มนุษย์แฟนเด็ก
9
มีความหวงอย่างรุนแรง
เสียงสัญญาณเตือนจากนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังหลับใหลงัวเงียตื่นขึ้นมา มือหนายื่นไปควานหาแล้วจึงกดปิดเสียงเตือนน่ารำคาญทั้งที่ยังหลับตา เขานอนนิ่ง ๆ อยู่สักพักก่อนจะลืมตาขึ้น หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่อีกฟากของเตียงขึ้นมาดูก็พบกับข้อความจากเพื่อนที่ส่งมาเตือนว่าห้ามลืมนัดซ้อมดนตรีตอนบ่ายนี้
ใครมันจะไปลืมกันล่ะ!
จริงใจก้าวลงจากเตียง จากนั้นดึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวและไปตามสถานที่ที่นัดกับกลุ่มเพื่อนเอาไว้ หลังจากนั้นสามสิบนาที เด็กหนุ่มตัวสูงก็มาในชุดเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวสวมทับด้วยแจ็กเก็ตเดนิมที่เพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและกางเกงเดนิมสกินนี่รับกับขายาวเรียว ทรงผมธรรมชาติที่ไม่ได้เซ็ทถูกปล่อยเอาไว้แบบนั้นหลังจากที่เป่าจนแห้ง ยังไงก็ต้องใส่หมวกอยู่ดี เซ็ทไปก็เสียทรง เปลืองสเปรย์และเจลเปล่า ๆ จริงใจเดินไปหยิบหมวกสแน็ปแบ็กจากชั้นวางหมวกมาหนึ่งใบและใส่ลงไปในกระเป๋าสะพาย หยิบเอาโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ และของอื่น ๆ ที่จำเป็นออกมาวางรวมกันก่อนจะเริ่มจัดการให้เรียบร้อย เมื่อทำอะไร ๆ เสร็จแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางเสียที
“น้าเจ้าล่ะครับ?” จริงใจเอ่ยถามกับแม่บ้านคนหนึ่งที่กำลังจะเดินผ่านเขาไป
“คุณเจ้าทำงานอยู่ที่สวนหลังบ้านค่ะ”
“อ๋อ ครับ”
“คุณหนูจะไปไหนหรือคะ?”
“ไปซ้อมดนตรีกับเพื่อนครับ คงจะกลับเย็น ๆ หรือไม่ก็ค่ำ ๆ ฝากบอกทุกคนด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ ขับรถระหวังนะคะคุณหนู”
“ครับ”
จริงใจมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ บ่งบอกว่ายังเหลือเวลาอีกราวยี่สิบนาทีจึงจะถึงเวลานัด เขาถอดหมวกกันน็อกออก สะบัดหัวเบา ๆ ให้ผมเข้าที่ก่อนจะยกมือขึ้นเสยผม ขายาวก้าวลงจากรถ เก็บหมวกกันน็อกให้เรียบร้อยแล้วจึงเอาหมวกสแน็ปแบ็กในกระเป๋ามาใส่แทน จากนั้นจึงเดินไปที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่อยู่ไม่ไกลจากห้องซ้อม
ปึก! “โทษที” จริงใจมองตามคนที่พูดขอโทษส่ง ๆ หลังจากที่เดินชนเขา แม้จะรู้สึกไม่ชอบใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ด้วยนิสัยที่เป็นค่อนข้าง ‘ช่างแม่ง’
เด็กหนุ่มยังคงมองแผ่นหลังของเจ้าของร่างที่ชนเขาอยู่ คนคนนั้นเปิดประตูขึ้นไปบนรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่เยื้องกันกับร้านฟาสต์ฟู้ดที่เขาจะไป จริงใจเลิกคิ้วขึ้นเมื่อคนนั้นปิดประตูเสียงดัง ให้ทาย ตอนนี้เจ้าตัวคงอารมณ์ไม่ดีอยู่แน่ คงเป็นโชคดีของเขาไม่ถือสาเอาความเรื่องที่ชนเขาแล้วขอโทษแบบขอไปที ดวงตาเรียวมองดูป้ายทะเบียนรถแล้วเหยียดยิ้มมุมปากอย่างไม่รู้ตัว สะบัดหัวเล็กน้อยแล้วจึงเดินไปที่ร้านอาหารอย่างที่ตั้งใจเอาไว้
“ปิดเบา ๆ ไม่เป็นหรือไง!” เจ้าของรถแหวใส่เพื่อนที่ปิดประตูรถเสียแรง แต่สิ่งที่ได้กลับมาดันเป็นการที่เพื่อนรักมองด้วยหางตาอย่างรำคาญ
“มึงเป็นอะไรวะ?” เอ่ยถามเพื่อนที่ยังหงุดหงิดไม่เลิก โทรเรียกให้มารับถึงที่นี่ แทนที่จะสำนึกบุญคุณแต่กลับมาทำตัวแบบนี้ใส่เนี่ยนะ มันน่าปล่อยทิ้งกลางทางเสียจริง ชายร่างผอมหันไปมองเพื่อนที่ยังทำนิ่งแล้วถอนหายใจออกมา ลืมปากไว้บ้านหรือไง อย่าให้ตุ๊ดต้องโมโหนะยะ!!
“กูเลิกกับไอ้ภีมแล้ว”
เอี๊ยด! ผู้ที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับเหยียบเบรกกะทันหันเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนเอ่ยออกมา ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ
“ทะ ทำไมวะ?”
“มันมีคนอื่น มันนอกใจกู”
“มึง... แน่ใจหรอภัค?” เจ้าของชื่อภัค หรือ ณภัค เม้มปากแล้วพยักหน้า จะไม่แน่ใจได้ยังไง ก็ในเมื่อเขาเปิดประตูเข้าไปเจอแฟนตัวเองกำลังนอนอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่เขาโดยไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นอยู่กับตา
“ไม่แน่ได้ยังไงพีท กูเห็นกับตา!!”
“พี่ภีมกับมึงก็รักกันดีไม่ใช่เหรอ แล้วเลิกกันได้ยังไง งงไปหมดแล้วสังคม!”
“จอมปลอมน่ะสิ!” แม้จะไม่เข้าใจแต่พีทก็ยังเงียบ ในหัวมีคำถามอยู่มากมาย แต่เขากลับไม่สามารถพูดออกไปได้ และได้แต่รอให้ณภัคเป็นคนเล่ามันออกมาเอง
ในวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดของใครหลายคน ณภัคตื่นขึ้นมาแต่เช้าอย่างอารมณ์ดี ร่างผอมเพรียวเดินตรงเข้าไปอาบน้ำให้สดชื่นก่อนจะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสไตล์ที่ชอบ ณภัคกะว่าจะไปหาภีมแฟนหนุ่มโดยไม่บอกล่วงหน้าเพื่อให้ภีมประหลาดใจ ณภัคออกจากคอนโดของตัวเองในช่วงสายเพื่อไปยังที่อยู่ของแฟนหนุ่มด้วยรถแท็กซี่ และกว่าจะถึงที่หมายก็กินเวลาไปเกือบบ่ายโมง ร่างเล็กก้าวเดินเข้าไปในคอนโดมิเนียมหรูด้วยความมั่นใจ เขามีคีย์การ์ดอยู่แล้วเพราะว่าภีมเป็นคนให้มา เมื่อมาถึงชั้นห้องพักของภีม ขาเรียวก็ก้าวเดินออกจากลิฟต์ แตะคีย์การ์ดเปิดห้องเข้าไปอย่างเงียบเชียบ รอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้า ภีมยังไม่ตื่นแน่เลย… ร่างบางคิดในใจ ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นรองเท้าไม่คุ้นตาถูกถอดทิ้งไว้ที่โถงทางเข้า มันไซส์เล็กเกินกว่าที่จะเป็นของแฟนเขา ดวงตาเรียวตวัดมองไปภายในห้อง เขาค่อย ๆ ก้าวเข้าไป ความคิดไม่ดีเริ่มผุดเข้ามาในหัว ไม่หรอก อาจจะเป็นเพื่อนของภีมก็ได้...
มือเรียววางบนมือจับประตู เขากดมันลงช้า ๆ แล้วผลักบานประตูเข้าไป ร่างกายชาวาบสะท้านไปทั้งตัวเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ภายในห้องนอนกว้างที่มีร่างของคนสองคนนอนหลับใหลอยู่บนเตียงกว้าง เสื้อผ้าถูกโยนไปไร้ทิศทางเกลื่อนพื้นห้อง สภาพยับย่นของเตียงและผ้าห่มรวมทั้งผ้าปูที่นอนและเศษซากถุงยากอนามัยที่ใช้แล้วนั้นบ่งบอกได้ดีว่าบทเพลงกามของพวกมันร้อนแรงแค่ไหน ณภัคกำมือแน่นระงับอารมณ์โกรธที่ปะทุอยู่ภายใน จากที่จะมาเซอร์ไพรส์แฟน แต่ทำไมถึงเป็นเขาที่โดนเซอร์ไพรส์เสียเอง…
“แล้วมึงก็รอจนพวกมันตื่นน่ะนะ! มึงทำได้ยังไงหา!” พีทร้องโวยวายเสียงดังเมื่อณภัคเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังจบ ร่างบางยักไหล่ไม่ยี่หระ หลังจากที่เห็นภาพบาดตาพวกนั้นเขาก็แสยะยิ้ม นั่งรอที่โซฟาห้องนั่งเล่นจนสองคนนั้นตื่น สีหน้าตกใจของภีมทำให้ณภัคยิ้มร้าย ทั้งยังชู้รักของแฟนที่ตอนนี้กลายเป็นแฟนเก่าไปแล้ว น่าสมเพชจริง ๆ
“มึงดูโนสนโนแคร์โนแยแสทุกอย่าง แล้วหงุดหงิดอะไรวะ ปิดประตูรถกูซะดัง อีห่า”
“หงุดหงิดอีเด็กชู้นั่นไง ทำเป็นร้องไห้สะอึกสะอื้น พอลับหลังภีมก็กลายเป็นเด็กเปรต แล้วก็หงุดหงิดที่เป็นควายอยู่เป็นเดือนไงสัด!”
“แล้วมึงจะเอายังไง?”
“ไม่ยังไง เลิกก็คือเลิก อย่ามายุ่งกับกูอีก”
“พี่ฟ้าาาาาาาา~~~” จันทร์เจ้าตะโกนเรียกชื่อพี่ฟ้าเสียงดังก้องบริเวณทันทีที่ลงจากรถบัส ก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปหาพี่ฟ้าสุดที่รักแล้วกอดหมับด้วยความคิดถึง
“หนูคิดถึงพี่ฟ้าที่ฉุดในโลกเยยยยยยย”
“พี่ฟ้าก็คิดถึงหนู ไหน มาหอมหน่อย”
“หอมเยอะ ๆ หนูชอบ คิกคิก” ลูกหมูหัวเราะคิกคักด้วยความพอใจก่อนจะหอมพี่ฟ้ากลับ “อ๊ะ! น้าเจ้ามาด้วยหรอครับ?”
“หึ” น้าเจ้าแค่นเสียงในลำคอ พอเจอพี่ฟ้าไม่ว่าใครหน้าไหนก็กลายเป็นเพียงแค่ธาตุอากาศที่ไม่มีตัวตนสำหรับจันทร์เจ้าทั้งนั้น ซึ่งในส่วนนั้นเจ้าชีวันก็เข้าใจดี เจ้าลูกหมูผละออกจากพี่ฟ้าแล้วเข้ามาคลอเคลียเขาบ้าง
“หนูคิดถึงน้าเจ้าที่สุดดดดดดดด”
“เหรอ? ถ้าเมื่อกี้น้าไม่พูด ก็คงมองไม่เห็นน้าใช่ไหม?”
“ไม่ใช่สักหน่อย น้าเจ้าอย่าคิดแบบนั้นซี่ หนูเสียใจนะ” ส่ายหน้าเบา ๆ กับคำพูดของหลานคนโต คล้าย ๆ ว่าจะงอนหลาน แต่พอลูกหมูฉีกยิ้มอ้อนก็ต้องยิ้มตาม หอมหน้าผากลูกหมูไปหนึ่งทีก่อนจะปล่อยเขากลับไปให้พี่ฟ้าของเขา
“กระเป๋าหนูอยู่ไหน?”
“อ๊ะ! หนูลืม เดี๋ยวหนูไปเอาก่อนนะ!!” จันทร์เจ้าชะเง้อคอไปมา มองกระเป๋าหลายใบที่ถูกวางไว้ในจุดเดียวกัน รุ่นพี่บอกว่าขนออกมารวมกันไว้ทั้งหมดจะได้หาง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปรื้อจากที่เก็บของในรถบัส ย่นจมูกเล็กน้อยเพราะคนเยอะ แล้วจึงถอยออกมายืนอยู่กับฟินน์และเบสท์ รอให้คนเหลือน้อยกว่านี้ก่อนแล้วค่อยเข้าไปหาก็แล้วกัน
“เบสท์ ฟินน์ นี่น้าเจ้า น้าเราเอง” ลูกหมูแนะนำน้าเจ้าที่เดินเข้ามากอดคอให้เพื่อนทั้งสองได้รู้จัก
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ จันทร์เจ้าป่วนหรือเปล่า?”
“อย่าให้ต้องพูดเลยค่ะ!”
“ฮะฮ่า พอจะเข้าใจ”
“หูย น้าเจ้าน่ะ หนูไม่ป่วนสักหน่อย หนูเป็นเด็กดี”
“เชื่อว่าหนูเป็นเด็กดี แต่ที่หนูไม่ป่วนน้าไม่เชื่อครับ”
“ใช่ครับ วันนี้ก็จับจิ้งจกในห้องน้ำมาใส่เบสท์” ลูกหมูตัวหดเมื่อโดนสายตาดุ ๆ จากน้าเจ้ามองมาหลังจากที่เบสท์พูดไป
“เง่อ...หนูแค่เห็นว่าคุณจิ้งจกน่ารักก็เลยจับไปให้เบสท์ดูด้วยเฉย ๆ หนูไม่รู้ว่าเบสท์กลัว หนูขอโทษแล้วด้วย ; _ ; ”
เจ้าชีวันแทบจะยกมือกุมขมับกับความมึนของลูกหมู
“ทีหลังอยากทำอะไรแบบนี้อีก เกิดเพื่อนตกใจจนเป็นลมขึ้นมาจะทำยังไง!?”
จันทร์เจ้าก้มหน้าสำนึกผิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาทำมายื่นใส่เบสท์ ฟ้องน้าเจ้าทำไม เราโดนดุเลย ฮือ โป้งแล้ว! เบสท์แลบลิ้นใส่ลูกหมูหน้าหงอย รู้จุดอ่อนมันแล้วก็ไม่ยากที่จะแก้แค้น ต่อไปนี้มีอะไรเดี๋ยวจะฟ้องน้าเจ้าให้หมดเลย!
“จันทร์เจ้า!” น้าเจ้าเรียกเสียงดุ ก็ได้ ๆ ไม่ทำปากยื่นใส่เบสท์แล้วก็ได้
“น้าเจ้าอย่าดุหนู หนูน่ารักนะ น้าเจ้าจะดุหนูจริง ๆ เหรอ?”
“ไม่ต้องมาอ้อน ไปเอากระเป๋าได้แล้วไป”
“เตี้ย”
“อ๊ะ! สวัสดี ทิวาไปไหนมาหรอ?” จันทร์เอ่ยถามคนตัวสูงที่เดินเข้ามาหา ระหว่างนั้นก็เดินวนรอบ ๆ บริเวณที่วางกระเป๋าเพื่อหาของตัวเอง
“ไปหาของกิน”
“หวา ไม่ชวนเราเลย”
“หึ เอาไป” ทิวากาลหัวเราะในลำคอก่อนจะยื่นนมกล่องรสหวานให้กับเด็กตัวขาว
“อู้หูย! ขอบคุณครับผม!”
“เจเจคุยกับใครวะ?” เพลิงฟ้าถามคนรัก แขนเรียวยกขึ้นกอดอก ดวงตาจ้องมองไปที่ลูกหมูตัวนิ่มที่กำลังคุยกับผู้ชายคนหนึ่งด้วยท่าทางสนุกสนาน
“ก็อยู่กับมึง จะรู้ไหม” ร่างสูงโปร่งจิปากขัดใจ ก่อนจะสืบเท้าเข้าไปหาเจเจที่รัก เพื่อนก็อยู่ใกล้ ๆ ทำไมไม่คุยกับเพื่อนนะ ไปสนิทกับเด็กตัวสูงนั่นได้ล่ะเจเจ พี่ฟ้าไม่อยากคิดไปเองนะ!
“เจเจครับ ได้กระเป๋าหรือยัง?” เพลิงฟ้าถามลูกหมูเสียงนุ่มหลังจากที่เข้าไปยืนแทรกตรงกลางระหว่างจันทร์เจ้าและทิวากาล ทิวากาลขมวดคิ้ว เขาต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพราะคนที่เข้ามาใหม่ ผู้ชายผมยาวคนนี้ใครกันวะ!?
“ง่ะ.. หนูเจอแล้วแต่เข้าไม่เอาไม่ได้ครับ มันอยู่ด้านในเลย” ลูกหมูยู่ปาก เอ่ยบอกพี่ฟ้าด้วยน้ำเสียงงอแง เพลิงฟ้าอมยิ้ม ปาดก้านนิ้วปัดผมด้านหน้าเจเจก่อนจะโอบไหล่ของลูกหมูไว้ ขณะที่สายตาก็มองไปยังเด็กผู้ชายท่าทางสนิทสนมกับลูกหมูของตนอย่างสำรวจและสังเกต
“เดี๋ยวพี่ฟ้าไปเอาให้แล้วกันนะเด็กดื้อ”
“หนูไม่ดื้อน้า~~~” ทิวากาลยังคงคิ้วขมวดขณะที่มองเด็กแก้มกลมพูดกับคนที่ชื่อพี่ฟ้าด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างจากที่ใช้พูดกับคนอื่น ไหนจะคำแทนตัวเองที่เรียกว่า ‘หนู’ นั่นอีก คนคนนั้นคือคนเดียวกับที่เด็กแก้มกลมคุยโทรศัพท์ด้วยเมื่อวันนั้นสินะ ความสัมพันธ์ของคนนี้คืออะไรกัน แค่คนที่สนิทกันมาก ๆ หรือเป็นอะไรที่มากกว่านั้น
เลี้ยงต้อยหรอวะ? “ทิวาขมวดคิ้วทำไมอ่า? อยากเข้าห้องน้ำเหรอ?” ร่างสูงหลุดออกจาห้วงความคิดเมื่อได้ยินเสียงใสเอ่ยถาม ทิวากาลก้มหน้ามองคนที่แหงนหน้ามองเขาอยู่
“เปล่า”
“อ้าว แล้วขมวดคิ้วทำไมอ่ะ? เราก็นึกว่าอยากเข้าห้องน้ำซะอีก”
“ช่างกูเถอะน่า”
“ก็เด๊ะ!”
“เจเจ ไม่แนะนำเพื่อนให้พี่ฟ้ารู้จักหน่อยหรอครับ” เพลิงฟ้าพูดขึ้นเมื่อกลับมาหาเจเจของเขาอีกครั้งพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าของลูกหมู จันทร์เจ้าเบิกตา อ้าปากค้าง เลิกสนใจทิวากาลชั่วครู่แล้วมาสนใจพี่ฟ้าแทน ว้า! แย่จังเลย เราลืมแนะนำเพื่อน ๆ ได้ยังไงกันนะ!
“นี่ ๆ นี่เพื่อนหนู ผู้หญิงชื่อฟินน์ครับ ผู้ชายชื่อเบสท์” ลูกหมูยิ้มแฉ่งรีบบอกชื่อเพื่อนให้พี่ฟ้ารู้อย่างขันแข็ง
“ฟินน์เบสท์ นี่
พี่ฟ้าของเราเอง”
“สวัสดีครับเด็ก ๆ” เพลิงฟ้าส่งยิ้มให้เพื่อนของลูกหมูทั้งสองคน ซึ่งเด็กทั้งสองคนก็รีบยกมือไหว้เขาพร้อมพูดสวัสดี เพลิงฟ้าหันไปมองอีกคนที่ยังอยู่ข้างเจเจของเขา เด็กตัวสูงนั่นขมวดคิ้วยุ่งจนไม่น่ามอง
“แล้วอีกคนล่ะครับ?”
“เอ?” ลูกหมูเอียงคอสงสัยกับคำถามของพี่ฟ้า แต่พอมองตามสายตาพี่ฟ้าไปแล้วสบตากับทิวาก็ต้องร้องอ๋อออกมา
“คนนี้ไม่ใช่เพื่อนหนู” ทิวากาลหันขวับมองหน้าคนพูดทันที ดวงตาคมกริบเบิกขึ้นเล็กน้อย และปฏิกิริยาพวกนั้นอยู่ในสายตาของเพลิงฟ้าทั้งหมด และขณะนั้นเองที่เจ้าชีวันเดินเข้ามาหาพวกเขาพอดี ยืนดูอยู่สักพักแล้ว รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของคนรักนั้นอยู่ไม่น่าไว้ใจสักเท่าไหร่ เขาทนยืนดูไอ้ดื้อแกล้งเด็กไม่ไหว อายุก็เยอะแล้วยังจะเล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้
“อ้าว ถ้าไม่ใช่เพื่อนหนูแล้วทำไมถึงได้----”
“ทิวาเป็นรุ่นพี่หนูต่างหาก ทิวา ๆ นี่พี่ฟ้าของเรา แล้วนี่ก็น้าเจ้าของเรา น้าเจ้ากับพี่ฟ้าเป็นแฟ----” ลูกหมูพูดแทรกพี่ฟ้าที่ยังพูดไม่จบ แล้วรีบพูดยาวเหยียดให้พี่ฟ้าฟัง สงสัยบาปจะตามทัน เราพูดไม่ทันจบก็มีคนมาแทรกเราแล้ว งุ้ย!
“จันทร์เจ้า! นึกว่ากลับแล้วซะอีก”
“อ่า... เรากำลังจะกลับแล้ว ตะวันมีอะไรเหรอ?” คราวนี้เพลิงฟ้าได้ขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามาทักลูกหมู เจ้าเด็กนั่น... ยิ้มเสียกว้าง แถมสายตาที่มองเจเจยังไม่น่าไว้ใจอีก และไม่ได้มีแค่เพลิงฟ้าเท่านั้นที่คิ้วขมวด เจ้าชีวัน ทิวากาล รวมทั้งฟินน์และเบสท์เองก็เช่นกัน
มันยังไงกันนะ
“ตะวันมีธุระอะไรกับไอ้แคระหรอ?” กลายเป็นเบสท์ที่เป็นคนเอ่ยถาม ตะวันยิ้มเก้อ เกาท้ายทอยคล้ายทำตัวไม่ถูก เขาเพิ่งจะสังเกตว่านอกจากจันทร์เจ้ากับเพื่อนแล้วยังมีคนอื่นอยู่ด้วย ตะวันเลื่อนสายตาลงต่ำ หยุดไว้ที่มือเล็กของจันทร์เจ้าที่ถูกกุมด้วยมือที่ใหญ่กว่าจากคนข้าง ๆ
เพลิงฟ้าเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าตะวันมองตนอยู่ด้วยสายตาที่ค่อนข้างเคลือบแคลง อย่าบอกว่าเด็กคิดไม่ซื่อกับเจเจนะ!! ไม่ได้การละ! ความคิดเพลิงฟ้าตีกันยุ่ง และเหมือนพระเจ้าจะเข้าข้างคนแมนอย่างเขาจึงทำให้นมที่เจเจกำลังดื่มอยู่เลอะมุมปาก ร่างสูงโปร่งส่งมืออีกข้างออกไปกะจะเช็ดคราบนมออกให้ลูกหมูตัวขาว ทว่ากลับมีอีกมือที่ยื่นมาชนกับมือเขาพอดี!!!
เด็กที่เจเจเรียกว่าทิวา!!
ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!
“พี่ฟ้ากับทิวาจะแย่งนมหนูหรอ ไม่ให้นะ!” ลูกหมูจอมตะกละว่าก่อนจะรีบดูดนมรสหวานในกล่องสี่เหลี่ยมรวดเดียวจนหมดแถมยังดูดซ้ำ ๆ จนแน่ใจว่าไม่เหลือแม้แต่หยดเดียวจึงเป่าลมเข้าไปใหม่
“แย่งที่ไหนเล่า พี่ฟ้าจะเช็ดนมที่เลอะให้ต่างหาก”
“อ้าว ก็นึกว่าจะแย่งของหนู”
“เห็นแก่กิน” ทำปากยื่นใส่ทิวาซึ่งเป็นพูด เพลิงฟ้าแอบมีความหมั่นไส้เล็กน้อยค่อนไปปานกลางจึงยกมือโอบไหล่และรั้งให้ลูกหมูมายืนใกล้ตน ลูกหมูเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดีด้วยการยกแขนทั้งสองข้างกอดเอวพี่ฟ้าและซบหน้ากับอกพี่ฟ้าด้วย
ตัวพี่ฟ้าห้อมหอม หนูช้อบชอบ
“แล้วนี่จะกลับยังไงล่ะ?” เจ้าชีวันเอ่ยถามขึ้นไม่เจาะจงคนตอบ หากรอให้เพลิงฟ้าหรือลูกหมูถามเพื่อน คงไม่ได้กลับกันพอดี มัวแต่ออดอ้อนกันอยู่นั่น
“ฟินน์รอพ่อมารับค่ะ”
“เบสท์อยู่หอครับ เดี๋ยวนั่งแท็กซี่ไป แต่คงรอพ่อฟินน์มาก่อนถึงจะกลับ”
“งั้นน้องเบสท์กลับด้วยกันไหมครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เพลิงฟ้าบอกบ้าง เมื่อเห็นเพื่อนเจเจทำหน้าไม่ถูกแถมยังบอกว่าเกรงใจ แต่คนอย่างเพลิงฟ้าก็เกลี่ยกล่อมจนเบสท์ยอมตกลง เจ้าชีวันปล่อยให้เด็ก ๆ คุยกันเฉพาะเด็ก เขาจึงลากให้เพลิงฟ้ามารอบนรถด้วยกัน แต่คนดื้อก็ดื้ออยู่วันยันค่ำ ยืนยันจะอยู่ให้ได้ จนเขาต้องอ้างว่าเด็ก ๆ อึดอัดนั่นแหละถึงได้ยอม
“เตี้ย / จันทร์เจ้า”
“ไรเหยอ?” แหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย กลอกตามองทิวาและตะวันที่เรียกตนพร้อมกันไปมา
“พี่ฟ้าของมึงเป็นใครวะ?” ทิวากาลโน้มลงไปกระซิบเสียงเขาข้างใบหูคนตัวเล็ก ลูกหมูกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะกระซิบตอบเช่นกัน
“พี่ฟ้าเป็นคนที่เรารักมาก ๆ แล้วเป็นแฟนน้าเจ้าด้วย”
กระซิบมา กระซิบกลับครับ ไม่โกง คึคึ
ทิวากาลขมวดคิ้วในประโยคแรกแล้วจึงผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกภายหลัง ลอบยิ้มในใจเมื่อมันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิด หากเขาไม่คิดไปเอง รู้สึกพี่ฟ้าของเจ้าเด็กแก้มกลมนี่จะจงใจสร้างความเข้าใจผิดเหลือเกิน
“เราขอไลน์จันทร์เจ้าหน่อยได้ป่ะ?” เจ้าของชื่อชะงัก ตะวันมองจันทร์เจ้ามีหวัง
“ไลน์เหรอ? เราไม่ค่อยเล่นอ่ะ”
“งั้นเราขอไอดีไว้เฉย ๆ ก็ได้” ตะวันพูดพร้อมยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าจันทร์เจ้าล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมา แต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อนิ้วเล็กกดที่ปุ่มโฮมแล้วไม่มีแสงสว่างอะไรขึ้นมา
“แบตเตอร์รี่เราหมดง่ะ แล้วเราก็จำไอดีไม่ได้ด้วย ขอโทษน้า”
“อ่า... ไม่เป็นไร ไว้คราวหน้าก็ได้”
ทิวากาลยกกำปั้นปิดมุมปากที่กำลังแสยะยิ้ม เขาไม่คิดว่าโทรศัพท์มือถือจะแบตเตอร์รี่หมดอย่างที่เจ้าตัวบอก เพราะก่อนหน้านั้นเขายังเห็นเจ้าเด็กนี่เล่นอยู่ และมันจะหมดได้ยังไงเร็วขนาดนั้นในเมื่อเด็กแก้มกลมเพิ่งยืมแบตเตอร์รี่สำรองจากชมพู่มาชาร์จเมื่อประมาณสามสิบนาทีที่แล้ว
ร้ายจริง ๆ เลยนะ
“มึง ๆ พ่อกูมาแล้ว ไปก่อนนะเว้ย เจอกันพรุ่งนี้ บายยยยยยย” ฟินน์พูดเร็ว ๆ พร้อมกับโบกมือให้ก่อนจะวิ่งออกไปพร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า
“งั้นเราก็กลับกันเถอะเบสท์”
“อือ ๆ” เบสท์รับคำ ยกกระเป๋าตัวเองขึ้นมาถือ
“จันทร์เจ้าจะกลับแล้วเหรอ?” ตะวันถามขึ้นมา
“อือ พี่ฟ้ารอนานแล้ว เราไปละนะ บั๊บบัย”
“เดี๋ยว...” ทิวากาลคว้าไหล่เล็กเอาไว้ ลูกหมูเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย ก่อนจะหน้ามุ่ยทำปากเป็ดใส่เมื่อทิวาโน้มมากระซิบเสียงเบาที่ข้างหูอีกครั้ง
“ขึ้นรถแล้วก็อย่าลืมเปิดเครื่องล่ะ” จันทร์เจ้าเบิกตากว้างเมื่อได้ฟังที่ทิวาพูด แง! ทิวารู้ได้ยังไงว่าเราแอบปิดเครื่อง คนร้ายกาจ!!! ร่างสูงยิ้มขำก่อนจะผลักศีรษะลูกหมูเบา ๆ แล้วบอกให้ไปได้แล้ว จันทร์เจ้าหันไปแลบลิ้นใส่แล้วจึงคว้าข้อมือเบสท์แล้ววิ่งไปที่รถของน้าเจ้า ก่อนรถจะออกเจ้าหมูน้อยก็ลดกระจกลงจนสุดวางคางบนคางหน้าต่างรถยนต์ก่อนจะตะโกนบอกบั๊บบัยและโบกมือให้ทิวา โดยมีตะวันยืนขมวดคิ้วอยู่ไม่ไกล
“ออกรถซิ!” เจ้าชีวันหัวเราะ ส่ายหน้าเบา ๆ แล้วจึงยอมออกรถตามคำสั่งของผู้ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นคนรัก
นี่ก็หวงจนวินาทีสุดท้ายเลย...
TBC
มีความอัพเร็ว ชดเชยให้เพราะอัพตอนที่ 8 ช้าแล้วกันนะคะ แง่
วันนั้นตอนพยายามลงตอนที่ 8 นานมาก ทั้งให้เพื่อนช่วยละคือหัวร้อนมาก สุดท้ายเป็นเพราะตัวเอง คือมันมีอีโมจิปีศาจ โถ่ชีวิต
กราบตักขอบคุณคุณ Rafael มาก ๆ ที่ช่วยโพสต์ให้ บุญคุณนี้ใหญ่หลวงนัก! ให้ลูกหมูไปเล่นที่บ้านสองวันค่ะ TwT
และในส่วนของตอนที่ 9 นั่น.... จริงใจจจจจจจ จริงใจคืออะไรลูกกก หนูไปมองตามพี่เข้าแล้วยิ้มทำไมค้าาาาาาา

แล้วพาร์ทสุดท้าย มีเจ้าชีวันกับเพลิงฟ้าคนแมนของเขา มาด้วย หงั่กกกกกกก คิดถึงมากมาย

สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านเรื่องของพี่เจ้ากับเพลิงฟ้าและอยากอ่าน เชิญวาร์ปค่ะ
「WAIT FOR LOVE」รักแล้วรอหน่อย ♡ อ้าว มีความขายของ 5555555555555555555
เอ้อ ก็ควรจะพอได้แล้ว นี่ทอล์คหรือเขียนไดอารี่
ไว้เจอกันตอนหน้านะคับผม บั๊บบัย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและคอมเมนต์และคนที่ไม่ได้เมนต์ด้วย ยังไงก็ขอบคุณค่า .โป้งชี้ก้อย