มนุษย์แฟนเด็ก
12
มีความหัวใจบีบรัด
ในเวลาเก้าโมงเช้าวันเสาร์ มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูเป็นจังหวะเมื่อได้ยินเสียงอนุญาตจากเจ้าของห้องจึงเปิดเข้าไป ลูกหมูกอดอกมองน้องชายที่นั่งอยู่กลางเตียงด้วยสภาพหัวยุ่งฟูทั้งชุดนอน หมดคราบหนุ่มมือกลองสุดฮอตประจำวง HISTASIA เหลือให้เห็นแค่เจ้าลูกแมวขี้เซา อยากถ่ายรูปไปแบล็คเมล์จริง ๆ เล้ย
“มีอะไร?” จริงใจถามเสียงแหบเพราะเพิ่งตื่นนอนทั้งตายังปรือปรอยลืมได้ไม่เต็มที่
“วันนี้จริงใจจะไปไหนไหม?”
“ทำไม”
“วันนี้เบสท์นัดพี่ไปดูหนัง จริงใจไปส่งได้ไหมครับ?”
“ถ้าไม่จะงอแงไหม?”
“ไม่งอแง แต่จะไปแท็กซี่” จริงใจถอนหายใจพรืด การขึ้นแท็กซี่คนเดียวสำหรับจันทร์เจ้านั่นถือเป็นงานหยาบสุด ๆ หน้าโง่ ๆ แบบนั้นโดนหลอกแน่นอน แต่จะให้เขาไปส่งมันก็สาหัสพอกัน จริงใจขี้เกียจโว้ย! ถึงแม้เขาจะต้องออกไปซ้อมมวยอยู่ก็ตาม ดูจากเสื้อผ้าที่เจ้าหมูสวมใส่แล้วคงจะไปเร็ว ๆ นี้แน่ แต่กับตัวจริงใจแล้วมันไม่ใช่ ให้ตายเถอะ เขาไม่ออกจากบ้านตอนนี้แน่!
“ห้ามแท็กซี่ ห้ามมอเตอร์ไซค์ รถเมล์หรือบีทีเอสได้ ถ้าจะดีขับรถไปเองจะดีกว่ามาก ๆ”
“หูย ถ้าอย่างนั้นจริงใจก็ไปส่งพี่สิ”
“เค้าไม่มีแพลนออกจากบ้านเร็ว ๆ นี้ เสียใจด้วย ขับรถไปนั่นแหละดีแล้ว ใช้มันบ้างเดี๋ยวไอ้ฟักทองมันก็น้อยใจหรอก” จันทร์เจ้าหน้ามุ่ย รู้สึกไม่อยากขับแม้ใจจะเขวไปแล้ว คุณฟักทองจะน้อยใจที่เราไม่พาออกไปข้างนอกจริง ๆ หรอ ระหว่างที่เครียดกับความคิดที่ตีกัน ลูกหมูก็เดินต้วมเตี้ยมไปพิงขอบประตูห้องน้ำ มองดูน้องชายที่ยืนหันหลังทำธุระที่โถส้วมก่อนที่เด็กปีศาจจะเดินไปล้างมือและจัดการล้างหน้าแปรงฟัน
“จริงใจจะใจร้ายกับพี่จริง ๆ หรอ?” จริงใจมองพี่ชายผ่านกระจก เขายังไม่พูดอะไรจนกระทั่งแปรงฟันเสร็จและล้างฟองยาสีฟันออกไปหมด คนอะไรหน้าด้านขนาดตามเข้ามาถึงในห้องน้ำแบบนี้
“เออ”
“จริงใจ พี่น่าสงสารนะ จริงใจไม่สงสารพี่เหรอ”
“ไม่”
“แง!”
“ไร้สาระน่า ขับรถไปเองเลยไป ใช้บ้างเถอะ เดี๋ยวแม่งก็ร้องไห้หรอก”
“โอ๊ย! ใจร้ายที่สุด! พี่ไปกับฟักทองก็ได้” นั่นแหละที่จริงใจต้องการจะได้ยิน! เด็กหนุ่มยิ้มหวานใส่ตาพี่ชายก่อนจะยื่นมือไปขยี้ผมนุ่มให้ฟู แล้วจึงเดินผ่านลูกหมูตัวอวบออกไป
ลูกหมูที่ถูกน้องชายทิ้งอย่างไร้เยื่อใยก็หน้าหงิกงออย่างขัดใจก่อนจะออกจากห้องของน้องและกลับเข้าไปที่ห้องนอนตัวเอง ก่อนจะเริ่มจัดการคุ้ยห้องเพื่อหากุญแจรถฟักทองที่ตั้งแต่ได้มาเคยขับแค่ไม่กี่ครั้ง! อ๋อ รถฟักทองของเราไม่ใช่รถฟังทองแบบในเรื่องซินเดอเรลล่าหรอกนะ แต่คุณฟักทองของเราคือรถที่มีสี Volcanic Orange แต่ตัวรถกลับไม่ได้เป็นสีส้มเลยสักนิด แถมยังมีสีเหมือนเนื้อฟักทองเลยได้ชื่อฟักทองมา เป็นไงล่ะ ความคิดเราเจ๋งล่ะสิ!!!
เมื่อหากุญแจรถเจอลูกหมูก็เดินลงมาที่ชั้นล่าง เจอน้องชายปีศาจกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยอยู่พอดี เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกอย่างกินขึ้นมาอีก แม้ว่าลูกหมูจะกินไปแล้วก็ตาม แต่ไม่เอาดีกว่า ออกไปเจอเบสท์ยังไงเบสท์ก็ต้องพาไปหาอะไรกินอย่างแน่นอน!!! ลูกหมูจึงทำเพียงนั่งลงเพื่อคุยเป็นเพื่อนน้อยเท่านั้น...
“จริงใจจะไปซ้อมมวยกี่โมง?”
“เหมือนเดิม”
“Good morning everybody~” ระหว่างที่สองพี่น้องกำลังพูดคุยกันอยู่ น้องเล็กสุดก็โผล่เข้ามาพร้อมกับทักทายด้วยภาษาอังกฤษที่ใส่จริตเต็มที่จนพี่ชายทั้งสองพากันเบ้หน้าอย่างไม่สนใจความรู้สึกของเด็กสาวว่าจะเสียความมั่นใจแค่ไหน กล้ามาทำแบบนั้นคนน้องสาวคนสวยได้ยังไง!!!
“พี่จันทร์เจ้าไม่กินอะไรเหรอ?” จ๋าจ้าถามพี่ชายคนโตอย่างแปลกใจเมื่อเห็นว่าตรงหน้าไม่มีจานอาหารใด ๆ วางอยู่
“พี่กินแล้วคับ” อย่างนี้นี่เอง! เมื่อได้คำตอบเด็กสาวก็เลิกสนใจและตักข้าวเข้าปากตัวเองคำใหญ่อย่างไม่ห่วงสวย
“พี่จันทร์เจ้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้วมีคนมาจีบไหมคะ? เนี่ย พี่จริงใจนะ มีสาวมาส่งของให้ทู้กกกกกกกวัน เค้าล่ะรำคาญมาก ๆ เลย จะให้ก็ทำไมไม่ให้เองไม่รู้ มาฝากเค้าเพื่ออะไร!”
“ก็เห็นเอาไปกินทุกทีจะบ่นอะไร” จริงใจว่าพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อย
“พี่ไม่มีคนมาจีบหรอก”
“แน่ใจ? แล้วรุ่นพี่ที่ชื่อทิวาคนนั้นล่ะคะ?” ลูกหมูทำหน้าเห็นเห็นผีทันทีที่ฟังคำถามของน้องสาวจบ อยากจะเฉไฉไม่ตอบแต่เพราะสายตาวิบวับด้วยความอยากรู้ของน้องสาว และสายตากดดันคาดคั้นจากน้องชาย ทำให้ลูกทำถอนหายใจยาวอย่างเหน็ดเหนื่อยใจ
“ทิวาไม่ได้จีบพี่สักหน่อย มีแต่มากวนประสาทนั่นแหละ! แถมช่วงนี้ยังกวนหนักมากกว่าเดิมอีก”
“หน้าแดงทำไม?” แล้วทำไมต้องถามมาพร้อมกันด้วยเล่า!!!!
“ทำแมะ!”
“เหวี่ยงนะ เล่ามาเลยว่ามันจีบใช่ไหม?” จริงใจดันหน้าผากพี่ชายหงายเงิบ
“จีบยังไงหรอ จีบคว่ำ จีบหงาย จีบปรกหน้า หรือจีบปรกข้าง?”
จริงใจยิ้มเย็น “
จีบไม่ติด ... อย่ากวนตีนจันทร์เจ้า เล่ามา!”
“ใช่ใช่! ถ้าไม่เล่ามานะ เค้าจะบอกพี่ฟ้า”
“โหยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ลูกหมูร้องโหยหวนแต่ก็ไม่ได้รับความเห็นใจ จึงจำใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าทิวาทำอะไรกับตัวเองระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมาให้น้องฟัง ไม่อยากเป็นพี่แล้ว! โดนคาดคั้นยิ่งกว่าเป็นน้องเสียอีก นี่พี่นะ พี่ไงจำไม่ได้หรอ ฮือ!!!
“จีบชัวร์!!! จ๋าจ้าคอนเฟิร์ม เอาตำแหน่งหัวหน้าเรือดับเบิ้ลเอ็มมารับประกันเลย!”
“ไม่ได้จีบ!” คนจีบที่ไหนเขามากวนประสาทกันบ้างเล่า! ทิวานะ พอเจอเราที่ไหนก็เข้ามาวอแว พูดจาหาเรื่อง แถมยังสรรหาเรื่องมาแกล้งเราสารพัด พอเรางอแงก็บีบแก้มเราจนช้ำไปหมด พอแกล้งให้เราหน้างอได้ก็เอาขนมมาล่อ แบบนั้นมันตบหัวแล้วลูบหลังชัด ๆ ดีหน่อยตรงทียังซื้อนมมาให้ทุกวันนั้นแหละ หากวันไหนไม่เจอก็ฝากให้คนอื่นเอามาให้ จนนี้เราตัวบวมเพราะดื่มนมเยอะเกินไปแล้ว!
“อย่าแกล้งโง่”
“ไม่ได้แกล้งโง่ด้วย จริงใจอย่ามาหาเรื่อง พี่จะไปหาเบสท์แล้ว!” พี่คนโตหยิกแก้มน้องทั้งสองคนก่อนจะวิ่งออกจากบ้าน ปิดโอกาสให้น้องได้ซักไซ้ต่อ อยู่ก็โง่แล้ว!!!
“พี่คิดเหมือนเค้าไหม?”
“คิดอะไร?”
“ก็แบบ... พี่จันทร์เจ้ากับรุ่นพี่ทิวาคนนั้นไง”
“พี่ไม่อยากได้พี่เขย”
“แต่เค้าอยากได้นี่!”
“ไร้สาระน่าจ๋าจ้า อ้อ ถ้าจะออกไปเรียนพิเศษก็อย่าลืมเปลี่ยนชุดนะ ขาใหญ่แบบนั้นยังจะใส่สั้นอีก”
กรี๊ดดดดดดดดด! จ๋าจ้ากรีดร้องในใจกับคำพูดของพี่ชายคนรอง กล้ามาว่าน้องขาใหญ่ได้ยังไง! หวงก็บอกมาสิ ฮือ ๆ ย่นจมูกหมั่นไส้เมื่อพี่ชายคนรองเดินออกจากห้องอาหารไป คอยดูสิ ระหว่างพี่จันทร์เจ้ากับรุ่นพี่ทิวาของพี่ชายมันต้องมีอะไรมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องแน่นอน และจ๋าจ้าก็มั่นใจมากด้วยว่าพี่ชายคนโตกำลังโดนจีบ!!! ถึงใครจะไม่เห็นด้วยก็ตามแต่จ๋าจ้าเชื่อว่ามันต้องเป็นอย่างที่เธอคิด!!!
จันทร์เจ้ายกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่มและนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือระหว่างที่รอเบสท์ ไม่รู้ว่าใกล้จะถึงแล้วของเบสท์คือจะถึงเมื่อไหร่ ไม่ใช่ว่าเพิ่งออกจากบ้านหรอกนะ ไม่งั้นเราจะงอแงแน่นอน! ถ้าอีกยี่สิบนาทีเบสท์ยังไม่มาจะโทรตามแล้วนะ!!! และระหว่างนั้นก็มีเสียงเตือนข้อความเข้ามา...
ครืด ครืด 12:03
TW. -รัวสติ๊กเกอร์สิบตัวถ้วน-
12:03
นี่จันทร์เจ้าเอง ทิวาเหงาเหรอ?
12:03
TW. เบื่อ
12:04
นี่จันทร์เจ้าเอง หาอะไรทำสิ
12:05
TW. คิดออกละ
12:05
นี่จันทร์เจ้าเอง อะไรเหยอ?
12:05
TW. กวนมึงไงเตี้ย
12:06
นี่จันทร์เจ้าเอง 
12:07
TW. 
12:07
นี่จันทร์เจ้าเอง โป้งทิวาแหล่ว!
12:07
นี่จันทร์เจ้าเอง นิสัยไม่ดี!! อย่ามากวนเรานะ
12:08
นี่จันทร์เจ้าเอง 
12:08
TW. เดี๋ยวเลี้ยงติม
12:08
TW. ห้ามโป้ง
12:08
นี่จันทร์เจ้าเอง ขอพุดดิ้งรสนมด้วย ไม่งั้นเราจะไม่คุยกับทิวา
12:09
TW. อีกละ มุกไม่คุยด้วยนี่มึงเลิกเล็กได้ละ
12:09
นี่จันทร์เจ้าเอง
“หมู!!!” เสียงเรียกทำให้ลูกหมูเงยหน้าจากจอสมาร์ทโฟน เบสท์ยืนค้ำเข่าหอบหายใจแฮกอย่างเหนื่อยอ่อน
“เบสท์วิ่งมาเหรอ?”
“เออสิ กูกลัวมึงจะรอนาน แท็กซี่พาอ้อมฉิบหาย เหี้ยเอ๊ย!” ลูกหมูหัวเราะเพื่อน เบสท์ยกมือพัดหน้าตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างจันทร์เจ้า ลูกหมูเองก็ทำหน้าที่เพื่อนที่ดีด้วยการส่งขวดน้ำเปล่าที่ซื้อมาด้วยแต่ยังไม่เปิดดื่มให้กับเบสท์
“มึงจะดูเรื่องอะไร?” เบสท์ถามหลังจากที่ความเหนื่อยลดลง
“เราอยากดูการ์ตูน”
“ก็ได้นะ ไปเหอะ เดี๋ยวไม่ทัน”
“โอเค!” ตอบรับเบสท์อย่างขันแข็งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ตอบข้อความทิวาเลยจึงหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาอีกครั้ง เบ้ปากเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรัวสติ๊กเกอร์มาหลายสิบตัวเพราะว่าลูกหมูเงียบใส่และไม่ยอมตอบ
12:15
นี่จันทร์เจ้าเอง เราจะไปดูหนังกับเบสท์แล้ว
12:15
นี่จันทร์เจ้าเอง ทิวาอย่างอแงนะ
12:15
นี่จันทร์เจ้าเอง เดี๋ยวเรามาเล่นด้วย
12:15
นี่จันทร์เจ้าเอง 5555555555555
12:15
นี่จันทร์เจ้าเอง 
เมื่อส่งข้อความสุดท้ายไปแล้วก็กดปิดเสียงและเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง
“เบสท์กินอะไรมาหรือยัง?”
“ยังวะ มึงละ?”
“เรากินข้าวเช้าจากบ้านมาแล้วอ่ะ เบสท์หิวไหม เราหาอะไรกินก่อนค่อยดูหรือจะดูก่อนค่อยกินดี?”
“ดูก่อนนั่นแหละ ตอนนี้เที่ยงแบบนี้ร้านอาหารคนเยอะแน่”
“โอเค ตามนั้นก็ได้” รับคำอย่างไม่ค้านอะไรก่อนพากันเดินขึ้นบันได้เลื่อนไปที่ชั้นโรงหนัง วันนี้ที่มาดูหนังกันเพราะเมื่อวานเบสท์ส่งข้อความไปที่แชทกลุ่มว่าอยากดูหนัง ลูกหมูตอบตกลงเพราะไม่ได้ไปไหนอยู่แล้ว แต่ว่าฟินน์ก็อยากมาแต่มาด้วยไม่ได้เพราะโดนคุณแม่พาไปทำธุระด้วย วันนี้เลยมีแค่เบสท์กับจันทร์เจ้ามากันสองคน ด้วยความคิดถึงเพื่อนทั้งสองคนจึงถ่ายรูปด้วยกันและส่งไปเยาะเย้ยฟินน์เรียบร้อยแล้ว คิคิ
หลังจากสองชั่วโมงผ่านไป ภาพยนตร์ที่เลือกดูได้จบลงแล้ว สองเพื่อนซี้ก็พากันเดินออกมา ระหว่างทางก็พูดคุยกันว่าจะทานอะไรดี แต่แล้วลูกหมูก็ต้องยืนนิ่งกะพริบตาปริบ ๆ เพราะถูกเบสท์ทิ้งไว้คนเดียว ด้วยเพื่อนไซส์มินิวิ่งปรู้ดตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล จันทร์เจ้าหัวเราะเบา ๆ เมื่อสติกลับมา ก็บอกแล้วว่าให้เข้าห้องน้ำก่อนแต่เบสท์ก็ยืนยันว่าไม่เข้าเพราะหิวมาก ๆ แล้วดูตอนนี้สิ เป็นยังไงล่ะ
“Piggy!!”
“Vincent!” ลูกหมูตาโตเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกตนว่า ‘piggy’ คือใคร ชื่อนี้มีแต่วินเซนต์กับดไวท์นั่นแหละที่เรียกเรา บู้ว! วินเซนต์เองก็ยิ้มกว้างรีบก้าวยาว ๆ เข้าไปหาเพื่อนตัวนิ่ม วินเซนต์เห็นจันทร์เจ้าอยู่นานแล้ว แต่จะเอ่ยเรียกตั้งแต่ตอนนั้นเขาก็อยู่ไกลเกินไป รอจนเข้าใกล้ลูกหมูแล้วจึงร้องทัก
“มาทำอะไรพิกกี้?”
“เรามาดูหนังกับเพื่อน วินเซนต์ล่ะ?”
“มาดูสาขากับปาปาน่ะ ไปหาปาปากัน” วินเซนต์บอกก่อนจะเอ่ยชวนอย่างตื่นเต้น แต่ไม่รอให้ลูกหมูตอบตกลง แขนแกร่งก็โอบกอดรอบคอของลูกหมูแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้น
“อาควอทซ์มาด้วยเหรอ!? เราอยากเจอ!”
“มาสิ จะพาไปหาอยู่นี่ไง” วินเซนต์ยกมือขยี้ผมของเพื่อนตัวกระเปี๊ยกก่อนจะกอดคอจันทร์เจ้าเหมือนเดิม ลูกหมูพอจะได้เจออาควอทซ์ก็ตื่นเต้นจนลืมไปว่าสิ่งที่ทำก่อนหน้านั้นคืออะไร เตรียมตัวโดนเบสท์ด่าได้เลย...
“ปาปาอยู่ไหนครับ?” วินเซนต์เอ่ยถามกับพนักงานเมื่อมาถึงร้านเพชรที่เป็นของครอบครัวแล้ว
“คุณควอทซ์อยู่ในห้องด้านในค่ะ”
“ขอบคุณครับ ป่ะ” บอกขอบคุณพนักงานสาวแล้วจึงชวนจันทร์เจ้าเข้าไปด้านใน ลูกหมูพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินตามวินเซนต์ไป มือหนายกขึ้นเคาะประตูเพื่อขออนุญาต เมื่อเสียงตอบรับจากข้างในดังออกมาจึงเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องนี้นอกจากควอทซ์แล้วยังมีคนอื่นอยู่ด้วยสองสามคน
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับอาควอทซ์” ลูกหมูประนมมือไหว้อาควอทซ์ แม้จะเอ่ยชื่ออาควอทซ์คนเดียวแต่ก็สวัสดีคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
“สวัสดีครับ อ่า... ขอเวลาผมสักครู่แล้วกันนะครับ” ควอทซ์บอกกับผู้จัดการและผู้ออกแบบ เมื่อในห้องไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว ร่างบางจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนลูกชายและแย่งตัวมากอดเต็มเปา
“คิดถึงจังเลยลูกหมู ไม่ได้เจอกันน้านนาน”
“หนูก็คิดถึงอาควอทซ์สุด ๆ เลย~ คิดถึงอาไรเฟิลกับมิเกลด้วยครับผม” ลูกหมูกอดตอบและเอ่ยบอกเสียงสนใจ ควอทซ์ยิ้มกว้างก่อนจะหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่และปล่อยให้จันทร์เจ้าได้เป็นอิสระ
“ทำไมถึงมากับพี่วินซ์ได้ครับ?”
“หนูมาดูหนังกับเพื่อน ระหว่างรอเพื่อนเข้าห้องน้ำวินเซนต์ก็มาหาหนู อ๊า!!! ตายแล้ว! หนูต้องตายแน่ ๆ เลย!!!”
“หือ มีอะไร เกิดอะไรขึ้น?”
“คือ... หนูลืมเพื่อนไว้ที่ห้องน้ำ ฮือ” ลูกหมูบอกถึงสิ่งที่กำลังวิตก และขณะนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือกรีดร้องขึ้นมา ลูกหมูหยิบมันมาด้วยมือสั่นเทาก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกและกดรับสาย ยังไม่ทันถึงวินาทีก็ต้องมุ่ยหน้าและยื่นโทรศัพท์มือถือออกห่างจากใบหู
(“อีหมู!!! มึงหายไปไหนหา!!!!”)
“โอ๊ย เบสท์อย่าเสียงดังสิ”
(“บอกมาสิวะ!”)
“เรา เราอยู่ที่ A.K. Jewelry เบสท์มาหาเราที่นี่นะครับ บั๊บบัย ไว้เจอกันนะ” รีบบอกและรีบกดวางสายก่อนจะโดนด่าไปมากนนี้ ฮือ ไม่เอา เราไม่อยากโดนด่าแล้ว เราเบื่อ...
“ทำไมถึงได้ลืมเพื่อนได้ล่ะลูกหมู?”
“พอวินเซนต์บอกว่าจะพามาเจออาควอทซ์หนูก็ตื่นเต้นจนลืมไปเลยว่ากำลังรอเพื่อนอยู่” คำตอบแสนน่ารักทำเอาคนฟังยิ้มเอ็นดู ควอทซ์ขยี้ศีรษะกลมของจันทร์เจ้าอย่างมันเขี้ยว เด็กอะไรน่ารักจริง ๆ เลย ไม่เหมือนลูกชายเขา ตัวใหญ่ ๆ กันทั้งนั้น
“เราออกไปข้างนอกกันเถอะครับ เดี๋ยวเพื่อนพิกกี้มาแล้วจะไม่เจอ”
“โอเค เด็ก ๆ ออกไปก่อนเลย เดี๋ยวปาปาขอเคลียร์งานก่อน” เด็กทั้งสองค้อมศีรษะเล็กน้อยแล้วจึงออกจากห้องนั้นมา
จันทร์เจ้าชะงักเล็กน้อย รอยยิ้มสดใสสะดุดไปเมื่อเห็นชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเลือกดูเครื่องประดับอยู่ที่ตู้โชว์ เม้มริมฝีปากอย่างไม่มั่นใจขณะที่มองไปยังพวกเขา ในใจบีบรัดแปลก ๆ เมื่อเห็นว่าฝ่ายชายส่งยิ้มให้กับหญิงสาวข้างกาย รอยยิ้มและสายตาที่ไม่เหมือนกันตอนมองและยิ้มให้คนอื่นนั่น... ทำเอาจันทร์เจ้าหายใจไม่ค่อยออก... ทิวามากับใคร ทำไมถึงได้ดูสนิทกันจังเลย...
“Piggy!!”
“ฮ ฮะ!? มีอะไรเหรอ เสียงดังจัง”
“ก็เรียกตั้งนานแล้วมัวแต่เหม่อ เป็นไรเหรอ?” วินเซนต์ถามพร้อมกับประกบฝ่ามือกับแก้มนุ่มทั้งสองข้างก่อนจะส่ายไปมา คนถูกรังแงหน้ามุ่ยร้องฮือประท้วงแต่ก็ไม่ได้รับความเมตตา
ทิวากาลหันไปมองยังต้นเสียงที่เกิดขึ้น ถ้าหากไม่ใช่เสียงที่เขาคุ้นหูไม่มีทางที่เขาจะหันไปมองเด็ดขาด หัวคิ้วเข้มขมวดเข้าจนแทบจะชนกันเมื่อเห็นว่าเด็กแก้มกลมของเขากำลังอยู่กับชายอื่น แถมท่าทางสนิทสนมเกินเหตุและสัมผัสเนื้อตัวแบบไม่มีความจำเป็นนั้นทำเอาเขายิ่งรู้สึกหงุดหงิด ทิวากาลจ้องเขม็งจนทั้งสองรู้สึกตัวและหันมามอง ลูกหมูยิ้มทักทายตามประสาคนรู้จักในขณะที่วินเซนต์ทำหน้างงเล็กน้อย แต่ไม่ได้สนใจอะไร ไอ้เด็กหน้าฝรั่งหัวทองแดงนั่นมันเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรไปจับมือถือแขนเด็กแก้มกลมของเขา!!
“พินทร์เลือกไปก่อนนะเดี๋ยวพี่มา” ร่างสูงบอกกับหญิงสาวข้างกายก่อนจะสืบเท้าเข้าไปยังจุดที่ลูกหมูและวินเซนต์ยืนอยู่
“อยากเล่นกับอาควอทซ์จังเลย” ลูกหมูบ่นไม่จริงจัง วินเซนต์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เกิดอาการมันเขี้ยวจึงลูบแก้มนุ่มก่อนจะดึงให้ยืดเบา ๆ
“ปาปาติดงาน...”
“ไง”
“อ๊ะ!” ลูกหมูสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยทัก ตากลมแอบเหลือบมองจากไหล่กว้างของวินเซนต์ รู้สึกแปลกใจมาก ๆ ที่จู่ ๆ ทิวาก็เดินเข้ามาทักแบบนี้
“เจอรุ่นพี่ไม่ทักหน่อยเหรอ?”
“สวัสดีครับ” เมื่อรุ่นพี่พูดแบบนั้น รุ่นน้องอย่างลูกหมูจึงยกมือไหว้ แม้จะงง ๆ อยู่ก็ตามว่าร่างสูงต้องการอะไร ปกติก็ไม่ได้ทักทายนี่นา แล้วอีกอย่างการเจอกันวันนี้มันเหนือความคาดหมาย แถมทิวายังมากับใครก็ไม่รู้ ใครจะกล้าเข้าไปทัก
“พิกกี้รู้จักเหรอ?”
“อือ รุ่นพี่ที่คณะเราเอง...”
“อ่า... สวัสดีครับรุ่นพี่ของพิกกี้”
“ครับ” ทิวากาลรับคำ สายตาคมยังจ้องอยู่ที่ลูกหมูตัวขาวไม่ละไปไหน ท่าทางสนิทสนมของทั้งคู่ทำให้เขาหงุดหงิดมาก ๆ ไหนจะแขนของเด็กฝรั่งผมทองแดงที่กอดคอเด็กแก้มกลมอยู่อีกนั่น สนิทกันระดับไหนวะ... แล้วไหนบอกมาดูหนังกับเบสท์แล้วทำไมถึงได้มาอยู่กับเด็กจินเจอร์นี่ได้
“พี่กาลขา พินทร์เลือกได้แล้ว” ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้เอ่ยอะไร หญิงสาวที่มาด้วยกันก็เดินเข้ามาพร้อมกับเกาะแขนของเขาเอาไว้ พินทร์ หรือ รพินทร์ ส่งยิ้มเล็กน้อยให้กับคนที่ทิวากาลกำลังคุยอยู่ด้วย
“เหรอ เอาไปจ่ายสิ”
“เลือกได้สามเส้น พี่มาช่วยพินทร์เลือกหน่อยสิ ...ขอตัวพี่กาลก่อนนะค้า” รพินทร์เอ่ยกับจันทร์เจ้าและวินเซนต์พร้อมรอยยิ้มก่อนจะลากแขนทิวากาลออกไป
ลูกหมูเม้มปากมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกสับสน เฮ้อ... ต้องกลับไปบอกกับจ๋าจ้าแบบจริงจังแล้วล่ะ ว่าทิวากาลน่ะ ไม่ได้จีบพี่เลยสักนิด!!! แถมยังมีแฟนอยู่แล้วด้วย จะมาจีบลูกหมูได้ยังไง อีกอย่างนะ พอเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันแล้วก็ยิ่งเห็นความเหมาะสมที่ทั้งคู่มี โอ๊ย เราไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว เมื่อไหร่เบสท์จะมาสักทีนะ หิวก็หิว!!!
“คนที่พี่กาลทักคือใครเหรอ?” ทิวากาลหันมองคนข้างตัว ด้วยความหมั่นไส้จึงผลักศีรษะหญิงสาวไปหนึ่งที
“ไหนที่เลือกไว้?”
“โธ่ อย่ามาเปลี่ยนเรื่องสิพี่กาล นี่น้องนะ น้อง! บอกสิ บอก พี่ต้องบอกน้องสิ” รพินทร์ทำตาปิ๊ง ๆ เป็นการอ้อน แต่คนมองกลับมองว่ามันน่ารำคาญเสียมากกว่า และการที่รพินทร์ทำแบบนั้นมันคือการกวนประสาทดี ๆ นี่เอง
“เส้นไหน?” หญิงสาวเบ้ปากเมื่อพี่ชายไม่สนใจ ก่อนยอมตัดใจแล้วมาเลือกสร้อยข้อมือเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับมารดา
“นี่ ๆ พินทร์ดูไว้สามเส้น แต่ตัดสินใจไม่ได้ สวยเหมือนกันหมดเลย”
“พินทร์เลือกเส้นไหนในใจ?” ทิวากาลถามน้องสาว แต่ตอนนี้เขาก็มีที่เลือกในใจไว้แล้วหลังจากดูสร้อยข้อมือที่น้องสาวเลือกเอาไว้ทั้งสามเส้น
“งั้นเลือกพร้อมกันไหม?” พยักหน้ารับข้อเสนอของรพินทร์ เมื่อนับหนึ่งถึงสามจบปลายนิ้วของทั้งคู่ก็ชี้ไปที่เส้นที่อยู่ตรงกลาง สองพี่น้องมองหน้ากันก่อนจะยกยิ้ม เมื่อตกลงกันได้แล้วว่าเส้นไหนก็เอาไปจ่ายตังค์
“พี่กาลมองหาใคร ไปกันได้แล้ว”
“เปล่า ได้แล้วเหรอ?”
“เรียบร้อยแล้วครับผม” รพินทร์ตอบอย่างทะเล้นพร้อมกับส่งเครดิตการ์ดคืนให้พี่ชาย “พี่บอกพินทร์หน่อยสิว่าน้องสองคนนั้นเป็นใคร เอ๊ะ! หรือพี่จะมองหาเด็กสองคนนั้น!?”
ทิวากาลถอนหายใจอย่างเพลีย ๆ มองหน้าน้องสาวที่ส่อแววอยากรู้เต็มที่ก็ปลงตก
“เด็กที่เคยเล่าให้ฟังไง”
รพินทร์เบิกตาโตขณะมองหน้าพี่ชาย “ที่พี่บอกว่าจะจีบ!? เฮ้ย! พินทร์ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชาย”
“แล้วไง”
“Oh my god, oh my gosh!!” รพินทร์ที่แต่อุทานคำเดิมซ้ำ ๆ ไปมาอย่างพูดอะไรไม่ออก
ทิวากาลคือพี่ชายของเธอ และเมื่อไม่กี่วันก่อนจู่ ๆ ทิวากาลก็โทรมาหาเธอพร้อมกับบอกว่าจะจีบคนคนหนึ่ง ตอนที่ฟังเธอทึ่งยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าผู้ชายที่เธอแอบชอบเป็นเมียคนอื่นเสียอีก เฮ้ยู! การที่นายทิวากาลจะจีบใครมันเป็นอะไรที่ amazing มาก ๆ เลยนะ ปกติเห็นมีแต่คนเข้าหาไม่เคยจะเข้าไปจีบใครก่อน รพินทร์จะเป็นลม แล้วพอมารู้ว่าคนที่พี่ชายจะจีบเป็นเด็กผู้ชายตัวขาวแก้มกลมยิ่งมึนงงไปใหญ่ ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรอกนะ การที่ผู้ชายรักกันมันก็เป็นเรื่องที่เธอชอบอย่างหนึ่ง แต่งงตรงที่พี่ชายมาชอบผู้ชายนี่แหละ โอ๊ย ขอยาดม
“ตกใจอะไรนักหนา”
“ตกใจสิ! ถึงน้องคนนั้นจะน่ารัก แต่พินทร์ไม่คิดว่าพี่จะชอบผู้ชายนี่นา”
“ชอบไปแล้วนี่หว่า ทำไงได้” พูดจบแล้วก็ถอนหายใจ เขาก็ไม่ค่อยอยากจะยอมรับเท่าไหร่ว่าชอบเด็กแก้มกลมนั่น แต่จากที่บอกไอ้ต้นไปว่าจะจีบเด็กนั่นและการที่สังเกตตัวเองในหลาย ๆ อย่างแล้วก็คงใช่นั่นแหละ ไม่ว่าจะทำอะไร จะไปที่ไหนก็มีแต่หน้ากลม ๆ ของเด็กนั่นอยู่ในหัว ลอยไปมาจนหลอนไปหมดแล้ว และที่น่าอนาถก็คือ... จะชอบใครทั้งทีดันไปชอบเด็กเข้าใจยากแถมยังตีมึนได้ตลอด ไม่รู้ว่ามันมึนจริง ๆ หรือมันแกล้งกันแน่ พูดไปแล้วก็ปวดหัว จะเลิกชอบก็ไม่ได้อีก เป็นบ่วงที่ลำบากมากจริง ๆ
“ไม่ใช่ว่าน้องเขามีแฟนแล้วหรอพี่กาล เด็กฝรั่งที่อยู่กับน้องนั่นไง พินทร์เห็นเขาสกินชิพกันบ๊อยบ่อย ขนาดไม่ได้ตั้งใจมองนะ”
กูเครียดเลย ยอมรับเลยว่าคิดตามที่น้องสาวพูดแล้วเครียด
วันนี้เขาคิดว่าจะไม่ได้เจอหน้าจันทร์เจ้าจึงได้ส่งข้อความไปก่อกวนอีกฝ่าย เมื่อเด็กแก้มกลมบอกว่าไปดูหนังกับเพื่อนเขาก็ไม่คิดอะไร หลังจากที่เลิกคุยกับจันทร์เจ้า รพินทร์ก็โทรมาหาเขาบอกว่าอีกไม่นานจะวันเกิดของคุณแม่แล้วจึงอยากชวนไปหาเลือกของขวัญ และเมื่อไม่ได้ไปไหนอยู่แล้วเขาจึงตอบรับคำชวนของน้องสาว แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ไปเจอกับคนที่วนเวียนอยู่ในความคิดที่นั่น ในคราแรกเขาค่อนข้างแปลกใจที่เจอกับเด็กแก้มกลมที่ร้านเพชร แต่เหนือจากความแปลกใจคือข้องใจว่าคนที่อยู่ข้าง ๆ จันทร์เจ้าเป็นใคร…
หรือจะเป็นแฟนมันจริง ๆ อย่างที่รพินทร์บอกวะ…
“โอ๊ะ! นั่นน้องแก้มกลมของพี่นี่นา” ทิวากาลหันไปมองตามที่น้องสาวทัก คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าเด็กแก้มกลมกำลังเอนศีรษะซบไหล่เด็กผมแดงที่ชื่อวินเซนต์ในร้านอาหารที่มีผนังเป็นกระจกใส และเด็กฝรั่งนั่นก็โอบไหล่จันทร์เจ้าและลูบเส้นผมนุ่มที่เขาชอบขยี้
“กลับกันเถอะ” ทิวากาลบอกกับรพินทร์ในจังหวะที่จันทร์เจ้าหันมาเขามองพอดี ทั้งคู่สบตากันไม่กี่วินาทีก่อนทิวากาลจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีไปทางอื่นพร้อมกับจับมือน้องสาวเพื่อเดินออกจากตรงนั้น
แล้วมันใช่เรื่องที่เขาต้องอึดอัดหัวใจคล้ายโดนบีบแบบนี้ไหม!
TBCไม่รักไม่ต้องมาแคร์ไม่ต้องมาดีกันฉัน! - ทิวากาลไม่ได้กล่าว (55555555555)
โธ่พี่พระเอกจะสงสารก็สงสาร แต่แบบ... วินเซนต์ต๋าาาาาาาาาาาาา
บางคนอาจจะไม่รู้จักวินเซนต์ นางมากจาก ตอนพิเศษ
It’s because of you จากเรื่อง
☆ underground ☆ ค่ะ เป็นลูกของไรเฟิลกับควอทซ์ ><
บอกตรง ๆ ว่าอยากจะชิปวินซ์จันทร์เจ้า กรั่ก ๆๆๆ /เหล่มากทิวา
เอ้อ จากตอนที่แล้ว พบเห็นคนหวงลูกหมูไม่ยอมให้ทิวาจีบเลยอัตราเลยนะเจ้าคะ สงสารนาง5555555
แล้วที่ปลื้มปริ่มมากทิวากาลไม่โดนเรียกอีกาลแล้ว พฮืออออออออออ (แต่ตอนนี้อาจจะโดน กำแบ)
เพ้อเจ้ออีกแล้ว ควรพอ ไปละค่า ฝากเอ็นดูพวกนางด้วยนะงับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ /กราบตัก
บั๊บบัย
-------------
cr. sticker line : TuaGom : Mhee Noom & Tai Nim 2 By Tora Jung
Panda Dog By pandadog.net