เคียงเดือน - {END}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เคียงเดือน - {END}  (อ่าน 370863 ครั้ง)

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
โอ๊ย เพิ่งเห็นว่าจบแล้ว
งือ~~~~~ ไม่อยากให้จบเลยค่ะ  :hao5:
เป็นนิยายที่เข้ามาอ่านแบบงงๆ 555
แต่ชอบมากๆ ช่วงแรกๆฮาสุดๆ
จำได้ว่าอ่านตอนนั่งรถเมล์ คือต้องกลั้นขำจนตัวสั่น
คนข้างๆคงมองว่าเราบ้าอ่ะ 555  :z2:

เรื่องนี้จะเป็นนิยายที่ขึ้นหิ้งสำหรับเรา

อยากให้มีอีบุ๊คจังค่ะ จะซื้อเก็บไว้เลย
นี้ไม่ได้อยู่ไทย คงไม่ได้ซื้อแบบหนังสือ

ป.ล จะมีตอนพิเศษอีกไหมคะ
ขอตอนพิเศษอีกสักตอนสองตอนนะคะ   :mew2:

รักเจ๊เคียง
รักคนเขียน  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-11-2018 16:37:11 โดย ooomukooo »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ aabee

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :L2: ติดตามมาจากเรื่องแอบรักคะ

ชอบที่เรื่องนี้เป็นรักที่จะมีแอบเศร้าก็ไม่ได้หนัก แต่พออ่านจบแต่ละตอนจะขำ และรู้สึกดีตามพระเอก นายเอกไปด้วยคะ  ในเรื่องเกี่ยวกับตัวร้ายเราว่ามันตัวเป็นชีวิตจริงดีคะ  ไม่มีใครจะร้ายเหมือนนางร้ายในละครหรอกคะ ถ้าไม่มีปมอะไรในชีวิต. จริงๆ เราชอบที่ผู้เขียนเเต่งนะคะ และต้องขอโทษที่พึ่งมาให้ความเห็น เพราะพึ่งตามมาจากเรื่องแอบรักในเด็กดี แล้วจึงได้มาอ่านเรื่องนี้ ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้จนถึงบทสรุป ขอบคุณที่เเต่งอะไรเเล้วทำให้ยิ้มได้ หัวเราะตาม

ออฟไลน์ Pe_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 375
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จบแล้วหรอเนี่ย 3 ปี เลยหรอที่ตามเรื่องนี้ ขอบคุณคนเขียนค่ะที่ต่อจนจบ  :mew2:

ออฟไลน์ nuch-p

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 345
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
สนุกมากค่ะ จะติดตามต่อไปปป :-[

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
กฏพิเศษข้อที่สี่
ราคาค่าร่ม


โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  ผมเจอเขาในวันฝนพรำ วันที่ฟ้ามืดมัว และคนเองก็มืดมน
                  
                  คนอย่างผมมันไม่มีดีอะไรเลย เพื่อนทรยศ แฟนหักหลัง สุดท้ายก็ถูกครอบครัวที่คิดว่าพอพึ่งพาได้ เฉดหัวออกจากบ้านที่พ่อแม่ตัวเองสร้างขึ้นมากับมือ ด้วยหยาดเหงื่อ และความยากลำบาก
                  
                  ต่อจากนี้ผมไม่มีบ้านให้กลับไปแล้ว ครอบครัวจริงๆของผมได้ตายไปแล้ว ต่อจากนี้ผมคือเด็กกำพร้า นักศึกษามหา’ลัยจนตรอก ไร้ที่ไป และไม่รู้ว่าจะเอาไงต่อ
   
                  ทำได้เพียงแค่เดินกลางถนนที่ไร้ผู้คน และฝนสาดซาอย่างรุนแรง ทำให้เนื้อตัวแสบไปหมด แต่ความเจ็บปวดที่หัวใจกลับรวดร้าวหลายเท่าตัวนัก
   
                  เนื้อตัวเปียกปอน การเดินกลางสายฝนเป็นข้อดีที่ไม่มีใครจะล่วงรู้ หากน้ำตามันจะไหลอาบแก้มมากมายแค่ไหน แต่เขาคงลืมไป ว่าตอนนี้ตัวคนเดียว ใครกันจะมาห่วงใยเราอีก ไม่เหลือแล้วเอิร์ธ ตัวมึงไม่เหลือใครอีกแล้ว
   
                  คำตอบสุดท้ายของความรัก คือความว่างเปล่า หัวใจเขามันช่างเหน็บหนาวเหลือเกิน
   
                  ไปเลยนะอิควาย ที่พวกกูยอมคบกับมึงเพราะมึงรวยหรอก ตอนนี้ครอบครัวล้มละลาย พ่อแม่ฆ่าตัวตาย มึงมันก็ไร้ค่า มีดีแค่หน้าตา แต่หมาไม่รับไปแดก
   
                  เท่านั้นยังไม่เพียงพออีกเหรอ
   
                  โง่จริงๆเอิร์ธ แฟนฉันมันจะไปรักแกลงได้ไง แฟนฉันชอบผู้หญิง ที่มันยอมคบกับแกก็เพราะฉัน แกมันโง่ โง่จนโดนหลอกเอาเงินไปถลุง แต่ตอนนี้แกไม่มีเงินแล้ว ไปที่ไหนก็ไปนะ อย่ามาให้เห็นหน้าอีก ไปไป๊ อิโง่เอิร์ธ
   
                  เขาโดนไล่ตะเพิดอย่างกับหมูหมา ถูกคนที่รักสองคนหักหลังยังไม่พอ…
   
                  เอิร์ธจ๊ะ ถ้าเซ็นต์ตรงนี้ป้าก็จะได้เข้ามาช่วยเราดูแลบ้านหลังนี้ ธุรกิจที่เหลืออยู่ของพ่อแม่เราด้วยไง
   
                  เขามันโง่จริงๆ ที่คิดว่าครอบครัวคือที่พึ่งสุดท้าย
   
                  ตอนนี้เขามันคนไร้ค่า บ้านจะให้กลับไปยังไม่มี ถูกป้าแท้ๆหลอกให้เซ็นต์เอกสารยกบ้านให้ แล้วโยนกระเป๋า ตัดหางปล่อยวัดเขา
                  ไม่เหลืออะไรแล้ว
                  เขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว
                  หนทางสุดท้ายของคนมืดมน ฟ้าคงจะเลือกให้เขาแล้ว
   


                  เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
   


                  รถแลมเบอกินีที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว…
                  กับแสงไฟหน้ารถ และเสียงดังสนั่น
                  ไม่เจ็บ…
                  ไม่เจ็บเลยสักนิด นี่เหรอความตาย ความตายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่เจ็บปวด แต่ทำไมใจเขายังเจ็บอยู่
                  นั่นเพราะว่า…
   


                  “อยากตายหรือไงวะ โว้ยยยยยย คนยิ่งอารมณ์เสียอยู่ด้วย”
   


                  รถเบรกทัน และไม่ได้ชนเขา
                  เขายังยืนอยู่ตรงนี้ แบบร่างกายครบสามสิบสอง
                  เขายังไม่ตาย
                  คนบนรถเปิดประตูเสียงดัง แล้ววิ่งเข้ามาดู
   


                  “เป็นบ้าอะไรมาเดินกลางถนนวะ เพื่อนไม่มีคบเหรอ”
   


                  ฉึก ประโยคนี้แทงใจดำเหลือเกิน เขาเบือนหน้าหนีมัน
                  ทำแบบนี้ เดี๋ยวคนตรงหน้าก็คงวิ่งหนีเขาไปแล้ว ไปเลย รีบไปสิ เขามันไม่มีใครคบ
                  และมันก็ไปจริงๆ…
   
                  ครืน ครืน
   
                  ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย แลมเบอกินีสีบรอนซ์ยังจอดนิ่งสนิท ก่อนประตูจะเปิดอีกรอบ
                  คนบนรถเดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง พร้อมกับ…
   


                  “กลับบ้านไปเถอะ กูให้เอาไปใช้ แม้มึงจะเปียกไปหมดแล้วก็เหอะ”
   


                  เขารับร่มมาจากมัน
                  แล้วเจ้าของก็โบกมือ ก่อนมันจะขึ้นรถไปแล้วสตาร์ทจากไป
                  น่าแปลกที่ร่มหนึ่งคัน กลับทำให้หัวใจเจ็บแปลบอบอุ่นขึ้นมาได้
                  อุ่นเหลือเกิน
                  ความห่วงใยจากคนแปลกหน้าช่างอบอุ่นเหลือเกิน
                  แล้วเขา จะกลับไปไหนดีล่ะ

   





                  “ดีใจด้วยนะเอิร์ธ มึงสอบติดแล้วววววววว”
   
                  เขาดันจมูกใบเตยอย่างหมั่นไส้ ที่อีกฝ่ายล้อในความสอบที่ไหนก็ไม่ติดของเขา แหม เขาเป็นเด็กซิ่วเหอะ ที่จริงเห็นแบบนี้ก็เคยสอบติดมอดังมาแล้วนะ ไม่ได้อวด เพียงแต่ชีวิตรันทดเจอมรสุมซะก่อน ไม่งั้นนะ
                  คงไม่มีเงินจ่ายค่าเรียน เฮ้อ
   
                  “ขอบคุณมากนะใบเตย ที่มึงช่วยกูทุกๆอย่าง”
   
                  แต่โบราณว่าแม้ช่วงเวลาเลวร้ายก็ยังมีสิ่งดีๆ มิตรภาพของใบเตยเข้ามาพร้อมความช่วยเหลือหลายๆสิ่ง ทั้งให้ที่อยู่ งาน และความโอบอ้อมอารีที่เขาจะไม่มีวันลืม
                  ครอบครัวของเธอช่วยเขาไว้มากจริงๆ
   
                  “ไง เอะอะโวยวายอะไรกันน้องทั้งสองของพี่”
   
                  เขาหันไปยิ้มให้กับคนมาใหม่ พี่ของใบเตย ที่เขายึดเอามาเป็นพี่ของเขาด้วยเช่นกัน
   
                  “ก็เอิร์ธสอบติดแล้วอะดิ คนโง่กว่าจะหาที่เรียนได้”
   
                  เขาผลักหัวมันไปหนึ่งที “โอ๊ย ผู้ชายอะไรวะทำร้ายร่างกายผู้หญิง” มันก็ทำได้แค่ยู่หน้าหรอก หึหึ ใบเตยมันสู้แรงเขาไม่ได้หรอก
   
                  “ก็มันไม่มีที่ถูกๆเลยนี่นา กูก็ต้องระแวงค่าใช้จ่ายจะท่วมหัวตายก่อนดิ”
                  พี่ภูมองหน้าเขานิ่ง “ง่า เอิร์ธไม่อยากรบกวนพี่ภูแล้วครับ มันมากไป”
                  “มากไปยังไง ครอบครัวเดียวกัน”
                  “ง่า”
   
                  ประโยคนี้เขาไปไม่ถูกเลยแฮะ
   
                  “เอาน่า อย่างน้อยมึงก็ไปหาเขาได้สักทีนะ”
   
                  ใบเตยตบไหล่เขาให้กำลังใจ
   
                  “เขา เขาไหน”
   
                  พี่ภูฉงน พวกเราทำเพียงหัวเราะ แล้วเฉไฉไปเรื่องอื่น
                  กูกำลังจะไปหามึงแล้วนะ กูตั้งใจจะเอาร่มคันนั้นไปคืนมึง
   
   





                  “ปีหนึ่งทางนี้จ้า มาค่ะมา แม่นายจะพาไปที่นั่งน้า”
   
                  พี่ปีสามที่ห้อยป้ายชื่อ ‘คุณนาย’ ยืนกวักมือเรียกปีหนึ่งคณะมนุษยศาสตร์อยู่หน้าประตูทางเขามอ ตอนแรกเขายังกังวลอยู่เลยว่าจะไปหาคณะถูกมั้ย เพราะลืมหยิบแผนที่ กับไอโฟนเจ้ากรรมก็ดันชาร์จแบตนอนตายอยู่บนเตียงเสียนี่
                  อันที่จริงนี่ก็เป็นเฟรชชี่ครั้งที่สองของเขาอ่ะนะ แต่ต่างมหา’ลัย ต่างผู้คน ขอแอ๊บเป็นปีหนึ่งใสๆไม่รู้เรื่องอะไรก็แล้วกัน
   
                  “มึงโทรเรียกอิเก่งหน่อยซิ เดือนมนุษย์แม่มึงไม่มาปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรติ กูจะเขกหัวมันนะคะ อิส้ม โทรดิ๊”
   
                  เคยเห็นคนอารมณ์เสีย แต่ทำเราตลกได้มั้ยล่ะ ก็พี่คุณนายนี่แหละ ทำเขาจ้องพี่แกเพลินเลย แถมหลุดขำท่าทางโกรธไม่จริงจังของพี่แกจนคนหันมามอง รวมทั้งพี่แกด้วย
   
                  “วี๊ดดดดดดดดดดด”
   
                  พอพี่แกหันมาเห็นเขาเท่านั้นล่ะ
   
                  “งื้อ ไอ้บ้าเอิร์ธ ไอ้คนน่ารัก มึ๊งงงงง น้องอยู่คณะเราว่ะ”
   
                  พี่เขาคงรู้ชื่อเขาจากป้ายห้อยคอ รวมทั้งชื่อคณะด้วย
   
                  “กรี๊ดดดดด คณะเรามีคนหล่อแล้วเว้ย ไม่สาว ผ่าน น้องคือเดือนคณะ”
   
                  แล้วเพื่อนพี่คุณนายก็เข้ามารุมทึ้งรุมตอมเขามากมาย
                  เดี๋ยวๆ ขอหายใจแป๊บได้มั้ย
   
                  “มึงทำไรกันวะ”
   
                  มีเสียงระฆังดังช่วยชีวิตพอดี แม่ง คอเสื้อ เนคไทด์ หลุดลุ่ยหมดแล้ว นี่พวกพี่แกจะจับเขาแก้ผ้าจริงๆเหรอเนี่ย
   
                  “อิเก่ง อิหน้าหมา เอาหน้าหมาๆของมึงมาต้อนรับน้องๆปีหนึ่งได้แล้วเหรอ”
   
                  เพราะพี่คุณนายบังอยู่ เขาจึงมองไม่เห็นคนข้างหลังพี่แก อย่าหาว่าเขาเตี้ยนะ ก็พี่คุณนายแม่งเล่นใส่ส้นเข็มหกนิ้วมา ใครจะกล้ายืนเทียบล่ะ
   
                  “อย่างกูไม่ต้อนรับผู้ชายเว้ย หน้ากูมีไว้ล่อสาวๆ”
                  “ฟวยยยยยยย”
   
                  แม้ไม่เห็นตัว ก็บอกได้ว่าความกวนตีนพี่เก่งนี่ระดับร้อยล้าน
                  แต่แม่ก็คือแม่ กวนตีนแจกฟัคกลับไม่โกง
   
                  “เดี๋ยวอีกหน่อยมึงก็ตกกระป๋อง”
                  “เหอะ ขนาดเดือนมนุษย์ปีสองยังดังสู้กูไม่ได้เล้ย ถุย กูมันเดือนค้างฟ้า”
                  “ถุยยยยยยยยย อยากจะหัวร่อ นี่ค่ะ มึงเตรียมเจอน้องเฟรชชี่ปีหนึ่งคอยดู คนนี้ทั้งสดทั้งใหม่ ผู้หญิงเขาชอบบริโภคของสดย่ะ”
                  “ทำมาคุย”
                  “ไม่คุยค่ะ หล่อจริง”
                  “ไหนหลีกไปซิ ขอดูหน้าหน่อย”
   
                  มันรวดเร็วกะทันหันมาก ที่จะมีแรงช้างสารใดมาผลักพี่คุณนายออกไปได้ ไม่ใช่พี่แกตัวใหญ่นะ แต่แรงปรารถนาพี่แก แรงกล้าที่อยากฉุดเขาเต็มแก่มันเป็นพลังยึดเหนี่ยวพี่แกไว้กับเขาแน่นมาก
                  แต่พี่เก่งก็เอาออกไปได้
                  พี่เก่ง…
                  คนนั้น
                  เขาเบิกตากว้าง หัวใจเริ่มทำงานหนัก เสียงดังตึกตักบ่งบอกความคับแน่น พร้อมระเบิด
                  มันคนนั้น เมื่อวันฝนตก
                  เป็นมันจริงๆ มัน ที่ทำให้เขาดั้นด้นมาถึงที่นี่ ไม่คิดว่าจะได้เจอง่ายขนาดนี้
                  มันถือวิสาสะเอามือสากจับใบหน้าเขาให้เชิดขึ้น แล้วโน้มตัวมาใกล้
   
                  ตึกตัก ตึกตัก
   
                  หัวใจเต้นแรง ทั้งดีใจ ทั้งตื่นเต้น และทั้งลุ้นว่ามันจะจำเขาได้บ้างมั้ย
                  แต่ก็ต้องแฟบไปอย่างรวดเร็วเมื่อประโยคถัดมาดังขึ้นจากปากมัน
   
                  “ก็ไม่เท่าไหร่ ขี้เหร่เสียด้วยซ้ำ ผิวขาวไป หน้าเนียนไป เหมือนผู้หญิงจังวะ อย่าให้คณะอื่นมาว่าเดือนมนุษย์เจ้าสำอางแล้วกัน”
   
                  มันผละออกไปพูดเยาะเย้ยพี่คุณนาย
   
                  “กล้านะคะ บอบบางตรงไหน เมื่อกี้กูจับหน้าอกน้องกล้ามเป็นมัดๆ”
   
                  เฮ้ย พี่แกไปจับตอนไหน เขารีบยกมือปิดแผ่นอกตัวเองแบบขนลุกสุดๆ
   
                  “เหอะ ผอมแห้งขนาดนี้ มึงไปติวสอบกันเอาเองนะ กูไม่ดูให้ ดาวเดือนปีนี้กูเท ติดสาวเว้ย”
   
                  มันพูดเสร็จก็เตรียมผละหนี แต่พี่คุณนายรั้งแขนไว้
   
                  “หน้าที่มึงคืออยู่หน้าประตู รอรับน้องๆปีหนึ่งคณะเราค่ะ จะไปไหนค้า อิสัด”
   
                  มันทำหน้าเหม็นบูด แต่สุดท้ายก็ยอมตามใจพี่คุณนาย
   
                  “ส่วนน้องเอิร์ธ ตามพี่ไปลงทะเบียนที่คณะเลยค่ะ”
   
                  เขายิ้มรับ
   
   






                  หลังจากเข้ารับน้องที่คณะเกือบสองอาทิตย์กว่า วันนี้ก็เป็นวันแรกของเทอมแรก และชีวิตแรกในมหา’ลัยแห่งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าเขาไม่พบปัญหาติดขัดใดๆ การหาตึกเรียน อาคารเรียนราบรื่น เข้าทันทุกคาบ ทันเช็คชื่อทุกเซค แต่ว่ามาติดตรงช่วงบ่ายนี่ล่ะ
            
                  เขาต้องกินข้าวคนเดียว คนเดียวแบบไม่มีใบเตยมากินด้วยแล้ว
   
                  ก็นะ เขารู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างเข้ากับคนอื่นยากไปหน่อยเสียแล้ว หลังจากเจอเหตุการณ์ที่ไม่ชวนให้รำลึก และมันก็ค่อนข้างเป็นปัญหาใหญ่เสียด้วยสิ เขากลัวสายตาคนรอบข้าง ไม่ชอบให้ใครมอง และไม่อยากได้ยินคำพูดเสียหายของตัวเองที่ออกมาจากปากคนอื่น
   
                  “นั่นน้องเอิร์ธตัวเต็งเดือนคณะมนุษย์ปีนี้นี่ เห็นว่าโคตรหยิ่ง มากินข้าวคนเดียวจริงๆด้วย หล่อแล้วหยิ่งก็พักก่อนนะแก”
                  “เฮ้อ คนหล่อเดี๋ยวนี้แม่งโคตรหยิ่งเลย กะเทยเสียใจ”
   
                  เขาจะทำหูทวนลมได้อีกนานแค่ไหนกันเนี่ย
   
                  “ว่าก็ว่าเถอะ เดี๋ยวนี้คนคบกันที่จิตใจใช่หน้าตา หล่อแล้วนิสัยแบบนี้ ฉันก็ไม่คบแก”
                  “เอ๊ะมึงนี่ พูดเบาๆซิ น้องเค้าจะได้ยินนะคะ”
                  “เอ้อ ลืมไป”
   
                  แต่เขาก็ได้ยินมันทั้งหมดไปแล้วนี่ ไม่เป็นอะไร ใครจะว่ายังไงก็ช่าง เขาจะกินข้าวต่อ เขาจะกิน…
   
                  กึก!
   
                  “นั่งด้วยดิ๊ โต๊ะเต็ม ไอ้สัด มาสายนาทีเดียวเอง”
   
                  ทั้งอึ้ง ทั้งคาดไม่ถึง คนที่ทรุดตัวลงนั่งคือไอ้เก่ง ที่หายหัวไม่มาทำกิจกรรมรับน้องตลอดระยะเวลากิจกรรม จนเพื่อนสาปเพื่อนแช้งชักหักกระดูกให้ตายตกไป
   
                  ความจริงเขาควรเรียกมันว่าพี่ แต่ด้วยความนิสัยแบบนี้ เขาขอใช้สิทธิ์เฟรชชี่สามปีซ้อน ตอนนี้เราอายุเท่ากัน มาใช้กับมันแล้วกัน
   
                  แต่ไม่ว่ามันจะนิสัยเหี้ยในสายตาคนอื่นยังไง สำหรับเขา มันก็เหมือนมันในวันนั้น วันที่มันยื่นร่มคันนั้นให้เขา แล้วแลกเอาหัวใจชาๆหนีไป
                  เขาไม่ปฏิเสธหรอกว่าหลงรักคนไม่รู้จัก ผ่านความอบอุ่นแปลกๆที่หัวใจ
                  เพราะตอนนี้เมื่อมันมา มันก็ทำให้เขาอุ่นใจได้เสมอ
   
                  “รู้จักกันเหรอครับ”
                  “ไอ้สัด ไอ้เอิร์ธปีหนึ่ง เจอกันตอนวันลงทะเบียน หน้ากูหล่อขนาดนี้มึงยังกล้าลืม”
   
                  เอ่อ เขาหัวเราะได้มั้ย
   
                  “เป็นเดือนมันเหนื่อยนะได้น้อง”
                  “เหนื่อยตรงไหน พี่ยังเทไม่ทำอะไรเลย”
                  “บ๊ะ”
   
                  มันตบตักมีย้ำโห อะไร เอาดิ คนกวนตีนต้องเจอคนกวนตีนตอบ
   
                  “อย่ามาแย่งพี่ล่าเหยื่อแล้วกัน”
                  “คนอะไรคิดแต่เรื่องใต้สะดือ”
                  “หรือน้องอยากลอง”
   
                  เขาอึ้ง เขินหน้าแดง
   
                  “ลองพ่องมึงดิ” เป็นครั้งแรกที่ระเบิดคำพูดหยาบคายใส่มันแบบปฏิกิริยารีเฟล็กซ์
                  “อ่ะ โกรธกลบเกลื่อนพี่เจอมาเยอะมุกนี้”
   
                  เขาไม่พูดกับมันแล้ว จ้วงข้าวในชามกินเอาๆ มันก็ก้มลงจัดการอาหารของมันบ้าง
                  ก่อนเสียงโทรศัพท์จะดึงความสนใจของเราสองคนให้เงยหน้าขึ้นมา
   
                  “ว่าไงแอน”
                  “หืม ให้พี่ไปหาเหรอครับ”
                  “ได้สิครับ”
                  “แล้วพี่จะรีบไปหา”
   
                  เหมือนภาพเดจาวู และเสียงที่เกิดขึ้นช่างกระตุกความทรงจำเลือนรางที่แสนเจ็บปวดของเขากลับมา เขาคว้าข้อมือไอ้เก่งโดยอัตโนมัติก่อนมันจะลุกหนีไปไม่บอกลา
   
                  ‘คุณ เป็นอะไรรึเปล่า น้ำเสียงไม่ค่อยดีเลย’
                  ‘ให้ผมไปหาเหรอ’
                  ‘ได้ๆ ผมจะรีบไปหาเลย’
                  ‘เอิร์ธรอพ่อแป๊บนะลูก ไว้พ่อจะพาไปซื้อกล้องวันอื่นนะครับ’
   
                  ชายวัยกลางคนในความทรงจำคือพ่อเขาเอง พ่อลูบหัวเขา ก่อนจากไป และไม่กลับมาอีกเลย
                  
                  อึ้ง!!! สองสามีภรรยากินยาฆ่าตัวตาย เหตุเพราะธุรกิจล้มละลาย ไปต่อไม่ได้
   
                  พ่อกับแม่ ไม่เคยกลับมาหาเขาอีกเลย
   
                  “ห้ามไปนะ”
                  “อะไรของมึงเนี่ย เฮ้ย อย่าร้องไห้”
   
                  น้ำตาเขาไหลอาบแก้มไม่รู้ตัว
   
                  “ฮึก อย่าทิ้งผมไป”
                  “…”
                  “อย่าไปไหนนะ”
   
                  ก่อนสติเขาจะดับวูบ หัวก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของฝ่ามือหนา ที่ดึงเขาเข้าไปกอดแล้วลูบปลอบโยน




มีต่อจ้า...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2019 20:29:16 โดย MewSN »

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
ต่อจ้า...




                  ‘น้องคนนี้เป็นอะไรกับเก่งเดือนมนุษย์ปีสามอ่ะ’
                  ‘เก่งชอบผู้ชายเหรอเนี่ย หยี สรุปคบผู้หญิงบังหน้า แต่สุดท้ายหางก็โผล่’
                  ‘เฮ้อ คนหล่อสมัยนี้น้อ กินกันเอง กินกันเก่ง ผู้หญิงอย่างเราใจสลาย’
                  ‘ตกลงเก่งเป็นเกย์ใช่มะ’
   
                  สามวันแล้วที่รูปเขาโดนไอ้เก่งโอบกอดกลางโรงอาหารปลิวว่อนทั่วโซเชียล เดินไปไหนมีแต่คนพูดถึง ไปทางนั้นเพื่อนก็ถาม ไปทางนี้พี่ก็ถาม เขาเองต้องก้มหน้างุดๆ คอยหลบคนนั้นจะเข้ามาถาม คนนี้จะเข้ามาซัก
                  และเขา ต้องจำใจหลบตัวเองออกมาห่างๆจากมัน เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงมันเสียหาย
                  กับเขาน่ะไม่เป็นไร แต่กับคนที่คอยช่วยเหลือเขา เขารับไม่ได้จริงๆ ที่มันจะต้องมาถูกประณามแบบนี้
                  และเพราะเขาเองที่ชอบมันจริงๆ
                  เลยต้องรู้สึกผิดกับคำพูดที่ว่า เราสองคนคบกัน เพราะลึกๆแล้วเขาปกปิดซ่อนเร้นความรู้สึกดีใจที่ไม่ละอายต่อมันเลย
                  เขาดีใจที่คนอื่นมองว่าเราคบกัน แค่นี้เขาก็ดีใจแล้ว
                  ทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย
                  เขาคิดว่ามันเองก็ยังไม่อยากเจอเขาให้เป็นข่าวในตอนนี้ ถึงยังไงเขาก็เป็นปีหนึ่ง มันปีสาม คงไม่มีทางที่เราจะบังเอิญเจอกันง่ายๆในมอที่กว้างใหญ่แบบนี้หรอก
   
                  “เฮ้ย น้อง น้องปีหนึ่งคณะมนุษย์ใช่มั้ย”
   
                  รุ่นพี่ปีสามที่เขาจำได้ว่าชื่อพี่เคียงกายทักเขาไว้
   
                  “ว่างป่ะเรา ช่วยพี่ยกเอกสารไปให้อาจารย์ตึกสามหน่อยสิ เอชบีสามอ่ะ”
                  “ครับ ครับ”
   
                  เขาตามพี่เคียงกายไปยกเอกสารแบบมึนงง ซึ่งตอนแรกกะว่าจะหลบตัวเองไปอ่านหนังสือเงียบๆที่ห้องสมุด ไหงมาเดินตามพี่เคียงกายต้อยๆ มือถือเอกสารปึกใหญ่ตามเขาไปเอชบีสามได้เนี่ย
   
                  “วางตรงนี้เลย เค พี่ขอบคุณมากน้า ไว้เลี้ยงขนมตอบแทน”
                  “ครับ”
                  “อ้าว น้องเอิร์ธเต็งเดือนใช่มั้ยเนี่ย”
   
                  เขาเกาหัวแก้เขิน
   
                  “พี่รหัสปีสามของเราบ่นอยากเลี้ยง แต่ติดที่มันไม่เจอตัวเราสักทีอ่ะ”
   
                  พี่รหัสเขา ใครอ่ะ
                  เพราะมนุษยศาสตร์ยังไม่เปิดสายรหัสปีสามเขาเลยไม่รู้ว่าใครคือพี่รหัส
   
                  “ขอบคุณครับ ฝากบอกเขาว่าผมกินได้หมด ไม่เลือก”
                  เขาพูดทีเล่นทีจริง พี่เคียงกายยิ้มรับ “อ่าฮะ ไว้บอกมันเองนะ พี่ไปล่ะ”
   
                  พี่แกตบบ่าเขาหนึ่งทีแล้วเดินหนีไปเฉย อ้าว มาด้วยกันก็กลับด้วยกันดิพี่ ทิ้งกันเฉยเลย
                  แล้วเขาจะไปเจอพี่รหัสปีสามตัวเองได้ไงเล่า
   
                  แปะ
   
                  “เฮ้ย”
                  ตกใจอ่ะ จู่ๆก็มีมือใครมาวางบนหัว พอหันไปเท่านั้นล่ะ
                  “เว่อร์ไปไอ้น้อง”
                  มันมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง มันที่เขาหลบหน้ามาสามวัน วันนี้กลับเจอโดยกันบังเอิญที่ตึกเอชบีสามได้
                  “ขอตัวนะครับ”
   
                  เขาโค้งให้แล้วกะจะเดินอ้อมหนีไปอีกทางแต่ติดที่ถูกมือใหญ่คว้าหมับเข้าให้ที่ข้อมือ แล้วออกแรงดึงให้กลับไปเผชิญหน้าเหมือนเดิม
   
                  “เดี๋ยว อยากกินไรป่ะ กูเลี้ยง”
                  อะไรอีกล่ะเนี่ย เขาขมวดคิ้วมุ่น
                  “ทำหน้างง งงไร กูหิวข้าว จะเอามึงไปนั่งเป็นเพื่อน”
                  “พี่ก็ไปกินเองสิ ผมมีเรียน”
                  “ตลกครับ คาบเรียนบ่ายโมงเริ่มไปแล้ว มึงมาเถลไถลแถวนี้ได้ แปลว่ามึงไม่มีเรียน หรือไม่ก็โดดแล้ว เข้าไปก็ไม่ทันเช็คชื่อหรอก”
                  รู้ทันอีก
                  “ไป เดี๋ยวกูเลี้ยง”
   
                  มันดุนหลังเขาให้ออกเดิน ช่วยไม่ได้สินะ ก็เขามันคนปฏิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้จริงๆ
                  เขาไม่บอกหรอกว่าคิดถึงมันมากแค่ไหน
      
                  ตึกตัก ตึกตัก
   
                  ให้เสียงเต้นของหัวใจเป็นเครื่องการันตีแล้วกัน
   
   





                  “มึง นั่นเก่งกับน้องเอิร์ธนี่ ไม่ได้นะคะ เดือนกับเดือนจะกินกันเองไม่ได้น้า ไม่ยอมมมมม”
                  “ชู่ววว เบาๆมึง เขาได้ยินกันหมดละ”
                  “ฮือ ไม่ยอม เก่งเป็นเกย์จริงเหรอวะ”
   
                  ตลอดระยะทาง มีแต่คนพูดถึงเขากับไอ้เก่ง แต่คนข้างๆก็ไม่ยักจะสนใจเท่าไหร่ เดินฮัมเพลงตามประสาคนอารมณ์ดีขี้กวนตีนไปต่อแถวซื้อข้าวแบบมึนๆ
                  จนเมื่อเขาจะไปซื้ออีกร้าน มันกลับจับข้อมือเขาไว้อีกรอบ เรียกสายตาจากคนรอบข้าง
                  ด้วยปฏิกิริยาไวกว่าความคิด เขาสะบัดมือมันรุนแรงจนหลุดออก
   
                  “คนมอง”
                  มันเกาหัวแกรก
                  “แล้วจะทำไม”
                  “พี่ไม่ได้ยินที่เขานินทาเราเหรอ” เขากระซิบเสียงเบาหวิว
                  “มึงเป็นอย่างพวกนั้นว่ามั้ยล่ะ”
   
                  ฉึก!
                  เหมือนมีก้อนอะไรมาจุกตรงลำคอ
                  เขาน่ะ เป็นอย่างที่พวกนั้นว่าทุกอย่าง แต่กับคนที่ไม่คิดอะไรเลยอย่างมัน
                  นั่นสินะ มันชอบผู้หญิง คงมีแต่เขาเองที่ใจเต้นรัวไปกับความอบอุ่นที่เป็นแค่มิตรภาพ ที่อาจจะเรียกว่า แค่รุ่นน้องรุ่นพี่ก็ได้มั้ง
   
                  “อย่าคิดมาก เดี๋ยวไปเดินตากฝนไม่สบายขึ้นมาอีก”
                  “อะไรนะ”
                  เดินตากฝน ไม่สบาย?
                  “ก็ปกติคนเสียใจชอบทำกัน กูเห็นในเอ็มวีเพลงเยอะแยะ”
                  “อืม”
   
                  ชั่วครู่ เขานึกว่ามันจำเขาได้
                  แต่เขาคงแค่คิดไปเอง
                  มีเพียงตัวเองเท่านั้น ที่ยังมีความทรงจำนั้นหลงเหลืออยู่
                  แค่เขา… คนเดียว

   





                  และวันเปิดสายรหัสปีสามที่รอคอยนักหนาสำหรับใครหลายๆคนก็มาถึง ตัวเขาน่ะไม่เท่าไหร่ ออกจะชินเสียด้วยซ้ำ ก็เขาใช้ชีวิตแบบนี้ซ้ำมาสองปีแล้ว ปีนี้เป็นปีที่สาม ได้แต่ตื่นเต้นเฉยๆว่าใครจะเป็นพี่รหัสตัวเองเท่านั้นล่ะ
   
                  ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้เจอไอ้เก่งมาหลายวัน เห็นในสตอรี่ไอจีมันอัพว่างานหนัก งานเหนื่อย แต่เขาก็แอบเห็นนะว่าวันนั้นมันอุ้มหมีตัวใหญ่ขึ้นรถหน้าเซนทรัลอ่ะ
   
                  สงสัยน่าจะเอามาใช้งานนี้แหละ ไม่ก็เอาไปป้อสาวๆอีกตามเคย
   
                  เขาเริ่มมีเพื่อนแล้ว และเป็นธรรมดาของโลกใบนี้เมื่อมีเพื่อน ก็มีคนร่วมแชร์ข้อมูลมากมาย โดยเฉพาะเรื่องไอ้เก่ง น่าสงสัยที่เพื่อนเขาคิดว่าเขากำลังคบกับมันอยู่ เลยใส่ไฟเต็มที่ว่ามันเจ้าชู้อย่างนั้น เปย์หญิงอย่างนี้ แต่ก็น่าแปลกอีกนั่นล่ะ ที่ตลอดเวลาที่เขาเจอมัน เขาก็ไม่เคยเห็นมันพกใครมาเดินข้างๆเหมือนใครต่อใครครหาไว้
   
                  แต่ก็ดีแล้วล่ะ ถ้าวันหนึ่งมันมีเจ้าของ เขาคงเจ็บสาหัสน่าดู
   
                  “เหมาะสมกันมากมึง เดือนมนุษย์กับดาวบริหาร ฮือ แบบนี้กูขอยอมถอยตัว”
                  “ถอนตัวย่ะ”
                  “เอ้อ นั่นล่ะ อู้ยยยยยย น้องเก่งทำพี่เจ็บจิ๋ม”
                  “เอ้อ”
   
                  ไม่ต้องถามว่าอะไรเก่งๆ เพราะหลักฐานที่มีชีวิตเดินมาโน่นแล้ว มือข้างหนึ่งมันอุ้มตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ไว้ได้แค่วงแขนขวา อีกข้างให้ใครคนหนึ่งเกาะไว้
                  ใครคนนั้น ที่คู่ควรกับมัน
                  น่าแปลกที่เขาค่อยๆก้าวถอยหลังออกมาจากงานช้าๆ โดยที่ไม่รู้ตัว
   
                  “น้องเอิร์ธลูกแม่!!!”
   
                  แต่ก่อนขาเขาจะก้าวพ้นจากประตูงานเลี้ยงเปิดสายรหัสปีสาม เสียงของพี่คุณนายก็ดังขึ้นเรียกชื่อเขาไว้
                  พลอยทำให้คนที่เขาคิดว่าไม่เห็นตัวเองหันมาด้วย
   
                  “ไอ้เอิร์ธ มานี่”
   
                  มันกวักมือเรียกเขา
                  ไม่นะ
                  อีกนิดเดียว เพียงแค่อีกนิดเดียว เขาจะทนไม่ไหวแล้ว
                  น้ำตาของเขา ความอ่อนแอกำลังจะแสดงออกมา
                  เขาตัดสินใจหันหลังกลับ วิ่งหนีออกจากงานแบบไม่คิดกลับไปอีก
                  ความรักของเขา จบลงเท่านี้ล่ะ
                  เหมือนเมื่อไม่กี่ปีก่อน แต่อย่างน้อยความรักครั้งนี้ก็ไม่ได้ทรยศหักหลังเขา เพียงแต่เป็นตัวเขาต่างหากที่คิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะ
   
                  หมับ!
   
                  เพราะมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้ว่ามีใครบางคนตามมาจากในงาน
   
                  “เป็นอะไรวะ”
   
                  ไอ้เก่งจับไหล่ทั้งสองเขาแล้วบังคับให้หันไปเผชิญหน้ากับมัน
                  เขาเอามือปาดน้ำตาลวกๆ
   
                  “เป็นแบบนี้อีกแล้ว”
   
                  มันทำหน้าเข้ม จริงจัง เขาเหมือนถูกมันดุอยู่ ทำไม น้ำตาก็น้ำตาเขา คนเสียใจก็เป็นเขา
   
                  “ฝนยังไม่ตก อยากร้องก็มาร้องกับกูก่อน”
   
                  เพียงชั่ววินาที จากดวงตาแข็งกร้าวของมันก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยน แล้วจากนั้นเขาก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่น จากแผงอกที่สัมผัสแนบชิด
                  มันดึงเขาเข้าไปกอดไว้แน่น
                  มันจำเขาได้
                  ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่จำมันได้ จะเป็นไปได้ไง เราเจอกันแค่ครั้งเดียวเอง
   
                  “ขี้แยจริงๆ”
   
                  เขาผลอยหลับไปคาอ้อมกอดอุ่น
                  อย่างน้อย ก็เป็นกอดเดียวในรอบหลายปีที่ช่างอบอุ่นและปลอดภัยเหลือเกิน

   





                  “น้องเอิร์ธอ่า วิ่งหนีพวกพี่ไปไหนก็ไม่รู้ อินี่ตกใจนึกว่าน้องกลัวพี่นะคะเนี่ย”
   
                  พี่คุณนายเข้ามาตีไหลเขาเสียงออดอ้อน พี่แกน่ารัก บวกความฮาได้ทุกเมื่อจริงๆ
   
                  “ฮาตรงไอ้เก่งถือตุ๊กตาหมีวิ่งตามไป โง่”
                  “อ้าว กูรีบนี่”
                  “ค่ะ แล้วไม่ฝากกูไว้ล่ะ”
   
                  แล้วทั้งคู่ก็กัดกันตามประสา
   
                  ความจริงของเรื่องทั้งหมดก็คือ ตุ๊กตาหมีที่มันถือมาคือมันซื้อมาให้เขา จริงๆ มันจะเอามาให้เขา เพราะเขาเพิ่งได้รับรู้เมื่อไม่กี่นาทีก่อนว่า มันคือพี่รหัสปีสามของเขาเอง นั่นเป็นเหตุผลที่มันคอยดูแลเทคแคร์เขาอย่างดี
                  ถึงจะรู้อย่างนี้ แต่เขากลับไม่ดีใจเลย
                  แต่เอาเถอะ อย่างน้อยมันก็ยังไม่มีเจ้าของ ขอมโนต่อชีวิตคนมืดมนของตัวเองต่อไปแล้วกัน
                  เพราะคนที่มันควงมาคือน้องสาวสุดที่รักของแฟนพี่เคียงกายเองจ้า
                  ไม่บอกหรอกนะ ว่ากำลังดีใจอยู่ ขอเปิดเผยความรู้สึกจริงๆในใจหน่อยแล้วกัน
   
                  “แล้วสรุปรูปนี้หมายความว่าไง”
   
                  พี่คุณนายโชว์รูปที่เขากับไอ้เก่งกอดกันกลมขึ้นมา เขาหันไปทางอื่นเขินๆ
   
                  “อะไร กูปลอบน้องเฉยๆ เราไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย”
                  “…”
                  “เนอะ อย่าเงียบดิ”
                  “ครับ”
                  ที่มันพูดแบบนั้น เขาไม่สนใจหรอกนะเพราะว่าหลังจากนี้…

   





                  งานเฟรชชี่ไนท์ของคณะเป็นความรับผิดชอบของปีหนึ่ง ในทุกๆปีเฟรชชี่ไนท์คณะจะมีธีมให้แต่ละสาขาหรือเมเจอร์ได้ระดมความคิดอย่างหนัก เพื่อนำเสนอธีมที่ทางคณะจัดมาให้ออกมาในรูปของความสร้างสรรค์ ที่แสดงถึงความร่วมมือ การระดมความคิด และความสามัคคีของพวกเราเหล่าเฟรชชี่ปีหนึ่ง
                  และตอนนี้เขากำลังประชุมกับเพื่อนสาขามากหน้าหลายตาถึงรูปแบบของงาน และการวางแผน
                  จนมีใครคนหนึ่ง เข้ามาเรียกเขา
   
                  “เอิร์ธ มีคนมาหา”
                  “ฮิ้วววววววววววววววววววววววววว”
   
                  เท่านั้นล่ะ ทั้งกลุ่มเอ่ยแซวขึ้นมาทันที
   
                  “เสียใจอ่า อยากมีแบบเอิร์ธบ้างจังเลย”
                  “เรามันไม่มีวาสนา”
   
                  เขาปัดไม้ปัดมือให้ทุกคนแก้เขิน
                  แล้วออกไปหาคนที่รอหน้าตึก
   
                  “สวัสดีครับ”
                  “ยุงกัดกูหมดแล้วเนี่ย”
                  มันบ่นตามประสามัน
                  “เอาไป”
                  “จุดจุดจุด”
                  เขากวนประสาทมันก่อนจะได้รับคำว่า “พ่อง” กลับมา
                  “ของขวัญวันเกิด ไม่ฉลอง หมดงบ เอาไปเลี้ยงสาว”
                  มันก็พูดแบบนี้ทุกงาน แต่พอจริงๆแล้วมันก็ไม่มีสาวที่ไหนให้เลี้ยง เพราะเขาน่ะ รู้ดีที่สุดแล้ว
                  “ไป กลับกัน”
                  มันเดินนำไป
                  “แต่ประชุม…”
                  “ดึกแล้วครับ เดี๋ยวไม่สบาย”
                  เขาแพ้เสียงอ่อนของมันทุกทีเลย
                  “ขึ้นรถรอนะ ไปห้องน้ำแป๊บ”
                  เขาสงสัยว่าจะมีเซอร์ไพรส์อะไรในรถมั้ย แต่ก็ไม่ ใจแป้วนิดๆแฮะเรา มันไปห้องน้ำจริงๆ
                  ขอพักสายตาแป๊บแล้วกัน
   
                  ความสัมพันธ์ของเขากับมันก็ยังคงเป็นรุ่นพี่และรุ่นน้อง แต่เป็นน้องรหัสที่มันโคตรจะดูแลดีที่สุด เพื่อนมันว่ามาอย่างนั้นอ่ะนะ
                  จะมีพี่รหัสคนไหนที่ไปรับไปส่งเขาถึงที่บ้าง
                  จะมีพี่รหัสคนไหนที่ไปนอนค้างห้องคืนเว้นคืนบ้าง เพราะเขามีกิจกรรมเยอะหรอกนะ หอในปิดก่อนด้วยสิ เขาเลยเลือกไม่ได้ ใครตะโกนว่าข้ออ้างอ่ะ ฮ่าๆ
                  จะมีพี่รหัสคนไหนเวลาเดินแล้วจับมือน้องรหัสบ้าง และจะมีพี่รหัสคนไหน ที่ทำแบบนี้บ้างนะ…
   
                  “สุขสันต์วันเกิดค่า น้องเอิร์ธ”
   
                  นอกรถมีเพื่อนพี่เก่งเต็มไปหมด พี่เคียงกาย พี่ส้ม พี่นาย พี่หญิงแย้ พี่กะทิ แล้วก็พี่เดือนผัวพี่เคียงกาย ไอ้เก่งมันบอกให้เรียกแบบนี้
                  เขาลงจากรถไป
                  ยกมือไหว้ขอบคุณพี่ๆ ตาชะเง้อหามันก็ไม่มี
   
                  “เก่งบอกว่าให้เปิดอ่านโป๊สการ์ดก่อนแล้วมันจะออกมา อิเวรนี่พิรี้พิไรชิบหาย”
   
                  พี่นายยิ้มไปบ่นด่าไอ้เก่งไปตามประสาคู่กัด
                  เขาหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆขึ้นมาอ่าน
   
                  ได้เวลา ตอบแทนร่มคันนั้นแล้ว
   
                  มือหนาของใครบางคนที่คุ้นเคยเอื้อมมาปิดตาเขา ไม่ทนตั้งตัวเขาก็มองไม่เห็นอะไรแล้ว
   
                  “กูก็รอให้มึงคืนร่มอยู่ แต่ในเมื่อมึงไม่คืน มึงก็ต้องยอมจ่ายมา”
                  “…”
                  “ร่มอ่ะ มันมีราคา”
                  “…”
                  “มูลค่าแม่งก็ไม่แพง”
                  “…”
                  “แค่มึง…”
                  “…”
                  “มาเป็นแฟนกูมั้ยครับ”





- END -

คุณเก่ง น้องงงงงง งื้อ ความน้องนี้ แล้วเจอกันกับบทสุดท้ายจริงๆแล้วนะคะ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ดีต่อใจจริงๆ เลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
แอบหน่วงในใจนิดๆ แต่น่ารักมากๆเลย

ออฟไลน์ ooomukooo

  • AngieAngel
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
    • AngieAngel
เอาอีกๆๆๆๆๆๆ  :hao7:
งื้อ ชอบมากเลย
อยากอ่านอีก

ออฟไลน์ องศาวาย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
กรี๊ดดดดดดด อยากได้อยากโดนเรื่องยาว ได้โปรดประทานเก่งเอิร์ธมาทีเจ้าค้าาาา :hao7:

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
กลับมาอ่่นต่ออีกรอบ :pig4:

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น่ารัก นึกว่าจะจำไม่ได้ซะแล้ว  :katai2-1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
กฎพิเศษข้อสุดท้าย

#facts
ความจริงที่ว่าเขาเป็นเด็กฝึกงาน




โปรดเตรียมใจก่อนอ่าน...




                  เขาคือเคียงกาย เป็นเคียงกายอย่างที่เคยเป็น และจะเป็นเคียงกายคนเดิมต่อไป
                  แต่ชีวิตไม่ได้หยุดอยู่กับที่ ไม่ได้จบที่มหา’ลัย ชีวิตเขาต้องเดินต่อไป ปีแรกที่เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาว่างงาน ไม่มีงานทำ เป็นบุคคลนอนกินเงินพ่อแม่อยู่บ้านสองพันสิบแปด จนเมื่อเดือนจบ แล้วเข้าสืบทอดบริษัทของครอบครัวต่อจากพ่อมัน
                  ตัวเขาที่นอนกินบ้านกินเมืองมานาน จึงต้องเริ่มต้นบทเรียนใหม่ ที่ไม่มีในมหา’ลัย นั่นคือ…
                  เด็กฝึกงาน
   

                  “สวัสดีครับพี่จิ๊บ สวัสดีครับบอส”
   

                  เริ่มแรกเขาถูกบรรจุเข้ามาด้วยเส้นสาย แต่ไม่ได้ใช้ไต่เต้าเพื่อตำแหน่ง เขาบอกเดือนว่าหากจะมีใครสักคนขึ้นแท่นเป็นเลขามัน คงยังไม่ใช่เขาแน่ๆ ขนาดตารางเวลาตัวเองเขายังไปไม่รอด เอาตำแหน่งง่ายๆอย่างพนักงานคุมเครื่องถ่ายเอกสารไปก่อนแล้วกัน
                  และความลับสุดยอดที่พวกเราร่วมปกปิดกันไว้คือ ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดว่าเขากับเดือนเป็นอะไรกัน
                  ไม่ใช่กลัวที่ทำงานเหยียดหรือ ชื่อเสียงบอสอย่างมันเสียหายหรอกนะ เพียงแต่ว่าเขายังไม่อยากได้รับความเกรงใจ เกรงกลัว หรือเกรงอะไรก็แล้วแต่ หากจะมีใครสักคนคุยกับเขาอย่างนอบน้อม เขาจะรับไม่ได้อย่างยิ่งจริงๆ
                  เราอยู่ในสถานะลับนี้กันมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว โดยไม่มีใครจับได้
                  แต่ปัญหาใหญ่กำลังตามมาหลังจากนี้ เพราะว่า ตำแหน่งเลขาประจำตัวบอสกำลังจะว่าง เพราะพี่จิ๊บแกจะลาออกไปเลี้ยงหลาน
                  เลยพลอยวุ่นวายกันทั้งบ้าน ทั้งบ้านจริงๆ เพราะเขาไม่รับตำแหน่งนี้ เดือดร้อนเดือนต้องส่งแม่มันมาอ้อนวอน แต่เขาก็เด็ดขาดพอ จนมันส่งมาหมดทั้งบ้าน เขาก็ยังไม่ยอม
                  เขายืนกรานว่าคุณสมบัติตัวเองยังไม่เพียงพอ
                  จนสุดท้ายเดือนก็ยอม และเริ่มประกาศรับสมัครเลขาประจำตัวใหม่ โดยมีพี่จิ๊บคอยช่วยคัดกรอง
   

                  “ขยันแต่เช้าเนอะ ใครได้เป็นแฟนนี่รักตาย”
   

                  พี่จิ๊บแซวเขาตามประสาคนอัธยาศัยดี เขาได้รับความอบอุ่นจากการต้อนรับของพนักงานที่นี่อย่างดี
                  แต่มีคนสะดุ้งคำว่าแฟนว่ะ
                  ไม่ใช่ใครที่ไหน บอสใหญ่ของเรานั่นเองจ้า
                  แต่ด้วยความเคยชิน ทำให้เขาเกือบโป๊ะแตก กลับไปใช้สกิลแถแบบไม่เนียนที่เขาภูมิใจนักหนาตอนอยู่มหา’ลัยเสียแล้ว
   

                  “อ้ะ บอส เนคไทด์ไม่ตรง…”
   

                  เกือบแล้ว เกือบเอื้อมมือไปจัดให้แล้ว ใจเย็นไว้เรา ห้ามความแตกจนกว่าเขาจะเห็นว่าสมควรเปิดเผย
   

                  “จริงด้วยค่ะ แหม เป็นธรรมดาของคนโสดค่ะ”
   

                  ธรรมดาที่ไหนล่ะ ตอนเช้าเขายังจัดให้มันตรงอยู่เลย เพราะวันนี้มันดึงดันจะขี่บิ๊กไบค์มาทำงานหรอกนะ เสื้อผ้าหน้าผมถึงได้ไม่เนียบแบบนี้
   

                  “เดี๋ยวผมเข้าห้องทำงานละ พี่จิ๊บฝากเชคเอกสารงานนิทรรศการครั้งก่อน เคียงกายผมขอกาแฟหนึ่งแก้ว”
   

                  เขาขยิบตาให้มันทีหนึ่งเป็นอันรู้กัน
                  ทำไมเหมือนลอบคบชู้ในที่ทำงานเลยวะ อิเหี้ยเอ๊ย

   





                  “เย็นนี้ไปไหนป่ะ”
                  “กลับห้อง แม่จะมา นางชวนกินข้าวอ่ะ”
                  พอเข้ามาในห้องก็ไม่ต้องรักษาโหมดเด็กฝึกงานอีกต่อไป
                  “เฮ้อ”
                  มันถอนหายใจ เขาตีอกมันอย่างรู้ทัน ก่อนจะพูดบ่นด้วยความเขินอายว่า…
                  “มึงจะเอากูทุกคืนเลยเหรอวะ”
                  สาบานว่าโคตรเขินเลย แต่ไม่กระดากปากหรอกนะ ฮา
                  “ปล่อยไก่ออกจากเล้าวันหนึ่งแล้วกัน”
                  แหม เดี๋ยวกูก็เดินกลับเล้าเองไม่ต้องตามหรอก กูติดใจมึง พอใจยัง ไม่บอกมันหรอก เดี๋ยวว่าเขาหื่นอีก
                  มันหยิบกาแฟไปจิบ ความจริงการชงกาแฟให้ถูกปากมันคงเป็นงานถนัดเขาอีกงานหนึ่ง ตอนแรกนึกว่ามันแกล้งยอเรื่องชงกาแฟ แต่เอาเข้าจริงมันก็มาขอให้เขาชงให้บ่อยๆจนพิสูจน์ความจริงใจได้
   
                  “แล้วเรื่องเลขาว่าไง ได้ดูไว้ยัง”
                  “ตอนแรกว่าจะรับสมัครตามคำแนะนำพี่จิ๊บ แต่แม่แนะนำลูกเพื่อนมา”
                  “ถ้าคุณแม่แนะนำก็ลองดูป่ะ”
   
                  ที่ว่าแม่นี่เขาหมายถึงแม่เดือนนะ อันที่จริงเขาก็ไม่ชอบหรอกเรื่องเส้นสาย แต่เขาเองก็รู้ว่าคงยากที่จะปฏิเสธน้ำใจคุณแม่ เขาก็เป็นคนหนึ่งที่เถียงไม่เคยชนะท่านสักครั้ง เพราะยอมแพ้ลูกอ้อนแม่เดือนแบบเต็มๆ
                  เพราะงั้นเขาจะไม่พูดว่า จะดีเหรอ เพราะสุดท้ายเราทั้งคู่ก็แพ้ทางคนแก่อยู่ดี
                  “เป็นผู้ชาย ประวัติการศึกษาดี เคยมีสกิลทำงานเมืองนอกมาแล้ว”
                  และเขาก็หวังว่า มันจะดี

   





                  “ไม่ชวนเดือนมาเหรอลูก”
   
                  แม่พูดขึ้นหลังจากให้เขาหอมเขาฟัดเต็มที่แล้ว ตอนนี้คุณแม่ของเคียงกายกำลังอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนทำอาหารสุดอร่อยให้ลูกที่แสนน่ารักอย่างตัวเองได้กินให้หายคิดถึงฝีมือเสียที
   
                  “มีงานมั้งแม่ เดือนมันงานเยอะ เคียงสิว่าง แม่จะด่าเคียงมั้ย”
                  ว่าแล้วก็ถือโอกาสอ้อนคุณแม่แกซะหน่อย คิดถึงอ่ะ
                  “ไว้ค่อยๆหาก็ได้ลูก เดี๋ยวงานมันก็มาหาเอง”
                  แม่พูดอย่างใจเย็น พร้อมกับตักต้มจืดหอมฉุยใส่ถ้วย แล้วก็เป็นหน้าที่เขาที่ต้องยกออกไปจัดเรียงที่โต๊ะ
                  นาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาทุ่มกว่าๆ
                  พวกนั้นยังไม่มาอีกเหรอ
   
                  “ฮายยยยยยยยย”
   
                  ใครจะตายยากเหมือนคุณนาย ที่บ่นถึงก็มาปรากฏตัวหน้าประตูแบบปังๆ ด้วยชุดนอนลายคิตตี้หมีสีชมพู ที่เรียกรอยยิ้มขำจากคุณแม่
   
                  “หลีกซิอินาย ยืนขวางประตู”
                  แล้วก็ตามมาด้วยแก๊งส่องเดือนในอดีตที่เหลือจนครบทุกคน
                  “แล้วผัวมึงล่ะ”
                  “แหม อิเคียง พอถามหาผัวตัวเองนี่ตาเขียวปั๊ดเลยนะ ทำไม กับเพื่อนกับฝูงนี่ต้องหวงขนาดนี้มั้ย”
                  คุณส้มกล่าวแซะ
                  “คนนี้หวง อย่ามาทวงถาม”
                  “จ้า”
                  ตบมุกกันไป หัวเราะกันมาตามประสาคนเคยส่องเดือน
   
                  ส่วนแม่เขาท่านก็มาอยู่สักแป๊บถามสารทุกข์สุขดิบแล้วก็แยกตัวไปทำนู่นนี่ตามประสาคนแก่ เช่น ดูละครหลังข่าวแล้วโมโหอัพสเตตัสเฟซบุ๊กระบาย
   
                  “ว่าแต่คุณสามีมึงนี่หาเลขาใหม่ได้หรือยังจ๊ะ”
                  “ตอนแรกมันจะประกาศรับ แต่มีคนรู้จักคุณแม่ว่างงานพอดี”
                  “หือ คุณแม่นี่คือแม่น้องเดือนถูกป่ะ”
                  ถามโง่ๆ ก็ใช่น่ะสิอิพวกบ้า เขินอ่ะ นี่ตอนพวกมันรู้ว่าแม่เดือนอนุญาตให้เรียกว่าแม่นี่คือแซวเขาไปเจ็ดวันเจ็ดคืนอ่ะ
                  “ก็ดีใจกับผัวมึงด้วยที่ได้เลขาคนอื่นดีกว่าได้มึงอ่ะ”
                  “เพื่อนป่ะวะ กูก็เก่งเถอะ”
                  “เก่ง แต่ถ่ายเอกสาร”
                  เขาชูนิ้วกลางให้พวกมันแทนคำบรรยาย
                  “แล้วเมื่อไหร่จะบอกที่ทำงานวะ ว่ามึงลักลอบคบกัน”
                  คุณนายถามเอาคำตอบ
                  “ไม่ได้ลักลอบคบเว้ย แค่ไม่อยากประกาศบอกเท่านั้นเอง มันจะวุ่นวาย”
                  เขาแก้คำให้ เพื่อนคนอื่นคือ เบะปากใส่รัวๆ
                  “ค่ะ น่าอิจฉาเนาะ แฟนรวย แถมฟวยนี่เท่าโตเกียวทาวเวอร์”
                  คุณส้มจีบปากจีบคอกระแนะกระแหน เขายืดอกภูมิใจเต็มที่ แล้วว่า “หาได้เท่านี้ก่อนค่อยมาคุย”
                  แล้วจากนั้นกี่ไม้กี่มือไม่รู้ก็รุมตบหัวเคียงกาย
                  นี่เพื่อนนะเว้ย ไม่ใช่กลองเหล็ก อิพวกเหี้ย จัญไรยังไงก็จัญไรไม่เปลี่ยนแปลงเนอะ
   
   





                  “เอาอันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ อย่างละสิบชิ้นค่ะ”
                  วันต่อมาเขาถูกพี่วันเพ็ญ ที่เพิ่งกลับมาจากไปฮันนีมูนที่สวีเดนไหว้วานแกมลากทึ้งและบังคับ ด้วยการเอาวันกอดเดือนมาเป็นข้อแลกเปลี่ยน กล่าวคือ หากไม่ไปส่งพี่แก เขากับเดือนอาจถูกกีดกันไม่ให้พบกัน แหม เขารู้ไส้รู้พุงเป็นที่รักพี่วันเพ็ญแบบขึ้นหิ้งน้องรักขนาดนี้ เชื่อเถอะ ยังไงชีก็ทำเขาไม่ลง
                  หลังจากที่พบพี่วันเพ็ญครั้งแรก เขาก็ได้เจอพี่แกอีกบ่อยๆ มาแบบรัวๆไม่ให้ตั้งตัว เดือนมาบอกทีหลังว่าพี่แกโคตรชอบการตอบคำถามแบบนางงามร้อยล้านเวทีของเขาเมื่อครั้งกระโน้น ก่อนเราจะกลายมาเป็นเพื่อนสนิทต่างวัยกันแบบรวดเร็ว
                  และไม่เม้าก็ต้องเม้าว่าพี่แกนี่กลับไปคืนดีกับอดีตคนรักแล้วก็ประกาศแต่งงานแบบสายฟ้าแลบตามมาโดยไม่ให้พวกเราได้ตั้งตัว
                  โดยพี่วันเพ็ญเม้าว่าคนรักขอแต่งงานก่อนด้วยนะจ๊ะ
                  ยิ่งไปกว่านั้น ไม่นานพี่แกก็ประกาศว่าท้องหลังจากแต่งงานไปไม่ถึงอาทิตย์ จนตอนนี้น้องนิหน่าก็ถึงวัยเข้าอนุบาลได้แล้ว
                  และเพราะว่าวันนี้เป็นวันเกิดหลานเขา พี่วันเพ็ญเลยถือโอกาสซื้อขนมไปเลี้ยงเพื่อนร่วมห้องของน้องนิหน่าเสียเลย
   
                  “เคียงกายรอจ่ายตังค์นะ พี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บ”
                  เขายกมือทำท่าโอเคส่งไป
                  ปึก!
                  โอ๊ย
                  อะไรเนี่ย
   
                  “แก เดินไม่ดูตาม้าตาเรือหรือไงยะ โอ๊ย กระเป๋าแพงๆฉันเสียหายหมด”
   
                  แม้ว่าเขากำลังมึนงงนิดหน่อยกับคำที่ว่าเดินไม่ดูตาม้าตาเรือของเธอ แต่ตัวเองก็ก้มหัวขอโทษเฉย ตามประสาพื้นฐานเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ผิดกับอีกคน ที่ผิดแล้วยังมาชี้นิวด่ากราด
   
                  “ดูซิ กระเป๋าฉันเปื้อนใครจะรับผิดชอบ เพราะดูจากเนื้อตัวแกแล้วเนี่ย…”
   
                  เธอหยุดเว้นวรรคหายใจ และกวาดสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดพื้นอย่างเหยียด แบบ สายตาไม่คิดว่าจะเหยียดเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองแบบนี้ได้อ่ะ
   
                  “คงไม่ค่อยมีตังค์”
                  อ้าวววววว
                  “คะ ที่รัก โอเคค่ะ มีเรื่องนิดหน่อย แต่ไม่ถือสา หือ กับเด็กสกปรกน่ะค่ะ โอเคค่ะ เดี๋ยวตามไป”
   
                  เป็นคุณเธอที่เดินกระแทกไหล่เขาไป ก่อนที่เราสองคนจะมีเรื่องกัน
                  อะไรเนี่ย พูดเสร็จด่าคนอื่นแล้วเดินหนีไปเฉยเลย แต่ก็เอาเหอะ สังคมแบบนี้ กับคนแบบนี้ เจอแบบนี้ เขาจะถือว่าเป็นเพียงนาทีซวยๆของวันแล้วกัน
   
                  “เป็นอะไรหน้านิ่วคิ้วขมวดเชียว”
                  พี่วันเพ็ญรับซองขนมโดนัทจากมือเขาไปถือ
                  “เปล่าหรอกพี่ แค่เจอพวกขี้เหยียดเท่านั้นล่ะ”
                  ชาตินี้ขออย่าให้เจอกันอีกเลยแม่คู๊ณณณณณณ
   
   





                  “ทุกคนครับ นี่ไทม์เพื่อนผม จะมาทำหน้าที่เลขาส่วนตัวนับจากวันนี้ ยังไงก็ฝากดูแลเพื่อนผมด้วยนะครับ”
   
                  วันนี้แผนกบริหารได้สมาชิกใหม่ นั่นคือไทม์ลูกเพื่อนแม่เดือน
                  เจ้าตัวผู้ถูกแนะนำตัวโค้งให้พวกเราเล็กน้อย แล้วว่า “ฝากเนื้อฝากตัว ต่อจากนี้ ต้องรบกวนทุกคนด้วยนะครับ”
                  เช้าวันนั้นผ่านไปด้วยดี แต่ทำไมจิตใจเขาไม่สงบ ราวกับจะมีพายุใหญ่กระหน่ำเข้ามา
   
                  “ไทม์คะ แนนซี่มาแล้วค่ะ”
   
                  เขาเงยหน้าจากเอกสารที่เตรียมถ่ายขึ้นมา เพราะเสียงแว้ดๆแสบแก้วหูที่ไม่เคยได้ยินที่ไหนตั้งแต่ทำงานที่นี่มา
                  แล้วก็ต้องพบกับ…
   
                  “นี่แก”
                  “เธอ”
   
                  แทบตกใจ ผู้หญิงขี้เหยียดที่เขาเจอในห้างกลับมาปรากฏตัวที่นี่ได้ โอ๊ย วันนี้ก็เป็นวันซวยอีกวันเหรอเนี่ย โอ๊ยให้ตายสิ
   
                  “มีอะไรกันครับ”
                  “ไทม์”
   
                  เมื่อเธอเห็นไทม์ ก็เข้าไปกอดแขนปุ๊บ
   
                  “หึ ถึงว่าใช้ของราคาถูก เป็นแค่พนักงานถ่ายเอกสารนี่เอง”

                  มาละ คำเหยียดหยามแบบเต็มสตรีมก็มา เขานี้อยากเบะปากใส่แต่ติดที่ตรงหน้ามีเจ้านายอยู่เนี่ยสิ
   
                  “ไม่เอาครับแนนซี่ เข้าห้องทำงานผมก่อนนะ”
                  “แต่ไทม์…”
   
                  เธอจะเอาเรื่องเขาให้ได้ อะไรอีกเนี่ย
   
                  “ก็ได้ค่ะ แต่แนนซี่อยากกินกาแฟ ขอเป็นกาแฟร้อนที่สตาร์บัคนะคะ”
                  “ครับๆ”
   
                  จากนั้นเธอก็ยอมเข้าห้องไป
   
                  “เอ่อ…”
                  เขารู้ตัวว่าต้องทำอะไร “เดี๋ยวผมไปซื้อให้ครับ”
                  นับจากนี้ ชีวิตราบรื่นในที่ทำงานของเขา ก็ถูกแม่แนนซี่ขี้เหยียดคุกคาม

   





                  “เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำหน้าเครียดๆ”
   
                  บนโต๊ะอาหารบ้านเดือน ทุกคนคงจะสังเกตอาการเหนื่อยล้าจากการสู้รบปรบมือกับแนนซี่แฟนไทม์ ที่ทั้งเหวี่ยง ทั้งวีน ทั้งอะไรต่างๆออก เพียงแค่เรามีเรื่องกัน ไม่สิ เป็นเธอน่ะสิที่หาเรื่องเขาคนเดียวที่ห้างแค่เรื่องเดียว เธอจะตามกัดเขาไปทั้งชาติหรือไงวะ
   
                  “เปล่าครับ แค่เหนื่อยๆจากงาน”
                  “เอ้ะ เดือนนี่ ก็บอกว่าอย่าโหมงานพี่เขาหนัก”
                  แม่หันไปเอ็ดเดือนที่ไม่รู้ตัวรีบวางช้อนมาเถียงแบบสุภาพว่า “ผมเปล่านะแม่”
                  “เปล่าแม่ เคียงเหนื่อยของเคียงเองแหละ”
                  เขามันก็ไอ้คนห่วงกลัวผัวโดนเอ็ด ออกตัวปกป้องเต็มที่ จนได้รับสายตารู้ทันมาจากพี่วันเพ็ญ
                  “ดูแลกันดีๆ มีเรื่องอะไรก็บอกเดือนนะลูก”
                  “คร้าบบบบบบ”
                  เขาตอบรับคำพ่อ
                  ยังไงก็ไม่มีทางบอกหรอก เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง เขาทนได้
   
   





                  เขาทนได้
   
                  “ทำงานยังไงยะ บอกแซนวิชทูน่า นี่มันไส้ปูอัด ฉันแพ้ปูอัดย่ะ”
   
                  เธอมักจะมาหาไทม์เวลาเที่ยง แล้วแกล้งเขาโดยการใช้ให้ไปซื้อนั่นซื้อนี่ให้ อย่างวันนี้ ที่เขาต้องไปซื้อแซนวิชทูน่าให้เธอ แต่ติดตรงที่ร้านที่เธอรีเควสต์มาทูน่ามันหมด ไอ้เขาก็หวังดีกลัวเธอจะหิ้วท้องรอเลยเอาไส้ปูอัดมาแทน ไม่คิดว่าเธอจะแพ้เลยจริงๆนะ
   
                  “เดี๋ยวไปเปลี่ยนให้ใหม่นะครับ”
                  ยังมีอีกนะ
                  “นี่มันห้องเลขาหรือรังหนูคะ แกว่างใช่มั้ย มาทำความสะอาดหน่อยซิ”
   
                  สรุปแล้วเขามาเป็นพนักงานหรือคนใช้กันไม่แน่ใจตัวเองแล้ว
                  ยังไม่พอ
   
                  “แกปล่อยให้หมาเข้ามาวิ่งเล่นในบริษัทได้ไงยะ เอามันออกไป”
   
                  ประเด็นคือบูบู้มันตามเดือนมาไง แล้วมันไม่กลับอ่ะ เดือดร้อนเขาต้องพามันเข้าไปหลบผู้หญิงใจร้ายในห้องเดือน
   
                  “อ้าว ขังมันไว้ทำไมอ่ะพี่”
   
                  แล้วเขาก็ต้องหาเหตุผลร้อยแปดมาพูดกับเดือน
                  ถ้าถามว่าโดนขนาดนี้ทำไมยังทน ถ้ามันเป็นที่ทำงานทั่วไป แบบไม่ใช่บริษัทของพ่อเดือนล่ะก็ เขาลาออกไปแล้วเพียงแต่นี่มันไม่ใช่ไง เขาไม่อยากสร้างความเดือดร้อน ชีวิตมหา’ลัยเขาได้ทำตามอย่างใจมามากพอแล้ว เพราะงั้นหนักนิดเบาหน่อยก็อดทนเอา สู้ๆเว้ยเคียงกาย
   
                  ชื่อ นามสกุล
                  เลิกงานยังครับ รออยู่ใต้ตึกนะ
   
                  Hiran
                  ยังอ่ะ วันนี้กลับก่อนได้เลยนะ
   
                  เขาก้มดูกล่องใส่เอกสารที่แนนซี่โทรมาบอกว่าไทม์จะเข้ามาเอา ให้เขารอที่บริษัทก่อน
                  วันนี้คงได้กลับดึก เพราะว่านาฬิกาชี้บอกเวลาห้าทุ่มแล้ว ไทม์ก็ยังไม่มา
                  แรงใจรายวันเขาก็มีคนที่ทักไลน์มาทุกวี่วันนี่แหละเป็นกำลังใจ ทำไมนับวันเขายิ่งพูดเหมือนคนแก่ไปทุกทีวะ
                  เอาเถอะ สู้ต่อไป เจ้าเคียงกาย
                  ชีวิตการทำงานมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่แล้ว
   
                  ครืด ครืด
   
                  เขากดรับสาย
                  {เคียงกายเหรอครับ พอดีวันนี้ผมมีธุระด่วน กลับได้เลยนะครับ ไว้ผมค่อยเข้ามาเอาพรุ่งนี้เลย}
   
                  เป็นไทม์ที่โทรมาบอกยกเลิก
                  แต่ไม่เท่านี้
   
                  {โง่รอเอง สมน้ำหน้ามัน อะไรล่ะไทม์ ก็แนนซี่เกลียดมันนี่}
   
                  เสียงปลายสายที่แทรกเข้ามาทำให้เขาหน้าชา
                  วันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวัน ทั้งเหนื่อยทำงาน เหนื่อยสู้รบปรบมือกับผู้หญิงใจร้าย คนเข้มแข็งก็ต้องมีบ้างล่ะกับช่วงเวลาที่อ่อนแอแบบนี้ เขาขอนั่งร้องไห้เงียบๆในห้องทำงานบ้างคงไม่เป็นไร
   
                  “ฮึก”
   
                  แอ๊ด
                  เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ห้องทำงานก็เปิดออก
   
                  “พี่เป็นอะไร”
   
                  เขารีบปัดน้ำตาที่อาบแก้มแบบลวกๆ เพื่อไม่ให้เดือนสังเกตเห็น แต่ไม่ทันแล้วล่ะ มันเดินมาดึงมือสองข้างเขาไปถือแล้วดึงขึ้นไขว้ไว้บนหัว ให้หน้าเขาเงยขึ้นมาจ้องมันตรงๆ
   
                  “เรื่องงานเหรอ หรือเรื่องอะไร ทำไมถึงร้องไห้ ใครทำอะไรพี่”
                  มันถามร้อนรน อาจเพราะเขาไม่ค่อยร้องไห้แบบนี้ให้มันเห็นบ่อยๆ มันเลยลนเพราะความเป็นห่วง
                  “เปล่า แค่ฝุ่นเข้าตา”
                  “โกหก บอกเดือนซิ เคียงกายเป็นอะไรครับ คนเก่ง”
                  คราวนี้เสียงมันอ่อนลง เปลี่ยนเป็นอ้อน
                  เขาเบือนหน้าหนี
                  “มึงงานเยอะพอแล้ว กูไม่อยากให้มึงคิดมาก”
                  เขาหมายความแบบนั้นจริงๆ
                  “ไม่ครับ แค่บอกเดือน นะ พี่ พี่เป็นอะไร”
                  เมื่อเห็นว่าเขาโอนอ่อน มันก็ปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ แล้วใช้มือมันซับน้ำตาสองข้างแก้มให้เขา
                  “มีอะไรไม่สบายใจ บอกเดือนได้มั้ย”
                  เขาจำเป็นต้องเล่าใช่มั้ย

   





                  “เคียงกายยยยยย ทางนี้”
   
                  คุณนายชูแก้วไวน์ขึ้นเรียกเขาไม่ไกลจากที่ยืน
                  วันนี้เป็นวันงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัท เขาเลยเชิญพวกแก๊งส่องเดือนมาป่วนงานกันเต็มที่
                  ส่วนเรื่องวันนั้น เขาถูกเดือนย้ายไปทำงานที่แผนกจัดส่ง โดยไม่ได้พบกับแนนซี่ขี้เหยียดอีกเลย ถือว่าชีวิตงานเขาแฮปปี้มีความสุข อีกอย่างเดือนกับเขาก็ไม่อยากมีปัญหากับไทม์เพราะว่าไทม์ทำงานโคตรรดีสมคำร่ำลือจากแม่จริงๆ แต่เพิ่งมารู้ทีหลังว่าไทม์เลิกกับแนนซี่แล้ว หลังจากทั้งคู่มีปัญหากันใหญ่โต
                  เอาเถอะ เขาจะว่าไงดีล่ะ นอกจากยินดีที่เอาแนนซี่ออกไปให้พ้นๆจากชีวิตไทม์ได้
                  เขาว่าจะเดินไปหาแก๊งส่องเดือน แต่ก็ต้องชะงักกึกเมื่อมีใครบางคนมาตัดหน้า
   
                  “อ๊ะ ไม่เจอกันนานเลยนะยะ”
   
                  นี่เขาทำเวรทำกรรมกับยัยนี่มาตั้งแต่ชาติปางก่อนหรือไร เหตุใดจึงต้องเจอกันเรื่อยไปเนี่ย
                  แนนซี่คนดีตัวจริงยืนอยู่ตรงหน้าเขา
   
                  “เขาเชิญมาด้วยเหรอ เป็นแค่พนักงานถ่ายเอกสาร”
                  เขาพยายามเดินเลี่ยงออกมาไม่ต่อล้อต่อเถียง แต่เจ้าหล่อนก็ขวางไว้
   
                  “อ้อ ลืมไป ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาหน่อยเป็นพนักงานจัดส่ง ฮ่าๆ”
                  เท่านั้นยังไม่พอ เธอเรียกเพื่อนมาด้วยจ้า
   
                  “นี่เหรอแนนซี่ ที่ทำมึงเลิกกับไทม์ เพราะเรื่องเด็กที่ทำงานถูกรังแก โถ แฟนมึงนี่พ่อพระ”
                  “อะไรเนี่ย ทั้งเนื้อทั้งตัวนี่มีแต่ของถูกทั้งนั้น”
   
                  เขากัดฟันแน่น ทนฟังคำเหยียดหยามเพื่อไม่ให้งานล่ม ถ้าลองเขาได้ปล่อยอารมณ์แล้วล่ะก็ แนนซี่ก็แนนซี่เถอะ พ่อจะเตะเหวี่ยงไปสุดขอบโลกเลยคอยดู
                  แต่เขาไม่ใช่เคียงกายคนที่ใช้แต่อารมณ์แล้ว เขาเปลี่ยนไป ในแบบที่ดีที่สุดแล้ว
                  เขาจะไม่ให้อารมณ์ครอบงำจิตใจ
                  เย็นไว้เคียงกาย ใจเย็นไว้
   
                  “แก คุณแม่ไทม์มา”
   
                  โชคดีที่มีสิ่งดึงดูดความสนใจแนนซี่กับผอลเพื่อนตัวร้ายได้ซะก่อน นั่นคือไทม์กับแม่ของเขาที่เดินเข้างานมา
                  เดือนกับครอบครัวตรงเข้าไปทักทาย
                  รวมทั้งยัยแนนซี่ขี้เหยียดที่หางกระดิกเข้าไปหาไทม์ แต่ถูกอีกฝ่ายเมินจนหน้าเสีย
                  เขาไม่รู้ว่าทั้งหมดคุยอะไรกัน
                  แต่สิ่งที่ทำให้แนนซี่ยิ่งหน้าเสียหนักเข้าไปอีกคือ แม่เดือนกวักมือเรียกเขาเข้าไปหา
   
                  “เคียงกาย มาหาแม่นี่ลูก”
                  เขารีบเข้าไปไหว้ทักทายผู้ใหญ่
   
                  “ไทม์ทำไรอยู่ ไหว้พี่เขาสิ นี่พี่เคียงกาย แฟนเพื่อนเรา”
                  จะมีสักกี่ครอบครัว ที่เรียกความสัมพันธ์แบบนี้ และยิ้มรับอย่างเต็มใจ หนึ่งในนั้นคือครอบครัวของเขากับเดือน และอีกหนึ่งก็คือครอบครัวของไทม์นี่แหละ
                  ไทม์แม้จะมึนงงเล็กน้อย แต่ก็ยกมือไหว้เขา
   
                  “อะ อะไรนะคะ”
                  “อะไรของเราฮึ ยัยแนนซี่ รักษากิริยามารยาทหน่อย ผู้ใหญ่เขาจะคุยกันอย่าเพิ่งแทรกเข้ามา”
                  แนนซี่ถูกแม่ของไทม์เอ็ด
                  เดือนก้มลงมากระซิบ
   
                  “คนนี้เหรอที่แกล้งพี่”
                  มันไม่ได้จริงจังอะไรนะ มันยินดีต่างหากที่เขาถูกแกล้งกลับบ้าง ฮึ่ย หนอย อิผัวเด็กคนเหี้ย
   
                  “ผู้ชายไม่รังแกผู้หญิง”
                  “แต่พี่เป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชายนะ”
                  เขาบิดเอวมันให้ร้องโอดโอยลับหลังแม่ๆ
                  อย่ามาปีนเกลียวรุ่นพี่จ่ะ
   
   
                  มีคนเข้ามาทักทายเขากับเดือน หนึ่งในจำนวนนั้นมีพนักงานแผนกบริหารเวียนมามากหน้าหลายตา และทุกคนช็อกหนักมากกับความสัมพันธ์ของเขาและเดือนที่เพิ่งรับรู้ในงานนี้ เหนือสิ่งอื่นใด ก็ความไม่แคร์บวกหน้าโคตรหนาของเดือนและผองเพื่อนแก๊งส่องเดือน
   
                  “เด็กฝึกงานแอบมีผัวเป็นเจ้าของบริษัทว่ะ” คุณนาย
                  “เฮ้ย ร้ายอยู่น้า” คุณเก่ง
                  “เด็กฝึกงานใช้ของถูกแต่ได้ผัวแพงว่ะ” คุณกะทิ
                  “เพื่อนกูมันโชคดี” คุณส้ม
                  “เมื่อไหร่เราจะมีบุญคะตอบที” คุณแย้
   
                  นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ยังมีคนคันปากอยากแซะเขาอีกเยอะ แต่พวกมันไม่มากันเอง อาทิ เคียงคู่ พี่วันเวย์ และผองเพื่อนของเดือน
                  เป็นต้น





F I N


ฮือออออ
จบจริงแบบจบจริงๆแล้ว
สุดท้ายงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกราค่ะ
พบกับ #เคียงเดือน ในรูปแบบหนังสือเร็วๆนี้ น่าจะภายในเดือนมีนาคมนี้ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
สุดท้ายก็ขอขอบคุณ ผู้อ่าน นักอ่าน คนอ่าน ขอบคุณที่ไม่ทิ้งเคียงเดือนให้โดดเดี่ยวนะคะ
จงรู้เอาไว้ว่า นิยายเรื่องนี้จบลงเพราะพวกคุณ ไม่งั้นมิวคงไม่มีแรงฮึดแบบนี้หรอกค่ะ
ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนตลอดมาค่ะ


ด้วยรัก และคิดถึง
MewSN

ปอลอ พฤษภาคมนี้มาลุ้นผลงานเรื่องใหม่กันค่ะ ลงให้อ่านกันในเล้านี่แหละ แล้วเจอกันค่า

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
สมควรแล้วที่ไทม์ขอเลิก ชะนีแบบนี้ต้องปล่อยให้อยู่คนเดียวแห้งเหี่ยวหัวโตไป สูงส่งมาจากไหนชอบเหยียดคนอื่น
ขอบคุณค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สุขี ๆ นะเด็ก ๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ Kelvin Degree

  • ถ้าวันนั้นเลือกที่จะเดินออกไป คงไม่เจ็บมาจนถึงทุกวันนี้...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-2
จิกหมอนกันไปตามๆกัน. ชอบๆๆ สนุกมากครับ,,,

ออฟไลน์ สีหราช

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-1

ออฟไลน์ miikii

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ปากแบบยัยนี่คือไม่น่ารอด  :fire:

ออฟไลน์ abc_b

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
งือออ เคียงแกยอมรับเถอะว่าเรียก เจ๊ อะถูกแล้ว5555  :laugh:
เรื่องนี้จบดีนะแต่ไม่รุ้ทำไมรู้สึกว่ายังไม่สุด พอมาเจอตอนพิเศษนี่ยิ่งแล้วใหญ่เลย มู้ดอารมณ์มันดูแปลกๆอ่า
รักเคียงนะ ฮาทั้งเรื่องเลย ชอบความมโนแถสีข้างถลอกนี่จริงๆ ไม่เคยเจอนายเอกเรื่องไหนเวิ่นเว้อแล้วไม่น่ารำคาญเท่าคนนี้เลยจ้า รักๆๆๆ
 :pig4:

ออฟไลน์ ZaRa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คือโควทตอนที่ 10 อะ เครดิตเพื่อนเรา ตกใจเวอร์ไม่คิดว่าจะเจอโควทเพื่อนตัวเอง (ที่มันชอบเพ้อไปวันๆ) ในนิยายที่ตัวเองกำลังอ่าน 5555555

ออฟไลน์ MewSN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +234/-4
เปิดจองหนังสือจ้า


ภาพปกค่ะ
{ใส่ไม่ได้จริงๆขออภัยค่า}


รายละเอียด


1. เปิดจองตั้งแต่วันที่ 17-27 มีนาคม 2562
2. สั่งซื้อได้ที่ เว็บไซต์สำนักพิมพ์ 2U Publishing {http://www.2upublishing.com/}
3. หนังสือมีวางจำหน่ายที่งานหนังสือ วันที่ 28-7 เมษายน 2562 {ของแถมมีแค่ที่คั่น 1 ลายนะคะ}
4. รอบไปรษณีย์จะเริ่มจัดสั่งวีนที่ 9 เมษายน 2562

เรื่องย่อ
จะด้วยความโชคร้ายหรือเคราะห์ซ้ำกรรมซัด จะเป็นกรรมดี กรรมสนับสนุน กรรมหนุนนำ กรรมแต่ชาติปางก่อน หรือกรรมอะไรก็แล้วแต่
ที่ทำให้ตัวเองไปเผลอโป๊ะแตกในโลกโซเชียล กลายมาเป็นเรื่องวุ่นวายชวนปวดหัว(ใจ) ลากพาเอาเดือนบริหารปีหนึ่งตัวร้ายเข้ามาร่วมวงด้วยได้แบบงงๆ
แถมน้องเค้าก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มใจ พร้อมแถมโปรโมชั่นเขย่าอกข้างซ้ายของเขาให้เต้นแรงไม่หยุดหย่อน
ขยันจริง ขยันจัง ขยันอ่อย
พูดก็พูดเหอะ งานนี้คงได้น้องเดือนนี่แหละ ที่จะมาทำให้ฉายาเคียงกายแต่ไร้คู่ของเขาคนนี้หายไป
เพราะต่อจากนี้ ถึงน้องจะปฏิเสธ บอกปัด ไม่ยอมยังไง
จงทำใจไว้ เพราะน้องนั่นแหละ อยู่ๆมาทำให้หัวใจพี่เรียกร้องเองว่าอยาก…เคียงเดือน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-03-2019 12:49:18 โดย MewSN »

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :pig4: อ่านตั้งแต่ 5 โมงมะวาน  จบละตอน 7 โมงวันนี้ ไม่ได้นอนจ้าาาา  :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด