็นข้าวต้มวางไว้บนโต๊ะ ผมค่อย ๆ ขยับลุก เห็นโน้ตวางไว้

‘ฉันติดงาน จะรีบกลับมาหา’

ผมขยำกระดาษนั้นทิ้ง จ้วงตักข้าวต้มกิน มันเย็นจนชืดแล้ว แปลว่าเตรียมไว้ให้นานแล้ว ผมหยิบยาใส่มือ มันมีจำนวนเยอะกว่าเดิมสองเม็ด ดูแล้วเหมือนวิตามินซี ผมวางยาทุกเม็ดไว้บนมือ ตบเข้าปากรวดเดียวกรอกน้ำตาม

ไข้ยังรุม ด้านหลังยังเจ็บ แต่ไม่หนักเท่าเมื่อวาน ผมพยุงตัวลุก สะบัดหัว รีบกลับบ้านดีกว่า อย่างน้อยที่บ้าน แม่ยังดูแลได้ อยู่นี่แทนที่จะหายกลับต้องตายเร็ว ผมเดินเบลอ ๆ ออกจากห้องนอน เดินไปจนถึงประตูหน้าห้อง พอจับลูกบิดได้ก็มีเสียงตี๊ดของสัญญาณคีย์การ์ดดัง และกุญแจแบบงวงช้างก็ถูกหมุนเปิดออก ประตูผลักเข้ามาด้านใน ผมยืนอยู่ในระยะประชิด จึงถูกชนเข้าเต็ม ๆ จนล้มลงไปนอนอยู่กับพื้น

“กวินทร์!” พี่ชายรีบเข้ามาช่วยพยุง แต่ผมไม่ได้ขยับลุกตาม เบ้หน้ากัดปากแน่นเพราะความเจ็บนั้น ล้มลงมาให้เจ็บช้ำกว่าเดิมอีก ผมนั่งคอยให้ความเจ็บค่อย ๆ จางลง   

“จะออกมาทำไม บอกให้รอจะกลับมาหา ทำไมดื้อไม่ฟังกันแบบนี้”

“จะกลับบ้าน” ผมยืนยัน

“เดินแทบจะไม่ไหว ได้ไปล้มกลางทาง”

ผมไม่คิดจะขับรถกลับอยู่แล้ว นั่งแท็กซี่ พอคลายความเจ็บ ผมพยุงตัวลุกโดยมีพี่ชายช่วยประคอง แต่พี่แกพาผมเดินเข้าไปในห้องนอนแทนที่จะปล่อยกลับบ้านอย่างใจ   

เขาดันผมนอนหงาย อยากขัดขืนมากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันเพลีย ตาผมปรือลง ไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปเมื่อกี้หรือเปล่า ผมถึงได้รู้สึกง่วงจัด ๆ ขนาดนี้ ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือสีหน้ากังวลของพี่ชาย แล้วผมก็ไม่เห็นอะไรอีก
 

 

 

 

ผมตื่นอีกทีเพราะเสียงหนังแอ็คชั่นยิงกันสนั่นลั่นห้อง พี่ชายชอบดูทีวีเสียงดัง ไม่ได้ปิดประตูห้องนอนด้วย ผมพยุงตัวลุก อังหน้าผากเบา ๆ ไข้ลดแล้ว ข้างตัวมีข้าวต้มกับยาวางไว้เหมือนเดิม ผมคว้าน้ำมาดื่มก่อนเป็นอันดับแรก ลุกเดินเข้าห้องน้ำ แล้วกลับมานั่งกินข้าวต้มต่อ เสียงหนังยังดังสนั่น ผมกลับเข้าไปล้างปากกลั้วคอ ไข้ลดแล้ว เดินได้แล้ว คงกลับได้แล้ว

พี่ชายนั่งดูหนังอย่างตั้งใจ ผมไม่อยากรบกวนเวลาเจ้าของห้อง เดินลิ่วตรงไปที่ประตู

“กวินทร์” ได้ยินเสียงเรียก ผมหันไปมองในจังหวะที่กำลังจับลูกบิด

“ทำอะไรของนาย จะไปไหน!”

“กลับบ้านสิ”

“มันน่ากลับอะไรหนักหนาหะ เอะอะอะไรก็จะกลับ อยู่นี่มันจะตายรึไง ไม่เห็นรึไงว่าฉันดูแลนายอยู่”

ผมหันไปเผชิญหน้ากับคนเจ้าอารมณ์

“การดูแลคนอื่นต้องทำด้วยความเต็มใจ ถ้าต้องอดทนหรือจำใจแบบนี้ อย่าทำเลย ผมไม่อยากสร้างความลำบากให้พี่ แค่นี้ก็มากพอแล้ว”

“ฉันเต็มใจ”

“อาการของพี่เขาเรียกจำใจ” ผมตอกกลับ “พี่ไม่ได้อยากทำ แต่จำใจต้องทำ ทำเพื่อไม่ให้ผมว่ากลับว่าพี่ทำไม่ได้ ผมไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกเต็มใจเลยสักนิด ผมดีขึ้นแล้ว จะนั่งแท็กซี่กลับ หายแล้วจะกลับมาเอารถ”

“ถ้าฉันปล่อยให้นายกลับบ้านได้ อย่าเรียกฉันว่าพี่ชายเลย” แล้วพี่แกก็ลากผมกลับเข้าห้องไปอย่างเดิม

“ปล่อย พี่ชาย”

“นอน!”

“ผมเบื่อ ผมนอนมาสองวันเต็ม ๆ แล้วนะ ดูแลคนไม่เป็นก็อย่าทำเลย”

“ปกตินายพูดง่ายนะกวินทร์ ทำไมต้องดื้อกับพี่ด้วย”

“เพราะพี่ไม่ฟังที่ผมพูดไง ผมเบื่อพี่แล้ว ไม่อยากดูแลไม่อยากนับถือแล้วด้วย เบื่อ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ปล่อยผมไปสักที”

พี่ชายมองผมตาวาว

“ก็ไหนนายสัญญาว่าจะคอยดูแลพี่ เป็นน้องชายที่เชื่อฟังทุกอย่างไง”

“ใช่ แต่มันจบไปตั้งแต่พี่ทำให้ผมเป็นอะไรที่ไม่ใช่น้องชายพี่แล้ว” ผมตอกกลับด้วยความโมโห จริง ๆ สิ่งนั่นไม่ใช่ข้ออ้างหรอก ผมยกมางั้นเอง จะได้มีเหตุผลตอกกลับได้ ผมแค่เบื่อที่ต้องดูแลคนไม่รู้จักรับผิดชอบกับชีวิตขนาดนี้

“พี่มันไอ้คนเหลาะแหละ ไร้ความรับชอบ ไม่มีความสามารถ ชุ่ย ทุเรศ ทำได้แค่ฟันผู้หญิงไปวัน ๆ ผมอยากได้พี่ชายที่เก่ง มีความรับผิดชอบ เป็นผู้เป็นคนกว่านี้ ผมคอยดูแลเพราะเห็นแก่คุณลุง คิดว่าสักวันพี่จะคิดได้ แต่วันแล้ววันเล่า พี่ก็ทำไม่ได้ หนำซ้ำยังทำให้ผมหมดความนับถือในตัวพี่ลง พอแล้ว พี่จะไปชุ่ยจะไปเหลาะแหละที่ไหนก็ไป ถ้าคุณลุงมาขอร้องอะไรผมเรื่องพี่อีก ผมจะไม่ยุ่งด้วยแล้ว ปล่อย!” ผมตะคอกกลับ

ดวงตาพี่ชายเปลี่ยนแสงเป็นอะไรสักอย่าง ผมหวังให้คำพูดผมทำให้เขาโกรธ ไล่ตะเพิดผมหนีไป

“เลิกถือว่าฉันเป็นพี่ชายตั้งแต่นอนกับฉันแล้วซินะ”

“ใช่” ผมรับเสียงหนัก

“งั้นฉันจะให้สถานะใหม่กับนาย”

ผมมองคนตรงหน้างง ๆ พี่ชายยกยิ้ม นัยน์ตาเหี้ยมเกรียม คว้าจับเสื้อยืดที่ผมใส่อยู่กระชากขาดดังแควก

“…พี่ชาย” 



To be Con...

 :katai4: :katai4: :katai4:







Other Story : Book & ebook : https://goo.gl/aJFpH5

             

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เดี๋ยวนะนี่พระเอกหรอ
น้องเจ็บอย่าทำน้อง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ memew

  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจ้าาา
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +382/-10
    • :: Memew แฟนเพจ :
 เรื่อง : Feel คนเจ้าอารมณ์

คู่ที่ 1 : #พี่ชายกวินทร์ [คู่โหด : คนเจ้าอารมณ์ x ผู้รองรับอารมณ์]

เขียนโดย : +Memew+

+CHAPTER 04 : จากน้องชาย...กลายเป็นเมีย & ยาตัวใหม่



 “พี่ชาย…”
ผมครางปรามเสียงพร่า พี่ชายหูดับไปแล้ว ผมคาดหวังให้เขาโกรธแล้วไล่ตะเพิดผมหนีไป แต่สิ่งที่เขาทำตอนนี้คือโหมความโกรธทั้งหมดลงมาบนตัวผม

“พี่ชาย…”
ผมครางห้าม วันนี้ไม่ได้เทคยา มันเจ็บจนผมน้ำตาเล็ด ผมครางอย่างเจ็บปวด

“ไม่อยากเป็นน้องชายก็กลายเป็นเมียละกัน”
เขาโหมอารมณ์ใส่ไม่หยุด

“พี่ชาย อื้อ ปล่อย พอ เจ็บ”
ผมร้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันเจ็บจริง ๆ เขาไม่ฟัง กระแทกกระทั้นจนเหมือนร่างกายจะถูกแยกออกเป็นชิ้น ๆ ผมมองคนตรงหน้าด้วยดวงตาพร่าเลือน

ไม่ใช่แล้ว คนตรงหน้าไม่ใช่พี่ชายผมแล้ว





รู้สึกถึงแรงลูบเบา ๆ บนหัว พร้อมเสียงเรียกคุ้นเคย ผมค่อย ๆ ปรือตามอง ก่อนดวงตาผมจะปิดลงไปอีกรอบ

...

..

“กวินทร์” เสียงเรียกนั้นดังแว่วมาอีกครั้ง เหมือนเรี่ยวแรงจะถูกสูบให้จางหาย รู้สึกเหมือนถูกพยุงให้ลุกนั่ง ก่อนมีข้าวต้มอุ่น ๆ มาจ่อใกล้ปาก ผมรับเข้าไปและกลืนกินอย่างยากเย็น





เจ็บคอ ปวดหัว ปวดตัว แล้วก็มีบางสิ่งปิดปากผมไว้ มันมาพร้อมกับน้ำรสขม ๆ





รู้สึกเย็น ๆ ไปทั้วทั้งตัว มันต่ำลงไปที่แขนขาด้วย เย็นสบายมาก ๆ





ผมลืมตาตื่นอีกที ปวดหัวเหมือนแฮ้งค์หนัก ผมปรือตามอง พอขยับก็ได้ยินเสียงแกร๊งดังขึ้น ผมก้มมอง เบิกตานิด ๆ เพราะตอนนี้ขาผมข้างหนึ่งถูกคล้องด้วยโซ่มัดไว้ที่ปลายเตียง ผมขยับลุก ปวดแปลบจนต้องเบ้หน้า จำได้ชัดเจนว่าถูกพี่ชายทำอะไรไว้บ้าง

ผมพยายามจะแกะโซ่ออก แต่เรี่ยวแรงเหลือน้อยเต็มทน มีข้าวต้มกับยาวางไว้ข้างเตียง ผมรีบกินเพราะความหิวโหย เนื้อตัวเปลือยเปล่าล่อนจ้อน แต่สะอาดสะอ้านดี ผมกวาดมองไปรอบ ๆ

“พี่ชาย”
ผมลองเรียกหาดู แต่เงียบ สงสัยจะออกไปทำงานแล้ว ผมพยายามจะกระชากโซ่ออก กระชากแรงจนข้อเท้าถลอก เลือดไหลซิบ ๆ   

เกิดพี่แกติดหญิงเพลินจนลืมผมขึ้นมาอีกรอบ ผมคงได้ตายที่นี่แน่ ๆ ผมพยายามแกะโซ่ล่ามออกทุกวิถีทางแม้กระทั่งถีบปลายเตียงหวังให้มันพัง แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่เป็นอิสระ ผมหมดแรง ทิ้งตัวลงนอน ผล็อยหลับไปอีกรอบ

ผมสะดุ้งลืมตาตื่นเพราะความเจ็บตรงข้อเท้าที่ถูกล่ามโซ่ไว้ ผมมองต่ำลงไปเบื้องล่าง เห็นพี่ชายนั่งอยู่ปลายเตียง จับขาผมข้างนั้นไว้ ผมรีบขยับหนี แต่มันไปได้ไม่ไกลเพราะมันตึงแล้ว แถมแรงกระชากเมื่อกี้ยังทำให้ผมต้องเจ็บตัวอีกต่างหาก ผมเบ้หน้าเพราะความเจ็บนั้น

“เป็นแผลหมดแล้ว”

“อย่ามายุ่งกับผม ปล่อยผมไป!”
ผมบอกเสียงกร้าว แววตาไร้ความนับถือโดยสิ้นเชิง พี่ชายมองตาผม วูบแรกแววตานั้นดูสลด ก่อนคมกล้าขึ้นมาอีกรอบ

“อยากหนีก็กระชากให้ขาขาดไปเลย”
เขาว่าแค่นั้น ลุกคว้าถ้วยข้าวต้มเปล่า ๆ เดินออกไป

“พี่ชาย ปล่อย!”
เขาไม่หันมามอง ผมทิ้งตัวลงอย่างหมดอาลัยตายอยาก 
 
ทำไมผมต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย เพราะความห่วงแท้ ๆ เชียว ไม่คิดว่าจะทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนแบบนี้

 

 

 

 

 

“พี่ชาย ผมอยากเข้าห้องน้ำ”
ผมบอกเมื่อต้องการปลดทุกข์ พี่ชายไม่พูดอะไร เดินมาปลดกุญแจ พยุงผมเข้าห้องน้ำ

“จะหนัก”
ผมบอก เขาไม่ตอบอะไร เดินออกไปให้ผมได้อยู่เพียงลำพัง

มันเป็นความทรมานที่ยากจะอธิบาย ผมน้ำตาเล็ด กัดกรามแน่น

ผมล้างทำความสะอาด ล้างเข้าไปถึงภายใน ผมน้ำตาไหลพราก กดชักโครก กดน้ำใส่ค้างไว้อย่างนั้นเพื่อล้างมันให้หมดจด

“กวินทร์”
พี่ชายเปิดประตูเข้ามา ผมหยุดล้างจ้องมองคนเข้ามาใหม่ น้ำตาอาบหน้า มองอย่างอดทน กัดกรามแน่น พี่ชายมีสีหน้าเป็นห่วง ผมหลุบตาต่ำ วางที่ทำความสะอาดลง ลุกขึ้น กดน้ำอีกรอบ ความเจ็บที่โหม ทำเอาผมแทบก้าวไม่ออก พี่ชายรีบเข้ามาประคอง

“อย่ามายุ่ง!”
ผมมองกลับด้วยดวงตาแข็งกร้าว แววตาห่วงใยเมื่อกี้เปลี่ยนแววอีกรอบ เขาเปลี่ยนจากประคองเป็นกระชากลากผมออกจากห้องน้ำไปโยนโครมไว้บนเตียง มันเจ็บจนกระดิกกระเดี้ยแทบไม่ได้ ผมนอนนิ่ง ฟุบหน้ากับที่นอนอย่างนั้น

“ไม่ชอบให้พูดดีด้วยใช่ไหม!”
พี่แกจับผมพลิกหงาย ตบหน้าลงมาฉาดใหญ่ หน้าผมหันไปตามแรงมือ มันไม่เจ็บ แต่ชาวูบ หน้ามืดไปชั่วขณะ แก้มแนบที่นอน

ผมพยายามปรือตามอง ร่างกายที่เจ็บมาก่อนหน้าแทบทำเอาผมประคองสติไว้ไม่ได้แล้ว แรงตบเมื่อกี้เหมือนจะบังคับให้ผมหมดสติไปจริง ๆ แต่ผมก็พยายามประคับประคองมันไว้ ความชาหายไปกลายเป็นความเจ็บปวด ได้รสเค็ม ๆ ของเลือดในปากด้วย   

“อย่าคิดดื้อกับฉันอีกกวินทร์”
พี่ชายสอดมือเข้ามาใต้ท้ายทอยขยุ้มรวบกุมเส้นผมงัดเอาหัวผมลอยขึ้น เลือดในปากไหลล้นออกมาเป็นทาง พี่ชายทำหน้าอึ้ง ๆ ผมพยายามปรือเปิดเปลือกตาเรียกสติตัวเองไว้ กลืนเลือดคาว ๆ ลงคอ

แต่ไม่ไหวแล้วครับ

ผมหายใจแผ่วลง ปิดเปลือกตาลงช้า ๆ   

“กวินทร์!!”
ได้ยินเสียงเรียกเพียงเท่านั้น แล้วผมก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
 

 

 

 

 

ผมขยับเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นมอง ไม่รู้ว่ามันโมงกี่ยามแล้ว แต่แสงสว่างยังมีอยู่ ถ้ายังไม่มืด ก็แปลว่ารุ่งขึ้นของอีกวันแล้ว

ผมไม่สนใจ ปิดเปลือกตาลงอีกรอบ ก่อนค่อย ๆ ปรือเปิดขึ้นอีก สมองหนักราวกับมีรถบรรทุกมาจอดเรียงกันไว้สักสิบคัน ร่างกายเย็นเฉียบเพราะแอร์ที่ตกกระทบผิว ยกเว้นตรงเอวและตลอดทั้งแผ่นหลัง ผมก้มมอง สิ่งที่ให้ความอบอุ่นผมตอนนี้คือวงแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของมนุษย์ ซึ่งไม่ต้องเดาให้ยากว่าเป็นของใคร ผมขยับ แต่สัมผัสเย็น ๆ ตรงข้อเท้าทำให้รู้ว่าผมยังไม่เป็นอิสระ

ผมมองไปรอบ ๆ เผื่อจะเจอกุญแจ มันวางอยู่ตรงนั้น บนโต๊ะข้างหัวเตียง ผมพยายามรวบรวมกำลังค่อย ๆ ขยับลุก เอื้อมมือสูงขึ้นเรื่อย ๆ หวังไขว่คว้าหาอิสระให้ตัวเอง แต่แรงรัดตรงเอวทำให้ผมสะดุ้ง หันไปมอง พี่ชายมองมาด้วยสายตาน่ากลัว
 
“อย่าคิดหาอิสระให้ตัวเอง ถ้าฉันไม่อนุญาต”

“ปล่อย ผมต้องกลับบ้าน แม่เป็นห่วงแล้ว”

“อารู้แล้วว่านายอยู่นี่ เขาไม่ห่วงหรอก”

หึ ถ้ารู้ว่าผมอยู่ในสภาพไหน รับรองแม่ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ

“ปล่อย ผมขอโทษที่ทำให้พี่โมโห ปล่อยผมไปเถอะ”
ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ

“คิดว่าง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
พี่แกยกตัวขึ้นมาคร่อม ผมขมวดคิ้วมอง

“ก็ขอโทษแล้วไง พี่ทำร้ายผมก่อน ผมโมโห ตอนนี้ผมเป็นฝ่ายขอโทษก่อนแล้ว พี่ก็ปล่อยผมไป เลิกแล้วต่อกัน ผมจะกลับไปตามทางของผม พี่ก็อยู่ของพี่ไป เราไม่มีอะไรเกี่ยวของกันอีก”

แววตานิ่งเรียบเมื่อกี้แววโรจน์ขึ้นมาอีกรอบ กรามคมบดแน่น

“ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
พี่แกทวนคำช้า ๆ จับขาผมแยกออกจากกัน แทรกนิ้วเข้ามาแรง ผมร้องลั่น พยายามขยับหนี แต่ไปไหนไม่ได้เพราะขาหนึ่งถูกยึดไว้

“ดูซิ ทำขนาดนี้ยังจะว่าไม่เกี่ยวข้องกันอีกไหม”
เขายังไม่หยุดกระแทกนิ้วเข้ามาภายใน ในขณะที่อีกมือล้วงลงไปจับลำท่อนที่กำลังหลับใหลของตัวเองขยับกระตุ้นให้มันตื่น   

“อ๊า..พี่ชาย ปล่อย เจ็บ เจ็บ!!”
ผมพยายามหยุดมืออีกคนไว้ แต่เรี่ยวแรงแค่นี้ไม่มีผลอะไรต่อคนตัวสูงเลย เขาไม่ได้ต้องการเบิกทาง แต่กำลังทำโทษให้ผมเจ็บ ผมน้ำตาร่วงอาบแก้ม แรงดิ้นนั้นทำเอาโซ่ครูดข้อเท้าผมจนเจ็บไม่แพ้ด้านหลัง

“เจ็บ!”
ผมทำได้แค่ร้องท้วง

“หึ ๆ”
และนี่คือน้ำคำตอบรับ พี่ชายลากผมต่ำลงไปที่ปลายเตียงเพื่อไม่ให้ขาผมตึงมากจนเกินไป ยกสองขาผมพาดแขน สอดใส่เข้ามาอย่างไม่ปรานี ผมทำได้แค่ครางห้าม น้ำตาอาบแก้ม

“พี่ชาย หยุดเถอะ ผมเจ็บ…”
พี่แกไม่ฟัง พอเข้ามาได้เต็มตัวก็ขยับเคลื่อนไหวรุนแรง ผมได้แต่แหกปากร้องด้วยความเจ็บปวดเท่านั้น

ผมไม่รู้สึกอะไรเลย นอกจากความเจ็บ เสียงร้องทรมานของผมไม่สามารถหยุดคนตรงหน้าได้เลย มีวิธีเดียวเท่านั้นที่ผมจะสามารถหลีกหนีจากความเจ็บปวดนี้ได้ คือเจ็บให้มากที่สุด เจ็บมากจนทนไม่ไหว แล้วหลังจากนั้น ผมจะหมดสติไปเอง   




‘ตายรึยัง’
นี่คือคำถามแรกที่ผมถามตัวเองหลังได้สติ

‘น่าจะยัง..’
และนี่คือคำตอบที่ผมใช้ตอบตัวเอง

ผมค่อย ๆ ลืมตามอง ปวดร้าวไปหมดทั้งร่าง ขนาดกลืนน้ำลายยังเจ็บ ตอนนี้ผมจึงทำได้แค่นอนนิ่ง ๆ ลืมตาโพลงเท่านั้น

ไม่ตายก็เหมือนตาย เพราะร่างกายขยับไม่ได้แล้ว ได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา ผมไม่คิดจะเหลือบไปมอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร เสียงนั้นใกล้เข้ามาทางหัวเตียง มาพร้อมกลิ่นหอม ๆ ของข้าวต้ม ผมไม่สนใจอะไร นอนลืมตาเหม่อ ๆ มองเพดานขาวด้านบนเท่านั้น

“ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นมากินข้าว”
เขาสั่งเสียงเข้ม ผมไม่ตอบ ไม่เหลียวไปมอง ไม่ขยับร่างกายแม้แต่องค์คุลีเดียว สิ่งเดียวที่ขยับตอนนี้ คงมีแค่ลมหายใจผมเท่านั้น ถึงมันจะแผ่วมากแล้วก็เถอะ

ผมรู้ว่าร่างกายผมต้องการอาหาร เพราะมันส่งเสียงร้องจนได้ยินชัดเจน แต่ผมไม่อยากขยับจริง ๆ เพราะทันทีที่ผมกระดิกตัว มันเหมือนมีคนเอาไม้กระบองมารุมทุบผมพร้อมกันนับสิบ ๆ อัน   

เจ็บครับ เจ็บจริง ๆ   

“บอกให้ลุกมากินข้าว!!”
พี่ชายเรียกเสียงดังมากขึ้น แต่ผมยังไม่ทำตาม

“กวินทร์!!”
พี่แกตะโกนเรียก ผมไม่สะดุ้งสะเทือน จริง ๆ คือไม่เหลือแรงให้สะดุ้งด้วย ผมค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง   

“กวินทร์!!”
พี่ชายเรียกอีกรอบ เสียงนั้นมาพร้อมกับแรงกระชากที่ข้อมือผม ดึงขึ้นแรงหวังให้ลุกนั่ง เหมือนร่างกายถูกจับช็อตด้วยกระแสไฟฟ้าแรงสูง ผมเบ้หน้าเพราะความเจ็บปวด อยากร้องหรือครางให้อีกคนรับรู้ว่าผมเจ็บปวดแค่ไหน แต่มันไม่มีแรงเหลือแล้ว ไม่มีเสียงจะร้องแล้วด้วย ร่างผมไหลพรืดราวกับมนุษย์ไร้กระดูกหน้าฟุบแนบที่นอน

“กวินทร์!”
พี่ชายเรียกเสียงตื่น ประคองร่างผมไว้ ผมไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพยุงตัวขึ้น ไม่มีแรงแม้แต่จะประคองศีรษะให้ตั้งตรง พี่ชายทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ประคองผมแนบอก

เจ็บครับ เจ็บจนไม่มีแรง   

“กินข้าวก่อน”
พี่แกบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้น หันไปตักข้าวต้มมาจ่อใกล้ปาก อยากประท้วงหรือต่อต้านโดยไม่กินเหมือนกัน แต่ผมยังอยากมีชีวิตอยู่ อยากกลับไปดูแลพ่อกับแม่ ผมจะมาตายตรงนี้ไม่ได้

ผมขยับอ้าปากรับอย่างยากเย็น ไม่มีแรงเคี้ยวหรอก พอเข้าปากได้ ผมก็กลืนเลย อาหารมันไม่มีรสชาติ หรือต่อมรับรสผมหยุดทำงานก็ไม่รู้ ไม่อร่อยเลย แต่ไม่เป็นไร กินแค่ต่อลมหายใจ

หลังจากป้อนข้าวจนหมดถ้วย พี่ชายก็ป้อนยา ดีว่ามันเป็นยาน้ำ ขมหน่อย แต่กลืนง่าย เขาค่อย ๆ ประคองผมนอนพัก แล้วผมก็หลับไปง่าย ๆ หลังจากนั้น

 หลังจากนั้น ผมก็ไม่เอ่ยปากร้องหาอิสระใด ๆ อีก ไม่ต่อต้าน ไม่ร้องขอ เมื่อถึงเวลากินก็กิน พอกินอิ่มก็นอน เพราะผมรู้ว่ายิ่งพูดมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้พี่ชายโมโหแล้วมาลงกับร่างกายผมอีก และทุกครั้งที่พี่ชายทำโทษ พี่ชายจะรุนแรงมากขึ้นด้วย 

ผมว่าถ้ามีครั้งหน้าอีก ผมคงต้องตายแน่ ๆ ตอนนี้ผมต้องนอนพักเยอะ ๆ จะได้หายเร็ว ๆ แล้วออกไปจากที่นี่สักที

ผมปรือตามอง ได้ยินเสียงหนังดังด้านนอก พี่ชายคงกำลังดูหนังอยู่ ผมอยากเข้าห้องน้ำ แต่ไม่อยากพูดกับเขา มองเห็นกุญแจวางไว้บนหัวเตียง ผมยิ้ม รีบยื่นมือออกไปหยิบ แต่มันไม่ถึง ผมอดทน คว้าหมอนมาเกลี่ยจนมันร่วงลงพื้น ดีว่าพี่ชายดูหนังเลยไม่ได้ยินเสียง ผมเกลี่ยกระทั่งได้มันมาอยู่ในมือ ผมรีบหยิบมาเสียบใส่รูที่ขา มือสั่นจนเห็นได้ชัด

ผมก้าวลงจากเตียง เดินเจ็บ ๆ ไปเปิดตู้ คว้าเสื้อกับกางเกงคนตัวสูงมาใส่ เดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัวด้วยความเจ็บปวด ผมกดน้ำ ลุกขึ้นยืน เกาะขอบอ่าง เปิดประตูออกกว้าง

ผมผงะถอยหลัง เมื่อคนที่นั่งดูหนังอยู่เมื่อกี้มายืนทำหน้าถมึงทึงอยู่หน้าประตูแล้ว

“พี่ชาย…”
ผมครางเรียก ใจร่วงไปอยู่ตาตุ่ม เผลอตัวก้าวถอยไปด้านหลัง พี่ชายคว้าต้นแขนผมไว้หมับ กระชากเข้าหาตัว ผมเบ้หน้าเพราะความเจ็บจากท่อนล่าง

“เก่งดีนี่ ยังมีแรงเดินได้ขนาดนี้ก็น่าจะรับได้อีกสักยก”

ผมตาโต ส่ายหัวร่อน

“อย่านะ ขืนทำอีก ผมตายแน่ ๆ”
ผมร้องขอ พี่ชายยกยิ้ม

“ไม่ต้องห่วงครั้งนี้ฉันมีตัวช่วยไม่ให้นายเจ็บ”
เขาดึงผมออกไปนอกห้องน้ำ ตรึงไว้กับกำแพง กระชากดึงกางเกงผมลง

“พี่ชายข้อร้องล่ะ อย่าทำอีกเลย”
ผมพยายามขอร้อง สองมือผลักคนตรงหน้าออกเป็นพัลวัน พี่ชายไม่พูดอะไร ล้วงหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง เปิดฝาบีบใส่มือ ปิดฝาแน่น แล้วป้ายสิ่งเข้ามาภายใน ผมสะดุ้งเฮือก เพราะความเจ็บเหมือนโดนทายา

“อย่า!”
ผมยังร้องห้ามไม่หยุด นิ้วร้อนยังคงเคลื่อนไหวเนิบ ๆ อยู่ภายใน แต่แล้วอยู่ ๆ ความเจ็บปวดรวดร้าวที่มีเมื่อกี้ก็ค่อย ๆ จางลง มันไม่ได้หายเจ็บแค่ข้างล่าง แต่มันหมายรวมไปถึงทุกส่วนในร่างกาย เรี่ยวแรงที่แทบไม่เหลือพอเดินก็กลับคืนมาด้วย ดูมีพลังมากขึ้น ร่างกายที่เย็น ๆ ก็เริ่มร้อนมากขึ้น มันร้อนจนบางส่วนของผมด้านหน้าตื่นตัว

พี่ชายถอนนิ้วออกมามองหน้าผมเฉย ๆ

“ยาดีใช้ได้นี่ คิดว่าจะโดนหลอกซะอีก”
พี่แกโยนยาหลอดนั้นไว้บนโต๊ะ ถอดกางเกงตัวเองออก ขยับเพื่อกระตุ้นของตัวเองจนตื่นพร้อม
 
ผมส่ายหัวจนผมสะบัดหวังให้อีกคนหยุด เขาไม่สนใจทั้งเสียงร้องหรือท่าทางของผม ยกขาผมขึ้นข้างหนึ่งแล้วจับความแข็งขืนนั้นสอดใส่เข้ามา ผมจิกต้นแขนแกร่งแน่น เบ้หน้าเตรียมรับความเจ็บปวด

แต่แปลกที่คราวนี้มันไม่เจ็บ มันเสียว มันรู้สึกดี ดีมากจนผมต้องเปลี่ยนจากจิกมือหนแรกเป็นกอดคนตรงหน้าแน่น แหงนหน้าครางรับเบา ๆ   

“พี่ชาย พี่ชาย”
ผมครางเรียกเหมือนคนเสียสติ มันรู้สึกดีจริง ๆ พี่ชายขยับเคลื่อนไหวเป็นจังหวะ บดเบียด นวดคลึงเข้าที่จุดไวสัมผัส ผมครางลั่นด้วยความรู้สึกดี หัวใจราวกับมีฝูงผีเสื้อมากมายโบยบิน

“อย่าขัดขืนฉันกวินทร์ รับเอาฉันเข้าไป”
คนตรงหน้ากระซิบ ผมรัดลำท่อนนั้นแน่นตามคำสั่ง

“อ๊า ดีอย่างนั้นแหละ อืม...”
เขาครางเสียงทุ้ม ขยับเคลื่อนไหวเข้ามาลึกขึ้น ผมกัดไหล่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นแรงระบายความอึดอัดที่มีมากมายตอนนี้ลง ขยับยกขาขึ้นสูงเอง

ตอนนี้มันไม่เจ็บแล้ว มันมีแต่ความรู้สึกดี ๆ เท่านั้น ไม่เจ็บส่วนไหนในร่างกายเลย

รู้สึกดี

รู้สึกดีมาก ๆ

“เร็ว”
ผมเร่งอย่างร้อนรน สองมือบีบเค้นดึงพี่ชายเข้าหาตัวอย่างโหยหา

“เร็ว”
ผมเร่งเร้าขึ้นอีก เหมือนพี่ชายจะเอาใจเร่งความเร็วมากขึ้นพอ ๆ กับควานเข้ามาให้ลึกขึ้น เลือกกดคลึงตรงจุดที่ทำให้ผมเหมือนหลุดออกจากแกนโลก เสียงมีเท่าไหร่ ผมครางออกมาหมด

พี่ชายจับผมพลิกหันหน้าเข้าหากำแพง บดคลึงเบียดชิด เนื้อแน่น ๆ ของผมดูดกินของเขาราวกับมันเป็นอาหารอันเลิศรส พี่ชายก้มลงมาขบเม้มใบหูให้เสียวสะท้าน มือหนึ่งจับน้องผมไว้ อีกมือเกลี่ยเล่นอยู่บนยอดอก ผมกำลังถูกปรนเปรอไปทุกส่วนของร่างกาย

ก่อนหน้านี้ผมจะตายเพราะความเจ็บปวด แต่ตอนนี้ผมกำลังจะตายเพราะความสุขที่ล้นขึ้นมาถึงอก พี่ชายจับผมพลิกหันไปเผชิญหน้าอีกครั้ง ผมมองคนตรงหน้าตาปรอย

ก่อนพี่ชายจะก้มลงมา เอาปากแนบปาก

จูบแรกระหว่างเราสองคน   

ผมกำลังร้อน ผมกำลังต้องการ ผมกำลังอดอยากและโหยหา ผมจูบตอบคนตัวสูงกว่าอย่างเร่าร้อน พี่ชายร้อนมาเท่าไหร่ ผมตอบกลับหนักหน่วงพอกัน จนผมแทบจะสำลักความสุขและเสียวซ่านตายเอาให้ได้ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมานอกอก

“แรง ๆ”
ผมร้องขอ แหงนหน้าขึ้น กดหน้าพี่ชายลงมาที่ลำคอ บังคับให้ไซ้ปากกับซอกคอตัวเอง ซึ่งดูเหมือนพี่ชายจะรู้ความต้องการของผมดี ทั้งงับทั้งไซ้ ในขณะที่ท่อนล่างก็ยังทำหน้าที่ไม่หยุด

“ลึก พี่ชาย ลึก ๆ แรง ๆ พี่ชาย”
ผมร้องขอเหมือนคนจะขาดใจตาย เขาเร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้น ได้ยินเสียงทุ้มครางไปเร่งจังหวะไป ตราบจนวินาทีสุดท้ายมาถึง ผมรัดของพี่ชายแน่น พี่แกคำรามเสียงดัง แต่เสียงที่ดังกว่าคือเสียงร้องของผมเมื่อสวรรค์ที่ผมพยายามไขว่คว้ามาสู่มือได้สำเร็จ

“แน่น”
พี่ชายกัดกรามบอก เพราะผมรัดส่วนนั้นแน่นจนรู้สึกได้ ผมรูดรั้งเอาน้ำทุกหยดออกมาจากตัวเขา ตัวเราเบียดกันแน่นจนแทบหาช่องว่างไม่เจอ

หัวใจต่อหัวใจ มันเต้นเคียงไปด้วยกันราวกับมีใครมาตีกลองรัวไว้กลางอกเรา พอ ๆ กับจับหวะการตอดรัดถี่ยิบด้านล่างของผม

“สวรรค์”
ได้ยินเสียงกระซิบจากคนตัวสูง ก่อนเจ้าตัวจะเลื่อนหน้ามามองตาผม บดจูบลงมาอีกรอบ และผมก็ไม่คิดจะปฏิเสธ เริ่มต้นเพลิงสวาทอีกครั้ง


To be Con...

เอาสำลีอุดจมูกไว้ทั้งสองรู พี่ชายโหดร้ายมาก แต่ฟินมาก

ปล. เตือนแล้วนะว่าคู่นี้โหดดดดดด

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อีพี่หื่นมากอะแข็งได้ตลอดเวลาที่จะรังแกน้อง โอ้ยเจ็บแทนน้องเขานะคะ

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ norimaki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
คุณพี่ค่ะโหดได้ฟินมากค่ะ วิธีรั้งน้องนี้ดุเดือดมากค่ะ
ทำให้ลุกไม่ขึ้น หึหึ โธ่แล้วจะได้รู้ใจตัวเองกันตอนไหนเนี้ยใช้ร่างกายคุยกันตลอด
เป็นกำลังใจให้พี่ชายสายโหดนะ :-[

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
พี่เล่น หื่น โหด ขนาดนี้น้องไม่ไหวแน่ๆๆ
รอน้องหลุดไปได้ อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด