มนุษย์แฟนเด็ก
38
มีความลูกหมูเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดจะครองโลก
“พี่พินทร์เห็นทิวาไหมครับ?”
“น่าจะอยู่ที่หาดนะคะ กรี๊ด!!! พี่รถถังอย่าแกล้ง!!!” ลูกหมูดูสถานการณ์แล้วรีบถอยออกมา เพราะไม่อย่างนั้นคนที่อยู่ตรงนั้นอาจเป็นเราเอง ...เอาตัวรอดเป็นยอดดี
“ทำอะไรครับ?”
ทิวากาลส่ายหน้าเป็นคำตอบ กางแขนออกให้เจ้าเด็กแก้มกลมเดินมาหาแล้วโอบไหล่เล็กเอาไว้ จันทร์เจ้าเงยหน้ามอง พอได้สบตาก็เกิดอาการเขินเฉียบพลันไม่กล้ามองหน้าจนต้องหลบสายตาด้วยการซุกอกกว้าง
“อะไรวะ?”
“ไม่ต้องพูดเลย”
“คุยอะไรกับคุณเพลิงฟ้าบ้าง?”
“พี่ฟ้าบอกเราอย่ากินเยอะ”
“เออ เชื่อฟังหน่อย อย่ากินเยอะ”
“อะไรงะ เราเป็นเด็กนะ กำลังโตด้วย ต้องการอาหารมาช่วยพัฒนาร่างกาย ถ้าขาดอาหารไปเราแย่เลยนะ”
“คิดว่าจะโตกว่านี้อีกเหรอ?” เจ้าเด็กแก้มกลมหน้าบึ้งทันที ถอยออกมายืนข้างหน้าทิวากาล กอดอกมุ่นคิ้ว มองคนตัวสูงตั้งแต่หัวจรดเท้า เราสูงแล้วเถอะ!! สูงขึ้นจากตอนมัธยมปลายตั้งสี่เซนติเมตรเชียวนะ!!
“พี่สูงเท่าไหร่?”
“ร้อยแปดสิบหกจุดเจ็ด”
ลูกหมูหน้านิ่วคิ้วขมวด ยกมือขึ้นมานับเลข บวกลบส่วนสูงของตัวเองกับทิวากาลก็ยิ่งหน้าหงุดหงิดไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ห่างกันตั้งสิบเก้าจุดเจ็ดเซนติเมตรเลย!!!! ตอนเด็ก ๆ คุณป้าปั่นเสาไฟฟ้าให้ดื่มแทนน้ำเหรอ ทำไมถึงได้สูงแบบนี้ ฮือ!
“พี่สูงเหมือนคุณเปรตเลย เท่จัง”
“เดี๋ยว ๆ”
“อะไรเหยอ?”
“กวนตีนนะมึง” ลูกหมูทำปากยื่น ด้วยความหมั่นไส้ทิวากาลจึงบีบปากแดง ๆ นั่นที แล้วหมูก็แปลงร่างเป็นหมาด้วยการงับนิ้วของเขา “เดินเล่นไหม?”
“ไม่เอา เราจะกลับไปหาพี่ฟ้า”
“อะไรก็พี่ฟ้า”
“ก็นาน ๆ จะได้เจอพี้ฟ้าทีนี่นา เราคิดถึง”
“แม่ง...! จะไปไหนก็ไปเลย” ทิวากาลพูด ก่อนจะเดินเลียบชายหาดไปคนเดียวด้วยความหัวเสีย
ลูกหมูหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง เมื่อตั้งสติได้ก็หัวเราะเบา ๆ กับคนตัวโตแต่ขี้งอน โธ่ แกล้งนิดแกล้งหน่อยงอนไปได้ วิ่งตามไปเกาะแขนทิวากาล ร่างสูงหยุดเดิน ชำเลืองมองเด็กที่ยิ้มแป้นแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น ทุกวันนี้ความสำคัญของเขามันอยู่ลำดับไหนวะ พุดดิ้งรสนมโง่ ๆ ยังมีความสำคัญมากกว่าอีกมั้ง พูดแล้วขึ้นเลย กูงอนแม่งไอ้สัด
“เราล้อเล่นอ่า อย่างอนสิ~”
“..........”
“พี่งอนเราจริง ๆ เหรอ?”
“ทำไมถึงชอบพูดเหมือนไม่อยากอยู่กับพี่?”
“เราพูดตอนไหน? เราไม่เคยคิดแบบนั้นนะครับ”
ทิวากาลยิ้ม “กลับบ้านเถอะ หรือจะเดินเล่น?”
“ไม่กลับ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิครับ เราพูดแบบนั้นตอนไหน เราบอกว่าไม่อยากอยู่กับพี่เมื่อไหร่?”
“ไม่ได้พูดหรอก พี่เพ้อเอง ไป เข้าบ้าน!” กอดคอเด็กหน้ามุ่ย จันทร์เจ้ายังคงไม่หายข้องใจ แต่ทิวากาลก็เพิกเฉยไม่ยอมอธิบายอะไร นิสัยไม่ดี มาทำเราไม่สบายใจแล้วก็ทิ้งไปเฉย ๆ แบบนี้เหรอ ไม่น่ารักเลย
“ไปไหนมาเจเจ”
“ข้างนอกเองครับ พี่ฟ้า ทิวาเป็นอะไรไม่รู้ บอกว่าหนูไม่อยากอยู่ด้วย พอหนูถามก็ไม่พูดอะไรต่อ”
“แล้วหนูอยากอยู่กับพี่เขาหรือเปล่า?” ลูกหมูพยักหน้าทันทีโดยไม่ต้องคิด “แล้วนี่ทิวากาลอยู่ไหน?”
“อยู่ที่สระว่ายน้ำครับ”
“กาลน่ะ ดูเหมือนไม่คิดอะไร แต่กับคนที่เขาแคร์ เขาจะคิดมากนะจ๊ะ”
“หนูแย่มากเลย ทิวาพูดแบบนี้ตั้งหลายครั้ง” เพลิงฟ้าลูบศีรษะกลมของเด็ก เจเจหน้าหงอยเสียงเศร้าจนรู้สึกสงสารหน่อย ๆ ไม่สงสารมากเพราะคู่กรณีคือทิวากาลนั่นแหละ...
“นิสัยไม่ดีนะเราอ่ะ” เพลิงฟ้าแกล้งแหย่ ทว่าจันทร์เจ้ากลับคิดจริง ตากลมถูกฉาบด้วยม่านน้ำตาบาง ๆ เพลิงฟ้าเบิกตาเล็กน้อยก่อนรีบดึงลูกหมูเข้าไปกอด “พี่ฟ้าล้อเล่น!”
“อ้าว ร้องซะแล้ว” คุณรัตติกาลเอ่ยแซว ลูกหมูเบะปากเป็นเด็ก ๆ น้ำตาล่วงจากขอบตาผ่านแก้มกลม
“หนูไม่ดีเลย...”
“ไม่ดีบ้าอะไร เจเจของพี่ฟ้าดีที่หนึ่ง”
“แต่หนูทำทิวาเสียใจ คุณลุงคุณป้าต้องดุหนูแน่เลย”
“ไร้สาระ”
“แง คุณลุง~ หนูต้องง้อลูกชายคุณลุงไหมครับ?”
“ถ้าลูกชายฉันสำคัญเธอจะไม่ถาม” “ฮือ สำคัญสิ เดี๋ยวหนูมานะครับ” พูดจบก็รีบวิ่งออกจากบ้านเพื่อไปหาคนนิสัยไม่ดีที่สระว่ายน้ำ
เพลิงฟ้าถอนหายใจ มีความไม่พอใจกับความพอใจปน ๆ กันอยู่ การที่จันทร์เจ้ารู้จักให้ความสำคัญกับใครสักคนมันก็ดี แต่เขาหงุดหงิดเพราะโรคหวงเจเจมันกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว แก้ไม่หาย รักษาก็ไม่ได้ มันคงกลายเป็นสันดานไปแล้วล่ะมั้ง เออ เอาเถอะ ยังไงก็แล้วแต่ ต่อไปนี้เขาจะพยายามทำใจดี ๆ ไว้แล้วกัน เจเจคงได้ลืมเขาแหง
เฮ้อ เซ็งโว้ย! แฟนก็ไม่สนใจ (..............)
“ผมเองก็ขอตัวก่อน ใกล้ถึงเวลานัดกับลูกค้าแล้ว” เพลิงฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากจันทร์เจ้าออกไปได้สักพัก
“จะกลับแล้วหรือคะ? ไม่อยู่ทานมื้อเที่ยงด้วยกันก่อน”
“ขอโทษด้วยนะครับ ไม่มีเวลาจริง ๆ ไว้โอกาสหน้าจะไม่พลาดครับ”
“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
“ฝากดูแลเจเจด้วยนะครับ”
“จะดูแลอย่างดีค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
จึก ๆ
จันทร์เจ้าจิ้มนิ้วกับต้นแขนแกร่งของทิวากาล ร่างสูงหันมอง เลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนยกแขนโอบไหล่แคบแล้วดึงเข้ามากอด ลูกหมูกอดตอบด้วยการโอบเอวหนาเอาไว้แล้วซบหน้ากับอกกว้าง
“เป็นอะไร?”
“เราขอโทษ”
“เรื่องไรวะ?”
“เราขอโทษนะ”
“ใจเย็น ขอโทษเรื่องอะไร?” ทิวากาลตบไหล่เล็กเบา ๆ ขณะถาม
“ไอ้เหี้ย!!! ไอ้หวานกันไกล ๆ ดิ๊!!” รถถังตะโกนว่าจากอีกฝั่งของสระว่ายน้ำ โดยไม่ทันได้สังเกตบรรยากาศแปลก ๆ ระหว่างทิวากาลและจันทร์เจ้า
ร่างสูงปล่อยมือจากไหล่เล็กก่อนจะจูงเด็กแก้มกลมออกไปนั่งที่เก้าอี้ริมหาด เขามองเด็กพูดมากที่ตอนนี้เอาแต่ปิดปากเงียบ แก้มกลม ๆ นิ่ม ๆ เหมือนมาร์ชเมลโลว์ยิ่งพองเข้าไปใหญ่เมื่อหน้าบึ้ง
“บอกหน่อยว่าเป็นอะไร?”
“เราขอโทษ ที่ไม่ค่อยแสดงออกว่าพี่สำคัญ”
“........”
“เราไม่เคยไม่อยากอยู่กับพี่นะครับ”
“ใครมันพูดแบบนั้นวะ งี่เง่าเนอะ”
“ฮื่อ”
“คิดอะไรมาก”
“เราทำให้พี่รู้สึกไม่ดี...”
“อ๋อ...”
“พี่รู้สึกแบบนั้นบ่อยไหม?”
“ไม่เท่าไหร่ แค่ตอนที่เราสนใจอย่างอื่นมากกว่า เช่น ของกิน พี่ฟ้า”
“ต่อไปนี้เราจะสนใจพี่เยอะ ๆ เลยน้าาาาา”
“หึ ไอ้เด็กเวร”
“ดีกัน”
“ไม่เคยทะเลาะจะดีทำไม”
“เพื่อความสบายใจไง นะนะ เกี่ยวก้อยกัน~” ทิวากาลส่ายหน้าเบา ๆ ขณะมองนิ้วก้อยเล็ก ๆ กระดิกไปมา เด็กแก้มกลมยิ้มกว้างเมื่อเขายื่นมือไปเกี่ยวด้วย ด้วยความมันเขี้ยวเขาจึงดึงเด็กแก้มเข้ามากอด เพราะการทิ้งน้ำหนักแบบไม่ทันตั้งตัวทำให้ทิวากาลเซเล็กน้อย ลูกหมูหัวเราะเสียงใส ออกแรงรัดตัวทิวากาลแน่น ๆ แล้วคลายออก ส่วนคนนิสัยไม่ดีก็เพิ่มแรงกอดให้แน่นขึ้นอีก หากแต่ไม่ได้ทำให้คนถูกกอดอึดอัด ผละออกมามองหน้ากันโดยที่ยังไม่คลายวงแขน เมื่อสบตาก็หัวเราะออกมา ราวกับก่อนหน้านั้นไม่เคยมีเรื่องให้ต้องมึนตึงเกิดขึ้น
“อะแฮ่ม!!”
“พี่ฟ้า!!” ลูกหมูเด้งตัวออกแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะยังโดนกอดอยู่ ตากลมกะพริบปริบ ๆ มองพี่ฟ้าที่ยืนกอดอก คิ้วขมวดอยู่ด้านหลัง เพลิงฟ้าจ้องทิวากาลเขม็ง ให้ปล่อยเจเจของเขา แต่ไอ้เด็กนั่นก็ไม่ทำตาม ซ้ำยังลอยหน้าลอยตา ยักคิ้วกวนประสาทเขาแล้วกอดเจเจแน่นขึ้น
หนอย!!! มันน่าจับไปลอยทะเลนัก!
“พี่ฟ้าจะไปแล้วนะ”
“ตอนนี้เหรอคับ!!?” เพลิงฟ้าพยักหน้า “ไม่ไปไม่ได้หยอ?”
“ไม่ได้ครับ พี่ฟ้าต้องไปทำงาน”
“ฮื่อ งั้นซื้อขนมฝากหนูด้วยนะครับ”
“หนูก็อยู่นี่ยังจะให้พี่ฟ้าซื้อขนมฝากอีก” ลูกหมูยิ้มตาหยี ซบหน้ากับอกกว้างแก้เขิน “มาให้พี่ฟ้ากอดหน่อย พี่ฟ้าจะไปแล้ว”
ไม่ต้องให้พี่ฟ้าต้องรอนาน ลูกหมูก็ปลดแขนทิวากาลออกแล้วกระโดดไปหาพี่ฟ้าทันที เมื่อได้เจเจมาครอบครองแล้วเพลิงฟ้าก็กอดแน่นก่อนหอมแก้มนิ่มไปสองฟอดใหญ่ ๆ โดยมีทิวากาลที่ทั้งเบ้ปากและหน้าบึ้งมองอยู่ มันเป็นแผนแอบแฝงของเพลิงฟ้าที่จะทำให้เขาแยกกับไอ้เด็กแก้มกลมนั่นแหละ!!
“อย่าดื้อมาก อย่าซนมาก ดูแลตัวเองดี ๆ นะ”
“คร้าบบบบบบ~”
กอดพี่ฟ้าแน่น ๆ อีกสักพักก่อนปล่อยให้พี่ฟ้าไปทำงาน ลูกหมูจะไม่งอแงแม้อยากให้พี่ฟ้าอยู่ด้วย แต่หากพี่ฟ้าไม่ทำงานก็จะไม่ได้ตังค์ ในเมื่อไม่ได้ตังค์ก็จะซื้อขนมให้เราไม่ได้ พี่ฟ้าตั้งใจทำงานน้า~ จะได้มีตังค์เยอะ ๆ
คิคิ
“พี่ ๆ เขาไม่เล่นน้ำทะเลเหรอครับ?” ลูกหมูเอ่ยถามหลังจากเดินกลับมาหาทิวากาล ร่างสูงส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไม่ใช่ว่าไม่เล่น แต่เพราะเขาไม่รู้ จันทร์เจ้าถอนหายใจ เงยหน้าสบตาคนตัวสูง “ไปเล่นน้ำกัน พี่บอกว่าวันนี้จะเล่นน้ำกับเรา”
ทิวากาลพยักหน้ารับง่าย ๆ ทำให้เด็กแก้มกลมยิ้มกว้างพอใจ มือเล็ก ๆ ฉุดเขาให้ลุกแล้วกระชากลากถูกไปยังสระว่ายน้ำที่เหล่าผองเพื่อนกับแหวกว่ายหรือนั่งคุยกันที่ริมสระ
“มึงพาน้องชับบี้กูไปสวีทกันที่ไหนมา!!”
“เสือก!” ตอบกลับเพื่อนนิ่ง ๆ ชมพู่ชี้หน้า พูดไม่ออก ก่อนว่ายเข้ามาใกล้แล้วกวักน้ำใส่คนที่ยืมอยู่บนฝั่ง ทิวากาลขยับตัวหลบโดยมีจันทร์เจ้ายืนหัวเราะอยู่
“หมู อะไรติดมือมึงวะ?”
“หือ ไหนอ่ะ?” ลูกหมูพลิกมือตัวเองไปมาเพื่อหาสิ่งที่ติดอยู่ตามที่เบสท์บอก ทว่าดูแล้วมันกลับไม่มีอะไร
“ยื่นมือมาดิ กูดูให้” จันทร์เจ้าย่อตัวลงนั่ง ยื่นมือไปให้เบสท์ด้วยความไม่คิดอะไร...
“!!”
ตู้ม!!!!
ไม่ทันได้ตกใจจันทร์เจ้าก็ล่วงตุบลงในสระ หลังจากเบสท์จับมือพลิกดูไปมาก็ถูกดึงจนหล่นตู้ม ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้สังเกตรอยยิ้มแปลก ๆ ของเบสท์เลย ลูกหมูรีบดีดตัวขึ้นเหนือผิวน้ำ โกยอากาศเข้าปอดและไอโขลก ตวัดตามองเบสท์ด้วยความไม่พอใจ ส่วนคนร้ายก็กุมท้องหัวเราะเอิ้กอ้ากพอใจ พร้อมกับทีมสนับสนุนอย่างฟินน์ และยังมีทุกคนร่วมหัวเราะด้วย ไม่เว้นแม้แต่ทิวากาลที่ยกยิ้มมุมปากเยาะเย้ยเจือสมน้ำหน้า
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
คนที่ไว้ใจ ร้ายที่สุด
“เคยเห็นแต่ลูกหมาตกน้ำ คราวนี้ได้เห็นลูกหมูตกน้ำแล้วว่ะ!” รถถังตะโกนบอกพลางกลั้วหัวเราะจากบนฝั่ง คนถูกว่าว่าเป็นลูกหมูตกน้ำเชิดหน้าทำปากยื่นใส่ ตีน้ำไม่พอใจอยู่คนเดียว คอยดูเถอะ! อย่าให้เอาคืนก็แล้วกัน!!
แต่ไหน ๆ ก็ได้เปียกแล้ว เล่นเลยดีกว่า~
“อยากให้เราเล่นด้วยบอกดี ๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องรุนแรงแบบนี้เลย”
“ไป!!! มึงขึ้นฝั่งไปเลย!!”
“ไม่ขึ้น! เราจะเล่นกับเบสท์เองเพราะเบสท์อยากให้เราเล่นด้วย”
“กูไหว้ อย่ามายุ่งกับกู!” เบสท์ดันหน้าจันทร์เจ้าแรง ๆ ก่อนรีบว่ายน้ำหนี ทว่าเจ้าเด็กแก้มกลมยังไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ รีบตามไปหา เกาะไหล่ของเพื่อนเอาไว้พร้อมใช้ขาเกี่ยวเอวบาง เอาละ! สะบัดยังไงก็ไม่หลุดง่าย ๆ แน่!
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง!!!
“พี่กาลมาเล่นน้ำด้วยกันสิคะ!” รพินทร์ตะโกนเรียกพี่ชาย หญิงสาวขยับขึ้นนั่งบนแพห่วงยาง
จันทร์เจ้าเหลือบมอง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย พี่พินทร์ยังไม่เปียกเลยแฮะ สงสัยอยู่แค่บนแพแน่ ๆ เมื่อคิดกับตัวเองแบบนั้นจึงจำต้องลงจากหลังจากเบสท์ ลูกหมูดำลงไปใต้น้ำก่อนจะว่ายไปใต้แพอีกที...
“กรี๊ด!!!”
ตู้ม!!!
สิ้นเสียงกรีดร้องจันทร์เจ้าก็ดีดตัวขึ้น หัวเราะเอิ้กอ้ากพอใจเมื่อทำให้พี่สาวคนสวยตกน้ำได้ รพินทร์ที่ตกเป็นเหยื่อขบคิดหาทางแก้แค้นแฟนพี่ชาย หญิงสาวยิ้มร้าย ขยับเข้าไปใกล้ลูกหมูทันทีที่ตั้งตัวได้
“มานี่เลยน้องจันทร์เจ้า แกล้งพี่เหรอคะ!?”
“งะ... เรา เราไม่ได้ตั้งใจครับ พี่พินทร์อย่าทำอะไรเราเลยนะ”
“หึหึ ไม่ได้ตั้งใจเหรอ...”
“ชะ ช่าย.... พี่พินทร์!!” จันทร์เจ้าร้องเสียงหลงเมื่อโดนล็อกคอ
“ถ้าพี่กาลไม่ลงมา พินทร์จะกดน้องลงน้ำแล้วนะ”
ทิวากาลเลิกคิ้ว เกี่ยวอะไรกับเขาวะ สบตาก็เด็กแก้มกลม ดวงตากลมโตไม่ได้ฉายแววหวาดกลัวอะไร ออกแนวสนุกเสียมากกว่า แต่ไหน ๆ ก็บอกจะเล่นน้ำกับมันแล้ว ก็เล่นมันเลยแล้วกัน เขาล้วงเอาโทรศัพท์มือถือไปวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนถอดเสื้อยืดที่สวมใส่อยู่ออก เหลือเพียงกางเกงขาสั้น
“หูววววว ซิกแพค!!” ฟินน์ตะโกนไปคนแรกก่อนจะตามด้วยเบสท์ ลูกหมูที่ถูกจับเป็นตัวประกันหน้ามุ่ย ตีขาเตะน้ำใส่เพื่อนทั้งสอง
“อ้าว ๆ มีเด็กหวงว่ะ” มิคแซว ทิวากาลยกยิ้มพอใจเล็กใจน้อยแล้วจึงกระโดดลงไปในสระว่ายน้ำด้วยท่วงท่าน่ามอง
เพียงไม่นานร่างสูงก็โผล่ขึ้นมาตรงหน้าของจันทร์เจ้า ทิวากาลเสยผมเปียกชื้นที่ปรกหน้าไปด้านหลัง ลืมตาขึ้นมองเด็กแก้มกลม แก้มใสขึ้นสีแดงระเรื่อไม่ทราบว่าเป็นเพราะแดดหรือเพราะอะไร ลูกหมูกะพริบตาปริบ ๆ กลืนน้ำลายลงคอขณะที่มองคนตรงหน้าไม่กะพริบตา
โอ๊ย!! หัวใจเต้นแรงจัง ทำไมทิวาถึงได้มีเสน่ห์และเซ็กซี่มากขนาดนี้นะ!!
เราจะตายแล้ว ฮือ
แทบหลอมละลายไหลรวมกับน้ำในสระเลยล่ะ!
“ร้อนเหรอ หน้าแดงจังเลยวะ?”
“จะถามว่าเขินพี่เหรอครับก็ถาม ไอ้สัด! ไม่ใช่ร้อนเหรอ ทำไมหน้าแดง! โว้ยยยย รำคาญคนมีแฟน”
“โยนพี่ชมพู่เข้าแฮชแท็กโสดแล้วพาลเลย กร้ากกกกก”
“หยุดค่ะลูก!” ชมพู่ชี้หน้าเบสท์กับฟินน์ “บอกพี่ซิ ว่าพวกหนูไม่รำคาญมัน”
“รำคาญ!!!” ทั้งสองประสานเสียงกันตอบอย่างพร้อมเพียง
“อิจฉาก็บอกว่าอิจฉา” ทิวากาลตอบกลับนิ่ง ๆ พร้อมยิ้มเยาะ ทำเอาชมพู่ถึงกับควันออกหู กระโจนเข้าหาเพื่อนสนิทก่อนกระโดดขี่หลังแล้วกดศีรษะของทิวากาลลงไปใต้น้ำ พอเห็นอยากนั้นจันทร์เจ้าก็สะบัดรพินทร์ออกแล้วเข้าไปผลักชมพู่
“โว้ย ๆ หน่วยปกป้องก็มาเว้ย” ทิวากาลโผล่ขึ้นจากน้ำ ตวัดแขนโอบกอดรอบคอเด็กแก้มกลมเอาไว้ ตอนนี้พวกเขาถูกล้อมด้วยเบสท์ ฟินน์ ชมพู่และรพินทร์ ไม่รู้จะถูกก่อกวนอะไรอีก
“อย่าเข้ามานะ เราต่อยดั้งหักเลย”
“อย่าทำอะไรกูเลย คนไทยด้วยกัน”
“กวนตีน”
ทิวากาลใช้เวลาที่ทุกคนกำลังเหวอกับคำพูดของเด็กแก้มกลม ฟาดแขนกับผิวน้ำให้น้ำกระจายไปโดนทุกคน ก่อนพาเด็กน้อยออกจากวงล้อมไปอยู่อีกมุมของสระ จันทร์เจ้าลูบน้ำของจากหน้าตัวเอง ยื่นมือขึ้นไปเช็ดให้ทิวากาลด้วย คนนิสัยไม่ดีก็ให้ความร่วมมือดีเยี่ยม ด้วยการโน้มใบหน้าลงต่ำจนปลายจมูกแทบชนกัน
นี่ก็เกินไป...
“กูชักรำคาญตามสาว ๆ ละ” ต้นพูดขึ้นบ้างหลังจากเห็นบทสวีทของเพื่อนกับเด็กรุ่นน้อง
“ก็ว่างั้น” มิคว่าเสริมพร้อมทำหน้าเซ็ง
ลูกหมูว่ายน้ำเข้าไปเกาะขอบสระฝั่งที่รุ่นพี่ทั้งสามนั่งกันอยู่แล้วย่นจมูกใส่
“พี่รถถังกับพี่ต้นก็มีสาวเยอะแยะจะมารำคาญเราทำไมกัน พี่มิคก็มีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอฮะ?”
“ฮะ!!!! ไอ้มิคมีแฟนเหรอ!!!?” รถถังตะโกนเสียงดังพร้อมเบิกตาประกอบว่าตกใจจริง ลูกหมูยิ้มแห้ง กะพริบตาปริบ ๆ แย่ละ งานเข้าแน่เลย....
“มีเหี้ยอะไร ไม่มีโว้ย!”
“อ้าว... พูดแบบนี้แล้วคนที่คุย ๆ อยู่ด้วยจะไม่เสียใจเหรอครับ?”
“ไม่เสียใจหรอกครับ เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่”
“มึงไปชอบใครที่ไหนเมื่อไหร่วะ!?” ชมพู่ตะโกนถาม มิคไม่ได้ตอบ คนรู้ก็ไม่พูดอะไร
“พี่มิครู้ได้ไงอ่ะครับ คนนั้นบอกเหรอ”
“ครับ เขาบอกว่าเกลียดพี่”
“โห... น่าสงสารจัง พี่ไปทำอะไรให้เขาเกลียดล่ะครับ”
“ไม่รู้ครับ”
“จีบคนใหม่สิวะ”
“คนใหม่เหี้ยไร ก็กูชอบคนนี้” ทิวากาลกระตุกยิ้ม สบตากันกับเด็กแก้มกลม
“จะไม่มีใครบอกกูจริง ๆ ใช่ป่ะ ว่าไอ้มิคมันไปชอบใคร”
“ไม่บอก!” มิคตะโกนกลับ เขาชำเลืองมองคนที่ปืนขึ้นจากสระว่ายน้ำ
“อ้าว มึงขึ้นแล้วเหรอ?”
“เออ หนาว หิวแล้วด้วย” เบสท์ตอบฟินน์ เดินออกไปทันทีโดยไม่ฟังใครพูดอะไรอีก
ลูกหมูมองทุกอย่างก่อนเข้าไปกระซิบกับทิวากาลสองคน
“เบสท์ไม่พอใจหรือเปล่าครับ? หน้านิ่งจัง”
“ไม่รู้ดิ แต่หน้าแดง”
“อ๋อ~ เขิน หาเรื่องชิ่งนี่เอง คิคิ”
“ไปหาว่าเพื่อน”
เล่นน้ำกันอยู่สักพักจึงพากันขึ้นเพื่อไปหาอะไรทาน เมื่อเย็นมาหน่อยก็เตรียมตัวเพื่อล่องเรือไปตกปลา ลูกหมูหน้าเหวอเมื่อรู้เรื่องที่คุณป้าบอก เนื่องจากเมื่อวานนั้นคุณลุงบอกว่าไม่ตกปลาแล้วเพราะไม่ได้เอาอุปกรณ์มาด้วย แล้วทำไมวันนี้ถึงจะไปได้ล่ะ? มีอุปกรณ์เหรอ? หันไปมองคนนิสัยไม่ดี ทิวากาลยิ้มเอ็นดูปนขบขัน วางมือบนศีรษะกลมขยี้เบา ๆ แล้วจึงบอกว่าเด็กแก้มกลมโดนอำแล้ว เพราะพ่อเขาเตรียมการไว้อย่างดี ทั้งอุปกรณ์ตกปลา เหยื่อ สถานที่ และเรือ เมื่อรู้ว่าถูกแกล้งก็หน้างอ งอนตุ๊บป่องไม่คุยกับคุณสุริยะ ชายเจ้าของบ้านจึงต้องง้อด้วยการตามใจและปิดท้ายด้วยการจะพาไปซื้ออาหารทะเลมาเผาทานหลังจากตกปลาเสร็จ
นั่นจึงทำให้เด็กน้อยเกี่ยวก้อยคืนดีด้วย...
(มีต่อค่ะ)