Chapter 2
| Me tooผมเดินออกมาจากหลังร้าน ออกมาหาคนที่นั่งชะเง้อชะเเง้เหม่อนมองหาบางอย่างอยู่ที่เดิม เเต่เเตกต่างจากเดิมตรงที่ว่าจานที่เคยพูนไปด้วยข้าวกลับว่างเปล่า
พอผมเดินเข้ามาใกล้ไอฝรั่งมันหันมาเจอก็เผยยิ้มออกมา
ผมก็ยิ้มตอบ ใจก็คิดถึงเเผนการที่ได้ฟังมาเมื่อครู่ซึ่งก็ไม่ได้เเย่อะไร พี่เต้นี่ฉลาดจริงอะไรจริงวุ้ย
ผมเดินไปหามันด้วยความมั่นใจฉีกยิ้มกว้างให้ พร้อมเอ่ยประโยคที่ท่องไว้ในใจหลายสิบรอบด้วยความมั่นใจอย่างสุดซึ้ง
.
.
.
"เมื่อกี้มึงบอกอะไรมันวะเต้"ฟาง หนุ่มไม่น้อยวัยครึ่งห้าสิบ เจ้าของใบหน้าดุดิบเถื่อนต่างจากชื่อเล่นราวฟ้ากับเหวเอ่ยถาม
"ไม่มีไรหรอกพี่ ฮ่าๆ"ไอคนเด็กกว่าหน่อยก็ตอบปัด หัวเราะร่าอย่างที่คนฟังต้องหรี่ตามอง
"โคตรไม่น่าเชื่อถือ มึงนี่ก็หาเรื่องไปแกล้งน้องมันได้ทุกวี่ทุกวัน"ฟางส่ายหัวกับนิสัยขี้เเกล้งที่รักษาไม่หาย
"โอ้ยพี่! ดูมันดิน่าเเกล้งจะตาย พูดอะไรก็เชื่อไปหมด ฮ่าๆๆ"
"เออๆอันนั้นไม่เถียง สรุปว่าเมื่อกี้ให้มันทำอะไรวะ"
"เเค่บอกให้มันไปบอกฝรั่งนั้นว่าตัวเองเป็นเกย์เอง ฮ่าๆๆๆ"
-------------------------------------
"เป็นไรวะธีร์มานั่งทำหน้าเหมือนอยากตายขนาดนี้"
"พี่ฟาง.."ผมเรียกเอ้ยชื่ออีกฝ่ายมาอย่างเเผ่วเบา หันมองหน้าพี่เขาด้วยสีหน้าที่ตัวเองก็ยังบอกไม่ถูก นี่หน้ากูดูอมทุกข์ขนาดนั้นเลยหรอวะ
"เกิดไรขึ้น เเล้วเพื่อนคุณโคลด์ล่ะ"
"ไล่ไปแล้ว"
"อ้าว! ทำไมล่ะ วันนี้ต้องไปเป็นไกด์ให้เขาไม่ใช่หรอ"ผมได้เเต่ถอนหายใจหนักๆเเทนคำตอบ เเล้วฟุบลงไปกับโต๊ะใช้คางท้าวโต๊ะไว้เเล้วตอบเสียงอ่อย
"เพราะแผนของพี่เต้นั่นเเหละ"
"หืม..เเล้วเป็นไงเขาว่าไง"พี่เขาคงจะรู้เเล้วสินะว่าเเผนที่ว่าคืออะไร ผมมองหน้าที่รกรุงรังไปด้วยหนวด ถึงจะเป็นคนหน้าตาเถื่อนๆก็เถอะ เเต่จริงๆพี่เขาโคตรคนดีเลยตั้งเเต่ผมมาทำงานพี่เขาก็คอยช่วยตลอด
"มีทู"
"ห้ะ?"
"เขาตอบว่า 'มีทู' "
สิ้นคำตอบผมเท่านั้นเเหละ พี่เขาก็เงียบไปพักนึงด้วยสีหน้าเงิบๆ เเน่นอนว่าศัพท์นี้ วลีนี้เด็กอนุบาลยังเข้าใจ ตอนเเรกที่ได้ยินผมก็เงิบไม่ต่างกันจากยิ้มๆด้วยความมั่นใจว่ามันต้องรับไม่ได้เเล้ววิ่งเเจ้นไปบอกเฮียว่าอยู่กับผมไม่ได้เเต่มันกลับตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มเหมือนโล่งใจ
มีทู...
นอกจากแผนที่วางไว้จะล้มไม่เป็นท่า ยังกลับกลายเป็นว่ามันดันเป็นแทนนี่สิ
พลาดแล้ว ไม่พรากธรรมดา โคตรพลาดอ่ะบอกเลย
"เเล้วเราเอาไงต่อ"
"ไม่รู้อ่ะพี่ ตอนนี้เเบบหัวมันโล่งมาก"ผมขยี้หัวตัวเองเเรงๆ นี่มันหาเรื่องให้ตัวเองชัดๆเลย ก็ไม่ได้รังเกียจหรอกถ้าไอหมีควายนั่นจะเป็น เเต่พอคิดว่าต้องอยู่ด้วยกันมันก็อดขนลุกซู่ซ่าไม่ได้อยู่ดี
ผมยังห่วงตูดผมอยู่นะเห้ย!
"เอ้าๆ เหาขึ้นไงมึงอ่ะ อย่าเอามาเเพร่เเถวนี้นะเห้ย"เสียงเหาหอนนี่ก็ยังไม่พ้นพี่เต้เจ้าเก่าเจ้าเดิมเพิ่มเติมคือหมาในปาก ผมมองเขาด้วยหน้านิ่งๆเเต่ก็อดจะมุ่ยหน้าออกมาหน่อยๆไม่ได้
"เพราะพี่นั่นเเหละ แผนบ้าแผนบออะไรไม่รู้"
"อะไรๆ เกิดไรขึ้นวะ"พี่เต้เเทบจะเปลี่ยนทิศทางไม่ทัน จากตอนเเรกที่จะไปเปิดร้านเเต่พอเห็นหน้าไม่สบอารมณ์ของรุ่นน้องก็อดที่จะอยากรู้(เสือก)ไม่ได้
"เฮ้ออออ ผมไปละ"
ผมซึ่งขี้เกียจตอบคำถามจึงลุกขึ้นไม่สนใจเสียงรอบข้างที่ยิงคำถามใส่รัวๆเเล้วเดินออกจากร้าน มือก็เกี่ยวป้ายหน้าร้านให้กลับด้านบ่งบอกว่าถึงเวลาเปิดร้านเเล้วอย่างรู้หน้าที่
ตอนนี้ที่คิดได้อย่างเเรกเลยคือผมต้องไปแก้ข่าวเรื่องเมื่อกี้ซะก่อน ตอนเเรกที่พูดไปเพราะไม่ทันคิดว่าถ้ามันเกิดรับได้จะเป็นยังไงต่อ
ผมเดินออกมานอกร้านมองซ้ายขวา นี่ผมไม่ได้โดดงานนะ ก็ตอนเเรกเฮียก็กะให้ผมไปดูเเลไอหมีควายนั่นอยู่เเล้วนี่..
เอี๊ยดดด!!!
"อยากตายรึไงวะ!!" ผมหันไปตามเสียงเเละก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อไอคนที่ผมตามหากำลังยืนยิ้มให้กับคู่กรณีคนไทยที่พูดออกมาเสียงดังลั่น
เขาด่ามึงอยู่นะ ยังจะไปยิ้มให้อีกให้ตายเถอะ
เเละเหมือนคนต่างถิ่นต่างเเดนจะไม่เข้าใจอะไรซักอย่างยืนยิ้มค้างอยู่เเบบเดิม จนคนที่ยืนด่าเเทบจะกระชากเข้าไปต่อยเพราะคิดว่ามันกวนตีน
"เห้ยๆพี่ใจเย็นๆ"ผมเข้าไปห้ามทัพได้ทันยกมือปรามทั้งสองฝ่าย พี่เขายอมละหมัดที่เตรียมเหวี่ยงใส่หน้าหล่อๆเเต่ใบหน้ายังคงบูดเบี้ยวไปด้วยอารมณ์โกรธ
"น้องรู้จักมันใช่ไหม บอกมันด้วยว่าถ้าอยากตายให้กลับไปตายประเทศตัวเอง เดี๋ยวแผ่นดินเรามันจะเปื้อน!"คนพูดกระเเทกเสียงเน้นๆ ก่อนจะหมุนตัวขึ้นรถที่จอดค้างไว้ ปิดประตูเสียงดังเเล้วคงจะเหยียบคันเร่งสุดเเรงเกิด
"มึงนี่นะ.."ผมหันมามองไอตัวปัญหา
อ่าว หายไปไหนเเล้ววะ
"There..there.. It's gonna be okay boy.( โอ๋ๆ ไม่เป็นไรเเล้วนะ)"เสียงทุ้มคุ้นหูดังออกมาจากอีกฟาก ผมขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อมองไปยังสิ่งที่อยู่ในอ้อมเเขนเเกร่งของอีกฝ่าย
หมา?
ไปเอาหมาใครมาวะ เเถมยังอุ้มขึ้นมาเเนบอกเหมือนต้องการปลอบ เเต่เดี๋ยวนะ..
"เห้ย! เลือดมันออกไม่ใช่รึไง!"
ผมปรี่ไปหาอีกฝ่ายทันทีด้วยความตื่นตระหนก เลือดสีข้นไหลไม่หยุดออกมาจากขาหลังของมันจนเลอะเสื้อเชิร์ตสีสว่างของไอฝรั่งไปหมด
เเต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ตกใจอะไรเลย กลับลูบหัวหมาไทยหลังอานตัวนั้นเบาๆเเล้วคอยพูดกับมันตลอดเหมือนปลอบ
"หงิง.."เเถมมันยังครางหงิงๆซุกหน้ากับอกเเกร่ง
ทำไมกูเห็นออร่าเเบบส้มๆชมพูๆมาจากสองตัวนั้นวะ ผมสะบัดหัวน้อยๆไล่ความคิดไร้สาระออกจากหัว ตอนนี้ต้องทำไงดีล่ะ คิดสิไอธีร์
"Clinic?(คลินิก?)"
"เออใช่! เเถวนี้..เอ่อ..อ้อ! ตามมาๆ"พอนึกออกผมก็กวักมือให้มันตามมา เเถวนี้ถ้าจำไม่ผิดซอยข้างๆจะมีอยู่ ผมเดินตรงเข้าไปในซอยข้างร้านเฮียเเล้วเดินผ่านตรอกเล็กๆเพื่อทะลุไปอีกซอยเเละก็ต้องโล่งใจที่มันมีอยู่จริงๆ
.
.
.
.
"ห้ะ! หมอไม่อยู่!!!"
"ค่ะ..คือว่าวันนี้คุณหมอมีนัดไปตรวจข้างนอกน่ะค่ะ อีกประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงจะกลับ"พนักงานสาวผู้รับหน้าอยู่ด้านหน้าตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
"เเล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเเบบนี้ขึ้นมาคุณจะทำยังไง จะปล่อยให้มันตายรึไง"ผมกระชากเสียงเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ
หมอไม่อยู่? หมอไม่อยู่เนี่ยนะ! ทั้งคลีนิกหมอมันมีคนเดียวรึไงวะ ถึงจะมีคนเดียวก็เถอะเเต่คนอื่นๆมันก็ควรจะทำอะไรได้บ้าง ไม่ใช่มายืนบอกหมอไม่อยู่ๆเเบบนี้
ผมหันไปมองอีกคนที่มีสีหน้าไม่ต่างจากผม คิ้วพาดเฉียงถูกกดลงหนักกว่าเก่ายามที่หันมามองหน้าผมเหมือนไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจที่กูพูดล่ะสิ
"มีใครพูดภาษาอังกฤษได้บ้าง" ผมพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกเเรงๆเหมือนที่ชอบทำเวลาจะสงบสติอารมณ์
"กะ..ก็พอได้ค่ะ"
"งั้นไปอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไอนั่นที"ผมชี้ไปทางไอฝรั่งที่ในอ้อมอกยังมีหมาน้อยหายใจรวยรินอยู่ ถึงผมจะไม่ค่อยชอบหมาเเต่ก็ไม่ได้เกลียดจะปล่อยให้มันตายๆก็ใช่เรื่อง
พนักงานสาวก็พยักหน้ารับรีบปลีกตัวไปคุยเเละชี้เเจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เเต่ไอฝรั่งหมีควายเพียงเเค่พยักหน้ารับหน้าเครียดไม่มีการโวยวายหรือเเสดงความไม่พอใจ เพียงเเค่ไม่มีรอยยิ้มอ่อนประดับเหมือนอย่างเคย
"ขอยืมอุปกรณ์หน่อยได้ไหมครับ?"
"คะ?"
"เดี๋ยวผมจะจัดการเอง"
"เเต่คุณ.."
"นี่ครับ เท่านี้ก็โอเคเเล้วใช่ไหม"ผมพยายามเงี่ยหูฟัง เเต่เเน่นอนว่าถึงได้ยินก็ฟังไม่ออกเลยเลือกมองท่าทางของทั้งสองคนเเทน จนกระทั่งไอหมีมันควักบัตรบางอย่างขึ้นมาจากนั้นพนักงานก็เบิกตากว้างเล็กน้อย เเล้วรีบนำทางเขาไปข้างใน
"อะไรของมันวะ"ผมบ่นพึมพำเดินตามเข้าไป เเต่ก็ถูกพนักงานที่เหลือเข้ามาขวางซะก่อน
"ทำไมผมจะเข้าไม่ได้ ทีไอฝรั่งนั่นยังเข้าไปได้เลย"ผมขมวดคิ้วไม่พอใจเข้าไปใหญ่ เหลือบมองหลังกว้างๆที่เพิ่งเลี้ยวเข้าห้องๆนึงที่เขียนว่าห้องผ่าตัด
เห้ยๆ หมอไม่อยู่ไม่ใช่รึไง
"เหมือนว่าเขาจะเป็นสัตวเเพทย์นะคะ"พนักงานสาวอีกคนตอบ
"อ่อหรอ.."ผมตอบกลับด้วยความเร็วเเสงก่อนที่สมองน้อยๆจะได้ประมวลผล.. เดี๋ยวนะเดี๋ยว
"เห้ย!!"
เยดโด้! หมอ! มันเป็นหมอ! ถึงเเม้จะเป็นหมอหมาก็เถอะ เเต่ดูจากบุคลิกท่าทางก็ให้อยู่นะ เเล้วพอมาคิดๆย้อนดูเเล้วที่มันไปยืนยิ้มจนเกือบโดนต่อยหน้าเพราะช่วยไอหมานี่มันก็คงจะรักสัตว์โคตรๆ
"แปลว่าน้องก็เพิ่งรู้หรอคะ อยู่ด้วยกันมานานรึยัง"พี่พนักงานคนเดิมถาม ผมเลยได้เเต่ถอยมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ที่้ขาจัดไว้สำหรับให้คนนั่งรอ
"ไม่นานมานี้เองครับ"
"เเล้วปกติเขาเป็นคนยังไงหรือ"พี่คนเดิมค่อยๆทรุดตัวลงนั่งข้างตัวผม พร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้ ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดอะไรก็ตอบๆไป
"ไม่รู้สิครับ เเต่คนดีพอตัวเลยเเหละ"
"เเล้วเขามีเเฟนรึยัง"
"อันนี้ผมก็ไม่รู้เเหะ..คงต้องไปถามเขาเอง"ผมเกาหัวเเกรกๆเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ พี่พนักงานสาวที่ใบหน้าเเต้มไปด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะก็ชวนคุยไปเรื่อย ซึ่งส่วนมากจะถามเรื่องของไอฝรั่งหมีควายนั่น ผมก็ได้เเต่ยิ้มเเห้งเพราะไม่รู้จะตอบอะไรดี
ตึก
เสียงฝีเท้าหยุดกึกทำให้ผมต้องหันไปมอง
ไอฝรั่งหมีควายมันเดินออกมา ตาก็มองมาทางผมกับพี่พนักงานเเล้วจากนั้นก็เสหน้าไปอีกด้าน ใบหน้าคมเข้มเเบบชาวตะวันตกไม่ได้มีรอยยิ้มบางประดับเเบบเดิมมันทำให้ใจผมกระตุกวูบ
เเล้วไอหมาตัวนั้นล่ะเห้ย
"ตอนนี้น้องปลอดภัยเเล้วนะคะ เเต่คงต้องให้อยู่ที่นี่รักษาอาการก่อนประมาณสองถึงสามวัน"จากนั้นเสียงผู้หญิงก็ดังออกมาจากร่างของไอฝรั่ง ไม่สิ..คนที่อยู่ข้างหลังมากกว่า
"เเล้วค่ารักษา.."
"ทางเราจะไม่คิดค่ารักษาใดๆค่ะ อย่างที่น้องบอกพวกเราทำงานผิดพลาดกันเอง"ผมยิ้มเเห้งๆให้พี่พนักงาน ตอนนั้นเผลอไปว่าเขาด้วยอารมณ์ล้วนๆ
ผมที่ยังมีมารยาทอยู่เลยค้อมหัวกล่าวขอบคุณพี่เขาก่อนจะพาร่างสูงเดินออกมาข้างนอก เราไม่พูดไม่จากันเหมือนปกติ เพราะถึงพูดกูก็ไม่เข้าใจ
"เอ่อ.."มันเป็นฝ่ายส่งเสียงออกมาก่อน ผมหันไปมองคนที่เดินตามหลัง เห็นมันจับเสื้อสีเข้มที่เปื้อนเลือดเเล้วสะบัดๆเล็กน้อย
ก็ว่าทำไมตอนเดินมาคนมองกันจัง สงสัยคิดว่าพวกเราไปฆ่าใครตายล่ะมั้ง
"ถอดๆ เดี๋ยวไปซื้อให้ใหม่"ผมก็พูดไปงั้นๆ เพราะสุดท้ายก็เป็นผมเองที่เอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิร์ตให้มัน มันผงะเล็กน้อยเเต่ก็ไม่ได้ปัดมือผมออกปล่อยให้ผมปลดลงมาเรื่อยจนถึงเม็ดสุดท้าย ผมก็กระชากเสื้อมันออกเเล้วโยนไปในกองขยะเเถวๆนั้นโดยลืมคิดไปว่าเสื้อที่มันใส่อยู่คือเสื้อผม..
อ่าวเห้ย!! เสื้อกูนี่หว่า!!
[/size]